Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)  (อ่าน 22027 ครั้ง)

ออฟไลน์ Windtofree

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันต้องเป็นลูกของป้องกุล ป้องกุลเท่านั้นนนนน!!!!!

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ะั พัดเอาไว้หนักๆไปเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ท้องกะใครอีเขม มั่วขนาดนี้

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เชือดเฉือนนนนน

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เอ้ออ!! เอาเลยเขม อย่าไปยอม ต้องกอดคอลงนรกด้วยกันซิ อย่าหวังว่าจะมีความสุขเลยถ้าคิดจะตีจาก คึคึ //ต้องได้หย่าแล้วล่ะคราวนี้ มีหลักฐานคลิปเสียวๆด้วย อัดไว้ตอนไหน ดีนะเนี้ย เอาสิ ถ้าคุณแม่มาขู่ ขู่กลับคืนเลย เอาให้พังกันไปข้าง กล้าไหมละขาาา 5555 โถๆๆมาบีบน้ำตาใส่หน้าเมียหลวงแล้วก็ไปบ้าใส่เมียน้อย เรนนี่มัน.... เบิดคำสิเว้ากับผู้ชายคนนี้คัก 5555 ต้องเจอกับหายนะอีกหลายระลอก อย่าเพิ่งท้อละ หึหึ //พัดเอาจริงแล้วเว้ย เออดี ชอบคำเรียกอีกฝ่ายว่า"คุณ" แทนคำว่า"พี่" มันคือความเย็นชาที่มอบให้เบื้องต้น  o13 //สนุกๆ ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจ้า จะเป็นยังไงกันบ้างแต่ละคน อิอิ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ท้องลมหรอเขม

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ท้องกับใครกันแน่เขมร่านซะขนาดนี้ ท้องจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้หรือสักแต่พูดไป แต่ก็เอาเถอะรับเวรกรรมที่ก่อก็แล้วกันนะเรนทำตัวเองก็ต้องรับกรรมที่ก่อไป ส่วนพัดก็ขอให้หย่าได้จริง ๆ นะ คราวนี้คงไม่มีใครมาห้ามแล้วละนะ ยังต้องมีอุปสรรคอีกแน่จนกว่าจะได้หย่าเนี่ย สู้ต่อไปพัด

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พัดหย่าแล้ว จะได้เปิดโอกาสให้คนข้างบ้าน
น้านนท์จะได้มีบทกะเค้าซะที

ส่วนเรน หุหุ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น
สมน้ำหน้าว่ะ เป็นไง คนทิ้งลูกเมีย

อย่ารีบชิ่ง อย่าทิ้งเขมมันเลย รักกันมากเลยไม่ใช่หรออออออ
อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆๆๆๆ...สมสู่กันแม่งให้มันส์ทั้งวันทั้งคืน

อยู่นานๆ ได้ไหม..นานๆจะเจอคนจัญไรซะที
อิอิ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เกลียดอีเขมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไปลงนรกทั้งคู่

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
จะรอดูคุณแม่มาช่วยลูกชาย เก่งกับสะใภ้ดีนัก

ดูซิ...ว่าจะสืบรู้มั้ยว่าสะใภ้ใหม่มีผัวกี่คนและท้องกับใคร

เอ๊ะ!! หรือไม่ท้อง ฮึฮึฮึ

 :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ lopittup

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
บทที่ 16 หนี 100%


ร่างสูงนั่งก้มหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่โซฟา ตั้งแต่ที่เขมินทร์เดินเข้าห้องน้ำไป เขายอมรับว่าตกใจที่อีกฝ่ายบอกเขาว่าตัวเองตั้งครรภ์ แต่พอเขารวบรวมสติได้ ก็รีบลงไปข้างล่างคอนโดหาร้านยาที่ใกล้ที่สุดและซื้อที่ตรวจครรภ์มา

'ไปตรวจแล้วเอาออกมาให้ฉันดู'

เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นที่ตรวจครรภ์ให้ไปทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน และตอนนี้ก็กำลังนั่งรอผลตรวจอยู่ที่หน้าห้องน้ำในคอนโดของตัวเอง เวลาผ่านไปเกือบจะสิบนาทีแล้วแต่ใครอีกคนก็ยังไม่ยอมออกมาสักที ร่างสูงทนรอต่อไปไม่ไหวจึงลุกขึ้นเดินไปยังหน้าประตูห้องน้ำ

ก๊อกๆๆ

"เสร็จหรือยัง ทำไมนานขนาดนี้"

ก๊อกๆๆ

มือใหญ่เคาะลงบนประตูห้องน้ำอยู่หลายที เขารอจนอีกคนเดินมาเปิดมันออก เขมินทร์มองหน้าเรวัตก่อนที่จะเดินแทรกตัวออกมาจากห้องน้ำและวางที่ตรวจครรภ์ลงบนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา เรวัตที่มีความต้องการที่อยากจะรู้ผลของการตรวจมากจึงเดินไปหยิบเอาที่ตรวจครรภ์ขึ้นมาดูทีละอัน

อันแรก...ขึ้นหนึ่งขีดที่ตัว c

อันที่สอง...ยังคงขึ้นแค่หนึ่งขีด

และอันสุดท้ายก็ขึ้นมาเพียงแค่หนึ่งขีดเท่านั้น

เท่านี้ก็พอที่จะสรุปได้ว่าเขมินทร์ไม่ได้ท้อง เรวัตที่คร่ำเครียดกับเรื่องนี้อยู่นานมองไปยังเขมินทร์ที่นั่งทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่โซฟา มันยิ่งทำให้แรงอารมณ์ของเขาพุ่งสูงจนจะทะลุเพดานห้องคอนโด ร่างสูงเดินเข้าไปกระชากตัวเขมินทร์ขึ้นมาและกำรอบแขนของอีกฝ่ายแน่น

"ทำแบบนี้ทำไม!? นายจะโกหกฉันว่าท้องทำไม" สายตาของเขาจ้องเหมือนกับกำลังกัดทึ้งอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ภายใน

"พี่เรน...เขมเจ็บ" เสียงหวานเอ่ยออกมา

"ถามว่าทำแบบนี้ทำไม...กูถามว่ามึงทำทำไม!?"

"เขมทำแบบนี้เพราะเขมรักพี่ไง!" เขมินทร์เอ่ยสวนออกมาทันที เขาตะโกนใส่ร่างสูงก่อนที่จะสะบัดตัวเองออกจากการกอบกุม และเริ่มร้องไห้สะอื้นอยู่ตรงหน้าของอีกคน

"รัก...รักงั้นเหรอ รักกันไม่ทำแบบนี้หรอกเขม" เรวัตที่เห็นอีกฝ่ายร้องไห้เขาก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงมาบ้าง

"เขมรอพี่มาตลอดหนึ่งปี รอให้พี่มาจริงจังด้วย ฮึก รอมาเหมือนคนโง่ แต่พี่ก็เลือกครอบครัวของพี่ ฮึก"

"..."

"เขมผิดหรอ ที่อยากปกป้องครอบครัวของเขมบ้าง ฮึก มันผิดมากเลยหรอ ฮือ" เขมินทร์ทรุดตัวลงสะอื้นอยู่ตรงหน้าของเรวัต ร่างเล็กสั่นไปด้วยแรงอารมณ์อย่างน่าสงสาร

"พี่บอกแล้วว่าเขมไม่ควรไปยุ่งกับครอบครัวพี่ เขมผิดคำสัญญากับพี่แล้วเขมยังโกหกว่าท้องอีก"

"เพราะเขมอยากอยู่กับพี่เร็วๆ พี่คิดว่ามันแฟร์สำหรับเขมมากหรอที่พี่มีทั้งเขาและเขม แต่เขมมีใครไม่ได้เพราะพี่หวงเขมไว้คนเดียว เขมต้องทรมานรอพี่มาตลอดหนึ่งปีก็มากเกินไปแล้วและเมียพี่ก็รู้เรื่องแล้วด้วย มันก็แค่หย่า...แต่พี่ก็ไม่ทำ จะให้เขมทำยังไงและที่เขมต้องโกหก ก็เพราะว่าพี่ไม่ฟังเหตุผลของเขมเลย ฮึก พี่ไม่ฟังเขมเลย" เรวัตมองภาพของผู้ชายตรงหน้าอย่างน่าสงสาร มันสะท้อนขึ้นมากับภาพในวันที่เขาทะเลาะกับพลลภัตม์อีกคนก็น่าสงสารไม่แพ้กัน เขากำลังทำร้ายคนอื่นอยู่ เขากำลังทำร้ายคนที่เขาบอกว่ารักและรักเขา

เขามันเลว

"พี่ขอโทษ...ขอโทษที่เอาเขมเข้ามาพัวพันแบบนี้ เราเลิกกันนะ"

"พี่เรน...ฮึก ฮือ"

"พี่จะกลับไปรักษาครอบครัวพี่ เขมเองก็ไปหาคนใหม่ที่เขาดีกับเขมมากกว่าพี่"

"ไม่เอา...เขมไม่ยอม ฮึก ไม่ยอม ฮือ" เขมินทร์คลานเข้ามากอดเข่าของเขาเอาไว้และร้องไห้ออกมาสุดเสียงอย่างน่าสงสาร เรวัตทำได้แค่เพียงนั่งลงกอดปลอบอีกคน เขาลูบหลังเล็กไปมาหวังให้ช่วยปลอบประโลมกัน

"พี่ขอโทษนะ พี่ไม่อยากทำร้ายเขมมากไปกว่านี้" เขาพยายามรั้งตัวอีกฝ่ายออกแต่เขมินทร์ก็กอดเขาไว้แน่นเหลือเกินแต่แรงของร่างเล็กก็ไม่อาจสู้แรงของร่างใหญ่ได้ เรวัตลุกขึ้นเดินออกมาจากตรงนั้นเขาก้าวเดินไปเรื่อยๆ จนถึงที่ประตู โดยที่มีเสียงเรียกและเสียงร้องไห้ของเขมินทร์ตามหลังเขามาเรื่อยๆ

"พะ พี่เรน อย่าไป ฮือ อย่าทิ้งเขมไป อย่าไป ฮือ"

เรวัตพยายามที่จะไม่หันกลับไป เขาไม่อยากทำร้ายเขมินทร์ไปมากกว่านี้ เรื่องนี้คนที่ผิดคือเขาเองที่นอกใจพลลภัตม์และหักหลังลูกๆ ของตัวเอง ซ้ำยังดึงเอาเขมินทร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เขาต้องจบเรื่องพวกนี้ลงได้แล้ว

มันควรจบได้แล้ว

ขายาวก้าวมาจนถึงประตูห้องคอนโด มือเรียวเอื้อมไปจับมันก่อนที่จะเปิดออกและก้าวขาออกมาจากตรงนั้น เขาเดินไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าลิฟต์โดยที่ไม่หันกลับไปมองที่ห้องคอนโดเลยสักนิด ทุกย่างก้าว ทุกขณะเวลา มันมีเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขาคือ

พี่ขอโทษ



รถยนต์หรูขับเลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของอรรถจิรานันท์ ขายาวของเรวัตก้าวลงจากรถช้าๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในตัวบ้าน บ้านหลังนี้ยังคงเงียบสนิทเหมือนเดิม เหมือนที่มันเคยเป็นมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตบ้านหลังนี้แทบไม่เคยมีเสียงหัวเราะเลยเพียงนิด แต่พอจะมีเสียงทั้งที่กับเป็นเสียงสะอื้นจากการร้องไห้หรือเสียงทะเลาะตบตีที่มันดังกังวานไปทั่วทั้งหลัง

"เรน...เรนลูก จะมาทำไมไม่บอกแม่ก่อน" เสียงหวานของหญิงมีอายุเอ่ยเรียกเขาในตอนที่เขาเดินเข้ามาภายในบ้าน แต่เขาไม่ได้สนใจและพยายามเดินเลี่ยงหนีออกห่างจากอีกฝ่าย

"เรน...แม่เรียกไม่ได้ยินหรอเรน เรน! ระ" คุณหญิงริณีเอ่ยเรียกลูกชายของเธอ แต่อีกฝ่ายมีท่าทีเมินเฉย เธอจึงคว้าแขนของอีกคนไว้ก่อนที่จะขึ้นบันได

"พอสักที!" เรวัตมันตวาดใส่ผู้เป็นแม่ของตัวเอง

"เรวัต! อย่ามาขึ้นเสียงใส่แม่นะ" เธอตกใจที่ลูกชายสุดรักของเธอตวาดใส่หน้า มันทำให้เธอโมโหมากขึ้น

"ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม คุณแม่หยุดสอดส่องเรื่องของผมได้แล้ว"

"เรน"

"คุณแม่รู้ไหมว่าพัดขอหย่ากับผมแล้ว มันเพราะคุณแม่! เพราะคุณแม่ที่ทำให้เรื่องมันแย่" เขาระบายความอัดอั้นในใจที่มีออกมา เรวัตสะบัดแขนของมารดาออกก่อนที่จะเดินเข้าไปประจันหน้ากับอีกคน

"เพราะคุณแม่ที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ชอบทำอะไรที่ผมไม่ต้องการ"

"เรน..."

"ผมไม่เคยต้องการให้คุณแม่ยุ่งเรื่องความรักของผม ไม่เคยต้องการให้คุณแม่มาก้าวก่ายชีวิตผม ไม่เคยต้องการให้คุณแม่อยู่กับคุณพ่อเพื่อผม ไม่เคยต้องการ! ไม่เคย!"

เพี๊ยะ

ฝ่ามือเหยี่ยวฟาดลงไปบนหน้าของลูกชายสุดรักอย่างแรง จนเรวัตหน้าหันไปอีกทาง คุณหญิงริณีชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยออกมา

"ฉะ...ฉันทำเพราะหวังดีทั้งนั้น แกคิดว่าตัวเองเก่งนักหรือไง ถ้าไม่มีฉันคอยเก็บกวาดชีวิตแกให้มันจะเป็นยังไง ห้ะ! อย่ามายืนด่าฉันฉอดๆ อย่างนี้นะ ทุกอย่างมันเริ่มที่ตัวแกเองทั้งนั้น ถ้าแกไม่คบชู้ตั้งแต่แรกมันจะขอแกหย่าไหม!?" คุณหญิงริณีเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ และน้ำตาที่คลอบริเวณดวงตา เธอและลูกชายยืนจ้องหน้ากันอยู่นานก่อนที่เรวัตจะวิ่งขึ้นไปบนห้องของตัวเอง เธอจึงกลับมานั่งสงบสติอารมณ์ที่โซฟา แต่เพียงไม่นานร่างสูงของลูกชายก็กลับลงมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต

"เรน...แกจะไปไหน เรน!" คุณหญิงริณีพยายามวิ่งตามลูกชายที่เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นรถ แต่เธอก็ตามไม่ทันเรวัตขับรถออกไปจากบ้านหลังใหญ่ซะก่อน เขามาที่นี่ก็เพื่อมาเก็บของเท่านั้น เขาอยากที่จะหนีออกไปให้พ้นจากที่นี่

อรรถจิรานันท์ สำหรับเขามันไม่ใช่บ้าน

มันคือกรงขัง



เช้าวันใหม่มาถึงพัดตื่นแต่เช้าเช่นเดิม วันนี้เขาไม่ได้มีกำหนดการต้องไปที่ไหนมีเพียงแค่อยู่บ้านเท่านั้น เขาจึงตื่นขึ้นมาทำอาหารให้ภาณินและภีมพลก่อนที่จะไปส่งเด็กๆที่โรงเรียน วันนี้เป็นวันที่ดีในรอบหลายวันที่เขาจะได้ทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากับลูกชายทั้งสอง

"คุณแม่..." เสียงเล็กของเด็กชายดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นภาณินในชุดนักเรียนที่มาเดินลงมาจากชั้นบน

"อ้าว...น้องภา พี่ภีมล่ะลูก" เขาหันไปเอ่ยถามพลางตักแกงจืดใส่ลงในถ้วยสีขาวสะอาดตา ก่อนที่จะยกมาตั้งลงกลางโต๊ะรับประทานอาหารของบ้าน

"กำลังเดินลงมาครับ" เด็กชายตอบก่อนที่จะย้ายสะโพกมานั่งลงบนเก้าอี้รอทานอาหารเช้า

"เดี๋ยวแม่ตักข้าวให้นะ...ภีมมาพอดีเลย นั่งลงๆ เร็วเดี๋ยวจะสาย" พัดเอ่ยบอกกับลูกชายทั้งสองก่อนที่จะหันกลับไปยังหม้อหุงข้าว มือขาวเปิดฝาหม้อและใช้ทัพพีตักข้าวประมาณหนึ่งให้กับลูกชายของเขาทั้งคู่รวมถึงตัวเองด้วย ก่อนที่จะเริ่มลงมือรับประทานอาหาร

"เมื่อวาน...พ่อว่ายังไงบ้างครับ" ภาณินเอ่ยถามออกมากลางโต๊ะถึงเรื่องเมื่อวานที่คุณพ่อมาหาคุณแม่ถึงที่บ้าน

"พ่อกับแม่เราคุยกันแล้ว...ว่าจะหย่า" พัดเองก็ตอบออกไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เพราะเขาเชื่อว่าการตัดสินใจในครั้งนี้มันดีที่สุดสำหรับครอบครัวของเราแล้ว

"ภีมกับภา โอเคกับการตัดสินใจของแม่ไหมลูก" เขาเอ่ยถามถึงความพอใจของลูกชายทั้งสอง

"ภีมโอเคครับ"

"ภา...โอเคครับ" คำตอบที่ตอบกลับมาทำให้พัดยิ้มได้ทั้งน้ำตา ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปหมดเพราะน้ำที่เอ่อล้นอยู่ในตา เขาดึงลูกชายทั้งสองคนเข้ามากอดและลูบหัวทั้งคู่ พลางเอ่ยกระซิบข้างๆ หูลูกๆ

"แม่สัญญา ว่าแม่จะดูแลพวกเราให้ดี แม่สัญญา" เรื่องทุกอย่างมันกำลังจะจบแล้ว เขาและลูกจะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานเสียที

รถยนต์หรูของพลลภัตม์จอดลงที่ตรงหน้าประตูโรงเรียนของลูกชายทั้งสอง เขาและลูกบอกลาและให้กำลังใจกันสำหรับวันใหม่ เขาหอมแก้มภีมพลและภาณินก่อนที่เด็กๆ จะลงรถ พัดมองตามลูกชายจนเด็กๆ กลืนไปกับฝูงชนในโรงเรียน เขาถึงได้หันมาสตาร์ทรถเตรียมตัวตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของ แต่โทรศัพท์ก็สั่นเตือนขึ้นมาเสียก่อน

Rrrrrrrrrrrrrrrrr

'พี่เจ๋ง'

หน้าจอขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์ของผู้จัดละครที่เขารับเล่นไว้ เขากดรับและกรอกเสียงทักทายลงไปในสายทันที

"ครับ...พี่เจ๋ง"

"พัด...พัดอยู่กับเรนมันหรือเปล่า" เสียงจากปลายสายดูเคร่งเครียดจนเขาสัมผัสได้

"ไม่ครับ...เขาไม่ได้อยู่กับพัด"

"คือพี่ติดต่อมันไม่ได้เลยพัด พี่มีงานจะคุยกับมันแต่มันส่งข้อความมาบอกว่าขอลาพัก เรนไม่เคยลาปุบปับแบบนี้เลยนะ"

"พัดก็ไม่ทราบเหมือนกัน...เดี๋ยวพัดจะลองติดต่อดูให้นะครับ" เขาเอ่ยบอกปลายสายก่อนที่จะกดวาง นิ้วเรียวจิ้มไปยังชื่อของสามีตัวเองและกดโทรออก แต่ไม่ว่าจะโทรยังไงมันก็ไม่ติด เขาเริ่มที่จะกระวนกระวายใจมากยิ่งขึ้น เรวัตรักงานนี้มาก เขาไม่เคยทิ้งงานไปแบบนี้

เรวัตหายไปไหน?



รถยนต์หรูขับมาไกลถึงต่างจังหวัด รอบกายของเรวัตรายล้อมไปด้วยป่าไม้สีสดเขียว มันให้บรรยากาศเย็นสบายใจ ผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด เขาตัดสินใจหลบหลีกความวุ่นวายมาไกลถึงรีสอร์ตของเพชร เพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยของเขา

"มาไม่บอกกันก่อนเลยนะมึงอะ" ร่างสูงเท่าๆ กันกับเขาเดินเข้ามาหาเขาที่ยืนพิงรถหรูอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่

"กูเครียดๆ ว่ะเลย...อยากออกมาหาที่พักผ่อน" เรวัตตอบอีกฝ่ายก่อนที่จะหลบหมัดที่พุ่งมาหมายจะชกเขา

"ทีหลังบอกก่อนได้ไหม ถ้ากูไม่อยู่ใครจะดูแลมึงว่ะ" มันน่าหมั่นไส้นักไอ้เพื่อนคนนี้ มีอะไรไม่เคยจะบอกเพื่อนฝูงเอาแต่เก็บไว้คนเดียว

"มา...เดี๋ยวกูไปเปิดบ้านให้" เพชรเดินขึ้นรถไปนั่งบนรถของอีกฝ่ายและให้เรวัตขับออกไปข้างหน้า จุดหมายก็คือบ้านพักที่อยู่รายล้อมธรรมชาติ เรวัตต้องการแค่จะหนีออกมาพักกายพักใจก่อนที่จะกลับไปจัดการเรื่องวุ่นวายที่เขาทิ้งมันเอาไว้ที่เมืองกรุง



กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เสียงออดของโรงเรียนบอกเวลาพักเที่ยงของมัธยมปลาย ร่างโปร่งของภีมพลเก็บของลงใต้โต๊ะก่อนที่จะลุกออกมาจากห้องเรียนบอกแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนเพื่อที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อที่จะเข้าไปทำธุระส่วนตัว ทันทีที่เสร็จธุระแล้วเขาก็เดินนอกมาหน้ากระจกเพื่อที่จะล้างมือ

"ไม่ไปกินข้าวหรอ" แต่เขาก็ถูกเสียงทุ้มขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน ตากลมหันไปมองยังที่มาของเสียงก็ปรากฏเป็นภาพของร่างสูงที่เขาคุ้นเคย

"เดี๋ยวไป มาเข้าห้องน้ำก่อน" เขาเอ่ยบอกอีกคนพลางสะบัดมือที่เปียกน้ำให้มันแห้ง

"ไม่ได้มาดักรอเจอกูใช่ป้ะ" จวิ้นเอ่ยถามพลางเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กกว่า

"ใครเขาอยากเจอมึง คิดไปเอง" ภีมผลักอกอีกฝ่ายให้ออกห่างก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องน้ำ แต่ก็ถูกเสียงทุ้มตะโกนเอ่ยรั้งไว้ซะก่อน

"เย็นนี้ไปกินไอติมกันไหม...เบี้ยวมาหลายรอบแล้วนะ" จารณน์เดินตามออกมาตะโกนชวนใครอีกคนที่เดินห่างออกไปจากห้องน้ำ

"เออ!" และเสียงที่ตะโกนตอบรับกลับมามันก็เรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้เป็นอย่างดี ภีมพลหันหลังกลับมาหลังจากที่ตะโกนบอกคำตอบของตัวเองกับอีกฝ่าย เขาเดินก้มหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงโรงอาหาร ก่อนที่จะไปต่อแถวซื้อข้าวและมานั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนที่กำลังพูดคุยกันอยู่อย่าสนุกสนาน

"มึงๆ ทำการบ้านครูดาวยัง เอามาลอกดิ้"

"ลอกไรว่ะ มึงทำเองดิ"

"กูทำได้จะขอลอกไหม ถามไม่คิด" หัวข้อของการสนทนาก็จะมีพวกในเรื่องของการเรียนและการสอบเก็บคะแนนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อไปนี้ ภีมพลเองเป็นอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือเนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขาไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นได้เลย วันนี้เขาจึงพยายามรีบทานข้าวเพื่อที่จะขึ้นไปอ่านหนังสือในช่วงเวลาพักเที่ยงบนห้องเรียน

"มึง...เรื่องใหญ่ๆๆ" จิ๊บ เพื่อนหญิงสาวของกลุ่มวิ่งหน้าตั้งกลับมาหลังจานที่เอาจานไปเก็บแล้วเรียบร้อย เธอหยุดพักหายใจเข้าออก ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดถึงเรื่องที่เธอไปรู้มาสดๆร้อนๆ

"เรื่องไรอีจิ๊บ วิ่งหน้าตั้งมาเลย"

"ไม่ใหญ่จริง กูทืบมึงนะ"

"มึงฟังกูก่อนๆ ใหญ่จริงๆ จิ๊บคอนเฟิร์ม" เด็กหญิงยกนิ้วโป้งขึ้นมาการันตีว่าเรื่องที่เธอกำลังจะเอ่ยต่อไปนี้ มาใหญ่ซะเหลือเกิน

"อะๆๆ ว่ามาลีลานะมึง"

"คือ..." จิ๊บสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดออกมา

"คือ...กูไปได้ยินมาเว้ยว่ามีคนทะเลาะกันที่ห้องน้ำ ต่อยกันเลยนะมึงเป็นกลุ่มเลย" เธอทำหน้าทำตาประกอบการเล่าเรื่องในครั้งนี้ด้วย

"ใครวะ"

"ใครวะมึง" หลังจากที่ฟังหญิงสาวเล่าเสร็จ เพื่อนๆ บนโต๊ะก็ถามขึ้นมาในทันทีถึงบุคคลที่เป็นเป้าสนทนาว่าใครที่มีเรื่องทะเลาะชกต่อยกัน

"เห็นเขาบอกว่าเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ห้องห้าอะกับพวกไอ้เปรมห้องแปด"

"เด็กใหม่หรอวะ"

"เออ...ชื่อจวิ้นอะที่หล่อๆ"



...

- TBC -

ยังหรอกค่ะ...มันยังไม่ใกล้จบ เรื่องปสด.มันยังไม่หมดดดดดดด

ฝากเมนท์ติชมด้วยนะค้าบ ฝากกดไลก์กดแชร์ด้วยนะ

พูดคุยกัน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะครับ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เอวัง.....
ด้วยประการฉะนี้




สาธุ
 :sad3:
ไปดีมาดี ที่ชอบๆ นะ..เรน
อ่ะ..กรวดน้ำให้
นรกภูมิอ้าแขนรอรับอยู่..เขม

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอค่ะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เอ้ามาตีอะไรกันอีกละเด็กๆ ใครจะตีกันก็ตีไปนะแต่ภีมภาอย่าไปร่วมวงด้วยละกัน 555 "พี่จะกลับไปรักษาครอบครัวพี่ เขมเองก็ไปหาคนใหม่ที่เขาดีกับเขมมากกว่าพี่" ผลของการกระทำมันจะย้อนศรคำกล่าวนี้หมดเลย สุดท้ายจะไม่เหลือใครเลยเรนแม้แต่งานที่ตัวเองรัก หึหึ!!ไปต่อว่าโทษคนนั้นคนนี้ เรียกร้องความสนใจ ทิ้งงานไปแบบนี้ใครจะอยากร่วมงานอีกละ ทำตัวเองทั้งนั้นนะ โทษใครไม่ได้เลย สนุกกกก ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจ้า จะเป็นยังไงกันบ้าง  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ความจริงตั้งแต่ที่พัดรู้ความจริงก็ควรเลิกกับเขมได้แล้ว ถ้าคิดจะเลือกความครอบครัวแต่แรกก็ไม่ควรที่จะมีเขม แล้วนี่อะไรเหมือนเด็กที่ไม่ได้ดังใจแล้วพาลคนอื่นไปทั่ว ไม่คิดย้อนกลับไปล่ะว่าถ้าตัวเองไม่ไปนอกใจจะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นไหม

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อะๆ ยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Windtofree

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะประสาทแดกมากกว่านี้อีกหรอ  :z3:

ออฟไลน์ Janemera

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เห็นแก่ตัวได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอ่ะ อยากให้พัดฟาดให้หงายให้หมด

ออฟไลน์ lopittup

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

บทที่ 17 แบ่งเบา 100%

***คำเตือน เนื้อหาในตอนนี้มีความรุนแรงภายในครอบครัวนะคะ นักเขียนไม่ได้ต้องการชี้นำหรือชักจูงและส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรงในครอบครัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะ***



ร่างบางของภีมพลนั่งอยู่ที่ม้านั่งใกล้ๆ กับห้องปกครอง เขากำลังคิดวิตกเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อตอนเที่ยง เรื่องพวกนั้นมันวิ่งอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาในช่วงบ่าย ภีมพลโทรไปขออนุญาตแม่แล้วว่าอาจจะกลับดึกหน่อยแต่เขาสามารถกลับเองได้ เขาอ้างว่าต้องอยู่ทำงานกลุ่มช่วยเพื่อนที่โรงเรียน แต่ความเป็นจริงคือรอพบใครอีกคนต่างหาก

คนที่ไปมีเรื่องเมื่อตอนเที่ยงนั่นแหละ

ตั้งแต่เขารู้จักกับจารณน์มาเกือบจะหนึ่งเดือน อีกฝ่ายก็เริ่มที่จะเข้ามามีผลกระทบกับชีวิตเขามากยิ่งขึ้น เกือบจะทุกคืนที่เราพูดคุยกันผ่านการโทรหา บางคืนก็นอนหลับคาสายโทรศัพท์ เขาสามารถเล่าทุกเรื่องให้อีกคนฟังได้ เวลาที่เขาไม่สบายใจ จวิ้นจะเป็นคนคอยรับฟังเขาเสมอๆ แต่เขากลับไม่เคยรู้เรื่องอะไรของอีกคนเลย

ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้คืออะไร

แต่เขาแค่ยังไม่แน่ใจ เพราะมันเหมือนยังไม่มีอะไรชัดเจน

ตากลมของภีมพลเหลือบไปเห็นประตูห้องปกครองที่ถูกผลักออกมา ร่างสูงของใครอีกคนปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของภีมพล ใบหน้ายับเยินจากการถูกต่อย ยังคงมีเรื่องรอยฟกช้ำอยู่อย่างเห็นได้ชัด ขายาวของจารณน์ก้าวเดินไปยังกรงจอดรถของนักเรียนเพื่อไปรับไอ้แดงลูกรักของเขากลับบ้าน

เขาเหนื่อยเป็นบ้า

หลังจากมีเรื่องกับไอ้เปรมในห้องน้ำตอนเที่ยงก่อนถูกคุณครูฝ่ายกิจการนักเรียนเรียกพบในห้องปกครอง ถูกเรียกผู้ปกครอง

แต่เขาก็ไม่มา

ผมควรจะชินได้แล้ว ในเมื่อมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งเขาไม่เคยสนใจผมเลย ไม่เคยรับรู้เลยว่าผมจะเป็นตายร้ายดียังไง ผลสุดท้ายเรื่องก็จบที่ผมโดนทัณฑ์บนไปเพราะนี้เพิ่งจะเป็นความผิดครั้งแรกที่ผมก่อ นิ้วเรียวควงที่ห้อยกุญแจรูปชินจังวนๆ ไปมา เหมือนความคิดของเขาที่กำลังวนไปวนมาอยู่ในหัว

ตึก ตึก ตึก

ร่างสูงหยุดเดินทันทีที่เขาหลุดจากภวังค์ความคิด เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามเขามาเรื่อยๆ เมื่อเขาหยุดมันก็หยุด เมื่อเขาออกเดิน มันก็เดินตาม จนในที่สุดเขาก็รู้สึกว่ามันกำลังเดินตามเขามาใกล้เรื่อยๆ

!!!

ร่างสูงหันหลังกลับไปทันที เขาคว้าคอเสื้อของอีกคนได้และง้างมือพร้อมที่จะประเคนหมัดหนักๆ ลงบนมุมปากของคนที่ถือวิสาสะเดินตามเขามาอย่างนี้ แต่จารณน์ก็ต้องชะงักไปเมื่อคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นคนที่เขารู้จัก อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคนเดียวของเขาในโรงเรียนนี้เลยก็ว่าได้

"กูเอง...ใจเย็นดิ ใจร้อนไปไหนวะ" ภีมพลผงะไปทันทีที่ร่างสูงหันมาคว้าคอเสื้อ แต่เมื่อรู้ว่าคนที่เดินตามมาคือเขา อีกคนก็ยอมปล่อย

"ตามมาทำไม" จวิ้นเอ่ยถาม

"มาหามึงไง" และภีมพลก็เอ่ยตอบอย่างฉะฉานชัดเจน ก่อนที่จะจูงมืออีกคนเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่ายที่เขาจำป้ายทะเบียนได้ดี จวิ้นทำหน้างงๆ ส่งมาให้เขาเหมือนกำลังจะถามว่าเขาจะทำอะไร แต่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้เอ่ยปาก คนตัวเล็กกว่าก็ชิงพูดออกไปก่อน

"มึงยังไม่ทำแผลเลย ขึ้นรถเร็วพากูไปบ้านมึงจะทำแผลให้"

"มึงไม่ต้องหรอก กูทำเองได้ตอนนี้กูอยากอยู่คนเดียว" ภีมเสนอตัวที่จะไปทำแผลให้ร่างสูงแต่อีกคนก็ปฏิเสธหน้าตายกลับมา ภีมเห็นแบบนั้นก็หมั่นไส้จึงยกมือขึ้นไปดีดหูอีกฝ่ายให้รู้สึกเจ็บ

"โอ้ย! เจ็บ"

"ทำเป็นเก่งมึงอะ ตอนกูมีปัญหามึงช่วยกูตลอด ตอนนี้กูจะช่วยมึงบ้าง ห้ามปฏิเสธ" คนตัวเล็กยืนชี้หน้าสั่งสอนอีกคน จะมาทำเก่งอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ เป็นเพื่อนกันก็ต้องบอกต้องคุยกันได้ดิ

"มึงไม่ต้องกะ..." ร่างสูงกำลังจะเอ่ยปฏิเสธอีกครั้ง แต่ภีมพลไวกว่านั้น ขาเรียวตวัดขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย ตอนนี้เขาย้ายร่างของตัวเองจากที่ยืนอยู่บนพื้นขึ้นมานั่งอยู่บนรถของอีกคนเป็นที่เรียบร้อย จารณน์พยายามดึงอีกคนลงมาจากรถ พยายามปฏิเสธความหวังดีที่เขาหยิบยื่นให้แต่คนตัวเล็กก็ตีหน้ามึนไม่สนไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

เอาแต่ใจชะมัด

"เออ...จะไปก็ไป ดื้อจังวะ" ขายาวตวัดขึ้นมานั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ก่อนจะยื่นหมวกกันน็อกให้คนตัวเล็ก และบังคับให้ใส่

"ไม่ใส่...มึงเป็นคนขับก็ใส่ดิ" เรายื้อกันไปกันมาสุดท้ายก็เป็นภีมพลที่คว้าเอาหมวกกันน็อกไป แต่บังคับใส่ให้อีกคนจนจวิ้นยอมแพ้ ต้องตามใจอีกคนเพราะไม่อยากฟังเสียงแงวๆ นั้นบ่น เมื่อสวมหมวกกันน็อกแล้วเรียบร้อย มือหนาของจรณน์ก็เอื้อมไปทางด้านหลัง คว้าเอาข้อมือเล็กของอีกฝ่ายมาโอบรอบเอวสอบของตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปกำชับกับคนตัวเล็กว่า

"ไม่ใส่ก็กอดแน่นๆ อย่าปล่อย"



รถมอเตอร์ไซค์คันโปรดจอดรถหน้าบ้านทาวน์โฮมหลังหนึ่งในซอยที่ไม่ได้ใกล้หรือไกลจากโรงเรียนของพวกเขามากนัก ร่างเล็กลงจากมอเตอร์ไซค์ยืนรออีกคนไขกุญแจเปิดประตูเหล็กหน้าบ้าน ก่อนที่จะจูงรถเข้ามาจอดที่ด้านใน ภีมจึงเดินตามอีกคนเข้ามา สายตาของเขาสอดส่องไปรอบๆ บริเวณบ้านที่เหมือนจะทรุดโทรมไปหน่อย มีซากของพืชที่แห้งและเหี่ยวเฉาจนกลายเป็นสีน้ำตาล น่าจะตายมานานแล้วคงเพราะอาจไม่มีเวลาดูแลพวกมัน เขายืนรอให้จวิ้นไขประตูบ้านที่กุญแจถูกซ่อนอยู่ที่กระถางซากต้นไม้ข้างประตูนั้นเอง

ทันทีเปิดได้เขาก็เดินตามอีกคนเข้าไปข้างในทันที สภาพภายในบ้านเองก็ทรุดโทรมไม่ต่างจากสภาพภายนอกเท่าไหร่ แต่ก็ยังดูดีมากกว่าอยู่นิดหน่อย ร่างสูงเดินไปวางกระเป๋าที่โซฟาสีครีมก่อนที่จะเอ่ยกำชับให้เขานั่งรอเจ้าตัว จวิ้นเดินหายไปชั้นบนของบ้านอีกฝ่ายคงจะไปค้นเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้เขาช่วยทำแผล

รอไม่นานอีกคนก็เดินลงมาพร้อมกับกล่องใสๆ ขายาวก้าวมาหยุดที่โซฟาก่อนที่จะวางมันลงที่โต๊ะ และเอ่ยปากพูด

"เอ้า...จะทำให้ก็รีบทำ" ภีมพลปรายสายตามองท่าทางน่าหมั่นไส้นั้นก่อนที่จะดึงกล่องใสมาไว้กับตัวเองและเปิดหยิบเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดแผลขึ้นมา

"โอ้ย!! กูเจ็บ" จารณน์ร้องเสียงหลงออกมาทันที เมื่อมือเรียวกดเน้นลงบนแผลที่ขอบปากของเขา ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยาแบบนั้น

"สมน้ำหน้า ขี้เก๊กเอง หมั่นไส้"

"รีบทำ จะได้ไปส่ง ไม่อยากให้กลับดึก" หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้นมาระหว่างสองคน มันมีเพียงความเงียบที่ลอยวนอยู่ในอากาศตอนนี้ ภีมพลบรรจงทำแผลให้อีกคนอย่างเบามือ เขาทำไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองเขาอยู่ตลอด

"มึง กูถามอะไรบ้างได้ป้ะ" คนตัวเล็กเอ่ยถามอีกคนในขณะที่กำลังทำแผลที่คิ้วให้ร่างสูง

"ตอบได้จะตอบ"

"ทำไมมึงถึงไปมีเรื่องกับไอ้เปรมได้ว่ะ" ภีมพลผละมือออกจากการทำแผล เขาใช้สายตาของตัวเองมองสบเข้าไปในดวงตาเรียวตี๋ของอีกฝ่าย พยายามอ่านความหมายของมันและส่งผ่านความห่วงใยที่เขามีต่อร่างสูงออกไปในเวลาเดียวกัน

"..." แต่ร่างสูงก็ยังไม่ตอบ แถมยังเบือนสายตาหนีเขาไปอีกที ทำให้ภีมต้องใช้มือเรียวไปล็อกคางของอีกฝ่ายให้หันกลับมาจ้องตากัน

"กูถาม...ตอบมา" เขาเค้นถามอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง

"มัน...มันกวนตีนกู" ร่างสูงเอ่ยตอบเขามาด้วยเสียงเบาๆ มันทำให้ภีมไม่ได้เชื่อคำพูดของอีกคนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ว่าจะถามยังไง อีกคนก็ยังจะตอบแต่ว่าเพราะเปรมไปกวนอีกฝ่าย จึงเกิดการแลกหมัดกันเกิดขึ้น ทำให้ภีมล้มเลิกที่จะอยากรู้สาเหตุของการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ เขาไม่ได้ถามอีกฝ่ายและลงมือทำแผลต่อก่อนที่จะบ่นอีกฝ่ายไปด้วยในเวลาเดียวกัน

"มึงน่ะ ใจร้อนเกินไป เย็นลงบ้างก็ได้เถอะ ไม่ต้องไปให้ค่าคนแบบไอ้เปรมมันหรอกเขารู้กันทั้งโรงเรียนว่ามันเป็นคนยังไง โตๆ แล้วนะเว้ย อย่ามีเรื่องกันเลย กูเสียดายแอลกอฮอล์ทำแผลว่ะ...อื้อ! สกปรก ไอ้สัส!" คนตัวเล็กร้องโวยวายทันทีที่มือใหญ่เอื้อมมาบีบปากของเขา บีบมาได้ไงวะ เค็มก็เค็ม ล้างมือยังก็ไม่รู้

ไอ้ตี๋ยักษ์โว้ย!!!!

"พูดมากมึงอะ กูรำคาญ" จวิ้นที่ฟังอีกฝ่ายบ่นมานาน ก็เลยเกิดความรำคาญขึ้นมาหน่อยๆ แต่ภีมพลคงจะไม่ทันสังเกตว่าคำบ่นของภีมพลเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้มากขนาดไหน

"เอ้า...คนมันเป็นห่วงไหมวะ ไอ้นี้" ปากเล็กก็ยังคงขยับบ่นร่างสูงไปเรื่อย

"หรอ ห่วงกูหรอ" จารณน์เอ่ยหยอกอีกคนออกไป

"พ่อแม่มึงก็เป็นห่วงเหอะ ทำตัวดีๆ หน่อย"

"..." ทันทีที่ภีมพลพูดจบประโยคก็เกิดขึ้นเป็นความเงียบที่เข้ามาแทรกซึมในบทสนทนานี้อีกครั้ง ภีมพลที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติจึงเงยหน้าขึ้นไปสบตากับอีกคน ที่ตอนนี้นั่งเงียบอยู่เฉยๆ เขาเริ่มคิดว่าบางทีเขาอาจจะพูดอะไรที่ไปกระทบกับจิตใจของอีกคน อย่างเช่นในเรื่องของครอบครัว

"มึง...กูขอโทษ กูไม่รู้" เขาเอ่ยเสียงแผ่วขอโทษอีกคนจากใจจริง แต่ร่างสูงก็ทำแค่เพียงส่ายหน้าแล้วบอกว่าช่างมันเถอะ ก่อนที่จะลุกเอากล่องปฐมพยาบาลที่เรียบร้อยแล้วขึ้นไปเก็บไว้ข้างบนบ้าน ทิ้งให้ภีมพลนั่งหงอยๆ รออยู่ข้างล่าง เขาเงยหน้ามองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังบอกเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ดวงอาทิตย์หายลับขอบฟ้าไปแล้วเรียบร้อย เขาเองคิดว่าอาจจะต้องรีบกลับบ้านแล้วเหมือนกัน ภีมคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกคนเป็นแบบนี้และจวิ้นเองอาจจะกำลังโกรธเขาอยู่ เขาคิดว่าเขาต้องเดินทางกลับบ้านเอง

แกร๊ก

ในตอนที่เขากำลังสะพายกระเป๋าและลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวจะกลับ ประตูบ้านทาวน์โฮมที่ปิดเอาไว้ก็เปิดออก ปรากฏร่างสูงกำยำของหนุ่มวัยกลางคนหนึ่งคน หน้าตาคมเข้มมีเสน่ห์ ผิวสีแทน ซึ่งดูต่างจากจารณน์ลิบลับ กำลังเดินเข้ามาภายในบ้าน ทันทีที่เขาเห็นอีกฝ่าย ภีมพลก็รีบยกมือไหว้ในทันที ก่อนจะแนะนำตัวออกไป

"สวัสดีครับชื่อภีมครับ เป็นเพื่อนของจวิ้น" คนตรงหน้าส่งยิ้มกลับมาหาเขาก่อนที่จะเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กทีละนิดๆ

"น้าชื่อเขื่อนนะเป็นพ่อของจวิ้นเขา หนูภีมนี้เพื่อนที่โรงเรียนใหม่ใช่ไหม" ร่างสูงผิวแทนเอ่ยถามเขา ก่อนที่เจ้าตัวจะวางกระเป๋าของตัวเองลงที่โซฟา

"ครับ...ปะ เป็นเพื่อนที่โรงเรียนใหม่" ภีมพลเริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจึงถอยหลังออกห่างจากร่างกำยำ แต่อีกคนก็เดินเข้ามาเรื่อยๆ

"หรอ...เพื่อนที่โรงเรียนใหม่ของจวิ้นน่ารักจัง" มือใหญ่หยาบกำลังเอื้อมหมายจะมาจับต้นแขนของเขา

หมับ!

"ทำอะไร" เป็นเสียงของจารณน์ที่เอ่ยรั้งเอาไว้พร้อมทั้งเอื้อมของตัวเองไปกอบกุมข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วย

"ถามว่าทำอะไร" เมื่อไม่มีเสียงตอบ จวิ้นก็เอ่ยเค้นออกมาอีกครั้งพลางกำข้อมือของใครอีกคนแน่นขึ้นไปอีก

"พ่อก็แค่ทักทายเพื่อนใหม่ลูก ยังไม่ได้ทำอะไรไม่ดี" แต่ก้านก็ไม่ยอมแพ้เด็กชายตรงหน้าเขาหันไปจ้องตากับอีกคนก็จะสะบัดมือออกจากการกอบกุม ร่างใหญ่หันกลับไปหยิบกระเป๋าและเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ภีมพลมองตามหลังอีกฝ่ายก่อนที่จะกลับมาทิ้งสายตาไว้ที่ใบหน้าตี๋ของใครอีกคนที่มองตามหลังของเขื่อนเช่นเดียวกับเขา แต่ในแววตาเรียวรีในมันกลับเต็มไปด้วย

ความโกรธและเกลียดชัง



รถมอเตอร์ไซค์ของจวิ้นมาจอดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของภีมพล คนตัวเล็กตวัดขาเรียวก้าวลงจากรถก่อนที่จะหันไปขอบคุณร่างสูงที่มาส่งเขาถึงบ้าน

"ขอบคุณนะมึง...กลับดีๆ นะ" คนตัวเล็กเอ่ยบอกอีกคนด้วยความเป็นห่วง

"อืม"

"กูขอโทษนะ เรื่องที่กูพูดแล้วทำให้มึงไม่สบายใจ"

"..."

"แต่ถ้ามึงมีอะไร มึงระบายกับกูได้เลยนะเว้ย มึงคอยฟังกูมาเยอะแล้ว ให้กูได้ฟังมึงบ้างได้ไหม" ภีมพลเอ่ยบอกด้วยความจริงใจที่ไม่อยากให้ร่างสูงแบกรับอะไรเก็บไว้คนเดียว เขาแค่ต้องการแบ่งเบาสิ่งที่อัดอั้นในใจของจารณน์บ้างก็แค่นั้น

"กูไม่ได้โกรธมึง แค่หงุดหงิดนิดหน่อย" ร่างสูงเอ่ยจริงจังเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะเข้าใจผิดว่าเขาโกรธอีกฝ่าย

"อื้อ...งั้นกูเข้าบ้านแล้วนะ" ภีมพลเอ่ยพร้อมกับกำลังหมุนตัวจะเดินเข้าไปในบ้าน

"ฝะ..." จวิ้นเอ่ยพึมพำบางอย่างจนฟังไม่ได้ศัพท์

"มึงพูดว่าอะไรนะ" ภีมเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงอีกครั้งเนื่องจากเขาได้ยินไม่ถนัด

"ขอบคุณ" จารณน์ก้มหน้าตาก้มซ่อนแก้มที่เริ่มมีสีแดงไม่ให้อีกฝ่ายเห็น ภีมพลหมั่นไส้คนขี้เก๊กเลยเอื้อมมือไปยีหัวอีกคนทันที จนเจ้าตัวโตสะดุ้งก่อนที่จะหันมาล็อกตัวของภีมพลไว้ในอ้อมกอดและยีผมเขาเพื่อเป็นการเอาคืน เสียงหัวเราะของทั้งสองดังประสานกันไปอย่างมีความสุข จนกระทั่ง

"ภีม..." เสียงเอ่ยของพัดดังขึ้นจากประตูหน้าบ้าน

"แม่" ภีมพลหันไปเจอเข้ากับผู้เป็นแม่ก็รีบผละตัวออกจากร่างสูงทันที จวิ้นเองเมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นมารดาของภีมพลก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม พลลภัตม์เองก็รับไหว้และสำรวจอีกคนที่มาส่งลูกชายของตัวเองไปด้วย

"เพื่อนใหม่ภีมหรอแม่ไม่เคยเห็นหน้าเลย ชื่ออะไรอะเรา" พัดเอ่ยถามอีกคนที่ลงมาจากมอเตอร์ไซค์และมายืนข้างกับลูกชายของตัวเอง

"ชื่อจวิ้นครับ" จวิ้นเอ่ยตอบกลับไปอย่างเสียงมั่นใจ

"หน้าไปโดนอะไรมาละ ช้ำมากเลยนะ"

"มีเรื่องที่โรงเรียนนิดหน่อยครับ" พัดเอ่ยขอบคุณร่างสูงที่มาส่งภีมที่บ้านก่อนจะบอกให้ภีมบอกลาเพื่อนและกลับเข้าบ้าน เด็กหนุ่มทั้งสองบอกลากันเสร็จเรียบร้อยภีมก็เดินกลับเข้ามาในบ้านตามมาด้วยพัดที่เดินตามมา ในขณะที่ภีมกำลังจะเดินเอาของไปเก็บบนห้องเขาก็โดนผู้เป็นแม่เอ่ยรั้งเอาไว้ซะก่อน

"ภีม...เดี๋ยวก่อน"

"แม่มีอะไรครับ"

"ทำไมถึงไปคบกับเพื่อนคนนี้ได้ แม่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลย" พัดเอ่ยปรามลูกทันทีที่กลับเข้ามาในบ้าน เข้าสังเกตเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายมีรอยชกเต็มไปหมด แถมอีกคนยังบอกว่ามีเรื่องที่โรงเรียนอีก เขากลัวๆ ว่าจวิ้นจะพาลูกของคนเสียคนไปด้วย

"แม่...มันเป็นคนดีนะ"

"แต่เขามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งที่โรงเรียนไงภีม แค่นี้ก็บอกแล้วว่าเป็นคนยังไงอารมณ์ร้อนขนาดไหน" พัดเอ่ยย้ำเหตุผลให้ลูกของเขาฟังอีกครั้ง ปกติเขาไม่เคยคิดจะห้ามลูกคบเพื่อนแต่เด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่เขากลัวว่ามันจะมาทำร้ายลูกของเขา

"แม่ไม่เคยห้ามลูกคบใคร แต่คนนี้แม่ขอนะภีมอย่าไปยุ่งกับเขาเลยลูก" พัดเอ่ยพลางเดินเข้าไปหาลูกชายแต่ภีมพลกลับถอยหนี

"แม่ก็ดีแต่บังคับ ไม่เคยถามผมสักคำว่าผมจะรู้สึกยังไง จวิ้นเป็นเพื่อนผมและมันเป็นคนดี แม่เพิ่งเคยรู้จักมันอย่ามาตัดสินดีกว่า" เด็กชายเอ่ยบอกผู้เป็นแม่เสร็จก็หันหลังเดินกลับขึ้นไปบนบ้านทันที



จวิ้นกลับมาถึงบ้านในเวลาเพียงไม่นานเขาเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนที่จะเห็น ร่างกำยำนั่งรับประทานอาหารอยู่หน้าโซฟา พร้อมทั้งดูทีวีไปด้วย จวิ้นไม่ได้สนใจผู้ชายตรงหน้า เขากำลังจะเดินหนีอีกคนขึ้นห้องไปแค่ก็ถูกเสียงทุ้มทักไว้ซะก่อน

"เห้ย...เพื่อนมึงน่ารักดีนะ วันหลังพามาอีกดิ" เขื่อนวางจานข้าวที่ทานเสร็จลงกับโต๊ะก่อนที่จะกระดกน้ำในขวดตามไปด้วย

"ห้ามยุ่งกับมัน" เสียงทุ้มต่ำของจารณน์ส่งกลับไปให้อีกฝ่ายพร้อมทั้งสายตาที่สั่งสมความเกลียดชังและความโกรธเอาไว้ตลอดเวลา ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจ

"หวงของเหรอวะ แบ่งๆ กันหน่อยดิ ขาวๆ แบบนั้นกูก็ชอบนะเว้ย"

"บอกว่าห้ามยุ่งกับมัน!" อารมณ์ที่กำลังเพิ่มพูนของจวิ้นก็ได้ปะทุออกมาในที่สุด เขาตะคอกใส่หน้าของคนที่อ้างชื่อว่าเป็นพ่อ ร่างกำยำที่ได้ยินเสียงตะคอกนั้นก็ลุกขึ้นมาเดินไปคว้าคอด้วยสองมือหนาพร้อมทั้งออกแรงบีบ

"มึงกล้าตะคอกใส่กูหรอ ไอ้เนรคุณ!" เขื่อนเองก็ระบายอารมณ์ของตัวเองลงไปบนฝ่ามือทั้งสองข้าง เขาบีบจนสุดแรง ผ่านไปไม่นาน หน้าของจารณน์ก็เริ่มที่จะแดง เขื่อนจึงคลายมือออกก่อนที่จะผลักร่างเด็กชายให้ล้มลง

"มึงจำไว้อย่าขึ้นเสียงใส่พ่อแบบกูอีก"

"คะ...แค่กๆ"

"ล้างจานให้กูด้วย" ร่างสูงเดินก้าวข้ามลำตัวของเด็กชายที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นบันไดไปด้านบน โดยไม่หันกลับมามองสิ่งที่เขาเพิ่งจะทำร้ายจิตใจและร่างกายลงไป จวิ้นปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ โดยไม่มีเสียงสะอื้น เขาแค่เจ็บแต่ไม่ได้เสียใจ

เพราะมันชินไปแล้ว



...

- TBC -

ชื่อตอนแบ่งเบา...พอจะเบามั้ยคะทุกคนนนนน

ฝากกดไลก์กดแชร์กดคอมเมอนท์ให้ด้วยนะค้าบ

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16

ออฟไลน์ Windtofree

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เออครอบครัวเขื่อนน่ากลัวมาก

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ใช่พ่อจริง ๆ หรือเปล่า พ่อเลี้ยงแบบแม่ตายแล้วมาอยู่ด้วยที่บ้านแม่ไม่ยอมออกอะไรแบบนี้ใช่ไหมจวิ้น
อดทนเข้าไว้นะตั้งใจเรียน หางานทำดี ๆ แล้วค่อยย้ายออกมา มันอยู่ที่ความอดทนแล้วก็เวลานะจวิ้น
อดทนเข้าไว้นะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โหหห!ไอ้คุณพ่อเขื่อนสัสมาก ออกลายเลยนะมึง  :z6: อย่าพาภีมพลมาบ้านอีกนะจวิ้น พ่อเลี้ยงหรอ จวิ้นต้องเจอกับไรมาบ้างเนี้ยอยู่กับคนเหี้ยๆแบบนี้ โอ๊ยตายตอนแรกก็ไม่ชอบใจจวิ้นนะ พอมาตอนนี้คือเห็นใจ แต่ก็ต้องดูพฤติกรรมต่อไปอีกก่อนว่าจะไหวไหม แต่ก็คงเข้าใจละว่าทำไมจวิ้นบางทีถึงร้าย ภีมคือสิ่งฮีลใจของจวิ้นสินะ  :o8: เอ่อพัด เดี๋ยว ฟังก่อน อย่าเพิ่งตัดสินคนเมื่อเจอแผลมุมปากแค่ครั้งเดียวดิ คนมันมีหลายมุม เขาไม่ดีกับคนอื่นแต่เขารักและหวังดีกับลูกเรา เป็นเพื่อนกันมันก็ดีไม่ใช่หรอ แต่ถ้ามีอะไรที่มันร้ายแรงค่อยว่าตักเตือนกัน คอยดูอยู่ใกล้ๆเถอะ ว่าแต่จวิ้น=จารณน์=จรณน์ เขื่อน=ก้าน หรอใช่ม่ะ ชื่อเล่นชื่อจริงชื่อในวงการหรือป่าว พิมพ์ผิดหรือมีหลายชื่อจริงๆ งงหน่อยๆ 5555 ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจ้า  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lopittup

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
บทที่ 18 ปมเชือก 100%


***คำเตือนพฤติกรรมในตอนนี้ไม่เหมาะสม ไม่ควรกระทำตามอย่างเด็ดขาด และผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชักจูงหรือส่งเสริมให้กระทำตาม ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน***



ดวงอาทิตย์ได้ลาลับขอบฟ้าไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ และมันถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ ท่ามกลางความมืดก็มีแสงจันทร์สว่างที่คอยส่องนำทางในป่าใหญ่ แต่สำหรับเขาในตอนนี้กลับไม่มีแสงใดคอยชี้นำทางเดินของชีวิต เป็นเวลาเกือบจะ 3 วันแล้วที่เรวัตหลบมาพักกายพักใจจากเรื่องราววุ่นวายต่างๆ มากมายที่เขาต้องเผชิญ เรื่องราวมันเริ่มที่จะใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาเองก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขมันได้

ร่างสูงนั่งอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของบ้านพักต่างอากาศในธุรกิจรีสอร์ตของเพื่อนรักอย่างเพชรพิรุณหรือไอ้เพชร เพื่อนรักเพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยที่มาสานต่อธุรกิจของครอบครัวอยู่ที่ต่างจังหวัด เพชรและเขาเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมา แต่มันไม่ได้เลือกที่จะเข้าไปทำงานในสายที่เล่าเรียนมาเพราะมาพ่อกับแม่อยากให้มันกลับมาดูแล Rian Forest แห่งนี้

เรวัตนั่งจิบเบียร์ไปพลางปล่อยความคิดให้ไหลไปกับกาลเวลา รอบตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเสียงของลมที่พัดวนอยู่กลางป่าใหญ่ และเสียงของแมลงน้อยใหญ่ที่ชวนให้สงบกายสบายใจ เขาทำเพียงแค่นั่งเฉยๆ และเอียงหูฟังเสียงเหล่านั้น ก่อนจะถูกรบกวนจากร่างสูงเช่นเดียวกับเขาที่ทิ้งตัวลงมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ กัน

"มึงจะอยู่นานแค่ไหนวะ...งานการจะไม่ทำแล้วรึไง" เสียงทุ้มของเพชรเอ่ยถามอีกคนก่อนที่มือเรียวสวยจะเอื้อมไปหยิบเบียร์อีกกระป๋องที่วางไว้บนโต๊ะที่คั่นกลางเขาสองคนขึ้นมาจิบ และทอดสายตาออกไปเบื้องหน้าเช่นเดียวกับเรวัต

"กู...ไม่รู้ว่ะ" เสียงเรวัตเอ่ยตอบเบาๆ แม้จะเบาเพียงใดแต่เพชรก็ยังคงได้ยิน

"กูถามจริงๆ นะรอบนี้มึงเป็นอะไร" เพชรพิรุณเอ่ยถามในสิ่งที่เขาค้างคาอยู่ในใจ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรวัต อรรถจิรานันท์ ผู้กำกับมือรางวัลหนีมาพักกายพักใจที่รีสอร์ตของเขา เหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว

เหมือนเดจาวู

'มึงไม่อยากแต่งงานกับน้องพัดเลยหนีมาเนี่ยนะ' เพชรพิรุณในวัย 23 ปีเอ่ยถามอีกคนที่หนีจากบ้านมาหาเขาถึงต่างจังหวัด

'กูเปล่าหนี...แค่มาพักแล้วก็คิดหาทางแก้ปัญหาอื่น' เพชรฟังคำแก้ตัวของอีกคนแล้วก็ได้แต่คว่ำปาก ก่อนที่จะยื่นมือไปตบหัวของอีกคนเข้าอย่างจัง จนเกิดเสียงดังสนั่น

'โอ้ย! ไอ้เพชรกูเจ็บ'

'เอาให้เจ็บสิดี ทำตัวเป็นเด็กๆ นะมึงอะ 23 แล้วนะเรน ทำอะไรคิดบ้างดิ' เขาได้ทีก็บ่นอีกฝ่ายไปยกใหญ่อีกสักยก ผลัดกันด่าผลัดกันเถียงไปมา เกิดสงครามย่อมๆ ขึ้นกลางรีสอร์ตแห่งนี้ จนเวลาผ่านไปทุกอย่างถึงเริ่มที่จะสงบลงและความเงียบก็เข้ามาปกคลุมแทนที่

'กูถามจริงๆ นะเรน...มึงรักน้องพัดเขาบ้างไหม' เพชรเอ่ยถามออกมาท่ามกลางความเงียบ

'รักดิ' เรวัตตอบขึ้นมาในทันทีแทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ

'ถ้ามึงรัก...แล้วทำไมตอนนี้ต้องมานั่งลังเลวะ'

'...' เหมือนคำพูดนั้นเป็นมีดคมกริบที่ปักเข้ามาแทงที่กลางใจของเรวัต มันทำให้ร่างสูงชะงักและเริ่มคิดทบทวนในตัวเองว่าทำไมเขาที่บอกว่ารักพลลภัตม์ ถึงต้องมานั่งหนักอกหนักใจกับการแต่งงานกับคนที่ตัวเองรักด้วย

'มึงรักน้องแต่มึงไม่อยากแต่งงานกับน้อง...ย้อนแย้งไหม'

'กู...กูแค่ยังอยากใช้ชีวิตแบบไม่ผูกมัดมั้ง' เรวัตค่อยๆ เอ่ยตอบออกมา

'มึงแน่ใจนะว่าเพราะยังอยากใช้ชีวิตแบบนี้...ไม่ใช่ไม่อยากแต่งเพราะพ่อกับแม่มึงสั่งให้แต่ง' เพชรพิรุณคือคนที่รู้จักเรวัตเทียบเท่ากับเรวัตรู้จักตัวเอง เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ คำพูดนั้นของอีกฝ่ายมันเหมือนอีกฝ่ายมีกล้องส่องใจที่มองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อยู่ต่อหน้าเพชรพิรุณ เขาไม่เคยโกหกอะไรได้เลยไม่ว่าจะเรื่องไหน

ไม่เคยทำได้เลย

'กูรู้นะเรน...รู้ว่ามึงกบฏกับพ่อแม่มึงในทุกเรื่องอะ แต่เรื่องนี้มันเป็นชีวิตส่วนตัวมึงนะเว้ย' เขารู้มาตลอดตั้งแต่รู้จักกับเรวัตตอนเข้ามาเป็นเฟรชชี่มหาวิทยาลัยใหม่ๆ เรวัตเป็นคนที่เข้มแข็งในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วมันก็แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้นเอง มันจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่สามารถดูแลและตัดสินปัญหาในชีวิตตัวเอง แต่ใครจะรู้ว่ามันนั่นแหละที่ยังไม่เคยเติบโต เรวัตยังเด็กอยู่เสมอทั้งวุฒิภาวะและความคิดในการแก้ไขปัญหา อาจเป็นเพราะครอบครัวที่บิดเบี้ยวของอีกฝ่ายที่หล่อหลอมให้มันเป็นแบบนี้

เพราะมันไม่เคยรู้สึกถึงความรักในครอบครัวเลยแม้สักนิด

ไม่เคยเลย...

ตั้งแต่เด็กจนโต มันรู้แค่ว่าพ่อหักหลังทั้งมันแล้วก็แม่ พ่อมีเมียน้อย ภาพครอบครัวแสนสวยของเด็กชายที่เคยวาดฝันไว้ก็พังทลายลงไปอีก เมื่อผู้เป็นพ่อใช้อารมณ์และความรุนแรงทำร้ายทุบตีทั้งมันและก็แม่ มันยิ่งตอกย้ำเข้าไปในความทรงจำวัยเด็กว่าพ่อไม่เคยรักมันนั้นคือสิ่งที่เรวัตจนจำมาตลอด บวกเข้าไปกับสิ่งที่แม่ของมันทำ แม่ทนอยู่กับพ่อ  ทนให้พ่อทำร้ายตัวเองเพื่อรั้งพ่อเอาไว้ รั้งคำว่าครอบครัวปลอมๆ พวกนั้น แม่ไม่เคยรักใคร แม้กระทั่งตัวแม่เอง นั้นยิ่งทำให้เรวัตจดจำเอาไว้ว่า

ไม่เคยมีใครรักมัน...ไม่เคยมี

จากเรื่องราวพวกนั้นมันยิ่งทำให้เรวัตประชดประชันพ่อกับแม่ด้วยการกบฏ ในสิ่งที่พวกเขาเลือกมาตลอด ไม่ว่าพ่อกับแม่จะบอกให้มันไปซ้าย มันก็จะไปทางขวา พ่อกับแม่จะบอกให้มันเดินหน้า เรวัตก็จะเลือกถอยหลัง สิ่งไหนที่พ่อกับแม่ของมันเลือกสรรเอาไว้ให้ มันไม่เคยทำตามความต้องการของพ่อแม่เลยสักครั้ง

'มึงจะขัดใจพวกท่านยังไงก็ได้นะเรน กูไม่เคยว่าเลยแต่มึงอยากขัดใจตัวเองได้เปล่าวะ'

'...'

'มึงรักน้องพัด มึงก็ต้องรับผิดชอบเด็กในท้องและชีวิตของน้องเขา เพราะนั้นคือหน้าที่มึงเว้ย ไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่มึงสั่งแต่มันเป็นสิ่งที่มึงควรจะต้องทำ'



ในวันนั้นทั้งสองคนนั่งข้างกันบนระเบียงชั้นสองของบ้านพักต่างอากาศเช่นเดียวกับในตอนนี้ เรวัตยังคงไม่เอ่ยเรื่องราวหนักอกหนักใจใดๆ ของตัวเองออกมาจากปาก และเพชรพิรุณเองก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบ เขาปล่อยให้ความเงียบทำงานอย่างเป็นไป ปล่อยให้อีกคนได้นั่งทบทวนอยู่คนเดียวเงียบๆ พอมันคิดหาทางออกไม่ได้เมื่อไหร่ ตอนนั้นมันจะยอมเอ่ยปากพูดเอง

"กู...ทำผิดต่อพัดมากเกินไป" เรวัตเอ่ยทำลายความเงียบที่กำลังทำงานอยู่ขึ้นมา

"มึงทำอะไร"

"กูนอกใจเขา...กูนอกใจเขามาหนึ่งปีเต็มๆ และตอนนี้พัดรู้แล้ว เขากำลังขอกูหย่า"

ผลั๊วะ

ทันทีที่เพชรพิรุณได้ยิน เขาก็ลุกขึ้นไปจับคอเสื้อของเรวัตขึ้นมาก่อนที่จะปล่อยหมัดอัดใส่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคน จนได้เลือดกบปาก ร่างสูงของเรวัตเซล้มลงไปบนพื้น เขานั่งอยู่อย่างนั้นไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเพื่อนรัก

"มึงลุก...ลุกขึ้นมา" เพชรเอ่ยเสียงเข้มเรียกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาเหมือนเดิม แต่เรวัตไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด เขาทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ราวกับกำลังคุกเข่าสำนึกผิดในสิ่งที่เขาทำ

"กูไม่พยุงมึงนะเรน สิ่งที่มึงทำมันเหี้ยเกินไปและมึงต้องลุกด้วยตัวเอง ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง"

"..."

"มึงโดนกูชกแค่หมัดเดียวยังลุกไม่ขึ้น แล้วกับพัดและลูกๆ มึงอะ เขาโดนทำร้ายมาขนาดไหนเขายังยืนได้เลย" เพชรพิรุณเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองก่อนที่จะถอนหายใจ ระหว่างเขากับเรวัตมีเพียงความเงียบที่ทำงานอยู่ด้วยตัวของมัน ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยใดๆ เขาเงียบ เรวัตก็เงียบ แต่ผ่านไปไม่นานเรวัตก็ลุกขึ้นกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองตามเดิม

"กูขอโทษ...กูรู้กูผิด"

"ไม่ต้องมาขอโทษกู คนที่มึงควรขอโทษคือพัดไม่ใช่กู"

"กูขอโทษแล้วแต่เขาก็ยังจะหย่า เขาไม่ให้อภัยกู" เรวัตเอ่ยเสียงสั่นๆ เหมือนกำลังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังอ่อนไหวของตัวเองในตอนนี้

"เรน...คนที่ทำให้ทุกอย่างมันพังคือมึง คนที่ทำให้พัดกับลูกเดินจากไปคือมึงไม่ใช่คนอื่น"

"..."

"มึงจะให้เขาทำใจและยอมกลับมาเป็นครอบครัวกับคนที่หักหลังเขามาตลอดหนึ่งปีเนี่ยนะ...ยากไปวะ ให้ประเทศนี้เจริญยังง่ายกว่าเลย" เพชรพิรุณหันไปเอ่ยกับเรวัตอย่างตรงไปตรงมา เขาไม่เห็นหนทางที่เรวัตจะได้อีกคนกลับมาเพราะถ้าหากเขาเป็นพัด เขาเองก็คงจะไม่ยอมกลับมาหาอีกคนง่ายๆ แน่

"แล้วใครอีกคนของมึงล่ะ" เพชรเอ่ยถามถึงคนที่สามของความสัมพันธ์นี้

"กูบอกเลิกเขาไปแล้ว...กูรู้สึกผิดนะ กูรักเขาแต่กูก็รักพัดด้วย กูให้ความหวังเขาว่ากุจะหย่ากับพัดและมาหาเขาแต่กูก็ไม่กล้า กูทำได้แค่เก็บเขาไว้ในที่เงียบๆ มาหาบ้างในบางครั้ง จนเรื่องมันถึงหูพัดแล้วพัดขอกูหย่า กูเลยไปบอกเลิกเขา" เรวัตเอ่ยออกมาพร้อมกับน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นขอบตา แต่เขาก็ยังคงกดอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองเอาไว้ แค่นี้เขาก็รู้สึกสมเพชตัวเองมากพอแล้ว

"มึงไม่ได้รักใครหรอกเรน...ที่มึงทำตอนนี้คือมึงไม่ได้รักใครเลย" เหมือนมีเข็มนับพันพุ่งเข้ามาปักที่กลางอก

"..."

"มึงรู้ตัวไหมว่ามึงกำลังทำตัวเหมือนพ่อกับแม่มึง มึงกำลังทำตัวเหมือนคนที่บอกว่ามึงเกลียด มึงกำลังเป็นแบบนั้น"

"กู..."

"มึงหักหลังพัดกับลูกเหมือนที่พ่อมึงทำ มึงกำลังทำร้ายคนที่รักมึงด้วยคำว่าไว้ใจและที่ร้ายกว่านั้นคือมึงเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นหัวคนอื่น ในตอนนี้ ในสายตากูมึงเป็นแบบนั้น"

"ฮึก...ฮือ" เหมือนกำแพงอารมณ์ของเรวัตถูกทำลายลง ร่างสูงก้มหน้าลงสะอื้นร้องไห้หนักมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เพชรพิรุณพร่ำบอกเขาในตอนนี้

ใช่...เขามันเห็นแก่ตัว

เขาทำร้ายที่คนที่พร่ำบอกว่ารักเขา เขาหักหลังพัด เขาทำร้ายลูก เขาหักหลังเขมินทร์ เขาโทษทุกอย่างไปที่พ่อและแม่ เขามันเห็นแก่ตัว เรวัต อรรถจิรานันท์ เป็นคนเห็นแก่ตัว

"ละ...แล้วกูต้องทะ...ทำยังไง ฮึก กูต้องแก้ปัญหานี้ยังไง ฮือ" เสียงสะอื้นขาดช่วงช่างน่าสงสารในความรู้สึกของเพชรพิรุณ

"อันดับแรกเลยนะเรน...มึงต้องเลิกหนี" เลิกหนีแล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับปัญหาสักที

"ฮึก...ฮือ"

"กูรู้ว่ามึงหนีมาไม่ได้แค่จะมาพักกายพักใจ แต่มึงยื้อ...ยื้อไม่ให้พัดขอหย่ากับมึง ยื้อเวลาให้มันนานขึ้นมากกว่านี้ แต่กูจะบอกมึงว่าสิ่งที่มึงทำตอนนี้มันไม่ได้มีผลดีกับใครแม้แต่ตัวมึงเอง"

"ฮึก..."

"งานที่มึงทิ้งมามันจะเดินหน้าต่อไปได้ไหม คนที่มึงทิ้งมาเขาจะเป็นยังไง ห่วงมึงแค่ไหน ถ้ามึงอยากแก้ปัญหา มึงก็ต้องหันหน้าเข้ามาปัญหา เข้าใจไหม"

"ฮึก...ฮือ" เสียงสะอื้นตามแรงอารมณ์ดังก้องไปทั่วพงไพรในยามราตรี ในตอนนี้ที่โลกมีดวงจันทร์คอยให้แสงสว่างในยามมืดมิด เขาเองก็ได้พบกับดวงจันทร์ที่คอยส่องแสงนำทางในป่าของอารมณ์ที่เขากำลังหลงและหมุนวนจนหาทางออกไม่ได้ ดวงจันทร์ดวงนั้นนำทางเขาให้มาเจอกับทางออกของป่าอารมณ์นี้ ดวงจันทร์ดวงนั้น

เพชรพิรุณ



เช้าวันใหม่ในตอนที่พระอาทิตย์กำลังส่องแสงลงมา ร่างสูงของเรวัตเองก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง เขายกมันลงมาที่ชั้นล่างของบ้านพักต่างอากาศก่อนที่จะถือมันเอาไปเก็บไว้ที่ด้านหลังของรถยนต์หรู เขาตัดสินใจแล้วในตลอดคืนที่ผ่านมาว่าเขาจะต้องกลับไปแก้ปัญหาที่เขาเป็นคนก่อ ก่อนหน้านี้ที่ปมเชือกมัดรัดแน่นแต่เขาไม่ได้พยายามที่จะแกะมัน กลับเลือกทิ้งมันไว้และถอยหลังเดินจากมา แต่ในตอนนี้เขาจะกลับไปแกะมันอีกครั้ง

"ไม่ลืมอะไรแน่นะ" เพชรพิรุณเดินตามอีกฝ่ายออกมาจากบ้านพักของตัวเองและถามเช็กอีกคนว่าลืมของอะไรไว้หรือเปล่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาวนกลับมาอีก

"เออ...ไม่ลืมเอามาแค่นี้"

"อืม...กูเชื่อว่ามึงจะแก้ปัญหานี้ได้ ตัดสินใจในแบบที่มึงคิดว่าเหมาะสมและสบายกับใจมึงมากที่สุด" เพชรเอื้อมมือมาตบไหล่กว้างของอีกคนเป็นการให้กำลังใจก่อนจะส่งอีกฝ่ายกลับ

"อืม ขอบใจมึงมากนะเพชร"

"โชคดีมึง เปิดเครื่องโทรศัพท์ด้วยคนอื่นตามหากันให้วุ่นแล้ว" เพชรเอ่ยอีกครั้งก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถให้อีกคนเข้าไปนั่ง

"ไปแล้วนะ เดี๋ยวแวะมาใหม่"

"ไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ ขี้เกียจต้อนรับมึงแล้ว" เพชรพิรุณเอ่ยติดตลกพร้อมรอยยิ้มอำลาให้อีกคนโชคดี เรวัตเอ่ยก็ยิ้มตอบกลับมาเหมือนกัน รถยนต์หรูแล่นออกห่างไปจากรีสอร์ตสงบกลางป่าใหญ่มุ่งหน้ากลับไปสู่เมืองหลง เมืองแห่งความวุ่นวายอีกครั้ง เขากำลังจะกลับไปแก้ไขปัญหาที่เขาเป็นคนเริ่ม



เรวัตจอดพักรถและเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เขาใช้เวลาตรงนี้ลงไปเข้าห้องน้ำและซื้ออาหารมาไว้รับประทานขณะเดินทางกลับ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์สีดำของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะกดเปิดเครื่อง รอเพียงไม่นานหน้าจอโทรศัพท์ก็ขึ้นรูปวอลล์เปเปอร์ที่เป็นรูปของเขาและลูกขึ้นมา พร้อมทั้งแจ้งเตือนมากมายที่มีเข้ามา

เขม 12 สายที่ไม่ได้รับ

แม่ 9 สายที่ไม่ได้รับ

พี่เจ๋ง 6 สายที่ไม่ได้รับ

ปุย 5 สายที่ไม่ได้รับ

พัด 3 สายที่ไม่ได้รับ

มีคนพยายามติดต่อเขามากกว่าที่คิดและหนึ่งในนั้นคือพลลภัตม์ ในขณะที่เขากำลังจะเดินทางต่อ โทรศัพท์ก็สั่นแจ้งเตือนขึ้นมาซะก่อน

ปุย is calling you

เป็นผู้จัดการของเขมินทร์ที่เป็นคนโทรเข้ามาในตอนแรกเรวัตตัดสินใจปฏิเสธสายไป แต่เธอก็ยังโทรเข้ามาอีกครั้งและอีกครั้ง จนทำให้ในที่สุดเขาต้องยอมรับสายนี้

"ฮัลโหลพะ...."

"คุณเรนค่ะ! แย่แล้วค่ะๆ"

"มีอะไรหรือเปล่า"

"น้องเขม...น้องเขมฆ่าตัวตายค่ะ!"



รถยนต์หรูของเรวัตพุ่งตรงมายังโรงพยาบาลที่ปุยเป็นคนบอก เขาจอดรถที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลก่อนที่จะเดินไปขึ้นลิฟต์ยังชั้นที่ต้องการเพื่อไปหาใครคนนั้น คนที่ถูกเขาทำร้ายมากมายขนาดไหน ปุยเล่าให้ฟังว่าเธอเองติดต่อเขมินทร์ไม่ได้หลายวันแล้วจึงตัดสินใจเดินทางไปยังห้องของอีกฝ่าย พร้อมกับคีย์การ์ดสำรองที่เธอเคยขอไว้ว่าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ปุยจะได้เปิดประตูไปช่วยอีกคนได้ทัน

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง มันมืดมากเพราะเขมินทร์ไม่เปิดไฟเลยสักดวงแทบยังไม่เปิดม่านเลย เธอตะโกนร้องเรียกหาอีกฝ่าย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมไปกดสวิตช์ไฟฟ้าเพื่อเปิดไฟ จึงพอทำให้ห้องสว่างขึ้นมาบ้างแต่สภาพห้องตรงหน้าเธอก็ทำให้เธอตกใจ ข้าวของทุกอย่างล้มระเนระนาด กระจัดกระจายไปตามพื้น ปุยยังคงช็อกกับสภาพที่พบเจอก่อนจะตั้งสติได้และวิ่งเข้าไปในห้องนอนเพื่อตามหาเขมินทร์

ก่อนที่จะเจอเข้ากับร่างของอีกคนที่ห้อยลงมาจากเพดานพร้อมเชือกที่รัดคอ



...

- TBC -

ซีขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นสักขีพยานที่สนง.เขตในวันพุธที่ 1 กรกฎาคมด้วยกันนะคะ

เมนท์ติชมให้ด้วยนะค้าบ อ้อนๆๆ

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีเขมตอแหลอีตามเคย แสดงเก่ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด