Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Faculty of Love . 2 : เมื่อหินผาจรดสายน้ำ l ครั้งที่ "21" [END] l P.23 07-04-63  (อ่าน 77933 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำเป็นซื่อนะนุ้งน้ำ  พี่เขาก็แค่อยากมีเวลาส่วนตัวจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันไง  อิอิ

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อยากรู้ว่าถ้าน้องถาม ละพี่เค้าจะตอบน้องว่ายังงัย.  :hao3:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เอ้า..โป๊ะแตกละพี่หิน
อยากอยู่กับน้องสองคนอ่ะดิ๊

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อิพี่หินกะจะมอมคนอื่นให้เมาไง​ จะได้อยู่​กับ​น้องสองต่อสอง​  :mew1:
ขออนุญาต​นอกเรื่อง​นิดนึง​ครับ​คุณ​ฟาง
ที่อ่านมาเห็นคุณฟางบอกว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน​ คือแอบติดใจตรงนี้นึดนึง แบบว่าพอลองนับๆดูแล้วคิดว่าเกินสิบเอ็ดคนน่ะครับ​​ เพราะที่ไปเที่ยวเชียงใหม่​ด้วยกันคราวนี้น่าจะมี
1.ใยไหม​ 2.ใบบัว​ 3.ดิว 4.ป่าไม้​ 5.ไข่เจียว​ 6.กันต์​ 7.เดียร์  8.ทัช 9.หินผา​ 10.สาย​นํ้า​ 11.แบงค์​ 12.ตั้ม​ อันนี้​ไม่รู้​ว่าเข้าใจ​ผิด​ไปเองรึเปล่า​ รบกวน​ช่วย​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​   :call:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “13”







❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 100% ❖ ❖ ❖






เป็นเวลาดึกมากแล้ว สภาพแต่ละคนก็เริ่มจะไม่ไหวสองสาวใบบัวใยไหมขอตัวไปก่อนตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว กันต์ก็อุ้มคนรักอย่างเดียร์ไปที่ห้องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แบงก์กับตั้มก็เพิ่งพากันกอดคอเดินกลับห้องไป เมื่อวงสลายพวกที่เหลืออยู่ก็เริ่มเก็บกวาด ดิวกับไข่เจียวช่วยกันหยิบขวดเปล่า กระป๋องเปล่าใส่ถุงดำเตรียมไปทิ้ง สายน้ำก็ยกจานชามไปเก็บล้าง เจ้าของบ้านพักอย่างหินผาแล้วก็ป่าไม้ก็ช่วยกันทำความสะอาดอยู่



“เสร็จตรงนี้ก็ขึ้นไปนอนได้เลยนะน้ำ” ป่าไม้ที่เดินเข้ามาหยิบผ้าในครัวบอกกับสายน้ำที่กำลังเก็บจานชามอยู่



“ครับพี่” หันมารับคำ



สายน้ำหันไปจัดการล้างจานชามต่อจนเสร็จ เขาได้ยินเสียงของดิวกับไข่เจียวคุยกันตอนเดินผ่านห้องครัวไป ทั้งคู่คงพากันขึ้นไปนอนพักแล้ว สายน้ำเช็ดมือจนสะอาดตั้งใจว่าจะกลับห้องบ้าง เขาเดินออกจากครัวพลางมองหารุ่นพี่อีกสองคนว่ายังอยู่ข้างล่างหรือเปล่า ถ้ายังอยู่ก็จะได้บอกว่าเขาจะไปนอนแล้ว



“มึงเดินออกไปซื้อน้ำกับน้องมาเหรอ” เสียงคุ้นหูดังมาจากทางด้านนอกบ้านให้สายน้ำเดินตามไป



คนที่เขาตามหาทั้งคู่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเหล็กดัดข้างนอก แต่เพราะประตูบ้านปิดไม่สนิทจึงทำให้สายน้ำได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันชัดเจน จากตอนแรกที่คิดจะเดินออกไปแล้วส่งเสียงเรียกก็ต้องหยุดชะงักและยืนฟังแทนเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองในบทสนทนาด้วย



“มึงออกไปซื้อมาทำไมวะ เหล้าเบียร์เต็มตู้ไปหมด” ป่าไม้ยังคงเอ่ยถามน้องชายของตัวเองต่อเมื่อคำถามแรกไม่ได้รับคำตอบ และนั่นก็เป็นคำถามที่สายน้ำเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน



“ก็ไม่รู้จะทำอะไร”



“ห๊ะ! ไม่รู้จะทำอะไรเนี่ยนะ”



“อือ” หินผาพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ก็ไม่รู้จะทำอะไรที่จะทำให้อยู่กับสายน้ำสองคน ก็เลยลองเสี่ยงพูดออกไปดูว่าจะออกไปซื้อของ เผื่อน้องจะออกไปด้วยกัน”



“เดี๋ยวนะ” ป่าไม้ยกมือห้ามน้องชาย “ที่มึงเดินออกไปซื้อของมาเนี่ยก็เพื่อที่จะได้อยู่กับน้องน้ำ แค่นั้น”



“ก็แล้วจะให้แค่ไหนล่ะ”



ป่าไม้ส่ายหน้า “บ้าบอสุด ๆ”



ป่าไม้มองหน้าน้องชายตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรแบบนี้ด้วย ข้ออ้างเดินออกไปซื้อของเพื่อหวังว่าน้องจะตอบตกลงเดินไปด้วยกัน “มึงมั่นใจว่าน้องจะไปด้วย”



“ก็ไม่ได้มั่นใจ ก็แค่ลองดูไง ถ้าน้องบอกไม่ไป ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หินผาถอนหายใจออกมา ยกกระป๋องเบียร์ที่ถืออยู่กระดกขึ้นดื่ม



สายน้ำที่ได้ยินก็ได้แต่ยกมือจับแก้มตัวเอง รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวไปหมดเขารู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องส่องกระจกเลยว่าหน้าตัวเองจะต้องแดงมากแน่ ๆ ไหนจะหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอกนี่อีก จะให้สาบานกับอะไรก็ได้... สายน้ำไม่ได้อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลย แต่คำพูดที่ได้ยินทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่า



หินผาเอง... ก็ชอบพอ สนใจเขาอยู่เหมือนกัน



พอคิดว่าหินผาจะชอบตัวเขาอยู่นั้นหัวใจเจ้ากรรมก็ยิ่งเต้นระรัวจนสายน้ำกลัวว่าคนข้างนอกนั่นจะได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้น ทั้งมือทั้งขามันสั่นไปหมด เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลย ต้องสูดหายใจเข้าออกอยู่หลายทีกว่าอัตราการเต้นของหัวใจจะสงบลง กว่าอาการสั่นไปทั้งตัวจะหยุดลง



สายน้ำหันไปมองคนที่เขาแอบรักแอบชอบมาตลอดอีกครั้งก่อนจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ สถานที่ที่อันตรายต่อหัวใจของเขา มือข้างหนึ่งก็คอยเหนี่ยวรั้งไปกับราวจับบันไดตอนเดินขึ้นไปบนชั้นสอง มือที่จับลูกบิดประตูก็สั่นเสียจนไม่สามารถควบคุมได้ ใช้เวลาร่วมนาทีสายน้ำจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องได้



โชคดีที่เพื่อนสนิทของเขาทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว สายน้ำเลยไม่ต้องมานั่งตอบคำถามของอาการตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาที่สะท้อนอยู่บนกระจกในห้องน้ำนั้นแดงก่ำไม่ต่างจากที่สายน้ำคิดเลย ไม่ได้แดงที่หน้าแต่ลามไปถึงใบหู ลำคอ ตาของเขาก็แดงจนคิดว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้แล้ว



ต้องกวักน้ำขึ้นล้างหน้าตัวเองจนเปียกชุ่มไปหมด รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพุ่งตัวไปยังที่นอน ยกผ้านวมขึ้นคลุมโปง สองมือจับเสื้อตัวเองตรงตำแหน่งหัวใจ



“บ้าบอที่สุดสายน้ำ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ห้ามคิด ห้ามคิด ห้ามคิด” ได้แต่สะกดจิตตัวเองแบบนั้น ท่องซ้ำไปซ้ำมาจนสุดท้ายก็เผลอหลับไป



ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุทำให้หัวใจของสายน้ำเต้นแรงก็ยังคงนั่งดื่มอยู่กับพี่ชายอยู่ที่เดิม “แล้วคือยังไง นี่คิดจะจีบน้องจริงจังแล้ว”



หินผาพยักหน้ารับกับคำถามของพี่ชาย “ก็คิดว่าอย่างนั้น”



“ไหนตอนแรกว่าอยากจะค่อยเป็นค่อยไป ทำไมอยู่ ๆ คิดจะจีบจริงจัง ออกตัวแรงแบบนี้หล่ะ” ป่าไม้เองก็พอได้ยินมาจากเพื่อน ๆ ของน้องชายบ้างว่าน้องชายตัวดีของเขาออกตัวแรงมาก มีเวลาว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไปหาน้องน้ำตลอด หรือถ้าไปไม่ได้ก็ต้องโทรหา ต้องส่งข้อความหากันตลอด ทำเสียยิ่งกว่าคนเป็นแฟนกันเขาทำอีก



“มีคนคิดจะจีบน้อง” หินผาตอบ พอนึกถึงแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดในใจ “ก็เลยคิดว่าไม่ควรรอไปนานกว่านี้แล้ว”



“น้องทั้งหน้าตาดี ทั้งน่ารัก คงไม่แปลกจะมีคนเข้ามาจีบ” ป่าไม้ว่า “แล้วคนที่มาจีบน้องเป็นใคร”



“เป็นรองเดือนวิทยาลัยดนตรีละมั้งถ้าจำไม่ผิด” หินผายังจำแววตาของเจ้าหมอนั่นตอนมองน้องน้ำได้เป็นอย่างดี



“เหมือนเคยเห็นเพจลงรูปอยู่ ใช่คนที่เป็นนักร้องนำตอนน้องไปเล่นดนตรีที่ตลาดไหม”



“ใช่ คนนั้นนั่นแหละ” หินผาพยักหน้า “พอเห็นแบบนั้นมันก็หงุดหงิด โมโหไปหมดแต่ทำอะไรไม่ได้ไง ยังไม่มีสิทธิในตัวน้องมากขนาดนั้น ก็เลยคิดว่า... คงจะต้องทำอะไรจริงจังสักที จะได้ไม่มีคนมายุ่งกับน้องอีก”



สายน้ำเป็นคนน่ารัก เป็นคนมีเสน่ห์ ถ้าใครได้พูดคุยด้วยหินผาเชื่อมั่นว่ามากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นคนคนนั้นจะต้องตกหลุมรักน้องน้ำแน่นอน และเขาจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ เขาจะยอมให้คู่แข่งของตัวเองเยอะขึ้นไม่ได้ เขาถึงต้องรีบทำอะไรสักอย่าง



เพื่อให้สถานะระหว่างเขากับสายน้ำชัดเจนมากขึ้น จนไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้สายน้ำอีก



เขาจึงไม่สามารถค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปได้อีกแล้ว...







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

มาอัปแล้วจ้าาาาา
ฮูยยยย เป็นไงล่ะความพี่หินผา แผนการทั้งนั้น พี่หินผานี่ก็ไม่เบานาจา~~
บอกน้องหนีไปตอนนี้ทันไหม??? น่าจะไม่ทันอ่ะเนอะ ใจน้องนี่มีแต่พี่หินผา ๆ
เหลือแค่พี่หินผาเขายังไม่รู้แค่นั้นแหละเนอะ!

แล้วก็... ขอแจ้งเรื่องอัปนิยายนิดหนึ่งค่ะ
ช่วงนี้ฟางอาจจะหายตัวนะคะ เพราะว่างานเยอะมาก ๆ ค่ะ
งานล้มทับ โหลดไปหมดแล้วตอนนี้ แล้วเดี๋ยวช่วงวันที่ 18 – 27 ต.ค. นี้
ฟางมีออกบูธอีกค่ะ ยาวเลย หายจะหายยาวหน่อยนะคะ
แต่ถ้าวันไหนสะดวกแวะมาอัปนิยายได้ฟางจะมาอัปให้ค่ะ
แต่ถ้ารอโล่ง ๆ เลยก็น่าจะปลายเดือนเลยค่ะ
ยังไงก็รอกันก่อนน้า
อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนะคะ เนอะ!

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ



ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12
อิพี่หินกะจะมอมคนอื่นให้เมาไง​ จะได้อยู่​กับ​น้องสองต่อสอง​  :mew1:
ขออนุญาต​นอกเรื่อง​นิดนึง​ครับ​คุณ​ฟาง
ที่อ่านมาเห็นคุณฟางบอกว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน​ คือแอบติดใจตรงนี้นึดนึง แบบว่าพอลองนับๆดูแล้วคิดว่าเกินสิบเอ็ดคนน่ะครับ​​ เพราะที่ไปเที่ยวเชียงใหม่​ด้วยกันคราวนี้น่าจะมี
1.ใยไหม​ 2.ใบบัว​ 3.ดิว 4.ป่าไม้​ 5.ไข่เจียว​ 6.กันต์​ 7.เดียร์  8.ทัช 9.หินผา​ 10.สาย​นํ้า​ 11.แบงค์​ 12.ตั้ม​ อันนี้​ไม่รู้​ว่าเข้าใจ​ผิด​ไปเองรึเปล่า​ รบกวน​ช่วย​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​   :call:


ขอบคุณมากค่ะ ฟางว่าฟางคงนับผิดเองนี่แหละค่ะ 5555 สมาชิกเยอะจัดค่ะ แบ่งแอร์ไทม์ไม่ถูกเลย

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ฟางจะกลับไปแก้ไขจำนวนสมาชิกค่ะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องรู้แล้วว่าพี่เค้าก็น่าจะใจตรงกัน แล้วจะเก็บอาการได้อยู่เหรอ   :laugh:

เอาใจช่วยฟางสู้กับงานนะคะ  :L2: 

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อิพี่หินกะจะมอมคนอื่นให้เมาไง​ จะได้อยู่​กับ​น้องสองต่อสอง​  :mew1:
ขออนุญาต​นอกเรื่อง​นิดนึง​ครับ​คุณ​ฟาง
ที่อ่านมาเห็นคุณฟางบอกว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน​ คือแอบติดใจตรงนี้นึดนึง แบบว่าพอลองนับๆดูแล้วคิดว่าเกินสิบเอ็ดคนน่ะครับ​​ เพราะที่ไปเที่ยวเชียงใหม่​ด้วยกันคราวนี้น่าจะมี
1.ใยไหม​ 2.ใบบัว​ 3.ดิว 4.ป่าไม้​ 5.ไข่เจียว​ 6.กันต์​ 7.เดียร์  8.ทัช 9.หินผา​ 10.สาย​นํ้า​ 11.แบงค์​ 12.ตั้ม​ อันนี้​ไม่รู้​ว่าเข้าใจ​ผิด​ไปเองรึเปล่า​ รบกวน​ช่วย​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​   :call:




ขอบคุณมากค่ะ ฟางว่าฟางคงนับผิดเองนี่แหละค่ะ 5555 สมาชิกเยอะจัดค่ะ แบ่งแอร์ไทม์ไม่ถูกเลย

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ฟางจะกลับไปแก้ไขจำนวนสมาชิกค่ะ

ขาดหนูทัชไปใช่ไหม  :m26:
ทัชเอ่ย หนูไปซ่อนอยู่ส่วนไหนของบ้านจ้า :m12:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เดินหน้าเต็มที่เลยเฮีย​  o13

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
กลัวน้องโดนจีบ เลยต้องเร่งทำคะแนนใช่มั้ย พี่หินผา 555

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ควรจะจริงจังได้แล้ว มีคนรอจีบน้องอยู่ ^^

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ถ้าน้องอยู่ฟังจนจบน่าจะเขินแล้วทรุดตรงนั้นเลย  :heaven

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ถ้าได้บอกรัก สายน้ำคงไหลไปเลย เอ็นดูความเขินของน้อง
ใจสั่น มือสั่น ไปไม่เป็นเลยจ้า นี่แค่ได้ยินว่าอยากอยู่ด้วยกันสองคนนะ

หินผารุกหนัก รุกเนียน น้องก็มีสงสัย แต่ไม่คิดไรมาก
ตอนนี้คงได้รู้กันแล้วว่า สายน้ำก็ไม่ธรรมดานะ ก็คนน่ารักอะเนาะ
ใครเห็นก็รักก็ชอบ ดูแล้วน่าทะนุถนอมออก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
พี่หินจู่โจมแรงมากกกก
รุนแรงต่อใจสุดๆ

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “14”






ผู้ร่วมทริปทั้งสิบเอ็ดคนพร้อมที่จะออกไปเดินเที่ยวเล่นในตัวเมืองหลังจากที่แต่ละคนฟื้นคืนชีพกันเมื่อตอนเกือบ ๆ สิบเอ็ดโมง สองหนุ่มเจ้าถิ่นเป็นคนจัดการโทรสั่งอาหารพื้นเมืองมาให้ทุกคนกินในตอนกลางวัน หลังจากนั่งย่อยกันได้สักพักเดียร์ก็เสนอความคิดเห็นว่าอยากจะไปเดินเที่ยว แล้วเจ้าตัวก็เปิดรูปแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของพวกเขา



พวกเขาทั้งหมดเลยตกลงว่าจะมาเดินเที่ยวกันที่นี่ นั่งรถมาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงจัตุรัสกลางเมืองเชียงใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปได้ไม่นานอย่าง วัน นิมมาน พวกเขาลงจากรถที่เหมาเช่ามาสองคันก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ตรงกลางเป็นลานกว้างสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาคารที่ก่อสร้างก็เป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัย เป็นการผสมผสานระหว่างไทยล้านนา และยุโรป การใช้อิฐดินเผาสีแดง รับกับลักษณะของประตู หน้าต่างที่เป็นทรงโค้ง ซุ้มอาร์ค หรือซุ้มโค้งแบบยุโรป การใช้แพทเทิร์นของหน้าต่าง และการใช้เสาไม้ที่มีค้ำยันแบบไทย ๆ ทุกอย่างผสมผสานกันได้อย่างลงตัว



“เคยมาเที่ยวกันหรือยัง” เดียร์หันไปถามเจ้าถิ่นทั้งสองคนที่ยืนมองรอบ ๆ ด้วยความสนใจ



“ยังไม่เคยมาเหมือนกัน” หินผาเป็นคนตอบคำถามของเพื่อน “แต่เห็นข่าววันเปิดตัวอยู่ พ่อกับแม่ก็ได้มาอยู่”



“ในนี้เขาบอกว่ามีร้านของกิน ร้านขายของเต็มไปหมด แล้วเราจะยังไงดี” เดียร์ที่ก้มหน้าอ่านรีวิวในโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมองทุกคน “เราจะไปด้วยกันหมดนี่เลยไหม”



“แยกกันไหม” ดิวเสนอขึ้นมา “พวกเรามีเยอะมากถ้ายกโขยงไปกันหมดนี่ว่าไม่น่าจะเดินได้ครบ แถมยังต้องมารอกันอีก แยกกันเดินแล้วค่อยนัดมาเจอกันตรงหน้าหอนาฬิกาก็ได้มั้ง คงไม่หลงไปไหนหรอกเดินอยู่ในนี้”



“ก็ดีนะ นี่กับใบบัวจะได้ไปเดินดูโซนเสื้อผ้า เครื่องประดับสบาย ๆ” ใยไหมพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของอดีตเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่จบมาหลายปีแล้ว



“งั้นก็แยกย้ายนะ เจอกันกี่โมงก็นัดอีกทีละกัน โทรไม่ก็ไลน์มาบอก ไปละหนุ่ม ๆ เดินกันดี ๆ นะ” ใบบัวยกมือโบกให้ก่อนจะเดินควงแขนกับใยไหมแยกไป



“พวกเราควรบอกไหมล่ะนั่น” ไข่เจียวส่ายหน้าก่อนจะหันมามองคนอื่น ๆ “ไปมึง”



แล้วไข่เจียวก็เดินไปกับดิว และป่าไม้ ส่วนเดียร์ก็ลากคนรักอย่างกันต์แยกไปเหมือนกัน ตอนนี้เหลือเลยกันอยู่ห้าคน หินผา สายน้ำ ทัช แบงก์และตั้ม สองหนุ่มแบงก์กับตั้มมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองรุ่นพี่อย่างทัชที่ก็มองมาอยู่เหมือนกัน



“ไปเดินเที่ยวกันดีกว่าแบงก์ ตั้ม” ทัชเอ่ยชวนรุ่นน้องทั้งสองคนซึ่งก็พยักหน้ารับทันทีแบบไม่รีรอ “มึงก็ดูน้องด้วยละกัน เดี๋ยวสองคนนี้กูคอยดูเอง ไปละ”



แล้วทั้งสามคนก็เดินแยกไป ตอนนี้เลยเหลือเพียงแค่หินผากับสายน้ำเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน สายน้ำรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีที่เหลืออยู่กันแค่นี้ อยู่ ๆ คำพูดของหินผาที่เขาได้ยินเมื่อคืนก็วิ่งเข้ามาในสมองจนรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนแปลก ๆ



“คือ... ยังไงดีครับเรา...” เอ่ยถามคนพี่ก่อนจะยิ้มแหยออกมา นึกอยากจะเขกหัวเพื่อนทั้งสองคนของตัวเองที่ชิ่งหนีเก่งอย่างกับอะไรดี



“น้ำอยากเดินดูอะไรหรือเปล่า”



“จริง ๆ ก็... ทั้งอยากเดินดูแล้วก็ไม่อยากเดินดูครับ”



หินผาหัวเราะกับคำตอบของน้อง ทวนถามอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ “ว่ายังไงนะ ทั้งอยากเดินดูแล้วก็ไม่อยากเดิน สรุปคือยังไงกันแน่เรา”



“ผมก็อยากเดินไงครับ แต่แบบไม่ต้องเดินจนทั่วก็ได้เพราะก็ขี้เกียจเดินเหมือนกัน อะไรทำนองนี้แหละ” อธิบายประโยคที่ตัวเองพูดออกไป แบบที่คนอธิบายและคนฟังก็ยังงง ๆ กันอยู่ สุดท้ายทั้งคู่ก็หลุดหัวเราะออกมา



“จริง ๆ เลยเรา” หินผายกมือขึ้นกอดคอน้องก่อนจะพาเดิน “อยากนั้นเราไปหาร้านกาแฟนั่งกันดีไหม ระหว่างที่หาร้านเราก็ได้เดินเที่ยวด้วย”



สายน้ำพยักหน้าหงึกหงักกับข้อเสนอของหินผา “ตกลงครับ อย่างนั้นไปกันเลย”



คนน้องพยายามที่จะก้าวขายาว ๆ เพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของหินผาที่เอื้อมมากอดคอเขาเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าสายน้ำจะไม่สามารถหนีไปไหนได้พ้น เพราะว่าไม่ใช่แค่ตัวเองที่ตัวสูงช่วงขายาว แต่คนที่กอดคอเขาอยู่ก็ไม่ต่างกัน สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้หินผาเดินกอดคอเขาไปทั่วจัตุรัสกลางเมืองนี้



“สายน้ำ” หินผาเอ่ยเรียกคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าให้หันมามอง เจ้าตัวอาศัยช่วงเวลาที่อีกฝ่ายหันมากดถ่ายภาพของอีกคนเอาไว้ก่อนจะยักคิ้วให้ “ยืนใหม่ดี ๆ ตรงนี้มุมสวยดีเดี๋ยวพี่ถ่ายรูปให้”



กล้องที่คล้องคออยู่ถูกยกขึ้นมาก่อนที่หินผาจะกดถ่ายรูปของสายน้ำไปหลายรูป ท่าทางของอีกฝ่ายแม้จะยืนเฉย ๆ แต่ก็เหมือนกับว่ากำลังโพสต์ท่าอยู่ ไหนจะองศาการเอียงคอมอง หรือการกางขาออกเล็กน้อยนั่นอีก



“มืออาชีพมาก อย่างกับเคยเป็นนายแบบ” อดพูดชมไม่ได้ตอนที่เปิดรูปดู



“จริง ๆ ก็เคยนะครับ” สายน้ำเดินเข้ามาใกล้เพื่อดูรูปด้วยตอบ “ตอนอยู่ที่นู้นมีคนรู้จักของแด๊ดเขามีแบรนด์เสื้อผ้าผมก็เคยไปเป็นนายแบบให้เขาอยู่ มันเลยเหมือนกับความเคยชินเวลาเห็นกล้องถ่ายอยู่ก็จะโพสต์ถ่ายไป ยกเว้นตอนถ่ายรูปโปรโมทเดือนนะครับ ตอนนั้นผมเกร็ง ๆ เพราะไม่เคยถ่ายรูปทางการเท่าไหร่”



“แบบนี้พี่ก็มีนายแบบส่วนตัวแล้วน่ะสิ”



“ดีใช่ไหมล่ะครับ”



หินผายิ้ม ยกมือยีผมของน้องอย่างมันเขี้ยวกับรอยยิ้มของเจ้าตัว “ดีสิ มีสายน้ำเป็นของตัวเองดีจะตาย”



ลมหายใจของสายน้ำสะดุดเมื่อได้ยินแบบนั้นเจ้าตัวหันซ้ายหันขวาเหมือนต้องการหาตัวช่วย ทั้ง ๆ ที่หูทั้งสองข้างกำลังแดงขึ้น “ผมว่าเราไปลองแวะร้านกาแฟร้านนั้นดีกว่าครับ”



“หึหึ เอาสิ นำไปเลย” หินผาอดขำไม่ได้กับท่าทางของสายน้ำเพราะมันดูน่ารักไปหมดทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายหน้าตาหล่อเหลา แต่การแสดงออกของสายน้ำในสายตาของเขามันดูน่ารัก น่าเอ็ดดู ไม่จากการตอนที่สายน้ำเป็นเด็กเลย



“อย่างนั้นก็ไปกันครับ” ได้โอกาสเจ้าตัวก็รีบเดินไปยังร้านกาแฟที่หมายตาเอาไว้ทันที



ร้านกาแฟขนาดไม่ใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในโครงการดึงดูดสายตาของสายน้ำเป็นอย่างมาก อาจจะเพราะมองจากภายนอกร้านนี้ไม่ได้สว่างสะดุดตาเหมือนกับร้านอื่น ๆ เพราะโทนสีที่ใช้ ส่วนภายในนั้นตกแต่งเป็นสไตล์อินดัสเทรียล ซึ่งเป็นการตกแต่งที่เน้นการโชว์วัสดุ โครงสร้าง ผนังของร้านไม่ได้ฉาบปูนแต่โชว์ให้เห็นอิฐบล็อคและโครงสร้างของอาคาร โทนสีที่ตกแต่งเป็นสีโทนเข้ม ดูสุขุม เท่ ๆ ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทำให้ดูมินิมอล และอบอุ่นขึ้น



ในร้านคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาจจะเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาลแต่ก็ยังพอมีลูกค้านั่งอยู่ พวกเขาทั้งสองคนเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนอเจอร์ของร้านมาคนละเมนู แล้วก็เบเกอรี่มาอีกสองชิ้น



ที่นั่งติดหน้าต่างยังว่างให้พวกเขาไปจับจอง ทั้งคู่ต่างก็หยิบกล้องสลับกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บบรรยากาศภายในร้าน รวมถึงถ่ายออกไปนอกร้านผ่านกระจกด้วย รออยู่ไม่นานเครื่องดื่มทั้งสองแก้วและเบเกอรี่ทั้งสองชิ้นก็ถูกยกมาเสิร์ฟ พวกเขาไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บความสวยงามเอาไว้ด้วย



ใช้เวลาอยู่ในร้านกาแฟครึ่งชั่วโมงกว่าพวกเขาก็ออกไปเดินเล่นในส่วนอื่น ๆ กันต่อ ที่นี่มีทั้งขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฮนด์เมด เดินจนเมื่อยขาไปหมดสุดท้ายก็มาจบที่ร้านชาชื่อดังอีกร้าน ชาหอม ๆ เย็น ๆ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาก หินผาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่ชายของตัวเองก่อนจะนัดแนะสถานที่นัดเจอกับเวลา



“อีกครึ่งชั่วโมง เรานั่งอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้เดี๋ยวค่อยเดินไป” หินผาหันมาบอกกับสายน้ำหลังจากที่วางสายจากป่าไม้แล้ว “ไปเจอกันที่เดิมนั่นแหละ”



“ครับ”



“เราอยากไปเดินดูอะไรอีกไหม”



“ไม่แล้วล่ะครับ เดินจนเมื่อยขาไปหมดแล้วตอนนี้” สายน้ำทำหน้ายุ่งตอนตอบคำถามเรียกรอยยิ้มขำจากหินผาได้เป็นอย่างดี



เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองคนก็ลุกจากร้านชาเพื่อไปรวมกลุ่มกับสมาชิกคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจว่าจะไปหาร้านอาหารกินกันก่อนที่จะกลับเข้าที่พักจะได้ไม่ต้องไปเก็บล้าง คืนนี้ค้างที่นี่อีกหนึ่งคืนและพรุ่งนี้เช้าพวกเขาจะเดินทางไปแม่ริมในช่วงสาย ๆ



ร้านอาหารข้างทางคือตัวเลือกของพวกเขาแทนที่จะเป็นร้านอาหารบรรยากาศดี เพราะตอนนี้พวกเขาหิวเกินกว่าจะไปกินลมชมวิวเสียอีก ขออะไรก็ได้ที่อร่อย ๆ ในปริมาณที่เยอะและรวดเร็ว กับข้าวหลายอย่างถูกสั่งออกมาหลายเมนู มีทั้งอาหารทั่วไป แล้วก็อาหารพื้นเมือง



กับข้าวเป็นสิบอย่างวางอยู่เต็มโต๊ะไปหมด จนคิดว่าไม่น่าจะกินหมดแต่เพราะมีแต่ชายหนุ่มทั้งสิบกว่าคน อาหารสิบอย่างก็หมดไม่มีเหลือ ได้แต่นั่งดูดน้ำลูบท้องตัวเองด้วยความอิ่ม แต่ถึงอย่างนั้นก็เอ่ยสั่งขนมหวานมาอีก กว่าจะจ่ายเงิน เดินไปโบกรถก็แทบจะเดินไม่ไหวเพราะอิ่มมาก



กลับมาถึงที่พักแต่ละคนก็แยกย้ายกันเข้าห้อง สายน้ำกับแบงก์นั่งพิงโซฟาอยู่ในห้องนอนระหว่างรอตั้มเข้าไปอาบน้ำ พวกเขาอิ่มมากจนไม่อยากจะขยับตัวไปไหนเลยด้วยซ้ำ สายน้ำเป็นคนถัดไปที่เข้าไปใช้ห้องน้ำ ไม่นานก็เดินเช็ดผมออกมาในชุดนอน เจ้าตัวเดินไปเก็บกระเป๋า แยกเสื้อผ้าใส่แล้วใส่ถุงก่อนจะเอาใส่ไว้ก้นกระเป๋า หยิบเสื้อผ้าสำหรับที่จะใส่พรุ่งนี้ออกมาเตรียมเอาไว้เลยจะได้ไม่ยุ่งยาก



“ซื้ออะไรมาวะ” ตั้มถามเมื่อเห็นสายน้ำกำลังเก็บถุงที่เจ้าตัวหิ้วมาตั้งแต่ตอนออกจากวันนิมมาน



"พวกน้ำหอมอะไรพวกนี้แหละ ว่าจะส่งไปให้แด๊ดกับแม่ แล้วก็เอาไปให้น้าเดือน แม่ของพี่หินผาด้วย” สายน้ำหยิบออกมาให้ดู



ตั้มเลิกคิ้วขึ้นพยักหน้ารับ “อ๋อ... ซื้อไปให้แม่แฟนว่างั้น เอาใจแม่แฟน”



“ไม่ใช่! ไม่ได้เอาใจแล้วก็ไม่ใช่แฟนด้วย” สายน้ำหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ใกล้ ๆ ปาใส่เพื่อนทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



“เขินว่ะ เขิน มีคนเขินหนึ่งอัตรา” ตั้มหัวเราะชอบใจพลางหลบผ้าขนหนูอีกผืนที่สายน้ำปามา เขาละชอบแกล้งหยอกสายน้ำเพราะเวลาเห็นอีกฝ่ายออกอาการแบบนี้ดูแล้วตลกดี



“หัวเราะไรวะมึง” แบงก์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำถามด้วยความสงสัย เสียงหัวเราะของตั้มดังเข้าไปถึงข้างในเลย



“หัวเราะคนเขินโว้ย” ตั้มพยักหน้าไปทางสายน้ำ “มีคนซื้อของไปเอาใจแม่แฟน”



“อ๋อ...” แบงก์ลากเสียงยาว หันมามองสายน้ำอย่างล้อเลียน



“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง!”



คราวนี้สองเพื่อนซี้พากันประสานเสียงหัวเราะที่แกล้งหยอกสายน้ำให้เขินได้ เลยโดยสายน้ำพุ่งเข้าใส่จนพากันล้มไปบนที่นอนด้วยกันหมดทั้งสามคน แกล้งล็อคแขนล็อคขากันสนุกสนาน



“เล่นอะไรกัน” เสียงเคาะประตูที่ดังมาพร้อมกับคำถามหยุดการเล่นสนุกของเด็กปีหนึ่งทั้งสามคนได้ในทันที พวกเขาหันไปมองทางประตูก่อนจะเห็นหินผายืนกอดอกพิงผนังห้องแล้วมองมาที่พวกเขา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาตอนไหนเพราะไม่ได้ยินเลย



คนมาใหม่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนซี้ทั้งสามคน สายน้ำนอนพาดทับตั้มอยู่บนเตียง โดยมีแบงก์คร่อมทับสายน้ำอีกที หินผารู้สึกไม่พอใจจนอยากจะเดินไปดึงสายน้ำให้ออกมาแต่เพราะทำแบบนั้นไม่ได้เลยได้แต่ยืนขมวดคิ้วอยู่แบบนี้



แบงก์กับตั้มก็ดูเหมือนว่าจะเห็นความผิดปกติของรุ่นพี่คนนี้ เขาสองคนเหลือบมองหน้ากันก่อนจะกวาดสายตามองสภาพของตัวเอง ก่อนจะวกสายตากลับมามองกันอีกรอบแล้วพากันกลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้แล้วว่าสายตาของรุ่นพี่ปีสี่คนนี้คืออะไร



แบงก์รีบกระเด้งตัวออกจากสายน้ำทันที ส่วนตั้มก็ดันสายน้ำที่ทับตัวเขาอยู่ออก เพราะสายน้ำไม่ทันตั้งตัวเจ้าตัวเลยกลิ้งหลุน ๆ จนเกือบตกเตียง ซึ่งหินผาพอเห็นน้องกลิ้งแบบนั้นก็ก้าวยาว ๆ ตรงมาที่เตียงทันที ตอนนี้สายน้ำเลยได้แต่นอนหงายกระพริบตาปริบ ๆ อย่างตามเหตุการณ์ไม่ทัน เจ้าตัวมองหน้าหินผาเหมือนกำลังงงว่าอีกฝ่ายมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเอง ส่วนสองเพื่อนซี้ก็หนีตายพากันเผ่นออกจากห้องพร้อมปิดประตูให้เรียบร้อย



“ทำหน้ามึนอะไรของเรา” หินผามันเขี้ยวเลยจัดการดีดหน้าผากของสายน้ำไปทีจนคนโดนดีดหน้าผากต้องยกมือขึ้นกุมพลางร้องออกมาด้วยความเจ็บ “มึนหัวไหมโดยผลักจนกลิ้งแบบนี้น่ะ”



“ไม่ครับ” สายน้ำส่ายหน้า “แค่งงนิดหน่อย อยู่ ๆ โดนผลักเฉยเลย แหะ”



“มาทำหัวเราะอีก” นึกอยากบีบแก้มของน้องให้หายมันเขี้ยว หินผาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ คนที่ยังนอนหงายอยู่บนเตียง “แล้วนี่เมื่อกี้เล่นอะไรกัน”



“อ่า... ก็แกล้งกันเล่นเฉย ๆ น่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้สองคนนั้นชอบแกล้งผมไม่รู้เป็นอะไร” สายน้ำบอกไม่ได้หรอกว่าต้นเหตุของการเล่นกันเมื่อครู่มาจากการที่แบงก์กับตั้มแซวเขาเรื่องซื้อของไปฝากแม่ของหินผา



“ก็เรามันน่าแกล้งละมั้ง เพื่อนเลยชอบแกล้ง”



สายน้ำทำหน้ายุ่งตอนได้ยินแบบนั้นก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง “ว่าแต่พี่หินผามีอะไรหรือเปล่าครับ”



“เปล่าหรอก แค่ตอนเดินผ่านห้องได้ยินเสียงพวกเราเล่นกันก็เลยเปิดประตูเข้ามาดู เล่นกันเสียงดังจนไม่ได้ยินเสียงพี่เคาะประตูเลย พี่ก็เลยเปิดเข้ามาเลยน่ะ”



“อ่า... พวกผมทำเสียงดังรบกวนใช่ไหมครับ” สายน้ำทำหน้าแหยตอนได้ยินหินผาพูด เพราะพวกเขาก็เล่นกันเสียงดังจริง ๆ “ขอโทษด้วยนะครับ”



“ไม่หรอก ไม่ได้เสียงดังรบกวนอะไรขนาดนั้น” หินผาว่าพลางยกมือขึ้นหยิบเศษด้ายของผ้าที่ติดอยู่บนผมของสายน้ำออกให้ “ด้ายติดผมน่ะ เล่นซนกันเป็นเด็ก ๆ เลยนะ ว่าแต่นี่เราเก็บของเรียบร้อยหรือยัง พรุ่งนี้หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็จะออกเลยนะ”



“ขอบคุณครับ” สายน้ำเอ่ยขอบคุณยกมือขึ้นลูบผมตัวเองว่ายังมีเศษอะไรติดอยู่อีกหรือเปล่าก่อนจะตอบคำถามของหินผาไปด้วย “ผมเก็บของเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราไปกันยังไงเหรอครับ”



“เดี๋ยวที่บ้านพี่จะเอารถตู้มารับพวกเราตอนประมาณสิบโมง ไปถึงที่รีสอร์ทก็สิบเอ็ดโมงกว่า ๆ เอาของเก็บก็ได้เวลากินข้าวพอดี”



“ระหว่างทางไปจะผ่านบ้านเก่าผมกับบ้านพี่หรือเปล่านะ” สายน้ำเองก็จำเส้นทางในจังหวัดไม่ค่อยได้แล้วเหมือนกันเพราะมันนานมาก ๆ แล้ว “ว่าแต่บ้านพี่ยังอยู่ที่เดิมอยู่หรือเปล่าครับ หรือว่าพี่ย้ายไปแม่ริมแล้ว”



“บ้านพี่ย้ายไปแม่ริมแล้ว ตอนนี้ก็เหมือนอยู่กับรีสอร์ทนั่นแหละ บ้านเก่าเราก็ยังอยู่เหมือนเดิมแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนอยู่แล้วนะ ส่วนบ้านพี่ขายทิ้งไปแล้วล่ะ”



“ครับ ถ้าผมจำไม่ผิดพ่อก็เคยบอกว่าพวกญาติ ๆ ก็ย้ายออกกันไปหมดแล้วหลังจากคุณปู่คุณย่าเสีย ผมก็ไม่เคยเจอพวกเขานานมาก ๆ แล้ว ไม่ได้ติดต่อกันด้วยนอกจากพ่อแค่คนเดียว อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับเนี่ย”



“อือ ใช่”



“จากคนคุ้นหน้าคุ้นตากัน เป็นญาติกัน พอเวลาผ่านไปไม่เจอกันเลยก็เหมือนกลายเป็นคนแปลกหน้าไปซะอย่างนั้นเลย”



หินผมไม่ได้ตอบโต้อะไรนอกจากปล่อยให้สายน้ำพูดไปเรื่อย ๆ เพราะเขาชอบที่จะฟังในสิ่งที่สายน้ำพูด ชอบน้ำเสียงทุ้มของเจ้าตัวตอนเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟังไม่หยุด ไม่รู้ว่าไปสรรหาเรื่องคุยมาจากที่ไหนนัก



ที่จริงจะบอกว่าสายน้ำเป็นคนสรรหาเรื่องราวต่าง ๆ มาคุยอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะหินผาเองก็มักจะหาหัวข้อสนทนาต่าง ๆ มาเพื่อใช้คุยกับน้องไปด้วย





❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

กลับมาแล้วค่ะทุกคนนนน ฟางกลับมาแล้ว หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานเลย
ก็... ขอแก้ตัวหน่อย แฮ่...
พอดีหลังจากออกบูธที่ยาวนาน ฟางก็ไม่สบายต่อเลยค่ะ
พอหายดี คอมฯ ก็มาป่วยต่ออีก งอแงมากใช้งานไม่ได้ ทั้งไวรัส ทั้งอะไรต่อมิอะไร
เลยต้องเอาไปทำมาใหม่ แล้วที่โดนไวรัสไปก็คือ... ไฟล์พังหมดเลยทุกสิ่งอย่าง
นี่เลยเพิ่งได้เอาคอมฯ กลับมานี่แหละค่ะ เลยได้ฤกษ์มาอัปสักที
ต้องขอโทษด้วยค่ะที่หายไปนานแบบนี้

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูน้ำ เกือบไม่ได้อ่านหนูแล้ว นึกว่าเป็นตอนเก่า ดีนะว่าลองเข้ามาดูก่อน รอตอนเอาของไปไหว้แม่สามี  :hao3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ๆ :-[

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ





ครั้งที่ | “14”





❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖





รถตู้สองคันแล่นไปตามเส้นทางออกนอกตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทองแทนที่จะเป็นอำเภอแม่ริมอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก แผนสำหรับวันนี้ทุกปรับเปลี่ยนอย่างกะทันหันเมื่อตอนมื้อเช้า เดียร์ที่เปิดเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจึงเสนอขึ้นมา แล้วคนที่ตามใจคนรักเก่งอย่างกันต์ก็ไม่มีขัดพยักหน้าเออออกับคนรักไปเรียบร้อย ยิ่งพอสองสาวใบบัวใยไหมเห็นที่ที่เดียร์เสนอก็สนับสนุนเต็มที่ สุดท้ายรถตู้ทั้งสองคนที่มารับคณะเดินทางชุดนี้ก็มุ่งหน้าสู่จอมทองแทน



การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะใช้เวลาด้วยกันถึงสองชั่วโมงแม้จะรู้สึกว่าใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานแต่ภาพที่เห็นจากเว็บไซต์ที่มีการรีวิวเอาไว้ก็ชวนให้ไปเที่ยวชมจนไม่สนใจระยะเวลาในการเดินทาง



เด็กปีหนึ่งทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนรถตู้คันเดียวกันกับรุ่นพี่ปีสี่ทั้งสามคนและรุ่นพี่ที่จบไปแล้วหนึ่งคนอย่างกันต์กำลังนั่งดูภาพของทุ่มดอกไฮเดรนเยียด้วยความสนอกสนใจ



“เดี๋ยวนี้เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะจังเลยนะครับ” สายน้ำพูดขึ้นมาตอนที่นั่งอ่านบรรดาเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด มันขึ้นมาเยอะมากจนเขาเลือกเปิดไม่ถูกเลย



“แล้วตอนเราอยู่เชียงใหม่อยู่ได้ไปเที่ยวไหนมาบ้างล่ะ” เดียร์ที่นั่งอยู่แถวแรกของรถตู้เอี้ยวตัวมาถามรุ่นน้อง



สายน้ำส่ายหน้าไปมาก่อนตอบ “ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอกครับ ตอนนั้นผมก็ยังเด็ก ๆ อยู่เลย ก็อยู่แต่บ้านผมสลับกับบ้านพี่หินผานั่นแหละครับ”



“เหรอ ตอนเด็ก ๆ สนิทกับหินผามากเลยเหรอ” ทัชถามขึ้นอย่างสนใจ ส่วนหนึ่งก็อยากจะหาเรื่องเอาไปแซวเพื่อนตัวเองที่นั่งเก็กทำเป็นอ่านหนังสือ และทัชมั่นใจว่าในใจตอนนี้ของหินผาคงกำลังลุ้นกับคำตอบของน้องอยู่แน่นอน



"สนิทครับ” สายน้ำพยักหน้าเพิ่มความจริงจังในการตอบคำถาม เจ้าตัวหันไปมองคนที่ถูกพาดพิงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาตอบคำถามของทัชต่อ “พี่หินผาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นคนสำคัญในชีวิตผมเลยล่ะครับ”



ทัชกับเดียร์รีบหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองทันที เจ้าตัวยังทำหน้านิ่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่ก็แอบเห็นว่าใบหูทั้งสองข้างกำลังแดงก่ำ แต่หน้าคนพูดน่ะแดงจนหาสีเดิมไม่เจอแล้วแต่ก็ยังทำเป็นเหมือนว่าตัวเองไม่เขินอะไร



กลายเป็นว่าบนรถคันนี้มีคนเขินอยู่ด้วยกันสองคน แต่ก็ทำเป็นไม่เขินไม่สนใจทั้งสองคน ทั้ง ๆ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขินมาก ๆ



ท่าทางของหินผากับสายน้ำทำให้คนอื่น ๆ ที่มองอยู่ยิ้มขำ สองเพื่อนซี้แบงก์ตั้มก็ส่งสายตาล้อเลียนสายน้ำ เพื่อนซี้ทัชเดียร์เองก็กำลังทำหน้าทำตาแซวหินผาอยู่เหมือนกัน



“แล้วหินผาล่ะ” กันต์ที่นั่งฟังเงียบ ๆ มาตลอดพูดขึ้นบ้าง “กับสายน้ำน่ะ... ตอนนั้นสนิทกันไหม”



สี่หนุ่มแบงก์ ตั้ม ทัช แล้วก็เดียร์ร้องฮู้แบบไม่มีเสียงออกมาพร้อมกัน เดียร์แอบยกนิ้วให้คนรักตัวเองอย่างชอบใจ เห็นนั่งเฉยมาตลอดไม่คิดว่าจะแกล้งคนอื่นเขาด้วย



“หือ...” คนโดนถามหันมามอง ก่อนจะเบนสายตาไปทางน้องน้ำ ชั่วขณะหนึ่งที่สบตากันหินผาก็ยิ้มออกมาจนสายน้ำต้องเบือนหน้าหนีเพราะไม่สามารถทนมองต่อไป “กับสายน้ำ... ก็เป็นคนสำคัญเหมือนกัน”



“อิ๊ว...” สาบานได้ว่าสายน้ำได้ยินเสียงเพื่อนซี้ทั้งสองคนร้องแบบกลั้นเสียง นึกอยากจะหันไปมองตาขุ่นแต่ทำได้แค่ก้มหน้าซ้อนแก้มแดง ๆ ของตัวเองต่อไป ถ้าเขาสามารถหาผ้ามาคลุมหัวตัวเองได้ สายน้ำก็ทำไปแล้ว แต่เพราะทำแบบนั้นไม่ได้เลยได้แต่เบียดตัวเองกับเบาะรถหันหน้าม้วนซุกกับกระจกหน้าต่างรถตู้แทน



นอกจากเสียงร้องของเพื่อนแล้วสายน้ำยังได้ยินเสียงล้อเลียนหินผาของทัชกับเดียร์ แล้วยังได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของกันต์อีกด้วย นั่นยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่าสิ่งที่สายน้ำได้ยินนั้นคือเรื่องจริง และยิ่งทำให้เขารู้สึกเขินอายมากขึ้นไปอีก



ก็ใจมันคิดไม่ซื่อไปแล้ว อะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองจนหมด



แต่โชคดีที่สายน้ำไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้นานนักเพราะรถตู้จอดสนิทบ่งบอกว่าถึงที่หมายแล้ว แม้ว่าที่หมายในตอนนี้จะไม่ใช่ทุ่งดอกไฮเดรนเยียแต่เป็นร้านอาหารสักร้านหนึ่งก็ตาม



เพราะเปลี่ยนแผนกะทันหัน จากที่ตอนแรกจะไปหามื้อกลางวันกินที่รีสอร์ตเลยก็ต้องเปลี่ยนมาหาร้านอาหารกินระหว่างทางไปศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะแทน ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางกันต่อรวดเดียวไปถึงทุ่งดอกไฮเดรนเยียเลย



มื้อกลางวันของพวกเขาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางแต่รสชาติอร่อยจนแต่ละคนต้องสั่งเพิ่มอีกคนละชาม กินจนอิ่มหนำก็ได้เวลาเดินทาง ทั้งสิบสองคนเดินไปขึ้นรถตู้คันที่ตัวเองนั่งมาก่อนที่รถจะแล่นต่อ



อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาทั้งสิบสองคนก็มาถึงที่หมาย ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า สีม่วงต่างพากันเบ่งบานชูช่อกว้างไกลจนสุดสายตา มีลายเส้นภูเขาสีเขียวรับกันได้ดีกับท้องฟ้าสดใส แม้การเดินทางเข้ามาในนี้จะค่อนข้างยากเล็กน้อย แต่พอได้มาเห็นความสวยงามตรงหน้านี้ ความยากลำบากในการเดินทางก็แทบจะไม่มีเหลือ



มีกลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่อีกหลายกลุ่ม แต่ก็ไม่ได้แน่นขนัดจนไม่สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ และดูเหมือนว่ากลุ่มของพวกเขาจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ อาจจะเพราะมันเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกตากับการเห็นชายหนุ่มจำนวนสิบคนมาเที่ยวสวนดอกไม้สีหวานแบบนี้ แม้ว่าในกลุ่มจะมีผู้หญิงมาด้วยสองคนก็ตาม



“เฮ้ย! ๆ ไปเร็วไปถ่ายรูปตรงนั้นกัน” คนที่เบ้ปากตอนรู้ว่าแฟนเพื่อนอยากมาเที่ยวที่นี่เพราะรู้สึกว่าสถานที่มันไม่เหมาะกับคนหล่อ ๆ คลู ๆ อย่างไข่เจียวร้องเรียกเพื่อนให้เดินเข้าไปในทุ่งดอกไฮเดรนเยียเพื่อถ่ายรูป



เจ้าตัวโน้มหน้าลงไปใกล้ช่อดอกสีม่วงฟ้าช่อใหญ่ มือสองข้างทำเป็นตัววีรองคางตัวเองเอาไว้ เอียงคอ ฉีกยิ้มกว้าง ท่าทางสนุกสนานผิดกับตอนแรก



“ไหนคนที่บอกว่าไม่อยากมา มันเป็นที่เที่ยวของผู้หญิง ไม่เหมาะกับคนหล่อ ๆ คลู ๆ” ใบบัวท้าวเอวถาม มองเพื่อนสนิทตัวเองถ่ายรูปดี๊ด๊าอยู่กับทุ่งดอกไฮเดรนเยีย รูปแล้วรูปเล่า แถมยังไปลากรุ่นน้องปีหนึ่งมาเป็นตากล้องให้อีก



“ทำเหมือนกับไม่ชิน” ใยไหมหันมาหัวเราะ ก่อนที่สองสาวจะชวนกันไปถ่ายรูปโดยมีดิวกับทัชตามไปด้วย



ตรงนี้เลยเหลือเพียงแค่หินผา สายน้ำ เดียร์และกันต์สี่คนเท่านั้น พวกเขามองหน้ากันเหมือนเป็นการถามว่าจะอย่างไรกันดี ก่อนที่กันต์จะเป็นฝ่ายตอบคำถามด้วยการคว้ามือคนรักมาจับเอาไว้แล้วพาเดินแยกไปอีกทาง



“เหลือเราสองคนอีกแล้ว” สายน้ำหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน



หินผาหัวเราะกับคำพูดของน้อง “ไปถ่ายรูปเล่นกันเถอะ มาถึงที่นี่ทั้งที”



“ครับ” พยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินตามหินผาไป คนพี่พาน้องเดินเลี่ยงออกมาจากกลุ่มเพื่อนของตัวเอง



ผลัดกันถ่ายรูปให้กันบ้าง ถ่ายเซลฟี่ด้วยกันบ้างจนพอใจก็เดินมานั่งอยู่ตรงบริเวณที่เขาจัดที่นั่งเอาไว้ให้ สายน้ำทอดสายตาไปไกลมองความสวยงามตรงหน้า แต่หินผากับเลือกที่จะวางสายตาไว้ที่คนข้าง ๆ แทนทุ่งดอกไฮเดรนเยียตรงหน้า



“เอ่อ... หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าครับ” สายน้ำถามด้วยความประหม่าเพราะโดนจ้องจนรู้สึกเขินไปหมดแล้ว



“ไม่รู้พี่เคยบอกเราหรือยัง” หินผาส่งยิ้มให้



“เรื่องอะไรเหรอครับ”



“พี่ดีใจที่ได้เจอเราอีก”



“พี่เคยบอกผมแล้ว” สายน้ำเบือนสายตาหนี มองตรงไปข้างหน้าแทนที่จะเป็นใบหน้าของคนที่ขยันทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว “แต่ผมก็อยากฟังอยู่เหมือนเดิม เพราะผมเองก็... ดีใจที่ได้เจอพี่อีกเหมือนกัน”



“จะว่าไปก็เหมือนฝันอยู่หน่อย ๆ นะ”



สายน้ำพยักหน้าเห็นด้วย มันเหมือนฝันมากจริง ๆ ทั้งเรื่องที่เขาได้กลับมาประเทศไทย ได้มาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็คณะเดียวกันกับหินผา ได้กลับมาใกล้ชิดแล้วก็สนิทสนมกับหินผาอีกครั้ง โดยที่อีกฝ่ายรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร มันเหมือนฝันมากจริง ๆ จนบางครั้งสายน้ำก็กลัว...



กลัวว่าถ้าลืมตาขึ้นในวันใดวันหนึ่งจะพบว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่ฝันไป



“มันเหมือนฝันจนบางครั้งพี่ก็ชักไม่แน่ใจ ว่าถ้าเกิดพี่ตื่นขึ้นมาทุกอย่างมันจะเป็นเพียงแค่ความฝันหรือเปล่า”



“มัน... ไม่ใช่ความฝันหรอกครับ”



“ใช่ มันไม่ใช่ความฝันหรอก” หินผาขยับลุกขึ้นยืนหันมามองน้องน้ำของเขาแล้วยื่นมือไปตรงหน้า รอให้อีกฝ่ายยื่นมือมาจับแล้วบีบกระชับเอาไว้ “มันคือความจริงที่สุดแล้วล่ะ”



“ใช่ครับ มันคือความจริงที่สุดเลย”



“ไปเดินเที่ยวกันต่อเถอะ พวกนั้นน่าจะยังถ่ายรูปกันไม่เสร็จหรอก”



“ครับ”



สายน้ำก้าวตามคนอายุมากกว่า เหมือนกับเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นเด็กเขาก็มักจะเดินตามหลังคนคนนี้เสมอ แต่ไม่ใช่การเดินตามหลังที่โดดเดี่ยว เพราะหินผาจะจับมือของเขาเอาไว้ตลอด และเจ้าตัวก็จะบอกว่าให้เขาเดินตามหลัง เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นคนที่จะเจอก่อนก็คือหินผาไม่ใช่สายน้ำ ถ้าหากเจอถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หินผาจะได้คอยบอกน้องแล้วระวังได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สายน้ำมักจะเดินตามหลังหินผา



ได้ก้าวตามคนคนนี้ ได้มองแผ่นหลังของคนที่คอยกุมมือแล้วก็ดูแลเขาตลอด มันเป็นความสุขอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลย



“มึง ๆ ดูนู้นดิ” ไข่เจียวใช้ศอกกระทุ้งแขนเพื่อนสนิทที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของคนที่เดินจูงมือน้องปีหนึ่งอยู่ด้านนู้น “ทำไมบรรยากาศมันมุ้งมิ้งขนาดนั้นวะ”



ป่าไม้หัวเราะเขามองตามน้องรักทั้งสองคนไป มองสองมือที่จับกันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “ทำไมล่ะ”



“น้องชายมึงชอบสายน้ำเหรอ” ไข่เจียวถาม และไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่รอคำตอบ แต่คนอื่น ๆ ก็ขยับมาใกล้ ๆ เพื่อฟังคำตอบด้วยเหมือนกัน



“มึงคิดว่ายังไงล่ะ”



ไข่เจียวทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอกับการโยกโย้ของเพื่อนซี้ “วะ! ก็ถ้ากูมองกูก็ว่าใช่ หรือพวกมึงว่ายังไง”



“ก็คิดว่าใช่อยู่นะ” ดิวเองก็อดที่จะเห็นด้วยกับเพื่อนไม่ได้ “แต่หินผาเป็นคนใจดีอยู่แล้วนี่ อาจจะนึกเอ็นดูอะไรเฉย ๆ หรือเปล่า”



“แต่เพื่อนผมมันชอบพี่หินผานะพี่” แบงก์หลุดพูดออกมาก่อนจะยกมือปิดปากทำตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเผลอพูดอะไรออกไป



“ไม่ทันละมึง” ตั้มส่ายหน้าจนแบงก์ได้แต่ยิ้มแหยออกมา



“งี้ก็ใจตรงกันดิ” เดียร์ทำตาโตตอนได้ยิน “ไอ้หินผาก็ชอบน้อง มันบอกกับผมสองคนแล้วว่าชอบน้อง จะจีบน้องอ่ะ”



“ตายจริง! แล้วแบบนี้เป็นแฟนกันหรือยังเนี่ย” ใบบัวหันกลับไปมองคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาทันที



“แต่เหมือนเป็นแฟนมากเลยนะ”



คราวนี้ทุกสายตาหันมามองเดียร์กับทัชทันที ก่อนจะหันไปมองคนเป็นพี่ชายของหินผาอย่างป่าไม้ที่เอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรสักที



“เออ ก็ตามนั้นแหละ ไอ้หินมันชอบน้องน้ำ ชอบมานานแล้วล่ะเหมือนที่น้องน้ำเองก็ชอบไอ้หินมานานแล้วเหมือนกัน” ป่าไม้พยักหน้าอย่างยอมรับ “แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้คบกัน น้องยังไม่รู้ว่าไอ้หินชอบ มันก็ยังไม่บอก แล้วก็นะ... ไม่ต้องเข้าไปยุ่งด้วยล่ะมึงน่ะไอ้ไข่เจียว ไอ้ตัวดี ปล่อยให้มันจัดการของมันไปเอง”



“แล้วที่สำคัญน้องน้ำเป็นน้องรักกูด้วย อย่าให้กูเห็นหรือรู้ว่ามึงแกล้งอะไรน้องน้ำ หรือทำอะไรให้น้องน้ำไม่สบายใจ กูเล่นมึงแน่” ป่าไม้หันไปพูดกับไข่เจียวอย่างรู้เท่าทันว่าอีกฝ่ายมักจะหาเรื่องแผลง ๆ แกล้งคนอื่นเขาไปทั่ว



“เออ ๆ ไม่แกล้งหรอกน่า กูไม่ได้สนิทกับน้องขนาดนั้น กูรู้หรอกน่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้”



ป่าไม้หัวเราะก่อนจะหันกลับไปมองหินผาแล้วก็สายน้ำอีกรอบ หวังว่าการมาเที่ยวด้วยกันรอบนี้จะทำให้น้องชายเขาสามารถขยับความสัมพันธ์ของตัวเองได้ ถ้าไม่ได้ล่ะก็... เขาจะเรียกมันว่าไอ้กากไปอีกนานเลย



แค่คิดป่าไม้ก็นึกสนุกแล้ว เขาจะคอยจับตาดูเอาไว้ว่าไอ้น้องชายตัวดีของเขาจะทำอะไร ยังไงต่อไป



ทางฝั่งคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ก็ไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้ทุกคนในทริปกำลังให้ความสนใจกับพวกเขาสองคน เพราะสิ่งที่พวกเขาสนใจคือการพูดคุยแล้วก็หัวเราะไปด้วยกัน เรื่องราวสมัยตอนยังเป็นเด็ก ๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาเรื่องแล้วเรื่องเล่า



“ผมจำได้ พี่เคยโดดเรียนรำไทยด้วย” สายน้ำหัวเราะเมื่อนึกไปถึงเรื่องที่กำลังพูดอยู่ “หนีจากห้องเรียนรำไทยไปห้องเรียนดนตรี ห้องอยู่ข้างกันแค่นี้ จะหนีพ่อผมพ้นได้ยังไง”



“ก็ตอนนั้นพี่รู้แค่ว่าไม่อยากเรียนรำนี่ มันไม่เท่เลย เรียนดนตรีไทยยังดูแมน ๆ กว่าอีก” หินผาทำหน้ายุ่งยามแก้ต่างให้ตัวเอง “แล้วจะให้หนีไปไหนได้ล่ะพ่อกับแม่พี่ก็นั่งรออยู่ข้างล่าง มีห้องเดียวที่หลบได้ก็ห้องเรียนดนตรีไทยนั่นแหละ”



“แต่สุดท้ายก็โดนพ่อผมลงโทษอยู่ดี”



“จำไม่ลืมเลย อาจารย์ให้พี่ยืนตั้งวงอยู่แบบนั้นตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง แขนขาสั่นไปหมด หลังจากนั้นก็ไม่กล้าโดดเรียนรำไทยแล้ว”



สายน้ำหัวเราะตามคนพี่ “ตอนนั้นพี่คงไม่อยากเรียนจริง ๆ แล้วการลงโทษก็คงจะโหดมาก ๆ แต่มานึกตอนแล้วก็อดขำไม่ได้นะครับ”



“ใช่ ตอนนั้นน่ะทรมานของจริงเลย แต่พอมานึกย้อนตอนนี้ก็ตลกตัวเองนะ ทำเข้าไปได้ยังไงโดดเรียนทั้งทีดันโดดไปแค่ต่างห้อง อาจารย์จะหาไม่เจอก็แปลกแล้วล่ะ”



“แต่ก็ดีนะครับ ตอนนั้นผมเลยมีเพื่อนทำความสะอาดเลย”



“ก็เพราะพี่เกเรน่ะสิ เลยโดนลงโทษให้อยู่ทำความสะอาดห้องเรียนด้วย”



“แต่พี่หินผาก็เก่งนะครับ ทั้ง ๆ ที่เกเรก็บ่อย แต่ก็ยังรำได้สวยมาก จนได้ขึ้นแสดงบนเวทีโรงเรียนตั้งหลายครั้งเลย” สายน้ำยิ้ม “ผมชอบมาก ๆ เลยตอนได้เห็นพี่รำอยู่บนเวที พี่ดูดีมาก ๆ เลยครับ”



“เราก็เหมือนกันนั่นแหละ” หินผาเอื้อมมือไปยีผมน้องเล่นอย่างที่ชอบทำ “แต่ก็น่าเสียดายเนอะ ถ้าน้ำไม่ต้องย้ายบ้านไปกรุงเทพฯ วันนี้เราคงมีเรื่องคุยกันเยอะกว่านี้อีก”



“พี่เล่าเรื่องตอนที่ผมไม่อยู่ก็ได้ ผมอยากฟัง ผมอยากรู้ว่าตอนที่ผมไม่อยู่พี่ทำอะไรบ้าง”



“ผลัดกันเล่าสิ พี่ก็อยากรู้เรื่องของเราเหมือนกัน ทุก ๆ เรื่องเลย” หินผายกมือขึ้นกอดรอบคอของน้อง “โตขึ้นมาหล่อขนาดนี้มีสาว ๆ มาจีบเยอะแค่ไหนกันหึ”



“ฮือ... ไม่มีสักหน่อย” ส่ายหน้าสะบัดหน้าไปมา



“ไม่อยากจะเชื่อ”



“จริง ๆ นะ ไม่มีจริง ๆ เถอะ” แต่ถึงมีสายน้ำก็ไม่เคยคิดจะสนใจอยู่แล้ว เพราะความสนใจของเขาน่ะอยู่ที่หินผามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว



“โอเค ๆ เชื่อแล้วครับ เชื่อแล้ว”



“ผมมีเรื่องสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง” สายน้ำก้าวนำไปด้านหน้าก่อนจะหันกลับมาหา “ทำไมอยู่ ๆ พี่ถึงได้มาเรียนรำไทย เรียนดนตรีล่ะครับ ตอนนั้นผมจำได้พี่บอกว่าจะไปลงเรียนฟุตบอล เรียนว่ายน้ำนี่”



หินผาเลิกคิ้วขึ้นมองยามเมื่อได้ยินคำถามนั้นแต่ยังไม่ยอมตอบคำถามสักที แถมยังเดินเลี่ยงอีก สายน้ำรีบก้าวไปขวางหน้าเอาไว้ “ทำไมเลี่ยงไม่ตอบผมล่ะ”



“ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา”



สายน้ำขมวดคิ้วพลางมองคนตรงหน้า ขาทั้งสองข้างก็ก้าวถอยหลังเรื่อย ๆ เพื่อจ้อง “เดินดี ๆ เดี๋ยวล้มหรอกน้ำ”



“พี่ก็ตอบคำถามผมสิ ทำไมตอนนั้นถึงได้เลือกมาเรียนรำ... เหวอ!”



“ระวัง!!” หินผาร้องออกมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน มือทั้งสองข้างรีบเอื้อมไปคว้าคนที่เดินถอยหลังไม่ทันระวังจนสะดุดเกือบหงายหลังล้ม



สายน้ำถอนหายใจอย่างโล่งอกตอนที่เขาสะดุดจะล้มใจหายไปหมดแต่เมื่อสัมผัสได้ว่าตัวเองยังยืนอยู่ก็หายใจโล่งขึ้น เมื่อสติกลับมาแล้วเขาถึงได้เริ่มสำรวจตัวเองแล้วก็ได้รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในอ้อมแขนของหินผา เพราะส่วนสูงที่ต่างกันไม่มาเพียงแค่เหลือบตาขึ้นก็เจอกับใบหน้าของหินผาอย่างชัดเจน ใกล้กันมาเสียจนปลายจมูกชนกัน เอวของเขาก็โดนหินผากอดเอาไว้ คงจะเป็นตอนที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาช่วยจับแล้วรั้งเขาไม่ให้ล้มลง



“เป็นอะไร... ไหม” หินผาที่มีแต่ความเป็นห่วงชะงักคำถามไปเมื่อเห็นใบหน้าของน้องน้ำใกล้ ๆ แบบนี้



“ม ไม่เป็นอะไรครับ” สายน้ำหลุบสายตาลงพร้อมตอบเสียงเบา แต่เพราะอยู่ใกล้กันขนาดนี้หินผาจึงได้ยินอย่างชัดเจน “ข ขอโทษนะครับ...”



“ขอโทษพี่เรื่องอะไร”



“เอ่อ... ก็... ที่ผมไม่ทันระวัง”



“ไม่เป็นอะไร เราไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วล่ะ” หินผาค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากเอวของน้อง ยอมรับว่าเสียดาย...



เสียดายที่เวลาสำหรับการสำรวจใบหน้าของน้องใกล้ ๆ หมดลง



เสียดายที่มือของเขาที่โอบรอบเอวน้องเอาไว้หมดลง



เสียดาย... ที่ในเวลานี้เขาต้องปล่อยตัวน้องออกจากอ้อมแขน ทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะกอดน้องเอาไว้แบบนั้นต่อ



เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคน สายน้ำเริ่มรู้สึกลนลานจนต้องหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาตัวช่วย เขาเห็นเพื่อนตัวเองเดินอยู่ไม่ไกล “ผ ผมว่าเรากลับไปรวมกับคนอื่น ๆ เถอะครับ”



“อือ” หินผาพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยเรียกสายน้ำเอาไว้ตอนที่น้องหันหลังเดิน “สายน้ำ”



“ค ครับ อะไรเหรอครับ”



“เพราะเรานะ”



“ครับ” สายน้ำทำหน้างงเมื่อได้ยินที่หินผาพูด



“เหตุผลที่พี่เลือกเรียนรำไทยเมื่อตอนนั้นน่ะ เป็นเพราะเรา พี่ถึงได้เลือกเรียน” หินผาบอกพลางมองสบตากับน้อง “เพราะพี่อยากอยู่กับเรา พี่ถึงได้ขอพ่อกับแม่ไปเรียนรำไทยแทนที่จะไปเรียนว่ายน้ำ นั่นเป็นเพราะเรานะ”



สายน้ำหน้าตาแดงก่ำ เขารู้สึกเขินอายกับคำตอบของหินผาทั้ง ๆ ที่จริงแล้วมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ ตอนนั้นพวกเขายังเด็กมาก เจอกัน สนิทกันก็คงอยากอยู่อยากเล่นด้วยกันตามประสาเด็ก ๆ แต่เพราะสายตาของหินผาที่มองมามันทำให้สายน้ำไม่เป็นตัวของตัวเอง



จนเผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปอีกครั้ง...



“ผม ผมว่าเรารีบไปเถอะครับ”



“ตอนนั้น... พี่อาจจะอยากลงเรียนกับเราเพราะอยากเล่นกับเราก็ได้ แต่ตอนนี้... พี่รู้แล้วว่าจริง ๆ แล้วมันเพราะอะไร เพราะพี่อยากอยู่ใกล้เรา อยากอยู่กับเราถึงได้ยอมทิ้งสิ่งที่อยากเรียนมาตลอดเพื่อให้ได้อยู่กับเรามากขึ้น” หินผามองตามคนที่วิ่งหนีเขาไปไกลแล้ว



แม้ในตอนนี้สายน้ำจะยังไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดตอนนี้ แต่สักวัน... เขาจะบอกน้องอีกครั้งถึงเหตุผลทุก ๆ อย่างที่เขาทำ



เพราะว่ารัก... เพราะแค่คำนี้คำเดียวเท่านั้น






❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

เป็นแฟนกันเลยเถอะค่ะจะได้ไม่เป็นภาระของคนเขียน ฮาาาา
บอกว่าคบกันแล้วก็เชื่ออะกับคู่นี้
อะไรจะละมุน หวานเวอร์ขนาดนี้
เหม็นฟามรักไปทั้งทุ่งดอกไฮเดรนเยียเลยจ้าาาาา

แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า

ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)

#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ


ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :-[ :-[เคยไปมาแล้ว สวยมาก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แก่แดดแก่ลมนะเนี่ย  รักกันตั้งแต่...ยังไม่ขึ้น...ยังไม่แตกพาน อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด