เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62  (อ่าน 39858 ครั้ง)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ท่ายนเอเทมเหมือนแกล้ง 555555555

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เปลี่ยนใจไม่ทันแล้วล่ะ อิ้อิ้

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ิยากจะเห็นหน้าการันต์คนอยากกดลันเทียจริงเชียว
ไม่ใช่ว่าน่ารักพอกันหรอกเหรอ 5555

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่16

ผมยืนถือตะกร้าอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีดำสนิททั้งหลังอย่างเคว้งคว้าง ตอนที่ลันเทียเอาผมมาปล่อยไว้หน้าประตูรั้วผมแทบกรี๊ดแตกเพราะคิดว่าที่นี่คือบ้านผีสิง! ไม่ว่าจะมองมุมไหนสถานที่แห่งนี้ก็ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าที่อยู่อาศัย

“บ้านผีสิง มันต้องเป็นบ้านผีสิงแน่ ๆ”ผมยืนเกาะรั้วเพื่อชะโงกหน้าเข้าไปสอดส่องภาพบรรยากาศข้างใน

คฤหาสน์หลังนี้มี3ชั้น รูปทรงยุโรปสไตล์ซิมเมททรี ตรงกลางสวนมีน้ำพุและอาชาสีดำหนึ่งตัว คือขนาดรูปปั้นม้ายังมีแค่ตัวเดียวเลย บ่งบอกว่าเจ้าของคฤหาสน์มีนิสัยรักสันโดษและเกลียดการอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดไหน และด้วยความที่เจ้าของบ้านมีนิสัยเป็นมนุษย์อินโทรเวิร์ทเช่นนี้เองทำให้กลิ่นกลายความเดียวดายมันคละคลุ้งอบอวลไปทั่วบริเวณ

“หนาวเหลือเกิน”

ลำปางไม่หนาวเท่าลำพังแต่บ้านท่านเอเทมนั้นทั้งหนาวทั้งเหงา

ลันเทียบอกว่าจะมารับผมพรุ่งนี้ ซึ่งบ้านของท่านเอเทมก็ตั้งอยู่เป็นเอกเทศไกลผู้ไกลคนจนบ้านผมดูเป็นแหล่งชุมชนไปเลย คือเขาปลูกบ้านได้ห่างจากเพื่อนบ้านประมาณเจ็ดร้อยแปดสิบล้านไมล์ทะเลได้ ผมไม่มีปัญญาเดินกลับแน่นอน ทางเลือกเดียวของผมก็คือกดออดและเดินหน้าด้านเข้าไปกินน้ำผึ้งพระจันทร์กับเขา

“เอาล่ะนะ”

ออดดดด

ออดเวทมนต์ เพียงปลายนิ้วสัมผัสมันก็ส่งเสียงออกมา

ผมยืนรอสักพัก มโนว่าต้องมีสาวใช้หรือไม่ก็พ่อบ้านกรูกันออกมาต้อนรับ แต่ผมคิดผิด ไม่มีใครโผล่ออกมาเลยราวกับบ้านหลังนี้เป็นบ้านร้าง

“เห้ ๆ...”ผมวางตะกร้าลงและใช้สองมือเกาะรั้วอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น

คฤหาสน์หลังนี้ไม่มีคนรับใช้!!

บ้าไปแล้ว! บ้านหลังเบ้อเร่อแบบนี้อยู่คนเดียวไม่กลัวผีบ้างเหรอ เวลาทำความสะอาดบ้านนี่ทำยังไง ตอบ!!

ผมยืนตาเหลือกเกาะประตูบ้านอยู่แบบนั้นไม่นานไอ้ประตูรั้วที่ผมเกาะอยู่มันก็ขยับ ผมรีบผละออกด้วยความตกใจสุดขีด วูบแรกคิดแล้วว่าโดนผีอำชัวร์ ๆ แต่วูบที่สองถึงนึกได้ว่าโลกนี้มีเวทมนต์ คาดว่าคนในบ้านคงเปิดประตูให้ผมเข้าไปข้างใน

“เข้าไปละนะคร้าบ...”ผมก้มลงหยิบตะกร้าก่อนเอ่ยอย่างกล้า ๆกลัว ๆ

แค่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาในบ้านผมก็เสียวสันหลังวาบ ๆ ลมเย็นพัดเข้ามาปะทะใบหน้า กิ่งไม้ในสวนอันวังเวงพลิ้วไหวจนเกิดเสียงเสียดสีชวนหลอนหู 

พลันประตูทางเข้าคฤหาสน์เปิดออก ปรากฏร่างของเจ้าของบ้านผู้อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง

ร่างสูงยืนกอดอกพิงกรอบประตูขณะทอดสายตามองต่ำมายังผม นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาสวมชุดลำรอง แต่ทั่วทั้งตัวของเขาก็ยังคุมโทนสีดำอยู่ดี

“ข้า...โดนจับมาปล่อยไว้ตรงนี้”ผมกล่าวอ้อมแอ้ม ถือตะกร้ายืนบิดไปมา

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา”

“ท่านรู้ได้ยังไง!?”

“เวทผูกวิญญาณ”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นบันได้ไปยืนอยู่เบื้องหน้าของอีกฝ่าย

ผมชูตะกร้าอาหารค่ำที่ลันเทียเตรียมไว้ให้ก่อนเอ่ยโวยวาย”ท่านไม่บอกข้าสักคำว่าน้ำผึ้งนั่นมีความหมายลึกซึ้งต่อชาวอัสโตเรีย!!”

ท่านเอเทมเหลือบมองตะกร้าของผมด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนเขาจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ ผมแปลการกระทำนี้เอาเองว่าเขาเชิญผมเข้ามาข้างในผมจึงถือวิสาสะเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้ามาต้อย ๆ

และผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเขาพาผมมาที่ห้องอาหาร!

ผมไม่รู้จะตกใจเรื่องห้องอาหารของเขาเป็นโต๊ะยาว มีเก้าอี้เรียงกันเป็นสิบตัวแต่เก้าอี้เพียงตัวเดียวที่ถูกใช้งานคือเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน! เขาอยู่คนเดียวแล้วจะซื้อเก้าอี้มาให้ฝุ่นจับเล่นทำเพื่อ!? หรือตกใจเรื่องที่ว่าเขาจะกินน้ำผึ้งพระจันทร์กับผมเรอะ!?

“ท่าน...จะกินมันเหรอ ในนี้คือเมนูที่ปรุงจากน้ำผึ้งพระจันทร์ล้วน ๆเลยนะ”

“วันนี้แม่ครัวลา นางคิดว่าข้ายังไม่กลับเลยไม่มาทำงาน”

“แล้ว?”ผมเลิกคิ้วถามทว่าท่านเอเทมไม่ตอบ อัศวินหนุ่มเพียงแค่เดินไปนั่งอย่างองอาจตรงหัวโต๊ะ

ผมประเมิณพฤติกรรมของอีกฝ่ายอย่างเคร่งเครียด

อยู่กับเขาเหมือนผมต้องเล่นเกมใบ้คำตลอดเวลา ซึ่งเกมใบ้คำนี้เป็นเกมระดับสูงกว่าปกติเพราะผู้ใบ้แทบไม่แสดงกิริยาอะไรเป็นพิเศษ สีหน้าแววตาก็เรียบเฉยตลอดศก แม้แต่ขนคิ้วสักเส้นก็ไม่กระดิก

“ท่านจะกินเหรอ เมนูจากน้ำผึ้งพระจันทร์พวกนี้”ผมเดินเอาตะกร้าไปวางโว้บนโต๊ะ ค่อย ๆหยิบจานอาหารข้างในออกมาทีละอย่าง ตะกร้านี้เป็นตะกร้าเวทมนต์ นอกจากมันจะสามารถจุของได้มากกว่าที่ตาเห็นแล้วยังเก็บความร้อนได้อีกด้วย ดังนั้นอาหารของลันเทียที่รักของผมจึงยังส่งกลิ่นหอมฉุยน่าทาน

“อืม”ท่านเอเทมพยักหน้าเบา ๆหนึ่งครั้ง ตาจ้องไปที่อาหารไม่ได้สนใจผมที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะแม้แต่น้อย

คิดดูนะครับ อยู่กับลันเทียผมแค่นั่งเฉย ๆดูอีกฝ่ายวิ่งเข้าออกครัว พอมาอยู่กับท่านเอเทมเขากลับได้บทนั่งมองเฉย ๆดูผมจัดจาน!! แล้วแบบนี้ถ้าผมเลือกได้ผมจะเลือกแต่งงานกับใคร ตอบ!!

“ท่านยอมรับคำขอแต่งงานของข้ารึ”ผมถาม

“ไม่มีวัน”

“แล้วท่านจะกินน้ำผึ้งพระจันทร์กับข้าทำเพื่อ?”

“ข้าไม่ใช่ชาวอัสโตเรีย เจ้าก็ไม่ใช่ คนที่ปรุงอาหารมื้อนี้ก็ไม่ใช่”

“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าลันเทียไม่ใช่ชาวอัสโตเรีย”ผมยังไม่รู้เลย!

“เขาเป็นชาวโรมานอสซาร์”

“ไอ้ที่ประกาศตอนรับยศน่ะเหรอ หูยยย ความจำดีนะเนี่ย หยะ อย่าบอกนะว่าท่านเองก็สนใจเด็กคนเดียวกับผมอยู่!! ผมไม่ยกลันเทียของผมให้หรอกนะ ผู้ชายคนนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของผม!”ผมแยกเขี้ยวขู่แง่ง ๆเป็นจงอางหวงไข่ ทว่าท่านเอเทมกลับไม่กลัวเกรงแถมส่ายหน้าไปมาอย่างระเหี่ยใจ

“ข้าจำได้ เพราะข้าเองก็เป็นชาวโรมานอสซาร์”

“โรมานอสซาร์เนี่ย ตกลงคืออะไรหรือ”ผมถามด้วยความสงสัย คนใกล้ตัวผมสองคนมาจากที่นี่ ดูเหมือนมันจะเป็นประเทศที่ดังทีเดียว”ว่าแต่ท่านเป็นชาวโรมานอสซาร์ แล้วมาอยู่ที่อัสโตเรียทำไมล่ะ”

เรื่องลันเทียผมไม่ติดใจสงสัย คนน่ารักก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา แต่ท่านเอเทมไม่ใช่ เขาเป็นถึงอัศวินอันดับหนึ่ง ความจริงเขาควรทำงานรับใช้แผ่นดินเกิดสิ

หรือว่ามีเหตุอะไรที่ทำให้เขาอยู่ในโรมานอสซาร์ไม่ได้?

“ราชอาณาจักรแห่งนั้น พินาศไปแล้ว”

“...”

คำว่าพินาศที่เขาเปล่งออกมาจากริมฝีปากมันแผ่วเบา เพียงแค่สายลมเบา ๆก็สามารถกลบถ้อยคำนั้นได้จดมิด หากทว่าความรู้สึกบ่างอย่างกลับชัดเจน

เจ็บปวด?

โกรธแค้น?

รู้สึกผิด?

ผมไม่สามารถจำแนกแววตาของเขายาวเอ่ยคำว่าพินาศได้ แต่ผมก็ไม่คิดจะซักไซ้เรื่องราวอะไรต่อ เนื่องจากเป็นคนมีมารยาท ผมคิดว่าเรื่องที่ทำให้คนหน้าเดียวอย่างท่านเอเทมถึงกับเสียอาการย่อมเป็นเรื่องที่ใหญ่มากในใจของเขา

“งั้น เราสองคนที่ไม่ใช่ชาวอัสโตเรียก็มากินน้ำผึ้งพระจันทร์กันให้อร่อยเถอะ!”ผมยกยิ้มกว้าง เดินไปเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่ข้างตำแหน่งที่นั่งหัวโต๊ะของท่านเอเทมด้วยรอยยิ้มที่พยามปั้นแต่งเพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้นมาหน่อย

“หื้ม หวานนิด ๆแต่ไม่เลี่ยนแฮะ สุดยอด สมแล้วที่เป็นลันเทียของข้า! อร่อยจริง ๆ”ความจริงพอรู้ว่าเมนูทั้งหมดทำมาจากน้ำผึ้งผมก็เตรียมตัวเป็นเบาหวานรอไว้เลย เดาว่าน้ำตาลต้องขึ้นแน่ ๆแต่ปรากฏว่ารสชาติที่สัมผัสเข้าปากคำแรกมันกลับอร่อยกว่าที่คิด

“ลันเทียของเจ้า?”

“อื้ม ลันเทียของข้า”ผมยิ้มหน้าแป้น เคี้ยวแก้มตุ่ยอย่างมีความสุข

พออาหารเข้าปากก็ลืมเรื่องกระอักกระอ่วนของท่านเอเทมไปจนหมดสิ้น

“เจ้าชู้จริงนะ เจ้านะ”

เอาแหล่ว งานนี้มีคนหึง!

ผมฉีกยิ้มกว้างก่อนจะกระเถิบเก้าอี้เข้าไปใกล้คนตัวสูงกว่า นัยน์ตาของผมฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างไม่มีปกปิด ผมเอาแขนของตัวเอาเบียดกับแขนของเขา สร้างความรำคาญสักพักคนที่กำลังตักข้าวอยู่ก็ตวัดสายตาเหวี่ยง ๆมาให้ผม

“ลันเทียของข้า เจ้าหญิงก็ของข้า แต่ตัวข้าน่ะ...ของท่านนะ”

ฮิ้วววว

ท่านเอเทมไม่ตอบรับขับสู้ใด ๆ เขาเพียงแค่หันกลับไปสนใจอาหารน้ำผึ้งพระจันทร์ของเขาเงียบ ๆ

ผมที่หยอกมุกเสี่ยวเก้อเลยได้แต่กระเถิบก้นกลับมานั่งที่เดิมและก้มหน้ากินต่อไปเงียบ ๆ และแล้วดินเนอร์ของเราสองคนก็สิ้นสุดลงแบบจืดชืด ความหวานของน้ำผึ้งก็ไม่ช่วยอะไรเมื่ออีกฝ่ายคือท่านเอเทมที่เย็นชาประดุตภูเขาน้ำแข็งเดินได้

“ท่านจะให้ข้าค้างที่นี่รอคนมารับพรุ่งนี้หรือจะไปส่งข้า”ผมเสนอตัวเลือกเมื่อเราจัดการอาหารเย็นทั้งหมดจนเกลี้ยง

อ้อ เหลือเค้กน้ำผึ้งอีกอย่าง อันนี้ท่านเอเทมไม่ยอมกินเพราะเขาไม่ชอบกินขนม ผมเองก็อิ่มจนตัวจะแตกแล้วเลยเก็บมันใส่ตะกร้าตามเดิม

ผมเท้าคอมองคนที่ถอยหายใจออกมาหนัก ๆหนึ่งครั้ง ท่านเอเทมพยักหน้าให้ผมเบา ๆก็ลุกเดินออกจากห้องอาหารไปทั้งอย่างนั้น คนเราน้อ ไม่ต้องให้เดาใจมันสักเรื่องได้ไหม

ผมนั่งรออยู่ตรงโต๊ะกินข้าวอีกสักพัก เมื่อไร้วี่แววเจ้าของบ้านผมจึงตีความเอาเองอีกครั้งว่าเขาไม่ไปส่งผม ให้ผมค้างที่นี่ได้

“แล้วจะให้ข้านอนห้องไหนล่ะ”ผมเปรยเสียงหน่าย

ผมไม่สามารถเปิดประตูห้องมั่ว ๆแล้วเข้าไปนอนเองตามใจชอบได้ ผมต้องถามความเห็นเจ้าของบ้านก่อน การเดินตามหาท่านเอเทมในคฤหาสน์หลังนี้ไม่ใช่เรื่องยากเพราะผมสัมผัสได้ด้วยใจว่าเขาอยู่ตรงไหน ต้องขอบคุณเวทผูกวิญญาณจริง ๆ

ผมเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสอง เดินตรงไปยังห้องใหญ่สุดทางเดิน เคาะประตูห้องสามครั้งตามมารยาทก่อนเอ่ยปาก”ท่านจะให้ข้านอนห้องไหนหรือ”

“แล้วแต่เจ้า”เสียงของคนด้านในตอบมาเช่นนั้นผมจึงยักไหล่แบบเซ็ง ๆ หันซ้ายหันขวาดูก็เลือกผลักประตูบานข้าง ๆออก

ห้องที่ผมเลือกเปิดเข้ามาเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีเตียงคิงไซส์วางอยู่ตรงกลาง เครื่องเรือนมีไม่กี่ชิ้นเน้นที่ใช้สอยได้ ผมเดินเข้ามาภายในกะว่าจะยึดห้องนี้เป็นห้องนอนทว่าขาของผมก็ต้องชงัก

นี่ไม่ใช่ห้องว่าง

มันคือห้องนอนของท่านเอเทม!

ผมคิดว่าห้องสุดทางเดินที่ท่านเอเทมอยู่เมื่อกี๊เป็นห้องนอนของเขาเสียอีก ทว่าผมคิดผิด นั่นอาจจะเป็นห้องหนังสือหรือห้องทำงานของเขามากกว่า ถ้าเขารู้ว่าผมทะเล่อทะล่าเข้ามาในห้องนอนของเขาแบบนี้เขาจะโกรธไหม?

“แต่เขาพูดเองนะว่าแล้วแต่เจ้า...ถ้าเราอยากนอนห้องนี้เขาก็ว่าเราไม่ได้ อยากบอกว่าแล้วแต่เองทำไมล่ะ”ผมหัวเราะคิกคักกับไอเดียสุดบรรเจิดของตนเอง

หลังจากผลักเขาตกกระป๋องไปเมื่อบ่ายตอนนี้ผมมีโครงการเก็บเขาขึ้นมาจากกระป๋อง ปัดฝุ่นและเอากลับไปวางไว้บนหิ้งเหมือนเดิมแล้ว

ในบรรดา เจ้าหญิง ลันเทีย และเขา ยังไงผมก็คิดว่าเขาดึงดูดใจผมที่สุดอยู่ดี

ผมอยากให้แถวนี้มีกลีบดอกไม้จะได้เอามาเด็ดเลือกคู่ให้ตัวเองอีกครั้ง ผมมองหาไปรอบ ๆก่อนพบแจกันทรงสูงตั้งอยู่ข้างหัวเตียง ผมฉีกยิ้มทันทีเพราะดอกไม้ในแจกันมีค่อนข้างเยอะ ผมคิดว่าถ้ามันหายไปสักดอกเจ้าของห้องคงไม่สังเกต

ผมเดินเข้าไปใกล้โต๊ะหัวเตียง ตั้งใจจะหยิบกิ่งไม้จากแจกันทว่าหางตาของผมพลันเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า

“กรอบรูป?”

ผมเคยดูหนังย้อนยุคมาบ้าง ปกติตรงโถงทางเดินของคฤหาสน์ขุนนางจะต้องมีรูปเจ้าบ้าน รูปครอบครัว รูปบรรพบุรุษอะไรก็ว่าไปแขวนเรียงรายกันเป็นตับ แต่คฤหาสน์ของท่านเอเทมกลับไม่มีรูปสักใบ ไม่มีแม้แต่รูปวิวหรือรูปสิงสาราสัตว์

เมื่อพบว่าข้างหัวเตียงมีกรอบรูปตั้งโต๊ะอันเล็ก ๆวางคว่ำอยู่ผมจึงเกิดความสนใจ

รูปอะไรกันนะที่เขาถึงกับวางไว้ข้างหัวเตียง

“ขอส่องหน่อยนะคร้าบ”ใจของผมเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกจากขั้ว

ถ้าเจ้าของมาเห็นการกระทำของผมตอนนี้ล่ะก็ผมต้องโดนฆ่าหมกสวนหลังบ้านแน่ ๆ!

แต่คนมันจะเสือก อะไรก็ฉุดไม่อยู่!

ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก เม็ดเหงื่อผุดพราย ขณะเอื้อมมือไปแตะกรอบรูปผมรู้สึกตื่นเต้นถึงขีดสุด ผมรีบพลิกรูปนั้นให้หงายขึ้นด้วยความรวดเร็ว และภาพที่เห็นก็ทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว

“ใคร...?”

คนในภาพถ่ายเป็นเด็ก อายุน่าจะไม่ถึงสิบขวบด้วยซ้ำ คนหนึ่งเป็นเด็กผู้หญิง เส้นผมสีขาวยาวประบ่า นัยน์สีตาฟ้าครามฉายแววน่ารักซุกซน ส่วนเด็กอีกคนมีเส้นผมและดวงตาสีดำ ทั้งสองยิ้ม และชูมือข้างซ้ายให้กล้อง

และบนนิ้วนางข้างซ้ายของเด็กทั้งสอง มีแหวนดอกไม้ประดับอยู่

!!?



----------------------------

ตอนต่อไป : จุดจบสายเผือก 5555

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ท่านเอเทมรักรึป่าว

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :serius2: :serius2: อยากรู้....ใคร????????

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อยากเห็นจุดจบสายเผือกเลยค่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

จะโดนทำโทษเยี่ยงไรหนอ?

เด็กผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นเด็กผู้ชายที่คล้ายผู้หญิง หรืออาจเป็นผู้ที่มีพลังหกแสนกว่าที่หายไปยังโลกอื่นก็เป็นได้นะ

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
มีคนรักอยู่แล้วป่ะเนี่ย!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อื้อหือ น้องไปเจอของเด็ดเข้าให้แล้ว

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ใคร  :serius2: ใครๆๆๆๆ หวังว่าคนนี้จะไม่เป็นปัญหาในอนาคตนะ
ท่านเอเทมมาจัดการด่วนน้องขี้เสือก จัดหนักๆเลยย  :z1:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ไปเผือกถึงในห้องท่านเอเทม
จุดจบสายเผือกจะต้องไม่ดีแน่ๆ 555555555

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่17

ระดับความเสือกในร่างของผมพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ทว่านอกจากดิ้นไปดิ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมก็ทำอะไรไม่ได้อีกเลย ผมอยากรู้ที่มาที่ไปของภาพใบนี้อย่างยิ่ง! เด็กผู้หญิงคนนี้คือใคร แล้วเด็กผู้ชายล่ะ เด็กผู้ชายดูเหมือนจะอายุมากกว่าเด็กผู้หญิงนะ แต่ดูจากความเก่าของกระดาษผมคาดว่ารูปใบนี้ต้องถ่ายมาไม่ต่ำกว่าสิบปีแล้ว

ป่านนี้เด็กสองคนในรูปคงโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

ผมขมวดคิ้วจ้องเด็กผู้ชายในภาพดี ๆ พยามเอาใบหน้าของท่านเอเทมในปัจจุบันไปเปรียบเทียบแต่ก็ไม่พบส่วนคล้าย ผมคิดว่าเด็กในรูปหล่อทัดเทียมท่านเอเทมได้เลย แต่เครื่องหน้าของเขาแตกต่างจากท่านเอเทม โดยเฉพาะสีผมกับสีตา

ถ้าจะพูดถึงสีผมกับสีตาล่ะก็ ท่านเอเทมกับเด็กผู้หญิงคนนี้มีเส้นผมกับดวงตาสีเดียวกัน

“อืม...”ผมครุ่นคิดอย่างหนัก

แบคกราวด์ในภาพดูเหมือนจะถ่ายที่สวนดอกไม้ แต่มันไม่ใช่สวนดอกไม้ของวังหลวงแห่งอัสโตเรีย เหล่าดอกไม้ที่อยู่รายรอบเด็กทั้งสองมีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป

“ไม่หนาวกันรึไง”ผมถามอากาศธาตุภายในห้อง เสื้อผ้าที่เด็กทั้งสองคนสวมใส่ไม่หนานัก ทว่าในภาพกลับมีหิมะกำลังโปรยปรายอยู่

ผมอยากแกะรูปออกมาดูว่าด้านหลังมีอะไรเขียนไว้หรือไม่แต่มันดูละลาบละล้วงเกินไปหน่อยผมจึงวางมันกลับไปไว้ที่เดิมอย่างช่วยไม่ได้ ผมตัดสินใจว่าจะนอนห้องนี้เพราะถือคติด้านได้อายอดแต่จะให้นั่งเฉย ๆก็ดูจะว่างเกินไปหน่อย

“ไปหาเขาละกัน”ผมกล่าวกับตัวเอง

เดินออกจากห้องนอนของเจ้าของคฤหาสน์ก่อนจะตรงไปที่ห้องสุดทางเดินอันเป็นห้องที่ท่านเอเทมอยู่ ผมเคาะประตูสามครั้งก่อนเปิดเข้าไปด้านใน ภาพที่ปรากฏทำให้ผมตกตะลึงจนต้องร้องว้าวออกมาอย่างตื่นเต้น มันคือห้องหนังสือ! คุณเคยเห็นห้องที่มีแต่หนังสือตั้งแต่หัวจรดเท้าไหม คล้ายห้องหนังสือของคุโด ชินอิจิ นั่นแหละเพียงแต่ห้องหนังสือของท่านเอเทมมีขนาดใหญ่กว่านั้น

ผมสามารถเรียกสถานที่นี้ว่าห้องสมุดได้เลย

ผมเดินเข้ามาข้างในอย่างตื่นตาตื่นใจ แม้ผมจะไม่ใช่หนอนหนังสือแต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจบรรยากาศเช่นนี้

เพดานของห้องแห่งนี้เป็นกระจกล้วนทำให้มองเห็นท้องฟ้ายามราตรีภายนอก

และนอกจากจะมีหนังสือกับหลังคาเรือนกระจกแล้วในห้องนี้ก็ยังมีต้นไม้ ต้นเล็กต้นใหญ่ประดับอยู่ น่าเสียดายที่มีต้นไม้เยอะขนาดนี้แต่กลับไม่มีดอกไม้เลยสักดอก

ตรงกลางห้องที่เหมือนจะสวยแต่กลับไร้ชีวิตชีวาแห่งนี้มีร่างสูงกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ เขาแค่ปรายตามองผมเล็กน้อยเชิงรับรู้ว่าผมเข้ามาแล้วนะก่อนจะหันกลับมาตั้งสมาธิอ่านหนังสือต่อ

ผมตัดสินใจเดินไปรอบ ๆเพื่อสำรวจว่ามีหนังสืออะไรน่าอ่านหรือไม่ ผมคาดหวังว่าจะเจอนิยายหรือวรรณกรรมเพื่อความบันเทิงแต่ผมประเมิณคนอย่างท่านเอเทมผิดไปไกล คนอย่างเขานอกจากสาระแล้วชีวิตก็ไม่มีอะไรอีกเลย!

ผมวางหนังสือตำราเวทที่หยิบสุ่มออกมาจากชั้นกลับเข้าที่อย่างเศร้าใจ

“โอ๊ะ เปียโน!!”ผมร้องออกมาด้วยความดีใจสุดขีด

ผมเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ได้ ไม่สิ ไม่ใช่แค่เล่นได้ ผมน่ะเรียกเอกเปียโนเลยล่ะ

อะแฮ่ม! เผื่อใครไม่รู้ผมจะช่วยบอกให้ก็ได้ว่าผมน่ะเรียนคณะศิลปกรรมเอกดุริยางคศิลป์นะเออ

ผมเดินหน้าบานเป็นกระด้งเข้าไปหาเครื่องดนตรีชิ้นเอกของตนเอง ดูเหมือนเจ้าแกรนด์เปียโนหลังนี้จะมีคุณค่าแค่ของประดับห้องหนังสือเท่านั้นเพราะท่าที่สัมผัสดูเหมือนเจ้าของมันจะไม่เคยเล่นมันเลยสักครั้ง

“โถ เจ้าเปียโนที่น่าสงสาร”ผมเป็นคนรักเครื่องดนตรีมากครับ ผมลูบปลายนิ้วกับคีย์ของมันอย่างทะนุถนอมเหมือนลูกในไส้ นึกสงสารจับใจ มันที่เกิดมาเป็นเครื่องดนตรีแต่กลับถูกลดคุณค่าเหลือเทียบเท่าเฟอร์นิเจอช่างน่าสงสาร

“พ่อจะเล่นเจ้าเอง ไม่ต้องเสียใจนะ”เนื่องจากไม่มีคนคุยด้วยผมจึงเหงาปากจนต้องมานั่งคุยกับเปียโน

ทีแรกผมตั้งใจว่าจะเล่นเพลงของบีโทเฟ่น แต่สายตาดันไปสะดุดเข้ากับโน้ตเพลงเก่า ๆแผ่นหนึ่งซึ่งถูกวางไว้บนชั้นใกล้ ๆ

ผมเดินไปหยิบมัน โน้ตดนตรีของโลกแห่งนี้ไม่เหมือนกับโน้ตที่ผมรู้จัก แต่ผมกลับอ่านออก

การที่ผมอ่านโน้ตเหล่านี้ออกก็แปลว่าดาร์กลอร์ดหรือใครก็ตามที่สลับตัวกับผมต้องอ่านออก

“มีอารมณ์สุนทรีย์เหมือนกันนี่”ผมยกยิ้ม นาน ๆครั้งที่ผมจะชอบใจความสามารถที่ได้รับมาจากนายทิมปริศนา

ผมวางโน้ตดังกล่าวไว้เบื้องหน้าก่อนจะเริ่มพรมนิ้วลงตามเสต็ป วินาทีแรกที่ปลายนิ้วของผมกดลงบนแป้นคีย์ผมก็เกือบผงะ ดีที่ผมมีประสบการณ์แข่งขันจริงมาหลายรายการผมจึงสามารถสะกดความตื่นเต้นและเล่นต่อไปได้

นี่มันไม่ใช่เปียโนธรรมดา มันคือเปียโนเวทมนต์!

เพลงที่ผมเล่นมีลักษณ์สดในรื่นเริง ให้บรรยากาศราวกับกำลังวิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ แต่บางจังหวะมันกลับสะท้อนความหนาวเหน็บออกมาอย่างช่วยไม่ได้

แล้วทุกครั้งที่ผมกดคีย์ สิ่งรอบตัวของผมพลันเปลี่ยนไป มีแสงสว่างสีเหลืองนวลรอยอยู่รอบ ๆราวกับหิ่งห้อย ต้นไม้ภายในน้อยใหญ่ที่ผมบ่นในใจก่อนหน้านี้ว่าทำไมถึงไม่มีดอก บัดนี้พวกมันกำลังทยอยกันผลิดอกไม้สีหวานส่งกลิ่นหอมอบอวล

ห้องสมุดแห่งนี้เกือบจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ ทว่าหิมะพลันตกลงมาเสียก่อน มันเป็นหิมะซึ่งเกิดจากภาพลวงตาเมื่อตกกระทบพื้นก็หายไปแต่มันกลับสร้างความเย็น อุณหภูมิในห้องหนังสือลดต่ำลง

ผมแปลกใจที่ตัวเองสามารถเล่นเปียโนเวทมนต์ได้ แต่เพราะความตื่นตาตื่นใจทำให้ผมลืมเอะใจไปเสียสนิท ผมมองไปรอบ ๆอย่างมีความสุข

อยู่ที่โลกเดิมนักดนตรีต้องพยามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเสียงเพลง แต่ ณ โลกแห่งนี้เสียงเพลงสามารถถ่ายทอดภาพลักษณ์ของพวกมันออกมาเป็นรูปธรรมได้

โดยไม่รู้ตัว ท่านเอเทมก็เดินมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆผม

นัยน์ตาของเขาฉายแววประหลาดใจเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยมขณะจ้องมองใบหน้าของผม ส่วนใบหน้าที่มักจะเรียบเฉยตลอดศกของเขาบัดนี้มันไม่เรียบเฉยอีกต่อไปหากแฝงไปด้วยความรู้สึกระส่ำระส่ายที่ผมสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

และเพราะผมตกใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าคนอย่างเขาจะแสดงสีหน้าความรู้สึกแบบนี้ออกมามือของผมก็เลยหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ

“เอ่อ ขอโทษที่แอบมาเล่นโดยพลการ รบกวนสมาธิท่านหรือ”

“เล่นต่อสิ”เสียงทุ้มเอ่ยกับผมอย่างอ่อนโยน

ใช่ ผมฟังไม่ผิด น้ำเสียงของท่านเอเทมอ่อนโยน! แววตาของท่านเอเทมตอนนี้ก็เปลี่ยนมาจ้องผมอย่างอบอุ่น

นะ นี่มีผีหลอก!!

ผมเกิดอาการหน้าซีดมือสั่น ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สติแตกจนถึงขีดสุดแต่ในเมื่อท่านเอเทมขอให้เล่นต่อผมจึงหันกลับมาเล่นต่อทั้งที่ยังรวบรวมสมาธิไม่ได้ ทว่าคราวนี้เจ้าเปียโนกลับเปล่งออกมาแค่เสียง เอฟเฟคดอกไม้บานหิมะโปรยพลันหายไปสิ้น

“อ้าว”ผมร้องออกมาอย่างตกใจ แล้วยิ่งตกใจทีนี้ไม่ใช่แค่ดอกไม้ไม่บาน แม้แต่ตัวโน้ตธรรมดาผมยังกดผิด ๆถูก ๆเลย

โชคดีที่ท่านเอเทมรู้ว่าผมตื่นเต้นเกินกว่าเหตุเขาจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิมไม่คาดหวังให้ผมเล่นเพลงนั้นอีก

ผมมองตามแผ่นหลังของเขา หลังจากนั่งหายใจเข้าหายใจออกอยู่สักพักผมก็ทำสมาธิได้ แต่คราวนี้ไม่กล้าเล่นเพลงเดิมอีกแล้ว ผมตัดสินใจเลือกเพลงคลาสสิคที่โลกเดิมซึ่งเล่นได้ถนัดมือมาเล่น

เสียงเพลงที่ผมเป็นคนบรรเลง

เสียงเพลงอันคุ้นเคย

Canon in D

เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบมากที่สุด ท่วงทำนองของมันหอมหวานชวนฝัน ผมเคยตั้งใจไว้ว่าจะเล่นเพลงนี้ในงานแต่งงานของตนเอง นี่จึงเป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดและเคยเล่นมันในงานประกวดสมัยประถม

นี่จึงเป็นบทเพลงแห่งความทรงจำของผม

โดยไม่รู้ตัวเจ้าเปียโนหลังนี้ก็เรืองแสงนวล ๆออกมา

มันสร้างภาพลวงตาอีกครั้งทว่าคราวนี้ไม่ใช่ภาพดอกไม้กับหิมะ แต่เป็นภาพของผม ตัวผมตอนเจ็ดขวบกำลังวิ่งดีใจไปรอบบ้านเพราะพ่อซื้อเปียโนหลังแรกในชีวิตมาให้ มันคือเปียโนไซส์เล็กสำหรับเด็ก แม้ราคาไม่แพงนักแต่เมื่อเทียบกับสถานะครอบครัวของผม ผมก็คิดว่ามันแพงเกินไป

ความเอาแต่ใจของผมทำให้พ่อต้องซื้อเปียโนหลังนี้มา

“...”ท่านเอเทมปิดหนังสือในมือของเขาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองภาพเจ้าเด็กเอาแต่ใจกำลังวิ่งหน้าบานขึ้นไปกอดเปียโนหลังนั้น

ผมเองก็ทอดมองความทรงจำตรงหน้าอย่างอาลัย

“เปียโนเวท บางคราก็ถ่ายทอดเรื่องราวตามท่วงทำนอง บางคราก็บอกเล่าความในใจของผู้เล่น”เสียงทุ้มเอ่ยกับผม แม้คราวนี้จะไม่อ่อนโยนเท่าเมื่อครู่ทว่าในน้ำเสียงของเขากลับแฝงความเข้าอกเข้าใจตัวผม

เข้าอกเข้าใจงั้นหรือ

“บางครั้งอดีตก็มีความสุขกว่าปัจจุบัน”ผมตอบ

“อืม เพราะบางครั้งอดีตเหล่านั้นก็ไม่มีวันหวนกลับมา”ท่านเอเทมว่าพลางลุกจากโซฟา เข้าเดินมาหาผมและกล่าวเพียงสั้น ๆว่า”จะเข้านอนหรือยัง”

“วันนี้นอนเร็วหน่อยก็ดี”ผมตอบเขา เพราะเจ้าเปียโนหลังนี้มันขุดคุ้ยความทรงจำของผมลึกเกินไป

และบางที...ผมเองก็อาจจะไปขุดคุ้ยความทรงจำบางอย่างของคนข้าง ๆเข้าเช่นกัน



-----------------------------

สายเผือกรายนี้จบแบบไม่ตายแต่หม่นหมองนะคะ 555

ปล.ท่านเอเทมผมสีควันบุหรี่ตาสีฟ้านะ! อย่าลืม ๆ



ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เปียโนตัวเดียวจะทำให้ท่านเอเทมเปลี่ยนความรู้สึก ทีมีต่อการันต์ดีขึ้นหรอ แล้วในภาพคือใคร รอออออ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เกาะขอบ เผือกไม่สุดแต่รอดูฉากนอนด้วยกันนะ แค่ก!

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เศร้าตามเลย

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เปียโนนนนนน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไหนว่าเป็นตอนจุดจบสายเผือก?  ไม่เห็นโดนอะไรเลย  อิอิ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เด็กน้อยการันค์จะนอนร้องไห้คิดถึงบ้านไหมหนอ

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ทั่นเอเทมคงเห็นสิ่งอยู่ที่ภายใต้ความบ้าๆ บวมๆ ของน้องสินะ

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุก น่าติดตามมากครับ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
จะมีแบบละเมอมากอดไรงี้ป่าวอ่ะ :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4

-------------------------------

ตอนที่18

ตั้งแต่เหยียบเข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้ผมตั้งคำถามกับตัวเองหลายครั้งว่าท่านเอเทมที่ผมเห็นใช่ท่านเอเทมตัวจริงหรือไม่ เขาโดนตัวอะไรเข้าสิงหรือเปล่า ทำไมเขาดูอารมณ์ขึ้น ๆลง ๆเดี๋ยวก็อ่อนโยนเดี๋ยวก็เศร้า แล้วตอนนี้เขายังชวนผมเข้านอนอีก

เจ้าของตำแหน่งอัศวินอันดับหนึ่งเดินนำผมไปที่เตียง เขาทิ้งตัวลงนอนฝั่งที่มีแจกันกับกรอบรูปวางอยู่หากแต่เขายังไม่นอน ร่างสูงนั่งพิงหัวเตียวและเปิดอ่านหนังสือเล่มที่เจ้าตัวหยิบติดมือมาจากห้องสมุดเงียบ ๆ

ผมยืนเอ๋ออยู่หน้าประตูจนเริ่มเมื่อยจึงได้สติและเดินเข้ามาบ้าง ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะปีนขึ้นเตียงด้วยความตื่นเต้น

พระเจ้า! นี่ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงเดียวกับท่านเอเทม!

แต่ดูเหมือนคนที่ตื่นเต้นจะมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นเพราะคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆผมดูเหมือนจะโฟกัสอยู่ที่หนังสือไม่ได้สนใจอาการอิ๊อ๊ะของผมแม้แต่น้อย ผมมองใบหน้าด้านข้างของเขา ทีแรกมองด้วยความหมั่นไส้แต่พอมองไปมองมากลับมองด้วยความหลงใหล

เขาหล่อมากจริง ๆ เป็นความหล่อที่มองกี่ทีก็ไม่เบื่อ

แล้วก็กลายเป็นว่าผมนั่งมองหน้าเขา ส่วนเขานั่งอ่านหนังสือ นี่กลายเป็นกิจกรรมบนเตียงของเราทั้งคู่

สถานการณ์ดังกล่าวดำเนินต่อไปได้ไม่นานคนที่ทำเป็นไม่สนใจผมในทีแรกก็ตวัดสายตาขึ้นมามอง

“ข้าไม่มีอะไรทำ”ผมแบมือทั้งสองข้าง แสดงออกว่าว่างเต็มแก่

ท่านเอเทมเหลียวมองรอบตัวก่อนจะชี้นิ้วไปที่ตู้ข้างหน้าต่าง ผมเองก็ลุกไปดูที่ตู้นั่นอย่างว่าง่าย

“ท่านหมายถึงนี่เหรอ”ผมหยิบฮาโมนิก้าสีขาวขึ้นมาแกว่งไปมา

“มีคนให้มาเมื่อเดือนก่อน ข้าเล่นไม่เป็น เจ้าเอาไปเถอะ”

“แล้วท่านคิดว่าข้าเล่นเป็นเหรอ?”ผมย้อนถาม กะจะชวนเขาคุยต่อสักหน่อยเลยพยามยืดบทสนทนาทว่าท่านเอเทมกลับเมินผม เขาก้มหน้าอ่านหนังสือในมืออีกครั้งทำให้คำถามของผมกลายเป็นหมัน

“เออ ข้าเล่นเป็น”ผมถามเองตอบเองนักเลงพอ

ผมคลานกลับขึ้นเตียง ครุ่นคิดว่าจะเล่นเพลงอะไรดี

ดูเหมือนเขาจะชอบฟังผมเล่นดนตรีนะ

เมื่อคิดถึงจุดนี้ผมก็แอบยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติเมื่อมีความสุข เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ผมมีความสุขเหรอ เรื่องอะไรล่ะ เรื่องที่ได้เล่นดนตรี หรือเรื่องที่เขาชอบฟังเสียงเพลงของผม

เห้ย!! ไอ้การันต์ ทำไมยิ่งคิดยิ่งเขินวะ

ผมยกมือขึ้นมาปิดแก้มตัวเอง ใจเต้นระส่ำเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง

ดูเหมือน...ผมจะหลงเขาหนักมากจริง ๆ แต่มันก็แค่หลง ยังไม่ใช่รักหรอก

ผมเลิกคิกฟุ้งซ่านและหันกลับมาสนใจเครื่องดนตรีชิ้นจิ๋วในมือ ผมตัดสิ้นใจเล่นเพลง Ave Maria ซึ่งเป็นเพลงที่เกี่ยวกับพระเจ้า ด้วยเนื้อเสียงแหลมบาดหูของตัวเครื่องดนตรีกับท่วงทำนอนที่ลากยาวอย่างโหยหวนทำให้บทเพลงที่ผมบรรเลงออกมานั้นฟังดูทรมานจิตใจเกินไปหน่อยสุดท้ายเล่นไปได้ครึ่งเพลงผมจึงหยุดเล่น ผมเลิกเล่นเพลงคลาสสิคแล้วและหยิบเอาทำนองJust The Way You Are ของบรูโน่ มาส์มาเล่นแทน

แน่นอนว่าบทเพลงทั้งหมดที่ผมเล่นท่านเอเทมไม่รู้จักเลย

แต่เพลงแล้วเพลงเล่า เขากลับนั่งอ่านหนังสือและฟังเพลงของผมเงียบ ๆไม่มีบ่นหรือสั่งให้หยุดเล่นเพราะรำคาญสักครั้ง

“ข้าคิดว่าท่านชอบอยู่เงียบ ๆคนเดียวเสียอีก”ผมหยุดหน้าที่กล่องดนตรีของตัวเองเนื่องจากเล่นต่อเนื่องกันมาห้าเพลงแล้วรู้สึกหิวน้ำอย่างแรง

“...”ท่านเอเทมไม่ตอบอีกเหมือนเดิมผมจึงต้องอ่านใจของเขาซึ่งของบอกเลยว่าชินแล้ว

ได้เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งผมก็กลายเป็นนักอ่านใจท่านเอเทมมือฉมัง แบบนี้ต้องขึ้นแท่นเป็นคนรู้ใจแล้วล่ะ

ผมยกตำแหน่งให้ตัวเองในใจก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้คนที่นั่งอ่านหนังสือไม่ยอมพูดยอมจา”นี่ ๆ ข้าคุยกับท่านอยู่นะ ตอบข้าหน่อยสิ ไม่รำคาญเหรอ ไม่รำคาญเหรอ ไม่รำคาญเหรอ”

ผมรู้ว่าเขาไม่รำคาญ เพราะถ้าเขารำคาญป่านนี้ผมโดนจับโยนออกนอกรั้วบ้านไปนานแล้ว เขาไม่ยอมให้มานอนด้วยแบบนี้หรอก

แต่ดูเหมือนเขากำลังจะรำคาญผมในไม่ช้านี่แหละนะ

”ฮะ ๆ ๆ ๆ”ผมส่งเสียงหัวเราะชอบใจเมื่อเอื้อมมือไปแตะแก้มเขาก่อนจะเกลี่ยนิ้วไปมา เลื้อยไปเรื่อยจนถึงหลังหู

เรื่องทำให้คนรู้สึกสยิวเนี่ยผมก็เก่งนะเออ”นี่ ท่านเอเทม สนใจข้าหน่อยซี่”ผมค่อนข้างย่ามใจเพราะอีกฝ่ายอยู่ในโหมตใจดีกับผม

นัยน์ฟ้าสีฟ้าคู่คมตวัดมองผมอย่างไม่พอใจแต่เจ้าตัวไม่ได้เอ่ยว่าอะไร คงคิดว่าปรามแค่นี้ผมจะหยุดแต่เขาคิดผิดเสียแล้ว ผมผู้ไม่รู้เอาความกล้ามาจากไหนมากมายค่อย ๆขยับเข้าไปใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปหาเขาก่อนจะเป่าปาก ฟู่ววว ข้างหูของท่านเอเทม!

คนโดนแกล้งขนลุกซู่แต่ก็ยังสามารถคีพลุคขรึมเอาไว้ได้

ผมอยากลุกขึ้นปรบมือชื่นชมแต่น่าเศร้าที่ผมทำเช่นนั้นไม่ได้

ท่านเอเทมโยนหนังสือไปอีกทางหนึงก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวรวบแขนทั้งสองข้างของผมเอาไว้

“ฮะ ๆ ๆ ในที่สุดท่านก็หมดความอดทน”ผมยังหน้าระรื่นเพราะเห็นว่าเขายังไม่โกรธถึงขึ้นลุกขึ้นมาจับผมเหวี่ยงออกทางหน้าต่าง

“การันต์ เด็กอย่างเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่เคยหลั่งน้ำตา”

“คนเรา เอะอะก็จะขู่ฆ่ากันเหรอ ท่านเป็นอัศวินหรือฆาตกรกันแน่”ผมยิ้มมุมปาก ดวงตายังคงเป็นประกายซุกซน

ผมเพิ่งค้นพบเมื่อกี๊นี้เองว่าการแกล้งแหย่คนขรึมให้หลุดมาดมันสนุกขนาดไหน

“แล้วใครบอกว่าจะข้าจะฆ่าเจ้า”ท่านเอเทมตอบพลางออกแรงดันร่างผมให้นอนราบลงกับเตียงก่อนที่เขาจะคลานตามขึ้นมาคร่อมโดยที่มือของผมยังถูกเขารวบเอาไว้ทั้งสองข้าง

“ท่าน!!”ผมตกใจจนตาเหลือก รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าในพริบตาเดียวกันนั้นเองท่านเอเทมก็กระตุกยิ้มจาง ๆตรงมุมปาก มันคือรอยยิ้มที่มีนัยยะแอบแฝง!

“ท่านจะปล้ำข้าเหรอ! ปล้ำเสร็จแล้วท่านต้องจดทะเบียนสมรสด้วยนะ”หลังจากช่างใจคิดไตร่ตรองสะระตะต่าง ๆเสร็จผมก็พบว่าการโดนข่มขืนครั้งนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม อย่างไรผมก็หลงเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วโดนเขาสัมผัสตัวก็ไม่นับว่าเสียหาย แถมเมื่อเสร็จกิจเขายังต้องรับผิดชอบผมด้วยการรับผมเป็นเมียอีก!

นอกจากจะได้ผัวผมยังได้กลับบ้านอีกหรือนี่

โอ้ มาย ก็อด

ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!

“เด็กน้อย แค่มีอะไรกันข้าถึงกับต้องรับผิดชอบชีวิตเจ้าขนาดนั้นเลยหรือ”ทว่าท่านเอเทมกลับดับฝันผมอีกครั้ง

จริงด้วย เขาแค่ปล้ำผมเฉย ๆโดยไม่ต้องแต่งงานกับผมก็ได้นี่!

ผมเริ่มออกแรงดิ้นเมื่อค้นพบว่าการโดนฉุดครั้งนี้ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

“เดี๋ยวสิ! ท่านเป็นถึงอัศวินอันดับหนึ่งเชียวนะ! ท่านจะทำเรื่องไร้อย่างอายอย่างการฟันแล้วทิ้งได้ลงคอเหรอ”ผมตะโกนถามเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม

ผมออกแรงดิ้นหนักขึ้นเมื่อท่านเอเทมเลิกมองผมเฉย ๆแล้ว เขาก้มหน้าลงมาซุกไซร้ซอกคอของผม เริ่มจากจมูกคมแตะลงมาผมก็ดิ้นเป็นน้ำร้อนลวกแล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนที่เขาเริ่มขบเม้มและฝากรอยสีชมพูจาง ๆเอาไว้เลย

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะระเบิด

ท่านเอเทมกำลังจะฆ่าผมแล้วจริง ๆ! เขาใช้มือข้างที่เหลือปลดกระดุมเสื้อของผมออกทีละเม็ดในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังประทับรอบไปทั่วต้นคอของผม และเมื่อเขาเล่นจนพอใจแล้วเขาก็ค่อย ๆเลื่อนหน้าลงไปที่กระดูกไหปลาร้า เนินอก และหัวนมของผมตามลำดับ

“ท่าน! เอาข้าเป็นเมียแล้วท่านต้องรับผิดชอบ ฮึก...”ผมเกร็งตัวด้วยความหวาดเสียว ก็ใครใช้ให้เขาขบหัวนมผมในขณะที่ผมกำลังพูดเล่า! ดูสิ เผลอส่งเสียงน่าอายออกไปเลย

ผมอยากเอามือปิดหน้าแต่ติดที่มือโดนเขารวบเอาไว้เหนือหัว

เขินจนตัวจะแตกแล้วโว้ย!

“ข้าจะรับผิดชอบเด็กที่พอได้แต่งงานกับข้าก็จะทิ้งข้าไปตลอดกาลทำไมล่ะ”

กึก

คำพูดของท่านเอเทมทำให้ผมชะงัก และเมื่อผมหยุดดิ้นคนที่อยู่ด้านบนเองก็หยุดเล้าโลมผมเช่นกัน

ท่านเอเทมเงยหน้าขึ้นมามองว่าผมเป็นอะไร แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมหยุดทำไม เห็นทีคงเป็นเพราะคำพูดของเขาเมื่อครู่

ถ้าเขาแต่งงานกับผม ผมก็จะทิ้งเขาเพื่อกลับโลกเดิม

“ที่จริงแล้วท่าน...”เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โดนจับกดลงกับเตียงที่ผมได้สบตาของเขา ดวงตาของท่านเอเทมยังคงสีสวยและมีเสน่ห์ดึงดูดใจผมเหมือนเคย หากแต่เป็นแววตาของผมที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่คมของเขาที่ฉายแววสั่นไหว

ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

ถ้าผมแต่งงานกับเขาเมื่อไหร่ ก็แปลว่าพวกเราจะไม่ได้เจอกันอีก...ตลอดกาล

“ท่าน...”ผมได้รับอิสระแล้ว ร่างสูงขยับออกจากตัวผม เขากลับไปนั่งตรงตำแหน่งเดิมหากแต่ดวงตาของเขายังจับจ้องมาที่ผม

“ที่จริงแล้วท่านเหงาหรือ”

!?

คนฟังเบิกตากว้างอย่างตกใจ

อากัปกิริยาดังกล่าวเป็นคำตอบชั้นดี

ทำไมผมไม่คิดได้เร็วกว่านี้นะ ท่านเอเทมที่ทุกคนรู้จักคืออัศวินอันดับหนึ่ง แม่ทัพใหญ่ของแผ่นดิน ชายหนุ่มที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร มีฝีมือเก่งกาจเป็นหนึ่งไม่มีสอง ตัวตนของเขาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ กระทั่งกลายเป็นเทพเดินดินของผู้คนทั่วดินแดน

คงเพราะผมเพิ่งรู้ว่าเขาอยู่บ้านคนเดียว แม่บ้านก็เข้าออกตามเวลางานเท่านั้น และตัวเขาก็ไม่มีครอบครัวแถมยังเกิดในราชอาณาจักรที่พินาศไปแล้ว

คำว่าพินาศที่ออกจากปากของเขาผมยังจะได้ดี

ที่แท้ความรู้สึกของเขาที่ถ่ายทอดออกมายามนั้นคือความเหงานี่เอง

“เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้น”ในขณะที่ผมให้คำตอบตัวเองในใจไปเสร็จแล้วท่านเอเทมก็เพิ่งจะเอ่ยถาม

ผมหัวเราะเบา ๆในลำคอ ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวก่อนตอบสั้น ๆว่า”เดาเอา”

“...”

“เดาถูกปะละ”

“ผิด”

“เหรอ... ถ้าท่านไม่เหงาแล้วยอมให้ข้ามาอยู่ด้วยทำไมล่ะ ไม่ใช่เพราะว่าข้าเล่นเปียโนเพลงนั้นได้ท่านถึงลดกำแพงที่มีต่อข้าลงงั้นหรือ”ผมคลานเข้าไปหาเขา จะด่าว่าโรคจิตก็ยอม เมื่อกี๊ผมยังดิ้นแทบเป็นแทบตายใต้ร่างเขาอยู่เลย มาตอนนี้กลับเป็นผม ผมที่ค่อย ๆเลื่อนมือไปจับใบหน้าของอีกฝ่าย

ท่านเอเทมยอมสบตากับผม ผมจึงคลี่ยิ้มหวานให้เขา

แม้ไม่แน่ใจนักว่าตนเองกำลังต้องการอะไร หากทว่าผมกลับเลือกที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา

“ไม่ต้องเหงาแล้วนะ”ผมยิ้ม ก่อนจะจุ๊บเบา ๆที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย

ท่านเอเทมอึ้งแดก ผมล่ะอยากจะขำให้ลิ้นปี่หลุด เมื่อกี้เขายังปล้ำจูบผมอยู่เลย ผมแค่จุ๊บเขาเบา ๆทีเดียวทำไมเขาถึงทำหน้าเหมือนเห็นผีขนาดนั้นล่ะ

“เอาไว้ท่านอยากฟังเพลงนั้นอีกเมื่อไหร่ท่านก็ตามข้า ข้ายินดีมาเล่นให้ท่านฟังทุกเมื่อ”ผมยื่นนิ้วก้อยออกมาตรงกลางระหว่างเรา ท่านเอเทมมองมันนิ่ง ทำท่าเหมือนไม่อยากทำอะไรปัญญาอ่อนผมจึงแก้ปัญหาด้วยการเอานิ้วไปเกี่ยวนิ้วก้อยของเขาขึ้นมาซะเองเลย

“เราสนิทกันแล้วเนอะ”

“เจ้าช่างกล้านะ”

“ข้าเป็นคนแรกเลยสิที่มาขอตีสนิทท่านแบบนี้”

“คนแรกในรอบ15ปี”

“เห...ท่านไม่มีคนคบมานานขนาดนั้นเลยเหรอ”

“การันต์!”

“อะ ฮะ ๆ ๆ ๆ ข้าไม่กลัวท่านแล้ว! เพราะพวกเราสนิทกัน!”ผมฉีกยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู

เรื่องแต่งงานก็ดี เรื่องกลับบ้านก็ดี ดูเหมือนผมคงต้องพับโครงการเหล่านี้ไปก่อนเพราะคนตรงหน้าผม ท่านเอเทมผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เขากำลังเหงา! และในโลกใบนี้ก็มีผมเพียงคนเดียวที่ใจกล้าอิ๊อ๊ะกับเขาเช่นนี้

และที่สำคัญ ผมไม่ได้คิดไปเอง เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เขาลดกำแพงโลกส่วนตัวลงแล้ว แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม

“ท่านต้องตกหลุมรักข้าได้แล้วล่ะ ตามพล็อตนิยายนี่คือช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การหวั่นไหวเชียวนะ!”ผมเอาตัวเข้าไปกระแซะไหล่อีกฝ่าย หวังยั่วให้ท่านเอเทมโกรธจากนั้นผมก็จะหนีเข้านอนอย่างมีความสุข

แต่ผมก็ต้องช็อคตะลึงอึ้งตึ่งตึงอีกครั้งเมื่อท่านเอเทมไม่ดันตัวผมออก มิหนำซ้ำเขายังตวัดแขนรัดร่างของผมเอาไว้ในอ้อมกอดและ...ก้มลงมาจูบผม

เชี๊ยยยย

นี่ไม่ใช่บรรยากาศแห่งการตกหลุมรักแล้ว นี่มันช่วงเวลาแห่งการเสียตัว

ผมนั่งตัวแข็งปล่อยให้คนตัวใหญ่กว่าโอบเอวของผมเอาไว้โดยไม่ดิ้น สมาธิทั้งหมดพุ่งไปที่รสจูบที่ท่านเอเทมมอบให้เป็นครั้งที่สอง

ครั้งแรกพวกเราจูบกันเพื่อผูกวิญญาณ แล้วครั้งนี้ล่ะ เราจูบกันเพราะอะไร

ผมตั้งคำถามในใจ หากทว่าคำถามของผมกำลังกลายเป็นสีขาวโพลน

เรียวลิ้นร้อน ๆของอีกฝ่ายแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมโดยง่ายเพราะผมเป็นคนเผยอปากอ้าต้อนรับเขาเอง ยอมรับเลยว่าใจง่าย แต่แล้วไง ง่ายก็ง่ายสิ ถ้าใจง่ายแล้วได้ฟินขนาดนี้ล่ะก็

ท่านเอเทมยังคงจูบเก่งเหมือนเดิม เขาขบเม้มกลีบปากล่างของผมสลับกับสอดลิ้นเขามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของผมอย่างช่ำชอง สาดใส่ความร้อนแรงจนช่วงท้องของผมแทบไหม้

แผ่นออกเปลือยเปล่าของผมสัมผัสกับเสื้อของเขาอย่างช่วยไม่ได้ การที่ผมกึ่งโป๊อยู่แบบนี้มันยิ่งทำให้อารมณ์ของผมพลุ่งพล่าน

ท่านเอเทมเน้นจริมฝีปากลงมาหนัก ๆก่อนค่อย ๆผละออก ผมมองตามริมฝีปากของเขาอย่างเสียดาย เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผมคนหล่อก็กระตุกรอยยิ้มร้ายกาจออกมา

เขาดึงผมเข้าไปสวมกอดก่อนเอ่ยกระซิบข้างหูของผมอย่างนุ่มนวลว่า”ข้าจะไม่มีวันแต่งงานกับเจ้า”

สั๊ส ถ้าจะโหมโรงใหญ่ขนาดนั้นเพื่อปฏิเสธคำขอแต่งงานกันล่ะก็! ท่านลงทุนเกินไปแล้ว!!



-------------------------

#พิชิตใจท่านเอเทม

FB https://www.facebook.com/nikkoustory/


TW : https://twitter.com/NIKKOUSTORY

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ฟินมากๆ น่ารัก

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
กรี๊ดดดดดด ฟินค่ะฟิน

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ไม่อยากให้น้องกลับสินะ สินะ สินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด