9…เบอร์แปลก
"น้องฤกษ์ลู๊กกกกก หั่นผักคะน้าเอาไปผัดนะคะไม่ต้องซอยถี่เป็นต้นหอมขนาดนั้นก็ได้ค่ะ"
"ครับๆ"
"น้องเบิร์ด มาดูเพื่อนด้วยพี่จะไปล้างผัก"
"ค่ะๆ พี่กู๊ดเดย์ กำลังไปค่ะ"
"ไอ้ฤกษ์!! กูบอกให้หยิบน้ำตาลนี่มันผงชูรส"
"เออๆ"
"ฤกษ์ มึงวางของตรงหน้ามึงเดี๋ยวนี้ แล้วกรุณากลับมาแกะกระเทียม มันใช่เวลามานั่งคั่วป็อปคอร์นเหรอหอกนี่"
"เข้มจังวะ"
"อีฤกษ์!! หุงข้าวทำไมไม่เสียบปลั๊กจะได้แดกมั้ย!! วันนี้"
"เออๆ กูลืม มึงก็เสียบดิ"
"ฤกษ์ กูบอกให้หั่นปลาเร็วๆน้ำเดือดแล้ว มึงจะนั่งอาลัยอาวรณ์แผ่เมตตาอีกนานมั้ยโว้ยยย"
"เอออออ"
"อีลำไย ตำพริกมึงก็ควรเด็ดก้านออกสิโว้ย"
"เอ้า!! กูตำจะเสร็จแล้วทำไงอ่ะ"
"ไอ้ตี๋ ก่อไฟชาตินี้จะได้ใช้ชาติหน้าเหรอวะ ครึ่งชั่วโมงแล้วนะไอ้ตี๋"
"กูก็รีบอยู่"
"เพื่อนปัดค่ะ ขอบคุณมึงมากนะคะที่ไม่ต้องเป็นภาระกู แต่กูขอเถอะมึงหั่นหมูเสร็จแล้วค่อยไปดูดก็ได้บุหรี่น่ะ มึงจะดูดไปหั่นไปอย่างนี้ไม่ด้ายยย"
ติ๊ง!!
"..."
"..."
"อีฤกษ์!!!! อีเวร ทำไมเอาข้าวเหนียวมาหุงใส่หม้อหุงข้าวววว"
"เม็ดมันเหมือนกันอ่ะ โทษทีๆ แยกไม่ออก"
"ฤกษ์ ไปเบิกเอายาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่เต็นท์แพทย์มาให้พี่หน่อย" ไอ้พี่ตังค์เดินมาในสภาพเหงื่อไหลไคลย้อย รองเท้าก็ไม่ใส่ เนื้อตัวมอมแมมไปหมดเหลือแค่ลูกตาที่ยังสะอาดอยู่ มาถึงก็ใช้กูเลย
"ให้ไอ้เบิร์ดไปดิมันว่าง ผมต้องขนสีไปให้พวกวิศวะตรงกำแพง" นั่งปั่นหูทำหน้าฟินอยู่ข้างๆกูเนี่ย
"ให้ไอ้เบิร์ดมันขนไป มึงไปเอายามา"
"ไอ้เบิร์ดมันก็ไปได้ ทำไมต้องผมอ่ะ" ตั้งแต่คืนนั้นที่ลำธารผมก็ยังไม่เจอพี่เขาอีกเลยเหอะ เจอดาเมจรุนแรงสบตาครั้งนั้นก็เหมือนตัวเองโดนสิง(?)จะแดก จะขี้ จะนอน จะนินทาคนอื่น หรือจะสวดมนต์นั่งสมาธิ ก็จะมีใบหน้าหล่อลูกครึ่งลอยเข้ามาในหัวตลอด ไม่ชอบเลยว่ะครับ!!
"ก็เห็นมึงสนิทกับเขา ให้มึงไปเอาเผื่อจะได้มาหลายๆหลอด"
"ผมไม่ได้สนิทเลยนะเว้ยยยยย"
"พี่ตังค์อ่ะ ผมจะขนไปได้ยังไงตั้งหลายถังน้องเบิร์ดคนนี้ตัวนิดเดียว" ตัวมึงก็พอๆกับกูนี่ล่ะอินก กูรู้มึงกลัวแดด ไอ้ลำไยมันจิ๊กร่มมึงไปกับพวกนิเทศอ่ะดิ แอบไปส่องตากล้องคนหล่อคณะเขา มันมาพร่ำเพ้อว่าหล่ออย่างนู้นอย่างนี้ ส่วนคู่หูกรี๊ดกร๊าดมันทำไมไม่ไปด้วยอ่ะเหรอ งานมันยังไม่เสร็จครับ สม!! มัวแต่เล่น กูก็ด้วย แอ่ะ!
"ฟรุ้งฟริ้งมานี่ดิ"
"ขาาาาาาาาาา" พี่ตังค์กวักมือเรียกไอ้ฟรุ้งฟริ้งที่กำลังเดินตูดบิดผ่านมาพอดีเนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบปูนสงสัยไปช่วยพวกไอ้ปัดกับไอ้ตี๋สร้างหัวบันไดพญานาคมา พอมันเห็นว่าใครเรียก ก็แทบวิ่งหัวขวิดมาหา ยัง ยัง ยังไม่รู้ตัวอีกว่างานจะเข้า
ผมเดินกระโดด(?)หลบแดดไปตามทาง เห็นเงาไม้ตรงนี้ก็กระโดดไปหา เห็นเงาไม้ตรงนู้นก็โดดเข้าใส่ กลายเป็นสนุกสนานอยู่คนเดียว เอิ้ก~ แดดตอนเที่ยงต่างจังหวัดไม่ได้มาเล่นๆนะครับ เขามาแบบแผดเผาทำเอาไหม้เกรียมไปได้ง่ายๆ ผมว่าถ้าเอาไข่ใส่น้ำแล้วทิ้งไว้กลางแดดทั้งวันมีสุกอ่ะผมว่า ผมเดินกระโดดเหยงๆไปเรื่อย เต็นท์แพทย์ถูกตั้งอยู่ในโรงเรียนซึ่งก็ติดกับกำแพงวัดนี่ล่ะ
"พี่~~~~~~~~~"
ผมหยุดชะงักเสียงเรียก? เรียกใครวะ ผมหันหาต้นเสียงที่น่าจะอยู่แถวๆนี้ รุ่นผมนี่เด็กสุดแล้วนะ ใครจะมาเรียกพี่วะ พวกปีหนึ่งก็ไม่ได้มา
ตุ้บ
"โหว ไรวะหันขวาหันหลังแต่ไม่หันซ้ายมันจะไปเห็นได้ไง อย่าไปเดินไหนคนเดียวรู้เปล่า เดี๋ยวโดนลากลงน้ำ"
" เอ้า ก็กูรู้สึกว่าเสียงอยู่ทางนี้" ไอ้เด็กเปรต ไอ้เด็กผ้าขี้ริ้วห่อทอง ไอ้เด็กเวรรักษ์ โผล่มากระโดดกอดคอผมเหยงๆเป็นผีกองกอยเลยนะมึง
"มาทำห่าไรแถวนี้" ผมหันไปถามพร้อมกับคว้าร่มในมือมันมาถือเอง มันมีมองตาขวางแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เออ มีประโยชน์หน่อย
"มาขูดฟัน"
"เขาเรียกหินปูนไหมวะ กูก็นึกว่ามาขูดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"
"เมื่อวานไม่อยากมา อยากมาวันนี้" มันพูดพลางเดินกอดไหล่ผมไปพลาง ตีซี้อย่างหน้ามึนๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ข้าวบ้านมันก็ไปแดกมาแล้ว ถ้าไม่นับความกวนตีน มันก็เป็นรุ่นน้องที่นิสัยน่าคบหาคนหนึ่ง (เรียกกูว่าพี่ยังพอทน เรียกกูเหี้ยกูจะไม่ทน)
"แล้วพี่จะไปไหน เห็นเดินโดดเหยงๆกลางแดดมาตั้งแต่ตรงนู้น ชอบเป็นเขียดเหรอ"
"เขียดพ่อง!! กูโดดหลบแดด กูจะไปเอายานวดที่เต็นท์แพทย์"
"งั้นไปด้วยกันดิ"
"ไม่อยากไปกับมึงอ่ะ เหม็นขี้หน้า"
"เอาร่มผมคืนมา"
"เออ กูไปด้วยก็ได้"
"ฮ่าๆๆ พี่แม่งน่ารักว่ะ" ฟอร์มเฟิมไรไม่มีให้รักษาอยู่แล้วตัวกูเนี่ย ชีวิตต้องการร่ม
"กูหล่อเหอะ!!" ตาไม่ดีนะมึงอ่ะ
"เออๆ ผมจะคิดสะว่าบ้านพี่ไม่มีกระจก แล้วเพื่อนๆพี่ไปไหนกันหมดอ่ะ"
"ทำงานทำการดิ เออ เกือบลืม คนนั้นเป็นไงบ้างวะ ในป่าช้าคืนนั้นอ่ะ" ถึงจะรู้ว่าลูกน้องลุงแรมพาไปส่งโรงพยาบาลแล้วก็เถอะ แต่ก็อยากถามอยากรู้อีกรอบ
"ไตหาย"
"ห๊า!! ไตหาย หายได้ไง ไหนบอกว่าช่วยทัน"
"...."
"ละ...แล้วเขาจะตายไหมวะ ไตหายแล้วจะใช้ชีวิตยังไง จะหายใจยังไง" โถ่ว นี่ผมช่วยเขาช้าไปเหรอ
"ฮ่าๆๆๆ โอ๊ยยย พี่แม่ง ฮ่าๆๆ"
"หัวเราะเชี้ยไรมึงไม่เห็นเหรอว่ากูซีเรียส ไอ้ด็กเวร" ผมตะโกนใส่มันอย่างฉุนๆ มันใช่เวลาไหมวะ
"ยอม ยอม ยอมจริงๆเลยครับ ไม่แปลกใจที่มีคนเป็นห่วง ผมล้อเล่นน่ะ เขาปลอดภัยดีเว้ย ไตไม่ได้หาย ปอดต้องหายเหอะถึงจะหายใจไม่ได้นะพี่ อีกวันสองวันก็ออกจากโรงบาลได้แล้ว พ่อผมจะรับมาเป็นลูกน้องที่บ้านพอดีขาดคนอยู่"
"ไอ้สัส!! ล้อเล่นทำเชี้ยไร กูก็นึกว่าหายจริงๆ ใจกูนี่หายหมด"
"เฮ้อ พี่แม่งเข้ามหาลัยมาได้ไงวะ"
"กูเก่ง" ใครไม่อวยแต่กูอวยตัวเองก่อน
"เออๆ ไม่อยากจะเถียง ไม่แปลกใจเลยที่มีคนโทรมาจิกผมทุกวัน"
"มึงว่าไรนะ ใครจิกไร"
"ไม่มีไรหรอกน่า หน้าเอ๋อแล้วหูยังไม่ดีอีกนะพี่"
"ไอ้สัส!!"
ตุบๆ
ตุบๆ
ตุบๆ
เสียงหัวใจผมเองครับ ตอนนี้ผมยืนแอบอยู่หลังเต็นท์แพทย์ด้วยหัวใจอันเต้นระทึก เขย่าขวัญ สั่นประสาท กลัวว่าจะเจอกับใครบางคน ผมไม่ชอบที่ตัวเองมีอาการประหม่าแบบนี้เวลาเจอหน้าพี่เขาเลยจริงๆ ผมทิ้งไอ้เด็กรักษ์ไว้กับพวกทันตะก่อนจะชิ่งหนีออกมา เพราะถ้าอยู่กับมันนานกว่านี้กูจะเป็นบ้า!!
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต~~~
หืม...เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมดังขึ้น หน้าจอโชว์เบอร์แปลกไม่คุ้นตา ใครวะ? ผมนึกว่าโทรศัพท์ผมโดนตัดสัญญาณไปแล้วสะอีก คิดว่ากลับจากค่ายว่าจะไปจ่ายอยู่ ที่พกติดตัวนี่คือไว้ดูเวลาล้วนๆเลยนะเออ
"ครับ?" กดรับสายด้วยความลุ้น เจ้าหนี้หรือเปล่าวะ ไอ้เทียนมันจ่ายค่างวดรถหรือยัง
"เข้ามาข้างใน มันร้อน"
"ห๊ะ!?"
"เข้ามา"
"ใครครับ โทรผิดหรือเปล่า" เข้าเชี้ยไรวะ
"ใครที่ยืนทำตัวลับๆล่อๆอยู่หลังเต็นท์แพทย์ให้เดินเข้ามาข้างใน"
จบประโยคผมสะดุ้งโหยง ไอ้สัส กูคุ้นเสียงขึ้นมาทันที โผล่หน้าออกไปดูก็ต้องสะดุ้งรอบสองเมื่อสายตาประทะเข้ากับดวงตาคูคมสีเทาหม่น ร่างสูงแกร่งยืนเด่นสง่าท่ามกลางความวุ่นวายในเต็นท์ที่มีคนเข้ามาไม่ขาดสาย มืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ส่วนมืออีกข้างถือโทรศัพท์แนบหูเหมือนกำลังคุยอยู่กับใคร สาวๆในเต็นท์แพทย์ต่างพากันแอบมองด้วยสีหน้าเขินๆ พวกสาวๆคณะต่างๆที่ได้เวลาพักต่างก็มารวมตัวกันนั่งกรี๊ด แม้แต่พี่ป้าน้าอาที่มาตรวจสุขภาพก็พากันมองแต่หมอเทวดาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม เอ่อ คงมีแค่ผมที่แม้แต่หน้ายังไม่กล้ามอง เป็นเชี่ยไรเนี่ยตัวกู
ผมตอบกลับไปว่า ครับ ก่อนจะกดวางสายสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะเดินเจี๋ยมเจี๊ยมเข้าไปหาคนที่ยืนกอดอกมองอยู่ตรงหน้า เหมือนครูกำลังรอลงโทษนักเรียนอย่างไรอย่างนั้น เฮ้ย ผมเปล่าทำเชี้ยไรผิดนะโว้ย ไมทำหน้าดุจังวะ คนเขามองพี่อยู่นา
"หวัดดีครับพี่" ทักทายด้วยความนอบน้อม
"มาซนอะไรแถวนี้" มือแกร่งจับหัวผมโยกไปมา ก่อนจะดึงแขนผมไปนั่งเก้าอี้ตรงมุม ที่มีตู้ยาสองสามตู้ตั้งวางอยู่ จะมียานวดอยู่ในนั้นเปล่าวะ?
"ผมโตแล้วไม่ซนเหอะ"
"หึๆ งั้นเหรอ" พี่หมอราล์ฟกระตุกยิ้มมุมปาก(ไอ้สัส โคตรหล่อ)ก่อนจะหันไปค้นตู้ยา เวลาคุยกับเวลาไม่คุยนี่โคตรจะหน้ามือหลังตีนเลยเหอะ เวลายืนนิ่งๆจ้องนิ่งๆผมนี่โคตรจะกลัวตาแม่งโคตรจะดุ ถ้ามีเรื่องกับพวกนักเลงแล้วพวกนั้นโดนสายตาแบบนี้จ้องผมว่ามี สะตั๊นท์อ่ะ
"พี่หมอ ผมอยากได้ยานวดคลายกล้ามเนื้ออ่ะ"
"อืม มีคนโทรมาบอกแล้วว่าเราจะมาเอา" พี่หมอราล์ฟหันมาตอบพร้อมกับกล่องยาห้าหกกล่อง จัดการใส่ถุงกระดาษรักษ์โลกสีน้ำตาลให้เรียบร้อยก่อนจะยื่นมาใหผมรับเอาไว้
"รอก่อนจะไปด้วย"
"เฮ้ยพี่ ผมไปได้"
"จะไปกินข้าว"
"จะบ่ายสามแล้วนะพี่ยังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอ"
พี่หมอไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะเดินไปทำงานกับอาจารย์หมอ โรงอาหารของค่ายอยู่ในวัดอ่ะครับถ้าใครทำงานอยู่ฝั่งโรงเรียนต้องเดินไป ผมนั่งมองนู้นนี่นั่นไปเรื่อย มีหมอแข่ง หมอรอน และพี่หมอที่เคยพาผมไปอาบน้ำเข้ามาทักทายตามประสา สิบห้านาทีก็แล้ว ยี่สิบนาทีก็แล้ว ก็ยังไม่มา
"ราล์ฟคะ ไปทานข้าวกัน" สาวสวยไม่คุ้นหน้าเดินเข้ามาในเต็นท์แพทย์พร้อมกับเอ่ยชวนเสียงหวานชวนคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ทำเอาสาวๆคนอื่นๆที่อยู่ในเต็นท์ต่างพากกันจ้องแทบตาถลน
"ครับ" พี่หมอราล์ฟพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหันไปจัดการงานตัวเองสักครู่ แล้วเดินไปตบไหล่หมอรอน กับหมอแข่ง เหมือนเป็นการเรียกไปในตัว และสุดท้ายก็หันมากวักมือเรียกผมที่นั่งเป็นตอมาร่วมสามสิบนาทีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ฮ่วย!! ผมรอตั้งนานจนรากตูดจะงอกก็ยังไม่ไป พอมีสาวมาเรียกแม่งลุกกันพึ่บพั่บ ไอ้สันขวาน!!
เป็นแค่รุ่นน้องทำไรได้อะครับ ก็ต้องลุกเดินตามตูดต้อยๆไปอี๊กกก งานการก็ใช่ว่าจะว่างนะเว้ยรออยู่แทบจะท่วมเอว(หัวจะเยอะไปครับ) บอกให้รอนี่คือลืมผมไปแล้วหรือเปล่าวะ? แล้วสาวคนนี้ใครอ่ะยืนควงแขนนี่คือแฟน? เอ้า!! แล้วพี่รินๆอะไรนั่น เอาเขาไปไว้ไหนแล้ว
"เป็นไรอะเรา หน้ามุ่ยเชียว"
"เปล่าครับ แค่ร้อนแดด"
"มานี่ๆ จะได้ไม่ร้อน" พี่หมอแข่งลากคอผมให้เข้าไปในร่มคันใหญ่ที่พี่เขากางอยู่ แขนแม่งโคตรหนัก ผมกับพี่หมอแข่งเดินอยู่หลังสุด มีพี่หมอรอนเดินอยู่หน้าสุดกับร่มลายคิตตี้ของพี่เขา
และพี่หมอขวัญใจประชาชนเดินอยู่ตรงกลางกับสาวสวยเซ็กซี่ หน้าอกตูมๆกับเสื้อรัดรูปมันทำให้ภาพเหตุการณ์คืนนั้นแว๊บเข้ามาในหัว คืนติดเรทหน้ากระโปรงรถคืนนั้น อื้อหือ ไอ้เชี่ย กูคิดอะไรเนี่ย ในค่ายนะเว้ยคงไม่ทำใช่ไหมวะ?
"เป็นอะไรทำไมเงียบกว่าปกติ"
"..." แล้วถ้าเขาจะทำอะไรกันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะไปเสือกหรือเปล่าวะฤกษ์
"ไม่สบายหรือเปล่าทำไมหน้าแดงคอแดงไปหมดเลย"
"..." แล้วทำไมไอ้ภาพติดเรท20+ มันถึงไม่หลุดออกจากหัววะ ไอ้เชี่ยหน้าร้อน
"ฤกษ์!"
"ห๊ะ!! ครับ?" ผมสะดุ้งโหยงหลุดออกจากความบ้าบอ และตัวก็ต้องแข็งทื่อเมื่อภาพตรงหน้าปรากฎเป็นหน้าหล่อไร้ที่ติของตัวต้นเหตุที่ทำให้มีภาพติดเรทในหัว ใบหน้าของเราใกล้กันมากใกล้จนผมรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของพี่เขา
"เป็นอะไร ทำไมหน้าแดงไม่สบายหรือเปล่า หรือกำลังคิดอะไรพิเรนทร์ๆอยู่"
"เอ่อ…" ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆเมื่อพี่หมอราล์ฟยื่นมือมาแตะตรงแก้มและหน้าผาก โดยมีพี่หมอแข่ง พี่หมอรอน พี่อกตูมยืนทำหน้าสงสัยอยู่ใกล้ๆ เอ่อ คือพวกพี่มึงจะช่างสังเกตอะไรขนาดน้านนน เดาเก่งอีกต่างหากว่าผมคิดพิเรนทร์อยู่ ฮ่วย!
"เปล่าๆพี่ มันแดงบ่อยๆอย่างนี้แหละเวลาตากแดด"
"ก็ดูผิวพรรณน้องก็น่าอยู่ ผิวดีจนผู้หญิงยังอาย" พี่อกตูมพูดออกมายิ้มๆพลางคว้าแขนหมอราล์ฟไปกอดทำให้ฝ่ามือที่แตะแก้มผมอยู่หลุดออก เฮ้อ ใจกูจะวาย
"หมันเขี้ยวโว้ย นี่แหนะๆๆ"
"โอ้ยๆ ไอ้พี่แข่งเจ็บนะโว้ย" ผมดิ้นทุลักทุเลพยายามให้หลุดออกจากฝ่ามือไอ้พี่หมอแข่งที่เกิดบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ มาบีบแก้มผมเนี่ย หนีไอ้พวกพี่ตังค์พี่อิฐที่ชอบบีบแก้มผมมาได้แล้ว ยังต้องมาเจอไอ้หมอบ้านี่อีก
พรึ่บ
"เดี๋ยวจะเดินไปส่งน้องก่อน ไปกันก่อนเลย"
แขนพี่หมอแข่งถูกพี่หมอราล์ฟดึงออกก่อนพี่หมอราล์ฟจะดันให้ผมไปอยู่ด้านหลัง และหันไปพูดกับพี่หมอแข่ง บังผมอีกละ ไม่เห็นอะไรเลยเนี่ย
"หึๆ กูไปส่งให้ก็ได้ สนิทกับน้องแล้ว ใช่มะ?" ไอ้พี่หมอแข่งยื่นหน้าข้ามไหล่แกร่งมาถามผมกระทันหัน และผมก็พยักหน้าไปแบบอัตโนมัติ ไอ้สัส สมองประมวลไม่ทัน เคยเป็นไหมที่ใครถามอะไรยังไม่ทันจะคิดให้ดีก่อนแต่พยักหน้ารับไปแล้ว ผมนี่เลย เป็นบ่อยฉิบหาย ไอ้เชี่ย ผมไม่ได้สนิทกับพวกพี่ขนาดน้าน
"จะไปส่งเอง" ห้วนสั้นได้ใจความฉิบหาย
"แต่น้องพยักหน้าอยากให้กูไปส่งแล้ว"
"เอ่อ...พี่ผมไปเองได้ใกล้แค่นี้เอง" ผมโผล่หน้าจากแผ่นหลังกว้างไปตอบ ไม่ต้องไปส่งกูกันครับ ผมแมนๆแข็งแรงดี แต่ก็ได้รับสายตาดุๆกลับมาจากพี่หมอราล์ฟ ทำไมการไปส่งผมมันถึงกลายเป็นถกเถียงอะไรกันขนาดนั้นวะ เฮ้ย ผมนี่ ฤกษ์มงคลบ้านขายโลงศพนะครับ ไม่ใช่ลูกชายนายก
"น้องเขาบอกว่าไปเองได้นี่คะ ให้น้องเขาไปได้แล้ว"
"คิมไปรอที่โรงอาหารก่อน" อ้อชื่อคิม
"ให้คิมไปด้วยนะคะ" โหว เสียงอ้อนอย่างน่ารัก
"ไม่ต้องหรอกมันร้อน"
"แต่ราล์ฟคะ"
"ฝากด้วย"
พี่หมอราล์ฟหันไปบอกพี่หมอรอนที่พยักหน้ารับยิ้มแป้น และก็ลากแขนพี่คิมเดินไปอีกทาง เฮ้ย เผด็จการจังวะ เหลือพี่หมอแข่งขันที่ยืนยักคิ้วยิ้มเจ้าเล่ห์พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนเป็นการยอมแพ้ เมื่อเจอสายตาดุหันไปจ้อง อะไรของพวกพี่เขาวะ ประสาทจะแดก
"เฮ้ออออ ทำมาได้ตั้งนานแต่สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า"
พี่หมอแข่งพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ผมที่ได้ฟังงงกับคำพูดของพี่เขา พัง?อะไรพังวะ
"พี่เขาหมายความว่าอะไรเหรอพี่" ผมหันไปถามคนที่เดินถือร่มอยู่ข้างๆ
"ไม่ใช่เรื่องของเด็ก"
"ก็ถามไปงั้นแหละ ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น"
"แล้วหน้างอทำไมล่ะหืม"
"ตาฟาดแล้วพี่ แก่แล้วก็งี้แหละ" ว่าผมเด็กดีนัก
"คนแก่ก็ฟาดก้นให้เจ็บได้นะ ถ้ามีคนดื้อ"
"โหว กลัวๆๆ" ผมทำท่ากอดอกตัวสั่น
"เรานี่มันจริงๆเลย นะ"
"เฮ้ยๆพี่ไม่ต้องกอดคอผมก็ได้มันหนัก"
"ลงโทษเด็กซน"
"ฤกษ์มีคนอยากคุยด้วย"
"ลิซ่าอยากคุยกับกูเหรอ"
"พ่องงง!!"
"ไอ้สัส ถึงมึงจะหล่อขนาดไหนก็ไม่ควรเอาน้ำลายมาป้ายหน้าคนอื่น"
ผมรับเอาโทรศัพท์เครื่องหรูของไอ้ปัดมาก่อนจะกรอกเสียงเท่ๆลงไป เผื่อจะมีสาวๆโทรมาสารภาพรัก
"โทรไม่ติด"
"ห๊ะ!!"
"โทรศัพท์เป็นไร" อ่อ เสียงนี้ ห้วน สั้น ไม่มีที่มา ที่ไป น้องกูเองครับ
"ไม่เป็นไรหนิ ตอนบ่ายยังมีคนโทรเข้าอยู่เลย"
"ไม่ติด"
"เออๆ วางสายเลยเดี๋ยวโทรให้ดู"
ผมกดวางสายน้องก่อนจะควักเอาโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดโทรหาน้อง อ้าวเฮ้ย ลืมไปเลยว่าโทรศัพท์ไม่มีตังค์
ตู๊ด ตู๊ด~
"เบอร์ใคร?" เอ้าโทรได้เฉยเลยว่ะ
"เบอร์พี่ไง อะไรของเราเนี่ย"
"เปลี่ยนเบอร์?"
"ก็เนี่ยเบอร์พี่"
"โอเคร เปลี่ยนเบอร์ ตู๊ดๆๆๆ"
"โหลๆ เทียนไอ้เทียนโว้ย"
ไอ้ลูกกรอกหนิ คิดจะวางก็วางสรุปโทรมาเพื่อ? ไม่ถามสารทุกข์พี่มันสักคำ ให้พี่มึงได้ถามบ้างสิเฮ้ย
"น้องมึงเหรอวะ" ไอ้ลำไยขยับมานั่งใกล้ผมแทบจะทันทีเมื่อได้ยินชื่อไอ้เทียนหลุดออกจากปากผม ตอนนี้เรากำลังนั่งอยู่รอบกองไฟเพราะวันนี้จะมีกิจกรรมคลายเครียดเฮฮา ของพวกนิเทศที่จัดขึ้น
"น้องมึงว่าไงมั้ง" อินกก็ตามมาอย่างไวว่อง
"มันว่ากูเปลี่ยนเบอร์ว่ะ กูลองโทรเข้าเครื่องมึงหน่อย" ผมกดโทรออกโทรเข้าเครื่องไอ้นก ปรากฎว่าเบอร์ที่ขึ้นโชว์อยู่หน้าจอเป็นเบอร์แปลก แต่มันเป็นเบอร์ที่โทรจากเครื่องผม
"มึงเปลี่ยนเบอร์เหรอฤกษ์" ไอ้ตี๋ที่นั่งเช็คเอกสารเกี่ยวกับค่ายอยู่ข้างๆผมถามขึ้น
"เปล่านะเว้ย" ผมว่าพลางแกะดูซิมของเครื่องตัวเองว่าโดนเปลี่ยนหรือเปล่าแต่ก็เปล่านี่หว่า นี่มันก็ซิมของผมเอง
"เนี่ย นี่ไงซิมกู"
ผมยื่นซิมไปให้พวกนั้นดูก่อนจะประกอบใส่ลงเครื่องอีกครั้ง ไอ้ปัดคว้าโทรศัพท์ผมไปเปิดเองก่อนจะไล่เปิดดูข้อความในโทรศัพท์ของผม มันนิ่งอ่านข้อความอยู่สักพัก ก่อนจะยื่นมาให้ผมอ่าน
'คุณได้เปลี่ยนหมายเลขเป็น 099-095xxxx โปรใช้งานไม่จำกัดทั้งโทรและอินเตอร์เน็ต ฟรีตลอดชีพ'
"เหี้ย!!!"
"เชี่ยไรมึงเนี่ย อะไรจะโชคดีขนาดนั้น" ไอ้ตี๋
"อิฤกษ์ มึงได้ไปเล่นเสี่ยงโชคอะไรไว้หรือเปล่า" ไอ้นก
"กูไม่ได้ทำเชี่ยไรเลย"
"เฮ้ย มันมีจริงๆเหรอวะโปรแบบนี้"ไอ้ลำไย
"ของฟรีไม่มีในโลก"
ไอ้ปัดเอาโทรศัพท์ผมไปกดอะไรยุกยิกๆก่อนจะกดโทรออก มันเปิดลำโพงให้ได้ยินกันทุกคน
'
สวัสดีค่ะศูนย์xxxยินดีให้บริการ'"ผมอยากทราบโปรโมชั่นของเบอร์นี้ครับ แล้วก็อยากทราบว่าทำไมอยู่ดีๆเบอร์ถึงเปลี่ยนไปเป็นเบอร์อื่น"
'เบอร์099-095xxxxนี้นะคะ กรุณารอสักครู่ค่ะ'"...."
'เบอร์นี้เป็นเบอร์ของลูกค้าวีไอพีค่ะ ถูกเปลี่ยนจากเบอร์ปกติเป็นวีไอพีเมื่อสามวันที่แล้วค่ะ โปรโมชั่นโทรและอินเตอร์เน็ตไม่จำกัด ฟรีตลอดชีพค่ะ'"พี่ครับจะฟรีจริงๆเหรอพี่ แล้วผมก็ไม่เคยไปเป็นลูกค้าวีไอพีเลยนะครับ" ผมโพล่งออกไปอย่างงงๆ ไม่ใช่ส่งบิลมาเก็บหนี้ผมทีหลังนะเฮ้ย
'
ฟรีตลอดชีพค่ะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นค่ะ ทางเราจะส่งข้อความยืนยันไปให้อีกครั้งค่ะ พร้อมกับลิงค์ดาวน์โหลดเอกสารเป็นหลักฐานนะคะ ส่วนลูกค้าวีไอพีนอกจากฝ่ายผู้บริหารของบริษัทเครือข่ายxxxแล้วสิทธิ์นี้ไม่มีให้บุคคลทั่วไปค่ะ'"แล้วไมผมได้อ่ะพี่ บ้านผมบริหารโลงศพเฉยๆนะ"
'เอ่อ...สักครู่นะคะ'"ไอ้เชี่ย มึงไม่ต้องบอกเขาก็ได้ไหมว่าขายโลง" ไอ้ตี๋ท้วง
"ก็กูกลัวเขาคิดว่าอยู่ฝ่ายบริหารเครือข่ายเขาอ่ะ"
'ขออภัยที่ให้รอนานนะคะ ข้อมูลนี้เป็นความลับค่ะแต่เบอร์คุณได้สิทธิ์ใช้เบอร์วีไอพีค่ะ'
"อ่อครับๆขอบคุณครับ แค่นี้นะพี่"
"บุญของการไปช่วยหลวงลุงหิ้วของตอนบิณฑบาตสินะ ไอ้ฤกษ์" ไอ้นกว่า
"ไม่อยากใช้ก็เอามาให้กู กูจะเข้าpornhub ให้หนำใจเลย" ไอ้ตี๋ระริกระรี้
"เรื่องไรล่ะของฟรีไม่เอาก็โง่แล้ว"
"จงใจน่ะสิ"
"จงใจอะไรวะปัด" ผมถามไปอย่างอยากรู้
"มึงรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังสนิทกับคนที่มีอิธิพลที่สุด"
"รู้สิ ก็มึงไง"