แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก! - ตัวอย่างตอนพิเศษ - 29/01/2019 - P.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก! - ตัวอย่างตอนพิเศษ - 29/01/2019 - P.11  (อ่าน 61473 ครั้ง)

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :laugh: จูบแรกพี่เบิ้ม เฮ้อ เอาที่สบายใจจ้านางฟ้าของพี่เบิ้ม ขี้ยั่วใช่ย่อย ท่าจะแซ่บ  :z1:
      :L2:    :pig4:    :L1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ไปๆมาๆ ดูเหมือนเบิ้มโดนหลอก แต่อีกมุมก็เหมือนจะรักจริง
เดาใจจอมมารไม่ถูกเลย แต่เบิ้มหลอกง่ายแน่ๆ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
โถพี่เบิ้มช่างซื่อเหลือเกิน

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เข้าใจความรู้สึกพี่เบิ้มตอนอยู่กับเสี่ยสุดๆ  :laugh: ท่าทางคำพูดมั่นอกมั่นใจของเสี่ยนั้น มันน่าเบิ้ดกะโหลกจริงๆ 555555 คมสันคงรักเสี่ยมาก ที่ตามใจเสี่ยมากขนาดนั้นอาจจะมาจากครอบครัวของเสี่ยก็ได้น้า ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ ครอบครัวไม่อบอุ่น คมสันเลยโอ๋มาก
พี่เบิ้มคนซื่อ ไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมตอมมารแน่นอน วงวารพี่เบิ้มจังงง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :laugh: :laugh: :laugh: ทำไมรู้สึกสงสารปนเอ็นดูพี่เบิ้มจัง

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เบิ้มคงตกหลุมคมสันลึกจนไม่รู้จะลึกยังไงแล้วมั้งเนี่ย  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :laugh: กาวกันต่อไป สนุกดี  :laugh:

ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ่อนต่อโลกเกินไปแล้วพี่เบิ้ม

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โธ่เด็กชายกิจภัทธเกือบตายซะแล้ว

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 6 : คืนระทึกของเบิ้ม

 

เสียงเคาะประตูดังขึ้นกลางดึกคืนวันอาทิตย์

เบิ้มกลืนน้ำลาย เดาว่าใครอยู่หลังประตูได้ไม่ยาก เพราะหลังออกจากโรงพยาบาล เด็กเวรซึ่งอ่อนเปลี้ยเพลียแรงก็เข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม ส่วนท่านประธานโทรเรียกคนขับรถมารับตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว

อันที่จริงเบิ้มก็ไม่ควรจะคิดอะไรมากมาย เพราะประตูบานที่ถูกเคาะ...คือประตูเชื่อมสู่แดนลี้ลับ ซึ่งนับจากวันแรกที่ได้เหยียบย่างเข้าไปก็ไม่มีโอกาสได้ทัศนาจรอีกเลย จะมีก็แต่คมสันซึ่งมักส่งสัญญาณชวนคิดลึกทุกคืน เปิดออกมาทีไรก็เจอชุดนอนไม่ได้นอน กล่าวราตรีสวัสดิ์ แล้วปิดใส่หน้าทุกที...

แต่วันนี้เบิ้มจะไม่ยอมจบแค่นั้น!

ความสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว จากหอมแก้มเป็นจูบดูดดื่ม จนตอนนี้เบิ้มยังอยากจะลิ้มรสสัมผัสนั้นอีกครั้ง ฉะนั้นเบิ้มตัดสินใจว่าถ้าเปิดประตูเห็นชุดนอนไม่ได้นอนเมื่อไหร่ เขาจะโอบเอวคมสันให้เข้ามาใกล้จนพิงซบอกแน่นๆ จากนั้นก็รุกจูบ! เอาคืนจากที่โดนรุกรานจนสติบินตรงลานจอดรถโรงพยาบาลให้ได้!!

“ถอยไป”

น่าเสียดายที่คมสันไม่ยอมให้เขากระทำการเหี้ยมหาญเยี่ยงนั้น

เพราะทันทีที่เปิดประตู เห็นชุดนอนไม่ได้นอนอันเป็นเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มซึ่งยาวกร่อมเท้า มัดเชือกเรียบร้อยเผยให้เห็นแค่รอยแยกช่วงบนตรงไหปลาร้าและช่วงล่างยามก้าวเดินจนเห็นตาตุ่มขาวสวยอยู่รรำไร คมสันก็ยกมือดันอกเบิ้ม แล้วเดินแทรกเข้ามาในห้องก่อนจะนั่งไขว่ห้างบนเตียงของเขา...

เบิ้มถึงกับหายใจติดขัด คมสันถึงกับ...นั่งรอบนเตียงเลยเหรอ!

“มานี่” พอเห็นคนรักตบที่ว่างด้านข้าง เบิ้มก็รีบใช้ความว่องไวไปนั่งเจี๋ยมเจี้ยมทันควัน คมสันเผยความประหลาดใจวูบหนึ่ง เพราะเป็นครั้งแรกที่เบิ้มถึงกับใช้วิชาเคลื่อนไหวดั่งเดอะแฟลชในระยะประชิด

ท่าทางฉงนนั้นช่างน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาเบิ้ม และช่าง...ยั่วยวนจนสติเตลิดเปิดเปิง คนรักนั่งบนเตียงของเขา ด้วยชุดนอนไม่ได้นอน แล้วยังยกขาไขว้จนรอยแยกที่เห็นแค่ตาตุ่มเลิกขึ้นไปจนถึงน่องขา เบิ้มรู้สึกอยากลูบขึ้นมาทันที

อยากจับ อยากสัมผัส และอยาก...ฝังรอยจูบบนนั้นใจแทบขาด

ผู้ชายเวอร์จิ้นแบบเบิ้ม เจอคนรักยั่วขนาดนี้มีหรือจะไม่สะท้าน เขากลืนน้ำลาย ขยับคอเสื้อชุดนอนของตัวเองซึ่งเป็นชุดเสื้อเชิ้ตลายทางกับกางเกงขายาวที่คมสันซื้อมาให้พร้อมกับเครื่องแบบบอดี้การ์ด เพราะตอนย้ายมาอยู่ที่นี่ ตู้เสื้อผ้าในห้องเขาก็มีเสื้อหลายตัวแขวนอยู่อย่างเป็นระเบียบ

เขาว่ากันว่าซื้อเสื้อผ้าให้แสดงว่าอยากถอด

เบิ้มนึกภาพวันที่คมสันช่วยถอดและสวมเสื้อสูทให้แล้วก็ยิ่งกลืนน้ำลายยากกว่าเดิม

“เรา...”

“ฉันรู้แล้วว่าใครทำให้คุณหนูจมน้ำ”

อารมณ์อีโรติกของเบิ้มหายวับ ก่อนจะนั่งบื้อใบ้ มองคมสันแบบอะไรนะ ขออีกทีซิ

ซึ่งคมสันก็จัดให้ตามประสงค์ แถมยังเปลี่ยนขาที่นั่งไขว่ห้างจากขาซ้ายเป็นขาขวา ทำเอาเบิ้มที่เห็นชายเสื้อคลุมแหวกขึ้นมาจนเกือบถึงต้นขาแล้วกลับไปปิดมิดชิดเหมือนเดิมต่อหน้าต่อตาแทบจะกรีดร้องโหยหวนกับฟีโรโมนที่กำจายไปทั่วทั้งห้อง

เขาสูดหายใจเข้าลึก ตั้งสติเสียใหม่

คมสันเอ่ยเรื่องเด็กเวรอย่างจริงจัง แสดงว่าคืนนี้คงอดสวีตอีกตามเคย

เขาเองก็ไม่ได้รีบร้อนคลุกวงใน แค่จับมือกอดจูบก็นับว่าฟินมากแล้วสำหรับไอ้เบิ้ม

“ใครหรือ”

“ความจริงฉันก็พอเดาได้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะลงมือไวขนาดนี้” คมสันตอบไม่ตรงคำถาม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ซึ่งถือติดมือมาด้วยส่งให้เบิ้ม หน้าจอปรากฏรูปแอบถ่ายของผู้ชายและผู้หญิงคนหนึ่ง

ผู้ชายคนนั้นคุ้นหน้าคุ้นตามาก...นี่มัน...ท่านประธานนี่หว่า!

“ผู้หญิงคนนี้คือคนรักท่านประธาน ทั้งคู่คบกันมาเกือบสิบปีแล้ว”

ฟังถึงตรงนี้ อารมณ์หวิวก็สลายทันควัน...บรรยากาศชวนเคลิ้มกลายเป็นเคร่งเครียด เบิ้มว่าแล้วเชียว...คิดไม่ผิดว่าท่านประธานต้องมีบ้านเล็กบ้านน้อย เลยแยกบ้านกับลูกชาย!

แต่พอลองประติดประต่อกัน...การที่แม่ของเด็กเวรไปอยู่ต่างประเทศกึ่งถาวรคงจะเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ ถ้าเป็นสิบปีก่อน ก็แสดงว่าเป็นช่วงไล่เลี่ยกับที่คมสันจับได้ว่าพี่เลี้ยงขโมยของ แล้วสารภาพว่าตัวเองเป็นเกย์ จะขอดูแลคุณหนูสุดที่รักตลอดไป

...ความมุ่งมั่นอยากจะดูแลนั้นก็ต้องเกี่ยวกับการคบชู้นี้ด้วยแหงแซะ คมสันคงทนไม่ได้ที่จะเห็นเด็กน้อยซึ่งคอยประคบประหงมต้องมารับรู้ความจริงข้อนี้ จึงเป็นฝ่ายของเลี้ยงดูเองซะเลย และนั่นก็ตอบคำถามว่าทำไมท่านประธานถึงให้อภิสิทธิ์กับคมสันมากกว่าลูกจ้างคนอื่นๆ ขนาดวันที่สวนน้ำคมสันเผยท่าทีไม่สุภาพยังไม่กล้าตำหนิ เพราะมีชนักติดหลังเรื่องนี้นี่เอง...

“เห็นแก่คุณหนูที่แทบไม่ได้รับความรักจากพ่อและแม่แท้ๆ ประธานและคุณหญิงจึงตกลงว่าจะหย่ากันหลังคุณหนูบรรลุนิติภาวะแล้วตอนอายุสิบแปดเท่านั้น เพราะถึงตอนนั้นคุณหนูคงยอมรับและทำใจได้ รวมถึงไม่มีปมด้อยจนโดนล้อในโรงเรียนด้วย โดยระหว่างนี้ทั้งคู่จะทำอะไร จะคบกับใครก็ได้ ขอเพียงโทรหาคุณหนู มาหาคุณหนูบ้าง โดยช่วงเวลาหลายปีมานี้ใช้วิธีค่อยๆ ลดจำนวนการอยู่ร่วมกันทีละน้อย จากอยู่บ้านเดียวกันก็เริ่มแยกบ้าน คุณหนูจะได้ปรับตัวได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ”

เบิ้มฟังที่คมสันอธิบายแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้ซับซ้อนกว่าที่คาด

“และเมื่อคุณหนูอายุครบสิบแปดปี ท่านประธานจะทำการโอนบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ให้คุณหนูเป็นเจ้าของ ซึ่งคุณหนูมีสิทธิ์และอำนาจในการบริหารโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยชื่อหรือรายได้ของพ่อและแม่อีก การที่ฉันเป็นผู้ช่วยเลขาก็เพื่อจะได้เรียนรู้งานและช่วยคุณหนูดูแลบริษัทหลังจากท่านประธานวางมือแล้ว”

แวบแรกที่เบิ้มได้ยินว่าเด็กเวรจะขึ้นเป็นประธานตอนอายุสิบแปด ภาพความวินาศสันตะโรของวงการบันเทิงก็ปรากฏวาบ แต่พอได้ยินว่าคมสันจะเป็นคนกุมบังเหียน ภาพความยิ่งใหญ่ของบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เข้าแทรกทันตา

“ข้อตกลงนี้มีการทำลายลักษณ์อักษรและเซ็นสัญญาจากประธานและคุณหญิงก่อนที่ทั้งคู่จะต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง ซึ่งฉันเป็นผู้เก็บสัญญาฉบับนั้นเอาไว้ ทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของคุณหนู และทั้งคู่ก็เห็นตรงกันว่าควรให้อะไรชดเชยกับลูกชาย อย่างน้อยก็ต้องการันตีว่าอนาคตคุณหนูจะไม่อดตายแน่นอน...เพราะคุณหนูคงจะทำงานหาเลี้ยงตัวเองไม่ไหว”

เบิ้มพยักหน้ารับ นึกชมเชยว่าคมสันรอบคอบมาก

หืม ชมเชยทำไมทั้งที่เป็นสัญญาที่ประธานกับคุณหญิงตกลงกันเองงั้นเหรอ

โปรดอ่านประโยคด้านบนอีกครั้ง คมสันเป็นคนเก็บสัญญาไว้ แสดงว่าข้อตกลงนี้คมสันจะต้องเป็นคนเสนอและช่วยร่างสัญญาอย่างแน่นอน! อะไรนะ ตอนนั้นคมสันเพิ่งอายุสิบขวบ...เด็กสิบขวบที่ประกาศกร้าวว่าเป็นเกย์ และตั้งเป้าจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไปตลอดชีวิตน่ะไม่ธรรมดาหรอกนะ!

เพราะขนาดคนรักในอนาคตที่ยังไม่ปรากฏตัวยังคิดเผื่อดิบดีว่าจะให้มาอยู่ด้วยกันในตำแหน่งงานที่สนับสนุนเกื้อกูลได้ แล้วกับเด็กเวรที่รักถนอมอย่างดีมีหรือจะไม่วางแผนปูพรมแดง น้อมประเคนบริษัทให้

ไม่-มี-ทาง!

“ตลอดหลายปีมานี้ ทั้งประธานและคุณหญิงล้วนไม่มีปัญหากับสัญญาข้อนี้ แต่มีคนหนึ่งไม่ยินยอม”

“เมียน้อยของประธานสินะ”

“ความจริงจะเรียกเมียน้อยก็ไม่ถูก เพราะทั้งคู่รักกันมานานมาก ตัวประธานและคุณหญิงก็ถือว่าหย่าขาดตามพฤตินัยแล้ว แต่ติดที่คุณหนูยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงยังเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย ฉันไม่ได้รังเกียจผู้หญิงคนนี้ ออกจะเห็นใจด้วยซ้ำ จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน ประธานผิดสัญญาคุณหนูกลับไปหาเธอกะทันหัน และมาบอกฉันว่าขอหย่าเพื่อจดทะเบียนใหม่ได้หรือไม่”

“อย่าบอกนะว่า...”

“เธอตั้งครรภ์” คมสันสรุปเสียงเรียบ “นายที่มีประสบการณ์พ่อแม่มีลูกหลง คงเข้าใจสินะว่าสำหรับคนมีอายุแล้วเวลามีลูกหลงนั้นเป็นยังไง”

เบิ้มยิ้มเจื่อน เขาเข้าใจดีทีเดียว เพราะตอนน้องชายของเขาเกิด พ่อกับแม่เห่อมาก รักถนอมอย่างดี เรียกว่าไอ้เบิ้มคนนี้กลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย โชคดีที่เขาเองก็ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลยไม่ได้น้อยอกน้อยใจอะไร ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่มีน้องชายน่ารักเพิ่มมาคนหนึ่ง

“ลูกในท้องเป็นเพศชาย”

...ว่าแต่คมสันไปล้วงลึกขนาดนั้นได้ยังไง เบิ้มละสงสัยจริงๆ

“เมื่อสัปดาห์ก่อนเธอลื่นล้มในบ้าน ต้องไปโรงพยาบาลกะทันหัน ท่านประธานรู้เข้าเลยเบี้ยวนัดคุณหนูไปหาเธอ และเธอก็บอกประธานว่าให้จดทะเบียน เพื่อจะได้เป็นพ่อของเด็กคนนี้ คงเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกือบเสียเด็ก ท่านประธานเลยมาคุยกับฉัน เพราะการจะหย่าขาดนั้นต้องให้คุณหญิงเห็นด้วย ซึ่งฉันกับคุณหญิงยังติดต่อกันโดยตลอดเรื่องคุณหนู”

“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนบอก ไม่ใช่ประธานคิดอยากจะหย่าเอง”

“เพราะพอฉันบอกปฏิเสธ ท่านประธานก็ไม่ซักไซ้อีก และออกจะเดาไว้อยู่แล้ว ท่านแค่ลองเปรยขึ้นมาดู แสดงว่าไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้จริงจัง และหลังจากนั้นฉันก็สังเกตเห็นหลายครั้งว่าประธานมักรับโทรศัพท์สายหนึ่งแล้วทะเลาะกันเสมอ”

เบิ้มนึกภาพท่านประธานในร้านอาหารที่สวนน้ำวันนี้แล้วพยักหน้ารับ

“ช่วงนี้บริษัทราบรื่นมาก ไม่มีคู่ค้างี่เง่าที่ต้องเจรจาให้หัวเสีย ฉันเลยเดาว่าคนที่โทรมาจะต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นที่อยากให้ประธานจัดการเรื่องนี้ แต่ประธานปฏิเสธ ทั้งคู่เลยทะเลาะกัน”

แม้จะเป็นการคาดเดาซะครึ่ง แต่เบิ้มยอมรับ...ว่าข้อสันนิษฐานนี้ฟังขึ้น

“ประธานจะโมโหก็ไม่แปลก เพราะสัญญาระบุไว้ชัดเจนว่าหลังคุณหนูอายุสิบแปดก็จะหย่าขาดและเป็นอิสระ จะจดทะเบียนตอนนั้นหรือตอนนี้ก็ไม่ต่าง แต่สำหรับผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่” พลันคมสันเท้าแขนกับบ่าของเบิ้ม เหยียดยิ้มให้ในระยะประชิดจนอะไรที่สงบลงแล้วเริ่มจะรุ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้ง “ลองเดาดูสิ”

“เธออยากได้บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์?”

คมสันยื่นหน้ามาจูบกรามเบิ้มเป็นรางวัล

ถ้ารู้ว่าตอบถูกแล้วได้ของดีของเด็ดอย่างนี้ เบิ้มจะตั้งใจตอบ! ไม่เอาแต่นินทาในใจอยู่นานสองนานหรอก!

“ประธานตั้งใจจะยกบริษัทให้คุณหนู งั้นลูกชายของเธอล่ะ...จะได้อะไร?”

คมสันถามต่อโดยที่ยังเอียงตัวเข้าหาในระยะใกล้เพียงลมหายใจ

พวกเขาจ้องตากันในความเงียบ

เบิ้มอยากตอบใจแทบขาด อยากได้รางวัลอีกครั้ง แต่น่าเสียดาย...เพราะเขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเจ้านายเลย

ราวคาดไว้อยู่แล้วว่าเบิ้มตอบไม่ได้ คมสันเลยเผยยิ้มยั่ว ก่อนจะผละตัวออกเล็กน้อยพร้อมเสยผมเบาๆ

“จริงๆ แล้วประธานลงทุนทำธุรกิจอย่างอื่นด้วย แต่ไม่มีธุรกิจไหนจะได้ชื่อว่าเป็นประธานบริษัทและประสบความสำเร็จเท่าเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ก่อนยังไม่ออกลาย พอมีลูกเอาช่วงปลายสุดท้าย สัญชาตญาณของคนเป็นแม่ย่อมอยากจะให้ของที่ดีที่สุดกับลูก ฉันเองก็เข้าใจตรงจุดนี้”

ไม่ คมสัน นายไม่ใช่แม่ของคุณหนูเวรนั่น!

แน่นอนว่าเบิ้มทำได้เพียงเถียงในใจ และคิดในใจว่าทั้งที่คุยกันจริงจังปานนี้ แล้วเหตุไฉนคมสันถึงได้ยั่วเย้ากันจนชวนเตลิดอยู่เรื่อยก็ไม่รู้ คนรักในชุดนอนไม่ได้นอน เสยเรือนผมสีดำขลับตัดกับผิวขาวๆ ที่ปล่อยตามธรรมชาติไม่ได้จัดแต่งเหมือนเคย มองยังไงก็ยากจะตั้งสติให้จดจ่อกับเรื่องที่ฟังอยู่ซะจริง!

“ถ้าขอตรงๆ ประธานไม่มีทางรับได้แน่ แม้เธอจะกำลังท้องลูกชายของท่าน แต่ยังไงคุณหนูก็เป็นลูกชายคนแรก เธอเลยอ้างอ้อมๆ อยากให้ท่านจดทะเบียน ถ้าแค่เรื่องนี้ยังไม่ได้ จะหวังบริษัทก็ยากแล้ว ฉันค่อนข้างเข้าใจความร้อนรนของเธอนะ แต่...” คมสันเหยียดยิ้มอีกครั้ง “เมื่อไม่ได้ความรักจากพ่อ คุณหนูก็สมควรได้บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่ได้ทั้งความรักจากสามีและได้พ่อของลูกที่ดี ก็ไม่ควรโลภมาก”

วูบหนึ่ง เบิ้มคล้ายๆ จะตาฝาดเห็นปีกจอมมารอีกแล้ว

ไม่หรอกน่า นั่นเป็นปีกนางฟ้า ฟังสิ คมสันบอกว่าเข้าใจและเห็นใจผู้หญิงคนนั้นนะ ไม่มีคำหยาบคายเลย!

“นายคิดว่าระหว่างสิบล้านกับร้อยล้าน ต่างกันแค่ไหน”

พลันเบิ้มหัวหมุน ตั้งตัวไม่ทันว่าจะถูกย้อนถามเรื่องเงินๆ ทองๆ

“เอ่อ...ต่างกันมาก อย่างน้อยแค่ส่วนต่างก็มากเกินกว่าที่ฉันจะใช้ทั้งชีวิตหามาได้”

“แล้วระหว่างร้อยล้านกับพันล้านล่ะ”

“...นั่นก็...มาก มาก มาก เหมือนกัน”

“บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ทำรายได้ทะลุพันล้านต่อปี แต่บริษัทที่ประธานลงทุนโดยไม่ได้ถือครองหุ้นเต็มตัวนั้นมีรายได้เพียงร้อยล้าน...ไม่สิ ไม่ถึงร้อยล้านด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยก็เกินสิบล้านต่อปีแน่นอน” คมสันโยงคำถามเข้าสู่หัวข้อที่ยังพูดค้างอยู่ “ถ้าเป็นนาย จะเลือกอะไร”

เบิ้มไม่ตอบ เพราะรู้ว่าคมสันไม่ได้ต้องการคำตอบจากเขา แต่อยากให้เล็งเห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญต่างหาก

“เมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้ไม่เคยมีความคิดจะยื่นมือเข้ามาในเรื่องธุรกิจของประธาน เพราะเธอเรียนไม่จบปริญญาตรี และไม่มีประสบการณ์ทำงานแม้แต่น้อย ฉันไม่เคยดูถูกใครเรื่องนี้ เพราะปกติแล้วเธอเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ประธานต้องการ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านกับคุณหญิงไปกันไม่ได้ คุณหญิงเคยเป็นดาราดังค้างฟ้า มีสังคม มีชื่อเสียง ชอบออกงานรื่นเริง ไปปาร์ตี้กับเพื่อน การให้เธอเป็นแม่บ้านก็คือการทรมานดีๆ นี่เอง”

เบิ้มพยักหน้ารับเป็นเชิงให้คมสันเล่าต่อ พอเข้าประเด็นสำคัญ คนรักก็นั่งประสานมือบนเข่า บรรยากาศซาบซ่านด้วยฟีโรโมนคล้ายจะกดต่ำกะทันหันจนชวนอึดอัด

“นอกจากคุณสมบัติไม่ผ่านแล้ว ทะเบียนสมรสที่ยังไม่หย่าขาดก็ทำให้เธอไม่สามารถออกงานกับประธานได้ เท่ากับว่าเธอไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาก้าวก่ายด้านธุรกิจโดยสิ้นเชิง แต่พอมีลูก...ก็เท่ากับว่าชดเชยสิ่งที่เธอทำไม่ได้ทั้งหมด การศึกษาที่ดี การบ่มเพาะประสบการณ์ การผลักดันให้นั่งตำแหน่งประธาน...” คมสันแค่นหัวเราะ “พอมีลูก...จากผู้หญิงไร้พิษสงก็กลายเป็นงูพิษ”

“นายจะบอกว่าอุบัติเหตุเมื่อวานเป็นฝีมือของ...”

“ถ้าท่านประธานมีลูกชายของเธอเป็นทายาทเพียงคนเดียว ทุกอย่างก็ง่ายดายขึ้นทันตา จริงมั้ย” คมสันถามเสียงเรียบ ด้วยบรรยากาศที่ยักจะสีชมพูเหมือนเคย “ไม่ต้องทะเลาะกัน ไม่ต้องหาข้ออ้างให้วุ่นวาย เพราะท่านประธานจะประเคนทุกอย่างให้ลูกชายเธอเอง”

นิ้วเรียวสวยเคาะกับต้นขาเบาๆ

“สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานคือแผนการที่วางมาอย่างดี บางทีอาจจะเริ่มตั้งแต่ให้ประธานพาคุณหนูมาที่สวนน้ำแล้ว เพราะคนไม่ละเอียดอ่อนอย่างท่านประธานไม่มีทางคิดวิธีง้อแบบนี้ได้แน่ ประจวบเหมาะกับคุณหนูอยากว่ายน้ำ ท่านประธานเลยทำตามคำแนะนำนั้น ซึ่งเข้าแผนพอดี เพราะผู้หญิงคนนี้รู้ว่าฉัน...ไม่ชอบว่ายน้ำ”

จากว่ายน้ำไม่เก่งกลายเป็นไม่ชอบว่ายน้ำ เบิ้มตัดสินใจที่จะไม่แย้งให้คมสันเขินอาย

“นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะแยกฉันกับคุณหนูออกจากกันได้ ส่วนสาเหตุที่รู้...ฉันคิดว่าท่านประธานน่าจะเป็นคนเล่าเองแบบไม่คิดอะไร จากนั้นเธอก็จ้างชาวต่างชาติทำทีเป็นหลงกับลูกของความช่วยเหลือ แถวนั้นไม่มีใครพูดภาษาฝรั่งเศสเป็น ยังไงฉันก็ต้องเป็นคนช่วยพาไปประชาสัมพันธ์ พอไม่มีคนจับตามอง ก็ให้คนของเธอเข้ามาแยกคุณหนูกับเด็กที่เล่นด้วยกันออก...คุณหนูเป็นคนที่...ดูใครไม่เป็น และเชื่อคนง่ายมาก แค่อ้างว่าฉันให้มาตามก็จะตามหลังคนแปลกหน้าทันที”

เบิ้มเชื่ออย่างไม่สงสัยในความอ่อนด้อยของเด็กเวรเลย

“หลังล่อคุณหนูไปที่สระผู้ใหญ่ ก็ทำให้คุณหนูสลบ ปล่อยทิ้งไว้ในน้ำจุดที่ลึกที่สุดซึ่งไม่ค่อยมีคนแล้วหนีไป เพียงเท่านี้คุณหนูก็จมน้ำเองโดยไม่อาจตะเกียกตะกายร้องขอความช่วยเหลือ รอบด้านต่างคนต่างเล่นน้ำ ไม่มีใครสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีนี้ กว่าจะมีคนสังเกต คุณหนูก็วิกฤตแล้ว”

“นายรู้ได้ยังไง ถามจากคุณหนูเหรอ”

“ข้อมูลที่ได้จากคุณหนูมีแค่ช่วงที่มีคนอ้างชื่อฉันเรียกตัวไปเท่านั้นแหละ เขานอนอยู่ใต้สระยังไงยังไม่รู้เรื่องเลย”

“งั้น...จากกล้องวงจรปิด?”

“กล้องวงจรปิดเสีย หรือให้ถูกคือถูกลบข้อมูลไปก่อนที่ฉันจะขอดู ฉะนั้นทั้งหมดคือข้อสันนิษฐาน แต่ฉันก็ไม่คิดว่าจะต่างไปจากนี้สักเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงจะวางแผนประมาณนี้เหมือนกัน”

เบิ้มมองตาค้าง

“ฉันสมมติน่ะนะ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เลวขนาดวางแผนฆ่าคนหรอก” คมสันเผยยิ้ม คลายความกังวลของเบิ้ม “สำหรับฉัน ฆ่าคนเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไร้รสนิยม เหมาะกับคนไร้ความสามารถเท่านั้นแหละ”

เบิ้มรีบพยักหน้าอย่างคล้อยตาม

“คนเก่งจริงไม่นั่งคิดหรอกว่าวันๆ จะวางแผนฆ่ายังไง แต่คิดพัฒนาตัวเองให้เหนือกว่าต่างหาก”

พูดอีกก็ถูกอีก เบิ้มพยักหน้าอีกสามครั้งติด

“อีกอย่าง ฆ่าคนน่ะไม่คุ้มเสียสักนิด สู้ให้อยู่อย่างทรมานยังสะใจกว่า”

...เบิ้มตัวสั่นแล้ว

“ฉันล้อเล่น”

ทำไมเบิ้มถึงไม่คิดว่าคมสันล้อเล่นเลยนะ...แถมปีกจอมมารก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ด้วย สงสัยเขาจะง่วงนอนจนสมองเบลอซะแล้ว

“เอาเป็นว่าเพราะรู้ว่าทางนั้นอาจมุ่งเป้ามาที่คุณหนู ฉันเลยว่าจ้างบอดี้การ์ด นายคงไม่คิดว่าฉันจ้างให้นายมาขับรถอย่างเดียวหรอกนะ”

ไม่หรอก ยิ่งรู้จักยิ่งเข้าใจ คมสันไม่มีทางว่าจ้างด้วยความจำเป็นเพียงข้อเดียวแน่นอน

ในเมื่อลงมือทั้งทีต้องมีประสิทธิ์ภาพที่สุด ใช้คนอย่างคุ้มค่า!

“เรื่องเมื่อวาน ขอบคุณมากนะ”

พลันคมสันเอียงตัวซบไหล่ การกระทำที่จู่ๆ ก็คลอเคลียแนบชิดนั้นทำให้เบิ้มถึงกับสะดุ้ง เอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ

“ผู้หญิงคนนั้นตั้งท้องได้กี่เดือนแล้ว”

“สามเดือนกับอีกสองสัปดาห์”

“...”

เบิ้มคิดว่าเขาไม่ควรคิด ไม่ควรพูด ไม่ควรสงสัยอะไรทั้งนั้น

“ทำไม คิดว่าฉันหลอกใช้งั้นเหรอ” คมสันไม่เบี่ยงตัวหลบ แต่ยังถือโอกาสเอนตัวพิงพร้อมเงยหน้าถามด้วยรอยยิ้มมุมปาก

ระยะที่ห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตรก็จะประกบปากได้พอดิบพอดีนั้นล่อเอาเบิ้มแทบเคลิ้ม

“ถ้าจะหลอก ฉันไม่เล่าทั้งหมดหรอก เพราะนายจะรู้สึกแย่ และไม่ตั้งใจทำงาน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับฉันสักนิด” คมสันดักอย่างรู้ทัน ก่อนที่ดวงตานั้นจะจ้องที่ริมฝีปากเขาอย่างสื่อความนัย

เบิ้มกลืนน้ำลาย

“ถ้าฉันจะหลอก ฉันก็คงไม่ทำ...”

พลันคมสันยืดตัวเล็กน้อย ส่งริมฝีปากแสนหวานประกบแผ่วเบา แม้ไม่ดูดดื่ม แต่ก็เล่นเอาใจสั่น

โดยเฉพาะยามกระซิบเสียงพร่าโดยที่ริมฝีปากยังประชิดใกล้จนปัดผ่านเป็นระยะ

“...อย่างนี้”

คมสันนิ่งมองเบิ้มเล็กน้อย ดวงตาใต้กรอบแว่นนั้นจ้องสะกดคล้ายรู้ว่าเบิ้มกำลังใคร่ครวญชั่งใจอะไรบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะอธิบายเพิ่ม เพียงลุกขึ้นยืน จัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย ก่อนจะหันมากล่าวด้วยประโยคแสนคุ้นเคยในทุกค่ำคืน

“ราตรีสวัสดิ์”

คมสันเดินกลับห้องตัวเองโดยที่เบิ้มเดินตามไปส่ง หลังประตูปิดสนิท เบิ้มก็นิ่งมองประตูนั้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความข้องใจแต่ไม่อยากคิดไกล

บังเอิญเกินไปรึเปล่า

ช่วงเวลาสามเดือนกับอีกสองสัปดาห์ที่ผู้หญิงของท่านประธานท้อง ถ้านับตามจริง คนปกติย่อมไม่รู้ตัวอยู่แล้วว่ามีเด็กจนกระทั่งเข้าช่วงสัปดาห์ที่สอง...

พอดับพอดีกับคมสันเอาเกลือแร่มาจีบ

พิรุธชัดเกินกว่าจะเป็นแผนคมสัน แถมอีกฝ่ายก็บอกว่าถ้าคิดจะหลอกใช้กัน แล้วจะเล่าให้เขาฟังทำไม แสดงว่าคมสันเชื่อใจและไว้ใจไม่ใช่เหรอ

เบิ้มลูบริมฝีปากตัวเองที่ยังร้อนผ่าวเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจส่ายหัวให้เลิกคิดเยอะ อย่าสงสัยคนรัก ไม่งั้นจะนำพาหายนะมาถึงตัว

แม้พอมองประตูเชื่อมสู่แดนลี้ลับความรู้สึกจะเริ่มเปลี่ยนไปก็ตาม

ข้อดีของประตูนี้มีสามอย่าง

อย่างแรก ไว้ปกปิดความสัมพันธ์ของเราสอง ป้องกันไม่ให้ใครเห็นแล้วซุบซิบไปบอกเด็กเวร

อย่างที่สอง ช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์ให้ยิ่งตื่นเต้นซาบซ่าน โดยเฉพาะเวลาเห็นคมสันสวมชุดนอนไม่ได้นอนมาทักทายแล้วปิดประตู เล่นเอาเบิ้มตาค้างแทบไม่ได้นอนทั้งคืน

ส่วนอย่างที่สาม...

ไว้วางแผนลับจัดการคน!!!

 

------------

ค่ะ คมสันไม่ได้หลอกใช้
แต่เรียกใช้แบบไม่ต้องหลอกเลยต่างหาก!

อะแฮ่ม ตอนนี้หนักหน่อยค่ะ เราพยายามเขียนให้เป็นกลางที่สุด ประมาณว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองในการจะทำบางสิ่งบางอย่าง มีความเห็นแก่ตัว แม้จะเป็นการหวังเอาชีวิตเด็กที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยอย่างเด็กเวรก็ตาม (ใช่ค่ะ เด็กเวรไม่เคยจะรู้อะไรบ้างเลย ไม่-รู้-อะ-ไร-เล้ยยยยยย )

แน่นอนว่าคนทำชั่วก็ต้องได้รับการตอบสนองจากจอมมาร...แคก! จากผลกรรม
วันคืนหวานชื่นของพี่เบิ้มเองก็เริ่มจะตาสว่างหน่อยๆ แล้ว
เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้วค่ะ เอาใจช่วยพี่เบิ้มกันด้วยนะคะ!

#จอมมารคมสัน

เพจนักเขียนที่สาบานว่าจะไม่เป็นศัตรูกับจอมมารเด็ดขาด

Twitter

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มาให้ชิมนิดกินหน่อยพอให้มีแรงกระตุ้น

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
คมสันจอมยั่วจริงๆ 555
ดูๆไปก็เหมาะสมดีนะคะ การที่เด็กเวรผู้อ่อนด๋อยแย่างเสี่ย ได้พี่เลี้ยงเป็นจอมมารคอยดูแล คมสันทั้งเก่งทั้งฉลาด ใหนจะความเจ้าเล่ห์ของนางอีก
สงสารก็แต่พี่เบิ้ม 555555 ไม่ทันเล่เหลี่ยมคมสันหรอก คงเป็นคนเดียวที่เห็นคมสันเป็นนางฟ้า  :laugh: นึกถึงจิระที่เห็นคมสันเป็นจอมมารที่แท้ทรู 5555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่เบิ้มสายมโน ดูจะเป็นของเล่นของจอมมารตลอดๆ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
คมสันให้ความรักกับเสี่ยมากทดแทนความรักจากพ่อแม่ที่ไม่ส่งถึงลูกเลยเสี่ยโชคดีได้พี่เลี้ยงแบบคมสันปกป้องผลประโยชน์ให้
แต่ก็นั่นแหละชอบยั่วเบิ้มให้อยากแล้วจากไป จอมมารยั่วสวาทชัดๆ :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
คมสันเลี้ยงคุณหนูให้ไร้เดียงสามาก แบบไม่น่าเชื่อ

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 7 : การขับรถของเบิ้ม

 

สถานการณ์ราบรื่นดีมาตลอด

จนกระทั่งสองอาทิตย์ผ่านไป

“สัน...”

“ฉันรู้แล้ว”

มีคนรักหูตาว่องไวช่างดีจริงๆ เบิ้มเหลือบมองกระจกหลัง เห็นรถสีดำคันหนึ่งตามตั้งแต่รับคุณหนูสุดที่รักของคมสันจากโรงเรียนนานาชาติร่วมสิบห้านาทีแล้ว แม้จะพยายามเนียนหลบไปคนละเลน ต่อท้ายรถกระบะ หรือแสร้งแซงนำหน้าบ้าง แต่สุดท้ายก็จะมาจ่อหลัง ให้อารมณ์เหมือนมีริดสีดวงที่อยากจะเกาก็เกาไม่ได้ น่าหงุดหงิดจริงๆ

สงสัยภรรยาคนที่สองของท่านประธานจะส่งคนมาจัดการอีกแล้ว

ไม่รู้ว่าเพราะหาคนรับงานนี้ยาก หรือเพราะยังประหวั่นพรั่นพรึงกับบอดี้การ์ดคนใหม่อย่างเบิ้มกันแน่ถึงเว้นไปนานถึงสองสัปดาห์ เล่นเอาคันยุบยิบในหัวใจ จะให้เล่ายังไงดี...แบบว่า...สถานการณ์ของเขากับคมสันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

ดูสิ ขนาดมีรถไล่จี้ ผู้ช่วยเลขาพ่วงตำแหน่งพี่เลี้ยงยังไม่สนใจ ให้เบิ้มตัดสินใจเอง

ช่วยไม่ได้ละนะ

เบิ้มขับออกนอกเส้นทางป้องกันไม่ให้โดนตามไปถึงคฤหาสน์ ขณะคุณหนูตัวต้นเรื่องนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หลังรถโดยไม่ได้รู้อะไรกับเขาบ้างเลยว่าเกิดอะไรขึ้น จะเงยหน้ายังไม่เงย จดจ่อกับการเล่นเกมเรียงเพชร นี่ละนะลูกคนรวย จะเล่นเกมทั้งที...ต้องให้หรูหรามีกำลังใจ แต่เบิ้มคิดว่าน่าจะเพราะเล่นเกมบู๊ไม่รอด บุ๋นไม่ได้ เลยต้องนั่งเรียงเพชรง่ายๆ ฆ่าเวลาต่างหาก

“ฉันทำลายสถิติเดิมด้วยล่ะสัน!”

พลันเด็กเวรยื่นโทรศัพท์โชว์พี่เลี้ยงอย่างตื่นเต้นดีใจ

“เก่งมากครับ”

คนจอมโอ๋ก็อุตส่าห์ปรบมือชมเชยอีกแหน่ะ

เบิ้มละเพลีย

ไม่ใช่ว่าอิจฉาที่หนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งเด็กยิ้มแย้มคุยกันกระหนุงกระหนิงหรอกนะ ไม่ได้อิจฉา...ไม่เลยจริงๆ!

เอาเถอะ เบิ้มยอมรับก็ได้ว่าแอบอิจฉาหน่อยๆ ช่วยไม่ได้ครับท่านผู้ชม ตั้งแต่คมสันนั่งไขว่ห้างบนเตียงในวันนั้น เล่าเรื่องราวแสนซับซ้อนซ่อนเงื่อนของตระกูลชาติบดินทร์ ไอ้เบิ้มคนนี้ก็เกิดอาการวิตกจริต ไม่สิ ให้ถูกคือเริ่มรู้สึกตงิดในใจว่าเจตนาของคนรักนั้นเกรงว่าจะไม่บริสุทธิ์เหมือนที่ตนมอบให้แบบร้อยเต็มล้าน

และเพราะไอ้ความสงสัยปนระแวงนี่เอง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและคมสันเหมือนมีกำแพงบางใสขวางกั้น คุยกันไม่สนิทใจเหมือนเดิม ในสมองเบิ้มเต็มไปด้วยคำถาม ว่าทุกการกระทำล้วนเป็นแผนการของคมสันหรือไม่ ช่างคับข้องใจ จนสุดท้ายต่างต้องเว้นระยะห่างในที่สุด

แรกเริ่มเดิมที คมสันทำตัวตามปกติ บอกราตรีสวัสดิ์ด้วยชุดนอนไม่ได้นอนทุกคืน แต่พอเห็นเบิ้มเริ่มกระอักกระอ่วน ไม่ได้มองด้วยสายตาหลงใหลเคลิบเคลิ้มเหมือนเดิม คนฉลาดก็จัดให้ตามประสงค์ พูดคุยกันแค่เรื่องงาน ไม่ได้รุกคืบยั่วเย้าระยะประชิดอีก

นับวันพวกเขาสองคนก็เริ่มคุยกันน้อยลงๆ

ขนาดมีรถตามหลัง อยากจะถามความเห็นคนรัก ยังไม่ตอบกันดีๆ เลย!

จากความไม่สบายใจในตอนแรก เริ่มกลายเป็นความน้อยใจ ไอ้เบิ้มคนนี้ก็ช่างเอาใจยากซะจริง เอาน่า เบิ้มด่าตัวเองให้แล้ว ไม่ต้องเดือดร้อนให้คนอื่นช่วยเตือนสติ แต่โปรดเข้าใจกันสักนิด เพราะการกระทำหลายๆ อย่างคมสันน่าสงสัยจริงๆ นี่เออ

เรื่องมันน่าเศร้าตรงที่เบิ้มรักคมสันไปแล้ว ทั้งรักทั้งชอบ เลยเป็นความทรมานอยู่ในอกแบบนี้ พยายามถอยห่างเองแท้ๆ แต่พออีกฝ่ายทำบ้างก็ปวดใจ ไอ้เบิ้มนะไอ้เบิ้ม มองตามตาละห้อยอยู่ได้ เหมือนสุนัขที่โดนตีแต่ยังอยากได้กระดูกจากเจ้าของชัดๆ!

สองอาทิตย์ที่ผ่านมาน่าจะเพียงพอกับบรรยากาศอึมครึมนี้แล้ว

พอกันที! เบิ้มฮึกเหิม หวังโชว์เท่ให้คนรักประทับใจ กลับมาคืนดีกันให้ได้!

พลันไอ้เบิ้มเหยียบคันเร่งขึ้นทางด่วน ขับพาออกนอกกรุงเทพ คมสันเหลือบมองเป็นระยะ คงอยากถามว่าจะพาไปไหน แต่ติดที่ยังมีความบาดหมางในใจ เลยดันแว่นหนึ่งทีแล้วมองวิวนอกกระจก

“วู้ ขับเร็วดีจัง” ที่คึกคักสุดในรถเห็นจะเป็นลูกคุณหนูที่ไม่เคยนั่งรถเร็วขนาดนี้มาก่อน ปกติแล้วเวลารับ-ส่งเด็กเวร เบิ้มจะขับที่เจ็ดสิบถึงแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย แต่ตอนนี้เหยียบไปร้อยยี่สิบ เด็กชายที่นั่งเล่นเรียงเพชรเลยเงยหน้าร้องว้าวเป็นระยะ ไม่ได้สำนึกสักนิดว่าโดนพาออกนอกเส้นทาง...

เอาเถอะ จะคาดหวังกับสติปัญญาของเด็กคนนี้เห็นทีจะยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เบิ้มสังเกตรถสีดำที่ยังตามหลังพลางทบทวนแผนในใจ ก่อนจะลงทางด่วน แล้วขับทะลุทางลัดไปยังถนนเส้นยาวซึ่งเป็นวันเวย์ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า บอกว่าพวกเขาหลุดเขตเมืองหลวงแล้ว

มาถึงตรงนี้ รถสีดำที่พยายามเนียนมาตลอดก็เนียนไม่ไหว ก็ไอ้เบิ้มเล่นพามาทางพิสดาร รกร้างไม่มีเสาไฟแถมไร้คนสัญจร และเพราะขับออกมาไกล เลยกินเวลานานจนพระอาทิตย์เริ่มตกดิน ต่างคนต่างเปิดไฟหน้ารถ กลายเป็นหลักฐานแสดงตัวชัดว่าตลอดถนนทั้งเส้นมีแต่รถสีดำกับรถของเบิ้ม

พลันวิวทิวทัศน์รอบด้านเริ่มเปลี่ยนไป จากเปิดโล่งเห็นต้นไม้ใบหญ้ากลับกลายเป็นกำแพงแตกพุพังคล้ายเคยมีโครงการก่อสร้างแต่หมดงบไปซะก่อน เพราะหลังคาไม่มี ประตูก็ไม่มี มีแต่กำแพงและสังกะสี ประหนึ่งท้าดวลซึ่งหน้าว่าจะทำอะไรก็รีบทำ

แล้วรถสีดำก็ไม่ขัดศรัทธา

“โอ๊ยยย!”

เร่งเครื่องขึ้นชนโครมเข้าให้! แม้จะไม่โดนเต็มๆ แต่ก็เล่นเอาเด็กยุคใหม่ที่ชอบก้มงุดๆ จิ้มโทรศัพท์หน้าทิ่ม ร้องโอดโอยน่าสงสาร

“คาดเข็มขัดด้วยครับ”

“แต่มันอึดอัดนี่” เด็กชายผู้ไม่คาดเข็มขัดอยู่คนเดียวในรถลูบหน้าผากที่เป็นรอยแดงจางๆ

“คาดเข็มขัดเถอะครับ ไม่งั้นผมไม่ให้เล่นเกมนะ”

เพื่อเกมเรียงเพชรที่กำลังทำสถิติใหม่ ต่อให้ไม่อยากคาดสุดท้ายก็จำใจต้องทำ ไม่คิดจะถามสักคำว่าทำไมไม่ถึงบ้านสักที

เบิ้มไม่แปลกใจที่เด็กเวรโง่ แต่แปลกใจมากกว่าที่คมสันไม่ยักจะทักออกมาทั้งที่สถานการณ์สุ่มเสี่ยงจนโดนชนไปหนึ่งที

เบิ้มเลยยอมแพ้ เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน

“ฉันจะ...”

แต่แล้วคำพูดก็ติดอยู่ที่ริมฝีปาก เมื่อคมสันทาบมือบนมือที่กำเกียร์ของเบิ้ม สัมผัสอบอุ่นนั้นซึมซาบไปทั้งใจ แววตาใต้กรอบแว่นนั้นจ้องสบบ่งบอกความเชื่อใจโดยไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ จากปากเบิ้ม

วินาทีนั้นความกังวลความไม่สบายใจทั้งหลายสลายเป็นปลิดทิ้ง

คนรักของเขาช่างแสนดี ชาญฉลาด และอ่านคนเก่งเป็นที่สุด!

เบิ้มพยักหน้าให้คนรักอย่างเชื่องช้าและซาบซึ้ง ระหว่างที่เขากำลังเป็นบ้าเป็นบอระแวงในความรู้สึกของคนรักอยู่นั้น คมสันกลับให้เกียรติ เว้นระยะห่างไม่ให้เขาอึดอัดใจ และในสถานการณ์นี้ ก็ไม่ให้คำแนะนำอะไร แต่ยกการตัดสินใจทั้งหมดให้เบิ้ม เป็นการกระทำที่ไม่ต้องอาศัยคำพูด แต่บ่งบอกชัดเจนว่าไม่เคยคิดควบคุมบงการไอ้เบิ้มเลย

ซึ้งน้ำตาจะไหล เพื่อไม่ให้คนรักผิดหวัง เบิ้มเลยจัดเต็มทุกฝีมือการขับรถที่มี เร่งเครื่องจนคันหลังตามไม่ทัน ก่อนจะมุ่งสู่เส้นทางมืดมิดเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้มคึกคะนอง

“จับที่นั่งให้ดีๆ นะทุกคน!” เบิ้มบอกเตือน ก่อนจะ...ดริฟต์!

“เฮ้ย!”

ทางข้างหน้าเป็นถนนหักเลี้ยว เบิ้มโชว์ดริฟต์แบบไม่เหยียบเบรกจนผู้โดยสารตัวเซชิดติดประตูรถ แต่คนมาดดีอย่างคมสันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว จับที่นั่งใต้เบาะทรงตัวไม่ยากเย็น ผิดกับไอ้เด็กเวรที่แทบกลิ้งขลุกๆ แม้มีเข็มขัดคาดก็ไม่ค่อยจะช่วยชะลอการกลิ้งนัก

เบิ้มเหลือบมองกระจกหลัง เห็นแสงไฟจากรถที่ตามไล่อยู่ห่างๆ คาดว่าไม่กล้าพอจะขับรถซิ่งในทางเลี้ยวที่ไม่มีเสาไฟสักต้นในช่วงพระอาทิตย์ตกดินแบบไอ้เบิ้ม เขาหลุดยิ้มอีกครั้ง นานเหลือเกินที่ไม่ได้เหยียบคันเร่งสุดเท้าแบบนี้ ลูกผู้ชายย่อมชื่นชอบความเร็ว อย่างน้อยเด็กเวรที่ไม่กล้าก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ หันมานั่งดีๆ และเริ่มมองรอบด้านอย่างตื่นตาตื่นใจก็เป็นข้อยืนยัน

“วู้ สนุกสุดยอดเลย เอาอีกๆ”

“ได้ครับคุณหนู” เบิ้มอารมณ์ดีมาก เพราะนานครั้งจะมีความคิดตรงกับเด็กเวร หลังเร่งเครื่องจนถึงทางหักเลี้ยวที่สองก็ดริฟต์โชว์พร้อมเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของคุณหนูผู้อยู่ในกรอบ สงสัยจะคิดว่าเบิ้มพามาเล่นสนุก ไม่ใช่หนีการไล่ล่า

เลี้ยวโค้งที่สอง แทบจะสลัดห่างจากรถคันหลังโดยสมบูรณ์ แต่ทางวันเวย์แบบนี้ต่อให้สลัดหลุดแล้วจะไปไหนได้ จุดประสงค์ของเบิ้มไม่ใช่การหนีหัวซุกหัวซุนอยู่แล้ว

“โว้!!!”

เด็กเวรร้องลั่นเมื่อไอ้เบิ้มแหกคอก ดริฟต์รถร้อยแปดสิบองศา กลับรถให้หัวหันสวนกับถนน เตรียมประจันหน้ากับรถคู่กรณีเข้าอย่างจัง

“คุณหนู ปิดตาด้วยครับ” พลันคมสันที่เงียบมาตลอดเอ่ยเตือน

“แต่...” เด็กเวรหงอยทันควัน

“ปิดตาด้วยครับ ฉากต่อจากนี้ไม่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี”

“งั้นถ้าฉันอายุถึงสิบแปด พามาเล่นแบบนี้อีกนะ”

“ได้ครับ”

เมื่อพี่เลี้ยงรับปาก เด็กเวรก็ยอมยกมือปิดตาแต่โดยดี เชื่อฟังไม่บิดพลิ้ว สมเป็นเด็กดีที่คมสันชื่นชม

ถึงตาของเบิ้มบ้าง

ทันทีที่เห็นหน้ารถสีดำโผล่จากทางเลี้ยว ไอ้เบิ้มก็เร่งเครื่องชนโครมเข้าที่กลางตัวรถซึ่งกำลังเลี้ยวโค้งจนถอยหนีไม่ทันเข้าอย่างจัง รถสีดำกลิ้งสามตลบก่อนจะตะแคงตกข้างทาง พอดิบพอดีที่ตรงนั้นกำแพงแตกเป็นรู ทำให้รถเข้าไปติดระหว่างช่องว่างปานจับวาง

เบิ้มเดอะแฟลชต่อด้วยเบิ้มเดอะฟาส

ให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร!

แน่นอนว่าการใช้ความรุนแรงแบบนี้ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน ไม่ควรทำเยี่ยงอย่างเป็นอันขาด

เบิ้มขับรถไปจอดปิดช่องว่าง เป็นอันดักทางหนีเว้นแต่คนขับรถสีดำจะปีนกำแพง แต่ดูจากสภาพรถที่ยังตะแคงฝั่งคนขับขึ้นแล้ว อย่าว่าแต่ปีนกำแพง จะปีนออกจากรถไหวรึเปล่ายังไม่รู้เลย

เพราะไม่อยากให้ชุดสูทเลอะ เบิ้มเลยถอดเสื้อสูทไว้ในรถ แล้วพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นขณะย่างสามขุมเข้าไปใกล้  คนขับนั้นหัวแตกนิดหน่อย แต่ยังมีสติดี อย่างน้อยเบิ้มก็เห็นชัดเจนว่าหมอนี่ลนลานแทบตายที่จะหลุดจากเข็มขัดให้ได้แต่เหมือนจะติดตัวล็อกจนดึงออกไม่ได้สักที

ท่าทางติดแหงกน่าสงสารนั้นทำให้เบิ้มมีเมตตา

เลยเอื้อมจับกระโปรงรถที่ตะแคงขึ้นอยู่นั้นด้วยมือเดียวให้กลับมาตั้งตรงเหมือนเดิม

โครม!

“ว๊ากกก”

เสียงกรีดร้องดังพร้อมๆ กับรถที่กลับมาตั้งตรงเหมือนเดิมแรงมหาศาลของเบิ้มจนเกิดเป็นรอยมือตรงฝากระโปรง คนขับรถเงยมองอย่างพรั่นพรึง ราวกับว่าการกระทำนี้น่ากลัวยิ่งกว่าตอนดักรอชนเมื่อครู่ซะอีก ก่อนจะยิ่งถดตัวแทบจมกับเบาะเมื่อเบิ้มลูบกระจกที่เป็นรอยร้าวเล็กน้อยนั้น...แล้วต่อย!

“กรี๊ดดดดดด”

ทำผู้ชายสาวแตกได้บ่งบอกอย่างดีว่าเบิ้มนั้นสร้างความคุกคามน่ากลัวขนาดไหน โปรดทบทวนเหตุการณ์กันอีกครั้ง นักซิ่งคนนี้โดนเบิ้มท้าดวลความเร็วบนถนนวันเวย์ แถมดริฟต์โชว์ต่อหน้าจนทิ้งห่าง ขณะรีบร้อนไล่ตามอยู่นั้นจู่ๆ ก็โดนตลบหลังโดนชนตกถนน ที่น่าทึ่งคือรถตะแคงตกตรงช่องว่างระหว่างกำแพงพอดี ไม่มีความบังเอิญอยู่ในโลก เว้นแต่ว่าเป็นแผนที่เบิ้มวางไว้!

เห็นตัวโตเหมือนพวกใช้กล้ามเนื้อ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นประเภทใช้สมองด้วย!

ยัง ยังไม่จบ ผู้ชายทึกทึนคนนี้ยังจับรถที่ตะแคงขึ้นให้ตั้งตรงด้วยมือเดียวแบบสบายๆ ต่อด้วยต่อยกระจกรถแตก! แถมยัง....กระชากตัวนักซิ่งที่น่าสงสารคนนั้นออกมาจากกระจก ดึงด้วยแรงไม่ธรรมดาจนเข็มขัดหลุดจากตัวล็อกซะดื้อๆ ทั้งที่เมื่อครู่พยายามดึงยังไงก็ไม่ยอมหลุด!

น่ากลัว น่าสะพรึงเกินไปแล้ว!

ยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ ถ้าเอาไปฉายในโรงทุกคนต้องคิดว่ากำลังดูหนังฆาตกรไล่ล่า!

ความพลิกตลบจากฝ่ายไล่ตามเป็นฝ่ายถูกล่าและความสามารถเหนือมนุษย์นั้นทำให้ผู้ถูกทารุณทางใจน้ำหูน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว สิ่งเดียวที่นักซิ่งซึ่งทิ้งความแมนไปแล้วเลือกกระทำคือ...การพนมมือร้องขอชีวิต

“ปะ...ปล่อยผมไปเถอะ ผมจะบอกทุกอย่าง อย่าต่อยผมคอหัก อย่ากระทืบจนกระดูกป่นเป็นผงเลย ฮือ โฮ”

เบิ้มที่กำลังวางมาดโหดเหี้ยมชะงักทันที ประโยคขอความเมตตามันแปลกๆ นะว่ามั้ย ใครจะบ้าต่อยคนทีคอหัก กระทืบทีเดียวกระดูกป่นเป็นผง สงสัยนักซิ่งคนนี้จะกลัวจนขึ้นสมอง สติสตังไม่เหลือแล้ว

มองไปมองมาเหมือนราชีห์รังแกหนูชอบกล ความตั้งใจแรกที่จะต่อยสักหมัดสองหมัดให้คายความจริงเลยเก็บไป เพราะแค่เงื้อมือขึ้น นักซิ่งก็แทบจะชักดิ้นชักงอ เหมือนขอฆ่าตัวตายให้ไปสบายๆ ยังดีกว่าต้องตายในมือเบิ้ม

เพิ่งเคยเจอสถานการณ์นี้ครั้งแรก บอกตามตรงว่าไปไม่ถูก

“ใครเป็นคนจ้างนายมา”

โชคดีที่คนรักมาได้ถูกจังหวะ สงสัยจะมัวเกลี้ยกล่อมเด็กเวรให้นั่งปิดตานิ่งๆ อย่าตกใจหากในรถไม่เหลือใคร จึงจะวางใจเดินมาสมทบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน

“คนจ้างผมคะ...คือ...สมทรวงครับ ยะ...อย่าฆ่าผมนะ ฮือ”

เห็นนักซิ่งพนมมือร้องไห้น่าสงสาร เบิ้มก็ไม่กล้ากระชากคอเสื้อต่อ พอปล่อยมือร่างนั้นก็ลงไปนอนแผละกับพื้น ไม่กล้าขยับตัวสักนิดเดียว

เขาหันไปสบตาคมสันเป็นเชิงเอายังไงต่อดี เพราะหน้าที่บอดี้การ์ดจบลงแล้ว ได้เวลาส่งไม้ต่อให้จอมมาร...เอ๊ย นางฟ้าของเบิ้ม

“จับตัวไปมัดไว้หลังรถ กลับถึงคฤหาสน์แล้วฉันค่อยเล่าแผนให้ฟัง”

“ได้ครับ”

เบิ้มถกแขนเสื้อขึ้นอีกนิด ก่อนจะค่อยๆ ก้มหาคนที่ดิ้นทุรนทุรายกับพื้นเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวก

“อย่า อย่าฆ่าผม ม่ายยย”

เบิ้มฉีกเสื้ออีกฝ่ายขาดเป็นชิ้นๆ มองไปมองมาคล้ายลวงมาข่มขืน แต่ความจริงแล้วเบิ้มแค่เอาเศษผ้ายัดปาก ก่อนจะเอาส่วนที่เหลือมามัดมือและเท้าก็เท่านั้นเอง ช่วยไม่ได้ ก็เขาไม่มีเชือก แต่คำสั่งของคุณแฟนสำคัญที่สุด ไม่มีก็ต้องทำให้มี จะมัดก็ต้องมัดให้ได้

คมสันดันแว่นอย่างพอใจเป็นล้นพ้น

เพียงเห็นเบิ้มก็ฮึกเหิม จับร่างที่ดิ้นขลุกขลักนั้นอุ้มขึ้นบ่าด้วยมือเดียวเหมือนหิ้วกระสอบ พอเอาไปวางไว้ท้ายรถ...ก็พบว่านักซิ่งตกใจกลัวจนเป็นลมไปแล้ว ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะกระโดดหนีลงกลางทาง เบิ้มปิดประตูหลังรถแบบไม่สนิท เพื่อให้มีช่องว่างพอหายใจ

จัดการตัวปัญหาเสร็จก็ได้เวลาคืนดีกับแฟน เบิ้มขยับเนกไทเล็กน้อย ความกล้าบ้าบิ่นตอนขับรถเมื่อครู่มลายสิ้นไม่เหลือมาด เหลือเพียงไอ้เบิ้มเชื่องๆ คนหนึ่งที่เดินไปแตะมือกับคมสันเป็นเชิงขอจับนะที่รัก เมื่ออีกฝ่ายไม่ขยับหนี เบิ้มก็จับหมับเข้าเต็มสองมือ ทั้งลูบทั้งกุม คิดถึงสัมผัสอุ่นอวลด้วยไอรักแบบนี้เหลือเกิน

“นายรู้จักที่นี่ได้ยังไง”

พวกเขาสองคนยืนพิงหลังรถ คุยกันเสียงเบาขณะเงยชมฟ้าด้วยบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ราวกับลืมเลือนไปแล้วว่ายังมีเด็กเวรปิดตารอกลับบ้านอยู่

“เคยมาตอนเป็นสตั้นท์แมนน่ะ ทั้งออฟฟิศมีฉันคนเดียวที่ขับรถวิบากเป็น เวลาต้องถ่ายฉากขับรถดริฟต์เลยมาที่นี่บ่อยๆ เพราะเป็นทางวันเวย์ ไม่ค่อยมีคนสวนไปมา รอบข้างก็ไม่มีบ้านคน ไม่รบกวนใครและสะดวกดี” เบิ้มตอบไปอมยิ้มไป คนรักของเขาช่างแสนดีและมีน้ำใจ ไม่ทวงถามย้อนถึงความผิดเบิ้มเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อคมสันเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระเกินกว่าจะเอ่ยถึง เบิ้มก็ยินดีจะเลยตามเลย ลูบมือเนียนๆ นั้นอย่างชื่นอกชื่นใจ

“ถ้าฉันไม่พามาที่นี่ นายจะให้ฉันทำยังไง” ที่ถามนั้นไม่ได้หาเรื่อง แต่เบิ้มอยากรู้ว่าคนที่วางแผนทุกขั้นตอนอย่างคมสันจะจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไหน

“ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้คิด”

เบิ้มเบิกตากว้างอย่างตกใจ คมสัน...คมสันเนี่ยนะไม่คิดแผนสำรอง!

“มีนายอยู่ข้างๆ...ฉันต้องคิดเรื่องใช้กำลังจับคนด้วยเหรอ”

คำพูดนั้นหวานหยดยิ่งกว่าคำบอกรักซะอีก

ไอ้เบิ้มหลับฝันดีแล้วคืนนี้

“แล้วถ้าวันนี้ทำไม่สำเร็จล่ะ”

“นายคือคนที่ฉันเลือก ฉันเชื่อใจนาย”

ได้ยินคำพูดนั้นชัดๆ ไอ้เบิ้มรู้สึกตัวเบาสบาย คล้ายจะลอยขึ้นสวรรค์

“ขอบคุณที่เชื่อใจกัน” เบิ้มบีบมืออีกฝ่ายแน่นขึ้น กลายเป็นเขาสำนึกผิดซะเองที่ไม่เชื่อใจคมสัน ทำให้หมางเมินกันตั้งสองอาทิตย์ “ฉันก็จะเชื่อใจนาย คมสัน”

“สัน...”

“?”

“เรียกสันเฉยๆ เถอะ”

ช่วงสามวันแรกที่เซ็นสัญญาความสัมพันธ์ของพวกเขาคืบหน้าไวมาก แต่ไม่รู้ทำไม กลับไม่น่าประทับใจเท่าคำพูดแค่ไม่กี่ประโยคในตอนนี้

อาจเพราะตอนนั้นเพิ่งเริ่มต้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด ทั้งจับมือครั้งแรก หอมแก้มครั้งแรก จูบครั้งแรก อารมณ์ยั่วเย้ากึ่งฉาบฉวยกรายๆ

นี่สินะความสุขของการมีคนรักที่เชื่อใจและเข้าใจกัน

เบิ้มซึ้งเหลือเกิน ก่อนบรรยากาศโรแมนติกจะหายวับเมื่อได้ยินเสียงโวยวายจากในรถ

“สัน สันหายไปไหนน สันนน!”

พวกเขาสองคนสบตากัน ในแววตาแฝงประกายขำขันก่อนจะพากันปล่อยมือแล้วเดินเข้าไปในรถ

“ผมอยู่นี่ครับ เปิดตาได้แล้วนะ”

“เปิดตาได้แล้วเหรอ” เด็กเวรถามเหมือนไม่แน่ใจ

“ครับ เปิดตาได้แล้ว”

พอเปิดตา ภาพที่เด็กเวรเห็นก็คือไอ้เบิ้มที่เริ่มขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง พลันเด็กชายกอดอกทำหน้าบึ้งเหมือนขัดใจ อยากจะลิ้มรสความซิ่งสะท้านปฐพีอีกครั้ง

“เบิ้ม”

“ครับ”

“เมื่อกี้โคตรเท่เลย” นานครั้งจะได้คำชมจากเด็กเวร ไอ้เบิ้มจึงพยักหน้ารับอย่างเต็มใจ “วันหลังสอนกันบ้างสิ นะนะ เบิ้มนะ”

อยู่กันมาสองอาทิตย์ โดนมองเมินเหมือนเป็นส่วนเกิน วันนี้แค่โชว์เบิ้มเดอะฟาสให้ดูไม่กี่ชั่วโมง ทำเอาเด็กติดในทันตา

“ไม่มีใบขับขี่ขับรถไม่ได้หรอกนะครับ” คมสันรีบเบรก เด็กเวรกำลังอยู่ในช่วงอยากรู้อยากลอง เห็นอะไรก็ตื่นเต้นอยากจะทำไปหมด เลยต้องคอยปรามให้มาก

“สิบแปดอีกแล้วเหรอ”

“ครับ ต้องรออายุสิบแปดก่อนนะครับ”

“อะไรๆ ก็สิบแปด เฮ้อ กว่าจะถึงตอนนั้น ฉันกลัวจะลืมก่อนน่ะสิ”

คมสันไม่ตอบคุณหนูสุดที่รัก แต่หันมาส่งยิ้มให้เบิ้มหนึ่งที

รอยยิ้มนั้นแฝงความหมายสองอย่าง

หนึ่ง หากคุณหนูลืมจริง ก็อย่าริอาจเป็นเบิ้มเดอะฟาสให้ระลึกถึง

สอง หากคุณหนูไม่ลืม ก็จงโกหกไปว่าเบิ้มเดอะฟาสลืมวิชาไปแล้ว

แล้วเขาจะทำอะไรได้ ในเมื่อคนรักไม่ปลื้มเบิ้มเดอะฟาส งั้นเบิ้มเป็นเดอะแฟลชเหมือนเดิมก็แล้วกัน

อยากได้อะไรก็จัดให้ครับ คุณแฟน

 

------------

คนมีความรักก็จะน่าหมั่นไส้กันนิดนึง

ตอนนี้ยังความกาวไว้กับเบิ้มเดอะฟาสค่ะ ทำเอาเด็กเวรปลื้มพี่เบิ้มเลยทีเดียว ส่วนความสัมพันธ์ของคมสันกับพี่เบิ้มก็กลับมาหวานแหววกันเหมือนเดิม เดิมทีคมสันก็ไม่ใช่คนเน้นพูดมากกว่าทำอยู่แล้ว คำบอกรักแทบไม่เคยมี แต่การกระทำค่อนข้างชัดเจน ซึ่งสำหรับพี่เบิ้มแล้ว...การที่คนอย่างคมสันผู้มากแผนการ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องคิดล่วงหน้าเป็นขั้นเป็นตอน ถึงกับไม่คิดอะไรแล้วยกการตัดสินใจในการจับคนร้ายให้เบิ้มทั้งหมดนั้น นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากพอจะคลายความระแวงแล้วค่ะ

#จอมมารคมสัน

เพจนักเขียนที่อยากจะไปซิ่งกับพี่เบิ้มสักครา
Twitter

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ตระกูลสม มาทีไร ฮาทุกที 5555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เบิ้มนี้ให้อารมณ์เหมือนหมาตัวโตๆที่เวลาใช้กำลังทำสิ่่่่งที่่่่เจ้านายต้องการเสร็จแล้ววิ่งมาหมอบกระดิกหางเลย แลดูคิ้วท์ๆ. 555+

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่เบิ้มขะ ขะ แข็งแกร่งงง !!
รู้สึกว่าตอนนี้เสี่ยน่ารัก 5555
คมสันนี่มันมาดนางพญาสุด  :z1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่เบิ้มสายมโน แต่ความสามารถไม่ธรรมดาเลย กลับไปคืนนี้จะมีรางวัลให้มั้ยน้า.  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด