เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ  (อ่าน 170024 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ปริ่ม

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คู่นี้น่ารักอะะะะะะะะะะ :impress2:

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
ขออนุญาตแทรกตอนพิเศษของพระเอกที่แท้จริงของซีรีส์นี้นะคะะะะะ
ส่วนเพชรพระพายตอนต่อไปเดี๋ยวเจอกันน้าาาาาาาาาาา

เรื่องของน้องวิน

#พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน

 

 

 

 

ในครั้งแรกที่น้องวินได้ยินเสียงของมนุษย์จริงๆ

มันเหมือนจะผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง

 

 

“…………”

 

 

“ตารบ ดูตาหนูสิลูก!”  เสียงของมนุษย์เพศหญิงที่ดูตื่นเต้นดีใจยามที่ได้เห็นกันนั้นทำให้ ต้องลืมตาขึ้นมา ทว่าก็ยังมองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก อาจจะเพราะเพิ่งกำเนิดเกิดมาบนโลกนี้ได้แค่เพียงไม่กี่วัน จริงๆนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงคนหรอก น้องก็เหมือนจะได้ยินมาสักพักแล้ว แต่….

 

 

ไม่มีครั้งไหนที่เหมือนครั้งนี้เลย

 

 

“นั่นสิครับ” ฝ่ามือของมนุษย์ผู้ชายคนนึงนั้นเข้ามาใกล้กันในระยะที่เด็กทารกแรกเกิดรู้สึกได้ ทว่าเขากลับชะงักและผละออกไป ทำไมกันล่ะ…..

 

 

“อ้าว มีอะไรหรือเปล่าลูก”  คุณพรรณีหันไปถามลูกชายของเธอ หลังจากที่รดาคลอดน้องวิน น้องก็ถูกพามาจากห้องคลอด ในตอนนั้นเธอจะทำหน้าอย่างไรยามได้ยินเสียงของเด็กน้อยคนนี้ร้อง เหล่าสมาชิกรัตนสกุลที่ไม่ได้รับสิทธิ์ให้รับรู้จึงไม่ทราบ และก็คงไม่มีความจำเป็นต้องอยากรู้อยากเห็นอะไรอีก เพราะมันได้จบลงไปแล้ว และคงจะจบลงไปเลยตามเนื้อหาสัญญาที่เธอได้เซ็นไปเมื่อหลายเดือนก่อน อย่างไรก็ตามเด็กคนนี้กำลังจะนำพาความสุขที่แท้จริงมาให้กับบ้านเรา

 

 

ทายาทคนแรกของนับรบ รัตนสกุล

 

 

“ตัวเขาเล็กมากๆเลย”

 

 

“แน่สิลูก”  ก็น้องยังไม่ถึงเดือนเลย

 

 

“ดูบอบบางมากๆเลยด้วย”  เขารำพันกับตัวเอง

 

 

“กลัวเหรอจ้ะ ตารบ”

 

 

“ครับ”  เขากลัวว่าจะทำลูกเจ็บตัว เพราะเขาทำทุกอย่างที่ทุกคนต้องการเพื่อทะนุถนอมเด็กคนนี้อย่างเต็มความสามารถ และเขากลัว….กลัวที่จะสัมผัสกับความรัก เพราะมันช่างบอบบางอย่างน่ากลัว

 

 

“วันก่อนแม่แจ้งพยาบาลไว้แล้วเรื่องชื่อของน้อง วันนี้เราว่าง แม่เลยพามาดูหน้าลูกและก็ชื่อด้วย”  คุณหญิงพรรณีปิดบังไว้อย่างสุดความสามารถ อยากให้คนพ่อได้มารับทราบนี่ แต่ก่อน สรรพนามที่เราใช้กับเด็กคนนี้จะมีเพียงแค่ ‘เขา’ ‘ตาหนู’ ‘น้อง’ แต่จากนี้ไป…..

 

 

เราจะเรียกเขาว่า ‘น้องวิน’

 

 

“อัศวิน รัตนสกุล”  เป็นชื่อที่ไม่ต้องตามหาความหมายเพราะทุกคนที่รู้ภาษาไทย คงจะรู้ว่าอัศวินคืออะไร และชื่อนี้ก็ถูกตั้งมาให้พ้องกับชื่อของคนเป็นพ่อ ‘นักรบ รัตนสกุล’

 

 

ต่างก็เป็นชื่อเรียกของผู้กล้าทั้งสิ้น เขายิ้มออกมาให้กับความคิดสร้างสรรค์ของคนเป็นแม่ แม้ว่าชื่อของเขานั้นคุณปู่จะเป็นคนตั้งก็ตาม อย่างไรก็ตามการที่ชื่อของลูกคล้องกับคนเป็นพ่อแบบนี้ มันก็น่าชื่นใจไม่น้อย  มองไปรอบๆ สมาชิกในบ้านที่มาดูหน้าคุณหนูคนใหม่ต่างก็ยิ้มแย้ม ตัดกับบรรยากาศก่อนหน้านี้ที่ไม่ใช่แค่มีการแบ่งฝ่าย พวกเราต่างระแวงและยุ่งวุ่นวาย การได้เห็นหน้าเด็กคนหนึ่งนั้น จึงดูเหลือเชื่อเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเขาได้นำความสงบสุขมาให้อย่างแท้จริง

 

 

เจ้าของสถานะ ‘พ่อ’คนใหม่ได้พยายามอีกครั้งในการขุดความกล้าทุกอย่าง ก่อนจะจิ้มไปที่ผิวแก้ม ตาหนูตัวเล็กที่ผิวยังเหี่ยวๆแดงๆนั้นหาวแล้ว คงอยากนอนเต็มทน เด็กวัยนี้อะไรๆก็นอนไว้ก่อนทั้งนั้นแหละ เขาเลื่อนมือไปสัมผัสมือเล็กที่ยกชูขึ้นอย่างแผ่วเบา นุ่มนิ่มและบอบบางอย่างที่คิด และยังไม่ทันได้ชักมืออก นิ้วเล็กๆแดงๆนั้นก็กำรอบนิ้วก้อยของเขาเอาไว้หลวมๆ จุดรอยยิ้มของเขาในครั้งแรกของเดือนขึ้นมา ตอนนั้นเขาได้ให้คำสัญญากับตัวเองแล้วว่า…

 

 

จนกว่าอัศวินจะเติบโตขึ้นมาเป็นอัศวินที่แท้จริง….

นักรบคนนี้จะดูแลปกป้องอัศวินด้วยตัวของเขาเอง

 

 

แต่เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ง่ายเลย ยามที่เขาต้องทำตามใจใครๆเพียงเพื่อจะรักษาบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ และความรู้สึกกลัวภายในใจนับวันยิ่งกัดกิน นักรบเลือกที่จะดูแลและปกป้องอัศวินตัวน้อยด้วยการอยู่ให้ห่าง ทว่ามันกำลังปลูกฝังเมล็ดพันธุ์อะไรบางอย่างลงไป หากสถานการณ์เหล่านี้ดำเนินต่อไป เด็กน้อยน่ารักผู้นี้จะเติบโตมาอย่างสิ้นหวังเป็นแล้วแน่ ดังนั้นต่อไปนี้ฟ้าจำต้องส่งใครสักคน….ใครสักคนที่รัก และหวังดีกับน้องวินจริงๆและคนๆนั้นจะเป็นคนเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ให้การเมล็ดพันธ์แห่งความรักอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่แค่กับน้องวินเท่านั้น…..

 

 

นักรบก็ควรจะได้รับความสุขกับเขาเสียที….

 

 

xxx

 

 

นี่น้องวินเอง…..

 

 

“………….”  น้องยังพูดไม่ได้ เลยไม่สามารถบอกความต้องการของตนให้คนอื่นเข้าใจ และน้องก็ไม่ค่อยร้องไห้เพราะน้องเหนื่อย….ในความเป็นจริงคือน้องไม่สนใจคนๆนี้เท่าไหร่นัก แม้ว่าใครๆจะบอกว่าเขาเป็นคนที่จะมาช่วยเลี้ยงดูน้องวิน แต่น้องวินไม่ชอบเธอเลย! แม้แต่น้อยนิดก็ไม่ชอบ แต่บอกใครไม่ได้!

 

 

และวันนี้พี่เลี้ยงที่คุณยายรัชนีนุชส่งมาให้ก็พาน้องวินมาเดินเล่นในสวน จะให้พูดให้ถูกคือตัวเองอยากมาเฟซไทม์คุยกับเพื่อนแต่ไม่อยากให้คนในบ้านรู้เห็นมากกว่าเลยต้องอ้างเอาน้องออกมาด้วย น้องวินยังไม่ได้นอนกลางวัน แต่เดี๋ยวก็คงจะหลับในรถเข็นนี้ได้เอง อยากจะร้องไห้งอแงให้พากลับห้อง แต่ก็เหมือนจะรู้ว่าทำไปตอนนี้ก็ไม่ได้รับความสนใจหรอก หรือถ้าสนใจ น้องวินก็ไม่ชอบอยู่ดี…..เพราะพี่เลี้ยงคนนี้ชอบตวาดเสียงดัง และน้องวินไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลย….

 

 

นั่นตัวอะไรน่ะ!!!!!.....ที่มาไต่แขนกันอยู่ตอนนี้ น้องวินเข้าใจว่ามันคืออะไรสีดำตัวเล็กๆ เล็กกว่าตัวน้องวินหลายเท่าเลย แต่ทำไมถึงไต่อยู่ที่แขนของน้องวินไปมาได้ อันนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ดวงตากลมโตขี้สงสัยนั้นมองเจ้าตัวดำๆนั่นไต่แขนป้อมๆของตัวเองต่อไป ก่อนที่จะเกิดความรู้สึกจี้ดบางอย่างที่ทำให้สะดุ้งสุดตัว และเบะปากร้องออกมา……ทั้งๆที่หนูก็ไม่ได้อยากจะร้องเลย….

 

 

“แงงงงงงงงงงงงง” แต่มันเจ็บอ่ะ ออกไปจากแขนน้องวินนะ ชิ่วๆ

 

 

“โอ้ยยยยยรำคาญไอ้เด็กเวรนี่!!!!”  และพอยิ่งเจอเสียงดังๆก็ยิ่งร้องดังเข้าไปใหญ่ ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบ แต่มันไม่ใช่แค่นั้น

 

 

น้องแค่แยกคำว่าไม่ชอบออกจากความหวั่นกลัวไม่ได้…..

 

 

“บอกให้หยุดร้องไง”  น้องแค่ร้องดังหน่อยเดียวเองทำไมต้องเอามือมาปิดปากน้องด้วย มันไม่ได้ทำให้น้องหยุดร้องหรอกนะ แต่น้อง….

 

 

อึดอัด หายใจไม่ค่อยออก….

 

 

“โอ้ย!!!ใครน่ะ”

 

 

“…………”

 

 

“ใครโยนมะม่วงมา!!!”  นั่นสิใครกัน แต่ช่างเถอะ….

 

 

ใครก็ได้มาช่วยน้องที….

 

 

เจ้าตัวเล็กในรถเข็นนั้นเหมือนจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่ใครสักคนกำลังเถียงกับพี่เลี้ยงของตนเพราะถูกล็อคอยู่ในรถเข็น แม้จะหยุดร้องไปแล้วแต่ก็ยังสะอื้นฮัก ระดับสายตาของน้องวินในจุดที่ยังอยู่นี้ไม่เห็นใครสักคนเลย เป็นเช่นนี้ยิ่งไม่ชอบมากกว่า แต่ถ้าน้องร้องไห้ น้องจะโดนปิดปากอีกไหม อัศวินตัวน้อยของบ้านรัตนสกุลทำได้แค่สับสนอยู่ในใจ อย่างน้อยการมีเสียงคนอยู่รอบกายก็ยังให้ความรู้สึกไม่เดียวดายจนเกินไป

 

 

“ผมจะพาไปด้วย”เสียงของใครคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นอยู่เหนือหัว โดยไม่ให้รอ เจ้าของเสียงก็ได้เดินมาหากัน มือของคนๆนั้นได้เก็บหลังคาของรถเข็นให้ ทำให้น้องวินได้เห็นแสงสว่างที่ลอดผ่านใบไม้มากมายลงมา

 

 

และใบหน้าของคนที่ไม่คุ้นเคย….

 

 

“ไปกับพี่เจนก่อนนะครับ เด็กดี”  ใบหน้าของคนมาใหม่ดูเป็นมิตร น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดูนุ่มนวลเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่ ในตอนนี้คนที่ตนไม่ชอบเหมือนจะไม่อยู่แล้ว เจ้าตัวเล็กมองหน้าคนมาใหม่ตาใสแจ๋ว ที่ดวงตายังคงคลอไปด้วยหยาดน้ำ มึนงงไปกับเหตุการณ์ต่างๆแต่ก็ไม่ได้ร้องโวยวายเมื่อถูกลากไปไหนมาไหนอีก อย่างน้อยพี่คนนี้….ก็มากับย่าไพ….

 

 

น้องวินนั่งมองคนโต้เถียงกัน มีคุณย่า ย่าไพ ย่าจิน และคนอื่นๆมากมาย ทว่าคนที่มาใหม่คนนั้นกลับดูตั้งใจเถียงเป็นพิเศษ บรรยากาศรอบตัวดูวุ่นวาย แต่แล้วมันก็จบลง ด้วยเพราะเป็นเด็กจึงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายคนที่น้องวินไม่ชอบก็ออกไป และมีคนใหม่มาแทนที่….คือพี่ใจดีที่เรียกกันว่าเด็กดี เห็นไหมว่าน้องวินเป็นเด็กดีจะตาย ทำไมพี่เลี้ยงคนเก่าไม่เข้าใจ….

 

 

คนที่เป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวินค่อยๆคลานมาหา เช็ดน้ำลายให้กับน้องและยิ้มให้ ไม่เหมือนพี่เลี้ยงคนเก่าที่เช็ดไปแล้วก็บ่นไป แต่พี่เลี้ยงคนใหม่ไม่ได้เข้ามาคนเดียว เขามากับผู้ชายตัวสูงท่าทางดุๆคนหนึ่งที่น้องได้เจอเขาอยู่บ่อยๆ เขาไม่เคยดุน้องหรอก แต่ท่าทางของเขาก็ดูไม่ได้อยากจะเข้าใกล้กัน น้องวินไม่ใช่ไม่ชอบเขา แต่แค่ไม่เข้าใจมากกว่า….นอกจากพี่เลี้ยงคนนั้น ทุกคนก็อยากเล่นกับน้องทั้งนั้น น้องไม่น่ารักเหรอ ทำไมไม่ชอบมองหน้ากัน?

 

 

“จา จา จา”  อย่ามัวแต่คุยกับคนนั้นสิ มาคุยกันน้องก่อน เจ้าตัวเล็กตบตักพี่เลี้ยงคนใหม่ที่ใครๆก็เรียกว่าเจน 2-3 ที ท่าทางของน้องทำให้ผู้ใหญ่ในห้องต่างพอใจ น้องวินก็พอใจ เพราะพี่เลี้ยงคนใหม่ใจดี ไม่ดุน้องวินแม้แต่คำเดียวตั้งแต่เราเจอกัน ทั้งๆที่น้องทั้งร้องไห้ ทำน้ำจิ้มที่ปากย้อยไม่หยุด แถมยังไปตบตักเรียกก็ยังหันมาให้ น้องวินชอบ และคำว่าชอบของน้องต่างจากคำว่าไม่ชอบนัก เพราะชอบคือชอบ ไม่เหมือนคำว่าไม่ชอบที่ใช้ร่วมกับคำว่ากลัว

 

 

คนตัวเล็กอุ้มน้องขึ้นมาจ้องตา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้น้องงงนิดหน่อย คนอะไรยิ้มเก่งจัง ที่แก้มนี่ใส่อะไรไว้เหรอ มือเล็กจึงตบเบาๆลงบนแก้มใสของคนพี่ ดวงตาโตกลมสุกสกาวนั้นจ้องมองอย่างเป็นมิตร ปากเล็กๆที่เคลือบน้ำใสๆที่เรียกว่าน้ำจิ้มของเด็กน้อยนั้นพึมพำเป็นภาษาที่ผู้ใหญ่ที่ไหนก็ไม่เข้าใจ แต่หากใครสักคนจะบอกได้ว่ามันแปลว่าอะไร คงแปลว่า….

 

 

ยินดีที่ได้รู้จักนะฮับ….เจนเจน….

 

 

Talk:  มาแบบสั้นๆให้หายคิดถึงน้อง อย่างที่เราเคยโม้ไปว่ามันจะมีตอนพิเศษที่เป็นเรื่องของน้องวินในมุมของน้องด้วย เราอาจจะไม่ได้ลงให้อ่านทุกตอน แต่จะมาบ้างให้หายคิดถึง ในระหว่างที่รอเล่มนะคะ จริงๆยังมีอีกเยอะเลยที่ยังไม่ได้ลง เพชรพระพายก็เพิ่งมาถึงครึ่งเรื่องเอง ต่อนี้ก็คงจะเข้มข้นขึ้นแล้ว นอกจากนี้ยังมีตอนพิเศษอื่นๆของเจน เช่นการเจอกันของคู่รบเจนเคลจุ้น ตอนพิเศษการเจอกันครั้งแรกของรบเจนสมัยยังเป็นเด็กๆ และอื่นๆ อาจจะมีที่ลงให้อ่านได้และที่ต้องเก็บในเล่ม แต่รับรองว่าคุ้มค่ะ ตอนนี้กำลังเริ่มแต่งอัศวินตอนโตเป็นหนุ่มแล้วมีความรักเป็นของตัวเองด้วย แต่เราจะเน้นเรื่องการเติบโตของน้องมากกว่า มาดูกันว่าโตแล้วจะซึนเก่งเหมือนพ่อไหม ให้คุ้กกี้ทำนายกันนะคะ5555

ยังไงตอนนี้ก็ขอฝาก #เพชรพระพาย ที่เปิดไว้อีกเรื่องด้วยนะคะ พ่อพระเอกต่อเรือเก่งมาก ชิปเปอร์อะไรไม่จำเป็น พายเองหมด  เดี๋ยวพอเข้าสู่จุดไคลแมกซ์จะมาลงทุกวันแน่นอน แต่ช่วงนี้สิ้นเดือนก็จะงานเยอะนิดนึง5555

 

Twitter @reallyuri

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย และกำลังจะมี #ลูกชุบของอัศวิน ซึ่งในตอนนี้อัศวินยังเป็นก้อนอยู่5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
งืออออ น้องวินน่ารักจังเลยลูกกกกกก นี่แหละพระเอกตัวจริงของเรื่องนี้ฉากสบตากับพี่เจนนี่เรียกว่ารักแรกพบได้รึเปล่านะ ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :z10:   โอ๊ยยยย  อิป้าโดนป้ายยาคร่าาาาาา

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ลูกกกกกกกกกกกกก น่ารักอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เอ็นดูน้องวินมากเลย

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
โอ้ยยยยยย น้องวินจ๋าคิดถึงจังเลย น่ารักจังเลยลูก :กอด1: อยากฟัด

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mew4:เราติดเด็กวินไปแล้ววว

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
เพชรพระพาย
#พระพายรว้ายรว้าย


จะว่าไปพระพายก็ไม่ได้จะรู้จักพี่เพชรดีนัก....


แต่อยู่ๆจะให้ไปถามมันก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ใช่ไหม การที่คนเราจะตกลงปลงใจกัน แค่รู้สึกเหมือนกันนั้นไม่พอจริงๆ มันจำเป็นต้องมีความรู้สึกร่วม พระพายนั้นไม่ได้รู้จักพี่เพชรดีเท่าไหร่นัก และตนตระหนักในข้อนี้ได้เพราะเราสนิทมากขึ้น แต่คนหนึ่งคนไม่ได้มีแค่ด้านเดียวให้เรียนรู้ และเพชรพิสุทธิ์ก็มีด้านที่หลบซ่อนไว้ โดยไม่รู้เลยว่าเขาจะยินดีเปิดมันหรือไม่


แม้พระพายจะอยากรู้ แต่คงไม่สามารถไปบอกเขาว่าให้บอกทั้งหมดแม้แต่ด้านมืดที่ไม่อยากให้เห็น พระพายไม่ใช่คนโลกสวย แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าตนมีมุมมืดๆน้อยกว่าคนอื่นถ้าไม่ได้คิดไปเอง และก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนแบบพี่เพชรไม่น่าจะทำเรื่องร้ายแรงจนเกินรับได้ จะว่าไปพระพายก็ไม่มีมาตรฐานของตัวเองเท่าไหร่ คิดว่าถ้าตราบใดมันไม่น่าสะอิดสะเอียนจนเกินไปก็คงรับได้


“……….”  แต่ตอนนี้รับรู้ว่าตนกำลังถูกจ้องมองอยู่


ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่….


“พิตช์มองพระพายอยู่หรือเปล่า”  ทัตนั้นกระซิบบอกเสียงเบา รู้สึกถึงสายตาของเจ้าของชื่อมาสักพัก พระพายพยายามไม่ใส่ใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนร่วมชั้นที่ชื่อพิตช์มองกัน ถามว่ามองกันทำไม พระพายก็คงไม่รู้ และถ้าถามว่าเราเกี่ยวข้องอะไรกัน พระพายก็จะบอกว่าไม่….


ไม่ยุ่งเกี่ยวกันมาตั้งแต่มีปัญหาตอนนั้นแล้ว


พิตช์เป็นเดือนของคณะเรา เขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตมหาลัยของพระพายเริ่มต้นได้ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย มาถึงตอนนี้พระพายก็มีชีวิตที่โอเคขึ้น แต่ก็ไม่มีใครอยากให้เรื่องร้ายๆแบบนั้นเกิดขึ้นซ้ำๆหรอก พระพายไม่ใช่คนโลกสวยขนาดที่กลับไปหาเพื่อนเก่าที่เคยทำร้ายกันได้ อย่างที่เพชรมักพูด เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บและทนต้องไม่ใช่พระพาย!


“มันจะมาไม้ไหนอีกวะ”  จริงๆแล้วพริมพราวก็มีปัญหากับเขาเพราะโดนหางเลขไปกับพระพายตั้งแต่ตอนที่เริ่มสนิทกัน ตอนนั้นพระพายก็กังวลว่าตนจะเสียเพื่อนไป แต่โชคดีที่เพื่อนของพระพายตอนนี้ทุกคนเข้าใจ ทว่าพิตช์ก็ไม่ปล่อยไปและเริ่มปล่อยข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตัวพริมพราวว่าเป็นเด็กเสี่ย ซึ่งพริมพราวไม่ใช่คนแบบพระพายที่จะนิ่งเฉย พริมพราวเอาเสี่ยตัวจริงมาหาเรื่องอีกฝ่ายถึงที่ เธอโกรธมากเพราะผู้ชายที่เป็นเสี่ยของเธอนั้นคือพี่ชายที่อายุมากกว่าสิบกว่าปี จริงๆอายุก็ไม่มากพอจะเป็นเสี่ยได้ ต่พอถูกกล่าวหาว่าเป็นเสี่ยแบบนั้น เจ้าตัวที่ถูกเรียกด้วยสรรพนามที่แลดูแก่กว่าวัยจึงยอมตามน้องสาวมาหาเรื่องด้วย เล่นเอาเพื่อนกลุ่มเก่าพระพายไม่มองหน้าพระพายจนทุกวันนี้ ไม่รู้พริมพราวทำอะไรไปบ้าง


แต่การมีเรื่องกับพริมพราว ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยพระพายไป ก็ไม่รู้ว่าจะอะไรนักหนา ทั้งๆที่ไม่เคยทำอะไรให้แต่พออยู่เงียบๆอีกฝ่ายก็ยังเล่นข่าวปลอมไม่เลิก พระพายเคยได้ยินจากพริมพราวว่าการแกล้งใครคนนึงเพื่อมีเรื่องคุยสนุกๆกันในกลุ่มเป็นเรื่องที่บางกลุ่มโปรดปราน มันไม่น่าเห็นด้วยเลยสักนิดกับการทำลายชีวิตคนอื่นเพื่อหาเรื่องคุยกัน ไม่รู้จะทำอะไรก็ไปวัดเสียซิ อย่างน้อยนั่งสมาธิก็อาจจะช่วยยกระดับจิตใจต่ำๆกันได้บ้าง


จะว่าไปช่วงหลังพระพายก็ติดนิสัยพี่เจนมาไม่น้อย….


เพราะพี่เพชรบอกว่าพระพายควรจะสู้บ้าง และในบรรดาคนทั้งหมดที่พระพายหวังจะพึ่งได้นอกจากพี่เพชรก็คือพี่เจนที่ตอนนี้เริ่มเข้ามาช่วยงานคุณรบในบางโปรเจ็ค พี่เพชรบอกว่าการได้พี่เจนเป็นคนรักสำหรับคุณรบถือเป็นลาภอันประเสริฐแท้เพราะพี่เจนเก่งทั้งงานในบ้านและงานในที่ทำงาน จริงๆแล้วพี่เจนนั้นอายุมากกว่าและทำงานมาก่อนคุณเพชรเสียอีก ดังนั้นพระพายจึงสามารถขอให้พี่เจนเป็นแบบอย่างได้ แต่ช่วงหลังพี่เพชรก็บอกเหมือนกันว่ากับพี่เจนนี่ให้เอาเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่าง


พูดอะไรงงเนอะ ทุกวันนี้พระพายยังไม่เข้าใจเลย….


“เดินมาล่ะ”  ทัตพูดให้พริมพราวได้วอร์มมือเผื่อว่าต้องก่อวอร์ แต่นี่เราอยู่กันใต้ตึกคณะนะ ใครจะมาก่อวอร์กันที่นี่ได้


“หวัดดีพิตช์”  พริมพราวหันไปทักทาย รอยยิ้มไม่จริงใจนั้นส่งกันไปมา พระพายเพียงมองสองปาร์ตี้ทั้งฝั่งเราและเขาด้วยสายตาปกติ


“พระพาย ตอนนี้ได้ยินว่าไปฝึกงานกับรัตนสกุลเหรอ”  พิตช์นั้นใช้น้ำเสียงไม่เชิงเสียงสอง พวกเรารู้โดยอัตโนมัติว่าต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ อย่างไรก็ตามคนทั้งคณะรู้จักพิตช์และพระพายดี ในส่วนพระพาย….ก็จะมีชื่อเสียติดตัวอยู่หน่อย มีคนมาแก้ข่าวให้แล้ว แต่ไม่รู้จะมีคนเชื่อบ้างหรือไม่


“อืม เราว่างน่ะ”


“เนี่ย จริงๆถ้าว่างก็น่าจะมาช่วยงานชั้นปีนะ เราอ่ะยุ่งไปหมด เขาต้องคิดเรื่องรับน้องปีหน้าแล้ว”  คิดกันแล้วเหรอ ว้า…นี่ยังอยู่แค่ปีหนึ่งเองนะ ทำไมมาไวไปไวนักล่ะ


“อืม ถ้ามีเวลาเราจะไปช่วยนะ”


“ว่าแต่เนี่ย เขาจะมีจัดประกวดแต่งนิยายของเอกภาษาไทยอ่ะ พระพายลงด้วยไหม” 


“ทำไมเหรอ พิตช์จะลงเหรอ”  พระพายถามหน้าซื่อ เพิ่งรู้ว่าปีหนึ่งก็ลงได้


“เปล่า เราไม่ลงแล้วเพราะเป็นเดือนคณะไปแล้ว แต่พระพายลงได้นะ อย่างน้อยก่อนจบปีหนึ่งก็น่าจะได้สักรางวัล เอาเป็นรางวัลเรื่องเขียนนิยายเป็นไง แบบตัวเอกเป็นลูกคนใช้ที่หลอกคนอื่นว่าเป็นลูกเศรษฐีอะไรแบบนี้อ่ะ”


“………….”


“อยากได้ใบสมัครก็บอกได้นะ เดี๋ยวเอามาให้ งั้นไปก่อนนะ”  จะไปแล้วเหรอ พระพายยังไม่ได้ปฏิเสธเรื่องประกวดอะไรนั่นเลย ในขณะที่จะเรียกอีกฝ่าย ก็ต้องพยายามกันพริมพราวที่กำลังกางเล็บออกมาในทันควัน พิตช์นั้นยิ้มเยาะก่อนจะหันหลังจากไป พระพายยังพูดไม่จบเลย ทำไมไปเร็วนักล่ะ อย่างน้อยให้ได้แก้ตัวก่อนสิว่าไม่อยากลงประกวดอะไรเลย เรียนเยอะ งานยุ่ง พระพายไม่ได้เก่งแบบพิตช์ที่เที่ยวเล่นทุกคืนและทำกิจกรรมได้ไม่ขาดนี่นา


และพระพายต้องทำเกรดให้ได้เกียรตินิยมด้วยนะ…


“พิตช์!”  พระพายเรียก ว่าแต่เสียงตัวเองดังพอไหม


ก็น่าจะดังพอ เพราะทั้งคณะได้หันมามอง


“มีอะไรเหรอ พระพาย”  อีกฝ่ายยิ้ม คิดแล้วว่าพระพายต้องหาเรื่องกลับ


“เมื่อเช้าไปใส่บาตรมา”  มีข้าว 1 แกง 1 ขนมและน้ำอย่างละ 1


“หืม..”


“กรวดน้ำไปให้ ได้รับไหมอ่ะ” แม่เคยสอนว่าถ้าใครทำอะไรไม่ดีหรือทำให้เราสบายไม่ใจแปลว่าเขาอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา การทำบุญแผ่ส่วนกุศลไปให้ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ที่ร้ายๆดีขึ้นได้ พระพายจึงทำบ้าง และวันนี้ก็อธิฐานมอบให้พิตช์เพียงคนเดียว สบายใจขึ้นบ้างไหม จะได้รู้ว่าที่ทำไปให้น่ะพอหรือยัง?


“………..”


“…………”


“………..”


“ถ้าสบายใจแล้ว เราขอคืนนะ ปากกาเมื่อตอนรับน้องอ่ะ”


“เอ่อ…..”


“มันหาซื้อไม่ได้แล้ว เอามาคืนเถอะนะ”  จริงๆพระพายก็ขอร้องดีๆนะ


ทำไมต้องวิ่งหนีด้วย….


แล้วทำไมคนอื่นๆต้องหัวเราะด้วย พระพายนั้นเห็นทัตกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ ส่วนพริมพราวก็หัวเราะหลุดจริตหญิงงามแบบที่ชอบพูดถึงไปแล้ว เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆใต้ตึกบ้างก็หัวเราะ บ้างก็มองอึ้ง และบ้างก็กลั้นขำเหมือนทัต พระพายก็พลันหน้าแดงและเขย่าแขนพริมพราว พลาดแล้วพระพาย พลั้งพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ความร้ายๆที่คิดดังเกินไปแบบพี่เจนซึมเข้ากระแสเลือดแล้ว เข้าใจคำว่าเอาเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่างของพี่เพชรที่แท้จริงก็ตอนนี้



“โอ้ยต้องมีคนติดแท้กด่าแบบพระพายแล้วล่ะ”  พริมพราวว่าเช่นนั้น


“คิดได้ไงอ่ะ ไปทำบุญให้จริงๆเหรอ”


“งืม มีข้าวแกงขนมและน้ำหนึ่งชุด น้อยไปไหมอ่ะ”


“เฮ้ยทำจริงดิ โอ้ยไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย ฮ่าๆ” นั่นขำหรือจะตาย ทำไมดูทรมาน


“ก็รู้หรอกว่าไม่ควรถามออกไป แต่ตอนนั้นพระพายก็เคืองอยู่อ่ะ อยากด่าแรงกว่านี้แต่นึกไม่ออก เจ็บใจ”  นี่ขนาดด่าไม่ออกนะเนี่ย โดนด่าไปแบบนี้ยังทำตัวไม่ถูก ถ้าพระพายด่าจริงๆไม่ขาดใจตายไปเลยเหรอ ขำจนขาดใจน่ะ เป็นการด่าที่น่าเอ็นดูเกินไป รับไม่ได้ ใจบาง


“เรื่องที่มาชวนประกวดแต่งนิยายอะนะ ดูออกด้วยเหรอว่าเขามากระแนะกระแหนคดีแข่งเดือนแข่งดาวและเรื่องนามสกุลดังเมื่อเทอมที่แล้ว” ทัตถามแทรก พระพายได้แต่หรี่ตามอง


“ดูไม่ออกก็บ้าแล้ว พายไม่ได้ซื่อขนาดนั้น”  เพื่อนทั้งสองตาโต ก็คิดว่าซื่อมาตลอด ไม่รู้จักเหรอ พระพายโค้ดลับ ‘น้องนางเอก’ น่ะ นี่คิดว่าเป็นนางเอกมาตลอด ทำไมกลายเป็นคนแบบนี้ เอ๊ะ หรือเป็นมานานแล้ว


“สายรหัสคนถ่อยของพ่อเพชรต้องภูมิใจอ่ะ” พริมพราวพูด ทัตพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย


“เรื่องนี้ต้องถึงหูพ่อเพชร”


“เธอก็คิดเหมือนฉันใช่ไหมบีสอง”  พริมพราวหันไปถามความเห็น


“จะไปเล่นตลกคาเฟ่เหรอถึงต้องฟ้องพี่เพชร”  แน่ะๆ ร้ายกาจขึ้นทุกวันนะคนเรา


“เราว่าเขาต้องภูมิใจในตัวพระพายมากแน่ๆ”


“ทำตัวนิสัยไม่ดีอย่างนี้อะนะ”  พระพายย้อนถามทัต พระพายว่าที่ทำไปไม่น่ารักเลย แต่ก็ไม่ได้เสียใจมากมายกับที่กระทำไปเท่าไหร่นัก ถ้าสามารถย้อนกลับไปได้ อาจจะพูดไม่ให้มันดูตลกแบบนี้


“ไม่หรอก มันสมควรแล้ว คนแบบนั้นวีนเหวี่ยงแรงๆไปก็ไม่สะทกสะท้าน เผื่อๆอยากให้พระพายหลุดมาดที่คนอื่นเขาเอ็นดูกันอยู่ด้วย”  ทัตว่า และพริมพราวก็เออออ พิตช์คงคิดว่าพระพายคงเหวี่ยงกลับแบบที่คนอื่นทั่วไปทำกัน แต่นี่คือพระพายนะ จะไปคาดหวังอะไรแรงๆแบบปกติไม่ได้หรอก เคยคบกันมาพักนึงนี่ไม่เคยรู้อะไรกันเลยเหรอ?


“………”


“แต่ทำแบบนั้นเราว่าอีกฝ่ายไม่อยู่เฉยแน่ๆ เตรียมตัวไว้เลย”  พริมพราวย้ำอีกครั้ง เมื่อคิดตามก็ต้องหดคอกลับ


“พระพายไม่สู้ได้ไหม”


“แล้วทำอะไรได้บ้างล่ะ” ทัตถาม


“ไปขอคืนคำและยื่นนิ้วก้อยให้แบบนี้” พระพายยื่นนิ้วก้อยให้ ก่อนจะแสดงความย้อนแย้งในตัว “ได้เหรอทัต พิตช์ปาดคอพายแน่” มือที่ยื่นไปนั้นถูกนำมาโชว์ปาดคอตัวเองช้าๆ


“งั้นก็ตั้งรับเท่านั้น”  ทัตจึงเสริม


“ก็คงอย่างนั้น เฮ้ออออ พายไปซื้อของใส่บาตรสักเก้าองค์ดีกว่า”  หรือจริงๆควรจะอุทิศให้ตัวเองดีที่สุด จะได้มีของไว้ป้องกันภัย เห็นทีว่าอุทิศให้อีกฝ่าย ต่อให้หนีไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว พระพายได้แต่ปลงตกท่ามกลางเสียงหัวเราะของผองเพื่อนที่ตลกในความคาดไม่ถึงนี่ เรื่องนี้ต้องถึงพ่อเพชรจริงๆ


พ่อเพชรต้องภูมิใจที่ผลิตมารร้ายขึ้นมาได้อย่างที่เขาปรารถนา….


และเมื่อได้มาเจอกันอีกครั้งในวันเสาร์ พระพายที่เกเรไม่ยอมกลับบ้านก็ต้องมานั่งวุ่นวายใจกับคุณเลขารุ่นพี่ที่บุ้ยปากไปให้ดูว่าเขาซื้ออะไรมาเตรียมไว้ให้ จริงๆเมื่อคืนนี้เขามาถึงที่หอตั้งแต่กี่โมงพระพายก็ไม่รู้เพราะอ่านหนังสืออย่างเดียว ใกล้จะสอบกลางภาคแล้ว และจริงๆก็มีควิซบ่อยๆ เพราะรู้ว่าตนกลับไปอ่านไม่ค่อยได้เท่าไหร่จึงอาศัยอ่านก่อนกลับไปเยอะๆ เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าเขามาทำงานแล้ว และก็อ้างมาขอกลับด้วยซะงั้นเหมือนเดิมในวันเสาร์


“ทำไมไม่ขับรถมาครับ”  พระพายถาม ใบหน้าบึ้งตึง


“ขี้เกียจครับ แฮะๆ” 


“แล้วนั่งรถไฟ ไปต่อแท็กซี่ แล้วขึ้นรถตู้มานี่ไม่เหนื่อยกว่าเหรอครับ”  พระพายไม่อยากจะบ่นเขา ทำอะไรลำบากอยู่เรื่อย แต่ก็ยอมรับว่าดีใจที่ได้เจอ และจะได้เจอกันเต็มๆวันถ้าพระพายกลับกรุงเทพกับเขา


“ไม่หงุดหงิดสิครับ นี่…พี่ซื้อสังฆทานมาด้วยนะ เผื่อพระพายอยากจะไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล”  ข่าวไปถึงหูพ่อแล้วจริงๆ มาถึงก็เล่นประเด็นนี้ด้วยสายตาแบบนั้นก่อนเลย น่าทุบจริงๆ


“ก็ดีครับ งั้นไปรับคุณแม่ด้วยกันนะ จะได้ไปทำบุญด้วยกันไง”  แต่พระพายไม่ต่อความนั้นด้วยและเปลี่ยนประเด็น ถึงไม่อยากไปยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่น แต่แค่นี้คงไม่เป็นไรอยู่แล้วมั้ง


“ครับ ลูกรักของคุณแม่ไพลินว่าไง พี่เพชรก็ว่างั้นครับ”


“เตรียมตัวเป็นหมาหัวเน่าได้เลย”  พระพายว่าเข้าให้ แต่พระพายคงไม่รู้หรอกว่าจริงๆเขาไม่เคยเป็นที่โปรดปรานได้แบบพระพาย


หลังจากไปทำบุญด้วยกันสามคนเขาก็พาแม่กลับไปกินข้าวและส่งที่บ้าน พระพายไม่ได้ถามว่าทำไมเขาถึงกลับไปกับพระพายในวันนี้ แต่ก็สงสัยอยู่ไม่น้อย จะว่าเพราะจีบพระพายหนักมาก มันก็ดูจะไม่ใช่ทั้งหมด หากใครสักคนมาจีบกันและทิ้งแม่ไว้อย่างนั้น พระพายก็คงไม่ชอบ ทว่าท่าทางการแสดงออกของพี่เพชรในระหว่างที่เราอยู่กันสามคนและเมื่อแยกออกมานั้นมันดูแปลกๆชอบกล


ซึ่งพระพายก็บอกไม่ได้ว่ามันแปลกตรงไหน


เขาพูดเล่น สนุกสนาน หยอกล้อเหมือนปกติทั่วไป ทว่ายามที่ผละจากแม่ออกมาแล้ว และเรามาอยู่ด้วยกันสองคน พี่เพชรที่มักจะทำตัวทะเล้นล้นๆจนต้องดุนั้นก็ดูเงียบขรึม อย่างไรก็ตามพระพายก็คิดว่านี่ก็คือตัวตนของเขาอยู่ดี เพียงแต่ว่ามันดู….ไม่คุ้นเคยกับพี่เพชรวันนี้เท่าไหร่ จริงๆเขาก็เป็นมานานแล้ว หรือเพราะพระพายได้สนิมสนมกับเขามากขึ้น จุดสังเกตเลยยิ่งชัดเจน


“วันหลังพี่เพชรไม่ต้องอ้างมาขอขับรถส่งพระพายกลับบ้านหรอกนะครับ อยู่บ้านกับคุณแม่ก็ได้นะ”


“พี่ไม่อยากค้างที่นั่นนานๆ  กลับกรุงเทพวันทำงานมันเหนื่อยเกินไป”


“แล้วพี่เพชรจะกลับหอไปทำไมละครับ”


“ไปหาพระพายและไปเคลียร์งานไงครับ”


“……….”


“ซึมอะไรครับ”


“คุณแม่พี่เพชรบ่นว่าคิดถึงพี่เพชรหนักมาก”


“………”


“พระพายเลยรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ยึดพี่เพชรเป็นของตัวเองแบบนี้ แต่ก็ดีใจที่พี่เพชรอยากอยู่ด้วย”  มันคือความย้อนแย้งที่ต้องเผชิญ ในขณะที่อยากจะเป็นเด็กดี ทำให้คนอื่นๆรัก พระพายก็อยากจะเห็นแก่ตัวและยึดครองเขาไว้คนเดียว


“พี่ยอมให้พระพายรู้สึกผิดนะ”


“………..



“เพราะมันทำให้พี่รู้สึกดี”  พี่เพชรเห็นแก่ตัวกว่าที่คิด และเขาทำให้พระพายรู้สึกว่าการเห็นแก่ตัวไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรเพราะเราก็เป็น พระพายรู้สึกผิดได้…แต่ก็ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ


เพราะเขาจะไม่ให้ความร่วมมือ


เราไม่ได้ตรงกลับบ้านกันเลยหรอก หากแต่แวะมาดูหนังด้วยกัน ในหนึ่งอาทิตย์อาจจะมีเพียงวันเดียวที่เราได้อยู่ด้วยกันแบบเต็มๆก็จริง ทว่าแค่นี้พระพายก็มีความสุข เพราะงานเยอะ เรียนหนัก และมีคนอื่นๆที่เราต้องดูแล วันอาทิตย์ของพระพายจึงต้องอยู่บ้านเต็มวัน แต่ในระหว่างนั้นเราก็แชทคุยกันถึงเรื่องราววันนั้น


ความสัมพันธ์ประมาณนี้มันดีจริงๆ แต่ลึกลงไปพระพายก็โหยหาความมั่นคงบางอย่าง เพราะที่เป็นอยู่มันเหมือนกับเชือกสองเส้นที่พันกันไว้หลวมๆ มันอาจจะขาดออกจากกันได้ง่าย ทว่าพระพายก็ไม่รู้วิธีการขมวดปมให้ตึง ดังนั้นจึงต้องยอมปล่อยให้ความคลุมเครืออันแสนหวานละมุนนี้ดำเนินต่อไป


“เดี๋ยวนี้พระพายติดมือถือเนาะ”  เจนแอบจ้องมานานแล้ว และน้องก็ไม่ได้จะรู้ตัวจนต้องออกปากเตือน…หรือว่าแซว


“อ่า…พี่เจน”


“กับอีตาเพชรเหรอ”  พอพูดชื่อคู่สนทนาอันไกลโพ้น พระพายก็ตกใจลนลานทำตัวไม่ถูก ทำไมพี่เจนรู้ล่ะ บอกไว้เลย…เรื่องตัวเองเจนไม่ค่อยรู้หรอก ซึนเก่ง แต่เรื่องชาวบ้านนี่ต้องได้เกียรตินิยม


“พี่เจนมีไรให้พายช่วยไหม”


“พายช่วยคิดดีๆเรื่องตานั่นได้ไหม” คำเตือนที่มาพร้อมร้อยยิ้มล้อนี่ดูเจตนายากจริงๆ


สำหรับเจน ตาเพชรอะไรนั่นไม่ได้แย่หรอก แต่แถมฟรีก็ไม่เอา คุณรบว่าร้ายแล้ว แต่ตานั่นก็ร้ายเหมือนกัน และเชื่อสิว่าถ้าเพชรเจนเกิดขึ้นจริงๆแล้วล่ะก็ คงต้องมีเผานั่งยางกันตายแน่นอน เจนไม่ชอบคนแบบนั้นเท่าไหร่ ต่อให้รักแค่ไหน…ก็ไม่แน่ใจว่าจะรักพอขนาดที่จะเปลี่ยนคนกะล่อน ให้จริงใจกับเราได้จริงๆหรือเปล่า ตัวพระพายนั้นมีความพิเศษในตัวที่อาจจะสร้างปาฏิหาริย์บางอย่างได้ แต่….ก็ยังน่าห่วงอยู่ดี เพราะปรบมือข้างเดียวไม่ดังจริงๆ


ถ้าตาเพชรไม่ได้รักน้องมากขนาดจะให้ความร่วมมือ
พระพายไม่มีทางเข้าไปในห้องหัวใจชั้นในของอีกฝ่ายได้หรอก


เจนไม่ได้บอกว่าเลขาทุกคนหน้าไหว้หลังหลอกหรือสวมหน้ากากเก่ง แต่ในชีวิตการทำงาน ยิ่งขึ้นสูง หน้ากากยิ่งมาก และไม่ว่าจะเจนรักษ์หรือเพชรพิสุทธิ์ เราดิ้นรนต่อสู้เก่งกันทั้งคู่ นั่นหมายความว่าสิ่งที่ผ่านมาทำให้เรามีของแบบนั้นอยู่ในตัว ซึ่งเจน…ยังไม่ค่อยเห็นคนๆนั้นถอดมันออกมาเท่าไหร่ และเพราะเป็นเช่นนั้น เราจึงเป็นไปได้ยาก มันไม่คุ้มที่จะเข้าไป ก็ไม่ได้รักขนาดนั้น งั้นสู้ไม่เริ่มเลยดีกว่า


ในตอนที่เลขาของคุณรบได้ยินที่เจนคุยกับแฟนเก่าและรู้เรื่องเกี่ยวกับเจนทั้งหมด แววตาของหมาป่านั่นทำให้เจนรู้ว่าเขาคาดหวังอะไรบางอย่างในตัวกัน ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะหวังให้เจนมาคบกับคุณรบแบบนี้ แต่ก็ดูออกว่าอีกฝ่ายหวังใช้ประโยชน์กัน หากจะบอกว่าเพชรคือหมาป่า เจนก็จิ้งจอกนั่นแหละ รู้ทัน แต่ไม่ทำอะไร


เพชรพิสุทธิ์นั้นวางความสัมพันธ์ของตนเองกับผู้อื่นให้มีฐานะทางผลประโยชน์ร่วม เขาเป็นเลขาของคุณรบ สถานะอย่างเป็นทางการคือคนที่จะหวังดีกับเจ้านายตราบที่จะได้รับเงินเดือน เจนมาคิดได้ทีหลังว่าตานี่ทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ ไม่ว่ารูปแบบไหนก็จะตลกกลบเกลื่อนกะล่อนไปเรื่อย ดูได้จากการกำเนิดเรือรบเจนของบ้านรัตนสกุลสิ ถ้าไม่ใช่เพราะเพชรพิสุทธิ์เป็นคนริเริ่ม บางทีเจนกับคุณรบก็ยังไม่ได้คุยดีๆกันหรอก


และมันดีตรงไหนที่เจนกับคุณรบได้กันนะเหรอ? ได้ยินว่าโบนัสรอบนี้มีความพิเศษกว่าทุกปีเลยทีเดียว นอกจากเจนเข้าไปช่วยเรื่องการวางระบบที่บริษัทบ้าง ก็มีการจ้างงานคนใหม่ๆที่เล็งไว้มากขึ้น หลังจากที่คนเก่าๆที่มีอิทธิพลมานานลาออกไปเพราะโดนคู่แข่งซื้อด้วยความไม่พอใจที่คุณนักรบมารักกับเจนและตัดใจเรื่องเมียเก่าได้เด็ดขาด


ผลจากเหตุการณ์นั้น ทำให้คุณรบก็ไม่ทำงานหนักเท่าก่อนเพราะเขาไม่ต้องมาระแวงพวกงูแก่ๆที่จ้องจะฉกกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ และนั่นทำให้งานเลขาก็ลดลงด้วย พวกนั้นไม่รู้เลยว่าคุณรบหาเรื่องให้ออกอยู่แล้ว และเพชรผู้เป็นเลขาที่ดีก็ได้ช่วยหาวิธีที่จะทำให้งานมันง่ายขึ้น โดยเอาหัวใจของเจนรักษ์และนักรบเป็นเดิมพัน


ทั้งนี้ต่อให้เจนกับคุณรบไม่ได้กันจริงๆ  แต่ข่าวลือที่แผ่ออกไปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาของเจ้านายและพี่เลี้ยงก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ศัตรูเป็นฟืนเป็นไฟจนพยายามทำลายเราโดยไม่รู้ว่านี่คือกับดัก เจนอาจจะโกรธที่ถูกกระทำเหมือนเป็นหมากตัวหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะผลตอบรับมันน่าสะใจยิ่งกว่า


ถ้าเป็นเจน…ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงจะทำเหมือนกัน และนอกเหนือจากความต้องการผลงานของตาเพชรแล้ว เจนรู้ว่าทั้งหมดนี้ที่เขาทำไปด้วยความสะใจเหมือนกัน อาจจะโดนผีใส่มาเยอะจนแค้นจัดนับวันรอเอาคืนกลับจนเนื้อเต้นไปหมด ตลกร้ายไหมล่ะ…ตาเพชรพิสุทธิ์คนนี้ที่เจนรู้จัก คนเจ้าเล่ห์พรรค์นี้ จะเอาด้านมุมไหนของตนเองไปให้น้องเรียนรู้…


“พระพายจะระวังครับ”  น้องไม่ได้ใสซื่อขนาดจะตามไม่ทันหรอก แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลา เจนเชื่อว่าน้องคงรู้ตัวอยู่แล้ว ว่ากำลังเผชิญกับอะไร และถ้ามันไม่คุ้มจะเสี่ยงพระพายคงไม่จุ่มเท้าเข้าไปแล้วส่วนหนึ่งแบบนั้น เพชรเองอาจจะร้ายกับคนเป็นร้อยพัน แต่หนึ่งในนั้นอาจจะไม่ใช่พระพายเลยก็ได้ เพราะตั้งแต่สังเกตมา….ท่าทางของเขา ไม่เหมือนที่มีให้ใครเลยจริงๆ


ภายใต้ความอดทนนั่น เขากำลังสร้างอะไรบางอย่างที่มั่นคงอยู่ ในความร้ายกาจเจ้าแผนการทั้งหมดเจนเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับตัวพระพายที่สุด ถ้าไม่รู้สึกอะไรด้วย คนบ้าบางคนคงไม่เฝ้าเหยื่อของตนตั้งนานสองนานโดยไม่จับกินสักทีแบบนี้ ตานั่นไม่น่าป็อดเหมือนคุณรบหรอก….มั้งนะ


อย่างไรก็ตามเจนก็เห็นว่าเพชรนั้นไม่ได้คิดร้าย เขาลดการ์ดของตัวเองลงกับน้อง ในวันที่เขามาขอให้เจนช่วยคุยปลอบพระพายก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแคร์และมีความชัดเจนพอ เมื่อเทียบกับคุณรบในตอนนั้น เพชรดูชัดเจนกว่า แต่ถ้าน้องเรียกร้องขึ้นมา…คนพี่จะมอบให้แค่ไหนกัน เจนนั้นอยากเห็นบทสรุปของสองคนนี้นัก ว่าการที่เพชรพยายามเปลี่ยนโลกทั้งใบของพระพาย


ตนเองจะถูกน้องเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแทน


Talk: ยังเหลืออีกปมเล็กๆสองปมของคู่นี้ที่เรามีแง้มๆออกมาแล้วคนละปมคนปัญหา แต่สุดท้ายเราจะจบดีๆเพื่อเป็นรางวัลคนขยันให้กับพระเอกที่พายเก่งที่สุดในซีรีส์นี้ มีคนเดาด้วยว่าเจนต้องไม่ยอมยกน้องให้ แต่จริงๆเจนใจดีค่ะ จริงๆคือเจนมีลูกชายสองคนต้องดูแล ไม่ว่างมาคอยกีดกันจีงๆ วอนจงเห็นใจ555 เมื่อวันก่อนเราแอบสปอยล์รูปน้องวินในทวิต ในเด็กดี และในเฟซ น้องน่ารักไหมคะ ตอนเห็นครั้งแรกนี่คือกรีดร้องให้ในความน่าฟัด ฮืออออออ ถ้าน้องออกมาเป็นเล่มแล้ว อย่าลืมรับน้องไปฟัดกันนะคะ อย่างไรก็ตาม เพชรพระพายก็จะอยู่ในนั้นด้วย อ่านไปก็อย่ากรอกตาบนบ่อย เป็นห่วงสุขภาพ555


Twitter @reallyuri
Facebook : https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202








ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :heavenเมือมีที่ปรึกษาดีขนาดนี้ พะพาย จะบ้มยักเพรชได้หรือรอติดตามตอนค่อไป 555

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
พายน่ารักมาก วิธีโต้กลับคนใจร้ายก็ยังน่ารักน่าเอ็นดู

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
คือโดนพระพายถามดังๆว่าทำบุญให้ได้รับมั๊ยนี่อยากจะแทรกแผ่นดินหนีเลยนะ เจ็บมากถามแบบใสซื่อ555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องพายยย ด่าแบบนี้เอาน้ำสาดเลยเถอะลูกเอ้ยยยยยย

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 o13 ดีมากน้องพาย.....คนแบบนี้ไปดิ้นใสมันไม่ได้ ต้องตอกกลับแบบคนมีสกุล ด่าเหมือนไม่ด่าไง :laugh: o18

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เจอตัวแล้วคนเต้าจ่าวใส่ร้ายพระพาย แบบนี้น่าให้แก๊งค์สายเทคของคุณพ่อเล่นงานซะจริงๆ

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
เพชรพระพาย
พระพาย ชวนันท์

พระพายก็ไม่คิดว่าตนจะได้ต้อนรับแขกที่ไม่เคยพบหน้าที่ใต้ตึกคณะในวันนี้ และตอนนี้กำลังนั่งงงมากๆเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเด็กแฝดคู่นี้ เราเรียนอยู่ปีเดียวกัน คนละคณะ คนละวิทยาเขต อาจจะเดินสวนกันตอนรับน้องรวมหรือไม่ยังไงก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยด้วยมาก่อน แม้ว่าคนอื่น….บางคนจะคิดว่าเรารู้จักกันแล้วก็ตาม


คณะที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายพลันเงียบเหมือนป่าช้า เมื่อคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนเดินเข้ามาและตรงมาที่โต๊ะนี้ พระพายว่าเคยพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันมาก่อนนะ หรือว่าวันนี้ต้องพูดอีกครั้งให้ทั้งสองคนเข้าใจว่าไม่เคยอยากเกาะพวกเขาดัง แค่เรามีนามสกุลเหมือนกัน แต่เราไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย


“พระพาย ชวนันท์ใช่ไหม”


“ครับ”  พระพายตอบรับเสียงเบา หนึ่งในสองคนนั้นถามมา ใบหน้าติดจะเหย่อหยิ่ง แต่พระพายก็ไม่ได้จะอ่อนให้เสียทีเดียว อย่างไรก็ตามพระพายยึดหลักการในการดำเนินชีวิตในทางสงบ


“นายรู้ไหมว่าเราสองคนคือใคร”  ถ้าเป็นพี่เจนต้องพูดแน่ๆว่าตัวเองยังไม่รู้ แล้วจะมาถามคนอื่นทำไม แต่พระพายทำได้แค่พยักหน้า


“แล้วรู้ไหมว่าทำไมเรามาที่นี่”  วิทยาเขตต่างจังหวัดที่ต้องนั่งรถมาเป็นชั่วโมง พระพายส่ายหน้า แต่คิดดีไม่ได้เลย


“นายมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรารู้ตัวไหม”


“หืม…ถ้ามาเรื่องข่าวลือว่าผมเป็นญาติละก็ ต้องขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนนะ ผมได้พยายามบอกคนอื่นไปแล้วว่าไม่ใช่”


“ไม่ใช่งั้นเหรอ….”  คนหนึ่งย้อนคำพูดพระพาย


“แก้ตัวแล้วด้วย”  อีกคนก็สมทบ จะเอายังไงกันนะสองคนนี้ ต้องทำยังไงเหรอเขาถึงจะพอใจ


“วันนี้เรามาเรียนที่นี่ แต่เดี๋ยวต้องรีบไปแล้ว เอาเป็นว่าติดต่อมาที่นามบัตรนี้ด้วย”  คนหนึ่งได้ยื่นนามบัตรให้พระพาย ทั้งๆที่คำอธิบายอะไรก็ไม่ได้มีเยอะแยะเลย


“เราอยากคุยกับนายมาก เรื่องชวนันท์ เอาเป็นว่าติดต่อมาด้วยล่ะ”  แต่พระพายไม่ได้เห็นความจำเป็นต้องคุยกับเขาเลยสักนิดเพราะตั้งแต่เกิดมาพระพายก็ไม่ได้รู้จักชวนันท์เลย โลกเล็กๆของพระพายมีแต่คนที่พระพายล้วนรู้จักแล้วทั้งนั้น จึงไม่เคยสนใจมาก่อน ทว่าดูเหมือนคนอื่นจะให้ความสนใจกับการที่สองพี่น้องนั้นมาหากัน ทุกคนดูมีคำถามมากมายยิ่งกว่าตัวพระพายเองเสียอีก และเพราะไม่รู้จะจัดการยังไง คนเดียวที่หวังพึ่งได้ก็คงจะมีแค่เขาคนนั้น


คนที่พระพายใช้เวลาก่อนนอนมาบอกราตรีสวัสดิ์
และเฟซไทม์หากันบ่อยครั้งหลังอาบน้ำ


“………..”


“เขาให้นามบัตรมาด้วยอ่ะ”


“นามบัตรของเขาเหรอครับ”  เพชรถาม สองคนนั้นยังเป็นแค่เด็กอยู่ไม่ใช่หรือไง


“ฮึ…นามบัตรของบริษัทอ่ะ ตำแหน่งเดียวกับพี่เพชรเลย”  เป็นเลขา แต่เลขาของใครกันละ


“พระพายถ่ายรูปนามบัตรส่งให้พี่ดูหน่อยได้ไหม”


“ไม่เอาอ่ะ นี่ไม่ใช่งานของพี่เพชรนะ พระพายแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ เหมือนเล่าให้ฟังว่ากินอะไร”


“โหหหหหหห ต่อมเสือกพี่กระพือไปหมดแล้ว ถามจริงเรื่องมันเล่นใหญ่ขนาดนั้นเอาไปเปรียบเทียบกับอาหารกลางวันได้เหรอครับ”  เพชรทั้งขันทั้งเอ็นดู พระพายไม่อยากให้เขามานั่งลำบาก แต่เล่าให้ฟังแบบนี้ใครมันจะไปอดใจได้ นี่ใคร…เพชรพิสุทธิ์เลขาคุณรบไง ที่เสือกจนเจ้านายได้เมียแต่ตัวเองยังหาเมียอยู่ ให้ตายเหอะทำไมพระพายทำเหมือนไม่รู้จักเขาเลย จริงๆน้องอาจจะรู้จัก แต่ไม่อยากใส่ใจเรื่องสันดานส่วนตัวนั้นก็เป็นได้


“ก็มันไม่ใช้งานพี่เพชร เรื่องส่วนตัวของพายมันวุ่นวาย”


“แล้วไม่อยากให้พี่เขาไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเหรอครับ”


“……”


“มันไม่ใช่งานนะรูก พี่เพชรอยากมีส่วนร่วมตั้งแต่พระพายเกิด เข้าโรงเรียน สอบติดมหาวิทยาลัย งานรับปริญญา”


“อย่ามาพูดว่าวันตายด้วยนะ”


“พี่คงตายก่อน” เพราะอายุมากกว่าและปากหมาด้วย อาจจะตายก่อนจริงๆ


“……”


“อยากมีส่วนรวมในวันแต่งงานอ่ะได้ป่ะ”


“บ้า” 


“แหม ทำเป็นเขิน เราอาจจะอยากไปเป็นแขกหรือคนกล่าวบนเวที”


“พี่เพชรไม่น่านับถือพอจะเป็นประธานในงานของพายหรอก” ปากดีนะเด็กน้อย


“ใครบอกจะเป็นประธาน จะเป็นเจ้าบ่าวตะหาก”  น่ะๆ  อย่าท้า เดี๋ยวไปขอกับแม่แล้วจะหนาว พระพายไม่ต่อความเรื่องนี้และยินยอมส่งนามบัตรให้เขาแต่โดยดี


“เอาไปแล้วห้ามเอาไปบอกใครนะ”


“พี่ไม่บอกหรอก แต่พระพายควรคุยกับแม่นะ”


“………..”


“พี่เพชรก็ไม่อยากจะบอกว่าติดละครหลังข่าวเหมือนกัน แต่ว่ามันน่าสงสัยไหม”


“พาย….กลัว”


“ความจริงบางเรื่องเราเลี่ยงจะกลัวไม่ได้หรอกครับ แต่ไปถามแม่ดู แม่อาจจะตอบกลับมาว่าเพ้อเจ้อก็ได้”


“พายก็อยากจะเพ้อเจ้อ แต่เอาจริงๆก็กลัวอะครับ”


“งั้นพี่เพชรไปเป็นเพื่อนไหม ยังไงพระพายก็เอาแม่พี่ไปแล้ว พี่ไปเจอแม่น้องบ้าง แฟร์ดี”  ก็เหมือนจะแฟร์แต่พระพายก็ว่ามันทะแม่งๆ ชัดเจนกว่าเจนรักษ์ก็ดูจะเป็นเพชรพิสุทธิ์นี่แหละ รักจริงหวังแต่งขนาดไหน ถ้าก้าวพลาดไป รับรองว่ารัตนสกุลได้เฉือนระบบสืบพันธุ์หลักของเขาแน่นอน นี่ใจๆแค่ไหนจะเดินเข้าไปหาในบ้านนี่ ฝากให้น้องได้คิสนิสนึงว่าเขาเอาจริง


“จะดีเหรอครับ” ดีสิ…มันต้องดีอยู่แล้ว


ก็บอกแล้วไงว่าอยากอยู่ร่วมในทุกโมเมนท์ของชีวิต….


ถ้าจะพูดว่าชีวิตที่ผ่านมาของเพชรพิสุทธิ์นั้นเคยจริงใจกับใครเท่านี้หรือไม่ ดูหน้าด้วย หล่อๆแบบนี้มีหรือว่าจะเป็นมิตรต่อทุกคนบนโลก เขาเลือกที่รักมักที่ชังได้ดี และก็ไม่ได้ปิดเรื่องที่มีนิสัยแย่ๆหลบในแบบนี้ เขามีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตคนเดียว แต่การได้มาหวานเลี่ยนแบบหวังผลใส่ลูกของแม่บ้านบ้านของเจ้านาย เขาก็หวังผลประโยชน์เช่นกัน


และนั่นคือเหตุผลที่เขากับพระพายมาที่บ้านรัตนสกุลในวันเสาร์ เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำแน่นอน และเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของน้อง เขาจึงเสนอแนะว่าควรจะคุยกับแม่ก่อน แต่แม่จินของพระพายเป็นคนดุและไม่ยอมใครง่ายๆ การมีเขาอยู่อาจจะช่วยทำให้เกิดความเกรงใจในระดับหนึ่ง แต่น้องก็ยังกลัวอยู่ดี เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้….ถ้ามันหนักหนามาก ก็หนีตามกันได้เลย ค่าสินสอดจะได้ไม่ต้องเสีย (ผิดส์และมีโทษถึงตาย)


“…………”


“แม่จ๋า…..”


เพชรเป็นคนพูดเรื่องนี้แทนน้องเพราะพระพายมิอาจจะอ้าปากพูดอะไรออกไปได้ ไม่ใช่ว่าพระพายจะไม่สงสัย ทว่าน้องยังหลอกตัวเองเก่งพอตัว ในส่วนเขาที่เหมือนจะเสือกเรื่องครอบครัวคนอื่นเก่งนั้น น้าจินได้ทราบแล้วว่าเขานั้นคิดกับลูกชายอย่างไรและไม่ได้กีดกัน ดังนั้นการปรากฏตัวมาเจ้ากี้เจ้าการประหนึ่งพระพายเป็นลูกของตัวเขาเองนั้น จึงไม่ถูกรังเกียจแต่อย่างใด ทว่าอย่างที่คิดไว้ว่ามันมีเงื่อนงำ ไม่เช่นนั้นคนปากไวอย่างจินตนาน่ะหรือ จะเงียบเช่นนี้


“พายไม่รู้ก็ได้นะแม่ เรามาลืมๆกันนะ”


“พวกเขาบอกว่าจะกลับมาหาเอ็งไหม” 


“เขาบอกว่าให้ติดต่อมาให้ได้นะจ้ะ”


“แม่ไม่อยาก…ให้เอ็งไปเกี่ยวข้อง”


“แต่ทางชวนันท์ไม่น่ายอมนะครับ”  เพชรเอ่ยปากออกมา ตอนนี้เราอยู่ที่ห้องทานข้าวของบ้านคุณรบ นั่งคุยประหนึ่งยึดบ้าน และเหมือนเราเด็กสองคนจะกดดันคนที่มีความอาวุโสมากสุด เพชรอาจจะอยากรู้จนเนื้อเต้น แต่ปล่อยมันเต้นไป วุฒิภาวะเขามีมากพอจะยับยั้งชั่งใจ และนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพระพายที่เกี่ยวข้องกับแม่ เขาคงเข้าไปยุ่มย่ามอะไรไม่ได้อยู่แล้ว


“……….”


“คุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้ไหมครับน้าจิน”  เพชรถาม เพราะถ้าหากฝั่งนั้นเขามาวุ่นวายกับทางผู้ใหญ่ของรัตนสกุล สู้คนในเป็นฝ่ายบอกก่อนไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่เสียน้ำใจกัน


“คุณหญิงท่านพอรู้เรื่องแต่น้าก็ไม่อยากรบกวนท่านหรอกนะ”


“ไม่ต้องไปรบกวนหรอกครับ ผมแค่กังวลว่าถ้าเขาติดต่อมาที่คุณรบหรือคุณหญิงท่าน จะเสียน้ำใจกันเปล่า”


“…………..”


“ผมในฐานะเลขาอาจจะไม่สามารถกันอะไรตรงนั้นได้ ผมเลยแค่เสนอไอเดียเฉยๆ ยังไงน้าจินลองทบทวนดูก่อนก็ได้ครับ”  พระพายนั้นเงียบไปแล้ว ดูท่าจะใจเสียเพราะสีหน้าของแม่ แม้ว่าน้องจะไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจอะไรเลย


ในที่สุดเราก็ได้ข้อสรุปโดยการไปบอกเรื่องนี้ให้นายใหญ่ของบ้านทราบ และเพชรก็เนียนกินข้าวเย็นต่อที่บ้านรัตนสกุลอย่างที่ไม่ได้มีนัยแดกฟรีซ้อนเร้นแนวๆนี้ในหัวมาก่อน


“อืม”  หลังจากที่รับฟังเรื่องราวจากเพชรฟีจเจอร์ริ่งพระพายแล้ว ท่านก็ทำเพียงถอนหายใจออกมา ตอนนี้สองแม่ลูกได้ตัวลีบลงเหลือเท่ามดแล้ว เพชรยังคงบีบมือพระพายให้กำลังใจ บอกแล้วว่าพี่เลี้ยงได้ พี่จะพาน้องหนีเอง


“คุณเพชร”  แต่นางร้ายของเรื่องก็ขัดจังหวะ


“ครับ คุณเจน”


“มืออ่ะ….ไม่ต้องจับตลอดก็ได้นะ น้องไม่หนีไปไหน ไม่ต้องเครียด”  ไม่ได้เครียดแต่หลอกแต๊ะอั๋ง บนโลกนี้ไม่ต้องมีคนแบบเจนรักษ์ก็ได้นะ คือลวนลามคนอื่นเก่งจนรู้ทันชาวบ้านเขาไปหมดแบบนี้ เพชรเองก็กะให้กำลังใจไง เจนก็คิดมากน้า พระพายสลัดมือเขาออกมาอย่างไม่ใยดี ใบหน้าซีดๆของน้องพลันเจือด้วยสีแดง ดวงตากลมเหมือนลูกกวางนั้นหลบตาคนพี่จนต้องเสมองพื้น ส่วนตาคนมักมากก็ได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อนให้คุณหญิงและคุณรบ


“ก็ติดต่อเขากลับไป”


“แต่คุณหญิงคะ”  จินตนาจะร้องท้วง


“ลูกโตแล้วจินตนา เราเลี้ยงเขามา เรารู้ว่าเขาจะคิดยังไง”


“………”


“ไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก เพราะเราจะส่งคนที่เลวร้ายกว่าไปช่วยงานด้านหน้า” 


“ใครเหรอครับ”  เพชรถาม คนที่ชั่วร้ายที่ว่านี่หรือจะเป็นคุณเจน ก็ดีนะ คุณเจนดูคล่องตัว ปากจัด แซะเก่ง รู้ทันชาวบ้าน


“เลขาตารบ ชื่อนายเพชรพิสุทธิ์ ชั่วร้ายและกะล่อนที่สุดเท่าที่ชาตินี้ฉันเคยเจอ”  สาบานว่านั่นคือคำพูดของคุณหญิงพรรณี เพชรได้แต่ยิ้ม บอกไม่ถูกว่ารู้สึกขมหรือหวาน พระพายเหลือบมองหน้าคนที่เสนอมือยื่นมาแต่ต้น ทั้งๆที่บอกว่าไม่อยากให้เขามาข้องเกี่ยวเพราะมันไม่ใช่งาน แต่ในที่สุดก็มีคนประทานงานให้แล้ว และน่าแปลกใจไม่น้อยที่เขายินดีจะทำมัน….


มากกว่างานเอาแก้วกาแฟที่ไม่ได้กินของคุณรบไปเก็บด้วยซ้ำ….


“แต่ว่ามันรบกวน”  พระพายพูดออกมา อย่างไรเด็กดื้อคือเด็กดื้อ


“ไม่หรอก ต่อให้ไม่ทำคุณเพชรก็ต้องแอบไปทำอยู่ดี ผมว่ารู้จักเลขาผมดี”  ซึ้งใจคุณรบจริงๆที่รู้ทัน แต่ใช่แล้ว ยังไงก็จะทำ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะชอบเสือกใช่ไหม นั่นก็ส่วนหนึ่ง….แต่เขาไม่ได้อยากรู้เรื่องน้ำเน่าๆของทุกคนบนโลกซะหน่อย


แต่เรื่องน้ำเน่าของพระพายมันหอมเหมือนกลิ่นดอกไม้ต่างหาก….


“เป็นเลขา โดนแบบนี้มาต้องทำยังไงรู้ใช่ไหม ไปทำซะ”  คุณหญิงเน้นย้ำ และเมื่อได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ สองแม่ลูกผู้หน้าบางจึงไม่มีเหตุผลที่จะอ้างปฏิเสธอะไรได้อีก จินตนานั้นเช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหลออกมา พระพายใจเสียไม่น้อยที่เหมือนตัวเองเป็นคนเอาเรื่องหนักใจมาให้ครอบครัว แต่เมื่อมองไปที่คนข้างๆซึ่งตอนนี้ไม่ได้จับมือกันอีกแล้ว รอยยิ้มของเขาก็ทำให้น้องได้รู้ว่าต่อให้ไม่ได้จับมืออยู่จริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน


“มันจะโอเคครับ”  และเขาก็จะทำให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ


เพราะตัวร้ายเช่นเขาเทิดทูนนางเอกของเรื่องนี้กว่าใคร…..


และเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างเป็นมืออาชีพ ยิ่งกรณีถูกผลักดันให้ทำอย่างเป็นทางการ เขาจึงติดต่อไปที่เลขาของทางนั้นในฐานะเลขาของคุณรบที่ติดต่อมาด้วยเรื่องส่วนตัวของคนในบ้าน รัตนสกุลรักพระพายของเขามาก อาจจะมองเห็นเป็นลูกหลานคนหนึ่งเลยก็เป็นได้ ทั้งนี้เขาเข้าใจเจตนาของคุณหญิงดี เพราะเราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาดีหรือมาร้าย คนสมัยนี้ดูให้รู้ใจกันก็ยาก การมาในฐานะของรัตนสกุลเป็นการประกาศชัดว่าสองแม่ลูกนี้อยู่ในการดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นจะเล่นแง่อะไรย่อมทำไม่ได้ง่าย และเมื่อติดต่อไปอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา


และเราก็ได้ข้อตกลงในการเข้าพบกันอย่างเป็นทางการ


“…….”  พระพายนั้นดูตื่นเต้น แน่นอน น้องยังเด็ก ส่วนแม่นั้นไม่มาเพราะไม่พร้อมจริงๆน้องจึงต้องมาแทน


“ตื่นเต้นเหรอครับ”  เราอยู่กันที่ห้องอาหารที่ถูกจองไว้ บางทีเขาก็จองให้คุณรบเพื่อประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับลูกค้าบ้างเช่นกัน พระพายนั่งเงียบ นั่งเฉยๆดูเหมือนปกติแต่เขาดูออกว่าน้องนั้นตื่นเต้น


“ก็…งืม”


“เป็นผู้ใหญ่แล้วน้า”


“แล้วตื่นเต้นไม่ได้เหรอ”  น้องจะร้องไห้แล้ว ดูสิเบะใหญ่เลย โอยยย อยากปลอบแต่ก็อยากจะทำให้ร้องเอง สับสนกับตัวเองชิบหาย บ้าไปแล้ว!


“ได้ครับ แค่จะบอกว่าวันนี้โตแล้ว เก่งแล้ว ไม่ร้องไห้”  สุดท้ายก็อวย ผู้ชายสไตล์พ่อที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูที่แท้ทรู ต้องได้ไปเป็นเขยอ่ะ ดีขนาดนี้ต้องได้ไปเป็นเขยแล้วจริงๆ


“พี่เพชร….”  อย่าเบะสิลูก เดี๋ยวศีลแตกจับแกล้ง


“พระพายเชื่อพี่นะว่ามันต้องผ่านไปได้”


“อืม”


“ถ้าพระพายทำดีพี่พาไปเลี้ยงบิงซู”


“แล้วถ้าพายทำไม่ดีอ่ะ”


“จะพาไปกินหมูกระทะปลอบใจ”


“……….”  คือยังไงกูก็จะพาไปอย่างนี้ใช่ไหม?


“แต่พี่เชื่อว่าพระพายทำได้อยู่แล้วครับ”


“พี่เพชร”


“งั้นวันนี้ไปกินบิงซู และอาทิตย์หน้าพี่พาไปกินหมูกระทะ อืม..ใช่ได้”  คิดเองเออเองชงเอง พระเอกนิยายเรื่องนี้เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว เจนไม่นกยังต้องมีชิปเปอร์ แต่นี่พระเอกคือใคร พายมาเองตั้งแต่ต้นเรื่องให้รู้ไว้ด้วย บอกแล้วว่าไม่เคยนก เพราะฮาร์ดเซลล์ยิ่งกว่าพระเอกเจนไม่นกไงเล่า!


การพบกันของเราสองฝั่งถูกดำเนินไปอย่างเป็นมืออาชีพ และในตอนนี้เรื่องที่พวกเราได้ยินมาก็ถูกยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ฝันหรือพลอตละครน้ำเน่าที่ไหน พระพายไม่ใช่แค่ลูกคนใช้บ้านรัตนสกุล หากแต่ยังพ่วงตำแหน่งลูกชายของหนึ่งในทายาทของตระกูลชวนันท์ที่ร่ำรวย น้องนิ่งเงียบ ปล่อยให้ตัวแทนของตนซึ่งคือพี่เพชรเป็นผู้พูด ไม่ใช่ว่าน้องไม่มีคำถาม แต่สถานะใหม่ที่ตนได้รับมานี้มันทำให้พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้คงต้องมีแต่ความเชื่อใจในตัวเขาแล้ว เพราะพระพาย….ไม่สามารถรับรู้ได้อีกต่อไป


“เนื่องด้วยคุณท่านใหญ่นั้นอายุมากแล้ว เลยมีความประสงค์อยากจะพบคุณพระพายสักครั้งนะครับ” คุณท่านใหญ่หรือคุณปู่ของพระพายนั้นอยากเจอกัน แต่ตลอดที่ผ่านมา พระพายไม่เคยได้ยินหรือรับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาเลย เขาเอง….รู้หรือไม่ ว่าพระพายมีชีวิตมาสิบกว่าปีแล้ว และทำไมต้องเป็นตอนนี้?


“ทางผมขอสอบถามหน่อยได้ไหมครับ ว่าทำไมถึงรู้ว่าคุณพระพายเป็นใครอยู่ที่ไหน”


“จริงๆต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่าตอนที่คุณจินตนาอุ้มคุณพระพายหนีออกจากบ้านไป ทางเราไม่มีใครรู้จริงๆ ทางคุณวุฒิชัย….คุณพ่อของคุณพระพายเองก็ดูเหมือนจะมีการตกลงกับทางคุณจินตนาเอาไว้จึงไม่มีการไปพบ แต่เท่าที่ทราบคือคุณวุฒิชัยมีการส่งเงินทองมาให้ใช้บ้าง”  จริงๆแล้วแม่ของพระพายติดต่อกับพ่อมาตลอด เงินที่พระพายใช้ไปนั้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากคนเป็นพ่อก็เป็นได้ เด็กหนุ่มก้มหน้าลง มือเล็กกำแน่น ก่อนจะเงยหน้ามาและมองตัวแทนทางฝั่งพ่อของตนพูดต่อไป


ว่าทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้….


“จริงๆแล้วเพราะคุณพัดและคุณภามที่บอกเราว่าเจอคุณพระพาย”  พัดและภาม นั่นคือชื่อของฝาแฝดที่เป็นคนยื่นนามบัตรมาให้ อาจจะเพราะความฉาวของพระพายที่คนลือกันผิดๆว่าเป็นคนของตระกูลชวนันท์ จึงทำให้เขาตามตัวกันเจอ ใครจะไปรู้ว่าเรื่องตลกร้ายในวันนั้นจะกลายมาเป็นเรื่องจริงในวันนี้ พระพายเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกเขาจริงๆ


“ขอบคุณสำหรับวันนี้ครับ ยังไงทางเราคงต้องเอาเรื่องนี้กลับไปพูดคุยกันอีกที ถ้ายังไงผมจะติดต่อกลับไป”  เพชรนั้นกล่าวปิดบทสนทนาให้เพราะเขารู้ว่าน้องอาจจะไม่ไหวแล้ว และเพราะยังไม่รู้จักอีกฝ่ายดี เขาจึงไม่หวังให้พระพายแสดงความอ่อนแอ สำหรับเขาแล้วน้องจะอ่อนโยนกับศัตรูได้เพราะเขาแข็งพอที่จะต่อกร แต่พระพาย….จะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด


“ถ้ายังไงทางเราอยากให้คุณพระพายได้ไปเจอคุณท่านใหญ่จริงๆ ช่วยเห็นแก่ท่านด้วยเถอะนะครับ”


“………….”


“คุณวุฒิเธอปิดเรื่องของคุณไม่ให้ท่านรู้มานานแล้ว ท่านรอคุณมาหลายปี ได้โปรดไปเจอสักครั้งเถอะครับ”  แล้วทำไมคุณวุฒิอะไรนั่น ถึงต้องปิดเรื่องของพระพายไม่ให้คุณท่านใหญ่ตามเจอล่ะ ปริศนาตรงนี้พระพายไม่เข้าใจจริง


ว่าพ่อของพระพายนั้นประสงค์ดีหรือร้ายกันแน่…..


ไม่มีบิงซูสำหรับรางวัลคนเก่ง แต่เป็นพระพายที่นั่งกอดแก้วน้ำในรถของเพชรพิสุทธิ์ น้องยังคงนิ่ง ไม่พูดไม่จา และเขาก็ไม่ได้ก่อกวนอะไร วันนี้มันหนักหนาสำหรับเด็กที่กำพร้าพ่อมาทั้งชีวิตคนหนึ่ง ทั้งๆที่พระพายไม่เคยขาดเพราะคนรอบข้างให้มาตลอด มันจึงทำให้พระพายไม่เคยมีความต้องการในตัว ‘พ่อ’  มาก่อน และในวันนี้เมื่อ ‘พ่อ’ มีตัวตนขึ้นมาในชีวิตพร้อมเครือญาติคนอื่นๆที่ไม่เคยคิดว่าจะมี น้องจึงสับสน ไปไม่ถูก และสิ่งที่แสดงออกมามันมีแต่ความเงียบงัน เพื่อยืนยันว่าพระพายกำลังคิด….ไปเอง


“หรือว่าเราจะกลับบ้านรัตนสกุลกัน”  เพชรถาม น้องนั้นส่ายหน้า ความจริงอยู่กับปากแม่ แต่พระพายยังไม่แน่ใจว่าอยากรู้เลยหรือไม่ ทั้งๆที่วันหนึ่งก็จะได้รู้ แต่วันนี้มันกะทันหันไป ใจ….ไม่พร้อม…..


“พายยังไม่อยาก….กลับ”


“แล้วไปไหนดี ห้องพี่ไหมล่า….”  ความพยายามพูดเล่นของเขาดูจะไม่เป็นผล ถ้าเป็นปกติ พระพายต้องหันมาฟาดงวงฟาดงาใส่แล้วทั้งๆที่ตัวเล็กเท่ากระต่ายในมือ ทว่าน้องกลับนิ่งไม่รับมุก เฮ้อ….ตานี่นี่ไม่เคยรับมือกับความเครียดของน้องได้เลยจริงๆ


“ไปห้องพี่เพชรก็ได้ครับ”


หะ!


“พาย….อยากพักก่อน”  ที่พูดมานี่คิดหรือยัง คิดสิคิด! ให้โอกาสโทรหาเจนรักษ์เพื่อปรับทัศนคติก่อนได้นะ!


“แน่ใจนะครับ”  เปิดโอกาสแล้วจริงๆแต่มือนี่สตาร์ทรถแล้วล่ะ


“อื้อ”


“พร้อมเป็นของพี่เพชรแล้วเหยอ”


“พายแค่หิว”  แงงงงงง อย่าเพิ่งเต๊าะพระพายตอนนี้!


“พี่ตัวใหญ่ กินอิ่มแน่นอน”  นี่ไงเป็นคนแบบนี้ไง เดี๋ยวก็กัดจริงให้จมเขี้ยวเลย ทำไมเก่งเรื่องทำให้เครียดและระอาไปได้พร้อมๆกันแบบนี้


“พี่เพชร…..”


“ครับๆ พี่รู้กาลเทศะดีน่า แต่ไปห้องพี่จะดีเหรอ”


“พายหิว อยากกินข้าว  แต่ไม่อยากไปนั่งที่ร้าน รำคาญเสียงคน”  และไม่อยากกลับบ้านรัตนสกุลตอนนี้ ยังไม่พร้อมเจอใคร


“พาไปบ้านก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณหญิงพรรณีเล่นงานพี่ พระพายต้องช่วยนะ”


“ช่วยยังไงครับ”


“ช่วยรับผิดชอบพี่ ยกขันหมากมา โอ้ย!”  สักทีเหอะ หมั่นไส้ไม่ไหวแล้ว


“พี่เพชรไม่เล่นดิ พายเครียด”  ก็รู้หรอกว่าที่เล่นอยู่นั่นเพราะอยากให้หายเครียด เขาจึงปั้นหน้าขรึมจริงจังขึ้นมาและขับรถออกไป พระพายมองเขาเพลินๆและก็ยิ้ม วันนี้เขาทำเพื่อพระพายได้ดีมาก ในความหดหู่และวุ่นวายใจกับข่าวสารใหม่ๆเกี่ยวกับชีวิตตนเองที่ไม่เคยรู้นั้น การมีอยู่ของเพชรพิสุทธิ์อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้หายเครียดได้เลย แต่มันก็ไม่ได้ไร้ความหมายเสียทีเดียว


“แวะซื้ออะไรเข้าไปกินดี”


“แล้วแต่พี่เพชรเลยครับ”


“งั้นกลับไปห้องแล้วสั่งไลน์แมนมาส่งละกัน บอกแม่ไว้นะว่าจะกลับบ้านดึก เดี๋ยวที่บ้านห่วง” พระพายยิ้มรับกับคำสั่งของเขา การมีอยู่ของพี่เพชรวันนี้มีค่ากับพระพายมาก ท่ามกลางคลื่นลมที่โหมกระหน่ำถาโถมมาตลอดปีนี้ เขาอาจจะไม่ใช่ทุกอย่างที่ตอบโจทย์หรือนำพาปัญหาออกไปจากตัวพระพายได้ทั้งหมด


แต่เขาก็พยายามช่วยเหลือกันมาตลอด เป็นดั่งแสงสว่างในความมืดมิดของคนที่พยายามจะแข็งแกร่งด้วยตนเองคนเดียว วันนี้พระพายรู้แล้วว่าตนผ่านมันไปได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคแบบไหน จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องมีเขาอยู่ในทุกโมเมนท์ของชีวิตตนเองจริงๆ แต่การอยู่บนโลกที่โหดร้ายกับใครสักคนที่เป็นเสาหลักให้ในบางทีแล้ว


ในที่สุดพระพายก็รู้ว่าที่ตรงไหนจะสามารถพักพิงเพื่อที่จะกลับมาสู้ใหม่ได้อีกครั้ง….


Talk : จริงๆในพลอตละครทั่วไปชาติกำเนิดจะเป็นอะไรที่เปราะบางที่สุด แต่นายเอกซีรีส์นี้เป็นอะไรที่ไม่อินละครสุดๆ ไม่มีความดราม่าแฝง อยากให้น้องเป็นอะไรก็เป็นอันนั้นอะแหละ555 แต่จากนี้คิดว่าเรื่องจะเข้มข้นขึ้นเนอะ หลังจากต๊ะตอนยอนตามแบบรบเจนหวานเย็นมานาน ใกล้จบแล้วเช่นกัน แต่ดราม่าสั้นๆแบบแค่อึดใจ เรามั่นใจว่าไม่หน่วงนานเท่าเจนไม่นก ช่วยดูหน้าพระเอกเรื่องนี้ด้วย5555

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2018 23:09:29 โดย skylover☁ »

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ทำไมเราทำใจลำบาก  ใจนึงก็สงสารน้องไม่อยากให้หน่วง ใจนึงก็อยากให้มีซีนดราม่าประเภทให้อิตาเพชรช้ำใจบ้าง ถถถถถ...หลงรักน้องแต่หมั่นไส้อิตาเพชร 5555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โถ่วรูกกกกก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อิเพชรมันจัดการได้อยู่แล้ว ปัญหาดราม่าต่างๆต้องกระเจิง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ที่ว่าปู่อยากเจอนี่เป็นเพราะจะยกทรัพย์สินอะไรให้รึเปล่าเพราะก็ถือว่าเป็นหลานเหมือนกัน ถ้าเป็นจริงก็เชื่อว่าพระพายคงไม่รับหรอกเพราะน้องก็เป็นของน้องแบบนี้ อาจจะแค่รับรู้ว่าตัวเองเป็นใครยังไงแต่น้องก็คงเลือกอยู่กับรัตนสกุลอะแหละ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้องพายรูกกกกกกกกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด