ตอนที่ 14
ผมปวดหัวตุบๆ ที่นอนกำลังหมุนเป็นวง พะอืดพะอมเหมือนอะไรที่กินเข้าไปก่อนหน้านี้มันเอ่อขึ้นมาประชิดคอหอยอยู่รอมร่อซึ่งพยายามกลืนมันลงไปแล้วแต่ไม่ได้จริงๆ ครับ นาทีนี้นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาจับใจเพราะแค่จะลุกขึ้นนั่งก็ยังลำบาก นับประสาอะไรกับการจะไปอ้วกในห้องน้ำ เห็นถุงพลาสติกใส่ขนมวางอยู่ข้างๆ เตียงก็เลยคว้ามาครอบปากจากนั้นก็ปล่อยเต็มที่เลยครับ ไม่ทันได้เทขนมข้างในออกด้วยซ้ำ จมน้ำอ้วกรสข้าวกระเพราปูของผมไปเรียบร้อยละ
อ้วกสองรอบจนแสบคอเจ็บกระเพาะแต่ก็สบายตัวขึ้นมานิดนึงแล้วก็อยากดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้ว
“มึงหยิบน้ำในตู้เย็นให้หน่อยดิ กูลุกไม่ไหวอ่ะ” ผมเอื้อมมือไปแตะคนที่นอนข้างๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นพี่เอ็มหรือว่าต้าร์ แต่พอเห็นคนที่ผงกหัวขึ้นมาดูไม่ใช่พวกมันทั้งสองคน ผมก็งงซ้อนมึน
ฝันอีกแล้วเหรอ...
ใช่แล้วครับ ผมเห็นเป็นหน้าของพี่วินทั้งตอนที่อยู่บนเตียงแล้วก็ตอนที่กลับมาพร้อมกับแก้วน้ำ
ดื่มเสร็จผมก็ไม่สนใจอะไรอีก นอนต่อ ไม่ได้เอ่ยขอบอกขอบใจด้วยนะ เพลียมากจริงๆ
“เรียกชื่อพี่สิ”
“พี่วินครับ…”
พี่วินดึงผมเข้าไปกอดแล้วกดริมฝีปากลงบนหน้าผากของผม...
อะไรวะ นี่ผมยังไม่เลิกฝันถึงพี่วินอีกเหรอ จะตามหลอกหลอนกันไปถึงไหน
“อยากได้อะไร” พี่วินยื่นหน้ามาถาม
“เปล่า”
ถ้าเป็นฝันเรื่องเดิม เดี๋ยวผมต้องโดนพี่วินจูบแหง คิดแล้วสยิว (สภาพสังขารแบบนี้ยังจะมีอารมณ์หื่นได้อีกนะ)
ผมเอื้อมนิ้วไปไล้ไรเคราสากๆ ของพี่วินเล่นแต่ก็โดนจับมือออก
“หว่านไปทั่ว เมื่อคืนเห็นนัวเนียกับแฟนเก่า” พี่วินว่า “พี่ไม่หลงกลหรอกนะ”
“พูดถึงเขาทำไม ป่านนี้คงเอากับคนอื่นสบายตัวไปละ” ผมเขยิบตัวเข้าไปหา แต่เอ๊ะ...ทำไมเหมือนจริง พี่วินตรงหน้าก็ดูเป็นพี่วินตัวจริง ไม่ใช่พี่วินเวอร์ชั่นมีดรายไอซ์ในฝัน “ขอจับหน่อย”
พี่วินยังไม่ยอมให้ผมสัมผัสใบหน้า แต่ผมมีมืออีกข้างนึงนี่ครับแล้วมันก็ไวกว่าการปัดป้องของคนที่กำลังหวงเนื้อหวงตัวผิดจากเคย ฝ่ามือของผมก็เลยคว้าหมับลงด้านล่างแล้วก็คลำคลึงผ่านกางเกงขาสั้นซึ่งมีเนื้อผ้าบางดีจริงๆ ตาสบตาแน่นิ่งในห้วงเวลาที่คล้ายจะหยุดเดินชั่วขณะ จนกระทั่งรูปร่างของสิ่งที่อยู่ในกำมือเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง...
“เฮ้ย! ของจริง!” ผมผวาตัวออกคล้ายหลุดจากภวังค์ฝัน ซึ่งที่จริงน่าจะเรียกว่าหลุดจากการเข้าใจผิดคิดว่าเมื่อกี้เป็นความฝันมากกว่า
พี่วินดีดตัวเองขึ้นมาคร่อมทับผมได้อย่างว่องไวก่อนที่ผมหมิ่นเหม่จะร่วงจากขอบเตียง
“ปลุกพี่แล้วจะตกใจทำไม” พี่วินก้มหน้าลงมาจนผมได้กลิ่นลมหายใจ
“ก็นึกว่าเป็นความฝัน” ผมหลับตาปี๋ ทั้งอายทั้งวางหน้าไม่ถูก เพราะนอกจากใบหน้าที่โน้มต่ำลงมาเรื่อยๆ แล้วนั้น ตรงเหนือเข็มขัดของผมก็ยังถูกดุนด้วยของแข็งที่ผมเป็นคนปลุกมันขึ้นมาเองกับมือแท้ๆ อยู่ด้วยน่ะสิ
“ไม่อยากทำกับพี่เหรอ” พี่วินถามเหมือนแกล้งลองใจ “หรือว่าอยากให้เป็นไอ้ป๊อป”
ได้ยินชื่อพี่ป๊อป ผมเหมือนโดนจี้ที่ใจ อารมณ์หงุดหงิดก็เลยทะยานขึ้นมา
ไม่รู้สิครับ ผมคิดแค่ว่าในเมื่อพี่ป๊อปไม่ไว้หน้าผม ผมก็ไม่เห็นต้องแคร์เลย อารมณ์ประมาณว่ามึงทำได้กูก็ทำได้เหมือนกันล่ะวะ นึกประชดถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นอะไรกันก็เถอะ
ผมลืมตาขึ้น นัยน์ตาเหมือนคนถูกท้าทาย
“เหนืออยากทำกับพี่วินครับ”
พี่วินผงะออก คงตกใจที่จู่ๆ ผมก็เปลี่ยนปุบปับ แต่ผมไม่ยอมปล่อยให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นห่างออกไปได้หรอกครับ ผมยกมือขึ้นโอบคอพี่วินแล้วก็กดลงมาจูบเลย
เหมือนจะเคลิ้มเนาะ แต่พอผมจูบจนสาแก่ใจแล้วถอนปากออกมาก็เห็นสีหน้าเหยเกของพี่วินก่อนที่เขาจะดันตัวเองลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผมรู้ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองในเวลาอันสั้นโดยไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ
ปากผมมีกลิ่นอ้วก แล้วกระเพราปูที่ยังหลงเหลืออยู่ในกระเพาะก็เอ่อขึ้นมาถึงคอหอยอีกรอบแล้วครับ
โอ๊ยยยยยยยย โคตรอายยยยย
หลังจากอ้วกรอบสามผมก็ฝืนตัวเองลุกไปแปรงฟันให้ได้เป็นอย่างแรกเลยครับ
“พี่วินมาได้ไงครับ” ผมเอาหมอนขึ้นมาปิดครึ่งหน้าแล้วถามเสียงอ้อมแอ้ม
“พี่ก็มาเที่ยวบ้างไม่ได้เหรอ” พี่วินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ไม่บอกก็ตามใจแต่ผมไม่เชื่อหรอกครับว่านี่คือความบังเอิญ
เสียงเคาะที่หน้าประตูดังขึ้นก่อนที่พี่เอ็มกับต้าร์จะเปิดประตูแล้วยื่นหน้าเข้ามา
“ทำไมพวกมึงไม่กลับห้อง” ผมแว้ดใส่ก่อนเลยครับ
“อีดอก คนนึงเมาแล้วติสต์อยากจะนอนดูดาวบนหาดจนพระอาทิตย์ขึ้น อีกคนก็เมาแล้วแกว่งหน้าไปหาตีนชาวบ้าน” พี่เอ็มทำหน้าหน่ายโลก “ดีนะที่เจอพี่วิน ไม่งั้นกูคงเลือกไม่ถูกว่าจะปล่อยให้อีต้าร์โดนคลื่นลากลงไปกอดปะการังหรือปล่อยให้มึงตายคาตีนในผับดี”
“ไม่พามันมานอนดูดาวด้วยกันล่ะ” ต้าร์เดินมาจะนั่งลงบนเตียง
“อย่าขึ้นมา ตัวมีแต่ทราย” ผมแหวใส่อีตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องมานอนกับพี่วินสองต่อสอง
พี่วินคงเห็นว่าพวกเราจะกัดกันอีกหลายยกแล้วต้าร์กับพี่เอ็มก็คงกลับมาเพื่อนอนพักสบายๆ พี่วินก็เลยลุกจากเตียงแล้วขอตัวกลับ
“ไปกินข้าวเช้าด้วยกันก่อยมั้ยครับพี่” พี่เอ็มเอ่ยปาก
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวพี่ซื้อนมกล่องแถวนี้แล้วก็คงนอนต่ออีกสักงีบ” พูดแล้วก็ชำเลืองมามองผมด้วยสายตาและสีหน้าอย่างคนนอนไม่เต็มอิ่ม “ไปละ”
คือผมก็เพิ่งสังเกตตอนนี้แหละ แบบนี้หมายความว่ายังไงอ่ะครับ เมื่อคืนไม่ได้นอนไรงี้เหรอ เฝ้าผมทั้งคืนงี้เหรอ อย่ามาเว่อร์
จนพี่วินเดินออกไปแล้วผมก็ยังไม่ได้พูดขอบคุณสักคำ...
“เล่ามาค่ะ กี่รอบ” ต้าร์ทำตาสอดรู้สอดเห็น
“สาม” ผมบอก
“อีร่านนนน อิจฉา”
“นั่นไง สามน้ำสามรอบ” ผมชี้ไปที่ถุงอ้วกที่ยังไม่ได้เอาออกไปทิ้งนอกห้อง “เอาไปทิ้งถังขยะข้างนอกให้ด้วย เหม็น”
“อ้วกตัวเองก็เอาไปทิ้งเองสิ” ต้าร์ทำหน้าพะอืดพะอมพลางยกมือขึ้นปัดกลิ่น
“ช่วยดูสภาพกูด้วย นอนอ่อนแรงเหมือนหมาไม่มีคนให้ข้าวแดกแบบนี้จะเอาแรงที่ไหนเดินเหิน” ผมเท้าสะเอว “รอกูเอาไปทิ้งเองพวกมึงก็ทนเหม็นเอาละกัน”
“อีดอก กูก็เป็นคนเมาม้ะ” ต้าร์ย้อน ก่อนจะตวัดสายตาไปทางพี่เอ็ม “มึงไม่เมา”
“อีชั่ววววววว อีสารเลววววว!” พี่เอ็มเอ็ดตะโรแต่ก็ดึงกระดาษทิชชู่ออกมาฟ่อนใหญ่แล้วพันกับหูหิ้วถุงอ้วกที่ยังเห็นข้าวเป็นเม็ดๆ ลอยล่องเหมือนเทหวัตถุในอวกาศ จากนั้นก็ใช้สองนิ้วจีบหูหิ้วเดินฮึดฮัดออกไปข้างนอก
“ถามจริง เมื่อคืนมึงกับพี่วินไม่ได้เอากันจริงเหรอ” ต้าร์ยังคาใจ
“สภาพกูเหมือนศพขนาดนี้ ใครมันจะมีอารมณ์วะ” ผมว่าพลางก็นึกถึงตอนที่เกือบจะมีอะไรกัน...ถ้าไม่เพราะรสจูบที่แสนจะน่าอาย
“แหม เวลาคนมันเลี่ยนงุ่นมันก็ทำได้ทุกที่ทุกท่าทุกตอนนั่นแหละ ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่านั่นผัวคนอื่นกูก็จะเอา ไม่ว่าจะบนต้นไม้ใต้น้ำในป่าช้ามันเอาได้ทั้งนั้นแหละ”
“นี่มึงด่ากูอยู่ใช่ป่ะ” ผมอดสงสัยไม่ได้
“ภาพรวมจากละครหลายๆ เรื่องค่ะ” แต่มันยิ้มมุมปากใส่ผมอย่างสะใจก่อนจะข้ามไปอีกเรื่อง “แล้วไอ้พี่วินนี่มาได้ไงอ่ะ มึงเมาแล้วโทรตามเหมือนตอนพี่กรเหรอ”
“อีบ้า เขาก็มาของเขาป้ะ มาได้ไงกูยังไม่รู้เลย คนที่น่าจะรู้ดีสุดคืออีคนนั้น”
พี่เอ็มกลับเข้ามาพอดีครับ แล้วก็คงจะทันได้ยินด้วย
“กูไม่รู้เรื่อง ตอนแบกอีต้าร์กลับห้อง ผ่านหน้าผับก็เจอพี่วินกำลังรับตีนให้มึงอยู่พอดี พอกูปล่อยอีต้าร์เพื่อเข้าไปช่วยพี่วินอีกแรง อีตัวดีนี่ก็วิ่งแจ้นกลับไปนอนดูดาวที่เดิม กูละเพลีย” พี่เอ็มมองบน “ถ้าหายไปกับผู้ชายกูจะไม่ห่วงเลย”
“ที่มึงหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้คือมึงอดจ่ายตลาดว่างั้น” ต้าร์กลั้นขำ
“ช่างเถอะ” พี่เอ็มโบกมือ “พี่ป๊อปบังเอิญมาเจอส่วนพี่วินกูว่าคงไม่บังเอิญหรอกมั้ง”
ผมหน้าร้อนซู่ขึ้นมาซะอย่างนั้นอ่ะ
“ถ้าพี่กรมาอีกคนคงสนุกน่าดู” พวกมันหัวเราะคิกคัก ส่วนผมกลืนน้ำลายฝืดเลยครับ ใครจะรู้ว่าถ้าเกิดพี่กรกับพี่วินมายืนคู่กันแล้วรอให้ผมเลือกขึ้นมาจริงๆ ผมคงเลือกไม่ถูกแน่ๆ
แต่เอ๊ะ ผมเคยเลือกที่จะตัดพี่วินออกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ แหะๆ สับปลับจริงๆ เนาะ
สรุปคืนแรกของพวกเราเละไม่เป็นชิ้นดีเลยครับ กฎเหล็กก็พังระเนระนาด อีพวกที่ไม่กลับห้องดันไม่ได้ผู้ชายแต่คนที่แหกกฎได้ผู้ชายมานอนในห้อง (นอนเฝ้าเฉยๆ) ดันกลายเป็นผมเองซะงั้น นึกแล้วก็ขำนะ ว่าแต่ที่พี่วินรับตีนแทนผมเนี่ยผมชักเป็นห่วงบวกกับรู้สึกผิดขึ้นมาซะแล้วสิครับ
เจ้าดาวเหนือ : เพิ่งรู้จากพี่เอ็ม...
เจ้าดาวเหนือ : โดนตรงไหน ยังเจ็บอยู่มั้ย
เจ้าดาวเหนือ : ขอบคุณนะ
ผมไลน์ไปหาพี่วินก่อนที่จะหลับลงอย่างอ่อนเพลียอีกครั้ง
พวกผมตื่นมาอีกครั้งตอนเกือบเที่ยง นั่นหมายความว่าไม่มีใครได้กินข้าวเช้ากันเลยสักคน พอรู้สึกตัวท้องผมร้องโครกเลยครับ หิวมากกกกกกกจนอยากจะถลาออกไปสั่งกุ้งเผาปูนึ่งส้มตำต่างๆ ให้เต็มโต๊ะ แต่พอเอาเข้าจริงท้องผมมันคงยังไม่พร้อมอ่ะ แค่มีอะไรลงคอไปก็รู้สึกมวนท้องแล้วอ่ะ
เห็นส้มตำทะเลตรงหน้าแต่กินไม่ได้มันทรมานจริงๆ ครับ T_T
“แดกน้ำข้าวต้มเด็กอ่อนไปก่อน โอ้กอ้ากออกมาอีกจะเสียของ” ต้าร์ว่าพลางแกะกุ้งเผาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดกินอย่างเอร็ดอร่อย “สมน้ำหน้า แดกเหล้าประชดผู้ชายดีนัก”
“ไอ้พี่ป๊อปนี่ก็เจ้าชู้ไม่เปลี่ยนเลยเนาะ” พี่เอ็มพูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน “ส่วนมึงก็เจ็บไม่รู้จักจำ อีควาย”
เอาเถอะ จะด่าเป็นหมูหมากาควายผมก็ไม่เถียงอะไรหรอกครับ ไม่ใช่อะไรนะ ไม่มีแรง คิดแค่ว่าหลังจากตักน้ำข้าวต้มกินแล้วอีกสักสองสามชั่วโมงค่อยลองหาอะไรกินอีกที เพราะถ้ามันจะอ้วกคงพุ่งออกมาละ มันแค่มวนๆ อ่ะ แสดงว่าอาการก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับ
พูดถึงพี่ป๊อปก็เห็นเลยครับ กำลังเดินกระหนุงกระหนิงอยู่กับคนเมื่อคืนคนนั้นแหละครับ แต่ดีแล้วล่ะที่พวกเขาพากันเดินเลยไปหาแดกข้าวที่ร้านอื่น
แหวะ ของเก่า!
“มึง โทรตามพี่วินมากินด้วยกันสิ” พี่เอ็มสะกิด “เขาอุตส่าห์ดูแลมึงทั้งคืน”
ผมเห็นด้วยนะ แต่พอโทรหาก็ไม่รับสายผมอ่ะ เปิดไลน์ก็ยังไม่อ่านข้อความเลยครับ
“สงสัยยังไม่ตื่นมั้ง ช่างเถอะ” ผมสรุปแต่ในใจแอบคิดไปไกล จะช้ำในจากรอยตีนจนกระอักเลือดแล้วก็น็อคไม่ฟื้นอีกแล้วรึเปล่านะ
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมแยกกลับมานอนที่ห้องพักส่วนพวกมันบอกจะไปหาที่ถ่ายรูปโพสต์ลงไอจีแล้วก็คงเตร็ดเตร่จนถึงเย็น
เจ้าดาวเหนือ : เป็นห่วงนะ
ส่งข้อความแล้วผมก็นอนคิด ฉายา ‘เจ้าดาวเหนือ’ นี่ใครเป็นคนเรียกคนแรกนะ...น่าจะพี่กร แล้วพี่วินก็เรียกตามงี้เหรอ?
เวลาอีกหนึ่งวันของผมหมดไปแล้วกับการนอน เสียดายเวลาดื่มด่ำธรรมชาติ สายลม แสงแดด เสียงคลื่นแล้วก็นั่งโง่ๆ ริมทะเล
รู้งี้ไม่น่าริอ่านแดกเหล้าเทียบชั้นลำยองเลย เฮ้อ
ผมรู้สึกตัวอีกทีตอนพี่เอ็มกับต้าร์กลับมาเคาะหน้าห้อง ยังไม่ทันบิดขี้เกียจท้องก็ร้องโครก หิวมากกกกกกก พอลุกไปเปิดประตูก็แทบจะกระโดดกอดพวกมันที่ซื้อข้าวเกรียบมาเผื่อด้วย
“พวกกูเคาะจนมือพองแล้วพองอีก เกือบจะไปขอกุญแจสำรองมาเปิดแล้วเนี่ย ใจหายใจคว่ำนึกว่ามึงนอนตายเป็นผีเฝ้าเกาะละ”
“เอาของกินมา”
“ไม่อ้วกแล้วเหรอมึง” ต้าร์มองผมยัดข้าวเกรียบใส่ปากทั้งแผ่น
“ไม่รู้ แต่ช่างอ้วกแม่ง กูจะกิน” ผมไม่ฟังที่พวกมันบ่นละ
กินเสร็จแล้วสักครึ่งชั่วโมงก็แทบจะลุกขึ้นฟ้อนที่ไม่อ้วกไม่มวนท้องแล้ว
อาบน้ำเสร็จผมก็กลับมาสดชื่นอีกครั้งประหนึ่งเถาตำลึงแห้งหน้าแล้งแตกยอดอ่อนหลังได้น้ำฝนแรก ดาวเหนือพร้อมจะทอแสงสว่างอีกครั้งแล้วครับ คืนนี้ไม่เมาไม่เลิกเว้ย!
แหะๆ สัญญาว่าจะไม่เมาครับ จะดื่มพอมึนๆ สนุกๆ เนาะ
“คืนนี้จะเจอไอ้พี่ป๊อปอีกมั้ยเนี่ย” ต้าร์พูดขณะดูละครทีวีไปพลางแปะแผ่นมาสก์หน้าพลาง
“ถามหาทำไม?” ผมตวัดสายตาใส่มันฉับ “อยากลองบ้างงี้?”
“ไม่ปฏิเสธ” ต้าร์เชิดหน้า “กูชอบสายตี๋ฟรีสถานะแล้วพี่ป๊อปก็หล่อหุ่นดี”
“แสดงว่าที่ผ่านมามึงจ้องจะงาบผัวกูสินะ อีชั่ว” ผมแหว “มาเสม็ดแล้วต้องเสร็จหรือไงฮะ”
“ผัวเก่ามั้ยมึง” พี่เอ็มมองบน “เลิกไปก็ดีแล้วค่ะ เจ้าชู้ขนาดนั้น”
เจ็บแล้วจำคือคน...แต่เจ็บแล้วยังหวงก้างคือผมเองครับ ไม่รู้สิ คนเคยรักเคยคบกัน ต่อให้เลิกกันแล้วแต่ถ้าจะเห็นเขาไปกับใครคนอื่นมันก็รู้สึกจี๊ดๆ นะ แบบนี้หมายความว่าผมยังโหยหาอาลัยอาวรณ์พี่ป๊อปอยู่ใช่มั้ยอ่ะ เฮ้อ สงสัยผมต้องมีแฟนเป็นตัวเป็นตนนู่นแหละอาการพวกนี้ถึงจะหาย
“มึงหมดกรรมสิทธิ์ใดๆ ในตัวพี่ป๊อปแล้วเถอะ นู่น พี่วินกับพี่กรนู่น เลือกเอาสักคน” ต้าร์ยักไหล่
“ใช่ ยึกยักอยู่นั่น” พี่เอ็มเสริมเป็นปี่เป็นขลุ่ย “ไม่งั้นกูจะแย่งพี่กร”
“อีพี่เอ็ม อีดอก ของกูม้ะ” ผมสวน
“มึงจะเอาทุกคนเลยใช่มั้ย อีหมาหวงก้าง”
ฟังแล้วก็สะอึก ผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอครับ...ตอบตัวเองได้เลยว่า จริง!
พี่วินก็เหมือนจะทำดีกับผมนะ พี่กรก็ดี๊ดีจะทิ้งเขาลงยังไง อีกคนหนึ่งเคยทิ้งไปแต่รักไม่เคยจางหาย...ทั้งที่เขาก็เพิ่งจะทำผมเสียศูนย์มาหมาดๆ อีกครั้ง
คบกับผมทั้งหมดเลยได้มั้ยนะ 555
สี่ทุ่มครึ่งพวกเรามาถึงที่ผับ ทุกอย่างก็เหมือนเมื่อวานแหละครับ แสงสลัว ไฟวูบวาบ เสียงเพลงกระหึ่ม กลิ่นเหล้า ควันบุหรี่ คนมากมายกำลังสนุกกัน แต่ที่ต่างออกไปคือผมเห็นพี่วินนั่งกระดกเหล้าอยู่ด้านหน้าทางเข้า ท่าทางแบดบอยเหมือนเสือพร้อมออกล่าสุดๆ ผมรู้สึกตึงขึ้นมาทันทีเลยครับ ทำไมต้องมานั่งหล่อโปรยเสน่ห์ ทำไมไม่อ่านไม่ตอบไลน์ผม
“เมารึยังครับเนี่ย” ต้าร์เสนอหน้าเสนอตัวนั่งลงข้างๆ
“ยังครับ” พี่วินตอบหลังจากใช้นิ้วมือปาดหยดเมรัยที่เลอะมุมปาก
อ่า...เท่ห์จัง ริมฝีปากนั่นเซ็กซี่ แต่ผมก็ยังทำเป็นเมินเขาอยู่ดีอ่ะครับ ก็คนมันเคืองนี่
“มานั่งเหม่อคนเดียว คิดถึงใครอยู่รึเปล่าครับพี่” พี่เอ็มแซว หางตาก็ชำเลืองมาทางผม
“คงจะคิดถึงคนที่ไม่ได้มาด้วยล่ะมั้ง” ผมพูดเหมือนแซวแต่น้ำเสียงคือหึงหวง
“ใครครับ?” พี่วินเงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาที่เสยขึ้นนั่นดำขลับแล้วก็ดึงดูดใจชิบ พี่เขาเป็นแวมไพร์รึไงวะเนี่ย ทุกสิ่งทุกอย่างน่าหลงใหลดึงดูดใจไปหมด
“มายด์ไง” ผมพูดเหมือนเปรยกับตัวเองโดยไม่สบตาพี่วิน พอพี่วินไม่ตอบยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนแส้ร้อนเฆี่ยนจนชาขึ้นเป็นริ้วๆ ทั้งตัวเลยครับ คือไม่ปฏิเสธสินะ
พี่เอ็มกับต้าร์คงดูรูปการณ์ออกจึงรีบปลีกตัวพาผมเข้าไปข้างในผับ ขืนปล่อยให้คุยกันต่อมีหวังผมได้โมโหหึงจนพาลแดกเหล้าเป็นลำยองอีกคืนแน่ๆ
“มึงจะเลิกแกว่งปากหาตีนสักวันได้ม้ะ” พี่เอ็มหยิกผมที่ต้นแขน
“แดกซะ จะได้หายบ้า” ต้าร์ยื่นขวดมาให้
ผมยกขึ้นกระดกพรวดๆ แต่มันไม่ใช่เหล้านี่หว่า
“อีเชี่ย เอาน้ำส้มมาให้กูแดกทำไม เอาเหล้ามา” ผมหัวเสียอย่างต่อเนื่อง
“ที่อ้วกไปยังไม่หมดใช่ม้ะ” พี่เอ็มเท้าสะเอวด่าผม “กูไม่รับตีนใครแทนมึงหรอกนะ แล้วก็จะปล่อยมึงให้นอนอยู่ตัวเดียวที่นี่แหละ”
“คืนนี้แดกแต่น้ำอัดลมกับน้ำเปล่าไปเลยมึง”
ผมมองพวกมันชงเหล้ากินตาปริบๆ แต่หลังจากนั้นราวชั่วโมงพวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เห็นผมรินเหล้าผสมน้ำอัดลมอ่ะครับ เข้าใจว่าคงเบื่อจะพูดหรือไม่พวกมันก็คงเมากันแล้วแหละ
สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งแทรกเข้ามาในวงของพวกเราครับ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยฉวยจังหวะหลายครั้งหลายตอนมาคลอเคลียใกล้ๆ ผมคือต้องการอะไร
พี่เอ็มกับต้าร์พากันบ่ายหน้าหนีไปอีกทางแล้วก็เต้นของพวกมันไป ก็คงรู้แหละว่าใครจะได้ผู้ชาย อิอิ
แต่พวกมันคงไม่ทันสังเกตว่าผมถูกลากออกมาข้างนอกร้าน...
“เฮ้!” ผมสะบัดมือแต่ไม่ว่าจะออกแรงแค่ไหนก็ไม่มีทางหลุดได้เลยครับ ถึงผมจะตกใจไปบ้างแต่จังหวะนั้นก็รู้สึกดีนะที่คนแถวนั้นพากันมอง ฟีลมันได้อ่ะ เหมือนฉากในซีรี่ย์มาก ประมาณว่าผมถูกหึงหวงที่แอบแฟนมาเที่ยวไรงี้อ่ะ 555
ออกจากผับมาได้อึดใจจนมาถึงใกล้ๆ โขดหินซึ่งแสงไม่สว่างนักผมก็ร้อง “ปล่อยเหนือครับพี่วิน”
ใช่ครับ คนที่ลากผมออกมาไม่ใช่คนที่จ้องจะเคลมผมในผับเมื่อตะกี้
“เสน่ห์แรงจังนะเรา” พี่วินพูดแต่ไม่ยอมปล่อยมือผมครับ
“พี่จะทำแบบนี้ทำไมครับ พี่ไม่ได้รักเหนือ พี่มีมายด์อยู่แล้ว” ผมใช้มือข้างที่เหลือชกเข้าที่หน้าอกพี่วิน “แล้วเหนือก็ไม่อยากเป็นแฟนเก็บของใครด้วย”
“ก็บอกแล้วไงว่ามายด์เป็นแค่แฟนเก่า” พี่วินบีบมือผมแรงขึ้นอีก
“เหนือไม่ได้โง่นะพี่” ผมเตะหน้าแข้งพี่วินแต่ก็เหมือนเตะเสาปูนอ่ะ เตะเองเจ็บเอง
“โอเค พี่ยอมรับว่าก่อนนี้พี่เองก็สับสนเรื่องเหนือ พี่เคยคิดจะกลับไปคบกับมายด์ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกมันก็ไม่ใช่แล้วอ่ะครับ” คราวนี้พี่วินรวบสองมือของผมไว้เลย นั่นทำให้ผมสงบลงนิดนึง “แล้วตอนนี้พี่ก็แน่ใจแล้วว่าพี่ชอบใคร”
ผมเกือบเคลิ้มละถ้าไม่นึกถึงสิ่งที่ค้างคาใจมาตลอด
“ไม่เชื่อ! พี่แค่อยากแก้แค้นที่เหนือเคยพูดไม่ดีไว้ ไม่งั้นคืนนั้นพี่ไม่ไล่เหนือออกจากห้องหรอก” ตอนนี้ผมสะบัดหลุดได้อย่างง่ายดาย “แต่เสียใจด้วยนะครับที่เหนือไม่ใช่คนที่จะยอมตกเป็นทาสความรู้สึกของใคร”
พูดออกไปได้เนาะ...ที่ว่าไม่ใช่คนที่จะยอมเป็นทาสความรู้สึกเนี่ย...
“โอเค พี่ขอโทษ” พี่วินฉกมือผมไปได้อีกครั้ง “ตอนแรกที่เจอกันพี่ก็อยากแกล้ง เอ่อ...แก้แค้นเหนือเล่นๆ จริงๆ นั่นแหละ”
“เห็นม้ะ ยอมรับแล้ว พี่นี่แม่งชั่ว” ผมเตะเข้าที่หว่างขาพี่วินแต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไรนัก คือสงบลงมากแล้วอ่ะครับ
“พี่เจ็บนะ เตะตรงอื่นดิ” พี่วินจับผมหมุนตัวให้เอาหลังไปพิงกับอกเขาแทนแล้วสองมือก็ล็อคผมไว้ด้วยการกอด แบบนี้คือเตะไม่ได้ต่อยก็ไม่ได้ นอกจากว่าผมจะเล่นยูโดเป็นอ่ะ
“ปล่อยเหนือนะ” ผมดิ้นเป็นปลาในข้อง
“ไม่อยากรู้เหรอว่าพอพี่แกล้งเหนือบ่อยๆ พี่กลับมัดตัวเองจนดิ้นไม่หลุดเสียเอง...” พี่วินใช้จมูกถูกับหลังใบหูของผม “โดยเฉพาะตอนที่เห็นเหนือไปกับไอ้กรพี่ยิ่งทรมาน”
“แล้วพี่จะให้เหนือทำยังไง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมพูดอ้อมแอ้ม หน้าก็ร้อนฉ่าเลยตอนนี้ “ขนาดโทรหาไลน์หาพี่ก็ยังไม่รับไม่อ่านเลย”
“มือถือพี่โดนกระทืบพังไปแล้วเมื่อคืนอ่ะครับ”
พี่วินยกมือข้างที่ใส่นาฬิกาขึ้นในระดับสายตาของผมเพื่อดูเวลา
00.01
“Happy birthday... เรามาคบกันมั้ย เหนือเป็นแฟนกับพี่นะครับ”