เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ | Not today, he said. [ตอนพิเศษ] 05/10/20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ | Not today, he said. [ตอนพิเศษ] 05/10/20  (อ่าน 122133 ครั้ง)

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
โอ้ยยยยยย ทำไมน่ารักกันได้ขนาดนี้
ชอบมากๆ เขินมากๆ ยิ้มแก้มแตกแล้วจ้าาาา



Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ พลอย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักที่สุดอ่ะแงงง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ขอให้ตอนต่อๆไปไม่มีดราม่าแล้ว ให้ยัยส้มก้องแฮปปี้ๆสักทีนะคะ สาทุบุน  :ling3:

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นแฟนกันยังไม่พ้นวันก็จูบกันแล้วแม่! ลูกเรานี่น่าตีจริงๆ แต่ก็ให้ๆ เขาหน่อยละกัน พี่อู๋ลำบากมามากและ 5555 เป็นแฟนกันแล้วถ้าทะเลาะกันขึ้นมาคงแทบบ้านแตกเลยมั้งเนี่ย

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
37 [PART 1/2]


โลกของผมกลายเป็นสีชมพู

ผมมีความสุขมากขึ้นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อได้ฟังเพลงรัก เพิ่มเป็นสองร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อเห็นข้อความจากพี่อู๋ และเพิ่มสูงสุดสามร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อเห็นหน้าเขา ความรู้สึกพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อน มันเป็นความรู้สึกจั๊กจี้เล็กๆในใจทุกครั้งเมื่อคิดว่าผมไม่โสดแล้วนะ ผมมีแฟนแล้ว แฟนผมชื่ออู๋ อิศรินทร์ ตอนนี้เป็นเลขาให้บริษัทญี่ปุ่น หล่อ เก่ง ใจดี กินจุเท่าหมีควาย ความภาคภูมิใจที่ไม่รู้มาจากไหนมากมายถาโถมเข้ามาล้นอกจนอยากจะเปิดโทรศัพท์อวดรูปพี่อู๋ให้เพื่อนๆดู ถ้าไม่ติดว่ากลัวถูกล้อเรื่องสายเหลือง ผมอาจจะทำแบบนั้นจริงๆก็ได้

“เพิ่งเคยมีแฟนก็แบบนี้แหละ”

ทรายส่ายหน้าเซ็งๆเมื่อเห็นผมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวระหว่างกินมื้อเที่ยงที่โรงเอ

“มึงจะเขินอะไรนักหนาฮะอีก้อง? เขินแม่ซื้อเหรอ?”
“เขินพี่อู๋”
“อ๋อ เขินผัว”
“บ้า เขาไม่ใช่ยังไม่ใช่ผัวกูเสียหน่อย” ผมถอนหายใจเซ็ง “แล้วนี่ไอ้มิวกับไอ้โบ้ทไปไหนวะทำไมไม่มากินข้าว?”
“มันพูดกันตั้งแต่เช้าแล้วว่าไปส่งงานๆ อีห่า หูมีไหมเนี่ย ทำไมไม่ฟังเพื่อนบ้าง?”

ผมหัวเราะแหะก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ ที่ไม่ได้ยินคงเป็นเพราะมัวแต่แชทกับพี่อู๋ก่อนเข้าเรียนแน่เลย

“เออ ไอ้ออกัสอ่ะ?”
“มันโดดเรียนไปถ่ายโฆษณา”
“อีกแล้วเหรอ?” ผมถาม “จะวันศุกร์แล้วกูยังไม่เห็นหน้ามันเลยนะ”
“นั่นแหละ เห็นว่าออกกองไปถ่ายต่างจังหวัด ถ่ายติดกันสองตัวเลยมั้ง รู้สึกว่าคราวนี้จะเป็นโฆษณาเครือข่ายโทรศัพท์กับน้ำผลไม้”
“มึงนี่รู้ดีจังเนอะ เลขาคนใหม่ของไอ้กัสหรือยังไง?”
“ยังมีหน้ามาแซวกู เพราะมึงนั่นแหละไปหักอกมัน มันถึงเข้าหน้าไม่ติดจนต้องตามงานจากกูเนี่ย อีห่า” ทรายชี้ส้อมมาทางหน้าผม “มึงได้คุยกับมันอีกไหม?”
“ไม่ว่ะ ก็คงแปลกๆอ่ะถ้ากลับมาคุยกัน ไอ้กัสมันมั่นใจมากว่ามันชอบกู”
“ก็มันชอบมึงจริงๆ” ทรายยืนยัน “แต่ชอบแบบ – บอกไม่ถูกอ่ะ เพราะคำอวยของกระแสคู่จิ้นด้วยมั้งมันเลยคิดว่าชอบ”
“สรุปไอ้ออกัสเป็นเกย์จริงเหรอ?”
“เป็นไบหรือเปล่า? ไม่รู้ดิ มิวก็เคยสงสัยว่ามันจะมาชอบมึงได้ไง ตอนมอปลายมันยังเป็นแฟนกับเชียร์หลีดเดอร์โรงเรียนเลย”

ผมพยักหน้ารับรู้แต่ไม่เก็บมาใส่ใจ มีบ้างที่นึกเสียดายว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้เพราะผมกับออกัสเข้ากันได้ดีในบางเรื่อง มันเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ถ้าไม่ติดเรื่องพยายามดึงผมไปสร้างกระแสก็แทบไม่มีเหตุผลที่ต้องเลิกคบกันด้วยซ้ำ

“แล้วมึงกับพี่อู๋เป็นไง?”
“อะไรเป็นไง?”
“คบกันแล้วดีกว่าที่เคยเป็นไหม?”

ผมหลุดอมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ จะว่าดีมันก็ดีแหละตรงที่ความรู้สึกทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด จากที่เคยตื่นมาเห็นหน้าเขาแล้วเฉยๆก็เริ่มอุ่นใจมากขึ้นที่เห็นพี่อู๋กินอิ่มนอนหลับ เวลาไปไหนมาไหนแล้วเขาจับมือก็รู้ดีที่มีเจ้าของ เมื่อก่อนผมไม่เคยเอะใจเลยว่าพี่อู๋เป็นคนใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแค่ไหน แต่พอเขาทักว่าอ้วนขึ้นนะ ผมก็มือไว เผลอหยิกสะดือเขาจนเลือดซิบเลย

“พี่อู๋ไม่ฟาดหน้ามึงเหรอไปหยิกพุงเขาแบบนั้น?”
“ไม่กล้าหรอก เขาไม่เคยตีกู” ไม่เคย แต่เกือบอยู่ครั้งหนึ่ง ผมยังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ฝังหัวราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน “เออ ทราย กูมีเรื่องอยากถามหน่อย”
“อือ ว่า?”

น้ำตาลทรายเลิกคิ้วก่อนจะตักข้าวเข้าปาก ส่วนผมลังเลไม่กล้าเพราะรู้สึกว่าคำถามนี้มันส่วนตัวเกินไป ไม่ควรถามใครไม่ว่าจะสนิทกันขนาดไหนก็ตาม แต่เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมมีน้ำตาลทรายเป็นเพื่อนสนิทจริงๆเพียงคนเดียว แถมยังเป็นเกย์ที่คบคนเพศเดียวเหมือนกันอีก พอเห็นนายก้องเกียรติอ้ำๆอึ้งๆ ทรายจึงถามต่อว่าเป็นอะไร คำถามมึงส้นตีนขนาดนั้นเลยเหรอ

“มึงเคยมีอะไรกับพี่กิ๊บยังวะ?”

เคร๊ง!

เสียงส้อมหล่นกระทบจานเมื่อผมถามจบ แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าเสียอาการ เพราะน้ำตาลทรายช็อคจนไปต่อไม่ถูกเลย

“ถามทำไม? พี่อู๋ขอมีอะไรกับมึงเหรอ?”
“ยัง แต่กูคิดว่าเร็วๆนี้คงได้คุยเรื่องนี้กัน”

ผมปั้นหน้าเครียดเพื่อบอกให้เพื่อนสนิทรู้ว่า เออ เราคุยกันในแง่วิชาการนะ ทุกอย่างที่หลุดจากปากผมคือคำถามเชิงวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นมึงอย่ามองว่ากูโรคจิตที่ถามเรื่องบนเตียงของมึงเลย ช่วยกูหน่อยเถอะ กูเสียวสันหลังมาหลายคืนแล้วเพราะพี่อู๋แสดงออกว่าอยากแต่ก็ไม่ทำอะไรซักอย่าง

“มึงอยากรู้อะไรล่ะ?”
“กูอยากรู้ว่าระหว่างมึงกับพี่กิ๊บใครเป็นผัว?”
“ไม่มีใครเป็นผัวทั้งนั้นอ่ะ ทำไมต้องมีคนเป็นผัว?”

ทรายถามพลางยกน้ำโค้กขึ้นดูดอึกๆ ผมพึมพำกับตัวเองว่าเหรอ ตกลงผัวมันไม่จำเป็นจริงๆเหรอ น้ำตาลทรายจึงย้ำอีกครั้งว่าจริง ในความสัมพันธ์ระหว่างมันกับพี่กิ๊บ ไม่มีใครสวมบทบาทเป็นผัว ไม่มีใครเป็นตัวแทนของผู้ชายด้วย

“มึงกังวลอะไรวะก้อง?”
“พี่อู๋เป็นรุก”
“อือ แล้ว?”
“กูก็ต้องเป็นรับเหรอ?” ทรายตอบห้วนๆว่าเออก่อนจะกินข้าวต่อ แต่ผมยังรู้สึกไม่เคลียร์เท่าไหร่
“อีก้อง ตอนมัธยมไม่มีใครสอนเพศศึกษามึงเหรอ?”
“มี แต่มึงก็รู้ว่าเขาไม่สอนอะไรแบบนี้หรอก” ผมบ่น “สรุปมึงกับพี่กิ๊บมีอะไรกันได้ไหม?”
“ได้”
“มีเซ็กส์กับเพศเดียวกันมันรู้สึกยังไงวะ?”
“ดี”
“จริงอ่ะ?” ผมเอียงคอสงสัย ไม่ได้แอ๊บไร้เดียงสา แต่จินตนาการไม่ออกนี่นาว่ามันจะมีความสุขได้ยังไง “กูต้องเป็นรับจริงๆเหรอทราย?”
“เป็นรับมันไม่ดีตรงไหนไม่ทราบ?”
“กูไม่อยากโดนเอา กูไม่อยากโดนขุดถังทอง”
“ก้อง มึงฟังเสียงคนนอกมากไปหรือเปล่าวะ?”
“ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น”
“งั้นอะไร?” ทรายถาม
“กู --” ผมอ้ำอึ้ง “กลัวเจ็บว่ะ”

น้ำตาลทรายร้องอ๋อก่อนจะกินข้าวต่อ เราสองคนไม่พูดเรื่องเซ็กส์กันอีกเพราะรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะเปิดอกคุยกันตรงๆ ทรายเองก็มีพื้นที่ส่วนตัวและไม่ได้เมาถึงขนาดสามารถพูดเรื่องนี้ได้โดยไม่กระดากปาก ส่วนผมก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อต้องปรึกษาเรื่องเซ็กส์กับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิง แต่มันไม่มีใครให้คุยแล้วเพราะผมไม่กล้าบอกพี่อู๋ กลัวเขาจะมองว่านายก้องเกียรติแก่แดด

“นึกยังไงถึงคุยเรื่องนี้กับกูอ่ะ?”

ทรายถามหลังกินข้าวหมดจาน ผมถอนหายใจแต่ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงให้เพื่อนรู้ว่าทำไม – ทำไมนายก้องเกียรติถึงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับเซ็กส์ทั้งๆที่ไม่เคยสนใจมาก่อน มันเป็นเพราะว่าตอนอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ผมกับพี่อู๋มีแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างน่าประหลาด ผมอยากอยู่ใกล้เขา อยากให้เขาโอบกอด อยากให้เขาหอม เขาจูบเหมือนเด็กขาดความรัก และพี่อู๋ก็ตอบสนองคำขอเล็กๆในใจผมด้วยการมอบสัมผัสที่อบอุ่นชวนฝันให้เสมอ

มันคงไม่เลยเถิดจนต้องคิดไกลถึงเซ็กส์ถ้าเราสองคนไม่บังเอิญ รู้สึก มากกว่าที่ควรเป็น ผมรู้ว่าพี่อู๋ต้องการตอนที่ชันเข่าไปสัมผัสกับอิศรินทร์จูเนียร์พอดี ตอนนั้นเรากำลังนอนจูบกันบนเตียง พอรู้ว่าเราต่างแข็งตัวด้วยกันทั้งคู่ พี่อู๋ก็เดินหนี เขาบอกว่าพอแค่นี้ก่อนแล้วลุกไปอาบน้ำ ปล่อยผมนอนค้างเติ่งคนเดียวไม่ได้รับการแก้ไข จริงๆผมควรบอกน้ำตาลทรายให้ละเอียดว่าที่มามันเป็นยังไง แต่ผมไม่เล่าเพราะกระดากอายผมไม่ควรบอกทรายว่าอ๋อ วันก่อนจูบกับพี่อู๋แล้วมีอารมณ์มากเลย

“มีแฟนนี่ยากจังเลยเนอะ”
“ไม่ยาก ถ้ามึงไม่คิดเยอะ” น้ำตาลทรายแค่นหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วเฉดหน้าผากผม “บางคำถามเก็บไว้ปรึกษาพี่อู๋บ้างก็ได้ เขาอาจจะอยากให้มึงคุยกับเขามากกว่าถามกู”
“กูอาย”
“อายอะไร คนเป็นแฟนกัน ยังไงมันก็ต้องรู้จักกันทุกแง่ทุกมุมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

ผมลองคิดตามคำพูดของน้ำตาลทราย ก็จริงอย่างที่มันว่า เพราะคนที่ต้องใช้ชีวิตในความสัมพันธ์มีแค่ผมกับพี่อู๋สองคน บางทีสิ่งที่ทรายคิดอาจจะต่างจากสิ่งที่พี่อู๋คิด ดังนั้นหากมีคำถามหรือข้อข้องใจตรงไหนควรถามคุณอิศรินทร์ดีกว่า อย่างน้อยเขาคงให้คำตอบได้แน่ๆว่าทำไม – ทำไมแค่จูบกัน ความรู้สึกบางอย่างถึงได้ก่อตัวขึ้นโดยไม่ตั้งใจ




วันนี้พี่อู๋พาผมไปเดท เป็นการเดทที่เหมือนเป็นเรื่องปกติเพราะก่อนหน้านี้เราก็ไปกินข้าวกันบ่อย บางครั้งก็ดูหนัง บางครั้งก็เดินเลือกซื้อของด้วยกันสองคน ช่วยกันคิดว่าวันหยุดนี้จะกินอะไรดี พี่อู๋อยากทานเมนูไหน ของใช้ในบ้านขาดเหลืออะไร เราจะลิสต์และออกไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้ากัน

ถ้าให้พูดจากใจจริง สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกพิเศษมากกว่าเดิมซักเท่าไหร่ เพราะปกติเราทำแบบนี้กันค่อนข้างบ่อย ผมจึงคุ้นชินกับการไปไหนมาไหนกับพี่อู๋สองต่อสอง กินข้าวกับเขา เดินเล่นกับเขา สั้นๆคือมันเหมือนเดิม และผมยังหาความพิเศษของมันไม่เจอจนกระทั่งพี่อู๋พาผมไปกินบาร์บีก้อน ความประทับใจไม่ใช่อาหารอร่อยๆที่วางเรียงเต็มโต๊ะ แต่เป็นตอนที่พี่อู๋คีบหมูที่เขาปิ้งทุกชิ้นใส่จานให้ผมต่างหาก มันคือความใส่ใจที่เขาทำโดยอัตโนมัติ โดยไม่คิดมาก โดยไม่ถามว่าปิ้งให้ไหมเพราะเขาเลือกเนื้อชิ้นสวยๆให้ผมได้กินก่อน เขาทำเหมือนแม่สมัยพาผมไปกินหมูกระทะแถวบ้านไม่มีผิด แม่จะเลือกแต่ชิ้นที่น่ากินน่าอร่อยให้ผม ชิ้นไหนไหม้หรือมาเป็นเศษซากแม่จะเก็บไว้กินเอง พอเห็นพี่อู๋ใส่ใจผมเหมือนแม่ก็อดรู้สึกดีไม่ได้ ผมรักเขามากกว่าเดิมอีกหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นเป็นห้าร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อเขาบอกว่าระวังร้อน เป่าก่อนกินนะ ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้ทานเลยซักคำ

“ของผมมีเยอะแล้ว พี่อู๋เก็บไว้กินบ้างก็ได้”

ผมบอกก่อนคืนหมูในจานบางส่วนให้ผู้ปกครอง แต่พี่อู๋ก็คีบมาคืนใหม่ เขาบอกให้ผมกินเถอะ กินเยอะๆจะได้มีแรงเรียนหนังสือ ผมอมยิ้มถามพี่อู๋ว่ากินวันเสาร์ก็หมดแล้ว ไม่มีแรงถึงวันจันทร์หรอก ถ้าอยากให้ผมขยันตั้งใจเรียน พี่ต้องขับรถไปส่งที่หอนะ

“ปกติก็ไปส่งอยู่แล้วหรือเปล่า?”

พี่อู๋ส่ายหน้าก่อนจะกลับไปขะมักเขม้นกับการปิ้งหมูต่อ เราสองคนกินเนื้อหมูอร่อยๆด้วยกันในร้านที่คนแน่นจนไม่มีโต๊ะว่าง จังหวะที่โต๊ะข้างหลังพี่อู๋ลุกไปซักพัก ลูกค้ารายใหม่ก็เข้ามาพร้อมกล้องกับทีมงานอีกหนึ่งคน ดูๆแล้วเธอคงเป็นบวล็อคเกอร์ที่ร้านจ้างมาโปรโมทโปรโมชั่นใหม่ หรือไม่ก็แค่คนชอบถ่ายวล็อคเหมือนออกัสเท่านั้น

ทันทีที่พวกเขานั่งประจำที่ ทีมงานก็เซ็ทกล้องจนได้มุมที่พอใจ ผู้หญิงคนนั้นยกมือไหว้สวัสดีกล้องและพูดได้เป็นวรรคเป็นเวรราวกับมีคนกำลังฟังอยู่จริงๆ ผมได้แต่มองภาพนั้นแล้วถอนหายใจเพราะเห็นว่าตำแหน่งของกล้องวางตรงหน้าพอดี ก็คือมองผ่านไหล่ของเธอก็จะเห็นนายก้องเกียรตินั่งเคี้ยวหมูมูมมาม จะกินให้อร่อยก็ลำบากเพราะมีกล้องจับภาพอยู่

พี่อู๋คงเอะใจว่าทำไมผมถึงกินคำเล็กลง ไม่กินหมูหลายชิ้นจนแก้มตุ่ยเหมือนก่อนหน้า เขาถามผมว่าข้างหลังทำอะไรอีกล่ะ พอบอกว่าอัดคลิป เขาก็จิ๊ปากแสดงสีหน้าไม่พอใจ เดี๋ยวนี้คนถ่ายวล็อคกันเยอะเพราะมันได้รับความนิยม ซึ่งเราสองคนเข้าใจว่าบางครั้งคนทำก็อยากผลิตคอนเท้นท์ให้ช่องตัวเอง แต่การตั้งกล้องในร้านอาหารโดยหันมาทางลูกค้าคนอื่นในร้านมันไม่เกินไปหน่อยเหรอ จริงอยู่ที่ผมไม่ใช่คนเด่นคนดังจนต้องระวังภาพลักษณ์อะไรมากมาย แต่ผมก็ไม่อยากให้กล้องจับภาพตัวเองตอนกินหรือเปล่า แบบนี้ไม่เข้าท่าเลย

“ไม่ต้องสนใจหรอก รีบกินรีบไปกันดีกว่า”

พี่อู๋บอก แต่ผมยังไม่สบายใจเพราะเหลือบเห็นกล้องตลอดเวลา สุดท้ายเขาต้องลุกสลับที่กับผมเพื่อให้นายก้องเกียรติกินเยอะๆจะได้อิ่มๆ หลังกินเสร็จเรามองวล็อคเกอร์ที่ยังคงพูดไม่หยุดแม้กระทั่งตอนหมูอยู่ในปาก พอออกจากร้านผมกับพี่อู๋ก็คุยกันว่าเขาจะเซ็นเซอร์หน้าให้เราหรือเปล่า พี่อู๋บอกว่าถึงไม่เซ็นก็คงไม่เป็นไรหรอกเพราะเราไม่ใช่คนมีชื่อเสียง แถมวล็อคเกอร์คนนั้นดังหรือเปล่าก็ไม่รู้ คงไม่มีสนใจหรอกว่าผู้ชายสองคนที่นั่งเคี้ยวหมูจนแก้มตุ่ยมันเป็นใคร

ผมเห็นด้วยกับพี่อู๋ ในยูทูปมีคลิปให้ดูเป็นล้านๆคงไม่หวยล็อคถึงขนาดเจอวล็อคเกอร์คนดังหรอก พอคิดแบบนั้นก็สบายใจ ผมจึงเดินเที่ยวในห้างต่อโดยไม่กังวลอะไร วันนั้นเราเดินเข้าร้านขายเสื้อหลายร้านเพราะพี่อู๋อ้วนขึ้นจนต้องเปลี่ยนไซส์เสื้อใหม่ ผมได้แต่มองแฟนหนุ่มของตัวเองที่ยืนเบ่งพุงไขมันหน้ากระจกห้องลอง เขาคิดจริงๆเหรอว่าไอ้ที่ปูดๆขึ้นมาน่ะเรียกว่ากล้ามเนื้อ มองยังไงก็ไขมัน ไขมันชัดๆ ไอ้อ้วนเอ๊ย คนที่สมควรโดนเรียกว่าไอ้อ้วนไม่น่าจะเป็นผม แต่เป็นพี่อู๋ต่างหาก

“กล้ามใหญ่จนต้องเปลี่ยนไซส์มีอยู่จริง”

พี่อู๋ถอดเสื้อของตัวเองแล้วเต้นหน้ากระจกเหมือนเด็กกะโปก ผมที่ยืนอยู่ด้วยในห้องลองแคบๆได้แต่ถอนหายใจ จนป่านนี้ยังคิดไม่ได้อีกว่ายิ่งแก่ขึ้น ระบบเผาผลาญยิ่งแย่ลง ตอนเจอกันวันแรกเขายังตัวลีบๆไม่ค่อยลงพุงเลย ตัดภาพมาที่ตอนนี้ –

“เฮ้ย นี่ขนาดแอลแล้วยังคับอีกเหรอ?”

ผมเดินเข้าไปช่วยพี่อู๋ติดกระดุมเสื้อ มันก็ไม่เชิงคับหรอกแค่ยกแขนลำบากดินหน่อย ผมจับๆบีบๆต้นแขนเขาก่อนจะบอกว่าปัญหามันอยู่ตรงนี้ ตรงที่ต้นแขนพี่อวบเกินไปเลยทำให้ดูแน่น บางทีพี่ควรตัดใจซื้อเอ็กซ์แอลแต่เขาไม่ยอม พี่อู๋ไม่เชื่อว่าตัวเองอ้วน เขาบอกว่าเกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยรู้จักคำว่าอ้วน ผมจึงเสยหน้าเขาด้วยการบอกว่าก็รู้จักซะมันตั้งแต่ตอนนี้เลยเพราะพี่แม่งอ้วนขึ้นจริงๆ เราเถียงกันในห้องลองเสื้อตั้งนาน ผมว่าพนักงานที่รอประจำทางเข้าออกคงขำขี้แตกไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงลุงวัยสามสิบกลางๆเถียงเด็กว่าตัวเองไม่ได้อ้วน สุดท้ายผมจึงถอดเสื้อตัวเองออกเพื่อให้พี่อู๋เห็นว่านี่ต่างหากที่เรียกว่าไม่อ้วน เห็นไหมว่าผมไม่อ้วน แขนไม่ย้วย พุงป่องนิดหน่อยเพราะบาร์บีก้อน แต่โดยรวมแล้วไม่ – อ้วน!

เถียงกันให้ตายก็ไม่จบไม่สิ้น เราต่างไม่ยอมรับว่าตัวเองอ้วนขึ้นจากวันแรกที่เจอกันทั้งคู่ ในที่สุดพี่อู๋ตัดบทด้วยการยอมซื้อไซส์เอ็กซ์แอลที่หลวมหน่อยแต่ดีกว่าติดรักแร้ พนักงานหน้าห้องลองแอบส่งยิ้มให้เมื่อรู้ว่าเราคือลูกค้าที่เถียงกันว่าอ้วน ไม่อ้วนในห้อง เหมือนพี่อู๋จะรู้ว่าผมแอบเคืองอยู่เล็กน้อย เขาจึงเดินเข้ามาโอ๋ด้วยการโอบไหล่และจับมือ บอกผมว่าอย่าโกรธเลย จะอ้วนจะผอมก็รักก้องเหมือนเดิม

ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่อู๋จริงจังหรอก ผมรักเขาในแบบที่เขาเป็น จะอ้วน จะหัวล้าน จะรูขุมขนกว้างผมก็ยังรัก ดังนั้นตอนที่ถึงรถแล้วพี่อู๋แกล้งดึงปลายจมูก ผมจึงงับมือเขา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจุ๊บกันเบาๆก่อนขับรถกลับลาดพร้าว





เพราะเราอยู่ด้วยกันมานานเกินไป กิจวัตรประจำวันจึงไม่แปลกใหม่หรือมีเรื่องน่าตื่นเต้นเท่าไหร่

สำหรับคนเพิ่งคบกัน หากมีเวลาได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านซักวันหรือสองวันคงเป็นเรื่องน่าสนุก แต่สำหรับผมกับพี่อู๋ที่อยู่ด้วยกันมานานถึงสองปีกลับไม่รู้สึกแบบนั้น มันค่อนข้างเป็นเรื่องปกติที่เห็นเราคนใดคนหนึ่งสวมแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินรอบบ้าน ผมไม่เขินอายเมื่อพี่อู๋ถอดเสื้อผ้าจนเหลือแค่ชั้นใน เดินเกาตูดแกรกๆรื้อหาของกินในตู้เย็นเหมือนคุณลุงวัยเกษียณ และพี่อู๋ก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกันเมื่อผมเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงหน้าเขา สั้นๆคือมันไม่ตื่นเต้นเพราะเราเห็นจนชินตา การอยู่ด้วยกันมานานทำลายบรรยากาศที่ควรจั๊กจี้ของคู่รักไปจนหมด เราเหมือนคู่สมรสที่แต่งงานกันเกินสิบปี กินอยู่ในบ้านหลังเดียวกันจนชินชาและปรับตัวเข้าหากันจนไม่เหลือเรื่องใหม่ให้ศึกษาอีกแล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราต่างจากคู่รักทั่วไป

นั่นคือเรายังไม่เคยมีเซ็กส์กัน

พี่อู๋ไม่เปิดประเด็นเข้าเรื่องนี้เสียที เขาปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่ผมต้องการตั้งแต่วันแรกที่เราคบกันเป็นแฟน อันนี้ผมพูดในแง่ของการใช้ชีวิตประจำวันนะ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เราทำมากกว่ากิจวัตร ผมว่ามันก็ยังมีความน่าตื่นเต้นของการได้ลิ้มลองสิ่งใหม่ๆอยู่เหมือนกันอย่างเช่น –

การจูบ

ผมกับพี่อู๋เราจูบกันบ่อยมาก แทบทุกครั้งที่มีโอกาสอยู่ใกล้กันนานเกินครึ่งชั่วโมง เมื่อก่อนเราชอบนั่งแยกกันคนละมุม เขานอนดูเน็ตฟลิกซ์ ดูยูทูปบนโซฟา ส่วนผมนั่งทำการบ้านอ่านหนังสือในห้องนอนใหญ่ แต่พักหลังมานี้เราชอบทำอะไรใกล้ๆกัน ผมทำการบ้านบนโต๊ะหน้าทีวีโดยมีพี่อู๋นั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง บางวันก็นอนโง่ๆบนเตียงจนถึงเที่ยง บางวันก็นั่งซบกันบนโซฟา มันคือการแสดงออกถึงความรักในรูปแบบหนึ่งที่ผมชอบ ไม่ต้องพูดมาก ไม่ต้องเวิ่นให้เยอะความ แค่อยู่ด้วยเฉยๆก็สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่พี่อู๋ – พี่อู๋มักจะหาโอกาสจูบผมเสมอ ตอนไหนก็ได้ ยังไงก็ได้ ผมจะทำอะไรอยู่ก็ช่าง ถ้าเขาอยากจูบต้องได้จูบ ผมว่าเขาเหมือนเด็กเห่อที่เพิ่งเคยมีแฟนคนแรก มันจะอะไรขนาดนั้น ผมถามเขาประจำเวลาพี่อู๋โน้มหน้ามาหา แต่ถามไปก็แค่นั้น เพราะสุดท้ายเราก็จูบกันอยู่ดี

เราสองคนมีแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างน่าเหลือเชื่อ หากจูบกันแล้ว ยากมากที่เราจะปลีกตัวกลับไปทำกิจกรรมของตัวเองตามเดิมได้ในเวลาไม่กี่นาที ครั้งหนึ่งเราเคยจูบกันจนรู้สึกด้วยกันทั้งคู่ บางทีนี่คงเป็นคำเตือนที่สมเหตุสมผลของผู้ใหญ่ที่ว่าหนุ่มสาวอย่าอยู่ใกล้กัน อย่าอยู่สองต่อสองเพียงลำพังเพราะมันถลำลึกง่าย ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแค่จูบ แค่ริมฝีปากแตะกันซักระยะหนึ่งก็สามารถปลุกอารมณ์บางอย่างได้ อารมณ์ที่น่าอายสำหรับผม แต่เป็นเรื่องธรรมชาติในสายตาของพี่อู๋

ตั้งแต่ป่วยเป็นซึมเศร้า ผมเหมือนคนสละทางโลก ผมไม่ดูหนังโป๊ ไม่มีอารมณ์ ไม่ช่วยตัวเอง ไม่เห็นว่าเซ็กส์สำคัญกับชีวิตตรงไหน แต่มาวันนี้ที่มีทุกอย่างพร้อม มีข้าวให้กิน มีที่ให้นอน มีคนรักที่คอยดูแลเอาใจใส่ เซ็กส์ก็กลับมารบกวนจิตใจและความคิดของผม ทุกครั้งที่พี่อู๋จูบนานเกินหนึ่งนาที หรือร่างกายของเราเสียดสีกันจนอีกนิดจะเรียกว่านัวเนียก็ได้ ผมจะแข็งตัว ผมมีความต้องการ ผมอยาก แต่ผมอายเกินกว่าจะบอกพี่อู๋ ซึ่งคุณอิศรินทร์ก็ดูเข้าใจเพราะเขาจะหยุดและผละตัวออกราวกับรู้ว่าผมยังไม่พร้อม หากถามว่านายก้องเกียรติไม่พร้อมเรื่องอะไร ผมกลับตอบไม่ได้ ผมให้คำตอบไม่ได้ว่าที่เราไม่ขยับไปอีกขั้นเป็นเพราะตัวของผมเอง หรือเพราะพี่อู๋กำลังชั่งใจกับเรื่องอะไรกันแน่

แต่วันนี้ต่างออกไปจากวันอื่นๆโดยสิ้นเชิง
 
หลังกินข้าวเสร็จผมก็นั่งทำการบ้านหน้าโทรทัศน์ ส่วนพี่อู๋นอนดูเน็ตฟลิกซ์บนโซฟา ช่วงบ่ายอากาศครึ้มน่านอนเพราะฝนตก เราจึงย้ายกันไปนอนกลางวันในห้อง พี่อู๋เปิดแอร์เย็นเจี๊ยบและปิดไฟ ปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดผ่านทางผ้าม่านพอเห็นเงาลางๆ เราสองคนนอนประจำที่ของตัวเองเรียบร้อยแต่วันนี้พี่อู๋ตื๊อมาก ไม่รู้เขาเป็นอะไร ดึงดันจะกอดผมให้ได้ ผมจึงปล่อยให้เขาได้ทำตามใจชอบ แล้วเราก็จูบกันอีก

เราจูบกันนานกว่าปกติ จูบด้วยเทคนิคหลากหลายตามที่พี่อู๋สอน เขาสอนผมเหมือนกำลังเลคเชอร์ให้นักเรียนส่วนตัวฟัง อ้าปากสิ แลบลิ้นออกมาหน่อย เอียงหน้าแบบนี้ ลองขยับตามพี่ดูนะ ดูดเบาๆ ค่อยๆเม้ม เขาสอนจนผมจูบเป็น และรู้ว่าเราต้องดึงดูดกันแบบไหนอารมณ์ถึงจะกระเจิงด้วยกันทั้งคู่ ตอนนั้นผมทำตามที่คุณครูอู๋สอนทุกอย่าง เราจูบกันจวบจาบในห้องที่มีเสียงฝนกระทบหน้าต่าง จูบไปจูบมาผมก็เลื้อยไปอยู่บนตัวเขา ซักพักพี่อู๋ก็พลิกผมกลับมาอยู่ข้างล่าง เราจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่งเมื่อสัมผัสได้ว่าส่วนล่างของเรากำลังเครียดขึงทั้งคู่

หัวใจของผมเต้นเร็วมาก หน้าร้อนผ่าว เหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย เราแทบไม่ได้พูดอะไรนอกจากจ้องตากันเลย พี่อู๋ไม่พูด ไม่สั่งให้ผมทำท่าตามความต้องการของเขาแต่ร่างกายของผมมันไปเอง ผมค่อยๆกางขาทั้งสองข้างออกเพื่อรอให้พี่อู๋โน้มตัวลงมาใหม่ เมื่อเห็นท่าทางเชื้อเชิญ เขาก็จูบผมโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอ พอจูบกันได้ซักพักเขาก็ผละตัวออกอีกหน คราวนี้พี่อู๋จับข้อเท้าของผมแล้วประทับริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบา

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

ผมหูอื้อ ตาลาย รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเผยอปากเชื้อเชิญให้คุณอิศรินทร์กลับมาใหม่ เขาค่อยๆลูบขาของผม ลูบขึ้นไปเรื่องๆถึงข้อพับด้านใน ผมหอบหายใจแรงขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างกายกำลังตอบสนองบางอย่าง บางอย่างที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นสัมผัสที่ผมชอบ และอยากให้เขาทำมากกว่านี้ จับผมอีกสิ แตะตรงนี้อีกหน่อย แบบนั้นแหละครับ พี่อู๋อ่อนโยนจัง ทำไมพี่ถึงจับผมแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่ถอดกางเกงออกไป

ผมมองหน้าพี่อู๋ มองสองมือที่กำลังง่วนกับการปลดกระดุมกางเกงขาสั้นอย่างว่องไว ใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีกางเกงตัวนอกของผมก็หลุดออกเหลือแค่กางเกงใน ผมนอนรอเพราะอยากรู้ว่าพี่อู๋จะทำอะไร เขาจะทำอะไรต่อเมื่อนายก้องเกียรติกึ่งเปลือยอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้ เขาจะเริ่มทำสิ่งที่ผู้ใหญ่ชอบเลยไหม หรือจะรอ หรือจะสัมผัสแบบนี้ไปเรื่อยๆ –

“พี่อู๋ --”

ผมเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงที่หอบติดจะแหบหน่อยๆเมื่อพี่อู๋จูบผมอีกครั้ง คราวนี้ผมเป็นฝ่ายดึงดูดเขา เป็นฝ่ายรุกล้ำในโพรงปากอย่างไม่ลดละเมื่อเขายื่นหน้าเขามา เรานอนจูบกันจนแทบหมดลมพี่อู๋ถึงจะผละตัวออก เขามองหน้าผม มองลึกเข้ามาในแววตาก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเอง พอเห็นผู้ปกครองใกล้เปลือยเต็มที ผมจึงเอาอย่างบ้างด้วยการถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออก เราเหลือแค่ชั้นในด้วยกันทั้งคู่ แต่ของพี่อู๋ดูอึดอัดกว่า มันโป่งพองพร้อมจะออกมาทักทายผมเต็มทีแล้ว

“ผมอยากถามพี่อู๋มานานแล้ว” ผมพูดเสียงเบาเพราะเขินอาย “ตอนจูบผม พี่มีอารมณ์เหมือนกันไหม?”
“มีสิ”
“แล้วพี่ทำยังไง?”
“ก็ช่วยตัวเอง ปกติก้องทำยังไง?”
“ผมก็ช่วยตัวเองเหมือนกัน”
“วันนี้อยากให้พี่ช่วยไหม?”





Part 2 ต่อข้างล่างนะคะ  :z13:

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
37 [PART 2/2] + TALK 22/06/2020

ผมลังเลไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าช่วยของเขาคืออะไร แต่พอพี่อู๋ค่อยๆใช้มือแตะตรงนั้นเบาๆ ผมก็เชิดหน้าขึ้นอย่างลืมตัว อารมณ์มันพุ่งเร็วมากจนคุมไม่อยู่ ช่วงท้องน้อยมันหวิวไปหมดเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ข้างใน เป็นความรู้สึกดียิ่งกว่าใช้มือของตัวเอง ผมสัมผัสได้ถึงความเครียดขึงน่าอึดอัดตรงกลางกางเกง มันกำลังส่งเสียงเรียกร้องขอให้ช่วยปลดปล่อย แต่ที่น่าอายคือมันตอบสนองทุกการสัมผัสจากพี่อู๋

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมวัยรุ่นถึงมีอะไรกันง่าย เพราะมันหยุดไม่ได้แบบนี้นี่เอง ศีลธรรมอะไรไม่อยู่ในหัวหรอกเพราะเรากำลังมีอารมณ์ ถ้าเป็นตอนที่สติยังครบถ้วน ผมคงไม่ยอมให้พี่อู๋จับของตัวเองง่ายๆ แต่ตอนนี้ผมกำลังอยากสุดขีดแล้ว ผมต้องการปลดปล่อยเต็มที่แล้ว ดังนั้นตอนนี้ผมจึงชันขาปล่อยให้เขาถอดกางเกงในออกอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นพี่อู๋ก็ตอบสนองความต้องการของก้องเกียรติได้ดีเยี่ยม เขาค่อยๆใช้มือปรนเปรอให้ผมอย่างเอาใจ มันเป็นจังหวะเนิบนาบเร้าอารมณ์จนต้องยกตัวขึ้นเพราะต้านไม่ไหว มันเสียว มันคือความรู้สึกเสียวกระสันที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลายปี และตอนนี้ผมกำลังปลดปล่อยร่างกายและหัวใจไปกับพี่อู๋ ประสบการณ์แปลกใหม่นี่ทำเอาผมแทบบ้า ปกติแล้วผมจะไม่ส่งเสียงครางใดๆเพราะเคยชินกับการแอบช่วยตัวเองในบ้าน แต่พอเป็นพี่อู๋ – พอเขาทำ ผมกลับผ่อนลมสลับกับร้องครวญเบาๆในลำคอเพราะมันห้ามไม่ได้จริงๆ

“โอ๊ย --”

เสียงร้องที่น่าอาย เสียงร้องที่มีแต่ความต้องการควรถูกเก็บเงียบ แต่ผมปลดปล่อยมันออกมาเต็มที่ ผมปรือตามองหน้าพี่อู๋ เมื่อเห็นเขาจ้องกลับมาก็ยิ่งมีอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า ผมร้องขอให้พี่อู๋ขยับเร็วๆเพราะผมจะเสร็จแล้ว ผมบอกเขาว่าจะเสร็จแล้วครับ มันดีจัง ดีจังเลย พี่ – ผมกำลังจะเสร็จ พี่อย่าหยุดนะ อย่า – อย่า – โอ๊ย!

เหมือนได้ยินตัวเองครวญครางลากเสียงยาวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตามด้วยอาการเกร็งจนตัวงอเหมือนกุ้ง สมองเบาสบาย ความรู้สึกอึดอัดพุ่งทะยานจนถึงปลายทางพร้อมกับของเหลวเลอะเทอะเต็มมือพี่อู๋ ผมนอนหอบหายใจก่อนจะก้มมองผลงานตัวเองด้วยความอาย ผมคงเก็บกดมาหลายวัน ไม่ได้ใช้มือระบายให้มันออกตามธรรมชาติก็เลยเยอะเป็นพิเศษ ผมเอี้ยวตัวหยิบทิชชู่ตรงหัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาด ตอนนี้ผมเสร็จแล้ว เสร็จจนสบายตัวมากๆ ผมจูบพี่อู๋ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่เสร็จ ผมถามพี่อู๋ว่าอยากให้ช่วยไหม เขาถามย้ำว่าได้เหรอ ได้จริงๆเหรอ เมื่อผมบอกว่าได้สิ เขาก็ปลดกางเกงชั้นในของตัวเองลงและขอให้ผมลองจับอิศรินทร์จูเนียร์หน่อย

พี่อู๋ แม่งโคตร –

ผมอาย ผมอายมากที่ได้เห็นความเป็นชายของผู้ปกครอง เราไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเปลือยล่อนจ้อนแบบนี้มาก่อน เมื่อครู่ที่นอนให้พี่อู๋ทำผมกลับไม่คิดกังวลหรือเคอะเขินอะไร มาตอนนี้ต้องเป็นฝ่ายช่วยเขาบ้างกลับหน้าแดงเหมือนจะระเบิด ผมเขินจนเงอะงะทำตัวไม่ถูก พี่อู๋อมยิ้มขำ เขาใช้มือบีบแก้มผมเบาๆก่อนจะบอกว่าไม่ต้องอายหรอก ทำสิ ทำเหมือนที่ต้องเคยช่วยตัวเองไง พี่อยากรู้จังว่าก้องทำยังไง เขาดึงมือผมไปจับของตัวเอง เอาเลย พี่รออยู่นะ

ผมทำตามคำขออย่างว่าง่าย ไม่ปฏิเสธเมื่อพี่อู๋ขอให้ลอง ผมนึกถึงตัวเองว่าเมื่อก่อนชอบสัมผัสแบบไหน ผมชอบเริ่มจากช้าๆ รูดด้วยจังหวะเนิบนาบไม่รีบเร่ง สีหน้าของคนที่ผมรักในตอนนี้ดูแปลกใหม่มากๆ ผมไม่เคยเห็นพี่อู๋ขมวดคิ้วและกัดฟันแน่นแบบนี้มาก่อนเลย เขาหลับตา ผ่อนลมหายใจเข้าออกลึกๆและช้าๆราวกับกำลังทำสมาธิ ผมใช้มือช่วยพี่อู๋พร้อมกับจูบเขาไปด้วย เขาคำรามในลำคอด้วยความชอบใจไม่ต่างกัน ผมได้ยินพี่อู๋พึมพำว่าดี ดีมาก แบบนั้นแหละก้อง – ก้อง ทำต่อไปนะ พอถึงจุดหนึ่งของอารมณ์ พี่อู๋ก็กระตุกตัวเกร็ง เขาดึงผมไปกอดและขยับสะโพกเร็วๆเหมือนกำลังทำเรื่องอย่างว่า เขาทำแบบนั้นไม่กี่ครั้งก่อนจะนิ่งสงบเป็นปกติ เรามองหน้ากันด้วยความเคอะเขินก่อนจะหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาด แยกย้ายกันสวมกางเกงในและห่มผ้านอนกลางวันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ผมนอนก่อนนะ”
“อืม นอนเลย”

ใครจะไปนอนได้วะ

ผมนึกถึงคำพูดคุณหมูพีที่เคยบอกว่าพี่อู๋เก่งเลย สำหรับผมเขาเก่งจริงๆ ผมเสร็จค่อนข้างเร็วกว่าปกติด้วยซ้ำ พอคิดวนเวียนเรื่องอย่างมามันก็ข่มตาหลับไม่ลง สุดท้ายพลิกตัวไปมาอยู่หลายหนจนหันไปสบตากับพี่อู๋ที่กำลังมองมาพอดี

“เป็นไงบ้าง?”
“อายครับ”
“อายทำไม เรื่องธรรมชาติ” พี่อู๋พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ เขาผ่อนคลายแต่ก็ดูเขินๆนิดหน่อยเหมือนกัน “รู้สึกดีไหม?”
“อะไรครับ?”
“เมื่อกี๊ที่ทำกันไง”
“ดีมากครับ” ผมกัดลิ้นแล้วเสมองทางอื่น ไอ้บ้าเอ๊ย ถามทำไมวะ ถ้าไม่ชอบจะอยู่นิ่งๆจนเสร็จคามือเขาเหรอ “พี่ชอบที่ผมทำให้ไหม?”
“ชอบมาก”
“พี่กอดผมแล้วทำแบบนั้นด้วย”
“อืม” เขาขานตอบห้วนๆแล้วเงียบไป “พี่รักก้องมากนะ”
“ผมก็รักพี่อู๋เหมือนกันครับ”

เราเงียบอีกเพราะเขิน ผมเขินมาก เขินที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยรู้สึกมาแล้ว พอคิดดูก็อายที่ตัวเองปล่อยตัวให้ไหลตามอารมณ์ง่ายเกินไป จู่ๆยอมให้พี่อู๋ถอดกางเกงไม่ใช่ทางของผมเลย แถมยังยอมให้เขาจับ ให้เขาสัมผัสส่วนใต้ร่มผ้าอีก ผมนี่มันหน้าไม่อาย ไม่มียางอาย แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ถามว่าจะขอให้พี่อู๋หยุดไหม? ไม่ เพราะมันแปลกใหม่และตราตรึงจนเหมือนฝันไปเลย

“เมื่อกี๊ที่เราทำกัน – เรียกว่าเซ็กส์เหรอครับ?”
“อืม แบบภายนอก”
“ถ้าภายในล่ะ?” ผมถามต่อ
“ก็ต้องสอดใส่” พี่อู๋หันหน้ามาตอบ
“หมายถึง – พี่ใส่ผมเหรอ?”
“ได้หรือเปล่าล่ะ?”
“ตอนนี้เลยเหรอ?”

ผมตื่นเต้นกังวล รู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อม แต่พี่อู๋ก็ส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้หรอก ตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเราจะมีอะไรกันจริงๆอย่างน้อยก้องต้องเตรียมตัวล่วงหน้าซึ่งเขาบอกว่าจะสอนผมวันหลัง อาจจะยุ่งยากและลำบากหน่อย แต่เขาสัญญาว่าจะอยู่กับผมตลอดเวลา

พอหมดเรื่องคุย ผมก็เคลิ้มหลับโดยมีพี่อู๋นอนลูบหัวอยู่ข้างๆ บ่ายวันนั้นกลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ไม่มีวันลืมของนายก้องเกียรติ ผมชอบช่วงเวลาที่เกิดขึ้นขณะนั้นมากจนไม่สามารถบรรยายให้เห็นภาพไปมากกว่านี้ได้ เอาเป็นว่าผมมีความสุข มีความสุขจากใจจริงนะ ถ้ามองกระจกในตอนนี้ หน้าของผมก็คงมีแต่รอยยิ้ม ไม่มีความทุกข์หรือความเศร้าหลงเหลือเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว




บางทีผมก็ทะเลาะกับความคิดของตัวเองในหัวเหมือนกัน อย่างวันก่อนผมคิดหนักจนแทบไม่ได้นอนเพราะไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำลงไปถูกต้องหรือเปล่า

ตอนนี้ผมอายุสิบเก้า อีกไม่กี่เดือนก็จะยี่สิบ หากตีเป็นเลขกลมๆว่าอายุยี่สิบ มันเร็วเกินไปไหมสำหรับการมีเซ็กส์กับแฟน ผมถามตัวเองตลอดว่ามันผิดไหม ผมกลายเป็นเด็กไม่ดี หรือทำตัวเสื่อมเสียหรือเปล่า บางคืนผมฝันถึงแม่ที่ตายไปแล้วสองปี ฝันว่าเราอยู่ด้วยกันในบ้าน พูดถึงเรื่องทั่วไป แล้วแม่ก็ดุผมที่ทำตัวไม่ดี แต่ในความฝันนั้นเลือนรางจนจำไม่ได้ว่าแม่ตำหนิผมเพราะอะไร หรือแม่รู้ว่าผมมีอะไรกับพี่อู๋ไปแล้ว แต่มันก็แค่ภายนอกนะแม่ มันแค่ข้างนอก ผมไม่ได้เสียตัว ไม่ได้กางขาให้เขาเอา ถือว่าผมยังบริสุทธิ์อยู่ไม่ใช่เหรอ

เพราะว่าผมไม่ใช่ผู้หญิง ผมจึงไม่สามารถตั้งปณิธานได้ว่าจะเก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้จนถึงวันแต่งงานตามที่คุณครูสอน ผมรู้ว่ายังไงชาตินี้ก็คงไม่ได้แต่งงานแน่ๆเพราะประเทศนี้ไม่เปิดกว้างขนาดนั้นแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเซ็กส์คือเมื่อไหร่ บางทีควรรอหลังเรียนจบ รอตอนมีบ้านมีรถพร้อมดูแลตัวเอง ผมกังวลมากว่าเซ็กส์จะทำให้ผมกลายเป็นคนหมกมุ่นหรือเป็นคนไม่ดี แต่พี่อู๋บอกว่าไร้สาระ สำหรับเขา -- เซ็กส์คือชานมไข่มุก

“มันแล้วแต่คนชอบ ถ้าหิวก็แค่กิน กินแล้วอร่อย กินแล้วมีความสุขก็กินเถอะ อย่างน้อยชานมไข่มุกไม่ได้ฆ่าใครตาย”
“แต่มันทำให้พี่เป็นเบาหวานได้นะ”
“แค่คำเปรียบเปรยไหมล่ะไอ้อ้วน”

ผมเข้าใจแนวคิดของพี่อู๋นะ เข้าใจดีว่าเขาเป็นประเภทไม่สนศีลธรรมอันดีของประเทศหรอก บางทีผมก็อิจฉาที่เขามีทัศนคติที่เปิดกว้างขนาดนี้ ในขณะที่ผมคิดมากและรู้สึกแย่หลังมีเซ็กส์ภายนอกกับพี่อู๋ คุณอิศรินทร์กลับมีความสุขที่เราได้ใช้ช่วงเวลาส่วนตัวอยู่ด้วยกัน และเหมือนเขาจะรู้ว่าผมคิดยังไง เขาจึงบอกว่าไม่ต้องรังเกียจเซ็กส์หรอก มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นสัญชาติญาณติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เซ็กส์จะผิดก็ต่อเมื่อไปเอากับคนมีเจ้าของ แต่ถ้าเราสนุกในที่ส่วนตัวกันสองคน ไม่ได้แย่งของใคร ไม่ได้ชวนกันไปเอาริมระเบียงให้โลกเห็น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“ก้องไม่ชอบที่เราช่วยกันเหรอ?”

พี่อู๋ถามในคืนหนึ่งหลังจากเราเพิ่งมีอะไรกันเสร็จใหม่ๆ ผมนอนเปลือยก่ายขากอดเขาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ แต่ก็บอกผู้ปกครองไปว่าชอบ ผมชอบ ผมชอบที่เราสัมผัสกันมากๆ แต่ผมกระดากอายเมื่อคิดว่าตัวเองไม่บริสุทธิ์แล้ว

“ใครมันสั่งมันสอนว่าการมีเซ็กส์คือการทำให้ตัวเองแปดเปื้อน?”
“คุณครูครับ”
“ประสาทมาก ฟังพี่นะ – คุณค่าในตัวของก้องไม่ได้ลดลงซักนิดแค่เพราะเซ็กส์ แต่มันจะลดลงเพราะทัศนคติของก้องที่ดูถูกตัวเองต่างหาก” เขาหอมแก้มผมหนึ่งฟอด “อย่าคิดมากเลย Sex is a gift from God เพราะฉะนั้นก็เอนจอยกับมันซะ จะอดทนอดกลั้นข่มใจตัวเองไปทำไมในเมื่อเราไม่ได้ไปแย่งกินของใคร ชีวิตมันก็แค่นี้แหละ อีกหน่อยก้องแก่ไปแล้วจะเสียใจที่มัวแต่กังวลถึงศีลธรรมปัญญาอ่อน”

ผมพยักหน้ารับ โอเค – หลังจากนี้ผมจะปรับทัศนคติตัวเอง แต่พยายามปรับ พยายามคิดใหม่มันก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ผมรู้สึกอายทุกครั้งเมื่อตัวเองกลายเป็นคนใจง่าย นอนให้พี่อู๋กอด นอนให้เขาจูบ แถมเลยเถิดจนเสร็จไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ผมอยากเป็นคนหนักแน่นมากกว่านี้จัง แต่ทุกครั้งที่พี่อู๋เริ่มมันก็หยุดไม่ได้ สมองของผมมักจะถอดใจยอมแพ้ เอาน่า ครั้งเดียว แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว คราวหน้าจะไม่ยอมแล้ว แต่ครั้งถัดไปเราก็ช่วยกันใหม่เพราะผมโคตรรักช่วงเวลานั้นเลย มันเป็นตอนที่พี่อู๋จับผมเบาๆอย่างทะนุถนอม เขาจูบผม และปรนเปรอจนผมตัวลอยมีความสุขชนิดที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ พอกันทีกับการบอกว่าจะไม่ทำอีกแล้ว เพราะพูดไปก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้นอกจากจูบเขากลับ และสนุกกับเซ็กส์ที่เรามอบให้กันเท่านั้น




ชีวิตในโลกชวนฝันของผมอย่างเข้าเดือนที่สองแล้ว ตั้งแต่คบกันมาผมไม่นึกเสียใจซักวินาทีเดียวที่ความสัมพันธ์เราคืบหน้าและค่อยๆเป็นค่อยๆไปอย่างต่อเนื่อง พี่อู๋ยังคงเป็นคนใจดีและเอาใจใส่ผมสม่ำเสมอ เราเหมือนปาท่องโก๋คู่ใหญ่ที่แยกจากกันไม่ได้ ผมคิดถึงพี่อู๋ตลอดเวลาในขณะที่เขาเองก็อยากเห็นหน้าผมทุกวัน ความสัมพันธ์อันเรียบง่ายแต่คงเส้นคงวาทำให้ผมมีความสุขมาก ผมพอใจกับชีวิตตัวเองในตอนนี้จนไม่คิดหวาดระแวงอะไรเพราะคงไม่มีใครเข้ามาทำให้เราผิดใจกัน

วันหนึ่งระหว่างขับรถไปส่งนายก้องเกียรติที่หอ พี่อู๋ก็บอกว่าการ์ดเข้าคอนโดที่ใช้อยู่อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะเดือนหน้าประตูทางเข้าคอนโดจะเปลี่ยนตัวสแกน ไว้พี่อู๋ได้การ์ดใหม่จากนิติเมื่อไหร่ค่อยเอาให้ก้องเกียรติ เอ้อ – ประตูบ้านเราจะเปลี่ยนกลอนประตูแล้วนะ คราวนี้เปลี่ยนเป็นแบบดิจิตอล แค่กดรหัสก็เข้าได้เลยไม่ต้องใช้กุญแจ ผมพยักหน้ารับรู้แต่ไม่ใส่ใจ เดี๋ยวถึงเวลาพี่อู๋ก็คงจัดการให้เอง เมื่อขับรถถึงหอ คุณอิศรินทร์ก็ขึ้นไปส่งถึงห้อง เขาให้เงินค่าขนมหนึ่งพันบาทตามปกติก่อนจะลูบหัวผมพร้อมกับกำชับให้ตั้งใจเรียน

“วันศุกร์หน้าไม่ต้องกลับบ้านนะ”
“ทำไมครับ?” ผมถามขณะเก็บเสื้อผ้าที่รีดมาจากบ้านเข้าตู้
“พี่จะพาไปเที่ยวกาญจนบุรี”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ” พี่อู๋ยิ้มก่อนจะเดินมาหยิกแก้มนายก้องเกียรติเบาๆ “อาทิตย์นี้ต้องตั้งใจเรียนเป็นสองเท่า พี่จะได้มีกำลังใจอยากพาไปเที่ยวอีก”

ผมตื่นเต้นที่เขาจะพาไปค้างต่างจังหวัดเพราะเราไม่ได้ออกนอกกรุงเทพมาหลายเดือนแล้ว พอเก็บของเรียบร้อยผมก็เดินไปส่งพี่อู๋ที่รถ สวนทางกับสมาร์ทที่เพิ่งกลับจากเซเว่นพอดี สมาร์ทแกล้งตัดพ้อว่ากับน้องกับนุ่งไม่เคยขับรถมา ตั้งแต่มีแฟนเรียนลาดกระบังนี่โผล่หน้ามาบ่อยเหลือเกินนะ

พี่อู๋ไม่ปฏิเสธคำกล่าวหา เขาดูเขินนิดๆเมื่อถูกคนในครอบครัวแซวก่อนจะให้เงินสมาร์ทห้าร้อยบาทเป็นค่าขนมพิเศษ เราแยกย้ายกันตรงลานจอดรถของหอพัก ผมโบกมือลาพี่อู๋จนรถขับออกไปสุดสายตาก่อนหันไปชวนสมาร์ทคุยจนถึงห้อง ส่วนใหญ่เรื่องที่คุยเกี่ยวกับวิชาที่ลงเรียน ผมค่อนข้างเป็นกังวลกับการสอบนิดหน่อย พอได้ยินสมาร์ทบ่นว่าได้บีบวกก็ค่อยสบายใจ ถ้าสมาร์ทได้บีบวก ผมคงไม่พ้นซีแน่ งั้นนอนเลยดีกว่า ไม่อ่านหนังสือล่วงหน้าแล้ว เป็นท้อ

ช่วงเวลาตอนนี้มันดีมากๆ ดีจนผมไม่ทันคิดระวังหรือกังวลในแง่ลบเกี่ยวกับอนาคตตัวเองเลย แต่ความสุขที่เกิดขึ้นเมื่อครู่กลับหายวับในพริบตาเมื่อไลน์แจ้งเตือนข้อความนับสิบจากเพื่อน คนแรกที่ทักมาคือมิว ผมไม่รู้ว่ามันมีเรื่องด่วนอะไรแต่ในแชทส่งภาพมาด้วย ส่วนคนที่กำลังรัวข้อความมาล่าสุดคือทราย มันบอกให้ผมเข้าทวิตเตอร์เดี๋ยวนี้ เพราะ #กัสก้อง กลับมาอีกแล้ว

ผมขมวดคิ้วงุนงงว่าคู่จิ้นจอมปลอมคืนชีพได้ยังไงในเมื่อไม่ได้ยุ่งกับออกัสมาหลายเดือนแล้ว และเมื่อเข้าไปอ่านแฮชแท็กที่กำลังเป็นเทรนด์ ผมก็เข้าใจทันทีว่าที่มันเป็นกระแสไม่ใช่เพราะออกัสพูดหรือทำอะไรพาดพิงนายก้องเกียรติหรอก แต่เป็นเพราะคลิปจากวล็อกเกอร์ในร้านบาร์บีก้อนวันนั้นต่างหาก

นั่นใช่ก้อง #กัสก้อง ป้ะ?
ก้องไปกินกับใครวะ ไม่ใช่ออกัสอ่ะ
ก้องไปเที่ยวกับผู้ชายคนนี้บ่อยนะ เจอข้างนอกทีไรก็เดินกับคนนี้ตลอด
แง คนนี้เป็นแฟนก้องจริงเหรอ ดูแก่กว่าเยอะเลยอ่า

ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นึกไม่ออกเลยว่าทำไม #กัสก้อง ถึงตามรังควาญชีวิตของผมอีก แต่คงไม่มีประโยคไหนน่าตกใจเท่าทวีตล่าสุดในแฮชแท็กแล้ว

รู้ตั้งนานแล้วว่า #กัสก้อง ไม่ได้มีซัมติงอะไรหรอก ก็ก้องมันเป็นเด็กเสี่ย มันจะเลิกคบคนที่ให้เงินใช้มาหาออกัสได้ไง 

เมื่ออ่านจบ โทรศัพท์ของผมก็ร่วงจากมือหล่นกระแทกพื้นทันที




** ในพาร์ทนี้ตัวละครพูดมีการพูดถึง sex ว่าเป็นของหวานที่อยากทานเมื่อไหร่ก็ทาน ทางผู้เขียนเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ก็จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น sex ต้องเกิดขึ้นในวัยที่เหมาะสม ต้องมีการป้องกันและเกิดจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่ายนะคะ หากมีการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น สามารถโทร 1663 สายด่วนปรึกษาท้องไม่พร้อมและยินดีช่วยคุณหาทางออกค่ะ ** 


TBC

_____________________________




#เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้



สวัสดีวันจันทร์ค่ะ ช่วงนี้ฝนตก รักษาสุขภาพและระมัดระวังเวลาเดินทางนอกบ้านด้วยนะคะ     ​
อย่าเพิ่งถอดใจกับดราม่านะคะ เพราะยังเหลือหนึ่งปมที่ต้องแก้ไม่งั้นเรื่องจะแหว่ง แบบ so so what ค่ะ ;-; 

หลายๆคนอ่านตอนนี้อาจจะขำกับคำบรรยาย 100% 200% 300% นะคะ เราเองก็ขำค่ะ ชอบมาก 55555555555555555555 อันนี้เป็นคลิปต้นฉบับนะคะ หากดูจบแล้วรับรองว่าคุณจะอ่านตอนนี้ไม่เหมือนเดิม หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ สองร้อยเปอร์เซ็นต์ สามร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเลยค่ะ >

 https://www.youtube.com/watch?v=qjbhhTEY6SE

เรื่องรูปเล่มสอบถามจากทีมที่ดูแลแล้วค่อนข้างคืบหน้าไปเยอะเลย เริ่มจัดหน้าและพิสูจน์อักษรแล้ว เหลือแต่เนื้อหานี่แหละค่ะที่ม่ายจบซักที ตอนพิเศษยาวมากๆเพราะเล่าเรื่องจากฝั่งพี่อู๋บ้าง หากมีอัปเดตหรือความคืบหน้าอื่นๆจะคอยแจ้งให้ทราบน้า ที่ไม่แจ้งเพราะไม่มีค่า เนื้อเรื่องไม่จบซ้ากที เล่มก็เลยเดินหน้าไม่ได้ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ TT

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกช่องทางเช่นเคย ทั้งคอมเม้นต์ แท็ก ฟี้ดแบคในรูปแบบต่างๆ และโดเนทนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่สนับสนุนกันมาตลอดจนใกล้สุดทางแล้ว เร็วๆนี้อาจจะไม่มีวันจันทร์ของน้องก้อง แต่หวังว่าทุกคนจะมีความสุขด้วยกันจนถึงตอนนั้นเลยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2020 18:52:16 โดย ambiguous95 »

ออฟไลน์ กล้วยจังหวะนรก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นกำลังใจให้น้องก้องผ่านเรื่องร้ายไปได้เร็วๆน้า เมื่อไรจะหมดเคราะห์หมดโศกสักทีลูก

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
สงสารก้องเลย จะแฮปปี้หน่อยก็มีเหตุอีกล่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ออกัสนายเห็นไหมว่าสร้างปัญหาเรื้อรังน่าปวดหัวให้ก้องแค่ไหน
ก้องมีชีวิตของตัวเองอยู่ดี ๆ ต้องกลายเป็นขี้ปากชาวเน็ต
พี่อู๋ไม่ใช่เสี่ย พี่อู๋แค่อ้วน
หวังว่าปัญหาจะไม่ลุกลามบานปลาย ขอให้ก้องและพี่อู๋ผ่านทุกอย่างไปด้วยความราบรื่น

ออฟไลน์ Mamamapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เอ้า ดราม่ามาอีกละ ปัญหาไม่จบไม่สิ้นสักทั เฮ้อ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มีเรื่องอีกแล้ว

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
แฮปปี้มาตลอดเลย ดันมาเจอระเบิดช่วงท้าย  :z3: อยากดีด #กัสก้อง ให้หายไปจากวงโคจร น้องก้องฉันมีเรื่องให้คิดไม่หยุด

เอ็นดูหมูอู๋จัง 555 พี่อู๋XL พระเอกมีพุง ตั้ลล้าคค
ชอบความเรียลของเรื่องนี้ พระเอกไม่ได้เพอเฟก แม้จะหล่อและรวย แต่พี่อู๋ก็คนธรรมดาคนนึงที่มีไขมันแทนที่กล้ามเนื้อได้เหมือนกันน 555

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
จะหวานเข้าหน่อยไม่ได้เล๊ยยยย เรื่องมาอีกแล้ว

ออฟไลน์ monalism

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มันจะดีๆยาวๆนี่ไม่ได้เลยยยยยย  เดี๋ยวพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก แทบไม่ได้หายใจหายคอ งานนี้อยากให้ก้องนิ่งๆไว้ ปล่อยผู้ปกครองจัดการ ไม่งั้นจะกลายเป็นกอริล่าก้องผู้ดำดิ่งไปอีกรอบ

แงงงงงงง น้องงงงงงงงง  :-[

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ฮือ ต้องเข้มแข็งน้า พี่อู๋ต้องช่วยน้องนะ แงๆๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ใครกันนะช่างรู้ดี รู้ดีกว่าเจ้าตัวเขาอีก ก้องตั้งสติไว้ลูก งานนี้คงต้องให้พี่หมูอู๋ช่วยจัดการ

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
โอ้ยยยยยย น้องก้องของพี่


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หึยยย... กัสก้อง อะไร เด่วจะโดนนน..
น้องก้องของพี่..  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :katai1:  จะให้ก้องมีชีวิตที่สงบสุขไม่ได้หรือไวนะ(ไม่ได้ว่าคนแต่งน้าาาาาา  ว่าพวก #กัสก้อง)

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอยืมตัวกอลลิล่าก้องไปทำบุญเก้าวัดพร้อมอาบน้ำมนต์สักเจ็ดวันนะคะ มรสุมเหลือเกินลูกกกก :katai1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เรื่องนี้ต้องถึงหูหมูอู๋ บอกว่าเป็นเสี่ยพอรับได้ แต่บอกว่าแก่คือรับไม่ไหวจริงๆ  :hao7:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ดราม่าไม่จบสักที๊ ชีวิตน้องก้องคือแบบต้องไปล้างซวยอ่ะจ้ะะะะ
สงสารแทน :hao5:

ออฟไลน์ INK@PANTIP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ


5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของก
ฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ | Not today, he said.



เรื่องราวของเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดคนหนึ่งที่กำลังจะกระโดดสะพาน แต่ดันมีคุณลุงขี่สกู๊ปปี้ไอสีฟ้าเข้ามาขัดขวาง และหลังจากนั้นแผนการฆ่าตัวตายของเขาก็ไม่เคยประสบความสำเร็จอีกเลย

#เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้


Story by : Ms.Ambiguous

สวัสดีค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัว ฝากน้องก้องไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ♡´・ᴗ・`♡

ออฟไลน์ INK@PANTIP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :man1: เมื่อไหร่มาลงอีกคะ รอวันฟิน :impress2:

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
38 [PART1/3]


ความรู้สึกอย่างแรกคือกลัว สองคือไม่เข้าใจ สามคือโมโหเพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ความรู้สึกพวกเหล่านี้เข้าโจมตีผมโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้เตรียมใจอ่านข้อความซุบซิบเหมือนข่าวเมาธ์ดาราเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผม

ก้องเด็กเสี่ยจริงเหรอคะ?

ผู้หญิงคนหนึ่งเมนชั่นถามทวิตข้างบน ผมรออยู่นานมากกว่าเจ้าของทวีตจะกล้ามาตอบไหม แล้วเธอก็มาจริงๆ

จริงจ้า เพื่อนในคณะรู้กันมานานแล้วว่า #กัสก้อง แค่เรียกกระแสเพราะก้องนางมีตัวจริงอยู่แล้วก็คือพี่คนนี้นี่แหละ
รู้ได้ไงอ่ะ ไปมุดเตียงเค้ามาเหรอถึงกล้าพูด
ไม่มุดก็เหมือนมุดจ้า เพื่อนสนิทนางเมาธ์เองเลย

เพื่อนสนิทของผมเหรอ?

มันจะเป็นใครได้อีกนอกจากทราย

ผมแคปหน้าเจอทวีตนั้นก่อนจะส่งหาทรายแล้วถามว่ามึงเหรอ น้ำตาลทรายกดอ่านอย่างรวดเร็วและรีบโทรหาผมทันที น้ำเสียงของมันกระวนกระวายบอกว่าไม่เคยเอาเรื่องของผมไปเล่าให้ใครฟัง ไม่เคยจริงๆ ผมก็รู้ว่ามันไม่ได้สนิทกับใครถึงขนาดเอาเรื่องผมไปคุยต่อได้ แต่ผมรู้สึกว่าข้อแก้ตัวนี้ฟังไม่ขึ้น ถึงไม่สนิทก็เล่าได้ เรื่องของชาวบ้าน มีใครบ้างจะไม่ชอบ

“ก้อง กูสาบานเลย สาบานต่อหน้าพระที่บ้านเลยว่ากูไม่เคยเอาเรื่องมึงไปพูดกับใคร”
“งั้นจะมีคนรู้ได้ไงว่ากูคบกับพี่อู๋ กูไม่เคยเล่าให้ใครฟังนอกจากมึง”

น้ำตาลทรายยืนยันเสียงแข็ง แถมยังท้าผมให้พาไปสาบานเก้าวัดว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวทำร้ายนายก้องเกียรติจริงๆ ผมนิ่งไปพักหนึ่งเพื่อครุ่นคิด ใช่ ผมไม่เคยบอกใครนอกจากน้ำตาลทราย แต่เป็นไปได้หรือเปล่าที่ทรายจะเผลอเล่าต่อให้คนสนิทฟังโดยไม่คิดอะไร ผมถามทรายว่านอกจากผมแล้วมันเคยคุยเรื่องนี้ให้ใครฟังอีกไหม มันเงียบไปอยู่พักใหญ่ราวกับนึกขึ้นได้แต่ไม่กล้าพูด ผมเค้นถามด้วยอารมณ์ว่ามึงหลุดปากบอกใคร มึงเมาธ์ให้ใครฟัง น้ำตาลทรายจึงยอมสารภาพ

“กู – กูเคยคุยกับมิวเรื่องมึงว่ะ”
“มึงนินทากูเหรอ?”

ผมผิดหวังมากเพราะไม่คิดว่าคนที่ไว้ใจจะร้ายได้ขนาดนี้ แต่น้ำตาลทรายรีบบอกว่ามันไม่ได้นินทา คำพูดของมันไม่เรียกว่านินทาด้วยซ้ำ เอางี้มึงรออ่านในไลน์แล้วกันเดี๋ยวกูจะแคปหน้าจอให้ดู ผมนั่งรอไม่ถึงนาที รูปแคปสกรีนมากมายหลายสิบรูปก็ถูกส่งมาทางไลน์ มันเป็นบทสนทนาระหว่างน้ำตาลทรายและมิวที่พูดถึงผม เนื้อหาไม่ได้นินทาเมาธ์มอยเหมือนที่เพื่อนว่า ทั้งสองคนแค่แลกเปลี่ยนข้อมูลกันตามประสาเพื่อนสนิท

มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ผมกับน้ำตาลทรายไม่ใช่เพื่อนสนิทที่มีกันแค่สองคน แต่ทรายก็สนิทกับมิวด้วย มันคือความสัมพันธ์สามคนที่มีทรายยืนอยู่ตรงกลาง ในขณะที่ผมระบายให้เธอฟัง เธอก็ส่งต่อข้อความนั้นให้มิวอีกทอดเพื่อเล่าว่า เออ เนี่ย ไอ้ก้องมันเจอปัญหานะ ซึ่งการแลกเปลี่ยนกันทำให้มิวมีข้อมูลเท่าทรายโดยที่ผมไม่ได้อยากเล่าให้มิวฟัง เท่ากับว่าความลับของผมไม่ลับ มันคือเรื่องเล่าแบบปากต่อปากอย่างนั้นเหรอ

“ก้อง มึงใจเย็นๆ กูว่ามิวไม่ได้ทำหรอก”
“ถ้าไม่ทำ แล้วมันจะมีคนหาว่าพี่อู๋เป็นเสี่ยได้ไง?”

ทรายกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผมว่ามันเองก็ไม่ได้มั่นใจในตัวมิวร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น ผมจึงบอกทรายว่าไปเคลียร์กับมิวให้รู้เรื่องก่อน ถ้ามึงหาตัวคนทวีตพล่อยๆแบบนั้นไม่ได้ ก็ไม่ต้องคบกูเป็นเพื่อนอีก

น้ำตาลทรายรับปากก่อนจะหายไปเกือบสิบห้านาที ปล่อยให้นายก้องเกียรติอ่านข้อความแย่ๆที่คนอื่นพาดพิงถึงตัวเองอยู่ตั้งนาน หน้าตาบ้านๆบ้างล่ะ ปั่นหัวผู้ชายบ้างล่ะ แต่ละคนทวีตด่าเหมือนอยู่กับนายก้องเกียรติตลอดเวลา ล่าสุดคือลามปามถึงพี่อู๋ด้วยคำพูดคำจาทุเรศที่ผมอ่านแล้วรับไม่ได้ มันแย่มาก แย่จนอยู่เฉยไม่ได้เมื่อมีคนขุดคุ้ยไปถึงว่าผมกับพี่อู๋อยู่บ้านเดียวกัน กินอยู่ด้วยกันแล้ว หลังจากนั้นอีกหลายๆทวีตก็พูดเป็นทำนองเดียวกันว่าเด็กเสี่ย เด็กเสี่ย มีคนตามรับตามส่ง พาไปเที่ยวทุกอาทิตย์แบบนี้เป็นเสี่ยแน่นอน

เสี่ยเหี้ยอะไร

พี่อู๋ไม่ใช่เสี่ย เขาเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ เขาไม่ใช่พวกจ่ายเงินซื้อเด็กมากินเหมือนที่คนพวกนั้นกล่าวหาเสียหน่อย ไอ้พวกปากพล่อยก็เมาธ์ซุบซิบกันสนุกสนาน ใส่สีตีไข่ไปเรื่อยราวกับรู้จักเราสองคนจริงๆ ผมที่นั่งอ่านข้อความทั้งหมดเริ่มรู้สึกเครียด เครียดกับทุกคำกล่าวหาที่พวกเขาชี้มาที่เราสองคน แม้ว่าในบางแง่มุมของความสัมพันธ์มันอาจจะเหมือนเสี่ยบ้าง แต่พี่อู๋ไม่ได้ซื้อผมเพราะเซ็กส์ เขาเลี้ยงผมด้วยความเมตตามาตั้งแต่แรก ไม่มีเรื่องอุบาทว์อย่างนั้นปนอยู่เลย พอเถอะ -- ยิ่งพูดผมก็ยิ่งตกผลึกกับคำว่าเด็กเสี่ย ผมเกลียดจริงๆที่สถานะของเรามันคล้ายกับคำครหา แต่ที่ผมเกลียดยิ่งกว่าคือมีคนทวีตว่า

เด็กเสี่ยควรสวยๆนมใหญ่ๆหรือไม่ก็หน้าตาดีหน่อย นี่หน้าบ้านมาก ตลาดนัดมาก ทำไมมีคนเลี้ยงวะ ขนาดกูยังไม่มีเสี่ยมาขอเลี้ยงเลย

เพราะมึงปากแบบนี้หรือเปล่าเลยไม่มีคนสนใจ 

ผมก่นด่าด้วยคำหยาบคายอีกหลายประโยค ไม่รู้ว่าแฟนคลับของออกัสเป็นประสาทหรือยังไงถึงมีปัญหากับชีวิตส่วนตัวของผมนัก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกต้องการอะไรจากผมกันแน่ ทำไมถึงเชียร์ให้ผมกับออกัสเป็นแฟนกันออกหน้าออกตา ตัดต่อรูป ทวีตประโยคน่าอึดอัดโดยไม่สนว่าเรารู้สึกยังไง แต่พอรู้ว่าแฟนตัวจริงของนายก้องเกียรติคือพี่อู๋กลับด่าสาดเสียเทเสียเหมือนความรักของเราผิดนักหนา ทั้งๆที่พี่อู๋ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันทำไมไม่จิ้นผมกับพี่อู๋บ้าง แค่ไม่ใช่ออกัสก็ผิดเหรอ แค่ไม่ใช่คนที่พวกเขาชอบนี่แย่มากเลยเหรอ ทำไมต้องว่าผมขนาดนี้ ผมทำอะไร ผมไม่ใช่ดารานะ ไม่เคยทำงานในวงการบันเทิงด้วย ทำไมวันนี้ผมต้องโดนรุมด่าแค่เพราะมีดาราตามจีบแล้วไม่ชอบ มันไม่ยุติธรรมเลย ผมอยู่ในมุมมืดมาตลอด ไม่เคยอยากได้สปอตไลท์ ไม่เคยอยากเป็นจุดสนใจ ทุกคนนั่นแหละตามหาเองว่าผมคือใคร ตามหาแล้วก็ระรานชีวิตส่วนตัวของผม

โอเค – ผมคงมีส่วนผิดอยู่บ้างที่ยอมให้ถ่ายรูป

พวกเขาอาจคิดว่าผมเห็นดีเห็นงานและปลื้มนักหนาที่มีคนมาชอบ ผมผิดเองที่ทำให้พวกเขาคิดแบบนั้น แต่ถ้าผมอยากเกาะกระแสออกัสดัง ผมคงรับงานคู่กับมันไปแล้ว ไม่อยู่เงียบๆแบบนี้หรอก ไอ้พวกเหี้ย

ผมโมโหจนน้ำตาซึม โมโหจนอยากกรี๊ดอัดหมอนเพราะไม่รู้จะโทษใคร ใครมันทำให้ผมเป็นกระแสโดนด่าในอินเทอร์เน็ต ใครมันเอาเรื่องส่วนตัวของผมไปเมาธ์ต่อกันสนุกปาก ใคร – ใครมัน – ไอ้ชาติชั่ว ใครมันเอาอดีตของผมมากระจายในทวิตเตอร์

เราเรียนห้องเดียวกับก้องสมัยมอปลาย เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าได้เรียนลาดกระบัง ไม่แปลกอ่ะที่ก้องจะมีเสี่ยเลี้ยงเพราะแม่ก้องผูกคอตายวันสอบโอเน็ต ถ้าไม่มีพี่คนนี้มันจะกินจะอยู่ยังไง #คิดบ้างนะ #สงสารก้อง

ผมร้องอัดหมอนเสียงดัง กรีดร้องด้วยความโมโหที่เพื่อนสมัยเรียนทำให้ทุกอย่างแย่ลงด้วยการเอาอดีตส่วนตัวของนายก้องเกียรติมาเผยแพร่ มึงจำเป็นต้องเอาเรื่องส่วนตัวกูมาเล่าขนาดนี้เลยเหรอ ต้องประกาศให้คนทั้งประเทศรู้เลยเหรอว่าแม่กูผูกคอตาย ผมโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ โกรธจนร้องไห้ จนต้องส่งข้อความในไลน์กลุ่มมอหกทับสามเพื่อหาตัวคนทำว่ามันเป็นใคร ผมใส่อารมณ์กับข้อความนั้นค่อนข้างแรง และผลลัพธ์ของมันก็คือเพื่อนทั้งห้องรับรู้กันหมดว่าผมเป็นเด็กของพี่อู๋ ผมเป็นเด็กเสี่ยในสายตาของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว

คนทวีตข้อความนั้นไม่กล้าออกมายอมรับ ปล่อยให้หัวหน้าห้องคอยปรามผมให้ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดค่อยๆจา ยังดีที่ฟิล์มเป็นคนมีจิตสำนึก มันพิมพ์ในไลน์กลุ่มว่าไม่ว่าคนทวีตจะเป็นใครก็ลบเถอะนะ สงสารก้องบ้าง อย่าทำแบบนี้กับเพื่อนเลย หลังจากนั้นไม่ถึงสองนาที ทวีตต้นทางที่พูดถึงแม่ก็ถูกลบไป แต่คำพูดของมันยังคงอยู่เพราะมีคนแคปเก็บไว้

ผมเหมือนคนโรคจิตที่ไม่สามารถหยุดรีเฟรชทวิตเตอร์ได้ ผมเจ็บที่โดนด่า แต่ก็ยังอยากรู้ว่าพวกเขาพูดถึงนายก้องเกียรติยังไง ตลอดสิบห้านาทีมีแต่คำว่าเด็กเสี่ย หน้าบ้าน ไม่ควรได้ผู้ชายงานดี เล่นตัว สร้างกระแส แต่จู่ๆก็มีทวีตนึงออกโรงปกป้องผม

เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับก้อง อยากบอกว่า #กัสก้อง ไม่เคยมีอะไรตั้งแต่แรกนะ ก้องกับออกัสเคยสนิทกันจริง แล้วก็ห่างๆกันไปเพราะกระแสคู่จิ้นด้วยซ้ำ ถ้าจะบอกว่าก้องหลอกใช้ออกัสก็ต้องตั้งคำถามก่อนว่าตั้งแต่มีคู่จิ้น ใครได้ผลประโยชน์มากที่สุด ที่แน่ๆไม่ใช่ก้อง

หลังอ่านจบ ประโยคแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ ใคร? ใครเป็นเจ้าของทวีตนี้ พอลองคลิกเข้าไปดูโปรไฟล์ก็ไม่เห็นข้อมูลส่วนตัวอะไรนอกจากรูปดาราเกาหลี ผมเดาได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นมิวแน่ๆ มิวคงเข้ามาช่วยแก้ข่าว ถึงแอคเคาท์ของมิวจะเป็นคนละคนกับทวีตกล่าวหาว่าเป็นเด็กเสี่ย แต่เรายังไม่เคลียร์กันนะว่าใครเป็นคนปากพล่อย เอาเรื่องพวกนี้มาพูดในแฮชแท็กให้ผมโดนรุมจิกเหมือนแร้งขนาดนี้

สรุปก้องเป็นเด็กเสี่ยจริงป้ะค้ะ?

มีคนเมนชั่นถามมิว

ก้องไม่ใช่เด็กเสี่ยค่ะ พี่ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนตัวจริงของก้องค่ะ
แบบนี้เท่ากับว่าก้องแกล้งทำเป็นกิ๊กกับออกัสเพราะอยากเข้าวงการอ่ะดิ
ย้อนกลับไปอ่านต้นทวีตของเราใหม่อีกครั้งนะคะ ก้องไม่เคยชอบออกัสค่ะ เพื่อนที่เคยจับกลุ่มติวเป็นพยานทุกคนว่าก้องเคยบอกให้ออกัสลบคลิปที่มีหน้าก้องออก แต่ออกัสก็ไม่ทำ
งงอ่ะ ถ้าไม่ได้ชอบออกัส จะแสดงออกว่ามีใจให้ทำไม
ตอนไหนคะที่ก้องแสดงออกว่าชอบออกัส? เพื่อนในกลุ่มดูออกหมดนะคะว่าก้องไม่เล่นด้วย ไม่เคยเล่นด้วยเพราะก้องมีแฟนอยู่แล้ว ไม่เชื่อลองถามคนในภาคแมคคาได้ค่ะ รู้กันทั้งนั้น

ผมอ่านทวีตของมิวที่คอยตอบโต้แฟนคลับกัสก้อง ทุกครั้งที่มีคนเมนชั่นไปเถียง มิวจะชี้แจงในเวลาไม่ถึงสองนาทีและตอบทุกทวีตจริงๆ มิวแก้ตัวให้ผมได้ซักพักก็โทรศัพท์มาหาเพื่อขอโทษ ขอโทษที่ปากพล่อย เอาเรื่องของก้องเกียรติไปเล่าให้เพื่อนสมัยมอปลายฟังต่อ มิวบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะเล่า และตอนเล่าก็ไม่ได้ใส่สีตีไข่อะไร เพื่อนมิวเป็นแฟนคลับกัสก้อง มันแค่อยากให้เพื่อนเลิกจิ้นเลยพูดมากไปหน่อย ขอโทษนะก้อง

“อืม”

ผมตอบแค่นั้น จะโกหกมิวว่าไม่เป็นไรก็คงไม่ได้เพราะทวีตของเพื่อนมิวที่บอกว่าผมเป็นเด็กเสี่ยทำให้กระแสก้องเกียรติหน้าเหี้ยลุกลามในทวิตเตอร์ ผมถามมิวว่าเพื่อนมันลบทวีตต้นทางหรือยัง มิวบอกว่าลบแล้ว ลบหมดและขอโทษแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเพราะชาวเน็ตก็คงแคปทวิตนั้นไว้และพูดถึงต่อไปไม่มีทางหยุด

“ก้อง มึงไม่ต้องเครียดนะ กระแสพวกนี้สองสามวันก็หาย ไอ้ออกัสไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์ขนาดนั้น คนรู้จักมันแค่กลุ่มเล็กๆเอง”

มิวพยายามปลอบด้วยการลดความเด่นดังของออกัสลงเพื่อให้ผมสบายใจว่ากลุ่มคนที่ด่านายก้องเกียรติก็แค่คนกลุ่มน้อย ผมเหลือบมองตัวเลขทวีตที่ติดแฮชแท็ก #กัสก้อง แล้วอยากจะร้องไห้ คนกลุ่มน้อยงั้นเหรอ? คนกลุ่มน้อยที่ทวีตกันไปแล้วสองหมื่นกว่าทวีต คงเป็นคนกลุ่มน้อยสำหรับมิว แต่มันไม่น้อยเลยเมื่อคิดว่ามีคนด่านายก้องเกียรติตั้งสองหมื่นคน

“ก้อง กูขอโทษจริงๆนะ”
“อืม”
“กูจะช่วยแก้ข่าวให้มึงเอง ไม่ต้องเครียด ใครๆก็รู้ว่ามันไม่จริง”

อ๋อเหรอ ผมคิดในใจ ใครๆก็รู้ว่ามันไม่จริง แต่ในแฮชแท็ก #กัสก้อง มีแต่คนด่าผมทั้งนั้น ไม่วิจารณ์หน้าตาก็ด่าว่าพยายามเกาะกระแสออกัสเพื่อเข้าวงการ ผมอยากจะถุยน้ำลายใส่หน้ามันทุกคนที่คิดว่าผมสร้างเรื่อง อยากจะสืบไอดีแอดเดรสจนเจอว่าบ้านมันอยู่ไหน แล้วผมจะขอให้พี่อู๋ขับรถพาไปเพื่อถุยน้ำลายใส่หน้าให้หายแค้น แต่ผมรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนตามที่มิวบอกและรอให้กระแสซาลงเท่านั้น

ผมคุยกับมิวอีกแค่นิดหน่อยก็วางสายเพราะไม่รู้จะคุยอะไร ทั้งโกรธทั้งเสียใจที่ทรายเอาเรื่องของผมไปเล่ามิว ส่วนมิวก็ไปบอกคนอื่นต่อโดยไม่แคร์เลยว่าผลกระทบที่ตามมามันร้ายแรงแค่ไหน หลังวางสายไม่กี่นาทีทรายก็โทรมาใหม่ มันขอโทษเสียงอ่อยและพยายามง้อขอคืนดี แต่ผมไม่มีอารมณ์เล่นหรอก โดนด่าว่าหน้าเหมือนหมาจากคนเป็นร้อยจะให้อารมณ์ดีได้ไง มึงลองโดนบ้างดิทราย แล้วจะรู้ว่าการถูกทรีทเป็นพลเมืองชั้นสองแค่เพราะไม่สวยไม่หล่อมันรู้สึกแย่ขนาดไหน

ทรายยังคงชวนคุยโดยหวังว่าผมจะรู้สึกดีขึ้น แต่เปล่าเลย ยิ่งคุยยิ่งเกิดเดดแอร์เพราะผมไม่มีสมาธิโฟกัสอะไรทั้งนั้นนอกจากนอนรีเฟรชแฮชแท็ก ถึงจะเจ็บจี๊ดในอกทุกครั้งที่เห็นคนทวีตด่าแต่มันก็อดไม่ได้ ผมอยากรู้ว่าทุกคนคิดยังไงกับนายก้องเกียรติ จะมีใครซักคนช่วยดึงสติคนพวกนี้บ้างไหม หรือด่ากันตามน้ำโดยไม่สนใจทวีตของมิวที่อธิบายซ้ำๆเหมือนกรอเทป ผมอดทนอ่านต่อไปได้แค่สิบนาทีก็วางสายทรายแล้วโทรหาพี่อู๋ ทันทีที่ได้ยินเสียงฮัลโหลของเขา ผมก็ร้องไห้โฮ

พี่อู๋ตกใจมากที่นายก้องเกียรติระเบิดเสียงร้องดังลั่น เขาถามว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ผมจึงบอกให้เขาเปิดทวิตเตอร์ พี่อู๋รีบทำตามก่อนจะสบถคำหยาบออกมาหลายชุด เขาบอกว่าไม่ต้องไปสนใจหรอก เลิกอ่านได้แล้ว คนพวกนี้มันประสาทแดกเกินว่าจะลดตัวลงไปคุย ไม่ต้องคิดมากนะเพราะสำหรับพี่ ก้องน่ารักที่สุดในโลก ผมบอกผู้ปกครองว่าที่เสียใจไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นหรอก พี่เห็นไหมว่ามีคนทวีตว่าผมเป็นเด็กเสี่ย เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเพื่อนตอนมอปลายก็ทวีตว่าแม่ผมผูกตาย ตอนนี้ทุกคนปักใจเชื่อหมดแล้วว่าผมขายตัวหาเงิน ผมไม่ได้ขายตัว ผมไม่ใช่เด็กเสี่ย ทำไมต้องกล่าวหาผมแบบนั้นด้วย

ผมฟูมฟายด้วยความเสียใจ แต่เสียใจได้ไม่นานก็เงียบเพราะรู้สึกว่ายิ่งร้องยิ่งเหนื่อย ผมไม่รู้เลยว่ากำลังสู้อยู่กับอะไร สู้กับความเกรี้ยวกราดของแฟนคลับออกัสแค่เพราะผมไม่คบกับมัน หรือสู้กับกระแสไอ้ก้องหน้าเหี้ยแต่ทำไมมีแฟนหล่อกันแน่ ในแฮชแท็กด่ากันเละเทะไม่ปะติปะต่อเท่าไหร่ อย่างล่าสุดมีคนตั้งคำถามว่าทำไมทวีตเด็กเสี่ยและทวีตที่ออกมาบอกว่าแม่ผูกคอตายถึงหายไป บ้างก็บอกว่าเสี่ยสั่งให้ลบ บ้างก็บอกว่าโดนผมขู่จะแจ้งพรบ.คอม มันเละเทะเหมือนอาหารเปียกในถังขยะ และผมรังเกียจคนพวกนี้จนอยากจะจับพวกมันมารวมกันให้ไปเจอที่สน.รวดเดียว

“เดี๋ยวพี่ขับรถไปนอนด้วยดีไหม?”

พี่อู๋ถามเมื่อผมเงียบอยู่นาน แต่มันดึกมากแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้เขาก็ต้องทำงาน ผมจึงไม่อยากให้เขามาเท่าไหร่ ผมบอกพี่อู๋ว่าไม่เป็นไร ผมไม่ค่อยคิดมากเหมือนช่วงแรกๆที่แฮชแท็กนี่ติดเทรนด์แล้ว ตอนนี้ผมสบายดี เดี๋ยวก็นอนแล้ว พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ

พี่อู๋อยากมา ผมรู้ว่าเขาอยากมาใจแทบขาดแต่เขาทิ้งงานไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงอยู่เป็นเพื่อนคุยจนผมเผลอหลับไปครู่ –




ต่อ Part 2 ข้างล่างนะฮับ

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
38 [Part 2/?]


นาฬิกาบอกเวลาว่าตีหนึ่งสามสิบเจ็ดนาที

พี่อู๋วางสายไปแล้ว ข้อความสุดท้ายในไลน์คือไม่ต้องกังวลเพราะเขารักผมมาก เดี๋ยวเขาจะจัดการให้เอง ผมส่งสติกเกอร์หัวใจดวงใหญ่ให้เขาและพิมพ์ตอบว่ารักเหมือนกันก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย มองฝ้าเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกอึนๆหน่วงๆ

ผมหลับโดยไม่ได้ปิดไฟในห้องจึงลุกขึ้นไปจัดการให้เรียบร้อย พอล้มตัวลงนอนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กว่ายังมีคนด่าผมอยู่อีกหรือเปล่า แน่นอนว่าแฮชแท็กส้นตีนนั่นยังติดเทรนด์ พวกเขายังด่าผมอยู่ สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่คำด่าพวกนั้น แต่เป็นข้อความในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมต่างหาก

ไอ้ก้อง สายเหลืองเหรอมึง เนียนเลยนะ 555
อีจิ๋มมี่ ไอ้ก้องเป็นพวกเดียวกับมึงอ่ะ

ผมกำหมัดแน่น พิมพ์คำหยาบหนึ่งพยางค์ ประกอบด้วยพยัญชนะสามตัวที่ขึ้นต้นด้วยค.ควายลงท้ายด้วยย.ยักษ์ก่อนจะกดลีฟกรุ๊ป ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนสมัยมัธยมอีก นอกจากนี้ยังมีไลน์ของมิวและทรายที่คอยปลอบใจอยู่เรื่อยๆอีกนับสิบข้อความ ส่วนใหญ่มิวจะรายงานว่าแก้ตัวให้แล้วนะ กระแสเริ่มตีกลับบ้างแล้ว อย่าคิดมากนะ กูให้เพื่อนที่เคยทวีตว่ามึงเป็นเด็กเสี่ยออกมาขอโทษแล้ว มึงหลับแล้วเหรอก้อง เออ นอนนะ กูขอโทษจริงๆ กูผิดเองที่ไม่ระวัง แต่กูจะแก้ปัญหาให้มึง กูไม่ทิ้งขี้ให้มึงจัดการคนเดียวแน่นอน

อืม

ผมอ่านข้อความเหล่านั้นด้วยความว่างเปล่า ไม่ได้ตอบเพื่อนทั้งสองด้วยสติกเกอร์หรือตัวอักษรใดๆทั้งสิ้นนอกจากกลับไปส่องแท็ก #กัสก้อง ต่อ ตอนนี้ทวีตแซะผมว่าหน้าบ้านแต่มีแฟนเป็นผู้ชายเบ้าหน้าดีเริ่มน้อยลงมากแล้ว มีทวีตนึงบอกว่าอิจฉาและอยากเกิดเป็นก้องเกียรติจริงๆที่มีผู้ชายหน้าตาดีสองคนตามจีบ ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไร คนนึงเป็นดารา อีกคนเป็นหนุ่มออฟฟิศที่หล่อเหี้ยๆ ผมอ่านทวีตนั้นแล้วได้แต่แค่นหัวเราะ อิจฉาเพราะมีแฟนหล่อเหรอ –

มีแฟนหล่อแต่เห็นศพแม่เธอผูกคอตายตรงบันได ขาดสอบโอเน็ต ไฟไหม้บ้าน ไม่มีสินทรัพย์เป็นของตัวเองเหลือซักชิ้น ต้องเรียนช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันตั้งสองปีอีก เธอว่ามันน่าอิจฉาไหม เป็นผม ผมไม่พูดคำนี้ออกมานะ เหมือนไม่ผ่านการกลั่นกรองใดๆ สิ้นคิดและตื้นเขินเหมือนที่พี่อู๋ว่าจริงๆ

ผมปรือตาอ่านทวีตต่อไป ไม่ได้รู้สึกเจ็บจี๊ดเท่าไหร่เพราะยังง่วงๆเบลอๆอยู่ ไทม์ไลน์ตอนนี้ไม่ค่อยคึกคักเหมือนก่อนหน้า สงสัยเด็กๆคงรีบปิดไฟนอนเตรียมตัวไปโรงเรียนแต่เช้าไม่งั้นจะถูกแม่ตี ผมไล่อ่านไปเรื่อยๆเพราะอยากรู้ว่ามีใครด่าผมได้เจ็บแสบกว่านี้อีกไหม แล้วก็เจอทวีตสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดที่ค่อนข้างเป็นกลาง ไม่ด่าไม่โทษว่าเป็นความผิดใคร เหมือนเป็นลุงสรยุทธ์มาสรุปข่าวสั้นๆให้คนฟังเฉยๆ ผมจึงลองกดเข้าไปส่องดู

สรุป #กัสก้อง นะ ตัวละครไม่ซับซ้อนมีแค่สามตัว
1.ออกัส เป็นคิ้วบอยมาก่อน ดังพอสมควรตั้งแต่มอปลาย เข้ามหาลัยก็เริ่มมีงานในวงการ ตอนนี้เป็นพระเอกซีรี่ส์วายกำลังจะออนแอร์เดือนหน้า
2. ก้อง เป็นเพื่อนวิศวะ สนิทกับออกัส เมื่อก่อนถ่ายรายการลงยูทูปด้วยกันบ่อยๆ คนเลยเริ่มจิ้น #กัสก้อง (1)

กระแสดีมากอยู่ช่วงนึง ใครๆก็ชอบ #กัสก้อง เพราะมันดูธรรมชาติ ไม่ยัดเยียด ออกัสก็แสดงออกว่าชอบ มีคนเคยเห็น #กัสก้อง ไปกินข้าว ไปรับไปส่งกันบ่อย แฟนคลับเลยคิดว่าคู่นี้คบกันจริง แต่ๆๆ ทุกครั้งที่เจอก้องไปเที่ยวข้างนอก ก้องไม่เคยไปกับออกัสเลย ไปกับผู้ชายคนนึงตลอด (2)

ซึ่งพี่ผู้ชายคนนี้คือตัวละครที่สาม ชื่ออะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเจอก้องทีไรก็จะเจอพี่คนนี้ด้วยตลอด คนที่เคยขอก้องถ่ายรูปคอนเฟิร์มว่าจริง เขาเป็นคนถ่ายให้เองด้วย แต่ไม่มีใครคิดอะไร คิดว่าคงมากับพี่หรือคนในครอบครัวเพราะเขาดูโตกว่าเยอะ ไม่แก่นะ แต่ดูออกอ่ะว่าไม่ใช่รุ่นเดียวกับเรา (3)

จนกระทั่ง #บตบก คนหนึ่งทำ vlog ในบาร์บีก้อนแล้วติดก้องกับพี่คนนี้ คือเค้ามากินกันสองคน ตอนแรกก้องหันหน้าเข้าหากล้อง ซักพักพี่คนนี้ก็สลับที่ให้เหมือนจะช่วยบังไม่ให้ติดหน้าแต่ก็ไม่รอดเพราะบตบก.คนนั้นไม่เบลอหน้า คนเลยตั้งคำถามว่าสลับที่ทำไมถ้าบริสุทธิ์ใจ มีความลับอะไรเหรอ (4)

แฟนคลับ #กัสก้อง ก็เลยออกมาตั้งคำถามว่าตกลงความจริงก้องคบกับใครกันแน่ ทำไมทำเหมือนชอบออกัสแต่ไปไหนมาไหนกับพี่คนนี้ตลอด เกาะกระแสออกัสหรือเปล่า อยากดังแน่ๆ แต่ประเด็นมันไม่จบแค่ตรงนี้เพราะมีแอคนึงออกมาแฉว่าเค้ารู้กันทั้งนั้นว่า #กัสก้อง ไม่จริง เพราะก้องเป็นเด็กเสี่ย (5)

ทีนี้แฟนก็ฮือฮากันว่าอะไรวะ นอกจากจะไม่ได้ชอบออกัส ก้องยังเป็นเด็กเสี่ยอีกเหรอ ตอนแรกมีคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนอีกคนออกมาทวีตประมาณว่าก็ไม่แปลก เพราะแม่ก้องเสียไปตั้งแต่มอปลายแล้ว คนยิ่งปักใจเชื่อว่าก้องเป็นเด็กเสี่ยแน่ๆ บ้านจน ไม่มีเงิน เข้าสเต็ปเด็กเสี่ยเลี้ยงมาก (6)

ต่อมามีแอคเคาท์นึงออกมาบอกว่าตัวเองอยู่กลุ่มเดียวกับ #กัสก้อง ยืนยันว่าก้องกับออกัสไม่เคยชอบกันเลย แถมก้องเคยห้ามไม่ให้อัปคลิปที่มีหน้าตัวเองลงยูทูปด้วย อันนี้จริงแท้แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่นางปกป้องก้องมาก แย้งทุกทวีตที่พยายามจับโป๊ะ แล้วทิ้งระเบิดเอาไว้สวยๆว่า (7)

ตั้งแต่มีกระแสคู้จิ้น #กัสก้อง ใครคือคนได้ประโยชน์มากที่สุด ลองคิดดู แต่คนยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่เพราะทวิตที่ออกมาว่าก้องเป็นเด็กเสี่ย กับแม่ผูกคอตายหายไปแล้ว หลายคนเลยคิดว่าเสี่ยสั่งให้ลบหรือเปล่า เสี่ยตามขู่หรือเปล่า เพราะจู่ๆก็ลบทิ้งไปไม่ชี้แจงอะไรเลย (8)

แฟนคลับยังคงด่าก้องเรื่อยๆ แต่หลังๆเริ่มเสียทิศทางเพราะมีคนทวิตบอกว่าเสี่ยของก้องเคยอยู่ในแท็ก #หนุ่มออฟฟิศหล่อบอกต่อด้วย เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ไม่รู้เป็นเสี่ยจริงมั้ย ไม่รู้ว่าทำงานอะไร รู้แค่ว่าหล่อ และก้องน่าอิจฉามากจ่ะที่มีผู้หล่อๆสองคนมารุมชอบ (จบ)

#อัพเดทเพิ่มเติม1 ทวิตที่บอกว่าก้องเป็นเด็กเสี่ยคอนเฟิร์มแล้วนะคะว่าเสี่ยไม่ได้สั่งลบ เจ้าตัวเค้าลบเองเพราะฟังต่อมาจากเพื่อนของก้องแล้วเข้าใจผิด ตอนนี้ก้องทะเลาะกับเพื่อนหนักมาก เค้าไม่อยากสร้างปัญหาก็เลยตัดสินใจลบเองจ้า

#อัพเดทเพิ่มเติม2 ส่วนทวิตเล่าเรื่องแม่ของก้องลบไปเพราะก้องขอ แต่เอาจริง มันก็ไม่ควรพูดนั่นแหละว่าแม่เค้าเสียเพราะอะไร ทวิตนี้เราว่าลบไปอ่ะดีแล้ว สงสารก้อง

#อัพเดทเพิ่มเติม3 มีคนหลังไมค์มาเล่าสู่กันฟังว่าเสี่ยของก้องไม่ใช่พนักงานกิ๊กก๊อกนะจ๊ะ นางเป็นล่ามญี่ปุ่นจ้า ชื่อพี่อู๋ หล่อมาก ตัวจริงหล่อกว่าที่เห็นในรูปอีก สมัยเรียนเกือบได้เป็นเดือนอักษร แต่นางโดดเชียร์ไปกินหอยทอดที่องค์พระทุกวันเลยชวด ตล๊กกก


เสือกเกินไปหรือเปล่าวะ

ผมขมวดคิ้วไม่พอใจเมื่อข้อมูลและเรื่องส่วนตัวของพี่อู๋ค่อยๆหลุดมาทีละนิด ตอนนี้แฟนคลับเลิกด่าผมแล้ว แต่หันมาสนใจผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเสี่ยเลี้ยงของก้องเกียรติแทน มันวุ่นวายชนิดที่คุมไม่อยู่ มีแฮชแท็ก #ล่ามหล่อบอกต่อด้วย แถมมีคนขุดรูปพี่อู๋สมัยเพิ่งเรียนจบมาอวยด้วย ไม่รู้ไปขุดมาจากไหนกัน ถ้าคนพวกนี้ตรวจสอบการทำงานของรัฐได้ดีซักครึ่งหนึ่งของที่เสือกเรื่องผม ถนนของประเทศเราคงปูด้วยทองคำอย่างที่หม่อมราชวงศ์คนหนึ่งว่าไว้แล้ว

ข้อความพวกนั้นทำเอาผมหงุดหงิดโมโห อยากเมนชั่นไปด่ารายคนไม่ให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่อู๋ แต่ดูจากกระแสตอนนี้แล้วผมไม่ควรเคลื่อนไหวหรือแสดงตัวในโลกโซเชียลเด็ดขาด ผมนอนอ่านข้อความสรรเสริญความหล่อของพี่อู๋สลับกับข้อความด่านายก้องเกียรติว่าหน้าเหมือนหมา อยากสร้างกระแสเป็นคนดังเพราะจะเข้าวงการ อ่านซ้ำไปซ้ำมาจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นประสาทตาย ผมจึงวางโทรศัพท์ไว้ใต้หมอนแล้วเข้านอนครั้งที่สอง หวังว่าเมื่อลืมตาขึ้นมา #กัสก้อง จะหายไปจากชีวิตของนายก้องเกียรติเสียที





เช้าวันนี้ผมไม่ได้ไปเรียนเพราะนอนตื่นสาย และตั้งใจว่าจะไม่โผล่หน้าไปไหนซักพักเพราะคิดว่ากระแส #กัสก้อง คงถูกพูดถึงกันในวงกว้างแล้ว

ตั้งแต่เมื่อคืนจนแปดโมงเช้า แฮชแท็กนรกก็ยังติดเทรนด์อยู่เหมือนเดิม ผู้คนยังให้ความสนใจกับหน้าตาของพี่อู๋ และก่นด่าโชคชะตาว่านายก้องเกียรติทำบุญด้วยอะไร ทำไมผู้ชายงานดีสองคนถึงหลงรักหัวปักหัวปำขนาดนี้ ไม่รู้ว่าชาวเน็ตเป็นไบโพล่าร์หรือเปล่า ตอนแรกก็ด่าผมเหมือนหมูเหมือนหมา ตอนหลังก็อิจฉาที่มีแฟนหน้าตาดี ส่วนตอนนี้เริ่มคุยกันว่าออกัสจะมาไลฟ์ทุกวันจันทร์สองทุ่มเหมือนเดิมไหม หรือหายไปเพราะไม่อยากเป็นกระแสให้ใครโจมตี ผมอ่านแล้วได้แต่เบ้ปากกลอกตา หน้าอย่างไอ้ออกัสเหรอจะเงียบหายไม่อยากได้ซีน เผลอๆป่านนี้นั่งคิดสคริปท์เพื่อเรียกสปอตไลท์แล้ว

ผมนอนไถทวิตเตอร์อยู่เกือบชั่วโมง พอพี่อู๋โทรมาถึงได้พักเบรกจากข้อความเฮงซวยพวกนั้นบ้าง คุณอิศรินทร์ตกใจเมื่อรู้ว่าวันนี้นายก้องเกียรติโดดเรียน แต่เขาไม่ได้ตำหนิอะไรเท่าไหร่เพราะเข้าใจว่าผมไม่อยากเจอหน้าใครจริงๆ พี่อู๋บอกแค่ว่าให้เลิกอ่านทวิตเตอร์แล้วกลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนที่ผ่านมา ยังไงกระแสพวกนั้นคงอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งวันก็เงียบไปเอง

ผมรับปากพี่อู๋ว่าจะดูแลตัวเองดีๆ จะไม่นอนซมในห้องทั้งวัน จะไม่อดข้าวหรือทำตัวเหลวไหลให้เขากังวล พี่อู๋ให้กำลังใจด้วยการพูดถึงทริปเมืองกาญจน์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อดทนไว้นะก้อง วันศุกร์นี้เราก็จะได้เจอกันแล้ว พี่จะพาก้องไปเที่ยวที่สวยๆ ไปกินของอร่อยๆ ไว้เราเจอกันพี่จะปลอบก้องอีกครั้งนะ ผมยิ้มจนแก้มแทบฉีกเมื่อจินตนาการตามผู้ปกครอง นั่นสิ อีกไม่กี่วันเราจะได้เจอกันแล้ว ผมไม่ควรปล่อยตัวเองให้จมกับเรื่องนี้เลย โฟกัสวันที่จะมีความสุขดีกว่า แบบนั้นคงสบายใจกว่ากันเยอะ

พอคิดได้ผมก็เริ่มปล่อยวาง พยายามกลับมาใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนเดิม ทรายกับมิวโทรมาหลายสายด้วยความเป็นห่วง แต่ผมบอกเพื่อนแล้วว่าไม่เป็นไร ผมไม่ไปเรียนเพราะไม่อยากเจอใคร ว่าแต่วันนี้ไอ้ออกัสไปเรียนไหม มันว่าอะไรบ้าง

“ไม่พูดอะไร ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

ทรายบอก ผมจึงถามต่อว่าได้คุยกันบ้างไหม มิวตอบทันทีว่าคุยเรื่องแฮชแท็กนั่นแหละ ออกัสบอกว่ามันเห็นแล้วแต่ไม่รู้จะทำยังไง มันเองก็อยู่เฉยๆมาพักใหญ่ ใครจะไปคิดว่าบิวตี้บล็อกเกอร์คนนั้นจะอัดคลิปติดผมกับพี่อู๋แล้วกลายเป็นประเด็นได้

“แต่เย็นนี้มันจะมาไลฟ์นะ มันจะช่วยพูดกับแฟนคลับให้” ทรายบอก “มึงกินข้าวรึยัง? เดี๋ยวกูกับมิวซื้อไปให้เอาไหม?”

ผมบอกไม่เป็นไรแล้ววางสาย มันไม่รู้จะคุยอะไรต่อจริงๆในเมื่อสิ่งที่เราสามารถทำได้ตอนนี้คืออยู่เฉยๆจนกว่ากระแสจะซาลงไปเอง เท่ากับว่าผมต้องรออีกเจ็ดชั่วโมงกว่าๆเพื่อดูว่าออกัสจะสามารถหยุดเรื่องเฮงซวยพวกนี้ได้หรือไม่ หากถามความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่ามันทำไม่ได้หรอก ออกัสเป็นประเภทแคร์ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของตัวเองจะตาย มันคงไม่บอกแฟนคลับตรงๆว่าหยุดบ้า หรือหยุดสาระแนเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเสียที อย่างมากก็คงพูดว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด อย่าระรานก้องกับแฟนอีกเลยนะครับ ผมขอร้อง อ่ะ – กูคิดไดอะล็อคให้แล้วนะออกัส มึงหยิบไปใช้ได้เลย แต่ถ้าสองทุ่มนี้ไม่มีเรื่องดีๆหลุดจากปากมึง เวทีมวยเฉพาะกิจเกกีหนึ่งต้องเกิดขึ้นแล้วล่ะ




ออกัสไลฟ์สดผ่านทางอินสตราแกรมตอนสองทุ่ม แต่ผมไม่สนใจเพราะช่วงนั้นเป็นเวลาที่พี่อู๋ถึงบ้านพอดี

ปกติเราจะวิดีโอคอลหากันเวลาประมาณนี้ ผมจะคอยดูแฟนเดินไปเดินมาในบ้าน คอยบอกให้เขาเอาจานชามไปล้างในอ่าง บอกให้ใส่เสื้อผ้าลงตระกร้า บางทีก็มีโชว์ระบำหน้าท้องน่าเกลียดๆจากคุณอิศรินทร์ให้ดูด้วย มันคือช่วงสั้นๆที่เราได้เห็นหน้ากัน ได้คุยกันในแต่ละวัน ดังนั้นผมจึงไม่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สดของออกัส เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือการได้คุยกับแฟนของตัวเองต่างหาก

พี่อู๋เป็นผู้ใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้หลายเท่า เขาไม่ได้นิ่งนอนใจ ปล่อยให้นายก้องเกียรติโดนด่าเพียงฝ่ายเดียว แต่เขาติดต่อโดยตรงไปที่บิวตี้บล็อกเกอร์คนนั้นเพื่อให้เธอลบคลิปออก ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง วิดีโอคลิปที่มีคนดูเจ็ดแสนและคอมเม้นต์เกือบครึ่งหมื่นก็หายไปจากยูทูป ส่วนเธอก็อัปวิดีโอแถลงการณ์ขอโทษที่ไม่เคยเซ็นเซอร์หน้าคนที่ติดเข้ามาในคลิปเลย เธอให้สัญญาว่าหลังจากแก้ไขวิดีโอนั้นจะอัปให้ดูใหม่ และจะเบลอหน้าคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกให้หมด เธอจะไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของใครอีก

ผมค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเลย คำขอโทษจากใจจริงกับการแก้ไขที่รวดเร็วทันการณ์คือสิ่งที่ผมกับพี่อู๋ต้องการ แต่การแก้ไขของบิวตี้บล็อคเกอร์คนนั้นไม่สามารถห้ามคำครหานินทาของผู้คนได้ เสี่ยสั่งมาบ้างล่ะ อิทธิพลของเสี่ยบ้างล่ะ บางคอมเม้นต์เหมือนไม่เคยเล่นทวิตเตอร์ถึงไม่รู้ว่ามีคนเอาข้อมูลส่วนตัวของพี่อู๋มาเผยแพร่ชนิดที่ไม่เหลือความเป็นส่วนตัวแล้ว เขาไม่ได้เป็นเสี่ย ไม่ได้รวยล้นฟ้า ไม่เคยซื้อเด็กมากิน เขาเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ ถ้ามันคิดว่าพี่อู๋คือเสี่ย แล้วเสี่ยตัวจริงจะเรียกว่าอะไร โคตรเสี่ยเหรอ ไอ้ควาย

พอคิดถึงเรื่องนี้ ผมก็ขอโทษพี่อู๋ที่ทำให้เขาโดนพาดพิงว่าเป็นเสี่ย คุณอิศรินทร์ไม่ว่าอะไร เขาไม่โกรธที่นายก้องเกียรติเป็นต้นเหตุให้มีรูปของเขาว่อนเต็มอินเทอร์เน็ต ผมถามพี่อู๋ว่าเพื่อนๆคนรอบตัวของเขารู้เรื่องนี้ไหม พี่อู๋บอกว่าส่วนใหญ่เพื่อนผู้หญิงจะรู้ เพื่อนของหมูพีก็รู้ แต่ไอ้ตั้มเพิ่งรู้เพราะมันไม่สนใจ ทวิตเตอร์มีไว้เมนชั่นด่า @prayutofficial เท่านั้น

“เพื่อนคุณหมูพีคงด่าพี่น่าดู”

ผมเสียใจจริงๆที่ทำให้พี่อู๋โดนด่า แต่เพื่อนของคุณหมูพีเป็นประเภทแค่ใบไม้ไหวก็ด่าแล้ว ไม่แปลกที่จะถล่มพี่อู๋จนเละเหมือนไปเหยียบหางพวกเขา พี่อู๋หัวเราะไม่ซีเรียส เขาบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวลเลย ก้องทำใจให้สบายเถอะ คลิปก็ลบไปแล้ว หลังจากนี้ใครจะว่าจะด่าก็ช่างมัน เป็นเสี่ยมันไม่ดีตรงไหน ถ้าเสี่ยไม่ได้ค้ามนุษย์ ไม่ได้ขายยาหรือปลอมใบปริญญาก็ไม่เห็นน่าอาย ออกจะเป็นคำชมด้วยซ้ำ รวยแบบเสี่ย เท่แบบเสี่ย ชิคจะตาย ไปไหนมาไหนแล้วมีคนเรียกเสี่ยอู๋

พี่อู๋ทำให้ผมยิ้มได้ ในสถานการณ์ที่อึดอัดจนไม่รู้จะหันไปหาใคร ผมยังมีพี่อู๋คอยปลอบใจ คอยทำให้เรื่องห่าเหวพวกนั้นกลายเป็นเรื่องกระจอกงอกง่อย ผมนอนคุยโทรศัพท์กับพี่อู๋จนถึงสี่ทุ่ม คุยไปก็ขำไปเพราะเขาแทนสรรพนามตัวเองเป็นเสี่ย พรุ่งนี้เสี่ยต้องทำงานแต่เช้า หนูก้องต้องไปเรียนหนังสือนะจ๊ะ แล้วเสี่ยจะให้ค่าขนม พรุ่งนี้เสี่ยต้องไปพบลูกค้า ไม่รู้ว่าจะคุยกันรู้เรื่องไหมนะ หนูก้องส่งวุ้นแปลภาษามาให้เสี่ยที อาทิตย์นี้เสี่ยจองที่พักแถวกาญจนบุรีเอาไว้ ว่าจะพาคนพิเศษไปพักผ่อนด้วยกันสองต่อสองเสียหน่อย หนูก้องอยากไปกับเสี่ยไหมจ๊ะ ถ้าอยากไปก็ต้องตั้งใจเรียนน้า เสี่ยรักเด็ก รักคนใฝ่เรียน เสี่ยรักหนูก้องที่ซู้ด

“พอเถอะพี่อู๋ ผมขนลุก”

ผมยิ้มแก้มแทบฉีกพลางใช้สองมือถูแขน คำพูดคำจาแต่ละอย่างของเขามันน่าขนลุกจริงๆ สุดท้ายพี่อู๋คีพคาแรคเตอร์ไม่อยู่ เขาหลุดขำก๊ากก่อนจะไล่ให้นายก้องเกียรติไปนอน พรุ่งนี้ต้องไปเรียนนะ ห้ามโดด เขาให้โควตาโดดหนีหน้าเพื่อนแค่วันนี้วันเดียว แต่พรุ่งนี้ต้องเรียน ถ้าไม่เรียนเขาจะไม่ส่งเงินให้จริงๆด้วย

“งั้นผมนอนแล้ว ผมรักพี่อู๋นะ”
“เสี่ยก็รักหนูก้องจ้า”

จะอ้วก

ผมเบะปากก่อนจะบ๊ายบายเขาแล้ววางสาย พี่อู๋นี่มันพี่อู๋จริงๆ กวนตีนไปเรื่อย แต่ผมเองก็หลุมรักเขาในมุมนี้เหมือนกัน ผมนอนบิดไปบิดมาอยู่สองสามที ตั้งใจจะเปิดไลน์อ่านข้อความที่มิวกับทรายรัวมาเสียหน่อย พอเห็นทรายฟ้องว่าออกัสหย่อนระเบิดอีกแล้ว หัวใจของผมก็หล่นวูบ รู้สึกกลัวจนลนลานไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนจนกระทั่งทรายส่งลิงค์ดูไลฟ์ในอินสตราแกรมให้ ผมจึงรู้เสียทีว่าออกัสมันสร้างปัญหาอีกแล้ว

ออกัสเริ่มต้นไลฟ์ด้วยการเซ็ทผมหน้ากล้อง ยิ้มเล็กน้อยให้พอดูน่ารัก ถามแฟนคลับว่ามากันรึยังครับ ยังเหรอ เดี๋ยวกัสรอนะ แล้วก็นั่งไขว่ห้างเล่นกีต้าร์เบาๆพอเป็นพิธี ยื่นหน้าเข้ามาดูกล้องใหม่ โอ้โห วันนี้คนมารอออกัสเยอะจังเลย มาจากไหนกันครับ คอมเม้นต์ใต้ไลฟ์ก็วิ่งรัว กรี๊ดดด ออกัส น่ารักมาก หล่อมาก เสื้อสวย กางเกงสวย หล่อจัง รวมถึง –

เห็นข่าวก้องยัง

ออกัสเมินเฉยทุกคำถามที่เกี่ยวกับผม นับว่าทำได้ดี เกือบจะดีอยู่แล้ว แค่นั่งเล่นกีต้าร์ พูดจาหวานๆหยอดให้แฟนคลับมีความสุขก็พอ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงก้องเกียรติที่กำลังมีความสุขกับแฟนของตัวเองหรอก ซึ่งออกัสไม่พูดถึงผมเลยก็จริง แต่ก็ไม่มีการชี้แจง การขอให้แฟนคลับหยุดด่าก้องเกียรติเลยซักคำ ผมถามทรายว่าแล้วไงวะ มันก็มาเกากีต้าร์ให้แฟนคลับดูปกตินี่ ไม่เห็นมีอะไร ทรายจึงบอกให้กรอกลับไปนาทีที่สิบเก้า จังหวะนั้นออกัสปรบมือขึ้นมาเฉยๆโดยไม่มีเหตุผลอะไร ทรายแคปคอมเม้นต์จากแฟนคลับให้ดู
 
Clap your hands if you asked K. to be your boyfriend
(ปรบมือ หากเธอเคยขอ เค เป็นแฟน)

แล้วมึงปรบมือทำเหี้ยอะไรวะออกัส!!!

ผม ทราย และมิวสร้างกลุ่มไลน์ขึ้นมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เราก่นด่าออกัสกันอย่างออกรสท่ามกลางกระแสเห็นอกเห็นใจนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังบนโลกอินเทอร์เน็ต จากกระแสที่เริ่มซาก็กลับมาติดเทรนด์อีกครั้งเพียงแค่คราวนี้แฟนๆเทคะแนนความเป็นห่วงให้ออกัสโดยไม่รู้เลยว่าไอ้เหี้ยนั่นลอยตัวที่สุด บางทวีตปลอบมันซะผมนึกว่าบ้านมันไฟไหม้จนเหลือแต่ตัว บางคนก็สงสารเฉยๆไม่ได้ ต้องแว้งมาแซะนายก้องเกียรติซักนิดซักหน่อยให้พอสนุกปาก ที่มั่นหน้าหน่อยก็ด่าโต้งๆเลยว่าอีก้องมันเล่นตัว หน้าเหี้ย แถมยังหลอกให้ความหวังผู้ชาย ผมงงว่ากระแสตีกลับมาที่ตัวเองอีกครั้งได้ยังไง อุตส่าห์ไม่ขยับตัว ไม่เคลื่อนไหว ไม่ตอบโต้ใครแล้ว ทำไมแฟนคลับไอ้ออกัสยังหันมาจิกนายก้องเกียรติอีกจนได้

ผมกระวนกระวายไม่สบายใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน จะทักไปฟ้องพี่อู๋ก็ไม่อยากให้เขากังวลจึงได้แต่เก็บความหงุดหงิดเสียใจไว้กับตัวเอง ผมหลับๆตื่นๆอ่านข้อความด่าทอจนถึงเช้า พอเสียงนาฬิกาดังก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียนหนังสือตามที่พี่อู๋สั่งไว้ ตั้งใจว่าจะไปเจอหน้าออกัสแล้วถามมันจริงๆจังๆว่าเป็นเหี้ยอะไรนักหนา ทำไมไม่จบไม่สิ้นซักทีกับไอ้ #กัสก้อง รู้ไหมว่ามันน่ารำคาญ คนอ่านนิยายเรื่องนี้ก็เบื่อเหมือนกันนะที่มันไม่พ้นประเด็นนี้เสียที 

ผมยอมไปมหาวิทยาลัย ไปเจอเพื่อนคณะ ไปเจออาจารย์ ไปเจอคนนอกที่ไม่รู้ว่าส่องแท็ก #กัสก้อง หรือเปล่า ผมยอมขนาดนี้แล้วแต่ไอ้ออกัสก็ไม่มาเรียนโดยบอกกับทรายแค่สั้นๆว่าติดงาน เย็นนี้มันมีอีเวนท์แถลงข่าวซีรี่ส์เรื่องใหม่ก็เลยมาไม่ได้ ผมคว้ามือถือทรายมาพิมพ์ด่าออกัสเป็นย่อหน้า แรกๆเริ่มด้วยการถามดีๆ หลังๆก็ใส่อารมณ์เต็มที่ ไม่สนว่าใครจะแคปแชทนี้ไปบอกนักข่าว ออกัสตอบโต้ประโยคยาวเหยียดของผมว่าก็เขาถาม เขาถามมันก็ต้องตอบ มึงไม่เห็นเหรอคอมเม้นท์มีแต่ถามอยู่นั่นแหละ กูก็ต้องตอบให้เขาเลิกถามสิ

เหี้ยอะไรของมึง

ผมด่าอีก ทั้งโมโหทั้งเจ็บใจที่ไอ้ออกัสให้คำตอบได้น่าแจกส้นตีนมากๆ ผมไลน์ด่ามันอีกชุดใหญ่แต่ไร้การตอบกลับ คิดว่าคงกำลังเตรียมตัวออกงาน แต่ผมจะไม่ยอมให้มันจบแค่นี้แน่ๆ ออกัสต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะผมไม่สามารถเห็นตัวเองโดนด่าบนอินเทอร์เน็ตได้แม้แต่ข้อความเดียวอีกต่อไปแล้ว




Part 3 ต่อข้างล่างเลยคับผม  :mew1:

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
38 [PART 3/4]


ช่วงบ่ายออกัสขาดการติดต่อ โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่อ่านจนทรายกับมิวบอกให้พอก่อน เพราะถึงตะโกนด่าไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ ไอ้ออกัสไม่ได้ยิน แถมเราจะหงุดหงิดเองอีก ดังนั้นผมจึงเดินปึงปังกลับห้องและใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆส่องแท็กคู่จิ้น ตอนนี้กระแสกำลังเข้าข้างออกัสเต็มที่ น่าสงสารจัง น่าสงสารมากๆเลย มารักเราแทนไหม เราไม่เห็นแก่เงิน เราไม่เป็นเด็กเสี่ย เราไม่หน้าเหี้ยเหมือนอีก้องหรอกนะ

อีก้อง อีก้อง อีก้อง

เป็นใครกันถึงมาเรียกคนอื่นว่าอี ผมได้แต่โกรธจนตัวสั่น โกรธจนอยากปาโทรศัพท์ทิ้งจะได้ไม่ต้องเปิดดูแฮชแท็กนรกนี่อีกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากจนเกินไป พวกเขาคิดยังไงกับผมนะ พวกเขายังด่าผมอยู่ไหม ด่าผมแบบนี้ทำไม รู้เหรอว่าที่ออกัสพูดมันจริงแค่ไหน เผลอๆการขอเป็นแฟนของมันไม่ได้โรแมนติคแบบเพื่อนแอบรักเพื่อน แต่เป็นการขอคบที่มีแต่ผลประโยชน์ เพื่อตัวของกูและมึง เพื่อเงินและชื่อเสียงเท่านั้น ความรักอะไรไม่มีหรอก ตอแหลทั้งเพ

ผมหลับๆตื่นๆเป็นพักๆระหว่างส่องแฮชแท็ก พอช่วงค่ำ กลุ่ม “มึงเป็นไรมากป้ะ” ที่ประกอบด้วยสมาชิกสามคนคือผม มิว และทรายก็เริ่มคึกคัก มิวบอกว่าออกัสเซ็นสัญญากับค่ายนักแสดงแนวหน้ามาซักระยะแล้ว เอ่ยชื่อไปทุกคนรู้จักหมดเพราะต้องเคยดูผลงานของค่ายนี้บ้าง ที่มันทำแบบนี้น่าจะเป็นแผนโปรโมตละครใหม่ของค่ายที่พยายามป่าวประกาศว่าทางค่ายนั้นสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ สุดๆ แม้แต่นักแสดงนำชายในเรื่องก็เป็นไบเซ็กส์ชวลจริงๆ มิวบอกว่าที่ออกัสพูดให้มันจบๆไปก็คงไม่ได้เพราะต้องผ่านผู้ใหญ่ก่อน งั้นผมก็ซวยสิ ถ้าการบอกความจริงให้แฟนคลับรู้ขึ้นอยู่กับวินิจฉัยของค่าย มีเหรอมันจะจบง่ายๆ อ๋อ ครับ ออกัสสร้างกระแสเองเพราะอยากดัง คงมีแต่ออกมาพูดหล่อๆเพื่อแย่งพื้นที่ข่าวและโปรโมตผลงานตัวเองเท่านั้นแหละ

พอสองทุ่มนิดๆ คลิปข่าวในงานแถลงเปิดตัวละครก็ออกมาตามที่มิวคาดเดา ออกัสถูกนักข่าวสัมภาษณ์ในแง่ชื่นชมที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นไบเซ็กส์ชวลโดยไม่ปิดบัง โดยเคลมตัวเองว่าเป็นนักแสดงวัยรุ่นคนแรกในประเทศนี้ที่กล้าเปิดเผยรสนิยมทางเพศ แน่นอนว่านักข่าวไม่มีทางพลาดประเด็นสดๆร้อนๆที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาไม่ได้เอ่ยชื่อของผมตรงๆ แต่ใช้การเรียกโดยรู้กันด้วยคำว่า “เพื่อนคนนั้น” แทนคำว่าอีก้องในทวิตเตอร์

ตอนถูกสัมภาษณ์ออกัสหยุดคิดไปนิดนึงก่อนจะมองหน้ากล้องด้วยสีหน้าเศร้าๆ ดูอึกอักไม่อยากตอบ แต่สุดท้ายก็ยอมรับและพูดเต็มปากว่าชอบ ชอบจริงๆ แต่“เพื่อนคนนั้น”มีเจ้าของแล้ว ไม่ว่าจะตอนนี้หรืออนาคตเรื่องของออกัสกับเพื่อนคนนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ นักข่าวจึงขยี้ต่อว่าสรุป #กัสก้อง เป็นเรื่องจริงหรือโกหก ออกัสก็เงียบอีกก่อนจะพูดว่ามันเคยจริง ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องจริงแล้วจบการสัมภาษณ์

ผมโมโหจนปาโทรศัพท์ลงบนที่นอน คำตอบของออกัสเรียกตีนให้นายก้องเกียรติมาก มากจนไม่ต้องเดาเลยว่าทวิตเตอร์จะลุกเป็นไฟขนาดไหน หลังคลิปสัมภาษณ์หลุดไม่กี่นาที แฮชแท็กเวรก็ติดเทรนด์อีกครั้ง เหล่าแฟนคลับด่านายก้องเกียรติไฟแลบว่าเห็นแก่เงิน เด็กเสี่ย ขายตัว หนักสุดคือเรียกผมว่ากะหรี่มีจู๋ เฮ้ย อันนี้มันเกินไปหรือเปล่า ผมอ่านแล้วรับไม่ได้จริงๆที่เรื่องมันบานปลายขนาดนี้แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ผมไม่มีช่องทางจะแสดงตัวหรือบอกเล่าในมุมของตัวเองนอกจากอยู่เงียบๆเฉยๆเหรอ

เมื่อปรึกษามิวผู้เชี่ยวชาญด้านกระแสลบๆบนอินเทอร์เน็ต มันก็ยอมรับตรงๆว่านายก้องเกียรติทำอะไรไม่ได้หรอก อย่างมากก็เปิดแอคเคานท์ใหม่เพื่อทวีตอธิบายตัวเอง แต่ต้องทำใจนะว่าจะมีคนเมนชั่นมาด่าเยอะมาก มึงโอเคตรงนี้ไหม มึงรับได้หรือเปล่า ถ้าคิดว่าทนไหวก็เอาเลย เดี๋ยวกูช่วย ผมบอกมิวว่าผมทนไม่ไหวหรอก แค่อ่านเฉยๆก็จะร้องไห้แล้ว ถ้าโดนเมนชั่นมาด่าเยอะขนาดนั้นต้องอกแตกตายแน่ๆ มิวบอกงั้นอดทนอีกหน่อยก็แล้วกัน ไม่เกินสามวันเดี๋ยวมันก็เงียบเอง เพราะขนาดดาราแนวหน้ายังเป็นกระแสไม่กี่คืน แล้วตัวกระจอกอย่างออกัสมันจะยืนหนึ่งได้เท่าไหร่ เผลอๆพรุ่งนี้ก็เงียบเพราะข่าวของคนอื่นก็ได้

มิวบอกให้อดทน แต่ผมทนไม่ไหวจึงทักแชทส่วนตัวไปด่าต้นเหตุของความชิบหาย ผมถามมันเป็นชุดว่าทำไมต้องตอบให้กูโดนด่าด้วยวะออกัส กูทำอะไรให้มึงนักหนา มึงจบซักทีไม่ได้เหรอ ระหว่างเรามันไม่เคยมีอะไรจริงเลย ไม่จริงซักอย่าง มึงโกหกนักข่าวให้ตัวเองดูดีขึ้นทำไม มึงไม่ละอายใจหรือไง เวลาที่มึงตอบนักข่าวว่าชอบกู มึงไม่รู้สึกผิดเหรอที่โกหกคนดูผ่านสื่อแบบนี้

ออกัสอ่านข้อความของผมแต่ไม่ได้ตอบโดยทันที มันเงียบหายไปนานก่อนจะพิมพ์กลับมาว่าไม่ได้โกหก

“ก็กูเคยชอบมึงจริงๆ” ออกัสตอบแบบจนปัญญา “มึงคิดว่ากูไม่อยากจบเรื่องนี้เหรอ? กูอยากจบจะแย่แต่จะให้ทำไงได้ก็มีคนถาม กูก็ต้องตอบ กูจะไม่ตอบได้ไง”
“แล้วจำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้เหรอว่ามึงชอบกู มึงโกหกเขาบ้างก็ได้ ปกป้องกูไม่ได้เหรอ ขอความเป็นส่วนตัวให้กูเหมือนเดิมไม่ได้หรือไง ไหนๆมึงก็เลิกชอบกูแล้ว ปล่อยกูไปซักทีเถอะ กูทำอะไรผิดนักหนามึงถึงตามจองเวรชีวิตกูแบบนี้ ไอ้เหี้ย”

ผมพิมพ์ด้วยอารมณ์โมโหจนเลือดขึ้นหน้า อยากจะมุดโทรศัพท์ไปต่อยปากออกัสโทษฐานตอบแบบปัดสวะมาให้นายก้องเกียรติ แต่พออ่านข้อความล่าสุดที่มันส่งมาให้ ผมถึงกับโมโหจนปาโทรศัพท์ทิ้งอีกรอบ

ผู้ใหญ่สั่งมาว่าให้ตอบแบบนี้

เป็นคำตอบที่ส้นตีนที่สุดในโลกเท่าที่เคยอ่านมา

ผมรับไม่ได้ รับไม่ได้จริงๆ มันโมโหจนต้องร้องไห้ ผมแคปข้อความทั้งหมดส่งให้มิวกับทรายดู ทั้งสองคนด่าออกัสด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ มันเหี้ยมาก เหี้ยจริงๆ เหี้ยเกินไปแล้วที่ทำกับผมแบบนี้ อย่างน้อยมันเคยชอบผม น่าจะมีความหวังดีเล็กๆน้อยๆอย่างช่วยผมจากแฟนคลับประสาทแดกของมันบ้าง นี่ทำเหมือนไม่เคยชอบผมเลย เหมือนไม่เคยรู้สึกดีด้วย ราวกับถ้าไม่ได้เป็นแฟนก็ไม่มีความจำเป็นต้องปกป้อง ปล่อยให้ผมตกเป็นสนามอารมณ์ของคนนับหมื่น ยิ่งแฮชแท็กติดเทรนด์ คนก็ยิ่งรู้มากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนไม่เคยชอบ #กัสก้อง ไม่เคยมีส่วนร่วมอะไรแต่ก็อินจนผสมโรงมั่วซั่ว อ๋อ นักแสดงหน้าใหม่ของค่ายนี้เป็นเกย์ เคยมีความรัก แต่โดนคนที่ชื่อก้องเขี่ยทิ้งเพื่อไปคบกับเสี่ยที่รวยกว่า น่าสงสารเนอะ น่าสงสารจัง ผู้ชายคนนั้นก็เห็นแก่เงิน สงสัยตอนนี้นั่งน้ำตาตกในแล้ว ออกัสกำลังจะดัง คงเสียดายแย่ อดเป็นเมียดาราเลย

ก็กูไม่ได้อยากเป็นเมียดารา ไม่ต้องมาสงสารกู

ผมเมนชั่นหาทวีตนั้นโดยไม่สนว่าต้องเจออะไร ผมไล่ตอบกลับทุกคนที่ด่านายก้องเกียรติเหมือนไอโอของรัฐบาล ใครพูดถึงก้องเกียรติในแง่ร้ายต้องเจอสวนกลับ ไม่พูดดีๆก็ต้องเจอคำหยาบ ไม่มีการปรานี ไม่มีมรรยาทหรือสมบัติผู้ดีอะไรทั้งนั้น กูจะตามด่าพวกมึง เหมือนที่กูโดนมาตลอดสองวัน จำไว้

อีก้องหน้าเหี้ย หักอกออกัสกู
อ๋อเหรอ หน้ากูก็เป็นหน้าคนเหมือนมึงอ่ะ ถ้ามึงว่าหน้ากูเหี้ย หน้ามึงก็เหี้ย

สมน้ำหน้าอีก้อง ออกัสเป็นดาราแล้ว เสี่ยมึงล่ะเป็นไง
เป็นคนที่เก่งกว่าอีออกัสก็แล้วกัน บอกอีออกัสให้เข้าเรียนบ้างนะ เดี๋ยวจะโง่จนเรียนไม่ทัน เกรดตกโดนไทร์แล้วจะกลายเป็นไอดอลคนโง่

อีก้อง อีกะหรี่
ด่าแม่ตัวเองทำไม แม่มึงนั่งหาลูกค้าอยู่ข้างกูเนี่ย

ผมทำตัวเป็นเครื่องด่าอยู่เกือบชั่วโมง ใครเมนชั่นมาหยาบคายผมก็สวนกลับทุกคนไม่เว้นหน้า ถ้ามิวไม่เบรกไว้ผมคงด่าต่อไม่ได้หลับได้นอน มิวบอกว่าทำแบบนี้มีแต่แพ้กับแพ้ ภาพพจน์ก็เสีย คนก็ไม่เห็นใจ กลายเป็นตัวร้ายที่สร้างความน่าสงสารให้ออกัสอีก ผมอ่านข้อความจากมิวก็ได้แต่หงุดหงิดโมโหกับตัวเอง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงตอบโต้คนที่ด่าเราไม่ได้ในเมื่อเรื่องพวกนั้นมันไม่จริงซักอย่าง เหมือนผมกำลังสู้อยู่กับอะไรก็ไม่รู้ สู้ไปก็ไม่มีวันชนะ ไม่ได้อยู่อย่างสงบแค่เพราะไม่มีสปอตไลท์ ไม่มีคนให้พื้นที่ได้พูดความจริงในมุมของตัวเองบ้าง ผมร้องไห้เสียใจอยู่นาน สุดท้ายต้องหันไปหาพี่อู๋ พอเห็นหน้าเขาดูเหนื่อยๆเหมือนทำงานหนักมาทั้งวันก็พูดไม่ออก ไม่อยากเอาเรื่องไร้สาระไปใส่หัวเขาอีก ถ้าผมโดนด่าคนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก ผมทนได้ แต่ให้เอาปัญหาไปสุมไว้ที่เขาจนเครียด ผมขอไม่ทำดีกว่า ไม่อยากเห็นคนที่ผมรักต้องกังวลกับเรื่องปัญญาอ่อนบ้าบอพวกนี้แล้ว






  พี่อู๋รู้จักผมดีกว่าที่คิด พอเห็นว่านายก้องเกียรติร้องไห้ตาบวม เขาก็อุตส่าห์ขับจากลาดพร้าวมาผมที่ลาดกระบังตอนห้าทุ่ม ผมถึงกับปล่อยโฮเลยเมื่อเห็นว่าเขามาหาจริงๆ ผมร้องไห้กอดเขา ยอมรับกับพี่อู๋ว่าผมไม่ไหวแล้ว ผมอยากทำอะไรซักอย่างให้ไอ้คนพวกนั้นหยุดด่าเราเสียที อยากให้ทุกคนเลิกตราหน้าว่าผมเป็นเด็กเสี่ย เป็นกะหรี่ รักคนที่เม็ดเงิน ผมแค่อยากมีชีวิตปกติสุขเหมือนเดิม ผมแค่อยากเป็นคนธรรมดาเหมือนเดิม ผมควรทำยังไงดี

พี่อู๋เองก็รู้ว่าเราทำอะไรไม่ได้ เราขยับตัวแทบไม่ได้เพราะยิ่งพูดจะยิ่งเป็นการหาตีนเข้าตัวมากขึ้น เขาบอกให้ผมอดทนไปก่อนเพราะอีกสองสามวันก็คงเงียบ ผมขึ้นเสียงใส่พี่อู๋อย่างลืมตัวว่าใครๆก็บอกแบบนี้ สองสามวันก็เงียบ สองสามวันก็เงียบ แต่นี่อะไร ผ่านมาสี่วันแล้ว ยังมีคนด่าอีก้องหน้าเหี้ยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหิวเงิน บ้าคนรวย คนแบบผมไม่ควรมีใครรัก ควรเป็นหมาหัวเน่าแค่เพราะไม่ได้ชอบออกัสงั้นเหรอ

คืนนั้นเป็นคืนที่แย่มากสำหรับเรา ผมเครียด พี่อู๋ก็เครียดที่เห็นเด็กในปกครองของตัวเองโดนด่า เราต่างสงสัยว่ามันบานปลายขนาดนี้ได้ยังไงทั้งๆที่ออกัสไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ระดับแนวหน้าด้วยซ้ำ ผมก็ไม่ได้ใช้เวลากับมันมากมาย แค่กินข้าว ไปเรียนกับไปรับส่งที่สถานีรถไฟตามประสาเพื่อนเท่านั้น ผมกล้าพูดว่าตามประสาเพื่อนเพราะออกัสก็ทำแบบนี้กับมิวและทรายเหมือนกัน มันขับรถรับส่งเพื่อนทุกคนไม่ใช่แค่นายก้องเกียรติคนเดียว แต่ทำไมหวยออกที่ผม ทำไมถึงโดนด่าไม่จบไม่สิ้น มันเป็นอะไรนักหนา เรื่องปัญญาอ่อน จบๆกันไปซักทีไม่ได้หรือไง

ผมนอนร้องไห้จนตีสอง พี่อู๋ก็ยังถ่างตาคอยเป็นกำลังใจให้ผมอยู่เป็นระยะๆ พอเล่าว่าเมื่อช่วงค่ำทวีตด่าคนเหมือนเครื่องจักรด่ารัฐบาล พี่อู๋ก็บอกว่าเขาเห็นแล้ว เขาชอบเอเนอจี้การด่าแบบพุ่งชนของนายก้องเกียรติมาก เรามาทำด้วยกันดีไหม ผมถามว่าทำอะไร

“ด่าคนไง” พี่อู๋ยิ้ม “ด่าให้มันไร้เหตุไร้ผลเหมือนที่มันด่าก้อง มันจะได้เข้าใจว่าความรู้สึกของการโดนด่าเป็นยังไง”

ผมไม่คิดว่าแผนนี้จะได้ผลจนกระทั่งพี่อู๋ลองตอบโต้ทวีตล่าสุดเมื่อหนึ่งนาทีก่อน เจ้าของทวิตเขียนว่า

สงสารออกัสมาก อุส่าเชียร์ #กัสก้อง แต่โดนเด็กดอกหลอกแดกจนได้ เด็กเปรต

พี่อู๋ถามว่าควรตอบมันยังไง ผมได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่รู้ ไม่รู้จะหาคำแย้งอะไรไปตอบโต้คนพรรค์นี้ พี่อู๋จึงเมนชั่นไปว่า –

เนอะๆๆ เด็กดอกโดนหลอกแดกจนได้

ซักพักเธอจึงตอบกลับมา

ใช่มะคะ คือเหี้ยอ่ะ คนอะรัย โคดเหี้ยเลย
ใช่ เหี้ยมากอ่า สงสารแต่คนโง่ที่โดนหลอกแดกแบบไม่รู้ตัวเนอะ เป็นแฟนคลับที่โคตรน่าสงสารจริงๆ ไม่รู้ตัวว่าโดนดาราหลอกแดก ฟันค่าโฆษณาไปเป็นแสนกับกระแสคู่จิ้นปลอมๆ
ว่าใครอ่ะคะ
พูดลอยๆจ้า
เอ้า อีเหี้ย มาว่ากูทำไม มึงเปนอีก้องอ่อ
ไม่ใช่ก้องจ้า แค่แวะมาเบิกเนตรเฉยๆ เผื่อจะเอะใจว่าใครได้ผลประโยชน์ที่สุดในเรื่องนี้ คนนั้นนั่นแหละตัวร้าย ลองเก็บไปคิดดูนะ

ผมหัวเราะขำเมื่อแอคเคานท์นั้นยังคงเมนชั่นมาด่าเราเป็นระยะๆ แต่เหมือนด่าลมด่าฝนเพราะพี่อู๋ไม่ตอบอีกเลย แล้วเราก็ไปปั่นคนนั้นคนนี้ที่ด่านายก้องเกียรติแรงๆ ใครที่ด่าผมว่ากะหรี่ พี่อู๋ก็แอ๊บทำเป็นหวังดี บอกว่าระวังหมายศาลน้า พูดพล่อยๆลอยๆเค้าฟ้องได้นะจ๊ะ

จะเอาอะไรมาฟ้อง ก็อีก้องมันกะหรี่จริง
แคปเจอร์!

ผมถามพี่อู๋ว่าตอบแค่แคปเจอร์จะไปสะใจอะไร คุณอิศรินทร์จึงเฉลยตอนหลังว่าเขาจะฟ้องไอ้พวกที่ด่าผมให้หมด พี่อู๋แคปเก็บไว้บ้างบางส่วนแล้ว แคปสะสมทุกวันๆตั้งใจรวบยอดไปจ้างทนายทีเดียว รู้ไหมว่าเพื่อนของเขาเคยรับคดีหมิ่นประมาททางอินเทอร์เน็ตบ่อยมาก บางทีเรียกกันเป็นแสน งานนี้แหละก้อง คนที่เป็นเด็กเสี่ยอาจจะกลายเป็นพี่เองก็ได้ ว่าไงจ๊ะเสี่ยก้อง เสี่ยก้องหล่อจังเลย มีเงินให้น้องอู๋ใช้ไหมคะวันนี้ งุ้ยๆ – งุ้ยโพ่ง

ผมหัวเราะ เป็นการหัวเราะครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องปัญญาอ่อนนี่เลย พี่อู๋บอกอีกว่าเขาโตเกินกว่าจะด่าสาดโคลนกับเด็กพวกนี้แล้ว บางทีควรพาน้องๆไปเยี่ยมศาลบ้างเผื่อจะเตือนๆกันเองให้ระวังคำพูด อีกอย่าง พี่อู๋อยากปกป้องผม เขาไม่อยากให้ใครด่าผมเสียๆหายๆโดยไม่ได้รับบทลงโทษ ฟังถึงตรงนี้แล้วผมซึ้งจนร้องไห้เลย ดีใจที่พี่อู๋ไม่ทิ้งหรือเมินเฉยเวลาผมเจอปัญหา แต่เขาอยู่ด้วยข้างๆตลอด ไม่ได้แค่ให้กำลังใจเท่านั้นแต่ออกโรงปกป้องเต็มที่ด้วย

ผมมองหน้าพี่อู๋แล้วก็ร้องไห้อีก ร้องไปพร้อมๆกับกอดเขาด้วยความรู้สึกขอบคุณที่ได้ผู้ชายคนนี้เป็นแฟน ถ้าไม่มีพี่อู๋ผมอาจจะเป็นบ้าไปเลยก็ได้ ตั้งแต่แม่ตาย ไฟไหม้บ้าน ไม่มีเงินเรียนต่อจนถึงโดนชาวเน็ตรุมด่า พี่อู๋ก็ยังปกป้องดูแลผมเหมือนเดิม เขาแสนดีจนผมไม่รู้จะขอบคุณเขายังไง ไม่รู้ต้องบอกรักยังไงถึงจะเท่ากับความรู้สึกที่มีให้เขา

เราเล่นทวิตเตอร์อีกนิดหน่อยก่อนจะเข้านอน ตอนนี้ตีสองแล้ว พี่อู๋ต้องออกจากลาดกระบังก่อนหกโมงเพื่อกลับไปทำงาน พอปิดไฟผมก็นอนกอดพี่อู๋แน่นและอ้อนเขาด้วยการบอกว่าอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ ไม่อยากให้พี่ลุกออกจากเตียง ไม่อยากให้ไปทำงาน ไม่อยากให้ไปไหนเลย พี่อู๋บอกว่าผมเริ่มเหมือนอีหนูของเสี่ยจริงๆด้วย ออดอ้อนรั้งตัวเสี่ยไม่ให้ไปทำงานระวังจะไม่มีกินนะจ๊ะหนู ชิราอิชิซังไม่ได้ใจดีจ้า ขาดงานโดยไม่มีเหตุผลเดี๋ยวจะได้ซองขาวแทน

คืนนั้นผมได้หลับสนิทเป็นครั้งแรกข้างๆคนที่ผมรัก เมื่อเวลาล่วงเลยถึงห้าครึ่ง พี่อู๋ก็ลุกขึ้นเตรียมตัวออกไปทำงาน ผมที่เพิ่งหลับได้ไม่กี่ชั่วโมงงัวเงียเกินกว่าจะเดินลงไปส่งเขาจึงอวยพรให้พี่อู๋ขับรถปลอดภัย ปล่อยผมนอนต่ออีกหน่อยนะ เดี๋ยวผมต้องตื่นไปเรียนอีก คุณอิศรินทร์ไม่ว่าอะไรที่นายก้องเกียรติขี้เซาจนลุกไม่ขึ้น เขาหอมแก้มผมหนึ่งครั้ง กระซิบข้างหูว่าตั้งใจเรียนและบอกรักผมก่อนจะห่มผ้าให้แล้วปิดไฟ ออกจากห้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง





Part 4 ต่อเลยค่ะพี่จ๋า  :hao5:


ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
38 [PART4]




สิ่งที่เราสองคนทำลงไปไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย คนบนอินเทอร์เน็ตก็ยังด่าผมเหมือนเดิม แถมด่าแรงกว่าเดิมด้วยเพราะผมทำตัวเป็นเครื่องพ่นคำหยาบ พูดแต่มึงๆกูๆ แม่มึงสิกะหรี่ มึงสิอีหน้าเหี้ย มึงสิ มึงสิ พวกเขาจับกลุ่มวิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้โดยไม่สนใจเลยว่าทำไม – ทำไมนายก้องเกียรติถึงกลายเป็นคนไม่สุภาพ บางคนเริ่มทวีตบอกว่าออกัสโชคดีที่ไม่ได้ลงเอยกับอีก้อง สันดานไพร่ สถุลขนาดนี้ก็สมควรเป็นได้แค่เด็กเสี่ย ผู้ดีอย่างออกัสไม่ควรเอาตัวเองไปเกลือกกลั้ว

จากบูลลี่หน้าตา จนถึงเรื่องไม่ควรมีแฟนหล่อ มาจบที่ก้องเกียรติมารยาททราม ผมโดนกระแสชาวเน็ตด่ารุนแรงอีกครั้งเพราะสิ่งที่ทำไป มันคือการเอาคืนที่สะใจแค่ชั่วคราวแต่ระยะยาวไม่เป็นผลดีเลย ทุกคนคิดว่าผมเป็นคนก้าวร้าว ไม่สุภาพ ไม่น่าคบหา ไม่ควรสุงสิงพูดคุยด้วยแทนที่จะเปิดใจรับฟัง มิวบอกว่านี่แหละโลกของอินเทอร์เน็ต มันไม่ตั้งคำถามหรอกว่าทำไมผมถึงต้องเป็นแบบนี้ มันสนใจแค่สิ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร ซึ่งเรื่องนี้กระทบชีวิตของผมโดยตรงเพราะเพื่อนที่คณะเริ่มตีตัวออกห่างแค่เพราะถ้อยคำหยาบคายบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ระบายความเกรี้ยวกราดเท่านั้น

ผมถามพี่อู๋ว่าเราควรทำยังไงดี ในเมื่อกระบวนการทางกฎหมายมันช้ามากจนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนเหล่านั้นจะสำนึก ผมควรทำยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ดี พี่อู๋เอาแต่พูดว่าอย่าไปสนใจ อย่าไปฟัง อย่าไปให้ความสำคัญกับมันเกินความจำเป็นเพราะอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน หัวเราะทีหลังดังกว่าน่ะเคยได้ยินไหม แต่ก้องจะเป็นคนหัวเราะที่ดังและรวยด้วย ฉะนั้นอดทนหน่อย อดทนอีกนิด ให้เป็นไปตามกระบวนการก็แล้วกัน อย่าไปตอบโต้ให้หงุดหงิดรำคาญใจเลย

พี่อู๋ก็พูดง่ายเพราะเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ผมต้องอยู่ในสังคมเพื่อนที่อ่านข่าวจากทวิตเตอร์ และเฟสบุ๊ก ขยับตัวนิดหน่อยคนก็เมาธ์กันแล้ว พี่ไม่เข้าใจหรอกว่ามันไม่ฟังไม่ได้ จะทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ได้เพราะผมเจอทุกวัน เจอสายตาและถ้อยคำซุบซิบนินทาทุกวันจนใจไม่ดี คิดพาลไปถึงว่าเพื่อนคนนี้จะรู้ไหม เขาเข้าข้างใคร เขาเชื่อผมหรือออกัสมากกว่ากัน ถ้าจะบอกให้คบแค่มิวกับทรายก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะผมต้องทำงานกลุ่มกับคนอื่นด้วย โลกไม่สามารถมีแค่เราสามคนได้ ผมเองก็ต้องคบคนอื่น ต้องเรียน ต้องส่งงาน ต้องเจอผู้คนอีกมาก แต่เรื่องของออกัสกำลังฆ่าผมให้ตายทั้งเป็น

เดี๋ยวนี้เพื่อนที่เคยหยอกล้อขำๆด้วยความสุภาพก็ไม่กล้าเข้าหาเหมือนแต่ก่อน พวกเขาเว้นระยะและทำตัวห่างเหินราวกับเราไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกัน ที่หนักหน่อยก็กลุ่มผู้ชายในคณะที่ไม่ได้สนิทเท่าไหร่ ไอ้พวกนี้ปากหมาแซวคนอื่นไปทั่วโดยไม่สนใจว่าคนถูกแซวรู้สึกยังไง ดังนั้นทุกครั้งที่โผล่หน้าไปเรียนวิชารวม ผมมักจะถูกแซวว่าสายเหลือง หรือไม่ก็แกล้งถามว่าวันนี้ใครมาส่ง เสี่ยเหรอ วันก่อนเห็นบีเอ็มจอดอยู่ในเกกีหนึ่ง ใช่รถเสี่ยมึงหรือเปล่า บางทีโมโหมากๆผมสวนกลับแรงๆก็มี แต่ไอ้พวกนี้เหมือนคนโรคจิต ยิ่งโดนด่ายิ่งชอบ ยิ่งล้อแรงขึ้นเรื่อยๆจนผมทนไม่ไหว อยากต่อยหน้ามันอยู่หลายหน

ส่วนต้นตอของปัญหาอย่างไอ้ออกัสกลับลอยตัว มีคนล้อมันบ้างแต่มันก็ไม่ได้สนใจเพราะคนรักและสนับสนุนนั้นมีมากกว่า ในอินเทอร์เน็ตก็มีแต่คนพูดถึงมันในด้านดีๆ ชมการแสดง ชมหน้าตา ชมทัศนคติที่ว่าบวกนักบวกหนาโดยไม่รู้ว่ามันก็อปคาแรคเตอร์จากดาราเมืองนอกมาทั้งนั้น ผมที่เห็นความอยุติธรรมอดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกโมโหและน้อยเนื้อต่ำใจ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ไม่เคยโกหกหรือหลอกใคร แต่ทำไมผมต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ทำไมต้องเป็นฝ่ายผิด เป็นคนโดนด่าเสียๆหายๆด้วย

“ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมอยากกลับบ้าน ผมอยากไปหาพี่”

ผมโทรไปร้องไห้ให้พี่อู๋ฟังตอนพักเที่ยง มันเก็บกดและเจ็บใจถึงขนาดต้องแอบก้มหน้าร้องไห้เงียบๆบนโต๊ะกินข้าว ทราย มิว และโบ้ทต่างทำตัวไม่ถูกเมื่อก้องเกียรติร้องอีกแล้ว ร้องมันอยู่นั่นแหละ ร้องทั้งวัน พี่อู๋ให้กำลังใจด้วยการบอกให้เข้มแข็ง พรุ่งนี้เราก็จะได้ไปกาญจนบุรีแล้ว คิดถึงทริปสุขสันต์เข้าไว้เพราะมันจะช่วยให้รู้สึกดี ผมได้แต่บอกครับๆและไม่พูดอะไร รู้อยู่แก่ใจว่ามันช่วยไม่ได้หรอก ผมเสียความรู้สึก เสียสุขภาพจิตกับเรื่องนี้ไปมากแล้ว และมองไม่เห็นหนทางที่มันจะจบเลยนอกจากมีแต่พังกับพังเท่านั้น

หลังวางสาย ผมนั่งสะอึกสะอื้นเช็ดน้ำตาออกจากหน้า ทรายกับมิวค่อนข้างชินที่เห็นก้องเกียรติเป็นแบบนี้จึงไม่พูดอะไร แต่โบ้ทที่นานๆจะเห็นด้านอ่อนแอของผมกลับเอาแต่ขมวดคิ้ว มันถามว่าทำยังไงเรื่องนี้ถึงจะจบ เมื่อไหร่กระแสด่าอีก้องในอินเทอร์เน็ตจะหายไปเสียที ผมได้แต่ส่ายหน้าและบอกว่าไม่รู้ ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผ่านไปห้าวันแล้วคนก็ยังด่าผมเหมือนเดิม

“มึงต้องทำอะไรซักอย่างนะก้อง”
“กูทำหมดแล้วโบ้ท ด่ากลับก็แล้ว แจ้งความก็แล้ว มันไม่จบซักทีอ่ะ”

ผมใช้ช้อนเขี่ยข้าวในจาน พอเหลือบมองรอบตัวก็เห็นสายตาจากผู้คนมองมาเป็นระยะๆ อาจจะไม่ได้จ้องเขม็งให้ผมรู้ตัวแต่มันสัมผัสได้ว่ามีคนมอง พวกเขามองจริงๆ มองด้วยความสงสัยว่าก้องเกียรติร้องไห้ทำไม เรียกร้องความสนใจเหรอ นางเอกนิยายมากเลยเหรอ พวกเขาคงคิดกันแบบนี้แน่ๆ

“มึงคุยกับออกัสยัง?”
“กูด่ามันแล้ว” ผมสูดน้ำมูกฟืดฟาด “กูจะทำยังไงดีวะ? กูคิดไม่ออกเลยว่ามันจะจบยังไง ต้องกราบเท้าพวกแม่งเลยไหมถึงจะเลิกจองเวรกู”
“แล้วแฟนคลับไอ้ออกัสต้องการอะไรวะ? ให้มึงเลิกกับแฟนคนนี้แล้วไปคบกับไอ้ออกัสเหรอ?” โบ้ทถาม
“บ้า แฟนคลับไอ้ออกัสไม่ชอบก้องแล้ว มันแค่ด่าเอามันเฉยๆ” ทรายบอก “ก้อง มึงทำใจให้สบายนะ ไม่ต้องคิดมากหรอก เหมือนที่พี่อู๋บอกไงว่าคิดถึงกาญจนบุรีเยอะๆจะได้ตื่นเต้น”
“กูเริ่มไม่อยากไปแล้วว่ะทราย”
“อ้าว ทำไม?”
“กูกลัวว่าถ้าไปเที่ยวกับพี่อู๋ จะมีใครแอบถ่ายรูปมาด่าอีกไหม กูไม่อยากโดนด่าแล้ว”
“ก้อง มึงแคร์แฟนคลับขี้ครอกเกินไปหรือเปล่า? นี่ทริปส่วนตัวมึงกับแฟนนะ อย่าปล่อยให้คนนอกมาทำลายความสุขของมึงสิวะ”
“พูดง่ายทำยาก มึงลองโดนด่าจนติดเทรนด์แบบกูดูไหมล่ะ จะนอนยังนอนไม่ลงเลย”
“แต่กูเข้าใจมึงนะก้อง มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มันตัดใจไม่แคร์ไม่ได้จริงๆว่ะ ขนาดดารายังเครียดจนต้องพบหมอเวลาโดนรุมด่าหนักๆ แล้วคนธรรมดาอย่างมึงจะรอดเหรอ ทนมาได้สี่วันกูว่าก็เก่งแล้ว” มิวพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ “มึงเลิกเล่นทวิตเตอร์ดีไหม? ไม่ต้องรับรู้อะไรอีก ไม่ต้องสนใจ บางทีการจะตัดเรื่องเหี้ยๆออกไปจากชีวิตก็ต้องเริ่มที่ตัวเอง”
“กูทำไม่ได้ว่ะมิว กูต้องส่องเพราะไม่รู้ว่าใครจะเอาเรื่องพี่อู๋มาพูดอีก” ผมถอนหายใจและเริ่มร้องไห้ “บางทีกูก็สงสัยจริงๆนะว่าถ้าเราเลิกกัน เรื่องพวกนี้จะหยุดไหม”
“เฮ้ย มึงพูดอะไร”
“หรือมึงไม่คิด?”
“แล้วพี่อู๋เขาทำผิดอะไร มึงถึงจะบอกเลิกเขา?”
“ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องเหี้ยนี่ พี่อู๋โดนด่าโดนขุดเรื่องมาแฉทุกวัน กูไม่อยากให้เขาเจอแบบกู ไม่อยากให้ใครตราหน้าเขาว่าเป็นเสี่ยเลี้ยงต้อย มึงก็รู้ว่ามันกระทบภาพลักษณ์เขา พี่อู๋ยังต้องทำงาน เขาเป็นเลขา เป็นล่าม เป็นหน้าเป็นตาให้บริษัท มึงคิดดูสิว่าถ้านายเขารู้ว่าพี่อู๋โดนคนในอินเทอร์เน็ทด่าเป็นร้อย โดนแฉว่าเป็นเสี่ย มีเมียเด็ก เลี้ยงผู้ชาย มึงว่าเขาจะยังจ้างแฟนกูอยู่ไหม”
“มันก็แค่ส่วนน้อย เขาโดนด่าน้อยกว่ามึงอีก” ทรายแย้ง “บางทีเขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนด่า มึงไม่ต้องคิดแทนเขาหรอก”
“แต่กูเป็นห่วงพี่อู๋ กูไม่อยากให้เขาโดนแบบกู”
“มึงไม่อยากให้เขาโดนแบบมึงหรือไม่อยากโดนด่าว่าเป็นเด็กเสี่ย”
“อะไรของมึงวะโบ้ท?” มิวถามฉุนๆ “ก็แค่เด็กเสี่ย ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“มึงก็พูดได้สิมิวว่าไม่เป็นไรๆเพราะก้องเป็นเพื่อนเรา แต่ลึกๆในใจมึงก็ไม่ได้เฉยๆกับคำว่าเด็กเสี่ยหรอก มันเป็นคำในแง่ลบ คำไม่ดี เพื่อนกูที่มีเสี่ยมาเลี้ยงยังไม่ชอบให้เรียกแบบนี้เลย”
“แต่ก้องมันไม่ได้เป็นเด็กเสี่ยจริงๆนี่”
“เป็นหรือไม่เป็นใครจะสน สังคมมันตัดสินไปแล้ว และคำว่าเด็กเสี่ยก็กลายเป็นโลโก้แปะหน้าไอ้ก้องไปแล้วด้วย เป็นกูกูก็คิดเหมือนมันว่าห่างกันซักพักน่าจะดีกว่า อย่างน้อยให้เรื่องมันซาลงอีกหน่อย ถ้าไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวบ้านมันก็ต้องทำแบบนี้แหละมึง”

ผม – ไม่เคยคิดแบบโบ้ทมาก่อนเลย ผมไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะลบคำครหาว่าเด็กเสี่ยได้ยังไงตราบใดที่เรายังคบกันแบบนี้ พอได้ยินโบ้ทพูด ผมก็เริ่มเก็บมาคิด แต่ยังไม่ตัดใจว่าจะเอายังไง เพราะถ้าให้เลิกกับพี่อู๋คงเป็นไปไม่ได้ ผมเลิกกับเขาไม่ได้ – ไม่ได้เด็ดขาด

“ถ้ามึงอยากห่างกับพี่เขาซักพักก็บอกเขาไปสิก้อง”
“กู – กูเลิกกับพี่อู๋ไม่ได้ว่ะโบ้ท”
“ทำไมวะ?”

โบ้ทเลิกคิ้วงุนงงเพราะมันไม่รู้จริงๆว่าสถานะของผมกับพี่อู๋มันเหมือนเสี่ยเลี้ยง โบ้ทไม่รู้ว่าผมไม่มีพ่อแม่คอยดูแล ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกับพี่อู๋อยู่กินเป็นผัวเป็นเมียมาสองเดือนกว่าแล้ว มันคงคิดว่าผมแค่โดนแฟนคลับออกัสโจมตีด้วยคำด่าไร้สาระเพราะพี่อู๋แก่กว่าหลายปี แต่จริงๆผมเป็นเด็กเสี่ยอย่างที่พวกเขากล่าวหา ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพี่อู๋ไม่ให้เงิน พี่อู๋ไม่ส่งเสียค่าเทอม ไม่จ่ายค่าเช่าหอ ค่าดูแลต่างๆ แถมบางครั้งเรายัง – ยังมีอะไรกันอีก เหมือนผมมีเซ็กส์แลกเงิน เหมือนการคบกันของเรามีเงื่อนไขที่มีเงินมาเกี่ยวข้อง ผมเคยบีบให้พี่อู๋สัญญาว่าถ้าคบกันแล้ว วันไหนเลิกกันต้องไม่หยุดส่งเสียก้องเกียรติ สิ่งที่ผมทำกับพี่อู๋มันคืออีหนูหลอกแดกเสี่ยชัดๆ นี่ผมเป็นตัวอะไรกันแน่ ผมเห็นแก่เงินขนาดนี้เลยเหรอ แล้วแบบนี้ – ผม – ผมยังมีศักดิ์ศรีบ้างไหม

“ทำไมมึงเลิกกับพี่อู๋ไม่ได้อ่ะก้อง?”

โบ้ทถามซ้ำ ผมเงยหน้าสบตาเพื่อนด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่ ไม่อยากตอบคำถามเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าทำไม – ทำไมผมถึงเลิกกับพี่อู๋ไม่ได้ แต่สุดท้ายผมก็บอกโบ้ทไปว่าเพราะเงินน่ะสิ ถ้าไม่มีเงินของพี่อู๋ กูคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หรอก 

“งั้นแบบนี้มึงจะไปโกรธชาวเน็ทได้ยังไง”

โบ้ทบ่นอุบอิบ ดูผิดหวังนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าไอ้ก้องเพื่อนมันเป็นเด็กเสี่ยอย่างที่เขาว่ากันจริงเพราะผมเอาแต่พูดเรื่องเงิน แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลหลักที่ไม่อยากเลิกเพราะผมรักพี่อู๋เกินกว่าจะปล่อยเขาไปต่างหาก ไม่รู้ทำไมคำว่ารักถึงหลุดจากปากยากนักเวลาอยู่กับเพื่อน ผมไม่เคยกล้ายอมรับต่อหน้าเพื่อนผู้ชายว่าผมรักพี่อู๋ ผมเป็นเกย์ที่รักผู้ชายชื่ออิศรินทร์ ดังนั้นโบ้ทจึงเข้าใจว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่มีแค่เรื่องเงิน มันไม่เข้าใจว่าผมรักพี่อู๋ เพราะผมกระดากอายเกินกว่าจะพูดออกไป

ทรายกับมิวเห็นนายก้องเกียรติเริ่มซึมก็รีบออกโรงปกป้องผมใหญ่ ทั้งสองคนรุมด่าโบ้ทว่าปากไม่ดี ไม่เข้าใจเพื่อนทั้งๆที่โบ้ทก็แค่พูดเฉยๆ มันเป็นคนโผงผาง คิดยังไงก็แสดงออกอย่างนั้น ผมนั่งมองเพื่อนสามคนเถียงกันด้วยความรู้สึกที่โคตรดิ่ง แต่แล้วมันก็มีเรื่องที่ทำให้ช็อคได้มากกว่าเดิมเมื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโทรมา แต่ – แต่หน้าจอโทรศัพท์บอกว่าเบอร์ของอาจารย์เป็นสายเรียกซ้อน เพราะคนที่กำลังอยู่ในสายของก้องเกียรติตอนนี้ก็คือ

พี่อู๋

ผมหน้าซีด หัวใจหล่นไปอยู่แทบเท้า รู้สึกเย็นวาบทั้งสันหลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมละล่ำละลักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู เสียงที่ได้ยินมีแต่ความเงียบราวกับว่าปลายสายนั่งอยู่ในห้องประชุมหรือที่ห้องปิดตายที่ไหนซักแห่ง ริมฝีปากของผมสั่นระริกเมื่อนึกสงสัยว่าพี่อู๋ได้ยินอะไรบ้าง เขาได้ยินผมพูดถึงเงินของเขาใช่ไหม ได้ยินสิ่งที่ผมคุยกับเพื่อนหรือเปล่า ผมรวบรวมความกล้าแล้วค่อยๆเอ่ยทักทายปลายสายว่า

“ฮัลโหล”

แต่คำตอบของพี่อู๋คือความเงียบ เขาเงียบไปนานจนผมหลงดีใจคิดว่าเขาคงลืมตัดสายและวางโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ คงไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูดหรอก แต่ประโยคถัดมาของผู้ชายที่ผมรักก็ทำเอานายก้องเกียรติแทบเป็นลม พี่อู๋ตอบคำถามที่ค้างคาใจของผมด้วยประโยคแสนสั้น แต่สามารถฆ่าผมให้ตายได้ด้วยน้ำเสียงไร้เยื้อใย

“หลังจากนี้ไม่ต้องเจอกันอีก จะไปไหนก็ไป”

แล้วเขาก็ตัดสาย และติดต่อไม่ได้อีกเลย




TBC


___________________________



#เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้

สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันหลายวัน คิดถึงนิยายเรื่องนี้กันไหมคะ   

ตอนนี้มีทั้งหมดหนึ่งหมื่นสองพันกว่าคำ น่าจะเป็นตอนที่ยาวที่สุดและอัปยากที่สุดเพราะไม่มี wifi ขอมอบให้เป็นของขวัญตอบแทนที่ปล่อยให้รอนานและแทนคำขอบคุณสำหรับกำลังใจน่ารักๆที่มาในรูปแบบของฟี้ดแบคและโดดเนทนะคะ

หวังว่าจะชอบเนื้อหาในตอนนี้และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอกันในคืนวันจันทร์ค่ะ :)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด