say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ ครั้งที่ | “12”❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖
[/b]
เสียงคุยดังจอกแจกจอแจไปทั่วตลาดใกล้มหาวิทยาลัย เวลาเย็น ๆ ใกล้ค่ำแบบนี้ตลาดเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ออกมาเดินเล่น จับจ่ายซื้อของ หาของกิน นัดพบปะสังสรรค์ทำให้บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก แต่จุดที่ดูจะคึกคักที่สุดก็คงเป็นลานกว้างด้านข้างซึ่งลานนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนสาธารณะที่มีโต๊ะหินอ่อนวางตั้งเอาไว้ให้คนมานั่งพักได้ บริเวณตรงนี้ถูกจับจองโดยนักศึกษากลุ่มหนึ่ง โดยมีคนหลายคนมุงดูด้วยความสนใจ
ที่กลุ่มนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษส่วนหนึ่งก็เพราะว่านักศึกษาที่มาเดินเล่นอยู่ที่ตลาดรู้จักคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี และอีกส่วนหนึ่งก็เพราะหน้าตาของคนกลุ่มนี้เหมือนกับถูกคัดมาเป็นพิเศษ เพราะแต่ละคนก็ดีกรีเดือน ดาวคณะทั้งนั้น
เดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดกำลังปรับสายกีตาร์โปร่งอยู่กับเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนเดือนคณะนิเทศศาสตร์ก็กำลังตั้งกลองคาฮองให้เรียบร้อย โดยมีเดือนและรองเดือนจากวิทยาลัยดนตรีตั้งไมค์และเครื่องเสียงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเปิดการแสดงเปิดหมวกเพื่อรับบริจาคให้กับโครงการแบ่งปันความสุขให้น้อง ส่วนเดือนคณะอื่น ๆ และดาวมหาวิทยาลัย ดาวคณะก็เตรียมถือกล่องเพื่อรับบริจาค
“สวัสดีครับทุก ๆ คน วันนี้พวกผมตัวแทนจากมหาวิทยาลัยจะมาทำกิจกรรมเปิดหมวกรับบริจาคเพื่อไปมอบให้กับโครงการแบ่งปันความสุขให้น้องนะครับ” เดือนวิทยาลัยดนตรีที่จะทำหน้าที่เป็นนักร้องในวันนี้เริ่มพูดหลังจากที่พวกเขาเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว
“ทุกบาททุกสตางค์พวกผมจะนำแบ่งไปบริจาคแล้วก็ซื้อของเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนให้น้อง ๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการเรียนรู้ให้น้อง ๆ ต่อไปนะครับ”
“สำหรับคนที่ต้องการร่วมบริจาคอุปกรณ์การเรียนสามารถเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ ทุก ๆ บาท ทุก ๆ อย่างที่ร่วมบริจาคเข้ามาจะถูกส่งมอบให้กับน้อง ๆ ทั้งหมดโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับๆ”
“ออ... ลืมแนะนำตัวไป ผมวินครับ จากวิทยาลัยดนตรี ส่วนนี่นักร้องนำอีกคน ไอซ์ ครับผม” เจ้าตัวเริ่มแนะนำสมาชิกในวงทุกคนไล่ไปจนถึงหนุ่ม ๆ และ สาว ๆ ดาวเดือนคณะที่ทำหน้าที่ถือกล่องรับบริจาคอยู่ แต่เว้นสายน้ำเอาไว้ยังไม่ยอมแนะนำ
“ส่วนคนสุดท้ายนี้นะครับ” วินพูดก่อนจะหันไปเรียกสายน้ำที่นั่งจับกีตาร์อยู่ “คุณสายน้ำครับ รบกวนหอบหิ้วกีตาร์มานั่งข้าง ๆ ผมหน่อยครับ”
สายน้ำที่โดนเรียกทำหน้างง ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นเชิงถามว่าหมายถึงเขาเหรอ วินพยักหน้ารับพร้อมกับกวักมือเรียก “มานี่เลยครับ มานั่งข้างหน้านี่เลยเร็ว ๆ”
คนโดนเรียกพยักหน้ารับงง ๆ แต่ก็ยอมหิ้วเก้าอี้หอบกีตาร์เดินมานั่งข้าง ๆ นักร้องนำอย่างว่าง่าย
“และคนสุดท้ายของเรานะครับ สายน้ำเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และที่สำคัญ! เป็นเดือนมหาวิทยาลัยคนล่าสุดด้วยครับ!”
พวกเขาได้ยินเสียงสาว ๆ ที่มุงอยู่ส่งเสียงกันยกใหญ่จนสายน้ำได้แต่ยิ้มเขินพลางก้มหัวทักทายทุกคนรอบ ๆ
“อย่างนั้นเรามาเริ่มกันที่เพลงแรกเลยดีกว่าครับ”
สิ้นประโยคของวินเสียงดนตรีจากกีตาร์ทั้งสองตัวก็ดังขึ้นก่อนที่วินจะเริ่มร้องเพลงออกมา เพลงที่หนึ่งจบไป ตามมาด้วยเพลงที่สอง เพลงที่สาม วินกับไอซ์ผลัดกันร้องคนละเพลงสองเพลง ผู้คนรอบ ๆ ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเพราะด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของสองนักศึกษาวิทยาลัยดนตรีที่เชิญชวนให้ทุกคนมาฟังเพลง
สายน้ำแอบเห็นเพื่อน ๆ ที่ยืนถือกล่องรับบริจาคเปลี่ยนกล่องกันไปคนละกล่องสองกล่องแล้ว พอเห็นแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจไม่ได้
“เอาล่ะครับ... คงจะต้องถึงเวลาจากกันแล้วสำหรับตอนนี้” ไอซ์ที่เปลี่ยนมาร้องเพลงแทนพูดหลังจากที่เพิ่งร้องเพลงจบไป เจ้าตัวเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ สายน้ำที่หันมายิ้มให้ “เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายแล้วนะครับ ซึ่งก่อนที่จะมาฟังเพลงสุดท้ายนี้ผมในฐานะตัวแทนทุก ๆ คนในนี้ก็ขอขอบคุณทุก ๆ คนมานะครับสำหรับการร่วมบริจาค พวกผมจะนำยอดบริจาคนี้ไปส่งมอบความสุขให้กับน้อง ๆ อย่างแน่นอนครับ”
“เรามาฟังเสียงของเดือนมหาวิทยาลัยกันหน่อยดีกว่าครับ รู้สึกยังไงบ้างครับสำหรับกิจกรรมวันนี้” ไอซ์ยื่นไมค์ไปจ่อให้
สายน้ำทำหน้างงก่อนจะหันมองรอบ ๆ แล้วจึงพูดขอบคุณ “ก็... ผมต้องขอบคุณทุก ๆ มากนะครับที่มาร่วมบริจาค ขอบคุณมาก ๆ ครับ”
“โอเคครับ อย่างนั้น... เพลงสุดท้ายสำหรับวันนี้นะครับ... สำหรับคนที่อยากจะจีบใครสักคนแต่ยังไม่กล้าพูดก็ถือซะว่าส่งเพลงนี้ให้คนคนนั้นเพื่อเป็นการบอกนะครับ” ไอซ์พูด “เหมือนกับผมที่อยากจะบอกว่า... จีบเธอนะ นะครับ”
ยืนอยู่ในร้าน ที่เดิม เห็นเธอ ผ่านไป
มันห้ามใจไม่ไหว ต้องการ เข้าไปทักทาย
บังเอิญว่าตัวฉัน นั้นมัน หน้าบาง ขี้อาย
ต้องรวมสมาธิ แล้วมอม หัวใจให้เมา
ดื่มไปอีกแก้วนึง แก้วนึง
ต้องยอมใจตัวเองอีกนานเท่าไร
จะกล้าพูดออกไป ว่าฉัน
จีบเธอนะ ได้ไหม จีบเธอนะ ฉันขอ
จีบเธอนะ ถึงแม้ฉันจะหน้าแดง
จะเป็นไรไหม ถ้าฉัน ขอชน กับเธอ
แค่แก้วก็พอแล้ว ไม่ถึง ต้องให้ใจ ชนกัน
ไม่ได้หวัง ไว้สูง เผื่อใจ เอาไว้แล้ว
แต่อย่างน้อยก็ภูมิใจ ได้พูดออกไปว่าชอบเธอ
[เพลง จีบเธอนะ – สกายคิก เรนเจอร์ (SkyKick Ranger)]
ไอซ์ร้องเพลงไปก็โยกตัวไปมาเบา ๆ ไปตามทำนอง บางจังหวะก็หันไปมองรอบ ๆ บางจังหวะก็หันมามองสายน้ำที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ข้าง ๆ กัน เจ้าตัวส่งยิ้มให้กับสายน้ำเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองพอดี สายน้ำเห็นแบบนั้นก็ส่งยิ้มกลับไปให้ ก่อนที่จะก้มลงสนใจกีตาร์ในมือแทน
เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากที่ไอซ์ร้องเพลงจบ เจ้าตัวพูดขอบคุณอีกสองสามประโยคก็ลุกขึ้น ทุกคนเลยทยอยเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้เรียบร้อยทั้งกล่องรับบริจาค ทั้งเครื่องดนตรี สายน้ำเก็บกีตาร์ของตัวเองเข้ากระเป๋าจนเรียบร้อย เขาหันมองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาเพื่อนแล้วก็ใครบางคนที่บอกว่าถ้าว่างก็จะแวะมาแต่ก็ยังไม่เห็นคนที่ว่าเลย สายน้ำยกมือให้แบงก์กับตั้มเมื่อหันไปเห็นอีกฝ่ายพอดี ทั้งสองคนก็ยกมือตอบกลับมา
“วันนี้ขอบคุณทุก ๆ คนมากเลยนะที่มาช่วยกัน” เสียงของประธานสโมฯ พูดกับเหล่าดาวเดือนทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ “วันนี้แยกย้ายไปพักผ่อนเถอะ ขอบคุณมาก ๆ นะ แล้วเอาไว้พี่จะพาไปเลี้ยงข้าววันหลังนะ วันนี้คงอยากจะพักกันแล้ว”
“สายน้ำ”
สายน้ำที่กำลังหยิบกระเป๋ากีตาร์ขึ้นสะพายหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง “อ้าวไอซ์ ว่ายังไงเหรอ”
“พอดีมีคนอยากจะขอถ่ายรูปเราสองคน มาด้วยกันหน่อยสิ ไม่นานหรอก” ไอซ์ชี้นิ้วไปทางกลุ่มสาว ๆ ด้านหลังที่ถือโทรศัพท์มือถือแล้วมองตรงมาที่เขาทั้งสองคน
“ได้ดิ ๆ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” สายน้ำพยักหน้าให้ก่อนจะเดินตามไอซ์มายังกลุ่มของสาว ๆ
ทั้งคู่ยืนให้สาว ๆ ถ่ายรูปไปหลายสิบรูป ไอซ์ยกมือขึ้นคล้องคอสายน้ำ พวกเขายิ้มกว้างให้กล้องจนสาว ๆ ได้รูปที่พอใจถึงได้พูดขอบคุณแล้วแยกตัวออกมา
“แล้วนี่กลับยังไง” ไอซ์ถามพลางคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย “ไปส่งไหม มีกีตาร์อีกนี่”
“ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวกลับกับเพื่อนน่ะ เพื่อนมารับกลับ”
“อย่างนั้นเหรอ” ไอซ์พยักหน้าก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา “ขอเบอร์กับไลน์หน่อยดิ เอาไว้นัดไปหาอะไรกินกัน”
“อือ ได้ดิ” สายน้ำรับโทรศัพท์ของอีกฝ่ายมากดเบอร์ให้ “แต่อย่าถามหาร้านอร่อย ๆ หรือที่เที่ยวกับเราอ่ะ ไม่มีแนะนำหรอกนะบอกเลย”
“อ่า... เหมือนเคยได้ยินว่าเพิ่งย้ายกลับมาอยู่ไทยสินะ”
“ใช่แล้วล่ะ เพราะงั้นไม่มีอะไรแนะนำหรอกนะ แต่ถ้าจะพาไปกินของอร่อย ๆ ล่ะก็ได้ทุกเมื่อ”
ไอซ์หัวเราะกับคำพูดของสายน้ำ ซึ่งตัวคนพูดเองก็หัวเราะไปด้วย แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อแบงก์กับตั้มก็เดินเข้ามาใกล้ ทั้งสองคนเรียกสายน้ำเจ้าตัวเลยหันมาพยักหน้าให้ก่อนจะหันไปเอ่ยลาคู่สนทนา
“มึงว่ามันจะรู้ตัวไหมว่ากำลังโดนจีบอยู่อ่ะ” แบงก์หันไปถามเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“แล้วมึงว่ามันรู้ตัวไหมล่ะ”
“กูว่ามันไม่รู้” แบงก์ถอนหายใจก่อนจะตอบคำถามของตั้มที่ถามย้อนเขากลับมา
“กูก็ว่ามันไม่รู้เหมือนกัน” ตั้มเห็นด้วย “ตั้งแต่ร้องเพลงให้ กอดคอตอนถ่ายรูป ขอเบอร์ กูว่ามันไม่ได้สะกิดใจอะไรเลยสักอย่างเดียว”
“มึงว่าเราควรบอกพี่หินผาไหมวะ”
“บอกอะไร บอกทำไมวะ” ตั้มทำหน้างง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด
“มึงดูนู้น” แบงก์พยักเพยิบไปอีกทางให้ตั้มหันไปมอง “จ้องตาเขม็งขนาดนั้น มึงว่า... สายตาของรุ่นพี่มองรุ่นน้องเหรอวะ”
ตั้มได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างไม่รู้จะทำยังไง “ลองดูไปอีกสักหน่อยก่อนแล้วกัน ไอ้เพื่อนเราคิดยังไงกับใครเราก็รู้อยู่ แต่ที่ไม่ชัวร์ก็คือคนนั้นของเพื่อนเราเขาคิดอะไรไหม ถ้ามันชัวร์ ๆ ทุกอย่างแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะยืนข้างไหน”
“ก็ถ้ามึงว่าอย่างนั้นอ่ะนะ”
“แล้วนี่คือกูก็ขับรถมารับมันฟรีอีกแล้วใช่ไหม” ตั้มหันมามองหน้า
แบงก์ได้แต่ไหวไหล่เหมือนเป็นการบอกว่าช่วยไม่ได้ “ทำยังไงได้... ไป! เข้าไปหามันก่อนแล้วมันจะกลับกับเราหรือกลับกับพี่หินผาค่อยว่ากันอีกที อย่างน้อยเข้าไปตอนนี้ก็คงพอลดสายตาหงุดหงิดของพี่หินผาได้ละวะ ไปมึง”
“เออ” ตั้มถอนหายใจก่อนจะพากันเดินเข้าไปหาสายน้ำที่ยกมือลาไอซ์ที่เดินแยกไปอีกทาง
“หิว ไปหาอะไรกินกัน” สายน้ำหันมาบอกเพื่อนทั้งสองคน เพราะเขายังไม่ได้กินอะไรเลยหลังจากมื้อเที่ยงตอนนี้เลยรู้สึกหิวสุด ๆ จนท้องเรียกร้องหาอะไรกิน
“หันไปดูนู้นก่อน” แบงก์พยักหน้าไปอีกทางให้สายน้ำหันไปมอง
เจ้าตัวเบิกตากว้างขึ้นตอนที่เห็นหินผายืนอยู่ตรงนั้น คนอายุมากกว่าเดินเข้ามาใกล้เมื่อเห็นว่าข้าง ๆ สายน้ำมีแค่เพื่อนสนิทแค่สองคนเท่านั้น
“สวัสดีครับพี่” แบงก์กับตั้มยกมือไหว้รุ่นพี่ หินผาก็พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มให้เพื่อนของสายน้ำ
“ผมนึกว่าพี่หินผาจะมาไม่ได้เสียอีก ไม่เห็นบอกผมเลยว่าจะมา” สายน้ำมองคนตรงหน้า เมื่อวันก่อนคุยกันอีกฝ่ายยังบอกว่าไม่แน่ใจอยู่เลยว่าจะแวะมาหาได้ไหมเพราะมีงานต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน วันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้บอกอะไร จนสายน้ำคิดว่าอีกฝ่ายคงจะมาไม่ได้แล้ว
“งานเสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ก็เลยแวะมาน่ะ” หินผาตอบคำถามของน้อง ก่อนจะถามรวม ๆ กับทุกคน “แล้วนี่จะไปไหนกันต่อ”
“ผมหิว เลยว่าจะชวนสองคนนี้ไปหาอะไรกินกัน พี่หินผาล่ะครับกินอะไรมาหรือยัง” สายน้ำเป็นฝ่ายตอบคำถามแทนเพื่อน ๆ ทั้งสองคน
“ยังไม่ได้กิน”
“อย่างนั้นไปหาอะไรกินกันครับ” สายน้ำเอ่ยชวนก่อนจะหันไปมองเพื่อนทั้งสองคน “ว่ายังไง ไปป่ะ”
แบงก์กับตั้มหันมองหน้ากันพร้อมกับส่งข้อความถึงกันผ่านทางสายตาสุดท้ายแบงก์ก็เป็นฝ่ายตอบคำถามของสายน้ำ “ไม่ไปดีกว่า มึงไปกับพี่หินผาเลย กูกับตั้มแวะซื้อของกินมาตลอดทางก่อนจะมาดูมึงเล่นดนตรี ยังอิ่มอยู่เลยว่ะ”
“เออ จริง มึงไปกับพี่หินผาเลย เดี๋ยวพวกกูไปเดินเล่นรอ มึงจะกลับก็โทรหากู” ตั้มสนับสนุนความคิดของเพื่อน
“อ้าว...”
“อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งสายน้ำเอง แบงก์กับตั้มจะได้ไม่ต้องอยู่รอ” หินผาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่แบงก์กับตั้มคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องพูดอะไรทำนองนี้แน่นอน
“ไม่รบกวนพี่ใช่ไหมครับ” ตั้มถามกลับ
“ไม่รบกวน เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง” หินผายืนยันคำเดิม
“อย่างนั้นผมฝากมันหน่อยนะพี่ พวกผมไปล่ะครับ สวัสดีครับ” แบงก์กับตั้มยกมือไหว้หินผาแทบจะทันที หันมาตีแขนตีไหล่สายน้ำเป็นเชิงลา “เอาไว้เจอกันมึง”
“อ้าว...” สายน้ำได้แต่ทำหน้างงมองตามเพื่อนไป เพราะรู้สึกว่าตัวเองตามเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด
และท่าทางของสายน้ำคงจะตลกไม่ใช่น้อยเพราะเขาได้ยินเสียงของใครอีกคนหัวเราะขำ “ยืนงงอะไร ไปหาอะไรกินกันดีกว่าไป” หินผาว่าพร้อมกับคว้ากระเป๋ากีตาร์ของสายน้ำขึ้นมาสะพายเองก่อนจะเดินนำออกไป
“พี่หินผาเดี๋ยวผมถือเองครับ” สายน้ำรีบก้าวเท้าตามไปทันที
“ไม่เป็นไร พี่ช่วยถือ” หินผาเบี่ยงตัวหลบมือของสายน้ำที่เอื้อมมาคว้าสายกระเป๋ากีตาร์ “อยากกินอะไร ไปกินสเต็กไหม”
“ก็ได้ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับ แล้วก็ได้แต่เดินตามหินผาไปเรื่อย ๆ
คนอายุมากกว่าเลี้ยวเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ริมถนน เป็นร้านห้องแอร์ขนาดไม่ใหญ่มากขนาดเท่าอาคารพาณิชย์สองห้องเท่านั้น สายน้ำเดินตามคนที่ผลักประตูให้เปิดออกเข้าไปข้างใน มีโต๊ะว่างอยู่ไม่มากนักแต่โชคดีที่มุมร้านมีโต๊ะว่างพอดีให้หินผาเดินนำสายน้ำไปนั่งที่ตรงนั้น
“ขอบคุณครับ” สายน้ำพูดเมื่อรับเมนูมาจากพนักงาน
พวกเขาเลือกเมนูมาคนละอย่างหินผาเลือกเป็นสเต็กไก่ชิ้นใหญ่พร้อมเครื่องเคียงเป็นเฟรนช์ฟราย ส่วนสายน้ำเลือกเป็นสปาเก็ตตี้เส้นดำผัดปลาหมึกไข่กุ้ง แล้วก็สั่งสลัดมาอีกหนึ่งจาน
“ง่วงแล้วเหรอเรา” หินผาถามเมื่อเห็นสายน้ำปิดปากหาว
“ก็... นิดหนึ่งครับ คงเพราะตื่นเต้นมากไป เหมือนใช้พลังงานไปเยอะเลยตอนที่เล่นดนตรีอยู่” สายน้ำพยักหน้ารับ
“กินเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่พาไปส่งที่คอนโด จะได้รีบอาบน้ำนอนพรุ่งนี้มีเวลาพักอีกหนึ่งวัน”
“ครับ ผมจะนอนตื่นสาย ๆ เลยคอยดู” สีหน้าของสายน้ำดูมุ่งมั่นกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก
“พี่เห็นบอกแบบนี้ทีไรก็ตื่นเช้าทุกที”
“นั่นสิครับ ร่างกายผมมันชินแน่ ๆ เลย อยากนอนตื่นสาย ๆ แต่พอหกโมงกว่า ๆ ก็รู้สึกตัวทุกที เหมือนต้องตื่นขึ้นมาก่อนแล้วถึงจะนอนหลับต่อได้”
“ตื่นเช้าจนร่างกายชิน” หินผาพูด “พี่เองก็เป็นนอกจากว่าเหนื่อยมากจริง ๆ แบบทำงานไม่ได้นอนเลยแบบนี้ พอมานอนก็จะหลับสนิทยาว ๆ เลย”
“ตอนนี้ผมก็เหนื่อยมาก ๆ เหมือนกัน” สายน้ำว่าฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แต่ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเดือนมหาวิทยาลัยจะสัมผัสกับโต๊ะก็มีมือของหินผามารองเอาไว้เสียก่อน
เดือนมหาวิทยาลัยเงยหน้าขึ้นก็พบกับสายตาดุ ๆ ของหินผาที่มองมา “โต๊ะมันอาจจะเลอะก็ได้ จะนอนเอาหน้าไปแนบแบบนั้นมันได้ยังไง”
“ผมง่วงนี่ครับ”
“ย้ายมานั่งฝั่งนี้ เร็ว” หินผาว่าพยักหน้าให้สายน้ำย้ายมานั่งข้างตัวเอง ซึ่งพอสายน้ำย้ายฝั่งมาเจ้าตัวก็ถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ออกแล้วพับเป็นหมอนให้อีกคนหนุน “นอนก่อนเดี๋ยวของกินมาแล้วพี่จะเรียก กินเสร็จแล้วกลับกัน”
“คร้าบ...”
หินผาส่ายหน้าแต่บนใบหน้านั้นก็ปรากฏรอยยิ้มเอ็นดูเดือนมหาวิทยาลัยคนนี้ จนต้องยกมือขึ้นยีผมของน้องเล่นอย่างที่ชอบทำ เขานั่งหันหน้าไปทางสายน้ำยกข้อศอกขึ้นตั้งบนโต๊ะแล้วท้าวคางมองคนที่ฟุบหน้าหลับตาอยู่กับเสื้อคลุมของเขา
สายน้ำคงจะเหนื่อยอย่างที่เจ้าตัวว่า เป็นชั่วโมงกับการเล่นดนตรีแบบไม่ได้พัก แถมอากาศก็ร้อนด้วยคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะทำให้สายน้ำล้าแล้วก็เหนื่อยแบบนี้
ถึงแม้ว่าจะเห็นใจที่อีกฝ่ายทำงานมาเหนื่อย ๆ แต่หินผาก็ต้องเรียกคนที่พักสายตาให้ลุกขึ้นมากินอะไรเสียก่อนที่จะปวดท้องแล้วจะกลายเป็นโรคกระเพาะไปเสียก่อน พวกเขาช่วยกันจัดการอาหารที่สั่งมา ดูเหมือนว่ารสชาติจะอร่อยถูกใจ คนที่ทำหน้าง่วงอยู่เมื่อครู่ทำตาเป็นประกายตอนลองชิมสปาเก็ตตี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากคำแล้วคำเล่า ไม่เหลือเค้าเดิมของคนง่วงนอนเลยสักนิด
หลังจากที่ช่วยกันจัดการอาหารที่สั่งมาจนหมดหินผาก็เรียกเก็บเงินก่อนที่พวกเขาจะเดินออกมาจากร้าน บนไหล่ของหินผายังคงมีกระเป๋ากีตาร์ของสายน้ำสะพายเอาไว้อยู่แม้ว่าสายน้ำจะขอกระเป๋าคืนมาหลายรอบแล้วก็ตามที
“ไป กลับกัน” หินผาหันมามองสายน้ำ “รถพี่จอดทางนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ขอบคุณครับ”
ใช้เวลาไม่นานรถคันสวยของหินผาก็เลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโดสายน้ำ หินผาลงจากรถเดินไปหยิบกระเป๋ากีตาร์มาส่งคืนให้กับเจ้าของที่ยืนทำหน้าง่วงอยู่ข้างรถ
“อย่าลืมอาบน้ำก่อนนอนด้วยล่ะ เน่าหมด”
“ฮือ... รู้แล้วครับ” สายน้ำรับกระเป๋ากีตาร์มาสะพายเอาไว้เอง “พี่หินผาขับรถกลับดี ๆ นะครับ ถ้าถึงห้องแล้วส่งข้อความมาบอกผมหน่อยนะครับ”
“อือ”
“ผมอาจจะไม่ได้ตอบกลับเพราะผมคงหลับแล้ว” สายน้ำพูด “แต่ถ้าผมตื่นมาแล้วเห็นข้อความของพี่ผมคงจะสบายใจดี”
“หึหึ รู้แล้ว ถ้าถึงห้องแล้วพี่จะส่งข้อความมาบอกไว้เราจะได้ไม่กังวล” หินผายีผมน้องเล่นอย่างที่ชอบทำ “ไปเถอะ ขึ้นไปพักผ่อนได้แล้ว”
“ครับผม” สายน้ำพยักหน้ารับ “นอนหลับฝันดีนะครับพี่หินผา”
“อือ นอนหลับฝันดีครับน้องน้ำ” หินผายิ้มให้ “แล้วเจอกัน”
“ครับผม”
หินผายืนมองจนกระทั่งสายน้ำเดินหายเข้าไปในล็อบบี้แล้วเขาถึงได้ขึ้นรถแล้วขับกลับมาที่คอนโดของตัวเอง คนตัวสูงก้าวยาว ๆ ไม่กี่ก้าวจากลิฟต์ก็ถึงห้องของตัวเอง หินผาปิดประตูลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมากดข้อความส่งไปหาใครบางคนที่ป่านนี้คงจะนอนหลับสนิทไปแล้ว
HinPaa
พี่ถึงห้องเรียบร้อยแล้ว
นอนหลับฝันดีนะน้องน้ำ
^^
เจ้าตัวยืนมองโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปทางโซนครัวเพื่อรินน้ำดื่ม แต่เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นให้หินผารีบก้าวกลับมาคว้าไปดู
คนที่เขาคิดว่าหลับไปแล้ว... ส่งข้อความตอบกลับมา
SAINAM karp
ดีแล้วครับ
พี่หินผาไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนเถอะครับHinPaa
ทำไมเรายังไม่นอนอีก
พี่คิดว่าหลับไปแล้วเสียอีก
SAINAM karp
ก็พออาบน้ำแล้วก็ตาสว่างขึ้นมาอีกหน่อยครับ
พอตาสว่างก็เลยตั้งใจว่าจะรอข้อความพี่ด้วยHinPaa
พี่ถึงห้องเรียบร้อย ปลอดภัยหายห่วง
เราไปนอนเถอะ
เดี๋ยวพี่ก็จะไปอาบน้ำนอนบ้างแล้วล่ะ
SAINAM karp
ครับผม
อย่างนั้น...
ฝันดีนะครับพี่หินผาHinPaa
ฝันดีครับผม
หินผายิ้มกับข้อความของสายน้ำก่อนจะเปลี่ยนไปเปิดดูรูปภาพที่เขาถ่ายเอาไว้ เลือกรูปไปแต่งสีแต่งโทนอีกหน่อยก่อนจะกดโพสต์ลงไป
HINPAA TARYN – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 1 ภาพ
No words can explain the way I’m missing you.
(Lay Me Down – Sam Smith)
https://youtu.be/HaMq2nn5ac0
❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖
น้องนี่เสน่ห์แรงไม่ใช่เล่นนะเนี่ย
เขาเข้ามาจีบเนี่ยรู้ตัวบ้างไหม???
แต่ก็พบคนขี้หวง 1 อัตราจ้า ตาเขียวเชียว
เหม็นกลิ่นฟามรักมาก ๆ นี่เขายังไม่ได้เป็นแฟนกันนะ
ย้ำกับตัวเองทุกครั้งว่า เขา! ยัง! ไม่! ได้! เป็น! แฟน! กัน!
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า
ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)
#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ