เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62  (อ่าน 39896 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ช็อตนี้ การันต์ตายหว่ะ 55555555
โถ่ น่ามสานคนเหงาเขานะครับ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :-[ การันต์เราต้องยอมแพ้ในความบ้าของนายแล้ว ยอมในการเอาความบ๊องๆบวมๆ จีบท่านเอเทมได้(มั้ง) 5555

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวัย ๆ  พวกเขาทำอะไรกันอ่ะ

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ไม่ต้องแต่งงาน แต่อยู่กินฉันท์ผัวเมียไปเลยโล้ดดดดดด 55555555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ทำไมพอท่านเอเทมบอกว่าไม่มีวันแต่ง เราแปลว่าจะไม่มีวันปล่อยน้องไปคะ
กรี้ดดดดดดด ใช่ไม่ใช่ไม่รุ ตูมโนไว้ก่อน 55555555

ออฟไลน์ mimirose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินมากมาย  ที่ไม่ยอมแต่งเพราะต้องการให้การินอยู่กับตัวเองนานๆใช่ไหม

ออฟไลน์ AilyrZ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮืออๆ ท่านเอเทมฉลาดเกินไปแล้วว ดีค่ะดี เก็บน้องไว้ข้างตัวตลอดไป :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คนปากแข็ง ที่จริงแล้วก็ไม่อยากให้น้องกลับไปใช่ไหมล่ะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
อ๊อย ตอนนี้น่ารักก

ออฟไลน์ LoveAlone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่19

ผมโดนลันเทียล้อไม่เลิกมาห้าวันแล้ว!

เจ้าตัวแสบ เห็นหน้าตาบ้องแบ๊วแบบนั้นแต่รู้มากแถมขี้แกล้งสุด ๆ!

คืนนั้นหลังจากท่านเอเทมประกาศกร้าวว่าเขาไม่มีวันแต่งงานกับผมเขาก็ผลักอกผมออกและตะแคงตัวนอนไปอีกทางทั้งอย่างนั้น พวกเราไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยกระทั่งลันเทียมารับผมในวันถัดมา เจ้าตัวมองเห็นรอยคิสมาร์กบนคอของผมก็ตาลุกวาวยกมืออุดปากกลั้นเสียงกรี๊ดยกใหญ่

แล้วหลังจากนั้นมหกรรมชงให้ผมกับท่านเอเทมได้เสียกันก็ไหล่บ่าออกมาจากริมฝีปากสีแดงของเจ้าลันเทียผู้ไม่น่ารัก!

ห้าวันผ่านไปแล้วลันเทียทั้งชงทั้งล้อผมไม่เลิก เกรงว่าผมจะไม่กล้าสู้หน้าท่านเอเทมก็เพราะไอ้คนหน้าสวยหัวฟ้านี่แหละ

ผมเปลี่ยนสรรพนามให้ลันเทียเป็น’ไอ้’อย่างเกรี้ยวกราด ตัดเจ้าตัวออกจากลิสต์ฮาเร็มรัว ๆ! ชาตินี้อย่างหวังเลยว่าผมจะไปสู่ขอ เหอะ! เสียใจซะสิ! เสียใจหน่อยเห๊อ เสียใจแล้วก็เลิกแซวได้แล้ว เขิน!

“ข้าต้องบอกเจ้ากี่ครั้งว่าท่านเอเทมประกาศชัดเจนว่าเขาไม่มีวันแต่งงานกับข้า”ผมกัดขนมปังซึ่งเป็นอาหารเช้าอย่างหงุดหงิด

“คิก ๆ คร้าบ ๆ ข้าเชื่อท่านเพราะท่านมีหลักฐานเป็นรอยจูบเต็มตัวไปหมด ท่านเอเทมไม่ได้ยอมรับหมั้นท่านสักนิด คิก ๆ”

อ๊ากกกกกกกกก คิดดูนะ ผมทั้งอายทั้งนกในเวลาเดียวกัน ผมต้องรู้สึกยังไงเวลาโดนลันเทียแซว!

“เจ้า! ถ้ายังไม่หยุดพูดถึงเรื่องนั้นล่ะก็ข้าจะเก็บค่าเช่าบ้านเจ้า!!”ผมตัดสินใจงัดไม้เด็ดออกมาทว่าลันเทียกลับหัวเราะเสียงหวาน หากเป็นเมื่อก่อนผมคงหลงรอยยิ้มอันเจิดจ้านี่หัวปักหัวปำแต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเจ้าของรอยยิ้มนี้แซวผมไว้หนักมาก

“ข้าได้เป็นร้อยเอกแล้ว มีเงินจ่ายค่าเช่าท่านสบาย ๆ”ลันเทียตอบพลางยกนมขึ้นจิบอย่างสบายใจเฉิบ

ผมนั่งก้มหน้า อยากร้องไห้ให้น้ำตานอง”เจ้าไม่น่ารักเลย เป็นอัศวินแล้วต้องนิสัยเสียเหรอ”ผมถือโอกาสพาดพิงใครบางคนที่เป็นถึงอัศวินอันดับหนึ่งเสียเลย

“คิก ๆ ท่านพันโทการันต์ อดใจหน่อยน่า วันนี้พวกเราก็จะได้เข้ากองทัพแล้ว ท่านต้องได้เจอท่านแม่ทัพใหญ่แน่นอน”

“ลันเทีย!!”

“คิก ๆ”

วันคืนแห่งความสุขมักผ่านพ้นไปเอย่างรวดเร็ว หลังจากทานมื้อเช้ากันเรียบร้อยผมกับลันเทียก็นั่งรถม้าไปยังกองทัพหลวงด้วยความตื่นเต้นประหนึ่งจะไปเข้าค่ายรับน้องของมหาลัยครั้งแรกก็มิปาน แต่เมื่อย่างกรายเข้ากองทัพด้วยฐานะอัศวินเป็นครั้งแรกผมก็แทบน้ำตานอง

มันหนักหนา มันสาหัส!

ทั้ง ๆที่ผมเป็นถึงพันโทแท้ ๆแต่กลับต้องมาฝึกอบรมพื้นฐานกับพวกลูกกระจ๊อกคนอื่น ๆที่เพิ่งสอบผ่านเข้ามาในปีนี้เกือบพันชีวิต ไอ้อบรมเรื่องระเบียบข้อบังคับและจรรยาบรรณวิชีพซึ่งเป็นวิชาเล็คเชอร์น่ะไม่เท่าไหร่! มันมีพีคตอนฝึกกำลังกาย!!

สืบเนื่องจากผมเป็นผู้ผ่านการสอบด้วยคะแนนสูงสุด มิหนำซ้ำยังได้คะแนนปรี๊ดทะลุเมฆเทียมฟ้าสะท้านแผ่นดิน ผมจึงกลายเป็นที่จับตามองและวาดความหวังเอาไว้ประดุจชาติก่อนผมเป็นเทพสงคราม

แต่พอผมโดนครูฝึกเรียกออกไปข้างหน้าเพื่อแสดงฝีมือดาบเท่านั้นแหละ

“นะ...นี่มัน กากมาก...”เสียงกระซิบเช่นนี้ดังเซ็งแซ่ไปทั่วลานฝึก

สายตาพันคู่ของผู้ผ่านการสอบจ้องมายังผมราวกับเห็นผี แม้กระทั่งครูฝึกหรือพวกอัศวินขามุงคนอื่น ๆที่แอบโดดงานมาชื่นชมฝีมือของผมยังอ้าปากตาค้าง

คู่ต่อสู้ของผมคือคนที่สอบผ่านด้วยแต้มสามพันแต้ม นับว่าสูงแต่เมื่อเทียบกับหกแสนของผมก็ควรมีค่าแค่เศษผง แต่ผลปรากฏว่าเขาแค่วาดดาบใส่ผมทีเดียวก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพง พอเห็นเขาทำท่าจะเข้ามาซ้ำปากของผมก็ตะโกนคำว่า’ยอมแพ้แล้วจ้า!’ออกไปเพื่อรักษาชีวิต

เป็นการดวลอันน่าอนาถ!

นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำก็แพ้ซะแล้ว!

ผมก้มเก็บดาบกับเศษหน้าบนพื้นรัว ๆก่อนเดินเอาปี๊ปคลุมหัวออกมานั่งรวมกลุ่มกับลันเทีย

“ต่อไปเจริโก้!”ครูฝึกตะโกนเรียกลูกนายพลออกไปสู้กับนายสามพันแต้มคนนั้น และเจริโก้ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอีก เขาสามารถคว่ำนายสามพันได้อย่างสบายใจเฉิบ

ทุกคนปรบมือเปาะแปะ

คราวนี้ครูฝึกเห็นว่ากู้บรรยากาศกระอักกระอ่วนกลับมาได้จึงเผยรอยยิ้มกว้างออกมาก่อนเอ่ยเรียกคนที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับสอง”ลันเทีย!!”

คนน่ารักเดินออกไปข้างหน้า ไอ้พวกอัศวินเดนตายผิวปากแซวกันเป็นพรวน พวกหน้าม่อทั้งหลายยกตำแหน่งดาวรุ่นให้ลันเทียของผมไปแล้วเรียบร้อยแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบเพราะลันเทียกับผมเกาะกันเป็นตังเม

บารมีหกแสนของผมยังอยู่ แต่คงอยู่ได้ไม่นานหรอก นี่ยังแค่วิชาต่อสู้ระยะประชิด ผมสามารถอ้างว่าถนัดเวทไม่ถนัดกำลังได้ แต่ถ้าถึงวิชาต่อสู้ด้วยเวทเมื่อไหร่ก็อย่าถามหาเศษหน้าของผมอีกเลย แตกยับจนเป็นผุยผงแน่นอน เพราะแม้กระทั่งเวทกรองน้ำฝนง่าย ๆผมยังใช้ไม่ค่อยคล่องเลย

ผมเครียดแล้วก็เครียดแล้วก็เครียด

กระทั่งการฝึกหนึ่งสัปดาห์อันโหดร้ายผ่านพ้นไป

ชื่อเสียงหกแสนป่นปี้เป็นธุลี ฝากทิ้งไว้เพียงตำนานเปิดตัวมาแรงแต่สู้กับลูกเต่ายังพ่ายแพ้

ทักษะร่างกายของผมอ่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ความรู้เรื่องเวทมนต์ยังแทบจะเท่ากับศูนย์ ไม่ต้องอะไร แค่ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโลกนี้ผมยังแทบไม่มี สุดท้ายผมจึงถูกเพื่อนร่วมรุ่นเรียกว่าไอ้ตุ่น!

“จะดีจะชั่วยังไงข้าก็เป็นถึงพันโทนะ!”ผมวางจานลงกับโต๊ะด้วยความหงุดหงิด

วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้เข้าประจำการในฐานะอัศวินจริง ๆ มันแตกต่างจากหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งผมจะวนเวียนอยู่แค่ในค่ายฝึกเท่านั้น ด้วยตำแหน่งพันโททำให้ผมมีห้องทำงานเล็ก ๆส่วนตัวและมีผู้ใต้บังคับบัญชาอีกพันชีวิต แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นได้ยินข่าวลือหนาหูจากค่ายฝึกว่าผมเป็นแค่ลูกเต่าหกแสนแต้มเท่านั้นทำให้ผมแทบไม่เหลืออำนาจบารมีใด ๆ

ลันเทียที่ได้สังกัดอยู่ใต้บังคับบัญชาของผมเดินหัวเราะแห้ง ๆอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามผม

“กับข้าวก็ห่วยแตก! ที่นี่ไม่มีอะไรดีเลย!”ผมกระแทกช้อนอย่างหงุดหงิด ช่วงเช้าที่ผมได้นั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งพันโทบอกตรง ๆว่าผมแทบร้องไห้ ไม่มีใครฟังคำสั่งผมแถมยังยกยิ้มล้อเลียน นินทาถ่มถุยลับหลังอีก!

และที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือลันเทียก็โดนรุมแจกขนมจีบจนแทบจำทางกลับบ้านไม่ได้!

บารมีหกแสนแต้มของผมพินาศไปแล้วจึงไม่มีใครเกรงใจผมอีก พวกเขาดาหน้าเข้ามาม่อลันเทีย ผมเองก็พยามกางปีกปกป้องสุดชีวิตแต่ก็โดนเขี่ยออกมารัว ๆ

“ป้าคนขายก็ขี้เหนียว! คิดราคาตั้งแพงแต่ยังให้น้อย ตอนขายของก็ทำหน้าไม่เป็นมิตร บัดซบ!”ในเมื่อไม่สามารถระบายอารมณ์กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้ผมก็มาลงกับโรงอาหารกลางเนี่ยแหละ

กองทัพหลวงมีขนาดใหญ่ โรงอาหารย่อมมีอยู่หลายจุดแต่ผมอุตส่าห์ดั้นด้นมากินที่โรงอาหารกลาง ส่วนหนึ่งเพราะหลีกเลี่ยงพวกผู้ใต้บังคับบัญชาขี้นินทา อีกส่วนหนึ่งก็เพราะคาดหวังในแง่รสชาติ

“เอาน่า ๆ อีกไม่นานท่านจะต้องเก่งไม่แพ้ใคร ก็จริงที่ตัวท่านในตอนนี้แค่เวทกรองน้ำฝนยังทำแทบไม่เป็นแต่ด้วยพลังแฝงในตัวท่านจะต้องมีพัฒนาการก้าวกระโดด เรื่องฝึกเพลงดาบอาจจะยากเกินกำลังแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากังวล ท่านดูข้าสิ เน้นเวทไม่เน้นดาบ”ลันเทียคนน่ารักพยามปลุกปลอบขวัญของผมอย่างสุดกำลัง

ผมนึกขอบคุณพระเจ้าที่อย่างน้อยก็ประทานลันเทียมาอยู่ข้างกายผม

“กระซิก ๆ”ผมออกอาการงอแงเหมือนเด็ก ๆ

เคยเป็นปะ เวลามีคนมาโอ๋เราก็ยิ่งอยากจะอ้อน

“โอ๊ะ นั่นท่านเอเทมนี่”

พรึ่บ!

สิ้นเสียงของลันเทียไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นที่หันไปยังทิศทางที่นิ้วเรียวชี้ พวกอัศวินที่นั่งอยู่โต๊ะอื่นก็หันกันจนคอแทบเคล็ด

พวกเขาไม่ได้ดีใจที่ได้เจอท่านเอเทมเหมือนแฟนคลับเจอดาราหรอก อย่างไรก็ทำงานอยู่ที่เดียวกันพวกเขาย่อมเคยเจอท่านเอเทมในโรงอาหารมาไม่มากก็น้อย

แต่ที่พวกเขาพากันให้ความสนใจจนตาลุกวาวขนาดนี้ก็เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เข้าซีนเดียวกับท่านเอเทม

“แค่ก!”ผมรีบก้มหน้าลงแทบจะชิดชามข้าว

พวกขาเผือกยังไม่เลิกให้ความสนใจ พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่อยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องข่าวหน้าหนึ่งฉบับนั้นที่สุด! พวกเขาอยากรู้ว่าท่านเอเทมตอบตกลงแต่งงานกับผมหรือไม่

โอ้ มาย ก็อด

หลุมเต็มไปหมด

หนทางเบื้องหน้าของผมมีแต่หลุม หลุม หลุม! เรียกว่าเดินไปทางไหนก็มีที่ให้ทิ้งตัวลงนอนได้ทุกเมื่อ ขาดก็แค่เอาแผ่นดินกลบหน้าและแปะป้าย R.I.P.ก็เท่านั้น

เรื่องหกแสนแต้มแต่เสือกกระจอกเป็นลูกเต่าก็ดี

เรื่องประกาศขออัศวินอันดันหนึ่ง แม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินแต่งงานลงสื่อก็ดี

พินาศกว่าโรมานอสซาร์ก็ผมเนี่ยแหละ!!

“เขาไปหรือยัง”ผมก้มหน้าอยู่ ไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆทั้งสิ้นจึงต้องอาศัยถามลันเทียเอา

“เขาเดินไปนั่งอีกมุมแล้ว”เสียงหวานตอบ”ทำไมท่านต้องหลบหน้าเขาด้วยล่ะ ข้าคิดว่าคืนดีกันแล้วเสียอีก”

“พวกเราไม่ได้ทะเลาะกัน”

“แล้วทำไมท่านไม่เข้าไปทักเขาล่ะ”ลันเทียย้อนถาม

“ข้าอาย!”อายในที่นี้ไม่ได้แปลว่าเขิน อายก็คืออาย ผมกลัวว่าจะเดินเด๋อ ๆเข้าไปทักเขาแล้วโดนเขาทำเมินใส่ โดนเมินอย่างเดียวไม่เจ็บเท่าโดนเมินต่อหน้าขาเผือก! ผมจะหน้าแตกมากกว่านี้ไม่ได้ ผมต้องคีพลุคพันโท!

“เห...แต่เขามองมานะ”

“จริงเหรอ!!”ผมตกใจรีบเงยหน้าขึ้นมาถาม

ลันเทียทำหน้าไม่มั่นใจนักก่อนตอบอ้อมแอ้ม”นิ๊ดนึง”

“เขาอาจจะแค่มองทิวทัศน์ด้านหลังเรา”ผมถอนหายใจเซ็ง ๆ

“แต่อย่างไรท่านก็ควรเข้าไปทักเขา ถ้าท่านไม่เข้าไปทักข้าเกรงว่าอัศวินนายอื่นจะปักธงว่าท่านโดนเขาปฏิเสธ”

ก็โดนปฏิเสธมานะเซ่!!

ผมกัดฟันกรอด ๆด้วยความเจ็บปวด เหลียวมองไปยังร่างสูงที่นั่งทานข้าวกลางวันอยู่ในมุมสงบสลับกับกวาดสายตามองพวกขาเผือกที่แม้บัดนี้จะก้มหน้าทำเป็นไม่สนใจแต่ก็แอบชำเลืองมาทางผมเป็นระยะ

“เห้อ...”

เอาวะ ทักก็ทัก!

“เราไปนั่งกินกับเขากันเถอะ”ผมหยิบจานข้าวของตนเองขึ้นก่อนหันไปชวนลันเทียเพื่อนรักด้วยความที่ผมถือคติคนเดียวหัวหายสองคนกอดคอกันตาย

“ท่านไปเถอะ ข้าทานคนเดียวได้”ลันเทียไม่อยากเป็นก้างขวางคอจึงเอ่ยปฏิเสธ

ผมกลอกตาให้ความมีมารยาทแบบไม่ดูกาลเทศะของลันเทีย

“ถ้าเจ้าไม่ไปด้วยข้าก็ไม่ไป”

พวกเราจ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตายสุดท้ายคนตัวเล็กก็แพ้

พวกเราเดินถือจานข้าวไปยังมุมสงบ เจ้ามุมนี้แต่เดิมมันก็แค่ส่วนหนึ่งของโรงอาหาร มีโต๊ะมีเก้าอี้ปกติ แต่เมื่อมีร่างของบุรุษผู้หล่ออันดับหนึ่งของแผ่นดินนั่งอยู่บรรยากาศโดยรอบก็แปรเปลี่ยนเป็นแดนสุขาวดีในพริบตา

ออร่าของมนุษย์เดินดินมีพลานุภาพถึงเพียงนี้เชียวหรือ

ผมชื่นชมความหล่อของเขาไม่นานก็เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เอ่ยปากขอในสิ่งที่พวกขาเผือกทั้งหลายกลั้นใจรอฟังกันมาเนิ่นนาน”ขอนั่งด้วยคนสิ!”ผมฉีกยิ้มกว้าง

“ตรงนั้นก็ว่าง”ท่านเอเทมปรายสายตาไปยังที่นั่งว่าง ๆทั้งหลาย

“ข้าอยากนั่งกับท่าน”ผมยังคงฉีกยิ้มทำเป็นไม่สะทกสะท้านขณะเอ่ยต่อรอง

จุดที่ท่านเอเทมนั่งนั้นห่างไกลจากพวกขาเผือกพอสมควรดังนั้นพวกนั้นจึงไม่ได้ยินว่าผมโดนไล่ไปแล้วหนึ่งรอบ ตราบใดที่ผมยังยืนปั้นหน้าประหนึ่งสุขสันต์ร่าเริงอยู่พวกเขาก็แค่คิดว่าผมกำลังยืนคุยกับท่านเอเทมตามปกติ เพราะต่อให้รำคาญแค่ไหนท่านเอเทมก็แทบไม่แสดงออกทางสีหน้าอยู่แล้ว

นับว่าผมฉลาดมากทีเดียว ท่านเอเทมขมวดคิ้วน้อย ๆอย่างรำคาญใจ แต่มันเล็กน้อยมากจริง ๆ พวกขาเผือกที่อยู่ไกลออกไปไม่มีทางเห็น

“ข้าจะไม่พูดซ้ำ ไปซะ”ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้ม แต่ผมก้าวข้ามจุดกลัวรีแอคชั่นเบาะ ๆของเขามานานแล้ว อย่าลืมว่าผมเคยโดนแขนทั้งสองข้างของเขากักไว้กับกำแพงแล้วก็ตะคอกใส่หน้ารัว ๆมาแล้ว ตอนนั้นนับว่าน่ากลัว ส่วนเหตุการณ์ตอนนี้ไม่นับว่าเป็นอะไร

“ความจริงข้าก็ไม่ได้อยากนั่งกินข้าวกับท่านนักหรอก”ผมฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีกหน่อย พวกเขาเผือกย่อมนับถือผมที่สามารถคุยกับเทพอัศวินได้เป็นวรรคเป็นเวร

ดวงตาคู่คมเหลือบมองผมอย่างเคลือบแคลง ในใจเขาคงตั้งคำถามว่าถ้าผมไม่อยากนั่งกินข้าวกับเขาแล้วผมจะเดินมาขอนั่งกับเขาทำไร่อ้อยอะไร

ผมไม่ปล่อยให้เขาสงสัยนาน วางจานลงข้าง ๆเขาก่อนถือวิสาสะทิ้งตัวลงนั่ง

“ข้าไม่อยากนั่งกินข้าวกันท่าน ข้าอยากนั่งอยู่ในใจท่านมากกว่า”

ฮิ้ววว

มุกเสี่ยวเกี้ยวสาวถูกงัดออกมาใช้อย่างไม่ดูตาม้าตาเรืออีกครั้ง

ผมพอใจกับผลงานของตัวเองมากทีเดียว เมื่อมองเห็นหางคิ้วของท่านเอเทมกระตุก เส้นเลือดบริเวณขมับของเขาเต้นตุบ ๆ ส่วนผมก็ตักข้าวเข้าปากอย่างสบายอารมณ์”โฮ่! กับข้าวอร่อยขึ้นมาทันทีที่ได้นั่งกินข้างท่านเลยนะนี่!”

ลันเทียเลือกที่จะนั่งลงข้าง ๆผมอีกต่อ ตอนนี้พวกเราสามคนก็เลยนั่งเรียงแผงหน้ากระดาน ดูตลกพิลึกแต่ไม่มีใครกล้าขำเพราะพวกขาเผือกทั้งหลายกำลังอ้าปากตาค้างกันเป็นทิวแถว

พวกเขาคงไม่คาดฝันมาก่อนว่าท่านเอเทมผู้รักสันโดษคนนั้นจะยอมให้คนอื่นร่วมโต๊ะได้ แปลว่าข่าวลื่อที่ว่าท่านเอเทมพาผมไปเที่ยงสองต่อสองหลังสอบเสร็จเป็นความจริง

“คึก ๆ ๆ ๆ”ผมหัวเราะชั่วร้ายออกมาอย่างไม่อาจหักห้าม รู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก

“ปกติท่านมาทานข้าวคนเดียวที่นี่ทุกมื้อเลยหรือ”ผมเลยติดใจความรู้สึกยามถือไพ่เหนือกว่าพวกขาเผือกจึงนึกอยากมาซ้ำอีกทว่าท่านเอเทมไม่ตอบ

“ข้าไม่เห็นพวกอัศวินยศนายพลคนอื่น ๆเลยนะ พวกเขามีห้องอาหารที่อื่นรึป่าว”ถ้ามีผมก็คงเข้าไปยุ่มย่ามไม่ได้แล้ว

“ไม่หรอก เจริโก้เคยบอกข้าว่าส่วนใหญ่จะให้แม่บ้านเตรียมอาหารใส่ปิ่นโตมาให้และนั่งทานในห้องเพราะกับข้าวที่โรงอาหารรสชาติไม่ถูกปาก ความจริงข้าก็กะจะเตรียมให้ท่านเช่นกันแต่วันแรกข้ายังปรับตัวไม่ทันก็เลย...”เป็นลันเทียที่เอ่ยอธิบายเสียยืดยาว

“อ๋อ...”ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนหันไปถามคนที่นั่งเงียบอยู่นานว่า”แล้วทำไมท่านไม่ให้คนรับใช้ทำให้ล่ะ ท่านบอกข้าว่าท่านจ้างแม่ครัวไว้คนหนึ่งนี่ หรือว่านางเข้าไปทำอาหารแค่มื้อเย็นเท่านั้น? นั่นแย่เลยนะ”

“กับข้าวพวกนี้ข้ากินได้ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”

“มันไม่อร่อยเลยนะ ท่านดูซุปครีมนี่สิ ใสจนไม่เหลือเค้าความเป็นซอสครีมอยู่เลย! รสชาติก็จืดชืดอย่างกับน้ำล้างเท้า มันไม่คู่ควรกับลิ้นของอัศวินอันดับหนึ่งแม้แต่น้อย”ผมแทบจะลุกขึ้นตบโต๊ะ ส่วนหนึ่งก็เพราะคับแค้นกับรสชาติอาหารเป็นการส่วนตัวด้วยเลยอินสุด ๆ

“อัศวินคือผู้ฝึกตน ยามออกศึกไม่ได้มีเสต็กมาประเคนให้ทุกมื้อ ยามจำเป็นแม้แต่ดินหรือหญ้าก็ต้องกินเพื่ออยู่รอด”

“อั่กกก...”ผมกระอักเลือกทันทีที่เจอคำเทศนาที่ดูไกลตัวนั่น

“ขอประทานโทษ พอดีที่ที่ข้าอยู่มาไม่มีใครเขากินหญ้ากัน”ผมจิ๊ปากเถียง

“แต่บังเอิญว่าที่ที่ข้าจากมาแม้แต่หญ้าก็ยังไม่มีให้กิน!”

“!!?”ผมตกใจหันขวับไปมองหน้าคนพูดแต่ใบหน้าของท่านเอเทมยังคงเป็นปกติผมจึงคิดว่าเขาแค่ยกตัวอย่างเพื่อเสริมความโอเวอร์ให้ผมกลัว แต่พอผมหันกลับมามองหน้าลันเทีย คนตัวเล็กของผมกลับนั่งน้ำตาคลอ

“เห้ย! เจ้าร้องไห้ทำไม!!”พอผมหันไปแตกตื่นกับน้ำตาของลันเทียท่านเอเทมก็อาศัยจังหวะนี้ลุกพรวดพราดเดินจากไป ผมเองก็ไม่คิดตามแล้วเพราะลันเทียที่มักมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนหน้าเสมอคนนั้นบัดนี้กลับเบะปากน้ำตาไหลหยดแหมะ ๆ

“เจ้า...เป็นอะไร ข้าพูดอะไรผิดไปเหรอ”ผมถามเสียงสั่น

คนตัวเล็กส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อย ๆ”ข้าก็แค่คิดถึงท่านแม่ ตอนที่พวกเราหนีออกมาจากโรมานอสซาร์ ฮึก ไม่มีอะไรให้กินเลย...มันทั้งหนาวแล้วก็หิว ข้างหน้าพวกเราคือทุ่งหิมะที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีสิ่งมีชีวิต แม้แต่หญ้าสักต้นก็ไม่มี ฮึก...ก่อนจะมาถึงอัสโตเรีย ท่านแม่ก็ ฮึก...”

โรมานอสซาร์

ชื่อนี้อีกแล้ว

ผมผู้มีความรู้ติดตัวน้อยนิดพลันตั้งคำถามขึ้นในใจคำถามใหญ่

ราชอาณาจักรแห่งนี้พังพินาศได้อย่างไร?



----------------------------

จะว่าไปก็เหมือนไม่เคยบอกอายุท่านเอเทมเลยนะ!!

บอกตรงนี้เลยละกันว่าท่านเอเทมอายุ 26-27ปี จ้า ส่วนหนูการันต์เพิ่งขึ้นปีหนึ่งก็แปลว่าอายุแค่18ปี

แบบนี้นับเป็นแนวกินเด็กได้มั้ย ชูการ์แดดดี๊ที่เขานิยมกันน่ะ ถถถถถถถ

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :mew3: ฮืออออออ สู้ต่อไป

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมอาณาจักรโรมานอสซาร์จึงได้แห้งแล้งเยี่ยงนั้น

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แข็งกว่าสากก็ปากท่านเอเทมมมมมมมมมมมมม
ไม่แต่งก็ไม่แต่งจ้าาาาาาาา

โรมานอสซาร์นี้ต้องมีเงื่อนงำ
รอๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2018 15:48:57 โดย ทั่วหล้า »

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องจะมีซีนเก่งอย่างอื่นนอกจากจ้อจี้ใส่ทั่นเอเทมไหมนะ
ตอนนี้อยากรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาณาจักรที่ทั่นเอเทมกับลันเทียจากมา

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตัวนิยายเราว่าเดินเรื่องช้ามากกก แต่มันอ่านเพลินดีค่ะ เราชอบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


โอ้ยยยการันต์. อยากแหย่ท่านเอเทมดีนัก แทบจะเสียซิงเลยทีเดียว

ท่านเอเทมคงเหงาจริง. มีน้องการันต์ตัวป่วนมาอยู่ด้วย คงหายเหงาไปเยอะเลย


……

 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:


……

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เมืองพังเพราะจอมเวทที่หนีไปรึป่าว

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
มันต้องมรอะไร ชิมิๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่20

หลังจากหมดพักกลางวันผมตัดสินใจไปค้นคว้าตำราในห้องสมุดโดยอ้างกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าจะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทัพและหลักการเป็นผู้นำบลา ๆ แต่ความจริงผมก็แค่กะเข้ามาอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เท่านั้น

ในกองทัพหลวงมีหอสมุดกลางอยู่ การตกแต่งคล้ายกับห้องหนังสือที่บ้านของท่านเอเทมเพียงแต่ใหญ่กว่าประมาณ20เท่า เนื่องจากมันใหญ่และผมไม่สามารถถามบรรณารักษ์ได้เนื่องจากมันเป็นหนังสือที่ไม่ควรมานั่งอ่านเล่นในเวลางานผมจึงใช้เวลางมหามันอยู่ค่อนข้างนาน

ผมเดินวนไปวนมาอยู่พักใหญ่กระทั่งหลุดเข้ามาในโซนจดหมายเหตุหรืออะไรสักอย่างเข้า

ผมตาลุกวาวทันทีเมื่อหนังสือเล่มแรกที่ผมหยิบออกมามีคำโปรยปกหลังว่าไว้ว่า’สิ้นสุดประวัติศาตร์สามพันปี อะไรคือความจริงเบื้องหลังการล่มสลายของราชอาณาจักรอันรุ่งโรจน์ที่สุดในแดนรัตติกาล’

ผมรีบหามุมเงียบอ่านทันที โชคดีที่โซนที่ผมอยู่ไม่ค่อยไม่คนผ่านไปผ่านมาสักเท่าไหร่ผมจึงลากเก้าอี้มาหลบอยู่หลังชั้นหนังสือหลังใหญ่ ทำตัวเหมือนเด็กแอบเล่นเกมในห้องเรียนทันที

เนื่องจากหนังสือค่อนข้างหนา เน้นหนักไปทางน้ำ แถมยังมีประวัติศาสตร์และการพาดพิงถึงชื่อบุคคล ชื่อแคว้น ชื่อเวทมนต์คาถา และพิธีกรรมสารพัดที่ผมไม่รู้จักทำให้ผมต้องใช้เวลาอ่านมากกว่าปกติ

รู้ตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็ตกดินเสียแล้ว

ผมเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มนั้น ค่อย ๆปิดมันอย่างนุ่มนวลราวกับกลัวว่าตัวอักษรให้หน้าหนังสือจะหลุดกระเด็นออกไป

หลังจากเก็บทุกรายละเอียด ใส่ใจทุกย่อหน้า ผมสามารถสรุปเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้โดยย่อดังนี้

ราชอาณาจักรโรมานอสซาร์ ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของดินแดนรัตติกาล เนื้อพื้นที่เกินกว่าร้อยละ80จะถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปีแต่กลับเป็นราชอาณาจักรที่ขึ้นชื่อว่าเกรียงไกรจนแม้แต่อัสโตเรียที่ผมอยู่กลายเป็นเมืองเล็ก ๆไปเลย และเบื้องหลังความยิ่งใหญ่นี้ก็มาจากราชวงศ์ซึ่งปกครองโรมานอสซาร์มาตลอดสามพันปี

ราชวงศ์โรมานอส

บ้างก็ลือกันว่าพวกเขาทำพันธะสัญญากับมังกร บ้างก็ว่าพวกเขาคือตัวแทนของเทพสงคราม แต่ที่แน่ ๆก็คือเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์จะมีพลังเวทอันสูงส่ง เกิดมาภายใต้รัศมีแห่งผู้กล้า และด้วยเหตุนี้ทำให้ในยุคสงครามพวกเขานำทัพชนะศึกนับครั้งไม่ถ้วยจนโรมานอสซาร์เติบโตขยายดินแดนกว้างไกลออกไป

เมื่อสิ้นสุดยุคสงคราม คนในโลกนี้เริ่มหันมาทำการค้ากันมากกว่าจับดาบ ราชวงศ์โรมานอสเองก็ดันฉลาดปราดเปรื่องมีหัวทางด้านการค้าขึ้นมาอีก เรียกได้ว่าทั้งบุ๋นทั้งบู๊พวกเขากวาดกินเรียบ

ความยิ่งใหญ่นี้ก็ได้สืบต่อมาตลอดสามพันปีกระทั่งถึงยุคของราชินีเอนเดล พระนางคือกษัตริย์หญิงพระองค์แรกท่ามกลางประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสามพันปี

แม้นางจะเป็นสตรีแต่ก็ปกครองแผ่นดินด้วยความแข็งแกร่งและปราดเปรื่อง ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม กระทั่งมีข่าวลื่อว่านางลอบปลงพระชนม์พระอนุชาซึ่งเป็นรัชทายาทในสมัยนั้นเพื่อแย่งชิงบัลลังก์

ด้วยความที่นางเป็นกษัตริย์หญิงทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นอยู่แล้วตั้งแต่แรก เมื่อมีข่าวลื่อเช่นนี้แพร่ออกมาก็สร้างความระส่ำระส่ายในเป็นวงกว้าง หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องราวทางการเมืองขึ้นมากมาย โครงการที่พระนางริเริ่มถูกตรวจพบว่ามีการโกงกินภาษี

บัลลังก์ขององค์ราชินี่เริ่มสั่นคลอน

และ15ปีก่อน บัลลังก์ของพระนางก็ถูกโค่นล้มเมื่อมีอัศวินกลุ่มหนึ่งออกมาแฉว่าพระนางร่วมมือกับลัทธินอกรีต สร้างความปั่นป่วนตามชนบทเพื่อเก็บภาษีค่าดูแลกองทัพเพิ่ม

สุดท้ายพวกชาวบ้านก็ออกมาต่อต้าน เหล่าอัศวินกรีฑาทัพออกมาร่วมขบวน

แล้วการปฏิวัติก็บังเกิด ปราสาทน้ำแข็งอันงดงามถูกเผามอดไหม้ ราชินีถูกตัดหัวเสียบประจาน โอรสกับธิดาทั้งสามของนางหายสาบสูญไม่ทราบชะตากรรม

เมื่อสิ้นราชินี เจ้าชายกับเจ้าหญิงหายสาบสูญ  บัลลังก์ไร้ผู้ครอบครอง

โรมานอสซาร์ขาดผู้นำอยู่ราวหกเดือนผู้นำทัพกบฏนามเรธาก็สถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์

เรื่องราวควรจบลงตรงนี้ ตรงที่เรธากับราชวงศ์ใหม่ของเขาปกครองดินแดนแห่งทุ่งหิมะอันยิ่งใหญ่สืบต่อไป ทว่ามันไม่ใช่ 10ปีหลังจากนั้นตัวละครที่พีคที่สุดก็ปรากฏตัวออกมา

ดาร์กลอร์ด

ตอนที่ผมอ่านเจอชื่อนี้มือของผมชื้นเหงื่อไปหมด ไม่คาดฝันมาก่อนว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์นี้

ดาร์กลอร์ดไม่ได้ปรากฏตัวเดบิวต์เป็นเจ้าลัทธินอกรีตอันดาษดื่น

เขาฉายเดี่ยว

ตัวเขาคนเดียวบุกเข้าวังหลวง เด็ดหัวกษัตริย์เรธาที่ได้บัลลังก์มาจากการก่อกบฏ และเขาก็เริ่มลงมือตามฆ่าอัศวินที่เป็นผู้ปลุกระดมชาวบ้านทีละคน เมื่อปลิดชีวิตขุนพลเสร็จเขาก็เริ่มลงมือกับอัศวินยศรองลงมา และเหล่าชาวบ้านอีกหลายคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เป็นแกนนำในการโค่นล้มรางวงศ์โรมานอสทั้งสิ้น

ดาร์กลอร์ดเป็นใครมาจากไหนไม่มีใครทราบ

สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้ก็คือด้วยกำลังของเขาเพียงคนเดียวสามารถสังหารอัศวินเจ็ดพันคน ขุนนางในราชสำนักนับร้อย และชาวบ้านอีกเป็นขโยงได้ในเวลาเพียงสิบวัน!

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว บางคนก็ออกมาวิเคราะห์ว่าดาร์กลอร์ดคือองค์ชายที่หายสาบสูญ เขากลับมาแก้แค้นแทนพระมารดา บ้างก็บอกว่าเขาคือสุนัขรับใช้ราชินีทรราช

แม้สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ตัวตนของเขา แต่สิ่งที่เขาทำกับโรมานอสซาร์มันมีผลกระทบมากกว่าการฆ่าคน เพราะคนที่เขาฆ่าล้วนเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในยุคนั้นทั้งสิ้น เขาฆ่าทั้งพระราชา อัศวินและขุนนางซึ่งเป็นสิ่งค้ำจุนประเทศ

ราชอาณาจักรโรมานอสซาร์เหมือนตึกเวลเทรดที่ถูกเครื่องบินพุ่งชน

ล่มสลายในชั่วข้ามคืน

ประชาชนจากที่เคยอยู่ดีกินดีกลับตกอับ ค่าเงินทรุด เศรฐกิจล่ม ความสัมพันธ์ทางการค้าพัง กองทัพก็อ่อนแอลง

คำว่ายับเยินยังน้อยไป มันเหมือนโยนลูกคุณหนูตระกูลใหญ่เข้ากองขยะ

“นี่มัน...”ผมปิดหนังสือ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ค่อยลุกเดินไปเก็บเข้าชั้น

ผมต้องใช้เวลาย่อยข้อมูลต่ออีกร่วมห้านาที

จากประสบการณ์อ่านนิยายของผม ผมไม่อยากปักเชื่อว่าราชินีเอนเดลเป็นทรราช

เซนส์ของผมร้องเตือนว่าไอ้เรธาที่ยึดบัลลังก์ไปและแต่งตั้งตัวเองเป็นพระราชาแบบหน้าด้าน ๆนั่นแหละที่เป็นตัวโกง!

“ถ้าพล็อตปูมาแบบนั้นจริงดาร์กลอร์ดก็เป็นผู้ถูกกระทำน่ะสิ หรือเขาจะเป็นเจ้าชายที่หายสาปสูญจริง ๆ”ผมขมวดคิ้วเป็นปม”แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ลันเทียกับท่านเอเทมจะใส่อินเนอร์รุนแรงตอนพูดถึงบ้านเกิดก็ไม่น่าแปลกใจ”

ผมถอนหายใจอ่อน

ดูเหมือนนับจากนี้ผมต้องหลีกเลี่ยงการพูดถึงโรมานอสซาร์และสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับโรมานอสซาร์ให้มากที่สุด

 ผมเดินออกมาจากห้องสมุด เพิ่งรู้ตัวว่ามืดขนาดนี้แล้ว รอบ ๆเงียบเป็นป่าช้า ยังดีที่หันไปแล้วเจอบรรณารักษ์นั่งอยู่ไม่งั้นคนกลัวผีแบบผมต้องก้าวขาไม่ออกแน่ ๆ

ผมมองไปรอบ ๆอย่างเคร่งขรึม ดูเหมือนผมเองก็อินกับโรมานอสซาร์มากไปหน่อย นั่งอ่านหนังสือจนไม่รู้วันรู้เวลา ท้องฟ้ามืดแบบนี้ในกองทัพแทบไม่เหลือใครแล้วผมจะกลับบ้านยังไงเล่า!

ผมเครียดจนต้องยกนิ้วโป้งขึ้นมากัดเล็บ

กองทัพหลวงกว้างใหญ่ไพศาล หนทางกลับบ้านของผมก็เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา

พลันหางตาผมเหลือบไปเห็นเข้ากับรถม้าคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่หน้าทางเข้าห้องสมุด มันคือรถที่เทียมด้วยเพกาซัสสี่ตัว แม้จะไม่มีป้ายทะเบียนเหมือนรถเก๋งที่โลกเก่าแต่ผมก็จำแนกได้ทันทีว่านี่คือรถม้าของใคร

ผมเดินเข้าไปด้อม ๆมองภายในรถม้ากลับไม่พบใคร

“หรือเขาจะอยู่ในห้องสมุด”ผมลองหันหลังกลับไปดูแต่ดูเหมือนบรรณารักษ์กำลังจะปิดห้องสมุดแล้วจึงไม่น่ามีใครหลงเหลืออยู่ในนั้น

ผมยังคงขมวดคิ้วอยู่สักพักก่อนตัดสินใจปีนขึ้นไปนั่งในรถม้าอย่างถือวิสาสะ

ก็ไม่ช่วยไม่ได้นี่! ข้างนอกยุงเยอะจะตาย ในรถม้าของท่านเอเทมมีอาคมกันแมลงกางไว้แถมยังมีอาคมปรับอุณหภูมิอีก เครื่องอำนวยความสะดวกสารพัดจะให้ผมทำตัวมีมารยาทยืนรออยู่ข้างนอกก็ไม่ใช่ป๊ะ!

ผมขึ้นมานั่งแกว่งขารอในรถม้าอีกเกือบครึ่งชั่วโมง บรรณารักษ์ดูเหมือนจะนอนในห้องสมุดเลยเพราะหลังจากเขาปิดไฟปิดประตูหน้าผมก็ไม่เห็นเขาเดินออกมา

“ท่านเอเทม มัวทำอะไรอยู่นะ”

“เจ้านั่นแหละ กำลังทำอะไรอยู่”

“อุ๊ย พูดปุ๊ปก็มาปั๊ป”ผมหันไปฉีกยิ้มให้คนมาใหม่ ดูเหมือนท่านเอเทมจะเดินมาจากอีกทางซึ่งไม่ใช่ห้องสมุดแต่ผมไม่ทันมองว่าเขามาจากไหน รู้ตัวอีกทีเขาก็โผล่หัวเข้ามาในรถและเอ่ยเสียงดุใส่ผมเสียแล้ว

“ใครอนุญาตให้ขึ้นมา”

“ข้าขอขึ้นมาหน่อย วันนี้ทำงานเหนื๊อยเหนื่อย ท่านช่วยพาไปส่งที่บ้านได้ป่าว”ผมส่งเสียงออดอ้อน

“ได้ข่าวว่าตลอดบ่ายวันนี้เจ้ามุดหัวอยู่ในห้องสมุด ไม่ได้ทำงานทำการเป็นชิ้นเป็นอัน”

“อุ๊ย ท่านใส่ใจเรื่องของข้าถึงเพียงนี้เชียวเหรอ”แม้จะมีชะงักไปหน่อยตอนที่โดนตำหนิแต่ผมก็ปรับสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว ผมย้ายก้นตัวเองไปนั่งที่นั่งฝั่งเดียวกับเขาและเริ่มเอาตัวเข้าไปกระแซะตามความเคยชิน

ผมลืมเรื่องที่ต้องแต่งงานกับเขาเพื่อกลับบ้านไปแล้ว สิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้คือความเคยชิน เวลานั่งบนรถม้ากับเขาสองต่อสองร่างกายของผมก็ขยับไปเองโดยอัตโนมัติ

ท่านเอเทมพยามสะบัดแขนที่โดนผมเกาะแต่มือผมเหนียวเป็นตังเมเขาสะบัดไม่หลุดหรอก

“ท่านกลับดึกขนาดนี้อาหารที่แม่ครัวที่ท่านจ้างมาแค่มื้อเย็นคงชืดไปหมดแล้ว ทำไมท่านไม่แวะทานมื้อค่ำที่บ้านสักมื้อล่ะ รับร้องว่ารสมือของลันเทียไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

คนตัวสูงกว่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย”อย่าทำให้ข้ารำคาญ วันนี้ความอดทนของข้าถูกใช้ไปหมดสิ้นแล้ว”

“วันนี้งานยุ่งหรือ”ผมถามไถ่อย่างเอาใจใส่“มิน่าท่านถึงได้กลับดึกขนาดนี้”

“ฝ่ายขุนนางไม่เคยพูดรู้เรื่อง เข้าประชุมกี่ครั้งก็ทำแต่เรื่องเกะกะลูกตา”

“ฮะ ๆ ๆ ข้าเข้าใจ ๆ ยิ่งได้ยินว่าวันนี้ท่านเหนื่อยข้ายิ่งอยากให้ท่านแวะทานข้าวที่บ้านข้ามากขึ้น”

ท่านเอเทมหันมามองหน้าผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตร คาดว่าเขากำลังจะถีบหัวผมลงจากรถม้าคันนี้ในอีกสามวินาทีข้างหน้า

ผมรีบเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนที่จะโดนถีบจริง”มันจาไส้เนื้อกวาง! ที่บ้านข้ามีเนื้อกวางอยู่ ให้ลันเทียเป็นคนทำ ท่านคิดว่าไง”

แววตาของอีกฝ่ายฉายแววอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ผมลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าตนเองจะไม่โดนถีบตกรถม้าอีกแล้ว

มันจาเนื้อกวาง คือเมนูโปรดของท่านเอเทมซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยาสารเล่มหนึ่ง

และมันจาคืออาหารประจำราชอาณาจักรโรมานอสซาร์

อาหารของบ้านเกิดที่ทำโดยลันเทียผู้มาจากสถานที่เดียวกัน

“มันจาจานนี้หาได้ยากนักในอัสโตเรีย”ผมรีบเอ่ยเติมเชื้อไฟ

หลังจากชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ในที่สุดท่านเอเทมก็ยอมพยักหน้าตกลง

ผมแอบอมยิ้มเมื่อพบว่าตนเองกำจุดอ่อนของท่านเอเทมไว้ได้อย่างอยู่หมัด จุดอ่อนของเขาก็คือความเดียวดายกับบ้านเกิดอันแสนคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นคนเข้มแข็งอย่างไรก็ต้องยอมสยบให้กับสองสิ่งนี้

ความเดียวดายกับความรู้สึกถวิลบ้านเกิดอันเป็นที่รักงั้นหรือ

“บางที ที่ข้าเข้าอกเข้าใจท่านทั้ง ๆที่ท่านแทบไม่เคยแสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้าสักครั้ง คงเพราะข้าเองก็เผชิญกับความรู้สึกเดียวกับท่าน”ผมเปรยกับตัวเอง ท่านเอเทมก็ไม่ได้คิดถามว่าผมกำลังเพ้อเจ้ออะไรอยู่ หากแต่ผมกลับเอ่ยประโยคนั้นในใจ

และสาเหตุที่เขาเปิดใจให้ผมมากเป็นพิเศษก็คงด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เอง



--------------------------------

เผือกอย่างไรให้ได้ความรู้ 5555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น้องเผือกได้น่ารักมากค๊ะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ปริศนามาเพิ่มอีกแล้ว

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไม่น่าเชื่อว่า  คนอย่างการันต์  จะอ่านหนังสืออย่างอดทนในยาวนานขนาดนั้น

ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด