Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63  (อ่าน 77945 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดอกไม้เบ่งบานไปหมดเลยตอนนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
แอบหวานนนนนน //คิดถึงพี่กันต์ กับน้องเดียร์ ^^

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “14”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





สายน้ำนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ตรงเก้าอี้นั่งริมสระว่ายน้ำ ท้องฟ้าเปิดโล่งมองเห็นดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับสวยงาม ทั้ง ๆ ที่บรรยากาศดีขนาดนี้แต่เพื่อน ๆ ทั้งสองคนของเขากลับไม่ยอมออกมานั่งด้วยกัน อาจจะเพราะเวลาค่ำ ๆ แบบนี้ที่รอบข้างมีแต่ต้นไม้และภูเขาทำให้อากาศค่อนข้างเย็น สำหรับคนกรุงเทพฯ อย่างแบงก์กับตั้มที่ไม่ค่อยได้สัมผัสกับอากาศหนาวจึงรู้สึกว่าอากาศตอนนี้เย็นเกินไป แต่คนที่อยู่ต่างประเทศมาหลายปีอย่างสายน้ำค่อนข้างที่จะมีภูมิคุ้มกันมากกว่า เขาถึงได้มานั่งเล่นมองบรรยายยามค่ำคืนแบบนี้



“ไงเรา ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะ” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังเรียกให้สายน้ำหันไปก่อนก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าป่าไม้เดินเข้ามาใกล้



“พี่ป่าไม้”



“อากาศแบบนี้ต้องเบียร์สักกระป๋องเนอะ” พูดจบก็ยื่นเบียร์กระป๋องให้น้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ กัน “ไม่หนาวเหรอเรา ออกมานั่งแบบนี้ นี่คนอื่นเอาแต่อยู่ข้างในกันหมด”



“เย็นครับแต่ไม่ถึงกับหนาว ใส่เสื้อแขนยาวตัวเดียวก็เอาอยู่ครับ” สายน้ำพูดพลางหัวเราะ “อีกอย่างวิวก็สวยมาก ๆ ถ้าไม่ได้ออกมานั่งมองคงน่าเสียดายแย่เลยครับ”



“บ้านพักหลังนี้วิวดีที่สุดในรีสอร์ทนี้แล้วล่ะ” ป่าไม้หัวเราะ



“สวยมาก ๆ เลยครับ ทั้งวิวทั้งที่พักเลย”



พวกเขาทั้งสิบสองคนเดินทางมาถึงที่พักซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวป่าไม้กับหินผาเมื่อตอนบ่ายคล้อยเย็น พวกเขาเข้าไปทักทายพ่อกับแม่ของทั้งคู่ ซึ่งก็ได้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสายน้ำที่สนิทสนม คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก พอพวกท่านหันมาเห็นก็ยิ้มกว้างยินดี แม่ของหินผาเดินมากอดเขาไม่หยุด พร้อมกับพูดคิดถึงอยู่หลายรอบจนหินผาต้องเข้ามาช่วยแยกให้



หลังจากที่ทักทายกันเรียบร้อยทางเจ้าของรีสอร์ทก็ให้พนักงานพาพวกเขามาที่บ้านพัก พ่อกับแม่เลือกที่พักแบบเป็นหลังใหญ่ให้ แถมยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวไม่ต้องไปใช้รวมกับคนอื่น ๆ ปกติให้เปิดให้พักไม่เกินสิบสองคนแต่เป็นผู้ใหญ่ไม่เกิดแปดคน ที่เหลือเป็นเด็ก ๆ แต่นี่พิเศษเลยได้พักด้วยกันหมดที่บ้านหลังนี้ เป็นบ้านพักหลังที่ใหญ่ที่สุด ราคาแพงที่สุด และวิวดีที่สุด



ตอนพวกเขาเห็นนี่อ้าปากค้างแล้วค้างอีก ไม่คิดว่าที่พักจะดูดี หรูหราแล้วก็ไฮโซขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่รีสอร์ทแห่งนี้ติดอันดับรีสอร์ทที่ดีที่สุด เพราะมันที่สุดจริง ๆ ในหลาย ๆ ด้านเลย



"พ่อกับแม่ได้ยินคงยิ้มแก้มปริ"



“น้าเดือนกับลุงพันธ์ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยครับ” สายน้ำยิ้มตอนนึกไปถึงพ่อกับแม่ของป่าไม้แล้วก็หินผา “ดีใจจังที่ได้มาเจอ ตอนแรกก่อนมาถึงผมก็คิดว่าตัวเองคิดถึงน้าเดือนกับลุงพันธ์มากแล้วนะครับ พอมาได้เจอจริง ๆ แล้วรู้สึกว่าคิดถึงมากกว่าเดิมอีก ดีใจด้วยที่น้าเดือนกับลุงพันธ์ยังไม่ลืมน้ำ”



“ไม่มีใครลืมน้ำหรอกนะ” ป่าไม้ยกมือขึ้นลูบผมน้องรัก “พวกเรายังคุยถึงน้ำบ่อย ๆ เลย คิดดูสิขนาดพี่ยังไม่ได้แนะนำเราเลยพ่อกับแม่ก็รีบเข้ามากอดแล้ว ไม่มีใครลืมเราเลยสักคน”



“ยกไว้คนได้ไหมครับ” สายน้ำทำหน้ายุ่ง “น้องชายพี่น่ะลืมน้ำ”



ป่าไม้หัวเราะเสียงดัง ชอบอกชอบใจกับคำพูดของน้อง “เอาน่ะ! น้องชายพี่มันซื้อบื้ออย่าไปถือโทษมันเลย”



“ผมก็แกล้งแซวเล่นไปอย่างนั้นเองแหละครับ” หันไปยิ้มกว้างให้พี่ชาย



“หึหึ แต่ดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้จะไม่ซื้อบื้อแล้วนะ”



“ครับ พี่ป่าไม้พูดอะไรนะครับ” สายน้ำถามอย่างไม่แน่ใจเพราะเขาได้ยินไม่ชัด



“ไม่มีอะไร” อีกฝ่ายส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม เห็นแบบนั้นสายน้ำเลยทำตามบ้าง



ป่าไม้วางกระป๋องเปล่าลงกับพื้นเอนตัวลงนอนไปตามระดับองศาของเก้าอี้ แขนทั้งสองข้างใช้หนุนต่างหมอน ทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ “สายน้ำ”



“ครับพี่”



“กับหินผาน่ะ... ดีไหม”



“ค ครับ!?”



“ความรู้สึกของเราในตอนนี้น่ะดีหรือเปล่า ถ้าเทียบกับก่อนหน้านี้ตอนที่ไอ้หินมันยังไม่รู้ว่าเราคือน้องน้ำน่ะ” ป่าไม้หันมามอง



สายน้ำพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม “ดีครับ มันดีมาก ๆ เลยล่ะครับ ดีจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคือเรื่องจริง”



“พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม” คราวนี้ป่าไม้หันมาหาทั้งตัว น้ำเสียงจริงจังขึ้น



“ได้ครับ พี่อยากถามอะไรเหรอ”



“กับเรื่องของหินผาน่ะ เราตั้งความหวังเอาไว้มากแค่ไหน”



คนฟังนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถาม เจ้าตัวเงียบไปเหมือนกำลังเรียบเรียงความคิดและคำพูดอยู่ในใจ ซึ่งป่าไม้เองก็ไม่ได้เร่งรัดจะเอาคำตอบอะไร



“ถ้าบอกว่าตั้งความหวังไว้สูงก็คงจะไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่าไม่ตั้งความหวังอะไรเลยก็ดูจะโกหก” สายน้ำตอบออกมาในที่สุด “สิ่งที่ผมตั้งความหวังเอาไว้ มันสำเร็จแล้วล่ะครับ”



“สำเร็จแล้ว ยังไง”



“ก่อนผมจะมาผมตั้งความหวังเอาไว้ว่า... อย่างน้อยก็แค่ขอให้ได้เห็นว่าพี่หินผาเป็นยังไงบ้าง มีความสุขดีไหม หรือไม่ก็... อย่างน้อยก็ขอให้ได้พูดคุย สนิทสนมกับพี่หินผาอีกสักครั้ง แม้ว่าพี่เขาจะจำผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าจำได้ก็ดีไป แค่นั้นแหละครับที่ผมตั้งความหวังเอาไว้”



“เราไม่คิดว่าอยากจะเป็นคนรักของมันเหรอ” ป่าไม้ถาม ความหวังที่น้องตั้งมันดูน้อยนิดเสียเหลือเกินในความคิดของเขา



สายน้ำส่ายหน้าไปมา “ไม่ครับ ผมไม่ได้คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผมไม่อยากคิดหรือตั้งความหวังแบบนั้นมากกว่า ผมไม่อยากผิดหวังถ้าเกิดว่ามาถึงนี่แล้วรู้ว่าพี่หินผามีใครบางคนอยู่แล้ว ผมหวังแค่ว่าได้เจอแค่นั้นแหละครับ ไม่เจ็บตัวมาก จะอยู่ต่อก็ได้ไม่มีปัญหา หรือจะกลับไปก็ได้เหมือนกัน”



“แต่จะบอกว่าไม่คิดเลยก็ไม่ใช่อีกแหละครับ” สายน้ำหัวเราะ “บางครั้งช่วงหนึ่งของความคิดผมก็หวังว่าผมจะได้เป็นคนนั้นของพี่หินผา บางทีผมก็สับสนกับตัวเองนะครับ ไหนตอนแรกว่าไม่หวัง แต่สุดท้ายลึก ๆ แล้วผมก็หวัง”



“พี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่เราจะตั้งความหวังเอาไว้” ป่าไม้พูด “แล้วตอนนี้ล่ะ ความหวังของเรามันเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง”







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผา~ น้องก็แอบหวังขยับความสัมพันธ์อยู่น้า
รีบทำให้ชัดเจนได้แล้วน้า
เดี๋ยวก็มีคนมาแย่งน้องไปหรอก (เรานี่แหละ ไม่ใช่ใคร)
น้องน่ารัก น่าเอ็นดูขนาดนี้ ต้องรีบ ๆ เดินหน้าได้แล้วน้าาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ว้า....มาฉากเดียวเอง  อ่านแป๊บเดียวจบแระ  เหมือนมาแบบสั้นกุดยังไงไม่รู้  อิอิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอคำตอบหน่อยซิ  o11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ต้องมีคำตอบของทั้งคู่แล้วแหละเนี่ย ^^

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
พี่ป่าไม้แอบมาเป็นสปายหรอ 5555

โมเมนท์หวาน อบอุ่น เยอะเลยค่ะ ทำให้ยิ้มได้ตามๆ กัน
หินผามีอาการหวงน้องแล้วนะ ชัดขนาดนี้แล้ว ให้ไวค่ะ
เอ็นดูสายน้ำ เป็นคนมักน้อย แต่ก็ไม่ใช่ไม่อยากได้เพิ่ม

ชอบทริปนี้ค่ะ แฮปปี้กันทั่วหน้าเลย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พี่ป่าไม้ช่วยน้องเหรอ  :hao3:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “15”





“แล้วตอนนี้ล่ะ ความหวังของเรามันเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง”



คำถามสุดท้ายของป่าไม้ในคืนนี้สายน้ำไม่ได้ตอบออกไปเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความหวังของเขามันเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง เขาไม่รู้แล้วก็ไม่แน่ใจ สุดท้ายจึงมีแค่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบของคำถาม และป่าไม้ก็ไม่ได้คาดคั้นคำตอบ อีกฝ่ายเหมือนต้องการแค่ถามเพื่อให้เขานึกย้อนกับตัวเองว่าตอนนี้ต้องการอะไรกันแน่



หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นอีกเพราะคนที่เป็นหัวข้อของบทสนทนาเดินออกมาพอดี หินผาเดินมาดุทั้งพี่ชายทั้งสายน้ำที่ออกมานั่ง มานอนตากน้ำค้างแบบนี้ แน่นอนว่าคนโดนดุทั้งสองคนก็หน้าจ๋อยไปแล้วจึงพากันกอดคอเดินกลับเข้ามาในบ้านพัก ป่าไม้รีบแยกตัวไปก่อน เหลือเพียงสายน้ำที่โดนดุต่ออีกนิดหน่อย ก่อนที่หินผาจะเดินมาส่งสายน้ำถึงหน้าห้องนอนที่สายน้ำพักกับเพื่อน ๆ อีกสองคน



“พี่นี่... ดุเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย” สายน้ำบ่นอุบเมื่อโดนย้ำอีกครั้งว่าอย่าออกไปตากน้ำค้างแบบนั้น หรือถ้าจะออกไปข้างนอกก็ใส่เสื้อคลุมให้เรียบร้อยเพราะยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว สายน้ำเองก็อยากจะย้อนบอกเหมือนกันว่าที่ต่างประเทศตอนฤดูหนาว หนาวกว่านี้อีก แต่ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะโดนดีดหน้าผาก



“บ่นเหรอเราน่ะ บ่นเหรอ” เพราะแค่ขนาดไม่พูดก็ยังโดนดีดหน้าผากเลย แม้จะไม่แรงมากก็ตาม



“ฮือ...” คนโดนดุส่งเสียงประท้วงอยู่ในลำคอ ไม่กล้าโต้ตอบอะไรมากนัก



ตั้งแต่เด็กแล้ว... หินผาที่เป็นพี่ชายที่แสนจะใจดีแต่พอถึงคราวดุก็ดุมากเหมือนกัน ยิ่งตอนนั้นที่สายน้ำไปเจอเพื่อนที่ค่อนข้างเกเร แล้วด้วยความที่เป็นวัยกำลังอยากรู้อยากลองก็เลยยอมโดดเรียนตามเพื่อน หนีไปเที่ยวเล่นสุดท้ายก็เจ็บตัวกลับมาเพราะหกล้ม



เดินตาแดงก่ำอย่างคนพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้มาหาหินผาที่มารอรับกลับบ้าน และคนอย่างหินผาที่คอยตามดูแลน้องมาตลอดมีหรือจะจับผิดไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องสารภาพออกไปว่าโดดเรียนมาแล้วเกิดอุบัติเหตุจนเจ็บตัว



แววตาของพี่ชายใจดีเปลี่ยนไปทันที ตลอดทางกลับบ้านเขาโดนหินผาดุตลอดทางจนขนาดที่ว่าพ่อของสายน้ำยังต้องปลอบลูกชายแทนเพราะลูกโดนดุมาแล้ว อีกนิดเดียวสายน้ำเชื่อว่าหินผาได้เดินไปหยิบไม้เรียวมาตีเขาแน่ ๆ แล้ว



“อยากโดนดุเยอะ ๆ แบบตอนที่เราหนีเรียนอีกหรือไง” ไม่ใช่แค่สายน้ำที่จำได้ หินผาเองก็จำได้ไม่ลืมเหมือนกัน นั่นเป็นครั้งเดียวที่หินผาดุสายน้ำหนักมาก



“ตอนนั้นผมคิดว่าพี่จะเดินไปหยิบไม้เรียวมาตีผมแล้ว” สายน้ำว่า “ผมร้องไห้เพราะโดนพี่ดุจนจากที่พ่อโกรธ ๆ อยู่ต้องมาปลอบผมเลย”



หินผาหัวเราะกับคำบอกเล่าของน้อง เพราะมันก็จริงแบบนั้นนั่นแหละ “ก็ตอนนั้นเราดื้อ และตอนนี้เราก็กำลังดื้อเหมือนกันที่ออกไปตากน้ำค้างแบบนั้น เดี๋ยวก็ไม่สบายขึ้นมาหรอก”



“คร้าบ”



“เข้าห้องนอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ บ้านหลังนี้มองเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นชัดที่สุดแล้ว”



“ครับผม” สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้างไปให้ “อย่างนั้น... ฝันดีนะครับ”



“อือ ฝันดีนะ”



สายน้ำเดินเข้าไปในห้อง และยืนมองคนอายุมากกว่าเดินกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง ก่อนจะปิดประตูให้เรียบร้อย เพื่อนทั้งสองคนของเขายังไม่นอนกำลังนั่งเล่นเกมกันอย่างเมามันส์อยู่ที่ชุดโซฟาภายในห้อง พร้อมกับส่งเสียงโวกเวกโวยวาย สายน้ำเลยเดินผ่านเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่รบกวนเพื่อนทั้งสองคน ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก็เดินออกมาโดดขึ้นเตียงนอนที่พวกเขาดันมาชิดกันจะได้กลายเป็นใหญ่แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น



“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ” แบงก์ที่เล่นเกมเสร็จเงยหน้าขึ้นมาถาม “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”



“เออ ไม่เห็นรู้เลย”



“สักพักแล้ว ตอนเข้ามาเห็นเล่นเกมอยู่เลยไม่ได้ทักอะไร”



“ข้างนอกเป็นไง หนาวมากไหมวะ นี่ขนาดอยู่ในห้องกูว่าอากาศยังเย็นเลย” ตั้มถาม ตอนแรกสายน้ำก็ชวนเขาสองคนออกไปเดินเล่นข้างนอกเหมือนกัน แต่พอก้าวขาออกจากบ้านพักไปก็รีบยกมือบ๊ายบายเพื่อนแล้วเดินกลับห้องเพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างเย็นทีเดียว



อากาศแบบนี้คนเมืองกรุงอย่างเขาสองคนไม่ชินเลย



“ก็เย็นแหละ แต่วิวดีมาก เงยหน้าขึ้นไปนี่เห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลย พวกมึงน่าจะออกไปด้วยกันสวยมากเลยนะโว้ย” บนเขาบนดอยแบบนี้อากาศเย็นสบาย แถมรอบ ๆ ก็ยังมีต้นไม้ใหญ่ยิ่งทำให้อากาศเย็น ท้องฟ้าก็เปิดมองเห็นดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าแบบที่ถ้าอยู่กรุงเทพฯ คงไม่มีทางได้เห็น “พรุ่งนี้เช้าตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน”



“เค ๆ” ทั้งสองคนรับปากพร้อมกับพยักหน้า แต่สายน้ำก็ไม่แน่ใจหรอกว่าพอถึงเวลาแล้วเพื่อนทั้งสองคนของเขาจะตื่นขึ้นมาจริงอย่างที่พูดหรือเปล่า



“เออ... น้ำกูถามไรหน่อยดิ” แบงก์ละสายตาจากจอโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าเพื่อนตัวเองที่นอนเล่นอยู่บนเตียง



“หือ ว่า”



“มึงกับพี่หินผานี่ไปถึงขั้นไหนกันแล้ววะ”



“หา!” คนโดนถามร้องออกมาด้วยความตกใจ กระพริบตาปริบ ๆ เรียกสติตัวเอง “ไม่ได้ถึงขั้นไหนทั้งนั่นแหละ จะให้ถึงขั้นไหนละ”



“อ้าว มึงยังไม่ได้คบกับพี่หินผาเหรอ” ตั้มเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง



“จ จะคบอะไรกันล่ะ! ไม่ได้คบกันสักหน่อย”



“พูดจริง...” ตั้มทำเสียงเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ ตอนแรกเขาคิดว่าสองคนนี้ตอบตกลงคบกันแล้วตั้งแต่ตอนอยู่ทุ่งดอกไฮเดรนเยียเสียอีก เพราะบรรยากาศหลังจากนั้นดูอบอุ่น ๆ อย่างกับคนเป็นแฟนกัน



“จะโกหกไปทำไมล่ะ”



แบงก์กับตั้มพากันกระโดดไปนั่งข้างสายน้ำทันทีแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างต้องการสำรวจว่าพูดโกหกหรือเปล่า



“แล้วมึงคิดว่าพี่หินผาชอบมึงไหม”



สายน้ำเผลอชะงักหน้าแดงกับคำถามของแบงก์ “ม ไม่แน่ใจ”



“ยังไงวะ”



“กูก็ไม่รู้ แต่บางครั้งคือยังไงล่ะ... พี่เขาก็พูดอะไรแปลก ๆ ทำให้กูคิดไปเองงี้” สายน้ำตอบ



“เหรอ พี่เขาพูดยังไงวะ” ตั้มถามทันที “เผื่อพวกกูจะได้ช่วยวิเคราะห์ให้ได้ว่าพี่เขาชอบมึงหรือเปล่า”



“เออ ใช่ ๆ ไหนลองยกตัวอย่างมาดิ พี่เขาพูดอะไรกับมึงบ้าง”



สายน้ำหันมองเพื่อนทั้งสองคนอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมตอบคำถามของทั้งคู่ “ก็... อย่างตอนที่พี่กันต์ถามตอนอยู่บนรถไง”



แบงก์กับตั้มทำหน้านึกก่อนจะร้องออกมาเมื่อนึกออก “ที่พี่เขาบอกว่ามึงสำคัญใช่ไหม”



“เออ ๆ ก็จริงนะ พูดเหมือนแบบยังไงอะ ให้ความสำคัญ เป็นคนพิเศษที่มากกว่าทั่วไปอะ เอาจริงกูกับมึงสนิทกันมาตั้งนาน มึงก็สำคัญกับกูอะแต่กูก็คงไม่พูดออกมาว่ามึงสำคัญ” แบงก์พูดในสิ่งที่ตัวเขาคิด โดยมีตั้มพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย



“จริง ยิ่งกับเพื่อนผู้ชายกันคงไม่พูดออกมาง่าย ๆ ว่าสำคัญ แค่นึกก็จั๊กจี๊ตายห่าแล้ว” ยกมือลูบแขนตัวเองไปด้วย “แต่พี่หินผาแกพูดออกมาคือทั้งเสียง ทั้งหน้าจริงจังมาก จนพวกกูแบบอยากจะแซวอะ แล้วมีอะไรอีกไหมวะ”



“ก็มี... อย่างตอนที่อยู่ที่สวน กูถามพี่เขาว่าทำไมตอนเด็ก ๆ ถึงเลือกมาเรียนรำไทยกับที่บ้านกูแทนที่จะไปเรียนว่ายน้ำอย่างที่พี่เขาชอบ” สายน้ำนึกไปถึงตอนที่เขาคุยกับหินผา “พี่เขาบอกว่าเป็นเพราะกูถึงได้เลือกมาเรียนรำไทยแทน”



แบงก์กับตั้มทำตาโตทันทีตอนที่ได้ยินเพื่อนเล่าแบบนั้นแอบมองหน้ากันแล้วส่งยิ้ม ยิ่งฟังก็ยิ่งชัดเจนว่าความรู้สึกของทั้งคู่นั้นตรงกันจริง ๆ



“คือมึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูรู้สึกกับพี่เขายังไง พอฟังแบบนั้นใจกูมันคิดไม่ซื่อไปแล้วไง พอได้ยินมันก็เลยคิดไปว่าพี่เขาก็อาจจะชอบกูบ้างอะไรแบบนี้ แต่ตอนนั้นพี่เขายังเด็ก กูก็ยังเด็ก ที่บอกว่าเป็นเพราะกูก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราสนิทกัน เลยอยากเล่นด้วยกันแบบนั้นก็ได้ ตามประสาเด็ก ๆ ไง” สายน้ำพูดรัวแบบไม่หยุดพัก เพราะเขากำลังพยายามที่จะบังคับตัวเองให้เลิกคิดเข้าข้างตัวเองได้แล้วหลังจากที่ได้ยินคำตอบของหินผาแบบนั้น แต่มันก็ยากมาก ๆ เหมือนกัน



“ตอนเด็ก ๆ พี่เขาอาจจะคิดแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้ เพราะสนิทกันเลยอยากอยู่ด้วยกันเล่นด้วยกัน แต่แบบพอโตขึ้นมาแล้วนึกย้อนไหม ความหมายมันอาจจะเปลี่ยนก็ได้นี่จริงไหม” ตั้มมองหน้าเพื่อนตัวเอง “เหมือนกับว่าเราโตขึ้น มองอะไรได้กว้างขึ้น แล้วก็คิดอะไรได้มากขึ้นไง”



“แต่กูก็ยังไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง กูกลัวว่าพี่เขาอาจจะเอ็นดูกูเพราะเห็นกูเป็นรุ่นน้องที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แค่นั้น”



“ประเด็นนี้กูก็เข้าใจมึงเหมือนกัน เอาเป็นว่ามึงก็ดูไปเรื่อย ๆ ก่อน กูเชื่อว่าถ้าเกิดพี่เขาชอบมึงจริง ๆ เขาก็ต้องหาวิธีของเขาเองนั่นแหละ”



“อือ ก็คงแบบนั้นแหละ”



“อ้าว... ดึกแล้วนี่ นอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้มึงจะตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นนี้” ตั้มหันไปมองเวลาก่อนจะร้องออกมาเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว เขารู้ว่าสายน้ำปกติแล้วไม่ใช่คนนอนดึกอะไร



“จริงด้วย กูก็คุยซะเพลินจนลืมเวลาไปเลย พวกมึงก็รีบ ๆ นอนได้แล้วอย่างมัวแต่เล่นเกมกันอยู่” สายน้ำหันไปบอกเพื่อนทั้งสองคน



“คร้าบ ๆ” พากันส่งเสียงรับคำเสียงยาว



“ฝันดีนะมึง” สายน้ำว่าก่อนจะขยับไปยังที่นอนฝั่งตัวเอง ส่วนแบงก์เดินไปปิดไฟในห้องเหลือไว้เพียงแค่ไฟตรงหน้าห้องน้ำแค่นั้น ก่อนที่เขาจะเดินกลับมานั่งเล่นเกมกับตั้มต่อ จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้สักระยะ แบบที่มั่นใจว่าเพื่อนร่วมห้องอีกคนของพวกเขาหลับสนิทไปแล้ว ทั้งสองคนจึงค่อย ๆ ย่องออกจากห้องนอนไป



แบงก์กับตั้มเดินลงไปที่ชั้นล่างของบ้านพัก มีแสงไฟส่องสว่างบ่งบอกว่ายังมีคนไม่นอนแม้ว่าจะเป็นเวลาดึกมากแล้วก็ตาม ทั้งสองคนเดินตามแสงไฟนั้นไปจนถึงห้องนั่งเล่นก็เจอกับรุ่นพี่นั่งล้อมวงกันเต็ม จะขาดก็แค่หินผาที่ไม่ได้นั่งอยู่ในวงล้อมนั้นด้วย



“สายน้ำหลับไปแล้วเหรอ” ไข่เจียวที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นเด็กปีหนึ่งทั้งสองคนพอดีเอ่ยทักก่อนที่พวกเขาจะขยับเพื่อให้ทั้งสองคนมีที่นั่ง



“ครับ หลับไปแล้วล่ะครับ แล้วพี่หินผาก็หลับไปแล้วเหรอ”



“ใช่ ๆ มันหลับไปแล้ว เวลากลับมาอยู่บ้านแบบนี้มันชอบนอนเร็วเพราะมันจะได้ตื่นเช้า ๆ พอกลับเข้าห้องไปไม่นานก็หลับไปแล้ว” ป่าไม้ที่พักห้องเดียวกับน้องชายตัวเองเป็นฝ่ายตอบคำถามของตั้ม



“แล้วสรุปว่ายังไงบ้างน้องตั้ม สายน้ำพูดอะไรบ้างไหม” ใบบัวหันมาถาม



ทั้งแบงก์และตั้มต่างก็พากันพยักหน้ารับ ก่อนที่แบงก์จะเล่าให้ฟัง “ไอ้สายน้ำมันก็บอกว่ามันก็แอบคิดนะว่าพี่หินผาจะชอบมัน แต่มันกลัวว่าแบบพี่เขาจะแค่เอ็นดูมันเพราะเห็นเป็นเพื่อนสมัยเด็กน่ะพี่”



“ถ้าจะให้ไอ้น้ำมันเริ่มก่อนคงยากอะพี่ เพราะมันก็กลัวในส่วนของมัน ซึ่งพวกผมก็เข้าใจนะ คือพี่หินผาจำมันไม่ได้เลย มารู้เพราะพี่ป่าบอก แล้วพอจำมันได้ก็ใกล้ชิด สนิทกว่าเดิม มันก็คงไม่อยากพลาดอะพี่ ถ้าเกิดที่พี่หินผาทำไปทั้งหมดเพราะคิดว่าพี่เขาเห็นมันเป็นน้องคนสนิทอะ” ตั้มเสริมต่อจากเพื่อน



“ก็เข้าใจในพาร์ทของน้องนะ” ใยไหมพยักหน้ารับเมื่อได้ฟังรุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสองคนเล่า เรื่องแบบนี้บางทีเราก็ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้าง ถ้าหากมันไม่ได้เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ จะได้ไม่เจ็บหนักจนเกินไป



“หรือเราต้องหาตัวกระตุ้นดี” ทัชพูดขึ้นมา “เหมือนอย่างตอนนั้นไง ที่พี่ป่าแกล้งกระตุ้นมันอะ มันเลยยอมสารภาพกับพี่ไม่ใช่เหรอว่ามันชอบน้อง”



“แล้วใครจะเป็นตัวกระตุ้นล่ะ” เดียร์ถามพลางหันมองไปรอบ ๆ วง “พี่ป่าต้องตัดทิ้งแล้วกระตุ้นไม่ได้ พี่ไข่หรือพี่ดิวดี”



“จริง ๆ แล้ว...” ตั้มพูด “ไม่ต้องให้พวกพี่มาแสดงหรืออะไรก็ได้นะ ผมว่าตัวกระตุ้นอะมีอยู่”



“เออ! ใช่ เด็กปีหนุ่งดุริยางค์ ชื่ออะไรวะ ไอ้หินมันเคยพูดอยู่ว่าเหมือนไอ้เด็กนั่นจะชอบสายน้ำ” ป่าไม้ดีดนิ้วเปาะเมื่อนึกขึ้นได้



“ชื่อไอซ์พี่” แบงก์ว่า “ดูแล้วก็เหมือนจะชอบไอ้น้ำอยู่นะพี่ วันก่อนก็เห็นโทรมาหา ไอ้น้ำบอกว่าโทรมาชวนไปเที่ยวหลังสอบเสร็จ แต่พอดีเรามานี่กันก่อนก็เลยไม่ได้นัดกัน ไม่รู้ว่าโทรคุยกันบ่อยแค่ไหน แต่ดูแล้วหมอนั่นก็คงคิด ๆ อยากจะจีบคนของเราอยู่เหมือนกัน”



“ถ้าเป็นแบบนั้นนะ เราสองคนก็แกล้ง ๆ ทำเป็นพูดถามถึงน้องคนที่ชื่อไอซ์อะไรนี่กับสายน้ำตอนที่หินผาอยู่ด้วยสิ” ใยไหมเสนอไอเดีย “ทำให้สายน้ำพูดถึงบ่อย ๆ หรือเล่าเรื่องคนนี้ให้ฟังไรงี้ นี่ว่าหินผาก็น่าจะมีอาการอะไรบ้างแหละ”



“ไอเดียดี ถ้ามันได้ยินชื่อไอซ์บ่อย ๆ อาจจะขอน้องเป็นแฟนเร็วขึ้น เพราะมันเคยบอกอยู่ว่าอยากจะเริ่มจีบน้องจริงจัง ไม่อยากช้าแล้วเพราะไอ้หมอนี่มันชอบสายน้ำอยู่เหมือนกัน” ป่าไม้พยักหน้าเห็นด้วย “แผนนี้ก็น่าจะเวิร์ค เราลองดูกันก่อนแล้วค่อยคิดหาแผนอื่นอีกที”



“คือมึงอยากให้สองคนนั้นคบกันวันสองวันนี้เลยหรือไง” กันต์หันไปถามเพื่อนสนิท ที่ดูจะจริงจังกับการวางแผนให้หินผากับสายน้ำขยับความสัมพันธ์กัน



เจ้าตัวจิ๊ปากตอนถูกถาม “ใจหนึ่งกูก็อยากจะขัดขวางหน่อย ๆ กูหวงน้องน้ำ แล้วก็หมั่นไส้น้องกูเองด้วย แต่ก็แอบอยากช่วยน้องน้ำให้สมหวัง”



“เหมือนผมเลยพี่!” ทัชกับเดียร์แทบจะพูดออกมาพร้อมกัน “พอฟังแล้วก็คืออยากช่วยน้อง แต่หมั่นไส้เพื่อนตัวเอง ความคิดตบตีกันเองมากตอนนี้ ใจหนึ่งอยากช่วย ใจหนึ่งอยากขวาง” พูดจบก็หัวเราะชอบใจที่ความคิดเห็นตรงกันแบบนี้



แผนการณ์ช่วยเหลือให้หินผากับสายน้ำได้คบกันนั้นเริ่มต้นหลังจากที่พวกเขาออกมาจากทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์ แม้บรรยากาศของคนทั้งคู่จะดูหวานไปหมดแต่แค่มองพวกเขาก็รู้ว่าความสัมพันธ์ยังไม่ขยับไปถึงไหน ป่าไม้เลยจัดการสร้างกลุ่มไลน์ลับ ๆ ขึ้นมาแล้วลากทุกคนเข้ามาในกลุ่มยกเว้นเจ้าของเรื่องทั้งสองคน



ในตอนแรกป่าไม้ก็แค่ถามความคิดเห็นเรื่องระหว่างสองคนนี้เฉย ๆ แต่เมื่อตอนค่ำได้คุยกับสายน้ำเรื่องของหินผา ป่าไม้ก็นึกอยากจะช่วยให้น้องชายที่ไม่ใช่น้องชายแท้ ๆ แต่รักสุด ๆ คนนี้สมหวังกับความรักเลยจัดการส่งไลน์หาทุกคนเผื่อขอความช่วยเหลือ



จึงเป็นเหตุให้พวกเขาทุกคนมานั่งรวมตัวกันอยู่ตรงนี้หลังจากที่หินผากับสายน้ำหลับไปแล้ว จนกระทั่งได้แผนการณ์แบบนี้






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

เขา ๆ ก็วางแผนช่วยคู่นี้กันอยู่น้าาาา
เนี่ยยยยย ขนาดนี้แล้วทำไมพี่ไม่ขอน้องเป็นแฟนสักทีนะ
รออะไรอยู่หืออออออออออ
ดูสิ น้องคิดไปไหนต่อไหนแล้ว น่าตีพี่จริง ๆ เลยเนอะ!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2019 19:35:27 โดย fangiily »

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่หินผาชักช้ามาก   จนกองเชียร์ทนไม่ไหวแล้วเนี่ย  อิอิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีคนหวังดีจะช่วยให้สมหวังเร็ว ๆ อีกแล้ว รอดูผลแล้วกัน จะรุ่ง หรือ จะร่วง  o18

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ทุกคนมาช่วยกันวางแผนหมดอ่ะคิดดู อยากให้เป็นแฟนกันขนาดไหน 55555555555555
 o13 o13

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
นั่นสินะ รออะไรกันอยู่ จีบเลย ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ตั้งแก้งส์หินผา-สายน้ำกันเลยเหรอ ขอให้แผนสำเร็จไวไวนะ เดี๋ยวจากยุให้จีบกัน จะกลายเป็นยุให้แตกคอกันเพราะความหมั่นไส้   :laugh:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
แผนกวางแผนจัดเต็มกันแบบนี้ พี่หินต้องขอน้องน้ำเป็นแฟนได้แล้วน้า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ต้องหาตัวช่วย o13 o13

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “15”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





เช้าวันสุดท้ายของการเที่ยวพักผ่อนที่เชียงใหม่ ผู้ร่วมทริปทั้งสิบกว่าคนตื่นกันแต่เช้าเพื่อขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น นี่เป็นวันแรกเลยที่สมาชิกทุกคนตื่นกันมาอย่างพร้อมเพียงแบบนี้ เพราะสองวันที่ผ่านมามีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น



“ตื่นมาดูตั้งสองวันแล้วไม่เบื่อหรือไง” ลูกชายคนเล็กของเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้เดินมาถามสายน้ำที่นั่งมองภาพความสวยงามตรงหน้า



สายน้ำเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เจ้าตัวส่ายหน้า “ไม่เบื่อครับ จะให้ผมตื่นมานั่งมองทุกวันเลยก็ได้วิวสวยขนาดนี้”



“ถ้าอย่างนั้นต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่แล้วล่ะจะได้ตื่นมาดูได้ทุกวัน” หินผาพูดยิ้ม ๆ แต่คนฟังน่ะใจกระตุ้มแก้มร้อนไปหมดแล้วกับคำพูดนั้น



ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการพูดเพื่อแซวเล่นเฉย ๆ หรือมีความหมายแอบแฝงอะไรอยู่ในนั้นกันแน่แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนหัวใจของสายน้ำก็สั่นไหวอย่างรุนแรงด้วยกันทั้งนั้น



“เดี๋ยวผมย้ายมาจริง ๆ แล้วพี่จะหนาวเถอะ” พยายามกลั้นความรู้สึกของตัวเองพร้อมกับตอบกลับไปเชิงหยอกล้อ



หินผาหัวเราะยกมือขึ้นกอดไหล่ของน้องเอาไว้พลางโยกไปมา “มาให้จริงเถอะ อยากให้มา”



สายตาที่หินผามองสบมาตอนพูดนั้นทั้งจริงจัง แน่วแน่แถมยังอ่อนโยนจนสายน้ำไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จะหลบสายตาก็ทำไม่ได้เพราะดวงตาคู่นั้นสะกดเขาเอาไว้ จะให้พูดอะไรกลับไปก็พูดไม่ออกเพราะสมองของสายน้ำตอนนี้มันเบลอไปหมดแล้ว คิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่างเดียว ยิ่งกับหัวใจตอนนี้มันสั่นระรัวจนสายน้ำกลัวว่ามันจะกระเด้งกระดอนออกมาข้างนอก



แต่ที่สายน้ำไม่รู้ก็คือใบหน้าของตัวเองในตอนนี้มันแดงก่ำจนบ่งบอกอะไรให้คนมองรับรู้ได้หลาย ๆ อย่าง ทั้ง ๆ ที่พยายามเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นความเขินตัวเองแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย สองข้างแก้มขึ้นริ้วสีแดงจนทั่ว ท่าทางที่ทำเหมือนไม่เขินแต่จริง ๆ แล้วเขินจนทำอะไรไม่ถูกนั้นดูน่ามันเขี้ยว น่าเอ็นดูสำหรับคนมองเป็นอย่างมาก



หินผานึกอยากจะฝังจมูกตัวเองลงที่แก้มแดงนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เลยได้แต่ยกมือขึ้นบีบแก้มของสายน้ำอย่างมันเขี้ยว



“น่ามันเขี้ยว...”



“ผมเจ็บนะ” สายน้ำพูดเสียงอู้อี้เพราะโดนบีบแก้มอยู่



“สายน้ำ ไอ้ไอซ์โทรมา” เสียงตะโกนเรียกของแบงก์ดังมาจากด้านหลังให้หินผายอมละมือจากแก้มแล้วหันไปมอง



“โอเค ๆ” สายน้ำรับคำก่อนจะรีบลุกเดินไปหาเพื่อนที่ชูโทรศัพท์ของเขาอยู่โดยไม่ได้รับรู้เลยว่ามีสายตาไม่พอใจของใครอีกคนมองตามไปด้วย



“ไอ้คนชื่อไอซ์นี่คือคนที่มึงบอกว่าชอบน้องปะวะ” ป่าไม้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลขยับมาใกล้น้องชายตัวเองทันที



“อือ”



“นี่มันเริ่มจีบน้องแล้วเหรอวะ เล่นโทรหาเช้า กลางวัน เย็นเลย นี่ก่อนนอนโทรบอกฝันดีกันด้วยไหมวะเนี่ย” ป่าไม้ยกมือลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด “แล้วคือห่าอะไรโทรหาน้องตั้งแต่ตะวันขึ้นแบบนี้ โคตรจะพยายามเลยไอ้หมอนี่”



หินผาขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจปนหงุดหงิดในใจ สองวันมานี้เขาได้ยินชื่อรุ่นน้องปีหนึ่งคณะดุริยางค์คนนี้ตลอด เดี๋ยวโทรมาหาบ้าง เดี๋ยวแบงก์กับตั้มถามถึงบ้าง ได้ยินแต่ชื่อไอซ์จนหงุดหงิดใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าครอบครัวเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์หรือยังไง ขยันโทรหาสายน้ำเป็นว่าเล่น วันละไม่ต่ำกว่าสองสามรอบแม้แต่ละรอบจะพูดคุยกันไม่กี่นาทีก็ตาม



คนเป็นเพื่อนกันเขาโทรหากันบ่อยขนาดนี้เลยหรือยังไง



แค่ได้ยินชื่อไม่ว่าจะออกจากปากของสายน้ำหรือใคร ๆ ก็ตาม หินผาก็มักจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งไป น่ารำคาญไปหมด แต่ก็เพราะสถานะที่เป็นอยู่จะให้แสดงออกมากก็ไม่ได้เพราะยังไม่มีสิทธิขนาดนั้น



“มึงน่ะ จะทำอะไรก็รีบทำ มัวแต่ชักช้าเกิดน้องเผลอใจไปชอบไอ้เด็กนั้นขึ้นมาจะทำยังไง” ป่าไม้กระแซะน้องชายตัวเอง “นี่ขนาดไม่เจอหน้ามันยังขยันโทรหาแบบนี้ ถ้าเกิดกลับไปมหา’ลัย มันไม่เช้าถึงเย็นถึงเลยหรือยังไงกัน ยิ่งเป็นกลุ่มดาวเดือนกันด้วยแบบนี้อีก กิจกรรมที่ต้องทำด้วยกันก็มีอีกไม่น้อย โอกาสเจอกันก็บ่อย ๆ ไป ระวังนะมึง”



“วันนี้พี่พูดมากจังนะ” หินผาหันไปมองหน้าพี่ชายตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบ



ป่าไม้ไหวไหล่ “กูก็แค่พูดให้มึงคิด แต่มึงจะเชื่อไม่เชื่อกูก็แล้วแต่ จะไม่ทำอะไรเลยก็ได้ตามสบาย ถ้าน้องไปชอบคนอื่นก็ช่วยไม่ได้เหมือนกันจ้า”



“รู้แล้วน่า”



ป่าไม้ที่เห็นท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของน้องชายตัวเองก็ค่อย ๆ ขยับตัวเองออกมาไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ ที่นั่งมองมาทางพวกเขา ทันทีที่พ้นจากตัวหินผาคนเป็นพี่ชายอย่างป่าไม้ก็ยกมือปิดปากหัวเราะคิกคักชอบใจที่ไปป่วนน้องชายมาได้สำเร็จ ยกนิ้วโป้งให้ผู้ร่วมอุดมการณ์ทั้งหลายเป็นการบอกว่าแผนการสำเร็จไปได้ด้วยดี



ปั่นหัวน้องชายตัวดีได้แล้ว ทีนี้ก็รอดูกันต่อว่าหินผาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง แต่พอเห็นท่าทางหัวเหวี่ยงของน้องชายแล้วก็นึกอยากจะแกล้งต่อให้กระอัก นี่เขาไม่ได้เห็นเรื่องความรักของน้องชายเป็นเรื่องตลก แต่การได้แกล้งหินผาแบบนี้ก็เป็นความสุขเล็ก ๆ ของคนเป็นพี่เหมือนกัน



แต่มันก็เป็นการแกล้งเพื่อช่วยนะ คงไม่บาปเท่าไหร่หรอกเนอะ!



สายน้ำที่เพิ่งวางสายจากไอซ์ก็เดินกลับมาหาหินผาที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศที่แปลกไปของหินผา ดู... ถมึงทึงอย่างไรบอกไม่ถูก



“พี่หินผา” สายน้ำใช้เสียงนำไปก่อน กลัวว่าเดินเข้าไปนั่งเลยอีกฝ่ายจะหันมางับหัวเข้าให้



พอได้ยินเสียงของน้องคนที่ทำหน้าบูด คิ้มขมวดก็ผ่อนคลายลง บรรยากาศรอบ ๆ ตัวก็ดูเบาบางลงจนสายน้ำกล้าที่จะเดินมานั่งข้าง ๆ ตามเดิม “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมดูเครียด ๆ จังครับ”



“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” หินผาหันมาส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้กับสายน้ำ



“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้วล่ะครับ ได้นั่งดูวิวสวย ๆ อากาศดี ๆ แบบนี้ควรจะยิ้มมากกว่าทำหน้าเครียดนะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างดันมุมปากของตัวเองให้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม



“หึหึ ครับ ๆ ตามนั้นครับ” หินผาได้แต่หลุดยิ้มเมื่อเห็นท่าทางน่ารักของสายน้ำ นึกอยากจะจับเจ้าตัวมากอดให้แน่น ๆ ให้หายมันเขี้ยว



“ดีมากครับ” ยิ้มกว้างแบบที่ชอบยิ้มให้หินผาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ กลับไปให้อีกรอบ



“น่ามันเขี้ยวจริงเรา เป็นตัวมันเขี้ยวเหรอ” หินผาเอื้อมมือมาบีบแก้มน้องทั้งสองข้าง



สายน้ำได้แต่ร้องเสียงอู้อี้เพราะโดนแกล้ง ส่วนคนแกล้งก็หัวเราะชอบใจ ก่อนที่ทั้งสองคนจะหันไปตามเสียงเรียกชื่อ



“หินผา สายน้ำ ยิ้มหน่อยเร็วเดี๋ยวถ่ายรูปให้” เดียร์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาชูให้ดู



ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่หินผาจะยอมปล่อยแก้มน้องแล้วจึงหันกลับมาทางเดียร์ด้วยกันทั้งคู่ หินผายกมือกอดคอสายน้ำเอาไว้พร้อมกับยิ้มตอนที่เพื่อนสนิทเริ่มนับเลขเพื่อถ่ายรูป โดยมีภาพของท้องฟ้าที่ทอแสงสีทองยามเช้าและสีเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาพันธุ์เป็นฉากหลัง



พวกเขาทั้งสิบกว่าคนนั่งคุยนั่งเล่นกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพนักงานของรีสอร์ทยกถาดอาหารเช้ามาให้ พวกเขาเลือกที่จะนั่งกินมื้อเช้ากันอย่างชิล ๆ ที่ศาลาริมสระว่ายน้ำของบ้านพัก มื้อเช้าที่พนักงานยกมาให้มีทั้งข้าวต้มแล้วก็อเมริกันเบรคฟาสต์ให้เลือกกินกันอย่างจุใจ



เดียร์กับกันต์คอยถ่ายรูปบรรยากาศสนุกสนานของพวกเขาเอาไว้ตลอด มีทั้งแกล้งกัน เล่นกันเต็มไปหมด



“เดี๋ยวตอนกลางวันไปกินข้าวที่บ้านกันก่อนแล้วค่อยกลับ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะให้คนไปส่งพวกเราที่สนามบิน” ป่าไม้พูดระหว่างที่ทุกคนกำลังจัดการกับมื้อเช้าอยู่



“ต้องกลับแล้ว จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันนะครับ พอได้มาอยู่แบบนี้แล้วชักไม่อยากจะกลับเลย” ตั้มว่า นึกเสียดายว่าเวลาแห่งการพักผ่อนกำลังจะหมดลงแล้ว



“เอาไว้ปิดเทอมค่อยมากันใหม่ก็ได้ รอให้ว่าง ๆ กันทุกคนแล้วมากัน” หินผาหันไปพูดกับรุ่นน้อง



“ครับ น่าเสียดายที่รอบนี้เบลกับมะนาวไม่ว่างมาด้วย แต่ทั้งสองคนบอกถ้ามีรอบหน้าจะไม่พลาดแล้วแน่นอนครับ”



“เอาไว้รอบหน้าก็มากันอีก มาเยอะ ๆ แบบนี้สนุกดี” ป่าไม้ว่า



หลังจากจัดการมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเก็บของ เก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับในตอนบ่าย ในระหว่างนั้นก็มานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นจนสิบเอ็ดโมงกว่าพนักงานของรีสอร์ทก็มาช่วยยกกระเป๋าไปขึ้นรถให้ ส่วนพวกเขาทั้งหมดก็พากันไปที่บ้านของป่าไม้แล้วก็หินผา เพื่อร่วมมื้อกลางวันกับพ่อแม่ของทั้งคู่



“อ้าว แล้วไอ้หินไปไหนแล้วล่ะ” ทัชถามหาเพื่อนตัวเองหลังจากที่หันซ้ายหัวขวาแล้วไม่เจอ



ตอนนี้พวกเขามารวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านหินผากับป่าไม้ ผู้ใหญ่เจ้าของบ้านทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในห้องด้วย มีแต่พวกเขาทั้งหมด ตอนนี้ดูเหมือนว่าหินผาจะหายไปไหนอีกคนแล้วก็ไม่รู้



“น่าจะไปคุยกับพ่อแม่ละมั้ง เดี๋ยวมันก็คงมานั่นแหละ” ป่าไม้เป็นคนตอบข้อสงสัยของทัช ซึ่งเมื่อเจ้าตัวได้ยินคำตอบแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ



ทางฝั่งคนที่หายตัวออกมาจากกลุ่มก็กำลังเดินไปยังห้องทำงานของพ่อกับแม่ หินผายกมือขึ้นเคาะประตูสองสามทีก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างใน ผู้ใช้ห้องทั้งสองคนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กเดินเข้ามา



“ว่าไงลูก มีอะไรหรือเปล่า” คนเป็นแม่เอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูเคร่งขรึม จริงจังของลูกชาย



“ผมมีเรื่องอยากคุยกับพ่อกับแม่ครับ ผมรบกวนเวลาสักครู่” น้ำเสียงจริงจังผิดแปลกจากเดิมให้ทั้งคู่หันมองหน้ากัน



“ไหน... มีอะไรว่ามาสิ” คนเป็นพ่อลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งที่โซฟากลางห้อง แม่ของหินผาก็เช่นกัน



หินผาเดินเข้าไปใกล้แต่เขาเลือกที่จะนั่งบนพื้นแทนโซฟา เรียกสายตางุนงงจากบุพการีทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี



“มีอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมไม่มานั่งข้างบนนี่ล่ะ”



“ผมมีเรื่องอยากพ่อกับแม่ครับ” หินผามองทั้งสองคนด้วยสายตาจริงจัง “ผมรู้ว่าเรื่องที่ผมจะบอกพ่อกับแม่นี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจแล้วก็อาจจะยอมรับยาก แต่ผมก็ไม่อยากโกหกหรือปิดบังพ่อกับแม่ ไม่อยากปล่อยให้เวลามันผ่านไปโดยไม่ทำอะไร”



“เรื่องอะไรลูก ทำไมดูซีเรียสขนาดนั้นเลยล่ะ” คนเป็นแม่หัวใจของเริ่มเต้นแรงเพราะไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองจะพูดเรื่องอะไร



“พ่อครับ แม่ครับ” หินผามองหน้าท่านทั้งสองคนด้วยสายตาที่แน่วแน่และจริงจัง “ผมรักสายน้ำครับ ผมรักน้องอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักใครสักคนได้... รักแบบที่ไม่ใช่พี่ชายรักน้อง”



พ่อกับแม่ดวงตาเบิกกว้างขึ้นคล้ายกับว่ากำลังตกใจในสิ่งที่กำลังได้ยิน หินผาไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันอาจจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วินาที แต่มันนานในความรู้สึกของเขากว่าที่พ่อจะหาเสียงของตัวเองเจอ “แกหมายความว่า... แก...”



“ครับ ผมรักน้อง รักแบบคนรักครับ” หินผายืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น



“เดี๋ยวนะลูก... ขอเวลาแม่นิดหนึ่ง”



“ผมรู้ครับว่ามันยอมรับยาก ผมรู้ว่าพ่อกับแม่คงจะผิดหวังกับสิ่งที่ผมเป็น...” หินผาเงยหน้ามองท่านทั้งสอง “แต่ผมก็ไม่อยากปิดบังพ่อกับแม่ ไม่อยากซ่อนความรู้สึกตัวเองกับคนที่ผมรักอย่างพ่อกับแม่ ไม่อยากโกหก ไม่อยากหลอกลวง”



“ที่จริง... ผมรู้ตัวเองมานานแล้วว่าผมเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบผู้หญิงเลย ยังไงดี... ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องเพศ แต่ผมก็ไม่เคยบอกพ่อกับแม่ อาจจะเพราะว่าคนที่ผมคุย ที่ผมคบที่ผ่านมา ไม่มีใครที่ทำให้ผมจริงจังมากขนาดที่จะมองไปถึงอนาคตข้างหน้า แต่พอเป็นน้องน้ำ ผมไม่ได้มองแค่ว่าตอนนี้ผมชอบเขา แต่ผมมองไปไกล มองไปถึงอนาคตอีกห้าปี สิบปี ยี่สิบปีข้างหน้า”



“เมื่อผมคิดและจริงจังขนาดนี้แล้วผมก็เลยไม่อยากที่จะปิดบังพ่อกับแม่อีก ผมรู้ว่ามันค่อนข้างที่จะทำใจยอมรับยาก แต่อย่างที่ผมบอกไป ผมไม่อยากปิดพ่อกับแม่ ผมเลยเข้ามาบอกพ่อกับแม่ครับ”



“บอกแม่ได้ไหม... มันเกิดขึ้นได้ยังไงลูก”



“ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือเกิดขึ้นตอนไหน” หินผาตอบคำถามของแม่ “มันอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยตอนที่ผมกับน้องยังเป็นเด็กก็ได้ เพียงแค่ตอนนั้นผมไม่รู้และไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ผมคิดแค่ว่าผมชอบเล่นกับน้อง ชอบอยู่กับน้อง อยากปกป้องน้องแค่นั้น”



“ตอนน้องย้ายไปผมเองก็ทั้งเหงา ทั้งเศร้า แต่อาจจะเพราะว่าผมยังเด็กความรู้สึกเหล่านั้นเลยอยู่ไม่นาน แต่พอผมเริ่มโตขึ้น... ผมเริ่มคิดถึงน้องมากขึ้น มองหาน้องตลอดเวลา จนกระทั่งผมได้เจอน้องอีกครั้ง ความรู้สึกที่ผมไม่แน่ใจมาตลอดก็เริ่มชัดขึ้นครับ”



หินผายิ้มยามที่นึกถึงสายน้ำและเล่าเรื่องของอีกฝ่าย “ที่ผมคิดถึง ที่ผมอยากเจอน้องมาตลอด อาจจะเป็นเพราะผมหลงรักน้องมาตลอดก็ได้ครับ”



“แกมั่นใจความรู้สึกตัวเองแล้วใช่ไหม ว่ามันใช่อย่างที่แกพูดจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพราะความใกล้ชิดที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง” พ่อของหินผาถามออกมาหลังจากที่เงียบไปสักพัก



“ครับพ่อ ผมมั่นใจ” หินผายังคงยืนยันหนักแน่นในความรู้สีกของตัวเอง



บุพการีทั้งสองหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่พ่อจะพยักหน้าเป็นเชิงให้แม่เป็นคนพูด “แม่ยอมรับว่าแม่ค่อนข้างตกใจที่ลูกมาบอกแบบนี้”



“แม่ครับ...”



“แต่แม่ก็ดีใจที่ลูกซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ไม่โกหกพ่อกับแม่ ไม่โกหกตัวเอง” แม่ของหินผายื่นมือมาตรงหน้า ก่อนจะจับมือของหินผาที่ยืนมาเอาไว้ “พ่อกับแม่ย่อมตกใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อกับแม่ยอมรับไม่ได้”



“แม่รู้ดีว่าแม่ไม่สามารถบังคับ หรือฝืนใจลูกได้ ไม่ใช่เพราะแม่ตามใจลูก แต่เพราะแม่เชื่อมั่นในการตัดสินใจของลูก ในทุก ๆ ครั้ง ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ แม่รักและเคารพการตัดสินใจของลูกนะหิน รวมถึงเรื่องนี้ด้วย”



“อย่างที่แม่เขาพูดนั่นแหละ พ่อดีใจที่แกยอมรับและสารภาพออกมาตรง ๆ ไม่โกหกหรือปิดบังกัน นั่นมันทำให้พ่อเห็นว่าแกตัดสินใจดีแล้ว และมั่นใจแล้วในสิ่งที่แกพูด พ่อไม่ห้าม แต่ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ขอให้แกคิดเอาไว้ว่ามันเกิดจากสิ่งที่แกเลือกเอง เข้าใจนะ”



“พ่อครับ แม่ครับ” หินผายกมือไหว้ทั้งคู่ “ขอบคุณนะครับที่ยอมรับผมในสิ่งที่ผมรู้สึก”



“แล้วทำไมไม่พาน้องมาคุยกับพ่อกับแม่ด้วยกันเลยล่ะ” แม่ถามไปถึงสายน้ำที่ไม่ได้มานั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยกัน



“จริง ๆ แล้วผมกับน้องยังไม่ได้คบกันครับ” คำตอบของหินผาสร้างความแปลกใจให้กับทั้งสองคน



“ยังไงกันเรา”



หินผาหัวเราะก่อนจะอธิบายให้ทั้งสองเข้าใจ “ผมอยากคุยกับพ่อกับแม่ให้เข้าใจก่อนน่ะครับ แล้วถึงค่อยไปคุยกับน้อง เอาจริง ๆ ... ผมก็ยังไม่ได้บอกชอบน้องอย่างจริงจังเลย แต่เพราะผมอยากให้พ่อกับแม่เข้าใจผมก่อน ยอมรับผมได้ก่อน ผมถึงจะคุยกับน้องอีกที”



จริง ๆ แล้วนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หินผายังไม่บอกความรู้สึกของตัวเองกับสายน้ำ เพราะเขาอยากให้ครอบครัวของเขายอมรับได้ก่อน เขาไม่อยากให้น้องต้องมารู้สึกกดดันหรือเป็นกังวลไปด้วย ตลอดที่ผ่านมาเขาถึงยังไม่ได้ทำอะไรจริงจังสักที



“แล้วถ้าเกิดพ่อกับแม่ไม่ยอมรับขึ้นมาแกจะทำยังไง ไม่คบกับน้องเขาเรอะ!”



“ไม่หรอกครับ ผมรักน้องเกินกว่าจะยอมปล่อยน้องไปได้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะคบกับน้อง แต่ผมก็ต้องทำให้พ่อกับแม่ยอมรับให้ได้ก่อนเหมือนกัน”



“แล้วนี่ป่าไม้รู้เรื่องหรือยัง”



หินผาพยักหน้ารับ “รู้แล้วครับ พี่ป่ารู้ว่าผมคิดยังไงกับน้องก่อนที่ผมจะรู้ใจตัวเองอีกครับ จริง ๆ แล้วถ้าไม่ได้พี่ป่า ผมอาจจะยังไม่รู้ว่าน้องคือน้องสายน้ำ ไม่รู้ว่าผมคิดยังไงกับน้องก็ได้ครับ”



“เรามันตาถั่ว!” โดนคนเป็นแม่ว่าทันที “ขนาดแม่กับพ่อเห็นน้องครั้งแรกยังรู้เลยว่าเป็นน้อง”



“ผมคงจะตาถั่วอย่างที่แม่ว่าจริง ๆ นั่นแหละครับ” หินผาหัวเราะ



“แล้วยังไงต่อ เราจะขอน้องคบเลยไหม หรือยังไง”



“อาจจะอีกระยะครับ ผมอยากทำอะไรบางอย่างให้น้องมั่นใจก่อนว่าผมเองก็ชอบน้องเหมือนกัน แล้วถึงค่อยขอน้องคบครับ แล้วผมจะพาน้องมาหาพ่อกับแม่อีกรอบ ในอีกสถานะหนึ่งครับ”



หินผานั่งคุยกับพ่อแม่ต่ออีกพักก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดีทั้งสามคนจึงพากันเดินออกมาจากห้องทำงาน เดินไปชักชวนเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องของลูกชายคนเล็กไปกินข้าวที่ห้องอาหารกัน อาหารพื้นเมืองหน้าตาน่าทานวางเรียงอยู่เต็มโต๊ะ พูดคุยกันอย่างสนุกสนานในระหว่างมื้ออาหาร



เป็นอีกมื้อที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วก็เสียงหัวเราะ จนกระทั่งได้เวลาที่จะต้องเดินทาง พวกเขาทั้งหมดก็พากันเดินมาขึ้นรถโดยมีพ่อกับแม่ตามมาส่งที่หน้าบ้านด้วย ทุกคนยกมือไหว้ เอ่ยลา และขอบคุณสำหรับที่พักและอาหารตลอดระยะเวลาที่มาอยู่ที่นี่



“เอาไว้แวะกันมาอีกนะเด็ก ๆ เดี๋ยวแม่จองห้องเดิมเอาไว้ให้พักเลย”



“ขอบคุณนะคะ เอาไว้พวกหนูจะมาใหม่นะคะ” ใยไหมเป็นตัวแทนพูดกับแม่ของเพื่อน ล่ำลากันอยู่ไม่นานก็เดินไปขึ้นรถ เหลือเพียงป่าไม้ หินผาแล้วก็สายน้ำที่ยังยืนอยู่ที่เดิม



“พ่อกับแม่ก็อย่าโหมทำงานหนักนักนะครับ พักผ่อนกันเยอะ ๆ ด้วย” ป่าไม้พูดกับทั้งสองคนก่อนจะเดินเข้าไปกอดทั้งคู่



“เราเองก็ตั้งใจทำงาน แล้วก็หาสะใภ้มาให้พ่อกับแม่ได้แล้ว”



ป่าไม้หัวเราะ พยักหน้ารับกับคำขอของคนเป็นแม่ “จะพยายามนะครับ ถ้าหาไม่ได้เดี๋ยวผมเอาน้องน้ำมาเป็นสะใภ้ให้แม่ก่อนนะ โอ๊ย!”



คนทะเล้นโดนแม่ตีไปที ไหนจะโดนน้องชายเตะขาเข้าให้อีกคน “พูดไปเรื่อยเลยเรา!”



“ขอโทษคร้าบ” ป่าไม้ว่าพลางหัวเราะ ส่วนคนโดนพาดพิงอย่างสายน้ำก็ได้แต่ยิ้มแหย ปั้นสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว



“น้องน้ำก็ด้วยนะลูก แวะมาหาแม่กับพ่อบ่อย ๆ นะ”



“อะ... ครับ ได้ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ แม้จะชะงักไปเล็กน้อยกับคำเรียกแทนตัวของทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ไม่อยากจะคิดไปเองมากนัก อาจจะเป็นเพราะทั้งสองชินเวลาพูดกับเพื่อน ๆ ของป่าไม้แล้วก็หินผา เพราะทั้งสองท่านก็แทนตัวเองว่าพ่อกับแม่



“เราก็พาน้องมาหาพ่อกับแม่ด้วยนะ” คราวนี้แม่หันไปพูดกับลูกชายคนเล็กบ้าง



“ครับ ได้ครับ”



“รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเครื่อง” คนเป็นพ่อเป็นฝ่ายจบการสนทนาเพราะเกรงว่าพวกลูก ๆ จะไปไม่ทันขึ้นเครื่องบิน



“ครับ อย่างนั้นผมไปนะครับพ่อ แม่ สวัสดีครับ” ป่าไม้ยกมือไหว้ลาทั้งสอง



“ไปนะครับ พ่อกับแม่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ เอาไว้ว่าง ๆ ผมจะรีบกลับบ้าน” หินผาเดินเข้าไปกอดทั้งสองคนก่อนจะยกมือไหว้



“สวัสดีครับ ผมจะเกาะพี่หินผากับพี่ป่าไม้มาเยี่ยมอีกนะครับ” สายน้ำเองก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน



“จ๊ะลูก แล้วเจอกันใหม่นะ”



ทั้งสามคนยกมือไหว้ลาอีกรอบก่อนจะพากันเดินไปที่รถตู่ที่จอดรถอยู่ สายน้ำหันไปมองนอกหน้าต่างรถตอนที่รถเคลื่อนตัวออกมา เจ้าตัวถอนหายใจอย่างนึกเสียดายที่ต้องกลับแล้ว



“เป็นอะไรเรา ถอนหายใจทำไม” หินผาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเสียงถอนหายใจของน้องก็ถามออกมา



“ผมแค่เสียดายน่ะครับที่ต้องกลับแล้ว”



“เอาไว้พี่พามาใหม่ไง พ่อกับแม่ก็บอกอยู่ว่าให้มาหาอีก เอาไว้หยุดยาวครั้งหน้า หรือมีอาทิตย์ไหนว่าง ๆ พี่จะหามาอีก ดีไหม” หินผายกมือวางบนผมของน้องแล้วจับโยกไปมา



“ครับ ดีครับ” สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง “พี่ต้องพาผมมาอีกนะ”



“แน่อยู่เลย”



“สัญญานะครับ”



หินผาหัวเราะเมื่อเห็นนิ้วก้อยของสายน้ำยื่นมาตรงหน้า “สัญญาเลย”



เขายื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับน้องพร้อมเอ่ยคำสัญญา “พี่จะพาเรากลับมาบ้านด้วยกันทุกครั้ง สัญญาเลย”








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

อ๋อออออออออออ
พี่เขามีเหตุผลของเขานะเออที่ยังไม่ยอมขอน้องเป็นแฟน
พี่เขารอคุยกับพ่อแม่ก่อน จะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลังเนอะ
ทีนี้ก็สบายใจละ ขอน้องเป็นแฟนได้แล้วจ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ที่มัวแต่โอ้เอ้  เพราะเยี่ยงนี้นี่เอง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอไปสู่ขอน้องตอนหน้านิ  o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด