พิมพ์หน้านี้ - Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: lopittup ที่ 22-04-2020 20:49:15

หัวข้อ: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 22-04-2020 20:49:15
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**********************************************



(https://cdn.readawrite.com/publicassets/2517368/images/1111.jpg)

 การหักหลังเป็นสิ่งต้องห้ามกระทำในชีวิตคู่ เพราะเมื่อคุณเลือกที่จะหักหลังเขาแล้ว

แสดงว่าคุณไม่ได้เห็นค่าความรัก ความไว้ใจที่เขามีให้คุณ

หากในอนาคตมันจะเป็นอย่างไร จะต้องสูญเสียสักเท่าไหร่ ให้มันคุ้มกับความไว้ใจ
ที่เขาต้องเสียให้กับคุณไป ขอให้คุณรู้ไว้ตรงนี้เลยว่า...

'คุณเป็นคนเริ่มเกมนี้เอง'

#เกมนอกใจ

...

สวัสดีค้าบบบบ ขอฝาก #เกมนอกใจ ไว้ด้วยนะค้าบ

พอดีว่าเราไปดูซีรีส์ A World of Married Couple มา แล้วอินมะหวาย

เลยลองแต่งสนองนีดตัวเองดูนะค้าบ

ยังไงก็ ฝาก เม้นติชมให้ด้วยนะค้าบ

พูดคุยในแท็กนี้เลยนะ #เกมนอกใจ  อยากคุยกับทุกคน
[/size]
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 22-04-2020 20:51:39

บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต



ในโบสถ์ใหญ่สีขาวตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง มีการจัดพิธีแต่งงานแห่งปีของดาราหนุ่มและผู้กำกับชื่อดังแห่งวงการมายาที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ เนื่องจากสาเหตุของการแต่งงานที่รวดเร็วดุจสายฟ้าเป็นเพราะข่าวฉาวที่ส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วเมืองหลวง

"ท้องแหละไม่งั้น ไม่รีบแต่งขนาดนี้หรอก"

"อยากจับคนรวยมากกว่า อาชีพนักแสดงไม่มั่นคงนี่นา"

"ก็จริงนะมีผัวรวยดีกว่าเป็นไหนๆ"

เสียงกระซิบกระซาบดังไปทั่วทั้งงานวิวาห์สุดหรู คำครหาต่างๆ มากมายถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเครื่องมือตัดสินชีวิตของ พลลภัตม์ ภัชรภิรมย์ นักแสดงหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงดังพลุแตก จากการแสดงละครที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบันเทิง เขาได้คบหาดูใจกับ เรวัต อรรถจิรานันท์ ผู้กำกับชื่อดังที่มีฐานะร่ำรวยติด 1 ใน 10 ของประเทศ

แม้จะคบหาดูใจกันได้เพียงปีกว่าๆ แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์ ประกาศเป็นคู่สมรสที่จะร่วมใช้ชีวิตด้วยกันฉันท์สามีภรรยา เหตุผลที่ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานเนื่องจาก

พัดตั้งท้องได้ 2 เดือนกว่า

ในสมัยปัจจุบันการตั้งท้องในเพศชายไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ เนื่องจากหลายสิบปีก่อนเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ผู้คนล้มตายกันไปจำนวนมาก ทำให้จำนวนประชากรในประเทศลดลงมากที่สุดมากในประวัติศาสตร์ ทางการแพทย์จึงเกิดไอเดียฝังมดลูกให้กับกลุ่มรักร่วมเพศเพื่อสร้างโอกาสในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับคนรักเพศเดียวกันที่ต้องการตั้งครรภ์ได้

แม้เรนจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้เนื่องจากเขายังไม่อยากผูกมัดตัวเองไว้กับชีวิตของใคร เขายังอยากที่จะใช้ชีวิตรักสนุกเป็นตัวของตัวเองต่อ แต่เมื่อรู้ว่าแฟนหนุ่มตั้งท้อง ทางพ่อและแม่ก็รีบเร่งให้เขารับผิดชอบชีวิตของพัดเพราะพ่อกับแม่ของเขานั้นต้องการเพียงแค่ทายาทที่จะมาสืบสกุลต่อจากเขาก็เท่านั้น

งานวิวาห์ในวันนี้จึงได้เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุผลของบรรดาผู้ใหญ่

"โดยที่ท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกัน ขอให้ท่านจับมือขวาของกันและกัน และแสดงความสมัครใจต่อหน้าพระเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์"

สิ้นเสียงของบาทหลวง พัดจึงยื่นมือไปจับมือขวาของเรนเอาไว้ เขาน้ำตาคลอและกระชับมือหนาของอีกฝ่ายให้แน่นยิ่งขึ้น ส่งผ่านความรัก ความไว้ใจให้แก่กัน

"ผมนายเรวัต อรรถจิรานันท์ ขอรับคุณพลลภัตม์ ภัชรภิรมย์ เป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและในยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"

"ผมนายพลลภัตม์ ภัชรภิรมย์ ขอรับคุณเรวัต อรรถจิรานันท์ เป็นสามี และขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยาสุขและในยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"

"ความสมัครใจที่ทั้งท่านสองได้แสดงต่อหน้าพระศาสนจักรนี้ ขอพระเจ้าทรงพระเมตตา ทำนุบำรุงให้เข้มแข็งและประทานพร แก่ท่านทั้งสองอย่างอุดมสมบูรณ์ สิ่งที่พระเจ้าได้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน มนุษย์อย่าได้แยกจากกันเลย"

"อาเมน"

เสียงปรบมือดังขึ้นก้องกังวานไปทั่วโบสถ์หลังใหญ่เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน มันเปี่ยมไปด้วยความยินดีและชื่นชม

แต่ใครจะคิดว่านั้นคือการเปิดฉากโรงละครชีวิตเรื่องใหญ่ ที่จะนำมาซึ่งความสูญเสีย





15 ปีผ่านไป

ไม่ได้ไวจนเกินไปและไม่ได้นานจนขาดใจ พวกเขามีครอบครัวที่สมบูรณ์เพียบพร้อมทั้งพ่อแม่และลูก

พัดและเรนมีลูกชาย 2 คนด้วยกัน คนโตอายุ 15 ปีกำลังขึ้นม.3 ส่วนคนเล็ก อายุไล่เลี่ยกันคือ 12 ปีกำลังเข้าม.1 ตามพี่ไปติดๆ วันนี้คือวันแรกของการเปิดภาคเรียนใหม่ของลูกๆ ทั้งสองคน พัดจึงต้องลุกมาเตรียมอาหารตั้งแต่เช้า

ที่จริงตลอดเวลา10กว่าปี เขาก็ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

"หอมจังครับ วันนี้แม่ทำอะไร"

"แกงจืดครับ น้องภาไปตามพี่ภีมมาทีสิครับ"

เขาตอบรับและสั่งลูกชายคนเล็กให้ไปตามพี่ชายตัวโตมาทานอาหารเช้า พลางตักแกงจืดที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายลงในถ้วยและเริ่มจัดโต๊ะอาหาร รอลูกชาย

"แม่! พี่ภีมตื่นสาย"

"ขี้ฟ้อง!"

เสียงทะเลาะกันดังแว่วมาเข้าหูของพัด เขาจึงลุกขึ้นเดินตามไปหาที่มาของเสียงบนบ้านชั้นสองห้องสุดท้าย

"มีอะไรกันครับ เอะอะอะไรกัน"

"พี่ภีมยังแต่งตัวไม่เสร็จเลยครับ ตื่นสายชัดๆ" คนตัวเล็กเท่าเอวของเขาได้ทีรีบฟ้องใหญ่ว่าพี่ชายตัวดีตื่นสายเป็นเหตุให้ตอนนี้ยังจัดการตัวเองไม่เรียบร้อย

"โอเคครับ น้องภาลงไปรอแม่ที่โต๊ะอาหารก่อนนะ"

"เอาให้หนักเลยนะแม่ แบร่" แลบลิ้นเยาะเย้ยคนพี่เสร็จเจ้าตัวเล็กของบ้านก็รีบแจ้นวิ่งลงไปรอยังชั้นล่างทันที ไม่วายโดนเขาตะโกนไล่หลังว่าให้ระวัง อย่าวิ่งซนเป็นลิงทโมนแบบนี้

"ภีมเสร็จหรือยัง"

"กำลังเสร็จกางเกง"

"สายตั้งแต่วันแรกไม่ดีเลยนะ"

"รู้แล้วน่าแม่" เด็กชายอายุ15ส่งเสียงตอบรับแบบขอไปที เขาไม่ได้สนใจอะไรมากอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่มีน้องเกิดมาแม่ก็แทบเข้มงวดและกดดันเขาในทุกๆเรื่อง เทอมที่แล้วเกรดเขาตกลงแค่ 0.5 แม่ก็งดให้เขาเล่นคอมและโทรศัพท์

เขารู้ว่าเขาต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเจ้าภา

แต่เขาก็ต้องการใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากใช้บ้าง





บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในตอนเช้าเป็นไปอย่างเรียบง่ายและธรรมดา พวกเขารับประทานอาหารเช้าด้วยกันสามคน

เพราะคนที่เป็นเสาหลักของบ้านอย่างเรวัตไม่ได้อยู่บ้านมา 4 วันแล้ว

"ภีมน้องไปเข้าโรงเรียนเดียวกับเราแล้ว ทุกเย็นพาน้องกลับบ้านด้วยนะลูก"

"แม่ ไอ้เตี้ยมันกลับเองได้น่า"

"พี่อยากหนีแม่เที่ยวมากกว่าอะดิ"

"ไอ้เตี้ย!" ภีมพลสบถคำหยาบใส่ภาณิน น้องชายของตนเพราะมันบังอาจมารู้ทันความคิดของเขา

หลังจากนั้นก็เกิดสงครามย่อมๆ กันขึ้นบนโต๊ะอาหาร ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องคอยห้ามสงครามครั้งนี้

"พอกันเลยทั้งคู่"

"..."

"..."

"แม่ขอสั่งให้พาน้องกลับมาด้วยทุกเย็น ตามนี้นะครับ"

ภีมถอนหายใจด้วยความอารมณ์เสียที่ต้องคอยดูแลน้องชายที่น่ารำคาญคนนี้ ทั้งๆ ที่มันก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ดูอย่างเขาสิ ตอนขึ้นม.1 แม่ยังให้กลับบ้านเองได้เลย

"แล้วพ่อจะกลับมาวันไหนครับแม่ ภาคิดถึงพ่อแล้ว"

เด็กน้อยตัวเล็กไม่ได้สนใจพี่ชายของเขาอีกต่อไปแต่กล่าวไปถึงผู้เป็นบิดาของตนที่ไปถ่ายงานละครอยู่ต่างจังหวัดถึง 4 วัน 4 คืนด้วยกัน

"คุณพ่อจะกลับมาวันนี้ครับ"

"จริงเหรอครับ" เด็กน้อยถามด้วยความตื่นเต้น

"ครับ เดี๋ยวภาไปโรงเรียนกลับมาก็จะเจอคุณพ่อแล้วครับ"

"เย่ๆ" ได้ยินผู้เป็นแม่บอกแบบนั้นเขาก็ชูมือขึ้นกู่ร้องด้วยความดีใจที่จะได้พบหน้าบิดาอีกครั้ง

"รีบทานข้าวกันก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายนะ"

"ครับ" เด็กน้อยตอบรับเสียงใสพลางรีบรับประทานอาหารก่อนที่จะไปโรงเรียนไม่ทัน



"ตั้งใจเรียนนะครับ ตอนเย็นรับน้องกลับด้วยนะภีม"

"ครับ"

พัดขับรถมาส่งลูกๆถึงหน้าโรงเรียนก่อนถึงเวลาเข้าแแถว เขาบอกลาลูกชายคนเล็กและหันไปกำชับกับลูกชายคนโตว่าเย็นนี้ต้องพาน้องกลับบ้านด้วยกัน ก่อนที่จะออกรถเพื่อที่จะไปซื้อของสดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเอามาเตรียมไว้ทำอาหารตอนเย็นจะได้ไม่ต้องออกจากบ้านอีกให้เสียเวลา

ระหว่างที่กำลังเดินเลือกซื้อของเตรียมทำอาหารเย็นอยู่นั้น เขาก็คิดเมนูอาหารไปพลางๆ เพราะวันนี้จะได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง คนในครอบครัวของเขาแต่ละคนเลือกน้อยกันซะที่ไหน

เรนไม่กินกุ้งและอาหารทะเลอื่นๆ เพราะเขาแพ้

ภีมไม่ชอบบล็อคโคลี่เพราะกลิ่นของมัน

ภาไม่ชอบอาหารสจัดเพราะเขากินเผ็ดไม่ได้

เขาต้องเลือกเมนูให้ถูกปากทุกคนในบ้านมันทั้งยากและปวดหัว ตั้งแต่ที่เขาผันตัวออกมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวและไม่ได้รับงานแสดงอีกเลยตอนนี้ก็ 10กว่าปี มาแล้ว เขาไม่ปฏิเสธเลยว่าคิดถึงงานแสดงเอามากๆ แต่ถ้าเขาไม่ทำหน้าที่ดูแลทุกคนในบ้านเขาก็จะโดนครอบครัวฝั่งสามีตำหนิเอาได้ว่าบกพร่องในหน้าที่ภรรยา

เขาจึงตัดสินห่างจากวงการตั้งแต่ตั้งท้องภาณิน

"พัด"

"นิ่ม!?"

ระหว่างที่กำลังเลือกซื้อของอยู่นั้นเขาก็ถูกเสียงเล็กดึงความสนใจไปหาเจ้าตัว ผู้หญิงที่สูงพอๆกับเขา ผิวขาวสว่างและใส่แว่นกันแดด ร้องทักเขา เขาจำได้ทันทีเลยว่าเป็นเธอ

นิมานลดา ปัญสินภพ นางเอกสาวเพื่อนรักของเขาที่ไม่ได้เจอกันมานาน

"โอ้ยคิดถึงมากเลยเนี่ย"

"เหมือนกันนั่นแหละ" เขากอดตอบรับอ้อมแขนของเพื่อนสาวที่สนิทกันด้วยความโหยหา เพราะไม่ได้เจอกันนานเลยมีเรื่องให้คุยกันเป็นพิเศษ

พวกเขากำลังนั่งกันอยู่ที่ร้านกาแฟกลางห้างดังมีสายตามากมายสอดส่องมองมาที่พวกเรา

"คนมองเต็มเลย ดีใจนะเนี่ยได้มานั่งกินกาแฟกับนางเอกดัง"

"ในอดีตย่ะ ตอนนี้ 30 กว่าแล้วมั้ย"

"5555แต่ก็ยังสวยอยู่นะ"

"ปากหวาน" พวกเขาพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานเพราะอีกฝ่ายยังรับงานในวงการบันเทิงอยู่ทำให้ เวลาว่างของพวกเราไม่ตรงกันสักที

"แล้วนี่มาซื้อของไปทำกับข้าวเหรอ"

"ใช่ๆ วันนี้พ่อของพวกแสบจะกลับมาจากถ่ายงานน่ะ เลยมาซื้อของไปทำอาหาร"

"..."

"ไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้ากันมา 4 วันแล้วนะ" ในขณะที่เขากำลังพูดถึงอาหารมื้อนี้ สายตาของเพื่อนสนิทก็เปลี่ยนไป

มันเหมือนไม่แน่ใจในอะไรบางอย่าง

"พัด"

"นิ่มมีอะไรหรือเปล่า"

"..." นิมานลดาใช้สมองคิดไตร่ตรองถึงเรื่องที่จะพูด ว่าสมควรหรือไม่

เธอไม่อยากก้าวก่ายเรื่องในครอบครัวของเพื่อนสนิท

"ไม่มีๆ คิดถึงหลานจังไม่เจอนานแล้ว"

"โตขึ้นเยอะแล้วนะ สูงกว่าน้านิ่มแล้วมั้ง"

"ถ้าสูงกว่าฉัน ก็สูงกว่าเธอด้วยนั่นแหละย่ะ"

เธอเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนาแล้วตัดสินไม่พูดถึงเรื่องของครอบครัวของพลลภัตม์

เพราะเธอไม่อยากเป็นคนไปยุแยงให้ครอบครัวเขาแตกกัน

บางทีเธออาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้

(ต่อ)

"แล้วนี่จะซื้ออะไรอีกไหม"

"ไม่แล้วล่ะ เราว่าจะกลับเลย" เขาซื้อของที่ต้องการครบหมดแล้วและกลัวว่าจะกลับไปไม่ทันสามีของเขากลับมาที่บ้านเลยตัดสินใจที่จะกลับทันที

"แหม่ๆ อยากรีบกลับไปหาพี่เรนล่ะสิ"

"ก็ใช่ แหะๆ" เขาตอบพลางยิ้มเอียงอาย เขาน่ะติดเรวัตมากยิ่งกว่าอะไร แค่ไม่ได้เจอกัน 4 วันก็แทบจะบ้าอยู่แล้ว

"งั้นแยกกันเลยก็ได้นะ" เขาพยักหน้าแล้วก็บอกลานิ่ม ก่อนที่จะเดินลงไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า เพื่อที่จะขับรถกลับไปที่บ้าน

Rrrrrrrrrr

ระหว่างทางไปลานจอดรถ เครื่องมือสื่อสารทรงสี่เหลี่ยมในมือก็สั่นขึ้นมา ปรากฏเป็นเบอร์ของสามีที่เขาเฝ้ารอเป็นคนโทรเข้ามา

"ครับพี่เรน" เขากดรับสายพลางขานเรียกอีกฝ่าย

"ตอนนี้อยู่ไหนพี่กลับมาบ้านไม่เจอใครเลย" เสียงปลายสายติดเหนื่อยล้า

"ตอนนี้พัดอยู่ที่ห้างครับ กำลังจะกลับบ้านแล้ว พี่เรนอยากทานอะไรไหมครับ พัดจะได้ซื้อไปทำให้ทาน" เขาตอบรับอีกฝ่ายพลางถามด้วยความห่วงใย เสียงเรวัตติดเหนื่อยขนาดนั้นที่กองถ่ายละครคงถูกใช้งานอย่างหนักเป็นแน่

"ไม่ต้องหรอก พี่ง่วงมาก อยากพักมากกว่า"

"โอเคครับ พัดกำลังกลับไป" เขาอยากให้ปลายสายได้พักผ่อนจึงไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก จึงวางสายไป



เมื่อกลับมาถึงบ้าน พัดก็ตรงเอาวัตถุดิบทำอาหารเย็นสำหรับรับประทานทั้งครอบครัวไปเก็บในตู้เย็น และเดินเข้าไปคนที่เขารอเจอหน้ามาตลอดทั้ง 4 วัน ขาเรียวก้าวเข้าไปในห้องนอนชั้นสองที่อยู่ตรงข้ามห้องของลูกชายคนเล็กอย่างช้าๆ เขาเห็นร่างหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม หน้าตาครามคมกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนใหญ่

คิดถึง...คิดถึงเหลือเกิน

เขาจดจ้องดวงหน้าคมอยู่สักพักใหญ่ จึงก้มลงไปประทับริมฝีปากเข้ากับปากหนาของคนตัวสูง เขาคงเสพติดพี่เรวัตมากเกินไป อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากห่างไปไหนเลย เมื่อลักหลับคนที่นอนสลบอยู่จนพอใจแล้ว เขาจึงหันมาจัดการเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายถอดไว้อย่างลวกๆพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ทิ้งไว้ข้างเตียง

เขาเดินเสื้อเชิ้ตสีขาวที่นอนราบอยู่กับพื้นห้องขึ้นมาเพื่อออกไปใส่ตะกร้าผ้าให้เรียบร้อย แต่เขาก็เจอเข้าบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ มือเรียวล้วงลงไปหยิบมันขึ้นมา

ก้อนกระดาษที่ถูกขย้ำเอาไว้

พัดค่อยๆคลี่มันออกดูว่าเจ้ากระดาษใบนี้มันคืออะไร แต่คำตอบของคำถามที่อยู่ในใจทำให้เขาลืมหายใจ

ใบเสร็จค่าที่พัก...ลงวันที่รับเงินคือวันนี้

เขาสับสนไปหมด ทำไม? ถึงมีใบเสร็จค่าที่พักของโรงแรมในกรุงเทพอยู่ในกระเป๋าเสื้อของสามีเขา ทั้งๆ ที่เมื่อ 4 วันก่อนจนถึงเมื่อเช้าเรวัตควรเพิ่งกลับมาจากถ่ายงานที่ต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอ

มือเรียวขย้ำใบเสร็จเก็บไว้ที่เดิมแล้วจึงเดินออกมาจากห้องนอน พัดต่อสายหาทีมงานในกองถ่ายที่เขารู้จักทันที

รอไม่นานปลายสายก็รับโทรศัพท์

"ฮัลโหลค่ะ พี่พัดมีอะไรเหรอคะ"

"ฟ้าพี่ถามอะไรหน่อยสิ ว่างไหม"

"ได้ค่ะ"

"กลับมาถึงกรุงเทพตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ" เขาตัดสินใจถามคำถามที่ค้างคาในใจออกไปแต่เขาก็กลัว

กลัวคำตอบที่มันจะเป็นแบบที่เขาคิด

"ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ พี่พัดมีอะไรหรือเปล่าคะ"

ใจของเขากระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ มันชาขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงเส้นผม

"พี่พัดคะ"

"..." ทำไม

"พี่พัด"

"..." ทำไมเรวัตถึงไม่บอกเขา

"พี่พัดค่ะ!" เขาสะดุ้งหลุดจากภวังค์เมื่อโดนปลายสายร้องเรียกชื่อของเขาเสียงดังพร้อมถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เขาตอบกลับไปว่าไม่มีอะไรและเอ่ยขอบใจอีกฝ่ายก็จะวางสายไป ตอนนี้เขาไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไป ร่างกายเหมือนหมดแรง ได้แต่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่น ใช้ความคิดไตร่ตรองถึงเหตุผลที่สามีของเขาไม่กลับบ้านทันทีที่กลับมาจากทำงาน

เรวัตโกหกเขา

เมื่อวานเรวัตไม่กลับบ้าน

เรวัตไปนอนโรงแรม

เรวัตมีคนอื่น?

คิดมาถึงตรงนี้ อยู่ๆ ใจของเขาก็ปวดหนึบขึ้นมาทันที คนที่เขารักและไว้ใจจะกล้าหักหลังเขาขนาดนี้เลยเหรอ เขาพยายามหาเหตุผลต่างๆ มาลบล้างความคิดนี้ออกไปจากหัวแต่ก็ไม่มีอะไรมาลบมันไปได้เลย

"แม่!" แรงเขย่าที่รุนแรงปลุกสติเขาให้ตื่นจากความคิด ภาณินยืนอยู่ตรงหน้าเขา ใช้สองแขนจับที่ไหล่ของเขาและส่งสายตาสงสัยมาให้

"แม่เป็นอะไร ภาเรียกตั้งนานทำไมไม่ตอบ" ภาณินเอ่ยถามมารดาออกไป เขาและพี่ชายกลับมาถึงบ้านเมื่อกี้นี้ แต่เห็นแม่นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าโทรทัศน์ เขาทั้งเรียกทั้งตะโกนแต่แม่ก็ไม่ได้สนใจเขาเลย

"แม่คิดอะไรเพลินๆ น่ะลูก" พัดเอ่ยตอบลูกชายตัวน้อยพลางดึงเจ้าลูกชายเข้ามาหอมแก้มทั้งสองข้าง

"ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะครับ?"

"ไม่เร็วนะครับตอนนี้ 16.30 แล้วนะ"

พัดตกใจนิดหน่อยที่ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว เขานั่งจมอยู่ในความคิดมาตั้งแต่เที่ยงจนถึงตอนนี้

เขาเอ่ยไปบอกให้ลูกไปทำการบ้านพักผ่อน ส่วนตัวเขาก็แยกไปเตรียมอาหารเย็นสำหรับวันนี้





"ภาลูก...ไปตามคุณพ่อกับพี่ภีมมาทานข้าวหน่อยครับ"

"ได้ครับ" เด็กชายละความสนใจจากการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ที่กำลังทำอยู่ ลุกขึ้นเดินไปชั้นสองเพื่อไปเรียกพ่อและพี่ชายลงมารับประทานอาหารพร้อมหน้ากัน

"ภาคิดถึงพ่อมากเลย"

"อ้อนเอาอะไรอีกล่ะเราน่ะ ฮ่ะๆๆๆ"  เรวัตพูดพลางหัวเราะมองเด็กตัวเล็กเกาะแขนแล้วเอาแก้มมาถูบริเวณไหล่ของเขา เรียกสายตาเอ็นดูจากเขาได้เป็นอย่างดี

"ไม่อยากได้อะไรสักหน่อย"

"ใช่เหรอครับ อีกสามวัน วันเกิดใครน้า" เรวัตเอ่ยกระเซ้าลูกชายคนเล็กบนโต๊ะอาหารเรียกหน้ามุ้ยของเด็กชายตัวน้อย

"ภาแค่อยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ก็พอแล้วครับ ไม่ได้อยู่ด้วยกันหลายปีแล้ว"

พัดคิดตามที่ภาณินพูดสองสามปีมานี้ สามีเขาทำงานหนักมากๆแทบไม่มีเวลาให้ลูกเลยในวันเกิดจนทำให้เจ้าตัวเล็กน้อยใจอยู่หลายครั้ง

"แล้วพี่ล่ะไม่อยากอยู่ด้วยหรือไง"

"ใครจะไปอยากอยู่กับพี่ภีมกัน แหวะ" เรวัตมองพี่น้องทะเลาะกันแล้วก็นึกเอ็นดู แต่สายตาของเขาก็ไปตกยังร่างบางที่นั่งอยู่ตรงข้าม พลลภัตม์นั่งเหม่อลอย

เหมือนในหัวกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ตลอด

"พัด"

"..."

"พัด"

"คะ ครับ" เขาสะดุ้งที่จากความคิดเงยหน้ามองเรวัตที่ร้องเรียกเขา

"เป็นอะไร"

"เปล่าครับ" พัดส่งยิ้มให้อีกคนแล้วลงมือรับประทานอาหารต่อ พยายามไม่คิดถึงเรื่องที่พบเจอมาวันนี้ ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ

เมื่อทานอาหารเสร็จสามคนพ่อลูกก็แยกย้ายกันเข้าห้องไปแล้วเรียบร้อย เหลือเพียงพัดที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะอาหารและล้างจานช้อนส้อมอยู่ในครัว ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ เขาแขวนผ้ากันเปื้อนไว้กับราวก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนของตนเอง

มือเรียวเปิดประตูเข้ามาในห้องแต่กลับไม่เจอร่างของสามีที่เขารัก หูของเขาพลันได้ยินเสียงน้ำที่ดังมาจากห้องอาบน้ำทำให้เขารู้ว่า เรวัตกำลังชำระล้างร่างกายอยู่ในนั้น เขาเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงพลันเหตุการณ์เมื่อตอนเที่ยงก็วิ่งเข้ามาในหัวของเขา เขาที่คิดทบทวนอย่างดีแล้ว ไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการถามออกไปตรงๆ

บางทีเขาอาจจะเข้าใจผิด

Rrrrrr

เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงดังขึ้น

แต่มันไม่ใช่ของเขา...

สมองของเขาเกิดการประมวลผลขึ้นมาว่าในโทรศัพท์ของเรวัตมันต้องมีบางอย่าง บางอย่างที่ตอบความสงสัยในใจของเขาได้ มือเรียวยาวเอื้อมไปคว้าเครื่องมือสื่อสารสี่เหลี่ยมของสามีแล้วเปิดหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมา แสงสว่างของหน้าจอโทรศัพท์ทำให้เขาเห็นอะไรบางอย่าง

มีแจ้งเตือนข้อความเข้าล่าสุด

แต่โทรศัพท์ของสามีเขาดันต้องใส่รหัสผ่าน

สมองของเขาพยายามนึกว่าเรวัตจะตั้งรหัสอะไร

วันเกิดเจ้าตัว...ไม่ใช่

วันเกิดเขา...ไม่ใช่

วันครบรอบ...ไม่ใช่

วะ....

"คุณทำอะไร" พัดที่สนใจแต่โทรศัพท์ของสามีจนไม่ได้ยินเสียงปิดน้ำและเสียงเปิดประตูห้องน้ำเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้เรวัตกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำพลางจ้องมาที่เขา



...

- TBC -

ยัยนิ่มไปรู้ไรมาาา ทำไมไม่บอก!

ติชมให้ด้วยนะครับ อยากอ่านเมนท์ทุกคนนะ

จะได้มีกำลังใจ ฝากพูดคุยติดแท็ก #เกมนอกใจ ในทวิตด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 22-04-2020 23:00:18
กำลังสนุกเลย อ่านเพลินมากๆ
แล้วนิ่มไปรุ้อะไรมา? คนเจ้าชุ้รักสนุก มันเลิกยากอ่าเนอะ เจ้าภากับเจ้าภีมก้น่ารัก

เราสับสสนนิดนุง ตอนนี้เรนกับพัด30 กลางๆหรอ? หักล้างกับลูกแล้วเหมือนมีเจ้าภีมตอนอายุ15? เพราะภีมอายุ15  หรือเราสับสน อ่านไม่เข้าใจเอง

ติดตามๆ อัพบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 22-04-2020 23:25:22
ใช่ครับ เราให้พัดแต่งงานตอน 20 ตอนนี้ก็ 35 ส่วนพี่เรนแก่กว่าพัดประมาณ 1-2 ปีก็เป็น 36-37 ครับ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 23-04-2020 00:10:35
คนเจ้าชู้มักลื่นไหล ยิ่งพัดรักเรนรักปานดวงใจยิ่งตาบอด อะไรก็เชื่อใจ ง่ะๆ อย่าๆ อย่าเชียว 555 สนุกกกดีอ่ะ มาๆมาต่อ อยากรู้ตอนต่อไปละ จะเกิดไรขึ้นบ้าง ลูก2ก็สตรองได้ว้อยยยยย ใช่ม่ะพัด?? 555555  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 23-04-2020 00:39:38
ปาศีลข้อ​ 3 ใส่หน้าพี่เรน ติดตามค่ะ​ มาต่อเร็วๆนะคะ​ สู้ๆนะคะนักเขียน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 23-04-2020 00:51:32
โอ้ยยย ชอบแนวนี้ภาษาลื่นดี น่าติดตามครับ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 23-04-2020 23:39:14
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 1 ปฐมบทละครชีวิต (22/04/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 24-04-2020 10:57:48
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 03-05-2020 17:23:42
บทที่ 2 ความจริง 100%


'พี่เรน'

'หื้ม?'

'สัญญากับพัดได้ไหม' เขาเงยหน้าจากอกแกร่งเอ่ยถามร่างหนา ที่กำลังกกกอดเขาอยู่บนเตียงผ้าใบริมชายทะเล สถานที่ที่เราเลือกมาฮันนีมูนหลังจากเสร็จสิ้นงานแต่ง

'ได้ครับคนเก่ง'

'ถ้าวันไหนพี่เรนหมดรักกันแล้ว บอกกันได้ไหม'

'พัด?'

'อย่าโกหก อย่านอกใจพัดนะ' เขากลัว กลัวการถูกละเลยจากคนตรงหน้า กลัวความรักที่มีหายไป

กลัวการเป็นคนโง่สำหรับใคร

'มันจะไม่มีวันนั้นแน่นอนครับ'

'...'

'พี่สัญญา'



"คุณทำอะไร" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามคนตัวเล็กที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์ของเขาอยู่ที่ปลายเตียง

"..."

"ถามว่าทำอะไร" ไม่มีคำตอบจากอีกคน เขาจึงเอ่ยเสียงเรียบเป็นการกดดันอีกครั้ง

"ผมเห็นโทรศัพท์พี่สั่นเลยหยิบขึ้นมาดู"

"..."

"มีคนส่งข้อความมาหาพี่"

"ไม่ต้องยุ่ง" เอ่ยสั่งเสียงเข้มก่อนจะดึงโทรศัพท์มาไว้กับตัวเองแล้วเดินเลยไปยังห้องแต่งตัวที่กั้นไว้เพื่อแต่งกาย

พัดมองตามร่างหนาของอีกฝ่ายเดินผ่านประตูเข้าไปแล้วก็ถอนหายใจ พลันในอกของเขาก็ปวดหนึบขึ้นมาเสียอย่างนั้น ท่าทางเหมือนมีความลับนั้นของเรวัต ยิ่งทำให้เขากลัวมากขึ้น

กลัวว่าสิ่งที่เขาสงสัยมันจะเป็นจริงขึ้นมา



"พี่ภีมเสร็จยัง แม่ให้มาตามแล้วนะ" ภาณินในชุดนักเรียนเรียบร้อยยืนเคาะประตูห้องนอนของพี่ชายหลายครั้ง เพราะไม่มีเสียงขานรับตอบกลับมาเลยสักครั้ง

"พี่ภีม"

"อืม เสร็จแล้ว" ในขณะที่ภาตัดสินใจจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง คนข้างในก็เปิดมันออกมาซะก่อน

"ทำอะไรอยู่ เรียกตั้งนานแล้ว"

"เพิ่งแต่งตัวเสร็จ"

"ช้า"

"จะกินข้าวไหมเตี้ย ไป" ภาณินหันไปคว่ำปากใส่พี่ชายพลางเดินนำลงไปชั้นล่างที่พ่อกับแม่ของเขากำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร

"มาแล้วเหรอลูก มาๆ เดี๋ยวพ่อต้องไปคุยงานอีกจะสายเอา"

"วันนี้พ่อไปส่งพวกเราเหรอครับ"

"ใช่ครับ"

"เย่ๆ" ภาณินกู่ร้องด้วยความดีใจที่วันนี้คุณพ่อของเขาจะเดินทางไปส่งที่โรงเรียนในตอนเช้า โดยปกติจะเป็นคุณแม่ที่ไปส่งวันนี้ได้มีโอกาสไปโรงเรียนพร้อมกับคุณพ่อด้วย เขาน่ะดีใจที่สุดเลย

"วันนี้แม่ไม่ไปส่งด้วยเหรอครับ" ภีมพลหันไปถามมารดาของเขาที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนโต๊ะอาหาร พอเขาเอ่ยถามคนเป็นแม่ก็สะดุ้งทันที

"อะ...อืม วันนี้ให้คุณพ่อไปส่งนะลูก" พัดที่กำลังคิดไม่ตกกับเรื่องของสามีทำให้ช่วงนี้เขาเหม่อลอยบ่อยๆ เมื่อเช้าก็ตื่นสาย เกือบเตรียมอาหารเช้าไม่ทัน

"ช่วงนี้เหม่อบ่อยนะพัด ไม่สบายหรือเปล่า" เรวัตที่คอยสังเกตอาการของภรรยามาตลอด ว่าช่วงนี้พลลภัตม์เหม่อลอยบ่อยครั้ง จึงอดเป็นห่วงไม่ได้

"นิดหน่อยครับ" พัดหันไปส่งยิ้มตอบสามี เป็นรอยยิ้มที่แต่งแต้มให้ดูสวยงามทั้งๆที่ในใจตอนนี้มันมีหมอกปกคลุมจนอึดอัดไปหมด

"แต่ผมอยากให้แม่ไปด้วย" ภีมเอ่ยความต้องการของตัวเองออกไปกลางโต๊ะอาหาร เขาอยากให้แม่กับพ่อไปส่งเขากับน้องด้วยกัน มันคงจะดีไม่น้อยถ้าได้ใช้ช่วงเวลาครอบครัวอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่แม่กลายมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ก็มีแค่แม่ที่คอยไปส่งเขาที่โรงเรียน เพราะพ่อต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวของเรา ทำให้แทบไม่มีเวลาอยู่ที่บ้านเลย

เขาอยากใช้ช่วงเวลาแบบนั้นอีกสักครั้ง

"ต้องถามพ่อเขานะลูก เพราะพ่อเขามีงานต้องไปทำต่อ" พัดเอ่ยออกไปแบบนั้นเพราะสามีของเขามีงานที่ต้องไปทำต่อจากนี้ ถ้าให้เขาไปส่งลูกที่โรงเรียนด้วยกันอาจจะเสียเวลากลับมาส่งเขาที่บ้าน ทำให้เรวัตอาจจะสายได้

"ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ได้รีบขนาดนั้น" เรวัตหันมายิ้มตอบเขา เขาจึงทำได้เพียงพยักหน้าแล้วตอบตกลงไป หลังจากนั้นที่เด็กๆ ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย พวกเขาทั้งสี่คนก็เตรียมตัวเพื่อเดินทางไปโรงเรียน

"วันนี้ภามีความสุขที่สุดเลยครับ ได้ไปโรงเรียนกับพ่อแม่ด้วย" ภาณินชะโงกหน้ามาจากเบาะหลังเพื่อหอมแก้มของทั้งเขาแล้วก็เรวัต พัดส่งยิ้มให้ลูกชายแต่ในใจปวดหนึบ

ช่วงเวลาแห่งความสุข...จอมปลอม

ตลอดทั้งทางมีเพียงเสียงของภาณินและเรวัตที่สื่อสารกันเท่านั้น ภีมพลนั้นนั่งมองออกไปที่นอกหน้าต่างตลอดเวลาทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ไม่ต่างจากเขาในตอนนี้

ในหัวของพลลภัตม์มีแต่เรื่องใบเสร็จค่าที่พักนั้นกวนใจ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเรื่องนี้ก็จะยังวิ่งวนอยู่ในสมองของเขาตลอดเวลา จนเขาเครียดและอยากระบายมันออกไป

หรือว่าเขาควรพูดเรื่องนี้กับใครสักคน

"พัด"

"..."

"พัด"

"ครับ?" เขามองซ้ายมองขวาก็พบว่าตอนนี้ยานพาหนะคันหรูได้พาพวกเขามาถึงโรงเรียนของลูกชายทั้งสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาบอกลาลูกๆ ทั้งสองก็โบกมือส่งลูกๆ เดินเข้าไปในโรงเรียน

"เดี๋ยวพี่จะแวะกลับไปสะ..."

"ไม่ต้องครับ พัดอยากไไปซื้อของที่ห้างพอดี"

"..."

"ไปส่งพัดที่ห้างนะครับ" เขาหันไปสบตากับสามีของตัวเองพลางส่งเสียงสั่นๆ เอ่ยบอกไป เขากำลังเครียด มันอึดอัดไปหมด อึดอัดจนอยากตะโกนออกมา ระบายมันออกไปบ้างสักครั้ง

"โอเค"



"พี่เรน"

"หื้ม" คนข้างกายขานรับแต่ไม่ได้หันกลับมามองเขาแต่อย่างใด ความสนใจของเขายังคงเป็นถนนตรงหน้า

"มีอะไรอยากบอกผมหรือเปล่า" เขาถามออกไปแล้ว ถามในสิ่งที่อยู่ในหัวเขามาตลอด

"พัดหมายความว่ายังไง" เรวัตหันมาสบตาเขา แต่ในแววตาไม่ได้มีท่าทีหวาดหวั่นเลยสักนิด

"ช่วงนี้พี่แปลกไป"

"ถ้าพัดหมายถึงเรื่องโทรศัพท์เมื่อคืน มันไม่มีอะไรเลยนะ"

"..."

"มันก็แค่เรื่องงาน" เขาบอกออกมาแบบนี้ แต่พัดยังคงเงียบ คำที่เรวัตได้บอกกับการกระทำของเขา

มันสวนทางกัน

"เอาโทรศัพท์พี่ไปดูก็ได้" พูดพลางหยิบโทรศัพท์ส่งมาให้เขา

"ไม่เป็นไรหรอกครับ พัดคงคิดมากไปเอง" แต่เขาไม่ได้รับมันมา เพราะถ้าเรวัตกล้าให้เขาดูโทรศัพท์แบบนี้ คงลบมันออกไปหมดแล้ว

"ถึงแล้ว พัดไปก่อนนะครับ" เขาพูดพลางลงจากรถไปในทันที เขารีบสาวเท้าก้าวเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้า ก่อนที่จะนั่งลงตรงม้านั่งกลางห้าง

แรงขาเหมือนไม่มี

เขาแทบไม่อยากทำอะไรเลยในตอนนี้ มันอึดอัด มันหน่วงไปหมด พัดนั่งพักได้สักแป๊บนึงก็หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเพื่อนสนิทอย่างนิมานลดาว่าต้องการพบ ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและเดินไปยังร้านกาแฟชื่อดังที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองของห้างสรรพสินค้า

พัดนั่งรอนิ่มอยู่ที่โต๊ะที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของร้านกาแฟ เขานั่งเหม่อในหัวยังคิดเรื่องนั้นไม่ตกจนกระทั่ง...

"โกโก้ร้อนค่ะ" เสียงเรียกของพนักงานสาวขานรายการเครื่องดื่มที่เขาสั่ง เขาถึงหลุดออกจากภวังค์ ร่างบางเดินไปยังเคาท์เตอร์เพื่อรับแก้วโกโก้นั้นของตน

"แก้วนั้นของผมครับ"

"ครับ?" แต่เขากลับโดนเสียงทุ้มต่ำรั้งไว้ซะก่อน พัดหันไปมองยังที่มาของเสียงก็สบตาเข้ากับตาคู่คมดูมีเสน่ห์ รูปร่างสูงโปร่ง สมส่วนน่ามอง เจ้าของเสียงที่เอ่ยรั้งเขาไว้นั้นมองกลับมาเช่นเดียวกัน

"แก้วที่คุณถืออยู่ของผมครับ" เขาทำหน้างงอีกครั้ง พนักงานถึงเอ่ยออกมาว่าแก้วโกโก้แก้วนั้นมีเจ้าของคือ

'คุณนนท์'

"อ่า...ขอโทษครับ ผมเหม่อนิดหน่อยเลยไม่ได้ยินว่าเป็นของคุณ" เมื่อรู้แล้วว่าคนที่ผิดคือเขาเอง พัดจึงหันไปเอ่ยขอโทษร่างสูงสมส่วนที่ยืนอยู่ข้างเขา

"ไม่เป็นไรครับ" อีกคนหันมาบอกปัดว่าไม่เป็นไรพลางส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้เขา

"นี่ครับ"

"คุณเอาไปก่อนก็ได้ครับ"

"ครับ?" เขาทำหน้างงอีกรอบเมื่อร่างสูงที่มีชื่อว่าคุณนนท์เอ่ยบอกออกมาแบบนั้น

"ขอโทษนะครับ คือผมแอบเห็นคุณนั่งเครียดมานานแล้วคงมีเรื่องไม่สบายใจ เอาแก้วของผมไปก่อนก็ได้ครับ"

"อ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ"

"เขาบอกว่าถ้าได้ดื่มของที่ชอบแล้วจะอารมณ์ดีขึ้นนะครับ" อีกคนยังคะยั้นคะยอให้เขารับแก้วโกโก้ไปก่อน เขาที่ไม่อยากเถียงให้มากความจึงรับมันไว้ ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณร่างสูงแล้วเดินจากมายังโต๊ะของตนเอง

(ต่อ)

"พัด" ผมนั่งรอไม่นานนักร่างบางสวยในชุดกระโปรงสีแดงก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า

"นิ่ม"

"มีอะไรหรือเปล่า" เธอเอ่ยถามถึงสาเหตุในการนัดเจอทันที นิมานลดาจับสังเกตได้ว่าพลลภัตม์มีเรื่องที่ไม่สบายใจถึงได้นัดเธอออกมาหาอย่างนี้ ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาพัดนั่งขมวดคิ้วตลอดเวลาสีหน้าของเขาบอกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังอึดอัด เธอเอื้อมมือไปกุมมือของพัดเอาไว้พลางบีบมือเพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่าต่อให้พลลภัตม์จะไม่เหลือใคร

เธอจะยังอยู่ตรงนี้เสมอ

"คือเรา..."

"..."

"เราสงสัยว่าพี่เรนจะมีคนอื่น" พัดตัดสินบอกสิ่งที่ค้างคาในใจมาตลอดทั้งวันให้นิ่มฟัง เขาไม่อยากทนเก็บมันไว้คนเดียวอีกต่อไป มันอึดอัดเกินไป อึดอัดจนเหมือนจะหายใจไม่ออก

"อะไรนะ!?" เสียงแหลมร้องออกมาเสียงดังเมื่อรู้ถึงสาเหตุของการนัดเจอกันครั้งนี้ของอีกฝ่าย เธอตกใจและโมโหในเวลาเดียวกัน แต่เธอต้องตั้งสติเพราะตอนนี้พลลภัตม์ต้องการที่พึ่ง

พลลภัตม์ต้องการคนรับฟัง

"หมายความว่ายังไง"

"..."

"พัดบอกเรามาหน่อย" เธอกระชับมือที่จับอีกฝ่ายแน่นยิ่งขึ้น แสดงให้พัดรู้ว่าเธอพร้อมที่จะอยู่ข้างเขา พร้อมดูแลเมื่อพัดอ่อนแอ พร้อมสู้ไปกับพัดเมื่อพัดต้องการ

"คือ...เราเจอใบเสร็จที่พักโรงแรมในกระเป๋าพี่เรน"

"..."

"เขากลับมาก่อนกำหนดนิ่ม"

"..."

"เขาไม่กลับบ้าน...ขะ เขาไปพะ พักโรงแรม ฮึก" เสียงใสที่เอ่ยบอกถึงสิ่งที่ค้างคาในใจให้เธอรู้เริ่มสั่น และสั่นมากขึ้น พัดคงกำลังสับสน คิดไม่ตกถึงเรื่องนี้ ร่างบางตรงหน้าเธอเริ่มสะอื้นเบาๆ ร่างทั้งร่างกำลังสั่นอย่างน่าสงสาร เธอดึงพัดเข้ามากอดปลอบพลางลูบหลังปลอบอีกคนให้สงบลง

"ฮึก...ทะ...ทำไมเขาต้องโกหก"

"พัด"

"ทำไมเขา...ฮือ" เธอสงสารพลลภัตม์จับใจ ตั้งแต่ที่รู้จักกันมาพัดไม่ใช่คนแข็งแกร่งอะไรนัก มันขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกไป เจ้าตัวแสร้งทำเป็นเข้มแข็งแต่ในใจมีเรื่องราวมากมายที่กักเก็บไว้ ยิ่งตอนนี้พัดขยับสถานะจากคนธรรมดาขึ้นมาเป็นแม่คนแล้ว เขายิ่งต้องแสดงออกว่าแข็งแรงเพื่อที่จะดูแลลูกๆของเขาได้

"พัดใจเย็นก่อนนะ" เธอพยายามปลอบให้พลลภัตม์สงบลงแต่มันใช้เวลานานพอสมควรพัดถึงยอมนิ่งไป

"เราจะทำยังไงดีนิ่ม" ตาแดงๆเสียงสั่นๆเอ่ยถามเธออย่างน่าสงสาร

"พัด"

"..."

"เราขอถามอะไรได้ไหม" เมื่อพัดสงบ เธอจึงอยากถามคำถามหนึ่ง ถ้าหากคำตอบเป็นแบบที่เธอคิด

เรื่องที่พัดสงสัยอาจจะเป็นจริง

"นิ่มจะถามอะไร"

"ใบเสร็จนั้น...เป็นของโรงแรมอะไร"

"ฮึก...โรงแรมXXX"

"วันก่อน...เราเจอพี่เรนกลับผู้ชายคนหนึ่ง"

"นิ่ม...ฮึก" เธอตัดสินใจบอกความจริงที่เจอมาให้พัดรู้ เธอไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของครอบครัวคนอื่นแต่เธอสงสารพลลภัตม์ เธอสงสารเพื่อนของเธอและตอนแรกเธอก็ยังไม่แน่ใจ  วันนั้นเธอรับงานอีเวนท์เครื่องสำอางงานที่ห้างแห่งหนึ่ง

ห้างที่อยู่ละแวกเดียวกับโรงแรมนั้น

ในตอนที่เธอกำลังเดินเข้าห้างและกำลังไปในส่วนที่จัดงาน เธอก็เห็นเรวัตเดินเคียงคู่กับผู้ชายคนหนึ่งแม้จะเพียงแค่แป๊บเดียว แต่เธอก็จำได้ในทันที ในตอนนั้นเธอคิดว่าเรวัตอาจจะมาเดินกับเพื่อนหรือรุ่นน้องที่สนิท

แต่เมื่อสิ่งที่เธอเห็นมารวมกับสิ่งพัดเล่าให้เธอได้ฟังแล้ว

คงไม่มีเพื่อนหรือรุ่นน้องที่ไหนที่โอบเอวกันขนาดนั้น

เมื่อเธอเล่าในสิ่งที่เธอได้พบเห็นให้พัดได้ฟังเสร็จ พลลภัตม์ก็เริ่มร้องไห้อีกครั้งและครั้งนี้มันก็หนักมากขึ้นกว่าครั้งก่อน เขาเริ่มสะอื้นหนักขึ้นจนกลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นในร้านทำให้เธอต้องพาพัดออกมาก่อน ทั้งสองร่างกำลังสาวเท้าเดินทางมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถที่นิ่มจอดเบนซ์สีขาวไว้ตรงนั้น เธอคอยประคองและพยุงพัดตลอดเวลาเพราะตอนนี้แค่แรงจะก้าวเดิน

พัดยังไม่มีด้วยซ้ำ

เมื่อเดินมาถึงในรถเธอก็พาพัดไปนั่งที่นั่งข้างคนขับส่วนตัวเองก็เดินมาเปิดประตูเพื่อนั่งอีกฝั่ง เวลาผ่านไปนาน นานจนเกือบเป็นชั่วโมง พัดถึงเริ่มสงบลง และหลังจากนั้นก็มีเพียงความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วยานพาหนะสีขาว ไม่มีใครพูดอะไรออกมา นานเป็นสิบนาที จนในที่สุด...

"เราไม่หย่า"

"พัด?" นิมานลดาหันไปสบตาเข้ากับอีกคนที่ตอนนี้ในแววตานั้นยังมีร่องรอยของความเสียใจปรากฏให้เห็นอยู่ชัด

"เราจะไม่หย่า...ไม่ใช่เพื่อตัวเอง"

"..."

"แต่เพื่อลูก"

"..."

"วันนี้ภีมอยากให้เราใช้เวลาครอบครัวด้วยกันสักครั้ง...ฮึก"

"พัด"

"ภามีความสุขมากตอนที่เราไปส่งลูกด้วยกัน"

"แล้วนายมีความสุขจริงๆ หรือเปล่า" เสียงหวานของนิมานลดาเหมือนเป็นเสียงระฆังเรียกสติของพลลภัตม์ให้กลับมา แต่ว่าสิ่งที่เขาพูดไป เขาคิดไตร่ตรองดีแล้ว เขาอาจจะทนไม่มีเรวัตอยู่ในชีวิตได้แต่ภีมและภาจะทนได้เหมือนกับเขาหรือเปล่า อย่างน้อยเหตุการณ์ในตอนเช้าวันนี้ก็ทำให้เขารู้ว่า ภีมพลและภาณินยังต้องการพ่อ พวกเขายังต้องการผู้ชายที่ชื่อว่าเรวัต อรรถจิรานันท์

"ไม่มี"

"..."

"ฉันไม่ได้มีความสุขเลยสักนิด"

"พัดถอยออกมาเถอะ"

"เราอยากกลับบ้านแล้ว" เขายังไม่อยากฟังความเห็นของนิมานลดาตอนนี้ เขากลัวว่าความตั้งใจของเขาจะสั่นคลอน จริงๆ แล้วการที่เขาไม่หย่าไม่ใช่เพื่อภีมพลและภาณินเพียงอย่างเดียว แต่ลึกในเศษเสี้ยวของใจเขาแล้ว มันก็เพื่อตัวเขาเองด้วย

เขายังรัก...แม้จะรู้ว่าถูกทำร้ายมากแค่ไหน

ก็ยังรัก

และคิดว่าสุดท้ายคนที่เรวัตจะเลือกก็คงจะเป็นเขา เขายังหวัง หวังให้อีกคนยังรักและเป็นห่วงกันเหมือนที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ ความรักนี้น่ากลัวจริงๆ สามารถบรรดาได้ทุกอย่าง บรรดาความสุข บรรดาความทุกข์ และถึงแม้ให้เป็นทุกข์แค่ไหนแต่ทำไมยังรักเขาเหมือนเดิม

"เดี๋ยวฉันไปส่ง" นิมานลดาไม่ปล่อยโอกาสให้พัดได้ค้านอะไร เธอก็รีบขับรถคันหรูออกมาจากลานจอดรถที่ห้างในทันที เธอไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมพัดจะยังต้องทนกับคนที่ทำร้ายและไม่ให้ค่าความรักของตัวเองขนาดนี้ ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับเธอ เธอคงต้องมีได้ลงไม้ลงมือกับสามีและชู้รักจากนั้นก็ฟ้องหย่าเอาให้พวกนั้นเจ็บเหมือนที่เธอเจ็บ แต่ก็นั่นแหละเธอยังไม่มีสามี ยังไม่เคยมีความรัก แต่เมื่อได้พบเจอประสบการณ์ความรักจากคนใกล้ตัวแบบนี้

ถ้าต้องมีความรักแล้วโดนเปลี่ยนตัวเองไปมากขนาดนี้

ถ้าต้องมีความรักแล้วยังต้องเสียใจมากกว่าอยู่คนเดียว

เธอขอไม่มีและไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันจะดีกว่า

แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้อยากยื่นมือเข้าไปสอดในเรื่องของครอบครัวคนอื่นมานัก เธอจะไม่เข้าไปก้าวก่ายในการตัดสินใจแก้ปัญหาในเรื่องนี้ของพลลภัตม์ แต่เธอจะคอยเป็นคนสนับสนุนพัดอยู่ตรงนี้ เธอพร้อมสู้ขอแค่พัดบอกมา

"ขอบคุณนะที่ออกมาหา" เสียงแหบที่ผ่านการร้องไห้มานานเอ่ยออกมาขณะที่รถยนต์คันหรูกำลังติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยก

"ก็พัดเป็นเพื่อนเรา เราอยู่ข้างพัดเสมอนะเอาเป็นว่าเราเคารพการตัดสินใจของพัด"

"ขอบใจมากนะ" เขาหันไปส่งยิ้มฝืนๆ ให้กับนิมานลดาตอนนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะทำอะไรทั้งนั้น เขาอยากกลับบ้าน เขาอยากเจอหน้าลูก ขอแค่ลูกเท่านั้น แค่นั้น ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญและเป็นพลังให้กับเขาได้มีแค่เจ้าภีมและเจ้าภาเท่านั้น เขาเหนื่อย เหนื่อยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เขาร้องไห้มามากพอแล้วหลังจากนี้เขาต้องเข้มแข็ง ในระหว่างที่เขากำลังมองออกไปรอบๆ บริเวณและสายตาของเขาก็เลื่อนกลับมาหยุดที่สี่แยกไฟแดง ฝั่งตรงข้ามตรงนั้นมี...รถของสามีเขา

ในขณะที่เขากำลังจะกลับบ้านแต่รถของสามีเขากลับอยู่ในทิศทางที่ตรงกันข้าม

สัญญาณไฟเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว เป็นสัญญาณให้รถที่จอดรออยู่ออกตัวได้รถของใครอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เช่นกันมันกำลังมุ่งหน้าไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านแน่ๆ

"นิ่ม"

"หื้ม"

"ตามรถคันนั้นไป" เขาหันไปเอ่ยเสียงสั่นบอกเพื่อนรักของเขาให้ขับตามรถBMWสีดำคันหรู

"ทำไม"

"รถพี่เรน" หลังจากนั้นสัญญาณไฟทางฝั่งของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว นิมานลดาจึงบังคับล้อเพื่อเปลี่ยนทิศทางจากตอนแรกที่จะมุ่งไปยังบ้านของเพื่อนสนิทข้างกาย ก็กลายเป็นขับตามรถของสามีเพื่อนสนิทแทน เธอไม่รู้ว่าพลลภัตม์จะทำอะไร

แต่ถ้าเขาจะสู้ เธอก็พร้อมจะลุยไปด้วย

ไม่ได้ตบคนมานานแล้วเหมือนกัน

...

- TBC -

พร้อมฟาดไปกับน้องมั้ยครับ!!!!

ติชมให้ด้วยนะครับ อยากอ่านเมนท์ทุกคนนะ

จะได้มีกำลังใจ ฝากพูดคุยติดแท็ก #เกมนอกใจ ในทวิตด้วยนะครับ



หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 03-05-2020 17:42:14
 :L2:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 03-05-2020 22:11:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-05-2020 22:57:28
อัยยยยยยย คุณเขาหล่อค่ะ อยากรู้จักเลย คุณนนท์ 5555 //พัดก็อืมมม โอเคนะ ก็ยังคิดได้อยู่ กล้าให้ดูมือถือคงลบออกหมดแล้วอย่างที่คิดแหละ จะว่าไปลายมันก็ยังไม่ออกเยอะ ให้จับโป๊ะได้ว่าใช่ไม่ใช่ มีไม่มีคนอื่นหรือป่าว ยังไงก็ต้องรอติดตามตอนต่อไป จะยังไงกันดี อิอิ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Saiias0005 ที่ 04-05-2020 00:37:52
กำลังสนุกเลยค่าาาา รอรอค่ะถ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-05-2020 15:31:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 04-05-2020 17:43:11
มาต่อแล้วววววว

พัดกับภีมกำลังคิดหนักเลย อยู่ในสภาวะตึงๆ ภีมลูกกำลังคิดอะไรอยู่ลูก

รออ่านอีกครึ่ง มาต่อเร้วๆนะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 05-05-2020 20:24:48
มาให้ดูตอนนี้ คือลบไปหมดปล้วเมื่อคืน เหอะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 50% (03/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 05-05-2020 21:43:33
เอาซี้พี่เรน​ พี่มีได้​ พัดก็ต้องมีได้เหมือนกัน​ ส่วนคนรับผลการกระทำคือ.....​ภีมกับภา ชีวิตครอบครัว​ สู้ๆนะคะนักเขียน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 05-05-2020 21:58:01
เราอัพอีก 50% เพิ่มไปในตอนที่ 2 ด้านบนแล้วนะคะ ฝากติชมด้วยนะ พูดคุยติด #เกมนอกใจ ในทวิตได้นะเราอยากอ่านเมนท์ทุกคนนะคะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 05-05-2020 22:31:04
 :pig4: หาอะไรมาเพิ่มพลังให้นิ่มหน่อย นางพร้อมตบมาก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 06-05-2020 03:45:42
ต้องชนะเท่านั้น ยิ่งกว่าสามีสีทองอีกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 06-05-2020 09:17:45
งานนี้มีตบค่ะ​บอกเลย​ เอาให้เลือดมันออกค่ะ
สู้ๆนะคะนักเขียน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 06-05-2020 09:36:02
 :pig4:
 :m16:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 06-05-2020 10:58:54
คนนั้นเป็นผู้ชายนะ ไหมหรอถ้าจะตบ แล้วอีกอย่างพัดอ่อนแอแบบนี้ เห็นหน้าเขาก็คงร้องไห้แล้ว จะเอาอะไรไปสู้ เหนื่อยเปล่า ออกมาหาผัวใหม่สวยๆดีกว่านะ 5555555 จ่ะ อยู่เพื่อลูก แต่ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตไป ก็ดี หรอ?? (ฮา) สนุกค่าาาา รอตอนต่อไปเลย รรร  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 07-05-2020 01:20:07
งานนี้มีตบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 2 ความจริง 100% (05/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Saiias0005 ที่ 08-05-2020 00:42:26
รอติดตามค่าา
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 10-05-2020 17:23:36
บทที่ 3 แรงปะทะ 100%


"ทำไมมาช้าจังครับ?" เสียงหวานเอ่ยทักร่างหนาสมส่วนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ หลังจากที่รถหรูขับเข้ามาจอดเทียบที่ทางเข้าคอนโดของเขา  ก่อนที่จะเปิดประตูและแทรกตัวเข้าไปนั่งข้างในรถ เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองในรถติดฟิล์มดำแล้ว

'เขมินทร์ อินทร์วรัฐ' นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะด้วยรูปลักษณ์ของหนุ่มน้อยน่ารักและกระแสคู่จิ้นของเขากับนักแสดงหนุ่มอีกคนจากการแสดงละครเรื่องเดียวกัน พร้อมทั้งบทร้ายที่เจ้าตัวตีโจทย์ได้แตก จนคนดูอยากมอบทุเรียนให้ประทับที่หน้าจิ้มลิ้มนั้นสักที ส่งให้เขาเป็นที่จับตามองจากแวดวงสังคม

ร่างเล็กฝังจมูกลงบนแก้มของอีกคนและเริ่มคลอเคลียออดอ้อนจนร่างหนาต้องปรามออกมา

"เขมคิดถึงพี่เรนนะ"

"เราเพิ่งแยกกันเมื่อวานเองนะ" เรวัตดึงอีกคนเข้ามาประกบจูบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขาติดสัมผัสของอีกคนมากแค่ไหน

"ห่างกับพี่นิดเดียวก็คิดถึงแล้ว"

"เวอร์"

"เมื่อไหร่พี่จะทำเรื่องของเขาให้จบสักที" เขมเอ่ยความอัดอั้นใจออกไป เขารู้

รู้ว่าเรวัตมีครอบครัวแล้ว

แต่ครั้งแรกที่เขาเจอผู้ชายคนนี้ มันก็ทำให้เขาเพ้อหาแต่เรวัต เขาชอบผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่กองละครและพยายามให้ท่าอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ได้มาครอง เรวัตเองก็ดูเหมือนจะติดเขาเหมือนกัน มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เขาเข้าวงการเรื่องแรกจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะปีกว่าเข้าไปแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันเริ่มต้นมาจากความไม่ถูกต้องเขารู้

แต่ใครสนกัน

ถ้าชอบก็ต้องได้...นั่นแหละเขา เขมินทร์

ปัญหาในตอนนี้คือผู้ชายของเขายังไม่หย่าขาดกับภรรยาคนนั้น เรื่องนี้มันเป็นเหมือนมีดที่ปักกลางใจของตลอดเวลา  เรวัตสัญญากับเขามานานแล้ว ว่าจะทำเรื่องนี้ให้มันถูกต้องแต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าด้วยซ้ำ เรวัตยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัวของเขาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาเคยแอบตามไปแอบมองดู

ผู้ชายคนนั้นสู้อะไรเขาไม่ได้สักนิด

จืดชืด...ไม่มีรสชาติ

"พี่พยายามอยู่" เสียงทุ้มถอนหายใจก่อนตอบกลับมา

"อีก 2 วันจะครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันนะครับ"

"..."

"พี่เรนอยู่กับเขมนะ" เขาเกาะแขนอีกฝ่ายพลางเอาหัวถูไถแสร้งทำตัวเป็นลูกแมวน้อยน่ารัก ผู้ชายน่ะแพ้อะไรน่ารักกันทั้งนั้นแหละ

"อยู่ด้วยกันทุกวันนั่นแหละ พรุ่งนี้ก็เจอกันที่กองแล้ว" เรวัตตอบอีกคนพลางส่งมือไปลูบหัวกลมด้วยความเอ็นดู เจ้าลูกแมวน้อยของเขา

"แต่ใกล้ปิดกล้องแล้วนะ อีกไม่กี่คิวเอง"

"แต่ก็มีอีกเรื่องติดต่อมาไม่ใช่หรอ"

"หื้ม"

"เพลิงพรรณน่ะ พี่กำกับนะ" เมื่อไม่กี่วันก่อนมีผู้จัดละครโทรเข้ามาหาเขาบอกอยากให้เขารับบทตัวร้ายในละครรีเมคเรื่องหนึ่งแต่เขายังไม่ตอบรับไป เพราะเขาเองก็อยากพักบ้าง แต่พอร่างสูงตรงหน้าบอกเขาว่าอีกคนก็รับเป็นผู้กำกับเรื่องนี้เหมือนกัน เห็นทีเขาคงต้องรับกลับไปตอบรับเล่นละครเรื่องนี้ซะแล้ว

"โอเคครับ เขมจะบอกให้พี่ปุยรับเลย"

"วันนี้อยากไปไหน"

"ไปที่ๆ ทำให้สนุกได้ไหมครับ" มือบางเริ่มอยู่ไม่สุขจากที่ตอนแรกมันวางอยู่ที่ข้างตัวของเขมินทร์แต่ตอนนี้มันกำลังลูบไล้หน้าขาแกร่งไปมา

"เขม" เสียงทุ้มเอ่ยสั่นๆ เป็นการปราม

"หื้ม...เขมคิดถึงนี่ครับ"

"คิดถึงพี่เรน"

"..."

"แล้วก็เจ้าเรนด้วย" มือบางเลื่อนซิปกางเกงของอีกคนลงก็ที่จะงัดเจ้าเรนออกมาข้างนอก

"เขม...ตอนนี้อยู่ในรถหน้าคอนโด"

"พี่เรนก็รีบออกรถสิครับ"

"เขม...ซี๊ด" มือบางเริ่มชักรูดเจ้าเรนจนมันเริ่มชูชันขึ้นมา

"เดี๋ยวมีคนเห็นนะ เร็วสิครับ" ไม่ต้องรอให้อีกคนบอกซ้ำ เรวัตก็เหยียบคันเร่งออกตัวเพื่อไปยังจุดหมายอื่นให้เร็วที่สุด

IN CAR งั้นเหรอ...ตื่นเต้นดีเหมือนกัน





"พัด..." เสียงของนิมานลดาดึงความสนใจของเขาออกมาจากภาพตรงหน้า ภาพที่มีผู้ชายตัวเล็กเดินอ้อมขึ้นไปนั่งบนรถของสามีของเขา เขายอมรับว่าภาพที่เห็นมันทำเขาเจ็บมาก เจ็บจนพูดไม่ออก น้ำตาเริ่มคลอที่ดวงตา เขาอยากเดินเข้าไปต่อว่าผู้ชายคนนั้นให้เจ็บเหมือนที่เขาเจ็บ แต่ขาของเขาก้าวไม่ออกเลยสักนิด เขาทำได้แค่นั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่ตรงนี้ ผ่านไปนานหลายนาที รถตรงหน้าก็ไม่ขยับไปไหนเลย

พวกเขาคงกำลังทำอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครรู้

"พัด...ถ้านายอยากจัดการพวกเลวนั้น"

"..."

"ฉันลงไปจัดการให้ได้นะ"

"ไม่จำเป็นหรอก...ฮึก"

"พัด" เขารู้ว่านิ่มคงแอบด่าเขาในใจอยู่ที่มาเห็นภาพบาดตาขนาดนี้แล้วแต่กลับยังยอมนั่งนิ่งร้องไห้อยู่ข้างหลังแบบนี้ แต่เขาจะทำแบบที่นิ่มพูดไม่ได้ ตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ผู้คนมากมายอยู่แถวนี้ ถ้าเกิดเขาทำอะไรลงไปต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาแน่ๆ แล้วผลของการกระทำนั้นก็จะไปกระทบกับภีมพลและภาณินด้วย เขาไม่อยากให้ลูกต้องบอบช้ำ แต่ขนาดเป็นที่สาธารณะพวกเขายังกล้าที่จะทำร้ายกัน

"คนดีเกินไปหรือเปล่า นายน่ะ" เขาอยากเถียงนิ่มว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอก เขาแค่ทนเพื่อลูก

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เครื่องมือสื่อสารขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าของเขาสั่นอยู่ในกระเป๋า เมื่อเขาหยิบมันขึ้นมาดูถึงรู้ว่ามีคนโทรเข้ามา

'ภา'

แค่เห็นเบอร์เรียกเข้าเป็นของใคร ในใจของเขาก็ปวดหนึบเหมือนถูกมือปริศนามากำหัวใจของเขาเอาไว้ น้ำตาลที่ไหลอยู่แล้วยิ่งไหลเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำไมพี่ใจร้ายขนาดนี้ ทำไมพี่ไม่เคยคิดถึงพัดหรือลูกบ้างเลย

"ฮัลโหลครับ แม่อยู่ไหนครับ" แค่ได้ยินเสียงน้ำตาลก็พานจะไหลมากยิ่งขึ้น ที่เขาร้องไห้ในครั้งนี้เขารู้แล้ว

ว่าเขาไม่ได้ร้องไห้ให้กับผู้ชายคนนั้น

แต่เขาสงสารลูก

"แม่อยู่กับน้านิ่มครับ แม่ไปเข้าห้องน้ำอยู่" นิมานลดาเห็นเขาเริ่มที่จะไม่ไหว เธอจึงเป็นคนตอบรับสายโทรศัพท์ของเขาแทน

"โอเคครับ ภากลับมาบ้านแล้วไม่เจอก็เลยโทรหา" ภาณินและภีมพลกลับมาถึงเมื่อสักครู่นี้ โดยปกติแล้วเวลานี้แม่จะต้องอยู่เตรียมอาหารเย็นที่ห้องครัวแต่ภายในบ้านกลับว่างเปล่าไร้เงาของผู้เป็นมารดา เขาจึงตัดสินใจโทรหา

"เดี๋ยวน้านิ่มพาแม่ไปส่งที่บ้านนะครับ"

"ขอบคุณครับ" สิ้นเสียงตอบรับของเด็กชายนิมานลดาจึงกดวางสายสนทนา เธอหันมาให้ความสนใจกับคนข้างกายที่ร้องไห้หนักมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงของลูกชายอันเป็นที่รักของตัวเอง พลลภัตม์เอามือออกจากการปิดปากกลั้นเสียงร้อง เขาไม่อยากอ่อนแออีกต่อไป กับเรื่องนี้เขาเสียน้ำตามามากพอแล้ว เขาจะต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเองและลูกๆ ของเขา

"จะกลับเลยไหม"

"อืม" รถยนต์คันหรูของสามีตอนนี้มันได้เคลื่อนตัวออกไปข้างหน้าแล้วเรียบร้อย เขาขับตรงไปเรื่อยๆ จนมันหายลับไปจากครรลองสายตาของเขา มันเป็นเหมือนสิ่งที่มาเตือนใจและสติของเขาตอนนี้ว่าสิ่งที่เขาต้องสนใจในตอนนี้คือลูกของเขามากกว่าเรื่องห่าเหวเรื่องนี้



"ถึงแล้วพัด" นิ่มหันมาเรียกเขาเมื่ออีกฝ่ายขับมาส่งเขาถึงบ้านของเขาแล้วเรียบร้อย เธอถามเขาว่าให้อยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่า แต่เขาบอกปฏิเสธออกไป จากนั้นจึงหันไปกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายแล้วเดินลงมาจากรถ เพื่อเดินตรงเข้าไปภายในรั้วบ้านของตัวเอง

"ฮ่าๆๆๆ อย่าสิจั๊กจี้นะ" เสียงเล็กร้องกรี๊ดพลางหัวเราะอย่างมีความสุขดังมาจากสวนหน้าบ้าน พัดจึงเดินไปตามที่มาของเสียงซึ่งเขาจำได้ว่าเป็นเสียงของลูกชายคนเล็กของเขา

"ภา...ทำอะไรครับ" เขาร้องถามอีกฝ่ายที่นั่งอยู่บนสนามหญ้าพลางเล่นกลับเจ้าลูกหมาพันธ์ุโกลเด้นอยู่ มันส่งเสียงเห่าเขาพลางสะบัดหางไปมาอย่างน่าเอ็นดู

"ภากำลังเล่นกับน้องอยู่ครับ"

"ไปเอามาจากไหนครับลูก" เขาเอ่ยถามเด็กชายออกไปเพราะบ้านของเราไม่ได้เลี้ยงสุนัข

"มันหลุดมาครับ น่าจะมาจากบ้านข้างๆ ที่เพิ่งย้ายมาเมื่อวาน" ภาณินตอบคำถามของมารดาเสร็จก็หันกลับไปหยอกล้อกับเจ้าลูกหมาน่ารักนั้นต่อ เขาเห็นมันมุดรั้วที่พังเข้ามาภายในบ้านจึงเข้ามาเล่นด้วย อีกสักพักว่าจะเดินเอาไปคืนเจ้าของ แต่...

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นมาก่อน พัดเดาว่าคงเป็นเจ้าของลูกหมาตัวนี้ที่มากดกริ่งที่หน้าบ้านของเขา ร่างบางจึงเดินออกไปเปิดประตู

"อ้าว...คุณ"

"ไม่คิดว่าจะเจอกันนะครับ" เป็นร่างสูงโปร่งที่เขาคุ้นตายืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ผู้ชายที่พัดเจอที่ร้านกาแฟ

คุณนนท์

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"สุนัขผมหายออกจากบ้านมาครับ"

"..."

"ผมได้ยินเสียงมันเห่าดังมาจากบ้านคุณ เลยมาหา" ชานนท์เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี้ได้เมื่อวาน เขาย้ายมาอยู่บ้านหลังข้างๆ ของพัด และมีเจ้าลูกหมาตัวหนึ่งติดมาด้วย

"ใช่ตัวนี้หรือเปล่าครับ" เสียงเล็กเอ่ยถามออกมา ภาณินอุ้มเจ้าโกลเด้นเดินมายังหน้าประตูบ้านเมื่อเห็นว่าเป็นคุณลุงบ้านข้างๆ ที่เขาเห็นเมื่อวานตอนกลับจากโรงเรียน

"ใช่ครับ ตัวเล็ก"

"ผมเห็นมันมุดรั้วเข้ามาครับ เลยออกมาดูว่าจะเอาไปคืนคุณลุงอยู่"

"ขอบคุณครับ" ชานนท์เอ่ยขอบคุณเด็กชายตัวเล็กตรงหน้าพลางส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้ ก่อนที่กำลังจะหมุนตัวเดินกลับบ้านไป

"คุณนนท์ครับ" แต่เขาก็โดนใครอีกคนเอ่ยเรียกไว้ก่อน

"ครับ?"

"ถ้าไม่รังเกียจ มาทานอาหารเย็นด้วยกันดีไหมครับ" พัดเอ่ยชวนอีกฝ่ายอย่างมีน้ำใจ เขาเห็นว่าอีกคนเพิ่งย้ายมาเมื่อวานอะไรก็คงยังไม่เข้าที่เข้าทางจึงเอ่ยชวนออกไป

"ได้สิครับ" นนท์เองก็ตอบรับพัดกลับมาในทันที พูดตามตรงว่าเขารู้สึกสนใจคนตรงหน้าตั้งแต่ที่เจอกันเมื่อตอนกลางวันที่ร้านกาแฟแล้ว ดวงตาของอีกฝ่ายยังปรากฏร่องรอยของความเสียใจอยู่บ้างแม้เพียงน้อยนิดจากที่ร้านกาแฟ เขาสังเกตเห็นคนๆ นี้กำลังร้องไห้โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งกอดปลอบอยู่ก่อนเดินออกจากร้านไป

อยากลองทำความรู้จักดูบ้าง



"คุณลุงทำงานอะไรเหรอครับ" เสียงเล็กของภาณินชวนแขกผู้มาใหม่บนโต๊ะอาหารคุย เขาถูกชะตากับคุณลุงคนนี้ คุณลุงดูเป็นคนใจดี อีกอย่างเขาอยากสนิทไว้เพราะอยากไปเล่นกับเจ้าลัคกี้ลูกหมาพันธุ์โกลเด้นอีก

"ลุงทำงานเป็นนักเขียนครับ"

"เขียนอะไรอะครับ"

"พอแล้วภา อย่าไปถามคุณลุงเขาเยอะ" พัดเริ่มที่จะปรามลูกชายเพราะเจ้าตัวเล็กถามซอกแซกมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วกลัวคุณนนท์เขารำคาญ

"ไม่เป็นไรครับคุณพัด...ลุงเขียนพวกนิยายครับ" นนท์หันไปบอกพัดก่อนจะหันกลับมาตอบเด็กน้อยร่างเล็กตรงหน้า เขาเอ็นดูภาณินมาก เป็นเด็กช่างพูดช่างคุยผิดกับภีมพลที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่เริ่มทานข้าวแล้ว เหมือนมีอะไรให้คิดตลอดเวลา

"ภีมอิ่มแล้วนะแม่"

"ทานอีกหน่อยเถอะ ภีมเพิ่งทานไปนิดเดียวเอง"

"ภีมจะไปทำการบ้าน" ภีมพลพูดเสร็จก็ลุกจากไปในทันทีไม่รอให้ผู้เป็นแม่รั้งตนไว้ พัดสังเกตมาตั้งแต่เมื่อเช้าว่าวันนี้ลูกของเขามีอาการแปลกๆ ทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา



"ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ"

"ไม่เป็นไรครับ" พัดเดินออกมาส่งชานนท์ที่หน้าบ้านของตนเองหลังจากรับประทานอาหารเสร็จเขาบอกให้ลูกรีบกลับขึ้นไปพักผ่อนและทำการบ้านให้เรียบร้อย

"อร่อยมากเลยนะครับ" ชานนท์ยิ้มชมอาหารฝีมือพลลภัตม์

"ขอบคุณมากนะครับ" พัดส่งยิ้มตอบกลับไป วันนี้เขาเจอเรื่องมาทั้งวันแค่รอยยิ้มปลอบโยนของคนตรงหน้ากับทำให้เขาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

"มีคนเคยบอกไหมครับ...ว่าคุณยิ้มสวย" คนตรงหน้าของชานนท์ในตอนนี้ไม่เหมาะกับคราบน้ำตาเหมือนตอนที่เจอกันเลยสักนิด

"ผัวเขาไง" พลลภัตม์ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไปแต่เสียงที่ตอบกลับเป็นเสียงทุ้มของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเรวัต

ทันทีที่ชานนท์หันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย เรวัตก็หัวเราะออกมาก่อนที่จะแสยะยิ้มเหยียดอีกคนอย่างเปิดเผย

"หายไปตั้งนาน กลับมาแล้วหรอวะ"

"..."

"ไอ้ลูกนอกคอก" พัดเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปห้ามเรวัตไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้นมา สายตาของคนทั้งสองตอนนี้ดูน่ากลัว เหมือนกำลังจะกระโจนใส่กันได้ตลอดเวลา

"นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว"

"พอแล้วพี่เรน"

"เสนอหน้ากลับมาทำไม" เรวัตเริ่มที่จะใส่อารมณ์ในน้ำเสียงมีอยู่ 2 สิ่งที่บนโลกนี้เขาเกลียดมาก เกลียดจนไม่อยากเจอหน้าหรือให้ตายๆ ไปซะ

คนแรกคือผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นที่เป็นเมียน้อยพ่อเขา

สองคือลูกชายของมัน 'ไอ้ลูกนอกคอก'

"มันเป็นสิทธิของผม" ชานนท์ไม่คิดว่าเขาจะได้เจอกับผู้ชายคนนี้ที่นี่ ไม่คิดว่าคนแสนดีอย่างคุณพัดจะลงเอยกับผู้ชายสันดานเสียคนนี้ด้วยซ้ำ

"จะเดินตามรอยแม่มึงหรือไง...จะมาอ่อยเมียกูหรอ!"

"พี่เรน! พอได้แล้ว" พัดเริ่มที่จะทนไม่ไหว จนตวาดออกมาทำให้ทั้งสองคนชะงักไป ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้านไม่สนใจใครอีก

"มึงอย่ามายุ่งกับเมียกู" เรวัตหันไปชี้หน้าขู่ชานนท์ก่อนจะเดินกลับไปที่รถและบีบแตรไล่ไอ้ลูกนอกคอกก่อนที่จะขับเข้ามาในบ้าน ชานนท์มองตามจนประตูบ้านของพัดปิดลง เขาถอนหายใจก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านของตนเองที่อยู่ข้างๆ



"พัดไปยุ่งกับมันทำไม" เรวัตเดินตามพลลภัตม์มาจนทันก่อนจะดึงแขนของอีกฝ่ายให้มาคุยกัน

"เขาเป็นเพื่อนบ้าน" พัดตอบอีกคนไปอย่างใจเย็น แค่เรื่องที่เจอวันนี้มันก็หนักมาพอแล้ว เขาไม่อยากทะเลาะยิ่งตอนนี้ลูกอยู่ในบ้านแล้วด้วย

"พี่สั่งห้ามอย่าไปยุ่งกับมันอีก"

"ทำไม" พลลภัตม์เอ่ยถามเหตุผลจากอีกฝ่าย

"เพราะมันเป็นลูกเมียน้อยของพ่อพี่"

"..."

"พี่เกลียดมัน" เรวัตตอบพลางกำรอบข้อมือของพัดจนขึ้นสีแดง

"พี่เรน พัดเจ็บ"

"อย่าไปยุ่งกับมันอีก รับปากพี่" พัดพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการกอบกุมของอีกฝ่าย แต่ยิ่งพยายามบิดเท่าไหร่เรวัตก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบมากขึ้นเท่านั้น

"ปล่อยพัด" ขณะที่พัดกำลังอ้อนวอนอีกคน สายตาของเรวัตก็ไปปะทะเข้ากับโต๊ะทานข้าวที่ยังไม่ได้เก็บกวาด ร่องรอยของการรับประทานอาหารเมื่อสักครู่นี้ยังอยู่ และมันก็แสดงให้เห็นว่ามีผู้ร่วมโต๊ะทั้งหมด 4 คนด้วยกัน

"นี่พามันมากินข้าวถึงในบ้านเลยหรอ" ยิ่งเห็นภาพตรงหน้า แรงโทสะยิ่งมากยิ่งขึ้น เรวัตเพิ่มแรงบีบขึ้นอีกเท่าตัว

"คิดจะนอกใจพี่เหรอ!" เรวัตตะคอกพลลภัตม์ เขาโมโหจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ยิ่งเป็นเรื่องของไอ้ลูกนอกคอกแล้วเขายิ่งยอมไม่ได้ เขาจะต้องไม่แพ้ไอ้ลูกเมียน้อยนั้น

"พัดไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น ปล่อย!" พลลภัตม์เองเมื่อถูกกล่าวหาในเรื่องที่ตนไม่ได้ก่อก็ยิ่งทวีอารมณ์คุกรุ่นมากยิ่งขึ้น

กล้าด่าเขาว่านอกใจทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นคนทำ

"แล้วพามันมากินข้าวในบ้านทำไม!"

"พัดเหงาไง! ผัวไม่กลับบ้านไง!" พัดเองก็สุดจะทนแล้วเหมือนกัน เขาไม่อยากทนอีกต่อไป คงต้องเตือนสติเรวัตกันบ้างสักที ว่าอะไรควรไม่ควร

"พี่ไปทำงาน!"

"งั้นทีหลังพัดจะจำไว้ ว่าเวลาพี่กลับบ้านช้า"

"..."

"พี่ไปทำงาน...ไม่ได้ไปทำอย่างอื่น" พัดสลัดแขนให้หลุดจากการกอบกุมของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินหนีอีกคนขึ้นมาข้างบน พลันยังมีเสียงร้องสบถไล่หลังมา เขาเดินเข้าไปในห้องปิดประตูแล้วทรุดลงไปนั่งร้องไห้ ทั้งที่เขาเชื่อใจอีกคนมากแท้ๆ เรวัตยังกล้าที่จะหักหลังเขา แล้วสิ่งที่เรวัตทำตอนนี้เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติและไม่เชื่อใจเขาเลยด้วยซ้ำ หัวใจของเขาเหมือนโดนเหยียบซ้ำๆจนมันแหลกไปหมดแล้ว เรวัตไม่เชื่อใจเขาทั้งยังไม่เห็นค่าความรักของเขาอีก

เขาต้องทำอะไรสักอย่าง

ให้เรวัตรู้ตัวสักที



ขณะนี้เป็นเวลา 6.00 น. ของวันใหม่ เรวัตออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อวานเขากับพัดทะเลาะกันหนักมากเขาโมโหที่พัดไปยุ่งกับมัน แต่เหมือนพัดก็มีอะไรบางอย่างที่ไม่บอกเขาเหมือนกัน

'ไม่ได้ไปทำอย่างอื่น'

คำๆนี้ยังติดอยู่ในหัวของเขาจนถึงตอนนี้ เมื่อคืนเขาย้ายไปนอนที่ห้องรับแขกและออกมาก่อนที่พัดจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาไม่อยากสู้หน้าเมื่อคิดได้ว่าคำพูดแบบนี้ของพัด อาจหมายถึง

พัดรู้แล้วว่าเขานอกใจ

แต่เขาก็ยังไม่อยากรีบด่วนสรุปนักเพราะเขามั่นใจว่าเขาไม่เคยทิ้งหลักฐานอะไรให้พัดจับได้ เขามุ่งหน้าตรงไปยังกองถ่ายละครที่เหลืออีกไม่กี่คิวก็จะปิดกล้องแล้ว เขาจอดรถก่อนจะเดินลงมากล่าวทักทายทีมงานทุกคนก่อนจะเดินไปที่หน้ามอนิเตอร์เช็คอุปกรณ์ทุกอย่างและเอาของไปวางไว้

Rrrrrrrr

โทรศัพท์ของเขาสั่นเพราะมีการแจ้งเตือนข้อความ

Khame : คิดถึงจัง

Khame : ทำไมเมื่อวานไม่รับสายเขม

Rain : มีเรื่องที่บ้านนิดหน่อย

Khame : ห้องน้ำ มาหาหน่อย

เรวัตเดินไปตามที่อีกคนบอกเมื่อถึงห้องน้ำของบ้านที่ใช้ถ่ายทำเขาก็ล็อกประตูก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินออกมาใช้มือโอบรอบคอเขา แล้วบรรจงจูบ ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเขาจนเสียวซ่าน เราจูบกันเนิ่นนานจนอีกคนหมดลมหายใจ

"อื้อ พอแล้ว"

"อยากยั่วดีนัก"

"เขมคิดถึงนี่นา" เขมินทร์ออดอ้อนพลางเขย่งเท้าขึ้นไปจูบปลายคางแหลมของอีกคน

"ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะเริ่มถ่ายแล้ว"

"10นาที พี่ทำทันไหม" เขมท้าทายอีกคนอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ เวลาแค่นี้มันเหลือเฟือ

"อย่าท้าพี่" พูดจบเรวัตก็ผลักร่างเล็กเข้าไปชิดผนังก่อนจะตะโบมจูบอีกฝ่ายอย่างหื่นกระหาย และกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างเร่งรีบก็เกิดขึ้น

ในห้องน้ำ...



"คัท! พักกองได้" ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง เขาสั่งพักกองเพื่อให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทานข้าวก่อนจะกลับมาเริ่มถ่ายอีกครั้งกันตอนบ่ายโมง

"พี่เรน ทานข้าวกันครับ" เขาที่กำลังจะเดินไปหยิบอาหารกองมาทาน ก็โดนเสียงหวานขัดขึ้นมาก่อน เขมินทร์เดินตรงมาหาเขา ในมือถือจานอาหารสองจานก่อนจะชวนเขาไปนั่งทานข้าวด้วยกัน ในขณะที่เขากำลังตอบรับคำชวนของอีกฝ่ายก็มีเสียงของทีมงานดังแทรกขึ้นมาก่อน

"พี่เรนๆ"

"อะไรวะ"

"เมียพี่มา" สิ้นเสียงของทีมงานกองถ่ายก็ปรากฏร่างบางของพลลภัตม์ภรรยาของเขาที่เดินเข้ามาในกองถ่าย ข้างๆ กันนั้นก็คือนิมานลดาเพื่อนสนิทของเจ้าตัว

พัด...มาที่นี่ทำไม



...

- TBC -

พัดจะไม่ทน พัดจะสู้!

อยากอ่านเมนท์ทุกคนเลย

ติชมด้วยนะค้าบบบ พูดคุยกัน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้น้าาาา
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 10-05-2020 18:36:38
เออ!!พัดมาทำไมอ่า? มาแสดงความเป็นเจ้าของ?? หรือมาแสดงให้เห็นว่า กูรู้แล้วนะว่าพวกมึงเป็นชู้กัน?? หึหึ 5555 //ตอนก่อนหน้าก็ยังไม่เชื่อนะ ไม่อยากใส่ร้ายป้ายสีเกินไป อยากเห็นกับตามาวันนี้โป๊ะแตกจ้า เอาละสรุปว่ามีชู้จริง แล้วยังมีมาบอกว่า "พี่พยายามอยู่" โ้ว้ๆๆ คิดแม้กระทั่งจะหย่ากับเมีย แล้วยังได้เห็นธาตุแท้ที่แสดงออกมา บอกเลยปัดตกจ้าาาผู้ชายคนนี้ ไม่สามารถมายืนเป็นพระเอกได้ในสายตาเราแล้ว 555 หวังว่าในภายภาคหน้าความพยายามจะสำเร็จนะ ขอให้ได้หย่าสมใจ หึ! *แสยะยิ้ม* 555  //เป็นสัญญาณที่ดีที่ภารู้สึกถูกชะตากับลุงนนท์คนข้างบ้าน และยังเล่นกับหมาได้ดี เล่นด้วยกันนานวันไป นานวันเข้าก็ยิ่งจะติด ถ้าวันนึงมาถึงอาจไม่มีพ่อเรนอยู่ในบ้านคงจะไม่เหงาห่วงหาเกินไป //เราก็ถูกชะตาเช่นกับภาแหละ 555 สายตาอบอุ่น อ่อนโยน รักเด็ก เลี้ยงหมา แล้วยิ่งถ้าเป็นคนสนใจก็สังเกตุเก็บรายละเอียดแววตาท่าทางของเขา นั่นแสดงออกว่ามีความแคร์ใส่ใจต่อคนนั้น แล้วยิ่งมีปมเป็นลูกเมียน้อยอีก ไอ้ลูกนอกคอกคงจะโดนว่าตราหน้ามาตลอดสินะจากคนๆนั้นหรืออาจจะจากคนภายนอกด้วย คนที่เข้มแข็งใช่ว่าจะอ่อนแอไม่เป็น ก็คงอยากให้ใครมาอยู่ข้างกายคอยปลอบโยนกันเติมเต็มกันละนะ ก็ไม่รู้ว่าจะได้มาเมื่อไหร่ยังไง เงิบแดกไหมละที่รู้ว่าพัดเป็นเมียเรน คนสันดานเสียแบบนั้น (นนท์กล่าวไว้) 55555 //ปากก็บอกพยายามหย่านะ แต่ก็หวงก้าง คนที่มายุ่งด้วยก็ดันเป็นคนที่ตัวเองเกลียดด้วยแหละ เลยแว๊ดๆใส่เขา ห่วงก้างใหญ่เลย 5555 ก๊าก รักอยู่นี่มีน้อยอ่ะ แต่หลงนี่คือไม่เหลือไม่มีให้เมียละ มีให้แต่เมียใหม่อะความหลงความรักเอาไปเต็มที่เลย พัดจะได้มีที่ว่างเติมรักใหม่ ว้าว 5555 จะเป็นยังไงต่อวะ สนุกเว้ย ขำว่ะขำคนที่คิดว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองนอกใจ ไม่ต้องบอกให้รู้ก็ดีนะ จะได้ดูเขาเล่นละครต่อไป จิตดี 55555 ขอบคุณที่แต่งมาต่อค่าาา รออ่านตอนหน้าเลย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 10-05-2020 19:21:37
งานนี้มีตบมั้ย​ น้องเขมคะ​ ถ้ารู้ว่าเค้ามีครอบครัวอยู่แล้ว​ เป็นพี่​ พ​รา​ไม่ทำนะคะ​ น้องรู้จักมั้ยคะ​ ยางอาย​ (อิน)​ ส่วนพี่เรนเกลียดเมียน้อยพ่อกับน้องชายต่างแม่​ แต่... ก็ยังทำพฤติกรรมเหมือนพ่อตัวเอง​ พี่เรนควรพบแพทย์ค่ะ​ ส่วนพี่พัด​ กอดปลอบนะคะ​ อยากให้พี่เรนเจ็บและสำนึกได้ในวันที่สายเกินไป​ คงสะใจอิช้อยอย่างเราน่าดู​ 555​ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรารู้สึกว่าภีมเรื่องจับผิดสังเกตคนในครอบครัวแล้งรึเปล่า​ อยากให้แบบ​ ภีมไปพูดกับพ่อว่า​ พ่อนอกใจแม่หรอครับ​ พ่อทำงี้กับแม่ได้ไง​ บลาๆๆๆๆๆ​ อิชั้นก็มโนเก่ง​ 555​ สู้ๆนะคะนักเขียน​ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 11-05-2020 00:53:22
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 11-05-2020 01:25:31
 :pig4: รอลุ้นว่ามาทำไมน้า
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 11-05-2020 02:38:21
ชอบอะชอบเรื่องนี้มากมาต่อบ่อยๆนะครับติดตามยาวๆ ถ้าไม่มาจะงอนนนน :ling3:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 11-05-2020 12:09:59
เอาแล้ววววว เรื่องกำลังจุดติแล้ว
เรนอารมหมาหวงก้างไหม? หรือแค่ ไม่ชอบนนเพราะเขาเป้นลูกเมียน้อย แล้วดูสิ่งตัวเองทำดิแย่ยิ่งกว่าเขาอีก

เราว่าภีมต้องรุ้เรื่องพ่อตัวเองกับเมียน้อยแน่ๆ

ฉันมารออ่านทุกวันเลย อัพบ่อยๆได้ไหม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-05-2020 15:41:46
 :pig4:
 :3123:
 o13
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 11-05-2020 21:17:02
เอาให้หนัก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 11-05-2020 21:49:01
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-05-2020 01:16:00
มาตามด้วยคนนนนน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 12-05-2020 02:42:31
จะอ่านไหวมั๊ยน๊อ หัวใจออนซอน หมดล๊าววว พัด สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 3 แรงปะทะ 100% (10/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 12-05-2020 09:35:55
 :serius2:
กรี๊ดดดดดด คุณแม่อย่าไปยอมอินังเมียน้อยนะ

สงสารเด็กๆ จัง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 13-05-2020 19:20:45
บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100%


"เมียพี่มา" สิ้นเสียงของทีมงานในกองถ่ายสายตาของเรวัตก็ไปปะทะเข้ากับร่างบางที่เป็นภรรยาของตนกำลังเดินเข้ามากับนิมานลดา

"พัด"

"สวัสดีครับพี่เรน" พัดหันไปยิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนที่จะกล่าวทักทายแล้วแจกจ่ายยิ้มสวยให้กับทุกคนในกองถ่าย โดยเฉพาะเขมินทร์ที่ยืนมองเขาอยู่ข้างหลังของเรวัต

"สวัสดีครับพี่พัด ได้เจอตัวจริงสักที" เสียงของเขมินทร์เอ่ยทักอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ภายในใจไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยสักนิด

"สวัสดีครับคุณเขม" พัดเอ่ยเสียงทุ้มต่ำข่มอีกฝ่ายออกไป

"มาคุณอะไรกันครับ คนกันเองแท้ๆ" เขมเน้นเสียงของคำว่าคนกันเองอย่างงชัดเจน ก็ไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกลซะที่ไหน

ใช้สามีร่วมกันก็นับว่าคนกันเอง...ถูกไหม

"เรียกคุณดีแล้วครับ...เราไม่ได้สนิทกัน"

"..."

"หรือจะบอกว่าไม่ได้อยากสนิทก็ได้ครับ" พัดเองเมื่อถูกเน้นคำว่าคนกันเองใส่หน้าแบบนี้ไฟในใจก็ยิ่งลุกโชนมากยิ่งขึ้น อย่าได้คิดว่าเขายอมคน เขาก็มีวิธีการสู้ในแบบของเขา

"บ้า...พัดอย่าไปพูดแบบนั้นสิ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราไม่ได้อยากรู้จักเขาหรอก ฮ่าๆ" นิ่มเองเมื่อเห็นเพื่อนเริ่มเปิดศึกสู้กับอีกฝ่ายด้วยฝีปาก เธอเองก็ขอร่วมฟาดฟันในศึกครั้งนี้ด้วย คนสารเลวแบบนี้ มันต้องเจอเธอ

"พัดมาทะ..."

"น้องพัด!" ก่อนที่เรวัตจะได้เอ่ยถามออกไปถึงจุดประสงค์ที่อีกฝ่ายมาหาเขาถึงที่นี่ ก็ถูกเสียงของ 'พี่เจี๊ยบ' ผู้จัดละครเดินเข้าทักเสียก่อน

"สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ"

"สวัสดีค่ะพี่เจี๊ยบ" เสียงของพัดและนิ่มเอ่ยทักอีกฝ่าย

"สวัสดีจ้ะ...ไม่คิดว่าจะมากองด้วย มาหาเรนหรอ" เธอพุ่งเข้าไปกอดรุ่นน้องนักแสดงที่เธอรัก พลลภัตม์เป็นนักแสดงที่แสดงกับเธอมาตั้งแต่รุ่นแรก ทำให้เธอรักและเอ็นดูพัดมากเป็นพิเศษ

"ใช่ครับ พัดเอาอาหารมาให้พี่เรน" พัดพูดพลางชูปิ่นโตที่อยู่ข้างกายขึ้นมา

"พัดเขินน่ะคะ ก็เลยให้นิ่มพามาด้วย"

"แหม่ๆ แต่งกันมาหลายปีแล้วยังหวานกันอยู่เลยนะคะเนี่ย" เธอหันไปยิ้มเอ็นดูให้รุ่นน้องสุดที่รักทั้งสองคนระหว่างพัดและเรน เรนเองก็เดินเข้ามาพัดพลางกล่าวขอบคุณอีกคนพร้อมทั้งยังโอบเอวกลายๆ ภาพของคู่ชีวิตหวานชื่นตรงหน้าเรียกรอยยิ้มได้จากทุกคนในกองถ่าย เว้นแต่เขมินทร์ที่ยิ้มไม่ออก

ไม่ได้อยากยิ้ม..ให้กับเรื่องปลอมๆ พวกนี้

เรวัตหันมาส่งสายตากระอักกระอ่วนมาให้กับเขา แต่เขาไม่คิดจะสนใจเขมินทร์เดินหลบฉากออกมาจากตรงนั้น เขาเดินมุ่งตรงไปยังห้องแต่งตัวนักแสดงที่อยู่ในบ้านที่กำลังใช้ถ่ายทำ ภายในห้องเงียบสนิทไม่มีใครอยู่เพราะคนอื่นๆออกไปทาอาหารเที่ยงกันหมดแล้ว

"จะเอายังไงล่ะทีนี้" เสียงของพี่ปุย ผู้จัดการที่ร่างเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงของเขาดังขึ้นมา เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ไอ้คุณพัดมันเดินเข้ามาในกองถ่ายแล้ว เธอคิดว่าการที่อีกฝ่ายมาปรากฏตัวที่กองถ่ายละครทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีท่าทีที่จะโผล่มาเลยสักนิด จะไปอะไรไปได้นอกจาก...

รู้เรื่องคบชู้ของสามีตัวเองแล้ว

และก็คงรู้ด้วยว่าใครเป็นชู้ของสามีตัวเอง

"ไม่เอาไง"

"แต่พี่ว่าฝั่งนั้นเขารู้แล้วนะ"

"รู้ก็ดี...จะได้ไม่ต้องแอบ" เขมินทร์ยิ้มเยาะ รู้แล้วก็ดี ฉลาดขึ้นมาสักทีปล่อยให้เขาดึงผัวตัวเองมานอนกกได้เป็นปีๆ และเขาก็จะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่

"จะทำอะไรพี่ไม่ว่า...แต่อย่าให้เป็นข่าวแค่นั้นพอ" ปุยไม่เคยด่าหรือว่าในเรื่องที่อีกฝ่ายไปคบชู้กับเรวัต เธอรู้ว่ามันจะเป็นทางที่ช่วยให้เขมก้าวหน้าในวงการนี้ได้ แต่อย่าให้เรื่องแดงเป็นพอ เพราะไม่อย่างนั้นคงโดนสาปจนไม่ได้ฉายแสงอีกเป็นแน่

"เขมระวังตัวตลอดนั่นแหละ"

"อุ๊ย...ขอโทษค่ะ" เสียงหวานดังขึ้นจากหน้าประตูขัดจังหวะกันคุยกันของสองดาราผู้จัดการ เจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นิมานลดาและพลลภัตม์ยืนอยู่ตรงนั้น พวกเธอเห็นอีกฝ่ายเดินหลบออกมาจึงเดินตามมาอีกที

บอกแล้วว่าวันนี้มาเชือด...ก็ต้องเอาให้ตาย

"พอดีนึกว่าห้องน้ำได้กลิ่นเหม็นคาวลอยออกมาน่ะ" นิ่มจงใจเน้นคำว่าเหม็นคาวให้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดว่ามันเป็นห้องน้ำจริงๆ แต่ตามมาเหน็บให้รู้ตัว

"ห้องน้ำอยู่ทางนั้นครับ ถ้าฉลาดก็จะรู้เพราะบนประตูมีป้ายคล้องไว้" เขมินทร์เองก็ไม่ใช่คนยอมคนง่ายๆ โดนเหน็บขนาดนี้ใครเขาจะไปทน เหน็บมาเหน็บกัน เอาให้รู้กันไปข้าง

"ขอโทษทีพี่มัน IQ น้อยแต่พี่ EQ สูงนะ ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตัวเองได้"

"..."

"ว่าใครควรยุ่งไม่ควรยุ่ง ไม่ได้หน้าหนาอ่อยไปทุกคนโดยเฉพาะคนที่เจ้าของแล้ว" เขมินทร์กำหมัดจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว อารมณ์ของเขากำลังจะปะทุแต่ก็โดนพี่ปุยดึงแขนเอาไว้ให้สงบสติอารมณ์ก่อน ขืนมีเรื่องกันตอนนี้ได้กลายเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ

"ไปเถอะนิ่ม...พี่เรนคงรอนานแล้ว" เสียงของพัดดังขึ้นขัดสงครามประสาทที่กำลังก่อตัวขึ้นเสียก่อน นิ่มจึงเลิกสนใจคนหน้าหนาตรงหน้าและกำลังจะพาพลลภัตม์ออกไปจากตรงนี้แต่ว่า...

"พี่พัดเอากับข้าวมาให้พี่เรนเหรอครับ" มีคนไม่ยอมจบสงครามครั้งนี้ง่ายๆ

"..." พัดกำมือแน่นมากขึ้นพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง

"ดีจังเลยนะครับ พี่เรนคงจะคิดถึงอาหารฝีมือพี่พัดมาก"

"..."

"เพราะว่าเวลาอยู่กองเนี่ย...เขากินแต่อะไรแซ่บๆ"

"..."

"เขาเบื่ออาหารจืดชืดน่ะครับ" เขมินทร์พูดเสียงนุ่มพลางส่งรอยยิ้มหวานไปให้อีกคน จะเรียกว่าข่มก็ได้ แต่ที่เขาพูดมามันจริงทุกอย่าง เขากับพลลภัตม์ไม่เหมือนกัน ไม่มีอะไรเหมือน พัดจืดชืดแต่เขาไม่

"นี่!" นิ่มที่ทนฟังมานานเกือบที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาเด็กคนนั้นทันที หน้าหนาหน้าทนจริงๆ มีอย่างที่ไหนที่กล้ายืดอกภูมิใจในตำแหน่งเมียน้อยขนาดนี้ เธอไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนและขออย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย ยังดีที่พัดฉุดเธอไว้ก่อนที่จะพุ่งเข้าไป ไม่อย่างนั้นคงได้มีข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับแน่ๆ

"สามีพี่...เขาไม่เลือกกินน่ะ" เสียงเย็นของพัดเอ่ยออกไปอย่างช้าๆ

"..."

"อะไรที่มันง่ายเขาก็กินทั้งนั้นแหละ พวกของง่ายๆ ไม่มีประโยชน์น่ะ" พัดจงใจเน้นคำว่าง่ายให้เสียดลึกแทงกลางอกของอีกคนให้รู้สึกเจ็บเหมือนกันที่เขารู้สึก ก่อนจะเดินจากมาโดยไม่หันไปสนใจคนข้างหลังอีก

เขมินทร์ยืนมองอีกฝ่ายเดินจากไปแล้วก็ได้แต่ยิ้มเยาะ มาเหน็บเขาขนาดนี้คงรู้แล้วว่าเรวัตกับเขามีสัมพันธ์ ก็ดีจะได้ถึงเวลาเดินเกมของเขาบ้างสักที

แปะๆๆๆๆ

เสียงตบดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ก่อนจะตามมาด้วยการปรากฏร่างของนักแสดงสาวคนหนึ่งที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนกับเขมินทร์อย่าง เทียน ธีรณี คนที่มีความสัมพันธ์กับเพื่อนของเขมินทร์มาก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการมายา เธอเองก็เคยเป็นเพื่อนที่แสนดีของผู้ชายตรงหน้าแต่ทุกอย่างก็มาพังลงเมื่อผู้ชายตรงหน้ามันมานอนกับแฟนของเธอ ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนก็เลยถูกตัดขาดกันมาตั้งแต่ตอนนั้น

"คิดไว้แล้วเชียว ว่าคนอย่างมึงมันสกปรก"

"ปากหมานะมึง อย่ามาสาระแนเรื่องของคนอื่น" เสียงที่ฉะกลับไปไม่ใช่เสียงของเขมแต่เป็นของผู้จัดการเขมอย่างพี่ปุยต่างหาก ผู้หญิงคนนี้มากวนใจเขมินทร์หลายครั้งหลายคราแล้วและเธอเองก็รำคาญมากเช่นกัน

"ยอมรับค่ะว่าปากหมา แต่ก็ไม่ได้ใช้ปากเก่งเหมือนเด็กมึง"

"อีเทียน!" ก่อนที่ปุยจะพุ่งเข้าไปธีรณี เธอก็ถูกดึงตัวหลบร่างเร็วที่พุ่งเข้าไปก่อน เขมผลักร่างของเทียนล้มลงก่อนจะขึ้นคร่อมบนตัวหญิงสาวและใช้มือดันให้หน้าของอีกคนแนบไปกับพื้นกระเบื้อง

"ใช่! กูใช้ปากเก่ง การแสดงกูก็เก่งกว่ามึงด้วย"

"ปล่อยกู!" เทียนพยายามดิ้นให้หลุดจากการกดขี่ของอีกฝ่ายแต่ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นผู้ชายถึงแม้จะร่างเล็กแต่ก็มีพละกำลังมากกว่าเธอ

"เอาเวลาสาระแนเรื่องคนอื่น ไปทำให้ตัวเองดังให้ได้เท่ากูก่อนเถอะ" เขมว่าอย่างเหลืออด เขารำคาญผู้หญิงคนนี้เต็มทน เจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรกันนัก เรื่องเมื่อก่อนเขาไม่ผิดเลยด้วยซ้ำในเมื่อผู้ชายเบื่อธีรณีแล้วก็แอบมาหาเขาเอง ถ้าจะโทษก็โทษที่ตัวเองทำตัวน่าเบื่อเถอะ

เขมลุกออกมาจากร่างของอีกคนก่อนที่จะมีทีมงานเดินเข้ามาเจอซะก่อน เขากับพี่ปุยเดินหนีออกมาโดยไม่ฟังเสียงสาปแช่งที่ตะโกนไล่หลังมา เพราะเขามีเรื่องสำคัญกว่านั้นที่ต้องทำ เขาจะทำให้ผู้ชายคนนั้นรู้ว่าใครที่เรวัตให้ความสำคัญมากกว่ากัน



"คัท! ผ่าน" เสียงของผู้กำกับตะโกนดังลั่นกองถ่ายละคร ฉากที่เพิ่งถ่ายไปเป็นฉากปิดตัวของตัวละครที่เขมินทร์แสดงนั้นแสดงว่าเขาไม่มีบทอีกแล้วในการถ่ายทำ ดังนั้นวันนี้จึงหมดคิวการแสดงของเขาเพียงแค่นี้ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวของนักแสดง สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างพี่เรวัต คุยกันยิ้มแย้มแต่พี่เรวัตไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยสักนิด เอาน้ำมาป้อนเอาพัดมาพัดให้คลายร้อน

หมั่นไส้ชะมัด

เขาไม่ได้สนใจสองคนนั้นอีกว่าจะทำอะไรต่อ เพราะเกมของเขามันกำลังจะเริ่ม

"กลับพร้อมพี่เลยไหมเขม" ปุยถามในขณะที่เขมมินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ตอนนี้เขาเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลองของตัวเองแล้วเรียบร้อย

"ไม่เป็นไรครับ"

"ทำไมล่ะ แล้วจะกลับยังไง"

"เขมรอคนอยู่"

"รอคน?" เขมินทร์ยกนาฬิกาขึ้นมาดูตอนนี้เป็นเวลา 16.00 น. แล้ว คนที่เขารอคงกำลังมาถึงแล้ว



"พัดกลับแล้วนะครับ"

"อ้าวทำไมรับกลับจังล่ะน้องพัด" เจี๊ยบหันไปถามพลลภัตม์ที่เอ่ยขอตัวกลับก่อน

"เด็กๆ คงจะเลิกเรียนแล้วล่ะครับ" พัดบอกเหตุผลก่อนจะขอตัวเดินแยกออกมาจากกองถ่าย

"เอ้า เรนไปส่งพัดก่อนสิ เดี๋ยวค่อยกลับมาถ่ายต่อ" เจี๊ยบหันไปเห็นผู้กำกับหนุ่มยืนนิ่งก็เลยไม่พอใจ จึงออกปากให้อีกฝ่ายเดินไปส่งภรรยาของตนเองที่รถยนต์ได้

"ครับ" เรนเดินออกมาส่งพัดที่รถแต่ก่อนที่จะขึ้นรถนั้น...

"ตายจริง! น้องป้อง" เสียงของทีมงานในกองถ่ายก็ดังขึ้นซะก่อน เรียกความสนใจของทุกคนไปหยุดอยู่ที่คู่ของป้องกุลกับเขมินทร์ที่กำลังยืนอยู่กับพี่เจี๊ยบ ป้องกุลนักแสดงหนุ่มที่กำลังมีชื่อเสียงและมีกระแสคู่จิ้นกับเขมมาปรากฏตัวอยู่ในกองถ่าย

"มาได้ยังไงคะเนี่ย"

"ผมมารับเขมกลับน่ะครับ" สิ้นเสียงของป้องกุลก็เหมือนไฟในร่างของเรวัตลุกโชน เขาลืมที่จะบอกลาพัดแล้วรีบเดินกลับเข้าไปในกองถ่ายทันที

กล้าดียังไงมายุ่งกับคนของเขา

พัดเองที่เห็นเรนเดินกลับเข้าไปข้างในทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าว ก็ทำให้ก้าวขาไม่ออกเหมือนกัน เหมือนขาหมดแรงไปซะอย่างนั้น

คงหวงผู้ชายคนนั้นมากสินะ

เขาคงสำคัญมาก

พัดเองก็เดินขึ้นรถพร้อมกับนิ่มและขับออกมาจากกองถ่ายทันที



"ไปไหนมาครับ" เสียงทุ้มเอ่ยทักพัดในตอนที่กำลังจะเปิดประตูรั้วเพื่อเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เขากลับมาถึงบ้านแล้วเรีบร้อย เมื่อหันไปตามต้นเสียงจึงไปสบตาเข้ากับผู้ชายข้างบ้านอย่างคุณนนท์

"ไปธุระมาน่ะครับ"

"หน้าตาคุณดูไม่สบายเลย"

"..."

"โอเคหรือเปล่าครับ" นนท์เอ่ยถามอีกคนด้วยความเป็นห่วง หน้าตาของพัดดูเหนื่อยและมีเรื่องเครียดตั้งแต่เมื่อวาน

"มีเรื่องเครียดนิดหน่อยน่ะครับ"

"รอตรงนั้นแป๊บนะครับ" เขาเอ่ยรั้งอีกฝ่ายยังไม่ให้เข้าบ้านก็จะรีบเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านไปสักครู่หนึ่งร่างสูงก็เดินออกมาจากรั้วบ้านของตัวเองพร้อมกับถุงอะไรบางอย่างที่ยื่นมาตรงหน้าของพัด

"อะไรครับ"

"ผมให้ครับ...ชาคาโมมายล์ครับ"

"..."

"ผมชอบดื่มเวลาเครียดๆ มันช่วยผ่อนคลายดีนะครับผมดื่มบ่อย" พัดยิ้มรับก่อนที่จะยื่นมือไปรับถุงที่อีกฝ่ายยื่นให้มาถือไว้ข้างกายของตัวเอง

"ขอบคุณมากนะครับ แล้วก็ขอโทษเรื่องเมื่อวานด้วย" เขาเอ่ยขอบคุณพลางเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายถึงเรื่องเมื่อวานที่คุณนนท์ต้องทะเลาะวิวาทกับสามีของเขา

"คุณคงรู้เรื่องแล้ว รังเกียจไหมครับ"

"ครับ?"

"ก็เรื่องที่ผมเป็นลูกเมียน้อย" นนท์เอ่ยเสียงแผ่วเหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องดังกล่าวมากสักเท่าไหร่

"ผมไม่รังเกียจหรอกครับ ก็คุณดีกับผมนิ" พัดยิ้มบางพลางเอ่ยออกไปด้วยความจริงใจ เขาไม่ได้รังเกียจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย อีกฝ่ายดีกับเขามากขนาดนี้ ไม่เหมือนกับอีกคน พูดง่ายๆก็คือตอนนี้เขาเจอคนที่น่ารังเกียจกว่ามาก

"ขอบคุณนะครับ"

"ขอบคุณสำหรับชาเช่นกันครับ"

"ถ้ามันหมดแล้ว มาดื่มที่บ้านผมได้เลยนะครับผมมีเยอะมาก เอาไว้ดื่มตอนคิดนิยายไม่ออก"

"โอเคครับ ฮ่าๆ" พัดหัวเราะขำไปกับท่าทางติดตลกของอีกฝ่าย ก่อนจะบอกลาอีกคนแล้วขอตัวเดินเข้าบ้านมา แต่ก็ต้องชะงัก

เมื่อเจอกับภีมที่ยืนอยู่หน้าประตู

"แม่ตกใจหมดเลย กลับมานานหรือยังลูก"

"กลับมานานแล้วครับ" ภีมพลเอ่ยก่อนจะเดินหนีกลับเข้าไปในบ้าน



ตอนนี้เป็นเวลา 21.00 น. แล้วท้องฟ้ามืดมนแตกเปล่งประกายไปด้วยดวงดาวส่องสว่างสวยงาม พระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่กลางอากาศเป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าตอนนี้ดึกมากขนาดไหนแล้ว แต่เรวัตก็ยังกลับไม่ถึงบ้าน เมื่อสักครึ่งชม.ก่อน นิ่มส่งรูปภาพที่แคปมาจากอินสตาแกรมของเขมินทร์ที่ลงว่ากำลังทานข้าวกับใครสักคน

ซึ่งเขาจำได้ทันทีว่ากำไลบนข้อมือผู้ชายคนนั้น

มันเป็นของสามีเขา

"อ้าวยังไม่นอนอีกเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยทักเขาที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่หน้าทีวี เรวัตเพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังจากที่เขาแยกกับพัด แล้วรู้ว่าเขมพาไอ้ผู้ชายคนนั้นมาประชดเขา เขาก็สั่งพักกองอ้างว่าอยากเข้าห้องน้ำสักครู่และแอบไปคุยกับเขมินทร์ให้รู้เรื่อง สุดท้ายก็จบลงที่เขมินทร์ยื่นข้อเสนอว่าจะไม่กลับกับป้องกุลถ้าเขายอมไปทานข้าวด้วยเย็นนี้ เขาจึงตอบตกลงไป

"กำลังจะไปนอนครับ"

"วันนี้ไปที่กองทำไม" เรวัตเอ่ยถามพัดถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายโผล่ไปยังกองถ่ายของเขาในวันนี้ เขมินทร์บอกเขาว่าพลลภัตม์ รู้เรื่องของเราแล้ว เขาอยากถามให้แน่ใจ

"พัดอยากไปหาพี่...พัดไปไม่ได้หรอครับ" พัดเอ่ยย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและเย็นเหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์

"ไม่ใช่ไม่ได้ แต่ทำไมไม่บอกก่อน"

"หรือพี่มีอะไรปิดบังพัด" สิ้นเสียงของพลลภัตม์ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบมีเพียงการสบตาของคนสองคนที่สื่อสารกันผ่านความเงียบเหล่านั้น เวลาผ่านไปนานแต่ยังไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา

"พี่มีอะไรอยากบอกพัดไหม" เสียงของพัดดังขึ้นผ่ากลางความเงียบขึ้นมาและสายตาของพัดเองก็เริ่มเปลี่ยนไป มันดูเฝ้ารอและเหมือนมีเสียงดังออกมาจากสายตานั้นว่า

ทำไม

ทำไม

"พี่ไม่มีอะไรที่อยากบอก" สุดท้ายเขาก็ไม่กล้าที่จะบอกพัด แม้ว่าเขาจะคิดว่าพัดรู้แล้วว่าเรื่องระหว่างเขากับเขมินทร์มันเป็นยังไง

ในเมื่อพัดรู้แล้ว...แต่ไม่โวยวายหรือฟ้องหย่า

เขาก็จะไม่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่

แต่เขาจะจัดการเรื่องนี้เอง

"พัดขอตัวไปนอนก่อนนะครับ" พัดไม่ได้คาดหวังกับคำตอบของอีกฝ่ายว่าจะยอมรับ คำตอบที่เรวัตได้พูดออกมามันก็เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้ จึงไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกต่อไป อยากเดินหนีออกไป

"พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง" แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินขึ้นไปบนบ้าน เสียงทุ้มของเรวัตก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน เขาหันกลับไปสบสายตากับร่างสูงที่ยืนมองเขาอยู่เช่นกัน

ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีและเดินหนีไปยังชั้นสอง



วันนี้พัดตื่นเช้าออกมาเตรียมอาหารให้ลูกๆ แต่ก่อนจะพบว่าเรวัตออกจากบ้านไปแล้วเรียบร้อย เขาปลุกภากับภีมมาทานข้าวตามปกติแต่เขาเริ่มรู้สึกว่าภีมพลเปลี่ยนไป ภีมพลไม่พูดกับเขา

ถามคำตอบคำ

ตั้งแต่ในบ้านจนขึ้นรถและมาถึงโรงเรียน ตลอดทั้งเช้าจึงมีแต่เสียงของภาณินและเขาเท่านั้น หลังจากส่งลูกๆ ทั้งสองคนเข้าโรงเรียนไปแล้วเรียบร้อย เขาก็ขับรถตรงกลับมาที่บ้านทันที ตอนที่ขับผ่านบ้านของชานนท์เขาก็แอบเหลือบมองเข้าไปในบ้านก่อนที่จะพบว่าประตูบ้านปิดสนิท ไม่แน่ใจว่าอีกคนยังไม่ตื่นหรือออกไปข้างนอก ก่อนที่จะเปิดประตูรั้วและขับรถเข้าไปในบ้าน

เขาลงจากรถ ล็อกรถเรียบร้อย ก่อนที่จะเดินไปไขประตูบ้านเพื่อเริ่มต้นทำหน้าที่แม่บ้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน แต่ก็โดนเสียงกริ่งหน้าประตูดึงความสนใจเสียก่อน

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ขาเรียวก้าวเดินไปยังประตูรั้วก่อนที่จะเปิดออกดูว่าเป็นใครที่มากดกริ่งหน้าบ้านของเขา

แกร๊ก

"สวัสดีครับพี่พัด" ร่างเล็กของคนที่มาเยือน ยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเขาในเวลานี้ด้วยชุดลำลองธรรมดาและสวมแว่นกันแดดสีดำ

"ครับ"

"จำผมไม่ได้เหรอครับ" เสียงเล็กเอ่ยก่อนที่มือขาวจะยื่นขึ้นไปดึงแว่นกันแดดสีดำที่สวมอยู่ออก ปรากฏให้เห็นใบหน้าหวานของผู้ชายที่ชื่อว่า เขมินทร์ อินทร์วรัฐ



...

- TBC -

แกมาทำไม ยัยเขม!!!! โมโหมากๆ ยิ่งเขียนยิ่งมันมือ

เมนท์ติชมด้วยน้าาา เมนท์สาบส่งอีพี่เรนก็ได้ อยากอ่านเมนท์ทุกคนเลย

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์กันได้นะครับ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-05-2020 20:14:46
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 13-05-2020 21:11:31
สงสารพัดมากๆๆ เขมจะเริ่มแผนอะไรเนี่ย อย่ามาบอกว่าท้องนะะ  :katai1: :hao5:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 13-05-2020 21:58:13
ภีมของแม่เป็นอะไรลุก

ส่วนเขมมาทำไม!!! มาแสดงความเป็นน้อยในที่ที่ของเมียหลวงรึ?? เรนก็เหมือนคนหลง หลงกามอารม ไม่ต่างจากพ่อแกที่มีเมียน้อย

พัดเป้นเมียหลวงสุ้คนและหยิ่งเข้าไว้นะ


ชอบจังมาอัพเร้วถุกใจ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: oily06 ที่ 13-05-2020 22:04:06
ถ้าเขมอยากได้นักก็ให้มันไปเถอะพัด
แต่ว่าผู้ชายเห็นแกตัวแบบเรนพอถึงเวลาน้องขอหย่าน่าจะไม่ยอมหย่าให้ง่ายๆอ่ะ
หวงก้างก็ปานนั้น แล้วยังมีหน้าไปดูถูกคุณนนท์เขาอีกว่าเป็นลูกเมียน้อย ก็ถ้าผู้ชายมันไม่มักมากหลายเมีย มันก็ไม่มีคำว่าเมียน้อยเกิดขึ้นมาหรอก มอหอ  :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 13-05-2020 22:34:02
มาบอกว่าพี่เรนกำลังจะหย่ากับพี่ เขาอยากหย่ามาก เพราะงั้นพี่ช่วยทำให้เรื่องมันจบง่ายๆด้วยนะครับ ผมขอร้อง เงิบแดกไหมละนั่นพัดที่รู้ว่าผัวมีความคิดจะหย่ากับตัวเอง มันเป็นไปขนาดนั้นเลยนะ เดี๋ยวจะได้หน้าชาจริงตอนเขามาขอหย่า 55555 ไปกองถ่ายนึกว่าไปไร คือไปตอแยกับเมียน้อย จิกกัดกันไป ผู้ชายก็ลอยตัวสวยๆ ปล่อยเขาตบตีแย่งกันไป 5555 แดกจุดไหมละที่เห็นเขาไม่แคร์ไม่สนใจตัวเองเลยแต่เขาจะเป็นจะตายกับเมียน้อยต่างหาก อิอิ หึหึ ชัดไหมทีนี้ รู้สึกรังเกียจทันที 5555

ดีนะที่พอเสียใจมามีใครบางคนคนข้างบ้านฮีลใจได้บ้างไม่มากก็น้อย ในเวลาที่เหนื่อยและเสียใจมันมีคนอยากอยู่ข้างกายนะ คือมาได้จังหวะมาก คึคึ

ไอ้พี่เรนนี่มาตอน2ขี้เงี่ยนนะ ตอน3ขี้เหยียด เหยียดคนอื่น มาตอน4นี้คือขี้ขลาด ไม่กล้าพูดว่ามีชู้ แล้วตอนต่อไปคือไปแดกขี้ไป๊ไอ้พี่เรน ไปแดกขี้นะ 555555 เรนกับเขมเขาเหมาะสมกันแล้ว ศีลเสมอกันดี จัดเป็นขยะเปียกไปกองต้นเสาไฟโน้นนะ 55555 พัดถ้าไปสู้รบแย่งผัวมาแล้วมันเหนื่อย พักนะ พักดื่มชาคาโมมายด์ ดูท่าเหมือนจะไฟว้กันอยู่ร่ำๆ 5555555 สนุกๆ จะเป็นยังไงต่อ ขอบคุณนะคะที่แต่งมาอัพต่อให้ได้อ่าน  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 13-05-2020 23:42:15
 :laugh: บอกเมียน้อยจะรีบหย่า
บอกเมียหลวงว่าจะจัดการให้เรียบร้อย
สันดานคนมักมาก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 13-05-2020 23:46:34
ขอนายเอกแบบฟาดๆแซบๆ ฉลาดๆทันเกมตลอดไม่ยอมคนน๊าาาาาาา :hao7:ไม่เอาแบบละครไทย :ling1:

น้องภีมมีความลับอะไรน้อ ทำไมทำตัวแปลกๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 14-05-2020 00:10:04
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Saiias0005 ที่ 14-05-2020 00:28:07
 :m16: สนุกมากกกค่ะ แอบโกรธทั้ง2คนจริงๆๆ อยากให้พัดหวั่นไหวกับคุณคนนั้นด้วยยย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 14-05-2020 01:05:44
ตบเลยดีม่ะ :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 14-05-2020 02:13:40
เรื่องนี้ขอพัดร้ายแบบนายเอกสมัยใหม่ไปเลยชอบนิ่มด้วยยรักเพื่อนมากขอสองคนนี้ดูโอ้ตบแหลกไปปเลยยย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 14-05-2020 08:59:42
 :angry2:อีพี่เรนเป็นไทป์ผัวที่น่ากระทืบที่สุดในโลก หื้มมมมมมม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 4 แสดงจุดยืน 100% (13/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 16-05-2020 21:58:30
ฉันมารออ่านแล้วนะ


 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 17-05-2020 17:52:15
บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100%


*คำเตือน มีฉากไม่เหมาะสมนะคะ การกระทำของตัวละครไม่เหมาะสมนะคะ ไม่ควรทำตาม*



วันนี้ที่โรงเรียนไม่ได้น่าสนใจอีกต่อไป ภีมพล อรรถจิรานันท์ นั่งเหม่อมองเมฆสีขาวที่ลอยเกลื่อนอยู่บนท้องฟ้าผ่านหน้าตาของห้องเรียน ที่มีอาจารย์กำลังบรรยายเนื้อหาอยู่ที่หน้าชั้นแต่เขากับไม่ได้ให้ความสนใจกับเนื้อหาตรงหน้ามากเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งที่กำลังวิ่งไปมาในหัวของเขาตอนนี้มันกวนใจเขาจนเขาไม่มีสมาธิ มันทำให้เขาเครียดตั้งแต่คืนนั้น

คืนที่พ่อกลับมาจากถ่ายงานที่ต่างจังหวัด

ถ้าเขาไม่บังเอิญไปได้ยิน...อะไรๆคงจะดีกว่านี้

"พี่ถึงบ้านแล้ว"

"..."

"เขมอย่าอ้อนพี่ เราเพิ่งแยกกันเองนะ"

"..."

"อีกไม่กี่วันก็เจอกันที่กองถ่ายแล้ว"

"..."

"คิดถึงครับ พี่รักเขมนะ"

"..."

"เซ็กส์โฟนเหรอ...ได้สิ"

วันนั้นเขายังไม่ได้นอนเพราะกำลังเล่นเกมกับเพื่อนอยู่ ระหว่างนั้นเขาเกิดหิวขึ้นมาเลยกะว่าจะลงมาหาอะไรทานที่ห้องครัว แล้วเขาก็เจอเข้ากับพ่อที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ เขาได้ยินทุกอย่างทุกคำของพ่อกับคนปลายสาย เขาจำได้ทุกจังหวะการหายใจและเสียงร้องของพ่อ มันน่ารังเกียจและสะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก เขาเดินหนีกลับเข้ามาในห้องปิดประตูและปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ

เขารู้ว่าพ่อนอกใจแม่

การกระทำแบบนี้ของพ่อทำให้เขาหมดความศรัทธาในตัวของผู้ชายที่ชื่อว่า เรวัต รุ่งเช้ามาเขาแทบไม่อยากที่จะพูดคุยกับผู้ชายคนนี้ ตลอดระยะเวลารับประทานอาหารเช้าจึงมีแต่เสียงน้องชายของเขาเจื้อยแจ้วกับผู้ชายคนนั้น สายตาของเขาไม่มองไปที่ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าพ่ออีกเลย

แต่เขามองไปยังที่แม่ของเขาต่างหาก

ในเช้าวันนั้นแม่ก็มีสายตาเศร้าหมอง ดูวิตกกังวลและเครียดกับบางสิ่งบางอย่างอยู่ตลอดเวลา

เขาคิดว่าแม่อาจจะรู้...หรือระแคะระคายเรื่องของพ่อขึ้นมาบ้าง

แล้วทำไมแม่ไม่บอกพวกเรา...แม่ตั้งใจปิดบังพวกเราอย่างนั้นเหรอ

เขารับรู้ได้ถึงความอึดอัดบนโต๊ะอาหารนี้ เขาสงสัยว่าทำไมพ่อถึงทำอย่างนั้น ทำไมเลือกที่จะทำร้ายกันหรือเพราะพ่อไม่รักไม่แคร์กันแล้ว แล้วทำไมแม่ถึงไม่บอกพวกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้...เขามั่นใจว่าแม่รู้ จากสายตาที่แม่มองพ่อ มันมีทั้งความผิดหวังและคำถามเหมือนกับเขาในตอนนี้ เขาอยากแน่ใจมากยิ่งขึ้นว่าแม่เองก็รู้เรื่องนี้บวกกับถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่เขาคิดครอบครัวของเราคงไปต่อไม่ได้ เขาอยากใช้ช่วงเวลานั้นอีกสักครั้งไม่ใช่เพื่อเขาแต่เพื่อน้องชายที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยต่างหาก เขาจึงเอ่ยมันออกไป

"วันนี้แม่ไม่ไปส่งด้วยเหรอครับ"

"อะ...อืม วันนี้ให้คุณพ่อไปส่งนะลูก"

"แต่ผมอยากให้แม่ไปด้วย"

แววตาของแม่ชะงักไปก่อนที่จะเอ่ยบ่ายเบี่ยงออกไปแต่สุดท้ายก็ต้องไปด้วยกันอยู่ดี แววตาที่ชะงักไปของแม่แสดงออกชัดเจนว่า ไม่อยากไป มันทำให้เขารู้ทันทีว่าแม่คงรู้ในเรื่องเดียวกันกับเขาในตอนนี้

เขาสงสารแม่ และพร้อมจะอยู่ข้างแม่เสมอ

แต่ความคิดเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อผู้ชายคนนั้นเข้ามา

แม่บอกว่าเป็นคนรู้จักแต่กลับชวนมาทานข้าวในตอนที่พ่อยังไม่กลับบ้าน คุณนักเขียนคนข้างบ้าน เขามองสายตาของอีกฝ่ายออกว่าคิดอย่างไรกับแม่ของเขาแม้มันจะมีความสงสารเจืออยู่แต่มันก็กลบแววตาอีกแบบหนึ่งไม่ได้ ทันทีที่แม่ออกไปส่งผู้ชายคนนั้นพ่อก็กลับมา เขาเห็นว่าทั้งคู่ทะเลาะกันผ่านหน้าต่างห้องของเขา เขากลัว...กลัวว่าภาณินจะได้ยิน ภายังไม่พร้อมที่จะรับมือกับความแตกหักของครอบครัวนี้ เขาจึงเดินไปที่ห้องของน้อง ก็เห็นว่าอีกคนนอนหลับโดยใส่หูฟังอยู่ที่โต๊ะหนังสือ เขาจึงวางใจ ในตอนที่กำลังจะกลับห้องเสียงของพ่อกับแม่ก็ดังขึ้นมาจากชั้นล่างของบ้าน

"แล้วพามันมากินข้าวในบ้านทำไม!"

"พัดเหงาไง! ผัวไม่กลับบ้าน"

ขาของเขาชะงักอยู่ที่หน้าประตูห้อง เขาไม่มีแรงที่จะเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูหน้าห้องด้วยซ้ำ เขายืนนิ่งๆปล่อยน้ำตาให้ไหลเงียบๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงแม่เดินขึ้นบันไดมา เขาก็ใช้แรงทั้งหมดที่เหลือเปิดประตูก่อนจะปิดและนั่งลงพิงประตูอยู่อย่างนั้น เขานั่งกอดเข่าร้องไห้ พยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้แม่หรือใครได้ยิน

ทำไมเขาทั้งสองคนถึงทำแบบนี้

พวกเขาประชดกันไปมาแต่ไม่แคร์ความรู้สึกของเขากับภาณินเลย

เขารู้ว่าพ่อผิดที่นอกใจแต่ทำไมแม่ถึงไม่บอกพวกเราและก็ถอยออกมา ทำไมถึงเลือกที่จะประชดพ่อด้วยการพาผู้ชายอีกคนหนึ่งเข้ามา แม่แค่อยากประชดพ่อจนไม่สนใจความรู้สึกของพวกเราเลยเหรอ ถ้ารู้ความจริงแล้วต้องเจ็บปวดอย่างนี้

เขาขอเลือกไม่รับรู้เลยจะดีกว่า

ในเช้าวันต่อมาพ่อออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ไม่ได้อยู่รอกินข้าวเช้าด้วยกันจึงเหลือเพียงแค่แม่ เขา และภาณินเท่านั้นบนโต๊ะอาหาร

"ทำไมวันนี้พี่ภีมดูแปลกๆ ไม่สบายเหรอ"

"นั้นสิ ภีมหน้าซีดมากเลยนะ"

"ผมโอเคครับ" เขาเลือกที่จะบอกปัดออกไปและพยายามสังเกตแม่อยู่ตลอดเวลา เขาถึงเห็นว่าดวงตาของแม่ก็ยังร่องรอยความเสียใจอยู่ไม่ต่างกันกับเขามากนัก แล้วทำไมยังทน ทำไมยังไม่พูดความจริงกับเขาและภา

"พรุ่งนี้วันเกิดใครครับ"

"ภาเอง เย่ๆๆๆ" เขาหันไปมองรอยยิ้มและสีหน้าดีใจของน้องชายแล้วก็เกิดความรู้สึกเศร้ากัดกินในหัวใจ ถ้าวันหนึ่งมันหายไป เขาคงเสียดายมาก

"อยากจัดงานชวนเพื่อนมาไหม"

"ไม่ครับ แค่กินข้าวที่บ้านก็พอภาอยากกินข้าวกับแม่ กับพี่ภีมแล้วก็กับพ่อ" แม้จะเป็นแค่คำขอแสนเรียบง่ายแต่เขารู้ว่ามันคงเป็นไปได้ยาก เขาหันไปสังเกตผู้เป็นมารดาแม้จะแววตาความเสียใจแสดงออกมาแต่แค่เพียงแวบเดียว

มันก็หายไป

"โอเคครับ แต่พ่อเขางานหนักแม่ไม่แน่ใจว่าจะมาได้ไหม" เขารู้...รู้ว่านั้นมันคือข้ออ้าง จากเหตุการณ์เมื่อคืนเขาก็พอที่จะเดาออกว่าพ่อไปไหนมา ถึงได้กลับบ้านช้ากว่าปกติ

"แต่พ่อสัญญากับภาแล้ว พ่อไม่เคยผิดสัญญา" ความหวังเขาเห็นสิ่งนั้นอยู่ในแววตาของภาณินเต็มเปี่ยม เพราะว่าครอบครั้งของเขาแทบไม่ค่อยอยู่ด้วยกันครบเท่าไหร่ ด้วยงานของพ่อทำให้ต้องกลับบ้านดึกหรือไปต่างจังหวัดอยู่ตลอดเวลา แล้วยิ่งในตอนที่สถานะทางครอบครัวของเราตอนนี้ไม่ปกติ เขากลัว

กลัวว่าแววตาของน้องชายเขามันจะไม่เหมือนเดิมตลอดไป

"ภีม...มึงเห็นข่าวยัง" ในตอนบ่ายของวันนั้นขณะที่พวกเขากำลังรออาจารย์เข้ามาสอน ชมพู่ เพื่อนในกลุ่มของเขาที่คอยเป็นนกพิราบกระจายข่าว ก็หันมายื่นโทรศัพท์ของตัวเองมาให้เขา

'หวานมากน้ำตาลไม่ต้อง อดีตนักแสดงหนุ่มชื่อดังโผล่เซอร์ไพรส์สามีถึงกองถ่าย'

เมื่อเขาอ่านเนื้อหาข่าวจบ ก็พอจะรู้ว่าในข่าวหมายถึงแม่ของเขาที่วันนี้ไปกองถ่ายเพื่อนำอาหารกลางวันไปให้พ่อ

"แม่กับพ่อมึงโคตรหวานอะ แต่งกันมาหลายปีแล้วยังสวีทอยู่เลย"

"ใช่ๆ กูอยากมีแบบนี้บ้าง"

ถึงแม้จะมีคนอิจฉาเขาที่พ่อกับแม่ของเขายังสวีทกันตลอดแม้จะแต่งงานกันมาแล้วหลายปี แต่เขากลับไม่ได้ดีใจเลยสักนิด เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดนี้ มันก็แค่ฉากหน้าสวยหรูที่ข้างในมันเละจนน่าขยะแขยงขนาดไหน เขาคิดว่าเขารู้เหตุผลของการโผล่ไปกองถ่ายของแม่ในครั้งนี้

เขม หรือ เขมินทร์ อินทร์วรัฐ เป็นหนึ่งในนักแสดงในละครเรื่องนี้และเป็นคนเดียวกับที่ทำให้ครอบครัวของเขาเป็นแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรต้องการเงินหรือต้องการพ่อ และเขาเองก็ไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรถึงได้ทำแบบนี้

เขาไม่ชอบเลยกับการที่แม่ต้องไปฟาดฟันกับใครเพื่อยื้อพ่อไว้

ในเมื่อพ่อไม่ได้รักไม่แคร์เราแล้ว แม่จะไปสนใจทำไมกัน

"กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" เขาขอแยกตัวออกมาจากห้องเรียนก่อนที่อาจารย์คาบต่อไปจะเข้าสอนเพื่อไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องน้ำข้างตึกเรียน เนื่องจากอีกไม่กี่นาทีจะเข้าเรียนภายในห้องน้ำจึงเงียบสนิท

ไม่มีใคร...ไม่มีเลย

เขานั่งลงบนชักโครกในห้องน้ำห้องสุดท้าย เริ่มที่จะปล่อยให้น้ำตาไหลและใช้มือปิดปากตัวเองไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไป เขาอึดอัดกับสถานะครอบครัวในตอนนี้ เขาไม่อยากแม้แต่จะกลับบ้านด้วยซ้ำ มันไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน ทุกอย่างที่แสดงออกมาในตอนนี้มันล้วนเป็นแค่ภาพมายา พ่อไม่ได้ต้องการเราแล้ว มันกำลังจะพัง กำลังจะแตกและหักกระจายในไม่ช้า เขาเองถึงแม้ไม่อยากให้พ่อกับแม่หย่ากัน แต่เขาก็ทนรู้สึกอึดอัดแบบนี้ต่อไปไม่ไหว

เขากำลังสับสน สับสนเกินไป

เขาเกลียด...เกลียดพ่อ เกลียดผู้ชายคนนั้น เกลียดในสิ่งที่พ่อทำ

พ่อทำร้ายทุกคน ทำร้ายแม่ ทำร้ายเขา ทำร้ายภาณิน แต่ในใจของเขาลึกๆ กลับไม่ได้ต้องการให้มันจบลงที่การหย่า เขาไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กบ้านแตก ขาดความรัก ขาดความอบอุ่นเพราะครอบครัวแยกย้ายกันไปคนละทาง แต่ในสิ่งที่แม่กำลังทำเหมือนแม่กำลังยื้อผู้ชายคนนั้นเอาไว้ ให้เขาทำร้ายเราต่อไปเรื่อยๆ สิ่งนี้มันกำลังทำให้เขาไม่พอใจ เขาไม่ได้อยากถูกทำร้ายซ้ำๆ แบบนี้

เขาเครียด...เครียดเกินไป เขาเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้นเอง อยากใช้ชีวิตแบบเด็กคนหนึ่งแบบเด็กปกติเหมือนคนอื่นไม่ได้เลยเหรอ

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังอยู่ตรงหน้าเขา มีคนยังอยู่ในห้องน้ำอย่างนั้นเหรอ

ก๊อกๆๆ

"มีคนเข้าห้องน้ำอยู่" เขาส่งเสียงตอบออกไป

"ร้องไห้?" เสียงทุ้มหน้าประตูห้องน้ำตอบกลับมาด้วยคำถาม ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเขากำลังเสียใจ

"..."

"ออกมานี่" เขาเลือกที่จะตอบอีกฝ่ายด้วยความเงียบ แต่อีกคนกลับเรียกให้เขาออกไปหา ภีมพลเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออกแล้ว เปิดประตูเดินออกมาที่หน้าห้องน้ำ เขาเจอเข้ากับร่างสูงใหญ่ในชุดนักเรียนกางเกงสีดำ ดวงตาตี่เล็กแต่ก็น่ามอง เมื่อรวมเข้ากับปากกระจับของอีกคนบวกกับจมูกโด่งนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหล่อ เหลือบมองบนปกเสื้อก็เจอเข้ากับจุดสามจุดเช่นเดียวกันกับเขา ผู้ชายตัวสูงหน้าขาวตี๋คนนี้อยู่ชั้นเดียวกันกับเขาไม่ผิดแน่ แต่เขามั่นใจว่าไม่เคยเจออีกฝ่ายมาก่อน

"..."

"..." เราเลือกที่จะพูดคุยกันด้วยความเงียบ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาและเขาเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปเช่นเดียวกัน

"จวิ้น"

"หื้ม?" ผู้ชายตัวสูงพูดผ่ากลางความเงียบออกมาแต่เขาฟังไม่ทัน จึงทำหน้าสงสัยออกไป คนตรงหน้าคงจะเข้าใจจึงพูดอีกครั้งพร้อมกับทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เขา

"จวิ้น"

"จวิ้น...คืออะไร"

"ชื่อกู...จวิ้น"

"อ่า...ชื่อแปลกว่ะ"

"ภาษาจีน" ไม่น่าจะเดายากว่าชื่อของคนตรงหน้าต้องเป็นภาษาจีน ก็หน้าตี๋ซะขนาดนี้

"ภีม ชื่อกู" แนะนำตัวเสร็จสรรพ ความเงียบก็เข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่

"กูเพิ่งย้ายมา"

"ถึงว่าไม่คุ้นหน้า" อีกฝ่ายเริ่มที่จะเล่าเรื่องของตัวเองออกมาบ้าง

"อืม ยินดีที่ได้รู้จัก" คนตรงหน้าเขาเป็นคนนิ่งๆ หน้าตามันยังนิ่งจนเขากลัวแต่ก็ดีเหมือนกันผูกมิตรกันไว้ดีกว่าเป็นศัตรู มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนแบบงงๆ

"กูได้ยินมึงร้องไห้"

"..."

"ขอโทษ" อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ว่าเอ่ยบางอย่างที่มันกระทบจิตใจเขาออกมาถึงได้ขอโทษ ดูเป็นคนใส่ใจคนอื่นผิดกับหน้าตานิ่งๆ ไม่เป็นของเข้าตัว

"ไม่เป็นไร...กูร้องไห้จริง"

"ลองไหม...มันช่วยคลายเครียด" มือขาวของอีกคนยื่นซองสีเงินมาให้เขาข้างในมีม้วนกระดาษหลายม้วนอัดกันอยู่

บุหรี่...นั้นคือสิ่งที่อีกคนหยิบยื่นไมตรีมาให้

"กูไม่เคยสูบ"

"อืม" มือขาวกำลังจะเก็บมันกลับเข้ากระเป๋ากางเกงแต่เขามือไวกว่า ถึงคว้ามันได้ก่อน

"หื้ม?"

"อยากลอง" เขากำลังเครียด และต้องการผ่อนคลาย เขาเคยเห็นผ่านตามาบ้างว่าบุหรี่มันจะช่วยบรรเทาความเครียดได้บ้าง เขาเคยเห็นพ่อสูบตอนที่กำลังเครียดกับงาน

มันน่าจะช่วยเขาได้...ในตอนนี้

"อืม" จวิ้นหยิบม้วนกระดาษสีขาวขึ้นมาก่อนที่จะจุดมันด้วยไฟแช็กและส่งมันมาให้กับเขา แต่เขากลับนิ่งและมองมันอยู่อย่างนั้น ไม่ใช่ว่ากลัว เพียงแต่

"ทำยังไง"

"เอาใส่ปาก...แล้วดูดลมเอาควันเข้า" อีกฝ่ายทำให้เขาดูก่อนแล้วส่งมันให้เขา เขายื่นมือไปรับมาก่อนที่จะใช้มือสั่นๆ ของตัวเองบังคับเอามาชิดปากของตัวเองและคาบมันไว้ ก่อนที่จะดูดลมตามที่อีกฝ่ายบอก

"แค่กๆๆ" แต่เขาก็สำลักควันของมัน รสชาติของมันขมปร่า เขารีบยื่นมันคืนอีกฝ่ายทันที

"หึๆ" เขาได้ยินเสียงหัวเราะมาจากร่างสูงจึงตวัดสายตาค้อนมอง แต่อีกคนก็ยังไม่หยุดหัวเราะ

"ไม่ต้องมาขำ ไม่เอาแล้ว ขมสัส" เขาว่าก่อนจะเดินจากมา ต้องรีบไปเข้าห้องเรียนเพราะเขาออกมาเข้าห้องน้ำนานเกินไปแล้ว แต่ขาที่กำลังจะเดินขึ้นอาคารเรียนก็ต้องชะงักอีกครั้งเพราะเสียงทุ้มต่ำเรียกเอาไว้

"เดี๋ยว!" เขาหันไปตามเสียงก็เจอเข้ากับร่างสูงใหญ่ของอีกคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างกัน

"มึงอยู่ห้องไหน" เสียงทุ้มเอ่ยถาม

"3/1" แล้วเขาก็ตอบมันกลับไป อีกฝ่ายจ้องตาเขาก็จะส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมาแล้วก็บอกแค่ว่า เจอกัน ก่อนจะเดินแยกจากไปอีกทาง



เขากลับมาถึงบ้านพร้อมกับภาณินในตอนเย็นแต่กลับไม่พบใครเลย เขาคิดว่าแม่คงยังไม่ได้กลับมาจากกองถ่ายของพ่อจึงบอกให้ภาขึ้นไปทำการบ้านบนห้องก่อนแล้วเขาจะไปเรียก

Rrrrrrrrrrr

ในขณะที่เขากำลังนั่งรอแม่กลับมาอยู่นั้นโทรศัพท์ของเขามันก็ขึ้นแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊กว่ามีคนส่งคำร้องขอเป็นเพื่อนมาให้ และพอเขากดเข้าไปดูก็พบว่าเจ้าของเฟซคนนั้นคือ

'๋jwin jaron' รูปโปรไฟล์เป็นของผู้ชายตัวสูงที่เขาเพิ่งจะรู้จักวันนี้กำลังพ่นควันบุหรี่อยู่ จวิ้น จารณน์ งั้นเหรอ

นิ้วเรียวกดลงไปยังปุ่มตอบรับคำขอเป็นเพื่อนแล้วก็วางโทรศัพท์ลงเมื่อเขาได้ยินเสียงรถดังมาจากหน้าบ้าน เขาเห็นแม่กำลังบอกลาน้านิ่มก่อนที่จะเดินเข้าบ้านมา แต่ก็ถูกคุณนักเขียนข้างบ้านเรียกเอาไว้ก่อน เขาพูดคุยกันสักพักก่อนที่คุณลุงคนนั้นจะวิ่งเข้าไปในบ้านแล้วกับออกมาพร้อมถุงบางอย่าง เขายื่นมันให้กับแม่ของเขา แววตายิ้มไปด้วย และเขาก็สังเกตว่าแม่ของเขาเองก็มีแววตาแบบนั้นเช่นเดียวกัน

แม่ยิ้มให้กับผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน

คิดมาถึงตรงนี้ใจเขาก็ปวดหนึบขึ้นมา แม่ก็จะทำเหมือนที่พ่อทำร้ายพวกเรางั้นเหรอ ใจร้ายกันไปหน่อยไหม เขากับน้องยังสำคัญสำหรับทั้งสองคนอยู่หรือเปล่า เขาพยายามไม่คิดให้ร้ายแม่แบบนั้นแต่ทุกอย่างก็จะวนกลับมาที่เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น แม่บอกว่าเพิ่งรู้จักผู้ชายตรงหน้า แม่พาเขาเข้ามาทานข้าวเย็นด้วยกัน แม่บอกว่าที่ทำแบบนั้นเพราะประชดพ่อ แล้วมาวันนี้แม่ยืนยิ้มให้เขาอยู่หน้าบ้าน นี่เหรอคนที่เพิ่งจะรู้จักกัน

แม่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน เขาจึงเดินไปยืนรอแม่ที่หน้าประตู ทันทีที่แม่เปิดประตูเข้ามา แม่ก็ชะงักไปก่อนที่จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในเมื่อแม่ต้องการแบบนี้ เขาก็จะทำเหมือนไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน เขาเดินกลับมาบนห้องของตัวเองทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเงียบๆ คิดทบทวนว่าตัวเขากับน้องยังสำคัญกับแม่อยู่หรือเปล่า เขาเกลียด เกลียดความคิด เกลียดความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ มันอึดอัดจนหายใจไม่ออก เขาอยากระบาย อยากพูด อยากร้องไห้แค่กับไม่มีใครสนใจ เขาพยายามแล้วพยายามทำให้แม่รู้ว่าเขารู้เรื่องห่าเหวทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นแล้ว โดยการไม่พูดและเงียบเอาไว้ทำเป็นนิ่งกว่าปกติไม่ได้สดใสเหมือนเดิม แต่เหมือนแม่ก็ยังไม่เคยสนใจเขาอยู่ดี

แม่สนใจแค่น้องมาแต่ไหนแต่ไร

แม่ให้ความสำคัญกับน้องมาตั้งนานแล้ว บอกมาเพราะน้องต้องการคนดูแลปกป้อง วันเกิดน้องแม่จำได้ วันเกิดเขาล่ะแม่ไม่เคยพูดถึง ตอนเขาเข้าม.1 ใหม่ๆ แม่ให้เขากลับบ้านเองไม่เคยไปรับแต่มาตอนนี้แม่ให้เขาดูแลน้องพาน้องกลับบ้านด้วยกัน ช่วงเวลาที่เขาควรจะได้ไปผ่อนคลายกับเพื่อนหลังเลิกเรียนหายไป เกรดเทอมที่แล้วมันตกลงมาเพราะเขาไม่ถนัดวิชาคณิตศาสตร์ มันยากเกินไปสำหรับเขาแม่ดุ แม่ว่าเขาแต่กับน้องแม่บอกไม่เป็นไร บอกให้น้องตั้งใจมากกว่านี้ การกระทำมันต่างกัน มาถึงตอนนี้เขาก็พอจะรู้ว่าถ้าต้องหย่ากันคนที่แม่อยากได้ไปดูแลอาจจะมีแค่น้องก็ได้ ที่แม่ต้องการ

Rrrrrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ของเขาสั่นจากแจ้งเตือนข้อความของใครบางคนที่ส่งเข้ามา เขาเช็ดน้ำตาบนแก้มก่อนที่จะหยิบเอามันมาเปิดดู

Jwin : ทักครับ

ทักครับ เนี่ยนะตลกไปหรือเปล่า

Peam : มีอะไร

Jwin : ไม่มี

Jwin : แค่อยากทัก

หลังจากข้อความนั้นเราก็คุยกันทั้งคืน คุยกันเรื่องไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยและทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น แปลกไหมถ้าจะบอกว่า เขาสบายใจเวลาได้คุยกับใครคนนี้ เราผลัดกันเล่าเรื่องต่างๆและเขาก็เล่าเรื่องปัญหาครอบครัวให้อีกคนฟัง แต่เขาไม่ได้เล่าทั้งหมดแค่บอกว่าตอนนี้เขามีปัญหากับครอบครัวแค่นั้น อีกคนก็ให้กำลังใจเขากลับมาแต่ก็เป็นในแบบของอีกคนนั้นแหละ

Jwin : เครียดก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ระบายกับกูได้

Jwin : แค่รับฟังนะ แนะนำใครไม่เป็น

ตลกดีเหมือนกัน บางทีเขาก็อาจจะแค่ต้องการคนรับฟังบางแค่นั้นเอง



"อย่าลืมทำการบ้านมาส่งพรุ่งนี้ด้วยนะคะ เวรทำความสะอาดด้วยนะ" เสียงของคุณครูบอกเวลาเลิกเรียนแล้ว เขาที่กำลังคิดย้อนถึงเรื่องที่ผ่านมาก็ก้มลงมองนาฬิกาของตัวเอง ตอนนี้เป็นเวลา 15.10 น. เขาเก็บของเข้ากระเป๋าบอกลาเพื่อนและเดินออกมาจากห้องเรียน มุ่งหน้าไปยังหน้าโรงเรียนเพื่อรอภาณินและกลับบ้านพร้อมกัน เขายืนรอน้องชายอยู่หน้าโรงเรียนมาได้ 10 นาทีแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของอีกคน ในขณะที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหา ก็มีมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งมาจอดด้านหน้า คนขับใส่หมวกกันน็อกปิดหน้าปิดตาจนมองไม่ออกว่าใคร

"กลับยังไง" มือขาวเอื้อมไปดึงกระจกของหมวกกันน็อกขึ้นเผยให้เห็นตาตี่ๆ เรียวๆ ของเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์ตรงหน้า

"กลับรถไฟฟ้า" เขาเอ่ยตอบจวิ้นไปก่อนจะกดโทรหาน้องชายของตัวเอง

"ไปส่งไหม" เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเขาอีกครั้ง เขาหันไปสบตากับดวงตาเรียวรีของอีกฝ่ายก่อนที่จะเอ่ยปฏิเสธออกไป

"ไม่ต้องอะ มีน้องกลับด้วย"

"อืม"

"รีบกลับสิ เดี๋ยวรถติดนะ" เขาหันไปเร่งอีกคนให้รีบกลับบ้าน การจราจรตอนเย็นมันติดขัดน่าดูกลัวว่าอีกฝ่ายจะถึงบ้านดึกดื่นเพราะจากที่คุยกันบ้านของอีกคนก็ไกลจากโรงเรียนอยู่

"รู้แล้ว"

"รู้แล้วกะ..."

"พี่ภีม!" เสียงเล็กตะโกนมาจากด้านหลัง ทำไมเขาหันไปมองก็เจอของกับร่างเล็กของน้องชายที่กำลังวิ่งมาทางนี้พอดี

"ทำไมช้าว่ะเตี้ย"

"ทำเวรไง...แล้วเมื่อกี้คุยกับใคร" เขาหันไปมองตามสายตาของร่างเล็กก็เห็นอีกคนที่เพิ่งจะคุยกันเมื่อกี้ขับมอเตอร์ไซด์ออกไปไกลแล้ว

"เพื่อน"

"ใช่เปล่า" ภาณินทำเสียงล้อเลียนพี่ชายของตัวเองก็ถูกเคาะหัวไปหนึ่งทีก่อนจะบอกให้รีบกลับบ้านไปรอทานข้าวเนื่องในโอกาสวันเกิดของเจ้าตัวเล็ก

"รีบกลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวคนเยอะ ต้องไปช่วยแม่เตรียมอาหารด้วย"

"ครับผม" สองร่างจึงเริ่มออกเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน



สองพี่น้องเดินทางมาถึงบ้านแล้วเรียบร้อย ภีมพลเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเปิดประตูให้น้องชายแต่ในบ้านกลับเงียบสนิท เขาคิดว่าแม่อาจจะออกไปซื้อของมาเตรียมวันเกิดให้กับภาณินจึงบอกให้น้องขึ้นไปบนบ้านไปทำการบ้านถ้าแม่มาแล้วเขาจะไปเรียกเอง เมื่อภาณินเดินขึ้นไปด้านบนเรียบร้อยเขาเองก็กำลังจะเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ แต่เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากสวนหลังบ้าน เสียงสะอื้นเบาๆ ลอยมาตามลม ขาเรียวก้าวไปยังประตูหลังบ้านช้าๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดมันออก แล้วเขาก็เจอเข้ากับภาพที่เขาไม่อยากเจอ

ภาพของแม่ที่กำลังร้องไห้และอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อ



...

* 俊 จวิ้น แปลว่า หล่อ นะคะ *

- TBC -

น้องภีมลูกกกกกกกกกกก

ตอนนี้เป็นตอนที่เขียนยากมากๆเลยค่ะ ติชมให้หน่อยนะคะ

มีใครงงไทม์ไลน์มั้ยคะ คือเรื่องในตอนจะเล่าย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่เรนกลับมา

แล้วเหตุการณ์ล่าสุดก็คือวันที่เขมมาคุยกับพัดที่บ้านค่ะ

อยากอ่านเมนท์ทุกคนเลย พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตได้นะคะ ฝากแชร์เรื่องนี้ด้วยน้าา


หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 17-05-2020 20:15:08
นางเขม  ชั้นจะฉาปเธอออออออออออ​ ส่วนน้องภีม​ อย่าคิดไปเองค่ะ​ มีไรสงสัยให้ถามแม่​ อย่าคิดเองเออเองไปคนเดียว​
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-05-2020 23:08:37
ไม่น่ากดเข้ามาอ่านเลยกุ..อ่านแล้ว จิตแตกกระเจิดกระเจิง
 :ling1:

แก้วใบเก่า มันแตก แหลกละเอียด
เก็บไว้แต่ รังเสนียด เกลียดฉิบหาย
อย่าพยายาม มาประกอบ รวมร่างกาย
ให้มันตาย ไปจากเรา เหมือนเผามัน

เคยมีคน บอกว่า ถ้าหาใหม่
มันหมายใจ ไปแล้ว แจวผายผัน
ไม่ต้องรอ มันไม่กลับ ไม่นับวัน
คนอย่างมัน จัญไรเกิน เดินผิดทาง

เพิ่งเข้ามาอ่าน..แต่หมายใจว่านิยายเรื่องนี้ต้องมีจุดจบให้กับคนเลวทราม
นรกน่ะ..ยังน้อยไป ต้องให้พวกมันตายอย่างคนทั้งเป็น ถึงจะสะใจที่แท้ทรู

ไม่ได้สปอยล์คนแต่งนะ..แต่อยากเห็นคนดีได้ครองรักกับคนดี คนเชี่ยก็ให้มันสมสู่อยู่กันไป ฮ่าฮ่า

พัด+นนท์ ---เข้าใจตรงกันนะจ้ะ

บวก 1 ให้คนแต่งเรื่งนี้ เจิดมากกกกก ช้อบชอบ
มาต่อเรื่องบ่อยๆ จะขอบคุณมาก ทุกวันยิ่งดี จุ๊บบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 17-05-2020 23:17:54
ภีมลูกใจเย้นๆนะคะ อย่าคิดไปไกลขนาดนั้นลูก ถึงบ้านแตก มันก็ไม่ได้ทำให้หนูเป็นเด็กปันหานะคะ ตัวหนูตั้งหากลูกที่สร้างให้เป้นแบบนั้น สติหน่อยจ้าาาา แม่ล่ะอยากจะจับมาตีๆ ไปเอาบุหรี่มาสูบได้ไงลูก มียาไส้สอดในนั้นหรือป่าวก้ไม่รุ้ น้อยใจไม่ท่า เราต้องเชื่อใจแม่เราสุดซิ ถามเขาคุยกับเขานะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 18-05-2020 09:03:13
 :ling3:
นุ้งภีมมมม อย่าได้ริลองอะไรที่ไม่ดีนะลูกกกกก
เรื่องนี้เครียดได้อีก บีบหัวใจขึ้นเรื่อยๆเล้ยยยย งื้อออออ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 18-05-2020 15:27:31
เวลาตัวเองเสียใจก็ยังมีพ่อมีแม่คอยปลอบอยู่ข้างกาย แต่ในเวลานี้แม่ไม่มีใครไง ช่วยเข้าใจกันหน่อยนิดนึงนะภีม 555 แต่ก็เข้าใจภีมนะกับความสับสนในตัวคนข้างบ้าน มันยังเร็วไป แผลยังใหม่อยู่ ก็ไม่แปลกที่จะคิดว่าแม่เองก็ทำเหมือนพ่อ ประชดพ่อ ดูเหมือนพัดและภีมต้องจูนกันอีกเยอะ ความคิดไปคนละทางในการเลี้ยงดู/ดูแล พัดอาจคิดว่าภีมโตแล้ว ดูแลตัวเองได้เลยปล่อย ภีมเหมือนจะโตแต่ก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากแม่ จากที่ฟังภีมเล่าพัดก็ดูละเลยภีมจริง น้อยใจ ไม่มีใครให้คำปรึกษา พ่อก็หมดศรัทธา จะไปพึ่งใครทีนี้ เป็นโอกาสดีเลยของนักเขียนคนข้างบ้าน ที่จะให้ภีมยอมรับ 5555 เป็นนักเขียนย่อมมีทักษะการมองคน วิเคราะห์ความรู้สึกได้เก่ง หันมาทางนี้ดีกว่าไปหาจวิ้นนะ ไม่น่าจะหวังดีเท่าไหร่เพราะให้ลองของไม่ดี ไม่พูดตักเตือนกันเลย นนท์ต้องผ่านด่านภีมไปให้ได้อ่ะ เข้าทางลูกก่อนเลยนนท์ จีบเนียนๆให้เป็น 5555555 ภีมต้องได้รับคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ที่คิดดีจึงจะไม่สายเกินไป หึหึ!!

ชอบนะที่ภีมหมดศรัทธาในตัวพ่อ เพราะเวลาหย่าหรือไม่มีเขาจะได้ไม่คร่ำครวญมาก ชอบที่บอกว่า เขาไม่ชอบเลยกับการที่แม่ต้องไปฟาดฟันกับใครเพื่อยื้อพ่อไว้ + ในเมื่อพ่อไม่ได้รักไม่แคร์เราแล้ว แม่จะไปสนใจทำไมกัน ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรๆได้ง่ายนะ แต่ด้วยความเป็นเด็กความคิดยังไม่ตกผลึก ไม่อยากยื้อแต่ก็ไม่อยากปล่อย สับสนในตัวเองสุดอะภีมตอนนี้ 5555555 ไม่ใช่ว่าแม่เขาต้องการปิดบังนะ แต่ด้วยที่คิดว่าลูกยังเด็ก ไม่อยากให้มารับรู้เรื่องคาวๆของผู้ใหญ่กลัวใจจะพากันรับไม่ไหวหากบอกไป บางทีแม่เขาไม่รู้หรอกว่าลูกต้องการอะไร เดินเข้าไปบอกแม่เลยว่าภีมรู้แล้วนะ ถึงว่าไงพัดกับภีมต้องจูนกันอีกเยอะ

ขอบคุณนะคะที่แต่งมาอัพต่อให้ได้อ่านกัน รอตอนหน้าเลยค่า จะเป็นยังไงน๊า 5555 สนุกค่ะ ชอบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 19-05-2020 23:55:43
สวสารพัด หนักใจเรื่องผัวไม่พอ ลูกก็กำลังสับสนด้วย  :katai2-1: :mew2:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 20-05-2020 02:56:36
โอ้ยยยย ภีมอย่าเข้าใจแม่ผิด :sad4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-05-2020 13:02:28
เพิ่งได้อ่านสนุกมาก น้ำตาไหลเพราะสงสารพัด สงสารภีมน้องคงสับสนมากแน่ ๆ
และหวังว่าน้องจะไม่เดินไปในทางที่ผิด หวังว่าเพื่อนใหม่ของน้องจะเป็นเพื่อนที่ดี
ถ้าไม่ดีก็อยากให้น้องกลับตัวทันไม่ประชดพ่อแม่คบคนไม่ดี เฮ้อออออ :เฮ้อ: รอลุ้นตอนต่อไป
และอยากรู้ว่าเรวัตจะจัดการยังไง จะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า หวังว่าจะไม่ยืดยื้อไปนานนะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: zoiesty ที่ 20-05-2020 15:13:04
สงสารทั้งแม่และลูกเพราะความเห็นแก่ตัวของคนๆเดียว :m15:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 5 ความจริงที่ไม่อยากรู้ 100% (17/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-05-2020 16:55:03
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 20-05-2020 18:35:32
บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120%


"มาที่นี่ทำไม" เขาเอ่ยถามคนที่ได้ขึ้นชื่อว่ามือที่สามในความสัมพันธ์ของครอบครัวเขา ถึงสาเหตุการมาปรากฏตัวที่นี่  ที่ของเขาและลูกๆ

"มาคุยครับ"

"ไม่มีอะไรจะต้องคุย" มือเรียวดึงประตูรั้วปิดกลับมาแต่โดนมือของอีกคนดันไว้ซะก่อน

"พี่ไม่คิดว่าเราจะต้องคุยกันให้รู้เรื่องเหรอครับ"

"..."

"ไหนๆ พี่ก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ทำไมไม่มาตกลงกันสักครั้ง"

"..."

"ว่าจะเอายังไง" สมองของพลลภัตม์ประมวลผลตามคำพูดของอีกคน เรื่องนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่าง เขาเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรกับปัญหาในครั้งนี้ ต้องจบมันหรือทนต่อไปเพื่อคำว่าพ่อแม่ลูก บางทีการพูดคุยกันครั้งนี้มันอาจจะทำให้เขามีแนวทางในการจัดการกับเรื่องราวบ้าๆ พวกนี้ก็ได้

"เข้ามา" เอ่ยบอกความต้องการของตัวเอง จากนั้นจึงเดินนำร่างเล็กกลับเข้ามาในบ้านของตัวเอง เดินนำอีกคนไปที่โซฟาแล้วค่อยแยกตัวไปทางห้องครัวเพื่อเอาน้ำมาให้ ถึงจะไม่ชอบหน้าอีกคนแค่ไหน แต่มารยาทพื้นฐานในการต้อนรับแขกเขารู้ดี

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เครื่องมือสื่อสารสี่เหลี่ยมสั่นขึ้นมาในกระเป๋ากางเกงในขณะที่กำลังจะยกน้ำออกไปให้อีกคน เขาหยิบมันขึ้นมาดูถึงรู้ว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ขึ้นรายชื่อ

เบอร์ใครกันนะ

เขาเอานิ้วไปเลื่อนกดตอบรับสายของอีกฝ่าย ก่อนที่จะกรอกเสียงตามลงไป

"สวัสดีครับ"

(สวัสดีครับ คุณพลลภัตม์ใช่ไหมครับ)

"ใช่ครับ"



ผ่านไปประมาณ 10 นาที พลลภัตม์ที่จัดการกับธุระปลายสายเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมายังโซฟารับแขกที่มีร่างเล็กของเขมินทร์นั่งรออยู่ มือเรียววางแก้วใสที่บรรจุน้ำเปล่าลงตรงหน้าอีกคน พลางจ้องมองอีกคนเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกัน แต่เขมินทร์ไม่ได้สะทกสะท้านกับสายตาคมดุจใบมีดของอีกฝ่าย คนตัวเล็กทำแค่หยิบน้ำขึ้นมาจิบพอเป็นพิธีและวางมันลงแค่นั้น ผ่านไปนานหลายนาทีแต่กลับไม่มีเสียงใดเอื้อนเอ่ยออกมา มีเพียงความเงียบที่ลอยคลุ้งไปทั่วบ้านหลังนี้

"มีอะไรจะพูด พูดมา"

"..."

"ฉันจะฟัง" เป็นเสียงของพลลภัตม์ที่เอ่ยออกมาอย่างหมดความอดทน เขาไม่อยากหายใจร่วมโลกกับคนๆ นี้แม้สักนาทีเดียวก็ไม่อยากทำ เขาเกลียดหน้าอีกฝ่ายมากแค่ไหน เขมินทร์ก็เกลียดเขามากเท่านั้นแล้วทำไมยังต้องมานั่งเงียบๆ ไม่รีบพูดสักที ความต้องการของตัวเองสักที

จะยื้อเวลาไปถึงเมื่อไหร่

"ใจร้อน ไม่สมกับเป็นพี่พัดเลยนะครับ" เขมินทร์ส่งเสียงหัวเราะหึหนึ่งครั้งก็จะเอ่ยกระทบอีกฝ่าย

"ฉันไม่อยากเสียเวลากับคนอย่างนาย"

"..."

"เวลาชีวิตของฉันมันสำคัญ" เขมินทร์ใช้สายตามองลึกลงไปในดวงตาของอีกฝ่าย เขากำลังประเมินว่าคนตรงหน้าเขาตอนนี้ มีความรู้สึกอย่างไร โบราณเขาบอกไว้ว่า

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

"หย่ากับพี่เรนซะ" เขมเอ่ยความต้องการของตนออกไปในที่สุด เขามาที่นี่ก็เพื่อมาบอกให้พลลภัตม์รู้ว่าควรทำอะไรในเวลานี้ รู้ทั้งรู้ว่าเรวัตไม่ได้รักตนแล้ว จะยื้อเวลาไปอีกทำไม มันน่ารำคาญ

"หึ"

"ผมไม่เข้าใจว่าพี่จะยื้อไปทำไม พี่เรนเขาไม่ได้แคร์พี่แล้วพี่ก็น่าจะรู้" เขมินทร์เอ่ยทับให้อีกฝ่ายนึกตามคำพูดของตน

"..."

"จากเหตุการณ์ที่กองถ่าย ผมว่าเขาเลือกผมมากกว่าพี่" การที่เรวัตวิ่งเข้ามาห้ามเขากับป้องเมื่อวานมันก็ชัดเจนแล้ว ว่าใครสำคัญกว่ากัน

"เหรอ...ถึงเมื่อวานเขาจะเลือกนายแต่สุดท้ายเขาก็กลับมา" พัดที่ทนฟังเขมพล่ามอยู่นานก็ขอตอบคืนกลับไปบ้าง ถึงเขาจะรู้ว่าเรวัตกำลังหลงเขมินทร์มากแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็แค่ครั้งคราว สุดท้ายอีกคนก็กลับมาเพราะเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเขาก็ต้องปกป้องครอบครัวของเขาภีมพลและภาณินยังต้องการพ่อ ครอบครัวของเรายังต้องการความสมบูรณ์

"..."

"นายคงไม่รู้ว่าผู้ชายมันทิ้งทะเบียนสมรสไม่ได้หรอก" เขมินทร์กำหมัดแน่นจนเล็กจิกลงไปยังฝ่ามือของเจ้าตัว ข้อนิ้วเริ่มขึ้นสีขาวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น

"..."

"ฉันคบกับเรวัตมา 10 กว่าปี ฉันรู้นิสัยเขาดี"

"..."

"ผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบนี้ เขาไม่ยอมทิ้งสิ่งที่ให้ประโยชน์กับตัวเองหรอก"

"..."

"ถ้าเขาจะเลือกทิ้ง...ลองคิดตามฉันดูนะ คนที่เป็นหน้าเป็นตาอย่างฉันกับคนหลังม่านอย่างนายที่มีแต่จะทำให้เสีย"

"..."

"เขาจะเลือกทิ้งใคร" เสียงทุ้มของพัดสิ้นสุดลงก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะของเขมินทร์ทันที เพราะความคิดที่เข้าข้างตัวเองของพลลภัตม์กำลังทำให้เขาขำ พลลภัตม์เหมือนกำลังเพ้อฝันอยู่ในดินแดนแสนสวยเหมือนทุกอย่างสวยงามตระการตา แต่เขาจะเป็นคนที่ฉุดอีกฝ่ายขึ้นมาพบกับความจริงที่มันโหดร้ายสำหรับโลกนี้เอง

"เคยถามเขาแล้วเหรอครับ...ว่าเขาเลือกใคร" เขมินทร์ตอบกลับพลลภัตม์ด้วยคำถาม แววตาที่ชะงักไปของอีกคนทำให้เขารู้คำตอบโดยที่พัดไม่ต้องตอบคำถาม มือขาวของเขมเลื่อนลงไปในกระเป๋าหยิบเอาเครื่องมือสื่อสารสีดำขึ้นมา ก่อนที่จะปลดล็อกมันและทำการอะไรสักอย่าง พัดมองตามการกระทำของเขมินทร์ตลอดเวลาด้วยความสงสัย จนกระทั่ง

'เมื่อไหร่เรื่องมันจะจบสักที' เขาเปิดเทปบันทึกเสียงที่เขาแอบบันทึกเอาไว้เมื่อวานนี้ตอนไปกินข้าวด้วยกันกับเรวัตสองคนที่ร้านอาหารหรู

'พี่กำลังพยายามอยู่' พลลภัตม์เริ่มหน้าซีด เขาจำได้ทันทีเมื่อได้ยินเสียงนี้ เสียงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเขา

'เขมรอพี่มาปีหนึ่งแล้วนะ พี่จะให้เขมรอไปนานแค่ไหน'

'...'

'พี่เรน'

'พี่จะหย่ากับเขาให้เร็วที่สุด' ความเจ็บมันแล่นขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงปลายผม เขาชาไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่าผู้ชายที่เขารักและไว้ใจมีความต้องการที่จะหย่ากับเขา วินาทีที่ได้ยินคำนั้นมันเหมือนมีมีดพุ่งเข้ามาปักที่กลางหัวใจ หลังจากนั้นก็เหมือนมีมือปริศนามาจับด้ามมีดและบิดมันให้ยิ่งเสียดจนมันเจ็บแสบไปทั่วทั้งก้อนเนื้อ เหมือนมันกำลังจะแหลกสลาย เสียงเดียวกับที่เคยบอกรักเขา เสียงเดียวกับที่เคยขอเขาแต่งงาน

เสียงนั้น...วันนี้มันทำร้ายเขา

น้ำตาของพัดเริ่มที่จะไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งเขาพยายามที่จะกลั้นและหยุดมันเท่าไหร่ เหมือนร่างกายมันไม่ฟัง เหมือนหัวใจมันไม่รับคำสั่งแต่ตะโกนกู่ร้องออกมาว่า

เจ็บขนาดนี้ ไม่ต้องกลั้นแล้ว

เขมินทร์มองภาพตรงหน้าด้วยความสะใจ เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาเก็บไว้ในกระเป๋าจากนั้นจึงลุกขึ้นยืนเตรียมตัวที่จะเดินจากไป แต่ก็ที่จะเขาจะได้ก้าวขาออกไปจากบ้านหลังนี้ เขาก็หันมาหาพัดอีกครั้งและกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"หวังว่าพี่...จะทำตามความต้องการของพี่เรนนะครับ"

"ฮึก...ฮึก"

"เป็นผมคงไม่ยื้อไว้ มันไร้ประโยชน์" ขาเรียวก้าวออกจากประตูบ้านและเดินออกไปเรื่อยๆ มีฉากหลังเป็นเสียงร้องไห้ของใครอีกคนที่เขาเพิ่งจะไปทำลายความรู้สึกมา เขมเดินมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าประตูรั้ว มือเรียวผลักประตูรั้วเพื่อเปิดออกจากนั้นจึงเดินตรงไปยังรถของเจ้าตัวที่จอดชิดริมถนนเอาไว้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขึ้นรถเขาก็โดนเสียงทุ้มต่ำเอ่ยรั้ง

"เขม"

"พี่นนท์" เขมินทร์หันไปตามเสียงเรียกก็เจอเข้ากับร่างสูงคุ้นตาของคนตรงหน้า ชานนท์ ปราณกุล คนที่ได้ชื่อว่า

แฟนเก่าของเขา

"ไม่เจอกันนาน ยังหล่อเหมือนเดิมนะครับ" ชานนท์ไม่ได้สนใจคนตรงหน้าเท่าที่ควรเพราะเขาสนใจมากกว่าว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เดินออกมาจากบ้านของคุณพัดได้ เขมินทร์คือแฟนเก่าของเขา เราเลิกกันไปได้สองปีแล้วก่อนที่เขมจะเข้าวงการในฐานะนักแสดง เพราะเขาจับได้ว่าเขมแอบไปมีสัมพันธ์ลับๆ กับเพื่อนของเขา มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราจบลง

"เขมมาทำอะไรที่นี่"

"เขมมาสะสางปัญหาคาใจ"

"เขมรู้จักคนบ้านนี้?" เขาเอ่ยออกถามออกไป

"ครับ...ครอบครัวเดียวกัน"

"..."

"พี่นนท์อยู่แถวนี้เหรอครับ" เป็นทีของร่างเล็กที่เอ่ยถามอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้

"ใช่" ชานนท์ถอยหลังเล็กน้อยเมื่อคนตรงหน้าเดินเข้าใกล้กันเกินไป

"เขมกลับก่อนนะครับ ไว้วันหลังเขมจะแวะมาหา" พูดพลางเขย่งจูบปลายคางของร่างสูงแต่ก็ถูกอีกคนผลักออกมา เขมินทร์หัวเราะน้อยๆ ให้กับปฏิกิริยาของชานนท์ที่มีต่อเขา ก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถหรูและขับออกจากซอยไป ร่างสูงของชานนท์มองตามรถยนต์ของอีกฝ่ายจนลับสายตาจึงกลับมาให้ความสนใจกลับบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า เขาถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านเพราะเขาสังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าการที่เขาเจอเขมินทร์ที่นี่

มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

ขายาวก้าวมาเรื่อยๆ จนถึงประตูหน้าบ้านของพลลภัตม์ เขาเอื้อมมือออกไปผลักบานประตูเข้าไปข้างในก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วก็เจอเข้ากับพลลภัตม์ที่นั่งร้องไห้โฮอยู่ที่โซฟา

"ฮึก ฮือ" เสียงสะอื้นของพัดดังก้องกังวานไปทั่วทั้งบ้านภาพตรงหน้าของอีกคนซ้อนทับกับภาพของเขาในอดีตตอนที่รู้ว่าเขมินทร์นอกใจเขา เขาเดินเข้าไปใกล้กับอีกฝ่ายก็จะยื่นมืออกไปลูบหลังของอีกคน พลลภัตม์ชะงักไปก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองแต่ภาพในม่านสายตาของพัดมันกลับพร่ามัวไปหมดเพราะถูกบดบังด้วยหยดน้ำตาของความเสียใจ เมื่อปรับโฟกัสได้และเห็นว่าเป็นคุณนนท์ เขาก็ร้องไห้หนักขึ้นไปอีกอาจเป็นเพราะสัมผัสแผ่วเบาที่มันปลอบโยนเขา สัมผัสอ่อนโยนเช่นนี้ที่เขาไม่เคยได้รับจากสามีเลย

ตั้งแต่แต่งงานมาเขาแทบไม่เคยได้รับความอ่อนโยนจากใครอีกคนเลย

ชานนท์ปล่อยให้พลลภัตม์ร้องไห้ต่อไปโดยไม่ได้เอ่ยถามถึงสาเหตุของความเสียใจมีเพียงการลูบหลังอีกคนไปมาคล้ายกำลังปลอบโยนอีกฝ่ายอยู่เนืองๆ นานเป็นชั่วโมงอีกคนถึงยอมสงบลงและตอนนี้พวกเขาก็ได้ย้ายจากโซฟาในบ้านออกมานั่งสูดอากาศที่สวนหลังบ้านเพื่อให้สมองมันโล่งมากขึ้น เรานั่งดื่มชาคาโมมายล์ด้วยกันแต่กลับไม่ได้มีเสียงสนทนามีเพียงความเงียบที่ลอยผสมไปกับกลิ่นหอมของชาที่คอยโอบกอดพวกเขาอยู่ในตอนนี้ จากความเงียบก่อให้เกิดความสบายใจขึ้นในความสัมพันธ์และสร้างความไว้ใจขึ้นมาอีกขั้น

"สามีผม...เขานอกใจผม" เสียงแหบติดสั่นของอีกคนเอ่ยออกมาเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้ที่หนักหน่วงกับเรื่องที่พบเจอมาทำให้เสียงของอีกคนแทบไม่เหลือแล้ว พัดพยายามเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้คนตรงหน้าฟัง เล่ามาตั้งแต่แรกที่เขาเจอใบเสร็จค่าที่พักจนถึงเรื่องของคลิปเสียง น้ำตาของพลลภัตม์ก็กลับมาไหลอีกครั้ง เขาเริ่มที่จะเบื่อกับการร้องไห้ให้ผู้ชายคนนี้แต่เขาก็หยุดร้องไม่ได้ และเริ่มร้องหนักขึ้นเมื่อนึกถึงคำหลอกลวงที่ผู้ชายที่ชื่อว่าเรวัตเคยให้กับเขาเอาไว้

ชานนท์มองเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ เขาเคยเป็นอย่างพลลภัตม์มาก่อนเขารู้ว่ามันยากที่จะต้องยอมรับความจริงว่าคนที่เคยบอกว่ารักตอนนี้ไม่ได้รักเขาแล้ว กว่าที่เขาจะก้าวข้ามผ่านความรู้สึกนั้นได้มันต้องใช้เวลาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น เราไม่มีทางลืมเขาได้ เราลืมคนที่ทำร้ายเราไม่ได้หรอกแต่เราสามารถที่จะไม่เจ็บกับสิ่งที่เขาเคยทำได้

ถ้าวันไหนเราไม่รู้สึกหรือเจ็บกับเขาอีกแล้ว...วันนั้นคือวันที่เราเดินจากมันมาได้แล้ว

เขาเอื้อมแขนไปโอบไหล่ของอีกคนดึงให้มาซบลงที่อกของตัวเอง พลางใช้มือลูบหลังไปมา ตอนนี้พลลภัตม์ไม่ได้ต้องการความคิดเห็นจากใคร เขาแค่ต้องการใครสักคนที่อยู่ข้างๆ และรับฟังเขาเงียบๆ แค่นั้นก็พอแล้ว

"แม่" เสียงเล็กเอ่ยออกมาจากทางด้านหลังของพวกเขา พัดและนนท์หันไปตามเสียงเรียกจึงเจอเข้ากับภีมพลที่อยู่ในชุดนักเรียน ยืนอยู่ที่หน้าบานประตูหลังบ้านที่เชื่อมกับสวน

"ทำอะไรกัน" เสียงเล็กเค้นถามออกมาอีกครั้งเมื่อไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก ใบ้หน้าของภีมพลที่พัดเห็นตอนนี้พาลอยากจะทำให้เขาร้องไห้มากขึ้นไปอีก มันคือหน้าของคนผิดหวังและเสียใจ ภีมพลไม่อยู่รอฟังคำแก้ตัวใดๆและหันหลังเดินกลับเข้ามาในบ้านทันที ทำให้พลลภัตม์ต้องวิ่งตามมาและฉุดแขนของอีกฝ่ายไว้

"ฟังแม่อธิบายก่อน...ฮึก...นะ" พลลภัตม์พูดไปร้องไห้ไปอย่างน่าสงสาร แต่เพราะม่านน้ำตาบดบังเขาจึงไม่เห็นว่าภีมพลเองก็กำลังร้องไห้อยู่เช่นเดียวกัน

"งั้น...ฮึก...แม่ก็พูดมา....ฮึก ว่าแม่กำลังทำอะไรกับเขา!" ภีมพลพยายามกลั้นเสียงสะอื้นสุดความสามารถของตนเองก่อนจะเรียบเรียงประโยคและเอ่ยถามคนที่มีศักดิ์เป็นมารดาของเขา

"พ่อ...ฮึกพ่อเขานอกใจแม่...ฮือ" นนท์ที่เห็นพัดเริ่มสะอื้นหนักขึ้นมาอีกครั้งจนน่าสงสาร เขาจึงเดินเขาไปประคองพาทั้งสองคนมานั่งลงที่โต๊ะในสวนหลังบ้านเพราะเขากลัว กลัวว่าจะภาณินจะมาได้ยินความจริงที่แสนเจ็บปวดนี้ เมื่อมาส่งทั้งสองแม่ลูกนั่งลงที่โต๊ะได้แล้ว เขาก็ขอแยกตัวออกไปเพราะเขาคิดว่าเรื่องนี้ควรปล่อยให้ทั้งสองคนได้คุยกันเป็นการส่วนตัวจะดีกว่า ส่วนตัวเขาเองก็แยกขึ้นไปหาภาณินบนห้องเพื่อดึงอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ลงมาข้างล่าง

ผ่านไปนานหลายนาทีพัดและภีมก็เริ่มที่จะสงบลง พลลภัตม์พยายามควบคุมสติและเริ่มเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ลูกฟังแม้เสียงจะสั่นไปบ้าง แต่เขาก็เล่าจนจบเขาพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่กำลังไต่ขึ้นมาอีกครั้งพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองที่กำลังจะไหลให้กับเรื่องเฮงซวยนี้อีกครั้ง เขาไม่อยากให้ลูกมองว่าเขาอ่อนแอ

"ผมรู้...รู้มาตั้งนานแล้ว" เสียงเล็กของภีมพลเอ่ยบอกกับคนเป็นแม่ก่อนที่จะเริ่มร้องไห้ออกมาเงียบ

"ภีม"

"ผมรู้...รู้ว่าพ่อนอกใจแม่ รู้ว่าพ่อหักหลังเราแต่แม่อย่าทำแบบพ่อได้ไหม ฮึก"

"ได้โปรดอย่าทำร้ายผมกับน้องเหมือนที่พ่อทำ ฮึก...ฮือ" น้ำตาของภีมพลทำให้พัดรู้สึกเจ็บในใจ น้ำตาของลูกเหมือนน้ำกรดหยดลงกลางใจเขา มันกำลังทำให้เขาเจ็บเหมือนหัวใจกำลังแหลกละเอียด

เขากำลังเป็นคนทำร้ายลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ

"ฮึก...แม่กับคุณนนท์เราไม่มีอะไร เขาคะ...แค่อยู่เป็นเพื่อนแม่"

"ฮึก...ฮือ" พัดดึงตัวภีมพลเข้ามาในอ้อมกอดและปลอบประโลมอีกฝ่ายด้วยความรักที่เขามีให้

"เชื่อใจแม่นะ...ฮึก...แม่ไม่เคยคิดทำร้ายลูก ฮือ" ทั้งสองกอดกันร้องไห้จนเหนื่อยอ่อน ปล่อยให้เวลาผ่านไป พัดผ่านไปเรื่อยๆ นานมากขึ้นพายุอารมณ์ของคนทั้งคู่จึงค่อยๆสงบลง แต่ทั้งคู่ก็ยังกอดกันไม่ได้ปล่อยกันไป

"แม่จะทะ...ฮึก ทำยังไงต่อ" ภีมพลเอ่ยถามอีกฝ่ายถึงการตัดสินใจในเรื่องนี้ เขาอยากรู้ว่าแม่จะทำยังไงจะทนอยู่ต่อไปเพื่อคำว่าครอบครัวจอมปลอมหรือเลือกที่จะถอยออกมา

"ภีมอยากให้แม่ทำยังไง" พัดเอ่ยย้อนถามอีกฝ่าย การตัดสินใจในเรื่องสำคัญที่มีพื้นฐานของปัญหามาจากครอบครัวก็ควรให้ลูกมีสิทธิ์ในการออกความคิดเห็นด้วย เขาไม่อยากถูกมองว่าเขาไม่สนใจในความรู้สึกของลูกเพราะลูกสำคัญกับเขามากที่สุดในตอนนี้ และเขาต้องรักษามันไว้ให้ได้

"ภีมมะ...ไม่รู้ ภีมไม่รู้" เขาอยากให้แม่หย่าเพื่อความสุขของแม่เอง แม้เขาจะเกลียดผู้ชายคนนั้นแต่ภายในตัวเขากับยังบางเสียงในใจที่บอกว่ายังรักและห่วงผู้ชายคนนั้นเสมอ เขากำลังสับสนแต่เขาก็ไม่อยากให้แม่ทนอีกต่อไป เขาสงสารแม่ แต่เขาก็ยังอยากให้มันเป็นครอบครัวด้วยกันอยู่ เขาเกลียดความรู้สึกนี้ชะมัด

พัดเองมีความคิดที่จะยื้อคำว่าครอบครัวเอาไว้เพื่อรักษามันแต่เขาไม่รู้ว่ามันจะดีกับลูกและดีกับตัวเขาเองจริงๆ หรือเปล่า เขาไม่แน่ใจว่าต้องตัดสินใจยังไง ถ้าเขาหย่าภีมและภาจะรับได้ไหมที่จะไม่ได้เจอพ่ออีก เขาจะรับได้ไหมถ้าเราต้องแยกกันใช้ชีวิต เขาจะรับได้ไหมถ้าถูกสังคมจับตามอง

มันยากไปหมด

"แม่จะคุยกับพ่อเอง เรื่องต้องจบ"

"..."

"แม่จะไม่ให้เรื่องนี้มันมาทำร้ายเราอีก แม่สัญญา" เขากอดภีมพลแน่นขึ้นไปอีกแทนคำมั่นสัญญาว่าจะดูแลและปกป้องภีมและภาให้ดีที่สุด

"แม่ พี่ภีม" เสียงภาณินร้องเรียกพวกเขาทั้งสองคนก่อนที่จะตามมาด้วยร่างเล็กของเจ้าตัววิ่งเข้ามาหา

"ร้องไห้ทำไมครับ เกิดอะไรขึ้น" ภาณินช้อนตามองคนทั้งคู่ก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อนทำเอาคนเป็นแม่อย่างพลลภัตม์จะหลั่งน้ำตาอีกรอบ

"ไม่มีไรหรอกเตี้ย แม่แค่ดุกูเรื่องทำตัวไม่น่ารัก" เป็นภีมพลที่เอ่ยแก้ตัวออกไปเพราะเขารู้ว่าภาณินยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับความเจ็บปวดแบบนี้ ก่อนที่จะปาดน้ำตาออกแล้วลากตัวน้องชายให้ออกมาจากมารดาโดยอ้างว่าแม่จะไปเตรียมของทำอาหารสำหรับวันเกิดของเจ้าตัวเอง ภาณินแม้จะยังไม่เชื่อแต่ก็ยอมเดินตามพี่ชายของตนออกมาแต่โดยดี พลลภัตม์เองก็สงบสติอารมณ์ก่อนที่จะเดินกลับเข้ามาในบ้านเพื่อไปทำอาหารเตรียมพร้อมสำหรับมื้อเย็นนี้ ขณะที่กำลังเดินไปยังครัวเขาก็เห็นนนท์กำลังหยอกล้อกับภาณินอยู่ที่โซฟาอย่างสนุกสนาน ภาพตรงหน้าเรียกรอยยิ้มจากเขาได้อีกครั้ง

เขาแค่ต้องการให้ลูกมีความสุขแค่นั้นเอง



กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง

เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้คนในบ้านทุกคนต่างสนใจกันว่าใครมากดกริ่งในเวลาหนึ่งทุ่มแบบนี้

"สงสัยจะเป็นของที่ผมสั่งไว้น่ะครับ" เป็นชานนท์ที่เอ่ยออกมาก่อนจะรีบวิ่งออกไปยังหน้าประตูรั้วเพื่อรับเอาของที่ตนสั่งจากคนขับรถส่งอาหารเข้ามาด้านใน พลลภัตม์ที่จัดโต๊ะสำหรับมื้อเย็นเสร็จแล้วก็ยืนมองชานนท์หิ้วถุงบางอย่างเดินกลับเข้ามาอย่างสนใจ

"อะไรเหรอครับ"

"เพราะว่าวันนี้ ผมเห็นคุณพัดยุ่งๆ คงจะลืม" ชานนท์เอื้อมลงไปในถุงหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาก่อนจะยื่นให้พัดดู เขารู้ว่าวันนี้คุณพัดเจอเรื่องหนักๆ มาตั้งแต่เช้าและคงลืมที่จะสั่งเค้กสำหรับวันเกิดของภาณินเพราะตอนที่เขาเปิดตู้เย็นเขาไม่เจอเค้กวันเกิด เขาจึงโทรสั่งมาให้ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดจากเขา เขาแอบเนียนถามภาณินแล้วว่าเจ้าตัวชอบเค้กรสอะไร และเขามั่นใจว่าภาณินจะถูกใจ

"เค้กเหรอครับ"

"ใช่ครับ"

"เค้กช็อกโกแลต!!!" ภาณินกระโดดโลดเต้นไปมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นของที่ตัวเองชอบอยู่ตรงหน้า

"ขอบคุณนะครับคุณนนท์"

"ขอบคุณมากครับคุณน้า"

"สุขสันต์วันเกิดนะครับเด็กดีของน้า" เขาย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอวยพรวันเกิดให้กับเด็กตัวเล็กตรงหน้าพลางยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายไปมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขอตัวกลับโดยอ้างว่าต้องกลับไปปั่นต้นฉบับต่อจึงไม่อาจอยู่ร่วมทานอาหารด้วยได้ ทั้งๆ ที่ความจริงเขาอยากอยู่ด้วยมากแค่ไหนแต่เพราะรู้ว่าถ้าเรวัตกลับมาแล้วเจอเขาเข้า วันเกิดของหนูน้อยที่เขาเอ็นดู

คงจะพังยับไม่เป็นท่าทั้งงานและความรู้สึกของเด็กๆ

หลังจากที่ชานนท์ขอตัวกลับบ้านไปเขาและลูกๆทั้งสองก็นั่งรอเรวัตกลับมาจากทำงานที่โต๊ะทานอาหารอย่างพร้อมหน้า แววตาของภาณินคอยเหลือบมองไปที่นอกบ้านอยู่เสมอ เขารอพ่อมาตลอด ตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเราก็ไม่ได้ฉลองวันเกิดร่วมกันอีกเลย และวันนี้พ่อก็สัญญา

สัญญาแล้วว่าจะกลับมาฉลองวันเกิดด้วยกัน

จากหนึ่งทุ่มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสองทุ่มจากสองทุ่มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสามทุ่ม ก็ยังไม่เห็นเงาของเรวัตโผล่มา ภาณินเริ่มหมดความหวังลงทีละนิดแต่ก็ยังหวังว่าพ่ออาจจะเลิกงานช้า พัดเองที่คอยมองลูกอยู่ตลอดเวลาก็เริ่มสงสารลูกขึ้นมา ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์โทรหาเรวัตเพื่อถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว

หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขนาดนี้

ไม่สามารถติดต่อเรวัตได้ เขาได้แต่ภาวนา ภาวนาว่าอีกคนคงจะไม่ลืมวันเกิดของลูกชายและขอร้องอ้อนวอนต่อหน้าพระเจ้า ว่าอย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย

"เราเป่าเค้กกันก่อนไหมครับ เดี๋ยวคุณพ่อคงกลับมา" ตอนนี้เป็นเวลา 22.30 น. แล้ว เรวัตก็ยังไม่กลับบ้านมา ความสดใสในตอนแรกของภาณินเริ่มหายไปทีละนิดๆ จนตอนนี้ภาณินไม่เหมือนเมื่อตอนหัวค่ำอีกแล้ว เขาเงียบ เงียบจนน่ากลัว เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น ภาณินพยายามข่มอารมณ์น้อยใจของตัวเองที่มันกำลังปะทุขึ้นมา

"คุณพ่อ...ลืมใช่ไหมครับ"

"ภา"

"คุณพ่อ...ฮึก....คุณพ่อลืมวันเกิดน้องภาใช่ไหม" ภาณินเอ่ยเสียงสั่นก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้และวิ่งขึ้นห้องไปโดยมีเสียงตะโกนเรียกพลลภัตม์ตามหลังมา

"ภา...ภาลูก...น้องภา" ภาณินปิดประตูและขังตัวเองเอาไว้ในห้องก่อนจะกอดเข่าและร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เสียงสะอื้นดังออกมาจากห้องจนทำให้พลลภัตม์น้ำตาคลอตามไปด้วย เขายืนอยู่หน้าห้องลูกแต่ไม่กล้าเคาะเรียกลูก ใจเขาเหมือนมันถูกกรีดด้วยใบมีดจนมันพังยับเยินไปหมดแล้ว

Rrrrrrrrrr

โทรศัพท์ของเขาสั่นแสดงให้เห็นว่ามีข้อความเข้ามาจากไลน์ของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย

Rain : ส่งรูปภาพ

Rain : วันนี้พี่เรนคงไม่กลับนะครับ ฉลอง Anniversary 1 ปีกับผมทั้งคืน

รูปของเรวัตที่นอนอยู่บนเตียงโดยที่ร่างกายเปลือยเปล่า แค่นั้นมันก็พอแล้วพอที่จะทำให้เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขายืนแทบไม่ไหวเมื่อเขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นเลือกเด็กนั้นมากกว่าครอบครัวของตัวเอง เขาไม่มาวันเกิดลูกเพราะมัวแต่ไปนอนกับมัน ขาของพัดอ่อนแรงจนเหมือนไม่มีแรงเขาทรุดตัวลงพิงประตูหน้าห้องของภาณินและเริ่มที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องกลั้นเสียงเอาไว้ เขาไม่อยากให้ลูกรู้ว่าเขากำลังอ่อนแอ เขาต้องเข้มแข็ง

เขาต้องทำอะไรให้มันถูกที่ถูกทางได้แล้ว



แสงของดวงอาทิตย์สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในตัวบ้านเป็นเหมือนสัญญาณเริ่มวันใหม่ ทุกคนต้องลุกขึ้นมาใช้ชีวิตอีกครั้งหลังจากการนอนหลับพักผ่อน แต่ผิดกับพลลภัตม์ที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ เพราะเขานั่งรอสามีของเขามาตั้งแต่กลางดึกจนถึงรุ่งเช้า

เสียงรถยนต์ที่ดังอยู่หน้าบ้านเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าอีกคนกลับมาถึงบ้านแล้วเรียบร้อย รถยนต์คันหรูจอดสนิทในที่จอดรถก่อนจะปรากฏร่างสูงของเรวัตที่เดินกลับเข้ามาภายในตัวบ้าน ด้วยสภาพอิดโรยเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน

"พัด" เรวัตเอ่ยทักอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ที่โซฟาก่อนที่พัดจะเดินเข้ามาหาเขาช้าๆ และหลังจากนั้น

เพี๊ยะ

มือขาวของพลลภัตม์ฟาดลงบนแก้มของเรวัตในทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ มันแรงมากจนเรวัตเซถลาไปข้างหลัง เขารู้ว่าเรวัตเจ็บแต่นั้นยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเขาและลูก

"นี่มันอะไรกันพัด!"

เพี๊ยะ

เขาฟาดมันลงไปอีกครั้งทันทีที่เจ้าตัวเอ่ยปากถามเขาออกมาถึงสาเหตุที่เขาตบหน้าอีกฝ่ายแบบนี้

"พัด!"

"พัดจะหย่า!"



...

- TBC -

เราอยากอ่านเมนท์ทุกคนเลย เมนท์ติชมให้ด้วยน้าาาา

พูดคุยกันได้ในทวิตนะครับ แท๊กนี้เลย #เกมนอกใจ เราอยากคุยกับทุกคนน้า

ไปพูดคุยกันได้ในทวิตนะ >> https://twitter.com/lopittupp

ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะค้าบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 20-05-2020 19:24:45
ทำดีมากลูกภีมของแม่คุยกันเราเป้นครอบครัวเดียวกัน

แต่พัดไม่น่าแค่ตบเลย น่าจะถีบยอดอกไปเลย คนเลว สันดานเสีย!!!
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 20-05-2020 19:48:24
ผช.เลวๆแบบนี้เอาให้หนักให้หลาบจำ
ให้มันสำนึกแช้วทิ้งมันซะ
คุณนนรออยู่
อิอิ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 20-05-2020 20:30:22
ห้ามหย่าเฉยๆนะพัด ต้องฟ้องหย่าด้วย มีหลักฐานเป็นรูปแล้วว  จัดการสอบคนนั้นให้ฉาวไปเลยค่ะะะ  :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 20-05-2020 23:27:47
 :katai2-1: ต้องแบบนี้ ฟ้องหย่าเลย หลักฐานเพียบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-05-2020 23:41:05
อยู่ที่เธอ ตัดสินใจ จะไขว่คว้า
อยากได้มา ความทุกข์ หรือสุขสม
ขยะเปียก ขยะเน่า เคล้าอาจม
หรือของหวาน จานขนม จะอมคาย

ถ้าทำผิด ครั้งที่หนึ่ง พึงซ้ำสอง
คนเคยลอง จะซ้ำสาม ตามไม่ไหว
ก็เป็นเพราะ ไอ้คนนั้น มันจัญไร
เห็นแก่ตัว เต็มจิตใจ ไร้ลูกเมีย
 :z6:

ไอ่เรน..ไปตายให้หนอนแดรกซะเมิง
อิเขม..ไปเป็นหนอนตามไช้ ตามไชซากเน่าๆชู้เมิง ไป๊

แต่เค้าจองคุณนนท์แล้วนะ อิอิ
จะยกให้พัดในเวลาที่เหมาะสม จ้า

ชูป้ายเชียร์นนท์ เมื่อพัดไร้พันธะใดๆ กับไอ่ปั๋วเลวๆ พรรค์นั้น

+1 ให้คนแต่ง ฮับ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 21-05-2020 01:57:26
ฟ้องอย่าเลย เอาหนักๆไปเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 21-05-2020 02:12:22
เราไม่อยากให้พัดหย่าอะ คืออยากให้สู้อะร้องไห้ครั้งาดทเายครั้งนี้พอ แล้วเดินหน้าต่อตาต่อตาฟันต่อฟัน คนแบบเรนไม่ต้องสนใจ อยู่แบบนี้นี่แหบะไม่รักก็รักลูกพอคิดซะว่าเป็นผัวเมียกันในนามพอ นึกถึงสามีสีทองที่ พัดเป็น แคท เรนเป็น ฟลุ๊ค เลยอะ โอ้ยยชอบบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 21-05-2020 09:00:34
 :katai1:
น่าจะตัดให้เป็ดกินด้วย หื้มมมมมมม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-05-2020 09:07:01
 :katai2-1:
 o13
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 21-05-2020 12:05:55
พูดมันออกมาแล้ว คืนคำไม่ได้นะ หึหึ! อย่าช้าละก่อนที่ลูกจะมีปัญหามากกว่านี้เพราะเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อย โอ๊ยยยยชอบเขมตัวร้าย ต้องขอบคุณเลยนะที่ทำแทนใจตรู ตอนเปิดคลิปเสียงว่าเรนจะหย่านี่แบบ เอ้อออ ให้มันได้ยังงี้สิวะ พัดจะได้ไม่เดินอยู่ทุ่งวาเลนเดอร์นาน 55555 //แม่ลูกคุยกันสักที แต่ก็ยังคงสับสนอะภีม ผู้ใหญ่ต้องคิดแทนแล้วละว่าทางไหนเหมาะสมหรือดีไปกว่าที่เป็นอยู่ไม่มากก็น้อย //โอ้วว ตอนรู้ว่าเขมคือแฟนเก่านนท์นี่ยอมรับเลย อึ้ง มันบับเหี้ยไรเนี้ย!! 555 หักคะแนนความไม่พอใจ -1 แต่ตอนที่ซื้อเค้กเซอร์ไพร์สวันเกิดภา โอ๊ยยยยทำไมเป็นคนอบอุ่นแบบนี้ +10  ฮ่าๆๆ โดนนอกใจมาทั้งคู่จากคนเดียวกันด้วย เขมวิ่งรอบตัวคนพวกนี้อะเออ 5555 เขมก็ร้ายแบบเปิดเผยดีทำให้เมียหลวงรู้เห็น ก็ดี ชอบนะ ไม่ต้องจ้างนักสืบหรือเหนื่อยจะสืบเองถ้าสงสัยหรือมันปิดบังเราอยู่ รู้เห็นชัดๆกันไปเลย //อยากจะหย่า พอเขาขอหย่าจริง หึ!! ดูน้ำหน้าแล้ว *เบ้ปาก ส่ายหัว* 555

สนุกกกก ขอบคุณนะคะที่แต่งมาต่อให้ได้อ่านกัน มันส์มาก รอดูกันต่อเลยจะเอาไงเรน ว่ามาเลยพัด 5555  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 21-05-2020 12:09:01
 :o8:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: zoiesty ที่ 21-05-2020 14:55:02
อย่าไปยอมมันนะผัวเลวๆแบบนี้ รอตอนเอาคืนอย่างสาสม :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 6 ไม่เห็นค่า 120% (20/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 22-05-2020 07:06:34
ไหน ๆ จะหย่าแล้วก็ประกาศให้มันรู้กันไปเลย ว่ามีมือที่สามมาทำให้เรื่องมันเกิด เอาให้มันดับไม่ได้เกิดเลย แล้วอยากรู้จริงคนอยากเขมถ้าได้เรนไปจริง ๆ มันจะมีความเชื่อใจกันได้อีกหรือ คนมันเคยนอกใจอีกคนก็ไม่เคยมีสำนึกชอบแย่งคนอื่นแบบนี้ ก็เข้ากันดี
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 23-05-2020 18:03:01
บทที่ 7 แก้วที่แตก 120%

"พัด!"

"พัดจะหย่า!" เสียงทุ้มของพลลภัตม์ดังก้องไปทั่วทั้งบ้านหลังใหญ่ มันเสียดแทงเข้าไปในใจของเรวัตจนกลายเป็นแผลเหวอะหวะ ในที่สุดวันนี้มันก็มาถึง วันที่อีกคนพร้อมที่จะเดินจากเขาไป

"พัด"

"พัดจะหย่า พัดจะไม่ทนกับพี่อีกแล้ว" เสียงของพลลภัตม์ติดสั่นเล็กๆ เหมือนกำลังพยายามคุมอารมณ์ของตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาหมดความอดทนกับผู้ชายคนนี้แล้ว ทันทีที่เขารู้ว่าผู้ชายคนนี้ให้ความสำคัญกับเด็กคนนั้นมากกว่าลูกของตัวเอง

มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องจะทนเจ็บอยู่ตรงนี้

"พี่ไม่หย่า!" เรวัตตะคอกเสียงพร้อมทั้งพุ่งเข้ามาจับไหล่ของคนที่รูปร่างเล็กกว่าตนเองเล็กน้อยเอาไว้

"พี่เรน ปล่อยพัด!"

"พี่ไม่หย่า! ไม่หย่าอะไรทั้งนั้น!" เรวัตเขย่าตัวพลลภัตม์ไปมาเหมือนคนขาดสติ

"พี่เรน พัดเจ็บ!" พลลภัตม์รวบรวมแรงในกายผลักให้ร่างสูงเซถลาไปด้านหลังจนอีกคนล้มลง เสียงการทะเลาะกันของคนทั้งคู่มันดังมากพอที่จะปลุกให้เด็กทั้งสองคนในห้องนอน ตื่นขึ้นมาได้ภีมพลเดินลงจากบันไดมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพที่เขาเห็นมันทำให้เขาเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก

แม้เขาจะอยากให้แม่หย่ากับพ่อ

แต่เขาก็ไม่อยากเห็นภาพตรงหน้านี้

ภีมพลนั่งลงที่ขั้นบันไดอย่างเงียบๆ และร้องไห้ออกมา เขาปล่อยให้น้ำตามันไหลโดยที่ไม่คิดจะใช้มือเช็ดมันออกด้วยซ้ำ เขาร้องเพราะเขากำลังสับสนเขาเกลียดผู้ชายคนนั้น เกลียดมาก ที่หักหลังเขาและแม่แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารักผู้ชายคนนั้นมากเช่นเดียวกัน เขาไม่แน่ใจว่าอยากให้เรื่องนี้มันจบลงแบบไหนกันแน่หรืออาจไม่ใช่แบบนี้

"ออกไปซะ! ออกไป" พลลภัตม์ตะโกนไล่อีกฝ่ายเสียงดังลั่น พลางหมุนตัวไปหยิบเอากระเป๋าเดินทางของเรวัตที่เขาเก็บของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าของอีกคนไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เอามันโยนออกไปนอกประตูบ้าน แล้วจึงหันกลับไปสั่งกับเรวัตเสียงเย็น

"ออกไป แล้วพัดจะส่งทนายไปจัดการ" เขาพูดโดยที่ไม่มองหน้าอีกฝ่าย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขามันกำลังไต่ระดับขึ้นสูง สูงมากเกินไปจนกลัวว่าจะเผลอทำร้ายใครจนถึงแก่ความตาย

"พี่ไม่หย่า"

"พี่ยังต้องการอะไรจากพัดอีก! ทั้งๆที่สิ่งนี้พี่ต้องการไม่ใช่หรอ!"

"..."

"พี่บอกเขาไม่ใช่หรอ ว่าจะหย่ากับพัดให้เร็วที่สุด!" เขาไม่เข้าใจเหตุผลและการกระทำของผู้ชายคนนี้สักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ไปบอกกับอีกคนว่าจะพยายามหย่ากับเขาให้เร็วที่สุด มาตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะปล่อยอีกคนไปแล้วทำไมถึงมาบอกว่าไม่ต้องการจะหย่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเหมือนเขาไม่เคยรู้จักคนตรงหน้าเลย เขาไม่คุ้นเคยกับพฤติกรรมและบุคลิกนี้ของเรวัตมาก่อน

คนตรงหน้าเขาเป็นใครกันแน่

"ถ้าพี่หย่าแล้วลูกล่ะ" เรวัตเริ่มที่จะใช้คำว่าครอบครัวมารั้งอีกคนไว้ไม่ให้ทิ้งกันไป

"คนที่ลืมวันเกิดลูกแล้วไปกกอยู่กับเมียน้อย กล้าถามคำนี้ด้วยเหรอ!" ตอนนี้สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างเรนและพัดไม่ได้ใช้เหตุผลในการทำศึก หากแต่เป็นศึกของอารมณ์ล้วนๆ

"วันเกิด?"

"เมื่อวานวันเกิดภา" เสียงของพัดเริ่มที่จะกลับมาสั่นอีกครั้ง เรื่องอื่นๆ เขาอาจจะเข้มแข็งพอที่จะต่อสู้กับมันได้แต่กับเรื่องของลูกแล้ว เขาไม่ได้เข้มแข็งมากเท่าที่ควร เรื่องของลูกสำหรับเขามันสำคัญเป็นอันดับหนึ่งอาจจะมากกว่าชีวิตของเขาด้วยซ้ำ

"พัด...พะ"

"พี่ไม่มาทั้งๆ ที่พี่สัญญากับลูกไว้แล้ว แต่พี่ก็ไม่มา!" พัดไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปน้ำตาของเขามันไหลออกมาจากหนึ่งหยด เป็นสองหยด และต่อนี้มันก็ไหลออกมาเป็นสายยาว เขายังไม่เข้มแข็งพอจริงๆ

"พี่ไปเคลียร์กับเขมมาแล้ว เขาจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเราอีก" เรวัตเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาหายไปแล้วไม่ได้กลับมาฉลองวันเกิดของภาณินกับครอบครัว เขาไปหาเขมินทร์เพื่อที่จะเคลียร์เรื่องทุกอย่างและมันก็เรียบร้อยดี เขมินทร์รับปากว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับครอบครัวของเขาอีก เรวัตพยายามอธิบายและเดินเข้าไปหาพัดช้าๆ

แต่พัดกลับก้าวถอยหลังในทุกครั้งที่เรวัตเดินเข้ามาหา

"ไม่มายุ่งวุ่นวาย...พี่เลิกกับเขาแล้ว" พัดเอ่ยเสียงสั่นถามอีกฝ่าย แต่กลับไม่ได้รับคำตอบมีเพียงแววตารู้สึกผิดและความเงียบ แค่นี้ก็เป็นคำตอบที่มากพอแล้วสำหรับเขา ในบางครั้งความเงียบมันก็ตอบคำถามได้ดีมากกว่าคำพูด

"พี่ขอให้เขาไม่มาวุ่นวาย แต่พี่ก็ไม่ได้เลิกกับเขา" เรวัตนิ่งงันไปหลังจากที่ได้ยินเสียงของพัดเอ่ยออกมา ทุกอย่างเป็นความจริงเหมือนที่อีกฝ่ายพูด เขาไปขอร้องให้เขมินทร์อยู่ในพื้นที่ของตัวเองอย่ามาล้ำเส้นครอบครัวของเขา แต่เขาไม่ได้บอกเลิกอีกฝ่าย เขาทำใจปล่อยอีกคนไปไม่ได้ พอๆ กับที่ปล่อยพลลภัตม์และลูกไปไม่ได้

เรวัตพยักหน้าตอบเขาแทนคำพูดแค่นั้นมันก็ทำให้ใจของเขาแหลกละเอียดมากกว่าที่เป็นอยู่ เขาแทบยืนไม่อยู่จนสุดท้ายก็ล้มพับลงไปนั่งอยู่กับพื้นที่และก็หัวเราะออกมาเหมือนคนเสียสติ เรวัตกำลังทำเขาเป็นบ้ามากขึ้นทุกที

"พี่ขอโทษ แต่พี่หย่าไม่ได้" สิ้นเสียงของอีกคน พลลภัตม์ก็ลุกขึ้นมายืนอีกครั้งก่อนจะตวาดไล่เรวัตให้ออกจากบ้านไปเหมือนเดิม เห็นแก่ตัว

เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว

"พี่ขอโทษ"

"ไม่ฟัง พัดไม่ฟังคำนี้ ที่พัดอยู่กับพี่มาตลอด 15 ปีไม่ได้อยู่เพื่อรอฟังคำขอโทษ!" พัดพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายทั้งดันทั้งผลักให้อีกคนออกไปจากบ้านหลังนี้ สิ่งที่เขาทำให้อีกฝ่ายมาโดยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ที่เขาดูแลอีกฝ่ายอย่างดี ดูแลบ้าน ดูแลลูก ทั้งหมดเพื่อคำว่ารัก ไม่ใช่คำว่าขอโทษ

"กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เสียงหวีดร้องที่ดังขึ้นมากลางสงครามของสามีภรรยามันเหมือนเป็นเสียงระฆังสงบศึก ทุกอย่างที่เคยเคลื่อนไหวตอนนี้มันกลับหยุดนิ่ง สายตาของพัดและเรนมองตามหาไปยังต้นเสียง ก็ปรากฏร่างเล็กของลูกชายที่ยืนอยู่ที่บันได

ภาณิน อรรถจิรานันท์

เขาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเอะอะโวยวายที่ดังมาจากข้างล่าง เขาจึงเปิดประตูห้องเพื่อจะเดินออกมาดูแต่เหมือนเดินมาถึงบันไดก็เจอเขากับร่างของพี่ชายที่เขารัก กำลังนั่งปิดปากตัวสั่นอยู่ตรงนั้น เขาที่กำลังจะเอ่ยทักอีกฝ่ายแต่ก็ได้ยินเสียงของบทสนทนาด้านล่างเสียก่อน

'พี่ขอให้เขาไม่มาวุ่นวาย แต่พี่ก็ไม่เลิกกับเขา'

'พี่ขอโทษแต่พี่หย่าไม่ได้'

และตามด้วยเสียงหัวเราะปลอมๆ ฝืนๆ ของแม่ ทุกอย่างมันพุ่งกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนเขาตั้งรับไม่ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะเดินลงบันไดมา ก็ที่จะเจอกับภาพที่พ่อและแม่กำลังทะเลาะและผลักไสกัน แค่นั้นหัวใจของเขาก็เหมือนถูกทำร้ายด้วยเหมือนกัน

"ภา"

"น้องภา" เสียงกรีดร้องของภาณินเหมือนจะช่วยเรียกสติของสองสามีภรรยาให้รู้ว่าไม่ได้มีแค่พวกเขาที่อยู่ในบ้านหลังนี้

"ไม่จริง! ไม่จริง! กรี๊ด!" ภาณินพูดแต่คำว่าไม่จริงและไม่จริงก่อนที่จะกรีดร้องอีกครั้งแล้ววิ่งกลับขึ้นไปในห้องของตัวเอง ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้พัดรู้สึกเจ็บมากขึ้นไปอีก เขาและเรวัตกำลังทำร้ายลูกๆ ของตัวเอง เสียงกรีดของภาณินมันบาดหัวใจเขาจนยับเยินเหมือนผ้าขี้ริ้วขาด พลลภัตม์ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นและเริ่มสะอื้นจนตัวสั่น เขาร้องไห้อย่างหนักอีกครั้งเพราะเขาสงสารลูก

"ภา" เป็นเรวัตที่กำลังจะเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อไปหาลูกชายของตนแต่ถูกร่างของภีมพลเดินมาขวางเอาไว้ก่อน ดวงตาคมของเรวัตสำรวจใบหน้าของลูกชายก็พบกับรอยคราบน้ำตาบนใบหน้าของอีกคน ปากเล็กนั้นพยายามควบคุมไม่ให้มันสั่นก่อนที่จะเอ่ยกับผู้เป็นบิดาว่า

"ออกไปจากที่นี่เถอะ ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว" คำพูดของลูกชายเหมือนมีดที่ปักลงเท้าทั้งสองข้างของเขาให้ขยับไปไหนไม่ได้และสุดท้ายมันก็พุ่งลงมาปักที่กลางหัวใจของเขา เรวัตมองตามหลังลูกชายคนโตที่เดินขึ้นไปข้างบนอย่างช้าๆ เขาเหมือนเห็นภาพซ้อนทับตัวเขาในอดีต เขาเองก็เคยพูดแบบนี้กับพ่อและเดินหันหลังจากไปแบบนี้ มาตอนนี้เขารู้แล้วว่าการโดนลูกหันหลังใส่

มันเจ็บปวดมากแค่ไหน

"ภีมขึ้นไปดูน้องให้แม่ที ฮึก" พลลภัตม์เอ่ยไปขอร้องภีมพลทั้งน้ำตาก่อนจะหันไปหาใครอีกคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้

"..."

"พี่ออกไปเถอะ พะ...ฮึก พัดขอร้อง" พลลภัตม์พยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองก็เอ่ยขอร้องอีกฝ่ายดีๆ เพราะเขาเหนื่อยแล้ว เหนื่อยมากแล้วจริงๆ

"คุณพัดเกิดอะไรขึ้นครับ ผมได้ยินเสียงกรี๊ด" ร่างโปร่งของชานนท์โผล่เข้ามาในม่านสายตาของเขา เขาเห็นอีกฝ่ายในชุดออกกำลังกายอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เสียงทุ้มของอีกคนเอ่ยถามเขาด้วยความห่วงใยแต่สายตาอาฆาตถูกส่งไปยังร่างสมส่วนของเรวัตที่ยืนอยู่ที่บันได

"พี่จะกลับไปอยู่บ้านแม่ก่อน แต่พี่จะไม่หย่า" เรนเอ่ยบอกพัดก่อนที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมาและเดินกระแทกไหล่ผ่านร่างของชานนท์ ออกจากบ้านไป ทันทีที่เรวัตเดินหายออกไปจากครรลองสายตาของพลลภัตม์ เขาก็ปล่อยความรู้สึกของตัวเองที่เก็บกักไว้ออกมา พัดเริ่มร้องไห้เหมือนคนไม่มีสติ ภาพนั้นในสายตาของชานนท์มันช่างดูรวดร้าวเหมือนแก้วที่กำลังแตกสลาย เขาสงสารคุณพัดสุดใจของเขา

ชานนท์เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายช้าๆ ก่อนที่จะดึงตัวของอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดและลูบหลังปลอบประโลมอีกฝ่ายเหมือนที่เคยทำ ไม่มีเสียงปลอบโยนใดๆ มีแค่สัมผัสอ่อนโยนของชานนท์ที่ช่วยปลอบและคลายความเศร้าให้กับเขา เวลาผ่านไปนานอาจจะเป็นสองหรือสามชั่วโมงจนพลลภัตม์หลับสนิทไป แต่ก่อนที่อีกคนจะหมดแรงและหลับไป พัดได้เล่าให้เขาฟังว่าภาณินรู้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้วและตอนนี้ขังตัวเองอยู่บนห้อง

ชานนท์อุ้มร่างของคนตัวเล็กว่าเขามาวางไว้บนโซฟาจัดระเบียบท่าทางให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเดินขึ้นไปชั้นสอง ขึ้นไปยังห้องของภาณิน เขาเคาะประตูอยู่สองสามครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา

"ภา...นี่น้าเองนะ" เขาลองเอ่ยออกไปอีกครั้งพร้อมกับเคาะประตู ผ่านไปไม่นานประตูห้องของอีกคนก็ถูกเปิดออก แต่คนที่เดินมาเปิดประตูไม่ใช่ภาณินแต่เป็นภีมพลต่างหาก

"มันหลับไปแล้ว คุณมีอะไร" เสียงเล็กของเด็กชายเอ่ยถามเขา

"น้าจะมาคุยกับภา อธิบายทั้งหมดให้ภาฟัง"

"คุณเข้ามารอในห้องก่อนแล้วกัน ผมจะกลับห้องผมแล้ว" ภีมเอ่ยบอกอีกฝ่ายพลางเปิดประตูห้องให้กว้างขึ้นเพื่อให้ร่างสูงของคุณน้าข้างบ้านเดินเข้ามาได้ ก่อนที่จะเดินกลับห้องไปแต่ระหว่างที่กำลังจะปิดประตูห้อง เสียงทุ้มของร่างสูงก็ดังขึ้น

"ภีมโอเคใช่ไหม"

"ผมพูดได้ใช่ไหม ว่าไม่โอเค" ภีมตอบกลับแค่นั้นก่อนจะปิดประตูลงแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ทันทีที่ลงกลอนประตูห้องของตัวเองเรียบร้อย เขาก็ทรุดตัวลงพิงบานประตูก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมาเงียบๆ เพียงคนเดียว



ผ่านไปนานจนดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำ นาฬิกาบ่งบอกเวลา 16.30 น. วันนี้ทั้งสองคนขาดโรงเรียนเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนเช้าและตอนนี้ภาณินก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา ชานนท์นั่งรออีกคนอยู่ที่ข้างเตียง เขาลูบหัวปลอบโยนอีกคนไปมาเหมือนที่ทำกับพลลภัตม์ เขาสงสารที่ภาณินต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ มันใจร้ายสำหรับเด็กคนหนึ่งมากเกินไป

"อืม" เปลือกตาสีไข่ของร่างเล็กเริ่มขยับก่อนที่จะเผยดวงตาสีน้ำตาลกลมโตขึ้นมา ภาณินมองไปรอบๆ ห้องก็ที่ดวงตาจะหยุดอยู่กับคุณน้าใจดีที่นั่งอยู่ข้างเตียง

"ตื่นแล้วหรอครับ คนเก่ง" ชานนท์ยังคงลูบหัวอีกฝ่ายไม่หยุดมือ ก่อนจะประคองอีกคนให้ลุกขึ้นและเอาน้ำมาให้ดื่ม ดวงตาของเด็กชายบวมโตจนน่าสงสาร ร่องรอยของความเสียใจยังปรากฏอยู่ชัดแม้จะผ่านมานานหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

"คุณน้า...ฮึก...คุณน้า ฮือ" ภาณินเริ่มร้องไห้อีกครั้งในทันทีหลังจากทานน้ำเสร็จ ชานนท์จึงดึงร่างเล็กเข้ามาโอบกอดก่อนจะโยกตัวไปมาเบาๆ พลางเอ่ยปลอบอยู่ข้างหูของอีกฝ่าย

"ไม่จริง ฮึก มะ...ไม่จริงใช่ไหมครับ" ร่างเล็กเอ่ยถามเขาทั้งๆ ที่เสียงสั่นอย่างน่าสงสาร แต่เขาเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ตอบเพราะมันเป็นสิ่งที่อีกคนควรรู้

"มันเป็นเรื่องจริงครับ" เขาเอ่ยเบาราวกับกระซิบข้างหูของเด็กชายก่อนที่จะลูบหลังเพื่อปลอบอีกฝ่ายที่เริ่มจะร้องไห้หนักขึ้นไปอีก ผ่านไปนานหลายนาทีเด็กชายจึงเริ่มที่จะสงบลง

"ทำไมคุณพ่อต้องทำกับพวกเราบะ...แบบนี้ด้วยครับ ฮึก" เด็กชายพยายามคุมเสียงก่อนที่จะเอ่ยถามคนตัวโต

"น้าเองก็ไม่รู้ครับ" เขาเองก็ไม่รู้เหตุผลของเรวัตที่เลือกทำร้ายครอบครัวของตัวเองแบบนี้

"หรือวะ...หรือว่า คุณพ่อไม่รักพวกเราแล้วครับ ฮึก...ฮือ"

"ไม่จริงหรอกครับ คุณพ่อเขายังรักน้องภากับพี่ภีมอยู่นะ" สายตาที่เรวัตมองขึ้นมายังชั้นบนของบ้านก่อนที่จะเดินจากไป มันคือสายตาของคนที่เสียใจและสำนึกผิด นี่อาจจะยังเป็นเหตุผลสุดท้ายที่เขาเชื่อว่าเรวัตยังรักและเป็นห่วงเด็กๆ ทั้งสองคนอยู่

"จริงเหรอครับ ฮึก"

"จริงครับ คุณพ่อกับคุณแม่รักน้องภากับพี่ภีมมากนะครับ" สิ้นเสียงของชานนท์ ภาณินก็สะอื้นหนักมากขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังเสียใจที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับครอบครัวของเขา เขาไม่อยากให้ครอบครัวของเขาต้องแยกจากกันเลย เขายังรับไม่ได้หากต้องเลือกว่าจะอยู่กับใคร เขาไม่ได้อยากเลือกใคร

แต่เขาอยากอยู่เป็นครอบครัวกับทุกคน



ตอนนี้ตะวันได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงสว่างของดวงอาทิตย์ถูกความมืดเข้ามาปกคลุมแทนที่ ความมืดมันช่างน่ากลัว มันให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว เหงาและสิ้นหวัง พัดนั่งอยู่ที่โซฟาเขาตื่นขึ้นมาจากการร้องไห้จนหมดแรงและนั่งคิดทบทวนในเรื่องต่างๆ อยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ ก่อนที่ความเงียบจะถูกทำลายด้วยเสียงเดินลงบันไดมาของภาณินและชานนท์

"ภา..."

"แม่" พลลภัตม์เอ่ยเรียกภาณินเสียงสั่นพร้อมทั้งกางแขนออกแล้ววิ่งเข้าหาเด็กชาย ภาณินเองก็เอ่ยเรียกแม่และวิ่งเข้าหาอ้อมกอดของมารดาเช่นเดียวกัน

"ฮึก...ฮือ" เสียงร้องไห้ของสายเลือดประสานกันลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ ภาณินและพลลภัตม์ร้องไห้หนักอีกครั้งแต่พวกเขาก็กอดกันแน่นยิ่งกว่า เหมือนเป็นการปลอบประโลบกันและกัน ภาพตรงหน้าทำให้ชานนท์ยิ้มออกมา เขายืนมองภาพนั้นอยู่ห่างๆ ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในนั้น เพราะเขาอยากให้แม่กับลูกได้พูดคุยกัน

"แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ" คำขอโทษถูกเอ่ยนับร้อยครั้งเพื่อแสดงแทนความรู้สึกผิดของคนเป็นแม่ที่ทำให้ลูกต้องมาเจ็บปวดไปด้วยเพราะปัญหาของพวกเขา ถ้าเขาเลือกได้ก็ไม่ได้อยากให้ลูกรับรู้ปัญหานี้เลย เขาไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจเหมือนที่เขาเสียใจ เขารู้ว่าลูกต้องร้องไห้หนักกว่าที่เขาร้องไห้ เพราะพวกเราคือครอบครัวเดียวที่เขามีและมันกำลังพังเพราะการกระทำของผู้ใหญ่เอง ครอบครัวของเขาตอนนี้เหมือนแก้วที่แตกร้าวมันยากเกินกว่าจะสมานต่อกันได้

"ภาไม่โกรธแม่เลย ไม่เคยโกรธ"

"ต่อไปนี้ แม่จะดูแลพวกหนูให้ดีที่สุด"

"..."

"แม่จะเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้ภากับภีมเองนะ" พัดกอดรัดภาณินแน่นขึ้นไปอีกเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจในคำมั่นสัญญาที่เขาเอ่ยวาจาออกไป เขาจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเพื่อลบรอยแผลในครั้งนี้ เขาจะไม่ทำให้ลูกต้องมีปมและรอยแผลฝังใจ เขาจะเยียวยาลูกๆ ของเขาในทุกทางที่เขาจะทำได้

เพื่อลูกเขาทำได้อยู่แล้ว เขาพร้อมยอมเสียสละทั้งชีวิตเพื่อภีมพลและภาณิน

"แม่ครับ...ฮึก" ภาณินเงยหน้าขึ้นจากอกของมารดาก่อนที่จะเอ่ยเสียงสั่นออกไป แววตาของเด็กชายตอนนี้เหมือนกำลังขอร้องอ้อนวอนเขาอยู่ในที

"แม่...ไม่เลิกกับพ่อได้ไหมครับ" พัดชะงักไปเสี้ยววินาทีแววตาของเขากำลังสั่นไหว เด็กชายตรงหน้ากำลังขอร้องให้เขาอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม

"ภา"

"แม่...อย่าเลิกกับพ่อได้ไหมครับ ภาไม่อยากให้ครอบครัวเราแยกทาง ฮือ" เด็กชายก้มหน้าลงซบอกของมารดาพลางปล่อยน้ำตาให้ไหลบ่าโดยใช้เสื้อของมารดาเป็นตัวซับ จนมันเปียกชุ่มเป็นวงกว้าง เขาไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องแยกทางกัน เขายังอยากมีกันและกันในครอบครัว เขายังอยากกลับบ้านมาเจอพ่อ อยากให้แม่ไปส่งโรงเรียน มีพ่อรอทานอาหารด้วยกันในตอนเช้า มีแม่คอยทำกับข้าวให้ทาน มีพ่อคอยหยอกล้อและเล่นกับเขาในตอนที่แม่ไม่ว่าง

เขายังต้องการพ่อ เขาไม่พร้อมที่จะเสียพ่อไป

เขาไม่พร้อม

พลลภัตฒ์กอดปลอบเด็กชายแน่นขึ้นพลางโยกอีกคนไปมา เขาไม่สามารถให้คำตอบกับลูกชายของเขาได้เพราะสิ่งที่ภาณินและเขาต้องการ

มันสวนทางกัน

เขาไม่ได้ต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนั้นแล้ว ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เห็นค่าในตัวเขาแล้ว เขาในตอนนี้เป็นเพียงคนดูแลบ้านและลูกของเรวัตเท่านั้น เพราะความรักที่เรวัตเคยมีให้ตอนนี้เขาไม่ได้ครอบครองมันอีกต่อไป อีกฝ่ายยกให้เขมินทร์เป็นคนถือดวงใจของเขา แต่ภาณินยังต้องการพ่อ ต้องการความรักจากพ่อ ความรักจากผู้ชายคนนั้นที่เขาอาจไม่สามารถทดแทนได้

เขากำลังสับสนและคิดไม่ตกว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้อย่างไร



ภาณินกลับขึ้นห้องไปแล้วและหลับไปแล้วเรียบร้อย เหลือเพียงแต่เขาที่กำลังนั่งอยู่ข้างล่างกับคุณนักเขียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน ระหว่างเรามีแต่ความเงียบและกลิ่นของชาคาโมมายล์ที่ช่วยลดความเครียดของเขาไปได้บ้างเล็กน้อย ตั้งแต่ที่ภาณินเอ่ยความต้องการของตัวเองจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยหยุดคิดเรื่องนี้ได้เลย เขาไม่รู้ว่าควรจะเลือกทางไหนที่มันจะดีที่สุดและสบายใจกันทั้งเขาและลูก

เขาไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ

"คิ้วพันกันยุ่งหมดแล้วครับ" เสียงทุ้มต่ำของคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะเอ่ยก่อนที่จะเอานิ้วเรียวของเจ้าตัวมาวางไว้ที่หว่างคิ้วของเขา และออกแรงหมุนนิ้วไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยคลายปมที่ผูกกันแน่นอยู่บนหน้าผากมน

"ดื่มชาหน่อยสิครับ แล้วค่อยๆ คิดว่าจะทำยังไง" ชานนท์ดึงมือของตัวเองกลับมาวางไว้ที่ข้างตัวก็จะเอ่ยให้อีกฝ่ายจิบชาเพื่อคลายความเครียดบ้าง

"ผมไม่รู้ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง" พัดเอ่ยออกมาพลางยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ กลิ่นหอมอ่อนๆ และรสชาติละมุนของมันช่วยคลายความเครียดของเขาไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

"เป็นคุณจะทำยังไง"

"คำว่าครอบครัวสำหรับคุณคืออะไรครับ" ชานนท์เลือกที่จะตอบคำถามของอีกฝ่ายด้วยคำถาม

"ก็...ความรัก ความอบอุ่น ความสบายใจที่ได้อยู่กับคนที่รักมั้งครับ"

"คำตอบของคุณมันคือความรู้สึกของการเป็นครอบครัว มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานะพ่อแม่ลูกใช่ไหมครับ" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างราบเรียบแต่จริงใจ เขาจ้องมองเข้าไปยังดวงตาของอีกฝ่ายพยายามสื่อถึงความจริงใจผ่านสายตา

"..."

"คุณพัดครับ ครอบครัวที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขและเป็นความสบายใจของกันและกันไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์นะครับ ผมอยากให้คุณเลือกที่จะรักษาความสุขของตัวเองและขณะเดียวกันก็รักษาความสุขของเด็กๆ ไปด้วยกันได้"

"..."

"คุณเป็นสามีและภรรยากันมันเลิกรักกันได้ครับ แต่คุณต้องยอมรับว่าภาณินและภีมพลลึกๆ แล้วเขาก็ยังต้องการพ่อ คุณหย่าขาดกับเขาแต่เขาไม่ได้หย่าขาดกับลูกนะครับ"

"..."

"ที่ผมจะบอกก็คือถ้าคุณเลือกที่จะหย่ากันก็ขอให้เขายังได้ทำหน้าที่ของพ่อเถอะครับ เพราะบางอย่างคุณทำแทนเขาไม่ได้หรอกนะครับ ภาณินและภีมพลเองจะยังได้รู้สึกว่าครอบครัวเขาไม่ได้แยกไปไหน และยังได้รับความรักทั้งจากเขาและคุณ"

พลลภัตม์คิดตามคำพูดของอีกคน เขาสบายใจทุกครั้งเวลาได้คุยกับคนตรงหน้ามันเหมือนได้เพื่อนที่คอยรับฟังและอยู่ข้างกันเวลาเจอปัญหาต่างๆ ชานนท์เป็นอีกหนึ่งคนที่เขาอยากให้เป็นเซฟโซนของเขา

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างถ้วยชาของเขาสั่น หน้าจอขึ้นชื่อว่าเป็นนิมานลดาที่โทรเข้ามาหาเขา มือขาวเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาและกดรับสาย ก่อนที่จะกรอกเสียงตามลงไป

"ฮัลโหล"

"พัด แกเห็นข่าวยัง" เสียงของปลายสายดูร้อนรน ตลอดทั้งวันเขาใช้เวลาอยู่แต่กับตัวเองจึงไม่ได้ติดตามข่าวสารสักเท่าไหร่

"มีอะไรหรือเปล่านิ่ม"

"แกรีบดูข่าวเดี๋ยวนี้เลย ขึ้นแท็กอันดับหนึ่งในทวิตด้วยตอนนี้" เขายกโทรศัพท์ออกจากหูก็จะกดเข้าไปยังแอปพลิเคชันนกสีฟ้าชื่อดัง และเขาก็เจอเข้ากับแฮชแท็กที่นิมานลดากล่าวถึง

เป็นที่นิยมใน ไทย

1 #เรนพัด

นิ้วเรียวกดเข้าไปในแท็กนั้นแล้วก็พบว่าในแท็กกำลังพูดถึงข่าวที่พวกเขาทะเลาะกันจนเรวัตต้องเก็บกระเป๋าและออกจากบ้านเขาไป ในข่าวยังมีภาพของเรวัตที่กำลังลากกระเป๋าเดินไปขึ้นรถเหมือนจะถูกถ่ายจากคนในหมู่บ้าน

'เลิกกันชัวร์ๆ ผัวถึงเก็บกระเป๋ามาแบบนี้'

'คู่นี้เราชอบมากเลย ทำไมเลิกกันล่ะคะ'

'ถ้าเลิกกันจริงเสียดายนะ เขาอุตส่าห์แต่งงานกันมาหลายปี'

'หรือว่าผัวนอกใจป่าว'



...

- TBC -

ตอนนี้เขียนยากมากกกก มันเหมือนต้องเขียนให้ชัดว่าแต่ละคนมีความต้องการยังไงอ่ะค่ะ

ขอเมนท์ติชมด้วยนะค้าบ มารอลุ้นรอสาบอีพี่เรนกันค่ะ

พูดคุยกันในทวิตได้น้า ติดแท็ก #เกมนอกใจ ด้วยน้าอยากอ่าน

ทวิตเขาเอง >> hps://twitter.com/lopittupp

ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะค้าบ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 23-05-2020 18:53:25
เอาให้นังเขมกะผัวชั่วหนักๆๆเลย

พัดต้องเข้มแข็งไว้นะ เพื่อลูกๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 23-05-2020 21:14:41
พีดเข้มเเข็งนะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 23-05-2020 21:23:22
พี่เรน​ หึหึ​ เป็น​กำลัง​ใจ​ให้​นักเขียน​นะคะ​ ​สู้​ๆ​นะคะ​นักเขียน​
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 23-05-2020 21:28:23
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 23-05-2020 23:15:31
ไปให้สุดค่ะ สงสารพัดมากก มีแต่เรื่องร้ายๆๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 24-05-2020 00:12:04
สัตว์ตัวผู้มันยังรักลูกตัวเอง
แต่นี่อะไร..ไอ่เรน
เมิงเลว ยิ่งกว่า...สัตว์-เด-รัจ-ฉาน

รอวันที่เมิงซมซาน ไม่เหลือใคร
วันนั้นจะยิ่งกว่า สมน้ำหน้า

เร็วๆนะ พี่เวรน้องกรรม ทั้งหลาย
ติดจรวดมาเลย ยิ่งดี

ไอ่ชั่ว(เรน)

ขอบคุณฮับ..คนแต่ง
อ่านตอนนี้มันโดนใจ ถูกใจเหลือเกิน
+1 เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 24-05-2020 12:11:00
เรวัฒน์ คนเลววววว :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 24-05-2020 13:14:12
ไอ้เลว เฮ้ย! ไอ้เรนเลว นี่มันเห็นแกตัวมากนะ ทุเรศ! สมคควรที่ลูกจะผิดหวัง

ภีมกับภามาแม่กอดที โอ๋ๆนะ พัดเรียกประชุมคุยกับลูกพร้อมกันเลยดีกว่า จะเอาไงกับชีวิต เหมือนลูกจะเห้นไม่ตรงกัน แต่เลิกไปเลยกับพ่อของลูก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 24-05-2020 15:30:41
เอ้า!! มีปัจจัยภายนอกเสือกเข้ามาอี๊ก 5555 จะทำให้พัดเขว้ไม่หย่าแล้วป่ะเพราะว่าต้องการรักษาภาพชื่อเสียงไว้ โถถถถ อย่าหน้าบางไปเลยนะพัด คนนอกไม่ได้เข้ามาอยู่ด้วยนี่ จะไปรู้อะไร เห็นด้วยกับที่คนข้างบ้านพูดนะหย่ากัน แต่ก็ไม่ได้กีดกันสถานะพ่อนี่ พัดไม่ต้องไปถามหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาแล้ว มาทะเลาะกันจนบ้านแตกอีก จะหย่าจะจบคือนิ่ง เขาไม่หย่าก็เตรียมแรงสู้ฟ้องหย่าดีกว่า ดูท่าเขาจะไม่ยอมง่ายๆซะแล้ว มาทะเลาะกันร้องไห้ฟูมฟายเปลืองแรง เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่ก็เข้าใจอะนะ เสียใจนี่ 555555 ดำเนินจบตอนนี้ดีกว่าลากยาวไปจนกว่าใจภาจะพร้อมหรือป่าว หรือจะยังไม่หย่าแล้วอยู่เป็นครอบครัวเหมือนที่ภาภีมยังอยากให้เป็นดูซิ พ่อที่ไม่ค่อยกลับบ้าน เมียน้อยแอบมาระรานเมียหลวงและลูกที่บ้าน พ่อแม่เมินเฉยเย็นชาใส่กัน ทะเลาะกันบ่อย ดูซิจะทนได้ไหม แบบไหนที่ต้องการ หรือจะให้พ่อแม่ยิ้มให้กัน แสดงความรักต่อกันทั้งๆที่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงเนี้ยะนะ ภาภีมไม่ต้องหลอกตัวเองไปกว่านี้เลย แต่ก็เข้าใจอีกแหละ เด็กน้อยเด็ก ต้องคุยกันให้เข้าใจ ค่อยๆคิดค่อยๆคุย มีสติกว่านี้ได้แล้วพัด สนุกกกกกกกกก ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รออ่านตอนหน้าเลยค่ะ จะทำไงดีพัด หึหึ อิอิ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 25-05-2020 08:22:02
 :sad4:
สงสารพัดกับเด็กๆ
อยากตบผัวชั่วกับนังเมียน้อยเลวมากกกกก หื้มมม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-05-2020 10:09:42
ฟ้องหย่าไปเลยในเมื่อขอหย่าดี ๆ ไม่ชอบ ต้องให้ขุดความเหม็นเน่ามาประกาศ มาแฉ
มาให้เสียชื่อเสียงกันทั้งหมดก็เอา ในเมื่อขอดี ๆ ไม่ได้ อยากทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ก็เอา
จะได้รู้ ๆ กันให้หมดทั้งประเทศว่าใครมันดี ใครมันเลว ใครมันเป็นมือที่สามกันแน่
อยากรู้เหมือนกันว่าเขมจะแก้ตัวยังไง และถ้าให้ดีคนที่โดนเขมทำร้ายก็ออกมาแฉด้วยยิ่งดี
เอาให้ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ได้ ไม่ต้องมีงานทำ ไม่ต้องมีชื่อเสียงหรือหน้าตาไว้ประดับในสังคมหรอกนะคนเลว ๆ แบบนี้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 7 แก้วที่แตก 120% (23/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 25-05-2020 13:01:20
 :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 26-05-2020 16:47:13
บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100%


ตั้งแต่เด็กเขาก็เกิดมากับครอบครัวที่สมบูรณ์เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ครอบครัวของเขามีเงิน มีฐานะ มีชื่อเสียงที่โด่งดัง ไม่มีใครในประเทศนี้ไม่รู้จัก

'อรรถจิรานันท์'

คุณพ่อของเขา 'วิวิทย์ อรรถจิรานันท์' เจ้าพ่ออสังหา ท่านทำงานตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 เพราะท่านเป็นลูกชายคนเดียวของคุณปู่จอมบงการที่คอยจัดแจงชีวิตทุกคน ท่านถูกคุณปู่ให้บังคับเริ่มฝึกงานที่บริษัทตั้งแต่เข้าเรียน ปี 1 ควบคู่กับการเรียนไปด้วย ทำให้ท่านแทบไม่มีวันหยุดและได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปเลย

จนวันนึงท่านได้พบกับคุณแม่ของเขาที่เป็นลูกหลานของตระกูลผู้ดีเก่าที่จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับคุณพ่อได้ในหลายๆ เรื่องอย่าง 'ริณี ธาดาวรวงศ์' คุณแม่เป็นสาวสังคมชั้นสูง สวยสง่า ราวกับดอกฟ้าที่ใครๆ ต่างหมายปอง แต่ในใจของคุณแม่มีเพียงแค่คุณพ่อคนเดียวเท่านั้น คบหาดูใจกันได้ไม่นานก็มีข่าวสั่นสะท้านสังคมเรื่องการแต่งงานของคนทั้งคู่ และหลังจากนั้นแค่ไม่กี่ปีเขาก็ลืมตามาดูโลกในฐานะทายาทของอรรถจิรานันท์

'ชีวิตดีจังเลยเนาะ เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง'

'คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดแท้ๆ'

'วาสนาดีสุดๆ ไปเลย ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้จนตาย'

นี่คือคำพูดพาดพิงที่เอ่ยถึงเขาตั้งแต่เขายังไม่ได้คลอดออกมาด้วยซ้ำ ชีวิตของเขาที่ใครๆ ก็มองว่ามันน่าอิจฉา ชีวิตของเขาที่ใครๆ ก็มองว่ามันช่างโชคดีอะไรอย่างนี้

ทำไมเขาไม่เคยอยากได้ชีวิตแบบนี้เลย

เขาเกิดมาสุขสบายบนกองเงินกองทองจริงๆ ฐานะทางบ้านของเขาไม่ได้ทำให้เขาขัดสนในเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย ครอบครัวเราอบอุ่นมากๆ คุณพ่อคุณแม่รักกันดี จนกระทั่ง

ผู้หญิงคนนั้นโผล่เข้ามา

การปรากฏตัวของผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับลูกในท้องที่คุณพ่อพาเข้าบ้านมาแนะนำให้พวกเรารู้จัก ครอบครัวของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คุณพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกันทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่ด่าทอหรือสาดคำร้ายๆ ใส่กัน มันเหมือนเป็นภาพชินตาของเขาไปแล้ว เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของคุณแม่ดังออกมาจากห้องในทุกๆ วันที่คุณพ่อไปค้างกับผู้หญิงคนนั้น

มันทำให้เขาปลูกฝังต้นกล้าแห่งความเกลียดชังไว้ในหัวใจ ทุกครั้งที่เห็นหน้าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยกับลูกของมัน รากของความเกลียดชังมันงอกออกไปจนทิ่มแทงก้อนเนื้อกลางอกจนเจ็บไปหมด เขาเกลียด เกลียดมันและลูกของมันเข้ากระดูกดำ เกลียดที่มันมาแย่งทุกอย่างไป เกลียดที่มันมาทำให้แม่เสียใจ เกลียดที่มันได้ความรักจากคุณพ่อมากกว่าเขาและแม่ เขาไม่เคยลืมมันเลยเพราะชื่อของมัน เขาท่องมันในทุกห้วงลมหายใจ

'พิจิตรากับชานนท์ ไอ้พวกนอกคอก'

แต่แล้วกรรมมันก็ตามทัน พวกมันถูกเงาแห่งความยุติธรรมสนองเข้าให้ในปีที่เขามีอายุครบ 7 ขวบ ผู้หญิงคนนั้นถูกคุณพ่อจับได้ว่านอนกับคนขับรถของคุณพ่อ วันที่ความจริงเปิดเผยท่านโกรธมาก เขาไม่เคยเห็นท่านโมโหขนาดนี้มาก่อน ท่านไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปให้พ้นหน้า ให้มันหอบข้าวของและลูกชายของมันไปให้พ้นๆ จากอรรถจิรานันท์ หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่เคยได้เห็นหน้าของพวกมันอีก

จากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้คุณพ่อเปลี่ยนไป

ท่านติดสุรามากขึ้นและโมโหร้ายมากยิ่งขึ้น ท่านทุบตีแม่กับเขาตลอดเวลาที่เมามาย โทษว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะแม่ ท่านพร่ำเรียกหาแต่ชื่อของตัวเสนียดทั้งสองคนนั้นทั้งน้ำตา ทุกเสียง ทุกคำพูด มันเหมือนเลื่อยคมที่เฉือนหัวใจของเขากับแม่ในแต่ละวัน ทุกครั้งที่แม่ร้องไห้ น้ำตาพวกนั้นมันทำให้เขาเจ็บปวดใจเหมือนใจกำลังแหลกสลาย

นี่น่ะหรือ...ชีวิตในฝันของใครหลายๆ คน

นี่น่ะหรือ...ชีวิตที่น่าอิจฉา สำหรับเขามันน่าสมเพชมากกว่าเป็นไหนๆ

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะกบฏ ในคำสั่งของผู้ที่เป็นบิดา ไม่ว่าพ่อจะสั่งอะไร จะอยากให้เขาทำอะไร อยากให้เป็นอะไร เขาจะทำสวนทางกับสิ่งที่พ่อต้องการเสมอ มันเริ่มตั้งแต่พ่ออยากให้เขาเรียนสายวิทย์คณิต แต่เขาเลือกที่จะเรียนสายศิลป์ พ่ออยากให้เขาเรียนบริหารแต่เขาเลือกที่จะเรียนนิเทศ พ่ออยากให้เขาเข้าไปฝึกงานในบริษัทของพ่อ แต่เขาเลือกที่จะเมินเฉยทำเหมือนมันไม่มีอยู่บนโลกนี้

จนกระทั่งพ่อเลือกให้เขาเป็นผู้สืบทอดกิจการของที่บ้าน แต่เขาเลือกที่จะไม่รับ

พ่ออยากให้เขารีบแต่งงานกับคนที่เหมาะสมและคู่ควร แต่เขาทำตัวรักสนุก ลุกนั่งสุดเหวี่ยง ไม่ผูกมัดกับใคร จนได้ชื่อว่าเป็นสายฝนที่เร่าร้อนที่สุดในวงการมายา

ใครๆ ก็อยากที่จะเข้าหาและอ้าขาให้กับเขาทั้งนั้น เว้นแต่เพียง 'พลลภัตม์ ภัชรภิรมย์' เด็กหนุ่มที่ทางบ้านมีฐานะปานกลาง เข้าวงการตั้งแต่อายุยังน้อย ดูไร้เดียงสาและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน พัดเป็นคนซื่อตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน วันที่อีกคนมาแคสบทในละครของเขา

'ขอโทษนะครับ คือห้องแคสละครเรื่องศึกนารีไปทางไหนหรอครับ'

'...'

'พอดีผมเพิ่งมาตึกนี้เป็นครั้งแรก คนหนึ่งบอกซ้าย อีกคนบอกขวาผมงงไปหมดแล้ว'

รอยยิ้มของพัดเหมือนทำให้โลกของผมมันมีแสงสว่างที่ส่องมาถึงเพิ่มมากยิ่งขึ้น ชีวิตของผมในแต่ละวันเหมือนอยู่ใต้ทะเลลึก หนาวเหน็บ มืดมิด และโดดเดี่ยว แม้กระทั่งแสงสว่างยังส่องลงมาไม่ถึง แต่เมื่อมีพัดเข้าในชีวิต

มันก็สว่างมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

พัดเป็นคนน่ารัก ดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างอย่างดี พัดเป็นที่รักของทุกคนในกองถ่ายรวมถึงเป็นที่รักของคนทั้งประเทศ รวมถึงเป็นที่รักของเขาด้วย พัดแจ้งเกิดทางการแสดงกับบทบาทในละครที่เขาเป็นคนกำกับ ในเวลานั้นไม่มีใครไม่รู้จักพลลภัตม์ ไม่ว่าจะเด็กเล็กมากแค่ไหนก็ยังต้องเคยได้ยินชื่อเสียงกันมาบ้าง

พัดกลายเป็นดาราดัง พอๆ กับเขาที่กลายเป็นผู้กำกับคิวทอง เราเริ่มห่างหายจากกันไปเพราะแต่ละคนก็มีงานไม่ได้เว้นวรรคกันเลยโดยเฉพาะพัด เราเริ่มหายไปจากวงโคจรของกันและกัน จนกระทั่งงานแต่งงานของเพื่อนสนิทของเขา

ที่เหวี่ยงให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง

ครั้งนี้เขาเป็นคนเข้าหาพลลภัตม์ก่อน เขาเข้าไปทักทายและแนะนำตัวกับอีกฝ่ายแน่นอนว่าอีกฝ่ายจำได้ในทันที เราคุยกันหลายประโยคในคืนวันนั้น

'พัดมีแฟนหรือยัง'

'ยังหรอกครับ งานหนักขนาดนี้จะเอาเวลาไหนไปหาแฟน'

'ไม่ต้องหาสิ เดี๋ยวไปหาเอง'

เราเริ่มที่จะสานสัมพันธ์กันไปมากกว่าเพื่อนร่วมงาน พัดเหมือนเป็นมือใหม่ในเรื่องของความรัก เขาไม่เคยมีแฟนมาก่อนผมคือแฟนคนแรกของเขา และเป็นคนแรกที่ได้ครอบครองเขา

'พัด...อืม ดี'

'พะ...พี่เรน พะ พัด จะ อื้ม'

'พัด...'

'พะ พี่เรน พัดจะไป...แล้ว'

'พร้อมกันนะ พัด'

ตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีเรามีความสุขกันมาก เราพยายามไปหากันบ่อยๆแม้จะไม่ค่อยมีเวลาแต่ถ้าว่างเว้นจากงาน เราก็จะต้องหาโอกาสไปพบเจอกันไม่ที่คอนโดเขาก็คอนโดของพลลภัตม์ แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมันก็หายไป

'พัด...ท้อง'

พลลภัตม์บอกกับเขาว่าตัวเองตั้งครรภ์ในวันครบรอบ 8 เดือนของการคบหา ครั้งแรกที่เขารู้ข่าวหัวใจของเขามันเหมือนจะหยุดเต้นไปเสี้ยววินาที สำหรับคนอื่นๆ มันอาจจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่สำหรับเขามันไม่ใช่ เขาพยายามหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการ

พลลภัตม์บอกกับเขาว่าตัวเองตั้งครรภ์ในวันครบรอบ 8 เดือนของการคบหา ครั้งแรกที่เขารู้ข่าวหัวใจของเขามันเหมือนจะหยุดเต้นไปเสี้ยววินาที สำหรับคนอื่นๆ มันอาจจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่สำหรับเขามันไม่ใช่ เขาพยายามหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการ

แต่พัดไม่ยอมทำตาม

จนกระทั่งเรื่องของเขาไปถึงหูของคุณพ่อคุณแม่ พวกท่านก็จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยด้วยการแต่งงานท่านไปคุยกับผู้ใหญ่ของพัดในเรื่องของสินสอดและพิธีต่างๆ มันเป็นงานแต่งที่เขาไม่ได้จัดการอะไรเลย ในเวลานั้นข่าวการแต่งงานของผู้กำกับชื่อดังและนักแสดงดาวรุ่งกลายเป็น Talk of the town อยู่หลายเดือน พัดและเขาถูกคำครหามากมายจากสังคมแต่ปล่อยให้เวลาพัดผ่านไป คำครหาพวกนั้นก็ปลิวหายไปกับกาลเวลา

ชีวิตแต่งงานของเขาตลอด 15 ปีเหมือนจะมีความสุขเขาและพัดใช้ชีวิตกันตามปกติเพิ่มขึ้นมาคือลูกชายของเขาทั้งสองคน ทุกๆ วันผ่านไปอย่างราบเรียบแต่ตำนานสายฝนที่เร่าร้อนมันไม่ได้หยุดลงแค่นั้น เขายังคงมีความต้องการสูงขึ้นในทุกๆ วันผิดกับพัดที่ไม่สามารถรองรับความต้องการของเขาได้เลย

'พี่เรน วันนี้พัดเหนื่อยมากเลยครับลูกดื้อมาก'

'พี่เรนวันนี้พัดทำงานบ้านทั้งวันเลยขอพัดพักนะครับ'

'พี่เรนพัดไม่ไหวแล้ว ไว้วันอื่นนะ'

คำพูดพวกนี้จะถูกยกออกมาใช้ทุกครั้ง เวลาที่เขามีความต้องการในเรื่องอย่างว่าแต่พัดก็จะปฏิเสธมันในทุกครั้งจนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเขาได้เจอกับ 'เขมินทร์ อินทร์วรัฐ' นักแสดงหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขา 10 กว่าปี เขมเข้าหาเขาก่อนเขมเริ่มที่จะเข้ามาทักทายและพูดคุยกับเขาในเรื่องงาน และเขาเองก็เป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีจนมาในตอนหลังๆที่เขมเริ่มจะไม่ได้พูดคุยแค่เรื่องงาน

ความสัมพันธ์ของเรามันก่อตัวขึ้นเงียบๆ ในตลอดระยะเวลาที่อยู่ในกองถ่าย เขาเริ่มรู้สึกดีกับเขมมากขึ้นเหมือนได้ย้อนกลับไปใช้ชีวิตตอนอายุ 20 อีกครั้ง เขมให้พลังและบรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากพัด เขามีเสน่ห์จนผมหลงเขามากยิ่งขึ้น และในที่สุดเราก็ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ

'พี่เรน...จะดีเหรอครับ พี่เรนมีแฟนแล้ว'

'คนตรงหน้าก็แฟนพี่นะ'

เราเริ่มความสัมพันธ์นี้มาได้เกือบจะหนึ่งปีแล้วทุกอย่างเหมือนจะดี แต่ก็ไม่เขาถูกเขมเซ้าซี้แบบนี้ในทุกวันตั้งแต่ครบรอบ 6 เดือนของเรา

'เมื่อไหร่พี่เรนจะหย่า'

'พี่กำลังพยายามอยู่ เขมรอพี่ก่อนนะ'

นั้นคือคำตอบของเขาที่ใช้ตอบคำถามของเขมินทร์ ที่เขาตอบไปแบบนั้นเป็นเพราะเขาอยากให้เขมินทร์เลิกเซ้าซี้ในเรื่องนี้สักที เขาไม่มีทางหย่ากับพลลภัตม์ในเมื่อนั้นคือครอบครัวของเขา แต่เขาก็ไม่เลิกยุ่งกับเขมินทร์เพราะเขมินทร์ให้เขาในสิ่งที่พลลภัตม์ให้เขาไม่ได้

เขากำลังสร้างโลกอีกใบ โลกที่เขาสามารถกำหนดทุกอย่างได้เองว่ามันควรจะเป็นอย่างไร

แต่แล้วโลกที่เขากำลังสร้างขึ้นมาทั้งสองใบมันก็โคจรเข้ามาเกี่ยวพันกัน

พัดรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว...และเขาเลือกที่จะหย่า

พัดไล่เขาออกจากบ้าน พัดเก็บเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ ของเขาใส่กระเป๋าเดินทางและโยนมันออกมา ภีมพลเองก็ไม่ต้อนรับเขาอีกแล้ว ทุกคนในโลกใบนั้นไม่มีใครต้องการเขา แต่เขาจะไม่มีทางหย่า เขาปล่อยให้พัดไปจากเขาไม่ได้ถึงเขาจะปันใจและเวลาของพัดไปให้เขมบ้าง แต่พัดก็เหมือนแสงสว่างที่เขาไม่สามารถขาดมันไปได้

และเขาไม่มีทางยอมให้ไอ้ลูกนอกคอกนั้นมันมาแทนที่ในจุดที่เขาเคยอยู่

เขาขึ้นรถขับไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆ นั้น เพื่อไปนั่งลงยังม้าหินอ่อนข้างบึงน้ำ เขาปล่อยให้ความคิดไหลไปกับสายน้ำในบึง เขาปล่อยให้ลมมันพัดเอาความทุกข์ ความเศร้าไปจากเขา ก่อนที่จะขับรถกลับมายังบ้านหลังใหญ่ที่เขาไม่ได้กลับมานาน

เขาจอดรถที่โรงรถในเวลาที่ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว ขายาวสมส่วนรับกับรูปร่างก้าวเข้าไปในบ้านที่อาจเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์ของอรรถจิรานันท์ เขาไม่ได้กลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่นานมากแล้ว เพราะที่นี่มีแต่ความทรงจำที่เขาไม่อยากจำ เขาที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ก็ถูกเสียงหวานของผู้เป็นมารดาเรียกรั้งเสียก่อน

"เรน"

"แม่"

เพี๊ยะ

ฝ่ามือเรียวฟาดลงไปบนหน้าของเขาที่เดียวกันกับที่ภรรยาของเขาฝากรอยนิ้วมือเอาไว้ เขาไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับผู้เป็นมารดาของตัวเองเลย เอาแต่ก้มหน้าและปิดปากสนิท

"ทำไมแกทำตัวแบบนี้ แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไอ้เด็กคนนั้นมันจะทำให้แกเดือดร้อน" เสียงหวานของมารดาตวาดเขาเรื่องของเขมินทร์ แม่รู้ความเป็นไปของเขาและครอบครัวเขาทุกอย่าง ขนาดเขาโตขนาดนี้แม่ก็ยังไม่เคยเลิกสอดส่องชีวิตเขาเลย

"ดูสิ เทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง คนเขาขุดจนจะรู้อยู่แล้วว่าแกมันเลวแค่ไหน"

"..."

"ทำไมแกต้องทำตัวเสียๆ เหมือนพ่อแกด้วย ห้ะ! ทำไม!" ทุกครั้งที่แม่เอ่ยออกมา มือของแม่ก็จะฟาดลงบนตัวเขาทุกครั้งไปเช่นกัน เขาเจ็บ เจ็บจนมันเริ่มที่จะชาและไม่รู้สึกอะไร

เจ็บมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้

"ฉันไม่ยอมให้ชีวิตครอบครัวแกพังเหมือนฉันแน่ ไอ้ลูกเฮงซวย"

"คุณหยุดได้แล้ว!" การทุบตีของแม่หยุดลงเพราะเสียงทรงพลังของผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในบ้านหลังนี้อย่างคุณวิวิทย์ อรรถจิรานันท์ ร่างของชายหนุ่มที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้วแต่ก็ยังน่ามองเดินลงมาจากบันได เท้าทั้งสองหยุดลงตรงหน้าของเขา

"ผมจะคุยกับลูกเอง คุณไปพักเถอะ"

"จะสอนอะไรลูกได้ ในเมื่อต้นแบบก็พ่อมันไง"

"ริณี!" เสียงกัมปนาทเปล่งออกมายุติทุกอย่าง คุณหญิงริณียอมลดละและเดินหายลับไปอีกทาง ก่อนที่ชายชราคนนั้นจะหันมาหาเขาและเอ่ยเรียกให้เดินตามกันขึ้นมา ตอนนี้ร่างของชาตรีทั้งสองอยู่ในห้องทำงานสี่เหลี่ยมขนาดกว้างของผู้เป็นบิดา

"คุณจะคุยอะไร จะบอกให้ผมเลิกงั้นเหรอ"

"เรวัต"

"ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ คุณเองยังเลิกคิดถึงผู้หญิงคนนั้นกับไอ้ลูกนอกคอกไม่ได้ ก็อย่ามาสอนผม" เขาเอ่ยเสียงดังใส่หน้าของผู้เป็นพ่อ ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเขาเกลียดตัวเองมากแค่ไหน ผมอยากจะหนีไปให้พ้นๆ หนีไปจากคำว่าอรรถจิรานันท์ แต่ไปที่ไหนก็จะมีแต่คนเอ่ยคำนี้ ไม่ได้อยากได้ยินเลยสักนิด

"ลูกไม่รู้เรื่อง ลูกอย่ามาพูดแบบนะ..."

"รู้สิ! รู้ว่าคุณนอกใจแม่มาตลอด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าคุณมันไม่เคยรักใครเลย" เขาไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยจนจบประโยคแต่เป็นเขาที่เอ่ยแทรกมันออกไป อย่ามาบอกว่าเขาไม่รู้ในเมื่อเขารู้ทุกเรื่องมาตลอด เขาจำได้ทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ทำ

"แล้วทำไมลูกทำแบบนี้" เสียงของชายชราเอ่ยถามลูกชายของตน แม้เขาจะยอมรับว่าเขาอาจไม่เคยรักริณีเลย แต่เขารักลูกชายคนนี้สุดดวงใจของเขา

"เสียใจไหม เคยรู้สึกเสียใจกับผมบ้างหรือเปล่า" เรวัตพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่นเหมือนกับอารมณ์ที่กำลังพัดโหมรุนแรงอยู่ในใจของเขาตอนนี้ เขาเคยเป็นที่ต้องการของใครในบ้านหลังนี้บ้างหรือเปล่า พ่อที่ทั้งหมดของลมหายใจมีแต่ผู้หญิงคนนั้นและลูกมัน แม่ที่เห็นเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ใช้รั้งพ่อไว้ให้อยู่ตรงนี้

'หย่ากับผมเถอะ ขอร้องล่ะริณี'

'คุณไม่เคยสงสารลูกเลยหรือไง ฮึก...เคยคิดบ้างไหมว่าตาเรนจะอยู่ยังไงถ้าขาดคุณ'

'...'

'ฉันไม่หย่า ฉันจะปกป้องครอบครัวของฉัน อยู่มันไปแบบนี้แหละ ฉันไม่ยอมทุกข์คนเดียวหรอก'

คำพูดในวันนั้นเขายังจำได้ดี จำได้เสมอว่าเขาเป็นอะไรสำหรับคนที่นี่

"พ่อต้องเสียใจอยู่แล้วที่มีส่วน...ทำให้ลูกเป็นแบบนี้" วิวิทย์รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดมาตั้งแต่ในอดีต เขามีส่วนทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขา เพราะเขาคนเดียว

"นั่นแหละที่ผมต้องการ...เสียใจกับสิ่งผมทำให้มากๆ เหมือนกับที่ผมเคยโดน" สิ้นเสียงของเรวัต เขาก็หมุนตัวเดินออกจากห้องนี้ไป ทิ้งชายชราที่เขาชังไว้ข้างหลังบานประตูใหญ่นั้น ก่อนจะเดินมุ่งหน้ากลับไปยังห้องของตัวเอง ทิ้งตัวลงบนเตียงนอน ปล่อยความคิดไปเงียบๆ และหลับตาลง



จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็สองวันแล้วด้วยกัน ที่เขาไม่ได้รับการติดต่อมาจากพลลภัตม์เลยแม้แต่ช่องทางเดียว ถึงแม้เขาจะติดต่อไปแต่อีกคนก็ไม่ตอบกลับอะไรเขาเลย ผิดกับเขมินทร์ที่ติดต่อเขามาในทุกเวลาตั้งแต่รู้ข่าวและคอยบอกให้เขาไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย จนเขารำคาญและตวาดอีกฝ่ายกลับไปตั้งแต่นั้นอีกคนก็ไม่ติดต่อมาอีก วันนี้เขามีนัดกับทีมงานของกองละคร 'เพลิงพรรณ' ในการประชุมเพื่อหาคิวนักแสดงและลงวันเปิดกล้องให้ชัดเจน

เขาเพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่าอารมณ์ที่ไม่อยากทำอะไรเลย มันเป็นยังไง

"คิวนักแสดงลงตัวแล้วพี่เป็นวันจันทร์ถึงวันพฤหัสนะพี่"

"โอเค แล้วคนที่จะมาเล่นบทกวี...ไอ้เรน!" เสียงของพี่เจ๋งผู้จัดร้องเรียกเขาเสียงดังกลางที่ประชุม ทำให้เขาหลุดออกจากความคิดในหัวที่กำลังวิ่งวุ่นอยู่

"ครับพี่ ว่าไง"

"เหม่อไรวะ...ตั้งใจประชุมงานกูก่อนได้ป้ะ แล้วค่อยคิดทีหลัง"

"ขอโทษพี่" เขาเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายก่อนที่จะกลับมาสนใจกับเรื่องของงานตรงหน้าต่อ เพลิงพรรณเป็นละครรีเมคที่หยิบขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ได้นักแสดงแถวหน้าของวงการมาร่วมงานกันมากมายทั้งป้องกุล พระเอกดาวรุ่งมาแรง หนิง อริสราที่มารับบทนางเอก เขมินทร์ที่มารับบทร้ายแบบที่เจ้าตัวถนัด แต่ยังเหลืออีกหนึ่งบทสำคัญอย่าง กวี ที่ยังหาคนมารับบทไม่ได้เพราะบทนี้มันยากและท้าทายมากๆ มีหลากหลายรายชื่อที่เป็นตัวเลือกที่ดี เพียงแต่พี่เจ๋งแกมีตัวเลือกในใจอยู่แล้ว

"มึงได้ไปคุยกับเมียมึงให้กูยัง บทนี้ดีมากเลยนะเว้ยต้องพัดเท่านั้น" พี่เจ๋งหันไปถามคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีตามกฎหมายของพลลภัตม์ คนที่ตนอยากที่จะร่วมงานด้วย

"ผมยังไม่ได้คุยเลยพี่" แต่เขายังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับภรรยาเขาเลยเพราะเกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้นมาก่อน ตอนนี้แค่เข้าหน้าพัดก็คงไม่อยากมองด้วยซ้ำ แต่เขาได้ข่าวว่าพี่เจ๋งให้นุ๊กโทรไปหาแล้วเมื่อ 3-4 วันก่อนแต่พัดปฏิเสธเพราะอยากโฟกัสกับลูกมากกว่า คงเป็นช่วงเดียวกับที่เขมินทร์ไปที่บ้านของเขา

"พี่เจ๋งๆ พี่เจ๋ง พี่!" เสียงร้องตะโกนดังมาก่อนจะปรากฏที่มาของเสียง ทุกสายตาของคนในห้องหันไปมองยังประตูห้องประชุมที่ปรากฏร่างท้วมของนุ๊กทีมงานคนหนึ่งในกองถ่าย

"มีไรไอ้นุ๊ก" เจ๋งเอ่ยถามเสียงเข้ม เรื่องใหญ่อะไรต้องรีบมาเรียกเขาขณะประชุมขนาดนี้

"พี่เจ๋ง...แฮ่กๆ"

"พูดสิวะ!"

"คุณพัด...คุณพัดรับเล่นละครเราแล้วพี่" ท่ามกลางเสียงร้องดีใจของทีมงานและผู้จัดมีเพียงเรวัตเท่านั้นที่ไม่ได้มีอาการดีอกดีใจตามไปด้วย หากแต่มีความมึนงงและสงสัยว่า ทำไมพัดถึงรับเล่นละครเรื่องนี้

ละครที่มีทั้งเขาและเขมแสดงด้วย



...

- TBC -

พัด! เธอจะทำอาราย!

ฝากกดไลค์กดแชร์ เมนท์สาบพี่เรนกันได้นะค้าบ อยากอ่านเมนท์ทุกคนเลย

ไปพูดคุยกันใน #เกมนอกใจ ในทวิตได้เลยน้าาา

ทวิตไรท์เองค้าบ >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 26-05-2020 20:35:22
ร้อนเงินหรอพัด 55555  เอาเวลาเก็บแรงเตรียมหาทางฟ้องหย่าดีก่อนไหม ก็รู้ว่าเขาไม่ยอมง่ายๆและมันต้องยุ่งยาก เคลียร์เสร็จก่อนค่อยมารับละคร ไม่ต้องรีบมาก นี่อะไร มันจะเป็นยังไง ผัว เมียหลวง เมียน้อยอยู่ในเฟรมเดียวกัน บันเทิงงงง 5555555 เอาเถอะถ้าพัดมีแรงไฟว์ก็สู้ๆนะ ส่วนตัวตอนนี้ตั้งราคาพัดไว้เต็ม100 รอดูตอนต่อไปๆ ราคาค่าตัวจะลดลงไหม ก็ขึ้นอยู่กับทำตัวอะนะ 5555 ก็เห็นใจชีวิตเรนในครอบครัวที่บิดเบี้ยวอยู่เบาๆอะนะ แต่แล้วยังไงอ่า 55555555555 สนุกค่า  ชอบบบบ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 26-05-2020 21:30:59
ได้แต่ขอให้พัดสู้ๆ
เข้มเเข็ง
อย่ายอมนังเมียน้อย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 26-05-2020 22:10:36
เป็นกำลังใจพัด ลุกขึ้นมาเอาคืนในกองถ่ายแบบแซ่บๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-05-2020 22:31:12
โหหห แม่มาแล้วว หลีกทางให้แม่หน่อย พัดสู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 26-05-2020 22:48:41
พัดจะทำอาร๊ายยยยยย จะเล่นเกมหรอ?  :katai1:

งานนี้นายร้ายเตรียมตัวดับอนาถ :laugh:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 26-05-2020 23:13:58
 :pig4:
 :katai2-1:
เชียร์พัดสู้ๆเลย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 27-05-2020 00:33:51
สรุปนะ..ทั้งหมดทั้งมวล
ก็แค่เป็นเรื่องของคนเห็นแก่ตัวที่พยายามอ้างเหตุผลต่างๆนานา ว่าทำไมจึงเป็นคนสันดานเสียแบบนี้

คุณผิดหวัง คุณเสียใจ เป็นเด็กบ้านแตก คุณรู้สึกสูญเสียจากการที่พ่อมีชู้มีลูกใหม่
คุณก็เลยคิดจะเอาคืนจากสังคม โดยการนอกใจเมียตัวเองบ้าง ทอดทิ้งลูกชายสองคน
เพื่อต้องการชดเชยให้กับความรู้สึกของคุณ หาใครซักคนให้มาชดใช้การถูกกระทำย่ำยีในชีวิตคุณที่มีแต่เศร้า ช้ำใจ

เฮ้ยยยยยย..คิดยังงี้ได้ไงอ่ะ ไม่เหี้ยจริง คิดแบบนี้ไม่ได้นะ
คุณยังเป็นคนแบบปกติอยู่หรือเปล่า ไอ่คุณเรน

ทั้งพัด น้องภีม น้องภา จำเป็นต้องมารับกรรมจากเวรของคุณเอง ทั้งที่เค้าทั้งสามคนไม่ได้ก่อด้วยซ้ำ ยังงี้ก็ได้เหรอ
เป็นทั้งพ่อที่เลวทราม และเป็นผัวที่ชั่วช้า ที่สุดในสากลโลกเลยว่ะ..เมิงอ่ะ ไอ่เรน

เนื้อแท้จริงๆ แล้ว ก็แค่เรื่องของคนที่มีสันดานมักมากในกาม มัวเมาลุ่มหลงในตัณหา ล่ะม้างงงงงง
สาปส่งให้คนอย่างเมิงพาอิชู้ไปตกนรกหมกไหม้ด้วยกัน ขุมที่ลึกที่สุดของพวกผิดศีลผิดกาม

อยู่ในนรกให้นานๆเลยนะ อย่ารีบขึ้นมาผุดมาเกิด สร้างความจัญไรให้คนอื่นในภพหน้าอีกเลย
ชั่วและเชี่ยยยยยยยยยยยยย
 :z6:


+1 จ้า เค้ารักตะเองนะคนแต่ง
ถึงจะเม้นท์แรง แต่ก็ลัฟๆเลิฟนะ ขอจุ๊บหัวเหม่งที...อิอิ
 :L1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-05-2020 02:06:35
เอาคืนให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 27-05-2020 08:58:05
 :katai2-1:
หนูพัต ดีมากรู๊กก ออกมาพาดนังเขมอย่าให้ได้เกิดดดดด
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 27-05-2020 13:43:21
คอมเม้นช้างบนๆ เม้นแทนใจไปหมดแหละ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Ritawongishere ที่ 27-05-2020 16:40:24
 Game On Bitch !
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-05-2020 16:42:55
พัดมีแรงไฟ้ว เราก็จะเชียร์ อย่าไปยอมนะ ในเมื่อไม่ยอมหย่าก็ต้องสู้กันต่อไป
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 27-05-2020 22:23:15
https://youtu.be/LR78U2dv8n0


พัดลุยเลยย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 8 ชีวิตที่น่าอิจฉา 100% (26/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 28-05-2020 16:56:32
พัดจะมาฟาดใช่มั้ย ดีเลยค่ะ เชียร์พัดนะ  o18 :hao3:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 29-05-2020 16:23:39

บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100%


***มีฉากไม่เหมาะสมในการกระทำของตัวละคร สิ่งที่ตัวละครทำเป็นการกระทำที่ไม่ควร โปรดใช้วิจารณญาณนะครับ***



เป็นที่นิยมใน ไทย

1 #เรนพัด

"แฮชแท็กร้อนในเช้านี้นะคะ มาแรงมากๆ เลยตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สำหรับคู่รักแห่งวงการมายาอย่างคุณ เรวัต อรรถจิรานันท์ ผู้กำกับมือรางวัลที่จับงานไหนก็เปรี้ยงไปซะหมดกับอดีตนักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่าง พัด พลลภัตม์ ที่ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้ 15 ปีแล้วค่ะคุณผู้ชม! แต่ก็มีข่าวเมาท์ข่าวหลุดออกมาว่าทั้งคู่กำลังบ้านสั่น ขาเตียงหลวม เมื่อมีคนแชะภาพผู้กำกับหนุ่มเดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากบ้านแสนสุขโดยไร้เงาของภรรยาอย่างคุณพัดตามออกมาและยังได้ยินเสียงทะเลาะกันดังออกมาจากในบ้านด้วยค่ะ เรื่องนี้จะเป็นมายังไงคงต้องขอเกาะรั้วบ้านตามดูกันไปยาวๆ นะคะ"

เสียงรายการข่าวซุบซิบจากโทรทัศน์ดังไปทั่วบ้านในตอนเช้า อาจเป็นเพราะทั้งบ้านถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ไม่มีเสียงบทสนทนาจากใครสักคน บนโต๊ะอาหารมีเพียงกับข้าวที่วางอยู่และชายหนุ่มสามคนที่นั่งนิ่งๆ อยู่บนเก้าอี้ไม่มีการพูดคุยใดๆ เกิดขึ้น จนกระทั่ง

"แม่...จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเอง ลูกๆ ไม่ต้องห่วงนะ" เสียงของพัดเอ่ยผ่ากลางความเงียบที่เหมือนหมอกปกคลุมไปทั่ว ภีมพลและภาณินละสายตาจากอาหารตรงหน้าขึ้นไปมองหน้าของผู้เป็นมารดา

"ข่าวไปไกลขนาดนี้แล้ว แม่จะทำยังไงครับ" ภาณินเอ่ยเสียงถามอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

"แม่...แม่จะหย่า" เขาเอ่ยออกไปพลางสังเกตสีหน้าของลูกๆ ทั้งสอง ภีมพลไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขาทำแค่เพียงนิ่งเฉย ผิดกับภาณินที่ก้มหน้าลงทันทีและเสียงสะอื้นก็เริ่มดังขึ้น

"ฮึก...ฮึก...ฮือ" ภาณินค่อยๆ ร้องไห้ออกมา เขายังไม่อยากแยกจากพ่อ เขายังอยากอยู่กับพ่อ แต่เขาเข้าใจในความเจ็บปวดที่แม่เจอ การถูกหักหลังจากคนที่รักมันยากจะให้อภัยแต่เขาก็ทำใจไม่ได้กับครอบครัวที่กำลังจะแยกขาด คำว่าบ้านสำหรับเขามันคือ พ่อแม่และพี่ภีม ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไป

มันจะยังเป็นบ้านอยู่หรือเปล่า

"น้องภา..." พัดที่เห็นลูกคนเล็กของตนเริ่มที่จะร้องไห้หนักมากขึ้น ก็รีบเข้าไปดึงอีกคนเข้ามากอดปลอบ เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเด็กชาย

ไม่อยากเห็นเลย

"คุณแม่ ฮึกคุณแม่ไม่หย่าไม่ได้เหรอครับ" ภาณินกอดอีกคนแน่นมากยิ่งขึ้น เขากำลังกอดเหมือนกลัวจะเสียคนตรงหน้าไป เขากลัวความเปลี่ยนแปลง เขายอมรับว่าเขายังไม่พร้อมที่จะรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

"แม่...แม่ทนเจ็บไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วลูก" พัดเอ่ยถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะจบความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากับเรวัต มันเป็นเพราะสิ่งที่เรวัตทำ มันเลวร้ายเกินไปสำหรับคนที่อีกฝ่ายเรียกกันว่าครอบครัว ถ้าลำพังแค่เขายังพอทนได้กับเรื่องนี้แต่ในตอนนี้มีลูกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และการที่เรวัตละเลยลูกซึ่งเป็นคนสำคัญ มันทำให้เขารับไม่ได้

และไม่ขอทนอีกต่อไป

"ฮึกคุณแม่ ฮือ"

"หย่าไปดีแล้ว...ผมไม่อยากเจอหน้าผู้ชายคนนั้นอีก" เสียงที่เอ่ยนี้เป็นเสียงของภีมพลที่มองภาพแม่กอดน้องชายของตนอยู่ น้ำตาและความเสียใจที่ทุกคนต้องเสียให้กับผู้ชายคนนั้นมันเพียงพอแล้ว เขาไม่ต้องการให้ผู้ชายคนนั้นกลับเข้ามาและทำร้ายพวกเราอีก สิ่งที่เขาทำมันเป็นเรื่องที่จะฝังในใจของเขาไปอีกนาน

คำว่าอภัยมีค่ามากเกินไปด้วยซ้ำ

"พี่ภีม ฮึก...ทำไมพี่ภีมพูดแบบนี้ นั้นพ่อนะ"

"ถ้านายยังนับเขาว่าเป็นพ่อก็เรื่องของนาย...แต่ฉันไม่นับ" ภีมพลหันไปมองสบสายตาของภาณินที่มองมา เขารู้ว่าน้องยังเด็กยังยึดติดกับคำว่าครอบครัว แต่สำหรับเขามันไม่จำเป็นต้องมีพ่อก็ได้ ในเมื่อเป็นพ่อที่ดีไม่ได้ก็อย่ามีมันเลยจะดีกว่า

"ภีม...จะยังไงเขาก็ยังเป็นพ่อของลูกๆ นะ" พัดที่มองเหตุการณ์อยู่ตลอดเอ่ยขึ้นมาบ้าง เขารู้ว่าภีมพลโกรธเรวัตมาก มากถึงขนาดไม่อยากเจอหน้า เขาเองก็โกรธอีกฝ่ายมากเหมือนกันแต่การที่คอยเป่าหูให้ลูกของเขาเกลียดพ่อเขาจะไม่ทำ เด็กไม่ควรเป็นที่รองรับความโกรธแค้นและเจ็บปวดจากบาดแผลของผู้ใหญ่

"หยุดร้องนะครับ เดี๋ยวแม่จะพาไปส่งที่โรงเรียนและตอนเย็นแม่จะไปรับ" เขาพูดปลอบภาณินพลางลูบหัวอีกคนไปด้วยก่อนเอ่ยบอกให้เร่งมือทานอาหารก่อนที่จะไปโรงเรียนไม่ทัน เขาไม่อยากให้ลูกขาดเรียนบ่อยมากนัก แค่เมื่อวานก็มากพอแล้ว



รถยนต์คันหรูมาจอดลงที่หน้าโรงเรียนชื่อดังของประเทศ พลลภัตม์หันไปเอ่ยลาเด็กๆ ทั้งสองคนก่อนจะอวยพรให้โชคดีกับเรื่องของการเรียน เขารอจนเด็กๆ เดินหายเข้าไปในโรงเรียนจึงค่อยขับรถออกไป ภีมพลและภาณินเดินเข้ามาในโรงเรียนได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกสายตารอบๆ พุ่งตรงมา ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือแม้กระทั่งคุณครูเองก็ตาม ทุกคนจ้องมาที่เขาสองคนก่อนจะหันกลับไปซุบซิบกัน คงจะเป็นเพราะแฮชแท็กนั้นแน่ๆ ที่ทำให้

เรื่องของครอบครัวกลายเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ

"พี่ภีม...คนพวกนั้น เขาพูดถึงเราใช่ไหม" ภาณินเอ่ยถามพี่ชาย เขารู้สึกว่าตกเป็นเป้าสายตาตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงเรียน เขาไม่ชินกับการถูกจ้องมองแบบนี้ และไม่ชอบเลยกับสายตาเหมือนสงสัยใคร่รู้พวกนั้น ไหนจะท่าทางซุบซิบน่ารำคาญนั้นอีก

ไม่ชอบเลยจริงๆ

"ไม่ต้องไปสนใจหรอก ถ้ามีใครถามอะไร ไม่ต้องตอบนะ"

"..."

"เข้าใจไหมเตี้ย" เสียงของพี่ชายเอ่ยสั่งก่อนจะเอ่ยขอตัวแยกออกไป ภาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนอีกอย่างเขาเองเพิ่งจะเข้ามาในเรียนที่นี่ได้ไม่นาน เพื่อนสักคนก็ยังไม่มี ทำให้เขาเคว้งเกินไป ขาเล็กก้าวไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายจนมาถึงม้าหินอ่อนที่อยู่ติดกับสนามฟุตบอล ตรงนี้เงียบสงบไม่มีคนอยู่เลยสักคนเดียว เขาจึงนั่งลงยังม้าหินอ่อนก่อนที่จะฟุบหน้าลงกับแขนของตัวเองและเริ่มที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

เขาไม่ชอบวันนี้เลย...มันอึดอัดไปหมด

ตลอดทางที่เดินมาถึงตรงนี้มีแต่สายตาของคนอื่นที่มองมายังเขา เขาเหมือนเป็นตัวประหลาดที่มีแต่คนมองตามและก็หันไปซุบซิบกัน บางคนทำหน้าสงสัย บางคนทำหน้าสงสาร ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครรู้ความจริงเลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาอึดอัดกับสายตาพวกนี้ ไม่ชอบเลย อย่ามองกันแบบนั้นได้ไหม

"มานั่งทำอะไรคนเดียว?" เสียงหวานเอ่ยเรียกให้เขาหลุดจากความคิดของตัวเอง ภาณินเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่เข้ามาทักทาย ร่างบางตรงหน้าเป็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารักที่เขาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี

เพราะว่าเราอยู่ห้องเดียวกัน

'สวัสดี...เราชื่อเพ็ญนีติ์ รามวงศ์ ชื่อเล่นก็เพนนีเลย' เด็กหญิงตรงหน้าถูกเพื่อนๆ โหวตให้เป็นหัวหน้าห้องของเขา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดู และนิสัยที่เป็นมิตรกับทุกคนทำให้อีกคนมีเพื่อนได้เร็วมากกว่าเขา

"นายชื่ออะไรนะ อยู่ห้องเดียวกันใช่ไหม" เสียงหวานยังคงเอ่ยถามเขา

"เราชื่อภา อยู่ห้องเดียวกับเธอ" เขาเอ่ยตอบอีกฝ่ายก่อนที่จะเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่อยากถูกมองว่าเป็นเด็กขี้แย เพนนีทำหน้านึกก่อนจะร้องอ๋อ ออกมา

"นายคนที่ไม่มาเมื่อวานใช่ไหม"

"ใช่" เขาพยักหน้าให้อีกฝ่าย เด็กหญิงตรงหน้าเอ่ยถามอีกครั้งว่าตามงานบ้างหรือยังแต่รอบนี้เขาส่ายหน้า เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าที่ขาดเรียนไปเมื่อวานเขาพลาดอะไรไปบ้าง อีกฝ่ายก้มไปเปิดกระเป๋าก่อนที่จะหยิบหนังสือเรียนออกมาและอธิบายงานต่างๆ ให้เขาฟัง

"นายยังไม่มีเพื่อนเหรอ" และก็ยังคงเป็นอีกฝ่ายที่ชวนเขาคุยด้วยการเปิดประเด็นคำถาม

"อืม"

"มาเป็นเพื่อนกับเราก็ได้นะ" เพนนียิ้มสวยส่งให้เขา แววตาของอีกคนดูสดใสระยิบระยับเหมือนเพชรเม็ดงาม เขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเด็กผู้หญิงร่างเล็กตรงหน้า ก่อนที่เสียงออดจะดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณในการเตรียมตัวเข้าแถวหน้าเสาธง เราทั้งคู่ก้มลงเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ลงกระเป๋าก่อนจะลุกและเดินไปเข้าแถวด้วยกัน



ขณะนี้เป็นเวลาของคาบสุดท้ายในวันนี้แต่อาจารย์ประจำวิชาของเขาไม่ได้มาสอน คาบนี้จึงกลายเป็นคาบว่าง ภีมพลนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะของตัวเองเพื่อรอเวลาเลิกเรียนตามปกติ เขานั่งมองออกไปยังนอกหน้าต่าง มองวิวธรรมชาติไปเรื่อยๆ ปล่อยความคิดให้พัดไปกับสายลมอ่อนๆ ที่หมุนวนอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เขามีแต่เรื่องให้คิดเยอะมากขึ้น ไหนจะเรื่องของการเลือกแผนการเรียนที่จะไปต่อในชั้นถัดไปและเรื่องของครอบครัวที่กำลังเป็นปัญหา ปวดหัวชะมัด

"ภีม" เสียงเรียกของเพื่อนในกลุ่มเขาดังขึ้น เขาหันไปมองตามต้นเสียงก็เจอเข้ากับเพื่อนๆ ของเขามายืนอยู่ตรงหน้าทุกคนแสดงสีหน้าลำบากใจ

"พวกมึงมีอะไร"

"มึงโอเคป้ะวะ ช่วงนี้มึงดูไม่โอเคเลย" เสียงของเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มที่เขาสนิทด้วยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พวกมันจะเป็นห่วงก็ไม่แปลก ในเมื่อช่วงนี้สภาพเขาดูไม่ได้จริงๆ

"กูโอเค พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก" เขาเอ่ยออกไปเพื่อให้ทุกคนสบายใจ เขาไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วงตัวเขา

"แน่ใจนะมึง...มึงมีอะไรมึงบอกพวกกูได้นะเว้ย" เขายิ้มให้กับมิตรภาพดีๆ ที่เพื่อนของเขาหยิบยื่นมาให้ แต่เขาก็บอกปฏิเสธออกไป เขาไม่เป็นอะไรจริงๆ ตอนนี้โอเคขึ้นมามากแล้ว แต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ก็ไม่แน่

"ภีม...สรุปพ่อกับแม่มึงเลิกกันแล้วใช่ป้ะ"

"ไอ้ออฟ!!!" ออฟคือเพื่อนในห้องของภีมพล แต่เขาไม่ได้สนิทกับอีกฝ่ายเราไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกัน ออฟเป็นคนนิสัยไม่ดีขัดกับหน้าตาของตัวเอง มันทำตัวเป็นใหญ่ในห้อง ชอบข่มคนอื่นเพราะพ่อตัวเองเป็นนักการเมือง เขาจัดให้อีกคนเป็นบุคคลที่เขาไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

"ทำไม...กูอยากรู้ ถามไม่ได้เลยรึไง"

"..."

"สรุปเลิกกันป้ะ...แล้วพ่อมึงนอกใจแม่มึงจริงป้ะวะ" แม้จะโดนเพื่อนคนอื่นๆ ขัดและตำหนิใส่แต่อีกคนยังหน้าหนาไม่รู้สึก ยังคงเอ่ยถามเรื่องครอบครัวของเขาต่อ

"เรื่องของครอบครัวกู มึงไม่เกี่ยว อย่าเสือก" ภีมพลลุกขึ้นพูดกระแทกใส่หน้าอีกฝ่ายก่อนจะเดินหลบออกมาจากในห้อง เขาไม่อยากอยู่ตรงนั้นอีกแล้วมันอึดอัดไปหมด ตั้งแต่เช้าถึงตอนนี้ก็มีแต่คนคอยมองมาตลอดเวลา แม้จะบอกตัวเองเสมอว่าอย่าไปใส่ใจแต่มันก็ทำไม่ได้สักที สายตาและคำพูดของสังคมมันรุนแรงจริงๆ

ขาเรียวก้าวไปยังห้องน้ำข้างตึกเรียน ที่ตอนนี้เงียบสนิทเพราะยังเป็นเวลาของคาบเรียนอยู่ เขาคิดว่าภายในห้องน้ำคงจะไม่มีใคร แต่เขาคิดผิดเพราะทันทีที่เขาก้าวขาเดินเข้าไปในห้องน้ำร่างของเขาก็ไปปะทะกับร่างสูงของใครอีกคน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหนุ่มหน้าตี๋คนนั้นนั่นแหละ

"เดินไม่ระวังเลย" ร่างสูงก้มลงกระซิบบอกเขาชิดใบหู เขาจึงรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักอีกคนออก จวิ้นที่เซไปข้างหลังเล็กน้อยหันมาส่งยิ้มน้อยๆ ของตัวเองมาให้กับเขา ก่อนจะใช้มือที่คีบม้วนบุหรี่ยกขึ้นมาสูบต่อ

"เหม็น" เขาส่งเสียงบอกอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปยังโถฉี่แต่ถูกร่างสูงมาขวางทางไว้ซะก่อน ภีมเงยหน้ามองอีกคนพลางขมวดคิ้วไปด้วย ก่อนจะเอ่ยบอกให้อีกคนหลบแต่คนเจ้าเล่ห์ไม่ยอมหลบและยังยืนบังต่อไป

"บอกให้หลบ ปวดฉี่"

"ทำไมช่วงนี้ไม่ตอบข้อความ" อีกคนไม่ได้ทำตามคำสั่งแต่กลับส่งคำถามกลับมายังเขา ช่วงนี้เขาคิดมากเรื่องของพ่อกับแม่ ทำให้ไม่มีเวลาตอบข้อความที่อีกคนส่งมา

"ช่วงนี้ยุ่งอะ หลบไปดิ" เขาทั้งออกแรงดันแรงผลักแต่ร่างสูงเป็นยักษ์ของอีกฝ่ายกลับไม่ขยับเลยสักนิด

"ไม่หลบ" แถมยังยืนทำหน้าทำตากวนเบื้องล่างคนอื่นมากด้วย

"นี่!"

"คืนนี้โทรหาได้ป้ะ" เอาอีกแล้ว มันทำตัวงงๆ อีกแล้ว

"โทรทำไม"

"อยากคุย" อีกฝ่ายทำสีหน้าจริงจังเหมือนรอลุ้นผลสอบ แต่เขาก็ยังไม่ยอมตอบอีกฝ่าย พร้อมทั้งผลักและดันแต่อีกคนก็ไม่หลบไปสักที จนต้องยอมรับเงื่อนไขว่าจะรับโทรศัพท์ก็ได้ถ้าอีกคนโทรมา คนตัวสูงถึงได้ยอมปล่อยให้เขาไปทำธุระส่วนตัวแต่พอทำธุระเสร็จและหันมาอีกที อีกคนก็ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว



วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ลูกๆ ของเขาจึงไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าแต่ยกเว้นกับคนอย่างพลลภัตม์ที่ต้องคอยมีหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน เขาต้องตื่นเช้าเป็นปกติในทุกวันเหมือนกับที่ทำเป็นประจำ เมื่อวานนี้หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จเขาก็กลับมาที่บ้านของตัวเอง เพื่อนสนิทของเขาอย่างนิ่มพอรู้ข่าวก็พุ่งตรงมาหาเขาที่บ้านทันที นิ่มถามว่าเกิดอะไรขึ้นและเขาก็เล่าให้อีกฝ่ายฟัง ก่อนที่จะบอกว่าเขาตัดสินใจแล้วว่าจะหย่า และวันนี้เขาต้องไปคุยกับเรวัตให้รู้เรื่อง

เมื่อทำงานบ้านเสร็จแล้วพัดก็มุ่งตรงไปยังห้องครัวเพื่อทำอาหารเตรียมไว้ให้กับภีมพลและภาณินยิ่งเป็นวันหยุดแบบนี้ กว่าที่ทั้งสองคนจะตื่นก็คงจะเป็นตอนสายๆ ด้วยซ้ำไป เขาจัดอาหารไว้บนโต๊ะเรียบร้อยจากนั้นจึงไปอาบน้ำแต่งตัวและออกจากบ้านไป ใช้เวลาไม่นานรถยนต์ของเขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของตระกูลอรรถจิรานันท์ เขากดกริ่งเรียกให้คนมาเปิดประตู จากนั้นจึงขับรถยนต์คันหรูเข้าไปในจอดที่จอดรถของบ้านและเดินเข้าไปในบ้าน

บ้านหลังใหญ่โตที่เห็นข้างหน้า ตอนนี้กลับเงียบสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ เขาเดินไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ผ่านไปสักครู่จึงปรากฏร่างของคุณผู้หญิงของบ้านที่มีอายุแต่ก็ยังคงความสง่างามเอาไว้อยู่ คุณริณี อรรถจิรานันท์ แม่สามีของเขา ทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา เขาก็ยกมือขึ้นมาไหว้เพื่อแสดงความเคารพอีกฝ่าย คุณแม่รับไหว้เขาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอีกตัวหนึ่ง ท่าทางเย่อหยิ่งเหมือนมาดนางพญานั้นก็ยังไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่รู้จักกันครั้งแรกจนถึงตอนนี้

"ไม่เจอกันนานเลยนะ เธอสบายดีไหม" เสียงหวานเอ่ยทักทายเขาก่อน และเขาก็ตอบกลับไปตามมารยาท

"สบายดีครับ คุณแม่สบายดีนะครับ?"

"ฉันสบายดี มาหาเจ้าเรนเหรอ" เขาพยักหน้าตอบอีกคนกลับไปสายตาก็ยังคงมองหาอีกคนไปด้วย แต่คงจะมาเสียเที่ยวเพราะคุณแม่บอกว่าเรวัตออกไปทำงานเมื่อสักครู่นี้เองก่อนที่เขาจะโผล่มา

"เธอสองคนทะเลาะกันงั้นเหรอ ตาเรนถึงได้กลับมาอยู่ที่นี่"

"พี่เรนไม่ได้เล่าให้คุณแม่ฟังเหรอครับ...ว่าเราจะหย่ากัน" สิ้นเสียงของเขา พัดก็คอยแอบมองสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย แต่คุณหญิงกลับนิ่งไม่ได้ดูตกใจเหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้ เขาคิดว่าคุณแม่น่าจะรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

"ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอนะ จะไม่คัดค้าน" เสียงหวานเอ่ยเรียบนิ่ง

"ขอบคุณครับ หลังจากหย่าแล้วผะ..."

"เธอจะหย่าก็ได้...แต่หลานต้องอยู่กับฉัน" พัดที่ยังไม่เอ่ยไม่จบประโยคก็ถูกคุณหญิงริณีแทรกขึ้นมาเสียก่อน คำนั้นของคุณหญิงทำให้พัดประหลาดใจ เขาสติหลุดไปชั่วขณะก่อนที่จะรีบดึงมันกลับคืนมา

"คุณแม่ครับคือ..."

"ฉันไม่ห้ามเธอ อยากหย่าก็หย่าไป แต่ฉันจะไม่ยอมให้เธอเอาหลานของฉันไปลำบากด้วยเด็ดขาด" คุณหญิงเอ่ยย้ำความต้องการของตนเอง เธอต้องการหลานมากกว่าสิ่งใด เด็กทั้งสองคนคือทายาทของอรรถจิรานันท์ พวกเขาไม่สมควรต้องออกไปลำบากกับคนไม่มีอะไรเลยอย่างพลลภัตม์ แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยสนใจไยดีกับสะใภ้คนนี้อยู่แล้วแต่ที่เธอให้แต่งงานด้วยกันก็เพราะว่าหลาน เธอต้องการเพียงหลานเท่านั้น

สิ่งสำคัญของอรรถจิรานันท์คือหลานชายทั้งสองแค่นั้น

และตอนนี้เธอเองก็กำลังปกป้องชื่อเสียงของลูกชายเธอและครอบครัวของเธอ

"พัดให้คุณแม่เอาลูกพัดไปไม่ได้หรอกครับ" พลลภัตม์เองก็ไม่ยอมเหมือนกัน เขาจะไม่มีทางยอมยกลูกของตัวเองไปให้กับคนที่นอกใจเขาอย่างเด็ดขาด คนที่จำไม่ได้แม้กระทั่งวันเกิดลูกของตัวเองจะเลี้ยงลูกเขาดีได้ยังไง

"งั้นเธอก็ไม่ต้องหย่าสิ"

"คุณแม่" คุณหญิงริณีกำลังเล่นเกมกับเขา

"ถ้าเธอไม่อยากยกลูกเธอให้ฉัน เธอก็ไม่ต้องหย่าก็อยู่มันไปแบบนี้แหละ" คุณหญิงริณีเอ่ยเสียงเรียบพลางจ้องมองไปยังร่างบางของผู้ชายตรงหน้าเธอ

"เธออย่าทำตัวเป็นคนเห็นแก่ตัวไปหน่อยเลยพลลภัตม์"

"ใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัว ลูกคุณแม่หรือเปล่าครับที่เห็นแก่ตัว นอกใจพัด หักหลังครอบครัวตัวเอง"

"..."

"คุณแม่จะให้พัดทนอยู่กับผู้ชายแบบนี้งั้นเหรอ" พัดเองก็เริ่มที่จะหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน ทำไมถึงกล้าว่าเขาว่าเขาเห็นแก่ตัวทั้งๆ ที่ลูกของตัวเองเป็นคนทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้

"เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันต้องทนพ่อของเรวัตมาตลอดหลายปีทั้งๆ ที่เขาก็นอกใจฉัน" คุณหญิงริณีเริ่มเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"เพราะคำว่าครอบครัวไง...ฉันเลือกที่จะปกป้องครอบครัวของฉัน ฉันทำเพื่อลูกแต่สิ่งที่เธอกำลังทำมันคือการเอาแต่ความสบายใจของตัวเอง"

"..."

"เธอสบายใจที่จะหย่าแล้วลูกของเธอล่ะ เขาต้องการให้มันเป็นแบบนี้งั้นเหรอ ถ้าเธอรวยค้ำฟ้าฉันจะไม่รั้งเธอไว้เลยนะ แต่เธอมันไม่มีอะไรเลยพลลภัตม์ พ่อแม่เธอก็เสียแล้ว ญาติพี่น้องก็ไม่มี เธอเองก็ไม่มีงานทำ แล้วเธอจะเลี้ยงหลานฉันให้ออกมาดีได้ยังไง ลองคิดดูดีๆ นะพลลภัตม์" พัดคิดตามคำพูดของอีกคนที่บอกมา แต่ทุกอย่างมันตะกอนที่คำว่าหย่า เขาไม่สามารถทนอยู่กับเรวัตได้จริงๆ และเขาเองก็ปล่อยลูกไปไม่ได้

"พัดจะหย่า แต่ถ้าคุณแม่จะขู่ที่จะเอาภีมและภาไปเลี้ยงอีก พัดก็จะฟ้องหย่า" เขาเอ่ยออกไปเสียงดัง คุณหญิงริณีบีบให้เขาต้องใช้วิธีนี้ วิธีที่มันจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งพังกันไปข้าง

"พัดมีหลักฐานทุกอย่างครบ อย่าให้พัดต้องทำแบบนี้ เพราะคุณแม่อาจจะไม่ได้เห็นหน้าหลานอีก" พลลภัตม์ขู่กลับคุณหญิงริณีบ้าง ใครบอกว่าเขาจะยอมง่ายๆ เขายังมีไพ่ในมือที่เหนือกว่าฝั่งนั้นตั้งหลายใบ

"ถ้าเธอฟ้องหย่าแน่ใจเหรอว่าศาลจะเข้าข้างคนที่คบชู้" มือเรียวของหญิงสาวหยิบเอาซองสีน้ำตาลขึ้นมาก่อนที่จะเปิดเอาของข้างในซองออกมาไว้ที่โต๊ะตรงหน้า

"คบชู้?" พลลภัตม์มองตามการกระทำของอีกฝ่ายทุกกระเบียดนิ้ว เขาเอื้อมมือไปหยิบเอารูปภาพที่อีกหยิบออกมาจากซองสีน้ำตาลขึ้นมาดูและก็ต้องตกใจว่ารูปภาพพวกนั้น

มันเป็นรูปของเขากับคุณนนท์

มือของพลลภัตม์กำมือรูปพวกนั้นจนมันยับไปหมด ข้อนิ้วของเขาขึ้นสีขาวจากการออกแรง รูปภาพพวกนี้ถูกถ่ายตอนที่เขาอยู่กับคุณชานนท์สองต่อสองในตอนที่อีกฝ่ายกำลังปลอบโยนเขา มันถูกแอบถ่ายมาจากหน้าบ้านของเขาเอง

"ถ้าเธอบอกว่าลูกชายฉันคบชู้ รูปพวกนี้มันก็จะบอกได้เหมือนกันว่าเธอเองก็คบชู้"



...

- TBC -

เอ้า! จะได้หย่าไหมนิ

ฝากกดไลค์ กดแชร์คอมเมนท์ให้ด้วยนะค้าบ อยากอ่านๆๆๆ

พูดคุยกันในแท๊ก #เกมนอกใจ ได้เลยนะค้าบ ดันแท๊กให้ชนะเรนพัดไปเลย5555555

ขอบคุณทุกการติดตามที่มีถึง 1K แล้วนะค้าบปลื้มมากๆๆ ยังไงก็อยู่ด้วยกันจนจบเลยนะ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-05-2020 17:23:31
รักลูกแบบผิด ๆ เข้าข้างลูกแบบนี้มันดีแล้วแน่เหรอค่ะคุณหญิงแม่
คุณหญิงแม่ต้องการอะไรกันแน่ แค่ไม่ต้องการให้ลูกหย่าแค่นั้นหรือเพราะชื่อเสียงวงศ์ตระกูลกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 29-05-2020 17:28:37
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-05-2020 18:32:04
แม่สามีก็ร่ายไม่เบาเลยนะ พัดอย่ายอมนะ สู้ๆเลยจ้าา
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: oily06 ที่ 29-05-2020 20:16:40
เพราะตัวเองทนทุกข์มาก่อน คนอื่นเลยต้องทนได้แบบตัวเองหรอคะคุณแม่
ช่างเป็นชุดความคิดที่เห็นแก่ตัวสิ้นดีเลย ไม่แปลกที่เรนจะโตมาเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้
แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เรนจะไปทำร้ายจิตใจลูกเมียเหมือนที่ตัวเองโดนมานี่นา
สรุปคือ อรรถจิรานันท์ มันเห็นแก่ตัวกันทั้งบ้าน คืนนามสกุลให้เขาไปเถอะค่ะพี่พัด
 :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-05-2020 21:07:48
ทั้งตัวพ่อ ตัวแม่ แถมตัวลูก
แย่งกระดูก ปลูกฝัง ไร้ห่วงหา
ไม่แปลกใจ เห่าหอน ทุกเวลา
ทั้งตระกูล คือครอกหมา พาอับปรีย์

เป็นพ่อแม่ ไม่สอนลูก ก็สิ้นศักดิ์
ไม่ฟูกฟัก รักดี ก็สิ้นศรี
ไม่ละอาย ความชั่ว มั่วกาลี
ครอบครัวนี้ ก็สิ้นศีล ความเป็นคน

ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งไอ่เรน อรรถจิรานันท์..หึหึ

ไอ่หน้าตัวเมีย..หน้าไม่อาย ไม่กล้าอยู่สู้หน้าพัด
เลยรีบหนีหน้า ให้แม่ตัวเองออกมารับหน้าแทน
แอบมุดใต้กระโปรงแม่..เฉยเลย

แมนมากเลยว่ะ ไอ่เรน
(กุประชด) ฮ่าฮ่า

อ่านเรื่องนี้ต้องละเลียดอ่านทุกตอนให้ได้งี้ดิ
แง่มๆๆๆๆๆ โออิชิ! ถูกใจหลายแสนอ่ะ อิอิ

+1 ให้คนแต่ง
อยากขอกอดแล้วกระซิบบอก..ขอบคุณ
ฮักนะ..ตะเอง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 30-05-2020 00:10:58
ทั้งแม่ทั้งลุกนิสัยพอกัน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 30-05-2020 02:15:57
555555555555555 กร๊ากกๆ บอกแล้วงานนี้เหนื่อย เก็บแรงไว้สู้กับครอบครัวนี้ก็เกินพอ ไม่ต้องไปตอแย แซะ แขวะเมียน้อย เปลืองแรงเปล่า เรามันสไตล์แอฟทักษอรอ่ะ หมดรักคือนิ่ง แยกกันอยู่ หย่าอย่างเดียว 555555 ถ้าเขามารังควานมาทำร้ายก็อัดคลิปหรือไรว่าไปไว้เพื่อเป็นหลักฐานโดนคุกคามจากเมียน้อยเขม จะทำให้รู้ด้วยว่าเขามีเมียน้อยจริง เพราะนี่สงสัยว่าถ้าพัดไปบอกว่าผัวมีเมียน้อย พัดมีหลักฐานอะไรไปยื่นยัน แค่คำกล่าวอ้างมันไม่มีน้ำหนักไง เกิดเขาปฎิเสธว่าแค่ร่วมงานกัน เขาไปตกลงกับเมียน้อยกันได้นี่ แต่พัดนี่ดิ จะยังไงต่ออ่ะ ว่าแต่การฟ้องหย่านี่มันต้องใช้หลักฐานอะไรมั้งนะ 55555555 ไม่ต้องหย่าดีไหมพัดเลือกครอบครัวเหมือนที่คุณแม่เขาเลือกไง แต่ต้องทำใจนะเลือกครอบครัวแล้วได้ครอบครัวพังๆลูกขาดความรักความอบอุ่นจนพาลโกรธทุกสิ่งอย่างแบบนี้ ก็เข้าใจหัวอกคนโดนนอกใจอะนะ แต่ว่าคุณแม่เลือกที่จมปลักไปกับเขาเองนี่ จะให้ว่าไงได้อีกละจ่ะ 5555 สงสารก็แต่เด็กๆนี้ละเป็นขี้ปากชาวบ้าน ถ้าเรื่องไม่ยอมจบเร็วเด็กมีปัญหาแน่นอน กำลังเปราะบางอะไรๆที่ยั่วยุต่ออารมณ์เข้ามาได้ง่าย ยิ่งมีคนจ้องจะเข้ามาภีมด้วย เพลียล่วงหน้า 555555  สนุกค่าาา ชอบบบบบบ ขอบคุณนะคะที่มาต่อให้ได้อ่าน รอตอนหน้าเลยจ้า  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 30-05-2020 05:04:38
มันสั้นป๊ายยยยยยยยย :ling1: :ling1: ขอยาวกว่านี้ :katai1:

พัดอย่าไปยอมพวกมันนะลูก ฟาดมันทั้งตัวแม่ตัวลูกเลย :fire:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 30-05-2020 07:17:12
พอกันทั้งแม้ทั้งลูก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 9 ถือไพ่เหนือกว่า 100% (29/05/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-05-2020 16:02:58
ทุเรศพอกัน เอาสันดารมารวมกันเลยย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 01-06-2020 17:36:34

บทที่ 10 จนมุม 100%

"ถ้าเธอบอกว่าลูกชายฉันคบชู้ รูปพวกนี้มันก็จะบอกได้เหมือนกันว่าเธอเองก็คบชู้" เสียงหวานของคุณหญิงริณีเหมือนเป็นน้ำมันที่ราดลงไปในใจของเขาที่มันกำลังลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโกรธเกลียด เขาต้องการที่จะจบเรื่องห่าเหวนี้แล้วแท้ๆ แต่คนที่นี่ไม่ได้ต้องการให้มันจบ ทั้งเรวัตและคุณหญิงริณีต้องการให้เขายื้อคำว่าครอบครัวให้อยู่ต่อไปเหมือนบังคับให้เขาต้องทนกำเศษแก้วที่แตกละเอียดจนมันบาดและทิ่มแทงลงบนเนื้อ ให้มันต้องเจ็บปวดและทรมาน สำหรับคนบ้านนี้เขาคงเป็นแค่ตัวละครประกอบฉากตัวหนึ่ง

ที่เข้ามาทำให้ครอบครัวนี้สมบูรณ์

"คุณแม่มีรูปพวกนี้ได้ยังไง" เขาเอ่ยถามถึงที่ไปที่มาของรูปของเขาที่ถูกแอบถ่ายและถ้าเขาเดาไม่ผิด

"ฉันจ้างนักสืบคอยตามพวกเธอผัวเมียมาตั้งแต่หลังแต่งงานแล้ว" นั้นคือความจริงที่เขาเพิ่งจะได้รับรู้ว่าจากปากของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของสามี คุณหญิงริณีไม่เคยได้ปล่อยให้ลูกชายของเธอใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเหมือนเด็กทั่วไปตั้งแต่เด็ก เธอจะคอยตีกรอบให้ลูกชายเป็นในแบบที่เธอต้องการ เพื่อทำให้วิวิทย์รู้ว่าเขายังมีลูกชายอีกคน ลูกชายที่เกิดจากเมียหลวงอย่างฉัน ไม่ใช่สนใจตามหาแต่ไอ้ลูกนอกคอกนั้น เธอคอยคุมพฤติกรรมของลูกชายในทุกย่างก้าว คอยตามเช็ดและเก็บกวาดในเรื่องที่มันเลอะเทอะและเปอะเปื้อน รวมถึงเรื่องครอบครัวของลูกชายเองด้วย

"คุณแม่เห็นพวกเราเป็นอะไร เราไม่ใช่สัตว์ในกรงนะครับที่คุณแม่จะมาคอยสอดส่องได้!" ยิ่งรู้ความจริงที่มันตรงกับที่เขาคิดเอาไว้ พลลภัตม์ก็ยิ่งโมโห

"ชีวิตลูกชายฉัน ฉันต้องรู้ทุกเรื่อง"

"คุณแม่ก็ตามชีวิตของลูกชายคุณแม่ไปคนเดียวสิ จะมายุ่งกับชีวิตคนอื่นทำไม"

"ชีวิตครอบครัวของลูกชายฉัน ฉันต้องการรู้ความเป็นมาเป็นไปทั้งหมด" ยิ่งโต้เถียง มือของพลลภัตม์ก็ยิ่งกำหมัดแน่นยิ่งขึ้น ชีวิตเขาเหมือนเลือกเดินทางผิดตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในตระกูลเฮงซวยนี้

"ถ้าคุณแม่สอดส่องชีวิตเราตลอด คุณแม่ก็ต้องรู้ว่าผมกับคุณนนท์เราเป็นแค่เพื่อนบ้านเท่านั้น"

"ฉันรู้แต่ศาลไม่รู้นี่ ว่าพวกเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน" ไฟในใจพัดตอนนี้มันลุกโชนจนแทบจะเผาบ้านหลังนี้ได้ทั้งหลังอยู่แล้ว คำพูดและกิริยาท่าทางของผู้หญิงตรงหน้ามันยิ่งยั่วยุอารมณ์ในอกเขาให้มันลุกลามมากยิ่งขึ้น

"เธอเองก็น่าจะรู้ดีนะพลลภัตม์ว่าเธอหากเรื่องมันต้องขึ้นศาล ใครจะชนะ"

"..."

"ถ้าเธอยังจำเรื่องเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วได้ ที่มีลูกบ้านของหมู่บ้านจัดสรรที่AT Groupเป็นเจ้าของถูกฟ้องจนต้องขึ้นศาล ทั้งๆ ที่เราผิดและฝ่ายนั้นมีหลักฐานชัดเจน แต่ศาลกลับยกฟ้อง มันเป็นเพราะอะไร" ดวงตาของพลลภัตม์ในตอนนี้จ้องเขม็งเข้าไปสบกับดวงตาของอีกฝ่าย เรื่องที่คุณหญิงเล่ามาเขาจำได้ดี AT Group บริษัทอสังหาชื่อดังถูกลูกบ้านฟ้องร้องในเรื่องของโครงสร้างของบ้านที่ไม่แข็งแรงจนกลายเป็นข่าวใหญ่โตแต่สุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็จบลงที่ยกฟ้องและเงียบหายไป ผู้หญิงตรงหน้ากำลังทำทุกอย่างบีบเขา

บีบให้เขาไม่มีทางเลือก

"สิ่งที่ฉันและเธอแตกต่างกันคืออำนาจ จำใส่สมองของเธอไว้ด้วย" พลลภัตม์ตอนนี้ทั้งโกรธและโมโหไฟในอกตอนนี้ลามไปทั่วทั้งร่าง ร่างกายของเขาร้อนผ่าวไปด้วยแรงอารมณ์

"อีกอย่าง...เธอทนข่าวฉาวและกระแสสังคมได้ แต่เธอคิดว่าลูกของเธอทนได้อย่างนั้นเหรอ" คุณหญิงริณีรู้ดีว่าทำอย่างไรพลลภัตม์ถึงจะฟังเธอ สำหรับคนเป็นแม่ที่แสนดีอย่างพัดคงไม่พ้นเรื่องลูก

"คนภายนอกมองเข้ามาที่ครอบครัวของเธอ เขาไม่ได้สนใจหรอกนะว่าพวกเธอจะรักหรือเกลียดกันยังไง"

"..."

"พวกเขาสนใจแค่ทะเบียนสมรสเท่านั้น หากมีมันอยู่พวกเธอก็คือครอบครัวสุขสันต์ในสายตาของพวกเขาแต่ถ้าหากขาดมันไปครอบครัวของพวกเธอก็จะแตกแยก"

"..."

"ลองตัดสินใจดูแล้วกัน" สิ้นเสียงของคุณหญิง พลลภัตม์ก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะยกมือไหว้คนที่มีอาวุโสแล้วจึงหันหลังเดินออกจากคฤหาสน์ไป ขาเรียวของพัดก้าวย่างอย่างว่องไวเพื่อไปให้พ้นจากที่นี่ ทันทีที่พัดขึ้นรถได้พัดก็รีบขับออกไปจากรั้วของอาณาเขตอรรถจิรานันท์อย่างเร่งรีบ การที่เขาอยู่ที่นี่มันทำให้เขาร้อนไปหมดทั้งร่างกาย ทรมานไปหมดทั้งหัวใจ ขาเรียวเหยียบคันเร่งเต็มแรง รถหรูขับรวดเร็วปาดไปมากลางถนนจนกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ใช้เวลาไม่นานมันก็มาจอดอยู่ที่หน้าวัดแห่งหนึ่ง

วัดที่เก็บอัฐิของพ่อกับแม่เขาเอาไว้

พลลภัตม์เดินลงจากรถเพื่อเข้าไปในวัด เขาเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าโกศที่เก็บอัฐิของพ่อและแม่ของเขา ขาเรียวของพลลภัตม์ทรุดลงตรงหน้าป้ายชื่อของบิดามารดา ก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆ แสดงความอ่อนแอออกมา

"ฮึก...ฮือ พะ พัด ฮึก พัดเหนื่อยแล้วแม่" เสียงสะอื้นติดสั่นจนแทบจับใจความไม่ได้เอ่ยออกมาต่อหน้าป้ายชื่อของมารดา เขาเหนื่อยแล้วเขาไม่อยากที่จะต้องไปสู้รบหรือฟาดฟันกับใครอีกแล้ว เขาต้องการที่จะหยุดเกมบ้าๆ นี้สักทีแต่คนพวกนั้นบังคับให้เขาต้องเดินเกมต่อ เขามีชีวิตมีจิตใจแต่ทำไมไม่มีใครสนใจความรู้สึกเขาเลยสักนิด

"ฮึก พัดคิดถึงพ่อกับแม่ ฮือ ฮึก" ร่างบางสั่นสะท้านอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงที่ส่งออกมาก็เหมือนกำลังจะหมดแรง ในขณะนั้นเองก็มีสายลมอุ่นพัดผ่านร่างของพลลภัตม์ไป มันเหมือนเขาถูกโอบกอดจากใครที่มองไม่เห็น เหมือนแม่เข้ามาโอบกอดเขาในวันที่ทรมานที่สุดในชีวิต

"ฮึก ฮะ ฮึก ฮือ" พัดยิ่งสะอื้นหนักมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงร้องไห้ของหนึ่งชีวิตที่กำลังเจ็บปวดเคล้าคลอไปกับเสียงของสายลมที่คอยพัดวนเหมือนปลอบโยนความทุกข์โศกของใครอีกคน



ผ่านมานานหลายนาทีพลลภัตม์ก็สงบลง ร่างบางเดินกลับเข้ามานั่งอยู่ภายในรถ พัดนั่งนิ่งๆ มานานหลายนาทีแล้ว เขาพยายามคิดหาทางออกสำหรับปัญหาในครั้งนี้ ถ้าหย่าเขาต้องเสียลูกไปแต่ถ้าไม่หย่าเขาก็ต้องทนอยู่กับผู้ชายคนนี้ต่อ หากเขาฟ้องหย่า อีกฝ่ายอาจจะเล่นเกมจนทำให้เขาไม่ได้เป็นผู้ปกครองของภีมพลและภาณิน หากเขาแฉทุกอย่างภาณินและภีมพลของเขาจะทนกับกระแสสังคมได้ไหม เรื่องทุกอย่างวิ่งวงอยู่ในหัวของเขา เขาปวดหัวจนแทบจะระเบิดแต่เขาก็คิดหาทางออกไม่ได้ว่าเขาจะต้องจัดการกับเหตุการณ์นี้ได้ยังไง

หรือว่าเขาอาจจะต้องยอมทนเพื่อคำว่าครอบครัวจริงๆ

มือเรียวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมา เขาเลื่อนหาเบอร์ของคนที่โทรมาหาเขาในวันที่เขมินทร์โผล่มาที่บ้าน เขากดโทรออกหาอีกฝ่าย รอไม่นานอีกคนก็รับโทรศัพท์

"ฮัลโหลครับคุณพัด"

"คุณนุ๊กที่โทรมาติดต่อเรื่องละครใช่ไหมครับ"

"ใช่ครับ" เขาตกตะกอนในการตัดสินใจได้แล้วว่าเขาจะเลือกทางออกทางไหน

"พัด...รับเล่นละครเพลิงพรรณครับ"

"อะไรนะครับ!?" เสียงของปลายสายฟังดูตกใจเหมือนเขาพูดผิด แต่สิ่งที่เขาพูดเขาตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว

"พัดจะเล่นละครเรื่องนี้ครับ" ในเมื่อเกมนี้มันบีบให้เขาไม่มีทางเลือกและต้องสู้ เขาก็จะสู้ เขาจะกลายเป็นผู้คุมเกมนี้ไม่ใช่ฝ่ายนั้นที่จะได้คุมเกมตลอดไป



พลลภัตม์ขับรถกลับมายังบ้านของเขาในเวลาเกือบๆ จะเย็นแล้ว แต่ภาพที่เขาเห็นมันก็เหมือนจุดไฟอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ภาพรถยนต์ของเรวัตจอดอยู่ในโรงจอดรถ เขาเดินเข้าบ้านมาด้วยความคลุกกรุ่นอยู่ในใจ และเมื่อได้เห็นว่าใครที่นั่งรอเขาอยู่ในห้องรับแขก ไฟในอกก็ลุกพรึ่บขึ้นมาอีกครั้ง ร่างสูงสมส่วนของเรวัตนั่งก้มหน้าอยู่ที่โซฟาโดยมีภาณินนั่งอยู่ข้างๆ และร้องไห้ และภีมพลเองก็นั่งมองอยู่ที่โซฟาตัวถัดไป

"คุณกลับมาทำไม"

"แม่,พัด" เขาเอ่ยเสียงเข้มออกไปทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องรับแขก เสียงของเขาเรียกให้ทั้งสามคนที่นั่งอยู่หันมาหาเขา ภาพที่น้ำตาไหลอาบแก้มของลูกชายคนเล็กยิ่งทำให้อารมณ์ของเขามันพัดโหมกระหน่ำเข้าไปมากขึ้น

"ภีม ภาขึ้นไปข้างบน"

"..."

"แม่บอกให้ขึ้นไปข้างบนไง!" เขาเอ่ยตะคอกเสียงดังเมื่อไม่มีใครทำตามที่เขาสั่ง สิ้นเสียงตะคอกของเขาภีมพลก็ลุกขึ้นเดินไปจูงมือภาณินเดินหายออกไปจากห้องนั่งเล่น เขามองตามหลังของลูกชายทั้งสองคนเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านแล้ว เขาจึงหันหน้ากลับมามองผู้ชายที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก คนที่ทำร้ายเขาและชีวิตของเขา

"ผมถามว่าคุณกลับมาทำไม!" เขาเอ่ยถามเรวัตอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบ

"พี่มาขอโทษลูก ขอโทษที่ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้" พลลภัตม์กอดอกยืนฟังอีกคนเอ่ยบอกเสียงสั่น

"..."

"และพี่ก็อยากมาคุยกับพัด"

"ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ กลับไป" เขาเอ่ยบอกเสียงเรียบก่อนที่จะหมุนตัวเดินหนี แต่ก็ถูกอีกคนรั้งเอาไว้ด้วยคำพูดที่อีกฝ่ายเอ่ย

"พัดรับละครเรื่องนั้นเพราะอะไร?" ขาเรียวชะงักก่อนที่จะหมุนตัวหันกลับมาจ้องหน้าของอีกฝ่าย เขามองสบเข้าไปในดวงตาของเรวัต ร่องรอยของความเสียใจยังปรากฏอยู่ชัดแต่มันยังไม่สามารถเทียบได้กับความเจ็บปวดที่เขากับลูกต้องเจอ

"ผมจะรับหรือไม่รับ มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ"

"..."

"จำเอาไว้ว่าตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าคุณนอกใจ คุณไม่ได้สำคัญสำหรับผมอีกแล้ว ทุกการตัดสินใจคุณคือเหตุผลสุดท้ายที่ผมจะไตร่ตรอง" เขาเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายพลางเอ่ยย้ำเสียงแข็งให้อีกคนรู้ว่าตัวเองและชู้ของเขา ไม่ได้จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของพลลภัตม์เลยแม้แต่น้อย

"ที่ผมรับละครเรื่องนี้ เพราะผมต้องการที่จะกลับมาทำงาน ชีวิตของตัวเองก็ต้องดูแลเองถ้ามัวแต่พึ่งพาคนอื่น มันน่ารังเกียจ" นั้นคือเหตุผลที่เขารับละครเรื่องนี้ เขาต้องการที่จะกลับมามีชื่อเสียงในวงการอีกครั้งเพราะเขาต้องการที่จะยืนให้ได้ด้วยขาของตัวเอง เขาต้องการเงินเพื่อที่จะใช้ดูแลตัวเองและลูกในแต่ละวัน ต้องการชื่อเสียงที่จะทำให้มีคอนเนคชั่นและงานเข้าหามากยิ่งขึ้น

"สรุปคือยังไงพัดก็จะหย่ากับพี่ใช่ไหม" ท่าทางของเรวัตตอนนี้ไม่ได้ดูน่าสงสารแต่มันดูน่าสมเพชซะมากกว่า

"ผมจะไม่หย่า"

"ห้ะ!" สิ้นเสียงของเขาเรวัตก็ร้องเสียงดังออกมา บนใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

"ผมจะไม่หย่า แต่ผมกับคุณเราจะแยกกันอยู่" เขาเอ่ยบอกเงื่อนไขออกไป

"พัด" เรวัตเอ่ยเรียกเขาด้วยเสียงอ่อนใจ

"คุณมีหน้าที่ของพ่อที่ต้องดูแลและคุณต้องทำมันต่อ ส่วนหน้าที่สามีของผมมันไม่จำเป็นอีกแล้ว"

"..."

"เราจะแยกกันอยู่ คุณจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้แต่ห้ามอยู่ที่นี่เพราะผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก คุณอยากมาเจอลูกก็ได้ ผมไม่ห้าม ต่อไปนี้ชีวิตของเราข้องเกี่ยวกันแค่เรื่องลูกเท่านั้น เรื่องอื่นคุณไม่มีสิทธิ์ในชีวิตของผม" พลลภัตม์เอ่ยหนักแน่น ย้ำคำในน้ำเสียงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเอาจริง ไหนเมื่อไม่อยากหย่าเขาก็จะไม่หย่า เราจะอยู่ตรงนี้เพื่อลูกเท่านั้น เรวัตทำหน้าที่ของพ่อเขาทำหน้าที่ของแม่ ไม่มีการก้าวก่ายในชีวิตของใครอีกคน

นั้นคือข้อตกลง

"อีกหนึ่งข้อตกลง คือคุณห้ามให้ผู้ชายคนนั้นมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของผมและลูกอีก...ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีกตลอดไป" เรวัตเงียบไปนานและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เขาคงทำได้แค่นี้ เขาคงยื้อพลลภัตม์ไว้ได้แค่นี้จริงๆ

"ขอบคุณ...ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่" เรวัตเอ่ยเสียงทุ้มกับเขา พลางเดินเข้ามาหาแต่พัดถอยหลังออกห่างจากอีกคน

"ไม่ต้องขอบคุณพัดเพราะนี้ไม่ใช่โอกาสที่พัดอยากจะให้" สิ้นเสียงนั้นพัดก็เอ่ยปากบอกให้อีกฝ่ายกลับไป เรวัตกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนจะเดินหายออกจากบ้านของเขาไป พลลภัตม์ยืนสงบสติอารมณ์ของตัวเองอีกครั้ง นี้คือวิธีที่เขาตัดสินใจแล้วและเขาจะยอมรับผลของมัน ร่างบางเดินไปนั่งลงบนโซฟาเพราะเขาเหนื่อยมาตลอดทั้งวันกับการเอาตัวเองไปฟาดฟันกับคนพวกนั้น เขาเสียพลังงานเยอะมากเกินไป ตอนนี้เป็นเวลาเย็นย่ำแล้วเขาควรจะรีบทำกับข้าวและเรียกให้ลูกๆมาทานข้าวพร้อมกับบอกภาณินกับภีมพลถึงการตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ แต่เขาที่ยังไม่ได้ลุกจากโซฟาไปไหนก็โดนเรียกจากเสียงเล็กซะก่อน

"แม่"

"ภีม" ร่างของเด็กชายมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา เสียงที่เอ่ยเรียกเขามันสั่นๆ เหมือนกำลังกลั้นอารมณ์

"แม่...ฮึก แม่ทำแบบนี้ทำไม" น้ำตาของภีมพลหยดลงจากหางตา มันไหลผ่านแก้มของอีกฝ่ายลงมาที่พื้น ภาพตรงหน้าตอนนี้มันกำลังบีบใจของพัดให้เจ็บปวด

"ภีมหมายถึงอะไร...ภีมร้องไห้ทำไม"

"แม่จะดึงเขากลับเข้ามาทำไม! ฮึก...ฮือ ทำไมแม่ไม่หย่า ทำไม" ภีมพลเริ่มสะอื้นหนักมากยิ่งขึ้น เขาได้ยินทุกประโยคที่แม่พูดกลับผู้ชายคนนั้น เขาเดินไปส่งภาณินเข้าห้องแต่เขากลับเดินมาแอบฟังอยู่ที่ปลายบันได ทุกประโยคทุกคำที่เขาได้ยิน มันทำให้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ยังจะต้องยื้อผู้ชายคนนั้นเอาไว้ ทั้งที่แม่บอกกับเขาเองว่าแม่จะหย่าแต่มาวันนี้แม่กลับเลือกที่จะยื้อให้เขากลับมาทำร้ายพวกเราทุกคน

เสียงของผู้ชายคนนั้นตอนที่เซ็กส์โฟนกับชู้รักของตัวเอง

มันยังก้องอยู่ในหัวของเขาไม่ไปไหน เขาไม่อยากพบเจอหรือเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นอีกครั้งด้วยซ้ำ ที่วันนี้อีกคนโผล่มาที่หน้าบ้านพร้อมกับหน้าตาซึมเศร้าน่าสมเพชนั้น มันก็ทำให้เขาขยะแขยงมากพออยู่แล้ว ในตอนที่ผู้ชายคนนั้นคุยกับภาณินเขาก็วิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ ทุกอย่างที่ผู้ชายคนนั้นทำมันยังคงหลอกหลอนอยู่ในหัวของเขา

สกปรก น่ารังเกียจ ขยะแขยง นี้คือความรู้สึกของเขาต่อผู้ชายคนนั้น

"ภีม ฟังแม่นะ" พัดเอ่ยเสียงนุ่มพลางเดินเข้าไปหาอีกคน ก่อนที่จะดึงภีมพลเข้ามาในอ้อมกอดของเขา

"ฮึก...ฮือ"

"ที่แม่ทำทุกอย่างก็เพื่อลูก แม่รักลูกกับน้องมากนะ"

"ไม่จริง! ไม่จริง" ภีมพลผลักเขาออกก่อนจะเดินถอยหลังออกห่างจากเขาไปเรื่อยๆ ในขณะที่เขาพยายามก้าวเข้าไปหาอีกคนมาเท่าไหร่ อีกคนก็เหมือนจะหนีเขาไปมากเท่านั้น

"แม่ห่วงแต่คำว่าครอบครัวปลอมๆ แม่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของใครเลย!"

"ภีม" คำพูดของเด็กชายเหมือนมีมือเข้ามากำหัวใจเขาให้มันเจ็บปวดทรมาน ยิ่งภีมพลร้องไห้และสะอื้นมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกำแน่นมากขึ้นๆ

"แม่ไม่เคยห่วงภีมเลย! ไม่เคย!"

"ภีม!" สิ้นเสียงตะโกนเรียกของเขา ภีมพลก็วิ่งหนีเขาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ขาเรียวของพลลภัตม์วิ่งตามอีกคนไปแต่ก็ไม่ทัน ภีมพลกลับเข้าไปในห้องของตัวเองและล็อกประตูเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถตามเข้าไปได้ พลลภัตม์ทำได้แค่ยืนตะโกนเรียกอีกฝ่ายและเคาะประตูอยู่ที่หน้าห้องเท่านั้น

"แม่ ฮึกแม่ทะเลาะกับพี่ภีมหรอ ฮึก" เสียงเรียกของภาณินดึงความสนใจเขากลับไปยังห้องของอีกคน ร่างเล็กของเด็กชายเปิดประตูออกมามองเขาทั้งน้ำตาคลอ พัดจึงเดินเข้าไปกอดปลอบอีกคนที่กำลังร้องไห้โยเย



พัดอุ้มภาณินเดินไปที่เตียง อีกฝ่ายหลับไปหลังจากร้องไห้ได้พักใหญ่เขาบอกทุกอย่างรวมถึงเรื่องที่เขาตัดสินใจให้คนตัวเล็กฟังก่อนที่จะหลับไป เขาวางร่างของเด็กชายลงบนหมอนนุ่มก่อนจะดึงผ้าขึ้นมาห่มให้อีกฝ่ายและเดินออกจากห้องไป พัดเดินกลับไปยังประตูห้องของภีมพล เขาเคาะเรียกอีกฝ่ายอีกครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ภีมพลคงยังไม่อยากคุยกับเขาตอนนี้

"ภีม...ถ้าใจเย็นลงแล้วมาคุยกับแม่หน่อยนะครับ แม่จะลงไปทำกับข้าวรอนะ" เขาเอ่ยก่อนที่จะเดินลงไปข้างล่าง ร่างบางของพลลภัตม์เดินเข้าไปในห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน ก่อนที่จะเริ่มทำเมนูโปรดของทั้งภีมพลและภาณิน เวลาผ่านไปนานจนตะวันลับขอบฟ้า นาฬิกาบ่งบอกเวลา 19.15 น. อาหารที่เตรียมไว้ก็เสร็จพอดี พัดเดินกลับขึ้นไปชั้นสองเพื่อไปเรียกเด็กชายทั้งสองให้ลงมาทานข้าว เขาเดินเข้าไปปลุกภาณินในห้องก่อนและบอกให้อีกฝ่ายไปล้างหน้าล้าง จากนั้นจึงเดินต่อไปยังห้องของภีมพล

ก๊อกๆๆ

ไม่มีเสียงตอบรับดังกลับมาจากในห้อง

ก๊อกๆๆ

"ภีม กับข้าวเสร็จแล้วครับ" เขาเอ่ยเรียกเด็กชายพลางเคาะประคูอีกครั้งก่อนที่จะจับลูกบิดเพื่อหมุนดู ปรากฏว่า

ประตูไม่ได้ล็อกแล้ว

พลลภัตม์จึงเปิดประตูเข้าไปภายในห้องของอีกฝ่ายแต่กับไม่พบใครเลยภายในนั้น เขาเดินหาภีมพลไปทั่วทั้งห้องก็ไม่เจอ

"ภีม! ภีม! อยู่ไหนลูก!" เขาเริ่มลนลานมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่พบตัวของภีมพล เขาเดินไปยังห้องน้ำภายในห้องของเด็กชายพยายามตะโกนเรียกเผื่อลูกของเขาจะอยู่ในนั้น

"ภีม ภีมอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าลูก" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา มือเรียวเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอใครเจอก็เพียงโพสต์อิทหนึ่งใบที่แปะอยู่ที่หน้ากระจก

'ถ้าสบายใจภีมจะกลับมาเอง'

ทันทีที่เขาอ่านข้อความนั้นจบ ขาของเขาก็เหมือนไม่มีแรง พัดทรุดตัวลงนั่งหน้ากระจกพลางร้องไห้สะอื้นออกมาเสียงดัง มือเรียวพยายามกดโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อติดต่อเด็กชาย

หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

แต่ก็มีเพียงแค่เสียงของคอลเซนเตอร์ที่ตอบกลับมาแค่นั้น



...

- TBC -

ภีม!!! หนูไปไหนค้าบลูก

ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะค้าบ เมนท์ติชมด้วยน้า อยากอ่านเมนท์ทุกคนเลย

พูดคุยกันใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเองงงง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-06-2020 18:59:55
อ้าวว น้องภีมไปนะละลูก จะไปอยู่ยังไง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 01-06-2020 20:42:41
คันแข่วภีมเด้ๆๆๆๆๆๆ​ ชั้นหมึนเธอ​ ฟังแม่พัดก่อนลูกเอ้ยยยยยย​ ตสยๆถ้าครอบครัวผัว​ ปสด.​ มาก​ ไม่ไหวๆๆๆๆๆๆๆ
เป็น​กำลัง​ใจ​ให้​นักเขียน​นะคะ​ สู้​ๆ​นะคะ​นักเขียน​
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-06-2020 22:38:58
โอยยยย..อ่านเสร็จปวดขะหมองไปหมด
อะไรมันจะมาประดังประเด เข้ามารุมเร้าในชีวิตได้ขนาดนี้

ยิ่งอ่าน..ยิ่งเครียด
ดราม่าแตก...แจกทุกตอน จริงๆเลย

+1 ให้คนแต่ง มันน่า....นัก
แต่สนุกมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 01-06-2020 23:04:02
ยังไม่ได้ไปไหนไกลหรอกพัด คนข้างบ้านเขาดักไว้ได้ซะก่อน 5555 ก็ถ้าเรนจะพูดดักนนท์ไว้แบบนั้นทางเดียวที่จะเข้าหาพัดได้ก็คงนี่ละมั้ง อีกอย่างภีมเองก็เกลียดพ่อแล้ว เพราะงั้นเขาจะมาบอกมาห้ามอะไรได้อีกละ ถ้าลูกอยากจะอยู่บ้านเขาอะเนอะ หวังว่าคนข้างบ้านจะดักไว้ทันจริงๆอะนะ ช่วยหน่อย ไม่อยากให้เด็กมีปัญหาไปมากกว่านี้ มันจะเป็นปัญหาสังคมต่อไป 5555 //ยังพัด ยัง อย่าเพิ่งเหนื่อย ถ้าแค่นี้ยังเหนื่อย กว่าจะจบเรื่องเธอคงปางตายอ่ะ ต้องจบสวยๆดิ 555555 ภีมเลิกสับสนในตัวเองได้แล้วหรอ ถึงมาบอกว่าแม่ทำงี้ทำไม ทำไมไม่หย่า ก่อนหน้าก็เคยว่าแม้เกลียดแต่ก็ยังอยากอยู่เป็นครอบครัว ไม่อยากให้เขาไป มาตอนนี้สรุปได้แล้วใช่ไหมว่าใจจริงเลือกทางไหน หืม แล้วก็นะถ้าแบบที่จะอยากให้เป็น ผลจะเป็นยังไง จะเกิดไรขึ้นบ้าง รับได้ไหมละ จะสู้ไปกับแม่เขาไหม เนี้ยถึงต้องพัดต้องคุยกับลูกถ้าลูกจะเข้าใจเรื่องราวได้แบบนี้ แต่ดูเหมือนพัดจะช้าไปเล็กหน่อย ยังมีโอกาสเคลียร์กันได้ //จะลากความเป็นครอบครัวไปได้นานขนาดไหน หึหึ ไม่หย่าเพราะแค่คิดว่าจะไม่ชนะแค่นี้แล้วก็ คุณนนท์ไปซื้อแห้วมาสักกระสอบนะ 55555555 สนุกกกค่าาาา จะรอดูพัดจะคุมเกมส์ยังไง จะเหนือกว่าหรือจะแค่ไปขู่ฟ่อๆว่าผัวไม่อยากหย่า ฉันมีทะเบียนสมรสนะ 55555 ประเมินพัดต่ำไปไหวว่ะ ไม่หรอกพัดก็มีดีแหละ เข้มแข็งได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอ แยกกันอยู่ หมดใจ เหตุธาตุแท้ของแม่ผัวก็รังเกลียดถือว่าทำให้พอใจระดับนึงเลย 555555 เอ้าๆรอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณนะคะที่แต่งสนุกๆให้อ่าน  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 01-06-2020 23:36:04
ภีมไปกับเพื่อนแน่ๆ  โอ้ยนึกว่ากลับมาเเล้วภีมจะมาช่วยเป็นแบคให้แม่
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 01-06-2020 23:46:55
ภีมกำลังทำให้ตัวเองกลายเป้นนเด้กมีปันหา

อีกอย่างนะภีมก่อนจะเอาค.รุ้สึกตัวเองหันไปปรึกษาน้องตัวเองคะ พี่จะให้หย่า น้องไม่ให้หย่า ควรทำไงดีล่ะคนเป้นแม่มันท้อนะ

ลองไม่พวกเทอสองคน ป่านนี้เขาบินเดียวไปนานแล้วหนุ

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-06-2020 02:02:16
เห้ออออออ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 10 จนมุม 100% (01/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-06-2020 10:36:15
 :เฮ้อ: อ่านจบแล้วปวดขมอง พัดยังต้องสู้อีกเยอะ กลัวแต่ภีมจะเสียคนเดินผิดทางจริง
หวังว่าจะมีคนมาดึงไปในทางที่ดีนะ กลัวเพื่อนใหม่ของภีมจริง ๆ เลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 04-06-2020 19:01:24
บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100%

ก๊อกๆๆ

"ภีม...ถ้าใจเย็นลงแล้วมาคุยกับแม่หน่อยนะครับ แม่จะลงไปทำกับข้าวรอนะ" จากนั้นเสียงพูดของแม่ก็เงียบหายไป มันถูกแทนที่ด้วยเสียงก้าวเดินลงบันได เขานั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงมานานหลายนาทีแล้ว นับตั้งแต่รับรู้ถึงสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นกับแม่พูดคุยกัน

'ผมจะไม่หย่า'

คำพูดของแม่ในตอนนั้นมันทำให้เขาชะงักและนิ่งไป เขาทรุดตัวลงกับขั้นบันไดช้าๆ ก่อนจะปล่อยน้ำตาให้มันไหลเงียบๆ พยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองไม่ให้ไปแทรกบทสนทนาที่กำลังดำเนินอยู่

'ต่อไปนี้ชีวิตของเราข้องเกี่ยวกันแค่เรื่องลูกเท่านั้น เรื่องอื่นคุณไม่มีสิทธิ์ในชีวิตของผม'

สุดท้าย...แม่ก็ทิ้งเขาไว้ เขาเคยบอกแม่แล้วว่าเขาไม่ต้องการที่จะพบเจอผู้ชายคนนั้นอีกแต่แม่ก็ไม่ยอมหย่า แม่ยังยอมที่จะให้ผู้ชายคนนั้นกลับเข้ามาในชีวิตของเขาและภาณิน แต่แม่ก็หนีออกจากกรงของครอบครัวไปเพียงคนเดียว แม่ให้สิทธิ์เขาคนนั้นในการทำหน้าที่พ่อ แต่สิทธิ์ในการทำหน้าที่สามีของแม่ไม่ต้องไปยุ่ง แม่ไม่เคยถามว่าเขาต้องการไหม แม่ไม่เคยถามหรือสนใจความรู้สึกเขาจริงๆ เลย

ตั้งแต่เด็กจนโต

ตั้งแต่เขาเกิดมา

ช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากๆ ในชีวิต คงจะเป็นตอนที่ภาณินยังไม่ตามเขาออกมามองดูโลกภายนอก เพราะตอนนั้นใครๆ ก็สนใจและดูแลแค่เขาคนเดียว

เก็บดวงดาวมาแต่งผม เก็บหมอกลม ลงกระออม

เขายังจำเสียงที่แม่ร้องเพลงกล่อมเขาเข้านอนได้อยู่เลย

เก็บแผ่นฟ้าทำผ้าอ้อม เก็บไม้หอมล้อมเปลดี

เสียงทุ้มนุ่มไพเราะของแม่กับการไกวเปลเบาๆ

เก็บความรักจากคนทั้งหล้า เก็บเมตตาไว้ที่นี่

ความอบอุ่นของจุมพิตที่กระหม่อมก่อนนอนทุกคืน เขาไม่เคยลืม

เก็บไมตรีที่โลกมี เก็บสิ่งดีไว้ในใจ

คำปลอบโยน คอยโอ๋ตอนเขาหกล้ม

เก็บไมตรีที่โลกมี เก็บสิ่งดีไว้ในใจ

แววตาที่แม่มองเพียงแค่เขา มันยังติดตรึง

เก็บไมตรีที่โลกมี เก็บสิ่งดีไว้ในใจ

คำบอกรักก่อนหลับใหล ยังก้องกังวานในความทรงจำ

'แม่รักหนูนะ ภีมพล'



แต่พอมีภาณินเพิ่มเข้ามา แม่ก็ละเลยความสนใจไปจากเขา จุมพิตที่กระหม่อมก่อนนอนที่เขาเคยได้รับในทุกวัน ก็เริ่มที่จะลดน้อยลง เพราะแม่ต้องกล่อมน้องนอนด้วยเหมือนกัน คำปลอบโยนตอนเขาหกล้มก็ไม่เคยได้รับ มีแต่บอกว่าให้เข้มแข็งเพราะโตขึ้นเราต้องดูแลน้อง เราต้องห้ามร้องไห้ บางครั้งเขาอาจจะแค่อยากได้ยินคำว่า 'ไม่เป็นไร' มากกว่าคำพูดพวกนั้น หรือแม้แต่กระทั่งคำบอกรักที่แทบไม่มีเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของแม่เลย

เขาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ ปล่อยให้เข่าแข็งๆ ของตัวเองคอยซับน้ำตา ปล่อยให้แขนของตัวเองคอยโอบกอดและปลอบโยน ท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงหนึ่งที่คอยตะโกนอยู่ข้างในเสมอๆ

'ไม่เป็นไรนะภีม'

'ทุกอย่างจะโอเคขึ้น'

'อยากร้อง ร้องเลย...ระบายมันออกมา ฉันรับฟังอยู่เสมอ'

มันเป็นเสียงของเอง เสียงของภีมพล อรรถจิรานันท์ คนนี้เอง

เขาปล่อยให้เวลาผ่านไปนานหลายนาที เขาทำแค่นั่งกอดเข่ามองดาวและเหม่อมองดาวบนท้องฟ้าผ่านกรอบหน้าต่างสี่เหลี่ยมที่อยู่ในห้องนอน สวยจังเลยนะ ดวงดาวที่กำลังเปล่งประกาย เขาอยากออกไปข้างนอกอยากไปนั่งเงียบมองดาวชัดๆ บ้างจัง สุดท้ายภีมพลก็ลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินไปยังโต๊ะหนังสือก่อนที่จะหยิบเอาโพสต์อิทและปากกามาเขียนอะไรสักอย่างลงไป เขานำโพสต์อิทนั้นไปแปะไว้ที่หน้ากระจกในห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินออกมาหยิบกระเป๋าสตางค์ของเขาและออกจากห้องไป

ขายาวของเขาก้าวลงบันไดอย่างช้าๆ เมื่อเท้าของเขาแตะพื้นบ้านเรียบร้อยแล้วเขาก็หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาผู้เป็นแม่ของตัวเอง ก่อนจะพบว่าแม่ของเขากำลังขะมักเขม้นในการทำอาหารอยู่ภายในห้องครัว ภีมพลจึงคอยๆ ย่องเพื่อเดินไปยังประตูบ้านและเดินออกจากบ้านไป



เขาหนีออกมาจากบ้านของเขาในเวลาที่ดวงตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว เขารู้ว่าแม่จะต้องเป็นห่วง เขาจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ แต่เขาเพียงแค่อยากหนีจากความวุ่นวายสักพัก ขาเรียวของเขาก้าวไปเรื่อยๆ จุดหมายของการเดินทางในครั้งนี้คือสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านแห่งนี้ ในขณะที่เขากำลังเดินไปยังสวนสาธารณะ เขาก็สังเกตถึงความผิดปกติ

ตึก ตึก ตึก

เหมือนมีเสียงของใครบางคนกำลังเดินตามเขาอยู่ ในทางที่มืดสนิทแบบนี้ เขาจึงลองแกล้งหยุดเดินเพื่อที่จะดูว่าเขารู้สึกไปเองหรือมันคือเรื่องจริง แต่เมื่อเขาหยุดเดิน เสียงนั้นมันก็หายไปด้วยเมื่อเขาเริ่มที่จะก้าวเดินอีกครั้ง มันก็กลับมาดังขึ้นอีก สมองของเขากำลังประมวลผลและสุดท้ายมันก็ทำให้เขารู้ว่า

มีใครบางคนกำลังตามเขามา

เมื่อคิดได้ในตอนนั้น เขาก็รีบออกตัวสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตและเสียงนั้นเองมันก็กำลังวิ่งตามเขามาเรื่อยๆ เขาวิ่งไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเขาสะดุดขาของตัวเองล้มลงตรงทางแยกของหมู่บ้าน เขาค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะรู้สึกแสบๆ บริเวณหัวเข่า แต่เขายังไม่ทันที่จะได้ก้มลงสำรวจร่างกายของตัวเองเขาก็ได้ยินเสียงนั้นวิ่งเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ภีมพลจึงค่อยๆ เดินไปหลบยังข้างหลังของถังขยะที่ตั้งอยู่แถวนั้นและรอให้เสียงนั้นวิ่งผ่านตรงนี้ไป แต่มันไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเมื่อเสียงฝีเท้าของใครสักคนกำลังเดินตรงมายังที่ๆ เขาซ่อนตัวอยู่

ตึก ตึก ตึก

มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าถังขยะ ในตอนนั้นที่เขากำลังจะวิ่งหนีออกมาจากที่ซ่อนแขนของเขาก็ถูกบุคคลปริศนาจับเอาไว้ซะก่อน ทันทีที่โดนจับได้เขาพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือและสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากการกอบกุม

"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!"

"ภีม! ภีม! หยุด นี่น้าเอง ภีม!" แต่เขาก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ฟังเสียงของบุคคลปริศนาชัดๆ เขาค่อยๆ หันกลับมามองคนที่จับแขนของเขาไว้แน่นก่อนที่จะเบิกตาโตเมื่อรู้ว่าเป็นคุณนักเขียนข้างบ้านคนนั้น เมื่อเขาสงบลงคุณนักเขียนคนนั้นก็ปล่อยแขนเขาก่อนจะก้มลงสำรวจร่างกายของเขา

"เมื่อกี้น้าเห็นภีมหกล้ม เจ็บตรงไหนไหม" ความเป็นห่วงถูกถ่ายทอดออกมาจากสายตาของคนตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง ก่อนที่ร่างสูงจะคุกเข่าลงก้มมองไปยัง หัวเข่าของเขาที่ถลอกจนได้แผล

"กลับไปทำแผลที่บ้านก่อนเถอะ น้าจะพาไป"

"ไม่...คุณไม่ต้องมายุ่ง" เขากำลังจะเดินหนีอีกคนไปอีกทางแต่ก็ถูกมือหน้าของอีกฝ่ายฉุดรั้งเอาไว้อีกครั้ง

"ไปทำแผลที่บ้านน้าก็ได้ น้าไม่พากลับไปส่งที่บ้านหรอก" เมื่อคนตรงหน้าจะมองความคิดของเขาออกว่าเขายังไม่ต้องการที่จะกลับบ้านของตัวเอง อีกฝ่ายถึงยื่นข้อเสนอมาแบบนี้ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเลือกที่จะปฏิเสธความหวังดีของอีกคนอยู่ดี ให้ตายยังไงก็ไม่กลับไปหรอก



สุดท้ายร่างของเด็กชายก็ก้าวเดินเข้ามายังบ้านของนักเขียนหนุ่มที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆ ของเขา ภีมพลเดินตามร่างหนาเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนที่จะมองสำรวจไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นที่ถูกตกแต่งได้อย่างสวยงามและสบายตา อีกคนให้เขานั่งรออยู่ที่โซฟาก่อนที่จะขอตัวเดินหายไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อที่จะไปเอาอุปกรณ์มาทำแผลให้กับเขา

ภีมพลกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนที่จะไปสะดุดเข้ากับภาพวาดที่อยู่บนผนังห้องเป็นภาพวาดของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงาม ดวงดาวที่ส่องสกาวดูน่ามองจนทำให้เขาอยากที่จะครอบครองดวงดาวเหล่านั้น เขากวาดสายตาไปอีกครั้งก่อนที่จะไปสะดุดเข้ากับหนังสือต่างๆ ที่เรียงรายอยู่บนชั้น หนังสือเกือบจะทุกเล่มเป็นเรื่องของดวงดาวทั้งสิ้น มือเรียวกำลังจะเอื้อมไปหยิบออกมาเปิดอ่านแต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงทุ้ม

"ชอบดาวหรอ" ชานนท์หยิบอุปกรณ์ทำแผลแล้วเรียบร้อย เขากำลังจะเดินกลับมาหาอีกฝ่ายที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นอีกคนกำลังยืนมองรูปท้องฟ้าที่เขาเป็นจิตรกรเจ้าของผลงาน ก่อนที่หยุดอยู่นิ่งๆ และมองอีกคน ใบหน้าของภีมพลติดรอยยิ้มเล็กๆ เวลาที่อีกคนมองดูภาพนั้น ก่อนที่ร่างเล็กของเด็กชายจะหันมาให้ความสนใจกับหนังสือดาราศาสตร์ของเขาที่เขาเก็บสะสมมันไว้บนชั้นหนังสือของตัวเอง

"อืม ชอบมาก"

"ไปนั่งที่โซฟาสิ เดี๋ยวน้าทำแผลให้" ร่างสูงเดินนำเด็กชายกลับมานั่งที่โซฟาก่อนที่จะเปิดกล่องอุปกรณ์ทำแผลขึ้นมาและเริ่มลงมือทำแผลให้อีกคน

"ทำไมถึงไม่อยากกลับบ้านล่ะ...ทะเลาะกับแม่มาหรอ"

"..." ชานนท์พยายามชวนอีกคนคุย ถึงเรื่องที่อีกคนหนีออกมาจากบ้าน ในตอนนั้นเขากำลังจะเดินออกไปเรียกให้ ลัคกี้ เจ้าลูกหมาของเขาเข้าบ้าน แต่สายตาเขาก็ไปเจอเข้ากับภีมพลที่กำลังปิดประตูบ้านแล้วเดินออกมาตอนกลางคืนแบบนี้ เขาเป็นห่วงเลยเดินตามออกมาด้วย แต่เหมือนอีกคนจะรู้ว่ามีคนตามตัวเองมาถึงได้วิ่งหนีจนได้แผล เขาจึงตัดสินใจพาภีมพลมาทำแผลที่บ้านของตัวเอง ในตอนที่เขาเข้าไปอุปกรณ์ทำแผลเขาก็ส่งข้อความไปหาคุณพัดแล้วว่าไม่ต้องห่วงตอนนี้ภีมพลอยู่กับเขา

"ไม่ตอบอย่างนี้ทะเลาะกันมาแน่ๆ เลย" ปากก็ชวนอีกฝ่ายคุย มือก็ทายาให้เด็กชายไปด้วย

"..."

"ทะเลาะกันเรื่องอะไรล่ะ"

"โอ้ย!" อีกฝ่ายไม่ยอมตอบเขาสักที เขาจึงแกล้งกดสำลีลงบนแผลของอีกคน จนภีมพลร้องโอ้ยออกมา

"ว่าไง ทะเลาะอะไรกัน"

"คุณไม่ต้องรู้หรอก มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" เขาทำแผลให้เด็กชายเสร็จแล้วและกำลังเก็บอุปกรณ์ทำแผลกลับเข้ากล่องปฐมพยาบาล ก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าอีกคนนิ่ง

"คุณมองหน้าผมทำไม" เด็กชายเอ่ยถาม

"ชอบดูดาวไหม" แต่ชานนท์ไม่ตอบ อีกทั้งยังถามอีกฝ่ายกลับไปด้วย

"ก็...ชอบ" เมื่อได้คำตอบจากภีมพล ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเอื้อมมือไปฉุดให้อีกคนยืนขึ้นด้วย จากนั้นขายาวก็ก้าวนำหน้าเด็กฝ่ายไปยังชั้นบนของบ้าน ภีมพลจึงถูกร่างหนาดึงแขนเดินตามไปอย่างเงียบ ก่อนที่ร่างสูงพาอีกคนเดินเข้าไปยังห้องๆ หนึ่งซึ่งเป็นห้องนอนของเจ้าของบ้าน

"คุณพาผมมาห้องนอนคุณทำไม คุณจะทำอะไร!" ร่างสูงหันมามองหน้าเขา ก่อนจะดีดหน้าผากอีกคนและจึงหันไปหยิบเหล็กยาวๆ ที่มีลักษณะเหมือนตะขอมาเกี่ยวกับที่จับเหล็กสีเงินที่อยู่บนเพดานก่อนที่จะดึงฝ้าเพดานให้มันเปิดออก สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาของเด็กชายคือบันไดไม้ที่ถูกพับซ้อนเก็บไว้ ร่างสูงของนักเขียนหนุ่มดึงบันไดลงมาจนกลายเป็นทางที่ทอดยาวขึ้นไปข้างบน

"ตามมาสิ" ชานนท์หันมาเอ่ยเรียกอีกคนก่อนที่จะปีนบันไดนั้นขึ้นไปก่อน ภีมพลจึงปีนตามอีกคนขึ้นไป จุดหมายปลายทางก็คือห้องใต้หลังคาที่ที่มีกระจกบานใหญ่ทำให้สามารถมองเห็นดาวเวลากลางคืนได้

สวย...มันสวยมาก

"ชอบไหม ที่นี่น้าชอบมาเวลาคิดงานไม่ออกหรือมีเรื่องไม่สบายใจ" ภีมพลหันกลับไปพยักหน้าให้กับอีกคน ก่อนที่จะหันมาสนใจหมู่ดาวตรงหน้า เขาเหมือนได้เข้าใกล้พวกมันอีกนิดจากที่เคยแค่เฝ้ามองแค่ตรงหน้าต่างห้องของตัวเอง

ชานนท์เดินไปยังหน้าต่างของห้องใต้หลังคาก่อนที่จะเอื้อมมือไปปลดล็อกมันและเปิดมันออกไป ก่อนที่จะยื่นหน้าออกไปนอกหลังคา เขาหันกลับมาเรียกอีกคนให้เข้าไปยืนข้างๆ กัน ขาเรียวของภีมพลเดินตามคำชักชวนของอีกฝ่ายไปยืนข้างๆ ร่างสูงของนักเขียนหนุ่มและยื่นหน้าออกไปนอกหลังคาแบบที่อีกคนทำ ก่อนที่ชานนท์จะผละตัวออกไปจุดเทียนหอมและตั้งไว้ใกล้ๆ พวกเขา

ไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ ท่ามกลางหมู่ดาวมีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ลอยปกคลุมไปพร้อมกับกลิ่นของเทียนหอม แต่มันก็ไม่ได้อึดอัดแต่กลับสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ผ่านไปนานหลายนาทีก็มีเสียงที่ผ่ากลางความเงียบขึ้นมา

"ตอนเด็กๆ แม่ชอบพาผมออกมานั่งดูดาวที่สนามหญ้า" มันเป็นเสียงของภีมพล

"..."

 "แม่จะร้องเพลงๆ หนึ่งให้ผมฟังเสมอ...ตอนนั้นผมมีความสุขมาก ผมชอบดูดาวมาตั้งแต่ตอนนั้น"

"..."

"ไม่ใช่เพราะว่ามันสวย แต่เพราะมันทำให้ผมคิดถึงช่วงที่ผมมีความสุข"

"..."

"ช่วงที่ผมรู้สึกว่าผมมีแม่อยู่ด้วยข้างๆ" เสียงของภีมพลเอ่ยไปเรื่อยๆเหมือนต้องการที่จะระบายสิ่งที่อยู่ในใจให้เขาได้รับฟัง

"แต่หลังจากที่คลอดน้องออกมา แม่ก็ไม่เคยพาผมไปดูดาวอีกเลย ฮึก" เสียงของภีมพลเริ่มสั่นตามอารมณ์ของเขาที่กำลังหวั่นไหว

"แม่ทุ่มความสนใจ ฮึก ทั้งหมดไปที่น้อง ฮือ" ร่างบางเริ่มที่จะสะอื้นออกมาเบาๆ ก่อนที่จะมีแค่เพียงเสียงร้องไห้ที่ดังกังวานไปทั่วห้องใต้หลังคา ท่ามกลางหมู่ดาวที่ลอยอยู่รอบๆ เหมือนเขาถูกโอบกอดด้วยแสงดาว ชานนท์มองคนตัวเล็กตรงหน้าที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนักก่อนที่จะเอื้อมมือไปยังลาดไหล่ของอีกฝ่าย เขาวางมือลงบนนั้นเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่ได้กำลังร้องไห้อยู่คนเดียว ภีมพลไม่ได้โดดเดี่ยวท่ามกลางความมืดมิดและปัญหาของผู้ใหญ่



พลลภัตม์หลังจากที่ได้รับข้อความจากชานนท์ว่าตอนนี้ลูกชายของเขาอยู่กับชานนท์ที่บ้าน เขาที่กำลังจะพุ่งตัวออกไปตามลูกชายก็ถูกอีกครั้งห้ามเอาไว้ บอกเขาว่าตอนนี้ภีมพลอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเจอกับเขา พัดเองจึงทำได้แค่เพียงนั่งรออีกคนอยู่ที่บ้านของตัวเอง ผ่านไปนานหลายชั่วโมงแล้วที่เขาเอาแต่เดินไปเดินมา เหมือนหนูติดจั่นอยู่อย่างนี้ ข้างๆ กันกับเขาก็มีภาณินนั่งอยู่ด้วย

"แม่"

"ภีม" ในขณะที่เขากำลังเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านเสียงเรียกก็ดังขึ้นมาที่หน้าประตู เขาหันไปตามเสียงดวงตาของเขาจึงไปสบเข้ากับดวงตากลมของลูกชายที่มีร่องรอยของคราบน้ำตาชัดเจนอยู่ เขาพุ่งเข้าไปกอดภีมพลทันทีที่อีกฝ่ายก้าวเดินเข้ามาภายในบ้านและพูดเพียงแต่คำว่า

"แม่ขอโทษนะภีม แม่ขอโทษนะลูก ฮึก แม่ขอโทษ" เขากอดภีมพลแน่นเหมือนอีกคนกำลังจะหายไปอีกครั้ง

"ภีมก็ขอโทษ ฮึก ขอโทษนะครับแม่ ภีมขอโทษ" ร่างของคนทั้งคู่กอดกันกลมอยู่กลางบ้าน ก่อนที่ภาณินจะวิ่งเข้าไปกอดทั้งแม่และพี่ชายของเขาด้วย ภาพตรงหน้าเรียกรอยยิ้มของชานนท์ที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านของทั้งสามแม่ลูก เวลาผ่านไปสักครู่ทั้งสามคนจึงสงบลง

"แม่ขอโทษนะลูก ที่แม่ไม่หย่ากับเขาเพราะแม่ทำเพื่อลูกๆ ทั้งสองคน แม่เสียลูกไปไม่ได้ ฮึก" เสียงสั่นๆ ของพลลภัตม์เริ่มที่จะเอ่ยออกมา

"แม่หมายความว่ายังไง" เป็นภีมพลที่เอ่ยถามพัดออกไปถึงความหมายในคำพูดของผู้เป็นมารดา

"คุณย่าของลูกเขาขู่แม่ ฮึก แม่ไม่มีทางเลือกถ้าแม่หย่าเขาจะเอาภีมกับภาไปจากแม่ ฮือ" พลลภัตม์สะอื้นหนักมากยิ่งขึ้น เขาเล่าทุกอย่างให้ภีมพลและภาณินฟัง ทั้งเรื่องนักสืบและเรื่องที่คุณหญิงริณีใช้อำนาจในทางที่ผิด พัดเล่าไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคร้ายหรือกรรมที่ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องราวแบบนี้ ภีมพลและภาณินกอดปลอบพัดคนละข้างทั้งสามคนร้องไห้ออกมาเหมือนกัน พวกเขาสงสารแม่ที่ต้องสู้และถูกบีบจากครอบครัวของฝั่งพ่อ

"ภีมกับภารักแม่นะครับ ฮึก เรารักแม่นะ"

"ใช่ๆ ภารักแม่นะครับ ฮือ" เสียงร้องไห้ดังไปทั่วทั้งบ้านหลังใหญ่ น้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสายแสดงถึงความเจ็บปวดที่พวกเขาทั้งสามคนต้องแบกรับจากการกระทำของคนเห็นแก่ตัวแค่เพียงคนเดียว ผู้ชายคนนั้นทำร้ายทุกคนด้วยการหักหลังความรัก ความเชื่อใจของครอบครัว

"แม่ขอโทษ ฮึก แต่พยายามแล้ว พยายามที่จะดูแลพวกหนูให้ดีที่สุด ฮึก...ฮือ" พลลภัตม์กอดลูกๆ ทั้งสองคนของตัวเองไว้แน่น เหมือนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวและเยียวยาความเสียใจของพวกเขาทุกคน ต่อจากนี้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีตัวตนในสายตาเขาอีกต่อไป เรวัตจะไม่มีอิทธิพลกับชีวิตของเขาอีกแล้ว เขาจะทำทุกอย่างเพื่อลูกๆ เท่านั้น



ผ่านไปนานถึง 1 สัปดาห์ วันนี้ก็มาถึงวันที่กองละครเพลิงพรรณนัดอ่านบทละครครั้งแรกที่บริษัทของพี่เจ๋ง ผู้จัดละครเรื่องนี้ เขาไปส่งภีมพลและภาณินที่โรงเรียนก่อนจะขับรถไปยังที่นัดหมายของกองละคร พลลภัตม์ขับรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถที่ข้างล่างของตึกสูง ก่อนที่จะลงจากรถและเดินเข้าไปในตึก เขาที่ยืนรอลิฟต์อยู่ก็ถูกใครบางคนเอ่ยทักขึ้นมา

"สวัสดีครับพี่พัด" เป็นเขมินทร์ที่เอ่ยทักเขา พัดให้ใช้หางตามองไปยังอีกฝ่ายที่เดินเข้ามาทักกับผู้จัดการของอีกคนก่อนที่จะละสายตากลับมาที่ลิฟต์เหมือนเดิม

"ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยครับ หยิ่งจังเลย" ทันทีที่เขมินทร์พูดจบลิฟต์ก็มาพอดี ขายาวของพัดก้าวเข้าไปในลิฟต์พร้อมๆ กับเขมและปุยที่เดินตามเข้ามา

"พี่พัดรับละครเรื่องนี้ด้วยสินะครับ ใจกล้าจังเลยนะ นึกว่าจะหน้าบางกว่านี้ซะอีก"

"..."

"แต่ก็หน้าหนาอยู่นะ ที่กล้ารับเล่นละครที่มีทั้งผมแล้วก็พี่เรน" ท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงของเขมินทร์ที่พูดกระแซะเขาอยู่ฝ่ายเดียวแต่เขาไม่ได้คิดจะตอบโต้อีกคนเลยสักนิด

"นี่...จะเมินกันอย่างนี้ใช่ไหม ถามหน่อยเถอะทำไมไม่หย่าให้มันจบๆ ไปสักที จะยื้อไปเพื่ออะไร พี่ก็รู้ว่าพี่เรนอยากหย่ากับพี่แค่ไหน จะหน้าด้านอยู่ไปทำไม"

ติ๊ง

เสียงสัญญาณดังขึ้นทันทีที่เขมพูดจบ ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่ต้องการ ร่างโปร่งของพลลภัตม์เดินออกมาจากลิฟต์โดยที่ยังมีเสียงของเขมินทร์ตามด่าไล่หลังมา พัดหยุดเดินทันทีก่อนที่จะหันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

"เหรอ เรวัตอยากหย่าหรอ ฉันไม่รู้มาก่อนเลยถ้าเขาอยากหย่า...แล้วทำไมตอนที่ฉันบอกจะไม่หย่า เขาต้องดีใจด้วยนะ นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า" สิ้นเสียงของพัด เขมินทร์ก็จะพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายแต่ปุยผู้จัดการของเขาดึงเอาไว้ก่อน เขาทำได้แค่ส่งสายตามองตามอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้าห้องประชุม

พัดเดินไปทักทายเจ๋ง ผู้จัดละครเรื่องนี้และนักแสดงคนอื่นๆ เขาเห็นเรวัตที่นั่งอยู่อีกฝั่งมองมาที่ตนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้อีกฝั่งหนึ่ง ผิดกับเขมินทร์ที่นั่งลงข้างกับเรวัต การอ่านบทในครั้งนี้เป็นไปด้วยความอึดอัดเพราะสถานการณ์ของสามีภรรยาที่ทุกคนในห้องนี้รู้ดีว่าคนทั้งคู่กำลังมีปัญหากันอยู่

"พี่ว่าพัดพูดเร็วเกินไปนะ มันน่าจะช้าลงอีกหนึ่งจังหวะเพราะมันเป็นพีเรียด" เจ๋งที่คอยฟังการอ่านบทอยู่พูดออกมาทันทีที่พัดอ่านจบ เขาคอยติคอยปรับนักแสดงทุกคนให้เข้ากับคาแรคเตอร์มากที่สุด เขาหวังว่าละครเรื่องนี้จะต้องออกมาดีที่สุดในพ.ศ.นี้ เขาอยากให้มันมีกระแสและถูกพูดถึงมากที่สุดในวงสังคม

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr

ในขณะที่กำลังมีการอ่านบทกันอยู่ โทรศัพท์ของพลลภัตม์ก็สั่นเตือนว่ามีคนโทรเข้ามา มือเรียวเอ่ยขออนุญาตและออกไปรับโทรศัพท์ที่ข้างนอกห้องทันที เบอร์ที่โทรเข้ามาไม่ได้โชว์ชื่อ เขาจึงไม่รู้ว่าใครโทรมา

"สวัสดีครับ พัดพูดครับ" เขากรอกเสียงลงไปทันทีที่กดรับ

"คุณพัดคะ ดิฉันเป็นครูประจำชั้นของน้องภานะคะ" เสียงหวานเอ่ยตอบเขากลับมา

"ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"น้องภามีเรื่องทะเลาะชกต่อยกับเพื่อนในห้องค่ะ" ทันทีที่ปลายสายพูดจบ ร่างกายของเขาก็ชาไปทุกส่วน



...

- TBC -

มีแต่เรื่องๆๆๆ ใกล้จะครึ่งเรื่องแล้วนะทุกคนนนนน

เมนท์ติชมให้ด้วยนะค้าบ ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะ

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะครับ

ทวิตเขาเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-06-2020 20:13:02
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 04-06-2020 22:21:23
ก็คือจะประสบพบเจอปัญหาแบบนี้ไปอีกนานละจ้า 5555 แถมซ้ำแม่รับงานแสดงจะมีเวลาดูแลเหมือนเดิมได้ไหม งานแสดงก็เหนื่อย ดูแลลูกตามแก้ปัญหาให้ลูกไม่เว้นแต่ละวัน ลำพังปัญหาลูกก็หนักแล้วนะ นี่ยังต้องมารบรากับเมียน้อยอีก เหนื่อยแทน 555555 อะไรก็ม่ายยยรู้ เอาใจข่วยนะพัด เฮ้!!คนข้างบ้านเรียกเด็กสองคนนี้ไปปรับทัศนคติหน่อยดิ ไม่ขอไรมากแค่ช่วยเข้าใจ ทำใจร่มๆกันหน่อย ถ้าเขาไม่มีเวลาให้ลูกก็ช่วยชวนเด็กๆไปทำกิจกรรมบ้างก็ดีนะ อย่างไปดูดาว สวนสนุกงี้ จะได้สนิทกันเพิ่มด้วย คิคิ สนุกจ้า รอตอนหน้าเลย ขอบคุณนะคะที่มาต่อให้อ่าน ตอนคนข้างบ้านเดินตามภีม นึกว่าหมาเดินตาม 55555  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 04-06-2020 22:33:18
จะไม่มีสักวันเลยที่พัดจะได้สงบสุข แงๆ มีแต่เรื่อง สงสารพัดจังง  :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 04-06-2020 23:47:57
ดีใจครับที่ ภากับภีมมาอยู่ทีมแม่ เรื่องที่โรงเรียนต้องเป็นพวกเพื่อนมาพูดเรื่องครอบครัวแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-06-2020 00:05:37
พัดน่าจะท้าเขมไปตรงๆเลยว่า ไปบอกเรนเองว่าจะขอหย่า
แล้วพัดจะหย่าให้แต่โดยดี กล้าจริงก็มาได้เลย

เมียน้อยมันจะได้รู้ความจริงซะที ว่าใครกันแน่ที่ไม่ยอมหย่า
ไม่ใช่ไปบอกชู้ว่าอยากหย่า แต่จริงๆมาขอร้องเมียไม่ยอมหย่า
ไอ่เรน..สัส หน้าด้าน
 :beat:

น้านนท์คนข้างบ้าน เอาตำแหน่งพระเอกของเรื่องนี้ไปเลยเหอะ
ใกล้จะครึ่งเรื่องเหอะ ส่อแววเป็นพระเอกเต็มตัวได้แล้ว
 :hao3:

เพราะตัวร้าย ทั้งผู้-เมีย มันออกลายมานานแล้ว ตั้งแต่ต้นเรื่อง
อย่ารีบตายห่าไปซะก่อนล่ะ อยู่กันแบบตัวเหี้ยกับตัวเหี้ย ให้ดูก่อน

เพราะคนอ่าน..รอวันนั้นอยู่
วันที่คนทั้งโลกสะใจ และสะจายยยยยยยย
ฮ่าฮ่า

สัสผู้กับสัสเมีย ตั้งหน้าห้ำหั่นเข้าหากัน ฟัดกันนัวเนีย
กัดกันแบบเอาเป็นเอาตาย
เรารออ่านอยู่นะ...กร๊ากกกกกกกก
 :laugh:

+1 ให้จ้า
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-06-2020 00:38:15
มีแต่เรื่องให้ปวดหัว
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-06-2020 09:27:06
พัดสู้ ๆ เข้าไว้ เขมมันมาพูดอะไรให้เคืองก็ทนนะ ถ้าจะสู้กลับต้องเอาให้ตายอย่าให้แว้งกลับมากัดได้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 06-06-2020 23:39:53
คุณแม่ต้องเข้มแข็งไว้นะ สู้สู้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 06-06-2020 23:46:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 11 เก็บดวงดาว 100% (04/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 07-06-2020 02:47:19
.....

ช่วงนี้ฝนตก แถมมีพายุพัดเป็นระลอกๆ

แต่หลังจากนั้น ฟ้าหลังฝนจะสวยงาม ท่องไว้นะพัด เราจะผ่านมันไปให้ได้

......

 :sad4:  :sad4:   :sad4:  :sad4:  :sad4:  :sad4:  :sad4:  :sad4:

 :heaven  :heaven  :heaven  :heaven  :heaven  :heaven  :heaven


....
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 07-06-2020 21:57:47
บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100%

"น้องภามีเรื่องทะเลาะชกต่อยกับเพื่อนในห้องค่ะ" ทันทีที่ปลายสายพูดจบ ร่างกายของเขาก็ชาไปทุกส่วน ขาของเขาเหมือนจะหมดแรงแต่ก็ต้องฝืนยืนให้อยู่ ทำไมคนเรียบร้อยอ่อนโยนแบบภาณินถึงได้ทำอะไรแบบนี้ พัดกรอกเสียงของตัวเองถามปลายสายไปว่า

"แล้วมีใครเป็นอะไรมากไหมคะ ภาเป็นอะไรหรือเปล่า"

"ครูว่าคุณแม่ต้องมาดูเองดีกว่านะคะ" เสียงหวานของครูประจำชั้นเอ่ยบอก ทำให้พลลภัตม์รีบตอบรับก่อนที่จะวิ่งกลับเข้ามาภายในห้องประชุมด้วยหน้าตาตื่น เขาเดินตรงไปหาพี่เจ๋งผู้จัดละคร ก่อนที่จะเอ่ยขอโทษและขออนุญาต

"พี่เจ๋งครับ คือพัดขอโทษนะครับแต่ที่โรงเรียนโทรมาแจ้งว่าภามีเรื่องด่วนต้องรีบไปหา พัดขอออกไปก่อนได้ไหมครับ"

ไม่ทันที่พี่เจ๋งจะตอบ ก็มีเสียงหนึ่งของใครอีกคนแทรกขึ้นมา

"ลูกเป็นอะไร!?" มันเป็นเสียงทุ้มของเรวัต

"ลูกมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน" เขาหันไปตอบอีกฝ่ายก่อนจะหันกลับมาขอร้องพี่เจ๋งอีกครั้ง ซึ่งพี่เจ๋งก็อนุญาตให้เขากลับไปก่อนได้ ร่างบางของพัดรีบเดินไปหยิบเอาบทและกระเป๋าก่อนที่จะก้าวเดินออกจากห้องประชุมไปตามด้วยร่างหนาของเรวัตที่วิ่งพุ่งตามออกไป ท่ามกลางความตกใจของทุกคนรวมถึงเขมินทร์

"ไอ้เรน! ไอ้เรนโว้ย" เสียงของพี่เจ๋งตะโกนตามหลังร่างสูงออกไป ผู้กำกับทิ้งงานแบบนี้แล้วใครจะช่วยดูนักแสดงอ่านบทกัน พี่เจ๋งนั่งกุมขมับอยู่ที่หัวโต๊ะก่อนจะบอกให้ทุกคนเบรกก่อนแล้วจึงค่อยกลับมาอ่านบทกันอีกรอบ เมื่อพี่เจ๋งสั่งให้พักได้ร่างเล็กของเขมินทร์ก็ลุกขึ้นและรีบเร่งเดินตามทั้งสองคนที่เดินออกไปก่อนหน้านี้ ทุกการกระทำของอีกฝ่ายอยู่ในสายตาของเทียน ธีรณีทั้งหมด นักแสดงสาวสวยจึงลุกขึ้นบ้างและเดินตามอีกคนออกไป

ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด

"ทำไมไม่รับโทรศัพท์ว่ะ" เสียงเขมสบถออกมาเบาๆ เมื่อคนปลายสายไม่ยอมรับสายโทรศัพท์จากเขา

"โธ่เขม...อย่าพยายามเลย" ในขณะที่เขมกำลังหงุดหงิดกับเรวัต ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังเขา เสียงของเทียนอดีตเพื่อนรัก

"มึงตามมาทำไม ไม่ใช่เรื่องของมึง" เขมเหน็บอีกฝ่ายไปก่อนจะหันมาสนใจโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้ง

"กูหวังดีนะ พี่เรนก็ยังดูห่วงครอบครัวดีอยู่ มึงน่าจะเข้าใจได้แล้วนะ...ว่าอะไรสำคัญกับเขามากกว่ากัน"

"..."

"ระหว่างมึงกับครอบครัวเขา" เขมหันกลับมาจ้องหน้าเทียน ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวเท้าเดินเข้ามาหาและหยุดอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย

"อย่ามาสอนกู คนอย่างมึงไม่ได้มีสาระมากขนาดนั้น เอาจริงๆ กูก็แปลกใจนะที่มึงได้เล่นละครเรื่องนี้ทั้งๆ ที่เขาเลือกแต่นักแสดงมืออาชีพ นักแสดงมีชื่อเสียง คนธรรมดาอย่างมึงได้มายืนตรงนี้ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเถอะ"

"อย่ามีปัญหากับกูดีกว่านะเขม...แบล็กกูใหญ่กว่าแบล็กมึงนะ ถ้าไม่อยากถูกถอดออกจากละครก็สงบปากบ้าง" แต่เทียนไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวอีกฝ่าย ซ้ำยังเดินเข้ามาประชิดตัวของเขมินทร์ด้วย

"มึงหมายความว่าไง" เขมินทร์งุนงงกับสิ่งที่อีกคนกำลังพูด

"อย่าคิดว่ามึงไต่เต้าเป็นคนเดียวนะ" เทียนใช้แรงผลักอกของเขมให้ถอยออกไปจนอีกคนเซไปข้างหลัง ก่อนที่จะเดินหนีกลับไปยังห้องประชุม เขมินทร์ที่มองตามอีกคนด้วยความโกรธและกำลังจะเดินตามกลับไป โทรศัพท์ของเขาก็สั่นขึ้นมาซะก่อน เขาดีใจที่เรวัตติดต่อกลับมา แต่มันไม่ใช่เบอร์ที่โทรเข้ามาไม่ได้ขึ้นโชว์ว่าเป็นใคร

"สวัสดีครับ เขมพูดครับ" เขากรอกเสียงตามลงไปทันทีที่กดรับ

"น้องเขมพี่ติ๋วนะคะ ที่จ้างไปออกอีเวนท์เครื่องสำอาง" ปลายสายตอบกลับมาเขาก็จำได้ทันที

"อ๋อ...พี่ติ๋วเขมจำได้ครับ มีอะไรหรือเปล่า"

"เปล่าค่ะ พี่แค่จะโทรมาแจ้งว่าเงินค่าตัวส่วนที่ขอเพิ่มพี่โอนไปแล้วนะคะ" เสียงหวานเอ่ยบอกจุดประสงค์ของตัวเอง

"ครับ?" เงินค่าตัวที่ขอเพิ่ม หมายถึงอะไร พี่ติ๋วกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่

"คือพี่ติดต่อเจ๊ปุยไม่ได้อะค่ะ เลยโทรมาแจ้งที่น้องเขมแทน" ถึงตอนนี้เขาก็ยังสับสนในเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังพูด

"คือผมงงอะครับ พี่ติ๋วกำลังหมายถึงยังไง"

"อ้าวเจ๊ปุยไม่ได้บอกน้องเขมหรอคะ ก็ตอนแรกที่เราตกลงกันไว้ว่าค่าตัวจะได้ตามสัญญาแต่เจ๊แกมาคุยกับพี่ว่าช่วงนี้เขมกำลังดังเลยอยากขออัพค่าตัวเพิ่มอีกสักหน่อย บอกให้โอนให้ทีหลังอะค่ะ" เขมินทร์กำโทรศัพท์ในมือของตัวเองแน่น เขากล่าวขอบคุณปลายสายจากนั้นจึงวางหูไป สมองกำลังคิดประมวลผลและสิ่งที่ได้ก็คือเขาถูกปุยโกงเรื่องเงินค่าตัว

เขากำลังถูกเอาเปรียบ



รถยนต์หรูเคลื่อนที่เข้าสู่ประตูโรงเรียนของลูกชายทั้งสอง พัดจอดรถลงที่ใต้อาคารเรียนก่อนจะรีบลงจากรถเพื่อเดินไปยังห้องปกครองที่เป็นจุดหมายของการเรียกพบในครั้งนี้ ในขณะเดียวกันรถยนต์ของเรวัตก็ขับเข้ามาภายในโรงเรียนพอดี เขาขับผ่านพลลภัตม์ที่กำลังเร่งรีบเดินไปยังห้องปกครอง เรวัตจึงจอดรถและรีบเดินจากรถในทันที เขาเดินตามอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ จนถึงห้องปกครอง มือเรียวเอื้อมมือไปผลักบานประตูเพื่อเข้าไปยังในห้อง ทันทีที่ผิวกายสัมผัสกับความหนาวเย็นพัดก็สอดส่องสายตามองหาลูกชายของตัวเอง แต่ก็ถูกเสียงหวานของผู้หญิงเอ่ยทักเสียก่อน

"คุณพลลภัตม์ สวัสดีค่ะ"

"สวัสดีครับคุณครู" เขายกมือไหว้ทักทายอีกคนก่อนที่จะเดินตามอีกฝ่ายไป ประตูกระจกก็ถูกดันเข้ามาอีกครั้งภาพตรงหน้าปรากฏเป็นร่างของชายหนุ่มคุ้นตา ร่างสูงโปร่งของอีกคนเดินเข้ามาอย่างงงๆ ก่อนที่จะเอ่ยทักร่างบาง

"คุณพัด"

"คุณนนท์?" ทั้งสองคนจ้องตากันสลับไปมา ในสายตาเจือความงุนงงอยู่เล็กน้อย

"คุณชานนท์ใช่ไหมคะ คุณชัญญาโทรมาแจ้งไว้แล้วค่ะ" เป็นเสียงของครูประจำชั้นสาวสวยที่เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา ชานนท์และพลลภัตม์หันไปให้ความสนใจกับครูประจำชั้นตรงหน้าก่อนที่หล่อนจะเอ่ยบอกให้ทั้งสองคนเดินตามเธอมา ภาพตรงหน้าอยู่ในครรลองสายตาของเรวัตที่เฝ้ามองจากหน้าห้องกระจก เขายังไม่ทันที่จะได้เดินเข้าไปภายในห้องก็เห็นชานนท์เดินเข้าไปเสียก่อน ขาของเขามันเหมือนหมดแรงและหยุดยืนอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าที่จะก้าวเข้าไปแสดงตนว่าเป็นผู้ปกครองอีกคน ทำไมนะ

เพราะอะไร ถึงไม่กล้าที่จะทำแบบนั้น

ทั้งสองคนเดินตามคุณครูสาวเข้ามาเรื่อยๆ จนเจอเข้ากับร่างของเด็กหนุ่มสองคนและเด็กผู้หญิงหนึ่งคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะๆ หนึ่งในห้องของฝ่ายปกครอง ภายในห้องไม่ได้มีเพียงแค่เด็กๆ เท่านั้นยังมีอาจารย์ฝ่ายปกครองและผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นผู้ปกครองของเด็กคนใดคนหนึ่งในนี้ พัดที่เห็นภาณินนั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาลูกในทันที

"ภา...ภาลูก เป็นยังไงบ้าง" เขาเข้ากอดลูกชายเอาไว้พลางสำรวจร่างกายของลูกชายตัวเอง ว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า

"คุณเป็นแม่ของเด็กนี้ใช่ไหม" ในระหว่างที่เขากำลังถามอาการของลูกชายอยู่ก็ถูกเสียงของผู้หญิงคนนั้นขัดขึ้นมาเสียก่อน เธอมองมาที่เขาตาขวางเหมือนกำลังโกรธแค้น

"ใช่ครับ" เขาพยักหน้าตอบอีกฝ่ายกลับไปแต่อีกฝ่ายก็ด่าสวนขึ้นมาทันที

"สอนลูกคุณยังไง!? ให้มีนิสัยป่าเถื่อนเหมือนสัตว์แบบนี้"

"..."

"กล้าชกต่อยลูกฉันได้ยังไง รู้ไหมตีสักครั้งลูกฉันยังไม่เคยโดนเลย" หล่อนชี้หน้าด่าเขาและลูกอย่างเสียหาย โวยวายพยายามเอาเรื่องต่างๆ เพราะว่าภาณินไปทำร้ายลูกของหล่อนจนต้องเจ็บตัว แต่พัดก็ยังไม่ตอบกลับไปในทันที เขาหันไปถามคุณครูว่าเรื่องราวทั้งหมดคืออะไรเพราะเขามั่นใจว่าภาณินไม่ใช่คนที่จะทำร้ายใครก่อน

"คือครูเข้าไปตอนที่เกิดเรื่องขึ้นแล้วน่ะค่ะ เลยไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้างรู้เพียงแค่น้องภาทะเลาะกับน้องโชกุน ส่วนน้องเพนนีพยายามเข้าไปห้ามเลยถูกลูกหลงจนหัวแตกไปด้วย" คำบอกกล่าวสถานการณ์เพียงส่วนหนึ่งของคุณครูประจำชั้นทำให้เขาหันไปสนใจเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ในห้องข้างกับภาณินและมีชานนท์ยืนอยู่ข้างๆ

"เพนนีครับมันเกิดอะไรขึ้น บอกลุงได้ไหม" ชานนท์ก้มลงไปถามหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองที่ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เขากำลังพักผ่อนหลังจากเขียนงานส่งทันเดดไลน์เสร็จไปแล้ว แต่ก็มีโทรศัพท์เข้ามานั้นก็คือน้องสาวของเขาเอง ชัญญาเป็นน้องสาวคนละพ่อกับเขา แม่ของเขาแต่งงานใหม่กับคุณพ่อของชัญญาหลังจากที่แม่ถูกไล่ออกมาจากบ้านหลังนั้น ชัญญาโทรมาหาเขาตั้งแต่เมื่อคืนว่าวันนี้ให้เขาไปรับน้องเพนนีลูกสาวของเธอมาค้างคืนด้วยสัก 2 คืนเพราะว่าเธอมีงานด่วนต้องรีบบินไปภูเก็ตอย่างกะทันหัน แต่วันนี้เกิดเรื่องขึ้นซะก่อนและตอนนี้ชัญญาก็อยู่ที่ภูเก็ตแล้วเรียบร้อยจึงกลายเป็นเขาที่ต้องมาที่นี่แทนชัญญา

"..." เพนนีไม่ยอมเอ่ยปากพูดความจริง ชานนท์จึงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ เด็กสาวก่อนที่จะเอื้อมมือตัวเองไปกุมมือหลานสาวสุดที่รักเอาไว้

"ไม่ต้องกลัวนะครับ ลุงอยู่ตรงนี้"

"..."

"บอกลุงนะครับ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น" เขาบีบมือของหลานสาวเพื่อส่งผ่านกำลังใจและมอบความไว้ใจว่าจะไม่มีอะไรมาทำร้ายเด็กหญิงได้

"ภาต่อยโชกุน...เพราะโชกุนไปล้อภาว่าเป็นเด็กมีปัญหา แม่ของโชกุนบอกว่าเด็กพ่อแม่เลิกกันจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา" เสียงเล็กเด็กสาวเงียบลงพร้อมกับไฟในอกของพลลภัตม์ เขาลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนที่เพิ่งจะด่าเขากับลูกฉอดๆ

"มะ...ไม่จริงรึไง ข่าวออกจะดังไปทั่วใครๆ ก็รู้ ฉันพูดความจริงผิดตรงไหน" เสียงของผู้หญิงคนนั้นสั่นอย่างชัดเจน

"ผิดที่คุณพูดให้เด็กฟังไงครับ แถมยังให้ร้ายคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า" เสียงที่ตอบกลับไปไม่ใช่เสียงของพลลภัตม์แต่เป็นเสียงของชานนท์

"อย่าปลูกฝังความคิดแบบนี้ให้ลูกเลยครับ อย่าทำร้ายลูกคุณด้วยนิสัยของตัวเองเลย" สิ้นเสียงของชานนท์ผู้หญิงคนนั้นก็จ้องมองมาที่ชานนท์ด้วยดวงตาที่พร้อมแผดเผาก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองลูกของตัวเอง

"ฉันไม่เอาเรื่องก็ได้ โชกุนกลับ" แขนเรียวเอื้อมไปคว้าแขนของเด็กชายก่อนที่จะฉุดให้ลุกขึ้นยืน แต่ก็ถูกพลลภัตม์เดินไปขวางทางเอาไว้ซะก่อน

"อะไรอีก ฉันก็ไม่เอาเรื่องแล้วนี่ไง" พัดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้นแต่เขากลับย่อตัวลงไปหาเด็กชาย ก่อนที่จะลูบหัวของอีกฝ่ายเบาๆ

"โชกุนครับ รู้ไหมว่าถ้าทำผิดต้องทำยังไง"

"ต้องขอโทษ"

"ถูกครับ ต้องขอโทษใครครับ" ร่างเล็กของเด็กชายโชกุนหันกลับไปมองภาณินก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วเอ่ยขอโทษอีกฝ่าย ทันทีที่ขอโทษเสร็จแม่ของโชกุนก็ลากโชกุนเดินไปที่ประตูเตรียมตัวจะกลับอีกครั้ง แต่พัดก็ยังยืนขวางอยู่

"เธอจะเอาไรอีก ลูกฉันก็ขอโทษไปแล้วนี่ไง" เธอโวยวายออกมาเสียงดัง แต่พัดไม่ได้สนใจเขาหันไปหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา ก่อนที่จะเขียนเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงไปและยื่นให้อีกฝ่าย

"คราวหลังถ้าอยากรู้เรื่องส่วนตัวของผม โทรมาได้นะครับ ผมจะเล่าให้ฟังจะได้ไม่ต้องมานั่งเดา" หญิงสาวรับกระดาษตรงหน้ามาขยำๆ ก่อนจะเดินกระแทกไหล่พลลภัตม์ออกไปข้างนอก



ทางด้านของเรวัตเองที่รออยู่ด้านนอกห้องปกครองตลอดเวลาที่เกิดเรื่อง ก็เริ่มที่จะกระวนกระวายเป็นห่วงว่าลูกชายของเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า ในตอนนั้นเองพลลภัตม์ก็เดินออกมาจากห้องกระจกนั้นกับลูกชายของเขาโดยที่ข้างๆ มีชานนท์และเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามออกมาด้วย

"ไม่ทำแบบนี้อีกนะครับ น้องภา" พัดย่อตัวลงไปนั่งกับพื้นก่อนที่จะเอ่ยบอกเด็กชาย

"แต่โชกุนว่าภากับคุณแม่ก่อน" ภาณินตอบกลับเสียงสั่นกลับไป

"น้องภาครับ" เสียงของชานนท์เอ่ยขัดบทสนทนาขึ้นมา เขาย่อตัวลงไปนั่งๆ ข้างภาณินอีกช้างหนึ่ง

"เราไม่ควรทำร้ายใครแบบนี้นะครับ เราควรใช้เหตุผลในการพูดคุย"

"..."

"เราโตแล้วนะม.1แล้ว เราไม่ควรใช้กำลังนะครับ ไม่อย่างนั้นมันจะเกิดผลเสียอย่างวันนี้" ภาณินเงียบและพยายามคิดตามคำพูดของคุณน้าคนข้างบ้าน ก่อนจะพยักหน้าแล้วหันกลับไปกอดพลลภัตม์

"ภาขอโทษนะครับ ภาจะไม่ทำอีก" พัดกอดตอบอีกคนแน่นและลูบหัวปลอบโยนอีกฝ่าย ก่อนที่จะลุกขึ้นและหันไปพูดคุยกับอีกคน

"พัดขอเชิญคุณนนท์กับน้องเพนนีมาทานอาหารเย็นที่บ้าน เย็นนี้ด้วยนะครับ" พลลภัตม์เอ่ยชวนชานนท์ให้มารับประทานอาหารด้วยกัน เพราะเขาอยากขอบคุณอีกฝ่ายในหลายๆ เรื่อง

"ผมเกรงใจคุณพัด ไม่เป็นไรดีกว่าครับ" แต่ชานนท์ก็เอ่ยปฏิเสธอีกคนออกไป เพราะเขาเกรงใจอีกฝ่ายหากจะต้องเข้าออกบ้านของอีกคนๆบ่อยๆ แค่เรื่องที่เป็นข่าวอยู่ก็รุนแรงกับเด็กๆ มากพอแล้ว

"ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ น้องเพนนีเองก็อยากไปเล่นกับน้องภาที่บ้านน้าพัดใช่ไหมครับ" ในเมื่อชวนคนตัวโตไม่สำเร็จ พัดจึงหันกลับมาชวนเด็กหญิงตัวเล็กแทน

"ไปค่ะๆ เพนนีอยากไปบ้านน้าพัด"

"งั้นตอนนี้ใกล้จะเลิกเรียนแล้วเดี๋ยวเรารอพี่ภีมแล้วไปซื้อของพร้อมกันนะครับ" เขาลูบหัวเล็กของเด็กหญิงด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะพากันเดินจากไปหาที่นั่งรอภีมพลเลิกเรียน เพื่อตรงไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าสำหรับทำอาหารเย็นชุดใหญ่ในคืนนี้

ภาพทุกอย่างปรากฏอยู่ในครรลองสายตาของเรวัต ภาพรอยยิ้มของพัดที่ยิ้มอย่างมีความสุข รอยยิ้มของภาณินเองก็เหมือนกัน ทุกอย่างมันซ้อนทับกันกับภาพในวันวานที่เขาเคยยืนอยู่ตรงนั้น

ตรงที่ๆ ชานนท์เคยยืน

แต่วันนี้มันเปลี่ยนไป แต่มันก็คงไม่แปลกในเมื่อเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะว่าเขาเป็นต้นเหตุทั้งนั้น เขามันแย่ เป็นพ่อที่แย่ เป็นคนรักที่แย่

แย่มากจริงๆ

ขายาวของเรวัตก้าวเดินกลับไปอีกฝั่ง เส้นทางของเขาและพัดตอนนี้มันกำลังสวนทางกันในขณะที่พัดก้าวไปข้างหน้าแต่เขากำลังก้าวถอยหลัง เรากำลังเดินจากกันไปเรื่อยๆ

เรื่อยๆ

'พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้พัดเสียใจ'

'อย่าทำให้พัดร้องไห้เลยนะ พัดไม่อยากเจ็บเพราะพี่เลย'

เขาเป็นคนทำลายสัญญาที่เคยให้ไว้กับพลลภัตม์ เขาเป็นคนที่ทำลายความรักความเชื่อใจที่อีกคนเคยมอบให้กันไว้ เขาเป็นคนทำร้ายคนที่รักเขาสุดหัวใจด้วยน้ำมือของเขาเอง เพียงเพราะแค่คำว่า 'ต้องการ' แค่คำๆ เดียวแท้ๆ ที่ทำให้เขาต้องเสียทุกอย่าง และอาจจะไม่มีวันได้มันกลับคืนมาอีกเลย

ไม่มีวัน...



เรวัตกลับมาถึงคอนโดที่ซื้อเอาไว้ เขาเปิดประตูเข้าไปข้างในและเดินลงไปนั่งที่โซฟาทันที เขาหมดแรง ร่างกายมันอ่อนไปหมด เขาแค่อยากนั่งนิ่งๆ ทบทวนเรื่องต่างๆ อย่างสงบ แต่ดูเหมือนอีกคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันไม่อยากให้เกิดความสงบขึ้นในห้องนี้

"กลับมาแล้วหรอ ลูกพี่เป็นยังไงบ้างล่ะ ปัญหาหนักหรอหรือแค่เรียกร้องความสนใจ" เขมินทร์เดินออกมาจากห้องนอนภายในคอนโด เขากลับมาถึงก่อนเรวัตประมาณหนึ่งชั่วโมง และนั่งรอเรวัตอยู่ตลอดตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้

"เขม พี่ไม่อยากทะเลาะ"

"นี่พี่โง่หรือดูไม่ออกห้ะ! ว่ามันใช้เรื่องลูกมาอ้างเพื่อดึงพี่กลับไปอะ!" เขมินทร์ตะคอกใส่อีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟา เขาโมโหที่อีกคน ทำท่าทางเหมือนยังรักยังห่วงครอบครัวของตัวเองมากว่าเขาที่อยู่ข้างกายอีกฝ่ายตอนนี้

"เขม! ภามีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียนจริงๆ พัดเขาไม่ได้อ้าง" เรวัตเองก็ทนแรงกระตุ้นไม่ไหว จนต้องตะคอกอีกฝ่ายกลับไปและลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับร่างเล็ก

"นี่พี่ขึ้นเสียงกับเขมหรอ! เพราะอีพวกนั้นมันยุให้พี่กลับไปหาใช่ไหม พี่ถึงดูไม่แคร์เชมเลยอะ!" เขมินทร์ยังคงสาดแรงอารมณ์ใส่เรวัตอยู่ตลอด ไม่ได้ลดลงและเหมือนจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาถูกเรวัตขึ้นเสียงใส่

"พี่ว่าเขมพูดไม่รู้เรื่องแล้ว เราอยากเพิ่งคุยกันเลย" เรวัตพยายามสงบสติอารมณ์และเลี่ยงที่จะเดินหนีออกไป แต่เขมินทร์ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น

"เดินหนีเขมทำไม! เขมไม่สำคัญสำหรับพี่ใช่ไหม! ห่วงมันมากนักหรอ อีครอบครัวเฮงซวยนั้นอะ!"

"เขม!" เรวัตที่กำลังจะเดินจากไป เมื่อโดนเขมินทร์ตะโกนด่าว่าลูกๆ ของเขา เรวัตจึงหันกลับมาหาเขมอีกครั้ง ด้วยแรงโมโหทำให้เขา ใช้มือไปกระชากเขมเข้ามาหาตัวเองและออกแรงบีบที่แขนของอีกฝ่ายจนเนื้อตัวมีรอยแดง

"เขมเจ็บ!"

"อย่าพูดแบบนั้นถึงครอบครัวพี่อีก พี่ไม่อยากทำร้ายเขม" เขาพูดเสียงต่ำเพื่อสื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเอาจริง

"ครอบครัวพี่...แล้วเขมไม่ใช่ครอบครัวพี่ใช่ไหม! ยังรักยังห่วงมันมากใช่ไหมถึงไม่ยอมหย่าสักที!"

"..."

"เขมรู้หมดแล้ว มันมาบอกเขมแล้วว่าที่ไม่หย่าไม่ใช่เพราะมัน แต่เพราะพี่ไม่ยอมหย่า!" เขมินทร์สะบัดตัวออกจากการกอบกุมของอีกฝ่าย ก่อนจะจ้องมองหน้าอีกฝ่ายด้วยแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยาน หากไฟในดวงตาของเขมินทร์มีจริง คอนโดทั้งตึกนี้คงมอดไหม้ไปด้วยไฟโทสะ

"เขม...คือพี่"

"พี่มันจัดการอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง โลเลน่ารำคาญ! โง่เอ้ย!" เขมินทร์พ่นคำด่าใส่เรวัตก่อนที่จะเดินกระแทกเท้าออกไปหยิบเอากุญแจรถและกระเป๋าสตางค์ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องคอนโด ทิ้งเรวัตไว้อยู่ข้างหลัง



ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว บ้านของพลลภัตม์ยังคึกคักไปด้วยเด็กๆ ทั้งภีมพล ภาณินและเพนนีกำลังหยอกล้อกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น พวกเขาทานอาหารเย็นเสร็จแล้วเรียบร้อย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะตลอดช่วงเวลาบนโต๊ะอาหาร ตอนนี้เขากำลังล้างจานอยู่ที่ห้องครัวด้านหลังโดยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ คลอไปกับบรรยากาศยามกลางคืน

"ผมช่วยครับ" เสียงทุ้มของชานนท์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเมื่อเขาหันไปก็เจอเข้ากับร่างสูง ที่พับแขนเสื้อขึ้นไปจนถึงข้อศอก

"ไม่เป็นไรครับ คุณเป็นแขกนะ"

"พูดจาห่างเหินจังเลยนะครับ เราเป็นเพื่อนกันต่างหาก" เขาส่งยิ้มหวานให้พัดและอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบกลับมา ชานนท์เดินเข้าไปยืนข้างร่างบางก่อนที่จะหยิบจานขึ้นมาล้างทำความสะอาดเหมือนที่อีกคนกำลังทำ

"คุณชานนท์ล้างจานเป็นด้วยเหรอครับ"

"แม่สอนให้ทำตั้งแต่เด็กแล้วครับ" คนสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ระหว่างที่กำลังล้างจาน บรรยากาศในบ้านตอนี้จึงมีทั้งเสียงหัวเราะของเด็กๆ และเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่คละเคล้ากันไป

"ขอบคุณ คุณนนท์มากนะครับ ในทุกเรื่องเลย" พลลภัตม์หันมายิ้มให้อีกคนจากใจจริง เขาอยากขอบคุณที่ชานนท์เข้ามาช่วยให้เขาก้าวผ่านเกือบทุกปัญหาได้ในทุกครั้ง

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจที่จะทำ"

"..."

"ผมอยากดูแลคุณ เวลาที่คุณเสียใจภาพของคุณมันซ้อนทับกับภาพของแม่เวลาร้องไห้เพราะผู้ชายคนนั้นเสมอเลย"

"..."

"คุณพัดไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะครับ ยิ้มแล้วน่ารักกว่าเยอะเลย" ทุกอย่างเหมือนตกอยู่ในความเงียบ พลลภัตม์มองเข้าไปในดวงตาที่ชานนท์มองมาที่เขา ที่เขาว่ากันว่าทุกอย่างสามารถสื่อผ่านดวงตาได้ เขาไม่รู้ว่ามันจริงไหมที่เจ้าก้อนกลมๆ สีดำนี้จะมีอำนาจมากขนาดที่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ แต่เขารู้ว่ามันมีอำนาจที่ทำให้ใครต่อใครใจสั่นไหวได้

"คุณพัด...คุณพัด"

"..."

"คุณพัด!" พลลภัตม์สะดุ้งจากความคิดก่อนจะหันกลับไปล้างจานต่อ และยังคงพูดคุยกับคุณนักเขียนข้างบ้านเรื่อยๆ เขาชอบฟังเสียงและเรื่องเล่าที่คุณนักเขียนเล่า มันทำให้สบายหู สบายใจทุกครั้งเวลาที่ได้ยินหรืออยู่ด้วย คนทั้งคู่พูดคุยกันไปเรื่อยๆผลัดเปลี่ยนกันเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่เคยพบเจอ จนอาจไม่ทันสังเกตสายตาที่แอบมองพวกเขาอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้ สายตาที่คอยมองมายังพวกเขาสองคนเสมอ

ภีมพล

ที่ยืนอยู่ที่หน้าห้องครัว เขาจะเข้ามาหาน้ำดื่มแต่ก็ต้องมาเจอกับภาพของคนสองคนที่ยืนข้างกันตรงหน้า เขาตัดสินใจหันหลังกลับและเดินหนีขึ้นไปบนห้องทันที



...

- TBC -

กรรมมันเริ่มตามทันแล้วนะคะ เราพร้อมเอาคืนกันหรือยัง อุวะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดสับตะไคร้และกดกระดิ่งด้วยนะค้าบ ฝากเมนท์ติชมได้น้าอยากอ่านนน

พูดคุยกันในแฮชแท็ก #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบบบ

ทวิตเค้าเอง  >> https://twitter.com/lopittupp


หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 07-06-2020 22:24:43
สิ่งที่พัดจะต้องทำในตอนนี้คือต้องปรับความเข้าใจกับภีมนะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-06-2020 22:35:30
เห้อ สงสารภีมม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 08-06-2020 00:17:00
ความสัมมพันของ นนท์กับพัด ถ้าจะพัฒนาไปในตอนนี้มันเร็วเกินไปอ่ะ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แต่ถ้าเราเป็นภีมแล้วเรารู้สึกว่าแม่กับคนข้างบ้านมองตาแล้วรู้ใจมันเกินไปอ่ะ

 อารมณ์ประมาณพ่อกับแม่พึ่งหย่ากัน ยังรับไม่ได้ยังปรับความรู้สึกตัวเองไม่ได้แล้วแม่ก็มาบอกว่า ไม่มีอะไรกับคนข้างบ้านไม่ได้รู้สึกแต่การกระทำของแม่มันไปทางเหมือนกับพ่อ

ถ้าเป็นภีมเราก็คงรู้สึกแย่ยิ่งทำให้ตัวเองกลายเป็นเด็กมีปัญหาเข้าไปอีก เพราะภีมชอบคิดไปไกลอ่ะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 08-06-2020 00:45:26
แค่พูดคุย สบตากันนิด ยังไม่เห็นมีอะไรที่น่าจะทำให้คิดไปไกลได้ อีกอย่างเขากะดีนี่ช่วยเราช่วยแม่เรื่องภา บลาๆ อย่าเพิ่งอคติ ดูไปก่อน แต่ก็เข้าใจที่ว่ามันยังเร็วไปในสถานะคลุมเคลือความผัวเมียอยู่แบบนี้ แต่ก็ขอหยอดไว้ก่อนมะได้หรอ 5555 อุแว้!! พัดใจสั่นไหวแล้วเว้ย เล็กน้อยก็ยังดี ค่อยๆว่ากันไปเนอะ >.< //เรนแกอย่าเพิ่งสำนึกผิดรู้สึกเสียใจต่อเขาดิ มันเร็วไป ยังงี้แกจะไหวหรอที่จะอยู่ดูเขาจนมีความสุขที่ไม่มีไม่ใช่กับตัวเอง ยังต้องเจออีกมาก ด้านไว้อย่าเพิ่งสำนึก 55555555 สนุกกกกกกก ชอบๆ รอตอนหน้าเลยค่าจะเป็นยังไงบ้าง ขอบคุณนะคะที่แต่งมาอัพต่อ รรร  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-06-2020 01:03:53
ภีมจะต้องมีปัญหาให้ได้เนาะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-06-2020 01:22:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-06-2020 03:14:37
ผีเน่ากับโลงผุ
ก็เหมาะสมกันดีนี่
อย่ารีบทะเลาะกันดิ
ยังอยากเห็นร่วมกันสร้างเวรสร้างกรรมกันไปอีกนานแสนนาน
ชั่วต้องอยู่กับชั่ว นั่นล่ะ..สมควร สมน้ำหน้า
หุหุ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-06-2020 09:53:14
พัดมันยังเร็วไปที่จะมีคนใหม่นะ ควรให้ลูก ๆ ได้มีเวลาปรับตัวด้วย สำหรับนนท์ก็หวังว่าจะไม่รุกมากจนเกิินไปถ้าสนใจพัดจริงควรรอก่อน รอให้ทุกอย่างมันลงตัวกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยศรี ที่ 08-06-2020 15:03:51
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ค่ะ สนุกมาก  :mew1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 12 ที่ตรงนั้น 100% (07/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 10-06-2020 13:59:03
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้สนุกมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 10-06-2020 22:35:29

บทที่ 13 ละเลย 100%

นับตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ประมาณอาทิตย์กว่าๆ แล้ว ทั้งเขาและเรวัตมึนตึงใส่กันตลอดเวลา ทั่วทั้งห้องชุดคอนโดอบอวลไปด้วยความอึดอัดที่ลอยวนอยู่ไปทั่วทุกมุมห้อง เขายอมรับว่าเขาผิดที่ตวาดและด่าอีกฝ่ายไปในวันนั้น แต่เป็นใครจะไม่โมโห ในเมื่อผู้ชายคนนี้โลเลจนน่ารำคาญ ตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด จะเลิกกับเมียเก่าก็ไม่เลิก จะเลิกกับเขาก็ไม่ทำ

สมควรถูกด่าแล้ว

เขารู้ดีว่าสถานะของเขาตอนนี้กำลังเสียเปรียบอีกคนมากแค่ไหน ต้องหลบๆ ซ่อนๆทั้งๆ ที่ทุกอย่างเปิดเผยออกมาหมดแล้ว ไม่มีสิทธิ์ได้จับเนื้อต้องตัวหรือแม้กระทั่งทำตัวสนิทสนมในที่สาธารณะมากเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่เขาเองก็เป็นเมียคนหนึ่งของเรวัตเหมือนกัน ไม่มีอะไรที่มันยุติธรรมสำหรับเขาเลยด้วยซ้ำ

เช้าวันนี้เขมินทร์ตื่นขึ้นมาก่อนเรวัตจะตื่น วันนี้และพรุ่งนี้คิวงานของเขามันว่างไม่มีเดินทางไปที่ไหน นับว่าเป็นวันพักผ่อนของเขาในรอบหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เขากลับนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืนเพราะมันมีเรื่องของเรวัตมากวนใจ เขาจึงตัดสินใจที่จะลุกออกจากเตียงไปเปลี่ยนชุด ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะลงไปเข้าฟิตเนสข้างล่างสักหน่อย แต่ระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากห้องนั้น

Rrrrrrrrrrrrrr

การสั่นเตือนของโทรศัพท์เครื่องสีดำก็รั้งเขาเอาไว้ และแน่นอนว่าไม่ใช่โทรศัพท์ของเขา สิ่งที่แสดงบนหน้าจอคือข้อความจากใครบางคนที่กดส่งเข้ามาผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์

P : พรุ่งนี้ภาณินมีงานประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียน ผมไม่ว่างเพราะติด Work Shop ละคร อยากให้คุณไปแทน

ตาเรียวกวาดสายตาตามตัวอักษรที่อีกฝ่ายส่งมา เขาก็รู้ได้ทันทีว่าพลลภัตม์เป็นคนส่งมันมา ก่อนที่เขาจะวางมันและเมินเฉย แต่แล้วสมองของเขามันก็จุดประกายความคิดอะไรบางอย่างได้ เขมินทร์หยิบโทรศัพท์ของเรวัตขึ้นมาอีกครั้ง เขากดปลดล็อกและกรอกรหัสที่เขาแอบมองดูตอนที่เรวัตใส่ลงไป ก่อนที่จะกดไปที่รายชื่อของพลลภัตม์ในแอปพลิเคชัน

Rian : โอเค เดี๋ยวพี่จะไปแทนให้เอง

รอไม่นานหลังจากที่เขาส่งข้อความตอบกลับไป มันก็ขึ้นคำว่าอ่านแล้วและพัดเองก็ไม่ได้ส่งอะไรกลับมา เขาจึงใช้นิ้วเรียวกดแช่ไปตัวข้อความก่อนที่จะกด

ลบข้อความ

ที่เป็นการสนทนากันของทั้งเขาและพัดออกและเอามันกลับมาวางไว้ที่เดิม เขมินทร์ชำเลืองมองโทรศัพท์ก่อนที่จะกระตุกยิ้ม ขาสวยก้าวเดินออกไปจากห้องชุดของคอนโด



รุ่งเช้าของวันใหม่พลลภัตม์ลุกขึ้นมาจากที่นอนตั้งแต่ตอนเช้าตรู่เพื่อเตรียมอาหารเช้าสำหรับตัวเองและลูกๆ พัดเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟันจากนั้นจึงลงมาด้านล่างเพื่อทำอาหาร เวลาผ่านไปไม่นานภาณินก็เดินลงมาพร้อมกับแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กชายเดินมานั่งที่โต๊ะที่แม่นำอาหารมาวางไว้

"อ้าว...เสร็จแล้วหรอครับ พี่ภีมล่ะ" พัดหันไปถามลูกชายคนเล็กถึงพี่คนโตว่าอยู่ไหน

"กำลังแต่งตัวครับ เดี๋ยวก็คงตามลงมา" พัดเดินเข้าไปหาภาณินก่อนที่จะก้มลงหอมหัวลูกชายและบอกให้ทานก่อนได้เลย ไม่งั้นอาจจะสายได้ เมื่อสั่งคนน้องเสร็จแล้วขาเรียวจึงก้าวขึ้นบันไดเพื่อเดินขึ้นไปยังด้านบนของบ้าน เขาเดินไปเรื่อยๆ จนถึงห้องของภีมพล ก่อนที่จะเคาะประตูสองสามครั้งพร้อมกับเอ่ยเรียกคนข้างใน

"ภีม น้องภีมลูก" เขายืนรอไม่นานอีกฝ่ายก็เดินมาเปิดประตู พร้อมชุดนักเรียนที่ใส่เรียบร้อยแล้ว

"เสร็จแล้วแม่"

"ลงไปทานข้าวเถอะน้องทานอยู่ เดี๋ยวแม่ไปแต่งตัวก่อนนะ" เขาลูบหัวอีกฝ่ายก่อนจะหอมหัวอีกคนและเดินไปเข้าห้องของตัวเอง เพื่อแต่งตัวเตรียมไป Work Shop เพิ่มเติมเนื่องจากเขาไม่ได้เล่นละครมานานมากๆ และบทที่ได้รับก็ท้าทายสำหรับเขามากเช่นกัน พี่เจ๋งจึงอยากที่จะให้เขาไป Work Shop เพิ่มมากยิ่งขึ้น ตลอดเกือบเดือนที่ เรวัตย้ายออกจากบ้านไป ชีวิตของการเป็นแม่อย่างเขาก็ต้องลำบากมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาต้องทำงานไปด้วยและดูแลลูกไปด้วย การแบ่งเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ มีบางอย่างที่อาจจะต้องเสียไปบ้าง เช่น

การทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตา

อย่างเช่นวันนี้ที่เขาต้องออกไปทำธุระด้วย เขาเองต้องลงเตรียมอาหารเช้าให้ลูกและกลับขึ้นมาแต่งตัว จึงทำให้เรามีเวลาที่ไม่ตรงกันเท่าที่ควร แต่พวกเขาจะต้องปรับตัวเข้าหากันเพื่อความสบายใจของทั้งเขาและลูก

พลลภัตม์ที่แต่งตัวเสร็จแล้วจึงรีบเดินลงมาข้างล่าง เตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอก ขายาวก้าวลงบันไดมาเรื่อยๆ จนถึงโต๊ะทานอาหาร ภาณินรับประทานเสร็จแล้วเรียบร้อยและตอนนี้ภีมพลก็กำลังทานอยู่ พัดเดินไปนั่งลงข้างภาณินเพื่อรอภีมพลทานข้าวเช้า

"เป็นไงบ้างครับ ฝีมือแม่วันนี้ยังอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า" เขาหันไปถามลูกๆ ทั้งสองคน

"ก็เดิมๆ" ภีมพลตอบกลับมาทันที

"อร่อยครับ แต่ผมคิดถึงแกงจืดฝีมือพ่อจัง" ภาณินเอ่ยออกมาบ้าง คำพูดของเด็กชายทำให้บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบ ภีมพลลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารก่อนที่จะเดินเอาจานไปล้างที่อ่างล้างจาน

"พ่อไม่มาหาภาบ้างเลย" หน้าตาของเด็กชายดูเศร้าโศกเหมือนน้ำเสียงที่เอ่ยออกมา เขาเลื่อนมือไปวางไว้บนหัวเล็กของอีกฝ่ายก่อนที่จะลูบเบาๆ และเอ่ยออกมา

"พ่อเขางานยุ่งน่ะ แต่วันนี้พ่อเขาจะไปประชุมตอนบ่ายแทนแม่นะ" เขาส่งยิ้มไปให้ลูกชายเพื่อให้อีกคนสบายใจ

"จริงเหรอครับ"

"ครับ เขารับปากแม่แล้วยังไงวันนี้พ่อก็ต้องมา" แขนเรียวโอบร่างของเด็กชายเข้ามาในอ้อมกอดก่อนที่จะลูบหลังไปมาเบาๆ เพื่อปลอบประโลมอีกคน

"ไปกันได้ยังครับ เดี๋ยวสาย" ภีมพลเอ่ยทักสองร่างที่กอดกันอยู่ก่อนที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินออกไปรอเขาที่ด้านนอก พัดจึงคลายกอดเด็กชายและบอกให้เด็กชายเดินไปหาพี่ก่อน จากนั้นจึงลงมือเก็บโต๊ะอาหารก่อนที่จะเดินตามลูกๆ ออกไป



เรวัตตื่นเช้ามาด้วยความขี้เกียจ วันนี้เป็นวันว่างตลอดทั้งวันของผู้กำกับหนุ่มที่ยังไม่เปิดกล้องละครเรื่องใหม่ เขาขยับตัวไปมาบนเตียงช้าๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ เขาก้าวขาลงจากเตียงเพื่อที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นจึงเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อที่จะไปหาอะไรกินแก้หิว

"พี่เรน..." ภาพตรงหน้าทำให้เขาชะงักไปชั่ววินาที เขมินทร์ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวเดียวยืนขวางทางเขาอยู่ที่หน้าประตู เขาเหลือบมองอีกคนก่อนที่จะเดินเลี่ยงร่างบางที่มายืนขวางทางเขา แต่แขนแกร่งของเขาก็ถูกแขนเรียวของอีกคนกอดรัดเอาไว้พลางเอาใบหน้าสวยน่ารักมาถูไถที่หัวไหล่

"จะไปไหนครับ เขมเตรียมอาหารไว้ให้พี่ด้วยนะ" เสียงหวานเอ่ยอยากออดอ้อน

"พี่จะออกไปกินข้าวข้างนอก" เขาเอ่ยเสียงเรียบไม่ได้สนใจอีกฝ่ายกอดที่จะพยายามดึงแขนออกจากการกอบกุม

"พี่เรน...เขมขอโทษครับ"

"..."

"เขมขอโทษที่โมโหพี่วันนั้น...ก็ เขมหึงพี่กับเขา" วิญญาณของนักแสดงมือรางวัลเข้าสิงร่างเล็ก เขมินทร์เอ่ยเสียงสั่นก่อนที่จะก้มหน้าลงเพื่อซ่อนดวงตาร้ายกาจ แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับมาจากเรวัต มีเพียงแค่การหยุดอยู่นิ่งๆ ไม่ได้พยายามที่จะดึงแขนออกไปเหมือนก่อนหน้านี้

"เขมรักพี่มาก พี่ให้เขมรอ เขมก็รอ เขมรอพี่มาปีกว่าเพราะเชื่อใจพี่ อยู่ๆ วันนั้นเขาก็เดินมาบอกเขมว่าพี่ไม่ยอมหย่า เขมเลยรู้สึก ฮึก รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ ฮึก คนโง่ที่รอพี่มาตลอด ฮือ" เขมินทร์เริ่มที่จะสะอื้นออกมา น้ำตาที่ไหลหยดลงบนเสื้อของเรวัตกลายเป็นรอยเปื้อนใหญ่ ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นโชว์สีหน้าเสียใจอย่างที่สุดให้กับชายหนุ่มได้มอง เรวัตเอื้อมมือเอานิ้วโป้งไปเกลี่ยใต้หางตาของอีกฝ่ายก่อนที่จะดึงร่างเล็กเขามาซบอกตัวเอง และลูบหลังปลอบโยนเบาๆ 

"พี่ขอโทษ...พี่มันเห็นแก่ตัว พี่รักเขมนะ แต่พี่ก็ขาดพัดไปไม่ได้ พี่ยังไม่พร้อมที่จะเสียครอบครัวพี่ไป" เขาเอ่ยกระซิบข้างใบหูอีกคน แต่เสียงสะอื้นกลับยิ่งดังมากยิ่งขึ้น

"พี่จะให้เขมรอไปถึงเมื่อไหร่....ฮึก พี่ไม่สงสารเขมบ้างหรอ" เขมินทร์สะอื้นจนตัวโยนพูดไม่ได้ศัพท์จนคนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง

"คงเร็วๆ นี้แหละเขม พี่จะหาทางออกให้มันโอเคกับทุกฝ่าย รอพี่อีกหน่อยนะ" เรวัตโยกตัวอีกคนไปมาเหมือนกำลังปลอบประโลมเด็กน้อยให้ตื่นจากฝันร้าย ทั้งๆ ที่การกระทำของเขามันเลวร้ายยิ่งกว่า เขมินทร์เงยหน้าจากอกของอีกคนขึ้นมาสบตากับดวงตาสีนิลน่าค้นหา ก่อนที่จะค่อยๆ ประทับริมฝีปากลงไปบนอวัยวะเดียวกัน 

แรกเริ่มอาจจะเป็นเพียงแค่ปากที่ประกบกันแต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เพิ่มพูนตามแรงอารมณ์ เขมินทร์สอดลิ้นนุ่มเข้าไปในปากของอีกฝ่ายเพื่อกวาดเอาความหวานไปชื่นชม มือหนาของเรวัตก็เลื่อนจากที่ประคองเอวบางเข้าไปสาบเสื้อและลูบไล้เนื้อเนียนไปมา ท่ามกลางความเงียบกลับมีเสียงเฉอะแฉะจากการแลกเปลี่ยนน้ำตาลของกันและกันดังไปทั่วทั้งห้อง

"อืม อื้ม อ๊ะ พะ พี่เรน" เสียงครางหวานข้างหูเมื่อมือหนาของเรวัตเลื่อนขึ้นไปสะกิดตุ่มไตเสียงหวานภายใต้เชิ้ตตัวโคร่ง ก่อนที่จะทาบทับริมฝีปาก ลงบนซอกคอขาวและดูดดึงจนเกิดเสียงน่าเกลียด

"อ๊ะ พะ พี่เรน อืม" เรวัตเงยหน้าขึ้นจากซอกคอกก่อนที่จะลากแขนอีกฝ่ายกลับไปในห้องนอนแต่เขมินทร์กลับไม่ขยับเท้าเดินตามมา เขาส่งสายตาสงสัยไปให้อีกคนแต่ร่างเล็กกลับเดินเข้ามาคล้องคอเขาพลางกระซิบที่ข้างหู

"เขมเบื่อเตียงแล้วครับ" สิ้นสุดเสียงหวาน ปากบางก็เลื่อนไปขบกัดติ่งหูของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินนวยนาดไปนอนลงที่บนโซฟาและกระดิกนิ้วที่จะเรียกฝ่ายเข้าไปหา เรวัตเมื่อมองภาพนั้นก็พุ่งกระโจนเข้าไปเหมือนสัตว์ที่กระหายเหยื่อ

"อ๊ะ อ๊ะ อ๊า พะ พี่เรน เร็วไปแล้ว อื้อ"

"ขะเขม เขม มันดี ดีมาก อ๊า"

เสียงครางสลับกับเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง กิจกรรมเข้าจังหวะสานสัมพันธ์ของทั้งสองคนเกิดขึ้นในทุกๆ ที่ของห้องชุดคอนโดไม่ว่าจะเป็น โซฟา โต๊ะอาหาร ระเบียงห้อง เคาท์เตอร์ครัวหรือแม้กระทั่ง

หน้าประตูห้องของเขาทั้งคู่พร้อมทั้งเปิดประตูค้างเอาไว้เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น



"ครูว่าเราพักสักหน่อยนะคะคุณพัด เดี๋ยวค่อยกลับมาต่อ" พลลภัตม์ทรุดตัวลงกับพื้นก่อนที่จะนั่งพักเหนื่อยหลังจากที่เรียนการแสดงมาแล้วหลายชั่วโมง เขาเดินไปหยิบน้ำมานั่งดื่มและไถโซเชียลไปเรื่อยๆ เพื่ออัปเดตข่าวและเทรนต่างๆ มีแวะออกไปตอบข้อความจ้างงานของคนอื่นที่ติดต่อเข้ามาบ้างและตอบข้อความของเพื่อนสนิทอย่างนิมานลดาที่หนีเขาไปเที่ยวเล่นอยู่ที่ฮ่องกง

Rrrrrrrrrrrrrrrrrr

ในขณะที่เขากำลังจะพิมพ์ตอบกลับข้อความของนิ่ม ก็มีสายเรียกเขาแทรกมาซะก่อน เบอร์ที่โทรเข้ามาโชว์ชื่อเป็นของคุณครูประจำชั้นของภาณิน เขาไม่รีรอที่จะรีบกดรับสายและกรอกเสียงตามลงไป

"สวัสดีครับคุณครู"

"สวัสดีค่ะคุณพัด"

"มีอะไรหรือเปล่าครับ" เขาเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัย

"คือ...คุณครูโทรมาสอบถามน่ะค่ะ ว่าจะมีใครมาประชุมหรือเปล่า คือ...พอดีว่าเหลือแค่น้องภาณินคนเดียวที่ยังไม่มีผู้ปกครองมาค่ะ" สิ้นเสียงของปลายสาย พลลภัตม์ก็เกิดความสงสัยก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป

"คุณเรวัตยังไปไม่ถึงหรอครับ พอดีผมติดธุระจึงแจ้งให้คุณเรวัตไปแทน"

"ยังไม่มีใครมาเลยค่ะ รบกวนคุณพัดติดต่อให้ทีนะคะ"

"ครับ เดี๋ยวผมติดต่อเขาให้ สวัสดีครับ" เขาวางสายจากคุณครู ก่อนที่จะกดโทรออกหาเรวัต รอสายอยู่ไม่นานอีกคนก็กดรับ

"ฮัลโหล คุณอยู่ไหนแล้ว ครูของภาโทรตาม" เขาไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยอะไร พัดก็โพล่งออกไปทันที

"ขะเขม แน่น แน่นไปหมดเลย อ๊า" แต่สิ่งที่ได้กลับมา กลับไม่ใช่คำตอบของคำถามที่เขาอยากรู้ หากแต่เป็นเสียงครางที่ดังออกไป

และเขาก็จำได้แม่นว่าเป็นเสียงใคร

"อย่าเปิดผ้าปิดตาสิครับพี่เรน อื้อ ไม่งั้นผมไม่ขยับนะ อ๊ะ" เสียงที่ได้ยินทำให้เขากำโทรศัพท์แน่นมากยิ่งขึ้น จนข้อนิ้วขึ้นสีขาว แรงอารมณ์ของพัดกำลังลุกโชนมากขึ้นไปอีกเมื่ออีกเสียงตอบกลับมา

"พี่เรน อ๊ะ อย่ารีบสิครับ อื้อ จะรีบไปไหน"

"พี่ไม่ได้ไปไหน อืม พี่จะอยู่กับเขมทั้งคืน อืม ดี" พัดไม่ตอบโต้อะไรออกไป เขาทำได้เพียงแค่เงียบและกดตัดสายอีกฝ่าย ก่อนที่จะสลับมากดโทรหาคุณครูของภาณิน

"ค่ะ คุณพัด"

"ผมจะไปประชุมเองครับ" เขากรอกเสียงลงพร้อมกับน้ำตาที่หยดลงมา เขาเช็ดมันออกก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บข้างของและเดินไปแจ้งทางทีมงานว่าจะขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระด่วน ขาเรียวเดินไปก้าวขาขึ้นรถก่อนที่จะขับออกไปด้วยความรวดเร็ว เท้าของเขาเหยียบคันเร่งด้วยความโมโห จนมาถึงโรงเรียนของเด็กชาย เขารีบวิ่งขึ้นตึกเพื่อไปหาลูก

เขามาถึงหน้าห้องประชุมก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงนั้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และผลักประตูเข้าไปข้างใน การประชุมกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ พัดกวาดสายตามองหาภาณินก่อนที่จะเจอเข้ากับเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ กับคุณครูประจำชั้น เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาและวางมือลงบนหัวเล็กนั้น

"คุณพะ...แม่" ภาณินหันหน้ามาด้วยแววตาดีใจก่อนที่มันจะชักและหายไปเมื่อรู้ว่าเป็นเขาที่โผล่มาแทนที่อีกคน

"ครับแม่เอง...คุณพ่อติดธุระมาไม่ได้ แม่เลยมาแทน" เขานั่งลงข้างอีกคนและลูบหัวลูกชายตัวน้อยไปมา



หลังจากการประชุมจบลงพวกเราก็นั่งรถกลับมาที่บ้าน ตลอดทั้งทางภาณินไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เด็กชายเอาแต่นั่งเงียบและเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างเพียงอย่างเดียว ทันทีที่รถจอดสนิทภาณินก็เดินลงจากรถและวิ่งเข้าไปในบ้านทันที พัดพยายามเดินตามเข้าไปแต่ก็ไม่ทัน เขาหยุดอยู่กลางบ้านมองดูหลังของลูกชายวิ่งขึ้นไปบนห้อง

"พ่อไม่ได้มาตามนัดใช่ไหม" เป็นเสียงของภีมพลที่เดินตามเข้ามาเอ่ยถามเขา พัดหันกลับไปจ้องมองตาของเด็กชายก่อนที่จะพยักหน้าเป็นคำตอบ เขาเดินไปนั่งลงตรงโซฟาอย่างหมดแรงและเหนื่อยอ่อน

"เมื่อไหร่แม่จะยอมรับความจริงสักที ว่าพ่อไม่สนใจเราแล้ว" ภีมพลเดินตามพลลภัตม์เข้ามาด้วยก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ ของผู้เป็นมารดา 

"ภีม..." พัดเงยหน้าขึ้นมองลูกชายตัวเอง

"พ่อไม่ต้องการเราแล้ว ชีวิตพ่อไม่ต้องการพวกเราสามคนแล้วแม่"

"..."

"เขาต้องการแค่ผู้ชายคนนั้นคนเดียว" ภีมพลเอ่ยเสียงสั่นพร้อมๆ กับดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใสๆ เขาพยายามกลั้นมันไว้เพราะเขารู้ว่าตัวเองต้องเข้มแข็งในเวลาที่แม่และน้องอ่อนแอ

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ในระหว่างนั้นเองเสียงกระดิ่งหน้าบ้านของทั้งสามคนก็ดังขึ้นมา พัดเงยหน้าขึ้นจากความเศร้าเขายกมือลูบหัวลูกชายคนโตของตัวเองก่อนที่จะเดินออกไปดูที่หน้าประตูบ้านว่าเป็นใครที่มาหา

เขาเดินออกไปเปิดประตูบ้านก็พบเข้ากับลุงชัยคนขับรถของบ้านใหญ่ที่ยืนอยู่ที่หน้าประตู เขายกมือขึ้นสวัสดีอีกคนที่มีอาวุโสมากกว่าก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปมองรถยนต์คันหรูที่มาจอดที่หน้าบ้านของเขา ก่อนที่ประตูรถจะเปิดออกและตามมาด้วยชายสูงอายุหนึ่งคนที่เดินลงจากรถมา พัดจำอีกฝ่ายได้ในทันทีและรีบยกมือไหว้ทำความเคารพ

"คุณพ่อสวัสดีครับ"

"สวัสดี ขอเข้าไปได้ไหม"

"เชิญครับ" เป็นพ่อของเรวัตที่มาที่บ้านของเขาในตอนนี้



...

- TBC -

คุณพ่อมาทำอะไรค๊าาาาาาาาาาาาาา

ฝากกดไลค์กดแชร์กดสับตะไคร้ด้วยนะค้าบ

พูดคุยกันในแฮชแท็ก #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้น้า

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-06-2020 22:43:30
โอ๊ยย ถ้าอีพี่เรนจะโง่ขนาดนี้ ก็โง่ต่อไปเถอะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-06-2020 22:51:22
 :z6: :z6: :z6: ไปแตะลูกเค้า ระวังไว้เถอเขม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-06-2020 23:25:02
เห้ออออ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Pppkn ที่ 10-06-2020 23:25:18
อย่ามาเพื่อให้พัดอดทนเพื่อครอบครัวนะคะ อิชั้นจะตั้นหน้าเข้าให้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-06-2020 01:10:14
ก็ถ้ายังปล่อยให้เป็นปัญหา คาราคาซังอยู่อย่างนี้
ชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวกข้อง ก็จะไม่สามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้หรอก

ก็จะจมปลักกันอยู่ยังงี้ล่ะ มีชีวิตที่เฮงซวยไม่รู้จบ
วนลูปกันไปอย่างนี้เรื่อยไป ไม่มีที่สิ้นสุด

คนเราเกิดมาทั้งที่ สามารถเลือกให้ตัวเองมีความสุขได้
แล้วแต่ละคน ทำไมถึงไม่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขกันล่ะ

ทำไม...และ ทำไม
หึหึ
 :ling2:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 11-06-2020 01:41:40
 :heavenสงสารลูกๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 11-06-2020 02:32:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 11-06-2020 08:07:40
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-06-2020 12:57:35
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-06-2020 13:14:47
ความมักมากในกามมันมีเยอะจนบดบังสิ่งต่าง ๆ ไปหมดแล้วหรือไงเรวัต
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 11-06-2020 18:34:08
รู้ซึ้งแล้วสินะ รู้แจ้งแก่ใจสักทีเถอะ พ่อที่ไม่กลับบ้าน ลืมวันสำคัญลูก แล้วจู่ๆจะไปประชุมผู้ปกครอง ยังหวังอะไรกับผู้ชายคนนี้อีกได้อ่ะพัด หืมมม แล้วนั่นคุณพ่อมาทำไมคะ? มาขออยู่ต่อเพื่อครอบครัว? มาขอโทษที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้?? หึหึ 5555555 รอๆตอนหน้าจ้า สนุกๆ มันต้องยังงี้สิเรน ทำตัวเหมือนเดิม อย่าเพิ่งสำนึกผิดชอบชั่วดี มันบ่คือ 55555 เขมเองก็เหมือนกันแรดๆร่านๆแล้วก็ทำให้เมียหลวงเจ็บใจได้ตลอด มันต้องอย่างนี้ 555555 แต่อย่าดิ้นตามมันนะพัด เสียเวลาเอาไปดูลูกดีกว่า น่าปวดหัวกับพวกมัน 5555  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 11-06-2020 20:15:33
คุณพ่อจะมาคุยเรื่องอะไร
เรนนี้ก็เกินไปไหม มีโทรศัพท์เข้าจะไม่ดูเลยเหรอว่าใครโทรมา
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 11-06-2020 23:15:25
เรนหมดคำพุด  วันก่อนยังทำเป็นคนดีรู้สึกเสียดายวันวานกับเมียหลวงพ่อมาวันนี้หมดคำพูดจริงๆ

 ส่วนภา 15 แล้วนะลูกเด้กแถวบ้านนี่โตกว่าละมั้งเนี่ยเข้าใจอะเนาะว่าเด็กอ่ะอยากให้พ่ออยู่ด้วยแต่แบบเย็นๆนะลูกขา ส่วนภีมลูกใจเย็นปรึกษากันในครอบครัวก่อนนะจะมาโวยวายโทษแม่อย่างเดียวก็ไม่ได้ใจเย็นๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 11-06-2020 23:40:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 13 ละเลย 100% (10/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 11-06-2020 23:54:54
เป็นฉันนะ จะบันทึกเสียงตอนที่โทรไปแล้วจะอัพลงโซเชียวให้ขึ้นข่าวหน้า1ไปเลย :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 13-06-2020 22:48:54
บทที่ 14 ทะเลใจ 100%


แสงแดดที่ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้องไปกระทบยังเปลือกตาสีสวยที่ปิดสนิท รบกวนการนอนหลับของร่างเล็กที่นอนทอดกายอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ภาณินค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ก่อนที่จะสอดส่ายสายตาไปทั่วห้อง ภายในหัวก็พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

คุณพ่อไม่มาตามนัด

เขายอมรับว่าตั้งแต่ที่คุณพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกัน และตัดสินใจแยกกันอยู่จนตอนนี้ล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน เขายังไม่เคยเห็นหน้าคุณพ่อเลยสักครั้ง คุณพ่อหายไปไม่ติดต่อมา แต่เขายังคงเอาแต่คิดถึงและคิดถึงผู้ชายคนนั้นอยู่เสมอ เขายอมรับว่าเขายังยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้ เขายังต้องการให้คุณพ่อและคุณแม่อยู่ด้วยกัน แต่เหตุการณ์เมื่อวานนี้มันทำให้เขาเปลี่ยนความคิดไป  เขานอนร้องไห้ตั้งแต่ตอนเย็น ร้องจนเหนื่อย ร้องจนหลับไป

ร้องจนเหมือนกำลังจะขาดใจ

คุณพ่อไม่สนใจแม่และเขาอีกต่อไปแล้ว เขาไม่มาทำหน้าที่ของพ่อแม่ด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไรแต่การที่คุณพ่อผิดสัญญากับเขาบ่อยขนาดนี้ มันทำให้เขาเริ่มที่จะเลิกคาดหวังกับการกระทำของผู้ชายคนนั้นแล้ว

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องนอนของเขา ภาณินย้ายสายตาไปวางไว้ที่บานประตูไม้สีน้ำตาล ก่อนที่จะส่งเสียงเอ่ยทักออกไป

"ใครครับ?"

"เราเอง" เป็นเสียงเล็กของเด็กผู้หญิงที่ตอบกลับมา ทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ยังจำเสียงนั้นได้ดี

"เพนนีหรอ?" เขาเอ่ยถามออกไป

"ใช่...เราเอง"

"เข้ามาเลย ไม่ได้ล็อก" เขาเอ่ยออกไปอีกครั้งก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกมือเล็กของเด็กหญิงเปิดกว้างออก ขาเรียวก้าวเข้ามาภายในห้องของเพื่อนตัวเองอย่างช้า เด็กสาวเดินไปหยุดอยู่ตรงปลายเตียงของภาณินและเอ่ยปากออกไปก่อนที่เด็กชายจะถามขึ้นมา

"แต่งตัวเร็ว น้าพัดให้ขึ้นมาตาม" เด็กหญิงยิ้มหวานส่งให้

"มาตาม?" ภาณินเอ่ยออกไปด้วยความสงสัย มาตาม? ทำไม

"ใช่ เราจะไปทะเลกัน! เย่!" เด็กสาวกู่ร้องเสียงดังก่อนที่จะยกแขนข้างหนึ่งชูขึ้นฟ้าประกอบเสียงร้อง

"ทะเล?" ถึงแม้อีกฝ่ายจะเอ่ยบอกเหตุผลของการให้มาตามของแม่แต่ภาณินก็ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดี

"ใช่...ทะเลอะ ทะเลอะภา ทะเล! น้าพัดจะพาพวกเราไปทะเล"

ภาณินก้าวลงมาจากบันได ขาเรียวเดินเข้าไปในห้องรับแขกก่อนที่จะพุ่มมือไหว้น้านิ่มและน้านนท์ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก อีกทั้งยังมีแม่ของเขา ภีมพลและเพนนีอีกด้วย เขาเดินลากกระเป๋าที่บรรจุเสื้อผ้าสำหรับ สองวันหนึ่งคืนไปหามารดาก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ พลลภัตม์

"ภาลงมาแล้ว งั้นเราไปกันเลยไหม" เสียงหวานของนิมานลดาเอ่ยถามทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้

"เราจะไปทะเลกันจริงๆ เหรอครับ" เขาหันไปถามผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ข้างกัน ก่อนที่พัดจะหันกลับมาสบตากับลูกชายคนเล็ก และยกมือขึ้นมาลูบหัวอีกคนพลางเอ่ยบอก

"ครับ น้านิ่มที่บ้านน้านิ่มเขาเพิ่งสร้างรีสอร์ตเสร็จก็เลยมาชวนพวกเราไปพักผ่อนกัน" พัดเอ่ยบอกเหตุผลของการไปทะเลในครั้งนี้ถึงแม้มันจะปุบปับไปหน่อย แต่เขาและลูกๆ ก็ไม่ได้ไปพักผ่อนนานมากแล้วจึงตัดสินใจไป

"แล้วบ้านข้างๆ เกี่ยวไรด้วยอะครับ" ครั้งนี้เป็นเสียงของภีมพลที่เอ่ยถามออกมาบ้าง

"น้านิ่มมาชวนตอนคุณนนท์อยู่กับแม่พอดี และหนูเพนนีก็อยู่ด้วยก็เลยชวนไปด้วยกัน" นิมานลดามาชวนเขาในตอนที่ชานนท์กำลังคุยกับเขาอยู่พอดี และนิ่มเองก็รู้เรื่องของคุณนนท์อยู่แล้วเพราะเขาเล่าให้อีกฝ่ายฟังตลอดวันนี้เลยได้เจอกัน ประจวบกับหนูเพนนีเองก็อยากไปเที่ยวด้วย จึงกลายเป็นเพื่อนร่วมทริปกันไปโดยปริยาย



พวกเราออกเดินทางไปทะเลกันทันที โดยเอารถไปด้วยกันสองคัน มีคันของพลลภัตม์ที่มี น้านิ่ม พี่ภีม แล้วก็เขา กับอีกคันก็คือน้านนท์กับเพนนี เราเดินทางไม่นานประมาณ 2-3 ชั่วโมงรถยนต์ทั้งสองคันก็มาจอดลงที่ชายทะเลในเวลาเกือบจะเที่ยงวันที่แดดร้อนมากๆ

แต่วิวทะเลก็สวยมากเช่นกัน

มีพนักงานเดินออกมาต้อนรับและเดินนำไปยังรีสอร์ตที่น้านิ่มได้ทำการจองเอาไว้ให้พวกเรา โดยรีสอร์ตหลังนี้เป็นรีสอร์ตหลังใหญ่ที่อยู่ติดชายทะเลและมีห้องนอนสามห้องด้วยกัน พวกเราจึงแบ่งห้องนอนกันโดยให้แม่นอนกับน้านิ่ม น้านนท์นอนกับเพนนี และเขานอนกับพี่ภีม ในตอนนี้พวกเราก็แยกย้ายกันเอาของไปเก็บตามห้องของใครของมันและพักผ่อนตามอัธยาศัย เดี๋ยวตอนใกล้จะเย็นน้านิ่มจะมาเรียกไปตลาดสดที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อซื้อของมาทำซีฟู้ดทานกันในตอนเย็น

"เก็บของเสร็จแล้วกูจะออกไปเดินเล่น มึงจะไปป้ะ" เป็นพี่ชายของเขาที่หันชักชวนขณะที่กำลังนอนพักเหนื่อยอยู่บนเตียงข้างๆ กัน

"พี่ภีมไปเลย ภาไม่ไปหรอก" เขาหันไปปฏิเสธอีกฝ่ายก่อนที่จะนอนฟุบลงไปกับหมอนของตัวเอง

"ตามใจมึง อย่าออกไปไหนคนเดียวนะ ถ้าจะไปบอกแม่ก่อน" ภีมพลหันมาสั่งน้องชายของตัวเองก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องพักในรีสอร์ต หลังจากที่พี่ชายเดินออกไปแล้วภาณินก็ลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินไปหยุดอยู่ที่ระเบียงห้องพักก่อนที่จะยืนมองดูวิวทะเลสีสวยตรงหน้า

ลมเย็นๆ กับเกลียวคลื่นใสทำให้เขานึกถึงอดีต

อดีตของครอบครัวสุขสันต์

'มานี่เลย มาให้พ่อจับซะดีๆ'

'กรี๊ดดดดดด ฮ่ะๆๆๆ' ภาพของเด็กชายวัย 9 ขวบที่เล่นวิ่งไล่จับกับพ่อและพี่ชายของตัวเอง โดยมีแม่ของเขานั่งอยู่ใต้ล่มต้นไม้ข้างชายหาด เสียงหัวเราะ หยาดเหงื่อ เขายังจำได้

มันยังชัดเจน ไม่เลอะเลือน

เสียงคลื่นในความทรงจำของเขามันซ้อนทับเสียงคลื่นในความทรงจำ กลิ่นทะเลในตอนนั้นกับตอนนี้ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แสงแดดที่เคยร้อนแรงยังไงตอนนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยน

คือตอนนี้...ไม่มีพ่อแล้ว

หยาดน้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาจากลูกแก้วสีนิลสวยงาม มันหยดลงไปทีละหยด ทีละหยด ก่อนที่จะเพิ่มจากหยดการเป็นสาย น้ำตาของภาณินไหลออกมาเรื่อยๆ และหนักมากยิ่งขึ้น เขาทรุดตัวนั่งลงกอดเข่าและก้มหน้าร้องไห้ที่ระเบียงห้องพัก เขาไม่เคยเข้าใจกับคำว่าเอาความเศร้ามาทิ้งไว้ที่ทะเล

จนถึงวันนี้...ที่เขาอยากขอให้เกลียวคลื่นช่วยพัดพาเอาความเศร้าลงไปใต้ทะเลลึก



ตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะเย็นย่ำเข้าไปทุกที ชานนท์ที่ตื่นขึ้นมาจากการพักผ่อนในช่วงบ่ายกำลังออกมาเดินเล่นรับลมทะเลในยามเย็นที่ริมชายหาด เพื่อรอเวลาไปซื้ออาหารทะเลมารับประทาน

"ลุงนนท์ๆ เปลือกหอยๆ" เสียงเล็กข้างกายเอ่ยเรียกร่างสูงให้หันไปมอง มือป้อมของเด็กหญิงชี้ไปยังเปลือกหอยที่อยู่ในทราย ขาเล็กก้าวเร็วๆ ไปใกล้ๆ ก่อนที่จะนั่งยองและหยิบมันขึ้นมา

"มีเต็มเลย เก็บไปได้ไหมคะ" เพนนีหันมาเอ่ยถามลุงของตัวเอง

"หนูจะเก็บไปทำอะไรคะ"

"เพนนีจะเอาไปร้อยเป็นกำไลค่ะ" เด็กหญิงส่งยิ้มหวานให้ลุงเพื่ออ้อนขอเก็บเปลือกหอยเมื่อชายหนุ่มอนุญาตมือเล็กๆ นั้นก็ก้มลงไปสนใจเปลือกหอยสีสวยตรงหน้า เขาเองก็ลงไปนั่งยองและเก็บเปลือกหอยเป็นเพื่อนหลานสาว ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นร่างของเด็กชายอีกคนที่นั่งดูวิวทะเลอยู่ไม่ไกล

"เพนนีเก็บเปลือกหอยแถวนี้ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวลุงไปน้องภาก่อนเขานั่งอยู่คนเดียว" เขาหันไปเอ่ยกับหลานสาวพลางชี้นิ้วบอกตำแหน่งที่อีกคนนั่งอยู่ ก่อนจะกำชับว่าอย่าเดินลงไปเล่นน้ำ ให้เก็บเปลือกหอยระแวงนี้อย่าไปไหนและยกมือขึ้นมาลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะผละออกไปหาเด็กชายอีกคน

"มานั่งทำอะไรครับ" เขาเอ่ยถามเด็กชายและนั่งลงข้างกัน ภาณินเงยหน้ามามองเขาสีหน้าของอีกฝ่ายยังคงมีความเสียใจฉายชัดอยู่บนนั้น

"..." แต่เด็กชายเลือกที่จะไม่ตอบเขากลับเอาแต่มองออกไปยังเกลียวคลื่นสีสวยที่ซัดเข้ามาหาชายหาดจนเกิดเสียงไพเราะ เรานั่งข้างกันเงียบๆ ไม่เอ่ยอะไรออกมาจนกระทั่งเด็กชายทนไม่ไหว

"ภา...ฮึก ภาคะ...คิดถึงพ่อ ฮึก" อีกฝ่ายเริ่มเอ่ยเสียงสั่นๆ ก่อนจะสะอื้นออกมา ชานนท์เห็นดังนั้นจึงค่อยๆ เขยิบเข้าไปหาอีกฝ่ายก่อนที่จะดึงเด็กชายเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและลูบหลังไปมา

"พะ...พ่อ พ่อไม่รักภาแล้ว ฮึก ฮือ" ภาณินโผเข้าหาอีกคนก่อนที่จะซบหน้าลงกับลาดไหล่กว้างของคุณน้าข้างบ้าน ให้ไหล่ของอีกคนคอยซับน้ำตาให้

"พ่อ...พ่อไม่มาหาภาเลย พ่อลืมภาแล้วแน่ๆ ฮึก ฮือ" ชานนท์ลูบหลังอีกคนไปมาก่อนที่จะเอ่ยปลอบโยนอีกคนข้างหู

"ไม่จริงหรอกครับ คุณพ่อยังรักน้องภาน้าเชื่อแต่ช่วงนี้คุณพ่ออาจจะแค่งานยุ่งเลยไม่มีเวลามาหาน้องภา แต่ถ้าคุณพ่อเคลียร์งานได้เมื่อไหร่ น้าว่าคนแรกที่เขาจะมาหาคือน้องภาแน่นอน" เขาดึงภาณินออกมาซบอกของตัวเองก่อนที่จะเช็ดน้ำตาให้เด็กชาย

"จริงเหรอครับ...ตะ แต่ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่รักกันแล้ว" ภาณินเอ่ยเสียงสั่นไหวด้วยแรงอารมณ์ก่อนที่จ้องมองหน้าอีกฝ่าย

"ถึงคุณพ่อกับคุณแม่เขาจะไม่รักกันแล้ว แต่เขายังรักน้องภานะครับ ถ้าน้องภาโตขึ้นน้องภาจะเข้าใจเองว่าเรื่องราวต่างๆ มันเป็นยังไง น้องภาไม่ต้องเสียใจนะครับเพราะสุดท้ายแม่พัดกับพ่อเรน ก็จะยังคงเป็นคุณพ่อคุณแม่ของน้องภาเหมือนเดิม" ชานนท์ลูบหัวอีกคนก่อนจะดึงภาณินเข้ามากอดไว้เหมือนเดิม เด็กชายเริ่มสะอื้นขึ้นมาอีกครั้งและกอดเขาแน่นมากยิ่งขึ้น

เสียงของเกลียวคลื่นผสมไปกับเสียงสะอื้นที่เจ็บปวด

เขาภาวนาให้มันช่วยชะล้างบาดแผลในใจของเด็กชายให้หมดไปสักที



"ชน!!!" เสียงโห่ร้องของปาร์ตี้ซีฟู้ดริมชายหาดสนั่นไปทั่วท้องทะเล พวกเขาออกไปซื้ออาหารทะเลจากตลาดสดที่อยู่ใกล้ๆ กับรีสอร์ตของนิมานลดา โดยมีนิมานลดาเป็นหัวหน้าทัวร์พาเดินเลือกและจับจ่ายอาหารทะเลเหล่านี้และตอนนี้พวกเขาก็กำลังนั่งรับประทานอาหารทะเลอยู่ที่โต๊ะริมชายหาดที่นิ่มให้พนักงานมาเตรียมไว้ให้

"น้ำจิ้มอร่อยมากเลยค่ะ ฝีมือคุณนนท์นี้แซ่บสุดๆ" นิ่มร้องซี้ดออกมาทันทีเมื่อนำกุ้งตัวโตๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ชานนท์เป็นคนทำเข้าปาก รสชาติมันจัดจ้านจนต้องเอ่ยชม

"ขอบคุณครับ ผมหาสูตรจากในเน็ตน่ะครับ ปกติเวลาว่างจากเขียนหนังสือก็ชอบทำอาหาร" ชานนท์ยิ้มเขินพร้อมเอ่ยขอบคุณคำชมจากปากของนิมานลดา

"ใครได้ไปเป็นแฟนนี้โชคดีเลยนะคะ คุณนนท์โสดไหมคะ" นิมานลดาเอ่ยถามพลางทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย น่าหมั่นไส้

"ผมโสดครับ"

"กรี๊ด!" เมื่อได้ฟังคำตอบจากชานนท์ นิ่มก็กรี๊ดออกมาเบาๆ ก่อนจะหัวเราะเขินๆ และเปลี่ยนเรื่องคุยกันไป แต่ทุกบทสนทนาอยู่ภายในสายตาของภีมพลเสมอ เด็กชายคอยมองสังเกตแม่และนักเขียนข้างบ้านตลอดเวลา เขายอมรับว่าเขาหวงแม่ เขายังไม่พร้อมที่จะให้แม่ไปมีใคร หรือยังไม่พร้อมที่จะให้แม่แบ่งความรักของเขาไปให้ใคร

ยังไม่พร้อมจริงๆ

เด็กชายลุกขึ้นพร้อมกับแก้วน้ำในมือก่อนที่จะเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร ขาเรียวก้าวไปตามริมชายหาดเรื่อยๆ ดวงตาของเขาเงยหน้ามองท้องฟ้ายามกลางคืน แสงดาวพร่างพราวสวยงามกระจ่างในดวงตายิ่งมันกระทบกับพื้นน้ำสีครามในทะเลยิ่งดูสวยงามมากขึ้นไปอีก ในระหว่างที่เขากำลังรับชมความงามจากธรรมชาติเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินย่ำทรายมาจากด้านหลัง

"ภีม..." มีเสียงเอ่ยเรียกเขาและเขาก็จำได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร ภีมพลหันไปตามเสียงเรียกและเจอเข้ากับร่างบางของผู้เป็นแม่กับร่างเล็กของน้องชายตัวเอง

"แม่มีเรื่องจะคุยกับลูกๆ"



ทั้งสามคนแม่ลูกนั่งอยู่ริมชายหาดยามกลางคืน ระหว่างนั้นมีเพียงเสียงของลมทะเลที่ดังเคล้าไปกับเสียงคลื่น ไม่มีบทสนทนาระหว่างกันมีเพียงความเงียบเนิ่นนาน ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเอ่ยออกมา

"แม่ตัดสินใจแล้ว...แม่จะหย่ากับพ่อ" เสียงของพัดเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เขาก้มหน้าลงก่อนที่จะปล่อยให้น้ำตาค่อยๆ ไหล เขาทนกับความเจ็บช้ำนี้มามากพอแล้ว ทนมามากพอแล้วจริงๆ

"แม่...แล้วเรื่องของคุณย่าล่ะครับ" เป็นเสียงของภาณินที่เอ่ยถามออกมา ตอนแรกที่แม่จะหย่าแต่กลับหย่าไม่ได้เป็นเพราะคุณย่าขู่เอาไว้และใช้อำนาจบีบแม่ แต่ตอนนี้ทำไมถึง...

"คุณปู่ของลูกมาหาแม่เมื่อวาน...ท่านจะช่วยเรา ท่านบอกว่าแม่ตัดสินใจในสิ่งที่แม่อยากให้เป็นได้เลย ท่านเคารพการตัดสินใจของแม่เสมอ ส่วนเรื่องของคุณย่า...ท่านจะจัดการเอง" เสียงของพัดเริ่มสั่น

"ภีมไม่ติดถ้าแม่จะหย่า...มันเป็นสิ่งที่ภีมต้องการ" ภีมพลหันมาเอ่ยกับเขาก่อนที่เด็กชายจะดึงเขาเข้าไปในอ้อมกอดของอีกคน เขาปล่อยให้น้ำตาไหลและซุกหน้าเข้ากับอกของลูกชายคนโต

"ภา...ภาเคารพการตัดสินใจของแม่ครับ" ภาณินเองก็โผเข้ากอดทั้งแม่และก็พี่ชายก่อนที่จะปล่อยให้เสียงสะอื้นดังกลบเสียงลมและคลื่น พวกเราสามคนกอดกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ปล่อยให้ความเสียใจมันทิ้งหายไปใต้ก้นทะเลลึก จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนนี้

มันทำให้พวกเราเติบโตกันขึ้นมากจริงๆ



ร่างสูงสมส่วนนั่งทานอาหารกับร่างเล็กอีกคนอยู่ที่โต๊ะอาหารภายในห้องชุดคอนโด วันนี้พวกเขาสั่งอาหารมาทานกันที่ห้องหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมเข้าจังหวะที่ดุดัน เขมตักอาหารโปรดของเขาอย่างมัสมั่นมาให้ที่จาน เขาจึงเอื้อมมือไปลูบหัวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะตักแกงจืดให้กับอีกคนด้วย

"เขมทานเยอะๆ นะ เสียแรงไปเยอะเลย" เรวัตยิ้มพลางเอ่ยบอกอีกคน

"พี่เรนเองก็ทานเยอะๆ นะครับ น้ำแกงเจ้านี้อร่อยมากถือว่าทดแทนน้ำที่เสียไปเยอะแล้วกัน"

"ทะลึ่งนะเราน่ะ" เขาเอื้อมมือไปหยิกจมูกอีกฝ่ายก่อนที่จะลงมือรับประทานอาหารกันต่อ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วเรียบร้อยเขมินทร์จึงอาสาเป็นคนล้างจานเอง เขมเดินไปยืนอยู่ที่อ่างล้างจานก่อนจะเริ่มลงมือหยิบจานขึ้นมาล้างทำความสะอาด พอทำไปได้เรื่อยๆเขาก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อมีมือของใครอีกคนมาวางแหมะไว้ตรงเอว เรวัตก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอขาวของร่างบางก่อนที่จะเลื่อนมือเข้าไปในสาบเสื้อและสะกิดตุ่มไตสีชมพูสวย

"อ๊ะ...พะ พี่เรนเขมล้างจานอยู่" ร่างเล็กเอ่ยห้ามเสี่ยงสั่นแต่ก็เอียงคอให้อีกคนซุกไซร้ได้เต็มที่ แถมยังแอ่นสะโพกถูไถกับเจ้าโลกของอีกฝ่าย

"ก็ล้างไปสิครับ พี่ไม่ได้ห้ามนี่" เรวัตยังคงลวนลามร่างเล็กต่อและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเมื่อมือใหญ่เลื่อนลงมาปลดกางเกงของอีกคนลงไปที่พื้น

"พี่ระ...เรน เดี่ยวจานมะ...มันจะแตก อ๊ะ อืม" ร่างเล็กสั่นน้อยๆ เมื่อนิ้วมือของอีกคนเริ่มรุกล้ำเข้ามา

"แล้วเขม...ไม่อยากแตกหรอครับ"



สุดท้ายสงครามอารมณ์ก็มาจบลงที่เตียงใหญ่ในห้องนอน เขมินทร์นอนหลับฟุบไปกับอกของคนพี่ด้วยความอ่อนเพลียแต่เรวัตยังไม่หลับเพราะมีงานที่จะต้องสะสางนิดหน่อย ขายาวค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงอย่างเงียบเชียบจากนั้นจึงไปหยิบกางเกงที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ก่อนที่จะเดินออกมานอกห้องและหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมานั่งทำงานที่โซฟาหน้าทีวี

Rrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ของเขาสั่นแจ้งเตือนจากข้อความเข้า มือใหญ่จึงเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูพบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาที่ทักมา

Petch : มึง

Petch : เห็นนี้ยัง?

Petch : ส่งวิดีโอ

รูปภาพที่อีกคนส่งมาคือวิดีโอที่บันทึกหน้าจอมาจากสตอรี่อินสตราแกรมของนิมานลดา ในคลิปคือรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดทะเล มีเสียงเพลงจากกีตาร์คลอเบาๆ กล้องเลื่อนไปยังพัดและลูกๆ ของเขาและเสียงร้องเพลงของนิมานลดาและผู้ชายคนหนึ่ง

Rian : พัดไปเที่ยวทะเลหรอวะ ไม่เห็นบอกกู

Petch : ไม่ใช่เว้ย

Petch : มึงสังเกตดีๆ

เขาอ่านข้อความของเพื่อนสนิทจบแล้ว จึงเพ่งมองดูในคลิปวิดีโออีกครั้งและเขาก็เห็นภาพสะท้อนในกระจกที่ติดมา ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเล่นกีตาร์อยู่ตรงนั้น

เป็นมัน...ไอ้ลูกนอกคอกนั้น

Petch : ในกระจกอะ ใช่น้องมึงป้ะวะ



...

- TBC -

หวงหรอ...เธอหวงก้างหรอ!?

ฝากกดไลก์กดแชร์กดสับตะไคร้ด้วยนะค้าบ

พูดคุยกันใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp

หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 13-06-2020 22:58:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-06-2020 00:13:44
 :katai4:  มีคนอื่นแล้วยังมีหน้า มาหวงงง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 14-06-2020 01:11:56
เอ้อ!!นี้แหละๆอารมณ์นี้ของเรนกำลังจะมา มันได้เวลาแล้วที่จะเอาคืน พากันมาทิ้งความเศร้าความเจ็บปวดไว้ที่ทะเลแล้ว กลับไปก็หวังว่า3คนแม่และลูกๆ จะเข้มแข็งขึ้นได้นะ อย่าได้แคร์ คาดหวังอะไรจากเขาอีกเลย เมินเฉยเย็นชาต่อกันไปเล้ย ดิ้นเร่าๆอยู่คนเดียว สะใจดี 555 //โอ๊ะโออออคุณพ่อเรนมาดีเว้ย นึกว่าจะแย่กันทั้งครอบครัว ยังดีที่จะช่วยพัดเรื่องหย่า ขอให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนะคะคุณปู่ จัดการอย่าให้คุณย่าเขามายุ่งเรื่องครอบครัวอื่นให้ได้นะ 5555 //ภีมภาเดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะ ถ้ามันหนักมันเหนื่อยก็ปลงลงซะความรู้สึกนึกคิดอะ ปล่อยวางจะสบายใจดี โตเร็วๆนะ ไม่อยากให้เศร้านาน คุณข้างบ้านอยู่ในซีนตลอด อาร๊ายยยย >.<  555  สนุกกก ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอเสมอค่า รอตอนหน้าเลย เรนมันจะบ้ายังไงบ้าง โถๆๆๆๆๆ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 14-06-2020 01:19:33
เอาอิีกค่ะนักเขียน​ หึหึ​ อิพี่เรน​ เจ้าได้เลือดแน่งานนี้​ ข่อยยืนยัน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-06-2020 04:19:14
คุณได้เลือกแล้ว
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 14-06-2020 05:32:24
อย่ามาหวงก้างนะ  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-06-2020 10:01:27
โอ๊ะ ๆ พ่อเรนมาดี มาช่วยแหะ สงสัยจะรู้ว่าอยู่อย่างมีพันธะแต่ไม่มีรักมันทรมานเหมือนอย่างที่ตัวเองเป็นอยู่เลยมาช่วยพัดให้หลุดพ้น แต่ถามจริงว่าจะจัดการเมียตัวเองได้จริงเปล่าถ้าพัดหย่ากับเรนจริง ๆ จะมีการมายุ่งวุ่นวายอีกไหม แล้วไม่ใช่แค่ตัวแม่นะตัวลูกอย่างเรนเองจะยอมหย่าหรือ ตอนท้ายตอนนี้ยังจะมีอาการหวงก้างอยู่เลย ผช.พวกนี้มันเห็นแก่ตัวจริง ๆ ตัวเองมีชู้ได้แต่ไม่ให้เมียตัวเองมีบ้างมันคืออะไรกัน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-06-2020 10:52:01
ทิ้งขว้างลูกเมีย ไม่ดูดำดูดี
สัตว์ เด-รัจ-ฉาน ยังไม่ทำขนาดนี้เลย

จะด่าว่า"เหี้ย" ก็กลัวว่าสัตว์พันธุ์นี้มันจะโกรธ
เพราะสันดานไอ่เรน มันไปไกลกว่าเยอะเลย

เลวทราม ชาติชั่วเกิ๊น
เสนียดมาก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 14-06-2020 14:37:11
ถ้าหวงแล้วไม่พยายามปรับตัวให้ดีขึ้น ก็ปล่อยเขาไปเหอะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 14-06-2020 22:13:50
หวังว่าสามแม่ลูกจะเข้มแข็ง สู้ๆนะส่วนพ่อ ปล่อยมันไปเถอะอารมณ์เหมือนคนเป็นเมนส์ก็รักเมียน้อยแต่ก็ห่วงเมียหลวงไม่ใช่แล้ว!!!
ส่วนคุณนนท์ดีอ่ะเป็นนักเขียนมีความคิดความเป็นผู้ใหญ่โตอะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-06-2020 23:24:29
หย่าให้ได้ พอเถอะ พอที
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 15-06-2020 21:03:24
ควหมดหวังจะให้เรนกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว มูฟออนอย่างเดียวเลยค่ะพัชร  :ruready
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Yhunrim11 ที่ 15-06-2020 23:11:58
 :z3: :z3: :z3: เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 14 ทะเลใจ 100% (13/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 16-06-2020 21:15:38
สนุกครับ
เป็นนิยายที่เดินเรื่องเร็ว แต่เข้มข้นมากๆ ครับ
อ่านนิดเดียวอารมณ์ขึ้นเลย ไม่ต้องบิ้ว 55
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 16-06-2020 22:58:28
บทที่ 15 แตกหัก 100%

รถยนต์หรูของพลลภัตม์ขับเลี้ยวเข้ามาในซอยบ้านของตัวเอง หลังจากที่เขาขับกลับมาจากไปส่งนิมานลดาที่คอนโดของอีกฝ่าย ดวงตากลมมองไปเห็นรถยนต์คันคุ้นตาที่จอดสนิทที่หน้าบ้านของเขา พัดเองก็จำได้ในทันที ป้ายทะเบียนที่คุ้นเคย เขาจำมันได้หมดทุกตัวอักษรและหลักเลข มันเป็นรถยนต์ของคนเคยรัก

รถยนต์ของเรวัต

พัดขับไปถึงหน้าบ้านของตัวเองและเดินลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูบ้าน เขาทำเป็นไม่สนใจรถของใครคนนั้นที่มาจอดรออยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแขนของเขาก็ถูกเจ้าของรถคันนั้นเดินลงมาคว้าเอาไว้ซะก่อน

"มาคุยกันให้รู้เรื่อง" เรวัตเอ่ยเสียงเข้มก่อนที่พัดจะสะบัดแขนให้หลุดจากการกอบกุมของอีกฝ่าย

"อยากคุยก็ไปคุยกันในบ้าน ผมเองก็อยากคุยกับคุณเหมือนกัน" เขาเอ่ยพร้อมยืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่มีท่าทีเกรงกลัว มือเรียวดันประตูบ้านให้เปิดออกก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถของตัวเองเพื่อขับเข้าไป ในตอนนั้นหางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นว่ารถยนต์ของชานนท์ขับเข้ามาในซอยพอดี

"เขามาทำไม" เป็นเสียงของภีมพลที่เอ่ยถามออกมา

"เดี๋ยวแม่จะคุยกับพ่อ ภีมกับภาไปรอแม่ที่บ้านน้านนท์ก่อนนะลูก" เขาหันไปเอ่ยบอกลูกชายทั้งสองก่อนที่จะขับรถเข้าไปจอดในบ้าน ในตอนนั้นเรวัตเองก็เดินตามรถยนต์ของพลลภัตม์เข้ามาในบ้านด้วย ทันทีที่รถจอดสนิทพัดก็เดินลงจากรถพร้อมกับลูกๆ และบอกให้ลูกไปรอที่บ้านของชานนท์ก่อน พัดชำเลืองมองเรวัตที่มองเขาอย่างโกรธแค้นก่อนที่จะเดินนำอีกคนเข้าบ้านไป

"พัดไปไหนมา" เรวัตเดินตามอีกคนเข้ามาในบ้านและเอ่ยเสียงต่ำถามอีกคนทันที

"ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณ เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว" พลลภัตม์เองก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน

"จะหาพ่อใหม่ให้ลูกรึไง ลืมไปหรือเปล่าว่ามีพี่เป็นผัวพัดอยู่ทั้งคน!" เมื่อเห็นว่าพัดไม่ได้มีท่าทีรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ไฟในอกของเขาก็ลุกโชนมากยิ่งขึ้น แรงอารมณ์ที่พัดเหวี่ยงไปมาทำให้เขาเริ่มที่จะฉุดเอาไว้ไม่ได้

"ผมไม่เคยลืมหรอกว่ามีคุณเป็นสามีตามกฎหมาย แต่คุณต่างหากลืมไปหรือเปล่าว่ามีผมและลูกอยู่ตรงนี้!" ทำไมถึงกล้าด่าเขาด้วยคำพูดแบบนี้ ทำไมถึงกล้าทวงถามถึงสถานะที่ตัวเองเป็นคนทำลาย

ทำไมเห็นแก่ตัวขนาดนี้นะ

"พี่ไม่เคยลืม พะ..."

"ไม่เคยลืมแต่ไม่เคยโทรหา! เอาเวลาไปอยู่แต่กับมัน ลูกไม่มาดูแล! งานวันเกิดลูกก็ลืม! งานประชุมผู้ปกครองที่รับปากเอาไว้ก็ผิดนัดมัวแต่เอาเวลาไปทำเรื่องต่ำๆ...คุณมันไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อคนจริงๆ เรวัตพฤติกรรมเหมือนสัตว์เข้าไปทุกวัน!" พัดเองไม่รอให้เรนพูดจบเขาก็สวนกลับไปทันที เขาระบายความอัดอั้นในใจผ่านคำพูดและสาดอารมณ์ที่เขาต้องทนทุกข์กับเรื่องทั้งหมดผ่านคำด่าทอต่างๆ ที่เขามอบให้ผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้การด่าหรือว่าร้ายคนอื่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยมากๆ และคนที่ทำให้เขาหมดความอดทนได้ขนาดนี้

มันต้องเป็นคนที่เลวร้ายขนาดไหนกัน

"งานประชุมผู้ปกครองอะไร...พี่ไม่เข้าใจ" เรวัตเองหลังจากฟังสิ่งที่พัดพูดมันก็ทำให้เขาสับสนและมึนงงขึ้นมาในทันที เขาไม่เข้าใจว่าพัดกำลังหมายถึงอะไร

"สามวันก่อนโรงเรียนลูกมีงานประชุมผู้ปกครอง ผมไม่ว่างก็เลยส่งข้อความไปหาคุณแล้วก็คุณก็รับปากจะไปให้ แต่สุดท้ายคุณก็ผิดสัญญา คุณมัวแต่เอาเวลาไปสืบพันธุ์กับมัน!"

"พี่ไม่เคยได้ข้อความอะไรจากพัดเลย ไม่มีอะไรเลย" เรวัตเองก็ยังคงงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เขาย้ายออกจากบ้านเขาไม่เคยได้ข้อความอะไรจากอีกฝ่ายเลย เขายืนยันได้

พลลภัตม์พยายามปะติดปะต่อเรื่องราวในสมองของตัวเอง และก็ได้ข้อสรุปออกมา มือเรียวล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนที่กดเข้าหน้าช่องแชทระหว่างเขากับเรวัตและเปิดให้อีกฝ่ายดูข้อความทั้งหมดที่สนทนากันในวันนั้น

เรวัตหยิบโทรศัพท์ที่พัดยื่นมาให้ก่อนที่จะใช้สายตาอ่านข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอดิจิตอลนั้น มันเป็นห้องแชทระหว่างเราสองคนที่มีการคุยตกลงในเรื่องการไปประชุมผู้ปกครองของภาณินอย่างเรียบร้อย เขาเองก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดดูห้องแชทระหว่างเขาและพัดเช่นเดียวกันแต่ภายในโทรศัพท์ของเขา กลับไม่มีข้อความพวกนั้นเหลืออยู่เลย ในตอนนั้นเองสมองของเขาก็ย้อนไปถึงเหตุการณ์ของเช้าวันนั้นที่เขาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาและมองไปเห็นเขมินทร์ยืนกดโทรศัพท์ของเขาอยู่ แต่เพียงแค่แวบเดียวเขาก็หลับต่อ ตอนนั้นเขาคิดว่าอาจจะเป็นแค่ความฝัน

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันไม่ใช่

"พัดพี่ไม่รู้จริงๆ นะ ข้อความมันหายไป มีคนลบข้อความพี่" เรวัตพูดเสียงสั่นๆ ก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้พัดดู พัดเหยียดยิ้มก่อนที่จะดึงโทรศัพท์ของตัวเองกลับมา นิ้วเรียวกดเปลี่ยนจากหน้าจอช่องแชทไปยังคลังข้อมูล ก่อนที่เขาจะกดเปิดไฟล์ๆ หนึ่งออกมา ไฟล์เสียงที่เขาบันทึกเอาไว้ตอนที่โทรหาเรวัตวันนั้น

(อ๊ะ...อ๊ะ พะ พี่เรนอืม เขมแน่นมันแน่นรู อื้อ)

"..." ทันทีที่เรวัตได้ยินเสียงบ้านทั้งหลังก็ตกอยู่ในความเงียบ

(เขม...เขมมันดีมาก เขม อืม แน่นไปหมด พี่ใกล้แล้วเขม อ๊า)

พัดทนฟังต่อไปไม่ไหวเขากดปิดทันที หากทนฟังอีกนิดเขาอาจจะอาเจียนออกมาตอนนี้เลยก็ได้

"ผมรู้ว่าคุณไม่โง่ ขนาดที่จะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร" เขาพูดเสียงนิ่งเรียบๆเหมือนอารมณ์ที่เริ่มจะนิ่งลงไม่มีได้เหวี่ยงเหมือนเมื่อสักครู่

"พี่ขอโทษ...พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง" เรวัตเดินเข้ามาใกล้พัด หวังที่จะวิงวอนขอโอกาสแต่สิ่งที่พัดทำคือการยืนอยู่เฉยและเบี่ยงตัวหลบมือหนาที่ยื่นมาหมายจะจับเนื้อต้องตัวของเขา

"มันไม่มีโอกาสสำหรับคุณอีกแล้ว ผมเคยบอกคุณแล้วว่าอย่าให้คนของคุณเข้ามายุ่งวุ่นวายผมกับลูก แต่คุณก็ทำไม่ได้"

"..."

"ในเมื่อการรับผิดชอบสองครอบครัวมันยากเกินไปสำหรับคุณ ผมก็จะช่วย...ช่วยหย่าให้คุณรับผิดชอบแค่เขาส่วนเราไม่เกี่ยวข้องใดๆ กันอีก!" พัดเอ่ยกระแทกเสียงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเอาจริง เขาจะไม่ทนอีกต่อไป ทางที่ทำให้เขาและลูกหลุดพ้นจากคนเห็นแก่ตัวได้ มันมีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น

"พัด...ไหนพัดบอกพี่ว่าจะไม่หย่าไง ไหนพัดบอกว่าเราจะแค่แยกกันอยู่" เรวัตแทบจะทรุดเมื่อพลลภัตม์เอ่ยคำนั้นออกมาอีกครั้ง แววตาของพลลภัตม์ที่พูดประโยคนั้นคือแววตาของคนที่ไม่เหลือใจให้กันแล้ว

"ผมจะหย่า เราจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกไม่ว่าทางไหน คุณกับผมและลูกจะไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันอีกต่อไป" เรวัตคุกเข่าลงต่อหน้าเขาและเริ่มที่จะร้องไห้ขอโอกาสอีกครั้ง เสียงสะอื้นของเรวัตมันทำให้ใจพัดกระตุกไปนิดหนึ่ง อย่างน้อยก็คนเคยรักกันแต่ถ้าจะหวังให้เขากลับไปให้โอกาส เขาก็จะไม่ทำ

"พะ...พัด ฮึก พี่ไม่ยะ...หย่านะ ฮึก พี่ไม่หย่า" เรวัตคานเข้ามาจับมือเขาและซุกหน้าลงไปกับฝ่ามือนุ่มนิ่ม เพื่อให้มันช่วยซับน้ำตา

"ปล่อยผมไปเถอะ ถ้าคุณยังรักและห่วงผมอยู่สักนิด ช่วยปล่อยผมไป" พัดก้มลงมองผู้ชายที่เป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตเขากำลังร้องไห้เสียใจอยู่ตรงหน้า ภาพตรงหน้าอาจจะเลือนรางเพราะหยาดน้ำตาที่คลออยู่รอบดวงตากลม พัดชักมือออกจากการกอบกุมของอีกฝ่ายและถอยหลังห่างออกไป

"พวกคุณทำร้ายผมกับลูกมาตั้งเท่าไหร่ ปล่อยพวกเราไปเถอะ ปล่อยพัดไปเถอะนะ...หย่ากับพัดเถอะนะพี่เรน พัดขอร้อง ฮึก" อารมณ์ของพัดเริ่มสั่นไหว เขาคุมเสียงและน้ำตาไม่ได้ พัดทำได้แค่ปล่อยมันไหลอยู่เงียบ ไม่มีเสียงสะอื้นจากคนตัวเล็ก มีเพียงหยดน้ำที่เอ่อล้นขอบตาและหยาดน้ำใสที่ไหลอาบแก้ม เขาไม่คิดจะยกมือขึ้นมาเช็ดมันด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกินกว่าที่แม้แต่น้ำตายังไม่มีแรงเช็ด

บ้านทั้งหลังเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหมอกของความเศร้าโศกและรมควันกลิ่นไปด้วยความเสียใจ เสียงสะอื้นของเรวัตดังก้องกังวานอยู่ในหูของเขาทั้งคู่ พวกเราทำร้ายกันมามากเกินไปแล้วคนที่เจ็บก็คือพวกเขาเอง  เราควรหยุดมันเอาไว้แค่ตรงนี้ เราควรจบมันสักที

"พัด...ฮึก พี่...พี่ขอโทษแต่พี่ไม่หย่า ฮือ พัดพี่ไม่หย่า"

"พี่เรน...พัดเจ็บมาตลอดหนึ่งเดือน พัดร้องไห้ตลอดเวลา ลูกเองก็เสียใจ พัดและลูกถูกพี่ทำร้ายด้วยคำว่านอกใจ และไหนจะคนของพี่ที่คอยระราน แม่ของพี่ที่กดดันพัด พัดเหนื่อยแล้วพี่เรน พัดไม่อยากสู้กับใครแล้ว" เขาเอ่ยบอกถึงความทุกข์ที่มันทำให้เขาจมอยู่กับมันตลอดทั้งเดือน พัดไม่เคยนอนหลับสนิทได้เลยตั้งแต่ตอนนั้น

"แม่พี่...แม่พี่ทำอะไร ฮึก" เป็นอีกครั้งที่เขาไม่รู้ว่าคนรอบกายที่บอกว่ารักเขากำลังทำร้ายคนตรงหน้า คนที่เขารัก

"แม่พี่ขู่พัด...เขาจะไม่ยอมให้พัดหย่า ไม่อย่างนั้นเขาจะภีมกับภาไป ฮึก" เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าพัดต้องทรมานเพราะเขามากถึงขนาดไหน

ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขา

"พี่ขอโทษ ฮึก ขอโทษที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ฮือ" เสียงสะอื้นดังมากยิ่งขึ้นเมื่อเขารู้ว่าคนตัวเล็กต้องเจ็บและทนมากขนาดไหน การนอกใจมันทำให้ทุกคนที่เรารักต้องเสียใจแม้กระทั่งตัวเขาเอง

ผลลัพธ์ของการนอกใจ...มันไม่เคยสวยงาม

"พี่เรนกลับไปก่อนเถอะ...เดี๋ยวพัดจะนัดวันหย่าไปอีกที"



"ขอบคุณมากนะจ๊ะน้องเขมที่มางานอีเวนท์ให้พี่" หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เอ่ยขอบคุณเด็กหนุ่มตรงหน้า ถึงเรื่องการมาโชว์ตัวในงานอีเวนท์ของสินค้าเธอในวันนี้ แม้ค่าตัวของอีกฝ่ายจะสูงเฉียดฟ้าแต่เธอเชื่อว่าสินค้าของเธอจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

"ไม่เป็นไรเลยครับ พี่แก้ว เขมสิต้องขอบคุณที่ชวนเขมมาเป็นพรีเซนเตอร์ เขมใช้สินค้าตัวนี้มาตลอดอยู่แล้ว ก็แค่เอามาบอกต่อให้คนรู้จักเท่านั้นเองครับ" เขมินทร์ยิ้มรับคำขอบคุณของอีกฝ่าย และเอ่ยขอบคุณอีกคนกลับเป็นมารยาท

"ไว้ยังไงเดี๋ยวคราวหน้าร่วมงานกันใหม่นะ"

"ครับพี่แก้ว" หลังจากจบบทสนทนาเขมินทร์ก็เดินแยกตัวออกมาหาพี่ปุยผู้จัดการสาวข้ามเพศของตัวเองเพื่อเดินทางกลับ

"เขม พี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวมา" ปุยยืนกระเป๋าดาราในสังกัดของตัวเองถือก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังห้องน้ำ ของห้างสรรพสินค้า

Rrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ในมือของเขมินทร์สั่น เพราะมีการแจ้งเตือนว่ามีข้อความส่งเข้ามาเพียงแต่ว่ามันไม่ใช่โทรศัพท์ของเขา

Pink : โอนค่าตัวน้องเขมเพิ่มให้แล้วนะคะพี่ปุย ขอบคุณมากๆ ค่ะ

Pimk : ส่งรูป

เป็นข้อความของเจ้าของแบรนด์ๆ หนึ่งที่เขาเพิ่งไปร่วมงานอีเวนท์มาเมื่อไม่กี่วันก่อน เขมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปข้อความเก็บไว้ก่อนที่จะเก็บมันลงไปในกระเป๋า ตั้งแต่วันที่รู้ว่าปุยโกงเงินค่าตัวของเขา ดาราหนุ่มก็ไล่โทรหาคนที่เคยจ้างงานคนก่อนๆ เพื่อสอบถามในเรื่องนี้และเขาก็ได้คำตอบเดียวกันคือ

ผู้จัดการของเขาขอส่วนต่างค่าตัวเพิ่มในตอนที่เขากำลังมีชื่อเสียง

"เขม...พี่เสร็จแล้ว ไปไหนต่อหรือเปล่า" ปุยเดินออกมาจากห้องน้ำและตรงกลับมาหาเขมินทร์ที่ยืมรออยู่

"ไม่ครับ เขมอยากกลับไปพัก" เขาหันไปตอบอีกคนก่อนจะส่งสัมภาระให้และออกเดินตรงไปยังลานจอดรถทันที

"เออนี่เขม...สัญญาเราน่ะอีกเดือนเดียวก็จะหมดแล้วนะ จะต่อเลยไหม" ในระหว่างทางที่เดินไปยังลานจอดรถ ปุยก็เอ่ยทักในเรื่องของสัญญาโมเดลลิ่งของตัวเอง

"เขมยังไม่อยากคุยงานตอนนี้นะครับ เขมเพลีย" แต่เขมินทร์ก็บอกปัดออกไป ไม่ใช่เพราะเขาเหนื่อยแต่เพราะเขาไม่อยากที่จะต่อสัญญาต่างหาก ขาเรียวก้าวเข้ามาถึงลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าใหญ่พร้อมกับผู้จัดการของตัวเองที่เดินมาส่งถึงรถยนต์หรู

"ขับรถกลับดีๆ นะเขม เดี๋ยวเจอกันวันเรียนแอคติ้งเดี๋ยวพี่ไปรับ" ปุยเอ่ยบอกอีกคนตอนที่กำลังจะก้าวขึ้นรถ หล่อนยืนส่งดาราหนุ่มที่ข้างรถหรู

"ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวเขมขับรถไปเอง"

"ก็ได้ตามนั้น โชคดีนะ" เธอเอ่ยอวยพรร่างเล็กก่อนที่จะเดินแยกออกไปยังรถของตัวเอง เขมินทร์เองก็ปิดประตูรถและขับออกมาจากห้างสรรพสินค้าในทันที จุดหมายปลายทางของอีกฝ่ายคือมุ่งหน้าไปยังคอนโด



"มาช้าจังเลย" ป้องกุลคู่ขวัญของเขมินทร์ออกมาเปิดประตูรับร่างเล็กที่กดกริ่งเรียก ทันทีที่ขาเรียวก้าวเข้าในห้องชุดคอนโดของพระเอกหนุ่ม ร่างทั้งสองก็พุ่งเข้ามาหากันเหมือนสัตว์ที่อยากกัดทึ้งเหยื่อ

"อื้อ...ป้อง เขมเสียว" เขมินทร์ครางหวานข้างหูอีกฝ่ายที่ซุกไซร้ซอกคอกเขาด้วยความหื่นกระหายกาม

"เขมไม่มาหาป้องสักที ป้องรอตั้งนาน" ป้องกุลเงยหน้าจากซอกคอขาวมาเอ่ยเสียงน้อยใจใส่อีกฝ่าย

"เขมก็มาแล้วนี่ไง มาให้ป้องลงโทษ"

"ป้องจะลงโทษเขมให้เสียงที่สุดเลย" ร่างสูงก้มลงไปตะโบมจูบร่างเล็กเกิดเสียงเฉอะแฉะน่าเกลียดดังไปทั่วห้องคอนโดหรู

"อื้ม อ๊ะ ปะ...ป้อง เบาๆนะป้อง เบา อ๊า เบาๆมันสะเทือน อื้อ ปะ...ป้อง"

"เขม อื้อ เขมมันดีมาก อ๊า แน่น แน่นไปหมดเลย"

"ป้อง อ๊า เขมจะสะ เสร็จ อื้อ ป้อง"

"เขม ป้องก็จะเสร็จ อื้อ เขม อ๊า"

"ป้อง อ๊า ป้อง"



หลังจากที่เขมินทร์ไประเริงสุขที่คอนโดของป้องกุลเสร็จ ร่างเล็กก็ทำการอาบน้ำชำระล้างคราบต่างๆ ที่คอนโดของพระเอกหนุ่มก่อนที่เขาจะกลับมายังคอนโดของตัวเองในเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว มือเรียวแตะคีย์การ์ดเข้ากับประตูห้องก่อนที่จะเปิดเข้าไป ภายในห้องมืดไปหมดมองอะไรไม่เห็นเลยแม้เพียงนิดเดียว เขมจึงเอื้อมมือไปกดเปิดไฟของคอนโด และเขาก็เห็นเรวัตที่นั่งก้มหน้าอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี

"พี่เรน...ทำไมมานั่งมืดๆคนเดียว เขมตะ..."

เพี๊ยะ

เขมินทร์ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกเรวัตที่ลุกขึ้นเดินเข้ามาหาและฟาดมือลงไปยังใบหน้าของร่างเล็กเต็มแรง จนหน้าของเขมหันไปอีกทาง

"พี่เรน! พี่ตบเขมทำไม!?" เขมินทร์ที่ตั้งสติได้หลังจากถูกทำร้ายร่างกาย ก็หันกลับมาตวาดร่างสูงที่จ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

"มึงจะไปยุ่งกับพัดและลูกทำไม!? ไปยุ่งกับเขาทำไม!" เรวัตพุ่งเข้าไปบีบคออีกฝ่ายด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งสูงมากยิ่งขึ้น เขากำรอบคอของร่างเล็กแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว เขมมินทร์เองก็พยายามสะบัดตัวออกจากการกอบกุมของอีกคน ก่อนที่จะฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าของอีกคนเช่นกัน

เพี๊ยะ

"พี่เป็นเหี้ยอะไร! มาทำร้ายเขมทำไม"

"แล้วมึงลบข้อความกูทำไม พัดบอกกูหมดแล้วว่าวันประชุมผู้ปกครองเขานัดกูให้ไปแทน แต่มึง! มึงสวมรอยเป็นกู ตกลงรับนัดเขาแล้วอ่อยให้กูนอนเอากับมึงทั้งวัน! มึงทำให้กูไม่ได้เจอลูก สารเลว! พัดเขาขอหย่ากับกูเพราะมึง!" เรวัตตะคอกใส่เขมินทร์ เขาหวังว่าอีกคนจะทำหน้าตาตกใจที่เขารับรู้เรื่องนี้ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เขมเหยียดยิ้มออกมาก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะที่ดูสะใจ

"กูก็ช่วยมึงตัดขาดจากมันไง มึงมัวแต่ทำตัวโลเลแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่กูจะมีจุดยืนสักที! กูก็แค่ทำให้มึงกับมันหย่ากันเร็วขึ้นก็แค่นั้น" เขมินทร์ตะคอกกลับใส่เรวัตก่อนที่จะเดินเข้าไปหาอีกคน มือเรียวโอบรอบคอของร่างสูงก่อนที่จะเขย่งจุ๊บคางอีกฝ่ายและเอ่ยกระซิบข้างหู

"ที่เขมทำทั้งหมดก็เพื่อพี่เรนนะ หึ" หลังจากที่เรวัตได้ยินประโยคนั้น เขาก็ผลักอีกคนออกทันที

"มึงคิดว่าทำแบบนี้แล้วกูจะเลือกมึงงั้นเหรอ ถ้าพัดหย่ากับกู กูก็จะเลิกกับมึงเหมือนกัน"

"ไม่ได้! พี่จะเลิกกับเขมไม่ได้"

"ทำไมจะไม่ได้!"

"เขมท้อง!" เสียงตะโกนของเขมินทร์หยุดสงครามการปะทะอารมณ์ของสองร่างได้ในทันที ประโยคนี้ที่ทำให้เรวัตชาไปทั้งตัว ดวงตาของอีกคนเปิดกว้างก่อนที่จะทรุดลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้นคอนโด





...

- TBC -

แตกเป็นแตก แบกเอาไว้ก็หนักกกกก แต่เขมเธอนี่มันจริงๆเลยนะ

ท้องยังไปมีอะไรกับคนอื่นได้อีก คันไปไหมเอาดีๆ

ฝากกดไลก์กดแชร์กดสับตะไคร้ด้วยนะครับ ฝากเมนท์ติชมด้วยน้าาา

พูดคุยกันใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >>https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 16-06-2020 23:10:09
มันต้องเป็นลูกของป้องกุล ป้องกุลเท่านั้นนนนน!!!!!
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 16-06-2020 23:19:17
ะั พัดเอาไว้หนักๆไปเลย
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-06-2020 23:43:16
ท้องกะใครอีเขม มั่วขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 17-06-2020 00:29:58
เชือดเฉือนนนนน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 17-06-2020 00:56:28
เอ้ออ!! เอาเลยเขม อย่าไปยอม ต้องกอดคอลงนรกด้วยกันซิ อย่าหวังว่าจะมีความสุขเลยถ้าคิดจะตีจาก คึคึ //ต้องได้หย่าแล้วล่ะคราวนี้ มีหลักฐานคลิปเสียวๆด้วย อัดไว้ตอนไหน ดีนะเนี้ย เอาสิ ถ้าคุณแม่มาขู่ ขู่กลับคืนเลย เอาให้พังกันไปข้าง กล้าไหมละขาาา 5555 โถๆๆมาบีบน้ำตาใส่หน้าเมียหลวงแล้วก็ไปบ้าใส่เมียน้อย เรนนี่มัน.... เบิดคำสิเว้ากับผู้ชายคนนี้คัก 5555 ต้องเจอกับหายนะอีกหลายระลอก อย่าเพิ่งท้อละ หึหึ //พัดเอาจริงแล้วเว้ย เออดี ชอบคำเรียกอีกฝ่ายว่า"คุณ" แทนคำว่า"พี่" มันคือความเย็นชาที่มอบให้เบื้องต้น  o13 //สนุกๆ ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจ้า จะเป็นยังไงกันบ้างแต่ละคน อิอิ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 17-06-2020 01:01:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 17-06-2020 01:47:42
ท้องลมหรอเขม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-06-2020 09:26:06
ท้องกับใครกันแน่เขมร่านซะขนาดนี้ ท้องจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้หรือสักแต่พูดไป แต่ก็เอาเถอะรับเวรกรรมที่ก่อก็แล้วกันนะเรนทำตัวเองก็ต้องรับกรรมที่ก่อไป ส่วนพัดก็ขอให้หย่าได้จริง ๆ นะ คราวนี้คงไม่มีใครมาห้ามแล้วละนะ ยังต้องมีอุปสรรคอีกแน่จนกว่าจะได้หย่าเนี่ย สู้ต่อไปพัด
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-06-2020 12:15:43
พัดหย่าแล้ว จะได้เปิดโอกาสให้คนข้างบ้าน
น้านนท์จะได้มีบทกะเค้าซะที

ส่วนเรน หุหุ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น
สมน้ำหน้าว่ะ เป็นไง คนทิ้งลูกเมีย

อย่ารีบชิ่ง อย่าทิ้งเขมมันเลย รักกันมากเลยไม่ใช่หรออออออ
อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆๆๆๆ...สมสู่กันแม่งให้มันส์ทั้งวันทั้งคืน

อยู่นานๆ ได้ไหม..นานๆจะเจอคนจัญไรซะที
อิอิ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 17-06-2020 14:41:52
เกลียดอีเขมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-06-2020 23:19:19
ไปลงนรกทั้งคู่
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 15 แตกหัก 100% (16/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 18-06-2020 03:11:06
จะรอดูคุณแม่มาช่วยลูกชาย เก่งกับสะใภ้ดีนัก

ดูซิ...ว่าจะสืบรู้มั้ยว่าสะใภ้ใหม่มีผัวกี่คนและท้องกับใคร

เอ๊ะ!! หรือไม่ท้อง ฮึฮึฮึ

 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 19-06-2020 23:14:04
บทที่ 16 หนี 100%


ร่างสูงนั่งก้มหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่โซฟา ตั้งแต่ที่เขมินทร์เดินเข้าห้องน้ำไป เขายอมรับว่าตกใจที่อีกฝ่ายบอกเขาว่าตัวเองตั้งครรภ์ แต่พอเขารวบรวมสติได้ ก็รีบลงไปข้างล่างคอนโดหาร้านยาที่ใกล้ที่สุดและซื้อที่ตรวจครรภ์มา

'ไปตรวจแล้วเอาออกมาให้ฉันดู'

เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นที่ตรวจครรภ์ให้ไปทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน และตอนนี้ก็กำลังนั่งรอผลตรวจอยู่ที่หน้าห้องน้ำในคอนโดของตัวเอง เวลาผ่านไปเกือบจะสิบนาทีแล้วแต่ใครอีกคนก็ยังไม่ยอมออกมาสักที ร่างสูงทนรอต่อไปไม่ไหวจึงลุกขึ้นเดินไปยังหน้าประตูห้องน้ำ

ก๊อกๆๆ

"เสร็จหรือยัง ทำไมนานขนาดนี้"

ก๊อกๆๆ

มือใหญ่เคาะลงบนประตูห้องน้ำอยู่หลายที เขารอจนอีกคนเดินมาเปิดมันออก เขมินทร์มองหน้าเรวัตก่อนที่จะเดินแทรกตัวออกมาจากห้องน้ำและวางที่ตรวจครรภ์ลงบนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา เรวัตที่มีความต้องการที่อยากจะรู้ผลของการตรวจมากจึงเดินไปหยิบเอาที่ตรวจครรภ์ขึ้นมาดูทีละอัน

อันแรก...ขึ้นหนึ่งขีดที่ตัว c

อันที่สอง...ยังคงขึ้นแค่หนึ่งขีด

และอันสุดท้ายก็ขึ้นมาเพียงแค่หนึ่งขีดเท่านั้น

เท่านี้ก็พอที่จะสรุปได้ว่าเขมินทร์ไม่ได้ท้อง เรวัตที่คร่ำเครียดกับเรื่องนี้อยู่นานมองไปยังเขมินทร์ที่นั่งทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่โซฟา มันยิ่งทำให้แรงอารมณ์ของเขาพุ่งสูงจนจะทะลุเพดานห้องคอนโด ร่างสูงเดินเข้าไปกระชากตัวเขมินทร์ขึ้นมาและกำรอบแขนของอีกฝ่ายแน่น

"ทำแบบนี้ทำไม!? นายจะโกหกฉันว่าท้องทำไม" สายตาของเขาจ้องเหมือนกับกำลังกัดทึ้งอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ภายใน

"พี่เรน...เขมเจ็บ" เสียงหวานเอ่ยออกมา

"ถามว่าทำแบบนี้ทำไม...กูถามว่ามึงทำทำไม!?"

"เขมทำแบบนี้เพราะเขมรักพี่ไง!" เขมินทร์เอ่ยสวนออกมาทันที เขาตะโกนใส่ร่างสูงก่อนที่จะสะบัดตัวเองออกจากการกอบกุม และเริ่มร้องไห้สะอื้นอยู่ตรงหน้าของอีกคน

"รัก...รักงั้นเหรอ รักกันไม่ทำแบบนี้หรอกเขม" เรวัตที่เห็นอีกฝ่ายร้องไห้เขาก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงมาบ้าง

"เขมรอพี่มาตลอดหนึ่งปี รอให้พี่มาจริงจังด้วย ฮึก รอมาเหมือนคนโง่ แต่พี่ก็เลือกครอบครัวของพี่ ฮึก"

"..."

"เขมผิดหรอ ที่อยากปกป้องครอบครัวของเขมบ้าง ฮึก มันผิดมากเลยหรอ ฮือ" เขมินทร์ทรุดตัวลงสะอื้นอยู่ตรงหน้าของเรวัต ร่างเล็กสั่นไปด้วยแรงอารมณ์อย่างน่าสงสาร

"พี่บอกแล้วว่าเขมไม่ควรไปยุ่งกับครอบครัวพี่ เขมผิดคำสัญญากับพี่แล้วเขมยังโกหกว่าท้องอีก"

"เพราะเขมอยากอยู่กับพี่เร็วๆ พี่คิดว่ามันแฟร์สำหรับเขมมากหรอที่พี่มีทั้งเขาและเขม แต่เขมมีใครไม่ได้เพราะพี่หวงเขมไว้คนเดียว เขมต้องทรมานรอพี่มาตลอดหนึ่งปีก็มากเกินไปแล้วและเมียพี่ก็รู้เรื่องแล้วด้วย มันก็แค่หย่า...แต่พี่ก็ไม่ทำ จะให้เขมทำยังไงและที่เขมต้องโกหก ก็เพราะว่าพี่ไม่ฟังเหตุผลของเขมเลย ฮึก พี่ไม่ฟังเขมเลย" เรวัตมองภาพของผู้ชายตรงหน้าอย่างน่าสงสาร มันสะท้อนขึ้นมากับภาพในวันที่เขาทะเลาะกับพลลภัตม์อีกคนก็น่าสงสารไม่แพ้กัน เขากำลังทำร้ายคนอื่นอยู่ เขากำลังทำร้ายคนที่เขาบอกว่ารักและรักเขา

เขามันเลว

"พี่ขอโทษ...ขอโทษที่เอาเขมเข้ามาพัวพันแบบนี้ เราเลิกกันนะ"

"พี่เรน...ฮึก ฮือ"

"พี่จะกลับไปรักษาครอบครัวพี่ เขมเองก็ไปหาคนใหม่ที่เขาดีกับเขมมากกว่าพี่"

"ไม่เอา...เขมไม่ยอม ฮึก ไม่ยอม ฮือ" เขมินทร์คลานเข้ามากอดเข่าของเขาเอาไว้และร้องไห้ออกมาสุดเสียงอย่างน่าสงสาร เรวัตทำได้แค่เพียงนั่งลงกอดปลอบอีกคน เขาลูบหลังเล็กไปมาหวังให้ช่วยปลอบประโลมกัน

"พี่ขอโทษนะ พี่ไม่อยากทำร้ายเขมมากไปกว่านี้" เขาพยายามรั้งตัวอีกฝ่ายออกแต่เขมินทร์ก็กอดเขาไว้แน่นเหลือเกินแต่แรงของร่างเล็กก็ไม่อาจสู้แรงของร่างใหญ่ได้ เรวัตลุกขึ้นเดินออกมาจากตรงนั้นเขาก้าวเดินไปเรื่อยๆ จนถึงที่ประตู โดยที่มีเสียงเรียกและเสียงร้องไห้ของเขมินทร์ตามหลังเขามาเรื่อยๆ

"พะ พี่เรน อย่าไป ฮือ อย่าทิ้งเขมไป อย่าไป ฮือ"

เรวัตพยายามที่จะไม่หันกลับไป เขาไม่อยากทำร้ายเขมินทร์ไปมากกว่านี้ เรื่องนี้คนที่ผิดคือเขาเองที่นอกใจพลลภัตม์และหักหลังลูกๆ ของตัวเอง ซ้ำยังดึงเอาเขมินทร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เขาต้องจบเรื่องพวกนี้ลงได้แล้ว

มันควรจบได้แล้ว

ขายาวก้าวมาจนถึงประตูห้องคอนโด มือเรียวเอื้อมไปจับมันก่อนที่จะเปิดออกและก้าวขาออกมาจากตรงนั้น เขาเดินไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าลิฟต์โดยที่ไม่หันกลับไปมองที่ห้องคอนโดเลยสักนิด ทุกย่างก้าว ทุกขณะเวลา มันมีเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขาคือ

พี่ขอโทษ



รถยนต์หรูขับเลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของอรรถจิรานันท์ ขายาวของเรวัตก้าวลงจากรถช้าๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในตัวบ้าน บ้านหลังนี้ยังคงเงียบสนิทเหมือนเดิม เหมือนที่มันเคยเป็นมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตบ้านหลังนี้แทบไม่เคยมีเสียงหัวเราะเลยเพียงนิด แต่พอจะมีเสียงทั้งที่กับเป็นเสียงสะอื้นจากการร้องไห้หรือเสียงทะเลาะตบตีที่มันดังกังวานไปทั่วทั้งหลัง

"เรน...เรนลูก จะมาทำไมไม่บอกแม่ก่อน" เสียงหวานของหญิงมีอายุเอ่ยเรียกเขาในตอนที่เขาเดินเข้ามาภายในบ้าน แต่เขาไม่ได้สนใจและพยายามเดินเลี่ยงหนีออกห่างจากอีกฝ่าย

"เรน...แม่เรียกไม่ได้ยินหรอเรน เรน! ระ" คุณหญิงริณีเอ่ยเรียกลูกชายของเธอ แต่อีกฝ่ายมีท่าทีเมินเฉย เธอจึงคว้าแขนของอีกคนไว้ก่อนที่จะขึ้นบันได

"พอสักที!" เรวัตมันตวาดใส่ผู้เป็นแม่ของตัวเอง

"เรวัต! อย่ามาขึ้นเสียงใส่แม่นะ" เธอตกใจที่ลูกชายสุดรักของเธอตวาดใส่หน้า มันทำให้เธอโมโหมากขึ้น

"ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม คุณแม่หยุดสอดส่องเรื่องของผมได้แล้ว"

"เรน"

"คุณแม่รู้ไหมว่าพัดขอหย่ากับผมแล้ว มันเพราะคุณแม่! เพราะคุณแม่ที่ทำให้เรื่องมันแย่" เขาระบายความอัดอั้นในใจที่มีออกมา เรวัตสะบัดแขนของมารดาออกก่อนที่จะเดินเข้าไปประจันหน้ากับอีกคน

"เพราะคุณแม่ที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ชอบทำอะไรที่ผมไม่ต้องการ"

"เรน..."

"ผมไม่เคยต้องการให้คุณแม่ยุ่งเรื่องความรักของผม ไม่เคยต้องการให้คุณแม่มาก้าวก่ายชีวิตผม ไม่เคยต้องการให้คุณแม่อยู่กับคุณพ่อเพื่อผม ไม่เคยต้องการ! ไม่เคย!"

เพี๊ยะ

ฝ่ามือเหยี่ยวฟาดลงไปบนหน้าของลูกชายสุดรักอย่างแรง จนเรวัตหน้าหันไปอีกทาง คุณหญิงริณีชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยออกมา

"ฉะ...ฉันทำเพราะหวังดีทั้งนั้น แกคิดว่าตัวเองเก่งนักหรือไง ถ้าไม่มีฉันคอยเก็บกวาดชีวิตแกให้มันจะเป็นยังไง ห้ะ! อย่ามายืนด่าฉันฉอดๆ อย่างนี้นะ ทุกอย่างมันเริ่มที่ตัวแกเองทั้งนั้น ถ้าแกไม่คบชู้ตั้งแต่แรกมันจะขอแกหย่าไหม!?" คุณหญิงริณีเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ และน้ำตาที่คลอบริเวณดวงตา เธอและลูกชายยืนจ้องหน้ากันอยู่นานก่อนที่เรวัตจะวิ่งขึ้นไปบนห้องของตัวเอง เธอจึงกลับมานั่งสงบสติอารมณ์ที่โซฟา แต่เพียงไม่นานร่างสูงของลูกชายก็กลับลงมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต

"เรน...แกจะไปไหน เรน!" คุณหญิงริณีพยายามวิ่งตามลูกชายที่เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นรถ แต่เธอก็ตามไม่ทันเรวัตขับรถออกไปจากบ้านหลังใหญ่ซะก่อน เขามาที่นี่ก็เพื่อมาเก็บของเท่านั้น เขาอยากที่จะหนีออกไปให้พ้นจากที่นี่

อรรถจิรานันท์ สำหรับเขามันไม่ใช่บ้าน

มันคือกรงขัง



เช้าวันใหม่มาถึงพัดตื่นแต่เช้าเช่นเดิม วันนี้เขาไม่ได้มีกำหนดการต้องไปที่ไหนมีเพียงแค่อยู่บ้านเท่านั้น เขาจึงตื่นขึ้นมาทำอาหารให้ภาณินและภีมพลก่อนที่จะไปส่งเด็กๆที่โรงเรียน วันนี้เป็นวันที่ดีในรอบหลายวันที่เขาจะได้ทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากับลูกชายทั้งสอง

"คุณแม่..." เสียงเล็กของเด็กชายดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นภาณินในชุดนักเรียนที่มาเดินลงมาจากชั้นบน

"อ้าว...น้องภา พี่ภีมล่ะลูก" เขาหันไปเอ่ยถามพลางตักแกงจืดใส่ลงในถ้วยสีขาวสะอาดตา ก่อนที่จะยกมาตั้งลงกลางโต๊ะรับประทานอาหารของบ้าน

"กำลังเดินลงมาครับ" เด็กชายตอบก่อนที่จะย้ายสะโพกมานั่งลงบนเก้าอี้รอทานอาหารเช้า

"เดี๋ยวแม่ตักข้าวให้นะ...ภีมมาพอดีเลย นั่งลงๆ เร็วเดี๋ยวจะสาย" พัดเอ่ยบอกกับลูกชายทั้งสองก่อนที่จะหันกลับไปยังหม้อหุงข้าว มือขาวเปิดฝาหม้อและใช้ทัพพีตักข้าวประมาณหนึ่งให้กับลูกชายของเขาทั้งคู่รวมถึงตัวเองด้วย ก่อนที่จะเริ่มลงมือรับประทานอาหาร

"เมื่อวาน...พ่อว่ายังไงบ้างครับ" ภาณินเอ่ยถามออกมากลางโต๊ะถึงเรื่องเมื่อวานที่คุณพ่อมาหาคุณแม่ถึงที่บ้าน

"พ่อกับแม่เราคุยกันแล้ว...ว่าจะหย่า" พัดเองก็ตอบออกไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เพราะเขาเชื่อว่าการตัดสินใจในครั้งนี้มันดีที่สุดสำหรับครอบครัวของเราแล้ว

"ภีมกับภา โอเคกับการตัดสินใจของแม่ไหมลูก" เขาเอ่ยถามถึงความพอใจของลูกชายทั้งสอง

"ภีมโอเคครับ"

"ภา...โอเคครับ" คำตอบที่ตอบกลับมาทำให้พัดยิ้มได้ทั้งน้ำตา ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปหมดเพราะน้ำที่เอ่อล้นอยู่ในตา เขาดึงลูกชายทั้งสองคนเข้ามากอดและลูบหัวทั้งคู่ พลางเอ่ยกระซิบข้างๆ หูลูกๆ

"แม่สัญญา ว่าแม่จะดูแลพวกเราให้ดี แม่สัญญา" เรื่องทุกอย่างมันกำลังจะจบแล้ว เขาและลูกจะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานเสียที

รถยนต์หรูของพลลภัตม์จอดลงที่ตรงหน้าประตูโรงเรียนของลูกชายทั้งสอง เขาและลูกบอกลาและให้กำลังใจกันสำหรับวันใหม่ เขาหอมแก้มภีมพลและภาณินก่อนที่เด็กๆ จะลงรถ พัดมองตามลูกชายจนเด็กๆ กลืนไปกับฝูงชนในโรงเรียน เขาถึงได้หันมาสตาร์ทรถเตรียมตัวตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของ แต่โทรศัพท์ก็สั่นเตือนขึ้นมาเสียก่อน

Rrrrrrrrrrrrrrrrr

'พี่เจ๋ง'

หน้าจอขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์ของผู้จัดละครที่เขารับเล่นไว้ เขากดรับและกรอกเสียงทักทายลงไปในสายทันที

"ครับ...พี่เจ๋ง"

"พัด...พัดอยู่กับเรนมันหรือเปล่า" เสียงจากปลายสายดูเคร่งเครียดจนเขาสัมผัสได้

"ไม่ครับ...เขาไม่ได้อยู่กับพัด"

"คือพี่ติดต่อมันไม่ได้เลยพัด พี่มีงานจะคุยกับมันแต่มันส่งข้อความมาบอกว่าขอลาพัก เรนไม่เคยลาปุบปับแบบนี้เลยนะ"

"พัดก็ไม่ทราบเหมือนกัน...เดี๋ยวพัดจะลองติดต่อดูให้นะครับ" เขาเอ่ยบอกปลายสายก่อนที่จะกดวาง นิ้วเรียวจิ้มไปยังชื่อของสามีตัวเองและกดโทรออก แต่ไม่ว่าจะโทรยังไงมันก็ไม่ติด เขาเริ่มที่จะกระวนกระวายใจมากยิ่งขึ้น เรวัตรักงานนี้มาก เขาไม่เคยทิ้งงานไปแบบนี้

เรวัตหายไปไหน?



รถยนต์หรูขับมาไกลถึงต่างจังหวัด รอบกายของเรวัตรายล้อมไปด้วยป่าไม้สีสดเขียว มันให้บรรยากาศเย็นสบายใจ ผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด เขาตัดสินใจหลบหลีกความวุ่นวายมาไกลถึงรีสอร์ตของเพชร เพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยของเขา

"มาไม่บอกกันก่อนเลยนะมึงอะ" ร่างสูงเท่าๆ กันกับเขาเดินเข้ามาหาเขาที่ยืนพิงรถหรูอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่

"กูเครียดๆ ว่ะเลย...อยากออกมาหาที่พักผ่อน" เรวัตตอบอีกฝ่ายก่อนที่จะหลบหมัดที่พุ่งมาหมายจะชกเขา

"ทีหลังบอกก่อนได้ไหม ถ้ากูไม่อยู่ใครจะดูแลมึงว่ะ" มันน่าหมั่นไส้นักไอ้เพื่อนคนนี้ มีอะไรไม่เคยจะบอกเพื่อนฝูงเอาแต่เก็บไว้คนเดียว

"มา...เดี๋ยวกูไปเปิดบ้านให้" เพชรเดินขึ้นรถไปนั่งบนรถของอีกฝ่ายและให้เรวัตขับออกไปข้างหน้า จุดหมายก็คือบ้านพักที่อยู่รายล้อมธรรมชาติ เรวัตต้องการแค่จะหนีออกมาพักกายพักใจก่อนที่จะกลับไปจัดการเรื่องวุ่นวายที่เขาทิ้งมันเอาไว้ที่เมืองกรุง



กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เสียงออดของโรงเรียนบอกเวลาพักเที่ยงของมัธยมปลาย ร่างโปร่งของภีมพลเก็บของลงใต้โต๊ะก่อนที่จะลุกออกมาจากห้องเรียนบอกแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนเพื่อที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อที่จะเข้าไปทำธุระส่วนตัว ทันทีที่เสร็จธุระแล้วเขาก็เดินนอกมาหน้ากระจกเพื่อที่จะล้างมือ

"ไม่ไปกินข้าวหรอ" แต่เขาก็ถูกเสียงทุ้มขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน ตากลมหันไปมองยังที่มาของเสียงก็ปรากฏเป็นภาพของร่างสูงที่เขาคุ้นเคย

"เดี๋ยวไป มาเข้าห้องน้ำก่อน" เขาเอ่ยบอกอีกคนพลางสะบัดมือที่เปียกน้ำให้มันแห้ง

"ไม่ได้มาดักรอเจอกูใช่ป้ะ" จวิ้นเอ่ยถามพลางเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กกว่า

"ใครเขาอยากเจอมึง คิดไปเอง" ภีมผลักอกอีกฝ่ายให้ออกห่างก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องน้ำ แต่ก็ถูกเสียงทุ้มตะโกนเอ่ยรั้งไว้ซะก่อน

"เย็นนี้ไปกินไอติมกันไหม...เบี้ยวมาหลายรอบแล้วนะ" จารณน์เดินตามออกมาตะโกนชวนใครอีกคนที่เดินห่างออกไปจากห้องน้ำ

"เออ!" และเสียงที่ตะโกนตอบรับกลับมามันก็เรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้เป็นอย่างดี ภีมพลหันหลังกลับมาหลังจากที่ตะโกนบอกคำตอบของตัวเองกับอีกฝ่าย เขาเดินก้มหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงโรงอาหาร ก่อนที่จะไปต่อแถวซื้อข้าวและมานั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนที่กำลังพูดคุยกันอยู่อย่าสนุกสนาน

"มึงๆ ทำการบ้านครูดาวยัง เอามาลอกดิ้"

"ลอกไรว่ะ มึงทำเองดิ"

"กูทำได้จะขอลอกไหม ถามไม่คิด" หัวข้อของการสนทนาก็จะมีพวกในเรื่องของการเรียนและการสอบเก็บคะแนนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อไปนี้ ภีมพลเองเป็นอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือเนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขาไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นได้เลย วันนี้เขาจึงพยายามรีบทานข้าวเพื่อที่จะขึ้นไปอ่านหนังสือในช่วงเวลาพักเที่ยงบนห้องเรียน

"มึง...เรื่องใหญ่ๆๆ" จิ๊บ เพื่อนหญิงสาวของกลุ่มวิ่งหน้าตั้งกลับมาหลังจานที่เอาจานไปเก็บแล้วเรียบร้อย เธอหยุดพักหายใจเข้าออก ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดถึงเรื่องที่เธอไปรู้มาสดๆร้อนๆ

"เรื่องไรอีจิ๊บ วิ่งหน้าตั้งมาเลย"

"ไม่ใหญ่จริง กูทืบมึงนะ"

"มึงฟังกูก่อนๆ ใหญ่จริงๆ จิ๊บคอนเฟิร์ม" เด็กหญิงยกนิ้วโป้งขึ้นมาการันตีว่าเรื่องที่เธอกำลังจะเอ่ยต่อไปนี้ มาใหญ่ซะเหลือเกิน

"อะๆๆ ว่ามาลีลานะมึง"

"คือ..." จิ๊บสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดออกมา

"คือ...กูไปได้ยินมาเว้ยว่ามีคนทะเลาะกันที่ห้องน้ำ ต่อยกันเลยนะมึงเป็นกลุ่มเลย" เธอทำหน้าทำตาประกอบการเล่าเรื่องในครั้งนี้ด้วย

"ใครวะ"

"ใครวะมึง" หลังจากที่ฟังหญิงสาวเล่าเสร็จ เพื่อนๆ บนโต๊ะก็ถามขึ้นมาในทันทีถึงบุคคลที่เป็นเป้าสนทนาว่าใครที่มีเรื่องทะเลาะชกต่อยกัน

"เห็นเขาบอกว่าเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ห้องห้าอะกับพวกไอ้เปรมห้องแปด"

"เด็กใหม่หรอวะ"

"เออ...ชื่อจวิ้นอะที่หล่อๆ"



...

- TBC -

ยังหรอกค่ะ...มันยังไม่ใกล้จบ เรื่องปสด.มันยังไม่หมดดดดดดด

ฝากเมนท์ติชมด้วยนะค้าบ ฝากกดไลก์กดแชร์ด้วยนะ

พูดคุยกัน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะครับ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-06-2020 00:17:08
เอวัง.....
ด้วยประการฉะนี้




สาธุ
 :sad3:
ไปดีมาดี ที่ชอบๆ นะ..เรน
อ่ะ..กรวดน้ำให้
นรกภูมิอ้าแขนรอรับอยู่..เขม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-06-2020 00:57:33
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-06-2020 01:35:26
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-06-2020 10:04:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 20-06-2020 10:36:51
เอ้ามาตีอะไรกันอีกละเด็กๆ ใครจะตีกันก็ตีไปนะแต่ภีมภาอย่าไปร่วมวงด้วยละกัน 555 "พี่จะกลับไปรักษาครอบครัวพี่ เขมเองก็ไปหาคนใหม่ที่เขาดีกับเขมมากกว่าพี่" ผลของการกระทำมันจะย้อนศรคำกล่าวนี้หมดเลย สุดท้ายจะไม่เหลือใครเลยเรนแม้แต่งานที่ตัวเองรัก หึหึ!!ไปต่อว่าโทษคนนั้นคนนี้ เรียกร้องความสนใจ ทิ้งงานไปแบบนี้ใครจะอยากร่วมงานอีกละ ทำตัวเองทั้งนั้นนะ โทษใครไม่ได้เลย สนุกกกก ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจ้า จะเป็นยังไงกันบ้าง  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-06-2020 13:01:06
ความจริงตั้งแต่ที่พัดรู้ความจริงก็ควรเลิกกับเขมได้แล้ว ถ้าคิดจะเลือกความครอบครัวแต่แรกก็ไม่ควรที่จะมีเขม แล้วนี่อะไรเหมือนเด็กที่ไม่ได้ดังใจแล้วพาลคนอื่นไปทั่ว ไม่คิดย้อนกลับไปล่ะว่าถ้าตัวเองไม่ไปนอกใจจะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นไหม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-06-2020 22:58:02
อะๆ ยังไง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 21-06-2020 21:06:04
จะประสาทแดกมากกว่านี้อีกหรอ  :z3:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 16 หนี 100% (19/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 24-06-2020 05:58:18
เห็นแก่ตัวได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอ่ะ อยากให้พัดฟาดให้หงายให้หมด
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 17 แบ่งเบา 100% (25/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 25-06-2020 22:10:38

บทที่ 17 แบ่งเบา 100%

***คำเตือน เนื้อหาในตอนนี้มีความรุนแรงภายในครอบครัวนะคะ นักเขียนไม่ได้ต้องการชี้นำหรือชักจูงและส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรงในครอบครัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะ***



ร่างบางของภีมพลนั่งอยู่ที่ม้านั่งใกล้ๆ กับห้องปกครอง เขากำลังคิดวิตกเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อตอนเที่ยง เรื่องพวกนั้นมันวิ่งอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาในช่วงบ่าย ภีมพลโทรไปขออนุญาตแม่แล้วว่าอาจจะกลับดึกหน่อยแต่เขาสามารถกลับเองได้ เขาอ้างว่าต้องอยู่ทำงานกลุ่มช่วยเพื่อนที่โรงเรียน แต่ความเป็นจริงคือรอพบใครอีกคนต่างหาก

คนที่ไปมีเรื่องเมื่อตอนเที่ยงนั่นแหละ

ตั้งแต่เขารู้จักกับจารณน์มาเกือบจะหนึ่งเดือน อีกฝ่ายก็เริ่มที่จะเข้ามามีผลกระทบกับชีวิตเขามากยิ่งขึ้น เกือบจะทุกคืนที่เราพูดคุยกันผ่านการโทรหา บางคืนก็นอนหลับคาสายโทรศัพท์ เขาสามารถเล่าทุกเรื่องให้อีกคนฟังได้ เวลาที่เขาไม่สบายใจ จวิ้นจะเป็นคนคอยรับฟังเขาเสมอๆ แต่เขากลับไม่เคยรู้เรื่องอะไรของอีกคนเลย

ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้คืออะไร

แต่เขาแค่ยังไม่แน่ใจ เพราะมันเหมือนยังไม่มีอะไรชัดเจน

ตากลมของภีมพลเหลือบไปเห็นประตูห้องปกครองที่ถูกผลักออกมา ร่างสูงของใครอีกคนปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของภีมพล ใบหน้ายับเยินจากการถูกต่อย ยังคงมีเรื่องรอยฟกช้ำอยู่อย่างเห็นได้ชัด ขายาวของจารณน์ก้าวเดินไปยังกรงจอดรถของนักเรียนเพื่อไปรับไอ้แดงลูกรักของเขากลับบ้าน

เขาเหนื่อยเป็นบ้า

หลังจากมีเรื่องกับไอ้เปรมในห้องน้ำตอนเที่ยงก่อนถูกคุณครูฝ่ายกิจการนักเรียนเรียกพบในห้องปกครอง ถูกเรียกผู้ปกครอง

แต่เขาก็ไม่มา

ผมควรจะชินได้แล้ว ในเมื่อมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งเขาไม่เคยสนใจผมเลย ไม่เคยรับรู้เลยว่าผมจะเป็นตายร้ายดียังไง ผลสุดท้ายเรื่องก็จบที่ผมโดนทัณฑ์บนไปเพราะนี้เพิ่งจะเป็นความผิดครั้งแรกที่ผมก่อ นิ้วเรียวควงที่ห้อยกุญแจรูปชินจังวนๆ ไปมา เหมือนความคิดของเขาที่กำลังวนไปวนมาอยู่ในหัว

ตึก ตึก ตึก

ร่างสูงหยุดเดินทันทีที่เขาหลุดจากภวังค์ความคิด เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามเขามาเรื่อยๆ เมื่อเขาหยุดมันก็หยุด เมื่อเขาออกเดิน มันก็เดินตาม จนในที่สุดเขาก็รู้สึกว่ามันกำลังเดินตามเขามาใกล้เรื่อยๆ

!!!

ร่างสูงหันหลังกลับไปทันที เขาคว้าคอเสื้อของอีกคนได้และง้างมือพร้อมที่จะประเคนหมัดหนักๆ ลงบนมุมปากของคนที่ถือวิสาสะเดินตามเขามาอย่างนี้ แต่จารณน์ก็ต้องชะงักไปเมื่อคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นคนที่เขารู้จัก อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคนเดียวของเขาในโรงเรียนนี้เลยก็ว่าได้

"กูเอง...ใจเย็นดิ ใจร้อนไปไหนวะ" ภีมพลผงะไปทันทีที่ร่างสูงหันมาคว้าคอเสื้อ แต่เมื่อรู้ว่าคนที่เดินตามมาคือเขา อีกคนก็ยอมปล่อย

"ตามมาทำไม" จวิ้นเอ่ยถาม

"มาหามึงไง" และภีมพลก็เอ่ยตอบอย่างฉะฉานชัดเจน ก่อนที่จะจูงมืออีกคนเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่ายที่เขาจำป้ายทะเบียนได้ดี จวิ้นทำหน้างงๆ ส่งมาให้เขาเหมือนกำลังจะถามว่าเขาจะทำอะไร แต่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้เอ่ยปาก คนตัวเล็กกว่าก็ชิงพูดออกไปก่อน

"มึงยังไม่ทำแผลเลย ขึ้นรถเร็วพากูไปบ้านมึงจะทำแผลให้"

"มึงไม่ต้องหรอก กูทำเองได้ตอนนี้กูอยากอยู่คนเดียว" ภีมเสนอตัวที่จะไปทำแผลให้ร่างสูงแต่อีกคนก็ปฏิเสธหน้าตายกลับมา ภีมเห็นแบบนั้นก็หมั่นไส้จึงยกมือขึ้นไปดีดหูอีกฝ่ายให้รู้สึกเจ็บ

"โอ้ย! เจ็บ"

"ทำเป็นเก่งมึงอะ ตอนกูมีปัญหามึงช่วยกูตลอด ตอนนี้กูจะช่วยมึงบ้าง ห้ามปฏิเสธ" คนตัวเล็กยืนชี้หน้าสั่งสอนอีกคน จะมาทำเก่งอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ เป็นเพื่อนกันก็ต้องบอกต้องคุยกันได้ดิ

"มึงไม่ต้องกะ..." ร่างสูงกำลังจะเอ่ยปฏิเสธอีกครั้ง แต่ภีมพลไวกว่านั้น ขาเรียวตวัดขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย ตอนนี้เขาย้ายร่างของตัวเองจากที่ยืนอยู่บนพื้นขึ้นมานั่งอยู่บนรถของอีกคนเป็นที่เรียบร้อย จารณน์พยายามดึงอีกคนลงมาจากรถ พยายามปฏิเสธความหวังดีที่เขาหยิบยื่นให้แต่คนตัวเล็กก็ตีหน้ามึนไม่สนไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

เอาแต่ใจชะมัด

"เออ...จะไปก็ไป ดื้อจังวะ" ขายาวตวัดขึ้นมานั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ก่อนจะยื่นหมวกกันน็อกให้คนตัวเล็ก และบังคับให้ใส่

"ไม่ใส่...มึงเป็นคนขับก็ใส่ดิ" เรายื้อกันไปกันมาสุดท้ายก็เป็นภีมพลที่คว้าเอาหมวกกันน็อกไป แต่บังคับใส่ให้อีกคนจนจวิ้นยอมแพ้ ต้องตามใจอีกคนเพราะไม่อยากฟังเสียงแงวๆ นั้นบ่น เมื่อสวมหมวกกันน็อกแล้วเรียบร้อย มือหนาของจรณน์ก็เอื้อมไปทางด้านหลัง คว้าเอาข้อมือเล็กของอีกฝ่ายมาโอบรอบเอวสอบของตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปกำชับกับคนตัวเล็กว่า

"ไม่ใส่ก็กอดแน่นๆ อย่าปล่อย"



รถมอเตอร์ไซค์คันโปรดจอดรถหน้าบ้านทาวน์โฮมหลังหนึ่งในซอยที่ไม่ได้ใกล้หรือไกลจากโรงเรียนของพวกเขามากนัก ร่างเล็กลงจากมอเตอร์ไซค์ยืนรออีกคนไขกุญแจเปิดประตูเหล็กหน้าบ้าน ก่อนที่จะจูงรถเข้ามาจอดที่ด้านใน ภีมจึงเดินตามอีกคนเข้ามา สายตาของเขาสอดส่องไปรอบๆ บริเวณบ้านที่เหมือนจะทรุดโทรมไปหน่อย มีซากของพืชที่แห้งและเหี่ยวเฉาจนกลายเป็นสีน้ำตาล น่าจะตายมานานแล้วคงเพราะอาจไม่มีเวลาดูแลพวกมัน เขายืนรอให้จวิ้นไขประตูบ้านที่กุญแจถูกซ่อนอยู่ที่กระถางซากต้นไม้ข้างประตูนั้นเอง

ทันทีเปิดได้เขาก็เดินตามอีกคนเข้าไปข้างในทันที สภาพภายในบ้านเองก็ทรุดโทรมไม่ต่างจากสภาพภายนอกเท่าไหร่ แต่ก็ยังดูดีมากกว่าอยู่นิดหน่อย ร่างสูงเดินไปวางกระเป๋าที่โซฟาสีครีมก่อนที่จะเอ่ยกำชับให้เขานั่งรอเจ้าตัว จวิ้นเดินหายไปชั้นบนของบ้านอีกฝ่ายคงจะไปค้นเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้เขาช่วยทำแผล

รอไม่นานอีกคนก็เดินลงมาพร้อมกับกล่องใสๆ ขายาวก้าวมาหยุดที่โซฟาก่อนที่จะวางมันลงที่โต๊ะ และเอ่ยปากพูด

"เอ้า...จะทำให้ก็รีบทำ" ภีมพลปรายสายตามองท่าทางน่าหมั่นไส้นั้นก่อนที่จะดึงกล่องใสมาไว้กับตัวเองและเปิดหยิบเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดแผลขึ้นมา

"โอ้ย!! กูเจ็บ" จารณน์ร้องเสียงหลงออกมาทันที เมื่อมือเรียวกดเน้นลงบนแผลที่ขอบปากของเขา ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยาแบบนั้น

"สมน้ำหน้า ขี้เก๊กเอง หมั่นไส้"

"รีบทำ จะได้ไปส่ง ไม่อยากให้กลับดึก" หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้นมาระหว่างสองคน มันมีเพียงความเงียบที่ลอยวนอยู่ในอากาศตอนนี้ ภีมพลบรรจงทำแผลให้อีกคนอย่างเบามือ เขาทำไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองเขาอยู่ตลอด

"มึง กูถามอะไรบ้างได้ป้ะ" คนตัวเล็กเอ่ยถามอีกคนในขณะที่กำลังทำแผลที่คิ้วให้ร่างสูง

"ตอบได้จะตอบ"

"ทำไมมึงถึงไปมีเรื่องกับไอ้เปรมได้ว่ะ" ภีมพลผละมือออกจากการทำแผล เขาใช้สายตาของตัวเองมองสบเข้าไปในดวงตาเรียวตี๋ของอีกฝ่าย พยายามอ่านความหมายของมันและส่งผ่านความห่วงใยที่เขามีต่อร่างสูงออกไปในเวลาเดียวกัน

"..." แต่ร่างสูงก็ยังไม่ตอบ แถมยังเบือนสายตาหนีเขาไปอีกที ทำให้ภีมต้องใช้มือเรียวไปล็อกคางของอีกฝ่ายให้หันกลับมาจ้องตากัน

"กูถาม...ตอบมา" เขาเค้นถามอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง

"มัน...มันกวนตีนกู" ร่างสูงเอ่ยตอบเขามาด้วยเสียงเบาๆ มันทำให้ภีมไม่ได้เชื่อคำพูดของอีกคนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ว่าจะถามยังไง อีกคนก็ยังจะตอบแต่ว่าเพราะเปรมไปกวนอีกฝ่าย จึงเกิดการแลกหมัดกันเกิดขึ้น ทำให้ภีมล้มเลิกที่จะอยากรู้สาเหตุของการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ เขาไม่ได้ถามอีกฝ่ายและลงมือทำแผลต่อก่อนที่จะบ่นอีกฝ่ายไปด้วยในเวลาเดียวกัน

"มึงน่ะ ใจร้อนเกินไป เย็นลงบ้างก็ได้เถอะ ไม่ต้องไปให้ค่าคนแบบไอ้เปรมมันหรอกเขารู้กันทั้งโรงเรียนว่ามันเป็นคนยังไง โตๆ แล้วนะเว้ย อย่ามีเรื่องกันเลย กูเสียดายแอลกอฮอล์ทำแผลว่ะ...อื้อ! สกปรก ไอ้สัส!" คนตัวเล็กร้องโวยวายทันทีที่มือใหญ่เอื้อมมาบีบปากของเขา บีบมาได้ไงวะ เค็มก็เค็ม ล้างมือยังก็ไม่รู้

ไอ้ตี๋ยักษ์โว้ย!!!!

"พูดมากมึงอะ กูรำคาญ" จวิ้นที่ฟังอีกฝ่ายบ่นมานาน ก็เลยเกิดความรำคาญขึ้นมาหน่อยๆ แต่ภีมพลคงจะไม่ทันสังเกตว่าคำบ่นของภีมพลเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้มากขนาดไหน

"เอ้า...คนมันเป็นห่วงไหมวะ ไอ้นี้" ปากเล็กก็ยังคงขยับบ่นร่างสูงไปเรื่อย

"หรอ ห่วงกูหรอ" จารณน์เอ่ยหยอกอีกคนออกไป

"พ่อแม่มึงก็เป็นห่วงเหอะ ทำตัวดีๆ หน่อย"

"..." ทันทีที่ภีมพลพูดจบประโยคก็เกิดขึ้นเป็นความเงียบที่เข้ามาแทรกซึมในบทสนทนานี้อีกครั้ง ภีมพลที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติจึงเงยหน้าขึ้นไปสบตากับอีกคน ที่ตอนนี้นั่งเงียบอยู่เฉยๆ เขาเริ่มคิดว่าบางทีเขาอาจจะพูดอะไรที่ไปกระทบกับจิตใจของอีกคน อย่างเช่นในเรื่องของครอบครัว

"มึง...กูขอโทษ กูไม่รู้" เขาเอ่ยเสียงแผ่วขอโทษอีกคนจากใจจริง แต่ร่างสูงก็ทำแค่เพียงส่ายหน้าแล้วบอกว่าช่างมันเถอะ ก่อนที่จะลุกเอากล่องปฐมพยาบาลที่เรียบร้อยแล้วขึ้นไปเก็บไว้ข้างบนบ้าน ทิ้งให้ภีมพลนั่งหงอยๆ รออยู่ข้างล่าง เขาเงยหน้ามองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังบอกเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ดวงอาทิตย์หายลับขอบฟ้าไปแล้วเรียบร้อย เขาเองคิดว่าอาจจะต้องรีบกลับบ้านแล้วเหมือนกัน ภีมคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกคนเป็นแบบนี้และจวิ้นเองอาจจะกำลังโกรธเขาอยู่ เขาคิดว่าเขาต้องเดินทางกลับบ้านเอง

แกร๊ก

ในตอนที่เขากำลังสะพายกระเป๋าและลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวจะกลับ ประตูบ้านทาวน์โฮมที่ปิดเอาไว้ก็เปิดออก ปรากฏร่างสูงกำยำของหนุ่มวัยกลางคนหนึ่งคน หน้าตาคมเข้มมีเสน่ห์ ผิวสีแทน ซึ่งดูต่างจากจารณน์ลิบลับ กำลังเดินเข้ามาภายในบ้าน ทันทีที่เขาเห็นอีกฝ่าย ภีมพลก็รีบยกมือไหว้ในทันที ก่อนจะแนะนำตัวออกไป

"สวัสดีครับชื่อภีมครับ เป็นเพื่อนของจวิ้น" คนตรงหน้าส่งยิ้มกลับมาหาเขาก่อนที่จะเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กทีละนิดๆ

"น้าชื่อเขื่อนนะเป็นพ่อของจวิ้นเขา หนูภีมนี้เพื่อนที่โรงเรียนใหม่ใช่ไหม" ร่างสูงผิวแทนเอ่ยถามเขา ก่อนที่เจ้าตัวจะวางกระเป๋าของตัวเองลงที่โซฟา

"ครับ...ปะ เป็นเพื่อนที่โรงเรียนใหม่" ภีมพลเริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจึงถอยหลังออกห่างจากร่างกำยำ แต่อีกคนก็เดินเข้ามาเรื่อยๆ

"หรอ...เพื่อนที่โรงเรียนใหม่ของจวิ้นน่ารักจัง" มือใหญ่หยาบกำลังเอื้อมหมายจะมาจับต้นแขนของเขา

หมับ!

"ทำอะไร" เป็นเสียงของจารณน์ที่เอ่ยรั้งเอาไว้พร้อมทั้งเอื้อมของตัวเองไปกอบกุมข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วย

"ถามว่าทำอะไร" เมื่อไม่มีเสียงตอบ จวิ้นก็เอ่ยเค้นออกมาอีกครั้งพลางกำข้อมือของใครอีกคนแน่นขึ้นไปอีก

"พ่อก็แค่ทักทายเพื่อนใหม่ลูก ยังไม่ได้ทำอะไรไม่ดี" แต่ก้านก็ไม่ยอมแพ้เด็กชายตรงหน้าเขาหันไปจ้องตากับอีกคนก็จะสะบัดมือออกจากการกอบกุม ร่างใหญ่หันกลับไปหยิบกระเป๋าและเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ภีมพลมองตามหลังอีกฝ่ายก่อนที่จะกลับมาทิ้งสายตาไว้ที่ใบหน้าตี๋ของใครอีกคนที่มองตามหลังของเขื่อนเช่นเดียวกับเขา แต่ในแววตาเรียวรีในมันกลับเต็มไปด้วย

ความโกรธและเกลียดชัง



รถมอเตอร์ไซค์ของจวิ้นมาจอดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของภีมพล คนตัวเล็กตวัดขาเรียวก้าวลงจากรถก่อนที่จะหันไปขอบคุณร่างสูงที่มาส่งเขาถึงบ้าน

"ขอบคุณนะมึง...กลับดีๆ นะ" คนตัวเล็กเอ่ยบอกอีกคนด้วยความเป็นห่วง

"อืม"

"กูขอโทษนะ เรื่องที่กูพูดแล้วทำให้มึงไม่สบายใจ"

"..."

"แต่ถ้ามึงมีอะไร มึงระบายกับกูได้เลยนะเว้ย มึงคอยฟังกูมาเยอะแล้ว ให้กูได้ฟังมึงบ้างได้ไหม" ภีมพลเอ่ยบอกด้วยความจริงใจที่ไม่อยากให้ร่างสูงแบกรับอะไรเก็บไว้คนเดียว เขาแค่ต้องการแบ่งเบาสิ่งที่อัดอั้นในใจของจารณน์บ้างก็แค่นั้น

"กูไม่ได้โกรธมึง แค่หงุดหงิดนิดหน่อย" ร่างสูงเอ่ยจริงจังเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะเข้าใจผิดว่าเขาโกรธอีกฝ่าย

"อื้อ...งั้นกูเข้าบ้านแล้วนะ" ภีมพลเอ่ยพร้อมกับกำลังหมุนตัวจะเดินเข้าไปในบ้าน

"ฝะ..." จวิ้นเอ่ยพึมพำบางอย่างจนฟังไม่ได้ศัพท์

"มึงพูดว่าอะไรนะ" ภีมเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงอีกครั้งเนื่องจากเขาได้ยินไม่ถนัด

"ขอบคุณ" จารณน์ก้มหน้าตาก้มซ่อนแก้มที่เริ่มมีสีแดงไม่ให้อีกฝ่ายเห็น ภีมพลหมั่นไส้คนขี้เก๊กเลยเอื้อมมือไปยีหัวอีกคนทันที จนเจ้าตัวโตสะดุ้งก่อนที่จะหันมาล็อกตัวของภีมพลไว้ในอ้อมกอดและยีผมเขาเพื่อเป็นการเอาคืน เสียงหัวเราะของทั้งสองดังประสานกันไปอย่างมีความสุข จนกระทั่ง

"ภีม..." เสียงเอ่ยของพัดดังขึ้นจากประตูหน้าบ้าน

"แม่" ภีมพลหันไปเจอเข้ากับผู้เป็นแม่ก็รีบผละตัวออกจากร่างสูงทันที จวิ้นเองเมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นมารดาของภีมพลก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม พลลภัตม์เองก็รับไหว้และสำรวจอีกคนที่มาส่งลูกชายของตัวเองไปด้วย

"เพื่อนใหม่ภีมหรอแม่ไม่เคยเห็นหน้าเลย ชื่ออะไรอะเรา" พัดเอ่ยถามอีกคนที่ลงมาจากมอเตอร์ไซค์และมายืนข้างกับลูกชายของตัวเอง

"ชื่อจวิ้นครับ" จวิ้นเอ่ยตอบกลับไปอย่างเสียงมั่นใจ

"หน้าไปโดนอะไรมาละ ช้ำมากเลยนะ"

"มีเรื่องที่โรงเรียนนิดหน่อยครับ" พัดเอ่ยขอบคุณร่างสูงที่มาส่งภีมที่บ้านก่อนจะบอกให้ภีมบอกลาเพื่อนและกลับเข้าบ้าน เด็กหนุ่มทั้งสองบอกลากันเสร็จเรียบร้อยภีมก็เดินกลับเข้ามาในบ้านตามมาด้วยพัดที่เดินตามมา ในขณะที่ภีมกำลังจะเดินเอาของไปเก็บบนห้องเขาก็โดนผู้เป็นแม่เอ่ยรั้งเอาไว้ซะก่อน

"ภีม...เดี๋ยวก่อน"

"แม่มีอะไรครับ"

"ทำไมถึงไปคบกับเพื่อนคนนี้ได้ แม่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลย" พัดเอ่ยปรามลูกทันทีที่กลับเข้ามาในบ้าน เข้าสังเกตเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายมีรอยชกเต็มไปหมด แถมอีกคนยังบอกว่ามีเรื่องที่โรงเรียนอีก เขากลัวๆ ว่าจวิ้นจะพาลูกของคนเสียคนไปด้วย

"แม่...มันเป็นคนดีนะ"

"แต่เขามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งที่โรงเรียนไงภีม แค่นี้ก็บอกแล้วว่าเป็นคนยังไงอารมณ์ร้อนขนาดไหน" พัดเอ่ยย้ำเหตุผลให้ลูกของเขาฟังอีกครั้ง ปกติเขาไม่เคยคิดจะห้ามลูกคบเพื่อนแต่เด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่เขากลัวว่ามันจะมาทำร้ายลูกของเขา

"แม่ไม่เคยห้ามลูกคบใคร แต่คนนี้แม่ขอนะภีมอย่าไปยุ่งกับเขาเลยลูก" พัดเอ่ยพลางเดินเข้าไปหาลูกชายแต่ภีมพลกลับถอยหนี

"แม่ก็ดีแต่บังคับ ไม่เคยถามผมสักคำว่าผมจะรู้สึกยังไง จวิ้นเป็นเพื่อนผมและมันเป็นคนดี แม่เพิ่งเคยรู้จักมันอย่ามาตัดสินดีกว่า" เด็กชายเอ่ยบอกผู้เป็นแม่เสร็จก็หันหลังเดินกลับขึ้นไปบนบ้านทันที



จวิ้นกลับมาถึงบ้านในเวลาเพียงไม่นานเขาเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนที่จะเห็น ร่างกำยำนั่งรับประทานอาหารอยู่หน้าโซฟา พร้อมทั้งดูทีวีไปด้วย จวิ้นไม่ได้สนใจผู้ชายตรงหน้า เขากำลังจะเดินหนีอีกคนขึ้นห้องไปแค่ก็ถูกเสียงทุ้มทักไว้ซะก่อน

"เห้ย...เพื่อนมึงน่ารักดีนะ วันหลังพามาอีกดิ" เขื่อนวางจานข้าวที่ทานเสร็จลงกับโต๊ะก่อนที่จะกระดกน้ำในขวดตามไปด้วย

"ห้ามยุ่งกับมัน" เสียงทุ้มต่ำของจารณน์ส่งกลับไปให้อีกฝ่ายพร้อมทั้งสายตาที่สั่งสมความเกลียดชังและความโกรธเอาไว้ตลอดเวลา ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจ

"หวงของเหรอวะ แบ่งๆ กันหน่อยดิ ขาวๆ แบบนั้นกูก็ชอบนะเว้ย"

"บอกว่าห้ามยุ่งกับมัน!" อารมณ์ที่กำลังเพิ่มพูนของจวิ้นก็ได้ปะทุออกมาในที่สุด เขาตะคอกใส่หน้าของคนที่อ้างชื่อว่าเป็นพ่อ ร่างกำยำที่ได้ยินเสียงตะคอกนั้นก็ลุกขึ้นมาเดินไปคว้าคอด้วยสองมือหนาพร้อมทั้งออกแรงบีบ

"มึงกล้าตะคอกใส่กูหรอ ไอ้เนรคุณ!" เขื่อนเองก็ระบายอารมณ์ของตัวเองลงไปบนฝ่ามือทั้งสองข้าง เขาบีบจนสุดแรง ผ่านไปไม่นาน หน้าของจารณน์ก็เริ่มที่จะแดง เขื่อนจึงคลายมือออกก่อนที่จะผลักร่างเด็กชายให้ล้มลง

"มึงจำไว้อย่าขึ้นเสียงใส่พ่อแบบกูอีก"

"คะ...แค่กๆ"

"ล้างจานให้กูด้วย" ร่างสูงเดินก้าวข้ามลำตัวของเด็กชายที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นบันไดไปด้านบน โดยไม่หันกลับมามองสิ่งที่เขาเพิ่งจะทำร้ายจิตใจและร่างกายลงไป จวิ้นปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ โดยไม่มีเสียงสะอื้น เขาแค่เจ็บแต่ไม่ได้เสียใจ

เพราะมันชินไปแล้ว



...

- TBC -

ชื่อตอนแบ่งเบา...พอจะเบามั้ยคะทุกคนนนนน

ฝากกดไลก์กดแชร์กดคอมเมอนท์ให้ด้วยนะค้าบ

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 17 แบ่งเบา 100% (25/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 25-06-2020 22:26:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 17 แบ่งเบา 100% (25/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Windtofree ที่ 25-06-2020 22:57:19
เออครอบครัวเขื่อนน่ากลัวมาก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 17 แบ่งเบา 100% (25/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-06-2020 09:36:45
ใช่พ่อจริง ๆ หรือเปล่า พ่อเลี้ยงแบบแม่ตายแล้วมาอยู่ด้วยที่บ้านแม่ไม่ยอมออกอะไรแบบนี้ใช่ไหมจวิ้น
อดทนเข้าไว้นะตั้งใจเรียน หางานทำดี ๆ แล้วค่อยย้ายออกมา มันอยู่ที่ความอดทนแล้วก็เวลานะจวิ้น
อดทนเข้าไว้นะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 17 แบ่งเบา 100% (25/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-06-2020 10:38:48
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 17 แบ่งเบา 100% (25/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 27-06-2020 00:22:50
โหหห!ไอ้คุณพ่อเขื่อนสัสมาก ออกลายเลยนะมึง  :z6: อย่าพาภีมพลมาบ้านอีกนะจวิ้น พ่อเลี้ยงหรอ จวิ้นต้องเจอกับไรมาบ้างเนี้ยอยู่กับคนเหี้ยๆแบบนี้ โอ๊ยตายตอนแรกก็ไม่ชอบใจจวิ้นนะ พอมาตอนนี้คือเห็นใจ แต่ก็ต้องดูพฤติกรรมต่อไปอีกก่อนว่าจะไหวไหม แต่ก็คงเข้าใจละว่าทำไมจวิ้นบางทีถึงร้าย ภีมคือสิ่งฮีลใจของจวิ้นสินะ  :o8: เอ่อพัด เดี๋ยว ฟังก่อน อย่าเพิ่งตัดสินคนเมื่อเจอแผลมุมปากแค่ครั้งเดียวดิ คนมันมีหลายมุม เขาไม่ดีกับคนอื่นแต่เขารักและหวังดีกับลูกเรา เป็นเพื่อนกันมันก็ดีไม่ใช่หรอ แต่ถ้ามีอะไรที่มันร้ายแรงค่อยว่าตักเตือนกัน คอยดูอยู่ใกล้ๆเถอะ ว่าแต่จวิ้น=จารณน์=จรณน์ เขื่อน=ก้าน หรอใช่ม่ะ ชื่อเล่นชื่อจริงชื่อในวงการหรือป่าว พิมพ์ผิดหรือมีหลายชื่อจริงๆ งงหน่อยๆ 5555 ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจ้า  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 28-06-2020 15:38:13
บทที่ 18 ปมเชือก 100%


***คำเตือนพฤติกรรมในตอนนี้ไม่เหมาะสม ไม่ควรกระทำตามอย่างเด็ดขาด และผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชักจูงหรือส่งเสริมให้กระทำตาม ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน***



ดวงอาทิตย์ได้ลาลับขอบฟ้าไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ และมันถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ ท่ามกลางความมืดก็มีแสงจันทร์สว่างที่คอยส่องนำทางในป่าใหญ่ แต่สำหรับเขาในตอนนี้กลับไม่มีแสงใดคอยชี้นำทางเดินของชีวิต เป็นเวลาเกือบจะ 3 วันแล้วที่เรวัตหลบมาพักกายพักใจจากเรื่องราววุ่นวายต่างๆ มากมายที่เขาต้องเผชิญ เรื่องราวมันเริ่มที่จะใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาเองก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขมันได้

ร่างสูงนั่งอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของบ้านพักต่างอากาศในธุรกิจรีสอร์ตของเพื่อนรักอย่างเพชรพิรุณหรือไอ้เพชร เพื่อนรักเพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยที่มาสานต่อธุรกิจของครอบครัวอยู่ที่ต่างจังหวัด เพชรและเขาเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมา แต่มันไม่ได้เลือกที่จะเข้าไปทำงานในสายที่เล่าเรียนมาเพราะมาพ่อกับแม่อยากให้มันกลับมาดูแล Rian Forest แห่งนี้

เรวัตนั่งจิบเบียร์ไปพลางปล่อยความคิดให้ไหลไปกับกาลเวลา รอบตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเสียงของลมที่พัดวนอยู่กลางป่าใหญ่ และเสียงของแมลงน้อยใหญ่ที่ชวนให้สงบกายสบายใจ เขาทำเพียงแค่นั่งเฉยๆ และเอียงหูฟังเสียงเหล่านั้น ก่อนจะถูกรบกวนจากร่างสูงเช่นเดียวกับเขาที่ทิ้งตัวลงมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ กัน

"มึงจะอยู่นานแค่ไหนวะ...งานการจะไม่ทำแล้วรึไง" เสียงทุ้มของเพชรเอ่ยถามอีกคนก่อนที่มือเรียวสวยจะเอื้อมไปหยิบเบียร์อีกกระป๋องที่วางไว้บนโต๊ะที่คั่นกลางเขาสองคนขึ้นมาจิบ และทอดสายตาออกไปเบื้องหน้าเช่นเดียวกับเรวัต

"กู...ไม่รู้ว่ะ" เสียงเรวัตเอ่ยตอบเบาๆ แม้จะเบาเพียงใดแต่เพชรก็ยังคงได้ยิน

"กูถามจริงๆ นะรอบนี้มึงเป็นอะไร" เพชรพิรุณเอ่ยถามในสิ่งที่เขาค้างคาอยู่ในใจ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรวัต อรรถจิรานันท์ ผู้กำกับมือรางวัลหนีมาพักกายพักใจที่รีสอร์ตของเขา เหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว

เหมือนเดจาวู

'มึงไม่อยากแต่งงานกับน้องพัดเลยหนีมาเนี่ยนะ' เพชรพิรุณในวัย 23 ปีเอ่ยถามอีกคนที่หนีจากบ้านมาหาเขาถึงต่างจังหวัด

'กูเปล่าหนี...แค่มาพักแล้วก็คิดหาทางแก้ปัญหาอื่น' เพชรฟังคำแก้ตัวของอีกคนแล้วก็ได้แต่คว่ำปาก ก่อนที่จะยื่นมือไปตบหัวของอีกคนเข้าอย่างจัง จนเกิดเสียงดังสนั่น

'โอ้ย! ไอ้เพชรกูเจ็บ'

'เอาให้เจ็บสิดี ทำตัวเป็นเด็กๆ นะมึงอะ 23 แล้วนะเรน ทำอะไรคิดบ้างดิ' เขาได้ทีก็บ่นอีกฝ่ายไปยกใหญ่อีกสักยก ผลัดกันด่าผลัดกันเถียงไปมา เกิดสงครามย่อมๆ ขึ้นกลางรีสอร์ตแห่งนี้ จนเวลาผ่านไปทุกอย่างถึงเริ่มที่จะสงบลงและความเงียบก็เข้ามาปกคลุมแทนที่

'กูถามจริงๆ นะเรน...มึงรักน้องพัดเขาบ้างไหม' เพชรเอ่ยถามออกมาท่ามกลางความเงียบ

'รักดิ' เรวัตตอบขึ้นมาในทันทีแทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ

'ถ้ามึงรัก...แล้วทำไมตอนนี้ต้องมานั่งลังเลวะ'

'...' เหมือนคำพูดนั้นเป็นมีดคมกริบที่ปักเข้ามาแทงที่กลางใจของเรวัต มันทำให้ร่างสูงชะงักและเริ่มคิดทบทวนในตัวเองว่าทำไมเขาที่บอกว่ารักพลลภัตม์ ถึงต้องมานั่งหนักอกหนักใจกับการแต่งงานกับคนที่ตัวเองรักด้วย

'มึงรักน้องแต่มึงไม่อยากแต่งงานกับน้อง...ย้อนแย้งไหม'

'กู...กูแค่ยังอยากใช้ชีวิตแบบไม่ผูกมัดมั้ง' เรวัตค่อยๆ เอ่ยตอบออกมา

'มึงแน่ใจนะว่าเพราะยังอยากใช้ชีวิตแบบนี้...ไม่ใช่ไม่อยากแต่งเพราะพ่อกับแม่มึงสั่งให้แต่ง' เพชรพิรุณคือคนที่รู้จักเรวัตเทียบเท่ากับเรวัตรู้จักตัวเอง เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ คำพูดนั้นของอีกฝ่ายมันเหมือนอีกฝ่ายมีกล้องส่องใจที่มองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อยู่ต่อหน้าเพชรพิรุณ เขาไม่เคยโกหกอะไรได้เลยไม่ว่าจะเรื่องไหน

ไม่เคยทำได้เลย

'กูรู้นะเรน...รู้ว่ามึงกบฏกับพ่อแม่มึงในทุกเรื่องอะ แต่เรื่องนี้มันเป็นชีวิตส่วนตัวมึงนะเว้ย' เขารู้มาตลอดตั้งแต่รู้จักกับเรวัตตอนเข้ามาเป็นเฟรชชี่มหาวิทยาลัยใหม่ๆ เรวัตเป็นคนที่เข้มแข็งในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วมันก็แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้นเอง มันจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่สามารถดูแลและตัดสินปัญหาในชีวิตตัวเอง แต่ใครจะรู้ว่ามันนั่นแหละที่ยังไม่เคยเติบโต เรวัตยังเด็กอยู่เสมอทั้งวุฒิภาวะและความคิดในการแก้ไขปัญหา อาจเป็นเพราะครอบครัวที่บิดเบี้ยวของอีกฝ่ายที่หล่อหลอมให้มันเป็นแบบนี้

เพราะมันไม่เคยรู้สึกถึงความรักในครอบครัวเลยแม้สักนิด

ไม่เคยเลย...

ตั้งแต่เด็กจนโต มันรู้แค่ว่าพ่อหักหลังทั้งมันแล้วก็แม่ พ่อมีเมียน้อย ภาพครอบครัวแสนสวยของเด็กชายที่เคยวาดฝันไว้ก็พังทลายลงไปอีก เมื่อผู้เป็นพ่อใช้อารมณ์และความรุนแรงทำร้ายทุบตีทั้งมันและก็แม่ มันยิ่งตอกย้ำเข้าไปในความทรงจำวัยเด็กว่าพ่อไม่เคยรักมันนั้นคือสิ่งที่เรวัตจนจำมาตลอด บวกเข้าไปกับสิ่งที่แม่ของมันทำ แม่ทนอยู่กับพ่อ  ทนให้พ่อทำร้ายตัวเองเพื่อรั้งพ่อเอาไว้ รั้งคำว่าครอบครัวปลอมๆ พวกนั้น แม่ไม่เคยรักใคร แม้กระทั่งตัวแม่เอง นั้นยิ่งทำให้เรวัตจดจำเอาไว้ว่า

ไม่เคยมีใครรักมัน...ไม่เคยมี

จากเรื่องราวพวกนั้นมันยิ่งทำให้เรวัตประชดประชันพ่อกับแม่ด้วยการกบฏ ในสิ่งที่พวกเขาเลือกมาตลอด ไม่ว่าพ่อกับแม่จะบอกให้มันไปซ้าย มันก็จะไปทางขวา พ่อกับแม่จะบอกให้มันเดินหน้า เรวัตก็จะเลือกถอยหลัง สิ่งไหนที่พ่อกับแม่ของมันเลือกสรรเอาไว้ให้ มันไม่เคยทำตามความต้องการของพ่อแม่เลยสักครั้ง

'มึงจะขัดใจพวกท่านยังไงก็ได้นะเรน กูไม่เคยว่าเลยแต่มึงอยากขัดใจตัวเองได้เปล่าวะ'

'...'

'มึงรักน้องพัด มึงก็ต้องรับผิดชอบเด็กในท้องและชีวิตของน้องเขา เพราะนั้นคือหน้าที่มึงเว้ย ไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่มึงสั่งแต่มันเป็นสิ่งที่มึงควรจะต้องทำ'



ในวันนั้นทั้งสองคนนั่งข้างกันบนระเบียงชั้นสองของบ้านพักต่างอากาศเช่นเดียวกับในตอนนี้ เรวัตยังคงไม่เอ่ยเรื่องราวหนักอกหนักใจใดๆ ของตัวเองออกมาจากปาก และเพชรพิรุณเองก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบ เขาปล่อยให้ความเงียบทำงานอย่างเป็นไป ปล่อยให้อีกคนได้นั่งทบทวนอยู่คนเดียวเงียบๆ พอมันคิดหาทางออกไม่ได้เมื่อไหร่ ตอนนั้นมันจะยอมเอ่ยปากพูดเอง

"กู...ทำผิดต่อพัดมากเกินไป" เรวัตเอ่ยทำลายความเงียบที่กำลังทำงานอยู่ขึ้นมา

"มึงทำอะไร"

"กูนอกใจเขา...กูนอกใจเขามาหนึ่งปีเต็มๆ และตอนนี้พัดรู้แล้ว เขากำลังขอกูหย่า"

ผลั๊วะ

ทันทีที่เพชรพิรุณได้ยิน เขาก็ลุกขึ้นไปจับคอเสื้อของเรวัตขึ้นมาก่อนที่จะปล่อยหมัดอัดใส่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคน จนได้เลือดกบปาก ร่างสูงของเรวัตเซล้มลงไปบนพื้น เขานั่งอยู่อย่างนั้นไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเพื่อนรัก

"มึงลุก...ลุกขึ้นมา" เพชรเอ่ยเสียงเข้มเรียกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาเหมือนเดิม แต่เรวัตไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด เขาทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ราวกับกำลังคุกเข่าสำนึกผิดในสิ่งที่เขาทำ

"กูไม่พยุงมึงนะเรน สิ่งที่มึงทำมันเหี้ยเกินไปและมึงต้องลุกด้วยตัวเอง ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง"

"..."

"มึงโดนกูชกแค่หมัดเดียวยังลุกไม่ขึ้น แล้วกับพัดและลูกๆ มึงอะ เขาโดนทำร้ายมาขนาดไหนเขายังยืนได้เลย" เพชรพิรุณเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองก่อนที่จะถอนหายใจ ระหว่างเขากับเรวัตมีเพียงความเงียบที่ทำงานอยู่ด้วยตัวของมัน ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยใดๆ เขาเงียบ เรวัตก็เงียบ แต่ผ่านไปไม่นานเรวัตก็ลุกขึ้นกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองตามเดิม

"กูขอโทษ...กูรู้กูผิด"

"ไม่ต้องมาขอโทษกู คนที่มึงควรขอโทษคือพัดไม่ใช่กู"

"กูขอโทษแล้วแต่เขาก็ยังจะหย่า เขาไม่ให้อภัยกู" เรวัตเอ่ยเสียงสั่นๆ เหมือนกำลังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังอ่อนไหวของตัวเองในตอนนี้

"เรน...คนที่ทำให้ทุกอย่างมันพังคือมึง คนที่ทำให้พัดกับลูกเดินจากไปคือมึงไม่ใช่คนอื่น"

"..."

"มึงจะให้เขาทำใจและยอมกลับมาเป็นครอบครัวกับคนที่หักหลังเขามาตลอดหนึ่งปีเนี่ยนะ...ยากไปวะ ให้ประเทศนี้เจริญยังง่ายกว่าเลย" เพชรพิรุณหันไปเอ่ยกับเรวัตอย่างตรงไปตรงมา เขาไม่เห็นหนทางที่เรวัตจะได้อีกคนกลับมาเพราะถ้าหากเขาเป็นพัด เขาเองก็คงจะไม่ยอมกลับมาหาอีกคนง่ายๆ แน่

"แล้วใครอีกคนของมึงล่ะ" เพชรเอ่ยถามถึงคนที่สามของความสัมพันธ์นี้

"กูบอกเลิกเขาไปแล้ว...กูรู้สึกผิดนะ กูรักเขาแต่กูก็รักพัดด้วย กูให้ความหวังเขาว่ากุจะหย่ากับพัดและมาหาเขาแต่กูก็ไม่กล้า กูทำได้แค่เก็บเขาไว้ในที่เงียบๆ มาหาบ้างในบางครั้ง จนเรื่องมันถึงหูพัดแล้วพัดขอกูหย่า กูเลยไปบอกเลิกเขา" เรวัตเอ่ยออกมาพร้อมกับน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นขอบตา แต่เขาก็ยังคงกดอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองเอาไว้ แค่นี้เขาก็รู้สึกสมเพชตัวเองมากพอแล้ว

"มึงไม่ได้รักใครหรอกเรน...ที่มึงทำตอนนี้คือมึงไม่ได้รักใครเลย" เหมือนมีเข็มนับพันพุ่งเข้ามาปักที่กลางอก

"..."

"มึงรู้ตัวไหมว่ามึงกำลังทำตัวเหมือนพ่อกับแม่มึง มึงกำลังทำตัวเหมือนคนที่บอกว่ามึงเกลียด มึงกำลังเป็นแบบนั้น"

"กู..."

"มึงหักหลังพัดกับลูกเหมือนที่พ่อมึงทำ มึงกำลังทำร้ายคนที่รักมึงด้วยคำว่าไว้ใจและที่ร้ายกว่านั้นคือมึงเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นหัวคนอื่น ในตอนนี้ ในสายตากูมึงเป็นแบบนั้น"

"ฮึก...ฮือ" เหมือนกำแพงอารมณ์ของเรวัตถูกทำลายลง ร่างสูงก้มหน้าลงสะอื้นร้องไห้หนักมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เพชรพิรุณพร่ำบอกเขาในตอนนี้

ใช่...เขามันเห็นแก่ตัว

เขาทำร้ายที่คนที่พร่ำบอกว่ารักเขา เขาหักหลังพัด เขาทำร้ายลูก เขาหักหลังเขมินทร์ เขาโทษทุกอย่างไปที่พ่อและแม่ เขามันเห็นแก่ตัว เรวัต อรรถจิรานันท์ เป็นคนเห็นแก่ตัว

"ละ...แล้วกูต้องทะ...ทำยังไง ฮึก กูต้องแก้ปัญหานี้ยังไง ฮือ" เสียงสะอื้นขาดช่วงช่างน่าสงสารในความรู้สึกของเพชรพิรุณ

"อันดับแรกเลยนะเรน...มึงต้องเลิกหนี" เลิกหนีแล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับปัญหาสักที

"ฮึก...ฮือ"

"กูรู้ว่ามึงหนีมาไม่ได้แค่จะมาพักกายพักใจ แต่มึงยื้อ...ยื้อไม่ให้พัดขอหย่ากับมึง ยื้อเวลาให้มันนานขึ้นมากกว่านี้ แต่กูจะบอกมึงว่าสิ่งที่มึงทำตอนนี้มันไม่ได้มีผลดีกับใครแม้แต่ตัวมึงเอง"

"ฮึก..."

"งานที่มึงทิ้งมามันจะเดินหน้าต่อไปได้ไหม คนที่มึงทิ้งมาเขาจะเป็นยังไง ห่วงมึงแค่ไหน ถ้ามึงอยากแก้ปัญหา มึงก็ต้องหันหน้าเข้ามาปัญหา เข้าใจไหม"

"ฮึก...ฮือ" เสียงสะอื้นตามแรงอารมณ์ดังก้องไปทั่วพงไพรในยามราตรี ในตอนนี้ที่โลกมีดวงจันทร์คอยให้แสงสว่างในยามมืดมิด เขาเองก็ได้พบกับดวงจันทร์ที่คอยส่องแสงนำทางในป่าของอารมณ์ที่เขากำลังหลงและหมุนวนจนหาทางออกไม่ได้ ดวงจันทร์ดวงนั้นนำทางเขาให้มาเจอกับทางออกของป่าอารมณ์นี้ ดวงจันทร์ดวงนั้น

เพชรพิรุณ



เช้าวันใหม่ในตอนที่พระอาทิตย์กำลังส่องแสงลงมา ร่างสูงของเรวัตเองก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง เขายกมันลงมาที่ชั้นล่างของบ้านพักต่างอากาศก่อนที่จะถือมันเอาไปเก็บไว้ที่ด้านหลังของรถยนต์หรู เขาตัดสินใจแล้วในตลอดคืนที่ผ่านมาว่าเขาจะต้องกลับไปแก้ปัญหาที่เขาเป็นคนก่อ ก่อนหน้านี้ที่ปมเชือกมัดรัดแน่นแต่เขาไม่ได้พยายามที่จะแกะมัน กลับเลือกทิ้งมันไว้และถอยหลังเดินจากมา แต่ในตอนนี้เขาจะกลับไปแกะมันอีกครั้ง

"ไม่ลืมอะไรแน่นะ" เพชรพิรุณเดินตามอีกฝ่ายออกมาจากบ้านพักของตัวเองและถามเช็กอีกคนว่าลืมของอะไรไว้หรือเปล่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาวนกลับมาอีก

"เออ...ไม่ลืมเอามาแค่นี้"

"อืม...กูเชื่อว่ามึงจะแก้ปัญหานี้ได้ ตัดสินใจในแบบที่มึงคิดว่าเหมาะสมและสบายกับใจมึงมากที่สุด" เพชรเอื้อมมือมาตบไหล่กว้างของอีกคนเป็นการให้กำลังใจก่อนจะส่งอีกฝ่ายกลับ

"อืม ขอบใจมึงมากนะเพชร"

"โชคดีมึง เปิดเครื่องโทรศัพท์ด้วยคนอื่นตามหากันให้วุ่นแล้ว" เพชรเอ่ยอีกครั้งก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถให้อีกคนเข้าไปนั่ง

"ไปแล้วนะ เดี๋ยวแวะมาใหม่"

"ไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ ขี้เกียจต้อนรับมึงแล้ว" เพชรพิรุณเอ่ยติดตลกพร้อมรอยยิ้มอำลาให้อีกคนโชคดี เรวัตเอ่ยก็ยิ้มตอบกลับมาเหมือนกัน รถยนต์หรูแล่นออกห่างไปจากรีสอร์ตสงบกลางป่าใหญ่มุ่งหน้ากลับไปสู่เมืองหลง เมืองแห่งความวุ่นวายอีกครั้ง เขากำลังจะกลับไปแก้ไขปัญหาที่เขาเป็นคนเริ่ม



เรวัตจอดพักรถและเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เขาใช้เวลาตรงนี้ลงไปเข้าห้องน้ำและซื้ออาหารมาไว้รับประทานขณะเดินทางกลับ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์สีดำของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะกดเปิดเครื่อง รอเพียงไม่นานหน้าจอโทรศัพท์ก็ขึ้นรูปวอลล์เปเปอร์ที่เป็นรูปของเขาและลูกขึ้นมา พร้อมทั้งแจ้งเตือนมากมายที่มีเข้ามา

เขม 12 สายที่ไม่ได้รับ

แม่ 9 สายที่ไม่ได้รับ

พี่เจ๋ง 6 สายที่ไม่ได้รับ

ปุย 5 สายที่ไม่ได้รับ

พัด 3 สายที่ไม่ได้รับ

มีคนพยายามติดต่อเขามากกว่าที่คิดและหนึ่งในนั้นคือพลลภัตม์ ในขณะที่เขากำลังจะเดินทางต่อ โทรศัพท์ก็สั่นแจ้งเตือนขึ้นมาซะก่อน

ปุย is calling you

เป็นผู้จัดการของเขมินทร์ที่เป็นคนโทรเข้ามาในตอนแรกเรวัตตัดสินใจปฏิเสธสายไป แต่เธอก็ยังโทรเข้ามาอีกครั้งและอีกครั้ง จนทำให้ในที่สุดเขาต้องยอมรับสายนี้

"ฮัลโหลพะ...."

"คุณเรนค่ะ! แย่แล้วค่ะๆ"

"มีอะไรหรือเปล่า"

"น้องเขม...น้องเขมฆ่าตัวตายค่ะ!"



รถยนต์หรูของเรวัตพุ่งตรงมายังโรงพยาบาลที่ปุยเป็นคนบอก เขาจอดรถที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลก่อนที่จะเดินไปขึ้นลิฟต์ยังชั้นที่ต้องการเพื่อไปหาใครคนนั้น คนที่ถูกเขาทำร้ายมากมายขนาดไหน ปุยเล่าให้ฟังว่าเธอเองติดต่อเขมินทร์ไม่ได้หลายวันแล้วจึงตัดสินใจเดินทางไปยังห้องของอีกฝ่าย พร้อมกับคีย์การ์ดสำรองที่เธอเคยขอไว้ว่าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ปุยจะได้เปิดประตูไปช่วยอีกคนได้ทัน

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง มันมืดมากเพราะเขมินทร์ไม่เปิดไฟเลยสักดวงแทบยังไม่เปิดม่านเลย เธอตะโกนร้องเรียกหาอีกฝ่าย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมไปกดสวิตช์ไฟฟ้าเพื่อเปิดไฟ จึงพอทำให้ห้องสว่างขึ้นมาบ้างแต่สภาพห้องตรงหน้าเธอก็ทำให้เธอตกใจ ข้าวของทุกอย่างล้มระเนระนาด กระจัดกระจายไปตามพื้น ปุยยังคงช็อกกับสภาพที่พบเจอก่อนจะตั้งสติได้และวิ่งเข้าไปในห้องนอนเพื่อตามหาเขมินทร์

ก่อนที่จะเจอเข้ากับร่างของอีกคนที่ห้อยลงมาจากเพดานพร้อมเชือกที่รัดคอ



...

- TBC -

ซีขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นสักขีพยานที่สนง.เขตในวันพุธที่ 1 กรกฎาคมด้วยกันนะคะ

เมนท์ติชมให้ด้วยนะค้าบ อ้อนๆๆ

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-06-2020 16:57:35
อีเขมตอแหลอีตามเคย แสดงเก่ง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-06-2020 17:43:49
ตอแหลล่ะซิ อย่างมันเนี่ยนะจะคิดฆ่าตัวตาย อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อหรอก
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 28-06-2020 18:52:52
ขอให้มึงตายจริงๆๆอีเขม//อิน555
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 28-06-2020 21:59:48
เขมลงทุนผูกคอตายเรียกร้องความสนใจแต่สุดท้ายคนเขาก็มองว่ามันคือการแสดงไม่ตายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-06-2020 11:38:49
ไหนๆชู้รักก็อุตส่าห์ผูกคอหนีตายไปแล้ว
ถ้ายังรักมากอยู่ก็น่าจะตายตกตามกันไปเลย
ประกาศให้โลกรู้ว่า กูนี่แหล่ะรักแท้ของ "ชายชู้"

ผู้คนจะได้ซาบซึ้งตรึงใจ เสมือนหนึ่ง "โกโบริ อังศุมาลิน"
เป็นรักแท้บนทางช้างเผือก หุหุ

ดีนะ กุสนับสนุน ตายตามกันไปเลย
จะทำป้ายไวนิลขึ้นคัทเอาท์ใหญ่ๆ หน้าขึ้นทางด่วน

"รักแท้ไปจนตาย ชู้ชาย เรน&เขม"
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 29-06-2020 20:42:45
ไม่รู้ว่าเขมจะแสดงละครหรือว่าเอาจริง แต่ยังไงมันก็ได้ผลเขากลับมาแล้ว และบอกไว้ก่อนเลยว่ามุกนี้ไม่ควรใช้บ่อยเพราะมันจะไม่ขลัง 55555 เลิกเป็นคนเราะแระโลเลได้แล้วเรน รู้ผิดชอบชั่วดีสำนึกได้เท่านี้ก็ดีแล้ว ก็ไม่หวังอะไรมากไปกว่านี้จากแก อ๋อ มีอีกเรื่องที่หวังคือหวังว่าแกจะยอมหย่าให้พัดนะ ก็รู้ก็เห็นแล้วนี่ครอบครัวตัวเองเป็นยังไง อภัยให้ได้แต่มันก็คนละเรื่องกับหย่านะ หย่าแล้วก็ยังเป็นพ่อคนได้ไปแก้ตัวตอนนั้นไป อย่ามาคร่ำครวญมากไปกว่านี้มันจะเป็นคนไม่เอาไหน คึคึ ฉันเข้าใจแกอยู่นะเรน เขมด้วย 555 สนุกค่า รอตอนต่อไป ขอบคุณนะคะที่มาต่อ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 29-06-2020 22:40:33
ไม่น่าใช่ เพราะเขมไม่ได้รักเรวัตรแค่คนเดียว ยังมีป้องเกียรติอีกคน
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-06-2020 00:28:53
ไม่ตายอะ ตั้งนาน น่าจะตายนะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 18 ปมเชือก 100% (28/06/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 30-06-2020 01:55:07
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว สนุกมาก เป็นกำลังใจให้นักเขียนค้าบผม
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 01-07-2020 23:34:18

บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100%


"เล่าตามที่เขมบอกหรือเปล่า" ดาราหนุ่มชื่อดังในชุดของผู้ป่วยโรงพยาบาลนั่งเอนหลังพิงหัวเตียงอยู่ในห้องพิเศษ เขานั่งกดโทรศัพท์เล่นฆ่าเวลาระหว่างรอผู้จัดการของตนจัดการในสิ่งที่เขาเพิ่งจะมอบหมายให้ทำ

"ตามที่น้องเขมเล่าทุกอย่าง...ไม่มีตกหล่นสักคำจ้ะ" ปุยเดินนั่งลงที่โซฟารับรองแขกภายในห้องพลางวางมือถือลงที่โต๊ะ ก่อนจะยกขาขึ้นมานั่งไขว่ห้างรอเรวัตเดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งนี้

"พี่ถามอะไรหน่อยสิ...น้องเขม" เสียงเรียกของผู้จัดการเรียกความสนใจจากเขมินทร์ได้เป็นอย่างดี มือเรียววางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะหัวเตียงก่อนจะหันกลับมาสนใจผู้จัดการของตน

"เราต้องทำขนาดนี้เลยหรอลูก...ผิวสวยๆ เป็นรอยหมด" เสียงทุ้มเอ่ยพลางปรายสายตาไปยังลำคอขาวระหงของอีกคนที่มีรอยช้ำสีม่วงเป็นทางยาวจากเชือกเส้นใหญ่ หล่อนยอมรับว่าแอบกลัวเขมินทร์ขึ้นมานิดหน่อยตอนที่อีกฝ่ายโทรมาหาแล้วบอกให้มาเจอกันที่คอนโด ปุยมาตามนัดที่คนตัวเล็กนัดมา เขมินทร์ออกมาเปิดประตูต้อนรับเขาตามปกติและเดินนำเข้าไปภายในห้อง ที่ข้าวของกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง ก่อนที่คนตัวเล็กจะบอกในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมา

'เขมให้พี่ปุยช่วยอะไรเขมหน่อย'

'ช่วยอะไร'

'บอกพี่เรนให้ทีว่าเขมฆ่าตัวตาย' คนตัวเล็กคิดมาดีแล้วว่าจะต้องทำยังไงถึงจะสามารถดึงเรวัตกลับไปหาตนเองได้ ตลอดเวลาที่เขาอยู่กับอีกคนมามันทำให้เขารู้ว่า อีกฝ่ายขี้สงสารมากขนาดไหน ดังนั้นสิ่งที่เขมินทร์ทำคือไม่ใช่การนั่งร้องไห้เพื่อรอเรวัตเดินกลับมา แต่เป็นการไปหยิบเชือกเส้นใหญ่มารัดรอบคอตัวเองให้เกิดรอยเพื่อสร้างสถานการณ์เรียกร้องความสนใจจากเรวัต

"เขมไม่ปล่อยพี่เรนไปง่ายๆ หรอก เขมรอมาเป็นปีๆ มันควรเป็นที่ของเขม"

"เขมว่าแบบนั้นพี่ก็ว่าตามนั้น...แต่พี่มีอีกเรื่อง"

"เรื่องอะไรครับ"

"เรื่องสัญญา" ปุยเอ่ยถึงสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัดของตัวเองกับเขมินทร์ ในเมื่อเขมินทร์ไม่ยอมเสียเรวัตไปง่ายๆ เขาเองก็ไม่ยอมปล่อยบ่อเงินบ่อทองอย่างเขมินทร์ไปง่ายๆ เช่นกัน

"ค่อยคุยกันวันหลังนะครับพี่ปุย ยังไงก็เหลืออีกตั้งเดือน" คนตัวเล็กเอ่ยก่อนจะขยับตัวลงนอนและหันหลังให้กับผู้จัดการของตัวเอง เขมยอมรับว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะต่อสัญญากับปุยอยู่ในหัวเลยสักนิดเดียว ตั้งแต่รู้ว่าอีกคนโกงค่าตัวเขาไปยังไง ไม่ทันที่ปุยจะได้เอ่ยตื๊อเขมินทร์ต่อ ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกด้วยมือของเรวัต ร่างสูงก้าวยาวๆ อย่างเร่งรีบพุ่งไปที่เตียงในทันที พลางวางมือลงบนไหล่มนและเอ่ยเรียกชื่ออีกคนเบาๆ

"เขมๆ เขมเป็นยังไงบ้างเขม"

"เขมเพิ่งฟื้นเมื่อกี้เองค่ะคุณเรน อยู่คุยกับน้องไปก่อนนะคะ ยังไงปุยขอตัวก่อน" ปุยเอ่ยแทรกเสียงเรียกของเรวัตก่อนที่จะแสดงตามบทบาทที่เขมินทร์มอบไว้ให้กับเขา และเอ่ยลาจากไป

 "เขม...หันมาคุยกับพี่ก่อน เขม"

"ฮึก...พี่เรนไม่ต้องมายุ่งกับเขมหรอก ฮึก เขมไม่อยากให้พี่เรนต้องมาเดือดร้อน" ทันทีที่เรวัตจับเข้าที่ไหล่มนของเขา วิญญาณนักแสดงมือรางวัลก็เข้าสิงคนตัวเล็กในทันที วินาทีนั้นเขมินทร์ก็เริ่มที่จะบีบน้ำตาเรียกความเห็นใจ ทำตัวน่าสงสาร

"เขมฟังพี่ก่อน หันมาให้พี่ดูเขมเจ็บตรงไหนไหม"

"ไม่ต้องมายุ่งกับเขม!" คนตัวเล็กพลิกตัวกลับมาผลักร่างสูงให้กระเด็นออกไป ก่อนจะแสร้งร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร เรวัตที่หลงกลกับดักน้ำตาของอีกคนจึงรีบพุ่งเข้าไปกอดปลอบร่างเล็กซุกไว้ในอ้อมกอด ให้บ่ากว้างคอยซับน้ำตา

"ฮึก...ออกไป ออกไปนะ ฮือ" เขมินทร์ขัดขืนอ้อมกอดอุ่นนั้นเบาๆ ก่อนจะยอมสงบลงในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

"เขม...พี่ขอโทษ ขอโทษที่ทิ้งเขมไป ขอโทษที่ทำให้เขมต้องเสียใจ" เรวัตกอดคนตัวเล็กแน่นมากยิ่งขึ้น เขาลูบหลังอีกฝ่ายไปมาและโยกตัวไปพลางราวกับกำลังปลอบประโลมเด็กน้อยที่ตื่นจากฝันร้าย

"ไม่ต้องมาขอโทษเขม ฮึก เพราะสุดท้ายพี่ก็จะทิ้งเขมไปอยู่ดี ฮึก ยังไงพี่ก็เลือกครอบครัวพี่มากกว่าเขมอยู่แล้ว" เขมินทร์ยังคงใช้มารยาเรียกร้องความสงสารและเห็นใจกลับอีกฝ่าย แต่เรวัตกลับไม่ตอบกลับอะไรมีเพียงแค่อ้อมกอดที่คอยประคองเท่านั้น

"ทำไมเขมต้องทำอย่างนี้...เขมจะฆ่าตัวตายเพราะพี่ทำไม" เรวัตเอ่ยถามคนในอ้อมกอด

"เขมไม่รู้...ฮึก ไม่รู้ว่าถ้าไม่มีพี่ ฮึก เขมจะอยู่ยังไง ฮือ"

"ที่พี่กลับมาตอนนี้ คือพี่อยากจะมารับผิดชอบกับสิ่งที่พี่เคยทำ" เรวัตดึงเขมินทร์ออกมาจากอก เขาใช้มือไปประคองดวงหน้าของอีกฝ่ายและจ้องมองลึกเข้าไปยังดวงตากลมโตที่สะท้อนภาพของเขาตอบกลับมา

"พี่เรนมะ...หมายความว่ายังไง ฮึก"

"พี่ตัดสินใจแล้ว...ว่าพี่จะยอมหย่า" เขาคิดมาตลอดทั้งคืน เขารู้ว่าเขาทำร้ายพัดกับลูกมากขนาดไหน และพัดกับลูกต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขามากขนาดไหนเช่นกัน ถึงแม้จะไม่อยากปล่อยไป แต่ถ้ามันจะเป็นไถ่บาปกับสิ่งที่เขาทำผิดต่ออีกฝ่ายมาโดยตลอด เขาก็จะหย่าให้อีกคนไปมีชีวิตที่ดีกว่าตอนนี้ และอีกทางคือคนตรงหน้าที่เขาก็ทำร้ายอีกคนมาหนึ่งปีเต็มๆ เหมือนกัน การที่หย่าเพื่อกลับมาดูแลเขมินทร์มันอาจจะดีทั้งกับเขาและทุกคนในวังวนของความสัมพันธ์น่ารังเกียจนี้

"พะ...พี่เรน"

"พี่จะหย่ากับพัด ให้สิทธิพัดดูแลภีมและภา ให้สินสมรสตามกฎหมายที่เขาควรได้รับและพี่จะมาอยู่กับเขม พี่จะดูแลเขมให้ดีมากกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา"

"..."

"พี่ขอโทษ...ที่ดึงเขมเข้ามา ขอโทษจริงๆ"

"พี่เรน...ฮึก ขะ...ขอบคุณ ขอบคุณครับ ฮือ" ทั้งสองคนโอบกอดกันอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล เรวัตเชื่อว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจในตอนนี้ มันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้วแต่เขาไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้ายิ้มเยาะของใครอีกคนในห้องเช่นกัน

วันรุ่งขึ้นเขมินทร์ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เนื่องจากอีกคนไม่ได้เป็นอะไรมากมีรอยแผลที่คอและอ่อนเพลียเล็กน้อยเท่านั้น เรวัตพาคนตัวเล็กกลับมายังคอนโดของตัวเอง ก่อนที่จะเข้าครัวไปทำอาหารให้เขมทานเพราะเจ้าตัวบ่นหิวและตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ในระหว่างที่เรวัตกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำอาหารอยู่นั้น โทรศัพท์ของเขาก็ขึ้นแจ้งเตือนข้อความจากใครบางคน

Pat : ผมรู้ว่าคุณกลับมาแล้ว

Pat : อีก 3 วันเจอกันที่สนง.เขต

Pat : เตรียมเอกสารมาให้เรียบร้อย

Pat : ผมอยากให้มันจบจริงๆ สักที

เรวัตอ่านข้อความนั้นเงียบๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์เดินออกไปที่ระเบียงเพื่อกดโทรหาอีกคน รอสายเพียงไม่นานพลลภัตม์ก็กดตอบรับ

"พัด...คะ"

"ผมเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมอะไรยังไงบ้าง เดี๋ยวผมจะส่งไลน์ไปให้" เสียงของพัดเอ่ยสวนเขาทันทีที่กดรับสาย อีกฝ่ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแทบจะจับอารมณ์ในเสียงนั้นไม่ได้เลย

"พี่..."

"หรือคุณไม่ว่าง ผมจะได้เปลี่ยนวันนัดใหม่"

"..."

"ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะนานไหม แต่ถ้าคุณไม่สะดวกเราเปลี่ยนวันนัดได้นะครับ"

"สะดวก...พี่สะดวก" พัดอยากให้มันจบ เขาก็ควรทำให้มันจบเช่นเดียวกัน เขาไม่ควรรั้งให้อีกคนต้องเจ็บไปมากกว่านี้

"พาพยานบุคคลมาด้วยนะครับ 1 คน ผมเองก็จะพาไปเหมือนกัน"

"อือ...ตกลง"

"เจอกันครับ" สายถูกตัดไปหลังสิ้นสุดคำบอกลาของอีกฝ่าย เรวัตไม่ได้กลับเข้าไปภายในห้องแต่เขากลับเลือกที่จะยืนพิงระเบียบและปล่อยให้ความคิดไหลวนไปพร้อมกับกาลเวลาอย่างเงียบๆ



รถยนต์หรูขับเข้ามาจอดในที่จอดรถของทางส่วนราชการ ขายาวก้าวลงจากรถพร้อมกับใครอีกคนก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดของสำนักงานเขตเพื่อไปหาคนที่กำลังรอเขาอยู่

"พัด..." เรวัตเอ่ยเรียกชื่อของคนรักที่กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับรองกับนิมานลดา พลลภัตม์ปรายตามามองเขาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนและเอ่ยทักทาย

"สวัสดีครับพี่เพชร" ทักทายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกัน

"สวัสดีครับน้องพัด ไม่ได้เจอนานเลยนะ น้องพัดสบายดีนะครับ" เพชรพิรุณเอ่ยถามหนุ่มรุ่นน้องที่เคยสนิทสนมกันแต่ต้องห่างหายกันไป เนื่องจากเขาต้องกลับไปช่วยที่บ้านของเขาทำธุรกิจรีสอร์ต

"สบายดีครับ พี่เพชรก็เหมือนกันใช่ไหม"

"พี่ก็สบายดีครับ" เพชรพิรุณตอบพลางส่งยิ้มไปให้คนตัวเล็กตรงหน้า

"พัด...พะ"

"งั้นเราเข้าไปเลยดีกว่านะครับ" พลลภัตม์เมินเฉยกับคำเรียกของอีกคนก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในห้องของสำนักงานเขต พัดเดินนำเข้าไปก่อนจึงตามด้วยร่างสูงของเรวัต ทั้งสองคนนั่งลงที่เก้าอี้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขต ก่อนจะเอ่ยถึงความประสงค์ในการมาที่สำนักงานเขตในวันนี้ พลลภัตม์และเขายื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่พร้อมกันเพื่อให้เขาตรวจดูความถูกต้องของเอกสารที่เตรียมมา

"สัญญากรอกรายละเอียดมาแล้วนะครับ จะร่างต่อเลยไหมครับ"

"ต่อเลยครับ" เสียงทุ้มของพลลภัตม์เอ่ยตอบเจ้าหน้าที่

"คุณสองคนเป็นพยานบุคคลนะครับ" เจ้าหน้าที่หันไปเอ่ยบอกเพชรพิรุณและนิมานลดาให้รับทราบ ก่อนจะเริ่มเอ่ยร่างสัญญาต่อ

"..."

"แต่งงานมา 15 ปีมีบุตร 2 คน อำนาจในการดูแลบุตรตกเป็นของใครครับ"

"ของแม่ครับ"

"คุณพ่อยินยอมนะครับ" เรวัตปรายตามองไปยังพลลภัตม์อยู่ตลอดเวลา แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้มองเขากลับมาเลยแม้แต่น้อย เรวัตวางสายตาของตัวเองกลับมาที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตตรงหน้า ก่อนที่จะเอ่ยตอบออกไป

"ยินยอมครับ"

"โอเคครับ...ถัดไปเป็นเรื่องของค่าเลี้ยงดูบุตร"

"ร่วมกันครับ"

"โอเคครับ...เก็บร่างสัญญาไว้ด้วยนะครับ มันสำคัญมาก" เจ้าหน้าที่เอ่ยบอกพลางยื่นกระดาษมาตรงหน้าของคนทั้งสอง

"เซ็นตรงนี้กับตรงนี้นะครับ คุณด้วยนะครับ" นิ้วหยาบชี้ลงไปบนจุดๆหนึ่งในกระดาษที่ทั้งสองได้รับมา พลางเอ่ยบอกให้ลงลายมือชื่อให้ครบถ้วน การจดทะเบียนหย่าจึงจะเสร็จสมบูรณ์

มือเรียวของพลลภัตม์เอื้อมไปคว้าเอาปากกามาถือไว้ก่อนที่จะลงลายมือชื่อลงไปในสัญญา เสียงของปากกาที่วาดลวดลายลงไปบนกระดาษขาว มันเหมือนเสียงของมีดที่กรีดลงบนใจของเรวัตและมันก็เหมือนกรรไกรคมที่ตัดขาดเส้นสายความสัมพันธ์ของทั้งเขาและพลลภัตม์ให้ขาดออกจากกัน เมื่อพัดลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้วเรวัตเองก็หยิบปากกาขึ้นมาขีดเขียนลงไปตาม ต่อด้วยพยานบุคคลที่มานั่งรออยู่ทางด้านหลังอย่างเพชรพิรุณและนิมานลดา

"เรียบร้อยนะครับ เป็นอันว่าความสัมพันธ์ของบุคคลทั้งสองยุติลงทุกประการนะครับ" เจ้าหน้าที่เอ่ยพลางยื่นใบสำคัญการหย่าให้กับคนทั้งสอง ต่อแต่นี้ไปสถานะสามีภรรยาของเขาและพลลภัตม์

มันคงกลายเป็นอดีตเรียบร้อยแล้ว



"พัด...พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย" เรวัตเอ่ยรั้งอีกคนเอาไว้ก่อนที่จะแยกจากกันหน้าสำนักงานเขต เขาแค่อยากขอเวลาบอกลาและเอ่ยขอโทษกลับอีกฝ่ายอีกสักครั้ง

"ฉันไปรอที่รถนะแก" นิมานลดากระซิบบอกพัด ก่อนที่เธอจะก้าวเดินไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ปล่อยให้อดีตสามีภรรยา เขาได้คุยอะไรกันเป็นการส่วนตัว เช่นเดียวกับเพชรพิรุณที่เดินแยกไปอีกทาง

"ครับพี่เรน..." เรวัตเดินเข้าไปใกล้อีกคนในตอนที่อีกคนเอ่ยตอบกลับมา ร่างสูงยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายพร้อมทั้งหยิบยื่นสิ่งที่อยู่ในมือให้กับอดีตภรรยาของตนเอง มันคือแหวนแต่งงานของเขาทั้งสองคน

"พัดเก็บเอาไว้ไหน...พี่ยกให้...มีปัญหาอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเวลา ดูแลภีมกับภาให้ดีนะ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย" เสียงสั่นๆ ของเรวัตเอ่ยบอกอีกคน เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตนเองเท่าที่จะสามารถทำได้ เขากอบกุมมือของอีกคนไว้ อาจเป็นเพราะนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้กุมมือของพลลภัตม์

"พี่ขะ...ฮึก ขอโทษ พี่ขอโทษที่ทำให้มันจบแบบนี้" ภาพตรงหน้าของเรวัตพร่าเลือนไปด้วยม่านน้ำตาไม่ต่างจากของพลลภัตม์มากเท่าไหร่ ดวงตากลมของพัดก็มีน้ำเอ่อล้นจนบดบังทัศนียภาพไปหมด เขาไม่ได้เสียใจที่ตัดสินใจหย่าแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้ำตามันต้องไหล

อาจจะเป็นเพราะความผูกพันที่มันเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 15 ปี

ถึงปากจะบอกว่าหมดรักอีกคนเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าผูกพันกับอีกคนมากแค่ไหนเช่นกัน

"พี่มันแย่...มันเป็นพ่อที่ไม่ดี ฮึก เป็นสามีที่ไม่ได้เรื่อง ฮึก แต่พี่ยังรักพัดนะ รักเสมอ"

"ฮึก...ฮึก"

"ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดระยะเวลา 15 ปี พี่มีความสุขมาก...มากจริงๆ ฮึก" เรวัตปล่อยให้น้ำตาหยดลงมากระทบที่มือที่กอบกุมกันไว้แน่น เขาไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป

"พัดยังคงเป็นแสงสว่างสำหรับพี่เสมอนะ ฮึก...เป็นมาตลอด ฮือ"

"ฮึก...ฮึก"

"พี่ไม่เคยไม่รักพัดนะ ฮึก...ฮือ" เรวัตก้มหน้าลงปล่อยหยดน้ำตาให้ไหลออกมาเรื่อยๆ ต่างกันกลับพลลภัตม์ที่ยืนนิ่งแต่ข่มอารมณ์ของตัวเองได้มากกว่าคนตัวโต มันเป็นเพราะว่าต่อจากนี้ไปเขาจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อดูแลลูกๆ ของเขาให้ดี พลลภัตม์พยักหน้าตอบกลับอีกคนก่อนจะถอนมือออกมาจากการกอบกุม

"โชคดีนะครับ...พี่เรน" เขาเอ่ยเพียงแค่ไม่กี่พยางค์ก่อนที่จะหมุนตัวเดินจากไปที่รถของยนต์ของตัวเองที่มีนิมานลดานั่งรออยู่ข้างในนั้น ทิ้งคนตัวโตไว้ด้านหลัง ทิ้งอดีตเอาไว้ในที่ของมัน ทิ้งความเสียใจต่างๆ ไว้กับคำว่าความทรงจำ เขาเคยบอกแล้วว่าคนเรามันลืมไม่ได้หรอก แต่เราไม่รู้สึกกับมันได้

พัดเดินจากไปในทางของตัวเองแล้ว เขาเองก็เหมือนกัน

เรวัตเดินกลับมาที่รถของเขาที่มีเพชรพิรุณยืนรออยู่พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลเปรอะบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนที่จะยืนร้องไห้สะอื้นต่อหน้าคนตัวสูงพอๆ กัน

"กูทำถูกแล้วใช่ไหมวะ ฮึก...กูทำถูกแล้วจริงๆ ใช่ไหมเพชร" เสียงสั่นๆ เอ่ยถามอีกคน

"มึงทำถูกแล้ว...ปล่อยพัดไปน่ะถูกแล้ว"

"ฮึก...ฮือ" ร่างหนาสั่นไปทั้งตัวด้วยแรงอารมณ์ก่อนที่จะถูกดึงเพชรพิรุณเข้าไปโอบกอดและปลอบประโลม

ชีวิตของคนเรามันต้องก้าวหน้าไปบนเส้นทางที่ตัวเราเองเป็นคนขีดเขียน จะเขียนให้ตรง

ให้มันคดเคี้ยวยากลำบากก็อยู่ที่มือของเราที่เป็นคนจับปากกา

สุดท้ายปลายทางมันก็คือความสำเร็จที่คุณเลือกเอง



...

- TBC -

หย่าแล้วจุดพลุฉลองงงง ปังๆๆๆๆ ตอนนี้เขียนยากมาก ติชมได้ค้าบ

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 01-07-2020 23:46:14
ทีมพัด
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-07-2020 00:01:49
 แต่ไม่จบง่ายๆแน่
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-07-2020 00:03:04
หย่าไปหาสิ่งที่แย่กว่ามากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 02-07-2020 00:26:59
แกทำดีแล้วเรน ไม่ต้องทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปกว่านี้ จบกันดีๆตรงนี้ ฉันเห็นใจแกขึ้นมาเลย 15ปี เหมือนอยู่สวรรค์ อยู่กับพัดเป็นแสงสว่าง ต่อไปนับจากวินาทีนี้แกจะได้รู้ว่านรกและความมืดมันเป็นยังไง ไปสัมผัสมันซะ 5555555 เขมแกก็ฉลาดนะ ดัดหลังผู้จัดการตัวเองที่รู้ว่าโกง แต่กับเรนแกจะรู้ค่าเมื่อสายไปรึป่าวนะในวันข้างหน้า เขากลับมาหาและจะดีกับแกแล้ว ตัวแกเองรึป่าวจะเป็นคนพังมันลงมาเองสักวันนึง หรือเรนก็ยังคงเป็นเรน ไม่รู้จักพอ รอตามดูก่อนนะ 5555 สนุกกก ขอบคุณนะคะที่มาต่อ ตอนหน้าจะเป็นยังไงบ้าง  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-07-2020 13:45:04
นรกกำลังมาแล้วเรน แกเลือกเองก็ต้องยอมรับเวรกรรมที่กำลังตามมานะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 02-07-2020 16:13:28
เลิศจ้า

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-07-2020 21:52:20
 :mc3:
ปิดตลาด เลี้ยงฉลอง
หมดเรื่องราวแย่ๆ ในชีวิตซะที
แม่พัด ลูกภีมและภา
ขอแถมน้านนท์ไปด้วยอีกคน ได้มั้ยอ่ะ อิอิ

ส่วนเรนกับเขม เรามาติดตามกันต่อดีกว่า
ว่าใครกันแน่ที่จะทนอีกคนไม่ไหว แล้วขอจบ บอกลาไปก่อนกัน ฮ่าฮ่า
แต่สองคนนี้ดูๆแล้ว กินกันลงยาก เพราะสันดานเหี้ย พอๆกันทั้งคู่
แต่น่าจะไม่มีใครยอมใคร กว่าจะจบเกม อาจจะบาดเจ็บปางตาย แสนสาหัสด้วยกัน
ก็เหี้ยตัวผู้ มาอยู่กับเหี้ยตัวเมีย อาจจะแย่งกันลากเหยื่อลงไปกินในน้ำ ต่างก็ไม่ยอมกันและกัน

น่าสนุกอ่ะ ดีดี ฟัดกันให้เละเลย แต่จะอยู่เชียร์ให้ทั้งสองข้างรุย
เสียงฉิ่งฉาบ ปี่แตร กลองตะโพน....(เอฟเฟค) มาาาา 
ยกที่ 1 ต่อยได้  กร๊ากกกกกกกกก

+1 คร้าบบบบบบ


หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 03-07-2020 03:34:19
ในที่สุเก็ยอมหย่าซักที เรนก็ไปสบายเลยนะ แต่พัดเนี่ยยังต้องปวดหัวกับเรื่องลูกอยู่เนี่ยสิ  :hao5: :katai1:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 03-07-2020 13:50:51
ทีมพัด สู้ๆ น๊าาาาาา

พี่เรนขอให้โชคดีกับสิ่งที่เลือกนะ55555
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Ritawongishere ที่ 03-07-2020 14:08:54
ก็ขอให้เธอโชคดี ~~~ /ยิ้มเยาะในใจ.   พัดดีกว่าเป็นล้านเท่า เค้ายังทิ้งเลย คิดเหรอว่าผู้ชายอย่างเรนจะหยุดที่หล่อน.   /อินไปมั้ย555555
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 19 ทางเดินที่เลือกเอง 100% (01/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-07-2020 16:52:50
อ่านอีกรอบแล้วมาต่อ  เหมือนกับว่าถ้าเรนผ่านด่านเขมไปได้ อาจจะนะอาจจะได้เพชรมาเป็นคู่ก็ได้ ดูรู้ใจไปซะหมดแถมเวลามีปัญหาอะไรเหมือนเรนจะนึกถึงเพชรก่อนตลอดเลย 5555
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 04-07-2020 23:12:19
บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100%


หลังจากวันที่เราตัดสินใจยุติบทบาทของการเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตอนนี้มันก็ผ่านมาได้ประมาณเดือนกว่าๆ เกือบจะสองเดือนเข้าไปแล้ว พัดเองก็กลับมาเริ่มที่จะกลับเข้ามารับงานในวงการบันเทิงบ้าง มีงานอีเวนท์ พรีเซนเตอร์หรือละครติดต่อมาประปราย เขาก็ไม่ได้รับมันไปหมดทุกงานเพราะยังคงไม่อยากห่างจากลูกไปมากกว่านี้ แต่มันก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเมื่อวันพรุ่งนี้เป็นคิวเปิดกล้องถ่ายทำของละครเพลิงพรรณ ที่เรวัตเป็นผู้กำกับ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาภีมพลและภาณินรู้ว่าเขากับเรวัตตัดสินใจหย่ากันแล้วเรียบร้อย การแสดงปฏิกิริยากับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันต่างกันออกไป ภีมพลนิ่งเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติไม่ได้ร้ายแรงอะไร ตรงกันข้ามกับภาณินที่ดูซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงไม่นานภาก็กลับมาร่าเริงตามเดิมอาจจะเป็นเพราะหนูเพนนีที่คอยเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้าตัวทุกสุดสัปดาห์ หญิงสาวจะขอคุณแม่มาค้างบ้านคุณลุงชานนท์ตลอดเสาร์อาทิตย์ ด้วยบรรยากาศที่โอบล้อมและบุคคลข้างกายของภาณินก็สามารถช่วยดึงเขาขึ้นมาจากความเศร้าได้ไม่ยาก

เรวัตเองก็มีติดต่อกลับมาหาลูกๆ บ้าง แม้จะมีเพียงภาณินที่ยอมพูดคุยด้วย ส่วนภีมพลนั้นเมินเฉยแต่เขาก็ติดต่อมาตลอด อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์พ่อลูกมันตัดยาก ในช่วงเดือนแรกที่เราเลิกรากันไป ก็เกิดเป็นกระแสคู่รักในตำนานของวงการขาเตียงหักจนออกข่าวกันไม่เว้นวัน หลายคนให้กำลังใจและคอยสนับสนุนการตัดสินใจของเรา บางคนก็สืบเสาะหาเบาะแสในการเลิกราครั้งนี้

#เรนพัด

ขึ้นเทรนด์ทวิตในช่วงนั้นเกือบตลอด แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุที่เลิกกันนั้นเป็นเพราะอะไร พัดเองก็โดนสื่อสัมภาษณ์ในตอนที่ไปออกงานอีเวนท์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เขาก็มักจะตอบเลี่ยงๆ ว่าไม่อยากพูดถึงและขอเก็บมันไว้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ต่างกันกับที่เรวัตให้สัมภาษณ์เวลาเจอสื่อเช่นเดียวกัน

ชีวิตของพวกเราทุกคนตอนนี้กำลังก้าวเดินไปในทางที่ตัวเองได้ขีดเขียนเอาไว้ หลายๆ คนอาจจะมองว่ามันถึงจุดจบเมื่อเราต้องเลิกรากันไป มันถึงจุดสิ้นสุดและควรปิดม่านละครฉากนี้ลงได้แล้ว แต่จะมีใครรู้ว่าเส้นทางที่เราต่างขีดกันไว้มันกลับยาวไกลมากกว่าที่กำลังเผชิญ ชีวิตกำลังเดินไปข้างหน้าได้ตลอดเวลา แม้ว่านาฬิกาจะหยุดเดินแต่กาลเวลาไม่ได้หยุดหมุน หากคุณยังตื่นมาพบกับแสงตะวันในเช้าวันใหม่ ในหมายความว่า

ชีวิตคุณมันยังไม่จบเสมอไป



ในเช้าวันใหม่ที่เขากำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับลูกชายทั้งสองคนที่กำลังต้องเดินทางไปโรงเรียน เสียงข่าวในทีวีก็ดังเข้าหูของเขาบ้างเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวราคาน้ำมันเพิ่ม หรือข่าวการเมืองประจำวันที่ส.ส.หญิงท่านหนึ่งโพสต์เฟซบุ็กส่วนตัวตอบโต้กับดาราสาวในประเด็นกฎหมายข่มขืน หรือข่าวซุบซิบดารา แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจข่าวไหนไปมากกว่าข่าวของอรรถจิรานันท์ที่กำลังโด่งดังและเป็นกระแสอยู่ตอนนี้

'มาที่ข่าวนี้ดีกว่าครับคุณผู้ชมครับ ข่าวที่เป็นกระแสกันมาสักระยะแล้วนั้นก็คือข่าวของอรรถจิรานันท์กรุ๊ปครับคุณ เกิดเป็นแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตกันตลอดเวลาสำหรับ #BoycottATJ ว่ากันด้วยเรื่องราวการฟ้องร้องของลูกบ้านหมู่บ้านจัดสรรในนามของบริษัทอรรถจิรานันท์ที่ฟ้องกันมาเรื่องของการก่อสร้างที่ล่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญา และไม่มีการคืนเงินให้กับผู้ที่ขอยกเลิกสัญญา อีกทั้งยังมีการขุดเอาเรื่องต่างๆ ขึ้นมาพูดคุยและถกเถียงกันในแฮชแท็กเนี่ยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางบริษัทใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานไม่คุ้มค่ากับราคา เรื่องของการเพิกเฉยต่อปัญหาของลูกบ้าน หรือแม้กระทั่งเรื่องเมื่อหลายปีก่อนที่ทางบริษัทมีประเด็นในเรื่องของการโกงเงินกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ยังไงก็ตามผลการตัดสินของศาลก็จะประกาศในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้แล้วนะครับ ทางกระแสข่าวก็จะเกาะติดกันต่อไป'

ดวงตากลมมองภาพข่าวที่กำลังฉายชัดอยู่บนจอโทรทัศน์พร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะละความสนใจมายังแกงจืดตรงหน้าที่ต้มจนเสร็จพอดี พัดตักมันใส่ถ้วยขาวก่อนจะยกไปตั้งไว้ที่โต๊ะอาหารกลางบ้านและเดินขึ้นไปเรียกลูกชายทั้งสองให้ลงมาทานข้าว

"ภาลงไปทานข้าวลูก" เขาเดินขึ้นมาพอดีกับลูกชายคนเล็กที่กำลังจะเดินลงไปข้างล่าง ก่อนที่จะเดินขึ้นไปตามคนโตที่ยังคงอยู่ในห้องของตัวเอง มือเรียวยกขึ้นเคาะประตูสองสามครั้งก็เอ่ยเรียกอีกฝ่าย

"ภีม...เสร็จหรือยังลูก ไปทานข้าวกันเดี๋ยวสาย" รอไม่นานอีกคนก็เดินมาเปิดประตูพอดี ร่างสูงในชุดนักเรียนเดินออกมาจากห้อง ก่อนที่จะเดินลงไปข้างล่าง โต๊ะอาหารรายล้อมไปด้วยคุณแม่และลูกๆอีกสองคนที่กำลังทานอาหารเช้าอย่างรีบเร่ง

"ภา ภีม เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะให้คุณนนท์ไปส่งนะที่โรงเรียนนะลูก" พัดเอ่ยบอกเด็กๆ ที่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวอยู่

"คุณแม่ไม่ไปส่งภากับพี่ภีมหรอครับ ทำไมละ" เสียงของภาณินเอ่ยถามขึ้นมา

"แม่ต้องไปถ่ายละคร แม่ต้องออกบ้านตั้งแต่เช้าเลยวานให้คุณนนท์เขาไปส่งแทน"

"..." ทั่วทั้งโต๊ะอาหารถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ไม่มีเสียงใดเอื้อนเอ่ยออกมาอีก จนกระทั่ง

"ภีม...ใกล้จะปิดเทอมแล้ว แปบๆ ก็จะขึ้นเทอมสองแล้วนะ คิดหรือยังลูกว่าอยากเรียนสายไหน" พลลภัตม์เอ่ยถึงการเลือกแผนการเรียนของภีมพลที่กำลังใกล้เข้ามาถึง ถ้าเราวางแผนอนาคตไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทุกอย่างมันก็จะเรียบง่าย

"ภีม...อยากเรียนภาษาครับแม่" ภีมเอ่ยเสียงเบาตอบมารดา

"ไม่ลองศึกษาสายวิทย์ดูเหรอลูก แม่ว่าโอเคนะ เรียนสายวิทย์ครอบคลุมมากกว่า อีกอย่างแม่อยากให้ภีมเป็นหมอด้วย" ภีมพลไม่ได้ตอบอะไร เขาทำเพียงเงียบฟังสิ่งที่พลลภัตม์พูดเท่านั้น

"ลองๆ ดูสายวิทย์ก็ดีนะลูก" สุดท้ายแม่ก็ไม่เคยฟังความคิดเห็นเขาจริงๆ หรอก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องไหน

แม่ก็ไม่เคยสนใจ



ร่างสูงยืนรอคนที่บอกเขาว่าวันนี้จะกลับมาจากต่างประเทศที่สนามบิน เขามารออีกฝ่ายได้เกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าคนๆ นั้นกำลังมาถึง ไฟล์ทที่อีกคนนั่งมาก็ลงจอดได้สิบนาทีแล้ว

"เพื่อนพี่เขากลับไฟล์ทนี้จริงๆ เหรอพี่เรน" เขมินทร์ที่ใส่แว่นตาดำอำพรางใบหน้าเอ่ยถามอีกคน

"มันบอกกลับมาวันนี้นะ" เรวัตก้มลงไปพูดกับอีกคนก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นร่างสูงเดินตรงมายังจุดที่พวกเขารออยู่

"Hey! Bro" ผู้ชายตัวสูงเดินเข้ามากอดคอทักทายเรวัตอย่าสนิทสนมก่อนที่จะถอดแว่นกันแดดสีดำออกเผยให้เห็นดวงตาดุดันน่ามอง มันดึงดูดสายตาของเขมินทร์ไปจดจ้องที่ลูกแก้วสีน้ำตาลทรงเสน่ห์นั้น

อยากได้...นั้นคือสิ่งที่เขมินทร์คิด

"ไม่เจอกันนานสบายดีนะมึง"

"กูสบายมึงอะเป็นไง ไม่พาหลานกูมาด้วยวะ" ดวงตาดุดันมองซ้ายมองขวาหาเด็กๆ ที่น่าจะเป็นลูกของเพื่อนเขาแต่ก็ไม่เจอ

"ภีมกับภาไปเรียน" เรวัตเอ่ยตอบเพื่อนให้หายสงสัย

"โอเคๆ...ว่าแต่ น้องพัดเปลี่ยนไปนะครับเนี่ย น่ารักขึ้นหรือเปล่า So Cute" คนตัวโตละความสนใจจากหลานชายหันมาให้ความสนใจกับภรรยาของเพื่อนแทน ไม่เจอกันนานแต่อีกคนเปลี่ยนไปเยอะเลย

"มึงนี่..."

"ผมไม่ใช่พี่พัดหรอกครับ" เขมินทร์ถอดแว่นของตัวเองออกและสบตากับแววตาดุดันนั้น

"อ้าวไม่ใช่น้องพัดแล้วใครวะ" ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววฉงน

"นี้เขมแฟนกู...เขมนี้ไอ้นัทเพื่อนพี่"

"สวัสดีครับพี่นัท" เขมินทร์ฉีกยิ้มก่อนที่จะยกมือไหว้ ณัฐพงศ์ เพื่อนของเรวัต ลูกคนเล็กของเจ้าของบริษัทนำเข้ารถชื่อดังของประเทศนี้

"สวัสดีครับน้องเขม" ณัฐพงศ์รับไหว้อีกคนพลางส่งสายตาต้องการคำตอบไปให้กับเรวัตถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาไปอยู่ต่างประเทศแค่ไม่กี่ปี ทำไมอะไรๆ มันถึงเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ แต่เขาก็ต้องสะดุดกับสายตาที่คนตัวเล็กส่งมาให้กับเขา มันดูร้อนแรง



"What! มึงเลิกกับพัดแล้วหรอวะ" นัทร้องตกใจเสียงดังหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมดที่เรวัตเล่าให้เขาฟังที่ร้านอาหารประจำของกลุ่มเพื่อนที่มีเขา เรวัต และเพชร ในระหว่างที่เขมินทร์กำลังไปเข้าห้องน้ำ

"มึงอย่าเสียงดังดิ"

"นานยัง"

"เกือบสองเดือนแล้ว" นัทถอนหายใจก่อนที่จะวางมือบนไหล่ของอีกคนและตบเบาๆเหมือนให้กำลังใจ

"ช่วยไม่ได้ว่ะ มึงนอกใจเขาเอง ริอาจเป็นเสืออย่าให้โดนจับได้ดิวะ"

"กูรู้ว่ากูผิด กูถึงยอมถอยออกมานี้ไง"

"เออๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปมึงความรักก็งี้แหละ มีแล้วเจ็บปวดๆ สนุกๆ ไม่ผูกมัดแบบกูดีกว่าเยอะ" เรวัตไม่ได้พูดอะไรตอบโต้ เขาปล่อยให้ความเงียบเข้าแทรกซึม ทำเพียงแค่ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ ก่อนที่นัทจะลุกขึ้นยืนและก้าวเดินออกมาจากโต๊ะ

"มึงจะไปไหนวะ" เรวัตเอ่ยถามอีกฝ่ายก่อนที่คนตัวโตจะเดินผ่านไป

"ไปสูบบุหรี่ เดี๋ยวมา" ร่างสูงกำยำพร้อมแววตาดุดันเดินจากไป เขาเดินไปยังพื้นที่ๆจัดไว้ให้สำหรับสูบบุหรี่โดยเฉพาะ มันเป็นห้องๆ หนึ่งที่กว้างขวางมากพอ สำหรับหลายคนแต่ตอนนี้มันกลับมีเพียงแค่เขา ณัฐพงศ์เปิดประตูเข้ามาภายในห้องก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟาตัวยาว พร้อมทั้งหยิบม้วนบุหรี่ออกมาจุดเพื่ออัดนิโคตินเข้าปอด

แกร๊ก

ในระหว่างที่ณัฐพงศ์กำลังสูบเอานิโคตินเข้าปอดอยู่นั้น เขาไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีใครอีกคนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องนี้ด้วย

"มีเรื่องเครียดอะไรหรอครับ" เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว

"น้องเขม"

"ครับ...เขมเอง เห็นพี่นัทเดินมาคนเดียวเลยตามมาด้วย" ร่างบางนั่งลงข้างกับณัฐพงศ์พลางเอามือเรียววางลงบนหน้าขาของอีกคน

"เปล่าหรอก พี่แค่ดื่มไวน์เยอะไปหน่อย มันมึนๆ"

"เหรอครับ...ว่าแต่บุหรี่กลิ่นนี้หอมจังเลยนะครับ"

"..."

"เขมชอบ" เขมินทร์ยื่นหน้าไปสูดดมกลิ่นบุหรี่บริเวณปลายคางของอีกคน ก่อนจะช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาสีน้ำตาลแววดุดันนั้น มือหนาเอื้อมมาจับต้นแขนของอีกคนเอาไว้ก่อนที่จะผลักออกและเป็นฝ่ายโน้มตัวเข้าหาแทน

"ชอบเหรอ...อยากลองสูบดูไหมละ"

"ได้เหรอครับ" นิ้วเรียวไล้ปลายคางอีกคนไปมาก่อนจะเคลื่อนลงมาบริเวณหน้าอกแกร่ง

"ได้สิ...แต่ต้องมีกฎนะ"

"กฎว่ายังไงครับ"

"อย่าบอกใคร...แค่นั้น"

"เขมไม่บอกใครหรอกครับ...ถ้าพูดก็ไม่ได้สูบนะ...อื้อ" ปากเล็กถูกปิดด้วยปากของอีกคนที่โน้มลงมาประกบอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก ภายในห้องนั้นกลับมีเพียงเสียงแลกเปลี่ยนความหวานดังเฉอะแฉะก้องไปทั่ว



"ฉากนี้เป็นฉากที่กวีโดนเฆี่ยนเพราะว่าถูกพวกแม่ใหญ่ใส่ร้ายว่าไปแอบได้เสียกับบ่าว พัดจะถูกมัดแขนติดกับเสาไว้ ส่วนคนที่เฆี่ยนน้องพัดก็คือเขม ฉากนี้สำคัญมากเลยนะมันจะเล่าว่าทำไมกวีต้องแค้นตระกูลนี้ ผมขอเต็มที่เลยนะ พัดต้องแสดงอารมณ์โกรธมากๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ เราจะแค้นมากๆ เลยช่วงแรกจะเสียใจก่อนพอโดนพูดถากถางเราก็เริ่มโกรธโอเคนะ"

"อืม" พลลภัตม์พยักหน้าตอบผู้กำกับมือรางวัลอย่างเรวัตที่กำลังบรีฟเขากับเขมินทร์อยู่ที่หน้าฉาก ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุเหมือนกำลังโดนแผดเผาด้วยไฟนรกแบบนั้นเลย

"โอเค พัดไม่ต้องกลัวเจ็บนะทีมงานเซฟเต็มทีแล้ว ลองฟาดดูก่อนนะ" เรวัตหันไปสั่งเขมินทร์ที่ยืนถือหวายรออยู่ก่อนแล้ว

เพี๊ยะ

"โอ้ย" เสียงพัดร้องออกมาด้วยความตกใจที่หลังถูกกระทบด้วยหวายเรียวยาว

"อุ๊ย...ขอโทษครับ เขมฟาดสูงเกินไป" เขมินทร์เอ่ยขอโทษเสียงอ่อนเสียงหวานกับพลลภัตม์ก่อนที่จะลงหวายอีกครั้งที่ตรงกลางหลังให้โดนบล็อกหลังที่ทีมงานใส่ซ้อนไว้ให้กันเจ็บ

"โอเค...เดี๋ยวจะเริ่มถ่ายแล้วนะ" เรวัตวิ่งกลับเข้าไปนั่งที่หน้ามอนิเตอร์ก่อนจะสั่งเริ่มการถ่ายทำ

5 4 3 2 1

"แอ็คชั่น"

"ไอ้ลูกไพร่อย่างมึงมาทำงามหน้าในเรือนนี้ ให้มันเป็นเสนียดก็ต้องถูกโบยสั่งสอนให้รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว ระงับสันดานเดรัจฉานของมึงเอาไว้เสียบ้าง"

"ลงหวายมันเสียทีเถอะพ่อภุชงค์ ไอ้กวีมันจะได้หลาบจำว่าอย่ามาทำเรื่องต่ำในเรือนนี้"

"ขอรับ แม่ใหญ่" มือขาวง้างออกสุดแรงก่อนที่จะฟาดหวายเรียวลงไปบนหลังของพลลภัตม์ที่นั่งอยู่ข้างล่าง

เพี๊ยะ

แต่มันกลับไม่เหมือนที่ซ้อมไว้ เมื่อเขมินทร์ฟาดมันลงไปไม่โดนเซฟตี้ที่กันเอาไว้แต่โดนเนื้อจริงๆ ของพลลภัตม์

"โอ้ย...อึก"

เพี๊ยะ

แม้จะเจ็บจริงแต่พลลภัตม์ก็ยังแสดงต่อไปเหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเขาไม่อยากที่จะเล่นฉากนี้หลายๆ รอบ

เพี๊ยะ

"จำเอาไว้ว่าสันดานไพร่ชั้นต่ำแบบมึงและแม่มึงไม่เหมาะสมกับเรือนนี้"

เพี๊ยะ

"อย่าเอาสันดานต่ำมาใช้ที่นี่!"

เพี๊ยะ

เพี๊ยะ

"ฮึก...ฮึก..." พัดพยายามกลั้นเสียงร้องของตัวเองเอาไว้และส่งสายตาเจ็บปวดรวดร้าวแกมเคืองแค้นไปให้กับนักแสดงที่อยู่ในฉาก

"คัท!...โอเค เล่นดีมาก" ทันทีที่เสียงของเรวัตสั่งคัท เขมินทร์ก็รีบก้มลงไปขอโทษพลลภัตม์ทันที

และใช่เขากำลังเสแสร้ง

"ขอโทษนะครับพี่พัด เขมกะพลาดขอโทษจริงๆ" เขาวางไว้บนไหล่ของอีกคนพลางเอ่ยเสียงขอโทษแบบเบาๆ คนที่ได้ยินคงจะคิดว่าเขาสำนึกผิดจริงๆ แต่ความจริงคือเขาไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด

"ไม่เป็นไร มือใหม่ก็อย่างนี้พี่เข้าใจ พยายามฝึกซ้อมบ่อยๆ นะเขม จะได้ไม่พลาดอีก" ทันทีที่ทีมงานเข้ามาแกะเชือกที่มัดมือของพัดออก เขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินจากไปในทันที พัดยอมรับว่ารำคาญ เขาไม่เคยรำคาญใครเท่ากับผู้ชายคนนี้มาก่อน

น่ารำคาญ



ในช่วงพักกองตอนที่ตะวันตั้งตรงอยู่กลางศีรษะในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่บนโต๊ะอาหาร ซึ่งพัดเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขานั่งทานข้าวกับเหล่าทีมงานและนักแสดงคนอื่นๆ ตามปกติ ในช่วงเวลาแบบนี้คงไม่มีอะไรทำให้กับข้าวอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกนอกจากการพูดคุยในเรื่องที่ไม่ใช่ของตนเอง

"ข่าวว่ากันว่าพระเอกต.แอบกิ๊กกับนางร้ายม. แก แซ่บมาก"

"พริกสิบมากแม่ ข่าวจริงข่าวเต้า"

"ข่าวจริงสิยะ" การพูดคุยยิ่งออกรสชาติมากยิ่งขึ้น ถ้าข่าวนั้นเป็นเรื่องราวรักๆ ใคร่ๆ ของคนที่มีชื่อเสียง หรือเป็นข่าวฉาวๆ คาวๆ

"ว่าแต่คุณพัดกลับมาทำงานแบบนี้แล้วใครดูลูกอะคะ" และประเด็นข่าวมันก็วกกลับมาหาเขาอีกครั้ง

"พัดให้เพื่อนช่วยดูน่ะครับ แล้วก็พยายามแบ่งเวลาให้ดีที่สุด" เขาเอ่ยตอบอ้อมๆ เพราะไม่อยากลงรายละเอียดมากนักในเรื่องส่วนตัว

"พูดถึงเรื่องเวลา กูนี้ขึ้นเลย" หญิงสาวที่เป็นผู้จัดการกองถ่ายเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดูเคืองๆ

"ยังไง"

"เมื่อเช้ากูนัด 7 โมง พ่อดาราหนุ่มขอไข่แลกงาน มาให้กู 8 โมงกว่า"

"ว้าย แรงมากพี่สาว" ช่างหน้าช่างผมที่เป็นสาวประเภทสองร้องกรี๊ดออกมาทันทีที่ได้ยิน

"วุ่นวายกูต้องสลับฉากอีก พูดแล้วปวดหัว"

"ขอไข่แลกงานนี้ใครหรอคะ" น้องนักศึกษาฝึกงานในกองถ่ายเอ่ยถามขึ้นมาถึงเรื่องราวการมาสายของดาราหนุ่มท่านหนึ่ง

"ก็อีเขม พ่อสุดหล่อหนุ่มหน้าหวานน่าเอ็นดูไงลูก" ช่างแต่งหน้าสาวสองเป็นคนตอบคำถามคลายสงสัยให้

"ทำไมถึงเรียกแบบนั้นอะคะ"

"นี้เพิ่งมาใหม่ยังไม่รู้สินะ วงการมายาก็เป็นงี้แหละ จะเอาไข่ไปแลกงูแลกนมที่ไหน ถ้ามันพาไต่เต้าให้ขึ้นมายืนกลางแสงสปอตไลต์ได้ มันก็ทำกันทั้งนั้นและอีกอย่างแบ็คนางดีด้วยแต่นี่ไม่รู้สักทีว่าเป็นใคร รู้แต่ว่าแลกไข่จนได้ดี" คนทั้งกองถ่ายรู้หมดว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่มีใครพูดถึงหรือออกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นการขอไข่แลกรางวัลให้ตัวเองชนะการประกวดซุปตาร์หน้าใหม่ในรายการๆ หนึ่งของเขมินทร์ หรือการขอไข่ไปแลกกระแสกับพระเอกหนุ่มคู่จิ้นจนทำให้มีกระแสถึงทุกวันนี้ พวกเขาล้วนรู้หมดทุกอย่าง

"จริง แรกๆ นางก็น่ารักหรอกนะ หลังๆ เริ่มออกลาย พอหุงขึ้นหม้อเป็นดาราซุปตาร์นะ ก็เรื่องเยอะเรื่องแยะจนน่ารำคาญ ฉันคนหนึ่งแหละที่รอดูวันที่มันตกลงมา มันจะเอาไข่ไปแลกอะไร ฮ่ะๆๆๆ" เสียงหัวเราะดังก้องๆ ไปทั่วบริเวณที่นั่งทานข้าว พลลภัตม์ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรในวงสนทนาแค่มานั่งฟังเฉยๆ ก่อนที่จะลุกออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่จะเดินเอาจานไปให้กับฝ่ายสวัสดิการ



เขมินทร์กำลังนั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ในรถตู้ของตัวเองหลังจากทานข้าวเสร็จ เขาเข้ามานั่งหลบแดดตากแอร์ให้หายร้อนก่อนที่จะออกไปลุยงานต่อ แต่เขาก็ต้องถูกขัดจังหวะการพักผ่อนเนื่องจากมีคนมาเคาะกระจกรถของเขา ภาพในกระจกรถผ่านฟิล์มดำออกไปทำให้เห็นว่าเป็นปุย อดีตผู้จัดการของเขาที่มายืนเคาะกระจกอยู่แบบนี้

ก๊อกๆๆๆ

"เขมมาคุยกันให้รู้เรื่อง เขม!" เขมินทร์ไม่ได้สนใจชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่จะใช้นิ้วเขี่ยโทรศัพท์ต่อ

"เขม! ถ้ามึงไม่เปิดประตู มึงเป็นข่าวแน่" แต่สุดท้ายเขมินทร์ก็ทนรำคาญไม่ไหวจึงยอมเปิดประตูรถให้อีกคนขึ้นมา

"มีอะไร" เขมินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะติดรำคาญอยู่หน่อยๆ

"มึงบอกว่ายังไม่ให้กูคุยเรื่องสัญญา แต่ที่มึงไปต่อสัญญากับอีจุ๊บจิ๊บคืออะไร กูปั้นมึงมานะ กว่ามึงจะมีทุกวันนี้ได้มันเป็นเพราะกู" ปุยตะคอกใส่ร่างเล็กอย่างเหลืออดที่อีกคนอิดออดไม่ยอมต่อสัญญากับเขาสักที ที่แท้ก็เพราะว่าอีกคนไปต่อสัญญากับคนอื่น

"มึงปั้นกูมา แล้วกูสร้างเงินให้มึงไปเท่าไหร่แล้ว มึงไม่พอใจหรือไง!"

"เขม!"

"มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะอีปุย ว่ามึงโกงค่าตัวกูไปเท่าไหร่ กูไม่แจ้งความเอาผิดมึงทั้งๆ ที่หลักฐานกูก็มี ก็เป็นบุญกับตุ๊ดอ้วนๆ แบบมึงแค่ไหนแล้ว" เขมินทร์ตะคอกกลับใส่ปุยบ้างก่อนที่จะเปิดประตูรถและผลักอีกคนออกไป

"มึงไม่ต้องกลับมาวอแวกูอีกนะ ถ้ามึงไม่ทำเหี้ยใส่กู มีเหรอที่กูจะไม่ต่อสัญญากับมึง"

"..."

"ทุกอย่างมันพังเพราะมึง!" เขมินทร์ปิดประตูรถต่อหน้าต่อตาปุย คำพูดและการกระทำของอีกฝ่ายเหมือนไม้หน้าสามที่ตีแสกหน้าของชายหนุ่มร่างท้วมเข้าอย่างจัง ปุยเดินฟึดฟัดออกมาจากตรงนั้น ร่างท้วมก้าวขาเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกใครบางคนดึงแขนเอาไว้และลากเข้าไปในมุมอับสายตา

"ปล่อย! ปล่อยฉันนะ" ปุยพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากการกอบกุมในทันทีที่เห็นว่าเป็นใครที่ลากตัวเองมาตรงนี้

"ไงล่ะ โดนอีเขมมันเล่นแล้วสิ" เทียน ธีรณีเอ่ยเยาะเย้ยก่อนที่จะยอมปล่อยแขนอวบของปุย

"แกต้องการอะไร" ปุยเอ่ยถามความต้องการของอีกคน

"ก็ไม่ยังไง เจ๊เองก็แค่มันไม่ใช่หรอ"

"..."

"ฉันก็ไม่ได้ชอบมันเหมือนกัน ถ้าเรามาจับมือกัน มันก็ดีไม่ใช่หรอ"



"คัท! เลิกกอง" เสียงของเรวัตสั่งเลิกกองในเวลาเกือบจะสี่ทุ่ม ทีมงานทุกคนแยกย้ายกันเก็บของนักแสดงแยกย้ายกันไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เรวัตที่กำลังเก็บของๆ ตัวเองหน้ามอนิเตอร์ก็ถูกดึงความสนใจด้วยโทรศัพท์ที่สั่น เนื่องจากมีสายโทรเข้ามา

'แม่'

ชื่อที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาไม่อยากที่จะกดรับสาย เรวัตจึงเลือกที่จะเมินสายโทรเข้าของผู้เป็นมารดา แต่มันก็ไม่หยุดแค่นั้น เมื่อผู้เป็นแม่กระหน่ำโทรเข้ามาเรื่อยๆ จนเขาต้องกดรับ

"ฮัลโหล พะ..."

"เรน! เรนลูก"

"ครับ?" เสียงของปลายสายดูร้อนลนและสั่นแปลกๆ จนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

"เรน...คุณพ่อ"

"..."

"คุณพ่อล้ม ตอนนี้อยู่ในไอซียู"



...

- TBC -

ขอไข่แลกอะไรกันบ้างคะ ขอไข่แลกหนังสือเรียน เอาไปขายแลกไข่หมดแล้ววว

ฝากกดไลก์กดแชร์กดสับตะไคร้ด้วยนะค้าบ ติชมได้น้า

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp



หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 05-07-2020 01:21:00
รุ้สึกไม่ชอบพัดเลย ตั้งแต่ที่เพื่อนภีมมาส่งแหละ เข้าใจความห่วง ความหวังดีของคนเป็นแม่ แต่ดูไม่ใส่ใจลูกเลย ห่วงแต่ไม่ใส่ใจ เหมือนปากบอกจะดูแล จะทำเพื่อลูก แต่มันดูยังไงไม่รุ้

ภีมก็อย่าน้อยใจแม่นักเลย แค่ปันหาของแม่ของผู้ใหญ่ก็ยังคาราคาซัง เจอลูกขี้น้อยใจเข้าไปอีก มันล้าเด้อ

#.ทั้งหมอทั้งมวนนี่คืออิน ฮือออ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-07-2020 07:43:18
โหห อีเขมร่านมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-07-2020 10:58:51
พัดไม่พยามยามเข้าใจลูกเลย ลูกบอกว่าอยากเรียนภาษาแต่ทำไมบอกลูกว่าอยากให้เรียนสายวิทย์ อยากให้เป็นหมอ ถามลูกยังว่าอยากเป็นอะไร แล้วอีกนานไหมกว่าที่อีเขมมันจะได้รับกรรม อยากให้ถึงเร็ว ๆ จัง อยากรู้ว่ามันจะสมกับที่ทำกับคนอื่นไว้หรือเปล่าจริง ๆ แล้วส่วนเรนเราจะรอดูว่าทุกอย่างของอีเขมมันเปิดเผยออกมาจะรู้สึกยังไงกับการที่ต้องทิ้งสิ่งดี ๆ มาเกลือกกลั้วกับโคลนตมแบบนี้
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 05-07-2020 15:15:43
นัทมาได้จังหวะมาก คราวนี้ละเรนจะได้ลิ้มรสการถูกนอกใจมันเป็นยังไง รสชาตินี้ นัวดีม่ะ 5555 สุดท้ายก็คงเป็นอย่างที่คิดคือสินะว่าเขมจะไม่เหลือใครเลย ไปเรื่อยๆเหมือนรถขายโอ่ง 555 ทั้งพ่อล้ม เมียนอกใจ ปัญหารุมเร้า เรนคงคิดถึงพัดก็นาทีนี้แหละ ถถถถ ทำตัวเองเองนะ รับให้ได้ละ หึ มันก็นะที่พัดจะอยากให้ลูกเรียนไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่สุดท้ายแล้วหวังว่าพัดจะคิดได้ว่าไม่ควรทำ ต้องทำความเข้าใจหลายอย่างนะกับลูกๆ สนุก รอตอนหน้าจ้า ขอบคุณนะคะที่มาอัพต่อ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-07-2020 18:47:29
เหมือนมวลน้ำ หลายกระแส แห่หลากไหล
ต่างพุ่งใส่ พื้นเบื้องล่าง มากมหาศาล
แรงกระแทก แตกเป็นเสี่ยง เหวี่ยงแหลกลาญ
เข้าคืบคลาน ทำลายล้าง อย่างเหี้ยนเตียน

รับไปซะ..เรน&เขม
ปรมาณูเริ่มกดปุ่มพร้อมระเบิดชีวิต(พวกเมิง) หุหุ

ขออนุญาตไม่สงสาร ไม่เห็นใจ นะจ๊ะ
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 06-07-2020 15:48:49
  :m31: เครียดจริงอะไรจริง 
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 20 ขอไข่แลกงาน 100% (04/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-07-2020 23:27:27
วุ่นวายแท้เนาะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: lopittup ที่ 10-07-2020 22:18:11

บทที่ 21 เพราะอดีต 100%


2 เดือนก่อน

ร่างของชายชรานั่งลงที่โซฟาตัวยาวในบ้านของเขา ก่อนที่พลลภัตม์จะปลีกตัวเดินไปทางห้องครัวเพื่อไปหยิบน้ำและของว่างมาบริการให้กับแขกที่มาเยือนในวันนี้

วิวิทย์สอดส่องสายตาไปรอบบ้านก่อนที่จะวางสายตาไว้กับเด็กชายตรงหน้าที่มีศักดิ์เป็นหลานชายคนโตของตน ชายชราส่งยิ้มใจดีให้กับภีมพลก่อนที่จะเอ่ยทักทายออกไป

"น้องภีม ปู่ไม่ได้เจอหน้านานเลยโตขึ้นเยอะเลยนะ"

"ครับ" ภีมพลพยักหน้าตอบรับก่อนที่จะยกมือไหว้และเดินแยกตัวหนีกลับขึ้นไปบนห้อง เขาไม่พร้อมและไม่ได้อยากจะเจอกับครอบครัวของฝั่งบิดาในตอนนี้ ในหัวของเขามันยังคงมีแต่เรื่องเลวร้ายเกี่ยวกับคนพวกนั้นวิ่งวนไปมาอยู่ตลอด แค่เห็นหน้าเขาก็อยากจะเดินหนีไปให้ไกล

พัดที่เดินออกมาจากครัวก็ทันทีจะเห็นภาพตรงหน้าที่ลูกชายของตนเสียมารยาทกับคุณปู่ ก็รีบเร่งเดินกำลังจะเข้าไปดุลูกแต่คุณพ่อก็ห้ามไว้ก่อน แล้วเอ่ยให้อีกฝ่ายมานั่งลงใกล้ๆ กันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่เขาเพิ่งไปรับรู้มา

"พัด...พ่อรู้เรื่องหมดแล้วนะ"

"เรื่องที่พี่เรนนอกใจพัดใช่ไหมครับ คะ..."

"เรื่องที่แม่เขาบังคับไม่ให้พัดหย่า" หลังจากที่สิ้นเสียงแหบทุ้มของชายชรา พลลภัตม์ก็ชะงักไปก่อนที่จะพยักหน้ายอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริงและเอ่ยเล่าเรื่องที่ตนต้องพบเจอ

"คุณแม่ท่านไม่หย่าให้พัดหย่า...ท่านต้องการให้พัดปกป้องครอบครัวเหมือนที่ท่านทำ ท่านขู่ว่าถ้าพัดหย่า ท่านจะเอาภีมและภาไปดูแล พัดยอมไม่ได้ พัดไม่เหลือใครแล้วนอกจากลูก พัด..."

"พ่อเข้าใจ" ชายชราเอ่ยขัดพัดอีกครั้ง

"..."

"พัดอยากหย่ากับลูกพ่อไหม" เขาเอ่ยถามลูกสะใภ้ของตัวเองที่เห็นหน้าค่าตากันมาแล้วสิบกว่าปี ตั้งแต่ก่อนแต่งงานที่เรวัตมายอมรับกับเขาและริณีว่าตัวเองทำพลลภัตม์ท้อง เขานึกเอ็นดูเด็กคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเจอ พลลภัตม์เป็นคนน่ารักนิสัยดี อยู่ด้วยแล้วเย็นกายสบายใจไม่อยากห่างไปไหน รู้จักเอาอกเอาใจคนแก่เป็นและเก่งรอบด้าน เพียบพร้อมกับการเป็นสะใภ้ของอรรถจิรานันท์ เขารู้ดีว่าลูกชายของเขามันได้คนที่เหมาะสมที่จะดูแลและเป็นหน้าเป็นตาให้กับมันได้

แต่สุดท้าย...

มันก็ทำร้ายคนที่รักมันและมันรักด้วยตัวของมันเอง

เหมือนกับเขา...เหมือนกับเขาในอดีต

"พัด...พัด อยากออกไปจากตรงนี้ ฮึก"

"..."

"พัดอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว ฮึก มันไม่มีความสุขเลย ไม่มีเลย ฮึก" เสียงสั่นๆ ของพลลภัตม์ที่เอ่ยออกมาช่างดูน่าสงสาร พลลภัตม์ไม่สามารถทนอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป เขาไม่เคยมีความสุขเลยสักวันตั้งแต่วันนั้นที่รู้ความจริงจนมาถึงวันนี้ ชีวิตของเขาที่ใครๆ เคยอิจฉาว่าได้แต่งงานกับคนที่ดีพร้อมและรักเขามาก เหมือนเริ่มเดินทางไปบนถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่พอนานวันเข้า กลีบกุหลาบบนถนนเส้นนั้นมันก็ลดน้อยลง เหลือเพียงแต่พื้นลาดยางที่กักเก็บความร้อนจะลวกไปทั้งฝ่าเท้า

เหมือนกับว่าวิมานที่เขาวาดฝันไว้ จริงๆ มันก็คือทางเดินไปสู่นรก

ที่ทรมานเจียนจะขาดใจ

ชายชรามองภาพที่ลูกสะใภ้ของตนนั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้า หยาดน้ำตาทุกหยุด ความเจ็บปวดที่ผู้ชายคนนี้กำลังได้รับมันเหมือนดึงเขากลับเข้าไปสู่อดีต ลึกลงไปในความทรงจำที่เขาไม่สามารถลืมมันได้ อาจเป็นเพราะเขาไม่อยากลืมและกำลังรอคอย

รอคอยใครบางคน

ที่เขาเคยทำร้ายให้ต้องเจ็บเจียนตายเหมือนพลลภัตม์

"พ่อเคารพการตัดสินใจของพัดนะลูก...ไม่ว่าพัดจะตัดสินใจยังไง พ่อก็ยอมรับมัน"

"ขะ...ขอบคุณครับ ฮึก" ชายชราหยิบผ้าเช็ดหน้าจากในกระเป๋าเสื้อก่อนที่จะส่งให้กลับพลลภัตม์

"พัด...เรื่องที่เรนเป็นแบบนี้ พ่อเองก็มีส่วนผิดอยู่บ้างแต่พัดต้องเป็นคนที่มารับกรรมที่พ่อเคยก่อ พ่ออยากจะชดใช้ให้พัด เท่าที่พ่อจะทำได้"

"ส่วนผิด? ฮึก" พลลภัตม์เอ่ยถามด้วยแววตาสงสัย เสียงแหบทุ้มของชายชราจึงเริ่มที่จะบอกเล่าเรื่องราวในอดีต ที่ส่งผลให้เรวัตกลายเป็นคนแบบนี้

เพราะอดีต...เพราะเขา





"วิทย์...วิทย์รักจิตมากขนาดไหน" เสียงหวานของหญิงสาวที่นอนซบอกเปลือยของเขา ภายในห้องห้องหนึ่งของโรงแรมเอ่ยถาม วิวิทย์ในวัยเบญจเพสก้มลงไปจุมพิตที่กระหม่อมของสาวสวย ก่อนที่จะกระชับกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้นและเอ่ยกระซิบที่ข้างหูของอีกคน

"วิทย์รักจิตมาก...ทั้งดวงใจของวิทย์ให้จิตคนเดียว" คำบอกรักหวานล้ำถูกเอื้อนเอ่ยออกจากปากกระจับได้รูปทรงสวย ก่อนที่คนทั้งคู่จะจุมพิตกันและกันด้วยความรักและเสน่หา ร่างบางของหญิงสาวถูกคร่อมด้วยแขนแกร่งก่อนที่จมูกโด่งเป็นสันจะก้มลงไปสูดกลิ่นหอมที่ลำคอขาว ความรักเกิดขึ้นใต้แสงจันทร์และดับลงก่อนจะอรุณรุ่ง

เขาในวัย 27 ปีที่เป็นผู้บริหารหนุ่มของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ภายในประเทศเป็นทายาทเพียงคนเดียวของอรรถจิรานันท์ จึงไม่แปลกที่จะมีคนมากมายต่างอยากจับจองหัวใจของชายหนุ่มไปครอบครอง แต่เขาเองไม่ได้สนใจใครไปมากกว่า

'พิจิตรา'

เลขาสาวหน้าห้องของเขาเองที่ควบตำแหน่งเจ้าของหัวใจของผู้บริหารหนุ่มโสดอย่างเขาไปด้วย

เขาและพิจิตราคบหาดูใจกันมาได้เกือบจะสองปีแล้วตั้งแต่เขาเข้ามารับตำแหน่งแทนพ่อของเขาทันทีที่เรียนจบ แต่ความรักของเขามันไม่ได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่เขาคิด เมื่อที่บ้านของเขาไม่ยอมรับและต้องการให้เขาสมรสกับผู้หญิงอีกคนที่พ่อและแม่ของเขาคิดว่าเหมาะสมนั้นก็คือ

ริณี ธาดาวรวงศ์

สาวสวยที่มีหน้ามีตาในสังคมเนื่องจากตระกูลของหล่อนเป็นตระกูลผู้ดีเก่าที่มียศศักดิ์เหมาะที่จะเพิ่มบารมีให้กับอรรถจิรานันท์ไม่เหมือนกันกับพิจิตรา ที่เธอเป็นคนธรรมดามาจากครอบครัวที่ฐานะปานกลางและไม่ได้มียศศักดิ์แต่อย่างใด

ทั้งยังมีแฟนเก่าของพิจิตราอย่างพงศ์เผ่าที่ทำงานอยู่ในบริษัทของเขาเข้ามาเป็นปัญหาในความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งสองคน และเรื่องมันก็เริ่มที่จะบานปลายมากขึ้นไปอีกเมื่อในวันหนึ่งที่เขาและพิจิตราทะเลาะกันในเรื่องหึงหวง ทำให้เขาโกรธเธอมากจึงหนีออกไปยังไนต์คลับเพื่อดื่มให้ลืมความทุกข์ แต่มันช่างโชคร้ายเมื่อในคืนนั้นเขาเจอเข้ากับริณีคู่หมายที่ทางพ่อแม่ของเขาเห็นว่าเหมาะสมกัน จนเผลอไปมีสัมพันธ์สวาทกับเธอเข้า

และมันเริ่มที่จะยุ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อริณีตั้งครรภ์ลูกของเขา

และนั้นทำให้เขาต้องแต่งงานกับริณีเพื่อรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พิจิตราหนีออกไปจากชีวิตเขาทันทีหลังจากที่เขาแต่งงานกับริณี เธอทิ้งใบลาออกเอาไว้และหายตัวไป

ผมเสียใจมากที่ทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้มากถึงขนาดนี้ ในตอนนั้นชีวิตของผมแทบจะไม่มีความสุขเลยสักนิด ผมตามหาเธอมาตลอดหลังจากที่แต่งงาน ทุกวันผมนั่งรอคอยและเฝ้าคิดถึงแต่เธอจนในที่สุดผมก็ตามตัวเธอเจอที่ต่างจังหวัดพร้อมกับข่าวดีที่ว่า

เธอกำลังอุ้มท้องลูกของผมเช่นกัน

ผมรับเธอกลับเข้ามาดูแล ผมตัดสินใจของริณีหย่าแต่เธอไม่ยอมและเลือกที่จะรั้งผมไว้กับสถานะปลอมๆ ที่เราต่างก็รู้ว่ามันไม่เคยมีความรักหรือความผูกพันเป็นตัวเชื่อมเลย ผมจึงพาพิจิตราเข้ามาดูแลในบ้านอีกหลังที่ห่างออกไปจากบ้านใหญ่ ดูแลเธออย่างใกล้ชิดจนกระทั่งเธอคลอดลูกชายให้ผมเหมือนกันกับริณีที่คลอดไปก่อนหน้าเธอเมื่อประมาณ 3 วันก่อน ผมก็ยังไม่ทิ้งเธอไปไหนยังคงดูแลสุดรักสุดดวงใจของผมจนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นมา จึงพาเธอและชานนท์เข้าไปอยู่อาศัยในบ้านใหญ่ แรกๆ ริณีไม่พอใจเป็นอย่างมาก เราทะเลาะกันทุกวันและทุกครั้งที่เราพูดคุยกันในเรื่องนี้ มันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ผมจับได้ว่าพิจิตราแอบลอบคบชู้กับคนขับรถของเขา ในคืนนั้นเขาโกรธมาก เขาเหมือนหัวใจแตกสลายเราทะเลาะกันใหญ่โตจนผมพลาดพลั้งไปทำร้ายเธอเข้า

เธอจึงหอบลูกของผมหนีหายไป

ผมที่รู้สึกผิดก็เริ่มที่ดื่มสุราในทุกวันจนขาดสติ เมามายงานการไม่ทำ เทเงินลงไปในขวดแก้วอบายมุข จนกระทั่งผมมารู้ความจริงว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะริณีเป็นคนจัดฉาก สิ่งนั้นจึงทำให้ผมเกลียดเธอมากยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่เมามายไม่ได้สติผมจะทำร้ายร่างกายของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและลูกชายของผม และผมก็พยายามตามหาพิจิตราอีกครั้งแต่น่าเสียดาย

ที่ครั้งนี้เธอหนีผมไปไกลเหลือเกิน



"พ่อ...พ่อเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรวัตเติบโตมาอย่างนี้ ทุกอย่างมันเป็นเพราะพ่อเอง พ่อทำร้ายเขาทำร้ายมาตลอด และก็รวมถึง...ลูกชายอีกคนของพ่อด้วย พ่อทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบตัวพ่อ พ่อมันเห็นแก่ตัว" ชายชราปล่อยให้น้ำตาไหลผ่านแก้มโดยไม่คิดที่จะเช็ด เขาหวังให้ความเจ็บปวดนี้ช่วยทดแทนกับความเจ็บปวดในอดีตที่ลูกของเขาเคยได้รับ

แต่เขารู้ว่ามันแทนกันไม่ได้

มือเรียวยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้กับชายชราก่อนที่จะปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมในพื้นที่ เราต่างปล่อยให้ความเงียบช่วยเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้น ก่อนที่เสียงทุ้มของคนเด็กกว่าจะเอ่ยออกมา

"ถ้าคุณพ่อเจอกับลูกอีกคนของคุณพ่ออีกครั้ง...คุณพ่อจะทำอะไรครับ"

"พ่ออยากขอโทษเขา...และจะชดเชย ในสิ่งที่พ่อเคยทำ" เสียงแหบทุ้มสั่นๆ เอ่ยตอบคำถามที่อีกคนถามถึง

"คุณชานนท์...เข้ามาสิครับ" สิ้นเสียงของพลลภัตม์ ชายชราก็ชะงักก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปตามดวงตากลมที่มองออกไปนังนอกประตูกระจกหน้าบ้าน ปรากฏเป็นร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับเขามากเสียเหลือเกิน วิวิทย์ค่อยๆ ลุกขึ้นและก้าวขาสั่นๆ เดินตรงไปที่ประตูอย่างช้าๆ ภาพตรงหน้าอาจจะพร่าเลือนไปสักเล็กน้อยเนื่องจากมีม่านน้ำตามาบดบังอยู่ มือเหี่ยวย่นเอื้อมไปแตะบานประตูเพื่อเลื่อนเปิดออก ก่อนที่จะไม่มีอะไรขวางกั้นเขาและคนตรงหน้า

ลูกชาย...ลูกชายอีกคนขอเขา

วิวิทย์ปล่อยเสียงสะอื้นให้ดังมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาเอื้อมมือไปจับแขนของร่างสูง หยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลผ่านไปอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยพูดอะไรออกไปแต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

"ปล่อยผม" เสียงเข้มของอีกคนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะสะบัดแขนให้หลุดจากการกอบกุมของชายชรา

"นนท์...นี่พ่อเองลูก พะ..."

"พ่อผมตายไปแล้ว" ร่างสูงสะบัดแขนออกจากการกอบกุมได้สำเร็จก่อนที่เขาจะหันเดินจากชายชราออกมา โดยที่ไม่หันกลับไปมองเลยแม้แต่น้อย



รถยนต์หรูของเรวัตจอดในที่จอดรถของโรงพยาบาล ก่อนที่ขายาวจะก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปภายในตึกอย่างเร่งรีบ ไม่กี่นาทีต่อมาร่างสูงก็ปรากฏกายที่หน้าห้องฉุกเฉิน คุณหญิงริณีที่หันมาเจอเข้ากับลูกชายของตัวเองก็รีบวิ่งเข้ามากอดลูกและเริ่มสะอื้นอีกครั้ง

"โอ๊ย...เรน เรน คุณพ่อ ฮือ" เสียงสั่นๆ ของคุณหญิงดังไปทั่วบริเวณ แขนแกร่งประคองหลังของผู้เป็นแม่เอาไว้ก่อนที่จะลูบไปมาคล้ายกับกำลังปลอบประโลมอีกคน ก่อนที่จะพาคุณหญิงไปนั่งพักที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงเขาจะบอกว่าตัวเกลียดพ่อและแม่ของตัวเองมากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่ได้ใจร้ายพอที่อยากจะให้ท่านเสียไป ในตอนนั้นก็ปรากฏร่างบางของชายหนุ่มที่วิ่งตามเรวัตเข้ามาก่อนที่จะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคุณหญิงริณีและเรวัต

"พี่เรนไม่รอเขมเลยนะครับ เขมหลงทางเลย" เขมินทร์เอ่ยประชดก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ กับเรวัต ด้วยมีสายตาของคุณหญิงริณีที่มองมาอยู่ตลอด หลังจากที่เขมินทร์เดินมาที่ห้องฉุกเฉินได้ไม่นาน ก็ปรากฏร่างของอีกคนที่มารอที่หน้าห้องฉุกเฉินเช่นกัน

"พัด" เรวัตเอ่ยเรียกชายหนุ่มอดีตภรรยาของตัวเองทันทีเห็นอีกฝ่ายเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา

"แกมาทำไม" แต่ไม่ทันที่พัดจะได้เอ่ยอะไรเสียงของคุณหญิงริณีก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

"ผมเป็นห่วงคุณพ่อ" พลลภัตม์ตอบกลับอีกคนด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง

"ใครพ่อแก...ที่นี่ไม่มีใครเป็นญาติแกทั้งนั้น" คุณหญิงริณีอารมณ์เริ่มที่จะรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นหน้าของอดีตสะใภ้อย่างพลลภัตม์

"ไม่มีใครเป็นญาติผมก็จริงครับ...แต่ผมนับถือท่านวิวิทย์เหมือนพ่อแท้ๆ ไม่เหมือนกับคุณที่ผมไม่ได้นับถือ"

"แก!!" คุณหญิงริณีพุ่งตัวเข้าไปหาพลลภัตม์แต่ถูกลูกชายของเขาห้ามเอาไว้ได้ก่อน ไม่งั้นคงเกิดสงครามขึ้นกลางโรงพยาบาลแน่ๆ

"คุณแม่ครับ ใจเย็นๆ ก่อนครับ"

"แกไม่เห็นที่มันด่าแม่หรือไงเรน!" คุณหญิงหันมาตวาดเสียงใส่ลูกชายของตัวเอง

"เห็นครับ แต่ที่นี่โรงพยาบาลผมไม่อยากให้มีเรื่อง อยากให้เกรงใจหมอและพยาบาลที่กำลังทำงานอยู่บ้าง" เรวัตลูบไหล่อีกคนพลางเอ่ยบอกให้คุณสูงอายุใจเย็นลงมากกว่านี้

"เลิกกับลูกชายฉันไปแล้ว ยังจะมาประจบพ่อเขาเพื่อหวังสมบัติหรือไง หน้าไม่อาย" คุณหญิงริณียังคงเหน็บแนมอีกคนก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ตามที่ลูกชายบอกและเฝ้ารอให้แพทย์เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินสักที

ผ่านไปนานเกือบจะสามชั่วโมงเข้าไปแล้ว

แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่แพทย์จะเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน คนที่รออยู่ข้างนอกก็เริ่มที่จะกระวนกระวายใจมากยิ่งขึ้นยกเว้นแต่เขมินทร์ที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

"เขมจะไปซื้อของพี่เรนกับคุณแม่อยากได้อะไรไหมครับ" เสียงเล็กเอ่ยถาม

"ไม่...ฉันไม่อยากได้" คุณหญิงตอบโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปมองอีกคนแต่สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ประตูห้องฉุกเฉิน

"พี่ขอน้ำเปล่าแล้วกันนะ" เรวัตที่เห็นเขมินทร์หน้าเสียจึงรีบเอ่ยบอก เขมพยักหน้ายิ้มรับก่อนที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น

"อีแก่นี่น่าหมั่นไส้เป็นบ้า" เขาแอบพูดลับหลังถึงอีกคนก่อนที่ขายาวๆ จะก้าวเดินไปตามทาง ร่างเล็กที่ใส่ผ้าปิดปากเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อหยิบของที่ต้องการมาจ่ายเงินและยืนรอคิว มีบางคนที่จำเขาได้บ้างแต่ไม่ได้เข้ามาทักเพราะไม่แน่ใจ แต่เขมไม่ได้สนใจอะไร หลังจากที่ได้ของที่ต้องการแล้ว ร่างเล็กก็เดินย้อนกลับไปในทางเดิมพลางก้มหน้าเช็กโทรศัพท์ไปด้วย เขาไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับแผ่นอกของคนตรงหน้า

"โอ๊ย...เดินยังไงเนี่ย" เขมินทร์เอ่ยโวยวายพลางเงยหน้าขึ้นมามองคู่กรณีแต่เขาก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่เดินมาชนเขาคือใคร

"ขอโทษ" ร่างสูงเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินเลี่ยงอีกคนไป แต่เขมินทร์ก็คว้าแขนของอีกคนไว้ได้ก่อน

"ปล่อย" เขาปรายตามองมือที่จะกอบกุมแขนเขาเอาไว้พลางเอ่ยเสียงเข้ม

"พี่จะรีบไปไหนละ พี่นนท์อยู่คุยกันก่อนสิ" ผู้ชายตรงหน้าของเขานั้นก็คือแฟนเก่าที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

ชานนท์



...

- TBC -

ขอโทษที่หายไปนานนะครับ พอดีเราไม่สบายนิดหน่อย แต่ตอนนี้เรากลับมาแล้ว

ฝากกดไลก์กดแชร์กดสับตะไคร้ด้วยนะค้าบ ติชมได้น้า

พูดคุยใน #เกมนอกใจ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าบ

ทวิตเค้าเอง >> https://twitter.com/lopittupp



หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-07-2020 22:23:11
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-07-2020 22:41:16
ชีวิตช่างอลวนกันจริง ๆ เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง รุ่นพ่อแม่เป็นยังไง รุ่นลูกก็เป็นอย่างนั้น

ขอให้คนแต่งหายป่วยไว ๆ นะ :L2:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 11-07-2020 00:18:42
นนท์อย่าทิฐิมากเลยนะ พ่อเขาผิดแต่ก็รู้ความผิดตัวเองและอยากขอโทษ สำนึกได้ก็ควรให้อภัยอโหสิกรรมต่อกันได้นะก่อนมันจะสายไปกว่านี้ ซวยจริงที่เคยเป็นแฟนเก่าเขม น่ารำคาญและสลัดยากมาก ดีนะที่นนท์หลุดมาได้ พุทโธ~~~~55555 คุณหญิงแก่แล้ว ยุบหนอพองหนอนะคะ ครอบครัวตัวร้ายเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก เอาๆดูกันไป 5555 ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนหน้าเลยจะเป็นยังไงกันบ้าง ดูแลร่างกาย พักผ่อนเยอะๆด้วยนะคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-07-2020 20:56:10
กรรมเป็นตัวชี้บอกถึงผลแห่งกรรม
ต้นเหตุของปัญหาเกิดขึ้นจากตัณหาล้วนๆ
อย่าได้ไปกล่าวโทษถึงคนอื่นเลย

ใครทำอะไรก็ต้องยอมรับผลของมัน
ตามเจตนาาที่กระทำไป..ทั้งหมด สาธุ

ดูๆ แล้ว กิริยาและคำพูดของคุณแม่ริณีกับเขมรินทร์ ออกจะไปแนวเดียวกันนะ
หรือจะพูดให้ฟังง่ายๆ คือ สองคนเหมืือนจะสันดานเดียวกันอ่ะ ฮ่าฮ่า

มิน่าล่ะ เรนถึงถูกอกถูกใจ ตกหลุมรักเขมง่ายดายปานนั้น
เขมคือคนที่คู่ควรเรน กร๊ากกกกกกกกกก

แต่ว่าเมื่อไหร่ชานนท์จะรุกพัดสำเร็จซะที
คนอ่านรอลุ้นจนเม้าส์จะถลอกแว๊วววววว อิอิ
+1 ให้กับตอนนี้จ้าาาาาา

หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-07-2020 23:17:50
สกปรกไปหมด
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-07-2020 10:09:09
ตัณหาแท้ ๆ ทำให้เกิดเรื่อง
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 25-09-2021 20:58:05
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 30-09-2021 18:05:32
ไม่มาต่อหรือค่ะ หรือลงในที่อื่นแทนแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-10-2021 23:44:13
1 ปีกว่าผ่านไป
ตอนใหม่ก็ยังไม่มา
หัวข้อ: Re: Unfaithful เกมนอกใจ (Mpreg) // บทที่ 21 เพราะอดีต 100% (10/07/2020)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 18-10-2021 08:56:49
 :pig4:
 :3123: