ตอนพิเศษ
Beauty and the nephew
“ไม่ค่ะอิดอกกกก กูไม่ไปค่ะอิเหี้ย...ไม่ กูตั้งใจเรียกมึงงี้เลยเฮีย กูไม่ได้เรียกผิดค่ะอิเหี้ยเฮียทัพ กูไม่ไปอ่ะ กูจะนอนกอดเมียอยู่บ้านค่ะ เก็ตไหมคะ อ๊ะ...ฮั...ฮัลโหลๆๆ กรี๊ดดด อิเฮียเหี้ยนี่!”
ผมที่นั่งฟังบทสนทาประหลาดนี่มานานกว่าสิบนาที มองเห็นไอ้คนร่างสูงตรงหน้าที่ในเวลานี้ก็ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวพันที่เอวหลวมๆ เดินโชว์กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนชัดเจนอยู่ตอนนี้
“โอ๊ยยย อิดอก รุงรังมากค่ะ” เสียงสองแหลมสูงที่ร้องออกมาแบบนั้นด้วยความหงุดหงิด พร้อมๆกับที่เจ้าตัวก็โยนมือถือของตัวเองไปที่โซฟาอย่างหงุดหงิด ใบหน้าหล่อที่หันมามองผมพร้อมขมวดคิ้ว เห็นแบบนั้นเลยต้องจำใจลุกจากโต๊ะกินข้าวเดินเข้าไปหาพี่มันที่ยังยืนทำหน้าหงุดหงิดอยู่ตรงหน้าทีวี
“เป็นอะไรไปอีกล่ะครับ”
“รำคาญอิเหี้ยเฮียทัพ...สัด” สบถออกมาเสียงเข้ม แมนๆเตะกูตาย
“เฮียเค้าทำอะไรเจ๊พี่มึงอีก”
“ให้ไปเลี้ยงลูกให้มัน” ว่าแบบนั้นพร้อมใบหน้าหล่อๆที่ก็งอลงมาแบบอดไม่ได้ วงแขนแกร่งที่เอื้อมเข้ามาคว้าเอวของผมแล้วดึงรั้งเข้าไปหาตัว ก่อนที่เจ้าตัวจะวางใบหน้าไว้ที่ซอกคอของผม สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด
“อิหนูครับ”
“หื้ม”
“เปรี้ยวมาก อี๋ ไม่อาบใช่ไหมมึงเนี่ย” ผละออกจากตัวผมอย่างไว แถมเขยิบหยีไปด้วยอีกสองก้าว หนอยยยย ดูมันๆๆ
“อย่ามาว่าผมนะเว้ย”
“อี๋ คนไม่สวย ทำไมอ่ะคะ มีผัวสวยแบบกูทำไมไม่รู้จักรักสวยรักงามบ้างอะหนู มือก็หยาบตัวก็เปรี้ยว”
“อ๊ากกกก เจ๊มึงมานี่เลยนะ มาดมจักแร้ผมเลย มา!”
“ไม่!! อิหนูมึงอย่าเข้ามา กรี๊ดดดด”
...
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ มาหาหลานทั้งที”
“กูไม่ได้อยากมาเลยค่ะ อิห่าเฮียทัพมันข่มขืนจิตใจกูให้มา” คนที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับพูดออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่ยกมือขึ้นกอดอกตัวเองแล้วสะบัดหน้าหนีออกนอกรถ ทำเป็นตัวเล็กตัวน้อย ทั้งๆที่จริงๆมันเหมือนหมีควายป่า
“อิหนู อย่าเหยียบเบรคตลอดแบบนั้น เอาเท้าวางที่คันเร่งนิ่งๆ พอถึงจังหวะที่ควรจะเบรคมึงค่อยเปลี่ยนเท้ามาวางที่เบรค”
“ก็ผม...”
“มึงไม่ต้องกลัว อยู่กับกู กูไม่ปล่อยให้มึงเป็นอะไรไปได้หรอก ขับๆไปเถอะ” ผมที่สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วย้ายเท้ามาไว้ที่คันเร่งแล้วค่อยๆขับไปอย่างที่เคยเรียนรู้มาหลายครั้งแล้ว จริงๆผมไปทำใบขับขี่เรียบร้อยแล้วด้วยครับ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังขับไม่ค่อยจะแข็ง คนที่สอนผมขับรถก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็อิเจ๊พี่ดาบนี่แหล่ะ ครูของผม เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้ผมแล้ว
“ตบไฟเลี้ยวด้วย”
“จะเข้าบ้านอยู่แล้วอ่า”
“มึงต้องทำให้ชิน ถนนไม่ได้เป็นของพ่อมึงคนเดียวนะที่อยากจะขับแบบไหนก็ขับ ตบไฟเลี้ยว”
“อื้อๆ รู้แล้วครับ” ผมที่ตบไฟเลี้ยวตามคำพูดของพี่มัน ประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ที่ค่อยๆเลื่อนเปิดออกช้าๆอย่างอัตโนมัติเหมือนรู้เวลาว่าเรากำลังจะมาถึง ผมที่ขับรถไปจอดไว้ที่โรงรถอย่างปลอดภัย ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กูมาถึงแล้วโว้ย!
“ขับรถยากขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“ก็ไม่ได้นอนเฉยๆไหมวะพี่มึงมันถึงจะได้ง่ายอ่ะ”
“หรอวะ เวลามึงนอนอยู่ใต้ตัวกูเฉยๆมันก็ง่ายเหมือนกันหรอวะ แต่เวลากูนอนอยู่ใต้ตัวมึง แล้วให้มึงขึ้นออนท็อปให้ก็ไม่เห็นจะง่ายนะหนู กูต้องสวนเอวสู้มึงตลอด กูว่านอนก็ไม่ง่ายอ่ะ” หันหน้าไปมองคนที่พูดรัวๆออกมาแบบนั้น พี่มันที่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาหากันแบบไวๆ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะโฉบลงมาจุ๊บเบาๆลงที่ปากของผมแล้วผละออก
“ว๊าย น่าแดงจังเลยค่ะ อิอิ” อิพ่ออิแม่มึงอิเจ๊พี่ดาบ อิตุ๊ดปลอม!!
ตั้งท่าจะด่ามัน แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะมันที่เดินตัวปลิวลงจากรถไปพร้อมปากแดงๆของมันที่วันนี้ก็ทาปากสีแรงมาเหมือนเคย ปล่อยให้ผมได้แต่นั่งหน้าร้อนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้เขินนะ! ก็แค่ดับเครื่องแล้วมันเลยร้อนเฉยๆ ฮื่ออ ทำไมชอบล้อเรื่องอย่างว่ากันนักวะ!
“ฮาย เฮนโหลว อันย๊องงงงงเด็กๆ”
“อาดาบบบ”
“อาดานี่!!~”
เสียงใสๆสองเสียงที่ประสานกันออกมาจากทางหน้าประตูบ้าน พอหันไปมองก็เป็นอะไรที่ต้องทำให้อดอมยิ้มตามออกมาไม่ได้ ร่างเล็กๆสองร่างที่แข่งกันวิ่งออกมาด้วยสองขาป้อมๆของเจ้าตัว แขนสองข้างของแต่ละคนที่มองดูแล้วก็ยังเรียกได้ว่าสั้นๆป้อมๆนั่นยื่นออกมาในตอนที่วิ่งเข้ามาหาไอ้พี่ดาบที่ย่อตัวปรบมือให้เพื่อกระตุ้นเด็กๆให้วิ่งเข้ามาหาตัวเอง ... ทำท่าทางเหมือนเวลามันเรียกหมานั่นล่ะครับ
“อาดานี่คร๊าบบบบ”
“อาดาบบบบ”
“ค่อยๆค่ะ ค่อยๆ คนสวยๆไม่ไปไหน ใจเย็นๆ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแต่ก็ยังปรบมือเรียกเด็กสองคนนั่นไม่เลิก
“อึก! เย้ ทิตย์ถึง ..ทิตย์ถึงก่อนงับ” เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในเสื้อยืดสีขาวลายสิงโตน่ารักเข้าคู่กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินยื่นมือป้อมๆมาหาไอ้พี่ดาบพร้อมโถมตัวเข้าไปกอดพี่มันเต็มแรง
“ฮ่าๆ เก่งจังเลยนะคะเจ้าตัวจ้อย มานี่ค่ะ มาให้กูฟัดเดี๋ยวนี้ค่ะไอ้เด็ก” มันว่าแบบนั้นแล้วกระชับวงแขนกอดรัดฟัดหอมเจ้าเด็กที่มาถึงก่อนให้ได้ส่งเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนาน
“อ๊าก ฮ่าๆ อาดานี่ไม่แกล้งทิตย์น้า เอิ๊ก ฮ่าๆ” สองแขนป้อมๆนั้นที่โบกไปมาตอนโดนอิเจ๊พี่มันจับฟัดโดนหอมไปตามระเบียบ ... นั่นคือภาพของคนที่มันบอกว่าไม่อยากจะมาหาหลานสักเท่าไหร่ ผมหันหน้าไปมองตามเด็กอีกคนที่หน้าตาคล้ายกันแบบสุดๆที่วิ่งตามมาที่หลัง เด็กที่อยู่ในเสื้อยืดลายน้องแมวและกางเกงขาสั้นสีแดงสดที่ตอนนี้หยุดวิ่งแล้วเมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กอีกคนไปถึงก่อน ขาสั้นๆนั่นที่ค่อยๆเปลี่ยนทิศทางเดินมาหาผมแทนอย่างช้าๆ เห็นแบบนั้นแล้วก็ได้ยิ้มกว้างๆออกมาเลยครับ ผมที่ย่อตัวลงไปหาพร้อมยิ้มให้
“ไงเรา ไม่วิ่งแล้วหรอครับ” ถามออกไปแบบนั้น เด็กเล็กตรงหน้าที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมพร้อมๆส่ายหน้า
“จันทร์ไปไม่ทัน”
“แล้วไม่คิดจะวิ่งตามไปอีกหรอ”
“ไม่เอา แพ้แล้วก็ไม่ตามหรอก จันทร์เหนื่อย” ส่ายหน้าพร้อมช้อนดวงตาใสแจ๋วนั่นมาบอกผม เห็นแบบนั้นแล้วต้องหลุดขำออกมาเลยจริงๆ ... ก็ถูกของพระจันทร์ สู้ทำไมวะ สู้ยังไงก็ไม่ชนะอ่ะ วิ่งต่อให้เหนื่อยทำไม
“ฮ่าๆ นั่นสิน้า...มา อาเอมอุ้ม” บอกแบบนั้นแล้วกางแขนออก เจ้าตัวเล็กที่ยืนลังเลอยู่นิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ค่อยๆเบียดตัวเข้ามาหาผมให้ได้อุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา
พระจันทร์กับอาทิตย์ เด็กแฝดสองพี่น้องที่จริงๆแล้วเป็นลูกชายของพี่ชายพี่เมล ถ้าจะถามผมว่าพี่เมลคือใคร ก็ต้องบอกแบบง่ายๆว่าคือแฟนของเฮียทัพครับ ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ถือเป็นคนดูแลเด็กคู่นี้อยู่ เอาจริงๆก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพ่อเป็นแม่ให้เด็กสองคนนี้เลยล่ะครับ แต่ถึงพระจันทร์กับอาทิตย์จะเป็นแฝดกัน แต่เจ้าสองแสบนี่เรียกได้ว่านิสัยแทบจะต่างกันเลยล่ะครับ
“อาดานี่ๆคะขา อาดานี่จะมาเล่นกับทิตย์หรอวันนี้”
“มาดูแลค่ะอิเด็ก เล่นอะไรคะ ไม่เล่นกับเด็กเล็กค่ะ เบื่อ”
“ทิตย์ไม่เล็กๆ ทิตย์ใหญ่” เจ้าตัวจ้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่ดาบว่าออกมาแบบนั้นพร้อมกวาดมือเป็นวงกว้าง แสดงท่าทางให้เห็นว่าใหญ่แค่ไหน เรียกรอยยิ้มของอิเจ๊พี่มันไปได้อีกครั้ง ก่อนที่ใบหน้าหล่อๆนั่นจะหันมาทางผมที่กำลังอุ้มจันทร์เดินเข้าไปหามัน
“แล้วตัวนี้มันทำไมนักคะ ทำไมต้องมาออเซาะเมียกูคะ”
“พี่ดาบ!” ผมที่เรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นด้วยเสียงเข้มๆ เด็กแค่ไม่กี่ขวบ มึงจะมาผัวๆเมียๆอะไรให้เด็กมันต้องสับสนวะ ผมถลึงตาใส่มันทีนึง แต่อีกฝ่ายแค่ยิ้มนิดๆแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มพระจันทร์ที่ตอนนี้กอดคอผมอยู่
“ว่าไง สวัสดีอาดานี่หรือยังไอ้ตัวจ้อย”
“จันทร์สวัสดีอาดาบ” ว่าแบบนั้นแล้วยกมือไหว้ แต่เหมือนคนที่โดนไหว้จะไม่ถูกใจเท่าไหร่ สีหน้าเลิ่กลักนั่น ก่อนจะเปลี่ยนเป็น
“ดานี่ค่ะ!”
“อาดาบชื่อดาบ จันทร์จำได้ เนอะอาเอม” ไม่ว่าเปล่าหันหน้ามาช้อนตามองผมแล้วพยักหน้าหงึกหงักให้ผมไปด้วย
“ยัง ยังอีกนะคะมึง”
“พี่ดาบพอได้แล้ว เลิกแหย่หลานเล่นได้แล้วน่า”
“ดานี่ค่ะๆๆๆ ทำไมพวกมึงไม่ฟังกูคะ” เสียงแหลมๆที่ทำให้ผมกับพระจัทร์ต้องยกมือปิดหู พลางก้าวยาวๆเดินหนีเข้าไปในบ้าน อีกฝ่ายที่ยังยืนหน้ามุ่ยอยู่ตรงนั้น มองดูจากตรงนี้ ก็เห็นแขนเล็กๆของอาทิตย์ที่เอื้อมขึ้นไปจับหน้าของพี่มัน ก่อนจะเอียงหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มคุณอาคนโปรดของตัวเองแรงๆ
“ทิตย์หอมๆ อาดานี่รมดีเลยน้า”
“หึ่ย มึงนี่มันน่ารักจังเลยนะคะ มาๆ กูจะฟัดให้แก้มยุบเลยค่ะ”
“อ๊า ฮ่าๆๆ อย่าๆ อย่าแกล้งทิตย์น้า ฮ่าๆ”
เสียงเล็กๆที่หัวเราะเสียงดังมาจากตรงนั้นทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ... การมีเด็กๆในบ้านนี่มันทำให้สดชื่นแบบนี้เองสินะ
“อ้าว น้องเอม มาแล้วหรอ” เสียงเรียกที่ทำให้ผมต้องละสายตาออกจากภาพตรงหน้า หันไปก็เจอเข้ากับเจ้าของบ้านร่างโปร่งที่อายุมากกว่าผมไม่กี่ปี ผมวางพระจันทร์ลงแล้วหันไปยกมือไหว้พี่เมล ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนนี้
“ขอโทษจริงๆนะที่รบกวน”
“ไม่เป็นไรครับพี่ สบายมาก”
“เราน่ะสบาย แต่ไอ้บ้านั่นแม่งบ่นมาก น่ารำคาญ” เสียงเข้มของคนมาใหม่ที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังพี่เมล ร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลา มาดนักธุรกิจเต็มตัวที่ดูน่าเกรงขาม ใบหน้าคมนั่นเหมือนจะแผ่อำนาจออกมาตลอดเวลา เจ้าของบ้านหลังนี้ที่แท้จริง ... เฮียทัพ
ลูกพี่ลูกน้องผู้พี่ของอิพี่ดาบ ... ว่าแต่ทำไมมันต่างกันนักวะ
แอบเหลือบๆปรายตาไปมองไอ้คนร่างสูงที่เดินอุ้มอาทิตย์เดินตามผมเข้ามาในห้องรับแขก
“มองอะไรกูคะอิหนู คิดถึงเรอะ”
“พูดบ้าอะไรของพี่วะ” หันไปถลึงตาใส่อีกคน แต่เจ้าตัวทำแค่หัวเราะหึเบาๆในลำคอ เกลียดนัก
“อาดานี่ๆ จะอยู่เล่นกับทิตย์กับจันทร์ใช่รึเป่า”
“ใช่ วันนี้มึงจะเล่นอะไร กูจะเล่นด้วยทั้งวันเลยนะคะ”
“เย้ ทิตย์ชอบ”
“ชอบหมดแหล่ะมึงเนี่ย” พูดออกมาเหมือนไม่ชอบใจ แต่เจ้าตัวก็ยังคงก้มลงไปหอมแก้มนุ่มของหลานตัวแสบอีกครั้งแบบหมั่นเขี้ยว ผมก้มลงมองพระจันทร์ที่ขยับตัวมานั่งลงบนตักของผมเงียบๆ เป็นเด็กเลี้ยงง่ายที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยงอแง และตอนนี้เจ้าตัวก็เอาแต่นั่งนิ่งๆ แล้วจ้องตรงไปที่พี่เมลกับเฮียทัพหน้าก็แค่นั้น
“มองอะไรอาเมลขนาดนั้น หื้ม” เป็นพี่เมลที่เดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องรับแขก เจ้าตัวย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ตรงกับเจ้าเด็กบนตักของผมแล้วส่งยิ้มน่ารักมาให้ เป็นผู้ชายหน้าสวยที่พอยิ่งยิ้มก็ยิ่งสวย ... ตัดภาพมาที่ไอ้เอม อิพี่ดาบด่ากูหน้าหยาบอยู่ทุกวัน
“เมลๆ” มือป้อมๆยื่นออกไปหาพี่เมล พร้อมกำๆแบๆมือไปตรงหน้า เห็นแค่นั้นก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวดีกำลังอ้อนให้อีกฝ่ายอุ้ม พี่เมลที่รับเจ้าตัวเล็กไปอุ้ม เจ้าเด็กนั่นก็ทำแค่เอาหัวซุกลงตรงไหล่บาง เห็นแบบนั้นพี่ทัพก็เดินเข้ามายืนซ้อนหลังพี่เมล แล้วเลื่อนใบหน้าหล่อนั่งลงไปจ้องหน้าเจ้าลูกชายเอาไว้ ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มนิดๆตอนมองใบหน้าของพระจันทร์ เด็กชายที่มีใบหน้าเรียวรูปไข่ สายตาคมนั่นแทบจะคล้ายคลึงกับเฮียทัพ แตกต่างตรงที่เจ้าตัวเล็กมีแพรขนตางอนยาวสวย เลยทำให้ดวงตานั่นดูมีเสน่ห์ที่แตกต่างออกไป ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าแม่ของพระจันทร์กับอาทิตย์จะเป็นลูกครึ่งครับ เลยได้ตาน้ำข้าวแบบนี้มาล่ะนะ
“ป๊า”
“ป๊าต้องไปงานกับอาเมล จันทร์อยู่กับทิตย์ อยู่เล่นกับอาดาบกับอาเอมได้ไหมครับ” เสียงทุ้มอ่อนโยนพวกกับเด็กเล็กตรงหน้า ดวงตาคมของทั้งคู่สบกันนิ่งๆ ก่อนที่เวลาจะผ่านไปช้าๆ และสุดท้ายก็เป็นพระจันทร์ที่พยักหน้าลงมานิ่งๆ
“คับ”
“เก่งที่สุดเลยลูกป๊า”
“หมั่นไส้มากค่ะอิดอก”
“ไอ้ดาบ อย่าพูดหยาบต่อหน้าเด็ก!” เฮียทัพตวัดสายตาเข้มมาว่าพี่มันแบบนั้น อิเจ๊พี่มันที่ทำท่าจะอ้าปากเถียงขึ้นมาแต่ไม่ทันเสียงเล็กๆที่กำลังปีนขึ้นหัวไอ้พี่ดาบอยู่ตอนนี้
“ป๊า!”
“หื้ม”
“อย่าเยียกดาบนะ นี่...” ว่าแบบนั้นแล้วจิ้มนิ้วมาที่ไหล่ของพี่มัน
“ดานี่นะ!” ดวงตาคมใสของอาทิตย์จ้องคนที่ได้ชื่อว่าป๊าของตัวเองอย่างมุ่งมั่น พวกเราสามคนที่มองหน้ากัน ก่อนจะ
“ฮ่าๆๆๆ” หัวเราะลั่นออกมาพร้อมกันแบบอดไม่อยู่ แหล่ะดูเหมือนว่า คนที่จะอดใจไม่อยู่กับความน่ารักของอาทิตย์ในครั้งนี้ไม่ได้
“น่ารักกกกก ไอ้เด็กนี่มันรักอาดานี่ของมันจริง วันนี้อาทิตย์อยากกินอะไร ทาเล็บไหมอาทาให้เลยค่ะ” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปคว้าเจ้าตัวป้อมลงมาจากไหล่แล้วฟัดให้หนำใจจนได้ยินเสียงเอิ๊กอ๊าก
“ฮ่าๆๆ ทาๆ ทาฉีเหลือง” ดิ้นไปมาพร้อมๆกับขาป้อมๆที่ดีดไปมา
“ทำไมต้องสีเหลืองวะ มึงจะโตขึ้นไปเป็นไอ้รบหรือไง”
“ม่ายยย ทิตย์จาเปงอาดาบ”
“เริศไม่หยุด สวยน่ารักค่ะ”
“กูท้อใจ” เฮียทัพที่พูดออกมาแบบนั้น พร้อมกรอกตาใส่ตอนที่ได้ยินลูกชายคนเล็กว่าออกมาแบบนั้น ผมกับพี่เมลมองหน้ากันแล้วได้แต่ยิ้มอ่อน และในตอนที่หันไปมองพระจันทร์ เจ้าเด็กนั่นกำลังอุ้มโมเดลหุ่นยนต์อยู่กับอกและมองตรงไปที่พี่ดาบกับอาทิตย์ พระจันทร์ถอนหายใจออกมานิดๆแล้วส่ายหัว สายตาที่ดูเหมือนว่ากำลังมองเรื่องไร้สาระเกินทนจนไม่อยากพูดออกมา
“พระจันทร์ครับ” ผมเรียกออกไปแบบนั้น ก่อนที่ดวงตาคมสวยคู่นั้นจะเงยหน้ามาจ้องหน้าผมนิ่งๆ
“ไม่อยากเป็นแบบอาดานี่บ้างหรอครับ” ถามออกไปแบบนั้นก็ได้รับสายตานิ่งๆมองมา ก่อนที่เจ้าตัวจะส่ายหน้าออกมาน้อยๆ แล้วตามมาด้วยเสียงเล็กๆที่ว่า
“ไม่ครับ ไร้สาระ”
ไอ้เชี่ย เด็กมันพูดถูกครับสังคม ฮ่า~~
...
ในช่วงเวลาบ่าย อาทิตย์กับพระจันทร์ที่พึ่งกินอาหารกลางวันเสร็จใหม่ๆ เจ้าสองแสบที่จับมือกันออกไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน ผมเลยได้เวลาพักบ้าง ผมที่กำลังนั่งอยู่ในศาลากลางสวนละสายตาจากเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่น เลื่อนสายตาไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้ทรงหัวดูจะแตกต่างไปจากเดิมที่ขามาถือว่าหล่ออยู่ ตอนนี้น่ะหรอ...
“มองกูแบบนั้นทำไมอิหนู”
“สวยน่ารักจังเนอะ” ผมยิ้มล้อ แล้วเอื้อมมือไปจับจุกบนหัวนั่นเขย่าไปมานิดๆ ตลกมากครับ สามจุกสี่จุกเรียงรายอยู่บนนั้นด้วยหนังยางสีเหลืองเขียวแสดแดงจากฝีมือของอาทิตย์
“เดี๋ยวมึงจะโดนกูน้องเอม”
“โดนอะไรหรอครับ กลัวจังเลยอ่ะจ๊ะพี่ดานี่จ๋า” เลื่อนมือลงมาที่กรอบหน้าหล่อๆนั่งแล้วลูบไล้แผ่วๆแบบแกล้งๆ จ้องตาคมนั่นแบบที่ไม่ได้กลัวเกรง จะให้กูเอาอะไรมากลัวก่อนเอย แค่เห็นจุกบนหัวก็ทำเอาแทบขำจนฉี่จะราดแล้วไหม ผมยิ้มกว้างๆช้อนตาล้อคนตรงหน้าอย่างสนุก ทำเอาคนตรงหน้าทำสีหน้าบึ้งตึงใส่ทันที ก่อนที่ดวงตาคมนั่นจะเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ เจ้าตัวที่ขยับตัวเข้ามาหาผม ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะเลื่อนเข้ามากอดเอวผมเอาไว้ แล้วดึงให้ผมขยับเข้าไปใกล้แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ได้แต่เบิกตากว้างๆช้อนตามองหน้าพี่มันแบบตกใจ
“พ...พี่...”
“น้องเอมมั่นใจน่าว่าไม่กลัว เราเองก็น่าจะรู้ ว่าอยู่บนเตียง...พี่ดาบน่ะดุแค่ไหน” เลื่อนใบหน้าหล่อเข้ามากระซิบใกล้ๆที่ข้างหู ทำเอาขนทั่วทั้งแผ่ยหลังลุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งจมูกโด่งๆนั่นไล้มาตามกรอบหน้ายิ่งทำให้รู้สึกเสียววาบจนต้องขยับหน้าออกห่าง
“พี่!”
“ชู่ววว อย่าเอะอ่ะสิ ทำแบบนี้กูยิ่งอยากกลับบ้านนะ กลับไหม หนูจะได้รู้ว่าพี่ดุแค่ไหน”
“ไอ้พี่บ้า ทะลึ่งแล้ว”
‘จุ๊บ’
ริมฝีปากที่โฉบลงมาจุ๊บเบาๆที่ปากของผมไวๆแล้วผละออก ผมเบิกตากว้างมองคนตรงหน้าที่ยักคิ้วใส่หนึ่งที ใบหน้าร้ายๆนั่นมัน
“จะเล่นกับพี่ เร็วเกินไปครับน้องเอม”
ว่าออกมาแบบนั้น แล้วทำท่าจะเลื่อนหน้าเข้ามาหากันอีกที และในตอนนี้ก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายดังมาจากที่ไกลๆตรงฝั่งกำแพงสูงจากมุมนึงของบ้าน ผมที่เลื่อนมือดันอกแกร่งของพี่ดาบให้ออกห่างตัว ก่อนจะรีบลุกขึ้นวิ่งตรงไปยังทิศทางนั้น
(มีต่อ)