อินเทิร์นจอมจุ้นฯ (Intern VS General Surgeon) ฟิล์มเต็ม #4 ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม (จบ) 13/10/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อินเทิร์นจอมจุ้นฯ (Intern VS General Surgeon) ฟิล์มเต็ม #4 ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม (จบ) 13/10/63  (อ่าน 47555 ครั้ง)

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 24 ปริ่มใจ



- หมอนิว -

เช้าวันใหม่มาถึง ผมพลิกตัวสองสามครั้ง ก็รู้สึกปวดยอกไปทั้งตัว โดยเฉพาะท่อนล่างของตัวเอง หัวสมองก็เริ่มประมวลถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

ใช่แล้ว! ผมกับพี่กี้ เรา…กันแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองมันร้อนๆ เหมือนอยู่ดีๆ เลือดก็สูบฉีดมากองกันที่หน้าซะอย่างนั้น …ผมหันไปมองคนข้างกายที่ตอนนี้ยังปิดเปลือกตานิ่ง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่ายังหลับสนิทอยู่ ผมใช้สายตาพิจารณาใบหน้าหล่อเหลานี้ ใบหน้าที่หลายคนหลงใหล อยากจับจองเป็นเจ้าของ แต่ตอนนี้คนคนนี้นอนอยู่ข้างกายผม

เป็นคนเดียวกันกับที่บอก 'รัก' ผมเมื่อคืน…

คิดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึก 'ปริ่มใจ' อย่างบอกไม่ถูก…

ถามว่าผมรักพี่กี้หรือยัง? คำตอบที่ได้ก็คงเหมือนเดิม ไม่รู้จะเรียกว่ารักไหม แต่อยากอยู่ข้างกันแบบนี้ในทุกๆ วัน ตื่นมาก็เจอ ก่อนจะหลับตาลงก็เจอ หรือเป็นไปได้ในฝันก็อยากจะเจอ ^___^

เอ่อ ผมว่า ผมเว่อร์ไปละ ฮ่าๆๆ

หรือจริงๆ แล้วอาการแบบนี้เค้าเรียกว่า 'หลง' อันนี้ก็ไม่แน่ใจอีก

"ตื่นนานยังครับคนดี…"

พี่กี้ตื่นมาเจอใบหน้าผมที่กำลังสับสนระหว่าง 'รัก' กับ 'หลง' และเอ่ยทักทายผมขึ้น

"ไม่นานครับ…"

"ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกพี่ละครับ หืมม์"

จบประโยคคำถามที่ดูเหมือนจะไม่ต้องการคำตอบ พี่กี้ก็รวบผมไปนอนกอดไว้ โดยที่ผมก็ยอมให้พี่เค้ากอด แถมกอดตอบด้วยนะ

"เห็นพี่นอนสบายอยู่ เลยไม่อยากปลุก"

"น่ารักจริงๆ แฟนใครหว่า"

พร้อมกับที่พูด พี่กี้ก็กอดผมแรงขึ้น จนผมรู้สึกเจ็บลงไปถึงเบื้องล่าง

"…พี่กี้ เบาได้เบานะพี่"

พี่กี้ดูตกใจเมื่อเห็นท่าทางผมที่ตอนนี้หน้ายู่เล็กน้อย

"พี่ทำนิวเจ็บมากเหรอครับ"

"…ก็พอทนได้แหละพี่ แต่อย่ากอดแรง มันสะเทือน" พูดไป โดยไม่ยอมมองหน้าพี่เค้านะครับ ก็มันเขินอ่ะ

"แต่เมื่อคืนก็ไม่มีเลือดนะ พี่ว่าพี่ก็ระวังอยู่นะ …ให้พี่ดูให้ไหม เผื่อมีแผล จะได้หายามาทา"

"ไม่ต้องเลย… คงไม่ถึงกับเป็นแผลหรอก"

"แต่… พี่อยากดูให้"

"มันไม่ใช่แขนหรือขาที่จะให้ดูง่ายๆ นะ พี่ก็พูดเว่อร์ไป"

"หึหึ"

"หัวเราะอะไร น่านนนน มีแผนอีกล่ะสิ"

เบื่อพวกแผนสูงมากครับ เมื่อคืนก็มีแผนเถอะ ทำเป็นงอนผม ออกไปนอนโซฟา รู้อยู่แล้วว่ายังไงผมก็ต้องไปง้อ ไปง้อละยังไงล่ะ ก็ลงเอยที่ยังงี้ไง ก็รู้อยู่ว่าผมไม่เคยปฏิเสธพี่เค้าได้หรอก บางครั้งก็เบื่อตัวเอง รู้ทันแต่ก็ยอมตลอด

แต่ครั้งนี้…ผมไม่ยอม อย่าหวังว่าจะได้ดูแผลผม ผมก็เป็นหมอ รู้ว่ามันไม่ได้หนักหนามาก ร่างกายสามารถ compensate เองได้ จะเจ็บๆ บ้างในช่วงวันหรือสองวันนี้ แต่ก็ไม่ถึงกับรบกวนชีวิตประจำวันหรอกนะ

"เดี๋ยวนี้เก่งนะ รู้ทันตลอด"

"รู้มานานละ แต่ทำเป็นไม่รู้เฉยๆ"

"งี้แหละ ค่อยสมกับเป็นแฟนหมอศัลย์"

"ทำไม หมอศัลย์มันกะล่อนเหรอ"

"ใช่ที่ไหนล่ะ ความกะล่อนต้องยกให้หมอ ortho" (หมอกระดูก)

"จะฟ้องพี่ดีนว่าพี่ว่าให้"

"ฟ้องไปสิ มันคงได้แต่หัวเราะ หึหึ"

"ไม่พูดกับพี่ละ ไปอาบน้ำดีกว่า"

พูดจบ ผมก็ลุกจากเตียงไปอาบน้ำเลยครับ เบื่อคนกะล่อน ได้ยินเสียงแว่วๆ ตามหลังมาว่า

"ให้พี่ไปอาบให้ไหม รำลึกความหลังที่ทะเลกันหน่อย หึหึ"

อิตาบ้าาาา หื่นจริงหื่นจัง หื่นอะไรขนาดนี้!!!



.



เราตื่นมาก็เกือบสิบโมงเช้า กว่าจะอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้วครับ ก็พอดีกินข้าวเที่ยงล่างคอนโดเลย โปรแกรมวันนี้ไม่มีอะไรครับ  กะว่าจะพาพี่กี้เข้าไปกินข้าวเย็นที่บ้านผมพร้อมพ่อแม่และน้องชายซักหน่อย

ไปถึงบ้านไม่เจอพ่อครับ พ่อออกไปโรงงาน เจอก็แต่แม่และไอ้น้องชายตัวดี

"ตามสบายเลยนะลูก แม่ไปเตรียมอาหารก่อนนะ"

แม่เอ่ยกับพี่กี้หลังจากกล่าวทักทาย และถามถึงการเที่ยววัดเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรจริงจังหรอกครับ ออกแนวผู้ใหญ่ชวนคุยธรรมดาทั่วไป

พอแม่คล้อยหลังออกไปห้องครัวเท่านั้นแหละ น้องชายผมที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็เริ่มส่งสายตาถมึงทึงมาทางผมและพี่กี้ และเริ่มซักไซ้เราสองคน

"เมื่อคืนมึงกลับกี่โมงนิว"

"ถึงคอนโดเที่ยงคืนกว่าๆ"

"พอรับได้กับเวลานี้…แล้วนอนกันยังไงอ่ะ"

สายตาน้องชายผมมันมองผมทีมองพี่กี้ที แต่มองพี่กี้ด้วยสายตาจ้องจับผิดสุดๆ ดูแล้วไม่น่ารักเลยสำหรับกิริยาที่ปฏิบัติตัวต่อผู้ใหญ่ ผมจึงปรามมันออกไป

"ถามดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องจ้องจับผิดขนาดนั้นหรอก แล้วนี่…พี่กี้ เป็นรุ่นพี่หมอกู ให้เกียรติพี่เค้านิดนึง"

"ไม่เป็นไรนิว พี่เข้าใจว่านัทคงเป็นห่วงนิวมาก" พี่กี้โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ตามด้วยยิ้มหล่อกระชากใจ แต่นี่เป็นไอ้นัท ยิ้มนั้นก็เลยไม่กระชากใจเท่าไหร่

"ก็ผมมีพี่อยู่คนเดียว ก็ต้องเป็นห่วงแหละครับ …ตรงๆ เลยนะพี่ พวกพี่เป็นอะไรกัน"

"ไอ้นัท!!"

ผมร้องเสียงหลงเลยครับ ตกใจไอ้น้องชายตัวดี ถามตรงเกินไป หรือไม่ก็ค่อยถามผมส่วนตัวก็ด้ายยย ส่วนพี่กี้นั้นหันมามองหน้าผมเหมือนจะหารือว่าให้ตอบยังไง ผมก็ทำได้แค่มองบนเลยครับนาทีนี้



"…เป็นแฟนครับ"



นั่นเป็นคำตอบของพี่กี้ที่ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวๆ เลย โอ้ยยย ไม่รู้จะเขินหรือจะโกรธไอ้น้องชายตัวดีกันแน่!!



"ก็แค่นี้ ปิดอยู่ได้"



ผมมองหน้าน้องแบบงงๆ อ้าว มันไม่โกรธผมเหรอวะ นึกว่ามันจะโกรธหรือไม่ก็ล้อผม เพราะที่ผ่านมามีผู้ชายมาจีบ ผมก็เอาน้องชายเป็นไม้กันหมาบ่อยๆ

"มึงไม่โกรธกูเหรอวะที่คบกับผู้ชาย"

"กูจะโกรธมึงทำไม เดี๋ยวนี้โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถ้ากูรับไม่ได้ กูคงเป็นคนใจแคบมาก"

"ก็…แต่ก่อนกูให้มึงเป็นไม้กันหมาบ่อยๆ กูกลัวโดนด่าว่ากลืนน้ำลายตัวเอง"

"ก็นั่นมันตอนนั้น มึงยังไม่เจอคนที่ใช่ …ตอนนี้มึงเจอคนที่ใช่ละไง ใช่ไหมครับพี่เขย" ประโยคหลังนี่หันไปถามไอ้พี่กี้ ส่วนคนตอบนั้นยิ้มหน้าบานรออยู่ก่อนแล้ว

"คงงั้นมั้งครับ"

"ว่าแต่พี่เขยเถอะ… พี่รักพี่ผมจริงป่ะเนี่ย ถ้ารักไม่จริงนี่ผมไม่ให้น๊า"

"ถามนิวดูสิว่าพี่รักนิวแค่ไหน หึหึ"

อ้าวว ไม่ตอบ แถมโยนมาให้ผมซะงั้น แล้วผมจะตอบยังไงคร๊าบบบ

"พอเลยมึง ใครเค้าเอามาประกาศกัน"

ผมตัดบทให้เองครับ จะมาถามเซ้าซี้เรื่องอะไรพวกนี้ ไม่ใช่สาระสำคัญขนาดนั้น ส่วนไอ้น้องชายมันก็หัวเราะผมใหญ่เลยครับ ดูยังไงก็ล้อเลียนผมนั่นแหละ ผมเลยจับแยกพี่กี้ออกมาโดยการ จับยัดไอ้พี่กี้เข้าไปอยู่ในครัวกับแม่ผม เพราะพี่กี้ทำอาหารได้ ให้ไปช่วยแม่ผมดีกว่า

"แม่คร๊าบบบ พี่กี้ทำอาหารเป็น ตอนอยู่ที่โน่นทำให้นิวกินบ่อยๆ นิวว่าพี่กี้น่าจะช่วยแม่ได้ดีกว่านิวแน่ๆ"

"จริงเหรอลูก งั้นมานี่เลย"

หลังจากนั้นเหมือนแม่ได้ลูกชายคนใหม่ เดี๋ยวก็เรียกกี้มาชิมอันนี้ให้แม่หน่อย ซักหน่อยก็กี้ช่วยไปทำนู่นนี่นั่นให้แม่หน่อย ผมที่นั่งเล่นการ์ดกับไอ้นัทนี่แอบหมั่นไส้เบาๆ อะไรมันจะขนาดนั้น

"ดูท่าทางแม่จะชอบลูกเขยนะเนี่ย" ไอ้นัทครับ มันกระซิบคุยกับผม

"ลูกเขยเชี่ยอะไรของมึง"

"แน่ะ เขินด้วยเว้ยคนเรา"

"ระดับนี้ไม่มีเขินละเว้ย"

"แต่เอาจริงๆ นะ ดูแม่จะชอบแฟนมึงจริงๆ นะเนี่ยนิว"

"ก็ดีแล้วไง ตอนแรกกูยิ่งใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ จะพามาบ้านดีไหม พอเจอแบบนี้กูเลยสบายใจไป"

"แต่แม่ก็ยังไม่รู้ซักหน่อยว่าพวกมึงคบกันยังไง ถ้ารู้นี่อาจไม่ใช่อย่างนี้นะมึง"

"มึงนี่ก็พูดให้กูคิดมากจังวะ …แต่กูคิดว่า คงไม่บอกหรอก แต่จะพามาหาบ่อยๆ เดี๋ยวคงรู้เองแหละ"

"อือ แม่น่ะไม่เท่าไหร่ พ่อเนี่ยสิ…มึงจะผ่านด่านได้ไหม ลูกชายคนโตของบ้านนะเว้ย ไม่เอาเมีย เสือกจะเอาผัวแทน"

"ก็มึงไง คนสืบสกุล"

"มาลงที่กูซะงั้น"

น้องชายผมทำหน้ามุ่ย แต่ผมก็รู้ว่ามันทำท่ากวนตีนผมไปงั้นแหละ เราเล่นการ์ดกันต่ออีกซักพัก ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อว่าปู่ลื่นล้มห้องน้ำหมดสติ กำลังนำตัวส่งโรงพยาบาล พ่อจึงโทรหาผมให้ตามไปที่โรง'บาลด่วน เพราะผมน่าจะคุยกับหมอที่นั่นรู้เรื่องสุด

แม่ ไอ้นัท พี่กี้ และผมจึงวางมือในการทำกิจกรรมทุกอย่าง แล้วตามไปโรง'บาลด่วนเลยครับ พอไปถึงห้องฉุกเฉินโรง'บาล ก็พบว่าปู่มีรอยฟกช้ำที่หัว และกระโหลกศีรษะแตก จึงต้องได้รับการ ct-scan พอผลออกมาก็พบว่าเป็น Epidural hematoma* ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน

ปู่ของผมถูกเข็นไปที่ห้องผ่าตัด พี่กี้เดินเข้าไปคุยกับแพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าเป็นรุ่นพี่มหา'ลัยเดียวกันกับพี่กี้ เป็นหมอ neuro ศัลย์ (ระบบประสาท) ที่เข้าเวรอยู่ตอนนี้ จึงคุยกันง่ายหน่อยครับ

แต่จริงๆ หมอ หรือบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนก็ดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเท่าเทียมกันทั้งหมดนั่นแหละครับ ไม่ได้แบ่งแยกหรอกว่าคนรู้จักจะต้องดูแลดีกว่าคนทั่วไป เราถูกสอนเรื่องจรรยาบรรณมาอย่างดีก่อนออกมาทำงานครับ ในกรณีนี้พี่กี้เพียงแค่เป็นตัวกลางบอกเล่าประวัติและอาการผู้ป่วยที่ได้รับฟังจากผมและพ่อให้หมอเจ้าของไข้ฟังเท่านั้น อาจจะแสดงความคิดเห็นทางการแพทย์บ้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับแพทย์เจ้าของไข้คนเดียวเท่านั้น ถึงผมกับพี่กี้จะเป็นหมอก็ไม่สามารถไปเข้าร่วมการผ่าตัดได้หรอกครับ เพราะตอนนี้เราอยู่ในฐานะญาติ ไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้

ถึงอย่างนั้นพี่กี้ก็วิ่งช่วยผมทุกอย่างครับ เดินเอกสารวิ่งเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ รอผลแลบต่างๆ เท่าที่จะช่วยได้ โดยที่มีผมวิ่งตามพี่เค้าตลอด ผมเห็นถึงความจริงใจ ความปรารถนาดีทุกอย่างที่พี่กี้เต็มที่กับครอบครัวผมมาก



นั่นทำให้ผม…ตกหลุมรักเข้าแล้ว



ผมพูดเว่อร์ไปไหม ไม่หรอก เราจะหาคนที่รักเรากี่คนก็ได้บนโลกใบนี้ แต่เราจะหาคนที่รักเราและรักครอบครัวเราไปด้วยนั้นมันไม่ได้หากันง่ายๆ นะครับ

ผมเอื้อมมือไปจับมือใหญ่ของพี่กี้ระหว่างที่เรากำลังนั่งรอคุณปู่อยู่หน้าห้องผ่าตัด

"วันนี้ผมขอบคุณพี่มากๆ เลยนะ"

"ไม่เป็นไร เพื่อนิว เพื่อครอบครัวนิว พี่ทำให้ได้"

"ถ้าไม่มีพี่ วันนี้ผมคงวุ่นน่าดู"

"แน่นอนสิ …นิวขาดพี่ไม่ได้หรอก"

ผมได้แต่ส่ายหัวกับประโยคที่โคตรจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงไม่เถียงพี่เค้าซักคำ ทำได้แค่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ เท่านั้น หรือจริงๆ แล้ว ที่พี่เค้าพูดมานั้นมันคือความจริงในใจผม…



เวลาผ่านเลยไปเรื่อยๆ โดยมีผมและพี่กี้นั่งรอฟังอาการคุณปู่อยู่หน้าห้องผ่าตัด ส่วนพ่อแม่พี่น้องคนอื่นๆ ยืนคุยอยู่อีกจุดหนึ่ง ไม่นาน หมอเจ้าของไข้ก็เดินออกมาคุยกับพี่กี้

"กูเอาเลือดคั่งออกให้แล้วนะ เดี๋ยวรอแกฟื้นละกัน prognosis** โรคดีอยู่ โชคดีมากนะที่มาทัน"

"ขอบคุณมากพี่ วันหลังเดี๋ยวนัดเลี้ยงเบียร์"

"เออ เดี๋ยวค่อยว่ากัน นี่กูระดับปรมาจารย์เลยนะเว้ยที่มาทำให้เนี่ย …ละนั่นใคร น้องชายหรือเด็กแอ๊วของมึง"

"อืมม ไม่ใช่เรื่องของพี่น่า"

"จะหลอกเด็ก หรือจะโดนเด็กหลอกวะ …แต่เอาเถอะ มันก็ไม่ใช่เรื่องของกูอยู่แล้ว"

"เอออ วันหลังเจอกันพี่"

แล้วพี่กี้ก็ดันหลังให้ผมเดินไปข้างหน้า โดยมีพี่สองคนเดินรั้งอยู่ด้านหลังผม เหมือนจะมีเสียงกระซิบกระซาบกันด้วยนะ แต่ผมก็ไม่ได้ยินหรอก ผมจึงเดินเลยไปหาพ่อแม่และญาติคนอื่นๆ เพื่อจะแจ้งข่าวหลังการผ่าตัดว่า ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี รอคุณปู่ฟื้นเท่านั้นล่ะ ทุกคนต่างก็ดีใจ รวมถึงผมด้วย

.........

....

(แถม บทสนทนาที่กระซิบกระซาบ)

"เด็กมันก็งานดีนะ อ้อมๆ แอ้มๆ อยู่นั่นแหละ เดี๋ยวกูก็เคลมซะเลย"

"อย่าคิดเชียวนะพี่"

"คนนี้เอาจริงเหรอ"

"อืมม เอาจริง"

"เอออ ก็ให้มันชัดเจนแบบนี้ กูจะได้ไม่ยุ่ง"

"ไม่ต้องเลย เคลมเด็กในสังกัดพี่ให้ครบก่อนเถอะ"

"กูไปต่อไม่เป็นเลยเนี่ย ฮ่าาา"



TBC.



*Epidural hematoma (EDH) คือ เลือดออกบริเวณเหนือเยื่อหุ้มสมองดูรา ส่วนใหญ่เกิดจากแขนงของหลอดเลือด middle meningeal artery ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่เลี้ยงเยื่อหุ้มสมองฉีกขาด เลือดมักออกบริเวณที่ถูกกระทบโดยตรง และสัมพันธ์กับการแตกของกะโหลกศีรษะ ผู้ป่วยที่มี EDH ถ้าได้รับการผ่าตัด โดยรวดเร็วผู้ป่วยมักมีการพยากรณ์โรคที่ดี สามารถกลับมาปกติได้ เนื่องจาก primary brain injury ไม่มาก ซึ่งต่างกับเลือดออกในสมองชนิดอื่นๆ แต่ถ้าได้รับการผ่าตัดช้า อาจเกิดสมองขาดเลือดจากความดันในกระโหลกศีรษะที่สูงเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้

ข้อมูลจาก https://w1.med.cmu.ac.th/surgery/images/documents/year5/Management of Closed Head Injury for medical student.pdf

**Prognosis คือ การพยากรณ์โรค เป็นการอธิบายผลที่น่าจะเกิดขึ้นของโรคนั้นๆ



TBC.



Talk : รู้สึกชอบคาแรคเตอร์หมอ neuro ศัลย์รุ่นพี่คนนี้มากเลยค่ะ จริงๆบทสนทนาระหว่างหมอกี้กับหมอ neuro ศัลย์นี้ เราไม่ได้แต่งเองนะคะ คนในแวดวงนี้เค้าแต่งให้ ที่สำคัญคนที่แต่งให้ คือ ผู้ชายแท้ๆเลย เอ๊ะ รึยังไง 55555

ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีไฟเลยค่ะ ขอกำลังใจรัวๆ หน่อยนะคะ (ที่เค้าแต่งให้ ก็เพราะเราแต่งไม่ถึงไหนซักทีนี่แหละ) ยังไงก็ขอกำลังใจรัวๆหน่อยนะค๊าา ขอบคุณค่าาา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2020 19:24:24 โดย a-mee-ra »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวังว่าที่บ้านจะเข้าใจและยอมรับนะครับน้องนิว-พี่กี้

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เขินพี่หมอกี้กับน้องหมอนิวไม่ไหมแล้ววววว  (>///<) :-[ :o8:

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 25 ดูแล


หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น คุณปู่ก็ถูกย้ายไปที่ห้อง ICU ศัลย์ เพื่อรอดูอาการ ญาติเข้าไปเยี่ยมได้เฉพาะเวลาให้เยี่ยมเท่านั้น ทุกคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปหาคุณปู่ ครอบครัวผมและพี่กี้เป็นคิวสุดท้ายที่ได้เข้าไปเยี่ยม

ผมมองดูคุณปู่ที่มีผ้าก๊อซสีขาวพันรอบศีรษะไว้ ไม่สามารถหายใจด้วยตนเองได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ดวงตาหลับสนิททั้งสองข้าง ผมรู้ว่า EDH นั้นไม่รุนแรงเท่ากับการบาดเจ็บทางสมองแบบอื่นๆ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ครับ เพราะคุณปู่อายุมากแล้ว การฟื้นตัวก็ไม่เร็วเท่าคนวัยหนุ่มสาว แต่จากการบอกเล่าของรุ่นพี่ของพี่กี้ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร ก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง

"ปู่ครับ ฟื้นเร็วๆ นะครับ พวกเรารอกินข้าวด้วยอยู่นะเนี่ย"

น้องชายผมครับ มันพูดขึ้น ทำให้พ่อผมพอจะยิ้มออกมาได้บ้าง

"เดี๋ยวก็ฟื้นครับพ่อ คุณปู่แข็งแรงขนาดนี้" ผมสำทับไปอีกเสียง

"ใช่ครับ การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี ผมว่าไม่นานคุณปู่ก็ฟื้นครับ" พี่กี้ก็เอาบ้างครับ ทำคะแนนเก่งงงงง

"วันนี้พ่อต้องขอบใจหมอกี้มากๆ เลย ถ้าไม่ได้หมอกี้คงแย่แน่ๆ เลย"

"ไม่หรอกครับ ผมก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรหรอกครับ แค่บังเอิญพี่หมอที่รู้จักอยู่เวรพอดี ก็เลยพอจะคุยกันรู้เรื่องหน่อย"

"ขอบใจมากนะลูก" พ่อผมตบบ่าพี่กี้อย่างคนซาบซึ้งใจมาก

ระหว่างที่เรากำลังพูดคุยกัน ผมสังเกตเห็นนิ้วมือคุณปู่ขยับ ทำให้ทุกคนหยุดพูดคุยกันแล้วหันมาสนใจคุณปู่ ซึ่งไม่นานก็ลืมตาตื่นขึ้นมา ทุกคนต่างยินดีกับการฟื้นคืนมาของคุณปู่ ผมก็เช่นกัน ชำเลืองไปมองคนข้างกายที่ตอนนี้ก็ยิ้มไปกับเค้าด้วยแฮะ เหมือนเป็นญาติตัวเองงั้นแหละ อดแซวไม่ได้ครับ เลยกระซิบกระซาบกันสองคน

"ปู่ผมเป็นญาติฝั่งไหนพี่เนี่ย ถึงยิ้มร่าขนาดนี้"

"ฝั่งเมียไง หึหึ"

ได้ยินคำตอบ หุบปากเลยผม ไม่คุยด้วยแล้ว หันไปสนใจคุณปู่ดีกว่าครับ



เราอยู่ใช้เวลากับคุณปู่อีกพักหนึ่ง ก็หมดเวลาเยี่ยมครับ เราเลยต้องหอบกันกลับมาบ้าน รวมถึงไอ้พี่กี้ด้วยนะ กลับมากินข้าวที่แม่ผมกับพี่กี้ทำไว้ ซึ่งก็ทำไว้ได้ 2-3 อย่าง เราก็กินกันแค่นั้นละครับ

"คืนนี้ลูกกี้นอนที่นี่นะ วันนี้เหนื่อยมามากละ"

แม่ผมครับ พูดขึ้น พูดเต็มปากเต็มคำ 'ลูกกี้' ได้ยินแล้วแอบหมั่นไส้เบาๆ

"ถามเค้ารึยังครับแม่ ว่าเค้าอยากนอนที่นี่ป่าว" อันนี้น้องชายผมเองครับ

"นอนได้ครับนอนได้ ไม่มีปัญหาเลย" ไอ้พี่กี้ครับรีบตอบเลย เหมือนกลัวว่าจะไม่ได้นอนค้างบ้านผมงั้นแหละ

"งั้นก็นอนห้องนิวนั่นแหละ มาเอาผ้าห่มเพิ่มที่ห้องแม่นะนิว" ประโยคหลังแม่บอกผม

"คร๊าบบบ" ผมก็ได้แต่ตอบรับไป

จะว่าไป พ่อผมก็เงียบแปลกๆ จะว่ากังวลเรื่องคุณปู่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะคุณปู่ก็ฟื้นแล้ว ผมเลยตักอาหารไปใส่จานข้าวพ่อผม เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง

"กินเยอะๆ ครับพ่อ เดี๋ยวเป็นอะไรไปอีกคน"

"…อืม"

พ่อผมไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ครับ แกกินข้าวเงียบๆ ของแกไป ทำให้คนอื่นๆ เลยไม่ค่อยกล้าพูดเล่นอะไรกันมาก จากนั้นผมกับพี่กี้ก็อาสาเก็บจานชามไปล้าง เพราะพ่อกับแม่เหนื่อยแล้ว ให้ท่านไปพักผ่อนเถอะ

"พี่ไปล้างน้ำสะอาดไป เดี๋ยวนิวถูคราบสกปรกเอง"

ผมตกลงหน้าที่ในการล้างจานกับไอ้พี่กี้ จากนั้นเราก็ประจำตำแหน่ง ด้วยความที่ซิงค์ล้างจานมันเล็ก เราต้องยืนใกล้กันมาก เรียกว่าเบียดกันเถอะ

"พี่กี้ ขยับออกไปอีกได้ไหม เกะกะว่ะ"

"เดี๋ยวนี้หาว่าพี่เกะกะนะคนเรา… ไม่ใช่เพราะพี่เหรอที่วันนี้เรื่องของคุณปู่นิวถึงราบรื่น"

"คนละเรื่องเลยยยย ละนี่ทวงบุญคุณเหรอ"

"เปล๊าาาา"

"นิวหมายถึง ขยับออกไปหน่อย เผื่อพ่อกับแม่เดินลงมาข้างล่างเดี๋ยวเห็น"

เหมือนพี่กี้จะเข้าใจครับ ยอมถอยห่างจากตัวผมแล้ว แต่ปากก็ยังไม่วายพูดนะคนเรา

"ถ้าเดินลงมานี่สวัสดีครับพ่อตาแม่ยายเลยนะ"

"ปากดี"

"ไม่ใช่แค่ปากดีนะ อย่างอื่นก็ดีด้วย หึหึ" พูดไป ทำหน้ากรุ้มกริ่มด้วยนะ

"ไม่หยอดนิวซักวันนี่จะเป็นไรไหม"

"เป็น"

"เป็นอะไร"

"เป็นสา…"

คำพูดของไอ้พี่กี้ถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอ เพราะได้ยินเสียงกุกกักจากทางบันได และก็เป็นอย่างที่ผมคิดครับ พ่อผมเดินลงมาข้างล่าง…………มาเอาไวน์

"พ่อมาเอาแค่…ไวน์ใช่ป่ะ"

ผมถามพ่อออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักนิดหน่อย

"อืม…มีอะไรรึเปล่า"

"เปล่า"

"แล้วนี่…ยังล้างจานไม่เสร็จกันอีกเหรอ"

"ใกล้แล้วครับพ่อ"

"หมอกี้…ไปดื่มไวน์กับพ่อหน่อยสิ"

"คะ ครับ"

ไอ้พี่กี้แทบจะรับคำไม่ทันครับ พ่อผม มาไม้ไหนวะ

"นิวไปดื่มไวน์ด้วยนะครับพ่อ" ผมเสนอตัวไปด้วย

"ไม่ถนัดไม่ใช่เหรอ นิวเมาไวน์ง่ายกว่าเหล้าอีกนะ"

พ่อผมครับ รู้จักผมดีซะจริง ซึ่งก็จริงนั่นแหละครับ เห็นได้จากตอนไปทะเลที่ผมดื่มไวน์ละเมาหนักมาก แต่เดี๋ยวนะ พ่อผมชวนไอ้พี่กี้ไปดื่มไวน์ แล้วไม่ให้ผมไปดื่มด้วย นี่มันหมายความว่าไงวะ ผมกำลังถูกกันออกมานะเนี่ยยย

"เดี่ยวพี่ไปดื่มเป็นเพื่อนพ่อเอง ส่วนนิวก็…อาบน้ำนอนเลย"

ไอ้พี่กี้มันพูดกับผม พร้อมกับส่งสายตามาบอกว่าอย่ากังวลเลย ผมจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะเก็บจานใบสุดท้ายเข้าชั้น แล้วปลีกตัวขึ้นห้องนอนเลย…



- หมอกี้ -

ผมเดินออกมานั่งระเบียงข้างบ้านนิว เป็นระเบียงที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะเก้าอี้หวายตั้งอยู่ 1 ชุด เหมือนเป็นที่เอาไว้ปล่อยอารมณ์ของคนในบ้าน

ผมเปิดฝาขวดไวน์ออก แล้วรินไวน์ใส่แก้วให้คุณพ่อนิว จากนั้นก็ค่อยรินใส่แก้วตัวเอง

พ่อนิวจิบไปหนึ่งที แล้วเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

"ตอนเกิด นิวหนักแค่ 2.6 กิโล …ตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นมาก จนต้องได้อบ"

จากนั้นก็จิบไวน์ไปอีกหนึ่งอึก

"ตอนนั้น พ่อกลัว… กลัวมากว่าลูกพ่อจะไม่รอด อีกทั้งเป็นลูกคนแรก พ่อทำอะไรไม่เป็น อุ้มลูกก็ไม่เป็น กลัว…กลัวทำนิวหลุดมือมาก กว่าจะยอมอุ้มนิวได้ ผ่านไปเกือบอาทิตย์แน่ะ ถึงยอมอุ้ม"

พ่อหยุดจิบไวน์อีกรอบ จากนั้นก็เล่าต่อ

"นิวเป็นเด็กน่ารัก ตัวขาวๆ ใครเห็นก็เข้าใจว่าเป็นเด็กผู้หญิง พ่อกับแม่ต้องแก้ตัวให้ตลอดตั้งแต่เด็ก…จนมาถึงปัจจุบัน"

แล้วพ่อก็ยื่นรูปเด็กน้อยคนหนึ่งมาให้ดู อายุคงราวๆ 3-4 ขวบ มองผ่านๆ ก็คงเข้าใจว่าเป็นเด็กผู้หญิง ถึงรูปลักษณ์จะคล้ายผู้หญิง แต่ในแววตานั้นฉายแววดื้อรั้นเอาแต่ใจออกมา มันเป็นแววตาเดียวกันกับคนที่ผมกอดผมจูบอยู่บ่อยๆ ใช่แล้วล่ะ ดูยังไงก็คือนิวในวัยเบบี๋ครับ

ผมรับรูปนั้นมามองแล้วยิ้มตามคนในรูป น่ารักจริงๆ น่ารักตั้งแต่เด็กยันโต

"เป็นไงล่ะ ลูกชายพ่อน่ารักใช่ไหม"

"ครับ ก็น่ารักดี"

"นิวอยู่ที่นู่นเป็นไงบ้าง ไม่ค่อยโทรหาพ่อกับแม่เลย โทรไปทีไร ยุ่งตลอด ถ้าไม่อยู่เวร ก็กำลังนอน"

"ครับ ยุ่งจริงครับ ที่นู่นมีหมอไม่เยอะ เลยต้องวิ่งขึ้นเวรเยอะหน่อยครับ"

"แล้ว…มีผู้หญิงมาชอบนิวบ้างไหม"

"ไม่แน่ใจครับ อันนี้คงต้องถามเจ้าตัวแล้วล่ะครับ"

ใช่ครับ ผู้หญิงน่ะผมไม่แน่ใจ แต่ถ้าผู้ชายนี่มีแน่นอนครับ

"ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมา เคยได้ยินว่ามีแฟนแค่ 2 คน แถมยังคบกันไม่นาน พ่อละกลัวว่านิวมันจะหาแฟนไม่ได้ นี่ก็เรียนจบแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็อยากให้นิวมันมีแฟนซักที พ่อกับแม่…อยากอุ้มหลานแล้ว"

"……"

"เพื่อนๆ พ่อเค้ามีหลานอุ้มกันแล้ว พ่อก็อยากมีโมเม้นท์นั้นบ้าง …พ่อเห็นหมอกี้หน้าตาดี คิดว่าน่าจะจีบสาวเก่ง พ่อเลยอยากให้สอนนิวบ้าง"

"เอ่อ…ผมว่า…นิวก็..น่าจะจีบสาวเป็นอยู่นะครับ"

"จริงเหรอ…พ่อไม่เห็นจะมีใครที่นิวมองๆ ไว้เลย …ที่เห็นตามๆ นิวก็มีแต่…ผู้ชายทั้งนั้น"

สะดุ้งแพร๊พครับพ่อ!!

"แล้ว…พ่อจะให้ผม…ช่วยยังไงครับ"



"หาแฟนให้นิวหน่อยสิ"



พ่อจ้องหน้าผมนิ่ง เหมือนจะให้ผมทำภารกิจนี้ให้สำเร็จจริงจัง นาทีนี้ผมรู้สึกเหมือนโดนชก!! กรรมการกำลังนับ 1 2 3 แล้ว ละผมจะตอบยังไงวะ แฟนนิวก็กำลังคุยกับพ่ออยู่นี่ไงครับ ผิดหน่อยก็ตรงที่ ไม่ใช่ผู้หญิง! เท่านั้นเอง

















"พ่อพูดเล่น"



"ห๊าาา"

"พ่อหวงนิวมากเลยนะ… ยังไงก็…ดูแลนิวดีๆ นะหมอกี้ นิวคือดวงใจของพ่อกับแม่นะ"

"คะ ครับ"

หลังจากผมตกปากรับคำ พ่อของนิวก็ชนแก้วกับผมครั้งแล้วครั้งเล่า จนผมเริ่มมึนๆ พ่อจึงไล่ให้ผมกลับห้องไปนอนได้แล้ว

พอมาถึงห้อง ก็เห็นน้องนอนเล่นโทรศัพท์รออยู่

"อ้าว พี่เมาเหรอ"

"ม่ายยย พี่ไม่เมา"

"นี่นะ ไม่เมา"

"ม่ายยยเมาจริงๆ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จละพี่ออกมาดูแลนิว"

ผมคว้าผ้าขนหนูและเสื้อผ้าที่นิวยื่นมาให้ กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนนิว ก็รู้สึกมึนๆ อ่อออ ผมเดินชนขอบเตียงนอน เกือบล้มแล้วไหมล่ะ

"มานี่ เดี๋ยวนิวอาบให้"

ผมได้ยินเสียงนิวเพียงเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกว่ามีมือเล็กๆ ทั้งฉุดทั้งดึงผมเข้าห้องน้ำ พยายามถอดเสื้อผ้าผมออกจากร่างกายจนสำเร็จ ไม่นานก็รู้สึกว่ามีน้ำเย็นๆ รินรดลงมาที่หัว แล้วค่อยไหลลงมาตามลำตัว จากนั้นมือเล็กๆ นั้นก็พยายามถูสบู่ให้ผม มันจั๊กจี้จังเลยครับ ผมอดรนทนไม่ไหว กระตุกมือน้องเบาๆ ร่างเล็กนั้นก็เข้ามาอยู่ใต้ฝักบัวกับผมซะแล้ว

สายน้ำจากฝักบัวไหลพาดผ่านใบหน้านิวเรื่อยลงไปตามลำตัวที่ตอนนี้เสื้อสีขาวแทบไม่ช่วยอะไร จุดเล็กๆ บนหน้าอกน้องชูชันขึ้นมาหยอกล้อสายตาของผม แทบจะในทันทีที่เห็น ผมก้มลงไปดูดดุนจุดเล็กๆ นั้นผ่านเสื้อยืดสีขาว ให้ความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

"อ๊ะ! พะ พี่กี้ ทำอะไรน่ะ!"

ดูเหมือนนิวจะตกใจมากกับการกระทำของผม ใช่ครับ ผมก็ตกใจกับการกระทำของตัวเองเหมือนกัน ก็นาทีนี้ผมดีใจ ดีใจที่คุณพ่อนิวเปิดทางให้แล้ว ให้ดูแลนิวแทนแล้ว ผมจึงอยากแสดงความเป็นเจ้าของกับน้องซักหน่อย แต่ด้วยความมึนเมา ทำให้ผมควบคุมสัญชาตญาณดิบในตัวไม่ได้

"นิวคร๊าบบบ มาเป็นของพี่นะคร๊าบคืนนี้"

"อ๊ะ! พี่กี้! ใจเย็.."

ผมไม่รอให้นิวพูดจบประโยค ผมบดเบียดเรียวปากของตัวเองเข้าหาริมฝีปากสวยของน้อง ลิ้มรสความหอมหวานเฉพาะตัวอย่างหิวกระหาย ทั้งที่เมื่อคืนผมก็เพิ่งลองลิ้มชิมรสน้องไป มาถึงตอนนี้ผมก็อยากชิมอีกแล้ว

อยากชิมอีก…อยากชิมเรื่อยๆ …อยากชิมทุกวัน…อยากชิมนานๆ

ระหว่างที่ผมดูดดุนริมฝีปากน้องอยู่นั้น ผมก็จัดการชุดของน้องออกให้พ้นสายตา จะได้มองเห็นผิวเนื้อขาวๆ ที่มีสายน้ำพาดผ่าน ซึ่ง…ร่างเเปล่าเปลือยนี้กำลังทำให้ความปรารถนาของผมดิ้นเร่าๆ ร่างกายของผมทุกส่วนร้อนผ่าวไปหมด เลือดสูบฉีดเร็วและแรง สุดท้ายไปกระจุกที่จุดๆ เดียว นั้นทำให้ผม 'พร้อมมาก'

"พะ พี่กี้ ตรงนี้เลยเหรอ" น้องถามผม เมื่อผมยอมผละริมฝีปากออกมา และจากสายตา น้องกำลังจ้อง 'ความแข็งขึง' ของผมเขม็งเลย

"ครับ ตรงนี้แหละ …พี่ไ..ม่ไหวแล้ว พี่ขออนุญาตนิว…นะครับ"

"ดะ ได้เหรอครับ"

"ได้สิ ตรงนี้ตื่นเต้นกว่าบนเตียงนะ"

ผมล่อหลอกน้องไปเรื่อยครับ ตอนนี้จะที่ไหนก็ได้ ตรงไหนก็ได้ ท่าไหนก็ได้ ผมโอเคหมด เพราะผมจะไม่ไหวแล้ว กับการมองเห็นร่างบางๆ แล้วมีน้ำเกาะพราวไปตามตัว มันทั้งเซ็กซี่ มันทั้งเร่งเร้าให้ผมครอบครองน้องไวๆ ใช่ครับ ตอนนี้ผมใจจะขาดแล้ว…ต้องการนิวมากๆ

จากนั้นผมก็หรี่ฝักบัวลง จับร่างบางของนิวหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ สองมือเล็กยันกายตัวเองกับฝาผนังตรงหน้า ผมรั้งเอวบางเข้าหาส่วนแข็งขึงของผม ปากผมก็พรมจูบสลับกับดูดเม้มไปตามไหล่บางทั้งสองข้าง ผมเปิดทางให้นิวด้วยสบู่เหลวในห้องน้ำ

"อ๊ะ! แสบ…จัง"

"อดทนหน่อยนะครับคนดี พี่จะไม่ไหวแล้ว อื้ออ"

"อืมม…"

ผมสอดใส่ความแข็งขึงของตัวเองเข้าไปในกายน้องแทนที่เรียวนิ้วที่สอดแทรกก่อนหน้านั้น ได้ยินเสียงครางด้วยความเจ็บปวดออกมาเบาๆ เหมือนจะทำให้ผมได้สติ

นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่?

ผมกำลังทำอะไรกับคนที่ผมรัก?

ดูเหมือน…ผมกำลังจะข่มขืนน้องเลยนะ

คิดได้ดังนั้น… ผมก็ถอนแก่นกายของตัวเองออกมา หมุนตัวน้องหันหน้ามาทางผม ผมจ้องตาร่างบางที่มีน้ำสีใสเอ่อล้นออกมาทางหางตา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นน้ำจากฝักบัวหรือน้ำตากันแน่ แต่ที่เริ่มมั่นใจว่าเป็นอย่างหลัง ก็เพราะตาแดงๆ ของน้องต่างหาก

นั่นทำให้ผม…หัวใจแทบสลาย

"นิว… พี่ขอโทษนะครับ พี่จะไม่ทำแบบนี้อีก"

"ฮึก นิว…กลัว ฮืออ"

"ไม่เอาไม่ร้องนะครับ พี่ขอโทษจริงๆ พี่รักนิวนะครับ"

"ฮืออ อย่าทำแบบนี้อีกนะ..นิว กลัว"

นาทีนี้ อาการมึนๆ เมาๆ หายเป็นปลิดทิ้งครับ ผมกอดนิวไว้แนบอก พร่ำบอกขอโทษ และบอกรักสลับกันไปมาอยู่อย่างนั้น จนเสียงน้องเริ่มเป็นปกติ ผมจึงปล่อยน้องจากการโอบกอด แล้วอุ้มน้องออกมาวางไว้บนเตียงใหญ่ในห้องนอน

ผมหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้นิว และตัวเองด้วย จากนั้นก็คลานขึ้นเตียงไปนอนกอดร่างบาง

ผมไม่เคยเห็นนิวร้องไห้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น น้ำตานิวทำให้ผมแทบใจสลาย… ผมบอกกับตัวเองไว้ว่า ผมจะไม่ทำให้น้องต้องเสียน้ำตาอีก!

ผมขอสัญญากับตัวเองไว้เลย…



TBC.



Talk : ตอนนี้ไฟในการแต่งกลับมาแล้วค่ะ ต้องขอบคุณนักอ่านมากๆค่ะ ส่งกำลังใจมารัวๆเลย รักทุกคนมากๆๆๆนะคะ ตอนนี้ฝากด้วยเช่นเคยค่ะ ขอกำลังใจเป็นคอมเม้นท์ หรือหัวใจก็ได้นะค๊าา ขอบคุณมากๆๆเลยค่า (ยิ้มหวานนนน)



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
พี่กี้รุนแรงกะน้องได้ไง เด้ยวเหอะ  :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อย่ารังแกน้องนะครับ ตั้งสติก่อน

ออฟไลน์ นางฟ้าน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 26 เวลาคือสิ่งมีค่า


- หมอนิว -

หลังจากหยุดไปหลายวัน ผมก็ต้องกลับมาชดใช้เวรกรรม เวรที่แลกไปยังไงละครับ และก็ต้องวนไปวอร์ดใหม่ครับ  นั้นก็คือแผนกศัลยกรรม orthopedic (กระดูก) เคสไม่ค่อยเยอะเท่าวอร์ดก่อน แต่ก็มีมาเรื่อยๆ ครับ

การเปลี่ยนวอร์ดทำให้ผมกับพี่กี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลย เพราะพี่กี้ก็แลกเวรไปเหมือนกัน กลับมาก็เลยต้อง set เคสผ่าตัดแบบรัวๆ เลย บางวันที่ผมไม่มีเวรบ่ายหรือดึกที่ ER พี่กี้ก็ผ่าตัดยันเช้า ทำให้ช่วงกลางคืนก็ไม่ค่อยได้เจอกันอีก ส่วนมากจึงเป็นการคุยกันผ่านทางไลน์ซะมากกว่า

Kie : เหนื่อยจังเลยครับวันนี้ ขออ้อนหน่อย

New : (ส่งสติ๊กเกอร์ 'กอด' กลับไป)

Kie : มากกว่ากอดได้ป่าว

New : (ส่งสติ๊กเกอร์ 'จูบ' กลับไป)

Kie : มากกว่าจูบได้ป่าว

New : สติ๊กเกอร์มันมีเท่านี้อ่ะ

Kie : ถ้าไม่ใช่แค่ในสติ๊กเกอร์… จะเป็นอะไรนะ

New : เยอะ!

Kie : เยอะแล้วรักไหม

New : (ส่งสติ๊กเกอร์ 'เพลีย' กลับไป)

Kie : หึหึ ว่าแต่ตอนนี้กินข้าวยังครับ

New : กินแล้วครับ แล้วพี่ล่ะ กินยัง

Kie : ยังเลย เพิ่งเสร็จเคส แต่กำลังจะ set ผ่าอีกเคส

New : งั้นก็รีบกินก่อนเข้าเคสนะพี่ …นิวเป็นห่วง


ตอนนี้ผมอยู่เวรบ่าย ER ครับ นี่ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว ไอ้พี่กี้ยังไม่ได้กินข้าว สงสารก็สงสารอยู่หรอกครับ แต่ผมก็กระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ก็หวังว่าเจ้าตัวจะดูแลตัวเองก่อนเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ มีแฟนเป็นหมอก็จะแบบนี้แหละครับ ไม่สามารถดูแลแฟนได้ตลอดเวลานะครับ แฟนต้อง strong สุดๆ และที่สำคัญไม่ค่อยมีเวลาให้ ก็หวังว่าผมกับพี่กี้จะไม่มีปัญหากันเรื่องนี้นะ

Kie : ครับผม คิดถึงนิวนะครับ

New : ครับ คิดถึงเหมือนกัน


แล้วบทสนทนาเราก็จบไป ผมหันมาสนใจงานตรงหน้า ไม่นานเวลาก็ผ่านไปถึงเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ผมออกเวรพอดี จึงไลน์ไปหาพี่กี้อีกครั้งว่าเอาอะไรไหม ผมจะแวะร้านสะดวกซื้อ แต่ก็เงียบไม่มีการตอบรับ ผมจึงซื้อข้าวไปเผื่อซักกล่อง พร้อมกับน้ำหวานที่ช่วยเพิ่มพลังงาน จะได้กระปรี้กระเปร่า

กลับมาถึงห้องผมก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุด แล้วลงไปที่ห้องพี่กี้พร้อมกับเสบียงที่ซื้อมาฝาก เดี๋ยวนี้ผมลงไปนอนที่ห้องพี่กี้ประจำครับ เพราะพี่กี้เปลี่ยนเตียงใหม่แล้ว เป็นเตียงใหญ่ นอนสองคนสบายๆ เตียงใหม่ที่ได้มานั้นก็มาจากโรงงานผมนั่นแหละ มารู้ทีหลังตอนที่เตียงมาถึงห้อง ถามหาคนส่งว่าเป็นใคร ก็เลยได้รู้ว่ามาจาก 'K. นัท' ผมนี้อยากจะเตะเจ้าน้องชายตัวดีซักทีสองที ยุ่งไม่เข้าเรื่องดีนัก แต่ถามว่าดีไหม… ก็ดีแหละ นอนสบายกว่าเดิมเย้อออ ฮ่าๆๆ

หลังจากวันนั้น ผมก็หิ้วตัวเองลงมานอนห้องพี่กี้ตลอด แต่แทบไม่เจอเจ้าของห้องเลย วันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเจอไหม เพราะไม่รู้ว่าจะผ่าตัดเสร็จตอนไหน ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ หยิบโทรศัพท์ออกมาไลน์หาเจ้าของห้องอีกครั้ง ข้อความเดิมที่ส่งหายังไม่ได้รับการอ่าน

New : นิวนอนรอที่ห้องพี่นะ

         สู้ๆ นะครับ

         (ส่งสติ๊กเกอร์ 'กอด' ไป)


ผมนอนรอการตอบรับจากไลน์แป๊ปนึง แต่ก็ไร้การตอบสนองใดๆ ผมเลยตัดสินใจนอนครับ หัวถึงหมอนได้ไม่นาน ผมก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า…



ผมรู้สึกตัวอีกครั้งราวๆ ตีสาม เพราะมีใครอีกคนคลานขึ้นเตียงมานอนด้วยกัน สัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่คุ้นเคยดึงผมเข้าไปซบอกหนา ผมก็ซุกตัวเข้าหาอย่างง่ายดาย

"หลับต่อนะครับคนดี ขอโทษที่พี่ทำให้ตื่นนะ"

"อืมม…"

ผมรับคำในลำคอ แล้วก็หลับต่ออย่างรวดเร็วครับ อาจจะเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวันนั้นเอง



กริ๊งงงง…กริ๊งงงง…

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ผมดังขึ้น บ่งบอกว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้ว อยากจะเลื่อนปลุกไปอีกซักสิบนาที แต่นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องรีบไปราวด์วอร์ด เพราะมีตรวจ opd ต่อ จึงต้องตัดใจลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่พบข้างกาย คือ ความว่างเปล่า ใบหน้าของคนที่คาดว่าจะได้เจอในเช้านี้ก็ไม่เจอซะแล้ว

ผิดหวังสิครับ นี่ผมกับพี่กี้ใช้ชีวิตอยู่แบบนี้มาเกือบอาทิตย์แล้วนะครับ…

ไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่าหยิบมือถือมาไถเล่นไปเรื่อย พอเปิดเข้าไลน์ก็เจอข้อความของพ่อเจ้าประคุณกี้ส่งมาตอนตีห้ากว่าๆ

Kie : เคสที่ผ่าเมื่อคืนอาการไม่ดี พี่เลยออกมาดูนะ

        น่าจะได้ผ่าอีกรอบ พี่ไลน์มาบอกไว้ก่อน

        กลัวนิวตกใจ ตื่นมาแล้วไม่เจอพี่

        เย็นนี้ออกไปกินข้าวด้วยกันนะครับ

        (ส่งสติ๊เกอร์ 'จูบ' ไปด้วย)


ผมอ่านแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เฮ้ออออ… ต้องทำใจสินะผม ขนาดว่าเป็นหมอด้วยกัน ตอนนี้ผมก็ยังแอบนอยด์อยู่นะ เพราะนี่มันก็หลายวันแล้วที่แทบไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆ เจอกันแวบเดียวเมื่อคืน เรียกว่าเจอกันไหม ผมแทบไม่รู้สึกตัว นี่ถ้ารู้ว่าเช้านี้จะไม่ได้เจอกัน ผมคงตื่นมาคุยกับพี่แกดีๆ แล้ว

อ่านข้อความทางไลน์ทวนซ้ำอีกครั้ง แล้วผมก็ส่งสติ๊เกอร์ 'OK' ตอบกลับไป รอซักพักว่าจะตอบไหม แต่ก็…เงียบ

เฮ้อออ…

ถอนหายใจรอบที่ร้อย แล้วก็ทำใจลุกจากเตียงนอนไปอาบน้ำครับ…



ผมราวด์วอร์ดเสร็จก็เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว รู้สึกยังไม่ค่อยเฟรช เลยเดินไปหากาแฟกินที่ร้านคาเฟ่ในโรง'บาล ก็เจอกับพี่แนนที่พักหลังไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่

"สวัสดีครับพี่แนน ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะคร๊าบบ"

"ขยันหยอดฉันจริงๆ เลยนะแก เดี๋ยวกี้มาได้ยินหรอก"

"ไม่ได้ยินหรอกครับ ช่วงนี้พี่กี้งานหนัก ผมนี่แทบไม่ได้เห็นหน้าเลย"

"คงใช่แหละ กี้มันทำงานละเอียดไง รู้ไหมว่ามีโรง'บาลเอกชนมาขอซื้อตัวมันด้วยนะ บอกว่าจะให้ทุนไปเรียนต่อด้วยถ้าอยากไปเรียนน่ะ"

"เมื่อไหร่อ่ะครับพี่แนน"

"เมื่อวานนี้เอง พอดีเมื่อวานมีงานประชุมวิชาการไง ลูกชายโรง'บาลเอกชนเดินมาชวนกี้เองเลยนะ"

"แล้วพี่กี้ว่าไงอ่ะครับ"

"กี้มันก็ปฏิเสธไปแหละ แต่น่าเสียดาย ถ้าไปอยู่ที่นู่น ได้เงินไม่ต่ำกว่าเดือนละแสนแน่นอน"

"ผมว่าพี่กี้แกคงไม่ชอบฟีลนั้นมั้ง"

"ใช่ กี้ไม่ใช่คนทำงานเพื่อเงิน แต่กี้ทำงานเพื่อผู้ป่วยจริงๆ"

ได้ยินประโยคชื่นชมแฟนตัวเองจากปากคนอื่น นี่มันก็สุขใจเหมือนกันนะครับ เป็นปลื้ม ภูมิใจแทน

จากนั้นพี่แนนก็ขอตัวไปทำงานต่อ ผมก็เหมือนกัน ได้กาแฟแล้วก็ไปตรวจ opd ต่อครับ แอบหยิบมือถือมาเช็คข้อความแวบนึง แต่ก็ยังไม่มีข้อความจากพี่กี้เลย…



วันทั้งวันไม่มีข้อความทางไลน์เข้ามาเลยครับ มีแต่ผมที่ส่งไปหาจำพวก ทานข้าวเที่ยงรึยัง เย็นนี้กินอะไรดี เลือกร้านไหนไว้รึยัง ผ่าตัดเสร็จรึยัง เหนื่อยไหม แต่ก็เงียบไม่มีการอ่านและตอบกลับเลย

ตกมาตอนเย็นที่ผมไม่มีเวร ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวมารอพี่กี้ที่ห้องตั้งแต่หกโมงเย็น แต่ตอนนี้สองทุ่มแล้ว ยังไร้เงาเจ้าของห้อง เปิดดูไลน์ก็ไม่มีการอ่านและตอบกลับเหมือนเดิม ผมจึงตัดสินใจเดินไปดูที่ห้องผ่าตัด ไหนไปดูซิว่าทำอะไรอยู่ มือถือไม่รู้จักเปิดอ่านเนี่ย

พอไปถึงห้องผ่าตัด พี่พยาบาลแจ้งว่า พี่กี้ยังอยู่ในห้องผ่าตัดอยู่เลย ผมเลยขอเข้าไปนั่งรอด้วย ผ่านไปเกือบชั่วโมง คนที่ผมเฝ้ารอก็เดินออกมาจากห้องผ่าตัด ชุดสีเขียวมีเลือดกระจายเป็นหย่อมๆ

"อ้าว นิว มารอพี่นานรึยัง"

"ซักพักแล้ว"

"งั้นเดี๋ยวพี่เปลี่ยนชุดแปปนึงนะ"

"ครับ"

พี่กี้ใช้เวลาเปลี่ยนชุดไม่นาน จากนั้นก็เดินออกมาหาผม หน้าตามีแววเหนื่อยล้ามาก ใช่สิ นอนก็ไม่พอ กินก็ไม่รู้ได้กินอะไรบ้างไหมวันนี้ เห็นแล้วสงสารครับ ต้องเอาใจคนเหนื่อยหน่อยแล้วล่ะ

"พี่กี้อยากกินอะไร"

"พี่กินอะไรก็ได้ที่นิวอยากกิน"

"ไม่เอาสิ วันนี้นิวตามใจพี่ เดี๋ยวนิวขับรถให้นั่งด้วยวันนี้"

พี่กี้ยิ้มออกมา พร้อมกับเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเบาๆ

"น่ารักจังเลย แฟนใครหว่า"

ผมไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มเขินออกมาเบาๆ พอดีกับที่เราเดินมาถึงรถ ผมก็ประจำที่คนขับ พี่กี้นั่งด้านข้าง แล้วเราก็ตัดสินใจไปร้าน food&drink ร้านที่ตั้งอยู่ใกล้โรง'บาล ซึ่งวันนี้ผู้คนแน่นขนัดมาก เพราะเป็นคืนวันศุกร์ จากนั้นเราก็สั่งอาหารและเบียร์มากิน พี่กี้บอกขอดื่มคลายเครียดนิดนึง หนักมาทั้งอาทิตย์แล้ว ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ไม่ห้ามแฟนดื่มนะ แต่ผมดื่มด้วยนิดหน่อย เพราะวันนี้เป็นสารถีขับรถให้ ปลอดภัยไว้ก่อนครับ

ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทักพี่กี้

"สวัสดีครับคุณหมอกี้"

"ครับ คุณ…"

"อิสราครับ เรียกอิสเฉยๆ ก็ได้ครับ …แล้วน้องคนนี้.." คนที่ชื่ออิสหันมาสนใจผมครับ

"น้องหมออินเทิร์นที่โรง'บาลครับ ชื่อนิว" พี่กี้แนะนำตัวให้ผมเรียบร้อย

"ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องหมอนิว …ไม่คิดเลยนะครับว่าจะมาเจอคุณหมอกี้ที่นี่" ประโยคหลังหันไปคุยกับพี่กี้ครับ

"นานๆ ทีออกมาครับ …คุณอิสมาบ่อยเหรอครับ"

"ไม่ค่อยบ่อยหรอกครับ พอดีออกมาเลี้ยงรับคุณหมอ ortho คนใหม่ของโรง'บาล นี่ก็อยากเลี้ยงต้อนรับคุณหมอกี้จะแย่อยู่แล้ว" คุณอิสพูดไป ส่งสายตาหวานๆ ให้พี่กี้ด้วยนะ อ่อ คนนี้สินะที่พี่แนนพูดถึง คนที่เป็นลูกชายเจ้าของโรง'บาลเอกชนแล้วมาชวนพี่กี้ไปทำงานด้วย

"ครับ"

"อยากเป็นครอบครัวเดียวกันกับคุณหมอกี้นะครับ รับข้อเสนอของโรง'บาลเราไปพิจารณาดีๆ ครับ ผมรอเลี้ยงรับอยู่" ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคำพูดคำจาเค้ามันไม่ใช่แค่ชวนร่วมงานธรรมดา แต่เหมือนชวนไปร่วมอย่างอื่นด้วย

"ครับ"

พี่กี้ก็ได้แต่ตอบครับๆๆ ไปเหมือนให้มันจบๆ ไปน่ะครับ

"ตอบ 'ครับ' นี่คือตกลงแล้วใช่ไหมครับ" คุณอิสพูดไปหัวเราะไปด้วยนะครับ เหมือนจะหยอกๆ น่ะ

"ยังครับ ขอหาประสบการณ์ที่โรง'บาลรัฐก่อนนะครับ รู้สึกประสบการณ์ยังไม่เยอะ กลัวไปทำงานให้ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายน่ะครับ" พี่กี้ปฏิเสธอย่างสุภาพมากๆ ครับ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมแพ้

"ระดับคุณหมอกี้แล้ว ผมเชื่อใจ เอ้ย เชื่อมือครับ"

นั่น… กำลังหยอดพี่กี้ของผมใช่ไหม ผมเริ่มรู้สึกกับบทสนทนานี้ รู้สึกเหมือนกำลังมีคนมาจีบแฟนตัวเองต่อหน้า ซึ่ง… ผมไม่ชอบใจเอามากๆ

"คุณอิสก็พูดเกินไป ผมยังไม่เก่งขนาดนั้นซักหน่อย"

"มาฝึกกับผม เอ้ย กับทางเราก็ได้ครับ รับรองมีเคสเยอะแยะเลยครับ"

ผมชักจะอดรนทนไม่ไหวแล้วนะ มาจีบแฟนคนอื่นต่อหน้าต่อตาเนี่ยยยย



"คุณอิสครับ ขอเวลาส่วนตัวให้เราด้วยนะครับ…"



พูดจบ ผมก็ส่งยิ้มหวานให้คุณอิส แล้วยังเอื้อมมือไปจับมือพี่กี้ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงข้าม นี่คือการแสดงความเป็นเจ้าของชนิดที่ผมก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำ แต่ทำไงได้ครับ คนมันหวง!! แถมยังเปล่าเปลี่ยวมาทั้งอาทิตย์ อยู่ดีๆ มีใครก็ไม่รู้มาช่วงชิงเวลาอันมีค่าแสนน้อยนิดนี้ไป

คุณอิสมองหน้าผมที มองมือผมที แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา แล้วกล่าวลาไปในที่สุด

"วันนี้คุณหมอกี้ไม่ว่างไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวอิสแวะไปยื่นข้อเสนอให้ตอนที่คุณหมอกี้..ว่าง..แล้วก็ได้ครับ"

"ครับผม"

พอไอ้คุณอิสนั้นเดินลับสายตาไป ผมก็รีบปล่อยมือพี่กี้ ไม่วายบ่นให้ด้วย

"ทำไมพี่ไม่ปฏิเสธไปเลยล่ะ ตอบแต่ครับๆๆๆ อยู่นั่นแหละ"

"อยู่ในวงการเดียวกัน พี่ไม่อยากพูดตัด …เผื่อมีอะไรได้ช่วยเหลือกัน"

"เค้าไม่ได้อยากได้พี่ไปเป็นแค่หมอในโรง'บาลเค้าหรอกนะ เค้าอยากได้พี่ไปทำอย่างอื่นด้วย"

"หึหึ"

"ยังจะมาหัวเราะอีก นี่ผมหงุดหงิดอยู่นะ"

"ชอบจัง"

"ชอบอะไร"

"ก็ชอบที่นิวหวงพี่แบบนี้ไง"

"บ้าแล้ว…"

พี่กี้นะพี่กี้ ตั้งแต่จีบยันคบกันเป็นแฟนก็ยังทำให้ผมเขินได้ตลอดๆ คนอะไรเสมอต้นเสมอปลายซะจริง!



ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ เราก็กินไปคุยกันไป ผมต้องกอบโกยเอาเวลาอันมีค่านี้ไว้ครับ ไม่รู้ว่าพี่กี้จะโดนโทรตามอีกเมื่อไหร่ เพราะพี่เค้าบอกว่าเคสที่ผ่าไปไม่ค่อยดีนัก จึงใช้เวลาในการดื่มกินไม่นานมาก จากนั้นเราก็ขับรถกลับหอพักแพทย์ครับ ผมแยกตัวไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง แล้วลงไปหาพี่กี้ที่ห้องเหมือนเคย

พี่กี้เดินมาเปิดห้องให้ผมในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวคงหลับไปแล้ว ผมเห็นสภาพแล้วก็ได้แต่นึกสงสาร ไม่ได้นอนหลับดีๆ มาหลายคืนแล้ว ผมจึงเลือกที่จะไม่กวนพี่เค้า ล้มตัวลงไปนอนข้างๆ คิดว่าต่างฝ่ายต่างนอน ไม่ต้องกอดกันก็ได้ กลัวพี่เค้าจะนอนไม่สบายตัว แต่แล้วมือใหญ่ก็เอื้อมมาคว้าเอวผมให้เข้าไปหา

"ทำไมอาบน้ำนานจังครับ… พี่รอจนหลับไปเลย"

"ก็…ปกตินี่นา"

"อืออ"

เสียงครางลึกๆ ในลำคอทำให้ผมแน่ใจว่าพี่กี้พร้อมจะหลับต่อแล้ว ผมก็ไม่คิดจะกวนต่อไป อยากให้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม

แค่…ได้นอนกอดกันแบบนี้ก็ดีมากพอแล้ว

แค่…ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอก็รู้สึกดีมากแล้ว

แค่…ได้นอนมองหน้าแบบนี้ก็อิ่มเอมใจมากแล้ว

แค่…ได้รัก…ก็มีความสุขสุดๆ แล้ว




TBC.



Talk : เราว่าจะแต่งคู่ #เภฟิล์มหมอเต็ม เป็นตอนพิเศษนะคะ ขอแยกออกไปเลยละกันค่ะ เราไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้จริงๆ ค่ะ แบ่งพาร์ทความรู้สึกในหัวตัวเองไม่ได้เลย ยังแต่งไม่เก่งขนาดนั้นค่ะ งือออ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอหัวใจและคอมเม้นท์เป็นกำลังใจหน่อยนะค๊ามา (ยิ้มหวานนนน)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อย่ามีดราม่าเลยครับ //ทำใจไม่ได้ T^T

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 27 ความเมีย


ผมตื่นเช้ามาพบกับความว่างเปล่าข้างกายอีกครั้ง และก็ต้องหยิบมือถือมาเช็คเหมือนเคย พบกับข้อความทางไลน์จากพี่กี้บอกว่า

Kie :  มีเคสผ่าตัดด่วน พี่ออกมาผ่านะ

        ถ้าพี่เสร็จเคสเร็ว รอไปกินข้าวเช้าด้วยกันนะครับ


เวลาที่ส่งมาคือตีห้ากว่าๆ ครับ เฮ้อออ… ผมต้องทำใจให้ชินครับ นั่นเป็นสิ่งที่ผมพร่ำบอกกับตัวเองมาตลอด คิดไปถึงสมัยที่ตัวเองคบกับแฟนสาวทั้งสองคนที่ผ่านมา คนเหล่านั้นคงคิดแบบเดียวกันกับผมตอนนี้ที่ผมไม่มีเวลาให้เค้าเลย ซึ่งตอนนี้ผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยล่ะกับคำว่า 'ไม่มีเวลา'



ผมอาบน้ำแต่งตัวไปราวด์วอร์ด รีบราวด์ให้เสร็จครับ จะได้ไปกินข้าวเช้ากับพี่กี้ แต่ผมรอถึงเที่ยงแล้วก็ยังไร้วี่แวว ผมจึงเดินไปหาที่ห้องผ่าตัด พี่พยาบาลคนเดิมก็บอกผมว่ายังผ่าตัดไม่เสร็จเลย ผมเลยเปลี่ยนแผน สั่งอาหารผ่าน foodtiger มานั่งกินรอพี่กี้ เพราะผมก็หิวแล้วด้วย ผ่านไปพักใหญ่เลยครับ พี่กี้ถึงออกมาจากห้องผ่าตัด ทันทีที่เห็นหน้าผม เจ้าตัวก็รีบขอโทษใหญ่เลย

"พี่ขอโทษที่พาไปกินข้าวเช้าไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าจะเคลียร์เคสเสร็จเร็ว แต่พอผ่าเข้าไป ดันไปเจออีกปัญหานึง เลยแก้ยาวเลย"

"ไม่เป็นไร นิวเข้าใจ มาๆๆ มากินข้าว"

ขณะที่พูด ผมก็แกะผัดไทใส่จานให้พี่กี้ไปด้วย

"พี่หิวมากๆ เลย ดีใจจังที่มีคนมาส่งข้าวส่งน้ำ" จบประโยคก็ส่งยิ้มหล่อกระชากใจมาให้ผมทึนึง ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ แหละครับ

"หิวก็กินเยอะๆ ถ้าไม่อิ่มยังมีสปาเก๊ตตี้คาโบนาร่าอีกนะ" ว่าไปพลางยกอาหารขึ้นมาโชว์อีกกล่อง

"แล้วนิวอิ่มแล้วเหรอ"

"ยังไม่อิ่ม แต่กินรอพี่ไปหน่อยนึงละ"

"น่ารักที่สุด ยังอุตส่าห์รอกินพร้อมพี่นะ"

"ก็พี่บอกให้รอ"

คำตอบผมทำให้พี่กี้ยิ้มกว้างสามร้อยหกสิบองศาเลยครับ พลางเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเบาๆ เป็นสัมผัสเล็กน้อยแค่โคตรจะมีความหมายเลยสำหรับผม เดี๋ยวนี้เวลาพี่กี้โดนตัวนิดโดนตัวหน่อย ผมก็รู้สึกหวิวๆ ในหัวคิดไปถึงเรื่องติดเรทขึ้นมาซะงั้น สิ่งที่ผมทำได้คือ ต้องมีสติมากๆ บางครั้งถึงกับต้องสะบัดหัวแรงๆ ไม่งั้นภาพในหัวจะไม่หายไป

"เป็นอะไรนิว สะบัดหัวทำไม"

"เอ่อ… ไม่มีอะไรหรอก"

"เดี๋ยวนี้แปลกๆ นะ"

"แปลกอะไร ก็…ธรรมดา พี่กินข้าวเถอะ อย่าสนใจนิวเลย"

พี่กี้มองดูผมเหมือนหาสิ่งผิดปกติ แต่ก็หาไม่เจอ เลยลงมือกินอาหารต่อ ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มๆ อยู่คนเดียว แล้วก็หันไปกินผัดไทในจานตัวเองบ้าง แล้วเราก็คุยกันไปกินไปเรื่อยๆ เพราะพี่กี้บอกว่ายังมีผ่าอีกเคส ตอนนี้รอเจ้าหน้าที่ set case เตรียมผ่าอยู่ จึงมีเวลามานั่งกินข้าว

"วันนี้นิวมีเวรบ่าย ER ใช่ไหม"

"ครับ"

"เย็นนี้พี่ต้องไปเลี้ยงวันเกิดพี่ต๊ะนะ จริงๆ พี่ต๊ะชวนนิวด้วย แต่คงไปไม่ได้ เพราะติดเวร"

"เลี้ยงไหนอ่ะ"

"ร้านเมื่อคืนที่เราไปกันน่ะ"

"อ่อ แล้วไปกันเยอะไหม"

"พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่พี่ขออนุญาตนิวไปนะ"

"ไปดิ นิวไม่ว่าอะไรหรอก"

รู้สึกแปลกๆ ครับ อยู่ดีๆ ก็มีคนมาขออนุญาตไป hang out ปกติผมเป็นคนไม่เยอะอยู่แล้ว เลยรู้สึกแปลกๆ นิดนึง แต่ก็…ดีใจแหละ…ที่พี่เค้าขอผมก่อนไป

"ใจดีจังแฟนเรา"

"ไปก็อย่าดื่มหนักละกัน นิวเป็นห่วง"

"คร๊าบบ ไม่ดื่มหนักหรอก รู้ว่ามีคนคอยอยู่"

"ดีมาก"

หลังจากเรากินข้าวเสร็จ พี่กี้ก็เข้าห้องผ่าตัดต่ออีกเคส ส่วนผมก็กลับห้องมาเตรียมตัวไปอยู่เวร ER แต่ยังไม่ถึงเวลา เลยเดินไปเคาะห้องไอ้เต็มเพื่อนรัก แต่ก็ไร้การตอบรับ เลยโทรหาซักหน่อย รอสายไม่นาน มันก็กดรับ

"ไงมึง ไม่อยู่ห้องเหรอ" ผมเอ่ยทักทายมันก่อน

"อืม มึงมีอะไรรึเปล่า"

"ไม่มี กูแค่เหงาๆ"

"เหงาเชี่ยอะไร ตอนกลางคืนไม่เคยจะอยู่ห้อง ไปนอนที่ไหนบอกกูมาเลย"

"คนที่มึงก็รู้ว่าใคร"

"มึงอย่ามาเล่นลิ้นกับกู บอกกูมาตรงๆ เลย"

"เออ… ก็พี่กี้นะแหละ"

"พวกมึงถึงไหนกันละ"

"ก็…คบกันแหละ"

"เฮ้อออ กูจะได้สบายใจซักที"

"สบายใจอะไร"

"จะได้บอกไอ้ฟิล์มให้ตัดใจจากมึงซักทีไง"

"อืม …แล้วมึงอ่ะเป็นไง"

"กู… เป็นไง อะไรวะ งง"

"อย่ามาทำเป็นงง มึงคิดว่ากูดูไม่ออกเหรอระหว่างมึงกับไอ้ฟิล์มน่ะ"

"เอ่อออ…"

"ไม่ต้องมาเอ่อเลย"

"ก็มันชอบมึง ไม่ได้ชอบกูซักหน่อย"

"เต็มมึงนี่โง๊โง่เนอะกับเรื่องของตัวเองน่ะ ทีเรื่องคนอื่นละฉลาดจริงๆ"

"นี่มึงด่ากูเหรอ"

"เออ กูด่ามึง เท่านี้แหละ กูจะไปอยู่เวรแล้ว เบื่อมึงว่ะ"

"ใช่ซี้ กูไม่ใช่อาจารย์กี้หนิ"

ผมตัดสายมันก่อนที่มันจะพูดอะไรยืดยาวครับ ขี้เกียจฟังมันบ่น จากนั้นผมก็ไปเข้าเวรบ่าย ER เจอพี่มินนี่ที่ตอนหลังอยู่เวรไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ แต่วันนี้ดันโคจรมาเจอกัน

"Hi ลูกสาวววว" เสียงนี่ลากยาวดังมาแต่ไกลเลยครับ

"สวัสดีครับพี่มินนี่คนสวย"

"แน่ะ ปากหวาน หวานจริงป่ะเนี่ย แม่ชิมได้ไหม" ผมก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ เพราะไม่รู้จะตอบพี่แกว่ายังไงดี

"ล้อเล่นนนน …ไหนๆ มีอะไรมาอัพเดตให้พี่ฟังไหมคะ" แล้วพี่มินนี่ก็ถามตรงประเด็น ทำเอาเจ้าหน้าที่ที่ยินอยู่แถวนั้นหูผึ่งมาก

"อัพเดตเรื่องอะไรครับ" เนียนๆ ไม่รู้ไปก่อนผม

"เอ๊าาา ก็ความสัมพันธ์ขอคุณหมอกี้กับคุณหมอนิวไงคะ …เดี๋ยวนี้คุณหมอนิวเป็นฝ่ายไปเฝ้าคุณหมอกี้ที่ห้องผ่าตัดแล้วเหรอคะ อิอิ" ผมตกใจเล็กน้อยครับ ข่าวมันไปไวจังวะ ทั้งที่ผมเพิ่งไปเฝ้าเมื่อวานกับวันนี้เองนะ

"อย่าเรียกว่าเฝ้าเลยครับ แค่เอาข้าวไปให้เฉยๆ"

"เนี่ยยยย เหมือนกันเลย ก่อนหน้านี้คุณหมอกี้ก็แค่เอาข้าวมาส่งคุณหมอนิวเฉยๆ อิอิ"

เอิ่มมม ไปต่อไงดีครับทีนี้ ดูเหมือนผมกำลังถูกไล่ต้อนนะ คิดถึงพี่กี้จังเลย คำถามแบบนี้พี่กี้น่าจะรับมืออยู่

"ก็ ก็ไม่มีอะไรครับ เดี๋ยวผมดูเคสดีกว่านะครับ"

ผมรีบตัดบท และเดินหนี ผมรู้ว่ามันดูไม่เนียน แต่ผมก็ไม่รู้จะตอบโต้ยังไงแล้วครับ

"น่านนน มีพิรุธ บอกพวกพี่มาเถ้อออ ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ ทุกคนเชียร์อยู่นะค๊าาา" เสียงพี่มินนี่ไล่หลังผมมาเลย แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ นั่นยิ่งทำให้พี่มินนี่หัวเราะกับท่าทางของผม ก็ผมไม่รู้จะตอบยังไง เพราะผมยังไม่ได้ตกลงกันกับพี่กี้เลยว่าเราจะบอกคนอื่นแบบไหน ไม่แน่ใจว่าควร 'เปิด' หรือ 'ปิด' กันแน่

แต่การอยู่เวรก็ทำให้ผมไม่มีเวลาคิดนานครับ เพราะมีเคสมาเรื่อยๆ ตั้งแต่หมากัด ยันต้องปั๊มหัวใจ เรียกว่าเยินพอสมควร แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เริ่มเงียบๆ ก็ตอนใกล้จะเที่ยงคืน ผมและพี่ๆ เจ้าหน้าที่จึงมีเวลาหยิบมือถือขึ้นไถเล่น

"ว้ายยย นี่ใครกันยะ ทำไมกล้าถ่ายรูปกับคุณหมอกี้ใกล้ขนาดนี้" เสียงมินนี่ดังขึ้นครับ ผมจะไม่สนใจเลย ถ้าในประโยคนั้นจะไม่มีชื่อ 'พี่กี้'

"คุณหมอนิว ดูนี่ๆๆๆ"

แล้วพี่แกก็ส่งโทรศัพท์ที่มีรูปคนสองคนมาให้ผมดู เป็นรูปพี่กี้กับไอ้คุณอิส โดยที่ไอ้คุณอิสโอบเอวพี่กี้ แล้วยืนใกล้กันมาก หน้าตาพี่กี้ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส่ดีมาก พอกดดูที่มาก็พบว่าเป็นรูปแท๊กมาจาก fb ของคนที่ชื่อ Issara Isss มีข้อความในโพสท์ว่า



'ว่าง…เมื่อไหร่ก็แวะมานะครับ ยินดีต้อนรับเสมอ'



ผมอ่านแล้วก็รู้สึกนอยด์นิดนึง อะไรวะ ไปงานวันเกิดอาจารย์ต๊ะ แต่ดันไปเจอไอ้นี่ด้วย อ่ออ ผมลืมไปว่า อาจารย์ต๊ะรับงาน part rime โรง'บาลเอกชนด้วย ก็คงเป็นโรง'บาลของไอ้คุณอิสนี่แหละ

"ลูกสาวอย่าคิดมากนะ เค้าอาจจะแค่เป็นเพื่อนกันก็ได้"

"ครับ"

"เดี๋ยวคุณแม่ไปสืบให้นะคะ"

"ครับ ผมไม่เป็นไรหรอกครับพี่มินนี่"

"แต่หน้าไปแล้วนะคะ พร้อมชนมากเลยค่ะตอนนี้"

ผมลูบหน้าตัวเองเบาๆ นี่หน้าผมมันไปแล้วเหรอ ก็ใครจะทนได้ครับ นั่นมันคนของเรา! แล้วดูก็รู้ว่าจงใจถ่ายรูปและแท๊กให้ผมเห็น

"ไม่เป็นไรนะคะคุณหมอนิว ยังไงเราก็ตัวจริงค่ะ เราต้องนิ่งๆ สวยๆ เข้าไว้นะคะ" นาทีนี้ผมไม่แก้ตัวอะไรกับพี่มินนี่แล้วครับ ไม่มีอารมณ์จะแก้ตงแก้ตัวละ

"หน้าตาสู้คุณหมอนิวไม่ได้เลยค่ะ เราสาวเราสวยกว่าเยอะ"

"ครับ"

ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู นี่ก็ใกล้เที่ยงคืนมากแล้ว พอดีกับที่ไอ้ตะวันมารับเวรต่อ ผมจึงรีบชิ่งหนีออกมาจาก ER เลยครับ พลางก็หยิบมือถือออกมาโทรหาคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

แต่… ไม่มีการตอบรับ

มีสัญญาณนะ แต่ไม่รับสาย ผมกดโทรหาอีกรอบ ก็เหมือนเดิม ไม่มีการตอบรับ ผมเลยเปลี่ยนไปโทรหาอาจารย์ต๊ะแทน ซึ่งมีคนกดรับสาย

"ว่าไงนิว ออกเวรแล้วเหรอ มาจอยไหม"

"สุขสันต์วันเกิดครับอาจารย์ พี่กี้อยู่แถวนั้นไหมครับ"

"เมื่อกี้ก็อยู่นี่ แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนแล้ว"

"พี่กี้เมาไหมครับ"

"ไม่ๆๆ แทบไม่แตะแอลกอฮอล์เลย"

"อ่ะ นั่นๆ มานู้นละ …กี้ มารับสายหน่อย เมียโทรตาม" ประโยคหลังนี่ทำเอาผมสะดุ้งทุกครั้ง ที่ได้ยินคำว่า 'เมีย' ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่

"ว่าไงครับนิว" เสียงไอ้พี่กี้ดังผ่านสัญญาณโทรศัพท์มา พอได้ยินเสียงก็ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องโทรหาด้วยวะ

"เมาไหมเนี่ย"

"ไม่นะ ฟังเสียงพี่เหมือนคนเมาเหรอ"

"ก็ไม่ …นิวโทรหาทำไมไม่รับ"

"อ้าว โทรมาเหรอ พี่ไม่ได้ยินเสียง สงสัยเสียงเพลงมันดัง นี่พี่เดินออกมาคุยหน้าร้านนะเนี่ย"

"แล้วเมื่อไหร่กลับ"

"คงอีกซักพักน่ะ พี่หาจังหวะปลีกตัวอยู่"

"แล้ว…แล้วทำไมถ่ายรูปกับมัน"

"ถ่ายรูปอะไร กับใคร" น้ำเสียงพี่กี้งงมากครับ

"ก็ไอ้คุณอิสไง"

"อ่อออ พอดีจังหวะนั้น เค้าถ่ายรูปแฮปพี่ต๊ะกันอยู่ แล้วมีกล้องตัวนึงแพลนมาทางพี่ พี่ก็เลยยิ้มใส่กล้อง ไม่รู้คุณอิสเดินมาจากไหน มาเข้าเฟรมด้วยซะงั้น"

"เท่านั้นเลยใช่ไหม"

"ใช่สิ หรือนิวจะตามมาดูไหม"

"ไม่อ่ะ เหนื่อย จะอาบน้ำนอนแล้ว"

"ครับผม งั้นไปรอพี่ที่ห้องนะ …เดี๋ยวพี่กลับไปจัด..ให้เบาๆ ก่อนนอน หึหึ"

"หื่นว่ะ เท่านี้แหละ …รีบกลับด้วย..ครับ"

แล้วผมก็วางสายไป สบายใจขึ้นนิดนึงครับ ไม่มีอะไรหรอกน่า ก็เห็นอยู่ว่าพี่กี้ไม่เล่นด้วย ถึงเค้าจะชอบยังไง ถ้าคนของเราไม่เอาด้วย ก็ไม่มีความหมายอะไร

เรื่องนี้ผมควรปล่อยผ่านสินะ… ใช่แหละ ผมควรทำแบบนั้น

คิดได้ดังนั้น ผมก็รีบขึ้นห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปรอพี่กี้ที่ห้องเหมือนเดิมครับ อารมณ์ดีแล้ว ^___^



ผมงีบไปได้ซักพัก ก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง มองฝ่าความมืดที่มีไฟจากด้านนอกลอดเข้ามาก็พบว่าคือร่างคุ้นตา พี่กี้นั่นเอง ผมจึงงัวเงียลุกขึ้นมานั่ง

"เปิดไฟก็ได้นะพี่กี้"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวแสงแยงตานิว"

พี่กี้เดินมาลูบหัว แล้วจูบลงมาที่กลุ่มผมสีดำสนิทของผม ทำให้ได้กลิ่นเหล้า บุหรี่ และน้ำหอมที่ผมไม่คุ้นเคย สองสิ่งแรกนั้นไม่แปลกใจ เพราะดื่มเหล้าก็ต้องได้กลิ่นเหล้า อยู่ในร้านเหล้าจะมีกลิ่นบุหรี่ติดมาก็ไม่แปลก แต่กลิ่นน้ำหอมนี่สิ ถ้าไม่ใกล้ชิดกันมาก มันคงไม่ติดตัวมาขนาดนี้

เพื่อความแน่ใจ ผมเลยโน้มคอพี่กี้ลงมากอด แต่จมูกฟุดฟิดอยู่แถวซอกคอและไหล่หนา ซึ่งแน่นอนว่ามันชัดเจนมาก

"เป็นอะไรเนี่ยวันนี้ อ้อนพี่มากกว่าปกตินะเรา"

"…แล้วพี่ไม่ชอบเหรอ"

"ชอบสิครับ ชอบมากเลย …แต่พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัวมากเลย"

"ครับ นิวนอนรอนะ"

แล้วพี่กี้ก็ผละออกไปอาบน้ำชำระร่างกาย ส่วนผมนั้น… มีคำถามเต็มอยู่ในหัว นี่มันกลิ่นมาจากไหนกันนะ ใช่กลิ่นจากไอ้คุณอิสไหม แต่แค่โอบเอวกลิ่นมันจะแรงขนาดนี้เลยเหรอ หรือจริงๆ แล้วมันมากกว่าโอบเอว แต่เราไม่เห็นไง

แล้วเราจะเชื่อคำพูดพี่กี้ได้ขนาดไหนนะ เอาจริงๆ ผมก็ยังไม่รู้จักพี่กี้ดีหรอก เรารู้จักกันแค่สามเดือนกว่าเอง มีอีกหลายแง่มุม หลายอย่างที่เราต้องศึกษาเรียนรู้กัน เหมือนอย่างเรื่องนี้ ผมก็ต้องพยายามทำความเข้าใจสินะ แต่ผมจะทำไงดีล่ะ ถ้าถามออกไป มันจะดูเหมือนผมเป็นคนงี่เง่า คอยจ้องจับผิดเกินไปไหม เพราะก่อนหน้านี้ผมก็เพิ่งถามเรื่องรูปถ่ายไป เพราะงั้น… เรื่องนี้ผมจะปล่อยผ่านก่อน แต่ผมจะ 'จำไว้' ค่อยหาคำตอบทีหลังละกันครับ…



TBC.



Talk : นุ้งนิว ลูกกกก จมูกดีไปอี๊กกกก (แซวๆ) 55555

ช่วงนี้ปลายปีงบ เราต้องเร่งเคลียร์งบ เพราะงั้นเราต่อช้านะคะ ตอนต่อไปจะต่อให้วันเสาร์นี้นะคะ ยังไงก็จะแต่งให้จบแน่นอนค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และคอมเม้นท์ให้นะคะ ตอนนี้ก็ขอเหมือนเดิมค่า เติมกำลังใจให้เราหน่อยนะค๊าา *อ้อนๆๆ*


ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าวว อีพี่กี้แค่ถ่ายรูปทำไมกลิ่นติดตัวมา  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 28.1 นอกกาย?


- หมอนิว -

ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาออกมารับเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส เพราะแสงแดดแยงตาเข้ามาตามช่องระเบียง หยิบมือถือมาดูเวลา พบว่าเพิ่งหกโมงเช้าเอง แต่แดดแรงมาก

หันไปมองคนข้างกาย ก็เห็นว่าตื่นก่อนผมแล้ว กำลังนอนไถโทรศัพท์อยู่ในมือไปมา อยากแกล้งครับ ผมตื่นแล้วยังไม่สนใจผมเลย ผมจึงกอดหมับเข้าที่เอว แล้วเอาหัวไปถูที่ท้อง

"ทำอะไรคร๊าบนิว"

ได้ผลครับ พี่กี้วางมือถือแล้วหันมาสนใจผม

"เมื่อคืนยังไม่พอใช่ไหมครับ อยากให้เช้านี้พี่จัดให้อีกรอบเหรอครับ" อะไรกัน ผมแค่แกล้งเล่น แต่พี่กี้ชอบตีความไปแนวติดเรทตลอดเลย

"ไม่ใช่ยานะพี่ ที่ต้องกินทั้งก่อนนอนและตอนเช้า"

"ก็กำลังยั่วพี่อยู่ไม่ใช่รึไง"

"ยั่วตรงไหน แค่เอาหัวมาซบพุงแค่เนี้ย ฮิฮิ" แล้วผมก็ถูหัวกับพุงพี่เค้าใหญ่เลย ไอ้พี่กี้จั๊กจี้หนักมาก ฮ่าๆๆ

"ฮ่าๆๆ โอ้ยยย นิว จั๊กจี้ไป ฮ่าๆๆ"

ผมหยุดเล่น เมื่อรู้สึกว่าพี่กี้เริ่มหัวเราะเสียงดังเกินไปแล้ว เดี๋ยวข้างห้องได้ยินครับ จากนั้นผมก็เงยหน้าจ้องมองพี่กี้ แล้วพูดบางอย่างออกไป บางอย่างที่อยู่ในใจผม

"พี่เครียดมาหลายวันแล้ว นิวอยากเห็นพี่หัวเราะแบบนี้แหละ นิวดีใจนะที่นิวทำให้พี่ยิ้มและหัวเราะได้"

"ดีใจจังที่นิวเอาใจใส่ความรู้สึกพี่"

"ก็…อยู่ด้วยกันมันต้องทำให้ดีกว่าอยู่คนเดียวดิ"

พี่กี้ไม่ตอบผมครับ ได้แต่ยิ้มกว้างเหมือนภูมิอกภูมิใจในตัวผมมาก แล้วดึงผมเข้าไปกอดแนบอกอุ่น ทำให้ผมได้ยินจังหวะการเต้นของหัวใจพี่กี้ด้วย มันทั้งทุ้มทั้งสม่ำเสมอ ผมเลยนอนฟังเพลินเลยทีเดียว

ณ โมเม้นท์นี้ผมมีความสุขจังเลยครับ ไม่ต้องรับรู้ถึงความเจ็บป่วยของผู้คน ขังตัวเองอยู่กับความสุขความสบายใจนี้ มีแค่เราสองคนก็เพียงพอแล้ว

แต่ความสุขก็อยู่กับเราไม่นานหรอกครับ ชีวิตคนเราย่อมมีทั้งทุกข์และสุข วุ่นวายเวียนวนอยู่แบบนี้เสมอ วันหนึ่งเมื่อพี่กี้ต้องไปประชุมวิชาการที่ต่างจังหวัดเป็นเวลา 3 วัน เมื่อกลับมาพ่อเจ้าประคุณก็รีบมารับผมไปกินข้าว บอกว่าคิดถึงหนักมากกกก อยากกอดอยากหอมแก้ม บางครั้งพี่กี้ก็เว่อร์ไป แค่ไม่เจอกันสามวันเองนะ

พอกลับมาถึงห้อง กำลังจะอาบน้ำ มือถือพี่กี้ก็ดังขึ้น มาจากห้องผ่าตัดนั่นเอง โทรตามให้ไปดูเคสด่วน ผมก็ต้องรอที่ห้องไปโดยปริยาย ด้วยความที่ว่างไม่มีอะไรทำ จึงไปรื้อกระเป๋าเดินทางพี่กี้ออกมา จะได้แยกผ้าเพื่อเอาไปส่งซัก แต่แล้วผมก็ดันไปเจอสิ่งที่ไม่สมควรเจอ นั่นก็คือ…ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว

นั่นทำให้ผม…อึ้ง…อยู่พักใหญ่

ความรู้สึกงงงวยปนไปกับความกลัวที่แอบซ่อนอยู่ภายในใจลึกๆ มันกำลังทำร้ายผม ความคิดล่องลอยจินตนาการไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และคำถามที่ดังในหัวอีกข้อคือ…กับใครวะ?

มันไม่ใช่สิ่งของที่ใช้เองคนเดียวได้ มันต้องมีอีกคนที่ใช้ด้วย ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เข้า application ที่เปิดกว้างมากที่สุดแล้ว นั่นก็คือ facebook เข้าไปหน้าเฟซพี่กี้ แล้วไล่ดูว่าเจ้าตัวอัพเดตกิจกรรมอะไรบ้าง แน่นอนว่าพี่กี้ไม่อัพเฟซเลย แต่มีคนแท๊กมา ซึ่งคนที่แท๊กมาคือ พี่แนน ใช่ครับ พี่กี้พี่แนนไปประชุมวิชาการด้วยกันสองคน แต่สองคนนี้ก็เป็นเพื่อนกันไหม เค้ารู้จักกันมาก่อนที่จะรู้จักผมซะอีก ถ้าจะมีอะไรกันมันควรมีตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วไหม และพี่แนนก็มีแฟนแล้วด้วย ที่สำคัญเชียร์ผมกับพี่กี้ออกหน้าออกตามาก ไม่น่าจะใช่พี่แนนนะครับ

แลัวมันเป็นใคร?

ผมเก็บหลักฐานและเสื้อผ้าพี่กี้ไว้ที่เดิม แต่ก็ไม่ลืมถ่ายรูปเก็บไว้นะ แล้วเปิดประตูออกจากห้องพี่กี้ ไปเคาะห้องพี่แนนทันที ความร้อนรนใจทำให้ผมลืมดูเวลาไปเลยว่าตอนนั้นเที่ยงคืนแล้ว พี่แนนงัวเงียมาเปิดประตู

"ว่าไงนิว มีอะไร มาซะดึกเชียว"

"ผมขอเข้าไปถามอะไรซักหน่อยดิพี่"

"อืม เข้ามาดิ"

แล้วพี่แนนก็เปิดประตูกว้างให้ผมเข้าไปในห้อง จากนั้นผมก็ถามพี่แนนทันทีเลย

"ตอนไปประชุม พี่กี้ไปเจอใครบ้างครับพี่แนน" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเครียด ส่วนพี่แนนนั้นทำท่านึกอยู่ซักพัก ก่อนจะตอบคำถามผม

"ก็เจอทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่หมอ ที่มหา'ลัย และที่เรียนเฉพาะทาง …มากกว่านี้พี่ไม่รู้อ่ะ เพราะคืนก่อนกลับเค้าไป hang out กัน"

"พี่แนนพอจะถามเพื่อนพี่กี้ให้ผมได้ไหมครับ ว่าคืนนั้นพี่กี้ไปต่อกับใครไหม"

"ทำไมเหรอนิว" พี่แนนเหมือนเพิ่งตื่น ถามผมด้วยความสงสัย

"ผมเจอ…ถุงยางอนามัยใช้แล้ว…ในกระเป๋าเดินทางพี่กี้"

"เฮ้ยย! จริงดิ!!" น้ำเสียงพี่แนนคือตื่นเต็มตาแล้วครับตอนนี้

"จริงพี่.."

ผมตอบพี่แนนด้วยน้ำเสียงหมาหงอยสุดๆ ความมั่นใจเต็มร้อยที่เคยมีหายไปกับถุงยางอนามัยจิ๋วอันนั้น ตอนนี้ไม่มั่นใจในตัวเอง ทั้งไม่ไว้ใจพี่กี้ด้วย

"เดี๋ยวพี่ลองคิดก่อนนะว่ามันเจอใครบ้างที่เข้าข่ายเด็กเก่ามันบ้างไหม"

พี่แนนคิดนานมากครับ ทำให้ผมแอบคิดว่า หรือเด็กเก่าพี่กี้จะเยอะมาก จนนับไม่หวาดไม่ไหว

"เด็กเก่านี่ไม่คิดว่าจะเจอนะ แต่มีคนนึงที่ตอนนี้กำลังตามตื๊อกี้… คุณอิสรา ที่เป็นลูกเจ้าของโรง'บาลเอกชน เค้าได้รับเชิญให้ไปประชุมครั้งนี้ด้วย เห็นตอนประชุมเค้าเดินมาทักกี้ แต่กี้ก็ดูไม่อะไรนะ จะใช่ไหมอ่ะ"

ชื่อนี้มาอีกแล้ว 'คุณอิสรา' ชื่อที่ผมแอบลืมไปพักนึง ตอนนี้ตามมาหลอกหลอนผมอีกแล้ว นี่ยังไม่เลิกตามตื๊ออีกเหรอ

"ผมว่าคนนี้ก็น่าสงสัยนะครับ ครั้งก่อนตอนงานวันเกิดอาจารย์ต๊ะ ผมได้กลิ่นน้ำหอมแปลกๆ มาจากตัวพี่กี้ แล้วเป็นวันเดียวกับที่คุณอิสแท๊กรูปโอบเอวพี่กี้มาในเฟซด้วย"

"แล้วนิวได้ถามกี้ไหมว่ากลิ่นน้ำหอมมันมาได้ไง"

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะตอนนี้ผม…ไม่อยากพูดอะไรเลย ยังช๊อกอยู่ครับ ไม่คิดว่าคนที่บอกรักกันเกือบทุกวันจะทำแบบนี้กับผมได้

"พี่เข้าใจนิวนะ ใครจะกล้าถามเนอะ …แต่พี่ก็มั่นใจในตัวเพื่อนพี่นะว่ามันไม่มีทางนอกใจนิว มันทั้งรักทั้งหลงนิวจะตาย"

"พี่กี้อาจจะไม่ได้นอกใจ แต่อาจจะ…นอกกายก็ได้"

"ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง นิวรับได้ไหมอ่ะ"

"…ไม่ นิวรับไม่ได้ เพราะการนอกกายมันคือจุดเริ่มต้นของการนอกใจ"

"พี่เข้าใจนิวนะ เอางี้ เดี๋ยวพี่จะลองตะล่อมๆ ถามกี้ดูให้นะ …ช่วงนี้นิวก็ทำตัวปกติไปก่อน แล้วอย่าคิดมากล่ะ พี่อยากให้นิวเชื่อมั่นในความรักของตัวเองกับกี้"

"นิวจะพยายามนะ…"

"นิวต้องใจเย็นๆ นะ เรายังไม่รู้ความจริงเลย ความจริงมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้… อย่าเพิ่งคิดไปไกลนะ"

"…ครับ นิวขอบคุณพี่แนนนะครับ เดี๋ยวนิวขอตัวก่อนละกัน รบกวนพี่แนนนานแล้ว"

"อย่าคิดว่ารบกวน นิวก็เหมือนน้องพี่ มีปัญหาอะไรมาหาพี่ได้เสมอ… แล้วคืนนี้อยู่คนเดียวไหวเหรอ"

"นิวจะเข้าไปรอพี่กี้ที่ห้อง เดี๋ยวพี่กี้คงกลับมาครับ"

"โอเค ถ้าไม่ไหวก็มาเคาะห้องพี่ได้ตลอดเลยนะ"

"ครับ ขอบคุณครับ"

ผมออกมาจากห้องพี่แนน เปิดกลับเข้าไปห้องพี่กี้ ยืนนิ่งพิงหลังกับบานประตู… ความรู้สึกต่างๆ มันประดังประเดเข้ามาในหัว ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจ เสียใจ ความรู้สึกเหล่านี้มันค่อยๆ กลั่นตัวเป็นหยดน้ำไหลออกมาทางหางตาของผม… ถึงพี่แนนบอกว่าจะถามความจริงจากพี่กี้ให้ แต่…หลักฐาน…มันคาตา… จะอธิบายยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้นหรอก

ที่สำคัญ…นี่มันครั้งที่สองแล้ว!

ผมควรจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงกันนะ ที่ผ่านมาผมคงมั่นใจในตัวพี่กี้มากไปหน่อย ต่อจากนี้ผมต้องสังเกตพฤติกรรมทุกอย่าง! เล็กๆ น้อยๆ ก็จะไม่ให้คลาดสายตาเลย!



TBC.



Talk : ความดราม่าบังเกิด ก็ว่าจะไม่ดราม่า ไม่ nc เท่าไหร่ แต่พอแต่งจริงๆ มีทุกอย่างเลยจ้าา 5555 แต่ก็อย่างว่าค่ะ ไม่มีก็ไม่ได้ งั้นมันจะไม่สนุกเนอะ รอติดตามไปด้วยกันนะคะ อีกครึ่งพาร์ทมาต่อให้วันจันทร์นี้นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน คอมเม้นท์ กดหัวใจให้นะคะ ตอนนี้ก็ขอกำลังใจเหมือนเคยค่า เลิฟๆๆนะค๊าา


ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอ่อมมม อีพี่กี้ทำจริงไหมเนี่ยะ เฮ้อออ

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 28.2 เปิด หรือ ปิด


- หมอนิว -

ผมตื่นเช้ามาด้วยจิตใจห่อเหี่ยว หน้าตาไม่สดชื่นนัก เพราะนอนไม่ค่อยหลับ ส่องกระจกดูหน้าตัวเอง หวังว่าหน้าผมคงยังไม่เหี่ยวเหมือนหัวใจนะ เมื่อคืนผมขึ้นมานอนห้องตัวเองครับ ไลน์บอกพี่กี้ว่าทำงานค้างอยู่ เลยหนีขึ้นมาได้ ผมไม่สามารถทำหน้านิ่งเฉยอยู่ต่อหน้าพี่กี้ได้หรอก เพราะผมไม่ใช่คนเก็บอารมณ์ความรู้สึกเก่งนัก

ผมเปิดอ่านไลน์ เจอข้อความพี่กี้ค้างอยู่ตอนตีสอง

Kie : โธ่ กลับมาจากประชุมก็นึกว่าจะได้นอนกอด

        (ส่งสติ๊กเกอร์ 'ร้องไห้' มาด้วย)


ผมเลยตอบกลับไปว่า

New : อ่ะ กอดดดด

        (ส่งสติ๊กเกอร์ 'กอด' ไป)


มีข้อความตอบกลับมาทันที

Kie : ไม่เอากอดทางไลน์ดิ

New : ทางไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ

Kie : ไม่เหมือน… อยู่ห้องใช่ไหม เดี๋ยวพี่ขึ้นไปหา

New : ไม่ต้องมา… นิวกำลังจะอาบน้ำ

Kie : พี่ขอ 5 นาที


ผม…อ่าน…แต่ไม่ตอบครับ และแน่นอน คนอย่างพี่กี้ ไม่นานก็มายืนเคาะประตูหน้าห้องผมแล้ว และผมก็ต้องเปิดให้ตามเคย พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติสุดๆ

"พี่ขอ 5 นาที"

"อะไรของพี่เนี่ย… วันนี้นิวต้องรีบไปราวด์นะ เพราะมีตรวจ opd เช้า"

พี่กี้ไม่ตอบโต้ผม แต่เดินเข้ามาในห้องผมอย่างคุ้นเคย หลังบานประตูปิดลง พี่กี้ก็โอบกอดผมไว้แนบอก หอมแก้มซ้ายขวา ก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปาก…เหมือนทุกๆ ครั้ง แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่มีอารมณ์ร่วม อึดอัด รู้สึกขยะแขยง เพราะภาพในหัวนั้นคิดไปแล้วว่าก่อนที่ปากนี้จะมาจูบผม ไม่รู้เอาไปประกบใครมาแล้วบ้าง นั่นทำให้พี่กี้รู้ว่าผม…แปลกไป เลยค่อยๆ ถอนปากออกมาจากผม

"เป็นอะไรครับคนดี ทำไมวันนี้ไม่ตอบสนองพี่เลย ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งหลายวัน ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอครับ"

"นิวเหนื่อย…"

ผมตอบแค่นั้น แล้วก็เสตามองไปทางอื่น ไม่อยากให้พี่กี้เห็นแววตาผม

"พี่ทำให้หายเหนื่อยนะ" จบประโยค พี่กี้ก็จับผมนั่งลงโซฟา แล้วนวดไปตามไหล่ผม… ความอ่อนโยนนี้ทำให้อารมณ์ผมเย็นลงมาบ้าง ผมจึงเอ่ยบางอย่างออกไป

"พี่กี้… พี่ว่าเราควร 'เปิด' หรือ 'ปิด' ว่าเราเป็นแฟนกัน"

"พี่ว่า…ถึงเราไม่พูด คนก็เดาออกนะ"

"นิวหมายถึง…ระบุ status ในเฟซไปเลย"

พี่กี้ก้มมามองหน้าผม เหมือนไม่ค่อยเชื่อหูตัวเอง

"อะไรทำให้นิวอยากป่าวประกาศให้คนรู้ขนาดนั้น"

"พี่พูดงี้หมายความว่า พี่ไม่อยากให้คนรู้ว่าเราคบกันเหรอ" ผมมองหน้าพี่กี้แบบหาเรื่องเลยครับ

"ไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่แปลกใจที่อยู่ดีๆ นิวอยากให้คนรู้ ทั้งที่เราคบกันมาซักพักแล้ว"

"นิวแค่อยากทำอะไรให้มันชัดเจน ก็เท่านั้น"

"การกระทำของพี่มันยังชัดไม่พอเหรอครับ"

"นิวไม่ได้หมายถึงการกระทำของพี่ไม่ชัดเจน แต่นิวแค่อยากให้คนอื่น 'ชัดเจน' ด้วยก็เท่านั้น"

"เราคบกันสองคนนะนิว …เราจำเป็นต้องมานั่งอธิบายอย่างชัดเจนให้คนอื่นฟังด้วยเหรอครับ"

"พูดแบบนี้ แสดงว่าไม่เห็นด้วยใช่ไหม"

"ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่พี่แค่มองหาเหตุผลไม่เจอว่าทำไมเราต้องขึ้นสถานะในเฟซ"



"ตรงๆ เลยนะ …นิวหวงพี่… ทีนี้เข้าใจรึยัง"



"พูดตรงๆ ซะแต่แรกก็จบ มัวอ้อมไปอ้อมมาอยู่ได้ หึหึ"

พี่กี้หัวเราะชอบใจใหญ่เลยครับ โอ้ยยยย นี่ก็ล่อให้ผมพูดจังเลย ก็รู้อยู่ว่าเหตุผลมันก็คงประมาณนี้อยู่แล้ว

พี่กี้หยิบมือถือมาแล้ว กดๆๆๆ กดไปซักพัก แล้วก็ยื่นมือถือของตัวเองมาให้ผมดู… เป็นหน้าเฟซบุ๊ค มีข้อความระบุว่า



'มีแฟนแล้ว กับ New Niwit'



"บอกให้พี่เพิ่มสถานะแล้ว ของนิวก็ไปเพิ่มด้วยล่ะ… พี่ไปแล้วนะ มีเคสผ่าหลายเคสเลย"

พี่กี้พูดจบ ก็ก้มลงมาหอมแก้มผมอีกครั้งนึง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องผม ส่วนผม… ยังอึ้งอยู่ อะไรมันจะง่ายดายขนาดนั้นวะ เมื่อกี้ยังเถียงผมอยู่เลย ตอนนี้ทำตามที่ผมต้องการแล้ว ก็ถือว่าพี่กี้กล้าเปิดเผยต่อสาธารณชนอยู่นะ อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้ว่าผม 'ตัวจริง' อยู่ ไม่ได้เป็นสองรองจากใครหรอก แต่จะมีคนมาเป็นสองรองจากผมไหม อันนี้ไม่แน่ใจ ต้องค่อยๆ ดูกันต่อไป

แต่เรื่องแบบนี้ ไม่มีใครอยากเป็นที่หนึ่ง หรือที่สองหรอกครับ แน่นอนว่าก็ต้องอยากเป็นแค่ 'คนเดียว' อยู่แล้ว

จากนั้นผมก็เปลี่ยนสถานะของตัวเองบ้าง



'มีแฟนแล้ว กับ Kie Kittikun'



ทันทีที่เปลี่ยนสถานะ คอมเม้นท์มากมายก็หลั่งไหลมา… ทั้งแสดงความยินดี และแปลกใจไปตามๆ กัน แปลกใจสิ คนที่ปฏิเสธการคบกับผู้ชายมาทั้งชีวิตอย่างผม อยู่ดีๆ ขึ้นสถานะว่าคบกับผู้ชาย ใครๆ ก็แปลกใจ โดยเฉพาะเพื่อนเก่า แต่ช่างเถอะ คนเรามันต้องเดินหน้า กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ก็ต้องกล้าเปิดเผยและยอมรับความจริงให้ได้

ผมเปิดไปอ่านคอมเม้นท์ของสถานะพี่กี้บ้าง อยากรู้กระแสตอบรับว่าเป็นไง… ก็มีแสดงความยินดี และออกแนวชื่นชมผม..รึเปล่า.. อันนี้ก็ไม่แน่ใจ เพราะเค้าเม้นท์มาบอกว่า

'ระดับหมอกี้ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง คบแต่คนน่ารักๆ'

เม้นท์นี้ทำให้ผมอยากเห็นแฟนเก่าพี่กี้ซะจริงๆ รู้ตัวดีว่าไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนเก่าของเค้า แต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดีนั้นแหละครับ

และมี 1 คอมเม้นท์ที่ดูมีมูล



'เห็นวันก่อน ไม่ใช่คนนี้นี่นา'



ผมรีบคลิ๊กไปดูว่าคนที่เม้นท์คือใคร ซึ่งข้อมูลที่โชว์คือ เป็นหมอศัลย์ฯ เหมือนพี่กี้ งั้นก็น่าจะเป็นเพื่อนเรียนเฉพาะทางด้วยกัน… ไม่นานพี่กี้ก็มาตอบเม้นท์นี้ว่า

'ไม่หาเรื่องให้เพื่อนนะครัช'

แล้วคนนี้ก็มาตอบกลับอีก…

'แล้วคนนั้นเป็นใครครัช'



ผมนั่งรออ่านว่าพี่กี้จะมาตอบว่าไง แต่ก็เงียบหายไปเลยครับ ฮึ่มมมม มันยังไงๆๆ โกรธแล้วนะ โมโหแล้วววว ฮึ่มมม

ก่อนที่ผมจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้ ผมก็รีบพาตัวเองไปอาบน้ำ จะได้รีบไปราวด์วอร์ด และไปตรวจ opd ต่อครับ ไม่งั้นไม่ได้การได้งานกันพอดี ถ้ามัวแต่รอคำตอบไอ้พี่กี้



วันนี้ทั้งวัน ผมจดจ่ออยู่กับเม้นท์นี้เม้นท์เดียวเลยครับ นี่ก็เที่ยงแล้ว แต่ยังไร้วี่แววพี่กี้มาตอบ อยากจะไลน์ถามแทบตาย แต่ต้องอดทนไว้ ยิ่งพอเอาหลายเรื่องมารวมกัน มันยิ่งดูมีเค้ามีมูล หรือผมจะ dm ถามเพื่อนพี่กี้คนนี้เลย

เอาวะ dm ถามเลยละกัน วิญญาณโคนันประทับร่างแล้ว

                                           สวัสดีครับพี่

                                           ผมเป็นแฟนพี่กี้นะครับ

                                           ที่พี่บอกว่า 'เห็นวันก่อนไม่ใช่คนนี้'

                                           หมายความว่าไงครับ



ผมรอไม่ถึงสามนาที พี่เค้าก็ตอบกลับมา



พี่ล้อเล่นนนนนครับ

อย่าบอกนะว่าน้องคิดจริงจัง

ไอ้กี้มันไม่เคยมีประวัตินอกใจแฟนครับ

พี่ขอโทษนะครับ

พี่ไม่คิดว่าน้องจะคิดมาก

                                            ไม่ได้คิดมากหรอกครับ

                                            แค่สงสัยเฉยๆ

พี่ขอโทษมากๆๆๆเลยนะครับ

ปกติพวกพี่ล้อกันเล่นแบบนี้อยู่แล้ว

                                            ครับ ถ้าไม่มีก็แล้วไปครับ

                                            ขอบคุณที่ตอบผมครับ

ยินดีครับ

ยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ

                                            ขอบคุณมากครับ

                                            (ส่งสติ๊กเกอร์ 'ขอบคุณ')



ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เฮ้ออออ รอดตัวไปนะพี่กี้!!



ผ่านไปประมาณ 5 นาทีได้ครับ ไอ้พี่กี้โทรเข้ามาหาผม

"ฮัลโหล"

"นิวเชื่อไอ้บิ๊กจริงๆ เหรอ" บิ๊ก คือ ชื่อเพื่อนพี่กี้คนเมื่อกี้แน่ๆ

"ไม่เชื่อไง เลยต้องถามดู"

"มีอะไรถามพี่ดิครับ"

"ถ้าถามพี่ พี่ก็ต้องตอบว่าไม่จริงอยู่แล้วป่ะ"

"แล้วนิวไม่เชื่อใจพี่เลยเหรอ…" น้ำเสียงมีแววน้อยใจปนอยู่

"…นิวก็อยากจะเชื่อใจพี่ แต่เราเพิ่งคบกันได้ไม่นาน นิวจะเชื่อใจพี่ทั้งหมดได้ยังไง"

"ที่ผ่านมาพี่เคยโกหกนิวไหม?" คำถามเดิมที่พี่กี้เคยถามผมเมื่อนานมาแล้ว ครั้งก่อนผมตอบว่าพี่กี้ไม่เคยโกหก… แต่ครั้งนี้ ผมตอบได้ไม่เต็มปากนัก

"นิวจะรู้เหรอถ้าพี่โกหกนิวจริงๆ"



"…ค่อยคุยกันเย็นนี้นะ พี่ต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้ว"



แล้วสายก็ถูกวางไป… ซึ่งปัญหาที่ผมต้องรับมือเย็นนี้ คือ เรื่องความเชื่อใจสินะ เฮ้อ!!



TBC.



Talk : วันนี้จะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ยยพวกแก เด๋วก็ราวด์ เด๋วก็เข้าห้องผ่าตัด แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ ค่ะ บางครั้งทะเลาะกันจนลืมไปเลยว่าทะเลาะอะไรกัน แต่เคสสองหมอนี้เรื่องใหญ่ น้องหมอนิวไม่น่าจะลืมได้ น่างสารน้อง

นิยายเรื่องนี้มีภาพแปะหน้าปกแล้ว ดีใจมากๆๆ ค่ะ หวังว่าคนอ่านจะชอบกันนะคะ สุดท้ายฝากตอนนี้ด้วยเช่นเคยค่ะ ขอคอมเม้นท์ หัวใจรัวๆๆ มาเลยนะคะ ขอบคุณมากค่าา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2020 18:22:52 โดย a-mee-ra »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้ออ สรุปก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดี เมื่อไหร่จะเคลียร์ให้จบๆหว่า คาใจนะเนี่ยะ

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คาใจมาก ๆ ครับ อิสนี่เป็นคนที่น่าสงสัยสุด ๆ เลยครับตอนนี้ :m16: :m31: :fire: :angry2: :serius2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ยังไงๆ ถ้าทำจริง บายเลยนะหมอนิว  :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด