บทที่31
‘ฟู้วว’
ควันสีเทาจางๆที่ค่อยๆลอยไปในอากาศช้าๆในตอนที่ผมค่อยๆปล่อยควันออกมาทางปาก ที่ปลายมวนยังมีแสงสีไฟอ่อนๆให้มองเห็นอยู่ คีบมวนบุหรี่นั้นไว้ที่ปลายนิ้วก่อนจะเคาะลงบนที่เขี่ยบุหรี่อย่างดี ... น่าหมั่นไส้ฉิบหาย ก็แค่ที่เขี่ยบุหรี่ทำไมต้องแพงวะ
“ตอนกูเจอมึงครั้งแรกก็เห็นมึงสูบแบบนี้ สูบจัดหรอวะ”
“แล้วแต่ หลังๆเบาลง ถ้าเมื่อก่อนก็เกือบซองมั้ง” ตอบคนตรงหน้าที่ตอนนี้มันกำลังยืนโชว์หุ่นท่อนบนของมันพิงกับกระจงใสที่มองออกไปเห็นแสงสียามค่ำคืนในห้องนอนของมัน
“เบาๆลงบ้างเหอะ มึงจะตายก่อนมึงจะเรียนจบ”
“บอกตัวมึงเหอะ” ย้อนมันกลับไป แล้วยกบุหรี่ที่ถืออยู่ขึ้นสูบอีกครั้ง เงยหน้าค่อยๆปล่อยควันออกมาแล้วหลับตาลงช้าๆ รู้สึกสมองโล่งดี
“หึ เดี๋ยวนี้กูไม่ค่อยสูบเท่าไหร่แล้ว ไอ้เอมมันไม่ชอบ” มันบอกผมพร้อมรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มให้กับผม แต่เหมือนเป็นรอยยิ้มให้กับความทรงจำของตัวเองมากกว่า ผมเลือกจะเมินหน้าหนีมันแล้วเปลี่ยนเป็นตั้งใจสูบบุหรี่ต่อ
“เบาหน่อยมึง เดี๋ยวก็สำลักตายห่าพอดี” มันที่เดินมาดึงบุหรี่ออกจากปากของผม ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงของมันข้างๆกัน แล้วเอาบุหรี่มวนนั้นไปสูบต่อซะเอง
“เป็นเหี้ยอะไรต้องมาแย่งกูวะ อยากสูบมึงก็จุดใหม่ดิ”
“เสือกไรกูล่ะ ของๆกู”
“K” กรอกตาใส่มันหนึ่งที ก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่ติดตรงที่มือหนาของอีกคนคว้าข้อมือของผมเอาไว้ซะก่อน มันที่ดึงตัวผมลงมานั่งลงบนตักของมันแบบพอดิบพอดี
“ทำเหี้ยไร”
“แล้วมึงจะไปไหน” มันไม่ได้ตอบผม ก็แค่ยกยิ้มมุมปากมองมาก็แค่นั้น สายตาคมของมันที่ดูลึกลับแบบที่ยิ่งมองยิ่งละสายตาไปจากมันไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็หลงมัน ไปผับด้วยกันไม่มีคืนไหนที่มันจะไม่มีใครกลับไปด้วย ... เป็นคนในแบบที่ทำให้คนหลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ
“เรื่องของกู”
“ยอกย้อนเก่งจังนะปากมึงเนี่ย”
“ก็ปากกูอี...อื้มม” คำพูดของผมถูกกลืนไปในตอนที่ริทฝีปากได้รูปของมันประกบลงมาอย่างหนักหน่วง ขบเม้มแบบไม่เบาๆ ลิ้นล้อนที่ไร้ไปตามรูปปากของผมอย่างร้อนแรง ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้ามาในโพลงปากของผมอย่างเอาแต่ใจ ในตอนที่ตั้งใจจะผละหน้าหนี แต่มือของมันก็เลื่อนขึ้นมาจับที่ด้านหลังคอของกัน ล็อคใบหน้าของผมเอาไว้อย่างได้จังหวะ ลิ้นร้อนที่ขบเม้มดูดปลายลิ้นของผมอย่างคนที่จงใจแกล้งกัน
“อื้ออ เจ็บนะเว้ย”
“ก็อยากโดนจูบไม่ใช่หรือไงวะ จูบแล้วทำไมยังงอแง” ละใบหน้าออกมาแล้วยักคิ้วแบบกวนๆส่งมาให้ผม ในสายตาของมันยังคงฉายแววล้อกันไม่เลิกกับคำพูดที่ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้
“งอแงพ่อง” กวนส้นตีน โคตรจะเกลียดไอ้หน้าตาที่เหมือนจะจงใจยิ้มล้อกันแบบนั้น พอหันหน้าหนี มันก็ทำแค่ล็อคเอวของผมเอาไว้ด้วยวงแขนงูหลามของมัน
“ไอ้จมูกรั้นๆนี่มันได้มาจากไหนวะ ทำไมมันถึงดื้อจัง” มันที่พูดแบบนั้นพร้อมๆกับเอื้อมมือมาบีบจมูกกันแบบไม่เบา ส่ายไปส่ายมาจนจมูกกูโยก
“เจ็บนะไอ้สัดพี่เก้อ”
“หึ ไอ้ลูกเสือน้อย” กูเกลียดไอ้เสียงหัวเราะในลำคอแบบนี้ด้วย หล่อมากมั้งไอ้สัด ... อืม ก็หล่อจริง แต่กูจะไม่มีทางยอมรับกับมึงหรอกนะ เพราะถึงไง กูก็คิดว่ากูหล่อกว่ามึงมากๆอยู่แล้ว
“มึงสิน้อย แล้วเอาบุหรี่ไปไกลๆกู มันจะจี้เอวกูแล้วเนี่ยไอ้สัด” มันที่ยกยิ้มขำผมนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็เอี้ยวตัวไปขยี้บุหรี่ให้ดับลงบนที่เขี่ยบุหรี่แก้วคริสตัลของมันจนดับสนิท
“ ...วันนี้คงเป็นวันเหี้ยๆของมึงสิใช่ไหม”
“ของพี่มึงก็ด้วยใช่หรือเปล่าล่ะ” หันกลับไปมองหน้ามัน จ้องตาคมดุของมันนิ่งๆ และมันเองก็ไม่ได้หลบตาของผมเช่นกัน มันที่ก็แค่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่นั้นก็เข้าใจแล้ว
“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแบบที่มันเคยผ่าน” มันบอกผมแบบนั้นพร้อมๆกับที่ยื่นมือมาลูบข้างแก้มของผม สายตาคมๆของมันทิ่มแทงลงไปในหัวใจของผมเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของมัน รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาในตอนนี้
“ถ้าจะร้องก็ร้องไห้ให้พอแค่กับกู มึงไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกเสือ”
“แล้วมึงล่ะ ไม่อยากจะร้องหรอวะ กับความเสียใจของมึงในตอนนี้”
“กูไม่ร้องหรอก มีมึงร้องแทนกูอยู่แล้วนี่ไง” น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้ม ไม่รู้ว่ากำลังเสียใจเรื่องอะไรกันแน่ เป็นความรู้สึกที่สับสนกันไปหมด ทั้งเรื่องในอดีตของตัวเอง และเรื่องของคนตรงหน้าในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆมันกำลังทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ร้องไห้เสียใจอยู่ตัวคนเดียวเหมือนที่ผ่านมา
.
.
.
“อื้มมมม”
เสียงครางยาวๆในลำคอของผมที่ดังคละเคล้าไปกับกลิ่นเหงื่อ กลื่นเหล้าและเสียงหอบหายใจของอีกคนที่ดังอยู่ข้างๆหู ได้แต่ทิ้งตัวนอนลงกลางเตียงแล้วครางออกมาแบบห้ามไม่อยู่ในตอนที่ฝ่ามือของคนตรงหน้าก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเลยสักวินาที
“..อื้ม...แน่ใจหรอวะเสือ”
ได้แต่หลับตาลงช้าๆในตอนที่เสียงเข้มว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่สันจมูกโด่งของอีกคนค่อยๆลากผ่านไปตามโครงหน้าของผมมาลำคอ มาที่ไหปลาร้า ก่อนจะไล้ช้าๆมาที่ยอดอก ทุกๆส่วนที่จมูกโด่งลากผ่าน เหมือนกับมันกรีดผิวของผมไปด้วยจนต้องเผลอหายใจกระตุก
“เสือ...”
“ก็แค่วันไนท์ไม่ใช่หรือไงวะ” .... อืม ก็แค่วันไนท์เหมือนที่ผมกับมันเคยๆทำกันมาในวันก่อนๆ ก็แค่วันไนท์จริงๆ
“หึ มึงอย่าเปลี่ยนใจก็แล้วกัน”
“หรือมึงอยากจะหยุด” ลืมตาจ้องมองคนตรงหน้าที่ก็มองตอบกลับมาแบบไม่ไปไหน สายตาของมันที่จ้องมองอยู่ที่แค่ใบหน้าของผม ดวงตาของมันที่ผมไม่เคยอ่านออก
“แล้วมึงล่ะ อยากให้หยุดหรือเปล่า” มันถามออกมาแบบนั้นโดยที่ไม่ตอบคำถามของผม ได้แต่เผลอขบเม้มริมฝีปากของตัวเองเบาๆ กลืนน้ำลายหนืดๆลงไปในลำคออย่างช้าๆ จ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อคมนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง ... มันที่กำลังบีบให้ผมพูดความในใจของตัวเองออกมา
“ไม่ ก กูไม่อยากหยุด”
จบคำพูดของผมด้วยรอยยิ้มมุมปากของมัน พร้อมๆกับที่ฝ่ามือหนาลากผ่านไปที่ต้นขาของผม มันที่จับขาของผมยกแล้วพาดไปที่บ่าของมัน สายตาวาววับที่มาพร้อมๆกับรอยยิ้มกวนส้นตีนที่ทำให้รู้สึกร้อนหน้าจนต้องเสหน้าหนี
ท่อนเอ็นแข็งขืนที่ถูไถเบาๆไปที่ช่องทางด้านหลังของผมอย่างช้าๆเหมือนจงใจยั่วอารมณ์
“อื้อ เก้อ!”
“ไม่ไหวแล้วหรอวะ งั้นกูใส่สดเลยนะ”
“พ่องตาย! ใส่ถุงด้วยไอ้สัด” ยกขาอีกข้างขึ้นเตะที่ข้างเอวของมันอย่างแรง เห็นมันแอบเบ้หน้านิดๆแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร
“อยากสด”
“มึงไปตรวจเลือดมาก่อนไป กูกลัวติดเอดส์ มึงยิ่งมั่วๆ”
“กูตรวจทุกปีอยู่แล้ว”
“แบบมึงต้องทุกๆเดือนเถอะสัด” ด่ามันออกไปแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปหยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเองที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆหัวเตียงของมัน
“จะใส่ได้เร้อ ของกูใหญ่กว่ามึงอยู่นะ”
“สัด ไม่ได้ใหญ่มากทำเป็นอวด”
“ถ้ากูดันไปพรวดเดียวมึงอย่าร้องละกัน”
“เอาไป!” ไม่อยากฟังมันพูดอีกเลยโยนถุงยางฟาดไปใส่หน้าอกมันแรงๆทีนึง มันที่แค่ขำนิดๆก่อนจะหยิบขึ้นมาดู แล้วตามมาด้วยคิ้วเข้มๆที่ขมวดเข้าหากันแล้วละสายตามาจ้องหน้าผม
“ผู้หญิงคนนึงเคยให้กูมา แต่เป็นไซต์ผัวเค้า”
“มึงไปเอาเมียใครอีกวะ”
“จะรู้ได้ไงล่ะ ตอนไปบอกไม่มีผัว รู้ตอนยื่นถุงยางมาให้กูพร้อมบอกของผัวค่ะ”
“สัดเอ้ย” มันที่ขำออกมาแล้วยกถุงยางขึ้นกัดก่อนจะฉีกมันออก ฝ่ามือหนาอีกข้างที่ก็ขยับแกนกายของตัวเองไปด้วยในตอนนี้ มันที่ปลายตามามองตาผมไปด้วยในตอนที่กำลังชักรูดของมันอยู่เบาๆ เผลอกลืนน้ำลายไปจนได้ในตอนที่เห็นแบบนั้น และก็เหมือนกับว่าท่าทางของผมจะถูกใจใครอีกคนจนมันต้องยิ้มกว้างๆออกมา เป็นครั้งแรกเท่าที่จำได้ ที่เห็นมันยิ้มแบบนี้มาให้กัน
“อึก อื้ออออ สัด!” ได้แต่ร้องครางยาวๆออกมาพร้อมๆกับเชิดหน้าขึ้นครางแบบห้ามไม่อยู่ในตอนที่มันดันแกนกายของมันเข้ามาสุดลำในทีเดียว เจ็บจนจุกจนน้ำตาเล็ด พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว นอกจากสัด
“ไหนใครว่าของกูไม่ใหญ่มากไงครับ หื้ม” พูดพร้อมยิ้มยียวนใส่กัน พร้อมๆกับเอียงหน้าเข้ามาจูบแก้มกันเบาๆอีกหนึ่งที หัวใจของผมเต้นระรัวในตอนนี้กับการกระทำที่มันไม่ได้ตั้งใจอะไร
“อ๊ะ อึก .... เบาๆ อ๊ะ”
“อื้มม...ทำไมแน่นจังวะเสือ ก็พึ่งทำกันไปไม่ใช่หรือไงวะ” พูดพร้อมๆกับที่มันเริ่มโยกสะโพกจากช้าเนิบนาบแต่เน้นตรงจุดแบบหนักๆเปลี่ยนเป็นโยกถี่ๆตามแรงอารมณ์ที่โหมพัดมามากขึ้น ผมหลับตาลงในตอนที่เอื้อมมือไปกอดมันไว้แน่น มันที่โยกแกนกลางของมันเข้ามาจนจมมิดด้ามในทุกครั้งอย่างตรงจุดเหมือนคนที่รู้ทุกซอกทุกมุมในตัวของผมดี แทรกตรงเข้าจุดกระสันในร่างของผมจนต้องตอดรัดถี่ๆเพราะความเซียวซ่าน เสียงเนื้อกระแทกของกันและกันพร้อมด้วยเสียงครางจากคอดังไปทั่วทั้งห้องนี้ สติของเราทั้งคู่ที่รับรู้ได้แค่การเชื่อมต่อของกันและกันของส่วนกลางที่เด้งเข้าหากันอย่างดุเดือด
“อ๊ะ เก้อ อื้ออ”
“ขึ้นให้หน่อยดิเสือ” มันที่พลิกตัวลงไปนอนที่ข้างล่างของผม จับตัวของผมให้ขึ้นมานั่งคล่อมที่กลางตัวของมันแบบไม่ถามกูสักคำ ไม่ชอบท่าแบบนี้ ท่าที่พอก้มหน้าลงไปก็จะเห็นกล้ามท้องและกล้ามอกของมันแบบชัดเจน รวมถึงสายตาแวววาวของมันนั่นด้วยที่จับจ้องมาอยู่ที่ร่างกายของผมแบบที่ผมจะหลบสายตาไม่ได้ ... ตั้งใจจะด่ามันสักที แต่ก็พูดไม่ออกสักคำเพราะอีกคนที่เด้งสะโพกสวนขึ้นมาแบบยียวนกวนส้นตีน
“มึง อ๊ะ ไอ้ อื้ออ”
“เสือครับ เร็ว ควบให้พี่หน่อย” พูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ใครฟังก็ต้องใจสั่น มันที่ยกยิ้มทั้งหน้าทั้งตาในตอนที่พูดออกมา จนผมต้องเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง ได้แต่วางฝ่ามือลงบนกลางหน้าท้องที่เป็นลอนได้รูปนั่นแล้วค่อยๆโยกสะโพกลงรับกับจุดกระสันของตัวเอง เสียวจนต้องเผลอซี๊ดปาก เป็นท่าที่พอทำแล้วจะรู้สึกมากกว่าท่าอื่นๆ
“อึก เก้อ เบา...อ๊ะ อ๊ะ”
“เสียวจังวะเสือ” พูดออกมาแบบนั้นแต่ยังคงนอนตาพราวแบบมีความสุข มันที่เอื้อมมือมาจับที่ข้างเอวของผม กดย้ำจังหวะของผมให้กระแทกลงไปที่แกนกายของมันแบบลึกสุดๆ พร้อมๆกับที่เจ้าตัวก็เกร็งสะโพกสวนขึ้นมาสอดใส่กันแบบไม่ออมแรง ได้แต่หอบหายใจถี่ๆ รู้สึกเสียวจนต้องเชิดหน้าขึ้นไปมองเพดาน
“จริงๆมึงก็เซ็กซี่นะเสือ” เสียงทุ้มเข้มที่ขึ้นมาใกล้ๆ ผมที่ค่อยๆปรือตาขึ้นมองแล้วก็เห็นว่าเป็นมันที่เด้งตัวขึ้นมาหา ก่อนจะก้มหน้าลงไปขบเม้มลงที่หัวนมของผม มืออีกข้างของมันที่กอดเอวของผมเอาไว้แน่นๆ
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ตรงนั้นพี่เก้อ อ๊ะ กูจะเสร็จ”
“เสร็จเลย ซี๊ด”
มันที่บอกออกมาแบบนั้นและยังไม่หยุดกระแทกกระทั้นเข้ามาถี่ๆ แต่มันกลับเพิ่มความรุนแรงให้ฝังเข้ามาในร่างของผม ยิ่งเร็วและยิ่งลึกจนผมยิ่งตอดรัดท่อนเอ็นร้อนนั้นมากขึ้นไปอีก ท่อนกายแข็งขืนที่ฝังอยู่ในร่างของผมรับรู้ได้เลยว่ามันกำลังร้อนผ่าวและกำลังเต้นตุบๆของที่ด้านหลัง และจนสุดท้ายร่างทั้งร่างของผมและของมันก็ทนไม่ไหว ได้แต่ปลดปล่อยหยาดน้ำออกมาเลอะอยู่ที่หน้าท้องของมัน
“อ๊าห์ !”
“อึก ซี๊ดด”
ได้ร้องครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่ซบหน้าลงไปบนบ่าแกร่งของมันอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงหอบหายใจถี่ๆทั้งของผมและของมันที่ดังประสานกันไปทั่วทั้งห้อง ทั้งกลิ่นเหงื่อและกลิ่นของกิจกรรมอย่างว่าที่ปนเปไปกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆเมื่อก่อนหน้านี้
‘ครืน..ครืน..ครืนนน’
เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารเครื่องหรูสีดำที่สว่างวาบขึ้นมาจากที่หัวตัวทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมามองช้าๆ เป็นมือถือของไอ้สัดพี่เก้อ เป็นข้อความสั้นๆที่จับใจความได้ดี ผมที่ยังนั่งอยู่บนตัวของมันและซบหน้าลงกับไหล่ของมันแบบนี้เห็นข้อความจากตรงนี้ได้ชัดเลย
[[หยี: ไอ้เอมมันมีแฟนแล้วจริงๆ กูอยากให้มึงยอมรับ แล้วมาทำตัวเป็นเพื่อนแบบที่ควรจะเป็นได้แล้ว มึงอาจจะเสียใจ แต่อยากให้รู้ไว้ว่ากูเองก็เป็นห่วงมึง แต่กูก็ไม่อยากเห็นไอ้เอมต้องอึดอัดกับการทำตัวเป็นหมาบ้าของมึงเหมือนกัน]]
พี่เอมมีแฟนแล้ว ... และนี่ก็คงเป็นเรื่องราวแย่ๆในวันนี้ของมันสินะ
“อื้อ...โทรศัพท์มึงสั่น” ผมพูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับเสียงหอบหายใจ มันที่ยังคงกอดเอวของผมเอาไว้ไม่ปล่อย ฝั่งจมูกโด่งลงบนหน้าอกของผม ขบเม้มและเลียเบาๆไปที่หัวนมอย่างแกล้งๆปลุกเร้าไม่เลิก
“ช่างมันกูไม่อยากสนใจ”
“แต่ นั่นมันพี่หยี...”
“กูอยากสนใจแค่มึง” มันที่ผละหน้าออกมาจากหัวนมของผมแล้วเงยหน้ามองกันนิ่งๆว่าออกมาแบบนั้น เป็นสายตาคมที่เผาไหม้ร่างกายของผมและก็ทำให้ใจสั่นแบบไม่หยุด
“อื้ม” ตอบรับมันออกไปเบาๆแบบนั้น ...เพราะคนเรา ก็มักจะมีคำตอบในแบบที่ตัวเองต้องการให้กับตัวเราเองเสมอ
...
“ทำไมหน้าเครียดจัง ทำไมหน้าเครียดจังงงงง” ผมที่เดินออกมาจากห้องน้ำร้องทักคนที่นั่งทำหน้าไม่สู้ดีอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก คิ้วได้รูปที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีขมวดเข้าหากันนิดๆ พอผมร้องทักออกไปแบบนั้น มันก็เงยหน้าขึ้นมามองกันก่อนจะกวักมือเรียก
“ไอ้หน้าเหี้ยนี่ใครวะเอม” เสียงจริงจังที่ถามออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือถือมาให้ผมดู ได้แต่ยื่นหน้าเข้าไปหา ก่อนจะจ้องมองภาพตรงหน้าแบบ...
“ใครวะ”
“มึงถามกู แล้วกูจะถามใครวะหนู”
“อ้าว แล้วอิเจ๊หารูปผู้ชายคนนี้มาจากไหนอ่ะ นี่อย่าบอกว่าเจ๊ส่องผู้ชายอีกนะเว่ย” กูนี่ขมวดคิ้วเลยนะ หรี่ตามองแรงใส่มันเลย แต่ยิ่งพอทำแบบนั้นกลับเป็นว่าอิเจ๊พี่มันยิ่งทำหน้าไม่สบอารมณ์มากขึ้นไปอีก
“เดี๋ยวมึงจะโดนกูฟาดนะหนู”
“อย่านะโว้ย ผมยังเจ็บมากๆอยู่เลยนะเว้ย” ถอยหลังหนีพร้อมเอามือปิดตูดไว้แล้วเดินห่างออกไปไกลจากมันอีกสามก้าวครึ่ง
“ไม่ตลกเอม”
“ผมก็ไม่ตลกเหมือนกันนะเว้ย อะไรของเจ๊อ่ะ”
“ไอ้หน้าเหี้ยนี่ทักไลน์มึงมา” บอกแบบนั้นพร้อมโยนมือถือของผมลงบนโซฟา ถึงจะเป็นโซฟานุ่มๆแต่กูนี่ก็อ้าปากค้างเลยนะ มันทำไม มันทำไมต้องทำร้ายมือถือกันแบบนั้น เกิดแม่งตายขึ้นมาแล้วผมจะใช้อะไรล่ะเห้ย ปัดโถ่ ใจหยาบ
“หา ทักผมมาหรอ ผมไม่รู้จักนะเห้ย”
“มันทักมึงมา กูไม่ชอบหน้าแม่ง”
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆนะคนสวย ทักมาว่าอะไรวะ” ถามพี่มันพร้อมๆกับเดินเข้าไปหา
“อ๊ะ ถือว่ามึงเรียกกูว่าสวยนะ กูจะยอมใจเย็นให้มึงเลเวลนึง” อีกคนที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นเอาผมทัดหู ทั้งๆที่ผมมันก็ไม่ได้ยาวมากมาย แต่จริตดั้งเดิมที่เคยมีมานานมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี กูพูดว่าสวยนิดสวยหน่อยนี่ทำเป็นได้ใจ ตอนเด็กๆไม่มีใครสอนอิเจ๊พี่มันหรอวะ ว่าคนเราเค้าโกหกกันได้อ่ะ
ผมไม่สนใจพี่มันอีก ทำแค่หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดข้อความอ่าน
[[MOB: พี่เอม...ผมจับพี่ได้แล้ว พี่เป็นพี่รหัสของผมใช่ไหมครับ]]
“อ้ออ”
“อะ รู้จักเลยใช่ไหม ว่าไง มึงแอบเล่นชู้ลับหลังกูหรอวะอิหนู”
“เล่นชู้เชี่ยอะไรล่ะวะ นี่มันน้องรหัสผมเอง แต่เอาจริงๆผมก็พึ่งจะเห็นหน้าชัดๆนะเนี่ย หล่อดีว่ะ สายผมนี่มันรวมแต่คนหล่อไว้จริงๆนะเนี่ย"
“นี่มึงกล้าชมชายอื่นต่อหน้ากูหรอวะไอ้ควายน้อย”
“ก็น้องมันหล่อจริงๆนะ เจ๊ไม่คิดงั้นหรอ” หันไปถามอีกคนแบบตั้งใจแกล้ง เห็นมันที่ขมวดคิ้วเป็นปมแบบนั้นแล้วอยากจะขำออกมาให้ลั่น
“ใครแม่งจะมาหล่อกว่ากูวะสัด” บ่นงึมงำๆเหมือนหมีหงุดหงิด หน้าหงิกจนผมกลัวว่าหน้ามันจะยับ แล้วจะเดือดร้อนต้องวิ่งไปซื้อสกินแคร์มาบำรุงอีกหลายหมื่น
“ยอมรับหรอวะว่าหล่อ” ผมที่เอียงหน้าเข้าไปถามแล้วยิ้มกว้างๆแบบล้อเลียนพี่มัน อีกคนที่ถอนหายใจออกมาแบบหงุดหงิดแล้วตอบกลับผมมานิ่งๆพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“หรือมึงว่าผัวมึงไม่หล่อ เหอะ หลงเสน่ห์กูอยู่เห็นๆทำมาพูด”
“ค ใคร ใครวะ ไม่มี๊”
“โถ่ๆ ควายน้อยตะกุกตะกักจังเลยว่ะ หลงกูดูออก”
“หึย พูดดีไปเหอะ คำก็ควายสองคำก็ควาย ผมไปเรียนแล้วแม่ง! กูจะเป็นควายมีการศึกษาสูง คอยดูเหอะ หึ่ย” เด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย
‘เพี้ยะ’
“ซี๊ดดด” สะดุ้งสุดตัวพร้อมๆกับขมิบก้นแบบทันที เจ็บจนน้ำตาเล็ด ได้แต่อ้าปากค้างในตอนที่ฝ่ามือหนานั่นฟาดเข้ามาที่ก้นผมแบบเน้นๆ หันหน้าที่น้ำตาคลอไปมองอิเจ๊พี่มันแบบโกรธๆ อยากด่า ไอ้เอมอยากด่าแต่ทำไม่ได้ กูเจ็บจนปากสั่น
“กูหึงโหดนะบอกก่อน”
แล้วทำไมมึงไม่บอกกูก่อนค่อยโหดกับกูล่ะไอ้สาดดดด เจ็บไปถึงต่อมใต้สมองจี๊ดๆ มึงลืมหรอว่าเมื่อคืนมึงพึ่งเอาดาบฟาดฟันก้นกูมาแบบหนักหน่วงนะไอ้คนไม่สวย!!
.
.
.
“ตั้งใจเรียน เลิกแล้วเดี๋ยวกูมารับ”
“ไม่ต้องมารับก็ได้ ผมกลับเองได้น่า” ยื่นหมวกกันน็อคที่พึ่งถอดออกเสร็จไปให้คนที่ยังนั่งคล่อมอยู่มอเตอร์ไซค์อยู่ตอนนี้ ใช่ครับอิจุ๊บจิ๊บคันโปรดคันเดิมของพี่มันขี่มาอย่างเท่เลยล่ะ
“ทำไมต้องขัด กูอยากมารับแฟนกู”
“อยากมารับเค้าเพราะหวงเค้าล่ะสิ หูยยย ดูออกนะ” ผมที่ว่าแบบนั้นแล้วแกล้งเอื้อมมือไปเกาคางพี่มันแบบแกล้งๆ
“รู้แล้วก็ดี อย่าให้ไอ้หน้าไหนมาสนตะพายควายน้อยของกูได้นะคะ” ยกยิ้มมุมปากแล้วขยิบตาใส่ สัด ว่ากูอีกแล้ว
“กลับไปเลยไปอิเจ๊พี่ดาบ แม่ง”
“หึหึ รู้ไหมว่ากูชอบแกล้งมึง”
“พี่เป็นโรคจิตหรอวะ” ทำหน้าหงุดหงิดใส่ แต่อีกคนก็ทำแค่ยิ้มชอบใจไม่สะทกสะท้านต่อความหงุดหงิดของกูเลยแม้แต่น้อย
“โรคจิตอะไรวะ ก็มึงน่ารัก ขนาดโมโหยังหน้ารักเลย หวงมึงวะเอม อยากจะกลืนมึงลงท้อง”
“โวะ ผมไม่อยากคุยด้วยแล้ว”
“เป็นเขิน” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาลูบผมกันเบาๆ สายตาคมที่จ้องกันทำให้แก้มผมขึ้นสี เอาล่ะไอ้เอม นัดนี้มึงก็แพ้เหมือนเดิมเด๊ะๆเลยนะ
“รู้แล้วก็เลิกล้อผมได้ไหมวะ”
“เลิกล้อก็ได้ ไปเรียนได้แล้วไป”
“พี่ก็ขับรถกลับดีๆนะ” บอกออกไปพร้อมยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายไปให้ มันที่มองมาที่ผมแล้วยกยิ้มมุมปาก ในสายตาของมันที่ผมไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ว่ามันมีแววเอ็นดูแฝงอยู่ในนั้นด้วย
รู้สึกเขินจนต้องหันหลังเดินหนีออกมาก่อน ไม่อยากจะให้มันเห็นแก้มแดงๆของผมแล้วจะล้อกันอีก ขี้แกล้ง
“เอม!” เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาอีกในตอนที่ผมเดินห่างออกมาไม่กี่ก้าว พอหันกลับไปมองก็เห็นพี่มันที่เอามือเท้าอยู่บนหมวกกันน็อคของตัวเองแล้วมองกลับมาที่ผม สายตาคมๆที่แฝงไปด้วยความจริงจังจนผมอดจะแปลกใจไม่ได้
“หื้ม”
“เย็นนี้กูจะพามึงไปที่บ้านนะ”
“ห๊ะ!” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วเบิกตากว้างขึ้น ตากูตอนนี้เรียกได้ว่าโตเท่าไข่ .... บ้าน พากูไปบ้านไหนก่อนเอ่ย
“อืม กูจะพามึงไปหาพ่อกับแม่กูนะ”
“เห้ย! ไปทำไมวะ จ..เจ๊ คือมันไม่ แบบ...ผม”
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก”
“เจ๊...ผมไม่ไปได้ไหมวะ” เดินกลับไปหาพี่มันแบบคอตกๆแล้วเกาะแขนมันไว้แน่นๆ ไปหาพ่อแม่อะไรของมึงวะ ผมว่าผมไม่ไหว คนแบบผม เด็กแบบผมน่ะ ....
“เชื่อใจกูนะ กูจริงจังกับมึง” พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือลูบแก้มผมเบาๆ สายตาคมที่มองมาแบบจริงจังจนสุดท้ายผมทำได้แค่ก้มหน้าลงพยักหน้าตอบพี่มันช้าๆ
“เจอกันตอนเย็นนะหนู”
“ครับ” ได้แต่ตอบกลับออกไปอ่อยๆแบบไม่มีกะจิตกะใจ ไอ้เอมเจ็บไข่มากๆเลยสังคมมมม~~~~
‘ฟอด’
“พี่ไปนะครับ” เสียงเข้มๆที่ดังข้างๆหูของผมตอนที่อีกคนค่อยๆผละใบหน้าออกไปจากข้างแก้มของผมช้าๆ ในวินาทีที่สบตากันก็เหมือนกับโลกที่หยุดหมุนลงในตอนนี้ ที่เค้าว่ากันว่าเวลามีความรักเราจะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง เรื่องนั้นมันเป็นยังไงไอ้เอมไม่รู้หรอก แต่ถ้าบอกว่ามีควายวิ่งเอาเขาชนท้องแล้วล่ะก้อ~~ ไอ้เอมรู้ดีเลย เขินมากเลยโว้ยยยยย
ได้แต่ยืนมองมอเตอร์ไซค์คันเท่นั่นแล่นออกไปช้าๆ พร้อมๆกับที่ผมค่อยๆยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองเบาๆ แก้มร้อนแบบที่ไม่ใช่ฤดูร้อนจังเลยวะ ผมหันหลังเดินออกจากบริเวณลานจอดรถอีกครั้ง แต่ก็ต้องชะงักก้าวของการเดินของตัวเองในตอนที่เห็นรถตราสี่ห่วงคันดำที่คุ้นตาที่จอดอยู่ไกลๆตรงนั้น พอเห็นแล้วก็นึกขึ้นได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อคืนนี้ยังไม่ได้ตอบกลับไอ้เก้อเลยนี่หว่า คิดมาถึงตรงนี้ก็ขนหัวลุกกันเลยทีเดียว ไอ้สัดเก้อต้องโมโหมากๆแน่เลยว่ะ คิดมาถึงตรงนี้แล้วตั้งท่าจะย่องหนีแต่ต้องหยุดก่อนเพราะประตูรถฝั่งข้างคนขับถูกเปิดออกมาซะก่อน
“เอ๊ะ!” ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่เห็นขายาวๆของใครบางคนที่ไม่ใช่ขาไอ้เก้อแน่นอน และคนๆนั้นที่อยู่ในชุดเสื้อนักศึกษาที่ดูจะตัวใหญ่กว่าตัวเองไปมากก็ไม่ใช่ใครนอกจาก
“เชี่ย น้องเสือ...มาด้วยกันได้ไงวะ” ต่อมความเสือกมันเต้นตุ่มๆต่อมๆ ไอ้เอมอยากจะรู้เรื่องราวซะเหลือเกิน
“ทำอะไรอยู่ครับ”
“เชี่ย!! มึงใครเนี่ย” ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่หันหน้ากลับมาเจอหน้าของใครอีกคนที่ก้มลงมาใกล้ๆหน้ากัน ผมได้แต่ผงะถอยหนีออกไปจนอีกฝ่ายหัวเราะขำกันออกมา
“พี่เอม ผมม็อบเองครับ”
“ม็อบแม็บเหี้ยอะไร ไม่รู้จักจ้า”
ไอ้สัดนี่คือใครก่อนเอ่ย หันไปมองที่รถของไอ้เก้ออีกทีทั้งมันและน้องเสือก็หายไปแล้ว ปัดโถ่เว้ย! ไอ้ม็อบแม็บนี่แม่งตัวขัดความเสือกไอ้เอมจริงๆ ยังจะมีหน้ามายิ้มหวานอีกนะมึง!
--------------To be continued------------
มาแล้วจ้าาา วันนี้มาดึกหน่อยต้องขอโทษด้วยนะคะ พาร์ทที่มีฉากNCแคทค่อนข้าวเขียนได้ช้าค่ะ เพราะเขียนได้ไม่ค่อยดี
หวังว่าคนอ่านจะชอบในตอนนี้นะคะ ... ส่วนในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะมีใครขัดใจหรือยังไงหรือเปล่าหว่า
แต่แคทอยากบอกว่า นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นนิยายสดใสมากๆหรือหม่นเศร้าแบบมากๆ
มันเป็นแค่นิยายสีเทาๆที่มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปนเปกันอยู่ในนี้
การกระทำของตัวละครบางตัวอาจไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ความสัมพันธ์ระหว่างพี่เก้อและน้องเสือเองก็เช่นกัน เป็นความสัมพันธ์สีเทาๆที่คนศีลเสมอมาเจอกัน
แต่คนศีลเสมอ ก็ใช่ว่าความรู้สึกจะเสมอกันนะเออ
ส่วนพาพวย ถ้าใครคิดถึงล่ะก้อออ ไม่ช้าไม่เร็วก็จะมาจ้าา
ฝากแฮชแทค
#สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้าา