เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62  (อ่าน 39818 ครั้ง)

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :a5: บทจูบมางงๆ แต่ไม่เป็นไรเราดีใจจจจ :heaven แม่คะเค้าจูบกับแล้วค่ะ ฮืออออ

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ฟิสอ่ะ งืออออ พระเอกไม่มีอารมณ์ไรเลยเหรอ งืออออ

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่13

เมื่อเวลานั้นมาถึง ท่านจะช่วยข้าไหม...

ท่านเอเทมไม่ได้ตอบคำถามนี้กับผม แต่นั่นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว

นอกจากเขาจะไม่ช่วย เผลอ ๆเขานี่แหละจะเป็นคนกำจัดผม!

เมื่อคืนพอเขาเอาผมมาวางบนเตียง โยนยาสมุนไพรกระปุกนึงให้เขาก็ทิ้งผมไว้เพียงลำพัง เนื่องจากผมเหนื่อยหลายเรื่องพอทายาเสร็จผมก็หลับปุ๋ยไปเลย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ช่วงบ่ายของวันถัดไป และผมก็ต้องพบกับเรื่องมหัศจรรย์

แผลที่เท้าผมหายเป็นปลิดทิ้ง!

โลกเวทมนต์นี่มันสุดยอดจริง ๆ! แค่ทายาโง่ ๆรอบเดียวแผลก็สมาน โหววว วงการแพทย์ที่โลกต้องสั่นสะเทือนแน่ ๆ

“ไม่เจ็บแล้วจริงด้วย”ทีแรกผมยังไม่อยากจะเชื่อว่าอะไรแผลมันจะสมานตัวเร็วปานนั้นผมเลยลองเอาเท้าแตะ ๆพื้นดู เมื่อพบว่าไม่เจ็บผมจึงลองลุกขึ้นกระโดดเหยง ๆ

แต่ผมคงกระโดดแรงไปหน่อย พื้นไม้ของห้องที่ผมนอนอยู่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด สภาพของพวกมันเหมือนพร้อมพังได้ทุกเมื่อ ผมรีบหยุดการกระทำของตนเองเพราะกลัวไปพังบ้านชาวบ้านเขาแต่ปรากฏว่าเสียงเหี้ยมของป้าคนนึงดังขึ้นพอดี

“ไอ้หนู!! จะพังบ้านข้าเรอะ!?”

“ขอโทษคร้าบบบ”ผมเดาว่าเขาน่าจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เลยรีบขอโทษก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องนอน เดินลงไปชั้นล่าง”ขอบคุณที่ให้ที่พักนะครับ”

ผมเดินตามกลิ่นหอมฉุยเข้าไปในครัวก่อนพบว่าคู่สนทนาที่ผมตะโกนคุยอยู่กำลังเคี่ยวซุปท่าทางน่าอร่อยอยู่ ผมผุดยิ้มหน้าแป้นก่อนเดินเข้าไปใกล้ร่างท้วมของป้าเจ้าของบ้าน

“ทำอะไรอยู่เหรอครับ กลิ่นหอมน่าทานเชียว”

“หึ! ตื่นมาก็ร้องหาของกินเลยรึ ไม่คิดจะทำงานทำการหน่อยเหรอ โน่น! ออกไปตัดฟืนข้างนอกนู่น เสร็จแล้วก็ไปตามท่านเอเทมมาทานข้าว”ป้ากล่าว

“อ้อ ท่านเอเทมก็ตัดฟืนอยู่เหรอ”

“เปล่า เขากำลังยืนมองคนให้อาหารเพกาซัสของเขา”

“แล้ว...เขาได้ทำการทำงานอะไรไหม”

“ใครจะไปกล้าใช้งานท่านเอเทมกันละ เอ๊ะ ไอ้หนูนี่พูดไม่คิด”

“แล้วทำไมผมต้องโดนใช้อยู่คนเดียว! ผมขอทำแบบท่านเอเทมบ้างไม่ได้เหรอ ยืนมองคนให้อาหารเพกาซัสแล้วก็มากินข้าว!”ผมตะโกนเถียงหน้าดำหน้าแดง ป้าคนนี้สองมาตรฐานเกินไปแล้ว

แป๊ง

ผมโดนด้ามทัพพีฟาดเข้ากลางกะบาล

“เป็นแค่เด็กรับใช้ อย่าริอาจทำตัวเสมอนาย”

“เด็กรับใช้!? ผมเนี่ยนะ!!”ผมชี้วเข้าหาตัวเองด้วยใบหน้ารับไม่ได๊! ป้าจะประเมิณใบหน้าอันหล่อเหลาแหละสง่าราศีของคุณชายอย่างผมเป็นแค่เด็กรับใช้ไม่ได้!

“อ้าว...ไม่ใช่หรอกเรอะ จะว่าไปเมื่อคืนก็เห็นหน้าไม่ชัด รู้แค่ท่านเอเทมหิ้วเด็กอีกคนมา เอ๊ะ จะว่าไปไอ้หนูนี่ก็หน้าคุ้น ๆนะ เรเชล...เจ้าว่าพ่อหนูคนนี้หน้าคุ้น ๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนรึป่าว”ป้าแกวางทัพพีก่อนจะหันมาพิจารณาผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

เมื่อพบว่าถึงคราวผมเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่าผมก็รีบยืดตัวเชิดหน้าชูคอให้อีกฝ่ายเห็นชัด ๆทันที

ไม่นานหลังจากเสียงเรียกของป้าเด็กสาวที่ชื่อเรเชลก็เดินเข้ามาในบ้าน เธอมีหุ่นอวบอ้วนเหมือนแม่ของเธอ เมื่อเธอเห็นหน้าผมเธอก็ถึงกับเอามืออุดปากเพื่อกลั้นเสียงกรี๊ด”แม่!! ผู้ชายคนนี้คือคนนั้นไง คนนั้นน่ะแม่ ตายแล้ว! เมื่อคืนข้าเองก็ไม่ทันสังเกตุ ตายแล้ว ตายแล้ว!!”

“คนไหนน่ะมันคนไหน ไอ้ลูกคนนี้ พูดมาให้ชัด ๆหน่อย”ป้าแกเท้าสะเอวถามอย่างหงุดหงิด

“คนที่ขอท่านเอเทมแต่งงานไงแม่! หนังสือพิมพ์เมื่อวานก็ลงรูปเขา”พูดจบเรเชลก็วิ่งตุ๊ต๊ะหายไปก่อนกลับมาพร้อมหนังสือพิมพ์ฉบับค่ำเมื่อวาน

ผมรู้สึกอับอายขายขี้หน้าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อสองแม่ลูกมองหน้าผมสลับกับหนังสือพิมพ์ไปมา

“ตายแล้ว!!”ป้าเจ้าของบ้านยกมือขึ้นกุมอกทำหน้าเหมือนใกล้เป็นลม

“ตายแล้วใช่มั้ยแม่ นี่มันตายแล้ว!! ตายแล้ว!!”

ขอประทานโทษเหอะ มองหน้าผมแล้วอุทานคำว่าตายแล้วรัว ๆแบบนี้หมายความว่าไง?

“เขามาที่นี่เพราะอะไรนะแม่”เรเชลถาม

“ท่านเอเทมบอกว่ามาใช้แท่นศิลา”

“แล้วศิลานั่นมันมีไว้สำหรับเวทบทไหนบ้างคะแม่”

“ก็เยอะอยู่นะ...แต่หนึ่งในนั้นคือเวทผูกวิญญาณ!!”

“พวกเขาผูกวิญญาณกันแล้ว!?”

“แม่คิดว่าเมื่อคืนแม่มองไม่ผิดนะ...แสงจากแท่นพิธีมีลักษณะเหมือนมีคนกำลังร่ายเวทผูกวิญญาณ!!”

“ก็แปลว่าที่เขาขอท่านเอเทมแต่งงาน...”เรเชลกล่าวก่อนสองแม่ลูกจะหันกลับไปมองหน้ากันอย่างสโลว์โมชั่น

“ท่านเอเทมตกลงแต่งงานกับเขา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

“เอ่อ...”ผมตกใจจนหน้าแทบหงาย ใครเล่าจะคิดว่าสองแม่ลูกจะตีความไปในทิศทางนั้นได้ ผมยืนตาเหลือกอยู่ตรงหน้าในขณะที่สองแม่ลูกเริ่มเต้นเร่า ๆเหมือนผีเจ้าที่เข้าสิง ทั้งสองคนเต้นไปเต้นมาสักพักก็รีบวิ่งกระโจนออกจากบ้านไป

ไม่ได้วิ่งไปเปล่า ๆ ทั้งสองคนหอบเอาข่าวใหญ่ไปเผยแพร่ด้วย

“เจ้าข้าเอ้ย! เด็กหนุ่มที่ท่านเอเทมพามาด้วยคือคู่หมั้นของท่านเอเทม!!”

“พ่อแม่พี่น้อง! ท่านเอเทมตกลงแต่งงานกับเด็กที่ลงข่าวหน้าหนึ่ง!”

“พวกเขามาฮันนี่มูนที่หมู่บ้านของพวกเรา!!”

“น้ำผึ้งพระจันทร์! ใครก็ได้รีบไปเตรียมน้ำผึ้งพระจันทร์มาให้พวกเขาที!!”

...

“นะ...นี่มัน...”ผมยืนเกาะขอบประตูมองความวินาศสันตะโรข้างนอก

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ทุกคนรู้จักกันหมด เมื่อสองแม่ลูกวิ่งวนรอบหมู่บ้านครบรอบบ้านทุกหลังก็เปิดประตูออกมา ทุกคนที่ทราบข่าวส่งเสียงดังเซ็งแซ่ไปหมด ในทีแรกพวกเขาเหมือนไม่เชื่อแต่พอพิจารณาจากเหตุผลของสองแม่ลูกแล้วทุกสายตาก็หันขวับมารวมกันที่ผม

“อู่ย...”ผมควรทำยังไงต่อไปดี!

ผมหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก สถานการณ์เบื้องหน้ามันเลยเถิดไปไกลเกินไป

“ผมโดนเขาปฏิเส—“เดี๋ยวสิ นี่อาจจะเป็นโอกาส

ถ้าข่าวลือว่าท่านเอเทมหมั้นหมายกับผมถูกเผยแพร่ออกไปล่ะก็คู่แข่งของผมก็จะน้อยลง เหล่าชะนีน้อยใหญ่ที่เป็นเอฟซีเขาหรือพวกคุณหนูที่เป็นลูกหลานขุนนางซึ่งพยามตามจีบท่านเอเทมอยู่ คนพวกนี้จะลดลง! สามารถกล่าวได้ว่าผมพลิกผ่ามือทีเดียวขจัดคู่แข่งได้เป็นเบือ!

ตะ...แต่การปล่อยข่าวลื่อมั่ว ๆนี่แพร่ออกไปชื่อเสียงของท่านเอเทมจะเสื่อมเสีย

โหย ไม่ต้องคิดเลยว่าผมเลือกแบบไหน

ฮ่า ๆ ๆ ๆ แพร่ออกไปให้ไกลเลยป้า ผมให้ยืมเพกาซัสป้าขี่ไปบอกหมู่บ้านข้าง ๆเลยก็ได้!!

“หิวจัง ลัลล้า มีอะไรให้กินบ้างน้า~~”

ผมแฮปปี้จนถึงขีดสุด หันหลังปิดประตูใส่โลกภายนอกเดินกลับเข้ามาในครัว ตักซุปหยิบขนมปังมานั่งกินที่โต๊ะกินข้าว ใบหน้าแช่มชื่นมีความสุขเหลือล้น

ปัง!

ผมที่กำลังอิ่มเอมเปรมปรีสะดุ้งจนตัวโยนเพราะเสียงเปิดประตูอันดังสนั่น มันแรงจนผมกลัวว่าประตูจะหลุดติดมือคนเปิดมาด้วย และแน่นอนว่าคนที่เดินโมโหโกรธาเข้ามาในบ้านไม่ใช่ใครอื่น

ท่านเอเทมคู่หมั้นของผมนั่นเอง

“ท่านนั่งก่อนสิ เดี๋ยวข้าไปตักซุปให้”ผมเฉไฉทำเหมือนไม่รู้ว่ามีอะไรกำลังเกิดขึ้นข้างนอก ส่งยิ้มแป้นแล้นให้เขาก่อนเดินฮัมเพลงกลับเข้าไปในครัว

ผมเดินออกมาพร้อมชามซุปและขนมปังในมือแต่ท่านเอเทมยังคงยืนอยู่ข้างโต๊ะเหมือนเดิม เขาจับจ้องผมด้วยสายตาสุดจะสะกดกลั้นไม่ให้พลั้งมือฆ่าผมตาย ด้วยความที่เขาถนัดใช้เวทน้ำแข็งหรืออย่างไรไม่ทราบ บรรยากาศในบ้านไม้หลังนี้ถึงได้เย็นลงจนผมเริ่มขนลุก

“อะ...อะไรล่ะ...ท่านมองหน้าข้าแบบนั้นทำไม”ผมค่อย ๆว่างชามลงบนโต๊ะก่อนจะกระเถิบถอยหลังออกมาให้ห่างจากร่างสูงให้มากที่สุดเท่าที่สามารถ ผมถอยจนแผ่นหลังชิดกำแพงแล้ว

“การันต์!”น้อยครั้งนักที่เขาจะเอ่ยเรียกชื่อของผม แต่ผมไม่มีกะใจจะมาปลื้มเพราะขายาว ๆของอีกฝ่ายค่อย ๆย่างเข้ามาใกล้ผมขึ้นเรื่อย ๆ จนระยะห่างที่ว่าน้อยอยู่แล้วยิ่งน้อยลงไปอีก

“ท่านเอเทม...”ผมเอ่ยเรียกชื่อของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม เขายืนห่างออกไปเพียงแค่ศอกเดียวเท่านั้น

ปึง!

“ทะ ท่าน!”หัวใจผมแทบวาย เมื่อกี๊เขาเอื้อมมือข้างขวามายันผนังบ้านข้างหัวผมพอดี เขาตบลงไปแรงมากจนผมอดมโนไม่ได้ว่าถ้าหากเขาเลือกที่จะตบลงมาที่หัวผมแทนที่จะตบลงบนผนังล่ะก็ป่านนี้หัวผมคงเละไปแล้ว

“ข้าไม่ได้พูดอะไรเลยนะ!! ข้าสาบานให้ฟ้าผ่าตายเลยเอ้า!”

“เจ้าพูดเช่นนี้แปลว่าเจ้ารู้ว่าข้ากำลังโกรธเรื่องอะไร?”ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้

มันน่ากลัวมากกว่าเขินผมจึงพยามหดคอหนี

“ก็...พอจะรู้นิดหน่อย...ละมั้ง...รึป่าวนะ แหะ ๆ...”ผมพยามจะกระดึ๊บหนีแต่มันก็ไม่ช่วยอะไร มิหนำซ้ำยังทำให้ท่านเอเทมต้องยกมืออีกข้างมาเท้าผนังไว้เพื่อกักตัวผมไม่ให้หนีไปไหนรอด

“เอ่อ ท่านเอเทม...”ผมอกจะแตกตายอยู่แล้ว! ตั้งแต่ผมตอบไปว่าพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็เอาแต่ทำหน้าถมึงทึงจ้องผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ! ยืนเฉย ๆจะตีก็ไม่ตีแบบนี้มันกดดันนะเว้ย ถ้าจะตบก็ตบมาเล้ย! เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา ให้สมอุราจนสาแก่ใจ!

“อะ...อ้าว...”ทว่านอกจากจะแผ่ไอเย็นพิฆาตใส่ผมรัว ๆท่านเอเทมกลับไม่ทำอะไรอีก หลังจากยืนจ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตายไม่นานเขาก็ผละออกไป

ผมที่ได้รับอิสระแถมยังไม่โดนกระทืบได้แต่ยืนเหรอหราทำตัวไม่ถูก

ท่านเอเทมไม่ตีผม ดูเหมือนเขากำลังพยามระงับอาการโกรธด้วยการหันไปอีกทางหนึ่ง

ผมเดินเข้าไปใกล้แผ่นหลังของเขา พอเห็นเขาเป็นแบบนี้ผมก็เริ่มรู้สึกผิด”ผมขอโทษ ผมจะไปแก้ข่าวให้เดี๋ยวนี้แหละ”

“เปล่าประโยชน์ ตอนนี้ในเมืองหลวงเองก็มีข่าวทำนองนี้แพร่ไปทั่วแล้ว”

“เห ทำไมล่ะ ป้ากับเรเชลปล่อยข่าวได้เร็วขนาดนั้นเลยหรือ”ผมประเมิณทั้งสองคนต่ำไปแล้ว

“ไม่ว่าใครพอรู้ว่าเราสองคนออกมาด้วยกันก็คิดไปทางนี้ทั้งนั้น”

“อ้อ...เรื่องนี้ข้าไม่รอบคอบพอจึงไม่รู้มาก่อนว่าหลังจากประกาศขอแต่งงานกับท่านแล้วท่านยังยอมให้ข้าอยู่ใกล้ ๆก็เท่ากับว่าท่านไม่ได้ปฏิเสธแล้ว...ท่าน...น่าจะแอบ ๆพาข้ามานะ”ผมคิดว่าท่านเอเทมคงพอรู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเขารู้อยู่แก่ใจแล้วทำไมเขาถึงยอมทำ

“ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว พอกลับเมืองหลวงข้าก็ต้องให้เจ้ามาอยู่ข้างตัวอยู่ดี ข่าวลือเช่นนี้เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้”

“อ๋อ...เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ถ้าท่านเตรียมใจรับข่าวลือพวกนี้ไว้แต่เนิ่น ๆแล้ว เมื่อกี๊ท่านจะขึงขังใส่ข้าทำไมล่ะ!!!”แบบนี้ก็เท่ากับผมกลัวฟรีเลยน่ะสิ!

ท่านเอเทมหันตัวกลับมาเผชิญหน้ากับผม คราวนี้เขาดูใจเย็นลงแล้วก็จริงแต่ดวงตาคู่นั้นกลับฉายแววขุ่นมัวอยู่ไม่น้อย”เพราะว่าเจ้ามันโง่เขลา อ่านสถานการณ์อะไรไม่ออกสักอย่าง สถานะของตัวเองตอนนี้ก็ไม่รับรู้ เจอปัญหาก็ไม่แก้ไขเอาแต่มองโลกในแง่ดี! นั่งกินขนมปังอย่างสบาลใจ!!”

“...”

“ในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าขอสั่งเจ้าให้วิ่งรอบหมู่บ้านจนกว่าข้าจะสั่งให้หยุด!!”

“...”

มองโลกในแง่ดีเหรอ ก็คงจะจริงของเขา

ตั้งแต่ข้ามมิติมาผมก็มโนว่าตัวเองได้รับเลือกมาเป็นผู้กล้า พอรู้ว่าแค่ดวงซวยเฉย ๆก็มองในแง่ดีว่าอย่างน้อยภารกิจกลับโลกก็ไม่ยากเกินความสามารถ พอโดนวาร์ปมาที่เมืองที่ไม่รู้จักผมก็เอาแต่นั่งนับเงินปลอบใจตัวเองไปวัน ๆ พอเหงา ไม่มีเพื่อนก็จ่ายเงินซื้อลันเทียมาอยู่ด้วย โดนเพ่งเล็งว่าถือครองศาสตร์มืดก็ไม่แคร์เพราะคิดว่าได้โอกาสเข้าใกล้ท่านเอเทม

“แต่ว่านะ...ถ้าหากท่านไม่ให้ข้ามองโลกในแง่ดี แล้วโลกใบนี้จะเหลือสิ่งดีงามอะไรอีกเล่า”

ไม่มีเลย ถ้าผมไม่หลอกตัวเองแล้วหยิบยกข้อดีอันน้อยนิดท่ามกลางความเฮงซวยขึ้นมาปลอบตัวเองตัวผมคงกระอักความบัดซบเหล่านั้นตายห่าไปนานแล้ว

“อยู่ในโลกที่ไม่รู้จักเพียงลำพังก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่ท่านดูข้าตอนนี้สิ ข้าต้องอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักโดยมีขาข้างหนึ่งอยู่ในลานประหาร มีคนเก่งอย่างท่านพร้อมปลิดชีวิตทุกเมื่อ มีอัศวิน มีพลเรือน มีทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้พร้อมจะจบชีวิตข้าทุกเมื่อ...”

“...”

“กับอีแค่นั่งกินขนมปังแล้วนั่งยิ้มโง่ ๆ ท่านก็ไม่อนุญาตหรือ”

“...”

ท่านเอเทมไม่ได้มีรีแอคชั่นอะไรกับบทพร่ำพรรณนาของผม เขาเพียงแค่เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะกินข้าง ตักซุปที่เริ่มเย็นชืดนั่นเข้าปากก่อนหันพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆหากแต่อ่อนลงหลายระดับว่า”มากินต่อสิ ขนมปังของเจ้าน่ะ”

“ครับ!”ผมยิ้มกว้างก่อนวิ่งไปลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆเขา

“เจ้าชอบขนมปังขนาดนั้นเลยหรือ”เขาถามขณะหันมามองหน้าผม เขาคงเห็นผมดีใจเป็นปลากระดี่ได้น้ำจึงอดถามออกมาไม่ได้

“ฮะ ๆ ๆ ๆ เปล่านี่ มันออกจะแข็งไปหน่อยด้วยซ้ำ”

“แล้วมีเรื่องอะไรให้เจ้าดีใจหรือ”

“อ้อ ฮะ ๆ ๆ”ผมหัวเราะเพราะตลกตัวเอง พอเขาถามว่าผมดีใจเรื่องอะไรผมเองก็แอบอายที่จะตอบเหมือนกัน

“ข้าดีใจเพราะท่านไม่สั่งข้าวิ่งรอบหมู่บ้านแล้ว”

“บางทีการมองโลกในแง่ดีอาจจะดีสำหรับเจ้าแล้วจริง ๆ...”

“ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ข้าก็เพิ่งรู้ตอนท่านทักนี่แหละว่าข้าเป็นคนมองโลกในแง่ดี เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตเลย เพราะอยู่กับพ่อแม่ก็ไม่ค่อยมีเรื่องเครียดด้วยล่ะ แต่ตอนย้ายออกมาอยู่หอข้าก็เหนื่อยนิดหน่อยนะ ปัญหาใหญ่สุดในชีวิตคือตอนที่เจอแมลงสาปในห้อง ข้ากระโดดหนีขึ้นไปนั่งกอดเข่าอยู่บนโต๊ะ คิดอยู่นานเลยว่าจะจัดการกับมันยังไง สุดท้ายข้าก็ใช้เงินแก้ปัญหา โทรเรียกลุงยามขึ้นมาจับแล้วก็ให้เงินเขา ฮะ ๆ ๆ มีเงินนี่มันดีจริง ๆ ที่โลกนี้ข้าก็มีเงินข้าจึงไม่เครียด ฮะ ๆ ๆ”

ใครบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้แปลว่าคนนั้นมีเงินไม่มากพอ!



--------------------------------

#พิชิตใจท่านเอเทม

อิน้องก็คือตัวอย่างของคนเห็นเรื่องกินสำคัญกว่าชีวิต 5555






ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เราก็ไม่มีความสุข ขอยืมสัก2-3แสนได้มะ :hao7:
ท่านเอเทมนี่คงเอือมจนไม่อยากพูดแล้วมั้ง5555 :laugh:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ทั่นเอเทมจับน้องเยอย่างหนักหน่วงปะเลย :laugh:

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากอ่านต่อเร็วๆแล้ววว

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ใช่ป่ะ คือโลกไม่ได้สวยนะ  แต่จะเก็บเรื่องไม่ดีมาใส่ใจมันก็ไม่ใช่อ่ะ เนอะ

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เงินเท่านั้นที่ต้องการ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
สงสารน้องงง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ่านตอนนี้แล้วเศร้า

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คำพูดน้องเหมือนจะไม่คิดอะไรมาก แต่อ่านแล้วก็เศร้าอ่ะ

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่14

หลังจากกินขนมปังกับซุปเสร็จท่านเอเทมก็สั่งให้เตรียมรถม้าเพื่อออกเดินทางทันทีโดยไม่คิดจะแก้ข่าวลือผิด ๆนั่นสักนิดเพราะทำไปก็ไร้ค่า ขณะนี้พวกเรากำลังบินผ่านป่า ช่วงออกเดินทางแรก ๆผมก็ตื่นตาตื่นใจชะโงกหัวออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวอยู่หรอก แต่นั่งมาสักพักก็เริ่มเบื่อแล้ว

ผมหันไปมองไหน้ำผึ้งพระจันทร์ของเรเชลกับแม่ที่วางอยู่ พวกเธอให้เราสองคนมาเป็นของขวัญฮันนีมูน แต่พวกเราไม่ได้มาฮันนี่มูนและท่านเอเทมไม่ชอบน้ำผึ้งดังนั้นเจ้าน้ำผึ้งพระจันทร์ไหนี้จกตกเป็นของผมไปโดยปริยาย ตอนนี้ผมกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่ามันเอาไปทำอะไรกินได้บ้าง

“อยากกินฮันนี่โทสต์จัง ลันเทียจะทำให้ได้ไหมนะ”ผมกำลังเตรียมเมนู”เอ๊ะ แต่ลันเทียได้บรรจุแล้ว เจ้าตัวคงไม่มาทำงานบ้านให้เราแล้วอะดิ ไม่ใช่เผลอ ๆเราจะโดนจับแยกกันคนนึงโดนส่งไปชายแดนอีกคนโดนส่งไปบ้านนอกหรอกนะ!”

ผมยกนิ้วขึ้นมากัดเล็บเพื่อขบคิด ผมเป็นเด็กเมืองหลวง ไม่ว่าจะโลกนี้หรือโลกเดิมผมก็ไม่ขอไปจากเมืองหลวง!

และผมก็ไม่อยากไปสู้รบกับใคร ไม่อยากฝึกร่างกาย ผมเข้ากองทัพมาเพื่อจับผู้ชาย!

“ท่านเอเทม หลังจากบรรจุแล้วพวกเราต้องถูกส่งไปประจำการตามชายแดนหรือต้องเข้าค่ายอบรมตื่นตี4มาวิ่ง วิดพื้น ปั่นจิ้งหลีด หมอบ ลุยโคลน สารพัดสิ่งทรมานสังขารรึป่าว”ในเมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ผมจะคิดเองไปทำไม

“ข้าไม่อยากฝึก...”ผมอ้อมแอ้มขอ อัศวินดีเด่นในรอบพันปีอย่างเขาไม่มีทางรับใต้โต๊ะหรือติดสินบนหรอก ผมก็แค่หวังว่าเขาจะยอมบอกลู่ทางที่ทำให้ผมไม่ต้องไปซ้อมรบตีรันฟันแทงกับใครก็เท่านั้น

“เจ้ากับเพื่อนของเจ้าสอบได้คะแนนดีย่อมถูกบรรจุที่กองทัพหลวง และการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ก็จะมีการอบรมแยกจากอัศวินอื่น ๆ”เสียงทุ้มตอบพลางจ้องผมไม่วางตา เขากำลังใช้สายตาทิ่มแทงเพื่อสื่อให้ผมรู้ว่าให้ดิ้นตายอย่างไรผมก็โดดการฝึกตีรันฟันแทงไม่ได้

“ที่โลกของข้าแทบไม่เหลือสงครามแล้ว มนุษย์อยู่กันอย่างสันติสุข ดาบก็เลิกใช้ไปไม่รู้กี่ร้อยปีละ ปัญญาชนเขาไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหากันหรอก”ผมขอสารภาพอีกอย่าง คือตอนม.ปลายผมไม่ได้เรียนร.ด.ครับ ผมไม่อยากตัดผมเกรียนแล้วก็ไม่อยากไปบุกน้ำลุยไฟเข้าค่ายเขาชนไก่ด้วย

“โลกแห่งนี้เองก็มีตำแหน่งขุนนางฝ่ายบัณฑิต เปิดสอบทุกปี เจ้าสามารถไปสมัครได้ ไม่มีใครขอร้องให้เจ้าเข้ากองทัพ”

“มาขนาดนี้ละ ท่านบอกข้าช้าเกินไป๊!”ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ผมได้คำตอบแล้วว่าผมกับลันเทียที่รักจะไม่โดนเขี่ยไปประจำการชายแดนดังนั้นผมจึงสบายใจและเริ่มคิดต่อว่าจะเอาเจ้าน้ำผึ้งพระจันทร์พวกนี้ไปทำอะไรกินดี

ด้านท่านเอเทมเมื่อผมไม่เปิดประเด็นเขาก็ไม่ชวนคุยอยู่แล้ว พวกเราสองคนนั่งกันไปเงียบ ๆแบบนี้กระทั่งมาถึงเมืองหลวง

“ข้าต้องแวะไปทำธุระที่พระราชวังก่อน เจ้ากลับไปได้เลย”เจ้าของรถม้าเอ่ยขึ้นขณะที่พวกเราสองคนกำลังเคลื่อนที่ผ่านบรรดาตึกแถวในย่านการค้าของเมืองหลวง

“กลับ? อืมมม รถม้าที่มีขลิบแดงวิ่งเฉพาะในเมือง ส่วนที่มีขลิบน้ำเงินวิ่งระยะไกลได้...รึป่าวนะ”ผมชะเง้อคอมองลงไปด้านล่าง ตอนนี้พวกเราเข้าใกล้พระราชวังอันใหญ่โตอลังการแล้วเจ้าเพกาซัสก็รู้งานพวกมันค่อย ๆลดระดับความสูงลงเรื่อย ๆ

กระทั่งพวกเราแลนดิ้งลงสู่พื้นอย่างสวยงามท่านเอเทมจึงกล่าวว่า”สีน้ำเงินวิ่งในเมือง สีแดงรับวิ่งระยะไกล”

“อ้อ ข้าก็จำไม่ได้เสียทีเพราะไม่ค่อยได้เข้าเมือง ถ้าแต่ถ้ากระดิ่งที่ห้อยอยู่ข้างคนขับไม่เรืองแสงก็แปลว่าเขาไม่รับผู้โดยสารใช่ไหม”

“ใครเป็นคนสอนเจ้าเรื่องพวกนี้”

“หือ ก็ลันเทียเพื่อนของข้าไง แม้พวกเราจะเข้าเมืองไม่บ่อยนักแต่เขาก็คอยสอนข้าอย่างละเอียดทุกครั้ง ผิดที่ข้ารับข้อมูลทีละมาก ๆไม่ไหวเองเลยจำสับสนทุกที”ผมตอบ

“แล้วอัศวินที่รับหน้าที่ดูแลเจ้าซึ่งมาจากต่างมิติล่ะ”ท่านเอเทมขมวดคิ้วมุ่น ผมไม่เข้าใจว่าเขากำลังหงุดหงิดอะไร

“โอ๊ยย รายนั้นเทผมไปนานแล้ว! เขาไม่ชอบผมเท่าไหร่ผมเองก็ไม่ชอบเขาเราเลยแยกกันทันทีน่ะ”ผมจำพี่เฟิ้มได้ขึ้นใจ ความเจ็บแค้นที่เขาลอยแพผมในวันนั้นผมยังไม่ลืม

“เขาคืออัศวินที่รับผิดชอบคดีตัวซีซีของเจ้าเมื่อคราวนั้นใช่หรือไม่”

“อื้อ ใช่เลย ๆ คดีที่พวกเราเจอกันครั้งแรก ฮะ ๆ อ๊ะ ท่านจะไปไหนหรือ!?”ผมถามด้วยความแปลกใจ จู่ ๆเจ้าเพกาซัสก็กระพือปีกของพวกมันและออกบินอีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้รับคำตอบ ท่านเอเทมพาผมมาที่สถานีเล็ก ๆ มันมีลักษณะเหมือนสถานีตำรวจเพียงแต่มันคือสถานีอัศวิน

และที่สถานีแห่งนี้ก็มีคุกแห่งแรกที่ผมได้นอน

สถานีของพี่เฟิ้ม!!

“เรียกอัศวินที่รับผิดชอบคดีซีซีมาพบข้า”ท่านเอเทมมาถึงก็เดินเข้าไปหาผู้กำกับเลย เอ่อ นี่ผมก็เดาเอาอีกนั่นแหละ ผมไม่รู้หรอกว่าต้องเรียกว่าอะไรแต่เอาเป็นว่าเขาคือคนเดียวในสถานีนี้ที่มีห้องทำงานส่วนตัวและมียศสูงที่สุด

“ครับ!! ได้ครับท่านเอเทม เห้! มีใครอยู่แถวนี้ไหม ไปตามไอ้เจ้าเครามาที!!”ผมไม่คิดเลยว่าแม้แต่ผู้บังคับบัญชาของเขายังไม่เรียกชื่อเขา แปลว่าเคราดก ๆนั่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ

“เห้! ไม่มีใครได้ยินเลยเหรอ ให้ตายสิ ข้าว่าข้าคงต้องออกไปตามเอง ต้องขออภัยจริง ๆ เชิญท่านทั้งสองนั่งพักผ่อนตรงนี้ก่อน”ลุงผู้กำกับโดนท่านเอเทมจ้องนิดจ้องหน่อยก็ขวัญผวาไปหมด ยังอ่อนหัดนัก! ผมเจอมายิ่งกว่านี้ยังไม่เห็นจะกลัวซักกะผีก ฮิฮิ

เมื่อลุงผู้กำกับสน.ออกไปทั้งของก็เหลือแค่เราสองคน เมื่อสบโอกาสผมจึงรีบถามท่านเอเทมทันทีว่า”ท่านจะทำอะไรพี่เฟิ้มเหรอ”

“ลงโทษ”

“โหย มันก็ย้อนหลังไปหน่อยมั้ง ที่สำคัญมันก็แค่เรื่องนิดเดียวเองนะ”ผมอดงงไม่ได้

“การทอดทิ้งผู้พลัดถิ่นไม่ใช่เรื่องเล็ก และที่สำคัญ ในกรณีของเจ้าหากเจ้าไม่ไปเข้าสอบอัศวินพวกเราก็จะไม่มีวันรู้’เรื่องนั้น’เลย”ท่านเอเทมอธิบายอย่างใจเย็น เขาดูไม่หัวร้อนมาถึงก็ฟาด ๆ ๆสั่งพี่เฟิ้มวิ่งรอบเมืองจนกว่าเขาจะสั่งให้พอแต่ก็ยังคงความเข้มงวดเอาไว้

“อ้อ”

“ท่านเอเทม ข้าพาเขามาพบท่านแล้ว”พอเราสองคนคุยกันเสร็จลุงผู้กำกับก็พาพี่เฟิ้มที่หน้าหดเหลือแค่มิลเดียวเดินเข้ามาในห้อง

“ข้าขอสั่งย้ายเจ้าไปประจำการที่หมู่บ้านดีเดียน”เสียงทุ้มกล่าวเรียบ ๆราวกับกำลังพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ

แต่ถ้าหากสิ่งที่ท่านเอเทมกำลังพูดคือเรื่องดินฟ้าอากาศล่ะก็ผมเกรงว่าสภาพอากาศของแย่น่าดู มันต้องมีฝนฟ้าคะนองแน่ ๆเพราะทั้งพี่เฟิ้มกับลุงผู้กำกับทำหน้าเหมือนคนโดนฟ้าผ่า

“ท่านเอเทม! เมตตาด้วย ลูกน้องข้าคนนี้เกิดที่เมืองหลวง โตที่เมืองหลวง เขามีลูกเมียและครอบครัวที่นี่ จู่ ๆจะส่งให้ไปประจำการที่ชายแดนซึ่งติดกับป่าต้องห้าม ข้างเกรงว่า...”

“ภายในสิ้นเดือนนี้ ข้าต้องไม่เห็นเขาอยู่ที่นี่”ท่านแม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินไม่ใยดีกับเสียงวิงวอนของผู้ใต้บังคับบัญชาแม้แต่น้อย

“ท่านเอเทม! นี่มันเกินกว่าเหตุไปแล้วนะครับ! คนของข้ามีความผิดก็จริงแต่เขาก็แค่ละเลยเด็กคนนั้น ข้าเกรงว่าคำสั่งย้ายของท่านในครั้งนี้จะเป็นดาบสองคมที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของท่านไม่มากก็น้อย”ลุงผู้กำกับพูดต่อ

“ข้ามีเหตุผลที่ต้องลงโทษเขารุนแรงกว่าปกติ”ตอนที่ท่านเอเทมพูดประโยคนี้คนฟังทั้งสองหันหน้ามามองผมอย่างพร้อมเพียง พวกเขาคงกำลังสงสัยว่ามันมีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ

เหตุผลก็คือผมอาจจะเป็นระเบิดเวลาที่มีศาสตร์มืดอยู่ในร่าง ความจริงอัศวินที่รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กพลัดมิติอย่างผมควรจับได้เป็นคนแรกหรือไม่ก็มีระแคะระคายบ้างแต่นี่เขาไม่ใช่แค่ไม่เอะใจ แต่เขาไม่สนใจผมเลย

ถ้าผมเป็นคนชั่วหรือฉลาดกว่านี้หน่อยป่านนี้ผมอาจจะปล่อยคำสาปใส่ชาวบ้านตายห่าไปครึ่งเมืองแล้วก็ได้!

แต่ท่านเอเทมไม่สามารถประกาศเหตุผลเหล่านี้ออกสื่อได้เขาจึงทำได้เพียงกอดอกยืนกรานคำสั่งย้ายของตนเหมือนไอ้งั่งที่ไม่พอใจเวลามีคนมายุ่งกับของรักของตน

ครับ! ตอนนี้ลุงผู้กำกับกับไอ้เฟิ้มเข้าใจผิดคิดว่าท่านเอเทมกระทำเกินกว่าเหตุเพราะผมเป่าหูเขาทั้งคู่จึงมองผมตาเขียวปั๊ด

“โอย เรื่องนี้ไหน ๆมันก็ไม่เลยเถิด ตอนนี้ข้าได้อยู่ในการดูแลของท่านแล้วนี่ไง ไม่เห็นเป็นไรเลย ปล่อย ๆไปเห๊อ”ผมผู้มีความปราณีปรานอมเป็นอุดมการณ์หลักเดินเข้าไปกระซิบกระซาบข้างหูคนตัวสูงกว่า

“หุบปากไปซะ เจ้าไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น”แม้ท่านเอเทมจะไม่ได้ตวาดแต่คำพูดของเขาก็เขี่ยผมกระเด็นออกมาในทันที

“เหอะ ๆ ท่านก็ตึงเกิน รู้จักผ่อนลงบ้างก็ได้”ผมถอยออกมาตั้งหลักได้ก็เริ่มออกแรงเถียงต่อ

“ผ่อนจนหย่อนยานแบบเจ้าน่ะหรือ”คนหล่อหันมาเลิกคิ้วถาม เขากวาดสายตามองสารร่างของผมอย่างเวทนา

“แบบข้ามันก็ไม่เลวนี่! ชีวิตสุขสันต์ไม่มีเรื่องเครียด”

“เจ้าก็แค่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเท่านั้น”

“อั่ก!”เขาเป็นคนพูดน้อยที่เถียงเก่งเป็นบ้า

“หักเงินเดือนเขาครึ่งนึงเป็นเวลา1ปี! ข้ายังคงเชื่อเสมอว่าเงินคือพระเจ้า นี่จึงจะเป็นการลงโทษที่สาสมของจริง! ค่าครองชีพในเมืองหลวงแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะน้อย ๆ แม้ร่างกายไม่ทุกข์ทรมานแต่จิตใจต้องได้รับความเจ็บปวดเป็นล้นพ้นแน่!”ผมออกความคิดเห็นขั้นเด็ดขาด

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าท่านไม่ตกลงตามนี้ข้าจะเริ่มจากสาปท่านเป็นคนแรก!”

“สาปข้า โฮ่! พันโทการันต์ของเราช่างกล้าหาญชาญชัยเสียจริง เจ้ามีความมั่นอกมั่นใจถึงเพียงนี้หากเป็นคนรับโทษเด้งไปอยู่ชายแดนเองก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม”

“หะ...อะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ขู่ข้าเหรอ ข้าไม่กลัวหรอก! ถ้าท่านส่งข้าไปชายแดนท่านก็ต้องตามไปด้วย!!”ผมแอบกระเถิบถอยหลังไปหน่อย ตอนพูดออกไปก็มั่นใจอยู่หรอกแต่พอเห็นสายตาของเขาผมก็อดหวั่นใจไม่ได้

“คิดว่าข้าไม่กล้าไปอยู่ชายแดนงั้นหรือ?”ท่านเอเทมสังเกตเห็นรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อย เขารู้ว่าผมเริ่มใจฝ่อและแอบเดินถอยหลังไปหน่อยหนึ่งเขาจึงสืบเท้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมคายของเขามีรอยยิ้มเล็ก ๆประดับตรงมุมปาก

พระเจ้า! ท่านเอเทมกำลังยิ้ม

แม้จะเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆอันร้ายกาจแต่มันทำให้เขาหล่อมาก! หล่อแบบแบดบอย!

“ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ ท่านจะไปได้ไง”ผมเถียงเสียงเจื่อน

“แม่ทัพใหญ่ควรอยู่ที่เมืองหลวงก็จริง แต่หากเจ้าอยู่ที่ชายแดนข้าย่อมต้องตามไปที่ชายแดนเช่นกัน”เขาขู่กลับ

“ท่าน...จะรักข้าไปหน่อยแล้วม๊างงง”

“น่าจะถูกใจเจ้านี่”

“ข้าเคยร้อยขอความรักจากท่านเหรอ เหอะ ๆ...”ผมส่ายหน้าไปมา รู้สึกว่าอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิดผมเลยต้องถอยหลังไปอีกหน่อย

“เอาน่า ท่านอย่าดื้อนักเลย ลดเงินเดือนก็ลดเงินเดือนสิ”

“ไม่อย่างนั้นเจ้าจะสาปข้าหรือ”

“เออ! ข้าจะสาปท่านให้กลายเป็นลูกเต่า!!!”

“หึ”

เขาหัวเราะ

“ท่านเอเทมหัวเราะ”ผมไม่ได้ตาฝาดไปคนเดียวเพราะลุงผู้กำกับกับพี่เฟิ้มนี่ยืนหดหัวอยู่หน้าประตูห้องก็รำพึงออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาเช่นกัน

หึเดียวสะเทือนทั้งแผ่นดินที่แท้จริง

อะไรจะปานนั้น!

แต่เวลายิ้มแล้วหล่อจริง ยอม

ผมเลิกต่อล้อต่อเถียงกับเขาแต่เดินไปรวมกลุ่มกับพวกอัศวินทั้งสองแทน เราสามคนก้มหน้ามองพื้น ประสานมือไว้ตรงตัก ยืนรอคำตัดสินจากท่านผู้มีอำนาจสูงสุด

“เจ้าจะต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างแม้แต่เหรียญเดียวเป็นเวลา5เดือน”

“ไม่ได้เงินเดือนเลยเรอะ!!”ผมร้องออกมาเสียงหลง ผมว่าหักเงินเหลือครึ่งนึงว่าโหดแล้วนะ นี่ไม่ให้เงินสักกะแดงเดียวแล้วเขาจะเอาอะไรกิน! บ้านก็ต้องผ่อน ลูกเมียก็ต้องเลี้ยง!

“หรือจะย้ายไปชายแดน ข้าให้เจ้าเลือก”เขาเมินผมโดยสิ้นเชิงก่อนหันไปถามพี่เฟิ้ม

แน่นอนว่าคำตอบของพี่เฟิ้มก็คือ!!

“ตัดเงินเดือนครับ!! ขอบคุณท่านเอเทมที่เมตตา!!”ร่างยักษ์ของพี่เฟิ้มทรุดลงไปหมอบอยู่กับพื้นทันที

“คนที่เจ้าต้องขอบคุณคือข้าต่างหาก...”ผมกัดฟันพูด คิดว่ากระซิบให้ตัวเองได้ยินแค่คนเดียวแต่ทว่าพี่เฟิ้มที่หมอบอยู่เสือกหูดี พี่แกเงยหน้าขึ้นมามองผมตาเขียวปั๊ด

“มองไร”ผมเลิกคิ้วกวนประสาท เห็นแบบนี้ผมก็จิ๊กโก๋นะครับ!

“เจ้าฟ้องเขา”

“มันเริ่มมาจากเจ้าทำผิดมาก่อนไม่ใช่หรือ”

“เจ้าก็รู้ว่าข้าเทิดทูนเขาเป็นเทพ”พี่เฟิ้มลุกขึ้นยืน เนื่องจากเขาตัวสูงกว่าเวลาเราคุยกันเขาจึงต้องก้มลงมาเพราะเจ้าตัวใช้เสียงที่เบาราวกับเสียงกระซิบ คาดว่าเขาคงไม่อยากให้ท่านเอเทมได้ยิน

“เห๊อะ รู้แล้วไง สมน้ำหน้าเจ้าแล้ว วันนั้นเจ้าอยากไม่เป็นพี่เลี้ยงให้ข้าแถมยังมองเหยียดใส่ข้าทำเหมือนข้าเป็นลูกเต่า! มาดูวันนี้สิ! คนที่กลายเป็นพี่เลี้ยงให้ข้าคือท่านเอเทมที่เจ้าแสนเคารพเทิดทูนบูชา!”

“เจ้า!”ตาเฟิ้มกัดฟันแน่นจนฟันแทบแตก สีหน้าแววตาคับแค้นจนอกแทบจะระเบิด

ผมเห็นว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าจึงแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขาเป็นเด็กประถมตีกัน

ในขณะที่เราสองคนทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆผู้ใหญ่สองคนที่เหลือก็ตกลงกันเรื่องบทลงโทษของพี่เฟิ้ม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยท่านเอเทมก็หันมาหาผม แตะไหล่เชิงปรามว่าเลิกทำตัวไร้สาระและรีบเดินเขาออกไปจากสถานีได้แล้ว

สุดท้ายเราสองคนก็กลับออกมาขึ้นรถม้า ท่านเอเทมยังต้องไปติดต่อธุระในพระราชวังเหมือนเดิมแต่คราวนี้เขาไม่ไล่ผมกลับแล้ว อัศวินหนุ่มอนุญาตให้ผมติดตามเข้ามาในวังหลวงด้วย

แม้ว่าพระราชวังจะมีพื้นที่เล็กกว่ากองทัพ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของกองทัพคือทุ่งหญ้าโล่ง ๆกับสนามฝึก ส่วนพระราชวังนั้นสิ่งก่อสร้างทุกอย่างล้วนมีความวิจิตรงดงาม เอาตั้งแต่เสาตรงประตูทางเข้าก็สวยจนผมอยากหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่แต่น่าเสียดายที่ผมไม่มีมือถือ!

ผมเดินตามอีกฝ่ายต้อย ๆ ไม่กล้าเดินออกนอกเส้นทางเพราะกลัวเดินไปเหยียบเท้าพระราชาเข้า

เมื่อเดินมาถึงจุดจุดหนึ่งท่านเอเทมก็เพยิดหน้าไปทางดอกไม้

“เจ้าไปรอตรงนั้น”

“ท่านอย่าลืมกลับมารับข้าด้วยล่ะ!”

เมื่อท่านเอเทมเดินห่างออกไปผมก็เดินมาหย่อนก้นที่เก้าอี้ยาวสีขาวตัวหนึ่ง ผมกะจะตั้งหลักปักฐานอยู่ตรงนี้ไม่ไหวติง ทว่าขึ้นชื่อว่านายการันต์ ชีวิตไม่เคยได้พบเจอกับความสงบสุข

ผมนั่งได้แป๊ปเดียวเก้าอี้ยังไม่ทันอุ่นตรงทางเดินที่ผมกับท่านเอเทมเดินผ่านมาก็ปรากฏเสียงแหลม ๆของผู้หญิงคนหนึ่ง

“ท่านเอเทมเข้าวังทำไมเจ้าไม่บอกข้า!!”

“ขออภัยเพคะองค์หญิง”

องค์หญิง!!

ดวงตาของผมเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินชื่อสเตตัสของอีกฝ่าย ผมพยามชะเง้อคอผ่านซุ้มดอกไม้เพื่อแอบมองเจ้าของเสียง

“เขาอยู่ไหน ข้าจะไปพบเขา”

“ท่านเอเทมมาเพื่อคุยธุระกับท่านเสนาธิการ เกรงว่าเขาคงไม่อนุญาตท่านเข้าไป...”เข้าไปเสือก ผมช่วยต่อคำให้นางกำนัล แม้ผมจะยังไม่เห็นหน้าคนพูดแต่ผมก็พอจะนึกภาพทั้งสองคนออก

คนหนึ่งต้องเป็นเจ้าหญิงเอาแต่ใจส่วนอีกคนก็เป็นนางกำนัลที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วน

“ข้าต้องพบเขา ข้าจะขอให้สเด็จพ่อใช้อำนาจบังคับเขาอภิเษกกับข้า!!!”

“แค่ก!”ผมที่แอบเสือกเงียบ ๆตกใจจนแทบตกเก้าอี้

“นั่นใครน่ะ!”เจ้าของเสียงแหลม ๆเดินเข้ามาในบริเวณสวน และไม่นานเธอก็พบผม”นี่เจ้า!!”

หญิงสาวตรงหน้าของผมสวยสมยี่ห้อเจ้าหญิง เธอมีเส้นผมสีทองยาวถึงกลางหลัง ดวงตาสีฟ้าโตใสเหมือนตุ๊กตา สวมชุดเดรสสีชมพูหวานแหวว

ถ้าเป็นปกติผมคงนึกพิสมัยเธออยู่หรอก แต่ตอนนี้มันไม่ปกติน่ะสิ!

“เจ้ามัน!! ศัตรูหัวใจของข้านี่!!!!!”เจ้าหญิงชี้หน้าผมก่อนจะหวีดร้องออกมาอย่างกับคนบ้า

เธอก็ศัตรูหัวใจของชั้นเหมือนกันนั่นแหละ หน้าไม่อาย! เป็นสาวเป็นนางริอาจรวบหัวรวบหางผู้ชาย!



---------------------------------

เรื่องนี้ไม่มีนางร้าย เพราะถ้ามีหนูรันต์จะต้องขึ้นคานแน่นอน นางไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกับใครทั้งนั้น 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2018 12:46:09 โดย nikkou »

ออฟไลน์ AilyrZ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ท่านเอเทมหัวเราะทีดาเมจแรงมาก ใจสั่นน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
5555 คราวนี้การันจะทำไงล่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ท่านเอเทม   เริ่มใจอ่อนแล้วใช่ไหม?   

ตั้งแต่จูบผูกวิญญาณนั้นแน่ ๆ เลย  อิอิ

ฮีแกลงทุนมากอ่ะ

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ้ น้องเจอศัตรูหัวใจ
ตบเลยๆๆๆๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
แกล้งองค์หญิงเลย ชอบ อิอิ  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
การพบกันของศัตรูหัวใจ55555555555

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่15

ผมกับเจ้าหญิงจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ผมจะสำเหนียกตัวได้ว่าไม่มีอะไรไปสู้เขาได้เลยจึงรีบหดคอเข้ากระดอง”ให้ตาย ข้าก็เผลอตกใจคิดว่านางฟ้านางสวรรค์ที่ไหนลงมาเดินเล่นบนพื้นดิน ที่แท้ก็องค์หญิงนี่เอง กระหม่อมต้องขอประทานอภัยอย่างสูงที่เสียมารยาทจ้องพระพักต์ของพระองค์เสียเนิ่นนาน แต่ถ้าหากเป็นไปได้กระหม่อมก็อยากจ้องให้นานกว่านี้อีกหน่อย”

เป็นไง เจอพี่การันต์คนฮ็อตเข้าไป เจ้าหญิงก็เจ้าหญิงเหอะ

ผมคิดว่าตั้งแต่เกิดมาเธอคงไม่เคยโดนหนุ่มที่ไหนหยอดขนมจีบมาก่อนเพราะหนุ่มทั้งหลายกลัวโดนลากไปขังคุก

เมื่อมาเจอกับผม เธอจึงจอดในยกเดียว

“เจ้า เจ้ามันคนที่ลงหนังสือพิมพ์เมื่อวันก่อนนี่...จะนอกใจท่านเอเทมหรือไง!?”เสียงของหล่อนลดความเหวี่ยงลงไปหลายระดับ

ผมต้องทำให้เธอเลิกร้อนรน เพราะถ้าเธอร้อนรนคิดว่าท่านเอเทมกำลังจะแต่งงานเธอจะต้องใช้อำนาจของราชวงศ์สั่งรวบหัวรวบหางท่านเอเทมแน่ ๆ

ผมต้องทำให้เธอสบายใจที่สุดเท่าที่จะทำได้

“โอ้ เกรงว่าท่านจะเข้าใจผิดแล้ว อันที่จริงกระหม่อมก็เครียดกับปัญหานี้อยู่เช่นกัน พวกสื่อชอบเขียนอะไรเกินจริง ทีนี้ข่าวลือก็ลุกลามบานปลาย ท่านเอเทมเองก็ตำหนิกระหม่อมเรื่องนี้ยกใหญ่ หวังว่าองค์หญิงจะไม่ถือสา มีหญิงงามเช่นท่านอยู่ข้าจะไปสนใจบุรุษด้วยกันเองทำไม”ผมพยามบอกเธอว่าเธอเข้าใจผิดโดยไม่เจาะจงว่าเธอเข้าใจผิดอะไร ผมจะได้ไม่โดนข้อหาหลอกลวงเบื้องสูงตบท้ายด้วยการชงเธอรัว ๆ

“ข้าก็ว่าอยู่ว่ามันแปลก ท่านเอเทมไม่มีทางมอบหัวใจให้ใครเพราะเขาไม่มีมันอยู่แต่แรก เจ้าเองก็มีคะแนนสอบโดดเด่นทัดเทียมกับเขาในภายภาคหน้าน่าจะได้รับตำแหน่งที่ไม่น้อยหน้า ไม่น่าจะคิดตื้น ๆอย่างการเกาะท่านเอเทมดัง ที่แท้เรื่องทั้งหมดมันก็...”

“เป็นการเข้าใจผิด!!”ผมรีบกล่าวสรุปเพื่อเอาตัวรอดทันที

“อย่างนี้นี่เอง ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล เห้อ วันนี้ข้าไม่ไปหาเขาแล้วก็ได้ เรากลับกันเถอะ”เธอพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อยยิ้มแย้มออกมา และแล้วเจ้าหญิงกับนางกำนัลก็เดินออกไปจากสวน

นี่มันช่าง...

โง่เหลือเกิน!!

ประเทศนี้จะรอดไหมเนี่ย!? มีเจ้าหญิงหลอกง่ายขนาดนี้เนี่ย

แล้วที่สำคัญเลยนะ ถ้าผมมองไม่ผิดก่อนเดินจากไปเมื่อกี๊เธอส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ผมด้วย

อย่าบอกนะว่าเธอตกหลุมรักผมเข้าให้แล้ว!? นี่ก็ใจง่ายเกิ๊น หรือว่าเธอมีมาตรฐานของเธอ แบบใครสอบได้เกินหกแสนแต้มจะจับเข้าฮาเร็มให้หมดงั้นเหรอะ ไม่มีทาง!! ท่านเอเทมต้องเป็นของผม!

“ตะ...แต่ว่า...แต่งงานกับเจ้าหญิงก็ไม่เลวนะ”ทีนี้พอผลออกมาว่าในร่างของผมมีศาสตร์มืดอยู่ผมก็จะมีเธอเป็นแบ็คอัพ เธอดูหลอกง่ายขนาดนี้ผมเชื่อว่าผมหลอกใช้อำนาจของเธอได้สารพัด แถมไม่ต้องไปฝึกทหาร! งานการก็ไม่ต้องทำ! ได้เมีย ได้อำนาจ ได้ความสบาย!

“โอ้ นี่มัน...ดูเหมือนท่านกำลังจะตกกระป๋องแล้วนะท่านเอเทมนะ”ผมลูบคางอย่างครุ่นคิด

ภายในสวนดอกไม้แห่งนี้มีแค่ผมเพียงลำพังดังนั้นผมจึงพูดคนเดียวเท่าไหร่ก็ได้

“อา...ดอกไม้ดอกนั้นมีกลีบเยอะกำลังดีเลย”ผมเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้สีขาวดอกหนึ่งมาและเริ่มทำการปัญญาอ่อน

กลีบที่1 ท่านเอเทม

กลีบที่2 เจ้าหญิง

กลีบที่3...

...

กลีบสุดท้าย เจ้าหญิง!

ผลออกมาแล้ว! สรุปผมเอาเจ้าหญิง!!

“ตกลงตามนี้!”ผมยกยิ้มหน้าบาน เปลี่ยนสีไวยิ่งกว่ากิ้งก่า

ผมลุกขึ้นยืนอย่างแข็งขัน กะว่าจะไปตามหาเจ้าหญิง ทว่าผมแค่หมุนตัวหันกลับมาก็ต้องชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้า ใครบางคนที่ผมตัดสินใจเทไปแล้ว”ท่านเอเทม!?”

“เจ้ากำลังจะไปไหน”คนที่สั่งให้ผมรออยู่ตรงนี้ขมวดคิ้ว

“เอิ่ม แอ่แฮ่ เดินเล่นนิดหน่อย พอดีเมื่อกี๊ข้าเจอเจ้าหญิง นางสวยดีเลยอยากแอบตามไปมอง”

“ไม่กลัวตายเลยนะ”

“แค่แอบมองเองน่า ไม่ใช่ความผิดเสียหน่อย”

“ข้าหมายถึงเจ้ากล้าเข้าใกล้นางด้วยหรือ ไม่กลัวโดนนางจับโยนลงทะเลหรือไง”ท่านเอเทมย้อนถาม

ผมเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่าก่อนส่งยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย”ท่านรู้ด้วยหรือว่านางชอบท่าน”

“เขารู้กันทั้งเมือง”พ่อคนหล่อเลือกได้ตอบอย่างไม่ยี่หระ

“หึ ข้าคงต้องแสดงความเสียใจด้วย ท่านตกกระป๋องแล้ว!!!”

“เห?”คนฟังเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

ผมรีบขยายความด้วยใบหน้าภาคภูมิใจทันที”เมื่อกี๊ดูเหมือนนางจะแอบปันมาใจให้ข้านะ ข้าคิดว่าถ้าข้าจีบนางสักหน่อยนางก็คงตกหลุมรักข้าแล้ว! จีบนางได้กำไรกว่าจีบท่านแถมง่ายกว่าเป็นไหน ๆ ท่านตกกระป๋องทีเดียวถึงสองกระป๋องเลย ฮะ ๆ ๆ ๆ!”

“นั่นฟังดูเป็นข่าวที่ดีทีเดียว”ท่านเอเทมกลับไม่แสดงอาการเจ็บใจมิหนำซ้ำยังทำหน้าราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดในรอบร้อยปี!

“ใจคอท่านจะไม่ฉุดรั้งข้าเลยหรือ ข้าจะไปมีคนอื่นแล้วนะ!”ผมนี่ก็โรคจิต ไม่ชอบให้ตัวเองโดนเมินเพราะรู้สึกหมดความสำคัญ”เดี๋ยวสิ! กลับมาคุยกันก่อน”ท่านเอเทมไม่สนใจผม เขาเดินไปโน่นแล้วเดือดร้อนผมต้องวิ่งตามขาปัด

“ท่านสนใจข้าหน่อย ท่าน!”

“อย่าส่งเสียงดังในวังหลวง”

“อึก...”รอให้ออกไปข้างนอกก่อนเหอะ

...

เมื่อจัดการธุระในปราสาทเสร็จท่านเอเทมก็พาผมมาส่ง รถม้าเพกาซัสสุดเลิศหรูของเขาจอดเทียบหน้าบ้านหลังเล็ก ๆของผม พวกเราแยกทางกันโดยไม่ได้กล่าวคำล่ำลาใด ๆ ผมแอบเหงานิดหน่อยแต่ก็ไม่รู้จะฉุดรั้งเขาไว้เพื่ออะไร ความจริงผมก็แค่ไม่อยากอยู่คนเดียวเท่านั้น

ลันเทียเองก็สอบติดแล้ว เขาไม่นับเป็นลูกจ้างของผมอีกต่อไป

“ป่านนี้คงย้ายออกไปแล้วมั้ง”เนื่องจากเมื่อวานผมโดนท่านเอเทมพาตัวออกมาโดยไม่ได้บอกกล่าวลันเทียสักคำผมจึงไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าตัวไปอยู่ที่ไหน

“เห้อ...”ผมเปิดประตูเข้าบ้านแบบเซ็ง ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว ผมกำลังจะหิวแต่ก็ไม่รู้จะกินอะไรเป็นมื้อเย็นดี

“ท่าน! ในที่สุดท่านก็กลับมา”

“เห...”ผมเงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจ เสียงใส ๆของลันเทียดังแทรกเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งดุ๊ก ๆเข้ามาหาผม ร่างบาง ๆนั่นกระโจนเข้ากอดผมอย่างรักใคร่ กลิ่นกายหอมอบอวลชวนคิดถึง ผิวพรรณก็นุ่มนิ่มน่าสัมผัส นี่มันลันเทียของผมไม่ผิดแน่!

“เจ้า...ยังไม่ได้ย้ายออกหรอกหรือ”

“หะ...เห ท่าน เอ่อ...ไม่อยากให้ข้าอยู่ด้วยแล้วหรือ”คนน่ารักรีบผละกายออก ใบหน้าหวานฉายแววเสียใจ

“เห้ย เดี๋ยว ใครพูดแบบนั้นกันเล่า ข้าก็แค่แปลกใจ ทีแรกเจ้าบอกว่าหลังสอบเสร็จจะย้ายออกไม่ใช่หรือ พอกลับมาเจอเจ้ายังอยู่ข้าก็ดีใจมากจริง ๆ ตกลงจะอยู่กับข้าต่อใช่ไหม”ผมยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง เดินเข้าไปลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างเบามือ

อา...เจ้าหญิงก็เจ้าหญิงเหอะ มาเจอลันเทียของผมซะก่อน มีสิบเจ้าหญิงก็สู้ไม่ได้

ผมตัดสินใจแล้ว! ผมไม่เอาทั้งท่านเอเทมทั้งเจ้าหญิงหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น! ผมจะอยู่กินกับลันเทียเยี่ยงผัวเมีย!!

เริ่มจากชวนมานอนห้องเดียวกันซะเลย!

“เจ้าก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว อยู่กับข้านี่แหละ”เราสองคนจะมีกันและกันตลอดไปเลยจ่ะที่รัก

“อื้ม ขอบคุณท่านมาก รับรองว่าข้าจะช่ายค่าเช่าให้ท่านแน่”

“เดี๋ยว...”ผมรีบยกมือขัดจังหวะ มีเมียที่ไหนเขาจ่ายค่าเช่าบ้านสามีกันบ้าง!”ไม่ต้อง ๆ เจ้าก็แค่ช่วยงานบ้านงานเรือนก็พอ”นี่แหนะ ผมยัดตำแหน่งแม่ศรีเรือนให้อีกฝ่าย

ลันเทียมีสีหน้าลำบากใจ ดวงตาคู่สวยช้อนมองผมทีเล่นเอาใจสั่นไปหมด”ท่านจะให้ข้าอยู่ฟรีจริง ๆน่ะหรือ”

“ได้สิ!! ไม่ต้องคิดมากนะครับคนดี”ผมยกยิ้มมุมปากอย่างอ่อนโยน บอกเลยว่าเวลาผมยิ้มแบบนี้ผมหล่อมาก คนมองมีกี่ชีวิตก็ไม่พอ ยกเว้นว่าคนดังกล่าวจะเป็นลันเทียผู้น่ารัก

คนตัวเล็กยังอึกอักไม่เลิก พยามเสนอเงินค่าเช่าพร้อมยกเหตุผลสารพัดว่าอยู่กับผมดีกว่าไปอยู่หอรวมในกองทัพนู่นนี่ซึ่งผมไม่อยากรับรู้ววว ผมไม่อยากได้เงินแต่ผมอยากได้เขา

จับปล้ำซะเลยดีไหม!?

เอ๊ะ เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ

ว้าว

อยู่ด้วยกันสองต่อสองมาตั้งเดือนนึงทำไมผมถึงคิดเรื่องนี้ไม่ได้นะ

สีหน้าของผมตอนนี้คงดูชั่วร้ายมาก ชั่วร้ายเสียจนคนที่พยามเสนอเงินค่าเช่าให้ผมอยู่หยุดพูดและเดินเข้ามาแตะแก้มทั้งสองข้างของผม”ทำไม่ท่านถึงทำหน้าตาเกเรเช่นนั้นล่ะ ท่านเอเทมรังแกอะไรท่านงั้นหรือ”

“ปะ...ป่าว...”ความจริงคือผมโดนรังแกสารพัด เริ่มตั้งแต่โดนปล้ำจูบเลย

อ๊ากกก อย่าพูดถึงชายอื่นต่อหน้าข้า! เดี๋ยวปั๊ดจับตีก้นลายเลย

“เขาพาท่านไปไหนมาหรือ”ลันเทียถามต่อทั้ง ๆที่ยังเอามือแตะแก้มผมไว้

“ไป...”ผมบอกว่าเขาพาผมไปผูกวิญญาณไม่ได้เพราะว่าลันเทียจะต้องถามต่อไปอีกว่าเราสองคนผูกวิญญาณกันเพื่ออะไรแล้วทีนี้ผมก็จะจนมุม ผมไม่สามารถแพร่งพรายเรื่องข้ามมิติหรือดาร์กลอร์ดให้ผู้อื่นรู้ได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นลันเทียสุดที่รักปานจะกลืนกินของผมก็ตาม

“ที่ว่าพวกท่านไปฮันนีมูนมาน่ะจริงไหม เรื่องผูกวิญญาณล่ะ”

“เอิ่ม”ผมติดสถานะใบ้กินไปชั่วขณะเมื่อคนตัวเล็กรีบวิ่งไปหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับค่ำวันนี้มาให้ผมดูพร้อมข่าวหน้าหนึ่งซึ่งตั้งคำถามอย่างหนักว่าสมบัติของแผ่นดินอย่างท่านเอเทมจะตกเป็นของเด็กหนุ่มผู้ไม่ทราบหัวนอนปลายเท้านี่จริงหรือ

“ท่านไม่ต้องกังวลนะ พวกเขาก็แค่ตั้งคำถามเพราะท่านเอเทมมีภาพลักษณ์เสมือนเทพบนดิน ตำแหน่งอัศวินอันดับหนึ่ง7สมัยซ้อนเป็นศักดิ์ศรีของชาวอัสโตเรียน พวกเขาเทิดทูนบูชาท่านเอเทมอย่างหนักพอรู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานก็ย่อมมีคนผิดหวังเป็นธรรมดา แต่ข้าเชื่อมั่นว่าท่านการันต์คือคนที่คู่ควร!”

“แค่ก!”ผมแทบล้มทั้งยืนเมื่อหนุ่มน้อยที่ผมกำลังหาทางรวบหัวรวมหางเป็นเมียอยู่หยก ๆดั๊นนน ชงผมไปคู่กับชายอื่นอย่างออกนอกหน้า

ไม่เอาสิ! ท่านเอเทมตกกระป๋องไปแล้ว!

“หึ เขาน่ะก็มีดีแค่ฝีมือกับหน้าตาเท่าไหร่แหละ คนนิสัยอย่างเขาใครอยู่ด้วยก็ชวนอึดอัดทั้งนั้น!”ผมกอดอก เริ่มพูดประนามข้อเสียสารพัดของฝ่ายนู้น

“นิสัยเย็นชานั่น ข้าคิดว่าเป็นเสน่ห์ของเขานะ”

“มันคือข้อเสีย!”ผมสะบัดหน้าไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด

“ข้าขอโทษ...พวกท่านทะเลาะอะไรกันมาหรือ มิน่า ตอนมาส่งท่านเขาถึงไม่ยอมแวะเข้ามาในบ้าน”

“เราไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย!”ผมเถียงหน้าดำหน้าแดง

ถ้าจะชงก็ให้มันมีลิมิตหน่อยสิโว้ยยยย

แบบนี้เขาเรียกมโนแล้ว!

“โอ๊ะ สิ่งที่อยู่ในมือของท่านคือน้ำผึ้งพระจันทร์ใช่หรือไม่”คนน่ารักไม่สนใจคำทัดทานของผมสักแอะ ขณะนี้นัยน์ตาสีครามคู่สวยสะดุดเข้ากับไหน้ำผึ้งในมือของผมแล้ว

“ได้มาเมื่อวานน่ะ ข้าจะให้เจ้าทำฮันนี่โทสต์ให้หน่อย แบ่งกันกินนะ”ผมยื่นไหให้อีกฝ่าย มือเล็กรับไหไปก่อนเจ้าตัวจะหายเข้าไปในครัว ผมไม่มีโอกาสได้ถามว่าลันเทียเอาน้ำผึ้งของผมไปทำอะไร แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเอามันไปปรุงเป็นอาหารเย็นด้วย

“โอ้ว แม่ศรีเรือนของข้านี่ช่างรู้ใจจริง ๆ”ผมพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อพบว่าเมนูแรกที่ลันเทียกำลังทำคือกุ้งอบน้ำผึ้ง

เอาน้ำผึ้งมาทำเป็นอาหารค่ำก็ไม่เลว ถือว่าฉลองที่เราสองคนได้เป็นอัศวินด้วย

ผมนั่งเท้าคางด้วยใบหน้าอิ่มเอม มองแผ่นหลังเล็กของคนในครัวง่วนอยู่กับการหั่นนู่นล้างนี่ เดี๋ยวก็วิ่งไปที่เตาเดี๋ยวก็วิ่งมาเอาเครื่องปรุง ทางนู้นทีทางนี้ทีอย่างมีความสุข

ผู้เฒ่าเองก็บอกไว้ว่าผมไม่มีหวังเรื่องแต่งงานกับอัศวินอันดับหนึ่ง เขาให้ผมเอาเงินมาซื้อบ้านหลังเล็ก ๆแล้วสร้างครอบครัวที่นี่ ซึ่งสิ่งที่เขาบอกก็คือสิ่งที่ผมกำลังเป็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่หรือ ความสุขอยู่ใกล้ตัวแค่นี้จะไปไขว่คว้าหาอะไรให้วุ่นวาย เจ้าหญิงเหรอ อัศวินอันดับหนึ่งเหรอ ลาก่อน! นายการันต์ผู้หลายใจคนนี้ตัดสินใจมอบใจทั้งหลายให้ลันเทียแล้ว

ผมนั่งเพ้อเจ้อไปเรื่อยก่อนจะพบว่าเวลามันผ่านไปนานเกินไปแล้ว

“ทำอะไรนานจัง”ผมเริ่มเอะใจว่าเหตุใดวันนี้ลันเทียจึงจัดมื้อใหญ่ แต่พอคิด ๆดูบางทีลันเทียเองก็คงอยากจะฉลองที่สอบติดเหมือนกันล่ะมั้ง

ผมผู้มองโลกในแง่ดียังคงนั่งเท้าคางฮัมเพลงมองสุดที่รักทำข้าวเย็นด้วยสายตาหลงใหลต่อไป กระทั่ง...

“นี่มันอะไร?”ผมมองตะกร้าใบใหญ่ ที่ลันเทียเอามาวางไว้ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

คนน่ารักส่งรอยยิ้มหวายจ๋อยยิ่งกว่าน้ำผึ้งป่าเดือนห้ามาให้ผมก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หวานไม่แพ้กันว่า”กุ้งอบน้ำผึ้ง ข้าวผัดน้ำผึ้ง เนื้อสันนอกย่างราดซอสน้ำผึ้งปรุงรส ผัดเจ็ดชนิดบำรุงกำลังหมักในน้ำผึ้ง เค้กนมน้ำผึ้ง น้ำผึ้งผสมดอกคาโมไมล์เย็นสดชื่น”

“ทั้งหมดนี่คือมื้อเย็นของท่านกับท่านเอเทม!”

“อันนั้นข้ารู้ว่าเป็นมื้อเย็น แต่ที่สงสัยก็คือเจ้าจะจัดใส่ตะกร้าทำไม เดี๋ยว!? เมื่อกี๊เจ้าว่าอะไรนะ!!!!!”ผมตะโกนเสียงดังจนบ้านหลังเล็ก ๆสั่นสะเทือน”เจ้าจะให้ข้าไปกินข้าวเย็นกับเขาเรอะ บ้าไปแล้ว ข้าจะกินกับเจ้า”

“น้ำผึ้งพระจันทร์ ต้องกินกับคู่หมั้นเท่านั้นนะท่าน”ลันเทียผู้ชงจนแก้วแตกไปแล้วดึงมือผมลุกจากที่นั่งก่อนจะเอาผมและตะกร้าอาหารไปยัดไว้ในรถม้า ส่วนเจ้าตัวก็จะโดดขึ้นประจำตำแหน่งสารถี

ผมเปิดหน้าต่างฝั่งที่ติดกับคนขับเพื่อขอให้ลันเทียหยุดรถแต่เจ้าตัวไม่สนใจ รถม้าของผมซิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเหมือนผมยิ่งบอกให้หยุดลันเทียก็ยิ่งเร่ง

“เดี๋ยวววว เจ้ารู้แล้วเหรอว่าบ้านท่านเอเทมอยู่ที่ไหน”

“ข้าถามเจริโก้ไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพราะทีแรกข้าคิดว่าเขาพาท่านไปที่บ้าน”คำตอบของลันเทียทำให้ผมหน้าหมองคล้ำลงอีกสิบระดับ

“ข้าไม่ไป! ข้าจะกินน้ำผึ้งพระจันทร์กับเจ้า!!”

“ข้าไม่ใช่คู่หมั้นของท่าน!!”

“งั้นเราก็หมั้นกันซะสิ! ลันเทีย! แต่งงานกับข้าเถอะ”ความจริงผมอยากให้มันโรแมนติกกว่านี้หน่อยแต่ไม่มีเวลามาพิถีพิถันแล้วไง

“ท่านจะมีคู่หมั้นสองคนไม่ได้!!”ร่างบางตะโกนฝ่าเสียงลมเข้ามาในรถ

“ข้าจะเลิกกับเขา!!”ผมตะโกนแข่ง

“ท่านจะบ้าเหรอ นั่นสมบัติของแผ่นดินเชียวนะ! เลือกทิ้งเขาแล้วมาเอาข้างั้นเหรอ ท่านคิดอะไรอยู่”

“เขาคือสมบัติของแผ่นดินแต่เจ้าคือสมบัติของข้า!”ผมสาดมุกเสี่ยไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรแล้ว มุกเสียนะไม่ใช่มุกเสี่ยว

“ท่านนี่...ขี้งอนกว่าที่ข้าคิดนะ ข้าไม่รู้หรอกว่าพวกท่านทะเลาะอะไรกันมา แต่ถึงขนาดซื้อน้ำผึ้งพระจันทร์กลับบ้านแบบนี้ก็แปลว่าพวกท่านต้องจริงจังต่อกันมาก...”

“เดี๋ยว ไอ้น้ำผึ้งพระจันทร์นี่มันมีความหมายขนาดนั้นเลยหรือ”ผมร้องถามหน้าซีด

“อื้ม คู่แต่งงานบางคู่ยังไม่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ในคืนเข้าหอเลย เพราะสำหรับชาวอัสโตเรียมันเป็นตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์”

ความรักอันบริสุทธิ์!?

ผมอยากจะร้องไห้มันเสียเดี๋ยวนั้น ระหว่างผมกับท่านเอเทมน่ะหรือเรียกว่า ความรักอันบริสุทธิ์!?

“ทำไมตอนข้ารับมาเขาถึงไม่ห้ามข้าสักคำล่ะโว้ยยยยยยย!”ผมเอามาเพราะเห็นว่ามันฟรีแถมยังน่าอร่อยอีกต่างหาก!



----------------------------

ฝากท่านเอเทมตบเรียกสติอิหนูรันต์ทีสิคะ หมั่นไส้มาก 555

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เอ๋...ที่ท่านเอเทมไม่คัดค้านการรับน้ำผึ้งพระจันทร์มา 

ก็แสดงว่า... :z1: :z1: :z1:  อิอิ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ท่านเอเทมก็อยากกินน้ำผึ้งเหมือนกันใช่ไหม ของฟรีนี่นา

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
การันต์เจ้านี่ไหลไปเรื่อยเลยนะ อย่าวอกแวกสิ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อย่าช้าลูก ไปกินกับท่านไป :o8:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ลันเทียทำดีมากเลยลูก  :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ลันเทียจับรวบหัวรวบหาง แล้วโยนเข้าปากมังกร 5555

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คงไม่พ้น เป็นแน่แท้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด