ตอนที่ 20
สวัสดีวันจันทร์ เช้านี้คนที่ออฟฟิศแตกตื่นกันเล็กน้อยที่เห็นนายแบบครีมของบริษัทตัวเป็นๆ กำลังรอขึ้นลิฟต์ในชั่วโมงคนพลุกพล่านแถมในมือก็ยังถือช่อดอกไม้สีแดงสดอยู่ด้วยนะเออ
“นั่นน้องกรรณใช่มั้ยมึง” อีต้าร์ทำเสียงระริกระรี้ “โฆษณาเพิ่งออนแอร์เมื่อคืน ออร่าจับกว่าเดิมเยอะเลยนะเนี่ย กูอยากขอถ่ายรูปไปลงไอจี”
“ไปขอดิ ก่อนที่น้องมันจะดังกว่านี้” ผมเออออห่อหมก
“น้องเป็นป่ะมึง” เรดาร์อีเอกระดิก
เอ่อ คือพวกมึงกูไม่ออกเหรอ อันที่จริงผมก็รู้สึกก้ำๆ กึ่งๆ ในรสนิยมน้องกรรณมาตั้งแต่ตอนแรกๆ นะ เพิ่งจะฟันธงไม่กี่วันนี้เองเหมือนกัน ก็น้องกรรณดูเป็นผู้ชายปกติ ไม่มีจริตเก้งกวางหรือแรดชัดเจนแบบพวกผม อาจจะแค่ดูสุภาพเรียบร้อยมากกว่าผู้ชายทั่วไปเท่านั้นเอง...ก็ต้องคีพลุกนายแบบอ่ะเนาะ
ผมว่าผมพยายามอยู่เงียบๆ ห่างๆ แล้วนะ แต่อีคนอื่นๆ ที่ล้อมหน้าล้อมหลังผมมันออกนอกหน้ามากจนน้องกรรณสังเกตเห็นจนได้
“พี่เหนือ สวัสดีครับ” น้องกรรณเดินเข้ามาหาผม พลอยทำให้ผมกลายเป็นจุดสนใจไปด้วย
“มาหาพี่วินเหรอครับ” ผมทักแบบตรงไปตรงมา ถือดอกกกกกกกไม้มาขนาดนี้คงไม่ได้มาคุยงานเฉยๆ หรอกมั้ง
“ครับ มาขอบคุณที่พี่วินเลือกเป็นพรีเซนเตอร์” น้องกรรณก็ตอบตรงๆ นะ
“พี่เห็นโฆษณาแล้ว ดีใจด้วยนะ” อันที่จริงยังไม่เห็นนะ จำที่อีต้าร์มันพูดตะกี้ แต่พอบอกออกไปแล้วก็ปะติดปะต่อได้ว่าคงมาขอบคุณจริงๆ นั่นแหละ ดีนะที่ไม่หอบดอกกกกกกไม้มาขอบคุณตั้งแต่เมื่อคืนที่โฆษณาออนแอร์เริ่มออนแอร์
“ตอนเย็นกรรณขออนุญาตชวนพี่วินไปเลี้ยงข้าวนะครับ”
อะไรวะ ให้ดอกกกกกกกไม้ตอนเช้า ข้าวก็ยังจะเลี้ยงตอนเย็น ทำไมไม่ให้ดอกกกกกกไม้ตอนกินข้าวเย็นทีเดียวให้จบๆ ฟะ แล้วไอ้เรื่องขออนุญาตนี่ไม่ต้องก็ได้นะ
“ตามสบายเลยครับ เย็นนี้พี่คงไปกับเพื่อน” นี่กัดฟันดังกรอดเลยนะที่พูดเนี่ย
“เผื่อพี่วินกลับดึก พี่เหนือจะได้ไม่ต้องพะวงนะครับ”
ผมเริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลละ ใครเอาตำแยมาป้ายมือวะ คันยิกๆๆๆๆ
“งั้นกรรณไปหาพี่วินก่อนนะครับ” ยกมือไหว้แล้วก็เดินไปขึ้นลิฟต์
“กูว่าน้องกรรณดูมีอะไรแปลกๆ นะ” พี่เอ็มหรี่ตามองหาความผิดปกติ พอเห็นสีหน้ามีพิรุธของผมเท่านั้นแหละ “เล่ามาค่ะ”
“เล่าอะไร ไม่มี๊” ผมปฏิเสธทันควัน ยิ่งเพิ่มพิรุธขึ้นไปอีก
“ให้กูเดาม้ะ” อีต้าร์ผสมโรง “น้องกรรณจ้องจะเคลมผัวมึง”
ฉึก! อีเพื่อนชั่วเอามีดปักอกผม
“สู่รู้!” ผมแหว
“นั่นไง เห็นมั้ยล่ะ” อีต้าร์ดีดนิ้วดังเปาะ “เรื่องชาวบ้านคืองานของกู ถ้ามึงเล่าตอนนี้กูยอมเลี้ยงเหล้ามึงศุกร์นี้”
“อีเชี่ยยย” อีต้าร์เอ่ยมธุรสวาจากลางวง “น้ำหยดลงหินทุกวันหินกร่อนเพราะหินมันเดินหนีไม่ได้ แต่ผัวมึงมีขา ผัวมึงไม่หนี เรื่องนี้มีเงื่อนงำ”
อีเพื่อนเลววววว ไม่ให้กำลังใจยังมาบั่นทอนอีก
“มึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม กำจัดมันให้พ้นทาง” อีเอว่า “เสียทองเท่าหัวอย่าเสียผัวให้ใคร”
“ค่ะคุณนพนภา เหมือนที่มึงบุกไปตบกิ๊กผัวมึงอ่ะเหรอ” อันที่จริงมันแค่ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนของคนที่น้องคนนั้นกำลังกุ๊กกิ๊กอยู่ น้องมันคงเห็นเส้นเลือดบนหลังมืออีเอก็เลยยอมล่าถอยออกไป
“แต่เย็นนี้เขาจะไปกินกันนะ แต่คงจะไม่มีอะไรหรอกเนาะ” อีต้าร์ว่า
ขอบใจที่ยังให้กำลังใจ อีดอกกกก
“กูเชื่อใจพี่วิน”
“จ้า อย่าให้กูเห็นนะว่ามึงแอบไปแดกเหล้าเพราะผู้ชายอีก” ยังอีก มันยังไม่หยุด
“เออ เรื่องของกู” ผมพยายามไม่ต่อความยาวเพราะเท่านี้ก็คิดไปล่วงหน้าสารพัดละ เช่นว่าพี่วินจะบอกผมมั้ย ไอ้ที่จะไปกินเลี้ยงกับน้องกรรณเนี่ย
ถ้าบอก ผมก็จะเชื่อใจ ไว้ใจเขามากขึ้น
ถ้าไม่บอก เท่ากับจงใจหลีกเลี่ยงและปิดบัง ถือว่าเป็นความผิดนะครับ
“งั้นเย็นนี้มึงก็ไปแดกข้าวกับพวกกูได้แล้วสิ” พี่เอ็มพูดเหมือนแขวะ คือช่วงหลังๆ นี้ผมก็มักจะไปกับพี่วินอ่ะครับ แหะๆ
“อือ”
สิบโมง พี่วินเดินเข้ามาในแผนกพร้อมกับช่อดอกไม้ของน้องกรรณ พอหย่อนตูดนั่งได้ไม่ถึงห้านาที พี่ๆ คนอื่นก็พากันเอาแฟ้มมากางให้เซ็น เห็นภาพอย่างนั้นแล้วผมก็อดคิดไม่ได้นะ ผมกับพี่วินแตกต่างกันมากจริงๆ เขารวย ผมจน เขามีหน้ามีตาในสังคม ผมโนบอดี้ เทียบกับน้องกรรณแล้วลูกเกษตรกรอย่างผมไม่มีอะไรสู้ได้เลยครับ ทั้งรูปร่างหน้าตา เงินในบัญชี ฐานะทางสังคม อย่างช่อดอกไม้นั่นก็คงหลายพัน เป็นผมคงไม่ซื้ออ่ะ
ผมไม่คู่ควรกับพี่วินเลยสักนิด
ALWAYS WIN : นั่งเหม่อแต่เช้า ทำงานสิครับ
ผมชำเลืองไปมองก็เห็นเจ้าตัวทำเป็นง่วนกับเอกสารบนโต๊ะ แหม แอ๊กติ้งเก่ง
เจ้าดาวเหนือ : ขอโทษครับ
ALWAYS WIN : ยิ้มหน่อย
เจ้าดาวเหนือ : ดอกไม้สวยดี
ALWAYS WIN : น่ารัก
ผมตวัดสายตาฉับไปหาพี่วินตรงๆ ซึ่งก็ยังเนียนทำเป็นยุ่งไม่หลุด
เจ้าดาวเหนือ : ชอบ สวยดี
ALWAYS WIN : หมายถึงคนที่กำลังหึงน่ะ น่ารัก
ผมอ่านแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ รู้สึกโล่งขึ้นนะ
ALWAYS WIN : ดอกไม้นี่ กรรณเอามาขอบคุณเรื่องงานครับ
อย่างน้อยก็บอกเรื่องดอกไม้
ALWAYS WIN : อยากได้สักดอกมั้ย
เจ้าดาวเหนือ : ทะลึ่ง
“อีเหนือ อู้งานนะมึง” พี่เอ็มพูดพอได้ยิน “ลูกค้าโทรมาตามงานเนี่ย เดี๋ยวกูโอนสายให้ แล้วก็รีบทำให้เจ้านี้ก่อนด้วยล่ะ พี่แกยิ่งขี้เหวี่ยงอยู่ เดี๋ยวไม่ทันใจท่านก็สายตรงไปหาเจ้านายอีก”
ที่ชวนกูแชทอยู่เนี่ยก็คุณสิบทิศเจ้านายมึงนั่นแหละค่ะ
ตกเย็น พี่วินก็แวบหายไปเลยครับ ไม่ไลน์บอกด้วยว่ากลับแล้วหรือไปธุระที่ไหนซึ่งผมก็เดาได้ว่าคงไปดินเนอร์กับน้องกรรณอ่ะแหละ แต่ผมไลน์บอกนะว่าจะไปกินส้มตำไก่ย่างกับเดอะแก๊ง
“สรุปมึงจะเอาไง เรื่องอีน้องกรรณ” อีต้าร์เปิดประเด็น ทำไมมันชอบเสือกเรื่องของผมจัง
“ไม่ได้จะเอาไง เพราะมันไม่มีอะไร” ผมว่าพลางกัดยอดผักบุ้งแกล้มส้มตำ
“จ้า แม่พระ พระแม่ผู้มีจิตใจเมตตาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน”
“แบ่งปันแม่มึงสิ เขาเรียกว่าความเชื่อใจ” ผมพยายามสะกดจิตตัวเองให้เป็นอย่างนั้น
“ถ้าเครียดมาก ไปปฏิบัติธรรมสวดมนตร์ทำสมาธิกับกูมั้ย ทำแล้วจะได้จิตใจสงบ” อีแมนชวน
นี่แสดงว่าที่ผมบอกไปว่าไม่มีอะไรคือไม่มีใครเชื่อเลยสินะ อีพวกนี้ดูออกกันสินะ ไอ้ที่ผมพยายามคิดบวกมาตลอดทั้งวันมันไม่เป็นธรรมชาติเลยสินะ
เฮ้อ
“สวดมนตร์ทำสมาธิไรของมึง อย่างนี้ต้องตบค่ะ” อีเอกราดเกรี้ยว
“กูเห็นมึงเริ่มเข้าวัดปฏิบัติธรรมตั้งแต่โดนผัวเก่าทิ้งละ มีอะไรดีขึ้นม้ะ” อีต้าร์หันไปเสือกเรื่องอีแมนละ
“ก็สงบขึ้น” อีแม่ชีตอบพลางตักกุ้งตัวสุดท้ายในถ้วยต้มยำไปกิน
“แต่ก็ยังไม่มีผัวใหม่ ดวงความรักก็ไม่ได้กลับมาไชน์นิ่ง สงสัยเบื้องบนจะเล็งเห็นแล้วว่ามึงได้ไปต่อบนทางสายพรหมจรรย์” อีต้าร์ผีเจาะปากจริงๆ
“อีห้าบาป” ทุกคนร่วมใจกันสาปอีต้าร์
“อีดอก กูก็อยากมีผัวค่ะ แต่มันไม่มีจะให้กูทำไงอ่ะ” อีแมนเริ่มตบะแตก
“ปฏิบัติธรรมเสร็จมึงก็ขอพรให้มีผัวสิ” อีเอว่า
“ใครว่ากูไม่ขอล่ะ” อีแมนพูดเสียงอ่อย
“งั้นมึงต้องไปแรดกับพวกกูบ่อยๆ รับรองมีแน่” อีต้าร์เริ่มมัดมือชก “สรุปศุกร์นี้มึงห้ามเบี้ยว ร่านมั่วชั่วแรดสักวันแต้มบุญมึงไม่หายไปเยอะหรอกเชื่อกู เนี่ยกูกะอีเอ็มม่าไปกันสองคนหลายรอบละนะ อีเอกับอีเหนือเอาแต่กกผัว มีผัวลืมเพื่อน มึงก็ปลีกวิเวกไปสู่แดนสุขาวดีตลอดๆๆ”
กินเสร็จแล้วแต่ยังเหมือนเม้าท์ไม่สุด ประกอบกับเห็นสายตาไล่ลูกค้าที่นั่งนานเกินไปแล้วจากเจ้าของร้าน ทุกคนก็เลยพากันไปต่อที่บ้านอีแมน
“ไหน กูขอดูรูปผัวเก่ามึงหน่อยซิ” พี่เอ็มว่าพลางจิบน้ำมะตูมที่แม่อีแมนเอามาต้อนรับ
“ตั้งอยู่บนโต๊ะนั่นไง พี่เวียร์ ผัวเก่ากู” อีแมนชี้ไปที่กรอบรูปบนโต๊ะ
เออ ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมอีแมนมันถึงเสียจิตเสียใจเป็นหนักหนาจนถึงกับต้องบ่ายหน้าหาธรรมโอสถรักษาใจ ผัวเก่ามันทั้งหล่อ ล่ำ ดำ สูง หน้าตาท่าทางก็ดุดันน้อยซะเมื่อไหร่
“เก็บรูปไว้ทำไมอีกยะ ยังรอมันกลับมาหาเหรอ” อีเอพูดตามซื่อ พอไม่มีคำตอบจากเจ้าของบ้าน พี่เอ็มกับอีต้าร์ก็พากันมองบน ส่วนผมเข้าใจอีแมนมันนะ ตอนที่เลิกกับพี่ป๊อปผมก็ระทมอมโศกอยู่ตั้งนาน
“ก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งรึเปล่าวะ” ผมช่วยอีแมนตอบ
“ค่ะ กูเข้าใจพวกมึงค่ะ ถ้าไม่มีผัวใหม่มึงก็คงอาลัยอาวรณ์อีพี่ป๊อปไม่เลิก”
มันวกมาหาผมอีกจนได้
“อย่าพูดถึงมันอีกเพราะกูมีผัวใหม่แล้ว จบนะ”
พวกเราแยกย้ายกันกลับตอนห้าทุ่มครึ่ง ผมเพิ่งล้วงมือถือมาดูตอนอยู่บนแท็กซี่นั่นแหละครับ เปิดไลน์ดูก็เห็นว่าพี่วินอ่านข้อความแล้วแต่ก็ไม่ตอบอะไรกลับมาสักคำ
เอาเถอะ เชื่อใจๆๆๆๆๆ
ผมลงแท็กซี่ที่หน้าปากซอยเพื่อซื้อขนมที่เซเว่นก่อนจะเดินกลับเข้าซอยไปกินไอติมไปด้วย
“เหนือซื้อขนมมาฝากครับ” ผมยื่นถุงขนมให้ลุงยามซึ่งยิ้มกริ่มแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร “วันนี้ถูกหวยเหรอครับ”
“ลุงไม่ถูกหวยมานานแล้ว แต่คุณเหนือสิ น่าจะถูก” ลุงยามเน้นคำว่าหวย
อะไรวะ ผมไม่ได้ซื้อหวยสักหน่อย
“ไปละครับ วันนี้ง่วงแล้ว”
“อย่านอนดึกนะครับ”
อะไรวะ ก็บอกอยู่ว่าง่วงแล้ว แล้วจะนอนดึกได้ไง
ผมเข้าใจท่าทีของลุงยามก็ตอนที่ไขกุญแจเข้าห้องแล้วนั่นแหละครับ ห้องผมเปิดแอร์เย็นฉ่ำ หลอดไฟหลักบนเพดานปิดอยู่แต่โคมไฟเล็กหัวเตียงที่เปิดไว้ทำให้เห็นร่างของพี่วินกำลังนอนหลับสนิท ข้างกันนั้นมีช่อดอกไม้วางไว้ด้วยนะ เป็นคนละช่อกับของน้องกรรณที่ผมเห็นเมื่อเช้า
ผมให้กุญแจสำรองพี่วินไว้เองแหละครับ เหมือนกับที่เขาให้คีย์การ์ดคอนโดของเขา
“ได้มาอีกช่อละ จะให้อะไรกันนักกันหนา วันดอกกกกกกไม้แห่งชาติรึไง” พูดคำว่าดอกกกกกกก็นึกถึงหน้าน้องกรรณ
“พี่เผลอหลับไปเหรอ” คนบนเตียงคงรู้สึกตัวเพราะคำว่าดอกกกกกก แล้วก็ยกข้อมือขึ้นดูเวลา “กลับดึกจัง”
“ไปคุยกันต่อที่บ้านแมนครับ” ผมนั่งลงที่ขอบเตียง ตีหน้าปั้นปึงนิดๆ “แล้วนี่มารอเหนือมีอะไรรึเปล่าครับ”
“มารอดูว่าจะพาใครกลับมาด้วยรึเปล่า”
ถึงจะรู้ว่าในน้ำเสียงของพี่วินมีความหยอกเย้าแต่มันก็อดปรี๊ดดดดไม่ได้นะ ทีตัวเองไปกินข้าวกับน้องกรรณ ผมยังไม่ว่าไม่ห้ามเลยสักคำ นี่ยังจะมาจับผิดผมอีกเหรอ
“แล้วมีมั้ยล่ะ” ผมหน้างอ สะบัดหน้าหนี
“พี่ล้อเล่น”
พอผมไม่ยอมหันไป คนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงก็ยื่นดอกไม้มาแตะๆ ที่แก้มผม
“เห็นว่าอยากได้บ้างก็เลยเอามาเซอร์ไพร์ส”
ผมแอบยิ้ม
“ยิ้มอยู่รึเปล่า ขอดูหน้าหน่อยสิครับ” ว่าแล้วก็ดึงผมให้ลงไปนอนพิงอก “บอกพี่สิครับว่าเหนือชอบดอกไหน”
ผมไม่ตอบแต่ยกขึ้นมาดมกลิ่น
“ไม่ตอบ แสดงว่าไม่ชอบดอกไม้ช่อนี้ งั้นอยากได้ดอกอะไรครับ”
เอาละโว้ย น้ำเสียงเริ่มหื่นละ
“ดอกกาสะลองที่ขึ้นบนเทือกเขาอัลไต”
“ไว้พี่จะหามาให้นะ แต่ตอนนี้พี่จัดดอกอื่นให้ก่อนดีป่าว”
“ดึกแล้วนะครับ” ผมเฉไฉพองาม
“ตอนเย็นพี่ไปกินข้าวกับน้องกรรณมา” ว่าพลางก็เลื่อนริมฝีปากมาใกล้ๆ หู
“รู้แล้วครับ”
“แล้วไม่อยากรู้เหรอว่าพี่แค่ไปกินข้าวหรือเอาเรี่ยวแรงไปทำอย่างอื่นด้วยรึเปล่า”
แฟนใครเนี่ย เจ้าคารมเป็นที่สุด
เฮ้อ ผมเองก็อยากรู้ว่าพี่วินแค่ไปกินข้าวอย่างเดียวรึเปล่า ก็เลยต้องยอมนอนดึกเพื่อพิสูจน์ด้วยตัวเองเสียแล้วล่ะครับ