☆☆ฤกษ์มงคล☆☆ ●••••••••》ตอนที่28…เล่นบอลนะครับ! 19/12/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☆☆ฤกษ์มงคล☆☆ ●••••••••》ตอนที่28…เล่นบอลนะครับ! 19/12/63  (อ่าน 22352 ครั้ง)

ออฟไลน์ Heroyj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องฤกษ์จิตใจดี เป็นเด็กสุขภาพจิตดีมาก ชอบแบบนี้ ขอบคุณไรเตอร์ค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
16…สิ่งที่ชอบ








ตู้ม



ตู้ม




"เร็วสิพี่โดดเลย อย่างหนุก" ร่างเล็กตะโกนเย้วๆอยู่ข้างล่างหลังจากโชว์กระโดดตีหลังกาไปหลายตลบ คนพี่ทำเพียงแค่หันไปมองแล้วเลิกสน เขานั่งอยู่บนโขดหินสูงใต้กระแสน้ำตกปล่อยให้น้ำไหลผ่านร่างเขาไปร่วมชั่วโมงแล้ว ตอนแรกร่างเล็กก็อยากทำตามแต่เมื่อลองไปนั่งใต้กระแสน้ำที่ไหลลงมาร่างเขาก็โดนแรงผลักของน้ำให้ไหลลื่นหล่นตูมลงข้างล่างจนท้อใจ เลยเปลี่ยนไปเล่นตีลังกากระโดดลงมาแทน


        ลืมตาขึ้นเมื่อไม่ได้ยินเสียงโวยวาย หายไปไหน ลุกขึ้นมองหาด้วยท่าทางร้อนรน หรือน้องจะจมน้ำ คิดได้ดังน้ำก็กระโดดลงน้ำตูม ลงมาจากข้างบน ว่ายไปรอบๆ กำลังจะตะโกนเรียกชื่อที่ไม่เคยหลุดออกจากปากเลยแม้สักครั้งตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลัวน้องจะขำถ้าเกิดพูดแล้วไม่ชัด ทว่า...สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างคุ้นตากำลังเกาะโขดหินก้อนเล็กแอบมองใครอยู่ฝั่งตรงข้าม ว่ายน้ำเข้าไปหาใกล้ๆก็เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักผมยาวสลวยนั่งแกว่งขาเล่นน้ำอยู่บนโขดหิน ร่างเล็กหันมามองเมื่อรู้สึกว่าใครว่ายน้ำเข้ามาใกล้ ยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากบางบ่งบอกเป็นนัยๆว่าอย่าเสียงดัง


"พี่หล่อเห็นมั้ย น่ารักมากๆ ผมยาวๆสเป็คผมเลย" ร่างเล็กชี้ให้คนพี่ดูด้วยท่าทางเขินๆหน้าแดงหูแดงไปหมด เขาไม่เข้าใจหรอกว่าน้องพูดว่าอะไรแต่ดูจากท่าทางเขาก็พอจะเดาได้ เด็กผู้หญิงผมยาวอีกแล้วสินะ เขาสังเกตน้องมาหลายครั้งแล้วน้องจะชอบมองเด็กผู้หญิงผมยาว จังหวะนั้นเองเด็กผู้หญิงที่ร่างเล็กแอบมองก็หันมามองทางพวกเขา ร่างเล็กตกใจกระโดดไปหลบหลังพี่อย่างว่องไว สองแขนโอบรอบลำคอพี่ไว้ท่อนบนเปลือยเปล่าแนบสนิทไปกับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของพี่ หน้าแดงๆซุกอยู่หลังคอของคนเป็นพี่ พ่นลมหายใจร้อนๆอยู่แถวต้นคอพี่อย่างไม่รู้ตัว เด็กผู้หญิงน่ารักเมื่อหันมาเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงนี้ก็ส่งยิ้มเขินมาให้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามแนวโขดหินมาหย่อนตัวลงนั่งอยู่ใกล้ๆ


          ร่างเล็กหน้ามุ่ยเมื่อเห็นพี่หล่อกับสาวน่ารักคนนั้นสนทนากันอย่างออกรส ไม่เห็นหรือไงว่าเขาก็อยู่ตรงนี้ พวกเขาพูดภาษาอะไรกันเขาไม่เข้าใจ คนน่ารักคนนั้นเก่งจังเลยพูดภาษาเดียวกับพี่หล่อได้ด้วยมีแต่เขาสินะที่ไม่เก่ง ร่างเล็กแยกตัวออกมาว่ายน้ำเล่นคนเดียวหันไปมองอีกครั้งก็ยังคงคุยกันอยู่ หงุดหงิดอ่ะ รู้ว่าน้องชอบทำไมถึงยังคุยหรือพี่ไม่รู้ แล้วทำไมพี่ถึงคุยกับเขานานจังทีกับเขาไม่เห็นจะพูดอะไรเยอะแยะขนาดนี้เลย แหนะ ยังไม่เลิกคุยอีก เออ เล่นกันไปสองคนเลย เขากลับบ้านแล้ว!!


          ร่างเล็กขึ้นจากฝั่งเดินหน้ามุ่ยจะกลับบ้านเตะดิน เตะใบไม้อย่างเด็กไม่พอใจอะไรสักอย่างแล้วเริ่มพาล


"จะไปไหน" ประโยคที่เขาฟังไม่เข้าใจดังขึ้นพร้อมกับแขนถูกรั้งไว้ หันไปมองก็เป็นพี่หล่อนี่เอง


"กลับบ้านแล้ว!! ไปคุยกันต่อดิ ไม่ต้องมาสนใจผม แย่งของน้อง!!" ร่างเล็กสะบัดแขนออก วิ่งไปที่จักรยานคู่ใจและปั่นออกไปด้วยสีหน้ามุ่ยๆ


          คนพี่ส่ายหัวน้อยๆอย่างไม่ถือสา เขาไม่เคยใส่ใจว่าน้องจะไปแอบมองใครแล้วกลับมาหน้าแดงอยู่ข้างๆมาส่งเสียงหงุงหงิงๆอยู่ข้างหูด้วยภาษาไทยที่เขาฟังไม่เข้าใจ แต่พอสังเกตอาการก็พอจะรู้ว่าเจออะไรที่ถูกใจมา มาครั้งนี้เขาก็ไม่ได้อยากจะสนใจอะไรเพราะยังไงเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีทางจะเข้าหาก่อนแน่ๆ แต่พอเห็นว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาหาด้วยตัวเองเขาก็มีความรู้สึกอยากคุยด้วยขึ้นมา ถึงจะรู้ว่าน้องจะโกรธแต่ก็ทำ โชคดีของเขาที่เด็กผู้หญิงคนนั้นเรียนนานาชาติถึงพูดกันรู้เรื่องบ้าง พรุ่งนี้เด็กคนนั้นก็กลับแล้ว สิ่งที่ทำไปไม่มีเหตุผลหรอกแค่อยากทำอยากแกล้งน้องเฉยๆ คนพี่บอกกับตัวเองไว้แค่นั้น


"นายน้อยครับมีคนมาหา" บอดี้การ์ดคนสนิทเอ่ยบอกขณะที่เจ้าของนัยน์ตาสีเทาหม่น กำลังทำความสะอาดวัตถุสีดำเงา ใบหน้าหล่อไร้ที่ติพยักหน้ารับ ทว่า...ถึงจะยังเด็กแต่ไม่ว่าใครเห็นเด็กคนนี้ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพระเจ้าช่างตั้งใจสร้างผลงานชิ้นนี้เหลือเกิน อีกทั้งท่าทางเงียบขรึม น่าเกรงขาม ที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัยยิ่งชวนให้หลงใหล น่ามอง สองมือรีบประกอบวัตถุสีดำด้วยความว่องไวเพียงพริบตาเดียวอย่างผู้ชำนาญ อ่า อีกสามวันเขาก็ต้องไปจากที่นี่แล้วสินะ แค่คิดในใจ ข้างในอกเขาก็เหมือนมีหลุมดำขนาดใหญ่เริ่มก่อตัวขึ้น


          ร่างสูงสมส่วนอย่างคนแข็งแรงเดินออกมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านพัก  ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างเผลอตัวเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า ร่างคุ้นตาบนรถจักรยานคู่ใจกำลังชูกระดาษแผ่นใหญ่ที่เขียนเป็นตัวภาษาอังกฤษลายมือคุ้นตาเหมือนวันแรกที่ได้อ่าน 'ไปกินข้าวกันนะ วันนี้ยายทำแกงเขียวหวานของโปรดพี่ด้วย (ยายให้มาชวน)' เอาป้ายลงก็ปรากฎใบหน้างอง้ำของคนชูป้าย


"จะกลับวันไหนเหรอ" เด็กตัวเล็กหน้านิ่งเอ่ยถามเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ถึงสำเนียงจะแปลกๆแต่เขาก็เข้าใจ เขากินข้าวด้วยกันเกือบทุกวันกับคนบ้านนี้ที่อยู่กันสามคนยายหลาน บางวันเขาก็สอนภาษาอังกฤษให้เด็กหน้านิ่ง เด็กคนนี้ฉลาดเป็นกรด ใฝ่เรียนใฝ่รู้ เคยบอกเขาว่าอยากเรียนมวยไทย เด็กแบบนี้เขาอยากส่งเสริม ไม่เหมือนคนเป็นพี่เลยแค่คิดเขาก็ได้แต่ส่ายหัวให้กลับคนที่นั่งหน้ามุ่ยตักข้าวเข้าปากคำโต


"อีกสามวัน"


"เร็วจังเลย"


"อืม"





"นายน้อ…"


"ฮือๆๆ" ยังไม่ทันจะจบประโยคพูดของบอดี้การ์ดคนสนิท แค่เสียงคุ้นหูที่ดังแว่วเข้ามาเจ้าของนัยน์ตาสีเทาหม่นก็แทบกระโจนออกไปหาต้นเสียง 'จะกลับแล้วเหรอ' ป้ายภาษาอังกฤษที่เจ้าร่างเล็กถือเอียงกะเท่เร่ปรากฎแก่สายตา ใบหน้าขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา มือของคนเป็นพี่สั่นระริกเมื่อเห็นน้ำตาของน้องครั้งแรก เขาทำอะไรไม่ถูกนอกจากดึงร่างเล็กมากอดจนจมอก 'อย่าผูกพันกับใคร' นี่คือกฏข้อแรกของ 'ตระกูลซาล์เลโอเน่' นี่คือผลลัพธ์หรือเปล่า


"พี่บอกน้องผมเมื่อวาน ฮึกๆ น้องผมบอกวันนี้ เหลือ...เหลืออีกสองวันใช่ไหม พี่น่าจะบอกผมบ้างสิ บอกให้เร็วกว่านี้" ตั้งใจฟังร่างเล็กพูดแต่เขาไม่เข้าใจเลย


"ผมหายโกรธพี่แล้วเราไปเที่ยวกันเถอะ" คนน้องเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ จูงมือคนพี่ไปที่จักรยานตัวเอง คนพี่เดินแซงหน้าไปขึ้นคร่อมที่คนขับบ่งบอกว่าจะให้คนน้องซ้อน


           คนน้องหัวเราะสดใสดังลั่นไปทั่วท้องถนนเมื่อคนพี่ขับรถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเหมือนงูเลื้อยเป็นที่ถูกอกถูกใจคนน้อง พวกเขากำลังขับรถชมวิวสองข้างทางที่เต็มไปด้วยดอกคูนสีเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตา พื้นถนนลาดยางเกลื่อนกลาดไปด้วยสีเหลืองอร่ามของดอกคูน เป็นภาพที่สวยงามตราตรึงใจ คนพี่เคยเห็นดอกซากุระที่ญี่ปุ่นนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับที่นี่เมื่อมีเสียงหัวเราะสดใสดังตลอกทาง…


          ทว่า...สายตาเฉียบคมก็เหลือบไปเห็นรถตู้สีดำน่าสงสัยที่ขับตามอยู่ด้านหลัง มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาและกดปุ่มฉุกเฉิน การที่เขามาปั่นจักรยานกับน้องจะมีคนติดตามมาด้วยสี่คนซึ่งจะตามมาอย่างเงียบๆ ถ้าสี่คนนั้นยังอยู่ไม่มีทางที่รถตู้นี่จะขับตามมาได้ ตาคมเห็นทางเลี้ยวเล็กๆตรงหน้าที่ไม่มีทางที่รถใหญ่จะขับเข้ามาได้ ตัดสินใจเลี้ยวลงและออกแรงปั่นจนสุดแรง จนคนนั่งซ้อนท้ายเริ่มแปลกใจ มาจนสุดทาง ทางข้างหน้าไม่สามารถอำนวยให้ขับต่อไปได้เพราะเป็นป่า จอดรถอย่างเร่งรีบก่อนจะดึงข้อมือน้องที่มองด้วยความไม่เข้าใจออกวิ่ง แล้วก็วิ่ง


"พี่!! เป็นอะไรวิ่งทำไม" ร่างเล็กถามอย่างไม่เข้าใจ



ปัง!!



ปัง!!


     

         เสียงปืนดังสนั่นร่างเล็กหยุดชะงักตาเบิกโพลง ถึงเขาจะยังเด็กเขาก็เคยดูทีวีเสียงแบบนี้ไม่ดี อีกทั้งสีหน้าของพี่ที่เครียดอย่างเห็นได้ชัด และเสียงเอะอะตะโกนโวยวายฟังไม่รู้เรื่องที่ดังไล่หลังมา แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าไม่เป็นมิตร ร่างเล็กถูกผลักให้ออกวิ่งอีกครั้งหลังจากหยุดชะงักเพราะเสียงปืน วิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่ง แค่หันไปมองแล้วเห็นพี่วิ่งตามมาเขาก็รู้สึกอุ่นใจ…


          เจ้าของนัยน์คมสวยหยิบวัตถุสีดำวาวที่เหน็บกางเกงไว้ออกมาจากด้านหลัง ตาคมเฉียบเห็นหัววับๆแวมๆโผล่พ้นป่าหญ้า ยกปืนขึ้นเล็งด้วยแขนข้างเดียวอย่างใจเย็น


ปัง! ฮวบ



ปัง! ฮวบ



ปัง! ฮวบ



          ทุกกระสุนที่ลั่นไกออกไปคือคำสั่งตาย ไม่มีพลาดแม้แต่นัดเดียว และออกวิ่งตามน้องไปติดๆ เอื้อมมือไปกุมมือเล็กที่สั่นเทาใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา น้องร้องไห้อีกแล้ว เมื่อครู่ เมื่อครู่น้องพึ่งจะหัวเราะได้



ปัง!!



อึก!!



"พี่!!!"









"อืมมมมม" หนาวจัง ซุกตัวหาความอบอุ่น อ่า เจอแล้ว หมอนข้างแข็งจัง หืม? หมอนข้าง



พรึ่บ


 

          ลืมตาอย่างรวดเร็ว อ๊ะ ไอ้สัส ขี้ตาติดขนตาลืมไม่ค่อยขึ้น ขยี้สักพักแคะสักหน่อย ปรับโฟกัส เฮ้ย นี่มันบนเตียงนี่ สำรวจรอบตัวสักพักก็ต้องสะดุ้งอีกรอบที่สอง นอกจากผมจะอยู่บนเตียงพี่ราล์ฟแล้วยังนอนเกยอยู่บนอกพี่เขาด้วย เชี่ยไรวะเนี่ยตัวกู ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งเกาหัวอย่างงงๆ มีไฟหัวเตียงที่เปิดสลัวๆไว้ทำให้พอมองเห็นอยู่บ้าง มองดูนาฬิกาตีหนึ่งกว่า เชี่ย เท่าที่จำได้คือกำลังนอนแช่น้ำเดือดๆอยู่ แล้วภาพตัดเลย หันไปมองคนข้างๆที่กำลังนอนหลับสนิทเปลือยท่อนบน เผยหุ่นที่ใครๆก็ต่างอิจฉารวมถึงผมด้วย อยู่ดีๆคอก็แห้งต้องกลืนน้ำลายกันหลายอึกเลยทีเดียว แอบยกผ้าห่มขึ้นส่องดูถอนหายใจอย่างโล่งอก พี่ราล์ฟใส่กางเกงนอน


           ย้ากกก นี่ผมคิดอะไร? คิดว่าพี่เขาจะนอนแก้ผ้าหรือไงคิดอะไรวะเนี่ย นั่งทึ้งผมตัวเองสักพักก็ต้องชะงัก พี่ราล์ฟปล่อยผม ค่อยๆคลานเข้าไปหายื่นมือไปจับผมพี่เขาเบาๆ ลื่นชะมัดเลย กลิ่นเป็นยังไงวะ ค่อยๆหยิบผมพี่เขาขึ้นมาแตะจมูก…


หมับ


เฮือก


"ซนอะไร" ผมค้างเติ่งเมื่อพี่ราล์ฟจับข้อมือผมขณะที่หยิบผมพี่เขาขึ้นมา หลักฐานแน่นหนาฉิบหาย


"ปะ...เปล่าครับ" ปฏิเสธไม่ได้ดูหลักฐานในมือเลยกู


"ถ้าอยากนอนหลับแบบสงบก็จัดการตัวเองดีๆ" หือ? งงกับเขาพูดพี่หมอ แต่เมื่อเห็นสายตาพี่หมอที่จ้องมองมาทางผมก็เลยต้องมองตามสายตาพี่หมอกลับมาที่ตัวเอง สะดุ้งโหยง เมื่อเห็นตัวเองอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำไม่น่าตกใจเท่าที่มันมีสภาพหลุดลุ่ยอยู่ตอนนี้ ด้านซ้ายผมตั้งแต่หัวไหล่มาจนถึงอกเปลือยเปล่า แขนเสื้อคลุมด้านซ้ายตกมาอยู่ถึงข้อศอก ขาซ้ายเย็นวาบเมื่อรอยแยกของชุดคลุมแหวจนเห็นสะโพกเปลือย ตอนนี้ผมเหมือนใส่กระโปรงที่แหวกข้างมาถึงเอว สรุปด้านซ้ายผมโป๊ แอบๆล้วงมือเข้าไปสำรวจข้างในไม่มีแม้กระทั่งซับใน ไอ้สัส รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยท่ามกลางสายตาพี่หมอที่จ้องตาไม่กระพริบ


"มองอะไรเล่า!!" เริ่มโวยวายไม่มีเหตุผล อายจนผูกปมผ้าผิดๆถูกๆ


"ไม่ใช่ทำให้พี่มองเหรอ" พี่หมอลุกขึ้นมานั่ง จับมือผมออกแล้วผูกปมชุดคลุมให้ผม


"ไม่ใช่พวกโรคจิตชอบโชว์นะเว้ยพี่หมอ"


"ชอบพูดจริงนะไอ้คำสบถพวกนี้กับพี่น่ะ"


"โอ๊ยๆ พี่หมอ เจ็บ" ร้องประท้วงพี่หมอที่กำลังบีบจมูกผมไปมาเหมือนสนุก


"ไม่ใช่พวกชอบโชว์แล้วทำไมไปนอนหลับในอ่างสภาพเปลือยอย่างนั้นล่ะ มัวแต่ซนไม่รู้จักพักผ่อน"


"หา!? เอาผมออกมาเหรอ"


"อืม" พี่หมอตอบง่ายๆพร้อมกับล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม


"พี่...พี่ใส่ชุดคลุมให้ผมเหรอ"


"อืม" ผมผงะกับเขาตอบง่ายๆของพี่หมอหน้าร้อนผ่าวจนเกือบไหม้ ผมไม่เคยซีเรียสเลยที่จะโป๊เปลือยกับผู้ชายกับเพื่อนๆผู้ชายผมก็เคยอาบน้ำด้วยกันบ่อย แต่เมื่อเป็นพี่หมอ มัน...มันคือข้อยกเว้น ผมขอพักคำตอบ เพราะผมก็ตอบไม่ได้


"นอ…."


"พี่อย่าพูดนะ!!! " โหวกเหวกโวยวายเหมือนธาตุใกล้แตก


"ฤกษ์ พี่จะบอกให้นอนได้แล้ว"


"อ้าวเหรอ ผม...ผมนึกว่าพี่จะแซวผม ห้ามนะ!!" ถึงผมจะมั่นใจมาตลอดว่าลูกชายไม่แพ้ชายไทยแน่นอนก็เถอะ ก็พี่เขาเชื้อฝรั่งเลยนะเว้ย ฮึกๆ กลั้นไว้ๆ


"เรามีอะไรให้แซวล่ะ หึๆ พี่ไม่แซวคนไข้ตัวเองหรอก พี่มีจรรยาบรรณนะ"


"คนไข้?"


"ตอนเย็นเรามีไข้อ่อนๆน่ะ ตอนบ่ายก็เล่นน้ำ ตกเย็นก็แช่น้ำพี่ฉีดยาลดไข้ให้เมื่อช่วงหัวค่ำ เสียงดังอย่างนี้คงหายดีแล้วมั้ง"


"ขอบคุณครับ" ยกมือไหว้อย่างเคยชิน


"หิวไหม ตอนเย็นเรายังไม่ได้ทานอะไร" พี่หมอถามเสียงนุ่ม ละมุนจังวะหรือเพราะผมเป็นคนไข้


"ไม่ครับ"


พรึ่บ


"งั้นก็นอนได้แล้ว" พี่หมอดึงผมลงไปนอนข้างๆพี่เขา


"ไม่ได้กลับบ้านเลย" พูดออกไปอย่างคนไม่อยากจะนอน ตื่นเต็มตาแล้วอ่ะ หลับเต็มอิ่มเลย


"ใส่บาตรเสร็จพี่จะไปส่ง" พี่หมอหลับลงแล้วแต่ปากก็ยังตอบผมอยู่


"พี่จะใส่บาตรกับผมเหรอ"


"อืม" มองด้านข้างใกล้ๆแบบนี้ยิ่งหล่อ จมูกโด่งเป็นสันเลย


"พี่เข้าห้องน้ำได้ไงผมว่าผมล็อคแล้วนะ" ผมล็อคเองกับมือ


"เราไม่ได้ล็อค"


"จริงเหรอ" เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง


"พี่ราล์ฟ นอนไม่หลับแล้ว"


"....."


"พี่ราล์ฟ"


"....."


"เฮ้อ"


          ผมพลิกไปพลิกมาอย่างคนตื่นเต็มตา นอนไม่หลับอ่ะ เอามือจิ้มแขนคนข้างๆไม่มีไหวติ่ง หลับเร็วชะมัดเลย ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆ เอามือเท้าคางมองหน้าหล่อเทวดาตั้งแต่หน้าผาก คิ้ว ตา จมูก ปาก ลำคอแกร่ง แผ่นอกกำยำ หน้าท้องเป็นรอน คนอะไรเพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง การศึกษาและฐานะ เมื่อตอนกลางวันผมคิดว่าเราทะเลาะกัน แต่บรรยากาศแบบนั้นเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย รู้สึกคล้ายเราเคยทะเลาะกันแล้วก็ดีกันเป็นเรื่องปกติ ผมสนิทกับพี่ขนาดมานอนบนเตียงพี่สองคืนแล้วเหรอ ขนาดพี่อิฐกับพี่ตังค์ผมยังไม่เคยเลยอย่างดีสุดคือโซฟาของพวกพี่สายรหัสสุดรัก พี่ดีกับผมจังแต่ในบางครั้งการกระทำของพี่ก็ทำให้ผมสับสนจนเผลอร้องไห้….


           ซบหน้าลงกับหมอนตากลมจ้องมองเส้นผมดำสนิทคลอเคลียอยู่ตรงไหล่แกร่ง มือเรียวยื่นออกไปจับเล่นดึงเข้ามาใกล้จมูกโด่งรั้นของตัวเองสูดดมเส้นผมนุ่ม กลิ่นเดียวกับกลิ่นกายคนตรงหน้า สูดดมอีกรอบอย่างติดใจ มืออีกข้างจับผมนุ่มเล่นไปมาอย่างเพลินมือ จากไม่มีทีท่าว่าจะหลับง่ายๆ เจ้าของร่างโปร่งก็ผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย ด้วยท่าทางที่มือหนึ่งจับปลายผมไว้ใกล้จมูก อีกมือหนึ่งจับผมที่ลื่นมือไว้เฉยๆเหมือนเด็กติดผ้าห่มที่ต้องมีผ้าห่มไว้จับ


           หมอราล์ฟค่อยๆดึงคนข้างกายเข้ามากอดอย่างแผ่วเบา ฤกษ์ขยับตัวไปมาอย่างไม่สบายตัวจนได้ท่าที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้หมอราล์ฟแต่สุดท้ายก็อยู่ในอ้อมกอดของหมอราล์ฟอยู่ดี ถึงจะขยับยังไงมือเรียวก็ไม่ยอมปล่อยผมที่จับไว้เลย ริมฝีปากได้รูปกดจูบเบาๆที่หลังลำคอขาวก่อนจะหลับตาลงและหลับไปพร้อมกันจริงๆสักที

 


 :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2020 13:28:21 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ Heroyj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฤกษ์ในอดีตก็ซน  โตขึ้นมาก็แสนซน  รักกันเร็วน้าน้องฤกษ์พี่หมอราล์ฟ

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ฤกษ์น่ารัตั้งแต่เด็ก จนโตเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่งกลับมาอ่านหลังจากที่ไม่ได้เข้าเล้ามานาน ฤกษ์น่าหมั่นเขี้ยวมาก

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ไอ้ต้าวฤกษ์ตัวดื้อออออออออ ดื้อเก่งมากกกกก

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :mew2: ทำไมน้องจำไม่ได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
พึ่งได้มาอ่านน่ารักมากกกกกก!!!!!!!!!
ติดตามน้องฤกษ์ :mew1:

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
17…ปรึกษา





กึกๆ


เกือบอาทิตย์


กึกๆ


กึกๆ


กึกๆ


ทำไงดี


กึกๆ


สลัดไม่ออกเลย


กึกๆ


"โว้ยยยย กูขอล่ะเลิกเคาะโลงสักที กูหลอนไปหมดแล้วเนี่ย" เพชรหนุ่มหล่อหนวดเครายาวเฟิ้มดีกรีลูกเจ้าของร้านเบเกอรี่ฝั่งตรงข้าม แต่ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ร้านโลงศพ เขากำลังนั่งติดผ้าระบายลูกไม้ในโลง เริ่มประสาทเสียกับเจ้านายที่ไม่เคยคิดว่าเป็นเจ้านายเลยสักครั้ง เขาเห็นมันเป็นน้องชายคนหนึ่งมากกว่าคิดว่าเป็นเจ้านาย ทุกวันนี้พวกเขาต้องคิดเงินเดือนกันเองแล้วให้เทียนพรรษาตรวจอีกที เพราะเจ้านายตัวดีอีกคนเคยจ่ายเงินให้พวกเขาเกินมาหมื่นกว่าบาท ถ้าพวกเขาไม่ท้วงก็ไม่มีเอะใจอะไรเลย เป็นที่น่าเป็นห่วงจริงๆว่าถ้าเกิดพวกเขาลาออกไป แล้วคนอื่นมาเป็นลูกน้องจะโดนโกงหมดตัวไหม


"งานท่วมหัวยังทำตัวว่างนะมึง ไม่ทำอะไรก็อย่ามารบกวนคนอื่นเขา" ใบบุญหนุ่มหล่อหน้าใสกำลังเรียนวิศวะปีสี่อยู่ที่มหาลัยเปิดแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังลงสีเคลือบเงาโลงศพอีกโลงอย่างกัดฟันทนเมื่อต้องทนฟังเสียงหลอนประสาทนี้มาร่วมชั่วโมง


          ตากลมโบกโพลงส่ายไปมาเลิ่กลั่ก ไม่ได้สนใจเสียงรอบตัวเลยสักนิด นิ้วเรียวเคาะผนังอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อกำลังใช้ความคิด กึกๆ เกือบอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้เห็นพี่หมอ หลังจากวันนั้นที่พี่หมอมาส่งบ้านก็ไม่ได้เจอหน้าอีกเลย กึกๆ ในมหาลัยก็ไม่เจอ สำหรับเขาการไม่ได้เจอไม่ใช่เรื่องแปลก แต่...ที่มันแปลกก็คือ การที่เอาแต่คิดถึงใบหน้าหล่อนั่น จะทำอะไรก็เอาแต่คิดถึง ยามเรียน ยามตื่น ยามนอน เขาสลัดออกจากหัวไม่ได้เลย อยากเจอ อ้ากกก


"พี่!!! ถ้าเกิดเราคิดถึงใครสักคนมากๆแบบสลัดไม่หลุดมันหมายความว่าไงอ่ะ" ตะโกนถามออกไปด้วยน้ำเสียงอ้อมๆแอ้มๆ


"มันก็อยู่ที่ว่าคนนั้นเป็นใครว่ะ ถ้าเป็นคนในครอบครัวเอ็งก็คงแค่คิดถึงอาจเพราะไม่ได้เจอกันนาน แต่ถ้าเป็นนอกเหนือคนในครอบครัวเอ็งน่าจะชอบเขาหรืออาจจะรัก" เพชรตอบด้วยสีหน้าแปลกใจที่อยู่ดีๆก็ถามอะไรน่าสงสัย


"ชอบเหรอพี่!!!" โวยวายอย่างตื่นตระหนก


"ถามอย่างนี้ ไปชอบ ไปรักใครเข้าล่ะ" ใบบุญถามอย่างรู้ทัน


"เปล๊า!!" ฤกษ์ตัวแข็งทื่อพร้อมกับมือที่หยุดเคาะไปแล้วด้วยความช็อค ชอบเหรอ? ชอบพี่หมอเหรอ? เขาชอบผู้ชายเหรอ? ทว่า อยู่ในที่เย็นฉ่ำแท้ๆแต่เหงื่อเริ่มแตกพลั่กเต็มใบหน้าขาวเมื่อกำลังคิดทบทวนกับตัวเอง เราไม่ได้แค่รู้สึกดีเหรอ?


"เออๆ กูจะพยายามเชื่อ"


           ร่างสูงเดินมาหยุดที่โลงเย็นโลงหนึ่ง ตาคมมองโลงตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจกับสิ่งมีชีวิตข้างใน เอื้อมมือไปเคาะเบาๆ


ก๊อกๆ


"ไปกินข้าว อย่าให้ถึงขั้นที่ต้องยกใส่ถาดมาวางไว้หน้าโลง" เทียนพรรษาเอ่ยเรียกผู้เป็นพี่ชาย


"เทียน" ร่างสูงกำลังเดินกลับไปที่ครัวแต่ก็ต้องหยุดหันกลับมามองเมื่อฤกษ์ตะโกนเรียก


"ชอบกับรู้สึกดีนี่ต่างกันยังไง"


"รู้สึกดี มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ เป็นห่วงเป็นใย ไม่ได้หวังครอบครองหรือเลื่อนสถานะ ส่วนรู้สึกชอบ อยากครอบครองเป็นเจ้าของเมื่อเสียไปอาจแค่เสียดาย" น้องชายเงียบไปชั่วอึดใจกับคำถามไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ก็ตอบเสียงเรียบ


"...."


"แต่ถ้ารัก เมื่อเสียไปย่อมเสียใจหรืออาจทนอยู่ไม่ได้เมื่อเขาจากไป คนส่วนมากไม่รู้ตัวหรอกว่าชอบ รัก หรือรู้สึกดี เพราะรู้ตัวอีกทีก็รักจนหลั่งน้ำตา"


"....."


"ออกมาได้แล้วข้างนอกก็มีแอร์จะเข้าไปแช่ในโลงเย็นทำไม เปลืองไฟ" ร่างสูงพูดจบก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทว่า ภายใต้สีหน้านิ่งๆนั้นไม่มีใครรู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่กับคำถามของผู้เป็นพี่ชายที่เอ่ยถามออกมมา


"ยินดีต้อนรับครับ สอบถามได้ครับ" ใบบุญลุกขึ้นต้อนรับลูกค้าสาวสวยสองคนกำลังเดินเข้ามาในร้าน


"อยากได้พวงหรีดสักสามพวงค่ะ" ลูกค้าสาวพูดเสียงหวานเมื่อเห็นหน้าพ่อค้า


          ชอบเหรอ? ผมชอบพี่เขา? อยากได้มาครอบครองไหม อันนี้ไม่รู้ แต่ไม่ค่อยชอบที่พี่เขามีผู้หญิงเยอะๆมันหงุดหงิดแปลกๆ ชอบใครไม่ชอบมาชอบพี่หมอราล์ฟเนี่ยนะ ผู้ชายที่ต่างกับเขาราวหิมะกับเปลวไฟ….


"ซวยแล้ว!!!"


"กรี๊ดดดดดด" เสียงตะโกนดังลั่นจากโลงเย็นส่งผลให้ลูกค้าสาวสวยที่กำลังยืนเลือกพวงหรีดใกล้ๆโลงเย็น ต่างพากันตกใจกรี๊ดเสียงหลงและวิ่งหนีออกจากร้านไปด้วยสีหน้าตื่นตระหนก


"ไอ้ฤกษ์!!!!"






"มึงกูเหมือนเกย์ปะวะ?" ผมถามทะลุความเงียบหลังจากคิดมาสักพัก ขณะนี้พวกผมกำลังนั่งอยู่ที่ประจำหลังตึกคณะช่วงพักเที่ยง พวกเพื่อนๆและป้าตู่ละจากขนมตรงหน้ามามองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ


"ไม่เหมือนหรอกแมนๆเตะบอล เขินสาวสวยนมตูมขนาดนี้" ไอ้ตี๋ว่า


"แต่ทรงมึงแบบนี้ใครๆก็ชอบ" ไอ้ลำไยว่า


"เมี้ยว~" ป้าตู่เสริม


"ทรงนี้เหมือนเหรองั้นกูไปสกินเฮดเลยดีมะ"


"เฮ้ยๆไม่ใช่ กูหมายถึงรูปร่างหน้าตามึงต่างหาก"


"อะไรทำให้มึงมาถามแบบนี้กับพวกกูวะ มีผู้ชายมาชอบเหรอ แต่ปกติก็มีมาชอบออกบ่อยกูไม่เคยเห็นมึงจะซีหรือสนใจอะไร" ไอ้นกถาม


"ถ้าสมมติว่ากูชอบผู้ชายล่ะ" ผมโพล่งออกไปอย่างวิตกกังวล "แล้วๆพวกมึงรู้ คนอื่นรู้ แล้วๆถ้า…."


"ฤกษ์ตั้งสติ" ไอ้ปัดเอื้อมมือมาจับหัวผมแล้วโยกเบาๆ


"มึงชอบใคร บอกพวกกูได้ไหม" ลำไยถามเสียงนุ่ม


"กูแค่สมมติเฉยๆเว้ย" ผมคิดว่ามันอาจเป็นไปไม่ได้ สักวันคงเลิกชอบไปเอง


"โอเครไม่เป็นไร แค่สมมติ มึงตั้งสตินะ มึงรังเกียจกูไหมที่กูเป็น LGBT"  ไอ้นกจับไหล่ผมให้หันไปสบตา


"มึงเพื่อนกู กูไม่เคยรังเกียจมึง แต่ว่า...LGๆ คืออะไรเหรอ"


"LGBT เป็นชื่อที่ใช้เรียกแทนกลุ่มเพศที่สาม เกย์ ดี้ ทอม กระเทย อะไรอีกมากมายที่ไม่ใช่หญิงชายแท้ เรียกLGBT สุภาพกว่าเรียกเพศที่สาม"


"งั้นเหรอ กูไม่เคยรังเกียจ TBGนะ"


"เอาล่ะกูหวังว่าสักวันมึงจะพูดถูก แล้วถ้ามึงไม่รังเกียจ สิ่งที่ทำให้สติแตกแบบนี้คือ?"


"กูชอบผู้ชาย เอ้ย!! สมมติกูชอบผู้ชาย" ผมตอบเสียงเลิ่กลั่ก ผมชอบผู้หญิงมาตลอดดูเอวีนมตูมๆก็ดู ไม่เคยคิดเลยที่ต้องมามีวันนี้


"ฤกษ์ เราไม่ควรกำหนดกฎเกณฑ์ในเรื่องความรู้สึกเรานะเว้ย คนคนหนึ่งจะสามารถรักใครก็ได้ อย่าไปกำหนดแค่ว่ามึงเป็นผู้ชายจะต้องชอบผู้หญิงเท่านั้น กฏเกณฑ์เหล่านี้มันก็แค่กฎที่มนุษย์กลุ่มหนึ่งสร้างขึ้นเองว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง มันเป็นแค่กฎของคนกลุ่มหนึ่งที่โลกแคบและเห็นแก่ตัวเว้ย โลกเรามาไกลมากแล้ว เราไม่ได้ทำเรื่องผิดร้ายแรง เราแค่รักคนคนหนึ่ง ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครมันเป็นเรื่องดีทั้งนั้นล่ะ รักใครชอบใครก็ลุยเลยเสียเขาไปเมื่อไหร่มึงจะมานั่งเสียใจเอานะเว้ย"


"งั้นเหรอ" ผมพยักหน้าหงึกหงักๆ อย่างเห็นด้วยกับคำพูดไอ้นก เราจะรักใครก็ได้ไม่ผิดสักหน่อยมันก็แค่ความรัก


"นอกจากเขาแล้ว มึงชอบผู้ชายที่ไหนอีกไหม"


"กูไม่ชอบใครเลยนอกจากพี่เขา เฮ้ย!! กูสมมติเฉยๆนะเว้ยลำไย"


"อ๋อ เป็นรุ่นพี่ มึงแค่อาจจะชอบแค่คนนี้คนเดียวไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนสักหน่อย มึงว่าไงไอ้ปัด" ไอ้ลำไยทำสีหน้าเจ้าเล่ห์หันไปถามไอ้ปัดที่นั่งลูบหัวป้าตู่ฟังอยู่เงียบๆ


"ไม่ว่าไง ความรักความชอบเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ถ้าเพื่อนเจ็บตัวเป็นเรื่องส่วนรวม"


"เอ่อ มันแค่เรื่องสมมติเฉยๆเว้ย งั้น งั้นกูไปห้องน้ำนะ" ผมรีบลุกขึ้นหนีสถานการณ์ชวนโป๊ะแตก


"เดี๋ยวๆ เอาเอกสารนี้ไปเบิกเงินด้วยจะเอามาสมทบทุนงานกีฬา ที่ตึกxxใกล้ตึกแพทย์นะ" มังกรยื่นเอกสารมาให้ เป็นเอกสารขอเบิกเงินห้าพันบาท


"เงินไรอะ?"


"ก็เงินที่เราชนะแข่งรอบกองไฟตอนไปค่ายไง ที่คัดเข้ารอบสองคนแล้วต้องมาแข่งงัดข้อกัน ไอ้ปัดมันงัดข้อแข่งกับพี่ถาปัตย์ชนะไง นี่มึงไม่รู้ว่าชนะ" มังกรถามสีหน้าตกใจ


"อ้าว มีแข่งต่อด้วยเหรอ" ตอนไหนผมไม่รู้เลย


"เฮ้อๆ ไปๆ จะไปเข้าห้องน้ำก็ไป แล้วไปเบิกตังค์มาด้วย"


          ไอ้ลำไยโบกมือไล่ผมอย่างเหนื่อยใจ ผมผิดอะไรก็ผมไม่รู้จริงๆนี่หว่า อาจเพราะตอนนั้นกำลังแย่งขวดน้ำอัดลมกับไอ้พวกขี้เมาข้างหลังอยู่ก็เป็นได้ ก้มมองเอสารที่อยู่ในมือ เบิกเงินที่ตึกxx ใกล้ตึกแพทย์นี่ อยากเห็นหน้าว่ะไปหาได้ไหม





"มึงว่าไอ้ฤกษ์มันชอบใคร" มังกรหนุ่มหน้าตี๋ผมน้ำตาลกระซิบกระซาบกับพวกที่นั่งอยู่ด้วยกัน


"กูยังไม่แน่ใจว่ะแต่มีอยู่ในหัวแล้ว ถ้ามั่นใจแล้วจะบอก" นกหนุ่มหน้ามนปากแดงเอ่ยอย่างหมายมั่น ใครเชื่อว่าเรื่องที่ฤกษ์เอามาปรึกษาเป็นเรื่องสมมติเขาจะตบคนที่เชื่อให้คว่ำเลย มองมาจากดาวพลูโตก็รู้ว่าเรื่องจริงล้วนๆร้อยวันพันปีเพื่อนเขาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องมาพูดเรื่องรักๆชอบๆ เพื่อนเขาไม่ใช่เกย์มันแค่ชอบผู้ชายคนหนึ่ง แต่ถ้าการชอบผู้ชายแค่คนเดียวแล้วเรียกเกย์ เขาก็ไม่ซีเรียสอะไร คนนั้นเขาก็สงสัยมาสักพักแล้วว่าทำไมถึงรู้สึกว่าคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆเพื่อนเขาตลอด ทั้งที่คนแบบพี่เขาไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องมาทำแบบนี้


"ทำไมมันไม่บอกเราล่ะ หรือมันไม่ไว้ใจเรา" ลำไยสาวสวยของคณะถามด้วยความไม่เข้าใจมากกว่าจะน้อยใจ


"ไม่ใช่หรอก มันแค่สับสน พวกเราก็รู้จักมันดีนี่ อย่างไอ้ฤกษ์น่ะ ถ้าบอกให้ไปดูกล่องลังที่วางอยู่ข้างหน้าว่ามีลูกหมาอยู่ในนั้นไหม มันก็จะเดินไปดูแล้วเดินกลับมาบอกว่ามี แต่ถ้าถามว่ามีกี่ตัวไอ้ฤกษ์มันก็จะเดินย้อนกลับไปดูใหม่ แล้วเดินกลับมาบอกว่ามีกี่ตัว และถ้าเราถามมันว่ามีสีอะไรบ้าง มันก็จะเดินกลับไปดูใหม่แล้วกลับมาตอบ ตอนนี้ก็คงเหมือนกันมันแค่สับสนและวิตกว่าคนที่มันชอบไม่ใช่ผู้หญิง อาจจะไม่จีบ ไม่ได้คิดถึงขั้นแฟน มันเลยยังไม่พูด เมื่อมันแน่ใจอะไรๆมากกว่านี้มันคงบอกพวกเราเองล่ะมั้ง" ลูกปัดพูดเสียงเรียบ มือเรียวแกร่งลูบขนนุ่มไปมาด้วยแววตาครุ่นคิด จนได้สินะเพื่อนเขาถูกล่อลวงเข้าไปในเปลวไฟ ก็หวังว่าเปลวไฟนั้นจะเป็นไฟพิเศษ ควรรู้ว่าอะไรเผา อะไรควรละเว้น




 ไป


ไม่ไป


ไป


ไม่ไป


          ขณะนี้ผมยืนกล้าๆกลัวๆ อยู่ตรงมุมเสาหนึ่งหน้าตึกคณะแพทย์ ในมือมีกาแฟเย็นกับแซนวิชอีกหนึ่งกล่องไม่รู้ว่าพี่เขาจะกินไหม มันก็แค่กาแฟกับแซนวิชธรรมดาที่ซื้อในร้านกาแฟมหาลัยแต่มันแพงมากสำหรับผม เกิดมาไม่เคยซื้อกาแฟแก้วละ65฿เลยแพงสุดก็35฿ แต่ถึงจะแพงสำหรับผมมันก็ดูธรรมดาสำหรับพี่เขาอยู่ดี เฮ้อ แต่ไม่เป็นไรเราให้ด้วยใจเว้ย น้ำใจอ่ะ เป็นการขอบคุณที่ไปกินข้าวบ้านพี่เขาตั้งหลายมื้อเขาจะกินไหมก็อีกเรื่องหนึ่งน่า


"น้องฤกษ์มาทำอะไรตรงนี้" ผมหันไปตามเสียงทักก็เจอกับพี่คนที่อาสาพาผมไปอาบน้ำวันนั้นตอนอยู่ค่าย เอ...ชื่อไรหว่า ยกมือไหว้ไปก่อนสวยๆ


"หวัดดีพี่ ผมมาหาพี่หมอราล์ฟน่ะครับ"


"อ๋อ ขึ้นวอร์ดน่ะ ปีสี่ส่วนมากอยู่โรงพยาบาล งั้นเดี๋ยวพี่พาไป" พี่เขาจูงมือผมและยิ้มอย่างใจดี


"ไอ้แม็ค!! ไม่ไปเหรอวะ" เพื่อนพี่เขาตะโกนเรียก อ่อ ชื่อแม็ค ต่อไปนี้จะจำให้ขึ้นใจเลยครับเผื่อเจอกันอีก


"ไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไป" พี่แม็คตะโกนบอกเพื่อนพร้อมกับจูงมือผมออกเดิน


"พี่ไปทำธุระกับเพื่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมไปเอง" ผมบอกอย่างเกรงใจ


"ไม่เป็นไรหรอกน่าไม่ได้สำคัญอะไร ว่าแต่เราเปลี่ยนไลน์เหรอพี่ไลน์ไปไม่อ่านเลย"


"อ๋อ ผมเปลี่ยนเบอร์น่ะเลยเปลี่ยนไลน์ใหม่ด้วยน่ะครับ"


"งั้นพี่ขอใหม่ได้ไหม" พี่แม็คถามอย่างไม่แน่ใจ แค่ขอไลน์ไม่เห็นต้องประหม่าเลย ผมให้อยู่แล้วน่า


"ได้ดิพี่"


          ผมเดินเข้ามาในโรงพยาบาลกับพี่หมอแม็คไม่นานก็เจอร่างสูงคุ้นตายืนคุยอยู่กับพี่หมอแข่งและเพื่อนๆพี่เขาอีกสองสามคนที่ผมไม่รู้จัก พี่เขาอยู่ในชุดกาวน์ กำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหาก็ต้องชะงักเมื่อพี่ลลินสาวสวยเดินเข้ามาหาพี่หมอราล์ฟพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟสีเขียวแบรนด์หรูที่ผมพอจะรู้ว่าแก้วหนึ่งแพงแค่ไหน พี่ราล์ฟยื่นมือไปรับมาดื่มและพี่ลลินก็ส่งยิ้มหวานให้พร้อมกับคล้องแขนพี่หมอ สวยขนาดนั้นใครไม่ชอบก็บ้าแล้ว ผม...ผมกำลังจัดการความรู้สึกที่ประทุอยู่ในอกตอนนี้อย่างยากลำบาก มันไม่อยากจะยอมรับว่าไม่พอใจ


"น้องฤกษ์ มาทำอะไรที่โรงบาลไม่สบายตรงไหนครับ" พี่หมอรอนโผล่มาจากไหนไม่รู้ ทักผมซะเสียงดังลั่น จนกลุ่มพี่หมอราล์ฟที่ยืนคุยกันอยู่หันมามอง ผมรีบหลบสายตาทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ราล์ฟเขาหันมามอง ไอ้เชี่ยพี่รอน พี่มึงจะโผล่มาตอนที่ผมขี้อยู่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ รีบดึงพี่หมอรอนเดินมาหลบอยู่หลังเสามีพี่หมอแม็คยืนมองมาอย่างสงสัย


"เอ่อ ผมมาทำธุระน่ะ พอดีเสร็จแล้วกำลังจะกลับน่ะพี่" รีบพูดละล่ำละลักเหมือนคนทำผิดแล้วโดนจับได้


"ไม่ไปทักเพื่อนพี่ก่อนล่ะ สนิทกันถึงขนาดไปนอนด้วยกันแล้วนี่" พูดเสียงดังทำข้อศอกอะไรล่ะเว้ย


"ไม่ล่ะผมรีบ นี่กาแฟกับขนมพอดีซื้อมาเกินน่ะพี่เอาไปกินเลย"


          ผมรีบยัดของกินใส่มือพี่หมอรอนก่อนจะเดินไปจูงมือพี่หมอแม็คแล้วพาวิ่งออกจากโรงพยาบาล ผมไม่ควรมา ไม่ควรมา ไม่ควรทำอะไรทั้งนั้น มันเกินตัวไป


"ฤกษ์ เป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดเชียว" ผมหยุดยืนหอบแฮกจากการวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตหันไปมองคนข้างๆไม่มีแม้แต่เหงื่อ กระดูกมันคนละเบอร์สินะ


"เปล่าๆพี่ ผมคงต้องออกกำลังกายบ้างซะแล้ว"


"แล้วช่วงบ่ายว่างหรือเปล่า"


"ก็ไม่เชิงนะพี่" มีวิชาของอาจารย์ป๊อก แต่แกชอบพาเดินชมนกชมไม้รอบมหาลัยไม่เคร่งตอนสอนเท่าไหร่ แต่ตอนตรวจงานแทบจะเป็นลมล้มพับ แก้แล้วแก้อีก กูเนี่ยล่ะ


"พี่พึ่งออกเวร ไปดูหนังกับพี่ไหมคลายเครียด" พี่แม็คยิ้มอย่างใจดี อบอุ่นชะมัดถ้าเปลี่ยนจากผมที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นผู้หญิงมีหวังละลาย


"เอาดิพี่ เอาแบบบู๊เลือดสาดเลยนะ"







 

 :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2020 04:17:22 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
น้องฤกษ์กระตุกหนวดเสือเข้าซะแล้ว ถ้าเสือโกรธจะโดนอะไรล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Heroyj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เล่นตัวเยอะๆน้องฤกษ์ ทำใจให้สบายๆไปดูหนังกับหมอแม็คให้พี่ราล์ฟมันอกแยกตายโล้ด สาวเนอะนักนิหมั่นไส้เด้อ555

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
งานจะเข้าน้องฤกษ์มั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เอ้าเด็กมันสับสนพี่หมอต้องมาช่วยไขแล้ว :hao7:

ออฟไลน์ Kirana9165

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบน้องมาก ชอบความไม่สนโลกรอบข้าง ความไม่รู้ตัวเองว่าน่ารัก ชอบพี่ที่มีความ ไว้ผมยาวเพราะน้องชอบคนผมยาว และทิ้งความสุขไม่ยอมไปเที่ยวรอบโลกเพราะถูกใจน้อง และคิดว่าคงยอมเรียนภาษาไทย และมาเรียนที่ไทยพราะน้องเช่นกัน สงสัยว่าทำไมน้องถึงจำพี่ไม่ได้ ชอบเรื่องนี้มากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะแต่งเรื่องนี้เรื่องแรก เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าวว อีหมอแม๊คจะทำไรน้องฤกษ์รึป่าว

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
18…ไว้ใจ






"ไม่เอา ถ้าพี่ไม่ให้ผมจ่ายผมไม่ดูนะเว้ย เดี๋ยวผมพาดู กล้วยหอมจอมซนในมือถือหน้าโรงหนังนะ"


"แต่พี่เป็นคนชว…"


"ก็พี่เลี้ยงข้าวผมแล้วไง อาหารอะไรก็ไม่รู้ปาไปพันกว่า ผมเกรงใจพี่จะตายอยู่แล้ว" ขณะนี้ผมกำลังยืนตั้งหน้าตั้งตาเถียงอย่างตั้งอกตั้งใจ(เรื่องเรียนเป็นงี้คงดีอะเนอะ) กับพี่หมอแม็คอยู่หน้าเคาน์เตอร์ขายตั๋ว พี่แม็คจะเลี้ยงผมทุกอย่างมันไม่ได้นะเว้ย ยังไงมันก็ต้องแชร์


"โอเครครับ งั้นพี่ซื้อป๊อปคอร์นโอเครนะครับ"


           พี่แม็คยกมือยอมแพ้แล้วเดินแยกไปซื้อป๊อปคอร์น ผมซื้อตั๋วเสร็จก็เดินไปนั่งขัดสมาธิรออยูที่โซฟา ยกโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาพวกเพื่อนๆทั้งหลายแหล่ว่าเช็คชื่อให้หน่อย กูโดด ก็หวังว่าพวกมันจะพึ่งได้


ติ้ง~ ติ้ง~ ติ้ง~ ติ้ง~


กูมาย้อมผมสีใหม่ <<<<<<ไอ้ลำไยดาวดับ


มาตัดผมร้านเดียวกับไอ้ลำ <<<<<<ไอ้มังกือ


มาเตะบอลแดกตังค์ <<<<<<ไอ้หล่อปัด


มาดูผู้ชายเตะบอล <<<<<< ไอ้นกแอนด์เดอะเบิร์ด


ไอ้สัส!! จะจบกันไหม


กูเนี่ยจะจบไหม ฮ่วย!!


ติ้ง~


          เสียงข้อความโทรศัพท์ผมดังขึ้นอีกครั้งไม่ทันได้เปิดดูว่าใครส่งมา เพราะว่าพี่แม็คเดินมาถึงพอดี ถ้าผมเปิดดูสักนิดคงจะดี


ฤกษ์ เพื่อนคณะอื่นกูเห็นว่ามึงไปกับไอ้หมอแม็คเหรอวะ ถ้าใช่มึงอย่าไปนะเว้ย โทรกลับหากูด่วนเลย <<<<< ไอ้หล่อปัด



            พี่หมอแม็คเดินกลับมาพร้อมกับป๊อปคอร์นถังใหญ่ ผมรับมาถือไว้ด้วยหัวใจที่พองโต อั๊ยยะ ป๊อปคอร์นสุดที่รักของพี่ฤกษ์วันนี้พี่จะกินให้เรียบเลยนะจ๊ะ


นะโมตัสสะ ภะคะวะโต~~


'ไอ้นกแอนด์เบิร์ด'



"จะเข้าโรงหนังแล้วนะครับปิดมือถือเถอะ" พี่หมอแม็คพูดขึ้นเมื่อผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เป็นไอ้นกนั่นเอง มันคงจะฝากซื้อของอะไรเหมือนเคยแหละมั้ง เดี๋ยวดูหนังเสร็จค่อยโทรกลับ ผมกดปิดเสียงโทรศัพท์แต่ไม่ได้ปิดเครื่อง เดินถือถังป๊อปคอร์นเดินตามหลังพี่หมอไปพลันสายตาก็เหลือบเห็นใครคนหนึ่งเหมือนคนที่ผมรู้จัก เอ๊ะ หัวทองๆ นั่นพี่…


"น้องฤกษ์มีอะไรหรือเปล่าครับ" พี่หมอแม็คหันมาถาม


"เปล่าๆพี่ เมื่อกี้เหมือนผมเห็นคนรู้จัก อ้าว ไปไหนแล้ว" ผมหันกลับไปอีกทีก็ไม่เจอแล้ว สงสัยตาฝาด ผมเลิกสนใจหันไปหยิบป๊อปคอร์นเข้าปากแล้วเดินเข้าโรงหนังไปกับพี่หมอแม็ค




"พี่ขอแวะอาบน้ำก่อนได้ไหม เหนียวตัวไปหมดเลยพอดีพี่มีงานเลี้ยงที่โรงแรมจะกลับไปอาบน้ำที่บ้านก็ไกล" พี่หมอแม็คหันมาถามผมอย่างคนเกรงใจขณะขับรถกลับมหาลัย เราดูหนังเสร็จก็สี่โมงเย็นพอดี ในระหว่างที่ดูหนังผมดันปัดแก้วน้ำอัดลมหกใส่พี่แม็คจนเสื้อพี่เขาเปียกโชกอย่างกับโดนสาดน้ำสงกรานต์ ไม่เหนียวตัวนี่ผมว่าโคตรแปลก


"เอาดิพี่ อาบไหนอะ" ผมโอเครอยู่แล้วความผิดผมเต็มๆ


"ม่านรูดข้างหน้านี้เอง"


"ม่านรูดเหรอพี่" ผมถามเสียงแปลกใจหันกลับไปมองสีหน้าพี่หมอแม็คก็ปกติดี อาจจะดูแปลกๆไปหน่อยแต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยผู้ชายเหมือนๆกัน


"ครับ พี่อาบแป๊ปเดียวไม่นานหรอก ถ้าฤกษ์ไม่โอเครพี่ก็ไม่แวะนะครับ เดี๋ยวทนเอาหน่อยไปอาบมหาลัยก็ได้แต่รถคงติดน่าดูเลย" พี่หมอแม็คขยับตัวอย่างไม่ค่อยสบายตัว


"ได้ๆพี่ อาบก่อนก็ได้รถติดน่าจะเป็นชั่วโมง พี่แม็คจอดแวะข้างหน้าให้ผมแป๊ปนึงดิ ผมจะซื้อเหนียวหมูทอดเข้าไปกินด้วย"  ผมชี้ไปที่ร้านขายหมูใกล้ทางเลี้ยวเข้าม่านรูด พี่แม็คก็จอดให้อย่างใจดี


"น้องฤกษ์เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่เดินไปจ่ายเงินพนักงานก่อน"


          ผมลงจากรถอย่างงงๆพร้อมกับข้าวเหนียวหมูทอดที่อยู่ในมือ ตรงที่จอดรถมันสลัวๆออกจะมืดหน่อยๆ เห็นแค่แผ่นหลังพี่หมอแม็คยืนคุยกับพนักงานอยู่ตรงมุมม่านสีเขียว ผมเลิกสนใจเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องแอร์เย็นฉ่ำเหมือนเปิดไว้ 24 ชม. เปลืองไฟนะเนี่ยไม่มีคนอยู่เปิดแอร์ทิ้งไว้ ถ้ามีใครมาถามผมว่าบริษัทใหญ่ๆอะไรบ้างที่ทำให้โลกร้อน หนึ่งในคำตอบผมมีม่านรูดแน่นอนค้าบ ภายในห้องติดกระจกรอบด้านแม้แต่เพดานก็มีกระจกให้ส่อง เงยหน้าไปมองบนเพดานเห็นเป็นหน้าตัวเองโคตรหลอน ยอมรับว่ามีสะดุ้งอ่ะ ห้องถูกตกแต่งด้วยแสงสีส้มอึมครึมๆให้ความรู้สึกอึดอัดชะมัดเลย แต่ช่างเถอะไม่ได้มานั่งดูไฟกูมารอคนอาบน้ำ


          ผมเดินไปนั่งที่พื้นใกล้โซฟามุมห้อง เอาข้าวเหนียวหมูทอดวางไว้บนโซฟาล้วงเอาโทรศัพท์ในกางออกมาวางไว้บนโซฟาจะได้นั่งถนัดๆ ผมกำลังจะแกะข้าวเหนียวหมูกิน โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟาตรงหน้าก็สั่นขึ้นครืดๆ 'ไอ้ปัด' โทรมามีอะไรหรือเปล่าวะ? ผมกดรับสายกำลังจะกรอกเสียงลงไป แต่ก็เป็นไอ้ปัดที่ตะโกนดังลั่นออกมาก่อน


'ไอ้ฤกษ์!!! กูโทรหามึงเป็นสิบๆสายทำไมไม่รับ มึงอยู่ไหน!!!'



"กูอยู่…"


          ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น หันไปมองเป็นพี่หมอแม็คที่เดินเข้ามา สายตาที่มองมาที่ผมมันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่พี่หมอที่น่านับถือและอ่อนโยนเหมือนที่เคยรู้จัก ผมรับรู้ได้ว่ามันเป็นสายตาที่อันตรายและไม่น่าไว้ใจ พี่เขาค่อยๆเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับถอดเสื้อนักศึกษาที่เลอะคราบเปื้อนออกก่อนจะโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี ผมค่อยๆยืนขึ้นทำใจให้นิ่งและกรอกเสียงลงโทรศัพท์


"ปัด...ปัดกูอยู่ม่าน...ตุ้บ!!" พี่แม็คคว้าโทรศัพท์ออกจากมือผมอย่างรวดเร็วเขากดตัดสายและปาทิ้งไปที่โซฟาอีกตัวในห้อง ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่พี่มันไม่ปาลงพื้นเครื่องนั้นกว่าผมจะผ่อนหมดสิบเดือนเลยนะเว้ย


"เอ่อ...พี่แม็คห้องน้ำอยู่ทางนู้นไปอาบน้ำสิ" ผมทำใจดีสู้เสือ ชี้ไปที่ห้องน้ำก่อนจะค่อยๆขยับตัวเดินหนีเมื่อพี่เขาก้าวเข้ามา


"พี่ว่า...ทำเสร็จแล้วค่อยอาบทีหลังดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา" พี่แม็คยกหลังมือมาลูบแก้มผมเบาๆ จนผมต้องปัดมือหนี ไอ้สัส หน้าโคตรหื่นกูว่าไม่ใช่ล่ะ


"ทำไรล่ะพี่!! หลบ ผมจะกลับ" คิดว่าจะกลัวเหรอผู้ชายเหมือนกัน มือ ตีน ก็มีเว้ย แต่ดูจากขนาดร่างกูเป็นรองแน่ๆเลี่ยงได้เลี่ยงก่อน  ผมพลักไอ้แม็คออกกะว่าจะเดินไปที่ประตู โทรศัพท์กับหมูทอดเดี๋ยวมาเก็บทีหลังอยู่ไกลมือผมเกินไป (กูเปลี่ยนสรรพนามเรียกเป็น'ไอ้'ละเพราะดูเหมือนมันไม่น่าเคารพ)


ตุ้บ!!


          ร่างผมถูกกระชากและโยนลงบนเตียงอย่างแรงตามมาด้วยร่างไอ้เชี่ยแม็คที่คร่อมทับอยู่ข้างบนตัวผม ข้อมือทั้งสองข้างของผมถูกมือใหญ่จับไว้แน่น หน้าขาทั้งสองข้างถูกร่างตรงหน้านั่งทับ จนร่างผมจมเตียง เตียงมึงนุ่มไปนะไอ้ม่านรูด


"ไอ้เชี่ย ปล่อยผม!!" ผมตะโกนลั่นใส่หน้ามัน ถ้าถุยน้ำลายใส่หน้ามันได้ผมถุยไปละแต่กลัวเจอกฎแรงโน้มถ่วงมันไหลย้อนกลับมาที่ผมอ่ะดิ


"อย่าทำเป็นเล่นตัวไปหน่อยเลยหน่า ยอมตามเข้ามาในม่านรูดขนาดนี้ก็เหมือนเล่นด้วยกับพี่นั่นแหละ" ไอ้พี่แม็คพูดพร้อมกับก้มลงสูดกลิ่นจากลำคอผม อ้ากกกก ไอ้โรคจิตเอ๊ย ที่กูตามมึงมาก็เพราะมึงบอกจะอาบน้ำนี่แล้วกูก็ผู้ชายมันจะเสียหายอะไรวะ ใครจะคิดว่ามึงมันเหี้ย เอาไม่เลือก  ผมสูดลมหายใจลึกๆตั้งสติ มีสติๆ เจรจากันก่อน


"ผมแค่คิดว่าพี่จะมาอาบน้ำจริงๆ พี่ปล่อยผมเถอะนะ หน้าตาหล่อๆอย่างพี่มีคนเต็มใจจะนอนกับพี่อีกเยอะ ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครหรอก เอาเป็นว่าเราเข้าใจจุดประสงค์ผิดกันเน๊อะ " ผมพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น


"ทีกับไอ้ราล์ฟยังนอนกับมันได้เลยนี่ ตอนแรกก็ดูเหมือนมันจะหวงเลยไม่อยากยุ่ง ไหนๆก็โดนมันเขี่ยทิ้งแล้วหนิ กับพี่อีกสักคนจะเป็นไรไป"


"ผมไม่ได้ชอบผู้ชายโว้ยยย(ยกเว้นคนนึง)" กับพี่ราล์ฟกูก็แค่นอนเฉยๆ ไม่รู้จริงอย่ามาเม้าท์มอย


"เดี๋ยวก็ชอบเอง"


"อื้อออออ"


          ไอ้สันดานแม็คก้มลงมาจูบผมอย่างจาบจ้วงแต่เพราะผมไม่ยอมเปิดปาก มันเลยเปลี่ยนไปไซร้ซอกคอผม ผมหันหน้าหนีจูบน่ารังเกียจของคนตรงหน้าได้ก็ตะโกนลั่น


"ช่วยด้วย!!! ช่วยผมด้วย!!"


"หุบปาก!!"


          ไอ้แม็คเมื่อได้ยินผมร้องเสียงดังมันก็ปล่อยมือจากข้อมือผมมาปิดปากและอีกมือเริ่มถอดเข็มขัดกางเกงผมออก ผมอาศัยจังหวะนี้ล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงผมกำเอาตังค์เหรียญที่มีร่วมสามสิบบาท(ผมเป็นผู้บ่าวตังค์เหรียญนะครับ)ออกมาและฟาดไปที่หน้าไอ้หมอแม็คเต็มแรงฝ่ามือ ถึงไม่สลบแต่มีเจ็บอ่ะผมมั่นใจ มันร้องลั่นเอามือไปกุมขมับด้านซ้ายที่ค่อยๆมีเลือดไหลออกมา ผมอาศัยจังหวะนี้ถีบมันตกเตียงก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างว่องไววิ่งไปที่ประตู


"ไอ้ตัวดี!!" พี่แม็คสบถลั่นห้อง



โครม!!!


          ไอ้สัสเอ๊ย ข้อเท้าผมถูกดึงจนต้องล้มหน้าคะมำ พยายามถีบรัวๆแต่ไม่เป็นผลไอ้แม็คจับข้อเท้าทั้งสองข้างของผมพร้อมกับลุกขึ้นยืน ทำให้ผมอยู่ในสภาพนอนราบกับพื้นแต่ขาถูกจับยก มันจับปลายขากางเกงผมพร้อมกับออกแรงดึงกางเกง ไอ้เชี่ย มึงจะเชี่ยวชาญด้านข่มขืนคนเกินไปแล้ว มือผมได้แต่ปัดป่ายไปมาในอากาศคว้าได้รีโมทที่ล่วงอยู่กับพื้นมากำไว้ ชั่วอึดใจกางเกงขายาวผมก็ถูกถอดออกด้วยฝีมือมันและมันก็คงโดนลูกถีบผมไปหลายดอก ผมเหลือเพียงบ็อกเซอร์ขาสั้นกับเสื้อเชิ้ตกระดุมหลุดลุ่ย มันกระโจนลงมาคร่อมทับผมอีกครั้ง ผมก็เอารีโมทที่อยู่ในมือฟาดซ้ำรอยแผลเดิมมันไปอีกทีรัวๆ ถ้ามึงไม่ตายกูก็ตายล่ะวันนี้


ผลัวะ!! ผลัวะ!!


ผลัวะ!! ผลัวะ!!


อึ่ก!!


"โอ๊ย…"


"จุ๊ๆ เห็นน่ารักก็อยากจะทนุถนอมกลัวผิวจะช้ำ แต่ดื้อขนาดนี้คงต้องสั่งสอนกันหน่อย"


          วันนี้มันไม่ตายหรอกเป็นผมเองมากกว่าที่จะตาย สี่หมัดหนักๆตรงหน้าท้อง เจ็บและจุกจนน้ำตาไหล ได้แต่นอนแน่นิ่งอย่างคนไร้เรี่ยวแรง ทำได้แค่ร้องครางอย่างสัตว์บาดเจ็บ ไอ้พี่แม็คกระตุกยิ้มร้ายอย่างชอบใจมันเดินเอาโทรศัพท์ไปตั้งไว้โต๊ะปลายเตียงเหมือนกำลังตั้งถ่ายวีดีโอ และเดินกลับมาอุ้มร่างผมที่นอนอยู่บนพื้นไปโยนไว้ที่เตียง มันค่อยๆถอดกางเกงออกอย่างใจเย็นแค่เพียงพริบตาตัวมันก็เปลือยเปล่า มันค่อยๆเอามือชักท่อนเอ็นของตัวเองเดินเข้ามาหาผม ผมทำได้เพียงคลานหนี เอื้อมมือจะหยิบโคมไฟตรงโต๊ะใกล้หัวเเตียงแต่ข้อเท้าก็ถูกกระชากเสียก่อน


"พี่อย่าทำอะไรผมเลย ปล่อยผมไปเถอะเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันเลย" ผมยกมือไหว้อย่างหมดหนทาง


"เดี๋ยวดีเองนะครับ"


          พูดไปเหมือนไร้ประโยชน์ ร่างเปลือยเปล่าของคนตรงหน้าคร่อมทับร่างผมอีกครั้ง มือใหญ่ค่อยๆลูบไล้ขาอ่อนผมไปมา ท่อนเอ็นตรงหน้าสั่นระริกจนน้ำเยิ้ม มันขยับตัวครั้งใดก็โดนหน้าท้องผมตลอด ขยะแขยง จนน้ำตาไหล เห็นแล้วจะอ้วก เสื้อนักศึกษาที่เหลือกระดุมเพียงไม่กี่เม็ดก็ถูกกระชากออกจนขาดวิ่น ฮือ แล้วกูจะใส่อะไรกลับบ้านไอ้สัส!!


"น่ากินไปหมดเลยว่ะ ใครปล่อยไปนี่โคตรโง่ ไหนดูจานเด็ดหน่อยสิครับ"


"ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วย!!! อื้อๆๆ"


          ผมตะโกนลั่นเมื่อรู้สึกว่ากางเกงกำลังจะถูกถอดออก ทว่ามือหนาน่ารังเกียจที่มีกลิ่นคาวมาปิดปากผมไว้ ผมหลับตาปี๋อย่างหนีความจริงที่จะเกิด ดิ้นมากก็รู้สึกเจ็บแม้กระทั่งหายใจ 'สิ่งไหนจะสำคัญ ก็ขึ้นอยู่ที่เราสมมติ' ร่างกายเป็นของไม่เที่ยงอย่าไปยึดติด ผมได้แต่พูดปลอบใจตัวเองอย่างคนจนหนทาง ฮึกๆ หลวงลุง ฮึกๆ หลวงลุงครับผมทำไม่ได้ผมวางไม่ได้ ฮือๆ


           และสุดท้ายคนที่ผมคิดถึงทุกขณะแม้กระทั่งตอนนี้ก็คือ...พี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟ


ผลัวะ!


ตุ้บ


พลั่ก!


ผลัวะ!!


ผลัวะ!!


ผลัวะ!!



"สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ นิททุกขา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฮือๆ พี่ราล์ฟ"


          สิ้นเสียงแผ่เมตตาของผม รู้สึกเหมือนห้องทั้งห้องเงียบสะงัด ไม่มีความรู้สึกว่ามีใครคร่อมร่างผมอยู่ ค่อยๆลืมตาขึ้น ภาพแรกที่ปรากฎในม่านสายตาผมคือพี่อันเดรียที่ยืนเอาเท้าเหยียบหน้าอกไอ้พี่แม็คที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงจมกองเลือดอยู่ที่พื้นพรม มีพี่ชิโนยืนอยู่ที่ปลายเตียง ไม่มีแม้กระทั่งคำพูดของใครสักคนเอ่ยออกมา ทั้งห้องเงียบกริบ ผมค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นก้มมองช่วงล่างกางเกงของผมยังคงอยู่ ลากร่างขยับไปนั่งกอดเข่าก้มหน้าพิงหัวเตียงเงียบๆ อยากจะพูดว่าขอบคุณแต่ก็พูดไม่ออกมีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสายไร้เสียงสะอื้น เพราะกลั้นเอาไว้


ตึก


ตึก


ตึก


ตึก


          เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งฝ่าความเงียบย่างกรายเข้ามาในห้องและหยุดยืนอยู่ข้างหัวเตียงที่ผมนั่งก้มหน้าอยู่ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นด้วยหัวใจที่เริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง มันค่อยๆกลับมาเต้น เร็วและรัวอีกครั้ง เมื่อคนที่ผมเห็นอยูในม่านน้ำตาของตนเองตรงหน้าเป็นใครถึงจะพร่ามัวแต่ผมรู้ว่าคือเขา….พี่ราล์ฟ


       ผมไม่รู้ว่าเขามองผมด้วยสีหน้าแบบไหนเพราะม่านสายตาผมพร่ามัวไปด้วยน้ำตา ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ถูกคลุมมาที่ตัวผมด้วยฝีมือของคนตรงหน้าพร้อมกับร่างผมที่ถูกอุ้มขึ้นด้วยสองแขนแกร่ง


"พี่คงจะใจดีกลับเรามากไปสินะ"


          พี่ราล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นเหยียบไร้ความรู้สึกใดๆในน้ำเสียง ผมไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือไปกอดคอพี่ราล์ฟอย่างคนกลัวตก ได้แต่จับมือตัวเองไปมาแล้วร้องไห้อย่างกลั้นเสียง กลัวว่าพี่เขาจะรำคาญ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องมาร้องไห้เป็นสาวแตกอย่างนี้ แต่เมื่อมาอยู่ในอ้อมกอดของคนคนนี้มันก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ หวาดกลัว ปลอดภัย โล่งใจ อบอุ่นหัวใจ


          เดินออกมาข้างนอกก็เห็นรถหรูสีดำสองคันจอดอยู่มีพี่ๆการ์ดสี่คนยืนรออยู่ข้างนอก เมื่อเขาเห็นพี่ราล์ฟออกมาก็เปิดประตูรถให้พี่ราล์ฟเข้าไปนั่ง พี่ราล์ฟไม่ปล่อยผมให้นั่งแบบปกติ ผมถูกพี่ราล์ฟจัดให้นั่งในท่าที่ถูกอุ้มมาเลย นั่งบนตักแกร่งเปลี่ยนจากสองมือแกร่งที่สอดไว้ใต้ขากับหลังมาเป็นกอดเอวผมไว้แทน พยายามขัดขืนจะลงจากตักก็โดนสองแขนแกร่งรัดไว้แน่นและสายตาคมมองมาอย่างดุๆ


"พี่ ผม...ผมขอนั่งดีๆได้ไหม" เช็ดน้ำตาป้อยๆถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ


"...."


"โอ้ย…" พยายามจะดิ้นลงจากตักทว่าก็สะเทือนไปถึงบาดแผลที่หน้าท้อง จนต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวด


"อย่าทำให้พี่อารมณ์เสียไปมากกว่านี้!" ผมสะดุ้งเมื่อพี่ราล์ฟขึ้นเสียงเกือบจะเป็นตวาด ทว่าพี่เขาก็ไม่ปล่อยผมลงจากตัก ผมก้มหน้านิ่งแม้แต่จะเงยมองหน้าพี่เขาก็ยังไม่กล้ามองได้แต่นั่งตัวเกร็งบนตักแกร่ง


           สักพักพี่ชิโนและพี่อันเดรียก็ขึ้นรถมาและขับออกไปโดยไม่มีการพูดคุยใดๆทั้งสิ้นมีเพียงความเงียบ พี่อันเดรียเป็นคนขับและพี่ชิโนนั่งข้างคนขับทั้งสองนั่งนิ่งเหมือนหุ่นยนต์ แม้กระทั้งคนที่ผมนั่งตักอยู่ สุดท้ายผมก็พูดทำลายความเงียบ


"ผมขอบคุณนะครับที่พี่มาช่วย แต่...พี่แม็คจะเป็นอะไรมากไหมครับ" ถามออกไปอย่างอดไม่ได้ ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นพี่เขาก่อนออกจากห้องมา เขานอนจมกองเลือดจนน่ากลัว ถึงเขาจะเลวผมก็ไม่อยากให้เขาตายและผมก็ไม่อยากให้พี่อันเดรียมีความผิดฆ่าคนตาย


"ถ้าไม่หยุดพูดชื่อนี้จากที่มันแค่พิการอีกไม่เกินชั่วโมงมันจะตาย" พี่ราล์ฟกัดฟันพูดอย่างข่มอารมณ์


"ผมแค่ถามเฉยๆกลัวพี่เขาตาย"


"หึ!! ทำไม!! เป็นห่วงเป็นใยมันอะไรขนาดนั้นหรืออยากเป็นเมียมัน!!!" พี่ราล์ฟตวาดลั่นรถจนผมสะดุ้ง


"แล้วพี่จะตวาดผมทำไมผมแค่ถามเฉยๆ ผมอยากจะไปเป็นเมียใครผัวใครมันก็เรื่องของผม!!" ผมเริ่มขึ้นเสียงพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลเอ่ออีกครั้ง เริ่มหงุดหงิดกับน้ำตาแล้วนะไอ้สัส ผมปาดออกลวกๆ พร้อมกับขืนตัวขยับลงจากตักไอ้พี่บ้า!


"ปล่อยผม!! ผมจะลง!" ผมเริ่มออกแรงขัดขืนทั้งที่เจ็บจนหน้าเบ้


"ได้ลงสมใจแน่"


"ผมเจ็บ!!"


          รถหยุดลง ประตูถูกเปิดออกด้วยฝีมือพี่ราล์ฟร่างผมถูกอุ้มพาดบ่าแกร่ง ผมไม่รู้ว่าที่ไหนรู้แค่ว่าเป็นสถานที่หรูหรามาก ถูกพาเข้าลิฟท์ น้ำตาผมหยดลงพื้นลิฟท์เป็นทาง กัดปากจนเลือดไหลเจ็บปวดจากการโดนแบกเพราะหน้าท้องกระทบกับไหล่แกร่ง ไอ้พี่บ้า!! ผมผิดอะไร ผมผิดอะไร ทำไมต้องใจร้ายกับผมอย่างนี้


"ปล่อยผม!!! ผมจะกลับบ้าน!!"










●ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาทักทายกันนะคะ
●ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่เป็นเสมือนแรงผลักดันและกำลังใจให้เขียนต่อค่ะ


 
 :pig4: :pig4:           




         





         
















         

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2020 06:30:07 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ toonsora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สั้นสุดใจ ใจจะขาดแล้วววว มาลงทุกวันเลยได้มั้ยคะ :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Heroyj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อิแม็คเลวมากทำร้ายน้องฤกษ์ มึงสมควรตาย

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :hao4:

ออฟไลน์ casson

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่หมอราล์ฟโกรธน้องทำไม

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อย่าทำร้ายน้อง

ออฟไลน์ catmoon1112

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารน้อง  :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
พี่หมอใจเย็นน้องแค่หึงพี่กับผู้หญิงอื่นก็เลยหลงผิด อย่าทำร้ายน้องนะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ถือว่าเป็นบทเรียนละกัน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอ่อมมม  อีพี่แม๊คตายรึยัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด