แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก! - ตัวอย่างตอนพิเศษ - 29/01/2019 - P.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก! - ตัวอย่างตอนพิเศษ - 29/01/2019 - P.11  (อ่าน 61435 ครั้ง)

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง





--------------

นิยายที่แต่งจบแล้ว
{{ King’s Club }} เพราะเสพติดเซ็กซ์
{{ Knight's Hour }} เพราะเป็นเจ้านาย
{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P]
{{ I'm Not Him }} เขาให้ผมเป็นดารา
{{ He's Not Me }} ผมไม่อยากเป็นดารา
{{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา



[Pre-order] แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก!
สั่งจองและแจ้งโอนได้ที่ -> http://majaynaja.lnwshop.com/


ผมชื่อเบิ้ม และผมกำลังโดนจีบ

โดนจีบด้วยเกลือแร่สองขวด ขวดละสิบบาท จากผู้ช่วยเลขาท่านประธาน ที่ไม่ควรจะชายตาแลทีมสตั้นท์แมนธรรมดาๆ อย่างผมได้เลย

ความคิดแรกคือหรือนี่จะเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต บันดาลให้เราได้พานพบคู่แท้แสนหวาน

แต่ความเป็นจริงช่างโหดร้ายนัก เพราะผมโดนจีบด้วยแผนล้ำลึกไร้ต้นทุน! ที่ใช้เกลือแร่สองขวดเป็นเหยื่อล่อ! ชวนเข้าใจผิด! คิดไปเอง! ขุดหลุมพรางให้ผมเซ็นสัญญาทาส!!

สัญญาที่กว่าจะรู้ตัวก็ฉีกทิ้งไม่ได้แล้ว!

ผมได้แต่บอกตัวเองว่าไม่หรอก...ผมไม่ได้หลงกลเขา

แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอกน่า!!!

 

--------------------

และแล้วก็ฤกษ์เปิดประเดิมเรื่องของคู่เบิ้มxสัน นะคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและสนับสนุน ทำให้ได้เปิดเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า 

สารบัญ
ตอนที่ 0 : กับดักแรกของจอมมาร
ตอนที่ 1 : งานใหม่ของเบิ้ม
ตอนที่ 2  : ความลำบากของเบิ้ม
ตอนที่ 3 : สุดยอดวิชาของเบิ้ม
ตอนที่ 4 : ช่วงพักของเบิ้ม
ตอนที่ 5 : จูบแรกของเบิ้ม
ตอนที่ 6 : คืนระทึกของเบิ้ม
ตอนที่ 7 : การขับรถของเบิ้ม
ตอนที่ 8 : ประสบการณ์ดักฟังครั้งแรกของเบิ้ม
ตอนที่ 9 : (หรือจะเป็น)ครอบครัวของเบิ้ม
ตอนที่ 10 : วิธีปิดเกมที่ไม่ใช่ของเบิ้ม
ตอนที่ 11 : เดตแรกที่ไม่ใช่ของเบิ้ม...รึเปล่านะ
ตอนที่ 12 : พบแม่ของเบิ้ม
ตอนที่ 13 : การเบิกเนตรของเบิ้ม
ตอนที่ 14 : การค้นพบของเบิ้ม
นอกรอบ : ความในใจของจอมมาร 1
นอกรอบ : ความในใจของจอมมาร 2
ตอนที่ 15 : เช้าที่แสนสดใสของเบิ้ม
ตอนที่ 16 : เจตจำนงของเบิ้ม
ตอนที่ 17 : ความคิดถึงของเบิ้ม
ตอนที่ 18 : การกลับบ้านของเบิ้ม
ตอนที่ 19 : วันหวานๆ ของเบิ้ม
ตอนที่ 20 : ได้เวลาออกโรงของเบิ้ม
ตอนที่ 21 : ครอบครัวของเบิ้ม
ตอนส่งท้าย
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2019 19:19:41 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

*แก้ไขมุมมองจาก “ผม” เป็นชื่อ “เบิ้ม” เพื่อความตบมุกให้เฮฮาขึ้นค่ะ
และแก้ช่วงตอนท้ายตอนเกี่ยวกับน้องชายเบิ้มค่ะ*



ตอนที่ 0 : กับดักแรกของจอมมาร




เบิ้มกำลังโดนจีบ

เป็นการโดนจีบครั้งแรกในชีวิต จนชวนใจเต้นตึกตัก แต่ว่า...การจีบแบบของถึงมือทุกเช้าเย็น คนให้กลับหายลับไม่โผล่แม้แต่เงาออกจะพิสดารล้ำลึกไปหน่อยมั้ย

แถมของแทนใจดันเป็นขวดเกลือแร่

ครับ เกลือแร่

ทุกเช้าตอนเข้าทำงาน ที่โต๊ะของเบิ้มจะมีเกลือแร่พร้อมข้อความ ‘เติมพลังงานในวันนี้ <3’

ทุกเย็นก่อนเลิกงาน ที่โต๊ะของเบิ้มจะมีเกลือแร่พร้อมข้อความ ‘ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด <3’

...ล้ำลึก ล้ำลึกจริงๆ

ใช่ว่าจะไม่เคยดักรอเจ้าของเกลือแร่ แต่พอเจอแล้วอีกฝ่ายไม่ยักพูดอะไร ส่งของให้แล้วรีบร้อนเดินหนีเหมือนไม่อยากจะสานต่อความสัมพันธ์

โอ้ เจ้าเกลือแร่เอ๋ย นายเป็นตัวอะไรกันแน่ เป็นของแทนใจ เป็นของฝากรัก หรือเป็นแค่เกลือแร่...

เจ้าเกลือแร่ขวดละสิบบาท สองขวดตกวันละยี่สิบบาท จีบกันแบบประหยัดซะยิ่งกว่าประหยัด

ถ้าไม่ติดว่ามีรูปหัวใจต่อท้ายข้อความ เบิ้มคงไม่คิดเข้าข้างตัวเองขนาดนี้

เอ๊ะ หรือรูปหัวใจจะไม่มีความนัยแอบแฝง


ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว สงสัยในการกระทำลับๆ ล่อๆ ที่แอบเอาเกลือแร่มาวางบนโต๊ะก่อนเริ่มงานช่วงที่ไม่มีคน และแอบมาวางไว้ก่อนเลิกงานช่วงที่ทีมสตั้นท์แมนไปออกกองกันยกแผนกด้วยความสับสนยิ่งยวด

ถ้านี่เป็นกลยุทธ์ประหลาดหวังให้เบิ้มสนใจในตัวเขาละก็...

เบิ้มยอมรับว่าได้ผลอย่างจัง!

“คมสัน...”

ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่ยี่ห้อเกลือแร่! แต่เป็นชื่อคนให้ต่างหาก!! ที่คิดไม่ตกอีกอย่างคือนอกจากข้อความต่อท้ายด้วยรูปหัวใจแสนซาบซ่านแล้ว คนให้ยังเขียนชื่อสกุลเต็มยศ ตัวหลีกหนีไม่ให้เจอ แต่ไม่คิดจะปิดบังตำแหน่งงานในบริษัทเลยสักนิด

คมสัน ผู้ช่วยเลขาของท่านประธาน

เทียบกับสตั้นท์แมนอย่างเบิ้มแล้ว...โคตรห่างไกลจนไม่น่าจะโคจรมาเจอะมาเจอกันได้

เบิ้มตามสืบ ไม่สิ ให้ถูกคือลองไปถามความเป็นมาของผู้ช่วยเลขาคนนี้จากฝ่ายบุคคล ทำให้รู้ว่าคมสันนั้นเป็นเด็กเส้นของท่านประธาน...ถ้าไม่ใช่เด็กเส้น คงไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาตั้งแต่อายุยี่สิบได้หรอก ฝ่ายบุคคลยกย่องเชิดชูเกียรติประวัติการเรียนสี่จุดศูนย์ศูนย์ จบคณะบริหารธุรกิจภายในสามปี แถมยังพูดได้สี่ภาษาของคมสันแบบออกหน้าออกตา

ก่อนจะจบท้ายว่าช่างน่าเสียดายนัก เพราะผู้ช่วยเลขาคนนี้เคร่งขรึมจริงจังกับงาน แทบไม่พูดเล่นหรือปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นเลย มาทำงานเช้าก็เก็บตัวในห้อง แถมยังเลิกงานก่อนเวลา ไม่เคยกินเลี้ยงกับใคร ไม่เคยข้องแวะกับใครเป็นพิเศษ แต่น่าเหลือเชื่อนะ เพราะคมสันจำชื่อพนักงานทุกคนในบริษัทได้แม่นยำ

ก็ไม่แปลกที่จะรู้จักกับไอ้เบิ้มอย่างเขา ทีมสตั้นท์แมนประจำบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้เป็นเจ้าของช่องโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ทำรายการข่าว ละคร วาไรตี้ พ่วงจัดหาดารา

แต่เงยมองเงาตัวเองในกระจกซะก่อน เงาร่างสูงใหญ่บึกบึนผลจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การแต่งกายออกแนวสบายๆ แม้ใส่เสื้อเชิ้ตก็ไม่ได้ผูกเนกไท เทียบกับคมสันที่สวมสูท แต่งตัวเนี้ยบเป๊ะไร้รอยยับย่นของเนื้อผ้า ผมเปิดเสยข้างหนึ่ง สวมแว่นกรอบเหลี่ยม กริยาสง่าก้าวเดินมั่นคง...พวกเขาสองไม่น่าจะเข้ากันได้นะว่ามั้ย

คนหนึ่งเป็นผู้ช่วยเลขา อนาคตไม่พ้นเป็นเลขาคนสนิทท่านประธาน ส่วนเบิ้มเป็นสตั้นท์แมนยังไง...ก็คงเป็นอยู่แค่นี้ เพราะนอกจากการใช้กำลัง อวดลวดลายศิลปะการต่อสู้ที่แตกฉานหลายแขนงแล้ว เบิ้มไม่มีความสามารถการทำงานในบริษัทโดยสิ้นเชิง

แล้วทำไม...คนที่ไม่ควรจะชายตาแลกันถึงทำตัวพิลึกพิลั่น ตามจีบด้วยความงกระดับเกลือแร่สองขวด

โคตรไม่เข้าใจ!

สุดท้ายท้ายสุด หลังดื่มเกลือแร่จนตัวแทบบวมน้ำมาตลอดสามเดือน เบิ้มก็ตัดสินใจดักรอคมสันที่ลานจอดรถ แม้ไม่ถนัดทำงานบริษัท แต่เบิ้มไม่ใช่คนโง่ หลังดักรอแล้วโดนเมินก็เริ่มเข้าใจว่าคมสันคงเขินอาย ไม่อยากแสดงตัวต่อหน้าคนเยอะๆ คมสันเป็นถึงผู้ช่วยเลขาท่านประธาน มาตามจีบสตั้นท์แมนธรรมดาๆ อย่างเบิ้มหากใครรู้เข้าคงไม่ดี

ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ

คิดแล้วเบิ้มก็ตื่นเต้นเมื่อยืนรอคมสันที่รถของอีกฝ่าย โชคดีที่คมสันมักออกจากงานก่อนเวลาเสมอ ทำให้ลานจอดรถยามนี้ไม่ค่อยมีคน เบิ้มเลยรออย่างเปิดเผยโดยไม่ต้องกลัวโดนเข้าใจผิดว่าเป็นโจร

เห็นร่างผอมเพรียวเหมาะกับชุดสูทเข้ารูปเดินอย่างเร่งร้อนตรงมาหา เบิ้มก็ใจเต้นรัว

เอ๊ะ ทำไมเหมือนจะสลับกันชอบกล คนที่เป็นฝ่ายชอบก่อนคือคมสันต่างหาก! เขาจะใจเต้นทำไม!

น่าเสียดายที่ห้ามใจไม่ไหว ก็เบิ้มไม่เคยมีแฟน ไม่เคยโดนตามจีบ แถมประสบการณ์แรกดันมาจากเพศเดียวกันซะงั้น แล้วดูคมสันสิ สะอาดสะอ้าน หน้าตาก็ชวนมอง ไม่อ้อนแอ้นผอมบางเกินไป แต่สุขุมเยือกเย็นชวนสะท้านใจเป็นระยะ แม้การกระทำน่าสงสัย แต่กลับทำให้คิดถึงไม่หยุดมาตลอดสามเดือน...เบิ้มยอมรับ เบิ้มสนใจคมสัน และกึ่งๆ จะชอบอีกฝ่ายเข้าแล้ว!

ตัวเกร็งเริ่มเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น จนหยุดอยู่ข้างประตูรถ ณ ตำแหน่งที่เขายืนเป็นเสาปักหลัก

เบิ้มสูดหายใจเฮือกใหญ่รอรับคำสารภาพรัก

แต่...

คมสันแทบจะไม่ปรายตามอง แถมยังดันอกให้ถอยห่างเพื่อขึ้นไปนั่งบนรถสะดวกๆ เบิ้มอึ้ง ก็ไม่มีคนแล้วไงทำไมยังโดนเมินอีกล่ะ หรือว่าจะเข้าใจผิดไปเองจริงๆ!

“ขึ้นมาสิ”

ก่อนหัวใจที่แห้งเหี่ยวจะพองลม เมื่อคมสันเอี้ยวตัวเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ พลางพยักพเยิดให้เบิ้มเข้ามาในรถด้วยกัน

...ที่แท้คมสันก็เขินอาย ในลานจอดรถไม่ส่วนตัวพอ เลยอยากจะสารภาพรักในรถสินะ!

เบิ้มพยักหน้า กดข่มความตื่นเต้นดีใจ รีบยัดร่างเข้าไปในรถของคมสัน มองหน้าอีกฝ่ายเตรียมตอบตกลงขอคบกัน

แต่...คมสันไม่ชายตาแลอีกครั้ง พอประตูรถปิดสนิทก็ออกตัว ขับออกจากบริษัทไปเลย

มาสำนึกได้เอาตอนนี้

หรือจุดประสงค์ของคมสันจะไม่ใช่การสารภาพรัก

แต่เป็นกับดัก หลอกล่อให้เขาเสนอตัวมาถึงที่เพื่อจะได้ลักพาตัวสะดวกๆ ต่างหาก!!

ความจริงที่เพิ่งค้นพบทำให้เบิ้มเจ็บปวดร้าวรานจิตใจมาก แต่ด้วยความงง เลยยอมนั่งมึนต่อเพราะอยากรู้ว่าคมสันจะลักพาตัวไปที่ไหน

ก่อนที่รถคันหรูจะจอดหน้าโรงเรียนมัธยมนานาชาติค่าเทอมแพงลิบแห่งหนึ่ง

คมสันซึ่งนั่งเงียบมาตลอดทางเปิดประตูลงไป เบิ้มที่ยังไม่หายงงไม่รู้นึกอุตริอะไรถึงได้ทำตาม แถมยังเดินตามหลังคมสัน สมองประมวลผลไม่หยุดว่าทำไมถึงโดนลักพาตัวมาโรงเรียน...

และคำตอบก็ปรากฏเมื่อจู่ๆ ก็มีเด็กผู้ชายเดินหน้าตึงมาหาคมสัน

“ช้า!”

“ขอโทษครับ” คมสันขอโทษขอโพย ไม่ค่อยจริงจังนักพอๆ กับเด็กผู้ชายที่คล้ายจะพูดแบบขอไปที เบิ้มพิจารณาเด็กคนนี้ละเอียดยิบ หรือว่า...นี่จะเป็นลูกติดคมสัน ที่อีกฝ่ายนั่งนิ่งตลอดทางไม่ยอมสารภาพรัก เพราะเคยมีประวัติแต่งงานมาก่อนเลยกลัวเบิ้มรับไม่ได้ จึงตั้งใจพามาดูสินะ!

โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง

เบิ้มตบไหล่คมสันเบาๆ เป็นเชิงส่งสัญญาณว่าแม้อีกฝ่ายจะมีภาระ มีลูกติดอีกเป็นโหลก็พร้อมจะศึกษาดูใจ แต่คมสันกลับหันมาเลิกคิ้วใส่เหมือนประหลาดใจ ก่อนจะ...เผยยิ้มเย็นเยียบราวอ่านความคิดพิสดารนี้ออก

เบิ้มค่อยๆ ถอนมือออก แม้ตัวใหญ่ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ใจหดเหลือสองนิ้ว

ไม่กล้าคิดไกลแล้วครับ

เบิ้มตัดสินใจเลิกใช้สมอง เพราะคมสันดูจะไม่ชอบใจกับจินตนาการกว้างไกล ว่าแต่...ไม่ได้พูดออกมาสักคำ ทำไมถึงเหมือนโดนอ่านใจทะลุปรุโปร่งกันล่ะ คมสันอายุยี่สิบ น้อยกว่าเบิ้มแค่สองปี แต่คล้ายเจนโลกมามากจนชวนสะทกสะท้านไปทั้งใจ

“นี่ใครน่ะสัน”

พลันเด็กหนุ่มกางเกงขาสั้นอันเป็นเครื่องแบบนักเรียนมัธยมเชิดหน้าเย่อหยิ่งมาทางเบิ้ม

“บอดี้การ์ดของคุณครับ” คมสันตอบเต็มปากเต็มคำ สร้างรอยยิ้มบนหน้าของเด็กชายที่ดูจะเชื่อหมดใจ

เดี๋ยวก่อนเด็กน้อย...เจอชายแปลกหน้าตัวโตเป็นหมีควายขนาดนี้ไม่กลัวสักแอะไม่ว่า แต่ดันเชื่อคำของคมสันง่ายๆ แบบนี้โตไปจะแย่เอานะ

เบิ้มเริ่มเป็นห่วงความใสซื่อของเด็กหนุ่มที่แม้จะติดยโสนิดๆ แต่ดันดูซื่อบื้อกว่าที่คาด

หรือควรจะกังวลเรื่องตัวเองก่อนดี

ทำไมจากคนรักกลายเป็นบอดี้การ์ดซะงั้นล่ะ!

พลันคมสันปรายตามองเป็นการรูดซิบปากที่กำลังจะอ้าถามอย่างดีเยี่ยม เบิ้มทำได้เพียงเดินตามหลังอีกฝ่ายต้อยๆ มองคมสันประคบประหงมเด็กหนุ่มที่เดินเชิดหน้าไปนั่งเบาะหลังแล้วเริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นลูกติดหรือลูกเลี้ยงกันแน่

ไอ้ท่าทางไม่เกรงอกเกรงใจ เย่อหยิ่งจองหอง มองยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่บุตรปฏิบัติต่อบิดา

เดี๋ยวๆๆ คมสันอายุยี่สิบ จะมีลูกเรียนมัธยมได้ยังไง! บ้าบอแล้วโว้ย!

เบิ้มโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อตระหนักรู้ถึงความจริงข้อนี้ เดี๋ยวนะ จะโล่งใจไปทำไม หรือว่ายังหวังจะได้ยินคำสารภาพรักอีกงั้นเหรอ...บ้าบอหนักกว่าเดิมอีกนะเบิ้มเอ๋ย

เมื่อขึ้นรถ คมสันกับเบิ้มก็ปิดปากเงียบเหมือนตอนขามา ผิดแปลกกว่าเดิมก็ตรงที่มีเด็กเวร...แคก! เด็กผู้ชายเล่นโทรศัพท์อยู่หลังเบาะ เปิดคลิปเสียงดังไม่รู้จักคำว่าเกรงอกเกรงใจคนกำลังใช้สมาธิ

เบิ้มเริ่มคิดว่าจะยอมให้คมสันหิ้วไปหิ้วมาแบบนี้ต่อไปจะดีหรือ

ขอลงตอนนี้เลยจะได้มั้ยนะ

แต่ไม่รู้ทำไม...เบิ้มถึงไม่กล้าพูดออกไป รู้ตัวอีกทีรถก็มาจอดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังหนึ่ง...หน้าประตูบ้านมีป้ายสีทองสลักตัวอักษรงามวิจิตรว่า...ชาติบดินทร์

คุ้นๆ แฮะ

เฮ้ย! นี่มันนามสกุลเจ้าของบริษัทที่ทำงานอยู่นี่หว่า!


เบิ้มอ้าปากค้าง คำตอบของคำถามว่าเส้นของคมสันใหญ่แค่ไหนอยู่ตรงหน้า ที่แท้...ไอ้เด็กเวร แฮ่ม! เบิ้มหมายถึงเด็กหน้าเชิดที่คมสันไปรับมาก็คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลนี้ ส่วนคมสันซึ่งทำหน้าที่ผู้ช่วยเลขา ได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าพนักงานคนอื่นในบริษัท...ก็คือพี่เลี้ยงจำเป็นนั่นเอง!

จิกซอร์ค่อยๆ ปะติดประต่อกันอย่างสมบูรณ์ เบิ้มเข้าใจแล้ว...คมสันแอบชอบเบิ้ม แต่ยังสารภาพรักไม่ได้เพราะติดภารกิจรับส่งลูกชายของเจ้านายสินะ มิน่าล่ะถึงมาทำงานก่อนพนักงานคนอื่น และมักชิ่งกลับก่อนเป็นประจำ!

งั้นสิ่งที่เบิ้มต้องรอหลังจากนี้...คือรอให้ไอ้เด็กเวร...เวรกรรมอะไรหนาถึงเกิดมาน่ารักน่าชังเข้านอน ซึ่งนั่นจะหมายถึงช่วงเวลาสองต่อสอง อันเป็นส่วนตัวระหว่างเบิ้มกับคมสันอย่างแท้จริง!

ฉะนั้นเมื่อรถจอด เบิ้มเลยไม่วิ่งหนีกลับบ้าน แต่เดินตามหลังคมสันต้อยๆ อีกครั้ง เฝ้ามองคุณผู้ช่วยเลขาที่สงบเยือกเย็นต่อหน้าเด็กเอาแต่ใจได้อย่างไม่อคติ

มอง...คมสันไล่ต้อนเด็กคนนั้นไปกินข้าวดีๆ คอยสอนไม่ให้เล่นโทรศัพท์ระหว่างรับประทานอาหาร ก่อนจะหลอกล่อให้ไปอาบน้ำ ชักชวนทำการบ้านโดยมีของรางวัลตอบแทน และ...ส่งเข้านอน ห่มผ้า แถมยังยัดหมอนข้างให้กอดอย่างรู้งาน

เมื่อไฟห้องนอนของไอ้เด็กเวร...หมายถึง...เวลานี้หนาได้เวลาของพวกเขาสองคนแล้ว เบิ้มก็เดินตามคมสันไปยังห้องรับแขกด้านล่าง ตื่นเต้นหนักเมื่อในที่สุดก็ได้คุยจริงๆ จังๆ กับคนตรงหน้าสักที

สามเดือนเชียวนะ!

สามเดือนกับการถูกจีบด้วยเกลือแร่!! ในที่สุด...ความสัมพันธ์ก็จะคืบ...หน้า...เอ่อ...

เบิ้มผิดหวังอีกครั้ง

เพราะคมสันส่งกระดาษใบหนึ่งมาให้พร้อมรอยยิ้มมุมปากมีเลศนัย

“นี่คือคำตอบเหรอ” เบิ้มถามเสียงแหบแห้ง เพียงกวาดตามองประโยคแรกก็เห็น ‘สัญญาว่าจ้างบอดี้การ์ดและคนขับรถให้แก่เด็กชายกิจภัทร ชาติบดินทร์’

...นี่แท้ไอ้เด็กเวรก็ชื่อกิจภัทรนี่เอง

คำสารภาพที่วาดหวัง...ถูกกลบด้วยความจริงที่เบิ้มเป็นฝ่ายอับอายเสียเอง

อับอายที่คิดเยอะเกินไป หวังสูงเกินไป แต่...เกลือแร่ตลอดสามเดือนหมายความว่ายังไง!

เบิ้มเงยหน้าคมสันเป็นคำถาม แต่อีกฝ่ายไม่ตอบคำ เพียงวางกระดาษอีกใบด้วยรอยยิ้มชวนเคลิ้ม

เบิ้มเผลอตัวก้มอ่านสัญญาใบที่สองทันที...แล้วก็พบกับ...คำสารภาพรักที่รอคอย!

“สัญญาว่าจ้างบอดี้การ์ดและคนขับรถครอบคลุมถึงสวัสดิการดังนี้

หนึ่ง ที่พักในคฤหาสน์ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการทำงาน ซึ่งอยู่ห้องติดกับคมสัน

สอง อาหารทั้งสามมื้อ ซึ่งจะต้องรับประทานพร้อมกับคมสันเท่านั้น

สาม รถส่วนตัว ทุกวันตอนไปรับส่งเด็กชายกิจภัทร จะต้องพาคมสันไปด้วยเสมอ แต่ช่วงระหว่างที่เด็กชายกิจภัทรกำลังเรียนอยู่นั้น สามารถใช้รถในกิจส่วนตัวได้

สี่ หลังรับเด็กชายกิจภัทรแล้ว จะต้องปกป้องคุ้มครอง ดูแลเด็กชายใกล้ชิด อยู่ติดกับคมสันตลอดเวลา...”

เบิ้มรู้สึกเหมือนถูกขอแต่งงาน

ทำได้เพียงจ้องสัญญาที่มีแต่ได้กับได้ด้วยหัวใจเต้นแรง

“ว่าไง” คมสันดันกรอบแว่นพร้อมเผยรอยยิ้มวายร้าย แต่วินาทีนั้น เบิ้มเผลอไผล เห็นเป็นรอยยิ้มหวานจับใจของคนที่แอบรักแต่ไม่กล้าสารภาพรัก เลยดึงเรื่องงานมาปะปนเพื่อจะได้อยู่กับคนที่ชอบทุกวันทุกเวลา

ใจเบิ้มตอบตกลงแน่นอนแล้ว เมื่อดูค่าตอบแทนที่สูงกว่าทำงานสตั้นท์แมนของบริษัทหลายเท่า ก็ไม่ลังเลที่จะเซ็นสัญญาสักนิดเดียว

“พาน้องชายมาอยู่ด้วยได้มั้ย”

“บิ๊กน่ะเหรอ”

เบิ้มสะดุ้ง ก่อนจะกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่เมื่อยืนยันความคิดว่าคมสันแอบชอบกันมานานแล้วจริงๆ ชอบมากถึงขนาดตามสืบประวัติ รู้ว่าเบิ้มมีน้องชายที่หนึ่งคน และเพราะติดที่น้องชายคนนี้ ทำให้เบิ้มซึ่งแตกฉานด้านศิลปะการต่อสู้จนถูกทาบทามไปเป็นสตั้นท์แมนที่ต่างประเทศต้องปฏิเสธ มาจมปลักกับบริษัทที่ประเทศไทย เพราะไม่กล้าทิ้งให้น้องชายที่อายุยังน้อยอยู่กับแม่สองต่อสอง

“ได้สิ ไว้น้องชายนายเรียนจบเมื่อไหร่ ฉันจะจ้างต่อในหน้าที่เดียวกัน จะได้ไม่ต้องลำบากไปหางานที่อื่น”

นะ...นี่มันการขอแต่งงานแบบรับทั้งครอบครัว!

“แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกนะ น้องชายนายยังไม่ขึ้นชั้นประถมเลยไม่ใช่รึไง”

เบิ้มยิ้ม เขาแค่ลองถามเผื่อก่อนก็เท่านั้น

และดีใจมากที่ได้เจอคนรักแสนดี เข้าอกเข้าใจกันขนาดนี้

หารู้ไม่ว่านั่นเป็นเพียงกับดักแสนร้ายของจอมมาร...ที่หลอกใช้เบิ้มมาเซ็นสัญญา...หวังให้เข้าใจผิดเพื่อการทำงานแบบถวายหัวด้วยหัวใจและความซื่อสัตย์ แถมยังซื้อหนึ่งได้เพิ่มอีกหนึ่ง คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม


มารู้ตัวเอาภายหลังอยากจะฉีกทิ้งก็ไม่ทันแล้ว!!




----------

มาเปิดเรื่องของจอมมารคมสันที่แสดงอิทธิฤทธิ์ในเรื่องคนอื่นแล้วค่า!

ตอนแรกเราลังเลมาก ว่าจะเขียนมุมคมสันดีรึเปล่า แต่ถ้าเขียนมุมคมสัน คงดูไม่ลับๆ ล่อๆ น่าสงสัยชวนคิดตามและเอาใจช่วยขนาดนี้ เลยตัดสินใจเขียนมุมมองของพี่เบิ้มดีกว่า นานๆ ได้เขียนมุมพระเอกนำ ก็ตลกๆ เฮฮาดีค่ะ เพราะคมสัน...เหมาะกับการเป็นจอมมารในมุมมืด ยิ้มๆ แต่ลงมือทีแทบกระอักมากกว่า!

เรื่องราวในตอนนี้เป็นการขยายความจากตอนพิเศษในเรื่องของเสี่ยค่ะ ใครที่มีหนังสือคงพอจะรู้ที่มาการรู้จักกันของคู่รักพิสดารคู่นี้แล้ว ว่าพี่เบิ้มโดนคมสันจีบมาทำงานด้วยเกลือแร่สองขวดต่อวัน ต้นทุนวันละยี่สิบบาท แต่ได้บอดี้การ์ดมือดีแบบเกินคุ้มสุดๆ

แล้วมาเดาใจคมสันกันนะคะว่าจะหลอกพี่เบิ้มได้อีกนานแค่ไหน

ส่วนนักแสดงกิตติมาศักดิ์ในเรื่องนี้...ก็คือเสี่ยในวัยเด็ก หรือไอ้เด็กเวรในใจพี่เบิ้ม ไม่ว่าเรื่องไหนเสี่ยก็โดนด่าตลอด สงสารเสี่ยเขานะคะ 5555

สรุปอายุนักแสดงในเรื่องนี้

คมสัน 20 / พี่เบิ้ม 22 / เด็กเวร 14

   
เพจนักเขียนที่ไว้อาลัยแก่พี่เบิ้มและเด็กเวร
แฮชแทคแน่นอนว่าต้องเป็น #จอมมารคมสัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2018 12:45:17 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ ฮิ้วฮิ้ว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบอ่ะ ไม่เคยเห็นคู่แบบนี้มาก่อน พระเอกน่ารัก คมสันก็น่าสนใจ  :m20:  o13

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
น้ำตาจิไหลในที่สุดคุณจอมมารก็มีเรื่องเป็นของตัวเองสักที อ่านบทนำแค่นี้ยังรู้สึกสงสารพี่เบิ้มเลยค่ะ โถ่พี่คะอยู่ดีๆดันไปถูกใจจอมมารซะได้ คาดว่ากว่าจะจบพระเอกเรื่องนี้คงถูกย่ำยี(?)หนักแน่ๆ ฮ่าๆๆ ส่วนเด็กเวร..แค่ก..เอิ่ม..หมายถึงเสี่ยตอนเด็กน่ะเห็นแค่นี้ยังรู้เลยว่าถูกสปอยล์หนักมากถึงว่าสิโตมาเลยเมากาวขนาดนี้

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ชอบคู่นะ พี่เบิ้มจินตนาการกว้างไกลมากส่วนคุณเลขาคมสันร้ายเหลี่ยมจัดตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มน้อยเชียวหลอกพี่เบิ้มให้คิดมากเลยเถิดไป พี่เบิ้มเราก็แสนซื่อจริงๆ :pig4:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เริ่มมา พี่เบิ้มก็น่าสงสารแล้ว

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่เบิ้มน่ารักกกกกกก
คมสันนี่จอมมารสุดดดดด
อยากรู้แล้วว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อไปปปปป

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ซื่อเหลือเกินพระเอกเรา

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ในที่สุดคุณเลขาจอมมารก็มีเรื่องของตัวเอง พี่เบิ้มเป็นสตั๊นเก่านี้เอง แถมถูกจีบด้วยเกลือแร่ ร้ายจริงๆจอมมาร รอตอนหน้านะคะ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :o8: จะได้เห็นเสี่ยในไว้เพื่อจะน่ารักกว่าตอนโต ออกน้อยค่าตัวแพงเกิน

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
รอติดตาม
พร้อมทั้งเอาใจช่วยพี่เบิ้ม

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พี่เบิ้มน่าสงสารและมโนเก่ง :m20: จอมมารยังไงก็เป็นจอมมารค่ะ เชื่อหนูเถอะพี่ แต่คาดว่าพี่ตกหลุมท่านลาสบอสเป็นที่เรียบร้อย
ถอดตัวไม่ขึ้นล่ะ เฮ้อ... ได้แต่ทำใจ ส่วนเสี่ยคงได้ความมโนมากจากพี่เบิ้มมาด้วย ซึ่งความมโนนี้อาจจะมีอยู่เดิมมากพอสมควร
แต่ แต่ แต่พอมีพี่เบิ้มมาเพิ่มจาก 100% เพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ  :jul3: โอ๊ย...ขำ เอาให้กรามค้างไปเลยจ้า จัดม่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 1 : งานใหม่ของเบิ้ม



เบิ้มพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลชาติบดินทร์ตอนหกโมงตรงตามเวลานัดหมายของคมสัน

ภาพแรกที่ประสบพบเจอเมื่อก้าวผ่านกรอบประตูมาคือไอ้เด็กเวร...เวรกรรมของพื้นมากๆ เพราะตัวต้นเรื่องมัวแต่วิ่งหนีนมจืดในมือคมสันจนสะดุดเท้าตัวเองล้มโครม   

“ไม่เอา ฉันไม่ดื่ม!”

“แต่ดื่มนมแล้วดีต่อสุขภาพนะครับ”

เบิ้มยอมรับ ภาพของคมสันยามไร้มาดเจ้าเล่ห์ พยายามเกลี้ยกล่อมไอ้เด็กนี่มองเพลินดี

“แต่นายบังคับให้ฉันดื่มทุกเช้าและก่อนนอนเลย ดื่มนมๆๆ ดื่มจนรูปร่างฉันจะกลายเป็นขวดนมแล้ว!”

เบิ้มหลุดหัวเราะพรืด และนั่นก็ทำให้ทั้งสองเพิ่งสังเกตว่ามีแขกมาเยือน...ไม่สิ เบิ้มไม่ใช่แขก แต่จะมาเป็นหนึ่งในสมาชิกคนที่สามของบ้านหลังนี้ต่างหาก

คนที่สาม...ทำไมฟังเงียบเหงาวังเวงอะไรอย่างนี้นะ ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ถ้าไม่นับแม่บ้านและคนครัวแล้วมีสมาชิกน้อยนิดจนน่าใจหาย

“ผี!”

“ไม่ใช่ผีครับ บอดี้การ์ดคนใหม่ต่างหาก” คมสันแก้ความเข้าใจผิดให้เจ้านายคนใหม่ของเบิ้มที่เมื่อครู่ยังวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้ดันวิ่งไปหลบหลังพี่เลี้ยงซะงั้น

“ตัวใหญ่เท่าเสาบ้านแท้ๆ แต่เขาเดินไม่มีเสียงเลย ต้องเป็นผีแน่ๆ!”

เบิ้มคิ้วกระตุก...ไอ้เด็กนี่...จินตนาการกว้างไกลไปแล้ว!

คมสันเองก็เลิกอธิบาย คงรู้ดีว่าการทะเลาะกับเด็กที่ขวัญผวาบินกระเจิงนั้นเปลืองน้ำลายเปล่า เลยกวักมือเรียกเบิ้มให้เข้าใกล้ด้วยสีหน้าที่แตกต่างกับตอนพูดกับไอ้เด็กเวรราวคนละคน

...แตกต่างขนาดไหนน่ะเหรอ

ก็มากพอทำให้เบิ้มเดินกุมมือไปหาอย่างเรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับไว้

“อ้าว คนจริงๆ ด้วย”

หลังโดนไอ้เด็กเวร...เวรเอ๊ยจิ้มแรงไปแล้ว! จิ้มนิ้วจึกๆ จนพอใจว่ามีเลือดเนื้อจริงๆ คมสันก็ยกแก้วขึ้นหมายปฏิบัติหน้าที่ต่อ

“และถ้าคุณดื่มนมทุกเช้าและก่อนนอน โตขึ้นจะสูงเหมือนกับบอดี้การ์ดคนนี้นะครับ”

ไอ้เด็กที่เพิ่งจะทำหน้าหวาดผวาพลันเงยมองส่วนสูงที่เกือบจะชนกรอบประตูด้วยสายตาหลงใหล ราวกับว่าอนาคตจะสูงโปร่งมาดดีน่าเกรงขาม เลยยอมรับนมจืดมาดื่มอึกๆ แต่โดยดี

“ทานข้าวเช้าคนเดียวได้นะครับ” หลอกเด็กสำเร็จ คมสันก็เดินนำไปที่โต๊ะซึ่งจัดเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว

“ได้สิ ฉันโตแล้วนะ! สันอยากจะไปทำอะไรก็ไปเลย” ไอ้เด็กเวร...เวรของเบิ้มที่แสลงตากับท่าทางกอดอกเชิดหน้าเย่อหยิ่ง พูดจบก็เดินไปนั่งที่โต๊ะโดยไม่วายเหลือบมองทางเบิ้มกับคมสันเป็นระยะ และยิ่งถี่มากขึ้นเมื่อเบิ้มโดนคมสันพาเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์จนน่ากลัวว่าคอจะเคล็ด

“น่ารักใช่มั้ยล่ะ...” คมสันเปรยเสียงเบา กล่าวถึงไอ้เด็กที่ทำหน้าสลดทันทีเมื่อเห็นว่าโดนทิ้งคนเดียวจริงๆ

เอ่อ...เบิ้มคันปากยิกๆ...อยากถามว่านั่นน่ารักตรงไหนโปรดตอบที!

แต่สังหรณ์เตือนว่าอย่าปากหาเรื่องตั้งแต่วันแรกจะดีกว่า

“มาทางนี้” พอไร้ซึ่งลูกเจ้านาย คมสันก็กลายเป็นคนละคน ไม่หลงเหลือความอ่อนโยนแกมโอนอ่อนให้เผลอยิ้มอีก เบิ้มเดินตามโดยหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าติดมาด้วย จนมาถึงห้องๆ หนึ่งทางปีกซ้ายของคฤหาสน์ คมสันก็ชี้นิ้วบอกว่านี่คือห้องของเบิ้มนับจากนี้เป็นต้นไป

เขาวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนเตียงนุ่ม ห้องนี้ใหญ่มาก อย่างน้อยก็มากกว่าห้องขนาด 30 ตารางเมตรที่เช่าอยู่กับน้องชายมากโข มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม แถมยังมีห้องน้ำในตัว และ....

“ส่วนนี่คือห้องของฉัน” คมสันเอ่ยหลังเปิดประตูปริศนาข้างๆ กับตู้เสื้อผ้า ซึ่งเชื่อมกับห้องนอนของใครอีกคนหนึ่ง

ใครคนนั้น...คือคนที่กวักมือเชิญชวนให้ไปยังแดนลี้ลับด้วยท่วงท่างามสง่าปานภูติพราย

เบิ้มกลืนน้ำลายเอื๊อก คิดในใจว่าได้เวลาสวีตแล้วสินะ!

ประตูเชื่อมนี้ส่อเจตนาว่าอยากจะไปหาเมื่อไรก็ได้ทุกเมื่อสินะ!

เบิ้มเดินเข้าไปในห้องนอนของคมสัน ซึ่งเนี้ยบเป๊ะดังการแต่งกายของเจ้าตัว ผ้าปูที่นอนเรียบตึง ผ้าห่มพับตรงปลายเตียง โทนห้องออกไปทางสีกรมท่าดูเยือกเย็นตรงกับบุคลิกนิ่งสงบ และมีกลิ่นของโคโลญจน์อ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของอีกฝ่าย แต่ที่สะดุดตา คือชุดสูทตรงตู้กระจกซึ่งดูจะขนาดใหญ่กว่าเจ้าตัวสองเท่า

“ของฉันเหรอ”

“ใช่” คมสันตอบคำถามด้วยการช่วยแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตจนลมหายใจสะดุด

และแทบจะหยุดหายใจเมื่อปลายนิ้วนั้นปัดผ่านกล้ามเนื้อตึงแน่นในร่มผ้า ไล้ตามลอนกล้ามอย่างจงใจ

ภายใต้ความเงียบ ดวงตาใต้กรอบแว่นนั้นประกายชอบใจผิดกับท่าทางเยือกเย็นโดยสิ้นเชิง คมสันผู้ลวนลามกันซึ่งหน้าแต่ทำทีเป็นช่วยแต่งตัวนั้น...ไม่สิ คมสันผู้ช่วยเบิ้มแต่งตัวแต่แอบเนียนลวนลามกันนั้นเคลื่อนไหวคล่องแคล่วไม่ติดขัด ถอดเสื้อเสร็จก็สวมเสื้อใหม่ คลุมทับด้วยชุดสูท และผูกเนกไทจบท้าย

เบิ้มหัวใจจะวายตายเอาให้ได้เมื่อปลายนิ้วสวยซึ่งขยับอย่างชำนาญตั้งแต่ต้นจนจบกลับอ้อยอิ่งอยู่แถวลำคอราวอาลัยอาวรณ์ก็ไม่ปาน

คมสันไม่เคยสารภาพรัก แต่การกระทำกลับส่อแววลึกซึ้งทุกครั้ง

ทั้งตอนให้เกลือแร่

พามาเซ็นสัญญา

แล้วยัง...การช่วยแต่งตัวที่โคตรเร้าอารมณ์นี้อีก!

ระยะห่างระหว่างเบิ้มและคมสันใกล้กันจนชวนวาบหวาม เพราะตัวที่สูงกว่ามากทำให้อีกฝ่ายต้องเงยหน้าผูกเนกไทและนั่นก็ทำให้เบิ้มได้เห็นชัดๆ...ว่าดวงตาใต้กรอบแว่นนั้นเรียวชี้คมสวยสมชื่อคมสัน แถมยังมีขนตายาว หากไม่เพราะทรงผมเกินวัยกับกรอบแว่นแสนเชยเหมาะกับภาพลักษณ์ผู้ช่วยเลขาแสนสุภาพ คมสันจะเป็นหนุ่มหน้าคมสวยที่ดูร้ายกาจมากทีเดียว

“มองพอหรือยัง”

พลันเบิ้มสะดุ้ง เหมือนเด็กถูกจับผิด แต่คมสันไม่ได้ว่าอะไร เพียงละมือจากเนกไทที่ผูกเสร็จตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้แถมยังกลัดเข็มกลัดอย่างเรียบร้อยแล้วถอยห่างออกมาเพื่อไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดเท้าของบอดี้การ์ดคนใหม่

ก่อนจะพยักหน้าพอใจอย่างยิ่งยวด

“ไม่เลว”

ได้ยินคำนั้น เบิ้มก็เงยมองตัวเองในกระจก เห็นชายร่างสูงตัวโตล่ำบึกในชุดสูทที่พอดีตัวอย่างเหลือเชื่อและดูดีเกินคาด แต่ไม่ทันจะพูดอะไร คมสันก็ยัดกางเกงเนื้อผ้าเดียวกับชุดสูทใส่มือ

“ไม่สวมกางเกงให้หรอกเหรอ” เบิ้มถามแกมกวนพ่วงหวังสูง ผลคือคมสันยิ้มมุมปาก เกี่ยวนิ้วกับร่องเข็มขัดเขาเบาๆ

“ฉันอยากดูนายถอดมากกว่า”

...วิญญาณแตกซ่านสมองกระเด็น!

เบิ้มเขินอายซะเองเมื่อต้องถอดกางเกงผ้าหยาบโชว์บ็อกเซอร์ลายสก็อตต่อหน้าคนที่ดันกรอบแว่นอย่างเพ่งพิจารณาราวประเมินสินค้า จนต้องก้มหน้างุดๆ ขณะสวมกางเกงตัวใหม่ให้เข้าชุด และสูดหายใจเข้าลึกเมื่อคนตรงหน้าเผยยิ้มมุมปากขณะจ้องเขม็งตรงส่วนกลางลำตัวของเบิ้มที่ปูดโปนนิดๆ

ควรจะมั่นใจกับขนาดที่ไม่น้อยสินะ แต่ทำไมคลับคล้ายกับการถูกคุกคามชอบกล...

เบิ้มมือสั่นขณะรับเข็มขัดจากมือคมสันหลังสวมกางเกงเสร็จ บรรยากาศในห้องร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก หายใจติดขัด น้ำลายเหนียวคอ สัมผัสที่แตะโดนนิ้วอีกฝ่ายเมื่อครู่โดยไม่ตั้งใจนั้นคล้ายมีกระแสไฟฟ้าช็อต จนเผลอเดินถอยหลัง พอชนเข้ากับเตียงก็ยิ่งเตลิดไปใหญ่ เบิ้มปาดเหงื่อตัวเอง ขยับเนกไทอีกเล็กน้อย บอกกับตัวเองว่าให้ตั้งสติดีๆ อย่าได้ลุ่มหลงกับคนช่างยั่วเด็ดขาด

ใช่ คนช่างยั่ว เพราะคมสันดูจะพอใจกับท่าทางไปไม่เป็นของเบิ้มมาก อีกฝ่ายหลุดหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ด้วยเสียงแหบพร่าที่ชวนให้ใจสั่นยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเขยิบเข้าใกล้ ยื่นกล่องรองเท้าเป็นลำดับถัดไป

ก็อยากจะบอกอยู่หรอกว่าส่งของทุกอย่างมาทีเดียวก็ได้ เดี๋ยวจัดการเอง แต่คมสันคงไม่ยอม ราวกับว่าการช่วยและชมดูเบิ้มค่อยๆ แต่งตัวนั้นเป็นความบันเทิงแสนสุนทรีย์อย่างหนึ่ง ควรจะดีใจสินะที่ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีได้ขนาดนี้

สรุปแล้วทั้งเนื้อทั้งตัวเบิ้มตอนนี้ นอกจากบ็อกเซอร์ที่ซื้อมาสามตัวร้อยก็เป็นของที่ได้รับจากคมสันหมด

ประหนึ่งอิหนูถูกป๋าเลี้ยง

แต่ดูจากขนาดตัว เบิ้มไม่น่าจะใช่อิหนู และคมสันเองก็ไม่ใช่ป๋ากระเป๋าหนักที่ไหน เพราะเครื่องแต่งกาย ที่อยู่อาศัย รวมทั้งอาหารการกินระบุในสัญญาที่เซ็นเมื่อวานทั้งหมด

ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนถูกขอแต่งงานชัดๆ และนี่ก็เป็นช่วงเวลาข้าวใหม่ปลา ภรรยาช่วยสามีแต่งตัว ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ใช่ เบิ้มไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ!

แม้ว่าเบิ้มจะ...เอ่อ...แต่งเข้าไม่ใช่แต่งออกก็เถอะ

หลังก้มตัวสวมรองเท้าหนังเงาวับ เบิ้มก็ต้องผงะเมื่อคมสันขยับเข้าใกล้อีกครั้งพร้อมสองมือที่เต็มไปด้วยเจลหนืดๆ อีกฝ่ายไม่พูดอะไร แต่ฉวยจังหวะที่เบิ้มยังไม่เหยียดตัวยืนขึ้นเต็มความสูงนั้นจัดแต่งทรงผมอย่างช่ำชอง เพียงพริบตา จากทรงผมปล่อยกระเซิงท้าแรงลมก็เข้าทีเข้าทาง ถูกปาดเรียบไปด้านหลัง เผยโครงหน้าหล่อเข้มตามฉบับชายไทย กรามชัด คิ้วเข้มอย่างชัดเจน

“เสร็จแล้ว...ใช่มั้ย?” เบิ้มถามสงสัย ทั้งระแวงและเสียดาย ระแวงเพราะกลัวคมสันจะเข้าใกล้ไม่รู้ตัวให้หวั่นไหว และเสียดายเพราะอดแนบชิดให้ไหวหวั่น

คำตอบที่ได้คือดวงตาใต้กรอบแว่นซึ่งประกายระยับ ราวสนุกสนานและพอใจกับการแต่งตัวตุ๊กตาครั้งนี้มาก

“พกใบขับขี่มารึเปล่า”

“พกมา”

“ดี” คมสันพยักหน้า ก่อนจะเดินนำไปทางห้องนอนของเบิ้ม แล้วเปิดประตูเดินออกมาจากห้องนั้น ราวไม่ต้องการให้ใครในบ้านนี้เห็นว่าเขาพาเบิ้มไปยังดินแดนลี้ลับที่เกือบลืมหัวใจไว้ตรงนั้นมาก่อน

“ช้า!”

พอเดินมาที่หน้าประตู เด็กเวร...เวรแล้วสิทำไมดูน่าเอ็นดูขึ้นทันที สงสัยเบิ้มจะโดนมนต์เสน่ห์ของคมสันทำให้ตาผิดเพี้ยนไปซะแล้วก็ยืนกอดอกทำหน้าบึ้งอย่างหงุดหงิด

“ขอโทษครับ” คมสันตอบสุภาพ ก่อนจะผายมือมาทางเบิ้ม “บอดี้การ์ดคนใหม่ของคุณ เป็นยังไงบ้างครับ”

“ดี เหมือนในหนังเลย!” เด็กชายเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น ก่อนจะลูบคาง วางท่าเหมือนเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่สมองน่าเป็นห่วง “ขาดอะไรไปอย่างรึเปล่าสัน”

“ผมเตรียมแล้วครับ” คมสันคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่หากสังเกตเห็นด้วยความลำเอียงจะใจเต้นแรง แต่ที่ทำให้หัวใจแทบกระดอนจากอก คือคมสันที่เดินมาใกล้เบิ้มอีกครั้ง เงยหน้า ส่งรอยยิ้มงดงามนั้นกระแทกตาจนมึนงง ก่อนที่เบื้องหน้าเบิ้มจะกลายเป็นสีดำ...

“เยี่ยม!” เสียงปรบมือโห่ร้องดังขึ้นขณะเบิ้มยกมือจับของแปลกปลอมบนใบหน้าตัวเอง

...มันคือแว่นตาดำ

เยี่ยม เหมือนบอดี้การ์ดในหนังมาเฟียฮ่องกงจริงๆ ด้วย

แน่นอนว่าไอ้ที่คิดน่ะประชดล้วนๆ

“งั้นขึ้นรถกันเถอะครับ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ” คมสันไล่ต้อนเด็กชายไปที่รถ ช่วยเปิดประตูให้ประหนึ่งพ่อบ้านต้อนรับคุณหนู ซึ่งไอ้เด็กเวร...เวรล่ะจะตาบอดมั้ยเล่นเชิดหน้าไปถึงชั้นฟ้าขนาดนั้นก็สุดแสนจะเคยชินกับการกระทำสุดโอเวอร์และแสนจะตามอกตามใจนี้

“โรงเรียนเมื่อวาน จำได้ใช่มั้ย” แน่นอนว่าคมสันต้องนั่งข้างคนขับ หลังคาดเข็มขัดเรียบร้อยก็หันมากระซิบถาม รอยยิ้มที่แต้มบนมุมปากนั้นยังชวนให้ใจกระเจิดกระเจิงเหมือนเดิม

“ได้” เบิ้มพยักหน้า พยายามเรียกสติในการขับรถออกจากคฤหาสน์ แม้จะเผลอไผลจนเหมือนตกบ่วงเข้าเต็มเปา แต่ยังระลึกได้ว่าทุกการกระทำของคมสันนั้นผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบ และต้องเป็นแผนที่วางล่วงหน้ามาหลายเดือน

หลักฐานชิ้นแรก คือเสื้อสูทที่เบิ้มใส่อยู่ เสื้อสั่งตัดเข้ารูป ยังไงก็ตัดเสร็จไม่ทันในวันเดียว

หลักฐานชิ้นที่สอง ห้องพักที่มีประตูเชื่อม ตอนเดินออกมาหลังโดนจับแต่งตัวเสร็จแล้ว เบิ้มสังเกตเห็นรอยตรงกรอบประตู พบว่าเป็นรอยทุบใส่กรอบใหม่ ผิดกับสภาพห้องที่ค่อนข้างเก่า แสดงว่าเมื่อก่อนไอ้ประตูปริศนาสู่แดนลี้ลับนี้ไม่เคยมี

หลักฐานชิ้นที่สาม คือรถใหม่ป้ายแดงที่กำลังขับอยู่ตอนนี้ รถซึ่งคันใหญ่กว่าคันเมื่อวานที่คมสันใช้ เหมาะกับขนาดตัวของเบิ้ม ทำให้ขับง่ายไม่อึดอัดราวผ่านกระบวนการคิดอย่างใส่ใจ

แล้วยังหลายๆ อย่างที่มาย้อนคิดแล้วคล้ายจะเป็นวังวนกับดักไปซะหมด ทั้งการพาเบิ้มไปหาไอ้เด็กเวรเมื่อวาน เพื่อให้ศึกษาเส้นทางทั้งจากคฤหาสน์ไปโรงเรียน จากโรงเรียนไปบริษัทก็ดี หรือหากย้อนนึกเข้าจริงๆ ไอ้การหลบหน้า ไม่ยอมคุยกันตั้งแต่ตอนแรกที่เริ่มให้เกลือแร่นั้นจะเป็นเพราะยังเตรียมการไม่เสร็จหรือเปล่านะ

เบิ้มเหลือบมองคนข้างกายซึ่งนั่งเช็กเมล์ในโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแล้วนึกเปรียบเทียบกับฉากการแต่งตัวสุดวาบหวิวเมื่อเช้า...นั่น...ก็คงเป็นหนึ่งในแผนเหมือนกัน

แผนที่ทำให้เบิ้มทำงานกระตือรือร้นอย่างลืมตาย

ถ้าถามว่าได้ผลมั้ย

...ได้ผลสิวะปัดโธ่!

---------------

คมสันร้ายมั้ยคะ
ถ้าไม่ร้าย ไม่ช่างวางแผน ก็คงไม่ได้ชื่อว่าจอมมารเนอะ 555

สิ่งที่คมสันถนัดที่สุดคือการวางแผนและชักนำให้เหยื่อเข้าสู่วังวนกับดักด้วยท่าทางไร้พิษภัยชนิดที่รู้ตัวอีกครั้งว่าคมสันคือจอมมารก็ถอนตัวไม่ทันแล้วค่ะ ซึ่งเหล่าครอบครัวทองคำดีก็ได้รู้ซึ้งถึงความสามารถนี้ของท่านจอมมารอย่างแจ่มแจ้งในเรื่องก่อนๆ

ใช่ค่ะ ทุกคนก็รู้กันหมดนั่นแหละยกเว้นเสี่ย! ( ไอ้เด็กเวรในตอนนี้ )
แต่พี่เบิ้มเองก็ไม่ใช่คนโง่
ตอนนี้ตาบอดด้วยรักค่ะ จะตาสว่างเมื่อไหร่นั้นต้องลุ้นกันแล้ว! 555

#จอมมารคมสัน

เพจนักเขียนที่ใจจะวายกับฉากแต่งตัว
Twitter : MajaYnaja ( อ่านว่า :มาจะวายนะจ๊ะ )

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จอมมารมาแล้วววว ค่อยๆชักจูงเหยื่อโดยไม่เอะใจ รู้ตัวอีกทีถอนตัวไม่ทันแล้วจ้า ส่วนพี่เบิ้มนั้น>>>คนโง่ที่รักเธอ :laugh:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ร้ายมากยั่วยวนพี่เบิ้มจนหลงละเมอทำงานถวายหัวให้
เสี่ยตอนเล็กช่างเอาแต่ใจพูดมากกว่าตอนโตอีก :pig4:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เสี่ยตอนเด็กมันน่าเบิ้ดกะโหลกจริงๆ 555555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
กว่าเบิ้มจะตาสว่าง 555 ตกหลุมถอนตัวไม่ทันแหงๆ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
 ท่านจอมมารช่างรอบคอบ และรักเด็ก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราว่าสเบิ้มน่าจะตรงสเปคท่านจอมมารแกด้วยและค่ะ55

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จอมมาร ล่อลวงเบิ้มให้หลง   :hao6:
เบิ้ม เต็มใจถูกล่อลวงไปเต็มร้อยแล้ว   :z3: :really2: :-[

เบิ้ม  คมสัน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 2  : ความลำบากของเบิ้ม


“เบิ้ม...นั่นเบิ้มใช่มั้ย!”

เพราะเป็นการลาออกกะทันหัน เพื่อนร่วมแผนกบางคนเลยยังไม่รู้ว่าเบิ้มเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว

หลังไปส่งไอ้เด็กเวรเบิ้มก็เป็นอิสระ ความจริงเขาควรจะประกบติดคมสัน เสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยิ่งแนบแน่นคุ้นเคย แต่ยังมีเวลาอีกมาก และเบิ้มเองก็กลัวว่าเพื่อนจะตกใจ เลยขอตัวกับคมสันชั่วครู่เพื่อแวะมาที่แผนกสตั้นท์แมน บอกกล่าวกันสักนิดว่ามีแฟนแล้ว เอ๊ย! หมายถึง...มีงานใหม่แล้ว

คมสันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ไม่วายส่งของอย่างหนึ่งให้

นั่นคือเกลือแร่

แม้จะคบกัน แต่การกระทำยังสม่ำเสมอชวนให้อุ่นวาบไปทั้งใจ เบิ้มดื่มเกลือแร่แล้วอดคิดไม่ได้ว่ารสชาติช่างหวานล้ำกว่าปกติ ก่อนจะเดินหน้าบานไปหาเพื่อนสนิทที่ต้องขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีกกับการปรากฏตัวที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า

“ชุดสูทอะไรวะเนี่ย แล้วใส่แว่นดำอีก เดินอยู่ในบริษัทจะใส่แว่นดำทำเพื่อ? ทำอย่างกับคนตาบอด หรือว่างานสตั้นท์วันนี้จะเป็นยอดฝีมือตาบอดวะ”

“แต่หัวหน้าบอกว่าเบิ้มลาออกแล้วนี่หว่า”

“จดหมายลาออกเพิ่งถึงโต๊ะหัวหน้าเมื่อเช้า ยังไม่ทันเซ็นเลย”

เบิ้มกระแอมไอเรียกความสนใจจากกลุ่มเพื่อนที่เริ่มจะคุยกันเองแต่ไม่ยักจะปลาบปลื้มชื่นชมกับชุดใหม่มาดใหม่กันบ้างเลย เพราะเมื่อวานเซ็นสัญญากับคมสันหลังส่งลูกชายเจ้านายเข้านอน จดหมายลาออกที่คุณผู้ช่วยเลขารับปากว่าจะจัดการให้เลยเพิ่งส่งตรงถึงหัวหน้าแผนกตอนเช้าตรู่ ป่านนี้คงงงเป็นไก่ตาแตก

“มาพอดีเลยเบิ้ม หัวหน้ากำลังจะโทรเรียกพอดี” เพื่อนอีกคนหนึ่งตบบ่าเบาๆ อย่างให้กำลังใจ “ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพวกเราได้นะเว้ย อย่าเดินทางผิด เข้ากับพวกเงินกู้นอกระบบ...”

ไอ้เบิ้มกลุ้มใจเหลือเกิน เพื่อนคนหนึ่งก็หาว่าเหมือนคนตาบอด อีกคนก็บอกว่าเหมือนพวกทวงหนี้นอกระบบ

“อย่าคิดมาก อย่าฟุ้งซ่าน” เบิ้มเลยได้แต่ตบไหล่เพื่อนกลับแปะๆ และอีกหลายแปะกับกลุ่มคนที่เริ่มมุงอย่างสงสัยกับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันครั้งนี้ “ฉันได้งานใหม่เป็นบอดี้การ์ดน่ะ”

พูดจบเบิ้มจับชุดสูทด้วยมาดเคร่งขรึม ตั้งใจอวดว่าชุดนี้ราคาแพงขนาดไหน เข็มกลัดที่ติดตรงเนกไทก็สวยหรูดูดี เรียกเสียงร้องว้าวจากคนรอบข้างจนยิ่งฮึกเหิม

คมสันเป็นคนสวมให้เลยนะเนี่ย ดูสิทุกคน จงมองมาทางนี้!


เมื่อได้การตอบรับที่พอใจ เบิ้มก็ตีหน้าเข้มเดินเข้าไปหาหัวหน้าที่กำลังกุมขมับอยู่พอดี

“ชุดเข้ากับนายนะ” หัวหน้ายิ้มแห้งให้ ท่าทางแปลกๆ ชอบกล “ฉันได้จดหมายลาออกแล้ว มีระบุด้วยว่ามาจากท่านประธานโดยตรงที่ต้องการโยกย้ายคนไปประกบผู้ช่วยเลขา ฉะนั้นคิวงานที่ตกลงกันไว้ถือเป็นโมฆะทั้งหมด นายไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาจ้างที่ค้างไว้ ฉันจะหาคนมาแทนที่เอง”

“ขอบคุณครับ”

“ยังไงก็...” หัวหน้าเกาแก้มอย่างเก้อกระดาก “เอ่อ...เอาเป็นว่ายินดีด้วยแล้วกัน สมหวังสักทีนะ สามเดือนมานี้ทุกคนก็ลุ้นกันแทบแย่ว่าสุดท้ายจะลงเอยยังไง มาลงเอยแบบนี้ก็ถือว่าแฮปปี้เอนดิ้ง ลูกน้องคนเก่งได้คนรักแถมเจริญก้าวหน้าดี คนเป็นหัวหน้าก็ต้องแสดงความยินดีด้วย!”

แล้วเบิ้มก็เข้าใจกับท่าทางแปลกๆ นั้น...เพราะจดหมายระบุว่าเบิ้มถูกโยกไปประกบผู้ช่วยเลขาท่านประธาน...เหล่าคนในแผนกที่รู้เรื่องการจีบผ่านเกลือแร่ถึงขั้นท้าพนันกันเลยประติดประต่อการลาออกกะทันหันนี้ไปทางผลประโยชน์ส่วนตัว

ซึ่ง...คุณเข้าใจถูกแล้วครับหัวหน้า

เห็นเบิ้มยืนนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน หัวหน้าที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วนกับลูกน้องฝีมือดีที่ดันติดผู้ชายจนขอลาออกก็ปั้นหน้าไปไม่เป็น โบกมือไล่เบิ้มแบบจะไปไหนก็ไป จนแทบจะเปิดเพลงไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์~

อันที่จริงเบิ้มก็รู้สึกผิด เพราะหัวหน้าสนับสนุนและผลักดันเขามากทีเดียว แต่ไม่ทันไรก็ลาออกซะงั้นด้วยสาเหตุชวนตะลึงอย่างโดนผู้ชายตกไปแบบมึนๆ แถมผู้ชายคนนั้นยังมีอำนาจ เป็นผู้ช่วยเลขาคนสนิท เพียงพริบตาก็ได้ลายเซ็นอนุมัติจากท่านประธานโดยตรง

เอาจริงๆ นะ...เบิ้มยังงงตัวเองเลยว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง

แต่พอนึกภาพว่าจะได้กินข้าวกับคมสันทุกมื้อ ได้ขับรถโดยมีอีกฝ่ายนั่งข้างๆ ได้เฝ้ามองดวงตาแสนสวยนั้นยามช่วยแต่งตัว อยู่ห้องข้างกัน คนที่กำลังหลงละเมอในรักที่เพิ่งสมหวังเป็นครั้งแรกก็เดินตัวลอยออกจากแผนกท่ามกลางสายตางุนงงของอดีตเพื่อนร่วมงาน

แน่นอนว่าทุกภาพฝันนั้นไอ้เด็กเวรเป็นเพียงภาพโมเสกที่ถูกเซนเซอร์ไว้ มีอยู่แต่เหมือนไม่มี

อย่า อย่าคิดว่าเบิ้มหัวอ่อน! ทุกการกระทำของคมสันมีพิรุธ วางแผนอย่างดี ใช่ว่าจะมองไม่ออก แต่คนรักกันชอบกัน จะอยากได้มาครอบครองโดยไม่สนวิธีการก็นับเป็นเรื่องที่พอรับได้ โดยเฉพาะเมื่อใจเราตรงกัน...อะแฮ่ม! อย่าทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เบิ้มเลย ตลอดยี่สิบสองปีมานี้เขาไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยถูกสารภาพรัก ประสบการณ์โดนจีบหรือก็ไม่มี พอมาเจอคมสันที่ทุ่มเททำถึงขนาดนี้เลยอดใจอ่อนไม่ได้

เบิ้มไม่ได้ต่อต้านรักร่วมเพศ หรือถ้าให้สารภาพตามตรง...คือมีคนมาจีบก็บุญหัวแล้ว! จะเกี่ยงทำไมเรื่องหญิงชาย ยิ่งคมสันคุณสมบัติดีเลิศทุกด้าน หน้าตาก็ดี การเรียนก็ดี การงานก็ดี แล้วจะหวังสูงอะไรอีก แค่นี้ก็เกินคาดมากแล้ว! บางคนทำบุญสิบชาติยังไม่ได้ดีเท่านี้เลย!

เล่าถึงตรงนี้ หลายคนก็คงพอเข้าใจกันแล้วว่าเบิ้มอ่อนประสบการณ์เรื่องรักมากแค่ไหน

พอมีทั้งทีแถมได้พรีเมียมเกรดเอ เลยเคลิบเคลิ้มหนัก อาการเข้าขั้นน่าเป็นห่วง แม้จะชอบงานสตั้นท์ แต่ก็ทำมาหลายปี แต่คนรักที่หลงผิดตามจีบด้วยเกลือแร่อาจจะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต ไม่รีบคว้าไว้มีหวังเสียใจจนตาย!

แถมคนรักคนนั้นยังแสนดี เสนองานที่ดีกว่าให้ด้วยเงินที่มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

แล้วจะไม่หลงได้ยังไงเบิ้มขอถาม!

อย่า อย่าเพิ่งตอบ อย่าเพิ่งดับฝันหวาน แรกคบกัน ทุกสิ่งทุกอย่างช่างแสนดีและสวยงาม แม้จะตงิดๆ กับการกระทำของคมสันบ้าง แต่เบิ้มยังพอรับได้ ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น ต้องค่อยๆ เรียนรู้และปรับตัว ฉะนั้นใครจะพูดยังไง...เบิ้มก็ไม่ฟังหรอก!

อยากจะตะโกนด้วยซ้ำว่ามีแฟนแล้วโว้ย!!

รู้ว่าข้างหน้าเป็นกับดักแต่ก็ยังกระโจนลงไป บางทีอาจจะเป็นสภาวะหน้ามืดตามัว เบิ้มสะบัดศีรษะ เรียกสติตัวเองให้เชื่อมั่นกับการตัดสินใจครั้งนี้ ยังไงซะก็ถอยกลับไม่ได้แล้ว มีแต่ต้องลุยให้ถึงที่สุดเท่านั้นละนะเบิ้มเอ๋ย!

เกลี้ยกล่อมตัวเองเสร็จเบิ้มก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องของท่านประธาน ชั้นนี้มีโต๊ะรับแขกและโต๊ะทำงานของบรรดาเลขาไล่เรียงตามลำดับ แต่โต๊ะของคมสันกลับว่างเปล่า เบิ้มเลยเดินไปถามกับเลขาอาวุโสอันเป็นหญิงสูงวัยมาดดีท่านหนึ่งซึ่งดูจะไม่ตกใจกับชายแปลกหน้าสวมชุดสูทและแว่นดำเลยสักนิด

“มาหาคมสันใช่มั้ย ถูกท่านประธานเรียกไปตำหนิอยู่น่ะ”

ภายใต้ภายหน้านิ่งเรียบไร้ความรู้สึกอันเป็นคุณสมบัติของบอดี้การ์ด(ที่คิดเอาเอง) ในใจเบิ้มวิตกมากว่าหรือความรักของเราจะถูกกีดกัน ไม่สิ ท่านประธานเป็นคนเซ็นอนุมัติการลาออก แล้วจะเรียกคมสันมาตำหนิทำไม

เบิ้มตัดสินใจขออนุญาตเข้าพบประธาน แน่นอนว่าเลขาอาวุโสพยายามทัดท้าน แต่เมื่อเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำท่าคล้ายจะเอื้อมไปหยิบอะไรบางอย่างที่ข้างเอว เลขาสูงวัยก็หยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ทำทีเหมือนยุ่งมากจนหัวฟู สบโอกาสให้เบิ้มเดินไปเปิดประตูอย่างง่ายดาย

“ฉันบอกให้จ้างบอดี้การ์ดตั้งแต่เมื่อไหร่!”

และเจอแจ๊กพ็อตเข้าจังๆ

เดี๋ยวนะ ถ้าท่านประธานไม่รู้เรื่องงั้นลายเซ็นบนจดหมายมาจากไหน!?

“แล้วค่าจ้างนี่มันอะไร สูงเกินราคาบอดี้การ์ดปกติรึเปล่า ยังไม่นับที่กิจภัทรไม่จำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดคอยคุมด้วย ตอนเช้าเธอก็ไปส่ง ขากลับเธอก็ไปรับ ที่โรงเรียนมีคนช่วยดูแล จับตาดูตลอดแบบนี้จะเอาบอดี้การ์ดมาทำไม เธอก็รู้ว่ากิจภัทรนิสัยยังไง ช่วงนี้กำลังอยากรู้อยากลอง เกิดไปฟิตกล้ามเลียนแบบ ยิงปืนซี้ซั้วจะยิ่งแย่!”

คมสันก้มหน้าก้มตาไม่หือไม่อือ ถูกท่านประธานบริษัทหรือพ่อบังเกิดเกล้าของเด็กเวร...เวรกรรมหรือจะสู้บุญที่ทำมา ถึงได้มีวาสนาเกิดบนกองเงินกองทองชี้หน้าด่าอย่างไม่พอใจ

“บ้านของฉันไม่ใช่ที่พักของคนอย่าง...อย่าง...อย่างนี้!”

เหมือนตอนแรกจะนึกไม่ออกว่าเรียกยังไงดี พอเบิ้มเดินเข้ามา เลยเป็นเป้าให้ท่านประธานชี้

คมสันหันมองทันที แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเบิ้ม แต่ดูจากสีหน้า ไม่ยักจะสีเผือดตกอกตกใจกับการโดนตำหนิครั้งนี้เท่าไร ด้วยความที่เริ่มจะรู้แกว พอเห็นอีกฝ่ายดันแว่นหนึ่งครั้งเบิ้มจึงมั่นใจว่าจะรับมือได้ ถือโอกาสแนะนำตัวแก่คนจ่ายเงินที่ไม่รู้เรื่องสัญญาจ้างขอแต่งงานซะเลย

“สวัสดีครับ ผมชื่อเบิ้ม”

เบิ้มยกมือไหว้อย่างรู้มารยาท แม้ตัวโตแต่ก้มสี่สิบห้าองศา ให้รู้ว่าอ่อนน้อมถ่อมตนขนาดไหนแม้หน้าจะติดเถื่อนไปหน่อยก็ตาม ความประทับใจแรกนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เบิ้มต้องให้คนจ่ายเงินเชื่อถือในฝีมือ ว่าจ่ายแล้วคุ้มค่า โดยไม่ให้ความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเราเปิดเผย เพราะคงจะเป็นที่ชังน้ำหน้า แล้วโดนหาว่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานอย่างที่หัวหน้าแผนกของเบิ้มคิด

“ผมเป็นบอดี้การ์ดให้ลูกชายของคุณครับ และเป็น...”

เบิ้มตั้งใจจะพูดว่าเป็นคนขับรถ แต่คมสันกลับโพล่งขึ้นมา

“และเป็นคนรักของผมเองครับท่าน”

น้ำเสียงที่แสนจะราบเรียบ กับสีหน้าที่แสนจะเรียบราบ

ทำเอาทั้งเบิ้มและท่านประธานอุทานพร้อมกันว่า “เฮ้ยยย!”

ทันใดนั้น ทุกอย่างตกในความเงียบ

กับอาการที่แสดงออกมาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เริ่มจากเบิ้มก่อน เบิ้มค่อนข้างช็อก เลยอยู่ในท่าหันมองคมสันอ้าปากค้าง ส่วนคนที่เพิ่งพูดประโยคสุดตะลึง กลับนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่สะทกสะท้านสักนิดเดียว และท่านประธาน...

ท่านประธานเขม็งมองเบิ้มอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะจ้องตาคมสัน คล้ายไม่อยากเชื่อยิ่งกว่า

ทุกคนต้องใช้ความเงียบในการตั้งสติ และเบิ้มก็เริ่มตระหนักได้ถึงความรักลึกซึ้งแสนจริงใจของคมสัน ก่อนจะด่าตัวเองในอีกวินาทีต่อมาว่าเบิ้ม! นายกำลังจะซวยแล้ว ต้องโดนไล่ออกแน่ๆ แม้หัวหน้าแผนกจะยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่ส่วนหนึ่งเพราะพอจะรู้เรื่องเขากับคมสันจีบกันมาร่วมสามเดือน อีกส่วนคือไม่มีอำนาจคัดค้าน แต่ท่านประธานตรงหน้านั้นไม่รู้เรื่องของเราสอง และยังมีอำนาจสั่งการด้วย!

ถ้าเบิ้มโดนเด้งคนเดียวก็ไม่เท่าไร แต่คมสัน...คมสันนั้น...

ผู้ช่วยเลขากระทำการโดยมิชอบ ใช้เหตุผลส่วนตัวปนกับงาน แค่ข้อหานี้ก็ทำให้คมสันโดนไล่ออกด้วยแล้ว!

เบิ้มทำอะไรไม่ถูก เห็นท่านประธานอ้าปากแบบภาพช้า ค่อยๆ พูดพ่นออกมาทีละคำด้วยประโยคสุดสะพรึง

“ถ้างั้นก็แล้วไปเถอะ”

...สะพรึงเกินไปแล้ว!

“ขอบคุณครับ”

และสะพรึงยิ่งกว่าเมื่อคมสันพยักหน้าอย่างรู้อยู่แล้วว่าต้องลงเอยแบบนี้ เบิ้มมองท่านประธาน เห็นว่าท่านกำลังทำหน้ากระอักกระอ่วนไปไม่เป็นเหมือนอดีตหัวหน้าแผนกของเบิ้มไม่มีผิด นี่คือสีหน้าของคนที่จำยอม ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยไป

...เท่ากับว่าคมสันมีอำนาจในการต่อรองสูงกว่าประธานบริษัทอีกงั้นเหรอ!?

เบิ้มทั้งมึนทั้งอึน โดนคมสันใช้สายตากดดันให้เดินตามออกมาด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ คุณผู้ช่วยเลขานั้นเดินเลยโต๊ะทำงานไปยังห้องประชุมเล็ก เมื่อเห็นเบิ้มนั่งประจำที่พร้อมถอดแว่นกันแดดออกแล้วก็กดล็อกประตู

แกร็ก

เสียงล็อกนั้นน่ากลัวแปลกๆ คล้ายหนังสยองขวัญฆาตกรรม

แต่สำหรับเบิ้มนั้นคล้ายเสียงสวรรค์ เพราะเป็นช่วงเวลาสองต่อสองแสนหวานชื่น

“ลองเดาดูมั้ย” คมสันเปิดหัวข้อด้วยคำถามทันที สีหน้าไร้ความกังวลใจ ออกจะสนุกด้วยซ้ำที่เห็นเบิ้มงง

“เดา? เดาอะไรล่ะ หรือว่านายเป็นลูกติดของท่านประธาน...”

คมสันหลุดขำ ไม่ได้หัวเราะปากกว้างน้ำลายกระเซ็น แต่หัวเราะและขยับยิ้มได้น่ามองอย่างมาก

แหม ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองเลย แต่เวลาคมสันอยู่กับเบิ้มท่าทางจะผ่อนคลาย สบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้เป็นธรรมชาติกว่าตอนอยู่กับคนอื่นๆ เพราะตอนทำงานในบริษัท คมสันค่อนข้างจริงจัง จนบางทีถูกมองว่าเย็นชาซะด้วยซ้ำ ต่อหน้าท่านประธานก็สุภาพไม่ค่อยมีปากเสียง กับไอ้เด็กเวรยิ่งแล้วใหญ่ กลายเป็นพี่เลี้ยงแสนดีดูสุภาพอ่อนน้อมซะอย่างนั้น

“นายเห็นเลขาหน้าห้องมั้ย”

“เห็นสิ” เบิ้มตอบ จะลืมได้ยังไงล่ะเอ้อในเมื่อเพิ่งจะทำท่าขู่ไปเอง

“นั่นแม่ฉัน”

พรืด!

เบิ้มแทบเซตกเก้าอี้เมื่อได้ยินความจริงอันแสนโหดร้าย เขา...ขู่แม่ภรรยางั้นเหรอ!!

“ไม่งั้นจะปล่อยนายเข้ามาในห้องประธานได้ยังไง แต่งตัวมีพิรุธอย่างนี้ควรเรียกรปภ.ถึงจะถูก”

คมสันอธิบาย ซึ่งเข้าเค้าและตอบทุกสงสัยพอดิบพอดี

“งั้นแสดงว่า...คุณแม่รู้เรื่องของ...เรา?”

จากเลขาอาวุโสกลายเป็นคุณแม่ในพริบตา เบิ้มก็ปรับตัวเก่งเหมือนกันนะนี่

ดวงตาใต้กรอบแว่นประกายวับวาวมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดติดตลกที่ค่อนไปทางจริงจังมากกว่าขำขัน เห็นแล้วเบิ้มก็อยากจะถอดแว่นอีกฝ่ายเหลือเกิน เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้มันเครื่องมือทำลายความงามชัดๆ!

“ใช่” คมสันตอบ “แม่ฉันเป็นทั้งพี่เลี้ยงและเลขาคนสนิทของท่านประธาน ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน เป็นทั้งเพื่อนและครอบครัว แม่ฉันแต่งงานกับคนขับรถของท่าน ซึ่งท่านประธานก็เป็นคนช่วยให้ทั้งคู่สมหวัง ทั้งพ่อและแม่ฉันจึงสนิทกับท่านมาก ตอนฉันเกิด ท่านประธานก็เป็นคนที่เข้ามาอุ้มฉันต่อจากพ่อและแม่”

ความสนิทสนมนั้นตอบโจทย์ของการเป็นเด็กเส้นที่คว้าตำแหน่งผู้ช่วยเลขาในวัยยี่สิบทันที

“กลับกัน...ฉันก็เป็นคนอุ้มคุณหนู ต่อจากพ่อและแม่ของเขาเหมือนกัน”

“คุณ...หนู?”

ถ้าไม่เกรงว่าจะเสียมารยาท เบิ้มล่ะอยากจะตบบ้องหูซะเดี๋ยวนั้นเลย

“ใช่” คมสันเผยยิ้มเจิดจ้า เล่นเอาตาพร่าไปกับความรักที่มีอย่างท่วมท้นขณะเอ่ยถึงคนผู้หนึ่ง “คุณหนู...หรือเด็กชายกิจภัทร ตอนฉันหกขวบเขาก็เกิด ร้องไห้เสียงดังเลยล่ะ ตัวก็เล็กนิดเดียว เพราะในบ้านไม่มีเด็กวัยไล่เลี่ยกัน และท่านประธานกับคุณหญิงมักออกไปทำงาน รวมถึงพ่อและแม่ของฉันด้วย ท่านเลยขอให้ฉันพักอาศัยในคฤหาสน์ ช่วยดูแลคุณหนูกับพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่ง”

ฟังแล้วก็ชักเข้าใจว่าทำไมคมสันถึงรักและถนอมไอ้เด็กนั่นขนาดนี้

“ตอนคุณหนูอายุสี่ขวบ ฉันจับได้ว่าพี่เลี้ยงแอบขโมยของในบ้าน จึงโดนท่านประธานไล่ออก ตอนแรกจะหาพี่เลี้ยงคนใหม่ แต่ฉันบอกว่าไม่จำเป็น ฉันจะเลี้ยงคุณหนูเอง”

...แต่ตอนนั้นนายเพิ่งสิบขวบเองนะคมสัน

เบิ้มได้แต่เอ่ยความในใจกับตัวเองด้วยสายตาว่างเปล่า

“นายคงสังเกตว่าคุณหญิงไม่เคยปรากฏตัวที่บริษัทเลย และไม่อยู่ที่คฤหาสน์ด้วย”

ก่อนจะถูกสวนด้วยคำถามที่ไม่ทันตั้งตัว

จะว่าไป...ก็ไม่เคยเห็นคุณหญิงของตระกูลชาติบดินทร์จริงๆ นั่นแหละ เบิ้มทำงานกับที่นี่มาปีครึ่ง ติดตามข่าวสารของทางบริษัทอยู่บ้าง เวลาท่านประธานออกงานก็มักเดินคนเดียว ไม่เคยควงภรรยาเลยทั้งที่เธอเป็นถึงอดีตดาราสาวแสนสวย

ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก ประธานบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์แต่งงานกับดาราในสังกัดตัวเอง!

ตอนนั้นเป็นข่าวดังทีเดียว เบิ้มเองที่ไม่ค่อยสนใจข่าวบันเทิงก็เห็นผ่านหูผ่านตาบ้างเหมือนกัน

“ตอนนี้คุณหญิงอยู่ต่างประเทศ ไม่กลับมาเจ็ดปีเต็มแล้ว” คมสันยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่ยักชวนเคลิ้มอย่างเคย ออกจะไปทางไม่พอใจมากกว่า “ความจริงมีรายละเอียดหลายอย่างมากกว่านั้น แต่เอาเป็นว่า...ฉันอาสาจะดูแลคุณหนู และจะดูแลตลอดไปเพราะถ้าไม่ทำก็คงมีคุณหนูแค่คนเดียวอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้น ตอนแรกท่านประธานไม่มั่นใจ จะว่าจ้างพี่เลี้ยงคนอื่น ตอนฉันอายุสิบขวบก็เลยสารภาพความจริงบางอย่าง”

เบิ้มเชื่อว่าความจริงนี้ต้องเป็นประโยคเปลี่ยนชีวิตและสำคัญมาก

“ฉันบอกว่าฉันเป็นเกย์ ชาตินี้คงไม่ได้แต่งงานมีลูกเหมือนครอบครัวอื่น ฉะนั้นเหมาะที่จะดูแลคุณหนูที่สุด”

เบิ้มถึงกับสำลักน้ำลายตัวเอง ไม่รู้ทำไมถึงนึกภาพคมสันในวัยสิบขวบประกาศกร้าวต่อหน้าท่านประธานอย่างฉะฉานได้ชัดเจน...ตอนนั้นคนตรงหน้าเขาก็คงใช้สายตาคมกริบนี้จับจ้อง แสดงความมุ่งมั่นไม่อาจละสายตา

“ท่านประธานซึ้งใจกับการเสียสละและการเปิดตัวของฉันมาก เลยให้สัญญาว่าถ้าฉันมีคนรัก จะอนุญาตให้พักด้วยกันในคฤหาสน์ ขอเพียงแค่ฉันพอใจ จะให้คนนั้นมารับตำแหน่งหน้าที่อะไรก็ไม่เกี่ยงเป็นการตอบแทน”

เบิ้ม...อ่า...เบิ้มคิดอะไรไม่ออก

ไม่รู้จะตอบโต้คมสันยังไง แต่ที่รู้ดีแก่ใจอย่างหนึ่ง คือ...เบิ้มเข้าใจท่าทางสุดจำยอมของท่านประธานในวันนี้แล้ว!

เขาว่าตอนนั้นท่านอาจจะไม่ได้คิดจริงจังมากกับเด็กอายุสิบขวบ แต่ช่างบังเอิญเหลือเกิน เพราะเด็กคนนั้นดันทำได้จริงตามคำพูด ดูแลลูกชายให้อย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง ดูแลได้ดีกว่าพ่อแม่แท้ๆ เมื่อมาทวงคำสัญญา จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

“ถ้าเกิด...ประธานไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แล้วลายเซ็นบนใบลาออกมาจากไหนกันล่ะ”

“ฉันก็แค่ไหว้วานให้แม่ช่วยแทรกใบนี้ปนไปกับเอกสารอื่นๆ ที่ท่านต้องเซ็นเท่านั้นเอง ไม่ต้องห่วง ถ้าเป็นผลเสียกับท่านประธาน แม่ฉันไม่ยอมทำให้หรอก แต่เพราะเห็นดีเห็นงาม ทุกอย่างเลยราบรื่น”

“ทำไม...ต้องทำให้มันซับซ้อนขนาดนั้นด้วย”

“นายไม่คิดว่าสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสิบขวบจะน่าเชื่อถือหรอกนะ” คมสันเลิกคิ้ว ประสานมือบนตักขณะนั่งไขว้ห่างด้วยท่าทางแสนสบายคล้ายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย “ถ้ารู้ก่อน ท่านประธานต้องหาทางแทรกแซงแน่นอน ฉันเลยจัดการทุกอย่างให้เสร็จทั้งหมด แล้วค่อยบอก เพียงเท่านี้ท่านก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจำยอม”

เบิ้มถึงกับเผลอยกมือสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่ท่านประธาน

มันเป็นไปตามสัญชาตญาณน่ะ พอได้ยินคมสันอธิบายราวกับว่าทุกอย่างช่างง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยแล้วอดจะยกมือยอมแพ้ไม่ได้จริงๆ

เวรละ นี่มันอนาคตของคนกลัวเมีย!

“ฉันอยากให้นายรับปากอย่างหนึ่ง”

เบิ้มถึงกับสะดุ้ง เพราะมีบทเรียนจากท่านประธาน เลยรู้สึกว่าการรับปากอะไรกับคมสันนั้นจะต้องไตร่ตรองให้ดี

“อะไรหรือ”

“ฉันอยากให้นายปิดบังความสัมพันธ์ของเรากับคุณหนู”

คำว่า ‘เรา’ ฟังรื่นหูดีจริงๆ แม้จะค่อนข้างขัดใจกับไอ้คำว่าคุณหนูก็เถอะ

“ทำไมล่ะ” เบิ้มขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจในการกระทำนี้ คมสันกล้าประกาศตัวต่อหน้าประธานตั้งแต่สิบขวบ แล้วมากลัวอะไรกับเด็กอายุสิบสี่ที่ดูจะไม่ค่อยมีสมองเท่าไหร่

“นายก็คงได้ยินท่านประธานพูด...ตอนนี้คุณหนูอยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง แม้ฉันจะไม่คิดแต่งงานมีครอบครัว แต่ฉันไม่อยากให้คุณหนูเลียนแบบเราแล้วลองคบเพศเดียวกัน ถ้าจะรักชอบฉันไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่การทำตามใคร”

คำว่า ‘เรา’ ยังทำให้เบิ้มชื่นใจเช่นเดิม จึงยิ้มตอบคมสันอย่างว่าง่าย

“ได้สิ ได้ตามที่นายต้องการ”

เพราะเบิ้มเชื่อว่าคุณหนูสุดที่รักของอีกฝ่ายมีสิทธิ์ทำตามสูง...ดูจากการแยกแยะถูกผิดไม่ค่อยเป็นแล้วน่ะนะ

“แต่ขอถามอย่างได้มั้ย” เบิ้มทนไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่พูดวันนี้คงอกแตกตายแน่ๆ

“อะไรล่ะ” คมสันเลิกคิ้ว ขยับตัวเข้าใกล้ เอ่อ...แค่จะถามคำถาม ไม่ต้องเอียงหูรอฟังในระยะประชิดขนาดนี้ก็ได้ ทำเอาเบิ้มถึงกับสมองโล่งแทบลืมไปเลยว่าแค้นเคืองเรื่องอะไรอยู่

อ้อ...เรื่องคุณหนูเวร!

“นายคงไม่ได้ชอบคุณหนูในแง่นั้นใช่มั้ย” เบิ้มรู้ว่าเป็นคำถามที่งี่เง่ามาก แต่ทุกครั้งที่คมสันเล่าเรื่องในอดีตแล้วเอ่ยถึงเด็กเวรทีไร เป็นต้องทำหน้ารักลึกซึ้งจนชวนสงสัยทุกที

แล้วไอ้คำสัญญาว่าจะดูแลตลอดไปนั่นอีก

ไม่ว่าจะฟังหูซ้ายหรือหูขวาก็ชวนคิดลึก!

พลันคมสันหัวเราะอีกครั้ง เสียงหัวเราะครั้งนี้ดังกว่าเดิม ชวนให้ใจเบิ้มเต้นรัวเพราะหน้าของเราใกล้กันมากจนเห็นริมฝีปากที่ขยับอย่างยั่วยวนใจในองศาชวนเคลิ้ม

“คุณหนูเป็นเด็กดี แต่ไม่ใช่คนรักที่ดี” คมสันตอบชัดถ้อยชัดคำ “ฉันไม่คิดจะคบกับคนที่ติดพี่เลี้ยงและเอาแต่ใจสุดโต่งแบบนี้หรอก”

...ที่แท้ก็รู้ตัวด้วยเหรอว่าเลี้ยงเด็กแบบผิดๆ น่ะ!

แน่นอนว่าเบิ้มได้แต่คิด จะด่าใครก็ด่าได้ แต่ด่าคุณแฟนที่เคารพไม่ได้

“หมดคำถามแล้วใช่มั้ย”

“เอ่อ มีอีกคำถาม” เบิ้มยกมือเป็นเชิงขอแทรกเพราะคมสันเริ่มเอนหลังพิงพนักในท่าไขว้ห่างแสนสบายอีกครั้ง “ทำไมนายถึงเรียกคุณหนูลับหลังเด็กล่ะ ต่อหน้าไม่เห็นเรียกแบบนี้เลย”

“เพราะคุณหนูไม่ยอมให้ฉันเรียก บอกว่าฟังไม่เท่น่ะ” คมสันเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ สื่อว่าแม้จะโดนห้าม แต่ลับหลังก็ยังจะเรียกเป็นร้อยครั้งพันครั้งด้วยความเอ็นดูอยู่ดี คุณหนูน่ะอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ที่คำพูด

...คนคนนี้เกินเยียวยาแล้ว

แต่เขาว่ากันว่า Love Me Love My Dog ในเมื่อเบิ้มรักคมสัน เบิ้มก็ต้องรักหมา...แคก! หมายถึงคุณหนูของเขาด้วย

“ถ้าหมดคำถามแล้ว ฉันจะมอบหมายงานให้ทำ”

เบิ้มตื่นตัวทันที นั่งหลังเหยียดตรง แบบที่มักทำเป็นประจำเวลาประชุมงานกับหัวหน้า

“จำหน้าเด็กคนนี้ซะ” คำพูดเชิงสั่ง ทำให้เบิ้มก้มมองรูปถ่ายที่คมสันวางบนโต๊ะอย่างตั้งใจ รูป...ของเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับคุณหนูสุดที่รักของอีกฝ่าย ท่าทางเย่อหยิ่งพอกัน วัดจากใบหน้าที่เชิดขึ้นและรอยยิ้มถือดีแบบ ‘ทุกอย่างที่ข้าต้องการล้วนมีคนประเคนมาให้’ แล้ว...

“จะให้คุ้มครองเด็กคนนี้ด้วยหรือ” เบิ้มถาม เพราะหน้าที่ที่ได้รับคือบอดี้การ์ด ถ้าไม่ให้ปกป้องคุ้มครอง แล้วให้ไปทำอะไรได้อีก

“ไม่ใช่” คมสันเอ่ย ก่อนจะถอนหายใจเฮือก ราวกับว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้นั้นหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าตอนเล่าเรื่องในอดีตซะอีก “เมื่อวันก่อน...คุณหนูเผลอไปเหยียบเท้าเด็กคนนี้แล้วไม่ขอโทษ”

“ฮะ!?” เบิ้มอุทานเสียงดัง แต่คมสันไม่สนใจ เล่าต่อคล้ายไม่เห็นตาที่เกือบถลนของเบิ้ม

“ทั้งคู่ทะเลาะกัน สุดท้ายจบที่ท้าต่อยหลังเลิกเรียน”

“...”

ไอ้เบิ้มโนคอมเม้นต์แล้ว

“ฉันพยายามให้คุณหนูเบี้ยวนัด แต่เขาไม่ยอม บอกว่าเดิมพันด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย”

“...”

ไอ้เบิ้มเอาขามาก่ายหน้าผากจะทันมั้ย

“กำหนดการคือเย็นนี้ตอนห้าโมง คุณหนูให้ฉันสัญญาว่าห้ามแอบตามไปเด็ดขาด จึงต้องส่งนายไปแทน”

“แค่จับตาดูเฉยๆ?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่” คมสันเอ่ยน้ำเสียงจริงจังมาก ประหนึ่งเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ห้ามพลาดพลั้งเป็นอันขาด “จะทำยังไงก็ได้ แต่ห้ามให้คุณหนูบาดเจ็บ!”

“เอ่อ...สองคนนี้ท้าต่อยกัน จะไม่ให้เจ็บเลยได้ยังไง”

เบิ้มไม่เข้าใจ คมสันคิดว่าสองคนนี้นัดกันไปเล่นพ่อแม่ลูกเหรอ

“นั่นเป็นปัญหาของนาย และเป็นหน้าที่ของนายที่ต้องทำให้ได้”

คุณภรรยาที่เคารพรักครับ ภารกิจนี้เกรงจะเกินความสามารถของไอ้เบิ้มแล้ว

...เอ่อ ถ้าในโลกความจริงกล้าพูดได้อย่างที่คิดก็คงดี

“ห้ามให้คุณหนูโดนต่อยเด็ดขาด แต่ก็ห้ามให้คุณหนูรู้สึกเสียศักดิ์ศรี ต้องให้เขาพอใจด้วย”

ข้อแม้เยอะขนาดนี้ให้เบิ้มลักพาตัวคุณหนูไปขังยังง่ายกว่า! ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่โดนต่อยด้วยเอ้า!

“ฉันคาดหวังกันนายนะ”

พลันเบิ้มสะดุ้งเหมือนมีไฟฟ้าสถิต ซึ่งต้นตอของสัมผัสชวนซาบซ่านนั้นก็มาจากนิ้วเรียวที่สะกิดเบาๆ บนมือของเบิ้มที่กำรูปถ่ายเด็กน่าสงสารจนยับย่นด้วยแรงอารมณ์โดยไม่รู้ตัว

เบิ้มพยายามกลั้นใจ ยังไงก็ต้องบอกปัดคมสันให้ได้ว่านี่เป็นภารกิจที่ไม่มีวันทำสำเร็จ

แต่ปลายนิ้วชี้นั้นช่างซุกซนเหลือเกิน จงใจลากยาวบนหลังฝ่ามือเบิ้ม ก่อนจะผลุบหายไปในแขนเสื้อพลางสะกิดตรงข้อมือเบาๆ พร้อมสายตาที่จ้องสะกดคล้ายส่งสัญญาณบางอย่าง

สัญญาณที่แปลความหมายว่าถ้าทำสำเร็จ รางวัลที่ได้รับนั้นจะ...จะ...

เบิ้มกลืนน้ำลาย ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาอยู่กับคมสันที่ใครหลายคนคิดว่าช่างเย็นชา ถึงได้ร้อนรุ่มซะทุกที

“ได้สิ” รู้ตัวอีกทีก็เผลอตอบรับไปซะแล้ว เบิ้มพลิกมือกอบกุมนิ้วแสนซุกซนของคมสัน ยั้งไม่ให้ทำอะไรชวนใจจะวายไปมากกว่านี้ “ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่นอน!”

 

 

 

----------------

เกิดเป็นเบิ้มก็น่าเศร้าแบบนี้ ต้องไปดูแลเด็กโข่งของจอมมาร ชีวิตไม่ง่ายเลยจริงๆ ค่ะ

ตอนนี้เริ่มเปิดเผยว่าทำไมคมสันถึงติดเด็กเวรหรือคุณหนูมาก แต่คนที่เคยอ่านตอนพิเศษในเล่มเสี่ยมาก่อน น่าจะพอเดาออกว่าครอบครัวเสี่ยนั้นมีปัญหากันยังไง แต่ในเรื่องนี้จะยังอุบไว้ก่อน ไว้รู้พร้อมพี่เบิ้มนะคะ

อย่าเพิ่งวางใจ คมสันยังมีหลายอย่างที่ซ่อนไว้อีกเยอะ !!

#จอมมารคมสัน
เพจนักเขียนที่อยากชวนพี่เบิ้มไปทำบุญ
Twitter

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีใตหรือสงสารดีเนี่ย

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
กลัวขึ้นคานทองมากจนยอมตกบ่วงจอมมารเลยนะพี่เบิ้ลแถมเป็นคนแรกในชีวิตที่มาจีบอีก ขำ


ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คมสันนี่ร้ายกาจจริงๆ
เอ็นดูเบิ้มคนซื่ออออ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด