♪ดังต้องมนตร์♫ ตอนพิเศษ ปัจจุบัน (หน้า12|18062020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♪ดังต้องมนตร์♫ ตอนพิเศษ ปัจจุบัน (หน้า12|18062020)  (อ่าน 80205 ครั้ง)

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



**********************************************

เนื้อหาในตอนต้นมีการใช้คำพูดเชิง sexual harassment ซึ่งผู้เขียนได้ educated ตัวละครในตอนพิเศษ 'ปัจจุบัน' โดยในเว็บไซต์จะลงครึ่งหนึ่งที่มีการพูดถึงน้ำมนต์และทิวฟ้า อีกครึ่งที่เป็นพาร์ทของพี่ทิอยู่ในเล่มนะคะ


เปิดจอง วันนี้  - 30 มิถุนายน 2563
หนังสือทำมือ Made to order

รายละเอียด -> https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSf0vDzgWhr_0RcGzF9crU33iFGXgBs9A_vAI5aH3TTTFpru-w/viewform


 

หนังสือรอบนี้เป็นหนังสือทำมือ จะพิมพ์เกินยอดพรีออเดอร์ไม่มาก และไม่ได้วางขายตามร้านหนังสือคับ
[/color]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2020 22:48:29 โดย -west- »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ดังต้องมนตร์
«ตอบ #1 เมื่อ23-10-2019 12:14:09 »



งานเขียนที่ผ่านมา
01 - Friend's brother, brother's friend  เมื่อเพื่อนสงสัยว่าพี่ชาย... [End]
02 - เรื่องสั้น เหนือฝัน [End]
03 - รักเร่  Dalhia [End]
04 - เรื่องสั้น หลบรัก [End]
05 - คำประกาศของความรู้สึกใหม่ Adore you [End]
06 - Special Happiness ฝากรักไว้ข้างบ้าน [End]
08 - When the wind blow back [End]
09 - โอบตะวัน [End]
10 - candy [End]
11 - At first sight [End]
12 - สู่กลางใจ | a tu co ra zon [End]
13 - หลังม่าน | behind the scene [End] ***Ft. Afterday
14 - กลพยัคฆ์ [End]
15 - Sexy Naughty Nerdy[End]


west's talk:


มาทำวันกลางสัปดาห์ให้มีค่ากันเถอะค่ะทุกคน! วันพุธกลับมาแล้ววว
คิดถึงจังเลย เว้ดหายไปทำอะไรตั้งหลายอย่างค่ะ อัพเดทหน่อย เว้ดลาออกจากงานประจำแล้ว โล่งสุดๆ เลย(เงินในกระเป๋า) แต่สนุกมากค่ะ ได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ไปลองเขียนตามคำบอก ลองเป็นแม่ครัว ลองปั้นกระถาง ลองเป็นนักอบขนมปัง ลองปลูกดอกไม้ ลองเป็นแม่ค้า ลองเป็นบาริสต้า ลองเป็นแอดมินร้านหนังสือ ลองเขียนบทความ ลองเป็นคนพิสูจน์อักษร ลองทำมาร์เกตติ้ง สุดท้ายวนมาที่เดิมคือเป็นนักอยากเขียน เพื่อนๆ ยังอยู่กันใช่มั้ย ขอเสียงหน่อย
.
.
.
 :undecided:

แฮร่ ตอนนี้อาการป่วยดีขึ้นมากเลยค่ะ แต่ยังไม่อยากแตะเรื่องซึมเศร้าเลย แยบๆ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับแอลกอฮอลิซึ่มมาด้วย ยังไงใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

รักแหละ
เจอกันพุธหน้า เย้

❤( ^^)人(^^ )❤゙



west on wednesday







c o n t e n t


#ดังต้องมนตร์
best song ever
01
02
03
04
05
06
07
08
09
10
11
12
13
14
15
♩ ♩

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2020 23:54:17 โดย -west- »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ดังต้องมนตร์
«ตอบ #2 เมื่อ23-10-2019 12:26:10 »

01 มีค่าดั่งยาพิษ


          ฝนบางหยดกระทบหลังคากลิ้งรวมตัวกันลงมาเป็นสาย ท้องฟ้ามืดตั้งแต่ชั่วโมงก่อนกระทั่งปล่อยโฮออกมาระลอกใหญ่ พระอาทิตย์เพิ่งได้ส่องแสงลอดผ่านก้อนเมฆลงกระทบใบไม้เขียวชุ่มชอุ่ม กิ่งก้านบางส่วนไหวเอนจนหักระเนระนาดลงพื้น เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมนึกถึงบางเพลงของกะทิ-ทิวากร นักแต่งเพลงที่โด่งดังถึงขั้นมีอัลบั้มรวมเป็นของตัวเองในรอบทศวรรษ

          เพลงที่ทั้งละมุนอุ่นและเย็นเยียบ เนื้อร้องที่สะกดคนฟังให้หลุดจากโลกของความจริงไปสู่โลกอีกใบอย่างไร้แรงต้านทาน วิธีการเล่าเนื้อหาที่ลึกซึ้งกินใจจนเป็นที่ยอมรับในหมู่กว้าง ทำนองพลิ้วไหวคล้ายกระดิ่งกริ่งลม ผลงานของกะทิเริ่มต้นจากการเขียนเนื้อร้อง แต่งทำนอง กระทั่งร้องและอัดเสียงด้วยตัวเองลงยูทูป ดังในกระแสชายขอบ กระทั่งเข้าชาร์ตคลื่นวิทยุ ประวัติของกะทิถูกสืบทราบอย่างรวดเร็ว ค่ายเพลงยักษ์ไม่รั้งรอที่จะดึงเขาเข้าร่วมงาน ข้อดีคือผมหาฟังเพลงของกะทิได้ง่ายขึ้น ส่วนข้อเสียคือเขาไม่ร้องเพลงอีกแล้ว จะหาดูตามยูทูปหรือแอปพลิเคชั่นเฉพาะกลุ่มก็ไม่มี ห่างไกลจนยากสัมผัส ราวกับทิวากร นักร้องอินดี้คนนั้นหายสาบสูญไปตลอดกาล

          “อยากกินอะไรแซบๆ โว้ย!”

          เสียงโวยวายหาอาหารดังลั่นใต้อาคารเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คน หลังเลิกเรียนนักศึกษาหลายคนยังติดแหง็กอยู่ใต้อาคารเรียนเพราะฝนลงเม็ดหนัก แต่เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของเด็กๆ ก็ยังดังไม่สู้เสียงโครกครากของคนโวยวายหาอาหาร นิ้วอวบลูบพุงส่วนที่ยื่นเกินเข็มขัดออกมาเล็กน้อย หาเหตุจูงใจให้เพื่อนในกลุ่มคล้อยตามไปด้วยกัน

          “คิดถึงตำข้าวโพดเจ๊ไฝ ไม่ได้ไปกินตั้งแต่สอบไฟนอลปีที่แล้ว”

          “ตำข้าวโพดพริกติดครกอะนะที่มึงเรียกว่าแซบ อ้วนเอ๊ย!” ใครคนหนึ่งโต้ตอบสัพยอก สะบัดมือฟาดพุงตุ้ยนุ้ยของเจ้าของร่างอวบระยะสุดท้ายเบาๆ แล้วหัวเราะกลบเกลื่อน ผมเก็บสมุดตัวเองลงกระเป๋าเป้ อีกเล่มส่งคืนหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มหลังจากเข้าเลทไปครึ่งชั่วโมง ไอ้คนบ่นว่าหิวนั่นแหละที่แวะซื้อของกินเรี่ยไร่รายทางจนพากันเข้าห้องไม่ทันพาร์ทแรก

          “อุ้ย มึงไม่เข้าใจว่าซัมเมอร์ที่ต้องไปอยู่นอกกับครอบครัววีแกนแม่งโคตรแย่ กูโหยหาผงชูรสอะแบบนัวๆ ฝรั่งแม่งไม่มีนะเว้ย”

          “เบื่อมังสวิรัสแต่อยากกินตำข้าวโพด โคตรอ้าง”

          “ไม่ไง ก็มีคอหมูย่าง ปีกไก่ ตับย่าง ต้มแซบ ตับหวานด้วย”

          ไอ้นิวสำทับด้วยเมนคอร์สที่พรั่งพรูราวกับท่องจำเมนูได้จนชินปากต่างหาก คู่กรณีหันมาถามความเห็นของแฟนเสียงอ่อนนุ่ม ผิดกับท่าทีขึงขังต่อเพื่อนตัวใหญ่

          “ฟ้าว่าไงล่ะจะไปกินกับไอ้นิวหรืออยากกลับบ้าน”

          “แหม ทีงี้ล่ะตามใจเมีย”

          เมียที่ไอ้นิวค่อนแคะเป็นเจ้าของสมุดที่ผมยืม เป็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้น และเป็นคนเดียวกับที่ผมอยากให้เป็นนางเอกเอ็มวีในเพลงของกะทิ ซึ่งชีวิตจริงไม่ง่ายอย่างในเพลง ฟ้ากับอุ้ยคบกันมาตั้งแต่มัธยม ทั้งคู่เจอกันในที่เรียนพิเศษ ส่วนผมเพิ่งปรากฎตัวเข้ากรุงเทพ ทำความรู้จักกับทิวฟ้าในวันแรกพบของเด็กปี 1 และนั่นก็นับว่าสายไปหลายก้าวทีเดียว

          เพลงที่ผมร้องเล่นจนชินปากเพลงหนึ่งของกะทิกล่าวถึงเด็กสาวแสนสดใส ทั้งแสบและซนแต่ก็น่าหลงไหล เติบโตในหมู่มวลดอกไม้ และบานสะพรั่งเมื่อพบความรัก ทั้งหมดนี้หากสามารถอธิบายได้เป็นคน ผมคงหมายถึงนางสาวทิวฟ้าตรงหน้าผม เพลง sun child เป็นเพลงที่เล่าถึงการแอบชอบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็กหญิงกระทั่งแตกเนื้อสาว แม้ผมจะไม่ได้รู้จักทิวฟ้าตั้งแต่ยังเล็กแต่ความรู้สึกของการหลงรักและเฝ้ามองการเปลี่ยนไปของผู้หญิงคนหนึ่งนับตั้งแต่วันรายงานตัวจนถึงปีสุดท้ายของการเรียนระดับมหาวิทยาลัยก็ไม่ต่างจากบทพรรณนาของกะทิ นักร้องผู้เสียงสาบสูญ เหลือเพียงผลงานผ่านเนื้อร้องและทำนองที่ขับขานผ่านคนอื่นในค่ายเพลงเท่านั้น และเพลง sun child ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมยอมอยู่ในฐานะเพื่อนพระเอกที่แอบชอบนางเอก อยู่ใต้เส้นเฟรนด์โซนหนาปึ้กโดยไม่แม้แต่คิดต่อรองร้องขอความเห็นใจ

          คนมาทีหลังยังไงก็ผิด มิหนำซ้ำยังไม่มีอะไรทัดเทียมคนรักของเธอได้ แค่คิดก็ผิดมหันต์

          “สรุปว่ามึงหิว อยากไปกินส้มตำเจ๊ไฝ แค่นั้น?”

          “ต้องสรุปอีกเหรอวะ”

          “เหอะ จะไปถามเพื่อนก่อนไหม น้ำมนตร์มีสอนพิเศษหรือเปล่า ไว้รอไปพร้อมน้ำมนตร์ฉันขี้เกียจอัพเดทชีวิตช่วงปิดเทอมหลายรอบ”

          “มึงอัพเดทตลอดเวลาในอินสตาแกรมอะฟ้า แถบสตอรี่ยาวเป็นตะเข็บ ถามจริงมึงไม่ทำเป็นหนังสั้นขนาดยาวเลยวะ” คนหิวรีบแทรกเมื่อเห็นทีท่าไม่ดีจากหมู่มิตรสหาย น้ำเสียงหวานหยดของทิวฟ้าจะเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดราวภูติผีเข้าสิง

          “เอ๊า ก็ชีวิตฉันมีแอคติวิตี้ไง วิถีเซเลป แกไม่เข้าใจหรอก คนอยากรับรู้ชีวิตฉันก็เยอะแยะ”

          “จ้า แม่เซเลปหัวหน้าแม่บ้าน”

          ไอ้นิวเป็นคนปากจัด จัดว่าหมา ค่อนแคะแซะเก่ง แน่นอนว่าชีวิตผ่านมือผู้หญิงนับไม่ถ้วน แต่ถ้าถามถึงผู้หญิงที่ฝากรอยมือไว้มากที่สุดคงเป็นคนที่มันเพิ่งแซวไปหมาดๆ หลักฐานคือไม่นานจากนั้นเสียงเพียะก็ดังลั่นต่อหน้าพยานและธารกำนัลจำนวนมาก

          “อีฟ้า ฟาดมาได้ นี่ถ้าผู้หญิงตบแปลว่าผู้หญิงรัก ไอ้อุ้ยคงหึงกูจนอกแตกตาย”

          “ผู้หญิงตบแปลว่าผู้หญิงตบ อีเวร ปากจัดแบบนี้ไงถึงจีบใครก็ไม่ติด”

          “พูดให้ดีๆ กูไม่เคยจีบใครเว้ย”

          “ฉันเห็นนะไอ้นิว ที่แกแอบเอาขนมไปแขวนที่รถน้องจูน”

          “เสือกเก่ง!”

          “ไม่ได้เก่งแค่เสือกนะ ตบก็เก่ง หรือจะลองอีกที”

          “ใช้กำลัง ไม่เป็นอารยะชน”

          “เฮ้ยๆ พอ!” ผมรีบปรามเพราะคนโดนตบเมื่อครู่ยังปากดีไม่เลิก ไอ้นิวรีบเบี่ยงตัวหนีเมื่อทิวฟ้าง้างมือรอแล้วหาพรรคพวก ซึ่งในกลุ่มก็ย่อมเป็นผมอีกนั่นแหละ ในเมื่ออีกคนเป็นแฟนกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอุ้ยต้องเลือกอยู่ข้างตรงข้ามกับมันแน่ๆ

          “ไม่ต้องมากระแซะ กูไม่เกี่ยว” ผมโบกมือปัดรำคาญก่อนถึงตอบคำถามที่ฟ้าทิ้งไว้ “เทอมนี้ไม่ได้รับงานร้านมินิมาร์ทแล้ว เรายังไงก็ได้”

          “อ้าว ทำไมอะ หัวหน้ามาจีบมึงเหรอ งี้แหละ เนื้อหอม ตอนเป็นครูสอนพิเศษเด็กมัธยมก็โดนเด็กจีบ หน้าตาอปป้าซารางเฮขนาดนี้ใครจะไปอดใจไหว อปป๊าน้ำมนตร์ อ๊บอ๊บ อ๊บๆ”

          “อ๊บพ่อง! ไม่ใช่เว้ย มีเด็กตามกูแค่คนเดียว ที่มินิมาร์ทจัดตารางลงไม่ได้เลยไม่ได้ทำต่อ นี่น้ำมนตร์นะครับไม่ใช่ณเดช อยู่ที่ไหนคนก็หลงคนก็รัก”

          เพราะถ้าหล่อเป็นณเดชป่านนี้ผมเดินเครื่องจีบฟ้าเต็มกำลังไปแล้ว เรื่องที่ไอ้นิวว่าก็เกิดตั้งแต่ปี 1 สมัยที่เพิ่งเริ่มรับสอนพิเศษตามบ้าน รุ่นไม่ห่างกับนักเรียนมาก สมัยโน้นน เมื่อสามปีก่อนน้องตามมาถึงมหาวิทยาลัยเรื่องก็เลยแดงขึ้นมา แต่ผมจัดการได้รวดเร็วด้วยการเลิกสอนแม่งเลย ครึ่งเทอมอันสูญเปล่าและการเกาะเพื่อนกินจนเป็นเพื่อนตายมาถึงทุกวันนี้

          “แหย่เล่นๆ แหม ทำเป็นเข้ม งั้นไปเหอะ กูหิว วันนี้กูยังไม่กินข้าวเลย” ไอ้ตัวป่วนประจำกลุ่มลูบท้องป้อย ทำตาละห้อยน่าสงสาร แต่ประทานโทษ มันซัดไส้กรอกลูกชิ้นมาจนเกือบหมดเซเว่นตั้งแต่เช้า แล้วก็บ่นว่าอ้วนเอาๆ ชาตินี้คงผอม

          “เออ แล้วแบบนี้น้ำมนตร์ไม่ขาดรายได้เหรอ”

          “น้ำมนตร์มันก็ไม่ได้จนปะมึง มันแค่ใช้เวลาแบบเถ้าแก่น้อย ไม่ใช่อวดรวยลอยชายไปลอยชายมาแบบมึงอะฟ้า”

          “ฉันรวยลอยชายไปลอยชายมาแล้วไปหนักหัวพ่อแกเหรอ นี่ก็เสือกทุกประโยค ฉันถามน้ำมนตร์ปะไม่ได้ถามแก”

          “อยู่ดีไม่ว่าดีละไอ้นิว” อุ้ยพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนหันไปปรามแฟนสาวให้ใจเย็นลง “ฟ้าก็ใจเย็นๆ ว่าไงล่ะคะ อยากไปไหม ถ้าไปเดี๋ยวเค้าไปเอารถมารับ จะได้ไม่ต้องเดินตากฝน นี่ฝนก็ยังลงเม็ดอยู่เลย”

          “เค้าตามใจอุ้ยเลย”

          “ตามใจอุ้ยเลย” นิวไม่เลิกระรานง่ายๆ มันทำเสียงสองเลียนแบบเพื่อนสาว ทิวฟ้าง้างมืออีกครั้งคราวนี้ไอ้ตัวดีกระโดดหลบไปไกลถึงหลังเสา แต่แม้ว่านิวจะชอบแกล้งผู้หญิงจนน่ารำคาญก็ยังนับว่าเป็นเพื่อนที่ดี ผมเห็นสองคนนี้ตีกันทุกวัน และทุกครั้งที่ฟ้าโกรธ นิวก็ง้อแล้วง้ออีก งอแงกันเป็นไม้เบื่อไม้เมาประเภทที่ว่ารักก็ไม่ใช่ ชังก็ไม่เชิง

          “กวนตีนว่ะ”

          “เอาน่าๆ ...น้ำมนตร์มึงดูสองคนนี้ดีๆ อย่าให้แง่งใส่กันอีกเดี๋ยวกูรีบมา”

          “เออ รีบเลยมึง เดี๋ยวฟ้ากินหัวกูอีกคน” ผมบอกอุ้ยทีเล่นทีจริง หญิงสาวต้นเรื่องเปลี่ยนเป้าหมายมาขู่ฟ่อใส่ผมแทน ซึ่งคนดีอย่างผมไม่เคยถูกฟ้ารังแกสักครั้ง อย่างมากก็แยกเขี้ยวน่ารัก ไม่น่ากลัวเลยสักนิด

          “สองมาตรฐานโว้ยๆ”

          นิวตะโกนมาจากหลังเสา ยังไม่ยอมเข้าใกล้ฟ้าในระยะเอื้อมถึง

          “อะไรของแก ไอ้นิว”

          “ไม่เห็นตบน้ำมนตร์เหมือนตบกูล่ะ”

          “เฮอะ” เสียงหวานสบถในลำคอ มีสองเหตุผลที่ฟ้าไม่ตบผม หนึ่งคือผมไม่ได้กวนตีนมากพอให้ลงไม้ลงมือเหมือนไอ้อ้วน หรือถ้าการตบหมายถึงผู้หญิงรัก ฟ้าก็ไม่รัก และไม่มีทางมองผมเลยแม้แต่หางตา

          เรื่องจริงมันเศร้า แต่เรื่องเล่าเสือกตลก

          ฟ้าเป็นเสมือนท้องฟ้าสำหรับผมจริงๆ

          เป็นยิ่งกว่าเครื่องบินที่ลอยเด่น แต่เป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตา นิสัย และฐานะทางสังคม ครอบครัวฟ้าเป็น New rich Asian อากง อาม่า ขึ้นสำเภามาไทย ใช้ความรู้ซ่อมสร้างตั้งบริษัทค้าขายอะไหล่รถยนต์ ส่วนตายายเป็นครอบครัวของคนใช้แรงงานในตลาดย่านเยาวราชผู้กว้างขวางดังนั้นฟ้าจึงมีลักษณะของสาวไทยเชื้อสายจีนที่ครอบครัวนำเข้าอะไหล่ยนต์ และใช้ระบบอุปถัมภ์ในการจัดหาแม่บ้าน คนงานตั้งแต่รุ่นพ่อเป็นต้นมา กระทั่งยุคดิลิเวอรี่เรืองรอง กระแสมาริเอะจัดบ้านมาแรง ธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างจัดส่งแม่บ้านรายชั่วโมงกลายเป็นกระแสรายได้หลัก โดยมีพี่ชายซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์หนุ่มในค่ายเพลงเดียวกับกะทิหาลูกค้าชนชั้นรวยมากมหาศาลมาให้

          ส่วนผม ลูกชายแท้ๆ คนเดียวของชาวเวียดนามหนีสงครามและแม่ซึ่งพื้นเพเป็นชาวนาภาคกลางตอนบนตั้งต้นชีวิตหลังจากคลอดผมด้วยการกู้เงินก้อนใหญ่มาทำหอพักใกล้มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ตั้งแต่จำความได้ผมก็รู้ว่าพ่อแม่เป็นหนี้ ต้องใช้ชีวิตประหยัดอดออม เราเป็นชนชั้นส่วนใหญ่ของคนในประเทศแต่ไม่ได้เสียงดังเท่าไหร่ ต้องปากกัดตีนถีบหนีระบบทุนนิยมกระทั่งปลดหนี้ได้เมื่อปีสองปีก่อน กระนั้นภาพจำจากที่บ้านเคยลำบากผมก็ยังคงพยายามหาอาชีพเสริมทำจนถึงเทอมนี้ที่ไม่มีเด็กเรียนพิเศษด้วย ไม่ต้องทำงานมินิมาร์ท ซึ่งโคตรโชคดี เพราะผมก็ขี้เกียจแล้วเหมือนกัน



.
(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2019 12:38:49 โดย -west- »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ดังต้องมนตร์
«ตอบ #3 เมื่อ23-10-2019 12:26:27 »



          น้ำฝนยังไม่ทันเหือดแห้งจางหาย เมเซราติสีดำปลาบป้ายประมูลก็แล่นมาจอดเปิดไฟระวังหน้าอาคารเรียน คนขับในชุดนิสิตแขนยาวทรงเนี้ยบวิ่งถือร่มมาที่ใต้ตึก ยื่นให้สุภาพสตรีอันเป็นที่รัก ก่อนพาไปส่งถึงเบาะข้างคนขับด้วยความเคยชิน ผมกับนิววิ่งฝ่าหยดฝนที่ซาเม็ดลงแล้ว โยนตัวเองลงเบาะหนังและกลิ่นน้ำหอมราคาแพงในรถ กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นหวานๆ เย็นๆ เช่นเดียวกับอากาศ ผมนั่งหลังทิวฟ้า มองชุดเครื่องเสียงที่เล่นเพลงอัลเทอเนทีฟสไตล์ไอ้อุ้ยส่งเสียงครางฮึมฮัม เบสหนักเหี้ยๆ แล้วโย้ตัวตามไอ้นิวที่ทิ้งน้ำหนักลงจนรถยวบ

          “มึงทำอะไรกับรถใหม่ปะวะ”

          ไม่ใช่แค่ผม แต่นิวก็สัมผัสได้ เซราเมติคันนี้อุ้ยใช้ตั้งแต่ปีหนึ่ง ที่บ้านมันมีรถหลายคัน สมฐานะ ครอบครัวอุ้ยเป็นนักธุรกิจเจ้าของนามสกุลใหญ่ ลงทุนในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง นายทุนที่กลืนกินประเทศไปทีละนิดด้วยความอำนวยของภาครัฐ อุ้ยเติบโตมาในครอบครัวที่มีทุกอย่างพร้อม ทรัพย์สิน เงินทอง พ่อ แม่ พี่น้อง และบรรดาแม่เลี้ยง ถ้าถามผมแล้วอันหลังไม่มีจะดีกว่า ปัญหาการนับญาติของไอ้อุ้ยรวนเหี้ยๆ ผมไม่เคยจำได้ว่าพี่คนไหนเกิดจากแม่คนไหนของมันได้เลยสักครั้ง

          “เปลี่ยนเครื่องเสียง กับแม็กซ์”

          “เออ ก็ว่าล้อรถมึงหน้าตาประหลาดๆ”

          “นำเข้านะเว้ย คันเดียวในไทย” เจ้าของรีบอวด ขณะที่คนข้างๆ หน้ามุ่ย

          “แพงมากแก ไม่เห็นจะต่างจากของเดิม”

          “ต่างงงงง!!!” ผม ไอ้นิว รวมทั้งเจ้าของรถพร้อมใจประสานเสียง มหาวิทยาลัยเป็นเมืองตลกที่เราสามารถพบคนที่รวยมหาศาลและจนมหาซวยได้พร้อมๆ กัน แน่นอนว่าอุ้ยจัดเป็นประเภทเดียวกับฟ้า ส่วนผมกับนิวเป็นคนพรรค์เดียวกัน ชนชั้นที่ไม่มีวันได้เอาตูดมาแตะเบาะหนังรถหรูแบบนี้แม้แต่ในโชว์รูมถ้าไม่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นเพื่อนกับไฮโซนนท์ ที่ชื่อจริงพยางค์เดียวก็ยังเสือกมีชื่อเล่นพยางค์เดียวเพื่อเสริมศิริมงคล

          “ไม่เข้าใจอะ”

          “ก็เหมือนตัวเองซื้อลิปสติกน่ะแหละค่ะ”

          เดาได้ทันทีว่าที่ฟ้าบ่นแพงเพราะคนสั่งซื้อให้อุ้ยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อของฟ้าที่คงฟาดไอ้อุ้ยหัวแบะ ขณะเดียวกันขนหน้าแข้งของเสี่ยอุ้ยก็ไม่สะเทือน เหอะ อะไรจะเหมาะสมไปกว่านี้ อย่าเทียบผมเป็นหมามองเครื่องบินเลย ความหวังของผมที่จะสานต่อกับหญิงสาวนับจากเรียนจบไปแล้วในฐานะเพื่อนก็เลือนรางเต็มทน

          “มึงจะบ่นทำไมวะฟ้า คนได้กำไรก็พ่อมึง เอาเงินไปซื้อลิปสติกให้มึง อัฐยายซื้อขนมยาย”

          “เอออ มึงจะเสือกทำไมวะนิว นี่ก็รถผัวกู เงินก็ผัวกู เดี๋ยวแม่ไล่ลงจากรถเลย”

          รอบนี้ไอ้นิวรูดซิปปากสนิท รถยุโรปวิ่งจากในมหาวิทยาลัยมาจอดซุกในซอยใกล้ร้านส้มตำเพิงเจ๊ไฝในตำนาน เจ้าของรถเดินควงสาวลงมาสง่าผ่าเผย แต่แค่ย่างกรายเข้าไปในซากรั้วไม้ไผ่ที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่ เข็มขัดแอร์เมสของไอ้อุ้ยก็ดูคล้ายของปลอมโดยพลัน ภาพฝันที่คิดว่าคนรวยมหารวยต้องไม่กินข้าวข้างทางพังพินาศตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเพราะกิจกรรมละลายพฤติกรรมที่รุ่นพี่จัด หรือความหิวโซในวันแรกพบนั้นทำให้เราควานหาร้านอาหารที่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด ได้เร็วที่สุด และปริมาณมากที่สุดโดยครอบคลุมบัดเจ็ทของเราทั้งสี่ได้หวยเลยตกลงที่ร้านนี้ โชคชั้นที่สองนอกจากได้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับมหาเศรษฐีก็คือร้านเพิงหมาแหงนแบบนี้ทำกับอาหารอร่อยทุกจาน ลิ้นไม่ชาถือว่าไม่ได้มาเจ๊ไฝ ใส่ผงชูรสเกือบเท่ามะละกอ แต่ช่างมัน เน้นรสชาติมากกว่าความปลอดภัย

          “เอาตำข้าวโพด คอหมูย่าง ตับหวาน น้ำตกหมู ลาบหมู ข้าวเหนียวสี่ ตำไข่เค็ม ปลาดุกย่าง แล้วก็ซุปเปอร์ตีนไก่ ทั้งหมดไม่เผ็ดครับ พวกมึงเอาอะไรอีกไหม”

          เจ้าของไอเดียสั่งสาวใหญ่ไฝกลางหน้าผากรวดเดียวหมดแผง เรียกได้ว่าไม่เหลืออะไรให้สั่งดีกว่าจะสั่งอะไรเพิ่ม ผมอมยิ้ม ขณะที่ทิวฟ้าบ่นงุบงิบในลำคอว่าเล่นสั่งเป็นพรวนอย่างนี้จะเหลืออะไรให้เลือกอีก

          “เอาน้ำเปล่าหนึ่งขวด แล้วก็น้ำแดงโซดาอีกหนึ่งแก้วครับ”

          สุภาพบุรุษของกลุ่มสั่งให้คนรัก ทิวฟ้าซบบ่าอ้อนชายหนุ่มมาดขรึมอย่างลูกแมวขี้อ้อน ผมนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เห็นภาพบาดตาจนชินชา แต่ไม่ยักไม่รู้สึกรู้สาได้จริงๆ สักที

          “อะ ไหน มีแอคติวิตี้อะไรอัพเดท อีฟ้า”

          “ก็ไม่มีอะไร โอ๊ย พูดแล้วเบื่อ ฉันก็ไปเที่ยวอังกฤษกับอุ้ยตอนปิดเทอมใช่ปะ กลับมาอีกทีพี่ลมเป็นบ้าไปแล้ว”

          “ฮะ อะไรนะ?” ผมไม่เข้าใจคำว่าเป็นบ้าไปแล้วของทิวฟ้า เท่าที่เห็นก็ไม่เคยพูดถึงพี่ชายตัวเองสักเท่าไหร่ “อะไรคือเป็นบ้าไปแล้ว”

          “อีพี่กะทิเลิกกับน้องเจนจ้า คงเคลียร์กันไม่ได้ล่ะมั้ง ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่ทิทำงานไม่ได้ ไล่แม่บ้านออกไปสองคน พี่ลมแทบกรี๊ดใส่ฉันวันละสามรอบ เดี๋ยวสิ้นปีจะมีโปรเจ็กต์ครบรอบค่าย 25 ปีด้วย”

          “พูดจริงปะเนี่ย”

          ไม่ใช่แค่ผมที่ตกใจ แต่ไอ้นิวก็ด้วย ทิวากรในภาพจำของคนรุ่นเราคือชายหนุ่มสุขุมที่ละมุนอุ่น เนื้อเพลงเบาสบายแต่ทำนองหนักหน่วง ครั้งหนึ่งที่ขับขานราวพราหมณ์ร่ายคาถา เขาเป็นไอดอล และน่าสนใจขึ้นไปอีกเมื่อไม่เล่นสื่อโซเชียลมีเดียนับตั้งแต่เข้าค่ายเพลงยักษ์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเพราะแฟนสาว เจนจิรา นักร้องและไอดอลอันดับต้นๆ ของประเทศมีแฟนคลับที่สามารถต่อกรได้ยากเย็น เป็นผมก็เลิกเล่นโซเชียล ไอ้ความอิจฉาน่ากลัวมากครับ บดบังทุกความสามารถและความดีงามที่พี่กะทิสั่งสมมาได้จนสิ้นชิ้นดี

          “คิดดูแล้วกัน เมื่อก่อนพี่ทิเคยบอกว่าจะไม่เข้าทำงานกับค่ายใหญ่เด็ดขาด แต่ยอมเข้ามาเพราะเจนขอร้อง วันดีคืนดีชีมาเทแบบนี้พี่ทิจะพังแค่ไหน”

          “พอพังก็ไล่แม่บ้านที่บริษัทแกส่งไปออก เลยขาดรายได้ แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่ลมวะ”

          “พี่ลมเป็นโปรดิวเซอร์หลักของงานคอนเสิร์ต 25 ปี ที่ตัวชูโรงคือเพลงใหม่ของพี่ทิ”

          “ฉิบหายละ” ผมสบถ เห็นด้วยกับฟ้าว่าพี่ลมควรเป็นบ้า ตอบในฐานะคนทำเพลงที่ตามติดผลงานทิวากรมาตั้งแต่เป็นหนอนดักแด้ จนตอนนี้น่าจะกลายเป็นมังกรยักษ์ ไม่สิ ผีเสื้อสมุทร ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ แต่พี่เขาไปไกลมาก ผมที่เป็นแฟนเพลงตัวน้อยยังอดภูมิใจไม่ได้ นอกจากผมที่เป็นแฟนคลับเงาแล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่เป็นตัวจริงเสียงจริง เป็นเจ้าบุญทุ่ม ถ้าพี่ทิเขียนเพลงไม่ทันใช้คอนเสิร์ตสิ้นปีรายได้จากงานนั้นหายไปเกือบครึ่ง

          ถ้าพูดรวมๆ แล้วคือบ้านของฟ้า ทั้งธุรกิจของครอบครัวและชีวิตงานของพี่ลมอยู่ในมือพี่กะทิทั้งหมด

          “ก็ให้คนอื่นแต่งดิ” เก่งมากเจ้านิว พูดเหมือนเจ้าของค่ายเขาต้องไม่ทันคิดเรื่องนี้แน่ๆ

          “มึง มันไม่เหมือนกันเว้ย พี่ทิงานดีจริง กูบอกเลยใครร้องเพลงที่พี่ทิแต่งก็ดัง”

          “ตอนแรกที่คุยกันจะมีเซอร์ไพรส์เดี่ยวเพลงพี่ทิบนเวทีด้วย นี่ไม่รู้จะไหวไหม”

          “ฟ้า เราขอบัตรวีไอพี จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม พี่ลมเป็นโปรดิวเซอร์ใช่ไหม”

          “ไอ้นี่มันติ่งพี่ทิ” อุ้ยแซวเมื่อเห็นท่าทีเหมือนกระดี่ได้น้ำของผม

          อาหารทยอยมาเสิร์ฟจากเมนูง่ายๆ ผมไม่เถียง ถ้าไม่ถูกไล่ลบเพราะผิดลิขสิทธิ์จะเปิดให้ไอ้นิวฟังสักครั้งเป็นบุญหูว่าเพลงที่พี่ทิเขียนและร้องด้วยตัวเองมันโคตรดี โคตรคุ้มค่าแค่ไหนกับการสละเวลามานั่งละเมียดฟังทีละท่วงทำนอง บัตรหนึ่งหมื่นบาทผมก็จะซื้อ แต่เกินกว่านั้นไม่ไหว ไม่มีเงิน

          “แล้วตอนนี้พี่ทิเป็นไง”

          “ก็อย่างที่บอก ส่งแม่บ้านไปสามคน คนแรกเข้าไปดูแลประจำอยู่แล้ว แต่หลังๆ พี่ทิติดเหล้าหนัก คุยไม่รู้เรื่อง เลยขอย้ายสาขา คนที่สองโดนพี่ทิซื้อตัวให้เลิกทำงาน ส่วนคนที่สามไม่รับเงิน โดนไล่ตะเพิด ยังคิดอยู่เลยว่าจะเอายังไง”

          “ทำไมต้องเอายังไง” ผมถาม แค่เลิกกับแฟน ไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ แม้ว่าจะเป็นแฟนที่ทำให้ชีวิตเขาพลิกไปพลิกมาอย่างที่ตัวเองไม่เคยวางแผนไว้ก็เถอะ “เดี๋ยวเวลาก็ช่วยเอง”

          “เวลาช่วยได้จริงก็ดีน่ะสิ นับวันยิ่งแย่ลงๆ กินเหล้าจนพี่ลมสงสัยว่าเป็นแอลกอฮอลิซึ่มรึเปล่า”

          “ก็รอดูอะเนอะ” ผมพยายามปลอบใจ แต่ไม่ช่วยอะไรเพราะสีหน้าทิวฟ้ายังคงบูดบึ้งไม่สบอารมณ์

          “กลัวว่าจะตายก่อน อีน้องเจนนี่พี่ทิรักมากเลยนะ แล้วแกเข้าใจปะ อารมณ์ปกติพี่กะทิก็ติสต์จะตาย ตอนนี้ยิ่งไม่มีใครเข้าหน้าติด”

          “ศิลปิน อารมณ์รุนแรง”

          “เอ้อ แต่น้ำมนตร์เป็นติ่งพี่ทิไม่ใช่เหรอ” ไอ้นิวคิดได้ ถูกต้อง ผมเป็นติ่งพี่ทิ แล้วไงวะ “ลองไปคุยหน่อยไหม อย่างน้อยถ้าแพชชั่นการทำงานของพี่ทิกลับมาได้อารมณ์ที่กดไว้ข้างในจะได้ระบายออกมา”

          “จริงด้วย!”

          ฟ้าถ้าไม่สงมาให้เธอมีใจ บอกกันสักคำทำไม ต้องให้เธอมาทำรว้ายกัน...

          ผมยืดตัวหนี ร้องเสียงหลง

          “เหออออออออ”

          ลากเสียงยาวกึ่งปฏิเสธ ถึงจะชอบรับจ๊อบสอนเด็กพิเศษบ้าง ทำมินิมาร์ทบ้างแต่ไม่เคยเปิดคอร์สสอนอกหัก ถ้าสอนตัดใจจากรักได้ง่ายๆ ป่านนี้ผมคงเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนไปนานแล้ว ไม่ต้องมองคนที่ตัวเองแอบรักหวานชื่นรื่นรมกับแฟนให้ตัวเองเป็นลูซเซอร์น่าสมเพชแบบนี้มาตั้งหลายปีหรอก

          “ทำไมอะ แกชอบเพลงของพี่กะทิไม่ใช่เหรอ”

          “ไม่เกี่ยวไง ชอบเพลงก็ส่วนชอบ แต่สอนให้ปลงไม่ไหวหรอก”

          ไอ้นิวหัวเราะในลำคออย่างคนรู้ทัน มันพักอยู่กับผม และรู้ความลับข้อนั้นที่ผมพยายามปกปิดทั้งเพื่อน และแฟนเพื่อนไว้อย่างมิดชิด ถ้ามดแดงแฝงพวงมะม่วงว่าเนียนแล้ว น้ำมนตร์เนียนกว่ามดทุกตัวบนโลก ไม่พูดเยอะ

          “ได้ค่าจ้างด้วยนะ ได้ลูกค้าเป็นซุปเปอร์วีไอพีเลยนะ ยังไงก็ไม่มีงานพิเศษอยู่แล้วนี่ น้า น้ำมนตร์ นะ”

          “ทำไมถึงคิดว่าเราจะช่วยได้อะ เรื่องแบบนี้มันเรื่องส่วนตัวนะฟ้า”

          โดยเฉพาะผมที่ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาของตัวเองด้วยซ้ำ

          “ใจร้าย ไหนเคยบอกว่าตัวเองโตขึ้นมาเป็นคนละมุนได้เพราะเพลงของพี่ทิขัดเกลาไง ทีอย่างนี้ทิ้งกันเลยนะ” เสียงหวานตัดพ้อ ตากลมฉายแววดื้อรั้น ปลายจมูกสวยเชิดขึ้นเล็กน้อย ทำหน้าตาขึงขังแค่ไหนก็น่ารักไม่หยอก สมกับเป็นทิวฟ้าในเพลงซันไชด์ของกะทิเสียเหลือเกิน

          ไม่ได้การ...ความพาสเทลโพนี่บลิ๊งค์ทั้งหมดของหญิงสาวหลอกล่อผม ทำตากลมแก้มป่องแล้วใครจะอดใจไหว

          ฟอด!

          นั่นไง ไอ้อุ้ยจัดให้หนึ่งดอก เซ็งจัดปลัดขิก

          ซุปเปอร์ร้อนๆ ยกมาเสิร์ฟ ตักตีนให้ตัวเองค่าความน่าสมเพชที่ยังทำตัวเป็นคนสมองโปรโตซัว ถูกต้อง เพราะโปรโตซัวแม่งไม่มีสมอง

          “กูจะบอกให้นะฟ้า ถ้าไอ้นักแต่งเพลงกระจอกนั่นตายเพราะอกหักก็ช่างหัวแม่งไปดิ” ไอ้นิวว่า ก่อนซดน้ำซุปดังโครก จ้วงข้าวโพดจากจานรวมใส่จานตัวเองอย่างผิดสุขลักษณะที่สุด ช้อนกลางมีไว้วางประดับ กับเสริมมารยาทฝั่งแย่ของไอ้นิวให้ฉายชัด ผมใช้ช้อนส้อมเลาะเอาหนังออกจากตีนไก่ พอไม่ได้ดั่งใจก็ยกขึ้นกัดเต็มปากเต็มคำ

          “กะอีแค่แฟนทิ้ง ถ้าตายจริงๆ ให้มันรู้ไป”

          “เฮ้ย ไม่ได้!”

          “ไม่ได้งั้นมึงไปเป็นยาใจให้แม่งดิ”

          “ไม่ใช่ กูหมายถึงต้องหาผู้เชี่ยวชาญ” หาหมอหาอะไรก็ว่าไป มาหานักศึกษาที่ยังไม่ได้ใบปริญญาไม่ได้โว้ย อีกอย่างสมัยนี้ใครๆ ก็พบจิตแพทย์ได้ ถ้าอกหักแล้วส่งผลต่อชีวิตประจำวันขนาดนั้นการมีแม่บ้านหรือต่อให้เป็นแฟนคลับอย่างผมเข้าไปวุ่นวายไม่น่าจะช่วยได้ มิหนำซ้ำจะโดนตะเพิดมาเหมือนคนก่อนๆ ให้เสียความรู้สึกกันเปล่าๆ

          อย่างนี้เรียกหนังไม่ได้นั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ฝันไปเถอะว่าผมจะทำ

          “มึงง บ้านกูเพิ่งลงทุนกับพี่กะทิไป บริษัทแม่บ้านของแม่กู พี่ชายกู เหลือแค่อู่รถของพ่อกูนี่ล่ะที่ยังมีอุ้ยเป็นแอมบราสเดอร์”

          “เวอร์ว่ะฟ้า”

          ถึงแม้ใจอ่อนไปเกินครึ่งแต่ทำขึงขัง ทิวฟ้ารู้ดีว่าผมเป็นคนแบบไหน อ่อนนอกแข็งในกับทุกคน

          ย้อนไปถึงรากฐานการเลี้ยงดู คือผมมีพี่สาวที่พ่อแม่เก็บมาเลี้ยงหนึ่งคน ส่งเสียเรียนจบตามกฎหมายก็ออกไปแต่งงานกับนักเรียนช่างในละแวกเดียวกัน พี่ปุ้นเป็นลูกติดของญาติสักฝั่งที่ซักทอดไปถึงตัวยาก พ่อแม่ตายในอุบัติเหตุ บ้านผมเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ในตอนนั้นเลยไปไปจดทะเบียนรับรองบุตรโดยไม่เสียเวลาเกี่ยงกับญาติคนไหนรับผิดชอบ

          แต่เซอร์ไพรส์มักมาหลังทุกอย่างถูกที่ถูกทางแล้วเสมอ ไม่เกินสองเดือนแม่ก็รู้ว่ามีผมอยู่ในท้อง

          เรื่องราวของพี่ปุ้นถูกถ่ายทอดให้ผมรับรู้ทุกอย่าง เจ้าตัวเองก็อายุมากเกินกว่าจะคิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของที่บ้านได้ ยิ่งเมื่อพี่ปุ้นมีลูกสาวตัวจ้อยที่นับศักดิ์เป็นหลานผม ผัวก็ชิ่งไปมีเมียใหม่ ไม่ดูดำดูดีลูกเมียแม้แต่น้อย

          ความอ่อนไหวในใจผมที่มีต่อเพศหญิงยิ่งทวีเท่าตัว

          แต่ยังไง เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่จะรับปากกันง่ายๆ

          “ให้ไอ้อุ้ยไปดูดิ ท่อน้ำเลี้ยงมึงอีกทางเลยนะ” ต้องได้อย่างนี้สิวะไอ้นิว!

          ขอบคุณมากแต่ดูไม่ผ่านสมอง ลูกคุณหนูอย่างไอ้อุ้ยที่ใส่กางเกงในแล้วทิ้งคงดูแลใครได้ ดูฤทธิ์เดชคุณชายสายติสท์ที่ทิวฟ้าเล่านั่นอีก ธรรมดาที่ไหน

          “ไอ้อุ้ยได้สั่งคนเอาปืนไปจ่อหัวพี่ทิให้เขียนเพลงให้อะดิ” ผมเย้าทีเล่นทีจริง แต่คนถูกแหย่ไม่ขำ ทิวฟ้าวางช้อนส้อมลงกับจานพลาสติกที่มีร่องรอยการใช้งานมานานนม บางส่วนของจานมีรอยไหม้จากไฟจนบิดเบี้ยว ซีเรียสเวอร์

          “เราก็คิดเหมือนกันนะว่าถ้าเราเข้าไปเองจะเป็นยังไง”

          “อย่าาา!!”

          ทั้งผมและอุ้ยห้ามสุดกำลัง มีแต่ไอ้นิวอีกนั่นแหละที่โซ้ยตำข้าวโพดคนเดียวไม่แคร์สื่อ ใครจะไปรู้ว่าทิวากร พ่อหนุ่มสายละมุนเมื่อเป็นพ่อหนุ่มสายละมุดแล้วจะแปลงกายเป็นอะไร คนหล่อยิ้มสังหารแบบพี่ลมยังเอาไม่ไหว ฟ้าคงช่วยได้มาก! (ผมประชด)

          “คนในบริษัทแกตั้งหลายคนอะฟ้า”

          “แต่ไม่มีใครเป็นแฟนคลับพี่ทิไง”

          ทิวฟ้ามองผม มองจ้องเหมือนเป็นความผิดของผมที่บอกปฎิเสธ เหมือนเป็นหน้าที่ที่ผมไม่ยอมทำ ไม่มีความรับผิดชอบ และผิดหวังในตัวผมมากๆ

          “น้ำมนตร์จะไม่ช่วยเราจริงๆ ใช่ปะ”

          “เออ น้ำมนตร์จะไม่ช่วยฟ้าจริงๆ ใช่ปะ” ไอ้เหี้ยอุ้ย หุบปากไปเลย มึงก็ต้องเข้าข้างเมียอยู่แล้วสิวะ

          “เออๆ น้ำมนตร์ทำไมมึงแล้งน้ำใจอย่างนี้เนี่ย” พอมติส่วนใหญ่เอนเอียงไปทางฝั่งของหญิงสาว ไอ้นิวเพื่อนรักก็ไม่เห็นค่าความสำคัญของผมอีกคน พูดหน้าตาเฉยเหมือนไม่รู้ว่าผมมีความรู้สึกพิเศษต่อหญิงสาว เคยได้ยินไหมครับ โจรมันจะร่วมมือกันตอนปล้น และตอนนี้ก็เหมือนไอ้สามตัวนี้กลายเป็นโจรเพื่อปล้นอิสระทางเวลาจากผมไปหน้าด้านๆ

          “สรุปคือกูต้องไปเป็นแม่บ้านที่สร้างไฟในการเขียนเพลงและเป็นผู้เป็นคนให้ลูกค้าฟ้าใช่ปะ”

          “ต้องสรุปอีกเหรอ”

          “เพราะกูเป็นแฟนเพลงของพี่ทิใช่ปะ”

          “ไม่ใช่เว้ย เพราะน้ำมนตร์เป็นคนที่ใจเย็นแล้วก็เด็ดขาดที่สุดต่างหากล่ะคะ”

          ถ้าไม่ได้แอบชอบอยู่จะด่าพ่อให้ ทิวฟ้าคว้ามือผมไปจับต่อหน้าอุ้ย แต่ไอ้อุ้ยไม่คิดอะไรหรอก คนคิดน่ะผม ผมคนเดียวทั้งนั้น ใครไหวไปก่อนเลย ผมแม่งใจเหลวเป็นน้ำแล้ว

          “น้ำมนตร์ช่วยฟ้าหน่อยนะ แล้วน้ำมนตร์อยากได้อะไรฟ้าให้หมดเลย”

          ขอเย็บทีได้ปะล่ะ

          แน่นอนว่าอยู่ในหัว แต่ไม่ได้พูดออกไป ผมถอนหายใจ ปล่อยให้ทิวฟ้าจับมือผมเอาไว้ ภาวนาให้จับนานกว่านี้อีกหน่อย และขอให้ไอ้อุ้ยโง่เง่าแบบนี้ต่อไปนานๆ

          “ขอดูนมจะให้เราดูปะ”

          แม่งเอ๊ย...เหี้ยไม่ต่างกันเท่าไหร่เลย แต่พูดไปแล้ว พูดไปแล้วน้ำมนตร์

          “นมเล็ก ฟองน้ำทั้งนั้น”

          ไอ้อุ้ยบลัฟต์ผมด้วยการเผาเมียหน้าตาย ทิวฟ้าปล่อยมือจากผมทันที ได้ยินเสียงเพียะดังลั่น สมควรโดนตบ อยากฝากฟ้าตบอีกรอบข้อหาขิงกันหน้าด้านๆ นมเล็กแล้วมึงไม่เลิกไปหาคนอื่นล่ะ รูปหล่อพ่อรวยนักหาได้ดีกว่าทิวฟ้าเป็นไหนๆ ผมนี่ดิ จะหาคนที่ดีเท่าฟ้าได้ยังไงในชีวิต คิดแล้วท้อ

          “จะให้ไปเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน ขอหาข้อมูลเกี่ยวกับแอลกอฮอลลิซึ่มก่อน กลัวรับมือไม่ได้เหมือนกัน”

          “เย้ น้ำมนตร์น่ารักที่สุดเล้ย”

          หญิงสาวยิ้มแก้มบาน ยืดแขนมาหยิกแก้มผมที่นั่งหน้าตึงฝั่งตรงข้ามทั้งสองข้างให้ย้วยออกมา

          น่ารักจริงก็รักดิวะ

          ไปรักไอ้ห่าอุ้ยมันทำไม

          หึ...คำหวานของผู้หญิง แม่งโคตรยาพิษเลย


tbc


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2019 21:45:34 โดย -west- »

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เปิดเรื่องใหม่แล้ววววววววว  ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ KOWPOON

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เรื่องใหม่ ~~~~~~~

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกดีครับ รอตอนต่อไปครับ ^^

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
รอคุณเว้ดมานานนน ในที่สุดดดดดดด

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นี่เขาเป็นเพื่อนกันจริงเหรอ หยอกกันแร๊งแรง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
แปะไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยมาอ่าน :z13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2019 19:48:29 โดย Ginny Jinny »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

ดีใจมากเลยค่ะ จะมีนิยายน่าสนใจให้รออ่านทุกวันพุธอีกเรื่องแล้ว

เปิดมาได้น่าสนใจมาก ติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
วันพุธที่รอคอย กลับมาแล้ววว

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เย้.....ติดตามจ้า   :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ดังต้องมนตร์
02 อ้าวเฮ้ย..
____



          “อ่อนสัด กูว่าแล้วว่ามึงต้องแพ้อีฟ้า มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามึงต้องโดนอีฟ้าหลอกใช้เหมือนเคย ไอ้วอก วอกขนั๊ด จั๊ดง่าว ง่าวมะลักมะเหลื่อ”

          เสียงทุ้มพูดยาวเหยียดโดยไม่หันมองคู่กรณีอย่างผมแม้แต่หางตา ไอ้นิวจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยเกิร์ลกรุ๊ปเต้นยั่วๆ บดๆ ตาเป็นมัน สวมกางเกงบ็อกเซอร์ นั่งพุงพลุ้ยออกมาบนเก้าอี้เลซี่บอยที่ยกมาจากบ้านย่านสมุทรปราการเพื่อเล่นเกมและติ่งทุกนักร้องหรือเรียกอีกชื่อว่าการเป็นโอตาขุฟูลไทม์

          “พูดเหมือนมึงห้ามกูเต็มที่นะนิวน้า เดี๋ยวกูเตะตกระเบียง”

          “กูก็ช่วยเชียร์ไปงั้น แต่ถึงกูไม่เชียร์มึงก็ช่วยฟ้าอยู่แล้ว มีครั้งไหนด้วยเหรอที่ฟ้าขอร้องแล้วมึงไม่ทำอะ”

          เอาเรื่องจริงมาล้อเล่น พูดได้สิมันไม่ได้เป็นผมที่แอบชอบฟ้ามาตลอดนี่ครับ คิดแล้วก็เซ็ง ทั้งที่น่าจะเป็นเทอมที่ว่างที่สุดของผมใช่ปะ แล้วนี่อะไร อยู่ๆ ลาภก้อนใหญ่ก็วิ่งเข้าชนเหมือนตั้งใจชนกันให้ตายไปข้างแต่รับงานมาก็ดี ผมเองก็อยากเจอพี่กะทิตัวเป็นๆ แล้วบอกพี่ทำผมผิดหวังมากเลยรู้ปะใส่หน้าสักครั้ง

          “ใครๆ มันก็ต้องเคยอกหักว่ะ ดูอย่างกูสิ ก็ไม่ตายปะ”

          คู่สนทนาหัวเราะหึๆ ในลำคอ ไม่รู้ว่าขำหรือสมเพช ความสัมพันธ์ของพวกเราง่ายมาก ผมรู้จักไอ้นิววันรายงานตัวเพราะชื่อน้ำมนต์ ไอ้นิวชื่อนนทวัฒน์ ถูกจัดอยู่ในอักษร น.หนูเหมือนกัน รหัสนักศึกษาต่อกัน นั่นรวมถึงนายนนท์ที่ชื่อเล่นว่าอุ้ยที่คนทั้งโลกอาจเรียกว่าไฮโซนนท์ แต่พวกผมเรียกไอ้เหี้ยอุ้ยตามความสนิท ส่วนหญิงสาวผู้โดดเด่นดั่งลอยลงจากสวรรค์คนนั้น ทิวฟ้า ศรุตานันท์เป็นผลพลอยได้ที่ชื่อของเราสามคนต่อกันพอดิบพอดี

          โชคดีที่อุ้ยกับฟ้าเป็นคนรวยที่ทำตัวสมถะ ต่อนยอน ใช้ชีวิตแบบลากอมใช้ทำให้แม้ว่ารสนิยมการใช้กระเป๋าหนึ่งใบของเราต่างกันราวฟ้ากับเหวก็ยังสมัครสมานสามัคคีได้ด้วยอาหารอร่อยและถูก ทิวฟ้าเป็นคนง่ายๆ สบายๆ  และเคล็ดลับการใช้ชีวิตให้มีความสุขของฟ้าก็คือทำตัวให้รวย จากนั้นเราจะเป็นคนรวยไปเอง เข้!

          ผลผลิตของครอบครัวศรุตานนท์ไม่ได้มีแค่ทิวฟ้าที่เป็นกึ่งบุญกึ่งบาปของผมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงทิวลม ศรุตานนท์ พี่ชายคนโตอายุ 30 ที่ไม่สนใจธุรกิจที่บ้านแต่ตั้งหน้าตั้งตาเป็นนักร้องตั้งแต่มัธยมแต่นอกจากหน้าตาก็ไม่มีอะไรเข้าแก๊ปของนักร้องได้ก็เลยกลายเป็นโปรดิวเซอร์ในวงการบันเทิง ทำหน้าที่ในค่ายเพลงยักษ์และฟ้ายังเล่าว่าเขาเป็นรุ่นพี่คนสนิทของทิวากร หรือพี่กะทิในตำนาน ชายหนุ่มวัยเบญเพสผู้เจริญรอยตามแม่ผู้เป็นศิลปินซึ่งกำลังเป็นปัญหาก้อนใหญ่ของฟ้า และแน่นอน เขาก็กำลังทำตัวกลายเป็นปัญหาของผมเช่นกัน กระนั้นก็คงไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยถ้าผมแก้ปัญหาของตัวเองคือโรคแพ้ผู้หญิงและแพ้ทางฟ้าได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

          “พูดจริงๆ นะน้ำมนต์ ทำไมมึงไม่มองคนอื่นบ้างวะ มึงก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ จับแต่งเนื้อแต่งตัวหน่อยก็พอดูได้ นิสัยก็ไม่แย่ บ้านก็ไม่ได้จน มึงขาดคุณสมบัติเดียวอะ เสือกเอาตาไปมองปลากระป๋อง”

          “มึงเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมไอ้นิว” กราบขอโทษอุ้ยในใจ แต่ผมรู้สึกผูกพันกับฟ้าจริงๆ ไม่ว่าจะเพราะเพลงของพี่กะทิหรือไม่ก็ตาม ความผูกพันที่ถูกถักทอตั้งแต่ก่อนพบจนได้เจอหน้ามันมีโอกาสราวหนึ่งในล้าน ใครจะรู้ แต่จู่ๆ สวรรค์จะมาบอกว่าส่งทิวฟ้ามาเจอผมเพื่อให้เป็นเพื่อนกันแค่ครั้งหนึ่งในชีวิตเท่านั้นจริงๆ เหรอวะ ไม่มีทาง

          “เออ มึงเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมน้ำมนต์”

          ฮั่นแหนะ มียอกย้อน ผมยักคิ้วท้าทายจึ้กๆ ไหนมึงจะมามุกไหนไอ้อวบ

          “ไอ้อุ้ยแม่งรวยสัดๆ มีผู้หญิงเข้าหาเป็นล้าน แต่อุ้ยเสือกชอบแต่งรถตั้งแต่ยังไม่มีใบขับขี่ แล้วบ้านอีฟ้าก็เปิดอู่นำเข้าของแต่งรถ”

          “น้ำมนต์ไม่ถูกใจสิ่งนี้” ยกนิ้วให้เลยแด่ไอ้นิวนักดับฝัน นิ้วกลางสองข้าง ถ้าชูเท้าขึ้นมาได้ก็จะชูส่งให้ทั้งสี่ ไม่พูดไม่ใช่ไม่สะเทือนใจนะครับ น้ำมนต์เจ็บปวดมากๆ สัดเด้ย

          “แล้วงะ แล้วมึงก็ต้องไปเป็นเบ๊ให้พี่กะทิเมื่อไหร่”

          “ไม่รู้ ได้คีย์การ์ดมาแล้วเนี่ย”

          “เร็วกว่าฟาสต์แอนฟิวเรียส”

          “เดี๋ยวบ่ายๆ ว่าจะเข้าไปสักหน่อย ฟ้าให้บัตรรถไฟฟ้ามาด้วย บอกว่าถึงสถานีแล้วติ๊ดบัตรออกไม่ต้องลงมาเหยียบดินเลย ทางเข้าคอนโดเชื่อมกับรถไฟฟ้า”

          “เท่สัด”

          ผมล้มตัวลงนอน ข้อดีของปีสี่คือวิชาเรียนน้อย แต่ข้อเสียของมันก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเรียนน้อยลงผมกับฟ้าก็มีโอกาสเจอกันน้อยลง และเมื่อเรียนจบไปแล้วผมจะมีโอกาสเจอฟ้าอีกสักเท่าไหร่ นั่งคิด ยืนคิด ตะแคงคิด ตีลังกาคิดก็ยังรู้สึกว่าบางทีการตกลงรับปากจะช่วยฟ้าอาจจะเป็นหนทางที่ดีของผมก็ได้ วิน-วิน ซิททูเอชั่น เอาจริง คนอย่างผมจะมีสิทธิ์ไปหวังอะไรมากกว่านั้นกัน


          มีรักในวัยเรียน ก็เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน แต่ถ้าไม่หัดรักในวัยเรียนจะให้ไปเรียนรู้จักความเจ็บปวดที่ไหน
          ชีวิตวัยรุ่นกับความรักเป็นของคู่กันทุกยุคสมัย สังเกตได้จากเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่โบราณกาลก็หนีไม่พ้นเรื่องรักๆ ใคร่ๆ จะฉ่อยหรือจะฉอดก็เต็มไปด้วยวิธีการเกี้ยวพาราสี จะว่าแก่แดดตามประเพณีบ้านเมืองก็ได้ แต่ผมคิดเรื่องนี้ตั้งแต่ประถม รักแรกเป็นช่วงประถมปลาย และเป็นความสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าแอบรักเต็มขั้น ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนนั้นการตกหลุมรักใครสักคนเป็นสิ่งน่าอายมาก ถ้าถูกเพื่อนจับได้ก็จะกึ่งๆ โดนประณาม กึ่งๆ ถูกหยอกล้อ ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะน่ารักแค่ไหนแต่ทั้งผมและคนที่ถูกชอบต้องโดนบูลลี่จากเพื่อนในสายชั้น เรื่องใหญ่มากครับ ดังนั้นผมถึงได้เป็นนักแอบรักมือวางอันดับหนึ่งมาจนถึงทุกวันนี้
          คอนโดของพี่ทิตั้งอยู่ใจกลางเมือง อย่างที่ทิวฟ้าว่า การเดินทางมาที่คอนโดของพี่ทิแสนสะดวก นอกจากรถไฟฟ้าที่เปิดประตูมาก็เจอทางเข้าในชั้นเดียวกันแล้ว การรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดขณะเดียวกันก็สะดวกสบายเป็นที่หนึ่ง ผมมีคีย์การ์ดที่เข้าตึก และเดินทางได้เฉพาะชั้นที่เป็นห้องพักของพี่ทิเท่านั้น ลิฟต์ที่พาขึ้นไปก็หรูหราพาคนโง่งงได้ง่าย แต่ไม่สามารถหลอกล่อให้ผมเด๋อด๋า แม้ว่าไม่มีปุ่มตัวเลขให้กดแต่แสกนบัตรครั้งเดียวเครื่องโดยสารก็ทะยานขึ้นไปโดยไม่ต้องสั่ง เสียงเอไอบอกเมื่อถึงที่หมายเป็นภาษาอังกฤษกระด้างๆ ประตูเปิดออกให้เห็นทางเดินกว้าง ตบแต่งสไตล์สวีดิช เน้นความมินิมอล ขาวสะอาดและเรียบง่าย กระถางไทรใบสักสีขาวโง่ๆ สุดทางเดินนั่นต้องแพงสัดๆ กลิ่นคนรวยมันแรง เหยียบย่ำบนพื้นหินแกรนิตแต่ละก้าวพานเอารู้สึกผิดที่ไม่ได้เคาะดินออกก่อนเข้าตึก

          ผมไม่เข้าใจความพังทลายของพี่ทินัก ในช่วงอายุยี่สิบปีที่ผ่านมาชีวิตผมมีความแอบรักมาหลายต่อหลายครั้ง และคิดว่าอาจถึงร้อยครั้งก่อนตาย ศาสตร์ของความแอบรักคือเราจะไม่ได้มาแต่ก็ไม่เสียไปอาจมีอารมณ์หม่นๆ แต่ไม่เยินถึงขั้นร้องห่มร้องไห้พากันฉิบหายทั้งบ้านเหมือนเจ้าของห้องมุมสุดของชั้น 21

          ผมนึกหน้าของพี่ทิไม่ออกเลย ให้ตาย เขาไม่ปรากฎตัวมานานมากแล้ว และแม้ว่าผมชื่นชมเขามากแค่ไหนก็จำได้แค่เสียงทุ้มที่ทั้งอุ่นและนุ่ม ผมยังมีเทปคลาสเซ็ตของเจ้าตัวอยู่หนึ่งอัลบั้ม ตอนนั้นเป็นงานอินดี้ชิ้นแรกที่ผมเก็บหอมรอมริบเสี่ยงตายฝากเพื่อนที่เรียนพิเศษในกรุงเทพซื้อ ซึ่งปกก็ประทับใจสัดๆ เปียโนสีดำหนึ่งตัว ทั้งที่เพลงเปิดตัวเป็นโซโล่กีต้าร์ แต่ความไม่น่าเข้าใจนี่แหละที่มันโคตรเท่ เท่จนกลายเป็นอินสไปเรชั่นด้านดนตรีแม้จะเล่นได้แค่โชว์สาวแค่ไม่กี่เพลงก็ตาม

          ผมหยุดยืนหน้าประตูห้องสีขาวจนแทบกลืนไปกับผนัง ตัวเลขห้องที่แสดงทำมาจากไม้ ไม่แตกต่างโดดเด่นจากอีกสามห้องในชั้น และแม้ว่าเป็นตึกใหญ่ที่รวมทั้งสำนักงานและคอนโดไว้ที่เดียวกันแต่หนึ่งชั้นก็มีแค่สี่ห้อง ไม่อยากคิดว่าราคาต่อห้องตกตารางเมตรละเท่าไหร่ รู้ไปก็เท่านั้น แม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียวผมก็คงไม่มีปัญญาแม้แต่จะเช่ารายวัน ด้านข้างมีกริ่งให้กดเรียกคนด้านในเหมือนลักษณะของบ้าน เป็นกริ่งระบบสัมผัส วางมือเบาๆ ก็มีไฟวาบขึ้นมาว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานแล้ว ทว่าผมก็ไม่ได้ยินเสียงจากด้านใน เงียบสนิทไม่มีตาแมวให้แอบมอง แต่กล้องวงจรปิด อีส ว็อชชิ่ง ยู ทิวฟ้าบอกว่าคีย์การ์ดอันเดียวกันสามารถปลดล็อกประตูได้ เว้นเสียแต่คนข้างในจะลงกลอนอีกชั้นซึ่งผมไม่อยากเผชิญหน้ากับพี่ทิครั้งแรกด้วยความไร้มารยาท ดังนั้นจึงยืนรออีกพักใหญ่ถึงกดกริ่งซ้ำเป็นรอบสอง

          เงียบสนิท...

          ผมกดอีกครั้ง

          อีกครั้ง

          หรือว่าตายไปแล้ววะ...

          ระหว่างที่ลังเลว่าจะโทรเรียกทิวฟ้าซึ่งสมควรจะมาด้วยกัน กับเรียกป่อเต็กตึ้งมาช่วยรับศพประตูห้องก็เปิดออก กลิ่นไม่พึงประสงค์โชยออกมาทันที ภาพของคอนโดหรูหราสะอาดตาเมื่อครู่พังครืนเมื่อมองผ่านช่องระหว่างประตูเข้าไปด้านใน กลิ่นที่ว่าเป็นกลิ่นละมุดหมัก อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าพี่ทิน่าจะยังไม่ตาย เพราะถ้าเป็นผีพี่ทิกลิ่นที่ลอยออกมาคงจะเป็นกลิ่นสาบระคนเหม็นเน่าของร่างไร้วิญญาณ

          “....”

          แต่เสียงนั่น...พะ...พูดเหี้ยอะไรวะ

          “สะ....สวัสดีครับ”

          อีฟ้า! ขอโทษครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอยากเรียกเพื่อนที่ตัวเองแอบชอบด้วยคำไม่สุภาพตามไอ้นิว มาคิดดูอีกที การที่มาเจอพี่กะทิครั้งแรกคนไหว้วานให้ผมเป็นธุระให้ก็ควรจะมาด้วยหรือเปล่าวะ ตอนรับปากคิดไม่ทัน แต่ใครจะไปทันคิดวะว่าจะเจอชายหนุ่มสภาพคล้ายซอมบี้พูดจาอ้อแอ้งึมงำในลำคอแบบนี้

          ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แต่ยังทำใจดีสู้เสือ เสือเมาด้วยจะสักเท่าไหร่เชียว

          “ผม...ซื้อโจ๊กมาให้”

          “...ห้องแล้ว”

          “ครับ?”

          “มาผิดห้องแล้ว”

          ผมถอยออกมา มองเลขที่บ้านอีกครั้ง

          “ไม่ผิดนะครับ”

          ยืนยันหนักแน่น ชั้นนี้มีแค่สี่ห้อง เลขแค่สามตัวยังจำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันแล้ว

          “คุณทิวากรที่จ้างบริษัทโซลเหมดใช่ไหมครับ”

          ผมถาม สติร้อยเปอร์เซนต์ แต่คนตรงหน้าน่าจะติดลบ เขานิ่งไปพักหนึ่งจนเหมือนยืนหลับ อาศัยแขนพยุงตัวเองไว้อ้าปาก แต่ไม่ตอบ มิหนำซ้ำยังเรอเบิ้กใหญ่ใส่หน้าอีกต่างหาก

          “พี่แปรงฟันบ้างก็ดีนะ”

          ผมอาจจะขอมากไป เพราะแค่ยืนตรงๆ ยังดูเป็นสิ่งที่เจ้าตัวทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เขาขยับตัว เซไปด้านหลัง ผมคว้าคอเสื้อยืดของอีกฝ่ายทันแต่ก็ได้แค่ประคองชั่วขณะ เจ้าของร่างสูงใหญ่พลิกพิงแผ่นหลังบนผนัง ก่อนถอยกรูดรูดลงหมดสภาพบนพื้น
เวรกรรม เวรกู

          นอกจากไม่สามารถสื่อสารกันได้แล้ว เหมือนหน้าที่ของผมจะไม่ใช่แค่ส่งข้าวส่งน้ำทำความสะอาดห้อง เป็นกำลังใจให้พี่ทิเลิกเหล้ามาทำงาน แต่คงเป็นยิ่งกว่าบุรุษพยาบาลดูแลผู้ป่วย พี่กะทิในตำนานแม่งตายไปแล้ว ตายแบบไม่เหลือเค้าเดิมให้ผมนึกได้ว่าเคยปลื้มผลงานเพลงของผู้ชายคนนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

          “พี่ลุกไหวปะ หือ ทำไมแม่งเหม็นงี้วะ”

          เฟิร์สอิมเพรสชั่นโคตรแย่ ผมเอาตัวเองก้าวเข้าไปในห้องโดยไม่รอคำเชิญจากเจ้าของ ซึ่งเจ้าตัวก็ดูท่าจะไม่ไหวทั้งเชิญและไล่ สุดท้ายก็ต้องยอมให้ผมหิ้วปีก กึ่งเดินกึ่งลากจากพื้นหน้าประตูมายังโซฟา

          สัด...โซฟาก็เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์ ไอ้นี่อะไรวะ ใช่คราบอ้วกหรือเปล่า

          “โคตรเรื้อนเลยว่ะพี่”

          “...ไป”

          “ไปไหน”

          “ออกไป!”
คราวนี้เสียงดังฟังชัดมากครับ ขี้หูผมเต้นระบำเป็นจังหวะรุมบ้า ชะชะช่า เหอะ ไม่ขำ โคตรไม่ขำทั้งเสียงและกลิ่นเป็นอะไรที่ท็อกซิกมาก ผมเหวี่ยงพี่กะทิลงบนโซฟา เสียงอะลูมิเนียมยุบตัวจากการทิ้งน้ำหนักลงทั้งตัวดังกร๊อบ ชายหนุ่มพยายามชี้โบ๊ชี้เบ๊ สิ้นสติโดยสิ้นเชิง

          “ผมมาหานี่เพราะ...” ระหว่างที่จะแนะนำตัวก็ลังเลระหว่างว่าควรอธิบายหรือปล่อยตามยถากรรม ภาพชายร่างสูงเหยียดตัวยืด กระป๋องเปล่าที่บุบไม่เป็นรูปทรงร่วงหล่นระเนระนาดก็ทำใจสลาย อธิบายไปคงเหมือนนั่งคุยกับหมาหน้าเซเว่น ไม่ก่อประโยชน์แล้วยังเหนื่อยเปล่า

          ความรักทำไมแย่!

          ความจริงคนที่มาดูแลพี่ทิควรจะเป็นพี่ลม โปรดิวเซอร์คอนเสิร์ตปลายปีและนายหน้าหาแบรนด์แอมบลาสเดอร์ให้บริษัทที่บ้านแท้ๆ แต่กลายเป็นผมที่สาระแนขี้เกรงใจจนปฏิเสธไม่ลง บาปกรรมของการแอบรักแฟนชาวบ้านอาจเล่นงานผมด้วยวิธีนี้ ผมบ่นทดท้อกับตัวเองได้แค่ในใจก่อนพี่กะทิจะคว้าเอากระป๋องเบียร์ปามาสุดแรง ไม่มียั้ง มีความพยายามนะครับ แต่ยังอ่อนหัด เสียงป๊อกแป๊กดังข้างตัว เห็นแล้วโคตรสมเพชลูกตา

          แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่บ้างรินไหลลงพื้นแกรนิตไต่ตามความลาดเอียงมาจนถึงรองเท้าหนังของผม เวรเอ๊ย มีคู่เดียวด้วย

          “มึง...ออกไปจากห้องกู”

          เขาพูดซ้ำ เสียงยังคงทั้งแหบและอ้อแอ้ตามประสาคนเมา ซุกหัวลงไปในหมอนอิง หลบเลี่ยงแสงที่สว่างจากประตูด้านนอกแม้เพียงรำไร ข้างในห้องมืดทึม ถูกซ่อนเร้นไว้จากแดดบ่ายด้วยม่านกันแสง บนพื้นเต็มไปด้วยขยะ ส่วนมากเป็นกระป๋องเบียร์ ขวดแอลกอฮอล์ เอาเท้าเขี่ยเจอซองมาม่า ท่าทางกินดิบด้วย คุณภาพชีวิตโคตรแย่

          “ผมเปิดไฟนะพี่”

          พูดไปงั้น เจ้าของห้องหลับใส่เรียบร้อย กรนครอกๆ คำราม โคตรเข้าใจว่าทำไมฟ้าถึงได้เครียดนักกับการที่พี่กะทิทำงานไม่ได้ ขนาดผมที่ไม่ได้เกี่ยวโยงอะไรด้วยยังรู้สึกเวทนา

          ถุงโจ๊กที่ซื้อมายังร้อน นอนสงบเหมือนเจียมเนื้อเจียมตัวว่าจะเป็นหมัน ผมวางมันในพื้นที่เล็กๆ ตรงโต๊ะกลาง ควานหาทางเดินไปเปิดโคมไฟให้ส่องแสงเรืองๆ สีส้มอ่อนเพื่อตามหาสวิตซ์ไฟในห้องอีกที สืบกันอย่างโมริโคโคโร่ แต่กว่าจะเจอสวิตซ์ไฟที่ควบคุมความสว่างแบบไฟฟ้าอัจฉริยะได้ก็เดินวนเกือบรอบห้อง

          ไฟดาวไลท์แบบฝังเพดานค่อยๆ สว่าง ผมไม่เร่งเบอร์แรง กลัวว่าเจ้าของห้องจะลุกขึ้นสู้และไม่ยอมสิ้นฤทธิ์โดยง่าย มองดูอสังหาริมทรัพย์ราคาหลักหลายสิบล้าน ห้องชุดของอาคารเมื่อถูกซื้อโดยศิลปินก็ถูกตบแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ต่างจากภาพลักษณ์หรูหราด้านนอก ผนังด้านหนึ่งเต็มไปด้วยแผ่นหนังวางเรียงกันจากกำแพงฝั่งหนึ่งมาจนถึงส่วนที่ตบแต่งด้วยกล่องเทปคลาสเซ็ต ม้วนวีดีโอ แผ่นเล่นเพลงสูงท่วมหัว ไล่มาจนถึงหนังสือเพลงทั้งไทยและเทศจนชิดกำแพงอีกฝั่ง ถัดมาเป็นประตูห้องกรอบขาว ผิวเรียบ วอลเปเปอร์สีขาวสะอาด เว้นระยะเป็นกระถางต้นไม้ฟอกอากาศขนาดกลาง ตั้งใกล้กับเปียโนสีดำขลับตัวเขื่องที่น่าจะเป็นพระเอกของอัลบั้มแรกของทิวากรที่ผมมี ฝุ่นเกาะด้านบนผิวมันปลาบหนาเป็นนิ้ว จากนั้นเป็นประตูห้องอีกห้อง มีชั้นวางหนังสือที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นหนังสืออะไรวางระเกะระกะต่างจากผนังห้องที่เต็มไปด้วยของเก่า มันส่งเสียงเชิงว่านั่นคือตู้หนังสือสำหรับใช้จริง ส่วนชั้นวางแรกที่โดดเด่นสะดุดตาถูกจัดวางอย่างสวยงามและเขรอะฝุ่นนั่นมีสำหรับโชว์เท่านั้น

          ผมยังคงกวาดตามอง ร่องรอยบางสิ่งบางอย่างหายไป ซึ่งนั่นอาจเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของหญิงสาวที่เคยพำนักด้วยกัน ฝุ่นที่เกาะบนพื้นจึงบางตากว่าที่อื่น แต่แต่งแต้มอย่างยุติธรรมด้วยม้วนกระดาษขยำ ทิชชู่ กล่องพิซซ่า ถุงมาม่า กระป๋องเบียร์ ขวดเบียร์ ขวดเหล้า มีขวดวิสกี้ทรงสวยที่นอนเท้งเต้งอยู่บนพื้น เสื้อผ้าขยำยำกองลวกๆ ตามมุมห้อง สกปรกแบบที่ว่าไม่น่ามีสิ่งมีชีวิตใดใช้ชีวิตได้

          คอนโดสุดล้ำสภาพสลัมคือสิ่งนี้ ประตูห้องหนึ่งเปิดไว้ ปิดไม่ลงจากการที่ผ้าปูที่นอนลายทางสีเทากับขาวหม่นเลื้อยออกมา หมอนสองใบ วางใกล้เก้าอี้สาน ผสมปนเปกับชุดเครื่องครัว แก้วน้ำ ขวดโซดา ตลอดไปจนถึงแก้วที่บางส่วนเป็นเศษแก้วจากการทำลายหรืออุบัติเหตุ แม่งโคตรแย่ อย่างไอ้นิวเรียกว่าซกมกได้ยังไง ห้องพี่ทิคือนรกของความซกมกโสมมได้เบอร์นั้น
แล้วอะไรคือการที่ทิวฟ้าบอกว่าเคยมีแม่บ้านทำงานวะ...นี่มันสภาพของห้องขังไอ้ขี้เมาคนหนึ่งซึ่งไม่มีคนเข้ามาดูแลเลยต่างหาก
ผมหยิบตุ๊กตาเป็ดตัวหนึ่งขึ้นมา หน้าตาน่ารักเชียว แต่รอยรองเท้าชัดมาก เอาจับอาบน้ำอาบท่าหน่อยคงสะอาดน่ากอดน่าฟัด

          “พี่กะทิ”

          ผมส่งเสียงเรียกอีกครั้ง ไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมา กดโทรศัพท์โทรหาฟ้า อยากจะเรียกอีฟ้าอีกครั้งด้วยความโมโห มึงหลอกกูมาเจออะไรวะ แต่ต้องคีฟลุค เมื่อปลายสายรับก็ได้แต่เรียกเสียงสอง เอื่อยเฉื่อยเหนื่อยหน่าย

          “ฟ้าาาาา”

          “ว่าไงน้ำมนต์”

          “เราเข้ามาห้องพี่ทิแล้วนะ พี่ทิเมาไม่รู้เรื่องเลยว่ะ”
         
          “เหรอๆ โชคดีจัง”

          โชคดีกับพ่อมึงสิ...

          ไม่ได้น้ำมนต์ นึกถึงหน้าหวานๆ นั่นไว้

          “ห้องรกมากเลยอะครับ”

          “อื้อ รอบก่อนแม่บ้านเข้าไปแล้วเหยียบแก้วด้วย น้ำมนต์ระวังดีๆ นะ เขาไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรใช่ไหม”

          น้อยไปน่ะสิ ผมยังเป็นผู้รอดชีวิตเพราะไม่ถอดรองเท้าครับ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเหยียบอะไรไปแล้วบ้างเหมือนกัน

          “ฟ้าจะให้เราทำยังไงต่อ”

          บอกตรงๆ ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ระหว่างหนีไปจากที่นี่กับเริ่มลงมือเก็บของที่เป็นอันตรายต่อตัวพี่ทิเอง ยิ่งพอได้ยินว่าเคยมีแม่บ้านเข้ามาแล้วโดนแก้วบาดแล้วก็ยิ่งลังเลใจ ขอใช้ตัวเลือกจ้างแม่บ้านอีกรอบได้ไหม ไม่เลือกงานไม่ยากจนนะเว้ย

          “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”

          อ้าว อีฟ้า

          “เราไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าถามพี่ลมคงอยากให้น้ำมนต์ช่วยพูดความรู้สึกตอนที่น้ำมนต์ฟังเพลงพี่ทิแล้วตกหลุมรักล่ะมั้ง”

          “ฟ้า เราไม่ใช่นักจิตบำบัดนะเว้ย”

          “เรารู้ แล้วน้ำมนต์มีไอเดียอื่นไหม คือ...มันกระทบกับงานที่บ้านเราจริงๆ”

          ผมเข้าใจมากๆ เข้าใจไอ้อุ้ยที่ไม่มีปัญญาดูแลใคร เข้าใจพี่ลมที่เหนื่อยหน่ายกับรุ่นน้องที่ฝากความหวังไว้ และเข้าใจทุกคนที่ไม่อยากให้เรื่องไปถึงพ่อแม่และนักข่าว เออ...

          “แล้วน้องเจนอะ”

          “ไม่รู้ ไม่ได้คุย”

          ห้วน กระชับ สะบัดในน้ำเสียง รู้เลยน้าว่าเข้าข้างนักเขียนเพลงหนุ่มเต็มเหนี่ยว

          “เราว่าแกเอาอีน้องเจนมาคุยไม่ง่ายกว่าเหรอวะฟ้า”

          “ถ้าชีมาชีจะทิ้งพี่ทิไปทำไม คิดสิคิด นี่ว่าที่บัณฑิตเหรอ”

          ด่ากูโง่อี๊ก อะไรจะเฟรนด์โซนเบอร์แรงได้ขนาดนี้ ไม่มีอีกแล้ว น้ำมนต์เหนื่อยเหลือเกินน

          ผมถอนหายใจใส่โทรศัพท์ เป็นนัยยะว่าไม่ชอบใจนัก แต่โชคดีมากที่ฟ้าเป็นนางเอกของผมดังนั้นจะไม่โดนด่า ถ้าเป็นไอ้นิวป่านนี้ผมลากบรรพบุรุษขุดมายำเละเรียบร้อย

          ผมกวาดตาดูรอบห้องอีกครั้ง นี่ขนาดยังไม่ทันลัดเลาะซอกซอยไปในห้องต่างๆ ว่ารกมากน้อยแค่ไหน เต็มไปด้วยขยะและอสรพิษหรือไม่ ก็แทบหมดแรง สิ่งที่ชุบชูให้เกิดประกายในดวงตาวับวาวพราวแสงคือผนังห้องที่ปูด้วยงานศิลป์ซึ่งเป็นทั้งในรูปแบบของหนัง ดนตรี และตัวอักษร
 
          หลังจากวางสายทิวฟ้าแล้ว เหลือบมองเจ้าของห้องอีกครั้ง ภาพของทิวากรเลือนรางเต็มทน แต่เสียงดนตรีที่แปลกหูเมื่อโน้ตตัวแรกโซโล่กีต้าร์ดังขึ้นมาแดดยามบ่ายหลังจากที่วิ่งเตะบอลตอนเที่ยงวันก็อ่อนละมุน ภาพของตัวเองนั่งพักลงข้างสนาม ฟังเสียงตามสายของโรงเรียนที่เปิดเพลงโดยรุ่นพี่ชมรมดนตรีก็บรรเลงขับกล่อมให้ความรู้สึกเหนื่อยล้าเบาบาง เสียงทุ้มนุ่มต่ำคล้ายกระซิบแต่ทรงพลัง เพลงที่ผมไม่เคยได้ฟังจากช่องวิทยุรายการไหน เนื้อเสียงที่ฮัมคลอกับเมโลดี้ยังคงชัดเจน

          ผมถวิลหาเสียงเพลงนั้นเสมอ เพลงที่ผมมองนีน่ายิ้มหวานถือน้ำอัดลมใส่แก้วพลาสติกใบละห้าบาทมาให้ นั่งลงข้างๆ แก้มแดงปลั่งแล้วรีบผุดลุกออกไป

          ภาพของรอยยิ้มจริงใจของดาริกา เพื่อนสนิทตอนมัธยมที่เคี่ยวเข็นให้ผมลงเรียนพิเศษ แอบฟังเพลงใหม่ของทิวากรในชั้นเรียนหลังห้อง หรือแม้กระทั่งหลังวางสายโทรศัพท์บ้าน

          มาจนถึงภาพของทิวฟ้าที่มองมายังผม ดวงตากลมสีดำขลับริมฝีปากชมพูอ่อนคลี่ยิ้มเป็นมิตร ในวันรับน้องที่ผมใส่หูฟังขนาดพกพาป้องกันการรบกวนจากคนแปลกหน้า เสียงของทิวฟ้าดังแทรกเข้ามา ทุกอย่างเชื่องช้า นุ่มนวลคล้ายเสียงเพลงเก่าของทิวากรปรากฎเป็นรูปร่าง ลอยมาให้เห็นจากริมสุดของเส้นขอบฟ้า

          ผู้หญิงทุกคนที่ผมแอบรักล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่อยู่ในเพลงของพี่กะทิ

          ผมถูกสะกดให้ชอบผู้หญิงแบบที่พี่ทิร่ายมนต์ใส่ตลอดชีวิตที่ผ่านมา

          เมื่อมองชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในชีวิตแล้วก็อดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจตัวเองอีกครั้งมึงจะเย็นชากับไอดอลที่เลี้ยงมึงมา มิหนำซ้ำยังเป็นท่อน้ำเลี้ยงอันดับหนึ่งของครอบครัวผู้หญิงคนปัจจุบันที่มึงหลงรักจริงเหรอวะ น้ำมนต์ ใจดำขนาดนั้นเลยเหรอวะ

          ยังไม่ทันคิดว่าจะทำยังไง ผมก็ก้มลงเก็บกระป๋องเบียร์บีบให้บี้แบน แกะหูกระป๋องแยกออกมาตามที่แม่สอนให้แยกขยะตั้งแต่เล็กแล้วหย่อนลงถุงพลาสติก เทเบียร์ที่เหลือก้นขวดแต่ละกระป๋องรวมกันแล้วเอาเข้าไปกรอกลงชักโครกห้องน้ำ สุดท้ายได้ถุงขยะใบใหญ่กับกระป๋องเก็บฝาดึงอีกหนึ่งกระป๋อง อย่างน้อยเอาไปบริจาคให้เป็นวัสดุหลอมขาให้คนพิการก็ยังดี จากนั้นค่อยจัดการขวดแก้วแยกที่แตกแล้ว กับไม่แตกออกจากกัน พวกของมีคมใส่ในถุงใส ขยะในห้องพี่กะทิเยอะมากจนไม่ต้องกลัวว่าจะหาถุงขยะจากไหนมาใส่ได้หมด ยังไม่ทันได้ครึ่งห้องก็ต้องเอาลงมาทิ้งถังขยะด้านล่างแล้วกลับขึ้นไปเก็บใหม่

          โคตรโชคดีที่ผมมาในวันที่ไม่มีธุระและว่างจัดๆ เลยมีเวลาเลือกเอาเฉพาะของที่เป็นขยะจริงๆ ทิ้งไป ส่วนอันไหนที่ไม่แน่ใจแยกไว้ไอ้พวกก้อนกระดาษกลมๆ ที่เต็มไปด้วยลายมือขยุกขยุย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเรียกเนื้อเพลงได้หรือเปล่ายัดสุมไว้ในตะกร้าอีกใบ เสื้อผ้าซึ่งไม่ทราบอดีตว่าใส่แล้วหรือไม่ยัดเอาไว้ในห้องนอน

          ความตื่นตาตื่นใจในดีไซน์หรูหราแบบคนมีคลาสเมื่อยามเหยียบย่างเข้ามาในตัวตึกเหือดหายไปแล้ว ตอนนี้จากไอ้เด็กบ้านๆ ที่ได้เปิดหูเปิดตาเห็นโลกของคนรวยกลายเป็นกลายเป็นมาริเอะ คนโดจัดบ้านให้คนไม่รู้จัก และไม่มีความสปาร์คเคิลกับอะไรทั้งนั้น นอกจากผนังคอลเล็กชั่นงานศิลป์ที่ผมคงได้แตะเป็นอันดับสุดท้าย

          ตู้นั่นส่งเสียงเชียร์อัพผมเนืองๆ เมื่อยามทิ้งตัวลงนั่งแล้วกวาดตามองก็อดทึ่งไม่ได้ว่าพี่กะทิเก็บสะสมของพวกนี้มาตั้งแต่อายุเท่าไหร่

          นอกจากตู้โชว์ของสะสมแล้ว อีกส่วนที่ผมไม่ย่างกรายเข้าไปเลยก็คือโซฟาสภาพไม่น่าใช้ นอกจากมันจะวางบิดเบี้ยว ไม่ถูกฮวงซุ้ยใดๆ คล้ายกับถูกถีบมาวางกลางห้องแล้ว ยังมีอสูรกายนอนสงบเหมือดเหมือนตายตลอดทั้งวัน


ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
          กระทั่งเมื่อตะวันคล้อยลอยต่ำ ผมก็ปีนไปเอาผ้าม่านออกมากองรวมกับภูเขาผ้าในห้องนอน และกลับออกมาอีกทีเมื่ออสูรร้ายตัวนั้นไม่อยู่ที่เดิมแล้ว มีเสียงโอ้กอ้ากลอยมาจากในห้องน้ำ ผมรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังต้นกำเนิด มิสเตอร์ทิวากรนั่งกอดชักโครก อ้วกจนแทบล้วงไส้ออกมาเพราะไม่มีแม้แต่อาหารที่ถูกขับออกมาแม้แต่น้อย

          “โห พี่ ได้กินข้าวบ้างป่าววะ”

          เขาตอบด้วยการโก่งคออีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรออกมานอกจากน้ำลายใสๆ ส่วนที่ขย้อนออกมานอนในชักโครกนั้นเป็นน้ำสีชา ไม่ใช่ฉิ้งฉ่องเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจัดมาก แนะนำให้ฟ้าเก็บน้ำชักโครก ใช้แทนน้ำยาล้างเล็บยังไหว

          “พี่ทิ”

          สาบานว่าเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดแล้ว เจ้าของชื่อมองผมตาขวาง แบบที่ว่าได้ยินเสียงกล่าวถามว่าใครพี่มึงลอยออกมาจากตาได้ทีเดียว

          ผมทำใจดีสู้เสือ กระโดดไปเปิดน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำให้แทนลูบหลัง มือไม้สั่นไปหมด ใครจะไปคิดว่าคนเราต้องมาเจอไอดอลตัวเองในสภาพแบบนี้วะ ถามจริงๆ

          “ผมว่าพี่เสร็จธุระแล้วอาบน้ำอาบท่าหน่อย จะได้สดชื่น เดี๋ยวผมไปเตรียมของกินกับเสื้อผ้าให้ อ้อ ผ้าเช็ดตัว ผมเห็นผ้าเช็ดตัวอยู่ในกล่อง...”
         
          “มึงยังไม่ไปอีกเหรอ”

          “พี่จำได้เหรอว่าไล่ผมแล้ว”

          “กู-ไม่ใช่-ปลาทอง”

          สร่างแล้ว แต่ยังก้าวร้าว ที่บอกว่าอย่าไปรู้จักตัวตนของคนที่เราชื่นชอบผลงานท่าจะจริง ไอ้พี่ทิจะเล่นมุกก็ไม่ใช่ หยาบคายก็ไม่เชิง ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ น้ำมนต์จะรอดวันนี้ไปให้ได้

          “เฟียสมากครับ แต่ว่าผมต้องอยู่”

          “พี่ลมจ้างมึงมาเท่าไหร่”

          โห คิดว่าเงินเท่าไหร่ถึงจะคุ้มวะกับการมาอยู่ในสลัมระดับสูงแบบนี้ พี่ทิแม่งคิดว่าผมซื้อได้ด้วยเงินหรือไง

          “ไม่ได้จ้างด้วยเงินอย่างเดียว” แต่หมายถึงมิตรภาพ น้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ และเพื่อการผดุงความฝันของผมด้วย

          “มึงอยากได้อะไร”

          อยากได้ฟ้ามาเป็นเมีย แต่ว่าตอนนี้กลายเป็นเรื่องรอง

          “ไม่ได้อยากได้อะไร ผมว่าพี่ไม่ไหวว่ะ”

          “เสือก จะไปไหนก็ไป อย่าให้กูไล่เป็นรอบที่สาม!”

          “ไม่ไปเว้ย!”

          ผมตวาดกลับ ทั้งที่ยืนชิดผนังจนแทบจะกลืนไปเป็นหนึ่งเดียวกัน พี่กะทิเดินเซ มือสั่น แต่แข็งแรงมาก ทุบผนังห้องน้ำข้างๆ ผมดังปึ้ก สัด เจ็บแทน

          “มึงจะเอาเงินเท่าไหร่”

          “พี่ ผมเป็นแฟนเพลงพี่”

          ถึงตอนนี้อยากลาออกจากด้อมใจจะขาด แต่ถ้าโปรดิวเซอร์คู่ใจช่วยไม่ได้ แม่บ้านช่วยไม่ได้ แฟนจริงๆ ก็ทิ้งไปใครจะลากพี่ทิออกจากเขาวงกตล่ะครับ ถึงจะโดนด่าว่าเสือก แต่พอเห็นสภาพของผู้ชายที่ผมเคยคิดว่าคูลฉิบเป๋งเป็นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่อยากจะช่วย เออ ผมมันคงขี้เสือกจริงๆ นั่นแหละ

          “พี่ทิ ใจเย็นๆ นะพี่ ผมว่าพี่อาบน้ำอาบท่าก่อน เราค่อยมาคุยกัน”

          “มึงต้องการอะไร”

          “ตอนนี้ผมต้องการให้พี่อาบน้ำ”

          เขาหรี่ตามองผมด้วยสายตาประเมิน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เสพไปเป็นเวลานานและปริมาณเกินพอดีทำให้ตาขาวของอีกฝ่ายแดงก่ำ มือข้างที่ทุบผนังยังใช้ค้ำเป็นหลักอยู่เฉียดหูผมไปเพียงนิด อีกฝั่งเป็นอ่างน้ำ ทางหนีเดียวของผมถ้าไม่ไหลลงท่อระบายน้ำไปก็ต้องมุดใต้ศอกอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

          “ผม...ไปเตรียมของกินให้นะพี่ กินอะไรอุ่นๆ จะได้ใจเย็นลง”

          พูดพลางใช้นิ้วชี้ดันแขนใหญ่ที่ใช้แทนลูกกรงนั่นออกเบาๆ วิธีออกจากกรงขังสองทางแรกที่แวบเข้ามาในหัวปัญญาอ่อนเกินไป แต่วิธีนี้ก็ไม่เลว สายตาของพี่ทิยังเข้มข้น ร้อนแรง ซึ่งอย่างน้อยสัญญาณที่ดีก็คือเขาลดแขนลง ปล่อยให้ผมเดินหนีบไหล่ออกจากห้องน้ำโดยไม่หักคอไปเสียก่อน

          “เตรียมเสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้ว ไม่ต้องมาอีก เอาคีย์การ์ดไปคืนพี่ลมด้วย กูไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย”

          ผมก็ไม่อยากวุ่นวายเลยครับแต่คนวุ่นวายน่ะคือครอบครัวที่จ่ายเงินให้พี่ไง

          อยากเถียงดังๆ แต่ได้แต่บ่นลำพังในใจ ผมดึงประตูห้องน้ำปิดให้เบาที่สุด ก่อนจะได้ยินเสียงโป้งเป้งของอะไรบางอย่างถูกปาไล่หลัง เดชะบุญ หัวของผมยังอยู่บนบ่า ผมกดโทรศัพท์ที่ซ่อนตัวเงียบเชียบในกระเป๋าโทรออกเบอร์ล่าสุดทันที

          “อีฟ้า! พี่ทิจะฆ่ากู!!”


TBC
สวัสดีวันพุธค่ะเอเวอรี่บาดี้<3
น้ำมนต์คนขยัน ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแจ้งว่าเขียนชื่อยี่ห้อรถผิด ตะแงว รู้จักแต่วีอ๊อดอะ ขอโทษๆ เรื่องนี้นายเอกเราสู้มาก เป็นกำลังใจให้น้องน้ำมนต์คนสู้กันค่ะ! ไว้เจอกันพุธหน้า
เลิ้บยู

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
น้ำมนต์ต้องเป็นคนใจเย็นขนาดไหนถึงจะเอาพี่ทิอยู่
ตั้งสตินะพี่ทิ อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กเรื่องใหญ่พี่  :onion_asleep:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
นี่รักฟ้าจริงดิ จิกกัดตล๊อด ฮา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lonesomeness

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
นึกสภาพห้องแล้วเป็นท้อแทน

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
นานแค่ไหนกว่าจะกลับมาเป็นผู้เป็นคน :hao4:

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
รอน้ำมนต์ร่ายมนต์ใส่พี่ทิอยู่ค่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เจอกันครั้งแรกก็สุดประทับใจแล้ว พระเอกกลิ่นโชยมาเชียว ยี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้ำมนต์น่าจะเหนือย..ยยยยยย #แอบไม่ปลื้มฟ้านะ   :m16:

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอาใจช่วยนะคะ ขอบคุณไรท์มากๆค่ะรออยู่เด้อออออ

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :katai5: :katai5:5555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เรายินดีที่เวสต์มีความุขกับสิ่งที่ทำนะคะ

โอ๊ยยย เหนื่อยแทนน้ำมนต์ ทำไมทั้งทีมเพื่อน และพี่ทิ ทำตัวมีปัญหา
พี่ทิก็ไม่ไหวนะ ถ้าจะพังขนาดนี้ แล้วเค้าแคร์ไหมล่ะ

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
อีฟ้าแล้วนาทีนี้ 55555555

ออฟไลน์ Sulumu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มารอคุณ West ครับ
ติดเรื่องนี้งอมเเงม อดใจรอให้ถึงวันพุธหน้าไม่ไหว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด