♪ดังต้องมนตร์♫ ตอนพิเศษ ปัจจุบัน (หน้า12|18062020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♪ดังต้องมนตร์♫ ตอนพิเศษ ปัจจุบัน (หน้า12|18062020)  (อ่าน 80391 ครั้ง)

ออฟไลน์ KOWPOON

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
งื่อออออออ.  พี่ทิน่ารักเกินไปแล้ววววววววว~~  (灬♥ω♥灬)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จูบมัดจำไว้แล้วด้วย โอ้โหหหหหห

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ต้องขอบคุณพี่ลมไหมล่ะ ทำให้เจอกัน ทำให้หึงกัน

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
งุ้ยยยยย เขินด้วยคนนนนนนนน  ชอบน้องมากแล้วนะพี่ทิ หึงเอาเรื่องอยู่น้าาาาา

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
งื้ออออออออออออออออออออออ ชอบไอดอลอ่ะเนาะ
จะให้พูดเองมันก็คงยาก
ในที่สุด พี่ทิก็รู้จัว ฮืออออ เขิงไปหมดแร้ว  :z3: :z3:
พี่ลมพอเรื่องแบบนี้ก็เข้าใจเร็วจนน้ำมนต์ตามไม่ทัน
เค้าจูบกันแล้วค่ะแม่
รอวันนี้มานานแสนนาน  :heaven :heaven

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
แย่แล้วว ว่าน้ำมนต์ดูออกง่าย แต่คนที่ดูออกอาการง่ายและไวกว่า
คือคุณพี่กะทิจ้าา มาเร็ว จู่โจมไว กันซีน ออกตัวแรงถ้ามองออก

ลองไหมล่ะ แล้วเป็นไงล่ะ เปิดก่อนใช่ว่าจะได้เปรียบนะ
คนได้เปรียบยืนขำความน่ารักพี่ ที่เขินจนเดินผิดทาง

โอ๊ยยย อะไรคือจูบจนรู้รสไอติม ความลึกซึ้งนี้ กุมใจ

ขอบคุณมากนะคะ ที่เจอพาสเวิร์ด ไม่งั้นคิดถึงกันแย่เลย

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
มัดจำแล้วอย่าลืมมาเก็บที่เหลือด้วยนาาาาพี่ทิ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คืบหน้าสักที พี่ลมเป็นตัวกระตุ้นซืนะ
เลยต้องขอจูบมัดจำไว้ก่อน

แล้วพี่ลมไปจูบกับพี่ทิตอนไหน ยังไง  :katai1:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ Jely

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขินจนเข้าห้องผิดเลยนะพี่ทิ

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เขาเริ่มรักกันแล้วๆ

ออฟไลน์ Jnchnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตอนพี่ทิกระซิบว่าสตรอเบอรี่เชอเบทกับชอคโกแลต นางดูร้ายกาจไม่เบาอ่ะ
นี่ แล้วก็รีบมั่นใจในตัวเองได้แล้วว่าพี่น่ะชอบน้ำมนต์แค่ไหน
ขอน้องเป็นแฟนไปเลย !!!!

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อิ๊ีพี่ทิๆๆๆๆ.... อืออเขินตัวบิดเลย

ออฟไลน์ marisa9397

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยังไม่รู้ว่าชอบไหม  ยังมาขอจูบมัดจำก่อนอี๊ก พี่ทิร้ายจริงๆ


Sent from my iPhone using Tapatalk

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
พี่ทิต้องเขียนเพลงจูบรสไอติมแน่ๆ  :laugh:

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
14 ผู้มาเยือน


สามสิบห้าองศาต่างจังหวัดไม่เหมือนสามสิบห้าองศาในกรุงเทพแม้แต่น้อย

หลังจากจัดการสั่งเสียกับพี่ทิจนวางใจได้ว่าระหว่างที่ผมกลับมารับหลานที่บ้านพี่ทิจะพยายามอย่างที่สุดไม่กลับไปดื่มเหล้าผมก็เบาใจ โทรบอกให้หลานเก็บกระเป๋าเตรียมตีตั๋วไปเที่ยวในเมืองกับสุดยอดนักดนตรี นักร้อง และนักเขียนเพลงอันดับหนึ่งในใจผมได้เลย ไม่ใช่แค่การพบแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยม นะโมยังจะได้พักในห้องชุดหรูหราหมาเห่าแบบที่ทั้งชีวิตผมคงไม่มีปัญญาพาใครไปเยี่ยมชมสถานที่นั้นได้หากไร้บุญพาวาสนาส่ง ดังนั้นเมื่อเจ้าตัวเล็กนั่งรถเครื่องมากับพ่อผมเลยโบกมือหย็อยๆ ตื่นเต้นกว่าทุกครั้งที่เจอหน้าน้าชายต่างสายเลือด

“น้ามนต์ๆ ได้เอากีตาร์กลับมามั้ย”

“ไม่ได้เอามา มันหนัก” ผมว่า หลานสาวมุ่ยหน้าแต่ก็กระโดดกอดผมเหมือนหมีโคอาล่า “ตัวใหญ่แล้ว แบกไม่ไหว”

“สูงขึ้นเยอะเลยใช่ป่าว”

“อื้อ โตจนไอ้เฉาก๊วยเลียตูดไม่ถึงแล้วมั้ง”

ผมหมายถึงหมาสี่ตาสีดำที่หลงมานอนหน้าบ้านบ่อยๆ เด็กผู้หญิงอายุสิบขวบดูโตกว่าเมื่อหลายเดือนก่อนที่เจอจนผิดตา “ยายยังบอกว่าโมเป็นเด็กอยู่เลย ห้ามมีแฟน”

ไอ้เปี๊ยกนี่ ทำไมมันแก่แดดแก่ลมจังวะ “ยังเป็นเด็กหญิงอยู่นี่ จะมีแฟนแล้วเหรอ”

“ทำไมล่ะ เฉาก๊วยเด็กกว่าโมอีก มีลูกแล้วนะ” นะโมรีบแย้ง ก่อนทำเสียงเศร้าในตอนหลัง “เสียดายที่มันทับลูกตัวเองตายหมดเลย เหลือสีขาวตัวเดียว น้ามนต์มาไม่ทัน แต่ลูกมันตัวนั้นปลอดภัยแล้วนะ กำลังซน เมื่อเช้าก็ไปเอารองเท้าตามากัด ตาเกือบฟาดให้ แต่โมปกป้องมันทัน”

“จริงเหรอ ตานี่ใจร้ายจังเลยเนอะ”

เด็กน้อยพยักหน้า “ตอนแรกโมอยากให้น้ามนต์มาตั้งชื่อ แต่ว่ากว่าน้าโมจะกลับมาก็นานแล้ว โมเลยตั้งชื่อให้มันไปเลย”

“จริงเหรอ แม่ชื่อเฉาก๊วยลูกชื่ออะไรล่ะ”

นะโมยิ้มอวดเขี้ยวจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ “ลูกเฉาก๊วยตัวสีขาว โมเลยให้ชื่อกะทิ กะทิกับเฉาก๊วย น่ารักใช่ป่าว”

พอหลานสาวพูดจบ ผมก็อดหัวเราะจนสำลักอากาศเข้าหายใจไม่ได้ ไม่อยากนึกหน้าพี่ทิถ้าได้ยินเรื่องเล่าจากหลานสาวตัวห้าวของผมกับความภาคภูมิใจชิ้นใหม่ แต่จะว่าไปชื่อกะทิมันก็เหมาะกับหมาสีขาวมากกว่าผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นจริงๆ



ความสัมพันธ์ปร่าแปร่งไประหว่างผมกับพี่ทิไม่ถูกขนานนามเรียกชื่อชัดเจน มันเกิดขึ้นบนความแปลกประหลาดที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของเพศหรือหน้าที่การงาน ขณะเดียวกันอาจเป็นความแปลกประหลาดของนิสัยบางอย่างที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นพี่ทิที่ขี้อายเกินกว่าจะอธิบาย หรือเป็นผมที่มือใหม่จนไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากจัดการกับมันอย่างไรกับความรัก

กระนั้นหลังจากจูบฉกฉวยอย่างไม่ทันตั้งตัวเราก็ไม่มีใครพูดถึงมันอีก ผินหน้าหลบกันไปคนละทาง แตกต่างจากวันแรกที่ได้พบที่พลีชีพต่อสู้กับคนแปลกหน้าอย่างกลัวๆ กล้าๆ ทว่ากลับรู้สึกใกล้ชิดเกินกว่าจะหยิบคำไหนมาบรรยาย ผมรู้ว่าตัวเองถือโอกาสฉกฉวยไว้แม่นมั่นกว่าการแอบรักครั้งไหน แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวเองกับพี่ทิในวันข้างหน้าสักนิดก็ตาม

“น้ำมนต์จะอยู่บ้านนานหรือเปล่า” แม่ถามในมื้อเย็นวันแรกของการกลับถิ่นฐาน น้ำพริกแดงผักลวกของแม่อร่อยที่สุด หากินที่ไหนในกรุงเทพก็ไม่อร่อยเท่า

“ไม่นานครับ ว่าจะนอนบ้านคืนเดียว พรุ่งนี้เย็นก็นั่งรถกลับ”

“เสียดายเลย แต่ทิ้งพี่เขาไว้นานก็ไม่ได้ใช่ไหม”

ผมเงียบแทนคำตอบ ไม่ใช่ทิ้งไม่ได้ แต่ไม่อยากทิ้งต่างหาก “จะได้พาเจ้าโมไปเที่ยวด้วยครับ”

“จริงสิ ว่าแต่นะโมจะไปอยู่คอนโดเขาได้เหรอ เกรงใจเปล่าๆ”

“ไม่ต้องเกรงใจเลยแม่ เขาน่ะต้องเกรงใจผม” ได้ทีขี่แพะไล่ อวดอ้างสรรพคุณผู้จัดการดีเด่นเสียหน่อย “แรกๆ ก่อนไปหาหมอได้นะ ผมแทบตาย”

“ก็เขาป่วย แต่ว่าจะเลิกเหล้าได้เหรอ จำตาปลูกร้านขนมไทยในตลาดได้ไหม นั่นก็ติดเหล้า เข้าพรรษาที่ผ่านมาเมียแกจับหักดิบ ถึงตายเลยนา”

“พี่เขาไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้นน่ะครับ” ผมว่า แต่ก็ไม่กล้ายืนยันว่าพี่ทิจะไม่กลับไปดื่มอีก “ที่จริงเขาก็น่าจะแอบดื่มอยู่บ้าง แค่ไม่ให้ผมรู้เท่านั้นเอง”

“แล้วอย่างนี้ไม่โกรธแย่เหรอ เราน่ะ” พี่ปุ้นหรือแม่ของนะโมถาม เทน้ำใส่แก้วให้ลูกสาวตัวเล็ก “เราน่ะ ตอนเป็นติวเตอร์เจอเด็กไม่ตั้งใจเรียนยังบ่นไปทั้งเทอม เจอแบบนี้เข้าไปกำลังใจไม่หมดเหรอ”

“ไม่นะพี่ ผมเข้าใจมากกว่า”

นึกถึงว่าโกรธมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องแย่งของกินเสียกระมัง

“แต่น้ำมนต์ก็เหมาะกับงานอย่างนี้จริงๆ นะ อดทน ใจเย็น”

“พูดเหมือนผมเป็นคนดีมากๆ เลย”

“ดีไม่ดีไม่รู้ล่ะ แต่โดนแกล้งตั้งแต่เด็กๆ ไม่ร้องสักแอะ ไม่รู้จักเข็ดจักจำ”

เรื่องนั้นจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ใช่ผมไม่เข็ดไม่จำ แค่ไม่อยากเอามาใส่ใจมากกว่า

“แล้วต้องโทรไปถามเขาหรือเปล่าว่าเป็นยังไง เราไม่อยู่แล้วมีคนมาอยู่ด้วยไหม”

“ไม่ทราบเหมือนกันครับ เขาไม่ชอบใช้โทรศัพท์น่ะ”

“พิลึกคน”

ผมก็คิดอย่างนั้น แต่การมีชีวิตโดยไม่ต้องสื่อสารอีกฝ่ายตลอดเวลาก็เป็นอีกความสัมพันธ์ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นพี่ทิได้ดีมากแล้ว

“ช่วงนี้คงเร่งทำเพลงน่ะครับ”

“เขาทำได้แล้วเหรอ”

“ก็น่าจะ...ผมจะรู้อีกทีก็ตอนก่อนส่งเดโมไปพี่ลมนั่นแหละ ก่อนหน้านั้นส่วนมากพี่ทิจะเขียนกับเล่นดนตรีคลอเบาๆ ไม่กระโตกกระตาก ถ้าเขียนได้ก็จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียว แต่ถ้าคิดไม่ออกก็จะหงุดหงิด ไม่รู้ว่าเพราะอยากดื่มด้วยหรือเปล่า”

ผมนึกถึงตอนที่เขาเริ่มหงุดหงิดจนมือสั่น แต่พอเห็นสายตาประหัตประหารจากผมเปลี่ยนไปดื่มน้ำหวานระบายความอัดอั้น

“น้ำมนต์ต้องเป็นกำลังสำคัญเลยนะเนี่ย”

พ่อชมยิ้มๆ เหมือนภูมิใจนักหนากับลูกชายคนนี้ และระหว่างที่กำลังหวานชื่นรื่นรมย์โทรศัพท์ผมก็ดัง เป็นเรื่องประหลาดในรอบปีเลยก็ว่าได้ที่มีคนโทรหาเพราะตั้งแต่วิทยาการของไลน์รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเราทุกที่แล้วผมกับเพื่อนๆ ก็มักติดต่อกันผ่านข้อความมากกว่าโทรหา ไม่นับรวมกับการปรากฏตัวของพี่ลมซึ่งหลังจากผมรับงานก็ต้องรับสายเขาเพิ่มไปด้วยบ่อยๆ

“ว่าไงฟ้า”

ผมรับสายเมื่อเห็นชื่อขึ้นหน้าจอ หลังจากนั้นก็อ้ำอึ้งเพราะปลายสายปล่อยโฮออกมาอย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน



ผมเคยคิดว่าถ้าอุ้ยกับฟ้าทะเลาะกันก็อาจมีช่องทางให้ตัวเองสวมบทเพื่อนพระเอกเข้าไปปลอบใจให้ฟ้าเห็นความสำคัญเป็นเพื่อนคนพิเศษขึ้นมาบ้าง ไม่ต้องถึงขั้นเลิกรากันมามองผม แต่ถ้าฟ้าเห็นผมเป็นที่พึ่งพิงบ่อยๆ ก็หวังว่าการมีอยู่ของผมที่วนเวียนรอบหญิงสาวจะเป็นประโยชน์เข้าให้ในวันหนึ่ง อย่างน้อยก็ช่วยยืนยันว่าระหว่างเราจะไม่มีวันสูญหายไปจากชีวิตแม้เส้นทางในอนาคตไม่มีทางเคียงข้างกันได้เลย

แต่ผิดถนัด

รถมินิคูเปอร์สีพาสเทลหวานขับมาจอดหน้าอาคารพาณิชย์ที่ปรับปรุงเป็นหอพักเก่าโทรมโกโรโกโสตามสภาพของหอพักต่างจังหวัดด้วยความเร็วสูง ได้ยินเสียงเอี๊ยดหนักๆ ก่อนกลิ่นไหม้ระหว่างล้อยางคุณภาพเยี่ยมกับถนนคอนกรีตจะลอยแตะจมูก ฟ้าโทรหาผมเมื่อช่วงเย็น พอตกดึกหญิงสาวก็ขับรถตามจีพีเอสมาถึงบ้านผมทั้งที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

“บอกให้ค่อยๆ ขับมา เหยียบมาเท่าไหร่เนี่ย”

ผมอดไม่ได้ที่จะเอ็ด เป็นห่วงเพื่อนก็ห่วง โกรธที่ไม่ดูแลตัวเองก็โกรธ แต่จะว่าก็ว่าเถอะผมยังไม่เคยเห็นฟ้าทะเลาะกับอุ้ยจนร้องไห้ไม่มีสติขนาดนี้มาก่อน

“มาๆ ลงมา กินข้าวหรือยัง”

หญิงสาวส่ายหน้า ตาปูดบวม โผตัวเข้ากอดผมไว้แน่น ปล่อยโฮอีกระลอกใหญ่

“ใจเย็นๆ ไปกินข้าวก่อนนะ แม่เราเจียวไข่ไว้ให้”

“ไม่อยากกินอะไรเลย”

“ฟ้าโทรบอกที่บ้านกับอุ้ยหรือยังว่ามาหาเรา”

ผลเป็นไปตามที่คาด หญิงสาวส่ายหัวรัวๆ ไอ้อุ้ยไม่โทรหาผม คงเข้าใจว่าฟ้าอยู่ที่บ้าน ขณะเดียวกันที่บ้านก็คงเข้าใจว่าอยู่กับอุ้ยเหมือนทุกวัน

“ทะเลาะอะไรกัน เราฟังฟ้าพูดไม่รู้เรื่องเลย”

“อุ้ยขอเลิก” หญิงสาวพูดแค่นั้นแล้วร้องไห้กระอึกกระอือ ผมได้แต่คอยลูบแผ่นหลังกว้างของเพื่อนสนิทเบาๆ ปลอบประโลม “อุ้ยบอก...บอกว่าแม่ให้แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้อง”

“เฮ้ย บ้าป่าว”

ชีวิตไอ้อุ้ยค่อนข้างลิเกแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้องฝึกงานตั้งแต่พนักงานล้างจานก่อนเลื่อนขั้นไปบริหารงานแทนพ่อมันและเมียนับแสน กระนั้นมันก็ไม่เคยบอกว่าที่บ้านกีดกันมันกับฟ้าสักครั้ง

“เป็นญาติกันแต่งกันเดี๋ยวลูกก็เป็นออ”

“แม่อุ้ยคิดว่าเราจะไปเกาะอุ้ยกินอะ”

“เดี๋ยว เป็นไงมาไงวะ บ้านฟ้าก็มีเงินนี่ คบกันมาตั้งนานแล้วด้วย แม่คนไหน” เพื่อนก็เสือกมีหลายแม่เสียด้วย

“ไม่รู้” หญิงสาวส่ายหน้าระวิง “เราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ช่วงหลังๆ อุ้ยไม่ค่อยมีเวลาให้เลย รู้อีกทีพอเราถามบ่อยๆ ก็หลุดออกมาบอกว่าอย่าเรื่องเยอะ กำลังจัดการปัญหาที่บ้าน เราก็เลยบอกว่าปัญหาที่บ้านอุ้ยทำไมไม่บอกใช่ว่าเราไม่รู้จักครอบครัวอุ้ยเสียหน่อย อุ้ยเลยบอกว่าจะให้บอกยังไง แม่กำลังสั่งให้เลิก”

จริงอยู่ที่ไอ้อุ้ยของพวกเราไม่ใช่แค่ไอ้คุณหนูอุ้ย แต่เป็นถึง ไฮโซนนท์ของประเทศนี้ ครอบครัวถือครองธุรกิจที่เป็นจีดีพีหลักของประเทศ กระนั้นก็ใช่ว่าฟ้าจะไก่กาอาราเล่เสียที่ไหน

“แล้วยังไงอะ ไอ้อุ้ยว่าไง”

“อุ้ยเลือกแม่อะ บอกให้ห่างกันสักพักรอให้แม่เลิกแพนิค เราก็ไม่รู้ว่าแม่อุ้ยแพนิคอะไร อยู่ๆ มาเกลียดเราทำไม”

ผมเกาหัวแกรก นึกว่าเรื่องแบบนี้จะมีแต่ในละครเสียอีก

“ทั้งที่ก็กินข้าวด้วยกันทุกสัปดาห์ เราไม่รู้เลยว่าบ้านอุ้ยมองเราอย่างนี้”

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้นี้มันพูดยากฉิบเป๋ง ผมพรูลมหายใจ ถ้าเป็นผมก็คงตอบยากว่าระหว่างคนรักกับครอบครัวต้องเลือกอะไร ที่สำคัญคือทำไมต้องเลือกวะ “ใจเย็นๆ นะฟ้า เข้าบ้านก่อน คืนนี้นอนที่ห้องเรา เดี๋ยวเราไปนอนกับหลาน”

“อยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ ฟ้ารู้สึกเหมือนตัวเองไม่เหลือใครเลยอะ” ถึงจะเป็นเพื่อนกันมาหลายปีก็เถอะ แต่พราหมณ์อย่างผมก็ไม่ควรอยู่กับสีกาในยามวิกาลนี่ครับ “คนที่ควรจะอยู่ข้างกันกลับทิ้งเราทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดอะ ทำไมวะน้ำมนต์ ทำไมวะ”

ผมอ้ำๆ อึ้งๆ ยังถูกกอดไว้ทั้งตัวตั้งแต่เพื่อนสนิทลงจากรถมา สัมผัสได้ถึงร่องรอยอุ่นของหยดน้ำตา ก่อนเย็นเยียบเมื่อมันปะทะเข้ากับอุณหภูมิเย็นจนหนาวของอากาศ ก็นั่นดิ รอสองคนนี้ตีกันแทบตาย พอมาวันนี้ที่ผมเริ่มมีเค้าลางของความสมหวังในรักสักครั้งก็ประดังประเดเข้ามา ทั้งกับสาวที่แอบชอบ ทั้งกับชายที่แอบปลื้ม ไม่ใช่แค่ฟ้าที่สับสน ผมเองก็เริ่มทำตัวไม่ถูก ช่วยแบ่งโชคด้านโอกาสไปลงที่ลอตเตอรี่ทีเถอะ อยากรวย

“เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวแว้นรถเครื่องไปกับเรา หาอะไรอุ่นๆ กิน เผื่อใจเย็นลง หรือจะอาบน้ำก่อน”

“ฟ้าไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเลย”

อะไรจะหุนหันพลันแล่นเบอร์นั้น

“แต่มีกระเป๋าเครื่องสำอางนะ”

นี่สินะ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้หญิง!

ผมพรูลมหายใจออกยาว นึกอยากยีหัวคนตัวเล็กกว่าให้สมกับความมันเขี้ยวแต่ต้องข่มใจเอาไว้ จู่ๆ ก็เข้าใจขึ้นมาว่าเพื่อนที่ถูกต้องต้องมีความใกล้ชิดสนิทสนมแค่ไหน นึกถึงในอดีตที่แย้งไอ้นิวหัวชนฝาว่าผมไม่ได้ทำอะไรเกินเลยก็ย้อนมาตบหน้า เหตุผลที่ฟ้าเลือกมาหาผมในวันนี้แทนที่จะไปเจอไอ้นิวที่อยู่หอในกรุงเทพคือสิ่งนั้น ที่ผ่านมา ผมปฏิบัติกับฟ้ามากกว่าความเป็นเพื่อนที่ดีทั่วๆ ไปจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ผมไม่ใช่คนที่จะนั่งรอฟ้าหันมองกลับมาเหมือนก่อน ไม่ใช่คนที่พร้อมจะซัพพอร์ตฟ้าทุกอย่าง คนเราก็ต้องมีเส้นทางชีวิตของตัวเองทั้งนั้น

ผมหดมือที่ยกขึ้นลงข้างลำตัว อยู่ๆ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองขึ้นมา

การเป็นเพื่อนที่ไม่คอยแอบคิดทรยศเพื่อน มันสบายใจอย่างนี้นี่เอง



“อยู่กันกี่คน”

เสียงนั้นดังราบเรียบ แต่กรุ่นขุ่นด้วยอารมณ์ไม่พร้อมพังให้เรียบราบเป็นหน้ากลอง ผมกลืนน้ำลายข้นเหนียวลงคอ มองชื่อที่โทรหาอีกครั้ง แต่ฟังไม่ผิดแน่ นั่นไม่ใช่เสียงของเจ้าของเบอร์ พี่ลมรับสายแค่ถึงตอนที่ผมบอกว่าฟ้าขับรถมาหาผมที่บ้านต่างจังหวัด

“ประมาณ...เจ็ดครับ รวมคนขายน้ำเต้าหู้ด้วย”

“ไม่ตลก”

เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยห้วน ไร้หางเสียงหรือกระทั่งช่องว่างให้ผมเปลี่ยนเรื่องเฉไฉ พี่ลมขุดเอาพี่ทิไปห้องอัด แต่ผมไม่รู้ มารู้เพราะโทรศัพท์เจ้านายโดนแย่งไปพูดเนี่ย ตอนนี้เลยไม่มีทางหนีได้โดยสิ้นเชิง

“ผมออกมากับฟ้า แต่ไม่ได้เปลี่ยวนะพี่ทิ คนเยอะแยะ”

“แล้วทำไมฟ้าทะเลาะกับแฟนแล้วต้องไปหา”

“ก็ผมเป็นเพื่อนฟ้า”

“มีเพื่อนคนเดียวเหรอ ขับรถไปหาถึงต่างจังหวัดเลยนะ”

ผมอึกอัก ยืนรอขนมปังสังขยานึ่งขณะที่หญิงสาวนั่งรอที่โต๊ะ เซื่องซึมเหงาหงอย

“ก็คงเปลี่ยนบรรยากาศมั้งครับ หนีไปไกลๆ จากกรุงเทพ”

“ไม่เมคเซนส์”

“โธ่ พี่ ผมก็ไม่รู้”

“จะไม่รู้ได้ไง”

“ผมไม่ใช่ฟ้าสักหน่อย” จะให้บอกว่าเพราะที่ผ่านมาผมสปอยล์ฟ้าเกินเบอร์ก็ไม่ได้ป้ะ “หึงเหรอ”

ไม่ได้จะหลงตัวเองนะ แต่ว่ามันก็คิดได้ไม่ใช่หรือไง พี่ทิไม่ตอบ เกิดเพียงความเงียบส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ อยากจะดีใจหรอกนะ แต่ถ้าหึงแล้วผมง้อไม่ได้ก็ใจคอไม่ดีเหมือนกัน นานๆ ทีจะมีคนที่ยอมให้ผมชอบอย่างเปิดเผยนี่ครับ

ไม่สิ พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก ถ้าหึงก็หมายถึงพี่ทิชอบผมเหมือนกันไม่ใช่หรือไง

“พี่ชอบผมใช่ไหม”

“ไม่ชอบ” ปฏิเสธเสียงแข็งมาก หัวใจผมฟีบแบนลงไปเลย “ไม่ชอบ...ให้อยู่กับคนอื่น”

“นั่นมันหึงไม่ใช่เหรอ”

ผมหัวเราะ มองลุงคนขายน้ำเต้าหู้เคาะกระป๋องนึ่งขนมปังเทลงใส่จานแล้วตักสังขยาสีเขียวใบเตยใส่ถ้วยน้ำจิ้ม โรยนมสดอีกหน่อย อยากบอกว่าไม่เอาสังขยาแล้วฮะ ตอนนี้คนในสายผมหวานจ๋อยน้ำตาลละอาย เขินจังโว้ย หัวใจที่ฟีบเมื่อกี้เต้นแรง ช่างกลิ้งกลอกเจ้าเล่ห์นักเชียว

“ตลกอะไร ขำนักเหรอ”

“ไม่ได้ตลกครับ”

“ไม่ตลกแล้วหัวเราะอะไร”

“ไม่ได้ขำ” ผมกรอกเสียงเนิบไปตามสาย ยังถ่วงเวลาไม่กลับไปที่โต๊ะเพราะอยากคุยกับพี่ทิอีกหน่อย คนบ้าอะไรโทรไปก็ไม่รับ พอเห็นผมโทรหาพี่ลมแล้วก็มาแย่งรับสาย คิดถึงก็โทรหาผมสิครับ จะท่ามากทำไม “เขิน”

ผมสารภาพ ใช่จะเป็นคนท่ามากเสียเมื่อไหร่ น่าแปลกที่แม้ว่าตัวเองจะคิดว่าไม่คู่ควรกับความรักมากแค่ไหนเมื่อเป็นพี่ทิผมกลับกล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนได้หน้าตาเฉย

บางที อาจเป็นเพราะผมชอบเขามากกว่าใคร

ชอบมากพอที่จะรับไว้ไม่ว่าจะเป็นสุขหรือเศร้าใจ ไม่ว่าพี่ทิจะหยิบยื่นตำแหน่งไหนให้ ผมก็คงน้อมรับไว้อย่างไม่รู้จักเจ็บจักจำอยู่ดี

“พี่ก็เขินใช่ไหม เงียบทำไม”

“จะให้พูดอะไร”

“หึงก็บอกว่าหึง บอกว่าคิดถึง บอกว่าชอบผมจะไปยากตรงไหน ไม่มีใครห้ามเสียหน่อย”

“ยาก” เขากระซิบเสียงเบา จากนั้นก็มีใครบางคนตะโกนแทรกเข้ามา “อ้าว น้องเจน ยังไม่กลับเหรอ”

เสียงโทรศัพท์ดังกลุกๆ เหมือนคนในสายขยับท่าทาง ผมเม้มปากเข้าหากันโดยอัตโนมัติ เรื่องที่พี่ทิไปทำเพลงที่ค่ายผมรู้ เรื่องที่อยู่กับพี่ลมผมก็รู้ แต่เรื่องที่มีเจนอยู่แถวนั้นด้วยไม่เห็นอีกฝ่ายจะเล่าให้ฟังบ้างเลย แล้วในสถานการณ์แบบนี้ ตรงนั้นที่ไม่มีผมอยู่... ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเนิ่นนานของทั้งคู่ก็ทำเอาผมรู้สึกร้อนรนในอกอย่างบอกไม่ถูก

“เจอเจนเหรอครับ”

“อืม มาทำเดโม่”

เขายังคงพูดเสียงเบาในระดับที่คนที่ตะโกนเบื้องหลังส่งเสียงลอดเข้ามาในสายได้ “พี่ทิไปไหน”

“โทรศัพท์ เดี๋ยวมา”

“เฮ้ยๆ มือถือกู”

“เดี๋ยวเอามาคืน ไม่เอาไปปาหัวหมาหรอก”

นักเขียนเพลงมือฉมังส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ สุดท้ายเสียงที่อุดอู้อื้ออึงในห้องก็เงียบลง กลายเป็นเสียงหวีดหวิวของสายลม เดาว่าอีกฝ่ายคงหนีมาคุยที่ระเบียงหรือลานโล่งแจ้ง

แม้ว่าเขาจะดูดีขึ้นแล้ว ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าเมื่อเจอคู่กรณีจะกลับไปอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเหมือนก่อนหน้านี้ไหม สภาพจิตใจจะพร้อมสำหรับการทำงานร่วมกันกับคนใจร้ายพวกนั้นหรือเปล่า

ให้ตาย แม้ว่าจะระแวงว่าพฤติกรรมของอีกฝ่ายจะย่ำแย่ในระดับไหน เขาฉกฉวยโอกาสชิดใกล้คนรักเก่าหรือเปล่า แต่สุดท้ายสิ่งที่ผมเอ่ยผ่านลำคอแห้งผากกลับเป็นสิ่งที่หัวใจอยากรับรู้มากที่สุด

“พี่โอเคหรือเปล่า”

“ไม่โอเค”

ก็นั่นน่ะสิ ยับเยินเสียขนาดนั้น เสาหลักที่ใช้เกาะยามเหนื่อยล้าท้อถอยสูญสลายไป เมื่อเจออีกครั้งคนที่จมน้ำอย่างเขาจะไม่อยากไขว่คว้าไว้เชียวหรือ

“ยังทำใจไม่ได้เหรอครับ”

“อย่าเปลี่ยนเรื่อง” พี่ทิถอนหายใจแล้วพูดต่อ “จะให้ทำใจยังไง ไหนพูดดิ๊ มีผู้หญิงตามไปถึงบ้านต่างจังหวัด ดึกขนาดนี้ก็ยังอยู่ด้วยกัน จะให้โอเคได้ไง”

เชี่ย พีค แต่ผมไม่ได้หมายความว่าเขาไม่โอเคเรื่องของผมหรือเปล่าโว้ย

“หมายถึงเรื่องพี่กับเจน พี่โอเคหรือเปล่า”

“ก็พูดอยู่ว่าอย่าเปลี่ยนเรื่อง”

“ไม่ได้เปลี่ยนเรื่อง พี่นั่นแหละพูดคนละเรื่องกับผม ก่อนหน้านี้จะเป็นจะตายเพราะเจนไม่ใช่หรือไง”

ไม่ได้อยากโมโหใส่หรอกนะ แต่คนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขาอยู่ตรงนั้น ได้มองหน้า ได้สบตา ได้ร้องเพลงที่พี่ทิเขียน ได้ฟังเสียงของคนเก่าขับกล่อมเพลงรักของตัวเอง

“คิดว่าฉันสนใจเรื่องของคนอื่นมากกว่าเรื่องน้ำมนต์หรือไง”

ถะ...ถึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะ

“รู้ไหมว่าทำให้โกรธ”

“ผมทำให้พี่โกรธเหรอ”

ปลายสายไม่ตอบ ผมเองก็พูดไม่ออก ไปทำให้โกรธตอนไหน “พี่หึงผมแล้วใช้คำว่าโกรธไม่ได้นะ มันไม่เหมือนกัน”

“แล้วจะง้อหรือเปล่า”

เล่นถามแบบนี้แล้วผมจะพูดอะไรได้

“พรุ่งนี้ผมจะรีบกลับไปง้อ”

เรายืนฟังเสียงลมหายใจของกันและกันพักใหญ่ ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนยิ่งกว่าขนมปังนึ่งและน้ำเต้าหู้ที่ตักใหม่ ไม่รับรู้ถึงความเศร้าของเพื่อนสนิท เหมือนโลกสีเทาของฟ้าไม่อาจพาโลกสีชมพูฟรุ้งฟริ้งของผมให้หม่นสีลงแม้แต่น้อย

ความรู้สึกของการได้รักและถูกรักคงเป็นเช่นนี้

ความรู้สึกที่แม้พี่ทิจะไม่พูด ผมกลับได้ยินมันในใจ ตรงไปตรงมา

“ผมคิดถึงพี่นะ”

อยากอยู่ใกล้ๆ

อยากเจอหน้าตอนนี้ชะมัดเลย



.

TBC

ทำไมนายเอกของเว้ดมันแรดทุกคนเลยเนี่ย!


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2020 16:53:00 โดย -west- »

ออฟไลน์ KOWPOON

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ให้มันเป็นสีชมพู~~~  (♥ω♥ ) ~♪

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ชิ..เหม็นความรัก  :m18: :m18:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
กร้าวใจมากค่ะน้ำมนต์

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้ำมนต์ไม่วอกแวกกับฟ้าเลย...นับถือ นับถือ   o13

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ชั้นเขินนนนนนน พี่ทิติดน้องแล้วววว  งุ้ยๆๆๆๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดีใจที่ฟ้ามาหลังจากน้ำมนต์รู้ใจตัวเองแล้ว

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ฟิลเตอร์ชมพูกระจาย หยอดกันงุ้งงิ้ง โดย มีแบ๊คกราวน์เป็นพ่อค้าขนมปังสังขยา กับฟ้าที่ยังตาบวมรอน้ำมนต์วางโทรศัพท์แล้วไปปลอบ  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด