เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ  (อ่าน 215784 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่เพชรไม่น่าถามคุณหญิงหรอกว่าใครเลวร้ายที่สุด มันเห็นๆกันอยู่55555 เอาดราม่าพอกรุบกริบพอค่ะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาเลยได้ไหมค้อมเสือกกระพรือใหญ่แล้วว

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นกำลังใจให้น้องพายเด้ออออ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เพชรกับเจนนี่ทันกันจริงๆ    :katai2-1

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
เพชรพระพาย
ครอบครัวของพระพาย

และเพราะพระพายมีคนที่เสือกเก่งอย่างมีคุณค่าอย่างเขา ทุกอย่างเลยเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี….


“อืม ถ้ามีปัญหาก็มาบอกแม่ละกัน”  จินตนาบอกกับเจ้าตัวเล็กของเธอที่วันนี้โตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตตัวเองแล้ว ปัญหาที่มันเคยค้างคามานานและรอวันสะสาง ดูเหมือนว่าเราต้องสะสางกันในเร็วๆนี้


ใช่….พระพายเป็นลูกหลานคนหนึ่งของตระกูลชวนันท์ ที่เกิดกับเธอและวุฒิชัยชวนันท์ผู้ซึ่งเป็นลูกชายคนกลางของท่านเจ้าสัวใหญ่ พระพายไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เป็นผลผลิตของความโลภที่เธอเคยนึกเกลียดชัง ทว่าวันหนึ่งเมื่อได้กลายมาเป็นแม่ เธอก็ไม่สามารถทิ้งลูกของตนได้ลงคอ กรรมมันได้ตามสนองแล้วที่คิดล้อเล่นกับความรัก เลยได้ความรักมาเป็นภาระหนึ่งอัตรา แต่พระพายทำให้เธอได้รู้ว่าลูกคือภาระที่มีค่าเท่าที่ชีวิตเธอจะมีได้


จินตนาเกิดมาในครอบครัวพ่อค้าที่ต่างจังหวัด เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ไม่ได้มีฐานะลำบากอะไร ทว่าในตอนเป็นวัยรุ่น เธอรักสนุกและไม่เคยสนใจเรียน ใช้ชีวิตอยู่กับแฟนหนุ่มมากหน้าหลายตาไม่เคยหยุดที่ใคร นี่คือสิ่งที่เธอไม่ได้บอกลูกเพราะกลัวว่าเขาจะผิดหวังในตัวแม่ของตนจนเกินรับไหว จินตนาจึงเลี่ยงที่จะพูดเรื่องในอดีตกับลูกมาตลอด และโชคดีที่พระพายถูกเลี้ยงมาอย่างดี ไม่ขาดเหลืออะไร และมีความสุขกับชีวิตตัวเองดี จึงไม่คิดจะที่จะถามคำถามอะไรให้แม่ไม่สบายใจ บางทีพระพายก็อาจจะรู้….ว่านี่คือคำถามที่แม่ไม่เคยอยากนึกถึงคำตอบ


ไม่มีอะไรที่จินตนาไม่มั่นใจในตัวลูก พระพายไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้จักระวังตัว และอย่างน้องเด็กคนนี้ก็ไปกับคุณเลขาของคุณรบ ถึงแม้ว่าเพชรจะอายุไม่มาก แต่เขามีความน่าเชื่อถือ หากทำงานกับคุณรบแบบเคียงบ่าเคียงไหล่มาได้หลายปี เธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขานั้นเก่งกาจพอตัว และเพราะรู้ว่าเขาคนนี้คิดอะไรกับลูกชาย….จินตนาจึงค่อนข้างวางใจ สำหรับเธอเขาผ่านเพราะเท่าที่รู้จักมา ผู้ชายคนนี้ไม่มีข้อเสียที่รับไม่ได้ และพระพายก็คงไม่หลับหูหลับตารักใครสักคนโดยมองข้ามความเป็นจริงที่ว่า…..เราเข้ากันไม่ได้หรือไปกันไม่รอดอะไรแบบนี้หรอก


เมื่อ 19 ปีก่อน จินตนาในวัย  24 ได้เจอกับวุฒิชัยที่ร้านเหล้าร้านหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยคนมีเงิน เธอยังเรียนไม่จบ แต่จริงๆให้เรียกว่าไม่คิดจะเรียนให้จบดีกว่า หลังจากที่มีการแบ่งสมบัติเมื่อพ่อแม่เสียชีวิต เธอก็หลงระเริงกับการใช้เงินปรนเปรอความสุขให้ตัวเองโดยไม่คิดเลยว่าเงินทองที่มีมูลค่ามากมายในตอนนั้นจะมีวันหมดไป จินตนาเคยคิดว่าการที่เธอผลักดันตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนรวยๆเช่นคลับหรูๆได้นั้นมันคือการลงทุนประเภทหนึ่ง


หลังจากที่เจอกับพ่อของพระพายที่เข้ามาติดพัน เธอก็คิดไปเองว่าคงได้เป็นสะใภ้ชวนันท์แน่แล้ว และเขาเองก็ให้คำสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะแต่งงานกับเธอ ถ้าถามว่าจินตนารักเขาไหม ก็ไม่ได้รักหรอกเขาดูดี ร่ำรวย เธอชอบเขาได้ การมีลูกให้เขาจึงเป็นเรื่องที่เธอยินดีเสียยิ่งกว่ายินดีเพื่อผูกมัด การเข้าไปในบ้านของเขา เธอก็ไม่ได้ถูกต้อนรับดีหรอก แต่ก็ห่างไกลจากคำว่าถูกรังเกียจไปหลายขุม เหมือนที่เขาบอกไว้ ว่าแค่เธอมีลูกได้ ทุกอย่างมันก็จะดีไปเอง


ทว่าหลังจากคลอดพระพายได้ไม่ถึงปี ความจริงก็กระจ่างชัด แม้ว่าจะสงสัยมานานว่าทำไมชายหนุ่มอนาคตไกลหน้าตาดีมีฐานะและห่างไกลจากความเจ้าชู้เช่นวุฒิชัยถึงมาลงเอยกับเธอ วันหนึ่งเธอก็ได้รู้ว่าเขามีเหตุผลที่ทำให้กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ไอ้รักไม่รักอะไรนั่น จินตนารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้รักเธอ เขาอาจจะต้องการทายาทเพื่อสืบเชื้อสายต่อไป แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะมีคนรักอยู่แล้ว….


และคนๆนั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวเขาเสียยิ่งกว่าเด็กใจแตกอย่างเธอเสียอีก….


เขาชื่อชนาธิป และเขาเป็นผู้ชาย  วุฒิชัยไม่สามารถเปิดตัวกับครอบครัวด้วยรู้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับ และวันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจบอกจินตนา ในตอนนั้นเธอเริ่มจะมีความรู้สึกดีๆให้เขาแล้ว และการมีลูกก็ควรจะผูกมัดเขาได้ ซึ่งในความเป็นจริงมันก็ใช่ แต่เรื่องของหัวใจมันซับซ้อนกว่านั้น เขาสองคนรักกันเกินไป และเธอก็เหมือนเหยื่อของเหตุการณ์ครั้งนี้ จินตนายังจำภาพของชนาธิปที่ก้มลงกราบเธอในวันที่เธอเข้าไปด่าว่าเรื่องที่ถูกหลอกลวง พวกเขาเจตนาทำลายชีวิตกัน แต่ก็พยายามจะชดเชยให้ในทุกสิ่งที่เสียไป


ในตอนนั้นด้วยความโกรธและทิฐิที่มีอยู่ เธอยืนยันว่าจะไปจากบ้านชวนันท์ทั้งๆที่แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว พวกเขาวอนขอไม่ให้เธอพาลูกไป แต่จินตนาก็อ้างถึงสิทธิ์ที่ถูกกระทำ เธอขู่พวกเขาว่าจะเอาเรื่องของทั้งสองไปประจาน ชนาธิปนั้นถึงกับขออยู่ห่างกับวุฒิชัยหากมันจะทำให้เธอพอใจเพราะรู้ว่าเขารักลูกมาก  แม้ว่าจะรักแค่ไหน มันก็ต้องมีคนหนึ่งที่เสียสละไป และสุดท้าย….มันก็เป็นเธอ….


เขาไม่รักเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเลยเหรอ ไม่….เขารัก แต่เธอตั้งข้อเสนอเด็ดขาดว่าเธอจะเป็นฝ่ายไปและเอาพระพายไปด้วยไม่ว่าชนาธิปจะไปหรือไม่ก็ตาม เธอไม่อาจทนอยู่บ้านหลังนั้นให้เสียสุขภาพจิตได้อีกต่อไปแล้ว เธอจึงยินยอมตกลงที่จะรับเงินเพื่อเลี้ยงดูลูกทุกเดือน ทั้งๆที่ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกรักพระพายมากเท่านี้ด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงเอามานะเหรอ….เผื่อๆวันหนึ่งวุฒิชัยอาจจะมาตามตัวเธอกลับไป แล้วในวันนั้นเขาอาจจะตัดชนาธิปออกไปได้จนหมดหัวใจ ทว่ารอแล้วรอเล่า….เขาก็ไม่เคยมา….


จนกระทั่งเธอหมดใจจากเขาไปเสียเอง….


เขาไม่เคยมาหาเธอ แต่ก็มีบ้างที่แอบไปเจอพระพาย ลูกอาจจะไม่รู้  แต่ตอนเที่เด็กมากๆ คนเป็นพ่อและคนรักของเขาได้เฝ้ามองพระพายอยู่ห่างๆเสมอ เธอรู้และทำเป็นไม่เห็นในบางทีเพราะในตอนนั้นเธอคิดได้ว่าถ้าก้าวพลาดขึ้นมา เธอจะมีปัญญาอะไรไปสู้เอาพระพายกลับมาจากชวนันท์


หลังจากหนีออกมา มันก็เป็นเธอที่เลี้ยงลูกในคอนโดที่เขาจัดหาให้  พระพายน่ารักขึ้นทุกวันจนคนเป็นแม่อดใจรักไม่ไหว และเพราะรักจึงเริ่มจะเกิดความกลัวว่าพวกเขาจะมาพรากลูกไปและเอาคืนกันอย่างสาสม เธออาจจะไม่ได้เจอหน้าพระพายอีกเลย


ในที่สุดก็ตัดขาดจากพ่อของลูกโดยการย้ายออกมา เงินที่เขาฝากเข้าบัญชีให้ก็ไม่เคยใช้ด้วยระแวงว่าเขาจะตามเจอ แรกเริ่มเลยเธอเอาลูกไปฝากไว้กับลูกพี่ลูกน้องคนนึงอยู่เป็นปีและสมัครงานเป็นแม่บ้านของรัตนสกุล ใช้ชีวิตอยู่เงียบๆหาเงินส่งไปให้ลูก แต่พอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณหญิงพรรณี เจ้านายจึงแนะนำให้พามาเลี้ยงเมื่อโตขึ้นในระดับหนึ่งพระพายอยู่ที่นี่เป็นหลัก จะมีกลับไปอยู่กับญาติที่เอ็นดูกันบ้างช่วงปิดเทอม  และตอนที่เธอให้กลับไปช่วงที่คุณรดามาอยู่เพราะไม่อยากให้ลูกมายุ่งเกี่ยวด้วย


ทว่าวุฒิชัยก็ตามกันเจออยู่ดี แต่เขาอาจจะไม่เคยบอกท่านเจ้าสัวใหญ่ว่าหาลูกเจอแล้ว เราตกลงกันว่าเขาจะดูลูกอยู่ห่างๆ ส่งเสียให้เรียนได้ถ้าเธอเรียกร้อง ทว่าก็ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจอะไรอีกแล้ว คุณหญิงพรรณีได้เข้ามาช่วยพูดคุยกับเขาเพื่อให้เข้าใจซึ่งความต้องการและมั่นใจว่าพระพายจะโตมาอย่างมีคุณภาพ


ด้วยความรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้จินตนากลายเป็นเช่นนี้ พวกเขาจึงยินยอมที่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบและไม่เคยเรียกร้องอะไรเพิ่มด้วยกลัวว่าจะกระทบถึงสุขภาพจิตของลูก อาจจะเพราพระพายยิ้มแย้มได้สดใสเกินไป ไร้เดียงสาเกินไป ไม่มีใครอยากทำลายพระพายเพียงเพราะความผิดพลาดในอดีตของพ่อแม่หรอก ทุกวันนี้เราจึงปล่อยให้อดีตร้ายๆเป็นแค่เรื่องที่ควรถูกลืม ทว่าไม่มีใครลืมได้จริงๆและเธอก็เล่าให้พระพายฟังแล้ว


“แม่ขอโทษนะ” เธอพูดเสียงเบา พระพายนั้นยิ้มให้ แม้จะไม่ใช่ยิ้มที่สดใสนัก แต่ก็เป็นยิ้มที่ทำให้เธอรู้ว่าลูกพอใจกับสิ่งที่ได้ฟังแล้ว


“พายจะไปแล้วกลับมาหาแม่นะครับ”


“พาย” เธอเรียก


“ครับ”


“อย่าโกรธพวกเขาเลย แม่ก็ผิด….นะ”  เธอย้ำ ไม่อยากให้เรามีบาปกรรมต่อกันอีกแล้ว แค่นี้เธอก็พรากลูกมาจากพ่อนานไปแล้ว นอกจากเรื่องเห็นแก่ตัวพวกนั้นที่เราสองคนทำลงไป ที่เหลือนั่นคือความพยายามที่จะประคับประคองความสัมพันธ์อันสุดแสนจะเปราะบางซึ่งกินเวลายาวนานมา 19 ปีได้ วันนี้พวกเราต้องอภัยให้กันเสียที และมันต้องเริ่มจากการยอมรับผิด


“แม่ไม่ต้องห่วงพายนะ”  เธอรู้ว่าพระพายมีหัวคิด บางทีมันก็มากกว่าเธอในวัยเดียวกันเสียอีก แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้จึงหันไปหาอีกคน


“ฝากน้องด้วยนะคะคุณเพชร”


“ครับ”  เขายิ้มตอบกลับมา เขายินดีเสียยิ่งกว่างานใดๆที่ทำ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้เลยว่างานยากๆที่เรียกว่าการทะนุถนอมแก้วบางๆที่ชื่อว่าพระพาย ชวนันท์ จะเป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุขขนาดนี้ เราบอกลาจินตนาที่ยังคงเป็นห่วงเป็นใย ก่อนจะเดินขึ้นรถเพื่อไปพบกับท่านเจ้าสัวใหญ่ที่อยากจะพบหน้าหลานชายที่พลัดพรากจากกันไปนาน



จะรู้สึกอย่างไรกันนะ เหมือนพจมานตอนเข้าบ้านทรายทองแบบที่พี่เจนชอบพูดถึงหรือไม่…..ว่าแต่พจมานเครียดแบบนี้เลยหรือ พระพายนั่งอยู่ที่โซฟาของบ้านหลังใหญ่แถบปริมณฑล การรอคอยแต่ละวินาทีมีค่าราวกับถูกคูณไปเท่าทวี ทว่าคนข้างกายก็หันมายิ้มให้กันราวกับจะบอกว่ามันไม่เป็นไร และเมื่อพระพายรู้สึกอุ่นใจได้ผู้ที่เชิญเรามาก็เดินเข้ามาในห้องรับแขกอย่างเชื่องช้า


ในที่สุดพระพายก็ได้เจอหน้าคนที่มีสายเลือดเดียวกัน


“พระพายใช่ไหมลูก”  เจ้าสัวชรานั้นมองหลานชายที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน จดจ้องใบหน้าน่ารักที่คลับคล้ายว่าจะเหมือนกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วของเขา วันนี้กระจ่างใจแล้วว่าใบหน้าน่ารักและดูใจดีของเด็กคนนี้เหมือนใคร เมื่อแรกเริ่มได้สบตา พระพายมีแววไม่แน่ใจว่าควรปฏิบัติตัวเช่นไร เด็กหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองประเมินอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะลูบท้ายทอยและยิ้มเขินที่ทำตัวไม่ถูก


“พระพายเองครับ”  ในวันนี้ท่านเจ้าสัวก็รู้ได้ว่าหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องทำในชีวิต ท่านได้ทำสำเร็จไปแล้วเรื่องนึง


เรามาอยู่ในห้องทานข้าวของที่บ้าน มันต่างจากที่พระพายคิดเพราะผู้ร่วมทานข้าวมีเพียงแค่ไม่กี่คน ทั้งๆที่พวกเขาอาจจะอยากมาดูผู้ต้องการร่วมส่วนแบ่งทางผลประโยชน์ที่เพิ่งโผล่มา ทว่ากลับไม่มีใคร หรือจริงๆพวกเขาอาจจะไม่อยากเจอหน้าพระพายก็เป็นได้ ท่านเจ้าสัวนั้นนั่งประจำที่หัวโต๊ะ พระพายถูกจัดให้นั่งข้างๆฝั่งขวาและที่ข้างๆพระพายคือพี่เพชรที่มาช่วยในกรณีที่มีอะไรฉุกเฉิน ส่วนฝั่งตรงข้ามที่นั่งข้างๆท่านเจ้าสัวฝั่งซ้ายนั้น….


พระพายเดาว่าเขาคือพ่อของพระพาย…และใครอีกคนที่เขารัก….


พระพายหันไปขอบคุณแม่บ้านที่ตักข้าวให้ และยิ้มให้กับทุกคนอย่างมีมารยาท สายตาของคนเป็นพ่อทำให้พระพายรู้สึกประหม่าไม่น้อย จนตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คุยหรือทักทายกันเลยด้วยซ้ำ พระพายมีแค่พนมมือไหว้และก็เอาแต่ตอบคำถามของคุณปู่ที่ถามมาเท่านั้น สถานการณ์ยังน่าอึดอัดอยู่พอประมาณ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไรเลย ถึงแม้เราจะมีสายเลือดใกล้ชิด แต่ความใกล้ชิดทางกาย….เรียกได้ว่าแทบเป็นศูนย์


เขาอาจจะเคยโอบอุ้มกันไว้ในอ้อมแขน แต่พระพายกลับไม่เหลือความทรงจำเหล่านั้นเลย น่าแปลกที่ไม่โกรธเขาที่ไม่พยายามหรือเสียสละกว่านี้ พระพายมีความสุขกับการอยู่ใต้ปีกของรัตนสกุลแล้วและไม่คิดว่าตนขาดสิ่งใดให้แค้นเคือง ที่รู้สึกตอนนี้คงจะเป็นความรู้สึกผิดเสียมากกว่า คนที่จำได้ เจ็บกว่าคนที่ไม่มีความทรงจำ….


“คุณปู่ทานนี่หน่อยนะครับ”  พระพายตักอาหารใส่จานให้เจ้าสัวโดยที่ไม่รู้ว่าธรรมเนียมบ้านนี้เป็นเช่นไร


“พระพายเองก็กินเยอะๆนะลูก”


“ขอบคุณมากครับ”  พระพายกล่าวขอบคุณก่อนจะมองไปที่จานข้าวของตนเอง มันแทบจะไม่พร่องเลย พระพายรู้สึกเหมือนกับว่าจะกินสักคำก็ไม่ได้หากยังไม่ได้จัดการสิ่งที่ค้างคาใจ พระพายไม่รู้หรอกว่าที่ทำไปนี่มันจะดีหรือไม่


แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองได้กลับไปทั้งๆที่ยังไม่เคยเรียกคำนั้นออกมา


“คุณพ่อกับคุณชนาธิปก็ทานเยอะๆนะครับ” พระพายได้ทำการตักอาหารให้คนนั้นทีคนนี้ทีก ดวงตากลมราวลูกกวางนั้นช้อนมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ประโยคที่พระพายพูดออกมาพลันก่อให้เกิดความเงียบอันน่าอึดอัดออกมาจนความรู้สึกไม่ดีตีขึ้นไปที่ต่อมน้ำตา ยังไม่ทันที่พระพายจะได้ร้องออกมา


ก็มีคนที่ชิงร้องก่อนแล้ว


“คุณชนาธิป อย่าร้องครับ”  พระพายรีบหยิบกล่องทิชชู่แล้วลุกขึ้นยื่นส่งไปให้ชนาธิปที่น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติ เขาจมอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดมาที่ทำให้ลูกกับพ่อต้องพลัดพราก เราสองคนจับมือกันไปเฝ้าดูพระพายที่โรงเรียนห่างๆเสมอมา ทั้งๆที่มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะเติบโตมาอย่างดี แต่มันก็ไม่เคยเพียงพอ ความรู้สึกผิดที่ถาโถมทำให้ได้เชยชมรักขมๆมาตลอดหลายปี ในวันนี้เมื่อได้เจอกับพระพายตรงๆ เขารับรู้แล้วว่าลูกของคนรักได้เติบโตมาอย่างดงามจริงๆ ทั้งๆที่ควรจะโกรธเกลียดกันแต่พระพายกับไม่แสดงอาการเหล่านั้นให้เห็น จะว่าหลอกลวงกันก็ไม่ใช่


พระพายยืนละล้าละลังอยู่อย่างนั้น ท่าทางไม่มั่นใจนั้นฉายชัด คนเป็นลูกมองหน้าเลขาของคุณรบที่มาด้วย เขายิ้มให้อาจจะอยากเอ่ยชมว่าทำดีแล้ว จึงหันไปมองคนเป็นพ่อที่เพิ่งได้เจอกันอย่างเป็นทางการ วุฒิชัยส่ายหัวน้อยๆเอือมระอากับคนรักที่อ่อนไหวง่าย เรื่องมันผ่านมานาน และทิ้งแผลยาว จนวันนี้ยังไม่อาจจะรู้ว่าดีขึ้นหรือไม่ แต่ก็โล่งใจในระดับหนึ่ง พระพายคือการมีอยู่ของความสุขที่แท้จริง เมื่อได้เจอกันพวกเขาตระหนักข้อนั้นได้ดี


“กินข้าวกันเถอะครับ”  พระพายพูดด้วยรอยยิ้ม ในประโยคง่ายๆนั้นเหมือนจะแฝงคำว่า ต่อจากนี้มามีความสุขกันเถอะให้คนทั้งคู่ ใช่แล้วจริงๆ….ต่อจากนี้พวกเขากำลังจะได้เริ่มต้นอย่างมีความสุขจริงๆ


เพราะในที่สุดก็ได้เจอกับเจ้าของชื่อความสุขที่มาปลดปล่อยกันสู่อิสระแล้ว


พระพายพูดคุยกับพวกเขาจนถึงเวลาอันสมควร คนทั้งสองได้รับการยอมรับจากครอบครัวเมื่อไม่นานมานี้ และเมื่อปลดล็อคมันได้ พวกเขาจึงตอบรับคำขอของคนเป็นพ่อเรื่องที่จะปล่อยให้เจอลูก ทว่าก็ไม่เคยบอกว่าพระพายอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเด็กแฝดลูกของพี่ชายมาบอกคุณปู่ว่าได้เจอพระพายแล้ว พวกเขาจึงยินยอมให้ติดต่อไปหา ทั้งๆที่สิ่งที่กลัวที่สุดคือการปฏิเสธกันกลับมา โชคดีที่ไม่เป็นเช่นนั้น


พระพายสัญญาว่าจะแวะมาหา อย่างไรก็ตามก็แจ้งความประสงค์ว่าจะเรียนและทำงานกับรัตนสกุล แม้จะน่าเสียดายเพราะพวกเขาอาจจะอยากให้พระพายกลับมาทำงานกับที่บ้าน แต่อย่างนี้มันดีแล้ว วุฒิชัยไม่ได้ห้ามปรามใดๆ เพราะพวกเขารู้ว่ายังมีคนมากมายที่ไม่พอใจอยู่ และลูกไม่ควรมาเจอะเจอความริษยาในครอบครัวนี้ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้อง ความเป็นชวนันท์ของพระพายจะถูกจำกัดในวงแคบแค่พวกเราที่มาเจอกันในวันนี้ น้องยินดีด้วยรอยยิ้มและบางทีอาจจะเป็นความต้องการเบื้องลึกของน้องอยู่แล้วด้วย


เด็กน้อยออกปากว่าไม่ต้องการมรดกอะไร แต่จะมาเยี่ยมเยือน หรือถ้าสะดวกก็ไม่รังเกียจที่จะให้มาหาเช่นกันเพราะอย่างไรก็ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพอยู่แล้ว และวันหยุดก็ค่อนข้างจะยุ่งเพราะต้องกลับไปอยู่กับแม่หรืออ่านหนังสือสอบบ้าง ผู้ใหญ่ทั้งหลายเข้าใจดี อาจจะเสียดายนิดๆที่พระพายไม่ต้องการอะไร


แต่พวกเขาก็ตกลงที่จะทำตามความต้องการของพระพายไปก่อน วุฒิชัยและชนาธิปออกมาส่งพระพายเพื่อขึ้นรถกลับบ้านรัตนสกุล สักวันพวกเขาจะเข้าไปพบคุณหญิงพรรณีเพื่อขอบคุณในความกรุณาต่างๆแน่ และเพราะเธอเอ็นดูพระพายประหนึ่งลูกหลานคนหนึ่ง คนเป็นพ่อที่แท้จริงก็จำเป็นต้องเข้าไปพูดคุย


“พายกลับก่อนนะครับคุณพ่อ”


“กลับดีๆนะลูก”  วุฒิชัยพูดขึ้น การเจอกันของเราวันนี้มันสั้นไป แต่พระพายได้ให้สัญญาว่าเรายังมีเวลาเหลืออยู่อีก


“แล้วให้พวกเราไปเจอบ้างนะครับพระพาย”  ชนาธิปพูดขึ้น พระพายนั้นยิ้มให้อย่างเป็นมิตร นึกนับถือในความรักของทั้งสองคนไม่น้อย แม้ว่าแม่ของตนจะน่าสงสารก็ตาม แต่เป็นเช่นนี้แหละดีแล้วจริงๆ เราทุกคนอยู่ในที่ทางที่ใช่จริงๆของเราแล้ว


และก็ได้เวลาที่พระพายจะต้องกลับไปบอกทุกคนว่าพระพายโอเค….


“ขอบคุณพี่เพชรมากนะครับ”  พระพายพูดหลังจากที่รถเคลื่อนออกมาแล้ว แววตาของน้องที่มองมาทำให้เขาต้องยิ้ม วันนี้เพชรแทบไม่รู้สึกว่าเขาคือเลขาของคุณรบที่ถูกสั่งให้มาทำงาน แต่เป็นผู้ชายที่ชื่อเพชรพิสุทธิ์ที่กำลังมาให้กำลังใจคนสำคัญ พระพายโชคดีจริงๆในทุกๆที่ เขารู้สึกว่าการมีอยู่ของน้องคือของขวัญอันล้ำค่า คนที่อยู่รอบตัวของน้องทุกคนโชคดี และเขาก็อยากเป็นคนโชคดีคนนั้นเหมือนกัน


“คุณวุฒิกับคุณชนานี่รักกันนานดีนะครับ”


“อืม เขาคงเจออะไรกันมาเยอะ พายดีใจกับพ่อด้วย”


“ไม่น้อยใจใช่ไหมครับ”


“จริงๆก็น่าน้อยใจแต่ไม่เลย พายมีความสุขจนลืมน้อยใจไปแล้ว”


“พี่ดีใจที่พระพายไม่จมอยู่กับความเครียดแค้นนะ น้องจะเป็นคนที่มีความสุขมากๆ”  เพราะถ้าใครได้เจอแบบพระพาย พวกเขาไม่มีทางมีความสุขจริงๆได้หรอก จะมีสักกี่คนที่อยู่กับปัจจุบันได้จริงๆกัน น้อยคนมาก


เขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่ใช่…..


“อาจจะเพราะพายมีความสุขแต่เด็กมั้ง คิดน้อยด้วยล่ะ พี่เจนบอกว่าก่อนรัตนสกุลย้ายมาอยู่ที่สุขุมวิทต้องปลูกบ้านกลางทุ่งลาเวนเดอร์แน่ๆ”  พระพายพูดพลางขำไป มันก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ทว่ารัตนสกุลที่แท้จริงไม่เห็นจะเป็นแบบพระพายเลย เพราะฉะนั้นข้อสันนิษฐานของคุณเมียเจ้านายคนนั้นก็ถูกลบล้างไป ถ้าบอกว่าบ้านอยู่บนกองเพลิงละก็ เพชรพิสุทธิ์จะพิจารณาเชื่อและไว้วางใจอีกสักครั้งจริงๆ


“เห็นพระพายมีความสุขพี่ก็โอเคแล้วครับ จะได้กินบิงซูอร่อยๆ”


“งะ ยังจะกินอีกเหรอครับ แฮะๆ” 


“กินครับ พระพายใช้งานพี่หนักมาก ต้องเลี้ยง เอาอะไรก็ได้ แต่พี่ขอพระพายหนึ่งที่”  ดูเป็นการเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจจนพระพายยู่หน้าใส่ อย่างไรดีล่ะ ไม่เขินนะ แต่ดีใจที่เขาเรียกร้องจะมีกันแบบนี้ พระพายชอบพี่เพชรจริงๆ ชอบมานานแล้ว และถ้าเขาขยันอ้อยคว่ำใส่แบบนี้ก็คงจะเลิกชอบได้ยากหน่อย และตอนนี้อยากเรียกร้องมากๆว่าอย่าหยุดอ้อยเร็วๆนี้นะ ให้พระพายพร้อมก่อน ถ้าวันหนึ่งพระพายดีพร้อมพอจะยืนข้างกันเมื่อไหร่ ตอนนั้นแหละ….


จะแจกอ้อยกลับแบบไม่เลี้ยง ไม่ให้ก็ยัดใส่มือเลยคอยดู!


“พี่อยากจะมีคนรักแบบคุณชนาบ้างจัง”


“ตกหลุมรักคุณชนาเหรอ นั่นแฟนของพ่อพายนะ ไม่ให้พี่เพชรหรอก หวง”  แม้จะอายุเยอะแต่คุณชนายังดูดีอยู่ พระพายอาจจะแพ้ก็ได้เพราะงั้นต้องรีบทำคะแนน


“หวงคุณชนาหรือหวงพี่ครับเอาดีๆสิ”


“คิดเอาเองสิครับ เรียนก็จบเกียรตินิยม ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ดี ต้องให้สอนจริงๆเหรอ”


“จริงๆก็ไม่จำเป็นหรอกครับ”


“……….”


“เกียรตินิยมของพี่บอกว่าพี่หวงพระพาย และจะไม่ให้พระพายเป็นของใคร”


“พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้”  พระพายพูดเบาๆแก้เขินไปงั้น แต่หัวใจกลับพองฟูไปหมดแล้ว


“จริงๆนะ”


ไม่ต้องย้ำมากก็ได้


“ยกให้ได้คนเดียวคือพี่เพชรคนเดียว”


เขารอวันที่เราจะก้าวมายืนตรงจุดเดียวกันแทบไม่ไหวแล้ว!


Talk:  วันนี้มาถึงตอนที่ 10 แล้ว อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่ะ ช่วงนี้สิ้นเดือนต้นเดือน เราก็จะยุ่งหน่อยๆ ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์มากเลย รู้สึกเหมือนมีคนอ่านเยอะขึ้นก็รู้สึกดีใจมากค่ะ ในส่วนไหนที่ผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ด้วย เราเองก็พยายามจะเรียนรู้อยู่เรื่อยๆเหมือนกัน ต้องขอบคุณสำหรับความเห็นต่างๆนะคะ เรื่องคำผิดก็จะพยายามดูให้ดี มันก็จะมีความผิดแบบที่มองข้าม หาไม่เจอ กับคำผิดแบบที่สะกดผิดมาตลอดชีวิตเหมือนกัน เราเป็นคนที่สับเพร่ามาก เพราะทำอะไรเร็วไปหมด ช่วงหลังนี่แว่นหายด้วย ตอนนี้คิดว่าได้สั้นเพิ่มแล้ว555 ไม่ใช่เพราะแต่งนิยายมากไปหรอกค่ะ งานด้วย เล่นมือถือด้วย แต่จะพยายามแก้ไขค่ะ ช่วงหลังมีคนทักคำผิดมาให้ ก็มักจะไปแก้ในไฟล์เสมอ แต่บางทีแก้ลงในเว็บไม่ไหว เพราะลงหลายเว็บเหลือเกิน อย่างไรก็ขอบคุณที่ช่วยทักมานะคะ


#เจนไม่นก #เพชรพระพาย


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แก้มปริแล้ว

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
จริงงงงงงง บ้านรัตนสกุลคืออยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ 5555555555555 แม่จินเลี้ยงน้องพายมายังไง ทำไมน้องดีอย่างงี้ืหอมหัวทีซิลูกกกกก

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พระายคงเกิดในทุ่งราเวนเดอร์นะเนี้ยย

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
พระพาย เกิดมาเพื่อทุกคนจริงๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องพายหนูสดใสมากเลยลูกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
รถอ้อยคว่ำเป็นระยะๆ  :o8:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น้องพายคือน้ำทิพย์ชโลมจิตใจคน ดีงามจิตใจดี กอดๆๆ ฟัดๆๆๆ :กอด1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องพายเป็นเด็กดีมากเลย

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
เพชรพระพาย
พระพายกับปัญหา


ชีวิตของพระพายราบรื่นดีเมื่อมาถึงตอนนี้ กับพ่อที่เพิ่งได้เจอกันก็ทำความรู้จักสนิทสนมกันได้ดี แฟนของพ่อก็นิสัยดี ทุกคนล้วนเอ็นดูพระพาย  มีอยู่วันหนึ่ง พระพายมากินข้าวกับพ่อและแฟนของพ่อ ส่วนหนึ่งเพราะพี่เพชรยุ่งๆด้วยเลยไม่ได้มาด้วยกัน แต่ถึงอย่างไรเขาก็คงไม่มาด้วยเพราะนี่มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวหากเขาจะมา ก็คงมารอรับไปเที่ยวเล่นแป็ปๆและกลับบ้านรัตนสกุล เจอนิดๆให้หายอยาก แต่นี่แทบไม่ได้เจอกันเลย


“วันนี้ไม่มีคนมารับกลับเหมือนทุกครั้งเหรอลูก”  พระพายพยักหน้า วันนี้คงต้องขอให้พ่อไปส่งหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่กลับเหมือนตอนมา แต่แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเป็นพ่อย่อมอยากไปส่ง ว่าแต่พี่เพชรทำอะไรอยู่ พระพายไม่ได้เจอมาสองสัปดาห์แล้วนะนี่


“คุณเพชรเนี่ยน่ารักดีนะพระพาย”  คุณชนาหรือน้าชนาที่พระพายเรียกนั้นยิ้ม


“พี่เพชรเป็นคนดีครับ”  พอพูดแล้วก็คิดถึงเลยไหม เขาไลน์มาบอกว่าทำธุระกับที่บ้าน ได้ยินว่าคุณปู่ป่วยพระพายเลยไม่อยากจะงี่เง่า แถมไม่ได้เป็นอะไรกันจะไปถามเยอะแยะก็ไม่เหมาะควร


ความสัมพันธ์ของเด็กสองคนดูจะยังคลุมเครือแต่ชัดเจนในความรู้สึกดี ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาจึงย่อมดูออกถึงเจตนา และก็ยินดีด้วยเพราะเขาก็ดูเหมือนจะดูแลพระพายได้ เพชรพิสุทธิ์ไม่ได้ให้ความรู้สึกของการอยากจะมายุ่มย่ามกับสมบัติของทางชวนันท์ ขนาดพระพายยังไม่เคยรู้ที่มาของตนเองด้วยซ้ำแล้วนับประสาอะไรกับคนรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้องทางเครือญาติ


 และนั่นทำให้พวกเขาพอใจในตัวเลขาคนนั้นอยู่พอควร อีกอย่างยุคสมัยนี้ก็เปิดกว้างให้กับความรักรูปแบบนี้มากขึ้น ไม่เหมือนพวกเขาที่ทำอะไรต้องเกรงใจครอบครัวของวุฒิ ดังนั้นจึงอยากจะสนับสนุนลูกหากเขาชอบพอกันจริงๆ นอกจากนั้น แม้ว่าพระพายจะบอกเรื่องว่าไม่ต้องการอะไรไปแล้ว แต่พระพายเป็นลูก พวกเขาย่อมอยากจะให้บางสิ่งบางอย่าง วุฒิชัยนั้นพาพระพายและชนาธิปออกมาจากบ้าน ขับรถมายังสถานที่หนึ่ง


“พ่อพาพายมาทำไมที่นี่อะครับ”


“พระพายว่าที่นี่เป็นไง”


“ก็ดีนะครับ”  ตึกแถวย่านหนึ่งที่มีรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทพาดผ่านนั้นดูน่าสนใจ  แต่พระพายก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี


“จริงๆพ่อกับน้าชนาอยากให้พระพายนะ”


“ให้พาย?พายบอกว่าจะไม่เอาไงครับ”  ใช่ ลูกพูดแบบนั้นจริง แต่ก็อย่างที่บอกว่าอดไม่ได้ เขาอาจจะฝากเงินจำนวนมากให้ลูกไว้และรู้ว่าจินตนาไม่ได้เอาออกไปใช้เลย แต่ก็ยังอยากให้อีกอยู่ดี พระพายเป็นเด็กดีขนาดนี้แถมยังยอมรับเราสองคนได้โดยไม่มีรังเกียจรังงอน มันอดไม่ได้ที่จะเอ็นดูและรู้สึกขอบคุณไปด้วย


“รับไปเถอะนะพระพาย อันนี้เป็นที่ดินของน้าและของวุฒิ เราอยากให้มันในฐานะที่เป็นของส่วนตัวของเราไม่ใช่ของชวนันท์”


“…………”


“ลูกอาจจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ พ่อเองก็เชื่อใจ แต่ก็อยากจะมั่นใจว่านี่จะสามารถช่วยพยุงให้ในวันที่พระพายลำบาก”  วุฒิเสริม เขาอาจจะไม่สามารถให้หุ้นหรือส่วนหนึ่งของธุรกิจของชวนันท์กับพระพายได้แม้จะถูกร้องขอ สถานะของเขาในบ้านไม่ใช่ว่าจะมั่นคงนัก พี่น้องเองต่างก็ตบตีแย่งชิง


การดึงพระพายเข้ามาอาจจะเป็นผลเสียกับลูก ซึ่งพระพายมิอาจจะมีทายาทได้ และก็ไม่อยากให้ลูกเดินหลงทางเหมือนที่เขาและชนาธิปเป็นถ้ายังดันทุรังให้พระพายถลำลึกเข้ามาเป็นชวนันท์ ลูกอาจจะถูกดกดดันเรื่องการมีทายาทหรือการทำธุรกิจกับที่บ้าน มันไม่ควรจะมีใครต้องศูนย์เสียอีกแล้ว แต่อย่างไรก็อยากให้พระพายได้มีสิ่งใดได้แทนใจบ้าง อย่างน้อยนี่ก็ได้ชื่อว่าจากพ่อของเขา ไม่ใช่ชวนันท์


“พระพายขอบคุณทั้งสองคนมากครับ”  ในที่สุดลูกก็รับมันไว้ เขาทั้งสองยิ้มออกมา ก่อนที่จะต้องรับอ้อมกอดจากเด็กน้อยที่พวกเขาเฝ้ามองกันมานาน วันนี้พระพายเติบใหญ่ขึ้นมาแล้ว และได้นำความสุขสงบที่แท้จริงมาสู่ชีวิตอันวุ่นวายของเราเสียที


xxx


“ดีใจกับเพื่อนด้วยนะ ในที่สุดก็ได้เจอพ่อแล้ว”  พริมพราวปลาบปลื้มแทนเหลือเกินที่พระพายพ้นสภาพจากการเป็นเด็กกำพร้าพ่อแล้วจริงๆ ถึงเพื่อนไม่เคยดราม่าเรื่องนี้ให้ได้เห็น แต่ลึกๆเด็กทุกคนต่อให้เพียบพร้อมแค่ไหนก็อาจจะมีโมเมนท์อยากถามหาพ่อเหมือนกันละมั้ง และพ่อพระพายก็ไม่ได้เป็นคนธรรมดา หากแต่เป็นคนที่อยู่ในตระกูลซึ่งถูกทุกคนปรามาสไว้…..ก็ว่าอยู่ว่าเป็นลูกแม่บ้าน แต่หน้าตาผิวพรรณมารยาทนี่มันคุณชายชัดๆเลย


“วันนี้พายเลยจะเลี้ยงข้าวมันไก่ทั้งพริมพราวและทัตนะ สั่งได้เล้ย เดี๋ยวเปิดเทอมเจอกันจะเลี้ยงชาบูอีกรอบ” 


พวกเขาพูดคุยอย่างสนุกสนานทั้งๆที่นี่คือช่วงสอบ ช่วงชีวิตปีหนึ่งจะว่าสั้นมันก็สั้น เผลอแป็ปๆการเป็นนักเรียนมัธยมก็หลงเหลือเป็นเพียงความทรงจำที่จางลงทุกวันและปีต่อๆไปเราก็จะไม่มีใครที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์นั่งก้มหน้าอีกต่อไปแล้ว แต่ขอบคุณปีหนึ่งเหลือเกินที่ทำให้เรามีเพื่อนที่ดีแบบนี้ หากไม่มีพวกเขา พระพายจะมีความสุขแบบทุกวันนี้ไหมนะ


“เฮ้ย พิตช์มาอ่ะ” 


ทัตพูดขึ้น พระพายที่กำลังรอข้าวมันไก่นั้นเผลอเงยหน้าไปสบตากับเจ้าของชื่อพอดี พิตช์มากับใครก็ไม่รู้ ดูไม่ใช่เด็กมหาลัยนี้เลย แต่เพราะคดีที่มีต่อกันมาหลายคดี พระพายจึงไม่คิดจะทักทายอะไร ทว่าก็ไม่มีเหตุผลให้กินเร็วๆเลี่ยงหนีไป เพราะเราหนีปัญหาไม่ได้หรอก ยิ่งถ้าปัญหาคืออะไรที่อยากจะวิ่งเข้าหากันจนตัวสั่นแล้วล่ะก็นะ….


“ข้าวมันไก่ร้านนี้ดังนะ คนดังก็ชอบมากินด้วย”  พิตช์นี่เป็นอะไรเหรอ เจอกันทีไรไม่เคยทักทายปกติเลย ขยับปากทีไรพริมพราวก็กำมือแน่นทุกที ลำบากพระพายต้องคอยห้าม


“ถ้าไม่รีบไปนั่งระวังโต๊ะเต็มไม่ได้กินนะพิตช์”


“พี่ทองครับ นี่ไงครับที่ผมบอก เด็กของลูกพี่ลูกน้องของพี่”


“อ๋อคนนี้นะเหรอที่เป็นลูกคนใช้แบบที่พิตช์บอกพี่ เหมาะสมกับดีนะ” ตอนนี้ต่อให้เป็นพระพายก็โกรธอ่ะ คนเจอกันครั้งแรกต้องพูดใส่กันแบบนี้เลยเหรอ มารยาทไม่มีบางทีสติก็ควรจะมีหรือเปล่า?


“โทษนะครับ โต๊ะมันก็เต็มแล้วอะ ไปนั่งที่อื่นได้ไหมครับ”  พระพายถาม ดวงตาแข็งแบบที่ไม่เคยเป็น ในตอนนั้นเองพริมพราวเองยังใจบาง เพิ่งเคยเห็นพระพายโกรธก็วันนี้ แต่อย่าว่าแต่พริมพราวเลย พระพายเองก็เพิ่งเคย!


“เราไม่อยู่ตรงนี้นานหรอกพระพาย ไม่อยากให้ใครเอาไปพูดว่าคุยกับลูกคนใช้ที่เป็นเด็กเลี้ยงของลูกชู้อีกที”


“นี่พิตช์ไม่ตามข่าวเลย พระพายเขาเป็นลูกคนใช้ที่มีพ่อชื่อว่าวุฒิชัย ชวนันท์นะ”  พริมพราวพูดขัดขึ้น


“…………”


“จะเขียนนิยายก็เอาไปเขียนให้ครบ บอกคนอื่นเขาไม่หมดมันไม่ดีรู้ไหม ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ ได้ยินว่าที่บ้านทำการค้ากับบริษัทย่อยที่เป็นของคุณวุฒิโดยตรงด้วยไม่ใช่เหรอ ไปพูดกับลูกเขางี้ ระวังนะจ้ะ”


“เราไปกันก่อนเถอะครับพี่ทอง”  ต่อให้พิตช์จะเชื่อหรือไม่ แต่พระพายก็คิดว่ามันดีแล้วที่คนทั้งสองจากไปเสียที พระพายมีอีกหลายอย่างต้องไปทำ ทั้งกิน อ่านหนังสือสอบ ไลน์ไปคุยกับคนข้างห้องที่วันนี้บอกจะกลับมาติวให้ เห็นไหมว่ามันมีอะไรที่น่าทำกว่าเยอะเลย


และนี่เป็นข่าวใหม่มากสำหรับพระพายเช่นกัน แต่ช่างเถอะ ขู่ไป จริงๆพระพายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี บริษัทของพ่อไม่ได้อยู่ในอำนาจที่พระพายจะก้าวก่ายได้ตั้งแต่ที่พูดไว้ตอนแรก แต่การมีนามสกุลชวนันท์ที่ใช้ได้จริงๆก็อำนวยความสะดวกได้เหมือนที่พี่เจนพูดไว้ ถ้ารำคาญหมาเห่าให้กัดกลับ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีวันหยุดเห่าหรอก โชคดีที่พริมพราวกัดให้แล้ว


ที่เหลือก็สุดแท้แต่เวรและกรรมละกันนะ!


คนข้างห้องมาติวให้จริงอย่างที่พูด พระพายก็พยายามที่จะจดจ่ออยู่กับมัน ทว่าบางช่วงเมื่อได้มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็หวนคิดถึงคนที่ได้เจอในวันนี้ ทั้งสองไม่ได้มีหน้าตาเหมือนหรือคล้ายกันหรอก แต่สรรพนามที่ใช้เรียกพระพายนั้น มันคิดเป็นอื่นไม่ได้เลย เขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับพี่เพชรแน่ๆ พระพายถามได้ไหม ควรจะถามหรือเปล่า แต่พระพายไม่เคยเอาปัญหาส่วนตัวอย่างเรื่องของพิตช์ไปเล่าให้พี่เพชรฟังมาก่อนเลยนะ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่บ้างก็เถอะ


“พี่เพชรหล่อมากไหม มองขนาดนี้แสดงว่าต้องหล่อมากเลยสินะ”  ใบหน้าของเขาดูอ่อนล้า ทว่าก็ยังหยอกกันเก่ง น่าหมั่นไส้ พระพายจึงเอาปากกาในมือเขียนบนหลังมือเขาไว้


‘คนไม่หล่อ’


“สะเทือนหัวใจไปถึงสันป่าตอง เราว่าเราก็หล่ออยู่นะ”  ก็ไกลไปนะบางที


“คนหล่อเขาไม่พูดว่าตัวเองหล่อหรอกครับ”


“มันก็มีคนหล่อที่ไม่พูดเพราะไม่รู้ตัว แต่พี่รู้ดี หน้าพี่เอง ทำไมจะไม่รู้”  เขาบ่นพึมพำพลางคว้าเอาปากกาของพระพายมาเขียนเพิ่มบนหลังมือตัวเองที่ด้านล่างคำปรามาส เขายอมเป็นคนไม่หล่อก็ได้แต่จะเป็น


‘คนไม่หล่อ ของพระพาย’


“ให้ฟรีก็ไม่เอา”  พระพายบอกพลางยึดปากกากลับมา


“ใครบอกว่าให้ฟรี คนเขามีพ่อมีแม่นะ วั้ยๆ พระพายอ่ะ”  แล้วมาทำสะดีดสะดิ้ง มันใช่เหรอ


“ยิ่งมีราคายิ่งไม่เอา เปลืองตังค์”


“ใจร้าย เขารู้กันทั้งบางแล้วว่าพี่เข้ามาในห้องพระพาย พี่เสียหายนะ เอามาปู้ยี่ปู้ยำไม่รับผิดชอบ”


“พระพายไม่ได้ทำซะหน่อย”  กล้าพูด ได้เห็นพระพายแตะเนื้อต้องตัวเขาบ้างปะละ เจ้าของมือใหญ่จะคว้าปากกาจากมือน้องกลับมา แต่พระพายไม่ยอม แย่งกันไปกันมา


ในเมื่อไม่อยากให้ก็ไม่เป็นไร งั้นก็เอาทั้งมือทั้งปากกาไปเลยล่ะกัน


“………”


“………” 


ในความเงียบ มีคนหนึ่งที่ยิ้มกริ่ม และอีกคนกำลังเขิน


“ขอมือพายคืนด้วยครับ”  นั่นแปลว่าช่วยปล่อยมือจากมือของน้องด้วย แต่เพชรกลับส่ายหน้า


“ถ้าอยากได้มือคืน งั้นพี่ขออย่างอื่นแทน….”


“……..” 


“ขออันนี้ละกัน”  เขาปล่อยมือใหญ่ๆของเขาที่กุมมือของพระพายออก และเปลี่ยนสถานที่อยู่ของตนไปที่ข้างหลังของพระพาย ใบหน้าของเขาที่เจ้าตัวอ้างว่ามันหล่อ ในยามนี้ซุกอยู่กับไหล่ของพระพาย มือทั้งสองข้างก็โอบกอดกันไว้หลวมๆ ถ้าเป็นปกติใจของพระพายคงเต้นแรงไปแล้ว ครั้งนี้ก็เต้นแรง แต่ก็เต็มไปด้วยความห่วงหาบางอย่าง


“พี่เพชรครับ”


“แป็ปนึงนะครับ คนดี”  คำเรียกที่ไม่มีชื่อทำให้หัวใจของพระพายอ่อนแอเหมือนไม่เคยเป็น ในตอนนี้พระพายรู้สึกเหมือนเขาคือบอลลูนที่ค่อยๆปล่อยลมออกมาทีละน้อย พระพายคงโวยวายไปแล้ว หากแต่ลมที่เขาปล่อยออกมา มันเหมือนสิ่งที่แบกรับไว้อยู่ ที่หายไปวุ่นวายมานี่.....ไปเจออะไรมานะ


“ไม่เป็นไรนะครับ หายไวๆนะ เพี้ยง!”  พระพายยกมือของเขาข้างที่ถูกเขียนเล่นและโอบกอดตนอยู่หลวมๆขึ้นมาเป่าให้ คนที่พักพิงอยู่ที่ไหล่บางนั้นลอบยิ้มน้อยๆให้กับการกระทำนั้น ตอนนี้น้องได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเต็มใจ จะว่ามันคือความเจ้าเล่ห์ของเขาที่ทำเช่นนี้ไหม ก็ใช่….แต่เรื่องที่ว่ากำลังอ่อนแออยู่หรือเปล่า ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกเช่นกัน…..


พระพายนั้นให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆที่เพชรควรจะเป็นคนมาติวให้แท้ๆ ทั้งนี้เขาอาจจะดูเหมือนคนที่ตลกได้ไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทว่ามันก็ย่อมมีบางทีที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องราวต่างๆ เขาไม่อาจจะทำตัวแบบนั้นหรือคิดเช่นนั้นได้ตลอดไป


ทว่าก็ไม่เคยที่จะแสดงมันออกมาให้ใครดูแม้แต่คนในครอบครัว พระพายเป็นคนแรกที่ทำลายความอดทนของเขาให้พังลงได้ อาจจะเพราะจิตสำนึกที่อยู่ลึกๆบอกกันว่าจะไม่เป็นไร…..หากเป็นพระพายล่ะก็ต่อให้ร้องไห้ออกมาตอนนี้ก็ไม่เป็นไร


เพราะพระพายคือคนที่จะทำให้หยุดร้องได้อย่างแน่นอน…


“พี่เพชร พายเมื่อยแล้ว” คนตัวเล็กในอ้อมกอดนั้นยุกยิก เขาคงกอดน้องท่านี้มานานและมันก็คงถึงเวลาต้องคืนให้สักที เพชรปล่อยพระพายออกมา เขากำลังจะถอยห่างเพราะที่ได้รับมามันก็มากพอ ทว่าพระพายไม่ปล่อยกันไป


“………….”


“ค่อยหายเมื่อยหน่อย”  พระพายที่พลิกหันมาหานั้นโอบกอดเขาเอาไว้ แก้มนิ่มของน้องนั้นเอียงซบกับไหล่ของเขา เสียงของพระพายที่ถูกเปล่งออกมาอย่างน่ารักทำให้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง เป็นพระพายนี่ดีนะ เขาไม่ทันได้ร้องไห้อย่างที่อยากเลย แต่ได้ยิ้มออกมาแทนแบบนี้


“พี่ชอบพระพายจังเลย”  และเขาหมายความตามนั้นจริงๆ


“พายก็ชอบพี่เพชรจังเล้ย!”  เราจะเหมารวมว่านี่คือการสารภาพความรู้สึกอย่างเป็นทางการได้หรือเปล่า แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญหรอก เพราะการกระทำ….สำคัญกว่าคำพูดจริงๆต่อให้คนทั้งโลกไม่ยอมรับในตัวเขา แค่พระพายคนเดียวก็พอแล้ว


แค่พระพายคนเดียวที่อยากจะขอไว้จริงๆ


เรากอดกันอยู่นานจนเขาต้องเตือนน้องว่าควรจะไปอ่านหนังสือสอบได้แล้ว ผ่านมาอีกเทอมที่เขาได้ใกล้ชิด เพชรตั้งใจว่าช่วงเวลาที่เขาขอลาจากคุณรบมาจัดการธุระส่วนตัวของทางบ้านนี้ เขาจะพาน้องกลับไปกรุงเทพด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าจะรอจนสอบวันสุดท้ายไม่ได้ ไม่เป็นไร เราค่อยไปเจอกันที่กรุงเทพก็ได้ พระพายกำลังจะกลับมาที่รัตนสกุลในช่วงปิดเทอมใหญ่นี่ และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่รัตนสกุล แต่ก็มั่นใจว่าเราจะอ้าแขนให้กันและกัน


ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มาจากไหน และมีที่มาอย่างไรใช่ไหม….


“พระพายเหลือสอบอีกกี่วิชา”  เขาถาม พลางเล่นผมเส้นเล็กของน้อง ทุกอย่างในตัวพระพายแลดูนุ่มนิ่มในความรู้สึกไปหมด แค่พระพายยืนอยู่เฉยๆไม่ได้หาภัยอันตรายมาให้ตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความต้องการทะนุถนอม


“อีกสามวิชา เนี่ย จันทร์ พุธ ศุกร์”  น้องชูนิ้วให้ดูเหมือนเด็กๆ


“อีกนิดเดียวเอง สู้ๆ สอบเสร็จแล้วจะเลี้ยงบิงซู”เขาบีบแก้มยุ้ยๆนั่น อาศัยความใจดีที่อาจจะยังมีเหลือแบบเศษๆในวันนี้จับนู่นแตะนี่ไปเรื่อยก่อนพระพายจะรู้ตัวแล้วตะเพิดกันออกจากห้อง


“บิงซูอีกแล้ว”  น้องมุ่ยหน้า ก็เขาไม่รู้ว่าน้องชอบอะไร และเด็กๆเนี่ยชอบบิงซูกันไม่ใช่เหรอ จะหลอกเด็กก็ต้องเอาของที่เด็กชอบมาล่อสิ ว้า….พระพายนี่แก่กว่าที่คิดนะเนี่ย….เหมาะกับคนแก่แบบเขาแล้ว อืมๆ


“แล้วพระพายอยากกินอะไร ชาบู หมูกระทะ”


“อยากมาม่าเกาหลีแบบเผ็ดๆ”


“โหว กินหรูอ่ะ”


“ก็อยู่บ้านพี่เจนไม่ให้กิน พระพายจะใส่ชีสด้วย เยอะๆ”  พระพายไม่รู้เสียแล้วว่าคนห้ามนั่นแหละตัวแดกเลย เห็นคุณรบนี่ซื้อกลับไปเซ่นไหว้ทุกครั้ง ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ บอกเลย


“งั้นมากินห้องพี่เพชร ใส่เยอะๆเอาให้อ้วนเลย”


“งะ จะขุนพายเหรอ”


“เอาให้แจ้มยุ้ยๆ พุงนุ่มๆ ชั่งกิโลขายให้ได้ราคาดีๆ”


“ขายกันได้ลงคอ”


“หรือจะกินเองให้อร่อยดีล่ะ”


“…….”


“กระดูกจะติดคอพี่ไหมเนี่ย อย่าลืมอาบน้ำด้วยนะ เหม็น”


“บ้าบอ”  ด่าเจ็บจัง แต่เขาหัวเราะออกมา พระพายเป็นคนที่ด่าแล้วโกรธไม่ลงจริงๆ พระพายรีบดุนหลังเขาให้ออกไป เพชรก็ไม่คิดจะฝืนรั้งไว้ต่อ น้องควรจะเคลียร์หัวตัวเองและพร้อมกับการสอบ ช่วงเวลาปิดเทอมของน้องยังไงก็มีกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันไม่มีอะไรต้องห่วงเลย


เขาแปะโพสต์อิตที่แอบเขียนเมื่อครู่บนตัวน้อง ก่อนจะโบกมือบ้ายบายให้ แค่เพียงผนังกั้นห้องเท่านั้น แต่การมีอยู่ของเราจะเหมือนเคียงข้าง พระพายจ้องมองโพสต์อิตที่คนพี่เขียนแปะบนมือของกัน ปกติพระพายต้องหน้าแดงและตีอกชกหัวอยู่นานที่เขินกับอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้ แต่พระพายยอมรับอย่างเต็มอกว่าดีใจที่ได้เห็น


‘ติดจองไว้ก่อนนะ คนน่ารักของพี่เพชร’


ชีวิตเด็กปีหนึ่งกับการสอบที่ทำให้สภาพนั้นหัวฟูไม่ต่างกันได้ดำเนินมาถึงวันสุดท้าย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพระพายต้องได้อยู่สอบวันสุดท้าย ทั้งๆที่รุ่นพี่ในคณะคนอื่นได้กลับกันไปเกือบหมดแล้ว แต่เป็นเช่นนี้ก็ดี สอบติดๆกันทุกวันแบบนั้นอาจจะตายได้ ใครจะไปอ่านทัน และเพราะมีเวลาอ่านพอตัวก็เลยไม่งอแงกับเพื่อนว่าทำไม่ได้เท่าไหร่ เพราะพระพายตั้งใจไว้ว่าอยากได้เกียรตินิยมให้ได้ ก็เลยค่อนข้างจะเข้มงวดกับตัวเอง


“ทำทันไหม”  ทัตหันไปถามพริมพราว


“ได้ทำ”  และทั้งสองก็หัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า ภาษาศาสตร์ได้ฆ่านักศึกษาอย่างเลือดเย็นทั้งเป็น พระพายได้แต่ส่ายหัวให้กับเพื่อนๆที่พากันสติเลื่อนลอย เราสองคนมุ่งหน้าจะไปยังโรงอาหาร ทว่าทัตขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ทิ้งไว้แค่พริมพราวและพระพายให้ยืนรออยู่หน้าลิฟท์


“เดี๋ยวพริมพราวกลับบ้านเลยไหม”


“ว่าจะกลับพรุ่งนี้นะ วันนี้ขอนอนไว้อาลัยก่อน พระพายล่ะ”


“ว่าจะกลับเลย เออหรือว่าเราไปกินอะไรอร่อยๆกันดี พายขับรถไปหลังมอกันไหม”


“อืมดีเลย อา…..พี่คนนั้นนี่”  พริมพราวที่ดูจะยังเลือนลอยไปมานั้นอยู่ๆก็พูดขึ้น พระพายหันไปมองตามสายตาของเธอก็ได้เห็นกับกลุ่มเด็กปีสองที่เดินลงบันไดกันลงมา พวกเขาจ้องมองพระพายและพริมพราวอยู่ชั่วครู่แต่ก็หลบตาแสร้งทำเป็นไม่สนใจ


“มีอะไรเหรอ”


“พี่รหัสพระพายอยู่ในกลุ่มนั้นอ่ะ”  จะว่าไปพระพายก็ไม่เคยเจอกันตรงๆเพราะแสร้งหลอกตัวเองว่าคงไม่มี ทั้งๆที่รู้ดีว่าเธอคนนั้นมีตัวตนอยู่ แต่ดูเหมือนว่าพี่ผู้หญิงที่เป็นพี่รหัสของพระพายนั้นจะเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับพิตช์ ดังนั้นพระพายจึงไม่เคยคาดหวังว่าจะเจอและคิดว่าไม่เจอดีกว่า พอนึกได้ถึงเรื่องนี้ก็ขอบคุณพี่เพชรจริงๆที่ส่งมอบคนดีๆมาให้กัน


ทัตออกมาสมทบกับพวกเรา และเพราะลิฟท์ของคณะไม่จอดที่ชั้นนี้ พวกเราจึงต้องลงบันไดกันเอาเอง พระพายต้องคอยระวังไม่ให้เพื่อนที่ไม่ได้นอนมาทั้งสองกลิ้งหลุนๆตกบันได จะว่าไปทัตก็เข้าห้องน้ำนานจนพวกเรานึกกลัวว่าจะไปหลับในห้องน้ำ โชคยังดีที่ออกมาเสียก่อนไม่งั้นพระพายคงต้องลำบากเป็นแน่ หยอกล้อแซวกันระหว่างทางเดินไปที่รถโดยไม่มองทางข้างหน้าให้ดี และมันก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งตัดหน้าเรา


“…”


“สวัสดีครับน้องพระพาย”


“…”


“ไม่ใช่ลูกคนใช้แล้วหยิ่งเหรอครับ”


“อย่ายืนขวางทางครับ มีรถเข้าออก” พระพายไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่แจ้งความต้องการของตนออกไป


“โกหกไม่ดีนะพระพาย คุณวุฒิไม่เคยมีลูก พนักงานในบริษัทเขาก็รู้กัน”  หรือต้องให้พระพายไปขอให้คุณวุฒิมาบอกพิตช์กับตัวเองถึงจะเชื่อ พระพายไม่เคยอยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่อยากดึงใครมาเกี่ยวข้อง แต่ทำไมคนอื่นจ้องจะวุ่นวายกันนัก และตรงนี้มันเปลี่ยวเสียด้วย แม้ว่าพระพายจะมีกันมาสามคน แต่อีกฝ่ายมาห้า แถมเหมือนจะไม่ใช่นักศึกษาที่นี่เสียด้วย


“เฮ้ยๆมึง น้องเขาก็น่ารักนี่หว่า มาตกลงธุระกันดีๆเถอะ เนาะ”  ใครสักคนในกลุ่มนั้นพูดออกมา ทว่าหน้าตาไม่ได้ดูเหมือนจะมาดี อย่างไรก็ตามสายตาแบบนั้นที่ใช้มองพระพาย ถ้าไม่ใช่คนที่ชื่อเพชรพิสุทธิ์มองมา พระพายกลับมองว่ามันน่ารังเกียจทั้งหมด ไม่ได้เหมารวม แต่เลือกที่ดีที่สุดเท่านั้น!


“มึงคิดว่าคนที่เกี่ยวข้องกับไอ้หน้าตัวเมียนั่นมันน่าเอาเหรอวะ อย่างนี้มีถมเถแถวสนามหลวง วันหลังกูขับพามึงไปเลือกได้เว้ย”  คำพูดของผู้เข้ามาขวางทางกันนั้นดูเหมือนจะไม่ประสงค์แค่ขวางเฉยๆ แต่อย่างนี้มันเย้าแหย่กันชัดๆ พระพายไม่ได้จะโง่จนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร


“ทำอาชีพแมงดาแถวนั้นเหรอครับ ดูรู้ดีนะเนี่ยว่าหน้าแบบไหนขายแถวสนามหลวงด้วย”  พระพายก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเอาที่ไหนมาพูด แต่ถ้าให้เดามันคงมาจากสายเลือด พระพายที่สุภาพนั้นคงมีเชื้อมาจากฝั่งชวนันท์จริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเชื้อแม่จะทิ้งขว้างไปตอนก่อนคลอด


“มึงจะเล่นกับกูจริงๆใช่ไหม”


“ไม่อยากยุ่งด้วยครับ พ่อแม่สั่งสอนให้มาเรียน ไม่ให้ยุ่งกับคนไม่ดี”  พระพายตอบหน้านิ่ง ทั้งๆที่จริงๆก็กลัวไปหมด แต่พี่เจนเคยพูดว่าโดนซ้อมสักผัวะ แล้วเอาคืนให้ถึงตายไปเลยก็คุ้มดี ว่าแต่นี่มันจะคุ้มจริงๆไหมนะเหรอ เออ…อาจจะไม่คุ้ม


เพราะตรงนี้มีทัตและพริมพราวอยู่ด้วย!


“อย่าเข้ามาจะดีกว่าครับ”


“มึงคิดว่าห้ามกูได้เหรอ มึงเป็นใคร พ่อกูใหญ่แค่ไหนแถวนี้มึงรู้ไหม”


“ไม่รู้ครับ แต่รถพระพายมีกล้อง”  พระพายชี้ หลีกเลี่ยงความรุนแรงไว้ก่อนน่าจะดีกว่า เพื่อนสองคนที่เงียบอยู่ ป่านนี้ไม่รู้ว่ากลัวกันไปถึงไหน


“……กูไม่ได้พูดเหรอว่าพ่อกูเป็นใคร”


“และรถเป็นทรัพย์สินของรัตนสกุล ถ้าอยากลองก็ได้ครับ”พ่อเป็นใครพระพายไม่สน แต่รถเป็นของคุณรบพระพายรู้แค่นี้


“คราวนี้มึงจะอ้างอะไรอีก เป็นเมียเก็บหรือเป็นลูกของพวกรัตนสกุลงั้นเหรอ”


“เป็นลูกของลูกจ้างของรัตนสกุลครับ แต่เขาให้รถมาใช้”


ทว่าในส่วนที่ไม่เคยพูดออกจากปากตนเองออกไป….


“แต่พ่อชื่อวุฒิชัย ชวนันท์น่ะเรื่องจริง” พระพายได้หันไปบอกกับพิตช์ที่เป็นคนสร้างความเชื่อให้คนอื่นมาตลอดว่าพระพายเป็นชวนันท์คนหนึ่ง ในวันนี้พระพายได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าตนนั่นใช่ แต่อีกฝ่ายจะเชื่อกันจริงๆหรือเปล่าล่ะ


“กะ…คิดว่าจะมีใครเชื่อ หะ!”  เพราะมันเป็นเรื่องโกหกมาตลอดทั้งๆที่มันออกจากปากตัวเอง ทว่าพิตช์ที่แผ่ข่าวลือแปลกๆออกไปย่อมรู้ดีว่าพระพายนั้นนิ่งมาตลอดไม่เคยอธิบายหรือแก้ไขความเข้าใจ ดังนั้นคำพูดของเพื่อนร่วมชั้นปีคนนี้จึงมีน้ำหนักรุนแรงอยู่พอตัว ก่อให้เกิดความสั่นไหวในความเชื่อที่ตนมี ทั้งๆที่ก็กลับไปเช็คมาแล้วกับผู้จัดการแผนกจัดซื้อของบริษัทย่อยของชวนันท์


แต่….คนพวกนั้นไม่ใช่คนใกล้ชิดจริงๆ


“จะทำอะไรก็คิดดีๆ”  พระพายนั้นฝากไว้อย่างนั้น แววตาที่แข็งกร้าวของพระพายประกาศชัดว่าไม่เกรงกลัวอะไร ทั้งนี้พระพายไม่เคยเริ่มก่อนและไม่เคยคิดจะเริ่ม แต่ถ้าต้องสู้ก็ไม่มีทางที่จะยกธงขาวก่อน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือกลับไปคิดถึงผลลัพท์ให้ดีๆ เพราะถ้าดึงทั้งรัตนสกุลและชวนันท์เข้ามา


คนที่ลำบากอาจจะไม่ใช่แค่ตนเองแล้ว….


“ทอง!” ทว่ายังไม่ทันที่ใครจะได้ทำอะไรรุนแรง เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาก็เรียกความสนใจไปได้หมด ร่างสูงของมนุษย์ที่กำลังเต็มไปด้วยความขึงเครียดโกรธแค้นนั้นพุ่งตรงเข้ามา แววตาของเพชรพิสุทธิ์ดูน่ากลัวเกินกว่าที่ทุกคนซึ่งรู้จักเขาจะคาดหมาย นี่อาจจะไม่ใช่ตัวตนแบบที่ใครรู้จักจริงๆ


และนี่อาจจะเป็นตัวตนที่เขาก็ไม่เคยได้รู้จักมาก่อนเช่นกัน…..


Talk: มาถึงตรงนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าดราม่าหวยออกที่ใคร ใช่ค่ะ พระเอกของเรามีที่มาไม่ทัมดา ชาติกำเนิดของพระพายนี่เป็นดราม่าในทุ่งลาเวนเดอร์อย่างแท้จริง เพราะพระเอกออร่าตัวร้ายแบบโปกๆของเรามีเรื่องราวอันซับซ้อนรอวันเฉลยอยู่ เตรียมนับถอยหลังตอนจบได้เลยค่ะ อีกไม่นานเกินรอ ส่วนใครใคร่หาหวยสำหรับวันพรุ่งนี้ รอมิอาจจะรับประกันเลขให้ท่านได้555  ขอให้อ่านตอนนี้และทำใจให้สบาย บางทีหลับตาอยู่เลขอาจจะขึ้นมาในมโนจิตก็เป็นได้นะคะ5555
ขอให้ทุกคนโชคดีในวันที่ 1 ค่ะ

#เพชรพระพาย #เจนไม่นก

















ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 o18 มาเด้....อยากให้ที่บ้านล่มจม เข้ามาเด้ :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ น้องพระพายสู้ๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องทำให้รู้สำนึก

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
พระพายสู้ๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
เพชรพระพาย
พระพายต้องเลือก


“……….”


“……..”


“มาแล้วเหรอไอ้ลูกเมียน้อย”  จริงๆพระพายก็รู้อยู่แล้วว่าคนนิสัยแย่นี่พูดถึงใคร แต่เมื่อเขามาปรากฏตัวตรงนี้ ก็ใจหายอยู่เหมือนกัน พระพายไม่ชอบการทะเลาะวิวาท และไม่อยากเห็นคนที่ตนแคร์ลำบาก


“พี่เพชรเราไปกันเถอะครับ”  พระพายดึงเสื้อของเขาไว้ ไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ สายรหัสของเขาก็มาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นคนพาพี่ใหญ่มาที่นี่ด้วยตนเอง


“มึงเสือกอะไรด้วย กูตั้งใจจะพาเด็กนี่ไปปรับทัศนคติ ไม่ได้ตั้งใจจะทำเหี้ยๆอะไรอย่างที่มึงคิดหรอก ไอ้เพชร!” 


“มึงเอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนมายุ่งกับคนอื่นเขา พระพายเป็นลูกของคุณวุฒิชัยจริงๆ พ่อมึงใหญ่ที่นี่แต่ไม่ใหญ่คับฟ้า น้องด้วย อยากโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยหรืออยากจบอนาคตตัวเองแบบไหน อยากมีโอกาสเลือกหรือให้คนอื่นเลือกให้ก็บอกมา!”  พระพายแทบไม่เคยเห็นพี่เพชรพูดคำหยาบด้วยน้ำเสียงที่กะจะเอาให้ตายแบบนี้ ทั้งๆที่แววคุกคามของฝ่ายตรงข้ามต่อพระพายมันมากมายกว่า แต่พี่เพชรที่เป็นเช่นนี้ต่อคนอื่น ก็ทำให้พระพายหยุดสั่นไม่ได้ ด้านนี้ของเขา…บอกไม่ถูกว่าดีหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือไม่ได้ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย


“มึงนั่นแหละเสือกมายุ่งเรื่องคนอื่นก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะมึงครอบครัวกูก็ไม่ต้องลงเหวอย่างนี้ อย่ามาพูดว่าไม่ใช่เพราะมึงพ่อกูถึงไปมีเมียน้อยจนแม่กูประชดเอาไอ้ตัวเข้าบ้าน เป็นลูกเมียน้อยแล้วยังสะเออะทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่น มึงมันเหี้ยเพชร เหี้ยแต่เกิด ชาวบ้านเขารู้กันหมดว่าแม่มึงคลอดมารหัวขนอย่างมึงออกมาเพื่อเรียกเงินจากปู่กู มึงมันไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำไอ้ชาติหมา!”  คำด่าของคนนั้นทำให้พระพายสะดุ้ง พลันมือของเขาโอบกอดพระพายไว้หลวมๆ ทว่าแววตาของเขามันเหมือนจะฆ่าคนได้ในตอนนี้


“มึงไปถามพ่อมึงดีๆว่าเพราะกูหรือเพราะอะไร”


“มึงจะด่าว่าเพราะความเงี่ยนของพ่อกะแม่กูเลยมีผัวเมียใหม่กันทั้งคู่อะเหรอ ไม่ใช่เพราะมึงอยากได้มรดกปู่จนตัวสั่นเลยตัดคู่แข่งบ้านอื่นเหรอ ต้องเหยียบหัวคนกี่คนถึงได้ดีขนาดนี้ ไอ้เศษขยะ!”


“กูถึงได้บอกไงว่าคนที่เอาแต่โทษว่าเป็นความผิดคนอื่นทำอะไรมันก็ไม่ได้ดี อย่ามาอิจฉาถ้ามึงไม่มีปัญญาพอ!”


“เออพวกกูมันไม่มีปัญญาไปขี้โกงแบบมึงไงเพชร!”


“…….”


“ถ้ามึงไม่เกิดมา แม่มึงก็ไม่ต้องเอามึงมาเร่ขายหาเงิน ปู่ก็หลงสงสารโยนเศษเงินให้ ใครจะไปคิดว่าเด็กเหี้ยนั่นมันจะเจริญรอยตามแม่เหี้ยๆของมัน ปู่กูแม่งก็โง่ที่เชื่อฉากที่มึงจัด มึงทำอะไรลงไปบ้างล่ะให้ได้ไอ้หอพักหน้ามอนั่นไป กูรู้ว่ามึงหาผู้หญิงมาให้ปู่ กับคนอายุจะร้อยปีมึงยังเอานะไอ้เหี้ย!”


“แค่มึงคิดกับปู่แบบนั้นกูก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริงๆ”  เพชรเพียงพูดแค่นั้น เขาไม่อยากจะสาวความกับคนที่เอาแต่อารมณ์ และทั้งนี้ เขาไม่เคยคิดที่จะพูดความจริง อย่างไรก็ตาม….


ปึ่ก!


“กูไม่รู้เรื่องพ่อกับแม่มึง บังเอิญเจอกับพ่อมึงที่อาบอบนวดครั้งเดียวตอนไปทำงานให้นาย ได้ยินว่าเป็นลูกค้าประจำมาตั้งแต่ก่อนกูเกิดอีก ส่วนแม่มึง กูได้ยินว่าเลี้ยงผู้ชายไว้ตั้งแต่ตอนมึงเรียนม.ต้นแล้ว นั่นหลักฐานที่กูหาได้ เอาไปแหกตาดูถ้าพบว่าปลอมตรงไหนเดินไปบอกปู่ให้มาแหกอกกูได้”  หลังจากโยนซองเอกสารปึกใหญ่ให้อีกฝ่าย เขาก็สมทบ ก็คิดอยู่ว่าประเด็นนี้มันจะเล่นไม่เลิกจนตาย แต่เขาก็ไม่เคยพูดอะไรออกไป จนกระทั่งได้ยินว่ามันเจอกับพระพายนี่แหละ


เขาก็เหนื่อยที่จะจัดการกับความเข้าใจผิดๆของครอบครัวคนอื่นเต็มทน….


“มีคำถามอะไรก็มาถามกูหรือไม่ก็ปู่ อย่ามายุ่งกับคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับกูแบบนี้”


“มึงมันเหี้ยเพชร”  ถ้าคนมันบริสุทธิ์ใจ หลักฐานกองหนาแบบนี้คงไม่คิดที่จะหามาหรอก เจตนาไม่ดีเท่านั้นที่ผลักดันให้คนทำอะไรแบบนี้ได้


“นั่นก็เรื่องของมึง”


“ที่มึงเข้าใกล้น้องเขาเพราะอยากไปมีส่วนร่วมกับชวนันท์จนตัวสั่นสินะ” คำว่าชวนันท์ทำให้พระพายสะดุ้ง เพชรสามารถรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมแขนของเขาเป็นเช่นไร ทว่าเขากลับกอดแน่นขึ้น


ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม….


“มึงคงวางแผนเข้าหาตอนรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำดีด้วย เข้าไปยุ่งกับครอบครัวเขาให้เกิดความวางใจแบบที่มึงทำกับทุกคนสินะ”


“………..”  เขาเงียบ บางทีมันอาจจะไม่จำเป็นต้องต่อความใดๆกับคนแบบนี้


หรือไม่…เขาอาจจะไม่มีข้อแก้ตัวให้กับคำกล่าวหาพวกนั้น….


หลังจากเขวี้ยงมีดที่มองไม่เห็นใส่พระพายแล้ว กลุ่มคนที่เข้ามาหาเรื่องก็พร้อมใจกันหลีกทางให้พวกเราเอารถออก เพชรพิสุทธิ์ขอกุญแจรถจากมาเพื่อที่จะขับพาออกไปจากตรงนี้ ผองเพื่อนของพระพายที่นั่งมาด้วยพูดอะไรไม่ออกและได้แต่ขึ้นรถตามคำบอก เหล่าพี่น้องรหัสของเขานั้นพากันไปเดินขึ้นรถและขับตาม


ตอนนี้ในรถของเรานั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน และใบหน้าของเพชรที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มในวันนั้นที่พระพายทักว่าบ้าหรือเปล่า วันนี้พระพายไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาแม้แต่นิดเดียว…สักนิดก็ไม่มีจริงๆ มีแต่เรื่องราวมากมายที่ประดังประเดเข้ามา….


“พระพายครับ”


“……….”


“เดี๋ยวพี่จอดรถที่หน้ามหาลัย พระพายเปลี่ยนมาขับไหวไหมครับ”


“ครับ….”


“ขับพาเพื่อนไปส่งที่พัก เดี๋ยวพี่จะไปนั่งรถคันหลังแล้วให้ตามไป”


“พี่เพชร”


“เดี๋ยวพี่จอดตรงนี้นะครับ”  เขาไม่รอฟังคำถามจากคนคิดช้า เพชรพิสุทธิ์เทียบรถจอดหลังจากพ้นประตูของมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน และยังไม่ทันที่จะมีคำถามอะไร เขาก็เปิดประตูรถและเดินตรงไปยังรถคันหลังที่จอดรอหลังจากที่ตามมา พระพายมองตามเขาจนสุดสายตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาและเดินออกจากรถเพื่อไปนั่งที่คนขับ


“พระพาย”  พริมพราวเรียก


“เราว่าพริมพราวกลับบ้านวันนี้พร้อมทัตเถอะนะ เราขอโทษจริงๆที่เกิดเรื่องวันนี้”  พระพายรีบกู้คืนสติหลักจากที่มันเอาแต่คิดเรื่องของคนที่ตามมาทีหลังแต่จากไปก่อนคนนั้น


“เราไม่เป็นไร แต่พระพายไม่เป็นไรใช่ไหม”


“ไม่รู้สิ”


“พระพาย….”


“รู้สึกแย่แบบบอกไม่ถูกอ่ะ”


“……….”


“เดี๋ยวทัตไปหอเราเลยไหม เอาของส่วนตัวมาแล้วใช่เปล่า”  พระพายอยู่หอเดียวกับพริมพราว หลังจากที่ทัตตอบรับกลับมาเราก็วนรถไปที่หอพักของพระพายซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในทันที ตอนนี้ไม่มีใครง่วงหนาวหาวนอนกันอีกแล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกว่าเป็นประสบการณ์เกินคาดหมายเลยก็ว่าได้


หลังจากพาทั้งสองคนมาที่หอเสร็จ พวกเราก็ตกลงที่จะไปคุยกันในห้องของพริมพราวที่อยู่ในชั้นของผู้หญิง มันอาจจะดูแปลกๆและไม่ดีอยู่บ้าง แต่เจ้าของห้องอนุญาตแล้ว หารือเรื่องความปลอดภัยจนได้ข้อสรุปว่าพริมพราวจะให้คนที่บ้านมารับเธอกับทัตเข้ากรุงเทพและพาทัตไปส่งที่บ้านต่อ เรามีข้อมูลฝ่ายตรงข้ามน้อยเกินไปจึงทำตัวไม่ถูก แต่พระพายก็คิดว่าหากจำเป็นอาจจะต้องขอให้พ่อช่วยจริงๆแม้ว่าจะไม่อยากร้องขอมากเกินไปก็ตาม


ในส่วนของคำกล่าวหาที่อีกฝ่ายพูดถึงคนที่พระพายแคร์….มันก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ข้อมูลใหม่ๆที่แลดูจะเป็นการกล่าวหาทำให้ช็อคไปเลยเมื่อได้ยิน พระพายเม้มปากแน่น สับสนไปหมดกับข้อมูลเหล่านี้ พี่เพชรทำเช่นนั้นจริงๆเหรอ เขาเกี่ยวข้องแค่ไหน และเขาทำมันเพื่อมรดก หรือเงินทองจริงๆหรือไง….


“พระพายอย่าคิดมากนะ”ทัตบอก


“เราสับสนไปหมดแล้ว”


“พระพาย…ถ้าสงสัยต้องถามนะ” 


ก็คิดงั้นแต่ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปหาอย่างไร….


พระพายเติบโตมากับการเลี้ยงดูที่ดี เด็กน้อยไม่เคยมีความอิจฉาริษยาอยากได้อยากมีจนเกินกำลัง ไม่เข้าใจความโลภดังกล่าวเสียเท่าไหร่และไม่เคยเจอคนเป็นๆที่ทำเรื่องแบบนั้นอย่างในละครมาก่อน อย่างไรก็ตามคนแบบนั้นที่ว่าอาจจะอยู่ใกล้ตัวพระพายกว่าที่คิด


เพชรพิสุทธิ์มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาครอบครัวชาวบ้าน แต่เขาก็รอบรู้มีข้อมูลเตรียมพร้อมจนทำให้มันดูน่ากลัวว่าเขาจ้องมองคนอื่นแค่ไหนและข้อมูลเหล่านั้นเท็จจริงอย่างไร ทว่าพระพายก็ไม่อาจจะปักใจเชื่อได้สักฝ่าย เหตุผลในสมองตีกันจนยุ่งเหยิงทำให้เริ่มไม่ออกบอกไม่ถูกแบบนี้


“พระพายเชื่อไหมว่าพี่เพชรเข้าหาเพราะผลประโยชน์”  พริมพราวเอ่ยถามเสียงเบา จริงๆเรื่องนี้เธอไม่ควรก้าวก่าย แต่อย่างไรพระพายก็เพื่อน เพื่อนที่ต้องเตือนเมื่อเดินทางผิด…ใช่ไหม


“ไม่รู้”  พระพายเหมือนไม่เคยรู้อะไรมาก่อนแม้แต่เรื่องของตนเอง เรื่องชวนันท์ก็ทราบเป็นคนท้ายๆในบ้านรัตนสกุลทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเองแท้ๆ และเพราะพี่เพชรทำงานให้คุณรบ ก็มีโอกาสที่เขาจะรับทราบมาก่อน


จะว่าไปเขาก็เข้าหากันในช่วงหลังจากเข้ามาเป็นเด็กในหอพักของเขา ทั้งๆที่ก่อนนี้เราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย พี่เจนเองก็พูดว่าเขานั้นร้าย พระพายเองก็รับรู้มาตลอดว่าเขาใช้นิสัยส่วนตัวบางอย่างเพื่อความสำเร็จของงาน แต่ไม่คิด…ว่าเขาจะใช้มันหาผลประโยชน์จากกันเลย


และมันก็เป็นพระพายเองไม่ใช่เหรอที่ไปเล่าเรื่องที่เด็กแฝดบ้านชวนันท์มาหา….


“………”พระพายเพิ่งบอกเขาด้วยว่าพ่อจะยกตึกแถวตรงนั้น และเขาก็บอกกลับมาว่ามันมีมูลค่าหลายสิบล้าน…


“เดี๋ยวเย็นนี้รถบ้านเราจะมารับ เรากลับพร้อมกันไหม แบบ…พระพายจะขับตาม หรือไปกับเราแล้วค่อยให้คนมาเอารถวันหลังก็ได้นะ”  พริมพราวเสนอ และรอท่าทีของพระพายมาตอบสนอง


เจ้าของส่วนเกี่ยวข้องของเรื่องราวชวนปวดหัวถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตาลงพักสมองที่ตีพันกันยุ่งเหยิง พระพายไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ก็ไม่ชอบหนีไปไหน ไม่เคยสู้ แต่ไม่ชอบหนีปัญหาเช่นกัน และเวลาก็เหมือนจะเหลือน้อยเต็มที


“เรากลับห้องก่อนนะ”  เพียงคำเดียวที่พูดออกมา เพื่อนๆก็เข้าใจได้ทันที…ว่าพระพายได้ตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปบนห้อง…


และอาจจะแวะไปหาคนข้างๆห้องด้วย…..


พระพายเดินมาถึงหน้าห้องของเขา มันดูเงียบงันเหมือนไม่มีใครอยู่ในนี้ เพชรเองก็อยู่บ้างไม่อยู่บ้างอย่างที่รู้ แต่พระพายฉงนใจนักว่ายามนี้เขาจะอยู่หรือไม่ เราเพิ่งจากกันไป และพระพายก็ได้เห็นรถของรุ่นน้องของเขาที่ขับตามมา ทว่ายามนี้คนที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไปไหน…พระพายเคาะประตูเรียกสองสามครั้ง ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ทว่าเสียงอันแรงกล้าในอกบอกว่าเขานั้นอยู่ในนี้…เพราะพระพายอยู่ในตึกนี้เช่นกัน…


“พี่เพชร เปิดประตูให้พายหน่อย”


“………”


“พี่เพชรครับ”


“………”


“พาย….มีเรื่องจะปรึกษา”  พระพายไม่รู้ว่าควรจะเรียกเขาออกมาด้วยวิธีไหนจึงเลือกวิธีนี้เป็นวิธีแรก และมันก็ทำให้เขาเปิดประตูออกมา…


แค่ครึ่งเดียว


“…………พี่เพชร”  เขาเปิดประตูออก แต่ปิดกั้นไม่ให้พระพายเข้ามาด้วยโซ่คล้องประตู อย่างไรก็ตามพระพายก็ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าเขาชัดๆ ที่เห็นนั้นก็แค่เสี้ยวหน้าของเขา กับหางตา….ที่ไม่ได้มองกัน


“เดี๋ยวพี่จะรีบจัดการไม่ให้มายุ่งกับพระพายและเพื่อนอีก”  เขามีเรื่องมากมายต้องจัดการ อย่างไรก็ตามถ้าเล่นกันถึงขั้นนี้ก็คงต้องเด็ดขาดบ้างแล้ว พระพายยังต้องเรียนอยู่อีกสามปี ถ้าไม่ตีงูให้ตาย มันก็แว้งกัดเรื่อยๆแบบที่เป็นมาตลอด


ฝั่งน้องรหัสเขาทั้งหลายก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะธารากรที่อยู่ปีสี่เองก็เป็นลูกคนใหญ่คนโตในพื้นที่เหมือนกัน ลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนั้นคงไม่เข้ามายุ่งยากกับฝั่งสายรหัสเขานัก ส่วนเพื่อนพระพาย อาจจะให้ทางฝั่งธารากรช่วยเผื่อแผ่ความปลอดภัยไปให้ และก็คงอาจจะต้องเข้าไปคุยกับปู่ถึงปัญหาที่อีกฝ่ายนำมาจริงๆ กับเพชรนี่ไม่เท่าไหร่โดนบ่อยแล้ว


แต่กับพระพาย…เขายอมให้ไม่ได้


“เดี๋ยวพี่จะแจ้งเรื่องนี้ให้คุณหญิงพรรณีทราบนะครับ พระพายไม่ต้องห่วง แล้วก็..ถ้าอยากแจ้งความพี่จะประสานช่วย”


“พี่เพชร”


“กว่าจะเปิดเทอมคิดว่าเรื่องคงเรียบร้อย กลับมาเรียนได้ปกติแล้วครับ”


ไม่…ตอนนี้ไม่ปกติเลย….


“เรื่องหอพัก ถ้าพระพายกลัวว่าเขาจะเข้ามาได้เพราะเป็นญาติพี่ ขอให้วางใจได้ว่าเขาไม่กล้า ผู้จัดการหอเป็นคนของพี่และเขาไม่กล้าทำอะไรเกินหน้ากับทรัพย์สินที่เคยเป็นของปู่ด้วย วางใจได้ครับ”


ฟังพระพายหน่อย….


“แต่ถ้าอยากไปอยู่ที่อื่น…พี่จะให้เขาทำเรื่องโอนค่ามัดจำคืนให้นะ”


อย่าไล่พระพาย


“วันนี้ก็กลับกับเพื่อนก่อนนะครับ จะทิ้งกุญแจรถไว้ก็ได้ เดี๋ยวพี่ขับกลับไปคืนที่บ้านให้”


“………..”


“ไม่ต้องห่วงนะ”


“……พี่เพชรครับ”


“พระพายจะไม่เป็นอะไร พี่สัญญา”


“…………พาย…”


พายไม่เป็นไร


“ไว้เจอกันนะครับ” แต่พี่เพชรไม่ใช่….


ปัง!


“พี่เพชร เปิดประตูให้พายหน่อย เปิดประตูให้พายนะครับ”  พระพายร้องเรียกเขาจากหน้าห้องหลังจากรับฟังถ้อยคำมากมายที่ออกจากปาก เขาไม่เปิดโอกาสให้พระพายได้ถาม หรือสงสัย หรือรู้สึกอะไรหน่อยเลยหรือ? เรื่องวันนี้มันอาจจะมากเกินรับไหว แต่ไม่ใช่พระพายจะรับไม่ได้สักหน่อย และอย่างน้อยเขาก็ควรจะให้โอกาสกันบ้าง


ให้โอกาสพระพายได้ถามหน่อยว่าเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม….


“……….”


ไม่ได้การแล้วจริงๆ….


“พี่เพชร” เขาคงจะไม่เปิดให้


เจ้าของร่างบางที่ยืนเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้องนั้นถอนหายใจออกมา ต่อให้เรียกหาหรือทำเช่นไรเขาก็ไม่เปิดให้ มันเจ็บปวดเกินคำบรรยายจริงๆ ที่แค่เพียงกำแพงนี้ขวางกั้น แต่เราเหมือนอยู่กันห่างไกลแสนไกล เฝ้ามองเขามานาน แต่ไม่ได้รู้จักเขาดีกว่าใคร ทว่าไม่ว่าตัวตนแบบไหนก็ควรจะได้รับรู้และเห็น….เขาไม่ควรปิดโอกาสแบบนี้ แล้วมันดีแล้วเหรอที่เขา….จะปิดโอกาสในการเอาเปรียบพระพายที่เป็นชวนันท์ ช่างเป็นคนร้ายที่ยอมแพ้ง่ายดายเกินไปจริงๆ


พระพายยังไม่ทันมีอะไรให้เขามาปอกลอกเลย…..

xxx


น้องอาจจะยอมแพ้ไปแล้ว….


“เฮ้อ”  เพชรคิดว่าพระพายคงเข้าใจว่าวันนี้ไม่พร้อมเจอ เขารู้สึกผิดกับน้องและมีเรื่องวุ่นวายมากมายต้องตามแก้ คงจะพบหน้าพูดคุยหรือแก้ตัวอะไรตอนนี้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีอะไรให้แก้ตัว แต่การพูดความจริงอาจจะถูกตีความเป็นอื่นไปได้ เพชรจึงเลือกที่จะไม่อธิบายในทันที และพระพายเองก็คงเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรอ


เขาหวังเช่นนั้น…..


“เชี้ยแม่ง!”  เขาสบถออกมา ชีวิตช่วงนี้มันหนักหนาเพราะคุณปู่ป่วยอย่างเดียวไม่พอ ยังร้องขอแกมข่มขู่ให้เขางัดทุกดอกทุกเม็ดที่เก็บหอมรอมริดเป็นงานอดิเรกไว้ไปให้ดูแก้ง่วงตอนอยู่โรงพยาบาล….เรียกหาก็บ่อย ยังจะนำปัญหามาให้ตามแก้เป็นหางว่าว ไปทบต้นทบดอกกลับได้ไหม พ่อจะคิดบัญชียาวทั้งตระกูลเลยคอยดู


ปัญหากับทองนั้นมันมีตลอด ก็อย่างที่บอกว่าเขามันลูกเมียน้อยของลูกชายคนโตที่เมียหลวงมีลูกไม่ได้จึงถูกให้ความสำคัญในระดับหนึ่ง ตัวทองนั้นเกิดก่อน แต่เป็นลูกของน้องชายคนรองจึงไม่แปลกที่จะไม่ชอบขี้หน้ากัน ก็เรื่องเงินๆทองๆนั่นแหละ


และยิ่งรู้ว่าที่มาในการยึดคืนทรัพย์สินบางอย่างและประเด็นชู้สาวที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่โตอื่นๆตามมามันเกี่ยวข้องกับเขา อีกฝ่ายก็ยิ่งทวีความเกลียดชังแบบไม่เลือกหน้าเข้าไปอีก แต่ก็ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าไปถึงตัวพระพายแบบนี้!  แต่ก่อนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวเพราะรำคาญปนขี้เกียจ แล้วใครใช้ให้มาสุมไฟใส่กันล่ะ อยากมีเรื่องก็ไม่มาบอกดีๆ จะได้จัดให้สักดอก!


ตลอดมาเพชรพยายามเลี่ยงบ้างแต่นี่คงเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็อย่างที่อีกฝ่ายบอกว่าเขาไม่ใช่คนดีนัก ทุกสิ่งที่หามามันก็เพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ในภายหลังทั้งนั้น และเขาก็ชอบที่จะดูความพินาศของสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆที่มักจะกล่าวหากันว่าบ้านของเขามันฉาวโฉ่ ตัวเขามันกาลกิณี


เรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวหาว่าแม่คลอดเขามาหากินนั้นก็ไม่สามารถเถียงได้ถนัดปากนัก ขนาดชื่อ ‘เพชร’ ยังตั้งมาข่มพี่ที่ชื่อ ‘ทอง’ เลย! ที่มาของชื่อนี่เฟี้ยวมากๆ สวรรค์ได้กำหนดให้เป็นเจ้ากรรมนายเวรคนอื่นตั้งแต่เกิดมาเลยจริงๆ ชีวิตนี้เลยอยู่ไม่สุขนัก ถนัดเป็นปลิงไปดูดเลือดคนอื่นเขาแล้วเราก็สบายใจ


ทั้งนี้เพชรเคยบังเอิญไปได้ยินบทสนทนาของแม่และตา มันเป็นตามนั้นจริงๆ ตาให้แม่จับพ่อที่มีเมียอยู่แล้วแต่ไม่มีลูก เผื่อว่าเขาจะหย่าเมียและมาแต่งงานกับเมียใหม่แทน จุดประสงค์หลักมันก็เพื่อเงินและเงินทั้งนั้น ใครๆก็รู้ว่าปู่ของเขาอยากให้พ่อมีหลานให้อุ้มแม้ว่าลูกคนรองจะมีหลานชายที่รอรับทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็ตาม การเกิดมาของเขาจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่ก็มีความเป็นเสนียดจัญไรอยู่บ้างตามที่คนจะคิดไป


ทว่าสถานะของแม่ในตอนนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียนอกสมรสเท่านั้นเพราะพ่อก็ไม่ได้หย่ากับเมียของเขาแต่อย่างใด เพชรได้เจอเธอบ้าง ได้รับกระแสเกลียดชังมาเป็นระยะแต่ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรเพราะเธอก็คงทุกข์ระทมกับการที่ไม่สามารถมีลูกให้พ่อได้


ส่วนคุณไพลินหรือแม่ของเขาเองนั้นจะเรียกว่ามีความสุขก็หาได้ไม่ เพราะที่ตั้งใจไว้มันไม่เป็นดั่งหวัง ในตอนนั้นถึงเขาจะกังขาว่าแม่รักกันจริงหรือไม่ แต่เขาก็วางตัวทำเป็นไม่สนใจ รักแม่เท่าที่ใจจะรับไหว พยายามเข้าหา หัวเราะหยอกล้อให้เหมือนที่ทำประจำกับคนอื่น แต่ก็ยอมรับว่าเลี่ยงที่จะเคลียร์ปัญหาหัวใจนั่นเสมอมา


แล้วบ้านนี้เหมือนบ้านคนอื่นที่ไหน จะอยู่นิ่งๆสบายๆไม่สนสมบัติอะไรเท่ากับฆ่าตัวตายท่ามกลางฝูงแร้งโดยมีปู่บนบัลลังก์เมฆเอาแส้เฆี่ยนต่ออีกที คุณรบและรัตนสกุลถือเป็นพระมาโปรดกันเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้นเพชรพิสุทธิ์ก็คงต้องไปวนเวียนในวัฏจักรความหน้าเลือดของตระกูลต่อไป


และเพราะเติบโตมาในสถานการณ์ที่ชวนให้เอาตัวรอดยิ่งกว่ารายการเซอร์ไวเวิลที่ไหน การกลายเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องเกินตัว เพชรถูกหล่อหลอมมาด้วยการเลี้ยงดูแบบนี้ และก็แตกหักเช่นนี้มานานแล้ว จนตอนนี้คงไม่มีใครมาขัดเกลานิสัยของเขาให้ดีขึ้นได้ และเขาคงไม่ยอม เพราะเป็นคนดี…มันดูจะตายง่ายเกินไป


พระพายคงรู้สึกผิดหวังในตัวเขาหลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมดไป ข้อมูลดราม่ามันมากมายและย้อนแย้งเกินกว่าที่เขาจะรวบรัดตัดตอนอธิบายให้น้องฟังได้ง่ายๆ จะบอกว่าเขาอยากได้สมบัติอะไรนั่นเหรอ ไม่หรอก เป็นแค่ลูกเมียน้อยที่หวังจะหุบสมบัติชาวบ้านจะไปหวังอะไร ไม่งั้นไม่หนีตามคุณรบไปหรอก


แต่ถ้าถามว่าเอาไหม เขาอยากให้ก็เอาแหละ ยอมไปหมด เงินและที่ดินนี่มันหอมแค่ไหน ดูหน้านี่ด้วย เขาเรียกว่าหล่ออย่างหน้าเงิน  และเพราะเป็นคนย้อนแย้งอย่างนี้ไง จึงยังไม่พร้อมจะยอมรับกับน้องว่าเป็นคนดีๆที่ทำเลวๆ อีกทั้งต้องมานั่งคิดหาวิธีการแก้ไขถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ให้ใครต้องมาลำบาก มันทำให้เขายุ่งมาก แต่อย่างไรก็ตามทุกสิ่งมันก็ไม่รุนแรงได้เท่าการจับพระพายมานั่งคุยและค้นพบว่าน้องมองกันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป


ใจบางขนาดนี้คิดว่าจะรับไหวจริงๆเหรอคนเรา


พระพายอาจจะคิดว่าเขานั้นไกลเกินเอื้อมถึงเพราะตนเป็นแค่เด็กในบ้านรัตนสกุล แต่พระพายไม่รู้เลยว่าการที่น้องพยายามทำทุกอย่างให้เก่งกาจเพื่อมาเทียบเคียงกับเขา เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าน้องเป็นคนที่คิดดีทำดีแค่ไหน เขามันไกลเกินเอื้อมจริง แต่เป็นขั้วตรงข้ามที่เลวแบบเกินกว่าที่พระพายจะเอื้อมถึง ทว่าก็ยังอยากให้น้องเอื้อมไปหาหรือไม่ก็พาตัวเองลงมาเพื่อพบว่าน้องนั้นอยู่ไกลกว่าจะเอื้อมถึงจริงๆ ทำไมกันนะ….


อีกเพียงเอื้อมมือเราก็จะเอื้อมถึงกันแล้ว
แต่เราก็เอื้อมกันไปไม่ถึงจริงๆ….


Talk: อนุญาตให้ด่าพระเอกได้ค่ะ เชิญตามศรัทธา555 แต่ตอนหน้าถ้าไม่สงสารก็รบกวนขากถุยใส่ต่อไปได้ค่ะ555 แต่งมาสิบกว่าตอนออร่าพระเอกออกเมื่อตอนก่อนแค่เดินมาและเรียกชื่อ วงวารแต่ก็สมน้ำหน้าด้วย5555 วันนี้ก็จะหน่วงหน่อย แต่นี่คือก๊อกเดียว ตอนหน้าก็สบายใจได้ ตอนถัดไปก็จบแล้ว สั้นเนอะ5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรื่องนี้ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งลอยออกไปอีกโลกนึง
ทุกตัวละครมีความซับซ้อนโผล่มาแบบไม่จบไม่สิ้น 555555555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
นี่เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ว่าเจนคิดมากแล้ว อิตาเพชรคิดมากกว่าอีก

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
เฮ้ย พี่เพชร ไม่เอาดิ เรามันสัน..แค่กๆ พื้นเพเป็นคนไร้ยางอาย อย่ามาดราม่าใส่กันนะ ไม่เหมาะกับเทอ อย่างเพชรนี่ต้องแข็งแกร่งสมชื่อ ขอพี่เพชรคนหน้าทนคืนด้วยค่ะ สงสาร :sad4:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อาจเป็นเพราะเราเห็นอิพี่เพชรมันมามากแล้วเลยไม่ค่อยตกใจสักเท่าไหร่ถ้าอิพี่มันจะร้ายจริงๆ ไม่ด่าพี่้พชรด้วยเพราะฝั่งที่เข้ามาหาเรื่องพระพายนี่น่าด่ากว่า เชื่อว่าตอนนี้น้องคงสับสนแต่คงไม่ถอดใจหรอก อิพี่เจอน้องอีกทีอาจเหวอแดกก็ได้เพราะน้องคงเป็นเหมือนที่เคยเป็นอะ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ดราม่าเพชรแรง

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่เพชรอย่าคิดมาก น้องพายอยากคุยกับพี่นะ

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
เพชรพระพาย
พระพายไม่อ่อนโยน

แย่ที่สุด แย่มากๆ….


เขาอาจจะทำพระพายหลุดมือไปจริงๆเพราะเรื่องนี้ เพชรอาจจะไม่ใช่คนที่ถูกที่สุด แต่ก็ไม่ได้ผิดที่สุดแต่ต่อให้ผิดก็ไม่ยอมรับ นี่ไงความย้อนแย้งที่น่ารังเกียจ น้องต้องรับไม่ได้แน่ๆ แต่น้องก็ไม่ใช่คนที่ตัดสินอะไรเป็นขาวดำไปเสียเลยหรอก พระพายอาจจะดูซื่อ แต่ไม่ได้โง่ ตราบใดที่เพชรยืนกรานว่าจริงใจและพร้อมที่จะตอบ เขาก็มั่นใจว่าพระพายจะตั้งใจฟังโดยให้ความยุติธรรม


ทว่าเขาก็ไม่รู้ว่าตอบแบบไหนออกไปจะทำให้ตนดูดีขึ้นมาได้ คิดแทบหัวแตกอยากเอาหัวชนกำแพงให้รู้แล้วรู้รอดเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็กลัวเจ็บ ทำไมอารมณ์โศกแบบนี้ยังกากได้วะ ทำไมเป็นคนโง่ที่หน้าตาหล่อแบบนี้ หล่อเฉยๆไม่ได้หรือไงทำไมต้องกากและโง่ไปด้วย แม่ง….


แล้วนี่น้องอุตส่าห์มาหามารับฟัง ก็ยังมีหน้าไปปิดประตูใส่น้องอีก แดกกาแฟแก้วเดียวกับคุณรบหรือไงถึงได้เชื้อกากแบ่งมาขนาดนี้ ถึงแม้พระพายจะไม่ใช่เจนรักษ์ที่จะมโนเก่งออกไปดาวพลูโต แต่น้องก็เป็นคน และเพราะเป็นคนก็ต้องรู้สึกไม่ผิดหวังก็โกรธ


ทำไมคิดไม่ได้เร็วๆกันนี่ เกียรตินิยมนี่ควรเอาไปคืนมหาวิทยาลัย ต้องวางแผนเตรียมคำพูดให้สวยหรูไปอีกทำไม แค่จริงใจมันไม่พอใช่ไหม….ใช่….บนโลกที่เขาเกิดและเติบโตมาแค่จริงใจ….มันอยู่ไม่ได้จริงๆไง ทุกวันนี้เลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้เป็นคนจริงใจได้


รู้แค่ว่าชอบพระพายมาก…ก็เท่านั้น…..


“เฮ้ย!น้องๆ อย่าเว้ย กลับไปๆๆๆ” 


เพชรพิสุทธิ์สะดุ้งโหยง ท่ามกลางความเงียบของหอพักในวันที่นักศึกษาทยอยกลับบ้านกลับช่องหลังสอบเสร็จไปแล้ว เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายจากผู้จัดการหอที่จ้างให้ช่วยดูแล เสียงที่ดังมาถึงห้องนั้นจับประเด็นไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันมาจากที่ข้างนอก เพชรนั้นเกาหัวอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น


วันนี้มันวุ่นวายจริงๆ และพอเขาออกมาชะเง้อคอลงไปดูก็พบกับพี่ผู้จัดการกำลังเลิ่กลั่กตกใจเหมือนเห็นผี มือก็ชี้โบ้ชี้เบ้ขึ้นฟ้า ผีเข้าเหรอ? จะเบิกเงินขอทำบุญหอใหม่หรือไง ก็ดีเหมือนกัน เพชรพิสุทธิ์ควรได้น้ำมนต์มาชะล้าง เขามองไปรอบๆตามทิศทางมือที่ชี้ไม่รู้เรื่องนั่นและเขาก็ได้เจอผีเข้าอย่างจัง


และผีก็กำลังเกาะผนังห้องที่เชื่อมระหว่างห้องเขาและห้องข้างๆ


“ฮึก….”


“พะ..พระพาย”  เสียงที่เปล่งออกไปนั้นเหมือนจะแหบแห้ง เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้สีหน้าตนเองเป็นเช่นไร เหมือนตอนเจอผีไหม เพราะมั่นใจว่าไม่เคยเจอใครที่ผีเท่าตัวเองมาก่อน


ทว่ายามนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของคนที่บอกว่าโดนผีหลอกเข้าแล้ว และคำว่า ‘พระพาย’ ก็ไม่ใช่คำเรียกขานยามต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้าเหมือนคำว่าโอ้มายก็อด น้องใจบุญแต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นพระโพธิสัตว์พอ แต่ที่เขาเปล่งชื่อเรียกน้องขึ้นมา…เพราะผีที่ว่าคือพระพายที่ปีนเหยียบระเบียงและกอดผนังกำแพงที่กั้นห้องเราไว้อยู่


“พี่…เพชร”


“ละ..ลงไป..ดะ ดะ..เดี๋ยว..นี้เลยนะ!”  เขาชี้หน้าพูดออกไป น้ำเสียงร้อนรนปานจะร้องไห้ ทว่าแม้แต่น้ำลายยังกลืนไม่ลง


ถ้าลูกเขาตกลงไป ไม่อยากจะคิดถึงบัญชีหนังหมาที่ยาวเป็นหางว่าวให้เขารอไปโดนสะสาง เริ่มจากบ้านรัตนสกุลก็เหลือแต่กระดูกแล้ว คงไม่เหลือร่างไปถึงชวนันท์ บัดนั้นจิตวิญญาณของเพชรพิสุทธิ์คนนี้คงดับสลายไม่เหลือให้เกิดใหม่มาเป็นหมาได้แล้วจริงๆ แล้วทำลงไปไม่คิดถึงจิตใจเขาบ้าง? เขาจะเอาพระพายที่ไหนมาคืนให้หัวใจตัวเอง คิดสิ คิด!


“พี่เพชรไม่ให้พระพายไปหาอ่ะ!”  น้องเบะปาก คนใจร้ายชี้หน้าต่อว่าทำหน้าจะร้องไห้ แต่คนปีนนี่ ร้องไห้ไปแล้ว! สูงน้อยเสียเมื่อไหร่ ทำใจมาก็นานกว่าจะเริ่มปีนป่าย พระพายไม่ใช่พี่เจนที่ปีนต้นมะม่วงเก่งนะ แล้วนี่มันต้นมะม่วงที่ไหน ระเบียงของหอพักชั้น 5 ชัดๆ


“เดี๋ยวไป! เดี๋ยวพี่ไปหาเองเลย ลงมา….ลงมาเดี๋ยวนี้!”  น่าตีนัก แต่ต้องลงมายืนให้เรียบร้อยให้เขาไปตีเท่านั้น ตอนนี้ใจของเพชรไม่ดีเลย ใครใช้ให้ปีนเข้าห้องผู้ชายแบบนี้ เด็กบ้าๆๆๆๆ น่าจับตี พ่อแม่สอนมายังไงทำไมเป็นชาววังที่แสนเฮี้ยว!


 ไอ้คำพูดที่คิดมาตั้งนานกระเด็นกระจัดกระจายหายหมดหัว คาดว่าขวัญเขาต้องหลุดหายไปถึงเชียงใหม่แล้วแน่ๆ เห็นพระพายเงียบๆ แต่เปรี้ยวมากๆนะ เข็ดฟันฉิบหาย ถ้าไม่รักและโอ๋มากจะถามออกไปว่าอยากตายเหรอ! ที่สุดของแจ้จริงๆเลยเด็กนี่!


หลังจากมองดูพระพายปีนลงจากระเบียงไปยืนอย่างปลอดภัยบนพื้นได้ เพชรพิสุทธิ์ก็ไม่แม้แต่จะเสียเวลาถอนหายใจ เขารีบวิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วประหนึ่งเดอะแฟลชแห่งค่ายDC และบิดลูกบิดประตูด้วยความเร็วระดับควิ๊กซิลเวอร์X-Men ของค่าย Mavel


รอไม่นานเสียงลูกบิดแห่งความหวังก็ดังแกร๊ก ประตูถูกเปิดออก แต่พระพายที่เปรี้ยวไปถึงขั้วหัวใจของเขาวันนี้กับเปิดมันไว้แค่นั้น อย่างที่เขาทำกับอีกฝ่ายเมื่อครู่…..


“………..”  ตอนออกแบบหอพัก ทำไมถึงสั่งทำโซ่คล้องไว้ให้ทุกห้องแบบนี้ กรรมสนองที่แท้จริง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวเป็นเช่นไร ก่อนจะกลับไปทบทวนแปลนก่อสร้างใหม่ เขาควรไปหยิบคีมตัดเหล็กมาไหม เอาดีๆ!


“พระพาย…”  เขาเรียกน้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรง ทำไมถึงทำกับฉันได้…คนดีของพี่เพชร….


“รู้สึกยังไงครับที่ต้องมายืนหน้าห้องและต้องมาฟังคนบ้าพูดอะไรงึมๆงำๆ ฟังไม่รู้เรื่อง!”  ดุกว่าบุพการีไอ้เพชรรวมกันร้อยคน พระพายผู้ถูกเลี้ยงดูประหนึ่งชาววังโดยคุณหญิงพรรณี นั้นเป็นคนแบบนี้เอง รู้งี้อย่าบ้ากล้าแหยมกับน้อง! ว่าแต่ที่พูดไปยาวเหยียดตอนนั้นน้องไม่รู้เรื่องเลยเหรอ ไอ้โง่แต่หล่อเอ้ย!


“เปิดให้พี่นะครับ”


“ตอนนั้นพายพูดว่าไง เปิดให้พายหน่อยนะครับใช่ไหม แล้วทำไมไม่เปิด!”  คนจริงกระทิงแดง เจนไม่นกปลุกเสกของอะไรใส่พระพายคนดีของเขากันนี่!


“ตอนนั้นพี่…เอ่อ ยุ่ง…”


“พี่จะบอกว่าพระพายมารบกวนพี่เหรอครับ แล้วทำไมพี่เพชรมาเกาะแกะพระพายตั้งนานไล่ก็ไม่กลับ ไม่คิดบ้างละว่าตัวเองก็ยุ่งเรื่องชาวบ้าน!”  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครด่าเขาเจ็บขนาดนี้เลย ด่าเจ็บกว่าไอ้ตัวเงินตัวทองที่ด่าเขาวันนี้ที่มหาลัยเสียอีก คำว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านของพระพาย….เหมือนเก็บรวมรวมความโกรธแค้นของคนทั้งโลกที่ถูกเขาเสือกเอาไว้แล้วระเบิดลงตู้มเดียว ก่อนไปโดนรัตนสกุลเล่นงาน พระพายก็เล่นเขาแทบไม่เหลือแม้แต่จิตวิญญาณ ไม่ต้องเกิดใหม่เป็นหมาแล้ว เกิดไปเป็นแมลงสาปที่โดนคนทั้งโลกรังเกียจเลยดีกว่า ทำเทวดาคนดีของชาวโลกโกรธจัดได้ขนาดนี้


“พี่…ขอโทษ”


“……….”


“ตอนนั้นพี่ไม่พร้อม”


“ไม่พร้อมก็บอก พายรอได้ แต่อย่าทำอย่างนั้น”  พระพายลดวอลลุ่มลงแต่ก็ยังตักเตือนเขาที่ทำผิดไป คำว่าถูกผิดของเพชรที่คิดมานั้นถูกสั่นคลอนด้วยความรู้สึกอันบอบบางแต่แข็งแกร่งของพระพายไปแล้ว


น้องไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดมาเลย ตอนนี้ยังช็อคไม่หายที่ถูกด่าแบบพระพ้ายพระพาย น่าผิดหวังที่เขาคาดการณ์เกี่ยวกับตัวน้องผิดทั้งๆที่ถูกต้องมาตลอด แต่ว่า….คนที่แคร์มากไม่ใช่หรือไงที่ทำให้เขาเห็นดำเป็นขาวไปได้ขนาดนี้  สิ่งที่เรียกว่าความรักมีอานุภาพมากพอในการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างบนโลกจริงๆ


“………”


“……….”


แอ้ด……….


“เข้ามาก่อนสิครับ”  เสียงกุกกักและเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้เพชรเงยหน้าขึ้นมา น้องพูดกับเขาพร้อมกับเชื้อเชิญให้เข้าไป หากพระพายยังงอนอยู่ วันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องเสียที แล้วคราวนี้ก็น่ากลัวว่าคนที่โดนด่าจนสำนึกผิดจะเป็นฝ่ายปีนเข้าห้องกันมาเอง


“………..”  เขายืนเงียบ มือไม้เหมือนวางไม่ถูก พระพายที่เดินนำไปชิงนั่งบนเตียงก่อน จ้องมองเขาที่โดนด่าจนสติหลุดไปกัมพูชาก่อนจะถอนหายใจออกมาพลางตบที่นั่งข้างๆเตียง


“มานั่งนี่ครับ”  พระพายสั่ง เขาหรี่ตามองน้องอย่างไม่ไว้ใจ นอกจากจะใจกล้าปีนเข้าห้องผู้ชายแล้วยังชวนผู้ชายมานั่งบนเตียงอีก ถ้าเป็นปกติเพชรพิสุทธิ์คงระริกระรี้ไปนั่งให้เกาคางอยู่หรอก แต่วันนี้มันไม่ปกติไง ไม่มีใครปกติเลยสักคน หรือจะว่าไปตั้งแต่ที่เขาเอาตัวตนถ่อยๆของตนเองไปยุ่มย่ามในชีวิตของน้อง พระพายก็ไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอีกเลย…


ต้องโทษเขาให้รับผิดชอบใช่ไหม
งั้นเขายอมเป็นของน้องเลยละกัน….


“เอ้อ!”  เขาอุทานออกมาทันทีที่นั่งลงข้างๆตามที่น้องสั่ง คนตัวบางโถมตัวเข้ากอดเขา นอกจากจะปีนห้อง ดุด่า ชวนนั่งบนเตียงนอน ยังเข้ามากอดกันก่อนอีก ไอ้ตัวเงินตัวทองลูกพี่ลูกน้องเขาไปทำอะไรพระพายไว้ ทำไมวันนี้ถึงได้เป็นหนักแบบนี้เล่าเนี่ย!


“อย่าหนีพระพายแบบนี้อีกนะ ถ้าโกรธ ถ้าไม่สบายใจ อนุญาตให้อยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ต้องบอกพระพายให้มั่นใจก่อนว่าถ้าพร้อมจะมาเจอ”


“……..”


“การรอแบบไม่มีจุดหมายมันเจ็บปวดนะครับ”  พระพายรักเขาข้างเดียวมาตลอด พยายามตัดใจก็หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จะด้วยเพราะตนเองหรือเพราะเขาที่ไม่เปิดโอกาสให้ก็ตาม แต่พระพายก็พยายามแล้วและผลคือไม่สำเร็จ

ดังนั้นตนจึงเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปและก็เห็นกำหนดการที่เราจะเป็นทางการซึ่งกันและกันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทว่าวันนี้มันเหมือนฟ้าผ่าลงมา ข้อมูลมากมายเข้าหัวจนพระพายเองยังประมวลไม่ทัน ยอมรับว่าใจนึงก็คิดไม่ดีไปแล้ว แต่เมื่อเห็นเขาปิดประตูใส่ ใจมันยิ่งคิด…ไปเลวร้ายยิ่งกว่า


“อย่าปิดประตูใส่พระพาย พี่เพชรจะไม่เล่าอะไรเลยก็ได้ จะไปนอนร้องไห้เอาหัวโขกชักโครกก็ได้ แต่อย่าไล่พายไป พายจะอยู่”


“พี่ไม่ได้ไล่เราครับ พี่แค่คิดไม่ออกเลยไม่รู้จะพูดยังไง กลัวพูดไม่ดีแล้วพระพายเข้าใจผิดด้วย”  เขาลูบหลังคนเสียขวัญที่ทำเรื่องสยองขวัญใส่กันยิ่งกว่า เขาสิที่สมควรถูกปลอบโยน พระพายอาจจะไปแล้วไปเลย แต่เพชรนี่ไม่ตายดีแน่ เผื่อๆถูกจับแก้ผ้าลากประจานไปทั่วจังหวัดและมีขบวนรถหมอลำวิ่งตาม แค่คิดก็อดสูตัวเองแล้ว


“ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ไปเขียนรายงานมาส่งสิ ถนัดไม่ใช่เหรอ”  นี่พระพายคนดีหรือเจนไม่นกนี่ แซะเก่งได้ใครมา


“ไม่เขียนแล้วครับ พี่จะเล่า พระพายอยากรู้อะไร พี่มีปานแดงที่ง่ามขาหรือซอกตูดตรงไหน พี่จะบอกให้หมด!”


“บ้า! ไม่อยากรู้!”  อย่าทุบอก ใจบางไปหมดแล้วรูก ไม่อยากรู้แต่นี่อยากบอก ถ้าไม่ให้บอกก็อยากจะโชว์


“พระพายฟังพี่นะ”


“ไม่ฟังเรื่องบ้าๆนะ”  เขาผละจากน้องออกมา จ้องมองใบหน้าที่นึกเอ็นดูจนอยากชวนมาดูเอ็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้ตีนแมวขี้กลัววันนี้อย่างแผ่วเบา และยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกของวัน


“ไม่บ้าหรอก”


“…………..”


“พี่ไม่ใช่คนดี”


“พระพายรู้ ใครๆก็บอก”


“แล้วพระพายเชื่อพวกเขาเหรอ”


“หึ พายเชื่อตัวเอง และก็เชื่อว่าพี่เพชรไม่ใช่คนดีจริงๆนั่นแหละ”  เจ็บไปหมดแล้วหัวใจ โดนด่าว่าไอ้จังไรตั้งแต่ปี1 ยันเรียนจบแล้วยังไม่เจ็บเท่าคำนี้ของพระพายคำเดียว เป็นคนเลวที่ยอมรับตัวเองแต่ไม่พร้อมจะยอมรับว่าพระพายก็คิดว่าเขาเลวจริงๆ โมเม้นท์นี้ก็จะเกลียดความใจบางที่ย้อนแย้งกับความเป็นจริงเช่นกัน


“พี่จะเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนเด็กๆให้พระพายฟัง”  พระพายไม่อยากรู้แต่ต้องปล่อยให้คนที่ใจบางไปหมดอย่างเขาเล่า ในเมื่อไม่รู้จะเริ่มตรงไหน งั้นเริ่มแม่งตั้งแต่ตอนตกฟากเลยละกัน!


เขาเล่าให้พระพายได้รู้ถึงจุดประสงค์ของการมีอยู่ของเขาตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์แม่ ปู่ของเขาเป็นคนร่ำรวยมีชื่อเสียง ใครๆก็อยากจะเข้ามาเป็นสะใภ้แต่ปู่ก็เลือกมากเพื่อผลประโยชน์ ทว่าตาของเขาก็เจ้าเล่ห์ไม่แพ้กัน เพชรเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ของเขานั้นเป็นเหยื่อที่เห็นดีเห็นงามด้วยหรือเปล่า


 สรุปแล้ว..เขาก็มองกลางๆไว้ว่าทุกคนก็ร้าย เพราะฉะนั้นตนเองก็ไม่ควรทำตัวเป็นเหยื่อให้คนดูถูกว่าเป็นลูกของผู้หญิงแพศยาที่เอาลูกมาอ้างหาเงินเข้ากระเป๋า ใครร้ายมาก็ร้ายกลับ ยังไงก็ไม่มีคนนับญาติอยู่แล้ว จะต้องสนใจความรู้สึกบ้าบอของกันและกันทำไม


เพชรนั้นใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงมากมาย บางครั้งนั้นเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยซ้ำ เขาจึงต้องดิ้นรนและคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้ตนเองอยู่ต่อไป และบางทีก็อาจจะต้องกอบโกยบ้าง ทั้งนี้มันไม่ใช่แค่เพื่อต่อยอดความอยู่รอด แต่เขาก็เป็นคน โกรธได้ รู้สึกเป็น ดังนั้นการที่ได้ทำร้ายคนอื่น มันก็แฟร์ไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้กระทำฝ่ายเดียวเสียหน่อย…


พระพายก็เหมือนจะพอรู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของเขากับแม่มันแปลกๆ ในตอนแรกหากได้เข้ามาก็อาจจะไม่เห็นอะไรผิดปกติ แต่เขาปกปิดได้ไม่นานหรอก ยิ่งทำก็ยิ่งไม่เนียน ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่รักมากไม่ลงเช่นกัน ทั้งนี้เขารู้ว่าแม่รัก แต่ก็ไม่อาจจะยอมรับการกระทำของแม่ได้ทั้งหมดเพราะมันส่งผลทำให้ตัวเขากลายเป็นคนเกลียดโลกเกลียดสังคมแบบนี้ และเพื่อเลี่ยงการมีปากเสียงหรือประกาศให้แม่รู้ว่าเขาทราบ เพชรจึงเลือกที่จะไม่อยู่ด้วยนานๆ เอาเป็นว่าให้พอรู้ว่ารักนะแต่ไม่แสดงออกละกัน


ในส่วนของการเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทำให้คนอื่นเขาแตกแยก เพชรค้านหัวชนฝาบ้าน มองหน้ายังไม่อยากจะมองแล้วนับประสาอะไรจะไปชวนชาวบ้านเขามีชู้ ถามจริงเถอะว่าไอ้ตัวเห้นั่นคิดได้ไง สนิทกันจังจะไปชวนพ่อมันมาก๊งเหล้าเคล้านารีอย่างกับเป็นเพื่อนร่วมรุ่น


ทั้งนี้เขาสนิทกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงหลายแห่งด้วยเพราะเป็นลูกค้าของรัตนสกุลบ้างหรือไม่ก็พาลูกค้าไปใช้บริการบ้าง บังเอิญเจออาของตัวเองในอาบอบนวดเลยถามนั่นถามนี่ เหล่าผู้ดูแลก็พร้อมใจกันประคบประหงมเล่าให้ฟัง ดูเหมือนคู่ผัวตัวเมียนี่เขาจะรู้กันมานานแล้วว่าต่างฝ่ายต่างมีชู้ แต่ไม่เคยบอกลูกชายโง่ๆของตน อยู่สร้างภาพด้วยกันไป กินเงินกงสีตระกูลเรื่อยๆอย่างมีความสุขมานาน


จริงๆเขากับปู่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันนัก ปู่วางตัวเป็นกลางด้วยตัดสินไม่ได้ว่าจะให้ใครดูแลธุรกิจเป็นหัวเรือหลักต่อ ทองไม่ใช่คนเก่ง เข้าขั้นไม่เอาถ่าน ส่วนเพชรแม้จะเก่งแต่ก็ไว้ใจไม่ได้เพราะคดีเยอะไม่พอยังถูกจัดเป็นลูกนอกคอกของบ้านไปอีกแถมเรียนจบ ยังเอาหน้าตัวเองพร้อมเรซูเม่เก๋ๆไปยื่นให้รัตนสกุล พร้อมย้ายไปอยู่กรุงเทพแทบจะไม่กลับมาเหลียวแลทางบ้านอยู่หลายปี


จนกระทั่งปู่โทรมาบอกว่าจะยกหอพักให้ แบบเอาไปเลยฟรีๆ เขาถึงได้ยอมกลับมาหามาดูใจว่าใกล้ตายหรือเป็นอัลไซเมอร์อยู่หรือเปล่า แต่จริงๆตอนนั้นปู่ให้ตามหาคนรักที่ไม่ได้ครองคู่กัน ใครจะไปรู้ว่าตาเฒ่าร้ายๆจะมีโมเม้นท์โรแมนติคในชีวิตกับเขาด้วย


และจริงๆก็ไม่ได้หายากเย็นอะไร เพราะปู่มีชื่อเสียงเรียงนามให้ครบ และพบว่านามสกุลของเธอคนนั้นตรงกับสายรหัสจังไรของเขาคนหนึ่ง ตอนนั้นก็ได้แต่สงสารปู่เลยไม่กล้าพูดอะไรออกไปมาก กลัวไม่ได้หอ แล้วไอ้เจตต์ก็ไม่แย่แค่ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ เขาพามันมากราบไหว้ จัดใส่มือไปให้ 3-4 พัน ให้มันสาธยายถึงความดีงามของย่ามันอย่างนั้นอย่างนี้ว่ายังรักและคิดถึงปู่ของเขาตราบสิ้นลมหายใจ คิดว่าพอปู่ได้ฟังคงจะตายตาหลับสักที สรุปไม่….


เป็นภาระกันไปอีกยาวนานอย่างที่เห็นเลยจ้า….


ยอมรับว่าเห็นคนทำเรื่องชั่วๆแล้วอดไม่ได้ต้องเก็บเป็นหลักฐาน และไม่ได้กะจะชื่นชมคนเดียวด้วย เขาตั้งใจจะเอามันออกมาอวดสายตาต่อหน้าประชาชนเหมือนกัน แค่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ทว่าปู่ของเขาที่ควรจะนอนพะงาบๆกลับว่างจนมานั่งตรวจสอบบัญชีของธุรกิจที่ทำและพบหลายจุดที่แปลกประหลาด แต่เริ่ม เพชรไม่ได้เข้าไปยุ่งกับกงสีตรงนั้นเพราะแย่งเอาหอพักมาได้แล้วก็พอใจ เลยไม่ได้เพ็ดทูลอะไรออกไป ทว่าตาเฒ่านั่นก็ตรัสรู้ชอบได้เองไปอีก คนแก่ 4.0 จริงๆ


ทั้งนี้ด้วยเพราะคงอยากยึดนั่นตัดนี่กลับคืนมา และเอาไปจัดสรรใหม่รวมทั้งแก้เผ็ดลูกหลานแบบเจ็บๆตามประสาคนแก่ร้ายๆ ก็เลยเลือกใช้เขาซึ่งมีงานอดิเรกในการเก็บข้อมูลแปลกๆมาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในภายภาคหน้า จริงๆเราทำงานร่วมกันบ้างมานานแล้ว ได้ดิบได้ดีจนได้หอพักมาเป็นของตัวเองอย่างที่เห็นนี่แหละ เลยจะเรียกใช้ง่ายหน่อย ไอ้เราก็กลัวว่าที่เก็บไว้จะเน่าไม่ได้ใช้ก็เลยแบ่งๆให้ไป ทว่าครั้งนี้คงเล่นแรงขนาดทำให้คนบางคนถึงกับประสาทกินทำตัวเป็นหมาไม่ได้ฉีดพิษสุนัขบ้า


“สรุปที่พี่ชายพี่เพชรบอกว่าพี่เพชรหาผู้หญิงไปให้ปู่ สรุปคือ…พี่เจตต์อะนะ”  เข้าใจผิดไปไกลมากๆ ไกลจริงๆคนเรา


“จริงๆแล้วมันไม่ใช่พี่ แค่อายุมากกว่าแต่มันเป็นตัวเห้ ชื่อมันก็เห้แล้ว มันก็ทำตัวเห้ด้วย ปู่แค่อยากเจอคนรักเขา พี่เลยพาหลานเขามาเพราะเขาตายแล้ว แล้วมันดันเสือกซวยเป็นไอ้เจตต์ ทองมันคิดไม่ดีไปเอง”


“แล้วพี่เพชรไม่บอกเขาอ่ะ” 


“บอกไปมันฟังไหมล่ะ บอกว่าพ่อกับแม่มันมีชู้ไม่เกี่ยวกับกู มันยังไม่ฟังพี่เลย”


“พูดไม่เพราะ”


“ขอโทษครับ”  กราบที่ร่องอก ลดความเกรี้ยวกราดลง 3 เบอร์ บัดเดี๋ยวนี้!


“ช่างเขาเหอะ แล้วพี่เพชรเอาไงต่อไปอ่ะ” 


“พี่ก็จะดูแลพระพายอย่างดี ทะนุถนอมพระพายให้ดีที่สุด ให้เกียรติพระพาย รับผิดชอบทุกอย่าง พี่ผิดเอง”


“ไม่เกี่ยวกับพายรึเปล่า หมายถึงที่บ้านอ่ะ เอาไง” ไม่เนียน พระพายให้ไปเรียนมาใหม่


“ก็คงฟ้องปู่อะแหละ พี่ก็อยู่ของพี่ดีๆไม่เคยเอาเอกสารใส่ร้ายพ่อแม่มันไปให้ซะหน่อย มาขอซื้อต่อเอง พี่ก็ร้อนเงินจะเอาไปแต่งเมียเลยขายซะ ได้เงินมาเยอะอยู่ก็เอาไปเลี้ยงบิงซูทุกอาทิตย์”


“อื้ออออ บอกว่าพายไม่เกี่ยว พูดซะพายเป็นผู้ร่วมก่ออาชญากรรม”


“แน่ะๆ ยอมรับว่าเป็นเมียเหรอ ยังไม่เป็นเลยนะ เป็นเลยไหม ไหนๆก็อยู่บนเตียงอยู่แล้ว”  ทะลึ่ง!


“ไปกินบิงซูด้วย ไม่ใช่เมียที่พี่เพชรรักจริงหวังแต่งซะหน่อย อย่าเหมารวม” เพราะอยู่บนเตียงนี่แหละคว้าหมอนง่ายหน่อยเลยคว้ามาเขวี้ยงใส่หน้าซะ


“แล้วอยากให้รักจริงหวังแต่งไหม”


“………..”


“บอกพี่มาสิ ธนาคารยังไม่ปิด พี่ไปถอนเงินมาขอเราได้เลยนะ เฮ้ย!”  เอาหมอนฟาดหน้าอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องเอาหมอนกดไว้อย่าให้โอกาสได้มีลมหายใจมาทำให้พระพายใจหยุดเต้นได้เพราะคำพูดจากปากมอมๆ คนบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ บ้ามาก นอกจากนิสัยไม่ดีทำตัวเลวร้ายกับคนอื่นเพราะปัญหาครอบครัว นี่ยังพอเข้าใจ แต่ที่ทะลึ่งตึงตังไม่รู้จักเวล่ำเวลานี่ใครสอน เอาเวลาที่ไหนนอกจากเจ้าคิดเจ้าแค้นคนอื่นมาฝึกได้ไง คนอะไรอ่ะ มัลติสกิลสุดๆ คุณรบจ้างมาเพราะงี้เหรอ ได้! เดี๋ยวพระพายไปบอกพี่เจนให้ไล่ออกซะ


คุณรบเป็นของพี่เจน = รัตนสกุลเป็นของพี่เจน


“พระพาย หายใจไม่ออกครับ! เดี๋ยวเป็นหม้ายนะ ไม่เอาๆ!!” จะตายอยู่แล้วยังวอนอีกแน่ะ คนเรา


“อย่าโมเมครับ ใครจะแต่งด้วย พระพายเป็นผู้ชายจะไปแต่งกับพี่เพชรได้ไง เรียนสูงซะเปล่าไม่รู้เรื่อง”


“ครับ ผู้ชายครับ เป็นผู้ชาย”  ในที่สุดเขาก็แย่งอาวุธสังหารมาได้และจัดการเขวี้ยงไปที่หัวเตียง


ก่อนจะคว้าอาชญากรที่หน้าตาน่ารักที่สุดมากอดไว้อย่างไม่กลัวตายอีกต่อไป


“พี่เพชร!”


“แต่เป็นผู้ชายที่พี่เพชรรัก”


“…………”


“พระพายอาจจะพูดว่าพระพายไม่เหมาะสม มีไม่เทียบเท่าหรืออะไรก็ตามพี่จะบอกว่ามันไม่ใช่”


“พี่เพชรรู้”


“รู้ครับ….แล้วพี่จะบอกให้ว่าพี่ไม่ได้สูงส่ง เก่งกาจอะไรเลย”


“ก่อนนี้พระพายเป็นแค่ลูกคนใช้”


“พี่ก็เป็นแค่ลูกเมียน้อยหรือเปล่า”


“แต่พี่เพชรคือพี่เพชรอ่ะ พี่เพชรเก่งกว่าพระพายตั้งเยอะ”


“พี่ไม่ได้เก่งกว่าหรอก พี่แค่แกล้งเก่งกว่าเท่านั้น จริงๆเราอาจจะไม่ได้ต่างกันเลย พี่มีน้อยไปด้วยซ้ำ”  เขามีน้อยกว่าตรงไหนเหรอ?


ดูไม่ยากเลย…ความเป็นคนดี ความเป็นที่รัก เขาล้วนมีน้อยกว่าน้องทุกอย่าง แล้วเช่นนี้เราควรจะเอากฎเกณฑ์ไหนมาตัดสินดีว่าใครอยู่จุดไหนยังไง และอย่างที่บอก…ว่าน้องพยายามเพื่อให้เก่งกาจมาเทียบเท่า แต่ความดีของน้องทำให้ความอดทนของเขาขาดผึง


เขาไม่มีวันรอพระพายมาเทียบเท่าเพราะเบื้องหลังของเขามันว่างเปล่าไร้การเติมเต็ม ในขณะเดียวกันน้องก็แสนดีอยู่สูงเกินกว่าคนที่สกปรกมอมแมมจะเอื้อมหา นั่นคือสาเหตุที่เขาไม่อาจจะอยู่เฉยได้หลังจากมั่นใจว่าหลงเสน่ห์ความน่ารักของน้องไปแล้วเช่นกัน เพชรจึงเข้ามาในชีวิตพระพาย พยายามจะดึงพระพายลงต่ำมาให้เทียบเท่าเขา แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยได้รับรู้เลยว่าจริงๆน้องก็คนๆหนึ่งไม่ใช่เทวดาหรือนางฟ้าที่ไหน


และเราต่างก็มีกิเลส ตัณหา ความต้องการเหมือนๆกัน


Talk: ผิดคาดมากกกกกกกกกกก นึกว่าจะมีคนด่าพี่เขา แต่กลายเป็นว่าด่ากันไม่ลงเลย รอดูกระแสคอมเมนท์ตอนนี้เลยค่ะว่าจะเป้นไง แต่นิยายชุดนี้มาเป็น 50 ตอน ยังไม่เห็นมีใครเห็นใจพี่เพชรเลย ชีวิตดราม่าที่ผ่านมาถือว่าคุ้มแล้ว5555 ตอนหน้าจบแล้วค่ะ เป็นบทสรุป แวะบ้านรัตนสกุลนิดหน่อย อาจจะหายไปนิด และจะกลับมาสั้นๆ ให้พอหายคิดถึงน้า

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย







ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 o18เค้าเรียกว่ารู้จักเอาตัวรอดคะคุณพี่เพชร การดราม่าไม่เหมาะกับพี่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด