เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ | Not today, he said. [ตอนพิเศษ] 05/10/20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ | Not today, he said. [ตอนพิเศษ] 05/10/20  (อ่าน 125547 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กอลลิล่าก้องกำลังสับสนอยู่  :ling1:
เสี่ยอู๋ต้องใจเย็นๆ เดี๋ยวได้เป็นแฟนน้องแน่ๆ ให้น้องตั้งสติก่อนนะเสี่ย :hao7:

ปล. เราเป็นแฟนคลับสมาร์ทแหละ ตกหลุมรักจากคำว่า “ชนชั้นกลางขอบชีส” และด้วยอารมณ์เหนือยๆแบบคูลๆ ทำให้ชั้นชอบเค้าาาาา :hao5:

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องนี้เรียลดีมาก ปั้นตัวละครได้รู้สึกว่าก้องเป็นผู้ชายแท้จริงๆ ทั้งนิสัยและความคิด ทำให้รู้สึกเลยว่า เออ นี่ผู้ชายนะแต่ก็ชอบผู้ชายเพราะเขาคนนั้นเป็นคนที่คอยช่วยเหลือก้องมาโดยตลอด คอยดูแลใส่ใจ ทำให้รักที่ตัวตนมากกว่าจะมาคำนึงถึงเพศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่เป็นผู้ชายแท้ก็มักจะกังวลสายตาของผู้คนอยู่บ้างเป็นปกติ ยังไงก็ขอให้กอริลล่าก้องผ่านไปให้ได้นะ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น้องก้อง เด่วหนูก็จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้.. เป็นกำลังใจให้ไรท์ และ กอลิล่าก้อง ด้วย..

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พยายามเข้าใจก้องนะ แต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่าก้องเห็นแก่ตัว แต่นะเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น หวังว่าก้องจะคิดได้ดี เข้มแข็งพอจะอยู่ในสังคมนี้ได้ละนะ

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
กอลิล่าก้องจะตัดสินใจอย่างไร

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ติดบ่วงกอลิล่าก้องแล้ววววววววว
ไม่ไหนไม่รอดดดดดด รออ่านตอนต่อไปจ้าาา


Sent from my iPhone using Tapatalk
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2019 17:52:23 โดย mellowshroom »

ออฟไลน์ vermilion

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีประเด็นที่ลึกซึ้ง น่าสนใจมาให้ขบคิดตลอด ชอบมากครับ เห็นใจทั้งพี่ทั้งน้องเลยเนอะ

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :mew4: สงสารพี่อู๋   ทุ่มให้เค้าหมดใจ   ......

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คิดทบทวนไปมานั่น ๆ นี่ ๆ ก็สมเป็นก้องดี น้องไม่ได้มีความคิดปุบปับเฉียบคมตั้งแต่ไหนแต่ไร
ดังนั้น ต้องให้เวลาก้องคิดอีกสักหน่อย พี่อู๋น่าจะได้คำตอบที่รอคอย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ความลังเลในใจ
พลาดก้าวเดียวอาจจะคิดผิดทั้งชีวิต

การตัดสินใจ...มันลำบากใจแท้เน้อออออออ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นกำลังใจให้ก้องนะ

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
36


สองสัปดาห์ผ่านไป กระแส #กัสก้อง ซาลงเพราะผมไม่ปรากฎตัวในช่องทางไหนของออกัสอีก ไม่ว่าจะอินสตราแกรม เฟสบุ๊กเพจ ทวิตเตอร์ หรือแม้แต่ช่องในยูทูปก็ไม่มีเงาของก้องเกียรติอยู่ คนขอถ่ายรูปก็น้อยลงเป็นเท่าตัว แต่เวลาไปไหนยังคงมีคนมองและชี้มือชี้ไม้มาทางผมเหมือนเป็นลิงหลุดกรงบ้าง แอบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายบ้างตามประสาแฟนคลับที่ชื่นชอบ #กัสก้อง ส่วนใหญ่ที่เจอไม่มีใครเป็นแฟนคลับผมหรอก พวกเขาแค่เอ็นดูและรักผมเพราะอานิสงส์จากออกัสเท่านั้น

ผมเริ่มปล่อยวางเรื่องคู่จิ้นเพราะมันหายไปแล้ว กระแสความรักแบบเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อระหว่างออกัสกับก้องเกียรติค่อยๆมอดดับลงเมื่อไม่มีโมเมนท์ชวนจิ้นหลุดออกมา ตอนนี้ผมกำลังโฟกัสอยู่กับการเรียนเต็มที่ อาจจะมีแอบคิดถึงพี่อู๋บ้าง แต่โดยรวมผมยังสนใจบทเรียนเพื่อทำเกรดดีๆให้ผู้ปกครองภูมิใจ วันหนึ่งขณะปั่นจักรยานไปส่งน้ำตาลทรายที่หอ เพื่อนคนสวยก็ถามว่าความสัมพันธ์ของผมกับคุณอิศรินทร์ไปถึงไหนแล้ว ผมจึงตอบว่า

“ที่เดิม”
“เล่นตัวมากๆระวังมีคนคาบพี่อู๋ไปแดก”
“ใครจะคาบไป วันๆเขาทำแต่งาน”

ผมหัวเราะ แต่จริงๆแอบกังวลมาซักพักเหมือนกันว่าพี่อู๋จะเจอคนใหม่ ถึงจะอายุสามสิบกว่าแต่หน้าตาเขายังหล่อ สตางค์ก็มี แถมคารมณ์ยังดีอีก ถ้าเขาบังเอิญเจอใครที่ให้ทุกอย่างกับเขาได้มากกว่านายก้องเกียรติ วันนั้นผมตายแน่

“รีบบอกเขาได้แล้ว”
“กูคิดอยู่” ผมถอนหายใจ “ถามจริงนะทราย ตอนมึงยังไม่คบกับพี่กิ๊บ มีผู้ชายมาจีบมึงบ้างไหม?”
“ไม่อยากพูดแบบนี้เลยว่ะก้อง แต่ผู้ชายทั้งโรงเรียนอ่ะชอบกูหมดเลย แม้แต่กรรมการนักเรียนยังตัดสินให้หลีดสีกูชนะทั้งๆที่เต้นง่อยเพราะแอบรักกูอ่ะ คิดดู”

จ้า

“แล้วทำไมมึงถึงเลือกพี่กิ๊บวะ?”
“ตุ๊กตาหมีที่พี่กิ๊บซื้อให้ตัวใหญ่กว่าของอีกคนอ่ะ” ทรายตอบก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอๆของผม “กูล้อเล่น พี่กิ๊บเทคแคร์เก่ง กูชอบให้คนเอาอกเอาใจ กูชอบเป็นเจ้าหญิง”
“เออ กูไม่แปลกใจ ว่าแต่ -- เพื่อนล้อมึงไหม?”
“อะไร?”
“ที่มึงเป็นแฟนกับพี่กิ๊บ”
“โอ๊ย มึงก็รู้ว่าเด็กมัธยมมันล้อหมดแหละ ขนาดครูใหญ่นั่งยองๆแล้วเป้าแหกยังล้อกันได้ตั้งสองสามรุ่น”

ผมหัวเราะขำ แต่ในใจไม่ขำ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองสามารถรับมือกับคำล้อเหมือนที่น้ำตาลทรายเจอได้หรือเปล่า สมัยเรียนมอปลายผมเป็นเด็กเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มีเพื่อนสนิทที่เคยสนิทชื่อเป้ง แต่ตอนนี้เราแยกย้ายไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วเพราะเป้งไม่เล่นโซเชียล ผมพอจำได้ว่าตอนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นตุ๊ดโดนล้อหนักมาก หน้าวอกบ้าง สายเหลืองบ้าง ถังทองบ้าง  แต่ตอนนั้นผมไม่เดือดร้อนเพราะตัวเองไม่ใช่คนโดนล้อ หนำซ้ำยังตลกเวลาเพื่อนถูกตั้งชื่อเล่นว่าจิ๋มมี่ แถมโดนร้องเพลงล้อด้วยว่า ว้าว! ว้าว! ว้าย นี่ไอ้ประเทืองนี่หว่า ไม่น่าเชื่อว่าเพลงเก่าขนาดนั้น เด็กรุ่นผมยังหยิบยกเอามาร้องได้ พอคิดดูแล้วผมนี่ก็ส้นตีนเอาเรื่องที่เผลอติดปาก ร้องเพลงประเทืองทุกครั้งเวลาไม่มีอะไรทำ

“เป็นอะไร? เหม่อเลย จินตนาการภาพครูใหญ่กูเป้าแหกอยู่เหรอ?”
“ทุเรศนะมึงอ่ะ” ผมส่ายหน้าเอือมระอา “แล้วเป็นแฟนกับผู้หญิงโอเคไหม?”
“โอเคดิ เวลาไปช็อปปิ้งนี่สนุกโคตร ช่วยกันเลือกลิป เลือกสกินแคร์ เวลามีเสื้อผ้าสวยๆก็ผลัดกันใส่ ดีจะตาย เป็นทุกอย่างของกันและกัน เวลาเมนส์มาพี่กิ๊บก็เข้าใจ ไม่เหมือนพวกผู้ชายหรอก เอาไปแซวเล่นเป็นมุขตลก เลือดท่วมหว่างขาขนาดนั้นกูไม่ตลกด้วยหรอกไอ้สัส”
“ใจเย็นทราย กูยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”
“มึงอ่ะต้องรีบขอพี่อู๋เป็นแฟนได้แล้วนะอีก้อง”
“เอ้า จู่ๆก็วกกลับมาเรื่องกูเฉย”
“กูพูดจริง” น้ำตาลทรายทำเสียงขึงขัง “ระวังเถอะวันไหนเขาเบื่อ เขาไม่อยากเสียเวลารอ มึงจะเสียใจยิ่งกว่าตอนเลิกกับเขาอีก อย่างน้อยอันนั้นยังเคยได้คบได้เรียนรู้ แต่ถ้ามึงปล่อยเบลอจนเขาไปหาคนอื่น มึงช้ำตายแน่ เพราะมึงจะเจ็บใจที่ไม่ยอมให้โอกาสตัวเองมีความรัก กูขอเตือนเลยนะ คนที่กูเคยได้ยินชื่อคนหนึ่งมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมตอบรับคำขอผู้ อีดอก อ้อยมาก ผู้ตามง้อตามจีบอยู่สามเดือนก็ไม่เอา บอกทุกคนว่าคุณพ่อคุณแม่สอนให้ตั้งใจเรียน ไว้ค่อยมีแฟนตอนโตก็ได้ สุดท้ายผู้ไปจีบรุ่นน้อง คบกันหนุงหนิงออกสื่อทุกวัน อีเหี้ย หน้าแห้งเลย สะใจชิบหาย ไม่บอกหรอกนะว่ามันชื่ออะไร แต่ได้ยินมาว่ามันเรียนวิศวะลาดกระบัง ขึ้นต้นด้วยฟ้า ลงท้ายด้วยใส”
“มึงบอกเลยก็ได้ว่าเป็นเรื่องของฟ้าใส” ผมหัวเราะ “แต่กูก็รักพี่อู๋อยู่นี่ไง ไม่ใช่ปิดโอกาสไม่รัก กูรักเขานะทราย”
“รักแบบไม่มีสถานะน่ะเหรอ? ถุย”
“มึงไม่ถุยใส่หน้ากูเลยล่ะ?”
“ได้เหรอ? อ่ะ ถุย!”

ทรายทำเสียงพ่นน้ำลายประกอบ ผมขยะแขยงจนต้องจอดรถแล้วหันไปฟาดมันโทษฐานพ่นน้ำลายจริง มาทั้งน้ำและเสียงเต็มหลังคอผมเลย

“อย่าทำเป็นเล่นไปนะก้อง กูเตือนด้วยความหวังดี”
“เออ กูรู้น่า เดี๋ยวกูคงขอเขาเร็วๆนี้แหละ”

ผมให้สัญญาแบบส่งๆ แต่ในใจกลับคิดไม่ตกเกี่ยวกับสถานะของเรา หลังปั่นจักรยานไปส่งน้ำตาลทรายถึงหอ ผมก็กลับห้องมานั่งคิดอย่างจริงจังถึงสิ่งที่เพื่อนเตือน

ถ้ารอเวลาอีกหน่อย พี่อู๋อาจจะโดนใครคาบไปกินอย่างที่ทรายว่า ถึงตอนนั้นนายก้องเกียรติได้นอนจมกองน้ำตาแน่ๆเมื่อผู้ชายที่ตัวเองรักกลายเป็นของคนอื่น หากถามว่าเวลาไหนคือช่วงที่เหมาะสมที่สุด ผมคิดว่าต้องเป็นเร็วๆนี้ อาจจะพรุ่งนี้ สัปดาห์นี้ แต่ไม่เกือนเดือนนี้ตามอย่างที่ทรายบอก โอเค – ถ้ายึดตามอารมณ์ตัวเองในตอนนี้ ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมจะขอพี่อู๋เป็นแฟน

แต่การคบกันของเรามีกฎสำคัญอยู่หนึ่งข้อ มันต้องเป็นเรื่องลับที่ไม่เปิดเผยอย่างประเจิดประเจ้อ ผมจะไม่บอกใครว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ไม่บอกด้วยว่าเราอยู่ด้วยกันมาสองปีกว่าในฐานะผู้ปกครองกับเด็กในการดูแล ไม่บอกว่าพี่อู๋เป็นใคร ไม่บอกว่าเราเจอกันได้ยังไง มันต้องเป็นความลับ เป็นความเงียบ เป็นเสียงที่ไม่ควรเปล่งออกมาให้ใครได้ยิน มีเพียงคนเดียวที่รู้คือน้ำตาลทราย ส่วนเพื่อนคนอื่นในมหาวิทยาลัย ต่อให้สนิทกันแค่ไหน ผมจะไม่พูดเด็ดขาด เพราะทางเดียวที่จะสามารถหนีคำล้อเลียนได้ก็คืออย่าให้ใครรู้ว่าเป็นเกย์ตั้งแต่แรก




ผมตัดสินใจขอพี่อู๋เป็นแฟนวันนี้ แต่มีข้อแม้ต้องตกลงกับเขาอยู่อย่างเดียว หากเราไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ พี่อู๋ต้องไม่ทิ้งผม หรือทำตัวเหินห่างเหมือนไม่เคยชอบกันมาก่อน ถ้าพี่อู๋ตอบตกลงและรับข้อเสนอนี้ได้ ผมจะส่งกระดาษที่เขียนภาษาญี่ปุ่นให้เขาทันทีไม่มีลังเล

นาฬิกาบอกเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบเจ็ดนาที พี่อู๋ขับรถจากลาดพร้าวมาลาดกระบังเพื่อรอรับนายก้องเกียรติกลับบ้านโดยเฉพาะ ระหว่างที่กำลังเก็บของใส่รถ พี่อู๋ก็ถามว่าหิวไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า ผมตอบว่าไม่อยากครับ ผมไม่มีของที่อยากกินเป็นพิเศษ แต่ถ้าพี่มีร้านไหนอยากไปก็แวะได้นะ ผมมีการบ้านไม่เยอะ ทำพรุ่งนี้ก็เสร็จเหมือนกัน

ดังนั้นพี่อู๋จึงพาผมไปกินราเมนร้านอร่อยไกลถึงทองหล่อ บรรยากาศในร้านก็ญี่ปุ่นสมกับคำที่ผมจะเขียนลงกระดาษ แผนการคือผมจะพูดเกริ่นเกี่ยวกับอนาคตของเรา ผมจะถามพี่อู๋ว่าถ้าวันนึงเราต้องเลิกกันจริงๆ เขาจะทิ้งผมไหม เขาจะตีตัวออกห่าง หรือทำเหมือนเราไม่เคยชอบกันหรือเปล่า ถ้าพี่อู๋บอกว่าไม่ เขาไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ผมก็จะส่งกระดาษที่เขียนว่าคบกันนะครับเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ แต่ถ้าเขาลังเล หรือบอกว่าไม่แน่ใจ ผมจะพับแผนการนี้ไว้ก่อน ขอเตรียมใจอีกซักระยะแล้วเราค่อยคุยกัน

เมื่อราเมนมาเสิร์ฟ พี่อู๋กับผมก็นั่งก้มหน้าก้มตากินไม่ค่อยพูดค่อยจา คุณอิศรินทร์คงหิวมากถึงสูดเส้นเข้าปากรวดเดียวราวกับไม่กลัวติดคอตาย ส่วนนายก้องเกียรติกินไปมองผู้ปกครองไป หัวใจเต้นตึกตักตึกตักเพราะกลัวพี่อู๋ไม่โอเคกับข้อตกลงที่เตรียมไว้ ผมนั่งรอโอกาสอยู่ตั้งหลายนาทีกว่าเริ่มเปิดประเด็นได้ คำถามแรกที่ผมถามผู้ปกครองคือ ตอนนี้พี่ยังชอบผมอยู่ไหมครับ?

“ชอบสิ ทำไมจะไม่ชอบ”

ผมกลั้นยิ้มพร้อมกับพยักหน้าก่อนจะถามคำถามที่สองเพื่อความมั่นใจว่าเขาจะไม่เปลี่ยนไป มันอาจฟังดูเห็นแก่ตัวที่มีเงื่อนไข แต่การเปลี่ยนสถานะของเราถือเป็นเรื่องค่อนข้างเสี่ยงสำหรับนายก้องเกียรติที่ไม่มีคนข้างหลังคอยดูแล หากวันหนึ่งเราเลิกกันแล้วผมจะอยู่ยังไง ถ้าพี่อู๋ที่เป็นครอบครัวคนเดียวไม่รักผมแล้ว ผมจะไปอยู่ที่ไหน ดังนั้นผมจำเป็นต้องถามจริงๆว่าในอนาคตถ้าเรื่องของเราล้มเหลว พี่อู๋จะเหินห่างเหมือนไม่เคยอยู่ด้วยกันหรือเปล่า

“ถ้าเราคบกันแล้วมันไม่โอเค พี่จะทิ้งผมไหม?”
“ไม่โอเคยังไง?”
“เช่น – เราเข้ากันไม่ได้ จู่ๆพี่ก็หมดรักผม หรือไม่ก็ --” ผมพยายามนึกสถานการณ์ที่พอเป็นไปได้ “ผมไม่น่ารักสำหรับพี่อีกแล้ว พี่จะทิ้งผมไหม?”
“ทิ้งยังไง? หมายถึงไม่ให้อยู่ด้วยกับไม่ส่งให้เรียนต่อเหรอ?”
“ประมาณนั้นแหละครับ”
“อืม ไม่รู้สิ” พี่อู๋ตอบตามตรง และคำตอบของเขาทำหัวใจนายก้องเกียรติหล่นวูบไปกองกับพื้น “ถ้าเหตุผลที่เราเลิกกันมันไม่ทุเรศจนเกินไป เช่นถ้าก้องไม่ได้คบซ้อน หรือนอกกายนอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น พี่ก็คงรับได้มั้ง ถามทำไม? กลัวพี่เทเหรอ?”

ผมบอกพี่อู๋ว่าเปล่าครับ ไม่มีอะไร ถามเล่นเฉยๆ คุณอิศรินทร์มองหน้านายก้องเกียรติราวกับจะล้วงให้ได้ว่าเบื้องหลังคำถามประหลาดๆเหล่านั้นมีแผนการอะไรซ่อนอยู่ แต่ผมก็เก็บสีหน้าได้ดีเยี่ยมจนเขาเลิกสนใจ และกลับไปกินราเมนต่อทันที

ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่บนทางแยกเพราะคำสัญญาของเขามีเงื่อนไขที่ยอมรับและเข้าใจได้ ถ้าหากผมเป็นแฟนที่ดี ไม่นอกใจเขาไปหาใคร ไม่นอกกายไปนอนกับคนอื่น พี่อู๋ก็คงรับได้หากเราเลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้ เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้วผมก็ว่ามันสมเหตุสมผล หากผมนิสัยเสียด้วยการทำร้ายพี่อู๋ขนาดนั้น นายก้องเกียรติก็ไม่สมควรได้อะไรจากเขาเลย ดังนั้นผมว่ามันก็แฟร์ดี เอาเป็นว่าเรามาลองกันซักครั้งเถอะครับ พี่กับผม -- ถ้ามันไม่ไหวจริงๆค่อยถอยกันคนละก้าว กลับมาเป็นผู้ปกครองกับเด็กในการดูแลก็ได้

“พี่อู๋ครับ”
“ว่า?”

เขาสูดเส้นจนน้ำซุปกระเด็นใส่เสื้อ พี่อู๋สบถกับตัวเองก่อนจะเทน้ำเปล่าใส่ทิชชู่แล้วเช็ดรอยเปื้อนออกจากเนื้อผ้า ผมมองภาพสุดโรแมนติกตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจ กำลังจะขอผู้ชายเป็นแฟนในร้านราเมนแท้ๆ ผู้ชายดันไม่สนใจเพราะกำลังง่วนกับการเช็ดเสื้ออยู่ พอเช็ดไม่ออกก็บ่นอีก บ่นอยู่นั่นแหละ จนผมต้องบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ เขาถึงก้มหน้าก้มตากินต่อเหมือนเดิม

“วันนี้ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นมาครับ”
“ไม่ต้องเรียนหรอก เรียนไปก็เครียด เอาเวลาไปเล่นดีกว่า”

นี่ผมชอบผู้ชายแบบนี้ไปได้ยังไงวะ ยกเลิกแผนดีไหม ไม่ขอแม่งละ ปวดหัว

“ทำไมเงียบอ่ะ? เล่าต่อสิว่าเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วยังไงต่อ?”
“ก็ผมหัดเขียนประโยคๆนึง แต่ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า?”
“อู๋ซามะวะเช็กกุชี่”
“ไม่ใช่!” ผมแว้ดใส่เสียงดัง ถึงจะไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นแต่ผมรู้นะว่าเช็กกุชี่คือคำทับศัพท์ของเซ็กซี่ “พี่มีปากกากับกระดาษไหมครับ ผมขอยืมหน่อย เดี๋ยวจะเขียนให้ดู”

พี่อู๋ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มก่อนจะส่งนามบัตรตัวเองและปากกามาให้ ผมพลิกนามบัตรไปด้านหลังและค่อยๆบรรจงเขียนประโยคที่อุตส่าห์คัดมาเป็นร้อยๆรอบเพื่อให้ผู้ปกครองประทับใจ พอเขียนเสร็จผมก็เงยหน้ามองพี่อู๋ แต่สายตาของเขากลับจดจ่ออยู่ที่ถ้วยราเมนเหมือนเดิมไม่สนใจกันซักนิด คิดแล้วก็หมดมู้ดจริงๆ คนบ้าอะไรวะทำลายบรรยากาศโรแมนติคได้ตลอดเวลา ไม่อยากจะเชื่อเลย

“อะไอ เอี๋ยนเอ็ดแอ้วเอ๋อ เอาอาอูอิ๊” (อะไร เขียนเสร็จแล้วเหรอ เอามาดูซิ)

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆและส่งนามบัตรคืนพี่อู๋ไป หวังว่าจะได้เห็นรีแอคชั่นน่ารักๆจากผู้ปกครองที่กำลังจะกลายมาเป็นแฟนจริงๆจังๆแต่ปรากฎว่าสีหน้าของพี่อู๋มีแต่รอยย่นของคิ้ว เขาดูงุนงงไม่เข้าใจที่นายก้องเกียรติพยายามสื่อจนผมเสียความมั่นใจ

“อะไรอ่ะ? จะให้พี่ตอบว่าอะไร?” พี่อู๋ถาม
“ก็ตอบตามที่ประโยคนั้นเขียนไง?”
“อืม ได้ วะตะชิวะ แฟนเดะวะน่าย”
(私はファンではない)

อ้าว – ทำไมไม่ยิ้มดีใจเลยวะ

ผมก้มดูประโยคที่ตัวเองเขียนก่อนจะมองหน้าพี่อู๋ ผมถามอีกครั้งว่าพี่อ่านจนแน่ใจแล้วนะ พี่ไม่ดีใจเลยเหรอที่ผมเขียนประโยคนี้ เขาบอกว่าแน่ใจสิ ก็พี่ไม่ใช่พัดลม จะให้ตอบแบบไหนได้อีกวะ หน้าพี่บานเหมือนพัดลมเหรอ

“ไม่ใช่ มันไม่ได้แปลว่าพัดลม” ผมกระทืบเท้างอแง “พี่อ่านประโยคที่ผมเขียนอีกครั้งสิ”
“อะนะตะวะแฟนเดสกะ คุณเป็นพัดลมใช่ไหม?”
“มันแปลว่าแบบนั้นจริงเหรอครับ?”
“เออสิ” พี่อู๋งง “ตั้งใจจะถามว่ามีใบพัดหรือยังไง?”
“ไม่ใช่อ่ะ ที่ผมจะสื่อมันไม่ใช่แบบนี้”

ผมบ่นงุบงิบพลางไลน์หาน้ำตาลทรายพร้อมกับพิมพ์ว่า อีทราย อีควาย กูเกิ้ลทรานสเลทแม่งมั่วชิบหาย ก่อนจะเงยหน้ามองพี่อู๋ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรทรายก็ไลน์มาอีก มันตอบมาว่าอีก้อง มึงนั่นแหละอีควาย เปิดกูเกิ้ลเช็กบ้างไม่ใช่เข้าหน้าเว็บทรานสเลทอย่างเดียว ก่อนจะแปะประโยคภาษาญี่ปุ่นที่ถูกต้องให้

“พี่อู๋เอามาใหม่ พี่อู๋เอามาใหม่”

ผมแบมือขอปากกากับนามบัตรของเขาอีกรอบ คราวนี้ตั้งใจคัดสุดฝีมือด้วยลายมือยึกยือเหมือนเด็กหัดเขียนก่อนจะส่งกลับให้พี่อู๋

付き合ってください
   
(ซทึคิอัตเตะคุดะไซ)
(เป็นแฟนกันนะครับ)

ผมนับถอยหลังรอสีหน้าของผู้ปกครองซึ่งมันไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่ สองตาเบิกกว้างราวกับไม่อยากเชื่อว่าผมเขียนประโยคนั้นให้เขาจริงๆ นี่แหละสีหน้าที่ผมอยากเห็น ผมตื่นเต้นทั้งวันเพื่อเห็นพี่อู๋ยิ้มกว้างจนตาหยีแบบนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อ คุณอิศรินทร์ก็ถามขึ้นมาว่า --

“ปวดขี้มากเลยเหรอ?”
“ผมกลับบ้านแล้ว พี่นั่งกินคนเดียวไปเลยนะ”

ผมปาทิชชู่ใส่หน้าพี่อู๋ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ กว่าคุณอิศรินทร์จะเลิกกวนส้นเท้า ผมก็เดินเกือบถึงประตูร้านแล้ว เขารีบคว้าข้อมือนายก้องเกียรติไว้แล้วส่งยิ้มแป้นมาให้ ผมจ้องหน้าผู้ปกครองเซ็งๆว่าตกลงเขาจะเอายังไง จะคบกันไหมเนี่ย มัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวเปลี่ยนใจไม่ยอมเป็นแฟนด้วยเสียเลย

“อันนี้จริงจังเหรอ?”
“ครับ” ผมพยักหน้า
“นึกยังไงถึงขอเนี่ย?”
“ทรายบอกว่าถ้าเราลองคบกัน ผมจะรู้ตัวว่าจริงๆแล้วรักพี่แบบไหนกันแน่”
“สรุปว่ารักพี่แบบไหน?”
“แบบเมียครับ” ผมตอบ ส่วนพี่อู๋ยิ้มมีเลศนัย “ทำไม? ผมเป็นผัวพี่ไม่ได้เหรอ?”
“เฮ้ย คิดดีแล้วเหรอถึงจะเป็นผัวพี่อ่ะ”

ผมตอบอย่างมั่นใจว่าคิดดีแล้ว คิดดีมากๆด้วย เห็นผอมๆอย่างนี้แต่ปกป้องดูแลพี่ได้นะ อย่าดูถูกเชียวล่ะ พี่อู๋หัวเราะเหมือนขำเด็กกะโปกแถวบ้าน ผมจึงถามเขาว่าขำอะไรนักหนา ที่บอกว่าจะเป็นผัวก็คือเป็นจริงๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น

“อะไรทำให้ก้องคิดว่าก้องจะเป็นผัวพี่?”
“เพราะ – เพราะผมอยากเป็นผัวไง”

ผมเฉไฉ เพราะอย่างน้อยในความสัมพันธ์ของคู่รักเกย์ ผมแค่อยากเป็นชายมากกว่าแฟนของตัวเองซักนิดก็ยังดี

“ไม่ต้องสนใจหรอกว่าใครเป็นผัวเป็นเมียเพราะมันไม่สำคัญ”
“ทำไมจะไม่สำคัญ วันก่อนพี่เพิ่งบอกว่าอยากเป็นผัวของผมอยู่เลย”

พี่อู๋อ้าปากค้าง คำถามของผมคงเป็นยิ่งกว่าหมัดฮุกพุ่งเข้าเสยหน้าเขาจนน็อคถึงพูดไม่ออก พอโดนเด็กย้อนคุณอิศรินทร์ถึงกับต้องถอยไปตั้งหลักเพื่ออธิบายว่าผัวในความหมายของเขาคืออะไร

“พี่หมายถึงพี่เป็นรุก” เขาพูดเบาราวกระซิบ
“รุกอะไรครับ? รุกกี้ รุกกี้เหรอ?”

ผู้ปกครองของผมก็ยังไม่พูดต่อ เขาอ้ำๆอึ้งๆคงเพราะเราอยู่กันในร้านอาหารถึงพูดตรงๆออกมาไม่ได้ ผมถามพี่อู๋ว่าถ้าพี่เป็นรุก ผมเป็นอะไร ผมเป็นรุกด้วยได้ไหม พี่อู๋บอกว่าผมยังเด็กเกินไปที่จะคุยตอนนี้ ผมจึงร้องอ้าว เด็กยังไง ผมโตแล้วนะ สิบเก้าขวบแล้ว ยังมีเรื่องอะไรไม่ผ่านเซ็นเซอร์เด็กวัยนี้อีกเหรอ

“คือแบบนี้นะก้อง – มันมีรุกกับรับ รุกเนี่ย อืม --” พี่อู๋ดูกลุ้มใจไม่อยากบอก เขาดึงมือนายก้องเกียรติให้มานั่งที่ก่อนจะรวบรวมคำพูดอธิบายให้ฟัง “มันเป็นรสนิยมของเรื่องบนเตียง”
“ฮะ?” ผมเหวอ อะไรนะ ไหนพูดอีกทีซิ
“รุกคือคนที่ เอ่อ – เป็นฝ่ายทำ ส่วนรับคือฝ่ายถูกกระทำ”
“ผมไม่เข้าใจ”
“รุกเสียบ รับโดนเสียบ”

โอเค จบ ไม่ต้องพูดอีก

ผมดื่มชาเขียวในแก้วด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน พี่อู๋ก็คงเขิน เพราะหูของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อพูดถึงเรื่องบนเตียง แต่พอหายอึดอัดเขาก็ค่อยๆอธิบายเพิ่มอีกว่ามันเป็นเรื่องของรสนิยม ตอนนี้ก้องยังเด็ก และก้องเองก็ไม่น่าจะพร้อม พี่ว่าเราค่อยคุยกันเรื่องนี้วันหลังก็ได้ ผมจึงถามพี่อู๋ต่อว่าถ้าพี่เป็นรุก ผมต้องเป็นรับเหรอ เขายิ้มเจื่อนก่อนจะบอกว่าใช่ แต่ถ้าก้องไม่ชอบ เราอยู่กันแบบไม่ต้องมีเรื่องอย่างว่าก็ได้ พี่รอได้ ไว้ก้องพร้อมเมื่อไหร่ เราค่อยลองกันนะ

ผมพยายามไม่คิดว่าลองหมายถึงเรื่องไหน แต่พอเดาได้ว่าคงหมายถึงเซ็กส์ล่ะมั้ง พอคิดเรื่องนั้นหน้าผมก็ร้อนผ่าว ไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงก้มหน้าก้มตากินราเมนจนหมด เมื่อจัดการทุกอย่างบนโต๊ะเรียบร้อย พี่อู๋ก็เช็คบิลเพื่อกลับบ้าน ระหว่างรอเด็กเสิร์ฟคิดเงิน เขาเอาแต่นั่งเท้าคางมองหน้าผมแล้วยิ้มหน้าบานไม่หุบ ผมถามพี่อู๋ว่าดีใจมากเลยเหรอ มีกอริลลาเป็นแฟนเนี่ยน่าดีใจตรงไหน เดินข้างกันคนก็คิดว่าพ่อกับลูก แถมตอบคำถามสังคมยากอีกว่าไปเจอกันได้ยังไง ถ้าคนเขารู้ว่าพี่เก็บผมมา รู้ไหมว่าเขาจะนินทาหาว่าพี่เลี้ยงต้อยนะ

“ช่างหัวพ่อมันสิ พวกขี้เสือก” คำพูดของพี่อู๋นั้นฮาร์ดคอขัดกับการกระทำแสนมุ้งมิ้งอย่างกุมมือนายก้องเกียรติ “แต่พี่ดีใจจริงๆนะที่ก้องขอพี่เป็นแฟน”

ครับ ผมรู้ หน้าพี่มันฟ้อง

“อ่า – ดีใจจังเลยอ่ะ โทรไปลางานดีไหมวะจันทร์นี้”
“พี่อย่าเว่อร์ แค่ขอเป็นแฟน ไม่ได้ขอแต่งงาน”

ผมพึมพำคนเดียวตามประสา เราเดินแกว่งมือกันไปเรื่อยๆจนถึงรถ สีหน้าของพี่อู๋ตอนนี้ยังคงยิ้มร่าเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ ผมนึกสงสัยจริงๆว่าแค่ขอเป็นแฟนมันทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดนี้เหรอ พี่อู๋รู้ไหมว่าการเป็นแฟนมีความเสี่ยง ถ้าเราไปด้วยกันไม่ได้แล้วต้องเลิกกันจริงๆ รู้ไหมว่าคนที่เสียใจที่สุดไม่ใช่พี่หรอก –

แต่เป็นนายก้องเกียรติต่างหาก








ต่อพาร์ท 2 ข้างล่างนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ ambiguous95

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-4
36 [PART2/2]


เราถึงคอนโดที่ลาดพร้าวยี่สิบเจ็ดตอนสามทุ่ม หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เราสองคนก็นั่งเล่นในห้องโถงใหญ่เหมือนเช่นทุกคืน ผมทำการบ้านบนโต๊ะตัวเล็กหน้าทีวี ส่วนพี่อู๋เอนหลังพิงโซฟา นั่งกินขนมกินโคล่าและคอยสอนก้องเกียรติตามปกติ สัปดาห์นี้ผมมีการบ้านที่ต้องทำเยอะแยะเลย ทั้งเลข ทั้งภาษาอังกฤษ ทั้งฟิสิกส์และเคมี มันเยอะจนทำไม่ทันเพราะผมใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับการคิดแผนขอพี่อู๋เป็นแฟน

ซึ่งผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดี

พี่อู๋แฮปปี้และมีความสุขมากเมื่อเรื่องของเราคืบหน้าขึ้นมาอีกนิด ผมเริ่มมั่นใจว่าการตัดสินใจให้เรื่องของเราไปต่อน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะบรรยากาศอึมครึมเหมือนวันที่คุยกับออกัสหายไปหมด พี่อู๋ดูมั่นใจและสบายใจที่ได้อยู่กับนายก้องเกียรติโดยมีสถานะชัดเจน หลังจากนี้เขาสามารถแสดงออกได้เต็มที่เลยว่าหวงผมมากแค่ไหน ออกัสก็ออกัสเถอะ เจอพี่อู๋เอาจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ #กัสก้อง คงกลายเป็นแค่เรื่องเล่าที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

นาฬิกาบอกเวลาว่าห้าทุ่มเจ็ดนาที ผมเรียกพี่อู๋มานั่งบนพื้นข้างกันขอให้ช่วยดูเรียงความภาษาอังกฤษให้หน่อย ในห้องที่เรากำลังใช้เวลาด้วยกันมีเพลงคลอแก้เหงาไม่ให้ห้องเงียบเกินไป ระหว่างตรวจเช็กแกรมม่า ปลายนิ้วของคุณอิศรินทร์ก็ค่อยๆเลื่อนเข้ามาสัมผัสกับนิ้วมือของผมอย่างแผ่วเบา เราแสร้งทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นจนกระทั่งการสัมผัสนั้นเริ่มเปลี่ยนจากแตะเป็นกอบกุม พี่อู๋จับมือนายก้องเกียรติเอาไว้หลวมๆ เมื่อผมตอบสนองด้วยการบีบมือเขากลับบ้าง พี่อู๋จึงหันหน้ามาหาและใช้มืออีกข้างจิ้มแก้มผมเบาๆ

“พี่มองหน้าผมทำไม? ไม่เคยเห็นคนเป็นสิวเหรอ?”

พี่อู๋ถามว่าเป็นสิวแล้วไง ไม่ได้ทำให้เขาชอบก้องเกียรติน้อยลงหรอก ผมจึงบ่นให้ผู้ปกครองฟังว่ารู้ไหมตั้งแต่ไปอยู่ลาดกระบัง หน้าผมเป็นสิวเยอะเลย ไม่รู้ว่าแพ้น้ำหรือเปล่าหน้าถึงได้เยินแบบนี้ ทรายเคยบอกให้ซื้อเจลแต้มสิวมาใช้แต่ผมไม่มั่นใจเวลาไปร้านขายยา ปกติผู้ชายเขาไม่ใช่ของแบบนี้กันใช่ไหมครับ ถ้ารักสวยรักงามเราจะไม่เหมือนผู้หญิงเกินไปเหรอ พี่อู๋บอกว่าไม่แปลก ผู้ชายก็คน อยากมีผิวหน้าดีๆเป็นเรื่องธรรมดามาก ไว้พรุ่งนี้เราไปเดินห้าง พี่จะซื้อยาแต้มสิวให้

“พ่อยังโทรหาพี่ไหมครับ?”
“โทรมาทุกอาทิตย์เหมือนเดิม ก้องอยากคุยกับพ่อบ้างหรือยัง?”

ผมขมวดคิ้วไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าคุยกันแล้วจะแย่กว่าที่เป็นอยู่ไหม ดังนั้นผมจึงบอกผู้ปกครองว่าขอไม่คุยดีกว่า ถ้าพ่อโทรมาพี่ก็บอกไปเลยว่าผมสบายดี ผมมีความสุขดี พี่เลี้ยงผมอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ต้องกังวล

“แต่พี่อย่าบอกพ่อนะว่าเราเป็นแฟนกัน”
“อืม ได้” พี่อู๋ยิ้มและเริ่มเกลี่ยแก้มของผม “กลัวพ่อมองไม่ดีเหรอ?”
“ผมกลัวเขาจะมองพี่ไม่ดีต่างหาก ผมไม่อยากให้ใครคิดว่าพี่เลี้ยงต้อย”
“รู้เหรอว่าเลี้ยงต้อยคืออะไร?”
“รู้สิครับ” ผมบอก “เลี้ยงต้อยคือเลี้ยงตั้งแต่เด็กไว้เป็นแฟนตัวเอง”
“พี่ไม่ได้เลี้ยงต้อย ตอนแรกที่รับมาเลี้ยงก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะชอบ”
“แล้วพี่ชอบผมทำไม?”
“พี่ชอบของแปลก” เขาหัวเราะเมื่อเห็นผมยกมือเตรียมฟาด “ก้องล่ะชอบพี่ตรงไหน?”
“ไม่รู้เหมือนกันครับ สงสัยหน้ามืดตามัว”
“ไม่ได้ชอบเพราะพี่หล่อเหรอ?”
“พี่เคยหล่อครับ ตอนนี้พี่เหมือนลุงในร้านกาแฟเลย” ผมใช้นิ้วจิ้มพุงกะทิของพี่อู๋ มันป่องเหมือนคนท้องอ่อนๆเพียงแค่ในกระเพาะของเขามีแต่ราเมนและน้ำอัดลมแทนที่จะเป็นเด็ก “ผมชอบที่พี่ใจดี ชอบที่พี่ใส่ใจผมเหมือนแม่ ผมชอบเวลามีคนสนใจให้ความรักผมเยอะๆ”
“ดีจัง คิดว่าก้องจะตอบว่าชอบเงิน”
“ผมก็ชอบเงินของพี่นะ แต่ชอบพี่มากกว่า”
“ปากหวานจังเลยไอ้อ้วน”

พี่อู๋หยิกแก้มผมเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อ ส่วนนายก้องเกียรติกำหมัดแล้วเมื่อได้ยินคำว่าไอ้อ้วน สงสัยมีคนอยากโดนฟาดซักเปรี้ยง

“พูดตรงๆนะ พี่ไม่เคยคิดว่าก้องจะขอพี่เป็นแฟน” ผมมองหน้าพี่อู๋ก่อนจะยิ้มแหย เพราะตัวเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ “อันนี้ถามจริงๆเลยนะว่าทำไม? คิดยังไงถึงขอล่ะ?”
“เพราะผมไม่รู้ว่าลึกๆแล้วผมรักพี่แบบไหน”

ผมตอบ แถมยังบอกเขาอีกว่าผมเคยกลัวเรื่องนี้มาก แต่ทรายบอกว่ายิ่งไม่ชัดเจนกับพี่ นายก้องเกียรติก็ยิ่งเป็นคนเหี้ยในความสัมพันธ์ พอคิดดูมันก็จริงอย่างที่ทรายว่า ผมกำลังเห็นแก่ตัวด้วยการกั๊กสถานะไม่ให้พี่ได้เจอคนใหม่ พี่เองก็แก่แล้ว – โป๊ก! พี่อู๋แจกมะเหงกนายก้องเกียรติหนึ่งปึ้ก ทีงี้ทำเป็นโกรธ ทีเรียกผมว่าไอ้อ้วน ผมยังไม่คิดบัญชีเลยนะ

“ก็พี่แก่แล้วจริงๆอ่ะ!”

ผมเถียงขาดใจ อีกไม่กี่ปีจะสี่สิบแล้ว เข้าวัยกลางคนแล้ว ยังคิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นได้ไง แบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับเด็กอายุสิบเก้าอย่างผมสิ

“แก่แล้วมันทำไม? แก่แล้วเป็นแฟนก้องไม่ได้หรือไง?”
“เป็นได้ ไม่งั้นผมจะให้โอกาสพี่ทำไมล่ะ? แก่แล้วยังขี้น้อยใจอีก”
“ได้ยินน้า” พี่อู๋ยกมือจะแจกมะเหงกอีก แต่ผมเบี่ยงตัวหลบทัน
“นั่นแหละ – ทรายบอกว่าถ้าไม่รู้ก็คบไปให้จบๆ เดี๋ยวก็รู้เองว่ารักแบบไหนเพราะมีหลายเรื่องที่สถานะผู้ปกครองกับเด็กในการดูแลทำไม่ได้”
“เช่นอะไรเหรอ?”
“ก็แบบ – ” ผมอ้ำอึ้ง “กอด จับมือ ไปดูหนัง”
“แล้วอะไรอีก?”

ผมรู้ว่าคำตอบที่พี่อู๋ต้องการคืออะไร เขาคงอยากให้นายก้องเกียรติพูดออกมาตรงๆแต่ผมไม่กล้าขนาดนั้น

“พี่อย่าให้ผมพูดเลย ผมอาย”

พี่อู๋หัวเราะแล้วยีผมนายก้องเกียรติด้วยความมันเขี้ยว เขาบอกว่ารู้สิ รู้ดีว่าเด็กในปกครองขี้อายขนาดไหนถึงได้แกล้งให้พูดไง

“ว่าแต่ เมื่อกี๊ที่เราคุยกันในร้าน ถ้ารุกคือตัวแทนของคำว่าผัว รับคือฝ่ายเมีย แบบนี้ผมต้องเป็นเมียพี่จริงๆเหรอ?”
“คือแบบนี้นะก้อง -- ก้องต้องแยกออกมาก่อนว่ารุกกับรับเป็นรสนิยม เป็นความชอบส่วนตัว อย่างพี่เป็นรุก --”
“พี่อู๋รับได้ไหม?”

คุณอิศรินทร์อ้าปากค้าง เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าช็อตที่หยุดทำงานชั่วขณะเมื่อเจอคำถามของนายก้องเกียรติ

“พี่ไม่เคยรับ แต่ถ้าก้องอยากลอง พี่ยอมเป็นให้ก็ได้”
“รุกเป็นยากไหมครับ?”
“มันขึ้นอยู่กับความชอบอ่ะ” พี่อู๋บอกอย่างจนปัญญา “เอาแบบสั้นๆ ตรงๆเลยนะ ถ้าจิตใต้สำนึกไม่ได้ฟ้องตั้งแต่เกิด ก้องจะรู้ว่าตัวเองเป็นรุกหรือรับก็เมื่อลองมีเซ็กส์ แต่ก้องสามารถเป็นทั้งสองอย่างได้ถ้าก้องชอบและเอนจอยกับมันเท่าๆกัน ดูอย่างไอ้โรมสิ”
“พี่โรมทำไมครับ?”
“ไอ้โรมเป็นรุก”
“จริงอ่ะ?” ผมเบิกตากว้างไม่อยากเชื่อ “พี่โรมเนี่ยนะ? พี่โรมที่ตุ้งติ้งๆหน่อยน่ะเหรอครับ? แต่วันก่อนพี่คุยกัน ผมได้ยินพี่อู๋แซวพี่โรมว่าจะฟ้องผัวเขาอยู่เลย”
“ใช่ ของแบบนี้มันสลับกันได้แล้วแต่ความชอบ คนเป็นรับไม่ได้แปลว่าต้องออกสาวเสมอไป กะเทยแต่งหญิงยังรุกได้เลย มันเป็นเรื่องของความชอบล้วนๆ”
“คุณหมูพีล่ะครับ?” ผมหลุดปากถามถึงแฟนเก่าของเขา ไม่รู้พี่อู๋จะโกรธไหมที่เอ่ยคำต้องห้าม แต่ผมอยากรู้จริงๆนี่นา
“เป็นรับ”
“เพราะแบบนั้นพี่ก็เลยรุก”
“อืม ใช่ ว่าแต่ทำไมก้องถึงหมกมุ่นกับคำว่าผัวเมียจัง? มันจำเป็นมากเลยเหรอที่ต้องเรียกกันผัวเมีย อยากเรียกพี่ว่าผัวหรือไง?”
“ผมเคยเห็นคู่เกย์ส่วนใหญ่เขาระบุตัวเองอ่ะ เช่นเขามีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกันใช่ไหมครับ เวลาไปไหนมาไหนแล้วแนะนำให้ตัวอิจฉารู้จักก็จะพูดว่า อ๋อ นี่เมียผม นี่ผัวผม”
“ดูหนังมากไปหรือเปล่า? ในชีวิตจริงไม่มีเกย์คนไหนแนะนำแฟนต่อหน้าคนอื่นว่าคนนี้ผัวผมครับ คนนี้เมียผมครับหรอก เขาเรียกรวมๆกันว่าแฟน เราไม่จำเป็นต้องบอกคนอื่นว่ารสนิยมบนเตียงของเราเป็นยังไง เหมือนที่คู่ชายหญิงคงไม่บอกใครต่อใครใช่ไหมว่าฉันกับสามีชอบด็อกกี้ค่ะ”
“พี่ลามกอ่ะ!”
“พี่พูดจริง” พี่อู๋ยืนยัน “ก้องคิดว่าผัวเมียเป็นยังไงล่ะ?”
“ผัวคือคนที่แมนกว่า คนที่จะดูแลปกป้องอีกคนครับ”
“แล้วคนที่ก้องคิดว่าคนเป็นเมียเขาปกป้องดูแลผัวตัวเองไม่ได้เหรอ?”
ผมลองคิดดูใหม่ “ก็ได้นะครับ สรุปเราจำเป็นต้องมีผัวเมียไหม?”
“ไม่จำเป็น ก้องเป็นก้อง พี่เป็นพี่ ไม่มีใครต้องเป็นผู้หญิงในความสัมพันธ์ ส่วนรุกกับรับค่อยว่ากันเมื่อก้องพร้อม ตอนนั้นก้องจะเข้าใจเองว่าชอบแบบไหน” พี่อู๋อธิบาย “ถ้าใครถามว่าเราเป็นอะไรกัน ก็แค่บอกไปว่าเป็นแฟน จบ ไหนลองซ้อมหน่อยซิ ก้องๆ ก้องเป็นอะไรกับพี่อู๋เหรอ?”
“เป็นแฟน” ผมตอบอ้อมแอ้มเสียงเบาจนพี่อู๋ส่ายหน้าไม่ชอบใจ
“เป็นอะไรกันนะ? ไม่ได้ยินเลย พูดให้มันดังๆหน่อย”
“เป็นแฟน!”
“ให้มันได้แบบนี้สิวะไอ้อ้วน!”

พี่อู๋ประคองหน้าผมเข้ามาใกล้แล้วจุ๊บเหม่งหนึ่งที ผมนับนิ้วแล้วนะว่าเขาเผลอเรียกนายก้องเกียรติว่าไอ้อ้วนเป็นครั้งที่สอง ถ้ามีครั้งที่สามอีกผมจะหยิกสะดือเขาแน่

เราหยอกล้อกันอีกนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำการบ้านต่อ นาฬิกาบอกเวลาว่าเที่ยงคืนสามสิบหกนาที พี่อู๋ตรวจการบ้านเสร็จและกำลังดูเด็กในปกครองทำโจทย์ฟิสิกส์ ฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ช่วงเย็นเพิ่งจะเทตัวลงมา ส่งเสียงดังเปาะแปะยามเม็ดฝนกระทบบานหน้าต่าง กลบเอาเพลงสากลที่เปิดคลอในห้องจนเกือบไม่ได้ยิน ผมเงยหน้ามองบานกระจกที่มีหยดน้ำเกาะ ระหว่างนั้นไฟในห้องเกิดติดๆดับๆอยู่สองสามครั้งก่อนจะดับสนิทในที่สุด เสียงเพลงทุกอย่างหยุดลงกะทันหัน ห้องตกอยู่ในความมืด มีแค่แสงไฟนีออนจากเสาไฟฟ้าริมถนนเท่านั้นที่สาดส่องเข้ามา

พี่อู๋ลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่าง เขาชะโงกหน้าผ่านหน้าต่างบานเล็กเพื่อดูว่าไฟดับทั้งซอยหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าคอนโดอื่นๆก็มืดไม่ต่างกันจึงเดินกลับมานั่งข้างก้องเกียรติ ในห้องที่มีแสงไฟสลัวสาดเข้ามา เรานั่งชิดติดกันบนพื้นข้างโซฟา ผมเก็บเครื่องเขียนลงกระเป๋า ปิดชีท ปิดหนังสือ เก็บเอกสารลงแฟ้มเป็นระเบียบเรียบร้อยไว้ทำต่อวันพรุ่งนี้ นาฬิกาบอกเวลาว่าเที่ยงคืนสี่สิบนาที พี่อู๋โอบไหล่นายก้องเกียรติเอาไว้หลวมๆ เรามองหน้ากันท่ามกลางเสียงฝนตกกระทบหน้าต่างและไฟสลัวที่มองเห็นได้เลือนลาง

โดยไม่ต้องมีคำเอื้อนเอ่ย ไม่ต้องให้ใครสอน ผมหลับตาราวกับรู้ว่าพี่อู๋กำลังขออนุญาตเป็นนัย มือของพี่อู๋ค่อยๆประคองแก้มของนายก้องเกียรติทั้งสองข้างก่อนจะเลื่อนเข้าไปสอดใต้เส้นผม เพียงเสี้ยววินาทีที่เฝ้ารอ ริมฝีปากของคุณอิศรินทร์ก็ประทับลงมา

จูบแรกของเราเกิดขึ้นตอนเที่ยงคืนสี่สิบสองนาที
ผมจะจำช่วงเวลานี้ไปจนตาย -- จำไว้ว่าใครครอบครองก้องเกียรติคนแรกด้วยริมฝีปาก

พี่อู๋สอนให้ผมรู้จักจูบด้วยการเคลื่อนไหวเนิบนาบทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน ปลายเท้าของผมจิกเกร็งขณะเขาขยับอย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน นอกจากจะสอนการบ้านแล้ว พี่อู๋ยังสอนให้นายก้องเกียรติรู้ว่าจูบไม่ได้ใช้แค่ริมฝีปากเมื่อเขาสอดลิ้นเข้ามาอย่างระมัดระวัง และดึงดูดด้วยความทะนุถนอมราวกับกลัวผมบุบสลายหากขยับแรงเกินไป

คราวนี้ผมเข้าใจในสิ่งที่ทรายพร่ำพูดอยู่ตลอดเวลาแล้ว การเป็นแฟนกับพี่อู๋ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมเสมอ เขาดูแลผมเหมือนเดิมก็จริง หรืออาจจะรักผมเท่าเดิม แต่มีอย่างหนึ่งที่ผู้ปกครองไม่สามารถทำกับเด็กในปกครองได้ก็คือการจูบ และเมื่อผมอยู่ในอ้อมกอดของเขา แค่จูบซึ่งอุ่นและแผ่วเบาก็ทำให้หัวใจของก้องเกียรติละลายเหมือนไอศกรีมในฤดูร้อน พี่อู๋เป็นเหมือนไฟทำให้ผมตัวอ่อนปวกเปียกขยับไม่ได้นอกจากเผยอปาก รับเอาส่วนหนึ่งในตัวของเขาเข้ามาหยอกล้อในโพรงปากเท่านั้น

เมื่อชั่วเวลาหนึ่งผ่านไป พี่อู๋ก็ถอนริมฝีปากออก ผมมองหน้าคุณอิศรินทร์ที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนยิ่งกว่าครั้งไหนๆด้วยหัวใจพองโต รู้สึกดีจริงๆที่จูบแรกของผมเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ ในช่วงเวลาที่ใช่และสถานะที่ใช่ อะไรๆมันก็ดีไปหมด ยิ่งมองลึกในแววตาของเขาแล้วเห็นแค่เงาของก้องเกียรติคนเดียว ผมยิ่งหลงรักพี่อู๋มากกว่าเดิม ผมรักพี่อู๋ ผมรักเขา ผมรักเขาจริงๆนะ และหากริมฝีปากของเรามีโอกาสสัมผัสกันอีกครั้ง ผมอยากเป็นฝ่ายบอกรักเขาซ้ำๆผ่านทางจูบของเราโดยไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำใดๆเหมือนเช่นวันนี้


TBC

________________________________


#เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้


สวัสดีวันจันทร์คับ   <3

  ​
ขอเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆให้กับทุกคนที่ต้องต่อสู้กับวันแรกของการทำงานและการเรียนด้วยฉากเลิฟซีนเล็กๆฉากนี้นะคะ 555555555555555555555555555 เล็กมาก นิดเดียวเอง แต่หวังว่าทุกคนจะชอบและสนับสนุนนิยายเรื่องนี้จนจบเลยน้า หากมีอะไรที่เราสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ สามารถบอกได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ เพื่อเนื้อหาที่ดีและความกลมกล่อมที่มากขึ้น เราจะตั้งใจเขียนเต็มที่เลยค่ะ  ฝากติดตามน้องก้องจนจบเลยนะคะ <3

ออฟไลน์ newyork_jaja2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ฮืออออออออออ ไม่ไหวแล้ววว จูบแรกของกอริลล่า แงงงง น่ารักมาก เขินน :pighaun:

ออฟไลน์ MyMine104

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แงงงงงงงงใครไหวไปก่อนเราไม่ไหว :ling1: มีความสุขมากสินะคุณอุรัสยาน้องก้องทั้งขอเป็นแฟนทั้งให้จูบด้วยตัวแตกตายไปเลยยย ดูแลน้องก้องดีๆนะพี่อู๋อย่าทำน้องเสียใจน้าา :mew1:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :mew3:  พี่อู๋รุกให้หนักๆๆๆๆไปเลยค่ะ   เอาให้ก้องหลงหัวปักหัวปำเลย5555
   

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นจน​ กัวว่าแผนจะล้ม

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เฮ้อ ก้าวหน้าได้ซะทีนะ ก้อง
เป็นการบอกรัก ขอเป็นแฟนที่ออกป่วนๆ โดยพี่อู๋ ที่ไม่รู้ว่าตั้งใจกวนก้องหรือเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mamamapp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตอนนี้เรียกรอยยิ้มได้หน่อย ยินดีกีบพี่อู๋ด้วยนะในที่สุดก็ได้แฟนเป็นกอรืลล่าแล้ว o13

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี๊ดดดดด เป็นแฟนกันวันแรกก็ได้จูบแล้ว ปรบมือให้เสี่ยอู๋ค่าาา :katai2-1:
รักเสี่ยอู๋ นางคือผู้ให้อย่างแท้จริง กอลิล่าก้องอยากเป็นรุกหรอ พี่เป็นรับก็ได้ คือเสี่ยดีมากจริงๆ(จำใจป่าวนี่ไม่แน่ใจ :laugh:)
เพื่อนก้องคือเราชอบน้ำตาล นางตลกเปลี่ยนเรื่องเครียดๆของกอลิล่าก้องให้ดูง่ายๆสบายๆ เก่งมากเลย o13

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
มันดือมาก ฮือออ หวานกันต่อเลยได้มั้ยย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ในที่สุดก็ได้เป็นแฟนกันแล้ววว :katai2-1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
หวานมากกกก
กอลิล่าก้องยังมีmindsetผิดๆอยู่เกี่ยวกับคู่รักชายชายนะ อยากให้น้องเข้าใจเร็วๆ
ทั้งเข้าใจในเรื่องนี้และเข้าใจตัวเอง กล้ายอมรับ ทุกคนจะได้แฮปปี้ เย้

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ฉากคิส ๆ บรรยายได้ดีจนรู้สึกถึงความละมุนละไมใส่ใจของพี่อู๋ที่มีต่อก้องเกียรติ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
น่ารักมากกกก

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
โถ ก้องเกียรติอยากเป็นผัวหรอลูกกก ขำพี่อู๋พุงกะทิ ฮาอ่ะ ฉีกกฏความซิกแพคของพระเอกนิยายำไปเลยย 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด