Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 179110 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ต้องมีคนเห็น ต้องมีคนรู้แน่ ๆ แต่ที่แน่ ๆ สงสารเสือในความไม่ชัดเจนของเก้อ เพราะเสือไม่ได้รู้เรื่องเอมเลยว่าเอมตอนนี้เป็นแฟนกับพี่ดาบ เสือจะคิดแบบนี้ก็ไม่ผิดนะเก้อ ขอความชัดเจนให้เสือด้วยนะคะ

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
หลังจากเสือบอกมาแบบนี้หวังว่าเก้อจะรู้สึกตัวสักทีนะว่าไม่ได้ชอบเอมแล้วแต่รักอิน้องเสือผยศแทน :serius2:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เก้อควรรู้ใจตัวเองได้แล้วเนอะ :hao3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เฮียดาบขี้หึงเกินคาดเลยน้า รู้สึกอิจน้องเอมเบาๆ.  :laugh:

ส่วนน้องเสือไปยอมอิเก้ออีกทำมายยยย.  :serius2:   เปลืองเนื้อเปลืองตัวไปนะลูก อิพี่มันยังไม่รู้ใจตัวเองเลย
 

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่37


คงไว้ได้แค่กลิ่นที่ไม่เคยเลือนลา

ยังหอมดังวันเก่ายามเมื่อลมโชยมา

ทิ้งไว้เพียงอดีตที่ไม่เคยหวนมา

ซ่อนเธอไว้ในใจ



               เสียงเพลงที่ดังคลอไปกับเสียงกีต้าร์และสายลมเอื่อยๆในช่วงเวลากลางดึก แสงไฟจากกองไฟขนาดพอเหมาะที่ส่องสว่างเป็นแสงให้พวกเราได้มองเห็น ลูกไฟที่แตกออกจากไฟกระจายเป็นลูกเล็กๆหยอกล้ออยู่กับท่อนไม้ในกองนั้น เหมือนกับกำลังโลดเต้นไปกับเส้นเพลงที่พวกน้องๆปี1กำลังเล่นอยู่ตอนนี้ ... ถือเป็นบรรยากาศดีๆในการเล่นรอบกองไฟแบบชิลๆ



“มาคุ มาคุจัดๆ”



“ป้า มึงบ่นอะไรงึมงำๆวะ”



“มึงไม่รู้สึกหรอคะอิเอม ข้างๆมึงน่ะ ไอ้เก้อแม่งแดกดีหมี แดกดีเสือเข้าไปหรอวะ สภาพแม่งพร้อมต่อยพร้อมตีมากๆ” ไอ้หยีที่เอียงหน้ามากระซิบบอกผมแบบนั้น ผมที่ค่อยๆหันไปมองทางด้านหลัง ไอ้เก้อที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้านิ่งๆ หน้าอ่ะนิ่งแต่คิ้วคือขมวดจัดๆ สายตาของมันเหมือนมีกองไฟลุกอยู่ในนั้น



“ตาแม่งเหมือนมีกองไฟลุกอยู่เลยว่ะ” ผมหันมากระซิบตอบกลับไป



“ใช่ไหมล่ะคะ นี่มันไปอาบน้ำแล้วเผลอเหยียบขี้อะไรมาหรือเปล่า ทำไมดูหงุดหงิดขนาดนั้นวะ”



“กูจะไปรู้ได้ไงเล่าป้า ไม่ได้ไปอาบพร้อมมันนี่หว่า” ผมทำงานอยู่กันคนละส่วนกับไอ้เก้อครับ เพราะงั้นเลยได้ไปอาบน้ำก่อนมัน อาบตรงห้องน้ำที่ทำขึ้นมาใหม่นั่นแหล่ะครับ ไม่มีฝักบัว มีแต่โอ่งกับขัน อาบที่เย็นซู่ซ่าชื่นใจไอ้เอมนัก



“แต่กูว่ากูรู้ค่ะ”



“มึงไปอาบน้ำกับมันมา”



“พูดบ้าอะไรของมึงอิสมองลูกควาย ถึงกูจะอยากแอบดูห่อหมกเพื่อน แต่กูก็ไม่โรคจิตขนาดวิ่งไปอาบน้ำกับผู้ชายนะคะ รักนวลสงวนตัวสุดๆคือกูเอง”  ครับ ถึงว่าอายุอานามขนาดนี้ มันยังไม่มีแฟนเลยนะครับผมอยากจะบอก



“แล้วยังไง ป้ามึงรู้อะไรมา”



“มึงดูนั่นสิคะ ดูสายตามัน มันกำลังหันไปมองใคร นู่นๆ” บอกกูแบบนั้นแล้วทำปากยื่นปากยาวบุ้ยปากให้ผมหันไปมองตาม พอมองตามไปก็เห็นเป็นน้องๆปี1กลุ่มนึง ทั้งแก้งค์เป็นน้องๆสาวสองที่สวยเอามากๆ เอาจริงๆคือสวยกว่าไอ้หยีที่เป็นผู้หญิงจริงๆไปไกลแล้วมาก แล้วไงวะ ไอ้เก้อจ้องน้องกลุ่มนี้ทำไม มันชอบหรอ ??



“มึงมองอะไรของมึงอิเอม นั่นมันกลุ่มลูกสาวส้มจี๊ด หันไปอีก เรื่องเสือกต้องให้สุด หันอีกค่ะ นั่นๆ”



“เอ๊ะ...นั่นมัน”



“ใช่ไหมล่ะคะ นั่นเลยค่ะน้องเส..”



“ไอ้อิฐนี่หว่า มันมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะเนี่ย”



“ห๊ะ อิฐไหนของมึงอีกคะอิเอม นี่มึงมองใครอยู่” ไอ้หยีที่ทำหน้าตาหมดอารมณ์ใส่ผมทันที แต่ผมว่านั่นมันไอ้อิฐจริงๆนะครับ แล้วมันไม่ทำงานที่ร้านแล้วหรอวะ ยังไง ... พอคิดแบบนั้นแล้วผมก็ตั้งท่าจะลุกเดินเข้าไปหา



“มึงเดี๋ยวกูมา”



“อะไรของมึงอีกคะ พูดคนละเรื่องเดียวกันแล้วมึงจะไปไหนอีก”



“เออน่า เดี๋ยวกลับมา”  บอกแบบนั้นตอนที่ลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหน ก็เห็นไอ้ม็อบเดินเข้ามาหาพร้อมๆกับของในมือที่อยู่ในถาด



“พี่เอม ผมเอามันเผามาให้ครับ ชาวบ้านเอามาให้พวกเรา พี่กินเลยสิ ร้อนๆมันอร่อยมากเลยนะ”



“พวกมึงเผาเองหรอวะ”



“ใช่พี่ นั่งสิเดี๋ยวผมปลอกให้” มันพูดจบแล้วถือวิสาสะลงนั่งที่ท่อนไม้ข้างๆที่นั่งของผม พร้อมๆกับฝ่ามือของมันที่เอื้อมมาจับแขนของผม ตั้งท่าจะฉุดให้นั่งลงตามมัน แต่ติดที่มือของไอ้หยีที่เอื้อมมาคว้าข้อมือของผมอีกข้างไว้ได้ทัน



“อิเอม”



“เอ่อ...”



“เมื่อกี้มึงบอกจะไปไหนไม่ใช่หรอ จะไปก็ไปค่ะมึง”  มันบอกแบบนั้น ตอนที่มองตามันผมก็เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง พยักหน้าลงทันที



“เออจริง งั้นเดี๋ยวกูไปก่อน ไอ้ม็อบกูขอบใจเรื่องมันอันนี้มากนะ วางไว้นี่แหล่ะเดี๋ยวกูมาปลอกกินเองได้” บอกแบบนั้นแล้วยิ้มให้มันนิดๆแบบไม่อยากให้มันเสียน้ำใจ



“พี่เอมจะไปไหน มันมืดละนะพี่ เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนตามผม เหลือบสายตามองเห็นไอ้หยีที่ทำหน้าเอือมใสมันในตอนนี้



“มึงเป็นแค่น้องรหัสไม่ใช่หรอวะ แค่น้องรหัสก็อย่าล้ำเส้นให้มันมากนักสิไอ้เหี้ย” เสียงเข้มที่ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบไม่มีใครเชิญชวน แต่เสือกขึ้นมาแบบได้จังหวะโดยแท้



“โอ๊ะโอ๋ อิผัว แซ่บๆเลย”



“ว่าไง มึงไม่รู้หรอวะว่าพี่รหัสน้องรหัสของเขตแม่งอยู่ตรงไหน”  ไอ้เก้อที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของมัน ก่อนจะก้าวขายาวๆเข้ามา สายตาที่มองมาที่ไอ้ม็อบเรียกว่าเห็นมันเป็นแค่มดปลวก



“แล้วพี่รหัสน้องรหัสมันทำไมล่ะครับพี่ ผมก็แค่เป็นห่วงพี่เอม”



“แต่การทำตัวของมึงมันทำให้เพื่อนกูอึดอัด อย่ามาแกล้งโง่ มันมีผัวแล้ว”



“แต่ผัวพี่เอมก็คงไม่ใช่พี่”  ไอ้ม็อบที่เลิกคิ้วถามไอ้เก้อออกไปแบบนั้น หน้าตากวนๆของมันที่ทำให้เก้อเดินเข้ามาใกล้



“ใช่ แล้วก็ไม่มีทางเป็นมึงด้วย กูจะบอกอะไรให้ สำหรับไอ้เอมน่ะ มันต้องไอ้พี่ดาบของมันเท่านั้น หัดรู้ซะบ้างว่าความสัมพันธ์ของพี่รหัสน้องรหัสมันควรจะเป็นยังไง เหอะ จริงๆแม่งก็เป็นได้แค่เท่านี้แหล่ะไอ้โง่!” มันว่าออกมาแบบนั้นแล้วผลักไหล่ไอ้ม็อบแรงๆทีนึง จนมันเซไปข้างหลัง



“เห้ยๆใจเย็นค่ะอิผัว” เป็นไอ้หยีที่รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้ามือของไอ้เก้อเอาไว้ก่อน



“มึงไปไหนก็ไปเหอะไอ้ม็อบ” ผมบอกมัน ท่าทางของมันที่หัวเสียเอามากๆตอนมองกลับไปที่ไอ้เก้อ เป็นท่าทางเอาเรื่องที่ผมไม่เคยเห็นจากมันมาก่อน สายตาที่บอกว่ามันไม่ยอมแบบนั้นทำเอาผมถึงกับขมวดคิ้ว มันแปลกๆจังวะ



“ไอ้ม็อบ” ดึงแขนมันแรงๆหนึ่งทีจนมันหันกลับมามองหน้าผม มันที่ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกระพริบตานิดๆแล้วค่อยๆส่งยิ้มบางๆเหมือนปกติมาให้



“ผมไปก่อนก็ได้พี่”



“อืม” ตอบรับมันแบบนั้น แล้วเจ้าตัวก็ค่อยๆเดินหายไปอีกทาง รอบๆตัวเรามีคนมองมาที่เราอยู่ไม่น้อย ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ เสียงของไอ้เก้อก็ไม่ได้เบาเท่าไหร่เลย



“เหอะ ก็แค่พี่รหัสคนนึงป่ะวะ จะสนใจเหี้ยไรนัก” ไอ้เก้อยังคงพูดออกมาแบบนั้นอีก มันไม่ได้มองมาที่ผมหรือไอ้หยี ไม่ได้สนใจด้วยว่าไอ้ม็อบจะเดินหนีไปแล้ว สายตาของมันแค่มองตรงไป มองตรงไปสบเข้ากับสายตาสวยดุของใครอีกคนที่ยืนมองมันมาจากที่ไกลๆไม่ต่างกัน .... น้องเสือ



“เหอะ”



มันแค่นเสียงหัวเราะเหมือนสมเพชเล็กๆก่อนจะเตะก้อนหินแถวนั้นให้กระเด็นไปโดนเต้นท์ชาวบ้านแบบไม่สนใจ ก่อนมันจะเดินหนีปึงปังหายไปอีกทาง ผมกับไอ้หยีที่หันมองหน้ากัน เหมือนมีแสงเลเซอร์ของความเสือกส่งใส่ตากันปิ๊งๆ



“กูว่ามันมีเงี่ยนำจริงๆค่ะอิเอม”



“เงื่อนก็พอไอ้ป้า”



“เงี่ยนนี่แหล่ะ มึงเห็นไหมเมื่อกี้ไอ้เก้อมองแต่น้องเสือ”



“เราอาจจะคิดไปเองเปล่าวะ”



“มึงอย่าโลกสวยกูขอร้อง กูว่าเมื่อกี้ไอ้เก้อก็พูดจากับไอ้น้องม็อบแปลกๆ เหมือนไม่ได้พูดด่าน้องมันยังไงไม่รู้ แม่งย้ำอยู่นั่นพี่รหัสน้องรหัสอ่ะ”



“มันอาจจะอยากบอกไอ้ม็อบ”



“อิเอม ถ้าโง่ก็อยู่เฉยๆอย่าหาขัดกูค่ะ มึงเป็นสก๊อตไบร์ทหรอ ขัดกูเก่งจริง”



“เอ้า...” พูดไม่ออก กูได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวเลยครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกสะกิดใจอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่า ถ้าพูดว่าไอ้เก้อกับน้องเสือจะมีอะไรๆแปลกๆ แบบเกินกว่าพี่รหัสน้องรหัสกันเนี่ย มันจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ นึกถึงแต่ตอนที่พวกมันตีๆกันนั่นแหล่ะที่ออก ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆมามันจะตัวติดกันมากๆก็เถอะ ... แต่มันจะใช่หรอวะ



“แล้วเมื่อกี้มึงจะไปไหน”



“ว่าจะไปตรงนั้น กูว่ากูเหมือนเห็นคนรู้จัก”



“ใคร มึงยังจะรู้จักใครนอกจากพวกกูสองคนอีกคะ อย่าหาทำความรู้จักมั่วซั่วได้ไหมมึง หาแต่เรื่อง สเน่ห์อะไรของมึงถึงดึงดูดผู้เข้ามานัก อิม็อบนั่นก็อีก สมควรให้อิเก้อมันด่า นี่ถามจริง มึงไม่รู้จริงๆหรอว่ามันชอบมึง”



ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบใส่อารมณ์ ท่าทางของมันที่เหมือนแม่ที่กำลังด่าลูกที่ไม่ได้ดั่งใจ เห็นแล้วอยากยกมือไหว้มากๆเลยครับ ผมยิ้มออกมานิดๆตอนที่ได้เห็น



‘แปะ’



“โอ๊ย ไอ้หยีกูเจ็บนะ” ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองทันที แม่งตบลงมาแบบเน้นๆไม่ออมแรงเลย เขาสั่นครับ



“มันน่าไหม ยิ้มหาพ่อมึงหรอคะ นี่นะๆ กูอยากจะโทรไปฟ้องพี่ดาบมากๆพูดเลย”



“มึงนี่ดูแลดีเกินหน้าที่มากๆเลยนะ ปัดโถ่เอ้ย”



“ไม่ได้หรอก พี่ดาบซื้อกูด้วยBalenciagaเลยนะมึง กูต้องทำเต็มหน้าที่”



“โถ่เอ้ย กูก็นึกว่าห่วงกูด้วยใจ” ผมแกล้งเบ้หน้าใส่ อีกคนก็จ้องตาถลึงใส่กันทันที



“กูก็ห่วงมึงไหมล่ะ กูพูดตรงๆเอม กูว่าอิน้องม็อบนี่แม่งแปลกๆนะ”



“เรื่องมันชอบกู จริงๆกูก็คิด แต่บางมุมมันก็เหมือนแค่รุ่นน้องทั่วๆไปที่อยากสนิทกับรุ่นพี่”



“มันชอบมึงค่ะอิเอม คิดเข้าข้างตัวเองบ้างอิควาย”



“อย่ามาด่ากูควายนะ มึงชื่อดาบหรอห๊ะ”



“แหม กูอยากจะเบ้ปากใส่ อะไรๆก็พี่ดาบ อะไรก็ผัวอ่ะเนอะ เค้าเรียกควายก็ยังพออกพอใจนะมึงเนี่ย”



“แน่นอน ก็ควายของพี่มันแปลว่าน่ารักนี่หว่า” ตอบมันออกไปแบบนั้น ทำหน้าภูมิใจพร้อมๆกับยักคิ้วอีกสองทีส่งไปให้ ไอ้หยีที่กรอกตาใส่พร้อมเบ้ปากมาให้ บางทีผมก็สงสัยนะครับ เราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม เราไม่ได้เกลียดกันอ่ะเนอะ



“กลับมาเรื่องอิม็อบ มึงอยู่ให้ห่างมันเอม กูรู้นิสัยมึงดี มึงขี้เกรงใจขี้สงสาร แต่กับบางคนมึงไม่ต้องไปสงสารมันหรอกถ้ามันจะทำให้มึงมีปัญหา มึงไม่ได้โง่ มึงต้องรู้สิวะว่ามันคิดยังไง”



“ขอบใจมากนะป้า ครั้งหน้ากูว่ากูจะพูดกับมันตรงๆว่ากูมีแฟนแล้ว”



“ดีค่ะ เพราะถ้าพี่ดาบหลุดมือมึงไป กูก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะมีควายที่ไหนหลงมาหามึงอีกแล้วนะกูพูดเลย”



“สัดป้าหยี”



“รักกกก รักหนูลูก”



“หึ่ย”



“อะๆ ไม่โมโหๆ มากินหญ้าตรงนี้มาๆ” เด็ดหญ้าขึ้นมาให้กูด้วย ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจส่งไปให้ ก่อนจะขอตัวแล้วเดินหนีมันออกมา ตั้งใจว่าจะเดินไปทางที่มองเห็นไอ้อิฐ ผมมั่นใจมากๆว่าก่อนหน้านี้เห็นไอ้อิฐ



‘ครืดๆ’



มือถือของผมสั่นในตอนที่กำลังเดินออกไปแถบๆโซนที่เต้นท์พวกปีหนึ่งอยู่ พอหยิบมือถือขึ้นมาดูก็ได้แต่ยิ้มออกมากว้างๆเลยในตอนนี้



“ฮัลโหล สองโหลยี่สิบสี่จ้า”



((รับโทรศัพท์ไม่เหมือนใครเลยนะมึงเนี่ยอิหนู))



“แน่นอน เพราะคนแบบไอ้เอมน่ะมีคนเดียว คิดถึงกันหรอครับคุณแด็ป”



((แด็ปที่หน้ามึงค่ะหนู แต่ใช่ พี่คิดถึงจังเลยครับน้องเอม)) 



ปลายสายที่พูดออกมาแบบนั้น ลงท้ายประโยคด้วยเสียงทุ้มๆนุ่มๆแบบที่ปกติไม่ได้ชอบทำ แล้วมันยังไงนักวะ ที่พอแค่ได้ยินก็รู้สึกร้อนหน้าแบบแปลกๆ มุมปากผมกระตุกขึ้นเองแบบห้ามไม่อยู่ ยิ้มออกมากว้างๆแบบห้ามกันไม่ได้เลยทีเดียว สุดท้ายผมก็เลยต้องเดินไปนั่งลงบนขอนไม้ใกล้ๆ ไม่ไกลจากผู้คนมาก แต่ก็เงียบพอที่จะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายได้ชัดขึ้น



((น้องเอมเขินหรอครับ หื้ม))



“พี่...”



((ว่าไง))



“พี่ช่วยกลับไปเป็นอิเจ๊พี่มึงทีเถอะ ผมว่าแบบนี้ผมไม่ไหวว่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้น ได้แต่ยกมือกุมแก้มตัวเองเอาไว้แบบห้ามไม่อยู่ มึงอย่ายิ้มไปมากกว่านี้ได้ไหมวะไอ้เอม



((หึ อะไรกันวะ ใครมันบอกว่าอยากได้พี่ดาบไง พอตอนนี้มาเรียกหาดานี่ มึงจะเอายังไง))



“กูเขิน พี่ดาบอะไรทำไมแม่งเป็นงี้วะ ไม่ไหวเลยว่ะ ผมว่าผมไม่ไหว”



((กูจะบอกอะไรให้นะหนู...))



“หื้ม



((...ไม่ว่ากูจะเป็นตุ๊ดออกสาว หรือกูจะเป็นอะไร ทั้งหมดมันก็คือกู ... กูที่เป็นแค่คนๆนึง ที่แค่รักมึงแค่คนเดียว...))



“พี่...”



อยู่ๆก็รู้สึกพูดไม่ออกมาซะแบบนั้น เป็นความรู้สึกที่ว่า ถ้าตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าผมคงดึงมันมากอดไว้แน่นๆแล้ว ไอ้หยีพูดถูก ว่าหมดจากพี่ดาบผมคงหาใครที่ดีกับผมแบบนี้ไม่ได้แล้ว และไอ้เก้อเองก็พูดถูก ว่าสำหรับผม มันก็ต้องเป็นแค่คนนี้คนเดียวจริงๆ



“ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ผมเจอพี่นะ”



((งั้นก็ขอบคุณความเมากูไหมคะ วันนั้นที่ร้านนั้นที่มึงทำงานน่ะค่ะ เราเลย อิอ๊ะๆ กรี๊ดดดด เอดอก แค่นึกถึงก็เสียวไข่วูบวาบ หน้าแดงหมดเลยค่ะ เขินๆ))



เสียงสองที่กลับมาพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดที่ดังแบบไม่บอกไม่กล่าว กูตกใจจนต้องดึงหูโทรศัพท์ออกให้ห่าง เสียงแหลมมากจนแก้วหูกูทนไม่ได้ ถอนหายใจออกมาหน่อยนึง อยากกรอกตาใส่ครับ แต่จริงๆผมเองก็แอบคิดถึงท่าทางแบบนี้ของมันนะ โคตรน่าหมั่นไส้



“นี่พี่อยู่ในงานหรอ”



((ใช่ค่ะ เบื่อมากๆ))



“พี่แต่งตัวยังไง แต่งหน้าเกินไปหรือเปล่า”



((หวง กลัวกูจะสวย))



“กลัวคนในงานตกใจ”



((ถ้ามึงอยู่ใกล้กูจะตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นกูลงโทษมึงค่ะน้องเอม พูดเลย))



“ฮ่าๆ พี่มึงนี่นะ ... ถ้าอยู่ใกล้ตอนนี้ผมก็จะยอมให้พี่ลงโทษเลย” บอกออกไปแบบนั้น ท้าทายครับ เพราะอะไร เพราะมันโผล่มาที่นี่ไม่ได้น่ะสิ ฮ่าๆๆ อยู่ใกล้ใครจะสู้มันได้ครับ ระดับกระเทยปลอมแบบนั้นน่ะ



((ฮึ่ม กูจดไว้แล้ว กลับมามึงเจอกูแน่เอม)) 



((ว่าแต่วันนี้มีอะไรจะเล่าไหม)) อยู่ๆเสียงอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปซะแบบนั้น และอยู่ๆกูก็รู้สึกขนลุกชูชันขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุด้วยเหมือนกันครับ เอ่อ....อะไรหว่า



“เรื่องอะไรอ่ะ วันนี้มาถึงผมก็เลื่อยไม้เลยเว้ยพี่ เป็นไง เท่ป่ะล่ะ ตอนเย็นก็มาหาไรกิน อาบน้ำในห้องน้ำสังกระสี แต่น้ำเย็นมาก แต่ถึงจะสังกะสีก็ไม่มีใครมาแอบดูนะ บอกไว้เลยหายห่วง”



((หรอ...มันไม่แอบดูมึงอาบน้ำ ก็เพราะว่าแม่งเล่นตามมึงทุกก้าวอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงคะหนู)) สัด! ขนลุกชูชัน



เสียงของอีกฝ่ายที่นิ่งๆ ไม่ได้ล้อเล่นเหมือนก่อนหน้านี้  ขนาดไม่ได้อยู่ด้วยกันตรงหน้าก็ยังรู้เลยว่ามันจะทำหน้ายังไง ... ใคร ใครบอกมึงพี่ หรือไอ้หยีวะ



“พี่...”



((ใช่ไหม อย่าโกหกกู))



“คือ...มันก็ใช่ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรนะพี่ดาบ”



((มึงไม่คิดแต่มันคิด เอาจริงๆกูรู้ว่ากูไม่มีเหตุผลที่จะบอกให้มึงอย่าใกล้มัน แต่กูก็อยากบอกว่ะ เอมกูหึง เอาไอ้หัวไม้ถูพื้นนั่นไปไกลๆ อย่าให้กูทนไม่ไหวแล้วต้องรุนแรงกับมันนะ))



ผมยิ้มออกมาในตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น พี่ดาบมันเป็นแบบนี้ตลอดเลย เป็นผู้ชายน่ารักที่มีวุฒิภาวะมากกว่าผม มันพยายามให้เหตุผลกับผมเสมอ แต่แน่ล่ะ บางเรื่องเราคงมีเหตุผลไม่ไหวหรือเปล่า ใครจะทนได้วะ เหมือนที่ผมไม่ทนเวลาเจอพาพวยไง



“เอมขอโทษนะที่คิดง่ายๆ”



((กูรู้จักมึงดีเอม แต่ไอ้เหี้ยนั่น ดีดแม่งออกไปไกลๆ แล้วอย่าไปแดกมันขอมันนะ ขยะ))



“เดี๋ยวนะ พี่มึงรู้เรื่องนี้ได้ไงอิเจ๊พี่มึง”  ผมขมวดคิ้วเลย เรื่องมัน มันพึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เองนะ แล้วยังไง ... กูว่าชัวร์ละ ชัดๆเลยไอ้แม่ย้อย



((เรื่องกูค่ะหนู ส่วนมึง กลับมาเจอกูลงโทษแน่ไอ้ควายน้อย))



“หึ่ย พี่มึงมันร้ายนัก”



((ร้ายอะไรกันอ่ะคะ สวยไม่เข้าใจ นี่นางเองนะรู้ยัง สวยมากๆพูดกันตรงนี้ แป๊บนะ เจ๊ขอเติมปากก่อน มั้ว~~))



ไม่ว่าเปล่า ยังทำเสียงเหมือนเวลาผู้หญิงทาลิปเสร็จแล้วชอบเม้มปากประกบกันแล้วทำเป็นเสียงเหมือนจูบใส่ผมอีก มันกวนตีนกันตลอด



“พี่แม่ง”



((แม่งอะไรครับเอม))



“แม่งน่ารักวะ เอมรักพี่น้า”



((สัดเอ้ย ใจกูจะวาย คืนนี้กูต้องไปสีหมอนแล้วว่ะเอม))



“ทุเรศว่ะพี่แม่ง อย่าเอากางเกงในกูไปดมนะ บ็อกเซอร์ก็ไม่ได้กูหวง พูดเลย”



((นี่มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ ... ขอแค่หมอนกลิ่นมึงจะได้ไหม นะ))



“โว้ยย พี่แม่ง”



((ฮ่าๆ คิดถึงมึงว่ะเอม นี่กูอยู่ในงานแต่หลบพ่อกับแม่มา น่าเบื่อฉิบหาย ใกล้จะเริ่มงานละ))



“โอเคครับ พี่ไปเถอะ พรุ่งนี้ผมก็กลับแล้ว แล้วเราค่อยเจอกันนะ”



((โอเคเลยครับ งั้น ... ดานี่ แอบมาอยู่นี่เอง ...))



ดานี่...



“หื้ม เสียงใครวะพี่ดาบ” ผมขมวดคิ้วทันทีในตอนที่ได้ยินเสียงของใครอีกคนแทรกเข้ามา เป็นเสียงที่พูดตรงๆเลยว่า ขนาดหลับฝันผมก็ยังจำได้แม่น



((เอม เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันนะคะควายน้อย))



“เดี๋ยว พี่ดาบ เดี๋ยวมึง...”



‘ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดดด’



สายถูกตัดไปแล้วทั้งแบบนั้น ผมได้แต่ก้มลงมองมือถือที่หน้าจอกลับไปเป็นสีดำสนิทเพราะปลายสายวางไปแล้วจริงๆ อยู่ๆหัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้น วันนี้พี่มันไปงานกับที่บ้านของมัน ผมรู้เรื่องดีเพราะพี่มันมาเล่าให้ฟังแล้ว แต่ที่ไม่รู้เลยก็คือว่า ในงานวันนี้มีพาพวยไปด้วย ทำไมมันไม่บอกผม ...



และเพราะอะไรถึงต้องวางสายไปแบบนั้นโดยไม่อธิบายอะไรกับผมสักคำแบบนั้น



อยู่ๆมือก็ชื้นเหงื่อขึ้นมาแปลกๆ อยากจะโทรกลับไปถาม อยากจะได้คำตอบออกมาเดี๋ยวนี้ แต่ผมรู้ดีว่าถึงทำแบบนั้นไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะถ้าพี่มันตั้งจะบอก มันคงไม่เลือกจะวางสายไปแบบนั้น



ได้แต่กดปลดล็อคมือถือแล้วเข้าแอพไลน์ ตรงเข้าไปกดเข้าไปในห้องแชทของคนที่อยู่บนสุดเสมอเพราะปักหมุดเอาไว้



[[เอม: ผมเชื่อใจพี่นะ...แต่กลับไป]]



[[เอม: มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกันอิเจ๊!]]



“สัด น่าโมโหจริงๆเลยเว่ย”  เก็บมือถือลงไปไว้ในกระเป๋ากางเกง ลืมไปแล้วว่าจริงๆตั้งใจจะเดินออกมาที่นี่ทำไม ในหัวของผมมีแต่เสียงของพะพายที่แทรกเข้ามา ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด อยากรู้ว่าทำไมพาพวยถึงไปอยู่ตรงนั้น แล้วมันเพราะอะไรอิเจ๊พี่มันถึงปิดกูแบบนี้! แค่คิดก็ไฟลุกแล้วกู แม่ง!



          เดินสับขากลับมาทางที่จะไปที่เต้นท์ของพวกปีสอง คิดว่าอยู่แบบนี้กูคงจะงุ่นงานไม่เลิก กลับไปนอนน่าจะดีกว่า เต้นท์ถูกแบ่งแยกระหว่างชายหญิง นอนเต้นท์ละ4คนครับ เพราะงั้นไอ้หยีเลยไปนอนกับพวกผู้หญิงในรุ่น เต้นท์ผมมีผม ไอ้เก้อ และเพื่อนในรุ่นที่รู้จักกันอีก2คน



ระหว่างทางเดินที่จะกลับไป บังเอิญไปเห็นเงาตะคลุ่มๆบางอย่าง เหยดแม่ ผีหลอกกูแล้วสัด คาถาอะไรดีในจุดๆนี้ ... ในตอนที่กูตั้งใจจะหันหลังวิ่ง ก็ต้องชะงักขาเพราะความเสือกสะกดเอาไว้



“ปล่อยกูพี่เก้อ มึงไม่มีสิทธิ์มาลากกูแบบนี้นะ มึงนึกว่าถ่อยแล้วเท่หรอวะ”



“แล้วไงอ่ะ กูไม่มีสิทธิ์แล้วใครมี ไอ้เด็กเหี้ยคณะอื่นคนนั้นหรอวะ”



“มึงเป็นบ้าอะไรของมึงวะ ไอ้อิฐมันเพื่อนผม ส่วนพี่ก็คือพี่ผม ผมว่าเราคุยกันจบไปแล้วนะ”



“มึงจบแล้วกูบอกว่าจบหรอสัด มึงพูดๆจบแล้วก็ไป ฟังกูพูดสักคำไหมวะ”



“ไม่ต้องฟังกูก็เข้าใจว่ะพี่ ไม่ว่าตอนไหน เรื่องของเราก็ต้องจบอยู่ดี จะวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องจบ มึงมาเอากูแทนไปเรื่อยๆมันทำให้มึงเลิกรักพี่เอมหรอวะ”



“กูไม่ได้เอามึงแทนเอม ฟังกูบ้างสิวะไอ้เสือ!”



เสือ!!!



เสืออออออออ



น้องเสือหรอวะ!!!



กูนี่อ้าปากค้างอยู่กลางทางข้างต้นไม้ใหญ่เลย เหยดแม่ อยากกรี๊ด ไอ้เก้อไอ้เสืออะโบ๊ะจะม๊ะป๊ะเท่งป๊ะกันจริงๆ นี่มันอะไร เมื่อไหร่กันวะ



“ฟังนะพี่มึง ขอบใจที่มึงบอกว่าไม่ได้เอากูแทนใคร แต่มึงไม่ได้รักกู ต่อให้ไม่มีกู มึงจะไปเอาใครก็ได้”



“แต่กูไม่ได้อยากเอาใครก็ได้!”



อ๊ากกก กูอยากกรี๊ด อิเก้ออิเหี้ย มึงพูดขนาดนี้ มาขนาดนี้เลยนะเพื่อน ... ผมมองเห็นไอ้เก้อที่ทำหน้าเครียด มันที่จับมือของไอ้น้องเสือเอาไว้ไม่ปล่อย ดูทรงแล้วจะทะเลาะกันแน่ๆ



“พอเหอะว่ะพี่ อย่าทำแบบนี้กับผมเลยว่ะ”



“กูทำอะไรให้มึงทรมานมากหรอวะมึงถึงมาบอกให้เราจบกันแบบนี้อ่ะ”



“แล้วเกมส์นี้มันแฟร์กับกูหรอวะไอ้สัด มึงที่ปล่อยให้กูรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียวแต่ตัวเองไม่รู้สึกเหี้ยอะไร แฟร์กับกูหรอสัดเก้อ เกมส์ที่เล่นแล้วไม่มีเส้นชัยกูจะเล่นต่อไปทำเหี้ยอะไรล่ะ!”



น้องเสือที่พูดรัวๆออกมาแบบนั้น มันที่ตะโกนออกมาเสียงดังแบบไม่สนใจอะไร หรือถ้าพูดจริงๆผมคิดว่าพวกมันสองคนคงไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาแอบฟัง ถ้าไม่เป็นเพราะผมโมโหมากเกินไปก็คงไม่เดินมาไกลขนาดนี้



“มึง...เสือ...... มึงหมายความว่า....”



“อย่าแกล้งโง่ มึงไม่ได้โง่ไอ้เก้อ มึงรู้ว่ากูรู้สึกยังไง เลิกเล่นกับใจกู แล้วกลับไปตามหาใจมึงที่มึงต้องการเหอะ มาอยู่กับกูก็ไม่ได้อะไรนอกจากทำให้ใครอีกคนแบบกูยิ่งรู้สึกเสียใจก็แค่นั้น ถ้ายังเห็นกูเป็นน้องแบบที่มึงว่า ก็ปล่อยกูไปซะ”



น้องเสือมันพูดจบแค่นั้น มองจากตรงนี้ผมเห็นน้องมันน้ำตาไหล มันที่เป็นเด็กที่ดูเข้มแข็งมากๆจากหลายๆครั้งที่เคยเจอกัน เป็นเด็กที่ดูกล้าได้กล้าเสียและร่าเริง ไม่เคยคิดเลยว่าพอมันร้องไห้แล้วจะดูน่าสงสารมากขนาดนี้ ... ตาน้องมันสวยครับ



น้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาคู่นั้น มันไม่สะอื้นสักนิด แค่มองตรงไปที่ไอ้เก้อที่ตอนนี้ยืนทำหน้าอึ้งแบบพูดอะไรไม่ออก มันที่ได้แต่ค่อยๆปล่อยมือเรียวคู่นั้นของน้องออกช้าๆ น้องเสือที่ไม่ได้เช็ดน้ำตาตัวเองแต่ทำแค่กลับหลังหันแล้วเดินหนีออกไป ไอ้เก้อที่ยืนทำหน้าโง่มองตามน้องไปอยู่แบบนั้น พูดตรงๆจากสายตาคนนอกแบบผม ผมไม่เคยเห็นไอ้เก้อมองใครแบบนั้น แม้แต่ผมเองมันก็ไม่เคยใช้สายตาแบบนั้นครับ



“กู...ขอโทษ”



มันที่พูดเบาๆแล้วก้มหน้าลงมองเท้า พื้นดินตรงหน้าของมันเป็นดวงลงมาในตอนนั้น เห็นแบบนั้นแล้วผมได้แต่เบิกตากว้างแล้วยกมือขึ้นปิดปาก ... ไอ้เก้อร้องไห้



“ไม่รู้สึกแล้วเสียใจทำเหี้ยไรวะ หึ ตลกว่ะไอ้สัดเก้อ”



เออ ตลกจริง ไอ้เพื่อนโง่ ไม่รู้สึกก็เหี้ย กูมองจากยอดดอยอ่างขางก็มองออกว่ามึงชอบน้องเสือ สาดดดดดด



‘สวบสาบ’



เสียงพุ่มไม้ด้านหลังผมขยับ ทำให้ต้องหันไปมอง ก่อนจะตาเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นใครอีกคนยืนอยู่ตรงนั้น บนหัวของมันมีกิ่งไม้ปักอยู่ เราสองคนมองสบตากันแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ



“สมแล้วที่เราเป็นเพื่อนกัน”  ไอ้หยีทำปากว่าออกมาแบบนั้นเบาๆ



นี่มันอะไรกันวะ ... รวมพลคนเสือกหรอเนี่ย เจ็บไข่จริงๆเลยโว้ย!





--------------To be continued------------



มาแล้วค่ะ มาลงแล้วเช่นเดิม ... สำหรับตอนนี้แคทขอสารภาพว่าเขียนภายในวันนี้วันเดียวแล้วเอามาลงเลย

เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาแคทไม่ได้แตะงานเลยค่ะ อย่างที่คนอ่านบางท่านได้เห็นที่แคทโพสไปในเพจเมื่อต้นอาทิตย์

ความคิดที่ว่าอยากปิดเรื่องพี่ดาบไปเป็นความจริงค่ะ มันเป็นความรู้สึกที่วูบๆวาบๆเข้ามาตลอดตั้งแต่เขียนเรื่องนี้มา

พูดตรงๆว่าแคทไม่เคยร้องไห้กับคอมเม้นท์ของคนอ่านเลยตั้งแต่เขียนหนังสือมา แต่เขียนเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ร้องไห้

แคทต้องขอโทษจริงๆที่งานเขียนของแคทมันยังดีไม่พอ ตอนแคทวางพล็อตแคทก็ตั้งใจอยากให้มันเป็นนิยายสนุกๆ

แต่พอเขียนไปเขียนมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงไม่สนุก เนื้อหามันถึงมีแค่นี้ ประเด็นมันเอื่อย นายเอกงี่เง่าและต่างๆนา

ทั้งหมดนั่น แคทขอโทษจริงๆค่ะ แคทขอโทษจริงๆนะที่วางและเขียนออกมาแบบขาดอะไรหลายๆอย่าง

และทั้งหมดทั้งมวลนี้ แคทต้องขอบคุณคนอ่านหลายๆท่านที่ทักทายเข้ามา มาให้กำลังใจ รวมถึงความห่วงใยที่มากมายจนแคทไม่รู้ว่าแค่ขอบคุณมันพอไหม

ขอบคุณทุกๆท่านที่ส่งกำลังใจเข้ามามากๆค่ะ แคทได้อ่านมันทั้งหมดเลย แต่ขอโทษที่อาจจะยังตอบไม่ครบ

ขอบคุณคนอ่านทุกๆท่านที่อยู่ด้วยกัน และชื่นชอบงานของแคทที่มันไม่ดีเท่าไหร่ ขอบคุณกำลังใจ และคำติชมมากมายที่มอบให้กัน

ต่อจากนี้แคทก็ยังจะพยายามมากๆต่อไปค่ะ ... เพราะแบบนั้น ในวันนี้เลยมาลงตอนนี้ต่อ ถึงมันอาจจะไม่ดี แต่แคทก็ยังหน้ามึนเขียนต่อไปนะคะ



ขอบคุณ และ ฝากรักเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยด้วยนะคะ


 :pig4:



ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai2-1: สมเป็นเพื่อนกันจริงๆ นุ้งเอม นุ้งหยี

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ไปจ้าาา อิพี่เก้อไปตามง้อน้องด่วนๆจ้าาาาา

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ชอบองค์พี่ดาบที่ทำให้น้องเอมเขินอ่ะค่ะ.  o18  แต่เรื่องพาพวยและน้องหัวไม้ถูพื้นจะเคลียร์กันยังงัยนะ 555

ส่วนอีกคู่ คงเหลือแต่อิพี่เก้อหาใจตัวเองให้เจอเร็วๆ นี้นะ


เป็นกำลังใจให้คุณแคทนะคะ ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้ สบายใจแล้วค่อยกลับมาเขียนใหม่ก็ได้ค่ะ    :3123:


ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

บทที่38




“อิเอมมมมม กูบอกมึงแล้วใช่ไหมคะอิลูกว่ามันมีเงี่ยนงำๆๆๆ”



“กูก็ไม่คิดว่ามันจะจริง”



“มันจริง มึงรู้ กูรู้ คนอ่านรู้ เค้าเงี่ยนงำกัน”



“คนอ่านอะไรของมึง บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้อ่านนิยายมาก”



“เอ๊ะ เรื่องกู เสือกเพื่อ อย่าให้เห็นว่ามึงมายืมกูอ่านนะอิหนู”



“หยอก แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วย ... ว่าแต่เรื่องไอ้เก้อกับน้องเสือนี่ยังไงดีวะ” ผมทรุดตัวลงนั่งบนขอนไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากแถวๆโซนเต้นท์ที่พัก นั่งกันอยู่สองคนกับไอ้หยี ไม่ใกล้ไม่ไกลถัดจากเราไปมีกองไฟที่ถูกจุดให้แสงสว่างอยู่ ได้ยินเสียงกัต้าร์ดังเอื่อยๆมาจากที่ไกลๆที่พวกปีหนึ่งยังนั่งเล่นกันอยู่



“จะให้ทำยังไงได้ล่ะคะ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเป็นคนสองคนช่วยกันแก้ไหมอ่ะ จะให้กูไปจับKสองคนมามัดเข้าหากันก็ไม่ได้ไงอิลูก”



“มึงพูดเรื่องอะไรของมึงเนี่ยป้า โว๊ะ ... แต่ว่านะ กูว่าไอ้เก้อชอบน้องมันว่ะ แต่แค่โง่”



“เบื๊อเบื่อ ความโง่ของพวกคนมีความรักเนี่ย บางเรื่องล่ะฉลาดนัก ที่งี้ยืนมึน คิดว่าเป็นพระเอกละครมั้งคะ หน้าโง่ นี่ถ้าหนทางของการมีผัวมันลำบากขนาดนี้นะคะ กูขออยู่คนเดียวสวยและรวยมากแบบนี้ดีกว่าค่ะ”



“เฮ้อ มันก็แบบนี้ไหมวะป้า คนเรามันก็มักจะโง่เรื่องของตัวเองเสมอล่ะ”



“ก็จริงค่ะ แต่เหตุการณ์เมื่อกี้คือกูอยากจะพุ่งไปตบหน้าอิเก้อสักฉาดแล้วบอก ตามสิอิควาย! ยืนโง่หาพ่อง”



“บางทีมึงก็อินเกินอ่ะหยี”



“อุ๊ย ลืมสงวนท่าทีของการเป็นเพื่อนนางเอกเรียบร้อยเลย” มันที่แกล้งเบิกตากว้างเหมือนตกใจแล้วยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองหน่อยๆทำเอาผมต้องถอนหายใจ



“มึงไม่เรียบร้อยมาตั้งแต่แรกแล้วป้า”



“สัด!”  ทำหน้าตึงใส่แล้วด่ากูมาอีกหนึ่งดอก เชิญเลยจ๊ะ เห็นกูเป็นสนามอารมณ์ด้วยกันทั้งหมด



“แต่ว่าก็ว่านะป้า น้องเสือก็พูดออกมาซะขนาดนั้นแล้วอ่ะ ไอ้เก้อแม่งยังไม่เข้าใจอีกหรอวะ” หันไปถามไอ้หยีที่ถอนหายใจออกมาเสียงดัง มันหันมามองหน้าผมนิดๆก่อนจะพูดต่อ



“กูว่ามันก็คงรู้แล้วแหล่ะว่าน้องเสือคิดไงกับมัน มีแต่มันนั่นแหล่ะที่ยังหลอกตัวเองอยู่”



“หลอกเรื่อง”



“เรื่องว่ามันชอบมึงอยู่”



“Kจ้า ถ้าชอบกูแล้วจะไปมีไรกับน้องเสือได้ไง สาด มโนยิ้ม” ผมที่สะดุ้งแรงตอนได้ยิน แล้วแหกปากออกมาเสียงดังจนไอ้หยียกมือมาตีแขนแรงๆ แสบสัดๆ นี่มือหรือฝ่าเท้า



“ก็มันชอบมึงมาตั้งนาน อยู่ๆปุบปับจะยอมรับว่าเปลี่ยนใจไปชอบอีกคนมันก็คงไม่ใช่ไหมวะ กูว่าตอนนี้มันก็คงสับสนอยู่แหล่ะ”



“ไอ้เก้อแม่งก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหล่ะป้า มันแม่งไม่เคยจะกล้าลุยสักที เหมือนตอนที่มันบอกว่าชอบกูมันก็เลือกจะไม่ทำอะไร แล้วถ้าตอนนี้มันยังทำแบบนั้น กูว่าน้องเสือก็คงไปจากมันจริงๆนั่นแหล่ะ”



“ถ้าแบบนั้นก็สมควร แต่กูว่านะ มันไม่ปล่อยน้องเสือไปหรอก ดูทรงแล้วจะเจอคนที่ทำให้มันรู้สึกได้จริงๆแล้วแหล่ะค่ะ” ไอ้หยียักคิ้วไปพร้อมๆกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มันค่อนข้างจะดูชอบอกชอบใจเป็นพิเศษ



“นี่มึงแฮปปี้อะไรอ่ะป้า”



“กูชอบน้องเสือ”



“ของเพื่อนไหมล่ะ ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้”



“เอ๊ะ ไม่ได้อยากให้มาเป็นผัวกูค่ะอิลูกควาย สติ กูแค่ชอบน้องเสือ รู้สึกว่าเป็นมวยถูกคู่ที่มาเจอกับอิเก้อ กูว่าน้องเสือมันเอาไอ้เก้ออยู่นะ หลังๆมานี่แม่งก็มาเรียนตลอดและก็ไม่ค่อยไปเที่ยวมั่วๆ กูมั่นใจว่ามันขลุกอยู่กับน้องมันค่ะ”



“เฮ้อ หวังว่ามันจะลงเอยด้วยดี กูว่าคนเรามันรับความพังในชีวิตได้ไม่บ่อยนักหรอก”



“มึงก็ด้วย มึงก็คนอีกคนที่รับความพังได้ไม่บ่อยเหมือนกันเอม” มันที่เปลี่ยนเรื่องพูดจากเรื่องไอ้เก้อ หันมามองหน้าผม สายตาของมันที่กำลังบอกผมว่าเป็นห่วง พอเห็นมันเป็นแบบนั้นแล้วก็ต้องยิ้มออกมา



“มึงรู้ไหมป้า ถ้ากูชอบผู้หญิง ผู้หญิงที่กูรู้สึกว่าอยากจะแต่งงานด้วยก็เป็นมึงล่ะ”



“กรี๊ดดด  นี่คือการสารภาพรักกับกูหรือเปล่าคะ ทำไงดี ตายแล้วพี่ดาบ ขอโทษจริงๆที่ความสวยของหยีทำให้เมียพี่ไขว้เขว”



“ตั้งสติก่อนนะมึง เลิกหลงตัวเองก่อน คือพอดีว่ากูชอบผู้ชายไง”



“จบอิดอก อิตัวทำลายความฝันของสาวน้อย” เบะปากใส่ผมทีนึงแล้วเอื้อมมือมาผลักหัวกันแบบแกล้งๆ



“แต่ขอบคุณมึงนะป้า อันนี้กูพูดจริง มึงแม่งเป็นเพื่อนที่ดีมากๆของกูเลย”



“ไม่เป็นไรน่า มึงก็เป็นเพื่อนที่ดีของกูเหมือนกันค่ะ ตอนปีหนึ่งที่เข้ามาเพราะกูซิ่วก็ไม่ค่อยมีใครจะกล้าเข้าหาหรอก มีแต่มึงอ่ะค่ะที่มาคุยกับกู เรื่องนี้ก็ทำกูซึ้งมากๆนะคะอิลูก”



“จริงๆตอนนั้นกูแค่อยากยืมปากกา”



“บางทีกูก็อยากแช่งมึงให้พี่ดาบมีเมียน้อยแม่ง กวนตีนกูจัง” ไอ้หยีว่าออกมาแบบนั้น แต่คำนั้นกับทำผมชะงักนิดหน่อย ไอ้เสียงที่ได้ยินผ่านปลายสายมาก่อนหน้านี้กลับมาสะกิดใจของผมอีกแล้ว



“เป็นอะไร ทำไมทำหน้างั้น ... อย่าบอกว่าคิดมากนะคะ โหยยยไอ้น้องเอม พี่ดาบรักมึงจะตายจะมีเมียน้อยห่าไรอ่ะคะ”



“แล้วถ้ามันมีล่ะวะป้า” เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอ้หยีแบบขอความเห็น ... เพราะคนเรามันก็มักจะโง่ที่สุดตอนเรื่องของตัวเอง



“ทำไมมึงพูดแบบนั้น มีอะไรวะ” ไอ้หยีที่หรี่ตาลงแล้วมองหน้ากันแบบกดดันให้เล่า ได้แต่เม้มปากชั่งใจนิดหน่อย แต่สุดท้ายผมก็เล่าเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้ที่ได้ยินในโทรศัพท์ทั้งหมดให้มันฟัง



“มึงคิดว่าเป็นพี่พาย”



“กูจำเสียงเค้าได้ จริงๆนะมึง”



“เฮ้อ กูล่ะไม่เข้าใจพี่เค้าจริงๆเลยว่ะ เหมือนเป็นเจ้ากรรมนายเวรอ่ะมึง ไม่ไปผุดไปเกิดสักทีอิห่า ตามมึงกับพี่ดาบเหี้ยอะไรนักอ่ะ อารมณ์เหมือนกอลัมใน the lord of the ringsงี้หรอวะ ของรักของข้า ข้ามาทวงของข้าคืน โถ่ อิผี เค้าไม่เอามึงแล้วรึป่ะงงอะไรเอ่ย”



ไอ้หยีที่ว่าออกมาแบบนั้นรัวๆ มันที่เขวี้ยงกิ่งไม้ออกไปไกลๆจนกระทบกับพุ่มไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลด้วยความหงุดหงิด หันมองตามไปเห็นพุ่มไม้ตรงนั้นสั่นจนโยก แรงขนาดนั้นเลยหรอวะ



“มึงจะยอมหรอคะอิเอม อิลูกไหนตอบให้กูชื่นใจสิ”



“ก็เหี้ยดิป้า เรื่องอะไรกูจะยอมวะ นี่มันแฟนกูนะ”



“เหยด นี่ล่ะค่ะที่กูต้องการ มึงต้องสู้นะคะลูกกู”  ว่าแบบนั้นแล้วเอามือมาลูบหัวผมแบบถูกอกถูกใจ



“แต่กูก็ไม่เข้าใจ ทำไมพี่มันถึงไม่ยอมตอบอะไรกู ทำไมไปงานห่านั่นแล้วไม่บอกกูว่าต้องเจอพาพวยวะ” นี่คือเรื่องที่ผมสงสับมากที่สุด ถ้าพูดจริงๆผมเชื่อใจพี่ดาบ เพราะเค้าไม่เคยทำให้ผมไม่มั่นใจ แต่กลับอีกฝ่าย ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าเค้าต้องการพี่ดาบมากมายขนาดนี้เพราะอะไร



“กูว่าพี่ดาบเค้ากลัวมึงคิดมากแหล่ะ”



“แต่ทำแบบนี้กูจะสบายใจหรอวะ ยุบยิบในใจจนกูอยากวิ่งกลับกรุงเทพเดี๋ยวนี้เลย แล้วแม่พี่มันก็ดูชอบพาพวยด้วยนะป้า มึงต้องเห็น เค้ามองกูเหมือนขี้”



“กูไม่คิดงั้นนะ กูไม่คิดว่าแม่พี่ดาบจะชอบพี่พายแบบนั้น คนหัวโบราณขนาดนั้น ไม่อยากให้ลูกชอบผู้ชายขนาดนั้น เค้าจะกันพี่ดาบออกจากมึงแล้วยกให้พี่พายเพื่อ มากสุดกูว่าเค้าแค่เชื่อพี่พายเพราะรู้จักกันมาก่อนมึงก็เท่านั้นแหล่ะ”



“แต่เค้าไม่ยอมเปิดใจให้กูเลยนะป้า แล้วเค้าจะมาชอบกูได้ยังไง” ก้มมองเท้าตัวเองแล้วได้แต่เอาตีนเขี่ยๆดินทรายเล่นอย่างใจลอย



“มึงไม่เหมือนไอ้เอมที่กูเคยรู้จักเลยนะ สู้หน่อยสิวะ ชีวิตที่ผ่านมาของมึงก็สู้มาตลอดไม่ใช่หรือไง”



“กูสู้มาตลอด ก็ใช่ว่ากูอยากจะสู้นี่หว่าป้า กูก็แค่พยายามให้ตัวเองไม่ตายเพราะกูไม่มีใครคอยปกป้องเลยก็แค่นั้นอ่ะ”



บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มอ่อนๆไปให้มัน เป็นยิ้มที่ไม่ถึงตา ผมนึกถึงวันเก่าๆของตัวเอง ผมสู้กับญาติ ผมสู้กับป้า ผมสู้กับแฟนเก่าของผมเพื่อให้ตัวเองมีชิวิตรอดในวันต่อๆไป แต่สุดท้ายแม่งก็พัง แล้วสู้มาขนาดนั้นกูก็เหนื่อยแทบจะตาย ผมยังจำตอนที่จับได้ว่าแฟนเก่าผมมีอะไรกับญาติตัวเองได้ ผมร้องไห้ ผมขอร้องว่ามันเป็นเรื่องโกหกเพราะเค้าคือที่พึ่งเดียวของผม แต่สุดท้ายแม่งก็พัง



“อืม เพราะตอนนี้มึงมีพี่ดาบเป็นที่พึ่ง มึงเลยกลายเป็นแบบนี้ กูเข้าใจนะ จริงๆมันก็ดีตรงมึงดูมีชีวิตมากขึ้น กูรู้สึกมึงเด็กลงด้วย เหมือนมึงได้กลับมาใช้ชีวิตตามอายุจริงๆของมึง”



“เพราะแบบนั้นกูแม่งเลยดูไม่เข้มแข็งอีกเลย ยิ่งเหมือนควายเข้าไปใหญ่”



“งั้นตอนนี้ก็ต้องไฟท์แล้วไหมวะ ไฟท์กับแม่ผัว อิอ๊ะ....แต่กูเชื่อนะ ว่าถ้าเค้าได้รู้จักมึง เค้าจะชอบมึงเหมือนที่ใครๆก็ชอบ”



“กูก็หวังแบบนั้นนะ” เราส่งยิ้มให้กันในตอนที่ไอ้หยีพูดจบประโยคนั้น ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างจะบอกลาแล้วหนีเข้าไปนอน ... ผมหวังว่ามันจะมีสักวันที่แม่พี่ดาบรู้สึกชอบผม แบบที่ไอ้หยีว่านะ



               เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และชาวเราก็ช่วยกันสร้างโรงเรียน โรงอาบน้ำ และที่พักสำหรับเด็กๆกันได้เสร็จทันเวลา จนในที่สุดพวกเราทั้งสี่ชั้นปีก็ได้เดินทางกลับกรุงเทพ บรรยากาศขากลับแตกต่างจากขาไปลิบลับ ผมคิดว่าคงเป็นเพราะว่าเหนื่อยกัน บรรยากาศบนรถเลยเงียบมากกว่าปกติ



ผมหันหน้าไปทางเบาะหลัง เป็นไอ้เก้อที่นั่งทำหน้าซึมกะตายอยู่ตรงนั้น หูของมันที่เสียบแอร์พอดส์คาเอาไว้ ไม่รู้ว่ากำลังฟังอะไร แต่ตาของมันก็แค่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มันนั่งคนเดียวครับ เพราะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หลังจากวันนั้นไอ้เก้อก็คล้ายๆหมาบ้านิดหน่อย เจอหน้าใครก็ทำตาขวางหงุดหงิดจนไม่ว่าจะรุ่นพี่รุ่นน้องก็เข้าหน้าแม่งไม่ติด



“มึงๆ ปล่อยไว้แบบนี้จะโอเคหรอวะ” ผมหันไปสะกิดไอ้หยีที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ มันที่กำลังพยายามทาลิปสติกอยู่ตอนนี้ อยู่บนรถมึงจะทาไปเพื่อใคร



“ไม่โอเคแล้วจะให้ทำยังไงอ่ะมึง เพื่อนมึงไม่กระตือ”



“มันจะกระตืออะไรล่ะ มึงไม่เห็นน้องเสือหรอ เห็นหน้ามันก็พลิ้วตัวหลบวูบ เห็นมันเหมือนเห็นเสือจะมาแดก”



“ก็เป็นเสือที่ได้แดกอยู่นะคะ อิอิ” ทำหน้ากรุ้มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตา คือมันสนุกอะไรก่อน



“ใช่เวลาไหมเนี่ยมึง”



“เออน่า กูว่าอย่างน้อยก็ต้องปล่อยให้มันทั้งคู่ได้ทบทวนแหล่ะ เราจะทำอะไรก็ยังไม่ได้ป่ะ ถ้าไอ้สองตัวนี้ยังไม่มีใครเข้าใจตัวเองซะก่อน ทางนั้นก็มีแต่จะไป ส่วนทางนี้ก็ไม่รั้ง มึงว่าเราจะทำไรได้ล่ะ”  ไอ้หยีย้อนออกมาแบบนั้น ผมก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย อยากช่วยเพื่อนครับ แต่ก็ถูกของไอ้หยีมัน คงต้องใช้เวลาทบทวนจริงๆแหล่ะสำหรับมันสองคน



               รถบัสของนักศึกษาคณะเรามาจอดที่หน้าตึกอธิการเหมือนตอนที่จะไปในเวลาห้าโมงเย็นครับ ไอ้สัดพี่ดาบไม่ได้มารับแน่นอน เพราะผมไม่ได้บอกให้มันมา แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่เป็นไรผมกลับเองได้ ของไม่เยอะเหมือนตอนไป ก็มีแค่กระเป๋าเป้ของผมที่สะพายอยู่บนหลังแค่ใบเดียว



“พี่เอม ให้ผมไปส่งไหมพี่”  เสียงเรียกที่มาพร้อมๆกับนิ้วสะกิดไหล่ พอหันกลับไปก็เป็นใครอีกคนที่หายหน้าไปตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่ทะเลาะกับไอ้เก้อ ... กูลืมมึงไปเลย



“ไม่เป็นไรมึง กูกลับเองได้”  บอกไอ้ม็อบออกไปแบบนั้นทั้งรอยยิ้ม มันมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่าไม่สู้ดีนัก กูเองก็ไม่สู้ดีเหมือนกัน กูอยากพูดออกไปตรงๆเลยตอนนี้ แต่ก็ไม่อยากให้ผิดใจกันในสายรหัส เอาไงดีวะไอ้เอม



“พี่รอแฟนพี่หรอ เค้าคงไม่ว่างมาหรอก”  มันว่าออกมาแบบนั้นทำเอาผมขมวดคิ้ว



“ทำไมมึงถึงพูดแบบนั้น” ถามมันกลับไป มันที่แค่ยิ้มนิดๆแล้วยกมือขึ้นมาเกาหัวแล้วส่ายหน้าแบบที่มันชอบทำ



“ก็ไม่มีไร ถ้าเค้าจะมารับเค้าคงมาถึงแล้วไหมอ่ะ ผมเห็นเค้าหวงพี่เหมือนหมาเลย” สัด ... มึงอย่าเปรียบเทียบแฟนกูเป็นหมาได้ไหมวะ ไม่ใช่อะไรนะ กูเห็นด้วย



“มึงก็พูดไป” ได้แต่ตอบรับมันแบบนั้นพร้อมๆกับยิ้มขำ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังส่ายหัว



“ขอบใจมึงมากนะ แต่ไม่เป็นไรกูกลับเองได้ ไม่ไกลสักหน่อย มึงเองก็เหนื่อยมามากแล้ว มึงกลับไปพักเหอะ” บอกมันพร้อมๆรอยยิ้มแล้วยกมือขึ้นตบบ่า แล้วเดินเลี่ยงออกมา แต่ติดตรงที่มันดันคว้ามือผมเอาไว้ซะก่อน



“พี่เอม”



“ไอ้ม็อบ ปล่อยมือกู” บอกมันไปแบบนั้นด้วยเสียงที่เรียกได้ว่าจริงจัง ผมถอนหายใจออกมาหนักๆในตอนที่พูดแล้วจ้องเข้าไปในตาของมัน



“กูมีแฟนแล้ว มึงเองก็รู้ เพราะงั้นอย่ามาอะไรกับกูเลยว่ะ กูไม่อยากให้แฟนกูไม่สบายใจ” พูดออกไปตรงๆชัดๆแบบอยากให้มันเข้าใจ จริงๆผมไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย พยายามเลี่ยงแล้วหลายครั้งแต่มันก็ยังบีบให้ผมต้องพูดอีก



“พี่ แล้วถ้าพี่ไม่มีแฟนล่ะ”



“กูไม่มีแพลนที่จะเลิกกับแฟนกูว่ะ เคนะ ... กูกลับล่ะ” บอกมันแบบนั้นแล้วเดินหนีออกมาแบบไม่หันกลับไปมองมันอีก ผมไม่อยากให้ทำเหมือนให้ความหวังมัน เพราะตอนนี้ปัญหาของผมก็รุงรังมากพออยู่แล้ว อย่าให้ต้องมีเรื่องอะไรเข้ามาเพิ่มอีกจะดีกว่า





               เดินผละออกมาจากไอ้ม็อบ ก็เจอไอ้เก้อที่ยืนกอดอกพิงอยู่กับรถของมันอยู่ด้านหน้า ผมยิ้มให้มันนิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหา



“ไงมึง มายืนรอใครวะ” แกล้งๆถามมันออกไปแบบนั้น จริงๆกูคันปากอยากแซวอยากถามมากๆ ปากยุบยิบไปหมด แต่ติดที่บอกออกไปไม่ได้ ไม่งั้นคงสาวยาวเลยว่ากูกับไอ้หยีแอบอยู่หลังพุ่มไม้กันคนละพุ่ม



“กูจะรอใคร ไม่มีใครรอกูหรอก”  อ่ะ ตัดพอใช่ไหมเอ่ย น้องเก้อตัดพ้อแล้วหนึ่งดอก กูนี่ต้องพยายามเม้มปากไว้เลยครับ กลัวหลุดยิ้มออกมาแล้วมันจะรู้ตัว



“อ้อออ หรอจ๊ะ กูจะรู้ได้ไงอ่ะ เผื่อมึงแอบมีดงมีเด็ก เพื่อนกูแม่งเนื้อหอมจัดอ่ะจ๊ะ”



“ไม่มีเหี้ยไรทั้งนั้นแหล่ะ มึงอย่าพูดมากเลย มึงกลับกับกู” มันขมวดคิ้วทำหน้าหงุดหงิดเหมือนมีของเหม็นจ่อใต้จมูกแม่งอีกแล้ว สายตาของมันที่ไม่ได้มองมาที่ผมแล้วในตอนนี้ กูนี่เอะใจเลยหันมองตามไป และใช่เลยโป๊ะเชะ น้องเสือที่กำลังแบกกระเป๋าลงมาจากรถบัสคันตรงหน้าเรา มองดูจากตรงนี้แล้วน้องแม่งตัวบางจริง ยิ่งใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมออกสามเม็ดกับกางเกงยีนส์สีเข้มพอดีตัวแบบนี้แล้วยิ่งดูบางจังวะ ตัดภาพมาทาไอ้เก้อ กูนึกว่ากระทิงป่า



“กูจะไปส่งมึงเองไอ้เอม!!” สัด! กึกก้องกัมปนาทมากๆ ตะโกนออกมาจนกูสะดุ้งต้องย่นคอหนีเลยครับ อยู่ไอ้เก้อก็แหกปากออกมาแบบนั้น รอบๆบริเวณของเรามองมาที่ผมกับไอ้เก้อเป็นตาเดียว และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็มีน้องเสือของมันที่หันมามองเช่นกัน



“สัด ตะโกนทำอะไรของมึงวะ” ผมพูดเบาๆกลับไป อายคนฉิบหาย



“ทำไม กูอยากพูดแบบนี้อ่ะ มึงอ่ะขึ้นรถ กูอยากไปส่งมึง” ยังคงตะโกนต่อไป กูขอให้คืนนี้มึงเสียงแหบเสียงแห้งไอ้สัดเก้อ



“ไม่ต้อง กูกลับเองได้” บอกมันแบบนั้น แต่อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาดึงแขนกัน สัดเอ้ย กระทิงป่าลากกู



“ไม่ๆกูไม่ไป มึงกลับไปเลย มึงอยากพาใครกลับก็ไปบอกเค้าสิโว้ย” ผมที่ยื้อตัวเองเอาไว้ไม่ยอมขึ้นรถไปกับมัน พอบอกออกมาแบบนั้น แม่งก็หน้าตึงกว่าเดิมไปอีก และสุดท้ายก็จับผมโยนขึ้นรถมันไปทันที ... แรงควายจนกูตกใจ



“ไอ้เก้อ กูจะกลับเอง”



“ขอร้องอ่ะเอม กลับกับกู” มันที่ตามขึ้นรถมาแล้วพูดกับผมด้วยเสียงเหนื่อยๆ ไม่ได้ตะโกนตะคอกอะไรกันอีก หันไปมองหน้ามันเหมือนมันจะเศร้าและซึมลงไปทันที พอขึ้นมาบนรถกันก็เอาแต่มองไปทางน้องเสือ น้องเสือที่ตอนนี้ค่อยๆเดินออกไปตามทางเพื่อกลับบ้าน และใช่ครับ น้องมันแบกของอะไรสักอย่างกลับ และก็เดินกลับไปคนเดียว ... มองดูจากตรงนี้แม่งโคตรเหงา



“ถ้ามึงอยากไปส่งใคร ทำไมไม่บอกเค้าดีๆวะเก้อ”



“เค้าไม่ได้อยากกลับกับกู บอกไปก็ทำเค้าอึดอัดเปล่า” มันที่พูดแบบนั้นแล้วหันหน้ากลับมามองถนนก่อนจะเข้าเกียร์เดินหน้าและออกรถ กูนี่ถอนหายใจยาวเลย



“ไอ้เก้อ”



“อือ”



“เลิกยึดติดกับกูเหอะว่ะ ให้โอกาสตัวเองได้แล้วมึง กูเดินต่อไปไกลแล้วนะ มึงจะยืนอยู่ที่เดิมทำไมวะถ้ามึงมีที่ๆอยากจะไป” ผมหันหน้าไปพูดกับมันแบบจริงจัง นี่ถือเป็นเรื่องจริงจังในครั้งแรกที่ผมคุยกับมันแบบเปิดใจเลยครับ ... มันทำแค่เงียบ แต่ผมรู้ว่ามันยังฟังกันอยู่



“ถามตัวเองดีๆเถอะว่ะ ว่าตอนกูคบกับพี่ดาบ มึงเสียใจเท่าตอนที่น้องเสือบอกว่าให้เลิกยุ่งกันไหม โอ๊ย!”



‘เอี๊ยด’



เสียงล้อรถครูดไปกับพื้นถนนในตอนที่ใครอีกคนเหยียบเบรกแรงๆ ดีที่ยังอยู่ในรั้วมหาลัยและไม่มีรถตาม Kเก้อ หัวกูโหม่งคอนโซลหน้ารถเลยไอ้ห่า



“หมาวิ่งตัดหน้ารถหรอวะ” ผมที่กุมหัวตัวเองเงยหน้าขึ้นมาถามมัน แต่ไอ้เสือกลับทำแค่ตาเบิกกว้างแล้วมองมาทางผม ผีเข้ามึงหรอ หรือเป็นอะไรของมึง อย่าชักตายนะมึง กูกลัวผี



“มึงรู้เรื่องกูกับเสือได้ไง”  แม่ย้อยแล้วไอ้เอม เจ็บไข่เลยไหมล่ะกู พรั่งพรูแบบไม่มีหูรูดก็เป็นงี้



ผมที่ได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไปให้มันแล้วกระพริบตาสองปริบ



“แหะๆ เพื่อนเก้อคือกูไม่ได้ตั้งใจ แบบว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ”



“สัดเอ้ย” มันที่สบถออกมาแบบนั้น ก่อนจะหันไปทุบพวงมาลัย หูย ดูโมโหกันอ่ะเนาะ



“มึง ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงกูก็รู้แล้วป่ะ ใช่ว่ากูจะเอาไปพูดที่ไหนนี่หว่า อีกอย่างนะมึงจะได้มีเพื่อนช่วยคิดไง เนี่ย แล้วมึงกับน้องเสือจะเอายังไงวะ จะแบบนี้จริงดิ ที่กูถามว่ามึงเสียใจไห...”



“พอเหอะเอม อย่าพูดอีกเลยว่ะ แม่งจบละ” หันมาบอกกันแบบนั้น ตัดบทความอยากเสือกของกูแบบหน้าตาเฉย มันที่เข้าเกียร์รถอีกครั้งแล้วเริ่มต้นขับต่อไปแบบไม่สนใจกันอีก จริงๆสภาพกูเหมือนผีในรถ คืออยากถามอะไรสักอย่างแต่มันไม่อยากพูดด้วยครับ เพราะแบบนั้นกูเลยต้องหุบปากนั่งอมลิ้นต่อไปจนถึงคอนโด แม่งเอ้ย เจ็บไข่นัก!



               ไอ้เก้อขับรถมาส่งผมที่คอนโดพี่ดาบ ลงจากรถมัน มันก็ไม่สนใจใยดีผมอีก แค่มาส่งแล้วก็จากไปอย่างไว ใช่ซี่ กูไม่ใช่น้องเสือมึงนี่ อยากจะพูดแบบนี้ครับ แต่พูดไม่ได้กลัวมันต่อยปากเอา ...



“หิวว่ะ” ลูบท้องพร้อมๆกับเดินไปเข้าไปในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด คิดว่าจะหาซื้อพวกอาหารสำเร็จก่อนขึ้นห้อง ไม่รู้ว่าพี่ดาบมันอยู่ไหมด้วยแหล่ะ เพราะงั้นเลยหาข้าวกันตายขึ้นไปดีกว่า เดินเลือกซื้อนู่นนี่นั่นจนผ่านมาถึงโซนขนม รู้สึกอยากกินอะไรสักสองสามอย่างครับเลยเข็นรถเข้าไป แต่พอเข้าไปแล้วกลับเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นเข้าว่ะ กูถอยออกดีไหมเนี่ย



“อ้วนแบบนี้แล้วยังจะกินไม่หยุด นี่ถามจริงเหอะ สภาพแบบนี้ทำไมถึงกล้ามาคบกับพี่อู๋”



“โทษทีนะเจ๊ อยากรู้ขนาดนั้นทำไมไม่ไปถามไอ้ลุงมันเอาเองวะ”  อีกคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาตอบออกมาแบบนั้น  ท่าทางที่ดูหงุดหงิดแต่ในมือก็ยังหอบถุงขนมถุงใหญ่หลายยี่ห้อเอาไว้ในมือ



“ก่อนพี่อู๋จะไปหาน้องอ่ะ เค้าก็คบอยู่กับพี่นะ คิดดูเหอะว่าเค้าจะมาจริงจังกับน้องแน่หรอ”



“ผมก็ไม่รู้อีกอ่ะ เจ๊ก็ไปถามมันดูเอาดิ” น้องคนนั้นยังตอบแบบนั้น แต่คนที่เริ่มหันมามองมาขึ้นก็ทำเอาไอ้เด็กที่หอบขนมอยู่นั่นเริ่มมีสีหน้าไม่ดี ท่าทางที่อยากเดินหนีออกมา และตอนที่น้องมันหันหลังเดินหนี กลับสะดุดเท้าของผู้หญิงคนนั้นที่ยืนมากันขาน้องมันจนล้มถลาลงไปกับพื้น ไอ้สัด...นี่มันละครหรอวะ ไอ้เอมเจ็บไข่เลยสาด



“เห้ยน้อง เป็นอะไรเปล่า” เป็นผมเอง ใช่ ไอ้เอมแม่งเป็นฮีโร่อีกแล้วจ้า วิ่งถลาเข้าไปช่วยประคองน้องมันที่ตอนนี้ถุงขนมกระจายไปคนละทิศละทาง แม่งมีทั้งกล่องเล็กกล่องใหญ่ คือทำไมมึงไม่ใส่ตระกร้าวะ



“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก” น้องมันว่าแบบนั้นแล้วพยายามเก็บขนมมาถือไว้อีก มึงก็ยังจะห่วงของแดกอ่ะเนอะ ผมประคองน้องมันลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นนิ่งๆ



“มองอะไรไม่ทราบ” เธอว่าออกมาแบบนั้น ไอ้เอมนี่ขมวดคิ้วเลยนะ หน้าตาก็สวยทรงก็ดีอ่ะ แล้วมันเป็นอะไรถึงมาทำตัวเป็นนางร้ายหลังข่าวแบบนี้วะ ผู้หญิงสมัยนี้ดูละครมากไปป่ะครับ



“ผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณต้องเอาเท้ามากันน้องมันด้วย หน้าตาก็ดี ทำไมไร้มารยาทงี้อ่ะครับ” ถามออกไปแบบนั้น คือกูแค่สงสัยไง



“แล้วมาเสือกไรด้วยอ่ะคะ หรือเป็นพวกเดียวกับไอ้เด็กนี่ เป็นเกย์เหมือนกันรึไง” เธอว่าออกมาแบบนั้นแล้วมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า



“เห้ยเจ๊ พี่เค้าไม่รู้จักผมนะ พูดไรให้เกียรติคนอื่นบ้างเหอะ ... พี่ผมขอบคุณมากนะครับ ผมไม่เป็นไรพี่ไปเถอะ” น้องมันหันมาหาผมพร้อมยกมือไหว้ ... แม่งเอ้ยเด็กดีมีมารยาทที่หิวของแดกอ่ะ



“ใช่ผมเป็นเกย์” ผมเมินไอ้น้องนี่ไปแล้วหันไปตอบเธอ



“ว่าแล้วเชียว แหม เป็นแบบเดียวกันเลยต้องช่วยกันหรอคะ น่ารังเกียจ”



“เห้ยเจ๊!”  ไอ้เด็กข้างๆดูโมโหขึ้นมา หน้าตาน่ารักๆของมันกับแก้มป่องๆที่พองขึ้น มันที่ทำท่าจะตรงเข้าไปหาคนตรงหน้าที่ดูกำลังจะสนุกปากกับคำถากกางคนอื่น รอบๆตัวของเราเริ่มมีคนหันมามองเรามากขึ้น บางคนก็เริ่มจะยกมือถือถ่ายคลิป งี้แหล่ะครับ โลกสมัยใหม่อะไรๆมันก็ไวแบบนี้แหล่ะ



“ผมก็ไม่ได้รู้จักคุณ ไม่ได้รู้จักไอ้น้องนี่ด้วย แค่ผ่านมาแล้วเห็นพฤติกรรมน่ารังเกียจของคุณเฉยๆอ่ะนะ ผมว่าพวกผมหรือคนที่ชอบผู้ชายด้วยกันแบบผมไม่ได้ดูน่ารังเกียจเท่าคนแบบคุณเลยนะ โตมาในสังคมแบบไหนอ่ะครับ โลกมันเปิดกว้างแล้วนะ เปิดใจบ้างเถอะคุณ แค่การที่ผู้ชายรักกันมันไม่ได้น่ารังเกียจเท่าคุณที่มาตามระรานใครอีกคน เพียงเพราะผู้ชายไม่เอาคุณแล้วหรอกครับ”



“แก! คิดว่าตัวเองเป็นใคร รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร รู้ไหมว่าฉันลูกใคร!” ผมนี่ทำท่าซูดปากแล้วหันหน้าเข้าไปในกล้องโทรศัพท์ของเจ๊คนข้างๆที่กำลังยืนถ่ายอยู่แถวนั้นเลย พ่อใหญ่อ่ะเนาะ



“พ่อคุณใหญ่โตหรอครับ ใหญ่ขนาดนั้นพ่อเป็นปลาวาฬหรอ”



เอียงหน้าถามแล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นจากด้านหลังของผมก็คือไอ้น้องที่หอบขนมและคนรอบข้างที่มุงดูพวกเราอยู่  อิเจ๊คนตรงหน้าโมโหควันออกหู แต่ตอนนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รปภ.ของห้างเดินเข้ามา สถานการณ์เลยคลี่คลายลงพร้อมๆกับเจ๊คนนั้นที่รีบสับขาหนีไปพร้อมๆกับเสียงวิจารณ์ถึงคนที่ยังไม่เปิดโลกและเปิดใจกับเพศที่สามมากพอ



“ขอบคุณนะครับพี่”



“เห้ยไม่เป็นไรน้อง ขอโทษที พอดีพี่ก็เสือกอ่ะ” ยิ้มให้แหยๆ เพราะเสือกจริง ... แต่พอได้ยินประเด็นนี้แล้วมันอดไม่ได้ เลือดในกายมันพลุ่งพล่าน ผมเผลอคิดถึงแม่พี่ดาบที่ไม่ยอมรับผมกับพี่มันสักที



“กุญแจ มีเรื่องอะไรกัน แม่ได้ยินเค้าพูดกันทั่วห้าง” เสียงของคนมาใหม่ที่ทำเอาหลังผมเย็นวาบ พอหันไปมองละก็ใช่เลย ชัดเป๊ะทุกองศา



“เธอ”  หญิงสาวอายุมากแต่ยังสวย และมีเค้าโครงหน้าเหมือนกับอิเจ๊พี่มันเด๊ะๆ เจอแค่ครั้งเดียวแต่ก็จำฝังใจ กูที่ส่งยิ้มแหยๆไปให้ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้อย่างสุภาพ



“สวัสดีครับคุณป้า”



“หื้ม แม่รู้จักพี่คนนี้ด้วยหรอ พี่เค้าอย่างเจ๋งเลยอ่ะแจไม่อยากจะอวด” น้องมันว่าแบบนั้นพร้อมกระชับถุงขนมในอ้อมกอดพร้อมบอกกับแม่พี่ดาบแบบนั้น ... เดี๋ยวนะ แม่หรอวะ



“รู้จัก จะไม่รู้จักได้ไง ก็นี่แฟนพี่ชายแก”



“หื้มมม แฟนเฮียปืนหรอ”



“เฮียดาบสิคะอิดอกหมู! นั่นมันเมียกู ว่าแต่มาชุมนุมกันอะไรตรงนี้คะสังคม!”  และเสียงสองที่ดังลอยมาแบบใส่อารมณ์ก็ทำเอาเราทั้งสามคนต้องหันไปมอง พี่ดาบที่มือนึงถือตระกร้าสีส้มของห้างเอาไว้ในมือ หัวฟูๆของมันที่มาพร้อมๆกับเสื้อยืดสีดำคอกว้างๆที่ทำให้มองเห็นไหปลาร้า เซ็กซี่สัดๆ พร้อมๆกับกางเกงบอลและรองเท้าแตะ สภาพอะไรของมึง...



ผัวมาก



ใช่ครับ ผัวไอ้เอม อิอ๊ะ



ว่าแต่ว่า...เรามาชุมนุมอะไรกันตรงนี้วะเห้ย! ดูจากสถานการณ์แล้ว กูว่าไม่ง่าย ไม่ง่าย มีเจ็บไข่แน่ๆเลยงานนี้ ฮึ่ม!





-TBC-

-----------------------



มาน้อยแต่มานะ

ดาบ: หมายถึงกูเนี่ยค่ะ มาน้อยแต่มานะ แหมมมมม ให้กูมาประโยคเดียวของตอนนี้ ลืมหรือไงกูเป็นนางเอกนะคะ!

แคท: พล็อตมันมาแบบนี้ไงเจ๊ อย่าบ่นมากได้ไหม เดี๋ยวหางานให้นะโว้ย

ดาบ: ก็หาให้กูทุกตอน ขอให้กูใช้ชีวิตสงบๆกับควายน้อยบ้างได้ไหมคะ

แคท: รักน้องเอมมากว่างั้น

ดาบ: ไม่อยากจะบอกหรอกกลัวมันเขิน แต่ถ้ามันอยากได้หญ้า ก็จะปลูกหญ้าไว้ให้มันแดกเลยค่ะ

เอม: มึงเก็บไว้กินเองเถอะโว้ย โง่นัก!

ดาบ: กรี๊ดดดด เมียด่า ก็คือรักมาก ดูออก ... แล้วนี่ยังไง เม้นท์ค่ะ สวยรออ่าน อย่าช้านะเอดอกกก

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า






CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
  :hao3: อิเจ๊อาจเข้าใจผิด เมียด่าไม่ใช่เมียรักมาก แต่คือ เมียรำคาญมึงมากๆค่า  :z6:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะดราม่าอีกเปล่าน้อ?

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
อิเจ้รีบ ๆ ทำให้ชัดเจนใครคือปัจจุบัน ใครคืออดีต อยากให้อดีตมาทำร้าปัจจุบันสิค่าอิพี่เจ้มึง #อิเจ้ตบเรียงตัวช่วยเมียค่า

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
เอมได้กองหนุนเพิ่มแลม มาบ่อยๆ นะคะ คนเขียน  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

บทที่39



     บรรยากาศตรงหน้าที่เรียกได้ว่าอึมครึม สายตาของผมที่มองไปทางซ้ายทีมองไปทางขวาที แล้วก็ต้องกลับมามองตรงหน้า สบตาเข้ากับไอ้หมู ไอ้น้องแจ น้องชายของผมที่ก็มองกลับมาแล้วเราก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกันอีกครั้ง



“แม่ครั...”



“ผมว่าพวกเราแทบจะหายใจไม่ออกกันอยู่แล้วนะครับ ไม่ไหวเลย ไอ้เอมจะเป็นลมแล้วนะหึ่ย”



ในตอนที่ผมกำลังจะพูดอะไรสักอย่างออกไปเพื่อทำลายบรรยากาศที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไอ้เด็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ทางซ้ายมือของผมก็โพล่งออกมาขัดคำพูดของผมเอาไว้ซะก่อน มันที่พูดออกมาแบบนั้นทำเอาผมกลั้นยิ้มเอาไว้แทบไม่อยู่ ไอ้ท่าทางที่มาพร้อมๆ กับดวงตากลมโตของมันที่มองตรงไปที่หน้าแม่ของผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมันบนโต๊ะอาหารของเรา ท่าทางของมันที่กำลังบอกว่าอึดอัดจริงๆ จนแม่ผมเหวอไปเล็กน้อย



“อ่ะ...”



“คุณป้าก็ช่วยวางตัวสบายๆ หน่อยเถอะครับ คุณป้าทำแบบนี้ก็ไม่มีใครสบายใจหรอก ถ้าจะรำคาญหน้าผม งั้นผมไปแกะกับข้าวแทนละกันครับ” มันว่าออกมาแบบนั้นอีก เป็นท่าทางที่โคตรน่าเอ็นดูในสายตาของผม ไอ้ปากยื่นๆ ที่พูดมุบมิบเหมือนคนกำลังน้อยใจแบบที่ชอบทำ สายตาที่มองค้อนแม่ผมหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับไร้มารยาท ท่าทางที่บอกว่ามันกำลังน้อยใจ ไอ้เอมที่พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนีเข้าไปในครัว



“หึ แค่นี้ก็ต้องทำหน้าตาแบบนั้นใส่ด้วยหรือไงนะ” แม่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นกอดอก



“ก็ถูกของพี่เอมนี่ แม่ก็จะแผ่รังสีอึดอัดออกมาทำไมก็ไม่รู้ แจหิวข้าวอยากกินข้าว แม่ทำแบบนี้ใครจะไปกินลง”



“ฉันยังไม่เห็นว่าแกจะกินอะไรไม่ลงเลยนะตั้งแต่เกิดมา” แม่หันไปว่าน้องผมแบบนั้น ไอ้แจที่แค่ยักไหล่ใส่ “ก็ถูกของแม่อ่ะนะ” ตอบแม่ไปแบบนั้นแล้วแจมันก็ลุกขึ้นเดินหนีออกไปจากโต๊ะอาหาร ทางที่มันไปก็คือในครัว หันมามองหน้าแม่ของผมที่ก็ทำแค่ถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหัว เรามองหน้ากันในตอนนี้



“มองหน้าแม่ทำไม หรือจะไม่พอใจอะไรแม่อีก”



“ผมไม่เห็นเมียดีกว่าแม่หรอก”



“ดาบ”



“ครับ แม่ไม่ชอบหรอฟังหรอ แต่มันเมียผมจริงนะ” มองหน้าแม่ที่ขมวดคิ้วนิดหน่อยแล้วส่ายหน้านิดๆ



“ดูก็รู้แหล่ะ ถ้าดาบไปเป็นเมียเค้า ก็ไม่รู้จะพูดยังไง”



“แม่อย่ามองแค่สรีระน่า คนเรามันจะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ มันอยู่ที่ใจใครจะมากำหนดอะไรมันได้” ผมพูดออกไปแบบนั้น และในตอนนั้นที่เราสองคนจ้องตากัน ผมมองเห็นสายตาของแม่ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็แค่เล็กน้อย... แต่ถึงแบบนั้นมันก็มีการเปลี่ยนแปลง



“แม่มาหาผมวันนี้มีอะไรครับ” ถามออกไปแบบนั้น เพราะก็อยากรู้ว่าทำไมแม่ถึงมาอยู่ในห้างข้างๆ คอนโดผม



“แล้วแม่จะมาหาบ้างไม่ได้หรือไง”



“มันก็ได้ แต่ก็แค่สงสัย”



“แม่ก็แค่อยากรู้ว่าดาบอยู่ยังไง มีชีวิตยังไง มันก็แค่นั้น” แม่พูดออกไปแบบนั้นแล้วเสหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางแบบนั้นที่ทำให้ผมอมยิ้มออกมา อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดของพ่อ .. ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ..



“คุณป้าอยากจะทานกาแฟไหมครับ” ไอ้เอมที่โผล่หน้าออกมาจากห้องครัว ส่วนตัวมันยังยืนอยู่ในครัวแบบที่เรามองไม่เห็น ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็อยากจะถามของมันแบบนั้นทำแม่ผมถอนหายใจออกมา



“กินอยู่แล้ว พี่เอมทำเถอะ แม่น่ะชอบลาเต้มากๆ เลย” ไอ้หมูแจที่ยังอยู่ในครัวพูดออกมาแบบที่เรามองไม่เห็นตัวมันด้วยซ้ำ



“โอเคเลย ดีนะพี่ดาบมีเรื่องชงกาแฟอยู่พอดีเลย” ไอ้เอมหันไปตอบรับกับน้องแจแล้วผลุบหน้ากลับเข้าไปในครัวทั้งแบบนั้น แม่ของผมมองตามไปแล้วถอนหายใจออกมา



“แฟนเราทำเป็นหรือไง”



“ไม่รู้สิ แม่อยากรู้ก็ไปดูเองสิครับ มันไม่กัดแม่หรอกน่า เราแค่ชอบผู้ชายด้วยกันครับ ไม่ใช่หมาบ้า” แม่มองค้อนมานิดหน่อยตอนที่ผมพูดออกมาแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมลุกออกไป



“แม่ครับ”



“หื้ม”



“เปิดใจหน่อยนะแม่ แล้วแม่จะเห็นว่ามันไม่ได้แตกต่างอะไร แล้วไอ้เอม มันก็เป็นเด็กน่ารักมากกว่าที่แม่คิด” ผมบอกออกไปแบบนั้น มันก็เป็นแค่ความหวังเล็กๆ ก็แค่เรื่องนึงที่ผมอยากจะพูด



แม่เงียบไปช่วงระยะหนึ่ง เป็นแค่หนึ่งช่วงอึดใจ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนานมากๆ จนหายใจไม่ออก ก่อนที่สุดท้ายแม่จะทำแค่พยักหน้าแล้วพูดออกมาเบาๆ



“อื้ม แม่จะลองดู”



ไม่กี่คำสั้นๆ ที่แม่พูดออกมาแบบนั้น แต่หัวใจของผมกลับเบาหวิว เหมือนอะไรบางอย่างในหัวใจของผมถูกโยนทิ้ง มันเบามากกว่าทุกวันที่เคยเป็น สุขมากกว่าทุกวันที่เคยมี เรียบเรียงในสมองไม่ถูกด้วยซ้ำว่านี่คือเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก แต่ถึงแบบนั้น ผมกลับมาความสุขมากซะจนหุบยิ้มไม่ได้



“ยิ้มอะไรของพี่วะ น่ากลัวจะอ่ะ” ไอ้แจที่เดินถือแก้วโกโก้หอมๆ ออกมาสองแก้วเหลือกตามองหน้าผมอย่างตกใจ .. สติกูมาแล้วในตอนนี้



“น่ากลัวอะไร มึงไม่เคยเห็นคนสวยมีความสุขหรอคะ!”



“สวยอะไรวะ”



“สวยๆ เป็นผัวไอ้เอมค่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปขยิบตาให้น้องมันทีนึง ไอ้แจที่ได้แต่ยืนทำหน้าแหยยิ้มค้างอยู่ตรงนั้น เข้าใจและว่าตกใจในความสวยของพี่มัน ว่าแล้วกูก็ขอเอาผมทัดหูสักนิดนึงค่ะ



.

.

.



‘จึด จึดดด’



เสียงนมที่ถูกเครื่องตีนมไฟฟ้าตีปั่นขึ้นมาเป็นฟ้องดังกระทบกัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของนมที่ถูกตีจนเนียนหนืดทำให้ผมต้องยิ้มออกมาน้อยๆ ข้างๆ ตัวของผมมีหัวของเด็กที่แก้มกลมๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้กัน



“ว้าววว พี่เอมทำอะไรอ่ะ น่ากินจัง”



“ตีฟองนม เอาไปเทใส่บนกาแฟไง”



“คือต้องตีกับเครื่องแบบนี้หรอพี่” น้องแจ หรือกุญแจ เป็นน้องชายคนเล็กของอิเจ๊พี่มันครับ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอ และใช่...น้องมันน่ารักดี และใช่ เป็นคนที่ดูแตกตื่นกับของกินฉิบหายเลย เหมือนเช่นตอนนี้ที่ตากำลังเป็นประกายที่เห็นนมในPitcherที่ถูกตีเรียบร้อยแล้ว ผมเคาะPitcher เพื่อไล่โฟมนม และหมุนนมในPitcherให้เซตตัวพอดี



“ใช่แล้วล่ะ เพราะถ้าตีกับที่ตีแบบอื่น มันจะใช้แรงตีทำให้ออกซิเจนเข้าไปแล้วฟู ส่วนหัวสตรีมอันเนี้ยมันคือน้ำร้อนเป่าเข้าไปทำให้นมเดือดแล้วแยกชั้น เครื่องตีโฟมมันจะหยาบๆ ทิ้งไว้นานๆ มันจะแฟ่บกลายเป็นน้ำ แต่ถ้าหัวสตรีมอ่ะ โฟมมันจะครีมมี่ ทิ้งไว้นานๆ มันจะเกาะตัวหยาบขึ้น แต่ไม่กลายเป็นน้ำ เพราะมันเป็นส่วนไขมันของนม”



“โห พี่เอมเก่งจังอ่ะ” น้องแจเบิกตากว้างขึ้นตอนที่ผมพูดจบ สีหน้าที่กำลังชื่นชมกันจริงๆ แบบที่ผมไม่ค่อยได้รับจากใครเท่าไหร่ทำให้ผมยิ้มออกมาในตอนนี้ ก่อนที่ผมจะใช้ช้อนตักฟองโฟมลงแก้วโกโก้ที่ก่อนหน้านี้ชงไว้แล้ว และใช้ช็อคโกแลตราดให้เป็นลายสวยๆ บนหน้าฟองนมนั้นแล้วยื่นให้กับน้องแจ



“อะ อันนี้ของเรา”



“โหยยย สุดยอดไปเลย ขอบคุณนะครับ” น้องรับไปอย่างตื่นเต้นพร้อมยิ้มตาปิด เป็นเด็กที่ดูน่ารักเวลาอยู่กับของกิน



“ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยหรอเรา” เสียงของคนมาใหม่ทำให้ผมต้องหันไปมอง ... แม่พี่ดาบที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ไม่ไกลจากผม สายตาของคุณป้ามีแววคลางแคลงนิดหน่อยในตอนที่มองไปที่แก้วในมือที่ลูกชายคนเล็กของเธอถืออยู่



“ก็พอทำได้ครับ” ผมตอบออกไปแบบนั้น แต่น้องแจมันกลับส่ายหน้า



“ไม่จริงอ่ะ นี่ยังกับตามร้านแบรนด์หรูๆ ในห้างเลยนะแม่ ดูสิครับ”



“น้อยๆ หน่อยเรา เสร็จแล้วก็เอาออกไปให้พี่เรากินด้วยเลยไป” คุณป้าว่าแบบนั้น น้องแจมองซ้ายทีขวาที สายตาที่หันมามองหน้าผมอ้อยอิ่งเล็กน้อยเหมือนไม่อยากไป เห็นแบบนั้นแล้วผมยิ่งรู้สึกถูกชะตากับน้องชายของพี่ดาบมันแบบบอกไม่ถูก แต่ถึงแบบนั้นผมก็ทำแค่ยิ้มแล้วส่งแก้วลาเต้ร้อนอีกแก้วไปให้น้องแจมัน



“พี่ทำเสร็จพอดี เอาไปให้พี่มันหน่อยนะ” บอกน้องมันไปแบบนั้นแล้วยื่นแก้วไปให้น้องมัน น้องแจที่รับแก้วผมไปแบบจนใจ มองหน้าแม่ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป



“อะไรกัน เจอกันแป๊บเดียวนี่ดูจะถูกชะตากันจนไม่เห็นหัวฉันเลยนะ” คุณป้าเธอว่าแบบนั้น ผมที่ได้แต่ยิ้มน้อยๆ แล้วไม่พูดอะไร ก็แค่หันกลับไปเอาเอสเปรสโซ่สองชอตใส่เข้าไปในเครื่อง รอให้กาแฟไหลลงมาใส่แก้ว



“คุณป้าอยากทานแบบเย็นหรือแบบร้อนดีครับ” ผมหันไปถามพร้อมส่งยิ้มให้ แม่พี่ดาบที่มองหน้าผมนิดๆ



“เย็นก็ได้”



“ครับ” ได้แต่ตอบรับออกไปแบบนั้น แล้วหันไปตั้งใจทำลาเต้ให้ท่าน เราสองคนที่ยืนอยู่เงียบๆ โดยไม่มีใครพูดอะไรกัน กูล่ะอึดอัดซะจนอยากจะโพล่งออกไปว่า โย่วว็อทซับแม่พี่ดาบฮัลโหล แต่ก็ทำไมไม่ได้ไงล่ะเอ้อ



“ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นกับผู้หญิงคนนั้น”



“หื้ม อะไรนะครับ” ไอ้เอมคือเลิกคิ้วสูงเลยครับ อะไรเอ่ยอยู่ๆ ก็โพล่งออกมาแบบนั้น ไหนประธานไหนกรรม นี่ประโยคคำถามใช่ไหมเอ่ย แล้วคือถามกูหรอครับ ... ว่าแต่ผู้หญิงที่ไหนเอ่ย



“เฮ้อ ทำหน้าตาเหลอหราซะจริง” เอ้า ถอนหายใจใส่กูไปอีก พอทำหน้าตาแบบนี้แล้วเหมือนพี่ดาบเลยครับ พี่ดาบตอนด่าผมว่าโง่เหมือนควายอ่ะ หึ่ย มันได้ยีนส์กันมาแบบนี้สินะ



“คือ...ผมไม่เข้าใจว่าคุณป้าพูดถึงอะไรหรอครับ” กูโง่ก็ผิดหรอ จิตใจอ่ะสังคม



“วันนี้ในห้าง ทำไมถึงพูดแบบนั้นแจล่ะ เธอไม่รู้จักกับแจมาก่อนซะหน่อย ทำไมต้องช่วย” อ้อออ....ไอ้เอมนี่ถึงบางอ้อ ที่แท้ก็เจ๊ผู้หญิงคนสวยที่สะกัดขาน้องแจนี่เอง



“ก็ไม่ทำไมครับ แต่ผมว่ามันไม่ถูก คนเราไม่ว่าจะเพศไหนก็ไม่ควรโดนแบบที่แจโดน ผมคิดว่าทุกคนเป็นคนเท่ากันครับ ไม่ว่าเราจะมีรสนิยมความชอบแตกต่างกันมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็คือคนครับ นี่ปี2020แล้ว แต่ถ้ายังมองโลกแคบๆ อยู่ เราจะไปสู้ใครได้ล่ะครับ โลกนี้มันโหดร้ายจะตาย อ่อนแอก็แพ้ไปสิ ใครมันจะไปยอมล่ะ หึ่ย ตอนเด็กๆ พ่อกับแม่ผมพูดเสมอเลยว่าให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและเคารพในความรู้สึกของตัว แล้วคนอื่นเป็นใครล่ะครับถึงมีสิทธิ์มาพูดจาแบบนั้นใส่เรา พูดละมันขึ้นๆ เลยนะ ฮึ่มฮั่มเลย อ...เอ่อ...ขอโทษครับ” กูที่พูดรัวๆ ออกไปตามความคิดแบบนั้น พอตักฟองนมที่พึ่งสตรีมใส่แก้วเสร็จแล้วจบท้ายด้วยการโรยผมกาแฟลงบนฟองนมสวยงาม หันกลับมาก็เจอหน้าแม่พี่ดาบที่มองกันนิ่งๆ อยู่ ฉิบหาย ปากกูก็ไม่เคยจะสมานฉันท์กับสมองอยู่แล้วอ่ะ พูดไปแบบนั้นป้าแกจะคิดว่ากูด่าแกอีกป่ะ หึ่ย กูอยากเอาหัวจุ่มลงไปในถ้วยกาแฟ



“เอ่อ...ก...กาแฟครับ” ผมหลุบสายตาหลบดวงตาวาววับของแม่พี่ดาบที่มองตรงมา ท่าทางที่เหมือนเวลาเราโดนครูห้องปกครองมองเวลาทำผิด ไอ้เอมนี่ก้มหน้ามองตีนเลย แต่คือมือก็ยื่นแก้วกาแฟลาเต้เย็นส่งไปให้ด้วย



“ทำเก่งดีนี่” แก้วกาแฟถูกรับไป พร้อมกับคำชมแรกที่ได้รับจากแม่พี่ดาบ เป็นคำพูดชมธรรมดาจริงๆ ที่ไม่มีแววประชดประชันกันอยู่ในนน้ำเสียง ผมที่ค่อยๆ โผล่หน้าขึ้นมามองแบบล่อกแล่กไปแว๊บนึง กระพริบตาสองปริบมองหน้าของพี่ดาบค่อยๆ หยิบหลอดขึ้นดูด สีหน้านิ่งๆ ของคุณป้าที่ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาทีละน้อยๆ ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ เธอที่หันมาเห็นผมจ้องอยู่ชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้ากลับไปเป็นแบบเดิม ... ปัดโถ่เอ้ย ทำเป็นเข้ม



“อร่อยใช่ไหมล่ะครับ”



“หลงตัวเองจังเลยนะเธอเนี่ย”



“ปัดโถ่เอ้ย คุณป้าอย่าปากแข็งเลยครับ ผมดูออกน้า” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ไปให้ อีกฝ่ายที่ถลึงตาใส่กันเล็กน้อย แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลยครับ ผมหันกลับมาเก็บกวาดของทำความสะอาดตรงเครื่องชงกาแฟให้เรียบร้อย



“แต่ก็จริง กาแฟนี่อร่อยมาก”



“หื้ม คุณป้าชมหรอ ขอบคุณครับ” หันหัวกลับไปในทันใด จะไปฉีกยิ้มให้เธอในทันที



“เคยเรียนมาหรอ กาแฟนี่”



“เปล่าหรอกครับ พอดีเอม เอ่อ..หมายถึงผมเคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟมาก่อนครับ ทำมานานเลยรู้วิธี”



“เคยทำงานร้านกาแฟด้วยงั้นหรอ”



“ครับ หลังจากพ่อกับแม่เสียผมก็อยู่กับป้า แต่ว่าก็หาเงินใช้เองครับ จนตอนนี้ได้มาทำงานกับพี่ดาบครับ” บอกออกไปแบบนั้น โดยที่ไม่รู้สึกอายอะไร คุณป้าที่ยังคงมองจ้องหน้าผมอยู่แบบนั้น ในสายตาที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร แต่ผมก็เลือกจะพูดต่อ



“ผมรู้ว่าคุณป้าคงไม่ชอบผม และไม่สบายใจกับการคบกันของผมและพี่ดาบ ถึงตัวผมจะไม่มีหลักประกันอะไรมาบอกได้ว่าเราจะรักกันไปจนตาย หรือผมจะไม่ทำให้ครอบครัวของพี่มันต้องอายที่มีผมเป็นแฟน แต่ผมแค่อยากจะบอกว่าในตอนนี้ผมไม่มีแผนว่าจะเลิกกับพี่มันครับ ต่อให้คุณป้าบอกว่าไม่ยอม แต่ผมก็จะไม่ถอดใจไปจากพี่มัน ผมต้องขอโทษจริงๆ นะครับที่ต้องพูดแบบนี้”



“เธอ....”



“ไม่ใช่ว่าเพราะพี่มันรวย แต่เป็นเพราะว่าพี่มันเป็นคนดีที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้มันยังน่าอยู่ขึ้นอีกวัน ก็เพราะว่าผมยังมีพี่มันอยู่ข้างๆ ... พี่ดาบถึงมันจะดูไม่สนใจอะไร แกล้งทำตัวบ้าๆ บอๆ ไปแบบนั้น แต่ผมรู้ว่าพี่มันแคร์ความรู้สึกคุณป้าและครอบครัวมากๆ เลยนะครับ” ผมพูดออกไปแบบนั้นตามที่ใจผมคิด ก็แค่อยากย้ำชัดๆ ให้ท่านเข้าใจถึงความสัมพันธ์นี้ของผมกับพี่มัน



“ผมขอโทษที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณป้ากับพี่มันต้องทะเลาะกันครับ ถ้าให้เลือกได้ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ถ้าให้เลือกใหม่ได้ ผมก็ยังจะรักพี่มันอยู่ดีครับ”



แม่พี่ดาบที่จ้องหน้าผม สายตาของเธอมีน้ำเอ่อคลอนิดๆ ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง ในมือของเธอที่ยังคงถือแก้วกาแฟเอาไว้ในมือทั้งสองข้างประคองมันไว้อยู่แบบนั้น สายตาเหม่อลอยมองออกไปที่อื่นไกลๆ ทั้งๆ ที่ในห้องครัวนี้ไม่มีที่ให้มองไกลได้ขนาดนั้น คุณป้าถอนหายใจออกมาแบบหนักใจ



“มันไม่ง่ายสำหรับฉันเลยรู้ไหม ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กนั่นที่ฉันคลอดมาเองจะโตขึ้นมาเป็นแบบนี้” คุณป้าพูดออกมาเบาๆ ในที่สุด เสียงที่พูดเหมือนพูดกับตัวเอง ในน้ำเสียงมีแววหนักใจและกดดัน ผมเข้าใจดี



“ตาดาบตอนเด็กๆ เป็นเด็กยิ้มง่าย ไม่ค่อยงอแงและก็ชอบอ้อนแม่มากๆ ฉันคาดหวังให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กดีเรียนเก่งและมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ”



“ขอโทษครับ” ผมเข้าใจดี และก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรออกไปนอกจากคำนี้



“มันไม่ง่ายสำหรับฉันเลยจริงๆ ... แค่คนเดียวฉันก็หนักใจแล้ว แต่นี่ถึงสองคน ตอนที่ฉันรู้ฉันคิดแต่ว่าคนรอบข้างจะมองเรายังไง มองลูกฉันยังไง ยิ่งฉันพยายามมากแค่ไหน ลูกก็ยิ่งห่างฉันไปมากขึ้นเท่านั้น” คุณป้าว่าออกมาแบบนั้นแล้วค่อยๆ หันกลับมามองหน้าผม สีหน้าที่มีแววหนักใจ สับสนอยู่ในนั้น



“จริงๆ เธอไม่ต้องพูดว่าขอโทษหรอก ต่อให้ไม่มีเธอ ตาดาบก็ไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงหรอก ฉันเคยพาไปดูตัวตั้งหลายทีก่อนหน้านี้ แต่รู้ไหมว่าสุดท้ายเป็นไง” ผมส่ายหัว แม้ว่าจะแอบคิดๆ ไว้ว่าคนแบบพี่มันน่ะ...



“แต่งหน้าทาปากแดงมาวี๊ดว้ายใส่จนฉันอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนน่ะสิ” กูว่าละ แบบมันน่ะนะ ต้องคิดว่าตัวเองสวยกว่าคู่ดูตัวแน่ๆ ล่ะครับ



“เฮ้อ...มันทำใจยากจริงๆ”



“ครับ ผมเข้าใจ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วคุณป้าก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มไปอีกอึก



“แต่ฉันจะพยายาม พ่อของตาดาบน่ะชอบเธอมากรู้ไหม เค้าพูดกับฉันว่า ถ้าคนเป็นพ่อแม่ยังไม่เข้าใจลูก แล้วเรายังจะเหมาะที่จะเป็นพ่อแม่เค้าได้อีกหรอ ฉันถึงมาที่นี่วันนี้ มาดูให้เห็นเองกับตาว่าเธอมีดีอะไร เด็กที่ไม่มีพ่อแม่เติบโตขึ้นมาเองแบบเธอ มีอะไรดีพอ” คุณป้าว่าออกมาแบบนั้น คำพูดแบบนั้นที่ทุกครั้งผมจะทำแค่ก้มหน้าหลบตา เพราะเถียงไม่ได้ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ทำแบบนั้น ผมแค่จ้องตามองท่านด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะตอบกลับออกไป



“ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมมีอะไรดี แต่ที่ผมรู้คือผมต้องมีแน่ๆ คนอื่นอาจจะไม่เห็น แต่คนที่เห็นชัดๆ ว่าผมมีอะไรดี คนๆ นั้นคือพี่ดาบ คงมีแค่พี่เค้าที่จะตอบได้ว่าผมมีอะไร” ตอบสวนกลับออกไปแบบนั้น แบบที่ว่าห้ามปากตัวเองไม่ทัน คุณป้าที่เลิกคิ้วขึ้นมานิดหน่อยในตอนนี้ทำเอาผมทำหน้าไม่ถูก กูมั่นใจมากๆ เลยนะที่ตอบไปเมื่อกี้



“หึ ฮ่าๆ ... ก็จริงแบบที่เธอว่านะ” และสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะออกมาที่ทำให้ผมหน้าเหวอไป เธอที่เดินเข้ามาใกล้ๆ กับผม แล้วยกมือขึ้นจับหัวไหล่



“ชะเอม มันอยากสำหรับฉันมากๆ แต่...ฉันจะพยายามเปิดใจให้มากกว่านี้”



“ห...ห๊ะ ครับ?” ละล่ำละลักพร้อมขมวดคิ้วไปแบบงงๆ อะไรนะ คือหมายถึงอะไรนะ ... คุณป้าที่ถอนหายใจทำหน้าหน่ายๆ ใส่ผมนิดหน่อยในตอนนี้ สีหน้าที่เหมือนกับพี่ดาบเดะๆ เวลารำคาญกัน



“บางทีเธอก็ดูฉลาด บางทีก็ดูโง่ๆ เอ๋อๆ นะ พูดด้วยแล้วเหนื่อยจริงๆ”



“เอ้า!”



“แต่ถึงแบบนั้น อย่างน้อยๆ วันนี้ฉันก็รู้ข้อดีอย่างนึงของเธอนะ” คุณป้าที่เดินไปถึงประตูห้องครัวพูดออกมาแบบนั้นก่อนจะค่อยๆ หันหน้ามามองกันแล้วส่งยิ้มมาให้น้อยๆ เป็นรอยยิ้มแรกที่ผมได้จากเธอ รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้ว่า พี่ดาบได้รอยยิ้มสวยๆ กินใจมาจากใคร



“กาแฟที่เธอทำ อร่อยมากกว่าที่ไหนๆ ที่ฉันเคยกิน”



“อ..อ่ะ เอ่อ ....ขอ..ขอบคุณครับ!”



“หึ และวันนี้ฉันยอมรับคำพูดของเธอนะ ที่เธอบอกว่า ทุกคนเป็นคนเท่ากันครับ ไม่ว่าเราจะมีรสนิยมความชอบแตกต่างกันมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็คือคน ฉันพึ่งเข้าใจคำนั้นชัดๆ ก็วันนี้ ที่ต้องเห็นลูกตัวเองโดนดูถูกแบบนั้น ขอบคุณที่วันนี้เธอปกปองตาแจ”



“อ...เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” ได้แต่ยกมือขึ้นมาเกาแก้ม รู้สึกเหมือนกูเป็นฮีโร่ ใจอิ่มฟูยันรูตูด ฮีโร่นักเสือกจะไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ!



“อ้อ...แล้วก็วันหลัง ไปที่บ้านสิ ฉันอยากกินกาแฟแบบนี้อีก” คุณป้าว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มให้ ผมได้แต่เบิกตากว้างขึ้นมาตอนที่ได้ยิน เดี๋ยวนะๆ ไปบ้าน...ชวนกูไปบ้านรึจ๊ะ



คือ...



คือ....คือ



“แบบนี้คุณป้าก็คือยอมรับผมแล้วหรอครับ เปิดใจให้ผมแล้วหรอครับ!” ตะโกนออกมาแบบนั้นในตอนที่คุณป้าจะก้าวขาออกไปจากห้องครัวด้วยเสียงที่ดังมากๆ เธอที่หันมามองหน้าผม เหมือนจะดุกันแต่ก็ไม่ ให้ความรู้สึกเหมือนคุณครูดุๆ แต่จริงๆ ก็หวังดี



“คิดเอาเองสิ เฮ้อ ให้ตายสิ แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่องหรอ ทำไมยิ่งมองแล้วเธอยิ่งเหมือนลูกควายนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ” ว่าจบแบบนั้นแล้วหันหลังเดินหนีกันออกไปจริงๆ แบบไม่สนใจจะพูดกับผมอีก



“เอ้า!”



แม่งเอ้ย!! ทั้งแม่ทั้งลูกเลยที่ด่ากูว่าควาย ไม่แปลกใจแล้วจริงๆ ว่าพี่ดาบมันได้นิสัยและจริตแบบนี้มาจากไหน ปัดโถ่เอ้ย!



.

.

.


(มีต่อจ้าา)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

‘คลิ๊ก’



เสียงปิดประตูหน้าห้องที่ดังขึ้นในที่สุดในเวลาสามทุ่ม ผมและอิเจ๊พี่มันก็ได้เวลาส่งคุณป้าและน้องแจกลับบ้านไปสักที



“เฮ้อออ กลับสักทีค่ะอิดอก กูนึกว่าแม่กูจะกลับชาติหน้า” เสียงถอนหายใจยาวๆ ที่ตามมาด้วยเสียงสองของคนที่ยืนซ้อนหลังของผมว่าออกมาแบบนั้นอย่างเหนื่อยๆ



“มึงเก่งมากๆ เลยค่ะหนู มึงทำยังไงแม่กูถึงกลายเป็นแม่คนปกติไม่ใช่มนุษย์ป้าข้างบ้านใจแคบ” มันยังคงว่าออกมาแบบนั้นอยู่ และคำพูดนั้นก็มาพร้อมๆ กับอ้อมแขนแข็งแกร่งที่สอดเข้ามาที่เอวของผม ตามมาด้วยใบหน้าคมที่ซุกลงที่ลาดไหล่



“เมียกูเก่งมากๆ เลยค่ะอิดอก กูอยากจะกรี๊ดให้กับเรื่องนี้ในรอบหกปีเลยค่ะ”



“พอ มึงกรี๊ดมาตลอดอยู่แล้ว ปล่อยโว้ย” พยายามดันตัวมันออกไปพร้อมๆ กับพยายามเดินกลับเข้าไปที่ห้องรับแขก แต่ไอ้มนุษย์หมีควายข้างหลังก็ไม่ยอมปล่อยกันไปสักที



“อื้อ อย่าสิคะอย่าดันกู คิดถึงมึงจะตาย จะมาปล่อยอะไรวะหนู ขอฟันหน่อยค่ะ”



“ปล่อยกูอิเจ๊พี่ดาบ”



“กรี๊ดๆ มึงอย่าข่วนหน้ากูค่ะ”



“ถ้าไม่ปล่อยกูจะข่วนให้มึงหน้าแหก” ว่าแบบนั้นแล้วพยายามยันหน้าที่ซุกลงมาที่ซอกคอของผมออกไป ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดกันแบบเรียกได้ว่ามันตั้งใจมากๆ มาพร้อมๆ กับริมฝีปากหยักที่ขบเม้มเบาๆ แบบทำให้ขนลุกวาบไปทั้งหลัง



“อย่าทำสวย กูผัวมึงนะ!”



“มึงปล่อยกูสัดพี่ดาบ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” ผมที่เลิกดิ้นว่าออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่เล่นกับมันอีกต่อไป คนที่ยังกอดยังซุกตัวผมจากทางด้านหลังชะงักไป ก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกช้าๆ



“มึงอย่าทำเสียงแบบนี้ได้ไหม กูกลัวนะคะ”



“ไปนั่งที่โซฟาตัวนู้นดีๆ ผมเหนื่อยมาก แต่เราต้องคุยกัน”



“เอมมม”



“ไป” บอกมันอีกครั้งแล้วชี้มือไปที่โซฟาเดี่ยว ก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับพี่มัน จริงๆ อยากพูดกันเรื่องนี้ตั้งแต่ที่มาถึง แต่มันมีเรื่องไม่คาดฝันเพราะแม่พี่ดาบมาบ้านซะก่อน เหนื่อยจังวะชีวิตไอ้เอม



“ทำไมต้องคุยตอนนี้วะเนี่ย คนคิดถึงมึงสะกดเป็นหรือเปล่า หรือใจมันด้านชาไม่เจอกูไม่กี่วันอ่ะเอมมมม....”



“วันที่ไปงานพี่เจอพาพวยทำไมไม่บอกผม” ผมถามออกไปแบบนั้นโดยไม่สนใจฟังว่ามันจะบ่นขิงข่าอะไรอยู่ พอโพล่งออกไปแบบนั้น พี่มันก็ชะงักค้างไปจังหวะนึง สายตาคมที่มองมาที่ผมชะงักไปนิดๆ



“ว่าไง มึงมองหน้ากูแล้วนึกหาคำตอบอยู่หรอ”



“ไม่ใช่แบบนั้น แต่คือกูไม่รู้ว่าพายจะไป”



“โอเคพี่ไม่รู้” ผมพยักหน้ารับคำพูดของอีกฝ่าย สายาก็ยังมองตรงไปที่พี่มัน คนที่มั่นใจมากๆ ในทุกๆ เรื่องตอนนี้มีอาการที่เรียกได้ว่าคนนั่งไม่ติด และเพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งทำให้ผมต้องขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันมากขึ้นไปอีก



“จริงๆ นะ กูไม่รู้ว่าพายจะไปที่งานนั่น”



“อืม ผมเชื่อ”



“มึงไม่เชื่อที่กูพูด แค่มองหน้ามึงกูก็รู้แล้วเอม” มันขมวดคิ้วออกมาแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ในตอนที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้ากัน แต่เปล่า ผมเชื่อว่ามันไม่รู้จริงๆ



“ผมเชื่อ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ต้องรีบวางสายไปแบบนั้น ผมไลน์หาทำไมถึงไม่ตอบล่ะ แค่อธิบายมาสิว่าพี่เจอเค้าหรืออะไรก็ได้ ผมที่อยู่ตรงนู้นห่างจากพี่ตั้งไกล ไม่คิดบ้างหรอวะว่าผมจะรู้สึกยังไงกับการทำแบบนี้ของพี่อ่ะ”



“กูแค่ไม่อยากให้มึงคิดมาก กูรู้ว่าพายที่มาอยู่ใกล้ๆ กู มันจะยิ่งทำให้มึงไม่สบายใจ”



“ใช่ ผมไม่ชอบหรอก หรือพี่ชอบเวลาที่เห็นใครที่พี่ก็มองออกว่ามันชอบผมมาอยู่ใกล้ๆ ผมล่ะ”



“ก็เพราะแบบนั้นไงกูเลยยิ่งไม่อยากบอก ไม่อยากให้มึงไม่สบายใจ”



“แต่ความสบายใจของผมมันคือพี่ แค่พี่พูดออกมาผมก็พร้อมจะฟังแล้ว แต่พี่ยิ่งทำแบบนี้ผมยิ่งสงสัยว่ามันมีอะไรกันแน่ที่ผมยังไม่รู้หรือเปล่า” ถามออกไปแบบนั้น จ้องตามันแบบนั้น พี่ดาบที่เงยหน้ามองกันด้วยสายตาคมดุแบบที่มันชอบมอง สีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปของมันจ้องตอบกับผม



“เฮ้อ...มึงแม่งไม่ใช่ลูกควายเลย” พี่มันถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดออกมาเบาๆ แบบนั้น แต่โทษทีเหอะ กูได้ยิน



“มึงไม่รู้หรอว่าควายมันฉลาดมากแค่ไหน ไม่งั้นมันจะไถ่นาเพื่อปลูกข้าวให้คนแบบมึงแดกได้หรอ...ว่าไง มึงตอบกูมาดาบ”



ถามย้ำมันกลับไปแบบนั้น แล้วเอนหลังพิงลงไปที่พนักโซหา พร้อมๆ กับกอดอกรอฟังคำตอบของมัน ผมไม่ละสายตาไปทางไหน แค่มองตรงไปและรอเวลา เราสองคนที่นั่งเงียบๆ แบบไม่มีใครยอมพูดก่อน แต่ครั้งนี้ผมก็ไม่ยอม ถ้ามึงไม่พูดผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน มันเป็นคนสอนให้ผมใช้เหตุผลที่จะคุยกัน เพราะแบบนั้นมึงก็คุยมา



“โอเค จริงๆ ตอนนี้กูกับป๊ากำลังสงสัยพาย”



“เรื่อง”



“วันนั้นที่ไปงาน พายไปกับครอบครัวพาย”

“แล้ว” ผมยังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร เค้าไปกับครอบครัวเค้าแล้วยังไง ไหนจุดประสงค์ที่กูต้องเข้าใจเรื่องที่มึงปิดกู

“มึงจำได้ไหม เรื่องที่กูเคยเล่าอดีตของพายให้ฟัง”



“ที่เค้ากับพ่อเลี้ยงเค้าจะอะบ๊ะจ๊ะโมะโบ๊ะบ๊ะกัน” ผมถามออกไปแบบนั้นพร้อมเลิกคิ้ว พี่มันพยักหน้ารับ



“กูเกลียดคำมึงจัง”



“เรื่องกู แล้วยังไงต่อวะพี่”



“ก็นั่นแหล่ะ แบบที่กูเคยเล่า พายออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่สมัยเรียน และที่ไปเรียนต่อต่างประเทศก็เพราะอยากไปรักษาโรคที่เป็น และอีกเรื่องก็เพราะจะได้ห่างจากครอบครัวเค้า แต่วันนั้น พายดันมางานกับพ่อเลี้ยงตัวเอง”



“ห๊ะ” กูนี่ย่นคิ้วขมวดเข้าด้วยกันเลย อะไรก่อนเอ่ย เรื่องที่พระพายเคยเจอมา ผมเข้าใจดีว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ทำไมเค้าถึงมากับคนที่เค้าทั้งเกลียดทั้งกลัวแบบนั้นได้วะ หรือโดนบังคับ



“นั่นแหล่ะ กูไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ คือเค้ามาด้วยกัน และไอ้ผู้ชายคนนั้นก็คือคนที่พยายามอยากจะได้ที่เกาะที่สุราษฎร์ของกูพอดี กูกับพ่อเลยสงสัยว่าพวกเค้ากำลังอยากจะทำอะไร”



“นี่มันเรื่องใหญ่นะกูว่า ไม่ตลกแล้วป่ะพี่ดาบ”



“ก็นั่นแหล่ะ กูกำลังสืบๆ กันอยู่ ถ้ามีอะไรจะได้ป้องกันได้ทัน เพราะแบบนั้นเลยไม่ได้บอกอะไรให้มึงรู้ วันนั้นพอเค้าเดินมาหากูเลยรีบวางจากมึง ตั้งใจจะไปหลอกถามพาย”



“แล้วได้ผลไหมล่ะ”



“จะได้หรอคะอิดอก ชวนกูชนแก้วซะยับ”



“แล้วมึงก็ชนหรอ!”



“เอ้า กูคอแข็งน่าหนู อย่าโกรธกันสิ” เงยหน้าขึ้นมาช้อนตาผมแบบขอความเห็นใจ แต่หัวใจผมเต้นโครมคราม เอาอะไรมาเห็นใจมึงอ่ะดาบ



“อิเจ๊พี่มึง บทเรียนไม่เคยสอนมึงเลยนะ ถ้ามันเป็นยาปลุกเหมือนที่มึงเจอกูทำไง”



“ก็ทำให้ได้มึงเป็นเมียนี่ไงคะ” ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มประจบ หน้าตาคล้ายหมาตัวใหญ่สีขาวๆ ขนฟูๆ เวลาอ้อนเจ้าของขออาหารเม็ดแดก



“กูตลกกับมึงหรอดาบ”



“กรี๊ด หนูอย่าพูดไม่เพราะกับพี่ ขอโทษแล้วไงเอม นะ อ้ายมีเหตุผล” กระพริบตาสองปริบตอนที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ลุกขึ้นจากโซฟา แล้วโดดพุ่งเข้ามานั่งข้างๆ กัน



“เอมคะ พี่ขอโทษไงที่ไม่ได้ตอบไลน์ ก็คือมันชุลมุน”



“แล้ววันนี้มึงก็เงียบเหมือนตาย คือ?”



“คือกูเมาค้าง พึ่งฟื้น” ตอบออกมาเสียงอ่อยๆ ฝ่ามือหนาที่เกาะเข้ามาที่แขนของผมแล้วเงยหน้าช้อนตามองกันกระพริบตาปริบๆ มึงคิดว่ามึงน่ารักมากมั้ง



“พี่ขอโทษเอม นะ...ขอโทษนะหนู จะไม่ปิดบังอะไรอีกแล้วนะ” ว่าแบบนั้นแล้วเนียนขยับตัวเข้ามาใกล้มาใกล้กัน วงแขนแข็งแกร่งที่โอบเข้ามารอบเอวของผม พร้อมๆ กับหัวทุยๆ ของมันที่เอียงลงมาซบบนอกกันแบบอ้อนๆ



“ให้อภัยคนสวยแบบกูนะคะหนู” คำพูดชวนกูสับสน เรียกกูหนู แทนตัวมันว่าสวย แม่ง เจ็บไข่!



“เจ๊พี่มึง” เรียกมันแบบนั้น ในตอนนี้ที่กูรู้สึกว่าฝ่ามือหนาที่เคยกอดกูอยู่ที่สีข้าง มันค่อยๆ สอดเข้ามาในชายเสื้อ ฝ่ามืออุ่นๆ ที่แนบเข้ามาลูบข้างๆ เอวกันจนรู้สึกสะดุ้ง



“ไม่เจ๊ ตอนนี้กูจะผัว” ว่าแบบนั้นด้วยเสียงกระซิบ ใบหน้าหล่อที่ก่อนหน้านี้ยังทำกระแดะอ้อนเสียงสองและวางแหม่ะอยู่ที่อกของผม ตอนนี้มันย้ายขึ้นมาที่ซอกคอ กระซิบเบาๆ ลงข้างๆ กกหู ลิ้นร้อนๆ ของมันที่กดจูบลงมาเบาๆ ที่ใบหู ก่อนจะกัดเบาๆ ให้รู้สึกเสียววูบไปทั้งตัว



“พี่คิดถึงเอม อย่าโกรธกันนะ” ว่าแบบนั้น พร้อมๆ กับเลื่อนหน้ามาหอมแก้มกัน มือหนาที่ลูบขึ้นมาที่หัวนม นิ้วชี้กับนิ้วโป้งของมันที่บี้ลงมาที่หัวนมของผมแบบคนชำนาญ



“เดี๋ยวเจ๊...”



“พี่ไม่อยากเดี๋ยวแล้วเอม” เสียงกระเส่าที่มาพร้อมๆ กับสันจมูกโดงที่หอมลงมาที่ข้างแก้ม ลากผ่านใบหน้าของผม เอียงหน้าทำมุมที่จะแนบริมฝีปากลงมาบดจูบกันตามแรงอารมณ์ มันติดตรงที่ฝ่ามือของผมยกขึ้นมากันเอาไว้ซะก่อน อีกคนที่ชะงักไปและผละหน้าออกมามองขมวดคิ้วมองกันแบบไม่เข้าใจ



“ใจเย็นจัง ผมทำให้พี่เองดีกว่าป่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มน่ารัก อีกคนที่เบิกตากว้างในตอนได้ยิน ผมทำแค่ผลักอีกฝ่ายลงไปนั่งแล้วผมก็ทรุดตัวลงไปนั่งลงที่พื้นด้านล่างของโซฟา ดึงกางเกงบอลสภาพทุเรศทุรังของมันลงพร้อมๆ กับชั้นใน อีกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือกันดี พี่มันลุกตัวขึ้นเล็กน้อยให้ผมดึงกางเกงมันลงไปได้แบบง่ายๆ พร้อมมาตั้งแต่เมื่อวานเลยสินะมึง



“อื้ม เอม” แค่จับก็ร้องครางออกมาแล้ว เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มมุมปาก ผมขยับฝ่ามือชักรูดขึ้นลงเบาๆ ในตอนเริ่ม มองเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านบนเงยหน้าขึ้นไปเอาหัวพิงพนังโซฟาอย่างสบายใจ สุขสุดๆ ไปเลยนะอิเจ๊พี่มึง



ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่งคุกในท่วงท่าที่เหมาะสม ก่อนจะก้มหน้าลงไปใช้มือจับส่วนกลางของอีกคนไว้ ใช้ลิ้นเลียที่ส่วนหัว ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางออกมาแบบพอใจ แลบลิ้นลงไปเลียอีกครั้งเบาๆ ในตอนนี้ที่พี่มันก็ยื่นมือมาลูบหัวของกันเอาไว้ ค่อยๆ ครอบริมฝีปากลงไปอมส่วนปลายช้าๆ รับรู้ได้ถึงแรงสะท้านของอีกคนได้เลยในตอนนี้ รูดขึ้นรูดลงใช้ริมฝีปากครอบมันเอาไว้ ผมทำช้าๆ อย่างจงใจ ปรือตาขึ้นไปมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้แทบจะอยู่ไม่สุข



"เอม อื้ม" ครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับเด้งตัวขึ้น ผมใช้มือกำรอบแกนกายอีกฝ่ายไปด้วย รูดปากขึ้นลงเพิ่มอัตราเร็วให้ทุกอย่างเร็วขึ้น รับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีอารมณืมาแล้วแค่ไหน ท่อนกายที่โปร่งพองอยู่ในปากของผม





" อื้ออ เอม แบบนั้น เร็วอีกสิ" สั่งเก่งงง



แกนกายของอีกฝ่ายที่มันเริ่มใหญ่ขึ้น ทุกอย่างคับปากของผมไปหมด คับจนขยับยาก พี่ดาบที่หายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเริ่มติดขัด



รับรู้ได้ว่ามีน้ำปริ่มๆ ตรงส่วนปลาย



" อ๊า... เอมครับ อื้มม" พี่มันที่ร้องครางออกมาแบบนั้น แบบที่ว่าขอให้ผมรีบช่วยให้มันไปถึงฝั่งให้ไวกว่านี้ และใช่...เดี๋ยวมึงรู้เลย



"เอม...." ผมที่ผละริมฝีปากออกมาจากแกนกายของมัน และพี่มันที่ยันหันขึ้นมามองหน้ากันแบบไม่เข้าใจ หน้าแดงๆ ของอีกฝ่ายที่บอกให้ผมรู้ว่ากำลังต้องการปลดปล่อยมากแค่ไหน และใช่ ผมทำแค่ยกยิ้มมุมปากแล้วลุกขึ้นยืนในตอนนี้ มองเห็นสีหน้าเหรอหราของอิพี่มันแล้วอยากจะขำออกมาให้ลั่น



"พอละ ผมเหนื่อย"



"เดี๋ยว มึงหมายถึงอะไร หนู"



"สิ่งที่พี่มึงต้องรับไว้คือความไม่พอใจของกูที่พี่มึงกล้าเมินกูแล้วไปอยู่กับพาพวย" บอกออกไปแบบนั้น แล้วถอยห่างออกมาจากมัน ที่พยายามจะเอื้อมมือดึงรั้งแขนกันไว้



"เดี๋ยวเอม ไม่เอาสิวะ กูขอโทษไงหนู"



"ขอโทษก็ส่วนขอโทษดิ กูรับไว้แล้ว แต่กูยังไม่พอใจ งั้นก็แค่นี้แหล่ะ เจ๊มึงช่วยตัวเองไปแล้วกัน" บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วเดินหนีอ้อมหลังมันเข้าไปในห้อง พี่มันที่หันหน้ามาแนบกับพนักพิงด้วยหน้าตางงโลก มองผมแบบยังปรับสติตามไม่ทัน ผมที่เอามือจับประตูห้องนอนเอาไว้หันมายิ้มให้พี่มันอีกครั้ง



“และคืนนี้พี่มึงนอนข้างนอกนะ ผมจะนอนในห้องคนเดียว”



“เดี๋ยวเอม เดี๋ยวมึงเดี๋ยว”



“จำเอาไว้ อย่าให้กูรู้อะไรคนสุดท้ายอีกดาบ”



“เอมมมม เดี๋ยวมึง” ร้องบอกออกมาแบบนั้นในตอนที่มันลุกขึ้นแล้วพยายามจะวิ่งเข้ามาหาผม แต่โทษที กูปิดประตูทันแล้วล็อคห้องเรียบร้อย ก่อนประตูจะปิดสนิท มองเห็นสภาพพี่มันที่กางเกงกับชั้นในลงไปกองที่ข้อเท้า มันที่พยายามจะวิ่งมาหาผมทั้งๆ ที่ตรงนั้นก็ตั้งโด่ชี้หน้ากัน และใช้....มันสะดุดขากางเกงลงไปกองกับพื้น สมหน้า~~



‘ปังๆๆ’



“เอมมมมมมม มึงเปิดประตูให้กูเลยนะไอ้ตัวดี”



“มึงฝันหรา คืนนี้ฝันดีจ้าเจ๊ดานี่จ๋า”



“แสบนักนะมึงเนี่ย!”



“กู๊ดไนท์จ้าคนสวย ฮ่าๆๆๆ” ตะโกนออกไปแบบนั้นแล้วเมินมันไปอาบน้ำ หัวเราะตบท้ายแบบผู้มีชัยในโลก มึงจำไว้เป็นบทเรียนเลยพี่ดาบ มึงต้องเจอแบบนี้! หึ่ย



...



(inside Story ของพี่ดาบ ในเล่ม)



...



“แล้วแบบนี้คือมึงก็ผ่านด่านแม่ผัวมึงแล้วสิคะใช่ไหมอิลูกกกก กูอยากจะกรี๊ด”



“กูก็ไม่รู้นะ แต่ว่าอาทิตย์ก่อนก็ไปบ้านพี่มันมา แม่พี่มันก็ดูไม่แย่เหมือนตอนแรกๆ ที่เจอกันแล้ว เค้าชมว่ากูทำเครื่องดื่มอร่อย กูทำพวกน้พสมุนไพรให้เค้าชิมด้วย”



“เหยดดด กูดีใจกับมึงจังเลยค่ะอิลูก มากอดที”



“อย่า มึงอย่าเอานมฟองน้ำมาดันแขนกูได้ไหมป้า”



“เอ๊ะ อินี่ ของจริงล้วนๆ ไม่เชื่อมึงจับ”



“ไม่ๆๆ มึงอย่ายื่นนมเข้ามานะเว้ยกูมีพระ”



ผมฟังไอ้สองตัวนี้เถียงกันอยู่แบบนี้มาหลายนาทีแบบที่ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปแทรก และที่สำคัญในตอนนี้พอหันไปมองก็เจอไอ้หยีที่เด้งหน้าอกในชุดนักศึกษารัดๆ ของมันเข้าไปหาไอ้เอมที่ถอยหนี อีกนิดแม่งจะตกเก้าอี้อยู่แล้ว กลัวมากครับ กลัวนมไอ้หยี เห็นแบบนั้นเลยต้องเอื้อมมือไปโอบหลังของมันเอาไว้



“ป้ามึงก็เลิกแกล้งมัน ส่วนมึงนี่ถ้ากูไม่กันมึงตกม้าหินไปแล้วไอ้เอม”



“ก็มึงดูป้ามันดิ ห่า ผู้หญิงน่ากลัว” ไอ้เอมมันว่าออกมาแบบนั้นแล้วยังเขยิบตัวหนี ไอ้หยีเบ้ปากใส่ตอนที่ได้ยินแบบนั้น



“เพราะมึงทำตัวแบบนี้ ผู้ชายเค้าถึงกลัว” หันไปว่ามันแบบนั้น ไอ้หยีก็หยิบหลอดจากแก้วน้ำข้างๆ มาเป่าน้ำแข็งใส่หัวผม สัด



“ห้ามว่ากูนะอิผัว มึงเข้าใจคำว่าของแรร์ไหมคะ กูเนี่ยแรร์ไอเทมค่ะ”



“ของเก่าของแก่น่ะหรอวะ” พูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับต้องลำบากเช็ดน้ำแข็งออกจากหน้า



“สัดค่ะ ว่าแต่กูมึงมีไหมเมียน่ะ มีไหมมมมม” ยื่นปากยื่นคอด่ากันจากฝั่งตรงข้าม แต่ถึงแบบนั้นคำพูดของมันก็เหมือนแทงใจกันแปลกๆ หันไปมองหน้าไอ้เอมที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน มันทำหน้ากรุ้มกริ่มส่งมาให้ ผมรู้ว่ามันอยากจะล้อกันเรื่องไอ้เสือ แต่...เหอะ ตั้งแต่กลับมาจากค่ายนี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ผมยังไม่เห็นหน้าแม่ง หรือถ้าเห็นแม่งก็แกล้งทำหลบ สัด หงุดหงิด



“อุ้ย พูดแค่นี้ทำเป็นหน้าหงิดเป็นส้นตีน หรือไม่ทราบว่าผัวแอบไปซุกเมียไว้หรือไม่คะ ยังไงจ๊ะๆๆ” ไอ้ป้ายังว่าแบบนั้น จีบปากจีบคอล้อกันเหมือนรู้อะไร



“มึงหมายความว่าไง”



“เปล่าหมายความอะไร กูถามเฉยๆ มึงเสียงเข้มทำไม มึงจริงจังอะไร หรือมึงมีๆๆๆ” เบิกตากว้างขึ้นถามกันแบบนั้น ผมถอนหายใจใส่แม่งอีกเฮือกแล้วหันหน้าหนี



“กูก็นึกว่ามึงมี น้องเสือ!”



“เกี่ยวเหี้ยไรกับไอ้เสือวะ เด็กเหี้ยนั่นจะมาเป็นเหี้ยอะไรกับกู!” พอได้ยินแบบนั้นแล้วยิ่งหงุดหงิด แค่ได้ยินชื่อแม่งก็ยิ่งไม่พอใจว่ะ อารมณ์โกรธของผมมากขึ้นไปเรื่อยๆ แค่นึกถึงเวลาที่มันเห็นกันแล้วเอาแต่หลบหน้าแม่งก็โมโหแล้ว เดี๋ยวนี้ผมยิ่งเห็นแม่งไปสุงสิงกับไอ้เด็กต่างคณะนั่นแล้วยิ่งหงุดหงิดตีนว่ะ



โพร่งออกไปแบบนั้นแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้หยี มันที่ทำหน้าเหวอไปเลยในตอนนี้ กระพริบตาปริบๆ แล้วก็หน้าเสีย มองเห็นมือมันที่ยกค้างขึ้นไปในอากาศเหมือนกำลังโบกมือ



“สวัสดีครับพี่ๆ” เสียงของใครอีกคนที่ผมไม่ได้ยินมาสองอาทิตย์เต็มๆ พอได้ฟังแล้วเสียวไปทั้งสันหลัง หันหน้าไปมองก็เห็นมันที่ยังเหมือนเดิมไม่ต่างออกไปจากที่เคยเห็น แต่มองจากมุมนี้เหมือนมันจะผอมลง ไอ้เสือยกมือขึ้นสวัสดีพวกเรารอบๆ โต๊ะ ก่อนที่สายตามันจะเมินหน้าผมไป แต่สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่แขนของผมที่ยังโอบไอ้เอมอยู่ K!



ชักมือกลับมาในตอนนี้ แต่เหมือนจะไม่ทันแล้ว มองหน้าของมันที่ยกยิ้มขืนๆ ขึ้นมา แล้วก็เมินผ่านหน้าของผมไปหาไอ้หยีอีกที



“ผมมีเรียนขอตัวก่อนนะครับ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วจ้ำเท้าก้าวพรวดๆ จากไป



“ปากมึงอ่ะสัดหมาอิเก้อ” ไอ้หยีด่าออกมาแบบนั้น



“ควายแท้ๆ ไม่มีวัวผสม บางทีกูก็อยากตัดเขาบนหัวกูไปสวมบนหัวมึง” ไอ้เอมว่าต่อกลับมาอีก



“ไม่ต้องเอาไปสวมให้มันมันก็เขายื่นแล้วค่ะ มึงอย่าเข้าใกล้มันมากนะอิเอม เดี๋ยวเขาอิเก้อมันจะทิ่มตามึง”



“สัด” สบถออกมาแบบนั้น พูดได้แค่นั้นจริงๆ ... แล้วใครแม่งจะคิดว่ามันจะเดินมาล่ะวะแม่ง เหี้ยทั้งหมด ไม่เคยจะมีจังหวะดีๆ บ้างเลยหรอแม่ง



.

.

.



“Hey มาเที่ยวทั้งที ทำไมมึงทำหน้าไม่จอยเลยวะไอ้เก้อ” เสียงไอ้แมทว่าออกมาแบบนั้น ผมถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กับที่ยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม สถานที่เดิมๆ แต่คนที่เคยมาไม่ใช่คนเดิม เพราะไอ้คนนั้นแม่งหลบหน้ากันฉิบหาย



“มันเป็นอะไรวะ” ไอ้แมทหันหน้าไปถามไอ้จั๋น มันสองคนที่มองหน้ากันแล้วยักไหล่ใส่กันแบบงงๆ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่สนใจ ไม่รู้สึกอยากพูดอะไร เป็นความรู้สึกที่เบื่อฉิบหายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมแค่รู้สึกไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว เลยออกมาเที่ยวกับพวกมันสองคน



“กูไปเข้าห้องน้ำนะ”



“เข้าห้องน้ำหรืออะไรกันแน่วะเพื่อน” ไอ้จั๋นยิ้มแบบรู้ทัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนอยู่เมืองนอก สันดานคล้ายๆ กัน แต่ตอนนี้มันเลิกแล้วเพราะมีแฟน ... ส่วนกูโสด



“เออ ถ้าเจอไงกูกลับเลยนะ”



“โอ้ก็อต จะอะไรขนาดนั้นวะนี่พึ่งกี่โมง อีกอย่างมึงมีแฟนแล้วนะเพื่อน” ไอ้แมทว่าออกมาแบบนั้น เงยหน้ามองกันพร้อมขมวดคิ้ว



“แฟนกูใคร”



“เอ้า น้องเสือไม่ใช่ไง ก็มึงบอกให้กูไปตามแก้ข่าว มึงรู้ไหมว่าเหนื่อยแค่ไหนอ่ะสัด” ไอ้จั๋นด่าออกมาแบบนั้น แล้วนั่นก็ทำให้นึกขึ้นได้ถึงเรื่องตอนนั้นที่บอกให้พวกมันไปแก้ข่าวให้ไอ้เสือ... แต่ก็สมควรแก้ไหมวะ มันไม่เด็กเสี่ย ไม่เคยเป็นเลยสักครั้ง



“เออ ช่างเหอะ มันไม่สนใจไรกูหรอก”



“มึงทะเลาะกันหรอวะเพื่อน”



“มั้ง” ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง จะบอกแม่งไปตรงๆ ว่าแค่คนเคยได้กัน แต่ตอนนี้มันบอกให้จบกันไปแม่งก็โคตรอารมณ์เสียละ ผมหันหน้าหนี ก่อนจะมองไปรอบๆ และในตอนนั้นสายตาของผมก็ปะทะเข้ากับใครอีกคน ใครอีกคนที่ต่อให้ไกลแค่ไหนผมก็มองออกว่าใคร



ไอ้เสือ



มันที่กำลังมีผู้หญิงคนนึงนั่งตักมันในตอนนี้ มันที่กอดรอบเอวของเธอคนนั้นแล้วก็เริ่มจูบกันแบบไม่อายใคร



“K”



“ห๊ะ...มึงมาคงมาKอะไรอ่ะเพื่อน” ไอ้แมททำหน้าเหลอหลา ถามออกมาแบบไม่เข้าใจ ผมที่ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้ และในตอนนั้นที่ก็ชนเข้ากับใครอีกคนแบบที่กูไม่ตั้งใจ แต่เหมือนเธอตรงหน้าจะดูตั้งใจดี



“โอ๊ะ ขอโทษค่ะพี่”



“ครับ”



แรงปะทะที่ทำให้เธอที่ไม่ทันระวังชนเข้ากับเด็กเสริฟจนถังน้ำแข็งร่วง ผู้คนรอบข้างที่หันมามองเรา รวมถึงใครอีกคนที่ผมอยากให้มันหันมาเป็นที่สุดคนนั้นแหล่ะ



“แอ็ปเปิ้ลค่ะ” เธอว่าแบบนั้นแล้วยื่นมือมาให้ ผมปรายตาไปมองไอ้เสือที่ผละออกจากคนบนตักของมันแล้วยกยิ้มมุมปากออกมาในตอนนี้



“เก้อครับ”



“ชื่อแปลกจัง มาจากอะไรหรอคะ”



“มาจากไทเก้อ” ผมตอบออกไปแบบนั้น เธอที่ยิ้มแบบชอบใจก่อนจะเดินเบียดเข้ามาหา และในตอนนั้นที่แขนของผมก็ยื่นไปกอดรอบเอวบางของเธอเอวไว้แบบอัตโนมัติ



’ วี๊ดวิ้ว’



ได้ยินเสียงผิวปากล้อเลียนและโห่แซวดังมาจากไอ้แมทและไอ้จั๋นในทันที เธอที่โอบรอบคอของผม พร้อมๆ กับเสียงดนตรีที่ดังขึ้นเป็นจังหวะ ผมกับเธอที่เต้นด้วยกันอยู่ตรงนั้น ส่วนมันและผู้หญิงบนตักก็นั่งไม่ห่างออกไป ผมหันหน้าไปหามัน ก่อนจะเอียงหน้ากดจูบลงไปบนริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกเนื้อดี ลิ้นเล็กที่แทรกเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างชำนาญนั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร เพราะสายตาของผมก็ทำแค่มองตรงไปที่ตาของใครอีกคนที่กำลังจูบกับใครอีกคน แต่สายตาของมันก็ไม่ได้ละสายตาไปจากผมเลยสักนาที



ไอ้เสือ....

--------------To be continued--------------



เอิ้วววว มาแล้วจ้าาา สามทุ่มเวลาเดิม เพี่ิมเติมคือยาวมาก

ตอนนี้มาเคลียร์อะไรหลายๆ สิ่งนะคะ อะไรหลายๆ อย่างกำลังจะเดินไปแบบถูกทาง

ส่วนตอนนี้จริงๆ จะมีตอนของพี่ดาบด้วย แต่ตัดอยู่ในเล่ม แบบอิ๊อ๊ะ

แล้วก็ความเก้อเสืออ่ะค่ะ มันจะแบบ อั๊ย

แคทหวังว่าหลายๆ ท่านจะสนุกไปด้วยกันนะคะสำหรับตอนนี้

เข้ามาหวีดร้องคอมเม้นท์ตอนนี้กันได้อีกทางที่ #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์จ้า

 :mew1: :3123: :pig4:


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เย้ๆ น้องเอมชนะใจว่าที่แม่สามีได้แล้ว  แต่สมน้ำหน้าอิเจ้เจออิทธิฤทธิ์ควายน้อยเข้าไป. งัยล่ะ  :laugh:

อิคู่รองนี่ท่าจะหาทางจบยากเน๊อะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อิพี่เก้ออออออออออออ :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
เขาส่งสายตาให้กันแล้ววว ดูสิใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน มายาวจุกๆ เลยจ้าตอนี้ อีพี่ดาบสมน้ำหน้าจริงๆ  :z1: :z1:

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่40



“เธอกลับไปเหอะ เสือไม่มีอารมณ์แล้วว่ะ”



ผมหยุดเดินในแล้วว่าออกไปแบบนั้น ตอนที่เดินออกมาถึงหน้าร้าน หญิงสาวคนสวยที่อยู่ข้างๆกันกันชะงักขาเรียวสวยของเธอก่อนจะหันมามองกันแบบไม่เข้าใจ



“เอ้า ทำไมอ่ะเสือ ไม่มีอารมณ์เดี๋ยวเนเน่ช่วยทำให้มีอารมณ์ใหม่ก็ได้นี่” เสียงออดอ้อนที่ว่าออกมาแบบน่ารัก แต่ถึงแบบนั้นผมก็ทำแค่ส่ายหัว



“อย่าเลย เสียเวลาเปล่า แยกกันตรงนี้ละกัน เสือไม่ส่งนะ” ผมบอกปัดออกไปอีกครั้ง เสหน้าหนีเธอที่มองมาแบบไม่สบอารมณ์มองไปทางอื่น รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาจนขี้เกียจจะพูด ได้ยินเสียงฮึดฮัดขัดใจของเธอที่ดังอยู่ใกล้ๆ แต่สุดท้ายเธอก็สับขาจากไปโดยที่ไม่มีคำล่ำลากันสักคำ ก็คงจะหงุดหงิดน่าดู  แต่ให้ทำไงได้วะ อยู่ๆคืนนี้ผมก็ไม่อยากจะไปไหนต่อขึ้นมาซะแบบนั้น



‘ฟู้ววว’



เงยหน้าเอาหลังพิงกำแพงแถวๆลานจอดรถที่ร้างผู้คน ก่อนจะค่อยๆพ่นควันสีเทาๆเป่าออกไปไกลๆไปในอากาศ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆจางๆที่ทำให้ต้องเผลอนึกถึงใครอีกคน พร้อมๆกับสัมผัสของมัน รสจูบของมันที่มีกลิ่นแบบนี้เจือจางอยู่ใกล้ๆแก้มของผม... ใครอีกคนที่ตอนนี้มันคงกำลังกอดรัดอยู่กับผู้หญิงอีกคนอยู่ข้างในผับนี้ และในคืนนี้ก็คงไปจบลงบนเตียงสักที่แบบที่มันชอบทำ



“โลกกลมเหี้ยไรนักวะ”  บ่นกับตัวเองแบบนั้นพรางส่ายหัวไปด้วย ... ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะจบๆกันไป ตั้งใจไว้แล้วว่าจะถอยห่างออกมาให้ไกลที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังเท่าเดิม



“Kเสือ มูฟออนเป็นวงกลมหรอวะ ลูซเซอร์สัดๆ” แค่นยิ้มสมเพชตัวเองออกมานิดๆก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าออกไป สายลมอ่อนๆที่พัดเบาๆทำให้ยิ่งรู้สึกรู้สึกสั่นไหว และพูดจริงๆแบบคนขี้แพ้สุดๆก็คือว่ายิ่งได้เห็นหน้ามันแล้วก็ต้องบอกว่าคิดถึงจริงๆ อาทิตย์นี้จะครบเดือนนึงแล้วที่ผมกับมันไม่ได้คุยกัน บอกตัวเองว่าดีแล้ว มึงทำถูกแล้วไอ้เสือ แต่ถึงจะบอกย้ำๆแบบนั้น แต่ใจก็ยังไม่ลืมมันอยู่ดี



“K! แม่งเอ้ย”



เออ Kจริงไม่ติงนัง ... แต่ว่านั่นไม่ใช่เสียงของกูที่พูดออกมาสักหน่อย



‘ฟิ้ววว’



หันหน้าไปมองเสียงนั้น พร้อมๆกับที่เห็นกระป๋องเบียร์ลอยละลิ่วมาทางนี่ และใช่



‘ปึก’



ทำมุมเฉียงลงหัวกูเต็มๆ ก่อนจะทำชิ่งจากหัวกูกระแทกลงพื้นลงเสียงดังเคร้งคร้างน่าเอ็นดู ... เอ็นดูก็เหี้ยละ กางหัวกูเลย



“โอ๊ย เจ็บนะสัด” ร้องตะโกนบอกออกไปแบบนั้น ก่อนจะหันหน้าไปมองอย่างฉุนๆ สัดหมาที่ไหนเตะกระป๋องใส่หัวกู



“...มึง” 



คำพูดสั้นๆที่ดังออกมาจากปากของคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใกล้ไม่ไกล ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นค่อยๆตาเบิกกว้างขึ้นตอนที่เห็นหน้ากัน ก็คงไม่ใช่แต่มัน แต่รวมถึงผมด้วยในตอนนี้ ... ทำไมมึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้วะ หรือว่ามันกำลังจะกลับแล้ว



เป็นช่วงเวลาที่เงียบจนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เราที่ยืนอยู่กันคนละฝั่ง ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันแบบไม่มีใครพูดอะไร ก็แค่ยืนมองกันเงียบๆ ปล่อยให้เวลามันเดินต่อไป โดยที่เราไม่คิดจะทำอะไรไปมากกว่านี้ เป็นความรู้สึกเหมือนเดจาวู เหมือนกับครั้งแรกที่ผมได้เจอมัน ตรงซอกข้างๆตึกคณะในวันนั้นผมก็ยืนสูบบุหรี่อยู่แบบนี้ แล้วมันก็เตะกระป๋องใส่หัวกันแบบนี้จนทะเลาะกันเละเทะ หรือจะเป็นครั้งที่สองที่เจอกันที่ผับ วันนั้นมันก็เตะกระป๋องมาใส่ผมเหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ต้องเจอมันในรูปแบบเดิมๆ แต่สถานะก็ต่างออกไป



“มาสูบบุหรี่หรอวะ”  เป็นมันที่เปิดปากพูดออกมาก่อนในที่สุด ผมกระแอมไอในลำคอนิดๆให้คอโล่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบกลับไป



“อืม”



“กูนึกว่ามึงกลับไปแล้วซะอีก” มันว่าออกมาแบบนั้น สายตาของมันที่จ้องมาที่หน้าผมแบบแทบจะไม่กระพริบตา



“ก็...กำลังจะกลับ”  มันพยักหน้ารับแล้วมองซ้ายมองขวารอบๆตัวผม ไม่รู้ว่ามันมองหาอะไรเหมือนกัน แต่ถึงแบบนั้นก็ช่างมันเถอะ เราสองคนก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้วไม่ใช่หรอวะ ผมหันหลังแล้วตั้งใจจะเดินฉีกออกไปอีกทาง เดี๋ยวค่อยไปหาแท็กซี่โบกเอาข้างนอกละกัน .... ส่วนมันก็จะได้กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นตามสบาย



“มึงจะกลับยังไง”  ผมชะงักก้าวที่กำลังจะเดินต่อ เพราะเสียงจากคนที่คิดว่าจะเดินกลับเข้าไปแล้วยังดังตามมา หันกลับไปมองหน้ามันที่ขยับขาเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีกก้าว



“ก็แค่...โบกแท็กซี่กลับ” หันไปตอบอีกคนที่มองตรงมา สายตาของมันซับซ้อนแบบที่ผมเคยเห็น เป็นคนที่ไม่สามารถอ่านอะไรจากสายตาของมันได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร มันที่ไม่พูดอะไรออกมา และใช่ ผมเองก็เช่นกัน และพอเห็นมันเป็นแบบนั้นผมก็แค่หันหลังกลับไปอีกครั้ง ... ก็เสียเวลาเปล่าที่จะจ้องตากันไม่ใช่หรือไง



“กลับกับกู” สามคำสั้นๆที่ไม่ดังไม่แผ่ว แต่ก็เป็นคำพูดที่ดังพอจะให้ขาของผมหยุดเดิน ผมที่ชะงักอยู่ตรงนี้ ยังไม่ได้เดินไปไหนต่อแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองหน้ามัน ได้ยินเสียงลากเท้าที่ดังเข้ามาใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม



“เสือ ...เดี๋ยวกูไปส่ง...”



ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมาจับข้อมือข้างขวาของผมเอาไว้เบาๆ เป็นความรู้สึกที่ส่งผ่านมาว่าอยากจะดึงเอาไว้ แต่กลัวว่าถ้าบีบแรงไป แล้วผมจะหันกลับไปปฏิเสธมัน



“กลับด้วยกัน...นะ”



‘นะ’...หนึ่งคำสั้นๆที่เหมือนเป็นประโยคขอร้องแกมคำถาม เป็นการเปิดทางให้ผมได้เลือก และในตอนนั้นฝ่ามืออุ่นๆของมันที่จับเข้าที่ข้อมือของผม รับรู้ได้ถึงแรงสั่นน้อยๆจากใครอีกคน ค่อยๆหันกลับไปมองหน้าคนที่มองมาที่ผมแบบไม่มั่นใจอยู่ในตอนนี้ ก่อนที่ขาไม่รักดีจะค่อยๆเดินตามมันไป



ก็ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะขาหรือใจกันแน่ที่มันไม่รักดีกว่ากัน



               บรรยากาศเงียบๆที่โรยตัวอยู่บนรถทำให้รู้สึกอึดอัด เป็นแบบนั้นแม้ว่ารถที่นั่งอยู่จะหรูแค่ไหนก็ตาม ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถ มองไม่เห็นอะไรนอกจากไฟถนนตามทางและรถคันข้างๆที่ก็คงกำลังขับไปที่ไหนสักที่ในถนนสายเดียวกัน



‘คลิ๊ก’



เสียงกดปุ่มเปิดเพลงที่ดังขึ้นแหวกอากาศมาจากคนข้างตัวที่ไม่ต้องหันหน้าไปมองก็รู้ว่ามันกำลังทำอะไร ก็ทำเหมือนที่มันชอบทำประจำเวลาที่เมื่อก่อนขึ้นรถคันนี้ไปกับมันเสมอ



 

Can’t we just talk?  Can’t we just talk?

เรามาคุยกันหน่อย เรามาคุยกันหน่อยไม่ได้หรอ

Talk about where we’re goin’

คุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น

Before we get lost, let me out first

ก่อนที่เราจะหลงทางไปมากกว่านี้ ผมขอบอกเธอก่อนนะว่า

Can’t get what we want without knowin’

ผมไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ต้องการได้หรอกนะ ถ้ายังไม่รู้อะไรเลย





เสียงเพลงเบาๆที่เปิดขึ้นท่ามกลางความเงียบระหว่างเราสองคน พร้อมๆกับเสียงฮัมเพลงของคนข้างๆที่ร้องคลอไปกับเพลงนั้นด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินมันร้องเพลง แต่ถึงแบบนั้นกลับไม่อยากจะฟังเอาซะเลย เนื้อหาของเพลงที่กำลังบอกเป็นนัยๆว่า เราลองกลับมาคุยกันหน่อยดีไหม ...



ไม่อยากจะฟัง เพราะไม่อยากจะคิดว่ามันกำลังตั้งใจเปิดให้ผมฟัง เพราะแบบนั้นก็เลยทำแค่เพ่งมองออกไปที่รถคันด้านข้างที่ขับอยู่ข้างๆกันแทน ได้ยินเสียงเคาะพวงมาลัยของมันไปพร้อมๆกับฮัมเพลงที่เปิดไป ดูเหมือนมันจะอารมณ์ดีมากมาย ทั้งๆที่วันนี้ก็ไม่ได้พาใครกลับมาเหมือนที่มันชอบทำ มันที่ขับรถช้าๆแบบสบายอารมณ์ชิลๆจนไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่ปกติมันก็ตีนผีดีๆคนนึง คืนนี้ในช่วงเวลานี้ รถน้อย ถนนโล่ง แต่มันก็ทำแค่ขับไปช้าๆใครอยากแซงมันก็แค่ปล่อยไป ปล่อยรถให้ติดต่อไปในทุกๆไฟแดงอย่างไม่เร่งรีบ ... แต่ถึงแบบนั้น ต่อให้มันพยายามจะขับไปให้ช้าแค่ไหน แต่ในเมื่อเวลามันเดินต่อไป เราก็ต้องถึงจุดหมายกันอยู่ดี ... พร้อมๆกับเพลงท่อนสุดท้ายที่เล่นจบลงไม่ต่างกัน



Figure out where we’re goin’

มาหาคำตอบเถอะว่าความสัมพันธ์ของเราน่ะจะไปทางไหน





รถคันหรูสีดำที่ไม่ได้เลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถใต้หอพักของผมมาเกือบเดือนค่อยๆถอยเข้าซองจอดในที่ประจำที่มันเคยมาอย่างคุ้นเคย รถจอดสนิทแบบที่คนขับตั้งใจ ผมหันไปปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันหน้ามาหามันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ขึ้นรถมันมา



“ขอบคุณที่มาส่งครับ”  ยกมือขึ้นไหว้มันด้วยทีนึง คนข้างๆตัวที่เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นนิดๆ เหมือนมันจะถูกใจที่สุดท้ายผมก็หันมามองหน้ามัน อีกฝ่ายที่ค่อยๆยกมือขึ้นรับไหว้ตอบผม เป็นพฤติกรรมที่เราสองคนไม่เคยทำกันเลยสักครั้งเดียว แต่ถึงแบบนั้นในตอนที่สบสายตากับดวงตาคมสีดำสนิทของมันก็ยังเห็นภาพของผมสะท้อนอยู่ในดวงตาของมัน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นของมันที่ส่งมาให้กันอยู่แบบนี้



“ขอตัวครับ” เสหน้าหนีมันแล้วตั้งใจลงจากรถไป อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไร แต่ในตอนที่กำลังจะปิดประตูรถใส่ อีกฝ่ายก็เรียกกันเอาไว้ซะก่อน



“เสือ” มันที่เรียกผมเอาไว้ พร้อมยื่นหน้าออกมาให้เห็น ผมที่ไม่ได้ตอบกลับไปแต่ก็เลือกยืนอยู่ตรงนี้ เท้ามือกับประตูรถของมันแล้วมองอีกฝ่ายอยู่ตรงนี้



“เพลงนี้ชื่อ talk ของkhalid”



“แล้ว”



“ให้มึงนะ...เพลงนี้น่ะ” มันบอกออกมาแบบนั้น สายตาที่จ้องมองกันด้วยความหมายลึกซึ้งที่ผมไม่กล้าจะแปลออก ได้แต่ทำหน้านิ่งๆทั้งๆที่หัวใจของผมมันสั่นและเต้นรัวถี่ๆแบบที่ไม่เคยจะเป็น มือที่ชื้นเหงื่อที่จับอยู่ที่ขอบประตูนั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก และอีกคนที่เหมือนดูจะพอใจกับปฏิกริยาของผมในตอนนี้



“กู...ผม ผมแปลไม่ออกหรอก ผมโง่ภาษาอังกฤษ”



“...ไม่เป็นไร กูรอได้ รอให้มึงแปลทั้งเพลงออกแล้วค่อยมาบอกกูว่าชอบไหมก็ได้” มันที่บอกออกมาแบบนั้น สายตาที่บอกความหมายของมันมาอย่างชัดเจน เหลือเพียงแค่ว่าผมจะรับรู้มันไหม



“ฝันดีครับพี่เก้อ”  เลือกที่จะบอกตัดบทออกไปแบบนั้นแล้วก็ดันประตูรถปิด ก้าวขายาวๆเดินหนีออกมาจากรถของมันโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองอีก



“ฝันดีเหมือนกันครับ...น้องเสือ”



ได้ยินเสียงดังไล่หลังตามมาแบบนั้น ไม่ได้หันกลับไปมองมันอีก แต่รับรู้ได้อีกคนยังคงมองกันมาจากในรถของมัน ขาของผมที่ก้าวให้ช้าลง ก็แค่ยังไม่อยากจะเดินขึ้นไปบนตึกในตอนนี้ก็แค่นั้น ไม่ได้หันหลังกลับไปแต่ก็รับรู้ได้ถึงเสียงเคลื่อนตัวของรถคันนั้น ที่ตอนนี้ก็ขับออกไปแล้ว



.

.

.



“เย้เฮ้เพื่อนเสือออออ วิชาเรียนรวมปีหนึ่งแม่งจ๊าบสัดๆ ได้เจอมึงอีกแล้วครับเพื่อน”



“รำคาญมึงว่ะ ไอ้จูนมึงมานั่งคั่นกูหน่อย”



“ไม่เอาอ่ะ แบ่งๆมึงรำคาญมันมั่ง กูอยู่กับมันตลอดประสาทจะแดกตาย...อีกอย่าง กูว่ามันน่าจะอยากนั่งข้างมึงมากกว่า” ไอ้จูนว่าออกมาแบบนั้นแล้วนั่งลงอีกข้างของไอ้อิฐแทน คำพูดของมันที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง แต่ไอ้จูนก็แค่ทำหน้านิ่งๆแบบที่มันชอบทำ



“ทำไมวะพะยูน ทำไมมึงไม่รักไอ้อิฐเลยล่ะจ๊ะเพื่อนจ๋า” ไอ้อิฐที่นั่งอยู่ขวามือของผม มันยื่นหน้าเข้าไปหาไอ้จูน ส่ายไปส่ายมาเหมือนว่ามันน่ารักมากๆ ... ใครแม่งบอกมึงแบบนั้น



“ไปไกลๆหน้า กูรำค๊าญ”



“แน๊ ทำเป็นพูดเสียงสูง อย่ามาหวงกูแล้วกัน ชิชะเชอะ กูจะเล่นตัวให้คอยดู”



“หวงKไรล่ะ อยู่กับเจ๊ดานี่มากไปหรอ ประสาท”



ฟังพวกมันสองคนเถียงกันแบบนั้น ชินครับ แต่ว่าผมก็ชอบ เพราะถือว่ามันสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทด้วยมากที่สุดแล้ว อีกอย่างพวกมันเป็นคนต่างคณะ มันไม่สนใจคำพูดต่างๆที่ได้ยินถึงผม เราเจอกันเพราะมันทำงานที่ร้านเหล้า และนั่นแหล่ะครับ เลยเป็นเพื่อนกันมาแบบงงๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันสองคนเป็นเพื่อนที่ดี



“ไอ้เสือจ๊ะ พะยูนด่ากูจ้า”



“อื้ม สม”



“สัด ใครๆก็ไม่รักไอ้อิฐ แม่งเอ้ย เป็นเศร้าอยากจะร้องไห้จ๊ะพี่จ๋า”



“อิฐ มึงเลิกทำตัวแบบนี้ได้ไหมวะ สติ” ไอ้จูนด่าออกมาอีกประโยค



“มึงคิดว่ากูจะสติดีหรอ ดูเจ้าของร้านที่กูทำงานทุกคืนด้วยครับ กูถูกปลูกฝังมาแบบนี้ มันหลอมรวมให้กูเป็นคนแบบนี้ เป็นคนน่ารักใสๆแบบนี้อ่ะมึงเข้าใจไหมจ๊ะเพื่อนเสือ” ทำหน้าเศร้าแล้วกระพริบตาปริบๆ เห็นไอ้จูนถอนหายใจออกมาอย่างระอาแล้วก้มหน้าไปเล่นเกมส์ในมือถือต่อ



“กูอัดเสียงมึงไปฟ้องเจ๊ดานี่ละ”



“Kน้องจูน!”



“กูรู้ว่ากูมี ไม่ต้องถามหาหรอก กูยังไม่ปวดฉี่ตอนนี้”



“กวนตีนนัก เดี๋ยวกูเอาKกูฟาดปากมึงให้ หึ่ย”



“เล็กๆจุ๋มจิ๋ม ฟาดก็ไม่เจ็บ”



“เดี๋ยวโดนละมึงอย่าร้องนะ ท้าทายกูจัง”



“นี่ไอ้อิฐ เจ้าของร้านมึงคือพี่ผู้ชายที่เป็นตุ๊ดหรอวะ” ผมถามขัดพวกมันออกไป จำได้ว่าผมเคยเห็นครั้งนึงตอนไปร้านนั้นกับไอ้พี่เก้อ ตอนที่มันไปมีเรื่องกับเค้า พอไปครั้งหลังๆไปอีกก็ไม่เคยเจออีก



“ถ้ามึงหมายถึงผู้ชายที่วันดีคืนดีก็ใส่สูธผ่าอกกว้างๆให้เห็นกล้ามอก แต่เสือกทาปากแดงแล้วแต่งตาวิ๊บวับล่ะก็นะ เออ ก็นั่นแหล่ะเจ้าของ อิเจ๊พี่ดานี่”



“เค้าชื่อดานี่หรอวะ”



“จะบอกว่าเป็นชื่อในวงการก็น่าจะเหมาะกว่าอ่ะครับเพื่อนครับ จริงๆพี่มันมีชื่อแมนๆแฮนซั่มว่าดาบ แต่มันบอกว่าไม่เพราะไม่เหมาะกับความสวยของมันเลยตั้งใหม่ว่าดานี่”  ยิ่งฟังยิ่งงง ผมจำได้ว่าเค้าเป็นผู้ชายที่หล่อคนนึงเลย และที่สำคัญเค้าเป็นแฟนกับพี่เอม เพื่อนสนิทของไอ้พี่รหัสของผมที่มันชอบนักชอบหนา



“เค้าเป็นตุ๊ดหรอวะ”



“ฮ่าๆ มึงว่าไงอ่ะครับเพื่อน เหมือนตุ๊ดไหม”



“จะบอกว่าเหมือนก็เหมือน จะบอกไม่เหมือนก็ไม่เหมือนเลยว่ะ แล้วคือ...เค้ามีแฟนไม่ใช่หรอวะ แฟนเค้า พี่เอม”



“นี่มึงรู้จักพี่เอมด้วยหรอวะ แต่ก็นะรุ่นพี่คณะมึงนี่หว่า พี่เอมของไอ้อิฐ ไม่รู้ว่าเดินตกท่ออีท่าไหนถึงมาได้กับอิเจ๊พี่มัน พี่หนูน้องเอมของไอ้อิฐ ทำงานด้วยกันไม่นานอิเจ๊พี่มันก็สกัดดาวรุ่ง กูกับน้องจูนไม่ค่อยได้เจอเลยหลังเนี่ย”  ไอ้อิฐบ่นออกมาแบบเพ้อๆพลางเบะปากตอนที่มันพูดถึงเจ้านายมัน

 

“กูอัดเสียงแล้ว กูฟ้องเจ๊ดานี่แน่”



“มึงจะเอาใช่ไหมไอ้น้องจูน อย่าเอาเมียเจ้านายมาล้อเล่นได้ป่ะ” ไอ้อิฐหันไปข่มขู่ไอ้จูนแล้วว่าออกมาแบบนั้น เมีย



“พี่เอมเป็นเมีย”



“แล้วมึงคิดว่าสภาพแบบพี่เอมจะเป็นผัวอิเจ๊พี่มันได้หรอครับเพื่อนเสือ อย่าโง่สิเอ้อ เห็นทาปากแดงๆแบบนั้นตีนหนักน้ามึง หมัดมวยก็คือต่อยทีหน้าเบี้ยว หวงพี่เอมจัดๆจนลำบากพวกกูเนี่ย” ไอ้อิฐว่าพรางถอนหายใจ มือข้างนึงเท้าคาง อีกข้างก็เอานิ้วเคาะโต๊ะและนินทาเจ้านาย



“กูต้องพาไอ้ห่าน้องจูนไปออกค่ายกับคณะมึงก็เพราะอิเจ๊พี่มันนี่แหล่ะ ข่มขืนจิตใจกูให้ต้องไป หวงขนาดนั้นไม่มัดติดเอวไปเลยล่ะวะ”



“มึงบ่นหรอไอ้อิฐ กูเห็นตอนเจ๊ดานี่บอกว่าถ้าไปค่ายจะให้ห้าพัน มึงบอกว่าตกลงครับทันทีแบบไม่คิดเลยนะ”



“สัด เอาสิครับ จ้างไปค่ายไม่กี่วัน ได้เงินเท่านั้นกูไม่ไปก็โง่สิเอ้อ...ว่าแต่มึงถามทำไมวะ” 



“เปล่าหรอก กูก็แค่สงสัยเลยถามดู”  ก็แค่สงสัยว่าชีวิตรักพี่เอมดีขนาดนั้น แล้วไอ้สัดพี่เก้อก็ยังกล้าไม่ตัดใจอีกหรอวะ  ผมที่เอามือเท้าคางแล้วมืออีกข้างก็จับปากกาลากไปตามกระดาษบนโต๊ะแบบใจลอย



“แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่ครับเพื่อนเสือ ...”



“เปล่าหรอก”



“ตอแหลหน้าด้าน มึงฟังอะไรอยู่วะ ไหนขอฟังหน่อย” ไอ้อิฐที่เอื้อมมือมาหยิบแอร์พอร์ตข้างนึงออกจากหูของผมไป ก่อนจะเสียบเข้าใส่หูมันแบบถือวิสาสะ เป็นคนสันดานหยาบไม่ต่างจากหน้าตาครับ



“Can’t we just talk? Talk about where we’re goin เพลงไรวะ เพราะดีนี่หว่า”



“ก็แค่เพลงอ่ะ” บอกมันแบบนั้นตอนที่มันยื่นแอร์พอร์ตคืนให้ ไอ้อิฐหรี่ตาลงมาข้างนึงแล้วมองหน้าผม หน้าตาหน้าตบจนต้องยกมือไปผลักหัวมัน



“ทำร้ายร่างกายกูว่ะ”



“รำคาญหน้ามึงสัดอิฐ”



“จ้า ก็นะ หน้ากูมันแค่เด็กบ้านๆตาดำๆ”



“หน้าตาเหมือนกระโปกหมา”



“สัดน้องจูน เดี๋ยวๆ เดี๋ยวมึงเจอกู”  ไอ้อิฐหันไปทำหน้าตาคาดโทษใส่ แต่ไอ้จูนก็แค่ยักไหล่ไม่สนใจมันก็เท่านั้น ไอ้อิฐฟึดฟัดอยู่พักใหญ่ ส่วนผมเองก็ทำแค่ปิดเพลงแล้วเก็บมือถือลงเพื่อเตรียมตัวเรียน ในตอนนั้นที่ไอ้อิฐก็หันหน้ามากระซิบกันที่ข้างๆหู



“หน้ากระโปกหมาแบบกูมึงคงไม่ชอบอ่ะเนาะ ... เพราะมึงน่าจะชอบ กระโปกเสือ”



“พูดเหี้ยอะไร!”  หันไปมองหน้ามันที่อยู่ข้างๆกัน ไวจนคอแทบเคร็ด และไอ้อิฐที่ยังไม่ถอยหน้าหนี ยิ่งกว่าซีนในหนังรักที่ปลายจมูกเราสองคนชนกันพอดี ไอ้อิฐเบิกตากว้างทำหน้าเหมือนผีหลอก ไม่ต่างกัน กูก็เด้งตัวออกอย่างไวเหมือนกัน



“สัดอิฐ รำคาญมึง กระโปกเสือเหี้ยไรล่ะ” ด่ามันออกไปแบบนั้น ไอ้อิฐที่ตั้งตัวได้ยกยิ้มมุมปากมองหน้ากันอีกครั้ง มันที่ยักไหล่นิดๆ



“เสือแบบ...ไท เก้อ มั้ง”



“พ่อง!”



“อิอิ”  อยากจะถามว่าอิพ่ออิแม่มึงรึไง แต่ไม่พูดตอบกลับไปดีกว่า กลัวมันจะพูดห่าพูดเหวอะไรออกมาอีก



“อย่าปล่อยให้ใครรอเก้อเหมือนชื่อล่ะ เพราะอาจจะไม่ใช่เค้าที่แค่เก้อ มึงเองก็อาจจะเก้อด้วยเหมือนกัน” หันไปมองไอ้อิฐที่มันไม่ได้หันหน้ามาหาผม เห็นแค่มุมด้านข้างของมันที่ก็หล่อดี แต่ถ้าพูดออกมาแล้วปากจะเหี้ยแบบนี้ อย่าสาระแนพูดเลยจะดีกว่าครับ



“K”



“งื้ออ น้องจูนพะยูนเพื่อนรัก ไอ้เสือด่ากูจ้า”



“สมน้ำหน้ามึง”



ผมไม่ได้หันไปสนใจมันสองคนที่เริ่มต้นเถียงกันอีกแล้ว ได้แต่คิดถึงคำพูดของไอ้อิฐที่พูดมามากกว่า ... อย่าปล่อยให้เค้ารอเก้อ เดี๋ยวมึงจะเก้อไม่ต่างกัน หันหน้าหนีจากไอ้อิฐกลับมาเลื่อนสายตาลงไปมองดูกระดาษเอสี่ตรงหน้าที่ไปปริ้นท์เนื้อเพลงมาอ่านตั้งแต่เมื่อคืน  เนื้อเพลงของเพลง Talk



...



“เมื่อไหร่จะปล่อยสักทีวะ รำคาญ”



เสียงของไอ้เก้อที่ดังขึ้นข้างๆตัวผม หันไปมองหน้ามันก็เห็นมันที่ดูกระวนกระวายนั่งไม่ติดเก้าอี้ตั้งแต่ที่เริ่มเรียนคาบบ่ายมา ไม่รู้เป็นห่าอะไร



“มึงปวดขี้หรอวะ”  ผมหันไปถามมันแบบนั้น คือกูน่ะเป็นห่วงมากๆเลย ถ้าเพื่อนจะปวดขี้แล้วไม่กล้าไปขี้ ขนแขนเรามันจะชูชัน เป็นความรู้สึกที่ว่าอยากปลดปล่อยออกมาให้สุด แต่ทำไม่ได้จนต้องปล่อยให้มันคาตูดไว้เพราะไปเข้าไม่ได้ ไอ้เอมเข้าใจดีครับ



“ขี้ที่หน้ามึง”



“เอ้า!”  กูนี่เอ้าแรงมาก ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวเหมือนคนเป็นขี้กาก ด่ากูทำไมก่อน คนเป็นห่วงไหมอ่ะ



“แล้วมึงจะอยากเลิกอะไรนักคะอิผัว พ่อแม่ส่งมาเรียนก็ตั้งใจหน่อยอิห่า หล่อแต่โง่ก็ไม่มีใครเอามึงนะคะ” ไอ้หยีที่นั่งอยู่ซ้ายมือผมหันไปด่าผัวมันพร้อมมองแรงใส่  ไอ้เก้อถอนหายใจฟึดฟัด อารมณ์เหมือนกระทิงเห็นผ้าแดง ฟึดฟัดอยากพุ่งใส่อาจารย์



“ก็เพราะว่าจะไม่มีใครเอาไง กูเลยต้องไปทำคะแนน”  ไอ้เก้อพูดออกมาเบาๆ ไม่ได้ดังมาก แต่ไอ้เอมหูดี



“มึงจะไปทำคะแนนกับใครค๊า”  แต่ไอ้หยีเสือกหูดีกว่า นั่งอยู่ข้างกูแท้ๆ คือมึงได้ยินได้ยังไงก่อน รู้สึกว่าจะไม่ใช่แค่ผมเหมือนกันที่จะตกใจ ไอ้เก้อก็หันหน้ามามองแบบตกใจไม่ต่างกัน หน้าตาของมันที่ผมอ่านออกว่า มึงได้ยินได้ไง



“มึงคิดว่าในโลกนี้จะมีอะไรที่กูไม่รู้ไม่เห็นหรอ”



“ขนาดไซส์นมมึงหรือเปล่าที่มึงไม่รู้ จริงๆมันอาจจะเป็นคัพเอ แต่มึงมโนว่าคัพบีอ่ะ”



‘เพี๊ยะ’



“โอ้ย กูเจ็บนะ” ไอ้เอมน้ำตาปรอย อิป้ามันตบหัวซะผมด้านหลังกระจุย หันไปมองมันทั้งน้ำตา แต่มันไม่สงสารครับ



“อย่ามาล้อเลียนเรื่องนมกูนะคะ นมกูมีคุณภาพมากๆ เก็บไว้ใช้เมื่อพร้อม อย่ามาบุลลี่กูค่ะ!”



“ก็แค่หยอก”



“กูเพื่อนเล่นมึงหรอค๊า”



“งั้นมึงใคร มานั่งข้างกูทำไม ออกไป๊”



“เดี๋ยวนะอิเอม แหม ดีกับผัวละปีกกล้าขาแข็งกับกูหรอคะ กูหยิกมึงดีไหม หยิกให้เขียวเลยเอาไหม” ว่าแบบนั้นไม่ใช่คำถาม มันทำจริงจนกูดิ้นไปพร้อมโต๊ะเลคเชอร์ ชนเข้ากับโต๊ะของไอ้เก้อเต็มๆ



“พวกมึงหยุดเล่น เดี๋ยวแอนดรูไม่ปล่อย” ไอ้เก้อที่หันมาดุ แล้วยกขาดันขาเก้าอี้ผมให้ออกไปห่างๆมันแบบรำคาญ เห็นกูเป็นตัวอะไรเอ่ย ยันเป็นลูกหมา หึ่ย! จะบอกให้ว่าแบบกูน่ะเป็นลูกควายเท่านั้น จำ!....แล้วกูจะดูภูมิใจกับความเป็นควายทำไมก่อน



จริงๆชินครับ เพราะอิพี่ดาบบอกว่า ควายคือความน่ารัก อ๋อยยย



“ทำหน้าฟินอะไรอิเอม คิดถึงผัวแน่ๆ”



“ก็กูมีให้คิดอ่ะป้า”  หันไปทำปากยื่นปากยาวใส่มัน ไอ้หยีเบิกตากว้างเลยตอนได้ยินผมพูดแบบนั้น เห็นแล้วขำหน้าของมันจนกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่



“ก๊ากกกก หน้ามึงตลกมากอ่ะป้า”



‘ตึงๆๆๆ’



“โอบนิธิ รสริน หัวเราะอะไรกัน ผมคงสอนสนุกมากสินะ งั้นเดี๋ยวต่อเวลาเพิ่มใหเอีกห้านาทีนะ”  แอนดรู หรือมิสเตอร์เบเคอร์  อาจารย์ฝรั่งจากเมืองผู้ดีอังกฤษ แต่เสือกพูดภาษาไทยชัดเป๊ะทุกคำ พี่ท่านใช้แปรงลบกระดานเคาะไวท์บอร์ดเสียงดังแล้วเอ่ยยิ้มๆแบบเอ็นดูกันสุดๆส่งมาให้ผมกับไอ้หยี และคนทั้งเซคก็หันหน้ามามองเราประดุจพวกกูเป็นคนหน้าตาดี ด้วยสายตารักใคร่(?)



“พ่องตายไอ้เอมไอ้หยี แม่ง! กูยิ่งรีบๆไอ้สัด”  ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เก้อที่หันมามองกันเหมือนอยากจับแดกกันลงไป



“วันนี้ไอ้เก้อไม่อ่อนโยนกับกูเลยว่ะ”  หันไปกระซิบไอ้หยีเบาๆ เจ้าตัวก็เอียงหัวกลับมากระซิบตอบผมทันที



“มึงชื่อเสือหรอคะ มันถึงจะต้องอ่อนโยนให้มึงเหมือนจุดซ่อนเร้นน่ะ”



“ยังจะคุยกันอีกนะ ถ้าแอนดรูมันต่อเวลาเพิ่มอีก กูจะตีพวกมึงไม่ยั้งเลย สัด!”  ด่ากูจบท้าย แล้วเปิดหนังสือเรียนพลิกไปที่หน้า154 ... ตั้งใจเรียนจัดๆกันไปเลย



.

.

.





“เชี่ยเอ้ย เลิกช้าไปตั้งสิบนาที จะทันไหมวะ”  ไอ้เก้อที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูพรางบ่นพึมพำออกมาแบบนั้น



“มึงจะรีบไปไหนวะเก้อ”



“กูมีธุระ”



“ไม่ไปแดกข้าวด้วยกันก่อนหรออิผัว เนี่ย สยาม ใกล้ๆ เอารถมึงไปกูขี้เกียจอ่ะ”



“ก็บอกอยู่กูมีธุระๆ  กูไปละเสียเวลาว่ะ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาฉุนๆ มันกระชับกระเป๋าของมันแล้วก้าวขายาวๆจำอ้าวออกไปแบบนั้น ทิ้งผมกับไอ้หยีให้มองตามแผ่นหลังกว้างๆนั่นไปแบบตาปริบๆ



“มึงว่ามันไปไหน”



“กูวางร้อยนึงว่าไปหาน้องเสือแน่ๆค่ะ”



“มันกลับมาดีกันแล้วหรอวะ” เอียงหน้าไปขอความเห็นไอ้หยี มันเองก็แค่ยักไหล่แบไม่รู้เหมือนกัน ก่อนแขนเรียวของมันจะยกขึ้นมาพาดลงบนบ่าของผม



“ถ้าอยู่เฉยๆใครจะไปดีกับมันล่ะคะ ของแบบนี้ก็ต้องสู้กันหน่อยสิวะ...อีกอย่างนะ กูดูออกว่ามันคิดถึงน้องเสือจะตาย มันอยู่เฉยๆมาได้เป็นเดือนก็โง่มากแล้วนะคะ”



“โง่กว่ากูก็ไอ้เก้อนี่ล่ะ” บอกไอ้หยีไปพร้อมๆกับยักคิ้วให้ ไอ้หยีทำหน้าตกใจเลยในตอนนี้ เป็นอะไรของมันวะ



“กูเป็นไอ้เก้อกูโกรธเลยนะคะว่ากูโง่กว่ามึง เชี่ยเอ้ย แบบนี้มันต้องโง่เข้าขั้นชั้นแกนโลกเลยนะ”



“ป้า...”



“ว่าไงคะลูก”



“มึงกับกูเลิกคบกันเหอะ เหมือนเกลียดกันอ่ะ” กรอกตาแล้วปัดมือมันออกจากไหล่ ไอ้หยีก็หัวเราะชอบใจแล้วยกแขนขึ้นมาพาดไหล่ผมอีกรอบแบบเกาะไม่หลุดอยู่ดี



“ไปเหอะมึง ไปหาไรแดกกันสวยๆถ่ายรูป”



“อะไรคือสวยๆของมึง”



“แบบบิงซงบิงซู ความเกาหลีคะวะอี้เดสเนะงี้อ่ะ”



“คะวะอี้เดสเนะ คือภาษาญี่ปุ่น มึงสับสนอะไรอ่ะป้า”



“แล้วมันทำไม กูอยากจะพูดให้คล้องจองแล้วมันทำไม ไม่เสือกภาษากูได้ไหม มึงจะไปไม่ไปอิน้องเอม ไม่ไปก็หุบตูดกลับไปหาผัวมึงเลยไป๊”  ฉุนเฉียว เป็นความฟึดฟัดเหมือนผู้หญิงวัยทอง อะๆ...ง้อเค้าหน่อย



“ไปๆ แค่นี้ก็โวยวาย เดี๋ยวไม่มีผัวน้า”



“กูอยู่คนเดียวก็ได้ค่ะ ถ้าได้ผู้ชายปัญญาอ่อนมาเป็นภาระให้กู กูอยู่ๆสวยและรวยมากแบบนี้ก็ได้ค่ะ”



“เชี่ย ชอบว่ะ ถึงจะขึ้นคานก็ขึ้นอย่างมีอุดมการณ์อ่ะเนาะ”



“เอม”



“ครับผม”



“มึงกับกูเลิกคบกันไปเลยไปอินี่นิ!”



“หยอกไงหยี หยอกกกก”



“กูเพื่อนเล่นมึงหรอค๊า”



.

.

.


(มีต่อกันไปจุกๆจ้า :3123:)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

“อิเหี้ย อิเอมมมมกูเครียดค่ะ มึงดูท้องที่ยื่นออกมาของกูค่ะ กรี๊ด”



“ใครใช้ให้มึงกินเหมือนยัดห่าอ่ะป้า ก่อนหน้านั้นก็เค้กสองชิ้น แล้วนี่ยังบิงซูมะม่วงชีสด้วยนะกูย้ำ”



“มึงจะย้ำทำไม มึงจะพูดแบบนั้นทำไมคะ! ฮื่อออ อ้วนอ่ะ กูอ้วนแน่ๆ”  ไอ้หยีที่เอาหลังพิงโซฟาของร้านบิงซูมีชื่อร้านนึงในสยามแบบเหนื่อยๆ มันที่ดึงชายเสื้อนักศึกษาออกมาจากกระโปรงแล้วตอนนี้ สภาพเหมือนคนท้องสามเดือนอยู่นิดหน่อยครับ



“มึงไม่อ้วนหรอกน่า”



“กูอ้วน กูต้องอ้วนขึ้นแน่ๆค่ะ ฮื่อแย่แล้วๆ” ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ พอกูบอกไม่อ้วนก็ไม่เชื่อ พอบอกอ้วนก็ด่าว่าพูดจาหมาไม่แดก แล้วจะเอายังไงกันล่ะเห้ย



“ไหนมึงบอกว่าถ้าเราไม่ชั่งก็คือเราไม่อ้วน เราจะชั่งเอาน้ำหนักที่เราพอใจแล้วยึดถือน้ำหนักนั้นไว้ไงวะป้า” บอกมันออกไปแบบนั้น ไอ้หยีที่หันมามองกันแล้วทำท่าเหมือนคนตาสว่าง มันที่เด้งตัวขึ้นมามองหน้ากันดีๆแล้วยิ้มสดใส



“อิเอม มึงฉลาดมาก เวลากูเห็นมึงฉลาดแล้วกูตกใจเลยอ่ะค่ะ ไม่ชินกับเหตุการณ์นี้ แต่ถูกของมึงค่ะ ถ้าเราไม่ชั่งเราก็จะไม่อ้วน โอเค กูสบายใจละ งั้นเราไปซื้อทาร์ตไข่กลับบ้านอีกสักชิ้นสองชิ้นดีไหมนะ” ตาเป็นประกายตอนที่พูดออกมาแบบนั้น มันที่ลุกขึ้นยืนตัวปลิวแล้วถือใบเสร็จออกไป... แต่เดี๋ยวนะ มึงหลอกด่ากูป่ะเนี่ย!



ลำบากลำบนกูต้องแบกถุงเสื้อผ้าที่มันซื้อมาอีกสี่ห้าถุงตามมันไปด้วย พะรุงพะรังที่สุดในร้านคือกูอีก แล้วเคาเตอร์ที่จ่ายเงินก็อยู่หน้าร้าน ทางเข้าก็ไม่ได้กว้างอะไรมากเลย กูนี่ตัวเกะกะเลยครับตอนที่ถือถุงกระดาษเยอะแยะแบบนี้



“มึงเดินไม่รอกูเลยนะป้า”



“เอาน่า ทำตัวหล่อๆให้กูยืมควงวันนึงนะหนูน้า”



“แล้วแต่ใจมึงเลยเถอะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วไอ้หยีก็คิกคักถูกใจ มันที่ยืนรอพนักงานถอนเงินอยู่ ผมที่ว่างๆก็ฆ่าเวลาเล่นด้วยการมองออกไปนอกร้าน ก่อนที่สายตามันดันไปสะดุดเข้ากับแผ่นหลังของใครบางคน



“เอ๊ะ”



“หื้ม เอ๊ะอ๊ะอะไรมึง อยากกินทาร์ตไข่หรอ รอแป๊บ พนักงานนับเหรียญบาทให้กูอยู่”



“ไม่ๆ มึงนั่นมัน นั่นมัน...เห้ย!”



“อะไรของมึงอิเอม มาๆ ได้ละๆ อะไรคะ”  ไอ้หยีที่หันมาหาผม พร้อมเหรียญบาทเหรียญห้าในมือ ได้แต่มองมันแบบตกใจนิดหน่อย



“หนึ่งร้อยบาทจ้า”



“ต้องขอโทษคุณลูกค้าด้วยนะคะ แบงค์หมดเอาไปแลกไม่ทันจริงๆค่ะ”  พนักงานของร้านบอกเราแบบนั้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีพร้อมยกมือไหว้ เราสองคนที่ได้แต่ยิ้มให้แบบเข้าใจ ให้ทำยังไงได้อ่ะวะ วันนี้เหมือนลูกค้าจะเยอะและพนักงานน้อยด้วย ใจเค้าใจเรา



“มึงก็เอาไปหยอดกระปุกหมูมึงละกันนะ”



“เออ ก็ต้องแบบนั้นแหล่ะค่ะ ... ว่าแต่เมื่อกี้มึงเอ๊ะๆอ๊ะๆอะไรวะ”  พอไอ้หยีทักแบบนั้นผมก็นึกขึ้นได้เลย หันหน้ากลับไปก็ไม่เห็นคนสองคนที่ผมคุ้นตาเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว



“เมื่อกี้กูว่ากูเห็น...”



“เห็นผัวมึงมากับกิ๊กหรอคะ หรือมากับพาพวย ไหน ไปทางไหน มา! กูพามึงไปลุยเองอิเอม หึ่ยๆๆ” ไอ้หยีที่ถลึงตาใส่ผมแบบโมโห มันที่คว้าข้อมือผมแล้วตั้งท่าพุ่งออกไปจากร้าน ดีตรงที่ผมขืนแรงดึงของมันไว้ได้ทัน



“ไม่ใช่เว้ยป้า มึงใจเย็นหน่อยได้ไหมเนี่ย”



“ก็กูเห็นมึงทำหน้าตาตื่น กูก็คิดเลยว่ากูต้องได้บทเพื่อนนายเอกแล้วไง องค์กูนี่ลงเลยค่ะ เลือดมันสูบฉีด” ผมส่ายหน้าระอาใส่มันนิดหน่อย ก่อนจะเดินตามไปตรงที่ผมเห็นเมื่อกี้ พยายามมองซ้ายมองขวาแล้วแต่ก็ไม่เห็นคนที่ตามหาอีก



“สรุปมึงหาใครอิเอม มึงเห็นใคร พูดซะที ต่อมเสือกกูกระพือหมดแล้วเนี่ย”



“มึง...”



“อะ ว่าไง”



“กูว่ากูเห็นพาพวย”



“แล้วน่าตกใจตรงไหนอินี่ โวะ!”



“ที่มันน่าตกใจก็เพราะว่า กูเห็นพาพวยมากับน้องม็อบว่ะ”



...



“ไปกินด้วยกันสิวะเสือ กูอยากให้มึงไปด้วย”



“ไม่เอา กูอยากกลับไปนอน กูเหนื่อยสัดอิฐ” บอกปฏิเสธมันเป็นรอบที่สามล้าน แต่ไอ้อิฐก็ยังคะยันคะยอให้ผมไปหาข้าวกินที่ร้านที่มันทำงานอยู่ดี มันบอกว่าเจ้าของร้านมันจะทำอาหารกลางวันไว้ด้วย จริงๆคือทำไว้ให้ลูกน้องครบสามมื้อ เพราะที่ร้านมีห้องพักพนักงานด้วย ถ้าเจ๊ดานี่ไม่อยู่ ก็จะให้แม่ครัวทำไว้ตลอด ไอ้อิฐมันอยากให้ผมได้ไปกินข้าวฟรี จะได้ไม่เสียเงินซื้อข้าว ซึ่งก็จริง...เดือนนี้ผมต้องใช้ประหยัดๆ แต่วันนี้มันก็เหนื่อย อยากนอน



“อะไรว้า น้องจูนมึงดูไอ้เสือดิ”  พอมันเห็นผมไม่ยอมไปด้วยก็หันไปฟ้องไอ้จูน ไอ้จูนที่มองหน้าผมสลับกับไอ้อิฐไปมาอยู่แบบนั้น สายตาของมันที่มองมาที่ผมแปลกๆแบบที่ผมว่าผมมองออก แต่ใครอีกคนก็คงโง่และทำแค่กวนตีนจนเป็นนิสัย



“มึงไปดิเสือ มันคงอยากให้มึงไปมากแหล่ะ” ไอ้จูนว่าออกมาแบบนั้น ผมที่มองหน้ามันกลับไปนิ่งๆจนไอ้จูนมันเสหน้าหนี เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา



“ไม่เอาอ่ะ มึงไปกันสองคนนั่นแหล่ะ กูจะกลับหอ”



“ไรว้า”



“กินกับกูไม่อร่อยเท่ากินกับน้องจูนของมึงหรอก อย่ามาเร้าหรือ รำคาญไอ้สัด” ด่าไอ้อิฐไปแบบนั้นแล้วยกเท้าถีบขากางเกงมันไปที ไอ้อิฐทำปากขมุบขมิบด่าผมแบบไม่มีเสียง แต่ผมแค่ยักคิ้วกวนตีนใส่มันไปแทน



“เออ กูไม่ง้อมึงหรอก ไปกันเถอะน้องจูนพะยูนเพื่อนรักของกู” มันว่าแบบนั้นแล้วหันไปคว้าตัวไอ้จูนมากอดคอ ไอ้อิฐมันสูงครับ สูงกว่าไอ้จูน พอทำแบบนั้นไอ้จูนก็เลยเหมือนถูกดึงเข้ามาซุกอกไอ้อิฐซะแบบนั้น



“ทำเหี้ยไรวะอิฐ”



“นิ่งๆ พะยูนอย่าดีดดิ้นกับพี่ครับ”



“K รำคาญๆๆๆ”



“ฮ่าๆ พวกมึงไปทะเลาะกันต่อที่อื่นละกัน กูไปล่ะ กูง่วง” บอกตัดบทพวกมันแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นบ๊ายบาย ไอ้อิฐโบกมืออีกข้างที่ว่างอยู่ตอบผม แต่ไอ้จูนไม่ได้ทำเพราะมันพยายามงัดร่างตัวเองออกจากไอ้อิฐอยู่แต่ไม่สำเร็จ เห็นพวกมันสองคนแล้วก็ได้แต่คิดถึงคำที่ไอ้อิฐบอกผมแล้วก็ต้องส่ายหัว ... คนเราแม่งก็แบบนี้ เก่งแต่เรื่องของคนอื่นตลอดเลย



ผมที่นั่งรถในม.มาลงที่หน้ามหาลัย ตั้งใจว่าวันนี้จะนั่งรถเมล์กลับ เพราะพอหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาแล้วหยิบได้แต่แบงค์ยี่สิบ เศรษฐกิจเฮงซวยแบบนี้ อย่าทำตัวมั่นหน้าหรูหรานักเลยไอ้เสือเอ้ย



“หิวน้ำฉิบหาย” อยากกินชาไข่มุก แต่ก็อย่างที่ว่า เราไม่ควรทำตัวหรูหราถ้าเราไม่มีจะแดก



‘ปี้นๆ’



เสียงบีบแตรรถที่ดังมาจนคนแถวนั้นต้องหันมอง หนึ่งในนั้นก็คือผม รถคันหรูสีดำยี่ห้อคุ้นตา ที่เหมือนมาเมื่อคืนก่อนจะพึ่งได้นั่งมันไปเอง ขับมาจอดเทียบข้างๆผม หน้าต่างฝั่งที่นั่งด้านหน้าถูกเปิดออก และก็มองเห็นหน้าเจ้าของรถที่ส่งยิ้มมาให้กัน



“จะกลับแล้วหรอ”



“อืม”  จะให้กูตอบอะไรวะ



“ขึ้นรถดิ เดี๋ยวไปส่ง”  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นทั้งรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เหี้ยอะไรของมันอีกวะ



“ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้”  ตอบมันออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายก็ยิ้มเจือนลง ผมถอนหายใจหนักๆแล้วตั้งใจจะเดินต่อ แต่ไอ้รถคันนี้ก็ยังขับช้าๆตามกันมา



“จะกลับเองทำไมให้เปลืองเงิน”



“ไม่เป็นไรผมมีเงิน”  ยี่สิบบาทก็เงินไง เงินกูอ่ะ



“เสือ...พี่อยากไปส่ง”  แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องมาพูดจาดีๆ กับน้ำเสียงแบบนี้ใส่กันด้วยวะ หันหน้าไปมองลอดช่องหน้าต่างรถที่ก็เห็นสายตาที่หอบความหวังส่งมาให้กัน



“ถ้าเสือไม่ขึ้น พี่ก็จะขับตามอยู่แบบนี้แหล่ะ” มันว่าออกมาแบบนั้นอย่างดื้อดึง ผมที่หันไปด้านหลังที่มีรถสองสามคันเริ่มมาจอดต่อท้ายมัน จริงๆเค้าไม่ได้อยากจ่อท้าย แต่มันติดที่ไปไม่ได้ก็เพราะรถสัดพี่เก้อ



“เนี่ย รถติดยาวแล้วนะ”



“มุกกะโหลกว่ะ” คิดว่ามึงเป็นพระเอกนิยายหรอวะแม่ง



‘ปี๊นๆๆๆๆๆ’



แต่ใช่ เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย รถคันหลังเริ่มบีบแตรไล่ และใช่ มีแต่คนมองกู....



“ขึ้นไม่ขึ้น เสือคร๊าบบบบ”



“เออๆ ขึ้นแล้วๆโว้ย!” ตอบแม่งออกไปแบบนั้นอย่างหงุดหงิด รำคาญน้ำเสียงติดจะออดอ้อนของมัน และที่สำคัญคือสงสารรถคันหลัง กลัวเค้าจะลงมาด่าหัวกูด้วยเนี่ย



“แต่แรกก็จบแล้ว” มันที่พูดแบบนั้นแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี มีแต่กูเนี่ยที่จะอารมณ์ไม่ดี แม่งกวนตีนกัน



“วันนี้อาจารย์ปล่อยเลทตั้งสิบนาที” คนข้างๆตัวผมพูดออกมาแบบนั้น ไม่รู้ว่ามันเล่าทำไม ไม่ได้ถามสักหน่อย ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรมันกลับไป ก็แค่หันหน้าออกนอกหน้าต่างไปเหมือนทุกที



“ตั้งใจจะไปรับที่ห้อง แต่วิ่งไปดูแล้วไม่เจอใครเลย”



“พี่ไปหาผมที่ห้องเรียน”  สัดเสือ ปากมึงเนี่ย...ก็ตั้งใจว่าจะไม่พูดอะไรไม่ใช่หรือไงวะ



“ใช่ ไปหาที่ห้อง แต่ไปแล้วไม่เหลือคน ก็เลยลองขับรถสุ่มๆออกมาทางที่คิดว่ามึงจะกลับ”



“แล้วรู้ได้ไงว่าผมจะกลับทางนี้”  ทางที่จะมาขึ้นรถเมล์กับทางที่จะไปขึ้นรถไฟฟ้าอยู่คนละฝั่งกันครับ เพราะแบบนั้นเลยอดสงสัยจนต้องถามออกไปไม่ได้



“ช่วงนี้ใกล้จะสิ้นเดือนไง”



“แล้ว”  หันไปเลิกคิ้วถามมัน อีกคนที่ก็หันมามองกันยิ้มๆ



“ใกล้จะสิ้นเดือนทีไรมึงก็ต้องประหยัดตลอดไม่ใช่หรือไงล่ะ เป็นแบบนั้นทุกเดือน” มันที่บอกออกมาแบบนั้น แล้วส่งยิ้มเหมือนคนรู้ทันกันมาให้ ผมเสหน้าหนีมันทันที ความทรงจำเก่าๆย้อนกลับมาว่าเมื่อก่อนจะเป็นมันที่ไปรับไปส่งเลยไม่ลำบากเรื่องเงินมากในตอนนั้น



“หิวไหม”



“ไม่อ่ะ”



‘จ๊อกๆ’



“จิ๊” สัด ท้องแม่งร้องแบบไม่ไว้หน้าคำตอบของกูเลย มได้ยินเสียงของคนข้างๆตัวมันหัวเราะในลำคอด้วย



“อืม กินนี่รองท้องก่อนดิ”  มันที่เอี้ยวตัวไปด้านหลังในตอนที่รถติดไฟแดงพอดี ก่อนจะหยิบแก้วชานมไข่มุกติดมือกลับมาด้วย ... ชานมไข่มุกเจ้าที่กำลังนึกอยากกิน ที่พึ่งมาเปิดใหม่อยู่ใต้ตึกคณะเรา



“จำได้ว่ามึงเคยบอกว่าอยากกินยี่ห้อนี้ เห็นเลยนึกถึงมึงเลยซื้อมาให้” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วยัดแก้วนั่นมาไว้ในมือของผม



‘คลิ๊ก’



เสียงกดปุ่มเปิดเพลงที่ดังขึ้น ความรู้สึกเหมือนวนลูปย้อนกลับไปในคืนก่อน มาพร้อมๆกับเสียงดนตรีที่ดังคุ้นหู เพราะว่าฟังมาทั้งคืนแล้ว



Can’t we just talk?  Can’t we just talk?

เรามาคุยกันหน่อย เรามาคุยกันหน่อยไม่ได้หรอ

Talk about where we’re goin’

คุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น



“พี่เก้อ”



“เสือ”



เราสองคนที่หันมามองหน้ากันแล้วพูดออกมาพร้อมกันซะแบบนั้น ผมจ้องเข้าไปในตาคมสีดำสนิทของมัน เป็นแววตาที่หน้าหลงใหลเหมือนที่เคยเห็นมาตลอด



“มึงพูดก่อนเลย”



“พี่ทำแบบนี้ทำไมวะ ทำแบบนี้กับผมอีกทำไม ทำไมพี่ไม่ไปทำแบบนี้กับคนที่พี่ชอบวะ ถึงแม้ว่าแฟนพี่เอมจะดุมากๆ แต่ถ้าพี่ลองสู้กับความรักของพี่ มันจะไม่ดีกว่ามาตามผมแบบนี้หรอวะ”



“มึงพูดจบรึยัง”



“ยัง...ผมไม่เข้าใจอะไรพี่เลยว่ะ ไหนบอกนักบอกหนาว่าเราเป็นพี่น้องกันไงวะ....ถ้าจะเห็นว่ากูเป็นน้อง มึงก็ช่วยทำตัวให้เหมือนพี่น้องปกติเค้าทำกันหน่อยสิวะ” ผมที่พูดออกไปแบบนั้น จ้องตามันแบบที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด ผมสับสน ผมอึดอัด แต่ทั้งหมดในความรู้สึกของผมนี้ มันยังเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของผมที่มีให้มัน


มันที่เงียบไปนาน นานมากจนได้ยินแต่เสียงลมหายใจของผมที่ดังสะท้อนขึ้นลงอยู่ในหน้าอกนี่แบบไม่เก็บอารมณ์ และในที่สุดมันก็เปิดปากพูดออกมา



“พี่น้องเค้าจูบกันไหม”



“พี่น้องเค้าไม่จูบกันไงวะ”  ตอบมันออกไปแบบนั้น และก็เป็นมันที่พยักหน้าขึ้นลงตอบรับคำพูดของผม



“อืม...ก็จริงของมึง” 



“ถ้ามึงเข้าใจแล้วก็ช่วยทำตัวปกติจากกูหน่อยเหอะไอ้สัดพี่เก้อ!” หงุดหงิดกับท่าทางของมัน มันที่ก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไงแต่ก็ยังเข้ามาวุ่นวายกันแบบนี้



“ตอนนี้มึงเองก็ทำตัวปกติกับกูแล้วนี่นา พูดปกติกับกูได้แล้วหรอวะ” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก มองเห็นแววตาดีใจของมันแล้วก็ต้องกัดปากตัวเองแบบห้ามไม่อยู่ ... กูพลาดอีกแล้ว



“มึงทำแบบนี้ทำไมวะสัดพี่เก้อ”



“มึงบอกว่าพี่น้องเค้าไม่ทำกันแบบนี้...”



“อืม”



“แล้วตอนนี้...ใครมันอยากเป็นพี่น้องกับมึงกันวะ”



เสียงเข้มๆที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้ดัง แต่ก็ชัดเจนไปทั้งใจของผม เป็นความรู้สึกตื่นเต้น เหมือนจะดีใจจนหัวใจเต้นถี่ๆแบบทำงานหนักสุดๆ ฝืนหน้าตัวเองที่รู้สึกว่าร้อนจัดๆหันหน้ามามองใครอีกคนที่มองกันอยู่ก่อนแล้ว



“มึงบอกว่ามึงชอบกู แต่ที่ผ่านมากูไม่เคยรู้ว่ากูชอบมึง”



“หนึ่งเดือนที่ผ่านมาของกูมันแย่ว่ะ เวลาที่ไม่มีมึงอยู่มันแย่มากๆเลยว่ะ กูไม่เคยเป็นแบบนี้ ขนาดไอ้เอมไปคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมนั่น กูก็ไม่รู้สึกเคว้งขนาดนี้ว่ะเสือ”



Yeah, started off right

มาเริ่มต้นด้วยความถูกต้องกันเถอะ

I can see it in your eyes

ผมมองเห็นมันในดวงตาของคุณ

I can tell that you’re wantin’ more

รู้ว่าคุณต้องการมันมากกว่านี้

What’s been on your mind?

คุณกำลังคิดอะไรอยู่นะ?

There’s no reason we should hide

ไม่มีเหตุผลที่เราต้องเก็บซ่อนมันไว้หรอกนะ

Tell me somethin’ I ain’t heard before

บอกผมหน่อย เรื่องที่ผมไม่เคยรู้มันมาก่อน



“บอกกูหน่อยได้ไหม...ว่าที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือนนี้ที่เราไม่ได้เจอกัน มึงเองก็เหมือนกับกูใช่ไหมเสือ” ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมือมาจับข้างแก้มของผม บังคับให้สายตาของเรามองกันแบบที่ผมหนีไปไหนไม่ได้ ... เป็นครั้งแรกที่หัวใจของผมเต้นแรงมากขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เลือดในตัวสูบฉีดมากขนาดนี้ ผ่านไปไม่กี่นาทีแต่เหมือนไปออกกำลังกายมาหลายชั่วโมง



“มาเริ่มกันใหม่ได้ไหมวะ กับความสัมผัสบูดๆเบี้ยวๆของเรา”



“แล้วพี่เอ...”



“กูชอบมึง ตอนนี้กูมั่นใจ...วางเรื่องที่กูเคยทำให้มึงเสียใจ แล้วเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันนะ”



ในช่วงเวลาที่เรามีความรัก เรามักจะมีความกล้าในแบบที่เราไม่เคยคาดคิด ก็แค่ยอมปล่อยตัวไปกับสิ่งที่เราเกาะเอาไว้แน่นๆ ยึดมันเอาไว้ไม่ให้ตกหล่น ก็แค่ปล่อยมือจากมัน เพื่อที่จะทิ้งตัวลงไปในอ้อมแขนของใครสักคน ...



และอ้อมแขนนั้น ก็เป็นมันที่เอื้อมมือมากอดตัวผมไว้แน่นๆในตอนนี้



“คิดถึงมึงมากๆเลยเสือ”



“อืม...คิดถึงมึงมากๆเหมือนกัน พี่เก้อ”



...



“ดาบค่ะ ดาบค่ะ หนูชื่อดาบ มากับลิปแล้วก็มาโบว์”



เปิดประตูเข้ามาในห้องก็ได้ยินเสียงเพลงแปลกๆนี่กระแทกเข้าหูให้กูต้องขมวดคิ้ว คืออะไรก่อนน่ะ



“ดาบค่ะ ดาบค่ะ หนูชื่อดาบ มากับลิปแล้วก็มาแปรง”    ท่อนที่สองกระแทกเข้ามาใส่หูอีกหนึ่งครั้ง ครั้งนี้มันไม่ได้มากับโบว์ แต่มันมากับหวีแปรงแทน คืออะไรวะ พอเดินเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นก็ชัดเลย ไอ้เจ๊พี่ดาบมันกำลังเอากล่องเครื่องสำอางค์ที่ถ้ามองเผินๆแล้วจะรู้สึกเหมือนกล่องพยาบาลประจำห้องออกมาจัดเรียงใหม่



“ทำอะไรอยู่วะเจ๊”



“กรี๊ด ตกใจหมดเลยอิดอก ครับ”



“ก็ถ้าจะอิดอกขนาดนั้น มึงไม่ต้องครับแล้วก็ได้” กรอกตาใส่พี่มันหนึ่งทีแบบปลงตก แก้ไม่ได้แล้วครับกับการชอบกรี๊ดเสียงสองของมัน หรือแม้แต่เรื่องทาแป้งแต่งหน้าก็แก้ไม่ได้ แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆก็ต้องยอมรับว่า ‘ชิน’



“มานี่มาหนู ทำไมทำหน้าเหนื่อยแบบนั้นล่ะวะ” มันที่นั่งอยู่ที่พื้นห้องพูดออกมาแบบนั้นแล้วกวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไปหา และแน่นอนว่ากูก็พุ่งเข้าไปหาทันที ทิ้งกระเป๋ากองไว้ข้างๆแล้วพุ่งตัวลงไปกอดมันแน่นๆ เป็นอ้อมกอดอุ่นๆและมีกล้ามหน้าอกแน่นๆเพราะมันออกกำลังกาย วันนี้มันใส่เสื้อคอปาดสีชมพูลายขาวโชว์ไหปลาร้าและกล้ามอกแบบจงใจ



สีชมพูที่ดูแล้วผัว



“เหนื่อยอ่ะพี่ดาบ เอมเหนื่อยยยย”



“เรียนหนักสินะคะ ปวดเขาเลยใช่ไหม ไม่ต้องห่วงนะ กูทำหญ้าไว้ให้มึงในครัวแล้วค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วพูดส่งเสียงคิกคัก แม่ง ชอบกวนตีน กูกัดนมแม่งเลยแรงๆหนึ่งที



“โอ๊ย เจ็บนะคะ!”



“ชอบว่ากูอยู่ได้”  เงยหน้าช้อนตาขึ้นไปมองมันแล้วว่าแบบนั้น แต่พี่มันแค่ยกยิ้มมุมปากเท่ๆส่งมาให้กัน วงแขนแข็งแกร่งที่กอดกระชับเอวผมให้แน่นขึ้น ก่อนจะก้มหน้าลงมากดจูบเบาๆที่ริมฝีปากของผม



“ก็มึงน่ารัก กูเลยชอบแกล้ง”



“แม่ม มีความสุขมากไหมอ่ะ”



“มากๆเลย แค่เป็นมึงทำหน้าโง่ๆกูก็ชอบแล้ว” บอกออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มมากให้ ฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นมาเอาผมทัดหูให้ผมแล้วลูบแก้มกันเบาๆ



“จริงๆแล้วก็เป็นแค่คนคลั่งรักสินะดาบน้า” ยักคิ้วใส่มันแบบล้อๆ อยากให้แม่งอายบ้าง แต่อีกคนพอได้ฟังกลับยิ้มร้ายๆตอบกลับมาให้แทนแบบถูกใจ



“อืม คลั่งรักมึงกว่าใครก็คือกูนี่แหล่ะ” เอียงหน้าลงมาแนบริมมีปากจูบผมแบบร้อนแรงขึ้น รับรู้ได้เลยว่าอีกคนกำลังอยากจะทำอะไรในตอนที่ลิ้นร้อนของมันแทรกตัวเข้ามาในโพลงปากของผมแบบหนักหน่วงมากขึ้น ฝ่ามือของพี่มันที่วางไว้ที่สะโพกของผมก็เริ่มจะไม่อยู่นิ่ง เลื่อนมือลงไปบีบเข้าที่แก้มก้นผ่านเนื้อผ้ากั้นอย่างหนักหน่วง



“อื้อ ด...เดี๋ยวก่อน”



“ทำไม”  ผละหน้าออกมาตอนที่ผมเอามือดันออก พี่มันที่ขมวดคิ้วมองหน้ากัน ก็จะมีอารมณ์อะไรขนาดนี้วะ มึงช่วยให้เกียรติที่คาดผมรูปลูกพีชสีชมพูมีหน้าตาจิ้มลิ้มบนหัวมึงด้วยครับ



“วันนี้ผมเจอพาพวยที่สยาม” ตั้งใจตั้งแต่อยู่ห้างแล้วว่าจะต้องมาเล่าให้พี่มันฟังให้ได้ แต่พอบอกไปอีกคนก็แค่ทำหน้าเซ็งใส่



“เจอแล้วทำไม ก็ช่างมันดิ หรือพายมันมาทำไรมึงอีก” ถามออกมาแบบนั้นแล้วทำตาแข็งตอนที่พูด



“เปล่าอ่ะ ผมเจอเค้าไกลๆ”



“คงไปเที่ยวล่ะมั้ง ก็เห็นวันนั้นบอกว่าอีกไม่กี่อาทิตย์จะกลับไปเมืองนอกอีก” พี่มันว่าแบบนั้นแบบไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ แถมยักไหล่ให้อีกหนึ่งที



“ไม่ใช่ว่าเค้าจะกลับมาอยู่นี่ถาวรหรอ”



“ไม่รู้ว่ะ ... เอาจริงๆคือกูไม่ได้รู้เรื่องไรมากหรอก ขนาดหลอกถามยังได้อะไรมานิดๆหน่อยๆ”



“เค้ากำลังจะทำอะไรหรือเปล่าวะพี่”



“ทำ...ก็คงจะวางแผนมาซื้อเกาะนั่นจากกูนั่นแหล่ะ แต่ตอนนี้เงียบๆไปแล้ว ในเมื่อใช้พายมาเกลี้ยกล่อมกูไม่ได้ ก็คงจะไปเข้าทางพ่อกูเองล่ะมั้ง ไม่รู้ดิไม่ได้สนใจเท่าไหร่อ่ะ”



พี่มันบอกออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางที่ไม่สนใจจริงๆ แต่ถึงแบบนั้นผมกลับรู้สึกแปลกๆ



“พาพวยหายไปจากพี่มึงเลยหรอ เงียบผิดปกติป่ะวะ”



“ก็เค้าไม่มีเรื่องอะไรจะมาคุยกับกูป่ะวะ จริงๆกูก็พูดชัดไปแล้ว เค้าเองก็เห็นชัดๆไปแล้วว่ากูคบกับมึง คนมีสติก็ควรจะเลิกยุ่งกันก็ถูกแล้วไม่ใช่หรอวะ...กูว่านะ เราเอาพายเข้ามาในชีวิตเรามากไปจนชีวิตของเราแม่งจะไม่โอเคแล้วว่ะเอม”



“ผมก็ไม่ชอบหรอก จริงๆนะ” หันหน้าไปเอามือกอดคอพี่มันแล้วช้อนตามองหน้า พูดย้ำแบบนั้นชัดๆกับมันว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้อยากเป็นคนไม่น่ารักหรือขี้ระแวงแบบนี้ แต่อดีตของผมก็สอนให้ต้องระวัง ถึงพี่ดาบมันจะดีแค่ไหน แต่เรื่องผิดพลาดมันก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆเวลาที่มีตัณหาเข้าครอบงำไม่ใช่หรือไง



“ต่อจากนี้เรามาทำให้ทุกวันของเรามีแต่เรื่องดีๆกันนะ ตอนนี้แม่ก็เริ่มโอเคกับมึง เรามาทำครอบครัวของเราให้ดีกันนะเอม” มองสบเข้าไปในดวงตาคมที่มองผม สายตาของพี่มันสั่น แต่คำพูดของมันก็มั่นคง ผมยิ้มรับกับคำพูดนั้น พยักหน้าให้พี่มันเล็กน้อย



“พี่รักเอม รักเอมแค่คนเดียวจริงๆนะ”



“อื้ม รู้แล้วน่า บอกบ่อยจังเลย”



“ก็แค่อยากให้มั่นใจ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น กูก็รักแค่มึงจริงๆ”



“อะไรของพี่วะเนี่ย” ผมเลิกคิ้วมองแบบไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงยิ้มขำๆไปให้มันกับไอ้การย้ำของมันซ้ำอยู่แบบนี้



“ไม่มีอะไรค่ะ กูแค่กลัวว่าสมองควายน้อยของกูจะไม่จดจำ”



“เดี๋ยวกูกัดมึงเลยนะพี่”



“ดุน้า กลัวจังๆ”



“เออแต่พี่ดาบ”



“หื้มว่าไงคะ” อีกฝ่ายที่กำลังจะลุกขึ้นยืนเลิกคิ้วมองผมแบบสงสัยว่าผมจะพูดอะไร คิดให้รอบคอบกับใจตัวเองอีกครั้งก่อนจะบอกมันออกไป



“จริงๆวันนี้กูไม่ได้เจอพาพวยคนเดียวนะ ... ผมเจอพาพวยอยู่กับน้องม็อบ น้องรหัสผมว่ะพี่



.

.

.



[[DANI: คิดจะทำอะไร บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับเอม]]





--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาา ในตอนนี้มีหลากหลายประเด็นมากๆเลยค่ะ อยากให้คนอ่านสนุกและลุ้นไปด้วยกัน

กับทุกคู่ ทุกตอน ทุกบท และทุกๆความสัมพันธ์ค่ะ

ถ้าคนอ่านชอบ แคทก็จะดีใจมากๆเลย

หวังว่าคนอ่านจะยังอยู่ และรู้สึกสนุกกับนิยายเรื่องนี้ไปจนจบเลยนะคะ

ส่วนเรื่องเล่ม ตอนนี้ภาพหน้าปกเล่ม1แคทได้ยลแล้ว อิเจ๊พี่ดาบสวยสุดในน่านน้ำ อิอิ

แคทจะไม่ทำให้ผิดหวังนะคะ

ฝากแฮชแทคในทวิตเตอร์ #สวยๆเป็นผัว ด้วยนะคะ ท่านใดไม่มียูสในเว็บ

สามารถเข้าไปคอมเม้นท์กันได้นะคะ

ในตอนนี้มาค่ะ เชิญกรี๊ดหวีดร้องให้กับตอนนี้กันจ้า ขอดังๆกว่าเสียงกรี๊ดเจ๊ดานี่ไปเลยน้า

-รัก-


ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เจ๊ดานี่คนจริง o13 o13 o13

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: รออีเจ๊กวาดล้างแก๊งพาพวย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พาพวยไม่จบง่ายๆ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น่าจะมาเป็นขบวนการนะ อิเจ้จัดการปิดบัญชีเลยจ้า

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
เจ้คะ ความผัวมากค่ะออกโรงปกป้องเมีย :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด