เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62  (อ่าน 39807 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
5555555
ไม่แต่งเพื่อการกุศลแต่จะแต่งใช่ม๊าาาาถ้ามีรัก

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอนะค้าา สนุกมาก ชอบๆๆๆ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มาต่อไวไว  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mamajie

  • ต้องตื่นก่อน , จึงรู้ว่า , ที่ผ่านมาคือความฝัน.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หนุกมากกกกก ตามหาแนวนี้นานแล้วจ้า

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่10

“โอ๊ะ ถึงแล้วเหรอ”ผมผู้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแจ่มใส สีหน้าแววตาของผมตอนนี้เปลี่ยนไปจากตอนที่รู้ความจริงว่าตัวเองอาจโดนลากคอไปประหารเมื่อไหร่ก็ได้ลิบลับ

ท่านอัศวินผู้เกรียงไกรไม่ตอบคำถามผม เมื่อม้าเพกาซัสของเขาแลนดิ้งลงสู่พื้นเขาก็เปิดประตูลงจากรถม้าไปเลย

ท่านเอเทมกำลังงอนผมอยู่ เอ่อ ความจริงเขาไม่ได้งอนผมหรอกเขาก็แค่เย็นชาของเขาตามปกติ แต่ผมเลือกใช้คำว่างอนเพื่อเพิ่มระดับความกุ๊กกิ๊ก เพราะหลังจากที่มุกเล่นมุกเสี่ยวใส่เขาไปไม่ว่าผมจะพูดหรือทำอะไรเขาก็ไม่ชายตามองผมอีกเลย

“ที่นี่ที่ไหนเหรอ”ผมเดินต้อยๆตามเขา

พวกเราสองคนอยู่บนเนินเขาซึ่งอยู่ห่างออกมาจากกองทัพหลวงพอสมควร ขนาดนั่งรถเหาะมายังกินเวลาตั้งนานผมจึงไม่กล้าหยอดมุกจีบอะไรท่านเอเทมอีกเพราะว่ากลัวโดนเขาทิ้ง!

สถานที่แห่งนี้คือเนินหญ้าซึ่งทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา และในตำแหน่งที่สูงที่สุดก็มีแท่นหินขนาดใหญ่อยู่

ท่านเอเทมพาผมเดินไปที่แท่นหิน เมื่อเข้ามาใกล้ผมจึงรู้ว่าแท่นแห่งนี้มีลักษณะเหมือนแท่นสำหรับทำพิธีอะไรสักอย่างเพราะบนแผ่นหินมีลายอักขระยึกยือสลักอยู่

ผมไม่เคยเห็นอักขระน่าขนลุกพวกนี้มาก่อน

ทว่าผมกลับอ่านมันออก

ทำไม...ผมถึงอ่านออก?

คำตอบก็ง่ายนิดเดียว ผมคงได้สกิลภาษามาจากดาร์กลอร์ดเป็นเหตุให้ผมสามารถพูดภาษาของคนมิตินี้ได้ ตอนแรกผมไม่ได้เอะใจแต่พอเอะใจแล้วก็ต้องร้องเอ๋~~~~ยาวๆ

อักขระเวทพวกนี้ก็คงเป็นหนึ่งในภาษาเวทมนต์ที่ดาร์กลอร์ดอ่านออกเขียนได้

“เวท...ผูกวิญญาณ อา...ที่ท่านบอกข้าก่อนหน้านี้สินะ ว่าแต่เวทนี้มันเป็นอย่างไรหรือ หวังว่าท่านจะไม่ผนึกวิญญาณของข้าเอาไว้ในที่ไกลผู้ไกลคนแบบนี้หรอกนะ!!”ผมรีบโวยวายไว้ก่อน

“ข้าจะผูกวิญญาณของเจ้ากับข้าไว้ด้วยกัน หลังจากนี้พวกเราจะรับรู้กันและกันว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน”

“หะ ข้าก็จะรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนด้วยงั้นหรือ?”

“ใช่”

“ท่าน...ไม่ทุ่มสุดตัวไปหน่อยหรือ”

“ศาสตร์ต้องห้ามที่ดาร์กลอร์ดถือครองเอาไว้น่ากลัวกว่าที่เจ้าคิด แค่ต้องผูกวิญญาณกับเจ้า ข้าคิดว่ามันคุ้มค่า”

“แล้วถ้าเอ่อ...สมมติว่าวันใดวันหนึ่งความจริงปรากฏว่าคนที่สลับตัวกับข้าไม่ใช่ดาร์กลอร์ดล่ะ ท่านเล่นใหญ่ขนาดนี้ไม่เท่ากับศูนย์เปล่าเหรอ”ผมยกเหตุผลอื่นมาอ้าง ความจริงผมแค่อยากรู้ว่าถ้าผมกลับโลกเดิมไปแล้วเวทนี้จะยังมีผลอยู่หรือไม่

“เวทนี้ผูกได้ย่อมแก้ได้ ขอแค่วันนั้นมาถึง เจ้ากับข้ากลับมาที่นี่พร้อมกันและทำพิธีตัดสัมพันธ์ เพียงเท่านี้เจ้ากับข้าก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

“อ้อ...”ผมพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ”งั้นก็เริ่มกันเถอะ”

ขณะนี้พวกเราสองคนยืนอยู่บนแท่นศิลา หันหน้าเข้าหากัน ระยะห่างไม่มากนัก ท่านเอเทมเป็นฝ่ายยื่นมือมาข้างหน้า ผมก้มลงมองมือหนาของเขาเงียบๆรอดูว่าเขาจะทำอะไรต่อ เข้าใจไปว่าเขาผายมือออกมาเพื่อเตรียมร่ายเวท แต่ดูเหมือนผมจะตีความหมายผิดไปหน่อย

“ส่งมือเจ้ามา”เสียงทุ้มกล่าว

“อ้อ ท่ดๆ”ผมหัวเราะเก้อๆ คนเราก็เน๊าะ ไม่พูดออกมาแล้วผมจะไปรู้ไหม!

ผมเอื้อมมือไปแตะๆเขา จิ้มๆอย่างกล้าๆกลัวๆอยู่สักพักจึงค่อยๆวางมือลงบนฝ่ามือของเขาอย่างแผ่วเบา อืมมม เมื่อกี๊บนรถม้าผมได้กุมมือท่านเอเทมแล้วก็จริงแต่นั่นก็สัมผัสโดนแค่หลังมือ ผมเพิ่งรู้ว่าฝ่ามือของอัศวินมันหยาบกร้านขนาดนี้

ผมใช้ปลายนิ้วเกลี่ยอุ้งมือของท่านเอเทมอย่างเผลอไผล”ท่านต้องฝึกหนักมากจริงๆ”

ผมเคยจับมือของลันเทีย สารภาพตรงนี้เลยว่าหลอกจับเพื่อแต๊ะอั๋ง แต่เจ้าตัวไม่รู้ ซื่อๆให้ผมจับไป มือของลันเทียนุ่มยังกับก้นเด็ก และนี่คือเหตุผลที่ลันเทียเองก็ต่อสู้ด้วยดาบไม่เก่ง

คนที่ฝึกดาบมาอย่างหนักต้องมีมือแบบนี้

“หลับตา”

“อา...”ผมขานรับในลำคอ

ท่านเอเทมเป็นคนเย็นชาที่ไม่ใจเย็นเลยสักนิด

“อืมมม”ริมฝีปากบางของผมเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อหลับตาแล้วประสาทสัมผัสส่วนอื่นก็ทำงานดีขึ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตรงฝ่ามือที่ถูกมือหนากอบกุมเอาไว้ ท่านเอเทมบรรจงลูบปลายนิ้วโป้งของเขาบนหลังมือของผมอย่างแผ่วบา เขาท่องคาถาสองสามคำท้องน้อยของผมก็รู้สึกร้อนวูบ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะทั้งๆที่ยืนอยู่บนพื้นดิน

“อย่าเกร็ง”

“ตะ แต่มัน...”

“แค่เจ้ายอมรับพลังเวทของข้าเข้าไปในร่าง อย่าต่อต้าน ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไร ยอมให้ข้าเข้าไปข้างใน”

เขาไม่ได้เตี๊ยมกับผมสักคำว่าเวทผูกวิญญาณอะไรนี่มันผูกยังไง แล้วขั้นตอนการผูกมันมีอันตรายหรือไม่ มาถึงก็ขอมือแล้วก็ยัดพลังของตัวเองเข้ามาในร่างของผมดื้อๆ

มันอึดอัดเพราะสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามา

คิดว่าเวทมนต์ของท่านเอเทมเป็นสิ่งเล็กๆหรือไง!? ถึงแม้ว่าเขาจะพยามปรับปริมาณลงมาแล้วก็ตามทีแต่มันก็มากเกินไปสำหรับไอ้หน้าอ่อนอย่างผมอยู่ดีนั่นแหละ

“อึก...”เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพลายเต็มหน้าผากขาว ผมรู้สึกตัวเองกำลังสั่นและเวียนหัวอย่างหนัก อะไรบางอย่างในร่างกายกำลังต่อต้านสิ่งที่ท่านเอเทมกำลังถ่ายทอดเข้ามาอย่างรุนแรง

ผมคิดว่าสิ่งที่กำลังต่อต้านเวทมนต์ของท่านเอเทมก็คือเวทมนต์ในตัวผมเอง

ไม่สิ...มันอาจจะเป็นเวทมนต์ของดาร์กลอร์ด

พลังของผู้ยิ่งใหญ่ระดับเขย่าโลกกำลังต้านกันในร่างของผม!

“อย่าเกร็ง แค่ยอมรับมัน”

“ข้า ข้า ไม่ไหว มัน...ร้อน อึก...”แข้งขาของผมไร้เรี่ยวแรงจนในที่สุดก็ทรุดลง ยังดีที่คว้าไหล่กว้างเอาไว้ได้ทันแต่ในสภาพที่ถูกสั่งให้หลับตาอยู่ก็ทำให้ผมต้องคลำปะป่ายไปทั่วกว่าจะหาหลักยึดที่มั่นเหมาะได้ ร่างของผมอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน มือข้างหนึ่งถูกท่านเอเทมกุมเอาไว้ส่วนมืออีกข้างก็เกาะไหล่อีกฝ่าย ท่าทางจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่

“แฮ่ก ข้า...หายใจไม่ทัน มัน...อึดอัด อึดอัด ฮึก...”

อาการของผมผิดปกติ

ไม่ใช่แค่ผมที่คิดว่ามันผิดปกติ ท่านเอเทมก็เช่นกัน

“แปลก”เขาคงเอ่ยกับตัวเองแต่เนื่องจากเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่เพียงเสื้อผ้ากั้นดังนั้นผมจึงได้ยินชัดเต็มสองรูหู

“แฮ่ก...อา...ข้าไม่ไหว...”ผมร้องโอดครวญอย่างหมดเรี่ยวแรง

“พลังของเจ้ากำลังต่อต้านข้า”

“ฮึก... เอเทม ข้า... ฮ่า...เอเทม”ผมร้องเสียงสั่นเครือ ในที่สุดก็ยืนไม่ไหวแล้วจริงๆ ร่างกายของผมกำลังจะทรุดลงกับพื้นโชคดีที่ได้แขนแกร่งโอบเอวประครองเอาไว้ได้ทัน

“อย่าปล่อยมือจากข้าเด็ดขาด”ท่านเอเทมกำชับผม แต่ตอนนี้ผมมีสติเหลืออยู่แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น รับทราบแล้วแต่ไม่รู้จะปฏิบัติตามได้มั้ย

“ท่านเอเทม...”ผมซุกหน้าลงกับไหล่กว้างอย่างหมดแรง เสียงอ่อนระโหยเอ่ยเรียกชื่อของร่างสูงข้างหูของเจ้าตัวซ้ำวนเวียนไปมา เสียงหายใจติดๆขัดๆขาดห้วงเหมือนคนกำลังจมน้ำ

มือเรียวข้างที่เหลือเลื่อนขึ้นมากำเสื้อด้านหลังของอัศวินหนุ่มเอาไว้เพื่อระบายความอึดอัด

“ข้า...ฮึกก ไม่ไหว มันมากไป ข้ากลัวตาย”

“ไม่เคยมีใครตายเพราะเวทผูกวิญญาณ”

“ข้ากลัว...ท่านต้องปลอบ...ฮึก ไม่ใช่สั่งสอน ฮืออ...”

“อย่าเกร็ง”

“ท่าน ฮึก พูดเป็นแค่คำเดียว อะ...อือ แย่ที่สุด...คนห่วยแตก”

ช่องท้องของผมรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ พลังเวทมหาศาลของคนสองคนกำลังตีกันให้วุ่นอยู่ในนั้น!

ตัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว!

ขณะที่ผมรู้สึกว่ากำลังจะไม่ไหวพลันภาพรอบตัวก็ดับมืด



--------------------------

ท่านเอเทมก็ทุ่มทุนสร้าง ลงทุนขนาดร่ายเวทผูกวิญญาณเบอร์นี้ไม่ผูกใจไว้กะน้องซะเลยล่ะ รับรองนังการันต์หนีไปไหนไม่รอดแน่

#พิชิตใจท่านเอเทม

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai2-1: หูยยยย ตอนเรียกท่านเอเทมนี้ใจบาปมากกกก :-[ :-[

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ต่อๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ทุ่มสุดตัวจริงๆ

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อิอิ ชอบความเนียนแต๊ะอั๋งของน้อง
นี่ขนาดยังไม่ได้จับท่านเอเทมเปิบพิศดารเลยนะ
ยังขนาดนี้.......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ผูกวิญญาณก่อน แล้วผูกใจผูกกายจะตามมา อิอิ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ผูกกายแล้วอย่าลืมถูกใจนะจ๊ะ แล้วจะมีสักครั้งไหมที่น้องไม่เป็นลมต่อหน้าท่านเอเทม 555555

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
พิธีผูกวิญญาณที่ถูกต้องต้องทำที่เตียงค่ะ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :a5: ตอนที่แล้วว่าค้างแล้ว ตอนนี้ค้างกว่า :katai1: :hao5: อยากได้ยาวๆค่ะ ยังไม่หายคิดถึงเลยยยย

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่11

ตั้งแต่ข้ามมิติมาจู่ๆ ผมก็จอดับ ภาพตัด เป็นลมล้มหงายไปแล้วกี่รอบ

นี่ผมเป็นโรคโลหิตจางรึป่าว? หรือเป็นความดัน อา...ให้ตายเถอะ ผมไม่เคยไปหาหมอตรวจโรคพวกนี้มาก่อนเลยด้วยสิ สงสัยว่าปิดเทอมต้องให้แม่พาไปสักหน่อยแล้ว

ว่าแต่ว่าคนอย่างผมยังมีปิดเทอมเหลืออยู่อีกเหรอ ชาตินี้ยังมีโอกาสได้เจอแม่อยู่อีกเหรอ

“แม่...”ผมร้องหาคนที่ไม่ได้อยู่ ณ ที่แห่งนี้

ทุกครั้งที่ผมป่วยแม่จะค่อยเช็ดตัวให้และนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง ตอนเด็กๆ ผมป่วยบ่อยแต่พอโตขึ้นมาผมก็ไม่ป่วยอีกเลยเหมือนใช้โควตาป่วยทั้งชีวิตไปครบแล้ว แต่นั่นก็ทำให้ภาพจำตอนเด็กๆ ยิ่งฝังใจผม

เมื่อตื่นขึ้นมาในห้องนอนไม้เก่าๆ แคบๆ ไม่คุ้นตา ที่ข้างเตียงไม่มีใคร ทั่วทั้งห้องมีเพียงผมอยู่ลำพัง ร่างกายรู้สึกหนักอึ้ง ไม่มีไข้ทว่าปวดหัวจนแทบระเบิด

“ที่นี่...ที่ไหน”ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลแน่นอน

ผมนอนรวบรวมเรี่ยวแรงสักพักก่อนจะลุกขึ้นยืนได้สำเร็จ ผมเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อดูว่าที่นี่คือที่ไหน วิวจากหน้าต่างห้องห้องนี้สามารถมองไปเห็นเนินที่มีแท่นศิลาวางอยู่ทำให้ผมรู้ว่าหลังจากผมเป็นลมท่านเอเทมคงหิ้วผมมาพักฟื้นที่นี่

“แล้วตัวเขาล่ะ...”ผมเริ่มหันซ้ายหันขวา

ผมยังไม่ทันขยับตัวออกจากหน้าต่างท่านเอเทมผู้มีญาณทิพย์(ประชด)ก็เปิดประตูเดินพรวดพราดเข้ามาในห้อง เขาเข้ามาคว้าข้อมือของผมก่อนจะเอ่ยคำพูดอันโหดเหี้ยมอำมหิต เย็นชา ไร้ใจ นิสัยไม่ดี ไม่คิดถึงความรู้สึกผู้อื่น! ออกมาว่า”กลับไปที่แท่นศิลากับข้า”

“ท่านจะบ้าเร้อ!!!!”ผมกรีดร้องเสียงหลงทันที

ผมกลับไปก็ได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้! อย่างน้อยก็ให้เวลานอนพักฟื้นกันหน่อยเซ่!

“ถ้าจะฆ่ากันก็บอกกันมาดีๆ ก็ได้!!”

“หากข้าจะฆ่าเจ้าข้ามีวิธีที่ง่ายกว่านั้นอีกมากมาย”

“ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้จะฆ่าข้าหรอก ท่านแค่ไม่รู้จักคำว่าอ่อนแอ! ท่านคิดว่าท่านไหวคนอื่นก็ต้องไหวไปหมดเหรอ!!”ผมดีดดิ้นอย่างแรง ว่ากันว่าตอนที่ชีวิตเผชิญกับความเป็นความตายร่างกายของเราจะปลดปล่อยพลังแฝงออกมา ในที่สุดผมก็ดิ้นจนเป็นอิสระ

โฮกกก เชื่อเหอะว่าเมื่อกี๊ท่านเอเทมล็อคข้อมือของผมเอาไว้ด้วยแรงบีบอันมหาศาลแต่ผมสามารถดิ้นจนหลุดมาได้!

ข้อมือของผมแดงจนจะเขียวอยู่แล้วแต่ผมไม่สน!

“หรือว่าเจ้าอยากถูกประหารเดี๋ยวนี้!? อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นทำไมไม่ลองอดทนดูอีกครั้ง!!”

เข้าใจคำว่าคนเราถูกฝึกมาต่างกันบ้างมั้ย!”ผมขอแค่นอนพักอีกสักคืน”

“ข้าไม่มีเวลาให้เจ้าขนาดนั้น!”

“ข้าทนไม่ไหวหรอก! ท่านก็น่าจะรู้นี่”เมื่อกี๊สภาพร่างกายของผมเต็มร้อยยังไม่รอด ตอนนี้ผมปวดหัวเหมือนมีคนเอาตะปูมาฝังไว้ในหัว เนื้อตัวก็ปวดเมื่อยไปหมด มองจากมุมไหนก็รู้ผลลัพธ์โดยไม่จำเป็นต้องลองเลยด้วยซ้ำ!

“เจ้าต้องทน! ถ้าไม่ทนก็ตาย”

“ข้าอดทนมามากพอแล้ว ถ้าเป็นไอ้ปิงปองนะป่านนี้มันตายตั้งแต่โคนต้นไม้หมื่นปีโน่นแล้ว”ปิงปองคือเพื่อนสมัยม.ปลายของผมเอง แน่นอนว่าท่านเอเทมไม่รู้จักและไม่คิดจะรู้จักด้วย แต่ผมพูดถึงมันเพราะผมคิดถึงมัน มันเป็นเพื่อนรักโง่ๆ คนนึง ผมอยากเจอหน้ามันตอนนี้เดี๋ยวนี้ ใครก็ได้ส่งผมกลับกรุงเทพที!

ผมเถียงพลางกระโดดขึ้นเตียง แสดงเจตนารมณ์อันแรงกล้า!

กูจะนอน!!

“ออกมาจากผ้าห่มเดี๋ยวนี้”ท่านเอเทมกดเสียงต่ำลง

“ขู่ข้าให้ตายข้าก็ไม่ออกไปหรอก! ไม่อยากเห็นหน้าท่านแล้ว!”

“คนโหดร้าย นิสัยไม่ดี!! ออกไป!! มีอะไรค่อยคุยกันดีๆ พรุ่งนี้!!!! ข้าจะนอนนนน!!!!”ผมตะเบ็งจนคอหอยแทบแตก หวังว่าเสียงของผมจะส่งไปถึงเขา หวังว่าเขาจะถอยกลับไปดีๆ

แต่ผมลืมไปว่าเอเทมไม่ใช่คนอ่อนหวานนุ่มนวล เมื่อเขาพบว่าวิธีขู่ใช้ไม่ได้เขาก็เริ่มใช้กำลัง!

มือหนากระชากผ้าห่มที่ผมใช้คุ้มกะลาหัวออก มันรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัวทำให้ผมร้องจ๊ากเหมือนโดนผีหลอก

“ปล่อยข้านะ อย่าดึง! มันเจ็บ!!”ผมร้องเสียงลั่นห้อง สีหน้าหวาดผวายามถูกจับขึ้นพาดบ่า ท่านเอเทมไม่สนใจคำทัดทานอะไรทั้งนั้นเขากระโดดออกทางหน้าต่างห้อง ใช้เวทเคลื่อนที่ฟึ่บๆ แป๊ปเดียวเราสองคนก็กลับมาที่แท่นศิลาอีกครั้ง

ท่านเอเทมปล่อยผมลงกับพื้น ยังไม่ทันให้เวลาผมตั้งหลักเขาก็คุกเข่าลงมาจับมือของผมไว้และเริ่มร่ายเวท!

โอ้มายก็อด

เหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนฉายย้อนอีกครั้งเหมือนหนังรีรัน แต่คราวนี้ผมลืมตาอยู่มิหนำซ้ำสภาพจิตใจยังระส่ำระส่าย พลังเวทในตัวไม่เสถียรและเริ่มเกิดอาการต่อต้านที่รุนแรงมากกว่าเก่า

จะอ้วก! ผมรู้สึกพะอืดพะอมอย่างหนัก แต่คงเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายชั่วโมงจึงไม่มีอะไรออกมา นับว่าเป็นโชคดีเพราะขืนผมอาเจียนใส่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าเข้าล่ะก็ชีวิตของผมคงจบไม่สวย

“อึก...”ริมฝีปากของผมเม้มเข้าหากันจนเส้นตรง เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังเวทของท่านเอเทมที่แทรกแซงเข้ามาในร่างกาย คราวนี้ผมสัมผัสได้ถึงพลังอันเข้มข้นในร่างกายของตนเองได้อย่างชัดเจน

ผมเป็นมนุษย์โลกธรรมดาที่ไม่เคยมีพลังเวทมาก่อน กลับได้รับพลังของใครก็ไม่รู้มาแบบงงๆ  และตอนนี้ยังโดนอัศวินอันดับหนึ่งยัดเยียดพลังเวทของเขาเข้ามาในร่างอีกต่อ ผมรู้สึกเหมือนเครื่องในตัวเองกำลังจะฉีกขาดก็ไม่ปาน

“เจ็บ!! เจ็บ!! เจ็บบบบ!!!!!”ดูเหมือนเสียงทุรนทุรายของผมจะทำได้เพียงสร้างความรำคาญให้ท่านเอเทมเท่านั้น

เขาลืมตาขึ้นมามองผมอย่างตำหนิเพราะผมส่งเสียงรบกวนสมาธิของเขา

พระเจ้า! เย็นชาไม่แยแสกันเกินไปแล้ว! ผมโดนเขาทำแบบนี้ใส่เริ่มอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายอาศัยจังหวะที่เขาเผลอสะบัดข้อมือของตัวเองออกจากการกอบกุมของอีกฝ่าย เมื่อเป็นอิสระได้ผมก็ไม่รอช้า รีบวิ่งหนีออกมาจากแท่นศิลาทันที ผมรู้สึกเหมือนแท่นนั้นไม่ต่างอะไรกับลานประหาร ขาเรียวจึงซอยยิบ วิ่งแบบเอาเป็นเอาตายทั้งๆ ที่ตอนนี้กำลังเท้าเปล่า ฝ่าเท้าเหยียบหนักๆ ลงบนพื้นหินกรวดเจ็บแค่ไหนก็เทียบไม่ได้กับความเจ็บเมื่อครู่

“แค่ก—“ผมทั้งไอทั้งหอบ รู้สึกเหนื่อยจนหัวใจแทบจะระเบิดสุดท้ายจึงต้องหยุดวิ่ง

พอหยุดวิ่งและเริ่มหายเหนื่อยแล้วถึงรู้ตัวว่าฝ่าเท้าโดนหินบาดจนเลือดไหลอาบเป็นทาง

“ฮึก เจ็บบบบบ”กราฟดวงของผมดิ่งเหวนับตั้งแต่ข้ามมิติมา ทีแรกคิดว่าการโดนสลับตัวมาอีกโลกคือซวยที่สุดแล้วปรากฏว่าไม่ใช่ การโดนสลับตัวมาก็แค่อินโทร ปฐมบทแห่งความบรรลัย

ผมเดินโซซัดโซเซไปนั่งพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ที่สุด

พอได้อยู่คนเดียวจริงๆ จิตใจก็เริ่มฟุ้งซ่าน ผมยกนิ้วขึ้นมานับวันที่ตัวเองข้ามมิติมาอย่างท้อแท้

ผมโดนสลับตัวมาที่นี่เดือนกว่าแล้ว ป่านนี้ที่โลกโน้นคงหาผมกันให้ควั่ก ยิ่งผมเป็นลูกคนเดียวป่านนี้แม่คงเป็นห่วงจนร้องไห้ฟูมฟายไปทั่ว ตำรวจก็คงหาเบาะแสอะไรไม่ได้เพราะผมหายตัวไปในห้องนอนของตัวเองแบบไร้ร่องรอย กล้องวงจรปิดกี่ตัวก็ไม่มีวันเจอภาพผมเดินออกมาจากหอพัก

สมมติว่ากลับไปไม่ได้จะเป็นยังไง?

ติดคุก? โดนประหาร? หนีการตามล่าและพเนจรตลอดชีวิต?

 แล้วสมมติว่ากลับไปได้ แต่เสียเวลาอยู่ที่โลกนี้หลายปีล่ะ กว่าจะได้กลับก็อายุเยอะเกินวัยเรียนแล้ว ผมจะทำมาหากินอะไร เพื่อนฝูงก็คงแต่งงานมีครอบครัวไปหมด อายุสามสิบแต่ยังต้องเข้ามหาลัยงั้นหรือ

“ไอ้เวร ใครก็ตามที่สลับตัวกับกูขอให้มึงไม่ตายดี”

แกร่ก

ท่านเอเทมเดินเข้ามาใกล้ ผมไม่แปลกใจที่เขาตามมาทัน ความจริงเขาจะตะครุบผมเอาไว้ตั้งแต่แรกเลยก็ได้แต่เขาก็ไม่ทำ ร่างสูงค่อยๆ สืบเท้าเข้ามาใต้ต้นไม้อย่างใจเย็น ผมเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วก็รีบก้มหน้าลงมาใหม่ แค่สบตากับอีกฝ่ายผมก็รู้สึกเหมือนโดนสาปเป็นรูปสลักน้ำแข็งแล้ว

“มันเจ็บ”เสียงของผมสั่นเครือ

คนฟังถอนหายใจก่อนค่อยๆ ย่อกายลงมา คราวนี้ไม่ได้บังคับฉุดข้อมือมาทำพันธะสัญญา ชายหนุ่มเพียงแค่แตะตรงหน้าผากของผมก่อนออกแรงดันเบาๆ ให้ผมเงยหน้าขึ้นมา

ผมเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง ถูกบังคับให้สบตาท่านเอเทมในระยะห่างแค่คืบเท่านี้มันน่าสยองยิ่งกว่าเข้าบ้านผีสิงคนเดียว เพียงแต่คราวนี้การกระทำของเขาไม่ได้น่ากลัวเท่าเมื่อครู่แล้วผมจึงรอดูว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไรต่อไปกับตนอย่างสงบเสงี่ยม

“หลับตา”

เสียงทุ้มออกคำสั่งแบบเดิมผมจึงเกิดอาการลังเล

กลัวว่าจะโดนทำแบบเดิมอีก

“หลับตา”

“ท่าน...”ผมอยากจะถามว่าเขาจะทำอะไรกับผม แต่เพราะแววตาของท่านเอเทมช่วยทำให้ผมใจเย็นลงอย่างน่าอัศจรรย์สุดท้ายจึงยอมปฏิบัติตามคำสั่งของอีกฝ่าย

เมื่อหลับตาลงได้สักพักผมก็สัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้ขึ้น ฝ่ามือหนาที่ใช้ดันหน้าผากของผมอยู่ค่อยๆ เลื่อนมาที่ท้ายทอยแทน ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจของท่านเอเทมที่เป่ารดบริเวณแก้มบ่งบอกว่าเขาขยับเข้ามาใกล้มากกว่าเมื่อกี้ แล้วหลังจากนั้น ริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงมาบนกลีบปากของผม

นะ...นี่มัน

...

...

จูบบบบบบบบบบบ!!!!?



-------------------------------------------

ฮั่นน่อวววววว จูบน้องทำไมคะพี่ 5555

#พิชิตใจท่านเอเทม

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ท่านเอเทมอย่าใจร้ายกับน้องนักสิ แล้วมาจูบน้องทำไมเนี่ย

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
สงสัยมาทำพันธะสัญญาต่อ

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ไม่อ่อนโยนเลยซักนิี้สสสสสส

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
สนุกกอ่ะ ชอบวายแนวนี้! >.,<

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
นี่คนหรือก้อนหิน

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
นี่อย่าบอกนะว่ามาทำพันธะสัญญาต่อแต่เปลี่ยนมาทำด้วยการจูบแทนน่ะ

ออฟไลน์ AllTheWay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่12

ผมสะดุ้งเป็นกุ้งโดนน้ำร้อนลวก ท่านเอเทมเกิดพิศวาสอะไรผมเหรอ หรือที่ผ่านมาไม่ใช่แค่ผมที่อยากแต่งงานกับเขาใจจะขาด กรี๊ดดดดด แม่!! แม่ได้ลูกสาวจริงๆ แล้ว! ผมขอโทษที่ครองความเป็นชายเอาไว้ไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง แค่โดนคนหล่อดูดปากทีเดียวผมก็ค้นพบตัวเองแล้ว

ซะที่ไหนล่ะโว้ย!!!

ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายทาบทับลงมาช้าๆ  มันไม่อุกอาจแต่มันโคตรเซอไพรส์ ผมรู้สึกเหมือนริมฝีปากตัวเองกำลังมีไฟลุกท่วม มันเป็นจูบที่ทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบยิ่งกว่าจูบไหนๆ  เพราะนี่ไม่ใช่แค่การจูบแต่เป็นการถ่ายพลังเวทเพื่อทำพันธสัญญากัน

ครับ ท่านเอเทมกำลังถ่ายทอดพลังเวทของเขาเข้ามาในร่างกายของผม ต่างจากครั้งแล้วตรงที่เขาใช้ปากเป็นสื่อกลางการถ่ายพลังแทนฝ่ามือ

“อือ...”ผมส่งเสียงนุ่มร้องเครือครางในลำคอเมื่อรู้สึกถึงปริมาณเวทที่ถูกถ่ายโอนเข้ามาในร่างกาย

ท่านเอเทมก็ไม่มีปราณีกันเลย ไม่ว่าจะเป็นจูบหรือการผูกวิญญาณ รับมือเพียงแค่อย่างเดียวผมก็แทบไม่ไหวแล้ว

ลิ้นร้อนๆ ของเขาค่อยๆ เลาะเล็มบริเวณกลีบปากที่เม้มจนแทบเป็นเส้นตรงของผม มันเป็นกระบวนการปกป้องตัวเองโดยอัตโนมัติของผมเอง แต่ดูเหมือนการกระทำของผมจะสร้างความขัดใจให้แก่อีกฝ่ายไม่น้อย เขาค่อยไลเรียวลิ้นไปตามริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา ประทับจูบลงมาย้ำๆ

ฝ่ามือหนาลูบคลึงท้ายทอยของผมอย่างเร่งเร้า

ร่างกายของผมเริ่มเสียความควบคุมเข้าไปทุกที

“ฮืม...”ผมครางเสียงแผ่วในลำคอ ช่างเป็นเสียงที่น่าอับอายทว่าผมก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไป

ผมค่อยๆ เผยอปากเพื่อยอมรับเข้าเขามา ท่านเอเทมเองก็ไม่รอช้า เหมือนเขารอจังหวะนี้มานานแล้ว ในที่สุดลิ้นของเขาก็รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของผม เขากวาดลิ้นไปทั่ว แถมยังมีไล่หยอกล้อกับลิ้นของผมอีก

นี่มันจะมากเกินไปแล้ว

เขา...จูบเก่งมาก

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง สุดท้ายผมจึงตัดสันใจตอบรับกลับไป คิดว่ามาเลียปากกันขนาดนี้แล้วผมจะชัดลิ้นหนีเหรอ ไม่มีทาง! แม้ว่ายิ่งตอบสนองจังหวะของอีกฝ่ายตัวผมจะยิ่งถูกแผดเผาหนักขึ้นก็ตามแต่ผมก็เริ่มขยับริมฝีปากขมเม้มลิ้นของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

ผมคิดว่าเขาแปลกใจที่ผมตอบกลับไปเช่นนี้

แต่ก็ดี เพราะตอนที่เขาสะดุดผมก็แทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปในปากของเขาบ้าง

“หึ”เสียงทุ้มเปร่งเสียงหัวเราะราวกับชอบใจนั่นออกมา

แล้ววินาทีหลังจากนั้นพายุเพลิงก็พัดโหมเข้ามาในท้องนอนของผม

ท่านเอเทมขบเม้มกลีบปากของผมบนสลับล่างอย่างหนักหลายครั้งก่อนที่เขาจะกลับมาแลกลิ้นกับผมอีกครั้ง คราวนี้แน่นอนว่ามันร้อนแรงกว่าเมื่อครู่ เสียงแลกน้ำลายของเราสองคนเริ่มชัดขึ้นจนผมรู้สึกร้อนหน้าไปหมด

นี่พวกเรากำลังทำอะไรอยู่?

ผูกวิญญาณใช่ไหม อา...ใช่สิ นี่เป็นหนึ่งในพิธีกรรม

แต่สำหรับผมมันเป็นมากกว่านั้น ผมไม่เคยจูบกับใครมาก่อน ยิ่งจูบที่ลึกซึ้งยาวนานจนหายใจไม่ทั่วท้องแบบนี้ยิ่งไม่เคย

ผมรู้สึกหายใจไม่ทันแต่ก็ไม่อยากหยุด อยากให้พิธีกรรมนี้ดำเนินต่อไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืนเลย

การจุมพิตกันและกันอย่างเอาเป็นเอาตายนี้มันมากล้นและรวดเร็วกว่าการถ่ายผ่านมือ และคงเพราะแบบนี้พลังเวทภายในร่างจึงต่อต้านน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการต่อต้านเลย ผ่านไปสักพักผมก็กลับมารู้สึกเจ็บอีกครั้งแม้ไม่เท่าครั้งก่อนแต่มันก็เจ็บเอาเรื่อง สุดท้ายผมจึงอาศัยไหล่กว้างเป็นหลักยึด มือกำเสื้อของท่านเอเทมเอาไว้แน่น ท่านเอเทมเองก็ใจดีขึ้นนิดหน่อย เขาใช้มือข้างที่ไม่ได้รั้งท้ายทอยของผมไว้ค่อยๆ ลูบแผ่นหลังบางเบาๆ

จวบจนกระทั่งการผูกพันธะอันยากลำบากก็สำเร็จลงด้วยดี

ผมรู้สึกสมองของตัวเองขาวโพลนไปหมด มันเหนื่อยเหมือนวิ่งมาราทอน ตรงกันข้ามกับอัศวินหนุ่ม ร่างสูงเพียงแค่ถอนริมฝีปากของตนออกช้าๆ 

ผมมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่ค่อยๆ เคลื่อนห่างออกไปอย่างเสียดาย

แต่ผมก็ไม่คิดจะสานต่ออารมณ์ที่ใกล้ปะทุเต็มแก่นี้เพราะตอนนี้ตัวผมเองก็หอบเป็นลูกหมาแล้ว

ท่านเอเทมไม่ได้รีบร้อนลุกขึ้นยืนและเดินกลับที่พัก เขาปล่อยให้ผมนั่งเกาะไหล่ตนอยู่เช่นนั้นกระทั่งผมตั้งหลักได้

“ท่าน...นั่น...ถึงมันจะเป็นจูบแรกก็เถอะ แต่...ก็ต้องขอบคุณท่านมากสำหรับความเมตตาในครั้งนี้”ผมเป็นเด็กที่พ่อแม่สั่งสอนเรื่องมารยาทมาดี ทีแรกก็อยากจะโวยทวงคืนจูบแรกอยู่หรอก แต่มันก็ฟินดี เอ๊ย ก็รู้ว่าเขายอมเปลืองตัวเพื่อช่วยให้เราสบาย ผมไม่มีอะไรจะกล่าวนอกจากคำว่าขอบคุณ

“ว่าแต่ไม่ต้องอยู่บนแท่นศิลาก็ผูกวิญญาณได้หรือ”

“จุดนี้อยู่ไม่ไกลจากแท่นพิธี และพวกเราก็ใช้วิธีผูกที่ใกล้ชิดกว่าการสัมผัสผิวเผิน”อัศวินอันดับหนึ่งมีสีหน้าเรียบเฉยตามแบบฉบับ เขาดูเป็นปกติมากจนผมต้องรีบเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อซ่อนหน้าแดงๆ ของตน

“อะ...อ้อ แปลว่าพวกเราผูกวิญญาณกันแล้วสินะ”

ผมรู้สึกโล่งอกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อพบว่าตัวเองผ่านพ้นกระบวนการอันสุดทรมานมาได้ผมก็ดีใจจนลืมตัว ลุกขึ้นยืนเหยงๆ โดยไม่ได้ไตร่ตรองถึงแผลเหวอะที่เท้าแม้แต่น้อย แต่ยืนขึ้นมาแล้วจะกลับลงไปนั่งใหม่ก็เสียฟอร์มแย่ ผมเลยได้แต่ร้องซีดเบาๆ และยืนตัวเกร็งเป็นเสาหินไม่อาจกระดุกกระดิกได้อีก

แสบโคตร!

แสบจนน้ำตาเล็ดแต่ต้องยืนตีเนียนฟอร์มว่าไม่เจ็บ

ผมไม่อยากให้เขารู้ว่าผมโง่วิ่งออกมาเท้าเปล่า!

“ระ เรา กลับกันเถอะ!”ผมรีบกัดฟันก้าวเดินฉับๆ ย้อนกลับไปทางเดิม

 แต่ละย่างก้าวโคตรลำบาก

ตอนแรกที่ขึ้นมาบนเนินผมไม่ได้สังเกตเลยมาที่นี่มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ เป็นหมู่บ้านที่มีแค่ไม่กี่หลังคาเรือนเท่านั้นและหนึ่งในบ้านเหล่านั้นก็ได้ให้ที่พักฟื้นร่างกายแห่ผม พวกเขาใจดีมากทีเดียว หรือเพราะเป็นท่านเอเทมขอก็ไม่รู้นะ ฮะๆ ๆ ...

อา...ก็ยังเจ็บอยู่ดี

ขนาดคิดโน่นคิดนี่พยามไม่สนใจแล้วก็ยังเจ็บ

เจ็บโว้ยยยย

“จะถึงแล้ว...”ผมเอ่ยปลอบใจตัวเอง”แต่ขอพักหน่อยเถอะ”

คนเราก็ไม่ได้เข้มแข็งขึ้นชั่วข้ามคืนปานนั้น ผมเดินเหยียบซ้ำแผลตัวเองมาเป็นร้อยก้าวก็ทนต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นมันเสียดื้อๆ  ก่อนจะนอนแผ่บนทุ่งหญ้าอย่างหมดสภาพ

“โฮกกกก”ผมร้องโอดโอยไปพลางมองท่านเอเทมที่เดินตามหลังมาเงียบๆ ตลอดทางด้วยสายตาประดักประเด่อ

“ข้า...เอ่อ ค่อนข้างงี่เง่า ข้าไม่ได้ใส่รองเท้าแต่ก็ยังดันทุรังวิ่งหนีท่านออกจากเสาหิน”ผมยกมือขึ้นมาเกาแก้มอายๆ

“เจ้าทำถูกต้องแล้ว ยามหนีเอาตัวรอดไม่มีใครเขามองหารองเท้ากัน”เสียงทุ้มของอัศวินหนุ่มเอ่ยถึงหลักการเอาตัวรอดนาทีชีวิตด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยถามไถ่”เหตุใดเจ้าถึงไม่ขอความช่วยเหลือ”

“ท่านนั่นแหละ ไม่เสนอความช่วยเหลือ คนแร้งน้ำใจ”ท่านเอเทมทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมตนจึงเป็นคนโดนตำหนิ

“ข้าคิดว่าเจ้าจะรีบฉวยโอกาสขอใกล้ชิดกับข้าเสียอีก”

“ใกล้ชิดกับท่าน? เหอะ!! ใครจะอยากไปใกล้ชิดกันท่านกัน”ผมโบกมือไปหน้า ทำหน้าทำตาเหยียดหยามใส่อีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นดวงตาสีฟ้าคู่เดิมของท่านจ้องกลับมาด้วยความเวทนาผมก็พลันคิดอะไรออก

คนที่ต้องฉวยโอกาสใกล้ชิดกับเขามันก็ผมไม่ใช่เหรอ!!?

ให้ตายเถอะ! ผมลืมไปได้อย่างไรว่าผมต้องอ่อยเขา ใช้มารยาล่อหลอกให้เขาหลงเสน่ห์!!

ผมผุดลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าแตกตื่น เหลียวมองหมู่บ้านที่เดินอีกไม่ไกลก็จะถึงแล้วสลับกับใบหน้าอันหล่อเหลาของคนที่ยืนค้ำหัวผมอยู่ สมองอันปราดเปรื่องของผมประเมิณผลออกมาอย่างรวดเร็ว

“อุ๊ย! ข้าทำของตกไว้ที่ใต้ต้นไม้เมื่อกี๊ ท่านเดินกลับไปเป็นเพื่อนข้าหน่อย!!!!”ความจริงผมอยากขอบคุณเขาที่อุตส่าห์เตือนแต่นั่นมันก็ประเจิดประเจ้อไปหน่อยเลยลุกขึ้นเดินจำๆ กลับไปที่ต้นไม้

ผมไม่ได้ลืมของอะไรไว้หรอก

ผมแค่อยากขอท่านเอเทมขี่หลัง อยากใกล้ชิด อยากอ่อย!! แต่ระยะทางที่เหลือมันใกล้ไปนิดผมเลยต้องทำให้มันไกลขึ้นด้วยการเดินย้อนกลับไป!!

คิดว่าแผนนี้ของผมมันเข้าท่าปะล่ะ

ผมตอบให้ตรงนี้เลยว่าคนคิดแผนแม่งอย่างควาย ตีนเยินขนาดนี้ยังเสร่อฝืนเดินเท้าเปล่าย้อนกลับทางเดิมไม่บ้าก็โง่แล้ว เมื่อออกเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าวผมก็ทนรับความโง่ของตัวเองไม่ไหวจึงหยุดเดิน หันไปข้างหลังก็พบว่าท่านเอเทมไม่ได้เดินตามมา เขายังยืนอยู่ตรงที่ผมนั่งพักเมื่อกี้

“ท่านเอเทม...”ผมร้องเรียกเขาเสียงอ่อย

ส่งสายตาปิ๊งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไปให้

ถามว่าได้ผลไหม

ก็ไม่นะ

ท่านเอเทมดูเหมือนจะไม่สนใจใยดี เขาแค่จ้องมองผมเหมือนกำลังเฝ้าดูละครปาหี่ แม้ว่าใบหน้าคมคายนั่นจะยังเรียบเฉย แต่ทว่านัยน์ตาของเขากลับแฝงด้วยประกายร้ายกาจ

คนคนนี้!! โหดร้ายเย็นชา! เมื่อครู่เราเพิ่งลึกซึ้งต่อกันแต่ตอนนี้ท่านกลับปฏิบัติต่อข้าอย่างไร้เยื่อใย!

“แบกข้ากลับห้องทีสิ!”เมื่อขอร้องอ้อนวอนไม่ได้ผลผมก็ออกคำสั่งแม่งเลย เอากับกูดิ นี่ใคร นี่ความหวังใหม่แห่งกองทัพ พันโทการันต์นะเฟ้ย!

“แผลเท่านี้ไม่ทำให้ใครตาย”ท่านเอเทมตอบหน้านิ่ง

“บ้า! ไม่ตายแต่เจ็บ! เจ็บๆ ๆ ๆ  เดินไม่ไหว อุ้มหน่อย อุ้ม!”

“เวลาออกรบ ทหารบางคนขาขาดยังต้องคลานกลับฐานทัพ แล้วดูเจ้าสิ ขาก็ยังอยู่ครบ—“

“ข้าไม่ใช่ทหารสักหน่อย!”ผมเถียงหน้าซีด แค่มโนภาพทหารขาขาดควานกลับฐานทัพผมก็หลอนแล้ว ยังกับผีป๊อกป๊อกครืดไม่มีผิด!

“แน่ใจนะว่าเจ้าไม่ใช่ทหาร? พันโทการันต์”

“เอิ่ม...”แดกจุดเข้าไปสิ ผมเป็นทหารแล้ว! เพิ่งเป็นวันนี้สดๆ ร้อนๆ เลยด้วย!

ผมแหงนหน้ามองท้องฟ้าซึ่งพร่างพราวด้วยดวงดาวอย่างเคว้งคว้าง

“เจ้าเป็นอัศวิน และข้าก็เป็นแม่ทัพ”ดูเหมือนท่านเอเทมกำลังตอกย้ำสถานะของผม เขากำลังสั่งสอนให้ผมรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

“เดินเองก็ได้ครับ...”ผมก้มหน้าจ๋อย ดีนะที่เดินกลับมาได้ไม่ไกลไม่อย่างนั้นล่ะก็เท่ากับว่าผมเจ็บตัวฟรีสองรอบซึ่งขนาดคนโง่ยังสามารถด่าผมว่าโง่ได้ โง่ในโง่ โง่อินเซ็ปชั่น

ผมเดินโหยกเหยกอย่างเชื่องช้า ไม่กี่ก้าวก็กลับมาถึงจุดที่ท่านเอเทมยืนอยู่ ผมกำลังจะก้มหน้ากัดฟันเดินผ่านร่างสูงของเขาไปทว่าแขนแกร่งของเขากลับเอื้อมมาคว้าเอวของผมไว้

“ท่าน!”ผมแทบกรี๊ดออกเสียงเพราะหลงดีใจคิดว่าเขาจะยอมอุ้มผม

แต่เปล่า ท่านเอเทมไม่ได้อุ้มผม

ไม่ได้อุ้ม...แต่หิ้ว

“หะ...”สภาพของผมตอนนี้น่าอนาถมาก ผมคว่ำหน้าลงกับพื้น แขนขาห้อยต่องแต่งตามแรงโน้มถ่วง โดยท่านเอเทมใช้แขนเพียงข้างเดียวในการหิ้วผมท่านี้

ผมรู้สึกเหมือนเลือดกำลังตกไปกองอยู่ที่หัว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ไม่ปริปากบ่นอะไรเพราะรู้ดีว่าท่าหิ้วนี่คือความปราณีสูงสุดจากท่านเอเทมแล้ว

“ขอบคุณครับ”ผมเอ่ยแทรกความเงียบ อดทึ่งในใจไม่ได้ เขาสามารถหิ้วผมชิวๆ เหมือนหิ้วถุงก็อบแก็บแบบนี้ได้แขนของเขาต้องแข็งแรงมากขนาดไหน

“ถ้าหากในร่างกายของเจ้ามีศาสตร์มืดอยู่จริง ชีวิตของเจ้าคงเจอเรื่องให้ทนอีกมาก มากจนแผลที่เท้านั่นกลายเป็นเพียงเรื่องตลก”สิ้นคำพูดของเอเทมบริเวณนี้ก็เงียบสงัดลง

ผมก้มหน้ามองพื้น

ตัวผมเองก็พอจะเดาได้ว่าถ้าหากกลับโลกเดิมไม่ได้ผมจะต้องเจอกับอะไร

“เมื่อเวลานั้นมาถึง ท่านจะช่วยข้าไหม”



-----------------------------

ท่านเอเทมใจดีกับน้องมากนะ ตอนนี้น้องอยู่ในสถานะอะไร ถ้าไม่ผูกวิญญาณกับท่านเอเทมไว้น้องก็ต้องไปนอนคุกหรือถูกกักบริเวณอะ แต่ท่านเอเทมอาจจะแสดงความใจดีแบบแข็งกระด้างไปบ้าง เย็นชาไปนิดจนน้องใจฝ่อไปหมด 5555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ท่านเอเทมอย่าทิ้งน้องนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ท่านเอเทมไม่ได้เย็นชาเป็นน้ำแข็ง นี่มันไฟสีฟ้าชัดๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ท่านเอเทมช่วยดูแลน้องด้วยนะ

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รออยู่น้าจ้า คิกคิกคิกคิกคิก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด