13…ไปส่งอีกแล้ว"เออ ถึงแล้วกำลังเดินเข้าไป"
ผมกดวางสายไอ้เพื่อนนกที่อยากเป็นเบิร์ด มันโทรตาผมยิ๊กๆตั้งแต่นั่งแบ่งขี้อยู่ที่บ้าน เพราะว่ามันคิดถึงผม...ใช่ที่ไหนล่ะ!? ตลับแป้งยี่ห้อดังที่มันฝากผมซื้อก่อนมาถึงมากกว่า มันให้แบงค์พันผมมาตั้งหลายใบ แค่แป้งทาหน้าต้องแพงขนาดนี้ป่ะวะ ยี่ห้ออะไรนะ? อ้อ เนชั่น...แชนโน!? อะไรสักอย่างนี่ล่ะ มันบอกให้ซื้อในห้าง ผมก็เดินจนขาลากไม่เห็นจะเจอ เลยตัดสินใจซื้อยี่ห้อไทยๆไปเลย ถูกด้วย เหลือแบงค์พันอีกตั้งหลายใบ (เพื่อนที่ดีต้องช่วยกันประหยัดครับ) แป้งแม่ตานี สูตรกันน้ำกันเหี่ยว ติดทนนาน ทาแล้วผ่องไปอีกสามวัน ไอ้นกน่าจะชอบ ถ้าล้างหน้าวันแรกความผ่องจะยังอยู่ ล้างวันที่สามถึงจะออก คิ้กค้ากกกกก
ขณะนี้เป็นเวลา 18:45 น. คืนนี้มีการประกวดดาวเดือนมหาลัย งานเริ่ม 19:00 น. ซึ่งมีเวลาพอที่ผมจะเดินจากทางเข้าทางด้านหลังมหาลัยไปสถานที่ประกวด ผมนั่งรถเมล์ลงด้านหลังเพราะคิดว่าน่าจะใกล้กว่าด้านหน้า ไอ้สัส โคตรไกล เย็นแล้วด้วย รถผ่านด้านหลังวันนี้แทบไม่มี ตอนนี้คงจะไปติดกันอยู่ด้านหน้า( ทางเข้าด้านหน้าใกล้กว่า ผมเดาผิดอ่ะ) วันนี้ผมมีเรียนแค่ถึงบ่ายสามก็เลยกลับบ้านไปช่วยพี่บุญพี่เพชรทำงาน ปกติตอนนี้ก็คงนอนเกาไข่อยู่บ้าน หรือไม่ก็นั่งประกอบโลง แต่...วันนี้จะเป็นอย่างปีนั้นไม่ด๊าย ผมต้องมาเชียร์คนสำคัญของผม ไอ้เทียนน้องร้ากกก
ปริ๊นๆ
เสียงแตรรถดังมาจากหลัง ใคร? หันไปมอง อื้อหือ ไอ้สัส ไฟส่องตา เห็นแต่แสงไฟ พอเห็นผมยกมือป้องดวงตา คนขับก็กรุณาหรี่ไฟต่ำลง ขับในมหาลัยเปิดไฟสูงทำสันขวานอะไรวะ ผมยืนงงๆ กำลังนึกว่ารู้จักใครขับรถแบบนี้หรือเปล่า หรือจะเป็นคนขับรถของท่านพ่อที่ส่งมารับผมเพราะรู้ว่าผมเดินไกล ถุย!!
รถซุปเปอร์คาร์คันหรูสีแดงค่อยๆขับเข้ามาจอดใกล้ๆ กระจกติดฟิล์มทึบค่อยๆเลื่อนลง เผยให้เห็นคนในรถ อ่า เปลี่ยนรถขับอีกแล้ว…
"หวัดดีพี่" ยกมือไหว้อย่างเท่ๆ ทั้งที่อยู่ดีๆก็รู้สึกประหม่า วันนี้พี่เขาหล่อโคตรเลยว่ะ ผมคิดว่าหล่อกว่าพวกเดือนที่กำลังประกวดอยู่ก็เป็นได้
"ขึ้นมาสิ"
"ไม่เป็นไรพี่ใกล้ถึงแล้ว" กูยังเดินไม่ถึงครึ่งทางอ่ะ
"ไปด้วยกัน"
"แต่ว่า…" ใจไม่ดีเลยกู
"ทำไมชอบดื้อ" พี่เขาทำเสียงดุ
"ไม่ได้ดื้อเหอะ เขาเรียกคนมีมารยาท" ตอแหลอีกแล้ว มารยาททุกวันนี้สะกดไม่ค่อยจะถูกอ่ะเอาจริง
"หึๆ งั้นเหรอ ถ้าไม่ดื้อก็ขึ้นมาได้แล้ว"
สุดท้ายก็ต้องขึ้นไปนั่งรถหรู เบาะนุ่ม เป็นบุญตูดอีกครั้ง
"มาดูประกวดด้วยเหรอเรา" เสียงทุ้มคุ้นหูเอ่ยถาม
"ปกติไม่มาอ่ะ แต่วันนี้น้องผมประกวดไง พี่อย่าลืมเชียร์น้องผมนะ เบอร์5 ประมง เอาดอกกุหลาบไปให้ด้วยนะ ใครได้ดอกกุหลาบเยอะจะได้รางวัลป็อปปูล่าโหวต"
"ไม่เชียร์น้องให้ได้ตำแหน่งเดือน?"
"อันนั้นก็อยากได้ แต่...ชอบป็อปปูล่าโหวตอ่ะ ได้ดอกไม้เยอะดี ผมจะเอาไปตกแต่งที่ร้าน"
"พี่เชียร์น้องๆคณะพี่"
"พี่ก็เชียร์น้องผมได้ เอาพวกพี่หมอแข่ง พี่หมอรอน มาให้กุหลาบน้องผมด้วยนะ นะ นะพี่หมอ..."
เผลอไปจับแขนพี่หมอเขย่าอย่างลืมตัว ทำจนเคยชินเมื่ออยู่กับพวกพี่ๆสายรหัสเพื่อจะขออะไรสักอย่าง แต่ว่าครั้งนี้...เมื่อรู้สึกตัวรถก็จอดสนิทอยู่ที่โรงจอดรถ เงยหน้าขึ้น พี่หมอราล์ฟก็มองอยู่ก่อนแล้ว
"เอ่อ...ขอโทษครับ"
"ถ้าแค่ฤกษ์จับมากกว่านี้ก็ได้"
"...."
ผละมือออกจากแขนแกร่ง พี่หมอพูดจบก็กระตุกยิ้มมุมปากจนใจกระตุก สายตาคู่คมสวยจ้องผมนิ่งๆ อย่างคาดเดาอะไรไม่ได้ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆคล้ายเอ็นดู…ตาโตกับประโยคที่ได้ยินไม่ทันจะพูดอะไรพี่หมอก็ลงจากรถ เอิ่ม ร้อนจังเลยครับ
เราลงจากรถเดินไปที่งานพร้อมกัน...ได้ไม่ถึงสิบก้าว รอบตัวพี่หมอราล์ฟก็มีแต่คนมาขอถ่ายรูปเต็มไปหมด ผมถูกดีดออกมาให้ยืนอยู่ห่างๆอย่างทำอะไรไม่ได้ ก็พอรู้ว่าพี่เขาเป็นคนดังมหาลัยเพราะพวกไอ้ลำไยไอ้นกมันกรอกหูตลอด แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นซุปตาร์ขนาดนี้นี่นา พี่เขาถูกห้อมล้อมจากคนเกือบห้าสิบคนและอาจจะมากกว่านั้น ไม่รู้หลั่งไหลมาจากไหน ทั้งสารพัดขนมนมเนย ตุ๊กตา ป้ายไฟ นี่มันดาราชัดๆเลยเว้ย วุ่นวายจนเห็นพี่ๆชายชุดดำห้าหกคนวิ่งมาจากไหนไม่รู้แฮะ เข้ามากันคุณๆแฟนคลับของพี่หมอราล์ฟให้ถอยห่าง พี่ รปภ.หรือเปล่าวะ? หล่อกันขนาดนี้ทำไมไม่ยักจะเคยเห็นเลยว้า พลันสายผมก็เห็นพี่ลลินคนสวยเดินคอตั้งมาแต่ไกล ก่อนจะแหวกฝูงชนเข้าไปหาพี่หมอ เหมือนคุ้นเคยกับสถานการณ์ตรงหน้าจนเคยชิน เฮ้อ คงไม่ต้องยืนรอหรอกมั้ง
ยืนมองอยู่ชั่วอึดใจก็ตัดสินใจหันหลังกลับเดินเข้างาน ไปก่อนไม่รอแล้วนะ เซ็งว่ะ!? ไม่รู้เซ็งอะไร อยู่ดีๆก็เซ็ง น่าจะซื้อลูกชิ้นมากินจะได้ไม่เซ็ง
"พี่ครับ"
"ว่าไงไอ้น้อง?" ผมหันไปถามไอ้เด็กตัวโตที่ดูก็รู้ว่าปีหนึ่งเพราะห้อยป้ายชื่อ มันยืนอยู่กับเพื่อนอีกสองคน ตอนเด็กๆแม่พวกเอ็งเลี้ยงด้วยเสาไฟฟ้าหรือไงวะ สูงกันจนกูอิจฉา
"ห้องน้ำอยู่ทางไหนอ่ะ"
"ตรงไปเจอน้ำพุเลี้ยวซ้าย เจอสวนเลี้ยวขวาตรงไปแล้วเลี้ยวขวาอีกที" ผมเริ่มตะเบ็งเสียงเพราะเสียงในงานเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
"อะไรนะพี่ ผมไม่ได้ยินขออีกรอบ" ไอ้เด็กเสาไฟยื่นหูมาใกล้ๆหน้าผม
"ตรงไปเห็นน้ำพุเลี้ยวซ้าย เจอสวนเลี้ยว…"
พรึ่บ
"ทำไมไม่รอ" ผมเซถลาเข้าไปหาแผ่นอกแกร่งอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อแขนผมถูกดึงให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับคนที่รู้ว่าใคร สายตาเหลือบเห็นพี่ลลินเดินตามมาติดๆ เหล่าแฟนคลับถูกพี่ๆ รปภ.กันให้ยืนถ่ายรูปอยู่ห่างๆ
"เห็นพี่ไม่ว่างอ่ะ แป๊บนะ" ผมบิดแขนออกจากมือพี่ราล์ฟเบาๆ เพราะยังไม่เสร็จภารกิจบอกทาง หันไปยื่นหน้าเอามือป้องปากตะโกนข้างหูกับไอ้เด็กๆเสาไฟด้านหลังเพื่อบอกทางไปห้องน้ำ พวกมันยกมือไหว้กันลวกๆก่อนจะวิ่งจู๊ดไปตามทางที่บอก อย่าขี้ใส่กางเกงกันนะเว้ย หันกลับมาก็สะดุ้งโหยงกับสายตาดุดันที่จ้องมองอยู่
"ราล์ฟคะ มีอะไรกันหรือเปล่า" พี่ลลินยกมือแตะไหล่พี่หมอด้วยความเป็นห่วง เป็นห่วง?
"เปล่า ลลินไปก่อนเลย" พี่หมอพูดเสียงแข็งโป๊กเหมือนคนผีเข้า
"ไปด้วยกันสิคะ"
"...."
"เอ่อ...งั้นเจอกันข้างในนะ"
พี่ลลินเดินเข้าไปในงานด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่กับพฤติกรรมเย็นชาของพี่หมอ หน้านี่ตึงระดับวีวีไอพี
"เอ่อพี่หมอเรา...เรา…"
"...."
"เข้าข้างในกันเถอะพี่ ยืนนานๆ ลำบากพี่ๆ รปภ.เขา"
พี่ราล์ฟถอนหายใจหน่ายๆ อย่างไม่สบอารมณ์ อะไรล่ะวะ? พอสาวชวนก็ไม่ไป พอผมชวนก็ถอนหายใจใส่ เทวดานี่เอาใจยากว่ะ แขนแกร่งกอดคอผมหมับพลางลากเบาๆเดินเข้าไปข้างในงานอย่างไม่ทันตั้งตัว ท่ามกลางเสียงกรี๊ดสนั่นที่ดังอยู่ด้านหลัง
ผมพยายามจะแกะเอาแขนพี่หมอออกจากคอก็ทำไม่ได้ พี่เขาล็อคแน่นอย่างกับคีมเหล็ก ปล่อยผมไว้คนเดียว เดียวดาย ให้เดินไปเองซะยังดีกว่าที่จะต้องถูกจ้องมองจากสายนับร้อยนับพันคู่ WTF!!
"แกร ใคร? คนนั้นใคร"
"กรี๊ดๆ พี่หมอเทวดากอดใคร"
"ผู้ชายน่ารักๆ ที่ใส่รองเท้าแตะกับกางเกงยีนส์ขาสั้นขาดๆอ่ะ"
"ไหนๆ ชั้นไม่เห็นเลยพี่หมอบังหมดเลย"
"สะพายย่ามสีน้ำตาลอ่ะ"
"นั่น!! น้องฤกษ์หนิ!! น้องฤกษ์ที่แอดมินเพจคิ้วท์บอยชอบเอามาลงอ่ะ"
"แอร๊ย ตัวจริงโคตรน่ารักเลยแก้มน่าบีบเหมือนในรูปเลย น้องหาตัวยากมาก"
"น้องนิสัยดีมากด้วย วันก่อนเห็นพาลุงที่นั่งขอทานอยู่ตรงสะพานลอยมาหาหมอใน ม.ด้วยนะ น้องจ่ายให้หมดเลย มีคนแอบถ่ายไปลงเพจด้วย"
"โถ่ว เจ้าเทวดาตัวน้อย"
"แกร๊ น้องสนิทกับพี่หมอเหรอ"
"สืบ!!"
"เฮ้~"
เกร้ง
"น้องมึงมันแน่!! มันแน่มาตลอด" ลูกปัดพูดขึ้น
"ควบตำแหน่งเดือนมหาลัย ตำแหน่งป็อปปูล่าโหวตแค่คะแนนในเน็ตก็กินขาดแล้วยังมีคะแนนดอกกุหลาบอีกชนะขาดลอยเห็นๆ" ลำไยเสริม ผมได้แต่พยักหน้าหงึกหงักๆอย่างเห็นด้วย แววตาเปี่ยมด้วยความภูมิใจสุดๆ แต่พูดไม่ได้เพราะปากยังเคี้ยวอาหารเต็มสองแก้ม
"ใครวะที่สั่งกุหลาบตั้งพันดอกมาให้น้องมึง แฟนคลับหรือเปล่า ไอ้เทียนจะแจกให้คนอื่นมึงก็ไม่ยอม ลำบากเพื่อนๆอย่างพวกกูขนกลับกันลำบากฉิบหาย" มังกรบ่น
"ไม่รู้ว่ะ แต่ดีแล้วกูชอบ ร้านกูจะได้สวยๆ"
"พันดอกก็เกินไปป่ะ มึงขายโลงนะเว้ย จะเน้นดอกเพื่อ" นกพูดอย่างหน่ายๆ
"เก็บไว้ให้คี๊สสส" ผมตอบอย่างกวนประสาทไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากอาหารตรงหน้า
"เสียดายคณะเราดาวได้ที่สองเองอ่ะ น้องออกจะสวย"
"ก็เพราะว่ามีรุ่นพี่อย่างมึงไงลำไย เขาบอกให้ไปเทรนน้องก็ตอแหลว่าป่วยแต่ดันนั่งส่องผู้ชายอยู่กับไอ้นก ดูอย่างไอ้ปัดสิ ถึงไปแล้วไม่ได้ช่วยอะไรมันยังไป"
"ไอ้เชี่ยตี๋ กูป่วยจริงเหอะเดินมากไม่ได้เจ็บตูดเว้ย!!"
นั่งแดกเหล้าขวดเดียวกันแท้ๆตีกันอีกแล้วไอ้เกลอพวกนี้ ปัดโถ่ว ขณะนี้พวกผมอยู่ในร้านเหล้านั่งชิลล์แห่งหนึ่ง จากคำแนะนำของไอ้ตี๋ที่บอกว่าดี!! แต่ไกลโว้ย พวกมันจะลากสังขารมาไกลผมก็ไม่อะไรหรอกนะ แต่มันดันลากผมมาด้วยอ่ะดิ น้องผมก็อย่างที่หลายๆท่านได้ยินไป ชนะครับ ภูมิใจสุดๆ แต่ไอ้คนที่พึ่งเป็นเดือนมหาลัยป้ายแดงหน้าอย่างกับตูดเป็ด ดูก็รู้ว่าไอ้เทียนโดนบังคับประกวดเห็นๆ ก่อนหน้านี้วุ่นวายกันใหญ่ หลังจากได้ตำแหน่งมันก็ชิ่งหายตัวอย่างลึกลับไปกับไอ้เพื่อนรักษ์เด็กเปรตของมัน เขาเรียกรวมถ่ายรูปไอ้ตัวเด่นเสือกหาย ตามหากันให้วุ่น ถ้ามันโดนปลดผมจะไม่แปลกใจเลยจริงๆ โทรไปก็ไม่รับส่งข้อความมาแค่ 'กลับเช้า' เข้ามหาลัยแล้วเอาใหญ่เลยนะ!! เหมือนพี่มันฉิบหาย
"ฤกษ์ อย่าดื้อมันดึกแล้ว" ไอ้นกพูดอย่างไม่ชอบใจ
"ก็จะกลับเอง พวกมึงไปๆได้แล้ว ไอ้ตี๋ไม่ไหวแล้วน่ะ กูกลับแท็กซี่ได้" ผมช่วยไอ้นกแบกไอ้ตี๋ไปที่รถอย่างทุลักทุเล เมาเป็นหมา ไอ้ลำไยก็เป๋ซ้ายเป๋ขวา ก็ยังดีที่มันเปิดประตูรถคลานไปนั่งเองได้ พวกผมเอารถมาสองคันมีรถไอ้ปัดกับไอ้ตี๋ ไอ้ปัดหิ้วสาวกลับไปแล้ว ก่อนไปมันก็มาชวนให้ผมกลับพร้อมกันด้วยเพราะบ้านผมกับคอนโดมันทางเดียวกัน แต่ผมปฏิเสธไปเพราะไม่อยากเป็น กขค. ส่วนไอ้เพื่อนสามคนนี้บ้านมันทางเดียวกันห่างกับผมตั้งไกล ไปส่งผมแล้วต้องตีรถกลับให้วุ่นวายอีก นั่งแท็กซี่ดีกว่า
"แต่ว่านี่มันตีหนึ่ง…"
"เฮ้! น้องๆผู้น่ารัก วันนี้มาไกลกันจังครับ" บังเอิญจังแฮะ กลุ่มพี่หมอเทวดาเดินตรงมาหาพวกผมด้วยสีหน้าแปลกใจ บางทีผมก็สงสัยว่าพวกพี่เขาเรียนหมอกันจริงหรือเปล่าทำไมดูว่างกันจังวะ พี่หมอราล์ฟเดินมายืนข้างๆผม ผมได้แต่ยิ้มทักทายกลับไป และยืนก้มหน้าเงียบๆหลับตาลง ตอนนี้ผมง่วงมากๆ กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคยลอยแตะจมูกจนต้องลืมตาหันไปมองเจ้าของอย่างเผลอตัว เราสบตากันชั่วแวบเดียวก่อนผมจะหันหนีมองทางอื่น เขามองผมอยู่ก่อนแล้ว
"เมาเหมือนหมา"
โป๊ก!!
"โอ๊ย!!" พี่หมอแข่งเดินไปผลักหัวไอ้ตี๋ที่นั่งไม่ได้สติอยู่หน้ารถด้วยสีหน้าหมันไส้จนหัวไอ้ตี๋โขกกับคอนโซลหน้ารถดังโป๊ก รังแกคนเมาไปอีกเน๊อะพี่หมอ
"มาเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ แล้วพวกๆพี่หมอมาร้านนี้บ่อยเหรอคะ" เสียงอ่อนเสียงหวานเกินไปแล้วไอ้นก
"ร้านคนรู้จัก มาบ่อยน่ะ มีอะไรให้พวกพี่ช่วยไหมครับ?" พี่รอนถามเสียงนุ่ม
"ไม่มีค่ะ กำลังจะกลับกันแล้ว งั้นพวกหนูไปก่อนนะคะ" พวกผมยกมือไหว้พี่ๆก่อนผมจะเดินแยกออกมาเพื่อเรียกแท็กซี่
"ฤกษ์!! จะไปไหนกูจะไปส่ง" ไอ้นกตวาดแว้ด
"ไม่ต้องกูจะกลับแท็กซี่ จะได้ไม่เสียเวลา"
"ไม่…"
"พี่ไปส่งเอง"
"เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่ผมกลับเอง" ไม่เอาๆๆ
"เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง ไม่ต้องห่วง"
"ห๊ะ...คะคะคือ...ค่ะๆ" พี่ราล์ฟหันไปบอกไอ้นกที่กำลังยืนตาเหลือก มันพยักหน้ารับอย่างคนไม่มีสติ คล้ายคนช็อค ผมช็อคกว่าอีก!!
และอีกครั้งกับซุปเปอร์คาร์สีแดงสีแสบทรวงกับแอร์เย็นฉ่ำ ฤกษ์ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากโดนลากแล้วก็ลาก
"ง่วงก็นอนถึงแล้วจะปลุก" หมอราล์ฟลูบเจ้าของผมนุ่มที่นั่งตาปรือตาปรอยอยู่ข้างๆ ดูก็รู้ว่าฝืน ห้านาทีแรกก็นั่งเกร็งรู้สึกประหม่า ทั้งที่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นั่งรถหมอราล์ฟแต่ฤกษ์ก็ไม่เคยที่จะชินสักที
กริ๊ง~~
"อืม ว่าไง"
"..."
"ความเสียหายแค่ไหน"
"..."
"เดี๋ยวไป" หมอราล์ฟกดวางสายก่อนจะหันมาหาฤกษ์ที่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์
"พี่ต้องกลับบ้านก่อนมีธุระด่วน"
"งั้นให้ผมลงตรงนี้ก็ได้ ผมนั่งแท็กซี่กลับได้" ฤกษ์พูดอย่างกระตือรือร้นกลัวพี่หมอไม่ทันธุระ
"ไม่มีทาง มันดึกแล้ว อันตราย ไปกับพี่"
"แต่ว่า…"
"ไม่ไว้ใจพี่?"
"เปล่าๆ ผมแค่เกรงใจ"
"อะไรที่เกี่ยวข้องกับพี่ไม่ต้องเกรงใจ"
"หือ?" วันนี้พี่หมอพูดแต่อะไรแปลกๆให้ฤกษ์ใจกระตุกและปั่นป่วนลึกๆอยู่ข้างในอีกแล้ว
"จำด้วยล่ะ นอนเถอะถึงแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก"
ฤกษ์สะดุ้งตื่นเมื่อรถหยุดจอด เขานั่งงัวเงียปรับโฟกัสอยู่ชั่วครู่ ประตูฝั่งที่เขานั่งถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างคุ้นตา หมอราล์ฟพยักหน้าเชิงบอกให้ลงจากรถ ฤกษ์ลงจากรถอย่างงงๆ พร้อมกับมองไปรอบๆพอเห็นว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็ตื่นเต็มตา ร้องกับตัวเองดังๆในใจ นี่มันวังหรือเปล่าวะ แค่คฤหาสน์ตรงหน้าก็น่าจะเกือบสิบชั้นแล้วมั้ง มองไปบริเวณโดยรอบยังมีบ้านแยกอีกตั้งหลายหลัง อื้อหือ นี่มันห้างสรรพสินค้าหรือบ้านเอาดีๆ ฤกษ์ได้แต่สงสัยอยู่ในใจ ยังไม่ทันที่จะมองให้ทั่วข้อมือก็ถูกดึงให้ขึ้นบันไดเข้าไปเข้าใน มีการ์ดชุดดำนับยี่สิบคนยืนรอรับอยู่ตรงประตูพร้อมกับแม่บ้าน ทุกคนโค้งตัวทำความเคารพทันทีเมื่อหมอราล์ฟกับฤกษ์เดินเข้ามา ฤกษ์รีบสะบัดมือออกจากหมอราล์ฟอย่างร้อนรนพร้อมกับรีบยกมือไหว้ทุกคนที่ก้มหัวให้เขา
หมอราล์ฟไม่พอใจที่ฤกษ์สะบัดมือออกแต่พอหันกลับมาเห็นภาพคนข้างกายรีบยกมือไหว้ทุกคนด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน มุมปากก็ยกขึ้นอย่างนึกเอ็นดู การ์ดผมบลอนด์เข้มหน้าตาหล่อเหลาคนสนิทของหมอราล์ฟเดินเข้ามากระซิบเบาๆกับหมอราล์ฟที่ยืนฟังนิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ ถ้าฤกษ์สังเกตสักนิดเขาจะรู้ว่าคนเดียวกันกับที่เขาเรียกว่าพี่ๆ รปภ. เมื่อตอนหัวค่ำ
"กินอะไรไหม หิวหรือเปล่า" หมอราล์ฟถามด้วยเสียงนุ่ม ปลอบประโลมคนที่ยืนตกใจอยู่ข้างๆ
"มะ..มะไม่ครับ" ฤกษ์ตอบอย่างแผ่วเบา สองมือเกาะแขนหมอราล์ฟแน่นไม่ยอมปล่อยเหมือนเด็กกลัวหลงทาง
"พี่ราล์ฟ นี่มันในหนังชัดๆเลย พี่พาผมมาเล่นหนังเหรอ"
"เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ขึ้นไปรอพี่ที่ห้องแล้วอาบน้ำนอนเลย เดี๋ยวให้แม่บ้านพาไป" ราล์ฟลูบผมนุ่มก้มมองดูคนตรงหน้าที่ตาแดงเพราะง่วงนอน แต่ก็ฝืนเพราะอยากรู้อยากเห็นจนน่าเอ็นดู รวมทั้งมือที่เกาะเขาแจไม่ยอมปล่อยเขาขยับไปไหนก็ขยับตาม อาจเป็นเพราะพวกบอดี้การ์ดและแม่บ้านที่ยืนหน้านิ่งไม่ไหวติ่ง
"ผมอยากกลับบ้านให้ผมนั่งแท็กซี่นะ นะ นะ" ฤกษ์เริ่มงอแง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจเพราะความง่วง เหล้าที่กินไป และสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอ ท่ามกลางสายตาแปลกใจนับหลายคู่ที่มองมา
"มันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้พี่จะไปส่ง ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุด"
"ครับ" ฤกษ์รับคำเสียงอ่อย ก็มาแล้วนี่ เฮ้อ
"คุณบัว พาแขกของผมขึ้นไปพักด้วย" ราล์ฟเรียกหัวหน้าแม่บ้านด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเช่นทุกที
"ได้ค่ะ"
"ห้องผมนะ"
"ค่ะ" ทุกคนในห้องมองมาที่นายของพวกเขาอย่างแปลกใจปนตกใจพร้อมกับเก็บความสงสัยไว้ในใจ เด็กคนนั้นเป็นใคร? คนที่ได้พักห้องนอน'นาย'ของพวกเขา ห้องที่ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปนอกจากทำความสะอาด นอกจากเพื่อน'นาย' คุณรอนกับคุณแข่งขันแล้วก็ไม่เคยพาใครมาบ้านใหญ่ ใบหน้าอ่อนโยนของ'นาย'ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนยามเมื่อมองเด็กคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร อย่างไรต้องสำคัญมากแน่ๆ
"เชิญค่ะคุณ"
"ป้าครับ!! ไม่ต้องโค้งโผ๊ม ผมชื่อฤกษ์นะครับ เรียกฤกษ์ไม่ต้องคุณนะครับ"
ฤกษ์เผลอโวยวายลั่นเมื่อคุณบัวโค้งทำความเคารพก่อนจะผายมือเชิญให้เดินไปอีกทาง เขารีบย่อตัวยกมือไหว้เกือบจะทันทีเมื่อคุณบัวก้ม พร้อมกับกระโดดกอดแขนคุณบัว หมับ เหมือนกลัวคุณบัวจะโค้งอีก พร้อมกับช่วยพยุงคุณบัวเดินไปด้วยเพราะคุณบัวก็อายุเยอะแล้ว
"คุณจะมาเกาะแขนแม่บ้านอย่างนี้ไม่ได้นะคะ คุณเป็นแขกมันไม่เหมาะสม"
"คุณป้าจะมาโค้งให้คนอายุน้อยกว่าไม่ได้นะครับ"
"เราทำงานนะคะ"
"ผมถือมากๆเลยอ่ะ นรกกินกบาลผมแย่เลย"
"กินเหล้าก็ตกนรกนะคะ"
"คุณป้าได้กลิ่นเหรอ ผมกินนิดเดียวเองนะครับ"
"ดิฉันเห็นเด็กสมัยนี้ไม่เคยกินนิดเดียวนะคะ"
"ก็คนที่หล่อๆตรงนี้ไงค้าบ คุณป้าบอกผมมาก็ได้ว่าห้องไปทางไหนเดี๋ยวผมไปเองนะ จะได้ไม่ต้องเดินไกลมันเมื่อย"
"ดิฉันไม่เมื่อยค่ะ"
"คุณป้าครับพรุ่งนี้ผมจะเจอคุณป้าไหมครับ"
"ดิฉันมาแต่เช้า"
"แถวนี้มีพระบิณฑบาตไหมครับ"
"ดิฉันใส่ทุกวัน"
"งั้นพรุ่งนี้ผมมาใส่ด้วยนะครับ"
"ดิฉันจะรอค่ะ"
เสียงคุยของคนสองคนดังเบาๆไปตลอดทาง แต่เพราะตอนนี้ในบ้านเงียบมาก ทุกคนที่ยังยืนอยู่จึงได้ยินกันทุกคน จากสีหน้าเงียบขรึมของแต่ละคนกลับกลายเป็นกลั้นขำ คุณหัวหน้าแม่บ้านและแม่นมของ 'นาย' ผู้ซึ่งเงียบขรึมและเคร่งครัดทุกกฎ ทุกคนต่างเกรงกลัวเพียงแค่โดนจ้องนิ่งๆ แต่เด็กคนนั้นไม่เลยสักนิด เด็กอะไรน่าเอ็นดูเป็นบ้าเลย
โดยเฉพาะกับเจ้าของบ้านที่เผลอกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงแว่วๆมาจากโถงทางเดิน ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ที่ได้ฉายยาว่าหล่อเทวดา มักเรียบนิ่งไร้อารมณ์แต่มาวันนี้ การ์ดคนสนิทแอบเห็น'นาย'เผลอยิ้ม ทั้งที่สถานการณ์วันนี้มันชวนยิ้มไม่ออกเอาซะเลย