พิมพ์หน้านี้ - Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: fangiily ที่ 26-01-2019 23:00:53

หัวข้อ: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-01-2019 23:00:53
ส่วนที่เอาไปแปะไว้ที่กระทู้ก่อนลงนิยาย อยู่ในระหว่างเส้น *** นะคะ (ข้อ 1-18 ก๊อปเฉพาะหัวข้อที่ทำตัวทึบไว้ก็ได้
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



(https://i.ibb.co/VgqQbZb/LOGO.jpg)



(https://i.ibb.co/pvJ5FxB/hinnam.jpg)



FACULTY OF LOVE

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ




❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



(https://i.ibb.co/1MKvnHW/00.jpg)



❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



เรื่องราวของนิยายเรื่องนี้ จะเป็นแนว มหาวิทยาลัยนะคะ

เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้หวาน น่ารักเหมือนกับหลาย ๆ เรื่องที่ฟางแต่งมา

ด้วยนิสัยของตัวละครในเรื่อง แต่ตามสไตล์การแต่งของฟางก็จะยังคงเป็นเรื่องที่อ่านแล้วดีต่อใจค่ะ

ไม่ดราม่า ไม่หน่วงในใจ ไม่น้ำตาไหล (หรือเปล่า บอกไม่ได้เหมือนกัน ฮ่า)

แต่ (พยายาม) จะ (ให้) เป็นการอ่านไปแล้วอมยิ้มไปกับตัวละครนะคะ

ยังไงก็ ... ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ



❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



ติดตาม ติดต่อ ฟางได้ที่ ...



(https://i.ibb.co/dttQKJx/FACEBOOK.png) (https://www.facebook.com/fgc32yaoi/)     (https://i.ibb.co/p02m4gp/TWITTER.png) (https://twitter.com/Fangiily_GC)



❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



❖ ครั้งที่ l "0" ❖ (http://bit.ly/2Ulm4Wy)

❖ ครั้งที่ l "1.1" ❖ (http://bit.ly/2SgmBeR)      ❖ ครั้งที่ l "1.2" ❖ (http://bit.ly/2t6bqag)      ❖ ครั้งที่ l "1.3" ❖ (http://bit.ly/2UKUeTH)

❖ ครั้งที่ l "2.1" ❖ (http://bit.ly/2Sn6Jbm)      ❖ ครั้งที่ l "2.2" ❖ (http://bit.ly/2SZQYH3)      ❖ ครั้งที่ l "2.3" ❖ (http://bit.ly/2BKhnP8)

❖ ครั้งที่ l "3.1" ❖ (http://bit.ly/2TeErQ6)      ❖ ครั้งที่ l "3.2" ❖ (http://bit.ly/2tNBOXa)      ❖ ครั้งที่ l "3.3" ❖ (http://bit.ly/2XHfT1g)

❖ ครั้งที่ l "4.1" ❖ (http://bit.ly/2SYXDNg)      ❖ ครั้งที่ l "4.2" ❖ (http://bit.ly/2Y4uFj2)      ❖ ครั้งที่ l "4.3" ❖ (http://bit.ly/2FRTYOl)

❖ ครั้งที่ l "5.1" ❖ (http://bit.ly/2DZaXwI)      ❖ ครั้งที่ l "5.2" ❖ (http://bit.ly/2YwZwUF)      ❖ ครั้งที่ l "5.3" ❖ (http://bit.ly/2Jwfefi)

❖ ครั้งที่ l "6.1" ❖ (http://bit.ly/2QzaS7T)      ❖ ครั้งที่ l "6.2" ❖ (http://bit.ly/2MFjSKC)      ❖ ครั้งที่ l "6.3" ❖ (http://bit.ly/2WBacQQ)

❖ ครั้งที่ l "7.1" ❖ (http://bit.ly/2RnX7t8)      ❖ ครั้งที่ l "7.2" ❖ (http://bit.ly/31R4sq8)      ❖ ครั้งที่ l "7.3" ❖ (http://bit.ly/2XaSSY2)

❖ ครั้งที่ l "8.1" ❖ (http://bit.ly/2NxI8yr)      ❖ ครั้งที่ l "8.2" ❖ (http://bit.ly/2xCJOfi)      ❖ ครั้งที่ l "8.3" ❖ (http://bit.ly/2G9IqFK)

❖ ครั้งที่ l "9.1" ❖ (http://bit.ly/2JV3dOa)      ❖ ครั้งที่ l "9.2" ❖ (http://bit.ly/2JVQDjb)      ❖ ครั้งที่ l "9.3" ❖ (http://bit.ly/2Znjke6)

❖ ครั้งที่ l "10.1" ❖ (http://bit.ly/2YQzaku)      ❖ ครั้งที่ l "10.2" ❖ (http://bit.ly/2N12Rc6)      ❖ ครั้งที่ l "10.3" ❖ (http://bit.ly/30dXTwD)

❖ ครั้งที่ l "11.1" ❖ (http://bit.ly/2Zgrqsj)      ❖ ครั้งที่ l "11.2" ❖ (http://bit.ly/2KXElHy)      ❖ ครั้งที่ l "11.3" ❖ (http://bit.ly/2lUiuqq)

❖ ครั้งที่ l "12.1" ❖ (http://bit.ly/2lD48dO)      ❖ ครั้งที่ l "12.2" ❖ (http://bit.ly/2lQi8kG)      ❖ ครั้งที่ l "12.3" ❖ (http://bit.ly/2m0Q8uq)

❖ ครั้งที่ l "13.1" ❖ (http://bit.ly/2mzMqsf)      ❖ ครั้งที่ l "13.2" ❖ (http://bit.ly/2nyUWbd)      ❖ ครั้งที่ l "13.3" ❖ (http://bit.ly/31MXRwm)

❖ ครั้งที่ l "14.1" ❖ (http://bit.ly/2NDrDip)      ❖ ครั้งที่ l "14.2" ❖ (http://bit.ly/2pzHR2S)      ❖ ครั้งที่ l "14.3" ❖ (http://bit.ly/35CarjD)

❖ ครั้งที่ l "15.1" ❖ (http://bit.ly/2OH6XXu)      ❖ ครั้งที่ l "15.2" ❖ (http://bit.ly/2P66XQI)      ❖ ครั้งที่ l "15.3" ❖ (http://bit.ly/2qVjDko)

❖ ครั้งที่ l "16.1" ❖ (http://bit.ly/36PxSq5)      ❖ ครั้งที่ l "16.2" ❖ (http://bit.ly/2Sp8PGs)      ❖ ครั้งที่ l "16.3" ❖ (http://bit.ly/2QjHyUk)

❖ ครั้งที่ l "17.1" ❖ (http://bit.ly/2R2FMGm)      ❖ ครั้งที่ l "17.2" ❖ (http://bit.ly/2uLPO7j)      ❖ ครั้งที่ l "17.3" ❖ (http://bit.ly/30BpWXJ)

❖ ครั้งที่ l "18.1" ❖ (http://bit.ly/36qesrq)      ❖ ครั้งที่ l "18.2" ❖ (http://bit.ly/2S420by)      ❖ ครั้งที่ l "18.3" ❖ (http://bit.ly/3863xog)

❖ ครั้งที่ l "19.1" ❖ (http://bit.ly/39KwJBR)      ❖ ครั้งที่ l "19.2" ❖ (http://bit.ly/380sBMA)      ❖ ครั้งที่ l "19.3" ❖ (http://bit.ly/2TqTDc2)

❖ ครั้งที่ l "20.1" ❖ (http://bit.ly/2WeBbFh)      ❖ ครั้งที่ l "20.2" ❖ (https://bit.ly/33yOS3p)      ❖ ครั้งที่ l "20.3" ❖ (https://bit.ly/39pAM5V)





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



นิยายของฟาง

อุ่นไอรัก ❤ (http://bit.ly/2BZysUp) THE END

My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ (http://bit.ly/2C4ufz4) THE END

❤… อุ้มรัก ...❤ #Mpreg (http://bit.ly/2SDJDtg) THE END

❤… อุ้มรัก ' S ...❤ (http://bit.ly/2Rxogwd) THE END

• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • (http://bit.ly/2sae1zJ) THE END

♡ Faculty of Love . 1 My Dear ; รักของผม ผมจัดเอง ♡ (http://bit.ly/2C0Mkh7) THE END

Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ (http://bit.ly/2FQUD3M) UPDATE




❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖




หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-01-2019 23:12:35
(https://i.ibb.co/1MKvnHW/00.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “0”




ยามหินผา จรดสายน้ำ

ยามลำน้ำ เคลื่อนผ่าน กระทบหิน

ยามนั้น... เวลาที่เคยหยุด

ก็เริ่มเดินอีกครั้ง...

... เมื่อหินผา จรดสายน้ำ ...



“น้องคณะสถา’ปัตย์ ปีหนึ่งทางนี้เลยนะครับ” เสียงตะโกนเรียกน้อง ๆ ดังอยู่ที่ลานกิจกรรมของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง



วันนี้เป็นวันปฐนิเทศเบื้องต้นให้กับนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง รุ่นพี่ปีสองเลยมารอน้อง ๆ ตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมสถานที่



“น้องปีหนึ่งสถา’ปัตย์หรือเปล่าคะ ถ้าใช่ ลงทะเบียนได้เลยนะ”



“อ่อ... ครับ ขอบคุณครับ” ก้มหัวลงนิดเพื่อเป็นการขอบคุณรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาทัก หลังจากเห็นเจ้าตัวยืนอยู่หน้าอาคารมาสักพักหนึ่งแล้ว



เจ้าของใบหน้าหล่อส่งยิ้มขอบคุณไปให้ แล้วจึงเลื่อนสายตามามองอาคารตรงหน้าอีกรอบ รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่แล้วแย้มกว้างกว่าเดิม เขากระชับมือที่จับกระเป๋าสะพายคาดอกของตัวเองให้แน่นขึ้นแล้วก้าวไปยังโต๊ะลงทะเบียนที่รุ่นพี่ชี้บอกเมื่อครู่



“ไอ้หิน! กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากด้านในอาคาร จนคนแถวนั้นต้องหันไปมองด้วยความสงสัยระคนอยากรู้



เจ้าของชื่อทำเพียงแค่หัวเราะขำเท่านั้น ก่อนจะเห็นคนตัวสูงก้าวเท้าไว ๆ เข้าไปข้างใน เขาละความสนใจกลับมาเมื่อถึงคิวเขาลงทะเบียนแล้ว



“น้องชื่ออะไรครับ”



“สายน้ำครับ” เขาตอบกลับไป แล้วรุ่นพี่ก็เขียนชื่อเขาบนป้ายชื่อแล้วส่งมาให้เขา



“ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยขอบคุณยามรับป้ายนั้นมาคล้องคอ หันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่าอนาคตเพื่อน ๆ ของเขาเดินไปทางไหนกัน



แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนแขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกคว้าหมับ สายน้ำสะดุ้งด้วยความตกใจ หันมองซ้ายขวาแล้วก็ทำหน้าเหลอหลา เพราะเขาไม่รู้จักว่าสองคนที่เข้ามากอดแขนของเขานั้นเป็นใคร



“เอ่อ...”



“ไอ้สมชาย! ไอ้สมศักดิ์! ทำบ้าอะไรของมึง น้องมันตกใจหมดแล้วเนี่ยเห็นไหม”



ยังไม่ทันที่สายน้ำจะได้พูดอะไรเสียงอันดังของรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินถกแขนเสื้อมาหา ผู้หญิงคนนี้หน้าตาน่ารักอย่างกับตุ๊กตาแต่ตอนนี้เจ้าตัวทำตาโต ถลึงตามองทั้งสองคนที่ยังเอามือคล้องแขนสายน้ำเอาไว้ ก่อนจะยกมือตี ไม่ได้ตีสายน้ำ แต่เป็นสองคนข้าง ๆ



“ว้าย! ยัยบู้บี้! มาตีฉันทำไมยะ แล้วฉันก็ไม่ได้ชื่อสมชายด้วย! ฉันชื่อแซนดี้ย่ะ แซนดี้”



“ใช่! ฉันก็ไม่ได้ชื่อสมศักดิ์ แต่ชื่อแวนดี้!”



“ส่วนฉันก็ชื่อบาร์บี้ ไม่ใช่บู้บี้เหมือนกันนั่นแหละ!” คนตรงหน้าว่า “ปล่อยมือน้องเดี๋ยวนี้เลยนะ เห็นน้องหน้าตาดีหน่อยล่ะไม่ได้เลย”



สองคนข้าง ๆ ทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจแต่ก็ยอมปล่อยแขนสายน้ำแต่โดยดี แต่ก็ยังไม่วายหันมาส่งสายตาหวานหยดย้อยให้ สายน้ำเองก็ทำอะไรไม่ถูกนอกจากยิ้ม ก่อนที่พี่ผู้หญิงที่ชื่อบาร์บี้จะหันไปไล่พี่ทั้งสองคนแล้วหันกลับมาหาเขาอีกที



“ขอโทษด้วย ไอ้สองตัวนั้นเห็นผู้ชายหน้าตาดีไม่ค่อยได้ ชอบเข้ามาวอแว น้องไปนั่งต่อแถวกับเพื่อน ๆ ได้เลย ตามสีป้ายชื่อนะ”



“ขอบคุณมากครับ” สายน้ำยกมือไหว้รุ่นพี่ตรงหน้าก่อนจะเดินไปยังแถวที่เพื่อนร่วมคณะนั่งอยู่ เจ้าตัวก้มมองสีของป้ายชื่อที่คล้องคออยู่ก่อนจะกวาดสายตามองหาว่าแถวไหนคือสีของเขา



“น้อง ๆ สีฟ้าแถวนั้นเลย ด้านในสุด” รุ่นพี่ผู้ชายแถวนั้นเรียก พร้อมกับชี้นิ้วไปยังแถวที่อยู่ริมข้างใน เขาก้มหัวขอบคุณก่อนจะเดินไปต่อแถว



โชคดีที่ฝั่งที่เขานั่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง อยู่ริมนอกของอาคารแต่เมื่อตอนที่เดินมาจากด้านหน้าของอาคารแถวนี้คือแถวด้านในสุด รุ่นพี่เลยเรียกว่าแถวด้านใน แต่ถ้ามานั่งอยู่ตรงแถวแล้วล่ะก็... คงต้องเรียกแถวสีฟ้าว่าแถวนอกสุด ลมเย็น ๆ พัดมาพอให้หายร้อน โชคดีจริง ๆ นั่นแหละที่ได้อยู่แถวตรงนี้



“สวัสดี” แรงจิ้มที่ไหล่พร้อมกับเสียงทักทายเรียกให้สายน้ำหันไปมอง “เราเชื่อเดียร์นะ นายชื่ออะไรเหรอ นายด้วย”



คนที่จิ้มไหล่สายน้ำแนะนำตัวก่อนจะเอ่ยถาม รวมไปถึงคนที่นั่งอยู่หน้าสายน้ำที่หันมามองเมื่อรู้ว่ามีเพื่อนใหม่มานั่งต่อท้ายแถว



สายน้ำชูป้ายชื่อให้ดู “ชื่อสายน้ำ”



“ชื่อแบงก์”



“พวกนายเป็นคนที่ไหนเหรอ กรุงเทพฯ หรือเปล่า แล้วมีเพื่อนมาเรียนคณะนี้ด้วยไหม” คนที่แนะนำตัวว่าเชื่อเดียร์ถามพร้อมกับยิ้มกว้าง



“กรุงเทพฯ นี่แหละ มีเพื่อนมาด้วยอีกคนชื่อตั้ม มันน่าจะยังมาไม่ถึง เอาไว้มาแล้วจะแนะนำให้รู้จักอีกที” คนที่ชื่อแบงก์ตอบคำถาม คราวนี้สายตาของทั้งสองคู่เลยหันมาที่สายน้ำแทน



“เราไม่ใช่คนกรุงเทพฯ หรอก จริง ๆ แล้วเป็นคนเชียงใหม่ แล้วก็... ไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วยสักคนเพราะเพิ่งย้ายกลับมาจากต่างประเทศ” สายน้ำตอบพร้อมกับยิ้มให้กับเพื่อนใหม่ทั้งสองคน



ทั้งสามพูดคุยกันเบา ๆ แนะนำตัวกับเพื่อนคนอื่นไปด้วยระหว่างรอเพื่อนในคณะ จนกระทั่งทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตา รุ่นพี่ปีสองก็เดินมายืนล้อมวงพวกปีหนึ่งเอาไว้ มีพี่กลุ่มหนึ่งออกไปด้านหน้าพร้อมกับแนะนำตัวว่าเป็นพี่ ๆ ฝ่ายสันทนาการ มีพี่ที่ชื่อสมชาย... ไม่สิ ชื่อแวนดี้กับแซนดี้อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เป็นคนที่เรียกเสียงหัวเราะและเสียงฮาได้ตลอด เพราะพี่ทั้งสองคนชอบเอาแต่แซวพี่ผู้ชายอีกคนที่แนะนำตัวว่าเป็นเดือนคณะปีที่แล้ว



สายน้ำมองพี่ ๆ ฝ่ายสันทนาการ ร้องไปเต้นไป แล้วก็หลุดขำตอนที่พวกเขาเล่นมุกตลก



ช่วงเช้ากิจกรรมที่ทำก็เป็นการสานสัมพันธ์กันระหว่างเพื่อนในคณะ มีทั้งแนะนำตัว ร้องเพลง ทายชื่อเพื่อน ๆ ทำให้น้องปีหนึ่งจำใบหน้าและชื่อของเพื่อนได้มากขึ้น พอถึงเวลากลางวันรุ่นพี่ปีสองก็เดินแจกข้าวกล่องให้น้องทุกคน ก่อนจะปล่อยให้แยกย้ายกันไป แล้วให้ทุกคนกลับมารวมกันอีกในสองชั่วโมงข้างหน้า



สายน้ำ เดียร์ แบงก์ แล้วก็ตั้มเพื่อนสนิทของแบงก์แยกมาหามุมสงบ ๆ เพื่อนั่งกินข้าวกัน พูดคุย ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นระหว่างนั้น



จบวันแรกของการปฐมนิเทศ สายน้ำก็ได้เพื่อนแล้ว...







เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ท้องฟ้าทอแสงสีส้มทองบ่งบอกว่าตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า คนตัวสูงใบหน้าหล่อเหลาหันกลับไปมองอาคารเรียนที่เพิ่งเดินออกมาอีกครั้ง เขาหยุดอยู่ตำแหน่งเดิมที่ยืนเมื่อเช้าและมองอาคารตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม



หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายภาพตรงหน้า เป็นภาพของอาคารเรียนที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีส้มดูตัดกันอย่างสวยงาม ก่อนจะกดโพสต์ภาพนั้นบนเฟซบุ๊ก ยิ้มบาง ๆ กับสิ่งที่เพิ่งโพสต์ลงไป



ในที่สุด... ก็ได้มาอยู่ตรงนี้แล้วนะ








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

สวัสดีค่า เจอกันอีกแล้ว ~~
วันนี้ฟางเอานิยายเรื่องใหม่มาฝากกันค่ะ ขอจัดเอาไว้ในโหมดอ่านง่าย ๆ สบาย ๆ นะคะ
อาจจะไม่หวานเท่าอุ้มรัก หรือ อาจจะไม่น่ารักเท่าพี่กันต์น้องเดียร์ แต่ฟางก็คิดว่าเรื่องนี้
น่าจะเป็นอีกเรื่องที่ทำให้อมยิ้มและมีความสุขได้เวลาอ่านหรือนึกถึงค่ะ
ยังไงก็จะพยายามแต่งออกมาให้ดีที่สุดค่ะ
ฟางฝากนิยายเรื่องใหม่เรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 26-01-2019 23:30:48
ติดตามค่ะ  :mew1:  ภาษาสวยขึ้นมากๆเลยค่ะ  o13  ขอให้เป็นอีกเรื่องที่น่ารักกกกนะค่ะ อย่าดราม่าเลยยยยค่ะ เราใจบางมาก  :call:  รออ่านค่ะ  :mew1:  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: SuPeRDonGDanG ที่ 26-01-2019 23:52:41
กรี๊ดดดดดด มาแปะไว้ก่อนค่ะ ><
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-01-2019 23:56:27
 :pig4: :pig4: :pig4:

หินผาอ่ะจำได้ว่าอยู่ในเรื่องพี่กันต์น้องเดียร์  แต่สายน้ำ ต้น แบงค์ เนี่ย เคยออกมาโลดแล่นไหมหว่า จำไม่ได้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 27-01-2019 00:20:42
 :z13:จิ้มม
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-01-2019 00:22:48
รอติดตามนะคะ.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-01-2019 00:52:11
น้องเดียร์นี่มาเป็นพี่เนียนรึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-01-2019 01:08:14
หินผาของเรากำลัวจะมีคู่แล้ว
เดียร์ของพี่กันต์เนียนเชียวนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-01-2019 07:01:17
รอเลยค่ะ อยากอ่านๆๆๆๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 27-01-2019 08:40:38
ปูเสื่อรอ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 27-01-2019 08:45:44
เรื่องของภูผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-01-2019 08:58:46
น้องเดียร์ต้องเป็นพี่เนียนแน่ๆ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-01-2019 10:27:14
น้องเดียร์!!! แอบมาได้ไงเนี่ย เดี๋ยวพี่กันต์ก็ตามมาหรอกครับ :m20:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 27-01-2019 10:42:37
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-01-2019 12:43:14
มาเดียร์โผล่มาแล้วอย่าลืมฮาร์ทนะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-01-2019 16:23:42
ติดตามค่า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 27-01-2019 19:21:02
หินผามาแล้ววว  :mc4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 27-01-2019 20:28:29
จำได้แค่น้องเดียร์  :katai2-1: รออ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-01-2019 23:59:21
รอเจอน้องเดียร์ 555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-01-2019 11:55:34
 :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "0" l P.1 26-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 30-01-2019 18:57:46
ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 30-01-2019 22:57:18
(https://i.ibb.co/0DqWvz6/01.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ







ครั้งที่ | “1”







การปฐมนิเทศนักศึกษาปีที่หนึ่ง ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มีด้วยกันทั้งหมดสามวันเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนร่วมชั้นปี และรุ่นพี่กับรุ่นน้อง รวมไปถึงการแนะนำการเรียนของคณะเพื่อให้น้อง ๆ ได้เตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อม และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมนี้ ปีหนึ่งทุกคนมาถึงตั้งแต่เช้าแต่ก็คงไม่ทันรุ่นพี่ที่มาถึงก่อนแล้ว



สายน้ำที่เพิ่งมาถึงก็เดินเข้าไปนั่งต่อแถวตามสีของป้ายชื่อที่คล้องคออยู่ แบงก์กับตั้มเพื่อนที่เจอกันตั้งแต่วันแรกที่มาปฐมนิเทศนั่งอยู่ที่แถวแล้ว เมื่อทั้งสองคนหันมาเห็นก็ยกมือขึ้นทักทาย ก่อนจะย้ายมานั่งเรียงกันแทน



“แล้วนี่เดียร์ยังไม่มาเหรอ” สายน้ำถามไปถึงเพื่อนตัวเล็กอีกคน



“ยังนะ พวกกูมาก็ยังไม่เห็นเลย” แบงก์ตอบคำ ก่อนจะชี้นิ้วไปทางด้านหน้าเมื่อเห็นคนที่พูดถึงเดินเข้ามาด้านใน “อ้าว... นั่นไง มาพอดี มากับใครวะนั่น”



สายน้ำหันไปมองตามมือของเพื่อนใหม่ เขาขมวดคิ้วเข้าหากันพลางจ้องมองคนที่ยืนอยู่ข้างเพื่อน แต่เพราะอีกฝ่ายยืนอยู่ด้านในแถมยังเห็นหน้าไม่ชัดเขาเลยมองไม่เห็น สุดท้ายก็เลิกสนใจพลางส่ายหน้ากับความคิดของตัวเอง



อาจจะแค่คนที่คล้ายกันก็ได้...



“ว่าไง มากันเร็วดีนี่” คนที่เพิ่งมาถึงยิ้มกว้างทักทาย “มาถึงกันนานแล้วเหรอ”



“กูกับแบงก์มาถึงพักใหญ่แล้ว แต่ไอ้สายน้ำเพิ่งมาถึง” ตั้มตอบคำถาม “เอ่อมึง มึงมีชื่อเรียกสั้น ๆ ไหม เรียกสายน้ำแล้วยาวว่ะ ให้เรียกสายหรือน้ำ”



“เรียกน้ำก็ได้ ส่วนใหญ่ก็เรียกกันแบบนี้” ตั้มพยักหน้ากับคำตอบของสายน้ำ



“ว่าแต่เมื่อกี้เดินมาพร้อมใครอ่ะ คนตัวสูง ๆ อ่ะ” แบงก์หันมาถามเดียร์บ้าง



คนที่เพิ่งนั่งลงเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะร้องอ่อออกมาเบา ๆ “ก็... คนรู้จักน่ะ”



“วะ! ก็ต้องคนรู้จักไหมล่ะ ไม่งั้นมึงจะเดินมากับเขาได้ยังไง กวนเหมือนกันนะเราอ่ะ” แบงก์แทบอยากจะยกมือขึ้นเขกหัวเพื่อน



เดียร์หัวเราะชอบใจกับท่าทางนั้น ก่อนจะชี้นิ้วไปทางด้านหน้าแทนเพราะรุ่นพี่ปีสองเดินมายืนอยู่ด้านหน้ากันแล้ว ทุกคนเลยหันไปให้ความสนใจกับรุ่นพี่แทน



กิจกรรมในวันนี้ก็ยังคงคล้ายกันวันที่ผ่าน ๆ มา มีร้องเพลงแนะนำตัวเอง เล่นเกมเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ๆ แล้วก็มีงานให้น้อง ๆ ได้ฝึกทำ



ในวันนี้รุ่นพี่ให้น้องแต่ละกลุ่มที่ใช้วิธีการแบ่งตามสีของป้ายที่คล้องคออยู่ วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้ากลุ่มตามสี เพราะสองวันที่ผ่านมารุ่นพี่จับแต่ละสีมาสลับกัน ซึ่งงานที่รุ่นพี่มอบหมายให้ทำคือช่วยกันเสนอแนวความคิดในการออกแบบอาคารในโลกอนาคต สามารถตั้งโจทย์ขึ้นมาเองได้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นความจริง จะข้ามไปในยุคอวกาศ ยุคที่มีแต่หุ่นยนต์ หรืออะไรก็ได้ ให้ทุกคนในกลุ่มช่วยกันเสนอและเลือกออกมา ไม่ต้องเขียนแปลน ไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น แค่คิดและนำเสนอออกมาเท่านั้น



ระยะเวลาในการทำก็คือวันนี้ทั้งวัน จะให้พรีเซนต์ตอนบ่ายสามโมง พอรุ่นพี่ปล่อยให้ลงมือทำทุกคนก็เริ่มขยับล้อมวงเป็นกลุ่มกระจายอยู่ใต้อาคารสี่จุด มีรุ่นพี่คอยดูแล ให้ความช่วยเหลือ และคำแนะนำ



กลุ่มของสายน้ำนั่งมองหน้ากัน แม้จะอยู่สีเดียวกันแต่ก็ใช่จะได้อยู่กลุ่มเดียวกันเลยไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี



“เอาอย่างนี้ไหม” เดียร์พูด พลางยกมือขึ้นเพื่อเรียกความสนใจจากเพื่อน ๆ “เรามาเสนอความคิดกันก่อนไหม คนละความคิด แล้วเราค่อยมาโหวตกันอีกที น่าจะเวิร์คกว่าไหม ไม่ต้องคนละความคิดก็ได้ ใกล้ ๆ กันก็ปรึกษากันก่อน”



พอมีคนเสนอ ทุกคนก็ตอบรับไม่ได้ปฏิเสธอะไร เดียร์จึงกล้าพูดต่อ “อย่างนั้นครึ่งชั่วโมงเนอะ จะได้ไม่เสียเวลามาก”



“อย่างนั้นพวกเรามาช่วยกันคิดละกัน” แบงก์ว่าเมื่อได้ยินข้อเสนอของเดียร์ พวกเขาทั้งสี่คนช่วยกันเสนอความคิด



“กูว่าเอาเป็นในอนาคตที่ย้อนไปในอดีตดีไหมวะ แบบสมัยยุคหินเลยงี้ อาคารสร้างจากหิน แข็งแรง หนักแน่น” ตั้มเสนอความคิด



“แต่กูว่าเอาเป็นในอวกาศเลยดีกว่า ออกนอกโลกเลย แบบทุกคนใช้ชีวิตบนอวกาศ ไม่มีพื้นดินเหยียบ อาคารลอยอยู่บนฟ้าไรแบบนี้” แบงก์เสนอขึ้นมาบ้าง



“กูไม่มีความคิด” สายน้ำยกมือทั้งสองข้างแล้วส่ายหน้า ก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของแต่ละคน “ล้อเล่นน่า กูชอบแบบโลกในอนาคต ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี แล้วเดียร์ล่ะ”



คนถูกโยนคำถามทำหน้าตาเลิ่กลั่กเพราะไม่ทันได้ฟังอะไรมากนัก มัวแต่นั่งมองไปรอบ ๆ อย่างสนใจ



“มองอะไรวะ เห็นมองไปรอบ ๆ หลายรอบแล้วนะ” ตั้มชะเง้อคอมองบ้าง หาว่ามีอะไรน่าสนใจที่ทำให้เพื่อนตัวเล็กคอยมองอยู่แบบนี้



“เปล่า ไม่มีอะไร” เดียร์ฉีกยิ้มให้ ก่อนจะเสนอความคิดของตัวเองออกไปบ้าง “นี่ก็เห็นด้วยกับของสายน้ำนะ ถึงแม้โจทย์จะบอกว่าไม่เน้นความเป็นจริง แต่เรื่องของเทคโนโลยีก็เป็นอะไรที่จับต้องได้นะ แต่เราก็เสนอให้มันโอเวอร์ ๆ หน่อย แบบอาคารที่เข้าออกด้วยการสแกนม่านตา หรือ การใช้ชิพอะไรพวกนี้น่ะ หรือไม่ก็ภาพโฮโลแกรม แบบก่อสร้างอาคารโดยการใช้เครื่องโฮโลแกรมสามมิติที่สามารถผลิตของจริงได้ คล้าย ๆ พวกเครื่องปริ้นสามมิติไง”



พอแบงก์กับตั้มได้ฟังก็พยักหน้ารับ เริ่มคิดสนับสนุนความคิดเห็นของเพื่อน พวกเขาทั้งสี่คนเลยตัดสินใจว่าจะเสนอเรื่องอาคารในโลกอนาคตในยุคของเทคโนโลยีกับกลุ่ม จนกระทั่งครบสามสิบนาทีตามที่เดียร์เสนอ แต่ละกลุ่มย่อยก็เสนอความคิดเห็นออกมา มีสามสี่กลุ่มที่เสนอด้านเทคโนโลยีเหมือนกับพวกเขา และเมื่อได้ฟังสิ่งที่พวกเขาพรีเซนต์หลาย ๆ กลุ่มก็เห็นด้วย ก่อนที่ผลโหวตจะออกมาว่าพวกเขาจะเสนอแนวความคิดอาคารในยุคของเทคโนโลยี



คราวนี้ทุกคนก็มาช่วยกันเสนอไอเดียต่าง ๆ ซึ่งก็เยอะมากจนจดกันแทบไม่ทัน เพราะพอได้เริ่มคิดได้จินตนาการ ก็เหมือนความคิดจะโลดแล่นอย่างสนุกสนาน การเสนอไอเดียหยุดลงเมื่อรุ่นพี่ประกาศแจ้งพักเพราะตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว ระหว่างกินข้าวไปก็ยังอดที่จะพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นไม่ได้เมื่อนึกว่าถ้าในอนาคตมีอาคารแบบที่พวกเขาคิดขึ้นมาจริง ๆ จะเป็นอย่างไร



หลังจากมื้อกลางวันจบลง ทุกคนก็ทยอยกลับไปนั่งล้อมวงที่กลุ่มของตัวเองเหมือนเดิมเพื่อช่วยกันระดมความคิดเพื่อเตรียมพรีเซนต์ จนกระทั่งได้เวลาที่รุ่นพี่แจ้งเอาไว้ รุ่นพี่ปีสองจึงเรียกน้อง ๆ กลับมานั่งเข้าแถวตามเดิม



ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกไปพรีเซนต์อาคารในอนาคตของตัวเอง มีทั้งหลุดโลกไปอยู่ในอวกาศอย่างที่แบงก์เสนอในตอนแรก มีทั้งโลกในอนาคตที่ทุกอย่างจะเต็มไปด้วยน้ำ อาคาร และการใช้ชีวิตจะอยู่ใต้น้ำ เป็นดินแดนใต้น้ำ



การพรีเซนต์เป็นไปอย่างสนุกสนานเพราะทุกอย่างคือจินตนาการ ทุก ๆ คนดูเหมือนจะเข้าร่วมไปกับจินตนาการของเพื่อนแต่ละกลุ่ม แม้แต่รุ่นพี่เองก็ยังกระโดดเข้ามาช่วยพูด ช่วยพรีเซนต์ ช่วยเพิ่มสีสันให้มากยิ่งขึ้น



“เอาล่ะค่ะ น้อง ๆ ทุกกลุ่มก็ออกมาพรีเซนต์ครบหมดแล้วเนอะ” เสียงของรุ่นพี่ปีสองอย่างแวนดี้ปรบมือขึ้นหลังจากที่กลุ่มสุดท้ายเดินกลับเข้าไปนั่งที่แล้ว พร้อมกับรุ่นพี่สันทนาการคนอื่น ๆ ออกมายืนด้านหน้า “พวกพี่ปรบมือให้เลยพวกน้องเก่งมาก ๆ ค่ะ ความคิดสร้างสรรค์ดีเลิศมากค่ะ พวกรุ่นพี่คนอื่น ๆ ก็ฝากพี่มาชมเหมือนกัน”



เหล่ารุ่นน้องต่างมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าทันทีที่ได้ยินคำชมจากรุ่นพี่มากชั้นปี



“วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วเนอะสำหรับกิจกรรมของเรา พี่ก็... ว้าย!” ยังไม่ทันที่แวนดี้จะได้พูดจนจบประโยคก็ต้องร้องออกมาเมื่อได้ยินเสียงดังโวยวายมาจากด้านหน้าของอาคาร น้อง ๆ ปีหนึ่งพากันมองหน้ากันอย่างตกใจเพราะเสียงนั้นดังมากจริง ๆ



“น้อง ๆ ครับ ก้มหน้าไปก่อนครับ ก้มหน้าไปนะครับ” รุ่นพี่ผู้ชายอีกคนตะโกนบอกน้อง ๆ ปีหนึ่งที่นั่งมองหน้ากันให้ก้มหน้า รุ่นพี่ปีสองคนอื่นก็เดินเข้ามายืนล้อมปิดน้อง ๆ เอาไว้



เสียงดังโวยวายภายนอกยังไม่เงียบลง แต่ปีหนึ่งไม่มีใครได้ชะเง้อมอง ได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่กับที่ตามคำที่พี่ ๆ บอก



“มึงโทรบอกอาจารย์หรือยังวะ รุนแรงมากเลยเหรอวะข้างนอก”



“เออ โคตรแรงเลยว่ะ”



เสียงพูดคุยของรุ่นพี่ปีสองทำเอาปีหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ แล้วได้ยินพากันใจสั่นเพราะไม่รู้เลยว่าข้างนอกนั้นกำลังมีเรื่องอะไรอยู่



เสียงโวยวายยังดังอยู่อีกสักพักถึงจะเงียบลง แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่จะพากันสะดุ้งอีกรอบเมื่อมีเสียงดังขึ้นแต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงของคนโวยวายกันแต่เป็นเสียงกลองทัด กลองที่เป็นเอกลักษณ์ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์



พอมีแต่เสียงกลองน้อง ๆ ก็เริ่มกล้าที่จะเงยหน้าขึ้น ตรงหน้าของพวกเขามีรุ่นพี่หกคนกำลังตีกลองทัดโชว์อยู่ ทั้งท่วงท่าลีลาทำเอาปีหนึ่งไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ ตรงนั้นมีทั้งพี่ผู้หญิงแล้วก็พี่ผู้ชายที่พากันตีกลองอย่างเมามัน แขนที่ยกขึ้นและกดลง สะบัดข้อมือเพื่อตีกลอง ทุกท่าพร้อมกันหมด เป็นจังหวะเดียวกัน



กลองรัวในจังหวะสุดท้ายก่อนที่จะหยุดลง พี่ปีสองพากันปรบมือให้ น้องปีหนึ่งจึงทำตาม เสียงปรบมือแทนเสียงชื่นชมดังไปทั่วใต้ถุนอาคารที่พวกเขากำลังอยู่



“ขอบคุณการแสดงที่แสนสนุกสนานจากพี่ ๆ ปีสามปีสี่ด้วยนะคะ” แวนดี้ กับ แซนดี้ เดินปรบมือเข้ามายืนตรงกลาง



“อ้าว... เดียร์ไปไหนวะ” แบงก์ที่หันไปมองทางด้านหลังพูดออกมาอย่างงง ๆ พลางสะกิดเพื่อนสองคนที่นั่งอยู่ข้างหน้า “เดียร์หายไปไหนไม่รู้ว่ะ”



“เฮ้ย! นั่นไง” ตั้มที่กำลังจะหันมามองชะงักแล้วร้องออกมาพลางชี้นิ้วไปด้านหน้า เห็นเดียร์กับเพื่อนในรุ่นยืนรวมกับพี่ ๆ อยู่หลายคน



“ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับพี่ที่ตีกลองกันก่อนดีกว่านะคะ” แวนดี้เดินไปยืนข้างรุ่นพี่ คนละฝั่งกับแซนดี้ ก่อนจะเริ่มให้พี่ ๆ แนะนำตัวกันทีละคนจนครบหมด



“อ้าว... แล้วน้องปีหนึ่งออกมายืนอะไรกันตรงนี้คะ” แซนดี้หันไปมองแถวด้านหลังพี่กลองก่อนจะกวักมือเรียก “มาค่ะมา ๆ ไหนมาหาพี่สิคะ อุ๊ย! น้องคนนี้น่ารักจังเลยอ่ะ”



เดียร์คือคนที่แซนดี้ว่า มีการยกมือกอดแขนเดียร์แล้วเอาหน้าถูไปมา เรียกเสียงหัวเราะจากคนโดนถูและคนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี



“หน้าตาดีน่ารักแบบนี้มีแฟนยังอ่ะคะ สนใจรับแซนดี้แวนดี้ไปกินเล่นไหม” แวนดี้แซวออกมา



คนโดนแซวทำเพียงแค่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนที่จะตะโกนออกมาเสียงดังจนปีหนึ่งพากันสะดุ้ง รวมไปถึงปีสองที่พากันทำตามที่อีกฝ่ายตะโกน



“ปีสองนั่งม้าครับ!!!”



ปีสองพากันยืดแขนตรงไปข้างหน้าแล้วย่อตัวลงทันที ก่อนที่แซนดี้จะนึกขึ้นได้แล้วพูดเสียงสะบัดคล้ายงอน “โอ๊ย! พี่เดียร์ แกล้งพวกหนูเหรอคะ!”



คราวนี้เดียร์หัวเราะลั่นอย่างชอบใจ ก่อนจะหันมามองปีหนึ่งที่นั่งอยู่แล้วยิ้มออกมา



“ฮึ่ม! เชิญแนะนำตัวเลยค่ะ!”



“สวัสดีครับทุกคน หลายคนคงรู้จักชื่อกันแล้วเนอะ เป็นพี่เนียนครับ ชื่อ เดียร์ ครับ ปีสี่คณะสถา’ปัตย์ครับผม” เดียร์พูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างในขณะที่ปีหนึ่งอ้าปากตาค้างไปแล้ว โดยเฉพาะแบงก์ ตั้มและสายน้ำที่อยู่ด้วยกันกับเดียร์ตลอดสามวันที่ผ่านมา



“อย่าโกรธกันนะ พี่ไม่ได้อยากทำแบบนี้ มันสั่งมาอ่ะ” เดียร์เผลอทำหน้าอ้อนอย่างที่ชอบทำพลางชี้นิ้วไปที่แซนดี้กับแวนดี้ “ไม่ได้อยากหลอกเลยจริง ๆ น้า”



“พอค่ะพอ พี่น้องเดียร์ขาเลิกทำหน้าอ้อนค่ะ เด็ก ๆ หน้าแดงกันหมดแล้ว แล้วก็อย่าอ้อนไปทั่วค่ะ พวกหนูกลัวพายุลงค่ะพี่น้องเดียร์” แซนดี้ยกมือโบกไปโบกมาก่อนจะดันตัวเดียร์ให้ถอยหลังไปแล้วให้พี่คนอื่น ๆ ออกมาแนะนำตัวต่อ



“ค่ะ น้อง ๆ ก็รู้จักพวกพี่เขาแล้วเนอะ พี่ ๆ เขาเป็นพี่เนียนค่ะ เนียนมาอยู่ด้วยกันกับน้อง ๆ เพื่อคอยเชื่อมความสัมพันธ์ให้ ถ้าใครสังเกตก็คงจะนึกได้นะคะว่าเวลาเข้ารวมกลุ่มทีไร พวกพี่ ๆ เขาก็จะเป็นคนเสนอความคิด หรือเสนอไอเดียอะไรต่าง ๆ แล้วก็เป็นคนเข้าหาพวกน้อง ๆ ก่อนเอง” แซนดี้พูดหลังจากที่พี่เนียนทุกคนแนะนำตัวเสร็จแล้ว



“พวกพี่ไม่ได้มีเจตนาจะหลอก หรือเห็นเป็นเรื่องสนุก พี่เข้าใจค่ะว่าน้อง ๆ คงจะเฟล ๆ หน่อยเนอะ พวกพี่ก็เข้าใจเพราะเคยโดนมาแล้วเหมือนกัน แต่เจตนาจริง ๆ คือพี่ ๆ แค่อยากช่วยพวกน้อง ๆ ให้รู้จักกันค่ะ น้องมาจากต่างที่ น้องมีหลายคนหลายความคิด พี่เนียนจึงเป็นคนสำคัญที่คอยเชื่อมพวกน้อง ๆ เข้าด้วยกัน แม้อาจจะไม่ได้เต็มร้อยแต่แค่เป็นจุดเริ่มต้นให้ หวังว่าจะเข้าใจพวกพี่ ๆ กันนะคะ” แวนดี้เองก็พูดต่อ



น้องปีหนึ่งพากันส่งเสียงว่าเข้าใจออกมาจนพี่ ๆ ยิ้มได้ เพราะรุ่นพี่ทุกคนเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาแล้วทั้งนั้นจึงเข้าใจความรู้สึกของน้องปีหนึ่งที่จะต้องมาเฟลแล้วก็แอบผิดหวังที่คนที่คิดว่าเป็นเพื่อนคนแรกในคณะคือรุ่นพี่ที่เนียนมา แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นด้วยกับสิ่งที่แซนดี้ แวนดี้พูด ถ้าหากไม่ได้พี่เนียนเหล่านี้ พวกเขาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอาจจะไม่กล้าพูดคุยหรือเข้าหากันก็ได้



“โอเคค่ะ วันนี้เราเจอกันแค่นี้เนอะ เอาไว้เจอกันอีกทีตอนเปิดเทอมนะคะ แล้วก็... สุดท้ายนี้” แซนดี้พูดก่อนจะหันไปมองรุ่นพี่ทุกคนที่ขยับมายืนล้อมน้องเอาไว้



เสียงกลองทัดดังขึ้นเป็นจังหวะหนักแน่นด้วยฝีมือของรุ่นพี่ที่ทำการแสดงไปเมื่อครู่ เสียงกลองดังอยู่ไม่นานก็หยุดลงพร้อม ๆ กับเสียงของรุ่นพี่ทุกคนดังขึ้นพร้อมกัน



“ยินดีต้อนรับสู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์!!”








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาแล้วจ้า~
ฟางขอแจ้งการอัปเดทนิยายเรื่องนี้หน่อยนะคะ
ฟางจะแบ่งการอัปเป็น 3 รอบใน 1 ตอนนะคะ จากทุกทีที่แบ่งอัปเป็น 2 รอบ
เนื่องจากว่า... ฟางคิด (ย้ำว่าคิดและคาดคะเนเอาเอง) ว่าถ้าแบ่งเป็น 3 รอบฟางอาจจะมาอัปได้บ่อยกว่า
แล้วก็มีเวลาไปแต่งนิยายสต็อกเอาไว้ด้วยเนอะ ไม่อยากให้รอกันนานเกินไป
ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ หวังว่าจะชอบกันนะ ^^

ช่วงตอบคำถาม
จะมีเรื่องของพี่ฮาร์ทไหม? >> อันนี้คนถามเยอะ แล้วฟางก็ว่าฟางเคยตอบแล้ว แต่จะตอบอีกรอบหนึ่งนะคะ “มีค่ะ” แต่ว่ายังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะเรื่องของพี่ฮาร์ทยังไม่มีพล็อตจ้า ต้องรอไปก่อนเนอะ ^^
จะมีเรื่องของทัชด้วยไหม? >> เรื่องของเจ้าคนนี้ยังไม่มีอยู่ในแพลนค่ะ ต้องดูโอกาสต่อ ๆ ไปเนอะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-01-2019 23:36:30
 :pig4: :pig4: :pig4:

นุ้งเดียร์กลายเป็นพี่เนียนปีสี่ไปซะแระ  เวลาช่างผ่านไปเร็วจังเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-01-2019 23:43:41
ปีสี่มาเป็นพี่เนียนนี่หน้าต้องเด็กขนาดไหน น้องเดียร์หน้าโดนสต๊าฟไว้อ่อ o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 31-01-2019 00:51:58
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 31-01-2019 00:55:46
น้องเดียร์อยู่ปีสี่แล้วว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 31-01-2019 01:21:39
หน้าเด็กกกกกกกห
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 31-01-2019 01:35:58
ตอนแรกคิดว่าน่าจะไม่เกินปี3​
น้องเดียร์โผล่มาอีกทีปี4​เลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 31-01-2019 07:51:45
 :hao3: ผ่านไปสี่ปีแล้วเหรอเนี่ย หนูเดียร์กลายเป็นรุ่นพี่ซะแระ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 31-01-2019 08:51:23
น้องเดียร์ ต้องเล็กๆ บางๆ ใสๆ แน่เลย ขนาดปีสี่ละยังมาเป็นพี่เนียนที่ค่อดเนียนอ่ะ  น่าร้ากกก  :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-01-2019 14:51:38
น้องเดียร์ๆ ใช้เครื่องสำอางค์ยี่ห้อไรอ่ะ บอกบ้างซิ  :mew3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 31-01-2019 17:30:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 31-01-2019 20:01:40
น้องเดียร์น่ารัก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: SuPeRDonGDanG ที่ 01-02-2019 08:56:39
เย้ย กันต์เดียร์ภาค 2 อิอิ

หินผากับสายน้ำ รออ่านต่อนะคะ ค่าตัวพี่หินแพงจังเลยค่ะ ออกมาแค่ชื่อนิดเดียว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 03-02-2019 02:16:41
เห้ย คู่แบบนี้ที่รอคอยคือเราอ่าน พี่ไอ น้องอุ่นละชอบมาก ละก็ชอบสไตล์คู่แบบ พี่พฤก กะตาหมอหื่นด้วย เราชอบแบบตัวเอง ตัวไม่ต่างกันมากอะ แล้วพอเป็นคุณคนเขียนก็ยิ่งชอบค่ะ ชอบฟิลกู็ดแบบพี่ไอ น้องอุ่น รอค่ะ มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [40%] l P.1 30-01-2561
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 03-02-2019 09:59:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 03-02-2019 21:24:59
(https://i.ibb.co/0DqWvz6/01.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ







ครั้งที่ | “1”






❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






เพื่อน ๆ คนอื่นทยอยเดินออกจากอาคารไปแล้วแต่สายน้ำ แบงก์ แล้วก็ตั้มยังคงนั่งเล่นอยู่เพื่อรอให้ทุกคนออกกันไปก่อนจะได้ไม่ไปออกันแน่นตรงด้านหน้า



“ไง ยังไม่กลับกันเหรอ” เสียงทักเรียกให้พวกเขาทั้งสามคนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะรีบยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าเป็นใคร



“พี่เดียร์...”



เดียร์ทิ้งตัวลงนั่งด้วยไล่มองหน้าทั้งสามคนก่อนจะยิ้มออกมา “ขอโทษทีนะ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกหรอกจริง ๆ นะ ไม่โกรธกันนะ”



สายน้ำยิ้มให้กับรุ่นพี่ตรงหน้า “ไม่โกรธหรอกครับ ผมเข้าใจในสิ่งที่พวกพี่ต้องการจะสื่อครับ”



แบงก์กับตั้มเองก็พยักหน้ายืนยันกับคำพูดของเพื่อนใหม่ “ใช่แล้วล่ะครับ พวกผมไม่ได้โกรธอะไรพี่เลย”



เดียร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ค่อยยังชั่วหน่อย เอาจริงก็กังวลตลอดแหละเพราะไม่อยากจะโกหกเท่าไหร่ พี่เองก็เลี่ยงเป็นพี่เนียนมาตลอด แต่ปีนี้โดนขอร้องกึ่งบังคับก็เลยต้องมา”



“แต่ผมก็แอบตกใจนะตอนพี่แนะนำตัว ตอนพี่แนะนำตัวว่าอยู่ปีสี่ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลย พี่หน้าอย่างเด็กเลยอ่ะ” ตั้มว่า สีหน้าดูตกใจจริง ๆ ที่คนคนนี้แนะนำตัวว่าอยู่ปีสี่แล้ว หน้ายังเด็กกว่าปีหนึ่งเสียอีก จึงไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะไม่คิดว่าอีกฝ่ายคือพี่เนียน



“ขอบใจนะ อ่ะ... พี่ต้องไปแล้วล่ะ ยังไงก็กลับกันดี ๆ นะ เอาไว้เปิดเทอมเจอกันใหม่” เดียร์พูดขอบคุณก่อนจะทำตาโตรีบลุกขึ้นโบกมือลาน้องทั้งสามคน “ยินดีต้อนรับนะ แล้วเจอกัน เบอร์ เฟซ ไลน์พี่มีอยู่แล้วเนอะ มีอะไรทักได้ตลอดเลยนะ”



พูดจบเจ้าตัวก็รีบเดินไปทันทีให้พวกเขาทั้งสามคนมองตาม ก่อนจะเห็นว่ารุ่นพี่คนนั้นเดินไปสะกิดใครอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอาคาร พูดอะไรกันไม่รู้ก่อนจะพากันเดินออกไป สายน้ำมองตามไปจนแทบจะลับสายตา เขารู้สึกคุ้น ๆ คนที่ยืนอยู่ข้างรุ่นพี่หน้าเด็กคนนั้น แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงของแบงก์กับตั้มก็เรียกความสนใจของเขากลับมาก่อน



“เออ กูก็ลืมถามมึงทุกทีว่ะ ที่มึงบอกว่ามึงเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แล้วนี่พักที่ไหนวะ ย้ายกลับกันมาหมดบ้านเลยหรือเปล่า” แบงก์ถาม พวกเขากำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน



“อยู่คอนโดน่ะ พอดีแม่มีคนรู้จักอยู่ที่นี่เลยวานให้เขาช่วยหาคอนโดให้ อยู่ใกล้ ๆ มหา’ลัยนี่แหละ ถัดไปแค่สองสามป้ายรถเมล์เอง” สายน้ำตอบคำถามเพื่อน



“คอนโดไหนวะ ใกล้มากไหม แล้วมีปล่อยให้เช่าป่ะวะ กูกับไอ้ตั้มก็กำลังหาหอพักอยู่ ไม่อยากไปกลับบ้านทุกวัน” แบงก์ถามด้วยความสนใจทันที บ้านเขากับตั้มอยู่ใกล้กันแค่คนละซอยเท่านั้น ถึงแม้จะไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก แต่เดินทางในเมืองหลวงแบบนี้ก็ไม่ต่ำกว่าชั่วโมงเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่วันหยุด ตอนรถไม่ติดใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ



เขากับตั้มเลยคิดอยากจะหาหอพักอยู่ด้วยกัน พอได้ยินว่าสายน้ำอยู่คอนโดไม่ไกลก็ชักจะสนใจถ้ามีให้เช่าก็น่าจะโอเค จะได้อยู่ใกล้ ๆ กันด้วยเลยทั้งกลุ่ม



“เดี๋ยวกูถามให้นะ ไม่แน่ใจว่าปล่อยเช่าหรือเปล่าแต่ห้องก็ยังไม่เต็มหรอกเพราะเป็นคอนโดเพิ่งเปิดใหม่”



“เค ๆ กูฝากด้วยนะ แล้วนี่มึงกลับไง ให้พวกกูไปส่งไหม กูเอารถมา” ตั้มถาม



“ไม่เป็นไร ตั้งใจจะแวะที่อื่นหน่อยพวกมึงกลับกันเลย ส่วนเรื่องห้องเดี๋ยวถามให้แล้วจะไลน์บอกนะ”



“เออ ๆ เจอกันโว้ย ถ้าว่าง ๆ ก่อนเปิดเทอมอยากนัดก็ได้ตลอดนะ พวกกูสองคนก็ไม่ได้ไปไหนหรอก”



“เออ เจอกัน”



ล่ำลากันเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกัน แบงก์กับตั้มเดินแยกไปอีกทางเพื่อไปยังลานจอดรถ ส่วนสายน้ำเดินไปยังจุดที่ให้บริการยืมรถจักรยานของมหาวิทยาลัย แลกบัตรเรียบร้อยก็คว้าจักรยานมาคันหนึ่งก่อนจะเริ่มลงมือปั่น



สายน้ำเพิ่งกลับมาอยู่ประเทศไทยได้แค่ไม่กี่เดือน พอมาถึงก็ทำเรื่องเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แล้วก็ต้องปรับตัวอีกหลายอย่างแม้ว่าเขาจะเคยอยู่ประเทศไทยมาก่อนแต่ก็หลายปีมากแล้ว และตอนนั้นเขาก็อยู่เชียงใหม่ด้วย ไม่ใช่ในเมืองหลวงแบบนี้ หลาย ๆ อย่างเลยดูแปลกใหม่ไปหมด เขาอยากสำรวจทุก ๆ อย่าง สถานที่แถวคอนโดเขาก็สำรวจจนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางหลงแน่นอน และไหน ๆ วันนี้รุ่นพี่ก็ปล่อยเร็วพอมีเวลาเหลือเขาก็อยากจะสำรวจมหาวิทยาลัยที่เขาจะต้องเรียนไปอีกห้าปีสักหน่อย



สองขาออกแรงปั่นจักรยานไปตามเส้นทาง ที่มหาวิทยาลัยของเขามีเส้นทางจักรยานด้วย เพราะนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ใช้จักรยานในการสัญจร สายน้ำเลยค่อนข้างวางใจว่าเขาจะไม่โดนรถมอเตอร์ไซค์หรือว่ารถยนต์สอยร่วงไปก่อนจะได้เริ่มเรียน



เพราะต้นไม้เยอะเต็มสองข้างทาง ยิ่งบวกเข้ากับช่วงเวลาในตอนนี้ทำให้การปั่นจักรยานของสายน้ำดูรื่นร่มมากทีเดียว ลมเย็น ๆ พัดผ่านมาให้รู้สึกสบาย สายน้ำแวะจอดตามข้างทาง ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปอาคารตรงหน้าแล้วก็อมยิ้มอย่างชอบใจ



สายน้ำปั่นจักรยานวนกลับมาที่อาคารของคณะอีกรอบ จอดจักรยานอยู่ฝั่งตรงข้ามใต้ต้นไม้ในจุดทีมองเห็นได้ชัด แล้วเขาก็นั่งมองอาคารนั้นอยู่แบบนั้น มีหลายครั้งที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูป ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อได้รูปภาพที่สวยถูกใจแล้ว นั่งมองอาคารอยู่แบบนั้นจนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มทอแสงสีส้มเป็นสัญญาณบอกว่าอีกไม่นานพระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าแล้ว เห็นแบบนั้นเขาจึงละสายตาจากป้ายชื่อคณะกลับมาที่จักรยานของตัวเอง เพื่อนำจักรยานไปคืน



แวะซื้อของกินที่ตลาดหน้ามหาวิทยาลัยก่อนจะขึ้นรถเมล์เพื่อกลับไปยังคอนโด เขาไม่มีใบขับขี่ในประเทศไทย ตอนแรกตั้งใจจะซื้อจักรยานมาปั่นแต่ถนนใหญ่ก็น่ากลัวเกินไป เลยต้องอาศัยรถโดยสารสาธารณะไปก่อน เอาไว้ชินกับถนนหนทางและการขับรถของคนแถวนี้ก่อนค่อยว่ากันอีกที อีกอย่างการขึ้นรถโดยสารก็ไม่ได้ลำบากอะไรนัก เพราะคอนโดอยู่ไม่ไกลรถติดมาก ๆ ก็แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น



ใช้เวลาไม่นานรถโดยสารก็จอดสนิทอยู่ที่ป้ายรถเมล์ สายน้ำลงจากรถก่อนจะเดินกลับไปที่คอนโดซึ่งอยู่ใกล้กับป้ายรถเมล์มาก ส่งยิ้มทักทายพนักงานต้อนรับของคอนโดแล้วตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นมาที่ห้อง ห้องพักขนาดสามสิบห้าตารางเมตรใหญ่พอสำหรับการอยู่คนเดียว หนึ่งห้องนอนใหญ่ หนึ่งห้องนอนเล็กที่ตอนนี้เขาปรับเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือไปแล้ว หนึ่งนั่งเล่น หนึ่งห้องน้ำ และครัว ทุกอย่างถูกจัดเป็นสัดส่วนเอาไว้อย่างลงตัว



สายน้ำเดินเอาของกินที่ซื้อมาไปเทใส่จานก่อนจะยกมานั่งกินที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ เปิดช่องที่ฉายภาพยนตร์ดูไปกินมื้อเย็นไปจนอิ่มแปล้ ก็หยิบโทรศัพท์มากดเล่น มีข้อความจากพ่อกับแม่ที่อยู่ที่ต่างประเทศส่งมา เขาเข้าไปกอดตอบข้อความกลับไป ไล่ตอบข้อความที่ค้างเอาไว้จนหมด ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้าเฟซบุ๊ก ดูการเคลื่อนไหวของเพื่อน ๆ ในโลกออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนที่ต่างประเทศเกือบทั้งหมด แต่เพื่อน ๆ ในคณะก็มีอยู่หลายคนเหมือนกัน แลกเฟซบุ๊กกันเอาไว้ตอนที่รวมกลุ่มทำงานกัน



♪~~



เสียงแจ้งเตือนเรียกสายตาของสายน้ำที่กำลังจดจ่ออยู่บนจอโทรทัศน์ให้หันกลับมามอง เป็นการแจ้งเตือนว่ามีคนกดไลค์แล้วก็คอมเมนต์ในรูปภาพที่เขาเพิ่งโพสต์ลงไป สายน้ำยิ้มขำกับข้อความของเพื่อน ๆ ที่มาคอมเมนต์ เลือกกดถูกใจแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร ก่อนจะวางโทรศัพท์เอาไว้ที่โต๊ะตามเดิม



ก่อนที่หน้าจอจะดับลงอัตโนมัติตามที่ตั้งเอาไว้ หน้าจอก็สว่างขึ้นอีกรอบเพราะมีการแจ้งเตือนให้เห็นถึงรูปที่เจ้าของเครื่องเป็นคนโพตส์ ซึ่งเป็นภาพของอาคารเรียนของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าที่ส้มทอง ที่เขากดถ่ายเอาไว้ก่อนจะกลับ รวมไปถึงแคปชั่นที่ใส่เป็นภาษาอังกฤษสั้น ๆ ด้วยว่า



Never let go of your dream.







“รอนานไหมวะ ไอ้ตั้มแม่งช้า” เสียงทักพร้อมกับมือที่วางบนไหล่เรียกให้คนที่กำลังเล่นโทรศัพท์ให้เงยหน้าขึ้นมอง แบงก์กับตั้มยืนส่งยิ้ม ยักคิ้วให้



“ไม่นานหรอก ไปกันเถอะ” สายน้ำพูดยิ้ม ๆ เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินตามเพื่อนอีกสองคนไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปยังชั้นลานจอดรถ



มหาวิทยาลัยเปิดเทอมมาได้สองสัปดาห์แล้ว พวกเขาเริ่มคุ้นชินกับการเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่แตกต่างกับสมัยตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษา อีกทั้งพวกเขายังรู้สึกสนิทกันมากขึ้น เนื่องจากว่าแบงก์กับตั้มเองก็ย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกันกับสายน้ำ มีเจ้าของห้องปล่อยเช่าพอดีแถมราคาก็ไม่ได้แพงมากอยู่ด้วยกันก็หารกันออก



เวลาไปเรียนพวกเขาก็มักจะไปพร้อมกัน ไปรถของแบงก์บ้าง ตั้มบ้าง สลับกันไปแล้วแต่วัน โชคดีที่พวกเขามีเรียนเหมือนกันทุกวิชาเลยทำให้สะดวกเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้



ใช้เวลาไม่นานรถของตั้มก็เลี้ยวเข้าสู่รั้วของมหาวิทยาลัย วนหาที่จอดรถตรงลานจอดใกล้ ๆ กับอาคารของคณะ เมื่อดูเวลาแล้วว่ายังเหลือพอสำหรับมื้อเช้าพวกเขาทั้งสามคนจึงเดินไปยังโรงอาหาร ยังพอมีโต๊ะว่างให้นั่ง แบงก์นั่งรออยู่ที่โต๊ะ ส่วนสายน้ำกับตั้มก็ไปซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้



“ทำไมมึงถึงย้ายกลับมาเรียนที่นี่ว่ะ” ตั้มถามขึ้นมาเมื่อพวกเขากลับมานั่งรวมกันที่โต๊ะแล้ว



สายน้ำเงยหน้ามอง ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเหมือนเป็นเชิงถามกลับว่าหมายถึงเขาเหรอ



“ก็มึงน่ะสิ!” ตั้มว่าพลางมองค้อนกับอาการกวนประสาทของเพื่อนใหม่ที่มันไม่ได้ตั้งใจจะกวนแต่ดูแล้วมันโคตรจะกวนเลย



สายน้ำหัวเราะขำเมื่อเห็นเพื่อนค้อนตาคว่ำใส่ แต่ก็ยอมเอ่ยปากบอกถึงเหตุผลของคำถามนั้น “ส่วนหนึ่งก็คิดถึงประเทศไทยนะ ตอนเด็ก ๆ ก็เกิดแล้วก็โตที่เชียงใหม่ตลอด พอย้ายไปอยู่ที่นู้นก็เลยรู้สึกอยากกลับมาที่นี่อีก”



“แล้วทำไมไม่เข้ามหา’ลัยที่เชียงใหม่ล่ะวะ เคยอยู่ไม่ใช่เหรอ” แบงก์ถามบ้าง เพราะคิดว่ามันคงจะนึกถึงจังหวัดบ้านเกิดตัวเองมากกว่าเมืองหลวงที่มันไม่เคยมาแม้แต่จะเที่ยวแบบนี้เลย



“ก็... อยากลองเปลี่ยนบ้าง”



แต่สองคนทำหน้าไม่เชื่อเต็มที่กับคำตอบของสายน้ำ “กูเดาว่ามึงตามใครมามากกว่าอยากลองเปลี่ยนว่ะ”



“กูเห็นด้วยกับไอ้ตั้ม ถ้าสมมติเป็นกูนะ กูคงอยากกลับไปที่เชียงใหม่มากกว่า”



สายน้ำส่ายหน้า ลุกขึ้นยืนพลางหยิบจานข้าวที่กินเสร็จแล้วขึ้น พร้อมคว้ากระเป๋ามาสะพาย “มั่วแต่พูด ไปขึ้นเรียนได้แล้วเดี๋ยวก็สายหรอก”



พูดจบก็เดินออกมาเลย ทำเอาอีกสองคนต้องรีบคว้ากระเป๋า คว้าจานข้าวเดินตามทันที บทสนทนาที่คุยกันค้างเอาไว้ก็ถูกลืมเพราะมีเรื่องอื่นให้หยิบยกขึ้นมาพูด ยิ่งเมื่อมาถึงห้องเรียนแล้วก็ยิ่งมีเรื่องให้คุยกันใหม่เนื่องจากรุ่นพี่ปีสองฝากเพื่อนในชั้นปีมากระจายข่าวว่าวันนี้ขอให้ทุกคนไปรวมตัวกันในตอนเย็นเพราะว่าพี่ ๆ จะหาตัวแทนประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย



คราวนี้บทสนทนาของสาว ๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าเลยกลายเป็นเรื่องของรุ่นพี่เดือนคณะในแต่ละปี แถมยังหันมาชวนหนุ่ม ๆ พูดคุยในเรื่องนี้กันอย่างออกรส



“ดาวคณะเราปีที่แล้วก็พี่บาร์บี้ไง ที่ตัวเล็ก ๆ สวย ๆ ที่ชอบอยู่กับพี่แซนดี้ พี่แวนดี้น่ะ” เพื่อนในชั้นคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อได้ยินคำถามที่ว่าปีที่แล้วใครได้เป็นดาวคณะ



สายน้ำแม้จะไม่ได้ร่วมแสดงความคิดความเห็นแต่ก็นั่งฟังอยู่ตลอด แล้วก็นึกไปถึงพี่ผู้หญิงที่เจอในวันแรกของการมาปฐมนิเทศ แล้วก็ได้แต่พยักหน้ากับความคิดเห็นของเพื่อนคนอื่น ๆ ที่บอกว่าพี่บาร์บี้คนนี้สวยน่ารัก



“แล้วรู้ไหมว่าคณะเราน่ะมีเหนือเดือนด้วยนะ”



“จริงเหรอ คืออะไรน่ะเหนือเดือน”



“ก็คนที่สมควรได้เป็นเดือนมากกว่าเดือนไง”



“ก็แล้วอย่างนั้นทำไมไม่เป็นเดือนไปเลยล่ะ”



“ก็เพราะพี่เขาไม่ยอมเป็นไง เลยเป็นเหนือเดือนแทนไง”



สายน้ำนั่งฟังแล้วก็นึกขำปนทึ่งในการหาข้อมูลของเพื่อนผู้หญิง ไม่รู้ว่าไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน แล้วเรื่องที่เอามาพูดนั้นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะสนใจกับหัวข้อนี้จึงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งอาจารย์เดินเข้ามาในห้องนั่นแหละ วงสนทนาถึงได้แตกฮือไปคนละทิศคนละทาง



วิชาประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม เนื้อหาอัดแน่นตั้งแต่ต้นคาบตลอดจบชั่วโมงการเรียนเกือบสามชั่วโมง โชคดีที่เรียนวิชานี้ในตอนเช้า ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเรียนวิชานี้ในตอนบ่ายหลังจากที่กินข้าวอิ่ม ๆ จะน่าหลับขนาดไหน



นี่ขนาดเป็นตอนเช้า แบงก์กับตั้มยังเผลอสัปหงกไปหลายรอบเลย สายน้ำเองก็หาวไปหลายครั้ง กว่าจะหมดชั่วโมงก็ทำเอาล้าไปไม่น้อยเลย ได้ชีทปึกหนาและการบ้านให้ทำรายงานอีกคนละหนึ่งเล่ม ยังดีที่ว่ากำหนดส่งนั้นคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ไม่ใช่อาทิตย์หน้า ทำให้ไม่ต้องรีบเร่งมากนัก



“เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงก่อนที่พี่เขาจะนัด พวกเราจะเอายังไงดี หาไรกินแถวนี้แล้วกลับห้อง หรือไปห้างกันดี” ตั้มถามระหว่างที่เดินออกจากห้องเรียน



“ไปห้างก็ได้นะ กูว่ากลับห้องแล้วจะขี้เกียจออกมา แต่จะให้นั่งอยู่นี่ก็น่าเบื่อ ไปเดินเล่นดีกว่า กูอยากดูรองเท้าอยู่พอดีด้วย” แบงก์เสนอความคิด ซึ่งทั้งสายน้ำแล้วก็ตั้มไม่ได้เอ่ยขัดอะไร สรุปตามนั้น



ห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก มีรถไฟฟ้ามาถึงพวกเขาทั้งสามคนเลยเลือกที่จะมาด้วยรถไฟฟ้าแทน ส่วนรถของตั้มก็จอดเอาไว้ที่มหาวิทยาลัยก่อน เมื่อมาถึงพวกเขาก็เลือกร้านสำหรับมื้อกลางวันในทันที ยืนให้แบงก์กับตั้มเถียงกันสักพักก็จบลงที่ร้านปิ้งย่างที่มีมังกรสีเขียวยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า



"แบงก์ ตั้ม สายน้ำ!” ก่อนจะได้เดินเข้าไปในร้าน เสียงเรียกชื่อพวกเขาทั้งสามคนก็ดังขึ้นให้พวกเขาชะงักหันไปมอง



พากันยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเรียกพวกเขา “พี่เดียร์ สวัสดีครับ”



“ไง พวกเรา มากินข้าวกันเหรอ หนีเรียนมาป่ะเนี่ย” เดียร์เดินยิ้มเข้ามาหาทักทายอย่างเป็นกันเอง



“ไม่ได้หนีครับ วันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวันพวกผมเลยมาหาอะไรกินกัน แล้วพี่ล่ะครับ มาคนเดียวเหรอ” แบงก์ตอบคำถามของรุ่นพี่ที่เมื่อวันปฐมนิเทศเนียนมาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ก่อนจะถามกลับเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินมาคนเดียว



“มากับเพื่อนน่ะ นั่นไงมาพอดี” เดียร์ตอบพลางหันกลับไปมองหาเพื่อนตัวเองก่อนจะกวักมือเรียก “มึง นี่ไง... น้อง ๆ ปีหนึ่งที่กูเล่าให้ฟังอ่ะ นี่เพื่อนพี่เอง ทัช กับ หินผา”



“สวัสดีครับ” ทั้งสามคนยกมือไหว้ก่อนจะพากันแนะนำตัวทีละคน



“หวัดดีทุกคน ตอนปฐมนิเทศเจ้านี่ไปป่วนไว้เยอะเลยสิ” รุ่นพี่ที่ชื่อทัชว่ายกมือชี้ไปทางอดีตพี่เนียน ให้คนโดนกล่าวหามองค้อนยกมือชกไหล่เพื่อนไปที “อะไรมึง มาชกกูทำไม กูพูดเรื่องจริงนะโว้ย”



“ดูมันดิ!” เมื่อเถียงเพื่อนทัชไม่ได้ก็หันมาหาอีกคนแล้วฟ้อง หินผาไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยกมือยีผมเพื่อนตัวเล็กเล่น



“เลิกเล่นแล้วไปคุยกับน้องให้จบก่อน น้องมันจะได้ไปกันต่อนี่คงไม่กล้าเดินไปไหนแล้วเนี่ย”



ได้แต่ยิ้มแหยกับคำพูดของรุ่นพี่เพราะก็เป็นเรื่องจริง จะเดินเข้าร้านตรงหน้าก็ไม่กล้าเพราะกำลังยืนคุยอยู่กับรุ่นพี่ปีโตกว่าตั้งหลายปี



“เอ่อ... โทษที ๆ จะกินข้าวกันสินะ ไปเถอะ ๆ เอาไว้เจอกันใหม่นะ”



“ครับพี่ สวัสดีครับ” ทั้งแบงก์กับตั้มยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสามคนก่อนจะหันเพื่อเดินเข้าไปในร้านอาหาร แต่เพื่อนอีกคนกลับยืนนิ่งไม่ยอมขยับจนแบงก์ต้องหันมาเรียก



“น้ำ ไอ้น้ำ! ไอ้สายน้ำ!”



สายน้ำสะดุ้งหันไปมองเพื่อนหน้าตาเหลอหลา ก่อนจะรีบหันมายกมือไหว้รุ่นพี่ตรงหน้า “เอ่อ... สวัสดีครับ”



เจ้าตัวชะงักไปเมื่อไล่สายตามองรุ่นพี่ทีละคนมาจนถึงคนสุดท้าย ก่อนจะหลุบตาลงแล้วเดินตามเพื่อนเข้าไปในร้าน แอบยกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเองสองสามที พ่นลมหายใจออกมาเพื่อบังคับให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติ ไม่ใช่หัวใจเต้นแรงแบบเมื่อกี้อีก



“เป็นอะไรเปล่าวะ” ตั้มอดที่จะถามไม่ได้เมื่อเห็นว่าเพื่อนใหม่ของเขาดูแล้วจะมีอาการแปลก ๆ เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว



“ป เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่นึกอะไรไปเรื่อย ๆ เฉย ๆ น่ะ” สายน้ำส่ายหน้าปฏิเสธ



“มึงเคยมีเรื่องกับเพื่อนพี่เดียร์หรือเปล่าวะ มึงดูแปลก ๆ ตั้งแต่แยกกับพวกพี่เขาแล้ว”



“ไปกันใหญ่แล้ว! ไม่ได้มีเรื่องอะไร กูจะมีได้ยังไงล่ะอย่างลืมสิว่ากูเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ รู้จักพวกมึงเป็นคนแรกเลยเนี่ย” สายน้ำว่าขำ ๆ กับความคิดของเพื่อน



“เออว่ะ กูก็ลืมไปว่ามึงเพิ่งมาอยู่กรุงเทพฯ ไม่มีอะไรก็ดี กินเถอะเดี๋ยวจะได้ไปเดินที่อื่นกันต่อ มึงเคยมาห้างนี้หรือยังวะ”



“ยัง เคยไปอีกห้างที่มันเลยคอนโดไปน่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจจะไปพอดีนั่งรถเลยป้ายคอนโด รู้อีกทีไปโผล่ที่ป้ายหน้าห้างแล้ว” เล่าไปก็หัวเราะไป แม้ตอนเกิดเหตุการณ์นั้นใจจะแอบหวิวไปบ้างก็เถอะเพราะเผลอหลับไปตอนขึ้นรถ ตื่นมาอีกทีก็พบว่าเลยป้ายคอนโดมาแล้วจึงรีบกดกริ่งเพื่อลงในป้ายต่อไป เหมือนกับหายตัวได้ รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในที่ ที่ไม่เคยมาแล้ว



หลังจากจัดการกับอาหารเซ็ตใหญ่ไปสองเซ็ต ปิดท้ายด้วยขนมหวานแล้วก็พากันเดินลูบท้องออกจากร้าน เพราะอีกสองคนไม่มีของอะไรที่อยากดูเป็นพิเศษ เลยปล่อยให้แบงก์เดินนำไปยังร้านขายรองเท้าที่เจ้าตัวอยากจะดู



ระหว่างที่แบงก์กำลังลองรองเท้าอยู่สายน้ำก็เดินดูไปรอบ ๆ อย่างสนใจ จนกระทั่งเจอเสื้อยืดลายกราฟิกสวยสะดุดจึงไปเดินเข้าไปดู หวังจะหยิบมาดูก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีอีกคนหยิบตัวที่แขวนอยู่ข้างกัน สายน้ำไล่สายตาขึ้นมองก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นใคร



“พี่หินผา”



“อ้าว... น้อง... สายน้ำใช่ไหม” อีกฝ่ายทำหน้านึกก่อนจะพูดชื่อเขาออกมาเหมือนกับไม่แน่ใจว่าตัวเองจำถูกหรือเปล่า



“ครับ ใช่ครับ พี่เรียกผมว่าน้ำก็ได้ครับ”



“อือ ชอบเสื้อแบรนด์นี้เหมือนกันเหรอ” หินผาชวนคุยมองไปยังมือของรุ่นน้องที่ถือเสื้อยืดแบรนด์เดียวกันกับในมือของเขา



“อ่อ... ก็ครับ ลายสวยดีครับ” ใจจริงก็อยากจะบอกว่าไม่รู้จักหรอกแบรนด์นี้ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเออออตามไปก็คงไม่เป็นไร อีกอย่างลายเสื้อของแบรนด์นี้ก็สวยจริง ๆ อย่างที่เขาพูด



“พี่ก็ชอบนะ แบรนด์คนไทยแถมบางรุ่นถ้าเราซื้อแล้วก็เหมือนได้ทำบุญด้วยเพราะเขาเอารายได้ไปบริจาคให้กับโครงการต่าง ๆ น่ะ พี่เลยชอบซื้อ”



“เหรอครับ แล้ว... มีรุ่นไหนบ้างเหรอครับที่พี่ว่า”



“คงต้องถามพี่พนักงานแล้วล่ะ” พูดจบหินผาก็เดินไปหาพนักงานประจำเคาน์เตอร์ก่อนจะเอ่ยถาม ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับพนักงาน



“ตอนนี้จะมีสองตัวนี้ครับที่เข้าร่วมโครงการอยู่ มีสองสี สีขาวกับสีดำ” พนักงานหยิบเสื้อตัวที่ว่าส่งให้หินผาดูทั้งสองตัว อีกคนก็รับมาแล้วหันมาส่งให้กับสายน้ำ



ลายรูปหน้าเสือแต่เป็นแบบกราฟิก ดูสวยแล้วก็เท่ไม่น้อย สายน้ำเหลือบมองคนพี่ที่ดูเสื้อในมือก่อนจะหันไปส่งให้พนักงานพร้อมบอกไซซ์ของตัวเองไป



“อ่า... ของผมไซซ์เอ็มครับ” พอพนักงานหันมามอง สายน้ำเลยเผลอบอกไซซ์เสื้อของตัวเองไป เลยกลายเป็นว่าจากที่ตั้งใจจะเดินดูไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ได้เสื้อมาหนึ่งตัว



“แล้วนี่เพื่อนไปไหนกันหมดแล้วล่ะ” หินผาถามระหว่างรอพนักงานคิดเงิน



“ดูรองเท้ากันอยู่ครับ ผมมาเดินดูเสื้อแล้วเดี๋ยวค่อยเดินกลับไปหาเพื่อนอีกทีน่ะครับ” สายน้ำตอบคำถาม นึกอยากจะถามกลับเหมือนกันว่าเพื่อนของอีกฝ่ายอยู่ไหนหมด ทำไมถึงได้มาเดินอยู่คนเดียว แต่พนักงานก็เดินเอาถุงใส่เสื้อมาส่งให้เสียก่อน



สายน้ำรับมา เอ่ยขอบคุณพนักงานไป แล้วจึงหันมาลารุ่นพี่ปีสี่ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับแล้วเดินแยกไปอีกทาง



“ไง... ได้รองเท้าไหม”



“ได้ กำลังรอคิดเงินอยู่ ว่าแต่มึงหายไปไหนมาเนี่ย” แบงก์เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถาม



“ไปเดินดูเสื้อตรงนั้นมา” ชูถุงในมือให้เพื่อนดู



เดินดูของกันต่อหลังจากที่แบงก์ได้รองเท้ามาแล้ว จนกระทั่งใกล้ถึงเวลานัดของรุ่นพี่ พวกเขาถึงได้พากันไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อกลับไปที่มหาวิทยาลัย แวะเอาของไปเก็บที่รถก่อน แล้วจึงตรงไปที่อาคารของคณะ สถานที่ที่รุ่นพี่นัดหมายในเย็นนี้






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ฟางมีตังค์จ่ายค่าตัวพระเอกของเราแล้วนะ

พี่หินผาออกมาแล้วจ้า แม้จะยังน้อยนิดก็ตามที ฮา...

พระเอกฟางแต่ละเรื่องที่ค่าตัวแพงเนอะ กว่าจะออกมาได้จนแทบลืมว่าอ้าว... นี่พระเอกเหรอ ฮี่ ๆ

วันนี้ไม่ได้พาพี่หินผามาคนเดียว เกี่ยวคอพาทัชกับพี่น้องเดียร์มาด้วยนะ คงได้เจอสองคนนี้เรื่อย ๆ แหละค่ะ ไม่ต้องห่วงน้า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 03-02-2019 21:46:54
สายน้ำดูจะเหมือนเคยรู้จักกับหินผามาก่อนเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-02-2019 21:47:27
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี่กันต์แอบโผล่มาแต่ในนาม
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-02-2019 22:19:12
ว้าววว สามปีผ่านไป ตอนแรกอ่าน นึกว่าสายน้ำเป็นรุ่นเดียวกัน
ที่ไหนได้ พี่เดียร์เนียนข้ามไปหลายปีเลยนะคนเรา

สายน้ำมาตามหาใครไหม หรือมาตามหาฝันอะไรหรือเปล่า

เพื่อนกลุ่มนี้คือความลงตัวนะ กลุ่มเล็กแต่ได้ใจ สายน้ำมีเพื่อนแล้ว
รอเจอหินผานะคะ ได้ยินแต่ชื่อ ยังไม่โผล่ออกมาให้พบเจอ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-02-2019 22:32:30
ทำไมเหมือนหินจะไม่รู้จักน้ำหว่า  :o10:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: SuPeRDonGDanG ที่ 03-02-2019 22:35:37
จ่ายค่าตัวพี่กันต์เพิ่มอีกคนได้ไหมคะ 555555
เย้ เจอกันแล้ววววว รออ่านๆๆๆๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-02-2019 23:10:48
หินผาคงเป็นสาเหตุที่น้องน้ำตัดสินใจมาเรียนที่ไทยแน่ๆเลย :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 03-02-2019 23:30:43
สายน้ำรู้จักหินผาตอนที่กลุ่มน้องเดียร์ไปออกค่ายตอนปี1ใช่ใหม

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 04-02-2019 15:46:41
ค่าตัวเท่าไหร่ค่ะ หินผา บอก บชพี่มา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-02-2019 19:56:04
สายน้ำต้องรู้จักพี่หินมาก่อนแน่ๆเลย
ส่วนคุณเหนือเดือนมาแต่ชื่อ5555​ คิดถึงพี่กันต์
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-02-2019 15:49:42
น้องสายน้ำนี่รู้จักพี่หินผามาก่อนแน่เลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [70%] l P.2 03-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-02-2019 07:30:06
สายน้ำมาเรียนที่นี่เพราะหินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 06-02-2019 22:32:11
(https://i.ibb.co/0DqWvz6/01.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ







ครั้งที่ | “1”






❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






รุ่นพี่ปีสองฝ่ายสันทนาการยืนอยู่ด้านหน้า ส่วนน้องปีหนึ่งก็นั่งเรียงแถวตอนลึก โดยผู้หญิงนั่งข้างหน้าและผู้ชายนั่งข้างหลัง



แซนดี้กับแวนดี้ยืนถือโทรโข่งกันคนละอัน ประกาศเรียกน้อง ๆ รวมแถวจนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยจึงได้เริ่มพูดถึงจุดประสงค์หลักในการเรียกรวมในวันนี้



“เอาล่ะค่ะน้อง ๆ ทุกคน ที่พี่เรียกรวมวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญค่ะ” แวนดี้เริ่มพูด “ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้ามหา’ลัยของเราจะมีกิจกรรมต้อนรับน้อง ๆ ชั้นปีหนึ่งทุกคณะ คืองาน เฟรชชี่เดย์ เฟรชชี่ไนท์ ค่ะ”



“เฟรชชี่เดย์ก็จะเป็นการเข้าฐานกิจกรรมของแต่ละคณะ ส่วนเฟรชชี่ไนท์ก็จะมีงานสำคัญค่ะ มีทั้งคอนเสิร์ต แล้วก็... ประกวดดาวเดือนค่ะ” แซนดี้พูดต่อ



“และนี่แหละค่ะเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญของเรา วันนี้เราจะมาเฟ้นหาดาวเดือนของคณะกันค่ะ น้อง ๆ น่าจะพอรู้แล้วเนอะเพราะพี่ให้เพื่อน ๆ ไปกระจายข่าวกันแล้ว”



“ก่อนจะหาตัวแทน เรามาทำความรู้จักกับพี่ดาวเดือนคณะของเมื่อปีที่แล้วกันก่อนดีกว่าค่ะ”



รุ่นพี่ผู้หญิงผู้ชายสองคนเดินมายืนอยู่ตรงหน้าในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ ก่อนที่ผู้หญิงจะเริ่มแนะนำตัวก่อน “สวัสดีค่ะน้อง ๆ พี่ชื่อบาร์บี้นะคะ เป็นดาวคณะของปีที่แล้วค่ะ”



“สวัสดีครับ พี่ชื่อกรครับ เป็นเดือนคณะปีที่แล้วครับผม” อีกคนแนะนำตัวบ้าง “เดี๋ยววันนี้พี่ ๆ จะให้น้องส่งตัวแทนดาวเดือนออกมานะครับ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาเลือกกันอีกทีว่าใครจะได้เป็นนะครับ”



กิจกรรมการเลือกเฟ้นดาวเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลายชื่อถูกเอ่ยออกมาจากเพื่อนในชั้นปี หนึ่งในนั้นมีชื่อของสายน้ำอยู่หลายเสียง แม้แต่แบงก์กับตั้มก็พากันตะโกนชื่อเขาออกไปด้วย



สุดท้ายสายน้ำก็ได้ออกไปยืนอยู่ด้านหน้าร่วมกับเพื่อนอีกหลายคน ที่ถูกเสนอชื่อออกมา



“เราจะคัดเลือกกันยังไงดีคะพี่กร ยัยบี้” แซนดี้ที่เกาะแขนของกรไม่ปล่อยเอ่ยถาม



“เดี๋ยว ๆ ทำไมสองมาตรฐานงี้ ทีกรเรียกพี่ ละทีฉันนี่เรียกอะไร” บาร์บี้โวยวายออกมา แต่ไม่ได้จริงจังมากนักเพราะรู้ว่าเพื่อนแค่แกล้งเล่นเท่านั้น



แซนดี้ทำเป็นสะบัดผมใส่ไม่สนใจจะตอบคำถาม หันมาทำตาปิ้ง ๆ ใส่คนข้างกายแทน



กรหัวเราะขำก่อนจะตอบคำถามของแซนดี้ “เลือกจากการตอบคำถามดีไหม”



“อย่างนั้นถามว่าอะไรดี เอาเป็นว่า... ระหว่าแซนดี้กับบาร์บี้ใครสวยกว่ากันดีไหม”



“จะบ้าเหรอ!!” เสียงของรุ่นพี่ปีสองหลายคนหลุดออกมาพร้อมกันจนคนคิดคำถามทำหน้ามุ่ยเหมือนงอน



“ก็ได้ ๆ ไม่ถามก็ได้ เพราะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าแซนดี้สวยกว่า”



“พอย่ะพอ เลิกมโนได้แล้ว” แวนดี้เอ่ยขัด “คำถามที่จะถามมีคำถามเดียว ขอแค่ให้น้องตอบตามความจริงนะคะ ไม่โกหกกันเนอะ ถึงแม้ว่าถ้าน้องโกหกจะไม่มีใครรู้ แต่ใจน้อง น้องรู้เองเนอะ ส่วนคำถามที่พี่จะถามน้อง ๆ ก็คือ... วันนี้น้องทำความดีอะไรแล้วบ้างคะ”



“เริ่มจากน้องผู้หญิงฝั่งนู้นก่อนเลยค่ะ”



คนแรกเริ่มจากแนะนำตัวตามที่พี่ ๆ บอกก่อนจะตอบคำถาม ซึ่งเจ้าตัวก็อ้ำอึ้งตอบไม่ถูกอยู่สักพักจนแซนดี้ยกตัวอย่างขึ้นมาถึงได้ตอบคำถามนั้นได้



การตอบคำถามไล่มาเรื่อย ๆ ทีละคน มีคำตอบตลก ๆ บ้าง คำตอบจริงจังบ้างสลับกันไปเรียกรอยยิ้มเสียงหัวเราะได้ จนกระทั่งมาถึงคนสุดท้ายที่ถูกเลือกมาชิงตำแหน่งเดือนคณะ



“เอาล่ะค่ะ มาถึงคนสุดท้ายแล้วเนอะ อุ๊ยตาย... เนื้อคู่ของแวนดี้น่ะเอง” แวนดี้กับแซนดี้เดินสัมภาษณ์มาจนถึงสายน้ำ “ตัวเองแนะนำตัวหน่อยสิคะ”



สายน้ำยิ้มขำกับท่าทางของรุ่นพี่ ก่อนจะแนะนำตัว “สวัสดีครับ ผมธารา วิลกินสัน ครับ ชื่อเล่น สายน้ำ ครับผม”



“อุ้ย! เป็นลูกครึ่งเหรอคะ”



“เปล่าครับ” เจ้าตัวตอบแค่นั้น ไม่ได้ขยายความเพิ่มอะไร สองรุ่นพี่ที่ทำหน้าที่สัมภาษณ์ก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรเช่นกัน



“งั้นมาที่คำถามนะคะ ระหว่างพี่แซนดี้กับพี่แวนดี้ น้องสายน้ำอยากได้ใครคะ”



“ไอ้สมศักดิ์! อย่าแทะโลมน้อง!” เสียงตะโกนดังมาจากด้านข้างให้เจ้าตัวหันไปมองค้อนที่บังอาจเรียกชื่อจริงของตัวเอง แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นพี่โตกว่าเลยไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปแม้จริง ๆ แล้วจะสนิทกันก็ตามที



“อ่ะ ๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้ค่ะ คำถามที่ว่า วันนี้น้องทำความดีอะไรแล้วบ้างคะ”



“อือ... วันนี้บังเอิญว่าผมไปเดินที่ห้างครับ ระหว่างที่เดินดูเสื้ออยู่ก็เจอรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังว่าเสื้อแบรนด์นั้นดียังไง” สายน้ำเริ่มเล่า พลางนึกไปถึงเรื่องที่ห้างสรรพสินค้า



“ดียังไงคะ”



“เสื้อของแบรนด์นั้นบางรุ่นเป็นเสื้อการกุศลครับ รายได้จากการขายเสื้อได้นำเข้ามูลนิธิต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสร้างโรงพยาบาล ซื้อเครื่องมือแพทย์วนไปเรื่อย ๆ ครับ แล้วผมก็ได้ซื้อเสื้อยืดมาตัวหนึ่ง เท่ากับว่า... วันนี้ผมได้ร่วมบริจาคเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์ไปครับ”



“บราโว่!” แซนดี้กับแวนดี้พากันปรบมือหลังจากที่สายน้ำพูดจบ



“จบรอบตอบคำถามแล้ว ต่อจะไปเป็นรอบคะแนนโหวตจากพี่ ๆ น้อง ๆ ในที่นี้นะครับ เดี๋ยวพี่ปีสองช่วยแจกกระดาษให้น้องหน่อยครับคนละสองแผ่น แล้วให้น้อง ๆ เขียนชื่อคนที่อยากให้เป็นดาว แล้วก็เป็นเดือนลงในกระดาษนะครับ ชื่อดาวแผ่นหนึ่ง ชื่อเดือนแผ่นหนึ่งนะครับ” กรพูดขึ้นต่อ ก่อนที่รุ่นพี่ปีสองจะเดินแจกกระดาษให้กับทุก ๆ คน



ใช้เวลาไปพอสมควรสำหรับช่วงเวลาการโหวตแล้วก็นับคะแนนกัน สุดท้ายก็ได้ผลโหวตมาอยู่ในมือของกรและบาร์บี้ อดีตเดือนและดาวของคณะ



“พี่ประกาศก่อนเนอะ สำหรับดาวคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ปีนี้ได้แก่...” บาร์บี้เริ่มพูด เสียงกลองทัดดังรัวเป็นจังหวะเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น “น้องน้ำรินค่ะ! ปรบมือให้เพื่อน ๆ หน่อยค่ะ”



สายน้ำหันไปมองคนที่ได้เป็นดาวคณะ อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก โดยเฉพาะเวลาที่เจ้าตัวยิ้ม ดู ๆ แล้วเหมือนพวกเน็ตไอดอลเลย



“ส่วนเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ปีนี้....” กรพูดต่อหลังจากที่เสียงปรบมือแสดงความยินดีให้กับดาวคณะเงียบลงแล้ว รุ่นพี่กลองรัวกลองทัดอีกรอบ “ได้แก่... น้องสายน้ำครับ!”



เจ้าของชื่อทำหน้างง หันไปมองรุ่นพี่ที่ประกาศชื่อของเขาอย่างไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินถูกไหม จนกรต้องพยักหน้ารับ แล้วพูดให้ฟังอีกรอบสายน้ำถึงได้เดินออกไปยืนเคียงข้างน้ำรินดาวคณะ มีเสียงเป่าปาก เสียงร้องจากรอบ ๆ ดังมาเป็นระลอก



หลังจากได้ดาวเดือนของคณะเรียบร้อยรุ่นพี่ก็ปล่อยให้น้อง ๆ แยกย้ายกันไป ส่วนสายน้ำกับน้ำรินอยู่คุยกับรุ่นพี่ต่ออีกนิดเพื่อที่จะได้นัดวันเวลาคุยเรื่องการประกวดในทีหลัง



“ไอ้แบงก์ พวกเรานี่น่าจะดังแล้วว่ะ มีเพื่อนเป็นเดือนคณะด้วย” ทันทีที่สายน้ำเดินไปหาเพื่อนทั้งสองคนที่รออยู่ ตั้มก็รีบพูดทันที



“เออว่ะ เดือนคณะเลยนะโว้ย วู้ว! เพื่อนเราไม่ธรรมดาว่ะ” แบงก์ก็ตอบรับกันดี



“เพ้อเจ้อละพวกมึง ไปกลับกันดีกว่า” สายน้ำส่ายหน้ากับเสียงแซวของเพื่อนทั้งสองคน



เขาไม่ได้ดีใจ หรือเสียใจอะไรกับการได้รับเลือกให้เป็นเดือนคณะ แต่ในเมื่อได้ตำแหน่งนี้มาแล้วก็คงต้องเต็มที่สักครั้ง อย่างน้อยก็เพื่อคณะของเขาเอง







สายน้ำเดินออกจากห้องน้ำ มือยกขึ้นใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมที่เปียกชื้นของตัวเองไปด้วย ก่อนจะเดินไปตากผ้าเอาไว้ที่ราวแขวน ในจังหวะนั้นสายตาก็หันไปเห็นถุงช้อปปิ้งที่ได้มาแบบไม่ได้ตั้งตัวและไม่ได้ตั้งใจ คว้าถุงเดินกลับมานั่งที่โซฟา แล้วหยิบเสื้อที่ถูกพับอยู่ในถุงนั้นออกมา



เสื้อยืดคอกลมสีขาว ที่กลางตัวเสื้อมีลายกราฟิกรูปหน้าเสือสีดำทองสกรีนเอาไว้ แล้วก็นึกไปถึงอีกตัวที่รุ่นพี่คนนั้นซื้อไป เป็นลายเดียวกันแบบนี้เลย แต่แค่สีเสื้อเป็นสีดำ และสีของหน้าเสือเป็นสีขาวทอง ดูไปดูมาก็เหมือนกับเสื้อคู่



สายน้ำจัดวางเสื้อผ้าที่พับให้เป็นลายชัด ๆ เอาไว้บนโต๊ะกลมสีขาวข้างโซฟา หยิบต้นไม้ในโหลแก้วมาวางไว้ใกล้ ๆ กัน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเปิดเข้าสู่หมวดกล้อง แล้วเลือกมุมถ่ายเสื้อตัวนั้นจนได้รูปที่พอใจ



เปลี่ยนเป็นเข้าแอปเฟซบุ๊กแทน จัดการโพสต์ภาพมุมสูงของเสื้อตัวที่ซื้อมาลงไปพร้อมแคปชั่นเป็นภาษาอังกฤษ



Good things can come.

From unexpected places.




นี่แหละมั้ง... คำตอบของคำถามที่ตั้มถามเขาไว้ ที่คิดว่าเขาตามใครสักคนมาที่นี่



ไม่ผิดจากที่เพื่อนใหม่ของเขาคิดหรอก...



เขาตามใครบางคนมาที่นี่จริง ๆ







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

อุ๊ย ๆ สายน้ำตามใครมานะ

ตอนนี้มีหลายคนที่เดากันว่าสายน้ำกับหินผาเจอกันตอนไหน อะไร ยังไง

แต่ฟางจะยังไม่เฉลยค่ะ รออ่านเอาเนอะ เดี๋ยวจะได้รู้ว่าเขาสองคนเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า แล้วเจอกันตอนไหนเนอะ ^^

ยังไงก็รักแล้วก็เอ็นดูสายน้ำด้วยนะคะ น้องหล่อนะ แต่น้องก็น่ารักด้วย บรรยากาศรอบตัวน้องเหมือนที่มีคนเมนต์บอกเลยค่ะ จะละมุน ๆ หน่อย ๆ เนอะ พอ ๆ กับพี่หินผาค่าตัวแพงของเราเลย ฮี่ ๆ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-02-2019 22:39:03
 :pig4: :pig4: :pig4:

จากปฐมบท  ก็เดาได้แหละว่าสายน้ำต้องตามหินผามาเรียนที่นี่แน่นอน

แต่ต่อมเผือกหรือต่อมอยากรู้ก็ถามต่อว่า  แล้วสายน้ำเคยเจอหินผามาก่อนเนี่ย  เจอตอนไหน เหตุใดจึงประทับใจจนถึงขั้นหอบผ้าผ่อนตามมาเรียนในรั้วเดียวกันขนาดเน้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: SuPeRDonGDanG ที่ 06-02-2019 23:14:10
สงสัยพี่หินจะค่าตัวแพงมากจริงๆ รอบนี้ไม่ออกเลย จบตอนแล้วมาแค่ 2 ครั้ง
รอตามอ่านอยู่นะคะ สู้ๆ  o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2019 01:14:22
อยากเจอพี่ฮาร์ทททททททท  :sad4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 07-02-2019 01:42:02
มีความเสื้อคู่อ่ะ แค่น้องเอาเสื้อมาถ่ายรูปนี่เรามโนไปถึงตอนที่เขาใส่คู่กันแล้วค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-02-2019 05:25:27
พระเอกเราค่าตัวแพงมากเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 07-02-2019 07:24:18
น้องสายน้ำตามใครมานะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-02-2019 08:09:17
ได้เป็นเดือนคณะด้วย​  คงมีไรสนุกๆรออยู่
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 07-02-2019 08:43:44
เสื้อคู่เนอะ สายน้ำ ใจเราบอกว่าคู่ มันก็คู่อ่ะ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 07-02-2019 18:17:52
 :hao7: :hao7: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "1" [100%] l P.2 06-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 07-02-2019 19:58:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.2 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 10-02-2019 21:24:56
(https://i.ibb.co/dG7bsgW/02.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “2”






สายน้ำทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นหลังพิงผนังห้องที่เขาและน้ำรินมาเก็บตัวซ้อมสำหรับการประกวดดาวเดือน ซึ่งในห้องนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคน แต่ยังมีเพื่อนดาวเดือนจากคณะอื่น ๆ อยู่อีกเป็นสิบ ยี่สิบคน ตอนนี้รุ่นพี่ที่มาช่วยดูการซ้อมปล่อยให้พักก่อนที่จะให้ไปซ้อมเดินต่อ สายน้ำก็ไม่ค่อยจะเข้าใจนักหรอกว่าทำไมถึงต้องซ้อมเดินเป็นจริงเป็นจังอย่างกับว่าพวกเขากำลังจะขึ้นเดินบนเวทีระดับโลกอย่างนั้น



“อ่ะ กินน้ำหน่อย” น้ำรินที่เดินหายไปเมื่อครู่เดินกลับมาหาก่อนจะส่งขวดน้ำเปล่าเย็น ๆ ให้แล้วนั่งลงข้าง ๆ



“ขอบใจนะ ที่จริงควรเป็นเราเดินไปหยิบให้หรือเปล่า” สายน้ำรับมาพลางพูดขำ ๆ



“บ้าแล้ว! ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราจะหยิบหรือน้ำจะหยิบก็ไม่เห็นต่างกัน สุดท้ายก็ได้น้ำคนละขวดอยู่ดี” น้ำรินหันมาว่าแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก



ร่วมสัปดาห์แล้วหลังจากการคัดเลือกดาวเดือนของคณะจบลง พวกเขาตัวแทนดาวเดือนของแต่ละคณะก็มาฝึกซ้อมกันที่นี่ ทั้งฝึกร้อง ฝึกเดิน ไม่ต่างกับการไปออกรายการแข่งขันต่าง ๆ ที่สายน้ำเคยเปิดดูเลย เขานึกมาตลอดว่าการประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยก็แค่ส่งตัวแทนออกมาแสดงความสามารถพิเศษ แล้วก็ตอบคำถามแค่นั้น ไม่คิดว่าจะมีการซ้อมกันอย่างจริงจังแบบนี้



จากที่ฟังรุ่นพี่พูดถึงกำหนดการในวันประกวด เหล่าดาวเดือนจะต้องร้องเพลงร่วมกันหนึ่งเพลง แล้วก็ต่อด้วยการแนะนำตัว การแสดงความสามารถพิเศษ ตอบคำถาม แล้วก็ประกาศผลรางวัล พอได้ฟังสายน้ำก็แทบจะถอนหายใจเพราะรู้สึกว่ามันจะต้องเหนื่อยมากแน่ ๆ แต่เพราะได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของคณะแล้ว ก็อยากจะทำให้ดีที่สุด



ไม่ได้หวังถึงรางวัลอะไรเลย เพราะเขารู้สึกว่าตัวแทนของแต่ละคณะหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น แต่ละคนก็มีโอกาสได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัยกันหมด



“ว่าแต่ว่า ช่วงแสดงความสามารถพิเศษรินจะแสดงอะไรเหรอ เรานี่ยังคิดอะไรไม่ออกเลย” สายน้ำเอ่ยถาม



“เราคุยกับรุ่นพี่ว่าอยากจะแสดงรำไทย น้ำรำเป็นไหมล่ะ ถ้าเป็นเรามาแสดงคู่กันก็ได้นะ เราอยากโชว์ความเป็นไทยออกมา”



“จริง ๆ ก็เคย ตอนสมัยเด็ก ๆ ช่วงประถม ม.ต้น แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รำอีกเลย” สายน้ำตอบ นึกไปถึงตอนสมัยยังเด็ก ๆ ที่โดนคุณครูจับไปแสดงในงานต่าง ๆ แถมครอบครัวของพ่อก็เป็นคุณครูสอนดนตรีไทย แล้วก็พวกนาฏศิลป์ด้วย เขาเลยได้เรียนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว



“อย่างนั้นมารำคู่กันดีไหม น่าสนใจอยู่นะ”



“อย่างนั้นก็ได้ เราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” สายน้ำตอบรับคำชวนนั้นอย่างง่ายดาย เพราะเขาก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะแสดงความสามารถพิเศษอะไรดี



“โอเค ตามนั้นนะ เดี๋ยวเราจะได้ไปคุยกับรุ่นพี่เรื่องการแสดงของเรา แล้วถ้าคุยกับพี่ได้เรื่องยังไงแล้วเดี๋ยวเราจะบอกน้ำอีกทีแล้วกันนะ”



“ตามนั้นเลย แล้วแต่รินจัดการเลย จะนัดซ้อมอะไรตอนไหนก็บอกได้ตลอดนะ เราอาจจะต้องฟื้นเรื่องการรำสักหน่อยเพราะก็ไม่ได้รำนานแล้วเหมือนกัน”



“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราช่วยเอง”



หมดเวลาพักรุ่นพี่ที่มาช่วยดูแลเรื่องการซ้อมก็เรียกน้อง ๆ กลับไปรวมกลุ่มกันต่อ หลังจากซ้อมร้องเพลงจนจบก็เริ่มซ้อมการเดินของดาวเดือน



“หลังตรงค่ะ อย่าเดินหลังโก่งสิ! แล้วขาก็จะกางอะไรขนาดนั้นยะ หุบ ๆ ขาหน่อย เดินย่ะเดิน ไม่ใช่เดินเป็ดแบบนั้น” รุ่นพี่ปีสี่ของกลุ่มที่คอยดูแลการประกวดดาวเดือนพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าเดินของรุ่นน้องแต่ละคนแล้ว



“เจ้มน หนูว่าพอก่อนไหม นี่ก็มืดละนะให้เด็ก ๆ ไปพักดีกว่า น่าจะเหนื่อยกันมากแล้ว” แวนดี้ที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้สายน้ำกับน้ำรินเอ่ยกับรุ่นพี่ปีโตกว่า



“อ่ะ ๆ ตามนั้น” อีกฝ่ายยอมให้พักในที่สุด “วันนี้ก็กลับไปพักกันก่อนแล้วกันนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่ พักผ่อนกันเยอะ ๆ ล่ะเด็ก ๆ แยกย้ายได้”



สิ้นคำนั้นตัวแทนดาวเดือนทุกคนก็พร้อมใจกันแยกย้ายทันที สายน้ำเดินมาหยิบกระเป๋าของตัวเองเพื่อเตรียมกลับห้องไปพักผ่อน



“น้องน้ำกลับยังไง ให้พวกพี่ไปส่งไหม” แซนดี้เดินเข้ามาถาม “ยังไงพี่ก็ต้องไปส่งน้ำรินอยู่แล้วด้วย”



“ไม่เป็นอะไรครับ พวกพี่ไปส่งน้ำรินเถอะครับ ผมกลับเองได้ คอนโดผมกับหอน้ำรินคนละทางกันเลยพวกพี่จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา” สายน้ำปฏิเสธพร้อมรอยยิ้ม “อีกอย่างผมตั้งใจจะแวะตลาดหน้ามอก่อนน่ะครับ”



“แน่ใจนะ ไม่ให้พี่ไปส่งแน่นะ หรือจะไปนอนห้องพี่ก็ได้นะ พี่ไม่ถือ”



สายน้ำหัวเราะ “แน่ใจครับ พวกพี่รีบกลับกันเถอะครับเดี๋ยวจะมืดไปกว่านี้ อันตรายนะครับ ยังไงผมกลับก่อนนะ สวัสดีครับพี่แซนดี้ พี่แวนดี้” ยกมือไหว้ลารุ่นพี่ทั้งสองคนก่อนจะหันไปลาน้ำริน “ไปแล้วนะน้ำริน เอาไว้พรุ่งนี้เจอกัน ไปนะครับ”



“จ้า กลับห้องดี ๆ นะลูก ถึงห้องแล้วไลน์เข้ากลุ่มดาวเดือนด้วยนะ พวกพี่จะได้สบายใจนะ” แวนดี้ร้องบอก



“ครับผม” สายน้ำหันกลับมารับคำ ก่อนจะเดินออกจากห้องที่ใช้ในการซ้อมประกวดดาวเดือนไป



เจ้าตัวแวะกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งหน้ามหาวิทยาลัย คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่โต๊ะภายในร้านก็เกือบจะเต็มเหมือนกัน อาจจะเพราะมีตลาดที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ที่ดึงนักศึกษาไปได้มากทีเดียว ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เขาจะได้ไม่ต้องรออาหารนานเกินไปนัก



ระหว่างที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู เข้าไปตอบไลน์จากเพื่อนทั้งสองคนที่ส่งมาถามเขาว่าเลิกซ้อมหรือยัง ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้าเฟซบุ๊กต่อ มีคนแท็กรูปมาหาเขาด้วย สายน้ำเลยกดเข้าไปดู เป็นแซนดี้กับแวนดี้ที่แท็กรูปมาหา ภาพตอนที่เขากำลังซ้อมร้องเพลงกับซ้อมเดินประกวดดาวเดือน



มีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจ แต่ส่วนใหญ่สายน้ำไม่รู้จักก็เลยใช้วิธีกดถูกใจไปที่คอมเมนต์พวกนั้นแทน มีตอบคอมเมนต์ของเพื่อน ๆ บ้าง ตอบรวม ๆ ไปบ้าง



“ขอนั่งด้วยคนนะครับ โต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว” เสียงที่ดังอยู่เหนือหัวเรียกสายตาของสายน้ำที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ให้เงยขึ้นมอง



“พี่หินผา”



“อ้าว... สายน้ำ โต๊ะว่างใช่ไหม พี่นั่งด้วยคนนะ” พูดจบก็ทรุดตัวลงนั่งทันที สายน้ำยังไม่ทันได้ตอบรับอะไร ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น



“ทำไมมาอยู่คนเดียวล่ะ เพื่อนเราอีกสองคนไปไหนแล้ว” หินผาถามอย่างชวนคุย



สายน้ำเลยวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะเพื่อที่จะได้คุยกับอีกฝ่าย “กลับกันไปแล้วครับ พอดีผมไปซ้อมดาวเดือนมา เพิ่งเลิกครับก็เลยมานั่งกินข้าวก่อนกลับ”



“อ่อ ได้ยินปีสองพูดอยู่ว่าได้ดาวเดือนแล้ว เป็นเรานี่เอง” หินผาว่า “ไม่ต้องกดดันนะ ทำให้เต็มที่ก็พอ คณะเราไม่ได้หวังตำแหน่งดาวเดือนมหา’ลัยขนาดนั้นหรอก”



“อ่า... ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ ลังเลที่จะต่อบทสนทนาเพื่อไม่ให้เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขา สุดท้ายก็กลั้นหายใจถามออกไป “แล้ว... พี่มาคนเดียวเหรอครับ”



“หือ... อือ ใช่แล้วล่ะ พี่อยู่แถวนี้ แต่เดียร์กับทัชอยู่อีกฝั่งน่ะ เลยไม่ได้มาด้วยกัน แล้วเราล่ะอยู่แถวนี้เหรอ”



“ก็ไม่เชิงครับ ผมอยู่คอนโดที่เลยป้ายรถเมล์ไปอีกสามป้ายน่ะครับ เลยมาแวะกินข้าวก่อนค่อยกลับห้อง” สายน้ำตอบคำถามนั้น



“อืม” อีกฝ่ายพยักหน้ารับ



บทสนทนาจบลงพอดีกับที่พนักงานในร้านยกอาหารมาเสิร์ฟให้เขากับหินผา ทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดเกินไปนักเพราะต่างฝ่ายต่างก็จัดการกับอาหารของตัวเอง



“พี่ไม่กินถั่วฝักยาวเหรอครับ” สายน้ำเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังเขี่ยถั่วฝักยาวในผัดพริกแกงที่เจ้าตัวสั่งมาออก



“อือ พี่ไม่ชอบ” หินผาเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพูดต่อเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะพูด “แล้วก็อยากกินผัดพริกแกงเลยสั่งมา เพราะฉะนั้นไม่ต้องถามว่าจะสั่งมาทำไม”



สายน้ำงับปากตัวเองทันที เพราะเขากำลังคิดจะถามอยู่เหมือนกัน ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอยากกินเมนูนี้ก็เลยสั่ง แม้จะไม่กินของอย่างอื่นในนั้นก็ตาม



พอเห็นคนน้องนั่งงับปากไม่พูดอะไรหินผาก็หลุดยิ้มขำแล้วก้มลงสนใจข้าวในจานของตัวเองแทน



หินผาเงยหน้าอีกรอบเมื่อเห็นว่ามือของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามยื่นมาที่จานของเขาพร้อมกับตักถั่วฝักยาวไปกิน



“ผมกินเอง”



เคร้ง



แต่ทันทีที่ถั่วฝักยาวคำนั้นเข้าปากได้ไม่นานสายน้ำก็แทบจะทิ้งช้อนส้อมหันไปคว้าแก้วน้ำมาดูด



“โคตรเผ็ด! พี่ไม่เห็นบอกผมเลยว่ามันเผ็ด” คนเผ็ดจนลิ้นแดง ปากแดงร้อง ดูดน้ำจนหมดแก้ว เติมใหม่แล้วก็ดูดหมดอีกแก้ว



“อ้าว... ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ กิน เดี๋ยวก็สำลักน้ำอีกรอบหรอก” หินผาว่าอย่างขำ ๆ ไม่ได้โกรธอะไรที่โดนอีกฝ่ายต่อว่า “อีกอย่างพี่จะรู้ไหมล่ะว่าเรากินเผ็ด ไม่เผ็ด หรือกินได้แค่ไหน สำหรับพี่มันไม่เผ็ด ก็เลยไม่ได้บอก”



“อย่างเผ็ดเลย” ตักข้าวผัดตัวเองใส่ปากคำโตหวังว่ามันจะช่วยให้หายเผ็ดได้



หินผามองคนที่หน้าแดง ตาแดง ปากแดงไปหมดเพราะเผ็ดอย่างขำ ๆ ก่อนจะลุกไปเดินไปที่หน้าร้านที่ซุ้มขายน้ำอยู่ ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมน้ำแดงสองแก้วในมือ



“อ่ะ กินนี่สิเผื่อจะหายเผ็ดได้” ดันแก้วน้ำแดงแก้วหนึ่งไปไว้ตรงหน้าของรุ่นน้องในคณะ



“ขอบคุณครับ” ยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะดึงแก้วมาใกล้แล้วดูดน้ำไปที “เมื่อกี้ผมขอโทษที่โวยวายใส่พี่”



หินผาเลิกคิ้วมองทำหน้างงก่อนจะร้องออกมาเบา ๆ เมื่อเข้าใจว่าที่น้องพูดว่าหมายถึงตอนไหน “ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้โกรธอะไร รีบกินเข้าเถอะจะได้รีบกลับห้องไปพักผ่อน”



“ครับ”



สายน้ำรับคำก่อนที่พวกเขาจะจัดการกับอาหารของตัวเองต่อ สายน้ำคิดว่าตัวเองไม่ใช่พวกกินช้าอะไร บางครั้งถ้ารีบ ๆ ก็หมดในเวลาไม่นาน แต่สำหรับคนตรงหน้านี่กินเร็วมาก เพราะใช้เวลาไม่นานข้าวพูนจานของอีกฝ่ายก็หมดลง ในขณะที่เขาเพิ่งกินไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น



“พี่ไปก่อนล่ะ รีบ ๆ กินเข้า มัวแต่มองน้ำแดงอยู่นั่น” คนที่กินเสร็จแล้วลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาก่อนจะใช้กระเป๋าสตางค์ในมือเคาะไปบนหัวน้องทีหนึ่ง “อยากกินน้ำแดงก็กิน จะมองทำไม เอาแต่มองข้าวไม่ยอมตักเข้าปาก รีบกินเข้า”



สายน้ำเงยหน้ามองก่อนจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ยกมือไหว้คนอายุมากกว่า “ครับ สวัสดีครับพี่”



“อือ ไว้เจอกัน”



อีกฝ่ายเดินไปแล้วแต่สายน้ำยังคงหันไปมองจนแผ่นหลังของหินผาหายไปจากสายตาถึงได้ดึงความสนใจของตัวเองกลับมาอีกครั้ง แล้วจึงเริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อจนหมด คว้าแก้วน้ำแดงมาถือ เดินไปจ่ายเงินกับเจ้าของร้านที่ยืนทำอาหารอยู่



“พ่อหนุ่มนั่งโต๊ะไหนนะ” อีกฝ่ายถามให้สายน้ำต้องชี้นิ้วไปที่โต๊ะที่ตัวเองนั่งเมื่อครู่นี้



“โต๊ะนั้นครับ ริมผนังด้านในนั้น”



“ออ... ไม่ต้องจ่ายลูก พ่อหนุ่มคนที่นั่งกับเราด้วยน่ะเขาจ่ายให้แล้วเมื่อกี้”



“ครับ! จ่ายให้แล้วเหรอครับ” สายน้ำทวนคำอย่างไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดไปหรือเปล่า



“ใช่ลูก”




“ครับ ขอบคุณนะครับ” สายน้ำเลยได้แต่รับคำก่อนจะเดินออกจากร้านไป หันมองซ้ายมองขวาหวังว่าจะเจอรุ่นพี่ใจดีที่เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำเขา แต่ก็ไม่เจอ



อีกฝ่ายเดินออกจากร้านมาก่อนเขาได้สักพักหนึ่ง ตอนนี้คงเดินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะคิดว่าคงไม่เจอแล้วแน่ ๆ จึงมุ่งหน้าไปทางป้ายรถเมล์เพื่อรอรถกลับคอนโดแทน ในมือก็หิ้วแก้วน้ำแดงไปด้วย ตั้งแต่รอรถ ขึ้นไปบนรถ ลงจากรถ จนเดินเข้าคอนโดมาถึงห้อง แก้วน้ำแดงในมือก็ยังอยู่ ไม่ได้ไปวางทิ้งหรือโยนทิ้งที่ไหน



ปกติสายน้ำไม่ค่อยชอบเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เคยได้ลองชิมอยู่หลายครั้ง น้ำแดงเฮลบลูบอยชงกับน้ำและใส่น้ำแข็ง เคยเจอร้านหนึ่งที่ผสมออกมาเสียเข้มจนสายน้ำรู้สึกแสบคอตอนเวลากิน แต่คราวนี้สายน้ำรู้สึกว่า



น้ำหวานที่เขาเคยไม่ชอบเพราะมันหวานมาก อร่อยขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ได้หวานจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เจือจางเสียจนไม่รับรู้รสชาติใด ๆ







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

วันนี้พี่หินผาใจดี ยอมให้คิวฟางพาออกงานแล้วจ้า ฮี่ ๆ

ช่วงนี้พี่หินคิวจะว่าง ๆ หน่อย เลยจะได้มาหาทุกคน เพราะได้ยินมาว่าบางคนจะขอเปลี่ยนตัวพระเอก เพราะคนนี้ค่าตัวแพงเหลือเกิน พี่ท่านเลยยอมลดค่าตัวให้แล้วจ้า

เพราะอย่างนั้นอย่าเปลี่ยนตัวพระเอกเลยน้า อิอิ

แล้วเจอกันใหม่ค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 10-02-2019 22:52:15
พี่หินผา เรานี่ก็ใจดีเหมือนกันนะ

ก็ยังสงสัยว่าสายน้ำไปเจอพี่หินผาตอนไหนกันนะ ถึงได้ตามพี่มา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-02-2019 23:35:05
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่หินอาจไม่เคยรู้จักน้องน้ำมาก่อนหรือเปล่า

ส่วนน้องน้ำเนี่ยต้องเคยประสบพบเจออิพี่หินมาก่อนแน่ ๆ หล่ะ  ถึงได้หอบผ้าหอบผ่อนมาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-02-2019 01:11:51
หินผานี่สายเปย์ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย :laugh:
ว่าแต่เขาเคยเจอกันตอนไหน ดูๆแล้วเหมือนน้องน้ำจะเคยเจอหินผาฝ่ายเดียวแน่เลย ได้แต่เดาไปเรื่อย  รอตอนต่อไปนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: SuPeRDonGDanG ที่ 11-02-2019 01:13:34
ต้องโดเนทค่าตัวหินผาเท่าไร ถึงจะออกมาทุกตอน  :o8:

มีความกินข้าวด้วยกัน มีความจ่ายเงินค่าข้าวให้น้อง

อยากดูน้องรำไทยแล้ว จะมีใครบางคนแถวนี้อึ้ง อ้าปากตาค้างไหมนะ(หมายถึงเดียร์ใช่ไหม)
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-02-2019 07:19:29
พี่หินใจดี เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำน้องด้วย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-02-2019 08:26:28
พี่หินผาของเราค่าตัวแพง​
ใ้ห้น้องออกมาเอาใจพวกเราก่อนแน่เลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-02-2019 16:43:20
ดีนะ แวะมาเปย์แล้วจากไป  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 11-02-2019 20:49:58
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 11-02-2019 21:50:24
พระเอกออกตอนต้นๆของตอนเลยอะ ดีใจ เรื่องนี้พระเอกเขาคิวทองจริงๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-02-2019 23:54:04
พี่หินสายเปย์ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 12-02-2019 00:32:46
ไปเคยเจอพี่หินผามาตอนไหนนะน้อง
แต่น่าจะนานแล้วมั้ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 12-02-2019 12:36:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 15-02-2019 09:49:04
หินผาของเราจะมีแฟนแล้ววววววว

ว่าแต่น้องน้ำไปเจอพี่หินผาตอนไหน หรือรู้จักกันตอนเด็กๆ

ปล.คิดถึงพี่ฮาร์ทด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [40%] l P.3 10-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-02-2019 19:11:52
เขากินข้าวร่วมโต๊ะกันแน้ว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 15-02-2019 22:42:07
(https://i.ibb.co/dG7bsgW/02.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “2”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ดังขึ้นเพื่อปลุกให้คนที่อยู่ในห่วงนิทราตื่นขึ้นมาจากความฝัน สายน้ำที่นอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนนุ่มขยับตัว ใช้มือควานหาโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงร้องปลุกเขาให้ตื่น เจ้าตัวหรี่ตามองเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอก่อนจะถอนหายใจ วันนี้เป็นวันหยุดที่เขาไม่ต้องไปเรียน แต่ดันลืมปิดนาฬิกาปลุกเสียนี่

สายน้ำเลยจัดการกดปิดนาฬิกาแล้วซุกตัวเข้ากับผ้าห่มก่อนจะหลับไปอีกรอบ แต่เจ้าตัวที่เคลิ้มหลับไปก็ต้องลืมตาขึ้นอีกรอบพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์มากดดูถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเวลาเพิ่งผ่านไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้น



แม้ว่าวันนี้จะไม่มีเรียนแต่เขาก็มีนัดกับรุ่นพี่ในคณะเพื่อซ้อมการแสดงความสามารถพิเศษที่จะใช้ในการประกวดดาวเดือนตอนเก้าโมงเช้า ส่วนตอนนี้เกือบจะแปดโมงแล้ว แม้จะยังง่วงอยู่สายน้ำก็ต้องดันตัวเองให้ลุกจากเตียงแล้วก้าวตรงไปที่ห้องน้ำ



กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบครึ่งชั่วโมง เปิดตู้เย็นคว้านมขวดกับขนมปังบนหลังตู้เย็นมายัดใส่กระเป๋า เช็คดูภายในห้องจนเรียบร้อยก็รีบออกจากห้องเพื่อตรงไปที่มหาวิทยาลัยทันที เพราะกลัวว่าถ้ารอรถเมล์จะไม่ทัน เจ้าตัวเลยโบกพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้ขับมาส่งที่ตึกคณะแทน



น้ำรินมาถึงพอดีกับที่สายน้ำก้าวลงจากรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งคู่เอ่ยทักทายกันก่อนจะพากันเดินไปยังห้องที่นัดกับรุ่นพี่เอาไว้ เป็นห้องสตูดิโอของคณะ ซึ่งนักศึกษาสามารถเข้ามาใช้งานได้ตลอด ภายในห้องนั้นกว้าง ครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งมีโต๊ะวางเรียงเอาไว้เต็มไปหมด



“ถ้าไม่ใช่ช่วงใกล้ส่งโพรเจกต์ห้องนี้ก็จะเงียบ ๆ แบบนี้แหละ แต่ถ้าใกล้ส่งนะ ห้องนี่แน่นจนแทบจะขี่กันเลย” แวนดี้เล่าให้ฟังเมื่อเห็นสีหน้าของรุ่นน้องทั้งสองคนที่มองไปรอบห้องอย่างสนใจ “ตรงโต๊ะนั่นก็เอาไว้วางคอมนั่งทำแบบ ทำแปลน ส่วนข้างล่างนี่ก็ปน ๆ กันไป เอาไว้ตัดโมเดลบ้าง ถ้าโต๊ะเต็มก็ลงมานั่งทำข้างล่างนี่แหละ”



“เดี๋ยววันนี้พี่จะให้เราสองคนซ้อมแยกกันนะ จะมีคนใจดีมาช่วยดูแล้วก็ช่วยสอนให้ โชคดีมากเพราะพี่ ๆ เขาเพิ่งฝึกรำกันไปเมื่อปีก่อนนี้เอง พี่เขาเลยจะมาช่วยนะ” แซนดี้เรียกความสนใจของรุ่นน้องทั้งสองคน



สรุปแล้วการแสดงความสามารถพิเศษที่จะใช้ในการประกวดดาวเดือน ทั้งคู่ก็เลือกการแสดงรำไทย เป็นการแสดงรำคู่ในชุดเมขลา รามสูร ซึ่งเป็นการแสดงที่นิยมเป็นอย่างมากในการใช้เป็นการแสดงเบิกโรง(1)  ซึ่งการรำชุดเมขลา รามสูรนั้นเป็นการแสดงแบบเป็นเรื่องราว เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนางเมขลาที่ออกมาร้องรำอยู่กับบรรดาเทพบุตร เทพธิดา และในขณะนั้น รามสูรบังเอิญผ่านมาและเห็นลูกแก้วของนางเมขลาจึงอยากได้ จนเกิดการเข้าไปแย่งชิง นางเมขลาเองก็พยายามที่จะหลบเลี่ยง เป็นการรำที่อวดท่วงท่าที่ใช้ในการแสดง



ตัวนางจะมีท่วงท่าที่ยั่วยวน หลบหลีก หยอกล้อ เพื่อหลอกล่อรามสูตร ส่วนตัวพระที่เป็นยักษ์ก็จะมีท่วงท่าที่คอยติดตามนางเมขลาเพื่อจะช่วงชิงลูกแก้ว และท่าทางโกรธขึง



“เดี๋ยวรอพวกพี่เขาแปบหนึ่งเดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ” แวนดี้พูด ก่อนที่เสียงเปิดประตูห้องจะดังขึ้นให้พวกเขาหันไปมองกันอย่างพร้อมเพียง “นั่นไง! พูดถึงก็มาพอดี พี่หินผา พี่แก้ม เข้ามาเลยค่ะ แวนดี้กำลังจะแนะนำพวกพี่กับน้องพอดี”



ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้อง หยุดยืนอยู่ข้าง ๆ แซนดี้กับแวนดี้ ก่อนที่แซนดี้จะแนะนำรุ่นพี่ทั้งสองคนให้สายน้ำกับน้ำรินได้รู้จัก



“นี่พี่หินผาปีสี่ กับ พี่แก้มปีสี่ คนที่จะมาช่วยในการฝึก แล้วก็ดูเราสองคน ส่วนน้องสองคนนี้คือดาวเดือนคณะค่ะ น้องดาวคือน้องน้ำริน น้องเดือนคือน้องสายน้ำ แซนดี้กับแวนนี้ต้องขอฝากน้อง ๆ กับพวกพี่เอาไว้ด้วยเลยนะคะ”



รุ่นพี่ปีโตมองหน้ารุ่นน้องทั้งสองคนก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ให้สายน้ำกับน้ำรินรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยเพราะกลัวว่ารุ่นพี่จะดุ ๆ โหด ๆ



หลังจากคุยถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในการแสดงแล้วสายน้ำกับน้ำรินก็แยกกันไปเรียนกับรุ่นพี่ทั้งสองคน แก้มเดินนำน้ำรินออกจากห้องสตูดิโอไปห้องอื่น เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนสมาธิกัน หินผากับสายน้ำยังอยู่ห้องเดิม ส่วนแซนดี้กับแวนดี้ก็อาสาคอยดูแลทั้งสองฝั่ง ก็แยกไปซื้อน้ำ ซื้อขนมเพื่อที่จะได้เอามาให้พวกเขา








หลังจากที่คนอื่นออกไปกันหมด ในห้องนี้จึงเหลือเพียงแค่หินผาและสายน้ำสองคนเท่านั้น คนพี่ก็มองยิ้ม ๆ ตามสไตล์ ส่วนคนน้องก็ได้แต่มองอย่างไม่รู้ว่าควรจะเริ่มอะไรยังไงดี



“เรา... จะเริ่มยังไงดีครับ” สายน้ำเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามก่อน



“เราเคยเรียนรำมาก่อนหรือเปล่า” คนพี่ถามกลับ พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไปด้วยเพื่อหาคลิปสอนท่ารำ



“เคยครับ แต่ก็นานมากแล้วล่ะครับ” สายน้ำตอบขยับไปใกล้อีกฝ่ายที่ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกวักมือเรียกให้มาดูคลิปวีดิโอด้วยกัน “พี่ก็รำเป็นเหรอครับ”



“ถ้ารำไม่เป็นสองคนนั้นจะมาให้พี่สอนเหรอ”



คนฟังคำตอบชะงักเงยหน้ามองคนพูด นี่พูดจริง ๆ หรือแค่จะกวนประสาทกันเล่น แต่ดูจากสีหน้าของคนอายุมากกว่าไม่ออกเลย จนกระทั่งอีกฝ่ายหลุดขำออกมานั่นแหละถึงได้รู้ว่าโดนแกล้งเข้าให้แล้ว



“รำเป็นสิ พี่เคยไปเรียนกับน้องตอนเด็ก ๆ ก็เลยรำเป็น แต่ก็นานมากแล้วเหมือนกัน”



“มีคลิปที่พี่รำไหมครับ ผมอยากเห็น”



“อ่อ... มีสิ เดี๋ยวนะ” หินผารับคำก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อหาวีดิโอตัวที่ว่าก่อนจะยื่นให้สายน้ำรับไปดู



“นี่พี่เหรอครับ โห... รำเก่งนะเนี่ย” อดไม่ได้ที่จะชม เพราะอีกฝ่ายรำสวยจริง ๆ ทั้งหินผาแล้วก็แก้มที่รำคู่กันเลย “รำสวย พี่รำในงานอะไรเหรอครับเนี่ย”



“ละครถา’ปัตย์ปีที่แล้วน่ะ”



“ผมเคยได้ยินครับ มีทุกปีเลยใช่ไหมครับ”



หินผาพยักหน้ารับ “ใช่ ละครถา’ปัตย์มีทุกปี ปีที่แล้วเน้นแสดงเกี่ยวกับไทย ๆ แล้วพอดีเพื่อนพี่มันดันเคยเห็นรูปพี่รำตอนเด็ก ๆ ก็เลยมากดดันปนบังคับให้พี่ไปแสดงรำ”



“เพื่อน ๆ บอกว่าแม่งานคือปีสามเหรอครับ”



“อือ ละครเราปีสามจะเป็นแม่งานในทุก ๆ ปีน่ะ ไว้เราอยู่ปีสามก็ได้เป็นแม่งานหลัก แต่จริง ๆ แล้วทุกชั้นปีก็มีส่วนร่วมกันหมดนั่นแหละ ตั้งแต่นักแสดงยันทำฉาก ประกอบฉากเลย”



“แล้วทำไมต้องปีสามล่ะครับ” สายน้ำถามต่อด้วยความสงสัยและอยากรู้



“ว่างสุดละมั้ง” หินผาตอบก่อนจะอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นสีหน้างง ๆ ของรุ่นน้อง “ไม่ได้หมายถึงว่าไม่มีเรียน แต่กิจกรรมน้อยสุด ปีหนึ่งเพิ่งเข้ามาไหนจะต้องปรับตัวกับสังคม การเรียน เพื่อนใหม่อีกเยอะแยะ แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว ส่วนปีสองก็ต้องคอยดูแลปีหนึ่ง ไหนจะเรื่องรับน้องอีกก็มาเป็นแม่งานไม่สะดวก ถ้าเป็นปีห้ายิ่งไม่ได้ใหญ่เลย แค่ทำโพรเจกต์จบก็ไม่มีเวลาแล้ว ปีสี่ก็มีฝึกงาน เวลามันคาบเกี่ยวกันในช่วงการเตรียมงานกับการฝึกงาน ก็เลยเหลือแค่ปีสาม”



พอได้ฟังสายน้ำก็พยักหน้าเห็นด้วย “ก็จริงนะครับ อย่างที่พี่บอกเลย”



“เรื่องละครถา’ปัตย์เอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้มาเรื่องประกวดดาวเดือนก่อนดีกว่า เราเคยรำชุดนี้มาก่อนไหม”



“เหมือนจะเคยนะครับ บางท่าพอเห็นตามในคลิปก็จำได้ แต่บางท่าก็ลืม ๆ ไปแล้วเหมือนกัน”



หินผายันตัวลุกขึ้นยืน สายน้ำเห็นแบบนั้นจึงทำตามบ้าง “อย่างนั้นพี่จะไล่สอนไปให้ทีละท่าแล้วกันนะ เอาให้จำได้ทั้งหมดก่อนแล้วค่อยมาเข้าเพลง เข้าบทการแสดงอีกที”



คนที่ทำหน้าที่เป็นครูสอนเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเองก่อนจะหยิบไม้บรรทัดออกมาสองอัน อันหนึ่งส่งให้สายน้ำ ส่วนอีกอันถือเอาไว้เอง “ถือเอาไว้แทนขวาน ให้ท่าคล่องก่อนแล้วค่อยลองเอาขวานมาฝึก”



“โอเคครับ”



“อย่างนั้นเริ่มกันเลยนะ เริ่มตั้งแต่ท่าแรกเลยแล้วกันตอนเปิดตัวรามสูร” แม้จะพูดว่าเริ่มเลยแต่ตัวคนพูดกลับเดินไปรอบ ๆ ห้องเสียอย่างนั้น ไม่นานก็ลากโต๊ะไม้ตัวเตี้ยออกมาตรงที่สายน้ำยืนอยู่ “เอามาใช้แทนเตียงที่จะรำจริง แข็งแรงไม่หักหรอก ตอนนั้นฝึกพี่ก็เอามาใช้ ฝึกเสร็จก็เก็บ ๆ ยัด ๆ ไว้แถวนี้เอาไว้ใช้เป็นโต๊ะตอนมาทำงานได้”



หินผาเปิดคลิปดูอีกรอบเพื่อทวนความจำก่อนจะเริ่มสอนให้สายน้ำทีละท่า ดีที่สายน้ำพอจะจำท่วงท่าได้บ้างเลยสามารถต่อท่าต่อไปได้เร็ว



“ขวานอยู่ซ้ายมือ อย่าลืมสิ มือซ้ายตั้งวงยักษ์(2)  มือขวากำมือเอาไว้ หลวม ๆ พอ ไม่ต้องแน่นขนาดนั้น ใช่... แบบนั้นแหละ ข้างซ้ายยกขึ้นอีก” หินผาเอ่ยสอนพลางเดินเข้าไปช่วยจับแขนของสายน้ำให้ยกขึ้นและเหยียดออกกว่าเดิม



แต่ดูเหมือนว่าคนเรียนจะเริ่มล้าแขนไปหมดแล้วเพราะใบหน้าหล่อ ๆ ของเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เริ่มบึ้งนิด ๆ แม้ว่าเจ้าตัวพยายามที่จะเก็บสีหน้าแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของคนสอนไปได้



“พักก่อนก็ได้ ดูท่าจะเมื่อยแขนแล้วล่ะสิ”



พอหินผาพูดแบบนั้นเดือนคณะหมาด ๆ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกทิ้งแขนลงข้างตัว เปลี่ยนมานั่งห้อยขาแทนเพราะต้องนั่งท่าเทพบุตรตลอดจนขาชาแทบจะไร้ความรู้สึกแล้ว



“ดูท่าจะไม่ได้รำนานจริง ๆ สินะ” หินผาพูดขำ ๆ เมื่อเห็นสีหน้าเหยเกของรุ่นน้อง



“ครับ ตั้งแต่ ม.ต้น ผมก็ไม่ได้รำเลย” สายน้ำตอบรับพลางสะบัดข้อมือสะบันแขน



นั่งพักอยู่ได้ไม่นานประตูห้องสตูดิโอก็เปิดออกพร้อมกับที่น้ำริน แก้ม แล้วก็แซนดี้ แวนดี้เดินเข้ามา สีหน้าของดาวคณะดูอิดโรยไม่ต่างอะไรกับสายน้ำเลย เดินเข้ามาถึงเจ้าตัวก็เดินมานั่งข้าง ๆ สายน้ำแล้วถอนหายใจออกมา



“พี่แก้มใจร้ายมาก สอนเราดุมากเลยด้วย” เจ้าตัวบ่นงุ้งงิ้งให้ฟัง แต่ก็ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจอะไร



“ก็เราน่ะทำเป็นเล่นพี่ก็ต้องดุสิ” รุ่นพี่คนสวยว่าพลางยีผมของน้ำรินเล่นจนยุ่งไปหมด “แล้วทางนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ”



“ก็ใช่ได้อยู่ ดีที่สายน้ำเคยรำมาก่อนเลยต่อท่าได้ไม่ยาก”



“อย่างนั้นเรามาดูทั้งสองคนรำกันหน่อยดีไหมคะ จะได้รู้ว่าเป็นยังไงกันบ้าง” แซนดี้ว่า ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย ยกเว้นรุ่นน้องปีหนึ่งสองคนที่หันมามองหน้ากันแล้วก็ได้แต่ยิ้มแหยเพราะคงไม่มีสิทธิคัดค้านอะไร



“อย่างนั้นน้ำรินก่อนแล้วกันนะ”



“ค่า...” เจ้าของชื่อขานรับ สายน้ำเลยหลบฉากออกมาเพื่อให้เพื่อนใช้พื้นที่ในการรำ



ท่วงท่าการรำของน้ำรินดูสวยงานแล้วก็อ่อนช้อยแม้จะมีบางช่วงที่ติดขัดไปบ้างเพราะจำท่าผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าดูดี ทุกคนพากันปรบมือให้หลังจากที่น้ำรินรำเสร็จ



“โอเค เก่งมากเลย ซ้อมบ่อย ๆ จะได้ไม่จำท่าผิด อีกวันสองวันก็คงได้ท่าครบ” แก้มเอ่ยชมลูกศิษย์ของตัวเอง



“ขอบคุณค่ะ”



ต่อไปก็ถึงคราวของสายน้ำบ้าง เจ้าตัวสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปล่อยออกมาเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง พอตั้งสมาธิได้แล้วจึงเริ่มรำ ท่วงท่าที่แข็งแรง ขึงขัง สมกับเป็นรามสูร การเปลี่ยนท่าในแต่ละท่อนเป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่มีติดขัดอะไร



“เก่ง รำดีกว่าตอนซ้อมเมื่อกี้อีกนะ” หินผาชม



“ขอบคุณครับ” สายน้ำรับคำ อาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายเริ่มปรับตัวกับการรำได้ ความคุ้นเคยที่เคยรำมาก่อนทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น



“ดีงามทั้งสองคนเลยอ่ะ แซนดี้ว่าปีนี้เราก็น่าจะมีสิทธิได้ดาวเดือนนะ งานดีทั้งคู่เลย” แซนดี้ปรบมือชอบใจใหญ่หลังจากเห็นการรำของทั้งสองคนแล้ว “สูสีกับเด็กนาฏศิลป์เลยนะ พูดจริงไม่ได้ยอเวอร์นะเนี่ย”



“จริง” แวนดี้ลากเสียงยาว “ดีงามมากอ่ะ เราพักกันก่อนดีกว่าเนอะ แซนดี้แวนดี้เตรียมมื้อใหญ่มาให้แล้ว อิอิ”



“จริงค่ะ!” แซนดี้พยักหน้ายืนยันอีกเสียง ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินออกไปนอกห้อง แต่ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ในมือ “อาหารญี่ปุ่นจัดเซ็ต!”



“โห... เลี้ยงดีขนาดนี้เลยเหรอ” แก้มทำตาโตเมื่อเห็นแซนดี้กับแวนดี้หยิบออกมาจากถุง



เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ถูกจัดเป็นเซ็ตเบนโตะ มีทั้งเทมปุระ ปลาดิบ ข้าวปั้น ข้าวห่อสาหร่าย สลัด เรียกว่าเป็นชุดใหญ่เลยทีเดียว



“เมื่อกี้แซนดี้กับแวนดี้เจอผู้ใหญ่ใจดีมาค่ะ เลยไปไถตังค์มา บอกจะเอามาเลี้ยงน้องดาวเดือน” แซนดี้เล่า



“ผู้ใหญ่ใจดี” แก้มทวนคำอย่างสงสัย



“ใช่ค่ะ! ผู้ใหญ่ใจดีมาส่งเด็กส่งงานน่ะค่ะ”



เหมือนหินผาจะเข้าใจเป็นคนแรก “พี่กันต์สินะ”



“ใช่เลยค่า~~” แวนดี้ทำท่าเลียนแบบพิธีกรรายการ ก่อนจะหยิบชุดเบนโตะส่งให้ทุกคนจนครบ หันไปมองหน้ารุ่นน้องดาวเดือน “ชุดอาหารดี ๆ แบบนี้วันนี้วันเดียวนะคะ งบเรามีไม่เยอะมาก แต่อันนี้ได้ผู้ใหญ่ใจดีเลี้ยงมา”



สายน้ำหัวเราะ พยักหน้ารับ “ผมได้หมดแหละครับ”



“น่ารัก!” แวนดี้ว่า ยื่นมือมาบีบแก้มทั้งสองข้างของสายน้ำแล้วส่ายไปมาอย่างหยอกล้อ คนโดนบีบแก้มก็ไม่ได้ว่าอะไร อีกทั้งยังยิ้มแล้วก็หัวเราะอีก



หลังจากพักเบรกพร้อมมื้อกลางวันแสนอร่อยจบลงแล้ว พวกเขาก็เริ่มซ้อมรำกันต่อ คราวนี้รุ่นพี่ปีสี่ทั้งสองคนให้สายน้ำกับน้ำรินรำคู่กันเลยเพื่อช่วยดูจังหวะแล้วก็ระยะการเดิน การยืนของทั้งคู่ เพราะเวลาที่เหลืออยู่มีไม่ถึงเดือน พวกเขาจึงต้องซ้อมกันอย่างหนักเพื่อให้วันประกวดดาวเดือนการแสดงของพวกเขาออกมาดูดีที่สุด



หลังจากท่ารำที่ซ้อมในตอนเช้าคล่องแล้วพวกเขาก็เริ่มซ้อมท่าต่อ ๆ ไปในทันที กว่าจะซ้อมเสร็จก็เป็นเวลาเย็นจนเกือบค่ำแล้ว



สายน้ำกับน้ำรินนั่งพักแขนพักขาอยู่บนพื้น รู้สึกเมื่อยล้าไปหมดเพราะต้องยกแขนตั้งวงเป็นเวลานาน ไหนจะขาที่ต้องคอยยกค้าง ยกวาง



“พรุ่งนี้รินว่ารินต้องปวดแขนมากแน่ ๆ เลย” น้ำรินที่ตอนนี้แทบจะลงไปนอนบนพื้นว่าออกมาให้รุ่นพี่มองยิ้ม ๆ



“นี่ ยาแก้ปวด แวนดี้กับแซนดี้ไปซื้อเตรียมมาให้แล้ว” แก้มส่งทั้งยาทา ยากินให้น้ำรินกับสายน้ำคนละชุด



ทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะรับมา นั่งพักกันจนหายเหนื่อยรุ่นพี่ก็เอ่ยปากให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน



“แยกย้ายกันกลับเถอะ นี่ก็เริ่มมืดแล้วเดี๋ยวจะกลับลำบาก แซนดี้แวนดี้ไปส่งน้ำรินที่ห้องด้วยนะ” แก้มพูดพลางก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ



"ได้เลยค่า" แซนดี้กับแวนดี้เองก็รับคำทันที



“เดี๋ยวเราไปส่งแก้มเอง” หินผาพูดก่อนจะหันมามองรุ่นน้องอีกคน “เราก็ด้วย เดี๋ยวพี่ไปส่ง”



“ไม่เป็นอะไรครับ ผมกลับเองได้ครับ” สายน้ำรีบปฏิเสธทันทีด้วยความเกรงใจ “ผมอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นั่งรถไปได้สบายมากครับ”



“พี่ไปส่ง” อีกฝ่ายไม่สนใจคำปฏิเสธของรุ่นน้อง หันไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย ทำให้คนอื่น ๆ ลุกตาม



น้ำรินแยกไปกับแวนดี้แซนดี้อีกทางเมื่อลงมาถึงข้างล่างแล้ว หินผาหันมามองรุ่นน้องคนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ “ไปเถอะ”



“ครับ ขอบคุณครับ” เพราะรู้ว่าคงปฏิเสธไม่ได้แน่ ๆ ก็เลยยอมรับคำ



“สายน้ำนั่งหน้าเลยจ้า หอพี่อยู่หน้ามอนี่เอง พี่ลงก่อนเราอยู่แล้ว” แก้มพูดเมื่อพวกเขาเดินมาถึงรถของหิน



สายน้ำที่ตั้งท่าจะขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังก็ชะงักแล้วเปลี่ยนไปนั่งข้างคนขับแทน เมื่อทุกคนขึ้นประจำที่เรียบร้อยแล้วเจ้าของรถก็ขับรถออกจากบริเวณลานจอดรถของคณะทันที ไม่นานก็แวะจอดส่งแก้มที่หน้าหอพัก ก่อนจะหันมาถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ



“เราอยู่ตรงไหนนะ”



“ตรงไปเลยครับ สามป้ายรถเมล์ครับ แต่จริง ๆ พี่ให้ผมกลับเองก็ได้นะ” สายน้ำตอบ



“ไม่เป็นอะไรหรอก จะแวะซื้ออะไรไปกินก่อนไหม”



คนถูกถามส่ายหน้าไปมา แม้จะแอบหิวก็ตามแต่เพราะเกรงใจคนที่ขับรถไปส่ง ถ้าเขาแวะซื้อของอีกฝ่ายก็ต้องรออีก ทำให้กลับถึงห้องดึกกว่าเดิมอีก ที่ใต้คอนโดมีร้านสะดวกซื้ออยู่ค่อยไปซื้อที่นั่นก็ได้ เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว “ไม่เป็นไรครับ รีบกลับดีกว่าครับพี่จะได้กลับไปพักด้วย”



เพราะไม่ใช่เวลารถติดใช้เวลาไม่นานเลยรถของหินผาก็จอดเทียบหน้าคอนโดของรุ่นน้องในคณะคนนี้ สายน้ำหันมายกมือไหว้ขอบคุณคนที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งเขาถึงคอนโด



“ขอบคุณนะครับพี่หินผา”



“ไม่เป็นอะไร รีบไปพักผ่อนเถอะ” อีกฝ่ายพูดยิ้ม ๆ



“ครับ... ขับรถกลับดี ๆ นะครับ” สายน้ำพูด เจ้าตัวมีสีหน้าลังเลก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ “เอ่อ... พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ ฝันดีครับ”



“ขอบใจ” หินผายิ้มก่อนจะอวยพรให้อีกคนฝันดีเช่นกัน “ฝันดีนะ”



สายน้ำพยักหน้ารับก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในคอนโด รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาดึงดูดสายตานั้นทันที เจ้าตัวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกปนดีใจ



คืนนี้... สายน้ำว่าเขาจะต้องนอนหลับฝันดีแน่นอนเลย





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาแล้วคร้าบบบบ

พี่หินผาของเรามาสอนน้องรำไทยด้วยอ่ะ อย่าดุน้องมากนะ

อยากเห็นสายน้ำตอนรำเลยเนอะ ^^

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-02-2019 00:00:24
ไม่น่าเคยรำมาก่อนเลยสายน้ำ ไม่งั้นมีโดน...... มากกว่านี้  :katai3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-02-2019 01:51:37
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี่กันต์โผล่มาแต่ชื่อ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 16-02-2019 02:19:37
น่ารัก ไม่คิดว่าพี่หินผาจะรำได้นะเนี่ย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-02-2019 02:36:39
เริ่มสร้างความสนิทจากประกวดดาวเดือนนี่แหละ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 16-02-2019 12:28:09
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-02-2019 12:44:56
พี่หินผารำเป็นด้วย อยากเห็นจัง.
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 16-02-2019 18:29:39
ฝันดีนะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 16-02-2019 19:56:34
อิพี่ดู ไม่หือไม่อือกับน้องเลยอ่ะ

เยๆๆพี่กันต์ก็มา(มาแต่ชื่อ) งื้อออ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 16-02-2019 20:03:17
ตอนเด็กเคยไปหัดรำด้วยกันป่าวเนี่ยสองคนเนี้ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: SuPeRDonGDanG ที่ 17-02-2019 00:46:20
พี่กันต์ยังคงเป็นสายเปย์เสมอ มาแต่ชื่อก็ดีต่อใจค่ะ><

หินผาใจดีกับน้องมากเลยอะ สงสัยจะถูกชะตาอยากรู้จังว่าเขาจะรักกันได้ยังไง

รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 17-02-2019 07:33:54
พี่กันต์ยังคงสายเปย์ ถึงจะมาแค่ชื่อก็พอทำให้หายคิดถึง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 17-02-2019 10:20:24
พี่หินผารำไทยเป็นด้วย ว้าววววววววววว เซอร์ไพรส์มากเว่อร์!!!!!!!!!!!
อดตื่นเต้นไม่ได้
รออ่านนะคะ   :mew1: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [70%] l P.3 15-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 17-02-2019 19:37:16
นั่นไง เจอแล้วใช่ไหม คนที่ตามหา
หินผามาแนวสุขุมมากค่ะ แต่อย่าให้ได้ดุ

สายน้ำจากน่าเอ็นดูตอนอยู่กับเพื่อน
กลายเป็นดูหล่อตอนได้เป็นเดือนเลยค่ะ
ให้อารมณ์ต่างกันนิดนึง

แหมมม พี่กันต์แค่ตัวโผล่มา ก็ยังคงความเป็นพี่ใจดีนะ
อยากเจอเดียร์ด้วยค่ะ แวบมาดูเพื่อนซ้อมด้วยก็ได้นะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 20-02-2019 22:13:52
(https://i.ibb.co/dG7bsgW/02.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “2”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





การซ้อมประกวดดาวเดือนเป็นไปอย่างจริงจังและค่อนข้างหนักเพราะหลังเลิกเรียนในแต่ละวันสายน้ำกับน้ำรินก็ต้องมาซ้อมร้องเพลง ซ้อมเดินร่วมกับดาวเดือนจากแต่ละคณะอยู่เกือบสองชั่วโมง เสร็จจากตรงนี้ก็ต้องไปซ้อมรำสำหรับการแสดงความสามารถพิเศษอีก กว่าจะเลิกซ้อมก็ค่ำมืด กลับถึงห้องแล้วก็ยังไม่ได้พักเพราะงานที่อาจารย์สั่งก็ยังกองรอให้ต้องกลับไปทำ



ตารางชีวิตประจำวันในช่วงนี้ทำให้สายน้ำรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดนิด ๆ ที่ยอมรับตำแหน่งนี้มา นอกจากเวลาเรียนเขาแทบไม่ได้เจอกับเพื่อนในกลุ่มเลย ไม่มีเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ด้วย กิจกรรมรับน้องก็ไม่ได้เข้าเพราะต้องไปซ้อมเพื่อการประกวด จะมีก็แค่บางวันที่เลิกเรียนเร็ว มีเวลาก่อนถึงเวลานัดให้ได้อยู่กับเพื่อน ๆ บ้าง



เจ้าของร่างเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่หนึ่ง ลุกจากโต๊ะทำงานหลังจากที่เขาเพิ่งจะปิดคอมพิวเตอร์ไป บิดคอ บิดตัวเพื่อไล่ความเหมื่อยขบ เสียงกระดูกลั่นจนต้องร้องออกมาเบา ๆ ร่างกายของเขาล้ามากทีเดียว



โชคดีที่ในวันรุ่งขึ้นเขามีเรียนตอนบ่าย เพราะคาบเช้าอาจารย์ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มเพื่อบอกยกเลิกคลาส เขาเลยมีเวลานอนหลับให้ร่างกายได้พักผ่อนในช่วงเช้า คิดได้แบบนั้นก็แย้มยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองมาบนเตียงนอนหลังใหญ่แล้วซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนานุ่ม



หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นไปเรื่อย ๆ ในเฟซบุ๊กมีคนแท็กภาพของเขาเข้ามาค่อนข้างเยอะ ดู ๆ แล้วน่าจะเป็นบรรดารุ่นพี่ในทีมกองประกวดดาวเดือน เพราะภาพแต่ละภาพเป็นตอนที่เขากำลังซ้อมร้องเพลงแล้วก็ซ้อมเดินทั้งนั้น



ส่วนภาพตอนเขาฝึกรำไทยนั้นไม่มีเลย การแสดงความสามารถนั้นค่อนข้างเป็นความลับที่จะไม่เปิดเผยออกไป



“หือ...” ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเพื่อเห็นการแจ้งเตือนในเฟซบุ๊ก ชื่อของคนที่เขาแอดขอเป็นเพื่อนไปตั้งแต่วันก่อน... ตอนนี้ขึ้นว่าได้กดรับเขาเป็นเพื่อนแล้ว



ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่ปลายนิ้วจะเลื่อนไปกดที่ชื่อของคนที่ยอมรับเขาเป็นเพื่อน นั่งดูสเตตัสแล้วก็รูปไปเรื่อย ๆ อีกฝ่ายไม่ค่อยอัปสเตตัสอะไร แต่มีโพสต์รูปบ้าง แม้จะไม่เยอะแบบที่มีทุกวันแต่ในหนึ่งสัปดาห์ก็มีสองหรือสามรูปที่อีกฝ่ายโพตส์ลง แล้วที่เหลือก็เป็นสเตตัสที่เพื่อน ๆ แท็กหา



สายน้ำขำเบา ๆ ตอนที่ไล่อ่านคอมเมนต์บนสเตตัสของอีกฝ่ายที่แชร์เพลงรักเอาไว้ ดูท่าแล้วน่าจะเป็นแฟนคลับที่เข้ามาคอมเมนต์ถามพร้อมกับโอดครวญว่าเพลงรักที่แชร์ไปเพราะชอบหรือต้องการส่งให้ใครกันแน่ แต่ละคอมเมนต์ก็ตลก ๆ ทั้งนั้น



แต่เพลงที่อีกฝ่ายแชร์ก็น่าคิดไปในเชิงว่าส่งถึงใครสักคนจริง ๆ นั่นแหละ



นั่งคิดไปเพลิน ๆ เหม่อ ๆ ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อโทรศัพท์ในมือสั่นจากการแจ้งเตือน ก่อนที่ข้อความของใครบางคนจะเด้งขึ้นมาให้สายน้ำตาโตอีกรอบ



HinPaa
แอบส่องเฟซพี่เหรอเรา




SAINAM karp
เปล่านะครับ
*สติ๊กเกอร์ทำหน้าตกใจ*


HinPaa
ขี้โม้นะเรา
มันขึ้นแจ้งเตือนพี่มาเนี่ยว่าเรากดถูกใจโพตส์พี่
แถมเป็นโพตส์ตั้งนานแล้วด้วย
แบบนี้ไม่เรียกว่าส่องได้ยังไงกัน




SAINAM karp
อ่า...
ผมก็ดูไปเรื่อย ๆ แหละครับ



สายน้ำส่งข้อความตอบโต้อีกสามสี่ครั้งบทสนทนาก็หยุดลงเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยให้เขาไปนอนพร้อมทิ้งท้ายเอาไว้ว่าฝันดี เขาเลยไม่รู้จะส่งอะไรตอบกลับไปดีนอกจากนั่งมองข้อความนั้นอยู่แบบนั้น ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความกลับไปว่าฝันดีบ้าง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ส่งอะไรกลับมา เขาจึงเปลี่ยนไปเล่นเฟซบุ๊กต่อ



ตอบข้อความของเพื่อนในกลุ่มที่พรุ่งนี้นัดกินข้าวกลางวันกัน เขาเองก็ตอบตกลงตามคำชวนของเพื่อน ๆ นัดแนะเวลากันเรียบร้อยก็แยกย้าย หลังจากเปิดเทอมมาได้ไม่นานสายน้ำก็ได้เพื่อนเพิ่มนอกจากแบงก์กับตั้มที่บังเอิญเจอกันตอนวันปฐมนิเทศ ก็มีอีกสองคนเป็นผู้หญิงทั้งคู่คือเบลกับมะนาว ได้มาเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันเพราะคาบแรกนั่งใกล้กันแล้วอาจารย์ให้จับกลุ่มพอดี หลังจากนั้นเลยกลายเป็นว่าสนิทกัน



ดูเวลาอีกทีก็พบว่าเข้าสู่วันใหม่มาแล้วเรียบร้อย เห็นแบบนั้นก็คิดว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องนอนสักทีจะได้นอนหลับได้ยาว ๆ พอคิดว่าจะนอนก็รู้สึกง่วงจนต้องหาวออกมา สายน้ำลุกไปปิดไฟในห้อง ก่อนจะอาศัยแสงสว่างจากโทรศัพท์ส่องพาตัวเองมาถึงเตียง



ตวัดผ้าห่มมาคลุมตัวเอง พลิกตัวเพื่อหาท่าที่สบายที่สุดแล้วจึงหลับตาลง



ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนอนผิดเวลาหรือเปล่าเลยทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับขึ้นมาเสียอย่างนั้น สายน้ำเป็นบ่อย เวลานอนปกติของเขาจะไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งถ้าหากวันไหนนอนหลังเที่ยงคืนเขาจะกลายเป็นคนหลับยากไปทันที กว่าจะหลับได้บางทีก็น่าจะนานร่วมชั่วโมงเหมือนกัน แถมยังหลับไม่สนิทด้วย



ถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ตัวว่าอาการนี้กำลังกลับมาอีกครั้ง ร่างกายอ่อนล้าอยากพักผ่อน แต่เหมือนกับว่าดวงตาและสมองของเขามันยังทำงานอยู่จึงไม่สามารถหลับได้



มือหยิบโทรศัพท์มากดอีกรอบเพื่อหาเพลงฟัง หลายครั้งที่เขาให้วิธีเปิดเพลงฟังไปเรื่อย ๆ จนเผลอหลับไป คืนนี้เห็นทีว่าคงต้องใช้วิธีนี้อีก ปลายนิ้วที่กำลังกดหาชื่อเพลงชะงัก พลางนึกไปถึงชื่อเพลงที่ใครบางคนแชร์เอาไว้แล้วเขาก็เผลอไปกดถูกใจแบบไม่ทันตั้งตัว



เขาไม่เคยฟังเพลงนั้น คิดว่าอยากจะลองฟังสักหน่อย... เลยจัดการพิมพ์ชื่อเพลงนั้นลงไป กดเพิ่มเข้าเพลย์ลิสส่วนตัวและเปิดฟังวนซ้ำ ๆ ไปแบบนั้น



เพลงเล่นวนซ้ำไปได้สองรอบคนที่คิดว่าไม่น่าจะหลับได้ง่าย ๆ ก็ผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย โดยมีเสียงเพลงดังคลอไปตลอดคืนเหมือนต้องการกล่อมให้สายน้ำนอนหลับฝันดี







หากฟ้ามีดวงดาวเพื่อให้ฉันนับดาว
จะนับดาวที่มีบนฟ้ากับใคร
หากสายลมเยือกเย็นจะมีให้ฉันรออ้อมแขนอุ่น
เธอ คือเธอคนเดียว แล้วเธออยู่ไหน


หากหัวใจมีคำหนึ่งคำที่ฉันต้องเอ่ย
บอกให้ใครสักคนเข้าใจความหมาย
หากหนทางยาวไกลจะมีให้ฉันได้คิดถึงใคร
เธอ คือเธอคนเดียว แล้วเธออยู่ไหน


การเดินทางยาวไกลที่เราตามหา
ใครสักคนนั้นได้สิ้นสุดลง เมื่อได้มาพบเธอ
กับทุกความฝันที่เคยมี จะวางตรงนี้ไว้คู่กับเธอ
และพร้อมจะทำเพื่อเธอ เพื่อเธอคนนี้ที่ฉันรอคอย


จบค่ำคืนยาวนานกับการที่ฉันเฝ้ารอ
จากนี้ไปคงมีแต่เธอเท่านั้น
จะนับดาวที่มีมากมายบนฟ้าในอ้อมแขนอุ่น
เธอ คือเธอคนเดียวที่ใจต้องการ


จบหนทางยาวไกลที่เดินเงียบเหงาผู้เดียว
จากนี้คงมีเธอคอยถามเหนื่อยไหม
และถ้อยคำในใจก็คงมีเธอให้ฉันได้บอก
เธอ คือเธอคนเดียวที่ใจต้องการ




-----------------------------------------------
เพลง : เดินทาง นับดาว รอคอย / ศิลปิน : เชษฐา ยารสเอก – วรรธนา วีรยวรรธน






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มีความคุยโต้ตอบกันทางแชทของเฟซบุ๊กด้วยน้า
น้องไม่ได้ตั้งใจจะกดถูกใจ แต่เลื่อนเพลิน ๆ มือเลยไปโดน
พี่ก็ทักเร็ว เห็นน้องกดก็เข้ามาทักเลยจ้า
คืนนี้น้องสายน้ำคงนอนหลับฝันดี
แล้วคนอ่านจะนอนหลับฝันดีเหมือนน้องไหมน้าาาาาา

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-02-2019 22:28:56
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมพี่หินผาถึงรีบทักแชทมาหาหว่า?  แค่นุ้งสายน้ำกดถูกใจทู้เตตัสเก่า ๆ แค่นั้นเองนะ

หรือว่า...พี่แกแอบสนใจนู๋สายน้ำอยู่เอ่ย?
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-02-2019 00:27:20
ตกลงก็ใส่ใจด้วยกันทั้งคู่นั่นแหล่ะ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 21-02-2019 00:56:42
 :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2019 02:22:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-02-2019 06:09:15
เอ็นดูสายน้ำ พี่รับแอดก็ใจชื้นแล้ว ไปตามส่องพี่
แล้วพี่ทักมา มีอาการกว่า แถมนอนฝันดีเพราะมีเพลงกล่อมด้วย

ตลกหินผา หยอดหรอ มาไวไปไว กลัวน้องนอนดึก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 21-02-2019 06:29:47
หรือจะมีการอ้อยกันเกิดขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-02-2019 10:17:29
 ยังไง​ พี่หิน​   รอน้องมาส่องเฟสป่าว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-02-2019 16:03:26
แอบจับผิดน้องหรอคะพี่หินผา :)
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 21-02-2019 21:34:26
เอ...น้องที่พี่หินพูดว่าเคยเรียนรำมาด้วยกันนี่ใช่น้องน้ำหรือเปล่าน้าาาาา
คิดถึงพี่กันต์จังเลย...คนนี้นี่ค่าตัวแพงกว่าคือ..มาแค่ชื่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-02-2019 22:06:27
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 22-02-2019 00:48:25
แหน๊ รับได้เพราะเพลงที่พี่แชร์
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-02-2019 02:07:29
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-02-2019 07:20:09
แหมพี่หินทักน้องกลับมาทันทีเชียว ปกติน่าจะไม่ค่อยเล่นโชเชียลนี่นา เอ็นดูน้องล่ะสิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "2" [100%] l P.3 20-02-2561
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 22-02-2019 12:36:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-02-2019 22:44:08
(https://i.imgur.com/PS8KAhh.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “3”







“วันนี้เลิกคลาสได้ เจอกันคาบหน้าเด็ก ๆ” อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้องว่าจบก็เดินออกจากห้องไป นักศึกษาที่นั่งอยู่ก็เริ่มทยอยเดินออกจากห้อง



“ไปกินข้าวไหนกันดี” แบงก์เอ่ยถามในระหว่างที่เดินออกจากห้องเรียน หมดคาบนี้ก็เป็นช่วงพักพอดี ก่อนที่จะมีเรียนต่อในตอนบ่าย



“ตอนบ่ายมีเรียน ไปกินที่โรงอาหารก็ได้มั้ง นี่ก็จะบ่ายโมงแล้วคนคงไม่เยอะเท่าไหร่แล้วล่ะ” เบลพูดพลางมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์



วิชาเรียนในคณะของพวกเขาจะว่าแปลกก็แปลก เพราะตอนเช้าเวลาเรียนมักจะคาบเกี่ยวช่วงกลางวัน เริ่มเรียนเก้าโมง เลิกบ่ายโมง ข้อดีก็มีเพราะตอนเช้าไม่ต้องรีบมาก แถมตอนพักคนก็ไม่เยอะไม่ต้องไปแย่งที่นั่งกันในโรงอาหาร แต่ลำบากนิดหน่อยตอนเวลาเลือกวิชาที่จะลงเรียนในตอนบ่าย เพราะคณะอื่นส่วนใหญ่จะเริ่มคาบเรียนตอนบ่ายโมง



พวกเขาทั้งห้าคนเดินไปยังโรงอาหารกลางที่อยู่ไม่ไกลจากคณะมากนัก เพราะเป็นเวลาบ่ายแล้วคนในโรงอาหารจึงไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ มีโต๊ะให้เลือกนั่งได้ พวกเขาเลือกนั่งด้านนอก โต๊ะริมเสา ใกล้ ๆ กับสวนที่จัดเอาไว้



วางกระเป๋าจองที่เรียบร้อยก็แยกกันไปซื้อข้าว สายน้ำกวาดสายตาไปตามร้านอาหารก่อนจะเลือกไปยืนต่อแถวที่ร้านขายข้าวมันไก่ ไม่นานก็ได้ข้าวมันไก่มาถือไว้ในมือ แวะซื้อน้ำเปล่าหนึ่งขวดแล้วจึงเดินกลับไปที่โต๊ะ



ไม่มีใครพูดคุยอะไรต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากินข้าวเพราะหิว เงยหน้าขึ้นมองกันอีกทีก็ตอนที่อาหารในจานนั้นหมดเกลี้ยงแล้ว รวมจานซ้อนกันก่อนที่ตั้มที่นั่งด้านนอกจะลุกเอาจานไปเก็บให้แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิมอีกรอบ



“นั่นพี่หินผากับพี่เดียร์นี่” สายตาของทุกคนหันไปมองตามสายตาของมะนาว เพื่อนสาวอีกคนในกลุ่ม ก่อนจะเห็นรุ่นพี่ปีสี่ที่รู้จักและสนิทสนมกันพอสมควรเดินมาที่โรงอาหาร “พวกพี่เขาเป็นแฟนกันหรือเปล่านะ ดูสนิทกันจัง”



“ก็จริงนะ ดูพี่หินผายอมพี่เดียร์ตลอดเลย” แบงก์เองก็ชักจะเห็นด้วยกับคำพูดของมะนาว หันไปมองรุ่นพี่ทั้งสองคนอีกรอบ



มือของหินผายกขึ้นวางบนผมของคนที่เตี้ยกว่าแล้วยีไปมา อีกคนก็ทำท่าทางเหมือนจะโวยวายให้หินผาหัวเราะขำแล้วก็ยอมละมือออกจากผมนั้นเปลี่ยนมาเป็นพาดแขนไว้ที่ไหล่ของเดียร์แทน ทั้งคู่หยุดยืนอยู่ตรงบันไดขึ้นเหมือนกำลังรอใครสักคนก่อนที่จะเห็นรุ่นพี่อีกคนวิ่งเข้ามาหา



“แต่เราได้ข่าวมาว่าพี่เดียร์มีแฟนแล้วนี่” เบลพูดขึ้นมา



“อย่างนั้นเหรอ พี่เดียร์อาจจะมีแฟน แต่พี่หินผาก็อาจจะชอบพี่เดียร์ก็ได้นี่นา ดูตามใจแล้วก็ยอมให้ตลอดเลย” ตั้มคิดไปอีกอย่าง



สายน้ำนั่งฟังเพื่อน ๆ แสดงความคิดเห็นเงียบ ๆ หันไปมองคนที่ถูกพูดถึงอีกรอบก่อนจะเบนสายตากลับมาหาเพื่อนในกลุ่ม



“อ้าว! ไง น้อง ๆ” เสียงทักทายของรุ่นพี่กลุ่มที่กำลังพูดถึงดังขึ้นให้พวกเขาพากันชะงัก ยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสามคนทันที



“สวัสดีครับพี่ ๆ”



“สวัสดีค่ะ”



“จ้า” ทัชยิ้มรับคำทักทายของรุ่นน้อง “ไม่มีเรียนกันเหรอ”



“มีอีกทีตอนบ่ายสองค่ะ” มะนาวตอบคำถามของรุ่นพี่



“ออ... เลยนั่งเล่นคุยกันอยู่นี่”



“ค่ะ กำลังคุยถึงพวกพี่ ๆ เลย” เบลพูด ก่อนจะทำตาโตเมื่อเผลอสารภาพออกไปว่ากำลังพูดถึงพวกเขาทั้งสามคน อีกความหมายหนึ่งก็คือกำลังนินทาอยู่เลย เจ้าตัวยกมือไหว้พลางยิ้มแหย “ขอโทษค่ะ พวกเราไม่ได้นินทาพี่ ๆ นะคะ”



แต่รุ่นพี่ทั้งสามคนไม่มีใครโกรธ อีกทั้งยังหัวเราะให้กับความโก๊ะของรุ่นน้องคนนี้ “ไม่เป็นไร ๆ แล้วพูดอะไรถึงพวกพี่กันอยู่ล่ะ”



พวกเขาเหลือบตามองกันก่อนจะหันกลับมาทางรุ่นพี่อีกรอบ เป็นแบงก์ที่ตอบคำถามของทัชที่ถามมาเมื่อครู่ “ก็... กำลังคุยกันว่าพี่หินผากับพี่เดียร์ ดูเหมือนเป็นแฟนกันเลยน่ะครับ”



จบประโยค ทัชกับเดียร์ก็หัวเราะออกมา ส่วนอีกคนที่ถูกพาดพิงด้วยก็แค่ยิ้มอย่างตลกเท่านั้น เดียร์โบกมือไปมาพลางตอบ “ไม่ใช่ ๆ พี่กับหินไม่ได้เป็นแฟนกัน”



“สงสัยไอ้หินโอ๋มึงเกินไปว่ะ คนเลยชอบคิดว่าพวกมึงเป็นแฟนกัน” ทัชหันมามองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองคน ก่อนจะชี้หน้าเพื่อนตัวสูง “หรือมึงแอบชอบไอ้เดียร์วะ!!”



คำถามของทัชทำเอาทุกคนหันมามองหินผา เหมือนกำลังรอฟังคำตอบ แม้แต่เดียร์เองก็ยังหันมามองอย่างสนใจ “มึงชอบกูเหรอ”



คนโดนถามถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยกมือดีดหน้าผากเพื่อนตัวเล็กไปหนึ่งทีจนเจ้าตัวยกมือลูกหน้าผากพลางร้องเจ็บ พอดีดหน้าผากเดียร์เสร็จก็หันไปเคาะหัวเพื่อนอีกคนที่แสดงความคิดเห็นประหลาด ๆ ออกมา



“พวกมึงก็คิดได้” หินผาถอนหายใจอีกรอบ “กูไม่นิยมของแปลกแบบไอ้นี่ อย่างเจ้านี่ให้พี่กันต์เขาไปเถอะ คนแรก คนเดียว และคนสุดท้ายที่จะเอามันอยู่”



ทัชหัวเราะเสียงดังกับคำตอบของเพื่อน ส่วนเดียร์ทำหน้าง้ำหน้างอใส่เพื่อน รุ่นน้องที่ฟังอยู่ก็อยากจะหัวเราะแต่ก็เกรงใจรุ่นพี่เลยได้แต่ยิ้มขำปนยิ้มแหย



“เอาเป็นว่าเคลียร์นะ พี่กับเดียร์ไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วพี่ก็ไม่ได้ชอบเดียร์ด้วย” หินผาหันมาพูดกับรุ่นน้องด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ให้น้อง ๆ ขานรับกันอย่างพร้อมเพียง “ออ... สายน้ำ เย็นนี้ซ้อมที่สตูฯ หรือเปล่า”



คนถูกถามที่นั่งฟังบทสนทนาเพลิน ๆ สะดุ้ง เงยหน้ามองคนถามก่อนจะคิดประมวลผลอยู่ในใจแล้วจึงพยักหน้ารับ “ใช่ครับ เสร็จจากทางกองประกวดก็มาซ้อมที่สตูฯ เหมือนเดิมครับ”



“ประมาณกี่โมง”



“อือ... วันนี้พี่กองนัดเร็ว สักหนึ่งทุ่มผมก็คงไปซ้อมที่สตูฯ แล้วล่ะครับ”



หินผาพยักหน้ากับคำตอบของรุ่นน้อง “โอเค เย็นนี้พี่ว่าง เดี๋ยวพี่จะเข้าไปช่วยดูให้นะ” ส่งยิ้มใจดีให้ก่อนจะหันไปหาเพื่อนอีกสองคนที่ไม่รู้ยืนเถียงอะไรกัน “ไปพวกมึง ไปกินข้าวเดี๋ยวจะได้ไปตรวจแบบกันต่อ”



"เออ ๆ” ทั้งสองคนรับคำ



“พวกพี่ไปแล้ว เอาไว้เจอกันใหม่นะ” เดียร์หันมาโบกมือให้กับรุ่นน้องก่อนจะเดินตามเพื่อนอีกสองคนไป



พวกรุ่นน้องก็ได้แต่ยิ้มให้กับท่าทางของรุ่นพี่ ก่อนที่ทุกคนจะหันกลับมาที่โต๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นบ้าง หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านบ้างอย่างที่ทำเวลาพวกเขาว่าง เพื่อรอเรียนในคาบต่อไป



แบงก์สะกิดตั้มเบา ๆ พลางพยักเพยิบไปที่ใครบางคนที่ดูเหมือนจะนั่งเหม่อลอย มะนาวกับเบลเองก็เหมือนจะสังเกตเห็นเหมือนกัน พวกเขาทั้งสี่คนมองหน้ากันก่อนที่แบงก์จะเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่ปกติ แต่คนโดนเรียกก็ยังไม่รู้สึกตัว เรียกซ้ำอยู่หลายครั้งก็ไม่ได้รับความสนใจ จนสุดท้ายแบงก์ก็ต้องตีมือพร้อมกับเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อด้วยเสียงที่ดังขึ้นมา



“สายน้ำ!”



คนโดนเรียกสะดุ้งด้วยความตกใจ หันกลับมามองเพื่อน ๆ ในกลุ่มอย่างงง ๆ “อ อะไร... มีอะไรหรือเปล่า”



“พวกกูสิต้องถามมึง มีอะไร นั่งเหม่อเชียวนะ กูเรียกหลายรอบแล้วไม่หือ ไม่อือ เลยนะมึง” แบงก์ว่า ส่ายหน้าให้กับอาการเหม่อลอยของเพื่อน



“นั่นน่ะสิ เอาแต่เหม่อ เป็นอะไรหรือเปล่า” มะนาวถามย้ำ



“อ่า... เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร แค่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง” สายน้ำยิ้มให้กับเพื่อน



แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่สายน้ำพูดสักเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยว ๆ สายตาของสายน้ำก็หันไปทางอื่น แล้วจึงวกกลับมามองหน้าเพื่อน คนอื่น ๆ เลยหันซ้ายหันขวาเพื่อมองตามสายตาของสายน้ำ



“มองพวกรุ่นพี่อยู่เหรอ” เบลที่มองตาม สายตาสะดุดอยู่ที่โต๊ะที่รุ่นพี่นั่ง “พวกพี่เดียร์ มองพี่เขาอยู่เหรอ”



“ม มองไปเรื่อย ๆ ไง”



“อะไรมึง ๆ แอบมองรุ่นพี่อยู่เหรอวะ” ตั้มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกมือขึ้นกอดคอสายน้ำ “ไหนมึง แอบมองใคร อย่าบอกนะว่ามึงแอบมองพี่เดียร์อยู่อ่ะ ชอบพี่เขาเหรอวะ”



คนโดนถามทำตาโต ทั้งส่ายหน้าทั้งยกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน “ไม่ใช่! กูไม่ได้ชอบพี่เดียร์โว้ย คิดไปได้นะมึงเนี่ย”



“ก็มึงอ่ะ! เอาแต่มองไปทางโต๊ะพี่เดียร์เขาอยู่ได้ ไม่เรียกว่าชอบแล้วจะเรียกว่าอะไรวะ” ตั้มยังคงทำหน้าตาไม่เชื่อในสิ่งที่สายน้ำปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทักถามอะไรต่อเบลก็ร้องขึ้นมาเสียก่อนว่าใกล้ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว พวกเขาทั้งหมดจึงรีบหยิบกระเป๋า หยิบของแล้วพากันเดินไปที่ห้องเรียน ตั้มก็เลยลืมเรื่องที่ตั้งใจจะถามไปเสียสนิทใจ



แต่คงไม่ใช่กับเพื่อนสาวคนนี้ที่ขยับมาเดินข้าง ๆ สายน้ำ ปล่อยให้เพื่อนคนอื่นเดินนำหน้าไป คนที่เป็นถึงเดือนคณะหันมามอง “ว่ายังไงเบล”



“น้ำไม่ได้ชอบพี่เดียร์ใช่ไหม” อีกฝ่ายถามกลับมาให้สายน้ำพยักหน้ารับก่อนที่เจ้าตัวจะชะงัก ตาโตกับประโยคต่อมาของเพื่อน “แต่ชอบพี่หินผาใช่ไหม”



“อ อะไรนะ” นานหลายวินาทีกว่าสายน้ำจะหาเสียงของตัวเองเจอ ถามออกไปอย่างไม่แน่ใจว่าเพื่อนของตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า



“สายตาผู้หญิงน่ะเฉียบกว่าสายตาผู้ชายนะ น้ำมองโต๊ะพี่เดียร์ก็จริง แต่สายตาไม่ได้อยู่ที่พี่เดียร์เลย อยู่ที่พี่หินผาตลอด ตอนที่พวกพี่เขาเดินมาที่โต๊ะก็เหมือนกัน น้ำก็เอาแต่มองพี่หินผาคนเดียวเลย” เบลพูดยิ้ม ๆ “ขนาดเราไม่ได้ตั้งใจจะสังเกตแต่หันไปเจอทีไรสายตาน้ำก็อยู่ที่พี่หินผาตลอด”



“อ่า...” สายน้ำได้แต่ยกมือขึ้นลูบผมตัวเองอย่างไม่รู้จะตอบอะไรออกไปดี



“ไม่ต้องห่วงหรอก เราไม่ห้าม ไม่ว่า ไม่รังเกียจ แล้วก็... ไม่บอกใครด้วยถ้าน้ำยังไม่พร้อมน่ะ”



“ขอบคุณนะเบล” สายน้ำยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสาว



เบลหัวเราะเบา ๆ ยกนิ้วชี้ขึ้นโบกไปมาก่อนจะเอ่ยเชิงล้อเลียนสายน้ำ “ยอมรับแล้วสินะ ว่าชอบพี่หินผาน่ะ”



สายน้ำตาโตจนแทบจะหลุดออกจากเบ้า เสียรู้ให้เพื่อนตัวเล็กคนนี้จนได้ ถ้าหากเขาไม่พูดขอบคุณก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่าสิ่งที่เบลพูดเป็นความจริง แต่นี่เขาเล่นพูดขอบคุณที่อีกฝ่ายจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับไปแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับการยอมรับกลาย ๆ เลยว่าเขาชอบรุ่นพี่คนนั้นจริง ๆ



“เบล... แกล้งเรานี่” สายน้ำเรียกเพื่อนเสียงยาว



“ไม่ต้องห่วง เราไม่บอกใครจริง ๆ สัญญาเลย” เบลชูนิ้วก้อยให้ดู “สรุปชอบพี่หินผาจริง ๆ สินะ”



“ก็... ใช่แล้วล่ะ” สายน้ำพยักหน้ารับกับคำถาม ก่อนจะรีบพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน “แต่เราไม่บอกนะว่าอะไรเป็นอะไร”



“จ้า ๆ เราไม่ถามก็ได้ เอาไว้ค่อยถามทีเดียวเลย” เบลพูด ยกมือตบไหล่ของสายน้ำเบา ๆ ก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เดินนำอยู่ด้านหน้า “เราเอาใจช่วยนะ จีบพี่หินผาให้ติดล่ะ”



เขาไม่ได้คิดที่จะจีบอีกฝ่ายเสียหน่อย...



ประโยคที่ได้แต่คิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป



ใบหน้าของสายน้ำหันกลับไปทางโรงอาหารอีกครั้งแม้จะเดินออกมาได้พอสมควรแล้ว แต่เพราะรู้ว่าใครบางคนยังคงนั่งอยู่ที่นั่นเขาถึงได้หันไปมอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปโรงอาหารเอาไว้แล้วจึงรีบเดินตามเพื่อน ๆ ไปต่อ



พวกเขาเลือกที่นั่งโซนตรงกลาง หลังห้องเพื่อที่จะได้สามารถมองเห็นจอโปรเจคเตอร์ที่อาจารย์เอาไว้ฉายสไลด์ได้อย่างชัดเจน อาจารย์ยังไม่เข้าห้อง แต่ละคนจึงหากิจกรรมทำระหว่างรออาจารย์ผู้สอน



สายน้ำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเหมือนกับเพื่อนคนอื่น ๆ เข้าแอปฯ สำหรับแต่งรูปเพื่อปรับแสงรูปโรงอาหารที่เขาเพิ่งถ่ายมาเมื่อครู่ จนได้สีภาพที่ถูกใจก็เปลี่ยนไปเข้าอีกแอปฯ แทน และจัดการโพสต์ภาพนั้นลงไปพร้อมข้อความสั้น ๆ



I am a slow walker, but I never walk back



แม้ว่าตอนนี้ความต้องการของเขาจะมีเพียงที่ได้เฝ้ามองและเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาแค่นั้น แม้ในอนาคตข้างหน้า เขาจะยังไม่คิดที่จะเริ่มก้าวไปหน้าข้าง แต่เขาก็จะไม่มีวันเดินถอยหลังกลับไปหาวันที่เขาไม่ได้ ‘รัก’



เพราะถ้าที่สายน้ำจำได้ ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ ‘ไม่รัก’







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาแล้วค่า~
มาช้าหน่อยรอบนี้ ขอโทษด้วยค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะมาเร็วกว่านี้
แต่ติดภารกิจบางอย่างเลยมาอัปไม่ได้ เลยได้มาวันนี้แทนค่ะ
ผ่านมา 2 ตอน แม้คนอ่านจะรู้กันอยู่แล้วล่ะว่าน้องชอบใคร
แต่นี่คือการยอมรับอย่างเป็นทางการครั้งแรกของน้อง

อะไรคือการรักพี่มากขนาดนี้ ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่รัก
นึกไม่ออกเลยว่าในใจน้องเก็บอะไรเอาไว้บ้าง และรักพี่มากขนาดไหน
เอาไว้น้องจะค่อย ๆ เผยความข้างในออกมานะคะ รอกันหน่อยเนอะ

ปล่อยให้จินตนาการเอาเองว่าใจน้องรักพี่แค่ไหน
ส่วนใจพี่ค่อยว่ากันอีกทีค่า อิอิ
เจอกันคราวหน้านะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-02-2019 23:22:26
 :pig4: :pig4: :pig4:

ก็แค่อยากรู้ว่า...ทำไมสายน้ำถึงรักมั่นในหินผาถึงขนาดตามมาเรียนในรั้วคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-02-2019 00:04:28
สายน้ำดูรักหินผามากๆเลยอ่ะ ชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าเพราะอะไ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-02-2019 00:05:21
โอ้ยยยยยย อยากรู้ใจจะขายรอน ๆ แล้วว่าน้ำไปรู้จักหินตอนไหนหว่า  :m28:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 27-02-2019 06:55:15
งุ้ยยยย รอเลยยยยย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-02-2019 07:30:42
อะไรยังงัยน้องสายน้ำ รักพี่หินผามาตั้งนานแล้วสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-02-2019 08:51:42
ไปเจอกันที่ไหนนะคู่นี้​ ถึงทำให้สายน้ำอยากมาเรีนนที่นี่
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-02-2019 16:16:20
ลุ้นต่อไป

เมื่อไรพี่หินจะกิ๊กน้อง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 27-02-2019 19:16:17
ต้องเคยเจอกันแน่ๆเลย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-02-2019 21:25:27
พี่หินทำอะไรน้ำถึงรักมากขนาดนี้ เจอกันตอนไหนนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 27-02-2019 21:58:50
มั่นคงมากเลยนะสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-02-2019 01:20:55
 :hao4:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [40%] l P.3 26-02-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-03-2019 02:13:25
เรื่องเป็นมายังไงกันแน่น้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 03-03-2019 23:05:33
(https://i.imgur.com/PS8KAhh.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “3”






❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






“ขาซ้ายต้องก้าวมาข้างหน้าอีกหน่อย หันมาด้านหน้าด้วยตอนนี้เราเอียงไปด้านข้างนะ ก้าวเท้าซ้ายมาหน้าอัด  ยกเท้าขวาเตะเท้ามาข้างหน้า ใช่... แบบนั้นแหละ มือขวาถือขวานแตะเอาไว้ที่เหนือเข่า” เสียงของหินผาดังขึ้นภายในห้องสตูดิโอที่สายน้ำมักมาใช้ในการซ้อมรำสำหรับการประกวดดาวเดือนที่กำลังจะมาถึง



“ครับ” สายน้ำรับคำพลางตั้งสมาธิกับการซ้อมรำให้มากขึ้น แต่สติของเขาก็มักจะกระเจิงทุกที



“วงอย่าตกสิ ขึ้นมาอีก ระดับนี้” หินผาเดินเข้าไปใกล้ จับมือและแขนของสายน้ำให้ยกขึ้นเพื่อให้ตั้งวงได้ในระดับที่เหมาะสม



“ครับผม”



“ท่านี้ไม่ต้องหันมาทั้งตัวแบบนั้น หันมาแค่หน้าพอ ท่าต่อไปถึงได้บิดตัวมา” เปลี่ยนจากจับแขนเป็นจับไหล่แล้วดันตัวสายน้ำให้หมุนตามมือ “วันนี้เราดูไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่เลยนะ”



สายน้ำถอนหายใจเบา ๆ ปล่อยแขนที่กำลังตั้งวงอยู่ในตกลงข้างลำตัว “นิดหน่อยครับ คงเพราะว่าวันนี้เหนื่อย ๆ ด้วย เลยทำให้ไม่มีสมาธิ”



“อย่างนั้นพักก่อนเถอะ”



“ครับ” สายน้ำเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าที่วางอยู่ข้างกระเป๋ามายกดื่ม ทิ้งตัวลงนั่งพิงกับผนังห้อง เหยียดขายาวเพราะรู้สึกปวดขาจากการย่อยกอยู่หลายครั้ง



“แล้วซ้อมของส่วนกลางเป็นยังไงบ้าง” หินผาตามมานั่งลงใกล้ ๆ กันพลางเอ่ยถาม



“ก็โอเคครับ ช่วงนี้พี่ ๆ เขาไม่ได้ซ้อมหนักเท่าไหร่เพราะให้เวลาพวกผมซ้อมการแสดงความสามารถพิเศษแทน แต่เดี๋ยวใกล้ ๆ ประกวดก็จะเรียกซ้อมอีกครับ” สายน้ำตอบคำถาม



“ก็ดีแล้วล่ะ ยังไงก็อย่าทิ้งเรื่องเรียนล่ะเข้าใจไหม”



คนถูกถามพยักหน้าหงึกหงัก “ครับ ผมไม่ทิ้งการเรียนแน่นอนครับ”



“ดีแล้วล่ะ แล้ววันนี้น้ำรินไม่มาซ้อมด้วยกันเหรอ” ถามไปถึงรุ่นน้องที่เป็นดาวคณะอีกคนที่วันนี้ยังไม่เห็นมาที่ห้องซ้อมเลย



“น้ำรินติดไปทำธุระกับที่บ้านครับเลยไม่ได้มา แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมนัดกับน้ำรินจะมาซ้อมกันตั้งแต่ตอนเช้าเพราะไม่มีเรียน”



“อย่างนั้นหรอกเหรอ วันนี้เราก็ซ้อมอีกหน่อยแล้วกัน ไม่ต้องดึกมากจะได้ไปพักเยอะ ๆ พรุ่งนี้ค่อยซ้อมใหม่ ดูท่าจะไม่ค่อยมีสมาธิเลย เรียนเหนื่อยล่ะสิ” หินผาใช้นิ้วเคาะหน้าผากของรุ่นน้องปีหนึ่งเบา ๆ พลางหัวเราะ



สายน้ำยิ้ม หัวเราะรับคำพูดนั้นเพราะเขาก็ไม่มีสมาธิจริง ๆ แต่ไม่ใช่ว่าเขาเหนื่อยจากการเรียน หรือการซ้อมของส่วนกลาง แต่เขาไม่มีสมาธิก็เพราะคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นี่ต่างหาก



วันนี้เป็นวันที่สายน้ำอยากจะแยกร่างตัวเองออกมาเป็นอีกคนแล้วสั่งสอนเสียหน่อยที่ไม่มีสมาธิและหลุดอาการบ่อยเสียเหลือเกิน ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าอยู่ ๆ ก็โดนเพื่อนจับได้ว่าเขาแอบชอบใคร พอคนที่แอบชอบมาอยู่ใกล้ ๆ ก็เลยพลอยทำให้ตื่นเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วสายน้ำสามารถเก็บอาการและความรู้สึกได้ดี



แต่วันนี้เขาหลุดอาการบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่อีกคนเดินเข้ามาใกล้ จับแขน จับไหล่เขาเพื่อจัดท่าทางการรำ โชคดีที่คนพี่สนใจแต่การสอนเลยไม่ทันได้สังเกตเท่าไหร่ พอสายน้ำตอบไปว่าเพราะเหนื่อยเลยไม่มีสมาธิ ก็เชื่อเสียสนิทใจ



“ขอบคุณพี่หินผานะครับที่มาช่วยดูผมซ้อมเป็นประจำเลย” สายน้ำพูด โดยพยายามที่จะไม่มองหน้าคนเป็นพี่เพราะกลัวว่าหัวใจของตัวเองจะเต้นแรงไปมากกว่านี้



“ไม่เป็นอะไรหรอก มีอะไรก็ถามพี่ได้ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน จริง ๆ ไม่ใช่แค่พี่หรอก รุ่นพี่ทุกคนก็ถามได้หมดนั่นแหละนะ”



“ครับ ขอบคุณนะครับ ผมจะตั้งใจให้เต็มที่เลย” ทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่หากสาว ๆ เห็นคนตกหลุมรักสายน้ำได้ไม่ยาก



“พร้อมจะซ้อมต่อหรือยัง ทวนท่าอีกสักรอบก็พอแล้วล่ะวันนี้” หินผาลุกขึ้นยืน เห็นแบบนั้นสายน้ำเลยลุกขึ้นตาม “พี่ว่าเราจำท่าได้หมด ให้รำคู่กับน้ำรินเลยก็คงได้ เพราะเก่งทั้งคู่ เก่งกว่าคนมาช่วยสอนอย่างพี่อีกมั้ง”



“ไม่หรอกครับ”



สายน้ำเริ่มซ้อมรำอีกรอบ คราวนี้เขามีสมาธิมากกว่าเดิมทำให้แทบไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลย ทำได้ดีจนหินผาปรบมือให้หลังจากสายน้ำวางมือทั้งสองข้างลงข้างลำตัว



“เยี่ยมเลย รอบนี้ดีมากเลยนะไม่มีผิดเลย นั่งพักก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยกลับห้อง”



สายน้ำพยักหน้ารับกับคำพูดของหินผา เจ้าตัวนั่งพิงผนังแม้การซ้อมรำจะไม่ได้ทำให้เหนื่อยหรือหอบจนเหงื่อยออกท่วมตัว แต่ก็ทำให้ปวดแขนปวดขากับท่าทางที่ใช้ในการรำไม่ใช่น้อย แม้จะเริ่มชินแต่แขนทั้งสองข้างก็ยังมีอาการปวดบ้างจนต้องบีบนวดให้รู้สึกดีขึ้น



“ว่าแต่เราเคยเรียนรำมาก่อนเหรอ” หินผาชวนคุย



“ใช่ครับ ตอนเด็ก ๆ น่ะครับ”



“หือ... เรียนที่ต่างประเทศน่ะเหรอ” หินผาถาม เขาเหมือนจะเคยได้ยินรุ่นน้องปีสองปีสามคุยกันว่าสายน้ำเพิ่งจะย้ายมาจากต่างประเทศ



“ออ... เปล่าครับ ตอนก่อนที่ผมจะย้ายไปต่างประเทศ ผมเคยเรียนตอนเด็ก ๆ ตอนอยู่ต่างประเทศก็มีโอกาสได้รำบ้าง พวกงานแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมอะไรพวกนี้น่ะครับ แต่ก็ไม่บ่อย” สายน้ำตอบคำถามของหินผา



นั่งพักกันอยู่ไม่นานคนเป็นพี่ก็เอ่ยชวนให้กลับไปพัก ซึ่งก่อนจะแยกย้ายก็แวะกินข้าวที่ร้านแถวหน้ามหาวิทยาลัยกันก่อน สายน้ำได้รู้เรื่องการเรียนในคณะเพิ่มมากขึ้น ได้คำแนะนำในการทำงาน ในการแบ่งเวลาจากคนเป็นรุ่นพี่



“รุ่นพี่ปีสองบอกว่าปีหนึ่งมีทำงานร่วมกับพี่ปีสีด้วยเหรอครับ” สายน้ำถามพลางหยิบแก้วน้ำแดงมาใกล้ตัว



“ใช่ เดี๋ยวเทอมสองพวกเราปีหนึ่งก็จะได้ทำงานกับปีสี่” หินผาตอบคำถามของสายน้ำ “เป็นโปรเจคที่มีมาหลายปีแล้วล่ะ ปีหนึ่งจะได้เริ่มออกแบบบ้านครั้งแรก ทำตามโจทย์ที่ปีสี่เตรียมเอาไว้ให้ เป็นของวิชาออกแบบ ส่วนปีสี่จะวางผังเมือง ผังชุมชนอะไรพวกนี้แหละ เป็นวิชาวางผังเมือง”



“ยากไหมครับ”



“ก็ไม่ยากเท่าไหร่นะ ตอนที่พี่อยู่ปีหนึ่งก็ทำ สนุกดีได้เที่ยว ได้ลงชุมชนด้วย” หินผาพูดไปก็ดึงจานข้าวของน้องมาใกล้ ๆ พร้อมกับตักข้าวที่โดนน้ำแกงของผัดพริกแกงในจานของรุ่นน้องมาใส่จานตัวเอง แล้วตักข้าวสวยร้อน ๆ ที่ไม่โดนน้ำแกงในจานตัวเองไปใส่จานของสายน้ำแทน “กินเผ็ดไม่ค่อยจะได้ก็ยังจะสั่งผัดพริกแกงอีกนะเรา”



“ขอบคุณครับ ก็ผมชอบ... ร้านนี้ทำอร่อยถึงจะเผ็ดเกินไปสำหรับผมก็เถอะ” สายน้ำเอ่ยขอบคุณ หลายครั้งที่พวกเขาได้มีโอกาสมากินข้าวด้วยกันหลังเลิกซ้อม และเพราะไม่รู้จักสั่งอะไรเลยสั่งเมนูผัดพริกแกงตามคนพี่ รสชาติอร่อยถูกปากแต่เผ็ดเกินไป หินผาเลยแบ่งข้าวส่วนที่ไม่เผ็ดของตัวเองให้ และตักของสายน้ำมาแทน



และพอครั้งต่อ ๆ มาที่มากินข้าวด้วยกันก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้าวกันแบบนี้เสมอ



“แล้วตอนพวกพี่อยู่ปีหนึ่ง ไปไหนกันเหรอครับ”



“ไปกระบี่น่ะ ที่เกาะลันตา ที่ไปกันก็เพื่อนในกลุ่มแล้วก็รุ่นพี่ที่เราอยู่ด้วย ไปกันเองอาจารย์ไม่ได้ไปคุมด้วย ยกเว้นบางกลุ่มน่ะนะที่อาจารย์ไป” หินผาพูด “เดี๋ยวตอนก่อนปิดเทอมหนึ่งอาจารย์เขาก็จะเรียกคุยเองแหละ ให้จับกลุ่มกันก่อนปิดเทอม เพราะเราจะไปลงชุมชนกันตอนช่วงปิดเทอม เปิดเทอมมาก็เริ่มทำงานเลย”



“ถ้าได้อยู่กลุ่มเดียวกับพี่ก็คงดีสิครับ” สายน้ำเผลอพูดไปอย่างที่ใจคิดก่อนจะตาโตขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไป “อ่า... คือแบบว่า...”



“ก็ได้นะ พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ตอนอาจารย์ให้เลือกรุ่นพี่ก็รีบมาลงชื่อกลุ่มพี่สิ จะได้อยู่ด้วยกันไง” หินผายิ้มรับอย่างใจดี ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเรื่องอยู่กลุ่มกับรุ่นน้อง ดีเสียอีกอยู่กับกลุ่มรุ่นน้องที่สนิทกัน “ทำงานจะได้คุยกันง่าย ๆ เพราะพวกเราก็สนิทกัน”



“ครับ... เอาไว้ผมจะคุยกับเพื่อน ๆ ดู”



หลังจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาใด ๆ ต่อ ต่างฝ่ายต่างลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างจริงจัง นั่งพักสักหน่อยหลังจากกินเสร็จก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปพักเพราะที่พักของพวกเขาอยู่คนละทางกัน สายน้ำยกมือไหว้รุ่นพี่เป็นการลาก่อนจะเดินไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดที่หน้าป้ายพอดี เขาเลือกเดินไปนั่งที่เบาะหลังสุดและหันไปมองทางกระจกหลัง



เพื่อมองใครอีกคนเดินไปอีกทางจนแผ่นหลังของหินผาลับสายตาไปแล้วนั่นแหละ เขาถึงได้หันกลับมา ก่อนที่สายตาจะหันเหความสนใจไปที่แก้วน้ำแดงในมือที่เขาหิ้วติดมือกลับมาด้วยเพราะยังกินไม่หมด จริง ๆ แล้วมันพร่องไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น เหลืออยู่เกือบเต็มแก้วเลย



ทุกคนที่มากินข้าวกับหินผา รุ่นพี่คนนี้ก็มักจะซื้อน้ำแดงให้เขากิน คงเข้าใจไปแล้วว่าเขาชอบกินน้ำแดงชงนี้



สายน้ำไม่ได้ชอบน้ำแดงชง แต่เพราะคนให้ ที่ทำให้สายน้ำชอบ







แก้วน้ำแดงถูกแช่เอาไว้ในตู้เย็น น้ำแข็งละลายไปบ้างแต่สายน้ำก็ไม่สนใจว่าน้ำแข็งที่ละลายนั้นทำให้น้ำแดงเสียรสชาติไป มันไม่ได้สำคัญเลย เพราะสิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือใครเป็นคนซื้อน้ำแก้วนี้ให้ต่างหาก



เจ้าของห้องเดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาในชุดพร้อมนอน มือทั้งสองข้างใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมที่เปียกชื้นของตัวเองก่อนจะเอาไปตากเอาไว้ที่ระเบียง เดินไปหยิบน้ำแดงที่แช่อยู่ในตู้เย็นออกมาแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์



แก้วพลาสติกทรงสูงจัดวาดบนถาดไม้กลม ๆ ก่อนจะตามมาด้วยโหลแก้วใบเล็ก ๆ ที่จัดสวนเอาไว้มาวางเยื้องไปทางด้านหลัง หยิบโทรศัพท์มาเปิดโหมดกล้องแล้วหามุมถ่ายภาพของแก้วน้ำแดง เอารูปที่ถ่ายได้เข้าไปแต่งสีแต่งแสงอีกหน่อย น้ำในแก้วพลาสติกราคายี่สิบบาทก็ดูดีขึ้นมามากเลยทีเดียว



สายน้ำโพสต์ภาพนั้นลงเฟซบุ๊ก แคปชั่นมีเพียงรูปอีโมจิแก้วน้ำอย่างเดียวเท่านั้น คงเพราะแบบนี้หินผาเลยเข้าใจว่าสายน้ำชอบน้ำแดง เพราะทุกครั้งเจ้าตัวจะต้องเอาแก้วน้ำนั้นมาจัดพร็อพถ่ายรูปทุกครั้ง พอลงรูปเสร็จเจ้าตัวก็เอาแต่นั่งมองแก้วน้ำนั้นแล้วยิ้มออกมา



การได้อยู่ใกล้หินผาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการที่เขาจะมายืนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ ในคณะเดียวกันนี้ เพราะไปอยู่ต่างประเทศมาหลายปี รูปแบบการเรียนการสอนของที่ประเทศไทยก็แตกต่างกัน เขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาอยู่ที่นี่



หรือไม่ว่าจะเป็นการที่เขาได้ใกล้ชิดในตอนที่อีกฝ่ายมาสอนรำ เพราะเขาต้องทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ทำตัวตื่นเต้นเกินกว่าเหตุ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วใจของเขากำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงเพราะได้ใกล้ชิดคนที่แอบรักมาตลอดหลายปี



และสายน้ำมั่นใจว่าความรู้สึกของเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไป



แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดที่จะทำอะไร การได้แอบรัก การได้มาอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ก็เกินกว่าที่คิดเอาไว้แล้ว เขาไม่อยากให้ความรู้สึกในใจของเขามาทำลายความรู้สึก และความสัมพันธ์ดี ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้พังลง ถ้าหากว่าหินผารู้ว่าเขาแอบรักแอบชอบ ด้วยสินัยของอีกฝ่ายคงไม่ใจร้ายตัดรอนความสัมพันธ์ อีกฝ่ายคงไม่หนีหรือถอยห่าง แต่ระหว่างพวกเขาจะต้องมีแต่ความอึดอัด ผลสุดท้ายแล้วก็คงไม่มีใครทนความอึดอัดนั้นได้ และต้องถอยห่างออกไป



สายน้ำไม่อยากจะคิดถึงช่วงเวลานั้นเลย ช่วงเวลาที่หินผาค่อย ๆ ถอยห่างจากเขาไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน



ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงจะรู้สึกเจ็บปวดมาก และเขาคงทนไม่ได้ การได้แอบชอบ แอบรักอยู่แบบนี้เขาว่ามันดีที่สุดแล้ว



เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเรียกความสนใจของสายน้ำที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ให้กลับมาที่โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว ทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ต่างเข้ามากดถูกใจแล้วก็คอมเมนต์ใต้ภาพที่เขาเพิ่งจะโพสต์ไป เห็นแบบนั้นสายน้ำเลยเข้าไปตอบกลับคอมเมนต์ของแต่ละคน จนมาสะดุดอยู่ที่คอมเมนต์หนึ่ง คอมเมนต์ของคนที่ซื้อน้ำแก้วนั้นให้



HinnPaa ไม่รีบกินเดี๋ยวก็ละลายหมดอร่อย




ได้แต่เม้มปากเพื่อที่จะกลั้นรอยยิ้มของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย บนใบหน้าหล่อเหลานั้นเผยรอยยิ้มกว้างอย่างเด็กน้อยที่กำลังดีใจเวลาได้เจอของรักของหวง



ปลายนิ้วเลื่อนไปกดถูกใจที่คอมเมนต์นั้น ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป



SAINAM karp ละลายแล้วก็ยังอร่อยอยู่ครับ



สายน้ำมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้รอคอมเมนต์จากอีกฝ่าย แต่มือข้างที่ถือโทรศัพท์ก็ขยันแตะที่หน้าจอเพื่อดูว่ามีการแจ้งเตือนเข้ามาอีกหรือเปล่า ส่วนมืออีกข้างก็ถือแก้วน้ำแดงเอาไว้ น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วแต่รสชาติสำหรับสายน้ำก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้จืดลงจนไม่อร่อย



HinnPaa พูดแบบนี้ค่อยน่าซื้อให้กินหน่อย



อีกหลายประโยค หลายคอมเมนต์ที่เขากับหินผาพิมพ์โต้ตอบกัน จนกระทั่งอีกฝ่ายพิมพ์มาอีกรอบเพื่อไล่ให้เขาไปพักผ่อน



HinnPaa ไปนอนได้แล้วมั้ง มัวแต่เล่นโทรศัพท์นะเราน่ะ



สายน้ำตอบกลับไปสั้น ๆ ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงหยิบแก้วน้ำที่กินน้ำหมดแล้วไปยังบริเวณเคาน์เตอร์ครัว เขาจัดการล้างแก้วให้สะอาดแล้ววางคว่ำเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังตู้แขวนเหนือเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งภายในตู้นั้นมีแก้วพลาสติกแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งล้างเก็บเอาไว้อยู่ รู้ว่าเก็บเอาไว้ก็คงไม่ได้เอามาใช้ทำอะไร แต่ให้ทำใจทิ้ง... ก็ทิ้งไม่ลง พอดีกับที่ตู้มันว่างสายน้ำเลยเก็บแก้วพลาสติกที่เคยใส่น้ำแดงที่หินผาซื้อให้เอาไว้ในนั้น



ก็แค่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีคุณค่าต่อจิตใจของสายน้ำก็เท่านั้น



สายน้ำละสายตาจากตู้ที่ว่าก่อนจะรีบตรงไปยังโซฟาเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงร้องเนื่องจากมีคนโทรเข้ามา เจ้าตัวยิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่าใครวีดิโอคอลมาหา เขากดรับก่อนที่ภาพบนหน้าจอโทรศัพท์จะปรากฏขึ้น เป็นผู้หญิงที่แม้จะเริ่มมีอายุแล้วแต่ก็ยังเห็นความสวยงามบนใบหน้านั้นได้



“แม่... สวัสดีครับ”



[จ้าลูก ยังไม่นอนใช่ไหม แม่โทรมากวนหรือเปล่า] อีกฝ่ายถามกลับมา



“ไม่กวนครับ น้ำยังไม่นอน ว่าแต่แม่จะออกไปไหนครับเนี่ย แด๊ดจะพาไปข้างนอกเหรอ” สายน้ำถามเมื่อสังเกตเห็นว่าแม่ของเขาแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ



[ใช่จ๊ะ วันนี้เรียนกับซ้อมรำเป็นยังไงบ้าง]



แม่ของสายน้ำรู้ว่าเขาได้เป็นเดือนคณะแล้วก็จะใช้การรำในการแสดงความสามารถพิเศษ “ก็ดีครับ ทั้งเรื่องสองเรื่อย”



[ดีแล้วล่ะลูก ตั้งใจเรียน รวมถึงกิจกรรมด้วยนะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ เนอะ]



“ครับ”



[แล้วเรื่องพี่เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ ไม่เห็นอัปเดทอะไรให้แม่ฟังเลย แด๊ดเขาก็อยากรู้นะ]



“แม่ครับ...” สายน้ำเรียกแม่ตัวเองเสียงยาวเมื่อเห็นใบหน้ายิ้ม ๆ ของคนเป็นแม่ “ไม่มีอะไรหรอกครับ ไม่มีอะไรอัปเดทเลย น้ำก็แค่เจอกับพี่เขาเพราะพี่เขามาช่วยสอนรำก็แค่นั้นเอง”



[หือ... เดี๋ยวนี้ลูกแม่ต้องให้พี่เขาสอนรำแล้วเหรอ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้นี่นะ นี่ลูกแม่แกล้งรำไม่เป็นให้พี่เขาสอนหรือเปล่า]



“แม่” สายน้ำเรียก ใบหน้าขาว ๆ ของเขาเริ่มขึ้นสีแดงเพราะเขินกับคำพูดของแม่ “น้ำไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นสักหน่อยครับ ก็น้ำไม่ได้รำนานแล้วเลยลืม ๆ ท่าไปบ้าง ไม่ได้ทำแบบที่แม่ว่าเลย”



[เหรอ... น่าเสียดายจัง ลูกน่าจะแกล้งรำไม่เป็นให้พี่เขาสอนเยอะ ๆ นะ]



“ได้ที่ไหนล่ะครับ แม่ก็... เลิกพูดเรื่องนี้เถอะครับ”



คนที่อยู่กันคนละประเทศหัวเราะเมื่อเห็นหน้าแดง ๆ ของลูกชายผ่านจอโทรศัพท์ [โอเค แม่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ เอาไว้ส่งรูปพี่เขามาให้แม่ดูบ้างสิ แม่อยากรู้ว่ายังหล่อเหมือนเดิมไหม]



“หล่อขึ้นกว่าเดิมอีกครับ พี่เขาดังมาก ๆ เลยในหมู่สาว ๆ เพื่อนในคณะน้ำก็พูดถึงพี่เขาประจำ”



[คู่แข่งลูกแม่เลยเยอะเลยสินะเนี่ย]



“น้ำไม่ได้จะจีบพี่เขาสักหน่อย” สายน้ำว่า “แต่เดี๋ยวครับ ทำไมวกกลับมาเรื่องพี่เขาอีกแล้วล่ะ แม่นี่ล่ะก็”



อีกฝ่ายยิ้มให้ลูกชาย สายตาของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ารักลูกชายคนนี้มากแค่ไหน [ก็แม่ชอบมองหน้าน้ำตอนพูดถึงพี่เขา สายน้ำของแม่ดูมีความสุขมาก ๆ ทั้งรอยยิ้ม ทั้งแววตา แม่รู้เลยว่าลูกรักพี่เขามากแค่ไหน]



สายน้ำรู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนมาก ๆ และมันต้องแดงมากเช่นกันเพราะแม่ของเขายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก เขารู้สึกร้อนที่แก้มมากจนต้องยกมือข้างที่ว่างปิดหน้าตัวเองเอาไว้



[ลูกชายแม่นี่น่ารักจริง ๆ เลยนะ]



“แม่ครับ... เลิกแกล้งน้ำเถอะ”



ปลายสายหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินลูกชายพูด [โอเค ๆ แม่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ที่นู้นน่าจะห้าทุ่มกว่าแล้วสิ อย่างนั้นไปนอนเถอะลูก เอาไว้แม่จะโทรฯ หาใหม่นะ]



“ครับแม่ วันนี้เที่ยวให้สนุกนะครับ น้ำคิดถึงแม่นะ ฝากบอกแด๊ดด้วยว่าน้ำคิดถึง”



[ครับลูก เอาไว้แม่กับแด๊ดจะไปหาลูกนะครับ ฝันดีนะสายน้ำ]



“ครับแม่”



สายถูกตัดไปแล้ว แต่รอยยิ้มของสายน้ำตอนที่ได้คุยกับแม่ยังไม่หายไปไหน การที่ต้องมาอยู่ประเทศไทยคนเดียวแบบนี้ก็อดที่จะคิดถึงกอดของแม่ ตักของแม่ไม่ได้ ถ้าแม่อยู่ใกล้ ๆ เขาคงขอนอนตักจนหลับไปแล้ว แต่เพราะว่าอยู่ไกลกันแม่ของเขาเลยโทรมาหาบ่อย ๆ เพื่อที่จะได้คุยกัน และหวังว่าให้ความคิดถึงมันไม่ทำงานหนักจนเกินไป



แต่พอนึกถึงเรื่องที่แม่พูดก็อดที่จะหน้าแดงอีกรอบไม่ได้ แม่และแด๊ด หรือก็คือสามีใหม่ของแม่รู้มาตลอดเรื่องที่เขาแอบชอบหินผา เขาไม่เคยปิดบัง ตั้งแต่วันที่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเขาก็เดินเข้าไปหาพวกท่านทั้งสองคนและเล่าทุกอย่างให้ฟัง แน่นอนว่าตอนได้ยินพวกท่านก็พากันตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะชอบจะรักคนเพศเดียวกัน



แล้วก็เป็นโชคดีของเขาที่แม่ของเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่ แม้จะตกใจแต่ก็ยอมรับได้ รับฟังและให้ความปรึกษา คำแนะนำกับเขามาตลอด แม่กับแด๊ดรู้ว่าที่เขาเลือกมาเรียนที่นี่เพราะอะไร พวกท่านไม่ได้ขัดหรือเอ่ยห้ามไม่ให้ผมมา อีกทั้งยังช่วยเรื่องการเดินทาง การหาที่พักให้



“ไปทำตามหัวใจของลูก แม่กับแด๊ดไม่ห้าม ไม่ขัดขวางเพราะรู้ว่าเรื่องความรัก เรื่องหัวใจมันห้ามกันยาก แต่น้ำสัญญากับแม่แค่อย่างเดียว ว่าจะไม่ให้ความรักของลูกที่มี มาทำลายอนาคตของลูกเอง”



“แล้วถ้าวันหนึ่งรู้สึกว่าอยู่ไม่ไหว โทรหาแด๊ด แด๊ดจะไปรับกลับมาเอง เข้าใจไหม”




นั่นคือคำพูดของแม่กับแด๊ดที่พูดกับเขาตอนที่มาส่งเขาที่สนามบิน เขาได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณที่ทั้งคู่เข้าใจเขา และสายน้ำก็เอ่ยสัญญากับแม่เอาไว้ ว่าเขาจะไม่ให้หัวใจ ไม่ให้ความรักมาทำร้ายอนาคตของเขาแน่นอน








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วจ้า วันนี้พาน้องน้ำมาหา พี่หินติดธุระเลยออกมาได้นิดเดียว
ต้องเขาใจพี่เขาหน่อยนะ 55555
เริ่มเปิดเผยความรู้สึกของน้องทีละนิดแล้วจ้า แต่ยังไม่ทั้งหมดนะ
เอาไว้ฟางจะค่อย ๆ เปิดเผยกันไปจ้า
คือน้องน่ารัก น้องเขินด้วยตอนคุยกับแม่
ซึ่งน้องก็โชคดีจริง ๆ นะที่มีแม่ที่เข้าใจแบบนี้
แต่อุตส่าห์ได้มาเจอพี่แล้วทั้งที น้องจะไม่จีบพี่จริง ๆ เหรอเนี่ย...

เอาไว้รออ่านต่อไปดีกว่าเนอะ 5555
เจอกันคราวหน้านะคะ
ขอบคุณค่ะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-03-2019 23:45:08
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่.....สายน้ำต้องทำตัวเป็น"กุลเกย์"ที่ดีจิ  ไม่จีบพี่เขาก่อนหรอกเนอะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-03-2019 00:47:11
เหมือนจะได้ข้อมูลจากการสนทนาของสายน้ำกับพี่หิน และกับแม่ แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-03-2019 00:58:26
 :mew1:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 04-03-2019 10:23:43
รู้สึกถึงความรักที่เอ่อล้นของน้องเลยค่ะ นี่ขนาดยังเผยไม่หมดนะเนี่ย :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-03-2019 21:36:36
สงสารสายน้ำ

แอบรักพี่เขามานาน

โดยพี่เขาไม่รู้และไม่สนใจเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-03-2019 21:46:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 05-03-2019 03:25:59
คุณแม่น่ารักนะ^^
เอ...น้องจะเขินได้น่ารักขนาดไหนกันน้าาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-03-2019 07:18:58
เดาว่าสองคนเคยเจอกันตอนเด็ก ที่โรงเรียนสอนรำไทย ก่อนน้องย้ายไปอยู่เมืองนอก ว่าแต่ทำไมพี่หินถึงจำน้องไม่ได้อ่า   :mew2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-03-2019 13:27:24
อยากรู้จังว่าสายน้ำไปเจอกับหินผาได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [70%] l P.4 03-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 05-03-2019 19:00:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-03-2019 23:55:35
(https://i.imgur.com/PS8KAhh.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “3”






❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ปลุกให้สายน้ำที่กำลังนอนหลับสบายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เจ้าตัวกระพริบตาเพื่อไล่ความง่วงงุนออกไปก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นเมื่อคิดว่าตื่นดีแล้ว เดินเข้าไปอาบน้ำล้างหน้าในห้องน้ำเพื่อให้ตื่นเต็มตา เจ้าตัวเลือกหยิบเสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงวอร์มสีกรมมาใส่ วันนี้สายน้ำจะได้เข้าร่วมทำพิธีไหว้ครูกับทางคณะศิลปกรรมศาสตร์ และชมรมนาฏศิลป์ไทย ซึ่งเป็นพิธีอันสำคัญยิ่งที่มีการทำพิธีสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณ แสดงถึงความเคารพ นับถือต่อครูบาอาจารย์ ผู้ซึ่งประสิทธิ์ประสาทวิชาให้



ซึ่งพิธีไหว้ครูนี้จะจัดขึ้นในทุกปี โดยส่วนมากจะจัดในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือว่าเป็นวันครู โชคดีของสายน้ำและน้ำรินที่ทางคณะศิลปกรรมศาสตร์จัดทำพิธีไหว้ครูในช่วงเวลานี้ซึ่งใกล้เคียงกับวันที่พวกเขาจะทำการแสดงรำในวันประกวดดาวเดือน ทำให้พวกเขาได้มีโอกาสมาเข้าร่วมทำพิธีในครั้งนี้ด้วย



สายน้ำมองเวลาหลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ยังพอมีเวลาก่อนจะถึงเวลานัดที่แซนดี้แวนดี้นัดเอาไว้เพื่อไปเปลี่ยนชุดสำหรับเข้าทำพิธีไหว้ครู เขาจึงเลือกที่จะหาอะไรลงท้องสำหรับมื้อเช้าก่อน ก่อนจะตรงไปหารุ่นพี่ที่คณะ



“พี่แซนดี้ พี่แวนดี้ สวัสดีครับ” สายน้ำยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคน ก่อนจะยกมือไหว้อีกรอบเมื่อเห็นรุ่นพี่ปีโตกว่าอยู่ด้วย “พี่แก้ม พี่หินผา สวัสดีครับ”



อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นรุ่นพี่ทั้งสองคนอยู่ด้วย แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ารุ่นพี่ทั้งสองเองก็รำเป็น และเคยเรียนรำกันมาทั้งคู่ ก็ถือว่าเป็นศิษย์ที่รับสืบทอดวิชาความรู้ด้านนาฏศิลป์ไทย คงไม่แปลกอะไรที่พวกพี่เขาจะมาร่วมพิธีด้วย เพราะพิธีไหว้ครูที่จัดขึ้นนี้คนที่เป็นศิษย์นาฏศิลป์ทุกคนสามารถเข้าร่วมพิธีได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ไทยอย่างเดียวเท่านั้น



“ไปเปลี่ยนเป็นนุ่มโจงกระเบนก่อนไปลูก เดี๋ยวรอน้ำรินมาแล้วเราจะได้ไปที่หอประชุมกันเลย” แซนดี้ส่งโจงกระเบนสีแดงมาให้สายน้ำ เจ้าตัวก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเป็นนุ่งโจงกระเบนสีแดงแทนกางเกงวอร์มที่กำลังสวมอยู่



พอกลับมารวมอีกทีทุกคนก็พร้อมแล้ว รวมไปถึงน้ำรินที่มาถึงและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ทุกคนจึงพากันเดินไปยังหอประชุม นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏศิลป์นั่งเรียงแถวกันอยู่ด้านหน้า ถัดมาจะเป็นสมาชิกชมรมนาฏศิลป์ไทย และคนอื่น ๆ ที่อยากเข้าร่วมพิธี พวกสายน้ำเองก็เดินไปนั่งที่แถวเหมือนกัน



สายน้ำกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องประชุม บนเวทีด้านหน้ามีโต๊ะตัวยาววางตั้งอยู่ปูด้วยผ้าขาวเป็นปะรำพิธีที่อันเชิญเศียรครูที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเทพเจ้าตั้งอยู่ ซึ่งเศียรที่อยู่ด้านบนสุดคือเศียรพระอิศวร ถัดลงมาคือพระนารายณ์ พระพรหมที่ตั้งอยู่เสมอกับเศียรพระนารายณ์ ชั้นถัดลงมาเศียรปรคนธรรพ เศียรพระอินทร์ เศียรพระพิฆเนศ เศียรพระปัญจสีขร และ เศียรพระวิษนุกรรม และชั้นสุดท้ายมีเศียรพระภรตฤาษี เศียรพระเกตุ เศียรช้างเอราวัณ เศียรพระพิราพ และที่สำคัญที่ใช้ในการครอบเพื่อทำพิธีไหว้ครูคือ เทริดโนราห์   



ด้านหน้าปะรำพิธีคือเครื่องสังเวยซึ่งก็ประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องคาว เครื่องหวาน ดอกไม้ ธูปเทียน วางอยู่เต็มโต๊ะ ด้านข้างมีแท่นสำหรับเครื่องดนตรีที่จะบรรเลงในพิธี



นั่งอยู่ได้ไม่นานพิธีไหว้ครูก็เริ่มต้นขึ้น ผู้ประกอบพิธีที่สวมใส่ชุดขาวทั้งชุดเดินขึ้นมาบนเวทีและเริ่มทำพิธี วงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลง ก่อนที่จะมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งขึ้นไปรำถวายเพื่อบูชาครู



“เดี๋ยวพวกเราจะได้ขึ้นไปครอบครูด้วยใช่ไหมครับ” สายน้ำเอนตัวไปถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ



“ใช่ หลังจากที่รำถวายเสร็จจะเป็นพิธีครอบครู ” หินผาพยักหน้าให้กับคำถามของรุ่นน้อง เอียงหน้าไปใกล้เพื่อตอบ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพูดเสียงดังเป็นการรบกวนคนอื่น ๆ



“พี่เคยทำพิธีไหว้ครูไหมครับ”



“เคย แต่ตอนสมัยเด็ก ๆ ตอนที่พี่ยังเรียนรำอยู่แต่ก็นานมากแล้วล่ะ โตมาก็ไม่เคยเข้าพิธีไหว้ครู แต่เคยเข้าพิธีครอบครูช่างของคณะ” หินผาตอบ “แล้วเราล่ะ เราก็เคยเรียนรำนี่”



“ผมก็คงเคยนั่นแหละครับ แต่ก็นานแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นยังเด็กมากเท่าที่จำได้คือผมเคยนั่งดูพิธีไหว้ครูแต่เคยขึ้นครอบครูไหมผมเองก็ไม่แน่ใจ”



“คราวนี้ได้ทำพิธีแล้วล่ะ”



“ครับ”



หลังจากที่รำถวายเสร็จ ผู้ประกอบพิธีเริ่มทำพิธีครอบครู นักศึกษาค่อย ๆ ขยับแถวขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำพิธีครอบครู สายน้ำกับน้ำรินได้แต่มองด้วยความสนใจจนกระทั่งถึงแถวของตัวเองที่ได้ขยับไปบนเวทีบ้าง ทั้งแถวนั่งเรียงซ้อนอยู่หน้าผู้ประกอบพิธีที่นั่งอยู่บนตั่งไม้



เศียรครูที่ผู้ประกอบพิธีนำมาใช้ครอบนั้นมีสามเศียร เศียรแรกคือเศียรพระภรตฤาษี เศียรที่สองคือเศียรพระพิราพ และเศียรที่สามคือเทริดโนราห์



เมื่อได้รับการครอบครูแล้วทุกคนก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม และอยู่จนกระทั่งพิธีไหว้ครูเสร็จสิ้นลงเรียบร้อย



สายน้ำและคนอื่น ๆ เดินแถวออกจากห้องประชุมเพื่อกลับไปที่คณะตามเดิม วันนี้ไม่มีเรียนสายน้ำกับน้ำรินจึงตัดสินใจอยู่ซ้อมรำต่อเพราะว่าจะถึงวันประกวดดาวเดือนแล้ว



“ทำพิธีไหว้ครูเรียบร้อยแล้ว ฝากตัวเป็นศิษย์ครูแล้ว คราวนี้ครูจะคอยช่วยให้เราจำท่าได้ ไม่ลืมแน่นอน” แซนดี้พูดหลังจากที่กลับมาที่ห้องสตูดิโอที่พวกเขาใช้ซ้อมรำกันแล้ว



“ค่ะ น้ำรินสู้ตายเลยค่ะคราวนี้” น้ำรินชูกำปั้นขึ้นเป็นเชิงบอกว่าไม่ยอมแพ้แน่นอน เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี



“เราสองคนจะอยู่ซ้อมต่อใช่ไหม” แวนดี้ถาม



“ครับ” เป็นสายน้ำที่ตอบคำถามนั้น



“อย่างนั้นเดี๋ยวพี่กับแซนดี้จะแวะมาอีกทีตอนบ่าย ๆ นะ พวกพี่มีเรียน”



“ไม่เป็นอะไรค่ะ จริง ๆ พวกท่ารำพวกเราก็จะกันได้หมดแล้ว เหลือซ้อมให้เข้าคู่กันแล้วก็ไม่พลาดแค่นั้นค่ะ” น้ำรินพูด



“พวกพี่ก็มีเรียน ว่างตอนเย็น” แก้มพูดขึ้นบ้างก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมชั้นปีของตัวเองแล้วหันกลับมาหารุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสองคนอีกรอบ “เอาไว้ตอนเย็นพวกพี่มาช่วยดูให้อีกรอบแล้วกันนะ พวกเราเหลือเวลาอีกกี่วัน”



“วันเสาร์หน้าก็ประกวดแล้วครับ” สายน้ำตอบ



“ก็ยังพอมีเวลา หลังจากนี้ก็ให้ซ้อมรำคู่กันไปเลย อย่างที่น้ำรินว่าพวกเราสองคนจำท่าได้หมดแล้ว ซ้อมคู่กันจะได้รู้จังหวะเข้า จังหวะออก พวกพี่ก็จะมาช่วยดูให้ถ้าไม่ติดอะไรนะ” หินผาว่า



“แล้วเรื่องเสื้อผ้าน้องล่ะ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมแซนดี้แวนดี้” แก้มหันไปถามพี่เลี้ยงทั้งสองคน



“ค่ะ แซนดี้ไปติดต่อขอยืมชุดกับชมรมนาฏศิลป์ให้น้องแล้ว พรุ่งนี้ตอนเย็นแซนดี้จะพาน้องไปลองชุดดูค่ะ” แซนดี้ตอบคำถาม



“แล้วอย่าลืมพาน้องไปไหว้ด้วย เตรียมของให้พร้อมด้วยนะวันงานน่ะ”



“ไม่ลืมแน่นอนค่ะ”



เมื่อพูดคุยตกลงเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ทั้งสี่คนก็แยกตัวไปเพราะมีเรียน เหลือเพียงสายน้ำกับน้ำรินที่อยู่ซ้อมรำกันต่อ ยิ่งใกล้วันประกวดพวกเขาก็ยิ่งต้องซ้อมให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญพวกเขาก็อยากจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เท่าที่ความสามารถจะทำไหว







 เทริดโนราห์ (อ่านว่า เซิด-โน-รา) เป็นเครื่องประดับศีรษะของตัวนายโรง หรือ โนราใหญ่ หรือ ตัวยืนเครื่อง (ในสมัยโบราณไม่นิยมให้นางรำใช้) ทำเป็นรูปมุงกุฎ มีกรอบหน้า มีด้ายมงคลประกอบ
 พิธีครอบครู คือ การนำเศียรครูมาครอบ (รับเป็นศิษย์) และครูจะคอยควบคุมรักษา ครูจะอยู่กับศิษย์คอยช่วยเหลือ และปัดเป่าสิ่งไม่ดีงามให้ออกไปพ้นตัวศิษย์







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

สวัสดีค่ะ~~
พาน้องสายน้ำมาหาค่ะ รอบนี้จะไม่ค่อยมีบทสนทนาเท่าไหร่มีแต่บทบรรยาย
ที่ฟางอยากจะบอกว่า... “ยาก มาก” แบบ มาก ๆ เลยค่ะ ยากจริง ๆ
เพราะต้องเขียนถึงพิธีอันสำคัญแล้วก็ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งฟางเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้เท่าไหร่
แต่โชคดีได้ “คุณตูน” ให้ข้อมูลมาเลยพอจับประเด็นมาเขียนได้
ถ้าหากเรื่องราวตอนเกี่ยวกับพิธีไหว้ครู มีตรงไหนผิดพลาดฟางต้องขอโทษด้วยนะคะ
รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟางทีนะคะ ฟางจะได้นำกลับมาแก้ไขให้ถูกต้อง
บางจุดก็ไม่กล้าลงรายละเอียดมากนักเพราะฟางไม่ได้มีความรู้ กลัวจะเป็นการใส่ข้อมูลผิด ๆ ลงไป
ยังไงก็ให้อภัยฟางด้วยจ้า

คือไหน ๆ ก็แต่งให้น้อง ๆ เขารำแล้วก็อยากเขียนถึงเยอะ ๆ หน่อย
ไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้ T^T แต่ก็จะพยายามให้เต็มความสามารถค่ะ
เนื้อเรื่องจะดำเนินเร็วขึ้นหลังจากจบการประกวดดาวเดือนนะคะ รอหน่อยน้า
อีกนิดจะได้มาฟังความในใจของน้องแบบเต็ม ๆ กันค่า

ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-03-2019 00:35:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 08-03-2019 04:07:06
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-03-2019 07:33:18
สู้ๆสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-03-2019 07:41:55
 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-03-2019 11:36:31
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-03-2019 15:42:25
งื้อออออ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-03-2019 18:52:09
ดีมากเลยค่ะ ได้ทั้งความรู้และความฟิน

สายน้ำรู้จักพี่มานาน จำพี่ได้ไม่ลืม และรักมั่นคงมาตลอด
แต่เป็นแบบไหนล่ะ ถึงไม่คิดจะจีบ หรือแค่อยากเจอ
ครอบครัวสายน้ำน่ารักจังเลยค่ะ โชคดีที่พ่อแม่เข้าใจ

หินผาคืองานดีมากค่ะ มีความขรึมและอบอุ่นนะคนเรา
มีไปคอมเมนท์แหย่น้องด้วย หรือว่าหยอดก็ไม่รู้
บางอารมณ์ก็คิดว่า หินผาจำน้องได้ เพราะเจอกันตอนโตกว่าน้องอีก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 08-03-2019 19:05:59
 :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 08-03-2019 19:41:49
อยากให้ถึงวันประกวดเร็วๆ จังเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-03-2019 00:11:19
พิธีที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-03-2019 09:29:41
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "3" [100%] l P.5 07-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 10-03-2019 03:41:12
สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 11-03-2019 22:53:33
(https://i.imgur.com/OnYHlTl.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “4”






วันประกวดดาวเดือนใกล้เข้ามาทุกที สายน้ำที่ตอนแรกไม่รู้สึกตื่นเต้น พอเอาเข้าจริงเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากทีเดียว ต้องรวบรวมสมาธิอย่างมากในการฝึกซ้อมเพื่อให้เกิดการผิดพลาดน้อยที่สุด ยิ่งใกล้วันทั้งสายน้ำและน้ำรินก็ยิ่งซ้อมหนักขึ้น ทั้งซ้อมร้องเพลง ซ้อมเดิมกับทางส่วนกลาง และซ้อมรำสำหรับรอบความสามารถพิเศษ แซนดี้กับแวนดี้เอามาเล่าให้ฟังว่าปีนี้ไม่มีคณะไหนใช้การรำมาแสดงเลย คู่ของพวกเขาน่าจะเป็นที่กล่าวถึงไม่มากก็น้อย



ทางเพจเฟซบุ๊กประกวดดาวเดือนก็มีการลงคลิปสัมภาษณ์แล้วก็ภาพนิ่งไปเมื่อหลายวันก่อนเพื่อเปิดโหวตจากยอดไลค์และยอดแชร์ ที่จะเอาคะแนนจากตรงนี้ไปรวมกับคะแนนตอนมอบดอกกุหลาบ และคนที่ได้รับคะแนนมากที่สุดก็จะได้รางวัลขวัญใจมหาชนไป



เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็บอกว่าสายน้ำกับน้ำรินยอดไลค์ ยอดแชร์ก็ไม่ใช่น้อย ๆ อยู่อันดับต้น ๆ เลย พวกเพื่อน รุ่นพี่ในคณะก็ไปช่วยกัน แต่สายน้ำยังไม่ได้เข้าไปดู เพราะมัวแต่ทุ่มเทให้กับการซ้อมรำอยู่ เหมือนกับตอนนี้...



เสียงเพลงดนตรีไทยที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีห้าชนิด คือ ปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน และกลอง ดังมาจากโทรศัพท์ที่ต่อลำโพงเพื่อให้ได้ยินชัดเจน เป็นเพลงที่ใช้เปิดตัวนางเมขลาที่ออกมาร่ายรำ



การซ้อมประกอบเพลงดำเนินไปเรื่อยจนกระทั่งจบ ทั้งคู่พร้อมใจกันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่การซ้อมของพวกเขาสำเร็จไปได้ด้วยดี ข้อผิดพลาดที่เคยมีก็ได้รับการฝึกซ้อมจนแทบไม่มีแล้ว



“วันเสาร์นี้เราคงทำได้เนอะ” น้ำรินเอ่ย เหลือเวลาอีกแค่สองวันก็จะถึงวันประกวดดาวเดือนแล้ว



“ต้องได้สิ เราซ้อมกันมาขนาดนี้แล้วนี่นะ จะไม่ได้ได้ยังไง” สายน้ำให้กำลังใจทั้งตัวเองแล้วก็เพื่อน “พรุ่งนี้หลังจากซ้อมส่วนกลางเสร็จ เรามาซ้อมกันอีกสักรอบสองรอบแล้วกันนะ วันศุกร์จะได้พักยาว ๆ ไม่ต้องซ้อม”



“ก็ดีนะ วันศุกร์ขอพักทำใจสักวันนะ” น้ำรินพยักหน้าเห็นด้วย “ตอนแรกว่าไม่ตื่นเต้นนะ แต่พอใกล้วันแสดงจริง ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาซะอย่างนั้นอ่ะ”



สายน้ำหัวเราะไปกับคำพูดของน้ำริน “เราเองก็เหมือนกัน ถ้าไม่ได้คิดถึงวันประกวดก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พอเริ่มคิดเท่านั้นแหละใจเราเต้นแรงมาก ตื่นเต้นไปหมดเลย”



“เราก็นึกว่าเราตื่นเต้นอยู่คนเดียวซะอีก”



“ไม่ใช่หรอกน่า... ไปเถอะกลับไปพักดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปซ้อมแต่เช้าด้วย” สายน้ำดันตัวเองขึ้นยืนเดินไปเก็บโทรศัพท์กับลำโพงใส่กระเป๋าก่อนจะพากันเดินออกจากห้องสตูดิโอไปรอลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่าง “ให้เราไปส่งไหม”



“ไม่เป็นอะไรจ้า แฟนเรามารอรับแล้ว สายน้ำเถอะให้เรากับแฟนไปส่งไหม” น้ำรินถาม



“ไม่เป็นอะไร น้ำรินรีบกลับไปพักเถอะ จะได้ไม่ต้องให้แฟนขับรถวนไปวนมา ห้องเราก็ไม่ได้ไกลแล้วตอนนี้ก็ไม่ได้ดึกมากด้วยมีรถกลับสบาย ๆ อยู่แล้ว”



พวกเขาเดินมาที่หน้าอาคาร เห็นรถยนต์จอดอยู่ใกล้ ๆ คันหนึ่ง คงเป็นรถของแฟนน้ำริน พอพวกเขาเดินพ้นตัวอาคารประตูรถคันนั้นก็เปิดออก อีกฝ่ายยกมือทักทายสายน้ำเพราะน้ำรินเคยแนะนำให้รู้จักกันแล้ว มีหลายครั้งที่อีกฝ่ายมารับแฟนสาวแล้วก็ได้เจอเขา บางครั้งก็ใจดีวนรถไปส่งที่คอนโด



“กลับดี ๆ นะสายน้ำ” น้ำรินยกมือโบกให้สายน้ำ ก่อนที่พวกเขาจะแยกกันไปคนละทาง



แม้ว่าพระอาทิตย์จะตกดินไปแล้ว แต่รถรางในมหาวิทยาลัยก็ยังมีวิ่งอยู่ สายน้ำจึงอาศัยรถรางออกไปหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อรอรถกลับคอนโด ก่อนกลับก็แวะซื้อข้าวผัดร้านประจำที่ได้แวะมาบ่อย ๆ



ยืนชั่งใจอยู่แถวหน้าร้านขายน้ำ กำลังลังเลว่าจะซื้อน้ำไปด้วยดีหรือเปล่า สุดท้ายก็ตัดใจไม่ซื้อและเดินไปรอรถแทน ยืนรออยู่ไม่เกินห้านาทีรถเมล์สายที่สายน้ำขึ้นก็มา เพราะไม่ใช่เวลาเร่งรีบแถมตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้ว รถบนถนนจึงมีไม่มากนักใช้เวลาไม่นานก็ถึงป้ายรถเมล์ที่จะลง



สายน้ำแวะร้านกาแฟที่เปิดขายอยู่ตรงคอมมูนิตี้มอลล์หน้าคอนโด ส่งยิ้มทักทายกับพนักงานที่เคยเห็นหน้า เพราะเขาก็ถือว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้เลยเหมือนกัน สายน้ำค่อนข้างชอบ ทั้งรสชาติ บรรยากาศ แถมยังเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วย



“ชาพีชเหมือนเดิมนะครับ” พนักงานที่ประจำเคาน์เตอร์เอ่ยทันทีที่เห็นสายน้ำเดินไป



เจ้าตัวพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม “ครับ ชาพีชครับ”



ชาพีชเย็น ๆ คือเมนูเครื่องดื่มเมนูโปรดของสายน้ำ กลิ่นหอม ๆ รสชาติหวานอ่อน ๆ ดื่มแล้วรู้สึกชื่นใจเป็นที่สุด แม้ว่าสายน้ำจะไม่ชอบเครื่องดื่มที่มีรสหวาน แต่ชาพีช และชาผลไม้อื่น ๆ เป็นข้อยกเว้น เพราะถึงแม้จะมีรสหวาน แต่ก็ไม่ได้หวานจนแสบคอ แต่ตอนนี้เริ่มมีอีกหนึ่งเมนูที่มาหยุดอยู่ข้าง ๆ ชาพีช คือน้ำแดง แต่มีข้อจำกัดที่ว่า... น้ำแดงแก้วนั้นต้องเป็นแก้วที่ใครบางคนซื้อให้ ไม่อย่างงั้นมันจะไม่ใช่เมนูโปรด เพราะรสชาติที่หวานมากจนต้องเบ้หน้า



นั่งรออยู่ไม่นานพนักงานก็ยกแก้วใส่ชาพีชเย็น ๆ มาให้ สายน้ำเอ่ยขอบคุณ ยกมาดื่มให้ชื่นใจก่อนจะเดินออกจากร้านเพื่อกลับเข้าคอนโด ชาพีชถูกนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า



มือทั้งสองข้างจับผ้าขนหนูขยี้ผมตัวเองเบา ๆ ระหว่างที่เดินออกมาจากห้องน้ำ กางเกงขาสั้นใส่สบายกับเสื้อยืดคอกลมคือชุดนอนตัวโปรดของสายน้ำ เจ้าตัวเดินเอาผ้าไปตากให้เรียบแล้ววกกลับมาที่เคาน์เตอร์ครัวเล็ก ๆ เทข้าวผัดไก่ใส่จาน หยิบชาพีชในตู้เย็นออกมาแล้วเดินถือทั้งสองอย่างไปที่โซฟาหน้าโทรทัศน์



กินมื้อเย็นยามดึกไปก็ดูโทรทัศน์ สลับกับหยิบโทรศัพท์มากดตอบข้อความของเพื่อนไปด้วย รวมถึงข้อความของใครบางคนที่ส่งมาหาเขาเมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงก่อน ข้อความที่ถามว่าเขาเลิกซ้อมหรือกลับ กลับถึงห้องหรือยัง



HinPaa
เลิกซ้อมหรือยัง?




SAINAM karp
เลิกแล้วครับ กลับถึงห้องเรียบร้อยแล้ว



สายน้ำตอบกลับไป รออยู่ไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งข้อความกลับมาอีกรอบ



HinPaa
ซ้อมวันนี้เป็นยังไงบ้าง โอเคไหม




SAINAM karp
โอเคเลยครับ ผมกับน้ำรินรำได้ลื่นไหลแล้วครับ
ตรงที่ติดขัดก็ไม่มีแล้ว
จะมีก็แต่ความตื่นเต้นนี่แหละครับ



HinPaa
สู้ ๆ ยังไงก็ทำกันได้อยู่แล้ว ทั้งเรา ทั้งน้ำรินเลย




SAINAM karp
ขอบคุณครับ



HinPaa
แล้วพรุ่งนี้ซ้อมหรือเปล่า หรือว่าหยุดแล้ว




SAINAM karp
ซ้อมครับ ตอนเช้าไปซ้อมกับส่วนกลางครับ
เลิกซ้อมแล้วผมก็นัดกับน้ำรินมาซ้อมกันต่อ
เพราะวันศุกร์จะพักกันครับ



HinPaa
พรุ่งนี้พี่ว่าง เดี๋ยวเข้าไปช่วยดู




SAINAM karp
ขอบคุณมากครับ



สายน้ำยิ้มให้กับข้อความที่แสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ วันนี้หินผามีนัดทำรายงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ เลยไม่สามารถมาช่วยดูพวกเขาซ้อมรำกันได้ แอบผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ได้เจอแต่สายน้ำก็เข้าใจได้ เพราะฉะนั้นเลยอดดีใจไม่ได้ที่พรุ่งนี้อีกฝ่ายจะมาช่วยดูให้



เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนที่แอบรัก แค่ได้เห็นเขา แค่เขามาอยู่ใกล้ ๆ หัวใจก็พองโตแล้ว เรื่องราวความรักที่สายน้ำมีให้กับหินผามันค่อนข้างยาวนาน ไม่ใช่แค่หนึ่ง หรือ สองปี แต่มันยาวนานกว่านั้น น่าจะเป็นตั้งแต่ก่อนที่สายน้ำจะย้ายไปต่างประเทศเสียด้วยซ้ำไป เป็นความรู้สึกที่ตอนเด็ก ๆ เขาไม่เข้าใจ แต่พอโตขึ้น สายน้ำถึงได้รู้ว่าความรู้สึกข้างในใจของตัวเองนั้นคืออะไร เป็นของจริง ไม่ใช่สิ่งที่คิดไปเอง



HinPaa
แล้วนี่อาบน้ำ กินข้าวหรือยัง




โทรศัพท์สั่นและแจ้งเตือนให้สายน้ำก้มลงมอง หินผาส่งข้อความต่อบทสนทนามาหา



SAINAM karp
เรียบร้อยแล้วครับ
แล้วที่พี่ไปทำงานมา เรียบร้อยดีไหมครับ



HinPaa
เรียบร้อยดี
ถึงแม้จะต้องนั่งฟังเดียร์กับทัชเถียงกันทุก ๆ ชั่วโมงก็เถอะ




SAINAM karp
55555
ผมเห็นพี่เดียร์พี่ทัชชอบเถียงกันเป็นประจำเลย



HinPaa
อือ มันเป็นมานานแล้วล่ะ
เห็นมันบอกว่าตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เถียงกันมาตลอด
โตป่านนี้ก็ยังเถียงกันไม่เลิก



SAINAM karp
พี่เดียร์ พี่ทัช เขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยเหรอครับ



HinPaa
ใช่แล้วล่ะ




SAINAM karp
ดีจังนะครับ อยู่ด้วยกันนานเลย
ผมย้ายไปต่างประเทศหลายปี เพื่อนสมัยเด็ก ๆ ที่อยู่ไทยก็เลยไม่ค่อยมี



HinPaa
อย่างนั้นเหรอ
ตอนเด็ก ๆ พี่ก็มีเพื่อนสนิทอยู่นะ
แต่ก็นานแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันเลย




SAINAM karp
อย่างนั้นเหรอครับ น่าเสียดายเนอะ


HinPaa
อือ
น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
ไปนอนเถอะ จะได้พักผ่อนเยอะ ๆ
ฝันดีนะสายน้ำ




SAINAM karp
ครับ
ฝันดีครับพี่หินผา



“น่าเสียดายเนอะ...” สายน้ำพูดพึมพำกับตัวเอง



น่าเสียดายที่เวลาของวันนี้หมดลงแล้ว และน่าเสียดายที่เขาได้คุยกับหินผาเพียงเท่านี้ พวกเขาไม่ได้คุยกันทุกวัน จะมีแค่บางวันเท่านั้นที่อีกฝ่ายทักมาถามไถ่ อย่างวันที่หินผาไม่ได้ไปดูสายน้ำซ้อมรำ หรือไม่ก็วันที่กลับดึกมาก ๆ ก็จะส่งข้อความมาถามว่ากลับถึงห้องหรือยัง การพูดคุยแต่ละครั้งก็ไม่ได้นานมากนัก



ถึงแม้จะเคยบอกกับตัวเองแล้วก็เบลเพื่อนในกลุ่มว่าไม่คิดจะจีบหินผา แต่พอได้มาอยู่ใกล้ ๆ ได้พูดคุยกัน ลึก ๆ ในใจสายน้ำก็นึกหวังว่าอยากให้หินผามองเห็นความรู้สึกของตัวเองบ้าง



“แบบนี้ไม่ดีเลย ไม่ดีมาก ๆ เลยสายน้ำ” ได้แต่ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาคว้าหมอนอิงมากอดเอาไว้แน่น “โลภมากแบบนี้ไม่ดีเลยนะ”



“ไหนเคยสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วไง ว่าแค่ได้มาเรียนที่เดียวกัน ได้เห็นว่าพี่เขามีความสุขดีก็พอใจแล้ว ทำไมตอนนี้มันเริ่มไม่พอแล้วล่ะสายน้ำ”



สายน้ำเคยสัญญากับตัวเองเอาไว้ วันที่ตัดสินใจจะมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ สัญญากับตัวเองว่าขอให้เขาได้กลับมามองเห็นหินผาอีกครั้ง แค่มอง และอวยพรให้อีกฝ่ายมีความสุขแค่นั้นก็พอ



แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวันนี้ความรู้สึกนั้นเริ่มไม่พอ พอได้ใกล้ชิด ได้คุย ก็เริ่มโลภ หวังอยากได้อะไรที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ความพอใจของสายน้ำไม่ได้อยู่ที่การแอบมองอีกฝ่ายอีกแล้ว แต่ความพอใจของสายน้ำคือการได้เจอหน้า ได้พูดคุยกัน



ซึ่งแบบนี้มันไม่ดีเลย...



ไม่ดีต่อใจ และ ความรู้สึกของสายน้ำเลย








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาแล้วจ้า มาแล้ว~~
ตอนนี้เจอกันกับน้องสายน้ำ และ พี่หินผาในรูปแบบออนไลน์กันก่อนเนอะ
คือแบบ... อยากจะบอกว่าน้องสายน้ำน่ารักมาก ๆ อ่ะ ฟางจินตนาการนู้น นี่ นั่น แล้วแบบ น้องน้ำ น้องงงง
ทำไมน่ารักแบบนี้ เขินพี่เขาเหรอ น่ารักจังลูก แต่คือแบบยังไม่ได้เขียนถึงไง
คนอ่านเลยอาจจะยังไม่ค่อยเห็นมุมน่ารัก ๆ ของน้อง แต่น้องน่ารักจริง ๆ เชื่อฟางเถอะจ้า
เชื่อฟาง และ หลงรักน้องสายน้ำกันเยอะ ๆ นะคะ ^^

ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-03-2019 23:07:04
มีข้อความมาถามไถ่กันทุกวัน แค่นั้นก็ดีต่อใจแล้วนะน้องนำ้ เอาใจช่วยต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-03-2019 23:08:37
 :man1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-03-2019 00:02:58
เปลี่ยนจากไลน์เป็นโทรคุยดีกว่าไหม คุณพี่หิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 12-03-2019 00:42:27
เขาก็มีเพื่อนสนิทตอนเด็กเหมือนกัน จะเกี่ยวข้องกันมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-03-2019 00:47:21
 :pig4: :pig4: :pig4:

สายน้ำเป็นเพื่อนเล่รสมัยเด็กของหินผาหรือเปล่าหนอ?

แต่...

ทำไมหินผาจึงจำสายน้ำไม่ได้หล่ะ?
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 12-03-2019 07:03:05
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 12-03-2019 11:11:02
เอาใจช่วยนะสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-03-2019 13:47:40
พยายามเพิ่มขึ้นอีกนิดนะสายน้ำ

ถ้าเราพยายามถึงที่สุดแล้ว

พี่หินผาเขาไม่คลิ๊กนู๋

ถึงตอนนั้นจะเสียใจร้องไห้

ก็ไม่เป็นไรเพราะนู๋พยายามแล้ว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-03-2019 23:32:33
หึหึ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 13-03-2019 08:44:03
ลองดูสักครั้งจะเป็นไรไป
พี่เขายังไม่มีแฟนสักหน่อย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 14-03-2019 08:56:43
เพื่อนสนิทสมัยเด็กของหินผาใช่สายน้ำรึเปล่าน้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [40%] l P.5 11-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 17-03-2019 06:41:56
พี่หินผาจำน้องไม่ได้สิะคะ


ไม่เป็นไรหรอกทำความรู้จักกันอีกครั้งก็ได้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 18-03-2019 23:24:29
(https://i.imgur.com/OnYHlTl.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “4”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






ในที่สุดก็ถึงวันประกวดดาวเดือน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ และเป็นวันที่ทางมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมเฟรชชี่เดย์ เฟรชชี่ไนท์ด้วย ในตอนกลางวันนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของแต่ละคณะจะเข้าร่วมกิจกรรมฐานต่าง ๆ วนไปคณะอื่น ๆ ส่วนในตอนเย็นไปจนค่ำมืด จะมีการประกวดดาวเดือนที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานวันนี้ แล้วก็จะมีการแสดงดนตรีจากวงดนตรีในมหาวิทยาลัย แล้วก็นักร้องที่ทางมหาวิทยาลัยเชิญมา



สายน้ำตื่นขึ้นมาตอนเกือบเก้าโมง การได้พักยาวตั้งแต่เมื่อวานจนมาถึงตอนนี้ทำให้เขารู้สึกสดชื่น ร่างกายที่เคยเหนื่อยล้า อ่อนเพลียก็ดีขึ้น พร้อมสำหรับการประกวดในค่ำคืนนี้แล้ว ทางทีมงานนัดเหล่าดาวเดือนของแต่ละคณะตอนเที่ยง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการประกวดในตอนค่ำ



ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด สายน้ำเลยไม่เร่งรีบเท่าไหร่ พยายามที่จะทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด ไม่ตื่นเต้นจนเกินไป แต่ดูเหมือนว่ายิ่งใกล้เวลาเข้าไปเท่าไหร่ หัวใจของสายน้ำก็เต้นแรงขึ้นเท่านั้น



"สายน้ำ มาแล้วเหรอลูก” แซนดี้ที่หันมาเห็นก็รีบเอ่ยทักทันที



“พี่แซนดี้ สวัสดีครับ” สายน้ำยกมือไหว้สวัสดี “สวัสดีครับพี่แวนดี้”



“จ๊ะลูก” แวนดี้เองก็ยิ้มทัก “กินอะไรมาหรือยัง มากินข้าวก่อนมา”



“ครับผม”



สายน้ำเดินเข้าไปหารุ่นพี่ทั้งสองคนก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามแซนดี้แวนดี้ พลางรับข้าวกล่องมาเปิด เพื่อจัดการกับมื้อกลางวันที่ทางกองประกวดดาวเดือนเตรียมเอาไว้ให้



“แล้วผมต้องทำอะไรก่อนไหมครับ” สายน้ำเอ่ยถามรุ่นพี่ในคณะทั้งสองคน



“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็ไปเตรียมตัวแต่งหน้า ทำผม หลังจากนั้นไปรออยู่ในห้องหลังเวที ส่วนก่อนแสดงความสามารถพิเศษ พี่จะพาเรากับน้ำรินไปที่ห้องชมรม” แวนดี้ว่า



สายน้ำนั่งฟังกำหนดการคร่าว ๆ จากรุ่นพี่ทั้งสองคน ช่วงประมาณห้าโมงเย็นจะเริ่มการประกวดดาวเดือน โดยให้เหล่าดาวเดือนแต่ละคณะออกมาเดินโชว์ตัวก่อนหนึ่งรอบ ร่วมกันร้องเพลงที่ฝึกซ้อมกันมาตลอด เดินโชว์ตัวอีกครั้ง



“พอเสร็จตรงนี้ก็ถึงรอบการแสดงความสามารถพิเศษ แต่ก่อนจะถึงรอบนี้จะมีวงดนตรีขึ้นมาเล่นก่อนสามสี่เพลง ให้เวลาพวกเรา ๆ เตรียมตัวกัน แล้วก็จะเป็นรอบโหวตขวัญใจมหาชน เอาคะแนนจากผลโหวตรอบนี้มารวมกับยอดกดไลท์ กดแชร์ในเพจเฟซบุ๊ก”



“แล้วก็คัดเลือกดาวเดือนห้าคนสุดท้ายมารอบตอบคำถามก่อนจะประกาศผลรางวัล”



“แค่ฟังผมก็ชักจะตื่นเต้นแล้วสิครับ” สายน้ำพูด ยิ่งใกล้เวลาก็ยิ่งตื่นเต้นไปหมด



“น้ำรินด้วยค่ะ กลัวจะทำการแสดงออกมาได้ไม่ดีจังค่ะ” ใบหน้าของหญิงสาวแสดงถึงความกังวลได้อย่างชัดเจน



“สายน้ำ น้ำริน” แซนดี้เรียกทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ไม่ต้องกังวลมากเกินไปนะ ทำมันออกมาให้เต็มที่ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นยังไง พวกพี่ก็ภูมิใจในตัวพวกหนูนะ”



“ใช่แล้วล่ะ แค่ทำให้เต็มที่ก็พอ แพ้ชนะก็ช่างมันเถอะ”



“ครับ / ค่ะ” ทั้งสายน้ำแล้วก็น้ำรินรับคำ



หลังจากกินข้าวเสร็จแซนดี้แวนดี้ก็พาสายน้ำกับน้ำรินไปยังห้องแต่งตัว แวนดี้พาน้ำรินไปห้องแต่งตัวของผู้หญิง ส่วนแซนดี้มากับสายน้ำ ทั้งคู่เอ่ยทักทายคนในห้องอย่างคุ้นเคย รุ่นพี่ที่จบไปแล้วและมาช่วยแต่งหน้าทำผมให้เรียกสายน้ำเข้าไปหา เพื่อแต่งหน้าทำผม



กว่าจะเรียบร้อยก็เกือบเย็น โชคดีที่ห้องนี้เป็นห้องแอร์เหงื่อเลยไม่มี ไม่อย่างนั้นที่แต่งกันไปคงไม่มีประโยชน์อะไร สายน้ำหยิบเนคไทมาสวมคอเอาไว้หลวม ๆ เอาไว้จะขึ้นบนเวทีค่อยแต่งตัวให้เรียบร้อยอีกที รุ่นพี่เรียกไปเติมแป้ง เติมหน้าจนสายน้ำรู้สึกว่าหน้าของเขาหนักแล้วก็เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง



ยิ่งพอใกล้เวลาประกวดสายน้ำก็ยิ่งตื่นเต้น ขนาดทำตามคำแนะนำของรุ่นพี่เดือนคณะปีที่แล้วก็ยังไม่หายตื่นเต้น เริ่มกังวลไปสารพัดอย่าง นึกอยากให้ใครบางคนอยู่ด้วยกันที่นี่เผื่อจะช่วยให้สายน้ำรู้สึกดีขึ้น



“สายน้ำ” เสียงเรียกชื่อ ดึงสายตาของสายน้ำให้หันไปมองก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นเพื่อน ๆ ในกลุ่มกำลังเดินเข้ามาหา



“โฮ... หล่อไม่ใช่เล่นนะเราเนี่ย” มะนาวเอ่ยทักเมื่อเดินเข้ามาใกล้ เห็นคนที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศ



“เออว่ะ มึงนี่ก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย” แบงก์เองก็เห็นด้วย “พอแต่งหน้า ทำผมเลยยิ่งหล่อเข้าไปใหญ่”



ปกติสายน้ำก็เป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว แต่พอมาแต่งหน้า เซ็ตผม แต่งตัวเนี้ยบ ๆ แบบนี้ก็ยิ่งเสริมให้อีกฝ่ายดูดีมากขึ้นไปอีก



“ตื่นเต้นไหมวะ” ตั้มถามเพราะสีหน้าของเพื่อนแม้จะยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่สุด



สายน้ำรีบพยักหน้ารับทันทีกับถามของตั้ม “มาก ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่เท่าไหร่หรอก แต่เอาจริง ๆ ก็ตื่นเต้นว่ะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ตามพี่กรพูดแล้วก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่”



“เอาน่ามึง มึงทำได้อยู่แล้ว เดี๋ยวพวกกูต้องออกไปแล้วว่ะ ขอเข้ามาได้แค่แปบเดียว ว่าจะแวะไปดูน้ำรินด้วย” แบงก์พูด “สู้ ๆ นะมึง กูเชียร์อยู่หน้าเวทีนะ”



“เออ สู้ ๆ นะมึง มึงทำได้กูเชื่อ” ตั้มตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ



มะนาวกับเบลเองก็พูดให้กำลังใจเขาเหมือนกัน ก่อนที่จะพากันเดินออกจากห้องเตรียมตัวไป พอได้ความเชื่อมั่น เชื่อใจจากเพื่อน ๆ มาบ้างก็ทำให้จิตใจของสายน้ำสงบขึ้น



“พี่กร” สายน้ำเอ่ยเรียกรุ่นพี่ปีสองที่เคยยืนอยู่ในตำแหน่งที่เขายืนในตอนนี้ อีกฝ่ายแวะมาหาแล้วก็ดูความเรียบร้อย จริง ๆ แล้วช่วงที่สายน้ำกับน้ำรินซ้อมเพื่อเตรียมประกวดกรกับบาร์บี้ก็แวะมาหาบ่อย ๆ แต่เพราะทั้งคู่ไม่ถนัดเรื่องรำเลยทำเพียงแค่แวะมาให้กำลังใจแล้วก็ซื้อของกิน ซื้อขนมมาให้ แต่ตอนซ้อมกับกองประกวดทั้งสองคนก็แวะมาช่วยดู ช่วยสอนตลอด



“อ่ะน้ำ จิบสักหน่อย” อีกฝ่ายส่งน้ำเปล่าเย็น ๆ ให้ “หายตื่นเต้นบ้างหรือยังเรา”



สายน้ำยิ้มแหย พยักหน้ารับ “ก็นิดหนึ่งครับ เหมือนจะเริ่มทำใจได้”



กรหัวเราะกับคำพูดของรุ่นน้อง ยกมือตบไหล่เบา ๆ เชิงให้กำลังใจ อยู่ยืนคุย ให้คำแนะนำสายน้ำอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งถึงเวลา



“สู้ ๆ นะเรา ทำให้เต็มที่พอ ผลจะออกมาเป็นยังไงก็ไม่ต้องสนใจ”



“ครับพี่ ขอบคุณนะครับ” สายน้ำยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ เดินไปรวมแถวกับเพื่อนเดือนคณะอื่น ๆ ก่อนจะเดินเรียงออกจากห้องไป เจอกับแถวของดาวคณะเดินมาพอดี



น้ำรินเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ สายน้ำ เจ้าตัวส่งยิ้มมาให้ ใบหน้าที่แต่งเติมและผมที่ดัดลอนอ่อน ๆ ช่วยขับให้ใบหน้าของน้ำรินสวยหวานกว่าเดิม



“วันนี้น้ำรินสวยมาก” สายน้ำอดที่จะเอ่ยชมไม่ได้



“สายน้ำเองก็หล่อเหมือนกันนั่นแหละ” น้ำรินพูด “เรายังตื่นเต้นอยู่เลย”



“เหมือนกัน” สายน้ำกำมือแล้วยกขึ้นยื่นไปตรงหน้าน้ำริน “มาพยายามด้วยกันนะ”



“จ๊ะ!” น้ำรินเองก็ยกกำปั้นขึ้นมาชนกับกำปั้นของสายน้ำ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วระบายออกมา ก่อนที่พวกเขาจะก้าวออกไปพร้อม ๆ กัน



เหล่าผู้เข้าประกวดดาวเดือนเดินโชว์ตัวหนึ่งรอบตามที่พิธีกรประกาศเรียกชื่อ สายน้ำหลับตาลงเพื่อทำสมาธิ ก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วเดินออกไปข้างหน้าคู่กับน้ำรินเมื่อได้ยินเสียงประกาศชื่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์



สายน้ำได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเขากับน้ำริน พอหันไปมองก็เห็นเพื่อน ๆ ในคณะโบกมือ เป่าปากให้อยู่บริเวณใกล้ ๆ หน้าเวที นั่นเลยทำให้สายน้ำหลุดยิ้มออกมาได้ และดูเหมือนว่าสาว ๆ ที่อยู่ใกล้เวทีเห็นรอยยิ้มของสายน้ำก็พากันส่งเสียงเรียกไม่หยุด



ทั้งสายน้ำและน้ำรินเดินกลับไปที่จุดของตัวเอง การแสดงต่อไปคือพวกเขาเหล่าผู้เข้าประกวดดาวเดือนทั้งหมดจะร่วมร้องเพลง มีท่าเต้นประกอบเป็นภาษามือ ซึ่งกว่าจะทำกันได้ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ หลังจากการแสดงรวมจบลงทุกคนก็ทยอยเดินลงจากเวทีไป



ระหว่างรอรอบการแสดงพิเศษก็มีวงดนตรีของทางมหาวิทยาลัยขึ้นมาแสดง สายน้ำกับน้ำรินหลังจากที่ลงจากเวทีได้ก็รีบเดินไปหาแซนดี้แวนดี้ที่ยืนรออยู่แล้วทันที พวกเขาทั้งสองคนรีบไปเปลี่ยนชุดสำหรับการแสดงโดยมีรุ่นพี่มาช่วยแต่งตัวด้วยเพราะชุดของพวกเขานั้นแต่งค่อนข้างยาก



สายน้ำแต่งกายยืนเครื่อง1 ในลักษณะของตัวยักษ์ตามแบบในละคร เสื้อหรือฉลอง เป็นเสื้อแขนยาวสีเขียวตามลักษณะของสีกายของรามสูร ปักด้วยดิ้นและเลื่อมทั้งตัว สับเพลายาวถึงน่องสีเขียวขลิบแดง ทับด้วยผ้านุ่มหรือพระภูษา จะใช้เป็นผ้ายก2สีแดง นิยมใช้ผ้าที่ยกด้วยดอกสีเงิน (ยกเงิน) แล้วยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ของชุดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปิดก้น ห้อยข้าง รัดสะเอว ห้อยหน้า เข็มขัด อินทรธนู ทับทรวง สังวาล และพวกกำไลข้อเท้า กำลังข้อมือ



ส่วนน้ำรินเองก็แต่งกายยืนเครื่องเช่นเดียวกัน สวมเสื้อนางในแขนยาวสีน้ำเงิน ผ้านุ่งเป็นผ้ายกจีบหน้า ผ้าห่มนางหรือสไบทิ้งตัวไปด้านหลังยาวถึงน่อง เครื่องประดับอย่างพวกเข็มขัด ทับทรวง สะอิ้ง ทองกร กรองศอ ปะวะหล่ำ กำไลข้อมือ กำไลข้อเท้า



“โอ๊ยตาย... สวยหล่อทั้งคู่เลยลูก” รุ่นพี่ที่มาช่วยพวกเขาแต่งตัวร้องบอกทำหน้าปราบปลื้มเมื่อเห็นทั้งสองคน “น้ำรินแต่งหน้าแบบนี้แล้วสวยมากลูก นี่ถ้าเอาชฎามาสวมอีกอย่างจะเลิศมากเลย”



“จริง สวยหล่อมากทั้งคู่เลย มา ๆ พี่ถ่ายรูปให้ มายืนข้างกันเร็ว ๆ” บาร์บี้เรียกทั้งสองคนให้มายืนใกล้กันก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “กร ๆ เอากล้องมาถ่ายรูปน้องเร็ว ๆ”



กรเองที่ได้ยินเพื่อนเรียกก็หันมามองก่อนจะรีบเดินเข้ามาหาเพื่อถ่ายรูปของคนทั้งคู่ “น้ำรินสวยจริง ๆ เลยนะ”



“ขอบคุณค่ะ” น้ำรินได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ที่เอ่ยชมไม่หยุดปาก



“สายน้ำก็หล่อ รับรองว่าถ้ารำเสร็จแล้วถอดเศียรออกมานะ คนกรี๊ดลั่นแน่นอนเลยลูก” แวนดี้กลัวสายน้ำจะน้อยใจรีบเอ่ยชมทันที มีแซนดี้เป็นลูกคู่พยักหน้ารับหงึกหงัก



"อุ้ย! เขาเริ่มรอบแสดงความสามารถพิเศษแล้ว ไปลูกสายน้ำ น้ำรินไปไหว้ขอพรพ่อแก่ก่อนเร็วลูก เดี๋ยวไม่ทัน” แซนดี้ที่ได้ยินเสียงพิธีกรประกาศเรียกตัวแทนประกวดดาวเดือนขึ้นโชว์ความสามารถพิเศษหันมาร้องบอกรุ่นน้องทั้งสองคนที่ยืนให้บาร์บี้กับกรถ่ายรูป



แซนดี้แวนดี้หันไปหยิบพานดอกไม้ ธูป เทียนมาถือ ก่อนจะเร่งพาทั้งสองคนไปที่ห้องชมรมนาฏศิลป์เพื่อไปไหว้ขอพรให้การแสดงผ่านไปได้ด้วยดี และขอยืมเศียรยักษ์และชฎาให้สายน้ำกับน้ำรินสวมรำ โชคดีที่ห้องชมรมอยู่ไม่ไกลจากอาคารหอประชุมที่ใช้ประกวด เดินไม่นานก็ถึง ที่ห้องชมรมยังพอมีคนอยู่บ้างเพราะแวนดี้ได้แจ้งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว



“มาทางนี้เลยจ้า” พวกเขาทุกคนเดินตามรุ่นพี่ในชมรมนาฏศิลป์ไป



ภายในห้องชมรมค่อนข้างกว้าง ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกเอาไว้ดูตอนซ้อมรำ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีแท่นคล้ายกับปะรำพิธีที่สายน้ำเห็นในวันไหว้ครูวางอยู่ มีเศียรครูวางเรียงลำดับตามที่เคยเห็น สายน้ำกับน้ำรินนั่งลงตรงหน้าชั้นวางนั้นในมือถือพานที่มีดอกไม้ พวงมาลัย ธูป และเทียน



“ไหว้ขอพรกับพ่อแก่นะ ขอให้การแสดงผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าหากลืมท่า จำท่าไม่ได้ก็ขอให้พ่อแก่ช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”



สายน้ำและน้ำรินทำตามคำแนะนำของรุ่นพี่ ไหว้ขอพรกับเศียรพ่อแก่ที่เปรียบเสมือครูนาฏศิลป์ หลังจากที่ไหว้พ่อแก่เสร็จรุ่นพี่ก็ให้ทั้งคู่ยกมือไหว้เศียรและชฎาที่ตัวเองจะต้องสวม น้ำรินนั่งให้รุ่นพี่สวมชฎาให้เพราะจะต้องยึดกับผมให้เรียบร้อย ส่วนสายน้ำก็ถือเศียรยักษ์เอาไว้ ค่อยสวมตอนใกล้แสดง



“ขอบคุณมากนะครับ” สายน้ำเอ่ยขอบคุณรุ่นพี่ในชมรมนาฏศิลป์ก่อนที่พวกเขาจะพากันเดินกลับมาที่หอประชุมตามเดิม



“ว่าไง ถึงคณะไหนแล้วอ่ะ เหลืออีกกี่คณะถึง” แซนดี้เดินไปถามบาร์บี้ที่รออยู่ที่หอประชุม



“ตอนนี้คณะบริหารแล้ว ต่อไปก็คณะนิเทศแล้วก็คณะเราแล้วล่ะ” บาร์บี้หันมาตอบ ก่อนจะยกมือไหว้แล้วเอ่ยทักคนที่เพิ่งเดินมาถึงให้คนอื่นหันไปมองแล้วยกมือไหว้ตาม “พี่หินผา พี่แก้ม สวัสดีค่ะ”



หินผากับแก้มรับไหว้รุ่นน้องทุกคน “พวกพี่แวะมาดูจ๊ะ เป็นยังไงบ้างเรียบร้อยดีใช่ไหม ใกล้ถึงเวลาของคณะเราหรือยัง”



“ใกล้แล้วค่ะ คณะเราต่อจากนิเทศค่ะ นี่น้อง ๆ ก็แต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ” แซนดี้หันไปมองคำถามของแก้ม



รุ่นพี่ปีสี่ทั้งสองคนหันมามองน้องปีหนึ่งที่นั่งรอเวลาอยู่กันคนละมุมเพราะต่างฝ่ายอยากตั้งสมาธิก่อนขึ้นแสดง



“ทำไมนั่งแยกกันแบบนั้นล่ะ” หินผาอดที่จะถามไม่ได้



“ทำสมาธิกันค่ะ บอกตื่นเต้นตั้งแต่มาถึงห้องแต่งตัว รอบเดินโชว์ รอบร้องเพลง แต่ก็ทำได้ดีกันทุกรอบ แต่ก็ยังตื่นเต้นกันอยู่แบบนั้นแหละค่ะ เลยนั่งแยกกันทำสมาธิก่อน” แวนดี้ตอบ



"ออ... เดี๋ยวเราไปดูน้ำรินหน่อยแล้วกัน หินก็ไปดูสายน้ำนะ” แก้มรับคำรุ่นน้องก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อน



หินผาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหาสายน้ำที่นั่งหลับตาอยู่ก่อนจะเอ่ยทัก “ว่าไงเรา”



คนโดนทักสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมอง เจ้าตัวกระพริบตาปริบ ๆ อย่างต้องการปรับสายตา สายน้ำก้มหัวเป็นเชิงทักทาย “พี่หินผา สวัสดีครับ”



“ได้ข่าวว่าตื่นเต้นเหรอ” หินผาถาม พลางนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ กัน



“ครับ ตื่นเต้นครับ ตอนนี้ตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนแรกอีก แค่เดิน กับร้องเพลงยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่ผมจะขึ้นไปรำแล้ว ตื่นเต้น กลัวจำท่าผิด”



“ถ้าพี่จะบอกว่าไม่ต้องตื่นเต้นไปก็คงไม่ได้ เพราะพี่ก็เข้าใจเราอยู่เหมือนกันว่ามันเป็นยังไง”



“ตอนที่พี่ขึ้นรำตื่นเต้นมากไหมครับ” สายน้ำถามด้วยความสนใจ เผื่ออีกฝ่ายจะมีวิธีช่วยให้หายตื่นเต้นได้บ้าง



หินผาพยักหน้ากับคำถามของรุ่นน้อง “ตื่นเต้นสิ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะตื่นเต้นมากหรือตื่นเต้นน้อย หรือไม่ตื่นเต้นเลย ยังไงเราก็ต้องขึ้นไปบนเวทีอยู่ดี พี่ก็เลยคิดว่าพี่แค่ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะจำท่าผิดหรือยังไงก็ต้องทำออกมาให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”



“ผมก็คิดแบบนั้นแหละครับ แต่มันก็ตื่นเต้นอยู่ดี” สายน้ำตอบเสียงเบา “พยายามตั้งสมาธิตามที่พี่กรบอกแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่เลย”



คนฟังหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของรุ่นน้อง ใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางยิ้มแหย ท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่ขลาดกลัวทำให้คนมองยิ้ม เอ็นดูปนตลกกับท่าทางนั้น หินผาวางมือบนผมที่ถูกเซ็ตเอาไว้ของสายน้ำให้คนโดนวางมือทับหยุดชะงักเหมือนลืมวิธีหายใจ เผลอนั่งเกร็งตัว



“พี่เชื่อว่าเราทำได้ และจะทำได้ดีด้วย” หินผาพูดลูบผมอีกฝ่ายเบา ๆ “แค่ทำให้เต็มที่ที่สุด ให้สุดความสามารถของเรา ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นยังไงพี่เชื่อว่าทุกคนจะชื่นชมและภูมิใจในตัวเรานะ อาการตื่นเต้นคงห้ามไม่ได้ แต่อย่าให้ความตื่นเต้นมาทำให้เรากังวลจนทำได้ไม่เต็มที่”



“ค ครับ...” สายน้ำพยักหน้าหงึกหงัก “ผมจะพยายามครับ”



“ดีมาก ทำให้เต็มที่ก็พอ”



“ครับ”



มือของหินผาละออกไปแล้วแต่สายน้ำยังรู้สึกอุ่น ๆ ร้อน ๆ ที่หัวตัวเองอยู่เลย อยากจะยกมือขึ้นไปวางทับบนผมตัวเองตรงตำแหน่งที่หินผาวางมือแต่ก็ไม่กล้า แอบกัดปากตัวเองกลั้นยิ้ม กลั้นเขินแต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำได้ดีหรือเปล่า กลัวจะเผลอหน้าแดงแสดงอาการออกไปว่าดีใจที่อีกคนลูบผมแบบนี้



แต่ดูเหมือนหินผาจะไม่ได้สนใจท่าทางของสายน้ำนักเพราะเจ้าตัวก้มหน้ารื้อกระเป๋าสะพายที่คาดอยู่บนอกตัวเองก่อนจะหยิบช็อกโกแลตออกมาจากในกระเป๋า ฉีกซองออกแล้วหยิบช็อกโกแลตที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีทองส่งมาให้



“ครับ” สายน้ำทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจ



“ช็อกโกแลตไง เอาไปสิ” หินผาวางช็อกโกแลตที่เขาถืออยู่บนมือของสายน้ำ “กินช็อกโกแลตสิ มันช่วยให้ดีขึ้นนะ”



“ขอบคุณครับ” สายน้ำขอบคุณ หันมองคนที่ยกช็อกโกแลตให้ อีกฝ่ายพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เขากิน สายน้ำจึงแกะช็อกโกแลตออกมากิน



“อร่อยไหม”



“ครับ อร่อยครับ”



“แลกกันนะ”



“ครับ” ทำหน้างงอีกรอบกับคำพูดของหินผา



“พี่ให้ช็อกโกแลตแล้ว แลกกันกับจะทำการแสดงนี้ให้เต็มที่ โอเคไหม”



สายน้ำหลุดยิ้มออกมา มีใครบ้างแลกช็อกโกแลตกับการแสดงแบบคนตรงหน้านี้ “ครับ แบบนั้นก็ได้ แต่ผมขออะไรเพิ่มอีกอย่างได้ไหม”



“หือ... อะไรล่ะ”



สายน้ำชี้นิ้วไปที่ช็อกโกแลตในมือหินผา “ถ้าพี่คิดว่าผมทำได้เต็มที่แล้ว ผมขอช็อกโกแลตเพิ่ม”



“ได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเลย ทำให้เต็มที่ก็พอ”



“แน่นอนครับ” สายน้ำยิ้ม น่าแปลกทีเดียว เขาเพียงแค่คุยกับหินผาไม่กี่ประโยคก็รู้สึกดีขึ้น หายตื่นเต้นขึ้นเยอะเลย



“พี่จะรอดูนะ พี่ไม่กวนละเราทำสมาธิต่อเถอะ เดี๋ยวนิเทศคงใกล้แสดงจบแล้วล่ะ” หินผาลุกขึ้นยืน วางมือบนผมของสายน้ำอีกรอบก่อนจะเดินแยกออกไป



สายน้ำใช้มือข้างที่ว่างยกขึ้นจับผมตัวเอง ตำแหน่งที่หินผาเพิ่งวางมือไป ก้มหน้าลงก่อนจะปล่อยให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะรีบสะบัดหน้าเพื่อปัดไล่ความรู้สึกต่าง ๆ ออกไป เตรียมสมาธิให้พร้อมสำหรับการแสดงที่จะถึง



“สายน้ำ น้ำริน ป่ะเตรียมตัว ได้เวลาแล้วล่ะ” แซนดี้เอ่ยเรียกทั้งสองคน



สายน้ำสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะผ่อนออกมา ลุกเดินไปหารุ่นพี่ที่ยืนรออยู่ สายน้ำกับน้ำรินเดินตามรุ่นพี่ไปยังข้างหลังเวทีเพื่อรอขึ้นเวทีเป็นลำดับต่อไป แซนดี้กับแวนดี้ช่วยดูเครื่องแต่งกายของพวกเขาว่าเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง รีบเติมหน้าจัดชุดให้ สายน้ำสวมเศียรยักษ์ที่ถือเอาไว้ตลอด



“เอาละครับ ลำดับต่อไปของการแสดงรอบความสามารถพิเศษ... โอ้... ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ธรรมดาครับ คณะนี้เขามาคู่กัน แสดงด้วยกันครับ” เสียงของพิธีกรที่อยู่บนเวทีพูดแนะนำการแสดงถัดไป



“ใช่แล้วค่ะ เรียกว่าแตกต่างจากการแสดงของคณะอื่น ๆ แน่นอนค่ะ”



“เราไปชมการแสดงจากตัวแทนดาวเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์กันเลยดีกว่าครับ!”



“การแสดงรำในชุดเมขลา รามสูรค่ะ!”



“สู้ ๆ นะ พวกพี่เอาใจช่วยนะ แพ้ชนะไม่สำคัญ ทำให้เต็มที่พอลูก!” รุ่นพี่ต่างพากันให้กำลังใจเมื่อได้ยินเสียงประกาศเรียก



สายน้ำกับน้ำรินรับคำ ทั้งคู่ยกมือไหว้ขอพรอีกรอบตอนก่อนขึ้นเวที สายน้ำสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อีกสองรอบเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง เขาจะพยายามให้ถึงที่สุด ทำให้เต็มที่ที่สุด เพื่อไม่ให้ตัวเองผิดหวัง และไม่ให้คนที่คอยเป็นกำลังใจให้เขาต้องผิดหวังด้วย



ที่สำคัญ... สายน้ำจะต้องทำการแสดงนี้ให้ดีที่สุด เพื่อช็อกโกแลตจากใครบางคน



ใครบางคนที่แค่พูดก็ทำให้จิตใจของสายน้ำสงบลง...






[1] แต่งกายยืนเครื่อง คือ การแต่งกายชนิดเต็มรูปแบบ ซึ่งเลียนแบบมาจากเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ คำว่า “ยืนเครื่อง” เป็นคำโบราณที่ใช้เรียกตัวละครเอกที่แต่งกายด้วยเครื่องละครครบชุดเพียงคนเดียว

[2] ผ้ายก คือ ผ้าที่มีการทอโดยการเพิ่มลวดลายในเนื้อผ้าให้พิเศษขึ้น ทำให้เป็นลวดลายนูนขึ้นจากผืนผ้า ถ้าทอยกด้วยไหมจะเรียก ยกไหม ถ้าทอยกด้วยเส้นทองจะเรียก ยกทอง ถ้าทอยกด้วยเส้นเงินจะเรียก ยกเงิน






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

รอบนี้อัปช้าหน่อย เพราะตอนนี้แต่งยากมากเลยค่ะ
รายละเอียดค่อนข้างเยอะ หาข้อมูลค่อนข้างเยอะพอสมควรเลย
แต่งนิยายเรื่องนี้คือต้องอยู่หน้าคอมฯ อย่างเดียวไม่งั้นแต่งไม่ได้เลย แต่งไป เปิดข้อมูลดูไป
ทั้งเว็บไซต์ ทั้งวีดิโอ ทั้งวิจัย คือเยอะไปหมดเลยค่ะ
แต่งยากจริง ๆ เลย
ฟางก็หวังว่าทุกคนจะชอบ อ่านแล้วเข้าใจ อย่างน้อยก็ขอให้เข้าใจบ้างก็พอค่ะ
ไม่แน่ใจว่าคำหรือประโยคที่มันแปร่ง ๆ หรือเปล่า เพราะความรู้ด้านนี้ไม่มีจริง ๆ
อาศัยสอบถาม กับ อ่าน คิด วิเคราะห์ เอา บางส่วน บางช่วง บางตอน เลยอาจจะแปลก ๆ ไปบ้างนะคะ
ต้องขอโทษไว้ก่อนเลยค่ะ แล้วก็สามารถให้ข้อมูลฟางเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
ถ้าหากมีข้อมูลส่วนไหนที่ฟางใส่ลงไปแล้วมันผิด
เนี่ย... มันแต่งยากขนาดนี้อ่ะ
ฟางขออย่างเดียวค่ะ
ขอคอมเมนต์ กำลังใจหน่อยเนอะ ขอแค่นี้แหละค่ะ

ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-03-2019 00:16:00
พี่เอาช็อคโกแลตมาให้กำลังใจน้องด้วย ดีต่อใจ น้องต้องทำออกมาได้ดีแน่  o18

อยากเห็นภาพน้องสายน้ำในชุดรามสูรจริงๆ เลย.
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-03-2019 00:32:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-03-2019 00:36:42
รำเสร็จ ได้ช็อคเป็นกระบุง ๆ จากพี่หินชัวส์ ว่าแต่ว่า แบ่งให้หน่อยซิ อยากกินเหมือนกัน  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-03-2019 00:45:09
 :3123: :pig4: :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 19-03-2019 08:59:31
อยากเห็นน้องจังว่าจะสวยหล่อแค่ไหน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 19-03-2019 12:28:49
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 19-03-2019 14:24:22
อยากเห็นทั้งคู่รำประกวดจังเลย ต้องน่าตื่นตาตื่นใจมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-03-2019 15:40:25
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-03-2019 22:41:58
ยอมมมม
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [70%] l P.6 18-03-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-03-2019 15:26:12
ได้ช็อคโกแลตเพิ่มแน่นอนสายน้ำ ทำได้!!!
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 01-04-2019 22:22:15
(https://i.imgur.com/OnYHlTl.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “4”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖







เสียงเพลงของวงปี่พาทย์ดังขึ้นเป็นการเปิดการแสดง น้ำรินเดินซอยเท้าออกจากด้านหลังเวทีไปด้านหน้าพร้อมกับร่ายรำไปตามจังหวะเพลงด้วยท่วงท่าที่อ่อนช้อยและงดงาม มือข้างขวาของน้ำรินถือลูกแก้วซึ่งก็หมายถึงแก้วมณีหรือแก้ววิเศษตามวรรณคดี น้ำรินรำย้ำเท้าไปข้างเวทีก่อนที่สายน้ำจะเดินออกมาเมื่อถึงจังหวะ ในมือถือขวาน ขายกขึ้นก่อนจะกระทบเท้าลงกับพื้นเป็นจังหวะ มือขยับโบกไปมา สลับข้างซ้ายขวา เป็นการรำในเชิงแสดงอิทธิฤทธิ์ ท่วงท่าสง่างาม มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว หมุนตัวไปทางซ้ายและขวา ในระหว่างที่รามสูรกำลังร่ายรำอยู่นั้น เมขลาก็ยืนตั้งวงอยู่ข้างเวที



เมื่อนั้น นวลนางเมขลามารศรี
เลี้ยวล่อรามสูรอสุรี กรโยนมณีจินดา



เมขลาหรือน้ำรินย้ำเท้าอ้อมรามสูรหรือสายน้ำมาทางด้านขวาแทนตำแหน่งเดิม มือก็ปรับเปลี่ยนไปตามท่ารำ จากเอียงขวามาเอียงซ้าย



ทำทีประหนึ่งจะให้แก้ว กรอกแสงพรายแพรวบนหัตถา
ครั้นรามสูรไล่เลี้ยวมา กัลยารำล่ออสุรี



เมขลาโยนดวงแก้วมณีหลอกล่อรามสูร ซึ่งรามสูรจะรำรับบทกับเมขลาด้วยท่วงท่าการไล่ตามเพื่อแย่งชิงดวงแก้มมณี



นางแกล้งเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน เวียนไปตามจักราศี



ท่วงท่าในการรำของเมขลานั้นจะเป็นในเชิงการหลบหลีก หลอกล่อ ยั่วยวน เยาะเย้ยรามสูรให้เข้ามาแย่งชิงดวงแก้วมณี ส่วนท่ารำของรามสูรนั้นจะเป็นท่าโลดไล่ติดตามเมขลา รวมไปถึงท่วงท่าที่แสดงถึงความโกรธเคืองที่มีต่อเมขลา



ทั้งคู่รำรับกันได้อย่างลงตัว จังหวะก้าวย่ำสอดคล้องต่อเนื่องกัน รุกไล่อย่างสวยงาม อ่อนช้อยและแข็งแรงสมบทบาท



มือหนึ่งชูดวงมณี ทำทีเยาะเย้ยกุมภัณฑ์



เมขลาร่ายรำท่าเยาะเย้ยรามสูรที่ไม่สามารถแย่งดวงแก้วมณีไปได้ ซึ่งรามสูรก็ตีบทโดยการใช้ท่ากระทืบเท้า ตวัดมือ ฟาดนิ้วเพื่อแสดงอารมณ์โกรธขึงที่ไม่สามรถแย่งดวงแก้วมณีมาจากเมขลาได้



รามสูรโยนขวานในลักษณะแนวนอนขนานไปกับพื้น หวังจะให้โดนเมขลา แต่เมขลาก็สามารถหลบหลีกขวานนั้นได้ หยอกเย้ารามสูรด้วยการโยนดวงแก้วมณีเปรียบเหมือนการเยาะเย้ย ก่อนจะซอยเท้าเข้าไปทางข้าง รามสูรร่ายรำด้วยท่าเศร้าโศกเสียใจก่อนจะไล่ตามเมขลาเข้าไปหลังเวทีพร้อม ๆ กับที่เสียงระนาดและเสียงปี่ค่อย ๆ เบาลงจนเงียบ บ่งบอกว่าการแสดงชุดนี้จบลงแล้ว



เสียงปรบมือแล้วก็เรียกร้องตะโกนเชียร์ดังลั่นทั่วหอประชุม ดังและยาวนานกว่าการแสดงของคณะอื่น ๆ ที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะการแสดงที่แตกต่างจากที่เคยเห็น อีกทั้งคนแสดงไม่ได้มาจากสาขานาฏศิลป์ด้วยแล้วเลยยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีก



“จบกันไปแล้วนะคะสำหรับการแสดงความสามารถพิเศษของดาวเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ การแสดงรำชุดเมขลา รามสูรค่ะ!”



“แล้วนี่เมขลากับรามสูรเลยหายไปไหนเลยครับ เชิญทั้งเมขลาและรามสูรด้านหน้าเวทีหน่อยครับ” พิธีกรชายพูด ก่อนที่ทั้งน้ำรินและสายน้ำจะเดินออกมาจากด้านหลังเวที



ทั้งสองคนยืนตรงกลางระหว่างพิธีกรชายหญิง ก่อนจะยกมือไหว้



“นี่พูดตรง ๆ แบบไม่ลำเอียงเลยนะ คือการแสดงชุดเมื่อกี้ดีมาก รำกันเก่งมากทั้งคู่เลยค่ะ ซ้อมกันหนักมากไหมคะเนี่ย” พิธีกรผู้หญิงถาม



“ซ้อมกันหนักมาก ๆ ค่ะ ซ้อมทุกวัน วันละหลายชั่วโมงเลยค่ะเพื่อให้การแสดงออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” น้ำรินเป็นคนตอบคำถาม



“ก็คงจะซ้อมหนักกันจริง ๆ คือตอนนี้น่ะ...” พิธีกรชายพูดบ้าง “เราเห็นหน้าเมขลาอยู่แล้วใช่ไหม สวยมาก แต่คือยังไม่เห็นหน้ารามสูรเลย รามสูรถอดเศียรให้ดูหน่อยได้ไหมครับ”



สิ้นประโยคของพิธีกรเสียงสาว ๆ ที่อยู่หน้าเวทีก็กรี๊ดรับด้วยความตื่นเต้นดีใจทันที มีหลายคนตะโกนเรียกชื่อสายน้ำด้วย



สายน้ำพยักหน้ารับคำขอนั้น ยกมือไหว้ก่อนจะถอดเศียรยักษ์ที่สวมอยู่ออกแล้วถือเอาไว้ ยิ่งเรียกเสียงตะโกนเรียกชื่อและเสียงกรี๊ดได้ดียิ่งขึ้น



หลังจากพูดคุยกันเสร็จสายน้ำกับน้ำรินก็เดินกลับไปหลังเวทีตามเดิม เข้าไปสวมกอดรุ่นพี่ที่ยืนรออยู่ด้านหลังด้วยความดีใจ



“เก่งมากเลย เก่งสุด ๆ เลย แสดงกันได้ดีมาก” แซนดี้กอดสายน้ำแล้วเอ่ยชมไม่ขาดปาก



พวกเขาได้ยืนดูอยู่ด้านหลังเวที แม้จะเห็นไม่ชัดเท่าด้านหน้าแต่แซนดี้ก็สามารถรับรู้ได้ว่ารุ่นน้องของเขาเต็มที่กับการแสดงในครั้งนี้ ในรอบนี้มาก ๆ



“ไป ๆ ทั้งสองคนไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะได้เอาชฎากับเศียรไปคืนด้วย”



สายน้ำกับน้ำรินเลยแยกกันไปเปลี่ยนชุดกลับมาใส่ชุดนักศึกษาตามเดิม ก่อนที่จะนำชุดที่ใส่ในการแสดงกลับไปคืนที่ห้องชมรมนาฏศิลป์



หลังจากแสดงความสามารถพิเศษครบทุกคณะแล้ว พวกเขาเหล่าดาวเดือนก็เดินขึ้นไปบนเวทีอีกรอบ ซึ่งในรอบต่อไปจะเป็นรอบการโหวตรอบขวัญใจมหาชน ซึ่งกติกาก็ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อนอะไร นับคะแนนจากดอกกุหลาบที่คนดูจะเอามามอบให้ เอาไปรวมกับคะแนนยอดไลท์และยอดแชร์ในเพจเฟซบุ๊ก



สายน้ำกับน้ำรินรวมไปถึงดาวเดือนคณะอื่น ๆ ขยับไปชิดขอบเวทีเพื่อรับดอกกุหลาบจากคนอื่น ๆ ที่เดินมามอบให้ สายน้ำไม่คิดว่าตัวเองจะได้ดอกกุหลาบเยอะขนาดนี้ มองทางซ้าย ทางขวาก็ได้เยอะไม่ต่างกัน เจ้าตัวฉีกยิ้มพูดขอบคุณกับสาว ๆ ที่ยื่นดอกกุหลาบสีแดงให้ดอกแล้วดอกเล่า



“ขอบคุณนะครับ”



“ขอบคุณครับ”



“ขอบคุณมากครับ”



“ทุกคน...” สายน้ำยิ้มกว้างเมื่อเห็นเพื่อนในกลุ่มรวมไปถึงเพื่อนร่วมชั้นปีเดินถือดอกกุหลาบมาทางเขากับน้ำริน ในมือแต่ละคนมีดอกกุหลาบคนละสองดอก



“เมื่อกี้มึงรำสวยมาก การแสดงของมึงคือดีสุดยอดอ่ะ น้ำรินก็ด้วย สวยมากเลย” แบงก์เอ่ยชมเพื่อนตัวเองก่อนจะหันไปชมน้ำรินที่ย่อตัวรับดอกกุหลาบอยู่ข้าง ๆ สายน้ำ



“ขอบคุณมากนะ” น้ำรินยิ้มรับ



“จริง การแสดงคือสุดจริง เก่งกันทั้งคู่เลย”



“ขอบคุณพวกมึงมาก” สายน้ำรับดอกกุหลาบจากเพื่อน ๆ ก่อนจะหันไปรับดอกกุหลาบจากคนอื่นต่อ



“น้องสายน้ำ น้องน้ำริน ดอกไม้ค่ะ” แซนดี้แวนดี้เองก็ออกมาจากหลังเวทีเพื่อเอาดอกกุหลาบมาให้เหมือนกัน ด้านหลังเป็นกรกับบาร์บี้ แก้มแล้วก็... หินผา



ทุกคนเดินเอาดอกกุหลาบมาให้พวกเขา สายน้ำได้แต่ยิ้มแล้วก็พูดขอบคุณจนกระทั่งคนที่ยืนอยู่ด้านหลังจะเดินมาใกล้ อีกฝ่ายยื่นดอกกุหลาบให้กับน้ำรินแล้วจึงหันมาหาเขา



อยู่ ๆ หัวใจของสายน้ำก็พลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ดอกกุหลาบดอกโตอีกหนึ่งดอกในมือของหินผา



“ดอกไม้” หินผายื่นมือออกมาเพื่อส่งดอกกุหลาบในมือให้กับสาบน้ำ “การแสดงเมื่อกี้ทำได้ดีมาก ๆ เลยนะ สวยงามแล้วก็ลงตัวมากเลย”



“ขอบคุณครับ” สายน้ำยื่นมือออกมารับดอกกุหลาบดอกนั้นพร้อมกับยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แตกต่างจากตอนยิ้มให้คนอื่น ๆ หรือแม้แต่ตอนยิ้มให้เพื่อน เพราะตอนยิ้มให้เพื่อนดวงตาของสายน้ำไม่ได้สุกสกาวขนาดนี้ “ผมทำเต็มที่มากเลยนะ”



“พี่รู้ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเราพยายามอย่างมาก ตั้งใจมาก มันถึงได้ออกมาดีแบบนี้”



สายน้ำเม้มปากอย่างพยายามกลั้นยิ้มดีใจ แต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้ผลสักเท่าไหร่เพราะดวงตาคู่นั้นเป็นประกายวาวบ่งบอกถึงความสุขไปแล้ว “ถ... ถ้าอย่างนั้นพี่ห้ามลืมช็อกโกแลตผมด้วย”



หินผาหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนั้น นึกอยากจะจับคนตรงหน้ามาขยี้ผมให้ยุ่งฟูไปหมดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะอีกฝ่ายกำลังประกวดดาวเดือนอยู่หินผาเลยต้องเก็บมือของตัวเองเข้ากระเป๋าไปทั้งสองข้าง



“ได้ พี่ไม่ลืมอยู่แล้ว เตรียมหารถมาเข็นช็อกโกแลตกลับบ้านเลย”



“ครับผม” สายน้ำยิ้มกว้างอีกรอบ ก่อนจะยืดตัวขึ้นเมื่อได้ยินเสียงพิธีกรบอกหมดเวลา



เจ้าตัวหันไปส่งดอกกุหลาบในมือให้กับทีมงานที่ขึ้นมารับไปเพื่อนำไปนับคะแนน “ขอโทษนะครับ ดอกกุหลาบพวกนี้นับเสร็จแล้วยังไงต่อเหรอ” สายน้ำกระซิบถามทีมงาน



“ก็แยกเอาไว้ให้ค่ะ จะเอากลับไปก็ได้ค่ะ” อีกฝ่ายตอบกลับมา



“ออ... ขอบคุณครับ” สายน้ำยิ้มก้มมองดอกกุหลาบทั้งหมดอีกรอบแล้วจึงเดินกลับไปยืนในตำแหน่งเดิมข้าง ๆ น้ำริน



พยายามจำลักษณะของดอกกุหลาบที่หินผาให้มาเอาไว้ ดอกกุหลาบแต่ละดอกจะมีริบบิ้นผูกเอาไว้ หลายสีคละกันไป ส่วนกุหลาบดอกที่หินผาให้... สายน้ำแอบดึงริบบิ้นออกไปแล้ว คิดแล้วก็ยิ้มขำกับการกระทำของตัวเอง



บ้าบอจริง ๆ สายน้ำ... ก็แค่ดอกกุหลาบที่พี่เขาให้ตามมารยาทเท่านั้นเอง



มาดูเขาประกวดแล้วจะไม่ให้เลยก็คงจะน่าเกลียดเกินไป ที่เขาให้ไม่ได้มีความหมายอะไรแอบแฝงเลยสักนิด แต่ตัวเขาเองนี่แหละ... ที่คิดแอบแฝงในดอกกุหลาบที่หินผาให้มา







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

กลับมาแล้วค่ะ หายไปนานรอบนี้ พอดีที่บ้านมีงานน่ะค่ะฟางเลยไม่ได้มาอัป
น่าจะพอทราบกันจากทางหน้าเพจแล้วเนอะ
ยุ่ง ๆ กับงานที่บ้านมากค่ะ นี่ก็เพิ่งจะเสร็จงานเรียบร้อยไปเองถึงได้มาอัปได้
ตอนนี้นี่... ยากจริงจัง ยากตั้งแต่ต้นจนจบตอนเลย
ไม่รู้ว่าพอจะมองภาพกันออกไหม ไม่อยากลงรายละเอียดมากไป
เพราะฟางเองก็ไม่ค่อยรู้กลัวจะยิ่งทำให้อ่านไม่เข้าใจ
แต่ถ้าไม่มีอธิบายท่ารำเลยก็ดูจะไม่อิน คิดว่าขนาดนี้น่าจะกำลังพอดี ๆ เนอะ
น้องน่ารักนะดูสิ ดีใจใหญ่ได้ดอกไม้จากพี่ด้วย
มีการแอบดึงริบบิ้นออกจะได้จำได้ว่าดอกไหนของพี่
โอ๊ยตายแล้ว ยัยหนู! ทำไมน่ารักแบบนี้
ตอนนี้น้องคือลูกรักค่ะ ทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมดเลยลูกกกกก 55555

ฝากคอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียน ยัยน้อง แล้วก็ตาพี่ด้วยนะคะ
ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-04-2019 22:38:30
 :katai2-1: o13 :katai2-1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-04-2019 22:39:00
เอ๊ะ

หรือพี่หินชองเรา

จะแอบเล็ง

น้องสายน้ำ

ของเราเช่นกัน

แต่อิพี่มาสายซึนไง

เลยเข้าหาน้องแบบมึนๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-04-2019 23:02:18
รอช็อคฯ ส่วนแบ่ง อย่าลืมนะ ขอกินอยู่  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 01-04-2019 23:25:37
หินผานี่ทำมึนๆ เนียนๆ ไปเนาะ  น้องไม่รู้หรอก น้องก็ฮึบเก็บอากาาจะแย่  :-[ เขิน

ชอบตอนรำมากเลย นึกภาพออกละ ต้องสวยมากๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 02-04-2019 00:31:59
 o13 o13
จะเก็บช็อคโกแลตที่เขาให้มายังไงน้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-04-2019 01:04:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 02-04-2019 08:47:47
จะต้องเป็นดอกกุหลาบแห่งความทรงจำที่ดีของสายน้ำแน่ๆ เลย แล้วถ้าวันข้างหน้าหินผาได้รู้ว่าสายน้ำเก็บกุหลาบดอกนี้ไว้คงจะโรแมนติกน่าดูเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-04-2019 09:24:10
หึหึ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 02-04-2019 17:54:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 02-04-2019 18:15:04
แอบคิดว่าหินผาต้องรู้สึกดีๆกับน้องบ้างล่ะนะ  :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 02-04-2019 20:51:07
อ๊ายยยยยยสายน้ำลูกกกกก
แอบจิ้นว่าพี่เองก็เอ็นดูน้องมากกกกได้ไหม
มีแอบอยากยีหัวน้องด้วย อ๋อยยยย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-04-2019 23:33:58
พี่มีความเอ็นดูน้อง น้องก็เนียนเล็งกุหลาบที่พี่เอามาให้.  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-04-2019 00:49:33
 :katai2-1:
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 03-04-2019 17:13:32
หินผา​ชอบ​น้อใช่​ป่าว​  :mew3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 04-04-2019 05:31:45
รักมานาน มาตามหาเจอแบบนี้ อย่าปล่อยให้หลุดลอยค่ะ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสายน้ำถึงได้รู้สึกเพิ่มขึ้น ทั้งที่หวังแค่อยากเจอ

หินผาเก็บไม้เก็บมือไว้น่ะถูกแล้ว จะมาเอ็นดูน้องอะไรตอนประกวด 5555

ชอบความออกอาการของสายน้ำ คือแก้มแตกไปแล้วจ้า
คืนนี้นอนหลับไหมไม่รู้ แต่ที่รู้คือ ได้ดอกกุหลาบกลับไปแน่นอน
เผลอๆ มีคนรอไปส่งกลับห้องด้วยก็ได้




หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 04-04-2019 17:47:49
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "4" [100%] l P.6 01-04-2562
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 18-04-2019 14:21:44
 :mew3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 10-05-2019 22:04:27
(https://i.ibb.co/d6R1Rr4/05.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “5”







“เอาล่ะค่ะ ต่อไปจะเป็นการประกาศผลรางวัลขวัญใจมหาชน กับรางวัลการแสดงความสามารถพิเศษยอดเยี่ยมกันนะคะ” พิธีกรผู้หญิงพูดขึ้น หลังจากการแสดงวงดนตรีของมหาวิทยาลัยจบลง ซึ่งทางทีมงานใช้ช่วงเวลานั้นในการนับคะแนนจากดอกกุหลาบที่เหล่าดาว เดือน ได้รับจากคนดู



“ใช่แล้วครับ... ซึ่งเราจะเริ่มจากรางวัลขวัญใจมหาชนกันก่อนครับ ทางทีมงานกระซิบบอกมาว่าคะแนนแต่ละคนสูสีกันมากเลยทีเดียว ชนะกันไปเพียงไม่กี่คะแนนเท่านั้นเองครับ” เป็นพิธีกรผู้ชายพูดบ้าง “เอาล่ะครับ... ผมจะขอประกาศผลของฝั่งดาวก่อนนะครับ ดาวที่ได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนได้แก่...!”



เสียงซาวน์ดนตรีดังขึ้นยิ่งทำให้ลุ้นมากยิ่งขึ้น หลายคนตะโกนชื่อคนที่ตัวเองเชียร์ออกมา



“ได้แก่...! น้อง... น้องน้ำริน ภัณฑิลา เสริมรุ่งเรือง จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ครับ!”



น้ำรินถึงกับตาโตตอนที่ได้ยิน เจ้าตัวหันมามองสายน้ำที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินนั้นถูกต้องหรือเปล่า



สายน้ำพยักหน้าให้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าตัวนั่นแหละที่ได้รับรางวัลนี้ พอเห็นแบบนั้นน้ำรินจึงเดินออกจากหน้าเวทีเพื่อรับสายสะพายสำหรับตำแหน่งดาวขวัญใจมหาชน ก่อนจะเดินกลับมายืนตำแหน่งเดิมข้างสายน้ำ รางวัลนี้มีคนได้รางวัลทั้งหมดสี่คน ดาวเดือนอย่างละสองคน ซึ่งดาวประกาศผลไปหมดแล้ว และเดือนขวัญใจมหาชนก็กำลังประกาศผล



“เอาล่ะค่ะ... มาถึงรางวัลสุดท้ายของขวัญใจมหาชนนะคะ เดือนคนสุดท้ายที่ได้รับรางวัลนี้ได้แก่...!” พิธีกรผู้หญิงเป็นคนประกาศผล



“ได้แก่...! น้องสายน้ำ ธารา วิลกินสัน จากคณะสถาปัตยกรรมสาสตร์ค่า!!!”



“โอ้โห คณะนี้ได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนทั้งดาวและเดือนเลยนะครับเนี่ย”



“เชิญน้องสายน้ำเลยค่ะ”



“น้ำ ออกไปสิ” น้ำรินหันมาสะกิดคนข้าง ๆ ที่ยังยืนงงอยู่กับที่



“อ่ะ อ่า...” เจ้าตัวสะดุ้งนิด ๆ พยักหน้ารับกับน้ำรินแล้วจึงเดินออกไปข้างหน้าเวที



เจ้าตัวยกมือไหว้ขอบคุณอาจารย์ที่ขึ้นมามอบสายสะพายให้ หันมายิ้มให้กับคนดูหน้าเวทีแล้วจึงเดินกลับไปที่แถวตามเดิม



“เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับการประกาศผลรางวัลขวัญใจมหาชน ต่อไปจะเป็นการประกาศผลรางวัลการแสดงความสามารถยอดเยี่ยมนะคะ” พิธีกรผู้หญิงพูดต่อหลังจากที่การประกาศผลรางวัลขวัญใจมหาชนเสร็จเรียบร้อยแล้ว



“ใช่ครับ ซึ่งรางวัลนี้จะแบ่งประเภทเป็นการแสดงเดี่ยวดาวและเดือน และการแสดงคู่นะครับ” พิธีกรผู้ชายพูดต่อ “สำหรับรางวัลแรก รางวัลการแสดงความสามารถยอดเยี่ยมประเภทการแสดงเดี่ยวดาว ได้แก่...”



คณะที่ได้รางวัลนี้ไปเป็นของคณะดุริยางคศิลป์ที่แสดงเล่นไวโอลินได้สวยงามแล้วก็ไพเราะ ส่วนการแสดงเดี่ยวของเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ไป เป็นการแสดงร้องเพลงพร้อมกับเล่นกีตาร์ไปด้วย แต่เสียงและการสื่ออารมณ์ของเพลงนั้นดีเยี่ยมจนใคร ๆ ต่างก็ต้องปรบมือให้



“และรางวัลสุดท้ายของการแสดงความสามารถยอดเยี่ยมประเภทการแสดงคู่นะครับ... ได้แก่...”



“น้องน้ำริน ภัณฑิลา เสริมรุ่งเรือง และ น้องสายน้ำ ธารา วิลกินสัน จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ค่ะ!!”



เจ้าของชื่อทั้งสองคนหันมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาแล้วเดินคู่กันไปด้านหน้าเวทีเพื่อรับสายสะพาย เท่ากับว่าตอนนี้ดาวเดือนของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ได้มาแล้วคนละสองรางวัล เป็นอะไรที่เกินความคาดหมายสำหรับพวกเขามาก



การประกวดดาวเดือนยังคงดำเนินต่อไป จากนี้จะเป็นการประกาศดาวเดือนอย่างละห้าคนให้เข้าไปในรอบตอบคำถาม แล้วจึงจะประกาศผลดาวเดือนมหาวิทยาลัยอีกที



ทั้งน้ำรินและสายน้ำเองก็ได้เข้าไปสู่รอบตอบคำถาม โดยที่เจ้าตัวยังไม่แน่ใจเลยว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นถูกต้องหรือเปล่า



สายน้ำเดินไปหน้าเวทีเมื่อพิธีกรประกาศเรียกชื่อของเขาให้มาตอบคำถาม เจ้าตัวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อระงับความตื่นเต้น



“เนื่องจากว่าน้องสายน้ำเป็นคนสุดท้าย ก็ไม่ต้องเลือกหมายเลขคำถามเนอะ เหลือเลขสุดท้ายแล้ว” พิธีกรผู้หญิงชูกระดาษคำถามให้ดู ก่อนจะคลี่กระดาษออกแล้วอ่านคำถามที่ถูกพิมพ์อยู่บนนั้น คำถามสำหรับผู้เข้าประกวดดาวเดือน “คำถามของน้องสายน้ำคือ... คุณคิดว่าการทำความดีคืออะไร”



“ขอบคุณครับ” สายน้ำรับไมโครโฟนจากพิธีกรที่ยื่นมาให้ “สำหรับผม... การทำความดีมีหลากหลายรูปแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นการประพฤติตนที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดี หรือการมีความคิดที่ดี ผมก็เชื่อว่านั่นคือการทำความดี สำหรับผมแล้วการทำความดีไม่จำเป็นจะต้องเป็นการทำที่ยิ่งใหญ่ เพียงแค่เริ่มจากที่ตัวเราเองเท่านั้นครับ เราคิดดี ทำดี ไม่คิดร้าย ไม่ทำร้ายผู้อื่นผมเชื่อว่านั่นก็คือการทำความดีอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกันครับ”



“ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ ตอนนี้รอบตอบคำถามก็เรียบร้อยแล้วนะคะ ต่อไปคณะกรรมการจะให้คะแนนเพื่อตัดสินว่าใครคือดาวและเดือนของมหาวิทยาลัยในปีการศึกษานี้นะคะ”



“ซึ่งระหว่างรอผลคะแนนอยู่นั้น วงดนตรีวงถัดไปก็พร้อมอยู่แล้วครับ ไปสนุกกันก่อนแล้วกลับมาลุ้นกันว่าใครจะได้เป็นดาวเดือนประจำปีนี้ครับ”



เหล่าผู้ประกวดดาวเดือนต่างก็พากันเดินกลับไปที่หลังเวที ก่อนที่วงดนตรีของมหาวิทยาลัยอีกวงจะขึ้นแสดงเพลง คั่นเวลาระหว่างรอผลคะแนน สายน้ำกับน้ำรินนั่งคุยอยู่กับแซนดี้แวนดี้ พอมาถึงรอบนี้แล้วทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงมากเพราะการประกวดใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว



“พี่มั่นใจมากว่าตำแหน่งดาวเดือนมหา’ลัยปีนี้ต้องเป็นของพวกหนูสองคนแน่นอน” แซนดี้พยักหน้ายืนยันกับความคิดของตัวเอง มีแวนดี้สนับสนุนอีกเสียง



“ใช่ลูก เชื่อพี่ได้เลย”



“ได้ ไม่ได้ ก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ได้รางวัลขวัญใจมหาชนมานี่ผมยังแปลกใจเลย” สายน้ำจับสายที่คล้องไหล่ตัวเองพร้อมกับหัวเราะ เพราะมันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายจริง ๆ



“ใช่ค่ะ ตอนประกาศว่ารินได้รางวัลขวัญใจมหาชนรินยังไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ นึกว่าหูฟาดไป” น้ำรินเองก็คิดไม่ต่างจากสายน้ำเท่าไหร่



นั่งคุยกันต่ออยู่ไม่นานก็ต้องเตรียมตัวขึ้นไปบนเวทีอีกรอบเพื่อฟังประกาศผลการประกวด ดาวเดือนของทุกคณะเดินเรียงแถวกันไป ก่อนที่ดาวเดือนทั้งสิบคนที่ผ่านเข้ามาในรอบตอบคำถามจะเดินมาเข้าแถวด้านหน้าเวทีโดนยืนแยกฝั่งดาวและเดือน



“การประกวดดาวเดือนของเราก็ดำเนินมาจนถึงการประกาศรางวัลสุดท้ายกันแล้วนะครับ อีกไม่กี่ข้างหน้าเราจะได้รู้กันแล้วว่าในสิบคนนี้ใครจะได้เป็นดาวเดือนมหาวิทยาลัยประจำปีการศึกษานี้นะครับ”



“ใช่แล้วค่ะ บอกเลยว่าลุ้นมาก ๆ แต่ละคนที่เข้ามาถึงรอบนี้ได้นี่ไม่ธรรมดากันเลยสักคนเดียว แอบอยากเปิดชื่อดูเลยค่ะว่าใครจะได้รางวัลไป”



“ครับผม สำหรับรางวัลดาวมหาวิทยาลัยปีนี้...” พิธีกรผู้ชายเว้นระยะในการพูดเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับคนลุ้นทั้งตัวผู้เข้าประกวดเองแล้วก็คนเชียร์ที่อยู่ด้านล่างเวที “ได้แก่... น้องน้ำริน ภัณฑิลา เสริมรุ่งเรือง จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ครับผม!! ขอแสดงความยินดีกับน้องน้ำรินด้วยนะครับ”



น้ำรินตาโตด้วยความตกใจ ส่วนคนที่คอยเชียร์อยู่ด้านล่างต่างพากันร้องเชียร์ด้วยความดีใจ น้ำรินเดินออกมายืนด้านหน้าซึ่งมีรุ่นพี่ดาวเดือนปีที่แล้วรอมอบสายสะพายให้ เจ้าตัวยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะหันมาโบกมือให้กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ยังส่งเสียงเชียร์ไม่หยุด



“เอาล่ะค่ะ ต่อไปเป็นรางวัลของเดือนมหาวิทยาลัยปีนี้นะคะ น่าตื่นเต้นมากจริง ๆ ค่ะว่าใครจะได้ไป”



เสียงตะโกนชื่อคนที่เชียร์ดังขึ้นเรื่อย ๆ สายน้ำเหมือนจะได้ยินชื่อตัวเองด้วย เจ้าตัวเลยได้แต่ยิ้มขอบคุณไปให้ ก่อนจะหันกลับมาสนใจการประกาศผลต่อ



“เดือนมหาวิทยาลัยปีนี้ได้แก่... น้องสายน้ำ ธารา วิลกินสัน จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ค่ะ!! ขอแสดงความยินดีกับน้องสายน้ำด้วยนะคะ”



“ปีนี้คณะสถาปัตย์มาแรงจริง ๆ นะครับ กวาดรางวัลไปเพียบเลย แต่เราก็ยอมรับว่าดีจริง ๆ เลย เชิญน้องสายน้ำมาเลยครับ”



สายน้ำได้แต่เดินงง ๆ ออกไปด้านหน้าเพื่อรับสายสะพายจากรุ่นพี่เดือนมหาวิทยาลัยปีที่แล้ว ยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะเดินกลับไปยืนที่เดิม



การประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยสิ้นสุดลงแล้ว เหล่าดาวเดือนทยอยเดินลงจากเวที แซนดี้แวนดี้รีบวิ่งเข้ามาหาน้ำรินกับสายน้ำทันทีที่เห็นดาวเดือนมหาวิทยาลัยปีปัจจุบันเดินลงบันไดมา



“พี่กรี๊ดสุดเสียงมากตอนที่เขาประกาศว่าพวกเราได้ตำแหน่ง” แซนดี้ยกมือบีบแก้มสายน้ำกับน้ำรินด้วยความเอ็นดู “เก่งสุด ๆ เลย ทั้งคู่เลย พวกพี่ภูมิใจในตัวพวกหนูทั้งสองคนมากเลย”



“ใช่เลยลูก เก่งมาก ๆ เก่งที่สุดเลย” แวนดี้เข้ามากอดทั้งสองคน ก่อนที่บาร์บี้กับกรจะเดินเข้ามาแสดงความยินดีด้วย รวมไปถึงเพื่อนประกวดดาวเดือนคนอื่น ๆ ด้วย



สายน้ำกับน้ำรินได้แต่พูดขอบคุณทุกคนไม่หยุด ยิ้มรับ ไฮทัชกับเพื่อน ๆ ดาวเดือนคนอื่น จังหวะนั้นก็ใช้สายตาสอดส่องไปรอบ ๆ ห้องเพื่อมองหาใครบางคน แต่ก็ไม่เห็นเลย ที่จริง... หลังจากตอนให้ดอกกุหลาบแล้ว สายน้ำก็ไม่เห็นหินผาเลย ใจที่มันฟูฟ่องเพราะได้รางวัลค่อย ๆ ฟีบลง



“พี่อยากพาพวกหนูไปเลี้ยงฉลองมาก แต่ก็รู้ว่าพวกหนูคงอยากจะพักกันมากกว่า อย่างนั้นเอาไว้วันหลังเนอะ เดี๋ยวเรานัดกันใหม่” แซนดี้พูดกับทั้งสองคนระหว่างช่วยเก็บของให้



“ได้ค่ะ” น้ำรินตอบรับไป ส่วนสายน้ำก็แค่พยักหน้ารับ



“สายน้ำจะเอาดอกกุหลาบกลับไหม น้ำรินด้วย ที่ได้มาทางกองเอาแยกเอาไว้ให้แล้วตรงนู้นน่ะ” แวนดี้ชี้นิ้วไปที่โต๊ะมุมห้องที่บนนั้นมีกองดอกกุหลายวางอยู่เต็มไปหมด



“ครับ” สายน้ำรับคำก่อนจะรีบเดินมาที่โต๊ะโดยมีน้ำรินเดินตามมา เขากวาดสายตามองหาชื่อของตัวเอง ดอกกุหลาบกองโตที่ก้านยังคงมีริบบิ้นสี ๆ ผูกเอาไว้อยู่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ ที่เขาสนใจคือกุหลาบดอกที่ไม่มีริบบิ้นติดอยู่ต่างหาก



เกือบจะหน้าเสียไปแล้วเมื่อไม่เห็น แต่ก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก มันวางอยู่ข้าง ๆ กัน



“ดอกนี้พี่ไม่ได้เอามาคิดคะแนนนะ เพราะมันไม่มีริบบิ้น พี่เลยแยกเอาไว้ให้จ้า” รุ่นพี่ในกองประกวดที่เป็นคนนับคะแนนเห็นสายน้ำหยิบกุหลาบดอกที่ว่าขึ้นมาก็หันมาพูด



“ครับ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ” สายน้ำยิ้มขอบคุณก่อนจะหอบดอกกุหลาบทั้งหมดขึ้นมาในอ้อมแขน เขาเดินกลับไปหารุ่นพี่อีกรอบก่อนจะพากันเดินออกจากหอประชุมไป สายน้ำยกมือไหว้ทุกคนก่อนจะแยกตัวมาเพราะแบงก์กับตั้มรอรับเขาอยู่แล้ว



“ไง พ่อเดือนมหา’ลัย” ทันทีที่เดินมาถึงตั้มก็เอ่ยแซวทันที



สายน้ำหัวเราะ “ขอบใจ ป่ะ... กลับกันเถอะ”



“เค ดอกไม้มึงไว้หลังรถก่อนก็ได้” แบงก์เดินไปเปิดท้ายรถให้เพื่อให้สายน้ำเอาดอกกุหลาบไปเก็บ ก่อนที่พวกเขาจะพากันกลับคอนโดเพื่อพักผ่อน







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

กลับมาแล้วค่า หลังจากหายหน้าหายตาไปเป็นเดือน
ฟางไปทำโปรเจคมาค่าเพิ่งเสร็จเรียบร้อยเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาก็เลยเพิ่งได้มาอัปจ้า
จากนี้ฟางจะพยายามมาอัปให้เป็นประจำที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ

สำหรับตอนนี้ขอแสดงความยินดีกับน้องสายน้ำ เดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดด้วยจ้า
เย่~ ดีใจกับน้องด้วย ส่วนตอนนี้พี่ยังไม่ค่อยได้ออก แต่รออีกไม่นานพี่จะออกเยอะขึ้นแล้วจ้า

ฝากคอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียน ยัยน้อง แล้วก็ตาพี่ด้วยนะคะ
ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 10-05-2019 22:43:16
ว้าวววววว
น้องได้เป็นเดือนมหา'ลัยด้วย
เก่งมากก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 10-05-2019 22:54:01
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-05-2019 00:31:25
 :pig2: back

 :pig4: :pig4: :pig4:

เขาเรียกว่ากวาดทุกรางวัล  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-05-2019 02:00:06
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-05-2019 02:27:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 11-05-2019 04:25:29
 :katai5: เราตามมาแล้ว   :katai5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 11-05-2019 07:31:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-05-2019 11:12:45
ดีใจกับน้องสายน้ำ กวาดรางวัลเพียบ  :katai2-1:

แต่ตอนประกาศรางวัลสุดท้าย พี่หินผาไปไหนแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 11-05-2019 15:06:43
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-05-2019 00:13:22
ยินดีด้วยได้เป็นเดือนแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [40%] l P.7 10-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-05-2019 22:20:45
รีบมาต่อๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 17-05-2019 22:47:05
(https://i.ibb.co/d6R1Rr4/05.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “5”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





สายน้ำเดินลากขาออกจากห้องน้ำพร้อมกับเช็ดผมที่เปียกชื้นของตัวเองไปด้วย ตอนแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอได้กลับมานั่งพักที่ห้องแล้วเขารู้สึกปวดขามากจนแทบไม่อยากจะลุกเดินไปไหนเลย แต่เครื่องสำอางบนหน้าก็หนักเกินกว่าจะทนไหวเลยต้องฝืนความขี้เกียจของตัวเองเข้าไปอาบน้ำ ร่างของเดือนมหาวิทยาลัยเดินมานั่งบนโซฟาหน้าโทรทัศน์ที่เปิดช่องสารคดีทิ้งเอาไว้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะเขาได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังไม่หยุดมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว



เจ้าตัวได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ ยามมองหน้าจอโทรศัพท์ การแจ้งเตือนคนขอเพิ่มเขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กเต็มไปหมด แถมยังมีแจ้งเตือนการกดติดตามทั้งในเฟซบุ๊ก ในไอจี อีกด้วย รูปภาพหรือโพสต์ที่เขาเคยลงเอาไว้ก็มีคนมากดถูกใจ คอมเมนต์อีกนับไม่ถ้วน



เขาเลยต้องกดปิดการแจ้งเตือนเอาไว้เพราะกลัวว่าโทรศัพท์ตัวเองจะค้างเสียก่อน จากที่ทำหน้างง ๆ ก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อหน้าจอขึ้นรูปแม่ของเขาที่อยู่ต่างประเทศโทรวีดิโอเข้ามา



“แม่... สวัสดีครับ” สายน้ำรีบกดรับพร้อมยิ้มกว้างให้คนในจอ



[ครับ นี่กลับมาถึงห้องนานแล้วเหรอ]



สายน้ำพยักหน้ารับ “ครับ ถึงได้พักใหญ่แล้ว แต่น้ำเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”



[แล้วเป็นไงครับ ที่เราไปประกวดดาวเดือนน่ะ ได้รางวัลอะไรกับเขาบ้างไหมเรา] คนเป็นแม่ถาม



สายน้ำยิ้มกว้าง รีบลุกจากโซฟาไปยังห้องทำงานที่เขาเอาบรรดาสายสะพาย แล้วก็ดอกไม้เก็บเอาไว้



“น้ำได้มาตั้งสามรางวัลเห็นไหมครับ อันนี้... รางวัลขวัญใจมหาชน” สายน้ำหยิบสายสะพายขึ้นมาชูให้กับแม่ดู “อันนี้ความสามารถพิเศษยอดเยี่ยมคู่กับน้ำรินครับ แล้วก็... น้ำเป็นเดือนมหาวิทยาลัยด้วยนะ”



คนปลายสายตาโตก่อนจะยิ้มกว้าง ปรบมือให้ลูกชาย [ลูกแม่นี่เก่งจริง ๆ เลยน้า ได้มาตั้งสามรางวัลเลยนะ]



“ครับ”



[เหนื่อยเลยสิเราวันนี้]



“ครับ ก็เหนื่อยครับ น้ำตื่นเต้นมาก ๆ เลยตอนก่อนขึ้นประกวด ยิ่งตอนจะแสดงรอบความสามารถพิเศษนะครับ น้ำตื่นเต้นสุด ๆ เลย มือสั่นไปหมด พยายามทำสมาธิตามที่รุ่นพี่แนะนำก็ไม่ช่วยอะไรเลย”


[แล้วลูกชายแม่ผ่านมันมาได้ยังไงกันครับ]



“พี่หินผาครับ” สายน้ำเผลอยิ้มตอนที่พูดถึงใครอีกคน “พี่หินผามาให้กำลังใจน้ำกับน้ำรินด้วยครับ พี่เขาตลกมากเลยครับแม่ เอาช็อกโกแลตให้น้ำ แล้วก็บอกว่าแลกกัน เขาให้ช็อกโกแลตมาแล้ว น้ำก็ต้องตั้งใจทำการแสดงให้เต็มที่ แม่ดูสิครับ มีใครเขาแลกอะไรกันแบบนี้บ้าง”



แม่หัวเราะตอนที่ได้ยินสายน้ำพูด มองสีหน้าของลูกชายผ่านหน้าจอโทรศัพท์ [ลูกชายแม่นี่... รักพี่เขาจริง ๆ เลยนะ พูดไปยิ้มไปไม่หยุดเลย]



“อ่า...” สายน้ำอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อได้ยินแม่ทักมาแบบนั้น “น้ำ... น้ำ...”



[จ้า ๆ แม่รู้จ๊ะ ที่นู้นดึกมากแล้วน้ำไปนอนเถอะเดี๋ยวแม่ก็จะออกไปข้างนอกแล้ว แด๊ดฝากความคิดถึงมาหาเราด้วยนะ]



“ครับแม่ แล้วแด๊ดไปไหนแต่เช้าล่ะครับนั่น” สายน้ำถามไปถึงอีกคนที่เขาไม่เห็น



[ออกไปประชุมแต่เช้าแล้วจ๊ะ แม่ไปแล้วนะลูก เอาไว้คุยกันใหม่นะครับ]



“ครับแม่ รักแม่นะครับ” สายน้ำกดวางสายโดยที่รอยยิ้มไม่ได้หายไปจากใบหน้า รู้สึกอยากให้เวลายืดยาวออกไปนานกว่านี้ เขาจะได้คุยกับแม่นาน ๆ พอไม่ได้อยู่ใกล้กัน การคุยกันแต่ละครั้งมันเลยมีความหมายมาก ๆ เพราะมันทำให้ความคิดถึงมันลดลงได้ แม้จะเพียงแค่นิดเดียวก็ตามที



เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกรอบให้สายน้ำก้มหน้ามองโทรศัพท์เพราะคิดว่าอาจจะเป็นแม่ที่ส่งข้อความมา แต่กลับไม่ใช่... เป็นใครอีกคนที่หายไปตั้งแต่หลังให้ดอกกุหลาบเขาเสร็จ



HinPaa
ยินดีด้วยกับเดือนมหาวิทยาลัยคนใหม่




สายน้ำจ้องข้อความที่อีกคนส่งมาให้ตาไม่กระพริบ ลึก ๆ ในใจแอบนึกน้อยใจนิดหน่อยที่อีกฝ่ายไม่อยู่ตอนที่เขาลงจากเวทีหลังจากการประกวดเสร็จสิ้นลง น้อยใจที่อีกฝ่ายไม่เห็นความสำเร็จของเขาด้วยสายตาตัวเอง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักพร้อมถอนหายใจออกมา

   

สายน้ำไม่มีสิทธิ... ไม่มีสิทธิที่จะคิดน้อยใจอะไร เพราะเขากับหินผาไม่ได้เป็นอะไรกัน ที่สำคัญ สายน้ำควรจะพอใจที่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาแสดงความยินดี ไม่ควรนึกสำคัญตนไปมากกว่านี้ พอคิดได้แบบนั้นเขาก็เลยเปิดหน้าแชทเพื่อตอบข้อความกลับไป



SAINAM karp
พี่ ขอบคุณมากครับ



HinPaa
ขอโทษทีที่ไม่ได้อยู่ดูจนจบนะ พอดีพี่รีบไปทำธุระให้พี่ชาย
แต่เห็นรูปเราแล้วล่ะ ลงเต็มเฟซ เต็มไลน์ไปหมด
เก่งมากนะ




SAINAM karp
ไม่เป็นอะไรครับ แค่พี่มาเชียร์ตอนนั้นผมก็ดีใจแล้ว
ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ



HinPaa
อ่อ... พี่ไม่ได้ลืมนะ
* ส่งรูปภาพ *




สายน้ำเม้มปากเพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอยิ้มกว้างตอนที่เห็นรูปที่อีกฝ่ายส่งมาให้ เป็นภาพของช็อกโกแลตกล่องใหญ่ยี่ห้อเดียวกันกับที่เขาได้เมื่อตอนก่อนรอบแสดงความสามารถพิเศษ ที่เป็นข้อต่อรองกันระหว่างสายน้ำและหินผา ที่ว่า... ถ้าสายน้ำทำการแสดงได้ดี หินผาจะต้องให้ช็อกโกแลตกับสายน้ำอีก



SAINAM karp
ผมเตรียมท้องไว้รอกินช็อกโกแลตของพี่เลย



HinPaa
กินเยอะ ๆ ระวังอ้วนไม่รู้ด้วยนะ
ดึกแล้วไปนอนได้แล้วมั้ง เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเรา




SAINAM karp
ครับผม
งั้น... ฝันดีนะครับพี่หินผา



HinPaa
ฝันดี




อีกฝ่ายส่งกลับมาแค่นั้น และสายน้ำก็ไม่ได้ส่งอะไรตอบกลับไป แต่แค่นี้ก็ทำให้เขายิ้มได้แล้ว สายน้ำหันกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขา จัดวางดอกกุหลาบที่ได้มาตอนรอบขวัญใจมหาชนให้สวยงาม ส่วนอีกหนึ่งดอก... ที่ถูกดึงริบบิ้นออกมานั้นเขาถือเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะใช้มืออีกข้างถ่ายรูปดอกกุหลาบในมือ โดยมีพื้นหลังเป็นดอกกุหลาบอีกมากมาย



เลือกรูปที่ถ่ายไปมาแต่งสีแต่งแสงเพิ่มอีกหน่อย ก่อนจะเข้าไอจีแล้วโพสต์รูปลงไป เพราะไอจีของเขาเชื่อมต่อกับเฟซบุ๊กอยู่แล้ว และเขาเปิดสาธารณะตลอด ใคร ๆ จึงสามารถเข้ามาดูได้ตลอดเวลา เพียงแค่ลงรูปไปไม่นาน ก็มีคนเข้ามากดถูกใจ แล้วก็คอมเมนต์หลายสิบคน



สิ่งที่เกิดขึ้นค่อนข้างสร้างความแปลกใจให้กับสายน้ำไม่น้อย เพราะปกติแล้วเวลาลงรูปหรือโพสต์อะไรเพื่อน ๆ ที่เข้ามากดถูกใจเข้ามาคอมเมนต์ก็มีไม่เยอะ หรือเป็นเพราะว่าตอนนี้เขาไม่ใช่แค่นายสายน้ำ ธารา แล้ว แต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัย คนเลยเข้ามากดติดตามเขามากขึ้น



เขาโพสต์รูปพร้อมข้อความขอบคุณสำหรับกำลังใจแล้วก็คะแนนโหวตในรอบขวัญใจมหาชน แล้วก็รอบอื่น ๆ ที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยมา สายน้ำเข้าไปตอบข้อความบ้างสำหรับคนที่เป็นเพื่อนในคณะ ตอบรวม ๆ สำหรับทุกคน แล้วก็เข้าไปกดถูกใจคอมเมนต์ต่าง ๆ



จากตอนแรกที่ตั้งใจจะนอนตั้งแต่ตอนบอกฝันดีกับหินผา กลายเป็นว่า... ผ่านมาชั่วโมงกว่าเขาถึงได้เดินไปปิดไฟ แล้วขึ้นมานอนห่มผ้าอยู่บนเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกรอบก่อนจะกดปิด เพราะว่าวันนี้เหนื่อยและเพลียมาทั้งวัน หัวถึงหมอน ตาปิดลงได้ไม่เท่าไหร่ สายน้ำก็หลับสนิททันที



ซึ่งก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับไป เหมือนสายน้ำฝัน... ฝันเห็นตัวเอง แต่ไม่ใช่ตัวเองในปัจจุบัน เป็นตัวเขาเองในอดีต กำลังยืนถือดอกกุหลาบอยู่ในมือพร้อมกับยิ้มกว้าง จนคนอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ เห็นแล้วก็ต้องยิ้มตาม แต่สายน้ำไม่ได้ยินว่าตัวเองในความฝันนั้นพูดอะไร หรือพูดกับใคร แล้วทุกอย่างก็เลือนหายไป พร้อมกับที่สายน้ำเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์



Love is the flower you’ve got to let grow.

ความรักเป็นเหมือนดอกไม้ คุณต้องให้เวลามันเติบโต




กว่าเดือนมหาวิทยาลัยจะตื่นในวันหยุดถัดมาพระอาทิตย์ก็ขึ้นเหนือหัวพอดี แต่เพราะเขาปิดผ้าม่านเอาไว้แสงแดดอันร้อนแรงยามเช้าเลยไม่สามารถผ่านเข้ามารบกวนเวลานอนของสายน้ำได้ เขาจึงนอนหลับสบาย เต็มอิ่มอย่างที่ไม่ได้ทำมาตลอดเดือนก่อนที่จะมีการประกวด



เจ้าตัวนอนพลิกไปพลิกมาอย่างเกียจคร้านรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองดูดติดกับเตียงนอนจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ แต่ท้องที่กำลังร้องประท้วงอยู่ทำให้เขาต้องฝืนยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ยกมือลูบผมที่ยุ่งฟูของตัวเองให้เข้าที่ หันไปหยิบโทรศัพท์มากดดู เห็นข้อความของเพื่อนในกลุ่มทักมาชวนไปกินข้าวกลางวันกันที่ห้าง แต่นัดกันตอนบ่ายเพราะคิดว่าเขาคงยังไม่ตื่นง่าย ๆ แน่นอน ซึ่งแต่ละคนก็ตอบตกลงกันไปหมดแล้วยกเว้นแต่เขาที่ยังไม่ได้ตอบอะไร



SAINAM karp
เพิ่งตื่นเอง



รออยู่ไม่นานก็ขึ้นว่ามีคนอ่านข้อความของเขาแล้ว แบงก์ตอบกลับมาเรื่องเวลาที่นัดกัน ซึ่งยังพอมีเวลาให้เขาลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เขาจึงตอบตกลงไป ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนแบงก์กับตั้มจะนั่งรออยู่ที่ชั้นของล็อบบี้



สายน้ำเลือกหยิบเสื้อยืดสีขาวที่สกรีนลายกราฟิกรูปเสือสีดำทองมาใส่ แอบเม้มปากนิด ๆ ตอนที่นึกว่ามันเป็นเสื้อคู่ที่เคยซื้อกับหินผา ก่อนจะสะบัดหน้าเพื่อไล่ความคิดนั้นทิ้งไป หยิบกางเกงยีนส์ขายาวขาดเข่ามาสวม จับชายเสื้อด้านหน้ายัดเข้าไปในกางเกง ข้างหลังปล่อยทิ้งเอาไว้ เช็คหน้า เช็คผมตัวเองอีกนิดก็เดินไปหยิบกระเป๋าแบบคาดอกมาสะพาย ใส่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์แล้วก็คีย์การ์ดของห้องไว้ในนั้นแล้วเดินออกจากห้องไป



เขาลงไปที่ชั้นของล็อบบี้สำหรับลูกบ้านซึ่งจะอยู่ที่ชั้นเจ็ดซึ่งมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วย แต่ที่ชั้นหนึ่งก็จะมีส่วนที่เป็นล็อบบี้เหมือนกัน สำหรับคนนอกหรือคนที่เข้ามาติดต่อ เดินออกจากลิฟต์ก็เห็นสองเพื่อนซี้นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ เขาจึงเดินเข้าไปทัก



“แหม... ไปกินข้าวแค่นี้จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้เลยเหรอ” แบงก์เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถามออกมา



“หือ... ตรงไหนกัน” คนโดนแซวทำหน้างง ก้มมองชุดที่ตัวเองใส่ก็ปกติ เขาไม่ได้แต่งหน้าหรือเซ็ตผมอะไรเลยด้วยซ้ำ “ก็ปกตินะ”



“อ่อ ๆ กูลืมไป ราศีเดือนมหา’ลัยมันจับว่ะ” แบงก์หัวเราะชอบใจกับคำพูดของตัวเอง แซวกันพอสนุกก็พากันเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปชั้นที่จอดรถ เพื่อตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าตามที่นัดกันกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม



ใช้เวลาไม่นานรถของตั้มก็เลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็ได้ สายน้ำโทรหาสองสาวเบล กับมะนาวเพื่อนัดสถานที่กัน ตกลงกันว่าจะเจอที่หน้าร้านมังกรสีเขียวเลย พวกเขาทั้งสามคนเลยเดินขึ้นไปบนชั้นอาหาร



เพราะเป็นเวลาบ่ายแล้วที่ร้านจึงมีลูกค้าไม่เยอะ พอขึ้นไปรวมกลุ่มกันได้ก็สามารถเข้าไปนั่งในร้านได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิว อาหารจำนวนมากถูกสั่งมาแบบไม่สนใจว่าจะเยอะแค่ไหนเพราะมั่นใจว่ากินหมดแน่นอน



“ไหนขอสัมภาษณ์หน่อยสิ คุณเดือนมหาวิทยาลัยรู้สึกยังไงบ้างคะหลังจากได้รับตำแหน่งมาแล้ว” มะนาวหยิบตะเกียบมาถือทำเป็นไมโครโฟนก่อนจะยื่นมาจ่อตรงหน้าสายน้ำเหมือนกำลังสัมภาษณ์อยู่



สายน้ำหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน “ก็แปลก ๆ ดี บอกตรง ๆ ว่ายังงงอยู่นิดหน่อยที่ได้ตำแหน่งนี้มา แถมเมื่อคืนก็มีใครไม่รู้แอดหาเรา กดติดตามเราเต็มไปหมดเลย”



“เขาก็คงกดติดตามเดือนมหา’ลัยกันไง” เบลตอบกลับมา “เพื่อนเรากลายเป็นคนดังไปแล้ว เดี๋ยวก็จะมีแฟนคลับ แบบนี้เรากับมะนาวต้องระวังตัวไหมเนี่ย เดี๋ยวเกิดไปทำสาว ๆ หมั่นไส้ขึ้นมาเพราะเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับสายน้ำ”



“ตลกแล้ว!” สายน้ำว่า ทำหน้า ทำตาดุใส่เพื่อนสาว “ทำไมจะต้องระวังตัว ทั้งเบล ทั้งมะนาวก็เพื่อนเราทั้งนั้นแหละ แบงก์กับตั้มก็ด้วย”



เบลหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของสายน้ำ “เราแซวเล่นน่า”



รออยู่ไม่นานอาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟทุกคนเลยหันความสนใจไปที่อาหารตรงหน้าแทน เพราะบ่ายแล้วแต่ละคนเลยหิวกันไม่น้อย อาหารทั้งหมดที่ถูกสั่งมาก็หมดเกลี้ยงในเวลาต่อมา แต่ละคนได้แต่เดินลูบท้องเดินออกจากร้าน



“ไปไหนกันต่อดี” หลังจากออกจากร้านอาหารมาแล้วก็ยืนเกาะกลุ่มกันเพื่อตกลงกันว่าจะไปไหนต่อ จุดประสงค์หลักที่มาคือแค่มาหาอะไรกิน พอกินอิ่มก็เลยไม่มีโปรแกรมต่อจากนี้



“สาว ๆ อยากไปไหนไหม” แบงก์หันไปถามสองสาวในกลุ่ม



“เราไม่มีอะไรที่อยากดูหรืออยากไปไหนเป็นพิเศษนะ” มะนาวตอบ คราวนี้ทุกคนเลยหันไปมองเบลแทน



เจ้าตัวยิ้มก่อนจะตอบคำถาม “เราอยากไปร้านหนังสือ อย่างนั้นไปบีทูเอสก็แล้วกัน”



พอตกลงกันได้แล้วทุกคนก็พากันเดินไปยังร้านบีทูเอส ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปตามมุมของตัวเอง สายน้ำโดนเบลลากให้ไปเดินด้วยกัน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดอะไรยอมเดินตามเพื่อนสาวไปเรื่อย ๆ เบลพาเขาเข้ามาตรงโซนนิยาย



“อ่า...” สายน้ำได้แต่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว แอบรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อยเพราะภาพหน้าปกนิยายที่วางเรียงยาวอยู่บนชั้นนั้นเป็นภาพของผู้ชายกับผู้ชาย มีบ้างบางเล่มที่อยู่ในท่าหล่อแหลม บางเล่มก็เป็นภาพยืนคู่กัน นั่งคู่กันเฉย ๆ “เรา... ไปดูแถวนู้นดีกว่า”



“ไม่ได้” เบลคว้าแขนของสายน้ำเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไป “เรากำลังช่วยสายน้ำอยู่นะ”



“ช ช่วยเรา... ยังไง”



“ก็เนี่ย...” เบลคว้าหนังสือนิยายเล่มหนึ่งบนชั้นมาส่งให้ “นิยายแนวชายรักชาย ลองอ่านดูสิเผื่อจะกล้าเดินหน้าจีบคนนั้นของน้ำไง แล้วก็... จะได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างไง อิอิ”



สายน้ำทำหน้างง เปิดนิยายที่เบลส่งให้แล้วกวาดสายตามองก่อนที่ใบหน้าหล่อ ๆ จะขึ้นสีแดงเมื่อเห็นประโยคที่อยู่บนหน้ากระดาษ หนังสือมีตั้งหลายร้อยหน้าแต่ทำไมสายน้ำถึงได้ดวงดีเปิดเจอหน้าแบบนี้ได้นะ!



‘อ๊าาาห์ อ อุ่น... ย อย่าแกล้ง ม ไม่... อ่าาาห์’

‘พี่ไอแม่งโคตรน่าแกล้งเลยว่ะ’ อุ่นพูดก่อนจะก้มหน้าดันปลายลิ้นแทรกผ่านเข้าไปอย่างไม่นึกรังเกียจเลยสักนิด ขอแค่เป็นพี่ไอเขาก็ไม่นึกรังเกียจเลย

‘อ... อุ่น... พ พอ อ่าาาาห์ พอแล้ว... พ พี่ไม่ไหวแล้ว...’ คนโดนแกล้งหันมามอง น้ำใสคลอหน่วงที่ดวงตาเรียวหยาดเยิ้มนั้นจนคนมองถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลายก่อนจะยอมผละออกแต่โดยดี แต่แค่เปลี่ยนจากลิ้นเป็นนิ้วก็แค่นั้น



“บ เบลเอาอะไรให้เราเนี่ย...” สายน้ำส่งคืนหนังสือให้แทบไม่ทัน



เบลรับมาอย่างงง ๆ แต่พอก้มมองเนื้อหาบนหน้ากระดาษก็หัวเราะชอบใจ ตลกทั้งสีหน้าของเพื่อนในตอนนี้ ตลกทั้งความดวงดีของเพื่อนด้วย “ศึกษาเอาไว้ยังไงล่ะ ไม่ดีเหรอ”



“ม ไม่ต้อง ๆ ไม่เป็นไร เราไม่ต้องศึกษา ม ไม่ใช่สิ เราไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้... คือ เราแบบ...” สายน้ำกลายเป็นคนพูดตัดขัด ติดอ่างไปหมด ยิ่งทำให้เบลหัวเราะหนักขึ้นไปอีก



“ใจเย็นน้ำ ใจเย็น ๆ โอ๊ย... ทำไมน่ารักแบบนี้นะ ปกติเราต้องมองน้ำหล่อสิ แต่ตอนนี้น่ารักมากเลย เอ็นดูเลย ฮ่า ๆ”



“เบล...”



“ขอโทษ ๆ เราไม่ได้อยากจะหัวเราะแต่มันขำจริง ๆ หนังสือมีต้องหลายร้อยหน้าดันเปิดเจออะไรแบบนี้ซะได้นะเรา” เบลพูดไปก็หัวเราะขำไป พอเห็นหน้าแดง ๆ ของสายน้ำก็ยิ่งขำ นึกเอ็นดูเพื่อนเดือนมหาวิทยาลัยคนนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้นจนอยากจะโพสต์บอกให้แฟนคลับเดือนมหาวิทยาลัยรู้ว่าจริง ๆ แล้วคนหล่อคนนี้ก็น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนกัน



“ไป ๆ เราไปจากตรงนี้กันดีกว่าเนอะ” พูดจบเบลก็ลากสายน้ำออกจากโซนนี้ ไม่ลืมที่จะเก็บหนังสือคืนที่เดิม ระหว่างเดินก็แอบหัวเราะขำไปด้วย หันไปมองคนที่เดินตามมาข้างหลังก็ยังหน้าแดงไม่เลิกเลยยิ่งทำให้ขำมากกว่าเดิมอีก



“ทำหน้าอะไรของเบลน่ะ ขำอะไรขนาดนั้นเดินหัวเราะมาไม่หยุดเลย” มะนาวหันมาถามเพื่อนก่อนจะมองเลยไปทางด้านหลัง “แล้วน้ำเป็นอะไร ทำไมหน้าแดงจังไม่สบายเหรอ”



พอได้ยินมะนาวถามแบบนั้นเบลก็หลุดหัวเราะออกมาอีกรอบ เลยโดนสายน้ำบีบแก้มมองดุ ๆ ไปเพราะรู้ดีว่าที่เบลหัวเราะน่ะเพราะเรื่องอะไร



“อะไรของสองคนนี้กัน”



“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่มะนาวซื้ออะไรมาน่ะ” สายน้ำหันมาตอบมะนาวแล้วเปลี่ยนเรื่องแทน ปล่อยให้เบลยืนกลั้นหัวเราะเอาไว้ข้างหลัง



“พวกปากกาสีน่ะ รอสองคนนั้นจ่ายเงินก่อนแล้วน้ำกับเบลไม่ซื้ออะไรเหรอ” มะนาวตอบกลับมา



“ไม่ซื้อแล้วจ้า” เบลตอบ โบกมือไปมา ส่วนส่ายน้ำก็ส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่ซื้ออะไร



เมื่อไม่มีใครอยากจะซื้ออะไรแล้วทุกคนจึงตัดสินใจกลับ เบลกลับกับมะนาวที่ขับรถมา ส่วนสามหนุ่มก็กลับด้วยกันตามเดิม



สายน้ำโบกมือให้เพื่อนทั้งสองคนที่เดินออกจากลิฟต์ไปเมื่อถึงชั้นของตัวเอง ส่วนห้องของสายน้ำนั้นอยู่ชั้นบนขึ้นไปอีก ในระหว่างที่กำลังเดินไปที่ห้องโทรศัพท์ที่เก็บอยู่ในกระเป๋าคาดก็ดังขึ้น เจ้าตัวหยุดเดินเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่มีสายเข้าขึ้นมาดู ทำตาโตเมื่อเห็นชื่อของหินผาอยู่บนหน้าจอ เขากับหินผาแลกเบอร์กันตั้งแต่ช่วงซ้อมรำ ไม่บ่อยนักที่อีกฝ่ายจะโทรมา แต่สำหรับเขา... เขาไม่กล้าแม้แต่จะกดเข้าไปดูรายชื่อของหินผาด้วยซ้ำไป ส่วนมากจะเป็นการส่งข้อความหากันทางไลน์มากกว่า



อยู่ ๆ ก็มือสั่น เสียงสั่นตอนกดรับสาย “ค ครับ... สวัสดีครับ”



[ไงเรา อยู่ไหนเนี่ย] เสียงของหินผาที่ดังมาจากปลายสายทำเอาคนฟังใจสั่นแปลก ๆ



“อ่า... อยู่คอนโดครับ พี่หินผามีอะไรหรือเปล่าครับ”



[ไม่เอาของรางวัลเหรอเรา]



พอพูดถึงของรางวัลสายน้ำก็ตาวาวทันที “ช็อกโกแลต!”



ปลายสายหัวเราะเมื่อได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นของสายน้ำ [ใช่ เย็นนี้มีนัดที่ไหนไหม ไปกินข้าวกัน มีพี่ แก้ว แซนดี้ แวนดี้แล้วก็น้ำรินด้วย ฉลองตำแหน่งดาวเดือน]



“ม ไม่มีนัดครับ พวกพี่นัดที่ไหนกันเหรอครับ” สายน้ำรีบถามกลับไป



[เดี๋ยวตอนเย็นสักห้าโมงพี่เข้าไปรับที่คอนโด ยังไงเย็นนี้เจอกันนะ]



“ครับพี่ แล้วเจอกันครับ” สายน้ำกดวางสายอีกฝ่ายก่อนจะรีบเดินกลับไปที่ห้อง ตรงไปยังห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างทันที แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อเพราะรู้สึกเขินที่อีกฝ่ายโทรมาชวนไปกินข้าว แม้จะเป็นการไปกินข้าวกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกวดดาวเดือนก็ตาม แต่มันก็อดเขินไม่ได้...



อาการหนักแล้วสายน้ำ... อาการหนักแล้วจริง ๆ



สายน้ำหันหน้าไปมองโต๊ะข้างหัวเตียงที่มีแจกันแก้วทรงสูงวางอยู่ ในนั้นมีดอกกุหลาบเสียบเอาไว้ เป็นดอกกุหลาบที่เขาได้มาจากหินผานั่นแหละ น้ำที่ใส่อยู่ในแจกันพร่องลงไปหน่อยแล้วเลยตัดสินใจลุกไปเติมน้ำ ตั้งใจว่าจะเก็บเอาไว้แบบนี้อีกสักวันแล้วจะเอาไปทำดอกไม้แห้ง แล้วเอาไปทำที่คั่นหนังสือ



นึกแล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับความคิดของตัวเอง ตอนอ่านหนังสือสอบคงมีกำลังใจอ่านน่าดู...



ส่วนดอกกุหลาบอื่น ๆ ที่ได้มาสายน้ำยังเก็บเอาไว้ในห้องทำงาน ใส่แจกันเอาไว้เหมือนกันตั้งใจว่าจะเอาไว้แบบนั้นจนกว่ามันจะแห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลา แล้วค่อยเอาไปทิ้ง แม้จะรู้สึกผิดที่เขาเลือกที่จะเก็บดอกกุหลาบของหินผาเอาไว้คนเดียว ทั้ง ๆ ที่คนอื่นก็ตั้งใจให้ดอกกุหลาบพวกนั้นกับเขา แต่ถ้าเทียบความสำคัญแล้ว...



สายน้ำขอยกให้หินผาขึ้นนำมาสองสามคะแนน







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผาไม่ได้อยู่เชียร์น้องจนจบ ทำเอาน้องน้อยใจเลย
แต่พอพี่เขาทักมาก็หายน้อยใจ ยิ้มใหญ่กับของที่พี่เขาจะให้
งู้... น่ารักจริง ๆ เลยเด็กคนนี้

ฝากคอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียน ยัยน้อง แล้วก็ตาพี่ด้วยนะคะ
ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 18-05-2019 00:34:37
 :L1: :3123: :L2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-05-2019 00:58:53
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-05-2019 02:20:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-05-2019 02:26:59
เก่งมากสายน้ำ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 18-05-2019 02:48:48
สายน้ำมือดีนะเรา เปิดนิยายเจอ nc เฉยเลย น่าเอ็นดูวววววววว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 18-05-2019 06:48:10
 :pig4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-05-2019 10:23:14
น้องน่าเอ็นดูจังลูก. เย็นนี้จะเขินพี่ขนาดไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 18-05-2019 12:30:51
 :mew1: :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-05-2019 13:25:24
หึหึ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 18-05-2019 15:32:53
งุ้ยยยย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-05-2019 18:23:38
สายน้ำน่าเอ็ดดูจังเลย 5555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [70%] l P.7 17-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-05-2019 22:35:54
มะนาวดีมากกกกก มีแอบให้คู่มือด้วย  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 23-05-2019 21:05:58
(https://i.ibb.co/d6R1Rr4/05.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “5”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






ใกล้ได้เวลานัดแล้วสายน้ำที่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่จึงลุกขึ้นมาเตรียมตัว สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าว่ายังดีอยู่หรือเปล่าเพราะเขาไม่ได้เปลี่ยนชุดใหม่ หยิบน้ำหอมมาฉีดเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองหน่อย อีกเกือบครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดสายน้ำไม่อยากให้หินผามารอเขาจึงรีบลงไปนั่งรอที่ล็อบบี้ชั้นล่าง



หยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นเพื่อรอเวลาจนกระทั่งหน้าจอขึ้นชื่อหินผาโทรมาสายน้ำเลยรีบลุกเดินไปด้านหน้า ตั้งใจจะกดรับโทรศัพท์เพราะยังไม่เห็นรถอีกฝ่ายขับเข้ามา แต่รถสปอร์ตสีขาวที่จอดอยู่ตรงหน้าเขาก็เปิดกระจกลงแล้วเรียกเขาเสียก่อน



“สายน้ำ”



สายน้ำเอียงคอมองคนด้านในก่อนจะกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อเห็นหินผา เจ้าตัวเลยรีบเดินไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งทันที “ส สวัสดีครับ”



“รอนานไหม”



“ไม่นานครับ ผมเพิ่งลงมาข้างล่างก่อนพี่มาแปบเดียวเอง” สายน้ำอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตาไปรอบ ๆ รถ “คันนี้... รถพี่เหรอครับ คราวก่อนไม่ใช่คันนี้นี่ครับ”



“คันนั้นของพี่ชายพี่ วันนั้นมันมายืมรถคันนี้ไปพี่เลยต้องเอาคันนั้นไปขับแทน ส่วนคันนี้ของพี่เอง” หินผาหันมาบอกก่อนจะหันกลับไปมองถนนตามเดิม



“อ่อ... ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับพลางแอบมองคนขับรถ วันนี้อีกฝ่ายดูแปลกตาไปจากทุกที ปกติเขาจะเห็นหินผาในชุดนักศึกษา ไม่ก็เสื้อยืดกางเกงขายาวธรรมดา ๆ แต่วันนี้อีกฝ่าย...



หล่อ...



หินผาสวมเสื้อยีนส์แขนยาวทับเสื้อตัวในที่สายน้ำมองไม่เห็นว่าใส่อะไร กางเกงยีนส์ขาดเข่าสีซีด สวมแว่นตากันแดดสีชา มือข้างขวาวางแตะอยู่ที่พวงมาลัยรถ ส่วนอีกข้างวางไว้ที่เกียร์รถ ท่าทางนั้นเท่อย่างกับหลุดออกมาจากนิตยสาร



“คาดเข็มขัดด้วยเรา” หินผาหันมาบอก ทำเอาสายน้ำที่กำลังแอบมองอีกฝ่ายอยู่สะดุ้ง รีบดึงสายเบลท์มาคาดทันที “มองอะไรของเรา วันนี้พี่แปลกมากเหรอ”



“อ่า...” สายน้ำส่ายหน้า “ม ไม่ใช่ครับ ปกติผมไม่เคยเห็นพี่แต่งตัวแบบนี้เลยแปลก ๆ ตา พี่ดูดีมากครับ”



“หึหึ... ขอบใจ เมื่อกลางวันนัดกินข้าวกับพี่ชายแล้วก็เพื่อนพี่ชายเลยต้องแต่งจัดเต็มหน่อย แต่ละคนแต่งตัวเก่งกันทั้งนั้น”



“พี่ชาย... ผม...”



“หือ อะไรนะ” หินผาหันมามอง เหมือนเขาจะได้ยินสายน้ำพูดอะไรสักอย่างแต่จับใจความไม่ได้



“เปล่าครับ แค่คิดว่าดีจังนะครับมีพี่ด้วย ผมเป็นลูกคนเดียว อยากมีพี่น้องบ้างอะไรแบบนี้น่ะครับ” สายน้ำตอบ นึกชมตัวเองในใจที่หาเหตุผลออกมาได้



ใช้เวลาไม่นานรถคันสวยของหินผาก็เลี้ยวเข้าห้างสรรพสินค้าห้างเดิมที่เขามากับเพื่อน ๆ เมื่อตอนบ่าย วนหาที่จอดรถอยู่พักใหญ่เพราะรถค่อนข้างเยอะถึงได้ที่จอด สายน้ำเดินตามหินผาเข้าไปในห้าง ไม่รู้ว่านัดเจอกับคนอื่น ๆ ที่ไหนเลยต้องเดินตามเขาไปอย่างนั้น



“พี่หินผา สายน้ำ ทางนี้ค่า” เสียงของแซนดี้เรียกดังมาให้ได้ยิน พวกเขาสองคนเลยหันไปมองก่อนจะเดินไปหา ทุกคนมากันครบหมดแล้ว บาร์บี้กับกรก็มาด้วย



“ว้าย! อะไรกันสองคนนี้ ใส่เสื้อคู่เหรอ” แวนดี้ที่เห็นทั้งสองคนเดินมาใกล้ ๆ ก็ร้องทักทันทีพร้อมกับชี้นิ้วมาที่เสื้อของสายน้ำกับหินผา



สายน้ำทำหน้างงก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ต้องชะงักไปเพราะเขาเห็นแล้วว่าเสื้อที่อยู่ใต้เสื้อยีนส์คืออะไร เป็นเสื้อยืดคอกลมสีดำ มีลายกราฟิกรูปเสือสีขาวทองอยู่ตรงกลาง ลายเดียวกันกับของเขา แต่แค่คนละสี เป็นเสื้อที่พวกเขาซื้อมาพร้อมกัน



“หือ...” หินผาก้มมองเสื้อตัวเองก่อนจะหันมามองสายน้ำก่อนจะยิ้มขำ “ก็จริงนะ เสื้อคู่กันเลย”



“เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวค่ะ อะไรยังไงคะ ทำไมทั้งคู่ใส่เสื้อคู่กันมาแบบนี้คะ” แซนดี้เดินมายืนแทรกตรงกลางระหว่างสายน้ำแล้วหินผา



“ม ไม่ใช่แบบนั้นครับ” สายน้ำรีบปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ “บังเอิญมากกว่าน่ะครับ บังเอิญผมกับพี่หินผาใส่เสื้อมาพร้อมกัน”



“หือ... บังเอิญใส่มาพร้อมกัน แสดงว่าซื้อมาพร้อมกันเหรอ” กรทำหน้างงก่อนจะถามออกมา



“ใช่ วันนั้นบังเอิญเจอสายน้ำยืนเลือกเสื้ออยู่พอดี” หินผาตอบคำถามรุ่นน้อง



“ใช่ครับ ตัวนี้ไงครับที่วันนั้นที่เลือกดาวเดือนแล้วผมบอกว่าได้ทำบุญน่ะครับ พอผมรู้ก็เลยซื้อตามพี่หินผาเขา”



พอได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ร้องออกมาอย่างเข้าใจ สายน้ำลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกเขินไม่น้อยที่บังเอิญเขาใส่เสื้อแบบเดียวกันมากับหินผา เหมือนใส่เสื้อคู่เลย แต่ก็ต้องส่ายหน้าไล่ความคิดไร้สาระออกไป



พวกเขาทั้งแปดคนพากันเดินไปร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดัง ได้โต๊ะใหญ่มุมด้านในที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว รุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสองคนนั่งนิ่งปล่อยให้หน้าที่การสั่งอาหารเป็นของรุ่นพี่ ซึ่งรุ่นพี่ก็สั่งมาแบบไม่สนใจราคาอาหารแต่ละจานเลย มีทั้งชุดซาชิมิชุดใหญ่ ทั้งแซลมอน ปลาหิมะ ปลาหมึก เบนโตะอีกสามเซ็ต ซูชิ ข้าวปั้นอีก จนสายน้ำกับน้ำรินคิดว่าไม่น่าจะกินกันหมด



“เด็ก ๆ เอาอะไรอีกไหม” แก้วหันมาถามรุ่นน้องที่นั่งมองตาปริบ ๆ



ส่ายน้ำกับน้ำรินส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไม่แล้วครับ แค่ที่พี่ ๆ สั่งกันก็เยอะมากแล้วล่ะครับ”



“เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ มื้อนี้พวกพี่เลี้ยงเอง ฉลองที่เราสองคนพยายามเต็มที่จนได้ตำแหน่งดาวเดือนมา” หินผาพูดเพื่อไม่ให้น้องทั้งสองคนเกร็งมากจนเกินไป



อาหารจำนวนมากทยอยมาเสิร์ฟทีละอย่างสองอย่างจนเต็มโต๊ะไปหมด แต่ละจานก็ตกแต่งเอาไว้จนน่ากิน สายน้ำที่คิดว่าคงกินได้ไม่เยอะเพราะเมื่อบ่ายเขาจัดเต็มมาก แต่พอได้ลองคีบซาชิมิขึ้นมาชิมก็แทบจะหยุดมือไม่อยู่ เพราะเนื้อปลาแต่ละชิ้นนั้นทั้งนุ่ม ทั้งอร่อยจนไม่สามารถวางมือได้เลย



อาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ค่อยได้กินอาหารญี่ปุ่นด้วย เรียกว่าตั้งแต่กลับมาประเทศไทยนี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่เขาจะฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารตามสั่งมากกว่า



“ชอบเหรอเรา” บาร์บี้ถาม ยิ้มเอ็นดูในตัวเดือนมหาวิทยาลัยที่เคี้ยวแซลมอนแก้มตุ่ย



“ครับ ผมไม่ค่อยได้กินอาหารญี่ปุ่น ตั้งแต่กลับมาเมืองไทยนี่เป็นครั้งแรกเลยครับที่ได้กิน” สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมกับตอบคำถามนั้นไปด้วย



“อ้าว... เราไม่ได้อยู่ไทยหรอกเหรอ” กรหันมาถามเมื่อได้ยินคำพูดของสายน้ำ



“ค ครับ ผมเคยอยู่ไทยตอนเด็ก ๆ แล้วพอช่วงจะขึ้น ม.ปลาย ผมก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับแม่แล้วก็แด๊ดครับ เพิ่งย้ายกลับมาตอนก่อนจะเข้ามหา’ลัยนี่เองครับ” สายน้ำตอบ



“อ้าวแล้วตอนก่อนย้ายไปต่างประเทศอยู่ที่ไหนล่ะ”



“อ่อ... ผมอยู่เชียงใหม่ครับก่อนที่จะย้ายไป”



หินผาหันมามองคนตอบทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “เชียงใหม่เหรอ บ้านเดียวกันกับพี่เลยนี่”



“อ่า... ครับ...”



แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่ออาหารที่ยังขาดอยู่ก็มาเสิร์ฟทำให้บทสนทนานั้นตกไป ทุกคนหันกลับมาสนใจกับของกินตรงหน้าแทน แล้วเรื่องระหว่างการประกวดดาวเดือนก็ถูกยกขึ้นมาพูดแทน คราวนี้เลยคุยเรื่องนี้กันยาวจนกระทั่งกินข้าวกันเสร็จ



หลังจากเดินออกมาจากร้านอาหารแล้วพวกเขาก็ตัดสินใจแยกย้ายกันไป สายน้ำไปกับหินผาเพราะว่ามาด้วยกันและขากลับหินผาก็อาสาไปส่ง ส่วนน้ำรินไปกับแซนดี้แวนดี้ บาร์บี้ กร แล้วก็แก้มแยกย้ายกันกลับบ้าน



เพราะคนอายุมากกว่าอยากเดินดูของ สายน้ำก็เลยต้องมาเดินด้วย หินผาเดินนำเขามาที่ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ที่เจ้าตัวใส่อยู่ เดินดูเสื้อยีนส์สวย ๆ ส่วนสายน้ำก็เดินดูเสื้อผ้าในร้านไปเรื่อย ๆ หันมามองอีกทีก็เห็นหินผากำลังลองเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์สีซีดอยู่



“ตัวนี้เป็นไงบ้าง” หินผาหันมาถามความคิดเห็น



“ครับ พี่ใส่แล้วเท่ดี” สายน้ำพยักหน้าให้ อีกฝ่ายไม่ว่าจะใส่ชุดอะไรในสายตาของเขาก็ดูดีทั้งนั้น



สุดท้ายหินผาก็ได้แจ็คเก็ตยีนส์มาหนึ่งตัว และเมื่อไม่มีใครอยากดูอะไรแล้วพวกเขาจึงเดินกลับไปที่รถ หินผาขับรถสปอร์ตคันสวยสีขาวออกจากห้างสรรพสินค้าเพื่อไปส่งสายน้ำที่คอนโด ขากลับรถค่อนข้างติดมากกว่าตอนไป อาจจะเป็นเวลานี้เป็นเวลาที่หลายคนกำลังเดินทางจึงทำให้รถติด



สายน้ำไม่ได้รู้สึกแย่หรือหงุดหงิดอะไรกับการที่รถติด สำหรับเขามันดีเสียอีก... เพราะนั่นก็เท่ากับว่าเขาได้มีเวลาอยู่กับหินผานานขึ้น แม้ว่าจะไม่มีบทสนทนาระหว่างเราก็ตามที แต่สุดท้ายแล้วรถคันสวยก็จอดเทียบอยู่หน้าประตูทางเข้าล็อบบี้ สายน้ำยกมือไหว้ขอบคุณที่อีกคนขับรถมาส่ง



“ขอบคุณที่ขับรถมาส่งผมนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับอาหารมื้ออร่อยด้วยครับ พี่ขับรถกลับดี ๆ นะครับ” สายน้ำพูดก่อนจะลงจากรถเดินเข้าไปด้านใน



“เดี๋ยวสายน้ำ!” เสียงร้องเรียกชื่อเขาดังขึ้นให้เจ้าตัวหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นหินผายืนอยู่ข้างรถฝั่งคนขับ ในมือถือถุงกระดาษชูให้เขาดู “ลืมของรางวัลแล้วเหรอครับ”



“ช็อกโกแลต” สายน้ำตาวาวขึ้นมาทันทีเมื่อเห็น รีบเดินกลับไปยกมือไหว้ขอบคุณที่อีกฝ่ายซื้อช็อกโกแลตมาให้



“ตามสัญญาไง พี่ชอบการแสดงของเรามาก ดีใจด้วยนะสำหรับรางวัลทั้งสามรางวัลเลย”



“ครับพี่ ขอบคุณนะครับ” สายน้ำพยักหน้า “ย อย่างนั้น... ขับรถกลับห้องดี ๆ นะครับ”



หินผายิ้มตอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับเข้าไปนั่งในรถตามเดิม ก่อนที่รถคันหรูจะแล่นออกไปจากบริเวณของคอนโด



สายน้ำกลับขึ้นมาบนห้องโดยที่บนใบหน้าของเดือนมหาวิทยาลัยนั้นยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ไม่จางหายไปไหนเลย....







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มีความบังเอิญใส่เสื้อคู่กันด้วยจ้า
บังเอิญไปอี๊กกกกกก ยัยน้องเขินเลยใส่เสื้อคู่กับพี่เขา
ตอนนี้พาพี่หินผามาออกแล้วน้า 555555
ค่าตัวแพงไปหน่อยเลยพามาได้ทีละนิด ทีละหน่อย
แต่อีกสักตอนสองตอนพี่จะออกเยอะขึ้นแล้วจ้า

ใครอยากเจอพี่ก็โดเนทค่าตัวพี่หินผามาได้นะคะ
ไม่ต้องใช้เงินสักบาท แค่คอมเมนต์ให้กำลังใจกันก็ถือว่าโดเนทค่าตัวพี่หินผาแล้วค่า

ฝากคอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียน ยัยน้อง แล้วก็ตาพี่ด้วยนะคะ
ขอบคุณนะคะ

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 23-05-2019 21:29:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 23-05-2019 21:35:43
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-05-2019 22:02:57
มีความใส่เสื้อคู่แบบบังเอิญ กะเป็นคนบ้านเดียวกันไปอีก  o18

พี่หินค่าตัวแพงจริงๆ มาแปปๆ ให้น้องใจสั่นเล่นๆ แล้วก็จากไปง่ายๆ เฉยเลย น่าจะถามน้องต่ออีกหน่อยว่าอยู่เชียงใหม่เมื่อไหร่ ยังงัย ชิ!
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-05-2019 22:10:14
จ้าาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-05-2019 22:36:22
อยากไปกินด้วยจังเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 23-05-2019 22:38:12
ถ้าบังเอิญบ่อยๆ มันจะกลายเป็นพรหมลิขิตนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-05-2019 09:21:12
เรียนโรงเรียนเดียวกันมั้ยก่อนน้องจะย้ายไป  :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 24-05-2019 10:29:25
อยู่ รร เดียวกัน รึบ้านติดกันมาก่อนรึป่าว พี่จำน้องไม่ได้หรอ รึน้องเด็กไปตอนนั้น โดมาเลยจำไม่ได้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-05-2019 20:03:13
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-05-2019 03:43:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-05-2019 19:28:34
ปลื้มใจกับสายน้ำ ทำได้ดีมากเลย
แต่กำลังใจใครไม่เท่า พี่หินผามาบอกเนาะ
เอ็นดูสายน้ำ ได้อยู่กับพี่นานๆ พี่โทรหา ก็ดีใจ
ตลกที่เห็นบทบรรยายแล้วสายน้ำไม่รอด
ถ้าเจอของจริง จะไหวหรอ 5555

หินผาค่าตัวแพงจริงค่ะ แต่ออกมาเยอะอยู่
แล้วทำให้น้องดีใจ เราให้อภัยค่ะ

รอหินผารู้ตัวและรอความคืบหน้าของสายน้ำนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 28-05-2019 16:59:04
ความบังเอิญสินะ  :m12:..ความบังเอิญสินะ  :m12:..ความบังเอิญสินะ... :m12:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "5" [100%] l P.7 23-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DogmaticGoose ที่ 29-05-2019 20:49:19
เราจำได้จากเรื่องที่แล้วว่า พี่หินผาบอกว่าไม่ได้ชอบฮาร์ท และมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แอบสงสัยตั้งแต่ครั้งนั้นว่าคือใครกัน... จะใช่น้องน้อยของเราไหมน้า

รอติดตามนะคะ :)
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 30-05-2019 21:40:48
(https://i.ibb.co/znDG6mG/06.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “6”




FGU CUTE BOY – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ

นี่มันคืออะไรคะ!!! ใครรู้ช่วยตอบแอดมินทีเถอะค่ะว่านี่คืออะไร อะไรคือเดือนมหาวิทยาลัยปีล่าสุดใส่เสื้อคู่กับพี่ปีสี่สุดหล่ออย่างพี่หินผาแบบนี้คะ บังเอิญ มีซัมติง หรือว่าอะไรกัน แล้วอะไรคือการที่น้องสายน้ำยืนข้างพี่แล้วดูตะมุตะมิไปหมดแบบนั้นคะ แอดมินรู้ค่ะว่าเขาไปกันหลายคนแต่ใจแอดมินเห็นแค่เขาสองคนเอง ดู ๆ แล้วน่าจะไปฉลองตำแหน่งดาวเดือนให้น้องสายน้ำกับน้องน้ำริน แต่ทำไมพี่หินผาถึงได้ไปอยู่ตรงนั้นได้ แล้วทำไมพี่หินผาถึงได้ขับรถไปส่งน้อง แล้วพี่หินผายื่นถุงอะไรให้น้อง แม้ภาพจะไม่ชัดแต่รอยยิ้มน้องตอนรับของมามันชัดเจนมากเลยนะ ฮือ... แอดมินใจบางมากบอกเลย

#เดือนมหาวิทยาลัย #ผู้ชายหล่อบอกต่อด้วย #น้องสายน้ำ #พี่หินผา




ภาพสามภาพเป็นภาพที่สายน้ำยืนอยู่ข้างหินผาในห้างสรรพสินค้าที่นัดกินข้าวกันตอนเย็น และคนถ่ายภาพคือถ่ายจากด้านหน้าของทั้งคู่เลยเห็นเสื้อที่ทั้งสองคนใส่ชัดเจน แล้วถึงแม้สายน้ำจะหน้าตาหล่อเหลาแต่เจ้าตัวเป็นคนผิวขาวจัด ส่วนสูงไม่มากแต่ก็ไม่น้อย และเพราะไม่ค่อยได้เล่นกีฬาออกกำลังกาย ร่างกายเลยไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อ พอยืนข้างหินผาที่ส่วนสูงนำไปหน่อย หุ่นหนากว่าเพราะเล่นทั้งกีฬาทั้งออกกำลังกาย สีผิวที่เข้มกว่าน้อง ก็เลยทำให้สายน้ำกลายเป็นเด็กน้อยน่ารักไปเลย



ส่วนภาพสุดท้ายเป็นภาพตอนที่สายน้ำยืนอยู่ข้างรถแล้วหินผายืนอีกฝั่งชูถุงใส่ช็อกโกแลตให้ดู ไม่รู้ว่าใครเห็นแล้วถ่ายมา แต่ที่สายน้ำงงมากที่สุดทำไมคอมเมนต์ ยอดกดถูกใจแล้วก็ยอดแชร์มันถึงได้เยอะขนาดนี้ กดเข้าไปดูคอมเมนต์เห็นแซนดี้แวนดี้เข้ามาตอบพร้อมแนบรูปอีกเพียบ ไม่รู้ไปถ่ายกันไว้ตอนไหน



แซนดี้ คนสวยเองจ้า – พี่หินผากับพี่แก้มมาช่วยน้อง ๆ สอนรำจ้า เมื่อวานนัดกินข้าวฉลองให้น้อง ๆ พี่ ๆ เขาเลยมาด้วยจ้า *แนบรูปภาพ*



เป็นภาพถ่ายจากกล้องหน้าของแซนดี้เอง ถ่ายตอนที่พวกเขาทุกคนนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อวาน



Belove Yaoi – ทำไมคู่นี้ดูมีซัมติง ถึงไม่มีแต่คนมองนี่มโนไปแล้วจ้า ขอโดดขึ้นเรือหินผาสายน้ำนะคะ ใครขึ้นเรือนี้บ้างกดไลก์เลยจ้า



คอมเมนต์นี้มีคนกดถูกใจเยอะมาก ๆ จนน่าแปลกใจ ส่วนคนที่นั่งอ่านคอมเมนต์อยู่อย่างสายน้ำก็ได้แต่ทำหน้างง ๆ ว่าเรือหินผาสายน้ำนั้นคือเรืออะไร เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นให้สายน้ำที่กำลังวางโทรศัพท์ชะงักแล้วหยิบขึ้นมาดูใหม่ เป็นแวนดี้แท็กเขาในอัลบั้มภาพอะไรสักอย่าง



แวนดี้ วิ่งเล่น ในทุ่งลาเวนเดอร์ – ได้แท็กคุณในอัลบั้มภาพ “เบื้องหลังความสำเร็จ”

กราบขอบพระคุณพี่หินผา และ พี่แก้ม ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของน้องสายน้ำ และน้องน้ำริน ที่ทำให้น้อง ๆ ได้ตำแหน่งดาวเดือนมหาวิทยาลัยในปีนี้นะคะ ก็จะไม่ให้น้อง ๆ รำดี รำสวยได้อย่างไร ก็พี่เขาสอนดีกันซะขนาดนี้ โน๊ะ... อิอิ



สายน้ำเพิ่งรู้ว่าตลอดการสอบที่ผ่านมาแซนดี้แวนดี้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ด้วยเยอะมาก ๆ มีภาพตอนที่เขาซ้อมรำกับหินผา ภาพของน้ำรินที่ซ้อมรำกับแก้ม ภาพที่พวกเขาซ้อมอยู่ด้วยกัน หรือแม้แต่ภาพนั่งพักเหนื่อยก็มี ปลายนิ้วที่กำลังเลื่อนดูรูปอยู่ชะงักเมื่อปัดมาเจอภาพที่หินผากำลังซ้อมรำให้เขา คนอายุมากกว่ายืนซ้อนด้านหลังเขา มือจับมือของเขาเอาไว้ พอมาดูภาพแบบนี้ก็นึกเขิน แต่ความรู้สึกตอนนั้นเขาไม่มีอารมณ์มาเขินอายอะไรเลย เพราะคนตัวสูงด้านหลังกำลังดุเขาอยู่ที่เขาทำได้ไม่ดี เรียกว่ากลัวมากน่าจะดีกว่า



หินผาเวลาดุไม่ได้ใช้เสียงเข้มหรือพูดกดดันอะไร แต่สายตาอีกฝ่ายจะมองเขานิ่ง ๆ พูดเสียงเรียบ ๆ แต่บรรยากาศรอบตัวหินผานั้นน่ากลัว



นิ้วกดค้างที่หน้าจอจนมันขึ้นให้บันทึกภาพ เจ้าตัวกดเซฟรูปไปไม่รู้กี่รูป ซึ่งที่เซฟไปส่วนใหญ่เป็นรูปของหินผา พอนึกขึ้นได้ก็เลยนั่งไล่เซฟเอาไว้ทุกรูปเผื่อใครบังเอิญมาเห็นรูปในโทรศัพท์จะได้ไม่นึกสงสัยเอาได้



เลื่อนดูภาพที่เซฟมาแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียวเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขามีภาพของหินผาในเครื่องโทรศัพท์ ตลอดเวลาที่อยู่ที่ต่างประเทศสายน้ำค้นหาเฟซบุ๊กของหินผาจนเจอแต่ไม่กล้าขอเพิ่มเป็นเพื่อน ไม่กล้ากดติดตาม ได้แต่เข้าไปดูการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เท่านั้น เขาถึงได้รู้ว่าหินผาเข้ามาเรียนที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จึงได้ตัดสินใจที่จะมาเรียนต่อที่นี้บ้าง แค่อยากมาอยู่ในสถานที่เดียวกันกับหินผาแค่นั้น



“สายน้ำ!” เสียงเรียกชื่อของเจ้าตัวดังขึ้นให้สายน้ำที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ สะดุ้งเงยหน้าขึ้นมอง



“เรียกเราซะตกใจหมดเลยเบล”



อีกฝ่ายหัวเราะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะตรงข้ามกับสายน้ำ “แล้วแบงก์กับตั้มไปไหนล่ะ”



“ไปซื้อข้าว เรานั่งเฝ้าโต๊ะให้น่ะเพิ่งไปกันเมื่อกี้เอง เบลกินอะไรมาหรือยังไปซื้อได้เลยนะของเรา เราฝากสองคนนั้นซื้อมาแล้ว” สายน้ำตอบคำถามของเพื่อน



“โอเค อย่างนั้นเดี๋ยวเรามานะ” เบลว่าก่อนจะลุกจากโต๊ะเพื่อไปซื้อข้าว ไม่นานทุกคนก็กลับมาที่โต๊ะรวมไปถึงมะนาวที่มาถึงทีหลังด้วย



แบงก์เลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวมาให้สายน้ำ เจ้าตัวเอ่ยขอบคุณก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารมื้อกลางวันตรงหน้า



“อ่อ! จริงสิ น้ำมึงเห็นโพสต์เรื่องคู่จิ้นของมึงยังวะ” แบงก์ถามขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ ซึ่งหัวข้อนี้ไม่ได้เรียกความสนใจจากแค่สายน้ำคนเดียว แต่เรียกความสนใจได้จากทุกคนบนโต๊ะเลยทีเดียว



“อ่อ ๆ กูเห็นแล้ว ๆ” ไม่ใช่สายน้ำที่ตอบแต่เป็นตั้มที่พยักหน้าแทน เบลกับมะนาวเองก็พยักหน้าเหมือนกัน



ส่วนเจ้าของเรื่องยังนั่งทำหน้างงอยู่อย่างเดิม “เดี๋ยวนะ... คู่จิ้นอะไรเหรอ”



“อ้าว มึงยังไม่รู้เหรอ” แบงก์หันมาถาม เมื่อเห็นสีหน้างง ๆ ของเพื่อนก็หยิบโทรศัพท์มากดก่อนจะยื่นให้สายน้ำดู “นี้ไงมึง ตอนนี้กำลังเป็นประเด็นฮิตในเพจเลยนะโว้ย คู่จิ้นระหว่างมึงกับพี่หินผาอ่ะ”



“แล้วคู่จิ้นที่ว่าคืออะไร” สายน้ำยังคงเป็นคนเดียวที่ตามเพื่อน ๆ ไม่ทัน “ที่จริงกูงงตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เห็นมีเรือหินผาสายน้ำอะไรก็ไม่รู้ มันคือชื่อเรือเหรอหรืออะไร”



“เอ่อ... ลืมไป มึงเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เลยอาจจะตามไม่ทันภาษาไทยในยุคปัจจุบันนี้” ตั้มพูดอย่างนึกขึ้นได้



“ก็คืออย่างนี้นะ... คู่จิ้นน่ะหมายถึง การที่คนเขาลุ้นกันว่าอยากให้คบกันจริง ๆ แบบดารา นักแสดงที่เคยมีผลงานด้วยกัน หรือมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษอะไรแบบนี้” เบลเป็นคนอธิบายให้สายน้ำฟัง



“เดี๋ยวนะ... แต่เราไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นักแสดง แล้วที่สำคัญ...” สายน้ำกำลังนึกตาม “เรากับพี่หินผาเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ ทำไมถึงต้องมาลุ้นให้เราคบกับพี่เขาด้วยล่ะ”



ถึงแม้ว่าเขาจะชอบหินผาจริง ๆ ก็เถอะ แต่การที่มีคนมาลุ้นให้เขาคบกับหินผามันก็เป็นเรื่องแปลก ๆ อยู่ดีไม่ใช่เหรอ



“คำว่าคู่จิ้นไม่จำกัดว่าต้องเป็นชายหญิง หรือเป็นแค่ดาราหรอก เดี๋ยวนี้นะจิ้นได้หมดแค่เคมีเข้ากัน โมเมนต์มันได้ อย่างน้ำเนี่ย... เป็นถึงเดือนมหา’ลัย คนในมหา’ลัยก็รู้จักกันอยู่แล้ว ส่วนพี่หินผาก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จักเหมือนกัน แล้วนี่ไง เนี่ย ๆ” เบลหยิบโทรศัพท์ของแบงก์มาเปิดรูปแล้วยื่นมาตรงหน้าสายน้ำ “น้ำน่ะเป็นคนหล่อ แต่พอยืนอยู่ข้าง ๆ พี่หินผาแบบนี้อ่ะก็กลายเป็นน่ารักไปเลยเพราะพี่หินผาหล่อกว่า แล้วเคมีมันเข้ากันได้”



“ใช่แล้ว” มะนาวพยักหน้ายืนยันกับคำพูดของเบล “แล้วที่สำคัญโมเมนต์มันได้ บังเอิญใส่เสื้อคู่กัน แถมพี่หินผายังขับรถไปส่งน้ำที่คอนโดอีก มันมีโมเมนต์ไง พอมีโมเมนต์แบบนี้คนเขาก็เลยจิ้นกัน”



“จิ้นแบบ... ให้เราคบกับพี่หินผาอย่างนี้อ่ะเหรอ”



“ใช่แล้ว” ทั้งสี่คนประสานเสียงกัน



“แล้วทำไมวันนั้นถึงได้อยู่กับพี่หินผาเขาได้ล่ะ แถมยังใส่เสื้อคู่กันอีก”



“ก็พอดีว่าวันนั้นพวกพี่ ๆ เขาจะเลี้ยงที่เรากับน้ำรินได้รางวันดาวเดือนไง พี่หินผาเลยแวะมารับที่คอนโดเพราะเป็นทางผ่านพอดี ตอนกลับพี่เขาก็เลยมาส่งที่คอนโดก็แค่นั้นแหละ ที่พี่แวนดี้พี่แซนดี้ลงรูปไง” สายน้ำตอบ “ส่วนเสื้อน่ะแค่บังเอิญ เราซื้อเสื้อแบบเดียวกันกับพี่หินผาตอนวันนั้นที่มาห้าง แล้วดันบังเอิญใส่ไปวันเดียวกันอีกก็แค่นั้นแหละ”



พอรู้แบบนั้นทุกคนก็พยักหน้าแล้วเลิกสนใจจะมีก็แค่เบลที่ยังมองเขาอยู่พร้อมกับยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ดูล้อเลียนจนสายน้ำนึกเขินเลยต้องแกล้งเป็นก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวในชามของตัวเองไป เพราะเบลเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขานั้นชอบหินผา



“ไงเด็ก ๆ” เสียงทักทายดังขึ้นให้พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยากันยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ปีสี่ “นั่งด้วยสิ”



“นั่งเลยครับ” แบงก์พูดพร้อมกับขยับที่ให้พวกพี่ ๆ อีกสามคนนั่งด้วย



“ขอบใจนะ” เดียร์หันมายิ้มหวานให้ก่อนจะหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ยังยืนอยู่ “ฝากซื้อข้าวหน่อย เอาข้าวมันไก่ เดี๋ยวกูนั่งเฝ้าโต๊ะให้เอง”



“มึงนั่งกับน้องจะนั่งเฝ้าโต๊ะทำห่าอะไร” ทัชว่าเพื่อนตัวเองทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



“เออ เดี๋ยวกูเฝ้าที่ตรงนี้ให้ไง ไป ๆ ไปซื้อข้าวมา” ทั้งผลักทั้งไล่เพื่อนตัวเอง จนสุดท้ายทัชก็ต้องส่ายหน้าให้แล้วเดินไปซื้อข้าวกับหินผา เดียร์หันมามองน้อง ๆ แล้วยิ้ม “เรียนอะไรกันมาล่ะ”



“ตอนเช้าไม่มีเรียนค่ะ นี่พวกหนูรอเรียนตอนบ่ายอยู่ค่ะ” มะนาวตอบ



“อ่อ ๆ แล้วเรียนเป็นยังไงกันบ้าง สนุกไหมยากหรือเปล่า” เดียร์ยังคงถามน้อง ๆ เพื่อชวนคุยไม่ให้น้องรู้สึกอึดอัดแล้วก็เกร็งไปด้วย



“ตอนนี้ก็ยังไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ไม่รู้ว่าอีกหน่อยจะไหวหรือเปล่า” ตั้มตอบ “แล้วตอนพี่เดียร์เรียน พี่คิดว่ายากมากไหมครับ”



“ตอนปีหนึ่งพี่ก็ว่าไม่ยากหรอก แต่พอขึ้นปีสองเท่านั้นแหละรู้เลย... ไม่ยากก็แค่ล้มแปลนใหม่ก็เท่านั้นเอง ดีจะตายไป” เดียร์พูดไปใส่อินเนอร์ไปเหมือนเจ้าตัวเก็บกดมานาน “แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ยากขนาดจนเกินความสามารถของพวกนายกันหรอก”



“โม้อะไรให้น้องฟังอีกมึง” ทัชที่เดินกลับมาจากร้านข้าวร้องทักวางจนข้าวมันไก่ลงตรงหน้าเดียร์ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ เดียร์ ส่วนหินผาที่เดินตามมาทีหลังเลยต้องนั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งข้าง ๆ กันคือสายน้ำ



“พี่น่าจะชอบกินผัดพริกแกง ผมเห็นทีไรพี่สั่งแต่เมนูนี้ตลอดเลย” สายน้ำที่หันไปเห็นจานข้าวของคนที่นั่งข้าง ๆ กันก็เอ่ยทัก



“ไม่รู้จะสั่งอะไรกินด้วยแหละ” หินผาตอบพร้อมกับหัวเราะ



“แล้วพอสั่งมาพี่ก็ต้องมั่งเขี่ยถั่วฝักยาวออกตลอดเลย”



“กินไหมล่ะ ร้านนี้ไม่เผ็ดเท่าไหร่หรอก” หินผาตอบพลางตักถั่วฝักยาวผสมข้าวสวยในจานข้าวของตัวเองจ่อปากของสายน้ำ



“ไม่เผ็ดของพี่ก็เผ็ดผมทุกที ไม่เอาด้วยหรอกครับ ผมกินนี่จนอิ่มแล้ว พี่ไม่กินก็แยกเอาไว้เลย” สายน้ำส่ายหน้า เคยโดนหินผาแกล้งบอกว่าอาหารจานนั้นจานนี้ไม่เผ็ดก็ตั้งหลายรอบ แต่พอลองตักเข้าปากไปก็คายทิ้งแทบไม่ทัน เพราะมันเผ็ดมากสำหรับสายน้ำ



หินผาหัวเราะแต่ก็ยอมดึงมือของตัวเองที่กำลังตักข้าวจ่อปากสายน้ำกลับมาแล้วลงมือจัดการกับอาหารของตัวเอง



"เอ่อจริงด้วย” เดียร์พูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ “พี่ดีใจด้วยนะสายน้ำ กับตำแหน่งเดือนมหา’ลัย”



“เอ่อใช่ ๆ ยินดีด้วยนะโว้ย” ทัชเองก็ยกนิ้วโป้งชูให้ดู สายน้ำเลยได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณกลับไป



“ขอบคุณมากครับ ผมยังงงกับตัวเองว่าได้มาได้ยังไง” พูดไปก็หัวเราะไป เพราะเขาคิดแบบนั้นจริง ๆ



“ไม่ได้สิแปลก รำอย่างสวยเลย ดูดีสุด” ทัชทักท้วงเมื่อได้ยินน้องคิดแบบนั้นก่อนจะหันไปมองหินผาแล้วถาม “ใช่ไหมมึง”



คนที่นั่งกินข้าวอยู่เลิกคิ้วขึ้นมองก่อนจะหันไปมองคนข้าง ๆ แล้วหันกลับมายักคิ้วให้เพื่อนตัวเอง ยกมือกอดคอสายน้ำใช้มือยีผมนุ่ม ๆ ของเดือนมหาวิทยาลัยไปด้วย “แน่นอน เพราะกูสอนมาดี”



“หลงตัวเอง” เดียร์ว่าพลางเบ้ปากใส่เพื่อน เลยโดนหินผาดีดหน้าผากเข้าให้เจ้าตัวเลยร้องโวยวาย “กูจะฟ้องพี่กันต์!”



“นี่เอะอะก็ฟ้องผัว ฟ้อง... ไอ้สัส!” ทัชที่เอ่ยแซวต้องร้องด่าเมื่อเพื่อนตัวเตี้ยยกมือตีปากเขา เดียร์ทำตาโตใส่แต่หน้าแดงก่ำ



ส่วนรุ่นน้องที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็ได้แต่ทำตาปริบ ๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา



“แฮ่ม... น น้อง ๆ กินข้าวกันต่อเลย กินเล้ย” เดียร์หันไปบอกน้อง ๆ



“น้องกินเสร็จกันหมดแล้วไหม เขินละมั่วตลอด” ทัชแซวล็อคคอเพื่อนตัวเองอย่างแกล้ง ๆ ก่อนจะชะโงกหน้าไปพูดกับน้อง ๆ “อย่าสนใจมันเลย อ่อ แต่ฝากกระจายข่าวหน่อยเด็กปีหนึ่งคนไหนที่หลงผิดมาชอบไอ้หน้าละอ่อนนี้ฝากบอกด้วยว่าไม่ต้องเสียเวลาชอบ มันมีพ่อทูนหัวแล้ว พ่อโหดมาก”



“ไอ้ห่านี่นิ!” เดียร์ร้องโวยวายแต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยหันกลับมาสนใจข้าวมันไก่ของตัวเองต่อ



เพราะยังมีเวลาก่อนขึ้นเรียนในวิชาถัดไปรุ่นพี่ปีสี่ทั้งสามคนเลยปักหลักนั่งคุยกับน้อง ๆ ไม่ไปไหน เปิดโอกาสให้น้องถามเรื่องเรียนได้อย่างเต็มที่



“หิน สายน้ำมองกล้องหน่อย” ทัชที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่เมื่อครู่เงยหน้าพูดกับทั้งสองคนพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้น



“ทำอะไรของมึง” หินผาขมวดคิ้วมองเพื่อนส่วนสายน้ำก็มองมาอย่างงง ๆ



“ถ่ายรูปพวกมึงไง เร็ว ๆ มองกล้องแล้วยิ้ม ใกล้ ๆ กันหน่อย จะตกขอบละมึง สายน้ำขยับมาเร็ว”



แม้จะยังงง ๆ แต่สายน้ำก็ยอมขยับเข้าไปใกล้ตามคำบอกของรุ่นพี่ หันมองคนข้าง ๆ อีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ยักไหล่เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนกำลังทำอยู่เหมือนกัน



“เรียบร้อย!” กดถ่ายรูปไปสองสามรูปจนพอใจเจ้าตัวถึงได้ลดโทรศัพท์ลง



“แล้วมึงถ่ายไปทำไม” หินผาถาม เพราะยังไม่ได้รับคำตอบสักที



“โมเมนต์คู่จิ้นไงมึง ที่กูบอกมึงเมื่อเช้า” ทัชเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมาตอบ “งานดี แสงดีงามใครถ่ายวะเนี่ย แม่งต้องหล่อมากแน่ ๆ เลย”



หินผาพยักหน้ารับรูป “รูปมันจะดีเพราะนายแบบมันหน้าตาดีหรอกโว้ย ใช่ไหม” หันมาถามสายน้ำอย่างต้องการพวก “ส่งรูปให้กูด้วย”



สายน้ำได้แต่ทำหน้างงมองหินผากับทัชอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยถามหินผาเสียงเบา “พี่ไม่... โกรธหรืออะไรเหรอครับ ที่มีคนเขา... จับคู่น่ะครับ”



“หือ... ก็ไม่อะไรนะ หรือเราไม่พอใจหรือเปล่าพี่จะได้บอกแอดมินที่ลงให้” หินผาหันมาถาม



สายน้ำส่ายหน้า “ป เปล่าครับไม่ได้ไม่พอใจอะไร ผมแค่ถามพี่ดูเฉย ๆ น่ะครับ”



“อ่อ โอเค” หินผาก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “อ้าว... ใกล้ได้เวลาเรียนแล้วนี่ ไปเรียนกันได้แล้วเด็ก ๆ”



“จริงด้วย” ปีหนึ่งก้มหน้าดูเวลาทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



“อย่างนั้นพวกหนูขอตัวก่อนนะคะ” มะนาวพูดก่อนที่ทุกคนจะลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสามคน “สวัสดีค่ะ”



“จ้า แล้วเจอกันใหม่น้า” ทัชโบกมือให้น้อง ๆ



“ตั้งใจเรียนล่ะ” หินผาพูดกับทุกคนก่อนจะยกมือวางบนผมของสายน้ำแล้วยีอีกรอบ



“ครับ” สายน้ำรับคำก่อนจะเดินตามเพื่อน ๆ ไป ยกมือขึ้นแตะผมตัวเอง รู้สึกว่ามันยังอุ่น ๆ จากฝ่ามือร้อนของหินผาอยู่เลย และมันไม่ได้อุ่นแค่ที่ผม แต่ที่ใบหน้าแล้วก็หัวใจของสายน้ำก็อุ่นไปหมด



อาการหนักแล้วจริง ๆ นะสายน้ำ


Every time I see you, I fall in love all over again.



ทุก ๆ ครั้งที่ฉันเห็นเธอ ฉันเหมือนตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วจ้าาาา
เดี๋ยวพระเอกของเราจะออกในช่วงท้ายของตอนนี้ไปเลยจ้า
พี่ใกล้จะออกเยอะแล้ว
ตอนนี้ขอพื้นที่ให้น้องน้ำและคนอื่น ๆ ก่อนนะคะ ฮา
พระเอกฟางนี่... ค่าตัวแพงจริง ๆ
แต่ก็หวังว่าความน่ารักน่าเอ็นดูของจะมาทดแทนกันได้นะคะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 30-05-2019 22:18:16
อุ้ย....
พี่หินเอ็นดูน้องจังเอะอะก็ยีหัว
นี่จิ้นนะ..จิ้นจริงๆ
น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 30-05-2019 22:45:24
รอพี่หินค่ะ มาไวๆ นะพี่นะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 31-05-2019 00:06:48
มียีหัวน้องด้วย  :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-05-2019 00:35:57
ทำไมเราไม่เจอคนอย่างหินผาบ้างนะ อิจฉาสายน้ำ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 31-05-2019 00:47:05
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 31-05-2019 11:30:15
รอๆๆๆครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-05-2019 16:50:26
ตั้ลล้ากกกก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 31-05-2019 20:40:31
หวานกันเบาๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: lovejinjunno ที่ 31-05-2019 22:13:56
ฮือออออออ
มันดีต่อใจจริงๆค่ะ
น้องน่ารักที่สุด  :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-06-2019 00:11:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-06-2019 03:14:10
โมเม้นมาอย่างต่อเนื่อง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [40%] l P.8 30-05-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-06-2019 22:14:47
น้องใจบางไปหมดแล้วพี่จ๋า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 05-06-2019 21:22:47
(https://i.ibb.co/znDG6mG/06.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “6”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






ภายในห้องสมุดที่เงียบเหงาเพราะเป็นวันหยุดยาวสามวันมีเพียงแค่คนไม่กี่คนที่เข้ามาใช้บริการ มีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานและเสียงกระดาษถูกพลิกเปิดไปมาแค่นั้น สายน้ำละสายตาจากหน้ากระดาษขึ้นมองบรรยากาศภายนอกหน้าต่าง ยกมือขึ้นเท้าคางแล้วถอนหายใจออกมา



วันหยุดยาวสามวันช่วงสุดสัปดาห์แบบนี้เพื่อน ๆ ในกลุ่มของเขาก็กลับบ้านกันหมด จะมีก็แค่เขาที่ไม่ได้ไปไหน ที่จริงแบงก์กับตั้มก็ชวนไปที่บ้านแต่เขาก็เกรงใจเลยปฏิเสธไป สุดท้ายเลยต้องมานั่งเหงา ๆ เซ็ง ๆ อยู่ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยคนเดียว เพราะไม่อยากอยู่ที่ห้อง



“อ้าว... สายน้ำนี่นา” เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง เจ้าตัวยกมือไหว้คนที่เดินเข้ามาหา



“พี่ทัช สวัสดีครับ”



“เอ่อ ๆ ทำไมมาอยู่นี่คนเดียวได้ล่ะ” ทัชถามพร้อมกับดึงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามออกแล้วนั่งลง



“พอดีเพื่อน ๆ กลับบ้านกันหมดน่ะครับ ผมอยู่ห้องคนเดียวเบื่อ ๆ ก็เลยออกมาหาหนังสืออ่านที่นี่ แล้วพี่ไม่กลับบ้านเหรอครับ หยุดยาวสามวัน” สายน้ำตอบคำถาม



“พี่ไป ๆ กลับ ๆ อยู่แล้ว นี่เอาหนังสือมาคืนเฉย ๆ แบบนี้ก็ว่างดิ ไปกินข้าวกันเปล่าพี่นัดไอ้หินไอ้เดียร์ แล้วก็พวกรุ่นพี่ที่จบไปแล้วด้วย” ทัชชวน



“ไม่เป็นอะไรพี่ พี่ตามสบายเลย” สายน้ำปฏิเสธ ถ้าหากมีแค่รุ่นพี่ปีสี่เขาอาจจะตกลงแต่เหมือนจะมีคนอื่น ๆ ด้วย กลัวว่าไปแล้วจะอึดอัดเสียเปล่า ๆ



“ไม่เป็นไร ไม่อึดอัดหรอกรับรองได้ ป่ะ ไปด้วยกันอยู่คนเดียวเหงาเปล่า ๆ ไป ๆ เก็บของ”



พอโดนคะยั้นคะยอมาก ๆ สายน้ำเลยพยักหน้าตกลง ทัชนั่งรออีกฝ่ายเอาหนังสือไปเก็บก่อนจะพากันเดินออกจากห้องสมุดไป ทัชเดินนำอีกฝ่ายไปที่รถของตัวเองก่อนจะขับออกจากมหาวิทยาลัย



“ว่าแต่ที่พี่บอกว่ามีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วด้วยนี่คือใครบ้างเหรอครับ” สายน้ำถาม อย่างน้อยก็จะได้รู้ข้อมูลเอาไว้บ้าง



“อ่อ... เป็นพี่ที่คณะเรานี่แหละจบไปได้หลายปีแล้วแต่ว่าสนิทกันเพราะมีแฟนไอ้เดียร์ กับพี่ชายไอ้หินอยู่ในกลุ่ม” ทัชหันมาตอบ



“พี่ป่าไม้”



“อ้าว รู้จักด้วยเหรอ”



“หะ... อ่อ ไม่ใช่ครับ คือ... พี่หินผาเคยเล่าให้ฟังเรื่องพี่ชายน่ะครับ”



“อ่อ ๆ ก็นั่นแหละ มีพี่ป่าไม้ พี่กันต์คนนี้แฟนไอ้เดียร์ แล้วก็พี่ไข่เจียว กับพี่ดิว จริง ๆ จะมีพี่ผู้หญิงอีกสองคนแต่วันนี้ไม่ได้มา” ทัชตอบ



“แล้ว... เราจะไปที่ไหนกันเหรอครับ”



“อ่อ บ้านของพวกพี่เขานั่นแหละ” ตอบไปก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปในซอย สายน้ำกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แถมนี้มีแต่บ้านหลังใหญ่ ๆ เต็มไปหมด หลังจากขับรถผ่านบ้านหลังใหญ่มาได้ไม่นานก็เจอกับบ้านลักษณะทาวน์โฮมสามหลังติดกัน ซึ่งทั้งสามหลังนั้นอยู่ในรั้วเดียวกัน



ทัชขับรถเข้าไปด้านใน ด้านขวามีโรงจอดรถอยู่ซึ่งตอนนี้ก็มีรถจอดเรียงอยู่หลายคัน ทัชเองก็ขับรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถเหมือนกัน



“บ้านนี้พวกพี่ ๆ เขาออกแบบแล้วก็สร้างอยู่ด้วยกันน่ะ มันเลยแตกต่างจากหลังอื่น ๆ แถวนี้” ทัชอธิบายให้สายน้ำฟัง



“สวยดีนะครับ”



บ้านตรงหน้าเป็นทาวน์โฮมสองชั้นสามหลังติดกัน แต่ทั้งความสูงและขนาดใหญ่กว่าทาวน์โฮมของโครงการหมู่บ้านที่เปิดขาย เป็นสไตล์โมเดิร์นที่หน้าตาเหมือนกันหมดทุกหลัง



“มันเหมือนทาวน์โฮมแค่ข้างหน้านั่นแหละ แต่ข้างในฟังก์ชั่นคือบ้านหลังเดียวกันเลย ไม่มีผนังกั้นระหว่างหลัง”



จริงอย่างที่ทัชพูด เพราะพอเข้ามาในบ้านแล้วจากประตูทางเข้าของบ้านหลังกลางแล้ว ที่สิ่งเจอตรงหน้าคือโถงโล่ง ๆ ที่ผนังสองข้างมีตู้ที่เอาไว้สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของ พื้นปูด้วยหินอ่อน ตำแหน่งที่ควรเป็นผนังกั้นระหว่างอาคารก็ไม่มี



เสียงดังเฮฮาดังมาให้ได้ยินก่อนที่พวกเขาจะเดินไปถึงห้องนั่งเล่นเสียอีก สายน้ำหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ กัน ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ไหวไหล่เท่านั้นเหมือนกับจะบอกว่าเป็นเรื่องปกติ ธรรมดาที่เกิดขึ้น แต่พอทัชเลื่อนประตูให้เปิดออกเสียงพูดคุยที่ดังอยู่ก็เงียบไป ทุกคนในห้องหันมาให้ความสนใจกับผู้มาใหม่ทันที



ในจำนวนคนทั้งหมดหกคนที่อยู่ในนั้น มีแค่สามคนที่สายน้ำคุ้นหน้าคุ้นตา แต่คนอื่น ๆ นั้นสายน้ำไม่รู้จัก แต่ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่ที่จบไปกันแล้ว



“อ้าวไอ้ทัช พาใครมาด้วยวะ” เสียงทักถามดังขึ้นทันทีที่ทัชกับสายน้ำเดินเข้าไป



“รุ่นน้องที่คณะ เดี๋ยวผมแนะนำก่อน นี่สายน้ำเดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดด้วยคร้าบ” ทัชแนะนำสายน้ำกับคนอื่น ๆ “ส่วนนี้พี่กันต์ เป็นแฟนกับเดียร์มัน แล้วก็นี่ พี่ไข่เจียว พี่ป่าไม้แล้วก็พี่ดิว”



“สวัสดีครับ” สายน้ำยกมือไหว้สวัสดีทุกคนที่นั่งอยู่



“ถ้าเคยได้ยินสาว ๆ พูดเรื่องเหนือเดือน เหนืออะไรคือนี่เลย พี่กันต์เขานี่แหละคือเหนือเดือน ส่วนพี่ดิวคือเดือนคณะตอนที่พี่เขาอยู่ปีหนึ่ง”



“ไง ยินดีที่ได้รู้จักนะ” พวกพี่ ๆ ทักทายอย่างเป็นกันเอง



“พอดีผมเจอน้องมันอยู่คนเดียวเลยพามาด้วย คงไม่ว่ากันนะ”



“ไม่หรอก คนเยอะ ๆ กินข้าวด้วยกันสนุกดี” ไข่เจียวพูด เดินเข้ามากอดคอของสายน้ำเหมือนกับสนิทสนมกันมานานแล้วพาไปนั่งร่วมวงสนทนาด้วย



สายน้ำนั่งลงข้างหินผาที่เจ้าตัวขยับที่ให้แล้วเอ่ยเรียกเขาไป สายน้ำนั่งฟังรุ่นพี่คุยกันอย่างสนุกสนาน เพราะทุกคนเป็นกันเองมากเขาจึงไม่รู้สึกอึดอัดอะไร ใช้เวลาไม่นานก็สนิทกับทุก ๆ คนได้ เวลาผ่านไปสักพักกันต์กับเดียร์ก็บอกจะไปทำมื้อกลางวันให้ก่อนจะพากันเดินหายไป แต่ละคนก็ขยับย้ายตัวเอง ไปนั่งดูโทรทัศน์บ้าง นั่งเล่นเกมบ้าง นั่งคุยกันบ้าง



“สายน้ำชอบอ่านหนังสือไหม” ป่าไม้หันมาถามรุ่นน้องที่อายุห่างกันหลายปีอย่างกลัวว่าน้องจะเหงาเพราะหินผาลุกเดินไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก



“ครับ ก็ชอบครับ”



“อย่างนั้นไปห้องหนังสือกับพี่ไหม” พออีกฝ่ายชวน สายน้ำก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับทันที เจ้าตัวลุกเดินตามป่าไม้ออกจากห้องนั่งเล่นไป เดินย้อนไปตรงประตูบ้านก่อนจะเดินเลยไปอีกฝั่งซึ่งป่าไม้ก็เล่าให้ฟังว่าทางนี้จะเป็นส่วนของห้องทำงานแล้วก็ห้องหนังสือ



เวลาเดินเข้ามาในบ้าน เจอโถงตรงกลางหากเดินไปทางซ้ายก็จะเป็นในส่วนของห้องนั่งเล่นที่ทัชพาสายน้ำไป ต่อด้วยห้องกินข้าวแล้วก็ห้องครัว ส่วนทางขวาจะเป็นห้องทำงานกับห้องหนังสือตามที่ป่าไม้บอก และชั้นสองจะเป็นในส่วนของห้องนอน



สายน้ำเดินตามป่าไม้เข้าไปในห้องหนังสือ เจ้าตัวมองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความสนใจ หนังสือภายในห้องนี้เยอะมากจริง ๆ ผนังสองด้านเป็นตู้หนังสือแบบบิวท์อินสูงจนถึงฝ้าเพดาน มีบันไดที่ติดล้อเลื่อนเอาไว้ปีนขึ้นไปหยิบหนังสือ ฝังอีกฝั่งก็มีตู้หนังสือแต่เป็นตู้แบบเตี้ย ๆ ตรงกลางห้องมีโต๊ะทำงานตั้งอยู่สองตัว แล้วก็มีบีนแบ็กวางเอาไว้ตามหน้าตู้หนังสือ



“สองฝั่งนี้มีหนังสือแทบทุกแนว ทั้งสถาปัตย์ บ้าน สวน พวกหนังสือวิชาการก็มี จิตวิทยาก็มี ประวัติศาสตร์ ส่วนฝั่งตู้เล็ก... เป็นพวกหนังสือนิยายของสองสาวเขา ทั้งนิยายรักโรแมนติก สืบสวนสอบสวน อะไรนักก็ไม่รู้ พี่ก็ไม่แน่ใจ ถ้าชอบก็ลองดูนะ ตามสบายเลย” ป่าไม้หันมาบอกกับรุ่นน้อง



“ขอบคุณนะครับ” เจ้าตัวยิ้มกลับไปให้ก่อนจะเดินดูหนังสือไปเรื่อย ๆ เพราะหนังสือมันเยอะมากจนไม่รู้จะอ่านเล่มไหนดี สายน้ำจึงสุ่มเลือกออกมาหนึ่งเล่ม หันไปมองคนที่พาเขามากำลังยืนดูหนังสืออยู่อีกด้านก็ไม่กล้าส่งเสียงรบกวน



สายน้ำจึงทิ้งตัวลงนั่งบนบีนแบ็กหน้าตู้หนังสือเปิดหนังสืออ่านไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อรับรู้ถึงสายตาที่มองมาที่เขา



“มีอะไรหรือเปล่าครับ” สายน้ำถามพร้อมกับยิ้มให้ป่าไม้



“เราน่ะ...” คนตรงหน้าทำหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะถามออกมา “เรากับพี่รู้จักกันมาก่อนใช่ไหม เราคือสายน้ำลูกของอาจารย์ไพศาลใช่ไหม”



“ค ครับ...?”



“เราคือน้องน้ำลูกอาจารย์ไพศาลที่พี่กับไอ้หินเคยไปเรียนรำเรียนดนตรีไทยที่บ้านใช่ไหม พี่ว่าพี่จำไม่ผิดนะ” ป่าไม้พูดพลางขมวดคิ้วมองสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าไปด้วย



สายน้ำถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้างอย่างดีใจ “ครับ น้องน้ำเอง พี่จำผมได้ด้วยดีจัง”



“ใช่จริงด้วย!” ป่าไม้ตีมือตีขาอย่างถูกใจ “พี่ก็ไม่แน่ใจหรอกเราเปลี่ยนไปเยอะผิดกับตอนเด็กเลย แต่พอเห็นเรายิ้มแล้วก็รู้สึกคุ้น ๆ ท่าทางก็ดูคุ้น พอเราบอกว่าเพิ่งย้ายกลับมาจากต่างประเทศพี่ก็คิดว่าไม่น่าใช่ แต่มันคุ้นมาก ๆ เลยลองถามดูนี่แหละ ไอ้หินมันจำเราไม่ได้เหรอ”



“ครับ พี่หินผาจำผมไม่ได้” สายน้ำพูดพร้อมกับหัวเราะ ริมฝีปากยกเป็นรอยยิ้ม “แต่ผมก็ไม่แปลกใจหรอกครับ ก็ผมเปลี่ยนไปมากขนาดนี้นี่ครับ ใช่ไหม”



ป่าไม้พยักหน้ารับ “จริง เราเปลี่ยนไปเยอะมาก ตอนเด็ก ๆ ตัวเล็กนิดเดียวแถมหน้าตาก็น่ารัก แก้มแดงปากแดงอย่างกับเด็กผู้หญิง พี่จำได้... เรายังเคยโดนพวกเด็กผู้ชายแกล้งหยอกอยู่เลยเพราะคิดว่าเราเป็นเด็กผู้หญิง”



“ใช่ครับ เพราะแบบนั้นละมั้งครับพี่หินผาเลยจำผมไม่ได้”



“แต่เราก็จำหินผาได้นี่...” ป่าไม้เลิกคิ้วมองพร้อมกับยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำเอาสายน้ำชะงักไปต่อไม่ถูก ท่าทางของคนอายุมากกว่าเหมือนจะรู้อะไรดี ๆ อย่างนั้น “ไอ้หินนี่ก็น่าอิจฉาไม่ใช่เล่น”



“...” สายน้ำไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่แน่ใจว่าป่าไม้ต้องการอะไรกันแน่



“ตอนเด็ก ๆ มันก็มีเด็กน่ารักตามติดไม่ยอมห่าง โตมาก็ยังมีเด็กบางคนมาหลงรักอีก” ป่าไม้พูดก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของสายน้ำ ขยับมานั่งใกล้ ๆ แล้วยกมือกอดไหล่สายน้ำเอาไว้แล้วโยกตัวไปมาเหมือนหยอกเด็กตัวเล็ก ๆ “ตอนเด็ก ๆ เราน่ะอ่านง่ายจะตาย ไม่คิดว่าโตมาถึงตอนนี้ก็ยังอ่านง่าย แค่เห็นสายตาที่เรามองไอ้หินพี่ก็รู้แล้ว”



“พี่ป่าไม้...”



“ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ไม่ได้ว่าอะไร พี่ไม่ห้ามหรอกถ้าชอบมันจริง ๆ ก็ลุยเลย” ป่าไม้หัวเราะชอบใจที่ทำให้สายน้ำหน้าแดงได้



“เลิกแกล้งผมเถอะครับ แล้วก็... อย่าบอกพี่หินผานะ”



“ไม่บอกหรอก รับรองได้ แบบนี้สนุกกว่ากันเยอะเลย อยากจะเห็นหน้ามันตอนรู้ว่าเราเป็นใครจริง ๆ คงจะตลกน่าดูเลย” ป่าไม้ว่า “ว่าแต่ว่าช่วงที่ย้ายบ้านไปตอนนั้นเป็นยังไงบ้างคุณน้ากับอาจารย์สบายดีใช่ไหม”



“ก็... ดีครับ ผมย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ตอนขึ้น ม.ต้น พอดี แต่พอ ม.ปลายผมก็ย้ายไปอยู่อเมริกากับแม่แล้วก็พ่อเลี้ยงน่ะครับ” สายน้ำเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังก่อนจะอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นสีหน้าตกใจและลังเลใจของป่าไม้ “ผมเล่าได้ครับ ไม่ได้อะไรแล้ว ตอนช่วง ม.สอง ได้มั้งครับที่พ่อกับแม่แยกทางกัน แล้วผมก็ย้ายไปกับแม่ แต่กับพ่อผมก็ติดต่อตลอด บางทีช่วงปิดเทอมที่นู้นผมก็กลับมาหาพ่อที่นี่”



“อ่อ... แล้วนี่เราย้ายมานี่คุณน้ามาด้วยไหม”



“เปล่าครับ ผมย้ายมาคนเดียว ก็ได้พ่อช่วยหาที่อยู่ให้ ช่วยจัดการเรื่องเรียนให้น่ะครับ”



“แล้ว... พี่ถามได้ใช่ไหม ทำไมถึงย้ายมาล่ะ เรามี... ปัญหากับ...”



สายน้ำส่ายหน้า “ไม่มีครับ ผม แม่แล้วก็แด๊ดรักกันดี แฮปปี้มาก ๆ ครับ แต่ที่ผมย้ายมาก็เพราะ...”



“ไอ้หิน”



“ครับ เพราะพี่หินผา ผมแค่อยากเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ พี่เขา แม้จะในฐานะรุ่นน้องก็ตามที อย่างนั้นก็ขออีกสักครั้งในชีวิตที่ผมได้เห็นเขาใกล้ ๆ น่ะครับ”



ป่าไม้ยกมือขึ้นยีผมน้องอย่างเอ็นดู “พี่ชักจะอิจฉามันแล้วนะเนี่ยที่มีคนรักมันมากขนาดนี้ ให้พี่ช่วยไหม ถ้าเป็นเราพี่ไม่มีปัญหา และก็เชื่อว่าพ่อกับแม่ไม่ขัดข้องด้วย บางครั้งแม่พี่ยังพูดถึงเรา ถึงคุณน้ากับอาจารย์อยู่เลย”



“ผมก็คิดถึงน้าเดือนกับลุงพันธ์” สายน้ำตาเป็นประกาศเมื่อนึกถึงผู้ใหญ่ทั้งสองคน



“เอาไว้ว่าง ๆ ไปเที่ยวบ้านพี่ พ่อกับแม่คงดีใจ”



“ครับ” สายน้ำรีบพยักหน้ารับทันที “ดีใจจัง ได้เจอพี่ป่าไม้ ได้คุยแบบนี้”



“เอาเบอร์กับไลน์มา จะได้แอดกันไว้เอาไว้คุยกัน”



สายน้ำรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที พวกเขาแลกเบอร์แลกไลน์กัน กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่มีใครนั่งอ่านหนังสือแล้วเพราะเอาแต่คุยเรื่องในอดีต เหมือนกับเพื่อนเก่าที่ไม่เจอกันนานเลยมีเรื่องอยากคุยอยากเล่าเต็มไปหมด



เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกสายตาของทั้งสองคนให้หันไปมองก่อนจะเห็นหินผายืนอยู่ตรงประตูห้อง “คุยกันสนุกเลย เปิดประตูเข้ามายังไม่มีใครรู้เลย”



“อ้าวเหรอ คุยเพลินไปหน่อย” ป่าไม้ตอบน้องชายตัวเอง “ว่าแต่มีอะไร”



“จะมาตามไปกินข้าว”



“โอเค อย่างนั้นไปกันเถอะ ป่ะน้ำไปกินข้าวกัน” ป่าไม้ดันตัวเองลุกขึ้นยืนก่อนจะหันมายื่นมือให้สายน้ำจับเป็นหลักยึด



สายน้ำเดินตามหินผากับป่าไม้กลับไปทางเดิม โต๊ะอาหารตัวยาวเต็มไปด้วยอาหารหน้าตาน่าทานวางเต็มโต๊ะทุกคนจับจองที่นั่งเรียบร้อย เหลือที่นั่งที่เว้นว่างไว้สามที่เรียงต่อกันพอดี หินผากับป่าไม้เลือกเก้าอี้ตัวซ้ายขวาคนละตัว สายน้ำเลยต้องนั่งลงตรงกลางระหว่างทั้งสองคน



บรรยากาศบนโต๊ะอาหารนั้นเป็นกันเองมากจนสายน้ำลดความเกร็งไปได้ทั้งหมด มีแต่นั่งขำจนปวดท้องกับบรรดาสถาปนิกรุ่นพี่ที่แม้จะอายุมากกว่าหลายปีแต่ก็ยังทำตัวเหมือนเป็นเด็ก ๆ นั่งมองไปก็ตลกไป



“มาอยู่กับพวกพี่ก็เหนื่อยหน่อยนะสายน้ำ” เดียร์ชะโงกหน้ามาพูดกับสายน้ำ “เจอแต่คนบ้าน้อยกับคนบ้ามากน่ะ”



สายน้ำหลุดขำตอนได้ยินเดียร์พูดแบบนั้นก่อนจะพยักหน้ารับ “พวกพี่ตลกดีครับ”



“แล้วก็อย่าเอาแต่นั่งขำ กินข้าวด้วยสิเราน่ะ” หินผาที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของสายน้ำพูดก่อนจะตักทอดมันกุ้งใส่จานของสายน้ำให้ เห็นเจ้าตัวเอาแต่นั่งหัวเราะพี่ ๆ ไม่ตักอะไรเข้าปากสักที



“ขอบคุณนะครับ” สายน้ำหันมายิ้มให้ก่อนจะตักทอดมันในจานขึ้นมากินพลางอมยิ้มจนแก้มแทบจะปริ



หลังจากกินของคาวกันเสร็จกันต์กับเดียร์ก็ลุกไปหยิบของหวานมาเสิร์ฟ สายน้ำมองขนมในแก้วน้ำด้วยความสนใจ เขามั่นใจว่าเขาเคยกินขนมชนิดนี้แต่ที่เห็นตอนนี้มันแตกต่างจากที่เขาเคยกินมาก่อน



“รู้จักไหมเรา” หินผาถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องขนมหวานไม่วางตา



“น่าจะรู้จักนะครับ” สายน้ำตอบพลางใช้ช้อนตักดู “เขาเรียกว่า... ทับทิมกรอบ... ใช่ไหมครับ”



“ใช่แล้วล่ะ”



“ผมเคยกินตอนเด็ก ๆ แต่... มันไม่ใช่สีนี้นี่นา” สายน้ำเงยหน้าขึ้นมอง



“ปกติคนทำเขามักจะทำเป็นสีแดง สีของทับทิมน่ะ” กันต์เป็นคนตอบคำถามของสายน้ำ “แต่พี่ใช้เป็นสีฟ้าจากสีดอกอัญชันแทน อันนี้เลยเรียกว่าทับทิมกรอบอัญชันมะพร้าวอ่อน”



“อ่อ ครับ ทำสีนี้ก็สวยดีนะครับสีเหมือนน้ำทะเลเลย”



ทับทิมกรอบอัญชันมะพร้าวอ่อนหอมอร่อยถูกปากของสายน้ำมากจนเจ้าตัวขอเติมอีกตอนที่กันต์ถามว่ามีใครอยากจะได้เพิ่มบ้าง ตอนนี้เลยต้องมานั่งย่อยเพราะเขากินไปเยอะมากทั้งของคาวของหวาน



“แล้วสายน้ำกลับยังไง ไอ้ทัชไปส่งเหรอ” เดียร์หันมาถามรุ่นน้องปีหนึ่งคนเดียวในห้องตอนนี้



“เอ่อ... เดี๋ยวกูไปส่งเอง”



“ไม่เป็นไร” ไม่ใช่สายน้ำที่เป็นคนพูดแต่เป็นหินผา “เดี๋ยวกูไปส่งเองเพราะยังไงกูก็ต้องกลับหออยู่แล้ว มึงจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ จะได้ไม่ต้องวนไปวนมา”



“เอาอย่างนั้นเหรอ” ทัชเลิกคิ้วถาม



“อือ ตามนั้นแหละ เราไม่มีปัญหาใช่ไหม” หันมาถามสายน้ำ



“ครับ ผมไม่มีปัญหาอะไรครับ กลับกับพี่ได้”



“อย่างนั้นก็ตกลงตามนี้แหละ กูไปส่งน้องเอง” หินผาหันไปสรุปกับเพื่อน ซึ่งทัชก็ไม่ได้ขัดอะไร พยักหน้าตกลงตามนั้น








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

คืออยากจะบอกว่าตอนที่แต่งฉากในวันนี้
แต่งไปก็ขำไป พี่ป่าไม้เพิ่งออกฉากนี้ฉากแรก
แต่บทเยอะกว่าพี่หินผาออกรวมกันตั้งแต่บทแรกเสียอีก
โอ๊ย สงสารพี่หินผา แต่ก็ขำมากค่ะ

ก็เฉลยไปหลายเรื่องแล้วเนอะ น้องน้ำกับพี่ ๆ เขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วจ้า
แต่ว่าตอนเด็กน้องน่ารักเหมือนผู้หญิง
โตมาหล่อขนาดนี้ พี่หินผาเลยจำไม่ได้ แต่เดี๋ยวจะมีความคิดทางฝั่งพี่ให้ได้อ่านกันจ้า
ยังไงก็เอาใจช่วยน้องสายน้ำด้วยนะคะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 05-06-2019 21:56:57
นี่ว่าหินผาก็น่าจะจำน้องได้ รึไม่ก็อาจจะคุ้นตา แต่ไม่บอกให้น้องรู้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 05-06-2019 23:04:30
คิดว่าพี่หินผาจำน้องได้นะ แต่ไม่ได้บอกน้อง รออ่านพาร์ทพี่หินผานะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-06-2019 23:14:12
“อย่างนั้นไปห้องหนังสือกับพี่ไหม” พออีกฝ่ายชวน สายน้ำก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับทันที เจ้าตัวลุกเดินตามหินผาออกจากห้องนั่งเล่นไป   
อันนี้จะเป็นน้องเดินตามพี่ป่าไม้หรือเปล่าคะ
 
 น้องต้องแสดงออกมาขนาดไหนนะ พี่ป่าไม้สังเกตุเห็ได้ง่ายๆ ว่าน้องแอบชอบพี่หินผา  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 05-06-2019 23:51:36
อยากรู้แล้วว่าพี่จะว่ายังไง
จำน้องไม่ได้จริงอ่ะ TOT
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-06-2019 00:07:09
คิดว่าหินรู้ แต่ไม่พูด รอให้น้ำพูดเองมากกว่านะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-06-2019 01:17:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-06-2019 17:36:34
ป่าไม้จะมาเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องนี้หรือเปล่านะ

รอลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 06-06-2019 22:32:30
จะไปส่งน้องเองจร้าาา  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-06-2019 00:21:59
สนุกละ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-06-2019 11:25:20
เคยไปเรียนมาตอนเด็กนี่เอง
แต่พี่หินผาจะไม่สะกิดใจเลยจริงๆน่ะเหรอ 555555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [70%] l P.8 05-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-06-2019 13:54:03
เดี๋ยวมาอ่าสานค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 14-06-2019 21:38:31
(https://i.ibb.co/znDG6mG/06.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “6”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





เป็นอีกครั้งที่สายน้ำได้ขึ้นมานั่งบนรถสปอร์ตสีขาวของหินผา แม้ภายนอกเขาจะไม่แสดงออกแต่ข้างในนั้นตื่นเต้นไปหมด ไม่ชิน และคิดว่าคงไม่ชิดกับการได้อยู่ใกล้ ๆ หินผา ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็ก ๆ ก็วิ่งเล่นด้วยกันมาแท้ ๆ เลย



“พี่ป่ากวนอะไรเราหรือเปล่า” หินผาหันมาถามรุ่นน้องที่นั่งนิ่ง ตามองตรงไปที่ถนน



“ค ครับ...” สายน้ำสะดุ้งนิด ๆ ก่อนจะหันมามองคนถามแล้วรีบส่ายหน้าไปมา “ไม่ครับพี่ป่าไม้ไม่ได้กวนอะไรผมเลย”



“เหรอ...” อีกฝ่ายแค่รับคำเบา ๆ



สายน้ำพยักหน้ายืนยันรอยยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงพี่ชายคนนี้ที่ไม่ได้เจอกันมานาน นึกเสียดายอยู่หน่อย ๆ ที่ต้องกลับมาแล้วเพราะเขายังอยากคุยกับป่าไม้อยู่เลย แต่สายตาของคนขับรถที่มองมาก็ทำเอารอยยิ้มของสายน้ำค่อย ๆ เลือนหายไป รู้สึกนั่งไม่ติดที่ “ม มีอะไรหรือเปล่าครับ”



“เปล่า ไม่มีอะไร” ตอบแบบนั้นแล้วหันกลับไปมองถนนตรงหน้าแทน “แลดูเราจะสนิทกับพี่ป่านะ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกัน”



“อ่อ... คือว่า... พี่เขาคุยสนุกน่ะครับผมก็เลยสนิทด้วยไว แล้วพี่เขาก็เหมือนพี่ชายที่ผมเคยรู้จักตอนเด็ก ๆ เลยยิ่งสนิทใจด้วยง่ายน่ะครับ”



“อือ แล้วเราอยู่คนเดียวเหรอ ทำไมถึงไปเจอไอ้ทัชมันได้ล่ะ”



“ครับ พวกแบงก์กับตั้มที่อยู่คอนโดเดียวกับผมก็กลับบ้านกันหมดน่ะครับ ผมไม่อยากนั่งอยู่ห้องก็เลยไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดแล้วก็เลยบังเอิญเจอพี่ทัชพอดี พอรู้ว่าผมอยู่คนเดียวพี่เขาก็เลยชวนไปที่บ้านนั่นแหละครับ” สายน้ำตอบคำถามของหินผา “พวกพี่ดูสนิทกันดีนะครับ”



“ใช่ กลุ่มพวกพี่ก็สนิทกันมาตั้งแต่ตอนเข้าปีหนึ่งเลย แล้วพอดีว่ากลุ่มพวกพี่เขามีทั้งพี่ชายพี่แล้วก็แฟนของไอ้เดียร์อยู่ด้วย ก็เลยทำให้สนิทกัน” หินผาตอบ “เอาไว้วันไหนว่าง ๆ อีกก็นัดไปกินข้าวกัน พวกเพื่อน ๆ เราด้วย จะได้สนิทกับพี่ ๆ เขา พวกนี้เขาเก่ง สนิทกันไว้ไม่มีเรื่องเสียหาย มีแต่ดีกับดีทั้งนั้นแหละ”



“ครับ” สายน้ำได้แต่พยักหน้ารับกับคำพูดของหินผา “ล แล้ว... หยุดยาวสามวันพี่ไม่ไปไหนเหรอครับ”



“ไม่ได้ไปไหนหรอก แล้วเราล่ะไปไหนหรือเปล่า”



“ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ คงนอนเล่นอยู่ห้องมากกว่า อีกอย่างผมไปไหนไกล ๆ ไม่ถูกด้วยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ไปแค่ห้างกับมหา’ลัยแค่นั้นเองครับ”



ยังไม่ทันได้มีใครพูดอะไรต่อรถของหินผาก็เลี้ยวจอดที่คอนโดของสายน้ำแล้ว เจ้าตัวยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ที่ขับรถมาส่ง อีกฝ่ายพยักหน้ารับมองตาคนที่นั่งเบาะข้าง ๆ ลงไปยืนข้างรถ สายน้ำยืนรอเหมือนจะรอให้หินผาขับรถออกไปก่อน



“เข้าไปได้แล้ว” หินผาลดกระจกลงมาพูดกับสายน้ำ



“อ่า... ครับ” เลยได้แต่พยักหน้าแล้วหันหลังเดินเข้ามาในคอนโดแทน พอเดินผ่านประตูเข้ามาสายน้ำก็หันกลับไปมอง เห็นอีกฝ่ายขับรถออกไปพอดี



สายน้ำได้แต่ยืนอมยิ้มกับตัวเอง มองจนรถของหินผาขับออกจากประตูรั้วคอนโดไปถึงได้เดินขึ้นห้องของตัวเอง เจ้าตัวทิ้งตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ คว้าหมอนอิงมากอดแล้วนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้



วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความหมายมาก ๆ สำหรับสายน้ำ เขาได้เจอกับป่าไม้พี่ชายที่สนิทกันตอนสมัยเด็ก ๆ และเขาก็รู้สึกว่า... เขาได้เข้าใกล้หินผามากขึ้นกว่าเดิมอีก คงเพราะได้คุยเรื่องราวช่วงที่พวกเขาไม่ได้เจอกันกับป่าไม้ มันเลยทำให้รู้สึกว่าเวลาที่หยุดเดินไปเมื่อตอนก่อนที่เขาจะย้ายกลับมาหมุนเดินอีกครั้งหนึ่ง



เจ้าตัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาพลางนึกไปถึงอีกซีกโลกที่ตอนนี้คงมืดสนิทและแม่ของเขาก็คงนอนหลับอยู่ จากที่คิดว่าจะโทรไปเล่าเรื่องวันนี้ให้ฟังก็เปลี่ยนใจ เป็นส่งข้อความทิ้งเอาไว้แทน หันไปหยิบหนังสือที่ขอยืมมาจากป่าไม้มาเปิดอ่าน เป็นหนังสือที่เขาหยิบมาอ่านตอนอยู่ที่บ้านของพวกรุ่นพี่



สายน้ำคิดว่าตัวเองเป็นคนมือดี ตั้งแต่ตอนเปิดหนังสือที่เบลส่งให้ตอนไปร้านหนังสือแล้ว แม้ว่าเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะไม่ใช่แบบนั้น แต่บทความที่ได้กวาดสายตาอ่านก็ตรงกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้มาก



คิดถึง
คิดถึง
แค่ห่างกันครู่เดียว
ใจยังถวิลหา
คนของฉัน
1



แม้ว่าหินผาจะไม่ใช่คนของสายน้ำ แต่ในความรู้สึกนั้นคือคนของหัวใจที่ทำให้เขายิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึง



ไม่รู้ว่าสายน้ำบอกตัวเองมากี่ครั้งแล้วกับประโยคนี้... เป็นเอามาจริง ๆ สายน้ำ แต่มันคือเรื่องจริงเพราะในทุก ๆ วัน สายน้ำคิดว่าเขาชอบหินผาเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ไม่มีวันหยุดเลย



นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ ก่อนที่ความคิดจะสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าตัวหยิบมาดูยิ้มกว้างก่อนจะกดรับสายนั้น



“พี่ป่าไม้ สวัสดีครับ”



[ไงเรา ถึงห้องเรียบร้อยหรือยัง]



สายน้ำเผลอพยักหน้ารับไปด้วยตอนคำถาม “ถึงเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อสักพักนี้เอง”



[ดีแล้วล่ะ เอ่อ... วันหยุดที่เหลือสองวันนี้เราไปไหนหรือเปล่า]



“ไม่ได้ไปไหนครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”



[อย่างนั้นไปเที่ยวกัน]



“ค ครับ ไปเที่ยว” สายน้ำถามกลับอย่างไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นถูกต้องหรือเปล่า



[ใช่แล้ว ไปเที่ยวกัน เมื่อกี้พวกพี่คุยกันแล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวหัวหินกัน ไปค้างหนึ่งคืนแล้วก็กลับ ก็มีพวกพี่ทั้งหมด แล้วก็พวกไอ้หินนี่แหละ]



“ผมเกรงใจน่ะครับ”



[ไม่เห็นต้องเกรงใจเลย ไอ้พวกนี้มันก็บอกให้ชวนเราอยู่ โอเคนะ ยังไงเราก็อยู่คนเดียวไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วนี่ ไปด้วยกันกับพวกพี่นี่แหละ]



แม้จะลังเลแต่สุดท้ายสายน้ำก็ตอบรับ “ครับ แบบนั้นก็ได้ครับ”



[ดีมาก อย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวพี่ให้ไอ้หินไปรับนะ]



สายน้ำตอบรับไปก่อนจะวางสาย ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้รับข้อความจากหินผาเรื่องนัดเวลาที่จะเข้ามารับแต่เช้าเพื่อที่จะได้ไม่ถึงหัวหินบ่ายจนเกินไป สายน้ำเองก็ส่งข้อความรับทราบกลับไปก่อนที่เขาจะเดินไปจัดกระเป๋า



ไปค้างแค่คืนเดียวเสื้อผ้าไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็เตรียมเสื้อผ้าไปเผื่ออีกชุด เผื่อลงไปเล่นน้ำเพราะดูรูปที่พักที่หินผาส่งมาให้แล้ว มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย แล้วก็เดาว่าพวกพี่ ๆ คงลงเล่นน้ำด้วยแน่นอน แอบนึกไปถึงตอนที่นั่งกินลมชมวิวดูบรรยากาศสวย ๆ แล้วคนข้างกายเป็นหินผา



แล้วก็ต้องส่ายหน้าพลางนึกตำหนิตัวเองที่คิดอะไรไปไกลและฟุ้งซ่านขนาดนี้ ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าสถานะของตัวเองในตอนนี้ก็คือรุ่นน้องในคณะของเขาเท่านั้น ไม่ใช่น้องชายที่ตอนเด็ก ๆ คอยวิ่งตามหินผาอีกแล้ว



พอคิดแบบนี้แล้วก็แอบหน่วงในใจทั้ง ๆ ที่มันคือความจริง แต่แล้วก็ต้องบอกตัวเองใหม่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็ได้อยู่ในสายตาของหินผาบ้าง ดีกว่าตอนที่เขายังอยู่ต่างประเทศ ที่ทำได้แค่คอยแอบติดตามอีกฝ่ายจากโซเชียลมีเดีย และนึกขอให้หินผาเจอแต่เรื่องดี ๆ และชีวิตมีแต่ความสุขในทุก ๆ วัน



แด่คุณ
ขออย่าเจ็บปวดมากจนเกินไป
ขออย่าได้รับบาดแผลมากจนเกินไป

แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่หายใจไม่สะดวก
ก็ขอให้ทุกอย่างดีขึ้น

ไม่ว่าจะในรูปแบบใด
ไม่ว่าจะในสถานที่ไหน
ขอเพียงแค่คุณมีความสุข
2
   





---------------------------------------------
[1] คิดถึง – บทความจากหนังสือ Every Moment Was You ทุกช่วงเวลา คือเวลาของเรา ผู้เขียน ฮา แทวัน
[2] แด่คุณ – บทความจากหนังสือ Practicing Happiness วิธีใส่ใจให้น้อยลง และรักให้มากขึ้น ผู้เขียน Jeon Seung-Hwan






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

งุ้ย ๆ มีความพี่มาส่งน้องที่คอนโดอีกแล้ว
เดี๋ยวนี้ได้นั่งรถพี่บ่อยเลยน้า
เดี๋ยวเขาจะได้ไปเที่ยวด้วยกันด้วยอ่ะ
จะมีโมเม้นต์อะไรบ้างไหมน้า~
แล้วเดี๋ยวจะไปเที่ยวกันแบบนี้ ใจน้องจะเป็นอย่างไรล่ะเนี่ย
นี่ขนาดยังไม่ได้อะไรมาก
น้องยังอาการหนักเลยพี่จ๋า
ไม่อยากจะนึกถึงตอนพี่จ๋าเข้าหาน้องเล้ย
น้องน้ำมีหวังได้เป็นลมวันละหลาย ๆ รอบแน่เลยยยยยยย

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-06-2019 22:40:39
มีหึงนะ อีพี่หิน  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 14-06-2019 23:30:12
แน่ะๆๆ อะไรยังไงพี่หิน หวงงั้ย
รอโมเม้นต์นาจ้ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-06-2019 23:41:46
พี่ป่าไม้ทำดีมากจ๊ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-06-2019 02:52:31
แหน๊ มีเช็คว่าเขาคุยอะไรกัน  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 15-06-2019 03:46:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-06-2019 12:26:08
ไม่เชื่อว่าหินผาจำน้องไม่ได้ อาจจะอยากรอดูท่าทีน้อง
ตอนเด็กสนิทกันมาก แล้วไม่ได้เด็กแบบจำอะไรไม่ได้ด้วย

แหมมม มีความหวงเบาๆ นะคะ พี่หิน
พี่ป่าไม้เซนส์ดีเกิน แล้วจะจำแม่นอะไรขนาดนั้น

ใกล้พี่เข้าอีกนิดแล้วน้า สายน้ำ ใจเต้นอยู่ไม่สุขแน่ทีนี้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "6" [100%] l P.9 14-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-06-2019 16:19:11
หึหึ หึงมั้ยละ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 19-06-2019 22:03:16
(https://i.ibb.co/yVKwtDP/07.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “7”







สายน้ำยกมือไหว้พร้อมเอ่ยทักทายเมื่อขึ้นมานั่งบนรถของหินผาแล้ว วันนี้เขาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวหัวหินกับรุ่นพี่ นัดกันตอนเจ็ดโมงเช้าให้หินผามารับที่คอนโด แล้วจึงค่อยไปเจอกันที่ปั้มน้ำมันอีกทีเพื่อขับรถไปพร้อม ๆ กัน



“กินอะไรมาหรือยัง” หินผาหันมาถามพลางขับรถออกจากคอนโดที่ช่วงนี้เขามาค่อนข้างบ่อย



“ยังครับ แล้วพี่กินอะไรมาหรือยังครับ”



“ยังเหมือนกัน เอาไว้ค่อยไปหาอะไรกินที่ปั้มแล้วกันนะ นัดกันไว้ที่นั่น”



“ได้ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ “ที่ไปกันวันนี้ก็มีพวกพี่แล้วก็พวกพี่ป่าไม้ใช่ไหมครับ”



“ใช่ แต่วันนี้มาครบ พี่ใบบัวกับพี่ใยไหมด้วย เมื่อวานเราไม่เจอเพราะพี่เขาไม่อยู่ วันนี้แหละได้เจอแล้ว รวมแล้วก็สิบคน เสียดายเพื่อนเราไม่อยู่ไม่งั้นจะได้ไปกันหมด”



“อ่า... ครับ”



“แต่ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีอะไรน่ากลัว” หินผาหันมายิ้ม “รับรองไม่อึดอัด มีแต่จะสนุกไปกับพวกพี่เขาน่ะ”



“ผมไม่อึดอัดหรอกครับ ตอนนี้ตื่นเต้นมากกว่า” สายน้ำยิ้มกว้าง “เป็นครั้งแรกเลยที่ผมไปหัวหิน เมื่อคืนตอนก่อนจะนอนก็เปิดรูปดูอยู่ตั้งนาน คิดแล้วก็ตื่นเต้นมาก ๆ เลยครับ”



หินผาหัวเราะกับน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วท่าจะตื่นเต้นจริง ๆ อย่างที่เจ้าตัวบอก “เพิ่งเคยเที่ยวครั้งแรกเลยสิ”



“ใช่ครับ ตอนเด็ก ๆ ก่อนจะย้ายผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเท่าไหร่ กลับมารอบนี้ก็ยังไม่ได้ไปไหนมาไหนเลย ผมเลยตื่นเต้นมาก ๆ ครับ”



“แล้วไม่อยากกลับไปเที่ยวเชียงใหม่บ้างเหรอ น่าจะเปลี่ยนไปจากที่เราเห็นครั้งสุดท้ายเยอะอยู่นะ”



สายน้ำนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้า “อยากสิครับ เชียงใหม่เป็นที่ ๆ ผมอยากไปมากที่สุดเลยครับ เพราะที่นั่นมีความสำคัญกับผมมากมายเลยครับ ไหนจะเป็นบ้านเกิด ไหนจะตอนที่ผมได้เข้าเรียนครั้งแรก แล้วยัง... มีคนสำคัญหลายคนที่ผมอยากจะเจออีก”



“เอาไว้มีโอกาสก็กลับไปเที่ยว เรายังมีญาติอยู่ที่นู้นอยู่หรือเปล่าล่ะ”



“ถ้าญาติก็ไม่มีแล้วล่ะครับ แต่ถ้าคนรู้จักก็มีอยู่” สายน้ำตอบ “แล้วพี่หินผากลับบ้านที่เชียงใหม่บ่อยไหมครับ”



“อือ... ถ้ามีวันหยุดยาวหลายวันก็กลับนะ บางครั้งก็นั่งเครื่องไปเพราะมันเร็วดี”



“ไปกับพี่ป่าไม้น่ะเหรอครับ”



“ก็แล้วแต่ บางครั้งก็กลับกับพี่ บางครั้งพี่ก็ไปกับเพื่อน บางครั้งอยากไปคนเดียวก็ไปน่ะ แล้วแต่โอกาสมากกว่า” หินผาตอบก่อนจะหันมามองสายน้ำ “เอาไว้ช่วงไหนพี่จะกลับไปเชียงใหม่อีกจะบอกแล้วกันนะ เผื่อเราว่างแล้วอยากจะไปเที่ยวที่นู้น จะได้ไปพร้อมกันเลย”



“อ่า ครับ... ขอบคุณนะครับ” สายน้ำได้แต่พูดขอบคุณกลับไป



รถของหินผาเลี้ยวเข้าไปในปั้ม อีกฝ่ายจอดเติมน้ำมันก่อนแล้วจึงขับรถไปจอดรวมกับคันอื่น ๆ ที่ร่วมทริปไปด้วยกัน พี่ ๆ เอารถไปอีกสองคัน คันละสี่คน สายน้ำยกมือไหว้รุ่นพี่สองสาวสวยที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอ



“สวัสดีครับพี่ใยไหม พี่ใบบัว”



“สวัสดีจ้า” สองสาวเอ่ยทักทายสายน้ำอย่างเป็นกันเอง “ซื้ออะไรกินกันก่อนเถอะ เดี๋ยวจะได้ออกเดินทางกันต่อเนอะ”



“ครับ ไปสายน้ำ ไปซื้ออะไรกิน” หินผาตอบรับคำของรุ่นพี่ก่อนจะหันมาเรียกสายน้ำให้เดินไปที่ร้านสะดวกซื้อด้วยกัน เขาเดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ก่อนจะหันมาถาม “เอากาแฟอะไรไหม”



“ผมเอาเป็นนมสดเย็นแล้วกันครับ”



“อยากกินอะไรก็เดินไปหยิบมาเลยนะ”



สายน้ำพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปดูของกิน เจ้าตัวก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ตรงหน้าตู้แช่ กำลังลังเลว่าจะกินอะไรดี “สายน้ำ”



คนถูกเรียกหันไปมองก่อนจะยิ้มกว้างยกมือไหว้คนที่เดินมาหา “พี่ป่าไม้ สวัสดีครับ”



“ไงเรา ได้ของกินหรือยัง” ป่าไม้ยกมือขึ้นกอดคอพร้อมกับยีผมของสายน้ำเล่น



“กำลังดูอยู่เลยครับ พี่ป่าไม้กินอะไรหรือยังครับ”



“ยัง นี่ก็ว่าจะมาดูเนี่ยแหละ แล้วไอ้น้องชายพี่มันหายไปไหนแล้วล่ะ” ป่าไม้ถามไปก็หันซ้ายหันขวามองหาน้องชายตัวเองไปด้วย



“เมื่อกี้ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์สั่งน้ำน่ะครับ สงสัยเดินดูอะไรอยู่ละมั้งครับ”



“เราก็เลือกของกินเถอะ เดี๋ยวกลางวันแวะกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยเข้าที่พัก ตอนเย็นมีปาร์ตี้นะ คืนนี้ยังอีกยาวไกลรู้เปล่า”



สายน้ำหัวเราะเพราะเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายว่า พยักหน้ารับ “ครับ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้วครับ”



“เยี่ยม! งี้ต้องมาดวลกันหน่อยแล้วไอ้น้อง” ป่าไม้ว่ายกยิ้มอย่างชอบใจ “นี่ถ้ายังเป็นน้องน้ำเมื่อตอนเด็ก ๆ พี่คงไม่กล้าชวนเรามาดวลแน่เลย ได้โดนแม่ตีน่องลายแน่ชวนน้องมากินเหล้า กินเบียร์”



“นั่นมันตอนเด็ก ๆ นี่ครับ” สายน้ำว่า



“มาอยู่นี่เอง” เสียงของหินผาดังจากทางด้านหลังให้ทั้งสองคนหันไปมอง ป่าไม้ยกมือขึ้นทักทายน้องชายของตัวเอง



“ไงมึง”



“อะไรของพี่ล่ะ” หินผาตอบกลับอย่างไม่สนใจหันไปมองใครอีกคนที่โดนพี่ชายของเขากอดคอเอาไว้ “เลือกของกินได้หรือยังเรา”



“อ่อ... ครับ” สายน้ำชูแซนด์วิชในมือให้ดู หินผาเลยหยิบซองแซนด์วิชนั้นมาถือเอาไว้เอง ก่อนจะเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์คิดเงินให้สายน้ำต้องหันไปมองป่าไม้ก่อนจะเอ่ยขอตัวแล้วเดินตามหินผามา



หลังจากซื้อของรองท้องกันเสร็จเรียบร้อยพวกเขาก็พร้อมที่จะเดินทางกันต่อ แวะกินข้าวกลางวันที่ร้านชื่อดังที่เปิดเจอในอินเตอร์เน็ตก่อนจะตรงไปยังที่พักเลย



ที่พักสำหรับคืนนี้เป็นบ้านแบบพลูวิลล่าตั้งอยู่ในซอยหนึ่งของหัวหิน สายน้ำได้ยินจากพี่ ๆ มาว่าบ้านหลังนี้มีทั้งหมดห้าห้องนอน รองรับคนได้ถึงยี่สิบคน แต่พวกเขามากันแค่สิบคน อดคิดไม่ได้ว่านอนบ้านหลังที่เล็กกว่านี้ก็ได้ แต่ก็ได้แค่คิดเพราะเขาเป็นแค่คนที่ได้ติดตามมาเที่ยวด้วยเท่านั้น



สายน้ำเดินตามหินผาเข้าไปในเขตตัวบ้าน มีทั้งสระว่ายน้ำ โต๊ะสนุ๊กเกอร์ เห็นเตาปิ้งบาร์บีคิวด้วย



“มีห้าห้อง เราก็แบ่งนอนห้องละสองคนละกัน นอนได้สบาย ๆ เลยห้องใหญ่” ไข่เจียวพูดเมื่อทุกคนมารวมกันที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน “มึงกับเดียร์ไปห้องหนึ่ง สองสาวพักด้วยกัน แล้วพวกเราจะจับคู่ยังไงดีวะ”



“ไอ้ทัชไอ้หิน มึงกับดิว เดี๋ยวกูนอนกับสายน้ำเอง” ป่าไม้พูดเมื่อเห็นเพื่อนทำหน้างงว่าจะจับคู่นอนยังไงดี



สายน้ำเองก็เผลอพยักหน้าเห็นด้วย ได้นอนกับป่าไม้ก็คงจะดี คงมีเรื่องได้คุยกันเยอะเลย



“พี่นอนกับไอ้ทัช เดี๋ยวผมนอนกับสายน้ำเอง” แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไรต่อ หินผาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน เรียกสายตาของสายน้ำให้หันไปมอง “ผมสนิทกับน้องมากกว่า พี่เพิ่งเจอให้นอนด้วยเดี๋ยวน้องจะอึดอัดเปล่า ๆ”



“ก็ได้ ตามนั้น” ทัชพยักหน้า ตอนแรกเขาก็กำลังจะเสนอแบบนั้นเหมือนกัน แต่เพื่อนพูดขึ้นมาก่อน



“โอเค ตกลง งั้นแยกย้ายกันไปพัก ตอนเย็น ๆ ค่อยลงมาเจอกันอีกที” ไข่เจียวว่า ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เลยหันไปคว้ากระเป๋าตัวเองมาถือแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง



สายน้ำได้แต่ทำหน้าเหวอ กระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงง ในใจแอบปฏิเสธเสียงรัวแต่ก็ได้แค่นึกในใจ ไม่กล้าพูดออกมา ก็หินผาเล่นเสนอตัวเองแบบนี้เขาจะกล้าปฏิเสธได้ยังไง แต่ที่ไม่อยากนอนห้องเดียวกันก็เพราะกลัวว่าหัวใจตัวเองจะทำงานหนักจนเกินไป แค่คิดใจก็เต้นรัว เลือดสูบฉีดไปที่หน้าจนร้อนวูบไปหมดแล้ว



ตายแน่ ๆ สายน้ำ ตายแน่ ๆ เลย...



“ป่ะ เราก็ขึ้นข้างบนกันเถอะ” หินผาหันมาชวนรุ่นน้องที่นั่งเงียบอยู่



“ค ครับ” เสียงสั่นขึ้นมาทันที หันไปคว้ากระเป๋ามาถือแล้วเดินตามหินผาขึ้นไป



“ห้องนอนมีสองฝั่ง เอ็งไปฝั่งนู้นเลย ฝั่งนี้เต็มแล้ว” พอขึ้นมาถึงชั้นสองก็เจอกับไข่เจียว อีกฝ่ายเลยชี้บอกตำแหน่งห้องนอนที่ยังว่างอยู่



“ครับ” หินผาพยักหน้าก่อนจะเดินไปยังห้องนอนที่ว่าง



สายน้ำลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเข้ามาในห้องแล้ว เป็นเตียงนอนขนาดห้าฟุตสองเตียงอย่างน้อยก็ไม่ต้องนอนเตียงเดียวกัน ถ้ามันมีเตียงเดียวเขาคงต้องขอไปนอนที่พื้น



“เอาเตียงไหนเรา เลือกเลย” หินผาหันมาถามรุ่นน้อง



“งั้น... ผมขอข้างในชิดผนังนะ” สายน้ำเดินไปนั่งบนเตียงหลังที่ว่า หินผาก็ไม่ได้ว่าอะไร พยักหน้าให้อีกฝ่าย



พวกเขาต่างก็แยกกันจัดของ สายน้ำหยิบเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของตัวเองออกมาแขวนไว้ในตู้ ส่วนเสื้อยืดกับกางเกงก็วางไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม เวลาเก็บของจะได้ไม่ต้องเก็บเยอะมาก หันไปมองเพื่อนร่วมห้องอีกฝ่ายก็เหมือนจะเก็บของเสร็จแล้วเหมือนกัน



“พี่จะนอนพักก่อนไหมครับ”



หินผาพยักหน้า “อีกนานเลยกว่าจะเย็น เราจะนอนเล่นพักก่อนก็ได้นะ”



“ครับผม พี่นอนพักเลย”



หินผาเดินไปที่เตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอน สายน้ำเองก็เดินมานอนเล่นที่เตียงฝั่งตัวเองบ้าง หยิบโทรศัพท์มากดตอบเพื่อน ๆ ในกลุ่มบ้าง ตอบข้อความของแม่ของแด๊ดบ้าง เล่นนู้นนี่ไปเรื่อย ๆ หันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ ก็พบว่าอีกฝ่ายนอนหลับไปแล้ว ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับสนิท



สายน้ำขยับตัวลงจากเตียงพยายามไม่ส่งเสียงดังให้เป็นการรบกวนคนนอนหลับ ค่อย ๆ เข้าไปใกล้แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้างเตียงที่หินผานอนหลับอยู่เพื่อมองคนหลับให้ชัด ๆ สายน้ำไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้มานั่งมองคนที่ตัวเองแอบชอบใกล้ ๆ แบบนี้



สายน้ำไล่สายตาตัวไปไปทั่วใบหน้าของคนหลับ หินผาเป็นคนหน้าตีดี ถึงแม้จะไม่ได้ขาวหล่อแบบพิมพ์นิยม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องหน้าของเจ้าตัวนั้นมันดูดีไปทุกส่วน คิ้วเข้มที่รับกับดวงตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้ถูกปกปิดด้วยเปลือกตา จมูกได้รูปรับกับริมฝีปากบาง สายน้ำนึกอยากจะลองเอานิ้วไปจิ้มที่จมูกแล้วก็ปากของคนหลับ แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะเขาไม่กล้าทำแบบนั้น ในตอนนี้ได้มานั่งมองแบบนี้ก็ดีมากแล้วจริง ๆ



หยิบโทรศัพท์มาเปิดโหมดกล้องไม่ลืมที่จะปิดเสียงเอาไว้ด้วย แพลนกล้องมาที่ใบหน้าของคนหลับแล้วแอบถ่าย และพอได้กดถ่ายรูปไปแล้วมันจึงไม่หยุดอยู่แค่รูปเดียว ทั้ง ๆ ที่เป็นมุมเดิม ภาพแบบเดิมแต่นิ้วโป้งของสายน้ำก็ไม่ยอมหยุดเลย แอบถ่ายไปก็กังวลไปกลัวว่าคนหลับจะลืมตาตื่นขึ้นมา หัวใจของเขาเต้นเร็วทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว กว่าจะหยุดมือก็ตอนที่โทรศัพท์ในมือสั่นเพราะมีคนโทรเข้ามา



สายน้ำเดินออกจากห้องมาที่ดาดฟ้าที่ปูด้วยหญ้าเทียมแล้วก็มีโต๊ะให้นั่งเล่นก่อนจะกดรับโทรศัพท์ของแม่ที่โทรมาไกลจากอีกซีกโลกหนึ่ง เขาเล่าเรื่องที่มาเที่ยวหัวหินวันนี้ให้แม่ฟัง คุยกันอยู่นานกว่าจะวางสายไป โชคดีที่วันนี้แดดไม่แรงแล้วยิ่งใกล้ตอนเย็นแบบนี้พอมีลมให้สามารถนั่งเล่นตรงนี้ได้อย่างสบาย เจ้าตัวจึงตัดสินใจนั่งเล่นอยู่ตรงนี้ก่อน



มือเลื่อนดูรูปที่เขาเพิ่งแอบถ่ายหินผาตอนหลับมา มันมีมากกว่าสิบรูปอีก และสายน้ำก็ไม่สามารถตัดใจลบรูปออกไปได้สักรูปสุดท้ายก็เลยปล่อยทุกรูปที่แอบถ่ายมาไว้อย่างนั้น นึกอยากจะโพสต์ภาพของหินผาลงแต่เพราะตัวเขาไม่สิทธิที่จะทำอะไรแบบนั้นเลยได้แต่เม้มปากแน่น สายน้ำกดเข้าแอปพลิเคชันยอดนิยม กดเลือกรูปของหินผาที่เขาแต่งรูปแต่งสีเอาไว้ พิมพ์ข้อความลงไปก่อนจะโพสต์



สายน้ำยิ้มขำกับโพสต์ของตัวเอง แม้ว่ามันจะเป็นการโพสต์ที่ตั้งค่าเอาไว้ว่าให้เห็นเฉพาะตัวเองก็ตามที



TARA SAINAM WILKINSON

Just when I think that it is impossible to love you any more,
You prove me wrong.

เมื่อฉันคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะรักเธอมากกว่านี้
เธอก็ทำให้ฉันคิดผิดทุกที







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

เขาไปเที่ยวด้วยกันแหละ
เขานอนห้องเดียวกันด้วยแหละ
ถึงจะคนละเตียงก็เถอะ งุ้ย ๆ เขินแทนน้องน้ำเลย
เอ็นดูคนหล่อที่น่ารัก แอบถ่ายรูปพี่เขา
อยากโพสต์รูปพี่เขา แต่ไม่กล้าลงสาธารณะ
ตั้งค่าเป็นส่วนตัวก็ได้ งุ้ย! เจ้าเด็กน่าเอ็นดูววววว~~

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-06-2019 22:17:04
น้องน่าเอ็นดูจัง  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 19-06-2019 23:01:32
หินผาแอบหวงน้องหน่อยๆใช่มั้ย ถึงได้เสนอตัวเองมานอนกับน้องน่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-06-2019 23:25:42
เรื่องน้องน่ะเร็วตล้อดดดดดด
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-06-2019 01:02:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิคนพี่แอบหวงแอบหึงเล็ก ๆ หรือเปล่าหว่า? ถึงได้รีบขัดพี่ชายแย่งคนน้องมานอนกับตัวเอง  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 20-06-2019 12:20:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 20-06-2019 20:13:04
มีความน่าเอ็นดูไปอีก 555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-06-2019 23:06:15
อย่าบอกนะว่า เริ่มจะไม่ไว้ใจพี่ชายตัวเองกับสายน้ำแล้ว  :serius2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-06-2019 23:11:39
จรัาาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [40%] l P.9 19-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 20-06-2019 23:59:38
ตกหลุมรักซ้ำๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 24-06-2019 21:47:32
(https://i.ibb.co/yVKwtDP/07.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “7”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






“ไปไหนมา” หินผาเอ่ยถามเมื่อเห็นสายน้ำเปิดประตูเข้ามาในห้อง



“ผมไปคุยโทรศัพท์กับแม่มาน่ะครับ แล้วก็เลยนั่งเล่นอยู่ที่ดาดฟ้าด้วยพักหนึ่ง พี่ตื่นนานแล้วเหรอครับ” สายน้ำตอบก่อนจะถามกลับไปเพราะอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทางงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนเลยสักนิดเดียว



“ได้พักหนึ่งแล้วล่ะ แล้วเราล่ะไม่นอนพักหน่อยหรือไง”



“ผมไม่เหนื่อยครับ ผมไม่ใช่คนที่ต้องขับรถแบบพี่หินผานี่นา” สายน้ำพูดแต่ก็เดินไปขึ้นเตียงนอนแล้วมุดเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาให้คนมองยิ้มขำกับท่าทางนั้น



“ไหนว่าไม่เหนื่อย”



“แฮ่...” สายน้ำส่งเสียงพร้อมกับยิ้ม “แต่พักนิดหนึ่งก็ดีเหมือนกันครับ”



“อย่างนั้นก็นอนเถอะ เพิ่งจะบ่ายสองเอง มีเวลาอีกเยอะกว่าจะเริ่มทำมื้อเย็นกันก็คงห้าหกโมงนู้นแหละ อีกอย่างเราเป็นสายกิน ลงไปทีเดียวตอนกินเลยก็ได้”



สายน้ำหัวเราะกับคำพูดของหินผาพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนั้น เจ้าตัวหยิบโทรศัพท์มากดเล่นไปเรื่อย ๆ แต่สายตาก็คอยแอบมองตามคนที่อยู่ร่วมห้องไปด้วย หินผาลุกจากเตียงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็เดินออกมา หินผาทิ้งตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงของตัวเอง หยิบโทรศัพท์มาเล่นบ้าง สายน้ำเลยละสายตาจากอีกฝ่ายมาที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง เพราะกลัวว่าจะเผลอมองมากเกินไปจนหินผาจับพิรุธได้ว่าเขาแอบมองอยู่



สายน้ำไม่แน่ใจว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน แต่มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็คล้ายกับอ่อนแรงจนโทรศัพท์เกือบจะหล่นใส่หน้าตัวเองก็ตั้งหลายรอบ ช่วงหนึ่งก่อนที่สติจะขาดหายไปสายน้ำรู้สึกว่าโทรศัพท์ของตัวเองถูกหยิบออกไปจากมือ พร้อมกับผ้าห่มที่ถูกดึงมาคลุมร่างให้จนเกือบมิดอก สายน้ำขยับตัวไปมาเล็กน้อยเพื่อหาท่วงท่าที่สะดวกสบายที่สุดแล้วก็หลับสนิทไปในเวลาต่อมา



ตื่นมาอีกทีตอนได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมาในห้อง เจ้าตัวยกมือขยี้ตาเพื่อให้หายงัวเงียแล้วจึงยันตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา น่าแปลกที่เขาเพิ่งหลับไปได้แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่คงเพราะหลับสนิทมากถึงรู้สึกดีแบบนี้



“ตื่นแล้วเหรอ กำลังจะปลุกเลย พวกนั้นเรียกลงไปเล่นน้ำกัน” หินผาที่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีเห็นอีกฝ่ายนั่งอยู่บนเตียงก็เอ่ยทัก เจ้าตัวเปลี่ยนชุดมาใส่กางเกงเซิร์ฟยาวเกือบถึงเข่า มีผ้าขนหนูพาดอยู่บนไหล่ หินผาไม่ได้สวมเสื้อเพราะจะลงไปเล่นน้ำเลยทำให้เห็นหุ่นและกล้ามเนื้อของอีกฝ่ายชัดเจน แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของสายน้ำคือรอยสักที่สะบักหลังด้านขวาตอนอีกฝ่ายหันหลังให้พอดี



“พี่สักด้วยเหรอครับ”



“หือ... นี่น่ะเหรอ” หินผาหันกลับมามองก่อนจะชี้ไปที่หลังตัวเองบริเวณที่มีรอยสัก “ใช่แล้วล่ะ สักไว้นานแล้ว”



“ลายสวยดีครับ”



รอยสักของหินผาเป็นเหมือนรูปกรอบสามเหลี่ยมคว่ำ แต่เส้นสามเหลี่ยมไม่ได้ต่อเนื่องจนเป็นรูปสามเหลี่ยม ข้างในกรอบเป็นรูปบรรยากาศภายในป่า มีทั้งหน้าผา ป่าไม้ ผืนดินแล้วก็สายน้ำ



“มันบ่งบอกถึงตัวพี่ดี” หินผาตอบกลับ “ไปเตรียมตัวเถอะ เดี๋ยวจะได้ลงไปเล่นน้ำกัน”



สายน้ำรับคำ ทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะถามต่ออีกว่ารอยสักที่หลังนั้นบ่งบอกถึงตัวอีกฝ่ายอย่างไร แต่เพราะเขายังไม่ได้สนิทกับหินผามากพอที่จะถามเรื่องราวที่เป็นเรื่องส่วนตัวได้ขนาดนั้นถึงได้เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจแล้วก้าวลงจากเตียงไปเตรียมตัวลงไปเล่นน้ำตามคำบอกของอีกฝ่าย



หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จพวกเขาก็เดินลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากทางสระว่ายน้ำ ทุกคนคงลงมากันหมดแล้ว พวกผู้ชายพากันกระโดดน้ำตูม ๆ จนน้ำกระจาย ใยไหมกับใบบัวร้องออกมาเพราะเปียกน้ำไปหมด สายน้ำที่อยู่ในชุดกางเกงเซิร์ฟขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวเดินตามหินผาไปริมสระว่ายน้ำ พี่ ๆ คนอื่นก็แต่งตัวคล้าย ๆ กันเพียงแค่ไม่ได้สวมเสื้อ ยกเว้นเดียร์ที่เจ้าตัวสวมเสื้อยืดสีเทาติดตัวเหมือนกัน ส่วนใบบัวกับใยไหมก็ใส่เป็นกางเกงขาสั้นและสวมเสื้อทับ กำลังนั่งอยู่บนห่วงยางรูปเป็ดสีเหลืองตัวใหญ่คนละตัว



“ลงมาเร็ว ๆ หินผา สายน้ำ” ใยไหมกวักมือเรียกพวกเขาทั้งสองคน พลางหยิบลูกบอลลูกเล็ก ๆ ที่ลอยอยู่เต็มสระปาใส่ไข่เจียวที่มากระโดดน้ำใกล้ ๆ เธอ “ไข่เจียว! น้ำมันกระเด็น ไปกระโดดตรงอื่นเลย”



ไข่เจียวหัวเราะชอบใจเสียงดัง เลยโดยทั้งใยไหมแล้วก็ใบบัวคว้าลูกบอลปาใส่ไม่หยุดจนต้องว่ายหนีไป สายน้ำมองแล้วก็ยิ้มขำตาม เดินไปหย่อนตัวลงน้ำบ้าง ส่วนหินผาก็กระโดดตูมลงน้ำไปแล้ว สายน้ำค่อย ๆ เดินในน้ำไปคว้าห่วงยางเป็ดสีเหลืองตัวเล็กมาเกาะ เขาว่ายน้ำได้ แต่ไม่ได้ว่ายเก่งมากนักเกาะห่วงยางไว้หน่อยก็คงจะดีกว่า



“ที่นอนนอนสบายหรือเปล่า” ใบบัวเอ่ยถามรุ่นน้องคนเล็กของกลุ่ม พยายามที่จะชวนอีกฝ่ายคุยจะได้ไม่รู้สึกเหงามากนัก



“สบายครับ ผมเผลอหลับไปแถมยังหลับสนิทด้วย” สายน้ำยิ้มพลางตอบคำถามของรุ่นพี่ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงน้ำกระจายดังอยู่ใกล้ ๆ น้ำจำนวนมากกระเด็นมาโดนพวกเขาทั้งสามคน



“ป่าไม้! เอาอีกแล้วนะ บอกว่าให้ไปกระโดดฝั่งนู้นไง” ใบบัวหันไปหยิบลูกบอลปาใส่หัวของป่าไม้ทันที อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ



“ลงสระทั้งทีก็มาว่ายน้ำเล่นสิ มานั่งอะไรบนห่วงยาง” เจ้าตัวว่าพลางว่ายน้ำเข้ามาใกล้ ยกมือขึ้นกอดคอรุ่นน้อง “ไงเรา ว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ”



“เป็นครับ แต่ว่ายไม่เก่ง ขอเกาะเอาไว้ดีกว่า”



ป่าไม้พยักหน้ารับ “ไป ๆ ไปเล่นตรงนู้นดีกว่า อยู่กับสาว ๆ ไม่สนุกหรอก”



“ไม่เป็นอะไรครับ ผมอยู่เป็นเพื่อนพี่ใบบัวกับพี่ใยไหมได้”



“ใช่ เธอน่ะไปนู้นเลย แล้วไม่ต้องมากระโดดน้ำแถวนี้แล้วเข้าใจไหม” ใยไหมว่า ควักน้ำใส่เพื่อนตัวเองพลางเอ่ยไล่ “ฉันอยู่กับน้องน้ำได้ย่ะ ไปเลย ไป”



“เห็นผู้ชายเด็ก ๆ หน่อยล่ะไม่ได้เลยนะป้า” ป่าไม้ว่า ว่ายน้ำหนีพร้อมหัวเราะเมื่อใยไหมเรียกเจ้าตัวเสียงดัง



“ให้ตายสิ! ทำใจหน่อยนะสายน้ำ อยู่กับพวกนี้มีแต่บ้ากับบ้า”



“ไม่เป็นอะไรครับ พวกพี่ดูตลกดีครับ ดูสนิทกันมากเลย”



“ก็แน่ล่ะ อยู่กลุ่มเดียวกันตั้งแต่ปีหนึ่ง จบมาแล้วก็หนีกันไม่พ้น ตอนแรกนึกว่าจะหนีพ้นแล้วเสียอีกเรียนจบก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน แต่ทำกันได้อยู่แค่ปีสองปีก็ต้องวกกลับมาเจอกันอีก หนีไม่พ้น” ใบบัวพูด



“ทำไมล่ะครับ”



“พวกพี่มาทำงานด้วยกันน่ะจ๊ะ ตาคนนู้น...” ใยไหมชี้ไปที่กันต์ที่กำลังกันแฟนตัวเองออกจากเพื่อน ๆ ที่จะเข้ามารุมแกล้ง “อยู่ ๆ ก็บอกอยากเปิดบริษัทเอง แล้วเจ้าพวกผู้ชายนั่นก็บ้าพอกัน ตกปากรับคำเป็นหุ้นส่วนกันหมด แล้วก็ไปลากพี่สองคนให้มาร่วมด้วย เลยต้องวกกลับมาเจอกันอีก”



“ดีจังนะครับ”



“ก็ดีแหละนะ พวกพี่สนิทกันมาจนรู้ใจกันไปหมด แต่ตอนเปิดบริษัทใหม่ ๆ ก็ปัญหาเยอะเหมือนกัน ทะเลาะกันตั้งหลายรอบ คิดว่าจะไปไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ”



สายน้ำลอยตัวคุยกับสองสาวเรื่อย ๆ จนโดนหินผามาลากตัวไปเล่นวอลเลย์บอลในน้ำ ใบบัวกับใยไหมก็ลงมาเล่นด้วยเหมือนกัน ทุกคนเลยตกลงให้สองสาวเป็นหัวหน้าทีมคนละฝั่ง เป่ายิงชุบเลือกลูกทีม สายน้ำอยู่ทีมเดียวกับใบบัว ซึ่งในทีมก็มีหินผา ไข่เจียวแล้วก็ดิวอยู่ด้วย คนอื่น ๆ อยู่ทีมของใยไหม



ลูกบอลที่ใช้เล่นเป็นลูกบอลยางขนาดลูกพอ ๆ กับลูกวอลเลย์ที่ลอยน้ำได้ แต่น้ำหนักเบากว่า พวกเขาเล่นกันอย่างสนุกสนานและเพราะน้ำหนักของลูกบอลมันเบา ตีไปไม่เท่าไหร่โดนลมหน่อยก็ล่วงลงน้ำเลยรีบว่ายเข้ามาแย่งกันสนุก ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นเล่นเกมลิงชิงบอลไปเสียอย่างนั้น



พวกเขาอยู่ในสระนานร่วมชั่วโมง กันต์เป็นคนแรกที่ขึ้นจากสระเพราะแฟนตัวเองเริ่มสั่นด้วยความหนาวเจ้าตัวเลยพาแฟนขึ้นจากน้ำให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะไม่สบาย พอมีคนเริ่มขึ้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยขึ้นจากน้ำบ้าง แยกย้ายกันไปอาบน้ำแล้วลงมาปาร์ตี้บาร์บีคิวกันที่สนามหญ้าเทียมข้างสระว่ายน้ำ



“เราเข้าไปอาบน้ำก่อนเลย” หินผาไล่สายน้ำให้เข้าไปอาบน้ำก่อน



สายน้ำลังเลแต่พออีกฝ่ายย้ำอีกรอบก็รีบหยิบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ รีบอาบน้ำจะได้เปลี่ยนให้อีกคนเข้ามาอาบน้ำบ้าง สายน้ำใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมตัวเองเพื่อเช็ดผมให้แห้งระหว่างรอหินผาที่เข้าไปอาบน้ำพร้อมกับเลื่อนดูรูปที่รุ่นพี่ถ่ายแล้วก็ส่งไว้ในไลน์ไปด้วย อยู่ ๆ ก็โดนลากเข้าไลน์กลุ่มของพี่ ๆ เขาเสียอย่างนั้น กดเซฟไปทุกรูปโดยเฉพาะรูปที่ติดหินผาเขาไม่พลาดที่จะกดเซฟ



นั่งรออยู่ไม่นานหินผาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ อีกฝ่ายใช้ผ้าขยี้ผมตัวเองลวก ๆ ก่อนจะเดินเอาผ้าไปตาก หันมาเรียกสายน้ำให้ลงไปข้างล่างด้วยกัน ปาร์ตี้บาร์บีคิ้วพร้อมแล้วสำหรับคืนนี้



ไข่เจียวกับป่าไม้ช่วยกันยกถังน้ำแข็งออกมา ดิวกับทัชจัดการเทน้ำแข็งที่เพิ่งขับรถออกไปซื้อมาใส่ลัง หยิบขวดเบียร์จากลังมาแช่เอาไว้ในถังนี้ให้เย็น ๆ สองสาวใยไหม ใบบัวกำลังช่วยกันต์กับเดียร์ทำบาร์บีคิวอยู่หน้าเตา ไม่ได้มีแค่บาร์บีคิวสำหรับคืนนี้ มีกุ้งเผาตัวโต ๆ อีกหลายกิโลฯ เลย แล้วก็ยังมีอาหารทะเลอื่น ๆ อีกเพียบ อาหารจัดเต็ม เครื่องดื่มก็จัดเต็มพอกัน ทั้งเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ไม่ผสมแอลกอฮอล์หลายลังวางอยู่ข้างถังน้ำแข็ง สายน้ำรู้สึกว่าของกินดูจะเยอะมาก เหมือนกับพวกเขามาค้างกันสองสามคืน ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วพวกเขาค้างแค่คืนนี้คืนเดียว



“มา ๆ นั่งนี่มา” ป่าไม้ยกมือเรียกน้องชายกับน้องชายคนสนิทสมัยเด็ก ๆ มานั่งด้วยกันที่โต๊ะ น้ำอัดลมเย็น ๆ ถูกเทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ในนั้นแล้วเลื่อนให้ทั้งสองคน “เพิ่งเริ่มเอาเบา ๆ ไปก่อน กินข้าวก่อนค่อยจัด”



“อือ” หินผาพยักหน้ารับ หันไปมองรุ่นน้องปีหนึ่งคนเดียวในกลุ่ม “เราดื่มได้ใช่ไหม”



“ได้ครับ ไม่มีปัญหาอะไร” สายน้ำยิ้มตอบ นึกตื่นเต้นที่จะได้ปาร์ตี้คืนนี้ ตอนอยู่ต่างประเทศก็มีบ้างที่เขาจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนในคลาส แม่กับแด๊ดก็ไม่เคยห้ามเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางคืนก็นั่งดื่มกันกับแด๊ดจนเช้าก็มี อีกอย่างที่นู้นคนดื่มแอลกอฮอล์กันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว



“ได้แล้วบาร์บีคิว มีหมู เนื้อแล้วก็ไก่นะ สายน้ำกินได้ทุกอย่างไหม” เดียร์ที่ยกจานใส่บาร์บีคิวจานใหญ่มาวางที่โต๊ะถาม



“ได้หมดครับ ขอบคุณนะครับ”



ป่าไม้หยิบไม้เสียบบาร์บีคิวเป็นคนแรก มีทั้งเนื้อสัตว์ สัปปะรด พริกหยวก มะเขือเทศเสียบสลับกันไปมา เน้นไปที่เนื้อสัตว์มากกว่าหน่อย เจ้าตัวยกนิ้วโป้งให้เป็นเชิงบอกว่าเยี่ยม เห็นแบบนั้นหินผากับสายน้ำเลยหยิบมากินบ้าง



“เดี๋ยวอาหารทะเลจะตามมานะ มีสเต็กด้วย พี่กันต์กำลังย่างให้รออีกแปบ” เดียร์บอกกับทุกคนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ



ตอนนี้ทุกคนมาร่วมตัวกันที่โต๊ะหมดแล้วยกเว้นก็แต่กันต์กับเดียร์ที่ยังง่วนอยู่ตรงหน้าเตาอยู่ สายน้ำเองก็อยากจะลุกขึ้นไปช่วยอยู่เหมือนกันแต่ฝีมือการทำอาหารของเขาค่อนข้างไปทางลบเลยได้แต่นั่งส่งกำลังใจให้อยู่ตรงนี้ เพราะกลัวว่าถ้าเขาเข้าไปช่วยจากที่จะได้ปาร์ตี้สนุก ๆ เป็นต้องยกโขยงไปโรงพยาบาลแทน



ไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตามมาสบทบพร้อมจานที่ใส่อาหารทะเลย่างมาจานใหญ่ ทั้งปลาหมึก ทั้งหอย ทั้งกุ้งเต็มไปหมด



“สายน้ำไม่เอาหอยหน่อยเหรอ อร่อยนะ” ทัชถามรุ่นน้องพลางยกจานใส่หอยแมลงภู่ส่งให้



สายน้ำรีบยกมือปฏิเสธทันที “ไม่ครับ พอดีผมแพ้หอยน่ะครับ กินไม่ได้”



“อ้าว! จริงเหรอ แล้วแพ้ทุกชนิดเลยไหมหรือว่ายังไงกัน” ใบบัวกับใยไหมหันมาถามด้วยความเป็นกังวลทันที ไม่รู้ว่าสายน้ำเผลอกินเข้าไปบ้างหรือเปล่า



“ก็เกือบทุกชนิดนะครับ ระดับก็ไม่ได้รุนแรงมากหรอกครับมีผื่นแดงขึ้นแล้วก็คัน ๆ แต่จะมีหอยบางชนิดอย่างหอยแครงถ้ากินเข้าไปจะมีไข้ด้วย อาการหนักอยู่ครับ”



“อย่างนั้นก็ระวังด้วย เอาไปไว้ตรงนู้น” หินผาหันมาพูดกับสายน้ำก่อนจะยกจานที่ใส่หอยแมลงภู่เอาไว้ออก ส่งต่อให้ทัชรับไปวางอีกฝั่งแล้วเลื่อนจานกุ้งย่างมาให้แทน



ผ่านไปเกือบชั่วโมงอาหารในจานก็หมดไปหลายรอบแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะอิ่ม สองสาวเปลี่ยนลุกไปย่างบาร์บีคิวกับอาหารทะเลบ้าง แต่คราวนี้เลื่อนเตามาใกล้ ๆ โต๊ะแล้ว ลุกหยิบกันได้ง่าย เครื่องดื่มจากที่เป็นสีเข้ม ๆ ของน้ำอัดลมก็เปลี่ยนเป็นสีอำพันสวยแทน



“จริงสิสายน้ำ พี่รู้มาว่าตอนประกวดดาวเดือน เรากับดาวคณะแสดงความสามารถพิเศษเป็นรำคู่กันใช่ไหม”



“ใช่ครับ ผมรำชุดเมขลา รามสูรกับน้ำริน เพื่อนที่ลงประกวดดาวด้วยกันน่ะครับ” สายน้ำพยักหน้ากับคำถามของพี่ ๆ



“น้องรำเก่งมากเลยพี่ ผมได้ไปดูตอนประกวดด้วย เนอะมึง” เดียร์ยืนยันอีกเสียงหันไปถามความคิดเห็นของเพื่อนทั้งสองคนเพื่อให้ช่วยยืนยัน



“พี่เคยเห็นเป็นคลิปผ่าน ๆ  แต่ยังไม่ได้ดูจริงจังเลย” ใบบัวว่าพลางจิ้มเนื้อกุ้งอร่อย ๆ เข้าปาก



“สายน้ำรำเป็นด้วยเหรอ เคยรำมาก่อนหรือเปล่า”



“อ่า... จริง ๆ ก็เคยเรียนรำอยู่ครับ ตอนสมัยเด็ก ๆ พอย้ายไปอยู่ต่างประเทศก็ได้มีโอกาสแสดงรำไทยบ้าง แต่ไม่บ่อย” สายน้ำตอบ “ตอนซ้อมเตรียมประกวดเลยยากมาก ๆ สำหรับผม แถมพี่หินผาก็ยังดุมาก ๆ ด้วยเหมือนกันครับ”



“มึงซ้อมรำให้น้องเหรอ” ป่าไม้ถามน้องชายตัวเองเสียงสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้ตัวนี้มันจะยอมมาเป็นพี่เลี้ยง ดูแลการซ้อมให้แบบนี้



“อือ” หินผาพยักหน้ากับคำถามของพี่ชาย



“แล้วมันเป็นไงสายน้ำ ตอนซ้อมรำกับไอ้หินน่ะ” ป่าไม้หันความสนใจจากน้องชายตัวเองมาเป็นคนตัวขาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แทน



“พี่หินผาโหดมากครับ แล้วยังดุอีกด้วย ผมล่ะโดนให้ฝึกรำท่าเดิมซ้ำ ๆ ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ”



“ก็เราชอบพลาดไหมล่ะ ถ้าไม่พลาดเก่งแบบนี้พี่ก็ไม่ให้รำแต่ท่าเดิม ๆ หรอก” หินผาหันมาเคาะหัวน้องเบา ๆ อย่างแค่อยากจะหยอกเล่นเท่านั้น



“ไม่อยากจะเชื่อว่าน้องชายพี่สอนคนรำเป็นด้วย” ป่าไม้หัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่ “ปกติมีแต่มันโดนคนอื่นเขาสอน”



“นั่นมันตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ไหมล่ะ”



“นั่นสิเนอะ ตอนนี้ไม่เด็กแล้วนี่... เนอะ”



ป่าไม้เนอะกับใครไม่รู้ แต่ทำไมต้องหันมามองสายน้ำแล้วยิ้มแบบแปลก ๆ ให้ด้วยกันนะ เครื่องดื่มในแก้วถูกรินเติมรอบแล้วรอบเล่า ขวดเปล่ามากมายวางเกลื่อนอยู่บนพื้นแต่ละคนดูมีความสุขกับการได้พักผ่อนแบบนี้ สายน้ำเองก็ดื่มไปไม่น้อย แม้เขาจะเอ่ยปฏิเสธไปหลายรอบแล้วก็ตามที แต่เหล่ารุ่นพี่กลับไม่มีใครฟังเขาสักคน พอทำท่าจะไม่ดื่มก็คะยั้นคะยอให้ดื่มจนแทบจะพองตัวเพราะอิ่มน้ำมึนเมาไปแล้ว



สองสาวเป็นคู่แรกที่เอ่ยขอตัวหลังจากที่เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่มาได้เกือบชั่วโมง เหล่าหนุ่ม ๆ อาสาจะพาไปส่งที่ห้องแต่ก็โดนปฏิเสธเพราะพวกเธอสองคนไม่อยากขัดความสนุก อีกอย่างก็ไม่ได้เมามายขนาดไม่ได้สติ สามารถเดินกลับห้องนอนได้อย่างปลอดภัยแน่นอน



หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงกันต์ก็พาคนรักไปนอนที่ห้องเพราะเดียร์ทำท่าจะหลับคาโต๊ะแล้วทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวแทบไม่ได้ดื่มเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เลยเหลือแค่พวกเขาหกคนที่ยังนั่งดื่มไปพูดคุยกันไป แม้ส่วนใหญ่สายน้ำจะทำหน้าที่เป็นผู้รับฟังก็ตามที



“หน้าตาเหมือนคนจะหลับ” ดิวพูดพลางพยักเพยิบมาที่สายน้ำที่นั่งตาปรืออย่างคนง่วงนอน



“ไหวไหมเรา เมาแล้วเหรอ” ป่าไม้หันมามอง ใบหน้าของสายน้ำขึ้นสีระเรื่อน่าจะเพราะจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป แต่ท่าทางอีกฝ่ายเหมือนไม่ใช่คนเมา เหมือนคนง่วงนอนที่พร้อมจะหลับกลางอากาศได้เลย



“ไม่เมาหรอกครับ แต่ผมชักจะง่วงนอนแล้ว ปกติผมไม่ใช่คนนอนดึกอะไร” สายน้ำยกมือปิดปากแล้วหาว พูดจารู้เรื่องดีไม่มีน้ำเสียงอ้อแอ้อย่างคนเมาเลย



“ไปนอนไหม เดี๋ยวก็หลับกลางอากาศหรอก”



“แล้วพวกพี่ล่ะครับ...” สายน้ำยังนึกเกรงใจถ้าหากจะหนีไปนอนก่อน



“พวกพี่ก็นั่งกันต่อนี่แหละ” ดิวพูดยิ้ม ๆ ขำขันกับท่าทางของรุ่นน้องเดือนคณะคนนี้ “ไม่ไหวก็ไปนอนเราน่ะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”



“ผมไปนอนได้ใช่ไหมครับ” ถามย้ำกลับไปอีกรอบอย่างไม่แน่ใจ



“อือ! กลับไปนอนได้แล้ว”



สายน้ำลุกขึ้นยืนเอ่ยลาพี่ ๆ ทุกคนแล้วจึงเดินกลับมาที่ห้องนอน เดินเข้าไปอาบน้ำอีกรอบเพราะทั้งกลิ่นเบียร์ กลิ่นอาหารฟุ้งติดเสื้อผ้าไปหมด สายน้ำใช้เวลาในห้องน้ำค่อนข้างนานกว่าจะเดินออกมา หยิบไดร์เป่าผมมาจัดการเป่าผมตัวเองให้แห้งเพื่อที่จะได้ขึ้นไปนอนบนเตียงได้ เขาไม่ได้ปิดไฟจนห้องมืดเผื่อหินผากลับเข้ามาจะได้ไม่มืดเกินไป



ไฟตรงหน้าห้องน้ำถูกเปิดเอาไว้ เขาปิดไฟดวงใหญ่กลางห้องแล้วมาเปิดไฟจากโคมไฟข้างเตียงแทน นอนคว่ำน้ำเหยียดยาวไปกับเตียงนอนหลังใหญ่พลางหยิบโทรศัพท์มากดเล่น



พอได้อาบน้ำไปตาก็สว่างขึ้นมาอีกหน่อยพอให้สามารถตอบข้อความของเพื่อน ๆ ที่ไลน์เข้ามาถามเอาไว้ว่ามาเที่ยวกับรุ่นพี่เป็นอย่างไรบ้าง แอบนึกเสียดายที่เพื่อนในกลุ่มของเขาไม่ได้มาด้วยเพราะกลับบ้าน แต่สายน้ำคิดเอาไว้ว่าสักวันจะต้องชวนทุกคนมาเที่ยวที่นี่อีกให้ได้



ยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายที่เลยที่สายน้ำอยากไป เขาเปิดเจอในอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่กล้าเรียกร้องอะไรมากเพราะมานี่ก็เกรงใจพวกรุ่นพี่จะแย่แล้ว เขาแทบไม่ต้องออกเงินหรือจ่ายอะไรสักอย่างเพราะพวกพี่ ๆ เขาจัดการให้หมด



ดวงตาของสายน้ำปรืออย่างคนง่วงนอนเต็มที่ก่อนจะเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว แต่ในช่วงก่อนที่จะหลับสนิทเขาเหมือนได้ยินเสียงคนเปิดปิดประตู และใครบางคนก็เดินมานั่งบนเตียงนอนของเขา ความรู้สึกหนาวนิด ๆ เพราะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานได้ดี บวกกับอากาศภายนอกที่อุณหภูมิลดต่ำลงจนหนาวได้จางหายไปแทนที่ด้วยความอบอุ่นและความนุ่มของผ้านวม



สายน้ำพยายามที่จะลืมตามอง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะความง่วงนั้นมีมากเกินกว่าจะฝืนลืมตาไหว แล้วเจ้าตัวก็หลับสนิทในเวลาต่อมา โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังนั่งมองเขาเวลาหลับอยู่ แล้วก็ได้แต่เผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าสายน้ำขดตัวกลมอยู่ใต้ผ้านวม สายน้ำเป็นคนตัวสูงแม้จะไม่ได้สูงเท่าหินผาแต่ก็จัดว่าเป็นคนสูง เจ้าตัวไม่ใช่คนรูปร่างเล็กบาง หน้าตาไม่ได้น่ารักเหมือนกับเดียร์เพื่อนของเขา ออกจะหล่อเหลาสมกับตำแหน่งเดือนคณะ เดือนมหาวิทยาลัยเสียด้วยซ้ำ แต่พอมาขดตัวนอนหลับสบายแบบนี้ก็ดูเหมือนกับเป็นเด็กคนหนึ่ง... ที่ให้ความคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก



หินผาสะบัดหน้าไปมา คิดว่าตัวเองคงจะดื่มเยอะไปถึงได้คิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้ เลยตัดสินใจลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หวังว่าสายน้ำอุ่น ๆ จากเครื่องทำน้ำร้อนจะช่วยไล่ความคิดแปลก ๆ ในหัวออกไป หินผาใช้เวลาในการจัดการตัวเองในห้องน้ำไม่นานก็เดินเช็ดผมออกมาในชุดพร้อมนอน



เขาจัดการปิดไฟหัวเตียงที่สายน้ำเปิดทิ้งไว้ แต่ไฟตรงหน้าห้องน้ำไม่ได้ปิด เลือกที่จะเปิดเอาไว้แบบนั้นแล้วทิ้งตัวลงนอน อาจจะเพราะด้วยความเพลียทั้งจากขับรถ เล่นน้ำ แล้วก็ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปอีกพอสมควร ไม่ต้องใช้เวลานานเลยหินผาก็หลับตาเพื่อนร่วมห้องที่หลับล่วงหน้าไปแล้ว



และในคืนนั้นก็เป็นคืนที่หินผาฝัน... ฝันแปลก ๆ เหมือนกับฝันเห็นตัวเองในอดีตอย่างไรอย่างนั้น



‘พี่สัญญา พี่จะรอเรากลับมานะ’



‘พี่สัญญาแล้วนะ ไม่ผิดสัญญาแน่นะ’



‘แน่นอนสิ พี่สัญญาเลยว่าพี่จะรอเรา จนกว่าเราจะกลับมา’



‘อือ! เราก็จะรอนะ รอวันที่เราจะได้เจอพี่อีกครั้งหนึ่งเหมือนกัน’



‘สัญญา...’



‘สัญญาเลย!’






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วค่า ตอนนี้น้องก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
แล้วดูนั่น... พี่หินผาทำอะไรคะ ห่มผ้าให้น้อง
นั่งมองน้อง ยิ้มกับท่าทางของน้อง
คืออะไรคะพี่หินผา คืออะไรรรรรรร

พี่หินผาจะคิดอะไรยังไงอันนี้ก็ต้องรอกันต่อไป
จนกว่าจะถึงคิวพี่หินผานะคะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-06-2019 23:30:03
 :man1:


 :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-06-2019 00:02:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-06-2019 00:43:32
อีพี่จำได้อะยัง  :mew2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-06-2019 00:44:50
แงงงงงงงงงง ตาพี่อย่าเพิ่งรีบปัดความรู้สึกคุ้นๆทิ้งเส่
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-06-2019 07:34:51
พี่ฝันแบบนี้ ต่นมาจะจำอะไรได้มั่งมั๊ยน้า  :hao4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 25-06-2019 08:29:56
อยากแหวกเล้าเข้าไปโบกอีพี่ ทำไมจำน้องไม่ได้ ห๊ะะะะ  :m16:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-06-2019 12:12:46
เขาฝันแล้วเว๊ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 25-06-2019 12:15:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 25-06-2019 14:54:38
ถึงจะพอคุ้นๆ แต่ก็มีเค้าลางว่าจะเป็นน้องน้ำในความทรงจำตอนเด็กสินะ พี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-06-2019 20:39:35
ฝันจ้าาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [70%] l P.9 24-06-2562
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 28-06-2019 10:08:58
ตื่นจากฝันแล้วก็จำได้หน่อยเถอะ น้องน้ำกลับมาหาแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 28-06-2019 22:03:10
(https://i.ibb.co/yVKwtDP/07.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “7”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






แม้จะเป็นเวลาเช้ามากแล้วแต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ภายในห้องเลย คงจะเป็นเพราะคนที่นอนหลับสบายอยู่ในห้องนั้นยังไม่ตื่นจากนิทรา ผ้าม่านผืนหนาที่ถูกดึงปิดตั้งแต่เมื่อวานป้องกันแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาได้เป็นอย่างดี ทำให้ภายในห้องเหมือนกับเป็นคนละเวลาจากภายนอก เพราะความมืดครึ้มจากการที่แสงแดดส่องเข้ามาไม่ได้คงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนที่นอนหลับไม่ยอมตื่นเพราะเข้าใจว่าตอนนี้ยังไม่สว่าง



แต่เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว หนึ่งในสองของคนที่นอนหลับอยู่ก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง เจ้าตัวพลิกตัวไปมาซ้ายขวาอย่างคนงัวเงียไม่อยากจะตื่น นอนนิ่ง ๆ เพื่อปรับร่างกายตัวเองให้ตื่นเต็มตัวก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง



สายน้ำหันซ้ายหันขวาเหมือนยังคงมึนงงอยู่หยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา ตอนนี้เกือบจะสิบโมงเช้าแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครมาเคาะประตูเรียกคิดว่าแต่ละคนคงไม่ได้ฟื้นคืนสติกัน สายน้ำไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนเพื่อนร่วมห้องของเขากลับเข้ามาตอนไหน มันมีช่วงที่เหมือนกับเป็นความฝันแต่มันก็เหมือนความจริงจนไม่แน่ใจ



เขาหันไปมองที่เตียงข้าง ๆ เจ้าของเตียงยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนนั้น เป็นครั้งที่สองแล้วที่สายน้ำได้นั่งมองหินผาหลับแบบนี้ เป็นความรู้สึกที่เหมือนฝันไปเลย ได้แต่นึกแล้วก็ยิ้มอยู่กับตัวเองก่อนจะก้าวลงจากเตียงไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ



วันนี้พวกเขาจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว หลังจากที่ออกจากห้องน้ำสายน้ำก็เดินมาเก็บกระเป๋าตัวเองให้เรียบร้อย หันไปมองที่เตียงหินผาก็ยังคงนอนหลับอยู่แบบนั้น เขาไม่อยากจะปลุกเพราะอยากให้อีกฝ่ายได้นอนพักผ่อนให้เพียงพอเพราะเดี๋ยวหินผาจะต้องขับรถอีกไกล แล้วก็หันมามองกระเป๋าเป้ของหินผาที่วางอยู่ข้าง ๆ กัน เผลอเลียปากตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี ระหว่างปล่อยเอาไว้แบบนี้หรือเก็บกระเป๋าให้อีกฝ่ายไปด้วยเลย



ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะคิดว่าเขาวุ่นวายไม่เข้าเรื่องหรือเปล่า แต่ในใจลึก ๆ ก็อยากที่จะทำสุดท้ายความต้องการของตัวเองก็เอาชนะได้ สายน้ำลงมือเก็บกระเป๋าให้กับหินผา เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายใส่เมื่อวานก็เอาใส่ถุงให้เรียบร้อย เหลือชุดที่อีกฝ่ายจะต้องใส่วันนี้เอาไว้ให้



จนถึงตอนนี้หินผาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมา สายน้ำไม่อยากอยู่ในห้องที่มืด ๆ เพราะไม่กล้าเปิดผ้าม่านให้แสงแดดสาดเข้ามารบกวนคนนอนหลับเขาจึงค่อย ๆ เดินออกจากห้องไป ทำตัวให้เบาที่สุด เงียบที่สุดเพื่อที่หินผาจะไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา



สายน้ำเดินลงไปชั้นล่างเพื่อหาอะไรรองท้องก่อน เจ้าตัวเดินเข้าไปในครัวก็เจอกับใยไหม ใบบัวแล้วก็กันต์อยู่ในนั้นด้วย



“พี่ ๆ สวัสดีครับ” สายน้ำเอ่ยทักทายรุ่นพี่ทั้งสามคน



“จ้า ตื่นเร็วนี่เรา” ใบบัวหันมาทักทาย



“ครับ เมื่อคืนผมไม่ได้อยู่จนดึกมากน่ะครับ แต่พี่หินผายังไม่ตื่นเลยครับ”



“นี่นอกจากพวกเราก็ยังไม่มีใครตื่นเหมือนกัน น้ำมานั่งก่อนมา กันต์กำลังทำข้าวต้มให้อยู่จะได้กินกันก่อน” ใยไหมกวักมือเรียกให้สายน้ำเดินมานั่งด้วยกันที่โต๊ะอาหาร “ขืนรอพวกนั้นตื่นให้ครบทุกคนคงหิวจนไส้กิ่วแน่เลย”



“เสร็จแล้วล่ะ รอแปบเดี๋ยวพี่ตักให้” คนที่ง่วงอยู่กับหน้าเตาหันมาบอกกับสายน้ำ



“ครับ”



ข้าวต้มหอม ๆ ถูกยกมาวางที่โต๊ะสำหรับพวกเขาทั้งสี่คน สายน้ำตักขึ้นชิมก่อนจะทำตาโต รสชาติอร่อยมากทีเดียว “พี่กันต์นี่ทำอะไรก็อร่อยหมดเลยนะครับ”



“ขอบใจ” เจ้าตัวหัวเราะกับคำชมของรุ่นน้อง



พวกเขานั่งกินข้าวกันไปเรื่อย ๆ เหมือนว่ากลิ่นหอมของข้าวต้มจะลอยอบอวลไปทั่วบ้าน ปลุกคนที่นอนหลับอุตุอยู่บนห้องให้ตื่นขึ้นแล้วทยอยกันเดินลงมาทีละคน ๆ จนสมาชิกเต็มโต๊ะกินข้าวไปหมด สายน้ำที่กินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็อาสาเป็นคนคอยตักเติมให้พี่ ๆ ที่ขอเติมกันไม่หยุด ขนาดหินผายังขอเติมไปสองรอบเลย ตอนนี้เลยพากันมานั่งผึ่งพุงอยู่ในห้องนั่งเล่น



“เราจะกลับกันเลย หรือว่าจะแวะที่ไหนก่อนดี” ใยไหมถามความคิดเห็นทุกคน



ซึ่งแต่ละคนก็ได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างไม่มีคำตอบ กันต์เลยหันไปถามคนรักตัวเองว่าอยากไปไหนหรือเปล่า แต่เจ้าตัวก็ส่ายหน้าปฏิเสธทุกคนเลยตัดสินใจว่าจะกลับกรุงเทพฯ กันเลยหลังจากกินข้าวกลางวันเรียบร้อย เมื่อตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันไปเก็บกระเป๋า



“เราเก็บกระเป๋าให้พี่เหรอ” หินผาหันมาถามรุ่นน้องที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว เขาจำได้ว่าเมื่อคืนก่อนที่จะหลับไปเขายังไม่ได้จัดกระเป๋าอะไรเลย แต่พอตื่นเช้ามาของบางส่วนก็ถูกเก็บเอาไว้ให้เรียบร้อย เสื้อผ้าใส่แล้วก็ใส่ถุงแยกเอาไว้ต่างหาก



“อ่า... ครับ ขอโทษที่ถือวิสาสะนะครับ”



“ไม่เป็นอะไรหรอก จะบอกว่าขอบใจมากนะ” หินผาหันมายิ้มให้ “เราน่ะอยากไปไหนหรือเปล่า มีโอกาสได้มาเที่ยวทั้งทีนะ”



“อ่า... ก็ไม่ได้มีที่ไหนเป็นพิเศษหรอกครับ”



“บอกมาเถอะ ไม่จำเป็นต้องกลับพร้อมพวกพี่ ๆ เขาก็ได้ เราขับกันไปเองก็ได้ถ้ากลัวว่าคนอื่นจะไม่อยากไปน่ะ” หินผาพูด แค่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าคงมีสถานที่ที่อยากไปอยู่ แต่ไม่กล้าพูดออกมา



“จริง ๆ ผมอยากไปคาเฟ่ครับ คาเฟ่หมาชิบะ ผมเลยไม่แน่ใจว่าจะมีคนอยากไปหรือเปล่าก็เลยไม่ได้พูดอะไร” สายน้ำเปิดรูปจากในโทรศัพท์ให้อีกคนดู “แต่ไม่เป็นอะไรนะครับ ถ้าพี่หินผาไม่ได้อยากไป”



“กินข้าวเสร็จแล้วก็เปิด GPS ให้พี่ด้วย พี่ขับไปไม่ถูกว่าร้านอยู่ตรงไหน”



“เอ๊ะ”



“ก็อยากไปไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วพี่พาไปก่อนกลับกรุงเทพฯ ไง”



“ขอบคุณนะครับ” สายน้ำยิ้มกว้างเมื่อได้ยินแบบนั้น นึกตื่นเต้นไปล่วงหน้าแล้วตอนที่อยู่ท่ามกลางสุนัขสายพันธ์ชิบะที่เจ้าตัวชอบ



สายน้ำเปิดรูปคาเฟ่ที่ว่าไปด้วย ยิ้มไปด้วย จนคนที่ทำหน้าที่ขับรถหันมามองแล้วจึงยิ้มตามไปด้วยเมื่อเห็นท่าทางที่ดีใจแบบนั้นของสายน้ำ นึกเอ็นดูรุ่นน้องหน้าหล่อที่มีดรีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย บางทีอีกฝ่ายก็ดูเป็นผู้ใหญ่ โตกว่าอายุจริง แล้วก็ดูเท่เวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่บางมุมเหมือนอย่างตอนนี้สายน้ำดูเหมือนเป็นเด็กที่ยิ้มกว้างเวลาได้ของเล่นที่ถูกใจ ใบหน้าหล่อเหลานั้นดู... น่ามองขึ้นตอนที่เจ้าตัวยิ้มกว้าง







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ตอนนี้คือแบบ...
มีฟามน้องเก็บกระเป๋าให้พี่
มีฟามพี่ตามใจน้อง
ความสัมพันธ์ก่อตัวขึ้นเบา ๆ (?)
เอาน่ะ! ให้เวลาพี่เขาหน่อย เดี๋ยวพี่เขาก็รู้ตัวเองแหละเนอะ
ส่วนน้องนี่ไม่ต้องให้เวลาแล้ว น้องรู้ตัวเองนานแล้ว
รักพี่เขาขนาดไหนลูก...
เริ่มอิจฉาพี่หินผาละนะ น้องรักมากมายขนาดนี้
พี่หินยังไม่นอนกอดน้อง งั้นขอยืมน้องมากอดก่อนได้ไหมอ่ะ
^[+++]^

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 28-06-2019 22:13:47
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...ทำไมมาแบบ "สั้นกุด" แบบเน้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-06-2019 23:32:08
มีใจพาน้องไปเจอหมา ๆ ดี ๆ   o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 29-06-2019 05:43:45
คนพี่ดูตามใจน้องมาก ๆ เลย

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 29-06-2019 11:34:22
โอ้ยอยากกอดน้อนนนน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 29-06-2019 17:59:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-06-2019 18:41:56
อ้าว จำน้องไม่ได้จริงหรอ หินผา นึกว่าพอจะคล้ายๆ บ้าง
มีความห่วงและหวงเบาๆ อะไรคือดูแลดีมาก ห่มผ้า นั่งมอง

สายน้ำน่าเอ็นดู ทริปนี้ดีมากเลยใช่ไหม ได้ส่องพี่ใกล้ๆ
ได้อยู่ด้วยกันนานๆ แล้วเหมือนจะไปเดทกันอีกแล้ว

ป่าไม้ทำตัวตลก ดูร้ายขึ้นมาเลยตอนจะแกล้งหินผา 5555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-06-2019 19:36:14
หึหึ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 29-06-2019 23:12:26
สายน้ำในรอยสัก คือสายน้ำคนนี้ใช่มั่ยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "7" [100%] l P.10 28-06-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 30-06-2019 02:41:31
อยากเห็นน้องเล่นกับหมาแล้ววววว TT
แต่แบบเก็บกระเป๋าให้เขาอ่า  :heaven
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-07-2019 22:05:54
(https://i.ibb.co/NZCg2mj/08.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “8”







รถของหินผาขับไปตามเส้นทางที่ GPS บอกเพื่อมุ่งหน้าไปยังคาเฟ่หมาชิบะที่คนที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับอยากจะแวะไป หลังจากที่ออกจากร้านอาหารที่พวกเขาแวะกินข้าวกันหินผาก็หันมาบอกให้สายน้ำเปิด GPS แล้วก็ขับตามคำบอกมาจนถึงร้าน หินผาจอดรถตรงหน้าร้านก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะก้าวลงจากรถ ตัวร้านคาเฟ่เป็นการนำบ้านพักอาศัยมาปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานให้เป็นร้านคาเฟ่ ขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่ได้เล็กจนอึดอัด ภายในร้านมีโต๊ะอยู่ไม่มากแต่ก็มีลูกค้านั่งอยู่เกือบจะทุกโต๊ะ โชคดีที่มีโต๊ะหนึ่งว่างพอดีให้เขาทั้งสองคน



สายน้ำเดินนำเข้าไปก่อน เขารีบตรงดิ่งไปยังโต๊ะที่ว่าง และทันทีที่นั่งลงเจ้าหมาชิบะหลายตัวก็พากันเดินเข้ามาหา ใช้จมูกดุน ๆ เหมือนต้องการสำรวจว่าคนนี้คือใคร ไม่นานก็ยกขาหน้าทั้งสองข้างขึ้นมาวางแหมะบนตักของสายน้ำให้เจ้าตัวยิ้มรับชอบใจ



ที่ร้านมีทั้งเมนูของคาว ของหวานแล้วก็เครื่องดื่ม แต่เพราะเพิ่งกินข้าวกันมาทั้งคู่เลยสั่งเครื่องดื่มคนละแก้ว ของสายน้ำเป็นสตรอว์เบอร์รี่โซดา ส่วนของหินผาสั่งเป็นชามะนาว แล้วก็สั่งเป็นขนมปังมาอีกหนึ่งชิ้น



“ผมลืมถามพี่ไปเลย พี่ไม่ได้ไม่ชอบหมาใช่ไหมครับ...” สายน้ำที่เล่นกับเจ้าเนื้อเยอะจนเพลินชะงักไปก่อนจะหันมาถามคนที่ขับรถพาเขามา



หินผาละสายตาจากเจ้าชิบะตัวสีดำขาวมามองรุ่นน้อง หลุดขำออกมาเมื่อเห็นสีหน้าไม่แน่ใจของอีกฝ่าย “เพิ่งนึกขึ้นได้หรือยังไง”



พอหินผาพูดแบบนั้นสายน้ำก็หน้าเสียเพราะคิดว่าหินผาอาจจะไม่ชอบหมาหรือแพ้ขนสัตว์อะไรก็ได้ และพอเห็นรุ่นน้องหน้าเสียไปแล้วหินผาเลยหัวเราะออกมา “พี่เฉย ๆ ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ หรือไม่อยากเข้าใกล้ ถ้าพวกนี้เข้ามาหาพี่ก็เล่นด้วยได้” ยกมือขึ้นบีบแก้มเจ้าตัวสีดำเมื่อมันยกขาหน้าขึ้นเขี่ยมือของเขา



“โล่งอกไปทีครับ ผมก็ลืมถามพี่ไปเลยมัวแต่ดีใจที่จะได้มา”



“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าพี่ชอบหรืออะไรพี่ก็บอกแต่แรกแล้ว”



“ครับ” สายน้ำยิ้มออกเมื่อได้รับคำยืนยันแบบนั้นหันมาสนใจเจ้าชิบะตัวกลมที่เข้ามาวอแวไม่หยุด สายน้ำลุกไปหยิบซองขนมสำหรับเจ้าชิบะที่ทางร้านวางขายมาสองห่อ ทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นตรงข้างโต๊ะ



ทันทีที่สายน้ำนั่งลงเจ้าชิบะสี่ห้าตัวก็พากันเข้ามาหา ไม่ได้เพราะนึกรักนึกชอบอะไรในตัวสายน้ำแต่เป็นเพราะซองขนมในมือของสายน้ำต่างหาก



“เดี๋ยวสิ ใจเย็น ๆ ขอเราแกะห่อก่อนได้ไหมอ่ะ นั่งรอก่อน นั่งรอเฉย ๆ ก่อน รอ... รอ” สายน้ำว่ายกมือหนีปากของเจ้าชิบะที่พยายามตามมางับ หัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจ้าชิบะทั้งห้าตัวนั่งเรียงแถวหน้ากระดานกันอย่างเรียบร้อยน่ารักเหมือนกับฟังออกว่าสายน้ำบอกว่าให้รอ



สายน้ำแกะห่อขนมยืดแขนส่งขนมไปให้หินผาที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นมองแต่ก็ยอมยื่นขนมออกไปหนึ่งชิ้นเพื่อป้อนให้เจ้าชิบะตัวสีขาวดำที่เกาะติดหินผาไม่ยอมไปไหน สายน้ำมองตอนที่อีกฝ่ายป้อนขนมแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำเป็นถ่ายรูปไปทั่วร้านแน่นอนว่าจุดประสงค์หลักคือต้องการแอบถ่ายคนที่นั่งอมยิ้มป้อนขนมให้เจ้าชิบะตัวกลม



นั่งเช็ครูปไปยิ้มไปอย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อชิบะตัวอื่น ๆ เริ่มรอไม่ไหวเลยขยับมาปีนป่ายบนตักของสายน้ำ “โอเค ๆ ขอโทษ ๆ นี่ไงป้อนแล้วใจเย็น ๆ สิ”



สายน้ำหยิบขนมจากในถุงออกมาแบ่งป้อนเจ้าชิบะจนครบ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวขนทั้งหลายจะยังไม่พอใจเพราะพวกมันเอาแต่มองหน้าสายน้ำแล้วหันไปมองถุงขนมอีกห่อที่วางอยู่บนเก้าอี้ แต่ยังไม่ทันที่สายน้ำจะหันไปหยิบให้เจ้าตัวดำขาวที่อยู่กับหินผาก็เดินอ้อมมาคาบถุงขนมไปให้หินผาเสียก่อน



“ห๊ะ...!” สายน้ำตกใจหันไปมองเจ้าชิบะตัวอ้วนที่กำลังวางถุงขนมบนตักของหินผา “เจ้าอ้วนมันแย่งขนมผม”



หินผาหัวเราะ ขำทั้งคนทั้งหมา เขาหยิบถุงขนมบนตักขึ้นมาแกะ หยิบออกมาสามชิ้นที่เหลือก็ส่งคืนให้สายน้ำ ซึ่งพออีกฝ่ายได้ถุงขนมมาถือเอาไว้ก็อมยิ้มชอบใจ หันมาป้อนขนมให้เจ้าหมาแต่ละตัว



“ขอบคุณครับ” หินผาหันไปขอบคุณเจ้าของร้านที่ยกเครื่องดื่มกับขนมมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ



“ดูท่าเจ้าพวกนี้จะชอบพวกคุณสองคนมากเลยนะครับ ไม่ห่างเลย” เจ้าของร้านพูดยิ้ม ๆ มองหมาของตัวเองที่ยังคลอเคลียวนรอบตัวคนทั้งสองอยู่



“พวกเขาน่ารักครับ ฉลาดมากเลยโดยเฉพาะเจ้าตัวนี้” หินผาพูดพลางบีบแก้มนิ่ม ๆ ของเจ้าชิบะที่ยังนั่งซบตักเขาไม่ไปไหน



เจ้าของร้านเอ่ยขอบคุณพลางขอตัวไปดูแลลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ หินผาหันกลับมามองรุ่นน้องตั้งใจจะเรียกอีกฝ่ายให้ขึ้นมากินของที่สั่งไว้ แต่ก็เปลี่ยนใจเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแทนเมื่อเห็นสายน้ำแทบจะลงไปนอนอยู่บนพื้นแล้วโดนเจ้าชิบะหลายตัวปีนป่าย



“พี่หินผา” สายน้ำเงยหน้าขึ้นมองพลางเรียก “ช่วยผมด้วยสิครับ”



“ไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนรุมแบบนี้” หินผายิ้มขำแต่ก็ลุกไปช่วยฉุดคนที่นอนอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมานั่งดี ๆ



“ก็เจ้าพวกนี้นี่แหละ รุมผม” สายน้ำว่ายกมือเขกหัวเจ้าชิบะไปตัวละทีเบา ๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะขยับมานั่งที่เก้าอี้แล้วจัดการกับเครื่องดื่มของตัวเอง “พี่ไม่กินเหรอ อร่อยนะ”



หินผามองคนตรงหน้าที่นำเสนอขนมปังย่างเนยก่อนจะใช้ส้อมจิ้มมากินพยักหน้าให้อีกฝ่ายเป็นเชิงบอกว่าอร่อยตามที่เจ้าตัวพรีเซ็นต์ “เรากินต่อเลย”



“ครับ” สายน้ำจิ้มขนมปังเข้าปากสลับกับหันมาเล่นกับเจ้าชิบะที่ไม่ยอมออกห่างไปไหน



ท่าทางจะเข้ากันได้ดีเหมือนกับสนิทกันมานาน ดูท่าเจ้าหมาชิบะพวกนี้จะชอบสายน้ำจริง ๆ อย่างที่เจ้าของร้านว่า เห็นแบบนั้นหินผาเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทั้งคนทั้งหมาเอาไว้ ตั้งใจว่าจะส่งให้เจ้าตัว อีกฝ่ายคงอยากจะได้รูปไว้เหมือนกัน



“สายน้ำ มองกล้อง”



สายน้ำหันมามองตามเสียงเรียกพอเห็นหินผาถือโทรศัพท์อยู่ก็ฉีกยิ้มกว้างให้ ขยับลงไปนั่งที่พื้นอีกรอบแล้วโอบเจ้าชิบะมาใกล้ ๆ เพื่อให้หินผาถ่ายรูปให้



“ส่งรูปให้ผมด้วยนะครับ”



“ได้ เดี๋ยวพี่ส่งรูปให้” หินผาพยักหน้ารับกับคำขอของรุ่นน้อง



พวกเขาทั้งสองคนนั่งเล่นกันอยู่ในร้านร่วมชั่วโมงก่อนที่สายน้ำจะบอกลาเจ้าชิบะทั้งหลายแล้วเดินตามหินผาออกมาจากร้าน กลับขึ้นไปนั่งบนรถแล้วจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ กัน



“ขอบคุณนะครับที่พาผมไปที่คาเฟ่” สายน้ำยกมือไหว้ขอบคุณคนอายุมากกว่า “ผมชอบมากเลย น้องน่ารักมาก เครื่องดื่มก็อร่อย เจ้าของร้านก็น่ารัก”



“ชอบก็ดีแล้ว” หินผาหันมายิ้มให้กับคนที่ยิ้มเหมือนเด็ก ๆ ที่ได้ของกินที่ชอบ



หินผาขับรถไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบเร่งนัก แวะปั้มน้ำมันซื้อของกินเล่น เข้าห้องน้ำก่อนจะขับยาวกลับกรุงเทพฯ เลย กว่าจะเข้าเขตกรุงเทพฯ มาได้ก็เย็นพอดี



“อยากจะแวะที่ไหนก่อนเข้าคอนโดหรือเปล่า”



“ไม่แล้วครับ พี่ไปส่งผมที่คอนโดเลยครับพี่จะได้รีบกลับไปพักผ่อน” สายน้ำส่ายหน้า



ถึงเขาจะบอกแบบนั้นแต่คนขับกลับเปิดไฟเลี้ยวจอดข้างทางบริเวณหน้าร้านขายบะหมี่หมูแดง หินผาดับเครื่องยนต์ก่อนจะเปิดประตูลงไปยืนข้างรถให้สายน้ำทำตาม เจ้าของรถกดล็อครถเดินนำรุ่นน้องไปนั่งที่โต๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ กับรถ



“เย็นมากแล้ว จะได้ไม่ต้องลงมาซื้ออะไรกินอีก” หินผาบอกเมื่อเห็นสีหน้างง ๆ ของรุ่นน้อง “ป้าครับ เอาบะหมี่เกี๊ยวแห้งครับ เราเอาไร”



“เอ่อ... เหมือนพี่เลยครับ”



“สองที่เลยครับป้า” หินผาหันมาถามก่อนจะหันไปตะโกนสั่งเมื่อได้ยินคำตอบ “กลับมาอยู่นี่เคยได้กินหรือยัง”



“เคยอยู่ครับ ผมเคยซื้อแถว ๆ คอนโด”



นั่งรออยู่ไม่นานบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงแบบแห้งก็ยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะพร้อมน้ำซุปกันคนละถ้วย สายน้ำตักบะหมี่ขึ้นชิมก่อนจะลงมือปรุง ซึ่งเขาก็ใส่แค่น้ำตาล น้ำส้มกับพริกแต่ปลายช้อน ต่างจากหินผาที่พอบะหมี่มาถึงก็ตักเครื่องปรุงทันทีโดยไม่ชิมก่อน



สายน้ำทำหน้าเบ้ตอนเห็นคนตรงข้ามตักพริกใส่ในถ้วย นึกอยากจะห้ามเพราะกลัวว่ามันจะทำให้แสบท้องเสียก่อนแต่ก็ไม่กล้าพูด เพราะสายน้ำในตอนนี้ไม่มีสิทธที่จะพูดอะไรออกไปตามอย่างที่ใจคิดไว้



“ทำหน้าอะไรของเรา ลองชิมไหม” หินผาถามยิ้ม ๆ ก็พอรู้อยู่ว่าสายน้ำมองอะไร



คนโดนถามรีบส่ายหน้าทันที “ไม่เอาครับ พี่ใส่พริกเยอะอ่ะ เผ็ด”



“พริกมันไม่เผ็ดขนาดนั้นหรอก”



“ปกติคนที่กินเผ็ดเก่ง ๆ น่าจะเป็นคนใต้หรือไม่ก็คนอีสานไม่ใช่เหรอครับ พี่เป็นคนเหนือแท้ ๆ แต่ชอบกินเผ็ด” สายน้ำพูดอย่างที่ใจคิด



หินผาหัวเราะ “คนใต้ไม่กินเผ็ดก็มีเหมือนกันนั่นแหละ แต่พี่ก็รู้จักคนเหนือที่กินเผ็ดไม่ได้อยู่นะ”



สายน้ำเลิกคิ้วขึ้นมองอย่างงง ๆ ก่อนจะเม้มปากเพราะกลัวว่าจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมาตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายพูด “ก็เราไง คนเหนือที่กินเผ็ดไม่ได้ จะว่าไปตอนเด็ก ๆ พี่ก็รู้จักน้องอยู่คนหนึ่งก็กินเผ็ดไม่ได้เหมือนเรานั่นแหละ”



“กินเผ็ดมาก ๆ แบบพี่เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอกครับ” สายน้ำทำเป็นก้มหน้าตักเส้นบะหมี่เข้าปาก



“เด็กคนนั้นก็ชอบพูดกับพี่แบบนี้เหมือนกัน พูดไปพูดมาก็ชักอยากจะเจออีกครั้ง” หินผายิ้มตอนนึกถึงก่อนที่บทสนทนาของพวกเขาจะสิ้นสุดลงแล้วลงมือจัดการกับบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงตรงหน้าแทน



สายน้ำเหลือบตามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก่อนจะก้มหน้าจัดการกับของกินต่อเหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจและในความคิดของสายน้ำทุกอย่างตีกันจนยุ่งไปหมด ใจหนึ่งก็อยากจะบอกออกไปให้จบ ๆ ว่าเขานี่แหละคือเด็กคนนั้น น้องคนนั้น เขาคือน้องน้ำเอง



แต่อีกใจก็กลัว กลัวความผิดหวัง และกลัวว่าหินผาจะผิดหวังด้วย เขาไม่รู้ว่าในความคิดของหินผานึกถึงสายน้ำน้องน้อยคนนั้นไว้เป็นแบบไหน แต่สายน้ำคนในอดีตกับคนในปัจจุบันนั้นแตกต่างกันมาก



ไม่มีแล้วน้องน้ำที่ตัวเล็กน่ารักนาเอ็นดูเหมือนเด็กผู้หญิง เหลือแต่สายน้ำตัวโตที่เป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย เขาในตอนนี้ไม่ได้มีเคร้าโครงเหมือนคนในอดีตเลยสักนิด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่หินผาจะจำเขาไม่ได้ถ้าหากอีกฝ่ายคิดว่าสายน้ำจะโตมาเป็นหนุ่มน่ารัก เพราะอย่างนั้นสายน้ำเลยไม่กล้าบอกออกไปเพราะกลัวว่าจะเห็นสายตาผิดหวังของหินผา...



ทั้งคู่กลับขึ้นมาบนรถอีกครั้งหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ หินผาขับรถไปส่งสายน้ำที่คอนโดซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานรถคันสวยก็เลี้ยวเข้าไปจอดตรงประตูทางเข้าอาคาร



“ขอบคุณพี่หินผานะครับที่มาส่ง แล้วก็ขอบคุณครับที่พาผมไปเที่ยวด้วย”



“ไม่เป็นอะไร เอาไว้มีทริปอีกก็ไปด้วยกันอีกนะ ถ้ามีแล้วพี่จะบอกชวนเพื่อน ๆ เราไปด้วยก็ได้”



“ครับ ขอบคุณนะครับ” สายน้ำหยิบกระเป๋ามาถือก่อนจะลงจากรถ ก่อนจะปิดประตูก็ก้มลงมามองคนขับ “ขับรถดี ๆ นะครับ เอ่อ... แล้วก็พักผ่อนเยอะ ๆ ครับ ขอบคุณมากครับ”



“อือ”



หินผารอจนกระทั่งสายน้ำเดินเข้าไปในอาคารจึงขับรถออกจากคอนโดของรุ่นน้องปีหนึ่ง เขาไม่ได้ขับรถไปที่คอนโดของตัวเองเพราะมันอยู่คนละทางกับคอนโดสายน้ำ แต่เขาขับไปที่บ้านของรุ่นพี่แทนเพราะมันอยู่ใกล้กว่า ซึ่งจริง ๆ บ้านแฝดสามหลังนั้นก็มีห้องนอนทั้งของเขา แล้วก็ของเพื่อนอีกสองคนด้วย บางคืนที่ไม่อยากนอนที่ห้องก็ไปนอนที่บ้านแฝดสามหลัง หรือเวลามีทำงานกลุ่มพวกเขาก็ไปรวมตัวทำงานกลุ่มที่นั่นกัน



เขาขับรถไปจอดไว้ในโรงจอดรถคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายแล้วเดินเข้าไปในบ้านได้ยินเสียงพูดคุยมาจากทางห้องนั่งเล่นแต่เขาไม่ได้เดินไป เขาเลือกที่จะเดินขึ้นไปบนห้องนอนแทน เพราะหลังนี้อยู่กันหลายคนห้องนอนจึงเยอะขนาดห้องเลยไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีห้องน้ำในตัว วางเตียงขนาดคิงไซซ์ได้ วางโต๊ะทำงานได้ แค่ไม่มีห้องแต่งตัวเท่านั้น



หินผาเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจนสบายตัวถึงได้เดินออกจากห้องตั้งใจจะเดินไปหาคนอื่น ๆ ที่ห้องนั่งเล่นแต่เห็นพี่ชายตัวเองนั่งอยู่ในสวนหลังบ้านตอนเดินลงบันไดเสียก่อนเขาจึงเปลี่ยนใจเดินไปหาป่าไม้แทน



“แต่วันเชียวนะ” เขาส่งเสียงออกไปให้คนที่กำลังกระดกกระป๋องเครื่องดื่มชะงัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ปฏิเสธตอนพี่โยนกระป๋องมาให้



“เพิ่งกลับมาถึงเหรอ” คนเป็นพี่เอ่ยถามเมื่อหินผาทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้างกัน



“ใช่ เพิ่งกลับมาถึง”



“ทำไมมาถึงช้าวะ หลงเหรอ พวกกูนี่กลับมาถึงกันตั้งนานแล้ว เอาจริงนึกว่ากลับไปที่คอนโด”



“พาสายน้ำไปแวะร้านคาเฟ่ชิบะมา” หินผาตอบพลางยกกระป๋องขึ้นดื่ม



“อ้าว น้องอยากไปเหรอ แล้วก็ไม่บอกตอนอยู่ที่ร้านข้าว”



“ไม่กล้าบอก เกรงใจน่ะ นี่ยังต้องจี้ถามถึงจะบอกว่าอยากไปไหนก็เลยกลับมาช้าไง”



“วุ๊! อดไปเที่ยวด้วยเลย เอาไว้คราวหลังนัดน้องมากินข้าวดีกว่า” ป่าไม้ว่าอย่างเซ็ง ๆ “ว่าแต่ไปส่งน้องถึงคอนโดแล้วใช่ไหม”



“อือ”



“ก็ดีแล้ว มึงก็คอยดูแลน้องด้วย เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศแถมอยู่คนเดียวแบบนั้นอีก” ป่าไม้พูดก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นน้องชายมองเขาอยู่ “อะไรมึง มองกูมีไร”



“เปล่า แค่สงสัยว่าทำไมแลดูเป็นห่วงน้องมันจัง สนิทกันมากเหรอเพิ่งเจอแค่สองครั้งเองไหม”



“ก็กูถูกชะตา กูเอ็นดูน้องอ่ะ มึงจะทำไม”



“ไม่ทำไม แค่แปลกใจปกติชอบเขม่นคนหน้าตาหล่อกว่า”



“อ้าวไอ้นี่” ป่าไม้หยิบถั่วในถุงที่แกะไว้เป็นกับแก้มปาใส่น้องชายตัวเอง “น้องน้ำเป็นข้อยกเว้นเว้ย!”



“มีเรียกน้องน้ำ”



“ก็แล้วจะทำไม กูก็บอกอยู่ว่ากูเอ็นดูของกูอ่ะ”



หินผาส่งเสียงในลำคอ เอี้ยวตัวหลบถั่วอีกเม็ดที่ป่าไม้โยนใส่ “แต่เอาจริง ๆ รู้สึกคุ้น ๆ กับน้องมันอยู่นะ”



“คุ้นยังไง” ป่าไม้ถามกลับด้วยความสนใจ ตาเป็นประกายด้วยความสนุก



“ก็คล้าย ๆ ไง ชื่อก็คล้าย แต่ก็นั่นแหละ แค่คุ้น ๆ คล้าย ๆ”



“มึงจะมโนว่าคนชื่อน้ำทุกคนที่มึงรู้จักเป็นน้องเขาไม่ได้หรอกนะ” ป่าไม้พูด



“ก็ถึงบอกว่าคล้าย ๆ ไง แต่ยังไงก็ไม่ใช่”



“ทำไมไม่ใช่” ป่าไม้ถาม “มึงมั่นใจเหรอ”



หินผาพยักหน้ารับ “น้องน้ำตัวนิดเดียว แถมยังหน้าตาน่ารักอีก แต่ดูสายน้ำนี่สิ หน้าหล่อระดับเดือนมหาวิทยาลัย ยังไงก็ไม่ใช่น้องน้ำอยู่แล้วนี่”



คนฟังอยากจะเอาหัวโขกกับโต๊ะ แต่ไม่ใช่หัวตัวเองนะแต่เป็นหัวของน้องชายซื่อบื้อของตัวเอง “เมื่อกี้มึงยังบอกว่าคล้าย สรุปมาบอกว่าไม่ใช่ ยังไงของมึง”



“ก็คล้ายไง แต่ว่าไม่ใช่ ไม่เห็นหรอหน้าสายน้ำกับน้องน้ำไม่เหมือนกันเลย”



“มึง...” ป่าไม้อยากจะจิกผมให้กระจาย แน่นอนว่าไม่ใช่ผมของเขา แต่เป็นผมบนหัวของน้องชาย “น้องน้ำของมึงน่ะไม่เจอมากี่ปีแล้ว เกือบสิบปีแล้วนะ น้องเขาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ ไม่มีใครเหมือนเดิมได้หรอกน่า”



“เออ ๆ ถ้ามีโอกาสได้เจอก็คงได้เจอเองนั่นแหละ”



ป่าไม้หมดคำพูดกับน้องชาย เขาถอนหายใจออกมาพลางล้วงหยิบถั่วในถุงใส่เข้าปากทั้งกำ นึกแล้วก็เหนื่อยใจแทนน้องคนสนิทที่มาหลงชอบหลงรักไอ้จอมซื่อบื้อคนนี้จนยอมย้ายกลับมาประเทศไทยคนเดียวแบบนี้



ท่าจะยากแล้วน้องน้ำ ก็ในเมื่อน้องชายพี่มันซื่อบื้อขนาดนี้ สู้ ๆ เข้านะ



คงได้แค่ส่งกำลังใจแล้วก็คอยเชียร์สายน้ำอยู่แบบนี้จนกว่าหินผาจะหายซื่อบื้อสักที







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

งุ้ยยยย มีความตามใจน้อง พาน้องไปคาเฟ่ชิบะ
มีความเอ็นดูน้อง ยิ้มกับท่าทางของน้อง
ถ่ายรูปน้อง น้องน่ารักล่ะสิ ใช่ม้า~~
นี่ก็แอบเห็นด้วยกับพี่ป่าไม้นะ อยากจะขยุ้มผมคนพี่จริง ๆ เลย
เฮ้อ... เอาใจช่วยน้องน้ำกันเนอะ ดูท่าจะยากอยู่หน่อย ๆ นะเนี่ย
พี่ยังติดภาพน้องน้ำสมัยเป็นเด็กอยู่เลย

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-07-2019 23:37:38
จำอีกน้องไม่ได้หรอ  o22 แต่่่่่่ไมพี่ป่าจำได้อ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-07-2019 23:38:57
 :pig4: :pig4: :pig4:

อืมมมม  หินผาซื่อบื้อจริง ๆ ตามที่พี่ชายป่าไม้กล่าวไว้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-07-2019 00:25:35
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-07-2019 00:49:24
โอ๊ยพี่หินผา ถ้าน้องรู้จะเป็นยังไงเนี่ย  :ling2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-07-2019 06:13:07
พี่หินผา น้องน้ำก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายบ้างซิคะ ตามการเจริญเติบโตอ่ะค่ะคุณพี่

555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 05-07-2019 06:52:17
นี่พี่หินคิดว่าน้องโตขึ้นต้องประมาณน้องเดียร์ป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-07-2019 04:01:48
จะว่าไง/ด้อะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 06-07-2019 07:23:21
 :mew1: :mew1: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [40%] l P.10 04-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-07-2019 10:25:53
สู้ สู้นะน้องน้ำ พี่หินทื่อขนาดนี้ คงต้องลุ้นเหนื่อยหน่อยล่ะนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 08-07-2019 22:16:56
(https://i.ibb.co/NZCg2mj/08.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “8”




❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





หินผาเดินเช็ดผมตัวเองออกจากห้องน้ำอีกรอบหลังจากที่เขาอาบน้ำไปแล้วตอนกลับมาถึงบ้านแต่เพราะลงไปนั่งดื่มกับพี่ชายมาจนมีกลิ่นของแอลกอฮอล์ติดตัวเขาเลยตัดสินใจอาบน้ำอีกรอบเพราะไม่อยากให้กลิ่นไปติดบนที่นอนด้วย คนตัวสูงในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงขายาวสีเทาเดินเอาผ้าขนหนูไปตากเอาไว้ก่อนจะเดินกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหยิบโทรศัพท์ที่เขาเสียบชาร์จแบตเตอร์รี่เอาไว้ขึ้นมาเล่น



เปิดแอปพลิเคชั่นที่เอาไว้คุยแชทขึ้นมาเพื่อกดเซฟรูปที่บรรดารุ่นพี่ส่งไว้ในกลุ่มและนั่นก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ส่งรูปให้กับน้องเล็กในกลุ่มเลย เขาเลยเปลี่ยนหน้าต่างห้องแชทไปยังห้องแชทของสายน้ำแทน กดสร้างอัลบั้มเอาไว้ให้อีกฝ่ายรูปภาพจะได้ไม่หมดอายุการใช้งาน



เขาออกจากแอปพลิเคชั่นหลังจากอัปโหลดรูปภาพเสร็จแล้ว เปลี่ยนมาดูรูปภาพที่ถ่ายเอาไว้แทน เขายิ้มขำตอนที่เลื่อนมาเจอรูปของสายน้ำที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้นโดยมีเจ้าหมาชิบะล้อมเอาไว้เหมือนคนกำลังจะโดนรุม เลื่อนไปรูปถัดไปเป็นรูปที่สายน้ำหันมายิ้มให้กล้อง และเขาก็หยุดดูรูปนี้อยู่นานมองรอยยิ้มของคนในรูปด้วยความรูปสึกคุ้นเคยอย่างประหลาด



ก่อนจะนึกไปถึงเรื่องที่เขาคุยกับป่าไม้ก่อนที่จะกลับขึ้นมาบนห้อง น้องน้ำ คนที่เขาเคยรู้จักตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กจนกระทั่งถึงช่วงจะขึ้นมัธยมปลาย น้องน้ำก็ย้ายไปแล้วหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับน้องน้ำอีกเลย ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะย้ายไปพวกเขาก็สนิทสนมกันมากแท้ ๆ แต่เพราะทุกอย่างมันค่อนข้างกะทันหันเขาเลยไม่ทันได้นึกจะขอเบอร์โทรศัพท์ หรือ อีเมลที่จะใช้ในการติดต่อเอาไว้เลย มีเพียงคำสัญญาที่เคยให้กันไว้เท่านั้นว่าพวกเขาจะรอ...



รอวันที่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง



หินผามั่นใจว่าถ้าตัวเขาได้เจอหน้าน้องน้ำ เขาจะต้องจำได้ทันทีแน่นอนเพราะอีกฝ่ายมีใบหน้าที่น่ารัก ตัวเล็ก ๆ น่ารัก แต่ตัวเขาเองก็คงจะลืมไปว่ากาลเวลาที่เปลี่ยนไปก็ทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนไปได้เหมือนกัน



เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปของสายน้ำอีกรอบ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเด็กคนนี้แล้วที่หินผารู้สึกคุ้น ๆ กับรอยยิ้มของอีกฝ่าย อีกทั้งชื่อที่เหมือนกันกับน้องน้ำทำให้เขาเกิดสนใจขึ้นมา แต่เพราะอีกฝ่ายมีใบหน้าที่หล่อเหลาผิดจากน้องน้ำที่มีใบหน้าที่น่ารักก็เลยทำให้เขาไม่มั่นใจและไม่คิดว่านี่คือน้องสายน้ำคนที่เขารู้จักเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก



แต่เพราะอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้รู้สึกคุ้นเคย... เขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าสายน้ำอาจจะเป็นน้องน้ำก็ได้ ยิ่งมาได้ยินคำพูดของพี่ชายเขาก็เริ่มที่จะลังเลอีกครั้ง จากที่ปฏิเสธอยู่ในใจตลอดเวลาว่าคนคนนี้ไม่ใช่น้องน้ำ ความคิดก็เริ่มไขว้เขว และเขาก็เริ่มคิดอีกครั้งว่าสายน้ำอาจจะเป็นน้องน้ำก็ได้



SAINAM karp
ขอบคุณสำหรับรูปครับ
*สติ๊กเกอร์*



หินผาเลื่อนนิ้วไปกดดูข้อความยิ้มขำกับสติ๊กเกอร์รูปหมาขอบคุณของอีกคนเพราะเขากดเข้าไปดูแล้วมันคือสติ๊กเกอร์หมาชิบะ ดูท่าเจ้าตัวจะชอบสายพันธ์นี้จริง ๆ



HinPaa
ไม่เป็นอะไร




SAINAM karp
ผมลงรูปแล้วแท็กพี่ไปได้ไหมครับ?



หินผาไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องขอ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่ทำกันเสียอีก เพราะบรรดาเพื่อน ๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องของเขาไม่เคยเห็นจะมีใครมาขอแท็กเขาเลยสักคนเดียว



HinPaa
ได้สิ




SAINAM karp
ขอบคุณนะครับ
*ส่งสติ๊กเกอร์หมาชิบะทำตาวาวดีใจ*



HinPaa
ดีใจขนาดนั้นเลย
55555




SAINAM karp
ก็... ดีใจสิครับ
ผมไม่ค่อยเห็นพี่ลงรูปเท่าไหร่
เลยไม่แน่ใจว่าอยากให้แท็กหาหรือเปล่าน่ะครับ



HinPaa
อ่อ
แท็กได้ตลอดนั่นแหละ ไม่ว่าอะไร




SAINAM karp
ครับผม



หินผาคุยแชทกับสายน้ำอยู่นานไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรให้พูดคุยกันนัก ทั้ง ๆ ที่คิดว่าพวกเขายังไม่สนิทสนมกันถึงกับสามารถหาเรื่องมาคุยกันได้ ไม่ได้มีเรื่องอะไรต้องปรับทุกข์กันหรือปรับความเข้าใจกัน แต่ร่วมชั่วโมงที่เขานั่งโต้ตอบข้อความกับสายน้ำนั้นเป็นเรื่องจริง หลักฐานก็อยู่ในมือของหินผาที่เขากำลังกวาดสายตาอ่านข้อความสุดท้ายที่น้องส่งมา อีกฝ่ายขอตัวไปนอนพร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์นอนหลับฝันดีมาให้เพราะพรุ่งนี้สายน้ำมีเรียนเช้าเลยไม่อยากที่จะนอนดึกมาก



เขานั่งมองหน้าต่างแชทอยู่แบบนั้นก่อนจะกดล็อคแล้ววางโทรศัพท์เอาไว้ข้างตัว หลายรอบในช่วงที่เขาคุยแชทกับน้อง หินผานึกอยากจะถามออกไปตรง ๆ เลยว่าอีกฝ่ายใช่น้องน้ำหรือเปล่า แต่เพราะไม่ได้มีความมั่นใจอะไรเลยก็กลัวคำตอบจากอีกฝ่ายจะบอกว่าไม่ใช่ แล้วถึงเวลานั้นเขาคงจะรู้สึกแย่ รู้สึกเฟลมากแน่นอน




อีกอย่างสายน้ำไม่ได้มีท่าทีว่าจะจำเขาได้เลยสักนิด นั่นก็ยิ่งทำให้เขาไม่แน่ใจเข้าไปใหญ่ว่าสายน้ำคนนี้จะใช่คนเดียวกับน้องน้ำตอนสมัยเขาอยู่มัธยมปลายหรือเปล่าแต่เขารู้สึกว่าถ้าถามออกไปแบบนั้นก็คงจะแปลกน่าดู เลยเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ ตั้งใจว่าจะรอดูให้แน่ใจกว่านี้ก่อนแล้วค่อยถามออกไป



และเพราะคิดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าตัวเลยเลิกคิด หลับตาลงเพื่อหวังจะนอนพักให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับไปเรียนแล้ว







แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องไปทั่วทำให้บริเวณนี้ทอประกายสีอมส้มจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าไปในอีกไม่นาน เด็กชายวัยประถมปั่นจักรยานเพื่อกลับบ้านหลังจากที่เล่นกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเสร็จแล้ว เพราะบ้านของเจ้าตัวกับโรงเรียนอยู่ไม่ไกลกันนักก็เลยปั่นจักรยานไปกลับเอง



สายตาของเด็กชายกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างสนใจแม้ว่าจะเป็นเส้นทางเดิมที่เขาปั่นจักรยานกลับบ้านทุกวัน เพราะในแต่ละวันที่เขาปั่นจักรยานผ่านก็มักจะมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป บางวันบ้านหลังนั้นก็มีคนเดินออกมารดน้ำต้นไม้ บางวันบ้านหลังนี้ก็มีรถเข้ามาจอด บางวันบ้านหลังนู้นก็สังสรรค์เฮฮาสนุกสนาน และบรรยากาศแบบนี้ที่เขาชอบมอง



แต่แล้วสายตาของเด็กชายก็หยุดลงเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่ข้างทาง เจ้าตัวปั่นจักรยานเข้าไปใกล้พลางจ้องมองอย่างระวังก่อนจะรีบทิ้งจักรยานแล้ววิ่งไปหาใครบางคนที่เหมือนจะนั่งร้องไห้อยู่ เด็กคนนั้นตัวเล็ก ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าเขาแน่นอน กำลังนั่งปาดน้ำตาป้อย ๆ เนื้อตัวก็มอมแมมไปหมดดูแล้วน่าสงสาร



“นี่... ทำไมมาอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ” เขาถามออกไปแต่เด็กคนนั้นก็ไม่ยอมตอบอะไร “พี่ชื่อหินผาน่ะ เราชื่ออะไร ทำไมเลอะแบบนี้โดนอะไรมา”



คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมอง อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรแต่ยื่นแขนออกมาหินผาจึงได้เห็นว่าตามแขนของอีกฝ่ายมีรอยแผลถลอกอยู่



“หกล้มเหรอ” หินผาในวัยเด็กถามออกไปอีกรอบ



“อึก...” คนตรงหน้าพยักหน้ารับพร้อมสะอื้นด้วยความเจ็บ



คนอายุมากกว่าอย่างหินผาจึงขยับเข้าไปใกล้พลางประคองน้องให้ลุกขึ้นยืนแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะใกล้ ๆ บริเวณนั้น เขาเอ่ยปากบอกให้น้องนั่งรออยู่ตรงนี้อย่าไปไหนส่วนตัวเองก็รีบวิ่งมาคว้าจักรยานปั่นออกมาซื้อน้ำจากร้านขายของใกล้ ๆ



“ล้างแผลก่อนนะ อย่างน้อยก็ล้างน้ำสะอาดก่อนแล้วค่อยไปใส่ยาอีกที” หินผาที่วิ่งมาหาพูดพลางชูขวดน้ำเปล่าให้ดู



“จ เจ็บ...”



“ไม่เจ็บ ๆ เชื่อพี่นะ” หินผาจับแขนของอีกฝ่ายให้ยื่นออกมา เปิดขวดน้ำแล้วค่อย ๆ ใช้น้ำในขวดนั้นล้างแผลเพื่อเอาฝุ่นออกจากแผลให้ “ไม่ร้องนะ เดี๋ยวเสร็จแล้ว แล้วพี่จะพาไปทำแผล” ลูบผมคนน้องไปทีอย่างปลอบใจเพราะเวลาที่น้ำโดนแผลอีกฝ่ายก็สะดุ้งพลางร้องสะอื้นไปด้วย



หินผาค่อย ๆ ล้างแผลให้ ใช้ผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าตัวเองออกมาซับน้ำให้เรียบร้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้อีกฝ่ายยกมือขึ้นลูบผมของน้องเบา ๆ “เก่งมากเลย”



“ข ขอบคุณครับ...”



“ว่าแต่ว่าเราชื่ออะไร ยังไม่บอกชื่อพี่เลย”



“น้ำ... สายน้ำ น้องน้ำ” อีกฝ่ายแนะนำตัวเสียงเบา



“น้องน้ำ” หินผาทวนชื่อก่อนจะยิ้มออกมา “โอเค! น้องน้ำเนอะ ไปทำแผลกันก่อนเถอะ”



หินผาส่งมือให้สายน้ำจับก่อนจะจับจูงมาที่รถจักรยานที่เขาจอดทิ้งเอาไว้ เขาขึ้นคร่อมอานของจักรยาน หันมาเรียกน้องให้นั่งซ้อนท้าย “น้องน้ำขึ้นมานั่งซ้อนท้ายเร็ว จะได้รีบไปทำแผลแล้วก็กลับบ้าน เย็นมากแล้ว”



สายน้ำมองอย่างลังเลแต่สุดท้ายก็ยอมก้าวไปนั่งซ้อนท้ายของหินผา คนพี่จับมือน้องให้มาเกาะเอวของตัวเองเอาไว้กันน้องหล่นจนเจ็บตัวอีก เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าสายน้ำนั่งเรียบร้อยดี หินผาก็ปั่นจักรยานไปอนามัยในพื้นที่เพื่อพาน้องน้ำไปทำแผล



ตลอดเวลาที่เจ้าหน้าที่อนามัยทำแผลให้กับสายน้ำ หินผาก็อยู่ด้วยตลอดคอยจับมือของน้องเอาไว้ ต้องบอกว่าน้องเก่งมากทีเดียวเพราะเจ้าตัวไม่ร้องไห้เสียงดังแต่ก็มีสะอื้น มีสะดุ้งบ้างเวลาโดนยาแล้วมันแสบ ดวงตาของน้องฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็พยายามกลั้นเอาไว้อย่างเต็มที่เลยจนกระทั่งทำแผลเสร็จเรียบร้อย



หินผาจูงมือคนอายุน้อยกว่าออกมานั่งอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนหน้าอาคาร หยิบช็อคโกแลตห่อเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แกะแล้วยื่นให้สายน้ำ “กินนี่สิ มันช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้นะ”



สายน้ำที่ยังสะอื้นอยู่บ้างเงยหน้ามองก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบขนมชิ้นเล็กชิ้นนั้นส่งเข้าปากตัวเอง ความหวานของช็อคโกแลตทำให้สายน้ำหยุดร้องไห้ เจ้าตัวเคี้ยวขนมในปากแก้มตุ่ยก่อนจะส่งยิ้มให้กับหินผา



“อร่อยใช่ไหม”



“อร่อยครับ”



“ดีแล้ว” ยกมือยีผมคนน้องไปทีอย่างเอ็นดู “แล้วทำไมไปอยู่คนเดียวแบบนั้นล่ะ มันอันตรายนะรู้ไหม พ่อกับแม่รู้หรือเปล่าว่าเราออกมาน่ะ”



สายน้ำส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้มเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าทำความผิดมา “น้ำจะไปซื้อขนม...”



“แล้วทำไมถึงได้มีแผลแบบนี้”



พอถูกถามคำถามนี้คนที่ยังยิ้มอยู่เมื่อครู่ก็มีสีหน้าที่สลดลงจนหินผารู้สึกผิดที่เอ่ยถามออกไป กำลังจะบอกว่าไม่ต้องเล่าก็ได้อีกฝ่ายก็พูดขึ้นเสียก่อน “น้องน้ำ... โดนรุ่นพี่แกล้งครับ โดนผลักจนล้มเลยมีแผลถลอก”



“โดนแกล้งด้วยการผลักอย่างนั้นเหรอ” หินผาทวนคำ คิ้วของเจ้าตัวขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินคำอธิบายของคนตรงหน้า



“ครับ” สายน้ำพยักหน้ายืนยัน “พวกเขาชอบว่าน้องน้ำ ล้อเลียนด้วยบอกว่าน้องน้ำไม่ใช่ผู้ชาย น้องน้ำเป็นตุ๊ด ทำมาเป็นพูดเพราะ... อึก... ต แต่น้องน้ำไม่ได้เป็น อึก น น้ำแค่ต ตัวเล็ก อึก... ฮือ...”



หินผาเริ่มลนลานเมื่อสายน้ำร้องไห้ออกมาอีกรอบเขาขยับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกันกับน้องก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาให้ เขาไม่เคยเจอคนร้องไห้ต่อหน้ามาก่อนเลยไม่รู้จะปลอบอย่างไรดี แล้วเขาก็ไม่ใช่คนอ่อนโยนมากพอที่จะค่อย ๆ ซับน้ำตาให้ แต่ก็พยายามเบามือที่สุดตอนที่เช็ดน้ำตาให้สายน้ำ



“ไม่ร้อง ๆ ไม่ต้องร้องนะ น้ำไม่ใช่ตุ๊ดหรอก แล้วอีกอย่างที่น้ำพูดจาเพราะ ๆ พี่ก็ว่ามันดีแล้ว น่าฟังดีจะตายไป ดีกว่าพวกพูดคำหยาบเป็นไหน ๆ เลย” หินผาพยายามพูดปลอบใจ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดส่ง ๆ ไป แต่สิ่งที่เขาพูดก็คือเรื่องจริงทั้งนั้น



“พี่ไม่ว่าน้องน้ำเหรอ จะไม่แกล้งน้ำใช่ไหม” สายน้ำยกมือขึ้นปาดน้ำตาพลางกลั้นสะอื้น เงยหน้ามองคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ทำแผลให้



“ใช่สิ พี่ไม่แกล้งเราหรอก แล้วถ้าใครมาแกล้งเรานะก็บอกพี่ได้เลย พี่จะจัดการให้หมดเลย” หินผายิ้มกว้างให้ ยีผมนุ่ม ๆ นั้นเล่นอีกรอบ “เพราะฉะนั้นก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว โอเคไหม”



“ครับ” สายน้ำพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่หินผาเห็นแล้วรู้สึกว่า...



น่ารัก



ใช่... สายน้ำเป็นเด็กที่น่ารักมาก ๆ เลยทีเดียว



“อย่างนั้นก็กลับบ้านกัน อยู่ตรงไหนบอกพี่มาเดี๋ยวพี่พาไปส่ง” หินผาเดินนำคนตัวเล็กไปที่รถจักรยาน หันมาตบเบาะข้างหลังเพื่อให้น้องขึ้นไปซ้อนท้ายเหมือนเดิม



“พี่รู้จักบ้านครูไพศาลที่สอนดนตรีไทยกับนาฏศิลป์ไหมครับ” สายน้ำที่นั่งจับชายเสื้อของหินผาถาม



“รู้จักสิ”



“ครับ... บ้านน้ำอยู่ที่นั่นแหละครับ”



“เราเป็นลูกอาจารย์ไพศาลเหรอ” หินผาหันมาถาม อาจารย์ไพศาลที่เขาพูดเป็นอาจารย์ที่สอนวิชาดนตรีไทยของโรงเรียนประจำจังหวัดซึ่งก็เป็นโรงเรียนที่หินผาเรียนอยู่ อีกทั้งอาจารย์ไพศาลยังเปิดสอนดนตรีไทย แล้วก็รำไทยที่บ้านเรือนไทยของตัวเองด้วย



ความเก่งกาจของอาจารย์ไพศาลเป็นที่รู้จักกันไปทั่วเพราะต้นตระกูลเก่าแก่ของอาจารย์ก็เก่งกาจเรื่องดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทยด้วยกันทั้งนั้น มีโอกาสได้ไปแสดงในรั้วในวังก็ตั้งหลายต่อหลายครั้งจึงไม่แปลกที่พอพูดถึงบ้านอาจารย์ไพศาลทุกคนจึงรู้จัก



“ครับ ใช่แล้ว”



“อ่อ... โอเค เดี๋ยวพี่จะพาไปส่งถึงบ้านเลย” หินผาพยักหน้าก่อนจะเริ่มออกแรงปั่นจักรยานพาทั้งตัวเขาเองและสายน้ำมุ่งไปข้างหน้า



ใช้เวลาไม่นานจักรยานของหินผาก็มาจอดอยู่หน้าประตูรั้วบ้านเรือนไทยล้านนา สายน้ำขยับลงจากเบาะจักรยานมายืน “พี่จะเข้าไปข้างในก่อนไหมครับ”



“ไม่ล่ะ เย็นมากแล้วพี่ต้องรีบกลับบ้านแล้วล่ะเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงกัน”



“ครับ น้ำขอบคุณพี่หินผานะครับที่พาน้ำไปทำแผลแล้วก็ยังมาส่งที่บ้านอีก” สายน้ำยกมือไหว้ขอบคุณคนอายุมากกว่า



“ไม่เป็นไร ๆ รีบเข้าบ้านเถอะเดี๋ยวจะโดนยุงกัดไปเสียก่อน”



“ครับ พี่ก็ปั่นจักรยานดี ๆ นะครับ ขอบคุณมากนะครับ”



“อือ อย่าลืมกินยาอะไรเสียด้วยล่ะ แล้วเจอกัน” หินผาพูดก่อนจะปั่นจักรยานออกไปโดยมีสายน้ำมองตามแผ่นหลังที่กว้างกว่าของเขามากนักไปจนลับสายตา



นึกอยากที่จะเจอหินผาอีกเพื่อที่จะได้ตอบแทนความใจดีของอีกฝ่ายที่อุตส่าห์ลงไปดูเขา ช่วยล้างแผลให้เขา แล้วก็พาไปทำแผลที่อนามัยแถมยังปั่นจักรยานมาส่งเขาที่บ้านอีก ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายจะปล่อยเขาไว้ตรงนั้น ไม่ต้องมาดูเลยก็ได้ แต่หินผาก็ไม่ทำ ต้องเป็นคนใจดีขนาดไหนกันนะถึงได้เข้ามาช่วยเขาตั้งมากมายแบบนี้



นั่นคือเหตุการณ์ครั้งแรกที่เขาสองคนได้เจอกัน เป็นครั้งแรกที่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และโดยไม่มีใครคาดคิดหรืออาจจะไม่มีใครรู้ว่าความรู้สึกบางอย่างได้ก่อเกิดขึ้นแล้ว... ในหัวใจของพวกเขาทั้งคู่อย่างเงียบ ๆ และค่อยเป็นค่อยไป







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ฮูย... คราวที่แล้วพี่หินโดนแซว(?)เพียบเลยยยย
เอาน่า... ให้เวลาพี่เขาหน่อย เขาก็คิดอยู่ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่แบบภาพจำในอดีตมันแบบนั้นอ่ะเนอะ
ก็ต้องให้เวลาพี่เขาตบตีกับความคิดของตัวเองก่อน
ระหว่างนั้นก็เอาใจช่วยน้องน้ำกันดีกว่าเนอะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 08-07-2019 22:45:28
เอ้า!!!! ก็นึกออกนี่นา
คนเดียวกันนั่นแหละ...บอกเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-07-2019 23:44:02
 :pig4: :pig4: :pig4:

หูย...ความรักวัยเด็ก วัยกระเตาะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-07-2019 23:53:21
นึกออกยัง จำน้องน้ำได้หรือยัง จำได้ไหม จงนึกให้ออก ๆๆๆๆๆๆ  :oni3: :amen: :call:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-07-2019 23:56:15
พี่หินนี่ละมุนแต่เด็กเลย น้องน้ำน่าเอ็นดูจังเลยลูก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-07-2019 01:08:00
นึกออกแล้วววว  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-07-2019 06:57:29
ค่อย ๆ นึกไปนะพี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 09-07-2019 08:01:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-07-2019 17:07:03
 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-07-2019 17:46:38
ยอมแล้ววว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [70%] l P.10 08-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 09-07-2019 22:17:54
เมื่อไหร่จะจำน้องได้น้าา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 12-07-2019 22:10:35
(https://i.ibb.co/NZCg2mj/08.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “8”




❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





หินผาลืมตาตื่นขึ้นเจ้าตัวนอนนิ่ง ๆ เพื่อปรับสภาพของตัวเองหลังจากตื่นนอน หันไปหยิบโทรศัพท์มากดดูเวลาก็ต้องนึกแปลกใจเพราะมันยังไม่เช้าเลย ตอนนี้เพิ่งจะตีสี่เท่านั้นยังเหลือเวลานอนอีกตั้งหลายชั่วโมงจากที่เขาตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ เขายันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงทั้ง ๆ ที่ยังไม่เช้าแต่เขารู้สึกไม่ง่วงแล้วถ้าให้นอนต่อก็คงจะนอนไม่หลับเลยหยิบโทรศัพท์มากดเล่น เช็คการแจ้งเตือนต่าง ๆ แทน



ในเฟซบุ๊กมีการแจ้งเตือนเข้ามาเยอะจนเขาต้องกดเข้าไปดู เป็นเพื่อนแล้วก็รุ่นพี่ที่แท็กรูปที่ไปเที่ยวหัวหินด้วยกันมาเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่เพิ่งจะมาลงรูปกันเมื่อวันสองวันนี้ เขาเลยไล่กดถูกใจไปทีละรูปจนครบนึกแปลกใจที่ไม่เห็นการแท็กรูปภาพจากสายน้ำที่ส่งข้อความมาขอลงรูปเขา หินผาสลับไปดูหน้าฟีดแล้วเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย คลิปตลก ๆ คลิปสัตว์น่ารัก ปลายนิ้วที่กำลังปัดผ่านหน้าฟีดไปเรื่อย ๆ ชะงักตอนที่เห็นโพสต์ของสายน้ำ



อีกฝ่ายลงรูปตัวเองตอนนั่งยิ้มกว้างกดหมาชิบะเอาไว้ รอบ ๆ ก็มีหมาสายพันธ์เดียวกันนั่งล้อมเอาไว้เป็นภาพที่เขาถ่ายให้ตอนอยู่ที่คาเฟ่ หินผากวาดสายตาอ่านแคปชั่นของสายน้ำก่อนจะกดลิงค์ที่ถูกโพสต์ไว้ด้วยความสนใจ



TARA SAINAM WILKINSON
You made me found a happy me.
https://www.youtube.com/watch?v=SIp9erRAfQU (https://www.youtube.com/watch?v=SIp9erRAfQU)




เพลงที่สายน้ำลงเป็นเพลงจากนักร้องโคฟเวอร์ ซึ่งต้นฉบับเพลงนี้เป็นผู้หญิง หินผานั่งฟังเสียงกีตาร์ไปพร้อมกับเสียงร้องทุ้ม ๆ ของนักร้อง เขาเคยฟังเพลงนี้เมื่อนานมาแล้วซึ่งฟังในเวอร์ชั่นต้นฉบับแต่พอมาได้ฟังเวอร์ชั่นโคฟเวอร์แบบนี้ก็เพราะไปอีกแบบ



อาจเคย ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ว่าทำไมถึงเลือกเธอ ในหัวใจอาจเคย
ได้เจอคนมากมาย แต่สุดท้ายก็เป็นเธอ ที่คู่กัน



รัก ไม่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ
รัก เชื่อมใจไว้ด้วยกัน มีเพียงแต่ใจที่รู้
ใครคือผู้อยู่ในฝัน เธอคือคนนั้นที่ฉันรัก



ก็เพราะใจมันขอ เพราะใจเรียกร้อง
เกิดมาเพื่อเป็นของเธอเสมอไป



ก็เพราะใจฉัน ไม่เคยหวั่นไหว
อย่างไรก็ยังมั่นใจว่าใช่เธอ
ไม่มีเหตุผลที่มากมาย แค่ใจฉันรักเธอ



หนึ่งคน ที่ยืนเคียงข้างกัน
ช่วงเวลาที่เป็นสุข หรือทุกข์ใจ
หนึ่งคน ที่ยังคงเข้าใจ
ก็คงไม่ใช่ใครอื่น เรารู้กัน



รัก ไม่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ
รักเชื่อมใจไว้ด้วยกัน มีเพียงแต่ใจที่รู้
ใครคือผู้อยู่ในฝัน เธอคือคนนั้นที่ฉันรอ



ก็เพราะใจมันขอ เพราะใจเรียกร้อง
เกิดมาเพื่อเป็นของเธอเสมอไป

เพราะใจ – วรรธนา วีรยวรรธ



หินผากดฟังเพลงอีกรอบแต่คราวนี้เขาเลือกฟังเพลงที่เป็นต้นฉบับก่อนจะยิ้มออกมาเพราะอยู่ ๆ เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ว่าเพลงนี้คือประกอบภาพยนตร์ที่ดังมาก ๆ แล้วก็เป็นภาพยนตร์ที่เขากับน้องน้ำนั่งดูด้วยกันในอินเตอร์เน็ต จำได้ว่านางเอกภาพยนตร์เรื่องนั้นก็ชื่อเดียวกันกับน้องน้ำเหมือนกัน



เขาไม่แน่ใจว่าทำไมถึงได้เลือกภาพยนตร์เรื่องนี้ดูเพราะมันแนวโรแมนติกซึ่งมันไม่ใช่แนวที่เขาชอบ อาจจะเป็นไปได้ว่าที่เลือกดูก็เพราะใครอีกคนอยากดูมากกว่า



HINPAA TARYN นึกถึงหนังเรื่องหนึ่งเลย



หินผากดเข้าเฟซบุ๊กอีกรอบและไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ของสายน้ำเอาไว้ เขาไม่ได้รอให้อีกฝ่ายตอบกลับเพราะรู้ว่าตอนนี้คงไม่มีใครมานั่งเล่นโทรศัพท์แบบเขาแล้ว เลื่อนสายตาขึ้นไปดูเวลาอีกครั้งก่อนจะลุกจากเตียงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วเดินลากสลิปเปอร์ออกไปที่ห้องนั่งเล่นแทน เปิดโทรทัศน์แล้วเสิร์ชหาภาพยนตร์เรื่องที่เขาเพิ่งนึกถึงไป



ทิ้งตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวแอล คว้าหมอนอิงมากอดเอาไว้และสายตาจับจ้องอยู่บนจอโทรทัศน์ ตอนที่เขาดูเรื่องนี้กับน้องน้ำเขาไม่ได้ตั้งใจดูสักเท่าไหร่เพราะมันไม่ใช่แนวที่เขาชอบแต่ก็พอจับใจความได้ แต่ในวันนี้เขากำลังตั้งใจดูเรื่องนี้อย่างไม่ให้พลาดเลยสักฉากเดียว ขนาดจะลุกไปหยิบน้ำก็ยังกดหยุดเอาไว้ แล้วค่อยกดเล่นต่อตอนที่เดินกลับมาอยู่หน้าโทรทัศน์แล้ว



เกือบสองชั่วโมงตั้งแต่เริ่มเรื่องจนกระทั่งจบเรื่อง



นึกแปลกใจกับตัวเองพอสมควรที่สามารถนั่งดูภาพยนตร์โรแมนติกได้ยาวนานขนาดนี้ แต่พอได้ดูแล้วก็ได้แต่อมยิ้มไปกับความน่ารักของเรื่อง ยิ้มไปกับความตั้งใจ ความพยายามของนางเอกที่อยากจะพัฒนาตัวเองเพื่อคนที่รัก จนท้ายที่สุดความพยายามของนางเอกก็ทำให้ตัวเองสมหวัง



มันเป็นสิ่งเล็ก ๆ เท่านั้นที่นางเอกของเรื่องทำ แต่มันเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก...







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ฟางว่าหนังเรื่องนี้ใครหลาย ๆ คนก็คงได้ดูแหละเนอะ
ขนาดฟางไม่ใช่คนที่ชอบดูหนัง คือ... เรื่องล่าสุดที่ดูในโรงฯ คือนู้น... ซูโทเปียได้มั้ง...
แต่ฟางก็ได้ดูหนังเรื่องนี้นะ แม้จะไม่ได้ดูในโรงฯ ก็ตาม
และฟางก็คิดว่าหนังเรื่องนี้คงเป็นหนังหนึ่งในใจของใครหลาย ๆ คน
แน่นอนว่ารวมไปถึงน้องน้ำกับพี่หินผาด้วย
จากนี้ก็รอว่าเมื่อไหร่เขาจะมานั่งดูหนังเรื่องนี้ด้วยกันอีกน้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-07-2019 22:27:41
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-07-2019 23:18:56
พี่หินนอนดึกนิ เพราะงั้นตอนนี้เลยไม่มีเด็กดีอย่างน้องฟ้าปรากฏ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 12-07-2019 23:22:29
ฮึ่ยยยยย นึกให้ออกเซ่พี่หิน
นึกให้ออก ถ้านึกออกจะมีน้องน้ำเป็นรางวัล อิอิ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-07-2019 23:24:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-07-2019 23:54:57
นึกออกสักทีเนาะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-07-2019 04:51:57
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 13-07-2019 06:34:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 13-07-2019 09:57:03
มะไหร่เพ่หินจะจำน้องน้ำได้สักที ฮื่อออ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "8" [100%] l P.11 12-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 14-07-2019 21:41:02
 ค่อยๆนึกไปจ้าพี่ จะได้รักกันๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 20-07-2019 22:21:03
(https://i.ibb.co/H4qDprH/09.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “9”






เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากหินผาที่กำลังนั่งฟังเพื่อนพรีเซนต์งานอยู่มาที่โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัว เขาหยิบขึ้นมาก่อนจะกดเข้าไปดูในเฟซบุ๊กที่มีการแจ้งเตือนมา



TARA SAINAM WILKINSON ผมว่าผมรู้ว่าพี่หมายถึงเรื่องไหนนะ *อิโมจิใบหน้าครุ่นคิด*



สายน้ำตอบกลับคอมเมนต์ของหินผาที่เขาไปคอมเมนต์เอาไว้จนเป็นเหตุให้เขานั่งดูภาพยนตร์ชื่อดังจนถึงเช้า ปลายนิ้วกดแป้นพิมพ์เพื่อตอบกลับ



HINPAA TARYN แน่ใจเหรอว่ารู้



TARA SAINAM WILKINSON แน่ใจสิครับ ผมรู้ ผมเก่ง



หินผายิ้มขำเมื่อได้อ่านคอมเมนต์ล่าสุดที่ค่อนข้างอวยตัวเองของรุ่นน้องคนนี้ เขากดออกจากเฟซบุ๊กแล้วเข้าแอปฯ ไลน์ส่งข้อความหาสายน้ำในนี้แทน



“ทำไรของมึงอ่ะ” ทัชที่หันมาเห็นเพื่อนสนิทตัวเองนั่งก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์พร้อมรอยยิ้มมุมปากถามอย่างแปลกใจ ปกติหินผาไม่ใช่คนติดโทรศัพท์สักเท่าไหร่พอเห็นนั่งเล่นโทรศัพท์แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องแปลก



คำพูดของทัชไม่ได้เรียกความสนใจแค่จากหินผาแต่เรียกความสนใจจากเดียร์ด้วย “กดโทรศัพท์ไปยิ้มไปนะ”



“เออ นั่นดิ แอบคุยกับใครวะมึงอ่ะ ทำอย่างกับคนมีความรักไปได้” ทัชเสริมต่อจากคำพูดของเดียร์



“จริง” เดียร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับทัชเหมือนกัน



"มีความรักอะไรกัน” หินผาส่ายหน้ายิ้ม ๆ กับความคิดของเพื่อนสนิททั้งสองคน “กูคุยกับสายน้ำอยู่”



คำตอบของหินผาทำเอาสองหนุ่มที่เหลือหันมองหน้ากันทันทีด้วยความแปลกใจ ก่อนที่ทัชจะหันกลับมาถามต่อ “มึงคุยกับน้องบ่อยเหรอวะ”



“หือ... บ่อยนะคุยกันทุกวันนั่นแหละ” หินผาเลิกคิ้วขึ้นกับคำถามของทัช เขาตอบเพื่อนสนิทไปโดยไม่ได้ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์



“คุยกันทุกวันเลย” ทัชทำเสียงเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพื่อนบอก



“อือ ใช่ ทำไมล่ะ”



“พวกกูแค่แปลกใจน่ะเพราะปกติมึงไม่ค่อยติดโทรศัพท์ไง” ทัชบอก “พอรู้ว่ามึงคุยกับน้องมันทุกวันก็เลยแปลกใจ”



“คุยทุกวันแต่ไม่ได้คุยทั้งวันสักหน่อย มึงจะแปลกใจไปทำไม” หินผาส่ายหน้าเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่ทัชกับเดียร์ต้องการจะสื่อ แต่ยังไม่มีใครได้พูดอะไรต่อก็หมดคาบเรียนพอดี อาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้วพวกเขาเลยเริ่มเก็บของก่อนจะทยอยเดินออกจากห้องเรียนไป



“ไปไหนต่อ” ทัชถามหลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนลงมาอยู่ใต้อาคารแล้วเรียบร้อย “กินข้าวไหม”



“ไป ๆ ที่ไหนดี โรงอาหารไหมล่ะคนไม่น่าเยอะแล้วนะตอนนี้” เดียร์ตอบก้มมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเอง



“ก็น่าสน งั้นไปเถอะ”



พอหินผาบอกแบบนั้นทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยทันที เวลาบ่ายโมงกว่าแบบนี้คนไม่ค่อยเยอะจึงมีที่นั่งให้พวกเขาเลือกนั่งได้สบาย ๆ



แวะทักทายรุ่นน้องในคณะตอนเดินผ่านแล้วน้อง ๆ พากันยกมือไหว้ ทัชกับหินผาให้เดียร์นั่งเฝ้าโต๊ะ ส่วนพวกเขาสองคนจะไปซื้อของกินมาให้ เมนูสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเลสามจานถูกหยิบใส่ถาดพวกเขาสั่งเมนูเดียวกันจะได้ไม่ต้องรอนานมาก ทัชเดินไปซื้อน้ำส่วนหินผาก็เดินยกถาดกลับไปที่โต๊ะ



เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าที่โต๊ะไม่ได้มีแค่เดียร์ที่นั่งอยู่แต่ยังมีรุ่นน้องที่คุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่ที่โต๊ะอีก



“สวัสดีครับ / ค่ะ” รุ่นน้องพากันยกมือไหว้เมื่อเห็นหินผาเดินเข้ามาที่โต๊ะ



“ไง” เขาส่งยิ้มกลับไปให้ หยิบจานสปาเก็ตตี้ส่งให้เดียร์กับทัชที่เพิ่งเดินมาถึงและกำลังรับไหว้รุ่นน้องอยู่



หินผานั่งลงตรงข้ามกับเดียร์ซึ่งข้าง ๆ เป็นสายน้ำ ส่วนทัชนั่งข้างเดียร์ “กินอะไรกันหรือยังล่ะพวกเรา” หันมาถามรุ่นน้องทั้งหมดแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่คนข้างตัว



“เรียบร้อยแล้วล่ะครับ” สายน้ำเลยต้องกลายเป็นตัวแทนตอบคำถามแทนเพื่อน ๆ “พวกผมนั่งกันข้างในตอนเดินออกมาเห็นพี่เดียร์นั่งอยู่ก็เลยเดินเข้ามาหาน่ะครับ”



“แล้วมีเรียนต่อหรือเปล่า”



“มีครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ “วิชาประวัติศาสตร์”



“วิชานี้ได้เกรดยากไหมคะ” มะนาวชะโงกหน้ามาถาม



“ไม่ยากหรอกนะ ตอนพวกพี่เรียนก็มีคนได้เอเยอะเลย” เดียร์ตอบคำถามของรุ่นน้อง “ข้อสอบเหมือนจะยากแต่ถ้าอ่านดี ๆ ก็สามารถตอบได้เกือบทุกข้อนั่นแหละ เน้นความจำเพราะวิชานี้ข้อสอบจะเป็นข้อเขียนแค่ไม่กี่ข้อ คะแนนเก็บก็เอาจากการตัดโมเดลน่ะ”



“ตัดโมเดลเหรอครับ” แบงก์ถาม



“ใช่ โมเดลบ้านเรือนไทยอะไรพวกนี้อ่ะแหละ ยากง่ายขึ้นอยู่กับวิธีแต่ละกลุ่ม แต่ถ้าทำออกมาได้สวยก็คะแนนดีสุด ๆ เลย” ทัชพยักหน้าให้รุ่นน้อง “เดี๋ยวก็คงจะได้ทำนั่นแหละ เรียนวิชานี้ต้องตัดโมเดลบ้านไทยไม่งั้นจะถือว่าไม่ได้เรียน”



“ฟังดูน่าจะยากนะคะ ตัดโมเดลเป็นบ้านเรือนไทย ใช้กระดาษชานอ้อยตัดเหรอคะ” เบลถามบ้าง



“แล้วแต่จะใช้เลย ตอนพวกพี่ทำพี่ใช้ไม้บัลซ่าทั้งหมด ตัดยากมากทำไม้พังไปเยอะมาก”



“เอาไว้อาจารย์สั่งงานแล้วก็มาบอกพี่สิ เดี๋ยวพวกนี้ไปช่วยตัดช่วยดูให้” เดียร์พูด “ตอนพี่อยู่ปีหนึ่งก็ได้รุ่นพี่เขามาช่วยเหมือนกัน”



น้อง ๆ พากันเอ่ยขอบคุณก่อนจะขอตัวไปเรียนต่อทั้งห้าคนเลยยกมือไหว้รุ่นพี่อีกรอบก่อนจะเดินออกจากโรงอาหารไป ส่วนทัช เดียร์แล้วก็หินผายังนั่งอยู่ที่เดิมหลังจากที่จัดการกับสปาเก็ตตี้หมดกันไปแล้ว



“แล้วเดียร์กลับยังไง” หินผาถามเพื่อนตัวเล็ก ในพวกเขาสามคนเดียร์เป็นคนเดียวที่ไม่มีรถและขับรถไม่เป็น เวลาไปไหนมาไหนก็มักจะเกาะติดกับทัชเพราะอยู่คอนโดเดียวกัน แต่หลังจากที่มีแฟนก็ได้แฟนรุ่นพี่นี่แหละคอยเทียวรับเทียวส่ง “พี่กันต์ติดประชุมไม่ใช่เหรอ ให้ไปส่งไหมทัชจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ”



เดียร์พยักหน้า “ใช่ พี่กันต์มีประชุมแต่เดี๋ยวกลับกับทัชได้”



“เดี๋ยวกูแวะไปส่งก่อนกลับบ้าน มึงจะได้ไม่ต้องวนรถไปวนรถมา” ทัชพูด คอนโดที่หินผาพักอยู่ไปคนละทางกับคอนโดของทัชและเดียร์ แม้ความจริงจะไม่ได้ไกลกันมาแต่ถ้าหินผาขับรถไปส่งเดียร์ก็จะต้องวนรถไปวนรถมาเสียเวลามากกว่าเดิมเสียอีก



“โอเค อย่างนั้นก็ตามนั้น”



พวกเขาสามคนแยกกันตรงหน้าโรงอาหารหินผาเดินไปยังอาคารห้องสมุดเพราะเขายังไม่อยากกลับห้อง งานก็ยังไม่มีชิ้นไหนต้องเร่งส่งอีกอย่างเขาก็ทำไปได้เยอะแล้วเลยไม่รีบเร่งเท่าไหร่ เลยตั้งใจว่าจะไปหาหนังสืออ่าน ไม่ก็ไปแอบงีบในห้องสมุดสักสองสามชั่วโมงก่อนกลับห้อง



หินผาแตะบัตรนักศึกษาตรงเครื่องแสกนเพื่อที่จะเข้าไปข้างในห้องสมุด เขาเดินไปยังโซนหนังสือพวกวรรณกรรม จริง ๆ แล้วเขาอ่านหนังสือได้หลายแนวแต่ที่อ่านบ่อยจะเป็นพวกหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมต่าง ๆ มีบ้างที่จะอ่านนิยายหรือวรรณกรรม เพราะหนังสือพวกนี้ที่บ้านแฝดสามหลังก็มีเยอะพอสมควร



เขาสุ่มเลือกมาหนึ่งเล่มก่อนจะเดินไปริมห้องซึ่งบริเวณนี้จะจัดโซนที่นั่งเป็นโต๊ะกลมเตี้ย ๆ เก้าอี้ก็เป็นเบาะบีนแบคขนาดใหญ่แทน เวลามาห้องสมุดหินผามักจะชอบมานั่ง ๆ นอน ๆ อ่านหนังสือบริเวณนี้เนื่องจากคนไม่ค่อยมี เพราะว่าอีกฝั่งของห้องสมุดนี้มีจัดโซนเป็นเบาะบีนแบคอีกหลายตัว และตรงนั้นจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ มีเพียงแค่ตู้หนังสือเตี้ย ๆ วางเอาไว้เหมือนเป็นการกั้นอาณาเขตเท่านั้น คนเลยมักจะไปอยู่ตรงนั้น กับห้องมีตติ้งกันเสียมากกว่า



เจ้าตัววางกระเป๋าข้างโต๊ะกลมทิ้งตัวลงนั่งบนบีนแบคหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่น หินผาวางหนังสือเล่มที่หยิบมาไว้บนโต๊ะไม้ ปกสีฟ้าตัดกับสีของโต๊ะไม้เป็นอย่างดีเจ้าตัวเลยเปิดโหมดกล้องถ่ายรูปแล้วถ่ายภาพหนังสือนั้นเอาไว้ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วหยิบหนังสือมาอ่านเล่นแทน



ไม่แน่ใจว่าหินผาจดจ่อกับการเปิดหน้ากระดาษมานานแค่ไหนแล้ว เขาจดจ่อกับมันมากจนไม่สนใจ ไม่ได้ยินเสียงของคนเดินไปเดินมาเพื่อเลือกหนังสือ ไม่ได้รับรู้เลยว่ามีใครบางคนมานั่งลงที่โต๊ะเดียวกันกับเขา ไม่รู้เลยว่าใครคนนั้นแอบถ่ายรูปเขาตอนกำลังอ่านหนังสืออยู่



สายน้ำได้แต่อมยิ้มตอนที่มองภาพของหินผาในโทรศัพท์ของตัวเอง แม้ว่าเจ้าตัวจะนั่งอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้แต่เขาก็ไม่กล้ามองตรง ๆ กลัวว่าสายตาของเขาจะไปรบกวนสมาธิในการอ่านหนังสือของหินผาเข้า เขาเลยเลือกที่จะนั่งเงียบ ๆ ทำตัวเงียบ ๆ และอ่านหนังสือที่ตัวเองพกติดมาด้วยอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน



โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นครืดคราดดึงสมาธิในการอ่านหนังสือของหินผาให้หลุด เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากดดู ในจังหวะนั้นสายตาของเขาจึงได้หันไปเห็นใครอีกคนที่นั่งอยู่ด้วย ยอมรับว่าตกใจจนหัวใจเกือบล่วงไปถึงตาตุ่ม ตอนแรกเขานั่งอยู่คนเดียวแท้ ๆ แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็มีคนมานั่งด้วยเสียอย่างนั้น ดีที่เขาไม่เผลอส่งเสียงร้องออกไป



แต่ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาตกใจกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะอีกฝ่ายนั่งพิงผนังห้องหลับคอพับไปแล้วทั้ง ๆ ที่ในมือยังถือหนังสือเอาไว้อยู่เลย ใบหน้าหล่อเหลาหลับพริ้มจนหินผานึกอยากจะแกล้งให้ตื่นเพราะมันเขี้ยว โทษฐานที่ทำให้เขาตกใจ



ไวเท่าความคิดมือหนาก็เอื้อมมือไปบีบจมูกของคนอายุน้อยกว่าทันที คนโดนก่อกวนขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก หันหน้าหนีอย่างรำคาญก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา



“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” หินผาถามออกไปทันทีเมื่อเห็นว่าสายน้ำตื่นขึ้นมาแล้ว



คนถูกถามก้มลงดูเวลา “ก็เกือบชั่วโมงแล้วครับ”



“นานขนาดนั้นเลย”



สายน้ำพยักหน้ารับ “ตอนแรกก็จะทักพี่อยู่แหละครับแต่เห็นพี่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือผมเลยไม่อยากกวน พี่ดูจดจ่อแล้วก็มีสมาธิกับหนังสือมากเลยขนาดคนเดินไปเดินมาหยิบหนังสือกันพี่เหมือนจะไม่ได้ยินเสียงพวกนั้นเลย”



“สงสัยหนังสือเล่มนี้คงจะน่าสนใจมากไปหน่อย เวลาเจอหนังสือหรืออะไรน่าสนใจพี่มักจะจดจ่อกับมันมาก ๆ” หินผาตอบพร้อมกับหัวเราะ “แล้วนี่ไม่มีเรียนแล้วเหรอ”



“ครับ แต่ผมยังไม่อยากกลับห้องก็เลยว่าจะมานั่งเล่นที่นี่ก่อนแล้วก็มาเจอพี่พอดีนี่แหละครับ เลยถือวิสาสะนั่งด้วยเลย”



“เราสองคนนี่หัวอกเดียวกันเลยนะ พี่ก็ยังไม่อยากกลับห้อง” หินผาหัวเราะเมื่อเจอรุ่นน้องที่มีเหตุผลเดียวกัน “กลับไปอยู่คนเดียวก็เหงา ๆ มานั่งตากแอร์ที่ห้องสมุดแบบนี้ดีกว่า”



“พี่อยู่คนเดียวเหรอครับ” สายน้ำถาม



“ไม่ให้พี่อยู่คนเดียวแล้วจะให้พี่อยู่กับใครล่ะ ถามแปลกนะเรา”



“ก็... นึกว่าพี่อยู่กับฟ... แฟนอะไรแบบนี้ไงครับ” สายน้ำคอยส่องเฟซบุ๊กของหินผาตลอด ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายลงรูปคู่หรือคนที่คิดว่าจะเป็นแฟนติดแท็กอะไรมาเลย เขาเลยคิดว่าหินผาน่าจะยังไม่มีคนรัก แต่ก็ไม่มั่นใจ พอมีจังหวะให้ถามก็เลยอดที่จะถามออกไปไม่ได้



“พี่ยังไม่มีแฟน” หินผาตอบ “ว่าแต่เราล่ะ ไม่มีแฟนเหรอ”



สายน้ำส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเม้มปากเพื่อกลั้นรอยยิ้มดีใจของตัวเองเอาไว้ “ผมก็ยังไม่มีครับ คงอีกนานด้วยแหละ”



“หือ... ขนาดนั้นเลย พี่ว่าถ้าสาว ๆ รู้ข่าวว่าเดือนมหา’ลัยยังไม่มีแฟน คงมีสาว ๆ มาต่อแถวขอเป็นแฟนเป็นสิบคน” หินผาแซวคนตรงหน้า “จริงสิ เพลงที่เราแชร์เอาไว้เพราะดี นึกถึงหนังที่เคยดูตอนเด็ก ๆ เลย เมื่อเช้าพี่ก็นั่งดูจนจบเรื่อง”



สายน้ำชะงักไปนิดก่อนจะพูด “พี่หินผาดูหนังแนวนี้ด้วยเหรอครับ”



หินผาพยักหน้ารับกับคำถามนั้น “เคยดูตอนเด็ก ๆ กับน้องที่รู้จักกัน ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจดูเท่าไหร่หรอกไม่ใช่แนวของพี่ แต่พอมาได้ยินเพลงที่เราแชร์ก็ทำให้นึกถึงก็เลยเปิดดูใหม่ เรารู้จักหนังเรื่องนั้นด้วยเหรอ”



“รู้จักสิครับ หนังเรื่องนี้เข้าฉายก่อนที่ผมจะย้ายไปต่างประเทศนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ดูตอนที่หนังฉายอยู่ในโรงฯ ก็เถอะครับ เป็นหนังที่ดีแล้วก็สนุกมากเลยครับพี่หินผา” สายน้ำตอบ ในใจนึกอยากจะพูดต่อไปอีกว่าก็เขานี่แหละ... น้องคนนั้นที่หินผานั่งดูภาพยนตร์อยู่ด้วยกันในบ้านของอีกฝ่าย แต่ฝั่งเจ้าของบ้านน่ะดูไปสัปหงกไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังนั่งข้าง ๆ ไม่ไปไหน



“สายน้ำ”



“ครับ...” สายน้ำขานรับเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อของเขาแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เอาแต่มองหน้าเขานิ่ง “ม มีอะไรเหรอครับ”



“จะว่าไปนะ... เราน่ะชื่อเหมือนน้องคนนั้นเลย”



“ครับ!” หัวใจของสายน้ำเต้นรัวตอนที่ได้ยิน



“น้องที่พี่บอกไง คนที่พี่นั่งดูหนังเรื่องนี้ด้วยกัน เขาก็ชื่อสายน้ำ ชื่อเหมือนเราเลย ตอนนั้นที่ดูหนังจบเขาก็พูดแบบนี้ แบบที่เราพูดเมื่อกี้เลย” หินผาพูด อยู่ ๆ ก็นึกถึงตอนนั้นขึ้นมาได้เหมือนกับเป็นภาพที่ซ้อนทับขึ้นมา



“อ อ่า...”



“บางทีพี่ก็แอบคิดนะว่าเราใช่น้องคนนั้นหรือเปล่า แต่เราน่ะทั้งสูงทั้งหน้าตาหล่อต่างจากน้องคนนั้นมากเลย” พูดไปเจ้าตัวก็หัวเราะไปกับความคิดของตัวเอง “พี่นี่บ้าเนอะ”



สายน้ำได้แต่กำมือแน่นอย่างพยายามกลั้นอารมณ์ของตัวเองที่ทั้งขำทั้งโมโห นึกเห็นด้วยอยู่ในใจว่าพี่น่ะ... บ้าจริง ๆ อยากจะถอนหายใจออกมาดัง ๆ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มออกมา พลางนึกไปถึงข้อความที่ป่าไม้ส่งมาหาเมื่อหลายวันก่อน



PAMAI ARCH
*สติ๊กเกอร์ถอนหายใจ*
ทำใจหน่อยนะสายน้ำ
น้องชายพี่มันซื่อบื้อกว่าที่พี่คิดอีกว่ะ
ถ้าอยากให้มันจำได้ก็ใบ้มันเยอะ ๆ
ไม่ก็บอกมันไปตรง ๆ เลยว่าเราคือใคร
รอให้มันรู้เองคงอีกหลายปี แม่งบื้อชิบหายเลย
อยากจะด่ามันเป็นภาษาเหนือ
ไอ้ง่าว!!







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

อย่าด่าพี่หินเยอะ พี่หินนึกตามไม่ทันนนน~~
น่าสงสารน้องน้ำเสียจริง เอาน่ะ! ให้เวลาพี่เขาอีกนิ๊ดหนึ่งนะ
ถ้าพี่เขาไม่ฉลาดขึ้นเดี๋ยวให้น้องด่าเลย 5555

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาพอดีฟางไม่สบายค่ะ เลยไม่ได้มาอัปเลย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝน เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวร้อน
ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน
เป็นห่วงจ้า ^^

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-07-2019 22:49:04
 :pig4: :pig4: :pig4:

คนเรารูปร่างหน้าตามันจะไม่เปลี่ยนแปลงกันเลยหรือไงหนอพี่หินผา?
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 20-07-2019 22:53:52
แอบเห็นด้วยกับข้อความที่ป่าไม้ส่งมาให้น้อง

ถ้ารอให้หินผานึกได้เองคงอีกนาน 5555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 20-07-2019 23:19:17
เอาใจช่วยพี่หินนะ :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-07-2019 23:36:08
อีกนานไหมกว่าพี่หินจะนึกออก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-07-2019 02:48:30
เอาแล้วววววว น้องจะทำยังไงๆๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 21-07-2019 05:14:12
อ่านไปก็ได้แต่คิดว่า อีกนานมั้ยอะพี่หินผา อีกนานมั้ยจะจำน้องได้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 21-07-2019 08:11:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 21-07-2019 09:38:58
โอ้ยยยย พี่หินนน อีกนิ๊ดดดดเอง
ทำไมน้าาาา สงสารน้องงงง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-07-2019 16:57:10
ใครจะไปรู้เนาะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 21-07-2019 20:26:44
ผมอินมากเลย......ชอบมากเลยฮะ  ยังไงก็มาต่ออีกนะคับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [40%] l P.11 20-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 22-07-2019 19:37:21
โอ๊ยยยยน้ออออ​  อิตาผาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.11 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-07-2019 21:57:13
(https://i.ibb.co/H4qDprH/09.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “9”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






คนตัวเล็กนั่งจ้องโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพยนตร์ไทยชื่อดังด้วยความสนอกสนใจ หมอนอิงที่อยู่บนตักถูกกอดเอาไว้แน่นตอนมาถึงฉากน่ารัก ๆ เจ้าตัวอยากจะยิ้มออกมากับความน่ารักของพระนางแต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้ ด้วยความกลัวว่าใครมาเห็นจะหาว่าเขาบ้าที่มานั่งยิ้มไปดูโทรทัศน์ไปแบบนี้



เจ้าตัวหันไปมองคนที่นั่งดูอยู่ด้วยกันก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลับคอพับคออ่อนพิงเบาะของโซฟาไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะนั่งดูอยู่ในห้องนั่งเล่นแต่ก็เลือกนั่งที่พื้นเอาหลังพิงโซฟามากกว่าขึ้นไปนั่งดูบนโซฟา คนหลับถึงได้แหงนหน้าพิงเบาะไปแบบนั้นจนคนตัวเล็กกลัวว่าจะเมื่อยคอไปเสียก่อน



“พี่หินผา พี่หินผา” มือเล็กวางแปะบนแขนของคนอายุมากกว่าเขย่าเบา ๆ เพื่อปลุกคนหลับให้ตื่นขึ้นมา



เอ่ยเรียกอยู่สามสี่ครั้งคนหลับก็สะดุ้งตื่น เจ้าตัวทำหน้าตาเหลอหลาก่อนจะยกมือลูบหน้า พอเห็นว่ามีคนมองอยู่ก็ยิ้มออกมา “ส สายน้ำ ห หนังจบแล้วเนอะ”



“ครับ จบแล้ว พี่ได้ดูไหม” ถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว



“ด ดูดิ โธ่... พี่ก็ดูตั้งแต่ต้นเรื่องนั่นแหละ พ เพิ่งมาหลับตอนหลัง ๆ นี้เอง” คนหลับพูดติดขัดเพราะจริง ๆ แล้วเขาน่าจะหลับไปตั้งแต่ต้นเรื่องเลยด้วยซ้ำ เพราะจำอะไรแทบไม่ได้เลย มีบ้างบางช่วงที่สะลึมสะลือตื่นมาดู แต่ก็แค่แปบเดียวเท่านั้นก็หลับต่อ



“เป็นหนังที่ดีแล้วก็สนุกมากเลยครับพี่หินผา” สายน้ำพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้คนมองยิ้มตาม ยกมือขึ้นวางบนผมของคนอายุน้อยกว่าแล้วยีไปมาอย่างเอ็นดู ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วอายุของพวกเขาก็ห่างกันแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น แต่หินผารู้สึกว่าสายน้ำนั้นยังเป็นเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวกำลังจะเรียนจบชั้นประถมแล้วด้วยซ้ำ



หินผาหันไปดูเวลาก่อนจะตาโตด้วยความตกใจเพราะตอนนี้มันดึกมาแล้ว “ดึกขนาดนี้แล้ว ไปนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องตื่นไปเรียนแต่เช้าด้วย”



“ครับ”



“ไป ๆ ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเลยเรา น้ำก็ยังไม่ได้อาบบอกให้อาบก่อนดูหนังก็ไม่เชื่อพี่” หินผาเอ่ยไล่คนที่ยังไม่อาบน้ำให้ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน เอ่ยย้ำอีกรอบเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะแย้ง “ตรงนี้พี่เก็บเอง ไปอาบน้ำนอนเลย”



“ก็ได้ครับ” สายน้ำรับคำก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน



ขาที่ก้าวขึ้นบันไดหยุดชะงักก่อนจะหันกลับมาแอบมอง สายน้ำอมยิ้มเมื่อเห็นคนพี่เก็บของไปหาวไป เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ชอบหรอกภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกแบบนี้ แต่เพราะเขาอยากจะดู ถึงได้ยอมนั่งเป็นเพื่อน



รู้ว่าหินผาหลับไปตั้งแต่เปิดดูไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รู้ว่าเบื่อแต่ก็ยังยอมนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน รู้ว่าคนคนนี้ใจดีมากแค่ไหน



ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว...



ตั้งแต่ที่ทิ้งจักรยานวิ่งมาดูเขาที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างทางเพราะโดนแกล้ง พาเขาไปทำแผล พูดปลอบและอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหน จนมาส่งเขาที่บ้าน



และหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นสายน้ำกับหินผาก็มีโอกาสได้เจอกันอีกบ่อย ๆ บ้านของสายน้ำเปิดสอนดนตรีไทย นาฏศิลป์ ในสัปดาห์ถัดมาหินผาก็มาที่บ้านของสายน้ำพร้อมพี่ชายและแม่ เพื่อมาสมัครเรียนดนตรีไทยที่บ้านของสายน้ำ หลังจากนั้นพวกเขาก็เลยสนิทสนมกันมากเพราะรุ่นราวคราวเดียวกัน อีกทั้งยังคอยปกป้องแล้วก็ดูแลเวลาสายน้ำโดนแกล้งด้วย สายน้ำเลยค่อนข้างติดอีกฝ่าย



รวมไปถึงทางผู้ใหญ่ก็สนิทสนมกันจึงมีอยู่บ่อยครั้งที่หินผาไปค้างบ้านสายน้ำ หรือสายน้ำมาค้างบ้านหินผาเหมือนกับวันนี้



“เช็ดผมให้แห้งด้วย” คนอายุมากกว่าพูดเมื่อเห็นสายน้ำเดินหัวเปียกออกมาจากห้องน้ำ



“คร้าบ...” เจ้าตัวลากเสียงยาวเหมือนต้องการจะกวนเล่น หัวเราะพลางเอี้ยวตัวหลบหินผาที่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาแกล้ง “พี่เข้าไปอาบน้ำได้แล้วครับ บอกแต่น้ำให้รีบอาบน้ำ ๆ ตัวเองก็ยังไม่อาบเหมือนกัน”



“แล้วใครอยากให้พี่นั่งดูหนังด้วยกัน” เจ้าของห้องคว้าผ้าเช็ดตัวมาพาดไหล่พลางหันมามองคนที่จะมาอาศัยด้วยในคืนนี้



“น้องน้ำเอง” ยกมือขึ้นเป็นการบอกว่าเป็นความต้องการของตัวเอง สายน้ำยิ้มกว้างตอนเห็นหินผาส่ายหน้าคล้ายจะระอา “ไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวจะได้มานอน”



“เช็ดผมให้แห้งด้วย” ย้ำอีกรอบก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำบ้าง



สายน้ำนั่งแกว่งขาเช็ดผมตัวเองอยู่ปลายเตียงจนผมเริ่มแห้งถึงได้เดินเอาผ้าขนหนูไปตากเอาไว้ตรงระเบียงก่อนจะเดินกลับมานั่งรอเจ้าของห้องที่ยังอยู่ในห้องน้ำอยู่



“บอกให้น้ำเช็ดผมให้แห้ง ตัวเองน่ะไม่เคยจะเช็ดหรอก เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกครับ” คนตัวเล็กบ่นออกมาทันทีเมื่อเห็นเจ้าของห้องเดินหัวเปียกออกมาจากห้องน้ำ สภาพไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่



“ขี้บ่น ตัวแค่นี้แต่บ่นเก่งจริง” หินผาว่ายิ้ม ๆ



“น้ำบ่นเพราะเป็นห่วงหรอกครับ มานั่งนี่เลยเดี๋ยวน้ำเช็ดผมให้” สายน้ำดึงมือของคนอายุมากกว่าให้มานั่งที่เตียงก่อนที่เขาจะจัดการเช็ดผมให้จนแห้ง








“เช็ดผมให้แห้งก่อนสิครับ เดี๋ยวไม่สบายไปหรอก” ไม่พูดเปล่าแต่เจ้าของเสียงก้าวขาเข้ามาใกล้คนที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาในโซนห้องนั่งเล่นของคอนโดก่อนจะจัดการคว้าผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนไหล่เจ้าของห้องขึ้นมาเช็ดผมให้



หินผาเงยหน้าขึ้นมามองทำให้มือที่กำลังจับผ้าขนหนูเพื่อเช็ดผมให้เขาหยุดชะงัก สายน้ำรีบปล่อยมือออกทันที “ข ขอโทษทีครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ค คือ... คือว่าผม...”



“ใจเย็น ๆ” หินผาพูด ยิ้มขำกับท่าทางของรุ่นน้องปีหนึ่งคนนี้ “พี่ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ ค่อย ๆ พูด”



สายน้ำยิ้มแหยเขาเอามือไพล่หลังพลางกำชายเสื้อด้านหลังเอาไว้แน่น “คือ... ผมจะบอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจน่ะครับ คือ... เห็นผมพี่ยังไม่แห้งล แล้วมันก็เป็นความเคยชินก็เลยเผลอไปเช็ดผมให้น่ะครับ”



“พี่ไม่ได้ว่าอะไร ขอบใจมาก” หินผาว่าพลางยกผ้าขนหนูที่ยังคล้องอยู่ที่คอขึ้นเช็ดผมต่อ



ส่วนสายน้ำก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ เขาเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวที่วางอยู่ข้างโซฟาที่หินผานั่งพยายามเพ่งสมาธิและความสนใจกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง พยายามที่จะไม่หันไปมองรอบ ๆ ห้อง



สายน้ำก็ยังไม่แน่ใจแล้วก็งงกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้มาอยู่ที่ห้องของหินผาได้ ในเวลามืดค่ำแบบนี้ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะนอนอยู่ที่ห้องแล้ว ก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อตอนเย็นหลังจากที่พวกเขาเดินออกจากห้องสมุด หินผาเอ่ยชวนรุ่นน้องคนนี้ไปกินข้าวด้วยกันตรงร้านใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย แต่ระหว่างที่กำลังจะกลับฝนก็เทลงมาอย่างหนักจนเปียกกันไปทั้งตัว หินผาเลยพาสายน้ำมาที่ห้องของตัวเอง เลยกลายเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสายน้ำถึงได้มานั่งอยู่ในห้องของคนที่ตัวเองแอบชอบแบบนี้



อยู่ในห้องของหินผา ในชุดของหินผาที่อีกฝ่ายหามาให้เพื่อให้เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า



“ดูท่าเราน่าจะเป็นคนชอบดูแลคนอื่นนะ” หินผาพูด



“ครับ” สายน้ำหันไปมองอย่างงง ๆ ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายชี้ไปที่ผมของตัวเองเป็นการบอกว่าหมายถึงเรื่องไหน “จริง ๆ ก็ไม่ถึงกับชอบดูแลคนอื่นหรอกครับ แต่ถ้ากับคนที่สนิทกันก็จะดูแลอยู่บ้าง อีกอย่างเมื่อก่อนพี่... ที่สนิทกันเขาชอบอาบน้ำสระผมตอนดึก ๆ แต่ไม่ยอมเช็ดผมให้แห้ง ผมก็เลยต้องคอยเตือนตลอด ก็เลยชินน่ะครับ”



“เหมือนกับพี่เลย พี่ไม่ค่อยชอบเช็ดผม ขี้เกียจเลยมักจะปล่อยให้มันแห้งไปเอง จริง ๆ ก็มีคนเตือนบ่อย ๆ ว่าไม่ดี แต่ก็ขี้เกียจอยู่ดีนั่นแหละ”



“คนที่เขาเตือนก็พูดถูกแล้วล่ะครับ นอนทั้งผมเปียก ๆ เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดีครับ” สายน้ำพูดก่อนจะหันไปมองด้านนอก สายฝนยังคงเทลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อกี้ในโทรทัศน์ก็ออกข่าวว่ามีพายุเข้า ดูท่าแล้วฝนคงจะไม่หยุดตกง่าย ๆ แน่นอน “ฝนยังตกอยู่เลย”



“น่าจะอีกนานกว่าจะหยุด คืนนี้เราค้างห้องพี่ก่อนก็ได้ พรุ่งนี้มีเรียนอะไรหรือเปล่า”



“ม ไม่มีเรียนครับ” สายน้ำตอบ “แต่ถ้าฝนหยุดตก ด เดี๋ยวผมกลับห้องก็ได้ครับ จะได้ไม่รบกวนพี่”



“ไม่รบกวนหรอก ดูแล้วคงไม่หยุดตกง่าย ๆ หรอก”



“ถ ถ้าอย่างนั้น... รบกวนด้วยนะครับ” เพราะดูแล้วฝนคงจะไม่หยุดตกง่าย ๆ อย่างที่พูดสายน้ำเลยตัดสินใจตอบรับไป เพราะจะฝ่าฝนไปตอนนี้ก็คงจะไม่ไหว



“ไม่รบกวนอะไรหรอกน่า”



พวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันต่อโชคดีที่เจ้าของห้องเปิดโทรทัศน์ดูข่าวอย่างน้อยภายในห้องก็ไม่ได้เงียบหรืออึดอัดจนเกินไป มีบ้างที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวต่าง ๆ ที่ผู้รายงานข่าวกำลังนำเสนอ



“โฮ... ดีจังแหะ น่าดีใจแทนเขาเนอะได้เจอคุณพ่อสักที” สายน้ำพูดระหว่างที่นั่งฟังข่าวของนักแสดงคนหนึ่งที่ประกาศข่าวดีว่าตัวเองได้พบกับพ่อผู้ให้กำเนิดแล้วทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเจอมาตลอดเวลาหลายสิบปี “ขนาดผมไม่ได้เจอเพื่อน ๆ ตอนอยู่เชียงใหม่ไม่กี่ปียังคิดถึง ยังอยากเจอเลย เขาคงมีความสุขมากเลยนะครับ”



“ก็คงจะอย่างนั้นนะ ได้เจอคนที่อยากเจอ ใคร ๆ ก็คงจะมีความสุขนั่นแหละ”



“พี่...” สายน้ำลังเลที่จะถาม แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะถามออกไป “พี่เคยอยากเจอใครมาก ๆ บ้างไหมครับ แบบ... คนที่เคยรู้จักกันแต่ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วอะไรแบบนี้”



“มีสิ” หินผาพยักหน้าทันทีกับคำถามของสายน้ำ “คนที่พี่บอกไง รุ่นน้องที่พี่สนิทด้วยตอนเด็ก ๆ ที่บอกว่าชื่อเหมือนเราน่ะ พี่อยากเจอเขามาก ๆ เลยนะ”



“ย อย่างนั้นเหรอครับ” หัวใจของสายน้ำเต้นแรงด้วยความดีใจและความตื่นเต้น



“ไม่รู้ว่าป่านนี้จะโตขนาดไหนแล้ว ตอนเด็ก ๆ ตัวเล็กนิดเดียว ตัวเล็กกว่าพี่ตั้งเยอะขนาดตอนอยู่ป.ห้า ป.หกยังตัวเล็กเหมือนเพิ่งขึ้นป.หนึ่ง ป.สอง แถมยังโดนคนอื่นแกล้งบ่อย ๆ เพราะตัวเล็ก หน้าตาน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง”



“พี่เลย... คอยปกป้องเขาสินะครับ”



หินผาพยักหน้า “ใช่ เจอครั้งแรกก็ร้องไห้เพราะโดนแกล้ง เจอครั้งต่อ ๆ มาก็ร้องไห้เพราะโดนแกล้ง พี่กับพี่ชายเลยต้องคอยดูแล คอยปกป้องตลอด สนิทกันมาก ๆ เลยนะตอนนั้น น่าเสียดายตอนเขาจะย้ายมันกะทันหันมาก ได้คุยกันแค่ไม่กี่ประโยค แถมพี่มาย้ายบ้านอีกข้อมูลติดต่อของเขาก็เลยหายไปด้วยเลยตอนนั้น”



“น่าเสียดายนะครับ” สายน้ำเม้มปาก เพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าหินผาย้ายบ้าน ข้อมูลพวกเบอร์โทรศัพท์ของเขาถึงได้หายไป ตอนนั้นค่อนข้างเร่งรีบสายน้ำเลยเขียนข้อมูลติดต่อของตัวเองให้ไปโดยไม่ได้ขอของอีกฝ่ายมาด้วย



อีกอย่างในตอนนั้นทั้งสายน้ำและหินผาก็ยังไม่มีโทรศัพท์เป็นของตัวเอง อีเมลสายน้ำก็ยังไม่มี ยังใช้ไม่เป็นด้วยซ้ำไป พวกเขาเลยขาดการติดต่อกันไปโดยปริยาย



“เบอร์ก็ไม่มี อีเมลก็ไม่มี พี่เลยไม่ได้ติดต่อกับน้องเขาอีก แต่พี่ก็อยากเจอตลอดนะ ตามที่สัญญาเอาไว้ว่าจะรอ”



‘พี่สัญญา พี่จะรอน้ำกลับมานะ’



‘แน่นอนสิ พี่สัญญาเลยว่าพี่จะรอเรา จนกว่าเราจะกลับมา’



‘สัญญา...’




“พี่ว่า... ตอนนี้น้องคนนั้นเขาจะเป็นยังไงบ้างเหรอครับ ในความคิดของพี่น่ะ”



หินผาทำหน้าครุ่นคิดตอนสายน้ำถาม “อือ... ตอนเด็ก ๆ เขาน่ารักมาก โตมาก็คงไม่ต่างจากเดิมหรอกมั้ง น่าจะตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักเหมือนเดิม แต่ก็หวังว่าจะไม่โดนเพื่อนหรือใคร ๆ แกล้งอีกก็แล้วกันนะ ไม่รู้ว่าจะมีคนคอยช่วยหรือเปล่า”



“อ่อ... ครับ” สายน้ำได้แต่รับคำกับคำตอบของหินผา



ไม่มีใครพูดอะไรอีกเพราะตอนนี้สายตาของหินผาจับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ที่เอาภาพยนตร์แนวแฟนตาซีมาฉาย ส่วนสายน้ำก็กดโทรศัพท์ไป สลับกับดูโทรทัศน์ไปด้วยจนกระทั่งภาพยนตร์จบเรื่อง



“ง่วงหรือยังเรา” หินผาหันมาถามเพราะกว่าภาพยนตร์จะจบก็เข้าสู่วันใหม่แล้วเรียบร้อย



“เอ่อ... ครับ” สายน้ำที่ปกติแล้วไม่ใช่คนนอนดึกเท่าไหร่ตอบพร้อมกับยิ้มแห้ง เขาหาวไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว แถมยังเกือบหลับไปหลายรอบแต่ก็ไม่กล้าบอกเจ้าของห้องเพราะอีกฝ่ายกำลังสนใจกับภาพยนตร์ที่เพิ่งจบไป เลยต้องฝืนนั่งง่วง ๆ อยู่เป็นชั่วโมง



“งั้นไปนอนกันเถอะ ดึกมากแล้ว” หินผาลุกขึ้นยืน กดปิดโทรทัศน์



“เอ่อ... ผมนอนตรงโซฟานี้ก็ได้นะครับ”



“นอนโซฟามันจะสบายได้ยังไง ไปนอนในห้องนี่แหละ สบายกว่า ไปเร็ว” หินผาคว้าคอของน้องมากอดเอาไว้ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งลากสายน้ำให้เดินตามเข้ามาในห้องด้วยกัน



หัวใจของสายน้ำเต้นแรงขึ้นเมื่อขาของเขาก้าวเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของหินผา แต่ก็พยายามที่จะรักษาอาการของตัวเองให้เป็นปกติ เขากวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจและเก็บภาพทุกอย่างภายในห้องนี้เอาไว้ คงไม่ได้มีโอกาสได้เข้ามาที่ห้องนอนของหินผาบ่อย ๆ



หินผาเปิดไฟตรงหัวเตียงเพื่อให้ภายในห้องพอมีแสงสว่าง เจ้าของห้องขึ้นไปนั่งฝั่งหนึ่งของเตียงก่อนจะเรียกสายน้ำให้มานอนเพราะอีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ตรงประตูห้องนอน สายน้ำได้แต่เดินไปอีกฝั่งค่อย ๆ หย่อนตัวเองลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ของหินผา โชคดีที่หินผามีผ้าอีกผืนเขาเลยไม่ต้องนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับหินผาในหัวใจทำงานหนัก และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ สายน้ำคิดว่าคืนนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่นอน



"พี่ปิดไฟเลยนะ”



“ครับ”



ทั้ง ๆ ที่นั่งฝืนความง่วงของตัวเองอยู่ที่ห้องนั่งเล่นมาเป็นชั่วโมง แต่เมื่อล้มตัวลงนอนแล้วแทนที่จะหลับในทันที สายน้ำกลับนอนไม่หลับได้แต่นอนลืมตาโพลงมองเพดานห้องของหินผาอยู่แบบนั้น ส่วนเจ้าของเตียง เจ้าของห้องนั้นหลับไปแล้ว



สายน้ำขยับตัวหันไปหาหินผาที่นอนหลับอยู่แล้วหันหน้ามาทางนี้พอดี พอลืมตาอยู่ในความมืดมาสักพักแล้ว สายตาของสายน้ำจึงเริ่มชินกับความมืดจนสามารถมองเห็นหินผาได้ ตอนนี้ภายในใจและในความคิดของสายน้ำทุกอย่างมันตีกันจนวุ่นวายไปหมด วุ่นวายจนเจ้าตัวชักเหนื่อยที่จะคิด



มีหลายครั้งที่ความคิดที่อยากจะบอกกับหินผาว่าตัวเองเป็นใครผุดขึ้นมา หลายครั้งที่เขาคิดอยากจะบอก ๆ ออกไปเลยตามคำแนะนำของป่าไม้ และ... ตามความต้องการของตัวเอง เพราะหลายครั้งที่สายน้ำอยากพูดคุย อยากอยู่ข้าง ๆ หินผาในฐานะน้องน้ำคนเดิม ไม่ใช่สายน้ำ... รุ่นน้องปีหนึ่งในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดแบบนี้



แต่หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของหินผาที่เขาถามไป สายน้ำก็เปลี่ยนความคิด... ในความคิดของหินผา สายน้ำก็ยังคงเป็นเด็กน้อยหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม พอรู้ว่าหินผาคิดแบบนั้น ความคิดที่อยากจะบอกว่าตัวเองเป็นใครก็หายไปทันที



สายน้ำไม่มีความมั่นใจที่จะพูดเลย...



ถ้าหากพูดออกไปแล้ว หินผาจะรู้สึกอย่างไร จะผิดหวังมากแค่ไหนที่น้องน้ำคนนั้น... ไม่ได้เป็นอย่างที่หินผาคิดเอาไว้



หินผาจะเสียใจ



หินผาจะผิดหวัง



หรือทุกอย่างจะกลายเป็นช่องว่าง... ระหว่างเราจะเกิดความอึดอัด จะเกิดความห่างเหินหรือเปล่าถ้าสายน้ำพูดออกไป



เขาคิดมาก คิดวนไปวนมา คิดไม่หยุด



สายน้ำคงจะรู้สึกแย่... ถ้าหากทำให้หินผารู้สึกแย่



แต่ก่อนที่จะทำให้หินผารู้สึกแย่ หัวใจของสายน้ำในตอนนี้ก็ย่ำแย่มากทีเดียว ความรู้สึกเหมือนเราหันหน้าเข้าหากันเหมือนในตอนนี้ที่สายน้ำนอนหันหน้ามองหินผา แต่ไม่สามารถเอื้อมมือไปจับ หรือสัมผัสได้เลย



มันมีกระจกใสขวางกั้นเอาไว้ กระจกมันใสจนมองเห็นทะลุ แต่เอื้อมมือไปไม่ถึงเพราะมันแข็งแรงเกินกว่าจะทำลายทิ้งด้วยมือเปล่า ยิ่งเอามือทุบลงไปก็ยิ่งเจ็บมือ และกระจกก็ไม่แตก



ความรู้สึกของสายน้ำในตอนนี้มันเป็นอย่างนั้น...



จึงทำได้เพียงแค่เกาะกระจกบานนี้ และเฝ้ามองอยู่แบบนั้น...






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ถอนหายใจแรง เหนื่อยใจกับพี่หินผาจริง ๆ เลย
อยากจะเขย่า ๆ พี่หินผาให้หัวสั่นหัวคลอนไปเลย
บังอาจมากมาทำน้องน้ำเสียใจ แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ
เดี๋ยวก็เปลี่ยนพระเอกซะเลย!
อ้าว... ไม่ได้สิเนอะ ฮา...
เอาน่า ให้เวลาพี่หินผาอีกนิ๊ดหนึ่ง นิดเดียวจริง ๆ ค่ะ
เดี๋ยวพี่ท่านจะตาสว่างแล้วววววว

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 26-07-2019 22:10:16
บอกไปเลย!!!! เชียร์อัพ!!
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-07-2019 22:41:35
"แค่กระจกใสบางบาง  ที่กั้นตรงกลางเท่านั้น
ได้แค่เพียงเห็นหน้ากัน แต่ไม่มีวันได้ใจ
อยากเดินเข้าไปกอด  และบอกว่ารักมากมาย
แต่แล้วที่ฉันทำได้  ก็เพียงแค่มอง"
ตอนนี้ใจน้องน้ำบางเหลือเกิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-07-2019 02:11:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 27-07-2019 02:31:28
น้องงงงงงงงง  :hao5: :hao5:
คิดมากจนพี่ใจบางตามแล้ว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 27-07-2019 10:45:34
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-07-2019 07:12:20
อ่อยเนาะ บอกไปโล้ดดด
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-07-2019 08:46:01
โอ๊ย!!!  อยากจะเข้าไปเขย่าคอพี่หินผามากกกกกก

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 28-07-2019 20:16:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [70%] l P.12 26-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 31-07-2019 14:07:38
สายน้ำบอกพี่เขาไปเลย ....
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 31-07-2019 21:59:28
(https://i.ibb.co/H4qDprH/09.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “9”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






“มึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่าวะ” คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเลิกคิ้วกลับไปเหมือนกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนถามเท่าไหร่ “อาทิตย์นี้มึงดูเหมือนมีเรื่องอะไรให้คิด ชอบทำหน้ายุ่งแล้วก็มองโทรศัพท์อยู่แบบนั้น เหมือนกับตอนนี้อ่ะ”



หินผาก้มมองมือของตัวเองที่ถือโทรศัพท์เอาไว้ “ก็ไม่มีอะไรหรอก”



“กูเชื่อมึงไอ้เดียร์ก็คงกลายเป็นคนเรียบร้อยไปแล้ว”



“อ้าว... พาดพิงอะไรกูวะ” คนโดนพาดพิงโวยวายขึ้นมา หยิบหมอนอิงที่วางอยู่ข้างตัวปาใส่คนพูด ก่อนจะหันไปหาหินผา “แต่ก็จริงอย่างที่ไอ้ทัชว่านะ อาทิตย์นี้มึงดูแปลก ๆ อ่ะ เหมือนมีเรื่องให้คิด อะไรแบบนั้นอ่ะ”



“...”



“เฮ้ย! มีอะไรมึงบอกพวกกูได้นะโว้ย ถึงบางทีพวกกูอาจจะช่วยอะไรมึงไม่ได้แต่ก็รับฟังได้นะ ถึงแม้กูจะไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรให้คนอย่างมึงคิดไม่ตกก็เถอะ” ทัชพูดขึ้นมาบ้าง



“จริง ๆ มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่โต กูแค่... รู้สึกว่าสายน้ำดูแปลก ๆ ไปก็เท่านั้น” หินผาถอนหายใจ



คำบอกเล่าถึงปัญหาที่เจ้าตัวกำลังกลุ้มใจอยู่นั้นทำเอาสองเพื่อนซี้หันมองหน้ากันทันที ก่อนจะหันกลับมามองหินผาอีกรอบ “คือ... ยังไงวะ”



“จะว่ายังไงดี... กูแค่คิดว่าสายน้ำแปลก ๆ เวลาเจอหน้ากันก็แทบไม่มองหน้ากูเลย บางครั้งก็เหมือนพยายามหลบหน้ากูด้วยซ้ำไป ถามอะไรก็ตอบสั้น ๆ เหมือนไม่อยากคุย” ยิ่งพูดใบหน้าของหินผาก็ยิ่งเคร่งเครียดขึ้น “กูว่ามันแปลก ๆ ปกติสายน้ำไม่ได้เป็นแบบนี้ กูไม่แน่ใจว่าตัวเองเผลอไปทำอะไรให้สายน้ำโกรธหรือเปล่า”



“ที่มึงหน้าเครียด ๆ มาทั้งอาทิตย์ก็คือเรื่องนี้เหรอ” เดียร์ถามย้ำให้แน่ใจ



“อือ ก็มีอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ”



"คือ... เดี๋ยวนะ ก่อนที่กูจะช่วยมึงคิดหาหนทางอะไร กูขอถามหน่อยว่าทำไมถึงต้องมานั่งเครียดเรื่องนี้ด้วย มึงดูแคร์น้องมันมากเลยนะ” ทัชพูด “แคร์แบบ... มึงไม่เคยแคร์ใครแบบนี้อ่ะจากที่กูรู้จักมึงมาสามสี่ปีเนี่ย”



“ถ้าเป็นมึง มึงจะไม่แคร์หรือยังไงกัน คนคุยกันอยู่ดี ๆ ก็มีอาการแปลก ๆ ไปแบบนี้น่ะ” หินผาขมวดคิ้วใส่เพื่อน



ทัชรีบยกมือห้ามขึ้นเหมือนต้องการยอมแพ้ เลิกให้เพื่อนรักส่งสายตาขุ่น ๆ มาให้ “ไม่ใช่ว่าไม่แคร์ แต่แบบยังไงดี มึงดูเป็นห่วงน้อย แคร์น้อง สนใจน้องมาก ๆ อ่ะ แบบมากเป็นพิเศษ มากกว่าคนอื่นอะไรแบบนี้”



“ช่วงนี้ใกล้สอบมิดเทอม น้องมันเลยเครียด ๆ หรือเปล่า ยิ่งย้ายมาจากต่างประเทศระบบการรงการเรียน การสอบก็อาจจะไม่เหมือนกัน ก็เลยกังวล เลยเครียดงี้อ่ะ” เดียร์ออกความคิดเห็น



"เออ ๆ ความคิดนี้น่าสน อาจจะเป็นแบบที่เดียร์มันว่าก็ได้นะ เพราะมึงก็ไม่น่าจะทำอะไรให้น้องโกรธหรือไม่พอใจนี่ใช่ไหม” ทัชพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเดียร์



“อือ...” หินผาทำหน้าครุ่นคิด



“คุยไรกันวะ ทำไมหน้าเครียดกันหมด” เสียงทักมาจากประตูห้องนั่งเล่นเรียกสายตาของทั้งสามคนให้หันไปมองพร้อมกัน ป่าไม้เลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นบรรยากาศขุ่นมัวรอบ ๆ ตัวน้องชายของตัวเอง เขาเดินเข้าไปในห้อง นั่งลงใกล้ ๆ กลุ่มรุ่นน้องพลางชี้นิ้วไปทางหินผา แต่หันมาถามเพื่อนทั้งสองคนของน้องชายแทน “มันเป็นอะไร”



“มันบอกว่าสายน้ำดูแปลก ๆ ไปเหมือนหลบหน้ามัน ไม่อยากคุยกับมัน มันเลยมานั่งเครียดเนี่ยพี่” ทัชตอบคำถามของคนอายุมากกว่า



ป่าไม้เลิกคิ้วขึ้นอีกรอบเมื่อได้ยิน หันไปมองน้องชายตัวเองที่ยังนั่งทำหน้าเครียดมองโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะยื่นขาไปเตะขาของหินผา “อะไร ยังไงมึง”



“อะไร” หินผาขมวดคิ้วใส่พี่ชายพลางถามกลับเสียงห้วน



“ทะเลาะอะไรกับน้องกู”



“ใครน้องพี่”



“สายน้ำไง น้องรักคนใหม่ของกู กูรักมากด้วยคนนี้ รักมานานแล้วด้วย” ป่าไม้ยักคิ้วกวนใส่น้องชาย



คิ้วของหินผาแทบจะรวมเป็นเส้นเดียว “อะไรของพี่วะ รักมานานอะไร รู้จักกันมานานแค่ไหนเชียว”



“ไอ้ง่าว!” ป่าไม้ส่ายหน้ากับความซื่อบื้อของน้อง “แล้วอะไรยังไง มีเรื่องอะไรกับน้องน้ำ”



“เปล่า ไม่มีอะไร” หินผาส่ายหน้า “คิดว่าไม่มีอะไร แต่น้องดูแปลก ๆ ไป ทำตัวห่าง ๆ เหมือนกับพยายามหลบหน้า”



ป่าไม้ลอบถอนหายใจเพราะเขารู้ดีว่าเพราะอะไรสายน้ำถึงได้ถอยห่างจากน้องชายของเขา เขาได้คุยกับสายน้ำแล้ว และอีกฝ่ายก็พูดความรู้สึกทุกอย่างออกมาให้ฟังจนหมด และไม่ใช่แค่พูดเฉย ๆ แต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา



สายน้ำยังคงร้องไห้ได้น่าสงสารไม่ต่างอะไรจากตอนเป็นเด็ก ทุก ๆ อย่างของสายน้ำยังคงเป็นน้องน้ำ น้องน้อยตัวเล็ก ๆ เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งรอยยิ้ม ทั้งแววตา ทั้งการกระทำ ทุก ๆ อย่างคือน้องน้ำของเขากับหินผา เพราะแบบนั้น... แค่เห็นครั้งแรกเขาก็จำได้ทันที



แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าน้องชายตัวดีของเขาถึงมองไม่เห็น มองไม่ออก ทั้ง ๆ ที่ทุก ๆ อย่างในตัวน้อง ก็คือตัวตนของน้องจริง ๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด



‘พี่หินผา... ในความคิด อึก... ความทรงจำของพี่หินผามีแต่น้องน้ำ เด็กน้อยตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก’



‘พ พี่หินผา ค คิดแต่ว่าน้องน้ำ... อึก น น้องน้ำโตมาจะน น่ารักเหมือนเดิม’



‘ต แต่ผมไม่ใช่ ผมไม่ได้น่ารักบ แบบนั้นแล้ว ผมไม่กล้าบอก ม ไม่กล้าพูด’



‘ผ ผมไม่อยาก... ห เห็นสายตาผ ผิดหวัง ม ไม่อยากห่าง... ห่างเหินไปมากกว่านี้’



‘ผมบอกไม่ได้ อึก... บ บอกไม่ได้จริง ๆ ผม ผม... ทำให้พี่หินผาผิดหวังไม่ได้’




ป่าไม้ยังจำได้ดีวันที่เขาไปหาสายน้ำที่ห้อง นั่งมองน้องร้องไห้ปานจะขาดใจและพร่ำบอกแต่ว่าไม่อยากทำให้หินผาผิดหวัง น้องน่าสงสารมากจนป่าไม้นึกอยากจะวิ่งไปหาน้องชายตัวเองแล้วชกสักทีเผื่อจะหายโง่ขึ้นมาบ้าง



ที่สายน้ำพยายามหลบหน้า ไม่พูดคุยกับหินผาก็คงเพราะสาเหตุนี้



คนที่อายุมากที่สุดในห้องหันไปมองเพื่อนน้องชายทั้งสองคน ซึ่งทั้งทัชและเดียร์ก็พอจะเข้าใจในสายตาของป่าไม้ ถึงได้พากันลุกออกจากห้องนั่งเล่นไป



“กูมีเรื่องจะบอกมึง” ป่าไม้มองน้องชายตัวเองที่ยังนั่งทำหน้าเครียดอยู่



“อะไร”



“กูชอบสายน้ำ ไม่สิ... กูรักสายน้ำ” ป่าไม้พูดพลางมองหน้าน้องตัวเองอย่างไม่หลบสายตา “รัก... แบบที่ไม่ใช่พี่ชายรักน้องชาย”



“ว ว่าอะไรนะ!!” หินผาแทบจะผลุดลุกขึ้นยืน มือของเขากำแน่นจนรู้สึกเจ็บ “ย อย่ามาล้อเล่นนะ”



“มึงคิดว่ากูจะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นเหรอ” ป่าไม้เลิกคิ้วถาม “ทำไม มึงไม่พอใจอะไร ทำไมทำหน้าเหมือนไม่พอใจกูแบบนั้นด้วย”



“พี่จะชอบสายน้ำได้ยังไง พี่เพิ่งรู้จักสายน้ำได้ไม่เท่าไหร่เลย!”



“มึงคิดว่าการที่เราจะชอบใครสักคนมันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน หนึ่งวัน หนึ่งอาทิตย์ หนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี” ป่าไม้พูด “มันไม่ต้องใช้เวลานานเลย ถ้าใจมึงบอกว่าชอบ ก็คือชอบ ต่อให้มึงรู้จักเขาแค่วันเดียวก็ตามที”



“...”



“ท่าทางของมึงตอนนี้ เหมือนมึงกำลังหวงก้างนะไอ้หิน กูชอบสายน้ำแล้วทำไม ทำไมมึงต้องไม่พอใจ ทำไมมึงต้องโมโห ทำไมมึงต้องหงุดหงิด มึงไม่ได้ชอบน้องมันไม่ใช่เหรอ แล้วการที่กูจะชอบรุ่นน้องมึงแล้วมันผิดยังไง”



“ม ไม่...”



ป่าไม้ลุกขึ้นยืน “กูอยากบอกให้มึงรู้เอาไว้ว่ากูชอบสายน้ำ”



“เดี๋ยว!” หินผาเรียกคนที่กำลังจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นเอาไว้ ป่าไม้หันกลับมามองเหมือนต้องการถามว่ามีเรื่องอะไรอีก “ผ ผม... ผม...”



“อะไรของมึง”



หินผากำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงกับฝ่ามือ เขาหลับตาลงชั่วขณะเหมือนต้องการทบทวนและคิดอะไรบางอย่างในใจ ก่อนจะลืมตามองสบกับพี่ชายตัวเองแน่วแน่ “ผม... ไม่ยอมหรอกนะ”



“ไม่ยอมอะไร”



“ผมไม่ยอมให้พี่มาแย่งสายน้ำไปหรอกนะ” หินผาพูด



“มึงเป็นอะไรกับน้องเขา ถึงต้องไม่ยอม”



“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับสายน้ำ แต่... ในฐานะคนที่ชอบสายน้ำ ผมไม่มีทางยอมให้พี่มาแย่งเขาไปง่าย ๆ แน่”



ป่าไม้ส่งเสียงในลำคอ พลางจ้องตากับน้องชายนิ่ง แบบที่ไม่มีใครยอมหลบสายตาไปก่อนเลย






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ตายแล้ว... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ยยย...
พี่ป่าไม้ชอบน้องน้ำเสียอย่างนั้น
หรือเราจะยกน้องน้ำให้พี่ป่าไม้เลยดีนะ...
แต่อาการของพี่หินผาก็แปลก ๆ นะเนี่ย
คิดอะไรอยู่ในใจกันนะพี่หินผา~
น้องน้ำก็น่าสงสาร ถ้ามองในมุมน้อง... น้องก็คงคิดมาก กังวลจริง ๆ นั่นแหละเนอะ
ก็พี่หินผาเล่นเอาแต่พูดว่าน้องน้ำน่ารักอย่างนู้นอย่างนี้อย่างเดียวเลย
ขอโกรธพี่หินผาหนึ่งนาที! โทษฐานทำน้องน้ำเราเสียใจ tt__tt

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 31-07-2019 22:49:03
ยังไงกันนี่  :really2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-07-2019 23:02:00
ก้อรีบจัดเลยพี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 31-07-2019 23:06:04
พี่ป่าไม้แย่งน้องน้ำมาเลยดีกว่า สงสารน้อง  ให้อิพี่หินผาคนทื่อนึกได้เมื่อไหร่ค่อยมาแย่งคืน.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 31-07-2019 23:25:57
พี่ป่าไม้คนดีย์
ในที่สุดก็ยอมรับสักทีนะพี่หิน...
แต่...ถ้ารู้ว่าเป็นน้องน้ำคนนั้นจะเป็นยังไงน้าาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-08-2019 01:30:47
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิหินผา  อิจั๊ดง่าว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 01-08-2019 05:55:13
แบบนี้จะทำยังงัยดีล่ะ พี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 01-08-2019 12:11:25
ป่าไม้อย่างแกล้งหินผานะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 01-08-2019 13:59:05
เปิดศึกชิงนายเอก :katai2-1: :katai2-1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 01-08-2019 21:20:44
 :mew1:

ห่างหายจากเว็บนิยายไปนาน

กลับมาอ่านอีกรอบเพราะนิยายของฟางเลยนะ

สนุกมากค่ะ อยากให้ฟางแต่งพี่กันต์กับน้องเดียร์ต่อด้วย

ฝากพิจารณ่ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-08-2019 22:52:21
มันน่าจะอัดคลิปไปเปิดให้น้องน้ำดู  :katai3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-08-2019 02:41:22
หวังว่าพี่ป่าไม้จะแค่เป็นตัวช่วยกระตุ้นเท่านั้นนะครับ ให้หินผาได้รู้ใจตัวเองเร็ว ๆ //สงสารน้องสายน้ำมาก ร้องไห้ตามเลย :o12:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 02-08-2019 08:29:43
 o13
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-08-2019 22:36:37
ขอค้อนมาทุบหินสักทีสองทีได้มั้ยเนี่ยะ อึดอัดไปหมด
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-08-2019 22:54:58
 :laugh:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "9" [100%] l P.12 31-07-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 02-08-2019 23:13:23
ดีเลยพี่ป่ากระตุ้น​หนักๆเลย​ เผื่ออิพี่หินจะหายง้าวสักที​  :z6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-08-2019 21:23:30
(https://i.ibb.co/myg3Jzq/10.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “10”





สองพี่น้องเอาแต่ยืนมองหน้ากันนิ่ง ก่อนที่คนเป็นพี่จะยกยิ้มมุมปากเหมือนกำลังขบขัน และไม่นานหลังจากนั้นก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา



“หึหึ... ฮ่า ๆ” ป่าไม้หัวเราะ ยกมือกุมท้องตัวเองด้วยความเหนื่อย



ผิดกับคนน้องที่ยังมองมาอย่างงง ๆ ปนหงุดหงิด “ขำอะไรของพี่!”



“กว่าจะหลุดปากออกมาได้นะมึง” ป่าไม้ยกมือเช็ดน้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะมากเกินไปออกจากหางตาของตัวเอง ก่อนจะพูดอธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นสีหน้างุนงงของน้องชาย “กูรักสายน้ำจริง แต่แบบพี่น้อง ไม่ได้รักแบบคนรัก ที่กูพูดแบบนั้นกูก็แค่อยากเห็นปฏิกิริยาของมึงว่าจะเป็นยังไง แต่ก็เกินความคาดหมายกูอยู่เหมือนกันที่มึงบอกว่ามึงชอบสายน้ำ”



“ผม...”



“ทุกคนเขาดูออกกันหมดแล้วว่ามึงน่ะสนใจในตัวสายน้ำมากแค่ไหน แต่มึงไม่เคยรู้ตัว ไม่เคยมองเห็นอะไรเลย” ป่าไม้พูด เขาเดินย้อนกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิมเพราะคิดว่าคงจะต้องคุยกับน้องชายอีกนาน “ถ้ามึงไม่แคร์ หรือไม่สนใจน้องเขา มึงจะไม่มานั่งหน้าเครียด คิ้วขมวดที่เขาหลบหน้า หรือว่าไม่ตอบไลน์มึงหรอก”



“ผมแค่... ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง” หินผาเบือนสายตาหนี



“มึงยึดติดกับน้องน้ำในอดีตเกินไปแล้วนะหินผา”



หินผาถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้น “ผมสัญญากับน้องเอาไว้... ว่าผมจะรอน้องกลับมา”



“กูถึงบอกไงว่ามึงน่ะยึดติดกับความเป็นน้องน้ำมากเกินไป กูเคยคุยกับมึงหลายรอบเรื่องน้องน้ำ กูถามมึงทุกครั้งที่คุยว่ามึงคิดว่าตอนนี้น้องน้ำจะเป็นยังไง” ป่าไม้พูด “และทุกครั้งมึงก็จะนึกถึงแต่ภาพตอนน้องเด็ก ๆ มึงเอาแต่คิดไปเองว่าน้องจะต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ จนมึงอาจจะลืมไปแล้วว่าทุกอย่างมันย่อมมีการเปลี่ยนแปลง”



“พี่... หมายถึงอะไร”



“กูหมายถึงเรื่องจริง กูถามมึงจริง ๆ เถอะนะ ทำไมมึงชอบคิดว่าน้องน้ำโตมาจะต้องหน้าตาน่ารักวะ แค่เพราะตอนเด็ก ๆ น้องเขาหน้าตาน่ารักแค่นั้นน่ะเหรอ ขนาดกู ขนาดมึงยังเปลี่ยนไปตั้งเยอะ ทำไมมึงไม่คิดบ้างวะว่าน้องเขาเองก็อาจจะเปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน”



หินผาขมวดคิ้ว เขาเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่าพี่ชายของเขาต้องการจะคุยเรื่องอะไรกันแน่ ระหว่างเรื่องของน้องสายน้ำ หรือ... เรื่องของสายน้ำ “พี่ต้องการจะพูดอะไร ผมว่าตอนนี้เรื่องมันปนกันไป...”



“มันไม่ปนโว้ย! มันคือเรื่องเดียวกัน นั่นก็คือมึงยึดติดกับน้องน้ำมากเกินไป มึงยึดคำสัญญาที่มึงบอกมึงจะรอน้องกลับมา จนมึงมองข้ามความรู้สึกดี ๆ ของตัวเองที่มีต่อสายน้ำ มึงกำลังปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองเพราะคำสัญญาเมื่อตอนเด็ก ๆ นั่น และมึงก็เอาแต่คิดว่าน้องน้ำโตมาจะเป็นแบบนู้นแบบนี้ จึงมึงตาบอด! มองไม่เห็นเหี้ยอะไรเลย” ป่าไม้ร่ายยาวจนคนฟัง ฟังแทบจะไม่ทัน



“พี่หมายถึงอะไร” หินผาขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าพี่ชายตัวเองต้องการจะพูดหรือบอกอะไรกันแน่



“ไอ้เหี้ย! กูพูดขนาดนี้มึงนี่แม่งยังไม่เข้าใจอะไรอีกเหรอวะเนี่ย มึงแม่งโคตรจะฉลาด แต่เรื่องนี้แม่งโคตรโง่ โง่โคตร ๆ โง่เหี้ย ๆ อ่ะไอ้ชิบหาย!” ป่าไม้ได้แต่หงุดหงิดกับความไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรของน้องชายตัวเอง



“น้องน้ำของมึงน่ะ! เขากลับมาหามึงแล้ว!”



“พี่... ว่าอะไรนะ”



“มึงไม่รู้สึกคุ้น หรือสงสัยอะไรเลยเหรอ” ป่าไม้มองหน้าน้องชายตัวเอง “สายน้ำ กับ น้องน้ำของมึงน่ะ”



ดวงตาของหินผาเบิกกว้างขึ้นตอนที่ได้ยินแบบนั้น “พี่จะบอกว่า... สายน้ำคือ...”



“เออ! ไอ้โง่ วันนี้กูด่ามึงกี่รอบแล้ววะเนี่ย แต่มึงแม่งน่าโดนด่าจริง ๆ นั่นแหละ” ป่าไม้ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน “จริง ๆ แล้วสายน้ำไม่อยากให้กูบอกมึงหรอก แต่กูสงสารน้อง”



“จริง ๆ แล้วผมก็เคยคิดว่าสายน้ำคือน้องน้ำเหมือนกัน หลาย ๆ อย่างมันดูคุ้นเคยแต่ว่า”



“กูถึงได้บอกมึงไงว่ามึงน่ะยึดติดกับน้องน้ำในอดีตมากเกินไป มึงเอาแต่คิดไปเองว่าน้องโตมากจะต้องน่ารักเหมือนตอนเด็ก ๆ คนเรามันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันทั้งนั้นนั่นแหละ เพราะมึงเอาแต่คิดว่าเขาจะเป็นแบบนู้นแบบนี้ มึงเลยมองข้ามทุก ๆ อย่างไปไง”



หินผาได้แต่นิ่งฟังในสิ่งที่พี่ชายพูด พร้อมกับยอมรับกับตัวเองไปด้วยว่าเขานั้นเป็นอย่างที่ป่าไม้พูดจริง ๆ เพราะเขาเอาแต่ยึดติดทุกอย่างในอดีตจนลืมไปว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว เขาถึงได้มองข้ามสายน้ำไป แม้ในใจจะบอกว่าคนคนนี้... คุ้นเคย



“ที่สายน้ำห่างไปก็เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหม” หินผาถามออกไป นึกไปถึงวันนั้น... ที่น้องมาค้างด้วยที่ห้องเพราะติดฝน นึกไปถึงคำพูดและคำถามของน้องที่ถามเขา



“กูบอกมึงได้แค่นี้แหละ ที่เหลือมึงคงต้องไปคุยกับน้องเองกูจะไม่เข้าไปยุ่ง แค่นี้กูก็ยุ่งชิบหายแล้ว”



“อือ เดี๋ยวผมจะหาทางคุยกับน้องเอง” หินผาพยักหน้ารับคำพูดนั้น “ขอบคุณที่พี่บอก ไม่อย่างนั้นผมก็คงโง่ไปอีกนานจริง ๆ นั่นแหละ”



“เออ ที่เหลือมึงก็จัดการเองแล้วกัน กูก็ช่วยมึงได้แค่นี้แหละ อะไร... มองกูแบบนี้มีอะไร”



“พี่ไม่ได้ชอบสายน้ำจริง ๆ ใช่ไหม”



ป่าไม้ถอนหายใจพลางกรอกตาไปมา “เออ! กูไม่ได้ชอบสายน้ำถ้ามึงหมายถึงแบบคนรัก กูคิดกับสายน้ำแค่น้องชายอย่างที่เป็นมาตลอดนั่นแหละ”



“แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าสายน้ำคือน้องน้ำ น้องบอกเหรอ” หินผาถามถึงข้อสงสัยที่อยู่ในใจของเขาตั้งแต่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด



“กูรู้เอง รู้ตั้งแต่วันแรกที่มึงพาน้องมาที่นี่แล้ว มีแต่มึงอ่ะโง่สัส มองไม่ออก” ป่าไม้อดไม่ได้ที่จะว่าน้องชายอีกรอบ “กูไปดีกว่า ขี้เกียจคุยกับมึงแล้ว”



ป่าไม้ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป เขาหันกลับไปมองหินผาที่ยังนั่งอยู่ข้างในก่อนจะถอนหายใจออกมา เขาก็หวังว่าไอ้น้องชายตัวดีของเขาจะคิดได้แล้วจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยสักที



หลังจากป่าไม้เดินออกจากห้องไปแล้ว หินผาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเขานั่งนึกถึงเรื่องของสายน้ำช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมา พอเขารู้ความจริงว่าสายน้ำคือน้องน้ำแล้วมานั่งนึกย้อนแบบนี้ก็นึกอยากจะตบตัวเองที่มองไม่เห็นอะไรเลย เพราะทั้งการกระทำ คำพูด ท่าทางทุกอย่างของสายน้ำก็คือน้องน้ำดี ๆ นี่เอง ไหนจะเรื่องราวที่สายน้ำเคยเล่าให้ฟัง ทั้งที่แต่ก่อนจะย้ายกลับมาประเทศไทยก็เคยอยู่เชียงใหม่มาก่อน เคยเรียนรำสมัยยังเป็นเด็ก ๆ แล้วก็มีพี่ที่สนิทกันอีก



สายน้ำบอกเขาเป็นนัย ๆ มาโดยตลอด มีแต่เขานี่แหละที่ไม่เคยมองเห็น ไม่เคยรู้



คงจะจริงอย่างที่พี่ชายของเขาพูด เพราะเขาเอาแต่คิดว่าน้องน้ำตอนโตคงจะไม่แตกต่างจากสมัยเป็นเด็กมากนัก เขาจึงมองข้ามทุก ๆ อย่างไป และปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อสายน้ำ เพราะเอาแต่ยึดติดกับคำสัญญาที่เคยให้กับน้องน้ำเอาไว้



เขาเริ่มรู้ตัวได้ไม่นานเท่าไหร่กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อรุ่นน้องคนนี้ อาจจะเป็นช่วงที่ไปเที่ยวด้วยกันมา เขาเห็นถึงความน่ารัก น่าเอ็นดูของสายน้ำ เป็นมุมที่เขาเชื่อว่าคงไม่มีใครเคยเห็น และเพราะความสนิทสนมตั้งแต่ตอนที่ไปสอนสายน้ำรำ มันจึงเกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ขึ้นมา



หินผาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกจากสายน้ำ เขารอสายอยู่นานจนสายตัดไปก็ไม่มีการตอบรับ เขาจึงกดโทรซ้ำไปอีกครั้ง ในใจได้แต่หวังว่าให้คนทางปลายสายกดรับสักที



“สายน้ำ” หินผาเอ่ยเรียกคนปลายสายหลังจากที่มีการกดรับ



[... ค ครับพี่หินผา]



“เราอยู่ที่ไหน”



[คอนโดครับ พี่หินผามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ]



“พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย เดี๋ยวพี่ไปหา” พูดไปก็ลุกออกจากห้องนั่งเล่นไปด้วย หินผากึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นไปบนห้องเพื่อหยิบกระเป๋าหยิบกุญแจรถ ก่อนจะวิ่งลงบันไดเพื่อออกไปที่โรงจอดรถ



[ร เรื่องอะไรเหรอครับ]



“เรื่องนี้ต้องคุยต่อหน้า เดี๋ยวพี่ไปหา รอพี่ก่อนนะ... น้ำ”



[... ครับ ผ ผมจะรอ]



หินผากดวางสาย ใช้มืออีกข้างกดเปิดรถของตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคนเดินสวนมาจากทางห้องสมุด



“จะรีบไปไหนวะนั่น” ทัชเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางเร่งรีบของเพื่อน



“ไปหาสายน้ำ เดี๋ยวกูมา”



“อ อ้าว เฮ้ย! อะไรของมึงเนี่ย”



“เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง กูไปก่อนล่ะ” ว่าจบก็รีบวิ่งไปที่รถทันที รถคันสวยขับออกจากรั้วบ้านแฝดสามหลังมุ่งหน้าไปยังคอนโดของสายน้ำที่เขาเคยขับรถมารับ มาส่งอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง



หินผาแลกบัตรเพื่อเอารถเข้าไปจอดด้านในก่อนจะเดินมาที่ล็อบบี้ เขาโทรหาสายน้ำอีกรอบเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าตอนนี้เขารออยู่ข้างล่างแล้ว นั่งอยู่ไม่นานคนที่เขารออยู่ก็วิ่งออกมาจากลิฟต์ อีกฝ่ายหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาเขา เจ้าตัวชะงักไปเล็กน้อยเมื่อหันมาสบตาเข้ากับหินผาพอดี ก่อนที่จะเดินเข้ามาหา



“พี่หินผา...”



“ขึ้นไปคุยที่ห้องได้ไหม”



“ค ครับ!” สายน้ำเผลอทำตาโตด้วยความตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่ก็พยักหน้ารับเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของหินผา “ครับ ได้ครับ”



สายน้ำเดินนำหินผาไปที่ลิฟต์ เจ้าตัวแสกนบัตรเพื่อกดชั้น ภายในห้องโดยสารลิฟต์มีแต่ความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา สายน้ำนึกสงสัยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอะไรจะคุยแต่ก็ไม่กล้าถามออกไป หินผาเองก็เงียบเพื่อรอเวลาที่จะได้พูดคุยทีเดียว



“ช เชิญครับ” สายน้ำเปิดประตูห้องออกกว้างเพื่อให้หินผาเดินเข้ามาข้างใน



หินผากวาดสายตามองไปรอบห้องของน้องด้วยความสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ขึ้นมาบนห้องของสายน้ำ ห้องของอีกฝ่ายเป็นแบบหนึ่งห้องนอนแต่ขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียว เมื่อเข้ามาด้านในทางฝั่งซ้ายจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ทางขวามือมีประตูหินผาเดาว่าอาจจะเป็นประตูห้องน้ำ ตรงกลางเป็นส่วนนั่งเล่นมีโซฟาชุดใหญ่วางอยู่ ถัดไปเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปตรงระเบียง ห้องนอนคงอยู่ทางขวาถัดไปจากห้องน้ำ



“พี่หินผานั่งก่อนเลยครับ” เจ้าของห้องเชื้อเชิญ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินแยกไปตรงส่วนครัวหยิบแก้วน้ำออกมารินน้ำเย็นแล้วยกไปให้หินผาที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา “น้ำครับ”



“ขอบคุณ” หินผารับแก้วน้ำเย็น ๆ มาจิบก่อนจะวางเอาไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา



เกิดความเงียบขึ้นอีกรอบ สายตาได้แต่กวาดสายตาไปมาเพราะเขากำลังโดนคนอายุมากกว่าจ้องอยู่ เขายังไม่มีความสามารถมากพอที่จะมองสบตากับคนตรงหน้า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะวางสายตาเอาไว้ตรงไหน ถึงได้มองไปรอบ ๆ ห้องของตัวเอง



“สายน้ำ” หินผาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้น



“ครับ” เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะขานรับ “พี่หินผา... มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”



“เราคิดว่าพี่เป็นคนโง่ไหม”



“ครับ...” สายน้ำทำหน้างงก่อนจะส่ายหน้า “ไม่นะครับ พี่เรียนเก่งออก พี่ทัชพี่เดียร์ก็บอกว่าพี่เรียนเก่ง”



หินผาพยักหน้ารับกับคำตอบนั้น “เรื่องเรียนน่ะพี่เก่ง แต่เรื่องอื่นพี่คงโง่น่าดูเลย ไม่อย่างนั้นพี่คงรู้ไปนานแล้ว ไม่ใช่ต้องให้คนมาบอก”



สายน้ำไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองควรที่จะตอบอะไรออกไปหรือเปล่า “อ่า...”



“อย่างที่พี่เคยเล่าให้เราฟัง ว่าพี่มีน้องที่สนิทด้วยมาก ๆ ตอนเด็ก ๆ แต่พอดีเขาย้ายไปพี่เองก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย แต่พี่ก็รอเขามาตลอดนะ หวังว่าสักวันเราจะได้เจอกัน” หินผาเริ่มพูดต่อ สายตาของเขามองสบเข้าไปในดวงตาของสายน้ำ “เพราะว่าตอนเด็ก ๆ น้องเขาหน้าตาน่ารักมาก ๆ พี่ก็เอาแต่คิดว่าถ้าเขาโตมาก็คงจะหน้าตาน่ารักไม่เปลี่ยน โดยลืมไปว่า... คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงกันได้”



“พี่...”



“พี่นี่โง่จริง ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่คนคนนั้นอยู่ตรงหน้าพี่มาตั้งนานแล้ว แต่พี่ก็ยังเอาแต่มองหาคนอื่นอยู่ตลอด เพียงเพราะว่าเขาหน้าตาแตกต่างไปจากตอนเด็ก”



“พี่หินผา...”



“พี่โง่มากจริง ๆ สายน้ำ พี่แค่นึกว่าคล้าย แต่พี่แทบไม่เคยนึกสงสัยเลยว่าเขาคือคนคนเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่พี่ได้ใกล้ชิดกับเขามาก” หินผาพูด “พี่ขอโทษสายน้ำ พี่ขอโทษที่ไม่เคยรู้เลยว่าเราอยู่ตรงหน้าพี่นี่เอง”



สายน้ำได้แต่นั่งนิ่งเพราะเขารู้สึกตกใจไปหมดกับสิ่งที่หินผาพูด มือสั่นจนเจ้าตัวต้องบีบมือตัวเองเอาไว้แน่น “ผม... ผม”



“พี่ขอโทษนะ”



“ม ไม่ครับ ไม่เป็นอะไร” สายน้ำได้แต่ก้มหน้า ความรู้สึกมากมายหลายอย่างมันตีวนไปหมดจนไม่แน่ใจว่าเขาควรจะแสดงออกแบบไหนดี ทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ อยากจะยิ้มแต่ก็อยากจะร้องไห้



“ถ้าพี่ป่าไม้ไม่บอกพี่ตรง ๆ พี่ก็คงจะเป็นคนโง่ไปอีกนาน ถึงจะนึกเจ็บใจที่พี่ป่ารู้ว่าเราเป็นใครก่อนพี่ก็ตาม”



“พ พี่ป่าไม้เป็นคนบอกเหรอครับ”



“ใช่ อย่าโกรธพี่มันเลย พี่ป่าคงเหนื่อยใจแล้วก็รำคาญใจกับความโง่ของพี่จริง ๆ ถึงได้พูดให้ฟัง”



“ผมไม่โกรธหรอกครับ” สายน้ำส่ายหน้าไปมา



หินผาเอื้อมมือไปจับมือของน้องเอาไว้จนคนโดนจับสะดุ้งด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออกจากการจับกุมของคนอายุมากกว่า “บอกพี่ได้ไหม... ทำไมเราถึงไม่บอกพี่ด้วยตัวเองว่าเราคือน้องน้ำ”



“...”



สายน้ำได้แต่เม้มปากอย่างใช้ความคิด ถ้าหากเขาบอกเหตุผลออกไปหินผาจะล่วงรู้ถึงความรู้สึกของเขาไหม แล้วถ้าหากหินผารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร หินผาจะถอนห่างจากเขาหรือเปล่า



สายน้ำกำลังกลัว... เมื่อเป็นเรื่องของหินผา ทุกอย่างดูน่ากลัวไปหมด







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผารู้ความจริงแล้ว แม้จะต้องให้พี่ป่าไม้ช่วยกระตุ้นก็เถอะ
ให้อภัยพี่เขาได้แล้วเนอะ
รู้ก็รู้แล้ว ชอบน้องก็ชอบแล้ว
เหลืออะไรอีกล่ะ!
อ๋อ... จีบน้องไง เนอะ
พี่เขายังไม่รู้นี่ว่าน้องชอบ ก็ต้องเร่งทำคะแนนเอาหน่อยนะพี่หินผา
ทำคะแนนติดลบไว้เยอะเลย อิอิ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 07-08-2019 22:26:13
โอ้ยยยยย พี่หินคนซึนนนนน
เหนื่อยแน่น้ำเอ้ยยยย
สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-08-2019 22:39:00
 :mc4:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-08-2019 22:41:58
 :angry2: จะรีบบอกไปทำไมฟ่ะ นายป่าไม้  o12
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-08-2019 23:31:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-08-2019 00:20:28
กว่าจะรู้ตัวนะพ่อคุณ สงสารน้องเหลือเกิน หวังว่าหลังจากนี้ไป ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นนะครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 08-08-2019 01:42:24
 :mew1:

ป่าไม้บอกหินผาเร็วจัง แต่ก็สงสาร

คนที่ดูไม่ออก เอาแต่คิดว่าเหมือนแต่ไม่ใช่

หินผารู้แล้ว ต่อไปจะบอกความรู้สึกกับน้องไหม
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-08-2019 09:36:10
แงงงงงงงงงง บอกเขาไปลูกบอกเขาไปปปปปปปปปป
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-08-2019 10:03:21
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 08-08-2019 22:24:53
อิพี่บอกง่ายจังล่ะ​ อิน้องก็โง่มาตั้งนานน่าจะ​ปล่อย​ให้​โง่ต่อไป​อีก​สัก​หน่อย​
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-08-2019 10:29:39
สักที
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 09-08-2019 20:30:52
รู้ความจริงแล้ว เดินหน้าจีบเต็มที่
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-08-2019 23:10:00
พี่ป่ารีบบอกทำมายยยย ปล่อยให้อิพี่หินอึนต่อไปท่าจะดี 

แต่ก็อดสงสารน้องน้ำไม่ได้ อึดอัดแย่เลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [40%] l P.12 07-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-08-2019 07:50:37
ใน

ที่

สุด

ก็

รู้

ความ

จริง

ซะ

ที

นะ

พี่

หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 13-08-2019 21:47:40
(https://i.ibb.co/myg3Jzq/10.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “10”




❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





หินผานั่งเงียบ ๆ เพื่อรอฟังคำตอบ เขาไม่ได้กดดันหรือบังคับอะไร แค่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เท่านั้น ต่อให้วันนี้สายน้ำจะยังไม่พร้อมตอบคำถามของเขา เขาก็ไม่ว่าอะไรทั้งนั้นเพราะในตอนนี้ทุก ๆ อย่างมันดีมากแล้ว แค่ได้รู้ว่าน้องน้ำที่เขารอมาตลอดนั่งอยู่ตรงหน้านี้แล้ว



“พี่หินผา” สายน้ำเอ่ยเรียกชื่อของคนที่อยู่ด้วย หลังจากที่วางแก้วน้ำเปล่าที่ยกขึ้นดื่มลงกับโต๊ะ



“อือ” หินผาส่งเสียงในลำคอเพื่อต้องการบอกว่าเขากำลังฟังอยู่ ฟังในสิ่งที่สายน้ำกำลังจะพูดนี้



สายน้ำกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกว่าลำคอแห้งผากจนต้องหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอีกรอบ เจ้าตัวถอนหายใจเบา ๆ เหมือนต้องการเรียกกำลังใจให้ตัวเอง “เรื่องที่พี่ถามผมเมื่อกี้... ที่ว่าทำไมผมไม่บอกพี่แต่แรกว่าผมคือใคร”



“เล่าให้ฟังได้ใช่ไหม” หินผาถามกลับไป



“ครับ เล่าได้” สายน้ำพยักหน้ายืนยันในคำตอบ เขาตัดสินใจแล้ว... หลังจากที่คิดทบทวนกับตัวเองในใจ เขาอยากลองที่จะก้าวสักหนึ่งก้าว ซึ่งก็ไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะเป็นการก้าวไปข้างหน้า หรือก้าวถอยหลัง แต่การที่ทำให้ตัวเองเคลื่อนไหวก็คงดีกว่าให้ตัวเองอยู่เฉย ๆ แล้วนึกย้อนเสียดายในภายหลัง “จริง ๆ แล้ว... มีหลายเรื่องเลยที่พี่อาจจะยังไม่รู้ ผมเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าจะพูดทุกอย่างออกมาดีหรือเปล่า ผมไม่มั่นใจ”



สีหน้าของสายน้ำดูเป็นกังวลมากจนหินผานึกเป็นห่วง คนอายุมากกว่ายกมือวางบนกลุ่มผมนุ่มของสายน้ำแล้วลูบไปมาเบา ๆ เหมือนที่ชอบทำ ทั้งตอนที่เป็นน้องน้ำสมัยเด็ก ๆ หรือแม้แต่ตอนเป็นสายน้ำ รุ่นน้องปีหนึ่ง เดือนมหาวิทยาลัยเขาก็ชอบที่จะลูบผมอีกฝ่ายแบบนี้ “ไม่เป็นไร เล่าที่เล่าได้ ที่เล่าไหวก็พอ”



“ครับ” สายน้ำระบายยิ้มออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น “เรื่องที่ผมไม่บอกพี่ว่าผมคือใคร... จริง ๆ แล้วผมมีความคิดที่จะบอกพี่อยู่หลายครั้ง แต่พอผมถามพี่เรื่องของรุ่นน้องที่พี่สนิทด้วยตอนเด็ก ๆ แล้วพี่ตอบมาแบบนั้น มันเหมือนพี่คิดเอาไว้... พี่หวัง... และพี่เชื่อว่าน้องน้ำที่โตขึ้นมาก็จะยังน่ารักไม่เปลี่ยนเหมือนกับตอนเด็ก ๆ”



“...”



“ผมเลยกลัวว่าถ้าพี่รู้ว่าผมโตมาหน้าตาแบบนี้ ต่างจากตอนเป็นเด็กน่ารัก ๆ มากขนาดนี้มันจะทำให้พี่ผิดหวัง ผมไม่อยากเห็นพี่รู้สึกผิดหวังจากสิ่งที่คาดเอาไว้ ผมเลยไม่บอก...” พูดไปก็ก้มหน้าก้มตาไป ไม่ยอมสบตากับคู่สนทนาด้วย สายน้ำบีบมือตัวเองแน่น เขาทั้งรู้สึกกลัวแล้วก็ประหม่าไปหมด



หินผาวางศอกเอาไว้บนหน้าขามือสองข้างยกขึ้นปิดหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา “พี่ผิดเอง เรื่องนี้พี่ผิดเอง ถ้าพี่ไม่ตอบเราไปแบบนั้น ถ้าพี่ไม่ยึดติดอะไรบ้า ๆ บอ ๆ เราก็คงกล้าที่จะบอกพี่ แล้วเราก็คงไม่ต้องมาหลบหน้าพี่ด้วย”



“ไม่หรอกครับ พี่ไม่ผิดหรอก” สายน้ำส่ายหน้าไปมาปฏิเสธคำพูดของรุ่นพี่ตรงหน้า “ผมต่างหากที่ไม่กล้าเอง... อีกอย่างผมในตอนนี้ก็แตกต่างจากตอนเป็นเด็กมาก ๆ พี่จะนึกไม่ถึงก็ไม่แปลกหรอกครับ”



“สายน้ำ”



“จริง ๆ นะครับ พี่ไม่ผิดเลย... ผมไม่อยากให้พี่คิดแบบนั้น การที่พี่จำผมไม่ได้มันไม่ใช่เรื่องผิดเลย ถ้าผมเป็นพี่ผมก็อาจจะจำไม่ได้เหมือนกัน”



หินผานั่งฟังสิ่งที่สายน้ำพูดเพราะเขาพอจะมองออกว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่สายน้ำอยากจะพูด แต่ไม่เคยได้พูดแล้วเมื่อได้พูดสักครั้งหนึ่งก็คงอยากจะพูดอะไรทุกอย่างออกมาให้หมด ไม่อยากเก็บเอาไว้ในใจให้อึดอัด



“แต่ผมก็รอมาตลอดเลยครับ รอที่จะได้กลับมาที่นี่ มาเจอพี่อีกครั้งเพราะผมเองก็ยังจำสัญญาที่พูดกับพี่เอาไว้ได้ ที่ผมจะกลับมา แต่ถึงแม้ว่าผมจะกลับมาแล้วผมก็ไม่ได้มีความกล้ามากขนาดนั้นที่จะพูดทุกอย่างออกมาเอง” ดวงตาของสายน้ำสั่นไหวตอนพูด มันเหมือนกับว่าเขาได้ปลดปล่อยทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา



ยิ่งพูด... ก็ไม่สามารถยับยั้งอะไรได้...



“แต่ผมดีใจมากเลย ที่ผมได้เจอพี่อีกครั้ง แล้วก็ดีใจมาก ๆ ที่พี่เองก็ไม่เคยลืมสัญญาเหมือนกัน”



“พี่ก็ดีใจที่ได้เจอเราอีกครั้ง” หินผาเอื้อมมือไปยีผมของน้องเล่นอย่างเอ็นดู เจ้าตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะกางแขนออก



สายน้ำเงยหน้ามองตามพลางเม้มปากแน่นตอนที่หินผากางแขนออกแล้วมามองมาที่เขายิ้ม ๆ เจ้าตัวก้มหน้ากลั้นรอยยิ้มก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปกอดคนตรงหน้าแน่น ๆ



“ยินดีต้อนรับกลับ”



“ผมกลับมาแล้วครับ”



หินผาลูบหลังคนในอ้อมกอด กอดสายน้ำแน่น ๆ อีกทีก่อนจะผละออก นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่หินผาได้มองหน้าน้องชัด ๆ และใกล้ ๆ แบบนี้ คนอายุมากกว่ายิ้มบางยกมือขึ้นยีผมของน้องอย่างเอ็นดู เดิมทีตอนที่ยังไม่รู้ความจริงเขาก็นึกเอ็นดูสายน้ำมากอยู่แล้ว เอ็นดูมากจน... เผลอชอบไปอย่างไม่รู้ตัว



ตอนนี้รู้แล้วว่าสายน้ำคือน้องน้ำ ความรู้สึกเอ็นดูก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก ส่วนอีกความรู้สึก... คงต้องให้เวลาคอยบอกว่ารู้สึกมากน้อยแค่ไหน



“กินอะไรหรือยัง” หินผาเอ่ยถามอย่างต้องการเปลี่ยนเรื่องเพราะถ้าขืนยังพูดเรื่องเดิมอยู่คงได้เห็นคนแถวนี้ร้องไห้แน่นอนเลย เพราะแค่นี้ก็ตาแดง จมูกแดง หน้าแดง ไปหมดแล้ว



“ยังครับ พี่ล่ะ” สายน้ำก้มหน้าพลางส่ายหน้าไปมา รู้สึกว่าแก้มตัวเองมันร้อนวูบวาบและไม่ต้องให้ใครบอกหรือไปส่องกระจกสายน้ำก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าของตัวเองจะต้องแดงมากแน่ ๆ เพราะอ้อมกอดเมื่อครู่ของหินผา



“ยังเหมือนกัน อย่างนั้นไปหาอะไรกินกัน”



“ครับ เดี๋ยวผมไปหยิบของก่อน” สายน้ำเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหยิบกระเป๋ากับโทรศัพท์ก่อนจะเดินออกมาหาหินผาที่ยืนรออยู่



“แถวนี้มีอะไรอร่อย ๆ บ้าง” หินผาเอ่ยถามระหว่างที่พวกเขาเดินออกจากห้องไปที่ลิฟต์ คนอายุมากกว่าถอยหลังไปชิดผนังลิฟต์พลางมองน้องที่ยกคีย์การ์ดขึ้นแตะเพื่อแสกน



“เลยคอนโดผมไปหน่อยมีร้านอาหารอยู่ครับ จะลองดูไหมครับ” สายน้ำหันมาตอบคำถาม ขยับมายืนข้างกัน



“เอาสิ แบบนั้นก็ได้”



ไม่นานลิฟต์ก็เลื่อนลงมาหยุดที่ชั้นหนึ่ง ทั้งสองคนเดินออกจากลิฟต์ผ่านส่วนล็อบบี้ของคอนโดแล้วออกไปด้านนอก เพราะร้านอยู่ไม่ไกลมากพวกเขาจึงเลือกที่จะเดินไปแทน เดินไปช้า ๆ ไม่รีบเร่ง เดินอยู่ข้าง ๆ กัน และก้าวไปพร้อมกัน



ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงร้านอาหารที่ว่า ตัวร้านเป็นโครงสร้างเหล็กหลังคาจั่วทรงสูง ผนังทั้งหมดรอบด้านเป็นกระจกให้มองเห็นบรรยากาศภายในร้านได้ แถมทางร้านยังจัดสวนเพื่อสร้างบรรยากาศดี ๆ อีกด้วย สายน้ำผลักประตูเข้าไปโดยมีหินผาเดินตามหลัง พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะโซฟาริมผนังด้านในของร้านแทนริมผนังกระจก



เมนูอาหารมีค่อนข้างหลากหลาย ก่อนที่พวกเขาจะสั่งอาหารจานเดี่ยวมาคนละจาน แถมด้วยกับข้าวอีกสองอย่างมากินด้วยกัน ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ คนละแก้ว สายน้ำกวาดสายตาไปรอบร้าน ที่จริงร้านนี้เขาเคยมากินกับเพื่อน ๆ แล้ว สำรวจร้านจนทั่วแล้วด้วย แต่เพราะเขาไม่รู้จะวางสายตาเอาไว้ตรงไหนถึงได้มองไปรอบ ๆ แบบนี้แทน อยู่ ๆ ก็ไม่กล้ามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมองเขาอยู่ก็ตาม



หินผายิ้มขำท่าทางของคนตรงหน้าดูก็รู้ว่าสายน้ำคงทำตัวไม่ถูกเพราะตั้งแต่ส่งเมนูคืนพนักงานไปเจ้าตัวก็เอาแต่กวาดไปสายตาไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองหน้าเขาสักที หากเป็นทุกทีเขาก็คงไม่นึกใส่ใจอะไร หยิบโทรศัพท์มากดเล่นรอเวลาอาหารมาเสิร์ฟไปแล้ว แต่ตอนนี้หินผารู้สึกว่าในโทรศัพท์ไม่มีอะไรน่าสนใจ คนตรงหน้านี้น่าสนใจมากกว่า



เขายังไม่คิดที่จะบอกความรู้สึกของตัวเองให้สายน้ำรู้ เขาต้องการเวลา... เวลาที่เหมาะสม



เพราะไม่อยากให้น้องปวดตาจากการกวาดสายตาไปมาหินผาจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่น และเมื่อสายน้ำเห็นว่าหินผาละสายตาไปจากตัวเองแล้วก็ลอบถอนหายใจออกมา ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดบ้าง



“เรียนเป็นยังไงบ้างช่วงนี้” หินผาเริ่มบทสนทนาหลังจากที่ปล่อยความเงียบครอบคลุมทั่วโต๊ะมาได้สักพัก



สายน้ำสะดุ้งนิด ๆ ตอนที่เสียงของหินผาดังขึ้น เจ้าตัวเงยหน้าจากโทรศัพท์เมื่อมองคู่สนทนาก่อนจะตอบ “ก็... ยังพอได้อยู่ครับ ยังไม่รู้สึกว่ายากเท่าไหร่ครับ”



“ก็ดีแล้วล่ะ ถ้าสงสัยอะไรตรงไหนก็ถามพี่ได้ ไอ้เดียร์ไอ้ทัชก็ถามได้ หรือจะถามเข้าไลน์กลุ่มพวกพี่ป่าก็ได้เหมือนกัน” หินผาพูด “เดี๋ยวเทอมหน้าทำงานกับปีสี่นะ มีแบบนี้ทุกปี ปีหนึ่งจะได้ลองออกแบบบ้านแล้วล่ะ”



“เหมือนจะได้ยินอาจารย์พูด ๆ อยู่เหมือนกันครับ แต่อาจารย์บอกว่าจะบอกรายละเอียดอีกทีตอนก่อนปิดเทอม ตอนพี่อยู่ปีหนึ่งก็มีทำแบบนี้เหมือนกันเหรอครับ”



หินผาพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ ตอนนั้นพวกพี่ไปกระบี่กัน”



“แล้ว... อาจารย์เป็นคนจับกลุ่มให้เหรอครับ”



“เปล่าหรอก ให้จับกลุ่มกันเองน่ะ ปีสี่จะเหมือนเป็นพี่เลี้ยงให้ เหมือนคอยสอนเบื้องต้นนั่นแหละ สนุกดีนะ” หินผายิ้ม “ยังไงก็อย่าลืมเลือกกลุ่มพี่แล้วกัน ดีไหม”



สายน้ำพยักหน้ารับพยายามกลั้นรอยยิ้มกว้างดีใจของตัวเอง ซึ่งมันยากมาก ๆ แต่ก็ยังโชคดีที่อาหารมาเสิร์ฟพอดีทำให้พวกเขาละความสนใจจากกันมาที่อาหารตรงหน้าที่ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ สายน้ำสั่งข้าวผัดกุ้งมาหนึ่งจาน ส่วนของหินผาสั่งเป็นข้าวสวยกับเซ็ตน้ำพริกปลาทู ส่วนกับข้าวก็เป็นทอดมันกุ้งกับต้มยำทะเล ซึ่งรสชาติต้มยำอร่อยถูกใจคนกินอาหารรสจัดอย่างหินผา แต่ค่อนข้างเผ็ดมากสำหรับสายน้ำ แค่เขาตักน้ำต้มยำชิมไปแค่ช้อนเดียวก็ปากแดงไปหมด ต้องตักข้าวผัดเข้าปากหลายคำกว่าจะหายเผ็ด



“หัวเราะชอบใจใหญ่” สายน้ำว่าเมื่อคนตรงหน้านั่งขำท่าทางลนลานของเขา



“ก็ท่าทางเรามันตลก” หินผาว่าพลางกลั้นหัวเราะไปด้วย ท่าทางของสายน้ำตอนกินน้ำต้มยำแล้วหน้าแดงปากแดงด้วยความเผ็ดต้องรีบคว้าแก้วน้ำมาดูดอึก ๆ มันดูน่าขันจนเผลอหัวเราะออกมา แต่พอเห็นสีหน้าบึ้ง ๆ ของน้องก็ต้องเม้มปากกลั้นยิ้มไว้



หินผากระแอมกระไอเพื่อกลบเกลื่อนอาการขำของตัวเอง ตักทอดมันกุ้งใส่จานของน้องให้ “กินนี่แทนแล้วกัน ไม่เผ็ด จะเอาแกงจืดอะไรไหม”



“ไม่ต้องหรอกครับ แบบนี้แหละผมกินได้”



ถึงแม้สายน้ำจะบอกแบบนั้นแต่หินผาก็ยกมือเรียกพนักงานก่อนจะสั่งแกงจืดมาให้สายน้ำเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง “เดี๋ยวพี่ช่วยกิน”



แล้วสายน้ำจะปฏิเสธได้ยังไงกัน “ขอบคุณครับ”



“ระหว่างรอก็กินนี่ก่อน” หินผาตักกุ้งในถ้วยต้มยำมาใส่จานข้าวตัวเองแล้วใช้ข้าวสวยคลุกไปมาบนตัวกุ้งเพื่อลดความเผ็ดลงแล้วจึงตักกุ้งตัวนั้นให้สายน้ำ



“ขอบคุณครับ” ไม่ใช่ครั้งแรกที่หินผาทำแบบนี้ให้ หลายครั้งเวลาที่พวกเขาไปกินข้าวด้วยกัน แล้วถ้าสั่งเป็นกับข้าวที่มีรสเผ็ดหินผาก็จะทำแบบนี้ให้ตลอด



ใช้เวลาไม่นานอาหารทุกอย่างบนโต๊ะก็หมดเกลี้ยง รวมไปถึงแกงจืดที่สั่งมาเพิ่มทีหลังด้วย พอมีแกงจืดมาช่วยดับความเผ็ดสายน้ำเลยตักต้มยำกินได้อีกหลายช้อน พวกเขาเดินกลับไปที่คอนโดของสายน้ำ คนอายุมากกว่าก็เอ่ยขอตัวกลับก่อนสายน้ำเลยเดินไปส่งอีกฝ่ายที่รถ



“แล้วเจอกันนะ”



“ครับ... ขับรถดี ๆ นะครับ”



หินผาพยักหน้ารับ ยกมือยีผมของน้องไปอีกรอบก่อนจะสอดตัวเข้าไปในรถแล้วขับออกจากลานจอดรถไป สายน้ำยืนมองก่อนจะเดินกลับเข้าไปในล็อบบี้ ใช้บัตรสแกนเข้าลิฟต์ก่อนจะกดชั้นที่เพื่อนของตัวเองอยู่ พวกเขาทำคีย์การ์ดชั้นตัวเองมาแลกกันเอาไว้ เผื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ สายน้ำจึงสามารถกดลิฟต์ชั้นที่แบงก์กับตั้มอยู่ได้



เคาะประตูห้องอยู่ไม่นานแบงก์ก็เดินมาเปิดประตูให้ เจ้าตัวแปลกใจเมื่อเห็นสายน้ำยืนอยู่แต่ก็เปิดประตูออกกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง



“มีอะไรเปล่าวะ” ตั้มหันมาทัก



“เปล่า พอดีออกไปกินข้าวมาแล้วผ่านร้านเค้กเลยซื้อมาฝากพวกมึงด้วย” สายน้ำชูถุงใส่กล่องเค้กที่เขาแวะซื้อระหว่างเดินกลับคอนโดให้ดู



“เฮ้ย! กำลังอยากกินพอดี ขอบใจมากมึง” แบงก์ยิ้มกว้างรับถุงขนมเค้กมาจากสายน้ำแล้วเดินไปทางแพนทรี่ครัวก่อนจะยกจานใส่ขนมเค้กทั้งปอนด์ออกมา “กินไหมมึง”



สายน้ำส่ายหน้า “ไม่อ่ะ พวกมึงกินกันเลย”



“เออ ๆ มึงจะกลับห้องเลยเปล่า”



“ยัง ขออยู่ด้วยก่อน” สายน้ำว่าพลางเดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟายาวที่ไม่มีใครนั่งเพราะเพื่อนทั้งสองคนไปนั่งอยู่ที่พื้นข้างโต๊ะญี่ปุ่นเพื่อนั่งกินขนมเค้กกัน



“ตามสบาย” แบงก์ว่า “แล้วมึงไปกินข้าวที่ไหนมาวะถึงได้ผ่านร้านนี้มาได้เนี่ย”



“ร้านที่เคยไปกินนั่นแหละ พอดีพี่หินผาแวะมาคุยธุระด้วยก็เลยไปกินข้าวกันมา”



แบงก์กับตั้มหันมองหน้ากันเองก่อนจะหันไปมองเพื่อน “ช่วงนี้มึงสนิทกับพี่เขาเนอะ”



“อือ... สนิท จริง ๆ แล้วกูกับพี่หินผาเคยรู้จักกันมาก่อนตอนเด็ก ๆ ก็เลยสนิทกันน่ะ” สายน้ำเลือกที่จะบอกเพื่อนไปเพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บเป็นความลับอะไรแล้ว เพราะหินผาก็รู้แล้วว่าเขาคือน้องน้ำในตอนนั้น



“อ้าวเหรอวะ ไม่บอกพวกกูแต่แรกอ่ะ”



“ก็... เพิ่งจำได้กันน่ะ ไม่ได้เจอกันนานมากก็เลยนึกไม่ถึง” สายน้ำตอบแบบเลี่ยง ๆ ไปก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอนอิง ท่าทางแปลก ๆ จนตั้มต้องเอ่ยถาม “มึงเป็นไรเปล่าวะ ไม่สบายเหรอ”



“อ่า... เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร”



“แน่ใจนะมึง ทำไมมึงดูหงอย ๆ วะ”



“กูไม่ได้หงอย แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ พวกมึงไม่ต้องสนใจหรอกน่า กินเค้กกันไปเถอะ” สายน้ำหัวเราะเมื่อได้ยินแบงก์พูดแบบนั้น



“แน่นะมึง”



“แน่ดิ กิน ๆ ไปไม่ต้องสนใจกู” สายน้ำโบกมือไล่ให้เพื่อนทั้งสองคนหันไปสนใจขนมเค้กแทน “ปล่อยกูเอาไว้แบบนี้แหละ”



แบงก์กับตั้มเออออรับคำ มองเพื่อนตัวเองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะละความสนใจแล้วหันมาสนใจขนมเค้กต่อแทน สายน้ำพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อไม่สนใจแล้ว เขายังคงซุกหน้ากอดหมอนอิงอยู่แบบนั้น



จะให้บอกกับเพื่อนได้ยังไงว่าไม่กล้ากลับขึ้นไปบนห้องตัวเอง ห้องที่หินผาได้เข้าไปแล้ว



เข้ากลัวว่าตัวเองจะนอนเขินตายอยู่บนห้องเพราะไม่ว่าจะมองไปตรงไหนก็คงเห็นภาพหินผาเดิน นั่งแล้วก็ยืนอยู่ในห้องของตัวเองแน่ ๆ ใครจะคาดคิดกันว่าวันหนึ่งเขาจะมีโอกาสได้พาคนที่แอบชอบขึ้นมาบนห้องของตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่ได้มีอะไรนอกไปจากการพูดคุยก็เถอะ



แต่คนที่เรียกว่าเป็น Hinpaalism แบบเขาแล้วมันก็อดที่จะมองเห็นภาพของหินผาในห้องตัวเองไม่ได้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะกล้าอยู่ได้ยังไงกัน ถ้าหัวใจของเขาเต้นแรงตลอดเวลา หน้าแดงตลอดเวลาล่ะก็... ต้องตายแน่ ๆ



เลยต้องแวะมาหลบพักหัวใจของตัวเองไม่ให้ทำงานหนักเกินไปที่ห้องของเพื่อน ๆ ก่อนนี่ไง






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ใกล้กันเข้ามาอีกนิดหนึ่งแล้วสำหรับคู่นี้
แต่ก็ต้องให้เวลาอีกหน่อยเนอะ จะปุ๊บปั๊บเลยก็คงไม่ใช่สไตล์พี่หินผา
เอาเป็นว่า... ให้เวลาค่อย ๆ ทำให้พวกเขารักกันกว่าเดิมดีกว่าเนอะ

น้องน้ำน่ารัก ไม่กล้ากลับเข้าห้องเพราะมีแต่ภาพพี่เขาเต็มห้องเลย
เอ็นดูวววววววววววววววว

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-08-2019 22:09:43
พี่หินกลายเป็น..... ไปซะแล้ว ทำเอาน้องน้ำไม่กล้ากลับห้อง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 13-08-2019 22:24:42
 :pig4: :pig4: :pig4:

เป็นเอามากนะนุ้งน้ำ  เขินไม่จบไม่สิ้น
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-08-2019 23:44:47
ดีใจกับน้องสายน้ำด้วยนะครับ หวังว่าพี่หินผาจะทำให้ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-08-2019 00:44:58
น้องงงงงงงงงงงง เอ็นดู  :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-08-2019 09:22:47
ต่อไปจากนี้ก็คงจะได้กระชับความสัมพันธ์ที่ขาดหายไปตอนเด็กด้วยกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 14-08-2019 20:59:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-08-2019 23:25:21
 :man1:

 
 :L1: :pig4: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 14-08-2019 23:54:21
 o13 o13 :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-08-2019 00:02:56
โถ เอ็นดูน้องน้ำ กลัวเขินตายกลางห้อง เพราะพี่ที่แอบปลื้มเคยเข้ามาในห้อง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 17-08-2019 07:11:16
 :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [70%] l P.13 13-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 17-08-2019 14:44:18
 :mew1:

ฟางอัพมาหลายวัน เพิ่งมีเวลเข้ามาอ่าน

น่ารักมากเลย รอเวลาเปิดใจอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 18-08-2019 20:30:55
(https://i.ibb.co/myg3Jzq/10.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ






ครั้งที่ | “10”




❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





ใกล้ช่วงสอบกลางภาคแล้วการเรียนก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะวิชาจำพวกทฤษฎีไม่ว่าจะเป็นวิชาในคณะหรือวิชานอกคณะก็ตาม เนื้อหาเริ่มอัดแน่นจนรู้สึกล้าสมองไปหมดหลังจากที่จบคราบเรียนโดยเฉพาะวิชาที่เรียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมทั่วโลกแบบนี้



เหล่านักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ต่างทยอยกันเดินออกจากห้องเรียนด้วยสภาพที่เรียกว่า... สะโหลสะเหล เพราะถูกอัดแน่นด้วยเนื้อหาในการเรียน สายน้ำเดินตามเพื่อนในกลุ่มออกมาไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่วิชานี้เรียนตอนบ่าย โชคร้ายก็เพราะพวกเขาจะง่วงมากเป็นพิเศษ แต่โชคดีก็คือพวกเขาไม่ต้องแบกสมองอันหนักอึ้งนี้ไปเรียนวิชาอื่นต่ออีก



“ไปหาอะไรกินกันก่อนไหมแล้วค่อยกลับ” มะนาวหันมาถามเพื่อนคนอื่น ๆ ในกลุ่ม ซึ่งแต่ละคนก็พยักหน้ารับเห็นด้วย



การกินถือเป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่งของพวกเขา



“อยากกินชาบูอ่ะ ไปห้างกันไหม ไหน ๆ วันนี้ก็ไม่มีเรียนอะไรแล้ว แถมยังเป็นวันศุกร์อีกด้วย” เบลยกมือเสนอความคิดเห็นเป็นคนแรก



“แบบนั้นก็ได้ แล้วจะไปยังไงไปด้วยกันหมดหรือแยกกันไป” ตั้มที่วันนี้ขับรถมาหันมาถามเพื่อน พวกเขามีกันทั้งหมดห้าคน ถ้าจะไปรถของตั้มคันเดียวก็พออยู่แล้ว



“วันนี้เราก็ขับรถมา” เบลพูด “เอาอย่างนี้สายน้ำมากับเราแล้วกัน อย่างน้อยในรถจะได้มีผู้ชายอยู่ด้วย”



“แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะขับรถไม่เป็นก็ตามอย่างนั้นน่ะเหรอ” สายน้ำหัวเราะ เขาพูดต่อจากประโยคของเบลทำเอาทุกคนเลยหัวเราะตามไปด้วย



จริง ๆ แล้วสายน้ำขับรถเป็นแต่เพียงแค่เขาไม่คุ้นกับการขับรถในประเทศไทย เขาเลยยังไม่เสี่ยงที่จะซื้อรถมาขับทั้ง ๆ ที่แม่ก็บอกว่าจะซื้อรถให้เขาสักหนึ่งคันเหมือนกัน



“ถึงเวลาคับขันจริง ๆ สายน้ำก็ขับได้แหละน่า” เบลมองค้อนเพื่อน “อย่างนั้นตามนี้นะ เดี๋ยวเจอกันที่ห้างเลยนะ ถึงแล้วโทรหาอีกที”



พวกเขาแยกกันไป แบงก์กับตั้มเดินไปอีกทาง ส่วนสายน้ำเดินตามสองสาวมาอีกทางเพราะพวกเขาจอดรถเอาไว้คนละที่ มะนาวย้ายไปนั่งข้างหลังเพื่อที่สายน้ำจะได้นั่งสบาย ๆ เพราะขายาว นั่งเบาะหน้าคงจะเหยียดขาได้มากกว่า



ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่เบลก็ขับรถเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า วนหาที่จอดอยู่สักพักถึงจะได้เพราะช่วงเวลาเย็น ๆ หลังเลิกงานแบบนี้คนก็แวะมาเที่ยวกันก่อนกลับบ้านเยอะแยะ ได้ที่จอดรถเรียบร้อยทั้งสามคนก็เดินไปยังร้านชาบูที่ตั้งใจจะมากินกันทันที แบงก์กับตั้มรออยู่หน้าร้านแล้ว



“กินช้า ๆ ก็ได้ไหม เป็นผู้หญิงนะอย่าลืม” สายน้ำเอ่ยสองสาวที่เอาแต่คีบเนื้อหมูเนื้อปลาเข้าปากไม่หยุดตั้งแต่เริ่มลงมือ พวกเขาเลือกนั่งเป็นโต๊ะใหญ่ เปิดสองหม้อเลยเพราะหม้อเดียวไม่พอกิน



เบลกับมะนาวหัวเราะเมื่อได้ยินสายน้ำพูดแบบนั้น รวมไปถึงแบงก์กับตั้มด้วย ก่อนที่แบงก์ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจะหันมามองสายน้ำ “มึงน่าจะชินได้แล้วนะ”



“ก็เราหิวนี่!” เบลแย้งให้ตัวเองทันที



“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไอ้น้ำมันยังกินเรียบร้อยกว่าเลย” ตั้มเองก็เห็นด้วยกับแบงก์กับสายน้ำเพราะสองสาวกินจุมากจริง ๆ



“อย่าเอาเราสองคนไปเทียบกับสายน้ำสิ! เทียบกันไม่ได้” มะนาวเองก็หาข้อแก้ตัวให้ตัวเองเหมือนกัน



“ใช่ ๆ”



พอสองสาวผนึกกำลังกันพวกหนุ่ม ๆ ก็ไม่อยากต่อความยาวปล่อยให้เจ้าหล่อนกินแบบที่อยากกินตามสบาย อยู่ในร้านจนกระทั่งหมดเวลาถึงได้เดินลูบพุงกันออกมา เพราะยังไม่อยากกลับเบลกับมะนาวเลยชวนไปเดินเล่นเป็นการย่อยอาหารไปในตัวด้วย ไม่มีใครขัดอะไร ปล่อยให้สองสาวเดินนำ



“อ่ะ นั่นพี่เดียร์นี่นา มากับใครนะ” มะนาวที่หันไปเห็นรุ่นพี่ที่สนิทกันพอดีร้องออกมา ทุกคนเลยหันไปมองตามสายตาของมะนาว



เดียร์กำลังยืนอยู่กับผู้ชายตัวสูงอีกคน รุ่นพี่หน้าเด็กทำหน้ายุ่งเหมือนโดนขัดใจ แต่คนตัวสูงกว่ากำลังยิ้มออกมา



“หล่อชิบหายเลยนั่น ขนาดกูเป็นผู้ชายยังมองว่าหล่อเลย” แบงก์หันมาบอกกับเพื่อน ๆ



“นั่น! พี่เหนือเดือนนี่ ใช่ไหมเบล ใช่ไหม” มะนาวตีมือตีแขนของเบลยกใหญ่



“ไหน ๆ จริงด้วย! พี่เหนือเดือนจริง ๆ ด้วย”



“ใครอ่ะ พี่เหนือเดือน” ตั้มทำหน้างง พลางนึกไปถึงรุ่นพี่ในคณะว่ามีใครที่ชื่อเหนือเดือนบ้าง เพราะเขาไม่คุ้นเลย



“เขาชื่อพี่กันต์ เหนือเดือนเป็นฉายาของพี่เขา เพราะพี่เขาหล่อมาก ๆ หล่อกว่าเดือนคณะ เดือนมหา’ลัยตอนพี่เขาอยู่ปีหนึ่งอีก” เบลเป็นคนให้ข้อมูล “แล้วทำไมมากับพี่เดียร์ได้นะ”



“พวกเขาสนิทกัน อยู่กลุ่มเดียวกันไง” สายน้ำเป็นคนตอบแต่เขาไม่ได้เล่าให้ฟังว่าสองคนนั้นเป็นคนรักกัน “พี่หินผาเป็นน้องชายพี่ป่าไม้ที่อยู่กลุ่มเดียวกับพี่กันต์ พวกพี่ ๆ เขาเลยสนิทกัน กลุ่มนี้ไงที่กูไปเที่ยวด้วยแล้วพี่ ๆ เขาจะให้ชวนทุกคนไปด้วยครั้งหน้าน่ะ”



“อ่อ... กลุ่มนี้เองน่ะเหรอ”



“ใช่” สายน้ำพยักหน้า “ไปเดินกันต่อเถอะ”



“เดี๋ยวก่อน” เบลคว้าแขนของสายน้ำเอาไว้ “พี่เดียร์เดินมานั่นแล้ว เรียกพวกเราด้วยนี่”



“ไงทุกคน” เดียร์เดินมาถึงตรงที่พวกเขายืนอยู่พร้อมกับทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส



“สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ” พวกเขาทั้งห้าคนยกมือไหว้พร้อมกัน



“เราเจอกันที่ห้างอีกแล้ว คราวก่อนก็เจอ มากินข้าวกันเหรอ”



“ใช่ค่ะ กินกันเสร็จเรียบร้อยพุงกางแล้วค่ะตอนนี้” มะนาวพูดไปก็หัวเราะไป เดียร์เลยหัวเราะตาม



“เดินไม่รอเลยอุ๋ง” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของเดียร์เรียกสายตาของทุกคนให้หันไปมอง คนมาใหม่เลิกคิ้วขึ้นพยักหน้ารับเมื่อเห็นรุ่นน้องที่คุ้นหน้าคุ้นตาเพราะเพิ่งไปเที่ยวด้วยกันมายกมือไหว้เขา



“แนะนำก่อน ๆ คนนี้พี่กันต์ เหนือเดือนในตำนานของคณะเรา ลองไปถามพวกปีสองขึ้นไปได้เลย ไม่มีใครไม่รู้จักหรอก” เดียร์คว้าแขนอีกฝ่ายรั้งให้มายืนข้าง ๆ แล้วแนะนำตัวให้ “ส่วนนี่เป็นเพื่อนในกลุ่มน้องน้ำ มีน้องเบล น้องมะนาว น้องแบงก์แล้วก็น้องตั้ม”



“อ่อ... เอาไว้คราวหน้าพวกพี่ไปเที่ยวก็ไปด้วยกันนะ จะได้สนิท ๆ กันไว้” กันต์พยักหน้ารับคำทักทายของน้อง ๆ



“ใช่ ๆ ไว้ไปด้วยกัน ไปเยอะ ๆ สนุกดี เนอะสายน้ำเนอะ”



“ครับพี่”



“แล้วนี่เจอไอ้หินมันหรือยัง มันรู้ไหมเนี่ยว่าเรามาเที่ยวห้างกับเพื่อน ๆ อ่ะ” เดียร์ถามสายน้ำซึ่งอีกฝ่ายได้แต่ทำหน้างง ๆ กลับมาให้ “อ้าว... เดี๋ยวนะ”



ทุกคนได้แต่มองเดียร์หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทร เจ้าตัวคุยอยู่ไม่กี่คำก็วางสายไปก่อนจะหันมาชวนน้อง ๆ คุยต่อโดยมีกันต์ยืนรออยู่ข้าง ๆ



“สายน้ำ” เสียงเรียกชื่อสายน้ำดังขึ้นให้เจ้าของชื่อและคนอื่น ๆ หันไปมอง รุ่นพี่ปีสี่อีกสองคนเดินตรงเข้ามาหาให้รุ่นน้องยกมือไหว้สวัสดีอีกรอบ



หินผาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยืนข้างสายน้ำแล้วมองคนที่เตี้ยกว่าตัวเองไม่มากแล้วยิ้มออกมา “มากินข้าวกับเพื่อนเหรอ”



“ครับ” สายน้ำพยักหน้า



“แล้วกลับยังไง”



“กลับกับแบงก์แล้วก็ตั้มครับ พวกผมอยู่คอนโดเดียวกันแต่คนละชั้น” สายน้ำตอบ



“เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง”



“ครับ!?”



หินผาไม่ได้สนใจสีหน้างุนงงของน้อง แต่หันไปมองเพื่อนของสายน้ำแทน “เดี๋ยวพี่ไปส่งสายน้ำเอง พวกเราไม่ต้องรอนะ กลับกันก่อนได้เลย พี่ยืมตัวสายน้ำไปก่อน กูไปก่อนนะมึง สวัสดีครับพี่กันต์”



หินผาพูดม้วนเดียวจบกับทุก ๆ คน หันไปพูดกับรุ่นน้อง หันมาบอกลาเพื่อนแล้วก็ยกมือไหว้รุ่นพี่ก่อนจะกึ่งจูงกึ่งลากสายน้ำให้เดินไปด้วยกันแบบที่คนโดนลากและคนโดนบอกลาได้แต่มองตาปริบ ๆ กันเพราะตามไม่ทัน



“จะไปไหนครับ” สายน้ำถามเพราะอีกฝ่ายลากเขามาโดยไม่ได้บอกอะไรเลย



“พี่หิว ไปหาอะไรกินกัน”



“ผมกินแล้ว”



“ไปนั่งเป็นเพื่อนพี่ก็ได้ นะ” คนอายุมากกว่าหันกลับมามอง ไม่ต้องทำหน้าอ้อนหรืออะไรเลย แค่พูดออกมาสายน้ำก็ยอมใจอ้อนพยักหน้าตกลงไปแล้ว



แพ้ทางจริง ๆ กับคนอย่างหินผา






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

บังเอิญเจอกันบ่อยอ่ะ
พรหมลิขิตแน่เลย ฮาาา
รู้สึกว่าสายน้ำน่ารักขึ้นทุกวันเลย
กลายเป็นตะเล็กตะน้อยไปแล้วทั้ง ๆ ที่หล่อระดับเดือนมหาวิทยาลัยเลยน้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-08-2019 20:46:19
คนพี่มาเร็วไปเร็วนะคะ เล่นเอาน้อง ๆ ที่มาด้วยกันงงไปด้วยเลย 555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 18-08-2019 21:08:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-08-2019 21:31:40
คนในตำนานออกมาแล้ว คิดถึงคู่นี้นะ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-08-2019 22:32:09
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...ตั้งแต่รู้ว่าน้องสายน้ำก็คือน้องน้ำคนในความทรงจำเนี่ย  เกาะติดไม่ปล่อยเลยนาพี่หิน  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-08-2019 23:10:16
หูยยยยย มีความบังคับน้องหน่อย ๆ ด้วยนะ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-08-2019 01:13:42
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-08-2019 01:49:50
เป็นธรรมชาติไปหม้ดดด  :heaven
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 20-08-2019 00:56:31
 :impress2: เหม็น​ความ​รัก​อ่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 20-08-2019 08:19:09
โอ้ย เอะอะลาก ไม่ลากน้องก็ไปอยู่แล้วพี่หิน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-08-2019 23:55:50
จ้าาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 22-08-2019 15:28:28
 :mew1:

โอ้ยยย อ่านไปยิ้มไปทุกเรื่องเลยของฟาง

หินผาสายน้ำน่ารักมากกก

อยากให้ฟางแต่งเรื่องของพี่กันต์กับน้องเดียร์ต่อด้วยอ่ะ

ฝากฟางพิจารณาด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 23-08-2019 16:31:11
เมื่อไหร่จะสารภาพความในใจอะ รออยู่นะ

รอติดตามตอนต่อไปอยู่จ้า  o13 :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 23-08-2019 21:53:56
(https://i.ibb.co/Jzrwd7R/11.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “11”






FGU CUTE BOY – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ

งานดีทั้งกลุ่มเลยจ้า ทั้งหนุ่มทั้งสาวงานดีอะไรขนาดนี้ แล้วคืออะไร... วันรวมพลคนหน้าตาดีเหรอ ไหนจะทั้งเดือนมหา’ลัยคนล่าสุด อดีตเดือนคณะ(ที่แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังหล่อไม่เปลี่ยน) ที่สำคัญจ้า!!! เหนือเดือนในตำนาน ที่เจ้เชื่อว่าปีสองขึ้นไปไม่มีใครไม่รู้จักคนนี้แน่นอน งานดีมากกกกกก อยากจะมีโมเมนต์ได้ไปยืนท่ามกลางคนหน้าตาดีเหล่านี้บ้างจังอ่ะ!

#สถาปัตย์หล่อบอกต่อด้วย #ผู้ชายหล่อบอกต่อด้วย

ปล. ใครไม่เห็นแต่เจ้เห็น! โมเมนต์จ้าาาาาาาาาาา



Belove Yaoi – นู๋ก็เห็นเหมือนกันค่ะเจ้!!



Sky Sky – เค้าก็เห็นโมเมนต์เหมือนกันจ้า *แนบรูปภาพ*



ส้มเอง จ้า - โมเมนต์จ้า มองตากันหวาน ๆ งี้เหรอ พี่น้องร่วมคณะเฉย ๆ ใช่ป่ะ ไม่ได้มีอะไรกันเนอะ




“อือหือ... โมเมนต์ โมเมนต์” ทัชที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่พูดออกมาก่อนจะวางโทรศัพท์ลงกลางโต๊ะเพื่อให้เพื่อนอีกสองคนเห็นด้วย ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนนั่งอยู่ในร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย เป็นร้านที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักศึกษา เพราะเป็นร้านกาแฟกึ่งห้องสมุด แถมยังมี Co-working Space ให้นักศึกษามานั่งทำงาน นั่งติวหนังสือได้อีก



ภายในร้านก็ตกแต่งอย่างสวยงาม ดูผ่อนคลาย แต่ละจุดแต่ละมุมก็มีต้นไม้ประดับทำให้รู้สึกสดชื่น แถมการจัดร้านยังเน้นเฟอร์นิเจอร์โทนสีขาว สีไม้อ่อน ดูมินิมอลสุด ๆ



เดียร์ชะโงกหน้ามามองด้วยความสนใจก่อนจะเงยหน้ามองคนที่อยู่ในรูปแล้วยิ้มล้อเลียน “หวานเชียวน้า”



“คนเขามีความรักก็แบบนี้แหละเนอะ”



“กิ๊ว ๆ”



“กิ๊ว ๆ อะไรล่ะ” หินผาส่ายหน้ากับท่าทางล้อเลียนของเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของทัชมาดูรูปที่อีกฝ่ายพูด



ต้นโพสต์ลงรูปของเขากับเพื่อน ๆ กลุ่มของกันต์แล้วก็กลุ่มของสายน้ำที่บังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อวันก่อน ส่วนภาพที่ทัชกับเดียร์เอามาล้อเขานั้นเป็นภาพแคปมาจากภาพรวมอีกที เป็นภาพที่เขากำลังหันไปคุยกับสายน้ำแล้วยิ้มพอดี



หินผาอยากจะรู้จริง ๆ ว่าคนถ่ายรูปให้กล้องของอะไรขนาดซูมภาพแล้วแคปมาอีกทีภาพยังชัดเสียขนาดนี้



“ไง ไงล่ะ ภาพมันฟ้องนะมึง” ทัชยังคงเหย้าแหย่ต่อ



หินผาหัวเราะพร้อมกับไหวไหล่ “ก็ไม่เห็นจะอะไรเลย”



“ยังไง สรุปคือจริงจังใช่ไหมคนนี้อ่ะ” เดียร์ถาม หลังจากวันที่หินผารีบร้อนออกจากบ้านแฝดสามไปวันรุ่งขึ้นเพื่อนคนนี้ก็เล่าเรื่องสำคัญที่น่าตกใจให้ฟัง ทั้งเรื่องที่ว่าหินผากับสายน้ำเคยรู้จักกันมาก่อนสมัยตอนเป็นเด็ก ๆ แถมยังสนิทกันมาก แล้วก็ยังบอกถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อสายน้ำให้พวกเขาฟังด้วย



ตอนได้ยินก็ตกใจเหมือนกัน เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งเดียร์กับทัชยังไม่เคยเห็นหินผาจะชอบใครหรือคุยกับใครเป็นพิเศษเลย ใครเข้าหาก็ปฏิเสธด้วยรอยยิ้มตลอด จนพวกเขาคิดว่าคงไม่มีใครในมหาวิทยาลัยที่จะมาทำให้เพื่อนคนนี้หวั่นไหวได้แน่นอน



ใครจะคิดว่าอยู่มาวันหนึ่ง... คนคนนั้นก็จะปรากฏตัวขึ้นแบบนี้



“จริงจังที่สุดแล้วล่ะ” หินผาตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง



“กูขอหมั่นไส้ เบ้ปากมองบน” ทัชว่าพร้อมกับกรอกตาไปมาอย่างระอา



“คนยังไม่มีคู่อย่างมึงอย่าอิจฉา” เดียร์หันไปล้อเลียนทัชที่ตอนนี้กลายเป็นคนโสดคนเดียวของกลุ่ม ไม่ใช่สิ... หินผาก็ยังไม่ได้คบกับน้อง แต่ก็มีคนที่ชอบแล้วก็ถือว่าไม่โสดได้แล้วนี่เนอะ



“เดี๋ยวกูโบกเลย” ทัชทำท่ายกมือขึ้นจะทำอย่างที่ว่าแต่ก็ทำเพียงแค่วางมือบนผมของเพื่อนตัวเล็กแล้วขยี้จนยุ่งฟูไปหมดแค่นั้น “ขอย้อนความไปสมัยปีหนึ่งนิด ที่มึงเคยบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว ตอนนั้นมึงหมายถึงยังไงวะ”



“เหี้ย... ย้อนโคตรไกล” เดียร์พึมพำแต่ก็นึกตามไปด้วย “หมายถึงตอนที่คิดว่ามันชอบกูอ่ะเหรอ”



“เรื่องขนาดนั้นพวกมึงก็ยังจะจำกันได้นะ” หินผาหัวเราะ “ตอนนั้นกูแค่พูดไปอย่างนั้นเพราะมึงดันสงสัยว่ากูจะชอบเดียร์ แต่พอมานึกดูตอนนี้ตอนนั้นกูอาจจะหมายถึงน้องน้ำก็ได้ แต่กูอาจจะแค่ไม่รู้ตัว”



“ยังไงวะ”



“ก็... กูอาจจะชอบน้องน้ำมาตลอดแต่กูไม่รู้ตัวไง”



“เออ ช่างเรื่องที่มันผ่านมาแล้วเถอะ แล้วจากนี้มึงจะยังไง จีบน้องเหรอ” ทัชถาม



“กูว่ายังเร็วไปหน่อย กูอยากให้ความรู้สึกมันชัดเจนกว่านี้ก่อน ทั้งของกูแล้วก็ของน้อง หลายเดือนมานี้น้องเฟลกับความรู้สึกของกูมาเยอะกูเลยยังไม่อยากเร่งรีบสักเท่าไหร่” หินผาตอบพร้อมกับยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เพื่อนทั้งสองคนไม่เคยเห็น เป็นรอยยิ้มที่ดูแล้ว... อันตราย “ไม่ว่ายังไง... กูก็ไม่ปล่อยให้น้องหายไปไหนหรอก”



“ตามใจมึงเลยจ้า” ทัชว่าส่ายหน้าอย่างระอา “กูชักจะสงสารน้อง มึงในตอนนี้ดูไม่ใช่มึงที่กูเคยรู้จัก”



“จริงของมึง กูว่ามันร้ายชิบหายเลยอ่ะ น้องแย่แน่ ๆ เลย” เดียร์เองก็หันไปพยักหน้าเห็นด้วยกันกับเพื่อน “มึงว่าเราควรจะไปเตือนน้องดีไหม”



“ก็ดีนะมึง”



“เตือนไปก็เท่านั้นแหละ น้องรักกูกว่าที่พวกมึงคิด” หินผาพูดพลางยักคิ้วใส่



“จ้า... กูเกลียดมึงมากตอนนี้” ทัชแทบจะหันหน้าหนี ส่วนหินผาก็หัวเราะชอบใจที่เห็นเพื่อนทำท่าทางแบบนั้น



เขาไม่ได้มั่นใจหรอกว่าน้องจะรักเขาหรือเปล่า แต่ก็แค่อยากจะแกล้งเพื่อนตัวดีทั้งสองคนก็แค่นั้นเอง



“แล้วนี่จะไปไหนกันต่อ” เดียร์ถามเพื่อนทั้งสองคน ทัชส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่ไปไหนแล้ว เดียร์เลยหันไปมองเพื่อนอีกคนที่ยังไม่ตอบคำถามเขา “มึงอ่ะ”



“รอน้อง”



“โอเคจบ กูไม่ถามต่อว่าจะไปไหน” เดียร์ยกมือขึ้นเหมือนเป็นการตัดบท “งั้นกูกลับกับมึง”



“ตามนั้น มึงจะรอน้องอยู่นี่หรือว่ายังไง”



“อือ เดี๋ยวน้องมานี่” หินผาพยักหน้ารับ



“งั้นเราไปกัน”



พวกเขายกมือลาก่อนที่ทัชกับเดียร์จะหยิบกระเป๋าลุกจากเดินออกจากร้านไป หินผาหันไปเรียกพนักงานมาเก็บโต๊ะก่อนจะสั่งเครื่องดื่มของตัวเองแล้วก็เผื่อไปถึงน้อง แล้วก็ขนมให้ด้วย หลังจากนั้นไม่นานคนที่เขารอก็ผลักประตูเข้ามาในร้าน เสียงกระดิ่งที่เจ้าของร้านติดเอาไว้ตรงประตูดังกรุ๊งกริ๊งเรียกสายตาใครหลายคนให้หันไปมอง



สายน้ำกวาดสายตาไปรอบร้านก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนที่เขานัดนั่งรออยู่ เจ้าตัวเดินเข้ามาหาทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามอีกฝ่าย “รอนานไหมครับ”



“ไม่หรอก ทัชกับเดียร์ก็เพิ่งไปเอง” หินผาตอบ “พี่สั่งชาพีชกับเค้กช็อกโกแลตไว้ให้”



“ของโปรดผม ขอบคุณครับ” สายน้ำยิ้มกว้าง เขาไม่ชอบเครื่องดื่มที่มีรสหวานมาก ๆ เวลาจะสั่งพวกเครื่องดื่มเขาจึงมักสั่งแบบหวานน้อย แต่ที่ยอมรับน้ำแดงที่หินผาสั่งให้ก็เป็นเพราะว่าคนให้คือหินผา ส่วนพวกของหวานเขาชอบที่เป็นช็อกโกแลต แต่ก็ต้องไม่หวานจนเกินไปด้วย



“ไม่ยอมบอกพี่แต่แรกว่าไม่ชอบน้ำแดงชงแบบนั้น” หินผาตำหนิ แต่ไม่ได้จริงจังนัก เขาก็เพิ่งรู้ว่าน้องไม่ชอบอะไรหวาน ๆ จริง ๆ ก็ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วที่สายน้ำไม่ชอบกินอะไรหวาน ๆ



“จริง ๆ ตอนนั้นเพราะมันเผ็ดด้วยแหละครับผมก็เลยกินได้ มันช่วยแก้เผ็ดได้” สายน้ำตอบ “ผมไม่เคยกินหมดแก้วต้องหิ้วกลับไปที่ห้องทุกครั้งให้น้ำแข็งมันละลายหน่อยแล้วค่อยกินต่อ”



“จริง ๆ เลยเรา” หินผาเอื้อมมือไปขยี้ผมสายน้ำอย่างมันเขี้ยวปนเอ็นดู



ชาพีชสองแก้วพร้อมเค้กช็อกโกแลตถูกยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะ หินผาดันแก้วหนึ่งให้น้อง ของเขาอีกแก้ว เขาไม่เคยลองกินพวกเครื่องดื่มที่เป็นชาแบบนี้ส่วนมากจะเป็นพวกกาแฟไม่ก็ดาร์กโกโก้ ดาร์กช็อกโกแลต แต่เมื่อครู่เขากินกาแฟหมดไปหนึ่งแก้วแล้ว ก็เลยอยากที่จะลองอะไรแบบนี้ดูบ้าง



“กินไหมครับ” สายน้ำชี้นิ้วไปที่จานใส่ขนมเค้ก



“ไม่ล่ะ เรากินเลยเมื่อกี้พี่กินกับพวกเดียร์แล้ว” หินผาปฏิเสธก่อนจะลองหยิบน้ำชาพีชขึ้นมาดูด เขาทำหน้าพอใจเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ที่ไม่เคยกิน ชาพีชนั้นเย็นชื่นใจมีกลิ่นหอมหวานทำให้รู้สึกสดชื่น รสชาติก็ออกหวานหน่อย ๆ กำลังดี “รายงานที่เราเคยบอกพี่เสร็จหรือยัง”



สายน้ำเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะนึกไปถึงงานของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง “อ่อ... วิชาสถาปัตยกรรมโลก ใกล้เสร็จแล้วล่ะครับเหลืออีกไม่เยอะเท่าไหร่”



“แล้วเบสิค ดีไซน์มีงานต้องส่งก่อนสอบมิดเทอมไหม”



“มีครับ” สายน้ำพยักหน้า “มีให้ขึ้นแบบสามมิติตามแบบแปลนที่อาจารย์ให้ไว้ครับ”



“แล้วเราทำเสร็จหรือยัง”



พอหินผาถามแบบนั้นเจ้าตัวก็ทำหน้าแหย “ทำแล้วครับแต่ยังไม่เสร็จเลย ผมเพิ่งเคลียร์ดรออิ้งหมดไปเอง”



“ถ้าติดตรงไหนก็บอก เดี๋ยวพี่ช่วยดูให้ แล้วนี่เอาคอมฯ มาแล้วใช่ไหม”



“ครับผม เอามาแล้วครับอยู่ในกระเป๋า”



“กินเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปซื้อของกันต่อ” หินผาเลิกชวนสายน้ำคุยเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้จัดการกับขนมเค้กตรงหน้าให้หมด



วันนี้หินผาจะไปซื้อของสำหรับตัดโมเดลที่จะต้องส่งกลางเทอมนี้ และเมื่อสายน้ำรู้เจ้าตัวก็ขอไปด้วยแถมยังเสนอตัวจะช่วยเขาตัดโมเดลด้วย คงเป็นเพราะสายน้ำอยากจะเห็นงานของเขามากกว่า แต่เพราะงานของสายน้ำเองก็ยังไม่เสร็จหินผาเลยชวนเจ้าตัวให้มาทำงานด้วยกันที่ห้องของหินผา สายน้ำก็จะได้ดูงานของเขา และเขาก็จะได้ช่วยสายน้ำดูงานด้วย



หลังจากที่จัดการขนมเค้กเรียบร้อยพวกเขาก็เดินออกจากร้านไปขึ้นรถของหินผาที่จอดอยู่ไม่ไกลเพื่อตรงไปยังห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ นี้ วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็ได้ใกล้ ๆ กับประตูทางเข้าพอดี หินผาพาสายน้ำตรงไปยังร้านจำหน่ายหนังสือชื่อดังที่ไม่ได้มีขายแค่หนังสือแต่มีพวกอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียนต่าง ๆ นา ๆ ด้วย



“พี่ทำมิวเซียมใช่ไหมครับ เป็นเกี่ยวกับอะไรเหรอ” สายน้ำถามด้วยความสนใจ เขารู้มาว่าโปรเจคของปีสี่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องทำอะไร แล้วแต่อยากจะทำได้เลย



“ใช่ พี่ทำมิวเซียมดนตรีนาฏศิลป์ไทยน่ะ” หินผาตอบคำถามน้องไปก็เลือกหยิบไม้บัลซ่าที่หนึ่งในอุปกรณ์การทำโมเดลไปด้วย “มีทั้งโซนที่เป็นเครื่องดนตรีไทย แล้วก็นาฏศิลป์ด้วย”



“ทำไมพี่เลือกทำเรื่องนี้ละครับ”



คนถูกถามหยุดคิดก่อนจะหันกลับมามองสายน้ำ “คงเพราะ... พี่อยู่กับสิ่งนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วละมั้ง ดนตรีไทย รำไทย ตอนที่อาจารย์บอกว่าให้ทำอะไรก็ได้พี่ก็นึกถึงอะไรพวกนี้ทันที พี่ว่ามันยากแต่ก็น่าสนุก”



สายน้ำพยักหน้ากับคำตอบของหินผา แอบเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่อีกฝ่ายพูด หินผาอยู่กับดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทยมาตั้งแต่เด็ก ไหนจะเคยเรียนด้วยกันกับสายน้ำมา แถมยังได้ไปแสดงโชว์หลาย ๆ ที่ด้วย



“คงจะสวยน่าดูเลยงานของพี่”



หินผาหัวเราะ “ไม่ต้องคิดถึงสวยเลย แค่เอาให้พี่ผ่านกลางเทอมนี้ไปได้ก่อนก็พอแล้ว”



“พี่หินผาเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”



“แต่ไม่เป็นไรหรอก พี่มีผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะเลยนี่นะ ใช่ไหมเรา”



สายน้ำทำตาโตพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “พี่หมายถึงผมเหรอครับ โห... ถ้าเป็นตอนเด็ก ๆ ผมคงช่วยพี่ได้เต็มที่เลย แต่ตอนนี้นี่ไม่น่าจะรอดแล้วล่ะครับ”



“ดูพูดเข้า อาจารย์ไพศาลได้ยินตีเราตายเลย”



“นั่นสิครับ ถ้าพ่อรู้นี่คงตีผมแน่เลย”



“จริงสิ เรายังติดต่อกับอ. อยู่ใช่ไหม” หินผาถามอย่างไม่แน่ใจ



“ครับ ผมยังติดต่อกับพ่ออยู่ อย่างคอนโดที่ผมอยู่พ่อก็ช่วยเป็นธุระให้น่ะครับ มีโทรคุยกันบ้าง แต่ว่าตั้งแต่กลับมาผมก็ยังไม่ได้เจอพ่อเหมือนกัน ผมเองก็ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ส่วนพ่อก็ยุ่ง ๆ เลยยังไม่ได้เจอกันน่ะครับ” สายน้ำส่งยิ้มให้เหมือนต้องการบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร “พ่อกับแม่เองก็ยังคุยกันได้ครับ ไม่ได้ถึงกับมองหน้ากันไม่ติดเลย”



“เอาไว้สะดวก ๆ พี่พาไปหาพ่อเอาไหม” หินผายกมือขึ้นลูบผมของสายน้ำอย่างที่ชอบทำ



“เอาครับ! ผมเองก็อยากเจอพ่ออยู่ เอาไว้หลังสอบเสร็จก็ได้พี่หินผาพาผมไปนะ” สายน้ำยิ้มดีใจ “ผมจะได้โทรบอกพ่อ ให้พ่อหาวันว่าง”



“จริงสิ เอาไว้พี่พาไป”



“จริง ๆ แล้ว... ผมก็อยากไปเยี่ยมน้าเดือนกับลุงพันธ์เหมือนกันนะครับ”



“อันนั้นต้องรอปิดเทอมแล้วล่ะ ถ้าเราไม่ได้กลับไปหาน้านก พี่จะพาเราไปเชียงใหม่”



สายน้ำพยักหน้าทันที “ได้เลยครับ ผมอยากกลับไปเชียงใหม่ ไว้ไปกันนะครับ พี่ ผม พี่ป่าไม้ด้วย”



“หึหึ โอเค ได้อยู่แล้ว” หินผายิ้ม หยิบไม้บัลซ่าที่เลือกได้แล้วส่งให้สายน้ำช่วยถือก่อนที่เขาจะเดินเลือกของกันต่อ กว่าจะเรียบร้อยก็ผ่านไปร่วมชั่วโมง



เสร็จจากตรงนี้หินผาก็ตามใจน้อง เมื่ออีกฝ่ายอยากจะแวะไปดูหนังสือเขาก็ไม่ขัด เดินตามสายน้ำไปยังโซนหนังสือแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเลือกหนังสือได้อย่างเต็มที่ ส่วนเขาเองก็ยืนดูหนังสืออยู่ไม่ไกลกัน







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

“ไม่ว่ายังไง... กูก็ไม่ปล่อยให้น้องหายไปไหนหรอก”
หูยยยย พี่เขาประกาศซะขนาดนี้แล้วอ่ะจ้า
ทำยังไงดี พาน้องน้ำหนีไปดีไหมเนี่ย ? ? ? ?
พี่หินผาคนนี้คือใครรรรร น้องน้ำจะรับมือพี่เขายังไงเนี่ยลูก
เอาตัวรอดให้ได้นะ อวยพรให้อยู่จ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 23-08-2019 21:58:20
:mew1:

โอ้ยยย อ่านไปยิ้มไปทุกเรื่องเลยของฟาง

หินผาสายน้ำน่ารักมากกก

อยากให้ฟางแต่งเรื่องของพี่กันต์กับน้องเดียร์ต่อด้วยอ่ะ

ฝากฟางพิจารณาด้วยนะคะ


เรื่องของพี่กันต์น้องเดียร์ ฟางแต่งจบ ออกเล่มเรียบร้อยแล้วน้าาาา

ชื่อเรื่อง Faculty of Love 1 My Dear ; รักของผม ผมจัดเอง จ้า ตามอ่านได้เลยน้าา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-08-2019 22:43:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 24-08-2019 00:12:25
 :L2:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-08-2019 01:29:51
ค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็อย่าปล่อยน้องอีกนะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-08-2019 01:36:09
หมั่นไส้หินผาด้วยคน ชริ 
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-08-2019 03:49:06
พี่เขาช่างแสนดี  :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 24-08-2019 09:02:43
มีความร้าย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 24-08-2019 09:30:48
เอาจริงๆ นะ ตอนนี้ทั้งคู่เหมือนแฟนกันไปแล้วอ่ะ
แถมไม่ใช่คนเพิ่งเป็นแฟนกันนะ..
โมเมนต์เหมือนคบกันมานานแล้วอะไรยังเงี้ยอ่ะ
งุ้ยยยยย มันดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 24-08-2019 12:11:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 24-08-2019 12:11:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 24-08-2019 17:33:51
ชอบความขิงเพื่อนของหินผาตอนนี้มาก 555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-08-2019 00:48:30
ยอมละจ้า ลั่นวาจาขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-08-2019 02:03:04
 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "10" [100%] l P.13 18-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 25-08-2019 03:46:50
:mew1:

โอ้ยยย อ่านไปยิ้มไปทุกเรื่องเลยของฟาง

หินผาสายน้ำน่ารักมากกก

อยากให้ฟางแต่งเรื่องของพี่กันต์กับน้องเดียร์ต่อด้วยอ่ะ

ฝากฟางพิจารณาด้วยนะคะ


เรื่องของพี่กันต์น้องเดียร์ ฟางแต่งจบ ออกเล่มเรียบร้อยแล้วน้าาาา

ชื่อเรื่อง Faculty of Love 1 My Dear ; รักของผม ผมจัดเอง จ้า ตามอ่านได้เลยน้าา


น่าร้ากกกกก ฟางแต่งนิยายได้น่ารักมากกกเลย

เรื่องของพี่กันต์น้องเดียร์อ่านจบแล้วค่ะ

แต่อยากให้แต่งเรื่องต่อไปอีกจ้าาา รู้สึกว่าคู่นี้น่ารักมากๆๆๆๆ

เลยอยากให้มีภาคของพี่กันต์กับน้องเดียร์อีก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [40%] l P.14 23-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 26-08-2019 06:38:54
ทำเพื่อนหมั่นไส้ ยังไม่เท่าหินผาประกาศตัว 5555
พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ก็ไม่บื้อแล้วนะ ฮึ่ยยย อึดอัดมานาน

หินผาเป็นคนชัดเจน จริงจัง ก็ดีนะที่รอเวลาอีกสักพัก
ต่างคนต่างจะได้เรียนรู้กัน ไม่ใช่แค่ความผูกพันจากอดีต

สายน้ำน่าเอ็นดู ถึงน้องจะโตขึ้นมากแล้ว
แต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยกับพี่เสมอนะ

ตลกทัชเดียร์ คือจะชงหรือยังไง แต่เขม่นมากเนาะ
มะนาวเบลทำให้กลุ่มสายน้ำ ดูเฮฮาเพิ่มขึ้น
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 27-08-2019 22:02:31
(https://i.ibb.co/Jzrwd7R/11.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “11”






❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





“พักสายตาหน่อยไหม” หินผาเอ่ยถามคนที่เอาแต่นั่งจ้องคอมมาตั้งแต่หัวค่ำยังไม่ได้ละสายตาไปไหนเลย



สายน้ำเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มให้พร้อมพยักหน้ารับ “ก็ดีครับ พี่หินผางานเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”



“ยังหรอก แต่พักก่อนนั่งเพ่งตัดมาตั้งหลายชั่วโมง ตาล้าไปหมดแล้ว” หินผาว่าพลางนวดขมับของตัวเอง “ยังเหลือเวลาอยู่พักก่อนได้”



หลังจากที่ซื้อของกันเสร็จ แวะกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้า แวะซื้อของกินสำหรับมื้อดึกเรียบร้อยพวกเขาก็กลับมาที่คอนโดของหินผา เพราะมีห้องน้ำสองห้องหินผาเลยให้แขกพิเศษไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่พวกเขาจะมานั่งอยู่หน้าโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วลงมือทำงานของตัวเอง



หินผาเพ่งสมาธิ เพ่งสายตาอยู่กับการตัดโมเดลโปรเจค ส่วนสายน้ำก็วุ่นวายกับการทำรายงานและขึ้นแบบสามมิติตามแปลนที่อาจารย์ให้มา ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรมีเพียงเสียงเพลงที่เปิดจากโทรศัพท์ของหินผาแล้วเชื่อมต่อผ่านลำโพงดังออกมาเป็นเพื่อน ไม่ให้ภายในห้องเงียบจนเกินไป



ซึ่งพอเพ่งสายตานานนับชั่วโมงก็เริ่มรู้สึกล้าที่ดวงตาหินผาถึงได้เงยหน้าขึ้น วางมือจากงานที่กำลังทำแล้วก็ส่งเสียงทักสายน้ำที่ก็นั่งทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจไม่ต่างกัน



“ผมไปนั่งที่ระเบียงได้ไหมครับ” สายน้ำชี้นิ้วไปที่ระเบียงห้องของหินผา เขาค่อนข้างชอบมันมากเพราะระเบียงของคอนโดนี้ค่อนข้างกว้าง สามารถเอาบีนแบ็กออกไปนั่งเล่นได้



“เอาสิ หยิบบีนแบ็กออกไปรองนั่งเดี๋ยวพี่ไปหยิบน้ำก่อน” หินผาพยักหน้ารับ



ทั้งสองคนลุกขึ้นจากงานตรงหน้า สายน้ำเดินไปหิ้วบีนแบ็กที่วางอยู่ใกล้ประตูออกระเบียงออกไปวางไว้ข้างนอก ส่วนหินผาเดินไปยังโซนครัวเพื่อหยิบเบียร์กระป๋องที่แช่เอาไว้ออกมาสองกระป๋อง เจ้าของห้องเดินตามออกไปที่ระเบียง ส่งกระป๋องเบียร์ให้น้องก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนบีนแบ็กอีกอันที่วางอยู่ข้าง ๆ สายน้ำ



สายลมเย็นในตอนกลางคืนทำให้รู้สึกสบาย แม้ในกรุงเทพจะไม่มีดาวระยิบระยับให้เห็นแต่แสงไฟจากตึกสูง ๆ ก็สร้างบรรยากาศได้ดีอีกแบบ



“ถ้าเป็นที่เชียงใหม่คงจะเห็นดาวเต็มไปหมดเลยนะครับ” สายน้ำพูดพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำตรงหน้า ยังดียังมีดวงจันทร์กลมโตส่องสว่างให้เห็น



“ยังชอบนั่งมองดาวอยู่อีกเหรอ” หินผาหันไปมองคนข้าง ๆ ภาพตอนสายน้ำเด็ก ๆ ซ้อนทับขึ้นมา ใบหน้าน่ารักยิ้มกว้างตอนเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว



“มันสวยนี่ครับ ไม่ว่าจะมองจากที่ไหนท้องฟ้าที่มีดาวก็สวยเสมอ” สายน้ำตอบก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้ แต่พอเห็นคนพี่กำลังมองมารอยยิ้มก็ค่อย ๆ หุบลงเปลี่ยนเป็นยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มเพื่อแก้เขินแทน



หินผายิ้มเมื่อเห็นท่าทางนั้นของสายน้ำ เขาละสายตาจากใบหน้าหล่อไปมองวิวของกรุงเทพแทน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ล้อมพวกเขาเอาไว้ แต่ไม่ได้เป็นความเงียบที่ชวนอึดอัดใจ เป็นความเงียบที่ทำให้รู้สึกสงบ และสบายใจที่จะอยู่ตรงนี้



“เล่าตอนที่อยู่ที่ต่างประเทศให้พี่ฟังบ้างสิ พี่อยากรู้” หินผาพูดขึ้นทำลายความเงียบนั้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่อึดอัด แต่หินผารู้สึกอยากที่จะคุยกับคนข้าง ๆ นี้มากกว่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้พูดอะไรกัน



“อือ... เอาช่วงไหนดีละครับ”



“ตอนไหนก็ได้ เล่ามาเถอะพี่อยากฟัง” หินผาพูด “อยากรู้ว่าน้องน้ำของพี่ตอนไปอยู่ต่างประเทศเป็นยังไงบ้าง”



หัวใจสั่นไหวตอนที่ได้ยินคำว่า น้องน้ำของพี่ หัวใจของสายน้ำอ่อนแอจริง ๆ โดยเฉพาะกับคนคนนี้ ได้แต่หวังว่าแสงไฟตรงระเบียงจะไม่สว่างมากพอให้หินผาเห็นใบหน้าแดง ๆ ของตัวเอง “ก็ยากครับ... ถ้าพูดถึงตอนที่ไปอยู่แรก ๆ เลยนะครับ ไหนจะคนละภาษา ไหนจะคนละเชื้อชาติกัน แรก ๆ มันยากมากเลยครับ”



“แต่เราก็พูดภาษาอังกฤษได้นี่”



“ได้มันก็ได้แหละครับ ตอนนั้นถึงผมจะเก่งภาษาอังกฤษแต่มันก็แค่ในห้องเรียนไงครับ แต่สำหรับการใช้ในชีวิตจริงมันยาก อีกอย่างผมก็ไม่ค่อยกล้าที่จะพูดด้วย ตอนนั้นมันกลัวไปหมดเลยครับ กลัวว่าเขาจะฟังไม่ออก กลัวเขาจะหัวเราะกับสำเนียง สารพัดเลย” สายน้ำเล่า “ยิ่งตอนนั้นผมก็ตัวเล็กมากด้วย ส่วนสูง รูปร่างห่างจากคนที่นั้นตั้งเยอะ ไม่กล้าเข้าหาใครอีกกลัวจะโดนแกล้ง”



หินผาหันมองคนพูด “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่ไทยก็เจอแบบนั้นใช่ไหม”



สายน้ำพยักหน้ารับกับคำถามนั้น “ใช่ครับ เพราะผมเองก็ฝังใจตอนอยู่ที่เชียงใหม่ หรือตอนย้ายมากรุงเทพแรก ๆ ก่อนจะย้ายไปนู้นผมก็โดนแกล้งประจำ มันเลยฝังใจแล้วก็กลัวว่าผมจะโดนอีก ใช้เวลาเกือบปีเลยล่ะครับกว่าจะปรับตัวได้”



“แล้วอยู่ที่นู้นมีใครมาแกล้งเราไหม” หินผาอดที่จะนึกเป็นห่วงไม่ได้



“มีครับ แต่น้อยมาก ๆ ส่วนใหญ่ทุกคนจะเป็นมิตร ต้องเรียกว่าผมโชคดีมาก ๆ ที่เจอเพื่อนดี ๆ ที่นู้น”



“เด็กเก่ง” หินผายกมือขึ้นลูบผมน้องเบา ๆ อย่างที่ชอบทำพร้อมกับยิ้มให้ “ตอนเราย้ายออกจากเชียงใหม่พี่ก็นึกห่วงอยู่ กลัวว่าจะมีคนมาแกล้งเรา กลัวว่าจะไม่มีคนมาปกป้องเรา”



“มันยากมาก ๆ เลยครับตอนนั้น ผมมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ต่างอะไรจากตอนอยู่ที่เชียงใหม่เลย ผมโดนแกล้งสารพัด แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะผมโตขึ้น แล้วก็จำคำของพี่ได้ พี่บอกว่าผมต้องเข้มแข็ง อย่าให้ใครมารังแกได้ง่าย ๆ ผมก็พยายามมาตลอดเลยครับ ตอนอยู่ที่เมกาเพื่อน ๆ ก็ชวนผมไปเล่นกีฬา ออกกำลังกายจนตัวผมโตขึ้นมาแบบนี้ไงครับ” สายน้ำหัวเราะ



“จริง ๆ ตัวโตแบบนี้ก็ดีแล้ว สุขภาพดี พี่มานึก ๆ ดูถ้าเรายังตัวเล็ก หรือผอมแห้งเหมือนตอนเด็ก ๆ ก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยง่าย ไม่ดีเลย”



“ครับ ผมแข็งแรงขึ้นเยอะเลย”



“เด็กเก่ง” หินผาชมออกมาอีกรอบให้สายน้ำยิ้มรับคำชมนั้น



“แล้วพี่หินผาล่ะครับ อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง ตอนที่ผมไม่อยู่...”



“ก็เหงาสิ” หินผาตอบแทบจะทันทีที่สายน้ำถามจบ “อยู่ ๆ ก็ย้ายไปทั้งเหงาทั้งใจหายเลยจนแม่ยังเป็นห่วงเพราะพี่ซึมไปเยอะเลย แต่พอขึ้นม.ปลายพี่ก็ต้องเริ่มสนใจกับการสอบเข้ามหา’ลัยแทน”



“ผมก็เหมือนกันครับ ตอนที่ย้ายจากเชียงใหม่มากรุงเทพผมเองก็ซึมไปมากจนเกือบจะเป็นโรคซึมเศร้า” สายน้ำพูด



“โรคซึมเศร้า” หินผาทวนคำอย่างไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า



สายน้ำพยักหน้ารับ “ใช่ครับ ย้ายมาแรก ๆ ผมต้องเปลี่ยนโรงเรียน ผมโดนเพื่อน ๆ แกล้งแถมยังเหงามากด้วย ทั้งคิดถึงพี่ คิดถึงพี่ป่าไม้ จนผมเกือบจะเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย แถม... ตอนนั้นพ่อกับแม่ก็เริ่มมีปัญหากัน ผมก็เลยยิ่งแบบ... ดาวน์เลยครับ ผมค่อนข้างแย่เลยตอนนั้น ทุกอย่างมันย่ำแย่ไปหมด”



“ผมในตอนนั้นไม่มีแม้แต่รอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะอะไรเลยครับ ผมแย่มากจริง ๆ แย่ถึงขนาดที่ผมคิดว่า... ทำไมโลกของเรามันช่างโหดร้ายขนาดนี้ ทำไมโลกของผมมันถึงได้อ้างว้างขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีใครเลย”



หินผานั่งฟังในสิ่งที่น้องเล่าอย่างตั้งใจ เขาไม่คิดเลยว่าน้องจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากขนาดนี้ เขานึกกังวลอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่คิดจริง ๆ ว่ามันจะขนาดนี้ ตอนที่สายน้ำย้ายออกมาเขาเองก็เหงา ๆ เศร้า ๆ ไปเหมือนกัน แต่เพราะยังอยู่ในที่เดิม ที่ ๆ มีเพื่อนมากมายหินผาจึงผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ แต่กับสายน้ำที่เหมือนมาเริ่มหนึ่งใหม่คงจะเป็นอะไรที่ยากน่าดู



“แม่เลยตัดสินใจย้ายไปต่างประเทศกับแด๊ดหลังจากที่หย่ากับพ่อแล้ว เพราะคิดว่ามันคงจะดีกับผมมากกว่า ซึ่งมันก็จริงครับ ที่นั่นมันดีกับผมมากกว่า ทั้งคน ทั้งสภาพแวดล้อม แต่ที่แย่... ที่นั่นไม่มีพี่ แถมยังไกลจากพี่มากขึ้นไปอีก”



“เด็กเก่ง” เป็นอีกรอบที่หินผาเอ่ยชม “น้องน้ำของพี่เป็นคนเก่งจริง ๆ เลยนะ”



“น้องน้ำเก่งอยู่แล้วครับ”



เรื่องราวมากมายถูกเล่าออกมาให้ฟังทั้งเรื่องของหินผาและสายน้ำ พวกเขาทั้งคู่สลับกันเล่าเรื่องของตัวเองในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน เป็นชั่วโมงที่นั่งอยู่แบบนั้น รับฟังเรื่องของกันและกันจนแทบจะลืมเวลาไปแล้ว



สายน้ำยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะหาวออกมา และนั่นจึงทำให้หินผารู้สึกตัวว่าเวลาผ่านมานานแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลา ตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเวลาบนหน้าจอ ล่วงเข้าสู่วันใหม่มาเป็นชั่วโมงแล้ว เท่ากับว่าพวกเขานั่งอยู่ตรงนี้มาเกือบสอบชั่วโมง



“ไปนอนกันเถอะ ดึกมากแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาทำงานกันต่อ” หินผาหันไปบอกกับคนที่เริ่มจะตาปรือเพราะความง่วง



“ครับ” สายน้ำไม่ปฏิเสธ เขาพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะลุกขึ้นตามหินผา ยกบีนแบ็กเข้าไปเก็บเอาไว้ข้างใน ถือกระป๋องเบียร์ที่หมดไปแล้วไปทิ้งใส่ถังขยะ



“ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน เดี๋ยวพี่เก็บงานให้” หินผาดันหลังสายน้ำให้เข้าไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ส่วนตัวเขาก็เดินมาเก็บงานทั้งของตัวเองแล้วก็ของน้องให้เรียบร้อย ก่อนจะเข้าไปแปรงฟันเตรียมตัวนอนบ้าง



หินผาเดินเข้าไปในห้องนอนก็เจอกับคนที่บอกว่าง่วงนอนเมื่อครู่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงฝั่งหนึ่ง ฝั่งที่เจ้าตัวเคยนอนเมื่อครั้งที่มาค้างห้องเขาคราวก่อน



“ไหนว่าง่วงนอนไง” หินผาส่งเสียงทักให้คนที่กำลังเล่นโทรศัพท์ลดมือลงแล้วส่งยิ้มมาให้



“ก็พอล้างหน้าแล้วมันก็ได้อีกนิดหนึ่งไงครับ”



“เลิกเล่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ปวดตาหรอกจ้องทั้งคอม ทั้งโทรศัพท์” หินผาพูด



“คร้าบ” อีกฝ่ายก็รับคำแต่โดยดีไม่มีอิดออดหรือต่อรองอะไร สายน้ำวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะขยับตัวนอนบนเตียง



“พี่ปิดไฟแล้วนะ” หินผาบอก พอสายน้ำตอบรับก็กดปิดไฟ อาศัยความสว่างจากไฟบริเวณหน้าห้องน้ำเดินกลับไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ สายน้ำ



เจ้าของห้องนอนหันหน้าไปทางที่สายน้ำนอนอยู่ พอสายตาเริ่มชินกับความมืดก็พอจะมองเห็นเงาของอีกฝ่าย “หลับหรือยัง”



“ยังครับ” สายน้ำหันมามองตามเสียงเรียก “พี่หินผายังไม่ง่วงเหรอครับ”



“ก็เปล่าหรอก จริง ๆ พี่นึกถึงตอนเด็ก ๆ เวลาที่เรามาค้างกับพี่”



“เมื่อก่อนผมไปค้างกับพี่บ่อยมากเลย จนมีหมอน มีผ้าห่มมีตุ๊กตาเป็นของตัวเองบนห้องพี่” สายน้ำหัวเราะเมื่อนึกถึงตอนนั้น เขาไปค้างบ้านของหินผาบ่อยมาก ๆ จนแม่ของหินผาซื้อหมอน ซื้อผ้าห่มแล้วก็ตุ๊กตาวางเอาไว้ให้บนเตียงของหินผาเลย



“หึหึ นั่นสินะ แล้วก็ต้องให้พี่ลูบผมกล่อมก่อนนอนด้วย จะได้หลับฝันดี” หินผาพูดพร้อมกับยกมือวางบนผมของสายน้ำแล้วลูบเบา ๆ อย่างที่ทำตอนเป็นเด็ก “แบบนี้ไง”



“ตอนนั้นผมคิดว่ามันได้ผลมาก ๆ เลย พอพี่ลูบผมแบบนี้ผมก็หลับไวมาก แล้วก็รู้สึกฝันดี นอนหลับสบายมากเลย”



“แล้วตอนนี้ล่ะ”



“ตอนนี้ผมโตแล้ว”



“แต่พี่ก็ลูบผมกล่อมเราได้นี่” หินผายังคงลูบผมของสายน้ำเรื่อย ๆ “แบบนี้ไง สบายใช่ไหมล่ะ”



สายน้ำพยักหน้ารับ รู้สึกสบายจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูด แต่ก็รู้สึกเขินไม่น้อยเหมือนกัน “ครับ”



“นอนเถอะ ดึกมากแล้ว ฝันดีนะ”



“ครับ ฝันดีครับ” สายน้ำตอบกลับพร้อมกับหลับตาลง เขาไม่ได้เอ่ยห้ามหรือปฏิเสธสัมผัสที่ยังอยู่ของหินผา เขาทำเพียงแค่หลับตาและปล่อยความรู้สึกของตัวเองให้ล่องลอย หวนนึกถึงช่วงเวลาเก่า ๆ ที่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น



ใช้เวลาไม่นาน... สายน้ำก็หลับสนิท ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ หินผาเห็นแบบนั้นก็ยิ้มเอ็นดูแต่แทนที่เขาจะยกมือออกกลับวางมือเอาไว้ที่แก้มของสายน้ำแทนแล้วหลับตาลง ถ้าสายน้ำต้องมีเขาลูบผมถึงจะนอนหลับฝันดีแล้ว หินผาก็ต้องมีแก้มของน้องน้ำให้จับถึงจะหลับฝันดีเช่นกัน







“สายน้ำ ดึกแล้วนะเตรียมตัวเข้านอนได้แล้วล่ะ” คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ก่อนจะหันไปมองเวลาบนนาฬิกาที่แขวนผนังเอาไว้



“ครับ พี่หินผา” วางหนังสือเล่มที่ถืออยู่บนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืน



“ป่ะ ไปแปรงฟันแล้วจะได้เข้านอนกัน” หินผาจูงมือน้องเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน ตรงไปยังห้องนอนของเขา “เข้าไปแปรงฟันก่อนเลย เดี๋ยวพี่ทีหลัง”



“ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยเรียกคนพี่ที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโต๊ะทำงานในห้องนอน “พี่หินผาครับ ผมเสร็จแล้วนะ พี่ไปอาบน้ำ แปรงฟันได้เลยนะครับ”



“อ่อ โอเค เรานอนก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ออกมาปิดไฟให้” หินผายกมือขึ้นยีผมของน้องอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ



เขาใช้เวลาในห้องน้ำค่อนข้างนานเพราะยังไม่ได้อาบน้ำ ผิดกับสายน้ำที่อาบน้ำไปตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว หินผาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอน เจ้าตัวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นสายน้ำนั่งโงนเงนอยู่บนเตียงทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายควรจะนอนหลับไปได้แล้ว



“ทำไมยังไม่นอนอีก” ถามออกไปเสียงดุด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว



“น้องน้ำรอพี่หินผา” อีกฝ่ายตอบกลับมา พยายามลืมตาขึ้นมองแต่ก็ยากเสียเหลือเกินเพราะตาทั้งสองข้างของเขาใกล้จะปิดเต็มทีแล้ว “พี่หินผาไม่ลูบผม น้องน้ำนอนหลับบฝันร้าย”



คนเป็นพี่ได้แต่หลุดยิ้ม จากที่ทำหน้าดุเมื่อครู่ก็อ่อนลง หินผาเดินเอาผ้าไปตากก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องแล้วจึงเดินไปที่เตียงที่น้องน้ำนั่งอยู่ คนอายุมากกว่าจับน้องให้นอนลงบนเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้เสร็จสรรพ วางตุ๊กตาตัวโปรดของน้องเอาไว้ใกล้ ๆ แล้วล้มตัวลงนอนตาม



“พี่หินผา ลูบ ๆ” คนง่วงพูดเสียงงัวเงีย



“โอเค ๆ กำลังจะลูบผมให้อยู่นี่แหละ งอแงเชียว” หินผาพูดขำ ๆ เมื่อเห็นท่าทางนั้นของน้อง เขายกมือขึ้นวางบนผมนุ่มของสายน้ำแล้วลูบไปมาเบา ๆ อย่างต้องการกล่อมให้อีกฝ่ายนอนหลับ



“ครับ...”



ลูบผมอยู่ไม่นานสายน้ำก็หลับไป เจ้าตัวขยับตัวเข้าหาหินผาอย่างไม่รู้ตัว นอนขดอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่างไปไหน



“นอนหลับฝันดีตัวเล็ก” หินผาพูดยิ้ม ๆ เมื่อรับรู้ว่าสายน้ำนอนหลับสนิทแล้ว และคงไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาง่าย ๆ จนกว่าจะเช้า



หินผาจับผ้าห่มคลุมร่างตัวเองกับสายน้ำ ขยับไปใกล้น้องอีกนิดก่อนจะวางมือข้างที่ใช้ลูบผมน้องลงกับแก้มนิ่มของสายน้ำ เป็นปกติทุกครั้งหลังจากที่หินผาลูบผมกล่อมน้องน้ำนอนแล้ว ก็จะถึงเวลาที่เขาจะกล่อมตัวเองนอนบ้าง



ไม่ต้องให้สายน้ำหรือใครมาลูบผม ลูบหลังกล่อม ไม่ต้องมีใครมานั่งเล่านิทานให้ฟัง เพียงแค่เขาวางมือบนแก้มของสายน้ำแล้วหลับตาลง ใช้เวลาไม่นานเลยหินผาก็สามารถหลับได้ ถ้าหากเป็นยามปกติที่สายน้ำไม่มานอนค้างด้วย หินผาต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะหลับ แล้วก็ไม่ได้หลับสนิทตลอดคืนเหมือนเวลานอนจับแก้มสายน้ำแล้วหลับไป



ถ้าหากสายน้ำต้องการการลูบผมกล่อมจากหินผาเพื่อให้นอนหลับสบาย



หินผาเองก็ต้องการแก้มนิ่ม ๆ ของสายน้ำในการนอนหลับเหมือนกัน







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ช่วงนี้ให้แอร์ไทม์กับพี่หินเยอะหน่อย เพราะแรก ๆ พี่หินไม่ค่อยได้ออกเท่าไหร่
มาชดเชยให้ตอนนี้จ้าาาาา
เนี่ย... แบบพระเอกต้องมาหลัง ๆ แล้วก็มากวาดแอร์ไทม์ไปหมดไรงี้
แรก ๆ มาให้พอตื่นเต้นเฉย ๆ 55555555
เอาน่า! พี่เขาจะเดินหน้าเข้าหาน้องแล้ว
ก็ต้องให้พี่เขาหน่อยแหละเนอะ
ตอนนี้ได้ย้อนอดีตไปดูความน่ารักของพี่หินผากับน้องน้ำด้วย
น่ารักเนอะ ฮี่ ๆ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 27-08-2019 22:18:18
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-08-2019 22:48:24
 :pig4: :pig4: :pig4:

โห...แล้วที่ผ่านมา  พี่หินผาก็อยู่ในอาการหลับยากมาตลอดเลยสินะ  หุหุ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-08-2019 22:57:25
ไม่ต้องกลัว มาตอนนี้ อีพี่หินจะลูบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าให้หลาย ๆ รอบเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-08-2019 23:27:32
ตื่นมาน้องไม่แก้มบี้เหรอพี่หิน   :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-08-2019 23:57:49
ซีนนี้ มีนักแสดงแค่ พี่หินผา กับน้องสายน้ำ ^^" //หวานกันเบา ๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-08-2019 00:46:47
 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-08-2019 01:48:53
ทำเหมือนตอนเด็กเลย  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 28-08-2019 09:37:04
งื้ออออ ลูบแก้มลูบหัว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 28-08-2019 17:55:35
งื้ออออ  :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-08-2019 21:30:56
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 29-08-2019 03:33:52
 :mew1:

น่าร้ากกก ชอบนิยายของฟางมากจริงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [70%] l P.14 27-08-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 30-08-2019 00:13:36
 :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 02-09-2019 20:50:25
(https://i.ibb.co/Jzrwd7R/11.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “11”






❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






“นั่งทำหน้าอะไรของเรา” สายน้ำเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงของหินผา



“อ่อ... พอดีทางสโมฯ ทักข้อความมาหาผมน่ะครับ เขาอยากให้ผมเข้าร่วมโครงการแบ่งปันความสุขให้น้องน่ะครับ” สายน้ำตอบคำถามพร้อมกับรับชามใส่โจ๊กที่พนักงานของร้านยกมาเสิร์ฟพอดี



“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ไม่อยากทำเหรอ” หินผาถาม



“ไม่ใช่ครับ” สายน้ำส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “ผมไม่มีปัญหาเรื่องการเข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว ยินดีเสียอีก แต่พอดีทางสโมฯ เขาบอกว่าอาจจะต้องมีการถ่ายรูปโปรโมท หรือไม่ก็ต้องทำเป็นคลิปสั้นอะไรพวกนี้น่ะครับ ผมหนักใจเรื่องพวกนี้มากกว่า ไม่ชิน”



หินผาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจในความรู้สึกของสายน้ำ “ตอนปีหนึ่งปีสองพี่ก็เคยไปถ่ายรูปโปรโมทพวกโครงการอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกัน ไม่ต่างอะไรกับที่เราไปถ่ายรูปโปรโมทตอนประกวดดาวเดือนหรอก”



“ครับผม”



“แล้วมีถ่ายรูปโปรโมทเมื่อไหร่ล่ะ”



สายน้ำหยิบโทรศัพท์มากดดูวัน เวลาที่ทางสโมสรนักศึกษานัดมาเพื่อให้เขาเข้าไปถ่ายรูปโปรโมท “อีกสองวันครับ ก็... วันพุธตอนห้าโมงเย็นครับ”



“อือ... วันนั้นพี่มีนัดคุยงานกับอาจารย์ตอนสี่โมงเย็น ไม่แน่ใจจะเลิกกี่โมง”



“ครับ” สายน้ำทำหน้างง ไม่เข้าใจในสิ่งที่หินผาพูด



“ไม่อย่างนั้นพี่จะไปเป็นเพื่อนเราไง”



“ออ... ที่จริงไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวผมชวนเพื่อน ๆ ผมไปเอง จะได้ไม่รบกวนพี่หินผา” สายน้ำเอ่ยปฏิเสธ ส่วนหนึ่งเพราะเกรงใจจริง ๆ อย่างที่บอก แต่อีกส่วนหนึ่งคือไม่อยากให้หินผาไปเห็น ไม่ใช่ว่าอะไรกลัวว่าตัวเองจะไม่มีสมาธิในการทำงานเพราะคงจะต้องเอาแต่มองหินผาแน่นอนเลย



“เอาอย่างนั้นเหรอ”



“ครับ แบบนั้นแหละครับ พี่จะได้อยู่คุยกับอาจารย์ได้สะดวก ไม่ต้องมากังวลเรื่องผม เดี๋ยวผมให้เพื่อน ๆ ไปด้วย”



“โอเค ถ้าเราว่าตามนั้นก็ตามนั้น แต่ถ้าพี่เลิกเร็วก็อาจจะแวะไปหาละกันนะ”



“ได้เลยครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ



“รีบกินเถอะ เดี๋ยวจะไปเรียนไม่ทันเอานะ”



ทั้งสองคนต่างหันมาจัดการกับโจ๊กตรงหน้าแทน ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยหินผาจ่ายเงินค่าโจ๊กทั้งของเขาเองแล้วก็ของสายน้ำก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากร้านไปขึ้นรถของหินผาก่อนที่เจ้าของรถจะขับตรงไปยังมหาวิทยาลัย



“เอาไว้เจอกัน ตั้งใจเรียนล่ะ” หินผายกมือขึ้นยีผมของสายน้ำระหว่างที่ยืนอยู่หน้าอาคาร



“ครับผม พี่ก็ตั้งใจเรียนนะครับ”



“หึ บอกตัวเองเถอะเรา” ยกมือเคาะหน้าผากของสายน้ำไปทีอย่างมันเขี้ยวก่อนที่พวกเขาจะแยกกันไป



หินผาเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องเรียน ส่วนสายน้ำเดินไปหาเพื่อน ๆ ที่นั่งรอเวลาเรียนอยู่ที่หน้าอาคาร



“มึงมายังไงวะ พี่หินผาเหรอ” แบงก์ถามเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามาใกล้



สายน้ำพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ตั้ม “ใช่แล้วล่ะ แล้วสองสาวล่ะยังไม่มาเหรอ”



“ยังไม่มา” ตั้มเป็นคนตอบคำถาม “ช่วงนี้มึงไปไหนมาไหนกับพี่หินผาบ่อยนะ”



“ก็... ใช่ อย่างที่เคยบอกไงว่าจริง ๆ กูรู้จักกับพี่หินผามาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ละแบบตอนนั้นสนิทกันมากไงพอได้เจอกันก็เลยสนิทกันไว เพราะเด็ก ๆ กูก็ไปไหนมาไหนกับพี่หินผาตลอดอยู่แล้ว บางทีก็ไปนอนค้างที่บ้านอะไรแบบนี้ ก็เลยแบบสนิทกันไง”



“เดี๋ยว ๆ ใจเย็นนะมึง คือไอ้ตั้มแม่งถามแค่ประโยคเดียว มึงเล่าซะอย่างกับเขียนเรียงความ” แบงก์ยกมือห้ามเมื่อได้ยินสายน้ำตอบคำถามรัว ๆ แบบนี้ “มึงดูรน ๆ นะ”



“บ้าแล้ว ไม่ได้รนอะไรสักหน่อย กูแค่เล่าให้พวกมึงฟังไง” สายน้ำรีบปฏิเสธทันที



แต่เพื่อนทั้งสองคนกลับถอนหายใจออกมา “มึงรู้ตัวไหมว่าเป็นคนโกหกไม่เก่ง แล้วก็เป็นคนที่แสดงสีหน้าไม่เก่งด้วย”



“หะ...”



“จำได้ไหมที่พวกกูเคยถามสมัยที่เพิ่งรู้จักมึงใหม่ ๆ อ่ะ ว่ามึงย้ายมาทำไม ย้ายกลับมาหาใครหรือเปล่าน่ะ” ตั้มทบทวนความจำให้ ซึ่งแค่เริ่มพูดสายน้ำก็รู้สึกว่าตัวเองจะเหงื่อออกด้วยความกังวลเสียแล้ว



“เออ ตอนนั้นมึงไม่ยอมตอบอะไร แต่ตอนนี้กูไม่ต้องให้มึงตอบละ” แบงก์ยักคิ้วให้สายน้ำก่อนจะหันไปยักคิ้วให้กันกับตั้ม



“อะไรของพวกมึงเนี่ย”



“มึงตามพี่หินผามาใช่ไหม”



สายน้ำทำตาโตตอนที่ได้ยินเพื่อนถามแบบนั้น เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไรดี และท่าทางร้อนรนเป็นกังวลของสายน้ำทำให้เพื่อนทั้งสองคนต้องรีบพูดต่อ



“เฮ้ย! ใจเย็น ไม่ต้องรนขนาดนั้นก็ได้ พวกกูไม่ได้อะไรเลยโว้ย” ตั้มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกมือจับแขนของสายน้ำเอาไว้อย่างต้องการบอกให้เพื่อนใจเย็นลง



“เออ... ขอโทษที” สายน้ำได้แต่ยิ้มแหย



“แสดงว่าสิ่งที่พวกกูคิดคือความจริงสินะ กับท่าทางแบบนี้ของมึงน่ะ” แบงก์ถามถึงความคิดของตัวเอง ซึ่งสายน้ำก็ได้แต่พยักหน้ารับ “มึงชอบพี่หินผาสินะ”



“หะ...” เป็นอีกรอบที่สายน้ำทำตาโต แต่คราวนี้มีออฟชั่นเสริมเป็นริ้มแดง ๆ ที่ปรากฏอยู่ข้างแก้มทั้งสองข้าง และมันค่อย ๆ ลามไปทั่วใบหน้า



“ชัดเจน” ปฏิกิริยาที่ค่อนข้างซื่อตรงของสายน้ำ บ่งบอกชัดเจนว่าสิ่งที่แบงก์กับตั้มคิดนั้นคือเรื่องจริง



“พวกมึง... รู้ได้ยังไง” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอสายน้ำใช้เวลาไปเป็นนาทีเหมือนกัน



“ความรู้สึกส่วนตัวกูนะ ตอนแรกกูก็ไม่รู้หรอกแต่แค่มั่นใจว่าต้องมีใครสักคนที่ทำให้มึงย้ายกลับมาก็อย่างที่กูบอกไปตอนเจอมึงใหม่ ๆ นั่นแหละ แต่กูแค่ไม่รู้ว่าใครก็เท่านั้น แต่พอมาหลัง ๆ ที่มึงเริ่มสนิทกับพี่หินผา แล้วก็บอกว่าพี่หินผาคือพี่ที่รู้จักตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ กูก็เลยมองภาพอะไรชัดขึ้น” แบงก์ตอบคำถาม แต่ดูเหมือนว่าคำตอบนั้นจะไม่ได้ไขข้อข้องใจของสายน้ำสักเท่าไหร่เพราเจ้าตัวยังคงทำหน้างุนงงอยู่



“ง่าย ๆ เลยคือ สายตาของมึงเวลามองพี่หินผา มันบ่งบอกชัดเจนมากว่ามึงรู้สึกยังไง” ตั้มสรุปให้สั้น กระชับแล้วก็เข้าใจง่าย



“แต่มึงก็เก็บความรู้สึกเก่ง เวลามองอยู่กับพี่หินผามึงไม่ค่อยแสดงอาการอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นการแอบมองละก็ สายตามึงชัดเจนมาก พวกกูอยู่กับมึงแทบจะตลอด ไม่แปลกที่จะสังเกตเห็นได้”



สายน้ำถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้ารับ “อือ กูชอบพี่หินผาจริง ๆ นั่นแหละ ที่ย้ายกลับมาประเทศไทยก็เพราะพี่หินผาเหมือนกัน” มองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสลับกันไปมา



“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” แบงก์ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของสายน้ำ “คิดว่าพวกกูจะรังเกียจ หรือเลิกคบมึงหรือยังไงกัน”



สายน้ำไม่แน่ใจว่าตัวเองแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป แต่มันคงจะแย่มากแบงก์กับตั้มถึงได้เอ่ยทักออกมา “เออ มึงไม่ต้องกังวลหรอกน่า พวกกูไม่ได้รังเกียจหรือจะเลิกคบอะไร”



“จริงนะ” สายน้ำถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินแบบนั้น



“เออ จริงสิ ไม่ต้องคิดมาก” ตั้มยกมือตีไหล่สายน้ำเบา ๆ อย่างหยอกเล่น “แต่มึงก็เก็บเงียบไม่บอกพวกกูเลยนะ ต้องให้พวกกูมาถามเองถึงจะง้างปากมาได้”



“ไม่ใช่ว่ากูไม่อยากบอกหรืออะไรนะ แต่มันก็พูดยาก” สายน้ำรีบบอกเหตุผลของตัวเองทันที “กูไม่แน่ใจว่าที่ไทยเปิดกว้างแล้วก็ยอมรับเรื่องแบบนี้ได้มากแค่ไหน อีกอย่าง... กูไม่อยากให้พวกมึงรังเกียจหรืออะไร ยังไงพวกมึงสองคนก็เป็นเพื่อนคนแรกของกูเลยนะ”



“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวนี้โลกมันเปิดกว้างขึ้นแล้ว แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้อิสระอย่างต่างประเทศ แต่ก็เปิดกว้างขึ้น พวกกูเองก็มีเพื่อนที่ชอบเพศเดียวกันอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากว่าพวกกูจะไม่ชอบหรือรังเกียจอะไรหรอก” แบงก์พูด “แล้วที่พูดขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรืออะไร กูแค่เป็นห่วง เพราะก็ไม่แน่ใจว่ามึงแน่ใจในความรู้สึกตัวเองดีหรือยัง ถึงได้ทักได้ถาม เมื่อมึงจะฉุกใจคิดอะไรขึ้นมา”



“ขอบใจพวกมึงมากจริง ๆ นะ” สายน้ำยิ้มออกเมื่อได้ยินแบบนั้น



“แล้วมึงจะบอกสองสาวด้วยไหม”



“จริง ๆ เบลรู้แล้ว รู้ตั้งนานแล้วด้วย ส่วนมะนาวเดี๋ยวก็คงบอก ถ้าไม่บอกเดี๋ยวจะน้อยใจอีกว่าไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว”



“แต่กูว่าดีไม่ดี ก็รู้แล้วล่ะมะนาวน่ะ สาว ๆ เขาเซ้นส์แรงมึงไม่รู้เหรอ ยิ่งยัยเบลกับยัยมะนาวเป็นสาวอะไรนะ... สาววงสาววายอะไรนั่นคงรู้ได้ไม่ยากหรอก”



“เซ้นส์แรงจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเบลก็รู้เองเหมือนกัน” สายน้ำพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของตั้มสาว ๆ นี่เขาเซ้นส์แรงกันจริง ๆ



“เออ ส่วนมึงก็สบายใจได้ เรื่องของมึงพวกกูโอเคอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรให้พวกกูช่วยก็บอก ถ้าเกิดคิดอยากจะเดินหน้าจีบพี่เขา”



“เฮ้ย! บ้าแล้ว ใครจะทำอย่างนั้นเล่า” สายน้ำโวยวายแต่หน้าแดงก่ำ เรียกเสียงหัวเราะของแบงก์กับตั้มได้เป็นอย่างดี



ดู ๆ ไปไอ้เดือนมหาวิทยาลัยเพื่อนเขาคนนี้ก็ชักจะน่าเอ็นดู มากกว่าหล่อแล้วนะเนี่ย



สายน้ำได้แต่บ่นอุบ พึมพำกับตัวเองว่าโดนเพื่อนแกล้ง แต่ถึงอย่างนั้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเดือนมหาวิทยาลัยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข



จริง ๆ แล้วสายน้ำคิดแล้วก็กังวลมาโดยตลอด เขากลัวว่าถ้าเพื่อน ๆ ในกลุ่มรู้ว่าเขาชอบผู้ชายทุกคนจะรับไม่ได้ แม้ไม่ได้พูดออกมาแต่สายน้ำก็คิด เขาไม่อยากให้เพื่อน ๆ รังเกียจ โดยเฉพาะเพื่อนคนแรกในประเทศไทยหลังจากที่เขาย้ายกลับมา



ทั้งสามคนนั่งรอสองสาวจนทั้งสองคนมากันครบ สายน้ำเลยตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองที่เพิ่งคุยกับแบงก์และตั้มไปให้มะนาวกับเบลฟัง สิ่งที่พวกเขาคิดถูกต้องมะนาวเองก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าสายน้ำแอบชอบหินผา แถมยังคุยกันเล่น ๆ กับเบลเลยว่าอยากให้ได้คบกันจริง ๆ พอรู้ว่าสายน้ำแอบชอบจริง ๆ ก็สนับสนุน และบอกให้ลุยหน้าเต็มที่ แถมยังเสนอตัวจะเป็นผู้ช่วยในการวางแผนในการจีบหินผาอีกด้วย



“พอ ๆ เราแค่เล่าให้ฟัง เพราะไม่อยากปิดบังแค่นั้น ไม่ได้คิดอยากจะทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย” สายน้ำได้แต่ยกมือห้ามเพื่อนที่กำลังคุยวางแผนการจีบอย่างจริงจัง



ทุกคนหันมามองหน้าเจ้าของเรื่องก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินของเดือนมหาวิทยาลัยที่สาว ๆ ค่อนมหาวิทยาลัยกรี๊ดกร๊าด



“ได้เวลาเรียนแล้ว รีบขึ้นได้แล้ว เร็ว ๆ เลย” ทำเสียงดุเข้าข่ม ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าแล้วเดินหนีไป เพื่อน ๆ ได้แต่หัวเราะก่อนจะรีบก้าวตามไปด้วย








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วจ้าาา
มีไปออกบูธมา 4 วัน เหนื่อยมากมายเลย
ช่วงนี้งานฟางก็จะล้น ๆ หน่อยต้องรีบทำแบบให้ลูกค้า
แต่ก็จะพยายามมาอัปให้สม่ำเสมอเนอะ
พยายามไม่ทิ้งห่างไปไหนนาน ๆ นะคะ
ยังไงก็อยู่ให้กำลังใจกันไปก่อนน้าาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 02-09-2019 23:16:02
อ๋อยยยยยย เริ่มอิจฉาพี่หินแล้วนะ
ที่น้องชอบขนาดนี้น่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-09-2019 23:29:05
หนูน้ำไปพลาดตรงไหนเนี่ย ปล่อยให้เพื่อน ๆ จับได้  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-09-2019 23:38:15
ปลื้มใจแทนสายน้ำมีเพื่อนดี จะช่วยจีบพี่หินด้วย   :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-09-2019 00:00:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-09-2019 02:22:29
เพื่อนก็ทำให้จีบเลยกันทั้งนั้น 55555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-09-2019 08:22:06
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-09-2019 10:15:47
งู้ยยยยย น่ารักอ่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 03-09-2019 20:55:30
เขินแล้วรีบเปลี่ยนเลยนะ สายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 04-09-2019 07:57:34
 :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "11" [100%] l P.15 02-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 04-09-2019 12:11:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-09-2019 21:18:02
(https://i.ibb.co/mNYqjB0/12.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “12”






สายน้ำและเพื่อน ๆ ลงมือเก็บของหลังจากที่วิชาเรียนนี้สิ้นสุดลงและอาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้ว พวกเขารอจนเพื่อนในคลาสเดินออกไปจนหมดถึงได้เดินตามออกไปบ้าง



“สายน้ำวันนี้มีถ่ายโปสเตอร์โปรโมทใช่ไหม” เบลหันไปถามเพื่อนที่มีตำแหน่งเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยในขณะที่พวกเขากำลังเดินออกจากอาคารเรียน



“ใช่แล้วล่ะ” สายน้ำพยักหน้ารับ วันนี้เขามีถ่ายภาพสำหรับโปรโมทโครงการแบ่งปันความสุขให้น้องที่ทางสโมสรนักศึกษาขอความร่วมมือมา



“อยากไปดูด้วยจัง” มะนาวพูด



“ไปสิ ไปได้อยู่แล้ว”



“ไม่ได้น่ะสิ เรากับมะนาวมีนัดกับเพื่อนวิชาเสรีว่าจะไปทำรายงานด้วยกันแล้วอ่ะ มีแค่วันนี้เองที่ว่างตรงกัน” เบลทำหน้าเสียดายที่ไม่ได้ไปดูเพื่อนถ่ายโปสเตอร์



“อย่างนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอก เบลกับมะนาวไปทำงานเถอะ” สายน้ำยิ้ม “เดี๋ยวแบงก์กับตั้มไปเป็นเพื่อนเราเองแหละ”



“เหรอ...” เจ้าของชื่อหันมาลากเสียงยาวถามให้สายน้ำพยักหน้าให้อีกรอบ



“ก็ถ้าไม่ไปแล้วจะกลับยังไงล่ะ”



“อ้าว... ก็นึกว่าจะมีรุ่นพี่ปีสี่ขับรถหรูมารับอะไรแบบนี้ หลัง ๆ เห็นมารับมาส่งบ่อย” แบงก์พูดพลางยิ้มล้อเลียนเพื่อนไปด้วย



“งุ้ย... นึกแล้วเขินเลย” เบลกับมะนาวหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นใบหน้าแดง ๆ ของเดือนมหาวิทยาลัย



“สองคนน่ะรีบไปทำงานเลย” สายน้ำพูดกับสองสาวเมื่อเห็นทั้งคู่ยิ้มแซวเขา ก่อนจะหันไปชกไหล่เพื่อนอีกสองคนที่ก็หัวเราะชอบใจที่ทำให้เขาเขินได้ “พวกมึงก็เลิกหัวเราะได้แล้ว ไป ๆ เดี๋ยวกูก็ไปสายกันพอดีหรอก”



“อิอิ ไปก็ได้” มะนาวหัวเราะ “ไปกันเถอะเบล แถวนี้มีคนขี้เขินละชอบไล่เพื่อน”



“นั่นสิ ไปกันเถอะ” พูดจบก็พากันเดินหัวเราะออกไป



“อะไรมึง มองอะไร ไปได้แล้วไป!” หันมาโวยวายใส่แบงก์กับตั้มก่อนจะเดินต่อ “เดี๋ยวกูก็สายจริง ๆ หรอก”



“ไอ้น้ำ” ตั้มตะโกนเรียกให้เพื่อนที่เดินนำไปแล้วหันมามอง สายน้ำหันมามองพลางขมวดคิ้ว “มันไม่ได้สายที่พวกกูหรอก แต่มันจะสายที่มึงเดินไปผิดทางต่างหากล่ะ”



แบงก์ยกนิ้วชี้ไปอีกทางซึ่งเป็นคนละทิศกับที่สายน้ำเดินมุ่งหน้าไป “ตึกนิเทศฯ อยู่ทางนี้ว่ะ ไม่ใช่ทางนั้น”



สายน้ำชะงักหันไปมองทางที่ตัวเองกำลังมุ่งหน้าไปกับทางที่เพื่อนบอก รู้สึกหน้าแตกขึ้นมาเสียอย่างนั้นแต่ก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกินขึ้นแล้วรีบเดินไปทางที่ถูกทันที โดยมีเสียงหัวเราะขบขันของเพื่อนทั้งสองคนดังตามหลังมา



ไม่นานพวกเขาทั้งสามคนก็มาถึงห้องสตูดิโอที่สายน้ำจะมาถ่ายโปสเตอร์โปรโมท พวกเขามองไปรอบ ๆ ด้วยความสนใจเพราะมันทั้งใหญ่แล้วก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์ แล้วก็ฉากมากมาย อย่างกับของจริงที่เหล่ามืออาชีพใช้กันเลย สายน้ำแอบเห็นฉากที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับฉากหลังของรายการข่าวด้วย แล้วก็มีฉากห้องต่าง ๆ ด้วย



ส่วนฉากที่สายน้ำจะต้องเข้าไปถ่ายรูปนั้นเป็นฉากสีเขียวเรียบ ๆ เขาคิดว่าถ่ายเสร็จก็คงเอาไปตัดต่อใส่ภาพอีกที ทันทีที่เดินมาถึงสายน้ำก็ถูกทีมงานดึงตัวไปเพื่อแต่งหน้าทำผมทันที ส่วนแบงก์กับตั้มก็นั่งรออยู่แถว ๆ นั้น



จากตอนแรกที่คิดว่าการมานั่งรอเพื่อนรักทำงานแบบนี้คงจะน่าเบื่อไม่น้อย แต่พอเอาเข้าจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะไม่ได้มีแค่สายน้ำที่มาถ่ายภาพ ยังมีเดือนคณะคนอื่น ๆ อีกหลายคน และที่สำคัญ... ดาวคณะก็มา แบงก์กับตั้มเลยได้อาหารตาไปโดยปริยาย



ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงการถ่ายภาพโปรโมทโครงการแบ่งปันความสุขให้น้องก็เสร็จสิ้นลง สายน้ำยกมือไหว้บรรดารุ่นพี่ที่มาทำงานนี้ก่อนจะเดินแยกมาหาเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งรออยู่



“เรียบร้อยหมดแล้วเหรอวะ” แบงก์ถามเมื่อเห็นสายน้ำเดินมานั่งลงที่โต๊ะ



“เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ”



“แล้วมึงต้องมีทำอะไรอีกไหม โครงการนี้มันทำอะไรบ้างวะ” ตั้มถามด้วยความสนใจ



“มี ๆ เดี๋ยววันเสาร์กูมีไปเปิดหมวกรับบริจาคที่ตลาดตอนเย็น แล้วก็จะมีอัดวีดิโอเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมบริจาค จะเป็นเงินเป็นสิ่งของ เป็นอะไรก็ได้” สายน้ำตอบคำถามเพื่อน “พวกมึงจะไปด้วยกันไหมวันเสาร์อ่ะ”



“เดี๋ยวพวกกูดูอีกทีแล้วกัน แล้วไปเปิดหมวกคือไปเล่นดนตรีเปิดหมวกเหรอ”



“ใช่แล้วล่ะ แต่ถ้าเกิดพวกมึงอยากไปก็ไปตอนค่ำ ๆ หน่อยก็ได้ เพราะพวกรุ่นพี่เขาบอกว่าจะทำกิจกรรมถึงแค่ทุ่มสองทุ่มแค่นั้นอ่ะ”



“เออ ๆ ได้ ยังไงเดี๋ยวบอกอีกที งี้ก็กลับได้เลยใช่ไหม ไม่มีอะไรแล้วป่ะ”



“อือ ไม่มีแล้วกลับกันได้เลย” พอสายน้ำพูดแบบนั้นพวกเขาก็พากันลุกจากโต๊ะแล้วเดินไปยังลานจอดรถทันทีแวะกินข้าวกันก่อนที่จะกลับเข้าคอนโด



สองเพื่อนซี้แบงก์ ตั้มยกมือเป็นเชิงลาตอนที่ลิฟต์ของคอนโดเปิดออกที่ชั้นของตัวเอง ทั้งคู่เดินออกไปแล้ว เหลือเพียงสายน้ำที่ยังอยู่ในลิฟต์และรอให้เจ้ากล่องเคลื่อนที่ได้นี้พาตัวเองไปยังชั้นของเขาเอง สายน้ำแกว่งแก้วชาพีชในมือเล่นเบา ๆ ระหว่างที่ก้าวตรงไปยังห้องพัก เขาเดินเอาแก้วน้ำที่ยังมีเครื่องดื่มเหลืออยู่เกินครึ่งแก้วไปแช่เอาไว้ในตู้เย็น



เจ้าตัวเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สายน้ำเดินออกจากห้องนอนหลังจากที่เข้าไปอาบน้ำมาแล้วเรียบร้อย หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดูการแจ้งเตือนต่าง ๆ



เห็นพี่ ๆ ทีมงานของโครงการแบ่งปันความสุขให้น้องแท็กรูปภาพมาหาเขาในเฟซบุ๊กคงจะเป็นภาพเบื้องหลังการทำงานของวันนี้ เพราะพี่ ๆ บอกกับสายน้ำว่าจะมีการถ่ายภาพเบื้องหลังต่าง ๆ ไปลงเป็นการโปรโมทไปด้วยในตัว



สายน้ำเลือกที่จะยังไม่เข้าไปดูรูปภาพและคอมเมนต์ต่าง ๆ ในเฟซบุ๊ก เขาเลือกที่จะเข้าแอปสีเขียวที่เป็นรูปโทรศัพท์แทน ปลายนิ้วเลื่อนหน้าจออยู่ไม่กี่ทีก็หยุด ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูตอนที่หน้าจอแสดงสัญลักษณ์ว่ากำลังโทรออก



รอสายอยู่ไม่นานก็มีเสียงมาจากอีกฝั่ง [กลับถึงห้องแล้วเหรอ]



“ใช่ครับ เพิ่งกลับมาถึงครับ” สายน้ำเผลอพยักหน้าตอบทั้ง ๆ  ที่อีกฝ่ายก็คงมองไม่เห็นอยู่ดี



[แล้วกินอะไรมาหรือยัง]



“เรียบร้อยแล้วครับ ผมแวะกินข้าวกับแบงก์กับตั้มก่อนที่จะกลับเข้ามา แล้วพี่หินผาละครับกินอะไรหรือยัง” สายน้ำถามกลับไป



[เรียบร้อยแล้วล่ะ วันนี้พี่มาที่บ้านแฝดสามเลยมีของกินอร่อย ๆ เพียบเลย พี่กันต์ลงมือเข้าครัวเองเลยด้วย]



“จะพูดให้ผมอิจฉาใช่ไหมครับ”



ปลายสายหัวเราะกับคำถามของสายน้ำ [เปล่า พี่แค่เล่าให้น้องน้ำฟังเฉย ๆ แล้ววันนี้ไปถ่ายภาพโปรโมทมาเป็นยังไงบ้าง]



“สนุกดีครับ แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน” สายน้ำเอนตัวลงนอนบนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น คว้าหมอนอิงมากอดเอาไว้แนบอก “วันเสาร์ผมมีไปเปิดหมวกที่ตลาดตอนเย็นด้วยครับ แล้วเดี๋ยวก็จะมีอัดคลิปเชิญชวนคนให้มาร่วมบริจาค”



[อย่างนั้นเหรอ ถ้าวันเสาร์พี่ว่างพี่จะแวะไปหานะ]



“ครับผม”



[แล้วนี่ง่วงไหมเรา ทั้งเรียนทั้งทำงานเลยวันนี้] หินผาถามและไม่ต้องรอคำตอบนานเพราะทันทีที่ถามจบคนทางนี้ก็หาวออกมาพอดีเหมือนกับการเป็นการตอบคำถามนั้น [พี่ไม่น่าถามเนอะ]



“ฮือ... ก็ผมเหนื่อย” สายน้ำว่าเสียงเบา



[อย่างนั้นก็ไปนอนไหม นี่อยู่ในห้องนอนหรือเปล่า]



“เปล่าครับ นอนเล่นอยู่ตรงหน้าโทรทัศน์” ดวงตาของเขาค่อย ๆ ปรือปรอยก่อนจะปิดลงในเวลาไม่นาน



[สายน้ำ... น้ำ...] หินผาส่งเสียงเรียก แต่คนหลับที่หลับไปแล้วก็ไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้ นอกจากเสียงของลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกให้รู้ว่าหลับไปแล้วก็เท่านั้น [น้ำครับ น้องน้ำ... หลับแล้วเหรอเรา]



“...”



[หึหึ บทจะหลับง่ายก็หลับจ่ายจริง ๆ เลยนะ] หินผาหัวเราะออกมาเบา ๆ เขานั่งฟังเสียงคนหลับอยู่ไม่นานก็วางสายไป



แต่แล้วคนที่เพิ่งจะวางสายไปก็กดโทรกลับเข้ามาอีกรอบ เสียงเรียกเข้าดังขึ้นและดับไปเมื่อไม่มีคนกดรับ ไม่นานหลังจากที่รอบแรกดับไปก็มีสายโทรเข้ามาอีกครั้งจากคนเดิม ครั้งที่สอง ครั้งที่สามและครั้งที่สี่ คราวนี้คนที่หลับสบายก็ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงและแรงสั่นที่รบกวนอยู่แถว ๆ ใบหน้า สายน้ำใช้มือคลำสะเปะสะปะไปหมดเพื่อหาที่มาของเสียงรบกวนนั้น เขาหรี่ตามองหน้าจอที่ปรากฏชื่อคนโทรเข้ามาก่อนจะกดรับสาย



“ครับพี่หินผา”



[ตื่นมารับโทรศัพท์พี่แล้วก็ลุกขึ้นครับ] ปลายสายพูด [เข้าไปนอนในห้องดี ๆ มานอนอยู่หน้าโทรทัศน์มันจะไปสบายได้ยังไงกัน]



สายน้ำยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ให้สมองได้ประมวลผลก่อนจะถามออกไปด้วยความสงสัย “พี่รู้ได้ยังไงว่าผมนอนอยู่นอกห้องนอน”



หินผาหัวเราะเมื่อได้ยินคำถามนั้น [หลับไปตื่นเดียวความจำเสื่อมเลยหรือยังไงกัน]



“ครับ?”



[ก็ก่อนที่เราจะหลับไปพี่ก็ถามเราอยู่ว่าอยู่ตรงไหน น้ำเป็นคนตอบพี่เองว่าอยู่หน้าโทรทัศน์ พอพูดจบเราก็หลับไปเลย พี่เรียกตั้งหลายรอบก็ไม่ตอบรับ] ผินผาตอบคำถามนั้น [พี่เลยกดวางสายไปแล้วก็โทรหาเราใหม่ โทรอยู่ตั้งหลายรอบกว่าจะตื่นมารับสายพี่]



“อ่า... อย่างนั้นเหรอครับ”



[ก็อย่างนั้นน่ะสิ] หินผาขำคนเบลอเพราะเพิ่งตื่นนอน [เข้าไปนอนในห้องได้แล้ว จะได้หลับยาว ๆ สบาย ๆ ตื่นมาจะได้ไม่ปวดตัวปวดหลัง]



“โอเคคร้าบ... กำลังจะเดินเข้าไปในห้องแล้ว” ไม่ใช่แค่พูด แต่สายน้ำก็ลุกจากโซฟา จัดการตรวจเช็คปลั๊ก เช็คไฟปิดอะไรให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องนอน กดเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำ



สายน้ำปิดไฟภายในห้องนอน เหลือเพียงแค่ความสว่างจากไฟหน้าห้องน้ำแค่หนึ่งดวง ในมือยังคงถือโทรศัพท์ที่ต่อสายกับหินผาอยู่พร้อมกับเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียง “ผมเข้ามาในห้องแล้ว”



[อย่างนั้นก็นอนเถอะ ง่วงเสียจนหลับไปแบบนั้น]



“ครับผม”



[นอนหลับฝันดีนะน้องน้ำ]



“ครับ ฝันดีนะครับพี่หินผา” สายตาตอบพร้อมกับหลับตาลง ความง่วงที่มีอยู่เป็นทุนเดิมแล้วจึงใช้เวลาไม่นานเลยเจ้าตัวก็เข้าสู่ห่วงนิทราไป โดยที่ยังไม่ได้วางสายของหินผาเลย



และทั้ง ๆ ที่สายน้ำหลับไปแล้ว หินผาก็ยังไม่ยอมวางสายเสียที เขาเปิดลำโพงโทรศัพท์แล้ววางเอาไว้บนหมอนข้าง ๆ ตัวเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง หินผาไม่รู้ว่าเขาปล่อยให้สายของสายน้ำยังอยู่ในโทรศัพท์นานแค่ไหน อาจจะสักหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หรือสามชั่วโมงเขาก็ไม่แน่ใจ



แต่ก่อนที่จะหลับตาลงเขาก็ยังมองตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ขยับไปทุก ๆ วินาที และปล่อยเอาไว้แบบนั้นจนกระทั่งสายตัดไปเองในตอนที่เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่มาแล้ว

เมื่อหินผาและสายน้ำตื่นนอนขึ้นมา สิ่งแรกที่พวกเขาทำเหมือนกันคือการหยิบโทรศัพท์มากดดู ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นระยะเวลาในการโทรที่ปรากฏอยู่บนจอ





You are the last thought in my mind before I drift off to sleep and the first thought when I wake up each morning.

คุณคือความคิดสุดท้ายในใจของฉันก่อนนอน และเป็นสิ่งแรกในความคิดของฉันเมื่อตอนตื่นนอนทุกเช้า







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

นี่เขายังไม่ได้เป็นแฟนกันเนอะ?
ใช่ป่ะ? หรือว่าฟางเข้าใจผิดอ่ะ
คือทำตัวเหมือนแฟนอ่ะ คืออะไรอ่ะ
ความแฟนสุด ๆ อ่ะ โทรคุยกันจนหลับไป บอกฝันดีงี้
สถานะพี่น้องอ่ะเนอะ พี่น้องทำเขากันแบบนี้แหละจ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-09-2019 21:42:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-09-2019 23:09:55
อีพี่ ถามจริง ๆ เหอะ ฟังน้องน้ำหลับอยู่หลายชั่วโมง อีน้องกรนดังป่ะ พลิกตัวอีกครั้ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-09-2019 02:43:14
อ่ยยยย มีการวางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 08-09-2019 04:29:45
นี่คือพฤติกรรมของคนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันจริงดิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-09-2019 08:09:09
 :man1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-09-2019 08:51:08
หูยๆๆๆ ได้ยินน้องละเมอมั่งป่ะพี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-09-2019 09:42:56
พี่หินผาไม่อยากวางสายจากน้องสายน้ำล่ะสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 08-09-2019 12:49:42
ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันแนะนำให้ใช้โปรโทรฟรีนะค้า พี่หินผา 55555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [40%] l P.15 07-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 10-09-2019 07:32:45
 :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 16-09-2019 21:44:51
(https://i.ibb.co/mNYqjB0/12.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “12”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖
[/b]






เสียงคุยดังจอกแจกจอแจไปทั่วตลาดใกล้มหาวิทยาลัย เวลาเย็น ๆ ใกล้ค่ำแบบนี้ตลาดเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ออกมาเดินเล่น จับจ่ายซื้อของ หาของกิน นัดพบปะสังสรรค์ทำให้บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก แต่จุดที่ดูจะคึกคักที่สุดก็คงเป็นลานกว้างด้านข้างซึ่งลานนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนสาธารณะที่มีโต๊ะหินอ่อนวางตั้งเอาไว้ให้คนมานั่งพักได้ บริเวณตรงนี้ถูกจับจองโดยนักศึกษากลุ่มหนึ่ง โดยมีคนหลายคนมุงดูด้วยความสนใจ



ที่กลุ่มนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษส่วนหนึ่งก็เพราะว่านักศึกษาที่มาเดินเล่นอยู่ที่ตลาดรู้จักคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี และอีกส่วนหนึ่งก็เพราะหน้าตาของคนกลุ่มนี้เหมือนกับถูกคัดมาเป็นพิเศษ เพราะแต่ละคนก็ดีกรีเดือน ดาวคณะทั้งนั้น



เดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดกำลังปรับสายกีตาร์โปร่งอยู่กับเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนเดือนคณะนิเทศศาสตร์ก็กำลังตั้งกลองคาฮองให้เรียบร้อย โดยมีเดือนและรองเดือนจากวิทยาลัยดนตรีตั้งไมค์และเครื่องเสียงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเปิดการแสดงเปิดหมวกเพื่อรับบริจาคให้กับโครงการแบ่งปันความสุขให้น้อง ส่วนเดือนคณะอื่น ๆ และดาวมหาวิทยาลัย ดาวคณะก็เตรียมถือกล่องเพื่อรับบริจาค



“สวัสดีครับทุก ๆ คน วันนี้พวกผมตัวแทนจากมหาวิทยาลัยจะมาทำกิจกรรมเปิดหมวกรับบริจาคเพื่อไปมอบให้กับโครงการแบ่งปันความสุขให้น้องนะครับ” เดือนวิทยาลัยดนตรีที่จะทำหน้าที่เป็นนักร้องในวันนี้เริ่มพูดหลังจากที่พวกเขาเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว



“ทุกบาททุกสตางค์พวกผมจะนำแบ่งไปบริจาคแล้วก็ซื้อของเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนให้น้อง ๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการเรียนรู้ให้น้อง ๆ ต่อไปนะครับ”



“สำหรับคนที่ต้องการร่วมบริจาคอุปกรณ์การเรียนสามารถเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ ทุก ๆ บาท ทุก ๆ อย่างที่ร่วมบริจาคเข้ามาจะถูกส่งมอบให้กับน้อง ๆ ทั้งหมดโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับๆ”



“ออ... ลืมแนะนำตัวไป ผมวินครับ จากวิทยาลัยดนตรี ส่วนนี่นักร้องนำอีกคน ไอซ์ ครับผม” เจ้าตัวเริ่มแนะนำสมาชิกในวงทุกคนไล่ไปจนถึงหนุ่ม ๆ และ สาว ๆ ดาวเดือนคณะที่ทำหน้าที่ถือกล่องรับบริจาคอยู่ แต่เว้นสายน้ำเอาไว้ยังไม่ยอมแนะนำ



“ส่วนคนสุดท้ายนี้นะครับ” วินพูดก่อนจะหันไปเรียกสายน้ำที่นั่งจับกีตาร์อยู่ “คุณสายน้ำครับ รบกวนหอบหิ้วกีตาร์มานั่งข้าง ๆ ผมหน่อยครับ”



สายน้ำที่โดนเรียกทำหน้างง ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นเชิงถามว่าหมายถึงเขาเหรอ วินพยักหน้ารับพร้อมกับกวักมือเรียก “มานี่เลยครับ มานั่งข้างหน้านี่เลยเร็ว ๆ”



คนโดนเรียกพยักหน้ารับงง ๆ แต่ก็ยอมหิ้วเก้าอี้หอบกีตาร์เดินมานั่งข้าง ๆ นักร้องนำอย่างว่าง่าย



“และคนสุดท้ายของเรานะครับ สายน้ำเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และที่สำคัญ! เป็นเดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดด้วยครับ!”



พวกเขาได้ยินเสียงสาว ๆ ที่มุงอยู่ส่งเสียงกันยกใหญ่จนสายน้ำได้แต่ยิ้มเขินพลางก้มหัวทักทายทุกคนรอบ ๆ



“อย่างนั้นเรามาเริ่มกันที่เพลงแรกเลยดีกว่าครับ”



สิ้นประโยคของวินเสียงดนตรีจากกีตาร์ทั้งสองตัวก็ดังขึ้นก่อนที่วินจะเริ่มร้องเพลงออกมา เพลงที่หนึ่งจบไป ตามมาด้วยเพลงที่สอง เพลงที่สาม วินกับไอซ์ผลัดกันร้องคนละเพลงสองเพลง ผู้คนรอบ ๆ ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเพราะด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของสองนักศึกษาวิทยาลัยดนตรีที่เชิญชวนให้ทุกคนมาฟังเพลง



สายน้ำแอบเห็นเพื่อน ๆ ที่ยืนถือกล่องรับบริจาคเปลี่ยนกล่องกันไปคนละกล่องสองกล่องแล้ว พอเห็นแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจไม่ได้



“เอาล่ะครับ... คงจะต้องถึงเวลาจากกันแล้วสำหรับตอนนี้” ไอซ์ที่เปลี่ยนมาร้องเพลงแทนพูดหลังจากที่เพิ่งร้องเพลงจบไป เจ้าตัวเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ สายน้ำที่หันมายิ้มให้ “เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายแล้วนะครับ ซึ่งก่อนที่จะมาฟังเพลงสุดท้ายนี้ผมในฐานะตัวแทนทุก ๆ คนในนี้ก็ขอขอบคุณทุก ๆ คนมานะครับสำหรับการร่วมบริจาค พวกผมจะนำยอดบริจาคนี้ไปส่งมอบความสุขให้กับน้อง ๆ อย่างแน่นอนครับ”



“เรามาฟังเสียงของเดือนมหาวิทยาลัยกันหน่อยดีกว่าครับ รู้สึกยังไงบ้างครับสำหรับกิจกรรมวันนี้” ไอซ์ยื่นไมค์ไปจ่อให้



สายน้ำทำหน้างงก่อนจะหันมองรอบ ๆ แล้วจึงพูดขอบคุณ “ก็... ผมต้องขอบคุณทุก ๆ มากนะครับที่มาร่วมบริจาค ขอบคุณมาก ๆ ครับ”



“โอเคครับ อย่างนั้น... เพลงสุดท้ายสำหรับวันนี้นะครับ... สำหรับคนที่อยากจะจีบใครสักคนแต่ยังไม่กล้าพูดก็ถือซะว่าส่งเพลงนี้ให้คนคนนั้นเพื่อเป็นการบอกนะครับ” ไอซ์พูด “เหมือนกับผมที่อยากจะบอกว่า... จีบเธอนะ นะครับ”



ยืนอยู่ในร้าน ที่เดิม เห็นเธอ ผ่านไป
มันห้ามใจไม่ไหว ต้องการ เข้าไปทักทาย
บังเอิญว่าตัวฉัน นั้นมัน หน้าบาง ขี้อาย
ต้องรวมสมาธิ แล้วมอม หัวใจให้เมา

ดื่มไปอีกแก้วนึง แก้วนึง
ต้องยอมใจตัวเองอีกนานเท่าไร
จะกล้าพูดออกไป ว่าฉัน

จีบเธอนะ ได้ไหม จีบเธอนะ ฉันขอ
จีบเธอนะ ถึงแม้ฉันจะหน้าแดง

จะเป็นไรไหม ถ้าฉัน ขอชน กับเธอ
แค่แก้วก็พอแล้ว ไม่ถึง ต้องให้ใจ ชนกัน

ไม่ได้หวัง ไว้สูง เผื่อใจ เอาไว้แล้ว
แต่อย่างน้อยก็ภูมิใจ ได้พูดออกไปว่าชอบเธอ

[เพลง จีบเธอนะ – สกายคิก เรนเจอร์ (SkyKick Ranger)]



ไอซ์ร้องเพลงไปก็โยกตัวไปมาเบา ๆ ไปตามทำนอง บางจังหวะก็หันไปมองรอบ ๆ บางจังหวะก็หันมามองสายน้ำที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ข้าง ๆ กัน เจ้าตัวส่งยิ้มให้กับสายน้ำเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองพอดี สายน้ำเห็นแบบนั้นก็ส่งยิ้มกลับไปให้ ก่อนที่จะก้มลงสนใจกีตาร์ในมือแทน



เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากที่ไอซ์ร้องเพลงจบ เจ้าตัวพูดขอบคุณอีกสองสามประโยคก็ลุกขึ้น ทุกคนเลยทยอยเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้เรียบร้อยทั้งกล่องรับบริจาค ทั้งเครื่องดนตรี สายน้ำเก็บกีตาร์ของตัวเองเข้ากระเป๋าจนเรียบร้อย เขาหันมองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาเพื่อนแล้วก็ใครบางคนที่บอกว่าถ้าว่างก็จะแวะมาแต่ก็ยังไม่เห็นคนที่ว่าเลย สายน้ำยกมือให้แบงก์กับตั้มเมื่อหันไปเห็นอีกฝ่ายพอดี ทั้งสองคนก็ยกมือตอบกลับมา



“วันนี้ขอบคุณทุก ๆ คนมากเลยนะที่มาช่วยกัน” เสียงของประธานสโมฯ พูดกับเหล่าดาวเดือนทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ “วันนี้แยกย้ายไปพักผ่อนเถอะ ขอบคุณมาก ๆ นะ แล้วเอาไว้พี่จะพาไปเลี้ยงข้าววันหลังนะ วันนี้คงอยากจะพักกันแล้ว”



“สายน้ำ”



สายน้ำที่กำลังหยิบกระเป๋ากีตาร์ขึ้นสะพายหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง “อ้าวไอซ์ ว่ายังไงเหรอ”



“พอดีมีคนอยากจะขอถ่ายรูปเราสองคน มาด้วยกันหน่อยสิ ไม่นานหรอก” ไอซ์ชี้นิ้วไปทางกลุ่มสาว ๆ ด้านหลังที่ถือโทรศัพท์มือถือแล้วมองตรงมาที่เขาทั้งสองคน



“ได้ดิ ๆ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” สายน้ำพยักหน้าให้ก่อนจะเดินตามไอซ์มายังกลุ่มของสาว ๆ



ทั้งคู่ยืนให้สาว ๆ ถ่ายรูปไปหลายสิบรูป ไอซ์ยกมือขึ้นคล้องคอสายน้ำ พวกเขายิ้มกว้างให้กล้องจนสาว ๆ ได้รูปที่พอใจถึงได้พูดขอบคุณแล้วแยกตัวออกมา



“แล้วนี่กลับยังไง” ไอซ์ถามพลางคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย “ไปส่งไหม มีกีตาร์อีกนี่”



“ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวกลับกับเพื่อนน่ะ เพื่อนมารับกลับ”



“อย่างนั้นเหรอ” ไอซ์พยักหน้าก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา “ขอเบอร์กับไลน์หน่อยดิ เอาไว้นัดไปหาอะไรกินกัน”



“อือ ได้ดิ” สายน้ำรับโทรศัพท์ของอีกฝ่ายมากดเบอร์ให้ “แต่อย่าถามหาร้านอร่อย ๆ หรือที่เที่ยวกับเราอ่ะ ไม่มีแนะนำหรอกนะบอกเลย”



“อ่า... เหมือนเคยได้ยินว่าเพิ่งย้ายกลับมาอยู่ไทยสินะ”



“ใช่แล้วล่ะ เพราะงั้นไม่มีอะไรแนะนำหรอกนะ แต่ถ้าจะพาไปกินของอร่อย ๆ ล่ะก็ได้ทุกเมื่อ”



ไอซ์หัวเราะกับคำพูดของสายน้ำ ซึ่งตัวคนพูดเองก็หัวเราะไปด้วย แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อแบงก์กับตั้มก็เดินเข้ามาใกล้ ทั้งสองคนเรียกสายน้ำเจ้าตัวเลยหันมาพยักหน้าให้ก่อนจะหันไปเอ่ยลาคู่สนทนา



“มึงว่ามันจะรู้ตัวไหมว่ากำลังโดนจีบอยู่อ่ะ” แบงก์หันไปถามเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้าง ๆ



“แล้วมึงว่ามันรู้ตัวไหมล่ะ”



“กูว่ามันไม่รู้” แบงก์ถอนหายใจก่อนจะตอบคำถามของตั้มที่ถามย้อนเขากลับมา



“กูก็ว่ามันไม่รู้เหมือนกัน” ตั้มเห็นด้วย “ตั้งแต่ร้องเพลงให้ กอดคอตอนถ่ายรูป ขอเบอร์ กูว่ามันไม่ได้สะกิดใจอะไรเลยสักอย่างเดียว”



“มึงว่าเราควรบอกพี่หินผาไหมวะ”



“บอกอะไร บอกทำไมวะ” ตั้มทำหน้างง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด



“มึงดูนู้น” แบงก์พยักเพยิบไปอีกทางให้ตั้มหันไปมอง “จ้องตาเขม็งขนาดนั้น มึงว่า... สายตาของรุ่นพี่มองรุ่นน้องเหรอวะ”



ตั้มได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างไม่รู้จะทำยังไง “ลองดูไปอีกสักหน่อยก่อนแล้วกัน ไอ้เพื่อนเราคิดยังไงกับใครเราก็รู้อยู่ แต่ที่ไม่ชัวร์ก็คือคนนั้นของเพื่อนเราเขาคิดอะไรไหม ถ้ามันชัวร์ ๆ ทุกอย่างแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะยืนข้างไหน”



“ก็ถ้ามึงว่าอย่างนั้นอ่ะนะ”



“แล้วนี่คือกูก็ขับรถมารับมันฟรีอีกแล้วใช่ไหม” ตั้มหันมามองหน้า



แบงก์ได้แต่ไหวไหล่เหมือนเป็นการบอกว่าช่วยไม่ได้ “ทำยังไงได้... ไป! เข้าไปหามันก่อนแล้วมันจะกลับกับเราหรือกลับกับพี่หินผาค่อยว่ากันอีกที อย่างน้อยเข้าไปตอนนี้ก็คงพอลดสายตาหงุดหงิดของพี่หินผาได้ละวะ ไปมึง”



“เออ” ตั้มถอนหายใจก่อนจะพากันเดินเข้าไปหาสายน้ำที่ยกมือลาไอซ์ที่เดินแยกไปอีกทาง



“หิว ไปหาอะไรกินกัน” สายน้ำหันมาบอกเพื่อนทั้งสองคน เพราะเขายังไม่ได้กินอะไรเลยหลังจากมื้อเที่ยงตอนนี้เลยรู้สึกหิวสุด ๆ จนท้องเรียกร้องหาอะไรกิน



“หันไปดูนู้นก่อน” แบงก์พยักหน้าไปอีกทางให้สายน้ำหันไปมอง



เจ้าตัวเบิกตากว้างขึ้นตอนที่เห็นหินผายืนอยู่ตรงนั้น คนอายุมากกว่าเดินเข้ามาใกล้เมื่อเห็นว่าข้าง ๆ สายน้ำมีแค่เพื่อนสนิทแค่สองคนเท่านั้น



“สวัสดีครับพี่” แบงก์กับตั้มยกมือไหว้รุ่นพี่ หินผาก็พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มให้เพื่อนของสายน้ำ



“ผมนึกว่าพี่หินผาจะมาไม่ได้เสียอีก ไม่เห็นบอกผมเลยว่าจะมา” สายน้ำมองคนตรงหน้า เมื่อวันก่อนคุยกันอีกฝ่ายยังบอกว่าไม่แน่ใจอยู่เลยว่าจะแวะมาหาได้ไหมเพราะมีงานต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน วันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้บอกอะไร จนสายน้ำคิดว่าอีกฝ่ายคงจะมาไม่ได้แล้ว



“งานเสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ก็เลยแวะมาน่ะ” หินผาตอบคำถามของน้อง ก่อนจะถามรวม ๆ กับทุกคน “แล้วนี่จะไปไหนกันต่อ”



“ผมหิว เลยว่าจะชวนสองคนนี้ไปหาอะไรกินกัน พี่หินผาล่ะครับกินอะไรมาหรือยัง” สายน้ำเป็นฝ่ายตอบคำถามแทนเพื่อน ๆ ทั้งสองคน



“ยังไม่ได้กิน”



“อย่างนั้นไปหาอะไรกินกันครับ” สายน้ำเอ่ยชวนก่อนจะหันไปมองเพื่อนทั้งสองคน “ว่ายังไง ไปป่ะ”



แบงก์กับตั้มหันมองหน้ากันพร้อมกับส่งข้อความถึงกันผ่านทางสายตาสุดท้ายแบงก์ก็เป็นฝ่ายตอบคำถามของสายน้ำ “ไม่ไปดีกว่า มึงไปกับพี่หินผาเลย กูกับตั้มแวะซื้อของกินมาตลอดทางก่อนจะมาดูมึงเล่นดนตรี ยังอิ่มอยู่เลยว่ะ”



“เออ จริง มึงไปกับพี่หินผาเลย เดี๋ยวพวกกูไปเดินเล่นรอ มึงจะกลับก็โทรหากู” ตั้มสนับสนุนความคิดของเพื่อน



“อ้าว...”



“อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งสายน้ำเอง แบงก์กับตั้มจะได้ไม่ต้องอยู่รอ” หินผาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่แบงก์กับตั้มคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องพูดอะไรทำนองนี้แน่นอน



“ไม่รบกวนพี่ใช่ไหมครับ” ตั้มถามกลับ



“ไม่รบกวน เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง” หินผายืนยันคำเดิม



“อย่างนั้นผมฝากมันหน่อยนะพี่ พวกผมไปล่ะครับ สวัสดีครับ” แบงก์กับตั้มยกมือไหว้หินผาแทบจะทันที หันมาตีแขนตีไหล่สายน้ำเป็นเชิงลา “เอาไว้เจอกันมึง”



“อ้าว...” สายน้ำได้แต่ทำหน้างงมองตามเพื่อนไป เพราะรู้สึกว่าตัวเองตามเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด



และท่าทางของสายน้ำคงจะตลกไม่ใช่น้อยเพราะเขาได้ยินเสียงของใครอีกคนหัวเราะขำ “ยืนงงอะไร ไปหาอะไรกินกันดีกว่าไป” หินผาว่าพร้อมกับคว้ากระเป๋ากีตาร์ของสายน้ำขึ้นมาสะพายเองก่อนจะเดินนำออกไป



“พี่หินผาเดี๋ยวผมถือเองครับ” สายน้ำรีบก้าวเท้าตามไปทันที



“ไม่เป็นไร พี่ช่วยถือ” หินผาเบี่ยงตัวหลบมือของสายน้ำที่เอื้อมมาคว้าสายกระเป๋ากีตาร์ “อยากกินอะไร ไปกินสเต็กไหม”



“ก็ได้ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ แล้วก็ได้แต่เดินตามหินผาไปเรื่อย ๆ



คนอายุมากกว่าเลี้ยวเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ริมถนน เป็นร้านห้องแอร์ขนาดไม่ใหญ่มากขนาดเท่าอาคารพาณิชย์สองห้องเท่านั้น สายน้ำเดินตามคนที่ผลักประตูให้เปิดออกเข้าไปข้างใน มีโต๊ะว่างอยู่ไม่มากนักแต่โชคดีที่มุมร้านมีโต๊ะว่างพอดีให้หินผาเดินนำสายน้ำไปนั่งที่ตรงนั้น



“ขอบคุณครับ” สายน้ำพูดเมื่อรับเมนูมาจากพนักงาน



พวกเขาเลือกเมนูมาคนละอย่างหินผาเลือกเป็นสเต็กไก่ชิ้นใหญ่พร้อมเครื่องเคียงเป็นเฟรนช์ฟราย ส่วนสายน้ำเลือกเป็นสปาเก็ตตี้เส้นดำผัดปลาหมึกไข่กุ้ง แล้วก็สั่งสลัดมาอีกหนึ่งจาน



“ง่วงแล้วเหรอเรา” หินผาถามเมื่อเห็นสายน้ำปิดปากหาว



“ก็... นิดหนึ่งครับ คงเพราะตื่นเต้นมากไป เหมือนใช้พลังงานไปเยอะเลยตอนที่เล่นดนตรีอยู่” สายน้ำพยักหน้ารับ



“กินเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่พาไปส่งที่คอนโด จะได้รีบอาบน้ำนอนพรุ่งนี้มีเวลาพักอีกหนึ่งวัน”



“ครับ ผมจะนอนตื่นสาย ๆ เลยคอยดู” สีหน้าของสายน้ำดูมุ่งมั่นกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก



“พี่เห็นบอกแบบนี้ทีไรก็ตื่นเช้าทุกที”



“นั่นสิครับ ร่างกายผมมันชินแน่ ๆ เลย อยากนอนตื่นสาย ๆ แต่พอหกโมงกว่า ๆ ก็รู้สึกตัวทุกที เหมือนต้องตื่นขึ้นมาก่อนแล้วถึงจะนอนหลับต่อได้”



“ตื่นเช้าจนร่างกายชิน” หินผาพูด “พี่เองก็เป็นนอกจากว่าเหนื่อยมากจริง ๆ แบบทำงานไม่ได้นอนเลยแบบนี้ พอมานอนก็จะหลับสนิทยาว ๆ เลย”



“ตอนนี้ผมก็เหนื่อยมาก ๆ เหมือนกัน” สายน้ำว่าฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แต่ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเดือนมหาวิทยาลัยจะสัมผัสกับโต๊ะก็มีมือของหินผามารองเอาไว้เสียก่อน



เดือนมหาวิทยาลัยเงยหน้าขึ้นก็พบกับสายตาดุ ๆ ของหินผาที่มองมา “โต๊ะมันอาจจะเลอะก็ได้ จะนอนเอาหน้าไปแนบแบบนั้นมันได้ยังไง”



“ผมง่วงนี่ครับ”



“ย้ายมานั่งฝั่งนี้ เร็ว” หินผาว่าพยักหน้าให้สายน้ำย้ายมานั่งข้างตัวเอง ซึ่งพอสายน้ำย้ายฝั่งมาเจ้าตัวก็ถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ออกแล้วพับเป็นหมอนให้อีกคนหนุน “นอนก่อนเดี๋ยวของกินมาแล้วพี่จะเรียก กินเสร็จแล้วกลับกัน”



“คร้าบ...”



หินผาส่ายหน้าแต่บนใบหน้านั้นก็ปรากฏรอยยิ้มเอ็นดูเดือนมหาวิทยาลัยคนนี้ จนต้องยกมือขึ้นยีผมของน้องเล่นอย่างที่ชอบทำ เขานั่งหันหน้าไปทางสายน้ำยกข้อศอกขึ้นตั้งบนโต๊ะแล้วท้าวคางมองคนที่ฟุบหน้าหลับตาอยู่กับเสื้อคลุมของเขา



สายน้ำคงจะเหนื่อยอย่างที่เจ้าตัวว่า เป็นชั่วโมงกับการเล่นดนตรีแบบไม่ได้พัก แถมอากาศก็ร้อนด้วยคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะทำให้สายน้ำล้าแล้วก็เหนื่อยแบบนี้



ถึงแม้ว่าจะเห็นใจที่อีกฝ่ายทำงานมาเหนื่อย ๆ แต่หินผาก็ต้องเรียกคนที่พักสายตาให้ลุกขึ้นมากินอะไรเสียก่อนที่จะปวดท้องแล้วจะกลายเป็นโรคกระเพาะไปเสียก่อน พวกเขาช่วยกันจัดการอาหารที่สั่งมา ดูเหมือนว่ารสชาติจะอร่อยถูกใจ คนที่ทำหน้าง่วงอยู่เมื่อครู่ทำตาเป็นประกายตอนลองชิมสปาเก็ตตี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากคำแล้วคำเล่า ไม่เหลือเค้าเดิมของคนง่วงนอนเลยสักนิด



หลังจากที่ช่วยกันจัดการอาหารที่สั่งมาจนหมดหินผาก็เรียกเก็บเงินก่อนที่พวกเขาจะเดินออกมาจากร้าน บนไหล่ของหินผายังคงมีกระเป๋ากีตาร์ของสายน้ำสะพายเอาไว้อยู่แม้ว่าสายน้ำจะขอกระเป๋าคืนมาหลายรอบแล้วก็ตามที



“ไป กลับกัน” หินผาหันมามองสายน้ำ “รถพี่จอดทางนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง”



“ขอบคุณครับ”



ใช้เวลาไม่นานรถคันสวยของหินผาก็เลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโดสายน้ำ หินผาลงจากรถเดินไปหยิบกระเป๋ากีตาร์มาส่งคืนให้กับเจ้าของที่ยืนทำหน้าง่วงอยู่ข้างรถ



“อย่าลืมอาบน้ำก่อนนอนด้วยล่ะ เน่าหมด”



“ฮือ... รู้แล้วครับ” สายน้ำรับกระเป๋ากีตาร์มาสะพายเอาไว้เอง “พี่หินผาขับรถกลับดี ๆ นะครับ ถ้าถึงห้องแล้วส่งข้อความมาบอกผมหน่อยนะครับ”



“อือ”



“ผมอาจจะไม่ได้ตอบกลับเพราะผมคงหลับแล้ว” สายน้ำพูด “แต่ถ้าผมตื่นมาแล้วเห็นข้อความของพี่ผมคงจะสบายใจดี”



“หึหึ รู้แล้ว ถ้าถึงห้องแล้วพี่จะส่งข้อความมาบอกไว้เราจะได้ไม่กังวล” หินผายีผมน้องเล่นอย่างที่ชอบทำ “ไปเถอะ ขึ้นไปพักผ่อนได้แล้ว”



“ครับผม” สายน้ำพยักหน้ารับ “นอนหลับฝันดีนะครับพี่หินผา”



“อือ นอนหลับฝันดีครับน้องน้ำ” หินผายิ้มให้ “แล้วเจอกัน”



“ครับผม”



หินผายืนมองจนกระทั่งสายน้ำเดินหายเข้าไปในล็อบบี้แล้วเขาถึงได้ขึ้นรถแล้วขับกลับมาที่คอนโดของตัวเอง คนตัวสูงก้าวยาว ๆ ไม่กี่ก้าวจากลิฟต์ก็ถึงห้องของตัวเอง หินผาปิดประตูลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมากดข้อความส่งไปหาใครบางคนที่ป่านนี้คงจะนอนหลับสนิทไปแล้ว



HinPaa
พี่ถึงห้องเรียบร้อยแล้ว
นอนหลับฝันดีนะน้องน้ำ
^^



เจ้าตัวยืนมองโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปทางโซนครัวเพื่อรินน้ำดื่ม แต่เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นให้หินผารีบก้าวกลับมาคว้าไปดู



คนที่เขาคิดว่าหลับไปแล้ว... ส่งข้อความตอบกลับมา



SAINAM karp
ดีแล้วครับ
พี่หินผาไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนเถอะครับ




HinPaa
ทำไมเรายังไม่นอนอีก
พี่คิดว่าหลับไปแล้วเสียอีก



SAINAM karp
ก็พออาบน้ำแล้วก็ตาสว่างขึ้นมาอีกหน่อยครับ
พอตาสว่างก็เลยตั้งใจว่าจะรอข้อความพี่ด้วย




HinPaa
พี่ถึงห้องเรียบร้อย ปลอดภัยหายห่วง
เราไปนอนเถอะ
เดี๋ยวพี่ก็จะไปอาบน้ำนอนบ้างแล้วล่ะ



SAINAM karp
ครับผม
อย่างนั้น...
ฝันดีนะครับพี่หินผา




HinPaa
ฝันดีครับผม



หินผายิ้มกับข้อความของสายน้ำก่อนจะเปลี่ยนไปเปิดดูรูปภาพที่เขาถ่ายเอาไว้ เลือกรูปไปแต่งสีแต่งโทนอีกหน่อยก่อนจะกดโพสต์ลงไป



HINPAA TARYN – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 1 ภาพ
No words can explain the way I’m missing you.
(Lay Me Down – Sam Smith)
https://youtu.be/HaMq2nn5ac0 (https://youtu.be/HaMq2nn5ac0)







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

น้องนี่เสน่ห์แรงไม่ใช่เล่นนะเนี่ย
เขาเข้ามาจีบเนี่ยรู้ตัวบ้างไหม???
แต่ก็พบคนขี้หวง 1 อัตราจ้า ตาเขียวเชียว
เหม็นกลิ่นฟามรักมาก ๆ นี่เขายังไม่ได้เป็นแฟนกันนะ
ย้ำกับตัวเองทุกครั้งว่า เขา! ยัง! ไม่! ได้! เป็น! แฟน! กัน!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-09-2019 22:32:56
พี่หินต้องแสดงตัวด่วน ๆ เลยนะครับ ก่อนที่จะมีคนมาแย่งน้องน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-09-2019 22:55:55
ดูแลแบบไม่ให้ลอดสายตา อีพี่หวงจริงจังมากกกกกกกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 16-09-2019 23:26:19
ฮอตเหมือนกันนะสายน้ำาาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-09-2019 00:50:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 17-09-2019 03:47:02
หูยยยย...รอคนพี่ออกอาการอยู่เนี่ย
คนน้องนี่ถ้าไม่ใช่พี่หินผาแล้วช้าเนอะ..
แต่ก็ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-09-2019 06:59:16
ทั้งพี่ทั้งน้องไม่มีใครรู้ตัวเลย
คนนึงไม่รู้ตัวว่าถูกจีบ. อีกคนก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังหึง   :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 17-09-2019 09:49:50
มีคนหึงอ่ะสาย​นํ้า​  :mew3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-09-2019 13:23:53
 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 18-09-2019 06:58:41
อย่าช้านะพี่หินผา :katai5: :katai5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [70%] l P.15 16-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-09-2019 10:52:34
ยอมแล้วววว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 18-09-2019 21:56:35
(https://i.ibb.co/mNYqjB0/12.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “12”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





FGU CUTE BOY – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 2 ภาพ

ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าสิ่งที่เห็นนี้คืออะไร??
ใครรู้ช่วยตอบหน่อยจ้า... คือสถานะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่ทำไมมันคือความแฟนกันก็ไม่รู้อ่ะ
อะไรคือการที่พี่หินผาลงรูปน้องสายน้ำตอนเล่นกีตาร์แล้วลงแคปชั่นเสียหวานขนาดนั้นอ่ะ มันคืออัลไลอ่ะ นี่สงสัย อยากรู้มาก มาช่วยเจ้คิด วิเคราะห์ แยกแยะหน่อยสิ


Belove Yaoi – บร้า! เจ้อ่ะคิดมากไป พี่หินผาเขาโพสต์ถึงเนื้อเพลงต่างหาก ไม่ได้สื่อถึงน้องน้ำอะไรเลยจ้า
   FGU CUTE BOY – อ่ออออออ เจ้คิดมากไปเองสินะ เขารุ่นพี่รุ่นน้องกันเนอะ
   Belove Yaoi – ใช่ค่า พี่เขาออกจะชัดเจนขนาดนี้อ่ะ


Bambi Bam – มันคือความไม่ชัดเจน ที่โคตรจะชัดเจนอ่ะ แบบ... สถานะไม่ชัดเจน แต่การกระทำชัดเจนมากจ้า แต่ก็อาจจะจริงอย่างเมนต์บน เราคงคิดมากไปเองเนอะ
   FGC CUTE BOY – เนอะ เจ้คงคิดมากไปเองจริง ๆ แหละ พี่น้องกัน พี่น้อง


พิณ พิณ – แคปชั่นก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เนื้อเพลงชัด ๆ พี่เขาก็ลงลิ้งค์เพลงให้อยู่นั่นน่ะ No words can explain the way I’m missing you. ไม่มีคำใดสามารถอธิบาย ความคิดถึงที่มีให้เธอได้ เนี่ยยยย ก็แค่นี้เอง
   FGC CUTE BOY – ก็จริง! ก็แค่เนื้อเพลงเองอ่ะเนอะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย บร้าจริง!




สายน้ำได้แต่นั่งหน้าแดงอยู่บนเตียงตอนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นตามปกติ วันหยุดนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวันอาจจะเพราะเหนื่อยจากการไปทำกิจกรรมเล่นดนตรีเปิดหมวกมาเมื่อวาน พอตื่นขึ้นมาอาบน้ำ หาอะไรใส่ท้องเสร็จก็ตรงดิ่งกลับมาที่เตียง ตั้งใจว่าจะมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาหาหนังดูสักเรื่องสองเรื่อง



พอขึ้นมานั่งบนเตียงได้ก็หยิบโทรศัพท์มากดเล่นตามปกติ เข้าไปตอบข้อความเพื่อน ๆ ก่อนจะเข้าไปเช็คเฟซบุ๊กเพราะเห็นมีการแจ้งเตือนเข้ามาเต็มไปหมด แล้วก็ได้เห็นถึงเหตุผลที่ทำให้เฟซบุ๊กของเขามีการแจ้งเตือนเข้ามา แล้วก็เป็นสาเหตุที่ทำให้สายน้ำนั่งหน้าแดงอยู่แบบนี้



โพสต์ของหินผาที่หลายต่อหลายคนแชร์กันต่อ ๆ มาเป็นโพสต์ที่อีกฝ่ายลงรูปพร้อมแคปชั่นที่ใคร ๆ ก็บอกว่าหวานมาก ๆ ที่จริงมันก็คงจะไม่มีอะไรเพราะแคปชั่นนั้นก็เป็นท่อนหนึ่งของเพลง แต่พอมารวม ๆ กับรูปที่ลงก็เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา



รูปของสายน้ำตอนที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่ตลาด สายน้ำไม่รู้หรอกว่าหินผาใช้แอปพลิเคชั่นอะไรในการแต่งรูป แต่มันทำให้รูปของเขาดูฟุ้ง ๆ ดูละมุนไปหมด ส่วนคนอื่นที่ติดมาในรูปด้วยก็ถูกปรับให้เบลอจนตัวของสายน้ำเด่นขึ้นมา



ก็ไม่ได้อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองหรืออะไรหรอก แต่พอเห็นแบบนี้... มันก็อดที่จะคิดแล้วก็ดีใจไม่ได้จริง ๆ



“แม่ครับ... ช่วยผมด้วย พี่หินผาทำไม่ดีต่อใจผมมากเลย” สายน้ำได้แต่หยิบหมอนมากอดแล้วฟุบหน้าลงไป ส่งเสียงอู้อี้จนฟังแทบไม่ได้ศัพท์



คนขี้เขินหยิบโทรศัพท์มากดดูอีกรอบได้แต่อมยิ้มอย่างเขิน ๆ ยิ่งหินผาทำแบบนี้หัวใจของสายน้ำก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นไปอีก รับรู้ได้เลยว่าอัตราการเต้นของหัวใจในตอนนี้มันเกิดกว่าที่ควรจะเป็นไปมาก ถ้าเอานาฬิกามาจับหรือลองวัดการเต้นของหัวใจของเขาดู เหล่าคุณหมอคุณพยาบาลคงได้ตาโตรีบจับเขาไปตรวจแน่ ๆ เพราะมันทั้งเต้นแรง และเร็ว



ขนาดตัวไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ยังมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้เลย



“แย่แน่แล้วสายน้ำ แบบนี้แย่แน่ ๆ เลย...”



แบบนี้มันไม่ดีต่อหัวใจของสายน้ำเลยจริง ๆ



เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังมาติด ๆ กันให้สายน้ำต้องหยิบมาดูเห็นเป็นเพื่อนในกลุ่มที่ส่งทั้งรูปภาพทั้งข้อความมาให้ แค่ดูจากหน้าจอการแจ้งเตือนสายน้ำก็รับรู้ได้ทันทีว่าทุกคนส่งโพสต์ของหินผามาให้ดู แล้วก็พากันแซวเขายกใหญ่เลย แต่สายน้ำไม่เข้าไปกดอ่านหรอก ไม่อ่านก็ไม่ต้องตอบ



ตอนนี้ยังไม่พร้อมตอบคำถามหรือรับคำแซวจากใคร ๆ เลย หัวใจยังไม่พร้อม



เขาพยายามที่จะไม่สนใจข้อความของเพื่อน ๆ แล้วหันมาเปิดโทรทัศน์ในห้องนอนแทน กดสลับเข้าแอปพลิเคชั่นดูหนังในโทรทัศน์แล้วเลือกหนังที่อยากดู



“สวัสดีครับ” สายน้ำกดรับสายโทรศัพท์ที่มีคนโทรเข้ามา



[ตื่นแล้วเหรอเรา]



“พ พี่หินผา!” เพราะมัวแต่สนใจกับหนังบนจอเขาจึงไม่ทันได้ดูว่าใครโทรมา พอได้ยินเสียงจากปลายสายก็ทำเอาตกใจไปหมด



[ตกใจอะไรของเรา] คนปลายสายหัวเราะขำกับน้ำเสียงตกอกตกใจของสายน้ำ



“ข ขอโทษครับ พอดีผมไม่ทันมองว่าใครโทรมาก็เลยตกใจไปหน่อย” สายน้ำได้แต่เอ่ยขอโทษเสียงอ่อย เพราะถ้าเขาเห็นว่าใครโทรมา เขาจะไม่กดรับสายเด็ดขาด แค่ได้ยินเสียงก็ใจสั่นแล้วตอนนี้ “ว่าแต่... พี่หินผาโทรมามีอะไรเหรอครับ”



[นี่เราทำอะไรอยู่ พี่โทรมากวนอะไรหรือเปล่า]



“ป เปล่าครับ ๆ ไม่ได้กวนอะไร ผมกำลังดูหนังอยู่น่ะครับ เลยไม่ทันได้ดูโทรศัพท์ พอได้ยินเสียงก็กดรับเลย” สายน้ำรีบบอกปฏิเสธทันที



[พี่ก็นึกว่าโทรมากวน]



“ไม่เลยครับ ว่าแต่พี่หินผามีอะไรเหรอครับ”



[จริงด้วย... พี่จะโทรมาถามว่าหลังสอบกลางภาคเสร็จเราได้หยุดกี่วัน]



แม้จะนึกสงสัยแต่สายน้ำก็ลุกขึ้นไปดูตารางสอบที่เขาปริ้นออกมาแปะเอาไว้ที่บอร์ดไม้ก๊อกตรงโต๊ะทำงาน “ผมได้หยุดสี่วันครับ ผมสอบเสร็จวันพุธ”



มหาวิทยาลัยของเขาจะมีสัปดาห์การสอบประมาณสองสัปดาห์ แต่สายน้ำไม่ได้มีสอบทุกวัน “ทำไมเหรอครับ”



[ไปเชียงใหม่กันไหม พี่สอบเสร็จวันอังคารเลยตั้งใจจะไปเที่ยวกันแล้วพอดีกับพี่ป่าว่างเลยว่าจะกลับบ้าน]



“ค ครับ? ไปเชียงใหม่... กับพี่แล้วก็พี่ป่าเหรอครับ”



[พวกพี่กันต์แล้วก็เพื่อนพี่ไปด้วย เราก็ชวนเพื่อน ๆ ไปด้วยสิไปหลายคนสนุกดี นั่งเครื่องไปกลับจะได้ไม่เหนื่อยมากแล้วก็จะได้มีเวลาเที่ยวด้วย เราไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วนี่ใช่ไหม]



“ก็ครับ... ผมไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว” เพราะหยุดแค่สี่วันจะให้บินไปหาแม่กับแด๊ดก็คงจะไม่ทัน



[อย่างนั้นก็ตามนี้นะ วันพุธเราสอบเสร็จกี่โมง]



“ผมสอบถึงแค่สิบเอ็ดโมงครึ่งครับ”



[โอเค พรุ่งนี้เราถามเพื่อน ๆ ด้วยนะใครจะไปบ้างเดี๋ยวพี่จะได้จองตั๋วให้เลยทีเดียว บินไฟลท์ตอนเย็น ๆ]



สายน้ำได้แต่ทำหน้างงตามคนปลายสายไม่ค่อยจะทัน ถ้าเขาจำไม่ผิดเขาว่าตัวเขาเองยังไม่ได้ตอบตกลงเลยว่าจะไปด้วย แต่ทำไมอีกฝ่ายนับเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมทริปไปแล้วล่ะ [แม่ดีใจใหญ่ตอนที่รู้ว่าเราจะไปเชียงใหม่]



“ครับ... แม่พี่รู้ว่าผมจะไปเชียงใหม่”



[ใช่ พี่บอกแม่เองแหละ แม่บอกดีใจจัง จะได้เจอน้องน้ำแล้วไม่ได้เจอตั้งนาน] หินผาหัวเราะ [แม่คงตกใจแน่ ๆ ถ้าได้เจอน้องน้ำ]



“ครับ ผมก็อยากเจอน้าเดือนเหมือนกัน”



[เดี๋ยวสอบเสร็จก็ได้เจอ ยังไงพรุ่งนี้เราบอกพี่อีกทีนะว่าเพื่อนจะไปกันกี่คน พี่จะได้รีบจองตั๋วเอาไว้ให้] หินผาย้ำอีกรอบ [อย่างนั้นพี่ไม่กวนเราแล้วล่ะ ดูหนังไปเถอะ เอาไว้เจอกันนะ]



“ครับพี่ สวัสดีครับ”



หินผากดวางสายไปแล้ว แต่คนทางนี้ยังนั่งงงอยู่ตรงโต๊ะทำงานเพราะตามเรื่องราวไม่ค่อยจะทัน ก่อนจะพยักหน้ากับตัวเองเหมือนว่าเขาทำความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้แล้ว เขาหยิบปากกาสี ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะมาวงบนปฏิทิน เตือนตัวเองเอาไว้



xx – xx
ไปเที่ยวเชียงใหม่กับพี่หินผา



ปฏิเสธตัวเองไม่ได้หรอกว่า... ทั้งใจดีและตื่นเต้นมาก ๆ









❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

งุ้ยยยยยยย มีการชวนไปเที่ยวบ้าน
มีจุดประสงค์แอบแฝงป่ะคะพี่หินผา
คืออยากพาน้องกลับไปเที่ยวเชียงใหม่เฉย ๆ
หรือจะพาน้องไปฝากตัวกับใครปะคะ ?
สงสัยนะเนี่ยยยย สงสัยยยยย

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-09-2019 22:34:12
จะได้ไปเยี่ยมว่าที่คุณแม่สามีแล้วเนอะ น้องน้ำ  :m3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-09-2019 22:41:12
ฮั่นแน่ จะพาน้องไปเปิดตัวว่าเลื่อนสถานะของน้องกับที่บ้านใช่มั้ยคะ พี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-09-2019 08:11:14
งู้ยยยยย เขาจะไปเชียงใหม่กันแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 19-09-2019 12:10:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-09-2019 00:11:39
พี่เค้าทำตัวน่าสงสัยเนอะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-09-2019 00:48:15
มีความรวบตึงมากค่ะ หินผา กลัวน้องไม่ไปหรอ
มาไวเคลมไวมาก แถมบอกแม่รอเจอด้วย 5555
พบคนขี้หวงแถวตลาด ตาเข้มถึงขั้นส่องประกายไฟไหมล่ะ

สายน้ำก็อึนตลอด ไม่ค่อยจะทัน จะรู้ตัวอะไรกับใครเค้า
รอดูว่าไปเชียงใหม่แล้วจะคืบหน้าไหม

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-09-2019 02:00:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 20-09-2019 15:59:55
น่ารักมาก ๆ ครับ  รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "12" [100%] l P.16 18-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 21-09-2019 23:14:28
 :L1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 23-09-2019 21:07:33
(https://i.ibb.co/LPGhXFf/13.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “13”





การสอบกลางภาคของนักศึกษามหาวิทยาลัยมาถึงแล้วและเวลาแบบนี้ก็มักจะเห็นนักศึกษาซอมบี้เดินไปเดินมาจนทั่วมหาวิทยาลัย ทั้งเร่งปั่นงาน ทั้งเร่งอ่านหนังสือจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน



นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเหมือนกัน เพียงแค่เวลานี้แต่ละคนดูจะอิดโรยกว่าตอนที่ยังไม่สอบก็เท่านั้น ปกติจะปั่นแค่โปรเจค แต่พอช่วงสอบนั้น โปรเจคก็ต้องปั่น หนังสือก็ต้องอ่าน ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอะไรได้เลยสักอย่างเดียว



“เป็นยังไงบ้างวะ” แบงก์ถามเมื่อเห็นเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดินออกมาจากห้องสอบจนครบทุกคนแล้ว เขาเป็นคนแรกที่ออกมา ไม่ใช่ว่าทำได้หมดอย่างรวดเร็ว แต่แค่ไม่รู้จะนั่งอยู่ไปทำไม เพราะนั่งไปก็ไม่ได้ทำให้คิดคำตอบอะไรเพิ่มได้เลย สู้ออกมานั่งเหม่อลอยอยู่ข้างนอกห้องสอบดีกว่า



“ไม่แน่ใจเลยว่าตอบไปครบทุกข้อหรือเปล่า แล้วตอบไปได้มากน้อยแค่ไหน สมองของเรามันตีกันมั่วไปหมด” มะนาวทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แบงก์ก่อนจะโอดครวญออกมา



“ใช่!” เบลเองก็มีท่าทางไม่ต่างจากเพื่อนสาวสักเท่าไหร่ “เราว่าเราต้องจำคำตอบสลับข้อกันแน่ ๆ เลยอ่ะ มันปนกันมั่วไปหมดในหัวแบบจำอะไรแทบไม่ได้เลย ฮือออออ อาจารย์จะยกผลประโยชน์ให้ป่ะถ้าเราตอบถูกแต่แค่เขียนผิดข้ออ่ะ”



“เอาน่ะ มันไม่น่าจะแย่ขนาดนั้นหรอก” สายน้ำเอ่ยปลอบเพื่อนทั้งสองคน ยกมือขึ้นจับหัวอีกฝ่ายโยกไปมาอย่างเอ็นดู



“น้ำก็พูดได้สิ! ทำได้ทุกข้อเลยใช่ไหมล่ะ” เบลโวยวาย



“จริงดิ มึงทำได้ทุกข้อเลยเหรอ” แบงก์ทำตาโตถาม ขนาดตั้มที่นั่งพิงหัวกับพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงยังลืมตาขึ้นมามอง



“แบบนั้นก็เวอร์เกินคนแล้ว ไม่ได้ทำได้ทุกข้อเสียหน่อย แค่ตอบ ๆ ไปให้ครบข้อ เผื่อจะใกล้เคียงบ้าง อาจารย์เขาไม่ได้หักคะแนนนี่ถ้าตอบผิดน่ะ” สายน้ำตอบ



วิชาที่พวกเขาสอบวันนี้เป็นวิชาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เป็นวิชาของคณะซึ่งเป็นข้อสอบแบบข้อเขียนทั้งหมด ใครจำได้เยอะก็ถือว่าโชคดีไป



“ช่างแม่งเถอะ ทำไรไม่ได้แล้ว ปลง” ตั้มยกมือโบกไปมาเป็นการบอกว่าเขาไม่อยากจะสนใจแล้ว ต่อให้ได้คำตอบแล้วอย่างไรกัน ก็ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขคำตอบได้อยู่ดี เพราะอย่างนั้น... ปล่อยมันไปเถอะ ดีที่สุดแล้ว



“ก็จริงของตั้ม แล้วยังไงดีเราไปหาอะไรกินกันก่อนแยกย้ายไหม เหลือสอบพรุ่งนี้อีกวันก็หมดแล้ว” มะนาวเองก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดเห็นของตั้มจึงเอ่ยเปลี่ยนเรื่องแทน



“ก็ได้นะ หิวแล้วด้วย! ร่างกายต้องการชาบู ไปกินชาบูกัน” แบงก์เด้งตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะเสนอร้านอาหารที่อยากกิน



ไม่มีใครขัดอะไรพวกเขาทั้งห้าคนจึงพากันย้ายไปร้านชาบูใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยแทนหน้าห้องสอบแบบตอนนี้ อาหารมากมายถูกสั่งมาจนเต็มโต๊ะแทบไม่มีพื้นที่ว่างเลย



“ว่าแต่พรุ่งนี้พวกสายน้ำบินกันตอนกี่โมง” เบลถามในระหว่างที่รออาหารในหม้อชาบูสุก



“ตอนเย็นพี่หินผาบอกเครื่องออกประมาณห้าโมงกว่า ๆ จะได้ไม่ถึงที่เชียงใหม่มืดมากเกินไป ถ้าไปเร็วกว่านั้นก็กลัวว่าพวกเราจะเตรียมตัวไปสนามบินไม่ทัน” สายน้ำตอบคำถามของเบล



พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายก็จะเป็นวันที่พวกเขาจะเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ตามคำชวนของหินผา “น่าเสียดาย เรากับเบลไม่ได้ไป” มะนาวทำหน้าเสียดาย เพราะพวกเธอทั้งคู่มีนัดกับทางที่บ้านเอาไว้แล้ว ในคราวนี้จึงมีเพียงแบงก์กับตั้มที่ไปด้วยกันกับสายน้ำ



“ไม่เป็นอะไร ๆ เอาไว้หยุดยาวรอบหน้าเราไปเที่ยวกันก็ได้” สายน้ำรีบปลอบเพื่อนทั้งสองคนทันที “รอบนี้มันค่อนข้างกะทันหันด้วยแหละ อยู่ ๆ พี่หินผาคิดอยากจะชวนไปเที่ยวก็โทรมาชวนเฉยเลย”



“เดี๋ยวจะเที่ยวเผื่อแล้วก็จะถ่ายรูปสวย ๆ มาฝาก จะกินของอร่อย ๆ มาให้นะ” แบงก์แกล้งเย้าเพื่อนทั้งสองคนเลยโดนแจกค้อนไปคนละที เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี



“ใจร้ายที่สุดเลยอ่ะ!”



พวกเขาทั้งห้าคนใช้เวลาอยู่ในร้านอาหารชั่วโมงกว่าก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ เบลกลับไปกับมะนาว ส่วนสามหนุ่มที่เหลือก็กลับด้วยกันเพราะยังมีหนังสือวิชาของวันพรุ่งนี้ที่จะต้องสอบอีกหนึ่งวิชา



สายน้ำโบกมือให้แบงก์กับตั้มที่เดินออกจากลิฟต์ไปเมื่อถึงชั้นของตัวเอง ทั้งสองคนหันมานัดแนะเวลาออกไปสอบพรุ่งนี้กับสายน้ำก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงแล้วเปิดออกอีกครั้งเมื่อถึงชั้นของสายน้ำ ขาทั้งสองข้างก้าวออกไปจากลิฟต์ตรงไปยังห้องของตัวเอง



เจ้าตัววางกระเป๋าทิ้งเอาไว้บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินถือหนังสือวิชาที่จะสอบพรุ่งนี้ออกมา วิชาของพรุ่งนี้ไม่ยากเท่าไหร่เพียงแต่เนื้อห้าค่อนข้างเยอะแม้ว่าสายน้ำจะอ่านหนังสือจบไปแล้วหนึ่งรอบแต่ก็ไม่อยากประมาทเขาจึงอ่านมันอีกครั้ง



เสียงโทรศัพท์ดังแทรกเสียงเพลงที่เจ้าของห้องเปิดคลอไปด้วยระหว่างอ่านหนังสือให้สายน้ำที่กำลังตั้งใจอยู่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาดูก่อนจะกดรับ “ครับพี่หินผา”



[อยู่ที่ห้องหรือเปล่า]



“อยู่ครับ”



[แล้วนี่กินอะไรหรือยัง เย็นแล้วนะ]



“เอ๊ะ...” สายน้ำทำหน้างงหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่วางอยู่บนชั้น เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว “ยังครับ ผมอ่านหนังสือเพลินไปเลย ไม่ทันดูว่ากี่โมงแล้ว”



[พี่ก็ว่าอย่างนั้น อย่างนั้นลงมารับพี่หน่อย พี่อยู่ที่ล็อบบี้]



“ครับ!”



[เร็ว ๆ นะ] อีกฝ่ายวางสายไปแล้วให้สายน้ำรีบลุกขึ้นไปหยิบคีย์การ์ดแล้วเดินออกจากห้องไปทันที



สายน้ำก้าวเท้าเร็ว ๆ ออกจากลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์เปิดที่ชั้นหนึ่ง เขากวาดสายตาไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นคนคุ้นหน้านั่งกดโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาชุดเลยรีบเดินเข้าไปหา “พี่หินผา”



“ไงเรา อ่านหนังสือเพลินเลยสินะ”



“ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ



“พี่ซื้อของกินมาให้” หินผาชี้นิ้วไปยังถุงหลายใบที่วางอยู่บนโต๊ะ “ขึ้นไปข้างบนกัน”



“พี่รู้ได้ยังไงครับว่าผมยังไม่ได้กินอะไร” สายน้ำถามในระหว่างที่กดลิฟต์ ตั้งแต่กลับมาถึงห้องตอนบ่ายเขาก็อ่านหนังสือยาวไม่ได้หยุด ไม่ได้จับโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจเวลาเลยจนกระทั่งหินผาโทรเข้ามาหา



“พี่ไลน์หาเราแต่เราไม่ตอบก็เลยคิดว่าคงกำลังอ่านหนังสืออยู่ ก็เลยแวะซื้อของกินแล้วมานี่นี่แหละ”



“พี่สอบเสร็จหมดแล้วสินะครับ”



“ใช่แล้วล่ะ แล้วนี่เก็บของเรียบร้อยหรือยัง”



สายน้ำพยักหน้า เขาดันประตูห้องออกกว้างแล้วเดินเข้าไป “เรียบร้อยแล้วล่ะครับ”



“พรุ่งนี้เดี๋ยวนั่งรถไปพร้อมกัน กับเพื่อนเราอีกสองคนด้วย”



“พวกผมไปกันเองก็ได้ครับ พี่หินผาจะได้ไม่ต้องวนมาหาพวกผมอีก ยุ่งยากเปล่า ๆ ครับ”



หินผาเดินเข้าไปในครัวเพื่อจัดอาหารที่ซื้อมาใส่จานโดยมีเจ้าของห้องเดินมาช่วยด้วย “ใครว่าวนไปวนมา กระเป๋าเสื้อผ้าพี่อยู่ในรถเดี๋ยวพี่จอดรถเอาไว้นี่แล้วนั่งแท็กซี่ไปกันสี่คน”



“เอ๊ะ” สายน้ำเอียงคอนึกก่อนจะหันไปมองคนที่เทกับข้าวใส่จานอยู่ “คืนนี้พี่จะนอนที่นี่เหรอครับ”



“ใช่แล้วล่ะ” หินผาพยักหน้ายืนยันในคำตอบ “มากินข้าวก่อน เดี๋ยวเราจะได้ไปอ่านหนังสือต่อให้จบ”



สายน้ำได้แต่นั่งลงตามแรงดึงของคนอายุมากกว่า เขารู้สึกว่าหลัง ๆ มานี้เขาตามหินผาไม่ค่อยทันทั้งความคิด ทั้งอะไรหลาย ๆ อย่าง เหมือนอีกฝ่ายคิดทุกอย่างเอาไว้แล้วและก็ทำตามในสิ่งที่เจ้าตัวคิด ส่วนเขาก็ไหลตามน้ำไปตลอด แม้ว่ามันจะเหมือนเป็นการบังคับกันทางอ้อมแต่ก็น่าแปลกที่สายน้ำไม่ได้รู้สึกแย่หรืออะไร



หลังจากจัดการกับมื้อเย็นเสร็จหินผาก็เอ่ยปากให้เจ้าของห้องไปอาบน้ำแล้วมาอ่านหนังสือต่อ ส่วนจานชามพวกนี้เขาจะจัดการเก็บล้างให้เอง แม้อีกฝ่ายจะไม่ยอมในตอนแรกแต่พอโดนเขาเร่งเอามาก ๆ ก็ยอมเดินเข้าไปอาบน้ำแต่โดยตี



“พี่หินผานอนนี่ใช่ไหมครับ” สายน้ำถามอีกรอบเพื่อความแน่ใจ



“ใช่แล้วล่ะ เราไปอ่านหนังสือเถอะ”



“แล้วเสื้อผ้า...”



“ไม่ต้องห่วงพี่ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ไปอ่านหนังสือต่อได้แล้วเราเดี๋ยวก็ไม่จบหรอก”



พอหินผาพูดแบบนั้นสายน้ำจึงพยักหน้ารับ “โอเคครับ อย่างนั้นพี่หินผาตามสบายเลยนะครับ เดี๋ยวผมไปอ่านหนังสือต่อก่อน”



“อือ” หินผายิ้ม ยกมือยีผมของน้องไปทีอย่างที่ชอบทำก่อนจะปล่อยให้สายน้ำไปอ่านหนังสือต่อ



ส่วนตัวเขาก็หยิบคีย์การ์ดของสายน้ำมาเพื่อลงไปหยิบเสื้อผ้าในรถของตัวเอง เขาตั้งใจเอาไว้อยู่แล้วว่าจะมานอนค้างที่ห้องของสายน้ำจึงได้เตรียมกระเป๋าเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้มาด้วย รวมไปถึงกระเป๋าใบเล็กอีกใบที่ใส่เสื้อผ้าสำหรับคืนนี้และพรุ่งนี้ แต่เขาไม่ได้ถือไว้ตั้งแต่แรกเพราะแม้ว่าอยากจะมานอนค้างด้วยแต่ถ้าสายน้ำไม่ให้ เขาก็ไม่อยากที่จะฝืนใจ เขาเลยไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ตอนเจอหน้า



นึกแล้วก็ขำกับแผนการของตัวเอง คิดอะไรทุกอย่างมาเสร็จสรรพถ้าไม่เป็นอย่างที่คิดก็คงจะทำได้แค่เดินคอตก ขับรถกลับคอนโดตัวเอง แม้จะรู้ดีว่าการทำแบบนี้มันออกจะรวบรัดและเป็นการบังคับสายน้ำมากเกินไปหน่อย แม้ปากเขาจะบอกเพื่อน ๆ ไปว่าอยากให้ทุกอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป แต่ในใจเขากำลังอยากที่จะเร่งรัดทุกอย่างให้รวดเร็วขึ้น



อยากให้สถานะของเขาและสายน้ำชัดเจนมากยิ่งขึ้น คงจะตั้งแต่วันนั้น... วันที่สายน้ำไปเล่นดนตรี วันที่สายตาของใครต่อใครก็จับจ้องมาที่สายน้ำ นั่นทำให้หินผารู้... ว่าถ้าหากเขายังชักช้า ปล่อยทุกอย่างไปเรื่อย ๆ สักวัน... อาจจะมีใครบางคนมาพาสายน้ำไปจากเขาอีกครั้งก็ได้



เขาถึงต้องเร่งทำทุกอย่างเพื่อให้วันที่สถานะของเขากับสายน้ำชัดเจนมาถึงเร็วขึ้น



หินผาเดินออกจากห้องน้ำมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวยาว ส่วนสายน้ำก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่พื้นหน้าโซฟา หินผาไม่ได้ส่งเสียงหรือรบกวนอะไรเจ้าของห้อง เขาทำเพียงแค่นั่งกดโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ ฟังเพลงที่สายน้ำเปิดคลอเอาไว้ เขาอยากให้สายน้ำมีสมาธิกับการอ่านหนังสืออย่างเต็มที่ ไม่อยากรบกวนอะไร



เวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมงคนที่ตั้งใจอ่านหนังสือสอบก็ปิดหนังสือลงเมื่ออ่านหน้าสุดท้ายจบแล้ว เจ้าตัวดันหนังสือออกห่างจากตัวเหมือนไม่ต้องการเห็นมันอีก



“อ่านจบแล้วเหรอ” หินผาละสายตาจากหนังสือของสายน้ำที่เขาหยิบมาอ่านเล่น ส่งเสียงถามเมื่อเห็นสายน้ำเอนตัวพิงโซฟาตัวที่เขานั่งอยู่



“ครับ จบแล้ว” สายน้ำคว้าหมอนอิงไปกอดแล้วซุกหน้าลงไป



“ง่วงหรือยังล่ะเรา ไปนอนพักไหมอ่านหนังสือมาตั้งนาน”



“อีกแปบหนึ่งก็ได้ครับ แล้วพี่หินผาง่วงหรือยังครับ พี่ทำอะไรอยู่”



“ยังไม่ง่วงครับ ไปหยิบหนังสือของเรามาอ่านเพลิน ๆ เหมือนกัน” หินผาชูหนังสือในมือให้เจ้าของดู “พรุ่งนี้มีสอบกี่โมง”



“สอบสิบโมงครับ แต่สอบแค่ชั่วโมงครึ่งก็เสร็จครับ”



“อย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปส่ง แล้วเดี๋ยวอยู่รอรับที่มหา’ลัยเลย เราจะได้แวะหาอะไรกินกันก่อน กลับมาค่อยเตรียมตัวไปสนามบินกัน”



“ไม่เป็นอะไรครับ ผมไปกับแบงก์กับตั้มก็ได้ พี่หินผาจะได้ไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปส่งผม” สายน้ำรีบปฏิเสธ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเกรงใจ แต่อีกส่วนหนึ่ง... ถ้าหินผาไปส่งเขาและอยู่รอรับเพื่อน ๆ ต้องรู้แน่นอนว่าคืนนี้หินผานอนค้างด้วยกันกับเขา และก็คงไม่พ้นโดนแซวให้เขินแน่ ๆ



ถ้าแซวตอนที่หินผาไม่อยู่ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเพื่อนเขามันเผลอแซวตอนที่หินผาอยู่ด้วยละก็ สายน้ำไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเขาเองจะเป็นยังไงบ้าง



“ก็บอกเพื่อนให้ไปด้วยกัน จะได้ไม่ต้องขับรถกันไปเอง”



“แต่ว่า...”



“ตกลงตามนี้แหละ” หินผาไม่รอให้สายน้ำได้พูดอะไรต่อ เขาวางหนังสือลงบนโต๊ะลุกขึ้นยืนพร้อมกับฉุดน้องให้ลุกตามด้วย “ส่วนตอนนี้พี่ว่าเราไปนอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า มีแรงไปสอบ”



“พี่หินผาเอาแต่ใจ” คนน้องได้แต่บ่นอุบ แต่ถึงแม้ว่าจะพูดเสียงเบายังไงหินผาก็ยังได้ยินอยู่ดี



คนที่โดนว่าหัวเราะดันหลังสายน้ำให้เดินเข้าไปในห้อง “รู้ตัวตอนนี้ว่าพี่เอาแต่ใจก็สายไปแล้ว เราหนีพี่ไปไหนไม่ได้แล้วสายน้ำ”



“เอาแต่ใจจริง ๆ ด้วย”



“เจ้าเด็กขี้บ่น” หินผาจัดการยีผมสายน้ำจนยุ่งไม่เป็นทรง เขาดันให้น้องขึ้นไปนอนบนเตียงส่วนตัวเองก็จัดการปิดห้อง ปิดไฟให้เรียบร้อยแล้วตามขึ้นไปนอนข้าง ๆ กัน



“ต้องให้พี่กล่อมไหม” หินผาถาม สายตาที่เริ่มชินกับความมืดพอมองเห็นได้ และเขาก็เห็นว่าสายน้ำยังไม่หลับ เจ้าตัวนอนหันข้างมาทางเข้า พอถูกถามก็สะดุ้งนิด ๆ ส่ายหน้าไปมาปฏิเสธแล้วก็หลับตาลง



แต่ถึงสายน้ำจะปฏิเสธ หินผาก็ยังคงเอื้อมมือไปลูบผมนุ่มของสายน้ำเรื่อย ๆ เป็นการกล่อมนอนอย่างที่ทำทุกครั้งที่เขามีโอกาส แม้ตอนแรกสายน้ำจะนอนเกร็งเพราะสัมผัสของหินผา แต่ไม่นานเจ้าตัวก็ผ่อนคลายลงแล้วก็หลับไป ลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผานี่พูดเอง เออเอง เก่งเหมือนกันนะเนี่ย
อะไรคือการมานอนห้องน้องง่าย ๆ แบบนี้จ้า
เอ๊ะ! หรือเราควรเอาไม้เรียวมาตีน้อง ปล่อยผู้ชายให้มานอนในห้องได้ไง
ทำแบบนี้ไม่ได้สิ เนอะ!
เดี๋ยวเขาจะไปเที่ยวด้วยกันแล้วจ้าาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 23-09-2019 21:31:06
ดีจังเลยยยย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-09-2019 23:32:58
อยากให้น้องน้ำหลับเร็ว ๆ มันต้องมีขวดนมให้น้องน้ำด้วย แถมบริการตบก้นอีกต่างหากจะดีมาก  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-09-2019 23:51:16
พี่หินขี้โมเมจังเลย อะไรคือเนียนมานอนห้องน้องเฉย หือ ?
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-09-2019 00:48:11
พี่หินรวบรัดน้องน้ำ ^^"
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-09-2019 01:59:23
พี่เขาลื่นมากอ่ะ 5555555555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 24-09-2019 10:02:31
หินผาก็มัดมือชกน้องเกินปั้ยยยย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-09-2019 15:03:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 24-09-2019 18:55:44
รวบรัดตัดตอนเก่งงงง ไม่ให้น้องได้แทรกเลยนะ พี่หินผา 5555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-09-2019 19:42:56
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [40%] l P.16 23-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-09-2019 09:09:25
 อีพี่บุกแรงมาก 5555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 28-09-2019 22:53:59
(https://i.ibb.co/LPGhXFf/13.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “13”







❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






“เครื่องออกตอนห้าโมงครึ่งใช่ไหมครับ” สายน้ำส่งเสียงถามออกไปในระหว่างที่เขา หินผา แบงก์และตั้มอยู่บนรถแท็กซี่ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่สนามบิน



“ใช่แล้วล่ะ ถึงเชียงใหม่ก็หกโมงกว่า ๆ คืนนี้เราจะค้างแถวนิมมานกันก่อนสองคืน แล้วค่อยไปบ้านพี่ที่แม่ริมกันอีกที” หินผาที่นั่งอยู่เบาะหน้าคู่คนขับหันมาบอก “ที่พักคืนนี้จะเป็นแบบบ้านหลังมีอยู่ประมาณห้าหกห้อง”



“แล้วที่แม่ริมล่ะครับ”



“ที่แม่ริมก็ค้างบ้านพี่นั่นแหละ”



“ค้างที่บ้านพี่กันหมดเลยเหรอครับ” แบงก์ถามด้วยความสงสัยตรงนี้ก็สี่คนแล้ว และจากที่ฟัง ๆ สายน้ำเล่า รวม ๆ แล้วทริปนี้ก็น่าจะร่วมสิบเอ็ดคน จำนวนคนไม่ใช่น้อย ๆ เลย



“ใช่แล้วล่ะ ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ พวกพี่จัดการให้เรียบร้อยแล้ว”



ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่พยักหน้ารับ ไม่มีความคิดเห็นอะไรอีกอย่างพวกเขาทั้งสามคนไม่ได้ยุ่งอะไรกับทริปนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ เรื่องที่พักหรือโปรแกรมในการท่องเที่ยว ทุกอย่างเป็นหินผากับป่าไม้ที่จัดการให้ แม้กระทั่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พวกเขาก็ไม่ได้ออกเลย



“แล้วนี่พวกพี่ ๆ เขาถึงสนามบินกันหมดแล้วเหรอครับ” สายน้ำถามไปถึงคนอื่น ๆ ที่หินผาบอกว่าจะไปเจอกันที่สนามบินเลย



“ใช่แล้วล่ะ”



เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมารถแท็กซี่เหลืองเขียวที่พวกเขาโดยสารมาก็จอดเทียบประตูทางเข้าสนามบิน พวกเขาช่วยกันยกกระเป๋าลงจากหลังรถหลังจากที่จ่ายค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว กระเป๋าเป้ใบโตคนละใบแล้วก็กระเป๋าใบเล็กอีกคนละใบคือสัมภาระของทุกคน



ภายในสนามบินเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ละคนก็อยู่ในอารมณ์ที่แตกต่างกันไป ส่วนพวกเขาทั้งหมดสิบเอ็ดคนเรียกว่าอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว แบงก์กับตั้มสามารถเข้ากับกลุ่มของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วได้เป็นอย่างดี ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็แอบกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะเอาจริง ๆ แล้วคนที่เขาสองคนสนิทก็มีแค่สายน้ำ กับรุ่นพี่ปีสี่ทั้งสามคน พวกเขาสองคนเลยค่อนข้างกังวลที่จะต้องเจอกับกลุ่มรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว แต่เพราะพวกกันต์ ป่าไม้เป็นกันเองเลยทำให้แบงก์กับตั้มหายเกร็งได้ไม่ยาก



เหล่ารุ่นพี่ที่จบกันไปหลายปีแล้วต่างเล่าย้อนความสมัยที่ยังเรียนอยู่ให้น้อง ๆ ได้ฟัง พอมาเล่าย้อนหลังแบบนี้ก็เล่าไปหัวเราะไป ตลกไป ทั้ง ๆ ที่ตอนที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ พวกเขาขำไม่ออกเลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นตอนโดนสั่งให้รื้อแปลนใหม่ หรือตอนโดนอาจารย์คอมเพลนเรื่องงานมา



จวบจนได้เวลาพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนจึงได้เดินไปเตรียมขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปเชียงใหม่ สายน้ำเดินเข้าไปนั่งที่เบาะริมหน้าต่างก่อนที่หินผาจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ กัน ส่วนคนอื่น ๆ ก็กระจายไปรอบ ๆ



“ตื่นเต้นหรือยังไงเรา” หินผาถามเมื่อเห็นน้องน้ำเอาแต่ขยับตัวไปมาอยู่ไม่สุกเลย



คนโดนถามหันมายิ้มให้พร้อมกับพยักหน้ารับ “ครับ ตื่นเต้นจะได้ไปเชียงใหม่แล้ว ผมไม่ได้กลับไปนานมาก ๆ เลย”



“เปลี่ยนไปหลายอย่างเลยล่ะที่นู้นน่ะ”



“นึกถึงตอนเด็ก ๆ เลยนะครับ ผมรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้นั่งเครื่องบินไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่เหมือนกำลังนั่งเครื่องย้อนเวลากลับไปสมัยนั้นเลย” สายน้ำหัวเราะกับความคิดของตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ



“ก็เหมือนอยู่นะ” หินผาเองก็เริ่มจะเห็นด้วยกับความคิดของสายน้ำ “อย่างนั้น... เราย้อนเวลากลับไปกันไหมน้องน้ำ”



“ได้เลยครับพี่หินผา” สายน้ำยิ้มกว้างออกมา “น้องน้ำตกลงครับ”



ช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงเศษ ๆ บนเครื่องบินผ่านไปค่อนข้างเร็วในความรู้สึกของผู้โดยสารทั้งหมด ไม่นานเสียงของพนักงานบนเครื่องบินก็เอ่ยเตือนให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยเพราะอีกไม่นานเครื่องบินจะเตรียมแลนดิ่งแล้ว



นกเหล็กยักษ์สะเทือนเล็กน้อยตอนที่ล้ออันโตกระทบกับพื้นของรันเวย์ มันวิ่งไปตามเส้นทางก่อนความเร็วจะลดลงจนจอดนิ่งสนิท ผู้โดยสารบนเครื่องบินค่อย ๆ ทยอยเดินออกจากเครื่อง พวกเขาทั้งหมดถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ



ทั้งสิบเอ็ดคนเดินไปรอกระเป๋าของตัวเองตรงจุดรับกระเป๋าจนกระทั่งได้ของครบทุกคนถึงได้พากันเดินออกจากสนามบินโดยมีเจ้าถิ่นทั้งสองคนเดินนำหน้าไป หินผากับป่าไม้เดินไปพูดคุยกับคนรับแดงซึ่งเป็นรถโดยสารสาธารณะที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด



เหมามาสองคันสำหรับพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนเพื่อให้ไปส่งที่บ้านพักที่หินผากับป่าไม้หาเอาไว้ให้ ในตัวเมืองแบบนี้เวลาเย็น ๆ ยังคงคึกคักร้านอาหารต่าง ๆ ยังคงเปิดบริการให้นักเที่ยวเข้าไปชิม ไปชมเต็มไปหมด รถแดงทั้งสองคนขับไปตามเส้นทางเรื่อย ๆ ใช้เวลาไม่นานรถทั้งสองคันก็จอดอยู่หน้าบ้านขนาดกลางหลังหนึ่ง พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนทยอยลงจากรถมายืนอยู่หน้าบ้านพัก



“ค้างที่นี่เหรอพี่” แบงก์ถามขึ้นพลางมองสำรวจบ้านตรงหน้าไปด้วย บ้านขนาดกลางที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ด้านนอกจัดสวนเอาไว้อย่างลงตัว



“ใช่แล้วล่ะ” ป่าไม้เป็นตอบคำถามของรุ่นน้อง



“แล้วเราจะเข้าไปยังไง เจ้าของบ้านพักอยู่ไหนเหรอ” เดียร์หันซ้ายหันขวามองดูว่ามีใครที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของบ้านพักมาเปิดประตูให้หรือเปล่า “เราไม่มีกุญแจไม่ใช่เหรอ”



“มีดิ นั่นไง” ป่าไม้พยักหน้าไปทางน้องชายของตัวเองให้คนอื่น ๆ หันมามองตาม



หินผาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าก่อนจะเดินไปไขกุญแจรั้วแล้วเปิดเข้าไปให้คนอื่น ๆ เดินตาม จัดการปิดประตูรั้วจนเรียบร้อยแล้วเดินไปไขกุญแจเปิดประตูบ้านต่อ



“เขาส่งกุญแจมาให้ด้วยเหรอ” เดียร์ทำหน้างง คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าไม่ต่างกันเท่าไหร่



“เปล่า มีอยู่แล้ว” หินผาส่ายหน้า แต่คำตอบนั้นก็ไม่ได้ไขข้อข้องใจให้กับทุกคนได้



“มีอยู่แล้ว คือยังไง” ทัชเองก็ทำหน้างงไม่ต่างจากเพื่อนสนิทสมัยเด็ก



“ก็มันเป็นเจ้าของบ้านไง มันเลยมีกุญแจ” เป็นป่าไม้ที่ตอบข้อสงสัยของทุกคน พอได้ยินคำตอบแบบนั้นแต่ละคนก็ร้องออกมาด้วยความตกใจปนสงสัยทันที “บ้านหลังนี้ หลังตรงข้ามแล้วก็ถัดไปเป็นของมัน ออกแบบก่อสร้างแล้วก็ปล่อยให้คนเช่า”



“ถามจริง!” ทัชหันไปมองเพื่อนตัวเอง “ครั้งก่อนมาไม่เห็นพามาพักเลยวะ”



“ครั้งก่อนที่มายังไม่เสร็จ” หินผาตอบ เขาปลดกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ออกวางบนพื้น เดินไปเปิดแอร์ เปิดไฟให้เรียบร้อย “เพิ่งเสร็จเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง อีกอย่างจะบอกว่าของผมก็ไม่ใช่ ก็ช่วยกันออกแบบกับพี่ป่านั่นแหละ”



“อ่อ... ที่มึงบอกว่ามีโปรเจคพิเศษที่เชียงใหม่ต้องบินมาดูบ่อย ๆ เมื่อช่วงปีที่แล้วคืออันนี้เหรอวะ” ไข่เจียวที่นึกขึ้นมาได้ก็หันไปถามป่าไม้



“เออ ก็เรื่องนี้แหละ ไหน ๆ ที่บ้านกูก็ทำพวกที่พัก รีสอร์ทอะไรอยู่แล้วแต่ส่วนใหญ่อยู่นอกเมืองหมดพอดีกูเห็นตรงนี้มีที่ว่างขายก็เลยคุยกับที่บ้านว่าจะลองสร้างบ้านพักปล่อยเช่าดีไหม เลยช่วยกันกับไอ้หินออกแบบนี่แหละ”



“เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ เรามาแบ่งห้องนอนกันดีกว่าว่าใครจะนอนกับใคร” หินผาเปลี่ยนเรื่อง



“มันมีทั้งหมดห้าห้องนอน สองสาวก็นอนด้วยกันไป กันต์นอนกับเดียร์ เด็ก ๆ ก็นอนด้วยกันสามคน ทัชกับหินผา ส่วนกูกับพวกมึงก็นอนด้วยกัน โอเคไหม” ป่าไม้เป็นคนแจกแจงห้องพักให้แต่ละคน ซึ่งก็ไม่มีใครขัดอะไร



“มื้อเย็นวันนี้สั่งเข้ามากินแล้วกันนะ คงไม่มีใครอยากออกไปข้างนอกแล้วมั้ง เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยออกไปเที่ยวไปหาอะไรกินกันอีกที วันนี้จะได้รีบพักผ่อนด้วย”



“ได้ ตามนั้นเลย” กันต์พยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของเพื่อน



“โอเค เดี๋ยวกูกับหินผาจัดการให้”



เมื่อตกลงห้องนอนกันได้เรียบร้อยแล้วเจ้าของบ้านทั้งสองคนก็เดินนำขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด พวกเขาให้สองสาวนอนห้องตรงกลาง ห้องแรกเป็นของปีหนึ่งทั้งสามคน ส่วนที่เหลือก็ไล่ไปตามห้องอื่น ๆ อีกสามห้อง



สายน้ำเดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน พวกเขาวางกระเป๋าเอาไว้ที่มุมห้องพร้อมกับมองสำรวจห้องนอนไปด้วย ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่เพราะสามารถวางเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ได้หนึ่งเตียง แล้วก็เตียงเดี่ยวอีกหนึ่งเตียง ผนังฝั่งปลายเตียงมีตู้เตี้ยวางชิดผนังมีโทรทัศน์วางอยู่บนตู้อีกที ตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง มีชุดโซฟาเล็ก ๆ อีกฝั่งหนึ่ง แล้วก็ห้องน้ำในตัว มีระเบียงที่สามารถมองออกไปเห็นสวนหน้าบ้านแล้วก็วิวยามค่ำคืนได้



“สวยว่ะ” แบงก์เอ่ยชมออกมาเมื่อมองสำรวจห้องจนทั่วแล้ว การตกแต่งก็ดูดี เรียบง่ายแต่ก็ลงตัว แถมยังมีจัดมุมกระถางต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นให้กับห้องนอนอีกด้วย



“พี่หินผากับพี่ป่าไม้โคตรเก่งอ่ะ” ตั้มพูดชมสองรุ่นพี่ “พี่ป่าไม้จบแล้วทำงานแล้วคือก็เก่งอยู่แล้วอ่ะ ส่วนพี่หินผานี่ยังเรียนอยู่เลย แต่ออกแบบบ้านออกมาได้ขนาดนี้ก็โคตรเก่งเลยอ่ะ”



“ภูมิใจ ยิ้มแป้นอย่างกับเขาชมตัวเองอย่างนั้น” แบงก์หันมาแซวเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่ยืนยิ้ม มองไปรอบ ๆ ห้อง



“อ อะไรของมึง”



“แฟนเขาออกแบบทั้งทีก็ต้องภูมิใจดิวะ มึงก็พูดแปลก ๆ อ่ะแบงก์”



“ไม่ใช่แฟน! พวกมึงนี่” สายน้ำหันมาโวยวายใส่เพื่อนทั้ง ๆ ที่ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอาย ส่วนแบงก์กับตั้มก็พากันหัวเราะชอบใจที่เห็นท่าทางโวยวายของสายน้ำ “ชอบแกล้งกูอยู่เรื่อย”



“น่า... พวกกูเอ็นดูมึงหรอกเลยชอบแกล้ง” ตั้มลุกขึ้นมากอดคอเพื่อน “อีกอย่างเวลามึงโดนแกล้งมึงชอบโวยวายบ้างล่ะ หน้าแดงบ้างล่ะ ท่าทางมึงน่าแกล้งจะตายไป”



“สรุปแกล้งกูเพราะความสนุกส่วนตัวสินะ” สายน้ำกรอกตาใส่เพื่อน พูดออกไปอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้ดีว่าทั้งสองคนก็แค่แซวเขาเล่น อีกอย่างแบงก์กับตั้มก็มักจะแซวเขาเวลาอยู่ด้วยกันสามคนเท่านั้น ไม่เคยแกล้งเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นหรือต่อหน้าหินผา



“มึงนอนเตียงเดี่ยวไหม” แบงก์หันมาถามสายน้ำพลางชี้ไปยังเตียงที่ว่างอยู่ เขานั่งอยู่บนเตียงคิงไซซ์ ส่วนสายน้ำกับตั้มนั่งอยู่ที่โซฟา



“นอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ”



“ให้มันนอนเตียงเดี่ยวนั่นแหละ เวลาพี่หินผาถามมัน มันจะได้ตอบเต็มปากเต็มคำว่านอนคนเดียว อีกอย่างกูกับมึงจะได้ไม่โดนพี่หินผาจ้องตาขวางเพราะหวงไอ้น้ำ” ตั้มไม่วายเอ่ยแซวสายน้ำ



“เกี่ยวกันไหมเนี่ย” สายน้ำโวยวายพลางใช้ขายันขาของตั้ม เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหยุดบทสนทนาของพวกเขา สายน้ำหันไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่กำลังส่งเสียงอยู่ขึ้นมา เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้าก่อนจะกดรับ “ไอซ์... ว่าไง”



แบงก์กับตั้มหันมองหน้ากันทันทีที่ได้ยินสายน้ำพูดโทรศัพท์กับคนปลายสาย ตั้มลุกจากโซฟาที่กำลังนั่งอยู่เดินไปหาแบงก์พร้อมส่งสายตาคุยกันไม่หยุด



“อือ สอบเสร็จแล้ว เมื่อเช้านี่เองแหละ” สายน้ำหัวเราะเมื่อได้ยินปลายสายพูดกลับมา “งอแงเหรอไอซ์ ไม่อิจฉานะครับที่เราสอบเสร็จก่อนอ่ะ ฮ่า ๆ ... น่าสงสารจังเลย”



“มันโทรคุยกันบ่อยเหรอวะ” แบงก์กระซิบพูดกับตั้มโดยระวังไม่ให้สายน้ำได้ยิน



“ไม่รู้ว่ะ แต่ฟังจากมันคุยก็น่าจะบ่อยอยู่ป่ะ แต่เวลาอยู่กับพวกเราก็ไม่เห็นมันคุยโทรศัพท์เลยนะ มีแต่โทรคุยกับพี่หินผาอ่ะ”



“นั่นดิวะ แล้วมันไปคุยกันตอนไหน” ได้แต่ส่ายหน้าให้กันแล้วหันกลับไปมองสายน้ำต่อ



“ไม่ทันแล้วไอซ์ เราหนีมาเที่ยวแล้ว กลับอีกทีก็วันอาทิตย์เลย ... เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะ ไว้ว่าง ๆ ตรงกันก็ได้ค่อยไปเที่ยว ... อาหะ คนยังสอบไม่เสร็จก็ตั้งใจอ่านหนังสือสอบไปนะครับ ฮ่า ๆ โอเค เราไม่แกล้งแล้วก็ได้ เอาไว้เจอกัน อือ ... บาย”



“ใครวะมึง ไอซ์ไหน ไอซ์วิทยาลัยดนตรีเหรอ” ตั้มถามเมื่อเห็นสายน้ำกดวางสายไปแล้ว



“ใช่ ๆ ไอซ์นั้นนั่นแหละ”



“มึงสนิทกับมันเหรอวะ”



“จริง ๆ ตอนแรกก็ไม่สนิทหรอก แต่ตอนที่ไปร้องเพลงด้วยกันตอนนั้นอ่ะก็เริ่มสนิทขึ้น คุยกันเรื่อย ๆ นั่นแหละ” สายน้ำตอบตามความจริง



“แล้วมันโทรมามีเรื่องอะไรหรือเปล่า”



สายน้ำส่ายหน้า “ไม่มีอะไร แค่โทรมาถามว่าสอบเสร็จหรือยัง บอกว่าหลังสอบเสร็จจะชวนไปเที่ยวไรงี้แหละ แต่ไอซ์ยังสอบไม่เสร็จแล้วเราก็มาเที่ยวนี่แล้วไง ก็เลยบอกเอาไว้คราวหลังแทน”



“เหรอ...”



“มีอะไรหรือเปล่า” สายน้ำถามเมื่อเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเพื่อนทั้งสองคน



“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” แบงก์เป็นฝ่ายตอบ “กูว่าเราลงไปข้างล่างกันดีไหม จะได้ไปเดินสำรวจรอบ ๆ บ้านด้วย”



“เออ เอาดิ ลงไปข้างล่างกัน” ตั้มเองก็พยักหน้าเห็นด้วย ดังนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงพากันเดินลงไปชั้นล่าง



ข้างล่างนั้นเงียบสนิทคงเพราะยังไม่มีใครลงมา พวกเขาทั้งสามคนเลยเดินสำรวจกันเสียรอบบ้าน มุมห้องนั่งเล่นเป็นกระจกบานใหญ่ทำให้มองออกไปเห็นสวนที่ตกแต่งอยู่ภายนอกได้อย่างชัดเจน เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยไม้ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นแล้วก็น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ตามมุมผนังห้องก็จะมีกระถางต้นไม้วางตกแต่งเอาไว้



“อ้าว... ลงมากันเร็วจังพี่คิดว่าพวกเราจะนอนเล่นกันอยู่บนห้องเสียอีก” หินผาที่เดินลงมาชั้นหนึ่งพอดีเอ่ยทักเมื่อเห็นทั้งสามคนเดินสำรวจบ้านอยู่



“พวกผมอยากลงมาเดินดูรอบ ๆ บ้านน่ะครับ” ตั้มตอบ “บ้านสวยมาก ๆ เลยครับพี่”



หินผาหัวเราะ “ขอบใจนะ”



“แล้วปกติช่วงไม่มีคนพักนี่ใครมาดูแลบ้านเหรอพี่ ต้นไม้เต็มไปหมดเลยถ้าไม่มีคนดูแลคงไม่ได้สินะครับ”



“ปกติจะมีคนมาคอยดูแลให้เกือบทุกวันอยู่แล้วล่ะ พี่อยากให้บ้านนี้มันดูสะอาดอยู่ตลอดก็เลยต้องคอยให้คนมาทำความสะอาด มารดน้ำต้นไม้ให้จะได้ร่มรื่น ๆ” หินผาว่า “นี่สำรวจกันทั่วแล้วเหรอ”



“ครับ”



“เดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อพวกน้ำ ขนมใครจะเอาอะไรไหมจะได้ซื้อเข้ามาให้ทีเดียว”



“พวกผมอะไรก็ได้ครับ” แบงก์ตอบ “ให้สายน้ำไปช่วยไหมพี่”



คนโดนพาดพิงถึงหันไปมองหน้าเพื่อนทันที ก่อนจะหันกลับมามองหินผาที่ก็มองตรงมาที่เขาอยู่พอดี “ผม... ไปช่วยถือไหมครับ”



“ไปสิ” หินผาพยักหน้ารับ เดินนำน้องออกจากบ้านไปโดยมีสายน้ำเดิมตามหลัง ซึ่งก่อนจะเดินออกไปเจ้าตัวก็หันไปส่งสายตาคาดโทษใส่เพื่อนทั้งสองคนที่ยืนยิ้มแล้วโบกมือให้



“เดินไปนะไหวหรือเปล่า หน้าปากซอยมีเซเว่นอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก” หินผาหันมาถามสายน้ำหลังจากที่เขาปิดประตูรั้วเรียบร้อยแล้ว



“ไหวครับ อากาศก็ดีเดินไปเรื่อย ๆ ก็ได้ครับ ผมไม่มีปัญหาอะไร”



“อย่างนั้นไปกันเถอะ” พูดไปก็ออกเดินไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ในใจหินผาอยากจะคว้าข้อมือของน้องมาจับแต่เพราะทำแบบนั้นไม่ได้ก็เลยต้องเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงเอาไว้แทน



“ตอนนี้... ที่บ้านพี่หันมาทำพวกรีสอร์ทแล้วเหรอครับ” สายน้ำชวนคุย “ถ้าจำไม่ผิดตอนผมยังอยู่ที่นี่ที่บ้านพี่ไม่ได้ทำรีสอร์ทใช่ไหมครับ”



“ใช่” หินผาพยักหน้า ก่อนจะเล่าให้ฟังโดยไม่ปิดบังอะไร “เพิ่งมาเริ่มได้ไม่กี่ปีเอง หลังจากเราย้ายไปนั่นแหละ พอดีคนรู้จักของพ่อเขาเอาที่ดินมาเสนอขายแล้วพ่อพี่ก็เห็นว่าทำเลมันดีก็เลยลองทำพวกโฮมสเตย์ดูก่อน แล้วมันก็ดีเลยเริ่มขยับขยายกิจการมาเรื่อย ๆ น่ะ”



“แล้วก็พอดีกับพี่ป่าเลือกเรียนสถา’ปัตย์ด้วย ก็เลยมาออกแบบที่พักอะไรดู”



“แล้วที่พี่เลือกเรียนคณะนี้ก็เพราะเรื่องนี้หรือเปล่าครับ”



“ก็มีส่วนนะ เห็นรีสอร์ทที่บ้านแล้วก็นึกว่าถ้าพี่ได้ออกแบบรีอสร์ทเอง หรือทำบ้าน บ้านพักที่พี่ได้ออกแบบเองก็คงดี ก็เลยเลือกเรียนคณะนี้ตามพี่ป่า ทดลองฝีมือไปแล้วก็บ้านที่เราพักนั่นแหละ”



“มันสวยมากเลยครับ” สายน้ำพูดชม เขาชอบบ้านพักหลังนี้มากจริง ๆ ทุกอย่างดูสวยแล้วก็ลงตัวไปหมด “ผมชอบมาก ๆ เลย”



“หึหึ ขอบใจ ได้ยินคนชมแบบนี้แล้วก็ภูมิใจ แล้วก็เขิน ๆ เหมือนกันนะ” หินผาหัวเราะ รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาหนึ่งจังหวะตอนได้ยินคำชมจากสายน้ำ ทั้ง ๆ ที่คนอื่นชมเขาไม่เห็นมีอาการข้างเคียงอะไรแบบนี้เลย



เดินคุยกันมาเรื่อย ๆ ไม่นานก็ถึงร้านสะดวกซื้อ หินผากับสายน้ำหยิบตะกร้ามาคนละใบเดินตรงไปยังตู้ขายเครื่องดื่มแล้วหยิบสารพัดเครื่องดื่มออกมา ทั้งที่มีแอลกอฮอล์ แล้วก็ไม่มีแอลกอฮอล์ ขนมขบเคี้ยวอีกหลายถุง



“พี่ว่าคืนนี้คงยาว” หินผาหันมาพูดตอนที่หยิบกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกมาจากตู้แช่



“ผมก็ว่าแบบนั้นเหมือนกันครับ” สายน้ำหัวเราะ เห็นด้วยกับคนพี่พูด “ดีไม่ดีพรุ่งนี้ผมว่าก็ได้นอนพักอยู่ที่บ้านนั่นแหละครับ ตื่นออกไปเที่ยวกันไม่ไหว”



หินผาหัวเราะชอบใจ “ถือว่าวิเคราะห์ขาดมาก จุดประสงค์หลักของทริปนี้คือมาพักผ่อนอยู่แล้วล่ะ ไม่ได้มาเที่ยวอะไรหรอก”



พวกเขาหอบหิ้วถุงหลายใบออกจากร้านแล้วเดินกลับไปที่บ้านพัก แม้บทสนทนาระหว่างพวกเขาจะมีไม่มากเท่ากับตอนเดินไปแต่สายน้ำก็รู้สึกว่าทุก ๆ อย่างมันดีมาก ทั้งบรรยากาศ ทั้งสถานที่ แค่ได้เดินข้าง ๆ หินผาแบบนี้ และถ้าเป็นไปได้สายน้ำก็อยากที่จะเดินไปเรื่อย ๆ ข้าง ๆ กัน



“มาพอดี ของกินมาถึงแล้ว มากินกันเร็ว” เสียงของใบบัวเรียกพวกเขาทั้งสองคนเมื่อหินผากับสายน้ำเดินเข้าไปในบ้านพัก ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่หน้าโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น



อาหารเหนือที่หินผากับป่าไม้สั่งวางอยู่บนโต๊ะกลางจนเต็มไปหมด หินผาเดินเอาเครื่องดื่มที่ซื้อมาไปแช่ตู้เย็นก่อนจะเดินไปสมทบกับคนอื่น ๆ อาหารมื้อเย็นที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะสนุกสนาน แบงก์กับตั้มเองก็เข้ากับพวกรุ่นพี่ได้เป็นอย่างดี



หลังจากที่อาหารมื้อหนักจบลง ก็ถึงเวลาของเครื่องดื่มแทน กระติกน้ำแข็งถูกยกมาวางไว้ข้างโต๊ะกลาง บนโต๊ะมีทั้งเหล้า เบียร์ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม แล้วแต่จะเลือกดื่ม พอดีกับที่โทรทัศน์มีถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยให้พวกเขานั่งดูนั่งเชียร์กันสนุกสนาน



“วันนี้นั่งกินกันหน้าโทรทัศน์ไปก่อน เอาไว้วันที่ออกจากตัวเมืองละเราไปนั่งกินใต้ดาวกัน” ป่าไม้หันมาพูดกับทุกคน “ที่พักหน้าเรารับรองเห็นดาวชัดเจน”



“สรุปคือไปพักบ้านมึงใช่ไหมวะ” ดิวถามขึ้นเพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าที่พักที่ต่อไปของพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนคือที่ไหน



“เออ ไปพักที่บ้านนั่นแหละ เลือกมุมเอาไว้ให้แล้วรับรองไม่มีใครมากวนใจ และเราไม่ไปกวนใครแน่นอน”



“เด็ก ๆ รู้ไหมบ้านพี่ป่าไม้น่ะเขาทำรีสอร์ทด้วยนะ” ใยไหมหันมาพูดกับรุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสามคน “ไม่ใช่แค่รีสอร์ทธรรมดา ๆ นะ สี่ห้าดาวเลยนะรู้ไหม”



“โห... จริงเหรอครับเนี่ย” แบงก์ทำตาโตเมื่อได้ฟัง และไม่ใช่แค่แบงก์คนเดียว ตั้มกับสายน้ำเองก็มีท่าทางไม่ต่างกัน “ผมล่ะอยากเห็นแล้วสิครับเนี่ย”



ป่าไม้หัวเราะกับท่าทางของน้อง ๆ ทั้งสามคน “เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว ทั้งวิวดี บรรยากาศดี โรแมนติกสุด ๆ ไปเลย”



พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนคุยเล่นกันไป เชียร์บอลกันไป จนเครื่องดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะเริ่มหมด สายน้ำเห็นแบบนั้นเลยลุกไปหยิบเครื่องดื่มมาเติมให้ เขาชะงักไปเมื่อเปิดตู้เย็นแล้วพบกับขวดเครื่องดื่มจำนวนมาก มันเยอะกว่าที่เขากับหินผาหิ้วมาจากร้านสะดวกซื้อเสียอีก



แต่เพราะคนอื่น ๆ กำลังรออยู่เขาเลยปัดความสงสัยนั้นทิ้งแล้วหอบเอาขวดเบียร์อีกหลายคนเดินกลับไปหาทุกคน สายน้ำลอบมองหินผาที่นั่งดูโทรทัศน์ไม่วางตา ในมือมีกระป๋องเบียร์ที่ไปซื้อด้วยกันมา นึกอยากจะถามว่าเพราะอะไร... ทำไมอีกฝ่ายถึงได้เดินออกไปซื้อมาเพิ่ม ทั้ง ๆ ที่ที่บ้านพักก็มีทั้งขนมขบเคี้ยวแล้วก็เครื่องดื่มอยู่เต็มไปหมดแล้ว







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาถึงเชียงใหม่กันแล้วววว
เขาจะมาย้อนเวลากันหล่ะ งุ้ย ๆ
พี่หินผาจะเดินหน้าจีบน้องยังไงน้า
แถมน้องก็ยังมีคนอื่นมาชอบอีก ฮู้ยยยย
พี่หินผามีคู่แข่งแล้วจ้า เอาใจช่วยพี่หินผากันเนอะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-09-2019 23:18:38
นั่นนะซิ เราก็อยากรู้เหมือนกัน ถามเลย ๆๆๆๆๆๆๆ  :m26:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-09-2019 00:47:25
ก็อยากอยู่กับน้องไงงงง
แต่น้องมีคนมาวอแวแล้วน้าพี่หินผา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 29-09-2019 02:41:34
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำเป็นซื่อนะนุ้งน้ำ  พี่เขาก็แค่อยากมีเวลาส่วนตัวจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันไง  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 29-09-2019 07:59:57
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-09-2019 12:39:08
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-09-2019 23:03:10
อยากรู้ว่าถ้าน้องถาม ละพี่เค้าจะตอบน้องว่ายังงัย.  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 30-09-2019 22:50:38
เอ้า..โป๊ะแตกละพี่หิน
อยากอยู่กับน้องสองคนอ่ะดิ๊
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 01-10-2019 01:14:01
อิพี่หินกะจะมอมคนอื่นให้เมาไง​ จะได้อยู่​กับ​น้องสองต่อสอง​  :mew1:
ขออนุญาต​นอกเรื่อง​นิดนึง​ครับ​คุณ​ฟาง
ที่อ่านมาเห็นคุณฟางบอกว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน​ คือแอบติดใจตรงนี้นึดนึง แบบว่าพอลองนับๆดูแล้วคิดว่าเกินสิบเอ็ดคนน่ะครับ​​ เพราะที่ไปเที่ยวเชียงใหม่​ด้วยกันคราวนี้น่าจะมี
1.ใยไหม​ 2.ใบบัว​ 3.ดิว 4.ป่าไม้​ 5.ไข่เจียว​ 6.กันต์​ 7.เดียร์  8.ทัช 9.หินผา​ 10.สาย​นํ้า​ 11.แบงค์​ 12.ตั้ม​ อันนี้​ไม่รู้​ว่าเข้าใจ​ผิด​ไปเองรึเปล่า​ รบกวน​ช่วย​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​   :call:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-10-2019 22:06:15
(https://i.ibb.co/LPGhXFf/13.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “13”







❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






เป็นเวลาดึกมากแล้ว สภาพแต่ละคนก็เริ่มจะไม่ไหวสองสาวใบบัวใยไหมขอตัวไปก่อนตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว กันต์ก็อุ้มคนรักอย่างเดียร์ไปที่ห้องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แบงก์กับตั้มก็เพิ่งพากันกอดคอเดินกลับห้องไป เมื่อวงสลายพวกที่เหลืออยู่ก็เริ่มเก็บกวาด ดิวกับไข่เจียวช่วยกันหยิบขวดเปล่า กระป๋องเปล่าใส่ถุงดำเตรียมไปทิ้ง สายน้ำก็ยกจานชามไปเก็บล้าง เจ้าของบ้านพักอย่างหินผาแล้วก็ป่าไม้ก็ช่วยกันทำความสะอาดอยู่



“เสร็จตรงนี้ก็ขึ้นไปนอนได้เลยนะน้ำ” ป่าไม้ที่เดินเข้ามาหยิบผ้าในครัวบอกกับสายน้ำที่กำลังเก็บจานชามอยู่



“ครับพี่” หันมารับคำ



สายน้ำหันไปจัดการล้างจานชามต่อจนเสร็จ เขาได้ยินเสียงของดิวกับไข่เจียวคุยกันตอนเดินผ่านห้องครัวไป ทั้งคู่คงพากันขึ้นไปนอนพักแล้ว สายน้ำเช็ดมือจนสะอาดตั้งใจว่าจะกลับห้องบ้าง เขาเดินออกจากครัวพลางมองหารุ่นพี่อีกสองคนว่ายังอยู่ข้างล่างหรือเปล่า ถ้ายังอยู่ก็จะได้บอกว่าเขาจะไปนอนแล้ว



“มึงเดินออกไปซื้อน้ำกับน้องมาเหรอ” เสียงคุ้นหูดังมาจากทางด้านนอกบ้านให้สายน้ำเดินตามไป



คนที่เขาตามหาทั้งคู่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเหล็กดัดข้างนอก แต่เพราะประตูบ้านปิดไม่สนิทจึงทำให้สายน้ำได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันชัดเจน จากตอนแรกที่คิดจะเดินออกไปแล้วส่งเสียงเรียกก็ต้องหยุดชะงักและยืนฟังแทนเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองในบทสนทนาด้วย



“มึงออกไปซื้อมาทำไมวะ เหล้าเบียร์เต็มตู้ไปหมด” ป่าไม้ยังคงเอ่ยถามน้องชายของตัวเองต่อเมื่อคำถามแรกไม่ได้รับคำตอบ และนั่นก็เป็นคำถามที่สายน้ำเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน



“ก็ไม่รู้จะทำอะไร”



“ห๊ะ! ไม่รู้จะทำอะไรเนี่ยนะ”



“อือ” หินผาพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ก็ไม่รู้จะทำอะไรที่จะทำให้อยู่กับสายน้ำสองคน ก็เลยลองเสี่ยงพูดออกไปดูว่าจะออกไปซื้อของ เผื่อน้องจะออกไปด้วยกัน”



“เดี๋ยวนะ” ป่าไม้ยกมือห้ามน้องชาย “ที่มึงเดินออกไปซื้อของมาเนี่ยก็เพื่อที่จะได้อยู่กับน้องน้ำ แค่นั้น”



“ก็แล้วจะให้แค่ไหนล่ะ”



ป่าไม้ส่ายหน้า “บ้าบอสุด ๆ”



ป่าไม้มองหน้าน้องชายตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรแบบนี้ด้วย ข้ออ้างเดินออกไปซื้อของเพื่อหวังว่าน้องจะตอบตกลงเดินไปด้วยกัน “มึงมั่นใจว่าน้องจะไปด้วย”



“ก็ไม่ได้มั่นใจ ก็แค่ลองดูไง ถ้าน้องบอกไม่ไป ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หินผาถอนหายใจออกมา ยกกระป๋องเบียร์ที่ถืออยู่กระดกขึ้นดื่ม



สายน้ำที่ได้ยินก็ได้แต่ยกมือจับแก้มตัวเอง รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวไปหมดเขารู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องส่องกระจกเลยว่าหน้าตัวเองจะต้องแดงมากแน่ ๆ ไหนจะหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอกนี่อีก จะให้สาบานกับอะไรก็ได้... สายน้ำไม่ได้อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลย แต่คำพูดที่ได้ยินทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่า



หินผาเอง... ก็ชอบพอ สนใจเขาอยู่เหมือนกัน



พอคิดว่าหินผาจะชอบตัวเขาอยู่นั้นหัวใจเจ้ากรรมก็ยิ่งเต้นระรัวจนสายน้ำกลัวว่าคนข้างนอกนั่นจะได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้น ทั้งมือทั้งขามันสั่นไปหมด เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลย ต้องสูดหายใจเข้าออกอยู่หลายทีกว่าอัตราการเต้นของหัวใจจะสงบลง กว่าอาการสั่นไปทั้งตัวจะหยุดลง



สายน้ำหันไปมองคนที่เขาแอบรักแอบชอบมาตลอดอีกครั้งก่อนจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ สถานที่ที่อันตรายต่อหัวใจของเขา มือข้างหนึ่งก็คอยเหนี่ยวรั้งไปกับราวจับบันไดตอนเดินขึ้นไปบนชั้นสอง มือที่จับลูกบิดประตูก็สั่นเสียจนไม่สามารถควบคุมได้ ใช้เวลาร่วมนาทีสายน้ำจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องได้



โชคดีที่เพื่อนสนิทของเขาทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว สายน้ำเลยไม่ต้องมานั่งตอบคำถามของอาการตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาที่สะท้อนอยู่บนกระจกในห้องน้ำนั้นแดงก่ำไม่ต่างจากที่สายน้ำคิดเลย ไม่ได้แดงที่หน้าแต่ลามไปถึงใบหู ลำคอ ตาของเขาก็แดงจนคิดว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้แล้ว



ต้องกวักน้ำขึ้นล้างหน้าตัวเองจนเปียกชุ่มไปหมด รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพุ่งตัวไปยังที่นอน ยกผ้านวมขึ้นคลุมโปง สองมือจับเสื้อตัวเองตรงตำแหน่งหัวใจ



“บ้าบอที่สุดสายน้ำ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ห้ามคิด ห้ามคิด ห้ามคิด” ได้แต่สะกดจิตตัวเองแบบนั้น ท่องซ้ำไปซ้ำมาจนสุดท้ายก็เผลอหลับไป



ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุทำให้หัวใจของสายน้ำเต้นแรงก็ยังคงนั่งดื่มอยู่กับพี่ชายอยู่ที่เดิม “แล้วคือยังไง นี่คิดจะจีบน้องจริงจังแล้ว”



หินผาพยักหน้ารับกับคำถามของพี่ชาย “ก็คิดว่าอย่างนั้น”



“ไหนตอนแรกว่าอยากจะค่อยเป็นค่อยไป ทำไมอยู่ ๆ คิดจะจีบจริงจัง ออกตัวแรงแบบนี้หล่ะ” ป่าไม้เองก็พอได้ยินมาจากเพื่อน ๆ ของน้องชายบ้างว่าน้องชายตัวดีของเขาออกตัวแรงมาก มีเวลาว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไปหาน้องน้ำตลอด หรือถ้าไปไม่ได้ก็ต้องโทรหา ต้องส่งข้อความหากันตลอด ทำเสียยิ่งกว่าคนเป็นแฟนกันเขาทำอีก



“มีคนคิดจะจีบน้อง” หินผาตอบ พอนึกถึงแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดในใจ “ก็เลยคิดว่าไม่ควรรอไปนานกว่านี้แล้ว”



“น้องทั้งหน้าตาดี ทั้งน่ารัก คงไม่แปลกจะมีคนเข้ามาจีบ” ป่าไม้ว่า “แล้วคนที่มาจีบน้องเป็นใคร”



“เป็นรองเดือนวิทยาลัยดนตรีละมั้งถ้าจำไม่ผิด” หินผายังจำแววตาของเจ้าหมอนั่นตอนมองน้องน้ำได้เป็นอย่างดี



“เหมือนเคยเห็นเพจลงรูปอยู่ ใช่คนที่เป็นนักร้องนำตอนน้องไปเล่นดนตรีที่ตลาดไหม”



“ใช่ คนนั้นนั่นแหละ” หินผาพยักหน้า “พอเห็นแบบนั้นมันก็หงุดหงิด โมโหไปหมดแต่ทำอะไรไม่ได้ไง ยังไม่มีสิทธิในตัวน้องมากขนาดนั้น ก็เลยคิดว่า... คงจะต้องทำอะไรจริงจังสักที จะได้ไม่มีคนมายุ่งกับน้องอีก”



สายน้ำเป็นคนน่ารัก เป็นคนมีเสน่ห์ ถ้าใครได้พูดคุยด้วยหินผาเชื่อมั่นว่ามากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นคนคนนั้นจะต้องตกหลุมรักน้องน้ำแน่นอน และเขาจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ เขาจะยอมให้คู่แข่งของตัวเองเยอะขึ้นไม่ได้ เขาถึงต้องรีบทำอะไรสักอย่าง



เพื่อให้สถานะระหว่างเขากับสายน้ำชัดเจนมากขึ้น จนไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้สายน้ำอีก



เขาจึงไม่สามารถค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปได้อีกแล้ว...







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วจ้าาาาา
ฮูยยยย เป็นไงล่ะความพี่หินผา แผนการทั้งนั้น พี่หินผานี่ก็ไม่เบานาจา~~
บอกน้องหนีไปตอนนี้ทันไหม??? น่าจะไม่ทันอ่ะเนอะ ใจน้องนี่มีแต่พี่หินผา ๆ
เหลือแค่พี่หินผาเขายังไม่รู้แค่นั้นแหละเนอะ!

แล้วก็... ขอแจ้งเรื่องอัปนิยายนิดหนึ่งค่ะ
ช่วงนี้ฟางอาจจะหายตัวนะคะ เพราะว่างานเยอะมาก ๆ ค่ะ
งานล้มทับ โหลดไปหมดแล้วตอนนี้ แล้วเดี๋ยวช่วงวันที่ 18 – 27 ต.ค. นี้
ฟางมีออกบูธอีกค่ะ ยาวเลย หายจะหายยาวหน่อยนะคะ
แต่ถ้าวันไหนสะดวกแวะมาอัปนิยายได้ฟางจะมาอัปให้ค่ะ
แต่ถ้ารอโล่ง ๆ เลยก็น่าจะปลายเดือนเลยค่ะ
ยังไงก็รอกันก่อนน้า
อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนะคะ เนอะ!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-10-2019 22:07:48
อิพี่หินกะจะมอมคนอื่นให้เมาไง​ จะได้อยู่​กับ​น้องสองต่อสอง​  :mew1:
ขออนุญาต​นอกเรื่อง​นิดนึง​ครับ​คุณ​ฟาง
ที่อ่านมาเห็นคุณฟางบอกว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน​ คือแอบติดใจตรงนี้นึดนึง แบบว่าพอลองนับๆดูแล้วคิดว่าเกินสิบเอ็ดคนน่ะครับ​​ เพราะที่ไปเที่ยวเชียงใหม่​ด้วยกันคราวนี้น่าจะมี
1.ใยไหม​ 2.ใบบัว​ 3.ดิว 4.ป่าไม้​ 5.ไข่เจียว​ 6.กันต์​ 7.เดียร์  8.ทัช 9.หินผา​ 10.สาย​นํ้า​ 11.แบงค์​ 12.ตั้ม​ อันนี้​ไม่รู้​ว่าเข้าใจ​ผิด​ไปเองรึเปล่า​ รบกวน​ช่วย​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​   :call:


ขอบคุณมากค่ะ ฟางว่าฟางคงนับผิดเองนี่แหละค่ะ 5555 สมาชิกเยอะจัดค่ะ แบ่งแอร์ไทม์ไม่ถูกเลย

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ฟางจะกลับไปแก้ไขจำนวนสมาชิกค่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-10-2019 22:13:05
น้องรู้แล้วว่าพี่เค้าก็น่าจะใจตรงกัน แล้วจะเก็บอาการได้อยู่เหรอ   :laugh:

เอาใจช่วยฟางสู้กับงานนะคะ  :L2: 
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-10-2019 22:29:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [70%] l P.16 28-09-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-10-2019 23:42:09
อิพี่หินกะจะมอมคนอื่นให้เมาไง​ จะได้อยู่​กับ​น้องสองต่อสอง​  :mew1:
ขออนุญาต​นอกเรื่อง​นิดนึง​ครับ​คุณ​ฟาง
ที่อ่านมาเห็นคุณฟางบอกว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน​ คือแอบติดใจตรงนี้นึดนึง แบบว่าพอลองนับๆดูแล้วคิดว่าเกินสิบเอ็ดคนน่ะครับ​​ เพราะที่ไปเที่ยวเชียงใหม่​ด้วยกันคราวนี้น่าจะมี
1.ใยไหม​ 2.ใบบัว​ 3.ดิว 4.ป่าไม้​ 5.ไข่เจียว​ 6.กันต์​ 7.เดียร์  8.ทัช 9.หินผา​ 10.สาย​นํ้า​ 11.แบงค์​ 12.ตั้ม​ อันนี้​ไม่รู้​ว่าเข้าใจ​ผิด​ไปเองรึเปล่า​ รบกวน​ช่วย​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​   :call:




ขอบคุณมากค่ะ ฟางว่าฟางคงนับผิดเองนี่แหละค่ะ 5555 สมาชิกเยอะจัดค่ะ แบ่งแอร์ไทม์ไม่ถูกเลย

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ฟางจะกลับไปแก้ไขจำนวนสมาชิกค่ะ

ขาดหนูทัชไปใช่ไหม  :m26:
ทัชเอ่ย หนูไปซ่อนอยู่ส่วนไหนของบ้านจ้า :m12:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 05-10-2019 08:40:12
เดินหน้าเต็มที่เลยเฮีย​  o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-10-2019 09:07:39
กลัวน้องโดนจีบ เลยต้องเร่งทำคะแนนใช่มั้ย พี่หินผา 555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 05-10-2019 10:02:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-10-2019 20:40:31
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-10-2019 11:08:55
ควรจะจริงจังได้แล้ว มีคนรอจีบน้องอยู่ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-10-2019 00:50:56
ถ้าน้องอยู่ฟังจนจบน่าจะเขินแล้วทรุดตรงนั้นเลย  :heaven
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 12-10-2019 15:31:05
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-10-2019 05:25:28
จ้ะพี่จ้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-10-2019 10:08:09
ถ้าได้บอกรัก สายน้ำคงไหลไปเลย เอ็นดูความเขินของน้อง
ใจสั่น มือสั่น ไปไม่เป็นเลยจ้า นี่แค่ได้ยินว่าอยากอยู่ด้วยกันสองคนนะ

หินผารุกหนัก รุกเนียน น้องก็มีสงสัย แต่ไม่คิดไรมาก
ตอนนี้คงได้รู้กันแล้วว่า สายน้ำก็ไม่ธรรมดานะ ก็คนน่ารักอะเนาะ
ใครเห็นก็รักก็ชอบ ดูแล้วน่าทะนุถนอมออก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "13" [100%] l P.17 04-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 19-10-2019 23:04:04
พี่หินจู่โจมแรงมากกกก
รุนแรงต่อใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [40%] l P.17 12-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 12-11-2019 22:24:51
(https://i.ibb.co/W5sD6SM/14.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “14”






ผู้ร่วมทริปทั้งสิบเอ็ดคนพร้อมที่จะออกไปเดินเที่ยวเล่นในตัวเมืองหลังจากที่แต่ละคนฟื้นคืนชีพกันเมื่อตอนเกือบ ๆ สิบเอ็ดโมง สองหนุ่มเจ้าถิ่นเป็นคนจัดการโทรสั่งอาหารพื้นเมืองมาให้ทุกคนกินในตอนกลางวัน หลังจากนั่งย่อยกันได้สักพักเดียร์ก็เสนอความคิดเห็นว่าอยากจะไปเดินเที่ยว แล้วเจ้าตัวก็เปิดรูปแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของพวกเขา



พวกเขาทั้งหมดเลยตกลงว่าจะมาเดินเที่ยวกันที่นี่ นั่งรถมาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงจัตุรัสกลางเมืองเชียงใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปได้ไม่นานอย่าง วัน นิมมาน พวกเขาลงจากรถที่เหมาเช่ามาสองคันก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ตรงกลางเป็นลานกว้างสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาคารที่ก่อสร้างก็เป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัย เป็นการผสมผสานระหว่างไทยล้านนา และยุโรป การใช้อิฐดินเผาสีแดง รับกับลักษณะของประตู หน้าต่างที่เป็นทรงโค้ง ซุ้มอาร์ค หรือซุ้มโค้งแบบยุโรป การใช้แพทเทิร์นของหน้าต่าง และการใช้เสาไม้ที่มีค้ำยันแบบไทย ๆ ทุกอย่างผสมผสานกันได้อย่างลงตัว



“เคยมาเที่ยวกันหรือยัง” เดียร์หันไปถามเจ้าถิ่นทั้งสองคนที่ยืนมองรอบ ๆ ด้วยความสนใจ



“ยังไม่เคยมาเหมือนกัน” หินผาเป็นคนตอบคำถามของเพื่อน “แต่เห็นข่าววันเปิดตัวอยู่ พ่อกับแม่ก็ได้มาอยู่”



“ในนี้เขาบอกว่ามีร้านของกิน ร้านขายของเต็มไปหมด แล้วเราจะยังไงดี” เดียร์ที่ก้มหน้าอ่านรีวิวในโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมองทุกคน “เราจะไปด้วยกันหมดนี่เลยไหม”



“แยกกันไหม” ดิวเสนอขึ้นมา “พวกเรามีเยอะมากถ้ายกโขยงไปกันหมดนี่ว่าไม่น่าจะเดินได้ครบ แถมยังต้องมารอกันอีก แยกกันเดินแล้วค่อยนัดมาเจอกันตรงหน้าหอนาฬิกาก็ได้มั้ง คงไม่หลงไปไหนหรอกเดินอยู่ในนี้”



“ก็ดีนะ นี่กับใบบัวจะได้ไปเดินดูโซนเสื้อผ้า เครื่องประดับสบาย ๆ” ใยไหมพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของอดีตเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่จบมาหลายปีแล้ว



“งั้นก็แยกย้ายนะ เจอกันกี่โมงก็นัดอีกทีละกัน โทรไม่ก็ไลน์มาบอก ไปละหนุ่ม ๆ เดินกันดี ๆ นะ” ใบบัวยกมือโบกให้ก่อนจะเดินควงแขนกับใยไหมแยกไป



“พวกเราควรบอกไหมล่ะนั่น” ไข่เจียวส่ายหน้าก่อนจะหันมามองคนอื่น ๆ “ไปมึง”



แล้วไข่เจียวก็เดินไปกับดิว และป่าไม้ ส่วนเดียร์ก็ลากคนรักอย่างกันต์แยกไปเหมือนกัน ตอนนี้เหลือเลยกันอยู่ห้าคน หินผา สายน้ำ ทัช แบงก์และตั้ม สองหนุ่มแบงก์กับตั้มมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองรุ่นพี่อย่างทัชที่ก็มองมาอยู่เหมือนกัน



“ไปเดินเที่ยวกันดีกว่าแบงก์ ตั้ม” ทัชเอ่ยชวนรุ่นน้องทั้งสองคนซึ่งก็พยักหน้ารับทันทีแบบไม่รีรอ “มึงก็ดูน้องด้วยละกัน เดี๋ยวสองคนนี้กูคอยดูเอง ไปละ”



แล้วทั้งสามคนก็เดินแยกไป ตอนนี้เลยเหลือเพียงแค่หินผากับสายน้ำเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน สายน้ำรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีที่เหลืออยู่กันแค่นี้ อยู่ ๆ คำพูดของหินผาที่เขาได้ยินเมื่อคืนก็วิ่งเข้ามาในสมองจนรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนแปลก ๆ



“คือ... ยังไงดีครับเรา...” เอ่ยถามคนพี่ก่อนจะยิ้มแหยออกมา นึกอยากจะเขกหัวเพื่อนทั้งสองคนของตัวเองที่ชิ่งหนีเก่งอย่างกับอะไรดี



“น้ำอยากเดินดูอะไรหรือเปล่า”



“จริง ๆ ก็... ทั้งอยากเดินดูแล้วก็ไม่อยากเดินดูครับ”



หินผาหัวเราะกับคำตอบของน้อง ทวนถามอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ “ว่ายังไงนะ ทั้งอยากเดินดูแล้วก็ไม่อยากเดิน สรุปคือยังไงกันแน่เรา”



“ผมก็อยากเดินไงครับ แต่แบบไม่ต้องเดินจนทั่วก็ได้เพราะก็ขี้เกียจเดินเหมือนกัน อะไรทำนองนี้แหละ” อธิบายประโยคที่ตัวเองพูดออกไป แบบที่คนอธิบายและคนฟังก็ยังงง ๆ กันอยู่ สุดท้ายทั้งคู่ก็หลุดหัวเราะออกมา



“จริง ๆ เลยเรา” หินผายกมือขึ้นกอดคอน้องก่อนจะพาเดิน “อยากนั้นเราไปหาร้านกาแฟนั่งกันดีไหม ระหว่างที่หาร้านเราก็ได้เดินเที่ยวด้วย”



สายน้ำพยักหน้าหงึกหงักกับข้อเสนอของหินผา “ตกลงครับ อย่างนั้นไปกันเลย”



คนน้องพยายามที่จะก้าวขายาว ๆ เพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของหินผาที่เอื้อมมากอดคอเขาเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าสายน้ำจะไม่สามารถหนีไปไหนได้พ้น เพราะว่าไม่ใช่แค่ตัวเองที่ตัวสูงช่วงขายาว แต่คนที่กอดคอเขาอยู่ก็ไม่ต่างกัน สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้หินผาเดินกอดคอเขาไปทั่วจัตุรัสกลางเมืองนี้



“สายน้ำ” หินผาเอ่ยเรียกคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าให้หันมามอง เจ้าตัวอาศัยช่วงเวลาที่อีกฝ่ายหันมากดถ่ายภาพของอีกคนเอาไว้ก่อนจะยักคิ้วให้ “ยืนใหม่ดี ๆ ตรงนี้มุมสวยดีเดี๋ยวพี่ถ่ายรูปให้”



กล้องที่คล้องคออยู่ถูกยกขึ้นมาก่อนที่หินผาจะกดถ่ายรูปของสายน้ำไปหลายรูป ท่าทางของอีกฝ่ายแม้จะยืนเฉย ๆ แต่ก็เหมือนกับว่ากำลังโพสต์ท่าอยู่ ไหนจะองศาการเอียงคอมอง หรือการกางขาออกเล็กน้อยนั่นอีก



“มืออาชีพมาก อย่างกับเคยเป็นนายแบบ” อดพูดชมไม่ได้ตอนที่เปิดรูปดู



“จริง ๆ ก็เคยนะครับ” สายน้ำเดินเข้ามาใกล้เพื่อดูรูปด้วยตอบ “ตอนอยู่ที่นู้นมีคนรู้จักของแด๊ดเขามีแบรนด์เสื้อผ้าผมก็เคยไปเป็นนายแบบให้เขาอยู่ มันเลยเหมือนกับความเคยชินเวลาเห็นกล้องถ่ายอยู่ก็จะโพสต์ถ่ายไป ยกเว้นตอนถ่ายรูปโปรโมทเดือนนะครับ ตอนนั้นผมเกร็ง ๆ เพราะไม่เคยถ่ายรูปทางการเท่าไหร่”



“แบบนี้พี่ก็มีนายแบบส่วนตัวแล้วน่ะสิ”



“ดีใช่ไหมล่ะครับ”



หินผายิ้ม ยกมือยีผมของน้องอย่างมันเขี้ยวกับรอยยิ้มของเจ้าตัว “ดีสิ มีสายน้ำเป็นของตัวเองดีจะตาย”



ลมหายใจของสายน้ำสะดุดเมื่อได้ยินแบบนั้นเจ้าตัวหันซ้ายหันขวาเหมือนต้องการหาตัวช่วย ทั้ง ๆ ที่หูทั้งสองข้างกำลังแดงขึ้น “ผมว่าเราไปลองแวะร้านกาแฟร้านนั้นดีกว่าครับ”



“หึหึ เอาสิ นำไปเลย” หินผาอดขำไม่ได้กับท่าทางของสายน้ำเพราะมันดูน่ารักไปหมดทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายหน้าตาหล่อเหลา แต่การแสดงออกของสายน้ำในสายตาของเขามันดูน่ารัก น่าเอ็ดดู ไม่จากการตอนที่สายน้ำเป็นเด็กเลย



“อย่างนั้นก็ไปกันครับ” ได้โอกาสเจ้าตัวก็รีบเดินไปยังร้านกาแฟที่หมายตาเอาไว้ทันที



ร้านกาแฟขนาดไม่ใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในโครงการดึงดูดสายตาของสายน้ำเป็นอย่างมาก อาจจะเพราะมองจากภายนอกร้านนี้ไม่ได้สว่างสะดุดตาเหมือนกับร้านอื่น ๆ เพราะโทนสีที่ใช้ ส่วนภายในนั้นตกแต่งเป็นสไตล์อินดัสเทรียล ซึ่งเป็นการตกแต่งที่เน้นการโชว์วัสดุ โครงสร้าง ผนังของร้านไม่ได้ฉาบปูนแต่โชว์ให้เห็นอิฐบล็อคและโครงสร้างของอาคาร โทนสีที่ตกแต่งเป็นสีโทนเข้ม ดูสุขุม เท่ ๆ ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทำให้ดูมินิมอล และอบอุ่นขึ้น



ในร้านคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาจจะเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาลแต่ก็ยังพอมีลูกค้านั่งอยู่ พวกเขาทั้งสองคนเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนอเจอร์ของร้านมาคนละเมนู แล้วก็เบเกอรี่มาอีกสองชิ้น



ที่นั่งติดหน้าต่างยังว่างให้พวกเขาไปจับจอง ทั้งคู่ต่างก็หยิบกล้องสลับกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บบรรยากาศภายในร้าน รวมถึงถ่ายออกไปนอกร้านผ่านกระจกด้วย รออยู่ไม่นานเครื่องดื่มทั้งสองแก้วและเบเกอรี่ทั้งสองชิ้นก็ถูกยกมาเสิร์ฟ พวกเขาไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บความสวยงามเอาไว้ด้วย



ใช้เวลาอยู่ในร้านกาแฟครึ่งชั่วโมงกว่าพวกเขาก็ออกไปเดินเล่นในส่วนอื่น ๆ กันต่อ ที่นี่มีทั้งขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฮนด์เมด เดินจนเมื่อยขาไปหมดสุดท้ายก็มาจบที่ร้านชาชื่อดังอีกร้าน ชาหอม ๆ เย็น ๆ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาก หินผาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่ชายของตัวเองก่อนจะนัดแนะสถานที่นัดเจอกับเวลา



“อีกครึ่งชั่วโมง เรานั่งอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้เดี๋ยวค่อยเดินไป” หินผาหันมาบอกกับสายน้ำหลังจากที่วางสายจากป่าไม้แล้ว “ไปเจอกันที่เดิมนั่นแหละ”



“ครับ”



“เราอยากไปเดินดูอะไรอีกไหม”



“ไม่แล้วล่ะครับ เดินจนเมื่อยขาไปหมดแล้วตอนนี้” สายน้ำทำหน้ายุ่งตอนตอบคำถามเรียกรอยยิ้มขำจากหินผาได้เป็นอย่างดี



เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองคนก็ลุกจากร้านชาเพื่อไปรวมกลุ่มกับสมาชิกคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจว่าจะไปหาร้านอาหารกินกันก่อนที่จะกลับเข้าที่พักจะได้ไม่ต้องไปเก็บล้าง คืนนี้ค้างที่นี่อีกหนึ่งคืนและพรุ่งนี้เช้าพวกเขาจะเดินทางไปแม่ริมในช่วงสาย ๆ



ร้านอาหารข้างทางคือตัวเลือกของพวกเขาแทนที่จะเป็นร้านอาหารบรรยากาศดี เพราะตอนนี้พวกเขาหิวเกินกว่าจะไปกินลมชมวิวเสียอีก ขออะไรก็ได้ที่อร่อย ๆ ในปริมาณที่เยอะและรวดเร็ว กับข้าวหลายอย่างถูกสั่งออกมาหลายเมนู มีทั้งอาหารทั่วไป แล้วก็อาหารพื้นเมือง



กับข้าวเป็นสิบอย่างวางอยู่เต็มโต๊ะไปหมด จนคิดว่าไม่น่าจะกินหมดแต่เพราะมีแต่ชายหนุ่มทั้งสิบกว่าคน อาหารสิบอย่างก็หมดไม่มีเหลือ ได้แต่นั่งดูดน้ำลูบท้องตัวเองด้วยความอิ่ม แต่ถึงอย่างนั้นก็เอ่ยสั่งขนมหวานมาอีก กว่าจะจ่ายเงิน เดินไปโบกรถก็แทบจะเดินไม่ไหวเพราะอิ่มมาก



กลับมาถึงที่พักแต่ละคนก็แยกย้ายกันเข้าห้อง สายน้ำกับแบงก์นั่งพิงโซฟาอยู่ในห้องนอนระหว่างรอตั้มเข้าไปอาบน้ำ พวกเขาอิ่มมากจนไม่อยากจะขยับตัวไปไหนเลยด้วยซ้ำ สายน้ำเป็นคนถัดไปที่เข้าไปใช้ห้องน้ำ ไม่นานก็เดินเช็ดผมออกมาในชุดนอน เจ้าตัวเดินไปเก็บกระเป๋า แยกเสื้อผ้าใส่แล้วใส่ถุงก่อนจะเอาใส่ไว้ก้นกระเป๋า หยิบเสื้อผ้าสำหรับที่จะใส่พรุ่งนี้ออกมาเตรียมเอาไว้เลยจะได้ไม่ยุ่งยาก



“ซื้ออะไรมาวะ” ตั้มถามเมื่อเห็นสายน้ำกำลังเก็บถุงที่เจ้าตัวหิ้วมาตั้งแต่ตอนออกจากวันนิมมาน



"พวกน้ำหอมอะไรพวกนี้แหละ ว่าจะส่งไปให้แด๊ดกับแม่ แล้วก็เอาไปให้น้าเดือน แม่ของพี่หินผาด้วย” สายน้ำหยิบออกมาให้ดู



ตั้มเลิกคิ้วขึ้นพยักหน้ารับ “อ๋อ... ซื้อไปให้แม่แฟนว่างั้น เอาใจแม่แฟน”



“ไม่ใช่! ไม่ได้เอาใจแล้วก็ไม่ใช่แฟนด้วย” สายน้ำหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ใกล้ ๆ ปาใส่เพื่อนทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



“เขินว่ะ เขิน มีคนเขินหนึ่งอัตรา” ตั้มหัวเราะชอบใจพลางหลบผ้าขนหนูอีกผืนที่สายน้ำปามา เขาละชอบแกล้งหยอกสายน้ำเพราะเวลาเห็นอีกฝ่ายออกอาการแบบนี้ดูแล้วตลกดี



“หัวเราะไรวะมึง” แบงก์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำถามด้วยความสงสัย เสียงหัวเราะของตั้มดังเข้าไปถึงข้างในเลย



“หัวเราะคนเขินโว้ย” ตั้มพยักหน้าไปทางสายน้ำ “มีคนซื้อของไปเอาใจแม่แฟน”



“อ๋อ...” แบงก์ลากเสียงยาว หันมามองสายน้ำอย่างล้อเลียน



“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง!”



คราวนี้สองเพื่อนซี้พากันประสานเสียงหัวเราะที่แกล้งหยอกสายน้ำให้เขินได้ เลยโดยสายน้ำพุ่งเข้าใส่จนพากันล้มไปบนที่นอนด้วยกันหมดทั้งสามคน แกล้งล็อคแขนล็อคขากันสนุกสนาน



“เล่นอะไรกัน” เสียงเคาะประตูที่ดังมาพร้อมกับคำถามหยุดการเล่นสนุกของเด็กปีหนึ่งทั้งสามคนได้ในทันที พวกเขาหันไปมองทางประตูก่อนจะเห็นหินผายืนกอดอกพิงผนังห้องแล้วมองมาที่พวกเขา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาตอนไหนเพราะไม่ได้ยินเลย



คนมาใหม่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนซี้ทั้งสามคน สายน้ำนอนพาดทับตั้มอยู่บนเตียง โดยมีแบงก์คร่อมทับสายน้ำอีกที หินผารู้สึกไม่พอใจจนอยากจะเดินไปดึงสายน้ำให้ออกมาแต่เพราะทำแบบนั้นไม่ได้เลยได้แต่ยืนขมวดคิ้วอยู่แบบนี้



แบงก์กับตั้มก็ดูเหมือนว่าจะเห็นความผิดปกติของรุ่นพี่คนนี้ เขาสองคนเหลือบมองหน้ากันก่อนจะกวาดสายตามองสภาพของตัวเอง ก่อนจะวกสายตากลับมามองกันอีกรอบแล้วพากันกลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้แล้วว่าสายตาของรุ่นพี่ปีสี่คนนี้คืออะไร



แบงก์รีบกระเด้งตัวออกจากสายน้ำทันที ส่วนตั้มก็ดันสายน้ำที่ทับตัวเขาอยู่ออก เพราะสายน้ำไม่ทันตั้งตัวเจ้าตัวเลยกลิ้งหลุน ๆ จนเกือบตกเตียง ซึ่งหินผาพอเห็นน้องกลิ้งแบบนั้นก็ก้าวยาว ๆ ตรงมาที่เตียงทันที ตอนนี้สายน้ำเลยได้แต่นอนหงายกระพริบตาปริบ ๆ อย่างตามเหตุการณ์ไม่ทัน เจ้าตัวมองหน้าหินผาเหมือนกำลังงงว่าอีกฝ่ายมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเอง ส่วนสองเพื่อนซี้ก็หนีตายพากันเผ่นออกจากห้องพร้อมปิดประตูให้เรียบร้อย



“ทำหน้ามึนอะไรของเรา” หินผามันเขี้ยวเลยจัดการดีดหน้าผากของสายน้ำไปทีจนคนโดนดีดหน้าผากต้องยกมือขึ้นกุมพลางร้องออกมาด้วยความเจ็บ “มึนหัวไหมโดยผลักจนกลิ้งแบบนี้น่ะ”



“ไม่ครับ” สายน้ำส่ายหน้า “แค่งงนิดหน่อย อยู่ ๆ โดนผลักเฉยเลย แหะ”



“มาทำหัวเราะอีก” นึกอยากบีบแก้มของน้องให้หายมันเขี้ยว หินผาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ คนที่ยังนอนหงายอยู่บนเตียง “แล้วนี่เมื่อกี้เล่นอะไรกัน”



“อ่า... ก็แกล้งกันเล่นเฉย ๆ น่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้สองคนนั้นชอบแกล้งผมไม่รู้เป็นอะไร” สายน้ำบอกไม่ได้หรอกว่าต้นเหตุของการเล่นกันเมื่อครู่มาจากการที่แบงก์กับตั้มแซวเขาเรื่องซื้อของไปฝากแม่ของหินผา



“ก็เรามันน่าแกล้งละมั้ง เพื่อนเลยชอบแกล้ง”



สายน้ำทำหน้ายุ่งตอนได้ยินแบบนั้นก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง “ว่าแต่พี่หินผามีอะไรหรือเปล่าครับ”



“เปล่าหรอก แค่ตอนเดินผ่านห้องได้ยินเสียงพวกเราเล่นกันก็เลยเปิดประตูเข้ามาดู เล่นกันเสียงดังจนไม่ได้ยินเสียงพี่เคาะประตูเลย พี่ก็เลยเปิดเข้ามาเลยน่ะ”



“อ่า... พวกผมทำเสียงดังรบกวนใช่ไหมครับ” สายน้ำทำหน้าแหยตอนได้ยินหินผาพูด เพราะพวกเขาก็เล่นกันเสียงดังจริง ๆ “ขอโทษด้วยนะครับ”



“ไม่หรอก ไม่ได้เสียงดังรบกวนอะไรขนาดนั้น” หินผาว่าพลางยกมือขึ้นหยิบเศษด้ายของผ้าที่ติดอยู่บนผมของสายน้ำออกให้ “ด้ายติดผมน่ะ เล่นซนกันเป็นเด็ก ๆ เลยนะ ว่าแต่นี่เราเก็บของเรียบร้อยหรือยัง พรุ่งนี้หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็จะออกเลยนะ”



“ขอบคุณครับ” สายน้ำเอ่ยขอบคุณยกมือขึ้นลูบผมตัวเองว่ายังมีเศษอะไรติดอยู่อีกหรือเปล่าก่อนจะตอบคำถามของหินผาไปด้วย “ผมเก็บของเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราไปกันยังไงเหรอครับ”



“เดี๋ยวที่บ้านพี่จะเอารถตู้มารับพวกเราตอนประมาณสิบโมง ไปถึงที่รีสอร์ทก็สิบเอ็ดโมงกว่า ๆ เอาของเก็บก็ได้เวลากินข้าวพอดี”



“ระหว่างทางไปจะผ่านบ้านเก่าผมกับบ้านพี่หรือเปล่านะ” สายน้ำเองก็จำเส้นทางในจังหวัดไม่ค่อยได้แล้วเหมือนกันเพราะมันนานมาก ๆ แล้ว “ว่าแต่บ้านพี่ยังอยู่ที่เดิมอยู่หรือเปล่าครับ หรือว่าพี่ย้ายไปแม่ริมแล้ว”



“บ้านพี่ย้ายไปแม่ริมแล้ว ตอนนี้ก็เหมือนอยู่กับรีสอร์ทนั่นแหละ บ้านเก่าเราก็ยังอยู่เหมือนเดิมแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนอยู่แล้วนะ ส่วนบ้านพี่ขายทิ้งไปแล้วล่ะ”



“ครับ ถ้าผมจำไม่ผิดพ่อก็เคยบอกว่าพวกญาติ ๆ ก็ย้ายออกกันไปหมดแล้วหลังจากคุณปู่คุณย่าเสีย ผมก็ไม่เคยเจอพวกเขานานมาก ๆ แล้ว ไม่ได้ติดต่อกันด้วยนอกจากพ่อแค่คนเดียว อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับเนี่ย”



“อือ ใช่”



“จากคนคุ้นหน้าคุ้นตากัน เป็นญาติกัน พอเวลาผ่านไปไม่เจอกันเลยก็เหมือนกลายเป็นคนแปลกหน้าไปซะอย่างนั้นเลย”



หินผมไม่ได้ตอบโต้อะไรนอกจากปล่อยให้สายน้ำพูดไปเรื่อย ๆ เพราะเขาชอบที่จะฟังในสิ่งที่สายน้ำพูด ชอบน้ำเสียงทุ้มของเจ้าตัวตอนเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟังไม่หยุด ไม่รู้ว่าไปสรรหาเรื่องคุยมาจากที่ไหนนัก



ที่จริงจะบอกว่าสายน้ำเป็นคนสรรหาเรื่องราวต่าง ๆ มาคุยอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะหินผาเองก็มักจะหาหัวข้อสนทนาต่าง ๆ มาเพื่อใช้คุยกับน้องไปด้วย





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

กลับมาแล้วค่ะทุกคนนนน ฟางกลับมาแล้ว หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานเลย
ก็... ขอแก้ตัวหน่อย แฮ่...
พอดีหลังจากออกบูธที่ยาวนาน ฟางก็ไม่สบายต่อเลยค่ะ
พอหายดี คอมฯ ก็มาป่วยต่ออีก งอแงมากใช้งานไม่ได้ ทั้งไวรัส ทั้งอะไรต่อมิอะไร
เลยต้องเอาไปทำมาใหม่ แล้วที่โดนไวรัสไปก็คือ... ไฟล์พังหมดเลยทุกสิ่งอย่าง
นี่เลยเพิ่งได้เอาคอมฯ กลับมานี่แหละค่ะ เลยได้ฤกษ์มาอัปสักที
ต้องขอโทษด้วยค่ะที่หายไปนานแบบนี้

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [40%] l P.17 12-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 12-11-2019 22:40:40
กลับมาแล้ว :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [40%] l P.17 12-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-11-2019 23:06:02
หนูน้ำ เกือบไม่ได้อ่านหนูแล้ว นึกว่าเป็นตอนเก่า ดีนะว่าลองเข้ามาดูก่อน รอตอนเอาของไปไหว้แม่สามี  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [40%] l P.17 12-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 13-11-2019 00:15:07
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :pig2: back
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [40%] l P.17 12-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-11-2019 00:28:26
ไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ๆ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [40%] l P.17 12-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 13-11-2019 12:14:37
  :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 20-11-2019 21:38:23
(https://i.ibb.co/W5sD6SM/14.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “14”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





รถตู้สองคันแล่นไปตามเส้นทางออกนอกตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทองแทนที่จะเป็นอำเภอแม่ริมอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก แผนสำหรับวันนี้ทุกปรับเปลี่ยนอย่างกะทันหันเมื่อตอนมื้อเช้า เดียร์ที่เปิดเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจึงเสนอขึ้นมา แล้วคนที่ตามใจคนรักเก่งอย่างกันต์ก็ไม่มีขัดพยักหน้าเออออกับคนรักไปเรียบร้อย ยิ่งพอสองสาวใบบัวใยไหมเห็นที่ที่เดียร์เสนอก็สนับสนุนเต็มที่ สุดท้ายรถตู้ทั้งสองคนที่มารับคณะเดินทางชุดนี้ก็มุ่งหน้าสู่จอมทองแทน



การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะใช้เวลาด้วยกันถึงสองชั่วโมงแม้จะรู้สึกว่าใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานแต่ภาพที่เห็นจากเว็บไซต์ที่มีการรีวิวเอาไว้ก็ชวนให้ไปเที่ยวชมจนไม่สนใจระยะเวลาในการเดินทาง



เด็กปีหนึ่งทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนรถตู้คันเดียวกันกับรุ่นพี่ปีสี่ทั้งสามคนและรุ่นพี่ที่จบไปแล้วหนึ่งคนอย่างกันต์กำลังนั่งดูภาพของทุ่มดอกไฮเดรนเยียด้วยความสนอกสนใจ



“เดี๋ยวนี้เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะจังเลยนะครับ” สายน้ำพูดขึ้นมาตอนที่นั่งอ่านบรรดาเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด มันขึ้นมาเยอะมากจนเขาเลือกเปิดไม่ถูกเลย



“แล้วตอนเราอยู่เชียงใหม่อยู่ได้ไปเที่ยวไหนมาบ้างล่ะ” เดียร์ที่นั่งอยู่แถวแรกของรถตู้เอี้ยวตัวมาถามรุ่นน้อง



สายน้ำส่ายหน้าไปมาก่อนตอบ “ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอกครับ ตอนนั้นผมก็ยังเด็ก ๆ อยู่เลย ก็อยู่แต่บ้านผมสลับกับบ้านพี่หินผานั่นแหละครับ”



“เหรอ ตอนเด็ก ๆ สนิทกับหินผามากเลยเหรอ” ทัชถามขึ้นอย่างสนใจ ส่วนหนึ่งก็อยากจะหาเรื่องเอาไปแซวเพื่อนตัวเองที่นั่งเก็กทำเป็นอ่านหนังสือ และทัชมั่นใจว่าในใจตอนนี้ของหินผาคงกำลังลุ้นกับคำตอบของน้องอยู่แน่นอน



"สนิทครับ” สายน้ำพยักหน้าเพิ่มความจริงจังในการตอบคำถาม เจ้าตัวหันไปมองคนที่ถูกพาดพิงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาตอบคำถามของทัชต่อ “พี่หินผาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นคนสำคัญในชีวิตผมเลยล่ะครับ”



ทัชกับเดียร์รีบหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองทันที เจ้าตัวยังทำหน้านิ่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่ก็แอบเห็นว่าใบหูทั้งสองข้างกำลังแดงก่ำ แต่หน้าคนพูดน่ะแดงจนหาสีเดิมไม่เจอแล้วแต่ก็ยังทำเป็นเหมือนว่าตัวเองไม่เขินอะไร



กลายเป็นว่าบนรถคันนี้มีคนเขินอยู่ด้วยกันสองคน แต่ก็ทำเป็นไม่เขินไม่สนใจทั้งสองคน ทั้ง ๆ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขินมาก ๆ



ท่าทางของหินผากับสายน้ำทำให้คนอื่น ๆ ที่มองอยู่ยิ้มขำ สองเพื่อนซี้แบงก์ตั้มก็ส่งสายตาล้อเลียนสายน้ำ เพื่อนซี้ทัชเดียร์เองก็กำลังทำหน้าทำตาแซวหินผาอยู่เหมือนกัน



“แล้วหินผาล่ะ” กันต์ที่นั่งฟังเงียบ ๆ มาตลอดพูดขึ้นบ้าง “กับสายน้ำน่ะ... ตอนนั้นสนิทกันไหม”



สี่หนุ่มแบงก์ ตั้ม ทัช แล้วก็เดียร์ร้องฮู้แบบไม่มีเสียงออกมาพร้อมกัน เดียร์แอบยกนิ้วให้คนรักตัวเองอย่างชอบใจ เห็นนั่งเฉยมาตลอดไม่คิดว่าจะแกล้งคนอื่นเขาด้วย



“หือ...” คนโดนถามหันมามอง ก่อนจะเบนสายตาไปทางน้องน้ำ ชั่วขณะหนึ่งที่สบตากันหินผาก็ยิ้มออกมาจนสายน้ำต้องเบือนหน้าหนีเพราะไม่สามารถทนมองต่อไป “กับสายน้ำ... ก็เป็นคนสำคัญเหมือนกัน”



“อิ๊ว...” สาบานได้ว่าสายน้ำได้ยินเสียงเพื่อนซี้ทั้งสองคนร้องแบบกลั้นเสียง นึกอยากจะหันไปมองตาขุ่นแต่ทำได้แค่ก้มหน้าซ้อนแก้มแดง ๆ ของตัวเองต่อไป ถ้าเขาสามารถหาผ้ามาคลุมหัวตัวเองได้ สายน้ำก็ทำไปแล้ว แต่เพราะทำแบบนั้นไม่ได้เลยได้แต่เบียดตัวเองกับเบาะรถหันหน้าม้วนซุกกับกระจกหน้าต่างรถตู้แทน



นอกจากเสียงร้องของเพื่อนแล้วสายน้ำยังได้ยินเสียงล้อเลียนหินผาของทัชกับเดียร์ แล้วยังได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของกันต์อีกด้วย นั่นยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่าสิ่งที่สายน้ำได้ยินนั้นคือเรื่องจริง และยิ่งทำให้เขารู้สึกเขินอายมากขึ้นไปอีก



ก็ใจมันคิดไม่ซื่อไปแล้ว อะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองจนหมด



แต่โชคดีที่สายน้ำไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้นานนักเพราะรถตู้จอดสนิทบ่งบอกว่าถึงที่หมายแล้ว แม้ว่าที่หมายในตอนนี้จะไม่ใช่ทุ่งดอกไฮเดรนเยียแต่เป็นร้านอาหารสักร้านหนึ่งก็ตาม



เพราะเปลี่ยนแผนกะทันหัน จากที่ตอนแรกจะไปหามื้อกลางวันกินที่รีสอร์ตเลยก็ต้องเปลี่ยนมาหาร้านอาหารกินระหว่างทางไปศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะแทน ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางกันต่อรวดเดียวไปถึงทุ่งดอกไฮเดรนเยียเลย



มื้อกลางวันของพวกเขาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางแต่รสชาติอร่อยจนแต่ละคนต้องสั่งเพิ่มอีกคนละชาม กินจนอิ่มหนำก็ได้เวลาเดินทาง ทั้งสิบสองคนเดินไปขึ้นรถตู้คันที่ตัวเองนั่งมาก่อนที่รถจะแล่นต่อ



อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาทั้งสิบสองคนก็มาถึงที่หมาย ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า สีม่วงต่างพากันเบ่งบานชูช่อกว้างไกลจนสุดสายตา มีลายเส้นภูเขาสีเขียวรับกันได้ดีกับท้องฟ้าสดใส แม้การเดินทางเข้ามาในนี้จะค่อนข้างยากเล็กน้อย แต่พอได้มาเห็นความสวยงามตรงหน้านี้ ความยากลำบากในการเดินทางก็แทบจะไม่มีเหลือ



มีกลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่อีกหลายกลุ่ม แต่ก็ไม่ได้แน่นขนัดจนไม่สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ และดูเหมือนว่ากลุ่มของพวกเขาจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ อาจจะเพราะมันเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกตากับการเห็นชายหนุ่มจำนวนสิบคนมาเที่ยวสวนดอกไม้สีหวานแบบนี้ แม้ว่าในกลุ่มจะมีผู้หญิงมาด้วยสองคนก็ตาม



“เฮ้ย! ๆ ไปเร็วไปถ่ายรูปตรงนั้นกัน” คนที่เบ้ปากตอนรู้ว่าแฟนเพื่อนอยากมาเที่ยวที่นี่เพราะรู้สึกว่าสถานที่มันไม่เหมาะกับคนหล่อ ๆ คลู ๆ อย่างไข่เจียวร้องเรียกเพื่อนให้เดินเข้าไปในทุ่งดอกไฮเดรนเยียเพื่อถ่ายรูป



เจ้าตัวโน้มหน้าลงไปใกล้ช่อดอกสีม่วงฟ้าช่อใหญ่ มือสองข้างทำเป็นตัววีรองคางตัวเองเอาไว้ เอียงคอ ฉีกยิ้มกว้าง ท่าทางสนุกสนานผิดกับตอนแรก



“ไหนคนที่บอกว่าไม่อยากมา มันเป็นที่เที่ยวของผู้หญิง ไม่เหมาะกับคนหล่อ ๆ คลู ๆ” ใบบัวท้าวเอวถาม มองเพื่อนสนิทตัวเองถ่ายรูปดี๊ด๊าอยู่กับทุ่งดอกไฮเดรนเยีย รูปแล้วรูปเล่า แถมยังไปลากรุ่นน้องปีหนึ่งมาเป็นตากล้องให้อีก



“ทำเหมือนกับไม่ชิน” ใยไหมหันมาหัวเราะ ก่อนที่สองสาวจะชวนกันไปถ่ายรูปโดยมีดิวกับทัชตามไปด้วย



ตรงนี้เลยเหลือเพียงแค่หินผา สายน้ำ เดียร์และกันต์สี่คนเท่านั้น พวกเขามองหน้ากันเหมือนเป็นการถามว่าจะอย่างไรกันดี ก่อนที่กันต์จะเป็นฝ่ายตอบคำถามด้วยการคว้ามือคนรักมาจับเอาไว้แล้วพาเดินแยกไปอีกทาง



“เหลือเราสองคนอีกแล้ว” สายน้ำหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน



หินผาหัวเราะกับคำพูดของน้อง “ไปถ่ายรูปเล่นกันเถอะ มาถึงที่นี่ทั้งที”



“ครับ” พยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินตามหินผาไป คนพี่พาน้องเดินเลี่ยงออกมาจากกลุ่มเพื่อนของตัวเอง



ผลัดกันถ่ายรูปให้กันบ้าง ถ่ายเซลฟี่ด้วยกันบ้างจนพอใจก็เดินมานั่งอยู่ตรงบริเวณที่เขาจัดที่นั่งเอาไว้ให้ สายน้ำทอดสายตาไปไกลมองความสวยงามตรงหน้า แต่หินผากับเลือกที่จะวางสายตาไว้ที่คนข้าง ๆ แทนทุ่งดอกไฮเดรนเยียตรงหน้า



“เอ่อ... หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าครับ” สายน้ำถามด้วยความประหม่าเพราะโดนจ้องจนรู้สึกเขินไปหมดแล้ว



“ไม่รู้พี่เคยบอกเราหรือยัง” หินผาส่งยิ้มให้



“เรื่องอะไรเหรอครับ”



“พี่ดีใจที่ได้เจอเราอีก”



“พี่เคยบอกผมแล้ว” สายน้ำเบือนสายตาหนี มองตรงไปข้างหน้าแทนที่จะเป็นใบหน้าของคนที่ขยันทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว “แต่ผมก็อยากฟังอยู่เหมือนเดิม เพราะผมเองก็... ดีใจที่ได้เจอพี่อีกเหมือนกัน”



“จะว่าไปก็เหมือนฝันอยู่หน่อย ๆ นะ”



สายน้ำพยักหน้าเห็นด้วย มันเหมือนฝันมากจริง ๆ ทั้งเรื่องที่เขาได้กลับมาประเทศไทย ได้มาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็คณะเดียวกันกับหินผา ได้กลับมาใกล้ชิดแล้วก็สนิทสนมกับหินผาอีกครั้ง โดยที่อีกฝ่ายรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร มันเหมือนฝันมากจริง ๆ จนบางครั้งสายน้ำก็กลัว...



กลัวว่าถ้าลืมตาขึ้นในวันใดวันหนึ่งจะพบว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่ฝันไป



“มันเหมือนฝันจนบางครั้งพี่ก็ชักไม่แน่ใจ ว่าถ้าเกิดพี่ตื่นขึ้นมาทุกอย่างมันจะเป็นเพียงแค่ความฝันหรือเปล่า”



“มัน... ไม่ใช่ความฝันหรอกครับ”



“ใช่ มันไม่ใช่ความฝันหรอก” หินผาขยับลุกขึ้นยืนหันมามองน้องน้ำของเขาแล้วยื่นมือไปตรงหน้า รอให้อีกฝ่ายยื่นมือมาจับแล้วบีบกระชับเอาไว้ “มันคือความจริงที่สุดแล้วล่ะ”



“ใช่ครับ มันคือความจริงที่สุดเลย”



“ไปเดินเที่ยวกันต่อเถอะ พวกนั้นน่าจะยังถ่ายรูปกันไม่เสร็จหรอก”



“ครับ”



สายน้ำก้าวตามคนอายุมากกว่า เหมือนกับเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นเด็กเขาก็มักจะเดินตามหลังคนคนนี้เสมอ แต่ไม่ใช่การเดินตามหลังที่โดดเดี่ยว เพราะหินผาจะจับมือของเขาเอาไว้ตลอด และเจ้าตัวก็จะบอกว่าให้เขาเดินตามหลัง เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นคนที่จะเจอก่อนก็คือหินผาไม่ใช่สายน้ำ ถ้าหากเจอถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หินผาจะได้คอยบอกน้องแล้วระวังได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สายน้ำมักจะเดินตามหลังหินผา



ได้ก้าวตามคนคนนี้ ได้มองแผ่นหลังของคนที่คอยกุมมือแล้วก็ดูแลเขาตลอด มันเป็นความสุขอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลย



“มึง ๆ ดูนู้นดิ” ไข่เจียวใช้ศอกกระทุ้งแขนเพื่อนสนิทที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของคนที่เดินจูงมือน้องปีหนึ่งอยู่ด้านนู้น “ทำไมบรรยากาศมันมุ้งมิ้งขนาดนั้นวะ”



ป่าไม้หัวเราะเขามองตามน้องรักทั้งสองคนไป มองสองมือที่จับกันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “ทำไมล่ะ”



“น้องชายมึงชอบสายน้ำเหรอ” ไข่เจียวถาม และไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่รอคำตอบ แต่คนอื่น ๆ ก็ขยับมาใกล้ ๆ เพื่อฟังคำตอบด้วยเหมือนกัน



“มึงคิดว่ายังไงล่ะ”



ไข่เจียวทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอกับการโยกโย้ของเพื่อนซี้ “วะ! ก็ถ้ากูมองกูก็ว่าใช่ หรือพวกมึงว่ายังไง”



“ก็คิดว่าใช่อยู่นะ” ดิวเองก็อดที่จะเห็นด้วยกับเพื่อนไม่ได้ “แต่หินผาเป็นคนใจดีอยู่แล้วนี่ อาจจะนึกเอ็นดูอะไรเฉย ๆ หรือเปล่า”



“แต่เพื่อนผมมันชอบพี่หินผานะพี่” แบงก์หลุดพูดออกมาก่อนจะยกมือปิดปากทำตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเผลอพูดอะไรออกไป



“ไม่ทันละมึง” ตั้มส่ายหน้าจนแบงก์ได้แต่ยิ้มแหยออกมา



“งี้ก็ใจตรงกันดิ” เดียร์ทำตาโตตอนได้ยิน “ไอ้หินผาก็ชอบน้อง มันบอกกับผมสองคนแล้วว่าชอบน้อง จะจีบน้องอ่ะ”



“ตายจริง! แล้วแบบนี้เป็นแฟนกันหรือยังเนี่ย” ใบบัวหันกลับไปมองคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาทันที



“แต่เหมือนเป็นแฟนมากเลยนะ”



คราวนี้ทุกสายตาหันมามองเดียร์กับทัชทันที ก่อนจะหันไปมองคนเป็นพี่ชายของหินผาอย่างป่าไม้ที่เอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรสักที



“เออ ก็ตามนั้นแหละ ไอ้หินมันชอบน้องน้ำ ชอบมานานแล้วล่ะเหมือนที่น้องน้ำเองก็ชอบไอ้หินมานานแล้วเหมือนกัน” ป่าไม้พยักหน้าอย่างยอมรับ “แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้คบกัน น้องยังไม่รู้ว่าไอ้หินชอบ มันก็ยังไม่บอก แล้วก็นะ... ไม่ต้องเข้าไปยุ่งด้วยล่ะมึงน่ะไอ้ไข่เจียว ไอ้ตัวดี ปล่อยให้มันจัดการของมันไปเอง”



“แล้วที่สำคัญน้องน้ำเป็นน้องรักกูด้วย อย่าให้กูเห็นหรือรู้ว่ามึงแกล้งอะไรน้องน้ำ หรือทำอะไรให้น้องน้ำไม่สบายใจ กูเล่นมึงแน่” ป่าไม้หันไปพูดกับไข่เจียวอย่างรู้เท่าทันว่าอีกฝ่ายมักจะหาเรื่องแผลง ๆ แกล้งคนอื่นเขาไปทั่ว



“เออ ๆ ไม่แกล้งหรอกน่า กูไม่ได้สนิทกับน้องขนาดนั้น กูรู้หรอกน่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้”



ป่าไม้หัวเราะก่อนจะหันกลับไปมองหินผาแล้วก็สายน้ำอีกรอบ หวังว่าการมาเที่ยวด้วยกันรอบนี้จะทำให้น้องชายเขาสามารถขยับความสัมพันธ์ของตัวเองได้ ถ้าไม่ได้ล่ะก็... เขาจะเรียกมันว่าไอ้กากไปอีกนานเลย



แค่คิดป่าไม้ก็นึกสนุกแล้ว เขาจะคอยจับตาดูเอาไว้ว่าไอ้น้องชายตัวดีของเขาจะทำอะไร ยังไงต่อไป



ทางฝั่งคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ก็ไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้ทุกคนในทริปกำลังให้ความสนใจกับพวกเขาสองคน เพราะสิ่งที่พวกเขาสนใจคือการพูดคุยแล้วก็หัวเราะไปด้วยกัน เรื่องราวสมัยตอนยังเป็นเด็ก ๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาเรื่องแล้วเรื่องเล่า



“ผมจำได้ พี่เคยโดดเรียนรำไทยด้วย” สายน้ำหัวเราะเมื่อนึกไปถึงเรื่องที่กำลังพูดอยู่ “หนีจากห้องเรียนรำไทยไปห้องเรียนดนตรี ห้องอยู่ข้างกันแค่นี้ จะหนีพ่อผมพ้นได้ยังไง”



“ก็ตอนนั้นพี่รู้แค่ว่าไม่อยากเรียนรำนี่ มันไม่เท่เลย เรียนดนตรีไทยยังดูแมน ๆ กว่าอีก” หินผาทำหน้ายุ่งยามแก้ต่างให้ตัวเอง “แล้วจะให้หนีไปไหนได้ล่ะพ่อกับแม่พี่ก็นั่งรออยู่ข้างล่าง มีห้องเดียวที่หลบได้ก็ห้องเรียนดนตรีไทยนั่นแหละ”



“แต่สุดท้ายก็โดนพ่อผมลงโทษอยู่ดี”



“จำไม่ลืมเลย อาจารย์ให้พี่ยืนตั้งวงอยู่แบบนั้นตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง แขนขาสั่นไปหมด หลังจากนั้นก็ไม่กล้าโดดเรียนรำไทยแล้ว”



สายน้ำหัวเราะตามคนพี่ “ตอนนั้นพี่คงไม่อยากเรียนจริง ๆ แล้วการลงโทษก็คงจะโหดมาก ๆ แต่มานึกตอนแล้วก็อดขำไม่ได้นะครับ”



“ใช่ ตอนนั้นน่ะทรมานของจริงเลย แต่พอมานึกย้อนตอนนี้ก็ตลกตัวเองนะ ทำเข้าไปได้ยังไงโดดเรียนทั้งทีดันโดดไปแค่ต่างห้อง อาจารย์จะหาไม่เจอก็แปลกแล้วล่ะ”



“แต่ก็ดีนะครับ ตอนนั้นผมเลยมีเพื่อนทำความสะอาดเลย”



“ก็เพราะพี่เกเรน่ะสิ เลยโดนลงโทษให้อยู่ทำความสะอาดห้องเรียนด้วย”



“แต่พี่หินผาก็เก่งนะครับ ทั้ง ๆ ที่เกเรก็บ่อย แต่ก็ยังรำได้สวยมาก จนได้ขึ้นแสดงบนเวทีโรงเรียนตั้งหลายครั้งเลย” สายน้ำยิ้ม “ผมชอบมาก ๆ เลยตอนได้เห็นพี่รำอยู่บนเวที พี่ดูดีมาก ๆ เลยครับ”



“เราก็เหมือนกันนั่นแหละ” หินผาเอื้อมมือไปยีผมน้องเล่นอย่างที่ชอบทำ “แต่ก็น่าเสียดายเนอะ ถ้าน้ำไม่ต้องย้ายบ้านไปกรุงเทพฯ วันนี้เราคงมีเรื่องคุยกันเยอะกว่านี้อีก”



“พี่เล่าเรื่องตอนที่ผมไม่อยู่ก็ได้ ผมอยากฟัง ผมอยากรู้ว่าตอนที่ผมไม่อยู่พี่ทำอะไรบ้าง”



“ผลัดกันเล่าสิ พี่ก็อยากรู้เรื่องของเราเหมือนกัน ทุก ๆ เรื่องเลย” หินผายกมือขึ้นกอดรอบคอของน้อง “โตขึ้นมาหล่อขนาดนี้มีสาว ๆ มาจีบเยอะแค่ไหนกันหึ”



“ฮือ... ไม่มีสักหน่อย” ส่ายหน้าสะบัดหน้าไปมา



“ไม่อยากจะเชื่อ”



“จริง ๆ นะ ไม่มีจริง ๆ เถอะ” แต่ถึงมีสายน้ำก็ไม่เคยคิดจะสนใจอยู่แล้ว เพราะความสนใจของเขาน่ะอยู่ที่หินผามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว



“โอเค ๆ เชื่อแล้วครับ เชื่อแล้ว”



“ผมมีเรื่องสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง” สายน้ำก้าวนำไปด้านหน้าก่อนจะหันกลับมาหา “ทำไมอยู่ ๆ พี่ถึงได้มาเรียนรำไทย เรียนดนตรีล่ะครับ ตอนนั้นผมจำได้พี่บอกว่าจะไปลงเรียนฟุตบอล เรียนว่ายน้ำนี่”



หินผาเลิกคิ้วขึ้นมองยามเมื่อได้ยินคำถามนั้นแต่ยังไม่ยอมตอบคำถามสักที แถมยังเดินเลี่ยงอีก สายน้ำรีบก้าวไปขวางหน้าเอาไว้ “ทำไมเลี่ยงไม่ตอบผมล่ะ”



“ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา”



สายน้ำขมวดคิ้วพลางมองคนตรงหน้า ขาทั้งสองข้างก็ก้าวถอยหลังเรื่อย ๆ เพื่อจ้อง “เดินดี ๆ เดี๋ยวล้มหรอกน้ำ”



“พี่ก็ตอบคำถามผมสิ ทำไมตอนนั้นถึงได้เลือกมาเรียนรำ... เหวอ!”



“ระวัง!!” หินผาร้องออกมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน มือทั้งสองข้างรีบเอื้อมไปคว้าคนที่เดินถอยหลังไม่ทันระวังจนสะดุดเกือบหงายหลังล้ม



สายน้ำถอนหายใจอย่างโล่งอกตอนที่เขาสะดุดจะล้มใจหายไปหมดแต่เมื่อสัมผัสได้ว่าตัวเองยังยืนอยู่ก็หายใจโล่งขึ้น เมื่อสติกลับมาแล้วเขาถึงได้เริ่มสำรวจตัวเองแล้วก็ได้รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในอ้อมแขนของหินผา เพราะส่วนสูงที่ต่างกันไม่มาเพียงแค่เหลือบตาขึ้นก็เจอกับใบหน้าของหินผาอย่างชัดเจน ใกล้กันมาเสียจนปลายจมูกชนกัน เอวของเขาก็โดนหินผากอดเอาไว้ คงจะเป็นตอนที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาช่วยจับแล้วรั้งเขาไม่ให้ล้มลง



“เป็นอะไร... ไหม” หินผาที่มีแต่ความเป็นห่วงชะงักคำถามไปเมื่อเห็นใบหน้าของน้องน้ำใกล้ ๆ แบบนี้



“ม ไม่เป็นอะไรครับ” สายน้ำหลุบสายตาลงพร้อมตอบเสียงเบา แต่เพราะอยู่ใกล้กันขนาดนี้หินผาจึงได้ยินอย่างชัดเจน “ข ขอโทษนะครับ...”



“ขอโทษพี่เรื่องอะไร”



“เอ่อ... ก็... ที่ผมไม่ทันระวัง”



“ไม่เป็นอะไร เราไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วล่ะ” หินผาค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากเอวของน้อง ยอมรับว่าเสียดาย...



เสียดายที่เวลาสำหรับการสำรวจใบหน้าของน้องใกล้ ๆ หมดลง



เสียดายที่มือของเขาที่โอบรอบเอวน้องเอาไว้หมดลง



เสียดาย... ที่ในเวลานี้เขาต้องปล่อยตัวน้องออกจากอ้อมแขน ทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะกอดน้องเอาไว้แบบนั้นต่อ



เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคน สายน้ำเริ่มรู้สึกลนลานจนต้องหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาตัวช่วย เขาเห็นเพื่อนตัวเองเดินอยู่ไม่ไกล “ผ ผมว่าเรากลับไปรวมกับคนอื่น ๆ เถอะครับ”



“อือ” หินผาพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยเรียกสายน้ำเอาไว้ตอนที่น้องหันหลังเดิน “สายน้ำ”



“ค ครับ อะไรเหรอครับ”



“เพราะเรานะ”



“ครับ” สายน้ำทำหน้างงเมื่อได้ยินที่หินผาพูด



“เหตุผลที่พี่เลือกเรียนรำไทยเมื่อตอนนั้นน่ะ เป็นเพราะเรา พี่ถึงได้เลือกเรียน” หินผาบอกพลางมองสบตากับน้อง “เพราะพี่อยากอยู่กับเรา พี่ถึงได้ขอพ่อกับแม่ไปเรียนรำไทยแทนที่จะไปเรียนว่ายน้ำ นั่นเป็นเพราะเรานะ”



สายน้ำหน้าตาแดงก่ำ เขารู้สึกเขินอายกับคำตอบของหินผาทั้ง ๆ ที่จริงแล้วมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ ตอนนั้นพวกเขายังเด็กมาก เจอกัน สนิทกันก็คงอยากอยู่อยากเล่นด้วยกันตามประสาเด็ก ๆ แต่เพราะสายตาของหินผาที่มองมามันทำให้สายน้ำไม่เป็นตัวของตัวเอง



จนเผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปอีกครั้ง...



“ผม ผมว่าเรารีบไปเถอะครับ”



“ตอนนั้น... พี่อาจจะอยากลงเรียนกับเราเพราะอยากเล่นกับเราก็ได้ แต่ตอนนี้... พี่รู้แล้วว่าจริง ๆ แล้วมันเพราะอะไร เพราะพี่อยากอยู่ใกล้เรา อยากอยู่กับเราถึงได้ยอมทิ้งสิ่งที่อยากเรียนมาตลอดเพื่อให้ได้อยู่กับเรามากขึ้น” หินผามองตามคนที่วิ่งหนีเขาไปไกลแล้ว



แม้ในตอนนี้สายน้ำจะยังไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดตอนนี้ แต่สักวัน... เขาจะบอกน้องอีกครั้งถึงเหตุผลทุก ๆ อย่างที่เขาทำ



เพราะว่ารัก... เพราะแค่คำนี้คำเดียวเท่านั้น






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

เป็นแฟนกันเลยเถอะค่ะจะได้ไม่เป็นภาระของคนเขียน ฮาาาา
บอกว่าคบกันแล้วก็เชื่ออะกับคู่นี้
อะไรจะละมุน หวานเวอร์ขนาดนี้
เหม็นฟามรักไปทั้งทุ่งดอกไฮเดรนเยียเลยจ้าาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 20-11-2019 22:04:46
 :-[ :-[เคยไปมาแล้ว สวยมาก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-11-2019 23:21:13
 :pig4: :pig4: :pig4:

แก่แดดแก่ลมนะเนี่ย  รักกันตั้งแต่...ยังไม่ขึ้น...ยังไม่แตกพาน อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-11-2019 23:51:13
ดอกไม้เบ่งบานไปหมดเลยตอนนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-11-2019 00:04:51
แอบหวานนนนนน //คิดถึงพี่กันต์ กับน้องเดียร์ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-11-2019 00:44:00
เขินมาก  :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-11-2019 00:50:18
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [70%] l P.17 20-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 21-11-2019 21:31:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 25-11-2019 21:37:44
(https://i.ibb.co/W5sD6SM/14.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “14”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





สายน้ำนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ตรงเก้าอี้นั่งริมสระว่ายน้ำ ท้องฟ้าเปิดโล่งมองเห็นดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับสวยงาม ทั้ง ๆ ที่บรรยากาศดีขนาดนี้แต่เพื่อน ๆ ทั้งสองคนของเขากลับไม่ยอมออกมานั่งด้วยกัน อาจจะเพราะเวลาค่ำ ๆ แบบนี้ที่รอบข้างมีแต่ต้นไม้และภูเขาทำให้อากาศค่อนข้างเย็น สำหรับคนกรุงเทพฯ อย่างแบงก์กับตั้มที่ไม่ค่อยได้สัมผัสกับอากาศหนาวจึงรู้สึกว่าอากาศตอนนี้เย็นเกินไป แต่คนที่อยู่ต่างประเทศมาหลายปีอย่างสายน้ำค่อนข้างที่จะมีภูมิคุ้มกันมากกว่า เขาถึงได้มานั่งเล่นมองบรรยายยามค่ำคืนแบบนี้



“ไงเรา ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะ” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังเรียกให้สายน้ำหันไปก่อนก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าป่าไม้เดินเข้ามาใกล้



“พี่ป่าไม้”



“อากาศแบบนี้ต้องเบียร์สักกระป๋องเนอะ” พูดจบก็ยื่นเบียร์กระป๋องให้น้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ กัน “ไม่หนาวเหรอเรา ออกมานั่งแบบนี้ นี่คนอื่นเอาแต่อยู่ข้างในกันหมด”



“เย็นครับแต่ไม่ถึงกับหนาว ใส่เสื้อแขนยาวตัวเดียวก็เอาอยู่ครับ” สายน้ำพูดพลางหัวเราะ “อีกอย่างวิวก็สวยมาก ๆ ถ้าไม่ได้ออกมานั่งมองคงน่าเสียดายแย่เลยครับ”



“บ้านพักหลังนี้วิวดีที่สุดในรีสอร์ทนี้แล้วล่ะ” ป่าไม้หัวเราะ



“สวยมาก ๆ เลยครับ ทั้งวิวทั้งที่พักเลย”



พวกเขาทั้งสิบสองคนเดินทางมาถึงที่พักซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวป่าไม้กับหินผาเมื่อตอนบ่ายคล้อยเย็น พวกเขาเข้าไปทักทายพ่อกับแม่ของทั้งคู่ ซึ่งก็ได้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสายน้ำที่สนิทสนม คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก พอพวกท่านหันมาเห็นก็ยิ้มกว้างยินดี แม่ของหินผาเดินมากอดเขาไม่หยุด พร้อมกับพูดคิดถึงอยู่หลายรอบจนหินผาต้องเข้ามาช่วยแยกให้



หลังจากที่ทักทายกันเรียบร้อยทางเจ้าของรีสอร์ทก็ให้พนักงานพาพวกเขามาที่บ้านพัก พ่อกับแม่เลือกที่พักแบบเป็นหลังใหญ่ให้ แถมยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวไม่ต้องไปใช้รวมกับคนอื่น ๆ ปกติให้เปิดให้พักไม่เกินสิบสองคนแต่เป็นผู้ใหญ่ไม่เกิดแปดคน ที่เหลือเป็นเด็ก ๆ แต่นี่พิเศษเลยได้พักด้วยกันหมดที่บ้านหลังนี้ เป็นบ้านพักหลังที่ใหญ่ที่สุด ราคาแพงที่สุด และวิวดีที่สุด



ตอนพวกเขาเห็นนี่อ้าปากค้างแล้วค้างอีก ไม่คิดว่าที่พักจะดูดี หรูหราแล้วก็ไฮโซขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่รีสอร์ทแห่งนี้ติดอันดับรีสอร์ทที่ดีที่สุด เพราะมันที่สุดจริง ๆ ในหลาย ๆ ด้านเลย



"พ่อกับแม่ได้ยินคงยิ้มแก้มปริ"



“น้าเดือนกับลุงพันธ์ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยครับ” สายน้ำยิ้มตอนนึกไปถึงพ่อกับแม่ของป่าไม้แล้วก็หินผา “ดีใจจังที่ได้มาเจอ ตอนแรกก่อนมาถึงผมก็คิดว่าตัวเองคิดถึงน้าเดือนกับลุงพันธ์มากแล้วนะครับ พอมาได้เจอจริง ๆ แล้วรู้สึกว่าคิดถึงมากกว่าเดิมอีก ดีใจด้วยที่น้าเดือนกับลุงพันธ์ยังไม่ลืมน้ำ”



“ไม่มีใครลืมน้ำหรอกนะ” ป่าไม้ยกมือขึ้นลูบผมน้องรัก “พวกเรายังคุยถึงน้ำบ่อย ๆ เลย คิดดูสิขนาดพี่ยังไม่ได้แนะนำเราเลยพ่อกับแม่ก็รีบเข้ามากอดแล้ว ไม่มีใครลืมเราเลยสักคน”



“ยกไว้คนได้ไหมครับ” สายน้ำทำหน้ายุ่ง “น้องชายพี่น่ะลืมน้ำ”



ป่าไม้หัวเราะเสียงดัง ชอบอกชอบใจกับคำพูดของน้อง “เอาน่ะ! น้องชายพี่มันซื้อบื้ออย่าไปถือโทษมันเลย”



“ผมก็แกล้งแซวเล่นไปอย่างนั้นเองแหละครับ” หันไปยิ้มกว้างให้พี่ชาย



“หึหึ แต่ดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้จะไม่ซื้อบื้อแล้วนะ”



“ครับ พี่ป่าไม้พูดอะไรนะครับ” สายน้ำถามอย่างไม่แน่ใจเพราะเขาได้ยินไม่ชัด



“ไม่มีอะไร” อีกฝ่ายส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม เห็นแบบนั้นสายน้ำเลยทำตามบ้าง



ป่าไม้วางกระป๋องเปล่าลงกับพื้นเอนตัวลงนอนไปตามระดับองศาของเก้าอี้ แขนทั้งสองข้างใช้หนุนต่างหมอน ทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ “สายน้ำ”



“ครับพี่”



“กับหินผาน่ะ... ดีไหม”



“ค ครับ!?”



“ความรู้สึกของเราในตอนนี้น่ะดีหรือเปล่า ถ้าเทียบกับก่อนหน้านี้ตอนที่ไอ้หินมันยังไม่รู้ว่าเราคือน้องน้ำน่ะ” ป่าไม้หันมามอง



สายน้ำพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม “ดีครับ มันดีมาก ๆ เลยล่ะครับ ดีจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคือเรื่องจริง”



“พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม” คราวนี้ป่าไม้หันมาหาทั้งตัว น้ำเสียงจริงจังขึ้น



“ได้ครับ พี่อยากถามอะไรเหรอ”



“กับเรื่องของหินผาน่ะ เราตั้งความหวังเอาไว้มากแค่ไหน”



คนฟังนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถาม เจ้าตัวเงียบไปเหมือนกำลังเรียบเรียงความคิดและคำพูดอยู่ในใจ ซึ่งป่าไม้เองก็ไม่ได้เร่งรัดจะเอาคำตอบอะไร



“ถ้าบอกว่าตั้งความหวังไว้สูงก็คงจะไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่าไม่ตั้งความหวังอะไรเลยก็ดูจะโกหก” สายน้ำตอบออกมาในที่สุด “สิ่งที่ผมตั้งความหวังเอาไว้ มันสำเร็จแล้วล่ะครับ”



“สำเร็จแล้ว ยังไง”



“ก่อนผมจะมาผมตั้งความหวังเอาไว้ว่า... อย่างน้อยก็แค่ขอให้ได้เห็นว่าพี่หินผาเป็นยังไงบ้าง มีความสุขดีไหม หรือไม่ก็... อย่างน้อยก็ขอให้ได้พูดคุย สนิทสนมกับพี่หินผาอีกสักครั้ง แม้ว่าพี่เขาจะจำผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าจำได้ก็ดีไป แค่นั้นแหละครับที่ผมตั้งความหวังเอาไว้”



“เราไม่คิดว่าอยากจะเป็นคนรักของมันเหรอ” ป่าไม้ถาม ความหวังที่น้องตั้งมันดูน้อยนิดเสียเหลือเกินในความคิดของเขา



สายน้ำส่ายหน้าไปมา “ไม่ครับ ผมไม่ได้คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผมไม่อยากคิดหรือตั้งความหวังแบบนั้นมากกว่า ผมไม่อยากผิดหวังถ้าเกิดว่ามาถึงนี่แล้วรู้ว่าพี่หินผามีใครบางคนอยู่แล้ว ผมหวังแค่ว่าได้เจอแค่นั้นแหละครับ ไม่เจ็บตัวมาก จะอยู่ต่อก็ได้ไม่มีปัญหา หรือจะกลับไปก็ได้เหมือนกัน”



“แต่จะบอกว่าไม่คิดเลยก็ไม่ใช่อีกแหละครับ” สายน้ำหัวเราะ “บางครั้งช่วงหนึ่งของความคิดผมก็หวังว่าผมจะได้เป็นคนนั้นของพี่หินผา บางทีผมก็สับสนกับตัวเองนะครับ ไหนตอนแรกว่าไม่หวัง แต่สุดท้ายลึก ๆ แล้วผมก็หวัง”



“พี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่เราจะตั้งความหวังเอาไว้” ป่าไม้พูด “แล้วตอนนี้ล่ะ ความหวังของเรามันเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง”







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผา~ น้องก็แอบหวังขยับความสัมพันธ์อยู่น้า
รีบทำให้ชัดเจนได้แล้วน้า
เดี๋ยวก็มีคนมาแย่งน้องไปหรอก (เรานี่แหละ ไม่ใช่ใคร)
น้องน่ารัก น่าเอ็นดูขนาดนี้ ต้องรีบ ๆ เดินหน้าได้แล้วน้าาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-11-2019 22:08:39
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 25-11-2019 22:34:56
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-11-2019 22:50:02
 :pig4: :pig4: :pig4:

ว้า....มาฉากเดียวเอง  อ่านแป๊บเดียวจบแระ  เหมือนมาแบบสั้นกุดยังไงไม่รู้  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-11-2019 23:58:10
ขอคำตอบหน่อยซิ  o11
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-11-2019 01:32:28
ต้องมีคำตอบของทั้งคู่แล้วแหละเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 26-11-2019 04:54:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-11-2019 09:12:20
พี่ป่าไม้แอบมาเป็นสปายหรอ 5555

โมเมนท์หวาน อบอุ่น เยอะเลยค่ะ ทำให้ยิ้มได้ตามๆ กัน
หินผามีอาการหวงน้องแล้วนะ ชัดขนาดนี้แล้ว ให้ไวค่ะ
เอ็นดูสายน้ำ เป็นคนมักน้อย แต่ก็ไม่ใช่ไม่อยากได้เพิ่ม

ชอบทริปนี้ค่ะ แฮปปี้กันทั่วหน้าเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "14" [100%] l P.18 25-10-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-12-2019 03:26:54
พี่ป่าไม้ช่วยน้องเหรอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 02-12-2019 21:23:18
(https://i.imgur.com/c40xYlD.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “15”





“แล้วตอนนี้ล่ะ ความหวังของเรามันเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง”



คำถามสุดท้ายของป่าไม้ในคืนนี้สายน้ำไม่ได้ตอบออกไปเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความหวังของเขามันเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง เขาไม่รู้แล้วก็ไม่แน่ใจ สุดท้ายจึงมีแค่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบของคำถาม และป่าไม้ก็ไม่ได้คาดคั้นคำตอบ อีกฝ่ายเหมือนต้องการแค่ถามเพื่อให้เขานึกย้อนกับตัวเองว่าตอนนี้ต้องการอะไรกันแน่



หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นอีกเพราะคนที่เป็นหัวข้อของบทสนทนาเดินออกมาพอดี หินผาเดินมาดุทั้งพี่ชายทั้งสายน้ำที่ออกมานั่ง มานอนตากน้ำค้างแบบนี้ แน่นอนว่าคนโดนดุทั้งสองคนก็หน้าจ๋อยไปแล้วจึงพากันกอดคอเดินกลับเข้ามาในบ้านพัก ป่าไม้รีบแยกตัวไปก่อน เหลือเพียงสายน้ำที่โดนดุต่ออีกนิดหน่อย ก่อนที่หินผาจะเดินมาส่งสายน้ำถึงหน้าห้องนอนที่สายน้ำพักกับเพื่อน ๆ อีกสองคน



“พี่นี่... ดุเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย” สายน้ำบ่นอุบเมื่อโดนย้ำอีกครั้งว่าอย่าออกไปตากน้ำค้างแบบนั้น หรือถ้าจะออกไปข้างนอกก็ใส่เสื้อคลุมให้เรียบร้อยเพราะยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว สายน้ำเองก็อยากจะย้อนบอกเหมือนกันว่าที่ต่างประเทศตอนฤดูหนาว หนาวกว่านี้อีก แต่ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะโดนดีดหน้าผาก



“บ่นเหรอเราน่ะ บ่นเหรอ” เพราะแค่ขนาดไม่พูดก็ยังโดนดีดหน้าผากเลย แม้จะไม่แรงมากก็ตาม



“ฮือ...” คนโดนดุส่งเสียงประท้วงอยู่ในลำคอ ไม่กล้าโต้ตอบอะไรมากนัก



ตั้งแต่เด็กแล้ว... หินผาที่เป็นพี่ชายที่แสนจะใจดีแต่พอถึงคราวดุก็ดุมากเหมือนกัน ยิ่งตอนนั้นที่สายน้ำไปเจอเพื่อนที่ค่อนข้างเกเร แล้วด้วยความที่เป็นวัยกำลังอยากรู้อยากลองก็เลยยอมโดดเรียนตามเพื่อน หนีไปเที่ยวเล่นสุดท้ายก็เจ็บตัวกลับมาเพราะหกล้ม



เดินตาแดงก่ำอย่างคนพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้มาหาหินผาที่มารอรับกลับบ้าน และคนอย่างหินผาที่คอยตามดูแลน้องมาตลอดมีหรือจะจับผิดไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องสารภาพออกไปว่าโดดเรียนมาแล้วเกิดอุบัติเหตุจนเจ็บตัว



แววตาของพี่ชายใจดีเปลี่ยนไปทันที ตลอดทางกลับบ้านเขาโดนหินผาดุตลอดทางจนขนาดที่ว่าพ่อของสายน้ำยังต้องปลอบลูกชายแทนเพราะลูกโดนดุมาแล้ว อีกนิดเดียวสายน้ำเชื่อว่าหินผาได้เดินไปหยิบไม้เรียวมาตีเขาแน่ ๆ แล้ว



“อยากโดนดุเยอะ ๆ แบบตอนที่เราหนีเรียนอีกหรือไง” ไม่ใช่แค่สายน้ำที่จำได้ หินผาเองก็จำได้ไม่ลืมเหมือนกัน นั่นเป็นครั้งเดียวที่หินผาดุสายน้ำหนักมาก



“ตอนนั้นผมคิดว่าพี่จะเดินไปหยิบไม้เรียวมาตีผมแล้ว” สายน้ำว่า “ผมร้องไห้เพราะโดนพี่ดุจนจากที่พ่อโกรธ ๆ อยู่ต้องมาปลอบผมเลย”



หินผาหัวเราะกับคำบอกเล่าของน้อง เพราะมันก็จริงแบบนั้นนั่นแหละ “ก็ตอนนั้นเราดื้อ และตอนนี้เราก็กำลังดื้อเหมือนกันที่ออกไปตากน้ำค้างแบบนั้น เดี๋ยวก็ไม่สบายขึ้นมาหรอก”



“คร้าบ”



“เข้าห้องนอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ บ้านหลังนี้มองเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นชัดที่สุดแล้ว”



“ครับผม” สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้างไปให้ “อย่างนั้น... ฝันดีนะครับ”



“อือ ฝันดีนะ”



สายน้ำเดินเข้าไปในห้อง และยืนมองคนอายุมากกว่าเดินกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง ก่อนจะปิดประตูให้เรียบร้อย เพื่อนทั้งสองคนของเขายังไม่นอนกำลังนั่งเล่นเกมกันอย่างเมามันส์อยู่ที่ชุดโซฟาภายในห้อง พร้อมกับส่งเสียงโวกเวกโวยวาย สายน้ำเลยเดินผ่านเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่รบกวนเพื่อนทั้งสองคน ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก็เดินออกมาโดดขึ้นเตียงนอนที่พวกเขาดันมาชิดกันจะได้กลายเป็นใหญ่แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น



“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ” แบงก์ที่เล่นเกมเสร็จเงยหน้าขึ้นมาถาม “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”



“เออ ไม่เห็นรู้เลย”



“สักพักแล้ว ตอนเข้ามาเห็นเล่นเกมอยู่เลยไม่ได้ทักอะไร”



“ข้างนอกเป็นไง หนาวมากไหมวะ นี่ขนาดอยู่ในห้องกูว่าอากาศยังเย็นเลย” ตั้มถาม ตอนแรกสายน้ำก็ชวนเขาสองคนออกไปเดินเล่นข้างนอกเหมือนกัน แต่พอก้าวขาออกจากบ้านพักไปก็รีบยกมือบ๊ายบายเพื่อนแล้วเดินกลับห้องเพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างเย็นทีเดียว



อากาศแบบนี้คนเมืองกรุงอย่างเขาสองคนไม่ชินเลย



“ก็เย็นแหละ แต่วิวดีมาก เงยหน้าขึ้นไปนี่เห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลย พวกมึงน่าจะออกไปด้วยกันสวยมากเลยนะโว้ย” บนเขาบนดอยแบบนี้อากาศเย็นสบาย แถมรอบ ๆ ก็ยังมีต้นไม้ใหญ่ยิ่งทำให้อากาศเย็น ท้องฟ้าก็เปิดมองเห็นดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าแบบที่ถ้าอยู่กรุงเทพฯ คงไม่มีทางได้เห็น “พรุ่งนี้เช้าตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน”



“เค ๆ” ทั้งสองคนรับปากพร้อมกับพยักหน้า แต่สายน้ำก็ไม่แน่ใจหรอกว่าพอถึงเวลาแล้วเพื่อนทั้งสองคนของเขาจะตื่นขึ้นมาจริงอย่างที่พูดหรือเปล่า



“เออ... น้ำกูถามไรหน่อยดิ” แบงก์ละสายตาจากจอโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าเพื่อนตัวเองที่นอนเล่นอยู่บนเตียง



“หือ ว่า”



“มึงกับพี่หินผานี่ไปถึงขั้นไหนกันแล้ววะ”



“หา!” คนโดนถามร้องออกมาด้วยความตกใจ กระพริบตาปริบ ๆ เรียกสติตัวเอง “ไม่ได้ถึงขั้นไหนทั้งนั่นแหละ จะให้ถึงขั้นไหนละ”



“อ้าว มึงยังไม่ได้คบกับพี่หินผาเหรอ” ตั้มเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง



“จ จะคบอะไรกันล่ะ! ไม่ได้คบกันสักหน่อย”



“พูดจริง...” ตั้มทำเสียงเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ ตอนแรกเขาคิดว่าสองคนนี้ตอบตกลงคบกันแล้วตั้งแต่ตอนอยู่ทุ่งดอกไฮเดรนเยียเสียอีก เพราะบรรยากาศหลังจากนั้นดูอบอุ่น ๆ อย่างกับคนเป็นแฟนกัน



“จะโกหกไปทำไมล่ะ”



แบงก์กับตั้มพากันกระโดดไปนั่งข้างสายน้ำทันทีแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างต้องการสำรวจว่าพูดโกหกหรือเปล่า



“แล้วมึงคิดว่าพี่หินผาชอบมึงไหม”



สายน้ำเผลอชะงักหน้าแดงกับคำถามของแบงก์ “ม ไม่แน่ใจ”



“ยังไงวะ”



“กูก็ไม่รู้ แต่บางครั้งคือยังไงล่ะ... พี่เขาก็พูดอะไรแปลก ๆ ทำให้กูคิดไปเองงี้” สายน้ำตอบ



“เหรอ พี่เขาพูดยังไงวะ” ตั้มถามทันที “เผื่อพวกกูจะได้ช่วยวิเคราะห์ให้ได้ว่าพี่เขาชอบมึงหรือเปล่า”



“เออ ใช่ ๆ ไหนลองยกตัวอย่างมาดิ พี่เขาพูดอะไรกับมึงบ้าง”



สายน้ำหันมองเพื่อนทั้งสองคนอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมตอบคำถามของทั้งคู่ “ก็... อย่างตอนที่พี่กันต์ถามตอนอยู่บนรถไง”



แบงก์กับตั้มทำหน้านึกก่อนจะร้องออกมาเมื่อนึกออก “ที่พี่เขาบอกว่ามึงสำคัญใช่ไหม”



“เออ ๆ ก็จริงนะ พูดเหมือนแบบยังไงอะ ให้ความสำคัญ เป็นคนพิเศษที่มากกว่าทั่วไปอะ เอาจริงกูกับมึงสนิทกันมาตั้งนาน มึงก็สำคัญกับกูอะแต่กูก็คงไม่พูดออกมาว่ามึงสำคัญ” แบงก์พูดในสิ่งที่ตัวเขาคิด โดยมีตั้มพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย



“จริง ยิ่งกับเพื่อนผู้ชายกันคงไม่พูดออกมาง่าย ๆ ว่าสำคัญ แค่นึกก็จั๊กจี๊ตายห่าแล้ว” ยกมือลูบแขนตัวเองไปด้วย “แต่พี่หินผาแกพูดออกมาคือทั้งเสียง ทั้งหน้าจริงจังมาก จนพวกกูแบบอยากจะแซวอะ แล้วมีอะไรอีกไหมวะ”



“ก็มี... อย่างตอนที่อยู่ที่สวน กูถามพี่เขาว่าทำไมตอนเด็ก ๆ ถึงเลือกมาเรียนรำไทยกับที่บ้านกูแทนที่จะไปเรียนว่ายน้ำอย่างที่พี่เขาชอบ” สายน้ำนึกไปถึงตอนที่เขาคุยกับหินผา “พี่เขาบอกว่าเป็นเพราะกูถึงได้เลือกมาเรียนรำไทยแทน”



แบงก์กับตั้มทำตาโตทันทีตอนที่ได้ยินเพื่อนเล่าแบบนั้นแอบมองหน้ากันแล้วส่งยิ้ม ยิ่งฟังก็ยิ่งชัดเจนว่าความรู้สึกของทั้งคู่นั้นตรงกันจริง ๆ



“คือมึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูรู้สึกกับพี่เขายังไง พอฟังแบบนั้นใจกูมันคิดไม่ซื่อไปแล้วไง พอได้ยินมันก็เลยคิดไปว่าพี่เขาก็อาจจะชอบกูบ้างอะไรแบบนี้ แต่ตอนนั้นพี่เขายังเด็ก กูก็ยังเด็ก ที่บอกว่าเป็นเพราะกูก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราสนิทกัน เลยอยากเล่นด้วยกันแบบนั้นก็ได้ ตามประสาเด็ก ๆ ไง” สายน้ำพูดรัวแบบไม่หยุดพัก เพราะเขากำลังพยายามที่จะบังคับตัวเองให้เลิกคิดเข้าข้างตัวเองได้แล้วหลังจากที่ได้ยินคำตอบของหินผาแบบนั้น แต่มันก็ยากมาก ๆ เหมือนกัน



“ตอนเด็ก ๆ พี่เขาอาจจะคิดแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้ เพราะสนิทกันเลยอยากอยู่ด้วยกันเล่นด้วยกัน แต่แบบพอโตขึ้นมาแล้วนึกย้อนไหม ความหมายมันอาจจะเปลี่ยนก็ได้นี่จริงไหม” ตั้มมองหน้าเพื่อนตัวเอง “เหมือนกับว่าเราโตขึ้น มองอะไรได้กว้างขึ้น แล้วก็คิดอะไรได้มากขึ้นไง”



“แต่กูก็ยังไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง กูกลัวว่าพี่เขาอาจจะเอ็นดูกูเพราะเห็นกูเป็นรุ่นน้องที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แค่นั้น”



“ประเด็นนี้กูก็เข้าใจมึงเหมือนกัน เอาเป็นว่ามึงก็ดูไปเรื่อย ๆ ก่อน กูเชื่อว่าถ้าเกิดพี่เขาชอบมึงจริง ๆ เขาก็ต้องหาวิธีของเขาเองนั่นแหละ”



“อือ ก็คงแบบนั้นแหละ”



“อ้าว... ดึกแล้วนี่ นอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้มึงจะตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นนี้” ตั้มหันไปมองเวลาก่อนจะร้องออกมาเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว เขารู้ว่าสายน้ำปกติแล้วไม่ใช่คนนอนดึกอะไร



“จริงด้วย กูก็คุยซะเพลินจนลืมเวลาไปเลย พวกมึงก็รีบ ๆ นอนได้แล้วอย่างมัวแต่เล่นเกมกันอยู่” สายน้ำหันไปบอกเพื่อนทั้งสองคน



“คร้าบ ๆ” พากันส่งเสียงรับคำเสียงยาว



“ฝันดีนะมึง” สายน้ำว่าก่อนจะขยับไปยังที่นอนฝั่งตัวเอง ส่วนแบงก์เดินไปปิดไฟในห้องเหลือไว้เพียงแค่ไฟตรงหน้าห้องน้ำแค่นั้น ก่อนที่เขาจะเดินกลับมานั่งเล่นเกมกับตั้มต่อ จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้สักระยะ แบบที่มั่นใจว่าเพื่อนร่วมห้องอีกคนของพวกเขาหลับสนิทไปแล้ว ทั้งสองคนจึงค่อย ๆ ย่องออกจากห้องนอนไป



แบงก์กับตั้มเดินลงไปที่ชั้นล่างของบ้านพัก มีแสงไฟส่องสว่างบ่งบอกว่ายังมีคนไม่นอนแม้ว่าจะเป็นเวลาดึกมากแล้วก็ตาม ทั้งสองคนเดินตามแสงไฟนั้นไปจนถึงห้องนั่งเล่นก็เจอกับรุ่นพี่นั่งล้อมวงกันเต็ม จะขาดก็แค่หินผาที่ไม่ได้นั่งอยู่ในวงล้อมนั้นด้วย



“สายน้ำหลับไปแล้วเหรอ” ไข่เจียวที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นเด็กปีหนึ่งทั้งสองคนพอดีเอ่ยทักก่อนที่พวกเขาจะขยับเพื่อให้ทั้งสองคนมีที่นั่ง



“ครับ หลับไปแล้วล่ะครับ แล้วพี่หินผาก็หลับไปแล้วเหรอ”



“ใช่ ๆ มันหลับไปแล้ว เวลากลับมาอยู่บ้านแบบนี้มันชอบนอนเร็วเพราะมันจะได้ตื่นเช้า ๆ พอกลับเข้าห้องไปไม่นานก็หลับไปแล้ว” ป่าไม้ที่พักห้องเดียวกับน้องชายตัวเองเป็นฝ่ายตอบคำถามของตั้ม



“แล้วสรุปว่ายังไงบ้างน้องตั้ม สายน้ำพูดอะไรบ้างไหม” ใบบัวหันมาถาม



ทั้งแบงก์และตั้มต่างก็พากันพยักหน้ารับ ก่อนที่แบงก์จะเล่าให้ฟัง “ไอ้สายน้ำมันก็บอกว่ามันก็แอบคิดนะว่าพี่หินผาจะชอบมัน แต่มันกลัวว่าแบบพี่เขาจะแค่เอ็นดูมันเพราะเห็นเป็นเพื่อนสมัยเด็กน่ะพี่”



“ถ้าจะให้ไอ้น้ำมันเริ่มก่อนคงยากอะพี่ เพราะมันก็กลัวในส่วนของมัน ซึ่งพวกผมก็เข้าใจนะ คือพี่หินผาจำมันไม่ได้เลย มารู้เพราะพี่ป่าบอก แล้วพอจำมันได้ก็ใกล้ชิด สนิทกว่าเดิม มันก็คงไม่อยากพลาดอะพี่ ถ้าเกิดที่พี่หินผาทำไปทั้งหมดเพราะคิดว่าพี่เขาเห็นมันเป็นน้องคนสนิทอะ” ตั้มเสริมต่อจากเพื่อน



“ก็เข้าใจในพาร์ทของน้องนะ” ใยไหมพยักหน้ารับเมื่อได้ฟังรุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสองคนเล่า เรื่องแบบนี้บางทีเราก็ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้าง ถ้าหากมันไม่ได้เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ จะได้ไม่เจ็บหนักจนเกินไป



“หรือเราต้องหาตัวกระตุ้นดี” ทัชพูดขึ้นมา “เหมือนอย่างตอนนั้นไง ที่พี่ป่าแกล้งกระตุ้นมันอะ มันเลยยอมสารภาพกับพี่ไม่ใช่เหรอว่ามันชอบน้อง”



“แล้วใครจะเป็นตัวกระตุ้นล่ะ” เดียร์ถามพลางหันมองไปรอบ ๆ วง “พี่ป่าต้องตัดทิ้งแล้วกระตุ้นไม่ได้ พี่ไข่หรือพี่ดิวดี”



“จริง ๆ แล้ว...” ตั้มพูด “ไม่ต้องให้พวกพี่มาแสดงหรืออะไรก็ได้นะ ผมว่าตัวกระตุ้นอะมีอยู่”



“เออ! ใช่ เด็กปีหนุ่งดุริยางค์ ชื่ออะไรวะ ไอ้หินมันเคยพูดอยู่ว่าเหมือนไอ้เด็กนั่นจะชอบสายน้ำ” ป่าไม้ดีดนิ้วเปาะเมื่อนึกขึ้นได้



“ชื่อไอซ์พี่” แบงก์ว่า “ดูแล้วก็เหมือนจะชอบไอ้น้ำอยู่นะพี่ วันก่อนก็เห็นโทรมาหา ไอ้น้ำบอกว่าโทรมาชวนไปเที่ยวหลังสอบเสร็จ แต่พอดีเรามานี่กันก่อนก็เลยไม่ได้นัดกัน ไม่รู้ว่าโทรคุยกันบ่อยแค่ไหน แต่ดูแล้วหมอนั่นก็คงคิด ๆ อยากจะจีบคนของเราอยู่เหมือนกัน”



“ถ้าเป็นแบบนั้นนะ เราสองคนก็แกล้ง ๆ ทำเป็นพูดถามถึงน้องคนที่ชื่อไอซ์อะไรนี่กับสายน้ำตอนที่หินผาอยู่ด้วยสิ” ใยไหมเสนอไอเดีย “ทำให้สายน้ำพูดถึงบ่อย ๆ หรือเล่าเรื่องคนนี้ให้ฟังไรงี้ นี่ว่าหินผาก็น่าจะมีอาการอะไรบ้างแหละ”



“ไอเดียดี ถ้ามันได้ยินชื่อไอซ์บ่อย ๆ อาจจะขอน้องเป็นแฟนเร็วขึ้น เพราะมันเคยบอกอยู่ว่าอยากจะเริ่มจีบน้องจริงจัง ไม่อยากช้าแล้วเพราะไอ้หมอนี่มันชอบสายน้ำอยู่เหมือนกัน” ป่าไม้พยักหน้าเห็นด้วย “แผนนี้ก็น่าจะเวิร์ค เราลองดูกันก่อนแล้วค่อยคิดหาแผนอื่นอีกที”



“คือมึงอยากให้สองคนนั้นคบกันวันสองวันนี้เลยหรือไง” กันต์หันไปถามเพื่อนสนิท ที่ดูจะจริงจังกับการวางแผนให้หินผากับสายน้ำขยับความสัมพันธ์กัน



เจ้าตัวจิ๊ปากตอนถูกถาม “ใจหนึ่งกูก็อยากจะขัดขวางหน่อย ๆ กูหวงน้องน้ำ แล้วก็หมั่นไส้น้องกูเองด้วย แต่ก็แอบอยากช่วยน้องน้ำให้สมหวัง”



“เหมือนผมเลยพี่!” ทัชกับเดียร์แทบจะพูดออกมาพร้อมกัน “พอฟังแล้วก็คืออยากช่วยน้อง แต่หมั่นไส้เพื่อนตัวเอง ความคิดตบตีกันเองมากตอนนี้ ใจหนึ่งอยากช่วย ใจหนึ่งอยากขวาง” พูดจบก็หัวเราะชอบใจที่ความคิดเห็นตรงกันแบบนี้



แผนการณ์ช่วยเหลือให้หินผากับสายน้ำได้คบกันนั้นเริ่มต้นหลังจากที่พวกเขาออกมาจากทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์ แม้บรรยากาศของคนทั้งคู่จะดูหวานไปหมดแต่แค่มองพวกเขาก็รู้ว่าความสัมพันธ์ยังไม่ขยับไปถึงไหน ป่าไม้เลยจัดการสร้างกลุ่มไลน์ลับ ๆ ขึ้นมาแล้วลากทุกคนเข้ามาในกลุ่มยกเว้นเจ้าของเรื่องทั้งสองคน



ในตอนแรกป่าไม้ก็แค่ถามความคิดเห็นเรื่องระหว่างสองคนนี้เฉย ๆ แต่เมื่อตอนค่ำได้คุยกับสายน้ำเรื่องของหินผา ป่าไม้ก็นึกอยากจะช่วยให้น้องชายที่ไม่ใช่น้องชายแท้ ๆ แต่รักสุด ๆ คนนี้สมหวังกับความรักเลยจัดการส่งไลน์หาทุกคนเผื่อขอความช่วยเหลือ



จึงเป็นเหตุให้พวกเขาทุกคนมานั่งรวมตัวกันอยู่ตรงนี้หลังจากที่หินผากับสายน้ำหลับไปแล้ว จนกระทั่งได้แผนการณ์แบบนี้






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

เขา ๆ ก็วางแผนช่วยคู่นี้กันอยู่น้าาาา
เนี่ยยยยย ขนาดนี้แล้วทำไมพี่ไม่ขอน้องเป็นแฟนสักทีนะ
รออะไรอยู่หืออออออออออ
ดูสิ น้องคิดไปไหนต่อไหนแล้ว น่าตีพี่จริง ๆ เลยเนอะ!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 02-12-2019 21:49:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-12-2019 21:56:46
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่หินผาชักช้ามาก   จนกองเชียร์ทนไม่ไหวแล้วเนี่ย  อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-12-2019 22:02:30
มีคนหวังดีจะช่วยให้สมหวังเร็ว ๆ อีกแล้ว รอดูผลแล้วกัน จะรุ่ง หรือ จะร่วง  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-12-2019 00:27:52
ทุกคนมาช่วยกันวางแผนหมดอ่ะคิดดู อยากให้เป็นแฟนกันขนาดไหน 55555555555555
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-12-2019 01:03:39
นั่นสินะ รออะไรกันอยู่ จีบเลย ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-12-2019 07:45:23
ตั้งแก้งส์หินผา-สายน้ำกันเลยเหรอ ขอให้แผนสำเร็จไวไวนะ เดี๋ยวจากยุให้จีบกัน จะกลายเป็นยุให้แตกคอกันเพราะความหมั่นไส้   :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 03-12-2019 18:53:47
แผนกวางแผนจัดเต็มกันแบบนี้ พี่หินต้องขอน้องน้ำเป็นแฟนได้แล้วน้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-12-2019 22:37:15
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [40%] l P.18 02-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 04-12-2019 20:06:26
ต้องหาตัวช่วย o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 09-12-2019 19:50:38
(https://i.imgur.com/c40xYlD.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “15”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





เช้าวันสุดท้ายของการเที่ยวพักผ่อนที่เชียงใหม่ ผู้ร่วมทริปทั้งสิบกว่าคนตื่นกันแต่เช้าเพื่อขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น นี่เป็นวันแรกเลยที่สมาชิกทุกคนตื่นกันมาอย่างพร้อมเพียงแบบนี้ เพราะสองวันที่ผ่านมามีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น



“ตื่นมาดูตั้งสองวันแล้วไม่เบื่อหรือไง” ลูกชายคนเล็กของเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้เดินมาถามสายน้ำที่นั่งมองภาพความสวยงามตรงหน้า



สายน้ำเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เจ้าตัวส่ายหน้า “ไม่เบื่อครับ จะให้ผมตื่นมานั่งมองทุกวันเลยก็ได้วิวสวยขนาดนี้”



“ถ้าอย่างนั้นต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่แล้วล่ะจะได้ตื่นมาดูได้ทุกวัน” หินผาพูดยิ้ม ๆ แต่คนฟังน่ะใจกระตุ้มแก้มร้อนไปหมดแล้วกับคำพูดนั้น



ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการพูดเพื่อแซวเล่นเฉย ๆ หรือมีความหมายแอบแฝงอะไรอยู่ในนั้นกันแน่แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนหัวใจของสายน้ำก็สั่นไหวอย่างรุนแรงด้วยกันทั้งนั้น



“เดี๋ยวผมย้ายมาจริง ๆ แล้วพี่จะหนาวเถอะ” พยายามกลั้นความรู้สึกของตัวเองพร้อมกับตอบกลับไปเชิงหยอกล้อ



หินผาหัวเราะยกมือขึ้นกอดไหล่ของน้องเอาไว้พลางโยกไปมา “มาให้จริงเถอะ อยากให้มา”



สายตาที่หินผามองสบมาตอนพูดนั้นทั้งจริงจัง แน่วแน่แถมยังอ่อนโยนจนสายน้ำไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จะหลบสายตาก็ทำไม่ได้เพราะดวงตาคู่นั้นสะกดเขาเอาไว้ จะให้พูดอะไรกลับไปก็พูดไม่ออกเพราะสมองของสายน้ำตอนนี้มันเบลอไปหมดแล้ว คิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่างเดียว ยิ่งกับหัวใจตอนนี้มันสั่นระรัวจนสายน้ำกลัวว่ามันจะกระเด้งกระดอนออกมาข้างนอก



แต่ที่สายน้ำไม่รู้ก็คือใบหน้าของตัวเองในตอนนี้มันแดงก่ำจนบ่งบอกอะไรให้คนมองรับรู้ได้หลาย ๆ อย่าง ทั้ง ๆ ที่พยายามเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นความเขินตัวเองแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย สองข้างแก้มขึ้นริ้วสีแดงจนทั่ว ท่าทางที่ทำเหมือนไม่เขินแต่จริง ๆ แล้วเขินจนทำอะไรไม่ถูกนั้นดูน่ามันเขี้ยว น่าเอ็นดูสำหรับคนมองเป็นอย่างมาก



หินผานึกอยากจะฝังจมูกตัวเองลงที่แก้มแดงนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เลยได้แต่ยกมือขึ้นบีบแก้มของสายน้ำอย่างมันเขี้ยว



“น่ามันเขี้ยว...”



“ผมเจ็บนะ” สายน้ำพูดเสียงอู้อี้เพราะโดนบีบแก้มอยู่



“สายน้ำ ไอ้ไอซ์โทรมา” เสียงตะโกนเรียกของแบงก์ดังมาจากด้านหลังให้หินผายอมละมือจากแก้มแล้วหันไปมอง



“โอเค ๆ” สายน้ำรับคำก่อนจะรีบลุกเดินไปหาเพื่อนที่ชูโทรศัพท์ของเขาอยู่โดยไม่ได้รับรู้เลยว่ามีสายตาไม่พอใจของใครอีกคนมองตามไปด้วย



“ไอ้คนชื่อไอซ์นี่คือคนที่มึงบอกว่าชอบน้องปะวะ” ป่าไม้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลขยับมาใกล้น้องชายตัวเองทันที



“อือ”



“นี่มันเริ่มจีบน้องแล้วเหรอวะ เล่นโทรหาเช้า กลางวัน เย็นเลย นี่ก่อนนอนโทรบอกฝันดีกันด้วยไหมวะเนี่ย” ป่าไม้ยกมือลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด “แล้วคือห่าอะไรโทรหาน้องตั้งแต่ตะวันขึ้นแบบนี้ โคตรจะพยายามเลยไอ้หมอนี่”



หินผาขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจปนหงุดหงิดในใจ สองวันมานี้เขาได้ยินชื่อรุ่นน้องปีหนึ่งคณะดุริยางค์คนนี้ตลอด เดี๋ยวโทรมาหาบ้าง เดี๋ยวแบงก์กับตั้มถามถึงบ้าง ได้ยินแต่ชื่อไอซ์จนหงุดหงิดใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าครอบครัวเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์หรือยังไง ขยันโทรหาสายน้ำเป็นว่าเล่น วันละไม่ต่ำกว่าสองสามรอบแม้แต่ละรอบจะพูดคุยกันไม่กี่นาทีก็ตาม



คนเป็นเพื่อนกันเขาโทรหากันบ่อยขนาดนี้เลยหรือยังไง



แค่ได้ยินชื่อไม่ว่าจะออกจากปากของสายน้ำหรือใคร ๆ ก็ตาม หินผาก็มักจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งไป น่ารำคาญไปหมด แต่ก็เพราะสถานะที่เป็นอยู่จะให้แสดงออกมากก็ไม่ได้เพราะยังไม่มีสิทธิขนาดนั้น



“มึงน่ะ จะทำอะไรก็รีบทำ มัวแต่ชักช้าเกิดน้องเผลอใจไปชอบไอ้เด็กนั้นขึ้นมาจะทำยังไง” ป่าไม้กระแซะน้องชายตัวเอง “นี่ขนาดไม่เจอหน้ามันยังขยันโทรหาแบบนี้ ถ้าเกิดกลับไปมหา’ลัย มันไม่เช้าถึงเย็นถึงเลยหรือยังไงกัน ยิ่งเป็นกลุ่มดาวเดือนกันด้วยแบบนี้อีก กิจกรรมที่ต้องทำด้วยกันก็มีอีกไม่น้อย โอกาสเจอกันก็บ่อย ๆ ไป ระวังนะมึง”



“วันนี้พี่พูดมากจังนะ” หินผาหันไปมองหน้าพี่ชายตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบ



ป่าไม้ไหวไหล่ “กูก็แค่พูดให้มึงคิด แต่มึงจะเชื่อไม่เชื่อกูก็แล้วแต่ จะไม่ทำอะไรเลยก็ได้ตามสบาย ถ้าน้องไปชอบคนอื่นก็ช่วยไม่ได้เหมือนกันจ้า”



“รู้แล้วน่า”



ป่าไม้ที่เห็นท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของน้องชายตัวเองก็ค่อย ๆ ขยับตัวเองออกมาไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ ที่นั่งมองมาทางพวกเขา ทันทีที่พ้นจากตัวหินผาคนเป็นพี่ชายอย่างป่าไม้ก็ยกมือปิดปากหัวเราะคิกคักชอบใจที่ไปป่วนน้องชายมาได้สำเร็จ ยกนิ้วโป้งให้ผู้ร่วมอุดมการณ์ทั้งหลายเป็นการบอกว่าแผนการสำเร็จไปได้ด้วยดี



ปั่นหัวน้องชายตัวดีได้แล้ว ทีนี้ก็รอดูกันต่อว่าหินผาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง แต่พอเห็นท่าทางหัวเหวี่ยงของน้องชายแล้วก็นึกอยากจะแกล้งต่อให้กระอัก นี่เขาไม่ได้เห็นเรื่องความรักของน้องชายเป็นเรื่องตลก แต่การได้แกล้งหินผาแบบนี้ก็เป็นความสุขเล็ก ๆ ของคนเป็นพี่เหมือนกัน



แต่มันก็เป็นการแกล้งเพื่อช่วยนะ คงไม่บาปเท่าไหร่หรอกเนอะ!



สายน้ำที่เพิ่งวางสายจากไอซ์ก็เดินกลับมาหาหินผาที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศที่แปลกไปของหินผา ดู... ถมึงทึงอย่างไรบอกไม่ถูก



“พี่หินผา” สายน้ำใช้เสียงนำไปก่อน กลัวว่าเดินเข้าไปนั่งเลยอีกฝ่ายจะหันมางับหัวเข้าให้



พอได้ยินเสียงของน้องคนที่ทำหน้าบูด คิ้มขมวดก็ผ่อนคลายลง บรรยากาศรอบ ๆ ตัวก็ดูเบาบางลงจนสายน้ำกล้าที่จะเดินมานั่งข้าง ๆ ตามเดิม “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมดูเครียด ๆ จังครับ”



“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” หินผาหันมาส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้กับสายน้ำ



“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้วล่ะครับ ได้นั่งดูวิวสวย ๆ อากาศดี ๆ แบบนี้ควรจะยิ้มมากกว่าทำหน้าเครียดนะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างดันมุมปากของตัวเองให้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม



“หึหึ ครับ ๆ ตามนั้นครับ” หินผาได้แต่หลุดยิ้มเมื่อเห็นท่าทางน่ารักของสายน้ำ นึกอยากจะจับเจ้าตัวมากอดให้แน่น ๆ ให้หายมันเขี้ยว



“ดีมากครับ” ยิ้มกว้างแบบที่ชอบยิ้มให้หินผาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ กลับไปให้อีกรอบ



“น่ามันเขี้ยวจริงเรา เป็นตัวมันเขี้ยวเหรอ” หินผาเอื้อมมือมาบีบแก้มน้องทั้งสองข้าง



สายน้ำได้แต่ร้องเสียงอู้อี้เพราะโดนแกล้ง ส่วนคนแกล้งก็หัวเราะชอบใจ ก่อนที่ทั้งสองคนจะหันไปตามเสียงเรียกชื่อ



“หินผา สายน้ำ ยิ้มหน่อยเร็วเดี๋ยวถ่ายรูปให้” เดียร์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาชูให้ดู



ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่หินผาจะยอมปล่อยแก้มน้องแล้วจึงหันกลับมาทางเดียร์ด้วยกันทั้งคู่ หินผายกมือกอดคอสายน้ำเอาไว้พร้อมกับยิ้มตอนที่เพื่อนสนิทเริ่มนับเลขเพื่อถ่ายรูป โดยมีภาพของท้องฟ้าที่ทอแสงสีทองยามเช้าและสีเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาพันธุ์เป็นฉากหลัง



พวกเขาทั้งสิบกว่าคนนั่งคุยนั่งเล่นกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพนักงานของรีสอร์ทยกถาดอาหารเช้ามาให้ พวกเขาเลือกที่จะนั่งกินมื้อเช้ากันอย่างชิล ๆ ที่ศาลาริมสระว่ายน้ำของบ้านพัก มื้อเช้าที่พนักงานยกมาให้มีทั้งข้าวต้มแล้วก็อเมริกันเบรคฟาสต์ให้เลือกกินกันอย่างจุใจ



เดียร์กับกันต์คอยถ่ายรูปบรรยากาศสนุกสนานของพวกเขาเอาไว้ตลอด มีทั้งแกล้งกัน เล่นกันเต็มไปหมด



“เดี๋ยวตอนกลางวันไปกินข้าวที่บ้านกันก่อนแล้วค่อยกลับ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะให้คนไปส่งพวกเราที่สนามบิน” ป่าไม้พูดระหว่างที่ทุกคนกำลังจัดการกับมื้อเช้าอยู่



“ต้องกลับแล้ว จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันนะครับ พอได้มาอยู่แบบนี้แล้วชักไม่อยากจะกลับเลย” ตั้มว่า นึกเสียดายว่าเวลาแห่งการพักผ่อนกำลังจะหมดลงแล้ว



“เอาไว้ปิดเทอมค่อยมากันใหม่ก็ได้ รอให้ว่าง ๆ กันทุกคนแล้วมากัน” หินผาหันไปพูดกับรุ่นน้อง



“ครับ น่าเสียดายที่รอบนี้เบลกับมะนาวไม่ว่างมาด้วย แต่ทั้งสองคนบอกถ้ามีรอบหน้าจะไม่พลาดแล้วแน่นอนครับ”



“เอาไว้รอบหน้าก็มากันอีก มาเยอะ ๆ แบบนี้สนุกดี” ป่าไม้ว่า



หลังจากจัดการมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเก็บของ เก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับในตอนบ่าย ในระหว่างนั้นก็มานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นจนสิบเอ็ดโมงกว่าพนักงานของรีสอร์ทก็มาช่วยยกกระเป๋าไปขึ้นรถให้ ส่วนพวกเขาทั้งหมดก็พากันไปที่บ้านของป่าไม้แล้วก็หินผา เพื่อร่วมมื้อกลางวันกับพ่อแม่ของทั้งคู่



“อ้าว แล้วไอ้หินไปไหนแล้วล่ะ” ทัชถามหาเพื่อนตัวเองหลังจากที่หันซ้ายหัวขวาแล้วไม่เจอ



ตอนนี้พวกเขามารวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านหินผากับป่าไม้ ผู้ใหญ่เจ้าของบ้านทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในห้องด้วย มีแต่พวกเขาทั้งหมด ตอนนี้ดูเหมือนว่าหินผาจะหายไปไหนอีกคนแล้วก็ไม่รู้



“น่าจะไปคุยกับพ่อแม่ละมั้ง เดี๋ยวมันก็คงมานั่นแหละ” ป่าไม้เป็นคนตอบข้อสงสัยของทัช ซึ่งเมื่อเจ้าตัวได้ยินคำตอบแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ



ทางฝั่งคนที่หายตัวออกมาจากกลุ่มก็กำลังเดินไปยังห้องทำงานของพ่อกับแม่ หินผายกมือขึ้นเคาะประตูสองสามทีก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างใน ผู้ใช้ห้องทั้งสองคนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กเดินเข้ามา



“ว่าไงลูก มีอะไรหรือเปล่า” คนเป็นแม่เอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูเคร่งขรึม จริงจังของลูกชาย



“ผมมีเรื่องอยากคุยกับพ่อกับแม่ครับ ผมรบกวนเวลาสักครู่” น้ำเสียงจริงจังผิดแปลกจากเดิมให้ทั้งคู่หันมองหน้ากัน



“ไหน... มีอะไรว่ามาสิ” คนเป็นพ่อลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งที่โซฟากลางห้อง แม่ของหินผาก็เช่นกัน



หินผาเดินเข้าไปใกล้แต่เขาเลือกที่จะนั่งบนพื้นแทนโซฟา เรียกสายตางุนงงจากบุพการีทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี



“มีอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมไม่มานั่งข้างบนนี่ล่ะ”



“ผมมีเรื่องอยากพ่อกับแม่ครับ” หินผามองทั้งสองคนด้วยสายตาจริงจัง “ผมรู้ว่าเรื่องที่ผมจะบอกพ่อกับแม่นี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจแล้วก็อาจจะยอมรับยาก แต่ผมก็ไม่อยากโกหกหรือปิดบังพ่อกับแม่ ไม่อยากปล่อยให้เวลามันผ่านไปโดยไม่ทำอะไร”



“เรื่องอะไรลูก ทำไมดูซีเรียสขนาดนั้นเลยล่ะ” คนเป็นแม่หัวใจของเริ่มเต้นแรงเพราะไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองจะพูดเรื่องอะไร



“พ่อครับ แม่ครับ” หินผามองหน้าท่านทั้งสองคนด้วยสายตาที่แน่วแน่และจริงจัง “ผมรักสายน้ำครับ ผมรักน้องอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักใครสักคนได้... รักแบบที่ไม่ใช่พี่ชายรักน้อง”



พ่อกับแม่ดวงตาเบิกกว้างขึ้นคล้ายกับว่ากำลังตกใจในสิ่งที่กำลังได้ยิน หินผาไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันอาจจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วินาที แต่มันนานในความรู้สึกของเขากว่าที่พ่อจะหาเสียงของตัวเองเจอ “แกหมายความว่า... แก...”



“ครับ ผมรักน้อง รักแบบคนรักครับ” หินผายืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น



“เดี๋ยวนะลูก... ขอเวลาแม่นิดหนึ่ง”



“ผมรู้ครับว่ามันยอมรับยาก ผมรู้ว่าพ่อกับแม่คงจะผิดหวังกับสิ่งที่ผมเป็น...” หินผาเงยหน้ามองท่านทั้งสอง “แต่ผมก็ไม่อยากปิดบังพ่อกับแม่ ไม่อยากซ่อนความรู้สึกตัวเองกับคนที่ผมรักอย่างพ่อกับแม่ ไม่อยากโกหก ไม่อยากหลอกลวง”



“ที่จริง... ผมรู้ตัวเองมานานแล้วว่าผมเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบผู้หญิงเลย ยังไงดี... ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องเพศ แต่ผมก็ไม่เคยบอกพ่อกับแม่ อาจจะเพราะว่าคนที่ผมคุย ที่ผมคบที่ผ่านมา ไม่มีใครที่ทำให้ผมจริงจังมากขนาดที่จะมองไปถึงอนาคตข้างหน้า แต่พอเป็นน้องน้ำ ผมไม่ได้มองแค่ว่าตอนนี้ผมชอบเขา แต่ผมมองไปไกล มองไปถึงอนาคตอีกห้าปี สิบปี ยี่สิบปีข้างหน้า”



“เมื่อผมคิดและจริงจังขนาดนี้แล้วผมก็เลยไม่อยากที่จะปิดบังพ่อกับแม่อีก ผมรู้ว่ามันค่อนข้างที่จะทำใจยอมรับยาก แต่อย่างที่ผมบอกไป ผมไม่อยากปิดพ่อกับแม่ ผมเลยเข้ามาบอกพ่อกับแม่ครับ”



“บอกแม่ได้ไหม... มันเกิดขึ้นได้ยังไงลูก”



“ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือเกิดขึ้นตอนไหน” หินผาตอบคำถามของแม่ “มันอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยตอนที่ผมกับน้องยังเป็นเด็กก็ได้ เพียงแค่ตอนนั้นผมไม่รู้และไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ผมคิดแค่ว่าผมชอบเล่นกับน้อง ชอบอยู่กับน้อง อยากปกป้องน้องแค่นั้น”



“ตอนน้องย้ายไปผมเองก็ทั้งเหงา ทั้งเศร้า แต่อาจจะเพราะว่าผมยังเด็กความรู้สึกเหล่านั้นเลยอยู่ไม่นาน แต่พอผมเริ่มโตขึ้น... ผมเริ่มคิดถึงน้องมากขึ้น มองหาน้องตลอดเวลา จนกระทั่งผมได้เจอน้องอีกครั้ง ความรู้สึกที่ผมไม่แน่ใจมาตลอดก็เริ่มชัดขึ้นครับ”



หินผายิ้มยามที่นึกถึงสายน้ำและเล่าเรื่องของอีกฝ่าย “ที่ผมคิดถึง ที่ผมอยากเจอน้องมาตลอด อาจจะเป็นเพราะผมหลงรักน้องมาตลอดก็ได้ครับ”



“แกมั่นใจความรู้สึกตัวเองแล้วใช่ไหม ว่ามันใช่อย่างที่แกพูดจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพราะความใกล้ชิดที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง” พ่อของหินผาถามออกมาหลังจากที่เงียบไปสักพัก



“ครับพ่อ ผมมั่นใจ” หินผายังคงยืนยันหนักแน่นในความรู้สีกของตัวเอง



บุพการีทั้งสองหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่พ่อจะพยักหน้าเป็นเชิงให้แม่เป็นคนพูด “แม่ยอมรับว่าแม่ค่อนข้างตกใจที่ลูกมาบอกแบบนี้”



“แม่ครับ...”



“แต่แม่ก็ดีใจที่ลูกซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ไม่โกหกพ่อกับแม่ ไม่โกหกตัวเอง” แม่ของหินผายื่นมือมาตรงหน้า ก่อนจะจับมือของหินผาที่ยืนมาเอาไว้ “พ่อกับแม่ย่อมตกใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อกับแม่ยอมรับไม่ได้”



“แม่รู้ดีว่าแม่ไม่สามารถบังคับ หรือฝืนใจลูกได้ ไม่ใช่เพราะแม่ตามใจลูก แต่เพราะแม่เชื่อมั่นในการตัดสินใจของลูก ในทุก ๆ ครั้ง ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ แม่รักและเคารพการตัดสินใจของลูกนะหิน รวมถึงเรื่องนี้ด้วย”



“อย่างที่แม่เขาพูดนั่นแหละ พ่อดีใจที่แกยอมรับและสารภาพออกมาตรง ๆ ไม่โกหกหรือปิดบังกัน นั่นมันทำให้พ่อเห็นว่าแกตัดสินใจดีแล้ว และมั่นใจแล้วในสิ่งที่แกพูด พ่อไม่ห้าม แต่ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ขอให้แกคิดเอาไว้ว่ามันเกิดจากสิ่งที่แกเลือกเอง เข้าใจนะ”



“พ่อครับ แม่ครับ” หินผายกมือไหว้ทั้งคู่ “ขอบคุณนะครับที่ยอมรับผมในสิ่งที่ผมรู้สึก”



“แล้วทำไมไม่พาน้องมาคุยกับพ่อกับแม่ด้วยกันเลยล่ะ” แม่ถามไปถึงสายน้ำที่ไม่ได้มานั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยกัน



“จริง ๆ แล้วผมกับน้องยังไม่ได้คบกันครับ” คำตอบของหินผาสร้างความแปลกใจให้กับทั้งสองคน



“ยังไงกันเรา”



หินผาหัวเราะก่อนจะอธิบายให้ทั้งสองเข้าใจ “ผมอยากคุยกับพ่อกับแม่ให้เข้าใจก่อนน่ะครับ แล้วถึงค่อยไปคุยกับน้อง เอาจริง ๆ ... ผมก็ยังไม่ได้บอกชอบน้องอย่างจริงจังเลย แต่เพราะผมอยากให้พ่อกับแม่เข้าใจผมก่อน ยอมรับผมได้ก่อน ผมถึงจะคุยกับน้องอีกที”



จริง ๆ แล้วนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หินผายังไม่บอกความรู้สึกของตัวเองกับสายน้ำ เพราะเขาอยากให้ครอบครัวของเขายอมรับได้ก่อน เขาไม่อยากให้น้องต้องมารู้สึกกดดันหรือเป็นกังวลไปด้วย ตลอดที่ผ่านมาเขาถึงยังไม่ได้ทำอะไรจริงจังสักที



“แล้วถ้าเกิดพ่อกับแม่ไม่ยอมรับขึ้นมาแกจะทำยังไง ไม่คบกับน้องเขาเรอะ!”



“ไม่หรอกครับ ผมรักน้องเกินกว่าจะยอมปล่อยน้องไปได้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะคบกับน้อง แต่ผมก็ต้องทำให้พ่อกับแม่ยอมรับให้ได้ก่อนเหมือนกัน”



“แล้วนี่ป่าไม้รู้เรื่องหรือยัง”



หินผาพยักหน้ารับ “รู้แล้วครับ พี่ป่ารู้ว่าผมคิดยังไงกับน้องก่อนที่ผมจะรู้ใจตัวเองอีกครับ จริง ๆ แล้วถ้าไม่ได้พี่ป่า ผมอาจจะยังไม่รู้ว่าน้องคือน้องสายน้ำ ไม่รู้ว่าผมคิดยังไงกับน้องก็ได้ครับ”



“เรามันตาถั่ว!” โดนคนเป็นแม่ว่าทันที “ขนาดแม่กับพ่อเห็นน้องครั้งแรกยังรู้เลยว่าเป็นน้อง”



“ผมคงจะตาถั่วอย่างที่แม่ว่าจริง ๆ นั่นแหละครับ” หินผาหัวเราะ



“แล้วยังไงต่อ เราจะขอน้องคบเลยไหม หรือยังไง”



“อาจจะอีกระยะครับ ผมอยากทำอะไรบางอย่างให้น้องมั่นใจก่อนว่าผมเองก็ชอบน้องเหมือนกัน แล้วถึงค่อยขอน้องคบครับ แล้วผมจะพาน้องมาหาพ่อกับแม่อีกรอบ ในอีกสถานะหนึ่งครับ”



หินผานั่งคุยกับพ่อแม่ต่ออีกพักก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดีทั้งสามคนจึงพากันเดินออกมาจากห้องทำงาน เดินไปชักชวนเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องของลูกชายคนเล็กไปกินข้าวที่ห้องอาหารกัน อาหารพื้นเมืองหน้าตาน่าทานวางเรียงอยู่เต็มโต๊ะ พูดคุยกันอย่างสนุกสนานในระหว่างมื้ออาหาร



เป็นอีกมื้อที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วก็เสียงหัวเราะ จนกระทั่งได้เวลาที่จะต้องเดินทาง พวกเขาทั้งหมดก็พากันเดินมาขึ้นรถโดยมีพ่อกับแม่ตามมาส่งที่หน้าบ้านด้วย ทุกคนยกมือไหว้ เอ่ยลา และขอบคุณสำหรับที่พักและอาหารตลอดระยะเวลาที่มาอยู่ที่นี่



“เอาไว้แวะกันมาอีกนะเด็ก ๆ เดี๋ยวแม่จองห้องเดิมเอาไว้ให้พักเลย”



“ขอบคุณนะคะ เอาไว้พวกหนูจะมาใหม่นะคะ” ใยไหมเป็นตัวแทนพูดกับแม่ของเพื่อน ล่ำลากันอยู่ไม่นานก็เดินไปขึ้นรถ เหลือเพียงป่าไม้ หินผาแล้วก็สายน้ำที่ยังยืนอยู่ที่เดิม



“พ่อกับแม่ก็อย่าโหมทำงานหนักนักนะครับ พักผ่อนกันเยอะ ๆ ด้วย” ป่าไม้พูดกับทั้งสองคนก่อนจะเดินเข้าไปกอดทั้งคู่



“เราเองก็ตั้งใจทำงาน แล้วก็หาสะใภ้มาให้พ่อกับแม่ได้แล้ว”



ป่าไม้หัวเราะ พยักหน้ารับกับคำขอของคนเป็นแม่ “จะพยายามนะครับ ถ้าหาไม่ได้เดี๋ยวผมเอาน้องน้ำมาเป็นสะใภ้ให้แม่ก่อนนะ โอ๊ย!”



คนทะเล้นโดนแม่ตีไปที ไหนจะโดนน้องชายเตะขาเข้าให้อีกคน “พูดไปเรื่อยเลยเรา!”



“ขอโทษคร้าบ” ป่าไม้ว่าพลางหัวเราะ ส่วนคนโดนพาดพิงอย่างสายน้ำก็ได้แต่ยิ้มแหย ปั้นสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว



“น้องน้ำก็ด้วยนะลูก แวะมาหาแม่กับพ่อบ่อย ๆ นะ”



“อะ... ครับ ได้ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ แม้จะชะงักไปเล็กน้อยกับคำเรียกแทนตัวของทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ไม่อยากจะคิดไปเองมากนัก อาจจะเป็นเพราะทั้งสองชินเวลาพูดกับเพื่อน ๆ ของป่าไม้แล้วก็หินผา เพราะทั้งสองท่านก็แทนตัวเองว่าพ่อกับแม่



“เราก็พาน้องมาหาพ่อกับแม่ด้วยนะ” คราวนี้แม่หันไปพูดกับลูกชายคนเล็กบ้าง



“ครับ ได้ครับ”



“รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเครื่อง” คนเป็นพ่อเป็นฝ่ายจบการสนทนาเพราะเกรงว่าพวกลูก ๆ จะไปไม่ทันขึ้นเครื่องบิน



“ครับ อย่างนั้นผมไปนะครับพ่อ แม่ สวัสดีครับ” ป่าไม้ยกมือไหว้ลาทั้งสอง



“ไปนะครับ พ่อกับแม่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ เอาไว้ว่าง ๆ ผมจะรีบกลับบ้าน” หินผาเดินเข้าไปกอดทั้งสองคนก่อนจะยกมือไหว้



“สวัสดีครับ ผมจะเกาะพี่หินผากับพี่ป่าไม้มาเยี่ยมอีกนะครับ” สายน้ำเองก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน



“จ๊ะลูก แล้วเจอกันใหม่นะ”



ทั้งสามคนยกมือไหว้ลาอีกรอบก่อนจะพากันเดินไปที่รถตู่ที่จอดรถอยู่ สายน้ำหันไปมองนอกหน้าต่างรถตอนที่รถเคลื่อนตัวออกมา เจ้าตัวถอนหายใจอย่างนึกเสียดายที่ต้องกลับแล้ว



“เป็นอะไรเรา ถอนหายใจทำไม” หินผาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเสียงถอนหายใจของน้องก็ถามออกมา



“ผมแค่เสียดายน่ะครับที่ต้องกลับแล้ว”



“เอาไว้พี่พามาใหม่ไง พ่อกับแม่ก็บอกอยู่ว่าให้มาหาอีก เอาไว้หยุดยาวครั้งหน้า หรือมีอาทิตย์ไหนว่าง ๆ พี่จะหามาอีก ดีไหม” หินผายกมือวางบนผมของน้องแล้วจับโยกไปมา



“ครับ ดีครับ” สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง “พี่ต้องพาผมมาอีกนะ”



“แน่อยู่เลย”



“สัญญานะครับ”



หินผาหัวเราะเมื่อเห็นนิ้วก้อยของสายน้ำยื่นมาตรงหน้า “สัญญาเลย”



เขายื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับน้องพร้อมเอ่ยคำสัญญา “พี่จะพาเรากลับมาบ้านด้วยกันทุกครั้ง สัญญาเลย”








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

อ๋อออออออออออ
พี่เขามีเหตุผลของเขานะเออที่ยังไม่ยอมขอน้องเป็นแฟน
พี่เขารอคุยกับพ่อแม่ก่อน จะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลังเนอะ
ทีนี้ก็สบายใจละ ขอน้องเป็นแฟนได้แล้วจ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 09-12-2019 20:40:50
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 09-12-2019 20:46:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 09-12-2019 21:20:49
 o13 :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-12-2019 22:09:53
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ที่มัวแต่โอ้เอ้  เพราะเยี่ยงนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-12-2019 23:05:26
รอไปสู่ขอน้องตอนหน้านิ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-12-2019 00:28:53
ก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นนะ หลังจากนี้น้องคงต้องรับขนมจีบจากพี่เค้าบ่อยๆ แล้วล่ะ 555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 10-12-2019 02:20:50
โอ้โหพี่หินผาาาาาาาาาาาาาาา  :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-12-2019 04:41:17
เร็ว ๆ แล้วกันนะพี่หินผา ช้าไปน้องสายน้ำมีคนมาตัดหน้าก่อนไม่รู้ด้วย ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 10-12-2019 20:19:24
 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 12-12-2019 12:10:16
 :mew1:

น่ารัก หินผาน่ารักมาก

บอกพ่อแม่ก่อนที่จะจริงจังกับน้อง

เป็นแบบอย่างที่ดีมากจ้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 14-12-2019 21:17:38
(https://i.imgur.com/c40xYlD.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “15”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





ชั่วโมงเศษ ๆ บนเครื่องบินสิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังรอรับกระเป๋าของตัวเองอยู่ ใบบัวกับใยไหมมีรถของที่บ้านมารอรับกลับ ส่วนพวกหนุ่ม ๆ ที่เหลือก็เตรียมแบ่งกลุ่มไปขึ้นรถแท็กซี่ กันต์ เดียร์และทัชไปด้วยกันเพราะทั้งสามคนอยู่คอนโดเดียวกันอยู่แล้ว



“พวกพี่ก็ไปกันเลย เดี๋ยวผมไปส่งน้อง ๆ เอง” หินผาพูดกับพี่ชายของตัวเองที่ถามว่าจะกลับที่ไหน “ผมว่าจะกลับไปที่คอนโด”



“โอเค ตามนั้น ถ้ายังไงถึงห้องกันแล้วก็ไลน์บอกในกลุ่มกันด้วยนะ” ป่าไม้พยักหน้ารับ เจ้าตัวเดินไปขึ้นรถกับเพื่อนอีกสองคนคือดิวแล้วก็ไข่เจียว



ส่วนพวกเขาสี่คนหินผา สายน้ำ แบงก์และตั้มก็แยกมาขึ้นรถอีกคันหนึ่งเพื่อตรงไปยังคอนโดของน้อง ๆ ใช้เวลาบนรถอีกเกือบชั่วโมงก็มาถึงคอนโด หินผาจ่ายเงินค่ารถก่อนจะก้าวลงจากรถตามน้อง ๆ



“ขอบคุณมากนะครับพี่ ที่พาพวกผมไปเที่ยว”



“อย่างนั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ” แบงก์กับตั้มยกมือไหว้ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในคอนโด ปล่อยเพื่อนเอาไว้กับหินผา เพราะดูท่าแล้วคนพี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเพื่อนของเขา



“พี่หินผาจะกลับเลย... หรือว่าจะขึ้นไปบนห้องผมก่อนดีครับ” สายน้ำที่โดนเพื่อนทั้งสองคนทิ้งไปแล้วก็หันกลับมาถาม



“ไปห้องเราได้ไหม พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อย”



“ได้ครับ อย่างนั้นขึ้นไปกันเถอะ...”



“สายน้ำ!” ยังไม่ทันที่สายน้ำจะได้พูดจนจบประโยคเสียงเรียกชื่อเจ้าตัวก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เรียกความสนใจทั้งจากสายน้ำแล้วก็หินผาให้หันไปมองได้เป็นอย่างดี



“อ้าว... ไอซ์” สายน้ำร้องทักอย่างแปลกใจเมื่อเห็นอีกฝ่าย ผิดกลับหินผาที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับทันทีที่หันไปเห็นหน้า “ทำไมมาอยู่นี่ได้”



“เราแวะมาหา โชคดีจริงที่มาเจอน้ำพอดีเลย” ไอซ์ว่าพลางเดินยิ้มเข้ามาหา “ที่เราบอกไงว่าเราไปเที่ยวกับเพื่อนมาฉลองหลังสอบเสร็จ เพิ่งกลับมาเลยแวะเอาของฝากมาให้ ขนมเค้กร้านนี้เจ้าดังเลยนะ แน่นอนว่าไม่หวานเหมาะสำหรับน้ำแน่นอน”



สายน้ำหัวเราะกับคำโฆษณาชวนเชื่อของอีกฝ่าย “ขอบคุณมากนะ เราเองก็เพิ่งกลับมาถึงเหมือนกัน”



“ถึงได้บอกไงว่าโชคดี ดวงเรานี่สมพงษ์กันเหมือนกันนะ ถ้าไม่งั้นเราคงไม่มาทันเจอน้ำตอนนี้หรอก”



“ฮ่า ๆ ... เอ่อ... จริงสิ คือว่า พี่หินผาครับ นี่ไอซ์ครับเป็นเพื่อนที่อยู่ดุริยางค์ครับ รู้จักกันตอนประกวดดาวเดือน” สายน้ำแนะนำให้รู้จักกัน “ส่วนนี่พี่หินผา เป็น... เป็นรุ่นพี่ที่คณะเราเอง”



“อ่อ... สวัสดีครับ” ไอซ์ยกมือไหว้คนอายุมากกว่า



“อือ” หินผาเองก็พยักหน้ารับ แม้จะแอบรู้สึกขัดใจกับสถานะที่น้องแนะนำตัวเขากับคนตรงหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะระหว่างเขากับสายน้ำก็มีสถานะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันจริง ๆ นั่นแหละ



“น้ำมีธุระอะไรต่อไหม ว่างไหม ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ไอซ์หันมาชวน “ตามสัญญาของเราไง”



“อะ อ่า...” สายน้ำเหลือบมองคนอายุมากกว่าที่ตอนนี้หน้าตึงเสียจนสายน้ำนึกหวั่นในใจ ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำหน้าตึงแบบนี้ไปทำไม “ขอโทษทีนะ เราไม่ว่างน่ะ นัดกับพี่หินผาเอาไว้แล้ว เอาไว้คราวหน้านะ”



ไอซ์ทำหน้าเสียดาย แต่ก็พยักหน้ายอมรับ “โอเค ไม่เป็นอะไร เอาไว้คราวหน้าก็ได้”



“อือ”



“ขึ้นข้างบนกันเถอะ พี่เหนื่อยอยากพัก รู้สึกปวดหัว” หินผาหันมาพูดกับน้อง ทำให้สายน้ำละความสนใจจาไอซ์มาที่คนอายุมากกว่าทันที



สีหน้าเหนื่อย ๆ ของหินผาทำเอาสายน้ำเป็นห่วง เป็นกังวล “จะไม่สบายหรือเปล่าครับ เมื่อกี้ยังดูดี ๆ อยู่เลย ผมว่าเราขึ้นไปพักกันดีกว่าเดี๋ยวผมเอายาให้กินกันเอาไว้ก่อนเผื่อจะไม่สบายขึ้นมา”



“อือ”



“อย่างนั้นเราขอตัวก่อนนะไอซ์ ไว้คุยกันใหม่นะ” สายน้ำหันไปลาไอซ์อย่างรัวเร็วก่อนจะหันมาหาหินผา มือจับแขนของคนอายุมากกว่าแล้วพาเดินเข้าไปในคอนโด “ไปกันครับ ผมว่าพี่จะต้องไม่สบายแน่ ๆ เลยนะ เดินไหวใช่ไหมครับ”



“ไหว ไม่เป็นอะไรมาก” หินผาบอก ยกมือโอบไหล่น้องเอาไว้กลาย ๆ ระหว่างที่เดินเข้าไปรอลิฟต์



ก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรแบบนี้หรอก แต่ของแบบนี้ก็ต้องแสดงออกกันบ้าง ใครบางคนจะได้รู้ว่าตัวเองไม่สิทธิ เพราะคนคนนี้เป็นของเขา



สายน้ำกึ่งจับกึ่งประคองหินผามาที่ห้องของตัวเองโดยไม่รู้เลยว่าโดนคนเป็นพี่แกล้งหลอกเข้าให้แล้ว พอเข้ามาในห้องได้ก็รีบพาหินผาไปนั่งพักที่โซฟาทันที เจ้าของห้องเดินไปรินน้ำ หยิบยามาส่งให้เสร็จสรรพ



“ขอบคุณครับ” หินผารับทั้งน้ำทั้งยามากิน



“เป็นยังไงบ้างครับ ไหวไหม พี่จะไปนอนพักก่อนไหม”



“ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวพี่นั่งพักตรงนี้แหละ”



“โอเคครับ พี่พักไปก่อนนะเดี๋ยวผมเอากระเป๋าเข้าไปเก็บก่อน” สายน้ำบอกพลางหยิบกระเป๋าเดินทางตัวเองมาถือเอาไว้ ไม่วายหันมามองคนพี่อีกรอบด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อหินผายิ้มให้เจ้าตัวก็ยิ้มออก เดินเอากระเป๋าไปเก็บในห้องจนเรียบร้อย



“ว่าแต่... พี่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผมใช่ไหมครับ” สายน้ำถามหลังจากที่เดินออกมาจากห้องนอน



“อือ มานั่งนี่สิ” หินผาตบแปะบนโซฟาข้างตัวเพื่อเรียกให้น้องมานั่งข้าง ๆ



“มีอะไรหรอครับ”



“ก่อนอื่น พี่ขอถามเราหน่อย เรากับไอซ์... เด็กคนเมื่อกี้น่ะเป็นอะไรกันเหรอ” แม้จะมั่นใจว่าไม่ได้คบกัน แต่หินผาก็อยากจะได้ยินจากปากของน้องเองอีกรอบ



สายน้ำทำหน้างงแต่ก็ยอมตอบคำถามแต่โดยดี “เป็นเพื่อนกันครับ แต่ก็ไม่ได้สนิทเท่าแบงก์กับตั้ม เพราะว่าเรียนกันคนละคณะครับ ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่”



“แล้ว... หมอนั่นจีบเราเหรอ”







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

งุ้ยยยย เอาแล้วจ้าา
พี่จ๋าจะทำยังไงดีอ่ะ เขาจีบน้องอ่ะ เขาจีบน้องงงง
ไม่ชอบสถานะรุ่นพี่รุ่นน้องแบบนี้ทำยังไงดีพี่จ๋า
ทำยังไงดี~~~~~
เอาใจช่วยพี่จ๋ากันด้วยน้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-12-2019 21:45:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-12-2019 22:04:34
รอฟังคำตอบด้วยคนซิ  :m12:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-12-2019 00:15:34
เอาแล้ววววววว ถามตรงประเด็นมาก 5555555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-12-2019 02:51:55
น้องฟางงงงงง สั้นอ่ะ :m20: มาตัดตอนแบบนี้ ค้างมากเลย ลุ้นว่าน้องจะตอบแบบไหน แล้วตัวพี่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดหรือเปล่า :ling1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 15-12-2019 16:52:53
ระวังคนอื่นจะเอาไปนะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-12-2019 00:13:41
เอาให้ชัดหน่อยยย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-12-2019 22:17:31
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [100%] l P.19 14-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 19-12-2019 14:47:18
น่ารักมาก ๆ ครับ รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 19-12-2019 21:42:05
(https://i.imgur.com/LdQsur4.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “16”







“แล้ว... หมอนั่นจีบเราเหรอ”



หินผามองหน้าน้องตอนที่ถามคำถามนั้นออกไป เขาไม่แน่ใจหรอกว่าสีหน้าของตัวเองเป็นอย่างไร ก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่ออกอาการมากจนเกินไปก็เท่านั้น



“ผมก็... ไม่รู้หรอกครับ อาจจะจีบหรืออาจจะไม่จีบก็ได้” สายน้ำตอบ



“ยังไงกันเรา”



“ก็ผมไม่ได้สนใจน่ะครับว่าเขาจะจีบผมไหม หรือเขาจะชอบผมหรือเปล่า เพราะไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ได้ชอบเขาอยู่ดีน่ะครับ”



“ทำไมล่ะ เขาไม่ดีตรงไหนเหรอ” หินผาถามต่อ เขาอยากรู้ความรู้สึกทั้งหมดของสายน้ำ



คนถูกถามส่ายหน้าไปมา “ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีหรอกครับ แต่ยังไงดีล่ะ ความรู้สึกของผมที่มีต่อไอซ์คือแค่เพื่อน แค่เพื่อนกันเท่านั้นน่ะครับ ให้ผมพัฒนาความรู้สึกต่อไป หรือให้ทำใจชอบเขาแบบแฟน แบบคนรักผมทำไม่ได้ เพราะผมวางเขาไว้ในฐานะเพื่อนเท่านั้นครับ”



“หรือเพราะจริง ๆ แล้วเรา... ไม่ได้ชอบผู้ชาย อย่างนั้นหรือเปล่า”



“อ่ะ... จริง ๆ ไม่เกี่ยวหรอกครับ” สายน้ำหลุบตาลงก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย “ผมเป็นคนให้อิสระเรื่องเพศครับ ผมไม่ได้คิดว่าผมจะต้องชอบผู้หญิงหรือชอบผู้ชาย ผมแค่คิดว่าผมชอบใครแค่นั้นครับ ไม่ได้มองถึงเพศสภาพของเขาเลย”



พอได้ยินคำตอบของสายน้ำคนถามคำถามอย่างหินผาก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “พี่ก็เหมือนกัน”



“ครับ?” ได้แต่ทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่หินผาพูดเมื่อครู่



“พี่หมายถึงว่าพี่เองก็ให้อิสระเรื่องเพศเหมือนกัน ถ้าความรู้สึกบอกว่าชอบ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เพศไหน พี่ก็ชอบโดยไม่สนเงื่อนไขอะไรอื่น ๆ” หินผาพูดพร้อมกับมองใบหน้าของน้องอย่างไม่ละสายตาไปไหน



สายตาที่หินผามองมาทำเอาสายน้ำรู้สึกเงอะงะไปหมด ไม่รู้ว่าจะวางสายตาไว้ตรงไหน มือทั้งสองข้างจะกำหรือแบ หรือจะวางไว้ตรงไหนดี ทั้ง ๆ ที่ร่างกายเป็นของเขาเอง แต่ทำไมเขาถึงไม่สามารถบังคับร่างกายของตัวเองได้เลย



“ค ครับ”



“พี่มีข้อเสียอยู่อย่าง พี่เป็นคนรู้ตัวช้า กว่าจะรู้ตัวว่าชอบเขาก็ใช้เวลาเสียตั้งนาน แต่ถ้าพี่มั่นใจว่าชอบแล้ว จริงจังแล้วพี่ก็จะทำทุกอย่างให้เขามั่นใจว่าพี่จริงจังกับเขาจริง ๆ”



“ครับ” สายน้ำได้แต่พยักหน้ารับอย่างไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไปดี เพราะเขาไม่รู้ว่าที่หินผาพูดนั้นต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่



“สรุปว่าเราไม่ได้ชอบไอซ์ใช่ไหม”



อยู่ ๆ หินผาก็เปลี่ยนคำถามเสียจนสายน้ำได้แต่ทำหน้างงแต่ก็พยักหน้ารับยืนยัน “ครับ ผมไม่ได้ชอบไอซ์ครับ”



“แล้วเราชอบพี่ไหม”



“ห๊ะ!” สายน้ำร้องออกมาอย่างตกใจ รู้สึกว่าร่างกายเงอะงะไปหมดทำอะไรไม่ถูก “พ พี่หมาย หมายถึง...”



“แต่พี่ชอบเรานะ” ยังไม่ทันที่สายน้ำจะได้พูดจบประโยค หินผาก็พูดออกมาอีกครั้งให้ลมหายใจของสายน้ำสะดุด จนเกือบจะลืมวิธีหายใจไปแล้ว



“พี่...”



“พี่รู้ว่ามันอาจจะเร็วไปหน่อย หรืออาจจะทำให้เราตกใจ แต่พี่ก็อยากจะบอกว่าพี่ชอบเรา” หินผามองเข้าไปในตาของน้อง เขาอยากให้สายน้ำเชื่อและมั่นใจในสิ่งที่เขาพูด



“ค คือผม... ม ไม่แน่ใจว่าพี่ห หมายถึงยังไง” ยากเหลือเกินกว่าจะพูดออกมาได้จนจบประโยค สายน้ำยังคงอึ้ง และตกใจกับสิ่งที่ได้ยินอยู่เลย ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินนั้นถูกต้องหรือไม่



หินผากระแอมไอก่อนจะพูดออกมาอีกครั้งให้สายน้ำเข้าใจ “พี่ชอบเรา ไม่ได้ชอบแบบพี่น้อง แต่แบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะชอบใครสักคนได้ พี่เชื่อว่าเราก็อาจจะพอรู้ความรู้สึกของพี่บ้าง”



“คือผม คือ... คือว่า” ใบหน้าหล่อเหลาของสายน้ำแดงก่ำไปหมด เจ้าตัวไม่รู้จะทำยังไงกับสถาการณ์ในตอนนี้ดี สุดท้ายก็หันไปหยิบหมอนอิงมากอดแล้วซุกหน้าลงไปแทนการมองคนตรงหน้า



หินผามองการกระทำของน้องอย่างตกใจก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา คนอายุมากกว่าย้ายตัวเองมานั่งข้างสายน้ำมือวางบนไหล่ของคนที่งอตัวซุกหน้ากับหมอนอิงจนอีกฝ่ายสะดุ้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองกัน



“สายน้ำ ไม่ซุกหน้าแบบนั้นเดี๋ยวหายใจไม่ออก เงยหน้าขึ้นมาก่อนเร็ว ลุกมาคุยกันก่อนสายน้ำ”



สายน้ำส่ายหน้าไปมา ตั้งมั่นแน่วแน่ว่าจะไม่เงยหน้าขึ้นแน่นอน คนพี่ได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางของน้อง แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะเกิดหายใจไม่ออกขึ้นมาเสียก่อนเลยต้องยื้อแย่งหมอนอิงใบที่สายน้ำซุกหน้าเอาไว้ออกมา พอไม่มีหมอนมาให้พักพิง สายน้ำก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ใบหน้าหล่อเหลาดีกรีถึงเดือนมหาวิทยาลัยแดงก่ำจนหาสีเดิมไม่เจอ



แต่สีหน้า ท่าทางของเดือนมหาวิทยาลัยตอนนี้ห่างไกลจากคำว่าหล่อมากทีเดียวในความรู้สึกของหินผา อีกฝ่ายดู... น่าเอ็นดูเป็นที่สุด



“สายน้ำเรามาคุยกันให้เข้าใจก่อน”



“คุยอะไรครับ...” สายน้ำพยายามที่จะไม่มองคนตรงหน้า แค่นี้หัวใจของเขาก็ทำงานหนักมากแล้ว



“เรารู้ใช่ไหมว่าพี่รู้สึกยังไงกับเรา” หินผาขยับตัวนั่งหันหน้าไปหาสายน้ำทั้งตัว แม้ว่าคู่สนทนาของเขาจะไม่หันมามองเขาเลยก็ตาม



“ผม... ไม่แน่ใจ” สายน้ำตอบกลับมาเสียงเบา “ไม่เชิงว่าไม่รู้แต่ผมไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ผมคิดมันถูก ผมแค่ไม่อยากคิดเอาเองว่าพี่... ช... ชอบผม หรือว่ารู้สึกยังไงกับผม”



“ถ้าอย่างนั้นเราก็มั่นใจได้แล้วว่าพี่ชอบเราจริง ๆ เราจะได้ไม่ต้องกลัวแล้วก็กังวลไปเองอีก” เสียงทุ้มน่าฟังของหินผาทำเอาหัวใจของสายน้ำสั่นไหวอย่างรุนแรง “แล้วเราล่ะ รู้สึกยังไงกับพี่”



“ผม...”



“พี่ไม่ได้บังคับให้เราตอบรับความรู้สึกของพี่นะ แต่ถ้าหากเราไม่ได้ชอบพี่อย่างที่พี่ชอบเรา ให้โอกาสพี่ได้ไหม ให้โอกาสพี่ได้ลองพยายามสักครั้ง”



“ล แล้วถ้าผม... ม ไม่ได้ชอบพี่...”



หินผายิ้มให้ “ถ้าพี่ได้ลองพยายามแล้ว สุดท้ายแล้วเรายังไม่ชอบพี่ พี่ก็จะไม่เรียกร้องอะไร พี่จะเป็นพี่หินผาของน้องสายน้ำตลอดไป แต่ถ้าเกิดว่าเราชอบพี่... ช่วยเป็น...”



“เป็นแฟนกับผมนะ!” สายน้ำพูดแทรกขึ้นมาเสียงดัง



“เดี๋ยว... เราว่ายังไงนะ” หินผาถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกหรือเปล่า



“ผ ผมป เปล่าพูด” ส่ายหน้าปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร ที่พูดออกไปเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เสียงเบา ๆ ทำไมอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน



“โกหก” เคาะจมูกเด็กขี้โกหกไปที “พี่ได้ยินอยู่”



“แล้วพี่จะถามย้ำทำไมล่ะครับ...”



“ก็ไม่แน่ใจ กลัวว่าจะฟังผิดไปเลยถามย้ำให้แน่ใจอีกรอบว่าเรา... ขอพี่เป็นแฟนจริง ๆ หรือเปล่า” หินผายิ้ม มองคนขี้เขินอย่างชอบใจ เขาเขย่ามือของน้องเล่นอย่างเรียกร้องความสนใจ “ว่ายังไง ขอพี่เป็นแฟนจริงหรือเปล่า”



สายน้ำได้แต่เม้มปากอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี สุดท้ายก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง รวบรวมความกล้าในการพูดอีกครั้ง “ครับ... ผมขอพี่เป็นแฟน”



“หึหึ เจ้าเด็กน่ารัก” หินผาหัวเราะขำ เอ็นดูคนน้องสุดใจจนต้องคว้าอีกฝ่ายมากอดเอาไว้ ใครจะไปคิดว่าเจ้าเด็กขี้เขินคนนี้จะโผลงขอเขาเป็นแฟนออกมาแบบนั้น



หินผารับรู้ว่าสายน้ำคิดกับเขาอย่างไร อาจจะเพราะพอรู้ว่าตัวเองก็ชอบน้อง สายตาของหินผาเลยจับจ้องอยู่ที่น้องเกือบตลอดเวลา และสายตาของสายน้ำเวลาที่มองมาที่เขาก็ไม่ต่างจากสายตาของเขาตอนมองไปที่สายน้ำเลย สายตาของคนที่บอกว่ารัก...



ถึงจะมั่นใจว่าสายน้ำเองก็คิดอย่างเดียวกับเขา แต่หินผาก็ไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นขนาดนั้น เขายังเผื่อใจเอาไว้ ถ้าหากว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าหากคำตอบของสายน้ำบอกว่าไม่ได้ชอบ เขาก็พร้อมที่จะพยายาม เผื่อทำทุกวิถีทางให้น้องชอบเขา และสุดท้ายแล้ว... ไม่ว่าคำตอบของน้องจะเป็นอย่างไรเขาก็ยินดีที่จะรับทุกสถานะของเขากับสายน้ำ



แต่ใครจะไปคิด... ว่าสายน้ำจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาเอง



“ล แล้วคำตอบ...” ได้แต่พูดเสียงอู้อี้เพราะเขิน แถมยังโดนคนพี่กอดเอาไว้แน่นอีก



“พี่ชอบเราขนาดนี้ จะไม่ให้ตกลงเป็นแฟนได้ยังไง” หินผาตอบคำถามของน้อง “เราเป็นแฟนกันนะ”




พอหินผาตอบแบบนั้นสายน้ำก็ลุกพรวดแล้วเดินหนีเข้าห้องนอนทันที โดยมีหินผามองไปอย่างตกใจแต่เพราะใบหูแดง ๆ ของสายน้ำก็พอบอกได้ว่าเจ้าตัวหนีเพราะเขิน เขาหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปอยู่หน้าประตูห้องนอน



“สายน้ำ” หินผาเคาะประตูเรียกคนข้างใน “ออกมาคุยกันก่อนเร็ว เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ”



“...” ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากคนในห้อง



“สายน้ำ ทำไมอยู่ ๆ ก็เดินหนีมาแบบนี้ล่ะเรา” ถามด้วยน้ำเสียงกลั้นหัวเราะ เพราะก็พอจะรู้อยู่ว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงได้เดินหนีมาแบบนี้ “เจ้าเด็กขี้เขิน”



“...” ยังคงไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมา แต่หินผาได้ยินเสียงกุกกักจากอีกฝั่งของประตู คิดว่าคนที่เดินหนีเข้าห้องนอนมาคงจะเดินมายืนอยู่หน้าประตู



“ถ้ายังไม่ออกมาพี่จะกลับแล้วนะ” หินผาเคาะประตูอีกรอบ “สายน้ำ... แฟนครับ”



“พี่หินผา” อีกฝ่ายร้องออกมาเหมือนตกใจกับคำที่ได้ยิน



“ตกใจอะไรของเรา” หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูคนหลังประตู “ก็เราขอพี่เป็นแฟนเองไม่ใช่เหรอ พี่ก็ตอบตกลงไปแล้ว เรียกว่าแฟนผิดตรงไหนกัน”



“ก็รู้อยู่ว่าผมเขิน... ยังจะแกล้งผมอีก” สายน้ำยอมพูดออกมาตรง ๆ ให้หินผาหัวเราะอีกรอบ



“เจ้าเด็กขี้เขิน ออกมาเร็ว”



คราวนี้ประตูห้องนอนค่อย ๆ แง้มเปิดออกทีละนิดก่อนที่หินผาจะเห็นแฟนหมาด ๆ ของตัวเองยืนหน้าแดงอยู่หลังบานประตู คนอายุมากกว่าเอื้อมมือไปจับข้อมือก่อนจะดึงรั้งให้อีกฝ่ายเดินตามออกมานั่งที่โซฟาตามเดิม



“ยิ้มอะไรครับ” สายน้ำถาม เขายังไม่กล้ามองหน้าหินผาตรง ๆ เลยตั้งแต่เดินออกจากห้องนอนมา ได้แต่เสตามองตรงนู้นบ้าง ตรงนี้บ้างไปทั่วห้อง ยกเว้นแค่คนตรงหน้าที่วางสายตาเพื่อมองไม่ได้จริง ๆ



“ยิ้มเรานั่นแหละ” หินผาส่ายหน้า นึกขำทั้งตัวเอง แล้วก็น้องด้วย



“ทำไมครับ”



“ก็ขำน่ะสิ อยู่ ๆ ก็พูดขอพี่เป็นแฟน แล้วก็หนีพี่เข้าห้องนอนไปซะอย่างนั้น จะไม่ให้พี่ขำได้ยังไงกัน” เอื้อมมือมายีผมของสายน้ำซะจนยุ่งไปหมด แต่สาน้ำเองก็ไม่ได้เอ่ยห้ามอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายเล่มผมเขาไปอย่างนั้น



“ก็ผมเขิน”



“แล้วทำไมถึงกล้าขอพี่เป็นแฟน หือ” นี่ก็เป็นอีกข้อสงสัยหนึ่งของหินผาที่อยากจะได้คำตอบ



วันนี้... สิ่งที่หินผาตั้งความหวังเอาไว้ก็เพียงแค่ว่าสายน้ำรับฟังความรู้สึกของเขา แม้อาจจะยังไม่ตอบตกลงคบก็ไม่เป็นไร เขาก็จะตามจีบน้องต่อไปจนกว่าน้องจะตอบตกลง แต่ใครจะคิด... อยู่ ๆ สายน้ำก็ขอเขาเป็นแฟนเสียอย่างนั้น แถมยังเขินจัดจนหนีเข้าห้องนอนไปแบบนั้นอีก



“ก็...” สายน้ำเม้มปาก ระงับความเขินของตัวเอง พยายามที่จะควบคุมร่างกายของตัวเขาไม่ให้เขินจนระเบิดตัวเองไปก่อน “ผ ผม... ผมชอบพี่เหมือนกัน”



เสียงของสายน้ำเบาหวิวแต่เพราะอยู่ใกล้กันแค่นี้ ในห้องที่มีเพียงแค่พวกเขาสองคน ไม่มีเสียงอะไรรบกวนหินผาจึงได้ยินคำพูดของสายน้ำอย่างชัดเจน



“ผมไม่แน่ใจว่าความรู้สึกพี่ที่มีต่อผมคืออะไร ผมถึงไม่เคยพูด เพราะแค่ได้สนิทกับพี่อีกครั้งมันก็มากเกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้แล้ว”



“พอรู้ว่าพี่ก็รู้สึกกับเราแบบเดียวกันก็เลยขอพี่เป็นแฟนอย่างนั้นเหรอ”



สายน้ำพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ครับ ผมแค่... ไม่อยากช้าไปกว่านี้แล้ว เพราะที่ผ่านมามันช้าไปนานมากเลย”



“จริงของเรานะ มันช้าไปมากแล้ว ก็ไม่ควรช้าไปกว่านี้แล้วล่ะ” มือของหินผายังคงวางอยู่บนผมนุ่มของสายน้ำแล้วลูบไปมาอย่างเอ็นดู “ขอบคุณนะ”



“ครับ? เรื่องอะไรครับ”



“ขอบคุณที่เราชอบพี่ไง แล้วก็ขอบคุณที่ขอพี่เป็นแฟนด้วย”



“พี่อย่าแกล้ง”



หินผาหัวเราะเมื่อได้ยินน้องพูดแบบนั้น เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นเชิงบอกว่ายอมแพ้ เขาจะไม่แกล้งอีกฝ่ายแล้ว แต่ทดคำพูดเอาไว้ในใจว่าเฉพาะวันนี้เท่านั้น เพราะสายน้ำของเขา... น่าแกล้งเสียขนาดนั้น



“ป่านนี้แล้ว” หินผาหันไปดูเวลา “พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า เดินทางมาเหนื่อย ๆ เราจะได้พักผ่อน”



“ครับ” พออีกฝ่ายบอกจะกลับ สายน้ำก็รู้สึกใจหวิว ๆ ยังไม่อยากให้พี่รีบกลับ แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี อีกอย่างหนึ่งหินผาเองก็เหนื่อยจากการเดินทางมาเหมือนกัน แล้วแทนที่จะได้กลับไปพักเลยยังแวะมาส่งเขาก่อนอีก “พี่เองก็ต้องพักเหมือนกัน”



“อือ”



“เดี๋ยวผมลงไปส่งข้างล่างครับ”



สายน้ำเดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่คอนโดว่าต้องการเรียกรถแท็กซีเพื่อให้รปภ. ของคอนโดเรียกรถให้เข้ามารับด้านใน หลังจากแจ้งความต้องการเรียบร้อยทั้งสองคนก็เดินไปยืนรอรถอยู่ตรงประตู



“เราก็รีบพักผ่อนล่ะ พรุ่งนี้มีเรียนหรือเปล่า”



“มีครับ ตอนเช้าเลยด้วย แล้วพี่ล่ะ”



“พี่มีตอนบ่ายอย่างเดียว” หินผาตอบหลังจากเคลื่อนโทรศัพท์เพื่อหาดูเวลาเรียนในวันรุ่งขึ้น “รถมาแล้ว อย่างนั้นพี่ไปแล้วนะ”



“พี่หินผาครับ!” สายน้ำเรียอีกฝ่ายตอนที่กำลังจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ



“หือ...”



“ฝันดีนะครับคืนนี้ พักผ่อนเยอะ ๆ ครับ แล้วก็... ถึงห้องแล้วบอกผมด้วยนะครับ”



“ครับ ถึงแล้วเดี๋ยวพี่โทรหาอีกที”



หินผาขึ้นรถออกไปแล้วโดยมีสายน้ำยืนส่งจนรถแท็กซีที่อีกฝ่ายนั่งเลี้ยวออกจากคอนโดไปถึงได้เดินกลับขึ้นไปบนห้อง สายน้ำพุ่งตรงไปยังโซฟานอนคว่ำหน้าซุกกับหมอนอิงทันที แก้มที่หายร้อนไปก่อนหน้านี้ตอนนี้กลับมาแดงก่ำอีกครั้งแล้ว เพียงแค่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้



“แม่ครับ... น้ำหัวใจจะวายแล้วจริง ๆ”



“น้ำได้เป็นแฟนกับพี่หินผาแล้วครับแม่...”



“น้ำต้องฝันไปแน่ ๆ เลย”



เจ้าตัวได้แต่บ่นพึมพำอยู่กับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทุกอย่างมันคือเรื่องจริง แต่เพราะความเจ็บและรอยแดงบนแขนที่ลองหยิกดูเป็นของจริง นั่นก็พอทำให้สายน้ำเชื่อได้



ว่าตอนนี้ระหว่างเขากับหินผา...



ขยับความสัมพันธ์ขึ้นมาอีกหนึ่งขั้นแล้ว







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

OoO!!! เขาเป็นแฟนกันแล้วจ๊ะแม่จ๋า
เจ้าน้องขอพี่เป็นแฟนเองด้วย O M G!!!
เจ้าเด็กคนนี้นี่ ขอตีสักทีได้ไหม อยู่ ๆ ไปขอพี่เขาเป็นแฟนเฉย
ไม่รอให้พี่เขาจีบ เขาขอเป็นแฟนก่อนเลย
ฮึ่ม!!
มันน่าจริง ๆ เลย เจ้าเด็กขี้เขิน!!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 19-12-2019 22:03:26
 :-[ :-[เป็นแฟนกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-12-2019 22:35:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-12-2019 23:34:48
น้องน้ำาาาาา ทำไมไวไฟไปขอพี่เค้าเป็นแฟนก่อนล่ะลูก ใจร้อนจริงๆ  พี่เค้ากำลังจะขออยู่แล้วเชียว  o18

เค้าเป็นแฟนกันแล้ว บรรดากองเชียร์คงได้เฮกันสนั่นแน่  55555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-12-2019 23:41:56
เป็นแฟนกันแล้ว ก็เหลือโชว์ตัวและประกาศสถานะความเป็นแฟน  :m11:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-12-2019 06:21:00
ดี ๆ ไม่ต้องเสียเวลาจีบมาก ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-12-2019 23:16:24
จ้าาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [40%] l P.19 19-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-12-2019 06:43:39
5555 เจ้าเด็กน่ารัก กลัวไม่ทันพี่หรือไง ถึงรีบขนาดนั้น
เอ็นดูสายน้ำ พอรู้แล้วเขินหนักกว่าเดิม แต่อะไรไม่เท่า
ขอเค้าเป็นแฟนจ้า แล้วเดินหนีเข้าห้องเองด้วย

หินผาทำดี แต่ต้องให้กระตุ้นนะคนเรา ไม่งั้นก็เป็นเต่า
อยากกอด อยากหอมล่ะสิ แต่กลัวน้องตื่นกลัวนี้ 5555

ทีมกระตุ้นช่วยได้เยอะเลยค่ะ หินผาออกโรงคุยกับพ่อแม่
จนมากลับมาเจอเชื้อไฟ เป็นตัวเร่งได้ดีเลย

เค้าเป็นแฟนกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 25-12-2019 21:24:07
(https://i.imgur.com/LdQsur4.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “16”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





สายน้ำรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากและอาการประหม่าของเขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนจนเพื่อน ๆ ได้แต่ทักแล้วก็ถามด้วยความเป็นห่วง ยิ่งใกล้หมดคาบก็ยิ่งประหม่า เพราะพอหมดคาบเรียนนี้ก็จะเป็นช่วงพักกลางวันพอดี ซึ่งเมื่อเช้า แฟน ของเขาส่งข้อความมาบอกว่าจะแวะมากินข้าวด้วย เดี๋ยวรออยู่ที่โรงอาหาร



เพราะอย่างนั้นสายน้ำถึงได้มีอาการแบบนี้



จริง ๆ แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่สายน้ำจะได้เจอหินผาหลังจากเปลี่ยนสถานะกันเมื่อวันที่กลับมาจากเชียงใหม่ มันก็ผ่านมาสี่ ห้าวันได้แล้ว นั่นก็เป็นเพราะว่าตัวสายน้ำเองนี่แหละที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่พบ ไม่เจอหน้าหินผา แม้จะส่งข้อความคุยกันอยู่ก็ตาม ซึ่งหินผาก็ดูเหมือนจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมสายน้ำถึงไม่ยอมมาเจอ อีกฝ่ายเลยไม่เร่งรัด หรือบังคับให้มาเจอ ด้วยรู้ดีว่าน้องคงจะยังเขินอยู่เลยไม่อยากบังคับ



แต่ก็ทิ้งระยะให้แล้วถึงสี่วันด้วยกัน ตอนนี้คงถึงเวลาที่จะต้องเจอหน้ากันสักที หินผาถึงได้ส่งข้อความมาบอกตั้งแต่เช้าว่ากลางวันจะมาหา ไม่ปล่อยให้สายน้ำได้หลบหน้ากันอีก

“เป็นอะไรของมึงวะ ท่าทางหลุกหลิก ๆ มาตลอดคาบ” แบงก์หันมาถามหลังจากที่อาจารย์ผู้สอนเดินออกจากห้องไปแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังเก็บของเตรียไปกินข้าวกันก่อนจะขึ้นเรียนต่อในตอนบ่าย



“ค คือ... ก็เปล่า...” สายน้ำได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่รู้จะตอบเพื่อนอย่างไรดี เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับหินผาที่ขยับจากรุ่นพี่รุ่นน้อง มาเป็นแฟนกัน เขายังไม่ได้บอกให้ใครรู้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากบอก ไม่ได้อยากปิดบัง แต่เพราะเขายังรู้สึกเขินที่จะบอก เลยได้แต่เก็บเงียบเอาไว้ก่อน



“เชื่อก็แปลกแล้ว ท่าทางแบบนี้น่ะ” ตั้มส่ายหน้า ไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนพูดเลยสักนิดเดียว



“นั่นสิ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าน้ำ บอกพวกเรามาได้เลยนะ” มะนาวเองก็รับรู้ถึงอาการแปลก ๆ ของเพื่อนคนนี้



“คือ... จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไร ค แค่... เดี๋ยวตอนกลางวันพี่... หินผา มากินข้าวด้วย...”



“โถ่... เรื่องแค่นี้เอง แล้วจะหลุกหลิกทำไมกัน” เบลว่า “ปกติพวกพี่เขาก็มากินข้าวกับพวกเราบ่อยอยู่แล้วนี่”



“ใช่ ๆ แต่ก็หายไปสามสี่วันเหมือนกันนะ แล้วเราจะลุกลี้ลุกลนทำไมล่ะ มีปัญหาอะไรกับพี่หินผาหรือเปล่า” มะนาวพูดก่อนจะหันไปถามสายน้ำต่อเพราะเธอยังไม่เห็นถึงสาเหตุที่จะทำให้สายน้ำดูเป็นกังวลแล้วก็มีท่าทางแปลก ๆ เลย



สายน้ำรีบส่ายหน้าทันที “ไม่ได้มีปัญหาอะไร คือ... เฮ้อ... เดี๋ยวเราบอกทีเดียวละกัน ไปกันก่อนเถอะ”



“อือ ๆ” เพื่อน ๆ พากันพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนเพื่อตรงไปยังโรงอาหาร



พวกเขาทั้งห้าคนกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหารุ่นพี่ปีสี่ก่อนที่แบงก์จะสะกิดเรียกทุกคนเมื่อเจอตำแหน่งโต๊ะของรุ่นพี่ที่โบกไม้โบกมือมาให้



“สวัสดีค่ะ / ครับ” พวกเขาพากันยกมือไหว้สวัสดีรุ่นพี่ทั้งสามคน



“สวัสดีเด็ก ๆ นั่งก่อน ๆ เป็นไงบ้างเรียนมาเหนื่อยไหม” เดียร์เอ่ยทักทาย พลางขยับที่ให้รุ่นน้องนั่งร่วมโต๊ะ



“เหนื่อยดีครับ” ตั้มพูดพร้อมกับหัวเราะ



“แล้วสองสาวได้ของฝากจากเชียงใหม่ที่พวกพี่ ๆ ฝากมาให้หรือยัง” ทัชหันไปถามเบลกับมะนาวบ้าง



“ได้แล้วค่า ขอบคุณมากนะคะ” ทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณอีกรอบ “เสียดายที่หนูกับมะนาวไม่ได้ไปด้วย เห็นรูปที่พวกนี้ถ่ายมาแล้วสวยมาก ๆ ๆ ๆ อยากไปสุด ๆ เลยค่ะ”



“ใช่ค่ะ ยิ่งที่สวนดอกไม้ยิ่งสวย บ้านพักที่ไปพักกันก็สวย”



“เอาไว้คราวหน้าไปกันใหม่ คราวนี้ไปให้ครบเลยนะ”



“คราวหน้าพวกหนูไม่พลาดแน่นอนค่า”



“ไปซื้ออะไรมากินกันก่อนเถอะ จะได้มานั่งกินข้าวกัน” เดียร์พูดก่อนจะหันไปฝากทัชซื้อข้าวให้ส่วนตัวเองอาสานั่งเฝ้าโต๊ะไว้ให้



“น้ำอยากกินอะไร” หินผาหันไปถามคนที่นั่งเงียบยังไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่มาถึง



“อ่ะ... ค คือ...” สายน้ำสะดุ้งเพราะไม่ทันตั้งตัว



“ตกใจอะไรของเรา” หินผายิ้มกับท่าทางตลก ๆ นั้นยกมือขึ้นลูบผมของน้องอย่างที่ชอบทำโดยไม่ได้สนใจสายตาล้อเลียนของเพื่อนทั้งสองคน แล้วก็สายตาสงสัยใคร่รู้ของน้อง ๆ



แต่ไม่ใช่กับสายน้ำที่เจ้าตัวรับรู้ถึงสายตาของทุกคนได้เป็นอย่างดี เลยได้แต่นั่งกอดกระเป๋าก้มหน้างุด



“เจ้าเด็กขี้เขิน” หินผาขำ บีบแก้มน้องอย่างมันเขี้ยวปนเอ็นดู “ให้เวลาตั้งสี่ห้าวันยังไม่หายเขินอีกเหรอเรา”



“ฮื่อ...” สายน้ำส่ายหน้าไปมา ไม่ยอมตอบ



“มึงก็เลิกแกล้งแฟนมึงแล้วไปซื้อข้าวมากินได้แล้ว!” ทัชพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่คำที่ใช้เรียกที่บ่งบอกถึงสถานะของทั้งคู่นั้นสร้างความตกใจให้กับเพื่อนของสายน้ำได้เป็นอย่างดีจนทั้งสี่คนร้องออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ



“แฟน!”



“อ้าว ยังไม่รู้กันเหรอ” เดียร์ทำหน้างงเมื่อเห็นท่าทางของรุ่นน้อง



ทั้งสี่คนพากันส่ายหน้าอย่างพร้อมเพียง “ยังไม่รู้ค่ะ”



“อ่อ... ที่ทำท่าลุกลี้ลุกลนเมื่อบนห้องเพราะเรื่องนี้เองน่ะเหรอ” แบงก์หันไปถามเพื่อนที่ยังนั่งซุกหน้ากับกระเป๋าอยู่ข้าง ๆ หินผา



“ไปซื้อข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลับมาค่อยมาสอบสวน” ตั้มหันไปบอกกับเพื่อน ๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปซื้อของกิน คราวนี้เดียร์เองก็ลุกเกาะติดไปกับทัชแล้วก็น้อง ๆ ด้วย เหลือเพียงคู่รักหมาด ๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะ



“เดี๋ยวกูกับทัชซื้อข้าวมามึงกับน้องเองนะ” เดียร์พูดตอนก่อนจะเดินออกไป



“ขำอะไรครับ” สายน้ำถามเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ



“ขำเจ้าเด็กขี้เขิน” หินผายิ้มตาเป็นประกายวาววับจนคนมองต้องหันหลบไม่กล้าสบตาด้วย “เขินเพื่อนหรือยังไงถึงยังไม่บอกว่าเราคบกันแล้ว”



“ฮื่อ... ก็ครับ”



“หรือไม่อยากบอก ไม่อยากให้ใครรู้”



สายน้ำทำตาโตตอนได้ยินคำถาม เจ้าตัวรีบเงยหน้าขึ้นมองส่ายหน้าไปมาทันที “ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้อยากปิดบังอะไรนะ แค่เขิน...” ท้ายประโยคว่าเสียงอ่อยจนหินผาหลุดหัวเราะอีกรอบ



นั่งรออยู่ไม่นานทุกคนก็เดินกลับมาที่โต๊ะ เดียร์กับทัชถือจานข้าวมาให้หินผากับสายน้ำ คนน้องยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะรับมา ตลอดเวลาที่กินข้าวสายน้ำเอาไว้ก้มหน้าก้มตามองจานตัวเองโดยไม่หันมองซ้ายหรือขวาเลย เพราะต่อให้เขาไม่หันมองก็รับรู้ถึงสายตาของทุกคนบนโต๊ะได้เป็นอย่างดี



“จะมองอะไรกันนัก” หินผาที่ทนไม่ไหวถามขึ้น เขากลัวว่าน้องจะปวดคอเพราะเอาแต่นั่งก้มหน้า



“มองแฟนมึงไง” ทัชก็ตอบทันทีที่สิ้นคำถามของเพื่อน แต่คนที่สะดุ้งน่ะกลับกลายเป็นคนที่ถูกพาดพิงเสียอย่างนั้น



“คบกับมึงมาตั้งแต่ปีหนึ่ง นึกภาพมึงมีแฟนไม่ออกเพราะมึงไม่เคยสนใจใคร พอมึงมาบอกว่าคบกับน้องแล้วกูก็เลยอยากจะมอง” เดียร์พูดขึ้นมาบ้าง และประโยคนั้นก็เรียกความสนใจของสายน้ำให้หันไปมองคนข้าง ๆ ได้เป็นอย่างดี



“มองอะไรของเรา” หินผาหันมาเลิกคิ้วถาม



“เปล่าครับ” สายหน้าส่ายหน้า เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ เอาไว้ค่อยถามทีหลังว่าอีกฝ่ายไม่เคยสนใจใครจริง ๆ หรือเปล่า



“พี่หินผาไม่เคยสนใจใครเลยจริง ๆ เหรอคะ” แต่ดูเหมือนว่าสายน้ำจะไม่ต้องสงสัยนาน เพราะเบลชะโงกหน้ามาถามแทนให้แล้ว เป็นคำถามเดียวกับในใจของเขาเลยก็ว่าได้



“คนน่าจะชอบพี่เยอะนะคะ ในหมู่เพื่อน ๆ พี่เองก็ดังมาก ๆ เลยมีแต่คนพูดถึง” มะนาวเองก็สงสัยเช่นกัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่เดือนคณะหรือเดือนมหาวิทยาลัยแต่ก็เป็นคนหน้าตาดี มีรูปลงเพจตั้งเยอะแยะ



“อือ ก็ไม่เคยสนใจใครนะ” หินผาพยักหน้ารับกับคำถามของรุ่นน้อง



“ไม่มีใครน่าสนใจเลยเหรอพี่” แบงก์ถามขึ้นมาบ้าง นอกจากจะอยากรู้แล้วเขายังถามให้เพื่อนด้วย ดูหน้าก็รู้ว่าสายน้ำอยากรู้มากแค่ไหนแต่ไม่ยอมถาม พวกเขาเลยจัดการถามให้เองเสียเลย



“ไม่นะ ไม่รู้สึกว่าใครน่าสนใจ ไม่ได้สนใจอะไรด้วย”



“แล้วมึงมาสนใจน้องได้ไง” เดียร์ถามพยักหน้าไปทางสายน้ำที่มองมาแบบไม่วางตา พอโดนพูดถึงสายน้ำก็หน้าแดงขึ้นมาเสียอย่างนั้น



หินผาเลิกคิ้วขึ้นหันมามองหน้าแฟนตัวเองแล้วยิ้ม เห็นมองมาด้วยความสนใจใคร่รู้ก็นึกอยากจะแกล้ง แต่ไม่รู้ว่าแกล้งแล้วเจ้าเด็กขี้เขินของเขาจะเบะปากร้องไห้หรือเปล่า เลยไม่แกล้งดีกว่า... เพราะเขาชอบตอนเป็นเจ้าเด็กขี้เขินมากกว่าเจ้าเด็กงอแง



“ก็เพราะเป็นสายน้ำละมั้ง ถึงได้สนใจ”



ถ้าสายน้ำเป็นกาต้มน้ำร้อนคงเดือดจนกาแทบระเบิด ควันลอยไปทั่วแล้วแน่นอน หรือถ้าสายน้ำเป็นระเบิดสายรุ้งก็คงระเบิดบุ๊งไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย



“อู้ว...” แต่ละคนพากันส่งเสียงแซวอย่างชอบใจกับคำตอบของหินผา



“รีบ ๆ กินข้าวเถอะ เดี๋ยวขึ้นเรียนไม่ทัน” หินผาเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กขี้เขินของเขาออกอาการเขินหนักจนหน้าแดงไปหมด เห็นแล้วก็สงสารไม่อยากให้โดนแซวไปมากกว่านี้เลยต้องพูดเปลี่ยนเรื่องให้



พอได้ยินแบบนั้นทุกคนเลยหันกลับไปสนใจกับอาหารของตัวเอง เพราะมัวแต่คุยเล่นจนไม่ทันได้สนใจเวลา อีกไม่นานก็จะต้องขึ้นเรียนในตอนบ่ายแล้ว เหลือเวลาอีกประมาณสิบนาทีพวกเขาทั้งหมดก็จัดการกับมื้อกลางวันเรียบร้อย พวกปีหนึ่งมีเรียนวิชานอก ผิดกลับรุ่นพี่ปีสี่ทั้งสามคนที่มีเรียนวิชาในคณะ พวกเขาเลยต้องแยกกันตรงหน้าโรงอาหารเพราะอาคารเรียนอยู่คนละฝั่งกัน



“เมื่อเช้ามายังไง กับแบงก์ตั้มเหรอ” หินผาถามสายน้ำ เขายืนคุยกับน้องตรงหน้าโรงอาหารก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียน



สายน้ำพยักหน้ารับ “ครับ”



“อย่างนั้นก็กลับดี ๆ นะ พี่เลิกเกือบทุ่มเลยวันนี้ เอาไว้เรียนเสร็จพี่จะแวะไปหา”



“ได้ครับ”



“ไปเรียนได้แล้วล่ะเดี๋ยวสาย ตั้งใจเรียนล่ะ” ยกมือขึ้นยีผมของสายน้ำไปที



“ครับ” สายน้ำพยักหน้า “พี่ก็... ตั้งใจเรียนนะครับ”



“ครับผม แล้วเจอกัน”



สายน้ำรับคำก่อนจะเดินไปหาเพื่อนอีกสี่คนที่ยืนรออยู่ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปด้วยกัน หินผาเองก็แยกไปเรียนเช่นเดียวกัน



“ยังไงอะเรา คบกับพี่เขาแล้วไม่เห็นบอกกันเลยนะ” ทันทีที่สายน้ำเดินมาถึงเบลก็รีบถามทันที



“นั่นน่ะสิ ปิดเงียบเชียวนะ ไม่อยากบอกเหรอวะ” ตั้มเองก็ถามออกมาเหมือนกัน



“ไม่ใช่ไม่อยากบอก” สายน้ำรีบปฏิเสธอย่างกลัวว่าเพื่อนจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาไม่อยากบอกหรือตั้งใจจะปิดบัง “แค่... ไม่รู้จะพูดยังไง”



“แล้วอะไรยังไง คือยังไง ทำไมอยู่ ๆ ถึงเป็นแฟนกับพี่หินผาได้ ไหนตอนที่อยู่เชียงใหม่มึงบอกยังไม่ได้คบกัน” แบงก์ถาม ตอนก่อนกลับกรุงเทพฯ พวกเขาคุยกันเจ้าเพื่อนคนนี้ยังบอกอยู่เลยว่ายังไม่ได้คบกัน แถมยังไม่กล้าคิดไปเองด้วยว่าพี่เขาชอบ กลัวจะผิดหวัง



กลายเป็นว่ากลับจากเชียงใหม่มาได้ไม่กี่วันคบกันแล้วเสียอย่างนั้น



“ก็... คุยกันวันที่กลับมาจากเชียงใหม่นั่นแหละ”



“พี่หินผาขอคบเหรอ ยังไงเหรอ พี่เขาสารภาพรักด้วยไหมอ่ะ” มะนาวถามด้วยความตื่นเต้น พลางนึกจินตนาการไปถึงฉากที่หินผาขอเพื่อนเธอคบ



“นั่นสิ ๆ น้ำต้องเขินมากแน่ ๆ เลยใช่ไหม พี่เขาพูดยังไงเหรอ” เบลเองก็อยากรู้เช่นกัน ที่จริงแล้วทั้งแบงก์แล้วก็ตั้มเองก็อยากรู้



“รีบเดินได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก” สายน้ำจับสายกระเป๋าตัวเองแน่นก่อนจะรีบจ้ำอ้าวหนีไปโดยไม่รอทั้งสี่คน



“เดี๋ยวสิ!” ทั้งสี่คนร้องก่อนจะรีบตามสายน้ำไป พอเพื่อนเดินเร็วขึ้นสายน้ำก็ยิ่งเดินเร็วขึ้นเผื่อไม่ให้ทั้งสี่คนตามทัน



สายน้ำจ้ำหนีจนกลายเป็นวิ่งไปที่อาคารเรียน แบงก์กับตั้มอยากจะวิ่งตามแต่มีสองสาวที่วิ่งไม่ทันเลยต้องคอยหยุดรอ เลยกลายเป็นว่าสายน้ำวิ่งหนีไปจนถึงอาคารแล้ว



“โอ๊ย! น้ำจะวิ่งหนีทำไมเนี่ย เหนื่อยเลย” มะนาวร้องตอนที่มาถึงห้องเรียน เจ้าตัวทิ้งตัวลงนั่งก่อนจะหายใจหอบ คนอื่นก็มีท่าทางไม่ต่างกันนัก



เพราะอาการเหนื่อยจากการวิ่งตามสายน้ำเลยทำให้เพื่อน ๆ ไม่มีอารมณ์จะมาถามเรื่องของเขากับหินผา พอหายเหนื่อยอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี ประเด็นเรื่องนี้เลยถูกเลื่อนออกไป แต่ไม่ว่ายังไงสายน้ำก็จะไม่มีทางเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นให้ใครฟังแน่นอน



ไม่ได้อายที่จะเล่าให้เพื่อนฟังว่าเป็นเขาเองที่ขอหินผาเป็นแฟน แต่เขาก็เขินเกินกว่าจะพูดออกไปว่าเขานี่แหละ... ที่เป็นฝ่ายขอคบ เอาไว้วันไหนที่มีความกล้ามากพอเขาค่อยเล่าให้ฟังก็แล้วกัน



HinPaa
พี่เลิกเรียนแล้วเดี๋ยวเข้าไปรับที่คอนโด
ไปหาอะไรกินกัน




สายน้ำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นเบา ๆ ของโทรศัพท์ เป็นหินผาส่งข้อความเข้ามา เขาจึงรีบกดเข้าไปอ่านแล้วส่งข้อความตอบกลับไป



SAINAM karp
ได้ครับ



HinPaa
ยังไงเราก็หาอะไรกินรองท้องก่อนนะ
กว่าพี่จะเลิกแล้วเข้าไปรับเดี๋ยวจะหิวจนปวดท้องซะก่อน




SAINAM karp
ครับผม
พี่หินผาก็หาอะไรรองท้องด้วยนะครับ
เดี๋ยวปวดท้อง




HinPaa
ครับผม
ตั้งใจเรียนล่ะ
แล้วเย็นนี้เจอกัน
เอาไว้ใกล้ถึงแล้วพี่จะโทรหาอีกทีนะ




SAINAM karp
ได้ครับ
พี่ก็ตั้งใจเรียนนะครับ



HinPaa
อื้ม นี่พี่กำลังรอคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องโปรเจคอยู่
ไม่ได้มีเรียนเลคเชอร์อะไรหรอก
อยากกินอะไรคิดเอาไว้ด้วยล่ะ
เดี๋ยวพี่จะพาไปกิน
ฉลอง...




SAINAM karp
ฉลองอะไรครับ?



HinPaa
ฉลองเป็นแฟนกับเรามาได้ห้าวัน
ดีไหม?




สายน้ำได้แต่เม้มปากกลั้นรอยยิ้มตัวเอง เขาได้แต่ส่งสติ๊กเกอร์หมาชิบะขุดดินหนีไปให้แล้วรีบออกจากหน้าต่างแชทแล้ววางโทรศัทพ์คว่ำหน้าจอลงทันที จะได้ไม่ต้องเห็นข้อความต่อจากนั้น เพราะเขาเชื่อว่าข้อความทันไปก็คงไม่พ้นทำให้เขาเขินหนักกว่าเดิมแน่นอน



“มีอะไร” ตั้มหันมาถามเสียงเบา



“เปล่า ไม่มีอะไร” สายน้ำส่ายหน้าก่อนจะหันกลับไปตั้งใจเรียนแม้ว่าจะไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ เพราะเขาเอาแต่คิดว่าเย็นนี้จะไปกินอะไรดีเพื่อเป็นการฉลอง



ที่เขากับหินผาคบกันมาได้ห้าวันแล้ว...






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

MARRY X’MAS ค่าทุกคน
ขอให้มีความสุขกันมาก ๆ น้าาา
สำหรับตอนนี้คือร้อง ฮูยยยยยย เลยจ้า
มีการไปฉลองได้เป็นแฟนห้าวันด้วย
งุ้ยยยย มีความน่าอิจฉาปนน่าหมั่นไส้หน่อย ๆ
และเอ็นดูววววนิด ๆ เนอะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-12-2019 22:13:30
เป็นแฟนได้ 5 วัน น้องน้ำสติหลุดแล้วหรอ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-12-2019 22:50:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-12-2019 23:38:46
 ฉลองเก่งงงงงง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-12-2019 23:56:13
อุ๊ยๆ เด็กน้อยขี้เขิน แต่กลับเป็นฝ่ายขอพี่เค้าเป็นแฟนก่อนซะงั้น  แล้วก็ยิ่งเขินไปอีก.  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-12-2019 01:08:33
เอ็นดู  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 26-12-2019 23:06:29
ฉลองเป็นแฟนกับเรา  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 27-12-2019 11:00:58
 :mew1:

น้องขอพี่เป็นแฟนเองเลย


น่ารักจัง สายน้ำน่ารัก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-12-2019 19:40:19
สงสารน้อง ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [70%] l P.19 25-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 30-12-2019 10:36:06
คนเห่อแฟน อยากอวด
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 03-01-2020 21:25:50
(https://i.imgur.com/LdQsur4.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “16”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖





หินผาหัวเราะขำเมื่อเห็นสติ๊กเกอร์ล่าสุดที่สายน้ำส่งมาให้ก่อนที่อีกฝ่ายจะไม่อ่านไม่ตอบข้อความของเขา เดาได้ไม่อยากเลยว่าสายน้ำของเขาน่ะกลายร่างเป็นเจ้าเด็กขี้เขินอีกแล้วแน่ ๆ



“ขำอะไรของมึงวะ” ทัชที่ได้ยินเสียงเพื่อนหัวเราะหันมาถาม พลางชะโงกมองโทรศัพท์ในมือของหินผาอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังดูอะไรตลก ๆ อยู่หรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นจะเปิดคลิปอะไรเลย



“ไม่มีอะไร ขำน้ำนิดหน่อยน่ะ”



“เป็นเอ็นดูแฟนมาก ว่างั้นเถอะ” ทัชเลิกคิ้วขึ้น



“ก็ถ้ามันเรียกว่าเป็นเอ็นดู ก็คงงั้นแหละ”



“อ่ะจ้า... กูยอม ปล่อยมึงเป็นเอ็นดูแฟนมึงไป กูไปคุยกับอาจารย์ก่อนดีกว่า” ทัชส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินหนีไปปล่อยให้เพื่อนตัวเองนั่งยิ้ม นั่งขำเอ็นดูแฟนตัวเองต่อไป



เกือบหนึ่งทุ่มคลาสเรียนของหินผาก็เลิก เขาส่งข้อความไปบอกสายน้ำว่าเลิกเรียนแล้วไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงถึงคอนโดของเจ้าตัวให้อีกฝ่ายเตรียมตัวเอาไว้ ส่วนตัวเขาก็แยกย้ายกับเพื่อนเมื่อลงมาถึงข้างล่างแล้ว



ขายาว ๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่รถคันสวยของตัวเอง ขึ้นไปนั่งคาดเข็มขัดนิรภัยจนเรียบร้อยถึงได้ขับรถออกจากมหาวิทยาลัยตรงไปยังคอนโดของสายน้ำ อาศัยจังหวะที่รถติดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความของสายน้ำ เขาพิมพ์โต้ตอบไปอีกเล็กน้อย บอกตำแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้แล้วก็ให้อีกฝ่ายลงมารอข้างล่างได้เลย



เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเขาก็วางโทรศัพท์ลงแล้วตั้งใจขับรถต่อ ไม่นานหลังจากนั้นก็เลี้ยวเข้าไปในคอนโดของสายน้ำ มองเห็นเจ้าเด็กขี้เขินของเขายืนรออยู่ตรงประตูทางเข้าอาคาร หินผาจอดรถเทียบ ลดกระจกลงส่งเสียงเรียกคนที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่



“พี่หินผา” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเดินมาขึ้นรถ



“ว่ายังไงเรา คิดได้หรือยังว่าอยากกินอะไร” หินผาถามเมื่อสายน้ำขึ้นมานั่งเรียบร้อยแล้ว เขาเหยียบคันเร่งเพื่อให้รถเคลื่อนตัวออกไป



“แล้วแต่พี่หินผาครับ”



“แล้วแต่พี่เดี๋ยวพี่พาแวะกินบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงข้างทางนะ” หินผาแกล้งหยอก



“ได้นะครับ ผมไม่ติดอะไรอยู่แล้ว”



“งั้นไปกินข้างทางที่เยาวราชแล้วกันนะ เดี๋ยวพี่เอารถไปเก็บที่คอนโดก่อนแล้วเรานั่งรถไฟฟ้าไปกัน โอเคไหม”



“ครับ ได้ครับ”



หินผาหันมายิ้มให้คนว่าง่าย ยกมือขึ้นยีผมของน้องไปทีก่อนจะขับรถกลับไปที่คอนโดของเขาเอง เพราะว่าคอนโดของหินผาอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากกว่า รถคันสวยเลี้ยวเข้าไปในคอนโด เจ้าของรถวนหาที่จอดอยู่ไม่นานก็ได้



“น้ำหันไปหยิบกระเป๋าบนเบาะหลังให้พี่หน่อย”



“ได้ครับ” สายน้ำหันไปมองเบาะหลังเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ ก่อนจะหันกลับมาแต่แล้วเจ้าตัวก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อคนที่นั่งอยู่ที่เบาะคนขับกลับถอดเสื้อนักศึกษาที่สวมอยู่ออกเสียอย่างนั้น “พ พี่หินผา! ถ ถอดเสื้อทำไมล่ะครับ”



“พี่จะเปลี่ยนเสื้อไง มีเสื้อยืดอยู่ในกระเป๋าเป้ที่ให้เราหยิบนั่นแหละ” หินผาตอบ พลางมองคนที่หลบหน้าตัวเองอยู่หลังกระเป๋าเป้ของเขาอย่างขำ ๆ เอื้อมมือไปจับกระเป๋าตัวเองแล้วออกแรงดึงแต่สายน้ำกลับไม่ยอมปล่อยเสียอย่างนั้น “สายน้ำปล่อยกระเป๋าพี่ก่อนเร็ว”



“สายน้ำครับ พี่ขอกระเป๋าหน่อยพี่จะได้หยิบเสื้อ” หินผาทั้งขำทั้งเอ็นดูเจ้าเด็กขี้เขิน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้กระเป๋าเขา เจ้าตัวเลยต้องขยับไปใกล้เพื่อที่จะได้หยิบกระเป๋าได้สะดวก “สายน้ำ”



คนที่หลบอยู่หลังกระเป๋าเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเสียงของหินผาดังอยู่ใกล้ ๆ เจ้าตัวตาโตเมื่อเงยหน้ามาเจอกับใบหน้าหล่อ ๆ ของแฟนตัวเองอยู่ห่างแค่คืบ



“เจ้าเด็กขี้เขิน พี่ขอกระเป๋าก่อนนะ” หินผาพูดก้มจบจุ๊บปากสายน้ำเบา ๆ ใช้ช่วงเวลาที่อีกฝ่ายตกใจดึงกระเป๋าออกมาเปิดแล้วหยิบเสื้อยืดมาสวม ขนาดเขาใส่เสื้อเสร็จแล้วเจ้าเด็กขี้เขินของเขายังตกใจไม่หายเลย



“สายน้ำ” หินผาดีดนิ้วเรียกสติ ยิ้มขำเมื่อเห็นแก้มขาว ๆ เปลี่ยนสี ท่าทางน่าเอ็นดูจนต้องยื่นมือไปบีบแก้มนั้น “ไปครับ เดี๋ยวดึก”



หินผาจัดการล็อครถจนเรียบร้อย หยิบกระเป๋าคาดอกของตัวเองมาสะพายเขาเดินจับมือสายน้ำไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าเพราะดูเหมือนว่าสติของอีกฝ่ายจะยังไม่ครบถ้วน ใช้เวลาเดินทางอยู่เกือบชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย สายน้ำพอเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคักตรงหน้าก็ยิ้มกว้าง ตาวาวเมื่อเห็นร้านอาหารมากมายอยู่เต็มถนน



“เคยมาไหม” หินผาถามคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ



“ยังเลยครับ ตอนก่อนจะย้ายไปต่างประเทศก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมา แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที”



“อย่างนั้นไปเดินเล่น หาอะไรกินกันเถอะ”



“ครับ”



ทั้งคู่เดินข้าง ๆ กันเข้าไปด้านใน ชักชวนกันดูอาหารร้านนั้นร้านนี้ มีทั้งของคาวของหวานหลากหลายไปหมดจนเลือกไม่ถูก



“อยากกินอะไร”



“บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงครับ” สายน้ำหันมายิ้มตอบ



“เอาจริง”



สายน้ำพยักหน้ายืนยัน “ครับ ไปกันครับ ผมหิวแล้ว”



“บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงก็บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง” หินผาโคลงหัวไปมาก่อนจะเดินตามแรงจับจูงของสายน้ำที่มุ่งหน้าไปยังร้านบะหมี่ที่เป็นเป้าหมาย



“เอาบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงครับ” สายน้ำสั่งก่อนจะหันมามองหินผาเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าก็หันไปพูดต่อ “เอาเป็นสองเลยนะครับ”



“ไม่อยากกินอย่างอื่นหรือไง” หินผาถามระหว่างที่รออาหาร



“ก็อยากครับ แต่ก็อยากกินนี่ด้วย อีกอย่างพี่หินผาบอกว่าจะพามากินนี่ครับ”



“พี่ก็แกล้งเล่นหรอก”



สายน้ำยิ้ม เพราะเขาก็รู้อยู่ว่าหินผาแกล้งพูดเท่านั้น “แต่ผมอยากกินจริง ๆ ครับ เรามาฉลองที่คบกันได้ห้าวันด้วยบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงกันนะ”



“หึหึ ได้ แล้วเดี๋ยวไปฉลองที่เราคบกันได้ห้าวันด้วยขนมอย่างอื่นต่อด้วย ดีไหม”



“ครับผม” สายน้ำพยักหน้า “เรากินถูก ๆ แบบนี้แหละครับ จะได้ฉลองกันได้ทุกวัน”



หินผายิ้มมองคนที่พูดจบก็หน้าแดง หันหน้าหนีไม่ยอมสบตากับเขา



“พูดแล้วนะ ว่าจะฉลองกับพี่ทุกวัน เพราะฉะนั้น... เลิกกันไม่ได้แล้วนะ”







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

งู้ยยยยยยยยยยยย ของุ้ย ยาว ๆ ค่ะ
พบคนเป็นเอ็นดูแฟนหนึ่งอัตรา ส่วนทางนี้ก็เป็นเอ็นดูน้องเหมือนกันจ้า
คนอะไร ทำไมน่ารัก น่าเอ็นดูแบบนี้
ช็อคเลยลูกโดนพี่เขาจุ๊บปากไปทีเดียว เป็นเอ็นดูจริง ๆ
ยังไงก็ช่วยเป็นเอ็นดูน้องน้ำกันเยอะ ๆ ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ ^^

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-01-2020 21:44:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-01-2020 00:16:39
 :เฮ้อ: เหม็นเบื่อคนมีความรักจริง ๆ เลยยยย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-01-2020 01:21:42
จ้าาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 04-01-2020 07:26:05
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-01-2020 07:53:33
หวานอ่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-01-2020 00:22:22
อ้ยยย น่ารักกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "16" [100%] l P.20 03-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-01-2020 18:22:22
เป็นเจ้าตัวน่ารักไปเลยค่ะ สายน้ำดูเป็นตัวเล็กตัวน้อยมาก
ขนาดเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่พออยู่กับหินผา
ยิ่งตัวเล็กจิ๋วลงไปอีก เป็นเอ็นดูจริงๆ ค่ะ

เจอคนเขินหนักมากหนึ่งอัตราและคนได้กำไรอีกหนึ่งอัตรา

ทีมเพื่อนก็แหย่กันใหญ่เลยน้า รอรู้ก่อนเหอะว่าใครขอคบ
สายน้ำคงไม่กล้ามาเรียนอีกหลายวันแน่นอน 5555

น่ารักจังเลยค่ะ ดูตะมุตะมิมากเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 09-01-2020 21:07:41
(https://i.ibb.co/rysm0v3/17.jpgg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “17”








เสียงสายฝนโปรยปรายด้านนอกดังเข้ามาให้ได้ยิน ร่างสูงของเจ้าของห้องเดินไปเปิดผ้าม่านดู ท้องฟ้าข้างนอกเต็มไปด้วยเมฆฝน ได้ยินเสียงฟ้าร้องเป็นระยะ แต่ไม่มีเสียงฟ้าผ่า เพราะมรสุมเข้าทำให้ทั่วพื้นที่ในกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยฝน โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน เขาจึงสามารถนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้องได้แบบนี้



“ฝนยังตกหนักอยู่เลยเหรอครับ” เขาหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลัง ก่อนจะเห็นสายน้ำเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดของเขา



“ใช่ ดูท่าแล้วคงจะไม่หยุดตกง่าย ๆ แน่เลย” หินผาพยักหน้าตอบ



ฝนตกตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากที่พวกเขากลับจากพาน้องไปเที่ยวเยาวราช ตอนแรกตั้งใจจะขับรถไปส่งสายน้ำที่คอนโด แต่ฝนตกหนักมากเขาเลยเอ่ยปากชวนสายน้ำให้ค้างคืนด้วยกันที่คอนโด แม้ตอนแรกเจ้าตัวจะลังเลแต่ก็ตอบตกลง คงเพราะไม่อยากให้เขาขับรถฝ่าสายฝนไปส่งตน จึงเป็นเหตุผลที่สายน้ำอยู่ในห้องของเขา ในชุดของเขาแบบนี้ และฝนที่หยุดไปแล้วเมื่อคืนก็เริ่มตกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง พวกเขาทั้งสองคนเลยยังไม่ได้ออกไปไหนกันเลย



“หิวไหม พี่มีข้าวกล่องเซเว่นอยู่สองสามกล่องจะได้เอามาเวฟกินกันก่อน ไม่แน่ใจว่าร้านแถวนี้มีเปิดบ้างหรือเปล่า”



“ข้าวกล่องก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องลงไปข้างล่าง เปียกฝนเปล่า ๆ ครับ” สายน้ำตอบอย่างไม่เรื่องมาก



“แย่หน่อยนะฝนตกแบบนี้ แถมพี่ยังทำกับข้าวไม่เป็น ไม่มีโมเมนต์ทำอะไรให้แฟนกินเลย” หินผาพูดระหว่างที่เปิดตู้เย็นหยิบเอาข้าวกล่องออกมาสองกล่อง



“ผมก็ทำไม่เป็นเหมือนกันนั่นแหละครับ”



“แต่พี่เวฟข้าวกล่องให้แฟนกินได้นะ” กลิ่นหอมของอาหารสำเร็จรูปเริ่มโชยออกมาจากไมโครเวฟให้ได้ดม ไม่นานไมโครเวฟก็หยุดทำงาน หินผาเลยหันไปหยิบข้าวกล่องออกมาวางบนโต๊ะอาหารเล็ก ๆ ตรงหน้าสายน้ำ



สายน้ำส่งเสียงอยู่ในลำคอย่นจมูกใส่หินผา แก้มขาวของเดือนมหาวิทยาลัยขึ้นสีจาง ๆ อย่างคนขี้เขินกับประโยคของอีกฝ่าย พอได้ยินคำว่า แฟน ก็รู้สึกจั๊กจี๊ที่หัวใจเสียทุกครั้งไป ยังไม่ชินเลยกับสถานะนี้ของพวกเขา และสายน้ำก็คิดว่าเขาคงจะยังไม่ชินในเร็ววันนี้แน่นอน



“วันจันทร์ไปเรียนผมว่าต้องมีคนมาแซวผมเยอะแน่เลย” สายน้ำพูดพลางตักข้าวผัดขึ้นเป่าให้คลายร้อนก่อนจะกิน



“หือ เรื่องอะไร” หินผาทำหน้านึก “เรื่องที่เพจลงเรื่องเราน่ะเหรอ”



“ครับ เมื่อกี้ผมเข้าไปดูคนแชร์กันไปตั้งเยอะแหนะ คอมเมนต์อีกเพียบเลย ผมเห็นคอมเมนต์ของพวกพี่ป่าไม้ด้วย เข้ามาปั่นกันสนุกเลย” สายน้ำบ่น แต่ไม่ได้จริงจังหรือเป็นเรื่องซีเรียสอะไรขนาดนั้น “พี่ป่าไม้ไลน์เข้ามาแซวทั้งในกลุ่ม ทั้งไลน์ส่วนตัวด้วย”



หินผาหัวเราะ เพราะนึกออกว่าพี่ชายตัวเองจะทำอย่างไรบ้าง ก็ตลอดเวลาที่ผ่านมาป่าไม้ก็ช่างปั่นเสียเหลือเกิน ปั่นทั้งเขา ทั้งน้อง แต่เขาก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่อีกฝ่ายยังไม่โทรมาหา หรือโทรมาแซวเขาเรื่องที่คบกับสายน้ำ ไม่รู้ว่ารอเปิดประเด็นตอนเจ้าหน้ากันหรือเปล่า แซวแบบไม่เห็นหน้าเห็นตา ไม่ใช่สไตล์ของป่าไม้หรอก



“อย่างกับดารา คุยกันอยู่ตรงโต๊ะมีข่าวลงเพจเฉยเลย” หินผาว่าพลางโคลงหัวไปมา



เรื่องที่หินผากับสายน้ำคบกันไม่ได้รู้กันแค่เฉพาะในกลุ่มเพื่อนตัวเองแล้ว แต่คิดว่านักศึกษาเกือบทั้งมหาวิทยาลัยรับรู้กันแล้ว ใครจะคิดว่าจะมีคนได้ยินเรื่องที่พวกเขาคุยกันที่โรงอาหารจนแพร่กระจายไปลงในเพจของมหาวิทยาลัยด้วย แถมยังมีรูปมาอีก ทั้งรูปตอนที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร ตอนที่เขากับสายน้ำไปเที่ยวเยาวราชก็มี



“นั่นสิครับ เดี๋ยวนี้อะไรก็รวดเร็วไปหมดเลย โลกออนไลน์ชักจะน่ากลัวขึ้นทุกวัน”



“นั่นสินะ เราก็อย่าสนใจมากเลย แต่ถ้าเริ่มรู้สึกว่าถูกบุกรุกความเป็นส่วนตัวมากเกินไปก็ค่อยมาว่ากัน แต่ถ้าแค่ถ่ายรูปมาลงพี่ก็ไม่ได้อะไรมากหรอก” หินผาเอื้อมมือมาโยกหัวของน้องเล่น “คอมเมนต์ก็มีทั้งดี ไม่ดีปะปนกันไป เราก็อย่าไปอ่าน ไปสนใจมันเลย อย่าให้ค่ากับคนที่เขาคิดไม่ดีกับเรา”



“ครับ จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกครับ ผมแข็งแกร่งขึ้นจากตอนเด็ก ๆ แล้วนะ สังคมการบูลลี่ทำอะไรผมไม่ได้แล้วล่ะ” สายน้ำยิ้มให้ เขาเคยเจอมาหมดแล้วการบูลลี่ต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยตอนเป็นเด็ก กว่าจะผ่านมาได้ก็ยากพอสมควร แต่พอเขาผ่านมาได้แล้วเขาก็มีวิธีจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้



“คนเก่ง” สายน้ำยิ้มแต้กับคำชมของหินผา รอยยิ้มกว้างเหมือนสมัยตอนเด็ก ๆ ที่ได้รับคำชมจากพี่ชายคนนี้ แต่ตอนนี้... ไม่ใช่คำชมจากพี่ชายแล้ว แต่เป็นคำชมจากแฟน



พวกเขาจัดการกับข้าวกล่องจนหมดเกลี้ยงก็ย้ายมานั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ เปิดการ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวนเรื่องดังดูตามที่คนอายุน้อยกว่าเรียกร้อง พวกเขาเลยนั่งไล่ดูกันตั้งแต่ตอนแรกเลย



เสียงโทรศัพท์ของสายน้ำดังขึ้นเรียกความสนใจของเจ้าตัวจากจอโทรทัศน์ให้หันไปมอง สายน้ำตาโตเมื่อเห็นว่าเป็นแม่ตัวเองโทรวีดิโอเข้ามา นอกจากเพื่อน ๆ ที่เขาไม่ได้บอกว่าคบกับหินผาแล้ว กับแม่เองเขาก็ยังไม่ได้บอกเหมือนกัน



“มีอะไร ใครโทรมาเหรอ” หินผาที่เห็นท่าทางของสายน้ำแปลก ๆ ไปก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้



“ม แม่... น่ะครับ” สายน้ำหันมาตอบ



“เข้าไปคุยในห้องนอนพี่ไหม”



“ไม่เป็นไรครับ พอดี... ผมแค่ยังไม่ได้บอกแม่ว่าคบกับพี่แล้ว”



“แม่เราห้ามหรือเปล่า หรือยังไง ต้องให้พี่ช่วยพูดอะไรให้ไหม” หินผาหันมาหาทั้งตัว ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะกลัวว่าน้องจะมีปัญหากับที่บ้าน



“ม ไม่ครับ ไม่ ๆ ไม่เป็นอะไรครับ แม่ไม่ได้ว่าอะไร คือแค่... แฮ่... ผมรับสายแม่ก่อนดีกว่า” สายน้ำก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าควรจะรู้สึกยังไงดี แน่นอนว่าแม่ของเขาไม่มีทางโกรธหรือว่าห้ามอะไร เพราะแม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคนที่เขาชอบ เขารักคือใคร นอกจะไม่ว่าแล้ว คงจะดีใจแล้วเอาแต่แซวเขาไม่หยุดแน่ ๆ



สายน้ำกดรับสาย บนจอโทรศัพท์ปรากฏภาพของผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังสะสวยส่งยิ้มทักทายมา [ทำไมรับสายช้าจังลูก ยุ่งอยู่หรือเปล่า]



“แม่... ไม่ได้ยุ่งครับ”



[แล้วทำอะไรอยู่ หือ... ลูกไม่ได้อยู่ห้องเหรอ] ปลายสายถามออกมาเมื่อเห็นฉากหลังของลูกชายแปลกไป ไม่เหมือนห้องของสายน้ำ [ไปอยู่ห้องใครน่ะ ห้องหนุ่มห้องสาวที่ไหนหือ]



“แม่ น้ำไม่ได้มาอยู่ห้องสาวที่ไหนสักหน่อย”



[ไม่ได้อยู่ห้องสาว งั้นอยู่ห้องหนุ่มเหรอ] คนเป็นแม่ทำตาโต ยกมือปิดปากทำท่าตกอกตกใจ



“แม่ครับ...” สายน้ำเรียกแม่ตัวเองเสียงอ่อย คราวนี้จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะจริงอย่างที่แม่บอก แถมหนุ่มที่ว่าดันไม่ใช่เพื่อนด้วย



[อุ๊ย... ลูกน้ำไม่ปฏิเสธ เรื่องจริงเหรอเนี่ย ไหน... ไปอยู่ห้องหนุ่มที่ไหนบอกแม่สิ นี่นอกใจพี่หินผาของลูกเหรอ]



คราวนี้เป็นสายน้ำที่ทำตาโต หันมามองคนที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างทันที อีกฝ่ายที่พอได้ยินชื่อตัวเองจากปากแม่ของคนรักก็หันมามอง



[แม่ฟ้องแด๊ดดีกว่า ดูสิไปอยู่เมืองไทยแปบเดียวลูกแม่นอกใจพี่หินผาแล้ว ไหนว่ารักพี่เขามากไง]



สายน้ำอยากจะร้องไห้ จะห้ามแม่ก็ห้ามไม่ได้เพราะเป็นเรื่องปกติของเขากับแม่อยู่แล้วที่จะพูดแกล้งหยอกอะไรกันแบบนี้ แต่คราวนี้คนที่แม่ยกมาแซวเขาดันนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยเพียงแต่แม่ไม่เห็นก็เท่านั้น หินผาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจ แน่นอนล่ะว่าเขารู้ว่าน้องชอบเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้คบกันเหมือนตอนนี้



แต่ที่เขายังไม่รู้ก็คือ... น้องชอบเขาตั้งแต่ตอนไหน



“แม่ครับแม่ คือ... คือว่า...” สายน้ำเรียกคนเป็นแม่ ก่อนจะค่อย ๆ หมุนกล้องโทรศัพท์ให้คนที่ตกเป็นบทสนทนาโผล่หน้าเข้ามาในกล้องด้วย



[อุ๊ย!] แม่ตาโตอีกรอบ คราวนี้ตกใจจริงไม่ได้แกล้ง แม้จะไม่ได้เจอหินผามานานหลายสิบปี แต่สายน้ำก็เคยเอารูปให้ดูอยู่บ่อย ๆ แม่จึงจำได้ทันทีว่าคนที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏบนจอโทรศัพท์คือใคร [พี่หินผาเหรอลูก]



“สวัสดีครับน้านก” หินผายกมือไหว้คนในโทรศัพท์ “ยังจำผมได้ด้วยเหรอครับ”



[จ๊ะ โตขึ้นเยอะ หน้าตาหล่อเชียว สบายดีนะ]



“สบายดีครับ น้านกเองก็คงสบายดีนะครับ ไม่เจอกันนานยังสวยเหมือนเดิมเลย”



[ปากหวานนะเรา เอ่อ... นี่น้องน้ำอยู่ห้องพี่หินผาเหรอลูก] คราวนี้คนเป็นแม่เริ่มหน้าเสียไปหน่อย เพราะเธอไม่รู้ว่าลูกชายอยู่ห้องคนที่แอบชอบอย่างหินผาเลยพูดออกไปหมดทุกอย่าง ไม่รู้เธอจะสร้างความลำบากใจให้ทั้งคู่หรือเปล่า [คือที่น้าพูดเมื่อกี้น่ะจ๊ะ น้าแค่...]



“น้านกครับ ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ คือผมมีเรื่องอยากจะบอกกับน้านกน่ะครับ” หินผาเอ่ยขอโทษเมื่อพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ



[จ๊ะ ว่ายังไงเหรอ]



“ผมชอบสายน้ำครับ ผมขออนุญาตคบกับน้องนะครับ”



เกิดความเงียบขึ้นทันทีที่หินผาพูดจบ แม่ของสายน้ำดูเหมือนจะยังประมวลผลไม่ทัน [เมื่อกี้หินผาว่ายังไงนะ]



“ผมชอบสายน้ำครับ ให้ผมคบกับน้องนะครับ”



แม่หันมามองหน้าของสายน้ำที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา [น้าก็แล้วแต่ลูกชายน้านั่นแหละ ถ้าสายน้ำตกลง น้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีเสียอีกน้าจะได้หายห่วง ไปอยู่คนเดียวแบบนั้นน้าเป็นห่วง มีพี่หินผาคอยช่วยดูให้ น้าก็สบายใจ]



“ขอบคุณนะครับ” หินผายกมือไหว้ขอบคุณ



[จ๊ะ น้ำเดี๋ยวแม่วางสายก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกันใหม่นะ]



“ครับแม่” สายน้ำพยักหน้ารับ รู้ว่าแม่คงมีเรื่องอยากจะคุยอยากจะถามอีกเยอะ เอาไว้เขาค่อยโทรหาแม่ใหม่อีกรอบตอนกลับถึงห้องแล้ว



[พี่หินผา] แม่หันไปเรียกหินผาบ้าง [ฝากน้องด้วยนะลูก เอ่อ... แล้วก็... เรื่องพวกนั้นน่ะ แม่ไม่ได้ห้ามนะ แต่ยังไงก็... อย่ารุนแรงกับน้องนะลูก]



“แม่ครับ! ผมกับพี่หินผายังไม่ได้....!” สายน้ำได้แต่ตาโต หน้าแดงตอนที่ได้ฟังแม่พูด ไม่ใช่แค่สายน้ำหรอก แต่หินผาเองก็อึ้งไปเหมือนกัน



คนเป็นแม่หัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งแหย่ลูกชายแล้วก็แฟนลูกชาย ก่อนจะวางสายไป คราวนี้เลยเกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน สายน้ำได้แต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าแม้จะเหลือบไปมองคนที่นั่งข้าง ๆ กันเลย



อยู่ ๆ แม่ก็พูดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา มันเลยทำให้สายน้ำนึกไปถึงเมื่อวานตอนเย็นที่อยู่บนรถ ตอนที่เขาโดนหินผาขโมยจุ๊บไป นึกแล้วก็หน้าร้อนวูบวาบไปหมด



“คือ... ขอโทษนะครับที่อยู่ ๆ แม่ก็พูดเรื่องอะไรแบบนั้นออกมา” สายน้ำเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน



“ไม่เป็นอะไรหรอก อีกอย่างก็จริงอย่างที่แม่เราว่า” หินผาส่ายหน้าอย่างไม่ได้คิดมากอะไร “เรื่องนั้นยังไงพี่ก็ไม่ควรรุนแรงกับเรา”



“พี่หินผา!”



หินผายิ้มขำกับท่าทางตื่นตระหนกของสายน้ำ “พี่ล้อเล่น”



“แกล้งผมอยู่เรื่อย”



“แต่ว่านะ... เท่ากับว่าแม่เรายอมให้พี่คบกับเราแล้วใช่ไหม”



“ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ



“รวมถึง...” หินผาลากเสียงยาวให้สายน้ำเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่สายน้ำรู้สึกว่าทั้งเจ้าเล่ห์ ทั้งน่ากลัว “ทำเรื่องแบบนั้นกับเราด้วย”



“พี่หินผา!” สายน้ำได้แต่เรียกอีกฝ่ายเสียงดัง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อจากนี้ดี รู้แต่ว่าใบหน้าของเขามันร้อนผ่าวไปหมด



หินผาหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งแหย่สายน้ำจนคนโดนแกล้งนึกหมั่นไส้ชกไหล่ของหินผาไปทีแบบไม่แรงมากเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ ก่อนจะใช้หมอนอิงตีไปที่ขาของคนพี่อีกรอบเมื่ออีกฝ่ายยังไม่หยุดหัวเราะ สุดท้ายเลยเกิดจลาจลเล็ก ๆ ขึ้นระหว่างหินผากับสายน้ำ



กว่าการเล่นจะจบลงก็เล่นเอาเหนื่อย สุดท้ายเลยมานอนแผ่อยู่บนพื้นหน้าโซฟาด้วยกันทั้งคู่ สายน้ำนอนหงายกอดหมอนอิงที่ใช้เป็นอาวุธในการตีหินผาเมื่อครู่เอาไว้ ส่วนหินผาก็นอนอยู่ข้าง ๆ กัน



“เหนื่อยเลยสิ” หินผาพูด เอื้อมมือไปปัดผมด้านหน้าของน้องออกให้



“ก็พี่หินผาแหละ” หันมาโวยวายใส่ แล้วก็ได้แต่เงียบเสียงลงเมื่อหันมาเจอใบหน้าของหินผาใกล้ ๆ สายน้ำกวาดสายตามองใบหน้าของคนที่เขารักมาหลายปี ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มามองหน้าอีกฝ่ายแบบนี้



“เรานี่นะ...” หินผาพูดคล้ายระอา สายน้ำไม่แน่ใจว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า กำลังจะเอ่ยปากถามแต่คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ กับขยับมาคร่อมทับตัวเขาเอาไว้ มีเพียงหมอนอิงที่สายน้ำกอดอยู่กั้นเอาไว้พอให้มีระยะห่างระหว่างกัน “มองพี่ด้วยสายตาแบบนั้น จะให้พี่ทำยังไงหือ”



“ย... ยังไงครับ...”



สายน้ำไม่รู้ว่าตัวเองมองหินผาด้วยสายตาแบบไหน แต่คนมองน่ะเห็นและรับรู้ได้ สายตาของสายน้ำที่มองมาที่เขามันเต็มไปด้วยความรัก ความจริงใจที่อีกฝ่ายมีให้ ในดวงตาคู่นั้นมีแค่ภาพของเขาที่สะท้อนอยู่ แล้วแบบนี้... จะไม่ให้หินผารู้สึกอะไรขึ้นมาเลยได้อย่างไรกัน



“แบบที่พี่กำลังมองเราอยู่ในตอนนี้” หินผาตอบก่อนจะมองสบตากับคนใต้ร่าง ใช้สายตาแบบเดียวกันกับสายน้ำที่มองเขา มองกลับไป บอกให้คนคนนี้รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร



“พี่...”



“พี่รักเรา” ความรู้สึกของเขามันเลยคำว่าชอบมาแล้ว เขามั่นใจ...



“ผมก็รักพี่”



ดวงตาของสายน้ำปิดลงเมื่อใบหน้าของหินผาขยับมาใกล้ ก่อนที่ริมฝีปากของคนอายุมากกว่าจะแนบสนิทกับริมฝีปากของสายน้ำ หินผาค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักลงไป จากที่เพียงแค่แนบริมฝีปากก็เริ่มซุกซน ขบเม้มกลีบปากล่างเบา ๆ ก่อนจะกดจูบลงไปอีกรอบ



เนิ่นนานกว่าหินผาจะถอนริมฝีปากออก นานเสียจนสายน้ำคิดว่าตัวเองจะขาดอากาศหายใจเสียแล้ว ริมฝีปากของสายน้ำแดงก่ำและฉ่ำวาวจากแรงดูดและขบเม้ม ใบหน้าหล่อเหลาก็แดงเรื่อไม่ต่างกัน



“พี่...”



อีกครั้งที่สายน้ำโดนจูบ และคราวนี้มันเริ่มแตกต่างจากครั้งแรก หนักหน่วงกว่า และรุกล้ำกว่าจนสมองของสายน้ำขาวโพลนไปหมด มือสองข้างได้แต่กำแขนเสื้อของหินผาเอาไว้



ไม่รู้ว่าพวกเขาจูบกันนานแค่ไหน แต่ตอนนี้สายน้ำถูกประคองให้ลุกขึ้นนั่งแล้ว ไม่ใช่นั่งบนพื้น แต่เป็นบนตักของหินผาที่นั่งพิงโซฟาเอาไว้ และที่สำคัญริมฝีปากของพวกเขายังไม่ได้ผละออกจากกันเลย คนอายุมากกว่าทั้งไล่ต้อน ทั้งหยอกล้อจนสายน้ำรู้สึกปั่นป่วนไปหมด



“พ พี่ครับ พ พอก่อน... พอก่อน” สายน้ำรีบห้ามเสียงสั่นตอนที่ริมฝีปากของเขาเป็นอิสระ ต้องรีบห้ามเสียตอนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะไปไกลไปมากกว่านี้



“ขอโทษที...” หินผาว่าเสียงแผ่ว เขากอดคนบนตักเอาไว้แน่นจับให้น้องซุกหน้ากับไหล่ของตัวเอง มือทั้งสองข้างลูบหลังสายน้ำอย่างต้องการปลอบ เขารู้ว่าความรู้สึกมันถูกจุดขึ้นมาแล้วทั้งตัวเขาเองและตัวสายน้ำ ถ้าหากไม่หยุดอย่างที่สายน้ำบอก... มันคงจะเลยเถิดไปไกล



กว่าครึ่งชั่วโมงที่หินผานั่งกอดสายน้ำบนตักแบบนั้น กว่าพายุลูกเล็ก ๆ ในความรู้สึกจะสงบลงได้ และเมื่อสายน้ำสติกลับมาครบถ้วนสมบูรณ์ เจ้าตัวก็รีบเด้งตัวออกจากตักของหินผาไปนั่งซุกตัวเองอยู่บนโซฟาเดี่ยวทันที



หินผาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ในตอนนี้ทางที่ดี... ไม่ควรจะอยู่ใกล้กันมากนัก เพราะอะไร ๆ มันอาจจะถูกติดขึ้นมาได้อีก เจ้าตัวคิดแบบนั้นอยู่ในใจ รสสัมผัสที่หอมหวานยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ทุกอย่างมันอันตรายเกินไปหากเขาอยู่ใกล้น้องอีก



“เดี๋ยวพี่ลงไปซื้ออะไรมากินดีกว่า... เรารออยู่บนนี้ก่อนนะ”



“ครับ” สายน้ำไม่ดื้อขอตามไปด้วย



แยกกันสักนิดเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองน่าจะดีกว่า...








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผาาาาาาาาาาาา
ฝากตัวกับแม่เรียบร้อยแล้วจะทำรุ่มร่ามกับน้องไม่ได้น้า
ใจเย็นนนนนนน อย่าเพิ่งกินน้องงงงงงง
น้องยังไม่พร้อมมมมม
ฝากเนื้อฝากตัวกับแม่ยายเรียบร้อย ผ่านฉลุยเลยจ้า

ขอบคุณมากค่ะ ^^

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-01-2020 21:29:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-01-2020 22:41:37
ไป..... ขึ้นเตียงนอนกันดีกว่า รู้เรื่องกันทุกคนแล้ว  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 10-01-2020 11:18:42
 o18 :really2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-01-2020 20:41:20
เกือบห้ามใจไม่ทันแล้วเชียว ^^"
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 12-01-2020 02:47:30
เกือบแล้วๆๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-01-2020 22:38:02
ถึงจะผ่านด่านคุณแม่มาแล้ว แต่ก็ใจเย็นๆ กันนะเด็กๆ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 14-01-2020 21:55:24
(https://i.ibb.co/rysm0v3/17.jpgg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “17”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖






พอเข้าช่วงท่วงปลายเทอมงานที่อาจารย์สั่งก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่อีกแค่ไม่ถึงสองเดือนก็จะสอบปลายภาคแล้วแท้ ๆ ทั้งวิชาในคณะ และวิชานอกคณะก็มีรายงานให้ต้องส่งอีกหลายเล่ม ทั้งงานเดี่ยว งานกลุ่มเต็มไปหมด ช่วงนี้เลยมักจะเห็นเด็กคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เดินตาลอย ๆ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ



ห้องที่คอนโดก็สายน้ำก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เพื่อนในกลุ่มมารวมตัวกันทำงาน วันนี้หลังเลิกเรียนก็นัดกันไปที่ห้องของสายน้ำเพื่อทำงานกลุ่มที่ยังทำค้างไว้ให้เสร็จ ก่อนจะได้เริ่มงานใหม่ที่ยังต่อคิวรออยู่อีกสามสี่งาน ก็ได้แต่หวังว่าวันนี้จะไม่มีงานชิ้นใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก



“เดี๋ยวก่อนกลับไปที่คอนโดแวะซื้อกระดาษก่อนนะ กระดาษที่ห้องหมดแล้ว ปริ้นรายงานวิชาก่อนหมดเกลี้ยงเลย แล้วเดี๋ยวยังต้องปริ้นรายงานอีกตั้งหลายเล่ม” สายน้ำหันไปบอกเพื่อนในกลุ่มที่ตอนนี้กำลังเก็บของกันอยู่ อาจารย์ผู้สอนเพิ่งจะเดินออกจากห้องไปเมื่อครู่นี้เอง



“แล้วของตัดโมเดลยังมีอยู่ไหมวะ หมดหรือยังเบลจำได้ไหม” ตั้มถามขึ้นมาบ้าง



“ไม้เกือบหมดแล้วเหมือนกัน แวะซื้อพร้อมกันที่ร้านเลยก็ได้จะได้ไม่ต้องเข้าออกอีกรอบ” เบลตอบ



ตอนนี้มีทั้งงานตัดโมเดลโครงสร้างไม้ของบ้านเรือนไทย พร้อมทำรายงานของวิชาในคณะ แล้วก็ยังมีรายงานวิชาอื่นอีกที่ทำเป็นงานกลุ่ม พวกเขาเลยต้องแบ่งกลุ่มกันทำงาน ช่วงนี้พวกเขาทั้งห้าคนเลยมักจะรวมตัวกันอยู่ที่ห้องของสายน้ำเป็นส่วนใหญ่



และก็ไม่ใช่แค่ปีหนึ่งที่งานเยอะ ปีสี่อย่างหินผาก็งานเยอะไม่แพ้กัน ยิ่งอีกฝ่ายต้องเร่งทำโปรเจคส่งปลายเทอมนี้แล้วด้วยก็ยิ่งต้องเร่งทำงาน ไม่รวมงานอื่น ๆ อีก เพราะแบบนั้นสองอาทิตย์มานี้สายน้ำยังไม่ได้เจอกับหินผาเลยนอกจากโทรหากัน หรือไม่ก็ทิ้งข้อความโต้ตอบกันไว้ผ่านทางไลน์ บางทีส่งไปเมื่อตอนเช้า กว่าอีกฝ่ายจะว่างอ่านและตอบกลับมาก็เกือบบ่ายโมงแล้วก็พิมพ์ข้อความทิ้งเอาไว้บ้าง



“อย่างนั้นก็ได้นะ แวะซื้อเข้าไปทีเดียวเลย”



สายน้ำเดินคุยกับเพื่อนเรื่องงานที่ยังเหลืออยู่จนมาถึงชั้นล่าง แต่เพราะเบลกับมะนาวที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเบรกกะทันหันทำเอาหนุ่ม ๆ สามคนเบรกกันตัวโก่งตามไปด้วย



“หยุดไม่บอกเลยนาว” แบงก์พูดอย่างไม่จริงจังนัก เขากลัวว่าจะเดินชนสาว ๆ จนเจ็บตัวมากกว่า



“ก็นะ... เราว่าวันนี้คงมีคนไม่ได้ไปกินข้าวแล้วก็ซื้อของกับเราแน่นอนเลย” มะนาวหันมาพูดให้เพื่อน ๆ ทำหน้างง



“ยังไง ทำไมถึงไม่ไปล่ะ”



“ก็... นู้นน่ะ” มะนาวชี้นิ้วไปทางโต๊ะที่วางตั้งอยู่ใต้คณะให้เพื่อน ๆ ดู เท่านั้นทุกคนก็ร้องอ่อออกมาอย่างเข้าใจในสิ่งที่มะนาวต้องการสื่อ



หินผานั่งกดโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะที่มะนาวชี้ให้ดู พวกเขาทั้งห้าคนเลยต้องเดินเข้าไปหา “พี่หินผา สวัสดีครับ”



“อ้าว เลิกเรียนกันแล้วเหรอ” หินผาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งยิ้มให้กับสายน้ำ “มีนัดทำงานกันอีกหรือเปล่าวันนี้”



“มีค่ะ เดี๋ยวพวกเราตั้งใจว่าจะไปหาอะไรกิน ซื้อของแล้วก็เข้าคอนโดไปทำงานต่อที่ห้องของสายน้ำน่ะค่ะ” เบลเป็นฝ่ายตอบคำถามของรุ่นพี่



“อย่างนั้นพี่ยืมตัวสายน้ำหน่อยได้ไหม”



“ได้ครับพี่ พาไปได้เลยไม่เป็นไรครับ งานไม่ได้เหลือเยอะมากมายขนาดนั้น” ตั้มรีบพูดทันที เรียกสายตาของสายน้ำให้หันไปมอง เจ้าตัวเบ้ปากใส่เพื่อนสนิทจนทุกคนหลุดหัวเราะออกมา



“โอเค อย่างนั้นพี่ยืมตัวสายน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะพาไปส่งที่คอนโด” หินผาพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน เอื้อมมือมาจับมือของสายน้ำแล้วพาออกจากใต้อาคารไปทันทีจนสายน้ำยังไม่ทันได้หันไปคุยกับเพื่อนเลย



“เราจะไปไหนกันเหรอครับ” สายน้ำถามด้วยความสงสัยเพราะอีกฝ่ายยังไม่ยอมบอกสักทีว่าพวกเขากำลังจะไปไหนกัน ถ้าจะให้คิดก็คงไปหาอะไรกินกันก่อนจะแยกย้าย เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยังมีงานของตัวเองรออยู่เหมือนกัน



“กินข้าว” คำตอบของหินผาไม่ได้ต่างจากที่สายน้ำคิดเอาไว้เท่านั้น “ที่ห้องพี่”



“ครับ?”



“ไปกินข้าวที่ห้องพี่กัน พี่สั่งของกินเอาไว้แล้วล่ะ เราไม่ได้ฉลองมาเกือบสองอาทิตย์แล้วนะ วันนี้เลยต้องมาฉลองกันนี่ไง” หินผาขยายความให้ฟัง



สายน้ำหัวเราะกับคำบอกเล่าของอีกฝ่าย เพราะตั้งแต่วันที่คบกัน วันที่หินผาบอกว่าจะฉลองการคบกันในทุก ๆ วัน พวกเขาก็ทำแบบนั้นจริง ๆ ที่จริงแล้วมันก็คือการไปกินข้าวด้วยกันเท่านั้น ไม่ใช่การฉลองอย่างจริงจังอะไร



“แล้วทำไมอยู่ ๆ ถึงมารับผมได้ล่ะครับ งานใกล้เสร็จแล้วเหรอครับ”



“ยังหรอก ก็เหลืออีกพอควรเหมือนกัน”



“อ้าวแล้ว...”



“คิดถึง อยากเจอหน้า ก็เลยพักงานแล้วขับรถไปรับเรานี่แหละ” หินผาหันมามองก่อนจะยิ้มให้ รอยยิ้มที่ทำให้สายน้ำก็เบนสายตาไปมองนอกหน้าต่างรถเพราะรู้สึกว่าถ้ามองนาน ๆ หัวใจของเขาจะต้องออกมาเต้นข้างนอกแน่นอน



“ผมก็... คิดถึงเหมือนกันครับ”



“พูดแล้วไม่มองหน้า พี่ถือว่าไม่ได้พูดนะ” น้ำเสียงกลั้นหัวเราะนั้น สายน้ำไม่ต้องหันมามองก็รู้ได้เป็นอย่างดีว่าหินผากำลังแกล้งตนเองอีกแล้ว



ไม่นานหลังจากนั้นรถของหินผาก็เลี้ยวเข้าสู่คอนโดของเจ้าตัว วนหาที่จอดรถไม่นานก็ได้ พวกเขาทั้งคู่เดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นที่หินผาอยู่



“จริง ๆ ระบบลิฟต์ของคอนโดพี่ก็ไม่ต่างอะไรกับคอนโดเราหรอกนะ สแกนบัตรก่อน แล้วค่อยกดชั้น พอถึงชั้นตัวเองก็สแกนบัตรผ่านประตูอีกรอบ” หินผาพูดระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นสูงขึ้น



“ครับ ที่คอนโดผมก็แบบนี้เหมือนกัน ถ้าไม่มีคีย์การ์ดก็กดชั้นไหนไม่ได้ แล้วก็ไม่สามารถกดเลขของชั้นอื่นที่ไม่ใช่ชั้นตัวเองได้” สายน้ำพยักหน้ารับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม



“ไม่ยากเนอะ”



“ครับ ไม่ยาก”



“อย่างนั้นก็... พี่ให้” หินผาหันมายื่นคีย์การ์ดให้กับสายน้ำ



“ครับ?”



“คีย์การ์ดคอนโดพี่ไง พี่ให้เราเก็บเอาไว้อันหนึ่ง เผื่อเวลาแวะมาหาพี่จะได้ขึ้นมาข้างบนได้เลย” เขาวางคีย์การ์ดใบนั้นเอาไว้บนมือของสายน้ำ “แล้วเราก็ไปทำคีย์การ์ดห้องเรามาให้พี่ด้วยล่ะ”



แม้จะยังงง ๆ แต่สายน้ำก็พยักหน้ารับพร้อมกับเก็บคีย์การ์ดคอนโดของหินผาไว้ในกระเป๋าคู่กับคียร์การ์ดคอนโดของเขาเอง



“เอ๊ะ!” สายน้ำตาโตตอนที่นึกขึ้นมาได้ “คีย์การ์ด...”



“อะไรกันเรา” หินผาหันมามองในระหว่างที่เดินออกจากลิฟต์เพื่อตรงไปยังห้องของเขา “ทำตาโตอะไรกัน”



“ก็... ก็พี่ให้ คีย์การ์ดมา”



“ก็ใช่ไง คีย์การ์ดห้องของพี่เอง แล้วตกใจอะไรกัน เราก็รับไปเก็บใส่กระเป๋าแล้วนี่”



“ไม่ใช่ครับ คือ... ห้องพี่นะ คีย์การ์ดห้องพี่นะ”



หินผาหัวเราะขำเขาดันตัวน้องให้เดินเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูลง พาสายน้ำมานั่งที่โซฟาก่อนจะเริ่มคุยอีกรอบ “ก็คีย์การ์ดห้องของพี่ไง จะเป็นห้องคนอื่นได้ยังไงล่ะ”



“ไม่ใช่แบบนั้นสิครับ!” สายน้ำว่า “พี่ให้คีย์การ์ดห้องพี่กับผมมานะ เท่ากับว่า... ผ ผมจะเข้าออกห้องพี่ตอนไหนก็ได้เลยนะ”



“พี่ก็ตั้งใจแบบนั้นไง” หินผาขำ นึกตลกปนเอ็นดูกับอาการตื่นตูมของสายน้ำในเรื่องนี้ “เป็นแฟนกันจะเข้าออกห้องแฟนก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอ เผื่อเวลาเรามาค้างห้องพี่”



“ค้าง!” สายน้ำตาโต แก้มสองข้างเริ่มขึ้นสีระเรื่อ



“หึหึ คิดไปถึงไหนน่ะเรา อย่างเวลามาเร่งทำโปรเจคที่ห้องพี่ เราจะได้มีเอาไว้ หรือสมมติพี่วานให้แวะมาเอาของ หรือถ้าพี่เกิดไม่สบายอะไรแบบนั้น”



“อ่อ... ครับ แหะ...” สายน้ำยิ้มแหยเมื่อเผลอแสดงออกไปว่าคิดอะไรแปลก ๆ อยู่ เขาดันเผลอคิดไปไกลกับคำว่า ‘ค้าง’ ของอีกฝ่ายเสียได้



“แต่ถ้าจะ ค้าง ในความหมายที่เราว่าพี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ” หินผาขยับเข้าไปใกล้สายน้ำ มือข้างหนึ่งโอบเอวของอีกฝ่าย ปลายนิ้วไล้สัมผัสช่วงเอวผ่านเสื้อนักศึกษาที่สายน้ำใส่ พร้อมกระซิบข้างหู



“พ พี่... พี่...” สายน้ำตาโตหน้าแดงก่ำ พูดติดอ่างไปหมด จะเด้งตัวหนีคนพี่ก็ทำไม่ได้ รู้สึกว่าร่งกายแข็งทื่อไปหมด



หินผาที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะชอบใจ ท่าทางของสายน้ำมันทั้งน่าขำแล้วก็น่าเอ็นดูจนนึกอยากจะแกล้งแรง ๆ แต่ไม่รู้ว่าถ้าแกล้งไปมากกว่านี้เจ้าเด็กขี้เขินของเขาจะร้องไห้ออกมาหรือเปล่า



สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่แกล้ง เอาไว้แกล้งวันอื่นบ้างวันนี้พอแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวน้องจะตื่นกลัวไปมากกว่านี้



“สงสัยของกินที่พี่สั่งไว้จะมาแล้ว เดี๋ยวพี่ลงไปรับก่อน เราก็นั่งเล่นอยู่นี่ก่อนแล้วกันนะ” หินผายอมผละตัวออกห่างจากน้อง วางมือบนผมนุ่มแล้วยีเล่น



“ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ เขาหยิบหมอนอิงมากอดเอาไว้แน่น ใบหูของเขายังร้อนอยู่เลย ไม่รู้ว่าเพราะหินผามากระซิบข้างหูหรือเพราะอาการเขินกันแน่ แต่สายน้ำว่าน่าจะทั้งสองอย่างเลย



ยังดีที่หลังจากที่อีกฝ่ายกลับขึ้นมาบนห้องก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นการทำให้สายน้ำเขินอายขึ้นมาอีก สายน้ำเลยสามารถพูดคุยกับหินผาได้อย่างปกติ ส่วนมากก็คุยถึงเรื่องเรียน เรื่องโปรเจคที่กำลังทำแล้วก็การสอบปลายภาคที่กำลังจะมาถึงในไม่นานนี้ แล้วก็เรื่องโปรเจคของเทอมสองที่พวกปีหนึ่งจะต้องทำงานร่วมกับรุ่นพี่ปีสี่



ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจารย์ประจำวิชาก็ได้เรียกปีหนึ่งแล้วก็ปีสี่ไปประชุมกันแล้ว และปล่อยให้เด็ก ๆ จับกลุ่ม แน่นอนว่ากลุ่มของสายน้ำก็ต้องจับกลุ่มกับกลุ่มของหินผา ตอนนี้กำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะไปจังหวัดไหน และจะไปลงชุมชนไหนกันดี



“ว่าแต่งานเราเหลืออะไรบ้าง อีกเยอะไหม” หินผาถามไปถึงงานของสายน้ำที่จะต้องทำส่ง



“เหลือพวกงานกลุ่มน่ะครับ แต่ก็ทำไปได้พอสมควรแล้วเหมือนกัน ว่าแต่ของพี่เถอะโปรเจคของพี่ถึงไหนแล้วครับ ใกล้เสร็จหรือยัง”



“เหลือตัดโมเดล เรนเดอร์ ทำพรีเซนต์ พูดไปพูดมาก็เหลือทุกอย่างเลยนี่นา...” พูดไปก็เอามือลูบคางอย่างใช้ความคิดไปด้วย “ทำทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังไม่เสร็จสักอย่าง”



“แล้วเหลืออีกเยอะไหมครับ ให้ผมมาช่วยไหม” สายน้ำถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วพวกน้องสายล่ะครับ ไม่ชวนมาช่วยทำ”



“ยังไงดี... น้อง ๆ ก็อาสามาช่วยแหละ แต่พี่เป็นพวก... อยากทำเองทั้งหมดเลยมากกว่า ก็เลยไม่ค่อยให้น้องมาช่วยเท่าไหร่ ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงก็ทันอยู่แล้วล่ะ” หินผายิ้มให้เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้คลายความกังวล เขาไม่ใช่พวกที่ชอบเผางาน เขามักจะค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ พอตอนไฟนอลเลยไม่รู้สึกเหมือนไฟลนก้นเท่าไหร่ แต่ถึงจะไม่ลนก้น แต่ไฟก็เริ่มลามมาเหมือนกัน



“ถ้าไม่ทันยังไงก็บอกผมได้นะครับ ถึงจะช่วยอะไรพี่มากไม่ได้ก็เถอะ แต่ก็คิดว่าน่าจะพอทำอะไรให้ได้บ้าง นิด ๆ หน่อย ๆ ก็เถอะครับ”



“เป็นแฟนพี่ก็ช่วยให้กำลังใจพี่เยอะ ๆ แค่นี้พี่ก็มีแรงปั่นงานทั้งคืนแล้ว” หินผาคว้าตัวน้องมากอด



หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเขากับสายน้ำก็ย้ายมานั่งย่อยอยู่ตรงโซฟาหน้าโทรศัพท์ที่เปิดทิ้งเอาไว้เพราะไม่มีใครสนใจดู ตัวของสายน้ำแทบจะเกยทับหินผา น้องกึ่งนั่งกึ่งนอนให้เขากอดเอาไว้



“เฮ้อ... เหมือนได้ชาร์จแบตเลย” หินผาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก้มลงหอมกระหม่อมของคนในอ้อมแขน



“มีแรงทำงานต่อแล้วใช่ไหมครับ” เงยหน้ามองคนที่กอดเขาเอาไว้



“ครับ” หินผายิ้มให้ “ช่วงนี้พี่คงจะยุ่ง ๆ กับการปั่นโปรเจค อาจจะไม่ค่อยได้ไปหาอย่าโกรธกันนะ”



สายน้ำพยักหน้ารับ เข้าใจถึงเหตุผลของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี “ผมเข้าใจครับ พี่เร่งทำงานดีแล้วล่ะครับ จะได้มีเวลาพักบ้างเดี๋ยวพอส่งงานเสร็จก็ต้องเร่งอ่านหนังสือสอบอีกใช่ไหมล่ะครับ”



“ใช่แล้วล่ะ เราเองก็ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ นะรู้ไหม เดี๋ยวจะไม่สบายไป”



“ครับผม”



สายน้ำปล่อยให้หินผากอดอยู่แบบนั้น บางครั้งอีกฝ่ายก็รัดเขาแน่นขึ้นเหมือนจะมันเขี้ยว บางครั้งก็ก้มลงมาหอมหัวเหมือนเอ็นดู สายน้ำได้แต่นั่งนิ่งสลับกับหน้าแดงอยู่แบบนั้น จริง ๆ จะหนีหรือปฏิเสธก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ เพราะอ้อมกอดของหินผาก็อุ่นดี แถมยังได้เหมือนกับชาร์จพลังอย่างที่อีกฝ่ายว่าด้วย



“ป่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่คอนโดเราจะได้กลับไปช่วยเพื่อนทำงานต่อ” หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหินผาก็ยอมปล่อยน้องให้เป็นอิสระ



“ครับผม” สายน้ำลุกขึ้น หยิบกระเป๋าของตัวเองมาสะพายเพื่อเตรียมตัวกลับ เขายืนรอเจ้าของห้องอยู่ตรงหน้าประตู ในขณะที่หินผาก็เดินไปเช็คปลั๊ก เช็คไฟจนเรียบร้อย



“สายน้ำ”



“ครับ” เขาหันกลับไปมองคนที่เอ่ยเรียก กำลังจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่าริมฝีปากของเขาก็โดนปิดทับด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย



ตัวของสายน้ำถูกจับให้หันมาทั้งตัว มือทั้งสองข้างของหินผาจับประคองใบหน้าของคนอายุน้อยกว่าพร้อมกับป้อนจูบให้ไม่หยุด เอียงใบหน้าปรับองศาในการจูบในขณะที่มือของสายน้ำก็ทำได้แค่กำแขนเสื้อของหินผาเอาไว้



เนินนานหลายนาทีกว่าริมฝีปากของสายน้ำจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ คนโดนขโมยจูบได้แต่ยืนหายใจหอบเอนหน้าซบที่ไหล่ของหินผาเพราะไม่กล้าเงยหน้ามอง



“แบบนี้ชาร์จพลังได้เต็มพันเต็มหมื่นเลย” หินผาพูด โยกตัวไปมาพลางใช้มือลูบหลังปลอบคนรักที่โดนเขาปล้นจูบไป



หินผาดูจนแน่ใจว่าน้องโอเคแล้วถึงได้จูงมือสายน้ำออกจากห้อง เขาขับรถพาสายน้ำไปส่งที่คอนโด ซึ่งตั้งแต่ออกจากคอนโดของหินผามามือข้างขวาของสายน้ำก็ยังไม่ถูกปล่อยเลย แม้จะรู้ว่าการให้หินผาขับรถมือเดียวมันจะอันตราย แต่ความอุ่นที่มือมันก็ดีกับใจของเขามากจนไม่อยากให้หินผาปล่อยมือกันไป



“ขับรถมือเดียวอันตรายนะครับ”



“พี่จะขับช้า ๆ ไม่ให้เราเป็นอันตราย” พอเขาบอกไปแบบนั้นหินผาก็ตอบกลับมาแบบนี้ แล้วเจ้าตัวก็ทำอย่างที่บอกคือขับรถไม่เร็ว ส่วนหนึ่งก็คงเพราะรถค่อนข้างเยอะทำให้ขับเร็วไม่ได้ ไหนจะเจอรถติดเป็นบางช่วงอีก



“มือผมคงไม่นิ่มเหมือนตอนเด็ก ๆ แล้ว ใช่ไหมครับ” สายน้ำมองมือของตัวเองที่ถูกมือของหินผาจับเอาไว้



ตอนเด็ก ๆ พี่ชายคนนี้ก็มักจะคอยจับมือของเขาเอาไว้เสมอ จำได้ว่าตอนนั้นหินผาบอกว่ามือของเขาเล็กแล้วก็นิ่มมาก จับแล้วรู้สึกดีมือของพี่ชายในวัยเด็กก็สามารถกำมือของเขาได้มิด แต่ดูตอนนี้สิมือของเขาไม่ได้เล็กน่ารักหรือนุ่มนิ่มแบบตอนนั้นแล้ว



“แค่เป็นมือของสายน้ำ จะเล็กจะใหญ่ จะนิ่มจะสาก พี่ก็ชอบทั้งนั้นแหละ” หินผาบอกเขากระชับมือที่จับมือของน้องแน่นขึ้น “ไม่ว่ายังไง มือของพี่ก็จะคอยกุมแล้วก็ปกป้องน้องน้ำเสมอ”



“ครับ มือของพี่หินผาปกป้องน้องน้ำได้เสมอ แม้แต่ตอนที่เราไม่ได้จับมือกันก็ตาม” สายน้ำยิ้ม เขาเล่นมือของหินผาเล่นอย่างเพลินมือ



หลังจากที่ย้ายบ้านมาอยู่กรุงเทพฯ หรือแม้แต่ตอนที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ สิ่งที่สายน้ำนึกถึงมากที่สุดอีกหนึ่งอย่างก็คือฝ่ามือของพี่หินผาที่คอยกอบกุมแล้วก็ปกป้องน้องน้ำอยู่เสมอ แค่มองมือของตัวเองแล้วนึกถึงตอนที่โดนหินผาจับมือเอาไว้ สายน้ำในเวลานั้นก็แรง มีกำลังใจที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมาย



“แต่หลังจากนี้ไป พี่จะคอยจับเอาไว้ตลอด ไม่ปล่อยเลย”



“ครับ ผมก็จะจับมือของพี่เอาไว้แบบนี้ไม่ปล่อยเหมือนกัน”



สายน้ำใช้มืออีกข้างที่ว่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขากดถ่ายรูปมือของตัวเองกับหินผาที่จับกันเอาไว้ เจ้าตัวยิ้มเขินตอนคนเป็นพี่หันมามองแล้วยิ้มให้



“ส่งรูปให้พี่ด้วย” ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักตอนที่พี่พูด



แม้จะเจอรถติดแต่สุดท้ายแล้วระยะทางก็สิ้นสุดลง รถของหินผาเลี้ยวเข้ามาในคอนโดของสายน้ำและจอดนิ่งเพื่อส่งเจ้าตัว



“พี่หินผา... ปล่อยมือผมได้แล้วครับ”



“ยังไม่อยากปล่อยเลย เราขึ้นไปเอางานแล้วไปทำที่คอนโดพี่ไหม” คนอายุมากกว่าชักจะงอแง



“ไม่ได้สิครับ ผมไม่ได้ทำงานเดี่ยวนะ เพื่อน ๆ ผมรออยู่ด้วย”



ทำหน้าขัดใจแต่ก็ยอมปล่อยมือของสายน้ำแม้จะอิดออดก็ตาม “โอเคครับ ตั้งใจทำงานนะ”



“ครับผม พี่หินผาก็เหมือนกันนะครับ ตั้งใจทำงานนะ พักผ่อนบ้างนะครับอย่าโหมงานหนักเกินไปนะเดี๋ยวจะไม่สบายไป”



หินผาพยักหน้ารับ “ครับผม แล้วเจอกันนะ”



สายน้ำก้าวลงจากรถ โบกมือลาให้คนในรถยืนรอส่งจนกระทั่งรถของหินผาเลี้ยวออกจากคอนโดไปเขาถึงได้เดินไปขึ้นลิฟต์ ไม่รู้ว่าป่านนี้เพื่อน ๆ ของเขาทำงานถึงไหนกันแล้ว แต่เชื่อได้เลยว่าต้องให้ขมักเขม่นทำงานกันแค่ไหน เพียงแค่เขาเปิดประตูเข้าไปทุกคนก็คงจะพร้อมใจกันหยุดมือแล้วหันมาแซวเขาแน่นอน



แต่ไม่เป็นไร ถ้าเทียบกับการได้ชาร์จพลังงานกับหินผา โดนเพื่อน ๆ แซวแค่นี้ สายน้ำไม่เป็นอะไรหรอก








❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มันเป็นน่ารักน้าาาาา
พี่หินผากับน้องน้ำน่ารักมากเลย ฮือออออ เอ็นดูน้องเขินพี่ตลอด ๆ
พี่ก็ขยันหยอดน้องตลอด ๆ เหมือนกันนนนนนน
พี่หินผาก็ขยันจูบน้องบ่อย ๆ เหมือนกันนนนนน
งุ้ยยยย เขินเลย เขินคู่นี้
แต่งไปอมยิ้มไป เป็นน่ารักมาก ๆ ๆ ๆ เนอะ!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-01-2020 22:03:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-01-2020 22:58:09
กุมมือกันแล้วไม่ยอมปล่อยเลยนะ  จะได้กินข้าวเมื่อไหร่อ่ะ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-01-2020 23:24:09
ตั้งแต่เป็นแฟนกันแล้ว พี่หินผาก็ขยันนัวน้องเหลือเกิน

แต่น้องน้ำเขินน่ารักเน๊อะ  o18
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-01-2020 01:35:03
โดนแซวแน่นอน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-01-2020 20:04:07
หวาน ๆ กันไป ไม่ต้องรีบ ๆ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 15-01-2020 21:05:50
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [40%] l P.20 09-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-01-2020 23:18:08
จร้าาราา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [70%] l P.20 14-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 18-01-2020 13:41:48
 :mew1:

น่ารัก  สายน้ำน่ารักมาก พี่หินผาก็น่ารัก

นิยายฟางอ่านไปยิ้มไปทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 19-01-2020 20:36:06
(https://i.ibb.co/rysm0v3/17.jpgg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “17”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






ในขณะนี้สายน้ำกำลังเป็นกังวลเพราะเมื่อครู่เขาได้รับโทรศัพท์จากเดียร์รุ่นพี่ปีสี่ที่สนิทสนมกันว่าหินผาไม่สบาย แต่เพราะว่าสายน้ำติดรอพรีเซนต์งานจึงไม่สามารถไปหาได้ในทันที แถมอีกฝ่ายก็มีพรีเซนต์งานด้วยเหมือนกัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สายน้ำกระวนกระวายใจแบบนี้



“มีอะไรหรือเปล่า” ตั้มหันมาถามเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อน



“พี่เดียร์โทรมา” สายน้ำตอบ “บอกว่าพี่หินผาไม่สบาย แต่มีพรีเซนต์งานเลยยังไม่ได้ไปหาหมอ เห็นว่าทำงานข้ามวันข้ามคืนไม่ได้พักเลยป่วย”



“อ้าว! แล้วเป็นอะไรมากไหม” แบงก์ที่ได้ยินหันมาถาม



“พี่เดียร์บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่เพราะพี่หินผาไม่ยอมโทรบอกกูว่าป่วย พี่เดียร์เลยโทรมาบอกเอง แต่เมื่อกี้ได้ยินเสียงพี่เขา เสียงแหบมากเลย ไม่รู้ว่ามีไข้ด้วยหรือเปล่า” สายน้ำถอนหายใจออกมา



“ใจเย็นก่อน อาจจะไม่เป็นไรมากคงแค่เป็นไข้หวัด อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเสร็จแล้วตั้งสมาธิกับการพรีเซนต์งานก่อนดีกว่า” ตั้มตบไหล่เขาเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ



“อืม” สายน้ำพยักหน้ารับ พยายามตั้งสมาธิกับการพรีเซนต์งานของตัวเอง



“พี่หินผาพรีเซนต์ห้องไหน” แบงก์หันมาถามหลังจากที่อาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้วและตอนนี้พวกเขากำลังรีบเก็บของกันอยู่



“ชั้นล่างเรานี่แหละ”



“อย่างนั้นรีบไปเถอะ” พวกเขาทั้งห้าคนรีบออกจากห้องเรียนแล้วลงบันไดไปชั้นล่างทันที



สายน้ำกวาดสายตามองหาคนป่วย หน้าห้องพรีเซนต์งานมีรุ่นพี่ออกมานั่งอยู่ด้านนอก ก่อนที่เขาจะเร่งเดินเมื่อเห็นรุ่นพี่ที่สนิทกันนั่งอยู่ สายน้ำและเพื่อน ๆ พากันยกมือไหว้รุ่นพี่ปีสี่ที่นั่งอยู่ ก่อนจะนั่งลงเมื่อเดียร์เอ่ยชวน



“พี่หินผาล่ะครับ” สายน้ำรีบถามถึงหินผาทันที



“พรีเซนต์งานอยู่ในห้อง เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ” เดียร์พยักหน้าไปทางห้องเรียนที่ว่า “เสร็จตรงนี้ก็พามันกลับไปได้เลย ไม่ต้องรอหรอก”



“ครับ ว่าแต่พี่หินผาเป็นอะไรมากไหมครับ”



“มันบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่พี่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ เห็นมันไอ แล้วก็เสียงแหบน่าดูคงจะเจ็บคอด้วยมั้ง วันนี้มีพรีเซนต์งานก็เลยยังไม่ได้ไปหาหมอ”



“ครับ...” สายน้ำพยักหน้ารับก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อน ๆ เขาบอกให้เพื่อน ๆ ไปหาอะไรกินแล้วก็กลับกันได้เลย ส่วนตัวเขาจะอยู่รอหินผาแล้วก็จะพาอีกฝ่ายไปหาหมอก่อน



“แล้วมึงจะไปยังไง ขับรถยังไม่คล่องนี่”



“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปแท็กซี่ได้ พี่หินผาไม่ได้เอารถมา ใช่ไหมครับ” ท้ายประโยคหันไปถามเดียร์ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้า “ไปกันเถอะ ไม่เป็นไรจริง ๆ จะได้ไม่ต้องอยู่รอกันแบบนี้ด้วย”



พอสายน้ำยืนยันแบบนั้นพวกเขาก็ได้แต่พยักหน้า แบงก์กับตั้มเอ่ยกำชับกับเพื่อนว่าถ้าหากมีอะไรให้ช่วยก็ให้โทรหาได้ทันทีไม่ต้องเกรงใจ สายน้ำเองก็รับปาก เพื่อน ๆ ถึงได้พากันเดินไป



นั่งรออยู่ไม่นานหินผาก็เดินออกมาจากห้องเรียน อีกฝ่ายดูแปลกใจที่เห็นสายน้ำนั่งอยู่กับเพื่อนสนิทอย่างเดียร์



“สายน้ำพามันกลับไปเลยนะ มีอะไรก็โทรหาพี่ไม่ก็ไอ้ทัชได้นะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปเตรียมพรีเซนต์ต่อแล้วล่ะ” เดียร์หันมาพูดกับสายน้ำ



“ครับ ขอบคุณนะครับ”



เดียร์ลุกขึ้นจากโต๊ะ ยกมือตบไหล่เพื่อนเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเรียน หินผาเองก็พยักหน้าให้เพื่อนสนิทก่อนจะเดินมาหาสายน้ำ “มาได้ยังไง”



เสียงของหินผาแหบอย่างที่เดียร์บอก สายน้ำขมวดคิ้วมุ่นยกมือขึ้นสัมผัสหน้าผากและลำคอของหินผาเพื่อวัดไข้ “พี่เดียร์โทรไปบอกครับว่าพี่ไม่สบาย ผมพรีเซนต์เสร็จก็เลยลงมารอ นี่พี่ได้กินยาหรือยังครับ ตัวร้อนด้วยเป็นไข้แน่เลย”



“ยังครับ” พูดจบหินผาก็ไอออกมาหลายรอบ



“ไปหาหมอดีกว่าครับ ไปครับ” สายน้ำหยิบกระเป๋าตัวเองมาสะพาย ก่อนจะรวบของหินผามาถือเอาไว้ด้วย เขาหันไปดุคนอายุมากกว่าเมื่ออีกฝ่ายพยายามที่จะแย่งกระเป๋าและของไปถือ หินผาถึงได้ยอมปล่อยให้น้องจัดการ



สายน้ำพาหินผาไปคลีนิคที่คณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย โชคดีที่คนไข้ไม่เยอะนั่งรอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหินผาก็ได้เข้าไปพบคุณหมอโดยที่สายน้ำตามเข้าไปร่วมฟังอาการของคนป่วยด้วย แล้วก็จริงอย่างที่สายน้ำคิด หินผาไม่สบายเป็นเพราะพักผ่อนน้อย คุณหมอสั่งยามาให้ชุดใหญ่อวยพรให้อีกฝ่ายหายดีก่อนจะให้ออกไปรอรับยาข้างนอก



“อ้าว... หินผามาทำอะไรที่นี่ ไม่สบายเหรอ” ทั้งสายน้ำแล้วก็หินผาหันไปตามเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะเห็นนักศึกษาแพทย์สาวสวยเดินเข้ามาทักทาย



“ครับ” หินผาพยักหน้ารับ อีกฝ่ายอวยพรขอให้หายไว ๆ ก่อนจะขอตัวไป ที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาทักหินผา และนั่นก็ทำให้สายน้ำรู้ว่าคนข้าง ๆ เขานี่ดังไม่ใช่เล่น เดี๋ยวสาวคนนู้นทัก เดี๋ยวหนุ่มคนนี้ทักเต็มไปหมด



สายน้ำนึกหมั่นไส้เล็ก ๆ แต่เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายป่วยอยู่เลยพยายามไม่ใส่ใจอะไร



“มียาก่อนอาหารด้วย เดี๋ยวพอถึงห้องแล้วพี่กินยาก่อนอาหารก่อนเลยนะครับ เดี๋ยวผมลงมาซื้อพวกโจ๊กหรือไม่ก็ข้าวต้มให้” สายน้ำหยิบยาในถุงขึ้นมาดูในระหว่างที่พวกเขานั่งแท็กซี่กลับคอนโดของหินผา



“แวะก่อนขึ้นคอนโดเลยก็ได้ แปบเดียวไม่เป็นอะไรหรอก”



“ก็ได้ครับ”



หินผาเป็นคนจ่ายเงินค่ารถ พวกเขาเปลี่ยนเป็นลงรถก่อนถึงคอนโดแทนเพื่อที่จะได้แวะซื้อของกินไปเลย พวกเขาซื้อเป็นข้าวต้มสองถุง สายน้ำแวะซื้อผลไม้มาด้วยเอาไว้ให้คนไม่สบายกิน อย่างน้อยรสหวานของผลไม้ก็อาจจะไม่ทำให้คนป่วยขมคอมากนัก ซื้อของเสร็จเรียบร้อยก็พากันเดินกลับคอนโด



สายน้ำเตรียมยาก่อนอาหารกับน้ำให้หินผา ก่อนที่เขาจะเดินไปเทข้าวต้มที่ซื้อมาทั้งของเขาแล้วก็ของหินผา แต่คนป่วยกินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็อิ่ม รู้สึกขมคอจนไม่อยากกินอะไรเลย สายน้ำเองก็ไม่ได้บังคับ ส่งยาหลังอาหารให้กินและปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งย่อยไปก่อน ส่วนเขาก็จัดการข้าวต้มที่เหลือแล้วเอาชามไปเก็บล้างให้



“จะทำอะไรครับ” สายน้ำถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายหยิบผ้าขนหนูมาถือเอาไว้



“พี่จะไปอาบน้ำ” หินผาตอบก่อนจะไอออกมา



“เช็ดตัวก่อนครับ ยังไม่ต้องอาบน้ำเดี๋ยวไม่สบายหนักกว่าเดิมหรอกครับ ไปนั่งรอที่เตียงเลยครับ”



“หือ...” หินผาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น “นั่งรอ”



“ครับ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้” สายน้ำพยักหน้า เขาย้ำกับคนป่วยอีกรอบ ถือวิสาสะเปิดตู้เพื่อหาผ้าขนหนูผืนเล็กมาใช้เช็ดตัวให้



หินผาทำหน้าแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้นแต่ก็ยอมเดินไปนั่งรอบนเตียงแต่โดยดี ได้แต่นึกในใจว่าเจ้าเด็กขี้เขินของเขารู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังจะทำอะไร หรือคิดอีกที... จะมีแค่เขาที่คิดไม่ดีแบบนี้ อีกฝ่ายก็แค่จะเช็ดตัวให้เขาเท่านั้นเอง



เจ้าเด็กขี้เขินของหินผาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมอ่างใบเล็กกับผ้าขนหนู เขาเดินมานั่งบนเตียงฝั่งที่หินผานั่งอยู่ เขาวางอ่างบนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะจัดการปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหินผาออกแล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดไปตามลำตัวให้



“หนาวเหรอครับ” สายน้ำถามเมื่อหินผาเอื้อมมาจับมือของเขาเอาไว้



“เปล่าหรอก” สารภาพบาปก็ได้ว่าเขาคิดไม่ซื่อ ท่าทางจริงจังของน้องตอนเช็ดตัวให้เขา ผ้าที่สัมผัสไปตามตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวเขาจะเจ็บ ท่าทางนั้นมันดูน่ารักจนบอกไม่ถูก หินผากระแอมไอไม่ยอมสบตาของสายน้ำที่มองมา



และนั่นก็ทำให้สายน้ำชะงัก เริ่มเข้าใจอะไร ๆ ขึ้นมาบ้าง “เอ่อ... เดี๋ยวผมไปหยิบชุดนอนมาให้เปลี่ยนนะครับ”



“อ้าวแล้ว...”



“ครับ”



“ข้างล่างไม่เช็ดเหรอ”



“ช เช็ดเองไปก่อนเถอะครับ” สายน้ำหน้าแดง วางผ้าขนหนูลงแล้วรีบเดินไปหยิบชุดนอนมาให้หินผาก่อนจะรีบออกจากห้องนอนอีกฝ่าย “ถ ถ้าเช็ดตัวเสร็จแล้วก็เรียกแล้วกันครับ เดี๋ยวผมมาเก็บของเอง”



หินผาหัวเราะ เขาเอ่ยเรียกสายน้ำก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป “ขอบคุณครับที่ดูแล”



“ก็... พี่เป็นแฟนผมนี่ครับ”





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

โถ่... คนพี่ป่วยซะอย่างนั้น
แต่น่าจะหายเร็ว เพราะได้แฟนดูแลดี
แต่ขนาดป่วยก็ยังไม่วายทำให้น้องเขินเลยจ้า
น้องไปไม่เป็นแล้วพี่จ๋า เห็นใจน้องด้วยจ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 19-01-2020 21:18:24
ก็พี่เป็นแฟนผม   :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-01-2020 22:47:42
เป็นแฟนเลยเช็ดได้แค่ครึ่งตัวบนเท่านั้นหรอ สายน้ำ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-01-2020 01:00:54
ดูพี่เขาดิ 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-01-2020 06:24:00
หูยยยยย น้องเขินพี่ด้วยแหละ :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-01-2020 07:38:28
ตอนแรกน้องเป็นห่วงเลยลืมเขิน แต่พี่สิคิดไม่ดี น้องรู้ตัวแล้วเขินหนีไปเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "17" [100%] l P.20 19-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-01-2020 22:43:28
แฟนเก่งงงงง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-01-2020 20:28:53
(https://i.ibb.co/q7ds8yY/18.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “18”





สายน้ำขยับตัวลงจากเตียงในเวลาเกือบเจ็ดโมงเช้า คนป่วยยังนอนหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ เขา พอนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนก่อนนอนก็นึกขำ หลังจากที่สายน้ำดูแลหินผาเรียบร้อยก็ปล่อยให้คนป่วยได้นอนพัก ส่วนเขาก็เข้าไปอาบน้ำ เนื่องจากว่าไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาจึงต้องขอยืมจากเจ้าของห้องก่อน แต่พอออกมาจากห้องนอนแทนที่จะเห็นคนป่วยนอนพักอยู่บนเตียง อีกฝ่ายกลับไปนอนอยู่ตรงโซฟาได้เสียนี่



เจ้าตัวอยากให้สายน้ำนอนบนเตียง แต่ไม่อยากให้ติดไข้เขาก็เลยระเห็ดตัวเองมานอนโซฟาแล้วปล่อยเตียงนอนหลังใหญ่ไว้ให้ แน่นอนว่าคนเฝ้าไข้อย่างสายน้ำไม่ยอมแน่นอน มีอย่างที่ไหนคนป่วยนอนขดตัวหลังแข็งอยู่บนโซฟา ส่วนคนสุขภาพดีอย่างเขานอนบนเตียง แต่พอเขาจะไปนอนโซฟาแทนคนป่วยก็ดื้อไม่ยอมอีก



สุดท้ายสายน้ำก็ตัดสินใจนอนด้วยกันบนเตียงเสียเลย คนละมุม คนป่วยถึงได้ยอมหายดื้อแล้วนอนพักผ่อน ซึ่งตลอดคืนสายน้ำก็ตื่นมาคอยดูอาการของหินผาประจำ คอยเช็ดตัวให้ตอนอีกฝ่ายไข้ขึ้น



เอื้อมมือไปแตะหน้าผาและลำคอของคนป่วยก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูเหมือนอีกฝ่ายจะอาการดีขึ้นแล้ว ตัวไม่ร้อนเท่าเมื่อวาน โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ เลยมีเวลาให้หินผาได้นอนพักผ่อนอีกสองวัน



สายน้ำเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาตัวเองจนเรียบร้อย เดินมาหยิบคีย์การ์ดที่หินผาเคยให้ไว้แล้วก็กระเป๋าสตางค์มาถือ ตั้งใจว่าจะลงไปหาซื้อมื้อเช้าให้ตัวเองกับคนป่วย



ได้เป็นข้าวต้มหมูมาสองถุง น้ำเต้าหู้แล้วก็ปาท่องโก๋มากินคู่กันด้วย แวะซื้อน้ำผลไม้คั้นสดมาอีกสี่ขวด ตั้งใจว่าจะให้คนป่วยได้ดื่มเพื่อเพิ่มวิตามินให้กับร่างกาย ได้ของครบก็เดินกลับคอนโดของหินผา เขาใช้เวลาในการซื้อของเยอะกว่าที่คิดเอาไว้ ไม่รู้ว่าคนป่วยจะตื่นขึ้นมาหรือยัง



เขาถือถุงพะรุงพะรังขึ้นไปบนห้องของหินผา จัดการเทน้ำเต้าหู้ เทข้าวต้มใส่แก้ว ใส่ถ้วยเอาไว้ ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าไปปลุกคนหลับ หินผาก็เดินออกมากจากห้องเสียก่อน



คนป่วยเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะฟุบหน้าลงกับไหล่ของสายน้ำจนคนโดนจู่โจมตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ตรงไหนดี



“พ พี่หินผา...”



“ไปไหนมา เมื่อกี้พี่ตื่นมาไม่เห็น” หินผาถาม เสียงของเจ้าตัวยังฟังดูแหบแห้งเพราะยังไม่หายดี แขนทั้งสองข้างกอดรัดเอวของน้องเอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าสายน้ำจะหายไป



“ผมลงไปซื้อของกินมาให้พี่”



“นึกว่าหายไปไหนแล้ว” หินผากอดแน่นขึ้น พูดเสียงอู้อี้คล้ายงอแงทำให้สายน้ำอมยิ้ม



“ผมจะไปไหนได้” สุดท้ายก็ได้แต่ยกมือกอดตอบ “ไปไหนไม่ได้อยู่แล้วครับ”



“ใจหายหมดเลย”



สายน้ำหลุดขำเมื่อได้ฟัง ลูบหลังปลอบคนตัวโตเหมือนปลอบเด็ก “โอ๋ ๆ ไม่เป็นอะไรนะครับ มาครับผมซื้อข้าวต้มมาให้ แล้วก็มีน้ำเต้าหู้ด้วย กินข้าวนะครับจะได้กินยา”



“อือ”



“พี่หินผา... ปล่อยก่อนครับ เร็ว กินข้าวก่อน”



“พี่ไม่มีแรง” น้ำเสียงแหบแห้งคล้ายจะออดอ้อน



“เดี๋ยวผม...”



“งั้นกูป้อนเอง” เสียงที่สามดังขึ้นพอดีกับสายน้ำให้ทั้งคู่หันไปมอง สายน้ำสะดุ้งเมื่อเห็นว่าเป็นป่าไม้ยืนมองอยู่ ส่วนหินผาก็ทำเพียงแค่หรี่ตามองพี่ชายตัวเองโดยที่ยังกอดน้องเอาไว้อยู่



“พี่ป่าไม้... พี่หินผาปล่อยก่อนครับ” สายน้ำเรียกชื่อก่อนจะหันมาตีไหล่หินผาเบา ๆ ให้ปล่อย แต่ดูเหมือนว่าวันนี้คนป่วยจะดื้อเป็นพิเศษ ไม่ยอมทำตามเลย



“มานี่ มาแดกข้าว เป็นง่อยใช่ไหมเดี๋ยวกูป้อน” ป่าไม้เดินไปที่โต๊ะอาหารใช้ช้อนเคาะเรียกน้องชายตัวเอง ทำท่าทางยักคิ้วกวนประสาทให้



หินผาทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ ยอมปล่อยตัวน้องออกจากกอดแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร คว้าถ้วยข้าวต้มมาตักกินเอง ไม่รบกวนพี่ชายให้ป้อน



“ทีงี้แหละแดกเองได้”



“ยุ่งจริง” หินผาว่า แต่ป่าไม้กลับหัวเราะกับท่าทางบึ้งตึงของน้องชาย



“พี่ป่าไม้กินอะไรมาหรือยังครับ” สายน้ำถามพลางเดินไปเทน้ำมาให้



“เรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะกินข้าวใช่ไหม กินก่อนเลยไม่ต้องห่วงพี่หรอก”



สายน้ำรับคำก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามหินผาแล้วจัดการกับข้าวต้มในถ้วยของตัวเองบาง เขาเลื่อนแก้วน้ำของหินผาไปให้อีกฝ่ายพร้อมกับแก้วใส่น้ำเต้าหู้ นั่งฟังสองพี่น้องคุยกัน



“มาทำอะไรแต่เช้า” หินผาหันไปถามพี่ชายตัวเอง



“ได้ข่าวว่าป่วยเลยแวะมาดู แต่ดูแล้วไม่เป็นไรมากนี่ แค่สำออยละมั้ง”



“ดูแล้วก็กลับไปได้แล้ว จะพักผ่อน”



“เหรอ”



“พี่หินผาอิ่มแล้วเหรอครับ” สายน้ำถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายดันถ้วยข้าวต้มออก



“อืม กินไม่ค่อยลงแล้วล่ะ”



“อย่างนั้นกินยาก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” สายน้ำลุกไปหยิบยาก่อนจะยื่นให้คนป่วยรับไปกิน



สายน้ำให้หินผาไปนั่งย่อยตรงโซฟา มีพี่ชายอย่างป่าไม้ตามไปนั่งคุยด้วยส่วนเขาก็จัดการกับมื้อเช้าต่อ เก็บล้างจนเรียบร้อยก็รินน้ำส้มไปให้หินผากับป่าไม้ พวกเขานั่งคุยเล่นกันสักพักป่าไม้ก็ขอตัวกลับเพราะต้องเข้าไปเคลียร์งานค้างต่อ ก่อนกลับก็ไม่วายแกล้งน้องชายตัวเองจนหินผานั่งหน้าบึ้ง สายน้ำเดินไปส่งพี่ชายคนรักก่อนจะเดินกลับมาหาคนที่นั่งรออยู่



เอื้อมมือไปจับแขนของสายน้ำก่อนจะกระตุกให้อีกฝ่ายนั่งลงข้าง ๆ กันแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เขาซุกหน้ากับไหล่ของสายน้ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวของสายน้ำทำให้รู้สึกดีจนอยากจะกอดเอาไว้แบบนี้ทั้งวันเลย



“ง่วงนอนไหมครับ เข้าไปนอนพักในห้องไหม”



“ไม่เอา”



“แต่ถ้าพี่ไม่พักเยอะ ๆ จะไม่หายนะครับ”



“อืม... นอน”



“งั้นลุกไปนอนที่ห้องดี ๆ ดีกว่าครับ”



“แบบนี้ดีกว่า” หินผาว่าก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของสายน้ำ จนคนที่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นหมอนถึงกับตัวแข็งไปเลย



“พ พี่หินผา นอนแบบนี้มันจะไม่สบายนะครับ”



“สบายสุดแล้ว” คนป่วยว่าอย่างดื้อดึง แขนโอบรอบเอวของน้องเอาไว้พลางซุกหน้ากับหน้าท้องจนสายน้ำแทบลืมวิธีการหายใจไปชั่วขณะ



“พ พี่หินผาครับ”



“ไม่กวนคนป่วยสิครับ เราบอกเองนะว่าพี่ต้องพักผ่อนจะได้หายไว ๆ พี่กำลังพักผ่อนอยู่ไงครับ”



“ไม่ใช่พักแบบนี้สิครับ ผมหมายถึงให้ไปนอนในห้องดี ๆ ต่างหากล่ะครับ”



“ชู่ว...” หินผาทำเสียง เขากดริมฝีปากลงกับหน้าท้องของสายน้ำ แค่นั้นก็ทำให้สายน้ำเงียบเสียงได้ทันที



หินผาแอบยิ้ม ยอมรับว่าตั้งใจจะแกล้งสายน้ำเล่น การได้เห็นอีกฝ่ายนั่งตัวเกร็งแบบนี้ก็ดูตลก แล้วก็น่ารักดี แต่พอได้มานอนหนุนตักแบบนี้มันก็รู้สึกสบายจนต้องหลับตาลง ไหนจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวสายน้ำด้วย แล้วสุดท้ายก็เผลอหลับไปตอนไหนเขาก็ไม่แน่ใจนัก



สายน้ำที่เห็นหินผานิ่งไปก็ได้แต่ก้มลงมอง เจ้าตัวหลับไปแล้ว ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ แขนยังคงกอดเอวของเขาเอาไว้ จากที่ตอนแรกนั่งเกร็งก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น ปล่อยให้หินผานอนหนุนตักอยู่แบบนั้น จนกระทั่งใจกล้าขึ้นถึงได้วางมือบนผมของหินผาแล้วลูบเบา ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเดือนมหาวิทยาลัยระบายยิ้ม



นึกแล้วยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าจะมีวันนี้ได้ จากคนที่เคยมองหินผาในฐานะของรุ่นน้องที่คณะ กลับกลายมาเป็นคนที่มองหินผาในฐานะคนรัก...



เขาหยิบโทรศัพท์มากดปิดเสียงก่อนจะเปิดโหมดกล้องแล้วกดถ่ายรูปคนหลับ เป็นอีกครั้งแล้วที่เขาแอบถ่ายรูปของหินผา นี่ถ้าอีกฝ่ายมาดูโทรศัพท์ของเขาก็คงจะเห็นแต่รูปที่ตัวเองถูกแอบถ่ายเต็มไปหมด มันเหมือนเป็นความเคยชินที่เวลาหินผาหันหลังให้หรือไม่ได้มองมา สายน้ำจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแล้วก็ไปนั่งมองอยู่คนเดียว แล้วก็ยิ้มให้กับรูปในโทรศัพท์อย่างชอบใจ



“ในนั้นมีอะไรน่าดูมากนักเหรอ ถึงได้ยิ้มขนาดนั้น” เสียงเข้มของคนที่สายน้ำคิดว่าหลับสนิทดังขึ้นให้สายน้ำสะดุ้ง เขาลนลานจนเกือบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ



“ป เปล่าครับ ม ไม่มีอะไร” แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาจะแสดงพิรุจออกมามากเกินไป



หินผายันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อสายตา เขายื่นมือออกมาข้างหน้า “เอามาให้พี่ดู เรากำลังดูอะไรอยู่ถึงได้ยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนั้น”



สายน้ำรีบส่ายหน้าทันที เขากอดโทรศัพท์ไว้กับอกตัวเอง ให้ตายก็จะให้หินผาเห็นไม่ได้เด็ดขาดเลย “ไม่มีอะไรครับ”



“ถ้าไม่มีอะไรทำไมให้พี่ดูไม่ได้ สายน้ำ... เอามาให้พี่ดู” หินผาไม่ใช่คนขี้หึง เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นแต่ตอนนี้ชักจะไม่แน่ใจ แต่สถานการณ์แบบนี้ก็น่าหึง น่าหวงไหม ลืมตาขึ้นมาแทนที่จะเห็นคนรักตัวเองนั่งมองเขาอยู่ กลายเป็นว่าอีกฝ่ายนั่งยิ้มหวานอย่างมีความสุขกับโทรศัพท์ มันน่าไหมล่ะแบบนี้



“ม ไม่ครับ...”



หินผาขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ เขาพุ่งไปล็อคตัวน้องเอาไว้พลางแย่งโทรศัพท์ในมืออีกฝ่ายมาดู “มันน่าสงสัย ในนี้มีอะไรที่ทำให้เรามีความสุขนัก”



“พี่หินผา!” สายน้ำร้องออกมาอย่างตกใจ อยากจะเข้าไปแย่งกลับคืนมาแต่ก็ไม่กล้า เลยทำได้แต่นั่งตาโตอยู่แบบนั้น แต่พอเห็นปฎิกิริยาของหินผา ใบหน้าของสายน้ำก็แดงขึ้นเรื่อย ๆ



“นี่เรา...”



“ขอคืนนะครับ...” สายน้ำก้มหน้าพูดเสียงอ่อย



“แอบถ่ายรูปพี่เอาไว้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ” หินผาถาม เขาไล่ดูรูปในโทรศัพท์ของน้อง กว่าครึ่งมีแต่รูปของเขา ส่วนที่เหลือก็เป็นรูปที่สายน้ำถ่ายนู้นนี่เล่น



“ครับ” ได้แต่พยักหน้ารับ เพราะไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม ในเมื่อหลักฐานก็อยู่ในมือของหินผาแบบนั้น “ก็... ผมไม่กล้าขอถ่ายรูปพี่ตรง ๆ ก็เลยได้แต่แอบถ่ายเอาไว้”



“มีอะไรนอกเหนือจากแอบถ่ายรูปพี่เอาไว้อีกไหมเนี่ย” หินผาคว้าตัวแฟนมากอด มองใบหน้าแดง ๆ ของสายน้ำอย่างชอบใจ การได้เห็นสายน้ำหน้าแดงเพราะเขินอายเป็นอะไรที่เขาชอบมาก



สายน้ำตัวเกร็งทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น สายตาล่อกแล่กอย่างผิดสังเกตุ หินผากดออกจากรูปภาพ เขายื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าให้สายน้ำเห็น และแกล้งขยับนิ้วไปมาบนหน้าจอ ดูเอาจากอาการเกร็ง ๆ และตาโตของน้องว่าแอปพลิเคชั่นไหนที่น่าสงสัย



“ในนี้สินะ” ปลายนิ้วของหินผากดเข้าที่แอปเฟซบุ๊ก เขาเคยเข้าไปส่องเฟซของเจ้าตัวแต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ แต่ดูแล้วมันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น อาจจะเป็นโพสต์ที่เจ้าตัวไม่เปิดให้ได้อ่าน



“พี่หินผา... พ พอแล้วครับ” สายน้ำอยากจะร้องไห้เมื่อคนพี่ไล่ดูสเตตัสของเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ค่อยโพสต์อะไร โพสต์ที่เปิดให้เพื่อนอ่านน่ะ มีไม่เยอะ แต่โพสต์ที่เปิดเป็นส่วนตัวน่ะ... ไม่ใช่น้อย ๆ เลย และโพสต์ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับหินผาทั้งนั้น



“สายน้ำ...” หินผาก้มมองคนที่นั่งหน้าแดงตัวแดงไปหมด สายน้ำในตอนนี้เหมือนตัวหดเล็กลงจนดูน่าสงสาร เขาวางโทรศัพท์ของน้องลงบนโต๊ะก่อนจะโอบกอดคนรักเอาไว้ “นี่เรารักพี่ขนาดไหนกันหือ... บอกพี่ได้ไหม”



สเตตัสในเฟซบุ๊กที่หินผาได้อ่านนั้น ไม่ใช่สเตตัสตัดพ้ออะไรเขาเลยสักนิด แต่เป็นสเตตัสที่บอกว่าเจ้าของโพสต์รักเขามากแค่ไหนต่างหาก สายน้ำไม่เคยโพสต์อะไรที่เป็นการตัดพ้อ หรือน้อยเนื้อต่ำใจที่เขาจำเจ้าตัวไม่ได้ มีแต่โพสต์ที่บอกว่าเจ้าตัวดีใจที่ได้เจอเขา ได้มายืนข้าง ๆ เขา



“... ขนาดที่ว่า... พี่เดาไม่ออกเลยล่ะครับ”



หินผาถอนหายใจออกมา ความรู้สึกมีความสุขมันอัดล้นไปหมดจนต้องระบายออกมา หัวใจของเขาพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย หินผาจับใบหน้าแดงก่ำของสายน้ำให้หันมามอง “ขอบคุณนะที่รักพี่มากมายขนาดนั้น แล้วก็... ขอโทษด้วยที่พี่ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย”



“ไม่เป็นอะไรเลยครับ ผม... ผมแค่อยากรักพี่ก็แค่นั้น ไม่ได้หวังอะไรมากมายเลย”



“แต่ไม่ต้องห่วงนะ” หินผายิ้ม “จากนี้ไปพี่จะรักเราให้มากกว่าที่เรารักพี่เลย”



สายน้ำได้แต่หลับตาลงตอนที่ใบหน้าของหินผาขยับมาใกล้จนริมฝีปากของพวกเขาแนบสนิทกัน หินผากดจูบซ้ำ ๆ บนกลีบปากบาง จูบย้ำเพื่อบอกคำรักให้สายน้ำรับรู้ ใบหน้าหล่อขยับเปลี่ยนมุมแล้วจึงจูบลงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้หวานล้ำมากกว่า ลึกซึ้งมากกว่า และหลอมละลายมากกว่า







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

คนป่วยคงหายดีแล้วล่ะ
มีคนดูแลดีขนาดนี้
สายน้ำน่าเอ็นดูจังลูก แอบถ่ายรูปพี่เขา
ชินกับการแอบถ่าย เพราะได้แต่แอบมองมาตลอดเนอะ
เป็นแฟนกันแล้วก็ยังไม่กล้าขอถ่ายตรง ๆ โถ่... เอ็นดูจ้า

สปอย ๆ
รอบหน้าแซ่บเด้อจ้าาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-01-2020 21:16:41
บอกรักน้องสายน้ำหน่อยสิพี่หินผา :o8:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-01-2020 21:54:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-01-2020 22:29:24
 :m24:  ภาพการแอบถ่ายของน้องน้ำ  o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 27-01-2020 00:51:40
พี่ป่าไม้มาได้จังหวะมาก 5555555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-01-2020 00:58:58
น้องสายน้ำน่าเอ็นดูจังเลยลูก  :mew1:

พี่หินผาก็ขี้อ้อนขึ้นทุกวัน เป็นแฟนแล้วยิ่งชอบแกล้งน้องให้อายบ่อยๆ อ่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-01-2020 21:19:15
จร้าาาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 27-01-2020 21:28:04
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [40%] l P.21 26-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 28-01-2020 21:26:50
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 31-01-2020 22:14:17
(https://i.ibb.co/q7ds8yY/18.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “18”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖




ร่างของสายน้ำถูกดันให้เดินถอยหลังเข้าไปในห้องนอนโดยที่ริมฝีปากของเขายังคงโดนหินผารุกรานไม่ห่าง หินผาใช้เท้าตัวเองดันประตูห้องนอนให้ปิดลงเพราะมือทั้งสองข้างของเขาจับประคองอยู่ที่เอวของสายน้ำ เขาเดินไปข้างหน้า ทำให้สายน้ำต้องเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนถึงเตียงนอนหลังใหญ่



ริมฝีปากของหินผายังคงรุกไล่คนด้านล่างไม่หยุด ผละจากการจูบก็ตอนที่สายน้ำชนขอบเตียงจนล้มลงบนเตียงนอน ริมฝีปากแดงฉ่ำไปหมดจนสายน้ำรู้สึกว่าปากของเขาต้องบวมแน่ ๆ



“อึก...” ได้แต่เม้มปากตอนที่หินผาแนบจูบร้อน ๆ ลงบนลำคอ สายน้ำในตอนนี้ได้แต่ใช้แขนค้ำยันตัวเองไม่ให้นอนราบไปกับที่นอน ขาทั้งสองข้างที่ยังห้อยอยู่ข้างเตียงถูกแยกออกเพราะหินผาขยับแทรกเข้ามาตรงกลาง



“พี่รักเรา” หินผากระซิบพร้อมกับจูบที่ใบหู ขยับมาจูบที่หางตา ขมับ แก้มแดง ๆ และปิดท้ายที่ปากฉ่ำวาวนั้นอีกครั้ง ไล่ทักทายไปทั่วกลีบปากบนและล่าง ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปด้านในหยอกล้อไปทั่วโพรงปาก



สายน้ำได้แต่เกร็งหน้าท้องตอนที่มือของหินผาวางทาบลงไป ตำแหน่งมือที่วางนั้นน่าหวาดเสียวจนต้องเลื่อนมือไปจับมือของหินผาเอาไว้



“พี่หินผา...” ได้แต่เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว



“ได้ไหม ให้พี่รัก... เราได้ไหม” หินผาคลอเคลียที่ข้างแก้ม เขาจูบแก้มสลับกับจูบปากของสายน้ำไปมา ก่อนจะผละออกมามองใบหน้าแดง ๆ ของคนใต้ร่างอย่างต้องการคำตอบของคำถามที่เขาถามออกไป



แต่คำถามนี้จะให้สายน้ำตอบออกไปตรง ๆ ได้อย่างไรกัน เพียงแค่นี้เขาก็เขินอายมากพออยู่แล้ว ดูเหมือนว่าหินผาพอจะเข้าใจเขาถึงไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ แต่ก็ใช่ว่าหินผาจะผละถอยห่าง กลับกันหินผาเป็นฝ่ายค้นหาคำตอบด้วยตัวเองโดยการปล้นจูบจากสายน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งสายน้ำไม่ผลักออก ไม่หันหน้าหนีก็ยิ่งชัดเจน



ตัวของสายน้ำถูกดันจนขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงเต็มตัว เขาหายใจหอบหลังจากที่หินผายอมปล่อยให้ริมฝีปากของเขาเป็นอิสระ เสื้อยืดที่สวมอยู่ถูกถอดออกไปจนร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า หินผาสำรวจร่างกายของคนอายุน้อยกว่า เขากดจูบลงบนแผ่นอกจนสายน้ำสะท้านเฮือก มือทั้งสองของหินผาลากลงต่ำไปถึงหน้าท้อง และขอบกางเกง เสียงซิปที่ถูกรูดลงเหมือนเรียกสติสายน้ำได้ เขาดันคนด้านบนออกรีบขยับไปนั่งกอดเข่าอยู่ที่พื้นข้างเตียง แบบที่หินผาก็ตามไม่ทัน



“สายน้ำ” หินผาขยับไปหา วางมือบนไหล่ของคนรัก “พี่ขอโทษ ขอโทษนะ”



สายน้ำส่ายหน้าไปมา “ไม่ครับ... ไม่เลย”



“พี่ขอโทษ พี่ทำเรากลัวใช่ไหม ขอโทษนะพี่ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ” หินผานั่งลงข้างสายน้ำ เว้นระยะไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจ “พี่... ไม่ทำอะไรแล้ว”



“ม ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่” สายน้ำยังคงส่ายหน้าไปมา เขาซุกหน้าลงกับเข่าของตัวเอง “ผ ผมไม่ได้โกรธเรื่องนั้น ถ ถ้าพี่จะทำ... ผ ผมไม่ได้ว่าอะไร”



“แล้วเราเป็นอะไร บอกพี่ได้ไหม เรา... ยังไม่พร้อมใช่ไหม” หินผาลูบผมของน้องเบา ๆ นึกเสียใจที่เผลอทำอะไรตามใจตัวเองจนเกินไป



“ผมกลัว”



“พี่ขอโทษที่ทำให้เรากลัวนะ”



“ม ไม่ใช่...” ได้แต่เม้มปากตัวเอง ก่อนจะตอบเสียงสั่น “ผ ผมกลัวว่าพี่จะไม่ชอบ... ห หุ่นผม”



“ห๊ะ” หินผาหลุดออกมาด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งที่สายน้ำพูด



“ผม... ตัวใหญ่ ไม่ได้ตัวเล็ก ๆ ไ ไม่น่ารัก กลัว... พี่ไม่ชอบ”



หินผาหลุดยิ้มตอนได้ฟังคำตอบ ใครบอกว่าสายน้ำไม่น่ารักเขาจะขอเถียงจนขาดใจ สำหรับเขาแล้วสายน้ำเป็นคนที่น่ารักมาก ๆ ยิ่งตอนที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ หน้าตาแดงก่ำและตาแดงคล้ายคนจะร้องไห้แบบนี้ก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่



“เด็กดี” หินผาดึงแขนของสายน้ำให้เข้ามาใกล้ก่อนจะกอดเอาไว้ “ไม่ว่ายังไงสำหรับพี่ สายน้ำก็น่ารักเสมอ ไม่ต้องกลัว... ไม่มีทางที่พี่จะไม่ชอบเรา ดูสิ เราหุ่นดีจะตายไปไม่เห็นต้องกลัวเลย”



“ผม...”



“ไม่เป็นอะไรเด็กดี ไม่เป็นอะไร” นึกขำเล็กน้อยที่ต้องมานั่งปลอบเจ้าเด็กที่แสนคิดมากคนนี้ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ทำอย่างไรได้ก็ในเมื่อคนของเขากังวล เขาก็ต้องช่วยคลายความกังวลนั้นก่อน หินผาหอมแก้มสายน้ำอย่างเอ็นดู “เป็นสายน้ำ ที่ดีที่สุดแล้ว”



“พี่หินผา” ได้แต่กอดหินผาเอาไว้แน่น ตัวเขาถูกดึงมาใกล้จนกลายเป็นคร่อมทับตักของหินผาเอาไว้แทน



“แค่เป็นสายน้ำ... แค่เป็นเรา” หินผาดันตัวน้องออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้า เขาส่งยิ้มให้ ไม่อยากให้น้องต้องกลัวหรือกังวลอะไร มือข้างหนึ่งสัมผัสที่แก้มแดง ก่อนจะรั้งคออีกฝ่ายลงมาแล้วป้อนจูบให้อีกครั้งอย่างนุ่มนวล



ปลายนิ้วสัมผัสไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่า วนมาด้านหน้าจนถึงหน้าท้องขาว หินผาลูบไล้ร่างกายของสายน้ำอย่างเพลิดเพลิน เนื้อตัวของสายน้ำนุ่มลื่นมืออย่างไม่น่าเชื่อ นิ้วโป้งปาดสัมผัสที่ยอดอกจนสายน้ำสะดุ้งแต่ก็ไม่ห้ามปราบอะไร และนั่นก็ยิ่งทำให้หินผาได้ใจสัมผัสหนักขึ้น มากขึ้น



ปล่อยจูบสายน้ำ สัมผัสไปตามลำคอกดเม้มอย่างต้องการบอกชัดว่าเจ้าของร่างกายนี้เขาคือเจ้าของ มือทั้งสองข้างสัมผัสวนอยู่ที่ยอดอก ได้ยินสายน้ำส่งเสียงในลำคอ หินผาเงยหน้าขึ้นมอง คนที่โดนเขารุกไล่อยู่ตอนนี้หน้าแดงก่ำไปหมด ตอนนี้กำลังลามไปที่ใบหู ลำคอ และสิ่งที่แดงไม่แพ้กันก็คือยอดอกทั้งสองข้างที่โดนเขารังแกไปเมื่อครู่ สิ่งนั้นกำลังล่อตาล่อใจหินผาให้ลิ้มลอง



ไม่ต้องตัดสินใจนานริมฝีปากของหินผาก็ครอบครองที่ยอดอกข้างหนึ่ง มือที่จับประคองเอวสายน้ำเอาไว้รับรู้ได้ถึงอาการสั่นเทา



“พ พี่หินผา...”



หินผาเพียงแค่ปรายตาขึ้นมอง แต่เขาก็ไม่ผละออกอีกทั้งยังย้ายไปอีกข้างอย่างกลัวว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะน้อยใจที่เขาไม่สัมผัส ปลายลิ้นของหินผาตวัดไปมาจนคนได้รับตัวสั่น มือสายน้ำที่จับอยู่ที่ไหล่กว้างพยายามผลักออก แต่แผ่นอกของเขากลับแอ่นรับเสียอย่างนั้น



เมื่อพอใจกับการหยอกล้อแล้วหินผาก็แนบริมฝีปากร้อน ๆ ของตัวเองไปที่กลางแผ่นอก ไล่ต่ำลงเรื่อย ๆ พร้อมกับมือของเขาที่เกี่ยวขอบกางเกงของสายน้ำลง เขาดันตัวคนด้านบนให้ลุกขึ้นยืนเพื่อจัดการกับกางเกงที่สายน้ำสวมใส่อยู่ทั้งสองชิ้น จนร่างกายของสายน้ำเปลือยเปล่าไปทั้งตัว



หินผาจัดการถอดเสื้อของตัวเองออกบ้าง รวมไปถึงกางเกง เขาร่นมันลงไปที่ข้อเท้ารั้งสายน้ำให้นั่งลงบนตักอีกครั้ง จูบปากแดงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แขนข้างหนึ่งโอบเอวของคนบนตักเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ซุกซนลูบไล้ไปที่ต้นขา เข้าสู่จุดที่น่าหวาดเสียวที่สุด



“อื้ออ อ่ะ!” เป็นอีกครั้งที่สายน้ำสะดุ้งเมื่อมือหนากอบกุมตัวตนของเขาและรั้งขึ้นลงช้า ๆ เบา ๆ



ดวงตาทั้งสองข้างของสายน้ำฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมาทุกเมื่อ เขาอายเกินกว่าจะมองคนรักได้จนต้องซุกหน้ากับไหล่ของหินผา



“เด็กดี...” หินผาจูบที่ใบหูแดง ๆ นั้น มือก็ช่วยปรนเปรอคนรักจนเจ้าตัวครางเสียงสั่น



“อ๊าาา พ พี่หินผา... อึก...”



สายน้ำส่ายหน้าไปมาบนไหล่กว้าง แขนกอดรัดหินผาเอาไว้แน่น ร่างกายของเขาเหมือนกำลังทรยศความคิด สมองของเขาสั่งให้ผละออก แต่ร่างกายกลับบดเบียดเข้าใกล้และตอบสนองต่อฝ่ามือร้อน ๆ ที่กำลังเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น หนักหน่วงขึ้น



หัวใจของสายน้ำเต้นระรัวไปหมด ทั้งตื่นเต้น ทั้งหวาดกลัวปะปนกันไป อารมณ์หวาบหวามของเขาถูกหินผาปลุกเร้าจนไม่สามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้ ตัวของเขากระตุกตอนที่ทุกอย่างถูกปลดปล่อยออกมา



“เด็กดี ไม่เป็นอะไรนะ ไม่เป็นอะไร” เสียงของหินผาสั่นพร่าไปหมด น้องที่ตัวสั่นในอ้อมแขนของเขา เสียงทุ้มที่ครางแผ่ว ทุกอย่างในตัวของสายน้ำปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี มือของหินผาสั่นตอนที่เอื้อมไปดึงลิ้นชักข้างเตียง เขาควานหาของในนั้นก่อนจะหยิบออกมา



“พ พี่... พี่” สายน้ำเสียงสั่นไปหมดตอนหันไปเห็นสิ่งที่หินผาหยิบออกมา



“พี่ต้องเตรียมตัวให้เรา” หินผาว่า “พี่ขอโทษ... แต่ตอนนี้พี่ถอยไม่ได้แล้ว”



สายน้ำเม้มปากเขาขยับตัวลุกจากตักของหินผาที่มองมาอย่างไม่เข้าใจ สายน้ำก้าวขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนคว่ำ คว้าหมอนมากอดเอาไว้และฝังหน้าตัวเองลงบนหมอน “ย อย่าเพิ่ง... ร รุนแรงกับผมมากนักนะครับ”



หินผาชะงักตอนที่ได้ยิน เขานึกมันเขี้ยวเจ้าเด็กขี้เขินของเขาที่ทำตัวน่ารักจนนึกอยากจะจับมาตีก้นสักทีสองที โทษฐานที่กล้าพูดจาอะไรแบบนี้ เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่กระโจนเข้าหาสายน้ำแล้วทำรุนแรงใส่



“ตัวแสบ... กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน” ได้แต่กัดฟันพูดตอนที่ตามขึ้นไปบนเตียง สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องตีก้นขาว ๆ ไปทีจนสายน้ำสะดุ้งร้องออกมา “อย่าไปพูดแบบนี้กับใคร เข้าใจไหม”



“ข เข้าใจ... ครับ”



“เจ็บไหม พี่ขอโทษ” หินผาก้มลงจูบบนรอยแดงที่เขาตีลงไปเมื่อครู่ แม้จะตีไม่แรงแต่สายน้ำเป็นคนผิวขาวมันจึงขึ้นสีชัดเจน



“อึก!”



สะโพกของสายน้ำถูกจับยกก่อนที่หินผาจะสอดหมอนเข้ามารองเอาไว้ เขานั่งอยู่ตรงปลายเท้าของคนที่นอนคว่ำหน้า เทเจลหล่อลื่นบนมือตัวเองแล้วจึงป้ายบนช่องทางที่ยังคงปิดสนิท สายน้ำสะดุ้งอีกครั้งตอนที่ปลายนิ้วสอดแทรกเข้าไปเพื่อเตรียมความพร้อม มือของเขาจิกหมอนเอาไว้แน่น ร่างกายเกร็งไปหมด



“ใจเย็น ๆ ไม่เป็นอะไร... พี่เอง พี่อยู่ตรงนี้” หินผาชะโงกตัวไปจูบที่ลาดไหล่พลางกระซิบปลอบ เขาจูบไปทั่วแผ่นหลังแรงสลับเบาเพื่อให้สายน้ำผล่อยคลายลง



นิ้วของเขาสามารถสอดเข้าไปได้ลึกขึ้น และเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น



“พี่หินผา... พ พี่หินผา” สายน้ำครางเสียงแผ่วยามที่อีกฝ่ายขยับ ความเสียวซ่านแผ่วาบไปทั่วกาย



“ถ้าเจ็บ บอกพี่นะ” ร่างกายของหินผาเริ่มสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำ คนใต้ร่างตัวเกร็งทันทีพลางร้องออกมาด้วยความเจ็บจนเขาต้องหยุดชะงัก โน้มตัวลงกอดสายน้ำเอาไว้ จูบแก้ม จูบไหล่ปลอบประโลม



สายน้ำถูกรั้งสะโพกให้สูงขึ้น ขาแยกออกมากขึ้นในขณะที่หินผาขยับกายเข้าหา แม้จะต้องใช้เวลาแต่สุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน จังหวะเริ่มรักเนิบนาบเพื่อให้สายน้ำปรับตัว จนหินผาแน่ใจว่าคนรักสามารถรับเขาได้แล้วจึงได้เพิ่มแรงขึ้น



“พ พี่หินผา... ก กอด อึก... กอดผม”



“เด็กดี พี่อยู่นี่”



“อึก! อ๊า...”



หินผาถอนกายออก พลิกตัวสายน้ำให้นอนหงาย เขาจับขาของอีกฝ่ายให้มาก่ายเอาไว้ที่เอวก่อนจะสอดประสานกายกับสายน้ำอีกรอบ เขาโน้มตัวไปหา กดจูบอีกครั้งอย่างรักใคร่ มือทั้งสองข้างของสายน้ำยกขึ้นโอบรอบลำตัวหินผาเอาไว้ ร่างกายของเขาสั่นไหวยามที่คนด้านบนตอกย้ำความรักเข้ามาหา



“พี่หินผา... พ พี่ครับ พี่...” ร้องครางแทบไม่เป็นภาษายามที่หินผาขยับกายอย่างหนักหน่วง สมองของสายน้ำขาวโพลนไปหมด ทุกอย่างพร่าเลือน เขาเห็นสายตาร้อนแรงของคนด้านบนผ่านม่านน้ำตาของตัวเอง ปลายเล็บจิกลงกับแผ่นหลังกว้างยามที่หินผากระแทกกระทั้นตัวตนเข้ามาหา



“สายน้ำ...” เสียงของหินผาแหบและสั่นพร่าไปหมด ร่างกายของสายน้ำที่กำลังโอบรัดตัวตนของเขานั้นกระตุ้นความต้องการเป็นอย่างมาก จนหินผาได้แต่กัดฟันแน่นพยายามที่จะไม่รุนแรงมากจนเกินไปแม้มันจะทำได้ยากเต็มทน



หยาดเหงื่อผุดพรายบนใบหน้าและลำตัวของพวกเขา ความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ลืมปิดตั้งแต่เช้าไม่ได้ช่วยให้ความร้อนในกายของพวกเขาลดลงเลย



“เด็กดี... ม มากกว่านี้ได้ไหม ขอพี่รัก... มากกว่านี้ได้ไหม”



สายน้ำกอดรัดคนด้านบนเอาไว้แน่น “พ พี่หินผา... ข เข้ามา กอด... กอดผมอีก”



เหมือนเป็นคำอนุญาต และคำปลดล็อค ทันทีที่สายน้ำพูดจบจังหวะรักก็ทั้งหนักหน่วง รุนแรงและเร่งเร้ายิ่งขึ้น สายน้ำได้ยินเสียงหน้าขาของหินผากระทบกับเนื้อของเขาชัดเจนจนฟังดูหยาบโลนไปหมด ร่างกายของเขาตอบรับหินผาเป็นอย่างดี และหินผาเองก็มอบความสุขซ่านให้เขาเช่นกัน



ช่วงท้องของสายน้ำปั่นป่วนไปหมด ร่างกายบิดเกร็งยามที่คนรักตอกย้ำตัวตนเข้ามาไม่หยุด ร่างกายโยกไหว สั่นคลอน ตามแรงกระแทก บางครั้งร่างสูงก็ถอยออกห่าง ก่อนจะกดลึกอีกครั้งจนสายน้ำหลุดร้องเสียงดัง



ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อนไหว หินผาก็ตามไปเน้นย้ำจนสายน้ำร้องจนเสียงแหบ



“ห ไหวไหม... ไหวหรือเปล่า”



สายน้ำทั้งพยักหน้า ทั้งส่ายหน้าอย่างไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เขาเลื่อนมือมาจับแก้มของคนด้านบนเอาไว้ “จ จูบผม พ พี่หินผา... อื้ออ!”



หินผาก้มลงจูบปากในทันที ปลายสิ้นสอดเข้าไปในโพรงปากและกวาดต้อนสายน้ำไปทั่ว ฝ่ามือบีบเค้นไปตามตัวจนขึ้นรอยแดงโดยเฉพาะบริเวณสะโพก หินผาเลื่อนไปจูบตามลำคอและแผ่นอก ขบเม้มสร้างร่องรอยจนขึ้นสีแดงช้ำไปทั่วอก



สายน้ำถูกจับพลิกอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกจับให้นั่งทาบทับบนตักโดยมีมือของหินผาประคองช่วงเอวเอาไว้



“ม ไม่ได้... บ แบบนี้ไม่ได้ อึก...” สายน้ำสะอื้นยามที่หินผาสวนกายขึ้นมาพร้อมกับบังคับตัวเขาให้ขยับขึ้นลง ใบหน้าหล่อเหลาที่ในเวลานี้หินผามองว่าสวยสะบัดไปมาด้วยความเสียวซ่าน ริมฝีปากช้ำเผยอออกเปล่งเสียงครวญคราง



“เด็กดี... อาาา... เด็กดีของพี่”



“อึก... อ๊าาา พ พี่หินผา”



สายน้ำหน้าตาแดงก่ำ น้ำตาไหล เขายกแขนขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอายกับท่วงท่าในตอนนี้ ร่างกายของเขามันไม่รักดีเลยสักนิดเพราะเพียงแค่หินผาช่วยนำทางอยู่ไม่นานมันก็ตอบสนองเป็นอย่างดี



“ไม่ ไม่ไหว... พ พี่หินผา...”



“เด็กดี...” หินผาจับล็อคสะโพกของสายน้ำเอาไว้แน่นพลางกระทั้นย้ำตัวตนเข้าหาจนเกิดเสียงดังไปทั่วห้องนอน



ร่างกายบิดเกร็งตอนรับแรงกระแทก ความรู้สึกของสายน้ำพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด ร่างกายสั่นเทากระตุกเกร็ง ไม่นานก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งจนเปื้อนไปทั่วหน้าท้อง หินผาพลิกตัวสายน้ำให้ลงมานอนราบบนที่นอนอีกครั้งพร้อมตอกย้ำกายเข้าหาไม่หยุด ทั้งกระชั้น ทั้งถี่รัวจนคนรับเสียงสั่นไปหมด



“เด็ก... อื้ออ! เด็กดี...” หินผาเสียงพร่าไปหมด เขากอดสายน้ำเอาไว้แน่นยามเน้นย้ำร่างกายเข้ามา สะโพกเกร็งแน่นยามปลดปล่อย เขาหายใจหอบถี่ตอนที่ทุกอย่างสงบลงแล้ว หินผาฟุบหน้าลงกับแผ่นอกของสายน้ำที่ไหวขึ้นลงเพราะการหายใจ



หินผาขยับตัวถอนกายออกจนสิ่งที่คั่งค้างอยู่ภายในตัวสายน้ำไหลย้อนออกมา สายน้ำได้แต่ยกมือปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย ไม่ต้องลืมตามองก็รับรู้ได้ว่าหินผากำลังจับจ้องอะไรอยู่ แต่เขาเหนื่อยล้าเกินกว่าจะห้ามปราบได้



“เด็กดี” ขยับมานอนอยู่ข้าง ๆ จับแขนของเขาให้พ้นใบหน้า ก่อนจะโน้มหน้ามาจูบที่ปากช้ำอีกรอบ หินผาดูดเม้มจนเกิดเสียง เขาทำซ้ำอยู่แบบนั้น อีกครั้ง อีกครั้ง... และอีกครั้ง จนสายน้ำต้องยกมือดันอกกว้างเอาไว้ไม่ให้จูบ



“พี่หินผา” สายน้ำร้องออกมาตอนที่หินผาจับขาเขาก่ายไปกับสะโพก ตาโตตอนที่ปลายนิ้วยาวสัมผัสที่ด้านหลัง พยายามที่จะส่ายหน้าห้ามปราบแต่ก็ทำไม่ได้ “อึก! อ๊า”



อย่างอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่านิ้วถูกแทนที่ที่ช่องทางด้านหลัง หินผาขยับขึ้นคร่อมทับสายน้ำอีกครั้ง ก้มจูบอีกหน แลกเปลี่ยนลมหายใจอีกครา ร่างกายขยับตอกย้ำตนตนครั้งแล้วครั้งเล่า



“อะ อ๊าาา อ...”



ลมหายใจร้อนเป่ารดอยู่ที่ลำคอ หินผาซุกไซ้ ขบเม้มไปทั่วคอสายน้ำ มือจับประสานกับคนใต้ร่างในขณะที่สะโพกก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม จนสายน้ำเสียงสั่นไปหมด



สายน้ำถูกปลุกเร้าด้วยฝ่ามือ ริมฝีปาก ถูกเร่งเร้าด้วยตัวตน จนทุกอย่างพร่าเลือนไปหมด ไม่สามารถคิดหรือประมวลผลอะไรได้อีกแล้ว ร่างกายของเขาตอบสนองทุกความต้องการในส่วนลึกของจิตใจ ช่วงขาที่ขยับแยกเปิดรับร่างสูง สะโพกที่หยัดเข้าหาอย่างไม่เหนียมอาย ครวญครางอย่างสุขสม เหมือนกับว่าเขาในตอนนี้... ไม่ใช่เขาเลย



อีกครั้งที่สายน้ำปลดปล่อยออกมา เขาหายใจถี่เพราะเหนื่อยอ่อนแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพักไม่ได้เมื่อคนด้านบนยังไม่ยอมหยุด



“อ๊าาา... เด็กดี...” หินผาหรี่ตามองเมื่อมือซน ๆ ของสายน้ำลูบไล้ที่หน้าท้องของเขา ได้แต่จับมือนั้นมากุมเอาไว้แล้วเร่งเร้ากายเข้าหาไม่หยุด



หน้าท้องเกร็งแน่นจนเห็นเป็นลอนกล้ามชัดเจน หินผาหลั่งรินทุกหยาดหยดเข้าไปในกายของสายน้ำจนคนรับครางหวิว รู้สึกวูบวาบไปทั่วท้อง เขานอนอย่างหมดแรงจากกิจกรรมที่ผ่านมา รู้สึกว่าแรงจะยกแขนยังไม่มี ได้แต่นอนอยู่แบบนั้น



“ไหวไหม” หินผาถามเสียงหอบ ลูบแก้มคนรักอย่างเอ็นดู ก้มลงหอมแก้มเบา ๆ พร้อมกระซิบคำ “พี่รักสายน้ำ”



“พี่หินผา ผมก็รักพี่”



“ขอบคุณนะครับ” รั้งคนหมดแรงมานอนกอด นึกสงสารน้องที่โดนเขารังแกอย่างหนัก ได้แต่เอ่ยขอโทษที่ไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้จนเผลอรุนแรงใส่ “เจ็บมากหรือเปล่า ขอโทษนะที่พี่ทำแรง”



“ฮื่อ...” สายน้ำได้แต่ซุกหน้ากับอก เขาไม่กล้าเงยหน้ามองหรือตอบอะไรเลย ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ฉายเข้ามาในความคิดไม่หยุดจนเขินอาย อยากจะมุดหนีในกองผ้าห่ม หรือไม่ก็หายตัวไปจากตรงนี้เลย



“อ๊ะ! พี่หินผา ท ทำอะไรครับ” สะดุ้งตาโตเมื่อปลายนิ้วของหินผาสอดเข้ามาข้างใน



“ชู่ว... พี่ขอโทษ แต่มันต้องเอาออกนะ”



“ด เดี๋ยว เดี๋ยวผมทำเอง...”



“พี่ทำให้ เราทำไม่ไหวหรอก” หินผาจับอีกฝ่ายซุกอกตัวเอง “ซุกพี่ไว้ ถ้าเจ็บจะกัดพี่ก็ได้ พี่ขอโทษแต่ต้องเอามันออกจริง ๆ ทนก่อนนะ”



สายน้ำสะดุ้งเฮือกเผลอจิกเล็บกับหลังของหินผาตอนที่นิ้วควานไปมาจนทั่วเพื่อเอาสิ่งที่คั่งค้างอยู่ข้างในออกมา บางครั้งก็เจ็บจนร้องไห้ แต่หินผาก็จูบขมับปลอบจนคลายสะอื้น ความอ่อนเพลียทำให้ดวงตาของสายน้ำปิดลง จนสุดท้ายเจ้าตัวก็นอนหลับไป



“ขอบคุณนะ” หินผากระซิบบอก เขาจูบไปทั่วใบหน้าอย่างรักใคร่เอ็นดู อมยิ้มตอนที่สายน้ำซุกตัวเข้าหาเขา “พี่รักสายน้ำ”



หินผาลูบผม ลูบหลังกล่อมคนหลับ ดูจนแน่ใจว่าสายน้ำหลับสนิทแล้วจึงค่อย ๆ ขยับตัวออกมา เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำเพื่อมาเช็ดตัวให้คนหลับ แม้ว่าใจจริงอยากจะปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นขึ้นมาแล้วพาไปอาบน้ำก่อน ด้วยกลัวว่าจะไม่สบายตัว แต่ก็สงสารคนเหนื่อย เลยปล่อยให้นอนหลับไป และเขาก็ใช้วิธีเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แทน เช็ดทำความสะอาดหลายรอบหน่อยเพื่อที่สายน้ำจะได้สบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อ



หยิบชุดของตัวเองมาสวมให้ ดึงผ้าห่มที่เปื้อนออกไปใส่ตะกร้าเตรียมซัก โชคดีที่ผ้าปูไม่เลอะเพราะมีผ้าห่มรองอยู่เลยยังไม่ต้องเปลี่ยน หินผาหยิบผ้าห่มอีกผืนมาคลุมให้สายน้ำ จัดท่าทางคนหลับให้นอนสบาย แล้วเขาจึงไปจัดการตัวเองบ้าง



หินผาเดินออกจากห้องน้ำในชุดนอนตัวใหม่ เอาผ้าไปตากจนเรียบร้อยก็เดินกลับมาที่เตียง กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างสายน้ำ หยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา ตอนนี้บ่ายกว่าแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเย็นย่ำ เอาไว้ค่อยปลุกสายน้ำขึ้นมากินข้าวเย็นทีเดียว หินผาเข้าไปตอบข้อความของเพื่อนที่ส่งมาถามด้วยความเป็นห่วงเรื่องอาการไข้ และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกตัว



ดูเหมือนว่าอาการไข้ของเขาจะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันถูกถ่ายทอดไปที่ใครอีกคนแทนหรือเปล่า เอื้อมมือไปสัมผัสหน้าผาก ลำคอคนหลับ ถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าสายน้ำจะยังไม่มีไข้อะไร แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ต้องรอดูอาการต่อไปก่อน



หลังจากตอบข้อความเสร็จก็วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม หินผาล้มตัวลงนอนแล้วคว้าตัวสายน้ำเข้าไปกอด นอนมองคนหลับพร้อมรอยยิ้มอย่างคนมีความสุข จนกระทั่งเขาเผลอหลับตามไปอีกคน







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

คุณแม่~~~~
พี่หินผารังแกน้องงงงง คุณแม่ตีพี่เลย พี่รังแกน้องไม่หยุดเลยคุณแม่
ตอนนี้เป็นอะไรที่แต่งแล้วเขินมากมายก่ายกอง
คือนี่ก็ไม่ใช่สาย NC ไง ไม่ค่อยได้แต่ง
แต่งแล้วกุมแก้มไป งุ้ย!!
แซ่บ ไม่แซ่บ ไม่รู้
รู้แต่อิพี่กินน้องไปแล้วจ้าาาาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-01-2020 22:31:36
 :pig4: :pig4: :pig4:

อุ่ย....พวกเขาฟิเจอริ่งกันแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-01-2020 23:13:48
จร้าาาา
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-02-2020 00:31:27
เช้าวันต่อมา ปรากฏว่ามีคนป่วยเพิ่มขึ้น 1 อัตรา  :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 01-02-2020 06:26:37
 :-[ :pighaun: :mc4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-02-2020 08:06:37
เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-02-2020 08:16:31
พี่หินผา ได้ข่าวว่าป่วยแล้วมารังแกน้องจนหมดแรงทำไมฮะ.  :angry2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [70%] l P.21 31-01-63
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 01-02-2020 20:48:09
น้องต้องไม่สบายแน่ๆพี่หินรังแกน้อง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-02-2020 21:37:33
(https://i.ibb.co/q7ds8yY/18.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “18”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖




สายน้ำรู้สึกตัวตื่นในตอนเย็น เขากระพริบตาเพื่อปรับโฟกัสให้ชัดเจนยิ่งขึ้นก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยเพราะอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว และนั่นก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ภาพต่าง ๆ ไหลเข้ามาในความคิด ทุกสัมผัส ทุกคำพูดเด่นชัด ทำได้แค่คว้าหมอนมากอดแล้วฝังหน้าลงไป



เขาสะดุ้งตอนได้ยินเสียงประตูห้องนอนเปิดออก เงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาหน้าตาตื่น นึกอยากจะทิ้งตัวลงนอนแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปงหนีความเขินอายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะหินผาก้าวขายาว ๆ มาถึงตัวเขาเรียบร้อยแล้ว



หินผาแตะหลังมือไปที่แก้ม ลำคอเพื่อวัดอุณหภูมิดูว่าสายน้ำมีอาการไข้ขึ้นหรือเปล่า “ตัวไม่ร้อนน่าจะไม่มีไข้ เรารู้สึกยังไงบ้าง เจ็บมากไหม”



สายน้ำหน้าแดงตอนได้ยินคำถาม เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ



“แต่เดี๋ยวกินยากันไว้หน่อยก็ดีนะ พี่เตรียมยาเอาไว้ให้แล้วล่ะเดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยา” หินผาลูบแก้มสายน้ำเบา ๆ อย่างรักใคร่



“ขอบคุณครับ” ได้แต่ตอบรับเสียงเบา ไม่กล้ามองสบอีกฝ่ายตรง ๆ



“สายน้ำ” หินผาเรียกให้คนรักเงยหน้ามอง ก่อนจะยื่นไปจูบที่ริมฝีปากเบา ๆ และผละออก “ขอบคุณนะครับ”



“เรื่องอะไร... กันครับ”



“วันนี้ไงครับ ขอบคุณนะพี่มีความสุขมาก ๆ เลย”



“ม ไม่เป็นอะไรครับ” ได้แต่ก้มหน้างุด หน้าแดงก่ำไปหมด



“พี่สั่งของกินมาให้แล้วอยู่ข้างนอก วันก่อนเราบอกอยากกินพิซซ่าใช่ไหม พี่สั่งมาให้ออกไปข้างนอกกันดีกว่า”



“ครับ” หินผาขยับมาช่วยประคองสายน้ำออกไปด้านนอก เขาให้สายน้ำนั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ส่วนตัวเขาก็เดินไปหิ้วถุงพิซซ่ามาวางบนโต๊ะ มีพิซซ่าหน้าซีฟู้ดที่หินผาคอมเมนต์ไปว่าไม่เอาหอย สปาเก็ตตี้ ไก่ แล้วก็ขนมปังกระเทียมวางเรียงจนเต็มไปหมด



“โห... เยอะจังครับ”



“เรากินไปแค่มื้อเช้าอย่างเดียวเอง กินเข้าไปเยอะ ๆ เลย ไม่หมดก็ไม่เป็นไรเก็บไว้กินวันหลังเอา” หินผาว่า เขาหยิบพิซซ่าใส่จานใบเล็กส่งให้น้อง บริการอย่างดีทั้งบีบซอสให้ ใส่ผักให้



“ขอบคุณครับ”



พอได้เริ่มกิน จากตอนแรกที่สายน้ำคิดว่าตัวเองไม่ค่อยหิว กลายเป็นว่าไม่ใช่อย่างนั้นเสียแล้ว พิซซ่าชิ้นที่สอง ที่สามถูกส่งลงกระเพาะ ตามด้วยสปาเก็ตตี้กว่าครึ่งกล่อง แล้วยังมีไก่อีกหลายชิ้น สุดท้ายจากที่คิดว่าจะกินไม่หมด ก็หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ ปิดท้ายมื้อเย็นด้วยไอศกรีมที่หินผาสั่งมาด้วย เอาใจคนรักเต็มที่



“อิ่ม...” สายน้ำเอนหลังพิงโซฟามือลูบหน้าท้องตัวเอง ดึงเสื้อขึ้น “ผมรู้สึกว่าพุงออก”



“เดี๋ยวย่อยหมดก็ยุบ” หินผาหันมายิ้มเอ็นดู มองพุงขาว ๆ ของน้องก่อนจะดึงเสื้อสายน้ำลง หลังจากได้กอดสายน้ำไปเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่พอ อยากกอดอยู่เรื่อย ๆ เพียงแค่เห็นเนื้อตัวใต้ร่มผ้าของน้องก็รู้สึกใจคอไม่ดี ยังไม่อยากรังแกสายน้ำในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นก็ควรป้องกันเอาไว้เสียก่อน



“ว่าแต่... พี่หินผาหายป่วยแล้วเหรอครับ” ยื่นมือมาวัดไข้หินผา เมื่อเช้ายังตัวอุ่น ๆ อยู่เลย แต่ดูตอนนี้อีกฝ่ายปกติมาก ไม่เหมือนคนเป็นไข้เลยสักนิด



“หายแล้ว สงสัยว่าพี่จะได้ยาดี ได้ปุ๊บ หายปั๊บเลย” หินผาจับมือของสายน้ำมากุมเอาไว้แล้วส่งยิ้มให้ สายน้ำขยับตัวยุกยิกแก้เขิน พยายามจะดึงมือออกแต่หินผาก็ไม่ยอมปล่อย เลยต้องปล่อยให้อีกฝ่ายจับเอาไว้แบบนั้น “ง่วงไหม อยากพักหรือเปล่า”



“ไม่ครับ เปิดหนังดูกันดีกว่าครับผมอยากดู”



“เอาสิ อยากดูเรื่องอะไรล่ะ” หินผาส่งรีโมทโทรทัศน์ให้น้องเลือกดูหนัง “เดี๋ยวพี่ไปเทน้ำส้มให้ดีกว่า เมื่อเช้าเราซื้อมายังเหลืออยู่นี่”



“ขอบคุณครับ”



“เลือกหนังไปก่อน เดี๋ยวพี่มา” ลูบผมน้องเบา ๆ ก่อนจะลุกเดินเข้าไปในครัว เขาจัดการเทน้ำส้มใส่แก้ว หยิบถุงขนมออกมาสองสามถุงเอาไว้ให้น้องกินตอนดูหนัง



“ดูเรื่องนี้นะครับ” สายน้ำหันมาบอกเมื่อหินผาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ หลังจากที่เดินไปหยิบผ้าห่มในห้องนอนออกมาให้



“หือ... นึกยังไงถึงอยากดูเรื่องนี้”



“ก็... คราวที่แล้วที่ดูหนังเรื่องนี้ด้วยกัน พี่หินผาไม่ตั้งใจดูเลยนี่ครับ หลับไปตั้งเป็นครึ่งเรื่อง ผมรู้หรอก”



เขาหัวเราะ ไม่ปฏิเสธเพราะจริงอย่างที่สายน้ำพูด เขาโอบตัวน้องมาใกล้แล้วห่มผ้าทั้งตัวเขาแล้วก็สายน้ำด้วย “พี่ขอโทษ ตอนนั้นมันน่าเบื่อสำหรับพี่นี่”



“เพราะอย่างนั้น วันนี้พี่หินผาต้องแก้ตัวใหม่ ดูกับผมจนจบเรื่องเลยนะครับ”



“ได้อยู่แล้ว” หอมแก้มคนข้างกายไปทีอย่างเอ็นดู กระชับกอดแน่นขึ้นจนสายน้ำแทบจะเกยอยู่บนตัวเขา



นั่งดูหนังด้วยกัน... เหมือนเมื่อตอนเป็นเด็กที่เขาก็นั่งดูหนังเป็นเพื่อนสายน้ำ แม้ว่าในตอนนั้นเขาจะหลับเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม



หินผาก้มลงมองเมื่อรับรู้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งตัวมาที่เขามากขึ้นก่อนจะหลุดยิ้มออกมา คนที่เอ่ยชวนเขาดูหนังหลับไปเสียแล้ว หลับไปทั้ง ๆ ที่หนังเล่นไปได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องเสียด้วยซ้ำ



“ไหนว่าจะดูหนังด้วยกันจนจบไง” ก้มลงจูบหัวน้อง หันกลับไปมองจอโทรทัศน์แล้วก้มลงมองสายน้ำใหม่ “สงสัยหนังเรื่องนี้ต้องดูด้วยกันใหม่ครั้งหน้าแล้วล่ะนะ”



เขาไม่ได้กดปิด ปล่อยให้หนังเล่นไปแบบนั้น แต่สายตาของหินผาไม่ได้จับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์ ไม่ได้โฟกัสที่หนังเลยสักนิดเดียว เพราะความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่คนที่นั่งพิงตัวเขาแล้วหลับอยู่ต่างหาก







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาแล้ววววว
ขอโทษทีค่า ช่วงนี้ฟางงานเยอะมั่ก ๆ ทั้งงานใน งานนอก
เลยอาจจะไม่มาช้าหน่อยนะคะช่วงนี้ กำลังเคลียร์ ๆ งานอยู่ค่ะ
ต้องเรียกสินสอดเยอะ ๆ เลย พี่หินผามารังแกลูกเลาแบบนี้ดั้ยงัย
ดูสิ! น้องร้องเลยยยยยยยยยยย
นี่ยังดีนะน้องไม่ป่วย ไม่อย่างนั้นจะตี ๆ พี่หินผาเลยยยยย

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-02-2020 22:00:00
 :pig4: :pig4: :pig4: 

หลังจาก.......บริการเป็นพิเศษเลยน้า  คุณพี่
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2020 23:12:28
ผัดกันดูแล และแลดูซึ่งกันและกัน  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 07-02-2020 23:53:56
งู้ยๆ. อ้อนกันใหญ่.  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-02-2020 03:17:48
น่ารักกก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-02-2020 07:57:58
หวานจนอิจฉา ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "18" [100%] l P.21 07-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-02-2020 00:09:20
เกิ้นไป้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 17-02-2020 21:18:42
(https://i.ibb.co/RYbNfhZ/19.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “19”






เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นดึงความสนใจของสายน้ำให้หันไปมอง เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยื่นมือไปหยิบมากดรับ



น้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นตอนพูดจนเพื่อนที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกันรวมถึงหินผาที่ตามมานั่งเฝ้าแฟนหันมามองอย่างแปลกใจ สายน้ำพูดคุยโต้ตอบกับปลายสายด้วยภาษาอังกฤษ ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขตอนวางสาย



“ใครเหรอ” หินผาอดที่จะถามไม่ได้



“เพื่อนผมน่ะครับ เพื่อนที่ต่างประเทศเขาโทรมาบอกว่าจะบินมาหาผมที่นี่น่ะครับ” สายน้ำยิ้มกว้าง คิดถึงเพื่อน ๆ ที่นู้น ไม่ได้เจอกันนานแล้ว แม้ว่าจะยังคุยกันอยู่ก็ตาม



“แล้วต้องไปรับเพื่อนที่สนามบินไหม”



“ไปครับ” สายน้ำพยักหน้า “พี่... ไปส่งได้ไหมครับ”



“ได้สิ ตอนไหนวันไหนก็บอก” หินผาลูบผมของน้องเล่นพร้อมยิ้มอ่อนโยนให้สายน้ำหน้าแดง ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ พยายามไม่สนใจสายตาล้อเลียนของเพื่อนที่มองมา



ส่วนหินผาก็ยิ้มชอบใจที่ทำให้น้องเขินได้ เขาเพิ่งค้นพบความชอบใหม่อีกอย่างหลังจากที่คบกับสายน้ำ นั้นก็คือการทำให้แฟนของเขาเขินหน้าแดง การได้เห็นสายน้ำเขินอาย ทำอะไรไม่ถูก นั่งหน้าแดงนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เขามีความสุขมาก จนต้องหาเรื่องหยอกล้อให้สายน้ำเขินอายทุกครั้งที่มีโอกาส โดยเฉพาะเวลาที่น้องหน้าแดงตอนโดนเขาแกล้งบนเตียงเป็นอะไรที่หินผาชื่นชอบเป็นพิเศษ



เขาปล่อยให้น้องนั่งกับทำงานกับเพื่อน ๆ ส่วนตัวหินผาก็หยิบชีทขึ้นมาอ่านเพื่อเตรียมสอบ ตอนนี้นักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคของภาคเรียนที่หนึ่งแล้ว สายน้ำเองก็เช่นกัน แต่เจ้าตัวยังมีรายงานกลุ่มอีกหนึ่งวิชาที่ต้องส่งในวันสอบ วันนี้สายน้ำกับเพื่อนในกลุ่มจึงนัดมาทำงานด้วยกัน



จนกระทั่งคล้อยบ่ายงานที่นั่งทำกันตั้งแต่สาย ๆ ก็เสร็จเรียบร้อย เหลือให้มะนาวเอาไปปริ้นแล้วก็เข้าเล่ม แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์พร้อมส่ง



สายน้ำบิดขี้เกียจด้วยความเมื่อยขบหลังจากที่นั่งทำงานมานับชั่วโมง เขาฟุบหน้าลงกับโต๊ะแต่สิ่งที่สัมผัสไม่ใช่โต๊ะแข็ง ๆ แต่เป็นฝ่ามือของหินผาที่สอดมารองแก้มของเขาได้พอดี



“โต๊ะมันเลอะอะไรบ้างก็ไม่รู้ จะเอาหน้าไปแนบแบบนั้นได้ยังไง” คนอายุมากกว่าหันมาดุ แต่เดี๋ยวนี้สายน้ำมีสกิลเพิ่มขึ้นแล้ว ใช้วิธีการยิ้มกลับไป คนหน้าดุก็คลายสีหน้าลงใช้มืออีกข้างบีบแก้มนิ่มของน้องไปแทน



สายน้ำนอนเอาหน้าแนบฝ่ามือของหินผาอยู่แบบนั้น เจ้าตัวใช้ปลายจมูกตัวเองดุน ๆ เหมือนแมวเวลาอ้อนเจ้าของ แล้วก็ดูเหมือนว่าจะอ้อนจนไม่สนใจรอบข้างเลย



แบงก์ กับตั้มหันมองหน้ากันแล้วยักคิ้ว ตั้มแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายวีดิโอเอาไว้ ตั้งใจว่าจะส่งเข้าไลน์กลุ่มที่มีพวกพี่ ๆ อยู่ด้วย ส่วนเบลกับมะนาวก็หันไปตีมือใส่กัน ท่าทางกลั้นฟินของทั้งคู่นั้นทำเอาหินผาที่หันไปเห็นพอดียิ้มขำ



นึกอยากจะหันมาจัดการเจ้าเด็กขี้เขินของเขาที่นึกอยากอ้อนตอนอยู่ข้างนอกแบบนี้ เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ใจนึกได้ ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจแล้วค่อยไปทบต้นทบดอกทีเดียวตอนอยู่ด้วยกันตามลำพัง



“อย่างนั้นกลับกันเลยไหม” ตั้มหันไปถามเพื่อน ๆ เพราะเขาเห็นสายตาของหินผาที่มองเพื่อนตัวเองแล้ว คิดว่ารีบแยกย้ายน่าจะดีกว่าดูท่าแล้วหินผาคงมีเรื่องอยากจัดการแฟนตัวเอง



“ก็ได้นะ งานก็เสร็จหมดแล้วนี่” มะนาวพยักหน้าเห็นด้วย



“ไป อย่างนั้นก็แยกย้ายกัน มะนาวเอารถมาใช่ไหม”



“เอามาจ้า เดี๋ยวเบลไปกับเรา”



เบลพยักหน้ากับคำพูดของมะนาว แบบนั้นตั้มก็เลยพูดสรุปความอีกรอบ “โอเค เบลไปกับมะนาว กูกับมึงกลับด้วยกัน ส่วนน้ำไปกับพี่หินผานะครับ”



“ใช่”



“อ้าว”



หินผาพยักหน้ารับ ส่วนสายน้ำทำหน้าเหวอเพราะตอนแรกเขาคุยกับหินผาว่าเขาจะกลับไปนอนที่คอนโด แล้วก็ตั้งใจจะกลับพร้อมกับแบงก์และตั้มเลย



“งั้นแยกย้ายกันดีกว่า” แบงก์พูดก่อนที่เขาและคนอื่น ๆ จะยกมือไหว้สวัสดีรุ่นพี่เพียงคนเดียวในตอนนี้ก่อนจะรีบเดินกันออกไป เหลือเพียงสายน้ำกับหินผา



“มีอะไร” คนอายุมากกว่าหันมามองแฟนตัวเองที่นั่งมองเขาอยู่



“คืนนี้ผมนอนห้องผมนะ”



“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปค้างด้วย” หินผาพยักหน้า



“อ้าว...”



“ทำหน้าเหวออะไรของเรา คงไม่คิดหรอกนะว่าพี่จะไปส่งที่คอนโดแล้วพี่ก็กลับห้องตัวเองน่ะ”



“ก็... แหะ...”



หินผาดีดหน้าผากของสายน้ำไปที “เรื่องอะไรมาปล่อยให้แฟนนอนคนเดียว ไม่นอนกับเราแล้วพี่จะกอดใคร”



สายน้ำหน้าขึ้นสีระเรื่อตอนได้ยินแบบนั้น เขาไม่พูดอะไรต่อแต่หันกลับมาเก็บข้าวของของตัวเองบ้าง หินผาที่เห็นท่าทางแบบนั้นของน้องก็อมยิ้ม รอจนสายน้ำเก็บของเสร็จก็พากันไปที่รถของหินผา



แวะกินข้าวร้านที่เคยมาด้วยกันก่อนกลับเข้าคอนโด



“ชาพีชไหมเรา” หินผาหันไปถามสายน้ำตอนที่เลี้ยวรถเข้ามาในคอนโด เขาจำได้ว่าน้องชอบชาพีชร้านที่ขายอยู่หน้าคอนโด



“ครับ”



“อย่างนั้นเดี๋ยวเดินไปซื้อด้วยกัน” หินผาบอกในระหว่างที่วนรถเพื่อหาที่จอด



“พี่หินผาเอาอะไรดีครับ แต่เมื่อเช้าพี่กินกาแฟไปแล้ว” สายน้ำถามพร้อมเอ่ยดักคออย่างรู้ว่าอีกฝ่ายจะสั่งอะไร บางวันหินผาดื่มกาแฟหลายแก้วมาก ๆ เกินเกณฑ์ที่เขาให้ดื่มต่อวันเสียอีก แต่ก็พอจะเข้าใจได้เวลาปั่นโปรเจค ถ้าไม่มีพวกกาแฟก็คงอยู่ไม่ได้เหมือนกัน



แต่วันนี้หินผาไม่ต้องปั่นโปรเจคเพราะพวกเขาอยู่ในช่วงสอบกันแล้ว



หินผาหัวเราะรู้ว่าน้องกำลังจะจำกัดปริมาณกาแฟในแต่ละวันของเขา ซึ่งเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร ดีเสียอีกให้ความรู้สึกว่าน้องเป็นห่วงดี “พี่เอาชาพีชแบบเรานั่นแหละ”



“โอเคครับ” สายน้ำยิ้มก่อนจะเดินไปสั่งชาพีชสองแก้วที่เคาน์เตอร์ ส่วนหินผาก็เดินไปหาที่นั่งรอ “ว่าแต่ว่านั่นกระเป๋าอะไรน่ะครับ”



หันไปมองกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างตัวแล้วหันมาตอบ “กระเป๋าเสื้อผ้าของพี่เอง”



สายน้ำทำหน้าเหวอตอนได้ยินคำตอบ “พี่ตั้งใจจะมาค้างอยู่แล้วเหรอ”



“ก็ใช่น่ะสิ”



“ถึงว่า... ไม่พูดอะไรตอนผมบอกจะกลับมานอนที่ห้อง เพราะเตรียมพร้อมเอาไว้แบบนี้แล้วนี่เอง”



หินผาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของน้อง “พี่เอาเสื้อผ้ามาเผื่อเอาไว้ด้วย วันไหนมาค้างห้องเราจะได้มีใส่ ไม่ต้องแบกเป้ไปมา”



“นี่พี่จะไม่แยกกันนอนเลยเหรอครับ” สายน้ำทำตาโต



คนฝั่งตรงข้ามยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้ามาใกล้ก่อนจะตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ไม่มีทาง”



“ครับ ๆ ตามนั้นเลยครับ” สายน้ำพยักหน้าอย่างยอมรับก่อนจะเหลือบตามองคนพี่แล้วพูดต่อเสียงเบา “พูดเองนะครับ ถ้าวันไหนไม่นอนกับผมล่ะก็... น่าดูเลย”



หินผาหันไปรับแก้วชาพีชจากพนักงาน ส่งแก้วหนึ่งให้น้องไปถือไว้ก่อนจะคว้ามือน้องแล้วพาออกจากร้าน เขาก้าวเร็วเสียจนสายน้ำเกือบตามไม่ทัน



“พ พี่หินผาเดี๋ยวครับ จะรีบไปไหนกันล่ะเนี่ย”



อีกฝ่ายไม่ตอบเขาใช้คีย์การ์ดที่สายน้ำให้มาสแกนเพื่อเข้าไปในลิฟต์และกดชั้น ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็ดึงน้องให้เดินตามทันที



“พี่หินผา” สายน้ำทำหน้างงเมื่อเห็นท่าทางที่ดูรีบเร่งของคนพี่ ทันทีที่เข้ามาถึงในห้องแก้วชาพีชในมือสายน้ำก็ถูกอีกฝ่ายคว้าไปวางไว้บนโต๊ะ



ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรก็ถูกดึงเข้าไปหาแล้วก็โดนปิดปากด้วยสิ่งเดียวกันทันที สายน้ำตาโตด้วยความตกใจกับการจู่โจมที่ไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่นานก็โอนอ่อนลง



หินผากอดกระชับช่วงเอวของสายน้ำ ดึงรั้งให้ร่างกายเข้ามาแนบชิดจนแทบจะไร้ช่องว่างระหว่างกัน



“พี่... หินผา...” สายน้ำมองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก อยู่ ๆ ก็ลากเขาออกมาจากร้านกาแฟ อยู่ ๆ ก็มาจับจูบกันเสียอย่างนั้น



“เรานี่นะ ทำไมชอบทำตัวแบบนี้เนี่ย” หินผาตีหน้าดุใส่



“อ้าว...” คราวนี้สายน้ำเลยยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่ โดนปล้นจูบเสร็จก็โดนดุต่อเสียอย่างนั้น “ผมทำอะไรผิดเนี่ย”



สายน้ำโดนดึงเข้าไปกอดอีกรอบ หินผาซบหน้ากับไหล่ของแฟนตัวเอง “ชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อยเลย”



“อ่ะ...” สายน้ำชะงักไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “อ อะไรกันครับ”



“น่ารัก”



“น่ารัก”



พูดไปหินผาก็กอดสายน้ำพาเดินไปด้วย “น่ารัก”



“พี่หินผา ด เดี๋ยวก่อน... เฮ้ย!” สายน้ำร้องออกมาเมื่อเขาเดินถอยหลังจนชนกับโซฟา เสียหลักล้ม เขาหลับตาด้วยความตกใจ



สายน้ำค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ในตอนนี้เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาโดยสีหินผาทาบทับอยู่ด้านบน อีกฝ่ายมองหน้าเขาพร้อมรอยยิ้มจนสายน้ำรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กวาดสายตาไปมาอย่างต้องการหาอะไรมาเป็นจุดวางสายตาแทนใบหน้าของคนด้านบน



“อย่าทำตัวให้มันน่ารักมากนัก” หินผาจับคางของสายน้ำเอาไว้ บังคับให้อีกฝ่ายมองตรงมาที่เขา



“ผมเปล่า...”



“เราทำ” สายตาของหินผาเลื่อนลงไปมองที่ริมฝีปากของสายน้ำ “ถ้าพี่บอกว่าเราทำ ก็แสดงว่าเราทำ”



“พ พี่...”



เสียงของสายน้ำขาดหายเมื่อคนด้านบนก้มลงมาประทับจูบอีกครั้ง หินผาจูบสายน้ำย้ำ ๆ อย่างต้องการหยอกล้อ เขายิ้มชอบใจตอนที่เห็นแก้มทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ เลื่อนไปจูบหน้าผากก่อนจะวกกลับมาจูบที่ริมฝีปากอีกรอบ



และคราวนี้จูบของพวกเขาก็เริ่มหนักหน่วงขึ้น หินผาแนบชิดมากขึ้น ลุกล้ำมากขึ้นจนสายน้ำรู้สึกวูบวาบในช่วงท้องไปหมด



“พอแล้วครับ” สายน้ำยกมือปิดปากตัวเองตอนที่หินผาทำท่าเหมือนจะก้มลงมาจูบอีกรอบ “จูบจนปากผมบวมหมดแล้วมั้ง...”



“ก็เรามันน่าจูบ ขอพี่จูบอีกรอบก่อน” หินผาว่า “นะครับ...”



แล้วแบบนี้สายน้ำจะทำอะไรได้บ้างนอกจากยอมลดมือที่ปิดปากตัวเองลง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายสำรวจโพรงปากของเขาจนพอใจ แต่ดูเหมือนว่าความพอใจของหินผายังไม่สิ้นสุดเสียที เพราะพอผละจูบออกไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ตามมาจูบอีกแล้ว และตอนนี้ไม่ใช่แค่ปากที่หินผาจูบ รวมไปถึงใบหน้า ลำคอก็ด้วย ไม่มีผิวกายส่วนไหนไม่โดนริมฝีปากของหินผา



“ผมเจ็บปากหมดแล้ว” สายน้ำได้แต่บ่นตอนที่คนอายุมากกว่ายอมถอนจูบออกไป



“ขอโทษครับ” หินผาจุ๊บเบา ๆ ที่ปากแดงอีกรอบ ในตอนนี้สายน้ำถูกจับให้นอนอยู่บนโซฟาโดยมีหินผานอนเบียดอยู่ด้วยเหมือนกัน โซฟาที่สายน้ำคิดว่าใหญ่ในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นแคบลงทันทีที่พวกเขาสองคนมานอนเบียดกัน ซึ่งสายน้ำก็ไม่เข้าใจว่าหินผาจะลงมานอนเบียดกับเขาด้วยทำไม



“ชาพีชผมละลายหมดแล้ว” หันไปมองแก้วน้ำชาพีชที่ซื้อมา ตอนนี้น้ำแข็งละลายจนเกือบจะหมดแก้วแล้ว



หินผาหัวเราะ เขายอมดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมกับดึงสายน้ำขึ้นมาด้วย หยิบแก้วชาพีชส่งให้กับสายน้ำ “พี่ว่ามันน่าจะยังอร่อยอยู่นะ”



“มันจืดสนิทเหมือนกินน้ำเปล่าแล้วครับ” สายน้ำที่ดูดน้ำไปบ่น



“ขอโทษครับ เดี๋ยวพี่ลงไปซื้อมาให้ใหม่นะ”



“ไปซื้อมาให้ผมเลย”



“โอเค” หินผายีผมของสายน้ำเล่น เขาลุกขึ้นยืนเตรียมจะลงไปซื้อชาพีชแก้วใหม่ให้แฟน หลังจากที่โดนเขาปล้นจูบจนน้ำละลายหมดแก้ว



“เดี๋ยวครับ พี่จะลงไปจริง ๆ น่ะเหรอ” สายน้ำตาโตตอนที่เห็นอีกฝ่ายหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา



“จริงสิ”



“ไม่ต้องก็ได้ ผมล้อเล่นหรอก”



“ไม่เป็นอะไร พี่ลงไปซื้อน้ำน่ะดีแล้ว” หินผาหันมายิ้ม “เพราะถ้าไม่ให้พี่ลงไปซื้อน้ำ พี่ว่าพี่ได้... กินเราแทนแล้วล่ะ”



“พี่หินผา!”



เขาหัวเราะขำกับหน้าแดง ๆ ตาโต ๆ ของสายน้ำที่เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจตอนได้ยินเขาพูด “ทีนี้จะให้พี่ลงไปซื้อน้ำได้หรือยังครับ”



“ด ได้ครับ พี่ลงไปซื้อน้ำก็ได้ครับ”



“เดี๋ยวมา” ไม่วายก้มลงจูบหน้าผากของสายน้ำอีกรอบก่อนจะเดินออกจากห้องไป



เจ้าของห้องได้แต่ยกมือขึ้นจับบริเวณที่โดนจูบเมื่อครู่ ยังรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แค่คิดถึงจูบที่แสนยาวนานก่อนหน้านี้ก็ทำให้ใบหน้าของสายน้ำแดงก่ำขึ้นกว่าเดิมจนต้องรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดออกไป



“ไม่เอา! เลิกคิดอะไรที่มัน... ลามาก ๆ ได้แล้วสายน้ำ”



ได้แต่ซุกหน้ามุดกับหมอนอิงของโซฟาอย่างเขินอายกับความคิดของตัวเอง พลางนึกต่อว่าตัวเองอยู่ในใจ



สายน้ำ! ทำไมอยู่ ๆ กลายเป็นคนชอบคิดลามกอยู่เรื่อยเลย



ก็รู้หรอกว่ามันก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปของคนเราที่จะมีความคิดลามากอยู่บ่อยครั้ง แต่สายน้ำไม่ใช่คนที่จะคิดอะไรแบบนั้น ถ้าไม่นับช่วงหลัง ๆ มานี้ที่บางครั้งก็เผลอคิดลามกเวลาโดนหินผากอดหรือจูบ



ต้องเป็นเพราะหินผาแน่นอนที่ทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้



ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่โทษอีกฝ่ายอยู่ในใจแบบนี้นี่แหละ






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ขอไม้เรียวให้หน่อยจ้า! จะเอามาตีก้นยัยน้องน้ำ
เป็นสาว(?)เป็นนาง(?) เอ๊ย! เป็นหนุ่มเป็นนาย
ไปชวนผู้ชายเขานอนด้วยแบบนั้นได้ยังไงกัน! มันน่าจะโดนตีจริง ๆ เลย
แล้วคุณพี่คะ... เบาหน่อยจ้า ไม่ต้องจ้องฟัดน้องขนาดนั้นก็ได้จ้า
สงสารน้องบ้างจ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 17-02-2020 21:29:30
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-02-2020 21:48:57
 :pig4: :pig4: :pig4:

มดขึ้นจอคอมทุกครั้งที่เปิดอ่านเลย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-02-2020 22:32:01
ขอหยิกแก้มทีน้องน้ำอ่ะ เดี๋ยวนี้มีอ้อน มีอ้อยพี่เค้านะเราน่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-02-2020 22:40:32
ฮอตจริง ๆ นะหินผา แค่จุ๊บนิด ๆ หน่อย ๆ ทำเอาน้ำแข็งน้องหายเกลี้ยง สวดยอดดดดด  o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-02-2020 22:47:49
จะโดนพี่หินผาจับกินแล้วนะน้องสายน้ำ ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [40%] l P.21 17-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 22-02-2020 03:08:00
อดทนได้จนถึงห้องก็เก่งแล้วพี่หินผา  o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-02-2020 21:45:00
(https://i.ibb.co/RYbNfhZ/19.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “19”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖
[/b]





หินผาก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าเขาค่อนข้างเป็นคนขี้หวง แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทั้งขี้หวง แล้วก็ขี้หึงขนาดนี้ เขาเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่วันที่ขับรถพาสายน้ำไปส่งที่สนามบินเพื่อรับเพื่อนสนิทของสายน้ำที่มาจากต่างประเทศ คิ้วของเขากระตุกตั้งแต่ตอนเห็นสายน้ำเดินเข้าไปกอดเพื่อนสนิทคนที่ว่า คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันตอนที่สายน้ำเอาแต่คุยแล้วก็ยิ้มกับเพื่อนสนิทจนแทบจะลืมเขา และอาการของเขาเริ่มย่ำแย่ลงตอนที่สายน้ำให้เพื่อนคนนั้นนอนค้างด้วยกันที่คอนโด เลยทำให้เขาไม่สามารถไปนอนกับน้องได้



“เป็นอะไรของมึง นั่งทำหน้าตาบูดเป็นตูดลิงมาตั้งแต่เมื่อกี้ละ” เดียร์ที่หันไปเห็นหน้าบูด ๆ ของเพื่อนอดที่จะถามออกไปไม่ได้ แล้วคำถามของเดียร์ก็เรียกสายตาคนอื่น ๆ ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านแฝดสามให้หันไปมองด้วย



“เออ นั่นดิ แล้วทำไมวันนี้ถึงมาบ้านนี้ได้ ไม่อยู่กับน้องเหรอ” ป่าไม้ถามออกไปบ้าง



หินผาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอคล้ายจะรำคาญ “ไม่ได้เป็นอะไร”



“ไม่ได้เป็นไรบ้านมึงดิ หน้าบูด หน้าบึ้งแบบนี้” ทัชส่ายหน้า “ไหนอาการมันเป็นยังไง ไหนบอกมาดิ”



“หึง”



“ห๊ะ!” แต่ละคนทำหน้างง ไม่เข้าใจในสิ่งที่หินผาพูด



“อะไรของมึงวะ ว่าแต่สายน้ำไปไหน ไม่มาด้วยกันล่ะ” ป่าไม้ได้แต่ยกมือเกาหัวก่อนจะถามไปถึงน้องชายสุดที่รักคนใหม่ที่ขึ้นแท่นเป็นน้องอันดับหนึ่งแทนน้องชายแท้ ๆ ของตัวเอง



“อยู่กับคนอื่น” พูดไปก็ทำหน้าบูดหน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก



“หา” เป็นอีกรอบที่ทุกคนในห้องร้องออกมา



“เดี๋ยวนะ กูว่า... ไม่น่าใช่” ทัชส่ายหน้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หินผาพูด



“เออ กูก็ไม่เชื่อ ใช่ไหมพี่” เดียร์เองก็เห็นด้วยกันทัช แถมหันไปขอความคิดเห็นจากคนรักอย่างกันต์ที่ก็พยักหน้าเห็นด้วยเหมือนกัน



ป่าไม้ตั้งท่าจะซักถามน้องชายต่อแต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน เขาหยิบขึ้นมาดูพอเห็นว่าเป็นสายน้ำก็รีบกดรับทันที “ฮัลโหล”



[พี่ป่าไม้ครับ พี่หินผาอยู่กับพี่หรือเปล่า] ปลายสายรีบถามออกมาทันทีที่เขากดรับ



“ก็... อยู่นะ” ป่าไม้เหลือบตามองน้องชายตัวเอง แม้ในใจจะไม่เชื่อในสิ่งที่น้องชายพูดแต่การที่สายน้ำโทรหาเขาแล้วถามถึงหินผาด้วยน้ำเสียงร้อนรนก็ทำเอาใจแกว่ง ๆ ไปเหมือนกัน “น้ำมีอะไรหรือเปล่า”



[พี่หินผางอนผม]



“งอน... หินผางอนเรา” ป่าไม้ทวนคำ เขามองใบหน้าของหินผาที่บูดบึ้งจนดูตลก คนอื่น ๆ เองก็เงียบเสียงคล้ายกับว่ารอฟังเรื่องราวอยู่



[ใช่ครับ] ปลายสายว่าเสียงอ่อย [พอดี... เพื่อนของผมเขามาจากต่างประเทศ แล้วยังไม่ได้หาที่พักผมก็เลยให้เพื่อนมาพักด้วยกันก่อน]



“อื้ม... อย่างนั้นเองเหรอ แล้วมันงอนเราเรื่องอะไร”



[ผมก็ไม่แน่ใจครับ แต่พอผมบอกว่าคืนนี้ผมคงไปคอนโดพี่หินผาไม่ได้แล้วเพราะว่าเพื่อนจะอยู่ค้างด้วยกันที่ห้องผม พี่หินผาก็เงียบ ๆ ไป นิ่ง ๆ ไปแล้วก็บอกว่าจะไปที่บ้านแฝดสามแล้วก็ออกไปเลยน่ะครับ] สายน้ำเล่าทุกอย่างให้พี่ชายของแฟนฟัง [ผมไลน์ไปหาก็ไม่ตอบ โทรก็ไม่รับ เลยคิดว่าพี่หินผาคงจะงอนผม แต่ผม...]



“ไม่เข้าใจว่ามันงอนเรื่องอะไรใช่ไหม”



[ใช่ครับ...] สายน้ำว่าเสียงอ่อย [ผม... ทำอะไรไม่ดีหรือเปล่าครับพี่ป่าไม้ ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี]



ป่าไม้ที่ได้ยินเสียงหงอย ๆ ของสายน้ำก็รีบกดเปิดลำโพงทันที เขาตั้งใจอยากจะให้ไอ้น้องชายที่แสนจะงี่เง่าของตัวเองฟังว่าสิ่งที่เจ้าตัวทำน่ะส่งผลต่อความรู้สึกของสายน้ำยังไงบ้าง นึกแล้วก็หมั่นไส้น่าจะเดินไปเบิ้ดกะโหลกมันสักทีสองที



หินผาที่ได้ยินเสียงหงอย ๆ เศร้า ๆ ของแฟนตัวเองก็ใจกระตุก นึกอยากจะคว้าโทรศัพท์ของพี่ชายมาแล้วคุยด้วย แต่ป่าไม้รู้ทันจึงเบี่ยงหลบ “สายน้ำไม่ต้องทำยังไงหรอก แม่งบ้า แม่งงี่เง่าไร้สาระ ไร้เหตุผล ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกสายน้ำ ปล่อยให้มันบ้าบอของมันไปเถอะ ไม่ต้องง้อมันด้วย มันไร้เหตุผล”



[เอ่อ... สรุปพี่หินผางอนผมจริง ๆ ใช่ไหมครับ เรื่องอะไรเหรอพี่ป่าไม้รู้ไหม ผมทำอะไรผิดเหรอครับ ผมไม่รู้ตัวจริง ๆ นะ]



“สายน้ำไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” ป่าไม้ยืนยันเสียงหนักแน่น มีคนอื่น ๆ ที่ได้ยินบทสนทนาพยักหน้าตามแม้ว่าสายน้ำจะมองไม่เห็นก็ตาม “น้องชายพี่มันไร้สาระ งี่เง่า ไร้เหตุผลเอง จากที่พี่ฟังเราพูดพี่ว่ามันคงหึง หวงเรานั่นแหละ น่าจะงอนเรื่องที่เราให้เพื่อนไปนอนค้างด้วยกัน แล้วเราก็ไม่ยอมไปค้างคอนโดมัน”



[เอ๊ะ! เรื่องนั้นเหรอครับ] สายน้ำพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะถามออกมา [พี่หินผาอยู่ที่บ้านแฝดสามสินะครับ]



“ใช่แล้วล่ะ มันอยู่ที่นี่แหละ”



[อย่างนั้นเดี๋ยวผมไปที่นั่นนะครับ พี่ป่าไม้อย่าเพิ่งให้พี่หินผาไปไหนนะ เดี๋ยวผมรีบไป]



“ไม่ต้อง” ไม่ใช่ป่าไม้ที่เป็นคนตอบ แต่เป็นคนที่สายน้ำพูดถึงอยู่อย่างหินผาเป็นฝ่ายตอบออกไป “ไม่ต้องมา เรามาเองอันตราย พี่ไม่ไว้ใจ มันค่ำแล้วด้วย รออยู่ที่คอนโด... อีกครึ่งชั่วโมงพี่จะถึง เดี๋ยวพี่ไปหา”



[พี่หินผา... ได้ครับ ผมจะรอนะ]



“ไม่ต้องด่า รู้ตัว” หินผาหันไปบอกกับพี่ชายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะพูด เขาส่งโทรศัพท์คืนให้ก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นเพื่อตรงไปที่รถของตัวเอง โดยมีคนอื่น ๆ มองตามไปอย่างงง ๆ เพราะตามไม่ทัน



รถคันสวยของหินผาใช้เวลาอยู่บนท้องถนนไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จอดสนิทอยู่ตรงประตูทางเข้าคอนโดของสายน้ำ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นหวังจะโทรบอกน้องว่ามาถึงแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรศัพท์โทรออก เสียงเคาะกระจกก็ดังขึ้นเสียก่อนให้หินผาหันไปมองก่อนจะพบกับสายน้ำที่เดินลงมาหาเขาเองถึงชั้นล่าง



สีหน้าของสายน้ำดูไม่ดีเท่าไหร่นัก และนั่นก็ทำให้หินผานึกโทษตัวเองอยู่ในใจว่าเพราะเขาทำตัวงี่เง่าเลยพลอยทำให้น้องเป็นกังวลไปด้วย



หินผาลดกระจกลง “ขึ้นมาสิ”



“พี่หินผา”



“ไปค้างห้องพี่ได้ไหม” ยังไม่ทันที่สายน้ำจะได้พูดอะไรต่อหินผาก็ถามออกมาก่อน



สายน้ำทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับ “ได้ครับ ผมบอกกับเพื่อนเอาไว้แล้ว”



“อื้ม” หินผาพยักหน้ารับ เขาขับรถออกจากคอนโดของสายน้ำเพื่อตรงกลับไปที่คอนโดของตัวเอง



ปิดรถเรียบร้อยก็เดินนำสายน้ำไปที่ห้องของตัวเอง หินผาปิดประตูห้องหลังจากที่สายน้ำเดินเข้ามาในห้อง จับแขนของสายน้ำก่อนจะดึงเข้ามาใกล้ ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกมา



“พี่หินผาครับ” สายน้ำยกมือปิดปากหินผาเอาไว้เมื่อเจ้าตัวทำท่าจะขโมยจูบเขาอีกรอบ



“พี่ขอโทษ” มือทั้งสองข้างกอดอยู่ที่รอบเอวของน้อง หินผาซบหน้ากับไหล่พลางกระชับกอดแน่นขึ้น “พี่ขอโทษนะ”



“พี่ขอโทษผมเรื่องอะไรกันครับ” เอ่ยถามออกไปหลังจากที่หินผาจูงมือไปนั่งที่โซฟา คนอายุมากกว่านั่งขัดสมาธิหันหน้ามาหาสายน้ำพลางกอดน้องเอาไว้ทั้งตัว



“เรื่องวันนี้ที่พี่ทำตัวงี่เง่าใส่ พี่ก็รู้ตัวนะว่าพี่เป็นคนขี้หวงแต่พี่ก็ไม่คิดจริง ๆ ว่าพี่จะรู้สึกหวงเรามากขนาดนี้” หินผาจับมือสายน้ำมากุมเอาไว้ “แค่เห็นเรายิ้มกว้างตอนเจอเพื่อน เห็นเรารีบเดินเข้าไปกอดตอนเจอกัน เห็นเราดูมีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อน พี่ก็รู้สึกหวงไปหมดแล้ว”



“พี่ก็รู้ตัวแหละว่าที่พี่ทำวันนี้คงจะทำให้เราไม่สบายใจ แต่พี่หวงเรามากจริง ๆ นะ”



“พี่หินผา” สายน้ำได้แต่หลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูคนอายุมากกว่าที่พูดเสียงอ้อนกับเขา “ผมไม่โกรธพี่หรอกครับ แต่ผมอยากให้พี่มั่นใจนะว่าผมกับเรย์เป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เรย์เป็นเพื่อนคนแรกของผมตอนที่ผมย้ายไปที่นู้น เรย์เป็นคนแรกที่เดินเข้ามาหาผมแล้วก็คุยกับผม เรย์ช่วยเหลือผมหลาย ๆ อย่างตอนที่อยู่ที่นั่น ผมกับเรย์ถึงสนิทกันมากยังไงล่ะครับ”



“พี่ถึงไม่ควรทำตัวงี่เง่าแบบนั้นเลย”



“ไม่หรอกครับ วันนี้พี่ไม่ได้ทำตัวงี่เง่าอะไรสักหน่อย” สายน้ำส่ายหน้า วันนี้หินผาไม่ได้ทำอะไรที่เรียกว่า งี่เง่า อย่างที่เจ้าตัวเขาบอกเลยสักนิด ตั้งแต่ที่สนามบิน จนพาสายน้ำกับเพื่อนไปหาอะไรกินแล้วก็พาไปส่งที่คอนโด หินผาไม่ได้แสดงท่าทางไม่ดี หรือพูดจาไม่ดีเลย



จะมีก็แค่หินผานิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไปไม่เหมือนทุกทีก็เท่านั้น ออกอาการเยอะสุดก็ตอนที่ส่งเขาที่คอนโดแล้ว และรู้ว่าวันนี้เพื่อนของสายน้ำจะค้างที่คอนโดด้วย และตัวหินผาจะไม่ได้นอนกอดแฟนนั่นแหละ คนหน้านิ่งก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจแล้วก็บอกลาก่อนจะขับรถออกจากคอนโดสายน้ำทันที



“นั่นแหละ พี่ก็ไม่ควรทำอะไรแบบนั้นอยู่ดีไหม”



“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เรย์เองก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังฝากบอกขอบคุณเลยที่พี่หินผาไปรับแล้วก็พาไปหาอะไรกิน”



“แล้ว... เราบอกเพื่อนหรือเปล่า เรื่องของพี่”



สายน้ำพยักหน้า “บอกครับ บอกว่านี่แหละ... คนที่ทำให้ผมย้ายมาเมืองไทย แค่นี้เพื่อนผมก็รู้แล้วล่ะครับ”



หินผาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น “เพื่อนของเรารู้เรื่องของพี่ด้วยเหรอ”



“รู้ครับ แต่ก็ไม่ใช่เพื่อนทุกคนที่นู้นนะ แต่เรย์น่ะรู้เพราะผมเคยเล่าให้ฟัง”



ได้ยินแบบนั้นคนงอนก็อมยิ้มอย่างชอบใจ กอดเอวสายน้ำแน่นขึ้นจูบที่ไหล่ของแฟนตัวเองอย่างออดอ้อน เลื่อนไปจูบที่ซอกคอ ขึ้นไปจนถึงแก้มขาว ก่อนจับใบหน้าของคนรักให้หันมาหาแล้วจูบที่ริมฝีปากนั้นอีกครั้ง



หินผาทั้งขบเม้ม ทั้งดูดดึงกลีบปากของสายน้ำ เขาเริ่มทักทายไปทั่วโพรงปาก เกี่ยวปลายลิ้นพันวุ่นกับลิ้นของสายน้ำ เขาค่อย ๆ ประคองสายน้ำให้เอนตัวลงนอนกับโซฟาโดยมีตัวเขาตามไปคร่อมทับ หินผาเอียงใบหน้าปรับองศาในการจูบหลายครั้ง ถอนจูบและก้มลงไปจูบใหม่หลายรอบ ก่อนจะเลื่อนจูบไปทั่วใบหน้าของสายน้ำ ต่ำลงมาที่ลำคอ ลาดไหล่



มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปใต้เสื้อที่สายน้ำสวมอยู่ ลูบไปบนผิวของสายน้ำวนเวียนจากหน้าท้องสูงขึ้นไปถึงหน้าอกซ้ำอยู่แบบนั้น ไม่นานเสื้อยืดของสายน้ำก็ถูกถอดและเหวี่ยงลงบนพื้นแถว ๆ นั้น หินผายืดตัวขึ้นจัดการถอดเสื้อตัวเองออกบ้างแล้วก้มลงไปจูบที่หน้าอกของคนด้านล่าง



เขาทักทายยอดอกของสายน้ำด้วยปลายนิ้วและปลายลิ้นจนอีกฝ่ายต้องแอ่นตัวขึ้นรับสัมผัส สายน้ำส่งเสียงแผ่วเบาตอนที่หินผาซุกซนไปทั่วร่างกายของเขา



กางเกงเป็นสิ่งต่อไปที่หินผาจัดการให้พ้นร่างกายของสายน้ำ ขาข้างหนึ่งของเขาวางเอาไว้กับพื้น ส่วนอีกข้างเกาะเกี่ยวเอวสอบเอาไว้ ได้แต่ยกมือปิดหน้าเมื่อรู้สึกว่าท่าทางของตัวเองตอนนี้มันช่างน่าอายเสียเหลือเกิน



หินผากวาดสายตาไปทั่วตัวสายน้ำ เขายิ้มชอบใจตอนเห็นผิวขาว ๆ ขึ้นสีระเรื่อไปเกือบทั้งตัว เขาชอบตอนที่หน้าท้องของสายน้ำหดเกร็งเวลาที่เขาก้มลงไปจูบ ชอบลมหายใจที่หนักหน่วงขึ้นของสายน้ำตอนที่เขาขยับปลายนิ้วที่ทำหน้าที่เตรียมความพร้อมให้กับร่างกายนี้ ชอบเสียงครางแผ่วเบาของสายน้ำเวลาที่เขากดจูบไปทั่วแผ่นอก



“ผ ผม... อื้ม จูบผมหน่อย...”



หินผาจุ๊บที่ริมฝีปากของสายน้ำย้ำ ๆ จนเกิดเสียง จุ๊บ จุ๊บ เขาหัวเราะเมื่อเห็นคิ้วของสายน้ำขมวดเข้าหากันเมื่อเขาไม่ยอมจูบดี ๆ สักที แต่เพราะไม่อยากให้น้องนึกงอนในเวลาแบบนี้เขาเลยเลิกแกล้งหยอก แล้วแนบจูบลงไปแทน



“อ่ะ ๆ ย อย่า ก แกล้งผม” สายน้ำได้แต่สะบัดหน้าไปมา หน้าท้องหดเกร็งเมื่อคนด้านบนขยับนิ้วเร็วขึ้น “พอแล้ว ครับ... พี่มาเถอะ”



“สายน้ำ...” หินผาโน้มตัวไปกอดคนเป็นแฟนตอนที่สอดประสานร่างกายจนเป็นหนึ่งเดียวกัน มองใบหน้าของสายน้ำที่กัดฟันแน่นยามที่เขาเคลื่อนตัวเข้าหา



“พี่... พี่ครับ อื้ม...”



แรกเริ่มนั้นเนิบนาบเพราะหินผาต้องการให้สายน้ำปรับตัวกับความอึดอัดที่เกิดขึ้น เขาพยายามใจเย็น แต่สีหน้าของสายน้ำที่แสดงออกมานั้นก็กระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึกของหินผาได้อย่างมากจนเขาไม่อยากที่จะใจเย็นอีกแล้ว



“สายน้ำ... ได้ไหม มากกว่านี้... ได้ไหม”



เขาไม่ได้ตอบอะไรออกไป ได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะต้องหลุดเสียงครางออกมาเสียงสูงเพราะคนด้านบนขยับกายเข้าหาเขาไม่หยุด ทั้งหนักแน่น ทั้งหนักหน่วงจนตัวของเขาสั่นคลอนไปหมด “พ พี่หินผา.. อ่า... ก กอดผมหน่อย”



“อื้ม... ดี ดีที่สุด” หินผากอดคนใต้ร่าง เขากดจูบไปตามไหล่ขาว ขบเม้มจนเกิดร่องรอยเต็มไปหมด สะโพกของหินผากระแทกกระทั้นเข้าหาไม่หยุด



หินผาถอนกายก่อน เขาดึงตัวสายน้ำขึ้นจับให้อีกฝ่ายหันหน้าเข้าหาโซฟา มือจับยึดไว้ที่พนักพิง ขาแยกออกกว้าง ก่อนที่ตัวหินผาจะขยับเข้าไปประชิดจากด้านหลัง ค่อย ๆ สอดใส่ความเป็นตัวจนของตัวเองเข้าไป



“พี่ พี่หินผา” สายน้ำได้แต่จิกมือกับโซฟา สะโพกของเขาโดนยึดด้วยฝ่ามือร้อน ๆ เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนั่งเล่นผสมกับเสียงครางด้วยความเสียวซ่านและความสุขสมของพวกเขาทั้งสองคน



“สายน้ำ อ่าห์... สายน้ำ” หินผาซุกหน้ากับไหล่ เขาตอกย้ำตัวตนเข้าหาคนรักไม่หยุด เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเขาใส่เต็มที่ ได้แต่นึกขอโทษสายน้ำอยู่ในใจ แต่ในเวลาแบบนี้เขาไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้เลย ยิ่งยามที่สายน้ำบีบรัดเขาจนแน่นไปหมด



ร่างกายของสายน้ำกระตุกก่อนจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเมื่อโดนหินผาช่วยปรนเปรอทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ไม่นานหลังจากนั้นหินผาก็ตามไปติด ๆ เขาฟุบหน้าลงกับหลังของน้องพลางหายใจหอบ ดึงสายน้ำให้ลงมานอนด้วยกันที่พื้น



“ไหวไหม” หินผาถามคนที่อยู่ข้างเขา



“ครับ”



“อาบน้ำไหม”



“ก็ดีครับ ผมเหนียวตัว”



ได้ยินแบบนั้นหินผาก็ลุกขึ้นก่อนจะดึงสายน้ำให้ลุกตามด้วย “อย่างนั้นไปอาบน้ำกัน”



“อาบน้ำกัน” สายน้ำทวนคำ



“พี่อาบด้วย” หินผาพูดพร้อมกับยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สายน้ำชักจะไม่ไว้ใจเท่าไหร่ ชักจะไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นการอาบน้ำอย่างเดียวหรือเปล่า “ไปเร็ว”



“แค่อาบน้ำใช่ไหมครับ”



หินผาไม่ตอบ เขาทำเพียงแค่หัวเราะตอนที่จูงมือสายน้ำไปที่ห้องน้ำ แต่หลังจากนั้นไม่นานสายน้ำก็ได้คำตอบของคำถามเมื่อครู่ ว่ามันไม่ใช่แค่การอาบน้ำเท่านั้น หงาดเหงื่อจากกิจกรรมก่อนหน้าโดนน้ำจากฝักบัวชำระล้างไปจนสะอาดแล้ว แต่ตอนนี้หงาดเหงื่อจากกิจกรรมรอบใหม่ก็ผุดขึ้นตามกายแทนที่


เสียงของพวกเขาดังก้องอยู่ภายในห้องน้ำจนสายน้ำนึกอาย ต้องยกมือปิดปากตัวเองยามที่ปล่อยให้หินผาทำตามใจ กว่าจะได้ออกจากห้องน้ำก็ต้องเสียเวลาอาบน้ำอีกรอบ



แต่สายน้ำก็ไม่แน่ใจนักว่าพวกเขาจะอาบน้ำกันไปทำไมเพราะหลังจากที่ขึ้นมาขดตัวนอนบนเตียงได้ไม่นานคนอายุมากกว่าก็ขยับมารุ่มร่ามกับร่างกายของเขาอีกครั้ง ส่งเสียงอ้อนจนสายน้ำเผลอใจอ่อนพยักหน้าตามใจ



กว่าจะได้พักจริง ๆ ก็ตอนที่เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่ และสายน้ำเหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะฝืนร่างกายตัวเองไหว สุดท้ายก็เผลอหลับไปในตอนไหนก็ไม่แน่ใจนัก



หินผาลุกจากเตียงเพื่อไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้คนหลับ แล้วจึงค่อยไปจัดการตัวเองต่อก่อนจะกลับมานอนบนเตียงอีกรอบ เขาจับตัวสายน้ำให้หันมาหาก่อนจะกอดเอาไว้ จูบหน้าผากคนในอ้อมแขน เอ่ยฝันดีทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคนหลับไปแล้วคงจะไม่ได้ยิน ลูบผม ลูบหลังเพื่อกล่อมให้สายน้ำหลับสบาย



เขาหลับตาลง ใช้เวลาไม่นานก็หลับตามสายน้ำไปโดยที่เขายังคงกอดน้องเอาไว้แบบนั้นไม่ปล่อย






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วค่าาาาา ช่วงนี้จะหาย ๆ หน่อยนะคะ
พอดีว่าใกล้ออกบูธแล้ว เลยต้องเตรียมงานเยอะเลย
งานหล่นทับมากเพราะต้องคิดราคาขายใหม่ นั่งทำโอทุกวันเลยจ้า
วันนี้โดดทำโอเลยแวบมาลงนิยายให้ได้ ช่วงนี้ก็เลยจะหาย ๆ หน่อยน้าาาาา

สำหรับตอนนี้...
บอกได้คำเดียวว่า “จ้าพ่อจ้า”
หึงน้อง งอนน้อง แต่พอหายงอน... จ้าพ่อจ้า
สินสอดเท่าไหร่ถึงจะพอ ยี่สิบล้านไม่น่าจะพอแล้วล่ะแบบนี้
เอาเป็นที่ดินสักร้อยไร่ที่เชียงใหม่ รีสอร์ทชั้นนำอีกอย่าง เงินสดอีกสักร้อยล้านละกัน
ถ้าจะขยันหม่ำน้องขนาดนี้เนี่ยพ่ออออออออ
(แต่งเองหมั่นไส้เองจ้า 555555)

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 26-02-2020 22:21:39
พี่หินจะเอาแต่ใจมากไปแล้วนะเดี๋ยวเจอไม้เรียวแน่
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-02-2020 22:23:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...คุณพี่หินผาหึงแล้วจัดหนักจัดเต็มเลยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-02-2020 22:38:27
แค่หึง แค่หวง แค่งอน เล่นเอาอีน้องเพลียไปหมดแล้ว  :hao6:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-02-2020 22:58:25
ขุ่นพี่เอาใหญ่แล้วนะ จะขยันรังแกน้องน้ำไปถึงไหน
เนี่ย! เดี๋ยวน้องก็อายเพื่อนอีกเพราะไม่มีแรงพาเพื่อนเที่ยว 
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 27-02-2020 22:03:27
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-02-2020 01:15:55
หูยยยยย หึงแบบนี้ ชอบจัง ^^
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-03-2020 03:08:18
โอ้โหพี่หินผาาาาา จัดหนักเลยน้า
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [70%] l P.22 26-02-63
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 03-03-2020 12:34:54
 :mew1:

พอน้องยอมให้หน่อยก็เอาใหญ่เลยนะ พี่หินผา

น้องก็น่ารักเกินห้ามใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 06-03-2020 21:46:39
(https://i.ibb.co/RYbNfhZ/19.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “19”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖
[/b]






“ยิ้มอะไรครับ” สายน้ำถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ผิดกับหินผาที่นั่งอมยิ้ม แม้ว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างสายน้ำจะทำหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ก็ตาม



“เปล่าครับ” แม้จะปฏิเสธ แต่รอยยิ้มก็ยังไม่หายไปจากใบหน้าของหินผาอยู่ดี “ว่าแต่เราอิ่มแล้วเหรอ”



“อิ่มแล้วครับ พี่เอาไปเก็บเลย” สายน้ำดันจานข้าวออกห่าง แล้วหันไปสนใจโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้ทน “พี่จะนั่งยิ้มแล้วมองหน้าผมอีกนานไหม”



หินผาหัวเราะ เขาลุกจากพื้นเพื่อเอาจานของสายน้ำไปเก็บให้เรียบร้อยก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างสายน้ำบนโซฟาแทน “หายโกรธพี่หรือยัง”



“ยังครับ” ทันทีที่หินผาถามสายน้ำก็ตอบกลับไปทันที



“หายโกรธพี่นะ พี่ขอโทษ” หินผาเอนหัวซบไว้กับไหล่ของสายน้ำ เอื้อมมือมากุมมือของน้องเอาไว้ เขาใช้ปลายนิ้วลูบไปมาบนหลังมือของน้อง “ขอโทษครับ”



“พี่หินผานิสัยไม่ดี”



คนอายุมากกว่ากดจูบที่ไหล่ของสายน้ำ “ขอโทษครับ ต่อไป... พี่จะพยายามไม่เอาแต่ใจมากนัก”



ตั้งแต่เช้าหลังจากตื่นนอนแล้วที่หินผาโดนสายน้ำโกรธ สาเหตุก็มาจากการที่เขาเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป รังแกน้องไปเสียหลายรอบ แถมเมื่อเช้ายังมาแกล้งสายน้ำอีก ก็เลยโดนคนอายุน้อยกว่าโกรธเข้าให้



“ก็สายน้ำน่ารัก พี่ก็เลย... เผลอตัวไปหน่อย”



“มันใช่ความผิดผมไหมครับ” สายน้ำแทบจะทำเสียงสูงตอนที่ได้ยินแบบนั้น



“ขอโทษครับ ต่อไปจะพยายามไม่แกล้งแล้วนะ”



“พยายามเหรอครับ”



“ก็พี่ไม่อยากรับปาก เดี๋ยวทำไม่ได้” คนที่ซบหน้ากับไหล่ของสายน้ำ ถูหน้าไปมาเหมือนต้องการอ้อน “ก็เราน่ารัก พี่ก็... ห้ามใจไม่ค่อยไหว”



“ผมเนี่ยนะ”



“ใช่แล้วล่ะ ก็สำหรับพี่เราน่ารักที่สุดนี่” หินผาเงยหน้าขึ้นสบตาก่อนจะยิ้มให้ “หายโกรธพี่นะครับ ดีกัน นะ”



ชูนิ้วก้อยไปตรงหน้าคนรัก กระดิกนิ้วไปมาอย่างต้องการให้อีกฝ่ายยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกันเอาไว้ “นะ ดีกัน”



สายน้ำหลุดยิ้มเมื่อเห็นท่าทางน่ารักแบบนั้น เขายอมยกนิ้วก้อยขึ้นเกี่ยวด้วย “ก็ได้ครับ ผมยกโทษให้ก็ได้”



“หึหึ ขอบคุณครับ”



“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่หินผาก็มีมุมอะไรแบบนี้ด้วย” สายน้ำพูด “ตอนแรก ๆ พี่ก็ออกจะนิ่ง ๆ สุขุม ๆ ทำไมตอนนี้ถึงได้ทำตัวน่ารักจังครับ”



“คนเราก็ต้องมีหลากหลายมุมนี่ ส่วนมุมแบบนี้น่ะ พี่ให้สายน้ำเห็นได้คนเดียว คนอื่นไม่มีโอกาสได้เห็นหรอก” หินผายิ้ม เขาลูบแก้มของสายน้ำเบา ๆ “ก็เหมือนกันกับเรา มุมหล่อ ๆ เท่ ๆ ดูเข้าถึงยากของเราน่ะ ให้คนอื่นเห็น ส่วนมุมน่ารัก ๆ น่ะ ก็ให้พี่เห็นได้คนเดียวพอ”



“รู้ไหมครับ ก่อนจะย้ายมาเมืองไทยน่ะ ผมบอกกับตัวเองเอาไว้ว่าจะต้องเก็บอาการให้ได้ อย่าแสดงออกให้มากเกินไป อย่าให้ใครมาอ่านผมออกได้ง่าย ๆ เหมือนกับเมื่อก่อนอีก เพราะผมกลัวว่าพี่จะมองออกว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่” สายน้ำเล่า “ยากมากเลยล่ะครับ”



“พี่ก็มองไม่ออกนะ หรือเพราะตอนนั้นพี่ซื่อบื้อเกินไปเลยมองไม่ออกก็ไม่รู้สิ” หินผาหัวเราะ “ไม่ก็เราเก็บอาการเก่งมาก”



“ผมว่าก็ไม่ใช่หรอกครับ ผมว่าเพราะพี่ซื่อบื้อต่างหาก เพื่อน ๆ ผมยังดูออกกันหมดเลย” สายน้ำพูดยิ้ม ๆ “พี่ป่าไม้ก็ดูออก มีพี่นั่นแหละที่ดูไม่ออก แล้วพอพี่ดูผมไม่ออก ผมก็มั่นใจมากว่าตัวเองเก็บอาการเก่ง”



พวกเขาหัวเราะออกมาพร้อมกันตอนที่ได้ยินแบบนั้น “เราก็เหมาะสมกันดีนะ”



“คงอย่างนั้นแหละครับ”



“เย็นนี้ไปหาอะไรกินกัน ไปรับเพื่อนเราด้วยดีไหม”



“หือ... ได้ครับ”



“พี่จะได้ขอโทษเพื่อนเราด้วย ที่เมื่อวานทำตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เผื่อพี่กับเพื่อนเราจะสนิทกันได้”



สายน้ำยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น “ดีครับ อย่างนั้นเย็นนี้ไปหาอะไรกินกันครับ”



“ได้ครับ” หินผาพยักหน้า เขาดึงตัวน้องมากอดเอาไว้แล้วนั่งดูโทรทัศน์ด้วยกัน







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาแล้วค่ะทุกคน ช่วงนี้เป็นอะไรที่ฟางว่าสาหัสสำหรับใครหลายคนเลยนะ
เจอทั้งพิษเศรษฐกิจ ทั้งไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ไปไหนมาไหนก็ระวัง ๆ น้า
แลหาที่ปลอดภัยไม่เจอเลยตอนนี้ ออกไปข้างนอกก็หาแมสมาใส่ป้องกันด้วยนะคะ
แม้ว่าแมสจะแสนหายากและแพงแสนแพง เฮ้อ...
รักษาสุขภาพค่าาา เป็นห่วงเน้อ

นิยายเอาไว้ทอล์คกันตอนหน้าแล้วกันค่า บะบาย~

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-03-2020 23:01:03
พี่หินออดอ้อนน้องเหลือเกิน  :laugh:

รักษาสุขภาพเช่นกันนะคะไรท์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 06-03-2020 23:21:27
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-03-2020 08:07:27
ชอบให้หึงเหมือนกันนะ //ถ้ามีแฟน ก็อยากให้หึงหน่อย :z2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-03-2020 10:39:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 07-03-2020 18:31:28
 :mew1:

พี่หินผาสมควรโดนน้องสายน้ำโกรธแล้ว

รังแแกน้องตลอดเลย แต่น้องก็น่ารักมากเลย

ชอบนิยายของฟางทุกเรื่องเลยนะ 
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-03-2020 22:27:13
ไปประกาศความเป็น......... มากกว่าไปขอโทษมากกว่านะ เราว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "19" [100%] l P.22 06-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-03-2020 03:16:23
รอดูเลยค่ะ 5555555555555
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 13-03-2020 22:11:06
(https://i.ibb.co/KrbfmXs/20.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “20”






“ซ... ซาหวัด ดีคับ!” เสียงทักทายด้วยประโยคภาษาไทยแต่สำเนียงชาวต่างชาติดังขึ้นให้คนฟังยิ้มขำกันทั้งสายน้ำแล้วก็หินผา



“สวัสดีครับ” หินผาทักทายกลับไป เขาขับรถพาสายน้ำมารับเรย์เพื่อนของสายน้ำที่คอนโดของน้องเพื่อออกไปหาอะไรกินกัน



“ไปกันเถอะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า” สายน้ำว่าก่อนจะพาเรย์เดินไปที่รถของหินผา โดยมีเจ้าของรถเดินตาม สายน้ำให้เรย์ขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังส่วนตัวเขาเองก็ย้ายมานั่งเบาะหน้าคู่กันกับหินผา



“อยากกินอะไรกัน” หินผาหันมาถามสายน้ำ รวมไปถึงคนที่นั่งอยู่เบาะหลังด้วย



สายน้ำหันไปคุยกับเพื่อนก่อนจะสรุปออกมาว่าอยากลองกินอาหารไทย หินผาพยักหน้ารับเขาขับรถมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลนักเพราะสายน้ำกับเรย์มีของที่จะต้องแวะซื้อด้วย พวกเขาเลยตัดสินใจมาหาอะไรกินกันที่ห้างแทน เอาไว้วันหลังค่อยพาไปเที่ยวที่อื่นต่อ



หินผาเหมือนทำหน้าที่เป็นไกด์จำเป็นพาแฟนกับเพื่อนแฟนเดินเที่ยวแทบจะทั่วทุกมุมของห้างสรรพสินค้า



“หิวแล้ว” เรย์พูดพลางยกมือลูบท้องตัวเองไปด้วยเพื่อบอกว่าเจ้าตัวรู้สึกหิว



“อย่างนั้น... ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้วด้วย” หินผาก้มดูเวลาเงยหน้าขึ้นพูดกับทั้งสองคน



เขาปล่อยให้สายน้ำกับเรย์เลือกร้านอาหารที่อยากจะลอง ทั้งสองคนถกเถียงกันไปมากว่าจะหาข้อสรุปได้ก็ผ่านไปตั้งหลายนาที และเมื่อได้ร้านที่ต้องการแล้วก็พากันเดินไปที่ร้าน เพราะเป็นตอนเย็นแล้วลูกค้าจึงเยอะพอสมควรเลยต้องจองคิวเอาไว้ก่อน รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้เข้าไปนั่งที่โต๊ะ



หินผาปล่อยให้คนอายุน้อยกว่าทั้งสองคนรับหน้าที่ในการสั่งอาหาร นั่งมองน้องอธิบายอาหารแต่ละชนิดให้เพื่อนฟังก็เพลินดี บางครั้งเจ้าเด็กขี้เขินของเขาก็ทำหน้างงเอง อธิบายไปก็งงไป สุดท้ายก็เลยหันมาหาเขาให้เขาช่วยอธิบายอีกที



กว่าจะได้เมนูอาหารแต่ละอย่างก็เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว สายน้ำกับเรย์สั่งอาหารไปห้าอย่าง มีทั้งต้มยำกุ้มน้ำข้น ปลาทอดราดน้ำปลา ปูผัดผงกะหรี่ ไข่เจียวหมูสับ แล้วก็ฉู่ฉี่ปลา มีทั้งอาหารเผ็ดแล้วก็ไม่เผ็ดปน ๆ กันไป



“กินเยอะ ๆ ด้วยเรา” หินผาพูดพลางตักเนื้อปลาที่เขี่ยเอาก้างออกแล้วเรียบร้อยใส่จานให้สายน้ำ เพราะอีกฝ่ายมัวแต่คอยดูเพื่อนที่นั่งปากแดงเพราะเผ็ดน้ำต้มยำ



“ขอบคุณนะครับ” สายน้ำหันมายิ้มให้ ตักขึ้นมากินคำโตจนหินผายิ้มเอ็นดูกับท่าทางนั้น



ช่วงเวลามื้อเย็นร่วมชั่วโมงนี้หินผาได้ฟังเรื่องราวของสายน้ำตอนที่อยู่ต่างประเทศจากเรย์ค่อนข้างมาก เป็นอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจได้เป็นอย่างดี



“หือ... ขนาดนั้นเลยเหรอ” หินผาหันมามองคนรักเมื่อได้ยินเรื่องเล่าจากเรย์ที่บอกว่าสายน้ำตอนอยู่ต่างประเทศเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่หลายครั้งหลายหน “อย่างเรานี่นะไปต่อยตีกับคนอื่นเขา โหดเหมือนกันนะเนี่ย อีกหน่อยจะต่อยพี่หรือเปล่าเนี่ย”



“ไม่ขนาดนั้นซะหน่อย” สายน้ำว่า พลางแก้ตัวให้กับตัวเอง “ก็พวกนั้นมันมารังแกเด็กนี่ครับ ผมเห็นเข้าพอดีจะไม่เข้าไปช่วยก็ยังไงอยู่”



“ตอนนั้นตัวเราแค่ไหนแล้ว ยังตัวเล็กอยู่ไหม” หินผาถามด้วยความสงสัย



“สายน้ำตัวสูง” เรย์เป็นคนตอบคำถาม



“จริงเหรอ ตัวสูงมากเลยเหรอครับ”



“คับ! ถ้าเทียบกับคนเอเชียด้วยกัน สายน้ำตัวสูง”



หินผาหันมองสายน้ำอีกรอบอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะยิ้มออกมา “น้องน้ำที่เคยร้องไห้เพราะโดนเพื่อน ๆ พี่ ๆ แกล้งในตอนเด็ก ๆ กลายมาเป็นสายน้ำฮีโร่ช่วยคนโดนแกล้งแล้วสินะ”



“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ ไม่มีใครมารังแกผมได้อีกแล้ว”



“ก็ต้องดีอยู่แล้วสิ แต่คงเพราะพี่จำได้แค่ตอนเราเป็นเด็ก ๆ ล่ะมั้ง พี่เลยนึกภาพเราไม่ออกเลย” หินผายกมือขึ้นลูบผมนุ่มมือของสายน้ำเล่น “แต่ก็ดีแล้วล่ะนะ สายน้ำโตขึ้น แข็งแรงขึ้น ไม่มีใครรังแกได้ เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลย”



“ขอบคุณครับ”



หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อยหินผาก็พาคู่เพื่อนซี้ไปเดินเล่นดูของกันต่อ ได้ของติดไม้ติดมือมาคนละอย่างสองอย่าง เรย์ได้พวกของตกแต่งห้องที่เป็นสไตล์ไทย ๆ ส่วนหินผากับสายน้ำได้ชุดเทียนหอมมาคนละชุด



ซื้อของเสร็จเรียบร้อยหินผาก็ขับรถไปส่งทั้งคู่ที่คอนโดของสายน้ำ “ไม่ขึ้นไปด้วยกันก่อนเหรอครับ” สายน้ำก้มตัวลงมาถามคนที่ทำหน้าที่พาเขากับเพื่อนไปหาอะไรกิน



“ไม่ดีกว่า ดึกแล้วด้วยเรากับเพื่อนจะได้รีบพักผ่อนกัน” หินผาส่ายหน้า “พรุ่งนี้ถ้าจะไปไหนก็โทรบอกพี่นะ พี่จะได้พาไปส่ง”



“ครับ ยังไงเดี๋ยวผมโทรหาพี่อีกนะครับ ขับรถกลับดี ๆ นะครับไม่ต้องรีบนะครับ อันตราย”



“ครับผม”



“ถ้าถึงห้องแล้วส่งข้อความบอกผมด้วยนะครับ”



“ได้ครับ”



“ขับรถดี ๆ นะครับ อย่าเหมอนะ”



“ครับผม”



“แล้วก็...”



“นั่งรถไปด้วยกันกับพี่เลยไหมหือ” หินผายื่นมือออกไปยีผมของสายน้ำ “รู้แล้วครับว่าเป็นห่วง พี่จะค่อย ๆ ขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ขับเร็ว ถ้าถึงแล้วจะรีบส่งข้อความบอกเลย โอเคไหมครับ”



“ดีมากครับ” สายน้ำยิ้มขำ “แล้วเจอกันครับ”



“ครับผม เรารีบขึ้นไปได้แล้ว เพื่อนยืนรอเมื่อยแล้วนั่น” หินผาพยักหน้าไปทางเรย์ที่ยืนรออยู่ด้านหลัง



“ครับผม”



หินผารอดูจนสายน้ำเดินเข้าไปในคอนโดแล้วถึงได้ขับรถกลับไปที่คอนโดของตัวเองบ้าง เขาทำตามที่สายน้ำบอกอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็วจนเกินไป แล้วก็ระมัดระวังในการขับรถ และทันทีที่ขึ้นมาถึงห้องก็หยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาสายน้ำทันที



HinPaa
พี่ถึงห้องแล้วครับ
ไม่ขับรถเร็ว แล้วก็ระวังเต็มที่ครับผม
ถึงห้องปลอดภัย หายห่วงได้เลย



SAINAM karp
ดีมากครับ!
555555
พี่หินผาไปอาบน้ำเถอะครับ
เดี๋ยวจะได้มาพักผ่อน มืดแล้ว




HinPaa
แล้วเราอาบน้ำหรือยัง



SAINAM karp
เรียบร้อยแล้วครับ
นี่นอนดูหนังกับเรย์อยู่ครับ




HinPaa
โอเคครับ อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ



หินผาวางโทรศัพท์เอาไว้บนเตียงก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ เขาถอนหายใจออกมาพลางนึกถึงตอนที่เขาพาสายน้ำกับเพื่อนไปเที่ยวห้าง หินผาไม่แน่ใจว่าเขาคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่กับเพื่อนของสายน้ำคนนี้มีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถสนิทใจด้วยได้ ไม่เหมือนอย่างแบงก์กับตั้มที่หินผารู้สึกสนิมสนม ไม่อึดอัดถ้าหากต้องอยู่ด้วยกัน



แต่สำหรับเรย์ แม้จะมีสายน้ำอยู่ด้วย แต่หินผาก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี เป็นสถานการณ์แปลก ๆ ระหว่างเขากับเรย์ หรืออาจจะเป็นเพราะสายตาของเรย์ที่มองมา ที่ทำให้หินผารู้สึกแปลก ๆ รับรู้แค่ว่าสายตาของเรย์ตอนมองเขา กับสายน้ำคนละความหมายกัน



หินผาหันไปมองโทรศัพท์ที่ดังเพราะมีสายเข้า เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์พลางใช้อีกมือเช็ดผมไปด้วย เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าสายน้ำโทรมา



“สายน้ำ ว่ายังไงครับ”



[...] ไม่มีเสียงพูดอะไรจากอีกฝั่ง



“ฮัลโหล สายน้ำได้ยินพี่ไหม น้ำครับ” หินผาส่งเสียงเรียกออกไปอีกรอบ ขมวดคิ้วเมื่อปลายสายยังคงเงียบอยู่ ก่อนที่สายจะตัดไป “อ้าว... ตัดไปแล้ว มีอะไรหรือเปล่านะ”



เขากดโทรออกหาสายน้ำ รอสายจนสายตัดไปก็ยังไม่มีคนรับ ในใจรู้สึกแปลก ๆ ปนเป็นห่วงด้วยกลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้น อีกครั้งที่เขาโทรออก แต่ก็ไม่มีการตอนรับจากปลายสายเหมือนเดิม



คิ้วของหินผาขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม เขาเตรียมเดินไปหยิบกุญแจรถแต่โทรศัพท์ในมือเขาสั่นแล้วก็ส่งเสียงดังขึ้นมาเสียก่อน “สายน้ำ!”



[ค ครับ... มีอะไรเหรอครับ] ปลายสายส่งเสียงถามกลับมาด้วยน้ำเสียงงุนงง



“มีอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้เราโทรมาแล้วก็ไม่พูดอะไร แถมพี่โทรไปเราก็ไม่รับสายอีก นี่พี่เตรียมจะออกไปหาเราที่คอนโดอยู่แล้วนะเนี่ย” หินผาพูดเสียงรัวด้วยความเป็นห่วง



[เอ๊ะ… ผมโทรหาพี่หินผาเหรอครับ]



“ใช่ เราโทรมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลยแล้วสายก็ตัดไป พี่โทรกลับหาเราตั้งหลายสายเราก็ไม่รับเลย พี่เลยเป็นห่วง”



[แต่ผมยังไม่ได้กดโทรหาพี่เลยนะครับ ผมเพิ่งหาโทรศัพท์เจอเอง]



“หมายความว่ายังไง เพิ่งหาโทรศัพท์เจอ” หินผาถาม ตั้งแต่รับสายสายน้ำคิ้วของเขายังไม่คลายออกจากกันเลยสักนิด มีแต่จะขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิมเสียอีก



[พอดีผมไปหาพวกแบงก์กับตั้มมาน่ะครับ แล้วลืมว่าวางโทรศัพท์ตัวเองเอาไว้ตรงไหนน่ะครับ] สายน้ำตอบกลับมา



“แล้วเราไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปด้วยหรอกเหรอ”



[เปล่าครับ ผมลืมหยิบลงไป พอขึ้นมาก็ดันลืมว่าโทรศัพท์ไปวางไว้ตรงไหนน่ะครับ]



“แล้วเราไปลืมเอาไว้ที่ไหนล่ะ”



[มันหล่นอยู่ใต้โซฟาน่ะครับ]



“อย่างนั้นเหรอ แต่เจอโทรศัพท์ก็ดีแล้วล่ะ พี่แค่เป็นห่วงไม่มีอะไรหรอก” หินผาตอบ “ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว อย่างนั้นเราไปพักเถอะ ดึกมากแล้วนะ”



[ครับผม พี่หินผาเองก็รีบนอนนะครับ อย่านอนดึกมากนักนะครับ เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีกหรอกครับ]



“ถ้าพี่ไม่สบายแล้วจะได้คนดูแลแบบคราวนั้นอีกหรือเปล่า ถ้าได้อีกพี่ก็อยากจะลองป่วยดูอีกสักรอบเหมือนกันนะ” หินผาพูดไปก็หัวเราะไป แต่ดูเหมือนว่าคนปลายสายจะไม่สนุกไปกับเขาด้วย



[พี่หินผา!] สายน้ำเรียกคนทางนี้เสียงเข้ม



“โอ๋เอ๋นะครับ” หินผาหัวเราะ “เราไปนอนเถอะ ฝันดีนะครับ”



[ครับ ฝันดีครับ]



สายน้ำวางสายไปแล้ว พร้อมกับรอยยิ้มของหินผาเองก็หายไปจากใบหน้าด้วยเช่นกัน เขายังรู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่ได้ยินจากสายน้ำ น้องไม่ใช่คนขี้ลืม แค่ลงไปหาเพื่อนไม่นานไม่น่าลืมว่าวางโทรศัพท์เอาไว้ตรงไหน และเขาก็ยังรู้สึกแปลกใจที่มีสายเรียกเข้าจากเบอร์ของสายน้ำโทรเข้ามา



“ตอนโทรศัพท์หล่นอาจจะไปโดนชื่อเราแล้วโทรออกละมั้ง” เขาได้แต่บอกกับตัวเองแบบนั้น แม้จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ก็ตามที โทรศัพท์เดี๋ยวนี้มีปุ่มกดที่ไหนกัน ให้โทรศัพท์ตรงมุมไหนก็คงไม่มีทางโดนปุ่มโทรออกไปได้หรอก



แต่เพราะเขาไม่อยากจะคิดอะไรมากถึงได้ปล่อยผ่านไป แม้ว่ามันจะยังมีความรู้สึกแปลก ๆ กวนใจเขาอยู่ก็ตามที



หินผาส่ายหน้ากับตัวเอง เขาวางโทรศัพท์เอาไว้ที่ข้างเตียงพลางทิ้งตัวลงนอน แม้จะบอกตัวเองว่าไม่มีอะไร แต่ในใจก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดี



เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เขาหันไปมองก่อนจะหยิบขึ้นมาดู เลิกคิ้วเมื่อเห็นเบอร์แปลกส่งข้อความเข้ามาหาเขา เป็นข้อความภาษาอังกฤษ



I’m Ray.
Do you have a minute?
I want to talk to you privately about Sainam.




เขาได้แต่ขมวดคิ้วเข้าหากัน หินผากดข้อความตอบกลับไป ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ข้อความจากเรย์อีกครั้ง อีกฝ่ายนัดเรื่องวัน เวลาส่วนสถานที่นั้นให้หินผาเป็นคนเลือกแล้วก็ให้ส่งโลเคชั่นให้อีกที เขาคิดไม่ออกเลยว่าเพื่อนของสายน้ำมีอะไรอยากคุยกับเขานัก ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจ แต่มันก็ไม่สามารถวางใจได้เช่นกัน





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

สวัสดีค่ะ มาอัปนิยายแล้วค่ะ
ช่วงนี้ออกไปไหนมาไหนลำบาก ก็อยู่อ่านนิยายกันก่อนเนอะ
หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกได้ก็จะดีมากเลยค่ะ
แต่ถ้าต้องออกไปข้างนอกก็อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยกันนะคะ
ตอนนี้รู้สึกว่าโควิด-19 มันใกล้ตัวมาก ๆ น่ากลัวไปหมด
ยังไงก็ดูแลตัวเองกันดี ๆ นะคะ เป็นห่วงค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 13-03-2020 22:57:23
เรย์ไม่น่าไว้ใจเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-03-2020 00:25:15
ใจก็คิดว่าเรย์ชอบน้องน้ำแน่ ๆ  แต่ส่วนลึก ๆ ในใจก็คิด ๆ ว่า เรย์ นายคงไม่ได้ชอบพี่หินนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-03-2020 01:29:50
 :pig4: :pig4: :pig4:

เรย์  แกคิดอะไรกับสายน้ำใช่ป่ะ

แกคงไม่ได้คิดอะไรกับหินผาหรอก เพราะเพิ่งเจอกันเอง
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-03-2020 12:15:28
น้องน้ำจะโดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหรือเปล่าน้อ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 17-03-2020 16:33:24
 :mew1:

มือที่สามมาแล้ว  คงไม่มีอะไรใช่ไหมน๊าาาา

รอๆนะคะ 
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 17-03-2020 20:34:52
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 17-03-2020 22:59:04
อ้าว ยังไงล่ะ ไว้ใจได้จริงไหม หรือไม่น่าไว้ใจเหมือนที่หินผารู้สึก

เอ็นดูสายน้ำ ห่วงพี่มากสินะ แล้วดูความวอแวพี่สิ
อีกนิดนึง คงขึ้นรถกลับมาด้วยแล้วอะคนเรา

หินผาก็แหย่เก่ง ดูแลเก่ง หลงมากเนาะ มือใหม่ด้วย เป็นปลื้มเลยสิ

....

เป็นกำลังใจให้นะคะ เราจะผ่านวิกฤตินี้ ไปด้วยกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [40%] l P.22 13-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-03-2020 02:19:00
ลางสังหรณ์แม่นมากค่ะพี่ อะไรกั๊นนนนนนนนนนนนนนนน  :katai1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.22 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 20-03-2020 21:56:46
(https://i.ibb.co/KrbfmXs/20.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “20”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





“ว่าแต่ว่าปิดเทอมนี้เราต้องไปลงชุมชนกันแล้วนี่ ใช่ไหม” แบงก์พูดขึ้นกลางวงในระหว่างที่พวกเขานั่งกินข้าวกลางวันกันอยู่ เหลือวิชาที่จะต้องสอบอีกแค่ไม่กี่วิชาก็จะสิ้นสุดการเรียนในชั้นปีที่หนึ่ง ของเทอมหนึ่งแล้ว



“เออ ใช่... ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าเราจะต้องไปลงชุนชนกับพี่ ๆ เขาช่วงปิดเทอมนี้” ตั้มทำท่าเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้



“เราเพิ่งจะเรียนจบแค่เทอมเดียวเองใช่ไหม แต่ทำไมนี่รู้สึกเหมือนผ่านมาเป็นปีเลย” เบลถอนหายใจ เธอแทบอยากจะฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะแล้วหลับ ๆ เสียให้มันรู้เรื่องไป



“จริงของเบล ยาวนานมาก แล้วคิดดูสิกว่าจะจบปีห้า ไม่ตายกันไปก่อนเหรอเนี่ย” มะนาวเองก็มีสภาพไม่ต่างกันกับเบลสักเท่าไหร่



สายน้ำกับอีกสองหนุ่มหัวเราะกับท่าทางของสองสาว “เอาน่ะ! อย่างน้อยเราก็ผ่านมาได้เทอมหนึ่งแล้วนะ ถ้าพวกเราช่วยกันเรียนไปแบบนี้ก็ต้องผ่านไปได้อยู่แล้วล่ะนะ”



“จริงอย่างที่สายน้ำว่า เอา! รีบกินข้าวกันก่อนเดี๋ยวบ่ายมีสอบอีกวิชานะจะได้มีแรงไปทำข้อสอบ” ตั้มหยิบช้อนส้อมในจานข้าวของเบลส่งให้เจ้าตัว ก่อนจะหันไปหาสายน้ำ “เออแล้วเรย์ล่ะ วันนี้อยู่ห้องเหรอ”



“ใช่” สายน้ำพยักหน้ารับ “เรย์บอกขี้เกียจออกมา ร้อน แถมเราก็ยังสอบกันทั้งวันอีก เลยขอนอนอยู่ห้องดีกว่าน่ะ”



สายน้ำได้พาเรย์มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มทั้งสี่คนรู้จักแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้ากันได้ดีกับเรย์



“แล้วนี่เรย์จะกลับตอนไหน หรือว่าอยู่อีกยาว”



“ช่วงอาทิตย์หน้าเรย์ก็กลับแล้วล่ะ แอบเสียดายเหมือนกันเรย์มาช่วงสอบพอดีเลยไม่ค่อยได้พาไปเที่ยวไหนเท่าไหร่เลย” สายน้ำบ่น นึกเสียดายปนเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ไม่ค่อยมีเวลาเพื่อนคนนี้ไปเที่ยวสักเท่าไหร่เพราะเขาต้องเร่งอ่านหนังสือเตรียมสอบ แถมพอจังหวะที่สอบเสร็จเรย์ก็ต้องเตรียมตัวกลับแล้ว



พวกเขารีบจัดการกับอาหารตรงหน้าหลังจากที่นั่งคุยกันเพลินจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง มีสอบอีกทีตอนบ่ายโมงครึ่ง พอมีเวลาเหลือก่อนเข้าห้องสอบพวกเขาจึงนั่งติวกันถึงเนื้อหาที่จะใช้สอบในวิชาถัดไป ผลัดกันถามคำถาม แล้วก็ตอบเพื่อเป็นการทบทวนไปในตัว



สายน้ำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขาส่งข้อความหาหินผาตั้งแต่ก่อนกินข้าวจนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมา วันนี้หินผามีสอบวิชาเดียวตอนเช้า และตอนนี้อีกฝ่ายก็น่าจะสอบเสร็จแล้ว แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะปิดเสียง หรือปิดเครื่องเอาไว้ตั้งแต่ตอนเข้าห้องสอบแล้วลืมเปิด สายน้ำส่งข้อความไปอีกรอบเพื่อบอกว่าเขากำลังจะเข้าสอบในช่วงบ่าย จัดการปิดเครื่องเอาไว้แล้วเดินเข้าไปในห้องสอบเมื่อถึงเวลา



เขาตั้งสมาธิกับการทำข้อสอบ ตั้งใจอ่านโจทย์แล้วก็คำตอบอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้ตอบไม่พลาด ข้อไหนที่เจ้าตัวยังไม่แน่ใจก็ข้ามไปก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาทำใหม่อีกครั้ง เวลาในการสอบสองชั่วโมงจะว่าผ่านไปเร็วก็เร็ว ผ่านไปช้าก็ช้าในความรู้สึกของคนที่นั่งอยู่ในห้องสอบ



สายน้ำเช็คคำตอบของตัวเองอีกรอบเมื่อได้ยินอาจารย์ประกาศเรื่องเวลาที่เหลืออยู่ เช็คจนแน่ใจว่าเขาทำข้อสอบครบทุกข้อ ไม่มีข้อไหนตกหล่นไปก็วางกระดาษคำตอบคว่ำลง และรอเวลาที่จะออกจากห้องสอบ



เสียงอาจารย์ประกาศแจ้งหมดเวลาในการทำข้อสอบดังขึ้น นักศึกษาต่างพากันทยอยลุกออกจากโต๊ะ รวมถึงสายน้ำด้วย ทันทีที่ออกมาพ้นเขตห้องสอบก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่วิชานี้ผ่านพ้นไปเสียที



“โล่งแล้ว... เหลืออีกสองวันเราก็จะเป็นไทยแล้ว!” แบงก์ชูมือขึ้นเหนือหัวแล้วร้องออกมาหลังจากที่เดินลงมาถึงข้างล่างแล้ว



“สู้โว้ยมึง!” ตั้มยกแขนกอดคอเพื่อนสนิทตัวเอง “จะแยกย้ายกันเลยไหม”



“เราสองคนแยกเลยนะ ไม่ไหว ขอกลับไปนอนก่อนค่อยมาลุยอ่านหนังสือต่ออีกรอบ” เบลพูดโดยมีมะนาวพยักหน้ารับเป็นลูกคู่อยู่ข้าง ๆ กัน



“โอเค ตามนั้น ขับรถกลับกันดี ๆ นะ ระวังด้วย”



“จ้า ไปแล้ว เจอกันนะ” เบลกับมะนาวโบกมือลาเพื่อนทั้งสามคนก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง



“แล้วมึงอ่ะ พี่หินผามารับไหม หรือว่ากลับพร้อมพวกกูเลย” ตั้มหันมาถามสายน้ำที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่



“กลับพร้อมพวกมึงเลยก็ได้” สายน้ำตอบแต่สายตาของเขายังไม่ละจากโทรศัพท์



“ทำไม มีอะไรวะ” แบงก์เดินเข้ามาใกล้ ก้มมองโทรศัพท์ในมือเพื่อน



“เออ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”



“ไม่มีอะไร พอดี... พี่หินผาไม่ตอบไลน์ก็เลยสงสัยน่ะ ตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว” สายน้ำส่ายหน้าไปมา “แต่คงไม่มีอะไรหรอก”



“พี่เขามีสอบหรือเปล่า”



“มี” เขาพยักหน้า “แต่แค่ตอนเช้าน่ะ ตอนบ่ายไม่มีสอบอะไรแล้ว”



“พี่เขาอาจจะลืมเอาโทรศัพท์มาด้วยก็ได้มั้ง ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก มึงวางใจเถอะ เขาอาจจะยุ่ง ๆ เรื่องอะไรอยู่” ตั้มพูดเพื่อให้เพื่อนสบายใจ



“คงจะอย่างนั้นแหละ ไปเถอะ กลับกันดีกว่า” สายน้ำเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตัวเอง ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะพากันเดินไปที่รถของแบงก์เพื่อกลับคอนโดบ้าง



“เดี๋ยวกูแวะซื้อขนมเค้กร้านประจำก่อน มึงจะเอาอะไรไหม” ตั้มที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับหันมาถามสายน้ำที่นั่งอยู่ด้านหลัง



“เอาสิ เดี๋ยวกูลงไปดูด้วย จะได้ลงไปซื้อเผื่อเรย์ด้วย” สายน้ำพยักหน้ารับ



แบงก์เปิดไฟเลี้ยวเพื่อชิดซ้ายเมื่อใกล้ถึงร้านขนมที่ว่า ก่อนจะจอดสนิทอยู่หน้าร้าน พวกเขาทั้งสามคนลงจากรถเพื่อเดินเข้าไปในร้าน



“อ้าว นั่นพี่หินผานี่” แบงก์ที่หันไปเห็นพอดีร้องขึ้นเรียกสายตาของสายน้ำแล้วก็ตั้มให้หันไปมอง “มากับใครล่ะนั่น”



“หือ…” สายน้ำหันไปมองตรงบริเวณที่แบงก์มองไป เป็นหินผาจริงอย่างที่เพื่อนบอก เจ้าตัวนั่งอยู่ที่โต๊ะกับใครอีกคน “เอ๊ะ นั่น… เรย์นี่นา”



“เออ จริงด้วย มาด้วยกันได้ยังไงวะ เรย์กับพี่หินผาสนิทกันเหรอ” ตั้มหันมาถามสายน้ำ



คนโดนถามส่ายหน้า “ก็ไม่ได้สนิทมากนะ”



แม้ว่าสายน้ำจะเคยพาเรย์ไปเจอกับหินผาบ่อยครั้งแต่ทั้งคู่ก็ไม่สนิทสนมกันถึงขนาดที่จะออกมาด้วยกันได้ เพราะอย่างนั้นสายน้ำเลยค่อนข้างแปลกใจที่เห็นเพื่อนตัวเองกับคนรักมาอยู่ด้วยกันแบบนี้



ดูเหมือนว่าหินผาจะหันมาเห็นพวกเขาแล้ว เจ้าตัวยิ้มออกมาก่อนจะลุกเดินมาหา แบงก์กับตั้มยกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่ “สวัสดีครับ”



“อือ สอบเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ” หินผาถาม



“ครับ” แบงก์กับตั้มขอตัวแยกไปเลือกขนม ตรงนี้เลยเหลือหินผากับสายน้ำ



“มายังไงครับเนี่ย” สายน้ำหันมาถามคนรักของตัวเอง



“ขับรถมาครับ” หินผาตอบยิ้ม ๆ “ล้อเล่น แต่พี่ก็ขับรถมาจริง ๆ นะ”



“ผมหมายถึงว่าพี่แวะมาที่ร้านนี้ได้ยังไง แล้วทำไมถึงอยู่กับเรย์ได้ล่ะครับ”



“อ่อ… คืนนี้เราไปค้างห้องพี่ได้ไหม” หินผาไม่ตอบ แต่ถามคำถามกลับมาแทน “พี่บอกเรย์แล้วว่ามีเรื่องอยากคุยกับเรา เลยจะให้เราไปค้างด้วยกันที่ห้อง นี่พี่ก็แวะมารอเรานั่นแหละตั้งใจว่าจะมาซื้อขนมเค้กให้เราไว้กิน เป็นรางวัลของการสอบในวันนี้”



“แล้วพี่กับเรย์มาอยู่ด้วยกันได้ยังไงครับ”



“เอาไว้คุยกันที่ห้องพี่นะครับ พี่มีเรื่องอยากคุยด้วยหลายเรื่องเลย”



“ก็ได้ครับ อย่างนั้นเดี๋ยวผมไปบอกเพื่อนก่อน ว่าแต่พี่จะซื้ออะไรไหมครับ”



“เรียบร้อยแล้วล่ะ เราไปคุยกับเพื่อนก่อนเถอะ”



“ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อนทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ “แบงก์ตั้มเดี๋ยวกูไปกับพี่หินผานะ”



“จะเอาคีย์การ์ดไปไหม” เรย์ถามขึ้นเมื่อสายน้ำหันมาคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ เพราะวันนี้เรย์ต้องอยู่ห้องคนเดียวสายน้ำเลยให้คีย์การ์ดห้องไว้เพื่อเรย์จะลงมาซื้ออะไรกิน



“ไม่เป็นไร เรย์เอาไว้ใช้ พี่หินผามีคีย์การ์ดอยู่ถ้าจะกลับแล้วเดี๋ยวเอาจากพี่หินผาก็ได้” สายน้ำว่าพลางชี้นิ้วไปทางหินผา



“โอเค แล้วเจอกัน”



“แล้วเจอกัน” สายน้ำตอบ หันไปคุยกับแบงก์แล้วก็ตั้มอีกเล็กน้อยฝากเพื่อนทั้งสองคนพาเรย์ไปส่งที่ห้องด้วย ก่อนจะเดินแยกมาหาหินผาที่ยืนรอยู่



“พี่หินผาจอดรถไว้ที่ไหนเหรอครับ” สายน้ำถาม เดินตามคนอายุมากกว่าออกจากร้าน เขามองรถที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านนี้แต่ก็ไม่เห็นรถของอีกฝ่ายจอดอยู่เลย



”พี่จอดเอาไว้ที่คอนโดของเรา แล้วก็เดินมาน่ะ” หินผาตอบพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือของสายน้ำเอาไว้ แล้วจับมือเดินไปถึงคอนโด



หินผาขับรถออกจากคอนโดของสายน้ำเพื่อกลับไปที่คอนโดของตัวเอง แวะซื้อมื้อเย็นที่ร้านใกล้ ๆ คอนโด วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็ได้ที่จอด สายน้ำก้าวลงจากรถหลังจากที่รถจอดสนิท ในมือมีกระเป๋าของตัวเอง รวมไปถึงกล่องข้าวแล้วก็กล่องขนมเค้กที่หินผาซื้อมา



“พี่ช่วยถือ” หินผาแย่งของในมือของสายน้ำไปถือเอาไว้เอง คว้ามือของสายน้ำมาจับแล้วพาเดินเข้าไปข้างใน มือของหินผาไม่ยอใปล่อยออกจากมือของสายน้ำเลยจนกระทั่งถึงห้อง



“กินข้าวก่อนเลยไหม กำลังร้อน ๆ อยู่เลย” หินผาหันมาถาม เขาเดินเข้าไปจัดการเทข้าวใส่จานให้เรียบร้อย ขนมเค้กที่ซื้อมาก็เก็บเข้าตู้เย็นเอาไว้ก่อน



“ผมช่วยครับ”



สายน้ำเดินเข้าไปช่วยหยิบจาน หยิบช้อนมาส่งให้หินผา หันไปหยิบเหยือกน้ำในตู้เย็นออกมารินน้ำใส่แก้วแล้วยกไปวางบนโต๊ะ



ตั้งแต่กลับมาถึงห้อง จนพวกเขากินข้าว อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยหินผาก็ยังไม่พูดถึงเรื่องที่อยากจะคุยกับสายน้ำสักที จนสุดท้ายคนที่ทนมาไหวก็คือสายน้ำ เขาเรียกคนพี่ที่เดินไปเดินมาไม่หยุดให้มานั่งด้วยกันที่โซฟา



“ที่พี่บอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับผม มีเรื่องอะไรเหรอครับ” สายน้ำถามเข้าประเด็นทันที “แล้วพี่ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะว่าพี่ไปอยู่กับเรย์ได้ยังไงกัน บังเอิญเจอกันเหรอครับ”



“ก็เปล่า ไม่ได้บังเอิญเจอกันหรอก”



“อ้าว”



“เรย์ส่งข้อความมานัดพี่ ว่าอยากคุยด้วย” หินผาตอบ แต่นั่นก็ยิ่งสร้างความงุนงงให้กับสายน้ำมากกว่าเดิมเสียอีก



“เดี๋ยวนะครับ เรย์ส่งข้อความหาพี่อย่างนั้นเหรอครับ แล้ว... เรย์มีเบอร์ของพี่ได้ยังไงกัน”



“จำได้ไหม... ที่พี่บอกว่าเราโทรหาพี่ วันที่เราบอกว่าหาโทรศัพท์ไม่เจอนั่นแหละ”



สายน้ำทำหน้านึกก่อนจะพยักหน้ารับ “ครับ จำได้ครับ”



“วันนั้นคนที่โทรมาหาพี่ก็คือเรย์ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร พอพี่โทรกลับไปก็ไม่รับ เรย์คงจะเอาเบอร์โทรศัพท์พี่มาตอนนั้นนั่นแหละ”



“แล้วเรย์จะเอาเบอร์โทรศัพท์ของพี่ไปทำไมกัน” คิ้วของสายน้ำขมวดเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าเรย์จะทำแบบนั้นทำไม และเขาก็ไม่คิดว่าหินผาจะพูดโกหกด้วย



“เรย์บอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับพี่ เกี่ยวกับเรา ก็เลยนัดกันคุยวันนี้นี่แหละ”



“เรื่องอะไรครับ”



หินผมยิ้มขำกับอาการใจร้อนของคนรัก เขายกมือขึ้นวางลนผมนุ่มของสายน้ำแล้วลูบเบา ๆ “นี่คงไม่ได้แอบคิดอะไรไม่ดี ๆ อยู่หรอกใช่ไหม อย่างเช่น... พี่กับเรย์แอบนัดพบกันลับหลังเราน่ะ”



“ค ใครจะไปคิดอะไรแบบนั้นล่ะครับ!”



“ไม่คิดก็ไม่คิดครับ”



“รีบ ๆ เล่าต่อเลยครับ”



“โอเคครับ” หินผายิ้ม “วันนี้พี่มาคุยกับเรย์ ส่วนใหญ่ก็เรื่องของเราทั้งนั้นนั่นแหละ เรย์ถามพี่อย่างจริงจังว่าพี่ชอบเรา รักเราจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ได้คิดจะหยอกเล่นหรือแค่คบเล่น ๆ ใช่ไหม เรย์เขาเป็นห่วงเรามากนะ”



“ครับ ผมรู้ว่าเรย์เป็นห่วงผม” สายน้ำพยักหน้า



“เราเคยเล่าเรื่องของพี่ให้เรย์ฟังใช่ไหม” หินผาถาม พอสายน้ำพยักหน้ารับเขาก็พูดต่อ “พอเรย์รู้ว่าน้ำคบกับพี่ก็เลยเป็นห่วง กลัวว่าที่เราคบกันเป็นเพราะพี่รู้ว่าเขาชอบพี่ แล้วก็สงสาร เพราะยังไงก็เคยสนิทกันมากตอนเด็ก ๆ น่ะ”



“แต่พี่ก็บอกเรย์ไปแล้วว่าที่เราคบกัน ไม่ใช่เพราะพี่เห็นใจหรือสงสารเรา แต่เพราะ... พี่รักเรา”



สายน้ำไม่รู้ว่าเขาควรจะทำหน้าอย่างไรดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ “อ่า...”



“แต่ว่านะ” หินผาเปลี่ยนสีหน้าจากมองน้องตาหวานเชื่อมเป็นทำหน้าโหดจนสายน้ำตามไม่ทัน “ทำไมเราถึงไม่เคยบอกพี่เลยว่าเรย์น่ะ... ชอบเรา”



“อ่า...” สายน้ำยิ้มแหยเมื่อโดนถามแบบนั้น




“เรารู้ใช่ไหมว่าเรย์เขาคิดยังไงน่ะ” ถามออกมาเสียงเข้ม มองน้องด้วยสายตาดุ ๆ



ได้แต่พยักหน้ารับไป เพราะคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหก “รู้ครับ เรย์เคยบอกกับผมว่าเขาชอบผม”



“พี่เองก็คิดแบบนั้น คิดว่าเรย์น่าจะชอบเรา พี่รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว” หินผาถอนหายใจออกมา



“รู้ได้ยังไงครับ”



“สายตาของเรย์ พี่รู้สึกว่าเวลาที่เรย์มองพี่กับมองเรามันต่างกัน แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอนึกไปนึกมาก็คิดว่าใช่ สายตาที่เรย์มองเรา ไม่ต่างอะไรกับสายตาที่พี่มองเราเลยสักนิด เพราะชอบมากจนปิดเอาไว้แทบไม่ไหว”



“แต่เรย์ก็รู้ครับว่าผมไม่ได้ชอบเรย์ แล้วเรย์ก็รู้ด้วยว่าผมชอบพี่มากแค่ไหน เพราะความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่ก็มากจนปิดเอาไว้ไม่มิดเหมือนกัน” สายน้ำอมยิ้มที่เห็นคนพี่ชะงักไปตอนที่เขาพูด “วันที่เรย์มาบอกว่าชอบผม เรย์ก็บอกต่อเลยว่ารู้ว่าไม่มีทางที่ผมจะชอบเขาตอบได้ เพราะสายตาของผมไม่เคยมองเขาแบบพิเศษเลย”



สายน้ำถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “จริง ๆ ผมก็แอบรู้สึกผิดกับเรย์เหมือนกัน เรย์เป็นเพื่อนคนแรก เป็นเพื่อนคนสำคัญมาก ๆ สำหรับผม เรย์เป็นคนเดียวที่ไม่แกล้งผมตอนที่ผมย้ายไปที่นู้น เรย์ทั้งดูแล ทั้งปกป้องผม ผมเลยเสียใจที่ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเรย์ได้”



“เราไม่สามารถบังคับ หรือห้ามความรู้สึกกันได้”



“ใช่ครับ เรย์ก็พูดแบบนั้น เรย์บอกว่าเรย์ไม่สามารถบังคับให้ผมหันไปชอบได้ ก็เหมือนกับที่ผมไม่สามารถบังคับให้เรย์เลิกชอบผมได้เหมือนกัน”



“พี่ดีใจนะ” หินผาลูบผมของน้อง “ดีใจที่เราได้เพื่อนที่ดีอย่างเรย์ ดีใจที่ในตอนที่พี่ไม่ได้อยู่ด้วย ไม่ได้ดูแล ไม่ได้ปกป้องเรา มีคนมาทำหน้าที่นั้นให้ แม้อีกใจหนึ่งของพี่กำลังนึกหึงย้อนหลังไปก็ตามที”



“แบบนั้นได้ที่ไหนกันล่ะครับ”



หินผาหัวเราะ เขาดึงตัวสายน้ำเข้ามาใกล้ก่อนจะกอดเอาไว้ “ดีจริง ๆ ที่เราไม่เปลี่ยนใจจากพี่ไปชอบเรย์ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่มีความสุขแบบตอนนี้แน่ ๆ เลย”



“ผมก็ดีใจครับ”



“ดีใจเรื่องอะไร”



“ดีใจที่ผมตัดสินใจย้ายมาเรียนที่นี่ ดีใจที่ผมตัดสินใจตามพี่มา เพราะมันทำให้ผมได้อยู่กับพี่แบบนี้ไงครับ”



“หึหึ... แล้วพี่จะไม่ปล่อยให้หนีกลับไปแล้วนะ”



“คร้าบ”



หินผารัดคนในอ้อมแขนแน่น ๆ อย่างมันเขี้ยวกับท่าทางของสายน้ำ จัดการฟัดแก้มขาวของน้องไปทีจนสายน้ำต้องดิ้นหนี



ซึ่งกว่าจะหลุดออกมาได้แก้มของสายน้ำก็แดงช้ำไปหมด สายน้ำหนีไปนั่งที่โซฟาอีกตัวพร้อมมองหินผาตาขวาง คนอายุมากกว่าหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคนรักของตัวเอง รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เห็นสายน้ำทำตาขวางใส่ ใบหน้าหล่อ ๆ ตอนทำหน้าเหวี่ยง ๆ นั้นก็ดูดีไม่ใช่เล่น



หินผาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปของสายน้ำเอาไว้ ตั้งใจว่าจะโพสต์ลงแกล้งแหย่สายน้ำเล่น ๆ เขาจัดการแท็กรูปเมื่อครู่ไปถึงสายน้ำ



HINPAA TARYN ได้แท็กรูปภาพถึง TARA SAINAM WILKINSON
โดนแกล้งจนหน้าบึ้งไปหมดแล้ว
หมดหล่อเลยเดือนมหา’ลัย







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือกังวลจ้า เรย์แค่เป็นห่วงเพื่อนเฉย ๆ
ไม่ได้มีคิดนอก คิดใน คิดไปไกล คิดเกินเลยใด ๆ กับพี่หินผาเลย
และก็รับรู้สถานะของตัวเองดีว่าอยู่ตรงไหนสำหรับสายน้ำ อิอิ

ยังไงก็... ขอคอมเมนต์กำลังใจหน่อยเนอะ
ช่วงนี้ทุกอย่างมันแลตึงเครียดไปหมด การเศรษฐกิจ ทั้งไวรัส
มันส่งผลกระทบไปหมดเลย ก็เลยอยากได้กำลังใจค่ะ
ถ้าไม่มากเกินไป หรือไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรก็ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยน้า
จะได้มีกำลังใจในการเขียนนิยายต่อจ้า

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.23 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-03-2020 22:19:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.23 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-03-2020 23:27:43
มีเพื่อนดีแบบนี้ มอบผู้ให้เพื่อนซักคนดิ สายน้ำ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.23 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-03-2020 00:29:14
ค่อยโล่งใจหน่อยที่ไม่มีดราม่า น้องก็ได้เพื่อนดี มีคนที่รักและห่วงใยคอยดูแลเป็นอย่างดี พี่หินผาต้องให้โบนัสเรย์แล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.23 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-03-2020 18:12:05
แล้วไปนะนายเรย์
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.23 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 22-03-2020 02:22:30
ต้องมีคนเข้ามาหน่อยแล้วว
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [70%] l P.23 20-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 22-03-2020 14:16:06
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 28-03-2020 21:49:11
(https://i.ibb.co/KrbfmXs/20.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “20”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






หินผาขับรถที่ไปเปลี่ยนกับพี่ชายมา มุ่งหน้าไปยังสนามบินเพื่อไปส่งเรย์ขึ้นเครื่อง เบาะหน้าข้างคนขับแน่นอนว่าเป็นสายน้ำที่นั่งคู่กับเขา ส่วนเรย์นั่งอยู่เบาะหลังเหมือนกับวันที่เขาขับรถไปรับเพื่อนสนิทของสายน้ำ



“น่าเสียดาย เพิ่งจะได้มีเวลาพาไปเที่ยวเอง จะต้องกลับแล้ว” สายน้ำหันไปพูดกับเพื่อนสนิทของตัวเอง



เขาเพิ่งสอบเสร็จไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สายน้ำเลยเพิ่งได้มีโอกาสพาเรย์ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ได้ไม่นาน แต่อีกฝ่ายก็ต้องบินกลับแล้ว ยังมีสถานที่อีกหลายที่ ที่เขาอยากจะพาเรย์ไป รวมถึงตัวสายน้ำเองก็อยากได้



ดีที่ยังมีเวลาพาเรย์ไปเที่ยวหัวหินสองวันหนึ่งคืน พาไปเดินตลาด พาไปหาของอร่อย ๆ กิน



“ทำยังไงได้ ตอนเราจะมาก็ลืมคุยกับน้ำก่อนว่าสะดวกไหม ว่างหรือเปล่า มาเจอช่วงสอบพอดีก็ทำอะไรไม่ได้ แต่แค่ได้ไปเที่ยวช่วงที่ผ่านมาก็โอเคแล้วนะ”



“เอาไว้คราวหน้ามาอีกนะ เดี๋ยวจะได้ไปเที่ยวกันอีก มีอีกตั้งหลายที่ที่น่าไป”



“ได้สิ เอาไว้จะมาหาใหม่”



ครึ่งชั่วโมงต่อมารถที่หินผาขับก็เลี้ยวเข้าสู่สนามบิน เขาแวะส่งสายน้ำกับเรย์ก่อนวนไปหาที่จอดรถ สายน้ำช่วยเรย์หิ้วกระเป๋าใส่ของฝาก ส่วนเจ้าตัวก็ลากกระเป๋าเดินทางใบโต พวกเขามาถึงก่อนเวลาขึ้นเครื่องเป็นชั่วโมงจึงยังพอมีเวลาอยู่บ้าง สายน้ำให้เรย์ไปทำเรื่องโหลดกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงเดินไปหาที่นั่งในร้านกาแฟ สายน้ำหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาหินผาเพื่อบอกสถานที่ที่เขาอยู่ตอนนี้



“น้ำ” เรย์เรียกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน “มีความสุขดีใช่ไหม”



“หือ หมายถึงอะไร”



“กับพี่คนนั้นไง มีความสุขดีใช่ไหม”



“อื้ม! มีความสุข” สายน้ำพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง “ที่จริงต้องบอกว่าเรายังไม่อยากจะเชื่อเลยมากกว่า ไม่คิดว่าจะมีวันได้คบกับพี่หินผา พอได้คบกันแล้ว... มันดีมาก ๆ เลยเรย์ ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว”



“ได้ยินพูดแบบนั้นก็สบายใจ” เรย์ระบายยิ้ม “รู้ใช่ไหมว่าเราไม่ได้หวังอะไรเลย นอกจากจะหวังให้สายน้ำมีความสุข”



“ขอบคุณเรย์ ทุกวันนี้เรามีความสุขดีมาก แล้วเราก็อยากให้เรย์มีความสุขเหมือนกัน อย่าปิดกลั้นตัวเองเพราะเราเลย เรย์ยังมีโอกาสได้เจอคนที่ดี ที่น่ารัก แล้วก็เพียบพร้อมสำหรับเรย์อยู่”



เรย์หัวเราะ “น้ำพูดแบบนี้มากี่รอบแล้วก็ไม่รู้”



“แต่เรย์ก็ไม่เคยทำสักที! รีบทำตามคำแนะนำของเราได้แล้ว อย่าเอาความรู้สึกของเรย์มาผูกเอาไว้ที่เราเลย ไม่ว่ายังไงเรย์ก็สู้เขาไม่ได้หรอก”



“I know…”



“ขอโทษที่พูดแรง ๆ”



“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก เพราะมันจริงอย่างที่ว่าเลย เรารู้ตัวเสมอว่าเรา... สู้เขาไม่ได้แน่นอน” เรย์ยิ้มให้ มันเป็นรอยยิ้มที่มีแต่ความจริงใจและความรู้สึกดี ๆ สายน้ำมองไม่เห็นความตัดพ้อ หรือน้อยอกน้อยใจในรอยยิ้มและดวงตาของเพื่อนคนนี้เลย “ถ้าเราสู้เขาได้ ตอนนี้เราคงได้คบกันไปแล้วล่ะ”



เรย์เอื้อมมือมาจับมือของสายน้ำเอาไว้ “ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องคิดมาก หรือรู้สึกผิดเรื่องของเรา วันนั้นที่เราตัดสินใจบอกก็เพราะเราหวังว่าเราจะทำให้สายน้ำหันมาชอบเราได้ แต่ในเมื่อเราพยายามแล้ว และมันไม่มีทาง เราก็ยอมรับ ในตอนนี้... เรามีแค่ความหวังดีกับสายน้ำเท่านั้น”



“ขอบคุณนะ เรย์เป็นเพื่อนคนสำคัญของเราจริง ๆ สำคัญมาก ๆ ถ้าไม่ได้เรย์ วันนี้เราก็คงจะไม่เป็นเราแบบตอนนี้แน่นอน”



“แน่นอน เราจะเป็นเพื่อนคนสำคัญแบบนี้ไปตลอด ไม่ต้องห่วงเลย” เรย์ยิ้ม เขาลุกขึ้นยืน “เราว่าเราเข้าไปรอขึ้นเครื่องข้างในเลยดีกว่า อีกแค่ชั่วโมงเดียวเอง”



“เอาไว้เราบินกลับไปแล้วจะรีบโทรหาเลยนะ”



“ได้ ถ้าเราจะมาอีกก็จะโทรบอกเหมือนกัน” เรย์อ้าแขนออกเล็กน้อย เมื่อสายน้ำเห็นแบบนั้นก็เดินเข้าไปหาแล้วกอดเพื่อนคนสำคัญคนนี้เอาไว้แน่น ๆ “โชคดีนะสายน้ำ”



“เรย์ด้วย เดินทางปลอดภัยนะ”



“อื้ม!”



เรย์ปล่อยสายน้ำหยิบกระเป๋ามาสะพาย หันไปยิ้มให้กับสายน้ำ รวมไปถึงหินผาที่ยืนอยู่ด้านหลังสายน้ำด้วย “ฝากด้วยนะครับ โชคดีครับ”



“ด้วยความยินดี” หินผาตอบกลับคำพูดของเรย์



พวกเขาสองคนเดินไปส่งเรย์ ยืนมองอีกฝ่ายเดินเข้าไปด้านใน สายน้ำตะโกนเรียกยกมือโบกให้จนเรย์หลุดยิ้มขำออกมา ยกมือโบกตอบกลับมาให้ก่อนจะหันหลังเดินต่อ



“ไปเถอะ กลับกัน” หินผาหันมาพูด



“ครับ” พยักหน้ารับ “ว่าแต่พี่หินผามาถึงที่ร้านนานแล้วเหรอครับ”



“สักพักน่ะ พี่เห็นเรากำลังคุยกับเรย์อยู่ก็เลยไม่ได้เข้าไปกวน ดูแล้วคงมีเรื่องอยากคุยกัน” หินผามาถึงร้านที่สายน้ำบอกได้สักพักแล้ว แต่เห็นสองคนกำลังคุยกันอยู่แม้จะได้ยินไม่ชัดแต่ก็พอจะเดาได้ว่าคุยเรื่องอะไรกันอยู่ เขาจึงไม่ได้เดินเข้าไป และเลือกที่จะยืนรออยู่ด้านนอกแทน



“ครับ ที่จริงผมยังมีเรื่องอยากคุยกับเรย์อีกเยอะเลย น่าเสียดายที่เรย์ต้องกลับแล้ว มีอีกตั้งหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป”



“เอาไว้คราวหน้าสิ พี่ว่ายังไงเรย์เขาก็คงจะมาหาเราอีกนั่นแหละ จริงไหม”



“จริงครับ ผมก็คิดว่าแบบนั้นเหมือนกัน”



“หรือถ้าไม่อย่างนั้น...” หินผาพูดก่อนจะเงียบไป เขาคว้ามือของสายน้ำมาจับในระหว่างที่เดินกลับไปที่รถ



“อะไรเหรอครับ”



“หรือไม่อย่างนั้น... เอาไว้เราสองคนก็บินไปที่นู้นกันบ้าง ดีไหม”



“เอ๊ะ... บินไป ที่นู้น... น่ะเหรอครับ”



“ใช่” หินผาพยักหน้ารับ “พี่ยังไม่เคยเจอแด๊ดของเราเลย แล้วก็... พี่อยากไปสวัสดีคุณแม่ของเราด้วย”



“ครับ อย่างนั้นเอาไว้ไปกันนะ”



“เอาไว้ไปกัน”






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

สบายใจกันแล้วเนอะ ทุกฝ่ายเลย เรย์มีแค่ความหวังดีให้กับสายน้ำจริง ๆ ค่ะ
ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นเลย เพราะเรย์เองก็รู้ตัวเองดี
เหมือนที่เรย์บอกน้องน้ำ ถ้าเรย์สู้พี่หินผาได้ ป่านนี้ก็ได้คบกับสายน้ำไปแล้ว
แต่เพราะสู้ไม่ได้ เรย์ก็ยอมรับและมีแต่ความหวังดีให้
ก็หวังว่าเรย์จะเจอคนดี ๆ เนอะ

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ

หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-03-2020 22:21:14
 :bye2: :bye2: บาย หนูเรย์ ไว้หนูน้ำบินไปเยี่ยมหนูเมื่อไหร่ จะแอบเกาะชายกางเกงหนูหินไปเยี่ยมด้วยเด้อจ้า    :haun5:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 29-03-2020 01:56:21
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทูไรท์เตอร์....โปรดส่งใครไปให้เรย์ที   อิอิ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-03-2020 03:30:16
ไว้ไปกัน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-03-2020 09:50:43
ขอให้นายเรย์ตัดใจได้จริง ๆ นะครับ

ป.ล.ตรงช่วงนี้ พิมพ์ผิดไหมครับน้องฟาง
"อย่าปิดกลั้นตัวเองเพราะเราเลย" พี่ว่าน่าจะเป็น "อย่าปิดกั้นตัวเองเพราะเราเลย" มากกว่า เพราะถ้าเป็น กลั้น แบบนี้ พี่ว่าน่าจะเป็น อดกลั้น มากกว่า

ช่วงนี้ไวรัสระบาด ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-03-2020 13:34:20
พี่หินก็ตีเนียนจะไปไหว้แม่กะพ่อน้องเลยนะ

ขอให้เรย์เจอคนมีที่ใช่เร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "20" [100%] l P.23 28-03-63
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-04-2020 21:43:03
เอ็นดู ความผูกพันนี้ น้องก็จำฝังใจ พี่ก็ไม่ลืมเลือน
จนสุดท้ายได้กลับมาเจอกัน ถึงจะรู้ตัวกันช้าไปนิด แต่มั่นคงดี

น่ารักดีค่ะ แหมมม เนียนแหย่น้องเลยนะ ตอนแรกทำเครียด 

เรย์เข้าใจสิ่งที่เป็นอยู่ได้ดีเลย เรย์น่าเห็นใจตรงที่เลิกรักไม่ได้สักที
คงต้องให้เจอคนที่ใช่ ถึงตอนนั้นก็คงทำใจและตัดใจได้
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-04-2020 21:29:05
(https://i.ibb.co/ZxtwvZ4/21.jpg)
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “21” [THE END]







เสียงโหวกเหวกดังลั่นระเบียงริมสระว่ายน้ำที่บ้านพักสุดหรูหลังใหญ่ พวกเขากว่าสิบชีวิตกำลังทำบาร์บีคิงปิ้งย่างเป็นมือเย็นกัน อากาศเย็น ๆ ตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เข้ากันได้ดีกับกลิ่นหอมของบาร์บีคิวและหมูกระทะ



ข้างโต๊ะที่วางเตาเอาไว้มีลังน้ำแข็งลังใหญ่ที่แช่เครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์



เสียงโวยวายสลับกับเสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้วหลายปีแย่งหมูบนเตากัน



น้องใหม่ของกลุ่มอย่างพวกเด็กปีหนึ่งก็ได้แต่หัวเราะท้องแข็งกับรุ่นพี่ ตอนนี้สายน้ำและเพื่อน ๆ สอบเสร็จแล้ว อยู่ในช่วงของปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ซึ่งในช่วงปิดเทอมแบบนี้พวกเด็กปีหนึ่งต้องทำงานร่วมกับรุ่นพี่ปีสี่คือลงสำรวจชุมชน



กลุ่มของสายน้ำที่จับกลุ่มกับกลุ่มของหินผาเลือกจะมาสำรวจชุมชนกันที่จังหวัดเชียงใหม่ตามคำชวนของพวกหินผา



พวกเขาแปดคนเดินทางมาถึงเชียงใหม่เมื่อสี่วันก่อน วันแรกไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านพัก ส่วนวันที่สองพวกเขาก็เดินทางกันต่อเพื่อขึ้นไปที่ชุมชนบนดอย นอนพักที่โฮมสเตย์ของคนในชุมชน ลงพื้นที่ ทำการสำรวจชุมชนในวันที่สองและสาม



การสำรวจชุมชนเป็นไปอย่างสนุกสนาน เขาไม่ได้แค่เดินสำรวจไปเรื่อย ๆ แต่พวกเขาเข้าไปสอบถาม ร่วมทำกิจกรรมกับคนในชุมชน ตามคนในชุมชนไปที่ไร่ผัก ไร่ชา ทดลองเก็บใบชา ปลูกผัก เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาทั้งแปดคนตัดขาดจากโลกภายนอก ใช้ชีวิตเรียบง่ายบนดอย แม้จะรู้สึกลำบากไปบ้างเพราะไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีสำหรับทุก ๆ คนเลยทีเดียว



ใช้เวลาแค่ครึ่งวันหลังจากที่มาถึงชุมชน เดียร์ก็กลายเป็นหัวหน้าแก๊งของเด็กดอยไปแล้วเรียบร้อย พากันวิ่งไปทั่ว เดี๋ยวก็ปีนต้นไม้ เดี๋ยวก็วิ่งเล่นจนเพื่อนทั้งสองคนได้แต่ส่ายหน้า ส่วนปีหนึ่งก็ทำได้แค่ยิ้มให้กับผู้ปกครองของเด็ก ๆ เท่านั้น



หลังจากลงจากดอยก็พักอยู่ในตัวเมืองหนึ่งวันเพื่อรอพวกรุ่นพี่ที่จบไปแล้วอย่างกลุ่มของกันต์นั่งเครื่องตามมาหลังจากเคลียร์งานกันเสร็จ กลุ่มแปดคนก็ขยายขึ้นกลายเป็นว่าตอนนี้มีสมาชิกเป็นสิบสี่คน เมื่อทุกคนมาครบหินผากับป่าไม้ก็โทรให้รถตู้ของที่บ้านมารับพาไปที่รีสอร์ท



ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดก็มาอยู่ที่รีสอร์ทของครอบครัวหินผา ป่าไม้ รีสอร์ทเดิมที่เคยมาพักเมื่อตอนมาเที่ยวครั้งที่แล้ว บ้านพักหลังใหญ่หลังเดิมคือที่พักสำหรับพวกเขาทั้งสิบสี่คน



“เด็ก ๆ ของกินพอไหมลูก” แม่ของสองพี่น้องหินผา ป่าไม้เดินเข้ามาทัก



ทุกคนหันไปยกมือไหว้สวัสดีกันจนเสียงดังลั่นให้คนเป็นแม่หัวเราะชอบใจ แม่ของหินผาหัวเราะขำกับท่าทางของเพื่อน ๆ ลูก เธอเดินเข้าไปหาสายน้ำที่ยืนอยู่ข้างลูกชายคนเล็ก ยกมือขึ้นกอดเอวแฟนลูกอย่างรักใคร่



“เป็นยังไงบ้างลูก ของกินอร่อยไหม”



“อร่อยครับน้า... แม่” สายน้ำตอบ เขารีบเปลี่ยนคำเมื่อเห็นสายตาดุ ๆ ของแม่แฟน



“อร่อยก็ดีแล้วครับ กินเยอะ ๆ เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจพ่อกับแม่ พวกลูก ๆ ด้วยนะ กินกันให้เต็มที่เลยนะ” แม่ยิ้มให้กับสายน้ำก่อนจะหันไปบอกกับทุกคน “อย่างนั้นแม่ไม่กวนเด็ก ๆ แล้วดีกว่า นี่แม่ก็แวะมาดูว่าของกินพอไหม ถ้าไม่พอจะได้ให้คนเอามาเพิ่ม”



“พอแล้วค่ะแม่ แค่นี้พวกหนูก็กินกันไม่หมดแล้ว” ใบบัวเป็นคนตอบ “ขอบคุณแม่มากนะคะ”



“จ๊ะ ไม่เป็นอะไร อย่างนั้นแม่ไปก่อน”



“ผมไปส่ง” ทั้งหินผา ป่าไม้แล้วก็สายน้ำพูดขึ้นมาพร้อมกัน



คนเป็นแม่หัวเราะ ยกมือปัดไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ “ไม่ต้องลูก ๆ แม่มากับรถ เดี๋ยวให้ขับไปส่งที่บ้านก่อน ตามสบายเลยนะลูก”



“ขอบคุณนะครับ”



“ขอบคุณนะคะคุณแม่”



ทุกคนมองตามแม่กับป่าไม้ที่อาสาเดินไปส่งที่รถไปก่อนจะเบนสายตามาที่หินผากับสายน้ำ สายตาแต่ละคนนั้นทั้งกรุ้มกริ่ม แล้วก็ล้อเลียนเต็มที่ หินผาน่ะทำเป็นเฉยกับสายตานั้นได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับสายน้ำ เพราะเจ้าตัวเริ่มออกอาการ



“อ อะไรกันครับ”



“แหม... คราวก่อนมายังเรียกน้าเดือนอย่างนู้นอย่างนี้ คราวนี้มาได้ไม่ถึงวันจากน้าเดือนกลายเป็นคุณแม่ไปซะแล้ว” แบงก์นำทีมเอ่ยแซวเพื่อนตัวเองทันที



“อะไร แดก ๆ ไปเลย” สายน้ำคีบหมูจากจานตัวเองป้อนเชิงยัดใส่ปากเพื่อน “หัวเราะอะไรครับ กินเข้าไปเลยครับ”



ทั้ง ๆ ที่ทุกคนพากันหัวเราะ แต่คนที่สายน้ำหันไปทำตาโตใส่กลับเป็นแฟนตัวเองเสียอย่างนั้น หินผาเลิกคิ้วขึ้น ประท้วงที่ทำไมถึงเป็นเขาแค่คนเดียวที่โดนดุ สุดท้ายก็เลยโดนน้องป้อนหมูแบบยัดเต็มปากให้



กว่าการสังสรรค์จะสิ้นสุดลงก็ดึกแล้ว พวกเขาช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าไปในครัวแล้วเดี๋ยววันรุ่งขึ้นจะมีพนักงานเข้ามาจัดการทำความสะอาดให้ เช็ดโต๊ะ เก็บของกันเรียบร้อยก็แยกย้ายกันไปนอน สาว ๆ ทั้งสี่คนพักห้องใหญ่ด้วยกัน ส่วนที่เหลือก็แบ่ง ๆ กันไป นอนห้องสามคนบ้าง สี่คนบ้าง ยกเว้นแค่สายน้ำกับหินผา ที่ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ที่เปิดทางให้พักกันสองคนโดยไม่มีใครเข้าไปเป็น ก ข ค ง ในห้องเลย



ตอนที่สายน้ำรู้ว่าต้องพักกับหินผาสองคน ในขณะที่ห้องอื่น ๆ พักกันหลายคนก็ได้แต่นึกแยกเขี้ยวอยู่ในใจ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สายน้ำมั่นใจว่าวันรุ่งขึ้นจะต้องได้รับสายตาล้อเลียนจากทุกคนแน่นอน



“ไปอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวพี่อาบต่อเอง” หินผาหันมาพูดกับคนรักหลังจากที่แยกย้ายกับคนอื่น ๆ เข้ามาในห้องนอนแล้ว



“ครับผม” สายน้ำพยักหน้า หอบเอาผ้าแช็ดตัวแล้วก็ชุดนอนเข้าไปในห้องน้ำ



ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นานเท่าไหร่ก็เดินตัวหอมออกมา หินผาเลยเข้าไปอาบน้ำบ้าง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำก็หันมากำชับกับน้องว่าให้เป่าผมให้แห้ง สายน้ำเอาผ้าไปแขวนตากเอาไว้ หยิบเสื้อคลุมมาสวมอีกตัวแล้วเดินออกมากึ่งนั่งกึ่งนอนที่เก้าอี้ตรงระเบียงห้อง



อากาศเย็น ๆ ในยามค่ำคืน กับท้องฟ้าที่เปิดโล่งจนสามารถมองเห็นดาวที่กำลังส่องประกายระยับระยับได้อย่างชัดเจน แม้จะไม่ได้ใช้กล้องดูดาว เขาชอบที่จะได้นอนมองดาวแบบนี้ ให้มองทุกวันก็ไม่มีเบื่อเลย



“ทำไมไม่นอนเล่นในห้อง ออกมานอนตรงนี้เดี๋ยวก็โดนน้ำค้างจนป่วยไปหรอก” เสียงทุ้มติดดุ ๆ ดังมาจากทางด้านหลังให้สายน้ำเอี้ยวตัวไปมอง ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าหินผากำลังยืนกอดอกมองมาที่เขาอยู่ตรงประตูออกมาที่ระเบียง



“อากาศดีจะตายไปครับ ต่างจากกรุงเทพฯ มากเลย”



“วันนี้เดินทางมาเหนื่อย ๆ แทนที่จะรีบไปนอน ออกมานั่งเล่นดูดาวอีก” แม้จะพูดแบบนั้นแต่หินผาก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวที่วางอยู่ข้างสายน้ำ



“ก็ผมชอบนี่ครับ” สายน้ำหันไปยิ้มให้ “ผมยังเคยคิดเลยนะว่าถ้าผมเรียนจบแล้ว มีงานทำแล้ว ผมจะขอให้แม่กับแด๊ดย้ายมาอยู่เมืองไทยด้วยกัน ผ้าจะสร้างบ้านที่เชียงใหม่ให้ แล้วก็ให้แม่กับแด๊ดมาอยู่ แม่ยังเคยพูดกับผมเลยครับว่าอยากกลับมาอยู่ที่นี่”



“อย่างนั้นเหรอ” หินผาฟังคนน้องเล่าอย่างเพลิดเพลิน



“ครับ แต่ก็นั่นแหละครับ อีกตั้งหลายปี กว่าผมจะเรียนจบ มีงานทำ มีเงินเก็บพอที่จะซื้อที่ สร้างบ้าน อีกตั้งนาน”



“แต่พี่เรียนอีกปีครึ่งก็จบแล้ว”



สายน้ำพยักหน้า “ใช่... พี่หินผาใกล้จะเรียนจบแล้ว ว่าแต่ว่าพี่คิดเอาไว้หรือยังครับว่าจะไปทำงานที่ไหน จะเข้าไปทำงานที่บริษัทพี่ ๆ เขา หรือจะไปทำที่บริษัทอื่นเหรอครับ”



“จริง ๆ แล้วพวกพี่ ๆ เขาก็ชวนให้ไปทำด้วยกันที่บริษัทนั่นแหละ ชวนทั้งพี่ เดียร์แล้วก็ไอ้ทัชเลย” หินผาเล่า “พี่ก็คิดว่าก็ดีเหมือนกัน พี่เองก็ตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วก็จะมาหาซื้อที่ที่เชียงใหม่นี่ สร้างบ้าน เปิดออฟฟิศเล็ก ๆ รับออกแบบ ก่อสร้างอะไรพวกนี้”



“ก็ดีนะครับ ฟังดูดีเลยอ่ะ”



หินผาหัวเราะ “ก็แค่ฟังดูดี ถึงเวลาจริง ๆ พี่จะทำได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”



สายน้ำขยับตัวนั่งดี ๆ หันไปทางหินผา มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจัง “พี่ทำได้ ผมเชื่อแบบนั้นว่าพี่จะสามารถทำอย่างที่พูดได้ครับ”



“ขอบคุณ” หินผายิ้ม เขาเอื้อมมือมาจับมือของสายน้ำเอาไว้ ใช้นิ้วโป้งลูบไปบนหลังมือของสายน้ำเบา ๆ “ถึงตอนนั้น... มาอยู่ด้วยกันนะ”



“เอ๊ะ...”



“ตอนที่พี่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ตอนที่พี่ซื้อที่ สร้างบ้าน ตอนที่พี่จะเปิดบริษัท เรามาอยู่ด้วยกันกับพี่นะ บ้านหลังที่จะสร้างก็จะมีห้องสำรวจแม่แล้วก็แด๊ดของสายน้ำด้วย มีห้องเผื่อพ่อกับแม่ของพี่ แล้วก็ห้องพักแขกด้วย เราทำเป็นแบบโฮมออฟฟิศดีไหม ข้างหน้าเราก็ทำเป็นออฟฟิศ โซนด้านหลังก็เป็นบ้าน ทำสูงหน่อย หลายชั้นจะได้มีฟังก์ชั่นพอ”



“เดี๋ยวนะครับ... พี่ว่า... จะให้ผมมาอยู่ด้วยกันเหรอ”



“ใช่สิ พี่ให้เราเลือกว่าจะออกแบบส่วนออฟฟิศหรือว่าส่วนบ้าน” หินผาเอียงคอมอง “ว่ายังไง”



“เดี๋ยวสิครับ! พวกนี้มันเรื่องใหญ่นะครับ อีกอย่าง... ก็อีกตั้งหลายปีเลย”



หินผายกมือลูบคางตัวเอง พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องพูด “ก็จริงของเรานะ พี่คงจะคิดไกลไปหน่อย อย่างนั้นคิดถึงเรื่องใกล้ ๆ ก่อนก็ได้



“อะไรครับ” สายน้ำทำหน้างง รู้สึกว่าเขาชักจะตามแฟนตัวเองไม่ทันแล้ว



คนที่วางแผนในอนาคตยิ้มกริ่ม ยื่นใบหน้ามาใกล้ “อย่างเช่น... กลับไปกรุงเทพฯ คราวนี้”



“...”



“ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะครับ”



“...!” สายน้ำชะงักเมื่อได้ยินแบบนั้น



“อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ เลยนะ” หินผาบีบมือของสายน้ำเพื่อเรียกสติอีกฝ่าย “ว่ายังไงครับ อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ จนเรามาสร้างบ้านด้วยกันที่นี่เลยนะ”



“ค ครับ ครับ! อยู่ครับ” สายน้ำพยักหน้า พูดเสียงรัวจนหินผาหัวเราะด้วยความเอ็นดู



เขาลุกขึ้นยืนขยับมาใกล้เก้าอี้ของสายน้ำ ดึงคนที่นั่งอยู่ให้เอนมาซบหน้าท้องตัวเอง หินผาลูบผมนุ่มของสายน้ำเล่น ก้มมองคนที่เงยหน้าขึ้นมามองเขา สายตาของสายน้ำยังคงมองมาที่เขา สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก



หินผาโน้มตัวลงจนหน้าผากของเขาจรดลงกับหน้าผากของสายน้ำ เขามองสบเข้าไปในดวงตาคู่นั้นแล้วยิ้มให้ บอกรักผ่านการกระทำด้วยการแนบริมฝีปากลงไป



หินผาที่สายน้ำเคยต้องแหงนมองเพราะอยู่สูง ตอนนี้... หินผาที่สายน้ำเคยคิดว่าไม่มีทางพังทลายลงมา ได้โน้มลงมาแล้ว โน้มตัวลงมาจรดกับสายน้ำที่อยู่ตรงนี้



เมื่อหินผาจรดสายน้ำ เมื่อนั้น... ความรักของเขาก็สมหวัง



… THE END ...





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

พี่หินผา กับ น้องสายน้ำ เดินทางมาถึงตอนจบแล้วค่ะ
เป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่ฟางก็มีความสุขมาก ๆ ในทุกครั้งที่แต่งนิยายเรื่องนี้
นิยายเรื่องนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องในใจของฟางที่ฟางจะนึกถึงบ่อย ๆ
ในชีวิตจริงอาจจะมีคนอย่างน้องน้ำที่หลงรักใครอีกคนมาหลายปี
หลายคนอาจจะไม่ได้โชคดีอย่างน้อยที่ได้คบกับคนที่แอบรัก
แต่หลายคนก็อาจจะโชคดีแบบน้องที่ได้คบกับคนที่แอบรัก
แต่สำหรับฟาง ฟางคิดว่าไม่ว่าคนนั้นจะสมหวังหรือไม่สมหวัง
มันก็มีความหมายมาก ๆ สำหรับคนที่แอบหลงรักค่ะ
ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนจะมองมันว่ายังไงแหละเนอะ

ฟางก็หวังว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องในหลาย ๆ เรื่องที่ทุกคนอ่าน และสามารถกลับมาอ่านซ้ำได้อีกนะคะ ฟางรู้สึกดีใจและขอบคุณทุกครั้งที่มีคนเข้ามาอ่าน และอ่านซ้ำ ฟางขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ
และถ้าในนิยายเรื่องนี้มีอะไรที่ฟางแต่งผิดไป พลาดไป ฟางก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ฟางจะนำคำแนะนำไปปรับปรุง และพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นไปอีกค่ะ

แล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้านะคะ ^^

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-04-2020 23:11:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-04-2020 23:29:29
ขอให้อยู่กับไปนาน ๆ เด้อ เด็ก ๆ  :mc4: :bye2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 09-04-2020 00:03:23
 o13 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-04-2020 01:41:03
หวานมาก  :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-04-2020 07:47:41
พี่หินรวบรัดตัดตอนมาก น้องตามไม่ทันเลย  จบแบบละมุนละม่อมมาก ดีต่อใจจริงๆ   :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 09-04-2020 11:36:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 11-04-2020 10:56:45
น่ารักมาก ๆ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 11-04-2020 20:18:15
น่ารักมาก น่าเอ็นดูมากค่ะ ก็จริงนะคะ ไม่ใช่ทุกคนทุกคู่ที่จะสมหวัง
หินผาสายน้ำคือคู่ที่โชคดีและชะตากำหนดให้มาเจอกันและเป็นคู่กัน

หินผาพอรู้ ความชัดเจน ความใส่ใจ ก็มีหนักมากค่ะ
สายน้ำมีความเด๋อมาก ตอนอยู่กับพี่ ยิ่งตอนโดนแกล้งนะ

ทุกคน ทั้งเพื่อน พี่ และครอบครัว คือดีมากค่ะ เข้าใจ และให้กำลังใจ

ขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายดีๆ น่ารัก อบอุ่น
ทำให้ยิ้มได้เสมอเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณฟางต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 13-04-2020 11:21:33
 :mew1:

จบแล้ว  น่าร้ากกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณฟางนะที่แต่งนิยายน่ารักน่ารักแบบนี้ให้อ่าน
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-04-2020 09:09:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 14-04-2020 18:45:39
น่ารักดีค่ะ
น่ารักทุกเรื่องเลย
ติดตามทุกเรื่อง อิอิ
ชอบมากกกกกก
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 05-05-2020 20:42:09
 :o8: :o8: :L1:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: maedaekoara ที่ 31-07-2020 10:58:50
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 01-08-2020 11:25:04
นุ่มๆ ละมุนๆ น่ารักกกก :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 06-08-2020 21:28:32
น่ารัก รักมากครับ  ชอบแนวนี้ มันมีความสุขที่สุดเลยครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 13-08-2020 08:36:51

รับพี่หินผาและน้องสายน้ำ เข้ามาสู่อ้อมใจอีกคู่หนึ่ง  ซาบซึ้งกับความรักของทั้งคู่

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ละมุนละมัยและดีต่อใจจริงๆ
ขอขอบคุณ นักเขียนฟาง มากๆๆๆ

จากใจนักอ่านอีก 1FC...

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "15" [70%] l P.18 09-12-62
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 14-10-2020 16:00:45




“เอาไว้พี่พามาใหม่ไง พ่อกับแม่ก็บอกอยู่ว่าให้มาหาอีก เอาไว้หยุดยาวครั้งหน้า หรือมีอาทิตย์ไหนว่าง ๆ พี่จะหามาอีก ดีไหม” หินผายกมือวางบนผมของน้องแล้วจับโยกไปมา



“ครับ ดีครับ” สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง “พี่ต้องพาผมมาอีกนะ”



 
ไม่คิดจะไปหาพ่อตัวเองบ้างเลยเหรอ กตัญญูจริงๆ