แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก! - ตัวอย่างตอนพิเศษ - 29/01/2019 - P.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก! - ตัวอย่างตอนพิเศษ - 29/01/2019 - P.11  (อ่าน 61456 ครั้ง)

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เสี่ยจะรู้บ้างมั้ยว่าคมสันอุทิศตนเพื่อเด็กชายกิจภัทรมากขนาดนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
ถ้าเบิ้มรู้ คงดีใจน้ำตาไหล แต่ อย่างจอมมารนะหรอจะบอกเรื่องนี้ออกไป ถ้าเบิ้มไม่ช่างสังเกตุและช่างมโนก็คงเดาไม่ได้หรอก นี่เค้าชมเบิ้มนะคะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอพาท2นะคะะ อยากรู้ว่าคมสันคิดอะไรอีก  :katai2-1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คมสันท่านจอมมารแสนดีของคุณหนู

 แถมยังเป็นนางฟ้าแสนสวยของพี่เบิ้มอีก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สเปคคนรักของคนสัน......
...ชอบคนคิ้วเข้ม หน้าคม กรามชัด รูปร่างสูงใหญ่น่าพึ่งพา  :impress2:
สเปคที่ไม่คิดสเปคมาก่อน แต่มาได้ตรงอย่างใจคิด   :o8: :-[

ชอบบบบ ที่คมสันคิดทุกอย่างเพื่อคุณหนู
โดยไม่มีความต้องการของตัวเองเลย
ใครได้คนอย่างคมสันมาเคียงข้าง ดูแล สุดยอดดดดด
คุณหนูเสี่ย โชคดีสุดๆ :katai2-1: :oni2: :110011:

เบิ้ม  คมสัน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
จอมมารก็มีมุมอ่อนไหวกะพี่เบิ้มเหมือนกันนะ.

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
หึๆ กระชากหน้ากากจอมมารสักทีเหอะพี่เบิ้ม

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ได้อ่านพาร์จอมมารทำให้รู้เลยว่าพี่เค้าเลือกพี่เบิ้มมาแล้วนะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คมสันก็ไม่ได้จอมมารขนาดนั้น :katai2-1:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ขยับเข้ามาใกล้กันอีกนิดดด  :hao6:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

นอกรอบ : ความในใจของจอมมาร 2


คมสันไม่คิดจะปิดบังเบิ้มได้ตลอดไป

แต่ก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าความจะแตกเร็วขนาดนี้

ตอนเห็นสมปอง เขาลอบร้อนใจ ขณะเดียวกันก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ตลอดมาเขาจริงใจกับเบิ้ม ในเมื่อเลือกคนไม่ผิดก็ต้องเชื่อใจคนของตัวเอง

ฉะนั้นตอนเบิ้มบอกเลิก คมสันจึงไม่แปลกใจสักนิด เขาเยือกเย็นกว่าปกติ ค่อยๆ พาตัวเองไปนั่งบนเตียง พยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อประคองสถานการณ์ให้อยู่หมัด

ตอนแรกคมสันเชื่อว่าเขาจะทำได้ดี แต่คงลืมไป...ว่านี่เป็นการเผชิญหน้าพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความรักครั้งแรก...ความรู้สึกที่คมสันเองก็ไม่เคยรู้จักและไม่คิดจะเรียนรู้ ต่อให้พยายามเยือกเย็นแค่ไหน สุดท้ายก็เผยท่าทีลนลานมาอยู่ดี

ทำไมถึงลนงั้นเหรอ

เพราะสีหน้าเบิ้มดูไม่ดีเลย จนคมสันชักหวั่นใจ

“คมสัน!”

แล้วยังตะคอกใส่เขาเป็นครั้งแรกด้วย

คมสันทำอะไรไม่ถูก วูบหนึ่งนึกขำตัวเองขึ้นมา

“นายไม่เคยมีความรักสินะเบิ้ม” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ไม่ใช่ว่าอยากเยาะเย้ยคนรัก แต่นึกตลกที่คนอย่างคมสันต้องยอมใครสักคนมากขนาดนี้ “ฉันเองที่ทั้งชีวิตมีเป้าหมายเพื่อคุณหนู ก็ไม่เคยมีความรักเหมือนกัน”

คนอย่างคมสันผู้ไม่เคยยอมลงให้ใครนอกจากคุณหนูที่รักยิ่ง

ตั้งแต่เด็กชายกิจภัทรเกิด อนาคตทุกอย่างของเขาก็ล้วนมีอีกฝ่ายเป็นที่ตั้ง ไม่เคยวาดฝันถึงความต้องการของตัวเองเลย แต่ตอนนี้กลับมีอีกคน...ทำให้เขานึกวาดมันลงไปในความฝันนั้นด้วย

พลันคมสันหลุบตาต่ำ กลัวว่าสักวันจะให้ความสำคัญกับเบิ้มกว่าคุณหนูรึเปล่า การที่ขอให้เบิ้มไม่แสดงความรักต่อหน้าเด็กชาย ปกปิดความสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่กลัวเด็กชายทำตาม แต่เพราะเขาไม่อยาก...ให้คุณหนูเห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับใครนอกจากเด็กคนนี้

 “ฉันไม่คิดจะรักใครไปมากกว่าคุณหนู เพราะถ้าฉันไม่รักเขาที่สุด ไม่ยกเขาเป็นคนสำคัญอันดับหนึ่ง คุณหนูก็คงไม่มีที่ยึดเหนี่ยว ไม่กลายเป็นเด็กดีอย่างนี้หรอก”

ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่คิดอะไรนั้น ใครเลยจะรู้ว่าคมสันคิดมากแค่ไหน ถ้าเกิดคมสันรักใคร หรือให้ความสำคัญกับใครจนรู้สึกเหมือนถูกแย่งความรักที่เคยได้แบบเต็มร้อยละก็ เชื่อสิว่าคุณหนูจะเสียใจมากแน่นอน

ฉะนั้น...เขาถึงพูดคำนั้นไปไม่ได้

เขาปฏิญาณกับตัวเองไว้แล้ว

ทั้งที่เชื่อว่าจะทำได้ เขาจะให้คุณหนูเป็นอันดับหนึ่ง แต่เบิ้มก็คล้ายจะเข้ามาเบียดบัง ความจริงข้อนี้ทำให้คมสันเริ่มประหม่า จากนั่งไขว่ห้างเปลี่ยนเป็นเอนหลังเล็กน้อย เพื่อต้องการผ่อนคลายอารมณ์ที่เริ่มสับสนของตัวเอง

เขาพูด...อย่างตั้งใจ

เขาอธิบาย...อย่างจริงใจ

“แล้วที่กอด ที่จูบล่ะ”

“ฉันทำไปตามสัญชาตญาณ รู้ว่าถ้าทำแล้วนายจะชอบ”

แต่เหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่เบิ้มต้องการ

ทันทีที่เห็นอีกฝ่ายหันหลังหนี รู้ตัวอีกทีคมสันก็รีบคว้าชายเสื้อไว้แล้ว เขาถึงกับบ้าใบ้ไปไม่เป็นครู่หนึ่ง พอเบิ้มหันมาจ้องหน้า จึงเผลอหลุดยิ้มออกมาหวังคลายความประหม่าของตัวเอง

แต่นั่นคงยิ่งทำให้คนรักอารมณ์เสีย

“ปล่อย อย่าให้ต้องใช้กำลัง”

สิ่งที่คมสันเกลียดที่สุดคือการถูกตวาด ขึ้นเสียงใส่อย่างไร้มารยาท เพราะคมสันมักวางตัวดีเสมอ แม้จะทำให้หลายคนเจ็บแค้นใจบ้าง แต่เขามักคุมสถานการณ์อย่างอยู่หมัด ทำให้ไม่เคยต้องตกในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้

คมสันแปลกใจตัวเองมากทีเดียว

อันที่จริงก็ตกใจตั้งแต่ตอนคว้าชายเสื้อเบิ้มแล้ว พอโดนตะโกนใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ยิ่งมั่นใจ

“นายเป็นคนแรกที่ขึ้นเสียงแต่ฉันไม่โกรธแถมยังรั้งเสื้อไว้ด้วย”

...ไม่อยากปล่อยคนคนนี้ไป


หากตั้งแต่แรกเขาเลือกเบิ้มจากเสียงของหัวใจ ตอนนี้คมสันก็เลือกที่จะเชื่อฟังหัวใจตัวเอง

“การเลือกบอดี้การ์ดก็เหมือนการเลือกคู่ และการที่ฉันเลือกนาย แสดงว่านายตรงสเปคที่สุดนะ”

เขาอธิบายด้วยคำที่คิดว่าตรงกับความรู้สึกมากที่สุดเท่าที่จะยอมรับได้แล้ว

“สรุปว่านายกำลังจะสารภาพรัก?”

“ไม่ใช่ ฉันแค่ไม่อยากให้นายยกเลิกสัญญา”

อืม...แม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นไปด้วยดีก็ตาม

คมสันยอมรับ ตอนนั้นเขาค่อนข้างสันสนและงงว่าทำไมเบิ้มถึงไม่เข้าใจสักที เขาพูดจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ทุกอย่างตีแผ่ตรงหน้า แม้การกระทำจะน่าโมโหบ้าง แต่ตลอดเวลาสามเดือนคือความจริงใจล้วนๆ และการที่เขายื้ดยุดฉุดกระชากกันนี้ ก็นับว่าเป็นอะไรที่เกินกว่าคมสันจะเชื่อตัวเองว่าจะยอมทำแล้ว

“นายเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้รับความจริงใจนี้นะ”

สิ่งที่ทำได้ จึงเป็นการมอบยิ้มหวังประโลมอารมณ์คุกรุ่นนั้น

แต่ดันทำให้เบิ้มยิ่งเป็นบ้า

พอร่างนั้นหันหลังไปอีก คมสันเลยตกใจจนเผลอตัวอีกครั้ง คราวนี้ไม่แค่จับชายเสื้อ เขาถึงกับกอดเอวไม่ยอมปล่อย

ในชีวิตของคมสัน เขาเคยตื่นกลัวหลายครั้ง ทุกครั้งล้วนเกี่ยวกับคุณหนู อย่างตอนที่รู้ว่าประธานกับคุณหญิงจะหย่ากัน เขากลัวแทบคลั่ง กลัวว่าใครคนใดคนหนึ่งจะพาคุณหนูไปอยู่ด้วยแล้วเลี้ยงดูทิ้งขว้าง เพราะคมสันรู้จักทั้งคู่ดีกว่าใคร คุณหญิงรักสนุก ติดงานสังสรรค์ ตอนกลางคืนแทบไม่อยู่บ้าน แล้วใครจะส่งคุณหนูเข้านอน ส่วนประธานนั้นมีแต่คนเอาอกเอาใจ เลยเอาใจใส่ใครไม่เป็น การดูแลเด็กเล็กนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ จนตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณหนูสอบได้เกรดอะไรและถนัดวิชาอะไรมากที่สุด

ครั้งที่สองที่เขาตื่นกลัว คือตอนพูดความจริงกับคุณหนูว่าตั้งแต่นี้ประธานกับคุณหญิงจะสลับกันมาที่บ้าน ทั้งคู่เลิกรากันไม่ดีนัก เลยไม่ค่อยอยากเจอหน้า เวลามาหาลูกชายจึงผลัดกันมาจะได้ไม่ต้องคอยอารมณ์เสียใส่กัน ความเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ทำให้คมสันกังวลแทบตาย กลายเป็นเด็กชายที่จับมือคมสันแล้วถามเสียงเครียด

‘สันจะไม่ไปไหนใช่มั้ย’

‘ไม่ไปครับ’

‘งั้นก็พอแล้ว’

‘…’

‘แค่สันก็พอแล้ว’


ความผูกพันของคมสันและเด็กชายกิจภัทรลึกซึ้งเกินกว่าจะพรรณนา นั่นเป็นสองครั้งที่คมสันนึกกลัวที่สุดในชีวิต และตอนนี้...ก็เป็นครั้งที่สาม

ใครเลยจะรู้...ว่าชีวิตที่มีแต่คุณหนูของคมสันนั้น เมื่อเปิดใจรับใครอีกคนเข้ามา ก็ใช้ความทุ่มเทมากมายไม่แพ้กับที่เบิ้มทำ

ฉะนั้นเมื่อใกล้จะสูญเสียความเยือกเย็นก็แทบจะไม่มีแล้ว

“สรุปแล้วว่านายรักฉันมั้ย”

“...”

แต่คมสันก็ยังพูดคำนั้นออกไปไม่ได้

เขารู้สึกดีกับเบิ้มมั้ย แน่นอนว่าใช่ เขาอยากอยู่กับเบิ้มมั้ย แน่นอนว่าใช่อีก แต่ถ้าถามว่าคมสันรักเบิ้มมั้ย...

นั่นไม่ต่างกับคำต้องห้ามสำหรับคมสัน ความรักทั้งหมดเขามอบให้คุณหนูไปแล้ว เขาทรยศตัวเองได้ แต่เขาทรยศคุณหนูไม่ได้

ถ้าต้องเลือกระหว่างเบิ้มกับเด็กชายกิจภัทร คมสันย่อมเลือกอย่างหลังไม่ลังเล แต่ถ้าเป็นไปได้...ก็อยากเลือกทั้งสองคน

“นายเป็นบ้าแล้วรึไง!”

“ทำในสิ่งที่คนรักกันควรทำ ผิดตรงไหน” คมสันพูดทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจว่ากำลังทำบ้าอะไรอยู่เหมือนกัน เขาไม่รังเกียจเบิ้ม แต่ไอ้การจู่ๆ ก็ล้วงกางเกงผู้ชายในสถานการณ์นี้ก็ออกจะประหลาดไปสักหน่อย ช่วยไม่ได้จริงๆ ตอนนี้สมองของเขาตีกันไปหมด ไอ้ที่อยากจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว ความจริงทั้งหมด ความในใจทั้งหมด เขาบอกไม่มีกัก แต่เบิ้มก็ยังจะไป แล้วจะให้ทำยังไง

ในเมื่อเบิ้มเสน่หาในตัวเขา งั้นก็ได้แต่ใช้ไม้ตาย

“คนรักที่ขนาดคำบอกรักยังพูดไม่ได้น่ะเหรอ”

“นายคิดว่าฉันยอมให้คนอื่นแตะตัวง่ายๆ รึไง” คมสันถามกลับ พยายามคงความเยือกเย็นแม้จะทำได้ยากเต็มที เบิ้มคิดว่าเขานึกอุตริอยากล้วงกางเกงเล่นๆ รึไง เขาเองก็ลำบากใจ แต่นึกอะไรไม่ออกแล้วเหมือนกัน

ไหวพริบที่เคยมีเหมือนจะเป็นหมันเอาซะดื้อๆ คมสันเงยมองเบิ้มกึ่งตัดพ้อ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยแสดงออกมาเพราะคมสันเห็นว่ามันช่างอ่อนแอเหลือเกิน เขาไม่ชอบความอ่อนแอ เพราะต้องเป็นหลักยึดให้คุณหนู เขาจะอ่อนแอไม่ได้ กลับกัน คมสันชอบเป็นฝ่ายควบคุม ตลอดเวลาที่รู้จักกันจึงมักแสดงท่าทางเหนือกว่ากึ่งออกคำสั่งเสมอ ที่สำคัญ คมสันเกลียดสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ และตอนนี้ก็กำลังเผชิญกับมัน

เบิ้มไม่ไหว คมสันก็แทบจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เริ่มรู้สึกสมเพชตัวเอง ขณะที่เริ่มคิดว่าหรือควรจะปล่อยมืออยู่นั้น...

เบิ้มกลับถอดแว่นกันซะงั้น!

คมสันผงะ เขาสายตาสั้นมาก พอถอดแว่นภาพตรงหน้าจึงพร่าเบลอ แทบจะเดาสีหน้าเบิ้มไม่ออก สถานการณ์ที่เสียเปรียบอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม แต่จะให้ยื้อแย่งกับผู้ชายตัวโตที่มีวิชาต่อสู้ระยะประชิดเก่งฉกาจ คมสันก็ไม่โง่ขนาดนั้น เขานึกหงุดหงิดจนตวัดตาจ้องเพราะมองไม่เห็น

“พูดอีกทีสิ ประโยคเมื่อกี้”

“ต้องให้พูดด้วยเหรอ...” โดนถามย้ำในสิ่งที่พูดจนปากเปียกปากแฉะ คมสันแสนจะงุ่นง่านอยู่ในใจ แต่เพราะเบิ้มไม่หันหลังหนีอีก เขาเลยกลับมาประหม่าอีกครั้ง เริ่มเสยผมแก้เก้อ รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อเห็นภาพไม่ชัดเจน “ที่ผ่านมายังไม่เข้าใจอีกรึไง”

“ไม่ พูดสิ”

“นายคิดว่าฉันยอมให้คนอื่นทำแบบนี้...” โดนซักไซ้มากเข้า คมสันที่หมดไพ่จะหงายแล้วก็เริ่มคลายเชือกคล้องเอวของตัวเอง หากเบิ้มยอมหันกลับมาคุยเพราะโดนล้วงกางเกง งั้นแสดงว่าวิธีสิ้นคิดก่อนหน้านี้ใช้ได้ผล “นอกจากนายด้วยรึไง”

ประโยคที่แสดงออกชัดจนไม่รู้จะชัดยังไง คมสันสื่อว่านอกจากเบิ้มไม่มีวันยอมให้ใครแตะต้องสัมผัสในแง่นี้เด็ดขาด

แต่มือที่กำลังแกะปมเชือกกลับถูกรวบด้วยมือเดียว

คมสันเริ่มงงแล้ว สรุปว่าเบิ้มหันกลับมาเพราะนึกพิศวาส หรือเพราะอะไรกันแน่

“สัน”

“อะไร” เขาพยายามทำหัวให้เย็น ตั้งใจฟังจนน้ำเสียงค่อนไปทางเย็นชา นึกกลัวว่าสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้นจะพลิกผันอีก

“เวลาที่นายกอดจูบ ทำไปตามสัญชาตญาณใช่มั้ย ทำเพราะรู้ว่าฉันจะชอบ แล้วนายล่ะ...ชอบมั้ย”

จู่ๆ ก็ถูกวกถามในสิ่งที่ไม่เคยคิด คมสันถึงกับนิ่งไป

“ไม่ได้ถามว่าชอบฉันมั้ย หมายถึง...เวลากอดจูบกันน่ะ นายชอบความรู้สึกตอนนั้นมั้ย”

นับเป็นคำถามที่ตรงประเด็นมากทีเดียว

ตรงจนคมสันลอบสะท้านอยู่ในอก การที่เขากอดจูบเบิ้มนั้นทำเพราะอยากทำ ถ้าให้อธิบาย ก็เหมือนว่าพอเห็นคนที่รู้สึกดีอยู่ใกล้ๆ แล้วอยากจะสัมผัสแนบชิด เวลาที่เห็นคนรักทำอะไรให้ ก็อยากจะมอบรางวัลให้ดีใจ

เปรียบเปรยแล้วก็เหมือนกับที่คมสันทำอะไรหลายๆ อย่างให้คุณหนูโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะชอบหรือไม่ แค่อยากเห็นอีกฝ่ายมีความสุข ยิ้มแย้มน่ารักก็พอ

แต่ตอนนี้...เมื่อลองถามตัวเองชัดๆ ดูอีกครั้ง เขาก็พบว่า...

“ถ้าเรื่องนั้นละก็...ชอบ”

นอกจากจะทำเพราะอยากทำ อยากให้อีกฝ่ายนึกชอบ คมสันยังทำเพราะ...เขาชอบเวลาได้กอดจูบเบิ้มด้วย!

เป็นอีกครั้งที่คมสันเพิ่งค้นพบว่าตัวเองมีมุมแบบนี้

เหมือนกับตอนที่ค้นพบว่าตัวเองมีสเปคแบบไหน หลายๆ อย่างที่เขาไม่เคยสนใจ เริ่มถูกขุดคุ้ยเมื่อได้พบกับเบิ้ม

รู้แบบนี้แล้วก็ยิ่งไม่อยากปล่อยอีกฝ่ายไปกว่าเดิม

แต่ไม่ทันจะสรรหาวิธีประหลาดในการฉุดรั้ง ร่างของเขาก็ถูกรวบเข้าไปกอดซะก่อน

“เฮ้อ...” พร้อมเสียงถอนหายใจเฮือกที่เล่นเอาเดาอารมณ์ไม่ถูก

“ไม่ไปแล้ว” ก่อนที่ความตึงเครียดทั้งหมดจะสลายในพริบตา วินาทีนั้นคมสันแทบจะหมดแรง ได้แต่ทิ้งตัวพิงศีรษะซบกับแผ่นอกแน่นๆ ของเบิ้ม

ความอบอุ่นและน่าพึ่งพิงนั้นชวนให้สงบใจเสมอ

“ไปนอนเถอะ”

น่าเสียดายที่อ้อมกอดนั้นปล่อยไวเกินไป

“สัน?”

ไม่เพียงพอให้เขาปลอบประโลมใจจากสถานการณ์แสนหวาดหวั่นเมื่อครู่สักนิด เบิ้มเหนื่อย คมสันเองก็เหนื่อย อยากนอนสบายๆ โดยทิ้งความวุ่นวายไว้ข้างหลัง อยากหลับตาโดยไม่คิดอะไร พักใจในอ้อมกอดที่เกือบเสียไป

คิดจบก็คมสันก็เดินแซงเบิ้มไปทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่มทันที

“ก็แค่กลัวคนแถวนี้จะโกหก แอบหนีกลับลับหลังฉัน”

ประโยคนั้นจะเรียกว่าเป็นข้ออ้างก็ได้ ไม่ถึงกับโกหกแต่ก็ไม่ตรงกับใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ช่วยไม่ได้ คมสันเกลียดการแสดงความอ่อนแอ และการพูดว่าตัวเองอยากนอนให้เบิ้มกอดเพื่อพักผ่อนใจอันหนักอึ้งนั้นก็เป็นการแสดงความอ่อนแออย่างหนึ่ง

โชคดีที่เบิ้มพูดน้อย แม้อาจจะคิดไม่น้อย แต่การเดินมาให้คมสันนอนหนุนแขนซุกอกเงียบๆ ก็เป็นอะไรเขาพอใจมาก

คมสันหลับตา หวนนึกถึงอดีตและอนาคตของตัวเองที่แทบจะถวายชีวิตในการปูทางให้คุณหนูเดิน

แทบไม่มีใครสนับสนุนเขา ต่างดูถูกว่าจะทำสำเร็จแน่หรือ แต่สุดท้ายเขาก็มาถึงจุดนี้ จุดที่ทั้งประธานและคุณหญิงยอมรับ พร้อมจะยกบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ให้ ช่วงเวลาหลายปีที่ต่อสู้ฟันฝ่าโดยไม่อาจบ่นเหนื่อย โดยเฉพาะต่อหน้าคุณหนูที่รักยิ่ง

ในที่สุด ณ ตอนนี้ เวลานี้ คมสันก็สามารถพักผ่อนทั้งกายทั้งใจในอ้อมแขนของคนคนหนึ่ง

...คนรักที่พูดคำว่ารักไม่ได้ของเขาเอง

 

-----------

 

จบพาร์ทคมสันแล้วค่ะ น่าจะกระจ่างแจ้งแก่ใจใครหลายๆ คนเนอะ

อย่าลืมว่าตอนนี้คมสันอายุยี่สิบ โดยมีเป้าหมายเป็นเส้นตรงมาตลอด พอมีพี่เบิ้มมาความคิดหลายอย่างปั่นป่วน ก็เลยออกมาเป็นท่าทางของจอมมารที่หาได้ยากมากค่ะ แต่ก็จะมีแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละที่จะเห็นจอมมารเผลอ นับเป็นช่วงกอบโกยนะคะ 555

ตอนแรกที่จะแต่งคู่นี้ เราก็กังวลค่ะว่าจะรอดเหรอ เพราะความคิดคมสันแต่ละอย่างเนี่ย...อืม...เอาเป็นว่าพอรู้ๆ กันเนอะ แม้จะเป็นจอมมาร แต่คมสันก็เป็นจอมมารเพื่อปกป้องคุณหนู ส่วนเรื่องตัวเองเนี่ยถือเข้าขั้นน่าเป็นห่วง ถ้าให้คมสันนำเรื่องคงเหนื่อยน่าดู พี่เบิ้มเลยได้อภิสิทธิ์พิเศษ เป็นพระเอกคนแรกในนิยายชุดนี้ที่ได้เดินเรื่อง ทำให้จากไอ้ที่ควรจะเครียดกลายเป็นกาวไป ต้องยกความดีความชอบให้พี่เบิ้มนะคะ

 

เพจนักเขียนที่เขินกับความในใจของจอมมาร


#จอมมารคมสัน

Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อ่านพาร์ทจอมมาร แล้วเห็นได้ชัดเลยว่าคมสันก็มีมุมอ่อนไหว มีจุดอ่อนเหมือนกันนะ เพียงแค่ถ้ามองภายนอกนางคุมสติ คุมสถานการณ์ได้เก่ง ดูเหมือนไร้ความรู้สึก แต่ความจริงแล้วเก็บความรู้สึกได้ดีต่างหาก ดีนะที่พี่เบิ้มยังถอดรหัสรักแม้ไม่พูดว่ารักออกมาได้  :laugh:
อยากลากพี่เบิ้มมาอ่านจัง555 พี่เบิ้มจะต้องหัวใจพองโตจนระเบิดไปเลยแน่ๆ ลากเด็กเวรมาอ่านด้วยอีกคน อยากเห็นหน้าตอนที่รับรู้ว่าคมสันอุทิศทั้งชีวิตเพื่อคุณหนู คุณหนูจะรู้สึกแบบใหนนะ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ดูที่การกระทำไม่ใช่คำพูดเนอะพี่เบิ้ม o13

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :try2: เป็นจอมมารนี่ จะรักใครสักทีก็ต้องลุ้นจนเหนื่อย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลุ้นตามไปด้วยเลย......... :mew2: :เฮ้อ: :really2:
ก็ถามมา ตอบไป ไม่ตรงกันซะเลย  o22
ชอบที่นอนหนุนแขน ซบอกแน่นๆ ......ได้แค่นี้ ก็ดีแล้ว  :z3:

เบิ้ม  คมสัน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
มุมงุ้งงิ้งของคมสันมันช่างหอมหวานเหลือเกิน

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 15 : เช้าที่แสนสดใสของเบิ้ม

 

“เบิ้ม ซื้อไอติมให้หน่อย”

เช้าที่แสนสดใสของเบิ้มถูกขัดด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจของเด็กเวร ทำเอาคนยืนยิ้มมีความสุขกับการได้นอนกอดคนรักทุกคืนชะงักค้าง...ก้มมองเด็กชายซึ่งมองมาตาแป๋วแบบไม่รู้ความผิด

“สันไม่ให้กินไอติมไม่ใช่เหรอครับ” เบิ้มเอ่ยเสียงขรึมแกมดุ ก่อนหน้านี้มีเด็กซนคนหนึ่งเป็นหวัดแล้วออดอ้อนขอกินไอติม แน่นอนว่าพี่เลี้ยงย่อมใจอ่อน ผลคือทำเอาเด็กเวรเจ็บคอ นอนป่วยไปอีกสามวัน

“สันไม่ให้กินแต่ถ้าเบิ้มซื้อก็ไม่เป็นไรหรอก”

แม้ตอนนี้จะหายดีแล้ว แต่คมสันก็ยังไม่วางใจ เกิดคุณหนูสุดที่รักเจ็บคอขึ้นมาอีกจะทำยังไง เวลาไอแต่ละทีเล่นเอาใจคนเห็นแทบขาดรอนๆ ไปด้วย เบิ้มเลยส่ายหน้าปฏิเสธ

วันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นคิวที่ประธานต้องมาเล่นกับลูกชาย แต่เพราะมีนัดแทรกกะทันหัน ทำให้พวกเขาต้องมายืนอยู่ที่สนามบินเพื่อรอรับคนสำคัญของครอบครัวชาติบดินทร์ คนสำคัญที่ประธานไม่ได้รับเกียรติให้มารวมกลุ่มด้วย มีเพียงไอ้เบิ้ม คมสัน และเด็กชายกิจภัทรเท่านั้น

ขณะนี้เวลาเก้าโมงตรง คมสันปลีกตัวไปดูว่าเครื่องแลนดิ้งแล้วหรือยัง ทิ้งให้ไอ้เบิ้มถูกเด็กเวรวอแวขอกินไอติม

“บอกว่าลืมก็ได้ คมสันไม่ว่าอะไรนายหรอก ซื้อไอติมให้ฉันเร็ว”

ว่ากันว่าเด็กยิ่งโตก็ยิ่งพยศ เพราะจะจำกัดให้อยู่ในกรอบตลอดย่อมเป็นไปไม่ได้ และเด็กเวรที่เหมือนจะไม่ค่อยมีสมองก็เริ่มจะแสดงออกถึงวัยต่อต้าน เริ่มไม่เชื่อฟังพี่เลี้ยงแล้ว

เบิ้มมองดวงตาใสแป๋วแบบอยากกินจริงๆ นะ แต่ขอคมสันคงไม่ได้เลยมาขอไอ้เบิ้มแทนก็ปลงตก นับตั้งแต่คืนดีกับคนรัก พวกเขาก็ใช้ชีวิตแบบสามคนพ่อแม่ลูกจนตาชักจะฝ้าฟาง เห็นเด็กนี่น่ารักน่าชังขึ้นชอบกล แม้จะไม่ใจอ่อนเท่าคมสัน แต่เบิ้มก็รับมือกับเด็กไม่เก่ง พอโดนตื๊อมากๆ เข้าก็ตัดใจเดินไปซื้อให้

ความซวยอยู่ที่คมสันกลับมาเห็นภาพไอ้เบิ้มส่งไอติมให้เด็กเวรพอดี

ขนแขนถึงกับลุกเกรียว

แล้วดูเจ้าเด็กแก่แดดนี่ซะก่อน กินไอติมโชว์คมสัน ราวรู้อยู่แล้วว่าพี่เลี้ยงไม่กล้าดุด่าซ้ำเติม ใช่ คมสันไม่กล้ากับเด็กเวรหรอก แต่มาไล่บี้กับเขานี่!!

เบิ้มลอบสะดุ้งเฮือกๆ ในใจเมื่อคนรักยิ้มหวานขณะเดินเข้าใกล้

“ฉันไม่ให้คุณหนูกินไอติม นายซื้อทำไม” น้ำเสียงยามเอ่ยราบเรียบไร้อารมณ์ แต่โปรดดูแววตาใต้กรอบแว่นนั่นซะก่อน แฝงความตำหนิไม่ปิดบังจนไอ้เบิ้มลอบละอาย

“อ้าว ยังห้ามกินหรอกเหรอ พอดีลืมน่ะ”

แต่ถึงละอายก็ไม่วายโกหกหน้าตาย แม้จะไม่เนียนสักนิดแต่เรียกเสียงหัวเราะสดใสพร้อมนิ้วโป้งจากเด็กเวรที่เป็นคนเสนอความคิด อาจเพราะวันนี้เป็นวันพิเศษ พอเห็นเด็กเวรหัวเราะเริงร่าคมสันจึงยอมถอย ไม่ซักไซ้เอาผิดไอ้เบิ้ม

หลังจากทะเลาะกันครั้งนั้น หลายๆ อย่างก็ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

อย่างแรก เด็กเวรเริ่มสนิทสนมกับเบิ้มโดยลืมเรื่องดริฟๆ แล้ว กล้าหันมาขอให้ช่วย เอาแต่ใจใส่ ทั้งที่ปกติจะขอกับคมสันแค่คนเดียว

อย่างที่สอง เบิ้มเริ่มกล้าที่จะมีปากมีเสียงมากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้คนรักสั่งอะไรก็ต้องทำตามนั้นไม่บิดพลิ้ว

ส่วนอย่างที่สาม คมสันเริ่มกล้าที่จะแสดงความเป็นตัวเอง แบบที่ไม่ใช่...ปีกนางฟ้าแล้วน่ะนะ

ต่อให้เบิ้มจะรักหลงอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่พอได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ในวันที่เปิดใจกันก็คงจะเห็นคมสันเป็นนางฟ้าไม่ได้แล้ว ซึ่งคมสันเองก็ดูจะผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเบิ้มรับได้ และเริ่มส่งสายตาวาวๆ เป็นเชิงจับผิดแกมตำหนิให้เขาเสียวสันหลังเป็นพักๆ โดยไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเองแล้ว

“เบิ้ม ทิ้งให้หน่อย”

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ทำให้บรรยากาศเวลาพวกเขาอยู่ด้วยกันหลอมรวมกลมเกลียวอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เด็กเวรคงชอบใจมาก เพราะอย่างน้อยก็มีคนมาถ่วงดุลกับคมสันคนเข้มงวด ถนอมคุณหนูประหนึ่งแก้วบางใสกลัวแตกร้าว

ถึงจะเป็นเด็กดีและรักคมสันมากแค่ไหน เด็กวัยต่อต้านย่อมอยากแหกกรอบบ้างเป็นธรรมดา

“ครับ” แล้วผลบุญไม่ก็ผลกรรมเลยมาตกแก่ไอ้เบิ้มผู้นี้ รับไม้ไอติมเปล่าๆ ไปทิ้งถังขยะ ก่อนจะเดินมาประกบเด็กเวรข้างขวา โดยมีคมสันประกบข้างซ้าย

“ใกล้จะปิดเทอมแล้ว คุณหนูอยากทำอะไรบ้างครับ” คมสันชวนคุยฆ่าเวลา

“ฉันอยากว่ายน้ำเป็น!”

“ให้เบิ้มสอนที่บ้านก็ได้ครับ”

“ครับ ผมจะสอนให้เอง” เบิ้มรับคำ ลอบคิดในใจว่าอยากสอนคมสันด้วย แต่ไม่รู้คนรักจะตกลงมั้ย “แล้วไม่อยากไปเที่ยวกันบ้างเหรอ ปิดเทอมหลายเดือน น่าจะลองไปต่างประเทศบ้างนะครับ”

พลันคมสันตวัดตาจ้องจนไอ้เบิ้มแทบหยุดหายใจ

เขาทำอะไรผิด!

“น่าสนุก” เด็กเวรรับคำ ก่อนจะเชิดหน้าเย่อหยิ่ง “แต่ฉันไม่เคยเที่ยวไกลๆ ในประเทศยังไม่เคย ข้ามไปต่างประเทศเลยก็เป็นความคิดที่ไม่เลว”

กลายเป็นไอ้เบิ้มที่ตระหนกตกใจแล้ว!

ทั้งที่บ้านรวยมีทั้งเวลาและการเงินเหลือเฟือแต่กลับไม่เคยเที่ยวค้างคืนนอกบ้าน เหลือเชื่อ!

ขณะจะหันไปถามคมสัน พลันเด็กเวรก้าวเดินเร็วๆ ไปหยุดยืนขวางท่ามกลางฝูงคนที่กำลังเดินออกจากเกท และนั่นก็ทำให้เจ้าตัวเป็นเป้าสายตาแสนโดดเด่นจนทำให้ผู้มาเยือนสังเกตเห็นได้รวดเร็ว

“ภัทร!”

คนคนนั้นเป็นผู้หญิงวันกลางคนที่สวยไม่สร่างสมกับเคยเป็นดาราดังในสังกัดเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ แม้จะอายุเกือบสี่สิบแต่รูปร่างผอมเพรียวบ่งบอกว่าดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ใบหน้าแทบไร้ริ้วรอย ผมยาวดัดลอนถึงสะโพก สวมเสื้อโค้ตราคาแพงและลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หนึ่งใบ

เบิ้มรีบอาสาเข้าไปช่วยถือทันที

“ขอบคุณจ้ะ” หญิงสาวเอ่ยกับเบิ้ม ก่อนจะหันไปหาคมสัน “นี่น่ะเหรอบอดี้การ์ดที่เล่าให้ฟัง”

“ครับ คุณหญิง”

คมสันยกมือไหว้ผู้เป็นเจ้าของอีกคนหนึ่งคฤหาสน์ หรือก็คือ...แม่แท้ๆ ของเด็กชายกิจภัทรนั่นเอง!

แม้จะไม่เคยบินกลับมาเจอหน้าลูกชาย แต่เธอหมั่นติดต่อกับคมสันเสมอ ทำให้รู้เรื่องราวหลายอย่างแม้ตัวจะไม่อยู่ก็ตาม น่าตลกตรงที่...ทั้งที่ตัวไม่อยู่ แต่กลับรู้เรื่องของลูกชายดีกว่าพ่อแท้ๆ ซึ่งแวะมาหาทุกอาทิตย์ซะอีก ประธานสมกับเป็นผู้ออกค่าเลี้ยงดูจริงๆ นอกจากให้เงิน ก็แทบทำหน้าที่พ่อที่ดีไม่ได้เลย

เมื่อคืนระหว่างตะกองกอดคนรักในอ้อมอก เบิ้มที่รู้กำหนดการณ์วันนี้ก็ถามว่าทำไมคุณหญิงที่ดูจะรักลูกชายถึงไม่อยู่ด้วยกัน

คำตอบของคมสันคือ...เพราะเธอมีครอบครัวใหม่ที่ต่างประเทศ

หากจะให้เล่าถึงตรงนั้น ก่อนอื่นก็ต้องเกริ่นก่อนว่าประธานและคุณหญิงคบกันและแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ ผู้ชายย่อมชอบของสวยๆ งามๆ ประธานคนเจ้าชู้จึงหลงรักปักใจกับคุณหญิงที่ขณะนั้นเป็นดาราสาวแสนสวยในสังกัดของตัวเอง เมื่อมีประธานตามจีบ มีหรือฝ่ายหญิงจะไม่คล้อยตาม ทั้งคู่ต่างรักหลงในหน้าตาและฐานะของอีกคน ตกลงปลงใจกันโดยไม่รู้สักนิดว่านิสัยเข้ากันไม่ได้

ปีแรกที่แต่งงาน ยังพอประคองรอดเพราะเป็นช่วงแรกรัก ปัญหามาเริ่มต้นเมื่อมีลูกชาย ประธานเลี้ยงเด็กไม่เป็น ดูแลใครไม่เป็น สนใจแต่เรื่องตัวเอง ส่วนคุณหญิงก็เริ่มทนเป็นแม่บ้านไม่ไหว ถ้าแค่คอยดู คอยเล่นกับลูกก็ว่าไปอย่าง แต่ให้เช็ดอึ เช็ดฉี่ รับมือกับเด็กที่เอะอะร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่อยากทำเหมือนกัน การมีลูกชายไม่ต่างกับตรวนล่ามเท้าให้เธอถูกขังอยู่กับที่ ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันมากขึ้น จนกระทั่งคมสันช่วยเกลี้ยกล่อมและหาทางลง

จากนั้นไม่นาน ประธานก็มีคนรักใหม่ที่ตามอกตามใจและเป็นแม่บ้านอย่างที่ต้องการ ส่วนคุณหญิงนั้นเพราะทำอาชีพดาราที่รักที่ชอบไม่ได้แล้วเนื่องจากถ้าจะทำต้องเซ็นสัญญากับบริษัทของสามี เลยเลือกไปเป็นนางแบบที่ต่างประเทศ จนกระทั่งพบรักกับช่างภาพคนหนึ่ง ทั้งคู่ไม่ได้แต่งงาน แต่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

ปัญหามันอยู่ที่...

‘ช่างภาพคนนั้นมีลูกติด’

ตอนคมสันพูดประโยคนี้ น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจจนเบิ้มต้องลูบหลังปลอบโยน

สรุปแล้วที่คุณหญิงไม่กลับไทยมาเจ็ดปีเพราะลูกของช่างภาพคนนั้นยังเล็ก เธอเลยต้องคอยดูแลและจัดการเรื่องต่างๆ ภายในบ้าน เพราะช่างภาพเป็นอาชีพอิสระ ฝ่ายชายจึงเป็นคนเลี้ยงลูกซะเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่คุณหญิงใช้ชีวิตได้ตามใจและช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย

ได้ยินแบบนี้เบิ้มก็เข้าใจว่าทำไมคมสันถึงพยายามปกปิดเด็กเวรนัก

พ่อแท้ๆ มีครอบครัวใหม่ และกำลังจะมีลูกชายที่น่ารักอีกคน

ส่วนแม่แท้ๆ ทั้งที่มีลูกรออยู่ประเทศไทย เมื่อไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร ก็มีคนรักใหม่แล้วหาเงินเลี้ยงลูกคนอื่นซะงั้น

ถ้าเด็กเวรรู้เข้าจะเสียใจขนาดไหน คมสันเลยเลือกที่จะปิด ใช้ความรักของตนเข้าทดแทน สร้างครอบครัวใหม่ให้กับเด็กชายเผื่อจะได้ไม่นึกน้อยอกน้อยใจกับพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเอง

“ภัทร มาให้กอดเร็ว” ไม่เจอหน้าลูกชายมานานหลายปี คุณหญิงเองก็คงนึกละอาย เลยรีบอ้าแขนรอลูกชาย

“ไม่เอาหรอก ฉันโตแล้ว เท่แล้ว” เด็กเวรไม่กอดแม่ แต่กอดอกเชิดหน้า

“โตแล้วเท่เกี่ยวอะไรกับที่ไม่ให้แม่กอดล่ะ” คุณหญิงอมยิ้ม เพราะโทรคุยกันเป็นระยะ เลยไม่ถึงกับลืมนิสัยของลูกชาย

“ก็ดูเป็นลูกแหง่ มันไม่เท่น่ะสิ!”

คุณหญิงหัวเราะ ก่อนจะเป็นฝ่ายถลาไปกอดหมับจนลูกชายดิ้นขลุกขลัก

แต่ดิ้นไปแค่สองสามทีก็ยืนนิ่ง ปล่อยให้มารดาบังเกิดเกล้านัวเนียแก้คิดถึงจนพอใจ

ความจริงแล้วเด็กเวรค่อนข้างอ่อนข้อให้คุณหญิงมากกว่าประธานเยอะทีเดียว เพราะถ้าท่านประธานเป็นคนถลามากอด เด็กชายต้องวิ่งหนีมาหลบหลังไอ้เบิ้มแน่ๆ

ขนาดไม่ค่อยมีสมองยังแยกแยะออกว่าใครใส่ใจมากกว่า

เบิ้มมองภาพตรงหน้าพลันซาบซึ้งจุกอกยินดีปนหน่วงอย่างบอกไม่ถูก

“ว่าแต่....ทำไมคุณหนูไม่เคยไปเที่ยวเลยล่ะสัน” ปล่อยสองแม่ลูกกอดรัดฟัดเหวี่ยงซะให้พอ เบิ้มก็ก้มกระซิบถามคมสัน

“นายคิดว่าฉันมีเวลาพอหรือไง” คมสันเอ่ยเสียงเรียบ “ตอนคุณหนูอยู่อนุบาล ฉันต้องคอยห้ามประธานและคุณหญิงที่เจอหน้าเป็นทะเลาะกันทุกวัน เพราะช่วงนั้นคุณหนูยังเล็กเกินกว่าจะให้ทั้งคู่จู่ๆ ก็ย้ายออกจากบ้าน พอขึ้นชั้นประถม ฉันก็ต้องจัดตารางให้ประธานกับคุณหญิงแวะเวียนมาหาโดยไม่ให้คุณหนูฉุกใจว่าต่างคนต่างแยกกันออกไป การเที่ยวไกลๆ แบบครอบครัวน่ะตัดทิ้งได้เลย พอคุณหนูขึ้นมัธยม ฉันต้องอ่านหนังสือแทบตายเพื่อจะเรียนมหาลัยให้จบในสามปี แล้วปีนี้เพิ่งรับตำแหน่งผู้ช่วยเลขา กำลังเรียนรู้งานและพยายามจะสร้างผลงานเพื่อไม่ให้คนในบริษัทดูถูกว่าเป็นเด็กเส้น ฉันจะเอาเวลาไหนพาเขาไปเที่ยว”

ประหนึ่งอัดอั้นมานาน ไม่ก็เห็นคุณหญิงแล้วหน้ากากแตก พอได้ทีคมสันเลยระบายออกมารวดเดียวจนเบิ้มตั้งตัวไม่ทัน รีบตบหลังคนรักพร้อมปลอบโยนเสียงเบาโดยไม่ให้คนอื่นสังเกตว่าพวกเขาคือคนรักกัน

โอ๋ๆ

เบิ้มได้แต่คิดในใจ เพราะถ้าพูดคำนั้นออกไปต้องโดนมองแรงแน่ๆ

คมสันน่ะเกลียดการที่มีคนปฏิบัติใส่อย่างสงสารหรือเห็นว่าอ่อนแอที่สุด

เพราะเป็นนิสัยติดตัวที่ทำให้จิตใจแข็งแกร่งจนปัจจุบัน เบิ้มเลยไม่อยากเปลี่ยนสักเท่าไหร่ ได้แต่คล้อยตามให้อีกฝ่ายสบายใจ เวลาอีกฝ่ายเหนื่อยล้าเมื่อไหร่ก็จะหาจังหวะมากอดเขาเอง

สรุปแล้ว ขณะที่คมสันติดแหมะกับเด็กเวร เด็กชายก็ติดแหมะกับคมสันจนแทบไม่ได้เรียนรู้โลกกว้าง

มิน่าล่ะถึงได้โตมาขาดๆ เกินๆ ขนาดนี้




 

“นี่ ฉันรู้แล้วนะว่าเมียอีกคนของคุณท้อง อย่าให้เขามาระรานลูกของเราเชียวนะ ไม่งั้นฉันไม่เอาคุณไว้แน่!”

เบิ้มถึงกับชะงักเมื่อเดินมาได้ยินคุณหญิงของบ้านคุยโทรศัพท์โดยบังเอิญ...หรือไม่บังเอิญ เพราะเขาถูกเรียกตัวให้มาหาที่ห้องรับแขก ขณะที่คมสันกำลังกล่อมเด็กเวรให้นอนหลับ แม้เด็กชายกิจภัทรจะบอกว่าไม่ต้องมาห่มผ้าให้ทุกคืนก็ได้ แต่คมสันไม่วางใจ กลัวเด็กกำลังโตแอบเล่นเกม

“โอ๊ะ คิดว่าฉันจะกลัวเหรอ อยากบอกภัทรก็บอกสิ ฉันก็บอกได้เหมือนกันว่าคุณคิดจะหย่ากับฉันเพราะจะไปจดทะเบียนกับยัยผู้หญิงนั่น!”

เบิ้มกุมขมับ ตัดสินใจเดินวนเวียนแถวบันไดเพราะไม่อยากขัดจังหวะการทะเลาะของสองสามีภรรยาผู้หมดรักแม้จะถือทะเบียนสมรส

“คิดได้ก็ดี อย่าให้เรื่องลามมาถึงลูกเรา และอย่าคิดแผลงๆ จะหย่าก่อนเวลาด้วย เพราะบอกไว้เลยว่าฉันไม่หย่า! ฉันจะหย่าก็ต่อเมื่อบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นของกิจภัทรตอนอายุสิบแปดเท่านั้น เขาโตพอจะรับกิจการเมื่อไหร่เราจบกัน จำไว้!”

เสียงตะโกนโวยวายสื่อว่าคุณหญิงเป็นคนแรงและไม่ยอมใคร มาเจอท่านประธานที่ให้ใครขัดใจเป็นไม่ได้ ก็เหมือนน้ำมันกับไฟ แทบจะจุดบ้านเผาให้วอดวาย

ยิ่งเห็นก็ยิ่งเข้าใจคมสัน ต่อให้ตอนแรกอาจะไม่รักเด็กเวร แต่พอถึงตอนแตกหักขึ้นมา ก็วางใจไม่ลง

ไม่ว่าจะยกให้พ่อหรือให้แม่ ก็ไม่มีใครเลี้ยงดีเท่าคมสันเลี้ยงเอง

ก็ไม่แปลกที่คมสันจะหวงคุณหนูยิ่งกว่าจงอ่างหวงไข่

“อ้าว สัน เบิ้ม มาพอดี” คุณหญิงวางสายแล้ว ก่อนจะหันมาเรียกเบิ้มกับสันที่คนหลังเพิ่งเดินมาสมทบ วันนี้เด็กเวรนอนเร็วกว่าเคย อาจเพราะก่อนหน้านี้เรียนว่ายน้ำกับไอ้เบิ้มจนเหนื่อย

“มานั่งตรงนี้สิ” พอไม่ได้คุยกับประธาน คุณหญิงก็เป็นไม่ขี้โมโหเหมือนเดิม เธอมีความเป็นตัวเองสูงมาก ใจกล้าและออกจะดื้อแกมหัวรั้น ...เด็กเวรได้นิสัยไม่ดีของพ่อและแม่มาเต็มเปี่ยมเลยนะเนี่ย

“คงตกใจสินะที่ฉันกลับมากะทันหัน พอดีมีสองเหตุผลหลักที่ต้องมาให้ได้น่ะ”

“อะไรหรือครับ” คมสันถามสุภาพ

“เหตุผลแรก ฉันอยากมาดูคนรักของสันด้วยตาตัวเอง” คุณหญิงพูดมามองเบิ้มอย่างสำรวจตั้งแต่หนังหัวยันเล็บขบ เบิ้มพยายามตีหน้าขรึม แม้ในใจจะลอบนินทาไปหลายกระทง “ฉันซาบซึ้งใจทุกวันที่สันช่วยดูแลภัทร เลยอยากมาดูให้มั่นใจว่าจะมีคนดูแลสันได้ดีไม่แพ้กัน”

“ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ” เบิ้มรีบให้คำปฏิญาณ ขณะลอบจับมือคมสันเบาๆ...แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาจะเป็นความลับกับเด็กเวร แต่เปิดเผยต่อหน้าประธานและคุณหญิงผู้ล่วงรู้คำขอร้องของคมสันตั้งแต่อีกฝ่ายสิบขวบ...

“งั้นก็ดีแล้ว” คุณหญิงพยักหน้าพอใจ บางทีเธออาจฉุกคิดได้ว่าถ้าคมสันเลือกแล้ว...ยังไงก็ต้องเลือกได้ดีกว่าสมัยเธอยังสาวแล้วหลงผิดเลือกสามีห่วยๆ มาครองคู่ “เหตุผลที่สอง...ฉันรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้มาหาภัทรตลอดเจ็ดปี แต่เพราะสถานการณ์ที่นั่นค่อนข้างแย่มากจริงๆ ลูกชายของ...เอ่อ...คนรักใหม่ฉันป่วย ต้องใช้เงินจำนวนมาก ฉันรู้สึกผิดกับภัทรตลอด แต่ก็จำเป็นจริงๆ”

คมสันไม่พูดอะไร

“ภัทรใกล้จะปิดเทอมแล้วใช่มั้ย”

“ครับ” ครั้งนี้คมสันยอมตอบแต่โดยดี

“ฉันอยากจะชดเชยช่วงเวลาเจ็ดปีที่หายไป เธอก็รู้นะสัน ว่าฉันเองก็รักลูก แม้จะเลี้ยงเขาไม่เป็นแต่ก็ไม่ถึงกับเอาเงินโยนแบบใครบางคน ตอนนี้ภัทรเองก็โตแล้ว และฉันเองก็ทำงานติดต่อกันจนเหนื่อยแล้ว อยากจะพักบ้าง...”

คุณหญิงยิ้มหวาน ราวดีใจที่ตัวเองได้ชดเชยให้กับลูกชาย

“เลยอยากจะพาเขาไปเรียนภาษาเพิ่มช่วงปิดเทอมที่อเมริกาน่ะ”

 

-----------

กำลังหวานแหววไม่ทันไร ก็มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจกันอีกแล้วค่ะ

แน่นอนว่าคมสันไม่มีทางให้ไป แต่กับพี่เบิ้มที่กำลังหาทางเลี้ยงเด็กเวรด้วยวิธีของตัวเองเพื่อไม่ให้โตมาเสียคนนั้น...แอบเข้าทาง

เพราะถ้าอยู่กับคมสัน แม้ในใจจะนึกค้านยังไงก็ปฏิเสธคนรักไม่ได้

แต่ถ้าแอบหนีไปกับเด็กเวร รับรองสนุกสนานแน่นอนค่ะ 5555

 

เพจนักเขียนที่ปวดหัวแทนคมสัน

#จอมมารคมสัน

Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ไอ้เด็กแสบมันก็น่าสงสารอยู่นะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด