เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาให้ผมพิชิต(ใจ)อัศวินอันดับหนึ่ง CH30 10/01/62  (อ่าน 39803 ครั้ง)

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
การันต์เป็นคนที่เป๋อๆ ดีครับ น่ารัก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ชอบมากเลยค่ะ อ่านเพลินดี

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่6 PART 2

“ท่านการันต์ ท่านการันต์!!”

ผมได้ยินเสียงของลันเทียกำลังเรียกชื่อนะ แต่มันต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าผมจะหลุดจากโหมดแช่แข็ง

“ฮะ ตอนนี้...คิวที่เท่าไหร่แล้ว”ผมสะดุ้งเบาๆเมื่อลันเทียใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด คนน่ารักตบผมอะ!! ถึงจะเบามือไว้แล้วก็เหอะ เจ็บนะเว้ยยย

“สามร้อยกว่าแล้ว”

“อีกตั้งไกล”

“เหอะน่า ข้าปลุกท่านเพราะอยากให้ท่านดูคนต่อไป นั่นดูสิ เขาคือลูกชายของพลโทมอร์แกนล่ะ”ลันเทียชี้นิ้วไปที่ไปที่ใจกลางสนาม

“แล้วทำไมหรือ”

“พลังเวทมนต์เป็นสิ่งที่สืบทอดทางสายเลือด พ่อแม่ที่เป็นจอมเวทลูกก็เป็นจอมเวท ข้าอยากให้ท่านเห็นกับตาว่าคนที่เป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งปีนี้จะได้คะแนนเท่าไหร่”

“อ่า อือๆ”ผมรับคำ ขณะนี้ผมเริ่มสนใจนายหัวน้ำตาลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกพลโทซึ่งกำลังลงสนามอย่างองอาจนั่น

มาดได้ หน้าตาก็พอใช้ ส่วนคะแนน...

“51002”

“ไม่เลวเลย”ลันเทียปรบมือเปาะแปะ”ท่านเห็นแล้วใช่ไหม คะแนนสูงสุดในแต่ละปีมันก็อยู่ประมาณห้าหมื่นนี่แหละ นานมากๆกว่าจะมีเหยียบไปหลักแสน สวนสถิติหกแสนนั่นคือไม่ใช่คนแล้ว!”ลันเทียที่รัก คนที่เจ้ากล่าวหาว่าไม่ใช่คนก็นั่งอยู่ข้างหน้าเราเนี่ย

เดี๋ยวเขาก็ลุกขึ้นมาต่อยหรอก กั๊ว

หลังจากลูกนายพลคนนั้นปล่อยลูกแก้ว สถิติห้าหมื่นของเขาซึ่งเป็นแต้มสูงสุดในปัจจุบันก็ได้ขึ้นบอร์ดใหญ่รอบโครอสเซียม นับเป็นหน้าเป็นตาแก่วงศาคณาญาติโดยแท้ ผมคิดว่าป่านนี้พ่อของเขาคงยิ้มแก้มแทบแตกแล้ว

และก่อนที่ลูกนายพลจะเดินกลับที่นั่งเขาก็ถูกกันให้ไปนั่งในที่นั่งพิเศษ

“ที่นั่งตรงนั้นสำหรับคนที่ได้คะแนนเกินห้าหมื่นเท่านั้น เพราะด้วยพลังเวทมนต์ที่มากเกินพอทำให้เขาไม่ต้องสอบรอบปฏิบัติแล้ว”

“โห...”ขนาดห้าหมื่นแต้มยังได้รับการปฏิบัติอย่างดีขนาดนี้ ผมล่ะอยากเห็นตอนหกแสนของคนข้างหน้าจริงๆ

“เพราะว่าแค่ใช้เวทมนต์อย่างเดียวก็เก่งมากแล้ว ต่อให้ร่างกายจะอ่อนแอจนยกดาบไม่ขึ้นก็ยังแข็งแกร่ง การทดสอบทางร่างกายจึงไม่จำเป็น”ลันเทียอธิบายเสริมตามประสาผู้รู้

“โห...”ผมล่ะอยากได้ห้าหมื่นแต้มบ้างจะได้ไม่ต้องทดสอบพลังกาย

ผมนั่งดูการทดสอบต่อไปอย่างน่าเบื่อ ส่วนใหญ่คะแนนจะอยู่ที่หลักสิบนั่นแหละครับ ใครหลุดมาหลักร้อยทีทั่วโครอสเซียมก็ส่งเสียงเฮทีอย่างกับเชียร์มวย

จากการนั่งดูทำให้ผมรู้ว่ายิ่งมีพลังเวทสูงเท่าไหร่เจ้าลูกแก้วยักษ์ก็จะยิ่งใช้เวลาประมวลผลนานเท่านั้น

บางคนแค่แตะปลายนิ้วเลขก็ขึ้นแล้ว อันนี้รู้ได้เลยว่าได้ไม่เกิน20แต้มชัวร์

ผมเห็นคนนึงได้สามพันแต้ม หมอนี่แตะอยู่ร่วมยี่สิบวิกว่าตัวเลขจะโผล่

แต่เนื่องจากคนที่ได้คะแนนหลักสิบมันมีเยอะกว่ามากในที่สุดคิว1200-1300ก็ถูกเรียกให้ไปยืนแสตนด์บาย

“โอยยย ข้าตื่นเต้น”ผมร้องโอดครวญ

“ข้าเชื่อว่าท่านมีพลังแฝงมากกว่าข้า ยังไงท่านก็ผ่าน”ลันเทียลูบหลังผมเหมือนเขาเป็นแม่ส่วนผมเป็นลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังร้องไห้เพราะหิวนม

“ฮื๊อออ”ผมขบฟันแน่นจนฟันแทบแตก ใจแทบกระดอนออกจากอกเมื่อพิธีกรกล่าวเรียกหมายเลข1200ขึ้นไปแตะลูกแก้ว

ไอ้หมอนี่ได้แค่32 เดินน้ำตาร่วงออกไป

ใกล้มาก หมายเลขถูกรันอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าพิธีรับปริญญา กระทั่งมาถึงคิวที่1217ของลันเทีย

“สู้ๆ...”ผมกล่าวให้กำลังใจร่างเล็กที่เดินเข้าไปแตะลูกแก้ว เขาไม่ได้ยินเสียงของผมเพราะกำลังรวบรวมสมาธิ

ลูกแก้วยักษ์เรืองแสงอ่อนๆเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้แตะปุ๊บเลขออกปั๊บเหมือนพวกที่ได้แต้มน้อยๆ ลูกแก้วของลันเทียยังคงเรืองแสงทว่าไม่ปรากฏตัวเลขอยู่...เนิ่นนาน

นานกว่ายี่สิบวิของคนที่ได้สามพันแต้มไปแล้ว!!

ผมเบิกตาแทบถลน ตกใจอย่างแรงเพราะไม่คิดว่าคนน่ารักที่ผมตกมาเป็นพ่อบ้านด้วยค่าตัว500เหรียญจะมีพลังเวทมนต์ในตัวสูงขนาดนี้!!

“85421!!”

เสียงของพิธีกรตะโกนลั่นสนาม พลันป้ายประกาศซึ่งชูเลขห้าหมื่นแต้มของลูกพลโทพลันเปลี่ยนเป็นแปดหมื่นของลันเทีย!!

“โอ้ มาย ก็อดดด...”ผมช็อคจนตัวแข็งไปแล้ว

ก่อนจะโดนอัศวินคุมสอบกันไปนั่งโซนพิเศษร่วมกับลูกนายพลลันเทียหันมายิ้มให้ผม ราวกับว่าเขาต้องการย้ำคำพูดของเขาก่อนหน้านี้เพื่อต้องการเตือนสติผม”ข้าเชื่อว่าท่านมีพลังแฝงมากกว่าข้า...”ผมได้ยินเสียงลันเทียไม่จบประโยคเพราะร่างบางโดนดันไปไกลแล้ว

พลังแฝงเยอะกว่าบ้านเตี่ยเธอเหรอ!!?

ผมทำหน้ายับยู่ยี่อย่างรับไม่ได้กับคำพูดหลอกเด็กของอีกฝ่าย

1218 เมื่อพิธีกรประกาศเรียกคิวผมก็ต้องเดินขึ้นหน้าอย่างช่วยไม่ได้

มือของผมสั่นจนสามารถมองเห็นได้จากที่นั่งผู้ชม คนก่อนหน้าผมทำผลงานเอาไว้แต่ไม่มีใครบนอัฒจรรย์ที่สนใจผม พวกเขากำลังแตกตื่นฮือฮากับแต้มของลันเทียซึ่งสูงส่งเทียมเมฆ

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ขณะแตะปลายนิ้วลงบนลูกแก้ว เมื่อพบว่ามันไม่โชว์เลขออกมาทันทีผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิบยี่สิบล่ะวะ...

ผมนิ่ง ลูกแก้วเรืองแสง พิธีกรเงียบ ผู้เข้าสอบคนอื่นๆก็เริ่มหยุดคุยเรื่องของลันเทียและหันมาสนใจผม

ผมนิ่ง ลูกแก้วเรืองแสง พิธีกรเงียบ ผู้เข้าสอบคนอื่นหยุดคุย

ผมนิ่ง ลูกแก้วเรืองแสง พิธีกรเงียบ ผู้เข้าสอบคนอื่นหยุดคุย

ผมนิ่ง ลูกแก้วเรืองแสง พิธีกรเงียบ ผู้เข้าสอบคนอื่นหยุดคุย

ผมนิ่ง ลูกแก้วเรืองแสง พิธีกรเงียบ ผู้เข้าสอบคนอื่นหยุดคุย

“มัน...ไม่นานไปหน่อยเหรอ”ไปหันไปถามอัศวินคุมสอบที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด

เขาเองก็มีสีหน้าเหรอหราเมื่อโดนถาม วินาทีที่เขาเดินไปหาอัศวินอีกคนที่ท่าทางมียศสูงกว่าเสียงเซ็งแซ่พลันเกิดขึ้นรอบสนาม

ขนาดผมไม่เคยมาสอบผมยังรู้เลยว่าแบบนี้มันคือนานเกินไปแล้ว!! ทุกคนในสนามตอนนี้เองก็กำลังขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน

“หรือว่าผมไม่มีพลังเวท”ผมถามหน้าซีด

“ไม่ใช่ ถ้าไม่มีมันจะขึ้นเลข0มาทันที”อัศวินคุมสอบหน้าตาอาวุโสเดินเข้ามาใกล้พลันขมวดคิ้ว

“หรือว่าลูกแก้วเสีย”

“จะเป็นไปได้อย่างไร”

“หรือว่า หรือว่า...”หรือว่าเพราะผมมาจากต่างมิติก็เลยตรวจวัดพลังเวทด้วยวิธีของคนโลกนี้ไม่ได้

ผมเครียดหนักมาก แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นลูกแก้วที่ผมยืนแตะจนเหงื่อซึมมือไปหมดก็เลิกเรืองแสง

“เห้อ เสร็จสักที”ผมก้มหน้าเช็ดเหงื่อกับขากางเกง

“หือ”บรรยากาศในสนามเงียบกริบเหมือนไม่มีคนอยู่ผมจึงต้องเงยหน้ามองคะแนนของตัวเองอย่างสงสัย

และเมื่อเห็นแต้มของตัวเองผมก็ต้องเงียบไปอีกคน

“จะ...600167!!!!!!!!!!”

หกแสน!!!!!!!?



-----------------------------

ที่เด็กโง่ได้แต้มสูงขนาดนี้มีเหตุผลนะจ๊ะ

รอเฉลยตอนหน้า >3<

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หรือว่าน้องจะต้องเอาชนะท่านเอเทมแล้วจับมาเป็นสามีในเรือนเบี้ย
 :laugh:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 o22 น้องจะจับท่านเอเทมทำสัมมีได้รึไม่5555

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


น้องการันต์มีพลังเวทระดับหกแสน ไม่ใช่อี้อี้นะจ้ะ

น้องลันเทียก้อไม่ย่อย.  ได้อัศวินคู่หูคู่ซี้ละงานนี้


 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:



……


ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากกกก​  :pig4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอาแล่วๆๆๆๆๆ การันต์เอ๊ย
พลังเวทย์สูงปรี๊ดเลยจร้าาาาาาา

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่7

“อะ อะ อะไร...ทะ ทะ ทะ ทำไม...”ผมติดอ่างไปแล้วเรียบร้อย ในขณะที่ทุกคนตกใจกลับกลายเป็นผมที่ตกใจที่สุด

หกแสนนี่มัน...น้อยกว่าท่านเอเทมในตำนานนิดเดียวเองไม่ใช่เรอะ!!

ลันเทียบอกผมว่าตอนสอบเข้าท่านเอเทมได้หกแสนกลางๆ ผมได้คะแนนน้อยกว่าเขาห้าหมื่น บ้าไปแล้ว!! แบบนี้ก็แปลว่าผมไม่ต้องแต่งงานกับเขาก็ได้หนิ ปีหน้าผมก็แค่ลงประลองด้วยตัวเอง เป็นอัศวินอันดับหนึ่งมันซะเอง แต่งงานกับตัวเอง แล้วก็กลับบ้าน!!

ผมตัวลอยเป็นลูกโป่งไปแล้ว เดือดร้อนอัศวินคุมสอบต้องเข้ามาหามผมไปยังโซนที่นั่งรวม

ทว่าผมยังไม่ทันโดนหามไปถึงที่นั่งของคนที่ได้แต้มเกินห้าหมื่นก็มีชายแก่คนนึงเดินเข้ามารั้งไว้

“ช้าก่อน”

“ท่านเสนาธิการ?”อัศวินที่หิ้วปีกผมอยู่เรียกชายแก่คนนั้นเช่นนี้

“ข้าขอสอบถามข้อมูลบางอย่างกับเขาสักประเดี๋ยวนะ พอจะพาเขาไปนั่งรอในห้องรับรองได้ไหม”ชายชราลูบเคราสีขาวของตน เขาดูเป็นคุณตาผู้รอบรู้และใจดี นายอัศวินปฏิบัติตามคำสั่งของเขาทันที ผมถูกหิ้วออกมาจากโครอสเซียม เดินออกมาไม่ไกลนักก็เห็นเรือนหลังเล็ก

“เจ้า...ท่านนั่งรอตรงนี้นะ”นายอัศวินปฏิบัติกับผมอย่างสุภาพ

ผมเองยังมีสติกลับมาไม่ครบจึงนั่งเอ๋อๆไม่ได้ตอบสนองอะไร

รอไม่นานนักก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง นำทีมโดยท่านเสนาธิการ ขุนนางและอัศวินชั้นสูงที่ผมเห็นนั่งเรียงรายอยู่แถวหน้าผมเมื่อครู่ และปิดท้ายด้วยท่านเอเทมที่ตกกระป๋องไปแล้วผู้นั้น

พวกเขาเดินเข้ามาล้อมผมก่อนท่านเสนาธิการที่ดูอาวุโสที่สุดจะเป็นคนเอ่ยถาม”เอเทมบอกว่าเจ้าเป็นคนจากต่างมิติ  เจ้ามายังโลกนี้ทางรากของต้นหมื่นปีใช่หรือไม่”

“คะ ครับ!”ผมนั่งตัวเกร็งเพราะไม่รู้ว่าบุคคลชั้นสูงทั้งหลายจะเรียกผมมาคุยเป็นการส่วนตัวเพื่ออะไร

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าการจะข้ามมิติแบบถาวรจะต้องสลับตัวกับตัวตายตัวแทน เจ้ามาที่โลกของเราก็ต้องมีคนจากโลกของเราข้ามไปยังโลกของเจ้า”ขุนนางอีกคนหนึ่งกล่าวถาม

“ครับ”ผมพยักหน้าหงึกหงัก

“แล้วรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่แลกเปลี่ยนกันไม่ได้มีเพียงร่างกาย”ท่านเสนาธิการถาม

ผมส่ายหน้าไปมา อันนี้ผมไม่รู้แล้ว ผู้เฒ่าไม่ได้บอกผม

“หากข้าเดาไม่ผิด โลกของเจ้าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเวทมนต์ใช่ไหม”

“ครับ”

เมื่อได้รับคำตอบจากผมทุกคนก็หันกลับมามองหน้ากัน ยกเว้นแต่ท่านเอเทมที่จับจ้องผมตั้งแต่เข้ามาในห้องไม่พูดไม่จา

ท่านเสนาธิการเห็นว่าผมงงเป็นไก่ตาแตกจึงเลิกกระซิบกระซาบกับบรรดาขุนนางคนอื่น เขาหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเมตตาว่า”ข้าขอสมมติชื่อคนที่สลับตัวกับเจ้าว่าทิมนะ”

“ครับ...”ท่านเสนาธิการช่างมีมาดเหมือนอาจารย์ใหญ่ในเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์มาก เขาดูรักเด็ก

“ทิมเป็นคนของโลกนี้ ทิมมีเวทมนต์ แต่เมื่อทิมข้ามไปยังโลกของเจ้าซึ่งไม่มีเวทมนต์ ทิมที่อยู่ในโลกของเจ้าก็จะไม่มีเวทมนต์”

“อ้าว”

“แล้วเจ้าคิดว่าเวทมนต์ของทิมจะอยู่ที่ไหน? แน่นอน มันไม่ได้อยู่ที่เขาอีกต่อไป และมันก็ไม่สามารถระเหยหายไปดื้อๆได้”

“ยะ...อย่าบอกนะว่าเวทมนต์ของทิม...อยู่ที่ผม”ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เมื่อได้รับคำตอบของผมทุกคนในห้อง(ยกเว้นท่านเอเทม)ก็พยักหน้าและอมยิ้มอย่างพึงพอใจ

“เจ้ารู้ไหมว่าหกแสนเป็นค่าที่เยอะมาก”อัศวินนายหนึ่งกล่าวขึ้น น้ำเสียงของเขาห้าวหาญสมเป็นชายชาติทหารทำให้ผมเผลอหดคออย่าลืมตัว

“ครับ”

“ปัจจุบันมีแค่ 3คนเท่านั้นที่มีค่าพลังเวทมนต์ทัดเทียมนี้ หนึ่งคือท่านเอเทมแม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินเรา สองคือแลนเซล็อต อัศวินแห่งแสงตะวันจากราชอาณาจักรคาดิแอค และสามคือท่านผู้นำสูงสุดแห่งคณะอัศวินโต๊ะกลม”

“ครับ...”ผมไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี สถานการณ์ตอนนี้ผมยังตามไม่ทันหลายส่วน

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรแทรกขึ้นมาอีกอัศวินคนนั้นจึงกล่าวต่อ

“ผู้นำอัศวินโต๊ะกลมปรากฏตัวในข่าวแทบทุกวัน ท่านเอเทมยังอยู่อย่างที่เจ้าเห็น แลนเซล็อตเองก็เช่นกัน ทั้งสามคนไม่ได้ทะลุมิติไปไหน ทีนี้ปัญหาของพวกเราก็คือ...ทิมที่สลับตัวกับเจ้า เป็นใคร?”

“เอิ่ม...”ท่านถามผมแล้วผมจะถามใครล่ะ

“พวกเราพอจะมีคำตอบในใจแล้ว บุคคลที่มีฝีมือระดับนี้ใต้หล้ามีเพียงหยิบมือ พวกเราเพียงแค่อยากได้คำยืนยันจากเจ้าเท่านั้นว่าผู้เฒ่าที่อารักษ์ต้นหมื่นปีอยู่ได้กล่าวอะไรไว้บ้างไหม”อัศวินคนเดิมซักต่อ

ทว่าผมกลับทำได้เพียงส่ายหน้า เมื่อสิ้นคำตอบของผมทุกคนก็พากันถอนหายใจ

“เอาเถอะ...เราก็ยังไม่มีหลักฐานว่าทิมคือ’เขาคนนั้น’ อย่างไรเขาก็หายสาปสูญไปกว่า3ปีแล้วดังนั้นตอนนี้พวกเรากลับไปนั่งดูการสอบกันเถอะ ส่วนเรื่องของเด็กคนนี้... เกรงว่าคงต้องฝากให้เจ้าช่วยจับตาดูแล้ว”ท่านเสนาธิการเดินเข้าไปตบไหล่ท่านเอเทม

อัศวินหนุ่มผู้ครอบครองใบหน้าชวนละลายหากตามีกลิ่นอายเหมือนทุ่งน้ำแข็งตวัดสายตามองท่านเสนาธิการราวกับไม่พอใจคำขอร้องนี้”แค่จับไปขังไว้จนกว่าจะรู้ตัวทิมก็สิ้นเรื่อง”

“เกรงว่าคุกหลวงคงเอาเขาไม่อยู่ ที่สำคัญเราไม่สามารถเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกได้ โดยเฉพาะคะแนนสอบของเขา เกรงว่าถ้ากองทัพอุ้มเขาหายเข้ากลีบเมฆประชาชนจะเกิดความสงสัย แล้วจะให้อัศวินธรรมดาตามเฝ้าเขาก็คงไม่ไหว เจ้าก็รู้ว่าทั่วแผ่นดินมีแค่เจ้ากับแลนเซล็อตเท่านั้น ที่สามารถงัดข้อกับ’เขาคนนั้น’ได้”

ท่านเสนาธิการตบไหล่กว้างแปะๆก่อนคณะผู้ไต่สวนจะพากันลอยแพผมกับท่านเอเทม

“เอิ่ม...”เมื่อเหลือกันอยู่สองคนท่านเอเทมจึงต้องหันมามองหน้าผมตามเสียงเรียกอย่างเสียมิได้

“ข้าชื่อการันต์”ชายที่ผมเฝ้าฝันมาตลอดอยู่แค่ตรงหน้าแต่ผมกลับไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา

เขาเป็นคนที่เข้าถึงยากโดยนิสัย ไม่ต้องรวมโปรไฟล์อันเลิศหรูของเขานั่นเลย วัดกันแค่คาแรคเตอร์ผมก็กล้าพูดอย่างเต็มปากว่าเขาไม่มีเพื่อนชัวร์ๆ

เย็นชา!!

ไร้ใจ!!!

ผมเชื่อเฒ่าแคระนั่นแล้ว!

“ท่านคิดว่าทิมที่พวกเขาพูดถึงคือใครเหรอ”ผมถามซื่อๆ”แล้วถ้ารู้ว่าทิมคือใครจะเกิดผลกระทบอะไรกับผมไหม”

“...”เงียบ ท่านเอเทมกดหัวคิ้วลงเล็กน้อยให้รู้ว่าเขากำลังรำคาญผม และให้ผมหุบปากเสีย

แต่ผมเงียบไม่ได้ครับ วันนี้ท่านเสนาธิการให้ท่านเอเทมคอยจับตาดูผมแต่พรุ่งนี้จะโดนเปลี่ยนคนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังไงซะบุคคลากรระดับท่านเอเทมก็ไม่สมควรเอาเวลาอันมีค่ามาเสียกับหน้าที่แบบนี้

“ท่านเอเทมๆ”ผมตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงซึ่งยืดกอดอกพึ่งกรอบประตูอยู่ เขาไม่มีปฏิกิริยาใดกับเสียงเรียกของผมแต่ผมก็หน้าด้านพูดต่อไป

“ท่านทราบไหมว่าการจะกลับโลกเดิมข้าต้องทำตามภารกิจของต้นหมื่นปี”

“...”โอเค ผมยังไม่โดนซัดให้หุบปาก ดังนั้นผมสามารถฝอยต่อได้อีกหน่อย

“ท่านรู้ไหมว่าต้นหมื่นปีให้ข้าทำอะไร”ผมหยุดยืนอยู่หน้าคงตัวสูงกว่า เมื่อเราอยู่ห่างกันแค่2ฟุตทำให้ผมรู้ว่าผมตัวเล็กกว่าเขามาก ทั้งความกำยำแล้วก็ความสูง และยิ่งมองใกล้ๆเขาก็ยิ่งหล่อ

ผมเกิดใจสั่นจนเผลอเสียอาการ แค่ได้กลิ่นน้ำหอมของเขาผมก็แทบลอยขึ้นสวรรค์

“ขะ ข้า...ต้องแต่งงานกับอัศวินอันดับหนึ่ง...”ปลายเสียงของผมแผ่วเบาลงเรื่อยๆจนคำว่าหนึ่งแทบจะไม่ได้ยิน ทว่าท่านเอเทมหูดีสมกับที่เป็นอัศวินอันดับหนึ่ง เขาปรายตามองผม และในที่สุดพวกเราก็ได้สบตากัน

พอเขาหันมาผมก็ต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

ผมเขิน!!!

หน้าผมตอนนี้คงแดงแปร๊ดแน่ๆ

แต่ผมต้องพูดให้จบ

“เพื่อส่งข้ากลับบ้าน...ได้โปรด แต่งงานกับข้าด้วยเถิด”

...

หลังจากนั้นเหรอ ไม่มีหลังจากนั้นเพราะว่าผมเป็นลม ท่านเอเทมไม่ได้ทุบตีหรือทำร้ายผมทั้งนั้น ผมแค่โดนแรงเค้นจากสายตาผู้ชม และความแตกตื่นของตัวเองหลังเห็นเลขคะแนนทำให้เลือดสูบฉีดเร็วเกินอัตรากำหนด พอมาตอนนี้ยังเจ๋อพูดแบบนั้นออกไปสุดท้ายเลือดเลยไปเลี้ยงสมองไม่ทัน หงายเก๋งลงในที่สุด

กระจอกมาก!!

รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!!

หลังจากนั้นหลายชั่วโมงผมจึงได้สติ พบว่าผมถูกพามาที่ห้องพยาบาลและคนที่กำลังหลับคอพับคออ่อนอยู่ข้างเตียงผมก็ไม่ใช่ท่านเอเทมแต่เป็นลันเทียผู้น่ารัก

“เอิ่ม...”ผมขยับตัวลุกนั่ง เนื่องจากผมไม่ได้ป่วยและไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนแถมยังได้นอนเต็มอิ่มร่างกายของผมก็กระปรี้กระเปร่าอย่างมาก

ผมได้แต่มองคนที่เป็นเสมือนมิตรแท้เพียงหนึ่งเดียวในโลกใบนี้ของผมอย่างลันเทียแน่นิ่ง ผมยังไม่ได้ปลุกเขาเพราะผมต้องการอยู่กับตัวเอง อยู่กับความอับอาย!! ไอ้ไก่อ่อนการันต์เอ๊ยยย ขอเขาแต่งงานเองแท้ๆ ขอเสร็จเสือกเป็นลม!

“ท่าน...ท่านฟื้นแล้ว!!”ปรากฏว่าผมยังไม่ทันก้มเก็บเศษหน้า คนตัวเล็กกว่าก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว ร่างบางเข้ามาจับผมพลิกซ้ายพลิกขวาด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าผมอยู่ดีก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ท่านทำให้ข้าเป็นห่วงนะรู้ไหม ทำไมอยู่ดีๆถึงไปพูดกับท่านเอเทมเช่นนั้นล่ะ!?”ผมโดนเสียงหวานแหวใส่อย่างเหลืออด”ดูสิ แทนที่ข้าจะยินดีกับท่านเรื่องคะแนนสอบ โธ่! ข้าสับสนไปหมดแล้ว ไม่รู้จะลำดับความสำคัญเรื่องไหนก่อนดี”

ร่างบางข้างเตียงดูสับสนมากจริงๆ

แต่คนที่ควรจะสับสนมันคือทางนี้ต่างหาก

“ข้าพูดอะไรกับท่านเอเทมหรือ”ผมเอียงคอถามซื่อๆ

“ท่านไม่ได้พูดเหรอ?”กลับเป็นลันเทียที่ถามอย่างงุนงง

ร่างบางหันไปคุ้ยอะไรบางอย่างด้านหลังเก้าอี้ก่อนหันกลับมายื่นส่งให้ผม”นี่เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับค่ำของวันนี้”

“หนังสือพิมพ์ฉบับค่ำ?”ผมไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์มาก่อน มาที่โลกนี้จึงไม่รู้ว่าที่นี่ก็มีหนังสือพิมพ์แถมยังมีวันละ2ฉบับคือฉบับเช้าและฉบับค่ำ

ผมรับมาพลิกดูพาดหัวข้อข่าว

‘อัฉริยะคนที่2ปรากฎตัว!! เด็กหนุ่มผู้ทำคะแนนสอบ6แสน ประกาศของเทพอัศวินแต่งงาน! (อ่านต่อหน้า16)’

“หะ...”ผมกวาดตาอ่านข่าวซ้ำอย่างเสียสติ แต่ผมอ่านถูกตั้งแต่รอบแรกแล้ว หลักฐานยืนยันก็คือรูปใบหน้าโง่ๆของผมตอนพูดคำว่าแต่งงานกับผมเถอะต่อหน้าท่านเอเทมที่เคารพ

“นี่มัน...นักข่าวเอาภาพพวกนี้มาจากไหน!!”ผมตะโกนถามลั่นห้องพยาบาล โชคดีที่ในห้องมีแค่พวกเราผมจึงไม่โดนด่า

“โธ่! ท่านได้คะแนนสอบสูงขนาดนั้น พวกนักข่าวก็อยากสัมภาษณ์อยู่แล้ว พวกเขากรูตามท่านไปทันทีที่ท่านโดนพาออกจากโครอสเซียม! ต่อจากนั้นข้าก็ไม่รู้แล้ว!”

ผม...รู้สึกหน้ามืด

เหมือนกับจะเป็นลมอีกรอบ

“อะเฮือก!”



------------------------------------

หนูการันต์ก็ยังคงครองสถิติคอมโบดวงตกอย่างมั่นคง!

อย่าคิดว่าสอบได้คะแนนเยอะแล้วชีวิตจะดีขึ้น เปล่าเลย มีแค่ซวยมากหรือซวยร้อยเท่านั้น 55555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ขอแต่งงานออกสื่อไปเลยจร้าาาาา
ค่าเวทมนต์หกแสน นี่จะได้ใช้งานไหมเนี่ยยยยย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นการขอแต่งงานที่ยิ่งใหญ่มาก คนรู้กันทั้งเมืองเลย 555555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ใครคือแลกตัวไป กทม. แลกไปแล้วไปเป็นใคร ทำไมต้องแลกไป
เราสงสัยผิดประเด็นเปล่าหว่า 5555

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องจะมีโอกาสได้ใช้พลังไหมเนี่ย
ดูท่าจะเหลวไงไม่รู้

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
รอแต่งงานกับตัวเองก็ได้เนอะ ถ้าได้เป็นอัศวินอันดับหนึ่งอ่ะนะ แต่อาจต้องรอนานๆๆๆมาก

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่8

เมื่อสติมาปัญญาเกิดผมก็ปัดเป่าปัญหาที่โคตรพีคที่สุดนั่นออกไปจากสมองและลากลันเทียเข้าสู่เรื่องไร้สาระแทน ผมซอกแซ่กถามเขาว่าทำไมถึงได้มีพลังเวทสูงนักแต่เจ้าตัวกลับย้อนถามผมกลับมาว่าผมนั่นแหละทำไมพลังเวทถึงสูงนัก ซึ่งคำถามนี้ผมตอบไม่ได้ เห็นหน้าซื่อๆแบบนี้ร้ายนักนะเรา

“หลังจากนี้ท่านคงลำบากหน่อย สำหรับชาวอัสโตเรียแล้วท่านเอเทมคือเทพแห่งสงครามผู้ลงมาจุติบนแผ่นดิน”ลันเทียกล่าว

“อัสโตเรีย?”

“ท่านอยู่มาเดือนหนึ่งแล้วยังไม่รู้ชื่อราชอาณาจักรแห่งนี้อีกเหรอ”ลันเทียแอบเหน็บ

“ก็ไม่มีใครบอกเก๊านี่”ผมงุบงิบๆ ทว่าเราของคนยังไม่ทันได้สนทนาอะไรต่อประตูห้องพยาบาลก็เปิดออก

ผู้มาใหม่คือขบวนแถวอัศวินในเครื่องแบบสีดำขลิบทองเต็มยศร่วมยี่สิบคน ทุกคนพร้อมใจกันจ้องมายังผมด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ ผมรีบหดคอและกระดึ๊บตัวไปหลบข้างหลังลันเทียทันที

“เชิญผู้สอบผ่านด้วยคะแนนเกินห้าหมื่นไปรวมตัวกันเพื่อรอเข้าพบองค์รัชทายาท!!”ผู้นำคณะตะคอกเสียงใส่ แน่นอนว่าคนที่เขาตะคอกมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น

ดูเหมือนทุกคนจะรู้ข่าวเรื่องที่ผมขอท่านเอเทมแต่งงานผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว และไม่พอใจอย่างแรงที่ผมสร้างความเสื่อเสีย ทำลายภาพลักษณ์ประดุจเทพของท่านเอเทม แต่พวกเขาไม่สามารถกระโดดเข้ามาฉีกผมเป็นชิ้นๆได้เนื่องจากผมมีบารมีหกแสนแต้มคุ้มกะลาหัวอยู่...

องค์รัชทายาท?

ตำแหน่งนี้นักอ่านนิยายหลายคนน่าจะรู้จักกันดี มันคือตำแหน่งยอดนิยมของพระเอกนิยายสายพีเรียด แฟนตาซี ทะลุมิติในตำนาน

ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจกำลังเต้นแรง ผมกำลังตื่นเต้น!

“ลันเทียๆ รัชทายาทของอัลโตเรียจะหน้าตายังไงกันนะ”ผมกระซิบถามลันเทียที่เดินอยู่ข้างๆ

“อ่า...ข้าก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน”คนตัวเล็กกล่าว

ผมกับลันเทียแอบคุยกันได้แค่เพียงเท่านี้เพราะอัศวินที่เดินนำอยู่ข้างหน้าหันขวันมามองด้วยสายตารำคาญ

ห้องพยาบาลของผมไม่ได้อยู่แถวโครอสเซียมหากแต่ยังอยู่ในเขตุรั้วของกองทัพหลวง ผมมองออกไปนอกระเบียงทางเดินพบว่าตนกำลังเดินอยู่บนอาคารแห่งหนึ่งซึ่งผมเดาเอาเองว่าที่นี่น่าจะเป็นอาคารที่ทำการหลักของกองทัพ

พวกเราเดินกันมาสักพัก สุดทางระเบียงก็ปรากฏประตูบานใหญ่มันสูงจรดเพดานและกว้างพอจะเดินเรียงแถวหน้ากระดานสิบคนเข้าออกได้สบายๆ คนเดินนำผลักมันออกโดยไม่ออกอาการหนักทำให้ผมแอบชื่นชมความแข็งแรงของเขาอยู่ในใจ

และเมื่อประตูบานนั้นเปิดออกผมขนออกของผมก็พลันลุกซู่

ข้างในนั้นมีคณะอัศวินยืนเรียงแถวอยู่ ทุกคนมองไปข้างหน้าไม่เหลียวหลังกลับแม้จะได้ยินเสียงเปิดประตู

การแต่งตัวของพวกเขาแตกต่างจากพวกอัศวินชั้นปลายแถวที่ผมเคยพบ นี่คือชุดพิธีการที่ประดับด้วยเครื่องยศซึ่งเป็นตัวบ่งบอกบรรดาศักดิ์ของพวกเขาเหล่านี้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมขนลุกไม่ใช่แค่ชุดแต่เป็นออร่า

เซนส์ของผมบอกว่าคนเหล่านี้มีความน่าเกรงขาม

และแน่นอน คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดคือแม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินอย่างท่านเอเทม

“พาตัวมาแล้วครับ”หัวกล้ากลุ่มที่เป็นคนนำทางให้ผมกับลันเทียเดินตรงไปข้างหน้า คุกเข่าให้ท่านเอเทมด้วยความเคารพอย่างสูง

ท่านเอเทมเองก็รักษามาดได้อย่างดีเยี่ยม เขาเพียงแค่พยักหน้าหนึ่งครั้งและหันกลับไปมองพระที่นั่งซึ่งไร้คนนั่ง

“มัวยืนเหม่ออะไรอยู่! ไปเข้าประจำตำแหน่งได้แล้ว! พวกเจ้าสองคนทำให้กำหนดการของพวกเราล่าช้าออกไปมาก!!”ปฏิบัติกับท่านเอเทมอย่างนอบน้อมประดุจเข้าเฝ้าพระเจ้าแต่หันมาตวาดใส่พวกผมเป็นสถานอารมณ์

อย่าให้ผมเดบิวต์ได้ยศใหญ่นะ! คอยดูเหอะ พวกที่เคยแกล้งหรือเคยเอาเปรียบผมเอาไว้โดนผมเอาคืนแน่!!

ผมกัดฟันกรอดขณะเดินตามลันเทียไปยืนรวมกลุ่มกับนายลูกพลโทซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ทำแต้มได้ห้าหมื่น

ถึงแม้ว่าหน้าใหม่อย่างพวกเราสามคนจะยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเข้ากองทัพอย่างเป็นทางการ แต่เนื่องจากอีเวนท์นี้เป็นอีเวนท์เดบิวต์ของพวกเราดังนั้นจุดยืนของพวกเราสามคนก็คือแถวที่สอง ข้างหลังของท่านเอเทมที่เคารพนั่นเอง

“ต้องทำอะไรบ้าง”ผมกระซิบถามลันเทียด้วยเสียงที่เบาที่สุด

เนื่องจากผมไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าตัวเองจะผ่านการสอบด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการสอบแผ่นเป็นTOP3แบบนี้เลย ผมจึงไม่รู้ว่าพิธีการนี้มีอะไรบ้าง

“ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน”ลันเทียเอ่ยอย่างจนปัญญา”ข้าไม่ใช่ลูกหลานขุนนาง ข้าไม่เคยเข้าร่วมพิธีการสำคัญขนาดนี้เหมือนกัน”

“เงียบซะ อย่าเสียมารยาทต่อหน้าพระที่นั่ง”ตาลูกนายพลซึ่งได้คะแนนเกินห้าหมื่นมาแค่กระจึ๋งเดียวตวัดเสียงตำหนิเราสองของ เขาปลายตามองพวกเรา ไม่ใช่สายตาเหยียดหยามแต่เป็นสายตาเคลือบแคลง

คาดว่าเจ้าตัวคงเจ็บใจไม่น้อยที่ได้คะแนนน้อยกว่าพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างผมกับลันเทีย

“ขอโทษครับ”ลันเทียเอ่ยอย่างสุภาพ

“เจ้าชื่ออะไร”แต่ผมกลับพูดด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม

องค์รัชทายาทยังไม่มา ทุกคนเอาแต่ยืนนิ่งยกมือไพล่หลัง หน้าเชิดไหลตึงมองตรงตาแทบไม่กระพริบ เสียงหายใจยังแทบไม่ได้ยิน ผมซึ่งเป็นไฮเปอร์บอกตรงๆว่าอึดอัดจนตัวจะแตกอยู่แล้ว ยืนเก๊กหล่อได้แป๊ปเดียวก็ต้องหาเพื่อนจ้อ

“เจริโก้”ลูกนายพลเอ่ยแนะนำตัว

“อ่อ โก้! ข้าชื่อการันต์นะ”ผมแนะนำตัวบ้าง

คนถูกย่อชื่อมองผมตาเขียว เขาคงไม่พอใจผมมากเพราะนอกจากผมจะไม่เงียบปากแล้วยังไปเปลี่ยนชื่อให้เขาอีก

“คนสวยคนนี้ชื่อลันเทีย”ผมไม่สนใจสายตาเฉือดเฉือนนั่น หากเขาเอาดวงตาคู่นี้ไปมองคนอื่นมันคงข่มให้ฝ่ายตรงข้ามหวาดกลัว แต่มันใช้กับผมไม่ได้เพราะผมเจอนัยน์ตาที่น่าเกรงขามมากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่ามาก่อน

ดวงตาของชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าพวกเราไง

“เงียบซะ!”ไอ้โก้กัดฟันพูด

ผมยักไหล่เซ็งๆแต่สุดท้ายก็ยอมเงียบ

ครับ เงียบได้อีกประมาณยี่สิบนาทีผมก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง

“เมื่อไหร่องค์รัชทายาทจะมา เขาปล่อยให้เรารอนานแล้วนะ”ผมชะโงกหน้าไปถามไอ้โก้ที่น่าจะมีความรู้เรื่องรอบรั้วพระราชวังมากกว่าลันเทีย

“พวกข้ายืนรอเจ้าฟื้นมาตั้งนานไม่ปริปากบ่นสักคำ!”

“อุ่ย...”ผมหดคอกลับเข้ากระดองแทบไม่ทัน

เมื่อพบว่าตนเองเป็นสาเหตุของการณ์ดีเลย์ทั้งหมดผมจึงยืนอดทดสงบเสงี่ยมต่อไป จนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงถัดมา ทหารยามคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องพิธีการแห่งนี้พร้อมตะโกนเสียงดังว่า”เตรียมรับเสด็จองค์รัชทายาท!!”

ตื่นเต้น!!

เมื่อกี๊ผมจะยืนหลับอยู่รอมร่อแต่พอได้ยินว่ารัชทายาทจะมาดวงตาของผมก็ใส่ปิ๊ง

เจ้าชาย! ผมจะได้เจอเจ้าชายตัวเป็นๆครั้งแรกในชีวิต แม่เจ้าโว๊ยยยยย

พรึ่บ

เหล่าอัศวินผู้สูงศักดิ์ในห้องพิธีการพลันย่อการลงนักคุกเข่าพร้อมกัน เข่าซ้ายของพวกเขาแตะพื้นส่วนขาขวานั้นตั้งชันขึ้นเพื่อใช้วางแขน

ผมคิดว่านี่คือมาตรฐานสำหรับทำความเคารพเชื้อพระวงศ์จึงตั้งใจจะทำตามบ้างแต่กลับถูกไอ้โก้ตีแขน

“เจ้าบ้า! เอาไว้ได้รับพระราชทานยศเป็นอัศวินก่อนถึงทำท่านั้นได้ ตอนนี้พวกเราเป็นแค่พลเรือน แค่หมอบลงธรรมดาก็พอ!”เจริโก้ผู้รอบรู้เรื่องพระราชวังรีบสอนผมกับลันเทียแทบไม่ทัน

ผมกับลันเทียนั่งตามที่เจริโก้บอก ขณะสายตาจับจ้องไปยังพระที่นั่งอย่างตื่นเต้น

ไม่ช้าเสียงแตรนำขบวนอันเป็นสัญญาณต้อนรับการมาเยือนของราชวงศ์พลันดังขึ้น ผมอยากหันคอไปมองใจจะขาดแต่กลัวทำแล้วคอจะขาดเลยไม่ได้หันไป

รอไม่นานนักขบวนเสด็จของรัชทายาทก็เดินมาถึงข้างหน้า นำทีมโดยทหารรักษาพระองค์ที่เข้ามาเช็คความเรียบร้อยของพระที่นั่งก่อนจะหันไปกล่าวอย่างสุภาพกับคนแต่งตัวเต็มยศประดับมงกุฎบนหัวว่า”เชิญประทับพะยะค่ะ”

“ขอบใจ พวกเจ้าก็ยืนขึ้นเถอะ”

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะวูบ

ในหัวตอนนี้มีแต่คำถาม ถามว่า...นี่น่ะเหรอรัชทายาท!

รัชทายาทเป็นชายร่างอ้วนฉุ เดินทีไขมันกระเพื่อมที แถมยังเตี้ย หน้าสิวตาตี่!

ผมอยากจะยกมือขึ้นมาขยี้ตา ผมรับไม่ได้!! รัชทายาทมันต้องหล่อสิ พระองค์ดูมาตรฐานของแม่ทัพใหญ่เสียก่อน ท่านเอเทมทำมาตรฐานไว้สูงมากเลยนะ! พระองค์จะปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้ไม่ได้

พระองค์ต้องเข้าพระฟิตเนสเพื่ออัพพระกล้าม!!

“การทดสอบเข้าบรรจุในกองทัพหลวงครั้งที่ 1123 มีผู้เข้าทดสอบที่มีขีดจำกัดเวทมนต์สูงกว่าห้าหมื่นแต้มทั้งสิ้น3คน อันได้แก่ เจริโก้ คีคารอส บุตรคนที่สามแห่งตระกูลคีคารอส! ลำดับถัดมาคือลันเทีย! ชาวโรมานอสซาร์ในอดีต”

เรื่องที่เจริโก้ถูกขานยศว่าเป็นบุตรคนที่สามของตระกูลบลาๆอันนี้ผมไม่ค่อยแปลกใจ

แต่ลันเทียล่ะ

ชาวโรมานอสซาร์ในอดีต?

โรมานอสซาร์คืออะไร ผมแอบขมวดคิ้วในใจ แอบลุ้นว่าชื่อของตัวเองจะมีคำว่าชางกรุงเทพในอดีตอะไรเทือกนี้ต่อท้ายไหม

“ทั้งสองเป็นผู้มีสิทธิ์ในยศร้อยเอก...”

อ้าว แล้วผมล่ะ ผ๊มมม

ผมไม่ได้ฟังต่อว่าผู้ดำเนินรายการกล่าวอะไร ในใจตอนนี้ผมกำลังงงว่าทำไมตัวเองถึงไม่โดนเรียก ได้แต่ยืนมองเจริโก้กับลันเทียเดินออกไปรับดาบพระราชทานจากมือขององค์รัชทายาท

โชคดีที่ผมไม่ได้ถูกปล่อยให้ยืนงงนานนัก ต่อมาชื่อของผมก็ถูกเรียก

“ลำดับสุดท้าย การันต์ เกียรติกานนท์ ทำคะแนนสอบได้เป็นที่น่าพอใจ องค์รัชทายาทเห็นสมควรพระราชทานยศพันโท! เชิญก้าวออกมารับกระบี่และเอ่ยคำสาบาน”ผมได้เป็นพันโท โอ้จอร์จ ถ้าแม่รู้แม่ต้องดีใจมากแน่ๆเพราะแม่อะ ตัวเชียร์อัพให้ผมรับราชการเลย

ดูนะแม่ ลูกแม่ได้เดบิวต์เปรี้ยงเดียวเป็นพันโทเลย ฮะๆๆๆๆๆ

ผมเดินหน้าบานเป็นกระด้งไปรับดาบพระราชทานขององค์รัชทายาทผู้อ้วนฉุ

พิธีกรเอ่ยนำคำสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อราชอาณาจักรสองสามประโยคเป็นอันเสร็จพิธี

พอผมเดินกลับมาลันเทียก็ส่งยิ้มหวานให้ผม ดวงตาคู่สวยมีแต่คำชื่นชมยินดี

ลำดับต่อเป็นการกล่าวให้โอวาท...เอิ่ม ความจริงมันไม่น่าใช้คำนี้นะ แต่ผมไม่รู้แล้วว่าต้องใช้คำไหนดังนั้นให้ผมใช้คำว่าองค์รัชทายาทให้โอวาทเถอะ!

รัชทายาทลุกขึ้นยืน แต่ผมว่าเขาจะนั่งหรือยืนก็ไม่ต่างกันหรอก อย่างไหนก็อ้วนกลมเป็นลูกบอลเหมือนกัน

ผมแพ้อะไรที่เป็นทางการเช่นนี้ ฟังๆไปได้สักพักหนังตาก็เริ่มหย่อน แต่ผมยังไม่เสียมารยาทถึงขั้นยืนหลับ ผมพยามยืนนิ่งๆแต่ดูเหมือนมันจะนิ่งไม่พอดวงตาตี่ๆของรัชทายาทจึงสบเข้ากับดวงตาปรือๆของผม

ผมสะดุ้งเฮือก รู้สึกเสียวสันหลังเพราะอีกฝ่ายอมยิ้มขณะมองผม

“ดูเหมือนสหายคนใหม่ของพวกเราจะยังนอนไม่เต็มอิ่มนะ”รัชทายาทยิงมุกแต่ไม่มีใครขำ ทุกคนเอาแต่ยืนดึงหน้ากันอยู่

“เอเทม ท่านคิดว่าเด็กใหม่ปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

“ก็ดีพะย่ะค่ะ”รัชทายาทพูดเสียยาวแต่แม่ทัพกลับตอบสั้นๆห้วนๆ

“สิ้นพิธีมอบยศในครั้งนี้ข้าจะว่างไปถึงต้นเดือนหน้า หากเจ้าจะเข้าพิธีสมรสล่ะก็จะส่งเทียบมาเชิญข้าไปเป็นเจ้าภาพเมื่อใดก็ได้นะ”องค์รัชทายาทพูดพลางหันมาขยิบตาปิ๊งๆใส่ผม

“...”ผมแดกจุดอ้าปากเหวอไปแล้ว

เขาแซวผม!

ผมนึกอยากเอาปี๊ปมาคลุมหัว สัมผัสได้เลยว่าเหล่าอัศวินชั้นสูงที่พยามคีพคูล เก๊กขรึม ยืนดึงหน้าเรียบมาค่อนวันบัดนี้พยามกลั้นเสียงหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย

“พิธีพระราชทานยศเสร็จสิ้นแล้ว องรัชทายาทมีอะไรจะกล่าวอีกหรือไม่ หากไม่มี...”ท่านเอเทมที่เคารพ ท่านเป็นทหาร ส่วนเขาเป็นเจ้าชาย ท่านจะเอ่ยไล่เขาโต้งๆแบบนี้ไม่ได้!

ผมมองแผ่นหลังของร่างสูงที่ผายไปมือทางประตูอย่างอึ้งๆ

“ข้าแค่แซวนิดเดียว อย่าโกรธน่า...เพราะแบบนี้ไงเจ้าถึงได้โสด!”ทางด้านรัชทายาท นอกจากเขาจะไม่เอ่ยตำหนิกิริยาของท่านเอเทม เขายังหัวเราะแห้งๆและหันไปบอกผู้ติดตามให้กล่าวปิดงานและสั่งขบวนเสด็จให้เคลื่อนออกจากห้องพิธีการไปในที่สุด

พาวเวอร์ของแม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินมันมากล้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ!?

ผมมองการตัดจบอีเวนท์ของท่านเอเทมแบบอึ้งๆ

เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลงคณะอัศวินยศสูงที่ยืนดึงหน้าเรียบกันมานานก็พากันยืดเส้นยืดสายเดินพูดคุยกัน

“เห้อ...รอดสักที”ผมยกมือขึ้นปาดเหงื่อ

“รอดกะผีน่ะสิ”เจริโก้ที่ตีเนียนสนิทกับผมไปแล้วเพยิดหน้าไปทางร่างสูงของคนที่เพิ่งตัดจบอีเวนท์ไปหมาดๆ แม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินเดินเข้าเข้ามาหากลุ่มของพวกเรา ไม่สิ ผมว่าเขาน่าจะมาหาผมนี่แหละ

“ท่านเอเท๊มม”ผมร้องเรียกเขาเสียงหลง

กลิ่นอายรอบตัวของเขาดูเหมือนจะอัดแน่นด้วยความเย็นชามากขึ้นหลายระดับ คาดว่าเป็นผลพวงมาจากข่าวหน้าหนึ่งซึ่งผมสร้างวีรกรรมเอาไว้

ร่างสูงเดินเข้ามาหาผมดังคาด เขาไม่เกริ่นนำหรือเท้าความอะไรทั้งสิ้น เสียงทุ้มเพียงแค่เอ่ยสั้นๆกับผมเพียงคนเดียวว่า”ตามข้ามา”

ผมจะถูกฆ่าไหม?

ผมหันไปมองหน้าเพื่อนทั้งสอง ซึ่งทั้งสองจะไปมีปัญญาช่วยอะไรผมได้ ขนาดเชื้อพระวงศ์ยังโดนท่านเอเทมดุได้ ทั่วทั้งแผ่นดินนี้ก็ไม่มีใครยับยั้งท่านเอเทมได้อีกแล้ว

ผมกลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ขณะเดินคอตกตามร่างสูงออกจากห้องโถงไป

ท่านเอเทมเป็นคนตัวสูง ผมไม่รู้ว่าเขาสูงเท่าไหร่แต่ที่แน่ๆคือสูงกว่าผมประมาณ 10ซม. เวลาเดินตามเขาผมจึงรู้สึกเหมือนเป็นลูกเป็ด แต่ผมต้องเป็นลูกเป็ดติดเทอร์โบเนื่องจากเขาเดินเร็วมาก เร็วจนผมแทบจะวิ่งตามอยู่แล้ว!

ผมไม่รู้ว่าเขาจะพาผมไปที่ไหนด้วยซ้ำแต่ผมไม่มีสิทธิ์ถามสักแอะ

ผมไม่กล้าถามเพราะมีความผิดติดตัวอยู่และดูเหมือนเขาเองก็กำลังโกรธผมด้วยเรื่องนั้น

“ข้า...ขอโทษ”เสียงของผมเบาหวิวและคาดว่ามันคงปลิวหายไปกับสายลมยามราตรี

ท่านเอเทมเดินนำออกมาจากอาคารใหญ่ ข้างหน้าคือที่จอดรถม้า มันเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆซึ่งมีลมพัดเย็นสบาย ท้องฟ้าบัดนี้พร่างพราวไปด้วยดวงดาว นับว่าบรรยากาศกำลังดี

ดีไปหมดยกเว้นดวงของผมเนี่ย

ร่างสูงเดินไปหยุดอยู่ตรงรถม้าคันหนึ่ง มันมีสีขาวทั้งคันแม้กระทั่งล้อหรือม้าสี่ตัวที่เทียมอยู่

นี่คือรถของท่านเอเทมสินะ สมแล้วที่เป็นรถของเขา ใช้ม้าได้เปลืองมาก ใช้แค่สองตัวคงยิ่งใหญ่ไม่พอ เหอะๆ

“ให้ข้าขึ้นไปหรือ?”ผมไม่แน่ใจเลยเอ่ยถาม เมื่อเขาพยักหน้าผมจึงปีนดุ๊กๆขึ้นไปนั่งหลบมุมอย่างเจี๋ยมเจี้ยม

“ไม่ต้องมีคนขับเหรอ”ผมถามเมื่อเห็นว่าท่านเอเทมเดินตามขึ้นมาและปิดประตู ผมมองออกไปตรงที่นั่งคนขับกลับไม่เห็นสารถี และในวินาทีต่อมาผมก็ได้รับคำตอบโดยที่ท่านเอเทมไม่ต้องเฉลย

ม้าทั้งสี่ตัวของท่านเอเทมไม่ต้องการคนขับเพราะมันไม่ใช่ม้าโง่ๆ มันคือม้าเพกาซัส! ม้าบินอะครับรู้จักไหม

ผมอ้าปากค้างเหรอหราทันทีที่เจ้าสี่ตัวนั่นกางปีกของพวกมันออก พวกมันวอร์มมิ่งปีกกันสักพัก ถัดมารถม้าที่ผมโดยสายก็ค่อยๆลอยขึ้นเหนือพื้น!

ที่นี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาต้องใช้ม้ามากกว่าปกติ!

“นี่มัน...โอ้ มาย ก๊อดดดด ท่านเอเทม ท่านดูสิ! พวกเรากำลังลอยอยู่บนฟ้า!!! อ๊ากก ฮะๆๆๆๆ”ผมหัวเราะเป็นบ้า รู้สึกคึกเหมือนไปกินยาม้ามา



------------------------

พระเอกนิยายเรื่องอื่นเขาขับรถหรูกัน เบนซ์เอย บีเอ็มเอย ปอเช่ เฟอรารี่เงี้ย แล้วท่านเอเทมของเราจะนั่งรถม้าจืดๆได้ไง ดูวรั้ยยย นี่คือความไฮโซวววววว 55555555555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โอ้ยยยย ขำการันต์

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อลังการไปอีก ได้นั่งรถม้าเพกาซัสเลย

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1



สุดยอดนะฮ้าาาา. รถม้าบิน

ได้นั่งคู่ไปกับท่านเอแทมด้วย.

พยามอีกนิดภาระกิจนี้สำเร็จแน่


 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:




ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ไฮโซมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
พึ่งมาตาม ชอบ 555555 การันต์ ไม่มีอะไรกากกว่าเอ็งแล้วววว

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ถ้ามีรางวัลนายเอกสุดกากก็ต้องการันต์นี่แหละ

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ตอนที่9

พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกัน

ผมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้าอย่างเคว้งคว้าง ช่วงแรกๆที่ได้นั่งรถม้าลอยฟ้าผมก็ตื่นเต้นร้องอู้หูอ้าหาเป็นบ้านนอกเข้ากรุงอยู่หรอก แต่ท่านเอเทมไม่สนใจผมสักแอะ และนอกจากจะไม่สนใจผมแล้วเขายังแผ่ไอเย็นใส่ผมรัวๆ

ผมโดนกำราบจนหงอ จากลูกลิงกลายเป็นลูกกวางในพริบตา

ผมนั่งเรียบร้อยอยู่ตรงมุมของรถ ยกมือประสานบนตัก กระสับกระส่ายอย่างอึดอัด

“ท่านเอเทม ข้าขอโทษ”ผมก้มหน้าซิบกระซาบ ใจไม่กล้าพอจะเงยขึ้นมาสบตากับคนตัวสูงกว่า

“เจ้าได้รับเสื้อหรือยัง”ในขณะที่ผมกำลังรู้สึกผิดจนเครียดลงกระเพาะอีกฝ่ายกลับเอ่ยถามถึงเรื่องเสื้อ

ผมทำหน้างงอยู่พักใหญ่ก่อนร้องอ๋อ”ได้รับแล้ว ว่าแต่ท่านส่งมันมาทำไมหรือ”

หน้าผมตอนนี้มันดูโง่มากหรืออย่างไรไม่ทราบ คนที่ตีหน้าเคร่งมาตลอดทางถึงได้ถอนหายใจและยกมือขึ้นนวดขมับ

“ช่างเถอะ”ท่านเอเทมตัดจบดื้อๆอีกครั้ง แน่นอนว่าคราวนี้เขาก็ทำสำเร็จ

ผมไม่กล้าตื๊อถามต่อ แต่ผมก็ไม่ได้เงียบปากไป”แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนกันหรือ”

“ผูกวิญญาณ”เสียงทุ้มตอบ

“ผูก...อะไรนะ”ผมซึ่งไม่คุ้นเคยกับมิติแห่งนี้งุนงงยิ่งนัก

“เจ้าจำเรื่องของ’ทิม’ที่ท่านเสนาธิการอธิบายได้ไหม”คราวนี้ท่านเอเทมยอมพูดกับผมด้วยประโยคที่ยาวขึ้นหน่อย ทว่าสายตาของเขากลับจดจ้องออกไปยังท้องฟ้ายามราตรีนอกหน้าต่างแทน

“ครับ ทิมที่พวกท่านอยากรู้ว่าเป็นใคร”

“พวกเขาไม่ได้อยากรู้ พวกเขารู้ แค่ต้องการยืนยัน”ท่านเอเทมกล่าว

“หืม”

“ดาร์กลอร์ด เจ้าเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่”

“ดาร์กลอร์ด”ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ รู้สึกคุ้นหูกับชื่อนี้”อ้อ คนที่เป็นเจ้าของมันติคอร์”

ผมจำได้ว่าอัศวินเพื่อนบ้านของผมเรียกเจ้ามันติคอร์ว่า 1ใน108ปีศาจบริวารของดาร์กลอร์ดผู้ใช้ศาสตร์มืด

“ดาร์กลอร์ดคือชื่อของผู้ใช้ศาสตร์ต้องห้าม”

“อ้อ...”

“หากเขาคือผู้สลับตัวกับเจ้า นั่นแปลว่ายามนี้ศาสตร์มืดทั้งหมดของเขาถูกถ่ายโอนมาที่เจ้า”

“อ้อ...”

“...”

“ห๊ะ...อะไรนะ!?”ผมพยักหน้าอื๋ออ๋อ ใจนึกแค่ว่าน่ายินดีที่ท่านเอเทมยอมคุยด้วยยาวขนาดนี้ แต่พอสมองเริ่มประมวลผลได้ใบหน้าของผมก็ซีดเผือด

“แล้ว...มันหมายความว่ายังไงหรือ”ผมเริ่มใจเต้นระส่ำ ชื่อดาร์กลอร์ดก็ดี ศาสตร์ต้องห้ามก็ดี ฟังอย่างไรมันก็ไม่น่าใช่สิ่งถูกกฎหมายสักนิด

“พริบตาที่ยืนยันว่าเจ้าคือผู้รับสืบทอดศาสตร์ต้องห้าม คือวินาทีสุดท้ายในชีวิตของเจ้า”

!!?

ผมอึ้ง ความหนาวเย็นแผ่ไพศาลจากหัวใจของผม มันคงไหลไปทางเส้นเลือดเพราะเพียงไม่กี่อึดใจทั่วทั้งร่างของผมก็รู้สึกหนาวเหน็บ คำว่าตาย...มันก่อแรงสะเทือนครั้งใหญ่

ผมจะถูกฆ่า

“ตะ ตะ แต่...ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดนะ!!”ผมร้องเสียงหลง รีบกระโดดผล็อยเข้าไปเกาะชายเสื้อของร่างสูงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม”ท่านก็รู้ว่าข้าข้ามมิติมา เรื่องศาสตร์มืดอะไรนั่นข้าไม่รู้สักนิด!! แค่ตัวซีซีข้ายังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเลย ฮึก...ท่าน อย่าฆ่าข้านะ”

“คนตัดสินไม่ใช่ข้า หน้าที่ของข้าคือจับตาดูเจ้าเท่านั้น”

คราวนี้ผมเข้าใจเหตุผลที่ท่านเสนาธิการส่งแม่ทัพใหญ่มาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงผมแล้ว ทีแรกผมคิดว่าเขาเห็นแววพรสวรรค์ในตัวผมจึงส่งท่านเอเทมที่มีฝีมือสูงส่งมาเป็นครูฝึก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่! พวกเขาแค่กลัวว่าพลังชั่วในตัวของผมจะตื่นขึ้น หากท่านเอเทมอยู่ใกล้ๆเขาจะได้ลงมือกำจัดผมทัน

“ฮึก ผม...แค่อยากกลับบ้าน!! อยากกลับบ้าน ผมอยากกลับบ้าน ผมไม่อยากตาย!! ผมอยากเจอแม่ ฮือออ”ทุกครั้งที่ผมเสียสติผมจะเผลอใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าผม

น้ำตาของผมไหลอาบแก้มเป็นทาง ในหัวมีแต่คำว่าตายๆๆๆๆๆ

ทุกอย่างในโลกแห่งนี้มันยากไปหมด กว่าผมจะหาบ้านเป็นของตัวเอง กว่าจะได้เพื่อนสักคนผมต้องใช้วิธีสารพัด ขนาดใช้เงินซื้อเพื่อนผมก็ยอมทำ เพราะการอยู่อย่างเดียวดายในโลกที่ไม่รู้จักมันน่ากลัวมาก ผมกลัวมาตลอดแต่ก็มองโลกในแง่ดี

ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่สอบได้คะแนนสูงๆจะได้อยู่ในสายตาของท่านเอเทม ปรากฏว่าคะแนนผมสูงเกินไปจนโดนสงสัยว่าได้รับศาสตร์มืดมาจากดาร์กลอร์ดหรือไม่!

ผมไม่ได้โชคดีอะไรเลย เรื่องทั้งหมดมีแต่ซวยกับซวย!

เสียงร้องกระจองอแงของผมไม่ทำให้อัศวินคนนี้ใจอ่อน เขาปัดมือของผมออกอย่างรำคาญ

“ท่าน...เอเทม...”ผมร้องหงิงๆ โดนเขาปัดออกแต่ก็ไม่ยอมแพ้ ยิ่งไล่ยิ่งใกล้อะรู้จักปะ มันคือสโลแกนของแอพสีเขียวแอพหนึ่ง อะไรนะ นั่นยิ่งไลน์ยิ่งใกล้หรอกเหรอ แล้วนี่ก็ไม่ใช่เวลาเล่นมุกด้วยเหรอ

ฮือออ

“ท่านเอเท๊มม!!”ผมกลั้นใจเอื้อมมือทั้งสองข้างไปโอบรอบคออีกฝ่าย”ได้โปรดช่วยผมด้วย! แต่งงานกับผมที! ผมต้องแต่งงานกับอัศวินอันดับหนึ่งผมถึงจะได้กลับโลกเดิม!”

“การส่งเจ้ากลับโลกเดิมก็เท่ากับว่าเจ้าต้องอัญเชิญคนอื่นมาที่นี่ และศาสตร์มืดก็จะถูกถ่ายโอนไปที่เขา การส่งเจ้ากลับไม่ช่วยให้ศาสตร์มืดหายไป มันก็แค่การผลักไสความตายให้ผู้อื่น”

“อึก...”โดนดอกนี้เข้าไปผมถึงกับหน้าหงาย

ที่ท่านเอเทมพูดมามันก็ถูก! ถูกจนผมเถียงไม่ออกเลย!

เมื่อมองจากมุมของท่านเอเทม ต่อให้ส่งตัวผมกลับไปก็เท่ากับการแลกผมคนที่2มาที่นี่ และถ้าผมคนที่2ไม่อยากตายและพิชิตภารกิจของต้นไม้สำเร็จเขาก็จะเชิญผมคนที่3 4และ5มาเรื่อยๆไม่รู้จบ

สำหรับท่านเอเทมมันคือกิจกรรมส่งไม้ผลัดเป็นทอดๆอันน่ารำคาญ

ผมยอมแพ้และกลับไปนั่งหลบมุมเหมือนเดิม

ตอนนี้ผมก็แค่ยอมแพ้เรื่องขอร้องให้เขาแต่งงานกับผมดื้อๆ แต่ผมไม่ยอมแพ้เรื่องแต่งงานกับเขาหรอก

ผมจะไม่ยอมตาย ต่อให้ต้องส่งความตายให้คนอื่นโดยการเชิญเขามาที่นี่ก็ตาม ผมยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวดีกว่ายิ้มรับความตายหน้าชื่นตาบาน อ้อ ผมมีพลังชั่วในตัวเหรอกั๊บ งั้นเชิญท่านอัศวินมากำจัดผมเลยกั๊บ ผมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่!!

และวิธีที่ผมจะรอดตายได้ก็มีเพียงหนึ่งเดียว!!

ปล้ำท่านเอเทม!!

ดวงตาของผมเป็นประกาย หลังจากวนรอบโลกรอบหนึ่งสุดท้ายเป้าหมายของผมก็คือสิ่งเดิม นั่นก็คือผู้ชายคนนี้

ก่อนหน้าผมอาจจะคิดว่าเขาไกลเกินเอื้อม แต่บัดนี้มันตรงกันข้าม! ท่านเสนาธิการอาจจะสั่งให้เขามาจับตามองผมอย่างใกล้ชิดด้วยวัตถุประสงค์อื่น แต่สำหรับผมมันคือการส่งอ้อยเข้าปากช้าง!

“ฮึก...ฮือ...”ผมส่งเสียงสะอื้นกระซิกๆ

แน่นอนว่านี่คือการแสดง!!

มันคือมารยาของนายการันต์ผู้นี้

หากดาร์กลอร์ดมีอสูรรับใช้ 108ตัว ผมเองก็ไม่น้อยหน้าเพราะผมมีมารยาร้อยเล่มเกวียน

อย่าได้ดูถูกกระผม นายการันต์ผู้ได้หมดถ้าสดชื่อคนนี้เป็นอันขาด!

“ท่านเอเทม หากวันหนึ่งข้าเผลอใช้ศาสตร์มืดออกมาโดยไม่รู้ตัวจริง ได้โปรดท่านช่วยอะไรข้าสักอย่างจะได้ไหม”ผมทำเป็นยกมือขึ้นซับน้ำหน้าขณะก้มหน้าเศร้าๆ แต่ความจริงคือผมพยามปกปิดร้อยยิ้มอยู่ต่างหาก

ท่านเอเทมไม่ตอบผมจึงคิดเอาเองว่าเขาคงยอมช่วย

“ท่านเอเทม”ผมกระซิบเรียกเขาเสียงกระเส่า

ขณะนี้พวกเรานั่งไกลกันเกินไปหน่อยผมจึงค่อยๆย้ายก้นไปหาท่านเอเทมอย่างอ้อยอิ่ง ช้อนตาลูกแมวหงอยออดอ้อนวิงวอนอยู่ในที เขาสบตาผมนิ่งไม่เอ่ยอะไรขัด

ผมรวบรวมความกล้าค่อยๆเอื้อมมือของตนเองไปแตะมือของเขา

โอ้มายก็อด นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่! ผมเคยคุยกับผู้ชายหล่อมาบ้างก็จริงแต่นั่นเป็นแค่การแชท! ไอ้เรื่องจับมือถือแขนนี่ไม่เค๊ยไม่เคยมาก่อนเลยจริงๆ ตอนนี้ผมทั้งประหม่าทั้งเขินไปหมด หัวสมองอันปราดเปรื่องพยามคิดวิเคราะห์แยกแยะสถานการณ์เบื้องต้นเพื่อตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ผมพยามนึกย้อนกลับไปว่าพวกผู้หญิงที่ผมเคยควง เวลาพวกเธออ่อยผมพวกเธอได้ทำอะไรแบบนี้ไหม

ไม่!

พวกเธอไม่เคยบีบน้ำตาแล้วเบียดตัวมากุมมือผมแบบนี้มาก่อน!

ไอ้ชิบหาย ไม่มีประสบการณ์จริงแบบนี้ผมจะเอาอะไรอ้างอิงล่ะ ในนิยาย ใช่! ในนิยายที่เคยอ่านเวลาแบบนี้เขาทำอะไรต่อ

“ท่านเอเทม...เอิ่ม...เอ่อ...”ผมเริ่มหลุดบทคนเศร้าเข้าไปทุกทีแล้ว

นัยน์ตาสีฟ้าของเทพอัศวินก้มต่ำลงมามองผม ดวงตาของเขาคู่นี้แหลมคมราวกับสามารถมองทุกอย่างออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกปลอกเปลือกอยู่

“ข้าไม่มีวันแต่งงาน”

นั่นปะไร!

“โดยเฉพาะการแต่งงานเพื่อการกุศล”

“ขอโทษกั๊บ”สิ้นคำประกาศิตผมก็ก้มหน้าเจื่อน ค่อยๆเฟดตัวเองออกมาเงียบๆ

เหตุการณ์ดังกล่าวสอนให้ผมรู้ว่าผมใช้มารยาหญิงไม่เป็น และท่านเอเทมก็ไม่ได้โง่

ผมถอนหายใจ ในเมื่อขอร้องให้ช่วยดีๆไม่ได้ผล ยั่วยวนซึ่งๆหน้าก็ไม่ได้ผลอีก ผมต้องสร้างสถานการณ์! สร้างโมเมนต์! หาตัวช่วยซึ่งไม่ใช่ใครอื่น ไอ้โก้กับลันเทียนั่นไง!

ฮึ คอยดูแล้วกันนะท่าน การันต์คนนี้จะคัมแบ็คกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เอาให้ท่านสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจไปเล้ย

“แต่มาคิดดูอีกที ผมไม่กลัวตายแล้ว”ผมเปรยขึ้นท่ามกลางความเงียบไม่ได้หันไปมองหน้าคู่สนทนา ผมเพียงแค่เท้าคางกับกรอบหน้าต่าง ทอดสายตาเหม่อลอยไกลออกไป ใบหน้าเรียบเฉยของผมต้องแสงจันทร์ละออนวล

“ต่อให้ท่านเอาดาบมาปักอกข้า ก็ฆ่าข้าไม่ได้”

“เพราะอะไร”คราวนี้พ่อรูปหล่อหันขวับมาถามผมทันทีเลยครับ เขาหรี่ตาลงเพื่อประเมิณสถานการณ์ ผมเดาเอาเองว่าป่านนี้ในหัวของเขาคงกำลังนึกไปถึงพวกเวทอมตะหรือการเอาหัวใจไปซ่อนไว้ที่อื่นซึ่งเป็นวิธียอดนิยมของพวกจอมมาร

แต่เสียใจด้วย!

ท่านคิดผิดแล้ว!!

ผมอมยิ้มพลางเอ่ยเฉลย”เพราะข้าได้มอบหัวใจให้ท่านไปแล้ว ฮิ้ววว”

โป้งชี้ก้อย เลิฟยู รักนะจุ๊บๆ

“ฮ่าๆๆๆๆๆ”ผมระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้น มันช่วยไม่ได้! ผมพยามแล้วจริงๆ! แต่ใบหน้าของเขามันตลกมันจริงๆ โอ๊ยยยยย คนบ้า! ขนาดหน้าตอนเงิบยังหล่อ ฮึ่ยยย หมั่นไส้โว๊ย



---------------------------------

ถ้าฉันเป็นท่านเอเทมฉันจะจับมันโยนออกนอกหน้าต่างรถ!

อิเด็กบ๊าาาา อิคนเล่นมุกเสี่ยวไม่ดูกาละเทศะ!! 555555555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
แต่งงานการกุศล ท่านเอเทมก็ร้ายนะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ปวดหัวแทนท่านเอเทมเลย 555555

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ถ้าเป็นการันต์ล่ะก็ จะเป็นดาร์กลอร์ดที่กระจอกแถมยังติงต๊อง ท่านเอเทมฆ่าคนบ้าลงหรอ555555 :laugh:

เสริม ตอนแรกแอบเดาไปไกลว่าคนที่เปลี่ยนตัวกับการันต์คือ ภรรยาของอัศวินอันดับหนึ่งอีกอาณาจักร555 ได้รับภารกิจเดียวกันอะไรยังงี้ :hao7: รอจ้า มาเร็วๆนะคิดถึงงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2018 15:09:54 โดย shiroinu »

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
3P ไหม 3P เลย

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ตลกโดด มาต่ออีกกกกก  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รอติดตามจ้า

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โฮ่ เจ็บจี๊ดกับ แต่งงานการกุศล
น้องการันต์จะต้องเป็น dark lord ที่เป๋อที่สุดในโลกชัวร์

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด