พิมพ์หน้านี้ - เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: skylover☁ ที่ 10-06-2018 21:13:35

หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 10-06-2018 21:13:35
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
หัวข้อ: Re: [บทนำ] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 10-06-2018 21:19:12
เ จ น ไ ม่ น ก




ขอให้โลกนี้ไม่มีความนกอีกต่อไป
ด้วยรักจากเจน*





((เนื้อเรื่องแบบย่อมากเลยทีเดียว))

เรื่องของเจนที่เริ่มต้นด้วยความนก
และจบลงที่ความรัก







และขอฝากผลงานสองเรื่องที่จบแล้วในบอร์ดนี้หน่อย

lเรื่องสั้นจบแล้วl เรื่องเล่าในวันศุกร์ที่ฝนตกหนัก (ณวัฒน์xธรณ์)
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67038.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67038.0)


lเรื่องสั้นจบแล้วl ช่อดอกไม้และ20cmของเรา (กานต์xฐา)
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66964.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66964.0)


lเรื่องสั้นจบแล้วl 'คนเดิม' (เพชรxลูกตาล)
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66617.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66617.0)


lเรื่องสั้นจบแล้วl Delicious kiss (Akira and Navin) l Creme Bulle's kiss
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67217.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67217.0)


lเรื่องยาวยังไม่จบl ☼ ☽ เมื่อทินกรลับฟ้า ยามจันทราดับแสง (mpreg) ☼ ☽ #อาทิตย์ศศิ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67216.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67216.0)









บทนำ
#เจนไม่นก
เวลคั่มคนนกสู่ประเทศบางกอก















ท้องฟ้าของกรุงเทพมหานครไม่เคยมืดครึ้มได้ขนาดนี้มาก่อนในความรู้สึกของเจนรักษ์….

 

 

ครืน…….เปรี้ยงงงงง!!!!!!!

 

 

แต่ฟ้าไม่ต้องประทานสายฟ้าฟาดลงมาหรอก ก็แค่บ่นในใจเฉยๆไม่จริงจัง…นะจ้ะ….

 

 

ชีวิตของเจนรักษ์ที่พ้นพานเบญจเพสตามความเชื่อของคนไทยมาสักพักแล้วยังมีขาลงได้มากกว่านี้หรือไม่ หรือจริงๆแล้วยังสามารถซวยได้ยิ่งกว่านี้ และเรื่องซวยล่าสุดก็คือการได้ลากกระเป๋าตากฝนมาเช็คอินที่โรงแรม ทั้งๆที่กะเวลาแล้วว่ามาบ่ายๆฟ้าคงไม่มืดนัก แต่อะไรๆที่ไม่ค่อยจะได้ดั่งใจในช่วงนี้ก็ดลบันดาลให้ฟ้ามืดครึ้มด้วยฝนและฟ้าร้องต้อนรับการกลับมาในรอบสิบกว่าปีอย่างอบอุ่นจนหนาวสั่น จนทำให้ตระหนักว่าเกิดเป็นเจนรักษ์ช่างโชคดีนัก

 

 

 

เหยียบแผ่นดินไหนก็ชุ่มช่ำไปหมด….

 

 

“Yes, I’m alive”  เออ…ยังมีชีวิตอยู่
ทันทีที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็ได้รับการติดต่อมาจากเพื่อนที่ตอนนี้อยู่กันคนละฟากโลก
 
“Do you mean… arrived?”  หมายถึงไปถึงใช่ปะวะ
 

“kind of….maybe”  ก็ประมานนั้น
 
 
“Oh….Don’t  be so dramatic. A person who stronger than Titanium won’t  be killed by broken heart.”  อย่ามาดราม่าว้อย คนแบบมึงที่แกร่งกว่าไทเทเนี่ยมไม่ถูกฆ่าเพราะอกหักหรอก
 
 
“I just need some attention”  กูก็ต้องการความสนใจบ้าง
 
 
“Not from me! Go to the bar. Order something. Get drunk then you get all attention เข้าใจไหม!”  ไม่ใช่จากกูแน่นอน ไปที่บาร์ สั่งสักอย่าง เมาแล้วเดี๋ยวก็ได้รับความสนใจเอง เข้าใจไหม!

 

 

“กูไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น”

 

 

“ไม่เข้าใจผัวเก่าเหรอ ไปถามมันสิ อย่าถามเพื่อน กูบอกแล้วว่าอย่าไปอ่อยเจ้านาย”

 

 

“บอกตอนไหนวะ”

 

 

“ตอนที่มึงบอกว่าจะซื้อคอนแทคเลนส์ตุนไว้เพราะจะเลิกใส่แว่นนั่นแหละ!”

 

 

“จำไม่ได้ว่ะ”  อะไรที่รูดด้วยบัตรเครดิตก็จำไม่ได้ทั้งนั้น

 

 

“แล้วที่ไทยเป็นไงบ้าง”

 

 

“ฝนตก ฟ้าร้อง แดดไม่ออก”

 

 

“วันนกๆ สมกับคนนกๆดี”

 

 

“ถามจริงใครบัญญัติคำว่านกๆมาเพื่อกู”  เจนนั้นไม่ได้อยู่ไทยมานาน แต่คำใหม่ๆเขาก็พอจะได้รับการอัพเดทบ้าง โดยเฉพาะคำนี้ที่เหมือนจะสร้างมาเพื่อคนชื่อเจนรักษ์

 

 

“ทวิตเตอร์มั้ง ว่าแต่จะกลับไปหาแม่ไหม”

 

 

“ก็ต้องไปเจออยู่แล้วแหละ แต่ยังไม่ได้โทรบอกเป็นกิจจะลักษณะเลย”

 

 

“ไปหน่อยเหอะ ไม่ได้เจอเขามาเป็นสิบปีแล้วไม่ใช่หรือไง”

 

 

“……….”

 

 

“เอาหน้านกๆไปให้แม่ดูหน่อย ให้แม่ได้เห็นว่าลูกชายที่โดนผัวชาวบ้านทิ้ง และตกงานเพราะผัวชาวบ้านที่ว่าเป็นคนอนุมัติเงินเดือนมีหน้าตาเป็นยังไง”

 

 

“ขยี้เก่ง บ้านมึงเปิดร้านซักแห้งรึไง”

 

 

“คนล้มต้องเหยียบซ้ำ”

 

 

“อย่าล้มนะมึง กูกระทืบให้จมดิน”

 

 

“เดี๋ยวพี่จะให้ดูว่าใช้ชีวิตไม่นกทำไงนะน้องเจน ไปหาแม่บ้างล่ะอย่าอกตัญญูให้มาก”

 

 

“เออรู้แล้ว”

 

 

“แค่นี้นะ เสียเว….ติ้ด”

 

 

เป็นเจนที่ชิงตัดสาย เสียเวลาทำมาหากินหากจะฟังให้หมดประโยค เรื่องที่เพื่อนหรือญาติผู้เพื่อนที่อายุเกือบจะเท่ากันอย่างตัวจุ้นแนะนำให้ไปเจอแม่นั้นเข้ามาในความคิดแทนเรื่องนกๆของวันนี้ เป็นเจนที่ไม่มีเวลาไปหาแม่เลย ทันทีที่ยายตาย เขาก็ถูกส่งไปอยู่กับน้าสาวที่แต่งงานใหม่กับชาวอเมริกันด้วยความไม่พร้อมของครอบครัว ตั้งแต่เด็ก….เจนก็ไม่เคยพบหน้าพ่อ ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ดราม่าเพราะไม่ได้รู้สึกขาดแคลนอยากมีอย่างใครเขา วันๆเอาแต่คิดเรื่องความนกเก่งของตัวเองที่หนียายไปเล่นน้ำเต้าปูปลาเพื่อพบว่า ยังไม่ทันได้ถึงคิวจับฉลากก็ได้เปลี่ยนมาวิ่งแข่งมาราธอนหนีตำรวจแทน จึงไม่มีเวลาเศร้ากับเรื่องที่ควบคุมไม่ได้เช่นนั้น เฮ้อ….ยังไม่ทันได้คืนทุนเล้ย!!!!
 

 

กลับมาต่อที่ความไม่พร้อม….แม่ของเจนรักษ์เข้ามาทำงานในกรุงเทพ  ในแต่ละปีจะกลับมาเยี่ยมบ้านสองครั้งคือต้นปีกับกลางปี ความสนิทสนมก็ดีระดับหนึ่งเลยด้วยเพราะเทคโนโลยีที่ดีขึ้นทุกวัน เจนไม่ใช่คนประเภทจะมานั่งดราม่าว่าแม่ไม่รักหนูและไปเลี้ยงลูกคนอื่น ใช่….แม่ของเจนเลี้ยงลูกคนอื่นเป็นอาชีพ แต่เจนได้เงินจากการทำงานของแม่มาใช้ จึงไม่มีเหตุผลให้มาดราม่าเป็นตัวร้ายหรือเป็นเด็กมีปัญหาเหมือนในละครทีวี เขากับแม่รักกันดีและไม่มีปมอะไร

 

 

กลับมาที่ความไม่พร้อมอีก….แม่ฝากเขาไว้กับยายและส่งเงินให้ใช้ แต่เมื่อยายตาย เจนก็ไม่มีใครดูแลต่อ คร้านจะไปอยู่กับแม่ก็ไม่สะดวกด้วยหลายเหตุผล น้าสาวของเขาที่พอจะมีกำลังก็เลยรับไปอยู่ด้วยตามความสมัครใจของทุกคน ในช่วงนั้นสิ่งเดียวที่เขาดราม่าในช่วงนั้นก็มีแค่เรื่องยายที่เลี้ยงดูกันมาป่วยและจากไป  ไม่มีด้วยซ้ำที่จะไม่เข้าใจว่าทำไมใครๆก็ผลักไสหนู!

 

 

สรุปง่ายๆ…เจนไม่อินกับต้นฉบับหนังไทยใดๆทั้งนั้น

 

 

กลับมาที่ความไม่พร้อมภาคสุดท้าย…..เขาเรียนไปด้วย ทำงานหาเงินบ้าง ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาตั้งแต่เริ่มเรียนมัธยมปลาย ศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ทำงาน และไม่ได้กลับมาไทยในระหว่างนั้นเลย จะว่าเพราะงกก็ได้ แต่จริง….เขาไม่ค่อยมีเวลา…..ด้วยความที่สำเหนียกตัวดีเสมอว่านอกจากเป็นนกแล้ว ตนยังเกาะชาวบ้านเขาเก่งกว่าปลิง เราจึงจะเป็นปลิงที่น่าชื่นชมโดยการพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นสัตว์ชนิดอื่นๆที่ดีขึ้น เจนจึงมุ่งมั่นทำงาน หาเงิน เก็บเงิน สร้างตัวมาเรื่อยๆจนแทบไม่มีเวลา และแน่นอนการนั่งเครื่องหลายสิบชั่วโมงมาไทยนั้นตัดไปได้เลย นอนได้เยอะสุดคือเจ็ดชั่วโมง….เท่านั้นเอง….

 

 

และจู่ๆคือมีเวลาเหรอถึงได้กลับมาไทย /ขออนุญาตยื่นไมค์ให้ตัวเอง

 

 

คำตอบคือ ‘มี’ และมีเยอะเลยด้วยไม่อยากจะอวด!  การเป็นพนักงานเงินเดือนมาหลายปีทำให้เจนที่รู้ลึกรู้ดีเรื่องการเงินมีเงินก้อนระดับหนึ่งที่ใช้ได้สักพักสบายๆ และมีทรัพย์สินบางอย่างที่คิดอยู่ว่าขายดีหรือไม่ขายดี/นกเก่งก็ต้องเล่นตัวเก่งด้วย ความพร้อมในการใช้ชีวิตที่เจนมี ประจวบกับความซวยที่จับได้ว่าแฟนของตนมีชู้ ซึ่งจริงๆความรู้ใหม่คือเขาไม่ได้มีชู้….แต่ไอ้เจนนี่แหละที่ไปเป็นชู้เขา!

 

 

และวิลเลี่ยมที่คบเจนเป็นชู้ก็คือสาเหตุแห่งความว่างของเจนในตอนนี้

 

 

ความซวยที่ซวยจนไม่รู้จะยังไงก็คือเจนนั้นเริ่มคบกับไอ้เฮงซวยนั่นมาได้แปดเดือน หลังจากที่เจ้านายเก่ารีไทร์และมีการโยกย้ายตำแหน่งภายใน เจนที่ประจำตำแหน่งเลขาใครก็ได้ไม่เรื่องมาก เลยกลายมาเป็นเลขาของวิลเลี่ยมที่ถูกส่งมาที่สำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ค โอละพ่อ….ความเป็นมืออาชีพของเจนได้มลายหายไปเพราะพิษรักแรงอ่อยของเจ้านายคนใหม่ คบกันมาได้หลายเดือนจึงทราบว่าเขามีอีกคน….

 

 

เห็นไหมที่ว่าใส่หรือไม่ใส่แหวนมันพิสูจน์อะไรไม่ได้จริงๆ

ขนาดถุงยางยังเชื่อไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นเลย!

 

 

จริงๆตั้งใจจะบวกผู้หญิงที่เข้ามาแย่งแฟนชาวบ้านแล้ว แต่สติคูลๆที่เจนรักษ์มีอยู่รั้งไว้  รู้เขารู้เรา รบพันครั้งชนะพันครั้ง…คตินี้ทำให้เจนถอยออกมาสืบเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องก่อนจะวิ่งชูธงรบเอาเท้าไปตบหน้าคน แต่ยิ่งสืบยิ่งเจอความจริง…ความจริงที่ทำให้รับไม่ได้จนถึงตอนนี้ นั่นก็คือเจนไม่ได้มาที่หลัง….เพราะคำว่าที่หลังใช้ไม่ได้เมื่อเขาจูงมือลูกชายอายุแปดขวบไปโรงเรียนด้วยกัน!

 

 

“……….”  และเจนแปดเดือนล่ะ….จะเหลือเหรอ….

 

 

ไม่เหลือสิ เลิกเป็นเลิก เจนหน้าตาดีขนาดนี้จะอยู่เป็นชู้มันให้เกย์รุกทั้งโลกเสียดายเหรอ! แน่นอนว่าไม่ และเพราะการเลิกราที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์ได้เกิดขึ้น เจนที่เป็นลูกน้องเขาจะเอาหน้าที่ไหนไปอยู่ต่อ และเพราะตนสวยและรวยมากแบบนี้ จะง้อทำไม….เอานาฬิกามันไปขายและตีตั๋วบินมากรุงเทพซิ….เราต้องใช้ชีวิตชิคๆท่ามกลางแสงแดดริมทะเล ให้ทะเลดูแลหัวใจสิ!

 

 

แต่นี่จะไปสวนสยามเพื่อฝากทะเลกรุงเทพช่วยดูแล…ฝนก็ดันตกมาได้….

 

 

ซู่……

 

 

แม่….เจนเหนื่อย…..เจนเจ็ทแลค

 

 

ซู่…..

 

 

ฝนไม่หยุดตกเลยแม่…..

และทะเล…จะเยียวยาใจเราได้ไง…..

 

 

“ฮึก…แม่….”  ในที่สุดก็ทนไม่ได้ บ่นกับตัวเองคนเดียวจะไปได้เรื่องอะไร นอกจากจะได้ตีตั๋วไปพบแพทย์จริงๆ….ต้องลำบากให้แม่มารับฟังสิถึงจะถูก ไหนๆก็ซื้อซิมส์และเติมเงินแล้ว ใช้สิ จะรอให้วันมันหมดอายุเหรอ! เจนไม่สนับสนุนการใช้งานโปรโมชั่นไม่คุ้มค่าหรอกนะ อะไรดี…เจนก็ว่าดีทั้งนั้น…

 

 

“เจน…เจนเหรอลูก”

 

 

“แม่…แม่ฮะ”

 

 

“แค่นี้ก่อนนะเจนแม่ยังไม่ว่าง”

 

 

“มะ…แม่…”

 

 

“แม่กินมะม่วงน้ำปลาหวานอยู่ เดี๋ยวโทรศัพท์เลอะ แล้วโทรมาใหม่นะลูก ตึ้ด”  โอ้โห….ไม่โทรกลับนะ…ให้โทรมาใหม่ด้วย…. สงสัยต้องคิดใหม่ทำใหม่เสียล่ะ….แม่ไม่รักเจน….แม่รักลูกคนอื่นมากกว่าเจน

 

 

อย่างว่าแหละ…

เขาก็ว่าละครนะ….สร้างจากเรื่องจริงทั้งนั้นแหละ ไอ้เจนเอ้ย….





tbc



















talk:

แงงงงงงเปิดเรื่องใหม่ทั้งๆที่เรื่องเก่าไม่จบเป็นเรื่องปกติฉันใด

เราก็หวังว่าน้องนกจะไม่ถูกดองฉันนั้น

มาร่วมกันเป็นกำลังใจให้น้องเจนไม่นกกันด้วยนะคะ

 ตราบใดที่ #เจนไม่นก #คนแต่งก็จะไม่นกเช่นกัน #เจนไม่นก





 

หัวข้อ: [ตอนที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 11-06-2018 21:45:15
ขออนุญาตทำสารบัญอย่างย่อตรงนี้

#เจนไม่นก
ตอนที่ Intro-5 หน้าที่ 1
ตอนที่ 6-8 หน้าที่ 2
ตอนที่ 9-11 หน้าที่ 3
ตอนที่ 12 หน้าที่ 4
ตอนที่ 13-14 หน้าที่ 5
ตอนที่ 15-16 หน้าที่ 6
ตอนที่ 17 หน้าที่ 7
ตอนที่ 18-19 หน้าที่ 8
ตอนที่ 20 หน้าที่ 9
ตอนที่ 21-22 หน้าที่ 10
ตอนที่ 23 หน้าที่ 11
ตอนที่ 24 หน้าที่ 12
ตอนที่ 25 หน้าที่ 13
ตอนที่ 26 หน้าที่ 14
ตอนที่ 27-28 หน้าที่ 15
ตอนที่ 29 หน้าที่ 16
ตอนที่ 30-31 หน้าที่ 17
ตอนที่ 32 หน้าที่ 18
ตอนที่ 33-34 หน้าที่ 19
ตอนที่ 35-36 หน้าที่ 20
ตอนที่ 37-39 หน้าที่ 21
ตอนที่ 40 หน้าที่ 22
ตอนที่ 41-43 หน้าที่ 23
ตอนที่ 44-45 หน้าที่ 24
ตอนที่ 46-47 หน้าที่ 25 จบคู่รบเจน
ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน หน้าที่ 29
ตอนพิเศษ2 คนหน้าดุของน้อง หน้าที่ 31
ตอนพิเศษ3 เจนเป็นของน้อง หน้าที่ 32
ตอนพิเศษ4 ปี้ยบกับน้องเจง หน้าที่ 32
ตอนพิเศษ5 วันแม่ของน้อง หน้าที่ 32
ตอนพิเศษ5 รบเจน VS เคลจุ้น หน้าที่ 33

#เพชรพระพาย
ตอนที่ Intro-1 หน้าที่ 26
ตอนที่ 3 หน้าที่ 27
ตอนที่ 4-7 หน้าที่ 28
ตอนที่ 8-9 หน้าที่ 29
ตอนที่ 10-13 หน้าที่ 30
ตอนที่ 14 หน้าที่ 31 ตอบจบคู่เพชรพระพาย


#ลูกชุบของอัศวิน
ตอนที่ Intro หน้าที่ 33
ตอนที่ 1 หน้าที่ 34



#เจนไม่นก
ตอนที่ 1 : เจน….นังลูกคนใช้!



ถ้าคิดว่าเจนจะงอนแม่นานๆ
จะบอกว่าคุณนะคิดผิดแล้ว


เจนเฝ้ารอแม่กินมะม่วงอย่างใจเย็น โดยคาดการณ์ไว้ว่าสักครึ่งชั่วโมงกำลังดี ในขณะที่กำลังต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกที่หนังตา จากที่นั่งกอดอกสัปปะหงก เจนก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อพบว่ามีคนโทรเข้ามา และด้วยเหตุนี้….พจมานก็มายืนอยู่หน้าบ้านหลังนี้โดยไม่ได้ถือชะลอม ฉันจะมาทวงสิทธิ์ของฉันคืน….ก็ไม่ใช่ล่ะ ในความเป็นจริงคือนี่เจนเอง ไม่ใช่พจมาน สว่างวงศ์ที่ไหน โชคดีนี่แค่คิดนะ คิดเบาๆคนเดียวได้ คิดดังกว่านี้คงถูกหามไปพบแพทย์แน่


“เจน มาแล้วเหรอลูก”  ร่างของหญิงร่างท้วมดูคุ้นตานั้นเดินมาหา ดูจากเครื่องแบบแล้วตอกย้ำได้ดีถึงสถานะของเจนต่อบ้านหลังนี้ ไม่ใช่แบบพจมานที่มีเชื้อสายตรงแบบนั้นแน่นอน….แต่เป็นลูกคนใช้ของบ้านอย่างไรเล่า…


ไม่ดราม่านะ เจนชอบแซวตัวเองขำๆ


“แม่ หวัดดีฮะ”  หลังจากที่ทักทายแม่ออกไป เจนก็พาผู้ให้กำเนิดมากินอาหารตามสั่งที่หน้าปากซอย  กว่าเขาจะมาถึงนี่ได้ เรียกว่าประเดิมความนกของวันด้วยการนั่งรถเมล์ผิดฝั่งจนจะเข้าอู่อยู่แล้วเพิ่งรู้ตัว เพราะใช้เวลากับการเดินทางมากเกินไปหน่อย ทำให้ความต้องการที่มีต่อกะเพราแท้ไม่มีถั่วฝักยาวนั้นรุนแรงจนอดใจไม่ไหวที่จะขอให้บทสนทนาอันชื่นมื่นระหว่างแม่ลูกเกิดขึ้นตรงหน้าโถพริกน้ำปลา แม่นั้นกระพริบตาปริบๆ มองเจนที่เผลอทำจมูกบาน สำหรับแม่แล้ว….เจนถือเป็นเด็กผู้ชายที่หน้าตาน่ารักเลยทีเดียว แต่นิสัยที่แสดงต่อหน้าบางทีก็ขาดเกินไปไม่ใช่น้อย


“ลางานมาเหรอลูก”


“ลาออกจากงานมาฮะแม่”  เจนเป็นคนตรงๆ ตกงานก็ว่ากันไป


“หะ!”  อย่าปล่อยให้ความสงสัยเกิดขึ้นในระหว่างที่กำลังคนโถน้ำปลาพริกแบบฟินๆอย่างนี้ เจนท่องสุภาษิตอดเปรี้ยวไว้กินหวานดังลั่นในใจ ก่อนจะวางช้อนส้อมลงและอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบไม่มีกั๊ก ซึ่งแม่เองทั้งเวทนา สงสาร อยากด่า และชื่นชมในคราวเดียว อย่างน้อยเจนก็เลือกที่จะไม่สานต่อความสัมพันธ์และไม่แม้แต่จะตั้งคำถามว่าสุดท้ายวิลเลียมจะเลือกใคร…..อาจจะดูดราม่าไปนิด แต่เจน….ก็เป็นลูกไม่มีพ่อ แม้จะบอกว่าไม่มีผลต่อการดำเนินชีวิต แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไปแย่งพ่อใครเขามาจริงๆ


โดยเฉพาะพ่อที่เป็นผัวเลวๆของใครสักคน เราก็ไม่ควรเอามาทำผัวเลวๆของเราด้วยเช่นกัน


“แล้วนี่ตกงานเลยกลับมาหาแม่สินะ”


“จริงๆผมตั้งใจจะพักผ่อน นอนตีพุง เที่ยวทะเล นอนดูดาว ก่อนจะหางานใหม่น่ะ”


“แม่จะไม่ห้ามแกล่ะกัน”


“แต่ถ้าแม่อยากมาอยู่กับผม ผมว่าผมสามารถหาซื้อห้องคอนโดหรือบ้านสักหลังให้เราได้นะ”


“แกมีเงินเหรอเจน”


“ก็มีบ้างนะแม่”  แต่ตัวเลขในบัญชีไม่ใช่สิ่งที่จะให้ผู้ปกครองทราบได้


“แม่ยินดีกับแกด้วย แต่ไม่ล่ะ แม่จะทำงานต่อตราบที่เขาไม่ไล่ออก”


“แต่ลูกเจ้านายแม่เขาโตแล้วนี่”


“ตอนนี้แม่ช่วยเขาเลี้ยงหลานอยู่”


“หะ! นี่แม่เลี้ยงลูก แล้วยังต้องมาเลี้ยงลูกของลูกเขาอีกเหรอ”  กรรมของเวร นี่คุณอำไพแม่ของไอ้เจนจะต้องเลี้ยงลูกของลูกเจ้านายอีกเหรอ


“พูดเหมือนแกจะมีลูกให้ฉันเลี้ยงได้ละ เจ้าเจน”


“ง่า….เจนชอบเด็กนะแม่ แต่เจน แต่เจน….”  ละไว้ในฐานที่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไร แม่ของเจนเข้าใจง่ายจะตาย เนอะแม่เนอะ


“เอาเถอะ แกกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวมันเย็นหมด”  ในที่สุดแม่ก็ปิดเรื่องโดยการให้เจนที่เอาแต่ยกมือไม้ปัดแมลงวันให้ได้ทานกะเพราเสียที เราพูดคุยกันถามสารทุกข์สุกดิบมากมายในระหว่างนั้น ว่าไปถึงมะม่วงที่มีเยอะเกินไปจนกินไม่หมด และน้ำปลาหวานที่แม่ทำไว้มากมาย ในระหว่างที่กำลังเขี่ยใบกะเพราอยู่นั้น เจนก็เผลอกลืนน้ำลายเปรี้ยวปากขึ้นมา ฮืออออออออออออ ความตะกละ


ไม่ว่าจะด้วยแววตาของคนที่ใจจะขาดรอนๆหรืออะไรก็ตาม คุณอำไพที่เห็นลูกซึ่งไม่ได้เจอกันนานอยากกิน ประจวบกับมีเหลือกินจนอาจจะต้องทิ้งได้ การห่อให้เจนเอากลับไปกินที่โรงแรมบ้างก็คงจะไม่ใช่เรื่องหนักหนาหรือทำให้ขนหน้าแข้งคุณผู้หญิงแห่ง ‘รัตนสกุล’ ร่วงลงมาหรอก และอีกอย่าง….ไหนๆก็มาแล้ว เธอก็อยากจะแสดงความรักที่มีต่อลูกชายบ้างเพราะตลอดหลายปีตั้งแต่ที่เจนเกิดมา โอกาสที่เราจะอยู่ด้วยกันมันน้อยนิดเหลือเกิน อำไพยังไปกับลูกตามคำชวนไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะตนไม่อยากเป็นภาระให้ลูกเลี้ยงดูทั้งๆที่ไม่เคยดูแลใกล้ชิด แม้จะส่งเงินให้ แต่สำหรับคนเป็นแม่อย่างไรมันก็ไม่พอ และบุญคุณของรัตนสกุลที่ค้ำหัว ทำให้ต้องปฏิเสธคำชวนของเจนในตอนนี้


“แม่ๆ ถ้าเราเจอคนในบ้าน ผมต้องทำไง”  ระหว่างทาง เราคงจะหมดเรื่องคุยแล้ว เจนจึงถามด้วยอยากจะสานต่อบทสนทนา แม้คำถามมันจะโง่เหลือเกิน….ต้องทำไงล่ะ แปลงร่างเป็นนกอย่างที่เป็นบ่อยๆโชว์เขาไหม….


“ต้องทำอะไร ก็ทักทาย มือไม้ให้อ่อน เขาถามอะไรก็ตอบๆไป”


“นี่แม่มีความคิดอยากจะอวดลูกบ้างไหมอ่ะ” 


“อย่างเจนนี่มีอะไรให้แม่เอาไปอวดเหรอ”  อ้าว…จบเมืองนอกเมืองนา มีเงิน อะไรก็ว่าไปสิ


“ผมหน้าตาดีไงแม่”  แต่เจนก็คิดว่าการเอาหนังหน้าเข้าสู้ก็ชนะได้ไม่ยาก อวดรวยนั้นบ้านคนรวยเป็นเรื่องที่คนโง่ทำเท่านั้น


“แม่คิดว่าของอย่างนั้นเขาเห็นเบ้าก็รู้ เราไม่จำเป็นต้องอวดตัวหรอกลูก”


“เอางั้นเหรอแม่”


“แต่เราก็ไม่ต้องไปโกหกใคร เขาถามก็ตอบความจริงไปล่ะกัน”


“แม่จะไม่โดนเพื่อนร่วมงานหมั่นไส้ หาว่าอวดลูกเหรอ”


“งั้นแม่จะตัดปัญหาโดยการบอกทุกคนว่าเจนเป็นใบ้ ดีไหม”


“เห็นเบ้าเขาก็รู้แล้วมั้งว่าเจนพูดมาก”  ให้แปลงร่างเป็นนกอาจจะดูง่ายกว่าให้เป็นใบ้


หลังจากที่เข้ามาในรั้วของบ้านรัตนสกุลที่ไม่ได้โอ่อ่าระดับบ้านทรายทองแต่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้ดี บ้านที่มีที่ดินสำหรับสวนที่กว้างขวางในระดับหนึ่ง มีสระว่ายน้ำ และพื้นที่สำหรับกิจกรรมภายนอก กับตัวบ้านที่ดูไม่เก่าจนเกินไปเพราะได้รับการซ่อมแซมอยู่เสมอ ขนาดและองค์ประกอบรวมทั้งทำเลที่ตั้ง ทำให้เจนรู้ว่าเจ้านายของแม่….ไม่ได้รวยแต่เขือจริงๆ เอ๊ะ…แต่ของแบบนี้ต้องดูไปนานๆ ถ้าไม่ได้เห็นเอกสารทางการเงิน ก็คงไม่มีอะไรจะเชื่อถือได้


“พี่อำไพ ไปไหนมาล่ะนั่น”  เป็นคุณน้าคนหนึ่งที่กำลังกวาดพื้นบริเวณสระน้ำที่ถามขึ้นมา เจนหันไป สวัสดีด้วยท่าทางที่พยายามทำให้นอบน้อมที่สุด


“แล้วนั่นใครล่ะนั่น”  เจ้าของคำถามขมวดคิ้ว ใบหน้าบอกไม่ถูกว่าจะเป็นมิตรหรือไม่


“อ่อนี่ไอ้เจน ลูกชายฉันเอง”


“อ๋อ ที่ไปฝากคนอื่นเลี้ยงนะหรือ”


“ใช่….มันแวะมาหาเลยให้มาเอามะม่วงกลับไป”  ตอนที่ได้ฟังคำว่าฝากคนอื่นเลี้ยง เจนสังเกตเห็นว่าแววตาของแม่ดูหมองลง ใจหนึ่งก็อยากจะจับมือเพื่อให้กำลังใจและบอกว่าไม่เป็นไร อีกใจก็ไม่แน่ใจว่าควรหรือไม่


แต่ไม่ชอบ….ให้ใครมาทำให้แม่ใจเสียเลย


ยุบหนอพองหนอ….เจนรักษ์ท่องกับตัวเอง หากเหวี่ยงวีนอะไรไปแม่เราก็จะเห็นด้านมืด มิหนำซ้ำ แม่ยังจะอยู่ที่นี่ยากขึ้นไปอีก เจนรู้เจนเรียนมา และเจนต้องอดทน! แต่ก็อดไม่ได้จะจิกตามองตามประสาสัตว์ปีกสายพันธุ์เดียวกับนก แม่พาเจนมายังสวนหลังบ้านที่มีการปลูกผักและผลไม้เล็กๆน้อยๆ ต้นมะม่วงลูกดกอย่างที่แม่ว่าจริงๆ แค่เห็นก็เปรี้ยวปากอยากตะโกนกู่ร้องให้ดังถึงอเมริกาและออกเสียงซี้ดตบท้าย  ของกินเยียวยาได้ทุกสิ่งจริงๆ ไม่ตกงาน….ไม่ได้แดกเลยนะเนี่ย! มะม่วงน้ำปลาหวานเนี่ย!


“ยังสอยมะม่วงเป็นใช่ไหมลูก เดี๋ยวแม่ไปเอาไม้สอยมาให้”


“โหยไม่ต้องหรอกแม่ ถึงเจนจะหน้าตาดูดีมีสกุล แต่เจนยังปีนต้นไม้ได้อยู่นะ”  จริงๆก็ไม่ได้ปีนมานานแล้ว แต่เจนมั่นใจว่าเอาอยู่

   
หลังจากที่โดนมองแรงใส่โดยแม่ตัวเอง คุณอำไพก็แค่ส่ายหัวและเดินจากไป เจนรักษ์มองต้นมะม่วงตรงหน้าด้วยหมายมั่นใจ มองซ้ายขวาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ก่อนจะค่อยๆปีน ทำตัวยิ่งกว่าโจรก็ลูกคนใช้บ้านนี้นี่แหละ……และการขึ้นต้นมะม่วงไม่ใช่เรื่องยากเหมือนที่คิด ด้วยเพราะความเป็นเด็กต่างจังหวัดหล่อหลอมให้ไอ้เจนทำตัวห้าวกว่าลูกสาวกำนัน เรื่องปีนป่ายต่อยตีนั้นเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ


และเจนก็ยังจำกำพืดของตัวเองได้ดีจนถึงวันนี้ ยิ่งเมื่อได้ปีนต้นไม้ขึ้นมาอยู่บนที่สูงยิ่งทำให้ระลึกถึงความสุขสงบที่เคยมีในวันวาน ไอ้เจนเด็กบ้านนอกโกอินเตอร์ในวันนั้นต้องเจอกับอะไรมามากเพื่อที่จะเป็นเจนรักษ์ที่แข็งแกร่งอย่างวันนี้ เพียงแค่นึกหวนอดีต ภาพความสุขและความทุกข์ที่เคยมีและต้องเผชิญหลั่งไหลเข้ามาในหัวจนทำให้ริมฝีปากอิ่มยักยิ้มออกมาน้อยๆ ทุกความผิดพลาดที่เจนเคยทำ ในวันนี้มันเป็นเรื่องเล็กๆเด็กๆขนาดนี้ไปได้อย่างไรนะ และเจนคนนั้น เติบโตมาเป็นเจนรักษ์ที่ดีอย่างที่เคยคาดหวังไว้หรือเปล่านะ


“เฮ้อ….โคตรฟิน”  แค่ได้ปีนต้นไม้เท่านั้นก็ฟินได้ขนาดนี้ คงจะดีถ้าซื้อบ้านสักหลังที่มีพื้นที่ให้ปีนป่ายซนทโมนได้ แต่ฟินกับตัวเองได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงร้องที่ดังมาไม่ไกลจากอีกด้าน


เสียงร้องของเด็ก………


“แงงงงงงงงงงงงง”  แม้จะไม่เห็นตัวเด็กเพราะหลังคารถเข็นบังไว้ แต่การได้ยินเสียงร้องปริ่มขาดใจก็ทำให้ต้องขมวดคิ้ว เจนไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริงๆ ยิ่งไม่ชอบเมื่อเห็นคนที่พาเด็กมาข้างนอกแบบนี้เอาแต่ถ่ายรูปเซลฟี่อยู่อย่างนั้นยิ่งหงุดหงิด เจนรักษ์อาจจะดูเหมือนคนไม่สนใจใครและเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง พราะตนก็เป็นอย่างนั้นจริงๆน่ะแหละจึงไม่เถียง แต่เจนไม่เคยรังแกเด็ก คนท้องและคนชรา แน่นอนว่าต่อหน้าก็ไม่ชอบเห็นคนทำเช่นนี้ใส่ ดี!...ชอบถ่ายรูปนักใช่ไหม….ได้….เจนก็ชอบเหมือนกัน!


“โอ้ยยยยยรำคาญ ไอ้เด็กเวรนี่!!!!”  สาวเจ้าที่เอาแต่ถ่ายรูปในที่สุดก็ทำอย่างอื่นบ้าง แต่อย่างอื่นที่ทำลงไปช่างไม่ถูกใจคนมองจากที่สูงเอาเสียเลย


“บอกให้หยุดร้องไง”  ยิ่งอุดปากเด็ก เจ้าหนูยิ่งร้องลั่น เจนที่ได้ยินเสียงร้องอู้อี้ก็ยิ่งนิ่วหน้า เส้นความอดทนขาดผึง มือเก็บมือถือก่อนจะเด็ดมะม่วงลูกที่เลือกแล้วว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เล็งนิดหน่อย คลาดว่าไม่น่าพลาดเป้าไป และ….


อุ้ย…หลุดมือ แย่จุง


“โอ้ย!!! ใครน่ะ”


“…………”


“ใครโยนมะม่วงมา!!!”  เจนโยนเอง เจนโยนเอง ตะโกนกู่ร้องในใจก่อนที่จะกระโดดลงจากต้นมะม่วงและเดินเข้าไปหา บีบน้ำตาให้ดูสมจริงหรือเกินจริง ประคองมะม่วงในมืออย่างหวงแหนสุดชีวิตและช้อนตามองนิดหน่อย 


“ขอโทษครับ เจ็บมากไหม”  อีกฝ่ายชะงักเล็กน้อยที่คู่กรณีซึ่งไม่คุ้นหน้าเดินปรี่เข้ามาหา ท่าทางที่เคยกร่างเมื่อครู่ถูกลบหายไป…..ไหนละคนจริงกระทิงแดง….


“แกโยนมาเหรอ”


“เปล่าครับ ลมมันพัดหลุดมือ”  เชื่อก็โง่แล้วหลุดมือไปไกลระดับพายุลงแล้วนั่น แต่เจนก็ยังปั้นหน้าใสซื่อให้อีกฝ่ายโกรธเคืองจนหน้าแดง ยอมรับว่าชอบเหลือเกินเรื่องแบบนี้ แอ๊บเป็นคนดีต่อหน้าวิลเลี่ยมมานานพอได้คืนสู่วงการดาวร้าย เจนรักษ์ก็ไม่มีท่าทีจะหันหลังกลับ


“แก….อย่ามาตอแหล”


“ผมไม่ได้ตอแหลครับ ตอแหลไม่ดี”  ดูเหมือนว่าเราจะลืมอะไรไปสักอย่างหนึ่ง วัตถุรูปก้อนที่นอนอยู่ในรถเข็นเด็กนั่นไงที่หยุดร้องแล้ว จะว่าไปก็หยุดร้องตั้งแต่เจนประเคนมะม่วงลงหัวผู้หญิงคนนี้ ดูจากท่าทาง เจนก็คิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นคนงานที่นี่ แต่การที่แสดงท่าทางกร่างไม่ใช่น้อยแบบนั้น แสดงว่าจะต้องมีคนหนุนหลังดีอยู่แน่นอน


เมื่อนึกมาถึงตรงนี้…..


ไอ้ฉิบหายแล้วคุณอำไพของไอ้เจนล่ะ!


“……….”   เหงื่อเริ่มออกที่หลัง แต่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้ม เมื่อคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าความยุติธรรมต่อเด็ก คนท้องและคนชราของตนเองอาจจะทำให้แม่ลำบากได้ เจนรักษ์เริ่มหาทางเอาตัวรอดเผื่อคุณอำไพที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ความนกของไอ้เจน….จะส่งต่อให้แม่อย่างนี้ไม่ได้นะ มึงจะนก…ก็นกไปคนเดียวสิ! แต่ถึงกระนั้น….ก็ไม่สามารถทนมองเหตุการณ์แบบนั้นได้


ใบหน้าของเจนที่นิ่งสนิทบ่งบอกถึงความไม่ต่อความแต่ไม่ยอมใครทำให้คู่กรณีเดือดผล่าน และยิ่งเจนไม่มองหน้าเธออีกต่อไปเพราะหันไปมองเด็กน้อยที่มีคราบน้ำตาติดแก้ม ความรู้สึกสงสารพุ่งจุกอก แต่ก็รู้สึกผิดต่อแม่ไม่น้อยที่ใช้อารมณ์และเหตุผลไม่ถี่ถ้วน แต่ในตอนนั้นเจนจะทำอย่างไรได้อีกในเมื่อไม่รู้จักใครเลยในทีนี้ จะให้เห็นเด็กร้องต่อจนขาดใจตายอย่างนั้นเหรอ บอกตรงๆว่าทำไม่ได้จริงๆ



ในจังหวะนั้นเองเจนได้ยินเสียงเรียกของแม่ที่เดินเร็วๆมาหา กลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยนึกคำอธิบายใดๆไม่ออก คู่กรณีหายแวบหายราวกับถูกดูดไปลงนรกเสียแล้ว หันซ้ายหันขวาไร้ซึ่งตัวช่วย มีเพียงเด็กคนเดียวที่นอนมองกันตาแป๋ว เจนรักษ์ถอนหายใจออกมากะว่าจะด้นสด แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกแม่ดึงให้เดินตามไปจนต้องรั้งไว้และรีบไปคว้ารถเข็นที่ถูกทิ้งไว้ให้เดียวดายตรงนี้ ไม่รู้จะสงสารใครก่อนดี ระหว่างเจ้าหนูนี้กับชีวิตของไอ้เจนรักษ์!


“แม่ เราทิ้งน้องไม่ได้”


“แม่ไม่ได้จะทิ้ง แค่จะลากมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น”  คุณอำไพกลัวว่าเสียงดังจะทำให้เด็กน้อยตกใจ เธอจึงฉุดเจนให้เดินห่างออกมา


“ผม….ผม”


“ไม่ต้องอธิบายแล้ว”


“……”


“แม่ว่าคุณผู้หญิงต้องเรียกพบเราแน่ แม่ว่าเราไปกันก่อนเลยเถอะ”


อย่างที่คิดไว้…เหตุการณ์นั้นก็ดังถึงหูของผู้เป็นใหญ่ในบ้านเสียแล้ว….


ทันทีที่มาถึง ภาพตรงหน้านั้นเหมือนฉากหนึ่งในละคร….เหล่าบรรดาคนใช้และลูกคนใช้ก็ถูกเรียกให้มาพร้อมกันที่ห้องรับแขก คุณหญิงพรรณีที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นไม่ได้มีใบหน้าใจดีแบบที่แม่เคยกล่าวอ้าง ยามนี้เมื่อหันไปมองแม่ที่ยืนก้มหน้า ไอ้ตัวก่อเรื่องอย่างเจนก็รับทราบได้ทันทีถึงความเวรความกรรมที่ได้ก่อไว้ วันนี้แม่เพิ่งยื่นคำขาดว่าจะไม่ไปไหน ปกป้องอุดมการณ์ยิ่งกว่ารัฐบาลชุดใดๆ พอพาลูกชายที่ไม่ได้เจอหน้ามาสิบปีเข้าบ้านเจ้านายแค่สิบนาที….ตู้ม….ประตูบ้านไปทางไหน อยากจะพาแม่ออกไปทางนั้น


“เราน่ะ….ใคร”  คุณผู้หญิงได้ถามออกมา ในบรรดาทุกคนในบ้าน แกะดำไม่ใช่ใครเลย ไอ้เจนนี่แหละ ไอ้เจนนี่ไง!


“ผะ…ผม…เจนรักษ์ครับ เป็นลูกของแม่อำไพ”  เนื้อเสียงตะกุกตะกักไม่น้อยพอๆกับที่นึกสงสารแม่ แม้จะประกาศกร้าวว่าแม่คนเดียวก็เลี้ยงได้ แต่การให้แม่ผิดใจกับคุณหญิงที่ทำงานกันมานานกว่าอายุไอ้เจนนั่นก็อีกเรื่อง เห็นบ้าๆบอๆแต่เจนรักษ์ก็รู้ว่าทำไมถูกต้อง


“นี่….เจนรักษ์ของแม่อำไพเองหรอกรึ”


“ค่ะคุณท่าน”   ในที่สุดคุณอำไพก็ได้มีปากมีเสียง


“แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณครูกบเขาถึงได้เจ็บตัวอย่างนั้น”  เจนรักษ์กลับมาสะดุ้งอีกครั้ง เออใช่เป็นเจนเองแหละที่ทำ


“คือ….ผม คือ….มะม่วง”  อยู่ๆก็ไข้ขึ้น ปากสั่นเสียงั้น


“ว่าไงเจนรักษ์ ทำอะไรแล้วไม่กล้ารับหรือเรา”  ในเมื่อโดนดักคอมาอย่างนี้ ไอ้เจนจะเป็นคนจริงให้ทุกคนได้เห็นเอง ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดย้วยๆกับกางเกงแค่เข่าถอนหายใจออกมาเมื่อถึงทางตัน แล้วยังไงรู้ไหม….เมื่อเจนรักษ์ต้องพบสถานการณ์ที่เป็นตายแบบนี้


จากนก เจนก็เป็นหมาได้เหมือนกัน พ่อจะกัดไม่เลี้ยงเลย แง่ม!!!


“เจนเห็นคุณเขาไม่สนใจเด็กร้อง แล้วยังดุด่าอีกก็เลยเขวี้ยงไปเองครับ”  หน้าตรงหลังยืด แววตาไม่ยอมใคร จากคนที่เอาแต่ลุกลิกเมื่อครู่นั้นกลับมาแข็งกร้าวอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่คนเป็นแม่ยังตกใจที่ลูกพูดออกมา แต่ไม่แปลกหรอก….คุณอำไพยังไม่เคยเจอฤทธิ์ไอ้เจนมันนี่

 
“เธอว่าอะไรนะ!”


ผม เขวี้ยง เอง ครับ”  ขยี้หนักๆไปเลยไอ้เจน แมนๆกล้าทำต้องกล้ารับ ริจะโยนมะม่วง ถ้าหัวไม่แตกอย่าได้กล้ามาแหกอกไอ้เจน!


“แกโกหก ฉันไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้น”  แต่กลายเป็นคู่กรณีตัวจริงที่หวีดร้องขึ้นมา ตอนนั้นเจนรักษ์เริ่มรู้ตัวว่าตนเขวไปผิดประเด็น เอ…หรือถูกหว่า


“เจน ลูกพูดอะไรน่ะ”  แม้แต่แม่เองก็ยังหันมามองตาวาว อีหยังวะ!


“เจนบอกว่าคุณเขาเอาแต่ถ่ายรูปตอนน้องร้อง พอน้องร้องไม่หยุดยังมาด่าน้องแถมยังทำเหมือนอุดปากน้อง เจนเลยเขวี้ยงมะม่วงใส่ไงแม่”  ตัวการหน้าซีดเผือด คนอย่างเจนรักษ์จะตายต้องตายแบบมีคุณธรรม จัมวรั้ย!


“เจน เรื่องที่เราพูดมามันร้ายแรงรู้ไหม”  แม่พยายามเอ่ยเตือนไม่ให้ลูกชายของตนเองใส่สีตีไข่ แม้เธอจะได้ยินเสียงเด็กร้อง แต่เมื่อวิ่งมาดูก็เห็นเจนกำลังทะเลาะกับคู่กรณี จากนั้นภาพก็ตัดมาที่ถูกเรียกให้มาพบคุณหญิงเพราะอีกฝ่ายวิ่งสี่คูณร้อยมาฟ้องจนลืมรถเข็นเด็กไป เป็นเจนที่เข็นเดินตามไปพบคุณหญิง และยืนสงบเสงี่ยมได้สักแป็ปหนึ่งก่อนจะออกฤทธิ์เดชอย่างที่เห็น แต่ถึงเธออยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นว่าเจนไม่ได้ร้ายกาจ แต่ก็อดไม่ได้ว่าเจนจะโกหกเพื่อช่วยแม่ อำไพเสียใจจริงๆที่เธอไม่ได้เลี้ยงลูกมา ไม่เช่นนั้นเธอคงรู้ใจลูกชายดีกว่านี้


“มันร้ายแรงสิแม่ เด็กทั้งคนนะเลี้ยงแบบนั้นได้ยังไง เจนทนไม่ไหวหรอก”


“ไม่จริงค่ะคุณท่าน ไอ้เด็กนี่มันโกหก กบไม่ทำอย่างนั้นแน่ค่ะคุณท่าน”  เธอหันไปแก้ตัวกับผู้มีอำนาจ และนั่นทำให้เจนหันควับ นอกจากเป็นมือเขวี้ยงแล้ว….ยังเป็นมืออัดและมือซูมด้วยนะ


“ผมไม่ได้โกหกนะ ถ้าไม่เชื่อผมจะย้ำความทรงจำคุณก็ได้”  ร่างบางของเจนย่างสามขุมเข้าไปหา ในมือกำมือถือแน่น แม้เจนรักษ์จะไม่จัดเป็นผู้ชายตัวใหญ่น่าเกรงขาม แต่รังสีที่คุกคามซึ่งแผ่จากตัว ก็ทำให้คนมองอดกลืนน้ำลายไม่ได้ เจนหลบตาเพียงครู่เพื่อไปเสียเวลาสไลด์มือถือในมือนิดหน่อย ก่อนจะเปิดเสียงดังๆให้เจ้าตัวตรงหน้าได้ยินได้เห็น ภาพที่แอบถ่ายจากที่สูงทำให้คู่กรณีตาโต และเสียงที่เปิดดังที่สุดเท่าที่ไอโฟนรุ่นใหม่ของเจนรักษ์จะอำนวย ก็ช่วยให้ผู้คนในห้องส่งได้ลุ้นไปพร้อมๆกัน


“นี่มันอะไรกัน!!!!”  เป็นเสียงของคุณผู้หญิงที่ดังขึ้น ใบหน้าของเธอแดงด้วยความโกรธ ซึ่งเจนรักษ์ก็ไม่แน่ใจว่าโกรธตัวเองหรือเปล่าที่ตลกยิ่งกว่าปาหี่ แต่ช่างเหอะ! พจมานก็มีศักดิ์ศรีของตนเองในฐานะเชื้อสายของสว่างวงศ์ ลูกคนใช้อย่างเจนรักษ์เองก็เช่นกัน! จะไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงแม่และตนเองทั้งนั้นแหละ!


ใบหน้าหวานเชิ่ดรั้นอย่างหยิ่งทะนง กดรีรันคลิปที่ถ่ายมาอย่างตั้งใจและซูมในจุดที่ต้องสงสัยว่าเด็กในรถเข็นกำลังถูกอุดปากไว้อย่างดี แม้จะเก็บภาพไม่ได้มากนักเพราะจิตวิญญาณของพลเมืองดีที่ตนมีนั้นสุดจะทนแล้ว แต่การถ่ายทอดภาพเหตุการณ์ก็ชัดเจนว่าสิ่งที่เจนเห็นและพูดคือความจริง ต้องขอบคุณนิสัยมนุษย์ป้าเอะอะอัดคลิปที่ไม่รู้ได้จากใครมา แต่วันนี้มันเป็นประโยชน์จนนึกขอบคุณตัวเองที่ชอบเสือกและเสือกเก่งนัก!


“คุณกบ!”


“คะ….คุณท่าน”  และในตอนนั้นเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เจนรักษ์ก็ไม่ได้สนใจสิ่งใดแล้ว เจ้าของร่างเล็กที่สูงไม่ถึง 170 เซนติเมตรเดินไปหาแม่ของตนเองและพาออกไปข้างนอก  เป็นแค่คนใช้เขาเราคงไม่ต้องถึงกับยื่นใบลาออกหรอกมั้ง เจนรู้เจนดูหนังมา คุณอำไพก็เดินตามลูกชายมาอย่างงงๆ จนกระทั่งกำลังจะเดินออกจากรั้วบ้านรัตนสกุลนั่นแหละสติจึงกลับคืน


“เจน….นี่ลูกจะไปไหนนะ”  แม่มีท่าทีพะว้าพะวง ดวงตากลมโตของเจนรักษ์มีหยาดน้ำตาคลอ เรื่องก่อวอร์อาจจะเป็นความชื่นชอบส่วนตัว แต่ก็ยอมรับว่าบางทีตนเองก็รับมือกับมันได้ไม่ดีนัก ยิ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกแม่โดยตรง จะให้เจนเชิ่ดหน้ายิ้มเต้นระบำในห้องไม่รับแขกนั่นก็คงไม่ไหว ใจบางไปหม้ดดดดดดดดดดดด


“ผมจะพาแม่ออกไปจากที่นี่”


“แม่ไปไหนไม่ได้ เจนก็เห็น”


“เห็นอะไร ผมเห็นว่าผมก่อเรื่องไว้ แล้วแม่ยังจะอยู่ได้เหรอ”  เจนกระชับมือที่จับแม่ไว้ให้แน่นขึ้น


“เจน….ฟังแม่นะ แม่ไปไหนไม่ได้”


“ไม่…ผมไม่ยอมให้แม่กลับไป”  อย่าให้เจนบีบน้ำตานะแม่!


“เจน แม่ต้องกลับ”


“แล้วแม่จะเอาหน้าไว้ที่ไหน ผมก่อเรื่องไว้ขนาดนั้น”


“เจน…สิ่งที่ลูกทำมันไม่ได้เลวร้าย โอ้ย!ไอ้ลูกคนนี้ มโนอะไรของเอ็งอยู่!”  ในที่สุดแม่ก็สุดทนจนต้องร้องออกมา ยิ่งเห็นแอคติ้งน้ำตาคลอของคนเป็นลูก ยิ่งเห็นว่ามันไม่เข้าที่เข้าทางไปใหญ่


“ไม่เลวร้ายยังไง เจนทำร้ายร่างกายคนนะแม่”


“เหอะ แค่นั้นนะน้อยไปสิ”


“หะ….”


“เออ เขวี้ยงทำไมลูกเดียว วันหลังอย่างก เห็นอย่างนั้นต้องเขวี้ยงสักโหล เข้าใจไหม เจนรักษ์!”  จริงๆเจนต้องห้ามใจหนักมากที่จะไม่เขวี้ยงรังมดแดงใส่ แต่เดี๋ยวนะ! เฮ้ย! อีหยังวะ!


“แม่ เจนงงไปหมดแล้ว”


“งงก็เดี๋ยวไว้คุยกัน แม่ต้องรีบเข้าไป”


“หะ!”


“โอ้ย ไอ้เจน นี่แกเข้าใจอะไรยากจัง คุณหญิงจะไล่ยัยครูนั่นออกแล้ว”


“อะ…อา….”


“เจน! ปล่อยแม่ได้แล้ว แม่ต้องไปดูแลคุณหนูเล็ก แกเข้าใจไหม!”  ไม่เข้าใจ


หน้ากูเนี่ย ไม่เข้าใจอะไรเลยมึง!!!!!!!!!!!!!!


Tbc


Talk:  เจนรักษ์บ่นขิงบ่นข่าเก่ง แถมยังแซะตัวเองเก่งด้วย ตอนนี้น้องเอ๋อนิดหน่อย แต่ต่อไปอาจจะเอ๋อมากกว่านี้55555 เอาใจช่วยน้องนะคะ โดเนทวิตามินให้เจนที

พระเอกค่าตัวแพงนิดหน่อย แต่เดี๋ยวจะรีบให้มาค่ะ:)
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 12-06-2018 01:54:19
ตลก 555555555555555555555 #เพราะเจนนกeveryday  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-06-2018 02:46:12
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 12-06-2018 08:46:41
 :pig2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2018 12:12:57
จากลูกคนใช้จะกลายเป็นคุณนายของบ้านแทน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 12-06-2018 19:42:05
ติดตามนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-06-2018 22:44:15
เจนรักษ์คนขี้บ่น(ในใจ) ฮา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 1] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-06-2018 23:59:21
 :L2: :pig4:

ตลกดี
หัวข้อ: [บทที่ 2] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 13.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 13-06-2018 20:30:23
#เจนไม่นก

เจน….งงไปหมดแล้ว!


 

เจนรู้จักแม่น้อยไป….

อย่างน้อยเจนก็ไม่เคยรู้ว่าแม่วิ่งเร็วขนาดนี้มาก่อน!

 

                                                                                                                                                                                     

นี่มันอะไรกัน เจนงงไปหมดแล้ว แต่ถามก็ไม่ได้ ที่ทำได้คือเดินเอ๋อๆตามแม่ไป อิหยังมันวุ่นวายแท้หนอ บ้านรัตนสกุลคืออะไรที่เจนรักษ์เข้าไม่ถึงจริงๆ แต่ก็จำเป็นต้องเข้าไปในบ้านเขาอีกครั้ง และเมื่อปรากฏกายอีกครั้ง คนก็หันมามองราวกับเขาเป็นไดโนเสาร์ที่ไม่เคยพบเจอ เออเมื่อกี๊เจนก่อเรื่องเองแหละ แต่แม่บอกว่าสิ่งที่ทำลงไปนั่นมันสมควรนะ หรือเขารอให้เราวิ่งไปเอามะม่วงมาเขวี้ยงอีก 11 ลูกให้ครบโหลนึงวะ

 

 

“แม่ลูกไปคุยกันแล้วสินะ”  เป็นคุณหญิงเจ้าของบ้านเอ่ยขึ้น แน่นอน….ไม่ยิ้มเหมือนเดิม

 

 

“ค่ะคุณท่าน”  ในตอนนั้นเองที่เจนได้ยินเสียงนอบน้อมของแม่ ตนเองก็ลังเลอยู่มากว่าควรจะลงไปนั่งกับพื้นเพื่อหมอบกราบให้แน่ใจว่าควรทำตัวเป็นคนมีมารยาทแบบบทคนใช้ในละครไทยหรือไม่ แต่เห็นคนอื่นไม่ทำนี่ก็เลยได้แต่ก้มหน้ามองเล็บขบตัวเองต่อไป

 

 

“เราน่ะ…มานี่สิ เจนรักษ์”  เมื่อเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังขึ้นจากปากผู้มีอำนาจ คนที่คิดว่าตัวเองมีชนักปักหลังก็เด้งใบหน้าที่เอาแต่ก้มมองพื้นของตนขึ้นมา ไม่ต้องเดาเลยว่าไอ้เจนทำหน้าตลกแค่ไหนออกไป

 

 

“ผมหรือครับ”  ชี้หน้าตัวเองเพื่อถามย้ำ ขี้หน้าแบบนี้ใช่ไหมที่คุณผู้หญิงท่านเรียก

 

 

“แล้วจะเป็นใครซะล่ะ มานี่สิ”  เอาวะไอ้เจน ท่านคงไม่เรียกไปตบให้หน้าหันหรอก คิดดูแล้วคงไม่มีใครในชีวิตจริงทำตัวระยำใส่กันขนาดนั้นกับคนที่เพิ่งรู้จักมักจี่ เจนรักษ์ค่อยๆเดิน ก่อนจะคุกเข่าและคลานไปหา ไอ้เราก็ทำตัวไม่ถูกเสียด้วยสิ นี่เจนควรทำตัวอย่างไรให้สมกับเป็นลูกคนใช้หว่า…..

 

 

“ถึงขนาดหมอบคลานมานั่งพับเพียบเรียบร้อยอย่างนี้เลยเหรอ ลูกแม่อำไพนี่นะ”

 

 

“ผมเห็นว่าไม่ควรจะยืนค้ำหัวผู้ใหญ่นะครับ”  แล้วไอ้เจนผิดตรงไหนเนี่ย โอ้ย…กูทำอะไรก็ผิด

 

 

“ขึ้นมานั่งข้างๆสิ ฉันอนุญาตแล้ว ให้ผู้ใหญ่ปวดคอก้มมองได้อย่างไรกัน”  ถือว่าอนุญาตแล้วนะขอรับ ไอ้เจนไม่รอช้ารีบลุกมานั่งข้างๆที่โซฟา

 

 

“คุณผู้หญิงมีอะไรหรือครับ”  เจนรักษ์ที่พยายามไม่ประหม่าเท่าตอนแรกนั้นถามออกไปตรงๆ ใบหน้านิ่งแต่ไม่ติดหยิ่งยโสเหมือนตอนแรก

 

 

“ขอบคุณเธอมากที่ช่วยตาวินหลานฉัน”

 

 

“ไม่เป็นไรครับ” เอาจริงๆนี่ไอ้เจนก็เพิ่งรู้ว่าเด็กที่แหกปากร้องดังไปแปดบ้านแต่คนในบ้านนี้ไม่มีใครรู้เห็นสักคนคือหลานชายของคุณหญิงที่แม่เคยบอกว่าต้องดูแล

 

 

“ฉันจัดการไล่ออกไปแล้ว ใช้ไม่ได้เลย ไอ้เราก็นึกว่าจ้างคนที่จบครูจะช่วยดูแลลูกหลานเราอย่างดี ต้องขอบคุณที่เธอจัดการทุกอย่างให้ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ช่างน้ำใจงามจริงๆ” หน้าตาก็งามด้วยครับไม่อยากจะขาย

 

 

“ผมรู้ครับ เอ้ยไม่ใช่! ผมยินดีครับ”  แม้จะเป็นความจริงที่เจนเป็นคนคลีนๆเป็นมิตรต่อเด็ก คนท้อง และคนชรา แต่การยอมรับหน้าด้านๆก็ทำให้ราคาค่าตัวดูตกต่ำไปน้อย โชคดีที่พลิกลิ้นเก่ง ตอนนี้ก็ยิ้มกลบเกลื่อนไปก่อน

 

 

พูดคุยกันเล็กน้อยให้บรรยากาศดีขึ้นในความรู้สึกของคุณหญิง เจนรักษ์ทำได้แค่หัวเราะเฝื่อนบ้างไม่เฝื่อนบ้างแล้วแต่โอกาส แต่โดยรวมความหวาดเกรงที่มีต่อผู้ใหญ่ซึ่งมีอำนาจสูงสุดของบ้านก็จางหายไปหลายส่วน เรื่องที่เคยคิดว่ามันเลวร้ายกลับกลายมาว่ามันดี ดูเหมือนคุณผู้หญิงจะไม่ได้ติดใจเรื่องทำร้ายร่างกาย หากแต่มองว่าเป็นโอกาสที่ดีเสียมากกว่า

 

 

ว่าแต่โอกาสดีๆอะไรฟะ….

 

 

จำได้ว่าเมื่อกี๊ยังยืนบีบน้ำตาคุยกับแม่จะเอาแม่ออกจากบ้านรัตนสกุลให้ได้ แต่ในตอนนี้เจ้าตัวแสบอย่างเจนรักษ์กลับได้มานั่งในห้องทานข้าว ก็พอจะเข้าใจหรอกว่าเขาไม่ใช่คนงานในบ้าน แต่จะให้มานั่งร่วมโต๊ะด้วยมันก็งงๆอยู่นะ เฮ้ย….นี่ลูกคนใช้นะเว้ย ไม่ต้องให้เกียรติกันขนาดนี้ก็ได้นะ ทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย ที่เรียนมามันไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า

 

 

“วันนี้ฉันมีเพื่อนกินข้าวด้วยอีกคน ลองชิมฝีมือแม่อำไพนะหนูเจน”  จากเจนรักษ์กลายเป็นหนูเจน งุ้ยยยยยไอ้เจนไม่ได้ดูตะมุตะมิน่ารักน่าบีบขนาดนั้นเลยคุณท่าน ก็เข้าใจว่าเอ็นดู แต่ขนอ่อนไอ้เจนก็ลุกทั้งตัวอย่างไม่นัดหมายเช่นกัน ดูสิ อาหารวางตรงหน้ามากมายชวนน้ำลายสอ ทั้งแกงเผ็ด ต้มยำ ปลาทอด แต่เชื่อไหม….นี่กระเดือกไม่ลงเลยครับ….

 

 

ผ่านมาก็หลายชั่วโมงแล้ว แต่เจนก็ยังทำตัวไม่ถูก คนตัวเล็กหันไปมองแม่ผู้ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆกัน แม่ดูเป็นธรรมชาติราวกับว่านั่งที่ตรงนี้บ่อยจนชิน นี่คนใช้อีหยังวะ ทำไมได้นั่งกินข้าวกับเจ้านายแบบนี้ แม่ไอ้เจนทำของใส่คุณหญิงท่านไว้เหรอ ถึงได้มีสิทธิ์มีเสียงมาเทียบนายบ่าวได้อย่างไม่กลัวเกรง

 

 

“เจนรักษ์….อย่าเพิ่งคิดเยอะ”  แต่เหมือนแม่จะเดาทางของเจนที่ต่อสู้กับความคิดของตัวเองไปไกล คุณอำไพพูดดักเอาไว้พร้อมกับส่งสายตาซ่อนความนัยอันลึกซึ้ง และแม้มันจะแปลว่าอะไรก็ตาม

 

 

ไอ้เจนก็จะถามแม่หลังจากนี้อยู่ดีว่า ว้อดเดอะฟัคนี่มันเกิดอะไรขึ้น

 

 

“ว่าแต่เจนเพิ่งมากรุงเทพเหรอลูก”  คุณหญิงยังคงเป็นผู้ถามที่ดี นี่เป็นครั้งแรกที่เจนรักษ์ไม่ได้ตั้งคำถามอะไรตามประสาเจ้าหนูจำไม หากแต่เป็นตนที่กำลังโดนจับราดไฮเตอร์ซัก!

 

 

“ครับ เพิ่งมาถึง”  เมื่อวานไม่นับ ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่อง เจนนอนน้อยกว่าแอร์โฮสเตสบนเครื่องบินด้วยซ้ำ ฝืนยกหนังตาคุยกับแม่ได้สองนาทีหัวก็ปักหมอนเหมือนคนตายไม่มีทางฟื้น แม่งกากก็รู้ตัวอยู่

 

 

“แล้วนี่พักที่ไหนล่ะครับ”

 

 

“อ่อ….ห้องเช่าครับ”  เจนยิ้ม แต่เหงื่อนี่ไหลเต็มหลังคอ ชื่อโรงแรมก็จำไม่ได้ อีกอย่างโรงแรมมันก็เป็นห้องที่เราจ่ายตังค์เช่าเป็นวันๆละวะ! ความหมายเดียวกัน นี่ไม่ได้โกหกใคร มันบาป

 

 

“อ้าว เพิ่งมาแล้วมีห้องเช่าแล้วหรือนี่”

 

 

“เผอิญญาติๆเขาแนะนำมาน่ะครับ”  ก็เป็นจุลภาคญาติผู้เพื่อนนั่นแหละที่จองให้ ก็เพราะเจนมาแบบกระทันหันจองตั๋วปุ๊ปไม่ถึงวันก็บินอย่างนี้ คงมีปัญญาไปวิ่งจองห้องเองได้ยังไง ระหว่างที่ฟังลุงข้างๆนอนกรนบนเครื่องบินนั่นแหละ ก็ได้ ‘ไอ้ตัวจุ้น’ เป็นคนจองตั๋วให้อะไรให้

 

 

“แล้วมาอยู่นานไหม”  ถามไปชิงโชคกับโออิชิเหรอครับ

 

 

“ก็คงสักพักเลยมั้งครับ”  จริงๆคือไม่รู้ครับ ขโมยนาฬิกาเขาไปขายแบบนั้นคงรอให้หมดคดีความก่อนแล้วค่อยกลับมั้ง

 

 

“แล้วก็จะอยู่ห้องเช่านั่นไปน่ะเหรอ”

 

 

“เอ่อ….”  จริงๆผมเล็งจะซื้อบ้านที่มีต้นมะม่วงไว้ปีนเล่นอยู่ครับ แต่คิดอีกทีไปอยู่ป่าดีกว่า ต้นไม้ก็มีให้ปีนเยอะแยะ จะได้ไม่ต้องลำบากกระเป๋าเงิน

 

 

“นี่แม่อำไพ ให้ลูกมาอยู่ที่บ้านเราก็ได้ ยังมีห้องว่างอยู่ไม่ใช่เหรอ”

 

 

“อย่าเลยค่ะคุณท่าน เกรงใจ”  แม่ตอบอย่างนอบน้อม ส่วนเจนรักษ์นี่แทบจะหมอบกราบ

 

 

“เกรงใจอะไรกัน นี่ก็บอกให้เอามาตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนนั้น เราก็เอาไปฝากญาติเลี้ยงซะงั้น เกรงใจทำไม คนกันเองแท้” อะหือออออออ กันเอง นี่กูขาสั่นไปหมดล่ะเนี่ย!!

 

 

“อย่าเลยครับ ผมสุขสบายดี”

 

 

“จะไปสุขสบายได้ไง ห้องเช่าปลอดภัยไหมก็ไม่รู้ ตัวก็เล็กนิดเดียว”  แต่แข้งผมหนักมากครับ อย่าให้เตะใครโชว์ ว่าแต่คุณหญิงนี่อีหยังวะ เอะอะชง เอะอะยัด ไม่อยู่เว้ย!

 

 

“ขอบคุณคุณหญิงท่านที่กรุณามากครับ” แต่วิจารณ์ได้ไหม ก็ไม่ปะวะ รู้ตัวว่าป็อด

 

 

“แล้วนี่งานการล่ะเรา ทำอะไรอยู่รึ”

 

 

“ผมว่างงานอยู่ครับ”

 

 

“อ้าว….”

 

 

“เอ่อ…กำลังคิดว่าจะหาอยู่เหมือนกันครับ คุณผู้หญิงไม่ต้องห่วงไอ้เจนหรอกนะครับ”  แต่ไม่ให้ห่วงได้ไงในเมื่อท่านขมวดคิ้วเป็นรูปโบว์โชว์แล้ว ว่าแต่จะห่วงอะไรกูนักหนา ไอ้เจนยังไม่ห่วงตัวเองเลย

 

 

“แล้วนี่ไปเช่าห้องอยู่ทั้งที่ตกงานนะเหรอ”

 

 

“อา…ผมพอมีเงินเก็บนะครับ”

 

 

“สิ้นเปลืองเปล่าๆ เราจะไปเช่าทำไม เงินทองหายากนะรู้ไหม”

 

 

“ครับ”  รู้สิ กว่าจะมั่นหน้ามั่นโหนกยื่นใบลาออกนี่เลือดตาก็กระเด็นไปหลายแกลลอนเหมือนกันนะ

 

 

“แล้วมีไปยื่นเอกสารทำงานที่ไหนไว้บ้างหรือเปล่า”

 

 

“เอ่อยังเลยครับ คือ….ผมเพิ่งมาถึง”

 

 

“งานการหายากนะเดี๋ยวนี้”

 

 

“ทราบครับ”  ก็ถ้าเอาตัวไม่รอดก็กลับไปให้ตัวจุ้นเลี้ยง และเจนรักษ์มีหุ้นร้านอาหารที่อเมริกากับตัวจุ้นด้วย ถ้าไม่รู้จะทำอะไร เป็นเด็กเสิร์ฟก็ได้ไม่เรื่องมาก

 

 

“มาอยู่กับฉันไหม”

 

 

“อ๋อ ครับ หา!”   ดูเหมือนว่าจะเพิ่งวิเคราะห์คำถามได้ แต่เดี๋ยวนะ คนเขาเป็นลูกมีพ่อมีแม่ปะวะ

 

 

“ไหนๆเราก็ไล่ครูพี่เลี้ยงของน้องวินแล้ว แม่อำไพก็คงจะเลี้ยงเด็กเล็กไม่ไหว หนูเจนก็ไม่น่าจะติดอะไรใช่ไหมจ้ะ”  ก็..จ่ะ….บ้านก็ไม่มี งานก็ไม่มี ทางเทคนิคมันก็ไม่น่าติดอะไร  เฮ้ย! แต่เจนรักษ์ไม่ง่ายนะเว้ย! เห็นแบบนี้เป็นคนมีหนทางและแนวทางเป็นของตัวเองชัดเจน อย่ามาเหมาว่าเห็นหน้าซื่อๆแล้วจะคล้อยตามง่ายๆนะ

 

 

ถึงบางทีจะชอบทำตัวไม่ยากก็ตาม

 

 
xxx

 

 

“จวบบบบบบบ”  เสียงดูดนิ้วของคนตัวเล็กที่ทำให้แม่ต้องมองค้อน ไหนนักเรียนนอกที่บอกแม่ว่าแพคใส่กล่องเอาไปอวดได้ ก็แค่ไอ้เด็กเจนที่ปีนกำแพงไปขโมยมะม่วงบ้านข้างๆหรือเปล่า คุณอำไพมองลูกชายคนเดียวของตนที่ดูจะไม่เจริญอาหารที่โต๊ะเสียเท่าไหร่ เลยต้องหิ้วมาพากินมะม่วงน้ำปลาหวานในห้องครัว

 

 

“แม่ น้ำปลาหวานเหมือนที่ยายทำเลยอ่ะ”

 

 

“งั้นเหรอลูก”

 

 

“เดี๋ยวใส่ถุงให้ผมเลยนะ แล้วไอ้มะม่วงนั่น เดี๋ยวผมแบกกลับเอง จองแล้ว”

 

 

“เออ อย่าท้องเสียซะล่ะ ไม่ได้กินอะไรแบบนี้นานแล้วไม่ใช่เหรอ”

 

 

“เออก็นะ เดี๋ยวคืนนี้รู้เรื่องเลย”  เจนรักษ์พูดอย่างไม่ยี่ระ ท่าทางแข็งเกร็งเมื่อครู่หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

 

 

“แล้วนี่ ที่คุณท่านชวน แกจะมาไหม”

 

 

“ผมก็นะ….ตั้งใจจะไปหางานทำอะแหละ แต่ตอนนี้คิดไม่ออก ว่าจะกินๆนอนๆสักพัก”

 

 

“แต่ที่คุณท่านพูดก็มีส่วนถูก เจนจะลอยไปลอยมาอย่างนี้ไม่ได้ งานการมันหายากนัก”  ข้อเท็จจริงนี้เจนรู้ดี แต่ก่อนจะลาออก ซึ่งจริงๆแม้จะออกปุบปับ แต่เจนก็พึงคิดเสมอถึงหนทางไปต่อโดยไม่รอให้เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นในชีวิต ชีวิตนกๆของเจนเจอะเจอมาแล้วซึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมาย ทำให้ตนค่อนข้างจะมีสติและรอบคอบกับการใช้ชีวิตจนติดระแวง แต่แม่งบุญกรรมที่ทำมาคงเสริมส่งให้มาเกิดเป็นพญานกตั้งแต่เด็ก ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่เรื่องนกๆก็ควบคุมได้ยากมากมาย เจนรักษ์จึงทั้งกังวลและมั่นใจในตัวเองไปพร้อมๆกัน

 

 

“แล้วแม่อยากให้เจนมาอยู่นี่ไหมล่ะ”

 

 

“………….”

 

 

“แม่โอเคเหรอ”

 

 

“แม่…..”

 

 

“จริงๆถ้าแม่บอกว่าจะมาอยู่กับเจนถ้าเจนมีความมั่นคงมากกว่าเดินวิจัยฝุ่นแบบนี้ แม่เชื่อไหมว่าเจนทำให้แม่ได้” ใบหน้าที่มักจะขี้เล่นเสมอของเจนรักษ์นั้นจริงจังโน้มน้าวให้คนเป็นแม่รู้สึกเชื่อถือ ลูกของเธอ….เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้วหรือนี่

 

 

“………….”

 

 

“แต่เจนเห็นแม่มองคุณหนูเล็กนั่นแล้ว เจนรู้ ถึงแม่อยากอยู่กับเจนแต่ก็ไม่กล้าไปหรอก”  แม่อาจจะบอกเจนว่ามีหน้าที่เลี้ยงดูคุณหนูวินหลานชายของคุณพรรณี แต่ว่าจริงๆแม่ไม่ได้ทำหน้าที่นั้นโดยตรง แม่อยู่ที่นี่เพื่อดูทุกอย่างให้เรียบร้อยเป็นเหมือนตัวแทนสอดส่องให้คุณผู้หญิง และนั่นเป็นพันธะทางจิตใจที่แก้ยากสำหรับบางคน เจนไม่ได้น้อยใจที่แม่เลือกงานมากกว่า เพราะตนเองก็เลือกงานมาตลอดสิบปีและมีข้ออ้างมากมายเสมอเมื่อเป็นเรื่องของงานกับครอบครัว บางทีเราก็เหมือนกันมากกว่าที่คิด และเจนเพิ่งตระหนักได้

 

 

“เจนก็เห็น….ใครๆก็ไว้ใจไม่ได้”  ในบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นอาณาจักรของแม่มาหลายสิบปี การทำให้ทุกคนในบ้านพึงพอใจ และได้ผลตอบรับเป็นเงินเดือน คำชม และความไว้วางใจทำให้แม่ไม่อยากไปไหน เจนพอจะดูออกและไม่ได้ตำหนิอะไร เพราะเท่าที่ดูคุณผู้หญิงเองก็ไม่อยากจะเสียแม่ไปด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่าวันนี้เจนรักษ์มาที่บ้าน และเมื่อเปิดช่องโอกาส

 

 

ก็เลยรีบผูกมัดเอาไว้….

 

 

สายตาที่เต็มไปด้วยการประเมินตั้งแต่แว่บแรกที่ได้เจอทำให้รู้สึกประหม่าไม่น้อย เจนต้องสงบปากสงบคำไมใช่แค่เพราะกลัวว่าจะเสียมารยาท แต่จริงๆเจนแค่กลัวว่าตนจะพูดเรื่องของตนเองเยอะเกินไป คุณผู้หญิงไม่ได้มีเป้าหมายเป็นเจนรักษ์หรอก ที่ชวนมาทำงานก็เพราะต้องการจะผูกมัดแม่ไว้ต่างหาก…..ใช่….ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนแล้ว…..

 

 

เรื่องที่คุณผู้หญิงชวนไปอยู่ เจนที่ยังเรียนม.3ก็รับทราบดี แต่ตนสะดวกใจที่จะไปอยู่กับญาติที่สนิทสนมกันมากกว่า อีกทั้งมีตัวจุ้นซึ่งเป็นเด็กวัยเดียวกันอยู่ด้วย เจนจึงปฏิเสธคำชวนของแม่ที่มาบอกกล่าวความต้องการของคุณหญิงให้ ทั้งนี้เจนไม่มีอคติอะไร แค่เห็นว่าอย่างไหนอยู่แล้วสบายใจกว่าจึงเลือกอย่างนั้น

 

 

การผูกมัดที่แม่โดนอยู่ เจนไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี….คุณพรรณีให้เกียรติคุณอำไพดีกว่าแม่บ้านคนอื่นๆ สถานะของแม่คือการเป็นหัวหน้าของคนงานทุกคนในบ้านหลังนี้ อีกทั้งรายได้ของแม่ก็เรียกว่ามากมายเมื่อเปรียบเทียบกับตำแหน่งเดียวกัน มันเป็นค่าน้ำใจและความไว้ใจ เจนรักษ์คิดเช่นนั้น และเพราะเจ้าบ้านให้เกียรติกับแม่มากมายขนาดนี้ เจนที่ไม่ได้อยู่ดูแลแม่มาตลอดหลายปีคงไม่มีหน้าไปตัดสินใจอะไรแทนหรือบังคับให้แม่ทำอย่างที่เขาต้องการ เพราะอย่างไรสิ่งที่สำคัญที่สุด

 

 

ก็คือความต้องการของแม่เอง….

 

 

“แม่เลี้ยงมา เห็นมาแต่อ้อนแต่ออก แม่ก็รัก ไม่ได้หมายความว่าแม่ไม่รักเจนนะ”

 

 

“เจนเข้าใจแม่ เจนเห็นหน้าคุณหนูน้องวินแล้วยังเอ็นดูเลย แม่ไม่ต้องคิดมากนะ” จริงๆก็มีสะอึกกับประโยคเมื่อครู่นิดหน่อย แต่ช่างเหอะ ความจริงคือสิ่งไม่ต่าง เจนต้องยอมรับ และแม้เจนจะชอบแซะตัวเองว่าเป็นลูกคนใช้ แต่จริงๆเจนนับถือทุกวิชาชีพ การทำงานแลกเงิน อย่างไรก็ถือว่ามีศักดิ์ศรี ยิ่งเงินของแม่บ้านที่แม่ให้มา มันช่วยชุบเลี้ยงให้เด็กบ้าบอคนนี้เติบโตขึ้นมาในสังคมอย่างเต็มภาคภูมิ

 

 

“แล้วเจนจะมาทำงานที่นี่ไหม”  แม่ถาม ทั้งนี้แม่ไม่ได้คาดคั้นหรือคาดหวังไปในทางใดทางหนึ่ง เจนนิ่ง คิด จมอยู่กับตัวเอง….ไม่แปลกที่แม่จะไม่กล้าไปไหน เพราะขนาดคนที่จ้างมาอย่างดีเพื่อให้ดูแลยังทำเช่นนั้น จากนี้บ้านหลังนี้คงไม่ไว้ใจใครง่ายๆแล้ว ที่เจนเป็นข้อยกเว้น นั่นก็เพราะวีรกรรมที่โดดเด้งนั้นต่างหาก

 

 

และคงจะดีถ้าเจนจะได้ดูท่าทีของบ้านหลังนี้ไปอีกสักพัก….

 

 

“ก็ได้ฮะแม่” ก็เอาสิ…..ไหนๆก็อยากเป็นคนตกงานที่มีเวลาอยู่กับแม่อยู่แล้วนี่…..

 

 

งั้นก็มาทำงานรับเงินเดือนอยู่กับแม่ที่นี่เลยล่ะกัน…..

 

 

XXX

 

 

แต่เจนคงลืมข้อเท็จจริงไปข้อนึง

นั่นคือเด็กมันไม่ได้เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่….

 

 

ว่าคุณพรรณีกดดันเก่งอย่างกับที่ทับกระดาษแล้ว อีตาคุณ ‘นักรบ’ อะไรนี่มันเท้าช้างเหยียบแล้วล่ะ! หลังจากที่เดินมาคุยกับคุณหญิงถึงผลการตัดสินใจว่า ‘เราเลือกคุณ’ ใบหน้าที่เคยมองกันดุๆนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มดีใจ เราดูคุณออกเถอะ แหม่มมมมมมมมม แต่เจนไม่ได้เอ่ยปากออกแซวออกไปให้คุณผู้หญิงท่านหน้าตึง แต่ก็เป็นท่านที่เป็นสาเหตุให้เจนหน้าตึงเสียเองเมื่อท่านได้โทรศัพท์บอกลูกชาย เกริ่นตั้งแต่ว่าไล่พี่เลี้ยงเด็กคนเก่าออก และได้คนใหม่มาแล้ว คาดว่ายังไม่ทันพูดจบประโยค ปลายสายก็ชิงตัดสายและถ่อมาดูขี้หน้าขี้ข้าคนใหม่ของบ้านหลังนี้

 

 

และเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่เจนมีต่อคุณนักรบคือผู้ชายที่มองกันตั้งแต่หัวยันเล็บขบ!

 

 

อีหยังวะ จ้องซะอย่างกับอยากจะเข้ามาตัดเล็บให้  ไม่ต้องเกรงใจนะ เดี๋ยวไอ้เจนยกขาหน้าให้เอง! แน่นอนว่านั่นเป็นแค่ความในใจที่ไม่อาจจะบอกให้ใครได้รับรู้ เจนรักษ์ยังคงนั่งยิ้มเป็นคนดีข้างๆแม่ ทั้งๆที่ในใจนี่ร้อนอย่างกับโดนไฟเผา อย่าได้คิดว่าไอ้เจนกำลังกลัวใคร  ไม่! นี่อยากจะเดินไปกระชากคอเสื้อลูกคนหญิงแล้วถามมันตรงๆว่ามองหน้าหาพ่องเหรอ แต่ที่คิดก็คือที่คิด คนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงย่อมทำอะไรไม่ได้เดี๋ยวโดนแม่ด่า….

 

 

ใช่ซี่…..เขาเลี้ยงกันมาตั้งแต่เด็ก ความถือหางก็ย่อมมีโอนเอียงไปให้มากอยู่แล้ว ตอนแรกก็ไม่อยากจะอะไรเท่าไหร่เพราะเห็นว่าคนเราไม่ต้องมาเดินร่วมทางกันเสมอไป อย่างไรลูกในไส้ก็คือลูกใสไส้ แต่วันนี้เมื่อได้สบตาแล้วก็พบว่าก็คนมันไม่ถูกขี้หน้าเรา แล้วเราจะไม่ชอบมันทำไมละวะ เจนรักษ์จึงกำหนดความสัมพันธ์ให้ว่าที่เจ้านายใหม่โดยยังไม่ฟังเขาเปิดปากแต่อย่างใด ไม่รู้ล่ะ…กูก็เกลียดขี้หน้ามัน

 

 

“คุณแม่ไล่คุณครูกบออกเหรอครับ”

 

 

“ก็ใช่นะซิ”

 

 

“แต่ครูกบคือคนที่คุณอาของรดาแนะนำมา”

 

 

“และก็เป็นคนที่ด่าทอ อุดปาก และทิ้งหลานชายฉันไว้ในสวนเหมือนกัน”  ใช่ฮะคุณหญิงแม่ คนแบบนี้เราอย่าไปยอมมัน!

 

 

“ถ้างั้นเรายิ่งไม่ควรไล่ครับ ควรจะแจ้งความก่อน”  อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่

 

 

มนุษย์นักรบทำให้เจนรักษ์ที่เพิ่งประกาศตัวว่าไม่ถูกขี้หน้านึกรัวมืออยู่ในใจ นี่แหละ! คือสิ่งที่คนมีอารยะพึงจะทำ ไล่ออกจากบ้านแล้วจะตามตัวได้ที่ไหน ต้องลากไปโรงพัก นัดนักข่าว แชร์คลิปในเน็ตเรียกไลค์ /เอ่อมนั่นก็เกินไป แต่ที่พูดมาทั้งหมด ใช่แล้ว ควรจะให้ตำรวจมาเกี่ยวข้อง สิ่งที่เกิดขึ้นมันเข้าข่ายทำร้ายร่างกายเลยนะ เจนหันไปพยักหน้าให้คนเสนอไอเดียเมื่อสายไป อยากจะยกนิ้วโป้งให้ แม้ว่าเขาจะไม่แม้แต่ปรายตามองกันเลยก็ตาม

 

 

“ถ้าแม่ทำอย่างนั้น ไม่ใช่แกรึที่จะโกรธเคืองแม่ นั่นคนของรดาเชียวนะ”  คนชื่อรดานี่มันไผฟะ! เสือกไม่ถนัด ควรมีซับไตเติ้ลประกอบให้ด้วย

 

 

“เป็นคนของคุณอาของรดาเท่านั้นครับ ไม่ใช่คนของรดา”  แต่เมื่อกี๊ก็พูดเหมือนคุณอาอะไรนั่นสำคัญอยู่นะ

 

 

“แล้วอาของรดาไม่สำคัญหรือไง เห็นแกอะไรๆก็รดาๆ แม่ล่ะเอือมระอาจะตายอยู่แล้ว”  ใช่ๆ อันนี้ก็อยากเข้าใจด้วย

 

 

“ อาของรดาไม่สำคัญเท่าครับ ผมแยกแยะได้”  อีหยังวะ ไอ้เจนแยกแยะไม่ได้

 

 

“แม่จะไปรู้กับแกหรือไง!”  เจนก็ไม่รู้ อย่าถามเจน

 

 

“ช่างเถอะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปจัดการเอง”  อ้าวไม่เถียงกันต่อเหรอ แย่จัง ผู้ชมทางบ้านที่เกาะหน้าจออย่างเจนรักษ์นั้นนึกเสียดาย แต่คงจะลืมคิดไปว่าตนเองก็เป็นหัวข้อถัดมาของบทสนทนาอันเกรี้ยวกราดของแม่ลูกคู่นี้

 

 

ไอ้หยา…………

 

 

“แล้วนั่นใครครับ”

 

 

“เจนรักษ์ ลูกของอำไพ”

 

 

“ครับ”  แค่นี้เหรอ ฮ่วย! นี่ใจกูเต้นแรงเพื่อ!

 

 

“ต่อจากนี้จะมาอยู่กับเราในฐานะพี่เลี้ยงคนใหม่”  ขอบคุณสำหรับการแนะนำ ความสนใจกลับมาที่เจนอีกครั้ง และก็ได้รับสายตาไม่ไว้วางใจยิ่งกว่าตอนดูรัฐบาลอภิปรายมาหนึ่งอัตรา โห่ยยยยยย จะมองแรงเพื่อ…..

 

 

“ใครนะครับ”  คนหน้าตาดีเอง หูไม่ดีเรอะ!

 

 

“แม่บอกว่านี่คือเจนรักษ์ ลูกของอำไพที่แม่เคยจะให้มาอยู่กับเราเมื่อสิบปีก่อนไง”  หลังจากการแนะนำครั้งที่สองเสร็จสิ้น มุมน้ำเงินก็นั่งหลังตรงและยกมือพนมไว้มุมแดงที่ยังคงนิ่งเหมือนน้ำแข็งก้อน

 

 

“ผมเจนรักษ์ครับ”

 

 

“ผมไม่อนุญาต”  ชนะน็อค ดีครับ ผมก็ไม่อนุญาตตัวเองให้อยู่ที่นี่แล้วเหมือนกัน

 

 

“แต่แม่เลือกแล้ว เจนรักษ์เป็นคนช่วยตาวินจากยัยครูอะไรนั่น และยังเป็นลูกของอำไพที่แม่ตั้งใจจะให้มาอยู่กับเรานานแล้ว จากนี้เจนจะมาช่วยอำไพดูแลลูกของรบ เพราะอำไพต้องทำอย่างอื่นด้วย”

 

 

“ผมว่าเรายังพอมีเวลาหาคนใหม่ คุณแม่จะให้ลูกแม่ไพอยู่กับเราก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งนี้”  หูววววแม่ไอ้เจนรักษ์นี่ศักดิ์เป็นแม่ไพของลูกชายเจ้าของบ้านด้วย ไอ้เจนยังไม่เคยเรียกแม่ว่าแม่ไพเลยนะ

 

 

“เพราะอะไรแกถึงได้ตั้งแง่เก่งอย่างนี้!”  งี่เง่าเก่งด้วย บอกเลย

 

 

“ผมไม่ได้ตั้งแง่ แต่คิดว่าคนที่จะมาทำหน้าที่เลี้ยงลูกของผมควรผ่านการตรวจสอบให้ดี”

 

 

“แล้วตรวจสอบภาษาอะไรยัยครูนั่นถึงผ่านมาได้”  ใช่! คนล้มเราอย่าข้ามครับ ต้องเหยียบให้มิด

 

 

“ตรงนั้นผมถือเป็นความผิดของผมเอง แต่เพื่อทำให้ดีขึ้น ผมจึงคิดว่าเราควรจะคัดเลือกให้ดีกว่านี้”  แล้วไอ้เจนนี่มันไม่ดีตรงไหนหะ เออ! กูนกเก่ง แต่ไปทำรังบนหัวใครไหม! ยิ่งคิดยิ่งขึ้นนะนี่

 

 

“ผมว่าที่คุณเขาพูดก็ถูกนะครับ การเลี้ยงเด็กมันสำคัญ”  เจนรักษ์เอ่ยขึ้นมา ยอมเป็นหมากลับคำพูดก็คราวนี้ แต่กูไม่เป็นแม่งแล้วพี่เลี้ยงให้ลูกชายของไอ้บ้านี่!

 

 

“คนอื่นเขาคุยกันอยู่ ไม่มีมารยาทหรือไง”  นี่ไอ้เจนยังไม่ได้เริ่มงานเลยนะครับคุณเจ้านาย

 

 

“แล้วที่วิจารณ์คนอื่นต่อหน้า มีมารยาทมากเลยนะครับ”  ไอ้ฉิบหาย คิดดังไป!

 

 

“…………..”

 

 

“เอ่อ ผม…”   ผมอะไรดี ผมยอมรับว่านกเก่งครับ เป็นตัวซวยระดับนานาชาติ อย่าจ้างผมเลยครับ เดี๋ยวจะพานกทั้งบ้าน เหตุผลนี้มันใช้ได้ปะวะ เออ…รู้งี้น่าจะถามแม่ก่อนว่าบ้านนี้เขาอินฮวงซุ้ยไหม จะได้หัดทำหน้าเป็นกาลกิณีมาหา  เอ๊ะ…..แต่จะทำหน้าเป็นกาลกิณีทำไม  แค่นี้เขาก็ขยะแขยงยิ่งกว่าเป็นแมลงสาบไปไต่รูจมูกเขาอยู่แล้ว!

 

แต่ไอ้เจนเป็นนกเว้ย ไม่ใช่แมลงสาบ!





tbc





talk: รู้สึกมันมือเวลาแต่งเรื่องนี้มาก บางทีนี่อาจจะเป็นความในใจของคนนกเก่งอย่างเรา รู้สึกได้ปลดปล่อยจริงๆ5555

เรื่อง #อาทิตย์ศศิ ที่แต่งลงพร้อมๆกันอยู่ก็ปั่นอยู่เช่นกันค่ะ แต่เรื่องนี้แต่งง่ายกว่าเลยเหมือนจะลงได้ถี่กว่า ต้องขอโทษคนรออีกเรื่องด้วยนะคะ


ฝาก #เจนไม่นก ด้วยนะคะ และใครอยากคุยเราเล่นทวิตด้วยนะคะ>< @reallyuri



m(._.)m
หัวข้อ: Re: [บทที่ 2] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 13.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-06-2018 21:24:42
 :L2: :pig4: :L1:

แรงส์  ต้องทันกันแบบนี้สิ

ปล เราก็เพลินกันความคิดของคนเขียนนะ  ความคุ้นชินที่บางที่เราก็สงสัยเหมือนกัน แบบ ใช่หรอว่ะ 55

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 2] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 13.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-06-2018 21:25:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 2] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 13.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 13-06-2018 22:32:28
เขียนสนุกจนไม่น่าเชื่อคือคนเขียนคนเดียวกับเรื่องอาทิตย์ศศิเลยครับ เพราะเรื่องนั้นสำนวนต้องค่อนข้างแฟนตาซีและแนวจักรๆวงศ์ๆมาก ตัวพล็อตกับอีเวนท์ก็จะออกแนวไปทางสมัยโบราณ แต่พอเป็นเรื่องนี้ เรียกได้ว่าโทนเรื่องพลิกกลับกัน 360 องศาเลยทีเดียวครับ แถมคุณเขียนออกมาได้ดีด้วยนะครับ! ภาษาบรรยายของเจนสนุกมาก ฮามาก เป็นคนที่ดูรู้เลยว่ามีความนก และเป็นคนดี อาจจะบ๊องๆบวมๆไปนิดนึงแต่ก็ถือเป็นสีสันของเรื่องได้ดีทีเดียวครับ การบรรยายผ่านเจนที่ทำให้เห็นท้องเรื่องที่ดำเนินไป ก็ถือว่าทำออกมาลื่นไหลใช้ได้ อ่านเพลินดีครับ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 2] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 13.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-06-2018 10:51:31
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: [บทที่ 3] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-06-2018 19:15:59
#เจนไม่นก
เจนอยากนก








ขณะที่เจนไม่รู้จักแม่ดีพอ  ในที่นี่ก็ไม่มีใครรู้จักเจนเหมือนกัน!
เออก็กูเพิ่งจะเคยมานี่เนอะ….


“เจน!”  แม่หันมา เออไอ้เจนรู้แล้วว่าพูดแบบนั้นกับคุณนักรบเขาไม่ได้ แต่ความคิดมันดันหลุดออกมาจากปากแล้วนี่ ให้เขาไล่ออกเลยได้ไหม จะได้ไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืด


“ผมขอโทษครับ”  แต่เจนที่ไม่เคยยอมใครในความคิดก็ยอมก้มหัวง่ายๆ ไม่ใช่ว่าตนไม่มีศักดิ์ศรี เจนแค่ขี้เกียจต่อความกับคนแบบนี้ คนประเภทที่อย่าเป็นศัตรูด้วยดีกว่า…น่าจะเหนื่อย…..ไม่หาปัญหาใส่ตัวให้มากเกินไป คือกฎหลักในการใช้ชีวิตแบบนกๆของเจนอง


แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจการส่งสารที่ส่งไปสั่วๆ แต่ก็เสียแรงปั้นหน้าเสียใจไปหลายส่วนของเจนรักษ์เท่าไหร่ หรือไม่ก็เรียกว่าเขานั้นรู้ทันนั่นแหละ เจ้าของร่างสูงอย่างนักรบเมื่อได้มายืนตรงหน้า ก็ช่วยยืนยันว่าถ้าต้องต่อยกันคนที่ล้มก่อนคือไอ้เจนแน่นอน  ส่วนสูง170เซนติเมตรยังมิอาจเอื้อมถึงของเจนนี่หรือ ที่ริจะไปสู้กับคนที่สูงเกิน180แบบยักษ์ปักลั่นแบบเขา  คิดว่าเดินเข้ามาหาเรื่องแล้วจะกลัวเหรอวะ เออกลัวก็ได้! แต่คนมีอารยะที่แท้ทรูเขาไม่ได้ต่อยกันหรอกเว้ย! เป็นชาวถ้ำหรือไง! นี่ก็ถ้ำนะ….ถ้ำมองเก่งรองมาจากนกเก่ง….


“นายชื่ออะไรนะ”


“เจนรักษ์ครับ”  จะให้สะกดให้ฟังเลยก็ได้ แต่คิดดูแล้วกลัวว่าเขาจะเอาไปใช้ทำคุณไสย


“เรียนจบอะไรมา”


“เอ่อ…มัธยมต้นครับ”  แน่นอนว่าไอ้เจนโกหกครับ ในเมื่อกลับไปแกล้งบอกชื่อผิดก็ไม่ได้ งั้นก็แกล้งบอกการศึกษาผิดๆไปแทน แต่เดี๋ยว….ทำคุณไสยสมัยนี้เขาไม่ได้ใช้ระดับการศึกษาปะวะ?


“เธอคิดว่าเด็กที่จบแค่ ม.ต้นจะสามารถเลี้ยงลูกคนอื่นได้ไหม”


“ไม่ได้ครับ”  นี่ก็ไม่เลี้ยงแล้วไง เลี้ยงไม่ได้ มีพ่องี่เง่าอย่างนี้เลี้ยงไม่ได้หรอกครับ ไอ้เจนไม่อยากเลี้ยง….


“เข้าใจอะไรง่ายดีนี่”  ริมฝีปากของเขาหยักขึ้นอย่างพอใจ แต่นั่นก็ยังดูหยิ่งยโสในสายตาคนมองอยู่ดี  ช่างเหอะ ต่อให้ยิ้มจนปากฉีกไปอยู่หลังหูก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วย เอาเป็นว่าการว่าจ้างถือเป็นโมฆะแล้วก็โอเค


“แต่แม่ไม่เห็นด้วย”  อีหยังวะ!  ร่างเล็กของเจนรักษ์หันขวับไปทางต้นเสียง เป็นนายเหนือหัวของบ้านที่ถือหางข้างเจนรักษ์มากที่สุด โถ…..เก็บความเป็นห่วงของคุณนายเถอะครับ ไอ้เจนจะหายใจไม่ออกเพราะคุณนักรบอะไรนี่ขยันแย่งอากาศหายใจเก่งเหลือเกิน


“แต่เจนรักษ์เขาพูดแล้วนี่ครับ ว่าเขาไม่มีความมั่นใจ”  ทว่าคนลูกกลับตอบแบบสบายๆ เออ….เจนรักษ์แม่งเปิดทางให้ขนาดนั้นด้วยชัดเจนขนาดนี้ เขาสามารถอ้างอิงได้เต็มอัตราศึก  นี่พยักหน้างึกงักเห็นด้วยอยู่ข้างหลังนี่มีใครเห็นบ้างไหม อ๋อ…ไม่…180 กว่าของคุณนักรบบัง 160 กว่าของเจนรักษ์ซะมิดเลย รู้สึกผิดต่อนมโรงเรียนที่จ่ายเงินแต่ไม่เคยกินขึ้นมาซะงั้น…


“เขาจะเห็นด้วยหรือไม่นั่นก็อีกเรื่อง แต่การที่ลูกอ้างการศึกษาไม่เหมาะสมนั้นไม่ได้”


“คุณท่านครับ ไม่เป็นไรเลยครับ”  รางวัลตุ๊กตาทองต้องส่งไลน์แมนมาให้เจนรักษ์ถึงมือ! นี่ลงทุนบีบน้ำตาให้เวทนายอมปล่อยกันไปเลยนะ


“โถลูก…ร้องทำไมกัน ตารบ! เห็นไหมว่าน้องร้องเพราะเราพูดจาไม่ดีด้วย”  ฟ้าคคคคคค ไม่ใช่ว้อย


“เจน…”   แม่หันมาสะกิด แน่นอนว่าคนเป็นแม่ย่อมไม่เชื่อว่าน้ำตาที่หลั่งรินของลูกชายนั้นมาจากความบริสุทธิ์ใจ เออ! ใจไอ้เจนนะมันอกุศล แต่อย่าตีเจตนารมณ์กันผิดได้ไหม ช่วยเสียดายน้ำตาและน้ำลายที่เสียไปของไอ้เจนบ้าง! โห้ย!


“นักรบฟังแม่นะ”


“………..”


“เธอไม่เกรงใจแม่ ไม่เกรงใจเจนรักษ์ แต่ช่วยเกรงใจแม่ไพด้วย”


“…………”


“เธอรู้ว่าอะไรควรไม่ควรนะ ส่วนเรื่องเจนรักษ์ แม่ยังยืนยันอย่างนั้น แต่ถ้าลูกไม่สบายใจก็ลองยื่นข้อเสนอดีๆกว่าเรื่องอ้างการศึกษา เธอรู้ดีว่ามันไม่ควร”  อะไรที่ไม่ควรวะ…..


เจนแอบมองแม่ อยากจะถามใจจะขาด แต่บางอย่างก็ทำให้เข้าใจได้ อย่างที่คุณพรรณีว่า เรื่องที่คุณนักรบพูดมาจะถูกหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ในเมื่อเขายังเติบโตมาได้ด้วยฝีมือของคุณไพ ไม่ว่าจะโตมาเป็นแบบไหน แต่คุณไพที่เลี้ยงมาก็ไม่ได้ทำให้เขาเลวร้ายขนาดที่จะดูถูกตัวเองลง ไม่สิ….คนแบบเขาไม่ใช่แค่ไม่ดูถูกตัวเอง แต่ยังภูมิใจในสิ่งที่เป็นมากๆ และแม่ของเจนก็ไม่ได้เรียนมาสูงเหมือนกัน แต่ยังเลี้ยงให้เขาเติบโตมาอย่างที่เขาภูมิใจในตัวเองได้ ประเด็นทางด้านการศึกษาจึงไม่น่าพูดถึงเพราะนอกจากมันจะจะพิสูจน์อนาคตของเด็กคนไหนไม่ได้


มันยังเป็นการดูถูกคนที่เลี้ยงมาในอีกทางหนึ่งด้วย


“ผมขอโทษครับแม่ไพ”  ไม่ให้รอนาน เมื่อถูกเตือนว่าทำผิด คุณนักรบที่ไม่น่าจะยอมอะไรใครง่ายๆกลับก้มหัวขอโทษแม่ของไอ้เจน แน่นอนว่าเขาไม่ได้ดูถูกแม่และสมควรจะขอโทษเจนมากกว่า แต่เป็นเช่นนี้เจนรักษ์ก็พอใจ จริงๆคนแบบเจนไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขาอยู่แล้ว ในเมื่อตนเองก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว จะไปสนทำไมกับแค่คำขอโทษ แต่เมื่อได้เห็นว่าเขาแคร์แม่ของตนแค่ไหน ความขุ่นเคืองในใจก็เหมือนจะลดลงมานิดนึง


“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณรบ คุณรบไม่ได้ตั้งใจนี่คะ”  ความตั้งใจนะมี แต่ไม่ได้มีให้กับแม่ต่างหากล่ะวู้ววววว ไอ้เจนอยู่นี่เอง ไอ้เจนยืนเป็นหมาอยู่นี่ไง


“ไม่ได้ครับแม่ไพ เรื่องนี้ผมอคติจนลืมคิดไปจริงๆว่าแม่ไพเลี้ยงดูผมมาดีแค่ไหนเหมือนกัน”  ถ้าไม่ติดว่าวางตัวไม่ถูก ไอ้เจนที่คุณเขาเกลียดขี้หน้าก็อยากจะปรบมือให้กับความลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดงนี่เหมือนกัน


โอเค….นี่ก็คนจริงเหมือนกันไง ต้องยอมรับว่าปัญหาระหว่างเราคือระหว่างเรา และเจนไม่สนใจความรู้สึกคุณนักรบนี่เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากมีเรื่องเพราะไม่นิยมสร้างศัตรูที่มีจริยธรรมระดับหนึ่งแต่พร้อมบวกอีกหลายระดับเช่นเขา ชีวิตของเจนที่ผ่านมาบวกคนมาเยอะจนเหนื่อยพอแล้วจึงอยากหาความสงบให้ตัวเองในช่วงนี้เพราะรู้ว่ามันจะไม่ยืนยงตามประสาคนคิดไม่ดีแบบดังๆ เกิดเป็นเจนรักษ์แค่คิดก็ผิดแล้ว….ผิดที่ไม่เก็บไว้แค่คิดและติดจะปากหมาเปรี้ยวตีนคนอื่นเก่งพอๆกับที่นกเก่งนั่นแหละ


“เรื่องเจนรักษ์”  เอาไงครับ เวียนเทียนมาถึงไอ้เจนจนได้


“คุณรบ คุณรบไม่ต้องอะไรก็ได้นะคะ เดี๋ยวแม่ไพจะช่วยดูคุณหนูให้ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ”


“ไม่ครับ แม่ไพงานเยอะ จะมาดูตาวินอย่างเดียวไปพร้อมๆกับดูบ้านและคุณแม่ไม่ไหวหรอกครับ”  หูยยยยย เจ้านายผู้มีศีลธรรมสูงส่ง


“แต่คุณรบไม่สะดวก และเจนเองก็ไม่เคยดูแลเด็กมาก่อน….อาจจะไม่เหมาะ…..”  ดีมากแม่! เป่าหูหนักๆ เชียร์ให้ใหญ่ๆไปเลย ไอ้เจนเลี้ยงลูกเขาไม่ได้หรอก เพราะพ่อแม่งงี่เง่า เอ้ย! ไม่ใช่ เจนมันงัว เจนมันควาย พูดไปเยอะๆเลยแม่ พูดให้หมด เจนมันไม่มีอะไรดี๊!


“ตกลงครับเราจะให้เจนรักษ์ดูตาวิน”


อ้าว….


“ในระหว่างนี้ผมจะคอยจับตามองไปด้วย”


อันนี้กูยิ่งไม่เอาใหญ่เลย ใครจะมาทนแววตาโรคจิตคิดเยอะแบบนี้ได้….


“ถ้าไม่ผ่านโปรค่อยว่ากันครับ สะดวกเริ่มงานเมื่อไหร่ก็แจ้งได้เลย ผมจะให้คุณเพชรติดต่อมาคุยรายละเอียด”


 อิหยังวะมึ้ง!!!!!!!!!!!! ตัวละครลับเยอะจริงโว้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!


xxx


ทำไมงานนี้ไอ้เจนไม่นก…..
ปกติกูต้องนกสิโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย


“เจน”  แม่เรียก ตอนนี้พวกเรามานั่งที่สวน แม่คงเข้าใจว่าเจนต้องการสถานที่สงบสติอารมณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้มีแต่อีเว้นท์อีเวนพีคๆจนใจไอ้เจนบางเป็นกระดาษซับมันแล้ว


ทำไมเจนไม่นกวะ ปกติต้องนกสิ จะมาไม่นกตอนนี้ได้ไง ขัดต่อความชอบธรรมและจรรยาบรรณพญานกของเจนรักษ์มากมาย และอีกอย่าง….นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าวะที่อยากจะนกมากมายขนาดนี้ สวรรค์ไม่เห็นใจ เรื่องที่ไม่อยากนกก็ส่งให้นกจั้งงงงงง ไอ้เรื่องที่นกไปเหอะอย่างงานเลี้ยงเด็กของบ้านนี้นี่ทำไมไม่นก อย่าเอาแต้มบุญที่ไม่ค่อยมีของไอ้เจนมาใช้กับของไร้สาระแบบนี้ได้ไหม ต่อไปชีวิตน้อยๆของนกแต้มบุญต่ำอย่างไอ้เจนไม่ต้องเดาเลยว่ามีแต่ความฉิบหายแน่นอน

ก่อนเริ่มงานนี่ต้องรีบไปถวายสังฆทานอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร! สะกดชื่อ ‘นักรบ รัตนสกุล’  ให้ดังขึ้นใจในฐานะความฉิบหายวายวอดของไอ้เจนไตรมาสใหม่นี่ (มีวิลเลี่ยมเป็นเจ้ากรรมนายเวรในไตรมาสปัจจุบันที่กำลังจะจบลง) ขอให้บุญกุศลที่ทำช่วยดลใจให้คุณนักรบท่านไล่ไอ้เจนออกด้วยเหอะ ไม่อยากอยู่ใกล้ว่าหนักแล้ว….นี่ยังให้เขาสามารถจับตามองตลอดเวลาเพื่อประเมินผลงานได้ ขอกันมากขนาดนี้ มาเกาะหลังกูไหม จะได้สบายใจ


“เจนควรทำไงบ้างให้เขาไล่ออกอะแม่”


“……”  คำตอบคือทำงานไม่ดี ซึ่งงานนี้คือการเป็นพี่เลี้ยง มันง่ายที่จะโดนไล่ออก หากแต่วิธีก็ขัดกับศีลธรรมเหลือเกิน แม่ไม่ตอบออกมา และเจนก็เหมือนจะรู้ตัวดี ทำไมมันยากได้ขนาดนี้วะ เจนรักษ์ไม่เคยลำบากใจที่จะทำตัวเลวได้ขนาดนี้มาก่อน แต่อีกฝ่ายไม่ใช่แค่ไอ้คุณนักรบนั่นไง….


หมากของเจนคือน้องวินที่ไม่รู้อะไรคนนั้นเลยนะ


“ช่างเหอะแม่ ผมว่าคุณรบเขาหาทางไล่ผมออกเองแหละ”  ความไม่ชอบขี้หน้าชัดอยู่บนใบหน้าหยิ่งยโสเอาโล่ห์ของอีกฝ่ายขนาดนั้น บางทีต่อให้ทำดีแค่ไหนก็หาเรื่องมาไล่กันออกได้อยู่ดี ของแบบนี้บางทีเจนไม่ต้องทำอะไรเลย เขาก็อาจจะหาจังหวะเล่นงานกันก็ได้  เออ!  นกยังไงก็นก ไม่นกวันนี้ก็นกวันหน้าอยู่ดีละวะ….ไอ้เจนคิดไม่ดังมากในใจเพราะกลัวคนอื่นตกใจ แต่บทสรุปที่คิดมาได้กะทันหันก็ทำให้พอใจอยู่มาก  แม้มันจะเป็นความหวังลมๆแล้งๆ แต่ชีวิตต้องมีความหวังเว้ย แล้วนี่ก็หวังให้เขาไล่ออกอยู่ ไล่กูไปที ไล่สิ ไล่เบย ชิ้วๆ ฮือออออออออออออออ


“ทำใจให้สบายนะลูก เอาที่สบายใจล่ะกันเนอะ”  ทำไมมันเหมือนการให้กำลังใจที่ไม่ให้อะไรเลยวะ  มันแปลว่าเอ็งกำลังซวยทำใจซะเถอะ อะไรแบบนี้หรือเปล่า….แปลให้เจนที


“เจนจะพยายามนะแม่”  แต่ถึงจะพูดไปอย่างนั้น ไอ้เจนก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาตัดรอดไปวันๆไม่ให้เขาลุกมาฆ่ากันได้หรือไม่ เอาจริงๆคุณนักรบไม่ชอบขี้หน้ากันมาแต่ชาติปางไหนนี่ก็ยังไม่เข้าใจ สาเหตุก็ยังไม่รู้ แล้วจะรับมือไงดีวะ เอาน่า….เขาคงไม่ทำอะไรรุนแรงมากนักหรอก….


แต่อาจจะทำรุนแรงมาก…ก็เป็นได้…


xxx


สมพรปากมากไอ้เจนเอ้ย….


ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จำตัวให้เห้กว่านี้สักร้อยล้านพันเท่าเอาให้สังคมรังเกียจกันไปข้าง แต่มันก็ไม่ทันแล้วไง พอไอ้เจนกลับโรงแรมไปขนข้าวของ นอนอีกหนึ่งคืนให้คุ้มราคา และเช็คเอ้าท์เพื่อก้าวเข้าสู่บ้านทรายทองอย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง คำสั่งจากเบื้องบนที่เป็นดั่งประกาศิตก็ดังทันที ระดับลูกคนใช้อย่างไอ้เจนไม่ได้ห้องนอนส่วนตัวในเรือนคนใช้เหมือนคนอื่นหรอก แต่แบบนี้….ให้ไปนอนที่คอกหมูก็ยังยินดีซะกว่า ถึงนกกับหมูมันจะไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกันก็เถอะ


“ข้าวของเราก็เอาไว้ห้องแม่ เอาไปแต่ที่จำเป็นล่ะกัน” 


“แม่….ผมขอรีวิวสัญญาว่าจ้างไม่อีกครั้งได้ไหม”


“ของแบบนี้ไม่มีหรอกนะเจน”  อย่างนี้ก็ทางสะดวกเลยสิ หนีกลับเมกาเลยดีกว่า อย่างน้อยที่นั่นก็ยังเป็นประชาธิปไตยมากกว่าที่นี่ ผมหมายถึงเฉพาะในบ้านหลังนี้เนาะ ไม่ได้แซะใคร


เจนรักษ์ได้รับคำสั่งให้ไปนอนที่ห้องของคุณหนูน้องวิน หรือคุณ ‘อัศวิน’ นั่นเท่ากับว่าเขามีงานที่ต้องทำตลอด24ชั่วโมงในฐานะพี่เลี้ยง กำลังคิดอยู่ว่าจะไปต่อรองเรื่องขอบเขตงานอีกครั้งกับคุณหญิงท่าน แต่ก็ดันถูกสกัดขาหยุดก่อนจะก้าวต่อไป ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มที่ดูทะแม่งๆนั้นหยุดกันไว้ก่อนที่เจนจะได้เข้าไป ใช้หางตามองก็แล้ว สับขาหลอกก็แล้ว ยักษ์ปักลั่นอีกตัวที่ได้พบในช่วงนี้ก็ไม่แสดงท่าทางอนุญาตให้ได้ไปต่อ ฮ่วย! เดี๋ยวก็เดินออกจากบ้านซะนี่!


“ขอเชิญคุณเจนรักษ์ไปพบคุณนักรบครับ” 


“ก็บอกกันแต่แรกก็ได้นี่ครับ”  แค่นั้นก็จบแล้วป่ะ หลอกกูวิ่งเพื่อ! ถึงเจนจะไม่อยากเจอเจ้านายสายตรงคนนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดื้อด้านมากความขัดคำสั่ง แยกแยะได้นะเห็นอย่างนี้ และอยากจะแยกคุณนักรบอะไรนั่นและคุณผู้ช่วยอะไรนี่ใส่ถังขยะเปียกและถีบออกไปนอกโลกเหมือนกัน


เจนรักษ์เดินตามพี่ยักษ์ปักหลั่นเอื่อยๆด้วยความไม่เต็มใจแต่ก็ไม่ได้ชักช้าเพราะก็เต็มใจมาส่วนหนึ่ง งงไหม….และอย่างที่คิด จากประสบการณ์ที่เจนรักษ์พอจะมีในฐานะเลขาผู้บริหารมาหลายปี คุณ ‘เพชร’ คนนี้เป็นเลขาของคุณนักรบที่น่าจะได้รับความไว้ใจมากพอควรเพราะดูจากท่าทางสบายๆที่เขาแสดงออกมาแม้เจ้านายจะเย็นชาเหมือนเอลซ่าแสดงพลังนำแข็งแค่ไหนก็ตาม คุณเพชรอะไรนี่ไม่ได้ดูมีมาดเยอะแต่ก็อาจจะเด็ดขาดในเรื่องของการทำงาน เพราะคุณเจ้านายนักรบอะไรนั่นขนาดยังไม่ได้ทำงานด้วยกันยังชิงชังประหนึ่งเคยทำกาแฟหกใส่ก่อนมาสัมภาษณ์  คุณเพชรนี่ก็คงจะใช้เวลานานพอสมควรที่ได้พิสูจน์ตัวเอง ฃจนเป็นที่ยอมรับให้อยู่ใกล้ระดับที่เอาไม้ตบยุงหวดได้แบบนี้


“ขออนุญาตครับ”  หลังจากเคาะประตูห้องจนอีกฝ่ายตอบรับ คุณเพชรก็เปิดประตูให้เจนได้เข้าไปราวกับให้เข้าสู่สนามรบ ในห้องทำงานที่ถูกตกแต่งแบบทันสมัยเรียบๆด้วยโทนสบายตา เจ้าของห้องนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มีแฟ้มเอกสารประมาณ 3-4  แฟ้มวางอยู่ไม่ไกลมือ คาดว่าเขากำลังจัดการมันอยู่และถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูเมื่อครู่ แต่เหมือนกับว่าเรื่องของผู้มาใหม่จะสำคัญกว่า เพราะเขากำลังรออยู่ รอที่จะเผชิญหน้าและดูว่าเจนรักษ์คนนี้จะมาไม้ไหน


ไอ้เจนจะมาไม้ไหนได้ ในเมื่อพ่อคุณเตรียมเอาไม้หน้าสามฟาดแบบนี้…..


“เชิญนั่ง”  เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นเคย หากเป็นคนอื่นที่มีระดับความรู้จักเขาแค่ผิวเผินก็คงจะหวั่นๆใจในอารมณ์ของอีกฝ่ายอยู่บ้าง แล้วไอ้เจนล่ะ….เออนี่ก็หวั่น ก็แหมมมมมมมม รู้จักแค่เมื่อวาน แถมยังปากหมาเปรี้ยวตีนไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนั้น ไม่ให้หวั่นจะให้อะไรได้อีก ใจไอ้เจนบางเฉียบเป็นผ้าอนามัยสูตรสำหรับกลางวันที่มาไม่มากไปหมดแล้ว


“คุณนักรบเรียกผมมา มีอะไรหรือครับ”  ไล่ออก ไล่ออก ไล่ออก เจนรักษ์ภาวนาในใจ


“ชี้แจงรายละเอียดงาน”


“เอ่อ ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ให้คนอื่นบอกผมก็ได้นะครับ”


“นั่นลูกผม ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นทำ”  คำว่าคนอื่นนี่มันแทงจุกเข้าไปที่หน้าของเจนรักษ์ เออ….ถ้าเขาเลี้ยงเองได้ คงไม่มา ‘ว่าจ้าง’ ให้ ‘คนอื่น’ อย่าง ‘ไอ้เจน’ ทำหรอกจริงไหม


“ว่าแต่รายละเอียดมีอะไรบ้างครับ”


“คร่าวๆก็เลี้ยงดูอัศวินตั้งแต่ตื่น ยันนอน แน่นอนว่าตอนกลางดึกเขาอาจจะมีตื่นมางอแงบ้าง แต่ก็ถือว่าน้อยเท่าที่ผ่านมา”  เจนรักษ์พยักหน้ารับทราบความเข้าใจ อย่างที่บอกว่างานเลี้ยงเด็กของครอบครัวนี้ค่อนข้างจะหนักเลย แต่ก็พอจะเข้าใจได้ เท่าที่ดู….คุณน้องวินนั้นเหมือนจะไม่มีแม่ เพราะตั้งแต่ก้าวมาที่บ้านรัตนสกุล เจนก็ยังไม่ได้เห็นเลยว่าแม่เด็กอยู่ที่นี่ด้วย แต่นั่นมันเรื่องส่วนตัวเจ้านาย จะให้ถามตอนนี้ก็ดูจะไม่รู้ว่าจะไปสะกิดแผลหรือสะกิดเท้าเขาเข้า ความรักตัวกลัวตายเลยผลิตสารยับยั้งความอยากรู้อยากเห็นได้ทันควัน
 

ไม่เป็นไร…เดี๋ยวไปสืบเอาทีหลัง…


“คุณจะมีสิทธิ์หยุดได้สัปดาห์ล่ะ 1 วัน ทั้งนี้รายละเอียดอื่นๆจะอยู่ในเอกสาร ลองอ่านดู” ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาเลื่อนเอกสารมาไว้ที่ข้างหน้า ในเวลาหนึ่งวัน เขาได้เตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ อาจจะเอาอันเก่าที่เคยใช้กับพี่เลี้ยงคนเก่ามาแก้ไข เพราะคงรับรู้ได้ด้วยตนเองแล้วว่าควรจะรอบคอบตรงจุดไหน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ในฐานะผู้ถูกจ้างรายถัดไปก็ไม่รู้จะเจอเงื่อนไขผีแค่ไหนจากนายจ้างได้อีก


เจนค่อยๆอ่านสัญญา….คิ้วสวยขมวดมุ่น ไม่ใช่ไอ้เจนโง่ เออก็โง่แหละวะ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติใช่ไหม  กะอีแค่สัญญาว่าจ้างใช่ว่าไม่เคยอ่าน จะสัญญาเช่าซื้อ สัญญาซื้อขายบ้าบอคอแตกก็ผ่านตามาหมดและตีกลับเป็นว่าเล่นมาแล้ว แต่คนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แม้จะอ่านข้ามเพราะทนเจนเวิ่นไม่ไหวได้ลืมไปหมดแล้วหรือ….ว่าไอ้เจนโกอินเตอร์ตั้งแต่ขึ้นมัธยมปลายน่ะ จากนั้นไอ้เรื่องมีสาระในชีวิตน้อยๆของลูกนกตัวนี้ก็ไม่เคยมีภาษาไทยอยู่ในนั้นอีกเลย  แต่ไอ้เรื่องสก็อยๆขอให้ถาม ถ้าออกสอบเจนต้องได้เกียรตินิยมอันดับ 1 อ่ะคุณ


“ผมขอเวลาอ่านนานๆได้ไหมครับ”  ไม่ไหว ยิ่งเพ่งสมาธิก็ยิ่งกดดัน แค่คิดว่าเขากำลังจ้องมองกันก็ยิ่งจะบ้าตาย คิดว่ามันง่ายนักเหรอ เออแม่งยากฉิบหายจนอยากร้องขอเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ


“ต้องการเวลาแค่ไหน”


“สักวันนึงได้ไหมครับ เจนอ่านแล้วงงๆ อยากให้แม่ช่วยดู”  หรือให้แม่ช่วยแปลไทยเป็นไทยให้นั่นแหละ


เขาพยักหน้าหลังจากที่ถอนหายใจออกมา บางทีคุณนักรบอาจจะนึกขึ้นมาได้แล้วว่าเด็กนี่ไม่ได้เรียนสูง ยิ่งเป็นแบบนี้เจนยิ่งไม่กล้าพูดเรื่องของวุฒิการศึกษาของตนออกมา ไม่ได้กลัวคุณเขาอึ้ง กลัวคุณเขาสมเพชมากกว่า คนจบปริญญาตรีไม่ควรโง่ไง แต่ไอ้เจนอะวัวควายมาก ที่อ่านเมื่อกี๊ยังแยกไม่ออกเลยครับว่าใคร ‘ลูกจ้าง’ ใคร ‘นายจ้าง’ ส่วนแรกยังไปไม่ถึงไหน ถ้านั่งอ่านตรงนี้เกรงว่ารากแก้วงอกออกมาแล้ว ไอ้เจนก็ยังอ่านไม่จบหน้าครับ ขอเวลาเถอะ ขอไปตั้งตัวตั้งใจ


“ถ้ายังไงก็ขอให้อ่านจบในวันนี้ ถ้าติดจุดไหนก็บอกคุณเพชร”


“ครับ”  เจนตอบรับด้วยท่าทางเกรงใจ หยิบแฟ้มเอกสารลุกขึ้น ก้มหัวให้เล็กน้อย และเดินออกไปจากห้อง ก่อนที่ประตูจะปิดลง….เจนรักษ์มั่นใจว่าเขาคงจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งที่คุยกันจบสักที ครับ….ไม่เป็นไรครับ เอาที่คุณนักรบถอนหายใจออกจากปอดให้หมดจนตายห่าไปเลยก็ได้ครับ ไอ้เจนไม่ว่า เพราะเจนแม่งกากเองไม่โทษใคร แต่มึงจะตายก็เรื่องของมึงเลยไม่เกี่ยวกับกู


“เซ็นแล้วหรือครับ”  คุณเพชรที่ยืนรอหน้าห้องนั้นถามออกมา ดวงตาหยุดมองที่เอกสารซึ่งเจนเอาออกมาด้วย


“แฮ่….”   ไม่ต้องเดาเลยว่าตอนนี้คนถูกถามทำสีหน้าแบบไหน สีหน้าโง่ๆไง


“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”


“อ่อ ไม่มีหรอกครับ เอาเป็นว่าผมขอไปอ่านก่อนล่ะกัน”


“ถ้าติดอะไรก็สอบถามได้เลยนะครับ จะเดินมาถามหรือโทรเข้ามาตามนามบัตรนี่ก็ได้ ผมอยู่ที่ห้องทำงานนี้กับคุณรบ ถ้าคุณเจนมีปัญหาก็เชิญเลยครับ”  วิธีที่ถูกต้องที่จะเลี่ยงปัญหาคือไม่เสนอหน้าไปเจอคุณเพชรในห้องนั้นที่อยู่กับคุณนักรบหรือเปล่าครับ ไอ้เจนเห็นเป็นคนแบบนี้ก็ฉลาดนะครับ แค่กูงงสับไปสับมาระหว่าง ‘ลูกจ้าง’ กับ ‘นายจ้าง’ เอง


“ขอบคุณมากครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะ”  ไปสิครับ ไม่ต้องก้มเก็บเศษขี้หน้าที่แตกในห้องนั้นหรอก ไอ้เจนขอไปนั่งทำสมาธิและอ่านอย่างละเอียดอีกครั้งและจะกลับมาอย่างภาคภูมิใจราวได้ไปกู้ชาติมา


เมื่อแยกจากกันก็ได้แอบขอมานั่งอยู่ในห้องนอนของแม่ที่กำลังดูแลความเรียบร้อยของบ้านใหญ่ จริงๆสัญญาพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจหรอก แค่ภาษากฎหมายของไทยนั้นเจนยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่ก็แค่นั้นเอง ใช้เวลาไม่นานปะติดปะต่อความรู้กับเวอร์ชั่นที่เคยเห็นผ่านตาก็เข้าใจ มานึกดูอีกทีนี่กูสับสนคำว่า ‘ลูกจ้าง’ กับ ‘นายจ้าง’ ไปได้ไง ภาษาอังกฤษแม่งปราบเซียนกว่าเยอะ แต่เสือกแยก ‘Employer’ กับ ‘Employee’ ในแต่ละประโยคออกได้ทันที เจนรักษ์นี่ไม่นับว่าโง่เหมือนควายหรอกครับ แต่เรียกฉลาดขั้นเทพไม่เข้าใจภาษาคนมากกว่า….


“เงื่อนไขโอเคเลยนี่”  พึมพำกับตัวเอง ให้มันหลุดออกมาบ้างเถอะครับความคิดน่ะ ละเมอเพ้อพกจนใกล้บ้าทุกวัน หลังจากอ่านสัญญาไปเรื่อยๆ เจนก็พบว่าคุณนักรบอะไรนี่ทำสัญญาที่ไม่ได้อิงประโยชน์ส่วนตัวจนเกินไป รายได้ที่ให้สมกับที่เขาอยากจะมั่นใจว่าลูกจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด เพราะมันสูงเกินกว่ามาตรฐานที่เจนเคยคิดไว้เสียอีก แต่ถึงกระนั้นเจนรักษ์ก็คงเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกเขาจนโตไม่ได้ ตั้งใจอ่านไปเรื่อยๆเพื่อดูเงื่อนไขเกี่ยวกับการลาออกต่างๆนานา ก่อนจะพบว่าจริงๆแล้วมันมีเงื่อนไขที่เหมาะสมกับคนอยากชิ่งในเร็วๆนี้ที่สุด


เจนยิ้ม….เออ เจนยิ้มออกมา บางทีสัญญาฉบับนี้อาจจะแฟร์มากๆสำหรับนายจ้างที่อยากว่าจ้างและลูกจ้างที่อยากถูกจ้าง แต่เราสองคนมีบางสิ่งที่ประสบร่วมกันอยู่ นั่นคือคนหนึ่งไม่อยากจ้างแต่ขัดแม่ไม่ได้ ส่วนอีกคนนี่อย่าว่าแต่อยากถูกจ้างเลย ให้อยู่ใกล้นี่เอาเงินฟาดหัวยังไม่เอา แต่ก็ขัดแม่ของเขาไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นเงื่อนไขตรงนี้อาจจะเหมาะสมนัก และเราก็จะใช้มันให้เป็นประโยชน์


กระนั้นจะพูดว่าเราก็ไม่ถูกเพราะคุณนักรบไม่ได้ยอมรับ แต่ไอ้เจนรู้! คุณนักรบคิด นี่เห็นไหม ยังไม่ทันเซ็นสัญญาเป็นขี้ข้าเขา ไอ้เจนก็โมเมว่ารู้ใจเจ้านายไปแล้ว ก็ฝึกไว้เฉยๆ ถ้าไม่รู้ใจจะรับมือได้ไงจริงไหม? ดังนั้นไม่เป็นไรนะคุณนักรบ เจนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี๊!


ในช่วงติดโปรสามเดือนต่อจากนี้
คุณนักรบจะได้หาเรื่องมาไล่เจนออกแน่!


Talk:

ลงนิยายสองวันสองเรื่อง อยากขยันทำงานได้มากแบบนี้บ้างจัง5555 สำหรับเจนตอนที่3ก็ยังคิดเยอะเหมือนเดิม เนื้อเรื่องเหมือนไม่ได้ขยับไปไหนมากเพราะแค่เจนบ่นคนเขียนก็เหนื่อยไปหมดล้าว555555 อย่าถามว่าเมื่อไหร่จะรักกัน เรายังนึกภาพไม่ออกเลยค่ะ คุณรบจะมารักน้องเจนที่มโนเก่งเถียงเก่งเด๋อเก่งได้ไง แต่เอาใจช่วยน้องเจนให้ไม่นกอีเวนท์ใหญ่ๆกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ: )

Twitter: @reallyuri




















หัวข้อ: Re: [บทที่ 3] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-06-2018 19:37:51
เจนเวิ่นเว้อมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 3] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 16-06-2018 23:25:17
ชอบมากค่าาาา สนุกมากเลย ภาษาดี ตลกสุดๆ ชอบการมโน+คิดเยอะแยะในใจของยัยน้องเจนมาก ไม่สะดุดเลยค่ะ คล่องคอเหมือนกินต้มจืดวุ้นเส้นลื่นปรืดๆ มาต่ออีกนะคะ อ่านแล้วรู้สึกแฮปปี้มาก  o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 3] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 16-06-2018 23:45:14
เอ็นดูน้องเจนนนนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 3] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ampaiem33 ที่ 17-06-2018 13:08:18
ชอบจ้า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 3] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 17-06-2018 15:15:18
สนุกมากๆ ครับ เอาพล๊อตพ่อลูกติดกับพี่เลี้ยงเด็กมาเขียนได้แหวกแนวและฮาสุดๆ บุคลิกตัวละครก็มีสีสรรมาก
หัวข้อ: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 18-06-2018 18:11:53
#เจนไม่นก
เจนต้องอ่อย






‘นับแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไป โดยระหว่างระยะเวลาทดลองงาน หากนายจ้างพบว่าผลการปฏิบัติงาน หรือความประพฤติใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพนัน ชู้สาว ยาเสพย์ติดให้โทษ สุขภาพ หรือทัศนคติของลูกจ้างที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานตามการพิจารณาของนายจ้าง ให้ถือว่าลูกจ้างขาดคุณสมบัติการเป็นลูกจ้างของนายจ้าง’


เสร็จไอ้เจนแน่….


หลังจากที่อ่านทวนซ้ำไปซ้ำมาและคิดว่าไม่น่าจะผิดพลาด บางทีต่อให้เจนไม่ทำอะไรคุณนักรบผู้แสนดีก็อาจจะใช้เหตุผลยกอ้างในเรื่องทัศนคติขึ้นมาในการยกเลิกการจ้างงาน และเจนเองก็คงไม่สามารถใช้คุณหนูน้องวินเป็นหมากสำหรับแผนการนี้ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเจนจะต้องถูกให้ออก รายละเอียดที่เขียนอยู่ในสัญญานี้จึงน่าสนใจไม่น้อย แต่จะให้เสพย์ยาก็ดูจะลงทุนเอาสุขภาพไปเสี่ยงแล้วเอาหัวไปไว้ในตารางจนเกินไป หัวข้อที่เจนเลือกไว้สำหรับแผนการ ‘มาไล่เจนออกจากบ้านกันเถอะเย้’ ของตนจึงลงไว้ที่ว่า


เจนจะต้องอ่อยใครสักคน….


คุณนักรบ….เป็นชื่อแรกที่เจนรักษ์ลบออกไปจากบัญชีหนังหมา คุณนักรบไม่สมควรถูกอ่อยโดยไอ้เจน! แค่คิดก็สยองแล้ว แม้เจนรักษ์จะยอมรับมาตั้งแต่ต้นเรื่องว่าเคยอ่อยเจ้านายจนเกือบได้เป็นฝั่งเป็นฝาถ้าไม่ติดว่ามาจับได้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว เรื่องการอ่อยเจ้านายที่ดูโสดไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับไม่ได้ แต่กับคุณนักรบนี่แถมบ้านหลังนี้ให้ทั้งหลังก็ไม่เอา ไม่ต้องพูดถึงเขาไม่เอาเรา เราต้องชิงไม่เอาเขาก่อนสิถึงจะถูก


จะให้อ่อยใครได้อีกล่ะ ที่เหลือก็มีแต่คนงานที่ไม่ได้สร้างอิมแพคอะไรมากมาย แถมเท่าที่ทราบมาพวกผู้ชายก็มีเมียลูกกันหมดแล้ว ส่วนผู้หญิงก็ไม่ใช่แนว ดังนั้นบ้านหลังนี้ก็เหลือชายโสดแค่เพียงน้องวิน….ที่แค่เอ่ยชื่อก็ไอดังคุก พ่อน้องวิน ที่แค่เอ่ยชื่อก็ไปลงนรก และ….


เลขาพ่อน้องวิน……


แต่จะให้เดินไปอ่อยเลยก็ช่างไม่มีชั้นเชิง เจนไม่ใช่นกง่ายๆ แต่ตั้งใจจะไปอ่อยเลขาของเจ้านายก็ไม่ได้ดูเป็นนกที่ยากอะไรเลยว่ะ ของอย่างนี้ปรบมือข้างเดียวมันดังที่ไหน ที่คบกับวิลเลี่ยมนั่นก็อีกฝ่ายเริ่มก่อนอีกนั่นแหละ ถึงอย่างไรเจนก็ยึดมั่นในอาชีพที่จ่ายเงินเดือนให้กันมากกว่า เพราะฉะนั้นจึงพูดได้ว่าถ้าอีกฝ่ายไม่เริ่มก่อน เจนก็อาจจะยังเป็นแค่เลขาที่ทำงานวุ่นๆให้กับวิลเลี่ยมอยู่ และคงไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นเพราะเจนคงไม่มีวันไม่หาเรื่องตกงานด้วยการอ่อยเจ้านายแบบนั้น


แต่ดูหน้าอีตาคุณเพชรวันนี้อย่าว่าแต่ปรบมือข้างเดียวเลย ให้ไปตีฉาบข้างๆหูมันก็อาจจะไม่หันมามองด้วยซ้ำ เจ้านายลูกน้องบ้านนี้เป็นอะไรไปหมด ทำไมดูไม่มีใครน่าคบหาสมาคมด้วยเลยฟะ พ่อแม่เลี้ยงมาเป็นเด็กมีปัญหาหรือไง วู้วววว อยากด่า แต่ด่าไม่ได้ หนึ่งในนั้นก็เด็กที่แม่ไอ้เจนเลี้ยงมากับมือตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนวันนี้ตีนเหยียบหน้าลูกชายเขาได้แล้ว


รอดูลาดเลาไปก่อนเถอะเจน ยังพอมีเวลา ผลีผลามทำอะไรใช่ว่าจะดี การที่แกจะถูกไล่ออกมันเรื่องขี้หมามาก แต่อย่างไรแม่ไพที่ต้องอยู่ต่อจะทำหน้าอย่างไรถ้าเจนทำอะไรถ่อยๆกากๆไม่ค่อยเนียนทิ้งไว้ให้ดู นี่ไม่ได้กลัวแม่อายที่ลูกแรด แต่กลัวแม่อายที่มีลูกโง่มากกว่า


เจนเชื่อมั่นในทฤษฎีที่ว่าแม่กับลูกคนละคน และแม่ก็ไม่ได้เลี้ยงเจนมาตั้งแต่เด็กเพราะฉะนั้นทุกคนต้องแยกแยะได้ โดยเฉพาะคุณนักรบที่รักตัวเกลียดไข่ขนาดนั้น เมื่อเขาจับได้หรือคุณเพชรไปฟ้อง บางทีอาจจะไล่ตะเพิดไอ้เจนในวินาทีนั้นเลยก็เป็นได้ ดังนั้นเจนอาจจะสร้างเรื่องอื้อฉาวโดยการอ่อยคุณเพชร ตราบใดที่ยังทำในขอบเขตที่พอดี ก็คงไม่มีใครมาพูดอะไรให้แม่เสียใจ แล้วนี่จริงๆก็ไม่ได้คิดว่าแม่จะแคร์ขี้ปากใครกับเรื่องแบบนี้มาก เพราะอะไรนะเหรอ….


ก็คิดว่าเจนได้นิสัยโนสนโนแคร์แบบนี้มาจากไหนกันล่ะ!


“เจน แม่เข้าไปนะลูก”  กำลังคิดถึงก็มา แม่เรานี่บางทีก็เหมือนจะมีพรายกระซิบ


“จะแม่”  เจนขานรับ หันไปมองประตูห้องที่ถูกเปิดออก
 

“ไงลูก อ่านแล้วเป็นไงบ้าง”  ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีสัญญาอะไรแบบนี้เพราะระหว่างรัตนสกุลกับคุณอำไพก็ไม่ได้ทำสัญญาว่าจ้างกันเป็นกิจจะลักษณะเพราะอยู่กันด้วยใจมาตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่าน จะให้ทำสัญญาตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้า ไม่ใช่ว่ามีใครขยาดอำไพแบบนั้น แต่ทุกคนกลัวความรู้สึกของเธอไปหมด ก็อย่างว่า….มาดูแลลูกคนอื่นตลอดจนลูกตัวเองต้องเอาไปฝากคนอื่นเลี้ยง แม้ที่ทำจะได้เงิน แต่ที่เสียไปคือเวลาและความรู้สึกที่ไม่สามารถเรียกกลับได้


เธอลูบหัวเจนรักษ์เบาๆ ไม่คิดฝันเลยว่าจะได้มีโอกาสมาอยู่กับลูกแบบนี้ แม้จะรู้ว่าเจนต้องฝืนใจทำงานที่ตนเองไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ แต่อีกใจก็ดีใจเหลือเกินที่ต่อไปนี้เราจะได้กินข้าวด้วยกันทุกวัน แม้ไม่ได้มีโอกาสเลี้ยงตอนเจนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆน่ารักกินข้าวเลอะๆจนต้องมีคนป้อน มาเลี้ยงตอนนี้ก็คงไม่สายเกินไป ถึงในวันนี้เจนจะสามารถยืนดาหน้าเผชิญทุกปัญหาในชีวิตได้ด้วยตนเองอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว ลึกๆในใจ เจนก็ยังคงเป็นเด็กน้อยที่มองกันตาแป๋วไม่พูดอะไรตอนมองส่งเธอกลับมาทำงานหลังจากพักยาวช่วงเทศกาล แววตาของลูกติดตรึงในความรู้สึกของแม่เสมอ ต้องใช้ความพยายามมากมายที่จะตัดใจแค่ไหน ใครจะรู้บ้าง


แม้อำไพจะเป็นผู้หญิงที่จัดได้ว่าใจแกร่งคนหนึ่ง แต่แววตาของลูกที่คงมีเป็นร้อยพันคำยามมองมานั้นก็ทำให้เธอเกือบถอดใจและกลับมากอดเจ้าตัวเล็กเอาไว้ อำไพอาจจะเอ็นดูคุณรบเพราะความผูกพัน กับเจนแม้ไม่ได้กอดได้อุ้มหรือกล่อมนอน แต่เธอรับรู้อยู่เสมอ ถึงความผูกพันพิเศษแบบที่เราไม่อาจจะเข้าใจได้ คำว่าแม่กับลูก….มันลึกซึ้งเหลือเกิน และไม่คิดเลยว่าลูก….จะเป็นฝ่ายตามใจกันขนาดนี้ เพียงยื้อเวลาเล็กน้อย เจนก็เลือกที่จะป่วนอยู่ใกล้ๆ


“เจนจะเซ็นแล้วล่ะแม่ เดี๋ยวคงเอาไปให้คุณเพชร”


“ตอนนี้คุณเพชรน่าจะคุยงานกับคุณรบ ว่าแต่สัญญานี่เจนรับได้ใช่ไหม”


“เจนรับได้แม่ เงื่อนไขโอเค เงินเดือนก็ถือว่าดีเลย”


“งั้นก็ดีนะสิ”


“แต่เจนอยู่ไม่ได้แม่เข้าใจไหม”


“เจนไม่ชอบคุณรบขนาดนั้นเลยเหรอ”


“เจนตอบไม่ได้หรอก เขาก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเจน เจนเองก็ไม่อยากทำงานกับคนที่ไม่ชอบกัน”


“แม่ขอโทษด้วยนะลูก”


“ขอโทษทำไมแม่ มันเป็นเรื่องของเจนกับเขา และอีกอย่าง บางทีเขาอาจจะมองเจนดีขึ้นก็เป็นได้ แต่เจนก็อยู่ไม่ได้อยู่ดี”


“ทำไมล่ะลูก”  ถึงเธอจะไม่ได้มีความต้องการให้ลูกทำที่นี่ตลอดไป แต่ก็อยากรู้เจตนารมณ์ของเจนรักษ์ให้มากขึ้น เผื่อที่ว่าเธอจะได้สนับสนุนต่อๆไป


“เจนคงออกไปทำงานเหมือนที่เคยทำ ตอนนี้เจนอยากหยุดการเป็นพนักงานออฟฟิศแค่นั้น แต่เจนยังเสียดายสิ่งที่เรียนมา จะให้อยู่ที่นี่ตลอดไปหรืออยู่นานๆแบบแม่ เจนนึกภาพตัวเองไม่ออกเลย”  อำไพพยักหน้าเข้าใจ เจนเรียนจบมาดีๆจากเมืองนอกเมืองนา จะให้ใช้ความรู้ความสามารถวนติดอยู่แต่ในบ้านหลังนี้ก็น่าเสียดาย เธอเดาออกว่าเจนคงจะวางแผนทำอะไรสักอย่างไว้เพื่อที่จะได้เป็นอิสระต่องานที่ไม่ได้อยากทำ แต่เจนคงยังไม่ทำอะไรวันนี้ เพราะอย่างไรสองแม่ลูกก็คงอยากจะซื้อเวลาร่วมกันสักพัก เราไม่เคยได้อยู่ใกล้ชิดตามประสาแม่ลูกด้วยกันเลย เพราะฉะนั้นนี่คงเป็นโอกาสดีที่เราจะทดลองใช้ชีวิตด้วยกันก่อนที่อำไพจะเกษียรตัวเอง….


ใช่….เธอคงทำงานไปตลอดชีวิตไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอยู่กับลูกหรือให้ลูกดูแล….


“………”  เพราะเธอไม่เคยได้ดูแลเจนรักษ์เลย ลึกๆลูกคงน้อยใจอยู่บ้าง แม้เจนจะชอบคิดมากมายหาเหตุผลมาอ้างนั่นนี่ถึงเรื่องราวที่ผิดพลาดหรือไม่สมดั่งใจ แต่ลึกๆมนุษย์ทุกคนมีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ต่อให้มีสติดึงเอาเหตุผลมาใช้อธิบายความโกรธเกรี้ยวหรือความน้อยใจ แต่ในส่วนลึกทุกคนย่อมมีอารมณ์ร่วมไปกับความผิดหวังเหล่านั้นแน่ๆ และเจนรักษ์เองก็คงหนีไม่พ้นอะไรแบบนั้น


จนกระทั่งเจนมาบอกว่าไปอยู่ด้วยกันได้ ใจของคนเป็นแม่ลิงโลดดีใจ แต่ที่ไม่ไปส่วนหนึ่งก็เพราะภาระงานที่ไม่เข้าที่ทางในช่วงนี้และความผูกพันที่มีอยู่ แต่อีกส่วนนั้นมันก็เกี่ยวข้องกับตัวเจนโดยตรง คุณอำไพไม่เคยคิดหรือหวังจะมีอนาคตที่ได้อยู่ร่วมกันกับเจนรักษ์เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาลูกก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยียนกันเหมือนกัน เธอเข้าใจเหตุผลและยอมรับมันได้ หากแต่บางทีก็มีอารมณ์น้อยใจบ้าง แต่ก็ดึงสติกลับมาคิดว่ามันก็สมแล้วกับแม่ที่ปีนึงได้เจอหน้าลูกไม่ถึง 20 วัน ด้วยเหตุผลดังนี้จึงทำให้คุณอำไพลังเลไม่แน่ใจและไม่เข้าใจเมื่อเจนกลับมาหาและบอกว่าพร้อมที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกันได้


มันไม่มีอะไรให้คิดเยอะเลย แต่เพราะมันไม่เคยคิด พอได้เจอก็เลยรับมือไม่ถูกสินะ…..


“มีอะไรจะปรึกษาแม่ก็บอกได้นะ”


“พูดได้เหรอแม่”


“ได้สิ เจนปรึกษาแม่ได้นะ”


“ถ้างั้น”  แค่ได้ยินว่าลูกชายจะปรึกษาอะไร อำไพก็รู้สึกดีใจขึ้นมา ตั้งแต่เด็กยันโต ลูกไม่เคยเอาเรื่องทุกข์ใจมาเล่าให้ฟัง ส่วนนึงมันก็ดี แต่มีใครไหนเล่าที่ไม่มีเรื่องทุกข์ใจ และเธอก็อยากเริ่มต้นกับลูกทั้งสุขและทุกข์ต่อจากนี้จริงๆ และเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น


เธอต้องเริ่มที่จะเปิดใจรับฟัง


“เจนว่าจะอ่อยคุณเพชร”


“…….”  อำไพแทบไม่เชื่อหูตัวเอง


“เนี่ย ว่าจะอ่อยคุณเพชรอยู่ แม่ว่าดีไหม”


“แม่”  แม่พูดไม่ออกเลย


“เนี่ย ว่าจะไปหลอกถามเรื่องสัญญากับคุณเพชรด้วยเนี่ย”


“เจน….ชอบคุณเพชรเหรอลูก”  ได้ยินว่าเจนเพิ่งจะเลิกกับแฟนหนุ่มเพราะจับได้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว แต่นี่มันเร็วไปไหมที่จะมีรักใหม่กับผู้ชายที่เพิ่งเจอวันนี้ด้วยนี่นะ


“หึ ไม่ได้ชอบหรอกฮะ”


“อ้าว”


“ก็เนี่ยสัญญามันบอกว่าถ้ามีเรื่องชู้สาวเขาจะไล่ออก เจนก็ต้องสร้างเรื่องมาช่วยหาข้ออ้างให้คุณนักรบไล่เจนออกสิแม่”


“……..”


“แม่โอเคไหมถ้าเจนอ่อยคุณเพชร แม่จะ….ลำบากไหมถ้าเจนถูกไล่ออกเพราะเหตุผลนี้”


“ไม่ แม่ไม่ลำบากเลย”  จริงๆคนใช้ในบ้านหลังไหนก็ขี้นินทาทั้งนั้น แต่สำหรับอำไพแล้วเธอไม่แคร์เลยว่าจะโดนคนอื่นต่อว่าเรื่องที่ลูกชายทำเช่นนั้น แต่มันออกจะโลดโผนเกินกว่าที่เธอคิดไปสักหน่อย แม้ว่าเธอจะอุ้มท้องเจนคนเดียวโดยไม่ได้ดูแลเหมือนแม่คนอื่นๆจึงโดนสังคมรุมเข้าหาโดยไม่ได้ร้องขอและผ่านมันมาได้โดยไร้ซึ่งรอยแผลใดๆ แต่หากจะบอกว่านิสัยไม่สนไม่แคร์ใครของเธอกับเจนนั้นเหมือนกัน ไอ้นิสัยที่มากล้นของลูกเธอเนี่ย….


มันเอามาจากไหนกัน!!!!!!!!!


“แต่อย่าทำอะไรแปลกๆกับคุณเพชรล่ะกันเจน”


“……..”


“แม่สงสารคุณเพชร”  และไม่คิดว่าคุณเพชร….


จะไม่ชอบเด็กกากๆแบบเจนลงด้วย!


xxx
[/b]


ต่อให้แม่จะพูดอย่างไรแต่ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้หรอก


ว่าแต่จะอ่อยยังไงให้ดูคลาสซี่แบบเนียนๆ เจนรักษ์พกพาเอาเอกสารที่ตั้งใจจะเอาไปถามกับคุณเพชรไว้แนบอก มีแผนการมากมายเต็มหัวกะเอามาใช้เต็มที่ด้วยความหวังว่าจะเนียนแบบที่ใครๆก็ดูไม่ออก แต่เจนรู้ว่ามันยาก ในใจจึงชั่งดูส่วนนั่นนี่มากมายเป็นพิเศษ ถ้าคุณเพชรหน้าตาดูโง่ๆกว่านี้สักนิดก็คงจะดี อย่างน้อยก็จะได้ทำให้เจนมีความมั่นใจในการอ่อยใส่สักหน่อย แต่นี่นอกจากหน้าไม่โง่แล้วยังดูฉลาดผิดมนุษย์มนา คาดว่าแค่เจนอ้าปากออกมาก็เห็นไปถึงตับไตไส้พุงหมดแล้ว ดังนั้นจะรุกหนักไม่ได้ ต้องค่อยๆอ่อย ส่วนผลคุณเพชรจะว่าไงก็ช่างหัวมัน ค่อยๆอ่อย ต่อเวลาไปสักพัก ใกล้ๆเดดไลน์แล้วค่อยลุยเต็มกำลังให้ไล่ออก อ่อยติดไม่ติดช่างมัน เดี๋ยวค่อยหนีไปกบดานที่เมกาให้ตัวจุ้นเลี้ยง


จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องทำงานที่ได้มาโชว์อ่านภาษาไทยไม่ออกก่อนนี้ เจ้าของภารกิจอ่อยโลกต้องไม่ลืมก็จำต้องยืนนิ่งสงบทำใจ ถ้าคุณเลขาตัวติดกับเจ้านายแบบนั้นแล้วจะแยกเขาออกมาจากคุณนักรบอย่างไรดี หรือจะเปลี่ยนเป้าหมายไปอ่อยคนอื่นที่ง่ายๆกว่านี้ แต่ในความเป็นจริงมันมีใครให้ไอ้เจนอ่อยไหมล่ะ หรือว่าเจนจะฉีกสัญญามันตรงนี้ทั้งๆที่ยังไม่ได้เซ็นก่อนจะวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด สมองอันลึกล้ำนึกภาพตัวเองกระโดดเกาะหลังคารถระหว่างถูกไล่ล่า ดังนั้นจึงยังไม่ทันได้ทำอะไรแม้แต่เคาะประตู คิดบ้าคิดบออยู่นานจนจะทึ้งหัวตัวเอง จนกระทั่งประตูห้องก็เปิดผึงออกมา


ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหน้าเจนเด๋อแค่ไหนที่เห็นเขา….


“ทำไมไม่เข้ามา”  นักรบถาม เขาเห็นผ่านวงจรปิดสักพักแล้วว่าเด็กนี่ยืนทำหน้าประหลาดๆเดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็ขมวดคิ้ว คุณนักรบอาจจะไม่ค่อยเข้าใจเลยตัดสินใจลุกเดินออกมาถาม ถ้าไม่เสียมารยาทจนเกินไปเจนรักษ์เดาว่าเขาคงอยากถามว่าเป็นบ้าหรือเปล่า และอาจจะเรียกร้องให้ไปตรวจสุขภาพจิตมาแนบเอกสารพวกนี้ ในระหว่างนั้นเขาอาจจะขอไปเช็คประวัติอาชญากรรมเพิ่มเติม ว่าแต่กับเรื่องที่ว่าเจนรักษ์ยืนทำหน้าไม่สมประกอบอยู่หน้าห้องเขานี่ต้องเปิดประตูมาดูเองเลยเหรอ เลขามีทำไมไม่ใช้วะ จะได้ฉุดไปอ่อยถนัด


เว้นเสียแต่ว่าเลขาไม่อยู่แล้ว…..


“……..”  ฉายานักนกของเจนนั้นไม่ได้มีแค่ชื่อจริงๆ ตั้งใจมาอ่อยถึงที่ เจ้าตัวเป้าหมายก็ไม่อยู่รอให้อ่อยจนได้


“อ่านสัญญาจบแล้วใช่ไหม”  เป็นเขาที่พูดขึ้นหลังจากที่เจนเงียบงันทันทีที่เข้ามา ดวงตาเขาจ้องจับที่แฟ้มเอกสารที่เจนถือในมือ


“ครับ อ่านจบแล้ว”  แต่เจนไม่อยากคุยเรื่องนี้กับคุณ เจนจะคุยกับคุณเพชร เจนจะอ่อยคุณเพชร!


“ถ้าติดปัญหาอะไรสงสัยก็ถามได้นะ”  เจนไม่ถามคุณ เจนจะถามคุณเพชร เจนจะอ่อยคุณเพชร!


“ไม่มีครับ”


“ถ้างั้นก็เซ็นซะสิ”


“ง่า”


“ว่าไง ติดอะไร”


“คือแบบถ้าผมมีติดราชการลับในเวลางาน เอ้ย! คือถ้าผมต้องไปติดต่อหน่วยงานราชการหรืออะไรก็ตามอย่างด่วนในเวลางานนี่ผมทำไงได้บ้างอะครับ”  เจนอยากรู้ เจนมีสิทธิ์อู้งานโดยเอาธุระมาอ้างได้ไหม และแม้เจนจะไม่มีเพื่อนเป็นคนกรุงเทพเลยเพราะดำรงตัวเป็นคนบ้านนอกในประเทศนี้มาตลอด แต่เจนก็อยากมีสังสรรค์บ้าง ชวนน้องวินกับพ่อน้องวินก๊งเหล้ากันไม่ได้ จริงมะ….


“จริงๆถึงจะให้ทำงานแทบตลอดเวลา แต่ทางเราก็ไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น ถ้านายมีธุระและพอจะฝากตาหนูกับแม่ของผมหรือแม่ไพได้ก็ไปทำธุระเสียเถอะ รายละเอียดเรื่องการลางานหลังจากผ่านการทดลองงานคงได้อ่านแล้วใช่ไหม”


“ครับได้อ่านแล้ว”


“มีข้อสงสัยอะไรอีกไหม”


จริงๆก็ไม่มีหรอก….แต่สักหน่อยละกัน


“ระยะเวลาในการทดลองงานนี่ 3 เดือนใช่ไหมครับ”


“ใช่”  เขาตอบสั้นๆ แต่เป็นคำตอบที่ทำให้ไอ้ตัวแสบยิ้ม ได้เลยครับคุณนักรบ


“งั้นฝากตัวด้วยนะครับ”  คุณนักรบครับ ในระยะเวลาสามเดือนนี้….รีบหาข้ออ้างมาเลิกจ้างกันให้ได้เร็วๆนะครับ


อย่าให้ไอ้เจนต้องเหนื่อยเลย….


หลังจากตวัดปลายปากกาเซ็นเอกสารแล้วยื่นให้อีกฝ่ายเสร็จสรรพ เจนรักษ์ก็เพิ่งมารับรู้ได้ว่าถูกคุณนักรบจ้องมองมาโดยตลอด มิน่าละไอ้เจนแม่งร้อนจนเหงื่อออกเหมือนโดนแม่บังคับไปเข้าวัดเลยเพราะคุณนักรบมองกันนี่เอง ส่งยิ้มให้เจื่อนๆไปทีก็เป็นตาเขาที่จะจรดปลายปากกาลงไปในฐานะนายจ้างบ้าง เหลือช่องพยานที่ยังไม่ได้รับการเซ็น แต่ก็คงจะไม่พลาดเป็นคุณเพชรล่ะมั้ง ว่าแต่หนีไปตายที่ไหนแล้วฟะ!


“เอ่อ แล้วคุณเพชรละครับ”


“กลับไปที่ออฟฟิศแล้ว”  เจ้านายสายตรงของคุณเพชรอธิบายสั้นๆ แฟ้มสามสี่แฟ้มที่เคยได้เห็นวันนี้ได้หายไป คาดว่าคนที่ไม่อยู่นั่นแหละเอากลับออฟฟิศไปด้วย ที่คุณนักรบอยู่เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ในบ้านหลังนี้ก็เพราะรอไอ้เจนเซ็นสัญญานั่นแหละ ทว่ายังไม่ทันได้ขานรับหรือถามอะไรอีกเจ้าของห้องก็ลุกขึ้นและส่งสัญญาณให้เดินตาม โชคดีที่เจนเป็นคนฉลาดเลยตามทัน ถ้าแค่มองตาแล้วเขาจะเข้าใจว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามแล้วล่ะก็ แนะนำให้ซื้อนกหวีดมาเป่าด้วยนะ เพื่อวันหลังไอ้เจนจะไม่เข้าใจภาษาใบ้ที่ใช้แค่ตาสื่อของเขา


เราสองคนหยุดมาอยู่ที่ห้องซึ่งเจนจะต้องใช้ทำงานและหลับนอนกันในบ้านใหญ่ จริงๆก็เคยมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ตอนนั้นเหมือนสมองไม่เปิดรับข้อมูลอะไรเท่าไหร่นัก เมื่อมองไปที่เบาะที่ถูกทำคอกกั้นก็ได้จะเห็นกบตัวน้อยผิวขาวจั๊วหน้าเหมือนถอดแบบกันมากับผู้ชายตัวสูงอีกคนที่เดินนำกันเมื่อครู่ ดีเอ็นเอมันอยู่ที่หน้าจริงๆครับคุณผู้ชม หวังว่าดีเอ็นเอจะไม่ถอดแบบมาหมดแม้กระทั่งนิสัยนะครับนายน้อย แค่นี้ไอ้เจนก็รับมือคุณพ่อไม่ค่อยจะไหวแล้ว อย่าให้หมั่นไส้คุณลูกด้วยเลย


“เซ็นสัญญากันแล้วหรือตารบ”  คุณพรรณีเอ่ยปากถาม เธอกำลังนั่งอยู่ในเบาะกับคุณหนูเล็ก คงช่วยกันดูในระหว่างที่ไร้ซึ่งคนมาดำรงตำแหน่งพี่เลี้ยง


“ครับ เซ็นสักที”  เอ๊ะ! บอกทีว่านี่ไม่ได้แซะกู


“มานี่สิเจน จะได้แนะนำให้รู้จักกันสักที”  ไอ้เจนต้องลงไปกราบคุณอัศวินเจ้านายสายตรงที่สุดจริงๆไหมล่ะครับ แน่นอนว่าถ้าทำต้องมีคนอยากถีบในความเล่นใหญ่ ดังนั้นเจนจึงทำแค่ค่อยๆนั่งลงไม่ไกลจากตัวคุณพรรณีและยิ้มให้กับคุณอัศวินที่จ้องมองกันตาแป๋ว ไม่มีคำทักทาย มีแต่น้ำลายที่ไหลยาวยืด


“ตาวิน นี่พี่เจนนะลูก”  จ้า ไหว้พระเถอะ แน่นอนว่าคุณน้องวินไม่ได้ยกมือขึ้นไหว้ หากแต่รอยยิ้มกว้างโชว์เหงือกไม่มีฟันสักซี่ทำให้คนชื่อพี่เจนต้องยิ้มตาม นี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นใบหน้าเจ้านายยิ้มออกมา เพราะก่อนนี้ที่ได้เจอใบหน้าน้องวินเปื้อนคราบน้ำตา ความเอ็นดูพุ่งขึ้นจากร้อยเป็นพัน ไม่น่าเชื่อว่าหน้าตาพิมพ์เดียวกันจะให้ความต่างขนาดนี้ เปลี่ยนใจจากอ่อยคุณเพชรมาอ่อยน้องวินได้ไหม ง่อววววววน่ารักจนจะทำให้ไอ้เจนเข้าไปหลงในคุก


คุณอำไพที่อยู่ไม่ไกลนั้นหยิบผ้าอ้อมที่พาดอยู่บนบ่าตัวเองมาพาดให้กับเจนในทันที เธอส่ายหัวให้กับรอยยิ้มโง่ๆของลูกชายที่ยิ้มตอบน้องวินอยู่เฉยๆ หากเป็นคนอื่นคงเข้าไปหยอกเล่นแล้วถ้าเจอยิ้มอ้อนขนาดนี้ มีแต่เจนนั่นแหละที่ยังอยู่เฉยได้ เป็นความสามารถพิเศษของคนมโนเก่งจริงๆ คิดเยอะ คิดมากแต่ปฏิบัตินี่ง่อยจนต้องถอนหายใจใส่ จนป่านนี้ยังทำแค่มองไม่รีบปรี่เข้าไปทำคะแนนกับนายน้อยคนใหม่อีก!


“เอาไว้เช็ดให้คุณน้องวิน”  เธออธิบายการใช้งานให้ลูกชายเข้าใจง่ายๆ อีกฝ่ายพยักหน้างึกงักก่อนจะคลานเข้าไปหาน้องวินที่คลานดิ้นอยู่คนเดียว ก่อนจะนอนราบลงให้อยู่ในระดับความสูงพอๆกันและเช็ดคราบน้ำลายของอีกฝ่าย ดูแก้มล้นๆนั่นฉิ ง่อวววววไอ้เจนยอมไปหมดแล้วครับคุณชาย


“ถ้างั้นผมกลับไปทำงานก่อนนะครับ”  เหมือนถูกฉุดออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ของน้องวิน คุณนักรบพูดออกมาทำให้เจนนึกได้ว่าเขาเห็นทุกอย่างรวมถึงหน้าตาปัญญาอ่อนของตนที่ทำใส่ลูกชายเขาตลอดเวลา แต่เจนมั่นใจว่าเพราะความหน้าตาดีของตนนั้นไม่ว่าจะทำหน้าแบบไหนก็ไม่น่ากลัวแต่อย่างใด ร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้นนั่งเพื่อกล่าวลานายจ้างอย่างมีมารยาท แต่กลับได้รับหางตาเย็นชามาหนึ่งอัตรา อยากจิ้มให้ตาบอดนัก แต่ก็อยากให้เขาเซ็นเช็คจ่ายเงินให้ก่อนอยู่ดี


“จา จา จา”  ในระหว่างที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนินทาเจ้านาย ลูกเจ้านายก็มาตบตักของเจนแปะๆให้รู้ตัวว่าให้กลับมาทำงานทำการสักที แต่คุณหนูของบ่าวครับ ไอ้เจนก็เพิ่งเคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กนี่แหละ ขอเวลาไปเปิดยูทู้บศึกษาก่อนได้ไหมว่างานแบบนี้ต้องทำอะไรบ้าง จะให้เข้าหมวดเอ็นเตอร์เทนเลยผมก็ว่ามันดูไร้สาระไปนะ แต่จะให้เข้าหมวดวิชาการ บอกตรงๆว่าคุณน้องวินนี่อายุกี่เดือน เจนก็ยังไม่รู้เลยครับ…..


“แม่ คุณน้องวินนี่อายุเท่าไหร่อ่ะ”


“จะ 7 เดือนแล้ว”


“ยังเดินไม่ได้ใช่ไหม”


“ถ้าเดินได้ เจนไม่ได้นั่งอย่างนี้แล้วแหละ”  น่าจะได้วิ่งจับ เจนเคยได้ยินเพื่อนผู้หญิงที่มีลูกแล้วบอกเหมือนกันว่าเลี้ยงเด็กมันเหนื่อยกว่าทำงานออฟฟิศอีก โดยส่วนตัวเจนยังไม่เคยคลอดลูกเลยไม่ค่อยเข้าใจความเหนื่อยยากของแม่ลูกอ่อนนัก แต่ตอนนี้คงต้องเรียนรู้แล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปออกลูกที่ไหน แต่เพื่อเอาตัวรอดในวิชาชีพนี้อย่างมืออาชีพที่สุด แหงล่ะ ไอ้เจนท้องได้ก็ออกลูกเป็นควายแล้วครับ พ่อเด็กในท้องต้องไม่ใช่คน แต่เป็นบุฟเฟต์เนื้อย่างที่กินไปเมื่อวาน


เจนยกคุณหนูขึ้นอุ้มมองหน้า ต่อจากนี้เด็กคนนี้จะได้เป็นเจ้านายสายตรงของไอ้เจน ในช่วงไม่ถึงสามเดือนอาจจะดูสั้นๆแต่เจนคงมีเวลาให้ได้แค่นี้ก่อนจะต้องแยกจาก แต่เวลาไม่ว่าจะนานแค่ไหน ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกน้องเบื้องต้นก็จะต้องมีการทักทายกัน มือเล็กนุ่มนิ่มของเด็กน้อยแปะลงที่แก้มใสของเจนรักษ์ ดวงตาโตกลมสุกสกาวนั้นจ้องมองอย่างเป็นมิตร ปากเล็กๆที่เคลือบน้ำใสที่เจนรักษ์ไม่นึกรังเกียจสักนิดจนแปลกนั้นพึมพำภาษาต่างดาวที่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ แต่สิ่งเดียวที่รู้ได้คือคุณหนูน้อยอัศวินนั้นพอใจในตัวบ่าวคนใหม่ไม่น้อยเพราะไม่มีท่าทีงอแงหรือไม่ยอมให้จับทั้งๆที่เพิ่งเจอกัน เจนรักษ์เองก็พอใจในตัวเจ้านายใหม่ที่ไม่เหมือนใครในประวัติการจ้างงานที่ผ่านมาก่อนนี้เลย คุณอัศวินพิเศษจริงๆ


แต่เราต้องมาทำข้อตกลงก่อนนะ เพราะเจนคงอยู่ไม่นาน….
เพราะฉะนั้นอย่ามาหลงรักกันให้มากเลยนะครับ หนูวิน…..


Tbc


Talk:
เป็นเรื่องที่แต่งมันส์และมาได้บ่อยจริงๆฮืออออรู้สึกผิดกับพี่อาทิตย์กับศศิอยู่บ้างที่เอ็นดูน้องเจน อาจจะมีคนสงสัยว่าเจนกับคุณรบจะรักกันได้ไง เออนั่นสิ เราก็คิด55555 หรือพระเอกเป็นคุณพี่เพชรน่าจะดีกว่าไหนๆน้องเจนก็จะอ่อยแล้ว ให้เล่นตัวนิดหน่อยก็จบได้เลยนะเนี่ย(หลอกๆ)  ไม่ได้สิ คุณรบอุตสาห์เปิดตัวอลังการตั้งแต่ตอนเจอเจนครั้งแรกเลยนะ55555 ต่อไปนี้ก็มาดูกันค่ะว่าแผนอ่อยคุณเพชรแต่ตกได้คุณรบของเจนจะเป็นไง ต่อไปอาจจะมีบางช่วงที่ลงจุดดราม่าหน่อยแต่จะพยายามฟื้นเร็วเพื่อรักษาความฟีลกู้ดของน้องเจนนะคะ ฝากติดตามด้วยค่ะ

สามารถติดตามสปอย ท้วงถามได้ที่ #เจนไม่นก ในทวิตเตอร์นะคะ

@reallyuri

หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-06-2018 18:28:42
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-06-2018 18:47:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 18-06-2018 19:59:05
โง้ววววว...น้องวินน่ารัก ไม่ได้พ่อรอลูกโตก็ได้เนอะ
 :hao6: ไอคลุกๆ รออ่านตลอดนะคะชอบความมโนของยัยน้องเจน รอวันคุณพ่อน้องวินหลงความมโนของนาง  :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-06-2018 20:17:28
ชอบบบบบบ สนุกกกกกก  :katai2-1:
เหมือนเจนเป็นพจมานเลย
แต่เจนคนนี้ดีกรีจบนอกมานะ
สงสัยเจน ได้ทำงานเกินพี่เลี้ยงคุณน้องวินแน่ๆ

อืมมมม..... เจนไม่นก
คนอ่านก็ไม่นกเหมือนกัน :mew1:

นักรบxเจนรักษ์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-06-2018 20:51:24
เลี้ยงต้อยน้องวินเอาไ้ว้เลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 20-06-2018 02:02:24
จบนอกมาเลี้ยงเด็ก น้องเจนเอเยยยยยยย 5555555555  :hao6:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 4] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 18.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 20-06-2018 04:28:54
อะไรของเจนๆๆๆเป็นแม่ชะงั้นไป
หัวข้อ: [บทที่ 5] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 21-06-2018 19:32:02
#เจนไม่นก
เจนมือตบ








การเริ่มงานในฐานะพี่เลี้ยงเด็กได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

ไอ้เจนเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นจิ้งโจ้ที่ไม่ได้กระโดด บทเรียนแรกหลังจากที่นอนเล่นด้วยกันคือการพาคุณหนูน้องวินขึ้นเป้อุ้ม ทุลักทุเลสำหรับครั้งแรกแต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ได้ทำให้หนูทดลองกิตติมศักดิ์ร่วงลงไปหัวแตกที่พื้นให้พ่อเขามาแหกอกไอ้เจน และสิ่งต่อมาที่ต้องทำคือการแนะนำทุกซอกทุกมุมในบ้างโดยคุณหัวหน้าผู้ดูแลบ้าน และนั่นไม่ใช่ใคร…..แม่ไอ้เจนเองอีกเช่นกัน


“รู้สึกผิดเลยนะเนี่ยถ้ารีบออก”  เจนพูด ในกรณีที่คุณหัวหน้าแม่บ้านเป็นคนมาแนะนำให้อย่างละเอียดทั้งๆที่รู้กันดีแบบนี้ ก็อดจะเกรงใจไม่ได้


“ไม่เป็นไร คิดมากอะไรเนี่ย”  จริงๆแล้วสำหรับอำไพเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญเลย แม้จะรู้ว่าเจนคงหาทางให้อยู่ไม่นาน แต่การได้ใช้เวลางานกับลูกถือเป็นเรื่องที่ดี มากกว่าการแนะนำบ้านหลังนี้ในฐานะหัวหน้าแม่บ้าน เธอกลับรู้สึกเหมือนได้แนะนำสถานที่ทำงานให้ลูกได้รู้จักมากกว่า


ถึงอำไพจะทำงานที่ใครเรียกง่ายๆว่าคนใช้ก็ตาม แต่เธอก็อยากถ่ายทอดความภาคภูมิใจของตัวเองให้เจนได้รับรู้ โชคดีแค่ไหนที่เจนเติบโตมาในสังคมที่ดี แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันและลูกต้องไปอยู่ในสังคมของคนมีฐานะที่มากกว่าเธอ แต่ลูกก็ไม่เคยดูถูกอาชีพนี้ให้ต้องรู้สึกเสียใจ และแม้ว่าแม่จะส่งเสียได้ตามระดับความสามารถ แต่เจนแสดงให้แม่เห็นเสมอว่าภูมิใจกับตัวแม่และนั่นก็ทำให้เธอภูมิใจในสิ่งที่ทำ เหมือนกับที่ภูมิใจในตัวเจนเสมอมา


“ตรงนั้นเป็นห้องครัว เดี๋ยวเราจะต้องสอนให้เจนทำอาหารให้น้องด้วย”


“แม่จะสอนเจนเองเหรอ”


“อืม พอทำครัวได้ใช่ไหมเรา”


“ก็พอทำได้บ้าง”  เจนทำอาหารได้ตั้งแต่เด็ก ทั้งนี้เพราะต้องช่วยยายที่แก่แล้ว และตั้งแต่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำบ่อยๆกับคนในครอบครัวใหม่ที่นิยมทำอาหารกินเอง จนเรียนจบมีงานทำก็ยังต้องสละเวลาไปดูร้านอาหารที่ลงหุ้นกับตัวจุ้นบ้าง


สกิลทำครัวของเจนอาจจะไม่เรียกว่าเอาไปเปิดร้านอาหารเองคนเดียวได้สบาย แต่เรียกว่ากินได้อร่อยในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้เรื่องรสชาติมันก็อยู่ที่คนทานด้วย สำหรับเจนและตัวจุ้น ฝีมือเจนถือว่าอร่อย แต่กับคนอื่นที่ต้องมากิน อันนี้มันก็แล้วแต่คนชิมอีกนั่นแหละ เอาเป็นว่ากินแล้วไม่ตายแค่นี้คุณนักรบคงพอรับได้ เพราะเจนจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยกับกระเพาะของลูกชายเขาละกัน อีกอย่างน้องวินคงไม่ลุกมาบอกอยากกินเสต็กหรอก เด็กทารกจะไปกินอะไรมากมายวะ….


“ตอนคุณครูกบอยู่เขาก็เป็นคนเตรียมอาหารเหรอแม่”  แต่เจนสงสัย บางทีการเตรียมอาหารจากคนแบบนั้น พัฒนาการทางกระเพาะของน้องวินอาจจะไม่ปกติแล้วก็ได้


“ตอนแรกก็เตรียมแหละ แต่ไปๆมาๆก็ให้คนในบ้านทำให้”


“เฮ้ยได้ไงอ่ะ ในสัญญามันระบุนะว่าต้องทำด้วย”


“แม่ไม่รู้เรื่องสัญญาหรอกนะ แต่บางเรื่องเขาก็พออนุโลมกันได้ล่ะมั้ง ยิ่งถ้าคุณหนูงอแงมากก็คงต้องดูแลตลอด”


“แล้วน้องวินงอแงขนาดนั้นเลยเหรอ”


“………..”


“เลิกจ้างไปดีแล้วจริงๆอะแหละ”  เจนเบ้ปากออกมา แต่มันทำให้แม่ส่ายหัว


“พูดเหมือนจะอยู่นานอย่างนั้นแหละ”  เจนสะดุ้งโหยง จริงว่ะ แต่จริงกว่าว่าถ้าเจนไม่ก้าวเข้ามาลูกของคุณนักรบอาจจะไม่มีโอกาสได้โตก็เป็นได้ ทำไมคนเราถึงได้กล้าทำเรื่องแบบนั้นได้ลงคอเชียวนะ


คุณอำไพอธิบายเกี่ยวกับอุปกรณ์ในครัวและอาหารของเด็กทารกอีกหน่อย เจนรักษ์พอจะเคยได้ยินจากเพื่อนมาบ้างแต่ไม่คิดว่าแม่เองก็จะให้ความเห็นที่ทันสมัยขนาดนี้ อาจจะเพราะเป็นแม่บ้านหัวใหม่และหาความรู้เสมอ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเจ้านายล่ะมั้ง และเพราะเหตุนี้คุณพรรณีจึงไม่กล้าปล่อยไป หากไม่มีคุณวิน มันก็อาจจะง่ายที่จะตัดใจ แต่เพราะบ้านหลังนี้มีเด็กเล็กเลยทำให้บ้านจำเป็นต้องมีผู้ใหญ่เก่งๆสักคนไว้คอยปกป้องล่ะมั้ง


แต่เจนรักษ์ก็อาจจะคิดไปเองอีกแหละ คิดเก่ง มั่วเก่ง


“ส่วนนมของคุณน้องวินเราแช่ในตู้นี้”  อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก ก็ไอ้ตู้เย็นอันนี้น่ะสิ คาดว่าถูกเอามาตั้งทีหลังเพราะมันช่างดูไม่เข้ากับการตกแต่งของบ้าน ถ้าให้เดาคือตอนออกแบบไม่ได้คิดว่าจะมีมันอยู่ด้วย และเมื่อเปิดออกมาก็ถึงบางอ้อ เพราะในตู้นี้เต็มไปด้วยถุงเก็บนมแม่ของน้องวิน


“เออแม่….นมพวกนี้นี่หาซื้อมาจากไหนเหรอ”  ไอ้เจนจะไปหาซื้อมาให้ลูกตัวเองกินไปหรือไง ขนลุกชะมัด


“ก็คุณเลขาไปขอซื้อต่อจากคุณแม่ที่เขามีนมเหลือเยอะๆอะนะ จะมีส่วนหนึ่งก็มาจากคุณรดาบ้างแต่ก็น้อย ได้ยินว่าเธอไม่ค่อยมีน้ำนมน่ะ”  น้ำเสียงของแม่ที่พูดถึงส่วนหลังนั้นดูเปลี่ยนไป ชื่อนี้เด้งขึ้นมาในความทรงจำให้ต่อมเสือกตื่นตัวอีกครั้ง แต่ไหนๆแม่ก็เปิดทางให้ขนาดนี้ ไม่พาตัวเองเข้าไปก็ไม่ใช่เจนรักษ์แล้วล่ะครับ


“คุณรดานี่ใครเหรอแม่ แม่คุณหนูน้องวินเหรอ”


“อืม จะพูดอย่างนั้นก็ใช่”  บ๊ะ แล้วจะไม่ใช่ได้ไง แบ่งกันคลอดคนละครึ่งตัวกับคุณนักรบเหรอ เพิ่งรู้ว่ามนุษย์แบ่งเซลล์ได้ขนาดนั้น…..ถุ้ยยยยย ถ้าทำงั้นได้ไอ้เจนก็มีมดลูกแล้วล่ะครับ


“อ๋อมิน่าล่ะ วันนั้นเห็นคุณนักรบพูดถึงอะไรๆรดาๆ” 


“อย่าพูดดังไปเจน”


“อย่าบอกนะว่าในบ้านหลังนี้มีคนใช้ที่เป็นสายลับให้คุณรดาด้วย”  ดวงตาของเจนวาวระยับเหมือนกับตอนได้ยินว่ามีหนังน้ำเน่าเรื่องใหม่ให้ดู คุณต้องเข้าใจว่าอยู่เมกามันไม่ได้หาดูหนังยาก แต่เวลาที่กลับกันบางทีก็ได้รับอุปสรรคจากการรีรันหนังบ้างในบางที โอกาสที่จะได้ถ่ายทอดสดในบ้านรัตนสกุลมาถึงแล้ว ถ้าไอ้เจนพลาดอย่ามาเรียกนกเจน เรื่องตัวเองอาจจะนกเก่ง แต่เรื่องคนอื่นบอกให้รู้เลยว่าไม่เคยเสือกเรื่องใครแล้วนกเลยเว้ย!


“ให้มันได้อย่างนี้สิ”  แม่ส่ายหัวระอา จากคุณเจนรักษ์นักเรียนนอกปรับตัวกับสถานะ ‘เด็กในบ้าน’ รัตนสกุลได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ จากที่เคยเป็นห่วงตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าที่คิดเผื่อไว้นั้นอาจจะไม่จำเป็น เจนต้องรับมือได้กับการรับน้องจากคนใช้เก่าๆที่บ้านหลังนี้ เพราะต่อให้ได้ชื่อว่าเป็นคนโปรดของคุณผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณอำไพจะปกป้องลูกได้จริงๆ


“ว่าแต่คุณรดาอยู่ไหนอะแม่ ตั้งแต่เจนมายังไม่เห็นเลย” 


“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ นานทีจะติดต่อมาน่ะ”


“อ้าว ทำงานไกลเหรอ” ฉลาดจริงๆลูกคนนี้ ไม่ถามตรงๆแต่เลียบเคียงถามได้เก่งนัก


“เขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน”


“หย่ากันแล้ว”  เข้าทางความเสือกไอ้เจนนักล่ะ คนเป็นแม่ยิ้มระอาก่อนจะพยักหน้าให้ เธอไม่ได้กะจะเก็บเรื่องคุณรดาไม่ให้เจนรู้ เพราะอย่างไรก็คงต้องเล่า แม้เจนรักษ์อาจจะอยู่ไม่นาน แต่เรื่องของคุณรดาก็เหมือนจะเกี่ยวข้องกับสายงานโดยตรงเพราะเธอเป็นแม่ของคุณอัศวิน กะว่าถ้าว่างๆได้อยู่ด้วยกันในที่ปลอดคนเธอจะเล่าให้หมด แต่เจนถามตอนนี้เลยพยายามเลี่ยงตอบบ้าง พวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมีเต็มไปหมดแหละ


รอบๆบ้านนี้….


“อ้าว พี่อำไพมีอะไรในครัวหรือเปล่า”  เสียงเรียกและโทนเสียงห้วนๆนั้นทำให้เจนหันกลับไปมอง ดวงตาที่จ้องมาทางเราแม่ลูกไม่ได้ทำให้เจนอยากจะยกมือไหว้แม้แต่น้อย และเจนก็เลือกที่จะไม่ใช่เด็กนอบน้อมแต่แรก ยิ่งถ้าแม่ไม่พูดอะไรเจนก็จะคงไว้ซึ่งการเป็นคนทรามไร้มารยาทเช่นนี้ อีกฝ่ายหน้าตึงที่เห็นแววตาของเจนที่มองมา มันอาจจะไม่ได้ดูท้าทายหาเรื่องแต่ก็รู้ได้ว่าถือตัว เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก พวกขี้ข้าหัวสูง…..


“ไม่มีอะไรหรอกจินตนา ก็แค่พาเจนกับคุณหนูมาเดินดูรอบบ้านน่ะ”


“อ่อ พี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนู” น้ำเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรทำให้เจนหน้าตึง  ทั้งๆที่เจ้านายตัวน้อยอยู่กับอกเจนตอนนี้อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีจะกลัวเกรง เออก็จริงที่คุณหนูตัวเล็กอ่ะยังไม่รู้ความ แต่มารยาทของคนไม่รู้จักกันน่ะ ไม่คิดจะมีสักหน่อยเหรอ เออไอ้เจนก็มารยาททราม ทรามเก่งด้วย กับคนที่ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทมากนี่ยิ่งเก่งใหญ่


“อื้ม เดี๋ยวพี่พาลูกไปดูตรงอื่นต่อ”  แม่อยากจะจบประเด็น เห็นทีเจนจะรู้แล้วว่าใครคบไม่ได้ในบ้านนี้


“ว่าแต่นี่ลูกพี่ที่เลี้ยงไว้ที่บ้านนอกเหรอ”


“……….”


“เนี่ยเสียดายเมื่อวันก่อนฉันไม่อยู่ เด็กในบ้านคนอื่นมันเอามาเล่าให้ฟังว่ามีคนมาก่อเรื่องให้ครูกบโดนไล่ออก”  โอ้โห ปึ้ดเลยครับ แล้วแววตาดูแคลนนั่นอะไร เอาไว้มองจิ้งเหลนเหรอป้า


“ครับ เผอิญมีเรื่องนิดหน่อย”


“เจน”  แม่พยายามจะห้าม ไม่อยากให้ลูกไปต่อความยาวกับคนอื่น ยิ่งนี่เป็นวันแรกของการเริ่มทำงาน ถึงเจนจะไม่แคร์อะไรและอยากออกไป แต่แม่ก็ไม่อยากให้คุณหญิงมองเจนเป็นเด็กไม่น่ารักตั้งแต่วันนี้ อย่างน้อยเธอก็เอ็นดูเจนอยู่บ้าง คนทำงานด้วยกันมานานมองตากันก็พอเดาออก


จริงๆแล้วแม่ก็ไม่ได้อยากให้เจนใช้วิธีไหนที่จะออกไปจากบ้านตามเงื่อนไขสัญญาทั้งนั้น เพราะมันอาจจะทำให้ความรู้สึกของคุณหญิงที่มีต่อเจนเป็นไปในแง่ลบ แต่ในเมื่อพูดตรงๆว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ด้วยก็จะทำให้คุณหญิงเสียใจเพราะเธอก็มีเมตตาต่อครอบครัวเราอยู่หลายครั้ง ก็เลยเลือกใช้เรื่องชู้สาวของเด็กๆที่ทำให้เกิดปัญหาผิดสัญญาต่อกัน ซึ่งวิธีนี้ยังพอเป็นเรื่องที่เข้าใจได้โดยที่อำไพหวังว่าเจ้านายจะเข้าใจและไม่คิดโกรธเกลียดอะไร เพราะมันก็มองได้ว่าเรื่องของความรู้สึกมันทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยอมปล่อย อำไพอยากให้คุณหญิงเอ็นดูลูกของเธอบ้าง เผื่อที่ว่าวันหนึ่งเจนออกไปแล้ว จะยังได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมกัน อย่าให้ต้องโกรธเกลียดกันเลย เพราะอำไพคงเลือกเจนอยู่แล้วในท้ายที่สุด แม้เธอจะแคร์เจ้านายทุกคนในบ้านแค่ไหนก็ตาม


“ทำร้ายร่างกายคนอื่นนี่ไม่หน่อยล่ะมั้ง”


“พูดถึงที่ผมที่ปามะม่วงใส่หัวคน หรือพูดถึงคุณครูที่พยายามอุดปากคุณหนูน้องวินล่ะครับ”


“……..”


“ถ้าน้องหายใจไม่ออกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบดีล่ะครับ เป็นผมที่ปีนต้นไม้เก็บมะม่วงแล้วเห็นทุกอย่าง หรือฆาตกรที่กระทำความผิดโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เจตนาทำร้ายร่างกายก่อน” เจนรักษ์เลือกที่จะใช้คำและน้ำเสียงโต้ตอบ เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีใครรู้จักที่มาของตน ประโยชน์ตรงนี้เจนรักษ์จะนำมันมาใช้เป็นแต้มต่อในการทำให้คนหมั่นไส้เอง


“พี่อำไพ สอนลูกซะบ้างนะว่าอย่าให้มันมากนัก”  เมื่อเถียงไม่ได้ก็เล่นมุกเกิดก่อนต้องได้รับความเคารพเลยหรือนี่ เอะอะก็ฟ้องนะ แต่เจนกลัวที่ไหนกะอีพวกที่แก่ไร้ประโยชน์จะลงโลงไม่รู้จักสร้างคุณงามความดี


“เจน”


“ครับแม่”  คนที่เรียกร้องความยุติธรรมยิ้มในใจ อย่างไรคนเป็นแม่ก็ต้องต่อว่าลูก


แต่ไม่ใช่คุณอำไพ


“ทำดีแล้ว ไปกันเถอะ” แงะ!


ให้รู้ไว้ว่านิสัยไอ้เจนได้ใครมา!


เจนรักษ์และแม่ไม่มีใครรู้หรอกว่าอีกฝ่ายทำหน้าแบบไหนตอนที่เราเดินหันหลังให้ แต่มีใครสนไหม โหถ้าสนแต่แรกไม่ก่อวอร์ใส่ขนาดนั้นหรอกครับ ไอ้เจนนี่ถ้ากลัวมากก็ก้มลงไปกราบตีนแล้วศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก แต่มีไว้บ้างอย่ารีบแบไต๋ออกหมด เดี๋ยวอดดูของสนุกต่อจากนี้ อีกอย่าง….คำว่าทำดีแล้วของแม่ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เจนทำเมื่อครู่ดีสักหน่อย อาจจะอ้างอิงเรื่องเมื่อวันก่อนที่ช่วยเจ้าหนูวินที่กำลังมองกันตาแป๋วจากเป้อุ้มเด็กคนนี้ก็เป็นได้ เลี้ยงง่ายเหมือนกันนะเรา เสียอย่างเดียว….อ้วนเหมือนกันนะ…ชักจะหนัก….


“เปลี่ยนมาให้แม่อุ้มแทนไหม”


“ไม่เป็นไรแม่”


“งั้นเราไปหาที่พักกัน เดินมารอบแล้วเจนคงพอรู้อะไรบ้างล่ะ”  แม่เชื่อว่าเจนหัวไว เพราะในหนึ่งวินาทีเจนสามารถมโนได้ไปถึงหลักจักรวาล กับให้แค่จดจำว่าอะไรอยู่ไหนอย่างไร เรื่องแค่นี้ไม่คณามือเจนหรอกถ้าให้ความตั้งใจ


และแม่ก็เห็นว่าสถานที่ที่ดีที่สุดคือสวนหลังบ้านอันเงียบสงบ แม้จะอยู่ใกล้ๆกับบ้านพักคนงาน แต่ในเวลานี้ที่ทุกคนอยู่ที่บ้านใหญ่กัน ถ้าพูดกันเบาๆก็อาจจะไม่มีใครได้ยิน คุณหนูตัวเล็กนั้นหาวออกมา คงจะง่วงแล้ว คุณอำไพจึงช่วยเจนถอดเป้อุ้มออกมา โอบคุณหนูไว้แนบอกและตบหลังเบาๆ คุณอำไพตกใจไม่น้อยที่เจนดูคล่องจนไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่อุ้มเด็ก


“เคยช่วยเพื่อนเลี้ยงลูกตอนอยู่ที่นั่นน่ะแม่”  เจนอธิบายสั้นๆ พอจะรู้เรื่องเลี้ยงเด็กบ้างแต่ถ้าไม่แน่ใจก็ไถ่ถามได้ เอลลิสซ่าเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยเองก็มีลูกที่โตกว่าน้องวินอยู่หน่อย เพราะฉะนั้นประสบการณ์ตรงจากเอลคือสิ่งที่เจนคาดหวังและได้โทรไปเกริ่นไว้แล้วว่าจะต้องมาทำงานด้านนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยินดีจะให้ความช่วยเหลือพร้อมแชร์ลิงค์มากมายที่เป็นบทความวิชาการมาให้ จนคิดว่านี่….คิดว่าเรากำลังทำทีสิสกันอยู่เหรอ…..


“แม่จะเตือนเจนเรื่องคุณรดาไว้ก่อน แต่แม่รู้ว่าเจนจะไม่ก่อเรื่อง” 


“เอ่อม…แม่พูดเหมือนเจนจะไปก่อเลยอ่ะไอ้เรื่องที่ว่านี่”  นี่แม่เชื่อจริงๆหรือประชด…เจนยังไม่รู้จักคุณรดาอะไรนั่นเลย พูดอย่างกับว่าโอกาสจะได้วอร์กันสูงมาก นี่ละครน้ำเน่าที่กะจะเกาะขอบจอดู กลายเป็นว่ามีคนคาดหวังให้ลงไปเล่นด้วยเหรอนี่ เอาไงดี….เป็นพี่กิ๊ก สุวัจนีล่ะกัน!


“เปล่า แม่แค่พูดเผื่อว่าเรื่องของเจ้านายเราอย่าไปยุ่ง” กลับมาเป็นอีเย็นแทน….


“เจนไม่ยุ่งหรอก”  เจนผู้รักสงบ


“แต่ถ้าเขามายุ่งกับเจน เจนก็ไม่ไว้หน้าใครใช่ไหม”  แต่ถึงรบไม่ขลาด กำลังจะพูดต่อเลย….ทำไมรู้ทันเก่ง….


“แม่….เจนเองก็ไม่อยากมีเรื่องเน้อ”


“แต่อีกฝ่ายเขาพร้อมมี”


“เดี๋ยวนะ นี่เขาจ้างผมเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรือให้มาเป็นมือตบ”  เจนขมวดคิ้ว ในสัญญาไม่มีบอกว่าให้ไปตบใครนี่


“ไม่ใช่ คือ…แม่จะพูดยังไงดี”


“คุณรดาเธอขี้หึงเหรอ”  แบบ….ตามแบบฉบับพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกชายที่กะจะเคลมพ่อเด็กเหมือนในละครใช่ไหม โอโหแค่คิดก็สยองตีนคุณนักรบแล้ว ไอ้เจนแอบไปวัดไว้…มิดหน้ากูอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว


“ไม่….แม่ว่าเธอไม่ได้ขี้หึงเท่าไหร่นะ”  แม่ก้มหน้า ครุ่นคิดจากท่าทีของคนที่มีชื่ออยู่ในบทสนทนาที่ผ่านมา จะว่าอย่างไรดีล่ะ บางทีปัญหาอาจจะไม่ได้เกิดจากคุณรดาโดยตรง แต่นี่เป็นพลอตละครแบบใหม่ที่ไอ้เจนไม่ได้อัพเดทเหรอนี่ แล้วใครล่ะที่จะพร้อมตบกับเจน


“แล้วผมต้องระวังใครล่ะแม่” 


“คุณรัชนีนุช คุณอาของคุณรดา”


“เดี๋ยวนะ ใช่คนที่แนะนำยัยครูกบให้บ้านหลังนี้ใช่ไหม”


“ใช่….เธอเป็นคนแนะนำให้คุณนักรบ”


“เหอะ….สรุปคุณชะนีนุชอะไรนั่นหรือคุณรดากันแน่ที่เป็นเมียคุณรบของแม่” จะเป็นทั้งคู่ไม่ได้นะเว้ย กูงง


“เขาชื่อรัชนีนุช เรียกดีๆ และคุณรดาเป็นแม่ของคุณอัศวิน เธอเคยแต่งงานกับคุณรบและหย่ากันแล้ว”


“อ่อ พ่อไม้ลูกติดที่แอบมีความสัมพันธ์กับอาของเมียเก่า”


“ไอ้เจน ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ คุณรัชนีนุชเธอก็แค่เข้ามายุ่งกับเรื่องของคุณอัศวินบ้าง”


“น้ำเสียงแม่ดูไม่จริงใจในช่วงท้ายเลยนะ”  แถวบ้านเรียกผีเห็นผี


“………….”


“เล่ามาเหอะแม่ มาถึงขั้นนี้แล้ว”


“เธอพยายามให้คุณรดากับคุณรบกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง”  ไอ้เจนนั่งหลังตรงเลยครับ อะไรนะ บันเทิงล่ะ ถ้าเจนเอาไปแต่งนิยายเองจะมีช่องไหนขอซื้อไปทำละครไหม น่าสนใจจริงๆ ไหนๆก็จะตกงานอีกครั้งอยู่แล้วก็อยากจะมีรายได้เสริม เขียนบทละครก็ดี ถ้าจะรุ่ง


“อ้าวแล้วเขาเลิกกันเพราะอะไรล่ะแม่”


“…..เจน….”


“แม่เล่าไม่หมดอ่า”


คนเป็นแม่ส่ายหน้าให้กับความกระตือรือร้นของลูก เธอเล่าให้เจนฟังเท่าที่รู้และได้รับความสนใจแบบที่ไม่มีพูดแทรกของอีกฝ่ายราวกับคนที่นั่งฟังอยู่นี่ไม่ใช่เจนรักษ์ที่เธอรู้จัก ถ้ามีปากกากระดาษเจนคงเอามานั่งจดแล้วเพราะดูจะให้ความใส่ใจถึงปานนั้น สำหรับอำไพที่เป็นแค่คนรับใช้ในบ้านคนหนึ่ง เธอไม่ค่อยอยากจะรับรู้เรื่องของเจ้านายจนเกินพอดีผิดแผกจากคนใช้คนอื่นๆที่เห็นว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสนุกจนเอาไปพูดกันให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่เจนคงไม่เอาไปพูดต่อเพราะแค่นี้ก็เห็นตั้งท่าจะเป็นศัตรูกับคนเกือบทุกคนที่ได้เจอในบ้านหลังนี้ เพราะฉะนั้นต่อให้พูดไป….ก็คงทำได้แค่ระบายในหัวของตัวเองแบบที่ชอบเป็น


เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณนักรบกับคุณรดาแต่งงานกันโดยการคลุมถุงชน หากเป็นละครทั่วไปพระเอกกับนางเอกได้แต่งงานกันแบบนี้คงไม่แคล้วทะเลาะกันหรือตั้งตัวเป็นศัตรูในตอนแรก แต่ไม่ใช่เลย….คุณนักรบรักคุณรดาด้วยใจจริง รักมาตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่ทราบ บางทีอาจจะตั้งแต่ตอนที่คุณรบพ้นสายตาผู้ดูแลอย่างเธอไปเรียนต่อที่เมืองนอกนั่นแหละ การแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นโดยการคลุมถุงชนจากทั้งสองฝ่ายที่มีความรักเป็นองค์ประกอบน่าจะออกมาดีกว่านี้ ถ้าหากคุณรดารู้สึกเหมือนกันกับที่คุณรบรู้สึก


แต่ไม่เลย…เธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น


สำหรับคุณรดา…คุณรบเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตเธอเหมือนคนอื่นๆ เขาอาจจะรวยทั้งรูปลักษณ์และรูปทรัพย์แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่เธอต้องการ กระนั้นเมื่อต้องแต่งงานเธอก็ไม่จำเป็นต้องต่อต้านอะไรก็ได้เพราะฝ่ายชายก็พร้อมจะดูแลประคบประหงมเธออย่างเต็มที่ ทว่าคุณรดาทำใจรับไม่ได้ เธอมีคนที่เธอรักอยู่เต็มหัวใจอยู่แล้ว….


ฟังเหมือนคุณรบเป็นตัวร้ายที่ไปแย่งนางเอกมาจากชายที่รัก แต่ในสายตาอำไพ….เด็กผู้ชายที่เธอเลี้ยงมาไม่มีทางเป็นคนร้ายกาจได้อย่างนั้นแน่ คุณนักรบอาจจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองผู้หญิงที่เขารักเพราะความหลงที่เข้าครอบงำในขณะหนึ่ง แต่ก็ในตอนหลังเขาก็ยอมปล่อยเธอไปท่ามกลางความไม่พอใจของญาติอีกฝ่ายที่ทั้งกีดกันความรักของคุณรดาและหวังในสายสัมพันธ์กับรัตนสกุล


คุณรดาจะไม่ได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปง่ายๆเลยถ้าเธอไม่ได้ก่อเรื่องร้ายกาจเอาไว้ หากคุณคิดว่าความดีจะเอาชนะทุกอย่างได้นั้นมันไม่จริงเลย ความรักทำให้คุณรดายอมทำทุกอย่างเพื่อให้คุณนักรบปล่อยเธอไป ในสภาพที่เป็นต่อ เธอทำให้คุณนักรบต้องยอมรับข้อตกลงที่จะหย่าเพื่อให้เธอรักษาลูกเอาไว้ให้เขาเลี้ยง ใช่…คุณรดาเอาน้องวินที่ยังอยู่ในท้องเป็นตัวประกันเพื่อแลกอิสรภาพ และเพราะเหตุนี้ ต่อให้คุณรบรักเธอมากแค่ไหนก็ต้องยอมปล่อยไป เพราะน้องวินที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่ยังไม่เคยได้เห็นหน้ากันก็สำคัญต่อเขาเช่นกัน


“……….”  เจนนิ่งเงียบ ถูกอย่างที่คุณนักรบคิด ต่อให้เขารักอีกฝ่ายมากแค่ไหน พิสูจน์ตัวจนสูญเสียไปเท่าไหร่ แต่มันก็เท่านั้นเพราะความพยายามของคนเราต่อให้มากมายก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับการยอมรับจากอีกคนที่เขาไม่เห็นค่า สุดท้ายแล้วถ้าไม่ยอมรับก็จะมีแต่ตัวเองที่เจ็บ


ดังนั้นไม่ว่าเป็นใครก็ต้องเลือกเด็กที่อยู่ในท้องคุณรดาอยู่แล้ว เพราะนั่นคือพยานรักของเขากับคนที่เขารัก และอีกอย่าง….เด็กที่ไม่รู้ความและไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ควรต้องมาประสบกับเรื่องร้ายๆที่ผู้ใหญ่ทำไว้เลย คุณนักรบจึงยอมเฉือนหัวใจตัวเองทิ้ง และประคองหัวใจก้อนเล็กๆหนึ่งก้อนที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในอนาคตจะทำให้เขาได้เป็นพ่อที่ดีหรือไม่ เมื่อเจนรักษ์คิดตามถึงในสิ่งที่แม่พูดมาทั้งหมด ทัศนคติที่มีต่อคนหน้าดุเย็นชาก็เหมือนจะอ่อนลงนิดหน่อย บางทีสิ่งที่เป็นตัวตนของใครสักคนที่แสดงออกมาต่อผู้อื่นอาจจะไม่ถูกใจทุกคนบนโลก แต่นั่นก็เพราะทุกคนบนโลกรวมทั้งเจนรักษ์….ไม่รู้เลยว่าเขาได้พบเจออะไรมาบ้างในตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา……..


“เห็นแกนิ่งไปแม่ก็แอบกลัวใจนะนี่”  อำไพมองเจนที่กำลังมองน้องวินนอนหลับอย่างสงบซบแขนของตัวเอง แววตาของลูกยากจะอ่านออก ความคิดของลูกก็ยากที่จะเข้าใจในบางที


“คุณรดานี่เขาร้ายกาจขนาดนั้นเลยเหรอแม่”


“เขาแค่ไม่ชอบคุณรบ ถูกบังคับมากๆเขาก็เลยเริ่มที่จะเกลียด คนเราน่ะลูก…พอเราเอาความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้งต่อให้ใครทำดีกับเราแค่ไหน เราก็ไม่เห็นค่าเขาหรอก”  ใช่…สิ่งที่แม่พูดมาถูกทุกอย่าง อย่างแรกคือภาพลักษณ์ของคุณรบนั้นติดลบในสายตาคุณรดาแล้วตั้งแต่ตอนที่เขาร่วมเข้าไปบีบบังคับให้คุณรดาต้องยอมแต่งงานด้วย และการมีความสัมพันธ์แบบไม่เต็มใจจนมีน้องวินออกมา ฝ่ายผู้หญิงคงไม่พอใจมากๆ และบางทีก็คงทำใจรับไม่ได้แม้กระทั่งเด็กที่ตัวเองอุ้มท้องมาด้วย น้องวินที่เจนรักษ์อุ้มอยู่ตอนนี้ ดูน่าสงสารกว่าที่คิด การที่เขาเกิดมาในบ้านที่มีคุณย่าน่ารัก คุณพ่อที่รักเขา ครอบครัวที่มีฐานะเพียบพร้อมทั้งชื่อเสียงเงินทองและอำนาจ ไม่ได้ทำให้น้องวินดูน่าสงสารน้อยลงเลยเมื่อได้ทราบว่าเด็กคนนี้ต้องเจออะไรมาบ้างตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง


เคยถูกแม่ใช้เป็นข้อต่อรอง….
ถ้าไม่ได้ตามนั้นก็ไม่รู้จะถูกเอาออกก่อนได้เกิดมาจริงๆหรือเปล่า
เคยถูกพี่เลี้ยงเอามืออุดปาก
เพราะร้องไห้เสียงดังไปก็เท่านั้น


“เจน”  น้ำตาเจนไหลออกมา เมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่ตนเห็นในวันนั้นมันแค่ส่วนเสี้ยวที่เกิดขึ้นในชีวิตไร้เดียงสา น้องวินเลี้ยงง่ายขนาดนี้ ตั้งแต่เจอกันยังไม่มีร้องไห้ให้เห็นแถมยังยิ้มแย้มน่ารักเอ็นดูให้ไอ้เจนมากมายขนาดนี้ เรื่องร้ายๆแบบไหนกันที่น้องวินเผชิญบ้าง ในอนาคตเด็กคนนี้อาจจะจำไม่ได้ แต่คนที่รับรู้….ปวดใจแทนนัก…. น้ำตาที่ไหลจากดวงตาคู่สวยของเจนหยดกระทบลงแก้มของคุณหนูน้อย ความไร้เดียงสาแต่ดูเข้มแข็งของอีกฝ่ายทำให้ใจบางยวบ จากที่เคยบอกว่าคุณหนูวินอย่ารักไอ้เจนเลย วันนี้คงต้องพูดออกมาใหม่เสียแล้วล่ะ


เจนเอ้ย….อย่าไปรักคุณหนูวินให้มากกว่านี้เลยนะ
ไม่งั้นต้องเป็นเอ็งๆที่มานั่งร้องไห้ให้เด็กมันปลอบใจแทนแน่ๆ….


tbc


Talk: เจนเป็นมือตบ(มุก)ที่อ่อนโยนค่ะ รักเด็กเป็นงานหลัก รักพระเอกอาจจะได้เป็นงานรอง5555 ฝากติดตามเจนต่อไปด้วยนะคะ นางอาจจะเวิ่นเยอะไปหน่อยจนคนเขียนหาทางเข้าเนื้อเรื่องหลักแทบไม่ได้ แต่ฝากนางหน่อยค่ะ นางจะพยายามมีเป้าหมายในการใช้ชีวิตค่ะ555













หัวข้อ: Re: [บทที่ 5] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-06-2018 20:24:44
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 5] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-06-2018 21:34:57
 :L2: :L1: :pig4:

พี่เจนตกหลุมน้อง ไปไหนไม่พ้นแน่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 5] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 22-06-2018 00:53:10
เจนผู้มองโลกเป็นนก ....  แต่เจนคงไม่นกมาบ่อยๆๆนะ. ปักหมุดรอนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 5] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Pui5264 ที่ 22-06-2018 14:53:08
น่าสนุกจังค่ะ รอติดตามนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [บทที่ 5] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 23-06-2018 02:05:24
นุ้งเจน อย่าทิ้งน้องไปเลย อยู่จนได้เป็นแม่ของน้องเถอะ สงสารน้องวิน :mew6: พระเอกค่าตัวแพง ตอนนี้ไม่ได้ออก  :laugh:
หัวข้อ: [บทที่ 6] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 23.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 23-06-2018 16:17:12
#เจนไม่นก

เจนแบ๊วแบ๊ว








 

“ช่วยเรียกแทนตัวเองว่าผมด้วย”

 

 

ว้อยยยยยย!

 

 

“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”  ไอ้คุณรบ ทำยิ้มไอ้เจนเก้อแต่เช้าเลยว้อยยยยยยยย

 

 

“อย่าแทนตัวเองด้วยชื่อแบบนั้นอีก ผมไม่ชอบ”  เรื่องเมิ้งงงงงงงไม่เกี่ยวกับกูววววววว เจนอยากตะโกนด่าออกไปแต่นึกขึ้นได้ว่านั่นคือเจ้านาย ถ้าการเรียกตัวเองแบ๊วๆว่าเจนอย่างนั้นเจนอย่างนี้จะช่วยทำให้คุณนักรบมองว่าไม่เหมาะสมจนยกเป็นข้ออ้างมาให้ไอ้เจนได้ออกละก็ นี่จะ ‘เจนเจนเจนเจนเจน’ ทั้งวันเลย

 

 

อนึ่งเรื่องราวดราม่าน้ำตาแตกเกี่ยวกับชีวิตรันทดของเด็กน้อยผู้อาภัพนั่นก็เป็นเรื่องของเมื่อวาน ในส่วนของเช้าวันใหม่นั้นไม่เกี่ยวกัน หลังจากที่ตื่นก็จัดการทำธุระส่วนตัว พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเขานั้นนั่งมองลูกชายที่ยังหลับอยู่ด้วยแววตาแบบไหนก็ไม่ทราบเพราะเขาหันหลังให้ แต่เจนก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อก็อยากจะเห็นหน้าลูกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะทั้งวันเขาต้องทำงาน จะมีเวลาอยู่บ้างก็ก่อนออกและกลับมาบ้าน แต่เมื่อวานเวลาส่วนตัวร่วมกันยังไม่ค่อยจะมี คุณนักรบกลับบ้านดึกมาก ที่เจนรู้เพราะสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนดึกและพบว่าไฟห้องนั้นถูกเปิดและลูกบิดประตูห้องที่เชื่อมกับห้องนอนของเขาก็ถูกบิด เจนรักษ์กำลังคิดว่าตนควรจะแกล้งตายเพื่อให้เวลาส่วนตัวพ่อลูกแต่อีกฝ่ายก็ไม่เข้ามาซะทีจนหลับเป็นตายไปจริงๆ เขาคงไม่อยากทำให้เจ้าตัวเล็กตื่น ไม่ได้เกี่ยวกับเกรงใจพี่เลี้ยงเด็กหรืออะไรเถือกๆนั้นหรอก

 

ความรู้สึกที่มีต่อนายจ้างดีขึ้นจนคิดว่าตนควรจะอยู่เลี้ยงลูกเขาให้เข้าที่เข้าทางและค่อยๆช่วยหาคนดีๆน่าไว้ใจมารับช่วงต่อ ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นพอตื่นมา เจนจึงยิ้มให้และทักทายออกไปหลังจากที่เขากำลังจะออกจากห้องลูกชายและไปทำงาน แต่ไม่รู้ว่ายิ้มของเจนนั้นมันสวยจนเขาประทับใจกันมากไปหรือเปล่าถึงได้ตอกกลับซะหน้าชาราวกับได้จิ้มโบท็อกหลายอัตราเข้าหน้าในทีเดียว ไอ้คุณรบนะไอ้คุณรบ เจนจะแบ๊วเรียกตัวเองว่า ‘เจน’ หรือ ‘น้องเจน’ หรือ ‘หนูเจน’ ก็เรื่องของกูไหม ไม่ได้ไปแบ๊วบนหัวเมิ้งงงงงงง

 

 

“สวัสดีครับคุณเจน”  ง่อววววคุณเพชรมากับเขาด้วยเหรอ

 

 

“สวัสดีครับคุณเพชร”  จากยิ้มแข็งๆเมื่อโดนตอกกลับเรื่องการเรียกตัวเองด้วยชื่อ ก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มหวานๆ เจนมั่นใจว่าตนได้บิดตัวอย่างน่ารักแบบมีจริตจะก้านอย่างพองาม แต่พอเหลือบตามองคุณนักรบที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตออยู่ก็ได้รับการขมวดคิ้วใส่มาหนึ่งอัตรา อีหยังวะ คนกำลังอ่อยผู้ชายอยู่

 

 

“เริ่มงานเป็นไงบ้างครับ”

 

 

“เจนกำลังเรียนรู้อยู่ครับ”  เจนไม่ได้พูดกับคุณรบนะ เพราะงั้นเจนจะแบ๊วมากแค่ไหนเจนก็ไม่ได้ไปพูดบนหัวคุณรบล่ะกัน

 

 

“เพชร เราไปกันเถอะ”  อ้าวเดี๋ยวเจนยังไม่ได้อ่อยอะไรเลย

 

 

“ครับ คุณรบ ไปก่อนนะครับคุณเจน”  ไอ้หยะ อีตาคุณเพชรนี่ไม่ธรรมดา เล่นหูเล่นตาเก่งซะด้วย ยิ่งต่อหน้าคุณรบที่ทำหน้าเหม็นเลี่ยน ต้องเป็นลูกน้องที่สันดานแบบไหนนะถึงได้กวนส้นตีนเก่งแบบนี้ เอาเป็นว่าแผนการอ่อยคุณเพชรอาจจะไม่ยากอย่างที่คิดเพราะดูอีกฝ่ายก็จะเล่นด้วยง่ายๆแบบนั้น แม้จะไม่รู้จุดประสงค์ว่าคุณเพชรแม่งเอาจริงเอาเล่นแต่ไอ้เจนคิดว่าการเก็บแผนอ่อยเพื่อ ‘มาไล่เจนออกจากบ้านกันเถอะเย้’ นั้นยังเป็นเรื่องที่ดีอยู่ เผื่อวันใดวันหนึ่งอีตาคุณรบสามารถทำให้เจนหาเรื่องมาหักล้างความเห็นใจน้องวินได้เมื่อไหร่ค่อยงัดมาใช้

 

 

หลังจากได้ล่ำลาปนสาปแช่งเจ้านายไปแล้วเจนรักษ์ก็หันมาดูเจ้านายสายตรงที่ยังไม่ตื่นนอน จากที่แม่บอกไว้ เจนยังพอมีเวลาอีกราวๆครึ่งชั่วโมงเพราะคุณหนูเธอตื่นตามเวลา โทรหาแม่ให้เข้ามาช่วยเฝ้าน้องวินให้ก่อนจะเดินไปเข้าครัวเพื่อจัดการเตรียมเรื่องอาหารให้คุณหนูตัวน้อยก่อนที่จะตื่นและเจนจะไม่เป็นอันทำอะไร โชคดีที่แม่มีที่ทำแล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้จึงเอาออกมาอุ่นได้ แต่ต่อไปจากนี้เจนอาจจะต้องหาเวลามาเตรียมเองบ้างเพราะอย่างไรก็อยู่ในเงื่อนไขการว่าจ้าง

 

 

“ยังไม่ทันเจ้านายจะตื่นนอนก็หาเรื่องกินก่อนเขาแล้ว ใช้ไม่ได้จริงๆ”  เสียงนกเสียงกาที่ไหนดังเข้าหูแต่เช้า เจนนั้นมองมนุษย์ปากกล้าที่เข้ามาเล่นกับเจนที่กำลังสำรวจทุ่งลาเวนเดอร์ด้วยหางตา

 

 

“ว่าแต่คนใช้บ้านนี้ขยันนะครับ เจ้านายยังไม่ลงมาก็หาเรื่องชาวบ้านรอเวลาทำงาน”  กดปุ่มตั้งค่าไมโครเวฟให้ทำงานไป แค่นี้เจนก็มีเวลามาทะเลาะกับคนแล้ว

 

 

“แก ปากดีนักนะ”  พอได้สำรวจชัดๆ เจนจึงทราบว่าหนึ่งในนั้นคือยัยป้าจินตนาที่หาเรื่องกันเมื่อวานและอีกคนคือคนที่เจอในวันแรกที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ ทำไมการเป็นคนใช้ร้ายๆมันดูง่ายจัง เจนดูหนังมาหมดแล้ว เจนรู้ เจนเก่ง

 

 

“ก็ใช้ได้เลยครับ อยากให้สอนไหม คิดค่าเรียนนะ”  ติ้ง! เสียงดังของไมโครเวฟทำให้เจนเลือกที่จะหันหลังให้ศัตรูที่มองกันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ท่าทางสบายๆยิ่งทำให้อีกฝ่ายเต้นผาง

 

 

“แกคิดจะทำอะไร จับคุณรบใช่ไหม แกคิดว่าแกเป็นใครริจะเทียบกับคุณรดา”

 

 

“เอะอะเป็นคนใช้ต้องเอาแต่คิดเรื่องจับเจ้านายด้วยเหรอครับ หรือว่าพวกคนใช้สมัยนี้…คิดอะไรสูงๆกันไม่ค่อยเป็น”  เจ้าของร่างเล็กนั้นหันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง ดวงตาแข็งกระด้างสาดมองทุกคนที่เป็น ‘คนใช้’ ในที่นี้ให้ชาไปทั้งตัว ในมือที่สวมถุงมือผ้านั้นมีถ้วยอาหารของคุณน้องวินอยู่ในมือ ถ้าอยู่บ้านนี้ไปนานๆตาของเจนรักษ์ต้องเหลือกขึ้นข้างบนถาวรแน่ๆ คนอะไรคิดไปได้เหมือนพลอตละครน้ำเน่า ไอ้เจนนี่นะจะจับคุณรบ แถมข้าวสารและเงินสิบล้านยังไม่เอาเลย น่าสยองไปลองมาใหม่นะ แต่ยังไม่ทันได้บอกความในใจ

 

 

เสียงสวรรค์ก็ตีระฆังว่าหมดยก

 

 

“มีอะไรกัน”  เสียงที่แฝงไปด้วยความมีอำนาจของคุณพรรณีดังขึ้น เหล่าผู้ระรานก็พร้อมจะถอยห่างจากเจนรักษ์ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่มีใครอยากตบใครเกิดขึ้น เจนนั้นยิ้มให้ก่อนจะวางอาวุธ(ชามข้าวของวินที่ยังร้อนอยู่)และถอดถุงมือ(ที่ใช้อำพรางลายนิ้วมือ)ออก และยกมือขึ้นไหว้

 

 

“สวัสดีครับ”

 

 

“มาเตรียมอาหารให้ตาวินเหรอลูก”  โหยยยยนี่สิคนมีอารยะ ไม่ต้องรอให้บอกหรือแก้ตัวก็รู้ได้ว่านี่ลงมาทำให้ใคร เจนรักษ์เหลือบมอบคู่กรณีที่ยืนชิดผนัง ทำตัวให้ลีบเล็กบางและก็หายไปจากโลกเลยนะ เห็นแล้วรกสายตาพวกไม่ยอมพัฒนาตัวเองนี่ หู้วววว

 

 

“ครับ เดี๋ยวว่าจะขึ้นไปดูสักหน่อย”

 

 

“แม่อำไพบอกแล้วใช่ไหมว่าปกติจะให้มากินข้าวด้วยกันแบบนี้ แต่ถ้าตาวินดูงอแงจะกินข้างบนก็บอกได้นะ”

 

 

“ครับ ถ้ายังไงผมจะเอาอาหารไปวางที่โต๊ะและจะไปปลุกคุณน้องวินก่อนนะครับ”  เจนรักษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม หวังในใจไม่ให้คุณหนูเธอความดันต่ำไม่ยอมตื่นมากินด้วยให้ผู้ใหญ่รอ

 

 

ทว่าเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบว่าคุณหนูน้อยเธอตื่นแล้ว แต่ก็ยังงัวเงียอยู่หลายส่วนในอ้อมกอดของคุณอำไพที่รับฝากไว้ชั่วคราว ใบหน้าง่วงๆแต่ดูน่าเอ็นดูนั้นทำให้คนมองยิ้มออกมา ความน่ารักชนะทุกอย่างจริงๆ เจนแทบจะลืมไปเลยว่าเคยหงุดหงิดขนาดไหนที่ผ่านมาก็เมื่อได้เห็นใบหน้าของน้องวินที่พักแก้มย้อยๆของตัวเองบนไหล่ของคุณอำไพนั่นแหละ

 

 

“ตื่นแล้วเหรอครับ”  เสียงสองของไอ้เจนถูกนำมาใช้ ดวงตากลมโตของคุณหนูนั้นจ้องมองมาทางเจนที่เดินเข้ามาก่อนจะเอียงหน้าหลบอายๆ คนมองนั้นได้แต่ส่ายหัวยิ้ม ทั้งเล่นทั้งนอนด้วยกันมาตลอดคืนยังไม่ชินกับบ่าวคนนี้อีกเหรอครับคุณหนูวิน เจนย่อตัวลงและเกาะหลังแม่เอาไว้ เล่นจ๊ะเอ๋กับคุณหนูเพื่อเรียกเสียงหัวเราะสดใสเป็นฤกษ์ที่ดีในยามเช้า ก่อนจะเป็นฝ่ายคว้าไปอุ้มเพื่อพาไปกินข้าวด้วยกันเพราะคุณหญิงก็รอมาสักพักแล้ว

 

 

“อ้าว ลงมากันแล้ว”  คุณหญิงนั้นกล่าวทักจากเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะ คุณอำไพนั้นทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม ปล่อยให้เจนค่อยๆหย่อนตัวน้องวินลงกับเก้าอี้ของเด็กและจัดการเตรียมผ้ากั้นเปื้อนรูปลูกเจี๊ยบสีเหลืองให้เข้าที่ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของคุณหญิงที่ประเมินเจนตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอกัน

 

 

“ปล่อยให้คุณท่านรอนาน มันไม่ค่อยดีนะคะ”  ยังเป็นยัยป้าจินตนาคนเดิมที่ริจะสั่งสอน หากแต่เจนไม่ได้ชักสีหน้าหรือเชิ่ดคอขึ้นอย่างที่ชอบทำ

 

 

“ต้องขอโทษคุณหญิงด้วยนะครับที่ต้องให้รอ”  แต่เจนเลือกที่จะไม่สนคำพูดอีกฝ่ายและขอโทษที่ตัวคนรอโดยตรง

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าเราคงต้องใช้เวลาปลุกตาวิน ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นสิ เจนรักษ์ไม่ผิดหรอกนะจ้ะ”  นี่ถ้าลุกมารัวมือหลีดได้ พ่อจะวิ่งรัวไปรอบบ้าน หน้าคนหาเรื่องเจื่อนลงไปพอๆกับความสะใจของเจนรักษ์สามแต้มกริฟฟินดอร์วันนี้

 

 

“ขอบคุณมากครับคุณหญิง”  พนมมือไหว้ผู้สนับสนุนอย่างงดงามตามฉบับมารยาทบ้านเจนรักษ์ ก่อนจะเริ่มลงมือป้อนอาหารให้กับคุณหนูวินตามหน้าที่ โชคดีที่เมื่อวานได้ฝึกกับแม่แบบสองต่อสองโดยการทดลองจริงมาแล้ว เจนรักษ์ในวันนี้จึงดูมีความเป็นมืออาชีพไม่ตะกุกตะกักราวกับคลอดมาเองแล้วแปดคน เป็นความสามารถชั่วๆว่าด้วยเรื่องการแสร้งทำเป็นเก่งแต่จริงง่อยๆมาก

 

เจนรักษ์ตักอาหารป้อนให้น้องวินจนคนเก่งกินจนหมด ช้าหน่อยก็ยู่ปากเอาแต่ใจ แต่ผู้ใหญ่ที่ได้เห็นนั้นปลื้มใจ ปกติน้องวินดูจะมีท่าทางกับครูพี่เลี้ยงคนก่อนไม่เหมือนแบบนี้ น้องวินดูให้ความสนใจกับรอบข้างน้อยกว่านี้ อาจจะกินที่ถูกป้อนแต่ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรจนดูผิดวิสัยเด็กอยู่บ้าง การได้เห็นเด็กมีความต้องการเป็นธรรมชาติแม้จะดูเอาแต่ใจนิดๆหน่อยๆ คนเป็นย่าทีได้เห็นก็รู้สึกปลื้มขึ้นมา เจนรักษ์อาจจะอายุห่างกว่ามาก แต่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนเล่นที่ดีของหลานได้เลย ในระหว่างที่น้องวินโยเยก็ไม่ได้ตามใจจนเกินไป คนตัวเล็กมีบอกให้รอบ้าง คอยเช็ดปาก คอยเอ่ยชมที่เห็นเด็กกินเก่ง ความอ่อนโยนที่ไม่ได้ปรุงแต่งนั้นถูกใจสายตาผู้ใหญ่นัก

 

 

ในสายตาคุณพรรณี เจนรักษ์เป็นคนที่มีความโดดเด่นในด้านการปรับตัวพอตัวและก็ดูเหมือนให้ระยะห่างทางความสัมพันธ์กับทุกคน เลือกปฏิบัติอย่างชาญฉลาด ไม่ได้ยอมให้กับคนทุกคนบนโลกแต่ก็เลือกจะยอมเป็นบางเวลาเพื่อความสบายของตน ไม่ได้ยึดถือศักดิ์ศรีเป็นที่ตั้งจนไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แคร์สังคมน้อยกว่าตัวเอง หาความสุขได้ง่ายๆกับการทำทุกสิ่งให้เหมาะกับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเจนรักษ์จะถูกเลี้ยงดูมาโดยคนแบบไหนและอยู่ที่ใด เด็กคนนี้เติบโตมาได้อย่างที่คิดว่าดีเลยทีเดียว

 

 

และวันนี้เธอก็ได้เห็นมุมด้านที่อ่อนโยนอย่างแท้จริงของเด็กคนนี้….

 

 

“เจนดูรักเด็กดีนะ”  คุณหญิงของบ้านเอ่ยขึ้น เจนที่กำลังช่วยน้องวินทำความสะอาดก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างสดใส ช่างต่างจากสีหน้ายามที่ใครในบ้านนี้มาหาเรื่องนัก ผู้ใหญ่บางคนอาจจะไม่ชอบเด็กหน้าไหว้หลังหลอกหรือแข็งกระด้าง แต่กับเจนรักษ์ เด็กคนนี้ทำทุกอย่างที่ไม่ดีให้พอดี เป็นคนธรรมดาบนโลกที่มีหลายมิติและน่าสนใจ

 

 

หลังจากมื้ออาหารเช้าของบ้านจบลง คุณพี่เลี้ยงคนใหม่ก็พาน้องวินไปอาบน้ำ หลังจากช่วยกันเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำสำหรับเด็กกับคุณอำไพและจัดการถอดเสื้อผ้าให้เด็กอารมณ์ดีแล้ว เจนรักษ์ก็ค่อยๆพาเจ้าตัวเล็กลงไปแช่ในอ่างลูบไล้ผิวกายนุ่มแน่นนั้นอย่างเบามือพลางคอยเรียกชื่อหยอกล้อ เป็นงานที่ให้ความเครียดน้อยกว่าที่ตนคิดไว้ อย่างน้อยงานเลขาที่ต้องทำในแต่ละวันก็เครียดกว่านี้

 

 

ต้องตื่นแต่เช้า ทนความแออัดจากการเดินทาง ไปทำงานภายในเวลา คอยเช็คตารางงานของเจ้านาย เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่ได้กินอะไร ก่อนจะกลับมานั่งรับโทรศัพท์ที่เนื้อหาหลักๆมีแค่ส่วนหนึ่งอีกหลายส่วนมีแต่เรื่องที่บ่น เจนรักษ์ค้นพบว่าในตอนนั้นต่อให้ทำงานคนเดียวจิตใจก็ยังวุ่นวายราวกับเอาลำโพงมาติดไว้ข้างหัวใจ เพราะความเร่งรีบตลอดเวลาทำให้ลืมที่จะอยู่กับตัวเอง จึงรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ที่งานตอนนี้ของตนมีแค่ช่วยเด็กอาบน้ำ

 

 

“แม่ แม่เลี้ยงคุณนักรบมาตั้งแต่ตัวเท่านี้หรือเปล่า”

 

 

“เปล่าหรอกลูก ตอนที่แม่มาคุณรบก็เดินได้พูดได้แล้ว”

 

 

“แสดงว่าก็ไม่ใช่ทารกแล้วน่ะสิ”

 

 

“ก็ไม่ใช่แล้วไง”

 

 

“ผมนึกว่าแม่เลี้ยงคุณรบมาตั้งแต่ยังแบเบาะเสียอีก”

 

 

“ถ้าแม่เลี้ยงคุณรบตั้งแต่แบเบาะแบบนั้น แม่จะมีเวลาที่ไหนไปมีเจนล่ะ”  แม่อาจจะพูดเหมือนไม่ได้แคร์อะไร แต่ก็ถูก….แม่ได้มาทำงานที่นี่หลังจากที่มีเจนแล้ว

 

 

“แม่ดูเลี้ยงเด็กเก่ง”

 

 

“แม่ว่ามันอยู่ที่การปรับตัวมากกว่า จริงๆตอนคุณหนูวินเพิ่งเกิดและคุณรดาคลอดเสร็จเธอก็จากไปเลย เป็นแม่ที่ต้องดูแลตอนนั้น ก็ค่อยๆช่วยกันไปกับคุณผู้หญิง”

 

 

“อ้าว…ผมนึกว่ายัยครูนั่นเป็นคนเลี้ยงซะอีก”  แต่ดีแล้วที่ไม่ใช่ ไม่งั้นจะน่าสงสารมาก ทรมานเด็กแรกเกิดเปล่าๆ

 

 

“ครูกบเข้ามาเมื่อเดือนก่อน”

 

 

“ผมถามหน่อยเหอะ ทำไมยัยคุณชะนีนุชถึงได้มายุ่งเรื่องบ้านหลังนี้ล่ะ”  จริงๆอยากจะถามว่าเป็นคนดีไหม แต่ชื่อดูเป็นนางร้าย เจนรักษ์เลยไม่ค่อยไว้ใจ

 

 

“แม่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก”

 

 

“รู้ดี แต่อยากทำตัวเป็นคนใช้ที่ไม่ยุ่งเรื่องของเจ้านายมากกว่า”  ถ้าไม่ติดว่าเจนกำลังประคองร่างนุ่มนิ่มของคุณหนูวิน คนแม่ที่ฟังลูกพูดแซะแบบนี้ก็อยากจะตบหัวให้ทิ่มลงอ่างน้ำเด็กเหมือนกัน

 

 

“แม่แค่เป็นคนดี ไม่ใช่แกล้งทำตัวเป็นคนอย่างนั้น”

 

 

“งั้นแสดงว่าคุณรัชนีนุชเป็นคนดี”

 

 

“ไม่ใช่”  เห็นมะ! ไม่รู้ใจแม่จะให้ไปรู้ใจใคร รู้ใจคุณรบเหรอ อันนั้นก็พอรู้นะว่าเขาต้องการให้เจนไปให้ไกลๆ

 

 

“แอะ แอะ แอะ” เจ้าของมือเล็กที่ดูจะมีปฏิกิริยายามที่ผู้ใหญ่สองคนเอาแต่คุยกัน น้องวินตีน้ำไปมาเรียกร้องความสนใจจนเป็ดน้อยที่เจนรักษ์เอามาวางให้เล่นกระเด็น

 

 

“น้องวินถึงกับค้านเลยเห็นไหม”  ไม่ใช่ว้อยยยยย เจนจะมโนอะไรก็ได้แต่มโนว่าคุณหนูน้องวินเข้าข้างตัวเองไม่ได้ แม่ส่ายหัวออกมา ช่วยกันล้างตัวคุณหนูน้อย พาขึ้นทั้งๆที่เจ้าตัวยังดูสนุกกับการเห็นเป็ดลอยได้ เช็ดตัวให้ตามคำแนะนำของแม่ ทาแป้งและเริ่มแต่งตัว

 

 

“แม่ไม่คิดว่าคุณรัชนีนุชเขาทำไม่หวังผล”

 

 

“มีคนทำไม่หวังผลด้วยเหรอ”  ขนาดไอ้เจนยังมาทำงานที่นี่ทั้งๆที่เหม็นขี้หน้าเจ้านายด้วยเหตุผลที่ว่าว่าง อยากอยู่กับแม่ และอยู่ฟรีกินดี เห็นไหมเป็นคนดีที่โลกรอคอยขนาดไหนก็ทำดีหวังผลทั้งนั้น

 

 

“แต่แม่ว่าเขาหวังจะกลับมาดองกับรัตนสกุลน่ะสิ”

 

 

“ขี้เม้าท์เหมือนกันนะเราอ่ะ”  เจนรักษ์หลุดหัวเราะ ถึงแม่จะค้อนหนักแค่ไหนเพราะเป็นตนนั่นแหละที่ทำให้แม่หลุดเผยความในใจแต่ก็หาได้หวั่นเกรงไม่

 

 

“แม่ไม่เล่าให้เจนฟังแล้ว”

 

 

“โอ๋….แล้วแม่ว่าเขาหวังอะไร ก็หลานเขาไม่เอาแล้วนี่”

 

 

“ก็เขาเป็นคนทำให้เด็กสองคนแต่งงานกันได้มาก่อน พอเกิดเรื่องหย่าโดยทางคุณนักรบยอมให้แบบนั้นเธอก็ขัดอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังหวังจะกลับมาดองอีกไง”

 

 

“เพื่ออะไรล่ะแม่ คุณรดาเธอให้ตายก็ไม่เอาไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาเอาคุณรบเรื่องมันก็ไม่เป็นงี้หรอก”

 

 

“ก็ใช่”

 

 

“แล้วมันมีประโยชน์อะไรจะมาบังคับ”

 

 

“มีสิ คอนเนคชั่นมากมาย เงินทั้งนั้นนะเจน”

 

 

“แต่คุณรดาก็หลานป่ะ”

 

 

“ต้องพูดว่าก็แค่หลานไม่ใช่เหรอ”

 

 

“………..”

 

 

“………..”

 

 

“โคตรละครน้ำเน่าเลยอ่ะ”  ไอ้เจนขนลุก อยากได้มะม่วงน้ำปลาหวานตรงนี้และจับเข่าคุยอย่างจริงจัง ความสนุกของการเม้าท์เจ้านายมันอยู่ตรงนี้เอง ทำงานมา20กว่าปี อำไพที่เพิ่งได้เป็นคนแบบนี้ก็เพิ่งรู้ว่าการได้แชร์ความคิดและประสบการณ์กับใครสักคนมันดีนัก โชคดีที่เป็นเจน การมีลูกเป็นเพื่อนร่วมงานมันดีอย่างนี้นี่เอง

 

 

“ทาแป้งให้คุณน้องวินดีๆ ทั่วๆ เดี๋ยวอับชื้น”  แต่งานก็เป็นงาน เธอก็มีความเข้มงวดในระดับหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มงานกับเจนมา ลูกของเธอก็มีแต่พัฒนาขึ้น การเป็นแม่ลูกกันทำให้พูดได้ตรงๆ ตำหนิได้แบบที่ไม่ต้องระวังว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ เจนเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ต่อให้ไม่ใช่เธอที่นั่งอยู่ข้างๆแบบนี้ก็คงจะเอาตัดรอดได้ อำไพนึกชื่นชมลูกอยู่ในใจในระหว่างที่มองดูเจนกำลังใส่แพมเพิร์ทให้คุณหนูน้อย

 

 

“แม่ถามหน่อยดิ”

 

 

“อะไร”

 

 

“ตอนคุณนักรบเด็กอ่ะ”

 

 

“……..”

 

 

“แม่เรียกเขาว่าคุณหนูนักรบไหม”  ท้ายเสียงของเจนเจือเสียงหัวเราะ เมื่อคิดถึงใบหน้าถมึงทึงนั่นยามถูกเรียกด้วยเสียงสองแบบที่ไอ้เจนชอบเอาไว้คุยกับคุณน้องวินแล้ว ‘คุณน้องนักรบ’ นี่ดูน่าเอ็นดูดีเนอะ

 

 

“เปล่า”  อ้าว…ดับฝัน

 

 

“แล้วเรียกว่าอะไรอ่ะ”

 

 

“เรียกคุณน้องรบเฉยๆ ไม่มีนัก”

 

 

“…………..”  สมกับที่เป็นแม่ไอ้เจน

 

 

“แล้วเลิกเรียกตั้งแต่เมื่อไหร่” ถึงแม้เจนคงไม่อยู่ถึงวันที่จะได้เรียกน้องวินว่าคุณวินแบบที่แม่เรียกคุณนักรบว่าคุณรบแบบตอนนี้ แต่ก็อยากจะรู้ขึ้นมา อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าการทำงานที่ผ่านมาของแม่เป็นอย่างไร ทุกอย่างต้องมีจุดเปลี่ยนแปลง อาชีพแม่บ้านก็มีรายละเอียดของมัน และเจนก็ชอบฟังเรื่องราวประสบการณ์การทำงานในหลากหลายอาชีพ หรือจะให้เรียกย่อๆง่ายๆว่า….

 

 

ขี้เสือกนั่นเอง….

 

 

“ก็ตั้งแต่ไปเรียนอังกฤษล่ะมั้ง”  น้ำเสียงของแม่ดูนิ่งลง

 

 

“คุณรบไปเรียนต่างประเทศด้วยเหรอ”

 

 

“อืม…ถูกส่งไปตอนมัธยมปลายน่ะ”

 

 

“ก็เหมือนผมเลยอ่ะดิ”  ไอ้เจนก็โกอินเตอร์ตอนขึ้นม.ปลาย แต่ไม่ได้กลับมาตั้ง10กว่าปี อยากจะกระแดะทำพูดไทยไม่ชัดแบบ คาปูชิโน่ว วานน่อย คินนี่ อยู่บ้างแต่กลัวแม่ตบปากฉีก และก็รับตัวเองแบบนั้นไม่ได้อยู่นิดๆเหมือนกัน

 

 

“ก็จะว่าเหมือนก็เหมือน แต่คุณรบกลับบ้านทุกปิดเทอมเพื่อมาเรียนงานที่บริษัทด้วย”

 

 

“ง่า….งั้นคุณรบของแม่ก็มีประโยชน์กว่าผมเยอะ”

 

 

“อืม พอคุณรบกลับมาหลังจากไปได้เทอมเดียว เธอก็ดูสูงใหญ่ขึ้นมาก แววตาก็เหมือนจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แม่เองก็เลยเกรงๆเวลาจะเรียกว่าคุณน้องรบก็เลยไปถามเธอดู”

 

 

“แล้วคุณนักรบว่าไงล่ะแม่”

 

 

“เธอก็พยักหน้าและบอกว่าเรียกคุณรบดีกว่า เวลาที่คนที่บริษัทเห็นอย่างนั้นอาจจะไม่นับถือแก”  โห…ความคิดของเด็กม.ปลาย ทำไมการศึกษาที่อังกฤษและเมกามันต่างกันเยอะจังวะ ไอ้เจนนี่คิดอยู่แค่วันนี้จะทำอะไรกินดี

 

 

“คุณนักรบทำงานแต่เด็กเลยเหรอ”

 

 

“อืม…คุณท่าน…พ่อของคุณรบเขาให้ลูกเข้าไปทำความคุ้นเคยอะนะ แต่ก็ดูจริงจังเลยแหละ”   

 

 

“โลกของคนรวยเป็นโลกที่ผมเข้าไม่ถึงจริงๆ”  เจนส่ายหน้าหวือ โชคดีที่เกิดมาจน แต่จนมากก็ไม่ดี ถอนหายใจออกมาและมองหน้าน้องวินที่พลิกตัวคว่ำจะกระโดด นี่ก็เก่งเป็นกบเชียว ว่าที่นักธุรกิจน้อย!

 

 

“ว่าแต่เจนตอนไปอเมริกาเป็นไงบ้าง ลำบากไหมลูก”  จริงๆเจนก็เล่าให้ฟังบ้างตอนนั้นเพราะแม่ก็ค่อนข้างจะโทรหากันบ่อยทั้งๆที่เทคโนโลยีไม่เอื้ออำนวยเหมือนสมัยนี้

 

 

“ผมมันค่อนข้างหน้าด้านอะแม่ ช่วงแรกๆก็วุ่นหน่อย ภาษามือล้วน แต่ตัวจุ้นช่วยได้เยอะ แต่ไม่มีโมเม้นท์ที่แม่จะได้เปลี่ยนคำเรียกเจนแบบคุณรบหรอก ส่วนสูงเจนเหมือนจะหยุดไว้ตั้งแต่มัธยมต้น”  เป็นเรื่องเศร้าที่เจนเอามาขยี้บ่อยจนใครๆก็เบื่อที่จะฟัง มันก็นกแม้กระทั่งส่วนสูงนั่นแหละ

 

 

“นี่แม่ก็ไม่ค่อยได้คุยกับตัวจุ้นเลย ไม่รู้ป่านนี้สูงใหญ่แค่ไหน”

 

 

“แม่ช่วยดูDNAบ้านเราด้วย ตัวจุ้นนี่สูงนำผมได้ 2 เซ็นก็เก่งแล้ว”

 

 

“หะ…ตัวพอๆกันเลยเหรอ”

 

 

“ผมดูดีกว่า”  จริงๆก็พอๆกัน แต่ไม่ได้เจนต้องเหนือกว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

 

พูดถึงตัวจุ้นแล้ว วันก่อนก็แค่ทิ้งข้อความเอาไว้ให้ว่าตอนนี้กำลังจะเริ่มงานใหม่ แน่นอนอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาทันควันเพราะเจนได้ล้มเลิกข้อตกลงจะอยู่วิจัยฝุ่นของตัวเอง ตัวจุ้นโวยวายอย่างรุนแรง ร้านอาหารที่รวมหุ้นกันต้องการเด็กเสิร์ฟ ถ้าริอาจจะมาเลี้ยงเด็กอยู่เมืองไทยกินค่าแรงขั้นต่ำหลอกชาวบ้านว่าจบมัธยมต้นเพราะไม่กล้าบอกว่าที่ชอบทำหน้าโง่ๆนี้จบมหาลัยมา ไปช่วยกันทำมาหากินต่อไม่ดีกว่าเหรอ เออก็ถูก แต่เจนไม่เอาไง

 

 

ตัวจุ้นด่ายาวมากทำให้ห้องแชทดูหนักซ้ายจนเจนขี้เกียจอ่านต่อ จึงปิดจอแล้วเปิดโหมดบินหนี ว่าแล้วก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ชีวิตตัวจุ้นที่ได้ระบายนั้นสุขสบายดีหรือยัง พอคว้าเจ้ากบตัวน้อยที่จะกระโดดไม่หยุดไว้ได้ก็แอบคว้ามือถือมาเปลี่ยนโหมดและเปิดดูโปรแกรมแชท โอโห้ 250 ข้อความที่ไม่ได้อ่าน ต้องเป็นคนมีมานะในการด่าชาวบ้านแค่ไหนถึงทำได้ขนาดนี้

 

 

ไลน์!  ฉิบหายยังไม่จบอีกเหรอวะ! เจนรักษ์สะดุ้งเมื่อยามมือถือสั่นจื้ดขึ้นมาประมาณว่ามีข้อความใหม่ แต่เปิดเข้าไปอ่านแล้วไม่ตอบต้องโดนกระหน่ำคอลด่าพ่อล่อแม่แน่นอน ทั้งๆทียังไม่ได้อ่านว่าโดนแช่งอะไรไว้บ้างทั้งหมด 250 ข้อความ ก็จำต้องอ่านข้อความใหม่เพื่อตอบรับ ส่วนไอ้ข้างบนที่ยังไม่ได้อ่านนั้น เดี๋ยวรอตัวจุ้นมันสรุปล่ะกันว่าส่งบ้าอะไรมานักหนา

 

 

Jun – มึงบอกมาตรงๆก็ได้นะไอ้เจน

 

Read

 

Jun – ที่มึงยอมทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กนั้น มึงมีแผนการแปลกๆในหัว

 

Read …..โคตรสมกับเป็นตัวจุ้น รู้ทันกว่านี้ไม่มีใครเกิน

 

Jun – มึงหวังอะไรในหัวไว้ใช่ไหม

 

Read…. ทำงานฟรีย่อมไม่ใช่สไตล์เจน นั่นก็แน่นอนล่ะ

 

Jun –  ถ้าให้กูเดานะ

 

Read… มึงไม่ต้องเดาไอ้จุ้น ไอ้คนฉิบหาย ไอ้ความคิดจังไรไร้สาระ ถ้านี่ไม่ได้กอดเจ้ากบน้อยที่ดิ้นพล่านพ่อจะคอลไปด่ามัน แต่ไม่ทันแล้ว…

 

ข้อความหายนะของตัวจุ้นได้ถูกส่งถึงพอดี

 

 

Jun – มึงกะจะกินพ่อเด็กเป็นอาหารใช่ไหม เขายาวใหญ่มากสินะมึง ไอ้คนบาป!

 

 

ฉิบหายเหอะ!

หนังเหนียวแบบคุณรบใครเขาจะไปแดกลง!

 

 

Tbc

 

 

Talk: มาให้กำลังใจเจนกันนะคะทุกคน : )

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 6] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 23-06-2018 16:48:28
โอ้โห .... จากน้องเจนคนนกกลายเป็น น้องเจนคนบาปไปแล้วซะอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 6] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 23-06-2018 16:58:22
เจ้ากบน้อยยยยยยยยย ชอบเวลาเจนบ่นกับตัวเองอ่ะ อ่านเพลินมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 6] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-06-2018 17:10:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 6] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 23-06-2018 20:59:36
เจนนี้มะโนเก่งมากก แชะก่เก่ง 55. เป็นกำลังใจนะมาไวไวนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 6] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 24-06-2018 14:57:10
ปักหมุดหน่อยย
หัวข้อ: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 24-06-2018 17:00:03
#เจนไม่นก

เจนกับคนซึนๆ

 

 

ไอ้เจนคิดดีไม่ได้เลยครับ….

คิดยังไงก็ไม่สามารถหยุดมองต่ำกว่าเข็มขัดพี่เขาได้เลยครับ…

 

 

“……”

 

 

“………”

 

 

สะบัดหัวเรียกสติตัวเองแทบจะเป็นจังหวะชะชะช่า ไอ้เxยจุ้นที่ฝังเรื่องอัปรีย์ลงหัวไอ้เจนคนนี้ต้องชดใช้ แม่ง….ตอนนี้เจนเหมือนจะไม่ได้เห็นคุณรบใส่เสื้อผ้าอยู่ทั้งที่เขาใส่ยันสูทด้วยซ้ำ! มองสูงไว้เจน เกิดเป็นคนอย่ามองต่ำอย่างนั้น แม่งว้อยยยยย แล้วทำไมไอ้เจนต้องเป็นคนมาต้อนรับอีตาคุณชายนี้กลับบ้านด้วย มันไม่เมคเซนส์เลย เป็นแค่พี่เลี้ยงลูกเขาไม่ใช่เมียไหม….โอ้ยไม่ใช่ว้อย คุณนักรบไม่ได้โป๊อยู่ว้อยยยยยยย

 

 

“มีอะไร”  เขาถามด้วยเสียงเย็นๆเช่นเคย แววตาก็ยังดูดุเหมือนเคย ไอ้เจนอยากบอกว่าด่ามันเลยครับ ด่าแรงๆ ด่าให้แม่งภาพคุณรบเวอร์ชั่นเซ็กซี่ในหัวไอ้เจนคนนี้หลุดไปที ตอนนี้คุณรบไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยนะครับในความคิดชั่วๆนี้ ไอ้เจนมันเลวเอง….ด่ามัน…อย่าเอามันไว้!

 

 

“คือเจน…เอ้ย! เอ่อคุณผู้หญิงท่านให้มาตามไปทานข้าวเย็นนะครับ”  คุณรบขมวดคิ้ว แล้วมันเรื่องอะไรที่จะต้องให้เจนรักษ์มาช่วยเขาขนข้าวของเพราะทั้งตัวมีแค่สูทและเอกสารเล็กๆน้อยที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้หลังจากที่เอาตัวเองเข้าไปในบ้านแล้ว แต่ก็พยักหน้าออกมา เขาเหนื่อยจนไม่อยากจะทำอะไร มีสิ่งเดียวที่อยากทำ และนั่นกำลังรอเขาอยู่ในห้องทานข้าว นักรบยอมส่งเอกสารที่ถือมาและถอดเสื้อสูทออกให้กับเจนรักษ์แต่โดยดี

 

 

ร่างสูงของนักรบนั้นเดินนำมายังห้องครัวโดยมีคนตัวเล็กเดินตามถือของตามคำไหว้วานของคุณหญิง ก่อนจะส่งของให้กับเด็กรับใช้คนนึงที่ยิ้มให้กันอย่างใสซื่อในบางครั้ง แต่อ้าว….แล้วให้ไอ้เจนออกไปเผชิญหน้ากับความท้าทายทำไม ในเมื่อสุดท้ายคนอื่นก็ต้องเอาของพวกนี้ไปเก็บให้คุณรบอยู่ดี อยากยกมือขึ้นมาเกาหัว แต่กลัวคนรังเกียจว่าเหาจะกระเด็นลงข้าวเลยไม่ทำ เจนรักษ์กำลังจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองข้างๆน้องวินที่เพิ่งป้อนข้าวจนทานอิ่มแล้ว

 

 

วันนี้คุณนักรบดูเหมือนจะกลับมาเร็วกว่าเวลาปกติอยู่เยอะเลยทีเดียว คุณผู้หญิงจึงเลื่อนเวลาทานอาหารของครอบครัวให้ช้าลงหน่อยเพราะคุณนักรบอาจจะหอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน น้องวินนั้นหม่ำๆแล้วและกำลังเล่นกับของเล่นในมือ สายตาจดจ่ออยู่กับมันจนไม่ได้ดูเลยว่าคุณพ่อกำลังจ้องมองอีกฝ่ายอยู่ เจนขมวดคิ้ว รู้สึกอะไรบางอย่างมันขัดหูขัดตา

 

 

อ๋อ….ก็คุณรบนั่นแหละที่รกลูกตา….

 

 

อะโด่แม่ง อยากเข้าไปฟัด อยากเข้าไปกอด ไปหอมทำไมไม่ทำละคุณ…. ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซึนเดเระแม้แต่กับลูก มิน่าล่ะเมียถึงทิ้ง พี่แกก็ทื่อเกิน จ้องซะอย่างกับจะจับกิน แต่ขนาดหัวนี่ยังไม่กล้าลูบเลย ต้องเป็นพ่อแบบไหนวะที่ในตอนเช้าไปนั่งจ้องหน้าแต่ไม่พูดอะไรตอนลูกหลับ กลับมาก็แค่มายืนจ้องใกล้ๆ ถ้าเป็นไอ้เจนนี่ใช้สิทธิ์ฟัดจนแก้มย้อยไปแล้วครับ ไม่น่าจะทนไหวได้ แล้วพี่แกเล่นยืนจ้องเป็นโรคจิตแบบนี้ ผมจะไปนั่งที่ไหนดี….นั่งบนตักพี่เขาดีไหม เอ๊ะ…ไม่น่าจะใช่…

 

 

อะไรที่ยาวแล้วใหญ่อย่างที่ไอ้ตัวจุ้นพูดเริ่มจะกลับเข้ามาในหัว…แค่คิดว่าจะไปนั่งตัก….แล้วสัมผัสโดนอะไรต่อมิอะไร…

 

 

“เจน…ไปยืนทำอะไรตรงนั้นน่ะ”  แม่ถาม แต่จริงๆแล้วเรียกเตือนสติ หลุดไปกาแลคซี่อื่นอีกแล้วไอ้เจน…

 

 

“อ่า…คือผม”

 

 

“ตารบ…ถ้าจะกินข้าวกับลูกก็นั่งตรงนั้นเลย เจน…มานั่งข้างๆฉันนี่” เป็นคุณพรรณีที่แก้ไขปัญหาให้ไอ้เจนที่ไม่มีจุดยืนในสังคมให้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยเมื่อท่านเจ้าที่เขาตวัดสายตามองส่งเสียงดังชิ้ง….ไอ้เจนราวกับถูกฟันในทีเดียว…เอ่อ…ฟันฉับด้วยดาบน่ะ ไม่ได้หมายถึงฟันแบบอื่น ว้อยยยยยยยยยยยยยยย

 

 

แต่ทำตาดุไปงั้นจริงๆแหละอีตาคุณรบนี่ เหล่แล้วไง…พ่อคุณก็ย้ายไปนั่งลงบนเก้าอี้ของเจนที่นั่งอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือของคุณหญิงโดยมีหนูวินในเก้าอี้เด็กคั่นอยู่ดี เจนรักษ์ที่ยืนเป็นเจ้าที่ไร้ศาลอยู่นานก็ได้คราวไปมีที่นั่งของตัวเองสักที แต่แค่คิดว่าได้นั่งตรงนี้ที่ตรงข้ามของอีกฝ่าย เจนก็เพิ่งระลึกได้ว่า….ไอ้ฉิบหาย นี่กูต้องกินข้าวตรงนี้ที่ตรงข้ามเขาทุกวันเลยเหรอวะผอมไม่ผอมให้แคลอรี่ทำนายกันไหมล่ะมึง ใครจะไปแดกได้กัน ยิ่งทำสายตาจ้องจะฟัน…เอ้ย! จ้องจะหาเรื่องกันทุกวินาทีแบบนี้….

 

 

แต่คุณรบก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองกันมากเท่าไหร่ คือจริงๆแล้วอาจจะคิดเหมือนกันว่ามองมากๆแล้วไม่เจริญอาหาร คุณครับ…เจนมันเป็นคนนะครับไม่ใช่ขี้ มองได้ครับ…หน้ากูไม่ได้เหม็นขนาดนั้น แต่ได้แค่คิดไม่กล้าพูดไป เดี๋ยวคนเขาจะรู้ว่าใจทราม เจนรักษ์กินข้าวเงียบๆช้าๆ จะว่าไปคนในบ้านนี้เขาก็กินแบบนี้กันหมด เจนเองก็ไม่ใช่คนไม่มีมารยาท การทำงานในบริษัทในตำแหน่งเลขาทำให้ต้องพบปะคนสำคัญหรือคู่ค้าทางธุรกิจก็เยอะ จะให้มูมมามหรือเป็นตัวของตัวเองมันไม่ได้หรอก เจนฝึกตนมาโดยตลอดจนชิน พักหลังๆเวลาเจอใครกินแรงๆให้ดูยังอดจะเบ้ปากใส่ไม่ได้ ทำไป…นังเด็กเจนนี่มันก็เป็นคนใช้เจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนกันนะคุณท่าน

 

 

“อ๊ะ!”  กะว่าจะกินเงียบๆอย่างไร้ตัวตนบนโต๊ะอาหารแล้วนะ แต่ไม่วายต้องหลุดอุทานออกมา ยังดีที่อุทานสวย ถ้าเป็นปกติอยู่กับเพื่อนนะ สัตว์สักตัวคงได้หลุดจากปาก สัตว์อะไรเหรอ…ไดโนเสาร์มั้ง

 

 

“……..”

 

 

“……..”  กลับมาที่เหตุการณ์ตรงหน้าอีกสักครั้ง นี่คงเป็นศึกการประชันหน้าบนโต๊ะอาหารครั้งแรกหลังจากที่เราพยายามจะเลี่ยงกันมาโดยตลอด แต่ความตะกละอยากกินผัดเต้าหู้ของไอ้เจนได้ครอบงำพร้อมๆกับอีกฝ่าย มือของเราต่างเอื้อมไปหยิบช้อนกลางในจานนั่น และในเวลาพร้อมๆกันนี้….เจนรู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าช็อต…

 

 

แล้วกูก็จะช็อคตายให้ได้เลยจ้า….

 

 

“………”

 

 

“……….”

 

 

“เชิญคุณนักรบเลยครับ”  เจนยอมแพ้แล้ว ไม่ต้องมองเหมือนจะแดกกูลงท้องแทนแบบนั้นก็ได้ครับพี่ เจนยอมถอยห่าง อาหารมื้อนี้ไม่สามารถกระเดือกได้ลงอีกต่อไป การกินอาหารท่ามกลางความกดดันมหาศาลแบบที่เขาอาจจะไม่ได้จงใจสร้าง แต่เจนแค่หมดมู้ดง่ายนั้นทำให้นึกถึงตัวเองในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เจนอาจจะได้ลดน้ำหนักลงมาสมใจอยากจริงๆ ให้ตายเหอะ…เฮ้อ….

 

แต่จะให้หยุดกินเลยก็ดูจะเสียมารยาท เจนรักษ์พยายามทานไปเรื่อยๆอย่างสุดความสามารถก่อนจะรวบช้อนส้อมอย่างเรียบร้อย ใบหน้าถูกปั้นให้ดูปกติไม่ได้ดูหงุดหงิดแต่อย่างใด น้องวินนั้นเอียงคอมองกันอย่างน่ารัก อารมณ์ที่ขุ่นมัวของตนถูกทดแทนด้วยท่าทางอ่อนเดียงสาจนเผลอเอียงคอยิ้มตาม พอเห็นเพื่อนใหม่ทำแบบนั้น เจ้ากบน้อยก็ยื่นของเล่นในมือให้แม้จะเอื้อมไม่ถึงก็ตาม คุณพรรณีเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่กับหลานก็ยิ้มออกมาและเป็นฝ่ายหยิบเอาของเล่นในมือของหลานรักส่งให้กับเจนด้วยตัวเอง

 

“ขอบคุณคุณน้องวินนะครับ”  เจนรับมาพร้อมกับบีบของเล่นให้มันออกเสียง เรียกเสียงหัวเราะสดใสดีใจของกบน้อย ทุกอย่างอยู่ในสายตาของคนหน้านิ่งหมด แต่เมื่อเห็นลูกชายหัวเราะเขาก็อดจะยิ้มบางๆไม่ได้ ความอึดอัดและความเหนื่อยล้าทั้งหมดพลันเหมือนถูกชะล้าง แม้ว่าลูกชายตัวเล็กจะไม่ได้หันมามองทางนี้ด้วยซ้ำไป

 

 

“ตารบก็เล่นกับลูกหน่อยสิ”

 

 

“………..”

 

 

“เร็วเข้า ตอนนี้ตาหนูอารมณ์ดีอยู่นะ”  คุณพรรณีรีบคะยั้นคะยอ

 

 

“นั่นสิคะคุณรบ ลองดูไหมคะ”  แม้แต่คุณอำไพเองก็เชียร์

 

 

“………..”  เจนนั้นนั่งมองสองพ่อลูกเงียบๆ จะว่าไปคุณรบนี่แกซึนเดเระเกินไปหรือเปล่าวะ ขนาดไอ้เจนไม่ได้คลอดออกมาเองยังหลุดเสียงสองเสียงสามแบบที่คนอื่นต้องสาปแช่งใส่ความแบ๊ว แล้วคนพ่อนี่จิตใจทำด้วยอะไร ไม่เคยโดนความน่ารักชนะทุกสิ่งของเจ้ากบน้อยแอคแทคใส่เลยเหรอ

 

 

“บู บู บูวววว”  น้องวินนั้นไม่ได้สนใจสิ่งที่ผู้ใหญ่คุยกันข้ามหัวไปมาทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเอง เจ้ากบน้อยยังเอาแต่เลียนเสียงเจ้าตุ๊กตาบีบนี่ โอ้ยยยยบีบแก้มนั้นแทนได้ไหม ทนไม่ไหวล้าวววว

 

 

“คุณนักรบครับ”

 

 

“………..”  เขาหันมาตวัดตามองใส่ อะไรจะทิฐิสูงได้ปานนั้น นี่คนไม่ใช่ขยะไม่ต้องทำรังเกียจกันมากก็ได้ จากที่อึนๆ เจนรักษ์กลับเซ็งขึ้นมาในบัดดล กูทำอะไรก็ผิดหมดล่ะ ฮ่วย!

 

 

“เอานี่คืนให้น้องวินทีนะครับ”  คนตัวเล็กลุกขึ้นก่อนจะเอื้อมส่งของเล่นในมือให้กับพ่อของเด็กน้อย ให้ท่าขนาดนี้ถ้ายังซึนอยู่ก็ไม่รู้ด้วยแล้วเว้ย สุดแท้แล้วแต่เวรแต่กรรม นักรบนั้นชะงักไปเล็กน้อยให้เจนหน้าชาไปชั่วครู่ ความลังเลบ้าๆบอๆของนักธุรกิจที่เด็ดขาดไปซะทุกเรื่องนั้นดูตลกจนเจนอยากจะหัวเราะใส่ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรออกไป….เพราะกลัวว่าสิ่งที่ทำจะเป็นการเขวี้ยงของเล่นใส่หัวเขาแทน เจนยิ่งเขวี้ยงเก่งอยู่นะเออ ไปถามยัยครูกบอะไรนั่นได้

 

 

แต่ในที่สุดเขาก็รับไป ให้ตายเหอะไอ้เจนเกร็งจนจะเป็นตะคริวไปยังข้อนิ้วแล้วครับ มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ยาวนานที่สุดในชีวิตตั้งแต่เจนรักษ์เริ่มหายใจเป็นเลยก็ว่าได้ ความกดดันเก่งของคุณพรรณีที่ว่าแน่ยังไม่เท่าตัวลูก ขอวอนให้ตัวหลานอย่าโตมานิสัยเสียแบบนี้เลย บ่าวหัวใจจะวายตายห่าอยู่แล้ว คุณนักรบรับไปก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ เขาจ้องมองมันอยู่สักพัก และก็เพิ่งรับรู้ได้ว่าเจ้าของของเล่นอันชอบธรรมอย่างน้องวินหันมามองของตัวเองด้วยดวงตากลมโต มือเล็กถูกยกขึ้นมาอมเล่นๆช้อนตามองคนเป็นพ่อแต่ไม่ทวงคืนความชอบธรรมต่อสิ่งใด ให้ตายเหอะ มันจะซึนเดเระทั้งพ่อทั้งลูกไม่ได้นะเว้ย เจนไม่ยอม!

 

 

บู บู บูวววววว

 

 

จุดพลุ…ไอ้เจนจะเดินไปจุดพลุครับ!

 

 

“เยส!”

 

 

“………”

 

 

“แฮ่…”  มองกันแรงขนาดนี้ก็เดินมาบีบคอกันเถอะครับ โอเค เจนอาจจะเล่นใหญ่ไปนิดที่กับอีแค่ตายักษ์หน้านิ่งนี่เขาแค่บีบตุ๊กตาลูกเขาจนมันมีเสียงออกมา แต่แค่นี้ก็ทำให้ชีวิตคนลุ้นไปถึงนิพพานแล้ว รู้สึกเหมือนได้เป็นสะพานใจให้พ่อลูกที่พลัดพรากจากกันได้มาพบและแสดงความรักกันต่อหน้า ไอ้เจนไม่ได้เว่อร์ใช่ไหมแม่…ไม่ได้เว่อร์ใช่ไหม???

 

 

บู บู บูววววว

 

 

อ้าวคุณอำไพร้องไห้….

 

 

“แม่…”

 

 

บู บู บูวววววว

 

 

คุณพรรณีก็ปิดปากกลั้นความยินดีเอาไว้แทบไม่ไหว ในมือนั้นถือมือถือเอาไว้ถ่ายคลิปเลียนแบบเจน

 

 

แล้วแม่งเป็นเชี้ยอะไรต้องจ้องเขม็งแค่กูววววววววววววว

 

 

“บุบุบู…”  น้องวินที่ยังดูไม่ชินนั้นส่งเสียงออกมาอย่างลังเล ดวงตากลมโตจ้องมองคนเป็นพ่อที่ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าหากแต่ยังคงบีบของเล่นอันโปรดอยู่ พ่อลูกสบตากันโดยไม่ได้สนใจบรรดาคนเล่นใหญ่ในโต๊ะอาหารแห่งนี้ เดือดร้อนไอ้เจนต้องดึงทิชชู่ส่งให้แม่ที่ตื้นตันอย่างหนัก และรับมือถือจากคุณหญิงมาช่วยถ่ายต่อและทำให้มั่นใจว่าไฟล์นี้จะไม่หายไปไหน…

 

 

“ถ้าฉันเป็นอะไรไปเธอต้องเอาคลิปนี้ไปเปิดในงานศพฉันนะเจนรักษ์”  คุณหญิงยังจะอยู่อีกร้อยปีพันปีครับ เจนรักษ์ส่ายหน้ายิ้มๆ ท่าทางประหม่าเมื่อครู่อันตรธานหายไป แต่เรื่องกินไม่ลงนั้นยังคงเหมือนเดิม กะเพราะไอ้เจนนั้นเอ่อไปด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตันไปหมดแล้ว

 

 

“คุณแม่ครับ”

 

 

“จะด่าว่าเวอร์ก็เว่อร์เถอะนะ ตารบ…เจน…ทำดีมากลูก”  เจนขอเปลี่ยนคำชมเป็นโบนัสได้ไหม…ไม่ใช่แล้ว

 

 

“คุณหญิงชอบผมก็ดีใจครับ”  เอาสิ ตอนนี้มองไอ้เจนเป็นขี้หมาไปเลยก็ได้ครับ แต่ตอนนี้มีพวกแล้ว ไอ้เจนช่างไร้เทียมทาน ตายแล้วก็ฟื้นใหม่ได้อย่างกับผีดิบอ่ะเอาสิ แบ็คดีขนาดนี้ไอ้เจนจะเกาะให้เหมือนเห็บเลยคอยดู

 

 

“คุณรบคะ แม่ไพดีใจจริงๆค่ะ”  ขอกูขิงหน่อยเหอะแม่ง เห็นไหม ความซึนเดเระนี่ทำให้ทั้งบ้านหนักใจแค่ไหน ปีใหม่ทำตัวเป็นคนใหม่ซะนะ!

 

 

“มันก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้นเลยนะครับ”

 

 

“มันขนาดนั้นเลยล่ะครับ”  สิบแต้มให้กริฟฟินดอร์ แม่ช่างพูดได้ถูกใจไอ้เจนมาก

 

 

“บุบุบูววววว!”  น้องวินที่เห็นผู้ใหญ่เอาแต่คุยกันจนมือใหญ่นั้นหยุดบีบของเล่นให้ตัวเองดูเลยส่งเสียงเตือน คนพ่อที่เขินจนทำหน้าดุจึงยอมหันกลับมาก้มมอง ได้แววตาตัดพ้อหนึ่งอัตราให้ใจบางระคนเอ็นดู ก่อนนักรบจะยอมบีบเล่นให้ดูอีกครั้ง คาดว่าถ้าโดนอ้อนอย่างนี้เรื่อยๆคงไม่มีอันได้เป็นทำงานทำการแน่ๆ

 

 

“ฉันตายตาหลับแล้วจริงๆ”  เป็นเสียงฟินๆของคุณหญิงพรรณี ไอ้เจนทำงานได้ไม่ถึงสองวัน….คืนความสุขให้คนบ้านนี้ได้มากกว่าที่ใครจะทำให้คนไทยได้จริงๆ

 

 

((แค่กๆ ซื้อโอเลี้ยงให้โน้ยยยยเจ็บคอ))

 

 

xxx

 

 

“ทำดีมากเจ้ากบน้อยยยยยย”  เจนและพลังเสียงสองสามสี่ของเขากำลังจ้องโจมตีน้องวินที่ตื่นเต้นส่งเสียงกรี๊ดดัง  ยิ่งทำให้สัญชาตญาณนักล่าแบบนกๆของเจนพุ่งสูงจนรีบกระโดดเข้าไปจับตัวกบดิ้นได้เอาไว้

 

 

จริงๆก็ไม่ชอบคนชื่อกบ แต่ไม่เป็นไรนี่ชื่อน้องวินแต่เป็นกบก็พอรับได้….

 

 

“ไหนคนเก่งวันนี้แผงฤทธิ์อะไรไปบ้าง อ๊บๆๆๆๆๆๆ”  คนตัวเล็กระดมจูบลงบนแผ่นหลังแน่นๆของเจ้ากบน้อย ทำดีมากเจ้าหนู ทำให้เจนที่กลายร่างเป็นหมาให้กลับมาเป็นคนนกๆได้ในโต๊ะอาหาร ช่วยต่ออายุจิตวิญญาณของพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ด้วยคำว่าบูเพียงคำเดียว โงยยยยยยยยคุณหนูวินของบ่าว

 

 

“อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย”  เสียงแหลมเล็กที่ทั้งกรี๊ดทั้งหัวเราะนั้นออกมาจากปากเด็กอารมณ์ดีที่ทำให้เจนรักษ์ต้องอารมณ์ดีไปด้วย แต่ในอีกด้านหนึ่งของประตูห้อง มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานของเขาอยู่ มันก็ยังไม่ดึกมาก แต่ก็ใกล้ได้เวลานอนของลูกแล้ว นักรบกำปากกาแน่นโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองพี่เลี้ยงคนใหม่แต่อย่างใด แน่นอนว่าก็ไม่ได้ปลื้มปิติเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่ทำให้เขาหยุดมือจากการทำงานไม่ใช่เรื่องของคนตัวเล็กที่ดูแสบสันภายใต้หน้ากากลูกแกะคนนั้น หากแต่เป็นเสียงหัวเราะของลูกที่เขาไม่ได้ยินชัดๆอย่างนี้มาสักพัก….

 

 

เจ้าของนิ้วเรียวยาวค่อยๆปล่อยปากกาในมือให้ร่วงหล่นไปบนโต๊ะ ความรู้สึกที่เขามีต่อลูกมันก็คงเหมือนพ่อคนอื่นทั่วไปที่ยินดีกับการได้รับรู้ว่าลูกสุขสบาย แต่ที่ไม่เหมือนคนอื่นเสียหน่อย….นั่นก็คือการแสดงออกอันบกพร่องของตัวเอง ทว่าเขากลับมีข้ออ้างเสมอมาว่าไม่มีเวลาปรับปรุงมัน ทุกวันเขาจะทำได้แค่จ้องมองเจ้าตัวเล็กอยู่กับตัวเอง ไร้ปฏิสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างโดยเฉพาะคนที่นั่งใกล้ๆแบบเขา แต่วันนี้มันต่างออกไป….และเขาบอกไม่ได้ว่ารู้สึกเช่นไรกับการที่ได้จ้องตาลูกแบบนั้น แบบที่ได้รับรู้ว่าแววตาคู่นั้นจ้องมองมาทางเขาคนเดียว สื่อความหมายหาเขาเพียงคนเดียวแบบนั้น

 

 

นักรบคิดว่าการเป็นพ่อคนอาจจะช่วยผูกรัดบางสิ่งเอาไว้กับตัวเอง แต่ในความเป็นจริงเขาอาจจะไม่เคยพร้อมเลยก็เป็นได้ หากแต่ทุกเรื่องร้ายๆที่เขาเคยกระทำก็จำเป็นต้องได้รับการชดใช้ และน้องวินก็อาจจะเป็นหนึ่งในบาปนั้นๆที่เขาได้ก่อ จะด้วยนิสัยส่วนตัวหรือว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น มันทำให้เขาเอาตัวออกห่างแต่ก็ยังคงห่วงหาและบรรยายความรู้สึกไม่ได้ถึงในวันแรกที่ได้เจอะเจอกัน เด็กชายที่ตัวเล็กเป็นพิเศษจนต้องเอาเข้าตู้อบ….ยามที่ได้มองจากข้างนอกเข้าไปในห้องที่มีเด็กอ่อนนอนอยู่เรียงราย เขารู้ตั้งแต่วินาทีนั้นเลยว่าผู้ชายที่ชื่อ ‘นักรบ รัตนสกุล’ ก็คงทำอะไรไปมากกว่านั้นไม่ได้ แม้จะห้าวหาญได้กลับทุกเรื่อง แต่กลับทำอะไรไม่ได้ในเรื่องนี้ ช่างขี้ขลาดเกินจะบรรยาย แต่ก็เหนื่อยเกินจะแก้ไขอะไร

 

 

“อ๊ายยยยยยย!!”  เสียงร้องกรี๊ดและเสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากห้องทำให้เขาลังเลอยู่หลายส่วน นักรบไม่เคยเข้าไปหาลูกในตอนกลางคืนในช่วงเดือนที่ผ่านมา เพราะเขามีการจ้างคนนอกมาเป็นผู้ดูแลจึงไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายให้เป็นขี้ปากคนอื่นในเวลาค่ำคืน เขารู้ว่าไม่มีใครรู้หรอกหากเขาจะเข้าไป หากแต่จะมีก็แค่คนที่อยู่ในห้องนั่นแหละที่รับรู้ทุกอย่าง และคนอย่างนักรบ…ไม่เคยให้ความไว้ใจกับใครเลย

 

 

แต่อีกส่วนหนึ่งเขาก็รู้สึกอยากจะเปิดประตูห้องนั้นเขาไปใจแทบขาด เขาแทบไม่เคยได้มองลูกหัวเราะหรือยิ้มเต็มๆตาเพราะว่ามันดูเจิดจ้าเสียจนไม่อาจจะทนไหวได้ คนอย่างนักรบที่ทำผิดต่อเด็กชายอัศวินไปขนาดนั้นจะมีหน้าไปมีความสุขและเรียกร้องรอยยิ้มแบบนั้นได้อย่างไร สิ่งที่เขาทำได้คือการนั่งอยู่ตรงนี้ รับรู้ว่าลูกมีความสุขกับใครอีกคนที่เขาใช้เงินที่หามาจ้างให้ทำเช่นนั้น พอคิดได้เช่นนี้มือของตนก็จับปากกาอีกครั้ง ในเมื่อไม่อาจจะให้ความสุขกับลูกได้โดยตรง ก็คงมีเงินเท่านั้นนี่แหละที่เขาจะมอบมันให้ได้….เพราะคนอย่างเขาจะไปมอบความสุขแบบนั้นให้กับใครได้….

 

 

ในเมื่อตัวเอง….ยังไม่มีอะไรแบบนั้นเป็นของตัวเองเลย…

 

 

xxx

 

 

เจนรักษ์เองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองยังมีหน้ามายืนอยู่ตรงนี้ได้…

 

 

“……….”

 

 

“……….”  แต่ถ้าไม่มีใครพูด เราก็จะยืนจ้องหน้าจนกว่าอีกฝ่ายจะกลายเป็นขี้เลยไหม ถามใจดู เจนนั้นสูดลมหายใจเข้าและออกช้าๆเพื่อเรียกกำลังใจ เหมือนกำลังจะมาสู้กับยักษ์กับมารก็คราวนี้

 

 

“คุณนักรบครับ”

 

 

“………..”

 

 

“ข้อแรกเลยคือผมมีเรื่องอยากจะถาม”  วันนี้เจนไม่เจนแล้วนะ เจนเป็นผมแล้วนะ คิดดูว่าต้องตั้งสติแค่ไหนถึงจะไม่หลุดร่างเจนแบ๊วๆออกมากวนใจเขา

 

 

“ว่า….”

 

 

“ผมขอเรียกว่า ’คุณรบ’ ได้ไหมครับ”

 

 

“………..”

 

 

“ง่า…คือ ‘คุณนักรบ’ มันยาวไป”  ขอตัด ‘นัก’ ออกได้ไหม

 

 

“เรื่องแค่นี้ต้องถามด้วยเหรอ”  ง่า….ก็ขนาดคุณอำไพยังต้องถามเพื่อให้แน่ใจ แล้วนับประสาอะไรกับไอ้เจนเล่า  ได้รับอนุญาตให้หายใจหรือเปล่ากูยังไม่รู้เลยครับ

 

 

“งั้นผมไม่รบกวนคุณนักรบก็ได้”

 

 

“เรียกคุณรบเฉยๆ”

 

 

“หะ…”

 

 

“ก็จะเรียกแค่คุณรบเฉยๆไม่ใช่หรือไง อย่ามากความ”  โห ไอ้เจนมากความขนาดนั้นเลยเหรอครับ เงินสักบาทยังไม่ได้กระเด็นออกจากตัวคุณรบเลยนะ น้ำตากูจะไหลล่ะนะ ถุ้ยยยยยย

 

 

“ครับงั้นผมไม่กวนคุณรบแล้วล่ะ”  พอแล้วเหอะ คุยกันวันล่ะเรื่องพอ เจนยกมือไหว้ทำความเคารพ ความกล้าที่สะสมมาตลอดทั้งคืนนั้นหายไปหมดราวกับไม่เคยมีอยู่จริง แต่เมื่อจะหันหลังกลับก็ได้ยินเสียงเรียกเอาไว้

 

 

“เดี๋ยว…”

 

 

“………..”

 

 

“แล้วอะไรคือข้อที่ 2”  โหยยยย อย่าเพิ่งมาถามไอ้เจนเลยครับ จิตกูกระเจิงไปหมดแล้ว

 

 

“ไม่มีแล้วก็ได้ครับ”

 

 

“อย่าชักช้า ผมเสียเวลา”  มันก็จริงของเขา เมื่อเจนเหมือนจะได้ยินเสียงรถของคุณเพชรที่ขับมา อีกไม่กี่วินาทีคงแลนด์ดิ้งแถบเท้าของคุณนักรบพอดี

 

 

“คือ….ผมคิดว่าคุณรบอาจจะเกรงใจผม เอ้ย!ไม่ใช่ คืออาจจะไม่ชอบให้ผมอยู่ในห้องคุณน้องวิน”

 

 

“เธอต้องอยู่ มันเป็นหน้าที่”

 

 

“ผมเข้าใจครับ แต่หมายถึงตอนที่คุณนักรบอาจจะอยากมาเล่นกับน้อง”

 

 

“………”

 

 

“คือ…พูดกันตรงๆก็ได้ครับ”

 

 

“มันไม่มีอะไร ถ้าผมอยากเข้าไปก็ต้องเข้าอยู่แล้ว นายเองก็เป็นผู้ชาย”  นี่โง่หรือแกล้งโง่ ว่าไอ้เจนคือผู้ชายที่กินผู้ชาย แต่คุณรบเป็นของยกเว้นที่กระเดือกไม่ลง หนังน่าจะเหนียว เจนไม่ชอบ…

 

 

“เอ่อคือผมแค่อยากให้คุณรบได้มีเวลาอยู่กับลูกและจะได้ไม่อึดอัดกับผมจนเกินไป”

 

 

“แล้วจะให้ทำยังไง”

 

 

“ง่า….”

 

 

“ฉันมีเวลาไม่มากนะ”  อย่ากัดฟันแบบนั้นได้ไหม นี่เราจะคุยกันดีๆแบบไม่ข่มขู่ไม่ได้เลยเหรอไง โอเคไอ้เจนตั้งสติแล้วอธิบายดีๆ งานนี้มีเดินเข้ามาหาก็ต่อยกลับล่ะครับ ไอ้เจนจะโชว์ให้ดูว่าตีนนกตบเจ็บแค่ไหนเอง!

 

 

“คือผมจะแนะนำว่าถ้าคุณนักรบจะเข้ามา ผมจะออกไปนั่งรอให้ครับ”

 

 

“………..”

 

 

“ไม่ได้กะอู้งานจริงๆครับ”  แสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่จริงๆไม่ใช่…ในขณะที่ไม่อยากกีดกันพ่อลูกให้เป็นบาป ไอ้เจนก็ไม่ได้อยากจะใช้อากาศร่วมกันกับคุณพ่อน้องกบเหมือนกัน อโหสิให้กูเถอะครับ แต่คิดดีด้วยไม่ไหวแล้วจริงๆ แค่นี้ก็กระเดือกข้าวไม่ลงแล้วครับ”

 

 

“คุณรบครับ”  เป็นเสียงของคุณเพชรที่เปิดประตูรถออกมาเร่งกัน คุณรบเมื่อครู่นั้นจะได้รับฟังความในใจของไอ้เจนที่มันดังสะท้อนก้องไปมาหรือเปล่าก็สุดรู้ แต่เจนตายตาหลับตามคุณหญิงพรรณีไปล่ะครับ  กูได้พูดเรื่องที่ตั้งใจในวันนี้ไปหมดแล้วแหละอาเมน….

 

 

“ฉันไปก่อนนะ”

 

 

“ครับ”  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าเป็นนกจะหูลู่หางตกได้ขนาดนี้ เจนก้มหน้าลงนึกปลงในใจกับตัวเอง ท้อในใจ อีกไม่นานก็ไปแล้วเจน อีกไม่นานจริงๆ แม้ยังอ่อยคุณเพชรไม่ได้ก็เถอะ…

 

 

แต่ให้แม่บอกทุกคนว่าเจนหอบเสื้อผ้าหนีตามผู้ชายไปเลยได้ไหม…จะได้ไม่เหนื่อย….

 

 

“ไว้ฉันจะคิดดู”

 

 

“ครับ?”  เอ๊ะ ทำไมรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างส่องมาจากทางคุณรบ…

 

 

“ไว้จะคิดดู  ไปล่ะนะ”  เขาพูดย้ำ มองหน้าอีกฝ่ายก็รู้ว่าไม่เชื่อในหูตัวเอง แต่ไม่เชื่อตัวเองแล้วจะไปเชื่อใคร

 

 

คุณเพชรมั้ง….

 

 

“ครับ คุณเจน…เจ้านายบอกว่าจะไปคิดดูครับ”  เว้ยยยยย กูแค่คิดในใจปะเนี่ย มาอาศัยในหัวใจเจนเหรอ คนทัลลึ่ง…บ้าๆ ไม่ใช่!

 

 

“ไปได้แล้วเพชร”

 

 

“อ้าว แล้วทีนี้มาเร่งผม ได้ครับคุณรบเดี๋ยวเหยียบให้ 140 เลย”  นั่นจะไปตายเหรอครับ เป็นเลขาที่ดีต้องคิดฆาตกรรมนายให้แลดูเป็นอุบัติเหตุใช่ไหม

 

 

“ไปได้แล้ว”

 

 

“งั้นคุณเจน  บายนะครับ”

 

 

“ครับ”

 

 

“ตั้งใจทำงานนะครับ”  คุณเพชรยิ้มให้อีกครั้ง โอเค…แผนอ่อยคุณเพชรยังเข้าท่า แต่ลองคิดว่าผู้ชายขายอ้อยเก่งแบบนี้คือคนที่เจนต้องอ่อยแล้วล่ะก็…อืม….

 

 

แค่คิดขนที่หลังหูก็ลุกชันพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเลยจริงๆ

 

 

Tbc

 

 

Talk:  มาต่อแล้ว สองวันติด หลังจากแต่งมาสักพัก เราก็จะเข้ามุมมองคุณรบมากขึ้นเพราะนี่เดินทางมาถึง7เรื่อง น้องเจนก็บ่นไปสัก 89% เห็นจะได้ แล้วเมื่อไหร่จะรักกันครับบบบบบ แม่งงงงคนแต่งอยากจะจับมัดและขังไว้ในห้องแบบไม่มีเหตุผลจริงๆจะได้รักกันง่ายๆเสียที (หรือฆ่ากันง่ายๆมากกว่า)

 

 

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์และการติดตามนะคะ เราเองก็ไม่เคยเขียนวายไทยมาก่อน ค่อนข้างจะกังวลในหลายๆอย่างแต่พอเห็นว่ามีคนอ่านและเมนท์ให้ก็ดีใจมากๆเลยค่ะ อ่านจบแล้วก็เอาไปแต่งต่อ แม้ที่แต่งไปจะมีแต่เจนเวิ่นอย่างไม่มีสิ้นสุดก็ตาม ฮือออออ อย่ารำคาญเจนนะ เจนจะพยายามจริงจังต่อจากนี้55555

 

 

Twitter @reallyuri

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 24-06-2018 17:49:30
จะต้องเรียกว่าแม่เจน. ร้าาวววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 24-06-2018 18:15:54
เพิ่งเข้ามาอ่านนนนน
รอติดตามนะคะ ชอบความมโนของเจน
มโนเกิน เวิ้นเก่ง 5555555555
สู้ๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-06-2018 18:32:55
สงสารคุณรบอยู่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-06-2018 19:11:05
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-06-2018 19:55:00
อ่านตอนแรกๆ ก็ว่าคุณอำไพ กับเจน
เป็นแม่ลูกกัน  ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เลี้ยงดูกัน
จากกันไปนานมาก อยู่คนละทวีป
คิดว่าเจอกัน คงจูนกันไม่ติด
ยิ่งพอเจนกลับมาจากนอก โทรหา
แม่ก็บอกไม่ว่าง  กำลังกินมะม่วงน้ำปลาหวาน
อ้าวๆๆๆ............เป็นแม่แบบไหนกันนี่   o22 o22 o22

แต่พอเจน ได้เจอแม่จริงๆ มันให้โมเมนต์แม่ลูกจริงๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เจนเองทำเหมือนไม่ชอบเด็ก มองตัวเองแบบไม่ได้ชื่นชมตัวเอง
แต่พอเจอเด็กถูกทำร้าย เจนเองก็ช่วยทันที
ทั้งขว้างมะม่วงทั้งถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน นายแน่มากเจน   :katai2-1:

คุณนักรบ ท่าทางจะทึ่ม ทื่อมะลื่อ ซึนเดเระ
ดูท่าทางไม่ไว้วางใจเจน ก็ถูกนะ แม้จะเป็นลูกชายคนเลี้ยงตัวเองมาก่อน
เหมือนรู้ตัวเองว่ามีความบกพร่องในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
น่าจะทั้งกับเมีย และลูกตัวเอง  เมียถึงเปิดแน่บไปเลย  น่าสงสาร   :mew2: :mew2: :mew2:

ถึงได้คิดแบบ "......เพราะคนอย่างเขาจะไปมอบความสุขแบบนั้นให้กับใครได้….
ในเมื่อตัวเอง….ยังไม่มีอะไรแบบนั้นเป็นของตัวเองเลย…"

มันอะไร ยังไงกันนี่  อยากเผือกๆๆๆๆ   :ling1: :ling1: :ling1:

เจน นายจะเป็นคนตลกไปถึงไหน  วางแผนอ่อยคุณเพชร  :เฮ้อ:
แต่เจนก็ทำให้พ่อลูกใกล้ชิดกัน แม้จะแค่นิ้วเดียว  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 24-06-2018 20:09:31
ยัยเจนน่าร้ากกกกกก ถึงนางจะล้นๆแต่นางน่าร้ากกกกกกกก o18
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 24-06-2018 23:23:33
อยากเผือกเรื่องของ คุณรบ ต่อ รอติดขอบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-06-2018 23:37:03
เจนตลกอ่ะ อีคิวสูงมากเลย
ทุกอย่างเลยออกมาแบบเจนๆ 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 25-06-2018 01:39:08
ชอบอ่ะ รอติดตามนะคะ จะไปรักกันได้ไงเนี่ย เจนกับคุณรบ น้องวินน่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 7] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-06-2018 09:07:39
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 26-06-2018 19:48:47
#เจนไม่นก
เพชรเจน






คุณเพชร…คือมึงอ่ะ…


“…………”


“คุณเจนครับ”


“ครับ” คุณมึงเห็นความฝืนยิ้มและแววตาแห้งๆของเจนไหมครับ


“เลี้ยงน้องวินเหนื่อยไหมครับ”


“คุณเพชรถามมาสามรอบแล้วครับ”  อ่อยไม่เนียนไปเรียนมาใหม่!


“ง่อวววว ผมอยากคุยกับคุณเจนนี่ครับ”  แต่กูไม่อยากคุยกับมึงนี่ครับ


“ก็ถามอย่างอื่นบ้างก็ได้ครับ”


“งั้น คุณเจนมีแฟนยังครับ”


“ก็ตรงไปครับ”  และ….อย่าเสือกดิครับ


“ยังไม่มีแน่เลยสินะครับ”


“ก็…ฮะๆ”  เจน…อดทนไว้ลูก อย่าวิ่งออกจากทุ่งลาเวนเดอร์ สู่สวนกุหลาบไฟแบบนั้น….


“คุณเจนครับ”  จะทำตาวิบวับเพื่อ?  น้ำในตาไม่เท่ากันเหรอ กูช่วยจิ้มให้บอดไหม!


เฮ้อ…นี่แหละหนาความซวย…


หลังจากที่ตั้งใจว่าจะลองอ่อยคุณเพชรดูเพื่อให้คุณรบใช้เป็นข้ออ้างในการให้ออก แต่พอลงสนามจริงก็พบว่ามันยากกว่าที่คิดไว้ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าเจนไม่สามารถอ่อยคุณรบเพราะไม่มีโอกาส….โอกาสน่ะ มีมากไปจนไอ้เจนรำคาญด้วยซ้ำ แต่เหมือนผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามไม่เปิดโอกาสให้ถอนตัวเลย ทั้งๆที่ไอ้เจนนี่ใจคอหดไม่อยากลงสนามแล้วแท้ๆ ไม่….กูอ่อยมึงได้ มึงอ่อยกูไม่ได้ จัมวรั้ย!


“คุณเพชร”   และแล้วเสียงสวรรค์ของไอ้เจนก็ดังขึ้นราวระฆังพักยก ใจไอ้เจนบางไปหมดแล้วครับคุณรบ ไม่ใช่ว่าเขินหรืออะไรนะ รำคาญแบบที่อยากจะเขวี้ยงรองเท้าใส่หัวลูกอีคนขายอ้อยนี่ ถ้าไม่ติดว่าอุ้มน้องวินอยู่ในมือกูถอดรองเท้ารอตั้งแต่เจอหน้ามันล่ะครับ คนอะไรอ่อยได้อ่อยดี อ่อยทุกทีที่เจอหน้า นี่เจอกันอาทิตย์เดียว พี่มึงอ่อยบ่อยราวกับแฟนบางคนที่จีบไอ้เจนมาครึ่งปี….


“สวัสดีครับคุณรบ”  ให้ทายว่าอะไรเปลี่ยนไวกว่าสีจิ้งจก เออ…มันนี่ไง ไอ้หน้าม่อนี่แหละ


“น้องวินครับ บ้ายบายคุณพ่อสิครับ”  เจนนั้นก็รีบปรับตัวกลับมารับบทพี่เลี้ยงที่ไม่หวังเคลมเจ้านายทันที


หลังจากจับมือน้องวินมาโบกบ้ายบายให้คนพ่อ เจนรักษ์ก็จงใจยิ้มหวานเอียงคอนิดๆให้คนที่เป็นเลขาไปด้วยแม้ในใจจะประท้วงลั่น คุณรบก็เหมือนกัน!  ได้เห็นคาตาแบบนี้ก็รีบไล่ออกเสียทีสิ อย่าให้ไอ้เจนยิ้มเก้อ! ทั้งๆที่เห็นทุกวันว่ามีคนมาอ่อยข้ามหัว แต่พี่แกกลับไม่พูดถึงเลย นอกจากทำหน้าเหม็นโลกแบบที่ชอบทำทุกวัน เขาก็ไม่ได้มีคอมเมนท์อะไรเกี่ยวกับจริตของเราสองคนลูกจ้างที่มีท่าทางน่าหมั่นไส้จนอยากไล่ให้ไปนึ่งขนมจีบกันอยู่ในครัว แต่เสียใจด้วย จะอ่อยอย่างนี้จนกว่าจะไล่ออกนั่นแหละ เพราะงั้นไล่ออกได้แล้ว ขนลุก!


“แอะ แอ่ะ แอ้”  ในระหว่างที่เจนกำลังวิจารณ์คุณนักรบในใจ คนลูกก็ประท้วงอย่างรู้ทัน


“จ้า จ้า นินทาป๊ะป๋าไม่ได้เลยนะ เจ้าเด็กซึนนี่”  ท่าทางดีเอ็นเอซึนเดเระนี่จะถ่ายทอดส่งตรงจากคนพ่อถึงคนลูก  ไม่ใช่….มันเวลาข้าวน้องวินเว้ย!


พูดถึงเรื่องอ่อยเก่ง หรือว่าจริงๆคุณรบเป็นคนสั่งเลขาให้มาอ่อยกันวะ เอออันนี้ก็น่าคิด คนแบบคุณเพชรนี่จะมาจีบลูกคนใช้ทำไมวะ จะว่าเฟรนด์ลี่ เขาก็ไม่ได้ทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นจนเกินไป จะมีคุยหยอกล้อคุณอำไพบ้าง แต่กับคนอื่นก็แค่ยิ้มบางๆให้พอกรี๊ด  แต่ความเฟรนด์ลี่ที่เขาจงใจมีให้เจนนั้นมันมากไปจริงๆนั่นแหละ นับวันจะเล่นหูเล่นตามากเกินไปแล้ว เล่นมากกว่านี้พี่เขาก็จะตาเขแล้วครับ  สงสารคุณรบบ้าง….เดี๋ยวคุณรบไม่ได้ใช้ตังค์….เพราะไล่ออกแล้วไม่รู้จะจ่ายเงินให้ใคร….


แต่ไม่ว่าคุณรบจะสั่งมา หรือเพราะความหน้าม่อได้สั่งไป แม้เจนจะมีคติที่ว่าอ่อยมาอ่อยกลับไม่โกงตามสไตล์คนกิเลสหนา  แต่พอคุณเพชรเล่นด้วยบ่อยๆแบบที่โดนทุกวันอย่างนี้  ก็…แอบรับมือไม่ถูกเหมือนกัน ไม่ใช่เขินเว้ย บางทีก็อึดอัดจนอยากจะปาหินใส่ ตามึงเป็นกุ้งยิงเหรอ ขยิบบ่อยจัง เดี๋ยวไอ้เจนเอาไม้จิ้มฟันทิ่มให้ไหม จะได้หายเคืองกันไปข้าง ต่อไปจะได้ไม่ต้องมองกูหรือมองอะไรอีกต่อไป…


“แอะ แอ้!” 


“ครับๆ บ่าวช้าเอง ขอโทษครับนายน้อย”  เจนรีบขอโทษ แค่ป้อนอาหารขาดจังหวะไปหน่อยเดียวเอง ถ้าซึนได้พ่อ เอาแต่ใจก็คงได้พ่อสินะขอรับ คุณหนูของบ่าว ยังไม่ได้ทันเข้าคอร์สติวความเป็นผู้นำจากคุณพ่อเลย ทำไมทำตัวเหมือนกันเด๊ะเลยอ่ะครับ เก่งจัง…น่านับถือความเชื้อแรงของคุณรบ


แต่จะว่าไปข้อเสนอที่เจนแบกหน้าไปบอกก็ยังไม่ได้รับการสนองอย่างจริงจัง คนพ่อยังไม่เคยมาหาลูกตอนกลางคืนเพื่อให้เจนอัปเปหิตัวเองออกจากห้อง ในขณะเดียวกันเขาก็ยังมาหาตอนเช้าที่เจนมักจะออกไปทำธุระระหว่างที่น้องวินยังหลับอยู่ เป็นเช่นนี้ทุกครั้งราวกับเขาพยายามหลบหน้ากัน ไม่ใช่หลบหน้าลูกเขาหรอก หลบไอ้เจนนี่แหละ….


หลงรักกูเหรอวะ…นั่นไม่ใช่คำตอบ แม้จะซึนแค่ไหน แต่ที่อีตาคุณรบทำอยู่นี่ไม่ได้เรียกว่ารักแล้ว แถวบ้านเรียกรังเกียจ! แต่ก็คิดได้ว่าเขาคงจะเห็นเจนแรดอยู่พอตัวเลยพยายามไม่เข้าใกล้เพื่อให้ถูกครหาว่าเคลมพี่เลี้ยงเด็กทำเมีย เจนเบ้ปาก….ถามกูยังว่าอยากเป็นไหม อ๋อ….ไม่ต้องถาม คุณรบบอกไม่เคยคิดอยากจะได้เป็นเมียเลยไม่มีเหตุผลอะไรมาให้ถาม….นั่นสิวะ


แต่นิดนึงมาดูหน้าลูกหน่อยก็ยังดี อย่าให้ไอ้เจนแบกหน้าเอาลูกมาบ้ายบายทุกวันก่อนออกจากบ้านอย่างนี้ หน้าเจนไม่ได้หนาขนาดนั้นและเจนก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าคุณรบและคุณเลขาก่อนเวลาอาหารเช้าด้วย….มันกระเดือกไม่ลงเว้ย! คิดในใจก่อนจะอ้าปากคำใหญ่งับกล้วยไปครึ่งลูก….เออ อร่อยดี….


“อ้าวเจน”


“แม่!”  จะว่าไปตั้งแต่เช้าจนนี้สายแล้วเจนก็เพิ่งได้เห็นหน้าแม่ ได้ยินว่าไปตลาดมา คุณอำไพหลังจากที่กลับมาก็ได้เห็นลูกชายของตนนั่งกินข้าวกับว่าที่เจ้าของบ้านก็รู้สึกเต็มตื้นในใจอย่างบอกไม่ถูก เจนเป็นเด็กขี้อ้อน แม้จะโตขนาดไหนแล้วก็ยังติดจะอ้อนกันอยู่ทั้งจงใจและไม่จงใจ อย่าว่าแต่เจนติดบ่วงน้องวินเลย อีกฝ่ายก็ดูจะติดพี่เจนเอามากๆเช่นกัน


“คุณรบไปทำงานแล้วเหรอ”


“อืม คุณเพชรมารับไปแล้ว”


“ว่าแต่เป็นไง….คุณเพชรน่ะ”  เธอไม่อยากจะพูดออกมาโจ่งแจ้ง แต่ก็อยากรู้ว่าเจนยังจริงจังกับแผนนั้นอยู่ไหม


“อ่อยเก่งมาก”


“หมายถึงแกอะเหรอ”


“หมายถึงคุณเพชรต่างหาก เล่นหูเล่นตาเก่ง”


“หะ…คุณเพชรอะนะ”


“สงสัยคุณรบสั่งให้มาอ่อยเจนมั้ง”


“เขาจะทำไปทำไม”


“อยากไล่เจนออกไง” เหมือนกับที่เจนเคยคิดจะใช้แผนนี้ในการให้เขาไล่ออก ตอนแรกเจนก็คิดเหมือนกันแหละว่ามันคงจะเวิร์ค แต่หลังๆก็ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน 


“จริงๆแม่ก็แอบคิด แต่ก็ไม่คิดว่าคุณรบจะทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้น”


“แม่ว่าเจนปัญญาอ่อนเหรอ”  ที่คิดอ่อยเลขาเขาให้เขาไล่ออก


“ก็คนปกติเขาคิดแผนแบบนั้นได้ไง”  คุณอำไพต้องตีลังกากลับหลังช่วยลูกหาข้ออ้างว่ามันเวิร์คโดยการชักแม่น้ำทั้งสิบสายมาอ้างหาเหตุผลเลยทีเดียว ยิ่งลักษณะคุณเพชรกับเจนที่อ่อยไปอ่อยมาไม่มีอนาคตแบบนั้น คาดว่ากว่าจะได้กันก็คงพร้อมส่งน้องวินเข้ามหาวิทยาลัยนั่นแหละ และถ้าคุณรบเขาไม่ไล่ออกล่ะ อ่อยฟรีไหม ทำไมไม่มีใครคิดถึงข้อนี้….


“งั้นเจนว่าเจนคงต้องหาวิธีทำให้เขาให้ออกใหม่แล้วแหละ”


“ก็อยู่กับแม่ไปสักพักก็ได้”


“……….”


“ก็…..พอมีเจนมาอยู่ด้วยแล้ว แม่ก็ว่ามันก็…ดีเหมือนกันนะ”


“งุ้ย…”


“ห้ามแซว”


“นิดนึงนะ”


“เจน…..”


“งื้ออออออออ”


“เจน…นี่แม่ ไม่ใช่คุณเพชร ไม่ต้องทำตัวแบบนั้นก็ได้”


“เจนก็อยากให้แม่รักเจนมากกว่านี้นี่”


“แม่จะหมั่นไส้เจนมากกว่านะ”


“รักเราก็บอก ชอบเราก็พูด!”


“นี่แม่นะเจน”


“ถ้าแม่พูดงี้กับเจนตั้งแต่แรกนะ โหย….เจนจะเกาะแม่เป็นพยาธิเลย”


“สรุปไม่ลาออกไปทำงานข้างนอกแล้วเหรอ”


“………..”


“คิดดีๆนะ”  ก็อยากจะคิดให้ดีหรอก….


แต่ไอ้เจนก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไง…..


เจนเงียบลง….ก็จริงว่าพอแม่พูดว่าอยากให้อยู่ ไอ้เจนนี่ไม่มีความคิดอยากจะไปไหนขึ้นมาเลยครับ แต่อารมณ์เจนก็เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงยิ่งกว่ากราฟในตลาดหุ้นเสียอีก ในอนาคตความหมั่นไส้คุณรบก็อาจจะทำให้เลือดอยากลาออกร้อนขึ้นมาเหมือนเดิม และก็จบด้วยการมาฟัดลูกชายเขาแรงๆเป็นการแก้แค้นปนหมั่นเขี้ยวเนื้อแน่นๆหอมกลิ่นแป้งเด็กของน้องวิน สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ไปไหน อ่อยคุณเพชรแล้วไง….ต้องมาคิดหนักอีกว่ามันจะจริงจังไหม เพราะไอ้เจนไม่คิดจะจริงใจ….


ง่อวววว….ยากจุง….


“หรือเจนไปคุยกับคุณเพชรโดยตรงดี”  ทั้งๆนี้หากจะพูดว่านอกจากแม่แล้ว เจนมีใครที่พอจะช่วยเหลือได้ก็…มีคนเดียว…คนที่อ่อยอยู่….ซึ่งไว้ใจได้ไหม เผื่อๆอาจจะไว้ใจไม่ได้เล้ย!!!!!!!  แต่เขาคงไม่พ่นไฟใส่กันทันทีที่ไอ้เจนเริ่มจะอ้าปากออกมาเหมือนใครบางคน….


“แม่ว่าถ้าเจนอยากลาออก แล้วเจนแบบมีเหตุผลดีๆก็ไปคุยกับเขาได้ล่ะมั้ง แต่มาอ่อยกันไปอ่อยกันมาให้เขาไล่ออก….แม่ว่ามันไม่เวิร์ค”


“ผมก็ว่าไม่เวิร์ค”  เพราะมานั่งคิดดู…ขายอ้อยเก่งแบบนี้….เจนรับมือไม่ไหวจริงๆ


“ยิ่งคุณหญิงเหมือนจะอยากจับคู่ให้เจนและคุณเพชรด้วยแล้ว”


“………”


“เห็นคุณหญิงพูดมานะ…”


หะ…
เดี๋ยว…


“อะไรนะ!”


“เบาๆ คุณน้องวินตกใจแล้ว”  เจนรีบหันไปมองนายน้อยของตน น้องวินจ้องกลับ ยังคงเป็นเด็กที่นั่งเงียบมองผู้ใหญ่คุยกันโดยไม่แสดงความรำคาญใจแต่อย่างใด น่ากลัวว่าที่เจนพูดไปทั้งหมดนั้น….น้องวินคือคนที่เอาไปฟ้องเบื้องบนทั้งหมด….เป็นสายลับใช่ไหม บอกมานะเจ้าลูกกบ!


“แม่…แม่ว่าอะไรนะ”


“คุณหญิงอยากให้เจนกับคุณเพชรคบกัน”


“บ้าไปแล้วเหรอ”


“อ้าว…ก็เจนเล่นหูเล่นตาให้เขา”


“ผมจะเลิกเล่นแล้ว”


“ไม่ทันแล้ว คุณหญิงคิดเสร็จสรรพเลย”


“สรุปนี่คุณหญิงอยากให้ไอ้เจนมีปัญหาชู้สาวแล้วต้องออกไปเองเหรอแม่”  อีหยังวะ ปมซ้อนซ่อนเงื่อนเต็มไปหมด ไอ้เจนผูกพลอตไม่ทันแล้ว!


“ไม่หรอก คงอยากเห็นบรรยากาศบ้านดีๆเลยเชียร์ให้คนมีความรักมั้ง”


“ อยากเห็นพิศวาสฆาตกรรมกันเหรอ ฮัลโหลววว”


“เจนตลกอ่ะลูก”  กูไม่ตลกเลยครับ


“แม่ เจนไม่เอาคุณเพชรนะ”  เจนถือคติเจนอ่อยได้ ห้ามใครมาอ่อยเจน…


“ไม่รู้ล่ะ เรียนผูกก็เรียนแก้เอง ช่วยไม่ได้ คิดอะไรแผลงๆ”


“แต่เจนไม่เคยเริ่มก่อนเลยนะ”


“แล้วได้อ่อยกลับไหม”


“ก็….”  วันนี้เลยจ้า…ไอ้เจนใส่จริตไอดอลมองโอตะในงานไฮทัชไปขนาดนั้น คุณเพชรไม่ถูกตกให้มันรู้ไป แต่ไม่เอา….เจนไม่รับผิดชอบอะไรใครทั้งนั้น


เพราะฉะนั้นคุณหญิงอย่ามาขี้ชิป!!!


xxx


ขอความเมตตาให้มนุษย์ชื่อเจนด้วย….


“เฮ้อ”  ในระหว่างที่ว่าที่เจ้าของบ้านตัวน้อยกำลังหลับกลางวัน พี่เลี้ยงที่ข่มตาอู้งานหลับด้วยไม่ได้ก็ทำได้แค่ก่ายหน้าผากและถอนหายใจออกมา  ไม่คิดเลยว่าเรื่องตลกๆที่คิดว่าจะลองอ่อยคุณเพชรเพื่อให้เจ้าของบ้านเขาไล่ออกแบบจังหวะซิตคอม จะกลับมาทำให้ไอ้เจนคลั่งได้ขนาดนี้ ความขี้ชิปของมนุษย์ป้านี่ดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ถามสุขภาพไอ้เจนสักคำว่าอยากมีแฟนบ้างไหมเลย…


ทำไมเจนไม่อยากมีแฟนน่ะเหรอ….


“………”  ก็เพราะยังไม่มีอารมณ์ยังไงเล่า! ถึงจะดูลัลล้า ร่าเริง แต่เจนก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ร้องไห้ได้และเจ็บเป็นเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าคุณเพชรไม่ดี แต่เขายังไม่โดน ด้วยเพราะอะไรหลายๆอย่างในตอนนี้ทำให้เจนค่อนข้างจะปิดกั้นความรักอยู่บ้าง มันเลยทำให้รู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นว่าเป้าหมายกำลังอ่อยกันแรงๆจนมีคนเชียร์

จากที่เห็นว่าอ่อยเล่นๆเป็นงานอดิเรก พอมีคนมาเสนอเป็นงานประจำให้ทำ ทำให้ชีวิตฟรีแลนซ์สั่นคลอน เจนซึ่งไม่พร้อมจึงอดที่จะจิตตกไม่ได้ เพราะถึงจะนกเก่งยังไง แต่การพยายามหาความรักใหม่ๆมาทดแทนความรู้สึกที่เสียไปก็ดูไม่ใช่ทางเลือกที่ดี…เจนไม่ได้เป็นลูซเซอร์ หรือขาดความรักไม่ได้ขนาดนั้น และในเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องดิ้นรน และยังเหนื่อยกับชีวิตอยู่มาก แล้วทำไม…จะต้องพยายามดิ้นรนหรือเปิดรับความรักที่ไม่ใช่ให้เข้ามาด้วย  เจนไม่โง่ขนาดดูไม่ออกว่าตัวเองจะเอาตัวไม่รอด….


“พี่เจนครับ”   แต่ในขณะที่คิดเงียบๆอยู่คนเดียวก็มีเสียงใสของเด็กคนหนึ่งเรียก


“ครับ”  เจนหันไปมองก่อนจะเด้งตัวขึ้นนั่งเรียบร้อย เป็นน้องพายลูกของยัยป้าจิน หรือจินตนาที่วันก่อนเพิ่งจะก่อวอร์กันไปเจนได้คุยกับน้องบ้างและพบว่าคนเราจะเกิดมาเป็นอย่างไร ไม่จำเป็นต้องสืบสันดารบุพการีเลยจริงๆ พายเป็นเด็กนิสัยน่ารักแต่ดูเหมือนความน่ารักจะไม่เข้าตาแม่เท่าไหร่ แต่เด็กดีก็คือเด็กดี แม่ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร พี่เจนเข้าใจนะลูก อย่าน้อยใจโชคชะตาไป


“คุณหญิงให้ไปพบนะครับ”  โอเค…กูเกลียดมึงล่ะ ไปไกลๆเล้ย!


“พบพี่…พบทำไมเหรอ”


“ก็…ไม่ทราบสิครับ ท่านบอกให้พายมานั่งเฝ้าน้องแทนและให้พี่ไปหา”  เจนเหลือบมองเจ้ากบน้อยที่ยังหลับอยู่ก่อนจะหันไปตอบตกลงอีกฝ่ายแม้ในใจจะต่อต้านราวกับจะก่อม็อบประท้วงรัฐบาล ทว่าทำอะไรได้ไหม ก็ไม่ได้ไง…อยากจะเอาหัวโหม่งพื้นและแกล้งตายไปเลยเหมือนกัน แต่ลงทุนแบบนั้นไม่คุ้มเลย เพราะงั้นไปเผชิญหน้ากับมันสักตั้งและร้องไห้ออกมาดังๆถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรดีกว่า คิดได้ดังนั้นเจ้าของมันสมองอันปราดเปรื่องจึงตรงไปหาคุณหญิงท่าน ในใจภาวนาไว้ว่าอย่าให้เกิดเรื่องร้ายๆใดๆ แต่ช่วงนี้เจนดวงตกหนัก เคราะห์กรรมยังใช้ไม่หมด และมีแนวโน้มว่าต้องชดใช้ต่อๆไป


ดังนั้นทันทีที่ได้เจอหน้า คุณหญิงจึงไม่แม้แต่จะกล่าวคำทักทายให้ชื่นใจ


“เธอช่วยเอาเอกสารในซองนี้ไปให้คุณเพชรที่บริษัทได้ไหม”


“……….”  ถ้าไอ้เจนได้รับอนุญาตให้สบถได้ คุณหญิงคงต้องสั่งคนมาไล่ต้อนสัตว์เลื้อยคลานออกไปจากบ้านทันที


“มันเป็นเอกสารสำคัญ ไม่มีใครว่างเลย เธอไปให้หน่อยได้ไหม”


“ละ…แล้ว น้องพายล่ะครับ”


“พายเหรอ…ฉันไม่อยากให้พายไปน่ะ เธอดูจะคล่องกว่า”  คล่องอะไรครับ ถึงไอ้เจนจะเป็นปลาไหล แต่เจออีคุณเพชรไปนี่เจนกลายร่างเป็นปลาไหลไฟฟ้าได้เพราะมุกอ่อยมันเลยนะครับ


“น่า…ไปไม่นาน เธอเองก็ไม่ค่อยได้ไปไหน เปิดหูเปิดตาหลังจากส่งเอกสารก็ได้นะฉันอนุญาต”  ขายเก่ง ขายหนักมากอีตาคุณเพชรเนี่ย ชงเก่งกว่าใครก็คุณหญิงนี่แหละ


“เอางั้น….ก็ได้ครับ”


“นี่เอกสาร ส่งให้ถึงมือตารบหรือไม่ก็คุณเพชรเลยนะจ้ะ ห้าม! ส่งให้ใครเด็ดขาด”  ตอนแรกเจนก็คิดว่าเป็นมุกชงเกลื่อนกลาดของพวกขี้ชิป แต่เมื่อเห็นตราประทับคำว่า ‘เอกสารสำคัญ’ ที่หน้าซองเอกสารซึ่งถูกปิดผนึกอย่างดีก็พอเข้าใจ เออเอกสารสำคัญที่ถ้าไม่ไว้ใจก็ไม่กล้าให้ส่งมอบ ว่าแต่เจนนี่ไว้ใจได้แล้วเหรอถึงได้ยื่นให้งี้อ่ะ เจ้าของดวงตาใสมองคุณพรรณีด้วยความสงสัย สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มหนึ่งอัตรา


“เป็นผมจะดีเหรอครับ”  เจนยังไม่แน่ใจในตัวเองบางเรื่อง แล้วมันจะดีเหรอครับ


“ฉันไว้ใจแม่อำไพ” ถ้าไม่แปลว่าไว้ใจในตัวแม่ ก็เหมือนกับไว้ใจในตัวลูกล่ะก็…. อีกทางที่คิดได้นั่นคือ คุณพรรณีกำลังใช้แม่เป็นตัวประกัน  แม้เจนไม่รู้ว่าเอกสารข้างในคืออะไร แต่เจนก็รู้ว่าคุณพรรณีกล้าเอามันมาใช้ทดสอบกันโดยเอาแม่เป็นตัวประกันเพื่อพิสูจน์ตัวเจน


 เพราะลูกและแม่คือคนละคน และยิ่งเจนเป็นลูกที่แม่ไม่ได้เลี้ยง ไม่มีใครบอกได้เลยว่าเจนรักแม่แค่ไหน และไม่มีใครบอกได้ว่าเจนจะซื่อสัตย์กับแม่ไหม และเพราะไม่มีใครบอกได้….คุณพรรณีจึงเลือกที่จะใช้แม่เป็นเดิมพันพิสูจน์ความซื่อสัตย์ของเจนรักษ์ครั้งนี้ และถ้าเจนรักแม่…เจนจะไม่ทรยศคุณพรรณี เพราะเจน…ไม่อาจจะทรยศคนที่เจนรักซึ่งคือแม่ได้…


มันน่าเจ็บใจแต่ก็สะใจนักเชียว!


“ครับ ผมจะรีบนำไปให้ ที่อยู่ตามนี้เลยใช่ไหมครับ”  เจนชี้ไปที่หน้าซอง


“เดี๋ยวจะมีรถบริษัทมารับ ใกล้จะถึงแล้วล่ะ”


“ทราบแล้วครับ ผมจะรีบไป”


“ขอบคุณเจนมากนะ”


“ไม่เป็นไรเลยครับ”  แค่ได้รู้ว่าเจตนาคือการวัดคุณค่าของกันแบบนี้เจนก็สบายใจ

“ขากลับก็ไปพักเถอะ วันนี้ฉันจะอยู่เลี้ยงหลานเอง”


“ขอบคุณมากนะครับ”  เจนประนมมือเตรียมไหว้


“แล้วจะให้คุณเพชรขับมาส่งก็ได้นะ พี่เขาคงยินดี”  โอ้ยแม่ง…กูไหว้เก้อเลยครับ….


พวกขี้ชิปไม่ดูเวล่ำเวลาเอ้ย!

xxx

ณ.ตึกรัตนสกุล….


เจนรู้สึกเหมือนสถานที่แบบนี้มันทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย ส่วนหนึ่ง เจนก็เคยทำงานบนตึกสูงมาก่อน แต่พอพ้นจากสภาพพนักงานออฟฟิศ อารมณ์โหยหาบรรยากาศเก่าๆก็พุ่งเข้าสู่ความคิด อา….นี่ไม่คิดเลยว่าสมัยที่ทำทุกวันเราจะเห็นมันจนชินตา เบื่อหน่าย แต่พอออกมา เรากลับรู้สึกคะนึงหาแบบบอกไม่ถูก เมื่อเห็นคนใส่สูทเดินไปมา ก็อดคิดไม่ได้ว่าสมัยนั้นเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน


กินของขม…นึกชื่นชมอดีต…เขาว่าสองสิ่งนี้พิสูจน์ว่ามักเป็นเรื่องที่คนมีอายุชอบทำ…


“……..”  เจน…ยังเอ๊าะอยู่เฟ้ย! เดี๋ยวเตะปี๊ปใส่เลยแม่ง!


พอๆ ไอ้เจน! จงกลับมามีสาระ! ออกคาถาคำสั่งให้ตัวเองก่อนจะฟันเท้าฉับๆเดินไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ บอกความต้องการมาพบอีตาคนขายอ้อยเสร็จสรรพก็เฝ้ารอให้พนักงานโทรศัพท์ไปบอก จ้องมองรอบๆอย่างสนใจเพียงครู่ก่อนจะได้รับการตอบกลับว่าจะมีพนักงานมาพาไปนั่งรอที่ห้องรับรอง แต่รอไม่นานเลยพนักงานคนนั้นก็เดินมารับกัน เจนรักษ์เผลอมองไปรอบๆ เป็นออฟฟิศที่ตกแต่งสวยงามทันสมัยจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมานานแล้ว พนักงานสาวท่าทางดูมีอัธยาศัยดีเชื้อเชิญให้เจนเข้าไปในห้องๆหนึ่ง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไป…


สัญญาณการก่อสงครามในใจก็ดังขึ้นมา….ปี๊บๆๆๆๆๆๆๆ


“นั่นใครน่ะ”


“……..” 


“ฉันถามว่านั่นใครนะ คุณวดี”  คุณวดีนี่คงหมายถึงพนักงานสาวที่พาเจนมา เจนรักษ์หันไปมองผู้มาใหม่ เธอเป็นหญิงสาวร่างเพรียวท่าทางเกรี้ยวกราดราวกับนางร้ายในละคร


เว้ยยยย นี่เรากำลังจะได้เป็นนางเอกหรือนี่!!


“เอ่อ คุณเขามาพบคุณเพชรนะค่ะ”


“มาพบคุณเพชร มาทำไม”  แล้วมันเรื่องของหล่อนเหรอ ไม่ได้ๆ เป็นนางเอกต้องไม่ถามแบบนี้ เราต้องบีบน้ำตา


“เผอิญคุณหญิงให้ผมนำเอกสารสำคัญมาให้นะครับ”  ดังนั้นข้อความในหัวข้างต้นจึงไม่ได้บอกออกไป แม้เจนรักษ์จะคันปากจะแย่แล้ว


“เอกสารสำคัญ ทำไมคุณหญิงต้องฝากนายมา”


“ก็คงเพราะสำคัญล่ะมั้งครับ”  สักหน่อยเหอะวะ อยากมานานล่ะ


“สำคัญตัวผิดนะสิ”


“ผมหมายถึงเอกสารนะครับ ที่สำคัญ ส่วนเรื่องตัวนี่ก็ขึ้นอยู่กับความกรุณา” แต่ถ้าไม่สำคัญ จะได้ถือไหมไอ้เอกสารซองนี้


“ถ้างั้นเอามานี่ เดี๋ยวเอาไปให้ ฉันเป็นเลขาคุณรบเหมือนกัน”


“เอ่อคุณรฐาคะ”  วดีจะพูดบางอย่าง หากแต่ถูกใบหน้าถมึงทึ้งหยุดเอาไว้ เจนรักษ์ประเมินสถานการณ์รอบตัว จะส่งเอกสารให้ก็ย่อมได้ถ้าเจนไม่คิดอะไร แต่เพราะเจนคิด…คิดได้ว่าคุณหญิงบอกให้ส่งให้แค่คุณนักรบไม่ก็คุณเพชรเท่านั้น และไม่เคยพูดเรื่องเลขาอีกคนมาก่อน เพราะฉะนั้น….


“ไม่ครับ”


“………..”


“ผมขออนุญาตรอคุณเพชรในห้องนะครับ”  เจนไม่รอช้าเปิดประตูห้องรับรองด้วยตนเอง


แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าไป เจนรักษ์ก็ไม่รอให้อีกฝ่ายรั้งไว้…


“รบกวนไปบอกคุณเพชรด้วยนะครับ”


“ค่ะ…ค่ะ”  คุณวดีดูจะยังไม่ทันกันนัก แหงล่ะ ไม่ได้เตี๊ยมไว้


“ว่าเอกสารนี่มาเอากับผมเอง”


“แต่ฉันบอกแล้วไง”  แม่ดาวร้ายดาวไลน์อะไรนี่กำลังจะเถียง แต่ขอโทษ…หล่อนไม่ได้อยู่ในบทสนทนา


“ถ้าไม่ใช่คุณเพชรมาเอาหรือใครแอบอ้าง”  เจนรักษ์เหลือบมองอีกคนที่ทำรู้ดี เออ! งั้นจะให้ได้รู้ดีกว่าเพราะเรื่องแอบอ้าง…


เจนก็เก่งมากเหมือนกัน…


“ผมจะโทรบอกคุณรบทันที”  มึงมีเบอร์เขาที่ไหนล่ะ ไอ้สิบเก้ามงกุฏ!!!


แต่เป็นอันว่าเรื่องที่โกหกไปมีควายเชื่อ เจนรักษ์ได้มานั่งพักอยู่ในห้องรับรองพร้อมความตื่นเต้นระดับสิบ ไม่ได้ก่อวอร์มานาน เพราะจะก่อทีไรก็มักมีเรื่องมายับยั้งไว้ทุกที แต่กับคุณเลขาสาวนั่นเจนรักษ์ห้ามตัวเองไม่อยู่จริงๆ ด้วยเคยอยู่ในวิชาชีพนั้นๆมันทำให้เจนมองอะไรออกอย่างง่ายดาย บางทีเธออาจจะเป็นเลขาที่อยากมีอะไรมากกว่าเรื่องงานกับเจ้านายก็ได้ ไอ้เจนรู้ ไอ้เจนดูออก เพราะไอ้เจนเคยทำ แต่เสียใจด้วย คุณนักรบที่มองคนทุกคนยกเว้นคนในครอบครัวเป็นกิ้งกือคนนั้น คงต้องบนหนักๆหน่อยล่ะถึงจะได้กิน!


เจนคิดไปเรื่อยเปื่อยพร้อมกับนั่งหันหลังมองวิวข้างนอก คุณเพชรคงใช้เวลาสักพักกว่าจะมาเพราะได้ยินว่ามีประชุม แค่คิดว่าต้องได้เจอก็เบื่อหน่ายแล้ว คนอะไรจะขายอ้อยเก่งขนาดนี้ เจนนั้นนั่งนินทาชาวบ้านในใจไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะสะดุ้งโหยงเพราะมือถือในมือตนส่งเสียงดังลั่น เป็นเบอร์จากที่อเมริกาโทรมา ตัวจุ้นเหรอ ว่าแต่…ทำไมไม่โทรไลน์มา ไหนบ่นว่ามันเปลืองไง  หรือจะมีอะไรเร่งด่วน….


เกิดอะไรขึ้น……


“ว่าไงจุ้น”


“……..”


“จุ้น”


“Jean” จีน


“……….”


“Can we talk?”  คุยได้ไหม


“William?”


“Yes”


“…….”


“It’s me”  ผมเอง


“It’s me”





Tbc


Talk: แงงงงงงงงงงงงงงงงงง จริงๆเราแต่งนำไปบ้างแล้วแต่จะตามมาตรวจก่อนลง ทีนี้พอมาตรวจตอนนี้ก็พบว่า….ครึ่งหลังหายไปปปปปปปปปปปปปปปปปป เลยต้องมาแต่งเพิ่มเลย ฮืออออออออออ







หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 26-06-2018 20:27:40
ชอบความคุยกันของสองแม่ลูก ตลกกกก
555555 รอติดตามนะงับบบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 26-06-2018 20:29:01
อ่ะ ผู้เก่าโทรมาทำมายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-06-2018 21:15:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 26-06-2018 21:39:46
อุ้ยๆๆๆวายยยย  ทิ้งระเบิดรอตามอีกแล้วว เค้าจะคุยเรื่องอะไรกันน :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 26-06-2018 21:59:14
 :z6: 1ป้าบสำหรับวิลเลี่ยม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-06-2018 22:29:06
รอครึ่งหลัง   :z3: :z3: :z3:

นางร้ายโผล่มาแล้ว  อยู่ๆมาทำต้วร้ายๆ เลวๆ  เชอะส์.......
ดีที่เจนฉลาด มำทำแอบอ้างรับเอกสาร
ทั้งที่ปากจิกกัดเจนไปก่อนแล้ว ว้ายๆๆ น่าเกลียดนะนาง  :m20: :laugh:

ว่าแต่แฟนเก่าเจน โทรมาทำพรื้อออออ :m16: :m16: :m16:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 27-06-2018 00:01:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-06-2018 09:01:32
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 27-06-2018 09:02:50
อู้วววววว
ทำไงล่ะเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 27-06-2018 12:24:27
เจนน่ารักอ่ะ ชอบ!!!
คนเขียน เขียนดี ภาษาลื่น อรรถรสมากค่ะ
รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 8] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 26.6.2018 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 27-06-2018 15:34:00
สนุกโคตรรรรรร ชอบบบบบบบบบบ มาต่อไวๆน้า
หัวข้อ: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 27-06-2018 20:12:29
#เจนไม่นก
จีน…ไม่ใช่เจน….






“It’s been a while”  มันก็สักพักแล้ว….ใช่….


ตั้งแต่ที่ไอ้เจนไปขโมยนาฬิกาแม่งไปขาย!


“I have nothing to talk”  แต่เจนไม่มีอะไรจะคุยด้วย โดยเฉพาะเรื่องนาฬิกา อย่าบอกว่าไปยืมเพื่อนมา เพราะเจนไม่เชื่อ


“Why you quit the job?”  ทำไมคุณลาออกจากงาน


“Obviously, I hate being  your secretary” มันชัดเจนมาก! ว่าผมเกลียดการเป็นเลขาของคุณ
 ใช่ เจนเกลียดการเป็นเลขาที่ไม่รู้อะไรเลยและไม่ชอบเป็นเลขาที่เป็นชู้กับเจ้านายที่มีเมียอยู่แล้วด้วย


“Jean, we need to talk” จีน เราต้องคุยกัน


“No need to discuss anymore.  Actually, I done talking with the person like you”  เราไม่จำเป็นต้องคุยกันอีกแล้ว จริงๆแล้วผมไม่มีอะไรจะคุยกับคนแบบคุณอีก


“…..”


“So, let me remind you that I quite being  your secretary and lover. Go fuck yourself and do not call me again” งั้นให้ผมเตือนคุณอีกครั้งว่าผมลาออกจากการเป็นเลขาและชู้แล้ว ไปตายซะแล้วอย่าโทรหาผมอีก


“…..”


“But if  you want your rich wife hear what we talk, I will give you a very nice sex phone”  แต่ถ้าคุณอยากให้เมียผู้ร่ำรวยของคุณได้ยินที่เราคุยกัน ผมจะใจดีให้เซ็กส์โฟนเด็ดๆกับคุณ
ในประโยคนี้เจนพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุด แม้ในความเป็นจริง เจนจะเกลียดมากและไม่สามารถทำเซ็กส์โฟนในสถานที่แบบนี้ได้ แต่ก็ดีใจที่ได้ขู่กลับ วิลเลี่ยมไม่มีทางอยากให้เมียตัวเองรู้ว่ามีความสัมพันธ์กับเจนแบบไหน และก็รู้ว่าที่สุดแล้ว…เจนกล้าทำแบบที่พูดเพราะในฐานะเลขา เจนเก็บทุกข้อมูลส่วนตัวของเขาไว้ แต่ที่วิลเลี่ยมไม่รู้ คือเจนเอาไปฝังไว้ในสวนหลังบ้านของเขาให้แล้ว ภาวนาให้คุณเมียไม่อยากจัดสวนใหม่ละกัน


“Jean”


“Bye”   เจนพูดชัดเจนด้วยโทนเสียงเหนื่อยหน่าย เบื่อที่จะได้ยินคนเรียกกันว่าจีน แม้ว่านั่นจะเป็นชื่อที่เจนบอกให้คนทางนั้นเรียก แต่ก็ไม่อยากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพราะเปลืองและวุ่นวาย ดังนั้นพูดให้ชัดเจนแกมขู่เข็ญไว้นั่นแหละดีแล้ว คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตา วันนี้รู้สึกจะก่อวอร์ออกไปเยอะมาก เจนต้องเข้มแข็งมานะ เอาล่ะลุกขึ้นมาสู้….เดี๋ยวอีตาคุณเพชรก็จะมาขายอ้อยอีก เจนต้องสู้เอาอ้อยตีหัวมันกลับนะ ลืมตาและกลับหลังหันมาเผชิญหน้าความเป็นจริงสักที



และเลิกนั่งหันหลังแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวมีคน…เดิน…เข้ามา….


“……….”


“………..”


“สวัสดีครับ คุณเจน”


“………..”


“Nice to meet you ครับ I mean….who are you again?”  กวนตีนแล้วอีคุณเพชร


“คุณเพชรครับ” 


“ครับคุณเจน”


“กวนตีนเก่งนะครับ”  มา! ไอ้เจนพร้อมแล้ว สงครามครั้งใหม่กำลังจะวิบัติขึ้น เจนแม่งไม่สนเxยอะไรอีกแล้วครับท่าน เอาให้ฟ้าถล่มดินทลายกันไปข้าง และจะจบด้วยการที่ไอ้เจนเดินไปเก็บเสื้อผ้า ได้หอมแก้มเจ้ากบน้อยอีกสักครั้งและจากไปก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็สะใจได้เอาอ้อยตีหัวคนสักที


“โอ้ว พูดตรงแบบนี้  I’m hurt นะครับ”  ยัง…ยังกวนตีนอยู่อีก


“ผมเอาเอกสารมาส่งให้ นี่ครับ”


“แตงกิ้วเวรี่มัช”


“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไม่ได้เปิดดู ไม่ได้อยากเห็นอะไรข้างใน”


“ขอบคุณที่บอกนะครับ”  คุณเพชรยิ้มพลางรับเอกสารจากมือไป


“ถ้างั้นผมกลับละนะครับ”


“เดี๋ยวก่อนสิครับ”  แต่เป็นรอยยิ้มนั้นที่เรียกเจนไว้


“ว่าไงล่ะครับ อย่าช้า”  เจนจะไปช้อปแก้เครียด


“ไม่เห็นในใบสมัครเขียนเลยนะครับว่าเราเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ”


“เป็นอดีตเพื่อนร่วมวิชาชีพครับ และอีกอย่าง….ผมเป็นเด็กเส้น ไม่ได้กรอกเอกสารอะไร”  เส้นใหญ่ระดับคนใช้กิตติมศักดิ์ของบ้าน ใบสมัครอะไรไม่ได้เขียนหรอก ใช้หน้าตาออดิชั่นผ่านมาล้วนๆเลยครับ


“โอ้ งั้นทางเราต้องสัมภาษณ์ก่อนไหมครับ ควรจะเริ่มด้วยการศึกษาระดับมัธยมต้นหรือเปล่า”


“ครับ….จบมัธยมต้นที่ประเทศไทย”


“แล้วมัธยมปลายล่ะครับ”


“จบไฮสคูลและเรียนมหาลัยที่อเมริกาครับ เริ่มงานเป็นเลขาและเป็นมาตลอดจนกระทั่งลาออกแล้วมาเป็นพี่เลี้ยงน้องวิน”  เจนพูดทุกอย่างชัดเจน จริงๆก็ไม่ได้มีเจตนาจะปิดบัง แค่ก่อนนี้ไม่อยากจะพูดอะไรให้มันดูเว่อร์เพราะคิดถึงความรู้สึกของแม่ที่มีต่อคนอื่น เดี๋ยวเขาจะหาว่าขี้อวดทั้งๆที่โคตรกาก….ท่าทางเด๋อๆของเด็กที่ไปปีนต้นไม้ชาวบ้านเขาดูน่าเชื่อถือนักแหละ


“เพราะงั้นถึงได้อ่านสัญญาภาษาไทยไม่เก่งใช่ไหมครับ”


“ก็ประมาณนั้นครับ” เก็บทุกเม็ดเลยนะอีตาคุณเพชรเนี่ย เจ้าคิดเจ้าแค้นเก่ง


“ผมขออนุญาตถามประวัติที่ทำงานเก่าได้ไหมครับ”


“ถ้าทางรัตนสกุลไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลาสติกก็ไม่น่าใช่คู่แข่งทางการค้าอะไรหรอกครับ”


“แหม….กำลังคิดว่าจะลงทุนด้านนี้พอดีเลย”


“……….”


“ล้อเล่นนะครับ”


“ไม่ต้องไว้ใจผมก็ได้ครับ แต่ผมไม่ได้มีจิตคิดร้ายหรือเป็นคนที่คู่แข่งส่งมา”


“ไม่คิดหรอกครับ คนที่อยากจะออกแต่บอกออกเองไม่ได้จนอยากให้เจ้านายลาออกแบบนี้….คงไม่ใช่คนที่คู่แข่งส่งมา”


“โห….ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนเรื่องชู้สาวให้ผมมาตลอดสัปดาห์นะครับ” 


“อ๋อ ที่อ่อยนี่ความเต็มใจครับ เห็นน่ารักดี แต่ปากจัดแบบนี้คงขายอ้อยไม่ลงแล้วครับ ผมกลัวคุณเจนวิ่งไปเอามีดมาปาดคอ”


“ปากดีแบบนี้มีดไม่ทันใจผมเลยครับ ขออนุญาตทุ่มแจกันอันนั้นใส่หัวได้ไหมครับ”  เจนชี้  ได้คำอนุญาตปุ๊ป ก็กะจะทุ่มปั๊ป!


“อันโปรดคุณหญิงครับ อย่าเลย เรามาคุยกันดีๆดีกว่า”  อิหยังวะ!  จะมาคุยดีๆด้วย


แต่เจนก็ยอมนั่งลงและพูดคุยด้วยแต่ดีกับเพื่อนร่วมวิชาชีพ  จากที่ตั้งใจเอาเอกสารมาให้แล้วก็ไปช้อปปิ้ง กลายเป็นต้องมานั่งฟังเลขาบ่นเรื่องงานให้ฟังหนึ่งอัตรา ฮ่วยยยยยยย นี่มันชีวิตอะไรของกูเนี่ย หนีจากงานเลขามาให้เลขาบ่นเจ้านายให้ฟังหรือไง ไม่พอใจอะไรงานก็ไปบอกเจ้านายสิ มาบอกไอ้เจนทำไม พูดไปกูเพิ่มเงินเดือนให้มึงได้เหรอ เออไม่ได้….แต่เข้าใจความอัดอั้นก็ได้วะ เจนก็เคย เจนก็โดน


“แล้วตอนผมทำเสร็จหมดนะ คุณรบก็บอกไม่ใช้”


“…..เออเข้าใจเลย ตอนนั้นผมก็อยากเอาที่เขี่ยบุหรี่ตบหน้าเจ้านายเหมือนกัน” ถ้าไม่ติดว่าตอนนั้นรักมันมาก มันได้ตายเพราะที่เขี่ยบุหรี่แล้วจริงๆ


“โห….ทำไมวิธีรุนแรงจัง”  อ้าว…เข้ากูซะงั้น


“ได้แค่คิดไหม ถ้าทำ…ผมไม่ได้มานั่งฟังคุณบ่นปนขิงเจ้านายให้ฟังแบบนี้หรอก”  คงได้ไปจัดแฟชั่นโชว์ชุดส้มที่เรือนจำสักแห่งในประเทศโลกเสรี


“ดีใจที่คุณเจนเข้าใจผมนะ ว่าแต่มีแผนจะบอกคุณเจ้านายเรื่องวุฒิการศึกษาใหม่ไหม”


“ก็ไม่เป็นพิเศษ งานนี้ไม่ได้ขอระดับการศึกษาอะไรนี่ แถม…ผมขี้เกียจไปอธิบายคุณรบว่าทำไมจบปริญญาตรีมาแต่โง่ด้วย”  โชว์โง่ตั้งแต่วันเซ็นสัญญา ใครจะอยากไปบอกวะว่าจบมหาลัยไหนให้สถาบันอับอาย


แต่คุยกันอีกไม่กี่คำ คุณเพชรก็โดนคุณรบจิกหัวให้กลับไปทำงาน เออ อีพวกขี้เม้าท์ต้องเจอแบบนี้ เจนก็จะได้ไปช้อปเสียที รำคาญ…พอออกมาจากบริษัทคุณรบโดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องก่อวอร์กับใครให้เสียพลังงานอีก เจนรักษ์ก็ใช้เวลาที่ได้มาอย่างคุ้มค่า โทรเข้าไปเช็คสถานการณ์ในบ้านรัตนสกุลว่ามีความจำเป็นต้องให้เจนกลับไปเร็วๆนี้ไหม ถ้าไม่ เจนจะไปคลายอาการเก็บกดโดยการใช้เงิน!


แต่เหมือนอารมณ์การช้อปปิ้งจะมาไม่เต็มที่ เจนเพิ่งค้นพบว่าตัวเองร้างราการล้างผลาญเงินมาพอควร เดิมที่เจนไม่ใช่คนสิ้นเปลืองด้วยฐานะที่ไม่เอื้อเฟือให้ล้างผลาญจนชิน แต่พอมีเงินก็ใช้เงินในการซื้อของที่ต้องการเพื่อชดเชยในช่วงเวลาที่ทำไม่ได้ก่อนหน้านี้ และค้นพบได้ภายหลังว่าการใช้เงินคือการคลายเครียดให้กับตัวเองได้อย่างดีทีเดียว แต่ในช่วงปีหลังๆมานี้เพราะงานการที่เพิ่มขึ้นทั้งงานราษฏร์และหลวงทำให้ไม่ค่อยมีเวลากับการเดินไปมาเข้าออกร้านนั้นนี้อย่างเพลินใจ ถ้ามีความต้องการอะไรก็มักจะเป็นสิ่งที่ซื้อซ้ำๆและหาได้ใกล้ๆที่พักหรือซื้อออนไลน์เอา


บิ้วตัวเองอยู่ 10นาทีก็ไม่ค่อยอินเท่าไหร่จึงคิดว่าตนควรจะลองปรับแนวทางการซื้อของ เพราะอย่างไรเจนก็คิดว่าการซื้อของคือทางออกของสถานการณ์ความเครียดที่ตนต้องเผชิญ และโดยไม่รู้ตัว…เจนก็เดินเลี้ยวเข้าร้านหนังสือซะงั้น เจนอาจจะมีปัญหากับการอ่านภาษาไทยในระดับบิสเนส แต่โดยพื้นฐานที่อ่านเขียนออกเพราะเรียนจนจบมัธยมตอนต้น การศึกษาเพิ่มเติมคงพอช่วยพัฒนาความสามารถ และถ้าวันใดวันหนึ่งที่มีความมั่นใจแล้ว แน่นอนว่าเจนจะเดินไปหาคุณรบคนแรก….


ยื่นวุฒิการศึกษาที่แท้ทรูให้ดูและบอกว่าคุณถูกหลอกแล้ว แฮ่….


แต่เจนก็คิดไม่ออกว่าคุณรบจะทำสีหน้ายังไง บางทีเขาอาจจะไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อยและก้มลงทำงานของเขาต่อ ไอ้เจนจะจบจากที่ไหนมันใช่เรื่องของเขาเหรอ สติปัญญาก็ไม่ได้มาขอหยิบยืมสักหน่อย อย่างดีก็ช่วยให้เขามั่นใจว่าเจนจะพอเลี้ยงลูกเขาได้โดยแยกถังดับเพลิงกับถังน้ำออก แค่นั้นแหละ….ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย….


หืม….


“หนังสือนิทานเด็กเหรอ”  อยู่ๆหนังสือวิชาการในมือก็ถูกเก็บเข้าชั้น พอนึกถึงน้องวินขึ้นมา ทำไปทำมา เจนก็เอาแต่เปิดหนังสือเด็กเล่มนั้นนี้และหยิบไปจ่ายเงิน เออ….การใช้เงินคลายเครียดก็เรื่องนึง แต่การเอาเงินไปใช้ซื้อของให้ลูกชาวบ้านนี่….มันใช่เหรอวะ ไอ้เจน!!!


หมดคำพูด กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองพิถีพิถันเลือกและจ่ายเงินเองทั้งหมดทำให้เจนหมดคำพูดจริงๆ เจนให้ความสำคัญกับน้องวินอันนี้ไม่เถียง แต่ไม่คิดเลยว่าจะหลงถึงขั้นคิดว่าจะซื้อหนังสือมาอ่านให้ฟังจะได้หลงกันกลับบ้าง แบบนี้ ไอ้ตัวจุ้นรู้ต้องหัวเราะใส่หน้าดังๆ เจนรักษ์ละแล้วซึ่งแผงอกแน่นๆของหนุ่มหล่อร่างสูงใหญ่ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาหนังสือนิทานและพุงกลมๆของเด็กที่หัวเราะได้ทั้งวันแบบนั้น


แค่คิด….ภาพคุณรบจับกันเข้าซังเตก็ซ้อนขึ้นมา


“…….”  กลับบ้านเถอะไอ้เจน วันนี้ไม่ไหวแล้วว่ะ คนตัวเล็กสะบัดหัวเบาๆก่อนจะเดินออกจากร้านหนังสือ แต่ยังไม่ได้กลับบ้านก็ดันแวะเข้าแผนกเด็กอีก ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้เจน….


อีกนิดแกต้องมีแผนการในการลักพาตัวเด็กให้คุณนักรบมาแหกอกถึงแหล่งกบดานแน่ๆ!


xxx


“อ้าว ทำไมกลับมาเร็วล่ะเจน”


“ต้องกลับแม่ ไม่งั้นลูกแม่กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ”  กู่ไม่กลับทางความคิด ปกติก็คิดเป็นล้านสิ่งในวินาทีเดียวอยู่แล้ว แต่ไอ้ความคิดประเภทก่ออาชญากรรมนี่ไม่สมควรให้เดินเตร็ดเตร่อยู่คนเดียวต่อไปจริงๆ จำเป็นต้องยืมมือคนอื่นมาดึงสติ และแม่คือคนที่เจนคิดถึงเป็นคนแรก หลังจากวางถุงใส่หนังสือ ร่างเล็กของลูกชายคุณอำไพก็เดินไปล้างมือเพราะอยากให้เชื้อโรคที่ตนได้รับมาถูกชะล้างก่อนที่จะแตะต้องตัวหนูวิน แม้จะกันไม่ได้หมด แต่พยายามเลี่ยงเท่าที่จะทำได้


เจนเดินข้ามคอกของน้องวินเข้าไปข้างใน เห็นน้องวินกำลังนั่งมองกันตาแป๋ว คงจะยังงงว่านี่ใช่เจนหรือเปล่า ใช่เจนไหม ทำไมเจนไม่ยิ้มสดใสและวิ่งมาฟัดน้องวินล่ะ จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าเจนไม่อยากฟัด แต่เพราะตนออกไปข้างนอกมา แม้จะล้างมือแล้ว แต่เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยนอยู่ดี ดังนั้นเป้าหมายของเจนจากน้องวินจึงเปลี่ยนเป็นตักของแม่ นานๆทีก็ขอหน่อย….ร่างเล็กค่อยๆทรุดลงนั่ง ก่อนที่จะเอนหัวตัวเองลงบนตักที่ตนจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายนี้มันเมื่อไหร่กัน


น่าจะเป็นตอนเด็กมากๆที่แม่จับเจนนอนแบบนี้หลังจากที่กลับจากไปเที่ยวเล่นแถวลานวัด….


“แม่”


“อะไรล่ะลูกคนนี้”


“เจนเหนื่อย”


“อยากลาออกอีกแล้วเหรอ”


“เปล่า”


“………”


“เจนแค่ไปเที่ยวมาเหนื่อย เลยอยากอ้อนแม่”  จริงๆมันมีเรื่องมากมายกว่านั้น วันนี้เจนรักษ์คนนิสัยไม่ดีได้ก่อเรื่องมากมาย แม้ตอนนั้นจะคิดว่าคนพวกนั้นไม่น่าสนน่าแคร์ แต่สุดท้ายแล้วเจนที่แคร์ตัวเองที่สุดก็กลับมาเป็นกังวลว่ามันจะดีแล้วเหรอ ถึงเจนจะเป็นตัวร้ายสำหรับทุกคน แต่เจน….ก็เป็นมนุษย์ที่เหนื่อยเป็น


เหนื่อยจะต่อล้อต่อเถียงกับป้าจิน พนักงานที่เจอหน้าห้องรับรอง วิลเลี่ยมที่โทรมา คุณเพชรที่รับรู้ความจริง
และความคิดของตัวเอง…..


“อ้อนเป็นด้วยเหรอเรา”


“อ้อนเก่งกว่าน้องวินด้วย คอยดูสิ”  แม่ต้องหลงเจนมากกว่าหลงรักลูกชายบ้านรัตนสกุลทั้งคนพ่อและลูก


“แม่รู้แล้วนี่ พ่อคนขี้อ้อน”  แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะตบบ่าเจนเบาๆ หากเป็นแต่ก่อนคนจะตบก้นเบาๆกล่อมนอน แต่นี่เจนโตขึ้น เธอก็ไม่สามารถเอื้อมถึงแล้วเช่นกัน แม้จะตัวเล็กกว่าผู้ชายทั่วไป แต่ก็เติบโตจนเธอจะทำเช่นนั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว


ภาพของสองแม่ลูกในสายตาไร้เดียงสาของเด็กน้อยนั้นทำให้น้องวินคลานเข้ามาหา เจนนั้นจ้องมองดวงตาที่มองมาโดยไร้คำพูด มันเป็นช่วงเวลาที่….อบอุ่นและเงียบสงบในความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จ้องมองเงียบๆไม่มีใครพูดอะไร แค่มองหน้าน้องวินก็เพลิดเพลินเหลือเกินจนต้องยิ้มออกมา และเมื่อพี่เจนยิ้ม น้องวินก็ยิ้มกว้างโชว์เงือกสีชมพูอ่อนออกมาก่อนจะรีบคลานเข้าไปหา


“ไม่ได้นะครับน้องวิน”  เจนจะผลักไส แต่ไม่ทันแล้วเมื่อน้องวินนั้นถลาเข้าหาเต็มอก แม้ใจจะแย้งเพราะไม่อยากให้น้องวินไม่สบายภายหลังเพราะเจนยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ความรู้สึกเมื่อถูกคนโถมเข้ากอดนั้นทำให้กำลังใจที่อยู่ต่ำกว่ามาตรฐานถูกดีดจนพุ่งสูง


เจนไม่เคยคิดเลยว่ามันจะดีขนาดนี้….


“เจ้ากบดื้อ”  น้องวินของบ่าว ต่อไปเจนจะไม่กังขาตัวเองที่อยากทำนั่นทำนี่ให้อีกแล้ว มันเป็นความผิดเจนเอง


ที่เจนอยากถูกรักขึ้นมาแบบนี้….


“แม่ว่าคุณน้องวินชอบเจนมากนะ”


“งั้นเหรอแม่”


“ใช่….คุณน้องวินไม่เคยโถมเข้ากอดใครแบบนี้ ไม่ได้ยิ้มง่ายแบบนี้ ไม่ได้ชะเง้อคอหาแบบนี้ด้วย”


“ชะเง้อหาเหรอ”


“ใช่….พอตื่นมาไม่เจอเจนก็งอแงนิดหน่อย”


“ทำไมแม่ไม่โทรบอกเจนล่ะ”


“ก็คุณหญิงอยากให้เจนออกไปข้างนอกบ้าง เมื่อวันหยุดรอบที่ผ่านมาก็ไม่ออกไปไหน คลุกอยู่กับน้องวินตลอดเลยไม่ใช่เหรอ”


“ก็ เจนไม่ได้อยากไปไหนนี่”  จริงๆคือขี้เกียจมากกว่า และค้นพบว่าการทำนั่นทำนี่ในขณะที่มีน้องวินนั่งมองกันเงียบๆหรือส่งเสียงทุบนั่นนี่ให้กำลังใจก็ไม่แย่ วันหยุดที่ผ่านมาจึงอยู่แต่ที่บ้าน ทำงานเหมือนไม่ได้หยุดอย่างนั้น แต่เจนไม่ได้คิดอะไรเลย อย่างน้อยลูกจ้างก็พอใจที่จะทำอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ


“เจนลืมไปหรือเปล่า เราก็เป็นลูกจ้างคนนึง พอเราไม่ยอมหยุด คุณผู้หญิงเลยกลัวว่าจะใช้งานเจนหนักไปน่ะสิ”


“ทำงานหนักนี่นายจ้างไม่ชอบเหรอ”


“ชอบสิ”


“งั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ”


“ไม่ดีหรอก”


“…………”


“สำหรับนายจ้างที่เขาชอบเรานะ เขากลัว”


“…………..”


“ถ้าวันหนึ่งเจนหมดความอดทนและมาลาออกกับเขาเพราะบอกว่าทำงานหนักไปล่ะ   ในเมื่อเขาชอบเรา เขาย่อมไม่อยากให้เราไปไหนใช่ไหม เพราะงั้นคุณหญิงเลยส่งเจนออกไปข้างนอก พยายามหาทางผูกมัดเจนไว้ยังไงล่ะ”  แม่พูดพลางลูบหัวเจนที่กอดเจ้ากบน้อยในอ้อมอก


“คุณผู้หญิงชอบเจนแบบที่ชอบแม่แล้วเหรอ”


“อาจจะเป็นอย่างนั้น จริงๆคุณหญิงไม่ได้ชอบใครง่ายๆหรอกนะ ที่ทำงานด้วยกันมานานนี่ก็เพราะท่านชอบทุกคนนั่นแหละ มีแต่เจนนี่แหละที่เป็นคนใหม่”


“ไหนบอกไม่ได้ชอบง่ายๆไง”  แล้วทำไมชอบง่ายจังวะ นี่เพิ่งมาแค่อาทิตย์เองนะ


“ท่านไม่ได้ชอบง่ายๆ บางทีก็อาจจะไม่ได้อะไรกับเจนเลย ถ้า…”


“……อะไรเหรอแม่”


“ถ้าน้องวินไม่ชอบเจน และถ้าเจนไม่เอ็นดูน้องวินยังไงล่ะ”


“………..”


“คุณผู้หญิงอาจจะไม่ได้ชอบเจนก็ได้ แม่คงเข้าใจผิดไปเอง แต่ที่แม่ว่าดูไม่ผิดอะนะ”


“…………”


“ท่านไว้ใจเจนแล้ว….มากๆเลยด้วย”  ความไว้ใจนี่มันได้มาง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ….


และกับคนที่เพิ่งเจอะเจอกันไม่นานนี่….เราสามารถเชื่อได้จริงๆเหรอ

xxx


จนบัดนี้นักรบก็ยังไม่ได้ออกจากห้องประชุม….


ยังคงเถียงกันไม่จบ และเขาก็ต้องรับฟัง…พอมองฟ้าข้างนอก อีกไม่นานก็คงจะเปลี่ยนสี จากตรงนี้ไม่ทราบหรอกว่าถนนเป็นเช่นไร แต่ให้เขาคิดก็คือมันคงเต็มไปด้วยรถยนต์ของทุกคนที่กำลังจะกลับบ้าน จริงๆจากบ้านมาที่ทำงานไม่ได้ใช้เวลาเดินทางนานเลย หากแต่การจราจรในกรุงเทพนั้นมันช่างโหดร้าย และเขาก็ควรจะชินชาได้แล้ว แต่กลายเป็นว่ายิ่งไม่ชิน….ตั้งแต่มีอัศวินเกิดมา….


เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ลูกกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิต จะเรียกว่าตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอก็ดูจะไม่เกินไป นักรบไม่เคยพบเจอความรักในรูปแบบนี้มาก่อนในชีวิตด้วยซ้ำ เขาเลยบรรยายไม่ถูกถึงความรู้สึกที่มี และแม้ว่าจะยังมีความกลัวเข้าครอบงำ แต่ก็มีความรักมากมายที่เตรียมไว้ให้ และแค่เพียงคิดถึงน้องวิน จะต้องนั่งอยู่ตรงนี้อีกก็ไม่เป็นไร ถ้ามันจะช่วยทำให้สถานการณ์ภายในของบริษัทดีขึ้น


เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้ว ยังคงไม่จบไม่สิ้นสักที แม้เขาจะไม่ได้เจอหน้าลูกทุกวันเพราะมันเป็นเวลาที่เขาไม่อาจจะพบเจอได้ แต่อย่างไรนักรบก็อยากกลับบ้านไปทำให้แน่ใจว่าน้องวินจะหลับสบายและไม่มีใครทำอะไรเขาได้ แม้ตัวจะอยู่ตรงนี้ และเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าได้อยู่ไม่ไกลกัน เผื่อที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะได้ช่วยเหลือทัน ทดแทนจากการที่เขาปกป้องไม่ได้และปล่อยให้คนไม่ดีเดินเข้ามาในบ้านและทำเช่นนั้น ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา….น้องวินต้องเจอกับอะไรมาบ้างหนอ…..


หลังจากที่คิดว่านั่งฟังก็ไม่ได้อะไรแต่ออกไปไหนไม่ได้ ประธานบริษัทหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นมานั่งดูภาพในห้องนอนของน้องวินทางโน๊ตบุ๊คแทน เดิมทีเขาไม่ได้ใส่ใจมันนัก แต่เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการที่เขาว่าจ้างคนอื่นให้มาดูแลลูก มันทำให้เกิดความวิตกกังวลจนเข้าไปเช็คเรื่อยๆว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และในตอนนี้เขาก็ได้เห็นภาพเจนรักษ์กำลังกอดลูกของเขา หากนายจ้างคนอื่นมาเห็นภาพพี่เลี้ยงนอนบนตักของอดีตพี่เลี้ยงของเขาและกำลังกอดลูกของเขาอยู่แบบนี้คงจะไม่พอใจ แต่ทำไมนักรบถึงไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น


“คุณนักรบครับ”  อยู่ๆก็มีเสียงเรียกขึ้นมา ก็คงจะยังตกลงกันไม่ได้เสียที


“นี่มันก็เลยเวลางานแล้ว”


“แต่เรายังคุยกันไม่จบนะครับ ทางนั้นไม่ยอมรับผิดกันสักที”


“ก็พวกผมไม่ได้ผิด”


“แล้วมันความผิดของพวกผมเหรอ!”


“เงียบทุกคน!”  ในที่สุดเขาก็โพล่งออกมา และได้ผล….


ในที่สุดนักรบก็ได้ความเงียบกลับคืนมา


“ผมไม่สนแล้วว่าใครผิดในวันนี้ แต่นี่มันเลิกงานแล้ว และเราคุยกันมามากกว่า 4 ชั่วโมง แล้วมันได้อะไรขึ้นมาไหม”


“…..”


“ผมหวังว่าจะมีการประชุมครั้งต่อไปที่สั้นกว่านี้และได้ประสิทธิภาพกว่านี้ ในส่วนของใครผิดไม่ผิดนั้นผมเองก็จะไม่ปล่อยไว้”


“คุณนักรบ”


“ก่อนอื่นผมขอให้ทุกฝ่ายโฟกัสที่การแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ถ้าพวกคุณยังไม่กลับบ้านก็ไปคิดมาและวางรายงานให้ผมที่โต๊ะตอนเช้า แต่ถ้ายังไม่ทำก็ไม่เป็นไร เอามาให้ผมในตอนบ่ายก็ยังดี ต่อจากนั้นให้วางแผนหามาตรการรับมือเพื่อป้องกันในครั้งถัดๆไปมาด้วย”


“แต่เราจะ….”


“แล้วใครจะบอกว่าผมมองข้ามเรื่องใครผิด”


“…………”


“คนผิดก็คือคนผิด ผมก็เห็นว่าเราต้องให้เขารับผิดชอบ แต่เราเสียเวลาไปมากพอแล้วและถ้ามันยังไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมก็เห็นว่าเราควรแก้ปัญหาเดี๋ยวนี้ก่อนจะมาจับมือใครดมแบบที่เสียเวลาไปทั้งหมด”


“ครับ”


“เลิกประชุมได้”  เขาไม่สนอะไรแล้วทั้งนั้น….


นักรบต้องรีบ….กลับไปบ้านแล้วจริงๆ


แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดหวังเลย เพราะทันที่เดินออกจากห้องประชุมมายังห้องทำงานส่วนตัว ปัญหาอื่นๆก็ตามมาให้ต้องแก้ และมันก็ทำให้เสียเวลาอยู่จนฟ้ามืดแล้วจริงๆ นักรบกัดฟันกรอด เขาต้องมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำจึงต้องมีความอดทนควบคู่ไปด้วย และเมื่อเป็นอิสระจากปัญหาที่เกิดขึ้นกะทันหัน จึงไม่รอช้าเลยที่จะขึ้นรถและขับกลับบ้าน วันนี้เขาไม่ได้ให้เพชรขับมาส่งขากลับ


ปกติแล้วนักรบเองก็ไม่ได้ให้เพชรขับมารับส่งกันบ่อยๆเห็นจะมีก็ช่วงนี้ที่เสนอหน้ามาบ่อยจนหมั่นไส้แต่ไม่ได้พูดอะไร กับพี่เลี้ยงคนใหม่ก็ทำท่าแปลกๆให้เขาขนลุกทุกครั้งที่เห็น สนิทสนมกันเกินหน้าเกินตาจนแม้แต่คนที่โง่เง่าที่สุดยังดูออกว่าต้องการอะไร แต่นักรบไม่ได้สนใจ มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระวุ่นวายที่สุด และถ้าไม่เป็นอุปสรรคทางการทำงาน เจนรักษ์จะอ่อยหรือคุณเพชรจะขายอ้อยเขาก็ไม่ขัดทั้งนั้น


รถติด….จนมันทำให้เขาอยากจะสละรถและวิ่งกลับบ้าน ความคิดถึงที่แทบล้นอกนั้นทำให้คนที่ใจเย็นแต่เด็ดขาดมีแต่ความรุ่มร้อน เขาอยากเจอหน้าลูก แม้จะไม่โผเข้าไปกอด เขาอยากมองหน้าลูกแม้ไม่กล้าแม้แต่จะจุมพิต นักรบเป็นพ่อประสาอะไรกันถึงได้ขี้ขลาดถึงเพียงนี้ ดูเจนรักษ์สิ….ทั้งที่ได้เจอกับลูกและได้อยู่กับลูกแค่อาทิตย์เดียว แต่เขาสองคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ราวกับมีกันและกันอยู่แค่นี้ บนโลกของลูกกำลังจะไม่มีตัวตนของพ่อไปทุกวัน หรือไม่….มันก็อาจจะไม่มีเลยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว


ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าสู่พื้นที่ของบ้านรัตนสกุล….นักรบก็รีบจอดรถเทียบหน้าบ้านโดยลืมไปเลยว่าจะต้องเอารถไปจอดที่โรงจอดรถให้เรียบร้อย เขาเคยเจ้าระเบียบกว่านี้ แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้พลาดพลั้งอย่างใหญ่หลวง ไม่….เขาไม่ได้อิจฉาเจนรักษ์หรอกที่สามารถกอดลูกเขาอย่างรักใคร่ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันแบบนั้น แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจเขาตลอดเวลาหลังจากเห็นภาพนั้นคือกลัว….กลัวว่าวันหนึ่ง ลูกอาจจะโผเข้าหาทุกคนในยามมีปัญหา แต่ไม่ใช่พ่อของเขา หรือกลัว….ว่าลูกจะคิดว่าเขาเป็นปัญหา และไม่ยอมแม้แต่จะให้แตะเนื้อต้องตัวกัน ใช่….วันหนึ่งลูกอาจจะอึดอัดกับเขา เหมือนกับที่เขารู้สึกเช่นนั้นกับปู่ของน้องวิน….ผู้ซึ่งได้จากลากันไปแล้ว…..


“อ้าว….คุณรบ”  เป็นเสียงของเจนรักษ์ที่ทักกันออกมาก่อน ในอ้อมแขนมีน้องวินในชุดนอนอยู่ ลูกชายของเขากำลังมองมาที่คุณพ่อซึ่งอาจจะไม่มีในความทรงจำ สภาพของเขาหลุดไปจากตอนเช้ามากๆ เนคไทก็แทบจะหลุดออกจากคอ แขนเสื้อก็ถูกพับ ผมที่เคยถูกเซ็ตก็ยุ่งเหยิงเพราะเอาแต่ทึ้งหัวในรถ ภาพของเขาในตอนนี้มันดูไม่ดีนักและมันอาจจะลดทอนความหวั่นเกรงที่เจนรักษ์มีให้กันอย่างที่นักรบพยายามให้เป็นมาตลอดลงได้


และเราก็เงียบงันอยู่อย่างนั้นให้กัน
เป็นนักรบอีกครั้งที่ไม่มีความกล้าต่อหน้าลูกชายของตนเอง…..


tbc



talk:  เรามาต่อเร็วไปเปล่าคะ??? คือเราแต่งนำไปหลายตอนแล้วเหมือนกันเลยคิดว่าคงมาลงไว้ได้แต่ก็กลัวคนไม่รู้ ตอนแรกว่าจะลงวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะมาได้หรือเปล่าเลยชิงลงวันนี้ แถมพอเห็นคอมเมนท์แล้วชื่นใจ ขอบคุณมากเลยนะคะ เป็นพวกซาดิสม์ค่ะ ชอบให้ทวง55555


สามารถติดแท้ก #เจนไม่นก ในทวิตเพื่อร่วมพูดคุยกันได้นะคะ เราจะพยายามอัพเดต มีอะไรแนะนำได้เลย เราจะลองเอาไปปรับปรุงดูนะคะ:)
แต่คาดว่าเรื่องจะเข้มข้นขึ้นบ้างแล้วล่ะค่ะ เราอาจจะเห็นน้องเจนเวิ้นน้อยลงและมีสาระมากขึ้น แต่...ก็ยังเวิ้นเก่งตามคอนเสปต์ค่ะ ฝากติดตามพัฒนาการทางอารมณ์หลายๆด้านและภาวะเสี่ยงเข้าคุกของน้องด้วยนะคะ /ถ้าเราไม่มาอัพฝากเรื่องชานมหวานน้อยด้วยนะ5555


twitter@reallyuri












หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 27-06-2018 20:39:53
ถึงกะไอ คุก คุก แทนเจนเลย  :hao5: 55555555
รอติดตามตอนต่อไปปปป
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 27-06-2018 21:36:59
เค้ารักน้องเจนนางเป็นคุณแม่ที่ดีเชืาอว่านางจะเป็นกาสใจให้พ่อลูกได้รักกัน  เชื่อสิ  เจนเรียนมา 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 27-06-2018 21:37:23
เห็นนิสัยของเจนแบบนี้แล้วนึกไม่ออกว่าเรื่องนี้จะดราม่ายังไง 5555
คุณรบต้องรีบเลิกซึนนะ ไม่งั้นเจ้ากบน้อยได้หนีไปพร้อมเจนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-06-2018 21:53:44
รอวันความลับของเจนเปิดเผย   :z3:

แอบคิดว่าเจนได้เข้ามาช่วยอะไรๆในบริษัทคุณรบ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-06-2018 22:11:58
จังหวะแบบเเม่บ้านอุ้มลูกมารอรับพ่อบ้านมากอ่ะ
คุณรบกล้า ๆ หน่อยค่า นั่นลูกตัวเองนะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-06-2018 22:33:36
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-06-2018 23:44:23
 :L2: :L1: :pig4:

สนุกคุณเพชร ตรง แหมเขาขากันน่าเปิดคาเฟ่
ดีใจได้อ่านเรื่อยๆต่อเนื่อง
ขอบคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 28-06-2018 00:09:27
โอ๋ๆเจนนะ
ชอบนายยย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 28-06-2018 00:27:00
ขำคุณเพชร ชอบอ่ะตลกดี
แล้วอิคุณพี่นักรบ ถ้ายังทื่ออยู่อย่างนี้ ชาตินี้จะได้คุยกับลูกมั้ย
ปล.อยากพายเรือเพชรเจนนะ แต่กลัวเจนจะหนีลงน้ำก่อน 55
หัวข้อ: Re: [บทที่ 9] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 27.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 28-06-2018 07:40:14
ไม่เร็วไปค่ะ ชอบ 55555555  นานๆทีจะเจอฟีลกู๊ดดีๆตลกๆ มีเนื้อหาดีๆ ชอบมากกกกก
หัวข้อ: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 28-06-2018 19:25:53
#เจนไม่นก
คนที่เจนไว้ใจ







“…….”


“…….”


มันต้องมีใครสักคนที่ลุกขึ้นมาทำลายความเงียบนี้


“ดะ…. ดะ”  และคนนั้นคือน้องวินในอ้อมกอดของเจน


“…..”


“คุณรบเข้าบ้านไปล้างมือก่อนนะครับ”  เจนพูด ก่อนจะเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน เงียบและมองหน้ากันมันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา นักรบเองก็พยักหน้า เขาเดินตามเข้าไปล้างมือตามที่เจนบอกอย่างไม่เข้าใจอะไรๆเท่าไหร่แต่ก็ทำตาม และเมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าพี่เลี้ยงเด็กที่อุ้มลูกของเขากำลังรอกันอยู่ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เขาอาจจะเหนื่อยจนคิดอะไรตามไม่ค่อยจะทัน


จนกระทั่งเจนฉวยโอกาสส่งน้องวินมาให้เขา


“!!!!”


“ฝากน้องวินแป็ปนะครับ”  คนเป็นพ่อรับลูกชายมาแบบงงๆ เขาแทบไม่เคยอุ้มลูก จะว่าไปก็อุ้มเฉพาะตอนหลับเท่านั้นและไม่บ่อย ทว่าด้วยเพราะตกใจ เขากลับอุ้มออกมาได้ดีกว่าที่คิด และค้นพบว่าเจ้าก้อนตัวเล็กในอ้อมกอดไม่มีดิ้นหนีหรือร้องไห้หาพี่เลี้ยงที่สนิทสนมกันเลย ตาหนูยังคงเล่นกับยางกัด ท่าจะคันฟันมาก เขาจ้องมองลูกในอ้อมกอด รู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้หน้าทางเข้าบ้าน คงเป็นใครสักคนสตาร์ทรถ แต่จะเป็นใครได้ในเมื่อเขายังอยู่ตรงนี้


เจ้าของรถขมวดคิ้ว เขาอุ้มลูกและเดินไปดูอย่างเชื่องช้า พอดีกับที่เห็นว่ารถของตัวเองกำลังเข้าไปในโรงจอดรถ ต้องมีคนทำเพราะไม่มีทางที่รถจะเข้าไปในโรงจอดเอง แต่สงสัยได้ไม่นานคนทำก็เดินออกมาจากโรงรถให้เห็นหน้า เจนรักษ์เดินมาพร้อมกับกุญแจรถในมือ ไม่รู้ว่าเอาไปตอนไหน คงเป็นตอนที่เขาวางไว้ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำ แต่ทำอะไรไม่บอกกล่าวกันก่อน มันน่าจริงๆ….


คิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน…..


“คุณรบจะรับน้ำอะไรไหมครับ”  และเมื่อเจ้าตัวเดินกลับมาก็ถามกันโดยไม่ปล่อยให้เขาตำหนิเรื่องที่ทำอะไรโดยพลการ แม้จะไม่ใช่คนหวงรถมากมาย แต่กับคนแปลกหน้าและรู้จักกันน้อยมากๆ นักรบเองก็ไม่ชอบให้มายุ่งกับของส่วนตัว


“ไม่เป็นไร”  เขากำลังจะส่งน้องวินกลับให้ แต่อีกฝ่ายก็ชิ่งหนีเดินไปที่ครัวเสียก่อน


“แม่บอกว่าคุณรบอาจจะกลับมืดและคงไม่ได้ทานอะไร ตอนนี้คนอื่นๆขึ้นบ้านกันหมดแล้ว เดี๋ยวเจน….เอ้ยผม…จะอุ่นอาหารให้ รอสักครู่นะครับ”


“มันหน้าที่ของพี่เลี้ยงเด็กหรือไง” 


“อ๋อ ก็ไม่ใช่หน้าที่พี่เลี้ยงของน้องวินหรอกครับ”  เจนหันมาหาระหว่างที่กำลังแกะพลาสติกที่คลุมชามน้ำซุปเข้าไมโครเวฟ


“แล้วทำทำไม”


“ก็พี่เลี้ยงคุณรบฝากมานี่ครับ”


“……….”


“ฝากอุ้มน้องวินหน่อยนะครับ น้องวินไม่ดื้อ ไม่ค่อยร้องไห้ ว่าง่ายครับ”  เจนหันมาบอกก่อนจะตั้งเวลาการอุ่นเอาไว้ และเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อที่จะรินน้ำใส่แก้ว ทิ้งไว้ซึ่งความเงียบระหว่างเราก่อนที่จะเอ่ยอีกสิ่งออกมา น้องวินไม่ใช่ว่าเรียบร้อยเข้ากับคนง่ายหรอก ทุกอย่างย่อมถูกขัดกรอง….


โดยสัญชาตญาณอันไร้เดียงสาของเจ้าตัว


“น้องวินว่าง่ายเรียบร้อย ตอนอยู่กับคุณย่าและคุณพ่อครับ”  คำว่าคุณพ่อนั้นแทงเข้าทะลุที่หัวใจคนเป็นพ่ออย่างแรง ความอบอุ่นในยามที่มีใครในอ้อมกอดนั้นทำให้นักรบรับรู้ถึงการมีอยู่ของหัวใจของเขา ร่างนุ่มนิ่มที่ให้ความรู้สึกที่ดีแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนทำให้เกิดประกายอุ่นวาบในทรวงอก เขาก้มลงมองดวงตาลูกชายที่ช้อนตามองกันทั้งๆที่ในมือยังถือของเล่นอันโปรด เกือบอดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มกลมๆของเจ้าตาแป๋วนั่น


แต่นับรบก็เลือกที่จะเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ทำนั่นทำนี่ ยังคงไม่เข้าใจเจตนาแม้อีกฝ่ายจะบอกชัดเจนว่าพี่เลี้ยงของเขา หรือคุณอำไพแม่ของเจ้าตัวจะไหว้วานมา ก็จริงที่ว่าที่ผ่านมาเวลาเขากลับมาดึกๆอย่างนี้จะมีอาหารเตรียมไว้ให้ แต่เขาก็มักจะเป็นคนอุ่นเองแล้วกิน หรือไม่….ก็ทิ้งไว้อย่างนี้ยันเช้าโดยที่ไม่ได้แตะแม้แต่คำเดียว


“ได้แล้วครับ”  พี่เลี้ยงของลูกที่ผันตัวมารับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของเขาแทนแม่ของตัวเองนั้นยกอาหารมาให้ที่โต๊ะพร้อมกับน้ำเปล่าเย็นๆ ลูกชายที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาถูกอีกฝ่ายเรียกขาน เขาส่งน้องวินให้แต่โดยดี ก่อนจะนั่งทานอาหารเงียบๆคนเดียวและเหลือบมองลูกและพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่บ้าง เจนรักษ์ต้องการอะไรจากเขานั้นไม่อาจจะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ แต่วันนี้นักรบเหนื่อยเกินกว่าจะระแวงอะไร อย่างน้อยได้เห็นหน้าลูกตอนกลับมาหลังจากที่มองผ่านหน้าจอมาหลายวัน มันก็ถือว่าดีแล้ว


หลังจากมื้ออาหารจบลง เขาก็มองนาฬิกา ใกล้เวลานอนของน้องวินแล้ว เจ้าของร่างสูงของหัวหน้าครอบครัวตอนนี้ตัดสินใจเดินขึ้นห้อง เจนรักษ์อุ้มลูกของเขาเดินตามขึ้นมา แม้จะหงุดหงิดใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้หันไปพูดอะไร ชายหนุ่มเดินเข้าห้องตัวเองไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองคนทั้งสอง แม้ในใจ….จะอยากเห็นลูกอีกสักครั้งก่อนจะปิดประตูห้อง


แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นักรบเดินเข้าไปชะล้างคราบไคลแห่งความสกปรกออกจากร่างกายก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ช่วงเวลาที่เขาจะได้พักผ่อนจริงๆนั้นกำลังจะเริ่มขึ้น หากแต่ช่วงเวลากลางคืนนั้นมันยาวนานกว่าที่จะข่มตาลงได้  วันนี้เขาอาจจะกลับช้าแต่เมื่อคิดว่าอีกหลายชั่วโมงจึงจะนอนหลับได้ นักรบจึงตั้งใจที่จะเอางานมาสะสางเผื่อว่าจะทำให้นอนหลับได้เร็วขึ้น ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสบายตัวนั้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนมาเพื่อเช็ดผม กะเอาแค่พอหมาดแล้วจะไปทำงานต่อ แต่ในระหว่างที่เช็ดผมอยู่นั้น….


เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น….จากประตูหน้าห้อง….


“…………” 


“คุณรบครับ”  เป็นเจนรักษ์ที่มาเคาะเรียกกันแบบนี้


“มีอะไร”  น้ำเสียงของเขาดูสั้นห้วน ทั้งนี้นักรบเห็นว่ามันไม่สมควรที่อีกฝ่ายจะมาเรียกหากันยามวิกาล เขานั้นไม่อยากได้ชื่อว่าเคลมพี่เลี้ยงของลูกหรืออยากหาแม่ใหม่ให้น้องวินในรูปแบบนี้จึงป้องกันตัวเองทุกวิถีทางและค้นพบว่าตัวเขาเองนั้นแหละที่ไม่เคยล้ำเส้น แต่ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะอยากล้ำเส้นหรือเปล่า


ดังนั้นจึงได้ตั้งเงื่อนไขในสัญญาการจ้างงานว่าด้วยเรื่องชู้สาวขึ้นมา….


“คือถ้าคุณรบยังไม่หลับ ผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อยนะครับ”


“อะไร”  เขาเหมือนจะตั้งการ์ดที่มองไม่เห็นด้วยน้ำเสียงดุนั่น แต่อีกฝ่ายก็ยังคงปั้นหน้านิ่งมองกันด้วยท่าทางปกติ


“คือผมจะลงไปทำของว่างของน้องวินข้างล่าง ทีนี้เกรงว่าจะไม่มีคนดูแลน้องวินในระหว่างนี้”


“……..” 


“แค่ตบก้นน้องไม่นานหรอกครับ ผมทำครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว น้องวินจะหลับแล้วล่ะครับ”


“เธอจะลงไปทำอะไร”


“ทำไอศกรีมของเด็กแช่ไว้ให้นะครับ”


“อะไรนะ”


“ไม่ต้องห่วงครับ ผมดูแลเรื่องน้ำตาลดี ไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาสุขภาพนะครับ ผมไปหาข้อมูลไว้แล้วว่าเด็กกินได้”


“…………”


“รบกวนคุณรบด้วยนะครับ”  เขาอยากจะปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้หลุดพูดสิ่งใดไป เจนรักษ์กล้าทิ้งลูกของเขาได้อย่างไร แม้จะมีเจตนาและเหตุผลที่มาอธิบายกัน แต่นักรบก็ไม่ยอมรับหรือรับไม่ได้ทั้งหมด ทั้งนี้มันจะเพราะอคติหรืออะไรก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้สึกโอเคกับพี่เลี้ยงคนใหม่ที่คุณพรรณีถือหางอย่างเต็มอก แต่เมื่อเหลือบมองไปที่ประตูห้องข้างๆก็เห็นได้ว่ามันถูกเปิดออกค้างไว้ นักรบไม่ได้กังวลเรื่องแมลงหรืออย่างไร แต่คาดว่าอีกฝ่ายเปิดทิ้งไว้เพราะไม่สามารถทิ้งให้ลูกของเขาอยู่ห่างตาคนเดียวได้ คิดไปคิดมาจึงพยักหน้า หากเจนรักษ์จะเล่นอะไรไม่ซื่อขึ้นมา เขาก็มีกล้องวงจรปิดติดไว้ และเจนรักษ์คงไม่โง่ทำมันลงไป เพราะอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขามีมัน….


นักรบบอกเอาไว้ตั้งแต่วันแรกแล้ว


“รีบทำล่ะ”


“ครึ่งชั่วโมงครับ มันจะไม่เกินนี้”  พี่เลี้ยงเด็กของเขายิ้มออกมา ก่อนจะถอยให้เขาเดินออกไปเข้าห้องของลูกชาย แม้เราจะมีประตูกั้นระหว่างห้องที่นักรบคือผู้เดียวที่เปิดได้ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยินดีที่จะให้ใช้ประตูหน้ามากกว่า….


มันเป็นเรื่องของความสบายใจจริงๆ

xxx

อะไรจะดุปานนั้นครับท่านนนนนนนนนนนน!!!!!!!

ไอ้เจนกลัวแล้ววววว กลัวแล้วจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ให้ตายเหอะ พ่อน้องวินไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะแดกหัวไอ้เจนเข้าไปหรือกระถืบอีกครั้งก่อนแดกแบบนั้นก็ได้ครับเอาจริงๆ ที่ผมมาเคาะประตูนี่ไม่ใช่จะอ่อยเลยเหอะ ถ้าไม่ติดว่าต้องดูน้องวินที่ห้องข้างๆไปด้วยนี่ไอ้เจนคงจะเดินถอยไปครึ่งโลเพื่อคุยกับคุณรบจริงๆ ให้ตายสินี่กูรวบรวมความกล้าหาญมาทั้งวันเพื่อมานั่งเข่าอ่อนในห้องครัวนี่นะ บ้าไปแล้ว!!!


“ทำไมมันยากจังวะ”  นี่ทำใจดีสู้เสือไปเคาะห้องเลยจริงๆ ถ้าคุณรบรู้ว่าตอแหลอ้างลงมาทำไอติมล่ะก็ ไม่รู้จะถูกบีบคอเหวี่ยงออกไปนอกหน้าต่างหรือเปล่า แต่ไอ้เจนหวังดีนะเว้ย หวังดีจริงๆ กูเนี่ย!!!!!!!!!!!


ก็วันนี้พอกลับบ้านมา ก็มานั่งกินข้าวกับคุณผู้หญิงเหมือนทุกเย็น คุยเรื่องนู้นเรื่องนี้สับเพเหระ และก็พูดกันตรงๆว่าทานอ้อยคุณเพชรต่อไม่ไหวขอให้เลิกชิป คุณหญิงท่านทำหน้าตกใจประมาณหนึ่งแต่ดูเสียดายมากระดับสองให้เจนรู้เลย แต่อย่ามาชิปกับไอ้เลขาหน้าม่อนั่นได้ไหม เอาจริงๆไม่ต้องชิปกับใครเลยจะดีกว่ามาก ตกลงกันได้ประมาณหนึ่งท่านก็บ่นเสียดายๆแต่ไม่คิดมากอะไรทำนองนี้ ทว่าหน้าตาแม่งโคตรไม่น่าเชื่อถือ….จะให้ไอ้เจนทำใจให้สบายได้ไงครับ ชิปเปอร์เบอร์ 1 ออกอาการเชียร์ให้กลับไปลองคิดทบทวนดูใหม่ขนาดนั้น สบายใจได้ก็บ้าแล้ว


แต่เจนยังคงยึดมั่น และแจ้งความจำนงไปอีกครั้ง อีกครั้ง และซ้ำๆว่ากูไม่เอามันว้อยยยย!!! คุยไปคุยมายิ่งคุยไม่รู้เรื่อง แต่ไอ้เจนก็ยังยุบหนอพองหนอ ซึ่งบางทีตัวกูก็จะพองเป็นอึ่งอ่างกำลังโกรธล่ะหนอ เลยแทงมุกสัญญาข้อนั้นที่ตัวเองเคยจะใช้เป็นข้ออ้างในการลาออกนั่นเสียเลย คุณหญิงไม่ได้ทำหน้าตื่นเต้นตกใจเพราะเธอรับรู้ทุกเงื่อนไขดี แต่คนที่จะได้ตื่นเต้นตกใจ เห็นจะมีอยู่คนเดียว….


คือไอ้เจนนี่แหละครับ อกอีแป้นจะแตกหักตายห่าให้ได้….


“……..”  เออเจนคนโง่ที่สมควรโกงวุฒิการศึกษาต่อไปอยู่ตรงนี้ มึงไม่ควรบอกใครว่าจบปริญญาตรีมาได้ยังไงจริงๆ


จริงๆแล้วการตีความของกฎข้อนั้นของเจนน่ะถูกต้อง แต่ที่เจนไม่รู้มาก่อนคือเจตนาของนายจ้างที่ตั้งกฎข้อนั้นออกมา จริงอยู่ว่าหากเจนอ่อยคุณเพชรมากไปจนเสียงานเสียการ มันอาจจะนำไปสู่การอ้างข้อสัญญามาให้เจนออก แต่เจนไม่ได้ทำไง หรือทำแล้วแต่รับตัวเองไม่ได้นั่นแหละ สุดท้ายแล้วเลยไม่มีใครจะไล่ออกแถมยังเชียร์ให้กินอ้อยต่อแบบไม่ถามสุขภาพปัญหาเบาหวานของกันเลย แต่ไอ้เจนไม่เอาแล้วไง ไม่เอาว้อยยยยย


ทีนี้คุณหญิงเลยอธิบายถึงกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นเลยมีสัญญาข้อนั้นขึ้นมาให้ฟัง จริงๆแล้วเจนจะไปอ่อยใครที่ไหนก็ไม่มีใครว่าหากไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานและยังรับผิดชอบหน้าที่ได้ดี ซึ่งในกรณีนี้คุณหญิงค่อนข้างพอใจเพราะในขณะที่ชิมอ้อยจนบ่นว่าเลี่ยนไป เจนก็ยังดูแลน้องวินได้อย่างดีถึงดีมาก น่าปลื้มสุดๆ คุณหญิงท่านเลยมองข้ามกรณีอ้อยนี่และมองว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวจึงขอโฟกัสที่ผลงาน และเจนก็ทำมาได้ดี จนนี่แอบอยากถามว่ามีโอกาสได้โบนัสไหมเหมือนกัน แต่ก็หุบปากฉับเพราะท่านกำลังจะเล่าสิ่งที่น่าสนใจซึ่งเป็นประเด็นหลักของเรื่อง


ว่าจริงๆแล้วกฏข้อนี้ไม่ได้มีไว้ให้คนอื่น….
แต่มีไว้เพื่อปกป้องคุณนักรบ……..


“…………”  แค่คิดก็ขนลุก โอเคทั้งคนใช้และเจ้านายบ้านนี้อาจจะดูละครเยอะไป จนกลัวว่าพี่เลี้ยงของลูกจะเคลมพ่อเด็กซึ่งเป็นพ่อหม้ายทำผัวเพื่อหวังหุบสมบัติ แต่นั่นต้องไม่ใช่ไอ้เจนแล้วแน่ๆ ในขณะที่ฟังไปเจนก็ทำหน้าปุเลี่ยนใส่อย่างซื่อตรงและนั่นทำให้คุณหญิงหลุดหัวเราะออกมา เธอเห็นแล้วว่าเจนไม่มีเจตนาหรือมีเจตนาน้อยที่สุดที่จะอยู่ใกล้ลูกชายของเธอ แม้จะเอ็นดูน้องวินอยู่มาก แต่ก็อยากยุ่งเกี่ยวกับพ่อน้องวินให้น้อยที่สุดเช่นกัน เห็นหน้าแรดๆแบบนี้ แต่ไอ้เจนเลือกครับ เลือกที่จะไม่ถลาเข้าไปปล้ำคุณรบแน่นอนครับ ขอให้ไว้ใจได้ เพราะทันทีที่กูเข้าใกล้ คุณรบอาจจะถีบตกท่อได้ในทันที


และบทสนทนาระหว่างนายจ้างใหญ่กับลูกจ้างตัวน้อยก็จบลงพร้อมกับอาการหัวสั่นขวัญผวาของเจน ในขณะที่อุ้มเจ้ากบน้อยลงมาทำไอศกรีมเตรียมไว้ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้ามาในบ้าน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงอุ้มน้องออกไปด้วยแต่ก็คิดว่ายังไงก็คงมีคุณเพชรอยู่เป็นไม้กันหมาเหมือนเดิมจึงไม่มีอะไรให้ต้องกลัว แต่เปล่าเลย…..คุณรบคนเดียว เปลี่ยวๆแบบไม่มีใคร…..


ในสถานการณ์เช่นนั้น ไอ้เจนเหมือนอยู่หัวเดียวกระเทียมลีบ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าที่อ้อมอกยังมีตัวประกันชั้นเยี่ยมมองตาแป๋วอยู่ และเมื่อนึกได้เช่นนั้นจึงประเมินคู่ต่อสู้เสียใหม่และพบว่า….เขาไม่ได้มองมึงไอ้เจน เขามองลูกเขา! เมื่อรับรู้ได้ดังนั้น อาการขวัญผวาก็ดีขึ้นมาหลายส่วน สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆหลายครั้งจนใจสงบ ไอ้เจนก็พบว่าระหว่างเรามีแต่ความเงียบจนน่าขนลุก สภาพของคุณรบที่ทำงานกลับบ้านมาดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด วันนี้เขาคงไม่มีแรงจับเจนเหวี่ยงไปมากับบันไดหรอก และยิ่งมองเข้าไปยังสิ่งที่เขาให้ความสนใจก็พบว่า….


เรื่องมันน่าเศร้า ขอเหล้าสักสามจอกได้ไหม…


คุณรบเข้าบ้านไปล้างมือก่อนนะครับ….คือสิ่งที่เจนพูดออกไปโดยรวบรวมความกล้าของวันครั้งที่ 1 ออกไปใช้ แต่อีตานี่ก็อะไรทำไมดื้อด้านอย่างกับต้องเอาช้างมาลากไป ถามนั่นถามนี่ เออไม่ไว้ใจกูก็รู้เว้ย แต่ไอ้เจนไว้ใจคุณรบนักแหละ ยิ่งกลัวว่ายืนหันหลังให้ โดยไม่รูตัวอาจจะมีใครจับหัวไอ้เจนยัดเข้าไมโครเวฟไปอุ่นอีกอย่างเพื่อแดกแกล้มกับต้มจืดนี่ แต่ระวังไปก็เท่านั้น ไอ้เจนก็มีมือมีตีนมีฟันครับ เดี๋ยวกูกัดแม่ง แซะชาวบ้านเก่งก็แปลว่ากัดเก่งด้วย แง่มมมมมมมมมม


แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ก่อวอร์ใดๆ เจนได้รับแต่ความสงบระหว่างมื้ออาหารนี้ตอนนั่งรอ….แม้เจนรักษ์จะอุ้มกระเตงเจ้ากบน้อยขึ้นห้องไปก่อนก็ย่อมได้ แต่มันก็ดูจะใจร้ายเมื่อเห็นดวงตาคมของคนเป็นพ่อมองลูกชายตัวเล็กอย่างไม่วางตา ระหว่างที่กินอยู่เขาก็มีเหลือบมองเจ้าเด็กคันฟันอยู่บ้าง และมันสะกดให้เจนนั่งลงอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน อย่างน้อยก็นั่งเป็นแท่นให้เขาได้ชื่นชมลูกชายจนจบมื้ออาหาร


เออยอมก็ได้วะ….


เจนมิบังอาจไปทราบได้หรอกว่าเขารู้สึกอย่างไร และไอ้ที่บอกว่าแม่ฝากมาให้อุ่นอาหารให้คุณรบนั้นมันก็โกหกสิ้นดี จริงๆแล้วเจนก็แค่อยากจะเข้าใจสายตาที่เขาใช้มองน้องวินอีกสักนิด คุณรบรักลูก แต่มันมีกำแพงสูงที่กั้นไว้อยู่ กับเจ้ากบน้อยนั้นยังเด็กเกินกว่าจะสั่งสอนให้รู้เรื่อง แต่ผู้ใหญ่ที่แข็งกระด้างเกินกว่าจะดัดนั่นก็เช่นกัน มันยากที่คนนอกแบบเจนจะเข้าไปก้าวก่ายระหว่างความสัมพันธ์และเจนไม่ได้ถูกจ่ายมาเพื่อทำเรื่องเช่นนั้น การละเลยหน้าที่ก็ส่วนหนึ่ง แต่การยุ่มย่ามก็อีกส่วน จุดยืนของตนในฐานะพี่เลี้ยงชัดเจนที่ว่าแค่เลี้ยงน้องวินให้ดี แต่ในส่วนของความสัมพันธ์ของครอบครัว เจนไม่อาจจะยุ่งได้….


เหมือนที่คุณอำไพนั้นแค่เลี้ยงแต่ไม่อาจจะปกป้องคุณรบได้เลย….


อีกราวๆสิบนาทีต่อจากนี้เจนต้องกลับขึ้นไปข้างบน เป็นอีกครั้งที่โกหกออกไป โดยส่วนตัว…แน่นอนว่าเจนไม่ได้สนใจเงินค่าจ้างหรืออาชีพการงานภายใต้การปกครองของคนในบ้านหลังนี้ เจนมีหนทางมากมายให้เอาตัวรอด แต่สิ่งที่ตนหวังเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ก้าวเท้าเข้ามาผูกพันกับคนบางคน สิ่งนั้นคือการที่จะมีใครสักคนมาสานต่อการทำงานในฐานะพี่เลี้ยงของว่าที่เจ้าบ้านได้ดี ไม่ใช่แค่ดีในด้านของคุณภาพ แต่ต้องดีแม้แต่เรื่องความใส่ใจ เพราะงานนี้ไม่ได้ทำกับเอกสาร แต่เป็นเด็กคนนึงที่ไม่มีพิษภัย

ดังนั้นเจนจึงเลือกที่จะโกหกอีกครั้งด้วยเพราะไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกหรือทำโทษใดๆ เพื่อไม่ให้คุณนักรบเฝ้ามองกันผ่านกล้องวงจรปิดจากอีกห้อง และเพื่อไม่ให้น้องวินไม่ได้รับรู้ว่าพ่อของเขาเฝ้ามองอยู่ เจนรักษ์ได้เลือกที่จะเคาะประตูอีกห้องด้วยรู้ว่าอะไรกำลังรออยู่ ความกล้ามากมายที่น้องวินได้มอบให้ในขณะที่เจนทำเพียงแค่จ้องมอง เด็กน้อยที่เคลิ้มจนใกล้จะหลับแต่ก็ยังดูดนมจากขวดและมองหน้ากันแบบนั้น มือเล็กของน้องวินกำนิ้วชี้ของเจนไว้หลวมๆ


‘น้องวินนอนได้แล้วครับ’


ไร้คำตอบมีเพียงสายตาที่อ่านไม่ออกจ้องมองมา


‘คนเก่ง นอนได้แล้วนะ’


‘……’


‘คึกอะไรเนี่ย ไม่นอนเหรอ ไม่เหนื่อยเหรอครับ’


‘……’


‘เล่นกับคุณพ่อไม่เหนื่อยเหรอวันนี้’ ไม่เหนื่อยหรอก ก็เอาแต่ซบอยู่แบบนั้น และแค่จ้องหน้าอย่างเรียบร้อยแบบนี้ จะให้เหนื่อยได้อย่างไร แต่บางทีภายใต้ใบหน้านิ่งๆที่เหมือนกันนี้


น้องวินอาจจะใจเต้นไม่แพ้ผู้ใหญ่บางคนเลยก็เป็นได้
 

‘คนเก่งอยากให้คุณพ่อมากล่อมนอนเหรอ’


‘……..’


‘ถ้าพี่เจนไปเรียกมาให้แล้วไม่ยอมนอน อดกินไอติมนะพรุ่งนี้’ 


บางทีนี่อาจจะเป็นแค่มโนความคิดของเจนคนเดียวก็เป็นได้ เจนก็ออกจะมโนพูดคนเดียวในใจอยู่บ่อยครั้ง นับประสาอะไรกับเรื่องโมเมความคิดเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวล่ะ ส่ายหน้าให้กับความปัญญาอ่อนของตัวเอง ก่อนจะตั้งสติและรวบรวมความกล้าเดินไปเรียกคุณนักรบให้เข้ามา เจนกะไว้แล้วว่าเขาอาจจะปฏิเสธ แต่มาคิดดูอีกที มันไม่มีเหตุผลอะไรเลย….หากเขารักลูกชายแบบนั้น


และอย่างที่เจนคิดไม่มีผิด เมื่อเปิดทางให้เข้าหา หรือเปิดช่องดันให้คุณพ่อมีความกล้าในสถานการณ์ที่ช่วยไม่ได้ นักรบก็เดินเข้าไปหาน้องวินที่อาจจะรออยู่ด้วยความเต็มใจ เจนมองนาฬิกาที่ตั้งไว้ ถ้าคุณรบลงมาตรวจตู้เย็นก็จะเห็นได้ว่าไอติมบ้าบออะไรนั่นแข็งตัวเร็วเกินกว่าเวลาที่เจนบอกไว้ แต่มันก็คุ้มค่ากับช่วงเวลาของครอบครัวของเขา ไม่มีใครทดแทนตำแหน่งที่ใครได้ และพ่อของน้องวิน ก็ควรจะได้ชดเชยให้กับเด็กน้อยที่เป็นเด็กดีคนนั้น


เจนขึ้นไปบนห้อง ค่อยๆเปิดประตูเบาๆและดูท่าที คุณนักรบยังคงนั่งอยู่ในคอก เขาไม่ได้เห็นกันด้วยซ้ำ และคิดว่าช่วงที่เขาตกอยู่ในภวังค์ภายใต้มนต์สะกดของเจ้ากบน้อย เจนไม่ควรที่จะไปรบกวนช่วงเวลาดีๆแบบนี้ มือเล็กปิดประตูเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างประตูเพื่อเฝ้ารออย่างใจเย็น ความเงียบของบ้านทำให้ใจสงบลง พลันก่อนที่ความรู้สึกบางอย่างที่ตัวเองกดทับไว้ในใจให้ตีตื้นขึ้นมา จนทำให้น้ำในตาเอ่อล้น เจน….ไม่ได้ขี้แยอย่างนี้มานานแล้ว


ตั้งแต่วันที่พยายามสร้างเกราะกำบังให้ตนเองนั่นแหละ….


เจนรักษ์ไม่สันทัดเรื่องของครอบครัว อย่างน้อยก็บอกตัวเองอย่างนั้น ใช้เวลานานกว่าจะคิดได้ว่าบางทีน้องวินอาจจะต้องการให้พ่อมาหา และใกล้กันเพียงแค่เอื้อมถึงแบบนี้ทำไมถึงมาไม่ได้ แต่คำตอบนี้คงมีแค่เจ้าตัวเท่านั้นที่บอกได้ ทว่าในฐานะลูกที่ไม่สามารถเอื้อมถึง เด็กพวกนั้นไม่ผิดและทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ในอนาคตที่น้องวินสามารถเดินได้ ก็อาจจะเดินไปยืนหน้าห้องของพ่อตัวเอง และเพียงแค่เอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูห้องเท่านั้นก็จะได้พบกัน


แต่กว่าจะถึงวันนั้น ความกล้าหาญกับเรื่องนี้ที่ติดลบก็อาจจะทำให้ลูกบิดนั้นเหมือนอยู่สูงเกินเอื้อมถึงก็เป็นได้ ก่อนจะถึงวันนั้น เจนอยากจะมั่นใจว่าจะมีใครสักคนช่วยปลูกต้นกล้าลงไปในหัวใจอันไร้เดียงสาของน้องวิน สักวันหนึ่งเมื่อคุณรบเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเข้าหาใคร…เขาจะได้มีอัศวินตัวน้อยเข้ามาในยามที่ต้องการที่สุด วันหนึ่ง…..


เจนรู้เพราะต้องใช้เวลานานมากเหลือเกินที่ตนจะมีความกล้ามากมายแบบนี้เช่นกัน คนตัวเล็กถอนหายใจก่อนจะปาดน้ำตาที่ไหลออกมานิดๆ ในเวลาว่างเงียบๆเช่นนี้ งานอดิเรกอย่างหนึ่งของเจนคือการร้องไห้เพราะมันมักจะหวนนึกถึงอดีต แม้เจนจะเติบโตขึ้นมาอย่างดีแบบที่ไม่มีใครคิดฝัน ประสบความสำเร็จกว่าใครที่เคยกล่าวว่า แต่ทั้งนั้น….มันก็เท่านั้นจริงๆ 


“อะ!”  ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงประตูที่ถูกดันออกมา


“…….”


“…….”


“…….”


“น้องนอนหลับแล้วเหรอครับ”  เจนนั้นยิ้มให้เขาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น


“อืม”


“ถ้างั้นก็ ราตรีสวัสดิ์ครับ”  คนตัวเล็กนั้นบอกลา ก่อนที่จะเดินเข้าห้องไปโดยไม่แม้แต่จะสบตา ทว่านักรบที่ยืนอยู่หน้าห้องของลูกก็ยังคงไม่ได้ก้าวเท้าไปไหน


และเจนคิดว่ามีคำสุดท้ายอยากบอกเขาเอาไว้….


“คือว่า….”


“…….”


“ถ้าคุณรบอยากมากล่อมน้องอีก บอกนะครับ”


“…….”


“เดี๋ยวผมออกมาเฝ้าหน้าห้องให้”  เหมือนวันนี้ เจนตั้งใจแล้ว…ต่อให้สำหรับเจน คุณรบจะไม่ใช่คนที่น่าเข้าใกล้อะไรเลย แต่เพราะเจนเองก็ไม่ได้ไว้ใจใครง่ายๆ และเพื่อน้องวิน….ถ้าเป็นเรื่องของน้องวินเท่านั้น….


เจนไว้ใจคุณรบมากที่สุดแล้ว…..







tbc


Talk: ตั้งใจจะเว้นว่างบ้าง แต่…..หลบไปในเฝ้าสตอคที่แต่งทิ้งไว้ดีกว่า คือจริงๆเราไม่ได้กังวลเรื่องลงถี่ไปอย่างเดียวหรอกค่ะ กลัวคนจะไม่รู้ว่ามาลงแล้วมากกว่า คือลงถี่ไปงี้บางคนก็อาจจะแบบเออไม่คิดว่าเป็นตอนใหม่ไรงี้สำหรับไทยบอยเลิฟอะนะ ถึงจะเขียนวันนี้อะไรแล้วก็ตาม แต่พรุ่งนี้ตั้งใจจะทำโอที คงไม่ได้มาลง ._.

เห็นไหมเราบอกแล้วว่าน้องเจนนางเริ่มมีสาระบ้างแล้ว เริ่มเป็นงานเป็นการ เริ่มกล้าตายมากขึ้น นางเริ่มรุกคุณรบแล้วเห็นไหม เราเริ่มเห็นแววพระเอกจากตัวคุณรบต่อเมื่อนางมีบทบาทมากขึ้นเนาะ หลังจากเรือเพชรเจนลอยลำมาสักพัก กัปตันก็ได้พังเรือเมื่อตอนก่อน ต่อไปเราจะมาเริ่มต่อเรือรบเจนแล้วค่ะ5555

ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ

Twitter #เจนไม่นก @reallyuri







หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Raam ที่ 28-06-2018 19:49:53
สงสารนักรบจัง สู้ๆนะเจน :hao5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 28-06-2018 20:37:24
ติดตามค่ะ ชอบเจนอ่ะฉลาดทันคน ถึงจะฝอยมากไปหน่อยเถอะ5555 เอาใจช่วยคุณนักรบค่า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-06-2018 21:04:28
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 28-06-2018 21:31:39
เจนน่ารัก พูดอีกล้านรอบ 555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 28-06-2018 21:57:07
มีสาระ แต่ยังแซะเก่ง เวิ้นเก่ง 555555555
แอบน้ำตาซึมตอนเจนน้ำตาไหล เข้าใจเจตนาของเจนเบย  :hao5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 28-06-2018 22:12:30
เจนน่ารักมาก เพราะตอนเด็กตัวเองต้องห่างแม่ ก็เลยอยากให้น้องวินได้ใกล้ชิดกับพ่อ
เนื้อเรื่องสนุกแต่เราว่าเจนเวิ่นเว้อไปหน่อยบางช่วงเราอ่านข้ามๆไปบ้าง เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-06-2018 01:03:13
เจนน่ารักมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 29-06-2018 01:26:47
เจนนนนน ทำดีมากลูกกก
คุณรบควรดีกับน้องได้แล้วว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-06-2018 08:43:05
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 29-06-2018 15:23:23
เจนเป็นคนที่งามมากจิตใจประเสร็จมากก. ฉันหลงรักเค้าแล้วว มาวันล่ะตอนได้ไหม เค้าจะลงแดงถ้าไม่ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 10] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 30-06-2018 12:16:17
ชอบบบบบบบ เจนจู้ววววๆ น้องวินทำไมน่ารักกกกกกกกก
หัวข้อ: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 30-06-2018 19:11:42
#เจนไม่นก
เจนกับคนไม่ดี











ทำไมต้องร้องไห้ด้วย….


นักรบเองก็ไม่เข้าใจ แต่จริงๆเขาเองก็เข้าใจคนไม่เก่งเท่าไหร่ หากไม่ใช่เรื่องงาน เขาค่อนข้างจะคาดเดาความรู้สึกของคนอื่นไม่ค่อยเก่ง แต่จริงๆแล้วเขาไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของคนอื่นสักเท่าไหร่มากกว่า แม้มันทำให้ตัวเองดูเย็นชา ซึ่งนั่นก็รู้ แต่ก็ยังไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องสนใจ หากมันไม่ได้ทำเงินมาให้….


เจนรักษ์ก็เป็นอีกคนที่เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจความรู้สึก แม้ว่าจะให้ความสำคัญกับแม่ไพที่เลี้ยงดูกันตั้งแต่เด็กๆแต่กับลูกของแม่ไพที่ไม่เคยเจอกัน มันก็ไม่มีความจำเป็นให้ต้องแคร์เท่าไหร่ เอาเป็นว่าเขาก็ให้ระยะกับทุกคน และอาจจะให้ความใส่ใจอีกฝ่ายในระดับที่จะไม่น่าเกลียดหรือทำให้แม่ไพต้องเสียใจก็พอแล้ว แต่เมื่อสักครู่นี้….


เจนรักษ์ร้องไห้….


ถึงสุดท้ายจะยิ้มก็เถอะ แต่นักรบก็ค้นพบได้ว่าเด็กหนุ่มรุ่นน้องคนนี้บ้าๆบอๆจริงๆเหมือนกับที่เพชรเคยเล่าให้ฟัง ไม่รู้ว่าคุณเลขาจริงจังกับอีกฝ่ายแค่ไหน ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา ทว่าอีกฝ่ายก็ยังขยันเอาเรื่องที่คุยเล่นมาเล่าให้ฟัง แต่ในเรื่องเล่าต่างๆ ไม่มีคำเตือนที่บอกว่าอีกคนจะร้องไห้ง่ายกับแค่นั่งอยู่หน้าห้องน้องวินแบบนี้….กับเจนรักษ์ปกติก็รับมือยากอยู่แล้ว อย่างนี้ยิ่งทำตัวไม่ถูก แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำตัวอะไร เดินหนีไปก็คงพอแล้ว


ทว่าข้อเสนอสุดท้ายที่ออกมาจากรอยยิ้มพร้อมกับน้ำเสียงจริงจังนั้นทำให้เขาต้องกลับมาคิดถึงอีกฝ่ายอีกครั้ง นักรบวางเอกสารในมือลง ในที่สุดก็ไม่สามารถที่จะอ่านเอกสารที่ตั้งใจไว้ได้เพราะอยู่ๆเรื่องของพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ก็เข้ามามีบทบาททางความคิด นักรบเคยไม่ชอบเจนรักษ์ แต่ตลอดระยะเวลาจะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามันก็ได้ช่วยพิสูจน์ว่าเด็กนั่นทำงานได้ดี แต่ทั้งนี้การจะมองคนบางคนก็ต้องมองให้ยาว ซึ่งนักรบเคยกังขาในตัวเองมาตลอดว่าความอดทนของเขาจะมีมากพอหรือเปล่า

ก็ไม่รู้เพราะอะไรเจนรักษ์จึงออกคำสั่งที่ควรจะน่าหงุดหงิดมากมายในวันนี้ ทั้งให้เขาไปล้างมือ ให้อุ้มน้องวิน บังคับให้กินข้าว และยังจะมาเรียกให้ไปกล่อมลูกนอน ทุกอย่างมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องทำเพื่อใครสักคน หากแต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อสุขภาพและจิตใจตัวเองทั้งนั้น ถ้าไม่ล้างมือ ก็จะอุ้มลูกไม่ได้ ถ้าไม่กินข้าว ก็จะปวดท้อง และถ้าไม่ได้กล่อมลูก ก็เป็นเขาที่จะจ้องมองอีกคนผ่านกล้องวงจรปิด จะบอกว่าเจนรักษ์ทำเพื่อกันก็ไม่ได้เต็มปาก แต่จะบอกว่าทำเพื่อตัวเอง….ก็ดูไม่ชัดเจน


ไม่ว่าเจนรักษ์จะดีหรือร้าย แต่สุดท้ายแล้ว….เขาต้องการอะไรกันแน่….

xxx


เป็นอีกครั้งที่เราต้องมาเผชิญหน้ากัน


นักรบอาจจะสงสัย ว่าเจนต้องการอะไรจากเขาถึงได้ออกมาส่งกันขึ้นรถในตอนเช้า หรืออยากจะเจอหน้าคุณเพชรที่มักมารับกัน นักรบมองดวงตาของอีกฝ่ายที่จ้องมองกันโดยไม่มีหลบอีกต่อไป จะบอกว่าเจนรักษ์วันนี้เปลี่ยนไปจากทุกวันก็ไม่ใช่ เพียงแต่วันนี้ดูเด็ดขาดกว่าทุกวันคงจะพูดได้ชัดเจนกว่า ตาหนูผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ยังคงเล่นยางกัดก่อนจะช้อนตามองคนพ่อที่กำลังจะเดินออกจากบ้านไปยังโรงรถ


“วันนี้คุณเพชรไม่ได้มารับหรอกนะ”  ไม่ต้องมาส่งก็ได้ คุณรบอาจจะหมายความอย่างนี้ แต่ไม่ใช่โว้ย เจนไม่มีแผนจะอ่อยคุณเพชรแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มาส่งเพื่อดักรอเจอด้วย!


“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณรบ”


“ขึ้นเงินเดือนหรือลาออก”  ว้อยยยยย ทำไมเป็นคนน่าหงุดหงิดได้เสมอต้นเสมอปลาย


“ไม่ขอขึ้นและไม่ลาออก” ก็คนมันหน้าด้าน ฉันจะอยู่ที่นี่!


“……..”


“ในตอนนี้” ก็ไอ้เจนหน้าด้านได้แค่ตอนนี้ไงครับ


“……..”


“……..”


“หมายความว่าไม่ขอขึ้นเงินตอนนี้ หรือไม่ขอลาออกตอนนี้”  เป็นคนที่นอกจากจะซึนเดเระแล้วก็ซื่อบื้อด้วยหรือไง โว้ยจากหน้าด้านๆคุณรบสามารถทำให้หน้าชาเหมือนเอาหน้าไปครูดกับถนนลูกรังได้เลยจริงๆ


“แปลว่ามีแผนการจะลาออกในอนาคตแต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเมื่อไหร่ครับ”  ต้องให้ไอ้เจนพูดให้ชัดเจนกว่านี้ไหม


“งั้นก็อย่าลืมไปบอกคุณแม่ด้วย”


“ผมต้องคุยกับคุณรบก่อน”


“……..”


“ในฐานะพ่อของน้องวิน ผมควรจะบอกคุณรบก่อน”


“บอกผมหรือแม่ก็เหมือนกัน”


“เรื่องลาออกอาจจะเหมือนกัน แต่เรื่องต่อจากนี้ผมพูดกับคุณได้คนเดียว”  ฟังดูโรแมนติคดี แต่จริงๆแล้วไม่ใช่


ไอ้เจนนอนคิดมาทั้งคืนเลยเว้ย!


“สำคัญมากไหม”  ไม่มั้งมึงงงง พูดเหมือนตัวเองเป็นคนที่เดินเข้ามาหา ทักทายและกอดคอกันได้เลยเนอะ ก็ต้องสำคัญสิวะ!


“สำคัญสำหรับผม แต่สำหรับคุณรบ ผมไม่แน่ใจ” 


“ยาวมากไหม”


“ก็ถ้าคุณรบพูดรู้เรื่อง ก็ไม่ยาวมากครับ”


“……..”  ชิหาย ไอ้เจนปากเพลินไปเนอะ


“เอ่อ ผมขอโทษครับ”


“ผมไม่มีเวลามากนัก มันจะสายแล้ว”  และเขามีประชุมตอนเช้า เรื่องงี่เง่าที่น่าจะเป็นภาคต่อของเมื่อวาน


“งั้นผมไม่รบกวนล่ะกัน”


“มาที่บริษัทล่ะกัน”


“แต่ผมต้องดูแลน้องวิน”


“งั้นก็พาตาหนูมาด้วย”


“………”


“ไปละนะ”


“คุณรบพูดจริงๆเหรอครับ”  ไอ้เจนพาน้องวินออกไปนอกบ้านใช่ไหม


“โทรบอกคุณเพชร ให้เขามารับหรือหารถมารับ คุณเพชรจะจัดตารางให้พบเจอเอง”  เขาคงไม่อยากต่อความกับเจนรักษ์อีกต่อ คนตัวเล็กแทบตะเบ๊ะใส่หลังจากที่การต่อรองดำเนินต่อไปได้ในขั้นต่อๆไป รู้สึกประสบความสำเร็จราวกับนัดนายกรัฐมนตรีได้


รถของคุณพ่อตัวโตออกไปจากบ้านแล้ว และตอนนี้คุณพี่เลี้ยงกับลูกชายตัวเล็กก็กลับเข้าไปในตัวบ้าน เจนรักษ์ตื่นเต้นที่จะได้ออกไปข้างนอกวันนี้กับน้องวิน คนตัวเล็กนั้นจับเจ้าลูกกบโยกไปโยกมาอย่างอารมณ์ดี จนคนเดินผ่านไปมามองด้วยคิดว่ากินดีหมีอะไรมาถึงได้คึกได้ปานนั้น


“พี่เจน วันนี้อารมณ์ดีนะครับ”  ตอนเช้าๆยังเห็นหน้ายุ่งอยู่เลย


“อ้าว น้องพาย”  เจนรักษ์หันมายิ้มให้ เป็นน้องพระพาย ลูกชายของน้าจินตนา


“มีอะไรดีเหรอครับ”


“วันนี้พี่จะพาคุณหนูน้องวินไปเที่ยวน่ะ”


“เที่ยวเหรอ”  เด็กพายตาวาว


“อื้ม ถ้าได้เที่ยวแล้วเห็นอะไรดีๆพี่จะซื้อมาฝากเรานะ”  เจนรักษ์ให้ความเอ็นดูเด็กคนนี้พอควรเลย ถึงแม้จะเป็นลูกของน้าจินตนาที่ไม่ชอบหน้ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเจนจะแยกแยะไม่ได้ เด็กมันเป็นเด็กดี เราก็เอ็นดูไปตามเห็นสมควร


“ขอบคุณพี่เจนล่วงหน้าเลยนะครับ”  ก้มไหว้รอเลยนะ ไอ้เด็กนี่


“อ้าว พูดงี้พี่ก็ต้องซื้ออะไรมาให้นะสิ”


“จะว่าไปแล้วเมื่อวานมีพัสดุส่งถึงพี่ด้วยนะ ตั้ง 2 กล่อง”


“จริงเหรอ มาเร็วเหมือนกันนะนี่”


“เดี๋ยวพายเอาไปให้นะครับ”


“ถ้างั้นพี่ฝากเอาไปไว้ในห้องคุณหนูวินนะ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปแกะดู”  วันนี้มีแต่เรื่องดีๆจริงๆตั้งแต่เช้าเลยเว้ย อย่างน้อยวันนี้ก็คุยกับคุณรบได้มากขึ้น กล้าสบตามากขึ้น จริงๆไม่ใช่เจนไม่กล้าก่อนหน้านี้ แต่เพราะไม่รู้ว่าคุณรบจะมาไม้ไหนจึงหวั่นใจตัวเองมากกว่า เพราะความอดทนนี่ก็ต่ำเหลือเกิน สู้ให้เจนหลบตาให้ ดีกว่าให้น้องวินกำพร้าพ่อตั้งแต่แบเบาะ และจบด้วยการไปกินข้าวแดงในคุกหลังจากทำตัวสุ่มเสี่ยงมานาน


เจนรักษ์นั้นเดินไปบอกคุณหญิงและแม่ของตัวเอง นัยๆว่าขออนุญาตออกไปข้างนอก ตอนแรกก็นึกว่าท่านจะงอนๆตามประสาคนแก่ขี้เหงา แต่ไม่เลยจ้า ใช้ให้ออกไปซื้อของให้อีก ลิสต์นี่ยาวยิ่งกว่าหางว่าว แม่ที่นั่งปลอกกระเทียมอยู่ไม่ไกลก็มีหันมาบอกให้ซื้อของมาฝาก ทุกคนเห็นไอ้เจนเป็นอะไรครับ ขนเข็นรถเด็กที่เปิดพรีออเดอร์สินค้าเหรอ ฮัลโหลววววววว


“คุณผู้หญิงใช้ครีมยี่ห้อนี้ด้วยเหรอครับ”  เจนถามขึ้นอย่างสงสัย


“ใช่ นี่ใช้หมดมาหลายกระปุกแล้ว”


“แล้วให้เจนไปเอาที่บริษัทคุณรบให้เหรอครับ”


“จ้ะ แม่ฝากคุณเพชรช่วยพรีออเดอร์มาให้ หาซื้อยาก ในไทยยังไม่มีใครเอาเข้ามาเลย”


“งั้นเหรอครับ” คุณเพชรนี่ทำงานเลขาประสาอะไรวะ แม้แต่ครีมก็พรีออเดอร์ให้ หรือว่าจริงๆที่บ่นว่าคุณรบใช้งานหนักนี่เพราะแอบไปเปิดร้านรับพรีใช่ไหม แพคออเดอร์ไม่ทันสินะถึงได้บ่นเป็นหมีแดกน้ำผึ้งขนาดนั้น


“เจนอยากลองไหมล่ะ เดี๋ยวจะบอกเขาให้เอามาให้เราสักกระปุก”


“เอ่อ ไม่ต้องหรอกครับ”


“อ้าวทำไมล่ะ”


“ไม่เป็นไรหรอกครับ เจนเกรงใจ”


“งั้นก็ตามใจ มันแพงพอดี”  อ้าว….เป็นงั้นไป คือถ้ากูเอานี่หักจากเงินเดือนเลย….ว่างั้น


คุยกันสัพเพเหระก็ได้รับการติดต่อมาจากอดีตผู้ชายขายอ้อยที่ประกาศการเป็นเพื่อนร่วมวงการอาชีพอย่างที่เจนไม่เคยนึกอยากมีความเกี่ยวข้องด้วย คุณเพชรจะเป็นคนมารับเจนเองตามประสาคนบอกว่าว่าง แต่จริงๆเจนรู้ว่าอยากอู้งานเลยทำเป็นพูดไปงั้น พอนัดแนะเวลากันเสร็จแล้ว เจนก็ขึ้นไปบนห้อง พัสดุสองกล่องที่ถูกส่งมานั้นวางตั้งไว้ ไม่มีอะไรบุบสลาย ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะแต้มบุญที่มีอยู่จริงๆ เราคงทำบุญกับบุรุษไปรษณีย์ เจนรักษ์เชื่อเช่นนั้น


“โชคดีที่ไม่โดนภาษีนะนี่”  กล่องนึงเป็นของเอลที่ส่งของมือสองมาให้ เจนคิดว่าของบางอย่างหากไม่ได้ใช้แล้วก็สมควรบริจาคหรือมอบให้คนอื่นไป จริงๆเอลก็มีแผนจะส่งต่ออยู่แล้ว พอเจนไปถามเรื่องเลี้ยงเด็กนั่นนี่เธอเลยมีที่ลงกับปัญหาของรกบ้านอย่างง่ายดายด้วยการส่งให้มารกที่บ้านคนอื่นแทน เป็นกล่องใหญ่เลยทีเดียว


“มีหนังสือนิทาน ตุ๊กตา เสื้อผ้า น้องวินไม่เอานะลูก อย่ากัดสิ กัดไม่ได้นะ”  เจนรักษ์หันไปห้ามเจ้ากบน้อยที่กำลังคันฟันอยากกัดไปเสียทุกสิ่ง เดี๋ยวก็กัดพุงซะเลย จะได้รู้ว่าห้ามกัดทุกอย่างพร่ำเพรื่อแบบนี้


พอห้ามไม่ฟังเลยเปลี่ยนใจมาเก็บของให้เข้าที่แทน หนังสือนิทานภาษาอังกฤษที่มีเสียงพวกนี้เป็นของที่ลูกของเอลเบื่อแล้ว แต่เจนเห็นว่ามันคงจะช่วยฆ่าเวลายามหมดมุกจะหยอกของเจนได้ แถมมีสาระยิ่งกว่าตัวเจนทั้งชีวิตนี้อีก เก็บของเสร็จก็เริ่มจัดของสำหรับออกทริปไปข้างนอกระยะสั้นระหว่างเจนกับคุณหนูน้อยเตรียมไว้ กะว่าพ่อค้าขายอ้อยผ่านมาเมื่อไหร่จะได้กระโดดขึ้นรถหนีตามไปในทันที


แต่ยังไม่ทันจะเตรียมของเสร็จ ราชรถของไอ้เจนก็มารอถึงที่ เจนจึงรีบหอบข้าวของและแบกเจ้ากบน้อยขึ้นเป้ที่อก น้องพายที่เห็นพี่เจนกำลังยกของดูหนักก็รีบเข้าไปช่วยในทันที เจนยิ้มให้น้อง เห็นทีว่าคงต้องซื้อของมาติดสินบนหน่อยแล้ว ถ้าจะมีน้ำใจแบบนี้ คนตัวเล็กยิ้มให้ พายถือว่าเป็นมิตรที่ดีในบ้านหลังนี้เลยทีเดียว แต่ไหนๆก็เป็นมิตรที่ดีแล้วก็ขอหันไปใช้ให้ซักพวกตุ๊กตาให้ซะหน่อย จะได้คุ้มเงินค่าของฝาก


“สวัสดีครับคุณเจน”


“รีบนะครับคุณเพชร”


“ผมขี้เกียจอยู่ในห้องประชุมกับคุณรบครับ มีแต่เสือสิงกระทิงแรด”


“ตอนนี้มีไม่ครบแล้วล่ะครับ เพราะตัวนึงออกมาจากห้องประชุมแล้ว”  เจนพูด ยิ้มให้อย่างไม่จริงใจและไม่แคร์หากจะรู้ทันกัน


“โหยคุณเจน ปากดุนะครับ”


“รู้ตัวด้วยว่าตัวเองเป็นอะไร”


“เป็นเสือ”


“เป็นแรด”  เจนพูดชัดถ้อยคำ เป็นอารมณ์ขันร้ายๆที่ถ้าเกลียดขี้หน้ากันนี่มีซัดเข้าให้ แต่ดูเหมือนคุณเพชรจะชอบอะไรแสบๆคันๆแบบนี้ เลยมีคนเดียวที่หลุดหัวเราะออกมา


คือเจ้าพระพาย…


“อ่า….โทษทีครับ”  แต่ไม่มีใครกล่าวโทษ


“สวัสดีครับน้องพาย”


“คุณเพชรไม่ต้องสวัสดีพายก็ได้ครับ”


“พายต้องพูดว่าไม่ต้องมาแจกอ้อยแถวนี้ น่าเบื่อ”


“โห คุณเจน Why you doing this to me”


“Behave yourself please. He is just a kid เดี๋ยวน้องพายช่วยไปเอารถเข็นคุณน้องวินมาไว้ท้ายรถด้วยนะครับ เจ้ากบน้อยนี่ชักจะอ้วนแล้ว พี่เจนอุ้มไม่ไหว” ประโยคแรกบอกกับคนขายอ้อยเสี่ยงคุก ประโยคที่สองพูดกับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ส่วนประโยคสุดท้ายพูดกับเด็กที่กว่าจะบรรลุนิติภาวะคงอีกนาน น้องพายรับทราบก่อนจะรีบวิ่งไปทำตามคำสั่ง


“คุณเจนนี่กันท่าเก่งเหมือนกันนะครับ”


“ไม่ได้กันครับ เป็นห่วง ไม่อยากซื้อโอเลี้ยงไปเยี่ยม”


“ขอเป็นข้าวผัดกับชาเย็นหวานน้อยคินนี่นะครับ”  ไร้สาระ ยิ่งคุยด้วยยิ่งไร้สาระ ไอ้เจนกรอกตามองฟ้า ตลอดเวลาในการนั่งรถคงได้ตากลับเขาเบ้าพอดีถ้าต้องอยู่กับตานี่ โชคดีที่ไม่หลวมตัวอ่อยต่อ


ทว่ารอน้องพายไม่นาน เด็กหนุ่มท่าทางคล่องแคล่วก็อาสาเอารถเข็นใส่หลังรถให้ พอจัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว เจนก็ตรวจเช็คเสียหน่อย ทำเป็นเรื่องใหญ่ แต่เจ้ากบน้อยนี่เคยได้ออกเดินทางกับพี่เลี้ยงมือใหม่คนนี้ที่ไหนเล่า นับดูนั่นตรวจดูนี่ก่อนจะขมวดคิ้ว ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ไม่เข้าที่เข้าทางนัก


“ไหนคาร์ซีท”


“ไม่มีนะครับ”  คุณเพชรบอก


“เอ่อ….หมายถึงที่นั่งสำหรับเด็กในรถใช่ไหมพี่เจน”  น้องพายพยามนึกภาพ


“อืม แล้วอย่างนี้คุณน้องวินจะทำยังไง”


“เหมือนจะไม่เคยซื้อไว้อะครับ แล้วอีกอย่าง….ตั้งแต่เกิดมาก็เหมือนกับว่าจะไม่เคยพาน้องนั่งรถไปไหนด้วย”


“………..”  อย่ามาบอกว่าให้หมอตำแยมาทำคลอดที่บ้านด้วย ไอ้เจนจะเพนโลมมมมมม


“เอาไงดีครับพี่เจน”


“โอเค คุณเพชรก็ขับรถระวังๆหน่อยล่ะกัน”


“โอเคครับ”  จริงๆแล้วเจนก็ไม่อยากเสี่ยง แต่นัดก็เป็นนัด และเจนก็ไม่รู้ว่าคุณรบจะอารมณ์เสียขนาดไหนถ้าเจนยืนกรานว่าจะไม่ไป


แต่กว่าจะถึงที่ทำงาน เจนรักษ์ก็นั่งเกร็งไปตลอดทาง….


โชคดีที่ช่วงเวลานี้รถไม่ติดมาก และไม่ได้มีความจำเป็นต้องเบียดแทรก คุณเพชรขับรถอย่างระมัดระวังอย่างที่ขอไว้ ไม่เหยียบแรงเกินไป บางทีเขาอาจจะไม่ได้กลัวน้องวินไม่ปลอดภัยอย่างเดียว แต่กลัวเจนรักษ์อกแตกตายยามที่เขาเหยียบคันเร่งด้วย  แหมมมมม ก็อยากให้กลัวชีวิตตัวเองด้วย หากโดนชนไปมันก็ไม่คุ้มไหม แล้วถ้าไม่ตายก็เสี่ยงโดนคุณรบมาแหกอกยับทั้งคนขับคนนั่ง ทีนี้ไม่ตายก็จะได้ตายกันของจริงละครับ


หลังจากพาชีวิตน้อยๆบนเส้นทางแห่งการอยู่รอดมาถึงที่ตึก เจนรักษ์ก็เดินตามคุณเลขาทั้งสภาพที่มีเจ้ากบน้อยอยู่ที่เป้หน้าอย่างนี้ ก็รู้ว่าหน้าตาดีแต่อย่างนี้มันเด่นชะมัด เออ….มองกันเข้าไป ให้มันรู้ซะ ว่านี่ใคร ว่าที่ประธานบริษัทรุ่นต่อไปนะ อีก 20 กว่าปีถ้ายังมีบุญวาสนาต่อบริษัทนี้คงได้เจอท่านอัศวินแน่นอน รีบไหว้กันซะตั้งแต่ตอนนี้เลยจะได้ไม่เขิน


“คุณเจนรอห้องนี้ก่อนนะครับ”   หลังจากเข้ามาในห้องรับรอง เจนรักษ์ก็จัดการเอาเจ้าลูกกบออกจากกระเป๋าจิงโจ้นี่ จับให้นอนเล่นกับโซฟาโดยคอยมองระมัดระวังว่าเจ้าตัวจะไม่กระโดดกบจนหล่นลงไป


จะว่าไปนี่ก็ติดกันมาสองวันแล้วที่เจนได้มาเยือนที่แห่งนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าตนจะมีความจำเป็นที่ต้องมา จริงๆแล้วเอาไว้ค่อยคุยกันตอนคุณรบกลับบ้านก็ได้ แต่ที่เขาให้มาที่นี่วันนี้ ไม่รู้ว่าเพราะมีงานต้องสะสางดึกๆจึงไม่สะดวกคุยตอนกลางคืน….หรือยังระแวงว่าไอ้เจนจะปล้ำเขาเหมือนในหนังอยู่หรือเปล่า


โหคุณรบ….หวังว่าจะไม่คิดอย่างนั้นนะ


“บูวววว”  แปลว่าอะไรครับคุณอัศวิน เจนนั้นส่ายหัวก่อนจะดึงผ้าอ้อมมาซับน้ำหมากให้คุณชายท่านที่ถูกพ่นเล่นซะเลอะ  และดึงจอมแสบผู้น่ารักมาอุ้มไว้กับอก แสดงความรักต่อนายท่านเยี่ยงบ่าวที่ดีอยู่เพียงครู่ ประตูห้องก็เปิดเผิงออกมา


ตั้งใจว่าจะขอน้ำสักแก้วอยู่พอดี


“มาอีกแล้วเหรอ”


“………….”


“มาทำไมบ่อยๆกัน”


“………..”


“ฉันถามแกไม่ได้ยินหรือไง”


“ผมไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่จะไปยกน้ำมาให้ผมในฐานะแขก ผมก็จะบอกว่าขอน้ำเย็นหนึ่งแก้วครับ”  เจนยิ้มประคองกอดน้องวินในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นตามสัญชาตญาณ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มาดี แต่เจนก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าหล่อนจะมาทำไม


“หึ คิดว่าตัวเองเป็นใคร ก็แค่ลูกคนใช้ไม่ใช่หรือไง”


“………..”


“ริอาจมาตีเสมอเทียมคนอื่น คิดว่าชาวบ้านเขาไม่รู้รากเหง้าตัวเองดีหรือไง”  แล้วรากเหง้าคุณเป็นใครเหรอครับถึงได้มาทำกิริยาต่ำๆแบบนี้….นี่คือสิ่งที่เจนคิดแต่ไม่ได้พูดออกไป อย่างไรก็ตามเจนก็ตระหนักรู้ได้ว่าตนมีคนที่ต้องปกป้อง แม้ทุกคำที่อีกฝ่ายพูดออกมาจะเป็นการเล่นงานเจนเองคนเดียว แต่ผู้ไม่เกี่ยวข้องอยู่ตรงนี้ ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีจะลดละให้เลย


ในตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ใครสักคนเดินผ่านมา….


“ว่าไง คิดจะจับคุณรบใช่ไหม”  คิ้วเจนขมวดฉับ เอะอะอะไรก็จับคุณรบ บ้าเถอะ! พี่เลี้ยงทุกคนจะต้องหวังเคลมพ่อเด็กตลอดเลยเหรอ อาชีพนี้ก็มีคนที่มีศีลธรรมเยอะแยะไป ไอ้เจนจะเป็นคนหนึ่งในนั้นไม่ได้เลยหรือไงวะ อย่างน้อยนี่ก็ในชีวิตจริง ไม่ใช่นิยายหรือละครที่ไหนสักหน่อย!


“เกรงว่าจะไม่ใช่ รบกวนเลิกถามอย่างหยาบคายและออกไปได้แล้วครับ”


“แก”


“ผมคิดว่าให้เกียรติคุณพอแล้ว แต่ถ้าก้าวเข้ามาอีกนิด…”  เจนมองเธอด้วยสายตาเอาเรื่องอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่มีไว้ขู่แบบที่เคยทำ


ทว่าอีกฝ่ายยังไม่แม้แต่จะถอยหลัง


“อย่านะ”  น้ำเสียงแข็งๆของเจนถูกส่งออกไป เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าสองมือของเจนไม่สามารถที่จะทำร้ายอะไรกันได้แน่เพราะมันถูกใช้ในการโอบอุ้มเด็กตัวเล็กๆไว้อย่างแนบแน่น เธอยิ่งชะล่าใจและย่างสามขุมเข้าหา โอเคในจุดนี้เจนอาจจะเสียเปรียบจริงๆ และถ้ามันจะไม่รุนแรงจนเกินไปเจนก็จะลุกขึ้นและใช้เท้าปัดป้องให้ได้ แต่มาคิดดูอีกที….


คุณน้องวินจะได้รับอันตราย…


ถ้าเจนยกเท้าขึ้นมาถีบอีกฝ่าย ร่างกายที่ไม่ได้สมดุล มือที่โอบอุ้มอาจจะทำให้เจนเซล้มลงไปได้ และมันอาจจะทำให้น้องวินได้รับบาดเจ็บ ในชั่วเวลาเพียงเสี้ยววิที่เธอคนนั้นพุ่งเข้ามา สายตาของเจนนั้นเห็นได้ถึงเล็บยาวๆที่ถูกทาสีสดเคลือบไว้ น้องวินซึ่งถูกอุ้มอยู่ที่ด้านหน้าอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือยังไง ช่วงเวลาเพียงครู่มีไม่พอให้เจนหาทางออกที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับปัญหานี้ และสัญชาตญาณก็สั่งให้ตนเลือกที่จะกอดเจ้ากบน้อยให้แน่นขึ้นและหันหลังให้ศัตรู ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลยจริงๆ


ปึก…


“อั่ก!”  แรงทุบที่หลังของผู้หญิงคนนี้ที่ออกมาสุดแรงทำให้เจนรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ และแรงผลักของเธอก็ทำให้เจนล้มหน้าทิ่มลงไปกับโซฟา โดยมีน้องวินในอ้อมกอดถูกทับอยู่ข้างล่าง


ฮึก….


“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”  เสียงหวีดร้องจ้าดังขึ้นจากอัศวินตัวน้อยที่รับรู้ได้ถึงความผิดปกติอันเป็นภัยต่อตัวเอง เสียงร้องของน้องวินดังลั่นออกไป เป็นผลให้คนที่อยู่ข้างนอกรีบเข้ามาดูเหตุการณ์ข้างใน  เป็นคุณวดีที่เคยพาเจนเดินในตึกเมื่อวานที่เข้ามาเป็นคนแรก ตามด้วยคุณเพชรที่กำลังจะเดินมาบอกว่าท่านประธานติดประชุมยังไม่สามารถออกมาได้ และแน่นอนเมื่อมีพยานเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด


จำเลยจึงรีบอาศัยช่วงเวลาที่ทุกคนปะติดปะต่อเรื่องหนีไป


“เกิดอะไรขึ้น”  พนักงานสาวคนนั้นพึมพำกับตัวเอง คุณเพชรที่มีสติดีกว่ารีบวิ่งออกไปโดยไม่ลืมที่จะฝากฝังให้เธออยู่เป็นเพื่อนในขณะนี้


เจนยังคงกอดน้องวินเอาไว้กับอกตัวเอง ร่างกายเล็กๆของตนนั้นยังคงทำหน้าที่บังเจ้ากบน้อยเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าถึงได้ แต่กระนั้นเจนก็ไม่ได้ลงน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปให้รู้สึกอึดอัด คำพึมพำขอโทษฟังดูไม่เหมือนการปลอบโยน จากเสียงร้องไห้ที่ดังลั่น เจ้ากบน้อยค่อยๆเบาเสียงลงจนเหลือเพียงแรงสะอึกสะอื้น ประตูห้องถูกเปิดขึ้นอีกครั้งทำให้พนักงานสาวที่เฝ้ารออยู่หันไปมอง


“ท่านประธาน”  เธอเอ่ยเรียกเมื่อเห็นบุรุษร่างสูงเปิดประตูเข้ามา เธออาจจะไม่ได้ทำงานมานานเพียงพอให้รู้จักนิสัยผู้เป็นใหญ่ในที่นี้อย่างถี่ถ้วน แต่ไม่เคยเลยที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้หลุดออกมา


และไม่เคยเลยที่ท่านจะละทิ้งการประชุมออกมาทั้งๆที่มันยังไม่จบสิ้นแบบนี้


“วิน”  เหมือนนักรบจะไม่สามารถเปล่งเสียงของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ เขาค่อยๆเดินเข้าไปเมื่อเห็นภาพทั้งหมดอยู่ในการควบคุม


ร่างของเจนรักษ์นั้นเอนไปกับโซฟา กอดบังร่างของน้องวินเอาไว้จนมิด มันทำให้เขาไม่รู้ว่าลูกของตนนั้นอยู่ในสภาพเช่นใดยามนี้ นักรบกำลังประมวลว่าเขาควรจะทำเช่นไรดี แต่ก็ไม่มีเสียงใดหลุดลอดออกไป จริงๆแล้วแม้แต่ย่างก้าวของเขาก็คงจะเบาจนคนที่หันหลังให้ไม่รับรู้ถึงการเข้ามา ดวงตาของเขาจ้องมองตรงหน้าอย่างละเอียดทำให้ได้เห็นว่าเสื้อยืดของอีกฝ่ายถูกดึงทึ้งดูไม่เรียบร้อย และภายใต้ร่มผ้ามีรอยข่วนจิกจนขึ้นรอยแดง


ภาพของคนตัวเล็กข้างหน้าทำให้ตัวชาวาบขึ้นมา ประธานบริษัทคนเก่งโกรธจนร่างสั่นเทิ้ม แต่เขาก็พยายามควบคุมตัวเอง และเมื่อร่างสูงหันไปสบตากับเลขาที่ไปตามกันมา คุณเพชรก็พยักหน้ารับทราบในคำสั่งที่ไร้เสียง ก่อนจะพาพนักงานหญิงผู้เห็นเหตุการณ์ออกไปด้วยเพื่อทำภารกิจที่ถูกฝากฝัง ปล่อยให้คนสามคนในห้องอยู่ด้วยกันอย่างเป็นส่วนตัวเพื่อได้คุยในเรื่องเร่งด่วนต่อจากนี้


หลังจากที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เขาก็รีบวิ่งไปห้องประชุม พอเปิดประตูเข้าไปก็ได้รับการตำหนิทางสายตา แต่เมื่อได้กระซิบบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ทันพูดจบ ร่างสูงของเจ้านายก็ชนเขาแล้วถลาออกจากห้องประชุมไปเดี๋ยวนั้น คงมีเรื่องมากมายในฐานะเลขาให้ทำต่อจากนี้ ทั้งเรื่องชี้แจงการยกเลิกประชุมอย่างกะทันหันและสืบสวนสอบสวน กับเจ้านายคงได้ติดต่อบอกความคืบหน้ากันทั้งคืน เท่านี้เพียงแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว….แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่านัก…..คือเจ้านายเขานี่แหละ


คนอย่างคุณนักรบที่เด็ดขาดกับเรื่องงาน….
จะรับมือกับสถานการณ์ข้างหน้าอย่างไรดี…


Tbc


Talk:
มีคนแนะนำและคอมเมนท์มาทั้งในส่วนเรื่องของการลงที่ลองกำหนดวันก็ดี เราก็พิจารณาอยู่ค่ะว่าเป็นไปได้ไหมกับตารางงานอื่นๆของเรา เอาเป็นว่าเราจะลองคิดและมาบอกอีกทีนะคะ ส่วนเรื่องเนื้อเรื่องที่น้องเจนเวิ้นเยอะๆอันนี้เราก็รับทราบค่ะ จะพยายามปรับปรุงดูนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์มากๆค่ะ บางทีเราเองก็คิดเหมือนกันและหวังว่าต่อไปจะทำให้ดีขึ้นไปอีก ในส่วนของเนื้อเรื่องก็เริ่มจะเข้าเนื้อแล้วค่ะ หลังจากน้ำมานาน  ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ

แวะเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ twitter @reallyuri #เจนไม่นก




หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 30-06-2018 19:25:25
เราชอบนะอัพบ่อยๆเถอะ นานๆจะมีนิยายที่อัพบ่อยๆมาให้อ่าน
เราชอบน้องเจนมาก รับรองว่าน้องไม่นกแน่นอน 5555  :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-06-2018 19:31:57
คุณรบจะจัดการยังไงดูซิเจนเจ็บตัวด้วย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2018 19:45:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-06-2018 19:47:34
 :m31: :fire:

ทำไมใจร้ายกับกบน้อย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 30-06-2018 20:05:34
เอาอย่างไง ยกพลตบไหม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 30-06-2018 21:24:59
ทำไมถึงสนุกอย่างนี้ ขนาดมาต่อบ่อยๆ ยังคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเลย ติดสุดๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 30-06-2018 21:56:44
งื้ออออ แต่ว่าเราชอบนะ อัพบ่อยๆ ฮิฮิ เพราะชอบน้องเจนเลยอยากอ่านทุกวันนนนน   :katai2-1: รอติดตาทตอนต่อไปปปปป สู้ๆฮะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 30-06-2018 22:23:21
เราชอบความเวิ่นของน้องเจนนะ ^^
ความน่ารักของน้องวินด้วย ชอบจนอยากให้อัพทุกวันเลย!!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 30-06-2018 22:40:23
คุณรบจะจัดการอย่างไรต่อนะ   แต่อยากรู้ว่าเจนจะคุยอะไรกับคุณรบด้วย

รอตอนต่อไปนะคะ 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 30-06-2018 22:46:32
นังเลขาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 30-06-2018 23:10:38
หน่องเจนเจ็บตัวด้วย ต้องเล่นงานคนนั้นเลยยย มาทำยัยเจนกับนุ้งวินของเราได้ไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: SM_day ที่ 30-06-2018 23:45:19
เรื่องสนุกดี แต่เหมือนนายเอกบรรยายหรือเพ้อเยอะไปอ่ามันออกจะเบื่อๆ เราเลยอ่านผ่านๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 01-07-2018 01:59:34
ความเวิ่นของน้องเจนมีพลังทำลายล้างสาระที่มีอยู่น้อยนิดให้หายไปได้จริงๆ ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 01-07-2018 02:51:25
หลงความน่ารักของเจนกับเจ้ากบน้อย มาต่อบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 01-07-2018 09:44:06
นังนั่นมันใคร อีคุณรบช่วยเลิกบื้อในเรื่องง่ายๆที ขัดใจสุดก็อีคุณรบ :z6:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-07-2018 14:48:23
น้องกบตกใจเลย ลูกเอ้ยยย ไม่เป็นไรนะ
มีพี่เจนอยู่ทั้งคน ถึงพี่เจนจะเวิ่นเว้อ แต่พี่เจนก็รักน้องกบที่สุดอ่ะ
รอดูคุณรบว่าจะจัดการคุณชะนีเลขายังไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 11] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 30.6.2018 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-07-2018 15:41:48
ชอบๆๆๆๆๆ สนุกมากอ่านเพลิน ชอบเจน ความคิดในหัวเจนนี่คือมโนไปถึงจักรวาลมาก ตอนแรกก็คิดว่าแม่เจนจะไม่รักเจนแต่ไม่ใช่ แม่รักเจนและแม่ทันเจนมากสามารถมองเห็นการเล่นใหญ่และดึงเจนกลับมาปัจจุบันได้ตลอด รักเจ้ากบน้อยอยากฟัดแก้มบ้าง :กอด1: ขอบคุณค่ะเนื้อเรื่องสนุกจริงๆ เจนคือคนรั่ว คนนกที่รั่วมาก :laugh: :laugh:
หัวข้อ: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 01-07-2018 20:05:08
#เจนไม่นก
เจนกับการพูดตรงๆ







“คอยรายงานด้วย อย่างนั้นแหละ”  เขากรอกเสียงไปตามสาย และเมื่อคุยกับเลขาแล้วก็ได้รับความกระจ่างขึ้นมาบ้าง หลังจากคุณเพชรออกไปสักพัก เขาก็กลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล ถ่ายรูปแผ่นหลังของเจนรักษ์เอาไว้ก่อนที่จะช่วยทำแผลให้ ทำเสร็จก็ออกไปจัดงานให้ต่อ และคอยรายงานกลับมาเป็นระยะ ส่วนเขา


ก็นั่งเป็นเพื่อนเจนรักษ์….


ก่อนนี้เขารับรู้เพียงแค่ว่ามีคนเข้าไปทำร้ายเจนรักษ์และน้องวินอยู่ที่นั่นก็รีบโผออกจากห้องประชุมท่ามกลางความสงสัยมากมาย นักรบไม่เคยเป็นคนแบบนี้ และแม้แต่เขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าครอบครัวสำคัญกว่าหน้าที่มันเป็นอย่างไร เจ้าของร่างสูงเหลือบมองเจนรักษ์ที่กอดน้องวินนั่งอยู่ข้างๆ แก้มใสของอีกฝ่ายยังมีคราบน้ำตา แต่ดวงตานั้นหลุดลอยมองเหม่อออกไปไกล ไม่เหมือนคนปากดีใจกล้าไปเสียหมดคนเดิมแบบที่เขาเห็น แต่ก็ใช่ว่าเขาจะรู้จักเจ้าตัวดีขนาดนั้น


เมื่อครู่นั้นร่างของอีกฝ่ายสั่นเหมือนกับลูกนก แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะกอดลูกชายของเขาเอาไว้ แม้นักรบไม่เคยสงสัยในความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีต่อลูกชายเขาในฐานะพี่เลี้ยง แต่วันนี้เขาก็รับรู้ถึงความเป็นห่วงและหวังดีที่มีให้ มันทำให้เขาเริ่มจะเปิดใจยอมรับขึ้นมาได้มากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน....ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น….


เพราะก็ไม่อยากจะยอมรับว่ารู้สึก….สงสารขึ้นมา….


“โอเคไหม”  เขาถาม เจนยังคงกอดน้องวินเอาไว้ และน้ำตาก็ยังคงไหลออกจากหางตา….ไม่ว่านี่จะเป็นการแสดงหรืออะไร….เขาก็สงสารไปแล้ว…ทั้งใจ….


“ครับ”  เจนรักษ์ตอบกลับมาอย่างนั้น แต่เขาไม่เห็นว่ามันจะดูเป็นความจริงสักเท่าไหร่


นักรบนั่งมองพี่เลี้ยงของลูก และคนลูกที่หยุดร้องไห้ก่อนอยู่เงียบๆ  เจ้าของแก้มนุ่มใช้มันซบกับไหล่บางๆ ดวงตากลมจ้องมองเขาที่นั่งอยู่ข้างๆไม่แม้แต่จะกระพริบ ความรู้สึกผิดเริ่มที่จะถาโถม เขาไม่สามารถปกป้องลูกชายได้จริงๆหรือเนี่ย…..และถ้าเจนรักษ์ไม่ได้อยู่ตรงนี้….ตาหนูของเขา….จะเป็นอย่างไรบ้าง….


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไม่มีความคิดจะกลับไปทำงานอีกต่อไป ไม่ใช่ว่าเกิดขี้เกียจหรืออะไรขึ้นมา นักรบเพียงแค่ไม่มีอารมณ์และไม่สามารถรวบรวมสติให้เย็นในห้องประชุมต่อไปได้อีกแล้ว คุณเพชรเองก็เข้าไปช่วยจัดการปิดการประชุมและทุกคนคงแยกย้ายกันกลับไปทำงานเป็นที่เรียบร้อย มีแต่เขาที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน และจ้องมองคนสองคนกอดกันทั้งๆที่ในใจเต็มไปด้วยถ้อยคำมากมาย


แต่ไม่มีคำใดดีๆจะหลุดออกมาเลย


“ไปกันเถอะ ลุกไหวไหม”  เขาถาม น้ำเสียงในยามนี้ดูอ่อนโยนกว่ายามปกติที่เจนรักษ์เคยรับรู้ แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตัวตนทะเล้นของตนยังไม่กลับมา เจนเพียงแค่พยักหน้า เราสองคนนั่งเงียบๆอีกชั่วครู่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้น และเจนก็ลุกตาม


นักรบอยากจะเอ่ยถามว่าจะให้เขาอุ้มน้องวินแทนไหม เพราะสภาพของเจนรักษ์ดูไม่มั่นคงเอาเสียเลย ทว่าตัวเขาก็ไม่ได้บอกออกไปเพราะอีกฝ่ายเหมือนจะยังต้องการที่พึ่ง และไม่รู้เพราะเหตุอันใด….ที่พึ่งของผู้ใหญ่อายุ 20 กว่าขวบปีถึงได้กลายเป็นเด็กที่ยังอายุไม่ถึงขวบนึงอย่างลูกชายของเขา นักรบเพียงเดินขนาบคนทั้งคู่เพื่อคอยดูเผื่อว่าเจนรักษ์จะอุ้มต่อไปไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะอีกฝ่ายอุ้มมาได้ยังลานจอดรถ….


นักรบพาคนทั้งสองออกมาจากลานจอดโดยไม่รีบเร่ง ใจหนึ่งคิดอยากจะพากลับบ้าน แต่ใจสองก็คิดว่าควรให้เวลาเจนรักษ์ปรับตัวเองให้เป็นปกติก่อนที่จะไปเจอทุกคนที่นั่น….เขาเองก็ไม่คิดว่าตนจะละเอียดอ่อนได้ขนาดนี้ แต่แค่คิดว่าแม่ไพจะรู้สึกอย่างไรที่ลูกชายดูอาการหนักแบบนี้ เขายิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้เจนรักษ์ต้องมาเผชิญอะไรที่นี่….ที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขา….


มันน่าเจ็บใจนักเชียว


“คุณรบจะไปไหนครับ”  ในที่สุดเจนรักษ์ก็ถามออกมา แต่สีหน้ายังดูไม่เป็นเหมือนคนเดิมที่เขาเคยเห็น


“ไปทานข้าวกันก่อน”


“คุณรบไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกครับ”


“สงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ ถ้าแม่นายเห็นว่าเป็นอย่างนี้จะพาลเครียดเปล่าๆ”


“…………”


“นายได้กลับแน่ แต่นายคงไม่อยากให้แม่เห็นแบบนี้ ใช่ไหม?”  ใช่…คุณรบพูดถูก


เจนไม่อยากให้แม่หรือใครที่เจนแคร์ต้องมาเห็นสภาพพังๆของตนแบบนี้!


และเพราะเหตุนี้ เราจึงมาอยู่ที่ห้องส่วนตัวของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง เจนรักษ์จ้องมองเมนูข้างหน้าอย่างไร้อารมณ์ แม้จะถูกจ้องมองโดยพนักงานที่มารอจดออเดอร์และคุณรบที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กระนั้นอาการเหม่อลอยก็ไม่หายไปสักที ลำบากน้องวินที่อยู่ในอกต้องขยับตัวให้รู้ว่าตนนั้นไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกจริงๆ เจนหันไปสั่งเมนูโปรดของตนที่คิดว่าทุกร้านต้องมีออกมาก่อนจะกลับมานั่งซึมอีกครั้ง


และทุกอย่างอยู่ในสายตาของนักรบ ที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากจะพูดปลอบใครไม่ค่อยจะเป็นแล้ว เขากับเจนรักษ์ถือว่าเป็นคนที่แทบจะไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ จะให้ปลอบใจมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย สิ่งที่เขาทำมีแค่เพียงรินน้ำชาให้อีกฝ่ายและลดรังสีความกดดันที่มักแผ่ออกไปอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจลงบ้าง โชคยังดีที่อีกฝ่ายไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว ไม่งั้นเขาคงสติแตกไปด้วย


“เรื่องที่จะคุยวันนี้”  เขาพูดออกมา ทำลายความเงียบด้วยการเปลี่ยนประเด็นทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายพร้อมหรือไม่


“อา….ผมลืมไปเลย ขอโทษนะครับ”


“รีบหรือเปล่า เอาไว้คุยกันวันหลังไหม”  เพราะนักรบไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอะไรเขาเลยเสนอออกมา คำตอบของคนที่นั่งอุ้มน้องวินอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น….คือการส่ายหน้าจนผมปลิว


“คุยเลยก็ได้ครับ”  ถ้าเจ้าตัวยืนยันเช่นนั้น เขาก็ไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ


เจนรักษ์จัดท่านอนเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนดีๆก่อนจะให้ดูดนมจากขวด ลูกชายของเขาเริ่มที่จะโยเยขึ้นมา อาจจะเพราะความหิว แม้จะบอกว่าจะพูดเลย แต่ก็ยังทำทันทีไม่ได้เพราะเจ้าตัวแสบไม่ปล่อยให้พูดตามความต้องการออกไป นักรบนั่งรอนิ่งๆ เขาประสานมือเท้าโต๊ะรออย่างใจเย็น ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่าจะรอได้เก่งขนาดนี้  โดยไม่รู้สึกหงุดหงิดแม้แต่นิดเดียว


“อย่างที่ผมได้บอกไปเมื่อเช้าเรื่องลาออก”


“………..”


“ผมตั้งใจว่าจะลาออกครับ…แต่ยังไม่ใช่วันนี้ตอนนี้”


“แจ้งกับแม่ผมได้เลย”


“ผมทราบครับ ว่าคุณรบคงไม่ว่างมานั่งฟังเรื่องแบบนี้ ถ้าผมจะไปเมื่อไหร่จะแจ้งให้คุณหญิงทราบล่วงหน้าแน่นอน”


“แค่นี้ใช่ไหม”


“ไม่ใช่ครับ”


“แล้วมีอะไรอีก”


“เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวที่ระบุในสัญญาการจ้างงาน”


“………….”


“ผมอยากจะพูดคุยให้ชัดเจน”


“ถ้าหมายถึงเธอกับคุณเพชรล่ะก็ ผมไม่ได้จะเอามันมาเป็นประเด็นในการให้ออก”


“ผมทราบดีแล้วครับ”  เพราะคุณหญิงท่านได้อธิบายให้ฟัง


รวมทั้งเหตุผลที่จำเป็นต้องมีการทำให้ชัดเจน


“ผมแค่จะบอกว่าเรื่องนี้แม้แต่กับคุณรบก็ไม่ได้ต้องกังวลอะไร”


“…………”


“ผมถูกว่าจ้างให้เลี้ยงน้องวิน เพราะฉะนั้นงานของผมคือทำให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นผลดีกับตัวน้อง แล้วถ้าการที่ผมเอาตัวเองไปเกี่ยวพันกับคุณรบในแง่นั้นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์หรือโทษแก่ตัวน้องวินแล้ว ผมก็อยากให้คุณรบมั่นใจว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้น ผมยังมีแม่ที่ต้องแคร์ และตัวเองที่ไม่อยากถูกใครนินทาแบบนั้น”


“…………….”


“แต่การที่ผมออกไปส่งทุกวัน นั่นก็เพราะผมอยากให้น้องวินได้เห็นคุณในตอนเช้า หรือแม้แต่บอกให้คุณเข้ามาหาในตอนกลางคืน นั่นก็เพราะว่าผมอยากให้เขาได้มีเวลาอยู่กับคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”


“……………….”


“ในกรณีตอนเช้า ผมคงจะขออนุญาตอุ้มไปสวัสดี แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนที่ไม่มีใครและคุณรบรู้สึกไม่ดี ผมสามารถออกมารอข้างนอกได้โดยเราจะกำหนดเวลาชัดเจน หรือคุณรบจะโทรตามให้กลับมาก็ได้ครับ”


“ทำไปเพื่ออะไร”


“……………..”


“เธอคิดว่าวินเขาต้องการมันจริงๆนะเหรอ”  กับเด็กอายุไม่ถึงขวบปีที่ยังไม่มีความทรงจำใดๆ ใครจะไปรู้ว่ามันเป็นความต้องการที่แท้จริงหรือไม่  ใช่…..ในตอนนี้นอกจากความต้องการจะอ้อนให้ปลอบ ให้เล่นด้วย ให้หาอาหาร ให้อาบน้ำทำความสะอาดให้ ความต้องการของน้องวินที่แท้จริงเป็นเรื่องที่บอกได้ยาก


แต่ถ้าเรามองว่ามันเป็นความต้องการที่สืบเนื่องถึงอนาคตล่ะก็…..


“ตอนนี้อาจจะไม่ แต่ในอนาคต ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจะก่อให้เกิดผลอย่างไร”


“…………..”


“แล้วถ้าคุณรบจะถามว่าผมรู้ได้ยังไง….”


“…………”


“ผมคงตอบได้แค่ว่าความรู้สึกที่ว่าอยากเจอแต่ทำไม่ได้ มันเป็นอย่างไรก็เท่านั้นเองครับ”  นักรบรับรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เจนรักษ์พูดกับตนนั้นหมายความว่าอย่างไรด้วยแววตาคู่นั้น


หากจะพูดว่าความโดดเดี่ยวนั้นเป็นเช่นไร มนุษย์ทุกคนคงรู้จักมันดีในรูปแบบที่ต่างออกไป นักรบเองก็รู้จักและอยู่กับความโดดเดี่ยวจนชินชามาถึงทุกวันนี้ แต่ความโดดเดี่ยวคือสิ่งที่เขาเลือกให้มันเกิดขึ้นเพราะรอบตัวรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ผิดกับเจนรักษ์….นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาเลือกเลย แต่ชะตากรรมได้บังคับให้ยอมรับอย่างเสียไม่ได้ ความรู้สึกที่ว่าอยากเจอแต่ไม่ได้เจอ เจนรักษ์รับรู้มันดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้จมปลักอยู่กับมัน และนั่นคือเหตุผลที่เจนกลับมาในวันนี้….


“ผมไม่รู้หรอกครับว่าน้องวินจะเติบโตมาแบบไหน รู้สึกกับคุณรบเช่นไร”


“……….”


“แต่คุณรบก็รักน้องไม่ใช่เหรอครับ”  ใช่…เขารักลูก


แต่ไม่รู้วิธีจะแสดงออกให้เข้าใจได้ง่าย


“อยู่ห้องข้างๆกันแค่นี้เองนะครับ ไม่ได้ไกลเลย”


“……….”


“แต่น้องวินยังเข้าไปหาคุณรบไม่ได้หรอกนะครับ น้องยังปีนบิดลูกบิดประตูไม่ได้”


แต่ในวันที่น้องทำได้ อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้


“แต่ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าน้องจะกล้าเดินไปหาคุณรบหรือเปล่า เหมือนที่คุณรบ…ก็ไม่กล้าเดินเข้ามาไงครับ”  และก่อนที่เหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้น ก่อนที่ความสัมพันธ์ของเราระหว่างพ่อลูกจะร้ายแรงถึงเพียงนั้น….มันต้องมีใครสักคนพังทลายกำแพงกั้นที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหัวใจ และคนๆนั้นควรเป็นเขา…..


เพราะเขาเป็นคนก่อกำแพงนั้นขึ้นมา….ไม่ใช่ใครเลย….


“เจนคงไม่ได้อยู่นานถึงวันที่ดูน้องโตและช่วยน้องได้ เพราะฉะนั้นเจนรบกวนคุณรบแต่เนิ่นๆดีกว่า”


“…………”


“แต่ในระหว่างนี้อะไรที่เจนทำได้ เจนก็จะทำ ก่อนจะไป เจนจะพยายามช่วยหาคนดีๆมาดูน้อง ในระหว่างนี้อะไรที่เจนสอนน้องได้ เจนก็จะสอน แต่เจนอยากให้คุณนักรบรับรู้ความตั้งใจของเจนจริงๆ”


“……………”


“ว่าเจนเองก็ไม่ไว้ใจที่จะฝากอนาคตของน้องวินไว้ที่ใคร…”


แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น….คนเดียวบนโลกที่มีอำนาจที่จะทำมันได้….


“แต่เจนไว้ใจคุณรบ….ที่สุดครับ”


และคุณรบล่ะ….ไว้ใจเจนกับน้องวินไหม….


xxx


“คุณหญิงคะ”  เป็นเสียงเรียกของจินตนา คุณพรรณีที่กำลังจิบชาอยู่นั้นหันไปหา


“มีอะไรหรือ” 


จริงๆแล้วสำหรับคุณพรรณี การที่ลูกจ้างอยู่มาได้นานขนาดนี้ก็ช่วยพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าซื่อสัตย์พอ เธอไม่เคยประสบปัญหาถูกขดโกงหรือขโมยในบ้านเพราะทุกคนต่างทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ทว่าความคิดและนิสัยส่วนตัว….ไม่ใช่อะไรที่นายจ้างจะก้าวก่ายได้เต็มตัว เธอรู้ว่าอีกฝ่ายอิจฉาอำไพแม่ของเจนรักษ์ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเธอกับอำไพนั้นช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหลายๆเรื่อง ทว่าก็ไม่ได้อธิบายให้ทุกคนได้ฟัง


และยิ่งห่างเหินกันตั้งแต่เกิดเรื่องของรดาในบ้านหลังนี้


“คือวันนี้น่ะค่ะ จินเข้าไปทำความสะอาดห้องของคุณวินมา”


“มีอะไรกับเจนรักษ์ล่ะ”  เธอสามารถจับต้นชนปลายบางอย่างโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น จินตนาสบโอกาสก็รีบบอก


“คือนี้นะคะ วันนี้จินกับพายเข้าไปในห้องน้ำของเจน”


“………”


“แล้วเห็นว่าเขามีพวกของใช้ส่วนตัววางอยู่ คือห้องน้ำนั้นเป็นห้องน้ำส่วนตัวที่คุณวินใช้ใช่ไหมคะ”


“ใช่…ฉันบอกให้เจนรักษ์ใช้ด้วยเพื่อที่ว่าจะได้ดูแลกันสะดวก”


“นั่นแหละค่ะคุณผู้หญิง”


อ้าว….ไม่ได้จะฟ้องเรื่องเจนใช้ห้องน้ำน้องวินหรอกหรือ…..


“อะไรกันล่ะแม่จินตนา”


“ก็ของใช้ในห้องน้ำนะสิค่ะ จินเกรงว่าไอ้เจน…เอ้ย เจนรักษ์น่ะค่ะ เขาไปเอาของใครมาหรือเปล่า”


“อะไรทำให้คิดเช่นนั้นล่ะ”  คุณหญิงขมวดคิ้ว คำกล่าวหานั่น ถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือเจนรักษ์ได้ไปขโมยของใครเขามา แต่ของพวกนั้นอาจจะเป็นเจ้าตัวซื้อหามาเองก็เป็นได้


“ก็เป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก ไม่น่าจะมีปัญญาใช้ของแพงใช่ไหมคะ”


“…………แพง…แล้วมันแพงแค่ไหนล่ะ”


“ก็จินเห็นมันเป็นของใช้ยี่ห้อเดียวกับที่คุณหญิงและคุณรบใช้น่ะค่ะ”


“……………”


“ได้ยินไอ้พายมันตกใจและบอกว่าครีมกระปุกนึงในนั้นราคาเป็นหมื่นเลยค่ะ ไม่รู้มันเอาเงินจากไหนมาซื้อ”


“……………”


“ก็เลยอยากมาเตือนคุณหญิงเผื่อว่าจะมีอะไรหายไป”


“ขอบใจนะ”


“จินเป็นห่วงจริงนะคะ ยังไงเด็กนั่นก็ ไม่มีหัวนอนปลายเท้า”


“ขอบคุณเธอมาก เอาไว้ฉันจะลองตรวจสอบดู”  คุณพรรณีนั้นยิ้มให้กับความเอื้อเฟื้อของแม่บ้านที่ทำงานกันมานาน เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกว่าพบเห็น หรือว่าใส่ร้ายโดยไร้มูล แต่มูลที่มีมันเพียงพอจะใส่ร้ายหรือไม่ก็อีกเรื่อง


ถ้าไม่ถาม….ก็ไม่มีวันได้รู้ แต่ต่อให้ถาม…อีกฝ่ายก็อาจจะไม่พูดความจริง….กับเจนรักษ์ก็เหมือนกัน ถ้าเด็กนั่นมีครีมกระปุกเป็นหมื่นถือครองไว้อยู่ ของพวกนั้นมันต้องมีที่มา ไม่ใช่ลอยไปอยู่ในห้องน้ำได้เอง แต่จะให้ตัดสินว่าฝ่ายไหนผิดก็ทำไม่ได้ทันที แค่นี้คนก็มองว่าเอนเอียงไปที่เจนจนคนอื่นครหากันแล้ว แม้ใจจะไม่เชื่อว่าเจนรักษ์จะทำมันได้ลงคอ แต่ความเชื่อก็เป็นได้แค่ความเชื่อ…..หากความจริงไม่ได้ถูกพิสูจน์


ดังนั้นคงจะปล่อยให้เรื่องนี้ลอยนวลไม่ได้จริงๆ

xxx

“แล้วนี่เราจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าครับ”


เจนถามขึ้นมา หลังจากที่เราทั้งสองจัดการมื้ออาหารเสร็จแล้ว โชคดีที่เจ้ากบน้อยคงเหนื่อยกับการปลอบโยนพี่เลี้ยงตัวเล็ก เลยหลับคาไหล่ไปเสียแล้วอย่างนั้น นักรบเพียงมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเย็นชาของเจ้าตัว แต่เจนรักษ์ชักจะชินขึ้นมาแล้วเพราะจะกี่ครั้งเขาก็ไม่เคยหันมาเล่นงานกันจริงๆ มันคงแก้ยากแล้วแหละกับนิสัยชอบมองคนอื่นแบบนี้


“ก็คงงั้น”


“คุณรบไม่มีงานอะไรเหรอครับ”


“มี แต่ผมจะไปส่ง”


“เอ่อ….ไม่ต้องหรอกครับ”


“งั้นอธิบายมาว่าจะพาลูกผมกลับยังไง”


“เอ่อ…รถแท็กซี่มั้งครับ ไม่ก็…GRAB”


“งั้นกลับกับผม”  อ้าวเฮ้ย! ที่ให้อธิบายไม่ใช่ว่าจะอนุมัติเหรอ


“เอ่อไม่ดีกว่าครับ รบกวนเปล่าๆ อีกอย่าง ผมจะแวะไปโชว์รูมด้วย”


“โชว์รูมอะไร”  เขาขมวดคิ้ว มันใช่เรื่องที่จะหอบลูกชาวบ้านไปไหนมาไหนตามอำเภอใจเหรอ


“เอ่อ…ไปดูคาร์ซีทนะครับ”


“…………..”


“เวลาน้องวินนั่งรถ…มันต้องมีเพื่อความปลอดภัยนะครับ”


“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก” 


“ครับ”


“ผมจะพาไปเอง คุณบอกทางล่ะกัน” คุณพี่เลี้ยงตัวเล็กที่ยังซึมกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทำแค่ช้อนตามอง แต่คำสั่งของนายจ้างถือเป็นสิทธิ์ขาด คุณพ่อของน้องวินอาจจะไม่ชอบใจถ้าไปนั่งรถสาธารณะที่ใครเป็นคนขับก็ไม่รู้ แล้วถ้าไอ้คาร์ซีทอะไรนั่นมันจำเป็นต้องมีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ  เขาก็อยากจะแน่ใจว่าลูกจะปลอดภัยบนรถที่เขาขับก่อนที่จะครอบครองมันจริงๆ


จริงๆเจนรักษ์ก็เพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่สิ….กับกรุงเทพมหานครนี่ครั้งแรกเลยล่ะมั้ง คนตัวเล็กจ้องมองแผนที่ในมือถือก่อนจะบอกเส้นทางตามคำบอกของแผนที่ออนไลน์ แต่มันยากเพราะต้องอุ้มน้องวินมือนึง อีกมือมีมือถือนี่สิ แต่ไม่มีอะไรยากเกินไป เพราะในที่สุดหลังจากที่เกร็งอยู่นาน เราสองคนก็มาถึงโชว์รูมบริษัทผู้นำเข้าคาร์ซีทที่อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อครู่


ฟังคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่ ดูรุ่นที่น่าสนใจก่อนจะตกลงซื้อ และในที่สุดน้องวินก็ได้มีคาร์ซีทของตัวเองตอนกลับบ้าน คุณพี่เลี้ยงขี้แยถอนหายใจออกมา ความกดดันและความเครียดที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องเป็นห่วงความปลอดภัยขณะโดยสารรถยนต์ของน้อง กับเรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกายทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าจนมีใบหน้าที่ซึมถนัด และเพราะแอร์เย็นๆรวมทั้งความรู้สึกปลอดภัยที่ทำให้ไว้วางใจ ดวงตาสองข้างของเจนรักษ์ก็ค่อยๆปิดลงด้วยฝืนธรรมชาติต่อไปไม่ไหว ทิ้งให้รถที่เงียบงัน…นั้นเป็นยิ่งกว่าความเงียบงัน….


นักรบนั้นมองกระจกหลัง ที่ที่ซึ่งลูกชายของเขานั้นตื่นแล้วและจ้องมองกันตาแป๋วกลับมาบนคาร์ซีท กับพี่เลี้ยงที่นั่งข้างๆและหลับไปแล้วในตอนนี้  ใบหน้าแบบนั้นยามหลับใหล ช่างให้ความรู้สึกที่แปลกออกไปเสียจริงๆ รถยนต์ของเขาถูกจอดในโรงจอดรถ ทว่าตัวเขายังนั่งเงียบๆ จ้องมองคนทั้งสองผ่านกระจกอีกครั้ง น้องวินยังคงนั่งเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนใดๆ และอีกคนยังคงหลับใหลอยู่อย่างนั้น เขาเอง….ก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน


“เจนรักษ์”  เขาเพียงส่งเสียงเรียกไม่ดังนัก และมันโชคดีที่อีกคนเหมือนจะไม่ได้หลับลึกอะไรจึงลืมตาขึ้นมา มือเล็กประคองใบหน้าตัวเองแล้วตบเพื่อเรียกสติ


“คุณรบ”


“ถึงแล้ว” 


เจนรักษ์ถูกดึงกลับมาสู่โลกของความเป็นจริงอย่างถ่องแท้ คำว่าถึงแล้วของเขาคือการมาถึงบ้านรัตนสกุล เจนนั้นไม่รู้ตัวว่าตนนั้นได้เผลอหลับลงไป รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาเรียกชื่อกัน เจนนั้นลงจากรถไปก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูเพื่อพาน้องวินออกมา เด็กดียังคงไม่งอแงแม้วันนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะหนักหนาเหลือเกิน เจ้ากบน้อยเป็นผู้ใหญ่ที่ให้ความรู้สึกพึ่งพาได้…..ในยามที่เจนสู้ไม่ไหวจริงๆแบบนี้


“เจน….”  และเมื่อเจนเข้าไปในบ้าน แม่ของตนที่รออยู่ก็เดินเข้ามาหา เดาจากสายตา คาดว่าพอจะทราบเรื่องแล้ว


“เจนไม่เป็นไรแม่”  นั่นไม่จริงเลย แต่คำตอบของเจนนั้นมีไว้เพื่อให้แม่สบายใจ และเพื่อให้ตนเองไม่ต้องเล่าซ้ำในที่สิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อตอกย้ำ เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นคนทั้งบ้านนั้นกำลังเฝ้ารอการกลับมาอยู่


“จริงนะลูก คุณรบล่ะคะ”  แม่จ้องมองดวงตาอันเหนื่อยล้าของเจน ก่อนจะหันไปถามอีกคน


“ผมไม่เป็นไรครับ”  นักรบตอบไปตามนั้น เขาจะไม่ก้าวก่ายเรื่องนี้ของเจนรักษ์ แต่เมื่อมองเลยไปถึงอีกคนที่มองกันอย่างถามหาคำตอบ เขาก็ถอนหายใจออกมา ไม่ใช่ว่าเหนื่อยหน่าย…แต่แค่คิดว่าคงโกหกอะไรไม่ได้อยู่แล้วเลยเซ็งนิดๆ


“ตารบ”  เป็นคุณพรรณีที่รอเค้นกัน แต่เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงทราบเรื่องจากเลขาอยู่แล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมาถามอะไรจากเขาอีกเพราะเขาก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ หากจะถามว่ามีอะไรบ้างที่เขารู้…


ก็คงเป็นเรื่องที่เจนรักษ์บอกกันในร้านอาหารญี่ปุ่นแค่นั้น….


เขาถูกแยกออกมาเพื่อพูดคุยกับผู้ปกครองบ้านหลังนี้ อย่างที่คิด….เพชรเป็นคนเล่าเรื่องให้คุณหญิงฟัง แต่เขาไม่ได้ถือโกรธ เพราะมันเป็นคำสั่งเขาที่ฝากให้อีกคนมาบอกก่อน เนื่องจากเขามีธุระติดพันกับเหยื่อในวันนี้ มันทำให้ไม่สะดวกที่จะมาเล่าเอง และก็คิดว่าถ้าไม่รีบบอกก็คงถูกโกรธกว่านี้ อย่างไรก็ตาม….มันก็มีความผิดของเขาอยู่บางส่วน…


ส่วนที่ว่าพนักงานคนนั้นเป็นคนที่เขาให้เข้ามาเอง….


“เป็นหลานอีกคนของบ้านนั้นจริงๆสินะ”


“ครับ”  แต่ที่เขาเลือกมา นั่นก็เพราะคุณรัชนีนุช คุณอาของคุณรดาฝากมา ในตอนนั้นที่ต้องเซ็นหย่า…เขามองว่าตัวเองทำให้ผู้ใหญ่เสียหน้าจึงเกิดเกรงใจ เรื่องอะไรที่พอจะยอมได้ก็ยอม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดไปถนัด อย่างที่แม่พูด….ตัดไฟควรตัดแต่ต้นลม แต่ในกรณี….เขาตัดมันไม่ทันการเสียแล้ว….


จึงต้องมานั่งให้คนอื่นต้องมาชดใช้ในสิ่งที่เขาเลือกทั้งหมด


“เจนรักษ์ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”  คุณพรรณีพูดออกมา แต่กลับรู้อยู่กับอกดีว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นและมันยิ่งตอกย้ำถึงความห่วยแตกที่ตัวเองมี  ในตอนนั้นก็เป็นเพราะเขาที่เลือกให้ครูพี่เลี้ยงคนนั้นเข้ามา…น้องวินจึงถูกทำร้าย และในคราวนี้ก็เป็นคนที่เขาเลือกมา…ที่ไปทำร้ายเจนรักษ์แบบนั้น  นักรบคนนี้จะต้องผิดพลาดไปอีกสักกี่ครั้งกันถึงจะทำทุกอย่างได้ดีอย่างที่ใจต้องการ!


“ครับ…เรื่องนี้ผมให้เพชรเป็นคนดำเนินการ”


“ดี! แม่คุยกับคุณเพชรแล้วว่าจะเอาเรื่อง แม่ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว”


“ให้ถึงที่สุดเลยครับ ผมสนับสนุน”


“ลูกโอเคแน่นะ”


“ถ้าแม่คิดว่าผมจะห้ามเพราะรดา ไม่ครับ”


“………….”


“ผมอาจจะผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น แต่ผมไม่คิดจะผิดพลาดอีก ถ้าเราต้องทำก็ทำเลยครับ ไม่ต้องไว้หน้าใครทั้งนั้น”


“แต่รดาอาจจะ….”


“ไม่สำคัญแล้วล่ะครับ”


“………..”


“น้องวินสำคัญที่สุด”  และก็เป็นเพราะรดามาแต่ต้นไม่ใช่หรือไง…เธอคือคนที่ตั้งใจจะฆ่าลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง คนของอาของเธอไม่ใช่หรือไง ที่พุ่งเข้ามาทำร้ายน้องวินถึงสองครั้ง….นักรบไม่ใช่คนโง่ และเขาก็ไม่ใจดีที่จะปล่อยงูให้มาแว้งกัดลูกชายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าต้องทำเขาก็ยอมรับ ยอมเข้าใจ และพร้อมเดินหน้าจัดการให้ถึงที่สุด


แม้เขาอาจจะยังรักรดาอยู่ก็ตาม…..


Tbc









Talk:  มาต่อติดๆกันเสาร์อาทิตย์ ทั้งนี้เป็นความตั้งใจที่จะให้ทุกคนได้อ่านกันในวันหยุดเองค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจนะคะ ฝากเรือรบเจนที่กำลังจะได้เริ่มแล่นต่อจากนี้ทั้งๆที่ผ่านมาเป็น10ตอนแล้ว เราสัญญาว่าสิ่งที่เจนเวิ้นไปทั้งหมดมาถึงตอนนี้จะต้องมีประโยชน์ในภายหลังคะ5555

ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ

Twitter #เจนไม่นก @reallyuri




หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-07-2018 20:36:44
เจนคงตกใจจนช็อค ทั้งตกใจที่ตัวเองโดนทำร้าย ทั้งกลัวลูกกบน้อยจะโดนลูกหลงไปด้วย เอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลยค่ะคุณหญิง :fire:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-07-2018 20:50:51
ชอบน้องเจนเวิ่นในใจ  เป็นพี่เลี้ยงที่ทุ่มเท ใส่ใจ
น้องวินโชคดีที่เจอพี่เจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-07-2018 20:51:54
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 01-07-2018 21:09:48
ละครหลังข่าวมากกก นังคนใช้ !!///ตบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 01-07-2018 21:12:10
เจนนตรงมากๆๆๆ ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 01-07-2018 21:22:08
หวังว่าคุณหญิงคงตรวจสอบเรื่องเจนให้ดีๆก่อนนะ
คงไม่หูเบาเชื่อคนอื่นง่ายๆล่ะ
ตอนนี้สงสารเจน

รอตอนต่อไปจ้า มาอัพบ่อยๆนะ ทุกวันเลยก็ได้ เราไม่เบื่อหรอก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-07-2018 21:49:58
คุณรบตัดสินใจถูกแล้ว ตัดไฟซะ
ไม่งั้นเจนกับน้องกบได้เจ็บตัวอีกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 01-07-2018 21:50:52
เจน โอ๋ๆนะ หายตกใจรึยังน่ะ
ตอนหน้าสู้ต่อนะเจน มีเรื่องมารอแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 01-07-2018 22:02:51
เอาอีก เอาอีก เอาน้องเจนกับน้องวินมาอีก
รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 01-07-2018 22:06:34
นักรบจัดการให้ถึงที่สุดเลย ทำแบบนี้กับกบน้อยได้ยังไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 01-07-2018 22:08:34
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2018 22:10:39
เจน ทำดีที่อยากให้พ่อลูกมีโอกาสใกล้ชิดกัน  :mew1:
เพราะพ่อก็ขลาดกลัว ไม่กล้าเข้าหาลูก
ย่า แม่นมก็ทำอะไรไม่ได้  :mew2:

นังเลวคนนั้นใหญ่คับบริษัทหรือไง  ใหญ่มาจากไหน   :fire: :fire: :fire:
ทั้งระรานทั้งทำร้ายคนที่อุ้มเด็กอ่อนอยู่ เลววววววมากๆ
ปากว่าเจนจะมาจับคุณวิน
ไอ้ที่ด่าว่าจิกกัดเจน ทั้งหมดมันอยู่ในใจนางเองหรือเปล่า
อยากจับคุณวิน อยากทำเองทั้งนั้นสินะ  เหอะ....... :fire:
ถถถถถถ เบะปากใส่แบบเบลลานีซะเลย   o18

อยากอ่านตอนใหม่แล้ว  :ling1: :ling1: :ling1:
นังคนใช้จิน แส่ จุ้น  อย่างนี้ต้องโดน     :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 01-07-2018 22:13:04
อีป้าจินตนานี่ยังไง บอกว่าเจนไม่มีหัวนอนปลายเท้า แม่เจนก็แม่นมอิคุณรบม้ะ พูดไม่คิด น่าหงุดหงิด เจนก็เหมือนจะสู้คนอยู่ แต่ก็สุ้ไม่สุด งงๆ แต่นางก็น่ารักจริงๆนั้นแหละ เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 01-07-2018 22:15:57
นี่ถ้ายัยป้าจินรู้ว่าเจนจบและทำงานไรมา คงหาแหกอะ 5555555
สู้ๆน้าาาา หนูเจนกับเจ้ากบน้อย เอ็นดูทั้งสองคน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 01-07-2018 22:16:29
แหมม ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ตัวเองนี่ดีมากมั้ง แม่คนมีชาติตระกูล เค้าจบเมืองนอกเมืองนาค่ะป้า อิไดโนเสาร์ สาระแน!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 01-07-2018 23:07:22
หลงรักน้องวินและพี่เจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 02-07-2018 00:36:11
หูยยย ตอนนี้รู้สึกเหมือนเจนจะมีสาระกว่าทุกตอนที่ผ่านมา ............. ปาดน้ำตา ซาบซึ้งตรึงใจ « >"< »
หัวข้อ: Re: [บทที่ 12] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.7.2018 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 02-07-2018 01:02:46
ป้าใส่ใจเก่งอ่ะ อห ส่องยันห้องน้ำ
คุณรบก็ดีขึ้นนะ รู้ตัวสักทีใครดีใครร้าย
หัวข้อ: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 03-07-2018 18:43:51
#เจนไม่นก

เจนคนเด๋ออีสแบค

 

 







นักรบยอมรับ….ว่านี่มันไม่ใช่เล่นๆเลย….

 

 

“…….”  แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

 

 

เขาก็มีเหตุผลในตัวเองอยู่นะ

 

 

“เจนรักษ์”  ชายหนุ่มส่งเสียงเรียกพร้อมกับเคาะประตูเบาๆ รอไม่นานอีกฝ่ายก็เปิดประตูออกมาให้

 

 

กลิ่นสบู่จากร่างกายและใบหน้าที่ดูดีกว่าเมื่อตอนเย็นนั้นทำให้รับรู้ได้ว่าเจนเริ่มดีขึ้นแล้ว หลังจากที่กลับมาบ้านเขาก็ถูกแม่เรียกไปคุย จัดการงานอีกนิดหน่อยเหลือบดูเวลาก็ใกล้เวลานอนของน้องวินแล้ว จะบอกว่าเขามาหาลูกก็ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่ามีเรื่องที่อยากรู้ แต่พอเจอหน้ากันจริง….ไม่ต้องรู้ก็ได้

 

 

“คุณรบมาพาน้องวินนอนเหรอครับ”  เจนถาม

 

 

“ใช่” และก็อาจจะมาเฉ่งเรื่องที่วันนี้หลุดเรียกตัวเองว่าเจนออกมาด้วย แต่เขาพูดเรื่องนี้ไม่ได้ในเมื่อก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดถึงเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าแคร์อะไรหรอก….พอเจนทำหน้าแบบนั้น มันทำให้เขาอึดอัด

 

 

“งั้นเชิญเลยครับ เดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอก ถ้ายังไงคุณรบโทรมานะครับ”  และเจนก็เดินออกไปโดยไม่รอให้เขารั้งหรืออะไร บ้าจริง…

 

 

เคยแลกเบอร์กันที่ไหนเล่า…

 

 

“………..”  สุดท้ายแล้วเขาก็คิดว่ามันไร้ประโยชน์กับการที่เดินมาเคาะประตูห้อง แต่มันก็ไม่ทีเดียว เจ้าของร่างสูงเดินมาที่คอกของลูกชายซึ่งกำลังดูดนมนอนมองตาแป๋ว ตาหนูคงนอนไปเยอะน่าดูวันนี้ ถึงไม่มีท่าทีว่าจะหลับเลย

 

 

เขาๆค่อยทรุดตัวลงนั่ง เห็นคนเก่งกำลังจ้องมองกันโดยที่ข้างๆไม่ไกลกันนัก มีหนังสือนิทานวางอยู่ เป็นเจนรักษ์เอามาวางไว้แน่ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะจริงจังกับคำว่า ‘สอนน้องเท่าที่จะสอนได้’ นักรบให้ความสนใจกับหนังสือนิทานเด็ก อย่างน้อยเขาก็อยากมีส่วนร่วมในการคัดกรองเนื้อเรื่องบ้าง แม้ว่ามันจะถูกซื้อและอ่านให้เจ้าตัวน้อยฟังแล้ว

 

 

ภาษาอังกฤษ….

 

 

หรือจะดูแค่รูปภาพและก็กดเสียงให้ฟัง ดูแล้วหนังสือนี่แพงไม่ใช่น้อย น่าจะถูกนำเข้ามา แต่แปลก ทำไมแม้แต่บาร์โค้ดราคาก็ยังติดไว้อยู่ นำเข้าจากอเมริกาหรือในเมื่อราคายังโชว์เป็นค่าเงิน USD แบบนี้….อาจจะซื้อจากร้านขายหนังสือมือสอง แม้บางทีเขาจะมีงานอดิเรกไปเดินร้านหนังสือพวกนั้นบ้าง แต่ในสภาพที่ดีแบบนี้ ก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆ แต่ในชั้นวางของในห้องกลับมีวางเรียงรายเกือบ 10 เล่ม

 

 

“แอะ”  ในขณะที่คิดเพลิน เสียงจากน้องวินก็ทำให้เขาชะงัก นักรบเบนสายตาจากหนังสือตรงหน้ามาเป็นตาหนูที่กำลังดูดขวดนม เขาค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆและชันแขนไว้ น้องวินค่อยๆเอนตัวนอนตะแคงมามองกันแบบนี้ ช่างทำตัวน่ารักน่าชังเสียจนคนพ่ออดใจไม่ไหว ยิ้มออกมา

 

 

“ขอบคุณที่อดทนกับพ่อนะ”  เขาพูด ช่างเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้เลย กับลูกแค่คนเดียว เขายังชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายมาอ้างเพื่อกลบเกลื่อนความขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้ากับตัวเอง บนโลกนี้อาจจะมีคนมากมายที่นักรบไม่ชอบและไม่อยากเจอะเจอ แต่เขาไม่เคยขลาดหากต้องปะทะกัน แค่คนๆเดียวเท่านั้นที่เขาเลี่ยงมาโดยตลอด เลี่ยง…ทั้งๆที่ไร้สาระ

 

 

ตาหนูจะเกลียดพ่อไหม?

เกลียดถ้าพ่อยังทำตัวแบบนั้น

ตาหนูจะรักพ่อไหม?

รัก…ถ้าพ่อทำให้หนูเห็นว่าพ่อก็รักใช่ไหม….

 

 

และการที่เขาได้เดินเข้ามาตรงจุดนี้โดยไม่รู้ตัวแบบนี้มันเป็นเพราะ…คนๆนั้น…

คนที่ทะเล้นจนน่ารำคาญ

คนที่อ่อนแอจนน่าเห็นใจ…

 

 

“หลับได้แล้วลูก”  เขาพูดก่อนจะค่อยๆตบตูดให้เบาๆ ไม่อาจจะกล่อมน้องวินแบบที่ใครๆทำได้ เขาเองก็แข็งกระด้างขนาดนี้ จะทำได้สักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วก็อาจจะต้องลงไปเรียกอีกคนมาให้กล่อมให้หลับจริงๆ แต่ขออีกสักพักได้ไหม…

 

 

ขอให้ได้ใช้ความกล้าเท่าที่มีให้หมด…และจะไม่เรียกร้องอะไรต่ออีกเลย…

เพราะความกล้าที่ยังหลงเหลือน้อยนิดอยู่นี่…อาจจะทำให้ลูกได้เห็นว่าเขาก็รัก…จนหมดหัวใจแล้วจริงๆ

 

 

xxx


 

เจนนั่งรออยู่เงียบๆคนเดียว

ก็จะให้เจนไปคุยกับใคร ตู้เย็นหรือไง มันใช่เรอะ!

 

 

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเรียกว่าตกใจทั้งที่ถูกคนทำร้าย ตกใจที่ทำให้น้องวินร้องไห้ และตกใจที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย เหนือสิ่งอื่นใด ในความตกใจนั้น มันแฝงเรื่องบางอย่างที่เจนไม่คิดว่ามันจะยังหลงเหลือในความทรงจำ และมันก็ก่อให้เกิดแรงกระตุ้นบางอย่าง ที่เจนกอดน้องวินแน่นขนาดนั้น มันไม่ใช่แค่เพียงสัญชาตญาณที่จะปกป้องเด็กคนหนึ่ง แต่เจน….คิดว่ามันลึกซึ้งกว่านั้น

 

 

ตัวจุ้น….

 

 

อยากคุยกับตัวจุ้นจัง แต่ป่านนี้คงวุ่นจงหัวหมุน แค่โทรไปก็อาจจะด่าเพราะว่าเจนปฏิเสธที่จะช่วยงานตัวจุ้นจึงทำให้อีกฝ่ายมีสภาพเป็นซอมบี้กลับบ้านแบบนั้นทุกวัน จริงๆก็รู้สึกผิด แต่เจน…ก็อยากทำงานตรงนี้มากกว่า

 

 

เพราะอย่างน้อยตัวจุ้น…ก็ไม่ได้ต้องการเจนขนาดนั้นอีกต่อไปแล้ว

 

 

“จุ้น”  แต่จนแล้วจนรอด เจนก็อยากพูดอยากคุยกับใครบางคน

 

 

“ว่าไงเจน”

 

 

“ทำงานอยู่ป่ะ”

 

 

“ทำ”

 

 

“งั้นก็รบกวนอ่ะดิ”

 

 

“ไม่หรอก พี่เคลส่งคนมาช่วยน่ะ”

 

 

“พี่เคล”

 

 

“อืม พี่เคล ได้ยินไม่ผิดหรอก”

 

 

“เดี๋ยวนะจุ้น มึง…พี่เคล…มึง…พี่เคล…มึง โอ้ว”

 

 

“พี่เคลแค่ส่งคนมาช่วยทางแม่ กูปฏิเสธไม่ได้”

 

 

“วันนึงเขาขอแกไปเป็นเมียกับแม่ ก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน”

 

 

“ไอ้!”

 

 

“แค่สมมติ”  แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเรื่องจริง

 

 

“โทรมานี่เพื่อแซว”

 

 

“ก็เปล่า”

 

 

“นึกว่าจะโทรมาเล่าเรื่องวันนี้ซะอีก”

 

 

“………..”

 

 

“แม่กูได้ยินจากแม่มึงอ่ะ”  เป็นคุณอำไพที่เล่าให้แม่ของตัวจุ้นซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆฟัง จริงๆตัวจุ้นนั้นอายุน้อยกว่าเจนอยู่ปีนึง แต่เราสนิทสนมกันตั้งแต่เด็กเพราะเจน….ไม่มีคนคบ

 

 

เออ…ทำตัวเป็นลูกสาวกำนันห้าวๆก็จะลงเอยแบบนี้ในชีวิตจริงกันทุกคนแหละ….

 

 

“ไหวปะวะ”

 

 

“ไหว”

 

 

“ได้ตบอีนั่นกลับตามประสานางเอกสายเฟี๊ยซไหม”

 

 

“ไม่…มือไม่ว่าง”

 

 

“เอามือไปทำอะไรอยู่”

 

 

“กอดลูกเขาไว้อยู่ไง”

 

 

“………..”

 

 

“………..”

 

 

“เหมือนที่เคยกอดกูอะเหรอ”

 

 

“เออ…โตมาเป็นผู้เป็นคนขนาดนี้เพราะใคร เรียกกูว่าพี่เลยนะไอ้จุ้น”

 

 

“พี่เจน…”

 

 

“……….”

 

 

“ไม่จั๊กจี้เหรอวะ”

 

 

“โคตร”

 

 

“……….”

 

 

“แต่เรียกบ่อยๆก็ได้นะ”

 

 

“ไมวะ”

 

 

“จะเอาไปอวดพี่เคล”

 

 

“ไปทำมาหากินล่ะโว้ย”

 

 

“บายนะเจ้าจุ้น”

 

 

“เออ!”

 

 

และบทสนทนาอันชื่นมื่นระหว่างเราสองพี่น้องก็จบลงแค่นี้ เจนรักษ์นั้นอารมณ์ดีขึ้นอีกโขเมื่อได้หยอกล้อไอ้ตัวจุ้นให้หน้าแดง เรื่องพี่เคลผู้ให้การสนับสนุนในเรื่องต่างๆของเราสองพี่น้องนั้น ยังเป็นเรื่องที่ตัวจุ้นไม่ยอมรับในสตอรี่หลายๆส่วนอยู่มาก แต่ถ้าได้ลองแซวดูก็จะรู้ว่ามันน่ะซึนเดเระ ให้ตายสิคนรอบตัวเจนนี่….จะมีแต่คนซึนๆงี้ไม่ได้นะ เจ้ากบน้อยก็ส่อแววซึนเหมือนคนพ่อแล้ว!

 

 

ว่าแต่เขาจะกล่อมลูกนอนถึงเมื่อไหร่กันนะ ถ้าเจนจะปลอกมะม่วงกินรอนี่จะทันไหม…. ทว่าช่างมันเถอะ ถ้าคุณรบจะเรียกกันตอนนี้ เจนก็จะหอบมีดกับมะม่วงขึ้นไปปลอกบนห้องกินละนะ ก็คนมันหิวนี่นา ใครให้วันนี้มีเรื่องเครียดๆจนกินไม่ลงล่ะ พอหายเครียดแล้วพี่ก็จะฟาดให้เรียบหมดตู้เย็นนี่แหละ มะม่วงในตู้นี่ก็ดูจะสุกดีนะ เออมีโยเกิร์ตด้วยว่ะ กินด้วยกันคงไม่อ้วนหรอก นี่โยเกิร์ตนะ

 

 

แต่พอปลอกมะม่วงออกมาก็เหมือนจะเยอะไปจนทานไม่หมด เออก็ดันจะตะกละกินกับโยเกิร์ตด้วยไง เจนรักษ์ที่คิดได้ว่าการทิ้งขว้างมันไม่ดีจึงเลือกที่จะหากล่องใส่อาหารมาใส่ที่เหลือไปแช่ไว้กินพรุ่งนี้ ทว่าเสียงที่มาจากทางบันไดก็ทำให้การกระทำทุกอย่างหยุดลง เป็นคุณรบที่ลงมาหากัน…

 

 

“น้องวินนอนแล้วเหรอครับ”  เออแล้วทำไมไม่โทรมาบอก เจนเอามือถือลงมาด้วยนะ หรือว่าเขาไม่ได้พกมือถือเข้าไปในห้องน้องวินกัน อ๋อไม่ใช่….

 

 

มึงมีเบอร์คุณรบไว้มโนแอบอ้าง มึงไม่ได้มีจริงๆไอ้เจน!

 

 

“แฮ่ ผมลืมไปว่าไม่ได้ให้เบอร์คุณรบไว้”  ในประเทศไทยแห่งนี้มีเพียงแค่แม่ของเจนเท่านั้นที่ติดต่อกันได้ ส่วนที่เมกานั้นมีไอ้จุ้นที่ปล่อยเบอร์เจนไปให้วิลเลี่ยมรู้ ดูโดยรวมแล้ว…คุณรบไม่มีทางมีเบอร์ของเจนแน่

 

 

“อืม”  แต่อย่าตอบสั้นๆได้ไหม ช่วยขอเบอร์กูหน่อยนะ จะได้ให้ ไม่อ่อยด้วย!

 

 

“คุณรบทานมะม่วงไหมครับ เดี๋ยวผมเอาให้”  ไหนๆก็ไหนๆ เสนอขายมะม่วงเหลือเสียเลย แต่แค่คิดว่านี่คือคุณรบ คำว่า ‘ไม่’ ก็ลอยขึ้นมาเต็มหัว

 

 

“อืม เอาโยเกิร์ตด้วย”  อ้าว…ได้เหรองี้

 

 

อยู่ๆก็ใจง่ายแบบนี้ ได้เหรอ?????????

 

 

“อ่าครับ เดี๋ยวผมจะรีบทำให้ และจะรีบขึ้นไปดูน้องวินนะครับ”

 

 

“ตาหนูหลับแล้ว”

 

 

“……….”

 

 

“นั่งกินตรงนี้ อย่าเอาอะไรขึ้นไปกินข้างบนมาก เดี๋ยวมดหรือแมลงเข้าไป”  ง่า…ถือว่ามีเหตุผลก็ได้

 

 

แต่ไอ้เจนจะกินไม่ลงเท่าไหร่นะครับ!

 

 

แล้วเจนเรียกร้องอะไรได้ไหม ก็ไม่ได้ไง เลยต้องมานั่งคนโยเกิร์ตเล่นอยู่ฝั่งตรงข้ามคุณรบอย่างนี้ เราอยู่กันที่ส่วนของเค้าท์เตอร์ในครัวที่มักใช้เตรียมอาหาร เก้าอี้ยาวๆก็พอมีให้นั่งหรอก แต่ไม่ค่อยมีคนนั่งเพราะมักจะไปกินกันที่ห้องทานข้าว ทว่าในยามวิกาลที่มีคนแอบมาคุ้ยตู้เย็นแบบนี้มันก็สะดวกจะเก็บล้างทำลายหลักฐาน เจนกะจะยึดพื้นที่ตรงนี้เป็นฐานทัพระหว่างรอพ่อลูกสานสัมพันธ์ยามค่ำคืนเสียหน่อย แต่ก็กลายเป็นคุณรบมาบุกรุกซะงั้น ให้ตายเหอะ!

 

 

“คุณเพชรได้จัดการไล่ออกแล้ว ไม่ต้องห่วง”

 

 

“ง่า…ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับ”  คุณรบขมวดคิ้ว

 

 

“มันถือเป็นคดีทำร้ายร่างกายได้เลย นายจะปล่อยได้เหรอ”

 

 

“คือ…ครับ ถ้าเป็นแค่ผมคงเอาเรื่อง แต่เพราะมันเกิดในสถานที่ของรัตนสกุล ผมก็…เกรงใจอยู่บ้าง”

 

 

“เพราะมันเกิดในพื้นที่ของฉัน จึงยอมไม่ได้”

 

 

“งั้น…ถ้าอยากให้ผมทำอะไรก็บอกเลยนะครับ”

 

 

“ทางนี้สิที่ต้องถามความต้องการ อยากให้เขามาขอโทษไหม หรือเรียกค่าทำขวัญ”

 

 

“ง่า….ผมไม่ได้อยากได้เงิน แล้วก็ไม่ได้อยากเจอด้วย”  เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาขอโทษกันก็ได้

 

 

“…………”

 

 

“กลัวว่าถ้าเขาไม่สำนึกจริงๆ มาเจอกันแล้วอาละวาดอีก…มันจะเป็นผลเสียกับ…น้องวินหรือเปล่า”  เพราะเจนอยู่กับน้องวินเกือบตลอดเวลา เพราะฉะนั้นตนก็ไม่อยากจะเสี่ยงอยู่กับคนที่อันตราย นักรบเองก็ไม่ได้คิดถึงข้อนี้ จึงแปลกใจพอตัวที่เจนรักษ์มักจะคิดถึงลูกของเขาก่อนเสมอ ทั้งๆที่ก็พูดเองว่าไม่ได้อยากจะยอม….

 

 

ว่าแต่นี่….คิดแบบนี้จริงๆเหรอ เป็นคนอื่น แต่ห่วงใยกันได้แบบนี้เลยเหรอ?

 

 

“เอางี้ได้ไหมครับ ไม่ต้องแจ้งความก็ได้ แต่ฝากไปขู่ให้ทีว่าทางเรามีหลักฐานเอาเรื่อง ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกันอีก”  เจนรักษ์เสนอ แต่นักรบขมวดคิ้ว เขาต้องการจัดการอย่างเด็ดขาดกับครอบครัวรดา

 

 

“ต้องการแบบนั้น”

 

 

“ก็ไม่หรอกครับ อยากได้มากกว่านี้แต่ไม่รู้ว่าโลภไปหรือเปล่า หรือไม่ก็…ถ้าคุณรบเห็นอย่างไหนเหมาะสมก็ได้หมดเลยครับ ผมจะให้ความร่วมมือ”  จริงๆเจนแม่งอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแต่ก็เกรงใจไง หน้าแบบคุณรบ ต่อให้ไอ้เจนบีบน้ำตาออกมาก็อาจจะเป็นได้แค่นางร้ายในละครจริงๆ

 

 

“เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าเรื่องนี้จะไม่ถึงตำรวจล่ะกัน”  มันก็มีหลายวิธีที่จะจัดการได้…

 

 

เอาเป็นว่าเขาจะไปทำให้มันเด็ดขาด…ในแง่อื่นละกัน….

 

 

“รบกวนคุณรบด้วยนะครับ”  เอาให้ล้มละลาย เอาให้ครอบครัวแตกแยก หรือเอาน้ำกรดไปสาดเลยดีไหมครับ

 

 

“ไหนล่ะแผล”

 

 

“ครับ?” หะ!

 

 

“โดนทำร้าย…มีแผลด้วยใช่ไหม”

 

 

“เอ่อครับ….คุณเพชรมาขอถ่ายรูปไปแล้ว”  ใช่…เป็นคำสั่งของเขาเอง เพราะมันอาจจะถึงตำรวจ ตอนแรกอยากให้มีการพาไปตรวจร่างกายด้วยซ้ำ แต่เจนรักษ์เอาแต่ร้องไห้และยืนกรานว่าจะไม่ไปแถมยังเอาแต่กอดตาหนูอย่างกับเป็นตุ๊กตาตัวโปรดแบบนั้นอีก…

 

 

“ขอดูหน่อยสิ”

 

 

“…………”

 

 

“ที่หลังไม่ใช่เหรอ”  ใช่…เจนโดนแค่ที่หลัง

 

 

“ก็…ครับ”

 

 

“ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร”  เขาเองก็เริ่มรู้ตัวว่าอีกฝ่ายคงเห็นว่ามันไม่เหมาะ วันนี้เจนรักษ์เองก็ประกาศตัวชัดเจน…

 

 

ว่าไม่อยากมีเรื่องชู้สาวแบบนั้นกับเขา….

 

 

“กะ..ก็…ดูได้ครับ”  เจนไม่ได้หวงตัว…แต่กำลังงงว่ามาขอดูทำไม…

 

 

เจนรักษ์เดินไปหา ก่อนจะหันหลังให้อีกฝ่ายที่นั่งอยู่ เพราะส่วนสูงที่ต่างกันทำให้เขาพอจะเห็นแผลที่ต้นคอ แต่ก็ต้องดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายลงนิดหน่อยเพื่อให้ได้เห็นมากกว่านั้น นักรบกัดฟันแน่น แค่คิดว่าถ้าลูกชายของเขามีรอยแบบนี้ อีกฝ่ายต้องล่มจมให้มากที่สุดเท่าที่ใครก็จินตนาการไม่ได้แน่ มันอาจจะไม่ได้หนักหนาแต่พอคิดว่าถ้าไม่มีเจนรักษ์….เขาคงไม่ใจเย็นได้แบบนี้จริงๆ

 

 

“ขอโทษ”  เป็นคุณรบที่พูดออกมา เขาไม่ได้ดูมันอีกต่อไปเพราะยิ่งแต่จะทำให้หงุดหงิด ไม่ใช่ว่าแค่เพราะมันอาจจะเกิดกับลูกเขา แต่การที่จะต้องมีใครสักคนมาโดนอะไรแบบนี้ในพื้นที่ของเขา และเป็นคนของเขาทั้งสองฝ่าย แค่นี้มันก็ชวนทำให้โมโหมากพอแล้ว

 

 

และยิ่งกว่าโมโหใครก็คือโมโหตัวเองที่โง่เง่าจ้างงูพิษถึงสองครั้งสองครา!

 

 

“แล้วก็ขอบคุณที่ดูแลตาหนูอย่างดี”

 

 

“ไม่เป็นไรครับ”  เจนยิ้มให้ รู้สึกเหมือนตัวเองได้รับการยอมรับขึ้นมา แม้มันจะแลกด้วย…ความกลัวในจิตใจที่มีมาทั้งวันก็ตาม

 

 

“ฉันเห็นแผลและรอยช้ำพวกนั้นแล้ว จะจัดการตามสมควรที่นายโดน”  ถ้าเป็นมากกว่านี้ก็จะเล่นงานให้มากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นน้อยกว่านี้ก็จะจัดการให้ไม่มากเกินไป นักรบมีเกณฑ์ในการประเมินการจัดการเอาคืนให้สาสมกับที่อีกฝ่ายทำอย่างที่เขาคิดว่ามันถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในเมื่อกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ใช่ไหม!

 

 

ได้…งั้นรอรับผลกรรมของตัวเองด้วยล่ะกัน

 

 

“นายต้องไม่เจ็บฟรีแน่” แม้แต่เจนเองก็ไม่คิดว่าคุณรบจะมาขอดูแผลด้วยเหตุผลนี้ และเจนเองก็ไม่ได้มีความคิดที่จะไปห้ามปราม ในใจอยากจะส่งเสียงเชียร์ออกมาด้วยซ้ำ บางทีเราสองคนนายจ้างลูกจ้างอาจจะมีความเหมือนกันทางความคิดมากกว่าที่เห็น เอาคืนอย่างเป็นธรรมงั้นเหรอ….เจนจะรอดูว่ามันเป็นอย่างไร

 

 

บอกไว้เลยว่า ’รบเจน’ ไม่อ่อนโยน!

 

 

และ ’รบเจน’ ก็เอาจานไปล้างทำลายหลักฐานเพราะโยเกิร์ตที่ขโมยกินนั้นเป็นของคุณผู้หญิง เจนไม่ผิดนะ คุณรบกินสองกล่อง เจนกะจะบอกอย่างนี้ถ้าถูกถาม  จัดการเคลียร์พื้นที่แล้วเราสองคนก็พากันขึ้นห้องนอน  นับว่าเป็นวันที่พลิกสถิติการอยู่ร่วมโลกกันมากที่สุด เจนไม่เคยคิดว่าเขาจะยอมหายใจร่วมกันได้นานขนาดนี้ ทัศนคติที่มีต่อกันก็เหมือนจะเปลี่ยนไป แม้ความเย็นชาจะมีอยู่หลายภาคส่วน แต่เจนก็โอเค  ใครด่าคุณรบเจนจะพ่นไฟใส่ให้ เขาไปเย็นชาบนหัวใครที่ไหนกัน โด่! ออกจะมีคุณธรรมและแสนดีขนาดนี้ 

 

 

ง่อววววว

 

 

xxx

 

 

“………..”

 

 

“………..”

 

 

“คุณรบเงียบทำไมครับ ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะพาน้องมาเจอตอนเช้า”  ทำเป็นความจำสั้นนะ แล้วเรื่องทวงความยุติธรรมให้เจนรักษ์ล่ะ ลืมไปยัง???

 

 

“ผมแค่ไม่มีอะไรจะพูด”  บางทีมันอาจจะเช้าไป คุณพ่อที่ยังไม่ชินกับการหัดทำตัวมุ้งมิ้งใส่ลูกก็คงจะยังจูนไม่ทัน

 

 

“จะอุ้มหน่อยไหมครับ”

 

 

“ไม่..ไม่ต้องก็ได้”

 

 

“สักนิดละกัน อะ รับนะครับ”

 

 

“เจนรักษ์!”  นี่ลูกคนนะ ไม่ใช่ลูกบอล ไอ้เจนก็รู้ครับ ไม่ต้องตะโกนเสียงดังเว่อร์ขนาดนั้นก็ได้ แหมะ!

 

 

แต่เขาก็รับมาอุ้มได้ทันท่วงที จริงๆคุณรบก็คงรีบอะแหละ กรุงเทพมหานครเมืองที่มีชื่อเรียกที่ยาวที่สุดในโลกนั้นไม่ได้มีดีแค่ชื่อ รถก็ติดยาวด้วยเช่นกัน ช่างน่าเห็นใจคุณนักรบนัก แต่ว่าตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้จะแคร์ทำไม นี่ทำงานเพื่อพนักงานบริษัทหรือทำงานให้ตัวเองกันแน่ เจนรักษ์ที่ตั้งปณิธานไว้ว่าจะช่วยสานสัมพันธ์พ่อลูกได้เริ่มแผนการมัดมือชกคุณรบและตาหนูของเขาในทันทีที่ตื่น จริงๆเจนคิดไว้แล้วว่าเขาควรจะทำยังไง แต่เอาเข้าจริงมันก็ยากนะ ถึงจะฝึกน้องวินไว้แล้ว แต่เด็กนะเว้ยไม่ใช่หมา!

 

 

“น้องวินครับ”

 

 

“อู….”  เจ้าของตาแป๋วนั้นหันมามองคนเรียก หรือพี่เจนจะเอาน้องวินกลับไปดีนะ

 

 

“ไหนพี่เจนบอกว่าไงนะ ตรงนี้ๆ”  ว่าพลางชี้แก้มตัวเองซ้ำๆ

 

 

แต่น้องวินก็ยังไม่เข้าใจ

 

 

“คิสๆ”  เปลี่ยนภาษาก็แล้ว เผื่อการสื่อสารจะทำได้ดีขึ้น

 

 

แต่ก็ยังไร้ปฏิกิริยาใดๆ

 

 

“แฮ่ งั้นผมขอคืนเอามาซ่อมก่อนนะครับ”  เจ้าตุ๊กตากบอ้วนนี่! ทำพี่เจนขายหน้าแต่เช้าเลย ไหนตอนเช้าเราคุยกันแล้วไง เดี๋ยวก็จับฟัดให้ช้ำเสียเลย เจนรักษ์ยิ้มแหยๆก่อนจะขอคืนจากผู้เป็นพ่อ เอาน่า…อย่างน้อยคุณรบเองก็ดูจะชินไม้ชินมือมาบ้าง ไม่มีเคอะเขินอึดอัดตอนโยนเจ้าลูกกบให้แล้ว ถือเป็นฤกษ์ที่ดี คีพโกอิ้งเจน คนทำดีย่อมได้สิ่งดีๆตอบกลับ

 

 

จุ๊บ…

 

 

“………..”

 

 

“………..”

 

 

เจ้าลูกกบนี่….

 

 

“บอกว่าให้คิสคุณพ่อ ไม่ใช่พี่เจนนนนนนน”  อ่อนใจกับลูกศิษย์จริงเว้ยยยยย!!!!!!

 

 

จุ๊บ

 

 

“ยังงงงงง ยังจะเอาจมูกมาชนอีก” และเอามือมาจับหน้าด้วยนะ ร้ายได้ใครนี่!

 

 

“……….”

 

 

“แฮ่…คุณรบครับ เดี๋ยวเจนไปฝึกมาให้ใหม่นะครับ”

 

 

“คิดจะทำอะไรกันแน่” ไว้ใจไม่ได้ ไว้ใจไม่ได้ เต็มหัวเขาเลย

 

 

“ก็ฝึกให้น้องหอมแก้มคุณรบไงครับ”

 

 

“……….”

 

 

“คุณรบต้องสนับสนุนพัฒนาการด้านความรักที่ถูกต้องให้น้องนะครับ”

 

 

“แล้วที่ฝึกไปเนี่ย ใช้แก้มตัวเองเป็นเครื่องสาธิตเหรอ”

 

 

“ใช้หมดครับ แก้มแม่ แก้มคุณหญิง แก้มตัวเอง”

 

 

“……..”

 

 

“ก็…คุณรบไม่อยู่ให้ทดลองนี่นา”  แล้วทีนี้มาทำเป็นพูดเสียงเบานะเจน

 

 

“ผมไปล่ะ”

 

 

“เดี๋ยวสิครับ”  แต่เจนเรียกไว้

 

 

“…………”

 

 

“งั้นคิสลาน้องก่อนไปทำงานสิครับ”

 

 

“…………”

 

 

“ถือว่าเติมพลังก่อนไปทำงานไง”

 

 

“………..”

 

 

“น้องไม่กัดครับ ตอนนี้ถ่านอ่อน ไม่มีแรงดื้อ”  เจนนั้นยกเจ้ากบน้อยไปตรงหน้าเขา อย่าชักช้าสิคุณรบ

 

 

เจนหนัก…ตัวไม่เบานะเออ

 

 

“นะครับ”  เฮ้อ…

 

 

มันช่วยไม่ได้แฮะ

 

 

จุ๊บ….สักทีละกัน

 

 

“…………”

 

 

“น้องวินบ้ายบายคุณพ่อสิครับ”  พี่เจนที่คึกแต่เช้าดึงน้องวินที่ถูกคุณพ่อจุ๊บแก้มเบาๆกลับมาอุ้มไว้กับอก รอยยิ้มกว้างบ่งบอกถึงความพึงพอใจ ช่างเป็นพี่เลี้ยงที่เอาแต่ใจจริงๆ เอะอะจะให้เขาทำอย่างอย่างนั้น เอะอะจะให้ทำอย่างนี้ ถ้าวันนี้ยอมให้ แล้ววันต่อไปจะโดนขนาดไหน….

 

 

“แก้มน้องวินนุ่มใช่ไหมละครับ”  คนทั้งบ้านเขารู้กันหมดแหละ…ก็นี่นะฟัดกันจนชินแล้ว มีแต่คุณพ่อน่ะแหละที่เพิ่งรู้

 

 

“…………”

 

 

“มาฟัดได้ตลอดนะครับ ไม่ต้องเกรงใจน้อง” ก็เจนเอาน้องวินมาอ่อยพ่อเขาขนาดนี้….

 

 

แล้วจะหนีไปซึนต่อที่ไหนพ้น….

 

 

ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าว…ที่ทำให้คนตื่นเช้าทุกคนที่ได้มาเห็นต่างพากันยิ้มจนลืมหน้าที่การงาน คุณผู้หญิงกับคุณอำไพรับรู้ถึงแผนการของเจนรักษ์อยู่แล้วเพราะเจ้าตัวเกริ่นให้ฟังตอนเช้า แต่กระนั้นก็ไม่ได้ผูกใจเชื่อถืออีกฝ่ายเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร นักรบก็ยังคงคอนเสปต์รักลูกแบบห่างๆอย่างห่วงๆได้ตลอดจนน้องวินแทบจะยืนได้อยู่แล้ว นี่มันเป็นปรากฏการใหม่ที่น่าจดจำ อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ได้มั้ง ที่คนพ่อได้หอมแก้มคนลูก!!!!

 

 

“เจน ฉันจะเป็นลมแล้ว”  คุณผู้หญิงที่ปลื้มปิตินั้นถึงกับเรียกหาโซฟา หัวใจเธอเต้นแรงมากตอนแอบดูคนทั้งสาม ใครจะไปคิดว่าเจนรักษ์ที่ปีนต้นไม้เก่งถึงเพียงนั้น จะปีนเกลียวเก่งถึงเพียงนี้!

 

 

“เราน่าจะถ่ายคลิปไว้นะคะ”  อำไพยังเสียดาย

 

 

“วันหลังเอาอีกนะ จะตั้งกล้องไว้”  คุณพรรณีหมายมั่นตั้งใจ ก่อนคนทั้ง 4 จะพากันเดินขึ้นไปบนห้องน้องวินเพื่อนั่งเล่นนั่งคุยกัน ตั้งแต่เจนรักษ์มาอยู่ งานของพวกเธอก็เหมือนจะลดลง และความกังวลหลายๆอย่างที่เคยมีจนเกือบจะชินชาก็ถูกทำให้หายไป ไม่แปลกเลยที่จะไว้ใจให้อีกฝ่ายทำนั่นนี่ให้ เพราะต่อให้ไม่ขอ เจนก็ทำได้ดีทุกอย่าง ดีจริงๆที่วันนั้นเด็กนี่ปีนต้นไม้ในบ้านคนอื่นและทำเรื่องร้ายกาจแบบนั้นไป

 

 

วาสนาเรานำพามาด้วยต้นมะม่วงแท้ๆ

 

 

“เอ๊ะ! ในห้องนี่เหมือนจะมีของเยอะขึ้นนี่”  คุณผู้หญิงเริ่มจะสังเกต หนังสือเด็ก ของเล่น และเสื้อผ้าพวกนี้ที่ยังไม่ได้ถูกพับนั้นเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน แปลก….เธอเป็นคนเตรียมหรือจัดซื้อข้าวของน้องวินทั้งหมด ก็ต้องรู้สิว่าอะไรมีที่มาจากไหน

 

 

“อ๋อ คือวันก่อนผมมีซื้อของมาบ้าง และบางส่วนนี่เพื่อนของผม ลูกเริ่มโตแล้วและไม่ใช้ของพวกนี้แล้วเลยส่งมาให้ แต่ถ้าคุณหญิงไม่ชอบให้ใช้ของมือสอง เจนต้องขอโทษด้วยนะครับ”  เจนอาจจะคิดน้อยไป ด้วยเห็นว่าของทุกอย่างเป็นของดีทั้งหมดจึงไม่คิดว่าคนบ้านนี้จะรังเกียจของใช้แล้ว

 

 

“จริงๆก็ไม่ได้ถืออะไรหรอก”  คุณพรรณีตอบโดยไม่ได้มองหน้าของเจนรักษ์ เธอกำลังสังเกตข้าวของใหม่ๆพวกนี้ สภาพของมันยังดูดีทีเดียว เป็นของมียี่ห้อคุณภาพดี บางอย่างเหมือนไม่มีขายในเมืองไทยด้วยซ้ำ มันทำให้รู้สึกแปลกใจอยู่มากว่าเพื่อนของเจนที่ว่านี่เป็นใคร หนังสือก็มีแต่ภาษาอังกฤษ ของเล่นก็ดูเป็นของมีลิขสิทธิ์ เสื้อผ้าเองก็ติดแบรนด์ฝรั่ง แม้ไม่ใช่ไฮเอนด์ แต่ก็ไม่ถือว่าราคาถูกนักในไทย

 

 

“งั้นผมใช้กับน้องวินได้ใช่ไหม”

 

 

“ถ้าเอาไปซักแล้วก็โอเค”

 

 

“ผมให้น้องพายเอาไปจัดการให้แล้วครับ เดี๋ยวจะพับให้เรียบร้อยและเก็บครับ”  เจนอธิบาย รู้สึกโล่งใจที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดลงไป

 

 

“เดี๋ยวขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม”

 

 

“ได้เลยครับ”  เจนตอบอย่างไม่ลังเล

 

 

คุณพรรณีเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ติดกับห้องของตาหนู เป็นห้องน้ำที่เจนรักษ์ใช้อาบน้ำด้วยเพราะไม่สะดวกให้ไปใช้ที่อื่น จากคำบอกเล่าที่ได้ยินมาและสิ่งที่เห็นในวันนี้ก่อให้เกิดความสงสัย เธอไม่อยากจะระแวงเจนรักษ์เพราะเด็กคนนี้ก็ทำประโยชน์ให้กับครอบครัวที่ขาดๆเกินๆอยู่มาก แต่อย่างไรความเป็นมนุษย์ที่อยากรู้อยากเห็นก็ทำให้อดจะเข้ามาดูด้วยตนเองไม่ได้

‘ก็ของใช้ในห้องน้ำน่ะสิคะ จินเกรงว่าไอ้เจน…เอ้ย เจนรักษ์น่ะค่ะ เขาไปเอาของใครมาหรือเปล่า’

‘ก็เป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก ไม่น่าจะมีปัญญาใช้ของแพงใช่ไหมคะ’

‘ก็จินเห็นมันเป็นของใช้ยี่ห้อเดียวกับที่คุณหญิงและคุณรบใช้น่ะค่ะ’

‘ได้ยินไอ้พายมันตกใจและบอกว่าครีมกระปุกนึงในนั้นราคาเป็นหมื่นเลยค่ะ ไม่รู้มันเอาเงินจากไหนมาซื้อ’

‘ก็เลยอยากมาเตือนคุณหญิงเผื่อว่าจะมีอะไรหายไปน่ะค่ะ’


 

“……..”  ใช่จริงๆด้วย

 

 

ของพวกนี้……

ไม่มีชิ้นไหนราคาถูกเลยจริง…….







talk:

ตั้งใจจะมาต่อเรือรบเจนอีกทีพรุ่งนี้ค่ะ ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ

Twitter #เจนไม่นก @reallyuri

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 03-07-2018 19:00:13
คุณพ่อมีพัฒนาการมากๆ 55
ชอบความคิดเอาคืนเหมือนกันทั้งคุณรบทั้งเจน
คุณหญิงเริ่มสงสัยแล้ววว
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 03-07-2018 19:19:14
น้องเจนเค้าไม่ธรรมดานะคะคุณหญิง ลองสืบประวัติดีๆนะคะ อย่าหูเบานะค๊าาาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-07-2018 19:25:09
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-07-2018 20:29:01
 :L2: :L1: :pig4:

พวกเขาต้องรู้จักกันและกันให้มากขึ้น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Raam ที่ 03-07-2018 20:45:18
รอวันเขารักกัน :hao5: :ling1: :katai4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 03-07-2018 20:59:15
เด็ก มอต้นเจนความรับแตกแล้วๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 03-07-2018 21:14:06
เจนเป็นพญานกเลยต้องใช้ของแพงๆไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 03-07-2018 21:16:59
รอวันคนพ่อจะจุ๊บแก้มน้องเจนมั่งงง อร๊ายยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-07-2018 21:23:06
ถึงจะเป็นลูกคนใช้ก็ใช่จะไก่กาอาราเร่นะคุณผู้หญิง
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 03-07-2018 22:18:29
 :katai2-1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-07-2018 22:50:04
สติๆ มาปัญญาเกิดนะจ๊ะคุณหญิงแม่คุณรบ   :hao3:
ขนาดหนังสือนิทานน้องยังใหม่ๆดูดี มีราคาก็เห็นอยู่   :hao4:

สอนน้องดีมาก ให้จุ๊บคุณพ่อ
คุณรบเห็นแต่ละอย่างที่เจนทำ
คิดได้ไหมว่าได้คนมีคุณภาพมาชัดๆ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-07-2018 11:30:37
ได้เวลาเปิดเผยขอนเจนแล้วหรือยัง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-07-2018 12:13:25
เจนคอยชงให้ลูกกบน้อยกับพ่อรบตลอด เอาทุกทาง o13 พ่อลูกจอมซึน รอคนหน้าแหกตอนรู้ความจริงว่าทำไมเจนถึงใช้ของแพงได้ :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 13] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-07-2018 12:47:49
น้องเจนสุดยอดน่ารักจังเลย แต่อย่าหลงเสน่ห์พ่อน้องวินซะละอิอิ
หัวข้อ: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 04-07-2018 19:28:43
#เจนไม่นก
วันร้ายๆที่กลายเป็นดีของเจน






เจนไม่ใช่คนไม่ดี….


ลึกๆคุณหญิงเชื่อเช่นนั้นมาตลอด และยังคงเชื่ออยู่ เธอรับรู้เรื่องของเจนมาตลอดผ่านทางอำไพ และโดยส่วนตัวก็เคยเจอกันตอนที่เจนยังเด็กมากๆ  เด็กน่ารักแบบนั้นนะหรือที่จะทำเรื่องไม่ดีอย่างไปขโมยของใคร และแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่เธอใช้ แต่ไลน์ผลิตภัณฑ์มันคนละตัวกัน และอีกอย่าง….ที่เจนใช้นี่มันลิมิเต็ดอิดิชั่นที่เพิ่งจะประกาศออกข่าวเมื่อวันก่อนนี้ด้วยซ้ำ ยังไม่ถึงวันวางขายเลย!


เด็กนี่เอาเวลาที่ไหนไปขโมยมา….
และไปขโมยใคร….


ต่อให้เธอพยายามคิดแค่ไหนก็นึกไม่ออก คุณพรรณีนั้นเอาแต่จ้องมองเจนรักษ์ และดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัวแล้ว เจ้าของใบหน้าน่ารักนั้นยิ้มให้ คงทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่ แต่เจนก็ยังเกรงใจกันอยู่หลายส่วน เธอไว้ใจเจนรักษ์ แต่ก็สงสัยอยู่มาก คำพูดของจินตนาไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามได้ ดังนั้นจะดีกว่าที่จะเลือกไม่เชื่อใครเลย!


จึงต้องถามออกไปก่อน…


“เจน”


“ครับ”


“เจนก็ชอบครีมยี่ห้อเดียวกับฉันเลยเหรอจ้ะ”


“ครับ?”


“เห็นในห้องน้ำน่ะ ทั้งครีมอาบน้ำ ยาสระผม”


“…………”


“เจนไปได้มันมาจากไหนเหรอจ้ะ”


“เอ่อ…”


“ฉันก็ใช้ยี่ห้อนี้อยู่ แต่มันยังไม่วางขายเหรอนี่”  คุณหญิงนี่ช่าง….


ละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบเสียจริง…


“มีคนส่งมาให้มานะครับ”


“ใครเหรอเจน”  เป็นแม่ที่ถามออกมา   


“พี่เคลน่ะ”


“พี่เคล?”


“อืม…ลูกติดของโทมัสไง”  หรือเคลที่ว่า


จะหมายถึง ‘เคลวิน  คูเปอร์’


“………”  คงไม่ใช่หรอกมั้ง


“อืม ช่วงนี้เจ้าจุ้นมันงอนๆน่ะ ก็เลยส่งของมาให้ช่วยง้อ”


“อา…”  แม่พยักหน้ารับทราบ แต่คุณหญิงยังคงเงียบอยู่ และเจนก็เริ่มรู้แล้วว่าพูดมากไป อา…ลำบากใจจังเลย


แม้จริงๆจะไม่ได้อยากปิดบังอะไรก็ตาม


“คือ….พี่ชายที่เจนไปขออาศัยครอบครัวเขาอยู่ด้วยนะครับ เขาส่งของมาให้” 


“…..เจนจะบอกได้ไหมลูก”  คุณหญิงร้องถาม


“ครับ?” 


“ตัวที่หนูได้มานั่นนะ มันยังไม่วางขายเลยนะ แล้วเขาเอามาจากไหนเหรอ”


“………..”


“หรือจะพอรู้จักคนใน…บริษัท”


“ครับ”


“………..”


“พี่เคลคือเจ้าของบริษัทคนปัจจุบันครับ”  และพอเจนพูดเพียงเท่านี้….


เจนก็ไม่ได้หยุดพูดอีกเลยไปชั่วโมงนึง…..


xxx


“ฉันไม่คิดเลยนะนี่”  คุณพรรณียังทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อตัวเอง


แต่ไอ้เจนนี่โดนซักเสียสะอาดราดด้วยไฮเตอร์จนแสบไปหมดแล้วครับ!


“ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้เล่าให้ฟัง”


“แล้วเจนมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”  ง่า…คุณพระ….ผมยังตอบตัวเองไม่ได้เลยครับ แล้วที่ตอบไม่ได้หนักกว่าสิ่งใด


คือไอ้เจนก็ไม่อยากให้ใครมาถามย้ำหรอกว่าที่โง่ๆนี่จบนอกมาได้ไงเหมือนกัน…


“คือ…เจนมีปัญหาแบบ…เชิงชู้สาวกับเจ้านาย เลยลาออกมา แล้วก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ว่างงาน เขวี้ยงมะม่วง มาเลี้ยงน้องวิน”  เป็นการย่อเรื่องกว่าสิบตอนให้เหลือแค่สามคำตามสไตล์เจนรักษ์


“เชิงชู้สาว…ยังไงน่ะ”  คุณพรรณีขมวดคิ้ว กระเถิบเข้ามาใกล้ กอดน้องวินที่เอาแต่เล่นยางกัดไว้ราวกับนี่คือหมอนอิง นอกจากขี้ชิปแล้ว


ขี้เสือกด้วยนะครับ….


“ง่า…..”  ตั้งแต่ตอนแรก เจนก็ดำรงตัวเป็นคนเสือกเงียบๆเก็บเรียบทุกตอนอยู่ในบ้าน ยามที่ถูกเสือกบ้างก็จะเด๋อๆแบบนี้ คุณอำไพหัวเราะเบาๆให้กับท่าทางของลูกชายที่สติหลุดไปโลกอื่น กับเจ้านายที่พยายามจะถามเรื่องนั่นนี่


“ทานของว่างไหมคะ เดี๋ยวไปหยิบมาให้”


“รู้ใจกันจังเลยแม่อำไพ งั้นเจนอย่าเพิ่งเล่า ไปเอาของว่างกับน้ำมาก่อน เผื่อเจนด้วย เดี๋ยวคอแห้ง”  เดี๋ยวแผ่นสะดุด ง่า…..


“คือมันไม่น่าฟังหรอกครับ คุณผู้หญิงฟังแล้วจะรู้สึกไม่ดีกับตัวเจนเปล่า”


“ยังไงล่ะเจน ไม่เล่าให้ฟังหน่อยเหรอ”  ก็ยังอยากรู้นะคนเรา


“มันน้ำเน่านะครับ”


“นั่นแหละไคลแม็กซ์”  ชะอุ้ย!


“เดี๋ยวไปเอามาให้นะ เจน…pause ไว้ก่อนลูก” 


“……..”  ของแบบนี้มันสั่งได้ด้วยเหรอวะ….


และเรื่องราวนกๆของอดีตเลขาเจนกับเจ้านายก็ถูกถ่ายทอดออกไป ก็จริงอยู่ที่ว่าเจนนั้นไม่ได้ไปแย่งของใครมาโดยตั้งใจ แต่จะบอกว่าที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องที่ดีก็ไม่ใช่ อย่างน้อยวิลเลี่ยมนั่นมันก็เจ้านายไหม ที่กินไปเนี่ย….มันผิดจรรยาบรรณเลขาที่สุด! คุณผู้หญิงที่จิ้มมะม่วงกับน้ำปลาหวานนั้นยังฟังด้วยใจจดจ่อ กับเรื่องมีสาระนี่ตั้งใจกันมากขนาดนี้ไหมครับ เห็นเจนเป็นอะไร…นางร้ายในช่องหลายสีเหรอ….งั้นแบบ…พี่กิ๊ก สุวัจนีล่ะกัน…


ก็ได้เหรอวะ…


“ก็นั่นแหละครับ เจนเอาหลักฐานเรื่องใบสั่งซื้อแปลกๆใส่ซองแล้วก็ไปฝังไว้หลังบ้านของเมียเขา”


“แล้วเจนเข้าไปได้ไง”


“ก็…ให้คนของพี่เคลไปทำให้นะครับ”  จริงๆคือเจนแม่งมีเวลาที่ไหน จำนำนาฬิกาแม่งปุ๊ปก็หนีออกนอกประเทศเลย ส่วนเรื่องเอกสารนั้นก็ไม่ได้กะจะจองเวรนะ แต่…ให้คุ้กกี้ทำนายกันเถอะ ถ้าเมียอยากจัดสวนเมื่อไหร่ ก็คงตามไปเอาเรื่องโกงบริษัทที่เมียมีหุ้นนั่นแหละ


“อ่อ…เป็นอย่างนั้นเอง”


“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้พูดเรื่องนั้น”


“โอ้ยไม่เป็นไรเลยจ้ะ ดีแล้ว”


“ครับ?”


“ให้เจนเลี้ยงน้องวินดีแล้ว ขืนเจนไปบอกตารบว่าจบอะไร ทำอะไรมาเดี๋ยวก็แย่งเจนไปกันพอดี


“ครับ!?!”


“ก็นะ เลขายัยรฐาอะไรนั่นก็เพิ่งไล่ออกไม่มีชิ้นดี ตอนนี้คุณเพชรก็ทำงานคนเดียว นี่ถ้าตาเลขาร้ายกาจนั่นรู้ว่าเจนของฉันเคยทำงานเป็นเลขาบริษัทใหญ่แบบนั้นล่ะก็ ต้องมาเป่าหูตารบแน่ๆ”


“……….”


“ตาเพชรน่ะร้ายมากๆ ไม่งั้นตารบไม่เลือกมาเป็นเลขาตัวเองหรอก” ของแบบนี้ต้องศีลเสมอกันถึงจะอยู่กันได้สินะ


“เอ่อ….”


“อะไรเหรอ”


“คือเรื่องของผมอ่ะครับ คุณเพชร…”


“อย่าบอกนะว่ารู้แล้ว”


“ครับ”


“โอ้ยตายล่ะ!”


“แต่ผม…ไม่ได้มีความคิดอยากจะกลับไปทำงานเลขาหรอกนะครับ”


“ดีแล้วเจน ยืนยันคำพูดให้หนักแน่นไว้นะ ถ้าอีตาเพชรมันมาเซ้าซี้อะไรก็อย่าไปฟังมัน”


“ครับ”  ถ้าคุณหญิงรู้ว่าเจนรับมือกับอีตาคุณเพชรยังไง ท่านอาจจะไม่ห่วงคุณเพชรเลย…


แต่เป็นห่วงชีวิตคุณรบที่ได้เจนไปเป็นเลขาอีกคนดีกว่า….


“ว่าแต่คุณหญิง ไม่…กลัวเจนเหรอครับ”  ขนาดเจนยังกลัวตัวเองเลย เป็นผีบ้าได้ขนาดนี้ เป็นทั้งผี เป็นทั้งไอ้บ้า


“กลัวอะไร”


“ก็….เจนเคยมีประวัติชู้สาวกับเจ้านาย แต่คุณหญิงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณรบนะครับ”


“ห่วง…. โอ้ย ห่วงทำไมตาคนนั้นน่ะ ให้มันเอาตัวรอดจากยัยรดาให้ได้ก่อนเถอะ”  เออนั่นสิ จะเอาเวลาที่ไหนมาหลงเจน ทุกวันนี้เห็นหน้าก็ฟันฉับด้วยสายตาเฉือดเฉือนแบบนั้น คะแนนพิศวาสพุ่งจงเจนกลัวจะตายห่าอยู่แล้ว กลัวมันจะรักกูจนตายห่า


“ถ้างั้นเจนก็สบายใจแล้วล่ะครับ”


“หรือว่าเจน….คิดอะไรกับตารบหรือเปล่า”


“ไม่เลยครับ”  หน้าเจนคงบอกได้ชัดเจนกว่าอะไร ไม่ใช่แค่ไม่ธรรมดานะ คือแบบ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่


“จะว่าไปพอเจนพูดเรื่องนี้มาก็อดคิดไม่ได้เลยนะนี่”  เป็นกูชี้ทางให้กระรอกซะงั้น


“ไม่ครับ ผมคุยกับคุณรบแล้ว ตกลงกันแล้วว่าเราจะไม่ไปทางนี้”


“ไปคุยกันมาแล้วด้วย ว้า….”  ไม่ต้องเสียดายเลยครับ


เรือนี้กัปตันได้คว่ำตั้งแต่ยังไม่ทิ้งหางเสือเลยด้วยซ้ำ!


กล่อมเจ้าตัวเล็กให้นอนกลางวันกันแล้วก็ฝากแม่เฝ้าเผื่อตื่นมางอแงหาพี่เจน  วัตถุดิบสดๆที่น้องพายไปจัดหามาให้ถูกนำมาเตรียมไว้สำหรับการทำอาหารเด็ก เจนเริ่มจะชินงานแล้ว และพัฒนาการของน้องวินก็เหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ร่าเริง แจ่มใส น่ารักน่าเอ็นดูยิ่งกว่าที่เคยเป็น แต่เจนไม่เคยรู้หรอก เพราะตั้งแต่ได้เจอหน้ากันก็ถูกชะตากันมาแบบนี้แล้ว


“มาทำอะไรที่นี่ละ ไม่เฝ้าคุณหนูเรอะ”  เป็นน้าจินตนาที่ยังคงพูดห้วนๆใส่กัน บางทีเจนก็ชินแล้ว


“ผมลงมาทำอาหารเตรียมไว้ให้คุณหนูครับ”


“………..”


“ไม่ได้อู้งานหรอกครับ มานั่งเฝ้าได้นะ”  เจนก็ไม่ได้ตั้งใจจะก่อกวน แต่ถ้าอีกฝ่ายยังยืนยันจะเฝ้าดูก็บริสุทธิ์ใจ หั่นนั่นหั่นนี่ไปสักพักโดยมีจินตนายืนเก้ๆกังๆอยู่ไม่ห่าง เสียงออดจากทางหน้าบ้านก็ดังขึ้น และเธอเป็นคนที่ว่างงานอยู่ตรงนี้จึงออกไปดู


ก่อนจะกลับมากับแขกที่….เจนไม่เคยเห็นหน้า


“คุณพรรณีอยู่ไหน”  แขกผู้นั้นได้เอ่ยถามหลังจากเข้ามาในตัวบ้าน เธอเป็นผู้หญิงสูงวัยร่างเล็กที่ดูเจ้ายศเจ้าอย่างแบบที่เจนต้องเบ้หน้าใส่ แถมเสียงที่เธอใช้พูดคุยกับจินตนาก็ดูจะกร่างไม่ใช่น้อย


“เอ่อ เดี๋ยวจินไปตามให้นะคะ”  เธอหันไปพูดกับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อมก่อนจะหันหลังให้


“ใครเหรอครับน้าจิน”  เจนรักษ์ถามออกไป แต่ในใจนั้นมีอยู่ชื่อนึงแล้ว


“เอ่อ…คุณรัชนีนุชน่ะ”


“อา….”


“คุณผู้หญิงอยู่ที่ไหนรู้ไหม”


“ไม่อยู่ครับ เธอเพิ่งออกไปสักพักนี่เอง”


“อ้าว”  ใบหน้าของจินตนาดูซีดเผือด เป็นภาพที่ไม่คุ้นตาเจนรักษ์อยู่อย่าง


“เอาไงดีครับ จะให้แขกรอไหม แต่ผมไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”


“เดี๋ยวฉันโทรไปบอกคุณผู้หญิงเอง แกก็อย่าเสนอหน้าเข้าไปล่ะ”  เจนรักษ์ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าคำนี้หมายความว่ายังไง


มันเหมือนจะกล่าวเตือน แต่….เออ แต่อะไรวะ???


และนี่ก็เป็นคนที่ยุขึ้นเก่งมาก เจนนั้นรินน้ำและนำไปให้ตามประสาคนในบ้านที่ดีต่อแขก แม้ในใจจะขุ่นมัวอยู่ไม่น้อยเพราะนี่คือคุณรัชนีนุชที่แม่เคยกล่าวเตือน และบางที….น้าจินที่ไม่ใยดีต่อกันเมื่อครู่ก็เหมือนจะรั้งๆไว้ แต่นี่เจนรักษ์นะ…หาเรื่องเก่ง!


“น้ำครับ”  เจนนั้นยิ้ม ก่อนจะก้มตัวลงวางน้ำให้


“คนใช้ใหม่เหรอ ไม่เคยเห็นหน้า”


“ครับ…เพิ่งเข้ามาทำงานแทนครูกบได้ไม่นาน”


“……อ๋อ…พี่เลี้ยงคนใหม่นั่นเอง”


“รอคุณหญิงสักครู่นะครับ ตอนนี้กำลังให้คนติดต่อให้อยู่”


“อืม ก็อยากให้รีบมาเหมือนกันจะได้จัดการให้จบๆ”


“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”


“จะไปไหน”


“เผอิญผมมีหน้าที่ต้องทำนะครับ”  แล้วเจนจะไปไหน….มันไปหนักกระบังลมป้าเหรอ!


“แกทำไว้แสบมากเชียวนะ”


“เจนไปทำอะไรให้เหรอครับ”  นอกจากเขวี้ยงมะม่วงแล้ว เจนก็ว่าเจนไม่ได้อะไรเลยนะ….


มีแต่พวกที่ทำตัวเองแต่ไม่ยอมรับทั้งนั้น….


“จะไม่ยอมรับอีก ก็ไม่ใช่แกรึไงที่จ้องจะงาบคุณรบของหลานฉันไป”


“ครับ?”  มาอีกแล้ว ไดอะล็อกเดิม


“รฐาหลานฉัน บอกฉันหมดแล้ว แกพยายามจับคุณรบแล้วก็พยายามเป่าหูให้รดาดูเป็นคนไม่ดีใช่ไหม”


“………….”


“และพอรฐาต่อว่าที่แกไปทำกับพี่สาวเขาแบบนั้น แกก็สำออยแกล้งทำเป็นถูกทำร้าย!”


“ก่อนอื่นผมต้องถามก่อนเลย”


“แก!”


“รฐานี่ใครครับ ผมเคยคุยด้วยเหรอ”  ทำไมไอ้เจนจำไม่ได้วะ ชื่อแม่งเยอะไป ถ้าไม่เอาเป็นตัวๆมาให้เห็น ไอ้เจนก็ไม่รู้หรอกนะว่าไปสร้างศัตรูที่ไหนบ้าง


“ไอ้คนชั้นต่ำไม่มีมารยาท”


“นี่พูดถึงตัวเองอยู่เหรอครับ”


“ฉันจะฟ้องคุณพรรณี”


“ฟ้องเลยครับ อย่าลืมยิ้มให้กล้องวงจรปิดตรงนั้นด้วยนะ”  เจนชี้ไปที่เพดาน แต่จริงๆแล้วมีที่ไหน ไอ้เจนแม่งมั่วเก่ง! แต่กระนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายหน้าดำหน้าแดงได้ เก่งจนอยากจะชมตัวเองออกมาเสียงดังแต่ภารกิจกวนชาวบ้านนั้นยังไม่จบสิ้น ยืนจ้องกันตาถลนด้วยอินเนอร์กิ๊ก สุวัจนีและกิ๊ก มยุริญได้ชั่วครู่ ก็มีเสียงระฆังพักยกดังขึ้น!


“เจน!”


แม่….


“หึ…นี่ก็ตัวดี ได้ข่าวว่าลูกหล่อนใช่ไหม ทำไมไม่อบรบสั่งสอนบ้าง!”  ทันทีที่แม่มาถึง คำแรกก็พาดพิงก่อน และนั่นทำให้เจนไม่พอใจเป็นสองเท่าจนต้องหันไปมองด้วยสายตาเอาเรื่อง


“คุณรัชนีนุชมาพบคุณพรรณีเหรอคะ ได้นัดไว้หรือเปล่า”


“นัด! ไม่งั้นฉันไม่เข้ามาบ้านนี้ซี้ซั้วหรอก ฉันไม่ใช่คนไม่มีมารยาทหรอกนะ”  คำว่าไม่มีมารยาทนี่ไม่ต้องมองมาทางนี้ได้ไหม เจนไม่ใช่กระจก….จะให้เอาไว้มองส่องตัวเองสักกะหน่อย โง่แล้วยังไม่มีมารยาทอีก!


“แต่คุณผู้หญิงไม่ได้ฝากอะไรไว้เลย แล้วเธอก็ออกไปธุระข้างนอกพอดีเลยค่ะ”


“ธุระ ตายจริง! แล้วทำไมไม่บอก!”  ก็นี่จะถามอยู่ละเน้อ ว่านัดจริงหรือจ้อจี้


“ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ว่าแต่จะรอ หรือว่าจะกลับไปก่อนดีคะ”


“รอ! วันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องเด็กนี่ให้เด็ดขาด!”


“เรื่องเจนนะเหรอคะ”  แม่นั้นขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าระหว่างที่เธอยังไม่ลงมา เจนได้ก่อเรื่องอะไรไปบ้าง แต่จริงๆเลยนะ….เจนแม่งยังไม่ได้ทำไรเลยครับ กูนี่ถูกกระทำรัวๆพอๆกับที่ส่ายหน้ารัวๆเลยด้วย


“ใช่! หรือจะให้จัดการตัวเธอด้วย แม่ลูกกันมันต้องสมรู้ร่วมคิดกันสินะ”


“……….”


“ฉันจะรอคุณพรรณีที่นี่แหละ จะได้คุยเรื่องความประพฤติไม่เหมาะสมของพวกเธอแม่ลูก คิดจะรวยทางลัดจับคุณรบสินะ เห็นรดาออกจากบ้านนี้แล้วคิดจะฮุบสมบัติเลยไปตามลูกมาใช่ไหม ทุกอย่างเป็นแผนของแกใช่ไหม!”


“มันจะมากไปแล้วนะครับ”  เจนรักษ์กัดฟันกรอด ย่างสามขุมเข้าหา แต่เป็นแม่ที่คว้ากันไว้


“คุณรัชนีนุชคะ”  และเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงเรียบนิ่ง


“เก็บคำแก้ตัวไว้ใช้กับคุณพรรณีเถอะ”  โอ้ย! ทำไมเป็นคนน่าหงุดหงิดแบบนี้


“ไม่ได้แก้ตัวค่ะ มีคำถาม”  เจนพยายามสงบสติ จ้องมองแม่แล้วพยักหน้า ปล่อยให้เป็นตามยถากรรม


อยากเจอตัวแม่นัก ก็จะปล่อยให้เจอ!


“ที่คิดมานั่นนี่ ดูละครมากไปเหรอคะ มันไม่น่าจะเป็นความคิดของคนมีการศึกษาเลยค่ะ” 


นั่นไง…..


“หรือลิเกวิกไหนคะ เขาสอนให้คิดอย่างนั้น” เอาเงินโง่ๆของหล่อนไปเปย์ผู้ชายหมดจนลืมเอาไปซื้อน้ำมันตับปลาบำรุงสมองหรือไงวะ เจนพยักหน้าเห็นด้วย


“อำไพ!”


“วันหลังเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานก็อย่าปลูกฝังให้ดูทีวีตั้งแต่เด็กกันมากไปนะคะ”  มือของแม่ที่จับแขนเจนยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ


ก่อนประโยคสุดท้ายจะดังขึ้น


“ไม่งั้นจะเพ้อเจ้อกันทั้งอาและหลานแบบนี้”  เอาล่ะครับ….


คุณอำไพมือตบได้สถิตเข้าร่างแม่ไอ้เจนแล้ว


“แก!!!!!!!!!”  เมื่อเสียงของมุมน้ำเงินดังขึ้นหลายเดซิเบล เจนรักษ์ก็รีบก้าวเท้าเข้าไปบังแม่ จะอย่างไรเจนก็ยังคงทำหน้าที่ผู้ปกป้องได้ดี และวันนี้ก็หวาดเสียว….


ว่าจะต้องเจ็บตัวติดกันอีกวัน….


“คุณรัชนีนุชคะ!”  แต่เสียงระฆังที่ดังลั่นก็ทำให้มือตบทั้งสองของฝ่ายน้ำเงินชะงัก ต้นเสียงไม่ใช่ใครที่ไหน


แต่เป็นคนที่เจนรักษ์ไม่คิดว่าจะเข้ามาข้องเกี่ยวกับบทสนทนานี้….


“อะไรของเธอ แม่จิน”


“คุณผู้หญิงฝากบอกว่าเธอจะไม่กลับบ้านเร็วๆนี้ ไม่ต้องรอค่ะ”


“อะไรนะ!”


“เธอบอกว่า เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเข้ามาคุยกันอีกที….น่ะค่ะ”  จินตนาเดินเข้ามา เปรียบเสมือนกรรมการข้างล่างเวทีเดินขึ้นมาในสังเวียน เพื่อห้ามนักมวยมุมน้ำเงินแดงและกรรมการสนามไม่ให้ตบกัน ในมือของน้าจินมีมือถือที่เธอกำแน่น


“พร้อมอะไร ฉันพร้อมแล้ว!”


“เธอยังไม่พร้อมรัชนีนุช”  เป็นเสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้น น้ำเสียงดังฟังชัด รู้ได้ทันทีว่านี่คือใคร ให้ตายสิห้องนี้…..อาจจะไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ก็ยังมี….


การดักฟังสินะ


“พรรณี!”


“ใช่ ฉันเอง เธอไม่ต้องรอนะ กลับไปก่อน”


“ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม เธอต้องมาให้ความเป็นธรรมกับรฐา”  นั่นมันก็เรื่องรฐา แล้วมองหน้าเจนทำไม


“นั่นมันเป็นเรื่องของนักรบ ฉันไม่เกี่ยว ให้อะไรไม่ได้อยู่แล้ว”


“ไม่ๆ เธอช่วยพูดกับลูกได้”


“พูดไม่ได้หรอก นักรบโกรธมากที่หลานเธอเข้าไปทำร้ายเจนรักษ์อย่างนั้น”  โอโห พูดแบบนี้แล้วกูรู้เลยครับ


ว่ารฐานี่ใคร….


“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เด็กนี่ต่างหากที่ทำร้ายตัวเองแล้วใส่ร้ายหลานฉัน”  โห…ละครช่องไหนวะเนี่ย ไอ้เจนเหรอครับจะทำร้ายตัวเอง กูต้องยืนหยุ่นแค่ไหนถึงจะทุบหลังและข่วนต้นคอตัวเองเป็นทางยาวได้แบบนั้น


“นี่ไง….ฉันถึงบอกว่าเธอไม่พร้อมไง”  ใช่ ตอแหลไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ยังงี้ถือว่าไม่พร้อมจริงๆ ไอ้เจนเห็นด้วย


“ไม่พร้อมอะไร พรรณี เธออยู่ไหน ฉันจะรอ”


“ไปถามความจริงจากหลานเธอมาให้พร้อมก่อนนะ”


“ฉันถามแล้ว หรือจะให้พารฐามาคุยด้วย ได้นะพรรณี ฉันจะโทรบอกหลานเดี๋ยวนี้”


“ได้ ไปพามาเลย”


 ดีครับ พามาไอ้เจนจะตบให้คว่ำ!


“เดี๋ยวฉันกลับไป แล้วถ้าหลานเธอยังไม่พูดความจริงอีกนะ”


“……..”


“ฉันจะเรียกตำรวจไปฟังพร้อมหลักฐานกล้องวงจรปิด คลิปเสียง และรอยแผลบนตัวเจนรักษ์!”  โอเคเรื่องถึงผู้พิทักษ์สันติราษฏ์ล่ะ งานนี้ตัวใครตัวมัน ไอ้เจนจะไม่เสี่ยงคุกฐานล้อเลียนรัฐบาลด้วย!


แต่จะใจดีซื้อข้าวกับโอเลี้ยงไปฝากนะ…
ยังไงในอนาคตเราก็อาจจะได้เป็นเพื่อนร่วมห้องขังกัน!


เจ้าทุกข์ที่เทิร์นมาเป็นจำเลยนั้นสะบัดก้นออกจากบ้านรัตนสกุลโดยไม่ต่อความใดๆอีกหลังจากคำประกาศเข้าขั้นตัดเพื่อนของเจ้าบ้านผ่านทางโฟนอินจบลง ถือเป็นการจัดการกับความรำคาญขั้นเด็ดขาดที่เจนรักษ์อยากจะลุกนำเซิ้งให้รอบบ้าน  แต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงหันไปมองหน้าแม่ที่รู้ดีกว่าเจนหนึ่งระดับ และคนสร้างผลงานซึ่งคือน้าจินตนาที่เก็บมือถือตัวเองเข้ากระเป๋าแล้ว ทักษะของคนในบ้านนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ


มีความเป็นมิจฉาชีพและดาวร้ายอยู่ในตัวกันทุกคน!


“ขอบใจมากนะจิน”  แม่นั้นยิ้มเหนื่อยๆให้ แต่ก็ดูรู้ว่าจริงใจต่อผู้ร่วมวิชาชีพรุ่นน้อง ยัยน้าจินไม่ได้ยิ้มตอบแต่พยักหน้า เดี๋ยวนะ ไอ้เจนตกข่าวอะไรไปหรือเปล่าวะนี่!


กูคิดว่าน้าจินเป็นคนใช้ฝ่ายตัวร้ายมาตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นหน้า ก็แม่คุณตั้งท่าจงเกลียดจงชังและถือหางคนผิดอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกนี่หว่า แล้วนี่มันอะไรวะ ด้านทดสอบความอดทนทางการทำงานหรือแผนรับน้องของบ้านหลังนี้ เจนยังคงงงๆจับต้นชนปลายไม่ถูก เดินจับชายเสื้อแม่ตามขึ้นบ้านไป โดยลืมไปแล้วว่าตัวเองลงมาทำอาหาร ไม่ได้ลงมาท้าตบใคร


“อะไรเนี่ยเจน”  แม่ถามหลังจากโดนเกาะอย่างกับถูกสิง


“แม่…เจนงงไปหมดแล้ว”


“งงอะไรกัน แล้วนี่งานการล่ะ”


“น้าจินนี่ เขายังไงกันอะแม่”



ต่อข้างล่าง





หัวข้อ: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 04-07-2018 19:29:03
“เขายังไง….สงสัยอะไรนะเรา”


“เขาไม่เกลียดเจนเหรอ”


“ไม่…เขาแค่หมั่นไส้”


“มันต่างกับเกลียดมากไหม”


“ต่าง ขนาดแม่ยังหมั่นไส้เราเลย นับประสาอะไรกับน้าจิน”


“หืม….แม่ นี่เจนเอง”  เจนลูกแม่ไง เจนเอง นี่เจนนะ


“แต่เขาคงเห็นอะไรๆมากขึ้นละมั้งเลยเลิกหมั่นไส้ หรือไม่ก็ยังหมั่นไส้แต่ว่าต้องทำสิ่งที่ควรวันนี้”


“เขาไม่ได้เป็นคนของคุณชะนีนุชเหรอแม่”


“รัชนีนุช ไอ้เด็กนี่!  เขาจะไปเป็นคนบ้านนั้นได้ไง ในเมื่อคุณหญิงจ่ายเงินเดือนให้เขา”


“ง่า….ก็แบบในละคร”


“โอ้ย จะบ้าตาย นี่ดูช่องเดียวกันกับคุณรัชนีนุชปะเนี่ย”


“ก็เจนงงอ่ะ!”


“งงก็ไม่ต้องมาถามแม่”


“แล้วเจนจะถามใครได้”


“………..”


“………..”


“ไม่เสือกซักเรื่องไหมเรา”


“ไม่”  เจนตอบในทันควัน


“ถ้างั้น….”


“……..”


“ก็ไปถามน้าจินเองสิ”  แม่….


ถ้ามันถามง่ายๆเจนจะมาเกาะติดเป็นพยาธิอย่างนี้เหรอ!


แต่เจนก็หาทางออกของตัวเองได้ดีตามประสาผู้มีความเสือกอย่างชาญฉลาด ด้วยแน่ใจว่าไปถามน้าจินด้วยตัวเองไม่ได้ จึงเลือกที่จะไปเป็นพยาธิในตัวคนอื่นที่ใกล้ชิดแทน ซึ่งนั่นคือน้องพระพายที่เมื่อสักครู่ไม่ได้ออกโลงตามประสาบุคคลที่มีนิสัยนางเอกผู้อ่อนแอในบ้านหลังนี้ ดูเหมือนว่าแม่ของน้องหรือน้าจินนั่นแหละจะกันไม่ให้ออกมา เห็นชอบใช้ลูกอย่างกับแม่เลี้ยงซินเดอเรลล่า แต่จริงๆก็มีโมเม้นท์ปกป้องลูกอยู่บ้าง ไอ้เจนเพิ่งเคยเห็น


สงสัยต้องมองกันใหม่แล้วล่ะ


“จริงๆพายก็ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่หรอกพี่เจน”  น้องพระพายคนดีของพี่ พี่รู้ว่าเอ็งรู้ อย่ามาตีเนียน เจนนั้นเขม่นมองในขณะที่กำลังล้างผักให้สะอาด เริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังกับการทำงาน


“พี่แค่ตกใจเฉยๆ เห็นแม่เราเขาสนิทกับอีกฝ่าย แล้วอย่างนี้จะไม่มีปัญหากันเหรอ”


“ก็เคยสนิทนะ แต่ก่อนคุณรัชนีนุชชอบซื้อของมาฝากพวกเรา มีแต่ป้าอำไพนะแหละที่ดูไม่ค่อยเล่นด้วยก็เลยตึงๆใส่กันอยู่” 


“เคยสนิทเหรอ ตอนที่คุณรดาอยู่ที่นี่ใช่ไหม”


“คงงั้นแหละ ตอนนั้นพายอยู่บ้านญาติเลยไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่น้าอำไพดูเฉยๆกับคุณรดานะ มาตึงๆตอนหลังก็ตอนที่ท้องน้องวินนี่แหละ”  อันนี้ไอ้เจนพอเดาได้ จะให้คนดีๆที่ไหนชอบคนที่เอะอะจะไปทำแท้งเล่า เป็นไอ้เจนนี่พอคลอดน้องออกมาแล้วจะตบหัวซ้ำ


“แต่แม่อ่ะ เคยชอบคุณรัชนีนุชเธอ เพราะเธอให้ความใส่ใจคอยไถ่ถามซื้อนั่นนี่ให้ อย่างว่าแหละ บางทีแม่ก็น้อยใจคุณหญิงเพราะมีอะไรเอะอะก็ป้าอำไพ แม่ก็เลยงอนๆน่ะ”


“มีงี้ด้วย”


“ก็ประมาณนั้นแหละ พายก็บอกว่าป้าไพทำงานมาก่อน และเลี้ยงคุณรบมา เรื่องคุณรดาจะทำแท้งแม่ก็มองว่าเขาไม่ทำจริงๆหรอกแค่ขู่งอนคุณรบ แต่พอคุณรดาออกไปแล้วไม่กลับมาเลยก็เริ่มสะกิดใจบ้างล่ะ และเพราะสนิทกับครูกบแถมโดนเป่าหูมาหลายอย่าง พอพี่เข้ามาก็เลยตึงๆใส่พี่ไง ก็พี่มาทำซี้เขาโดนไล่ออกนี่”  เออเป็นกูผิด เจนรักษ์พยักหน้า แต่เฮ้ย! เจนทำในสิ่งที่ถูกต้องนี่ ใครๆก็บอกอย่างนั้นไม่ใช่เหรอวะ


“แต่ครูกบทำร้ายน้องวินนะ” 


“ก็วันที่เกิดเหตุนี่ แม่ไม่อยู่ไง แถมยังฟังมาอีกแบบเลยโกรธ แต่แม่ก็ไม่ใช่คนงี่เง่าขนาดนั้นนะ พอได้ยินเรื่องพี่โดนคุณรฐาทำร้ายเพราะปกป้องน้องวินก็อ่อนลงหมดแล้วเนี่ย”


“นี่ขนาดอ่อนแล้วนะ”  มองที ไอ้เจนยังขนลุกอยู่เลยคร้าบบบบบบ


“อ่อนสิ ไม่งั้นไม่รีบโทรไปฟ้องคุณหญิงว่าพี่เจนโดนเล่นงานหรอก”


“…………”


“เนี่ย แม่ให้พายเป็นคนเปิดลำโพงให้ ลำพังแม่น่ะ เรื่องเทคโนโลยีอะไรไม่เป็นหรอก พายทำให้หมดเลย เสร็จแล้วแม่ก็ไล่ไปหลังบ้าน แล้วแม่ก็เข้าไปหาอย่างนั้นไง”  อ๋อ มันเป็นแบบนี้เอง….ไหนน้องพายบอกไม่ค่อยรู้ไง ที่มึงพูดมาทั้งหมดนี่แปลว่าไม่ค่อยรู้น้อยมากกว่า เห็นเงียบๆนี่ ข้อมูลเพียบนะครับ


“พี่รู้สึกผิดกับแม่ของเราจัง อยากไปขอโทษที่พูดไม่ดีใส่”


“ก็เอาไว้ค่อยว่ากันก็ได้ แม่ก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งหวานจ๋อยอะไรขนาดนั้นด้วย พี่เจนมาช่วงที่เขาถ่ายคนไปทำงานที่อื่นกันด้วยเลยวุ่นๆ แม่ก็อาจจะหงุดหงิดหน่อยๆ”



“ถ่ายคน?”


“ก็นี่เราเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ก่อนน้องวินเกิดแป็ปเดียวเอง บ้านมันเล็กลงเขาเลยส่งพี่ๆคนอื่นไปทำที่อื่นบ้างอะไรบ้าง”


“………….”


“ต่อไปนี้ก็จะมีคนทำงานแค่ป้าไพ แม่ พี่น้อย พี่เจน และผมไง” มิน่าเล่า จำนวนคนดูแลบ้านที่เห็นวันแรกถึงค่อยๆหายไป นั่นเพราะทุกคนถูกส่งไปทำงานที่อื่นแทน


คุยกันจนจบเจนก็กระจ่างใจในหลายๆด้าน คนที่เคยมองว่าร้ายมาตลอดแต่จริงๆเขาก็เป็นคนๆหนึ่ง มีหลงผิด และมีพบทางสว่าง เจนต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่ละครหรือนิยายที่ใครจะร้ายก็ร้ายสุดโต่งแบบนั้น มนุษย์จริงๆมีสิ่งให้เรียนรู้มากมาย และพร้อมจะแก้ไขปรับตัว ต่อให้เป็นคนที่หัวดื้อที่สุดยังไง เขาก็สามารถที่จะปรับตัวปรับความคิดให้เข้ากับสถานการณ์ได้หมด หนึ่งวันที่ผ่านมานี้ เจนได้เรียนรู้เรื่องดีๆในการใช้ชีวิตตั้งหนึ่งอย่าง และถ้าในเวลาอันสั้นที่เจนมาอยู่ที่นี่ เจนยังมีโอกาสได้เห็นน้าจินที่ดูหัวแข็งที่สุดเปลี่ยนแปลงได้


แล้วคุณรบกับน้องวิน….ทำไมจะสนิทกันไม่ได้เล่า?


แค่คิดก็ใจชื้นขึ้นมา มีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาโขเลยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่วันที่ตั้งใจว่าจะช่วยให้พ่อลูกสนิทสนมกัน เราก็ได้เห็นพัฒนาการดีๆในฝั่งคุณรบมาตลอด อย่างนี้อีกไม่นาน คุณพ่อผู้เย็นชาจะต้องเป็นฝ่ายเข้าหาลูกโดยไม่ต้องให้เจนทำอะไรอีกต่อไป เมื่อถึงวันนั้นทุกคนในบ้านก็จะมีความสุข และเจนก็จะไม่เสียใจหากต้องจากไป


จากไป…แค่คิดว่าวันที่เขาสุขที่สุด เราก็พร้อมจะไป
แค่นี้ก็ใจหายแล้วนี่


“………….”  อยู่ๆก็ใจหายได้ไง เจนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย เจนรักษ์ค่อยๆเช็ดน้ำลายให้เจ้ากบน้อยที่กำลังสนุกกับการกดนั่นนี่ในหนังสือนิทาน เรากำลังนั่งรอคุณพ่อของน้องวินกลับมาจากที่ทำงาน ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เจนจะมีตารางงานที่ฟิกส์ได้ขนาดนี้ มันก็เหนื่อยกายอยู่นะ


แต่กลับไม่เหนื่อยใจเลย


เสียงรถที่แล่นเข้ามาในบ้านทำให้เจนหันไปมองที่ประตูทางเข้าที่ยังไม่ปรากฏร่างของใครเดินเข้ามา เมื่อไหร่กันที่เจนรับรู้ได้ว่าเสียงรถแบบนี้เป็นของใคร อาจจะเพราะความเคยชินกับการได้มาอาศัยในบ้านหลังนี้ ที่น้องพายอ้างว่ามันเล็กลงกว่าเดิม คนตัวเล็กอุ้มเจ้ากบน้อยขึ้นให้เท้าเล็กๆเหยียบบนตัก จ้องหน้าเจ้าตัวซนที่ชอบดื้อเงียบ ก่อนจะพูดออกมา


“คุณพ่อกลับมาเหนื่อยๆนะครับน้องวิน”


“ปา….”


“เพราะฉะนั้นต้องคิสให้กำลังใจคุณพ่อนะ”


“แอะ”


“สัญญานะ เป็นลูกผู้ชายต้องรักษาสัญญา!”  ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจแค่ไหน แต่เจนก็ลุกขึ้นแล้วพาลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดงอย่างน้องวินเดินไปหาคนพ่อที่หน้าประตู กะจากเวลาแล้วเขาน่าจะเอารถเข้าโรงเก็บเรียบร้อย แล้วเมื่อมาถึงก็ได้เห็นว่าเขากำลังถอดรองเท้าและเดินเข้ามา เมื่อนักรบได้เห็นหน้าคนเจ้าแผนการ อีกฝ่ายก็เดินไปล้างมือแต่โดยดี


เขารู้ว่าเจนรักษ์จะบังคับมัดมือชกกันให้อุ้มลูกแน่ๆ


“เห็นแม่บอกว่าวันนี้คุณรัชนีนุชมาที่บ้าน”


“อ๋อ…ครับ”  เจนกำลังทำใจหากจะโดนต่อว่า อย่างไรซะเขาก็อาของคุณรดา


“ไม่โดนอะไรใช่ไหม”


“ไม่นะครับ”


“ดีแล้ว”  แต่แค่นั้นเอง….


นักรบไม่ได้ต่อว่าอะไร….แม้สักนิดเดียว


“โชคดีที่น้าจินเข้ามาทัน ไม่งั้นอาจจะแย่เหมือนกันครับ”  หมายถึงอีกฝ่ายอะแย่ ตรงนี้สองคนพร้อมบวกมาก


“งั้นเหรอ”  เขาเลิ่กคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระชับอ้อมกอดน้องวินให้แน่นขึ้น เจ้าตัวเล็กเอนมาซบไหล่ของเขา ก่อนจะดิ้นจนขึ้นสูงไปกอดคอคนพ่อให้ต้องรัดแน่นขึ้นด้วยกลัวทำลูกตก  ดูจากมุมนี้คงรู้สึกว่าตัวเองได้อยู่สูงขึ้นล่ะซิ ขอโทษนะพี่เจนมันเตี้ยเอง….


“คุณรบจะรับน้ำอะไรไหมครับ วันนี้เจนคั้นน้ำส้มไว้ด้วย เดี๋ยวไปเอามาให้”


“เจนรักษ์”


“ครับ”


“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”


“………”


“ดูแลตัวเองดีๆ อย่าให้ใครมาทำอะไร เข้าใจไหม”  คุณรบ….ไม่ใช่แค่พูดดีๆกับไอ้เจน


แต่ยังเป็นห่วงกันด้วยหรือนี่!


“ครับ ผมจะระวัง”  มองจ้องดวงตาคู่นั้นอีกที แววเหยียดหยาม เฉยเมยใดๆ ก็ไม่มีให้พบเห็น แม้มันจะเรียกได้เต็มปากไม่ได้ว่ามันคือแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย แต่แค่นี้มันก็ถือเป็นน้ำใจดีๆแล้ว วันนี้คุณรบทำดีจริงๆ


ดีพอที่จะได้คิสหนึ่งทีจากน้องวิน…


จุ้บ….


“เหะ”


“……….”  อากาศยามเย็นแบบนี้มันก็ไม่ร้อนเท่าไหร่


แต่เราค้นพบคนหน้าแดงหนึ่งอัตรา


“เมื่อกี๊น้องวิน”  น้องแค่หันคอเปลี่ยนด้าน อาจจะเหมื่อยหรือเบื่อที่จะมองมาแต่ด้านหน้า และเพราะถูกอุ้มสูงขนาดที่กอดคอของคุณรบได้แบบนั้น…


พอหันหน้าไป….


“……….”  จมูกเล็กๆนั่นก็ชนแก้มของคนเป็นพ่อพอดิบพอดี


“เยส!”  ว่าไอ้เจนเว่อร์ก็เว่อร์เถอะครับ แต่งานนี้อยากให้มีมือถ่ายสักคนหนึ่งอยู่แถวนี้จริงๆ….


คนจะได้รู้ว่าตอนคุณรบช็อคเป็นหินนั้น….
ตลกขนาดไหน!










Talk: ยังคงความมาไวสม่ำเสมอ บางตอนพระเอกนายเอกอาจจะออกน้อยหน่อยนะคะ เราอยากให้เห็นมุมมองของตัวละครอื่นด้วยเลยพยายามจะมาบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องรอรบเจนมาออกโรงนาน ต่อจากนี้เรือรบเจนกำลังจะแล่น ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ
Twitter #เจนไม่นก @reallyuri

หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 04-07-2018 19:56:07
ยังไงพระเอกก็ต้องน้องวิน :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-07-2018 20:01:11
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-07-2018 20:10:52
คุณรบเลิกตั้งแง่กะเจนแล้ว :impress2:
รักแม่เจนอ่ะ ไฝว้สุด 55555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-07-2018 20:20:55
yes !!!!  ยอดเยี่ยม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-07-2018 21:04:33
ปรบมือรัวๆให้คุณแม่อำไพเลยค่ะ คำถามสุดยอดไปเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Raam ที่ 04-07-2018 21:14:21
 :katai2-1: :katai2-1: :sad4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 04-07-2018 21:19:16
จองน้องวินไว้ตอนนี้เลยได้ไหม งื้อออออ เจ้ากบน้อย  :-[
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-07-2018 21:35:56
แฟนคลับคุณนายอำไพ แม่ยกน้องวิน
กองเชียร์รบเจนอยู่นี่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 04-07-2018 21:54:38
งุ้ยยย น่ารักน่าหยิกทั้งพี่เจนและน้องวิน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-07-2018 22:06:16
ชอบตอนที่คุณหญิงให้เจนเล่าเรื่องให้ฟัง มีกินของว่างระหว่างฟังด้วยบันเทิงไปอีก ถ้าเจนไม่ดักไว้นี่คือคุณหญิงจะชิปรบเจนแล้วนะ :laugh: สรุปลูกกบน้อยแค่หันหน้าแล้วจมูกมาโดนแก้มพ่อใช่มะ แต่พ่อนึกว่าลูกตั้งใจหอม :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-07-2018 22:38:10
ตัวละครเรื่องนี้จ้อจี้ทุกคนจริง ๆ โอ้ยยยเอ็นดู
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 04-07-2018 23:02:10
ปรบๆๆๆๆรั่วๆๆๆให้รอบบ้านเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 04-07-2018 23:07:43
ชอบแม่อำไพเวอร์ชั่นมือตบมากค่ะ คนบ้านนี้น่ารัก 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 05-07-2018 10:29:33
ตลกคนบ้านนี้คุณหญิงก็มือชง แม่อำไพสายตบ แม่จินสายสนับสนุน 555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-07-2018 12:12:36
เจนมีความเป็นแม่สูงมากกดอิอิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 05-07-2018 13:19:13
น้องวินนนนน เจ้ากบน้อยน่ารักกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 14] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.7.2018 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 05-07-2018 18:30:47
น่าเอ็นดู
หัวข้อ: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 05-07-2018 19:09:46
#เจนไม่นก
เจนกับวันหยุดที่ไม่ได้หยุด






เขากำลังมองเจนรักษ์….


ตั้งแต่ตื่นนอนและลงมาข้างล่าง ภาพที่เห็นข้างหน้าก็มีเพียงแค่เจนรักษ์ อีกฝ่ายกำลังทำอาหารอยู่ โดยมีลูกชายของเขานั่งอยู่ไม่ไกล วันนี้นักรบตื่นสายในรอบอาทิตย์ แน่นอนว่ามันเป็นเพราะนี่คือวันหยุด แต่ถึงแม้ว่านี่จะเป็นวันอาทิตย์ แต่ก็เป็นวันแรกในรอบหลายเดือนที่จะตื่นกี่โมงก็ได้แบบนี้ คาดว่าแม่ของเขากับบรรดาผู้ติดตามคงออกไปเที่ยวเล่นกันตามประสา บัดนี้บ้านทั้งหลังเงียบงัน คาดว่าแม้แต่พระพายเองก็ไม่อยู่เพราะคงถูกเรียกให้ไปคอยดูแล


จะว่าไปสาเหตุที่ตาหนูไม่ได้ไปด้วยก็คงเพราะเป็นห่วงเด็กเล็ก วันนี้เดาได้ว่าพวกแม่ๆก็คงจะไปกันทั้งวัน นักรบถอนหายใจออกมา เขาหมดแรงที่จะออกไปไหน วันนี้ทั้งวันเขาตั้งใจจะไม่แตะต้องเรื่องมีสาระเลย ตื่นนอน ทานอาหาร ดูหนัง อ่านหนังสือ คือกิจกรรมที่เขาตั้งใจจะทำ เพราะตลอดมาเมื่อมีเวลาว่าง เขาก็มักจะทำเช่นนี้ แต่ว่านี่….


เขาลืมไปแล้วหรือไงว่ามีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต


“อ้าว คุณรบตื่นแล้วเหรอครับ”


“………..”


“ผมทำข้าวต้มไว้ คุณรบจะรับไหมครับ”


“ชามนึงละกัน”  สั้นๆห้วนๆ  ร่างสูงของเขานั่งลงที่ข้างๆน้องวินซึ่งกำลังเล่นตุ๊กตาอยู่ เมื่อคุณพ่อนั่งลงข้างๆ เจ้าตัวเล็กก็หันมามองผู้มาใหม่ด้วยความสนใจ นิ้วมือเรียวสวยของเขาไล้ไปตามแนวแก้มนุ่มของลูกชายอย่างเผลอไผล ตาหนูกำรอบนิ้วของเขาไว้หลวมๆจะเอาเข้าปาก ชายหนุ่มพึมพำห้ามปรามก่อนจะหยิกแก้มนุ่มนั้นไว้ เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีปฏิสัมพันธ์แบบนี้กับเจ้าตัวน้อยในตอนเช้าโดยปราศจากความเร่งรีบ


“น้องวินทานเรียบร้อยแล้วละครับ”  เจนรักษ์วางชามข้าวต้มหมูที่ส่งกลิ่นหอมฉุยเรียกความอยากอาหารไว้ตรงหน้า หอมเสียจนคนกินแล้วยังให้ความสนใจอยากจะชิม เอื้อมมือไปหาอย่างให้ความสนใจแต่ก็ถูกจับไว้โดยพี่เลี้ยงมือจับกบที่รู้ทัน


“แอะ แอ๊!!”  ร้องออกมาด้วยขัดใจจนเจนรักษ์ต้องอุ้มลงจากเก้าอี้มาไว้กับอก


“ไม่ได้นะครับน้องวิน อันนั้นของคุณพ่อนะ”  นักรบมองเด็กและผู้ใหญ่เถียงกัน    คนนึงก็ตามใจเก่ง อีกคนก็เอาแต่ใจเก่ง  แล้วตอนนี้คนตามใจ ก็ต้องมาเป็นคนโอ๋เก่งด้วยอีกคน นักรบมองเจ้าของเอวบางอุ้มจอมแสบแก้มป่องออกไปห่างเขา น่าแปลกที่ระยะห่างนั้นไม่ได้ให้ความรู้สึกไกลจนเสียดายเลย โชคดีที่มันยังอยู่ในสายตา เช้าวันหยุดของเขาที่ดูสงบไม่ควรมีเสียงเด็กและพี่เลี้ยงเข้าแทรกแบบนี้ แต่นักรบรับรู้ได้ว่าชีวิตของเขาเปลี่ยนไปแล้ว


“เดี๋ยวนั่งตรงนี้ก่อนนะครับ” เจนรักษ์กลับมาเมื่อเห็นว่าเขาทานอาหารหมดแล้ว จับจอมซนให้ลงไปนั่งที่เก้าอี้ทานข้าวของเด็กเหมือนเดิมก่อนจะเดินมาเก็บชามของเขาไป


“ทำอะไรน่ะ”  เขาถาม….จะว่าไปก็มีบทสนทนากับพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น หลายวันที่ผ่านมาเขาเดินไปเคาะห้องลูกตอนกลางคืนด้วยตัวเองโดยที่อีกฝ่ายก็ยินดีออกมาให้ตามที่สัญญา เจนรักษ์รับรู้ว่าในภายใต้ใบหน้านิ่งๆนั่น มีความขี้อายอยู่หลายส่วนจึงปล่อยให้เขาอยู่กับลูกคนเดียวเพื่อที่จะได้เป็นตัวของตัวเอง เป็นพี่เลี้ยงที่เอะอะจะเข้ามาก็เข้ามาให้ต้องหงุดหงิด แต่เมื่อพอใจก็ถอยออกและยินดีที่จะมอบช่องว่างเหล่านั้นคืนให้กับเขา แต่นักรบแปลกใจกับตัวเองไม่น้อยว่าที่กล่าวมาทั้งหมดควรจะเป็นเรื่องที่เขาไม่ชอบใจ ทว่ากลับอภัยให้หมดแล้วอย่างรวดเร็ว


“ทำไอศกรีมแช่แข็งไว้ให้น้องครับ”


“เด็กในวัยนี้ทานได้ด้วยเหรอ”


“มันขึ้นอยู่กับส่วนผสมด้วยครับ น้องไม่ควรทานของหวาน บางทีผมก็ใช้ผลไม้ทำให้หรือไม่ก็ใช้นมแม่หยอดลงพิมพ์เอาไปแช่แข็งให้ คราวที่แล้วเจ้าลูกกบชอบ ก็เลยทำไว้อีกครับ”


“……….”


“อ่า…ผมหมายถึงน้องนะครับ ชอบกระโดดเป็นกบเลยเรียกลูกกบซะเลย”  แล้วมาเรียกต่อหน้าพ่อกบได้ที่ไหน


เจนรักษ์หันไปสนใจกับการเตรียมปั่นผลไม้ต่อ เขามองหน้าเจ้าหนูที่นั่งเล่นคนเดียวเรียบร้อยในยามที่คุณพี่เลี้ยงกำลังวุ่นวาย แต่ทันทีที่สบตากัน ไม่รู้ว่าเด็กเลี้ยงง่ายเมื่อวันนั้นเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าลูกกบของเจนรักษ์นั้นหัวเราะอย่างสนุกสนานเพียงแค่ได้เห็นหน้าเขาก่อนมือเล็กนั้นจะทุบโต๊ะไปมาด้วยความตื่นเต้น นักรบยิ้มบางๆให้ลูกชายตัวน้อย หันกลับไปมองพี่เลี้ยงที่กำลังหั่นผลไม้อยู่ ก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนมาพาจอมซนออกมาจากเก้าอี้และไปหยุดที่โซฟาในห้องรับแขก


มีคนหลายคนบอกว่าตาหนูหน้าเหมือนพ่อซึ่งนั่นก็คือเขา แต่นักรบไม่สามารถมองตัวเองให้ดูไร้เดียงสาเท่านี้ได้ เขาไม่ได้มีตาแป๋วหน้าเอ็นดูแบบนี้ ท่าทางขี้เล่นออดอ้อนและยิ้มกว้างที่ทำให้เจนรักษ์อยากเข้าไปฟัดอยู่ทุกเมื่อแบบนี้ ชายหนุ่มนั่งลงกับโซฟาและจับเจ้าจอมซนนั่งตักหันหน้า ผิวของลูกขาวเหมือนเขาแต่ก็มีสีชมพูระเรื่อที่แก้มดูสุขภาพดี มองอย่างไรก็ไม่เหมือนกัน และคงจะดีถ้าไม่เหมือน


มือของเขาลูบบนแผ่นหลังของลูก ความรู้สึกนุ่มนิ่มนั้นทำให้ใจของนักรบอ่อนยวบ ความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเป็นอะไรที่ไม่คุ้นเคยแต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดี ยิ่งยามที่เจ้าจอมแสบพักแก้มนิ่มของตนลงบนอกเขายิ่งทำให้รู้สึกอุ่นวาบเข้ามา บนโลกนี้เขารู้ตัวว่าเป็นที่พึ่งให้กับทุกคนมากมายและด้วยความเต็มใจ แต่ไม่มีคนไหนที่ตอบแทนให้กันได้ดีอย่างนี้เลย ขอบคุณที่เขามีวันหยุดแบบนี้ และขอบคุณใครบางคนที่ทำให้มีความกล้าที่จะแสดงความรัก….ก่อนที่วันหยุดที่เขาเคยคิดว่ามันไม่พิเศษอะไรจะมาถึง


ใครบางคนที่ทำให้ความเรียบง่ายกลายเป็นความพิเศษแบบที่เงินที่ไหนก็หาซื้อไม่ได้

xxx

เจนรักษ์นั้นพอหันมาอีกทีก็ไม่เห็นพ่อลูกนั่นแล้ว แต่ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงเลย เจนรู้ดีและคิดว่ามันดีแล้วที่จะปล่อยให้เจ้ากบน้อยโดนลักพาตัวไป หลังจากที่หยอดน้ำผลไม้ลงพิมพ์และเอาเข้าตู้เย็น ก็พบว่าผลไม้ที่หั่นเตรียมไว้มีจำนวนมากเกินไปจึงจัดการจัดใส่จาน วันหยุดแบบนี้ใครบางคนอาจจะอยากกาแฟเพราะความเคยชินแต่เขาก็ไม่ได้เรียกร้อง เจนรักษ์จึงนำผลไม้ไปให้เป็นของหวานเพราะทานแค่ข้าวต้ม ก็คงไม่อยู่ท้องเท่าไหร่


แต่ภาพที่ได้เห็นก็ทำให้ไอ้เจนนั้นเป็นปลื้มจนไม่อาจจะหุบยิ้มได้ นักรบและเจ้าก้อนที่ก็อปปี้เขามาเกิดนั้นกำลังหลับตาและจมอยู่กับตัวเอง คนตัวสูงให้ลูกนั่งหลับพิงอกเขาส่วนตัวเองก็หลับตาและกอดลูกเอาไว้ ภาพนั้นทำให้เจนคิดว่าตนควรจะเอาผลไม้กลับไปแช่ตู้เย็น แต่พอดีเขาตื่นขึ้นมาและสบตากัน ตอนนั้นมันอาจจะทำให้ใครบางคนอึดอัด ทว่าเจนก็ทำใจดีสู้เสือและยิ้มให้ หวังว่าจะไม่ถูกมองแรงใส่แบบที่เขาชอบทำ และไม่เลย….คุณนักรบในวันหยุดแบบที่กำลังชาร์ตแบตนั้นไม่มีแรงมาก่อความหวั่นเกรงต่อหัวใจไอ้เจนได้อีก


“ผมเอาผลไม้มาให้”  เจนกลัวว่ามันจะเน่าไปซะก่อนเลยหาคนมาช่วยจัดการ ไม่ได้มีความต้องการจะเอาใจ เอาหน้า หรือเอาอะไรทั้งนั้น แค่อยากหาคนช่วยกิน


“วางไว้ เดี๋ยวกิน”


“คุณรบจะรับเครื่องดื่มอะไรไหมครับ”


“ไม่ล่ะ แต่เดี๋ยวจะพาตาหนูขึ้นไปนอนดีๆ”


“นอนตรงนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอาเบาะกับผ้าห่มมาให้”  นักรบพยักหน้า ปล่อยให้เจนรักษ์ทำตามที่พูดก่อนจะช่วยอุ้มตัวซนไปนอนดีๆ วันอาทิตย์แบบนี้ใครๆก็ขี้เกียจแม้แต่ตัวน้องวินเอง


“แล้วนี่นายไม่หยุดเหรอ”  เขาจำได้ว่าให้วันหยุดกับเจนรักษ์เช่นกัน


“ก็…ครับ”


“หยุด….แล้วทำไมยังอยู่อีก”


“ผมไม่รู้จะไปไหนนี่ครับ”  เลยเลี้ยงลูกเขาเหมือนกับเป็นวันธรรมดาไปซะงั้น


เป็นความจริงที่ว่าทุกคนในบ้านออกไปเที่ยว และปล่อยให้พี่เลี้ยงเอาวันหยุดมาใช้ทำงานเหมือนกับที่เขามักเข้าไปเคลียร์งานแบบนั้น  ใช้ไม่ได้! แต่ก็ว่าไม่ออกเพราะตัวนักรบเองก็ไม่ได้ทำตัวต่างกันเสียเท่าไหร่ ทว่าเจนรักษ์เองก็ไม่ได้ดูเดือดร้อนกับการต้องมาทำงานในวันหยุดแบบนี้ อาจจะเพราะเพื่อนร่วมงานตัวดีไม่ค่อยทำเรื่องแสบสันให้เหนื่อยใจ กลับกัน….ตาหนูกับพี่เลี้ยงของเขาเข้าขากันได้ดีมากจนคนเป็นพ่อยังตกใจเพราะไม่มีใครเลยที่น้องวินจะให้ความสนใจได้ขนาดนี้


“เอาไว้ไปหยุดวันอื่นล่ะกัน ตอนนี้เดี๋ยวผมเฝ้าไว้เอง คุณไปทำธุระส่วนตัวอะไรก็ได้ ถ้าเขาร้อง ผมจะเรียกอีกทีนะ”  เจนพยักหน้า จริงๆวันนี้ก็วันหยุดของเจนนั่นแหละ แต่เดี๋ยวก็ว่าจะคุยอีกทีเรื่องปรับวันหยุดเป็นวันธรรมดาเพราะคนบ้านนี้ชอบไปเที่ยววันอาทิตย์กัน


เมื่อตัวพ่อของเจ้าลูกกบเอ่ยปากเช่นนั้น เจนก็ไม่มีปัญญาอะไรไปขัดเขา ดีเสียอีก พ่อลูกอยู่ด้วยกัน ไอ้เจนก็นิพพานแล้ว มีเวลาเหลือมากมายจะไปนอนก็คงไม่มีใครว่าแต่ก็ไม่ได้ง่วง เจนรักษ์กลับมาสิงครัวแบบที่ชอบทำตอนอยากอยู่คนเดียว ก่อนจะมองหาวัตถุดิบต่างๆที่วันก่อนบอกให้น้องพายไปซื้อมาให้ จริงๆเคยคุยกันไว้ว่าจะทำด้วยกัน แต่เอาไว้ก่อนนะพายวันนี้พี่เจนว่าง อยากใช้เวลาให้คุ้มค่า….


เปล่าหรอกพอว่าง…หายใจทิ้งแล้วดูไร้สาระ….


จัดการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบเรียบร้อยแล้วก็เริ่มผสมแป้งตามสูตรที่เซฟเก็บไว้ในมือถือ เจนรักษ์กับพ่อเลี้ยงหรือคุณโทมัสเคยมีงานอดิเรกร่วมกันคือการทำอาหารฝรั่งและขนมอบต่างๆด้วยสูตรที่สืบทอดกันมาจากครอบครัวฝั่งนั้น จริงๆตัวจุ้นก็เข้ามาช่วยด้วย แต่ส่วนใหญ่จะทำตัวจุ้นจ้านสมชื่อจึงถูกขับออกไปจากห้องครัว เป็นอันรู้กันว่าลูกคนไหนลูกรักก็ตอนเข้าครัวนั่นแหละ เมื่อแน่ใจว่าได้ที่แล้วจึงเริ่มตักมาจัดวางให้เป็นรูปเป็นร่างดีๆก่อนจะเติมอัลมอนด์ประดับลงไปเพื่อเข้าอบ


จริงการทำขนมหากชำนาญก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก และเมื่อเข้าอบแล้วเจนรักษ์ก็เดินออกมาเพื่อดูสองคนพ่อลูกเผื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่เลยจ้า ออกมาก็เป็นหมาเลยทีเดียวเมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือคุณลูกนอนหงายอ้าซ่าเตะผ้าห่มไปทางคุณพ่อที่นอนขดเป็นกุ้งอยู่ข้างๆ ที่ข้างตัวมีหนังสือที่คาดว่าไม่ได้อ่านจริงจังเพราะตอนนี้หน้าที่คั่นไว้คงหายไปแล้วเรียบร้อย เจนรักษ์ที่เสนอหน้าออกมาเป็นหมาจึงทำได้แค่ส่ายหัวเบาๆ นึกขันกับสภาพพ่อลูกคู่นี้ไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าคนซึนทั้งคู่….จะน่าเอ็นดูได้ขนาดนี้


น่าเอ็นดู….


เอาหัวไปโขกพื้นสามที ปฏิบัติ! คุณนักรบผู้ทำลายเปลือกทุเรียนได้ด้วยมือเปล่าคนนี้นะเหรอน่าเอ็นดู น้องวินก็ว่าไปอย่าง ทำไมไอ้เจนคนบาปถึงมีความคิดชั่วช้าต่อตัวเขาได้เรื่อยๆเลยวะ ก่อนหน้านี้ความคิดและสภาพจิตกูนิ่งมาได้ขนาดนั้นแท้ๆ จนกระทั่งมาคิดอกุศลได้ว่าเจ้านายตัวใหญ่ของตนน่าเอ็นดูเท่านั้นแหละครับ ไปไม่เป็นเลย นี่ทำอะไรอยู่หว่า ล้างสบู่ออกจากตัวหมดหรือยังวะ อ๋อไม่….นี่แปรงฟันหรือยังต้องถามใจตัวเองใหม่ทั้งหมด


เพราะลบความทรงจำของทั้งวันไปหมดแล้ววันนี้เจนรักษ์เลยมายืนแปรงฟันขณะรออบขนมให้ได้ที่ เรียกสติด้วยการกวักน้ำใส่หน้าและเดินลงไปข้างล่างอีกครั้งเพื่อเตรียมอบขนมถาดต่อไป จะใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพก็ควรจะมีความคิดที่มีคุณภาพกว่านี้ ไม่ใช่เอะอะคิดภาพเจ้านายเปลือยบ้าง น่ารักเป็นลูกแมวบ้าง มึงเป็นบ้าอะไรรรรรรรรรรรรร! ตอบ!


“ไปไหนมา”  เขาถาม ท่าทางงัวเงีย เจนรักษ์ที่เดินลงมาจากชั้นสองถึงกับสตั้นไปสิบวิ ก่อนจะตั้งการ์ด กูสู้นะเว้ย!


“เอ่อ ผมขึ้นไปทำธุระแป็ปนึงนะครับ แต่เดี๋ยวจะลงมาอบขนมต่อ”


“ทำอะไรอยู่เหรอ วันนี้วันหยุดไม่ใช่หรือไง”


“อ่า…ผมอยากทำขนมไว้กินกับกาแฟตอนเช้านะครับ”


“ขนม….”


“เอ่อคุกกี้นะครับ คุณรบไปพักก่อนได้นะครับ เจน…เอ้ย ผมจะนั่งเฝ้าเตา”


“อืม ถ้างั้นผมว่าจะขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันเสียหน่อยเหมือนกัน”  อ้าว อมขี้ฟันเหมือนกูเลย ขอบคุณนะ รู้สึกดีขึ้นมานิดนึงที่ไม่ได้ซกมกคนเดียว คนหล่อเขาก็อมกันได้ครับ ขี้ฟันก็ของเรา ไม่ได้ไปขอแบ่งของใครมา


นั่งจ้องเตาไปสักพักพร้อมกับความหมกหมุ่นที่ว่าเรา… ไปเห็นผู้ชายตัวยักษ์ที่หลุดภาพเนี้ยบเมื่อวันวานกลายเป็นผู้ใหญ่หัวฟูหนวดไม่ได้โกนให้เรียบร้อยและใส่เสื้อยืดกางเกงผ้าว่าดูน่ารักเหมือนแมวได้อย่างไร เจนรักษ์ไม่ใช่มนุษย์ที่ถูกกับแมวสักเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้างที่ชื่นชม ทว่าคุณรบนี่ไม่ใช่ไทป์ประเภทน่าเอ็นดูอย่างนั้นแม้แต่น้อย มันอาจจะเพราะภาพลักษณ์ที่ดูเปลี่ยนไปกระทันหันและเพราะเราไม่เคยอยู่ด้วยกันทั้งวันแบบนี้ เจนจึงช็อคจนกู่ไม่กลับ


แต่กูต้องกู่ให้กลับนะ ไม่กลับไม่ได้!


“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”  ฉิบหายล่ะ! เจนที่กำลังเอาขนมอีกถาดเข้าเตานั้นได้ยินเสียงร้องของ….จะเป็นใครได้อีกที่มีพลังเสียงแบบนี้! คุณพี่เลี้ยงรีบเซ็ตค่าเตาก่อนจะวิ่งสี่คูณร้อยถึงตัวคุณหนูที่ตกใจกลัวยามตื่นมาไม่มีใครอยู่ข้างกาย ก็ตอนนอนหนูไม่ได้นอนตรงนี้นิ….


แล้วหนูมานอนตรงนี้ได้ไง ป๊ะป๊าหายไปไหน!


“พี่เจนมาแล้วๆ”  ทาสผู้ซื่อสัตย์นั้นรีบเข้ามาหากัน เด็กขี้กลัวผู้รู้ดีรีบยื่นแขนไปหาให้อุ้มและกอดปลอบ โยกตัวเจ้าก้อนนุ่มนิ่มไปมาให้อีกฝ่ายเอาหน้าซุกกับไหล่ มาทวงตำแหน่งช่วงชิงความน่ารักจากคุณพ่อแล้วหรือครับ


เออ….ไอ้เจนผิดเองแหละเรื่องคิดว่าพ่อกบก็น่ารัก


“ไม่ร้องนะครับๆ เจ้ากบน้อย เดี๋ยวพี่เจนให้กินหนมๆนะ”  เอาขนมมาล่อ นิสัยเสียนะไอ้เจน ไม่ใช่ทุกคนที่เขาจะตะกละแบบมึง แต่ใช้ได้ครับ จากเสียงร้องที่ดังไปสิบบ้าน น้องวินลดให้เหลือเป็นแค่เสียงสะอื้น คนตัวเล็กค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องครัว จับน้องให้มาประจันหน้าเพื่อดูสภาพเลอะเทอะ ใบหน้าเจ้าลูกกบมีแต่คราบน้ำตา ใบหน้ายู่ยี่อย่างเอาแต่ใจ จมูกแดงๆนั้นหน้างับเล่นเสียจนอดใจไม่ไหวต้องโดนเสียที แต่เหมือนจะหยอกไม่รู้เวลาเลยถูกตบเข้าที่แก้มเบาๆ โดนงอนล่ะสิแบบนี้


“ไม่โกรธพี่เจนนะ”


“ฮึก”


“โอ๋ ทำไมขี้งอนแบบนี้นะเรา”  พอรู้ว่ายังงอนอยู่จึงรีบประคองน้องมากอดแน่นๆ เจ้าลูกกบชอบกอดพี่เจนมาก ต่อให้งอนแค่ไหนก็กอดกลับแล้วเอาหน้าซุกไหล่จนต้องยอมแพ้และอุ้มพามานั่งเฝ้าหน้าเตาด้วยกัน


นักรบนั้นมองอยู่นานแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรู้ตัว อาจจะเพราะเจนรักษ์นั้นเอาแต่สนใจเจ้ากบน้อยจนลืมสังเกตว่าคนพ่อก็อยู่แถวนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงลูกร้อง ตัวเขาที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รีบลงมาแต่ไม่เร็วเท่าคนที่อยู่ในครัวจริงๆ ง้องอนกันจนเขายอมแพ้จึงได้แค่ยืนดูเงียบๆ จนไปจบที่หน้าเตา เขาก็คิดว่าควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์เสียหน่อยเลยเดินเข้าไปหา ในความใกล้ในระดับนี้ เจนรักษ์รับรู้แล้วว่ามีใครเดินเข้ามา คนตัวเล็กที่กอดลูกเขานั่งอยู่ที่พื้นนั้นแหงนหน้ามอง ก่อนจะส่งลูกให้เพราะเขาร้องขอ


“น้องตกใจที่ตื่นมาไม่เจอใครครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะตื่นเร็วแบบนี้”  จริงๆน้องก็นอนนานมาสักพักแล้วแหละ เป็นเจนที่บกพร่องเอง


“ไม่เป็นไร ผมเองก็ไม่คิดว่าลูกจะงอแง”


“…………..”


“…………..”  เออดี


ต่างคนต่างโทษตัวเอง…..น้องวินพอใจแล้วใช่ไหม!


“เดี๋ยวผมพาลูกออกไปนั่งอ่านหนังสือข้างนอก”


“ง่า….เจนขอเฝ้าเตาครับ”  เขาพยักหน้าและเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงความอึดอัดที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน และปล่อยให้เจนไปเป็นนังซินในครัวเหมือนเดิม รอจนอบคุ้กกี้เสร็จเจนก็ไม่โผล่หัวออกจากครัวอีกเลยแม้จะกังวลว่าคุณรบจะอุ้มตาหนูของเขาแบบห้อยหัวลงมาไหมก็ตาม


ไม่ไหว….อยู่กันสองต่อสองนี่เจนฉุดความบ้าบอของตัวเองไม่อยู่จริงๆ ใครก็ได้ไล่คุณรบออกไปที หรือกูควรจะไล่ตัวเองออกไปวะ นี่ดูสถานะขี้ข้าในบ้านของตัวเองด้วย ยัดคุ้กกี้เข้าปากและก็ห่อขนมใส่ถุง เก็บล้างทุกอย่างด้วยตัวเองไม่ให้ใครมาด่าตามหลังเสร็จก็สูดลมหายใจเข้าออก ก่อนจะพาตัวเองออกจากห้องครัวไปยังห้องนังเล่น และก็พบว่าที่ตนพยายามตั้งสติมาตั้งแต่ต้นนั้น


ไม่ได้ช่วยห่าอะไรเลย….


หนังสือของเจน ไม่สิ ของเอลที่ส่งมาให้ถูกอ่านโดยคุณรบ โดยมีเจ้าตัวน้อยนั่งพ่นน้ำลายอยู่ที่ตักของเขา การเลี้ยงลูกในแบบคุณรบนั้นดูผู้ดีแบบทุกกระเบียดนิ้ว เสียงทุ้มนุ่มกับภาษาอังกฤษสำเนียงแบบบริติชนั้นติดหู จริงๆการที่ไปอยู่อเมริกามานานก็ไม่ได้หมายความว่าจะติดสำเนียงจ๋าหรืออะไร ตอนที่ไปใหม่ๆก็หวังให้ตนแค่พูดรู้เรื่องก็พอและไม่เคยสนใจข้อนี้ และไม่เคยสนใจสำเนียงของใคร


แต่ไม่รู้ทำไมถึงมานั่งวิเคราะห์สำเนียงคุณพ่อบ้านตรงหน้านี่ได้….


เออ…ไปกันใหญ่แล้ว กลับมาได้แล้ว นี่คือสิ่งที่เจนคิด เหลือบมองจานผลไม้ก็พบว่ามันถูกจัดการจนหมดแล้ว บางทีเขาอาจจะกินหมดไปนานแล้วแต่เพราะมัวแต่วุ่นๆเลยไม่ได้สังเกต เจนรักษ์เดินเข้าไปหา เก็บจานและแก้วน้ำนั้น จริงๆมันก็ไม่ใข่หน้าที่ แต่ทำตัวไม่ถูกเลยแก้เก้อไปซะ จะหนีขึ้นไปนั่งไถมือถือก็กังวลกลัวเจ้ากบน้อยจะร้องไห้ออกมาอีก แต่ว่าจะให้นั่งอยู่แถวนี้ก็อึดอัดไม่น้อย  แถม….จริงๆแล้วมันสมควรหรือเปล่า….ก็ไม่รู้


“ทำขนมเสร็จแล้วเหรอ”  เขาถาม ในขณะที่เจนกำลังจะเดินไปเก็บจาน


“ครับ ผมอบคุ้กกี้ไว้ คุณรบจะรับกับน้ำชาไหมครับ”


“………”


“ ง่า หรือว่าจะรับข้าวดีครับ มันก็เลยเวลาอาหารมาสักพักแล้ว”


“ไม่ล่ะ เอาคุ้กกี้กับชานั่นแหละ”


เจนรักษ์รับคำก่อนจะเดินกลับครัวไปจัดขนมและชามาให้ จะไม่ให้ชวน หวงงกกินคนเดียวก็กินไม่หมด แล้วจะไม่แบ่งเจ้าของเงินค่าวัตถุดิบเลยก็ดูจะเกินไป จะว่าไปตั้งแต่มานี่เจนก็แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย แต่แบบนี้ก็ไม่ได้รู้สึกต้องการหรืออะไร จริงๆวันนี้เป็นวันหยุด ให้พวกผู้ใหญ่พาคุณหนูออกไปด้วยก็ย่อมได้ แต่เจนกลับไม่มีความคิดจะออกไปไหนเลยอาสาดูให้ จนเลยเถิดมาอึดอัดอยู่กับเจ้านายแบบนี้ แต่ถามว่ามันเป็นเพราะเขาเหรอที่ทำ ไม่เลย….คิดไปเองตั้งแต่ต้นจนจบนั่นแหละ


“นี่ครับ”  เจนรักษ์นั้นวางจานคุ้กกี้ให้พร้อมกับชุดน้ำชา 


รสนิยมในการเลือกของเจ้าตัวดีทีเดียว คุ้กกี้ที่อบใหม่ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งกับกลิ่นชา เขาไม่เคยได้ลิ้มรสอะไรที่สดใหม่ขนาดนี้ ตาหนูบนตักดิ้นนิดหน่อย มองตามพี่เลี้ยงที่จะละไปไม่วางตา ก่อนจะยื่นมือไปหา คงหายงอนแล้วและคิดถึง นักรบหัวเราะออกมานิดๆให้กับความไร้เดียงสาที่น่าน้อยใจนี่ ก่อนจะส่งให้เจนรักษ์รับไปดูแล


“หายงอนพี่เจนแล้วเหรอครับคนเก่ง”  ถามย้ำให้เกิดความแน่ใจแต่ก็รับเจ้าก้อนน้อยมาอุ้มแต่โดยดี ได้รับการอ้อนฉบับเต็มอย่างร้ายกาจมาหนึ่งอัตราด้วยการถูกแก้มแนบแก้ม คนตัวเล็กสะดุ้งนิดๆ ถ้าเป็นปกติต้องฟัดแล้ว แต่นี่ไม่ปกติไง น้องวินเวอร์ชั่นที่ตัวใหญ่กว่าก็มองอยู่…เห็นไหม


ไอ้เจนจะมาอี๋อ๋อกับลูกเขาต่อหน้าพ่ออย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย


“ไปเอาแก้วชามาอีกใบ และมานั่งตรงนี้”  เขาพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง


“เอ่อ อย่าเลยครับ มันอาจจะไม่เหมาะ”


“ผมอนุญาต”


“…………”


“นี่มันห้องรับแขก คุณเอาลูกผมไปนั่งในครัวมันสบายที่ไหน”  อีกอย่างพ่อเขาก็อยู่นี่ด้วย


“คุณรบครับ”


“ผมไม่ได้ใจร้ายและไร้มนุษย์สัมพันธ์ขนาดนั้น ไปเอามาตามที่บอก”  แม้นักรบจะเป็นคนที่ซื่อบื้อทางด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ทางธุรกิจแบบสุดๆ แต่เขาก็พอจะดูออกถึงความอึดอัดและความพยายามในการวางตัวของอีกฝ่ายดี เจนรักษ์คงหมายความตามที่พูด และไม่ต้องการสนิทสนมกับเขาจนเกินไป แต่นักรบคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จากคนรู้จักจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้สนิทสนมกันมากขึ้น คนเราพอรู้จักกันนานขึ้น มันก็ต้องสนิทสนมกันมากขึ้นบ้างแหละ เหมือนกับ…เอ่อ…เหมือนกับที่เขาสนิทกับเลขาตัวเองมากขึ้นจากวันแรกไง ใช่….เขากับเลขาก็ไม่ได้สนิทกันแต่พอทำงานด้วยกันมันก็สนิทและรู้ใจขึ้นมา กับเจนรักษ์ก็คงเหมือนกัน


อา….นี่เขายอมรับในตัวอีกฝ่ายขนาดนี้ได้แล้วหรือเนี่ย
แต่มันก็เหมือนที่รู้สึกกับคุณเพชรนั่นแหละ….ไม่ได้ต่างกันเลย!



Tbc


Talk: ตอนแรกว่าจะไม่ลงวันนี้ แต่ทำไปทำมาก็แบบ…หื้ออออ ลงก็ได้ ใจอ่อนเก่ง5555
คนที่อ่านไม่ทำอย่าเพิ่งว่าเรา ค่อยๆอ่านตามมานะคะ แหะๆ
นิยายค่อนข้างค่อนเป็นค่อยไป บางตอนตัวรบเจนอาจจะออกน้อย เพราะอยากถ่ายทอดมุมมองของคนอื่นบ้าง
ผ่านมาตั้งสิบตอนแล้วเรือเพิ่งเริ่มเดิน อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ
วันนี้เราลงเรือเต็มรูปแบบให้อ่านแล้วนะคะ  ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ
PS.คิดว่าพรุ่งนี้ไม่ลงนะคะ
Twitter #เจนไม่นก @reallyuri







หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-07-2018 20:01:51
 :man1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 05-07-2018 20:12:01
งึ้ยยย คุณรบคนซึน :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 05-07-2018 20:30:44
เอาแล้ว เอาแล้ว  มาทุกวันเลยๆนะ จะรอ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 05-07-2018 20:34:11
อบอุ่นละมุน คุณรบกับเจนเหมือนกำลังใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอยู่ ค่อยๆปรับตัวและเข้ากันอย่างลงตัว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 05-07-2018 20:54:24
อย่าว่าแต่คุณรบซึน เจนก็ซึน 555555555 ลูกกบน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ก้อนนิ่มๆอะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 05-07-2018 21:01:06
ค่ะะะะะะ ไม่ต่างก็ไม่ต่างค่ะะะ   :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-07-2018 21:02:29
งานบ้านงานเรือนไม่มีบกพร่องคุณรบหลงเสน่ห์เจนเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-07-2018 21:05:58
 :mew1:   :pig4:

กบน้อยน่ารัก  พ่อของกบน้อยก็น่ารักนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 05-07-2018 21:11:51
เหมือนกันจริงเหรอคะ อยากจะแหมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-07-2018 22:17:57
พ่อกบ   หวายยย ไม่ต่างเนาะ จ้าาาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-07-2018 07:33:21
เจนมีความเป็นคุณแม่สูงมาก 555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: pan19891990 ที่ 06-07-2018 07:38:26
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ชอบการดำเนินเรื่อง ภาษา ที่สำคัญคือชอบความเจนรักษ์ 5555 แล้วยิ่งอ่านก็ยิ่งเอ็นดูเจ้ากบน้อย อยากฟัดบ้าง แถมยังต้องลุ้นคุณพ่ออีกว่าเมื่อไหร่จะกล้าแสดงออกว่ารักลูกแค่ไหน คู่นี้จะรักกันยังไงสงสัยคุณรบจะแพ้ความดีคุณพี่เลี้ยงรึเปล่า รอติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :)
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-07-2018 09:04:13
พออ่านถึง   ....…หื้ออออ ลงก็ได้ ใจอ่อนเก่ง 
คนอ่านยิ้มกว้างเลย  ไรท์ใจดี  :mew1: :mew1: :mew1:

สัมพันธภาพระหว่างเจน กับคุณรบใกล้ชิดกันมากขึ้น
ชอบบบบบ ลูกกบ น่ารัก น่าฟัดจริงๆ   :z3: :z3: :z3:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-07-2018 09:57:16
ขำคุณรบ  คนซึนก็ เออ ออ เก่งพอๆกับเจน
ค่อยๆ ปรับตัวไป
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-07-2018 14:08:00
ลูกกบน่ารักอ่ะ
ส่วนพ่อกบ แม่กบนี่ซึนเอาโล่เลยจ้า 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-07-2018 15:30:33
ว้ายๆๆๆๆๆ มีคนหวั่นไหวกับพ่อกบ น่ารักทั้งลูกทั้งพ่อเลยเนอะพี่เจน ไม่รู้พี่เจนอยากฟัดพ่อบ้างรึป่าว อิอิ #เรือรบเจพร้อมแล่น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 06-07-2018 22:52:27
 :mew5:  วันนี้เจนไม่มาหรือออ. รอเรือ เจนรบ อยู่อ่ะไม่มาเทียบท่าเหรอวันนี้ 55
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2018 23:20:42
มารอจ้ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 15] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-07-2018 09:10:45
มารอเจนเหมือนกัน ว่านี้จะมาไหมนะ :mew2:
หัวข้อ: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 07-07-2018 15:26:06
#เจนไม่นก
เจนกับวันหยุดที่ได้หยุดแต่ก็เหมือนไม่ได้หยุด






“คุณรบจะไปแล้วเหรอคะ” 


“ครับ”  เช้าวันจันทร์ได้วนมาอีกครั้ง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาต้องรีบออกไปหาลูกค้าที่ต่างจังหวัดกับเลขาเลยทำให้พลาดข้าวเช้ากับครอบครัวไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไร เมื่อวานเขาได้จิ้มแก้มนุ่มมาทั้งวันแล้ว


เจ้าลูกกบของพ่อ….


กระโดดกบเก่งจริงอย่างที่คุณพี่เลี้ยงอ้างสรรพคุณ วันนี้น้องวินตื่นมาอย่างอารมณ์ดีมาส่งคุณพ่อไปทำงาน แม้จะไม่ได้ทานข้าวด้วยกันแต่ไม่มีใครเสียดายเลย ขอบคุณเมื่อวานที่เขาขี้เกียจเกินกว่าจะทำงาน และขอบคุณเมื่อวาน…ที่มีคนคอยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง แต่ว่าคนเมื่อวาน….


ไม่ได้มาส่งเขาในวันนี้


“วันนี้เจนยังไม่ตื่นดีเลยค่ะ แม่ไพเห็นหน้าง่วงแต่เช้าเลยอาสาเอาคุณหนูลงมาทานข้าวให้และปล่อยแกนอนต่อ”  คุณอำไพนั้นส่งยิ้มให้ ตอบทุกข้อสงสัยที่ไม่ได้ถามออกไปอย่างยินดี


“แอะ แอ้ะ”  เจ้าลูกกบของพี่เจนนั้นยื่นแขนจะให้พ่ออุ้ม เขานั้นหันไปมองทางหน้าบ้าน เลขาคนสนิทยังมาไม่ถึง ยังพอมีเวลาเล่นด้วย เอ…หรือว่าจะกลับเข้าไปกินข้าวที่บ้านเลยดี


“น่าเสียดายนะคะวันนี้คุณรบกินข้าวกับคุณผู้หญิงไม่ได้อีกแล้ว แต่แม่ไพเตรียมอาหารกล่องไว้ให้ เดี๋ยวไปเอาให้นะคะ”  หลังจากรับลูกมาอุ้ม คุณอำไพก็เดินกลับไปเอาอาหารกล่องมาให้ เป็นอย่างนี้จนชินแล้ว นักรบไม่ค่อยได้ทานข้าวเช้าที่บ้าน แต่มักจะใช้เวลาที่มีในรถในการทำทุกอย่างที่ต้องทำให้ทันเวลา


“ตาหนูไม่ดึงเสื้อพ่อครับ”  เขาก้มมองลูก ติเตียนด้วยน้ำเสียงที่ไม่คิดว่าตนจะมีอยู่ เจ้าลูกกบนั้นช้อนตาขึ้นมอง จะว่าเข้าใจก็ไม่ใช่ เพราะปล่อยจากเสื้อก็มาเอาเนคไทเขาไปอม น่าตีจริงๆ


“ไม่ได้ลูก อันนั้นคุณย่าเป็นคนเลือกให้นะ”  เรื่องที่อบอุ่นที่สุดของรัตนสกุลดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ว่าคุณนักรบที่โตจนป่านนี้แล้วยังคงผูกเนคไทด้วยตัวเองไม่เป็น แม้เขาจะเรียนอยู่ที่อังกฤษและต้องสวมเนคไท แต่ไม่เคยจะเรียนรู้มันเลยสักครั้ง เขามักจะมีเนคไทหลายอัน และมักจะถูกผูกปมไว้แค่รอคล้องคอแล้วจัดให้ดูดีเสมอ หรือไม่ก็ใช้เป็นเนคไทสำเร็จไปเลย แต่เมื่อกลับเมืองไทย ก็จะเลี่ยงไม่ใช้ หรือถ้าวันไหนต้องใช้ก็มักจะมีคุณพรรณีเป็นคนเลือกและผูกให้ มันไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดจะทำหรือเรียนรู้จะทำ


แต่อะไรที่ทำไม่เป็นแล้วเป็นความสุขของแม่…เขาก็เลือกจะไม่ทำ


“มาแล้วค่ะ คุณหนูวิน มานี่สิคะมา”  พี่เลี้ยงของเขามีรอยยิ้มมาให้ทุกครั้ง นักรบเพิ่งได้สังเกตถึงความคล้ายคลึงของอีกฝ่ายกับลูกชาย เจนรักษ์ได้แม่มาเยอะทีเดียว แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่คล้าย อาจจะเพราะการเลี้ยงดูก็เป็นได้ที่ทำให้อีกคนดูจะทะโมนเป็นลิงแบบนั้น  ในส่วนของรอยยิ้มนั้นจัดได้ว่าคล้าย ในตอนเด็กๆเขาก็มีแม่ไพที่คอยให้กำลังใจ อ้อมกอดของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเขา จนอดคิดไม่ได้ว่าคนลูกก็คงจะมีเหมือนกัน


ไม่งั้นตาหนูคงไม่ทำหน้าพริ้มยามที่พี่เจนอุ้มเอาไว้แบบนั้น


“นี่ค่ะอาหารคุณรบ ทานนะคะ ไม่ใช่เอาแต่ทำงานจนไม่ยอมทานนะ”  อีกข้อที่กล่าวได้ว่าคนแม่เหมือนกับคนลูกมากๆคือความเจ้ากี้เจ้าการ แม่ไพนั้นมักจะพูดแบบนี้แต่ไม่ได้ดูบังคับกันจนเกินไป เจนก็เหมือนกัน ความเจ้ากี้เจ้าการสไตล์นี้คงได้จากแม่ไปเต็มๆเพราะอีกฝ่ายได้เผื่อแผ่มาถึงเขาบ้าง ไม่ได้ขอก็จะเอาให้กิน มาเคาะประตูให้ไปเจอลูก บังคับให้อุ้ม ไปเรียกให้มากล่อมลูกนอน อย่าว่าแต่เขาที่โดนฝ่ายเดียวเลย เจ้าตัวเล็กคงโดนไม่ใช่น้อย ที่จับได้ก็มีเรื่องนึงแล้ว….. เรื่องที่ฝึกตาหนูให้มาหอมแก้มเขายังไงล่ะ


ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่ออกท่าออกทางดีใจเว่อร์ๆนั่นเลยนะ


“ต้องทานนะคะคุณรบ” พี่เลี้ยงของเขานั้นกำชับกันยันตอนจะส่งขึ้นรถ นักรบเพียงบีบแก้มเจ้าตัวเล็กเบาๆเป็นการกล่าวลาและยิ้มให้  แม่ไพนั้นดูเหมือนคนนิ่งๆเงียบๆ แต่เท่าที่ได้รับทราบมาก็มีบ้างที่ออกตัวหาเรื่องคนอื่นเหมือนกัน อันนี้คงเป็นด้านที่กลับกันกับคนลูก เขาเคยคิดว่าเจนคงได้วิญญาณไฟว์เตอร์จากแม่ แต่มันก็เหมือนจะทั้งใช่และไม่ใช่ เจนพร้อมสู้ แต่บางทีก็เหมือนจะไม่สู้คนไปเสียอย่างนั้น ดูได้จากเหตุการณ์ ก่อนหน้านี้ที่มีคนมาทำร้าย เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเจนต้องสู้แน่ๆ แต่ก็เหมือนจะชะงักไปเสีย  ทั้งหมดนี้เป็นเพราะน้องวินในอ้อมแขนเหรอ


ที่ทำให้ยอมเจ็บได้แบบนั้น


“คุณรบครับ จะทานข้าวก่อนหรือจะให้ผมชวนคุยเรื่องงานก่อนดี”  เลขาของเขาเอ่ยถามขึ้นมา คงโดนคุณอำไพกำชับเรื่องอาหารเช้าของเจ้านายมาบ้างถึงได้ทำน้ำเสียงล้อกันแบบนี้ แม่ไพก็จริงๆเลย รู้ว่าบังคับเขาไม่ได้เลยไปขู่คุณเพชรแทนสินะ


“รู้สึกว่าจะมีของนายด้วย”  เขานั้นค้นกล่องอาหาร มีสองกล่องสำหรับแซนวิช ผลไม้ และมีกาแฟในกระติกน้ำเก็บความร้อนแบบที่เขาชอบ น้ำเปล่าขวดนึง และ….


คุ้กกี้….


“………….”


“อ้าวเงียบ….คราวนี้มีแตงกวาสดเหรอครับ”  คุณรบไม่ชอบกินแตงกวา แต่ไม่เป็นประเด็นที่ควรล้อ เพราะนี่คือเจ้านาย


“กินๆและหุบปากไปซะ”  เขาสั่งลูกน้องตัวดีก่อนจะยื่นกล่องข้าวให้ ทว่ายังคงลังเลที่จะหยิบยื่นบางสิ่งบางอย่างให้


นักรบกินอาหารของตัวเอง  และในระหว่างที่ขับรถ คุณเลขาของเขาก็ยัดแซนวิซเข้าปากเงียบๆสมกับที่เขาสั่งไว้  เขาส่งกล่องผลไม้ไปที่ด้านหน้าให้กับอีกคนที่จัดการอาหารหลักเสร็จแล้ว เพชรนั้นจิ้มกินเรื่อยๆโดยไม่ได้มาสนใจอะไรอีก และเมื่อเขาเห็นดังนั้น….นักรบก็ค่อยๆเคี้ยวกัดคุ้กกี้ทีละชิ้นๆ มีคุ้กกี้ในถุงมา 4 ชิ้น และเขาจัดการไปซะ 3 แล้ว เหลือชิ้นสุดท้ายที่วัดความมีน้ำใจของเจ้านายต่อลูกน้อง นักรบกำลังจะกินชิ้นสุดท้าย แต่เผอิญดวงตาของเขากลับประสานกับอีกฝ่ายที่กระจกมองหลังพอดี


“มีคุ้กกี้ด้วยเหรอครับวันนี้”


“อืม”


“เจ้านายไม่แบ่งกันเลยนะครับ”


“นายก็ไม่แบ่งผลไม้เหมือนกัน”


“โธ่ ผมขับรถนะครับ”


“แล้วไง”  เขากัดชิ้นสุดท้ายโชว์


“คุณนักรบหวงของเหมือนกันนะนี่ ทำงานมาด้วยกันจะสิบปีเราถือเป็นพี่น้อง คุ้กกี้นั่นอร่อยมากเลยเหรอครับถึงได้ไม่คิดแบ่งน้องชายคนนี้”


“ผมเป็นลูกคนเดียว”


“น่าน้อยใจ ผมขอย้ายตำแหน่งงานได้ไหมครับ”


“ทำไมไม่ลาออกไปซะเลยล่ะ”


“แฮ่ แล้วใครจะช่วยคุณรบละครับ”  แต่ในใจคุณเพชรมีอยู่ชื่อหนึ่งซึ่งเป็นไม้ตาย ยังบอกไม่ได้


“ดังนั้นผมจะแบ่งอะไรยังไงก็เรื่องของผม กลับไปขับรถดีๆ” 


“คงอร่อยมากสินะครับ คุ้กกี้”


“………”


“ปกติคุณรบชอบกินขนมไปพร้อมๆกับจิบกาแฟใช่ไหมครับ”


มันก็….ทั่วๆไปไหม


“แต่วันนี้ฝากระติกกาแฟยังไม่ถูกเปิดเลยนะครับ” 


หรือเพราะทำเป็นเข้มแล้ว กาแฟเลยไม่จำเป็น


“ขี้หวง ระวังติดคอนะครับเจ้านาย”  พอคิดถึงคนทำเขาก็เริ่มรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาจริงๆ ส่วนเรื่องที่ว่าคุณเพชรขอย้ายตำแหน่งอะไรนั่นก็สุดแท้ แต่ในส่วนของโบนัสปีนี้….


ก็ให้คุ้กกี้ทำนายกัน…


xxx


ทั้งๆที่เมื่อวานเจนก็ใช้ชีวิตเหมือนปกติ ตื่นเวลาเดิม นอนเวลาเดิม แต่ที่ไม่ปกติคืออยู่กับคนจ่ายเงินเดือนนานกว่าปกติ คาดว่าอาการคิดมากของตนนั้นส่งผลโดยตรงกับการนอน ทำให้ตื่นมาอย่างไม่มีคุณภาพ ตื่นมาก็ไม่ได้ลุกขึ้นปล่อยให้คุณหนูคลานไปมากลิ้งอยู่บนตัวแบบนั้น แต่ต่อให้ถูกกระทำแค่ไหนสังขารก็ไม่อำนวยให้ลุกมาโวยวายฟัดเจ้าแก้มนุ่ม พี่เลี้ยงคนโปรดทำเพียงแค่พลิกตัวและรัดเจ้าลูกกบไว้แทน จนกระทั่งคุณอำไพเดินเข้ามาในห้อง


เจนรักษ์หัวฟูโบกมือให้แม่ที่อุ้มคุณหนูซึ่งหัวฟูพอๆกันออกไปก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเบาะอีกครั้ง จะว่าไปก็สักพักแล้วที่เจนไม่ได้นอนบนเตียงดีๆ และกลิ่นจากเนื้อกายก็ไม่มีน้ำหอมที่เคยชื่นชอบติดอยู่เลย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กลิ่นแป้งเด็กที่ติดตัวมาจากน้องวิน แต่เจนไม่ใช่ไม่ชอบนะ ถึงจะดูประหลาดไปเสียหน่อยแต่เมื่อไร้เจ้าก้อนข้างกาย ก็ดมแขนตัวเองเล่นกลายมาเป็นคนที่เสพย์ติดสัมผัสของคนอื่นไปแล้ว

ทว่านอนไปได้ไม่นานก็นอนไม่หลับเสียอย่างนั้น จริงๆเมื่อวานนี้คุณพรรณีได้บอกกันไว้เรื่องของวันหยุดที่จะต้องเอามาชดเชย เนื่องจากวันหยุดเมื่อวานเจนดูแลทั้งพ่อกบและลูกกบแทนทุกคนในบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้มีการตกลงว่าควรจะเป็นวันไหนดี เกือบจะลืมไปเสียแล้วถ้าอยู่ๆไม่ได้คิดถึงพ่อกบขึ้นมา….


เอ่อ….คิดว่าไม่ได้เอาลูกเขาไปบ้ายบายก่อนออกไปทำงานอะนะ


เลิกคิดและทำอะไรสักอย่างเสียทีสิ ไอ้เจน!  นี่คือการเรียกสติหลังจากความคิดของตนได้เตลิดไปไกล หากนอนคิดแล้วมันหยุดคิดไม่ได้ก็จงปฏิบัติอะไรสักอย่างแทน และสิ่งที่เจนเลือกคือการอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว ลงมาข้างล่าง เจ้าลูกกบพอเห็นพี่เจนก็ตีปีกโชว์ใหญ่ จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ก็รู้หรอกว่าหน้าตาดี แต่นี่ยังไม่ชินอีกเหรอไง


“แม่ เจนอยากกินไข่ดาว”


“ไปทอดกินเองสิ”


“แง้ ทอดให้เจนหน่อย”


“ไม่เอา แม่กำลังปลอกกระเทียมอยู่ไม่เห็นเหรอ” 


“ก็เห็น แต่อยากกินง่า”


“งั้นไปขอน้าจิน”


“…………” 


“โน่น น้าจินอยู่ในครัวพอดีเลย ไปขอน้าจินสิ”


“แม่อ่ะ”


“ไม่งั้นก็ทำเอง”  เจนทำเองก็ได้


แต่เจนทอดไข่ดาวทีไร….กลายเป็นไข่เจียวทุกที


ไม่รู้เจนเป็นคนเดียวบนโลกหรือไม่ที่ได้รับอนุญาตจากสวรรค์ให้ทอดไข่ดาวได้ห่วยแตกที่สุดในโลก จริงๆการทอดไข่นั้นเป็นศาสตร์อาหารขั้นพื้นฐานแต่เพราะมันง่ายไปไง เจนก็เลยทำไม่ค่อยได้ เพราะความตื่นเต้นตอนน้ำมันร้อนๆนั้น ทำให้ตอกไข่ลงไปทีไรไข่แดงก็มักจะแตกผสมเป็นเนื้อเดียวกับไข่ขาวในกระทะ หรือพอจะพลิกด้านไข่แดงก็แตกอีก การทอดไข่ดาวกับเจนนั้นถือเป็นเรื่องไม่ถูกกัน และจะเลี่ยงทุกครั้งทีมีความจำเป็น


“…………”


“………….”


“ทำอะไร”  เป็นน้าจินที่ทำลายความเงียบ แม้จะพอรู้มาบ้างว่าน้าจินไม่ได้ร้ายกาจแบบคนใช้ตัวร้ายในละคร แต่ปุปปับจะให้เดินไปกอดคอเลยก็ไม่ใช่ปะวะ


“ผมจะกินไข่ดาวครับ”  เจนตอบกลับไป เอ๊ะ หรือจะกินไข่เจียวแทนดีจะได้ตัดปัญหาโชว์ทอดไข่ดาวกากในทีนี้ แต่ง่า….เจนอยากเจาะไข่แดงแล้วเหยาะซอสแม้กกี้อ่า!


“ไปตักข้าวมา”  ตักมาทำไม ตักเพื่ออะไร ใบหน้าที่ยังดูนิ่งเฉยของคนใช้รุ่นน้าทำให้เจนรักษ์งงงวยในเจตนาไม่ใช่น้อย จนกระทั่งเห็นอีกคนตั้งกระทะและเทน้ำมันใส่ลงไปก็พอจะคาดเดาความเป็นไปได้ได้มากขึ้น และเมื่ออีกฝ่ายตอกไข่ลงไปอย่างงดงามฟินาเล่…


เจนก็เริ่มมีความมั่นใจ….


“ยังอีก ยังไม่ไปตักมาอีก”


“ง่า น้าจินทำให้เจนเหรอ”


“แล้วมันมีหมาที่ไหนอยากกินไข่ดาวอีกล่ะ แล้วเอ็งจะกินแต่ไข่ดาวเปล่าๆหรือไง มีกะเพราอยู่ตรงโน้นน่ะ จะเอาไหม ถ้าเอาก็ไปตักมา”  ตอนนั้นเร็วกว่าเดอะแฟลชก็ไอ้เจนล่ะครับ สิ้นคำน้าจินพูดเจนก็จัดการยัดทุกอย่าง แม้น้ำเสียงจะยังเกรี้ยวกราดไม่น่าคบหา แต่ความใจดีที่หยิบยื่นมาให้ เจนรักษ์ก็ซาบซึ้งดี


“ขอบคุณครับ”


“เออ วันหลังจะกินอะไรก็มาบอก ถ้าว่างๆไม่ติดงานอะไรให้คุณๆท่านก็จะทำให้”


“ครับ”


“ยังไงก็ขอบใจเอ็งมากล่ะกัน”


“…………”


“ที่ดูแลเจ้าพายมันดี”  อา…..คนเรานี่ นอกจากจะดูภายนอกไม่ได้แล้ว ดูสั้นๆก็ไม่ได้ด้วย แบบน้าจินคนนี้


คนที่มาทำลายแบบอย่างคนใช้ร้ายๆในละครให้ไอ้เจนเห็น!


จริงๆเห็นเจนไร้สาระไปวันๆ แต่ตอนที่น้องพายมาเล่นกับน้องวินด้วยก็มักจะได้พูดคุยปรึกษา ด้วยอยู่ในวัยใกล้เคียง (เจนยืนยันว่าวัยของน้องพายยังใกล้เคียงกับตนอยู่) จึงสามารถรับฟังปัญหาและคอยแนะแนวให้ในสิ่งที่อยากรู้ อาจจะเพราะนิสัยโผงผางและการแสดงออกของน้าจินที่ทำให้น้องรู้สึกอึดอัด เรื่องบางเรื่องจึงไม่สามารถพูดคุยกับแม่ได้ แต่เอามาพูดให้เจนฟังได้


คือจริงๆน้าจินก็ห่วงพายในแบบของเขานั่นแหละ แต่ก็ทั่วไป ตั้งใจเรียน อย่าเอาแต่ไปแรดที่ไหน เห็นกลับมาช้าหน่อยก็ด่าโดยไม่ฟังว่าน้องไปทำอะไร มันก็ต้องมีบ้างที่เด็กวัยนี้อยากจะเที่ยวกับเพื่อนฝูง ทว่าแม่ก็มักจะห้ามไว้โดยใช้คำพูดแบบไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน ทำให้น้องพายเสียกำลังใจ จริงๆแล้วน้องพายเป็นเด็กฉลาด แต่สถานการณ์หลายๆอย่างกดกันเอาไว้มากเกินไป จนไม่มีความกล้าที่จะแสดงออกก็เท่านั้นเอง


และเจนก็มักจะแสดงให้เห็นว่าคนเราต่อให้เป็นลูกคนใช้ ก็ใฝ่ดีได้เช่นกัน!


ดูเป็นไอดอลผู้เป็นแบบอย่างในทางที่ดีไปเลย และผลก็คือน้องอาจจะไปบอกแม่ หรือน้าจินอาจจะมาเห็นตอนเจนคุยกับน้องเรื่องเรียน คนใช้ที่ไหนก็หูตาเป็นสัปปะรดทั้งนั้น แต่เจนไม่ได้ปิดเรื่องตัวเองนี่ เลยไม่ได้สนหรือแคร์ ที่ทำดีกับน้องก็ไม่ได้หวังให้ใครมาดีด้วยเช่นกัน แต่ถ้ารู้ว่าทำอย่างนี้แล้วจะมีคนทอดไข่ดาวให้กินฟรีและไม่ต้องก่อวอร์ที่ไหน…..รู้งี้กูทำไปนานแล้วครับ!  /อ้าว


“อ้าว เพิ่งตื่นเหรอเจน เมื่อวานขอบคุณมากนะ”  คุณพรรณีที่เดินผ่านมานั้นกล่าวทัก แต่เดี๋ยวสิครับ ใบกะเพราจะติดคอผม


“ไม่เป็นไรครับ ขอโทษที่ตื่นสายนะครับ”


“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ว่าแต่เมื่อวานเราคุยกันเรื่องวันหยุดสัปดาห์นี้ เจนคิดไว้ยังละจ้ะ”


“เอ่อ เจนยังไม่ได้คิดไว้เลย”


“แต่ไม่รีบคิดจะไม่ได้หยุดนะ เพราะฉะนั้นรีบคิดเร็วๆ” อ้าว เร่งกูอีก


“เอ่อ งั้นเจนหยุดวันนี้เลยก็ได้ครับ”


“เอางั้นเหรอ”


“ไหนๆก็เสียงานตั้งแต่เช้าแล้ว ผมหยุดดีกว่าครับ”


“จริงๆก็ไม่ได้อะไรเลยนะลูก เมื่อวานอุตสาห์ทนรับมือตารบให้ทั้งวัน ฉันละกลัวเธอจะไข้ขึ้น”  พอพูดแล้วผมก็ครั่นเนื้อครั่นตัวเลยละครับ แค่คิดถึงหน้าคุณรบก็ไข้ขึ้นได้แล้ว!


“ผมสบายดีครับ ทานยาดักไว้หมดแล้ว เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอหยุดละกันนะครับ เดี๋ยวช่วงบ่ายๆจะออกไป ขอไปทำความเข้าใจกับหนูวินก่อนนะครับ”


“แน่ะ ยังมีจะทำความเข้าใจอะไรกันอีก ลองได้คุยกับเจ้ากบนั่นดู รับรองวันนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ๆ”  อ้าว เขาเรียกหลานเขาว่ากบกันทั้งบ้านแล้วหรือนี่ เพราะไอ้เจนคนเดียวเลย


แต่จะให้ไปไม่ลามาไหว้ก็กระไรอยู่ ไอ้เจนจึงได้ไปทำความเข้าใจกับนายสายตรงของตนเองว่าด้วยเรื่องวันหยุดที่เจนควรจะได้รับ ตอนแรกก็เห็นดีๆ ไม่สนใจกันแท้ๆ แต่พอจะเดินออกจากบ้านเท่านั้นแหละครับ ร้องไห้ดังกว่าไอ้เจนตอนประกวดคิดเลขเร็วแล้วตกรอบแรกก็น้องวินนี่แหละ โอ๋กันอยู่นาน เบี่ยงความสนใจกันสุดๆก็ยังไม่ยอม เดือดร้อนพี่เลี้ยงที่ควรได้หยุดวันนี้ จึงพาไปนอนตบตูดดูดนม แต่ไม่ใช่ว่าจะหลับง่ายๆ


“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”


เด็กสมัยนี้ทำไมมันฉลาดทันกันงี้วะนี่


“ปล่อยเจนไปเถอะครับ คุณหนู”


ไม่! ห้ามเจนไปไหนทั้งนั้น!


“เจนสัญญาว่าจะรีบกลับ”


ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา!


หลังจากตบตีกับน้องวินและความคิดของตัวเองเสร็จก็ได้เวลาออกจากบ้าน เหลือบดูนาฬิกาอีกทีก็บ่ายละ ช่างเป็นวันหยุดที่มีคุณภาพ ไว้วันหลังถ้าได้หยุดอีกแล้วเจ้ากบยังงอแง นี่จะไม่ทนแล้ว จะเอาออกมาด้วยกันซะเลยจะได้ไม่เสียเวลา ในที่สุดก็เรียกรถมาถึงห้าง แต่นี่ก็ใช้เวลาไปเกินครึ่งวันแล้ว และจะทำอะไรอีกละ ไม่เอาแล้วนะที่จมอยู่ในแผนกของเล่นเด็กแบบนั้น เจนรักษ์จึงเริ่มต้นวันด้วยการไปแผนกเสื้อผ้าเพื่อใช้เงินที่แลกด้วยการเสียน้ำตาของน้องวิน


เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนมีถุงติดมือสองใบ เหลือบดูเวลาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองสามารถที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกจึงเดินไปที่ซุปเปอร์ เลือกผักผลไม้จากต่างประเทศซื้อกลับไปกินที่บ้านรัตนสกุล พร้อมทั้งดูวัตถุดิบทำขนมอื่นๆที่ตนอยากได้เพิ่มเติม ทำไปทำมา ในมือก็เต็มไปด้วยสัมภาระบ้าบอดูไม่งามตาสักเท่าไหร่


“…………..”  เอาไงล่ะ กลับบ้านดีไหม


กลับดีกว่า…..คือความคิดของเจนรักษ์ในตอนนั้น เจ้าของร่างเล็กนั้นเดินออกมาจากห้างด้วยหมายจะกลับบ้านไปทะเลาะกับเด็กขี้แยต่อ แต่ดูเหมือนฟ้าฝนไม่เป็นใจ อ่อ ไม่ใช่แค่นั้น….ถนนของกรุงเทพมหานครก็ไม่เป็นใจให้ไอ้เจนกลับบ้านด้วยครับ


“……………” ช่างเป็นวันหยุด ที่ได้หยุด แต่ก็เหมือนไม่ได้หยุดที่แท้ทรู ฟ้าของกรุงเทพนั้นมืดลงอาจจะเพราะเมฆฝน รถที่หนาแน่นกว่าปกตินั้นทำให้เจนเพิ่งนึกได้ว่านี่มันเป็นเวลาเลิกงานแล้ว ด้วยความงกและเบื่อฟังแท็กซี่ส่งรถจึงเลือกที่จะหันหลังกลับเข้าไปในห้าง วางสัมภาระบ้าไว้ข้างๆกายหลังจากหาที่นั่งได้ ยังไงดีล่ะ จริงๆวันนี้กูควรจะได้หยุดสิครับ มันไม่ควรเป็นงี้โว้ย


นี่เหนื่อยกว่าเลี้ยงเจ้าลูกกบทั้งวันอีกนะ!


“แม่…ฝนตก น้ำท่วม รถติด” เจนยังคงคอนเสปต์การอธิบายอย่างย่อๆแต่ชัดเจนเอาไว้ แม่ดูไม่ค่อยตกใจอาจจะเพราะสภาพแถวบ้านก็คงไม่ต่าง แต่จริงๆที่เจนคิดนั้นไม่ใช่เสียทีเดียว


“อืม แม่ก็ได้ยินคุณรบบอกมาอย่างนั้น”  เพราะแม่มีคนชิงดักมาอธิบายสถานการณ์ให้ฟังก่อนนั่นเอง


“อ้าว คุณรบถึงบ้านแล้วเหรอ”  ต้องออกจากที่ทำงานกี่โมงวะถึงจะได้ถึงเร็วเบอร์นั้น


“เปล่า โทรมาบอกว่าไม่ต้องเตรียมอาหารให้ จะกินจากข้างนอก”  ง่อวววว ก็คงจะนั่งกินข้าวกล่องที่ทำงานละมั้ง ในเมื่อฝนตกหนักแบบนี้ช่างเป็นใจให้นั่งทำงานอยู่บริษัทจนดึกดื่นนี่นา เป็นไอ้เจนก็ไม่กลับหรอกครับบ้งบ้านอะไรกัน ฝ่ารถติดในรถขณะที่ฝนตกมันไม่ใช่เรื่องสนุกจริงๆนะคุณ


แต่พูดถึงเรื่องอาหาร ท้องก็เริ่มทำงาน วันนี้ตบตีกับเจ้ากบน้อยจนเหนื่อยไปหมด ข้าวเขิ้วกลางวันได้กินที่ไหน ทั้งวันนี่หล่อเลี้ยงกันมาได้ด้วยกระเพราของเหลือกับไข่ดาวน้าจินเท่านั้นแหละ เจนจึงตัดสินใจเดินหาร้านอาหารที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ ดูท่าแล้วถ้าช้ากว่านี้อีกนิด มนุษย์หนีรถติดทุกคนคงจะจับจองทุกที่นั่ง และเจนรักษ์ยอมไม่ได้ ด้วยความต้องการเอาชนะขั้นสุดจึงทำให้เลือกร้านราเมงมาหนึ่งร้านเพราะเห็นคนน้อย สั่ง กิน ดื่มด้วยความรวดเร็วก็ออกมาจากร้านด้วยเห็นจำนวนคิวแล้วสงสาร อีกนิดคงมีคนวิ่งมากัดหูเพราะโมโหหิวเป็นแน่!


แต่กระนั้นฝนก็ยังกระหน่ำตก เงินก็มีแต่ไม่รู้จะซื้ออะไร ชักเข้าใจปัญหาของคนมีเงินขึ้นมานิดๆ ยิ่งเดินก็ยิ่งขึ้นมาสูงเรื่อยๆจนถึงชั้นสูงสุดที่ไม่มีอะไรให้ซื้อนอกจากป็อปคอร์นและน้ำ อ่อ….ต้องซื้อตั๋วเพื่อเขาไปซื้อด้วย เดินเข้าไปอย่างคนใจง่ายไม่ได้นะจ้ะ เจนรักษ์นั้นมองรอบหนังที่ใกล้ฉายและคำนวณเวลาที่จะกลับบ้าน สภาพของตนที่ถือของเต็มมือนั้นไม่เหมาะจะให้เดินไปเดินมาจริงๆ แต่นั่งเฉยๆก็ไม่ใช่แนว ถึงแม้วันนี้จะเหมือนไม่ใช่วันหยุดเท่าไหร่ แต่หนังสักเรื่องคงช่วยเยียวยาได้บ้าง


ตัดสินใจเลือกเรื่องที่คิดว่าดูแล้วไม่น่าจะด่าผู้กำกับและเป็นแนวที่ชื่นชอบได้แล้วก็เดินไปต่อแถวกดซื้อตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติ จำนวนแถวยาวและแต่ละคิวใช้เวลาในการเลือกโปรโมชั่นของตัวเองอย่างน่ารำคาญ เจนจึงใช้เวลาไปกับการด่าคนในใจสลับกับเหม่อลอยอย่าเหนื่อยล้าในระหว่างต่อแถว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นคนที่อยู่หน้าสุดเดินเข้าไปกดตั๋ว ขาเจ้ากรรมก็ขยับตามซะงั้นโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าคนข้างหน้าตนเขายังไม่ได้ก้าวขาเดิน


ปึก!


“ขอโทษครับ” ไอ้ซุ่มซ่ามเอ้ย! นี่ด่าตัวเองนะ ไม่ได้ด่าใครเลย


“ไม่เป็นไรครับ”  คนข้างหน้านั้นตอบกลับมา น้ำเสียงที่คุ้นหูทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นหลังจากที่เอาแต่มองต่ำมาตลอดเวลา คือไอ้เจนนี่อ่ะ รับรู้มาตลอดว่าคนข้างหน้าที่ใส่สูทนี่ตัวสูงกว่ามาก แต่ขี้เกียจเงยคอขึ้นไปมองเป็นหมาเห่าเครื่องบินไงครับ กูเลยเอาแต่ก้มหาไส้เดือน!


เลยไม่ได้รับรู้เลยว่าชะตากรรมเล่นตลกกันอีกแล้ว


“…………” 


“คะ…คุณรบ”  หรรษาฉิบหาย…


คือไอ้เจนจะไม่ได้หยุดจริงๆใช่ไหมวันนี้!







Talk:  ดีแค่ไหนแล้วที่คุณพี่รบเขาไม่วิ่งหนีน้อง5555 มีคนบอกมาว่าอยากให้ใส่ซับแปลตรงเจนพูดอังกฤษให้ เราเข้าไปใส่ให้แล้ว และก็เห็นมีคนมารอเมื่อวาน ฮือออออ วันนี้เรามาต่อให้แล้วน้า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะมาลงนะ

ขอบคุณที่ติดตามและมารอเรือเจนรบที่ท่าน้ำนะคะ
ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ
Twitter #เจนไม่นก @reallyuri







หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-07-2018 16:03:00
เย่ๆๆ ได้อ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 07-07-2018 16:09:58
เราชอยนะที่เจนคิดอะไรต่างๆในหัว ตลกด้วยเอ็นดูด้วย :mew2:
ตาหนูวินน่ารักมากกกกกกก โอ้ยอ่านแล้วอยากมีน้องเร้กๆให้ฟัดเลย
ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนาแล้ว จะรักกันยังไงน้อออออ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 07-07-2018 16:16:26
บังเอิญเจอกันงี้ งั้นก็ ไปเดทกานนนนนนนนน!   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-07-2018 16:25:54
อุ๊ยยยยยยย.........เจนดูหนังกับคุณรบ   :z3: :z3: :z3:

เจ้าลูกกบ  ติดเจนซะ  น่ารักจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 07-07-2018 17:08:57
สนใจไปดูด้วยกันมั้ยคะสองคนนี้ ไหนๆก็เจอกันละ 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-07-2018 18:43:57
เดทกันวันฝนตก อิอิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 07-07-2018 18:51:38
วันทำงานก็อยู่กับลูกกบ  วันหยุดก็อยู่กับพ่อกบไงเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 07-07-2018 18:52:24
ยอมใจคนเขียน แต่งเร็วมากกกก แถมสนุกด้วย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-07-2018 19:04:55
 :pig4: :L1:

เรือเริ่มเดินเครื่อง  ทิศทางเริ่มดี อุอิ
รออ่านพรุ่งนี้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-07-2018 19:29:00
ยังจะมาเจอกันอีกนะ กลับด้วยกันเถอะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 07-07-2018 19:30:56
บุพเพอาละวาดแท้ทรู
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 07-07-2018 19:50:39
ชอบความ ง่าาาา ง่ะ ของเจนจริงๆ รู้สึกถึงความอ๊อง 55555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-07-2018 20:36:49
นุ้งเจนเจอมนต์รักรถไฟฟ้ากับคุณรบซะแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sugardaddy ที่ 07-07-2018 20:46:16
หนีไม่พ้นนะเจน 555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-07-2018 23:59:52
ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่เจอกันไม่ได้นะ บุพเพไปอีก o18
หัวข้อ: Re: [บทที่ 16] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 7.7.2018 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-07-2018 08:42:29
คุณรบก็มาดูหนังเหมือนกันหรอคะ ดูด้วยกันกับเจนเลยไหม 555555
หัวข้อ: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 08-07-2018 17:43:33
#เจนไม่นก
เจนกับคนที่นั่งข้างๆ




แล้วไปทำอีท่าไหนละนี่….
ถึงได้มาจองตั๋วที่นั่งข้างๆกันแบบนี้!


“……….”


“……….”  แต่คุณรบตัดบัตรไปแล้ว


เพราะไอ้เจนงกใช่ไหม?


“แล้วนั่นซื้ออะไรมา”


“ก็พวกเสื้อผ้าครับ แล้วก็มีของกินเล็กๆน้อย”  ไม่น้อยล่ะ ถือถุงเดินจนตัวเอียงตามแรงโน้มถ่วงโลกขนาดนี้ นักรบมองอย่างพิจารณาในคำว่านิดหน่อยของลูกจ้างตัวน้อย ก่อนจะเดินนำไปอีกทาง ว่าแต่….เจนนี่จำเป็นอยู่ไหม เราแยกกันเดินก็ได้นะ พอหนังฉายแล้วค่อยมาจอยกัน


“ตามมา”  ครับๆ ไอ้เจนรู้แล้วครับ


ซื่อสัตย์เยี่ยงหมาก็เจนนี่แหละครับ แค่เขาจ่ายค่าหนังให้ก็วิ่งตามเขาต้อยๆเป็นไอ้ด่างคาบหมูปิ้ง คุณนักรบไม่ได้บอกว่าจะพาไปฆ่าตัดตอนที่ไหน แต่เมื่อเดินมาทันขายาวๆของเขา อีกฝ่ายก็ดึงถุงซุปเปอร์ที่เจนถือจนตัวเอียงมาถือเสียเอง ง่อวววว มีน้ำใจก็ไม่บอก ถ้าไม่ติดว่าขี้เก๊กจะชมว่าน่ารักนะเนี่ย พอชมเสร็จก็เตรียมตัวไปพบหมอหรือท่านยมได้เลย ดูโดยรวมแล้วชะตาจะขาดแน่ๆ


คุณรบเดินนำมาที่จอดรถ ทางเริ่มมืด เจนชักไม่ไว้ใจว่าจริงๆแล้วที่เขาแย่งถุงไปเพราะอยากจะใช้ถุงนั้นในการคลุมรัดหัวเจนให้ขาดอากาศหรือเปล่า มองไปมองมาเริ่มไม่มีคน แต่ทำไงวะ ใจง่ายตามเขามาแล้วนี่ มองอย่างระแวดระวังเล็กน้อยก็ได้ยินเสียงเปิดรถ เอ่อม….หรือว่าจะลากไปฆ่าในรถเหรอวะ เอาดีๆดิ


“เอาของเก็บไว้ที่นี่ก่อน  เกะกะ”  ง่อวววว น่ารักอีกแล้ว แม้เบื้องหน้าจะดูเหมือนลวงมาฆ่าก็ตาม 


เรากลับเข้าไปในห้าง ยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อยกว่าจะเข้าไปดูทีเซอร์ในโรงได้ เราสองคนที่ไม่รู้จะเดินไปไหนจึงตัดสินใจเข้าไปรอซื้อป็อปคอร์นและน้ำดื่ม ราคาแพงจับใจไอ้เจนเลยทีเดียว อยากจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน คุณรบมีหันมาถามว่าชอบทานรสอะไร ตอบไปก็ได้ป็อปคอร์นที่ชาตินี้ไม่น่าจะแดกหมดมากอดไว้กับอก ส่วนเขาถือน้ำ ดีครับ กูหนาว คาดเดาได้ว่าจะต้องสั่นแน่ๆพอเข้าโรงไป ใครใช้ให้ห้างเปิดแอร์เย็นขนาดนี้ในวันฝนตกละครับ เจนเป็นสัตว์เลือดอุ่นขี้หนาวนะ ไม่มีเจ้าก้อนอัศวินไว้กอดเสียด้วย แล้วอย่างนี้จะไปควานหาความอบอุ่นได้ที่ไหน


ไม่ใช่ข้างๆแน่ครับ หนาวไปถึงขั้วหัวใจแล้วล่ะ….


ทันทีที่โรงหนังเปิดให้เข้าได้เราสองคนก็เข้าไป อาจจะเป็นเพราะหนังมันฉายมาสักพักแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครเขาเลือกดู จะมีแค่มนุษย์สองคนที่หลบฝนและไม่รู้จะดูอะไรอย่างเราสองคนละครับที่เลือกมา นับหัวในโรงแล้วน่าจะมีสักห้าคนเห็นจะได้ เป็นอย่างนี้ต่อให้มีที่นั่งมากมายและกลัวคุณรบแค่ไหน ไอ้เจนก็จะเกาะเขาเป็นเหาที่หัวละครับ อย่าได้คิดจะสลัดกันออกไปเลย โชคดีที่ไม่เลือกดูหนังผี ไม่งั้นไอ้เจนชิงตายก่อนจะให้ผีหลอกแน่ เราต้องล้ำไว้ก่อนแม่สอนไว้


“หนาวเหรอ”  สั่นตั้งแต่อยู่หน้าโรงแล้ว!  พอนั่งลงได้ไม่นาน คนที่นั่งข้างๆก็ถามขึ้น คงจะเบื่อที่โฆษณาในโรงมันเยอะเหมือนกันเลยหันมาถาม เจนคงสั่นเป็นเจ้าเข้าจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ แอร์ก็เย็น ฝนก็ตก เสือกดูดแป็ปซี่อีกไง ปอดจะบวมตายห่าอยู่แล้ว


“กะ….ก็ นิดหน่อยนะครับ”  ว่าแต่อีคุณรบนี่ผิวหนังทำด้วยอะไร มีเกล็ดไหม ไหนขอแตะดู เพื่อนเล่นมึงเรอะ อยากตายเป็นผีเฝ้าโรงจริงๆซะแล้ว


“เอานี่ไปใส่ไว้”  แล้วผ้าอะไรสักอย่างก็คลุมหน้าเจนจนมิด จะบอกว่าเป็นผ้าห่มก็ไม่ใช่ เพราะคุณรบไม่มีกระเป๋าวิเศษแบบโดราเอมอน แล้วมันอะไรอะครับ พรมโรงหนังเหรอ?


ก็บ้าแล้ว นี่มันเสื้อสูทครับ!


“ขอบคุณครับ”  กลิ่นน้ำหอมที่ถูกพรมจางๆเป็นกลิ่นผู้ชายที่เจนชื่นชอบ โดยส่วนตัว เจนชอบน้ำหอมที่มีกลิ่นของแป้งเด็ก ไม่ก็กลิ่นเถือกๆน้ำๆแบบนี้ และนี่คือกลิ่นที่ใช่และโดนใจอย่างมาก แต่เจนรีบมาไทยเกินกว่าจะหยิบเอาของพวกนั้นมาได้ นี่คงเป็นช่วงเวลาพักนึงเลยละมั้งที่เจนไม่ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายแบบนี้ใกล้ๆ ไม่ว่าจะจากของตนเองหรือผู้อื่น ทุกวันนี้ได้แต่กลิ่นแป้งเด็กของน้องวินที่เป็นกลิ่นโปรดมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว


ใจก็เริ่มจะเต้นตึกตักอย่างไม่จำเป็นขึ้นมา


หรือเพราะทำบาปไว้มากเลยออกมาอีหรอบนี้ ไม่ไหวๆ เจนต้องกลับมาดูหนังต่อให้คุ้มค่าตั๋วฟรี หนังดำเนินไปเรื่อยๆแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ป็อปคอร์นของเราไม่พร่องลงเลย เจนนั้นหันมามองคนข้างๆเผื่อว่าเขาจะเกรงใจที่เจนยึดทั้งเสื้อและโถป็อปคอร์นไปทั้งหมด แต่เมื่อเพ่งมองดีๆในความมืดจนต้องอาศัยแสงจากจอหนังเข้าช่วยก็พบว่าคนที่นั่งกอดอกอยู่ข้างๆนั้น….หลับไปแล้วครับ คนเรา….


“……….”  คงเหนื่อยมากสินะ ทั้งๆที่เพิ่งจะวันจันทร์แท้ๆ แต่กลับหมดสภาพเร็วแบบนี้ เจนหันกลับไปสนใจหนังต่อเพราะความง่วงนอนไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะนอนมาค่อนข้างเยอะเลยวันนี้จึงยังสู้ต่อไปได้ ต้องขอบคุณคุณรบที่พาเอาของไปเก็บและซื้อตั๋วหนังให้ และแน่นอนว่าต่อให้เขาไม่ชวน เจนก็ไม่โง่ดื้อที่จะไม่กลับบ้านกับเขา หมดสมัยตีซึนกลับเองทั้งๆที่กลับทางเดียวกันแล้ว คนเราต้องรู้จักไปทางเดียวรถคันเดียวเพื่อลดการใช้น้ำมัน สนองนโยบายลดโลกร้อนของสมาคมโลก และลดปัญหากระเป๋าตังค์ร้อนเหตุเพราะไม่มีตังค์ด้วยครับ


นั่งดูจนจะจบเรื่อง คุณรบก็ตื่นขึ้นมา เขาคงไม่รู้ว่าเจนรู้ดีว่าเขานั้นนอนให้หนังดูเกือบทั้งเรื่อง แต่ไม่เป็นไรครับ ไอ้เจนเห็นด้วยว่าถ้ามีเงินจะนอนตรงไหนก็ย่อมได้ และถ้าเอาเงินฟาดหัวก็สามารถมานอนซบอกเจนได้เหมือนกัน เราสองคนเดินออกมาจากโรงหนังโดยที่เจนนั้นสุดแสนจะเสียดายป็อปคอร์นที่กินไม่หมด พากันไปลานจอดรถที่ตอนนี้เริ่มจะไม่มีรถให้เห็น เป็นฤกษ์ดีที่บอกได้ว่ารถบนถนนคงจะว่างแล้วเช่นกัน


“ผมขับให้ไหมครับคุณรบ”  เจนเสนอตัว ไม่ใช่ใจดี แต่หน้าพี่เขาง่วงมากจนเป็นห่วงชีวิตตัวเองถ้ายังให้เขาฝืนขับกลับให้


“นายเนี่ยนะ”


“ผมขับรถเป็นนะครับ”  เห็นขาสั้นๆแบบนี้ แต่กูเหยียบเบรกได้นะเว้ย


เขามองหน้าไม่เชื่อใจสักครู่ก่อนจะส่งกุญแจให้ เป็นไปได้ว่าอาจจะจำได้ว่าก่อนนี้ก็มีลูกจ้างไม่รักดี ขโมยกุญแจรถไปขับเก็บในโรงจอดให้อยู่เหมือนกัน  ในตอนนี้เจนรักษ์มาอยู่ในรถของเขาก่อนที่จะปรับที่นั่งเสียใหม่ หืมมมม ขนาดความยาวขานี่ห่างกันชัดเจนขนาดที่ว่าต้องปรับอยู่นานกว่าจะมั่นใจได้ว่าหยิบจับหรือเหยียบทุกอย่างได้พอเหมาะ คิดว่าพรุ่งนี้เจ้าของรถคงด่าไม่น้อยที่ปรับที่นั่งซะทำขายาวๆของเขาชิดกับพวงมาลัยแบบนั้น


เจนใช้ความระมัดระวังในการขับรถบนถนนที่ลื่นได้ดี ก็บอกแล้วว่าขับได้ อยากจะหันไปขิงเสียหน่อยแต่ก็เห็นว่าอีกฝ่ายที่นั่งข้างๆนั้นชิงหลับไปแล้ว ไม่รู้ว่ากลัวจนต้องสะกดจิตตัวเองให้หลับหรือเปล่า แต่นี่เจนก็พามาส่งถึงบ้านแล้วนะเฮ้ย ลืมตาหน่อยเด้!


“คุณรบครับ ถึงแล้ว”  หันไปบอกให้คนขี้เซาได้สะดุ้งตื่นมาดู เริ่มเข้าใจแล้วล่ะที่เขาว่าเจ้ากบน้อยเหมือนพ่อกบมาก และไอ้มากนี่มันมากขนาดไหนกัน


คงมากที่สุดคือตอนนอน….


“อา…ขอบคุณมาก”  เขาหันมาบอกก่อนจะหันไปอีกด้านเพื่อแอบหาว โหหหหหหหห โมเอ้กว่าไอ้เจนก็คุณรบนี่ละครับ


ปล่อยคุณรบลงก็ไปจัดการเก็บรถ เอาของลงไปเก็บให้เรียบร้อยก่อนจะขึ้นไปดูเจ้ากบน้อยที่คุณอำไพเอาเข้านอนด้วยตนเอง ไม่รู้ตื่นมาจะงอนหนักไหม แต่ไม่เป็นไร นี่ง้อเก่ง จะง้อให้ดู เปิดประตูห้องเข้าไปก็ได้เห็นใบหน้าน่ารักของเด็กน้อยกำลังหลับอย่างสงบ น่าจะฝันอะไรสักอย่าง ทำปากยุบยับน่าจับฟัด แต่ต้องอดใจและเดินเข้าไปอาบน้ำ วันนี้ทั้งวันเหนอะหนะตัวไม่น้อย อากาศแบบมีฝนอย่างนี้ทำให้เจนเลือกที่จะอยู่ในอ่างอาบน้ำเพื่อผ่อนคลาย ทำไปทำมาก็เห็นว่าตัวเองอยู่มาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว หากดึกไปกว่านี้ พรุ่งนี้ก็คงไม่ตื่นอีกเช่นเคย


แต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ  ความเหนื่อยล้าและน้ำร้อนที่ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายก่อให้เกิดความง่วงโจมตีกันฉับพลัน กำลังจะเดินมาที่คอกของน้องวิน ก็พบกับวัตถุประหลาดที่ใหญ่กว่าตุ๊กตาพี่หมีของน้องซึ่งถูกโยนไปไว้ตรงไหนแล้วก็ไม่รู้ ประมวลผลในสมองของตนว่าควรจะทำเช่นไรแต่ก็ไม่ได้คำตอบ ในที่สุดไอ้หมีที่อยู่ไหนก็ไม่รู้กับผ้าห่มผืนใหม่ในตู้ก็ถูกนำมาคลุมตัว….ไม่ใช่ตัวเจนหรอกครับ


ตัวคุณรบที่นอนอยู่ข้างๆเจ้ากบน้อยนั่นแหละ


เจนก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์แบบนี้  คุณรบอาจจะเดินเข้าบ้านเพื่อมาอาบน้ำก่อน และเข้ามาหาน้องวินในระหว่างที่เจนกำลังอาบน้ำ นอนมองลูกไปสักพักก็นอนหลับจริงๆไปซะงั้น อันนี้โทษเป็นความผิดไม่ได้ เพราะมันคือการเบียดเบียนที่ดูน่ารักที่สุด


“……..”  แล้วเจนเอาไงดีล่ะ ไอ้เจนที่ประกาศตัวว่าจะไม่มีเรื่องชู้สาวกับเจ้านาย ไอ้เจนที่ต้องดูแลน้องหากตื่นมากลางดึก ไอ้เจนที่ไม่มีที่นอนในคอกเพราะถูกคนตัวใหญ่ยึดไปหมด ไม่ใช่….จริงๆก็หาที่นอนในคอกได้แต่ใครจะไปนอนละครับ และถ้าใครไม่เข้าใจเหตุผล


ก็กลับไปอ่านประโยคข้างต้นที่ว่า ‘จะไม่มีเรื่องชู้สาว’ ใหม่นะ


ผ้าห่มของเจนถูกนำมาใช้ โชคดีที่ผืนมันใหญ่และหนาพอจะทำเป็นฟูกนอนและผ้าห่มได้บางส่วน พี่หมีของน้องที่ตอนนี้รู้แล้วว่าอยู่ที่ไหนถูกทำมาเป็นหมอนหนุนและหมอนข้างในคราเดียว เจนซุกตัวนอนแยกจากคนทั้งสองออกมาเพื่อเลี่ยงคำครหาต่างๆที่อาจจะมีในอนาคต ปิดสวิตท์ตัวเองจากการสื่อสารและความคิดทุกอย่างออกไป วันหยุดได้หยุดแต่เหมือนไม่ได้หยุดของเจนจบลงแล้ว


และเจนก็จะได้เริ่มต้นวันทำงานเหมือนคนอื่นๆเขาอีกครั้ง ในวันอังคาร…..


xxx


กี่ครั้งแล้วนะที่เผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว


3 ครั้ง ถ้าจำไม่ผิด….และทุกครั้งต้องอยู่ในสายตาของเจนรักษ์เสมอไปจนอีกฝ่ายทนไม่ไหวต้องทำอะไรบางอย่างขึ้นมา ถ้าถามว่าทำไมเราถึงเจอกัน คำว่าบังเอิญอาจจะไม่ใช่คำที่ดูมากหรือเกินจริงเท่าไหร่ เพราะในความเป็นจริง ไม่มีใครบอกหรือไม่มีใครรู้ว่าเราจะมาเจอกันในสถานที่ซึ่งผิดธรรมชาติสำหรับเขาแบบนั้น นักรบไม่ได้ชื่นชอบการมานั่งดูหนังในวันธรรมดาแบบนี้ เขามักจะทำงานจนดึก ไม่ก็กลับบ้านไปพักผ่อนเสียมากกว่า และในวันนี้เขาเลือกอย่างหลัง


แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ…..


โธ่เว้ย….คือคำที่เขาสบถในใจ ตั้งใจจะกลับไปกินข้าวกับเจ้ากบน้อย เลยออกจากบริษัททันทีที่จัดการงานด่วนเสร็จ เขาไปต่างจังหวัดแต่เช้า และกลับมาในช่วงบ่าย ทำงานในรถมาตลอดทางไม่ได้หยุดพัก กลับมาก็ลุยต่อรวดเดียวจนแทบไม่ได้กินอะไร พอกลับบ้านฝนก็ลงมาซะตอนที่อีกครึ่งทางจะถึงเสียอย่างนั้น นักรบถอนหายใจออกมา อาการหิวข้าวที่ไม่น่าจะทนไหวทำให้เลือกเลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้า จัดการอาหารไปหนึ่งมื้อ ก่อนที่จะออกไปดูฟ้าฝน แต่….ฟ้าก็ยังไม่ให้เขากลับบ้านอยู่ดี


2 ชั่วโมง….คือระยะเวลาที่แอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศที่ไม่รู้เชื่อได้หรือเปล่าบอกมา แต่เขาก็มีควาหวังแค่นั้น ลืมไปได้เลยมื้อเย็นกับตาหนู ส่งเข้านอนเหรอ เขาคงไม่ได้ทำหรอก และหวังว่าพี่เลี้ยงจะทำให้แทน เขาโทรกลับบ้านเพื่อบอกว่าจะกลับดึก ไม่ต้องเตรียมอาหารให้ ตอนนั้นจึงได้รู้ว่าเจนรักษ์ก็ขอลาวันนี้เหมือนกัน และตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็อยู่ในการดูแลของพี่เลี้ยงของเขาทั้งวัน


หลังจากวางสาย เขาก็คิดหากิจกรรมที่จะทำ ด้วยความที่เหนื่อยเกินกว่าจะไปใช้ชีวิตในลานโบว์ลิ่งแก้เครียด เขาจึงเลือกที่จะไปนั่งเฉยๆในโรงหนังแทน ระหว่างที่ต่อคิวก็หงุดหงิดใจไม่น้อยที่แถวเลื่อนช้า แม้ว่าจะใช้ระบบอัตโนมัติแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าการจัดการจะดีขึ้นเลย หงุดหงิดไปได้สักพักก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างชนเข้าที่หลัง และคำขอโทษนั้นก็ดังขึ้นมา


เป็นเจนรักษ์…..


เป็นความบังเอิญที่แม้แต่เขาก็ยังตกใจ แต่ในฐานะของเจ้านายที่ดี….เขาก็จัดการจ่ายค่าตั๋วหนังให้อีกฝ่ายที่มาดูเรื่องเดียวกัน ตรงนี้ก็ความบังเอิญอีกเช่นเคย ที่เชื่อเช่นนั้นเพราะของที่เต็มไม้เต็มมือทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายก็อยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว เมื่อเห็นเจนถือของจนตัวเอียงอย่างไม่ดูสภาพและความสามารถก็ทำให้เขาหงุดหงิดใจขึ้นมา นักรบจึงเลือกที่จะเดินไปคว้าถุงนั้นและพาอีกฝ่ายเอาของไปเก็บ อย่างไรเสียก็ต้องกลับด้วยกันอยู่แล้ว


มันเป็นเรื่องปกติที่คนบ้านเดียวกัน มาเจอกัน ก็ต้องกลับด้วยกันใช่ไหมล่ะ!


เราพากันกลับมาที่โรงหนัง สั่งป็อปคอร์นและน้ำดื่มมา เขาเลือกที่จะให้คนตัวเล็กถือป็อปคอร์น เพราะสภาพอีกฝ่ายที่สั่นนิดๆด้วยอากาศหนาวทำให้รู้สึกสงสารจนไม่อยากจะส่งแก้วน้ำให้ถือ  โชคดีที่เขาเป็นคนขี้ร้อนและเสื้อสูทนี่มันก็เกะกะพอดี จึงส่งให้คนตัวเล็กใส่ในขณะที่ดูหนัง เราต่างก็อยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง จนกระทั่งหนังเริ่มได้ไม่นาน เขาก็ไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้อีก นักรบหลับไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่หวั่นใจว่าจะมีใครมายุ่งกับทรัพย์สินมีค่าของเขาเลย


อาจจะเพราะข้างๆตัวมีใครอีกคนที่คอยจะบอกเตือนกันให้อุ่นใจในยามนี้


“………….”  และเขาก็มาหลับต่อในรถอีกที ทั้งนี้เพราะอีกคนอาสาที่จะขับรถให้ ก็รู้หรอกว่าเจนรักษ์ขับรถเป็น แต่เห็นตัวบางๆถือของเดินตัวเอียงแบบนั้นก็อดจะหวงรถไม่ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ปลอดภัย แถมหลับสบายมาจนถึงบ้านให้อีกคนเอารถไปเก็บ


นักรบคิดว่าเขาควรจะไปนอนอย่างจริงจังได้แล้ว แต่ก็นะ….ความตั้งใจวันนี้คือกลับมาดูหน้าเจ้าลูบกบนี่ ไม่เป็นไร แม้จะช้าไปเสียหน่อยจนเจ้าตัววุ่นหลับไปเสียแล้ว แต่คนเป็นพ่อที่ดื้อรั้นยิ่งกว่าก็ดันทุรังจะมาหาเพื่อได้มองหน้าสักพักก่อนจะกลับไปนอนอย่างสบายใจ ใบหน้าไร้เดียงสาที่หลับใหลเหมือนเทวดาตัวน้อยทำให้คนเป็นพ่อยิ้มออกมา เขาขอต่อเวลาอีกนิดเพราะเจนรักษ์ยังไม่อยู่ที่นี่ แต่ไม่คิดเลยว่าความคิดก็เป็นได้แค่ความคิด เพราะในทางปฏิบัติ….


นักรบได้ต่อเวลาเกินไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว…..


“………….”  และนั่นคือครั้งที่สามที่เผลอหลุดอย่างรุนแรงออกไป เขาจ้องมองคนที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเขาในเชิงนั้นแต่ก็ทำตัวไม่ถูกในสถานการณ์เมื่อหลายชั่วโมงก่อน เจนรักษ์นั้นห่มผ้าให้กันตอนไหนเขาไม่รู้ หลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในตอนนี้คืออีกคนหอบผ้าผ่อนไปนอนนอกคอกน้องวินซะไกล กะเอาให้ไกลจากเขาที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ นักรบอยากจะขำออกมา แต่ก็คิดได้ว่าเขาไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้แค่ฝ่ายเดียวจริงๆ เจตนาของเจนรักษ์ดูชัดเจนแต่ในทางปฏิบัติก็เหมือนจะทำเขาหน้าชาไปนิดๆอย่างไม่มีสาเหตุเหมือนกัน  ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ไปได้ แต่ก็นะ


มันรู้สึกไปบ้างแล้ว….


“คุณ…คุณ ตื่น”  แล้วนอนอย่างนั้นจะไม่ปวดตัวหรอกหรือ บุคคลผู้มาแย่งที่นอนประจำตำแหน่งของเจนรักษ์ตื่นมาตอนเช้ามืด คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆก่อนจะตัดสินใจเดินมาเรียกให้เจ้าของที่กลับไปนอนดีๆ


“อื้อออออ”


“คุณ กลับไปนอนกับน้องวิน”


“น้องวิน งือออออออ”   ตื่นยากตื่นเย็นเหมือนกันนะนี่ ขี้เซาชะมัด


นักรบที่ทำอะไรไม่ถูกนั้นได้แต่จ้องมองเจนรักษ์ที่เอาใบหน้าซุกกับพุงหมี ท่าทางงัวเงียไม่ยอมตื่นนั้นดูเหมือนเด็กดื้ออย่างไรอย่างนั้น แล้วที่ชอบบอกว่าตาวินดื้อนี่ ไม่ได้ดูตัวเองเลยหรือไง งอแงเป็นเด็กเชียวนะคุณพี่เลี้ยง เขาส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะสะกิดเบาๆอีกครั้ง อีกคนร้องอื้ออา แต่ไม่ยอมตื่น


“อื้อ เจนง่วง”


“คุณ ไปนอนดีๆ”


“อื้อออออ ปล่อยเจนนอนตรงนี้”  เออ….จะนอนตรงนี้ก็ได้ แต่มันไม่สบายไม่ใช่เหรอ


“เจน ไปนอนดีๆ ลุก เร็วเข้า”  เขาเรียกซ้ำอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลย


ว่าได้เรียกชื่ออีกฝ่ายออกไป…..


“……….”


“……….”


“……….”


เป็นความเงียบงันเพียงชั่วครู่ ไม่มีเสียงโต้แย้งอะไรแต่ก็ไม่ขยับอยู่ดี เขาถอนหายใจออกมา ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อยๆลุกนั่ง หัวฟูๆกับหน้ายุ่งๆบวมๆตามธรรมชาติของมนุษย์ยามตื่นนอนทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้มีแค่ตนคนเดียวที่หมดสภาพ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็เอามาล้อแซวกันไม่ได้ อีกคนจ้องมองกันตาแป๋วก่อนจะขยี้ตา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยขัดใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป


“ตื่นไปนอนดีๆ”  เขาบอก ก่อนจะลุกขึ้นกลับไปนอนต่อที่ห้องโดยไม่ได้สนใจว่าห้องที่ตนจากมา คนในนั้นมีสภาพเช่นไร


ยังเหลือเวลาอีกสักพักกว่าที่เขาจะได้เวลาตื่นไปทำงาน นักรบกอดหมอนข้างเอาไว้ก่อนจะหลับตาเพื่อกลับไปสู่โลกแห่งความฝันอีกครั้ง แต่เขาพบว่ามันค่อนข้างจะเปล่าประโยชน์เพราะสมองของตื่นเต็มที่แล้ว และมันก็ประมวลผลต่างๆได้มากและรวดเร็วเหมือนปกติ ทั้งหมดนี้ต้องโทษเจนรักษ์ที่ทำให้เขาเสียเวลาอยู่ด้วยนานเกินไปจนกลับไปหลับไม่ได้ แต่จะเดินไปโทษอีกฝ่ายเลยก็ไม่ถูกนัก


ก็เป็นเขาไม่ใช่เหรอที่ยังยืนกรานจะปลุกให้ตื่นอย่างนั้นน่ะ!
ทิ้งให้นอนพื้นแข็งๆก็ได้ไม่ใช่เรอะ!


xxx


“นิสัยไม่ดี”  เจนรักษ์ที่กลับมานอนที่ตัวเองนั้นจิ้มแก้มเจ้ากบน้อย ทำร้ายพ่อไม่ได้เลยตอแยลูกเขาเล่นอย่างนี้ก็ได้เหรอ!


ดูเหมือนอุณหภูมิร่างกายของเขายังคงทิ้งไว้ตรงนี้ ที่ประจำที่เจนรักษ์มักจะนอนข้างๆน้องวินนั้นอุ่นเกินกว่าจะเชื่อว่ามันเคยเป็นพื้นที่ว่างเปล่าต้องลมแอร์ มันทำให้เจนเงียบ และความคิดของตัวเองก็ว่างเปล่าไปไม่เป็น นี่คงเป็นอีกครั้งที่รู้สึกยุ่งเหยิงแต่ไม่มีอะไรในหัวเป็นชิ้นเป็นอัน ใบหน้าก็รู้สึกยุบยิบ ใจก็เต้นแรง น่าหงุดหงิดจนต้องจิ้มแก้มเจ้าก้อนเล่นแก้เขินไป อาการแบบนี้ท่าจะเป็นหนัก ปกติมโนอยู่คนเดียวก็เป็นบ้าอยู่ข้างในคนเดียวไง มันไม่เคยออกชัดออกแก้มออกตาได้ขนาดนี้ อย่าเรียกว่าเป็นบ้าดีกว่า เรียกว่าผิดปกติจนเกินคำบรรยายจะดีกว่า


แค่คิดว่าตัวเองตื่นมาเห็นภาพเขาที่เพิ่งตื่นมาปลุกกันแบบนั้น


“อ้บๆๆๆๆๆๆๆๆ”  พอไม่ได้ดั่งใจจะร้องแหกปากดังๆก็ไม่ได้ แต่ก็ขัดใจเลยร้องเสียงกบออกมาเอง ห้ามคิด ต้องหยุดคิด กำปั้นเล็กๆทุบลงกับเบาะไม่ยั้งเบาๆ เพื่อกันไม่ให้ลูกกบตื่นและพ่อกบรู้ตัว ทุกอย่างจึงต้องแอบทำ


แต่แบบนี้มันเก็บกดจะเป็นบ้าแล้วครับ


“ฮือออออออออออออออ”  อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาออกมา แล้วนี่จะเอาหน้าที่ไหนอุ้มลูกเขาไปบ้ายบายตอนเช้าล่ะ แกล้งตายไปเลยได้ไหม ยากกว่าที่โดนมอมแล้วตื่นมาเปลือยเปล่าในโรงแรมกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้


คือการตื่นมาแล้วเห็นผู้ชายในชุดนอนมาปลุกกันในห้องนอนเด็กนี่แหละครับ!
แล้วผู้ชายคนนั้นเสือกเป็นพ่อของเด็กด้วย แล้วกูนี่เป็นผีบ้าอะไร!!!


“โงยยยยยยยยยยยยย”  เช้านี้


ไอ้เจนคิดดีไม่ได้แล้วจริงๆ


xxx


และคนคิดไม่ดีก็ไม่ได้มีแค่เจนคนเดียวจริงๆ


เพราะคุณรบตื่นสาย….ส่วนเจน ก็จะงีบพร้อมน้องวินตอนกลางวันเลยถ่างตาไว้ลงมาทำงาน พิธีกรรมช่วงเช้าเปลี่ยนเป็นสาย จะ 11 โมงอยู่แล้วคุณรบเพิ่งลงมา เราสองคนจ้องมองตาโหลๆของกันและกันแบบเหมือนจะรู้แต่ก็ไม่รู้ดีกว่าอะไรประมาณนั้น ไม่มีใครพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเลย เออ…จริงๆมันก็ไม่มีอะไร กะแค่เปลี่ยนที่นอน นอนไม่หลับ และลากยาวมายังเช้าจนสายแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ทำตัวเหมือนลอบเป็นชู้กันแล้ว….


“น้องวินบ้ายบายคุณพ่อสิครับ”  เจนรักษ์นั้นคว้ามือที่เจ้ากบน้อยอมอยู่ออกมาโบกมือให้เขา นักรบเพียงแค่มองและบีบแก้มนุ่มนั่นที จริงๆก็ไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากัน แต่แค่มองตาอีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง


“ไปละนะ”  คำนี้คงบอกลูกละมั้ง


“น้องวินให้คุณพ่อหอมทีสิครับ บอกคุณพ่อให้ขับรถไปทำงานดีๆนะ”  อันนี้ลูกก็คงบอกพ่อละมั้ง


“…………..”


“…………..”


“ไปล่ะ”   ง่อววววววว ก็พูดดีนะ แล้วก็พยายามแล้วด้วย


แต่ทำไมกูคิดดีไม่ได้เลยวะ……


 

Talk: เรือรบเจนมาเทียบท่าอีกครั้ง เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตไม่รู้ที่ทำให้น้องมาต่อคิวพี่เขาพอดี แต่คนซึนคือคนซึน ไม่มีหรอกค่ะจะกอดเขาไว้แล้วดูหนัง พี่ก็กอดอกนอนหลับไม่มีซบนะคะ ยังดีที่ขี้ร้อนเลยเอาเสื้อมาให้น้องใส่5555
ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ Twitter #เจนไม่นก @reallyuri







หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-07-2018 18:21:55
 :L2: :pig4:
แหมมมมมม บอกลูกกบเนาะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-07-2018 18:38:51
ฮา ความพ่อกบนี้  ลูกกบทำตัวน่ารักอ้อนๆไปวันๆพอแลเว เรือเดินด้วยแรงลม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-07-2018 19:13:45
นั้นแน่ นั้นแน่ ยุบยิบหัวใจพ่อกบกับพี่เลี้ยง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-07-2018 19:14:41
เจนแปลงร่างเป็นแม่กบไปล่ะ มีร้อง อ๊บด้วย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: pan19891990 ที่ 08-07-2018 19:16:16
เขินมากกกกก  :ling1: ไม่รู้เขินอะไร ขอเขินขอใจเต้นตามเจนก็แล้วกันค่ะ เหมือนลักลอบเป็นชู้ไปกับเขาด้วย 5555 รอติดตามต่อต่อไปค่า เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 08-07-2018 19:44:54
ง้อววววววววววววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 08-07-2018 19:56:56
เขินหนักมากกกกกหกกก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2018 20:02:25
 ยุบยิบใจด้วย   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 08-07-2018 20:05:43
โอ้ยยย น่ารักเกินนนนนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 08-07-2018 20:31:25
อ่านพาร์ทพ่อกบแล้วก็มีแต่คำว่าจ้าาาาาา 55555555 ส่วนเจน น่ารักยังไงก็น่ารักอย่างงั้น :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-07-2018 20:49:48
ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นลูกกบกันทั้งบ้าน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-07-2018 21:24:26
เจนน่ารักเกินไปแล้วววววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-07-2018 21:27:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 08-07-2018 22:39:33
โอ๊ยยยยยยยยยย น่ารักกกกกกกกก
คุณรบก็หลับเก่งงง 555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 08-07-2018 22:50:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-07-2018 23:28:30
เรือมาจอดอยู่ทุกวัน 555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 09-07-2018 15:53:33
ไล่อ่านจนทันละ แต่คิดอีกทีน่าจะรอเพิ่มอีกหลายๆตอนดีกว่า

เพราะไม่อยากรอเลยยยย ถึงแม้ไรท์จะมาต่อไวมากๆก้เหอะ

ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก ชอบน้องเจน น้องวิน คุณรบ คุณหญิง

ชอบภาษา การดำเนินเรื่องค่อยเป็นค่อยไป ไม่จั๊มไปจั๊มมา

รอติดตามอยู่นะค้าาาาาาาาาา

  o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Littlesir ที่ 09-07-2018 17:41:28
รอตอนต่อนะค๊าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-07-2018 06:04:01
พ่อกบเริ่มหวั่นไหวกับพี่เจนแล้ว น่ารักขนาดนี้ไม่หลงรักได้ไงเนอะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-07-2018 16:53:48
 :katai5: มารอเจ้าลูกกบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 17] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.7.2018 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 10-07-2018 18:48:49
มาดูกันว่าระหว่างเจนสติแตกเพราะความคิดในหัว กับคุณรบซึนแตกเพราะความน่ารักของเจน
อันไหนจะเกิดขึ้นก่อน  :laugh:
หัวข้อ: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 10-07-2018 19:19:56
#เจนไม่นก
รบเจนและชิปเปอร์ของพวกเขา



ใน 1 วันของเพชรเริ่มต้นขึ้นเหมือนๆกับทุกวัน


“วางไว้ตรงนั้น”  คุณรบจะพูดอย่างนี้ ทั้งๆที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพชรเสิร์ฟกาแฟให้คุณรบ แต่คุณรบก็จะพูดอย่างนี้ราวกับคิดได้ทุกวันว่าเพชรจะเอากาแฟไปราดบนแป้นพิมพ์นั่น


“นี่คือเอกสารที่จะต้องเซ็นครับ”


“ตีกลับไปทุกแผนก บอกว่าทำมาใหม่”  งานเข้ากูอีก


“เมื่อวานนี้กลับบ้านเร็วนะครับ”  รู้สึกเหมือนเขาหนีไปไถทวิตในห้องน้ำแป็ปเดียวเอง กลับมา


ท่านประธานก็หายไปแล้วครับ….


ตอนนั้นคนทั้งบริษัทแทบจะจุดพลุฉลอง พอถามใครๆทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวว่าเห็นท่านเดินออกไปแล้ว ก่อนเวลาเลิกงานนิดนึง  จริงๆท่านจะเข้ากี่โมงกลับกี่โมง คนทั้งบริษัทไม่เคยติเตียนอะไรแต่เจ้าตัวกลับเข้มงวดกับตัวเอง ทว่าเพชรก็เข้าใจท่านครับ….ไม่เกิดมาเป็นนักรบที่นกเรื่องคนรักอย่างหนัก คงไม่มีวันเข้าใจ….


ใช่ครับ ถูกแล้ว….เพราะคุณนักรบไม่มีใครคอยหรือออดอ้อนให้รีบกลับ จึงไม่เคยนึกอยากทำผิดกฎอะไรเพื่อใคร จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ท่านดูจะร้อนรน และอัตราการกลับบ้านเร็วถี่ขึ้นกว่าเดิมจนผิดปกติ ขนาดกับคุณรดาที่ว่ารักนักหนา ตอนเธอท้องคุณหนูยังไม่กลับเร็วเลยครับ ส่วนหนึ่งคงกลัวว่าพอเห็นหน้ากันแล้วคุณรดาจะเครียด ก็เจ้าตัวเกลียดคุณรบขนาดนั้น


กลับมาที่ความกลับบ้านถี่ช่วงนี้ ผมว่ามันมีจุดเปลี่ยนบางอย่างเกิดขึ้นในบ้านอย่างแน่นอน และถ้าให้เดา ก็อดจะคิดถึงใครอื่นไม่ได้เลยเพราะตอนนี้จุดเปลี่ยนของบ้านหลังนั้นที่ดาเมจรุนแรงระดับเขวี้ยงมะม่วงใส่หัวเห็นทีจะมีแค่….


คุณเจนรักษ์


แต่บอกไม่ได้ครับว่ารู้ความลับของอีกฝ่าย เพชรภูมิใจมากที่ความลับของตัวละครเอกอยู่ในกำมือ และเหมือนพระเอกของเรื่องจะไม่รู้เรื่องนี้เสียด้วย ก็แหมมมมม พี่ท่านเล่นสนใจอะไรบ้างที่ไหน ซึ่งดีแล้วที่สถานะของคุณเจนยังไม่ถูกเปิดเผย เพชรตั้งใจว่าสักวันนึงการ์ดที่ถูกหมอบไว้จะถูกเปิดนำมาใช้ในภายหลัง สักวันนึงเขาอาจจะขอแปะมือกับคุณเจนผู้มีประสบการณ์ในวิชาชีพเดียวกัน หน่วยก้านใช้ได้ น่าจะไปลับฝีปากกับแผนกการเงินได้ดีกว่าที่เพชรทำอยู่ก็เป็นได้ /และในอนาคตอาจจะทำให้ไอ้เพชรตกงานได้ด้วยเช่นกัน จึงต้องระวังไว้


“เออเมื่อวานคุณรบกลับบ้านเสียเร็วเลย”    เพชรที่กำลังจะเดินมาชงกาแฟแก้วใหม่ให้คุณรบนั้นได้ยินประโยคที่มีใจความเด็ด เอาจริงๆแค่ได้ยินคำว่า ‘คุณรบ’ เท่านั้นก็ต้องรีบถอยฉากหาที่หลบ การจะเป็นตาสัปปะรดที่ดีคือต้องมีไหวพริบ มือประคองแก้วกาแฟที่คุณรบเพิ่งกินได้แค่อึกเดียวก็ขมวดคิ้วและสั่งให้ไปชงใหม่อย่างทะนุถนอม ในใจอยากจะตะโกนใส่หน้าแล้วบอกว่ากูชงกาแฟให้ใครเป็นที่ไหนล่ะ การเป็นเลขาไม่ได้หมายความว่าที่มหาลัยเขาจะสอนชงกาแฟให้เป็นกาแฟไม่ใช้น้ำล้างเท้า แต่ทำไม่ได้เพราะนั่นคือเจ้านาย


“ใช่ๆ เดี๋ยวนี้กลับบ้านเร็วมาก”


“กลับบ้านแน่เหรอออออ”  เสียงสูงเชียวครับ แต่คุณรบกลับบ้านจริงๆครับ ไอ้เพชรยืนยันโดยเอาศักดิ์ศรีของเลขาที่สนิทดั่งน้องชายมาเป็นประกัน ไม่ครับ…ดึกๆกูยังเห็นส่งเมล์มาสั่งงาน ถ้าไม่ใช่บ้านก็ที่ทำงานละครับ เอ๊ะ…หรือบ้านกิ๊ก


“หึ! น้อยๆไปสิ พวกเธอไม่รู้อะไร” 


“อะไรล่ะที่พวกเราไม่รู้ หล่อนรู้เหรอยะ”  ใช่ๆ พวกเธอจะรู้อะไร เจ้าของร่างสูงใหญ่ของเลขาหนุ่มนั้นพยักหน้าหงึกหงัก เขาสิวงในตัวจริง!


“ก็เมื่อวานนี้ฉันต้องไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้บริษัทใช่มะ แต่ฝนมันตกก็เลยเดินแช่ ดูหนังสักเรื่องรอบดึกในห้างเลย  แล้วรู้ไหมทำไม”


เออแล้วทำไม….


“ฉันเห็นคุณรบเดินออกมาจากโรงหนังกับอีกคน สภาพคุณรบคือแบบ โซฮอต”


“คุณรบเขาร้อนเหรอ”  เออ คุณรบขี้ร้อน


“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงเขาดึงเนคไทลง พับแขนเสื้อ ไม่ได้สวมสูทหรือแต่งตัวเรียบร้อยแบบปกติน่ะเข้าใจไหม ผมก็ยุ่งด้วย  โอ้ยตายแล้ว แม่จะเป็นโลมมมมม”  อย่าเพิ่ง! เล่าใจความหลักออกมาให้หมดก่อน แล้วจะไปชื่นชมความหล่อรวยของคุณรบในนรกขุมไหนก็ย่อมได้!


“ตายล่ะอยากเห็นเลย คุณรบไม่ใส่สูท เอาสูทไปไว้ที่ไหนเนี่ย”  เอาไว้ในรถเขาสิครับ ถามมาได้


“อยากรู้ไหมว่าเอาไว้ที่ไหน”  อย่าบอกนะว่าพนักงานคนนี้ตามไปดูเสื้อคุณนักรบในรถเขานะ นี่ควรขึ้นรหัสแดงไว้ไหม เผื่อว่าจะไปเห็นความลับระดับสูงของบริษัทในรถด้วย คุณเพชรกลับเข้ามาในโหมดมีสาระเพื่อบริษัทก่อนจะประเมินสถานการณ์


คงจะได้เวลาที่ฮีโร่จะเผยตัวออกจากที่ซ่อนไปผดุงความยุติธรรมแล้วสินะ


“ก็เอาให้คนที่ไปดูหนังด้วยใส่ไงล่ะ”   ฉึบ! กลับไปหลบมุมต่อครับไอ้เพชรครับ!


เอาเสื้อให้ใคร…อะไรใส่นะ!


“ฉันดูไม่ผิดหรอก เป็นคนที่อุ้มคุณหนูวินมาที่บริษัทวันนั้น”  ใคร? กูเหรอ? นี่ก็เคยอุ้มคุณวินเดินไปมาแถวนี้อยู่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวนะครับ ทำไมกูไม่เคยรู้ตัว แต่จริงๆต้องไม่ใช่ไหม เมื่อวานนี้ก็นอนดูหนังที่ออฟฟิศรอฝนหยุด ไม่ได้ไปดูในโรงแล้วเอาเสื้อใครมาใส่ แต่พอนึกออกถึงความเป็นไปได้ว่ามีใครที่เคยอุ้มคุณน้องวินก็เริ่มที่จะ….


งุ้ย……


“ตัวเล็กน่ารักมากแก ฉันกะไว้แล้วว่านั่นต้องแม่ใหม่ของคุณหนูวิน”


งุ้ย……


“จะเป็นไปได้เหรอ ก็คุณนายรัชนีนุชเขาหมายมาดอยากจะให้หลานสาวเขามาหุบบริษัทเรานี่ หลานคนโตอย่างคุณรดาหย่าไปแล้ว ก็ยังพยายามยัดเยียดคุณรฐาเข้ามาอีก”


“โอ้ย นี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่าทำไมคุณรฐาถึงได้โดนไล่ออก แถมโครงการที่มีข่าวลือว่าจะร่วมมือกันกับทางนั้นก็ชะงัก”


“อย่าบอกนะว่า!”


“ก็ยัยรฐานั้นน่ะ ยุขึ้น ฉันไปได้ยินมาว่าป้าวรรณา ผู้จัดการแผนกการเงินไปพูดลอยๆใส่เป็นเชิงว่า ‘คนบางคนพยายามแทบตายนอกจากไม่ได้กิน เขายังควงแม่ใหม่ ให้อุ้มลูกมาอวดถึงบริษัท ไม่มีจะชายตามอง’ ตอนนั้นก็คิดว่านางมโนไปเอง จนกระทั่งไปเห็นภาพเมื่อวาน ใจฉันบางไปหมดแล้วแกกกกกก”  ใจไอ้เพชรก็บางด้วยครับ กูเพิ่งรู้เลยว่าต้นเหตุที่ทำให้คุณเจนโดนทำร้ายก็เพราะสายมโนในบริษัทเรานั่นเองแหละ ยุเก่ง ยุขึ้น


“ป้าวรรณาแกก็รู้สึกผิดนะเป็นต้นเหตุให้คุณเขาเจ็บ แถมยัยนั่นก็โดนไล่ออก สังเกตสิเดี๋ยวนี้พอคุณเพชรมาขอนู่นนี่ก็ยอมให้ง่ายขึ้น เห็นใจหรอก ทำงานหนักอยู่คนเดียวเนี่ย พ่อคุณ….”  โห ซึ้งเลยครับ ช่วยดีกับผมไปนานๆด้วยนะครับ


“แต่ก็นะ นางก็น่าสงสารอ่ะ กดดันจะตาย เห็นว่าชอบเขามาตั้งนาน แต่เขาชอบพี่สาว ตอนแรกที่บ้านก็ไม่สนับสนุนถึงขนาดส่งไปเรียนไกลๆจะได้ไม่มาเกาะแกะคุณเขา แต่พอพี่สาวได้หย่า คุณรัชนีนุชก็ไปลากกลับมาบอกให้จับให้ได้ นางคงเห็นโอกาสมาถึงมือและก็อยากเอาชนะทั้งพี่ทั้งคุณรบล่ะ เลยทุ่มสุดตัว แต่ก็นะ นางนิสัยไม่ดีอ่ะ คนเลยพาลไม่ชอบทั้งบริษัท”


“ว่าแต่หล่อนมั่นใจได้ไง ว่าคุณคนนั้นน่ะแม่ใหม่น้องวิน”


“แกคิดว่าคุณรบที่แกรู้จักเขาจะไปดูหนังกับใคร แถมยังให้เขาใส่เสื้อสูทของตัวเองด้วยนี่นะ”  ก็เป็นคุณรบที่ขี้ร้อนและขี้เกียจถือสูทด้วยตัวเองเลยส่งให้อีกคนใส่ไงครับ แต่ทฤษฎีผัวให้เมียใส่เสื้อก็เชื่อถือได้ครับ ขอซื้อ


“มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ไง”


“อ่ะ งั้นแกจะเถียงอีกไหมถ้าฉันจะบอกว่ามันมีมากกว่านั้น”


“อะไรยะ”


“แล้วแกคิดว่าคนอย่างคุณรบที่เขี้ยวลากดินคนนั้นน่ะ….”


ทำไม อะไร เจ้านายเขาเขี้ยวแต่ก็จ่ายโบนัสดีทุกครั้งนะเว้ย!
 ไอ้เพชรจะปกป้องคุณรบยันสิ้นปีนี้ คอยดู! (ตัดรอบจ่ายโบนัสสิ้นปี)


“จะยอมยื่นกุญแจรถให้อีกคนขับพากลับบ้านล่ะ”


“อะไรนะ”


“ก็อย่างที่ฉันบอกแหละ”


“คุณรบเนี่ยนะ”


“ใช่….”  เขาให้ใส่เสื้อก็แล้ว พาไปดูหนังก็แล้ว  แถมยังให้อีกคนขับรถกลับบ้าน….ด้วยกัน….แต่ถ้าทุกคนเห็นแค่นี้แล้วจิ้นกันไปไกล งั้น ‘เพชรรบ’ หรือ ‘รบเพชร’ ก็เป็นคู่จิ้นที่เป็นไปได้ครับ


กูก็ขับรถให้คุณเพชรนั่งกลับบ้านเหมือนกัน ถุ้ย!


xxx

ช่วงเวลาบ่ายที่คุณหญิงกำลังจิบชาอย่างสบายใจและมีความสุข

วันธรรมดาเคยเป็นวันที่เธอยุ่งวุ่นวายหมดไปกับการทำงาน มาเกินครึ่งชีวิต ในยามนี้ที่ลูกชายคนเดียวขึ้นมาดูแลบริษัทแทนแล้วจึงมีเวลาเป็นของตัวเอง ในระหว่างจิบชา เธอก็หยิบแว่นตาขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะหยิบหนังสือที่ถูกคั่นหน้าเอาไว้ ตั้งใจจะอ่านให้จบให้ได้ในวันนี้ ต้องขอบคุณเจนรักษ์ที่แนะนำหนังสือดีๆ ให้กับพระพาย และต้องขอบคุณพระพายที่มาแนะนำต่อให้กัน


ไลน์!


“หืม”  แต่ยังไม่ทันได้เริ่มอ่านสักประโยค เสียงเรียกเข้าจากแอพพลิเคชั่นชื่อดังที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารก็ส่งเสียงดัง ด้วยความที่เธอมีอายุและค่อนข้างใหม่กับพวกของสมัยใหม่พวกนี้ จึงใช้เวลาช้าพอตัวที่จะเปิดเข้าไปในโปรแกรมแชท และสิ่งที่ได้เห็น


ก็ทำเอาชะงักรุนแรงจนคนรอบข้างต้องหันมาให้ความสนใจ


“เป็นอะไรไปคะ คุณผู้หญิง”


“เปล่า ไม่มีอะไร”  แต่แววตาเธอบอกว่ามันมี ทั้งนี้อำไพและจินตนาที่นั่งอยู่ด้วยต่างพากันมองหน้า ด้วยสถานะที่เป็นลูกจ้างจึงรู้ตัวดีว่าไม่สามารถบีบคั้นให้อีกฝ่ายบอกมาได้  คุณพรรณีวางหนังสือเล่มนั้นลงก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ในตัวบ้านโดยไม่บอกกล่าวอะไรไว้ หรือข้อความที่ได้รับเมื่อครู่จะสำคัญมาก หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่ามันคืออะไร เพราะสิ่งที่ร้ายแรงหรือไม่นั่น


มีเพียงผู้ส่งสารกับผู้รับสารที่บอกได้


“นี่มันอะไรกันนี่”  เป็นรูปของลูกชายของเธอในสภาพที่ดูผ่อนคลาย กับเด็กหนุ่มอีกคนที่ตัวเล็กกว่าซึ่งดูคุ้นตา


มิหนำซ้ำยังมีชุดสูทตัวใหญ่ที่ไม่เข้ากับเสื้อผ้าสวมใส่อยู่


เป็นสูทของนักรบ คุณหญิงสามารถตอบได้เพราะเธอไม่ใช่แค่คนที่เลือกเนคไทให้ลูกชาย หากแต่บ้างครั้งก็เข้าไปเลือกเสื้อผ้าให้ด้วยตนเองแม้กระทั่งชุดที่ใส่เมื่อวันก่อนนี้! ก็จริงอยู่ว่านักรบโทรมาบอกว่าจะไม่กลับมากินข้าวที่บ้านเพราะติดฝน แต่เธอไม่คิดเลยว่าลูกที่หวงความเป็นส่วนตัวและเกลียดการอยู่ในสถานที่ที่มีคนเยอะๆ จะเลือกไปดูหนัง


กับเจนรักษ์ที่เผอิญหยุดพักวันนั้นพอดี


“……….”  ไม่มีใครเดินมาบอกเลยว่าต่างฝ่ายต่างเจออีกฝ่ายที่ห่าง แม้คำอธิบายที่กลับบ้านดึกจะตรงกันว่าติดฝน แต่ทำไมไม่บอกกันหน่อยเล่าว่า ‘ติดฝนอยู่ด้วยกัน’


อาจจะเป็นความบังเอิญ คุณผู้หญิงไม่ใช่คนหูเบาหรือเชื่ออะไรง่ายๆหากไม่ได้ฟังจากหูและวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือซ้ำด้วยสายตา พวกเขาสองคนอาจจะบังเอิญไปเจอกันในโรงหนัง แต่คำอธิบายเรื่องเสื้อของนักรบทำไมไปอยู่บนตัวเจนรักษ์ก็ยังคงไม่มีผุดขึ้นมาแม้แต่น้อย มันทำให้คนมองคิดดีไม่ได้จริงๆ คิดดีๆเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเลยว่าทำไม


ร่างของคุณหญิงที่อยู่มุมนึงของห้องรับแขกสั่นเทิ้ม พระพายที่เดินมาเห็นถึงกับตกใจ และด้วยความเป็นห่วงจึงเดินเข้าไปหาเผื่อว่าต้องการความช่วยเหลือโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ดวงตาของคุณพรรณีมีน้ำตาคลอ ถามอะไรก็ไม่ตอบเอาแต่ปิดปากเงียบอย่างนั้น พระพายที่น่าสงสารนั้นไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรแล้ว ห่วงก็ห่วง งงก็งง จนอยากจะร้องไห้ออกมา และเพราะใบหน้าพระพายผู้น่ารักเป็นเช่นนั้น

คุณหญิงเลยยอมหลุดออกมา


“นี่มัน…คุณรบกับพี่เจนนี่ครับ”  พระพายจ้องมองรูปที่คุณหญิงให้ดูอย่างตกใจ ก่อนจะพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดโดยรอบคอบเพราะคุณผู้หญิงไม่มีคำอธิบายอะไรแนบมาให้ด้วย เท่าที่เห็นนั้นก็จะมี


ฉากคือบริเวณชั้นโรงหนังของห้างที่ไม่ไกลจากบ้านนี้
คุณรบที่ไม่เนี๊ยบเหมือนทุกวัน
และพี่เจนที่ใส่ชุดสูทของคุณรบเอาไว้


หืม….


พี่เจนใส่ชุดสูทคุณรบเหรอ?!?!?!?!??!?!!!!!!!!


“คุณผู้หญิงครับ”  พระพายช้อนตามองคุณผู้หญิงที่คงช็อค เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณรดา ทำให้ภาวะการเปิดใจของคุณผู้หญิงนั้นต่ำลงกว่าปกติ จากคนที่ใจดีและง่ายๆ ต้องยอมรับว่าช่วงหลังๆหากเป็นเรื่องคุณรบ คุณพรรณีก็มักจะปิดกั้นไว้ก่อน และพี่เจนยิ่งเป็นผู้ชายแถมเป็นลูกจ้างคนนึงด้วยแล้ว….


“ไม่ เธอไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”


“ขอผมได้พูดแทนพี่เจนหน่อยเถอะครับ”


“……………”


“ผมว่ายังไงเรื่องนี้พี่เจนต้องมีคำอธิบาย”


“แล้วถ้ามันมีเรื่องให้อธิบาย แล้วทำไมเด็กคนนั้นไม่มาบอกกันล่ะว่าทำไม”


“โถ่ คุณผู้หญิงครับ พี่เจนเขาอาจจะ….”  แล้วจะให้พระพายแก้ตัวให้พี่เจนยังไง ในเมื่อพระพายเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เหมือนกัน


“เธอไม่ต้องพูดแล้ว พระพาย มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก”


“แต่พี่เจนเป็นคนดีนะครับ”  ดูจากห้างที่ไป คาดว่าเครื่องเขียนที่พี่เจนซื้อมาให้ก็คงได้มาจากที่นั่น แถมพี่เจนยังใจดีช่วยสอนหนังสือและแนะนำเทคนิคการเรียนภาษาที่พระพายไม่ถนัดให้ด้วย พี่เจนเป็นคนดี และถ้าเขารักกัน


เราไม่ควรส่งเสริมหรอกหรือ?
พระพายไม่ค่อยเข้าใจผู้ใหญ่นัก


“ให้โอกาสให้พี่เจนได้อธิบายเถอะนะครับ”


“…….”


“บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะครับ”  พระพายพยายามพูดให้คิด จะว่าไปแล้วกับคุณรบ พี่เจนก็ดูไม่ได้เห็นอยากจะยุ่งด้วยเลย ดังนั้นรูปนี้มันต้องมีที่มา แม้พี่เจนจะใส่เสื้อคุณรบ แต่ทั้งสองไม่ได้เดินแนบชิดติดกันหรือจับมือถือแขนอะไรนี่


“มันจะไม่มีไม่ได้!”


“ครับ?”


“ฉันไม่ยอมเด็ดขาด มันต้องมี!”  คุณผู้หญิงที่ดูตัวสั่นจนน่าสงสารเมื่อครู่นั้นดูราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คำพูดคำจาก็เช่นกัน เดี๋ยวนะ…


พระพาย….ตามไม่ทันแล้วครับ!


“เธอไม่เห็นเหรอพระพาย พอเขาสองคนเดินคู่กันมันเหมาะแค่ไหน”  คุณผู้หญิงยังคงพยายามยื่นรูปในมือถือให้พระพายดู ซึ่งพระพายก็พยายามมองหาความเหมาะสมแบบที่คุณหญิงว่า แต่ก็ยังมองไม่ออกนัก เพราะนอกจากภาพคุณรบที่ดูไม่เหมือนคุณรบในทุกๆวัน (ดูซกมกกว่าทุกวัน) และพี่เจนที่ขมวดคิ้วยุ่ง (อาจจะเพราะรำคาญเสื้อสูทที่เหมือนเอาเสื้อพ่อมาใส่)


“คือ…พระพายงงครับ”


“โถ่ พระพาย เด็กดีของฉัน เธอคงไม่เข้าใจสินะ”  เพราะพระพายยังเด็ก คุณหญิงเชื่อเช่นนั้น แต่ไม่…พระพายไม่ได้งงพี่เจนกับคุณรบในรูป แต่งงว่าคุณหญิงคิดอะไรอยู่ต่างหาก!


“คุณหญิงไม่ได้โกรธพี่เจนเหรอครับ”


“โกรธ…โกรธทำไม ไม่! ถ้าฉันโกรธหรือไม่ชอบหนูเจนก็คงไม่ชวนมาอยู่แต่แรกแล้ว”  แต่เพราะเห็นหน้าแล้วถูกชะตา และอยากให้แม่ลูกอยู่ด้วยกันที่นี่ เผื่อว่าอำไพจะไม่ขอลาออกไปอยู่กันแม่ลูกในตอนนี้ เธอจึงเลือกที่จะดึงเจนรักษ์เข้ามา และพอได้ศึกษานิสัยกันจริงๆก็ชื่นชอบเหลือเกิน ทั้งเรื่องรสนิยมที่ไปด้วยกันได้ดีกับเธอ ความคล่องตัวและเอาใจใส่ที่มีต่อน้องวิน ดูโดยรวมแล้วเจนรักษ์เป็นคนที่ดีและถูกชะตาด้วย จนนำพาให้คิดว่าคนๆนี้แหละ….


อาจจะเป็นสะใภ้ที่ชอบของคุณหญิงพรรณี
แม่ที่ใช่ของตาหนูวิน
และเมียที่ดีของตานักรบ!


พอรับทราบถึงที่มาทางการศึกษาและประวัติการทำงานก็ยิ่งทำให้เธอปลื้มปิติที่มีคนเก่งมาอยู่ใกล้ตัว แม้มันจะไม่เหมือนกับในละครไปเสียหน่อย ที่ลูกคนงานในบ้านจะเรียนจบจากต่างประเทศ ทำงานบริษัทใหญ่ และเป็นลูกบุญธรรมของอดีตประธานบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางบริษัทดังที่อเมริกา!  แต่เมื่อมันเป็นจริงและอยู่ใกล้ตัวแล้ว คุณพรรณีก็มองเหมือนกับว่าเธอมีเพชรอยู่ในมือ จะหยิบจับ หยิบวางทางไหน ก็ดูจะงดงามตา และที่สำคัญไปกว่าคือเมื่อจับไปไว้ข้างๆตารบลูกชายคนเดียวของเธออย่างในรูปแล้ว….มันช่างดูเหมาะสม และเข้ากันดีเหลือเกิน!


ตารบที่ไม่เหมือนตารบที่ทุกคนรู้จัก และเจนรักษ์ที่เห็นมันคนเดียวอย่างนั้นเหรอ ใครอย่ามาอ้างเลย ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีอะไรในกอไผ่!


“เราไปถามพี่เจนกันดีไหมครับ บางทีพี่เขาอาจจะป่วย คุณรบเลยเอาเสื้อให้ใส่”  ก็เป็นได้ และถ้าไปถามเจนรักษ์ต้องได้คำตอบแนวๆนั้นแน่


ดังนั้น….


“ไม่…พระพาย เราจะไม่ไปถามเจน”  ถามไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะคุณหญิงตั้งใจไว้แล้วว่าส่วนผสมที่เข้มข้นแบบนักรบและเจนรักษ์นั้นมันอาจจะดูเหมือนไม่สามารถผสมให้เข้ากันได้


แต่ฝีมือชงระดับตำนานอย่างคุณพรรณีซะอย่าง!
อะไรก็เกิดขึ้นได้!


xxx


พระพายนิ่งไปแล้ว….ครับ….


อยากจะถอนหายใจออกมา แต่เดี๋ยวตำแหน่งคนโปรดอีกคนของคุณหญิงท่านจะปลิวไปด้วย ท่าทางหมายมั่นผิดกับที่คิดไว้ว่าต้องกีดกันแน่ๆทำให้พระพายนึกเป็นห่วงพี่เจนของตนยิ่งกว่าเดิม สมัยคุณรดา คุณหญิงท่านก็ยอมแม้แต่จะตัดเพื่อนกับคุณรัชนีนุช จึงไม่แปลกเลยที่พระพายจะกลัวใจท่านเพราะพี่เจนไม่น่าจะผิดอะไร ทว่าเรื่องมันลงมาอีหรอบนี้ จะห้ามก็พยายามแล้ว แต่ก็โดนขัดขาด้วยไม้พายเรือแจวที่คุณหญิงท่านกำลังจะออกพายเสียได้


พระพายทำดีที่สุดแล้วครับพี่เจน…


แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอดูหน่อยเหอะว่าใครเป็นคนส่งภาพนี้มา มันต้องเป็นคนที่ไม่หวังดีต่อรัตนสกุลและต้องการก่อให้เกิดความแตกแยกแน่ๆ!


“……….” ทว่าเมื่อพระพายได้ดูดีๆว่าใครเป็นคนส่งรูปนี้มาให้ทางไลน์ของคุณผู้หญิง ใบหน้าที่เคยตื่นเต้นราวกับได้ดูหนังจนถึงฉากไคลแมกซ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยราวกับฉากนึงในละครซิตคอม  อืม….ยิ่งกว่าไม่หวังดีอีกคนนี้….


แต่หวังเลวอะไรของมันวะ ไอ้คุณเพชร!!!!!!!!!!!!


xxx

“ฮัดชิ้ววววววว”  ต้องมีใครสักคนที่มีอาณุภาพแรงกล้ามากพอที่จะทำให้คนหน้าหนา กระหม่อมหนาอย่างคุณเพชรคนนี้จามออกมาได้จนกระดาษปลิวทำให้คุณรบต้องนิ่วหน้าและยื่นกระดาษทิชชู่มาให้


“ไปจัดการตัวเองด้วยนะ ผมจะกลับแล้ว ให้คนมาพ่นยาฆ่าเชื้อในห้องด้วย”  โหหหหห กูดูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอคุณรบ ก็เข้าใจว่าลูกเล็กและเมียเด็กก็อาจจะหวงห่วงกันซะมากหน่อย แต่คุณเจ้านายมึงก็เว่อร์ไป


เออครับ….ผมได้จัดการโมเมให้คุณว่าที่เลขาเจนเป็นเมียไปแล้วครับ


สาเหตุไม่ใช่อะไร เจ้านายใหญ่สูงสุดนั้นได้ระดมสติ๊กเกอร์ไลค์รัวๆกลับมาให้หลังจากดูรูป เป็นอันจบพิธีการถามหาสมาชิกเดินเรือครั้งนี้  ในเมื่อผู้สนับสนุนหลักได้ตอบตกลงมาแล้ว เรือก็เริ่มเดินสิครับจะรออะไรอยู่! แต่ถามว่าเราได้ถามคนทั้งสองซึ่งต้องทำหน้าที่กัปตันไหม แน่นอนว่า….จะไปถามให้โดนเผ่นกะโหลก(by คุณรบ) เอามีดแทง (by คุณเจน) เหรอครับ ไม่ครับ เราเรียนรู้ที่จะชิปด้วยใจ ถ้าใจเราว่าใช่ เรือก็เดินได้ด้วยพลังใจไม่ใช้น้ำมันครับ


ทั้งหมดนี้ที่เพชรทำก็ไม่ใช่อะไรหรอก จริงๆก็อยากให้คุณรบได้เลขาใหม่มาช่วยแบ่งเบาภาระงานของตนเองนั่นแหละ แต่อาจจะเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ เพราะคุณเจนติดภารกิจหลักเลี้ยงลูกให้เขาอยู่ ซึ่งเพชรก็เข้าใจดี แต่หลังจากนี้ก็อยากให้มาทำงานด้วยกัน ไม่ใช่ว่าผมขี้เกียจหรอกครับ (เหรอ)  แต่งานมันเยอะ ก็ย่อมกลัวที่จะพลาดหรือทำไม่ทันขึ้นมา ให้คุณเจนที่ดูจะคล่องแคล่วมาช่วยดีกว่า แม้ทุกวันนี้กูจะเสี่ยงหูช้าโดนนายด่า และโดนเลขาอีกคนของนายด่าก็ตาม

แต่ในระหว่างที่ยังมาทำงานด้วยกันไม่ได้ ก็เป็นเมียคอยเอ็นเตอร์เทนคุณรบให้ก็ดีอย่างครับ ภาวะตึงเครียดที่คุณรบแกชอบสร้างจะได้ลดๆไปบ้าง ผมก็ไม่ได้กะจะอยากได้ทุ่งลาเวนเดอร์ในบริษัทหรอก แต่ลดๆลงบ้าง อย่าให้เป็นนรกอเวจีแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เลย กูเครียด!


และที่กล่าวมาทั้งหมดคือเหตุผลง่ายๆที่ทำให้ใจเราชิป และเพราะชิปเปอร์คือกลุ่มบุคคลที่มารวมตัวกันโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือการเห็นคุณๆที่เราชิปมีโมเม้นท์และรักกัน ดังนั้นคุณพรรณีจึงเป็นคนที่เพชรเลือกที่จะส่งรูปซึ่งไปขู่บังคับเอากับสาวๆแผนกบัญชีในห้องครัวมา


อย่าให้พูดถึงตอนนั้น พอเดินเข้าไปอย่างเท่เหมือนมีซาวน์เพลงประกอบหนังรายล้อม  วงก็แตกครับ ผมเริ่มทำตัวรักบริษัทด้วยการแจกแจงเรื่องทั้งหมด และสั่งให้ส่งรูปมาให้แลกกับการไม่ไปฟ้องกัปตันเรือใหญ่ พอได้รูปมาก็วางแผนคร่าวๆและปฏิบัติ แน่นอนครับ ว่าเพชรไม่ได้บอกให้พวกเธอลบรูปที่ถ่ายเพราะตรวจสอบดูแล้ว มันก็มีแค่ภาพที่คนทั้งสองเดินข้างๆกัน กับรูปที่คุณรบยื่นกุญแจรถให้คุณเจนแค่นั้น แต่สาเหตุหลักที่ไม่ได้ให้ลบมันมีมากกว่านั้น  เพราะเพชรรู้ดีว่าความคิดไปเองของมนุษย์เป็นเรื่องใหญ่….และรัตนสกุลแม่งชอบเล่นใหญ่…..


ดังนั้นข่าว ‘เรือรบเจน’ จึงต้องอาศัยคนจำนวนมากในการประโคมเช่นกัน
เอาให้แม่งดังไปถึงหูคุณชะนีนุชเลย! แม่งเอ้ย!





tbc

 
Talk: เมื่อวานถ้าให้ว่ากันตามตรงคืออ่านนิยายเพลินลืมลงค่ะ555 ตอนนี้เจนรบไม่มีบทแต่เราจะได้เห็นมุมมองต่างๆของชิปเปอร์แทนนะคะ ต่อไปอาจจะมาแบบวันเว้นวันบ้างนะคะ
ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ Twitter #เจนไม่นก @reallyuri







หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 10-07-2018 19:37:08
ช่วยพายด้วยค่ะ555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-07-2018 19:37:59
อลังการงานสร้าง  เรือนี้ได้กัปตันดี
เป็นคุณหญิงแม่พรรรณีด้วย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: T_TARS ที่ 10-07-2018 19:38:29
 :hao7: :hao7: :m20: :m20:

แต่ละฉากยอมใจ
จังหวะซิตคอมมากกกกกก
ตอนล่าสุดอ่านไปหัวเราะไป

ป.ล.ต่อเรือเพชรพายไว้รอแล้วอย่างมีความคาดหวังนาจา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 10-07-2018 19:52:07
ออกเรือ!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-07-2018 20:04:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 10-07-2018 21:04:33
จะอยู่เรือนี้ #เรือรบเจน ขอเป็นสปีทโบ๊ทเลยนะ อยากไปไวๆ 55555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-07-2018 21:18:51
ฮือออออออออ............ไรท์ลืมลงนี่เอง ถึงว่าหายไปไหน

อูยยยยย........  มีเรือรบเจนแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

คิดถึงลูกกบ ไม่มาออกฉากเลย   :z3:
แม้แต่คุณอำไพ ยังไม่มีบทพูดซักแอะเลย  :hao5:

รบ  เจน    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 10-07-2018 21:27:32
เรือนี้ใหญ่มากก 555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-07-2018 21:32:52
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 10-07-2018 21:41:18
โอ้ย ตลกตั้งแต่คุณเพชรแอบฟังแล้วอ่ะ มาเจอคุณแม่อีก ฮาก๊ากเลย55555555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-07-2018 22:02:40
เรือนี้รวมพลคนขี้ชิป 55 คุณเพชรคือคนตลก :m20:

 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 10-07-2018 22:10:36
เจอประโยคนี้ไป “มันจะไม่มีไม่ได้!” ลั่นเลย สงสารพระพาย55555 ปรับอารมไม่ถูก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-07-2018 22:46:18
เอ้าาาา ลงเรือได้มีมือพายหัวหน้าใหญ่ระดับนี้ยังไงก็ถึงฝั่ง :laugh: ตอนนี้คือสงสารน้องพะพายอย่างเดียวปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย เรารู้สึกว่ามันควรจะมี "เพชรพาย" นะหรือควรให้น้องพะพายเค้าอยู่บนสวรรค์อย่างเดิมดีอยู่แล้วไม่ควรมาเกลือกกลั้วกับอิตาเลขาเพชร รอมือชงจ้า จัดไปไม่เข้มข้นเราไม่นอน o13

ตอนนี้ติดเรื่องนี้มาก ชอบทุกตอนที่อ่านเลยรออ่านทุกวันเลย ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-07-2018 22:58:19
เป็นอะไรที่บันเทิงมากๆ ซิทคอมมาก ทั้งคุณเพชร คุณพรรณี และก็น้องพายเลย ชีวิตน้องจะต้องเจออะไรอีกเยอะ สู้ๆนะพาย 555555555555
เอาล่ะค่ะ ในเมื่อกัปตันใหญ่ลงเรือนี้แล้ว เราก็จะชิปไปด้วยกันค่ะ เฮ้!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-07-2018 23:13:01
อ่านตอนนี้ยิ่งกว่าไหล่สั่นตามคุณหญิง
เรื่องนี้ต้องถึงหูชะนีนุช555 รอความแซบค่า
พายเพชรจะมีไหม แต่ดูสงสารน้องพายเขานะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 10-07-2018 23:50:50
อิคุณเพชรรรรร อิบร้าาาาาาา 5555555 แต่ละคนเรื่องนี้ ตลกกกกก 55555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 10-07-2018 23:56:58
จะรอดูผลงานของชิปเปอร์นะครับ 555555 แต่สองคนนี้ต้องเรียกต้นหนมั้ย ชงแรงมาก คงเป็นลูกเรือธรรมดาไม่ได้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 18] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 10.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: shinachan ที่ 11-07-2018 15:39:44
ลงเรือกับคุณเพชร
หัวข้อ: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 11-07-2018 20:04:03
#เจนไม่นก
น้องวินเป็นกบเคโระเคโระส่วนพี่เจนเป็นนกฮูกฮูก







นี่ก็ไม่เคยจะรู้อะไรกับเขาบ้างเลย….


พระพายที่ทราบเรื่องแผนการแปลกๆของคุณผู้หญิงก็ได้แต่ปลงตก ในเมื่อพี่เจนยังเอาแต่ช้อปปิ้งจับน้องแต่งตัวชุดกบแล้วถ่ายรูปจนครบทุกมุมบ้าน และพอว่างจากการเลี้ยงกบก็หันไปเอาดีกับการทำขนมอบให้ทุกคนได้ชิมแบบนี้ เห็นทีบ้านรัตนสกุลคงได้เตรียมต้อนรับสะใภ้ใหม่ขึ้นมาจริงๆ


“อ้าวน้องพาย มากินมัฟฟินไหม พี่เจนเพิ่งอบเสร็จเลย”  พระพายนั้นส่ายหน้าอย่างระอาแต่ไม่ได้มีความตั้งใจจะปฏิเสธคำชวน เราสองคนช่วยกันขนขนมหวานและชามาที่ห้องรับแขก ทั้งนี้ไม่ใช่ว่ามีแขกหรอกนะ แต่เพราะทุกคนนั่งอยู่ที่นั่น และน้องวินก็หลับอยู่ในสายตา


ตื่นมาน้องจะได้ไม่โวยวายว่าพี่เจนทิ้งไปไหนอีก


เจ้าตัวเขาจะรู้ไหมนี่ว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง นอกจากจะทำให้ลูกเขาติดหนึบเป็นตังเมแบบนั้น ยังมีหน้ามาอวดฝีมือปลายจวัก คอยทำขนม ชงชาให้แม่เขาอยากได้มาเป็นสะใภ้อีกอย่างนี้ พระพายได้แต่เงียบไม่ได้พูดอะไรออกไปแต่ก็พิจารณามองความเหมาะสมแบบที่คุณผู้หญิงน่าจะพอใจไปด้วย กับเรื่องมีลูก คุณหญิงคงไม่มีปัญหาอะไรอีกเพราะคุณรบมีน้องวินอยู่แล้ว ในแง่ของชาติกำเนิด หากไม่มองแบบในละครน้ำเน่าแบบนั้น ไม่ว่าพี่เจนจะเกิดมาในครอบครัวแบบไหน แต่การศึกษา ความสามารถ และพื้นฐานนิสัยคงเข้าตาไม่น้อย


พระพายเห็นด้วยที่ว่าพี่เจนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้เหมือนกัน!


แต่จะให้เห็นดีงามกับบรรดาชาวเรือเลยก็ดูจะไม่ดี อีกอย่างพี่เจนกับคุณรบในสายตาของพระพายก็ไม่ได้ดูเหมือนจะมีอะไรเถือกนั้นเลยสักนิด แถมเดินห่างอย่างกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นเชื้อโรคแบบนั้นเนี่ยนะไปดูหนังด้วยกัน ถ้าไม่มีรูปมายืนยัน พระพายต้องคิดแน่ๆว่าเป็นข่าวลวง และภาพมันตำตาแบบนั้นจะไม่ให้เรือเดินได้ไง!


“เจน มัฟฟินอร่อยจังเลยลูก”  คุณพรรณีเอ่ยชมออกมา พี่เจนได้กลายเป็นลูกอีกคนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มัฟฟินอร่อยจริง พี่เจนทำทุกอย่างที่กินแล้วอ้วนได้อร่อยทั้งนั้น


“จริงเหรอครับ นี่คราวหน้าผมอยากลองทำเค้กโรลแบบญี่ปุ่นด้วย มีคนช่วยกินแล้วดีใจจัง”  พี่เขาคิดแค่นี้จริงๆครับ จะทำขนมอะไร และจะหาซื้อชุดรูปกบเคโระให้น้องวินใส่ที่ไหน แค่นั้นจริงๆ


พวกเราตั้งวงน้ำชายามบ่ายในบ้านกันตลอดช่วงเวลาที่น้องวินหลับอยู่ พี่เจนคงไม่รู้เลยว่าเรื่องต่างๆที่โดนถามนั้นถูกเอาไปประเมินการเป็นสะใภ้ที่ดีของบ้านนี้ ยิ่งพี่แกตอบอย่างใสซื่อเรื่องอบเค้กกับเรื่องไอติมของน้องวินมันยิ่งไปตอกย้ำความเป็นแม่บ้านที่ดีของคุณรบเข้าไปใหญ่ พระพายจะห้ามก็ห้ามไม่ได้ มันหนักปากอย่างบอกไม่ถูก


เราสองคนได้มีโอกาสยกถาดออกมาด้วยกันเพื่อเก็บล้าง ในจังหวะนั้นเองพระพายคิดว่าควรจะลอบถามเสียหน่อยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และในส่วนการเลือกฝ่ายก็ขอดูอีกที พระพายไม่ใช่คนโง่ที่จะมโนแบบไร้เงื่อนงำเหมือนทุกตัวละครในเรื่องนี้!


“พี่เจนครับ”


“อะไรเหรอพระพาย”


“วันก่อนพายแวะไปซื้อของกินที่ห้างให้แม่มา พายว่าเห็นพี่เจนด้วยนะ”


“วันที่พี่ซื้อชุดปากกาสีมาให้เรานะเหรอ แล้วทำไมไม่ทักกันหน่อยล่ะ”


“ก็….ผมเห็นพี่ไม่ได้มาคนเดียวนี่”


“………….”


“เห็นอยู่กับคุณรบเลยไม่กล้าเข้าไปทักนะครับ”  โกหก! พระพายโกหกตกนรกหัวโต!


“อา….จริงสิตอนนั้นมีคุณรบด้วยนี่นา”


“ไปซื้อของให้น้องวินด้วยกันเหรอครับ” พระพายเลียบเคียงถาม อ่านท่าทางของเจนรักษ์ที่ก้มหน้าลงไม่ค่อยออกนัก


“เปล่าหรอก บังเอิญเจอน่ะ”


“บังเอิญ?”


“คือพี่ติดฝน…กลับบ้านไม่ได้เลยว่าจะดูหนังสักเรื่องฆ่าเวลา เผอิญเจอคุณรบตรงที่ซื้อตั๋ว มาคนเดียวเหมือนกัน แล้วเผอิญจะดูเรื่องเดียวกันด้วย คุณรบคงเห็นเป็นลูกจ้างเลยจ่ายค่าหนังให้”  เออ! มันก็เหมือนจะมีเหตุผลนะ


แต่มันก็ทะแม่งๆอยู่ว่ะ


“พี่ของเยอะด้วย คุณรบเลยให้กลับด้วยกันจะได้เอาของไปใส่ในรถด้วยไง”  คือพี่เจนก็พูดเหมือนจะมีเหตุผลนะ เออคือพี่เจนก็มีเหตุผลแหละถ้าเรื่องที่พูดเป็นเรื่องจริง


แต่ความบังเอิญมันเยอะไปปะวะ?


“บังเอิญ….จังเลยนะครับ”


“อืม ก็เหมือนที่พระพายก็บังเอิญติดฝนแล้วเจอพี่ไง วันหลังเจอกันต้องมาทักนะ”  จริงๆแล้วพระพายกับพี่เจนไม่มีเรื่องบังเอิญอย่างนั้นเกิดขึ้นหรอก และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พระพายจะไปปรากฏตัวที่นั่น ถ้าเห็นฝนตั้งเค้า พระพายไม่ทนหนาวอยู่ในห้างหรอก ต่อให้ต้องเปียกฝน พระพายก็จะนั่งมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน!


แต่ความบังเอิญของ ‘รบเจน’ นี่ดูมีบุญนำพามีวาสนาร่วมกันจริงๆนะ!


อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่ได้ฟังจากปากเจนก็ไม่ได้ทำให้ความสงสัยและความต้องการเลือกข้างของพระพายชัดแจ้งแต่อย่างใด ทว่าสิ่งหนึ่งที่พระพายได้เรียนรู้เพิ่มเติม คือคนเราเรือจะเดินไม่เดิน มันไม่จำเป็นต้องมีคนช่วยแจวหรอก ถ้ามันจะใช่อยู่แล้วล่ะก็…..


พรหมลิขิตจะนำพาความบังเอิญมาหาเราเอง!


xxx


“อะไรนะพาย”  เพราะน้องพายเรื่องไม่ได้ว่าจะชิปหรือไม่ชิป เลยมาถามคนที่ยังไม่ได้เลือกข้างเช่นกันว่าเขาคิดอย่างไร และคนๆนั้นก็คือแม่…


แม่…ที่เลิกอคติใส่พี่เจนแล้ว


“แม่ว่าคุณรบดูไปด้วยกันได้กับพี่เจนไหม”


“ยังไงของเอ็งวะ ถามอะไรแปลกๆ”  ทำไมแม่เข้าใจยากจัง หรือว่าเรื่องที่พระพายถามมันยากไป


“ก็แบบ…แม่ว่าถ้าคุณรบกับพี่เจนเขารักกันนี่จะดีไหม”


“เอาอะไรของเอ็งมาพูด ติดเชื้อมโนแบบไอ้เจนมาเหรอ”  อย่าพาดพิง…ขอร้อง….


“คือผมสมมตินะ ว่าพี่เจนกับคุณรบเขา….”


“มันไม่งาม ใครมาได้ยินเข้าเขาจะหาว่าไอ้เจนมันหาเรื่องจับเจ้านาย”  อย่าเพิ่งขัดสิ! แล้วใครกันที่เคยปรามาสเขาไว้แบบนั้นในตอนแรก ก็ตัวเองไม่ใช่เหรอ


“แล้วแม่ว่าเขาดูเหมาะสมกันไหม”


“เอ็งจะอะไรนักหนา ไอ้เจนมันก็ลูกคนใช้  ถ้าคุณรบเอามันทำเมีย มีหรือว่าคุณหญิงเขาจะยอม”


“ยอมสิแม่ คุณหญิงบอกว่ายอม”


“หะ!”


“แล้วถึงพี่เจนจะลูกคนใช้ แต่พี่เขาก็จบมหาลัยมานะแม่”


“แต่นั่นมันคุณรบนะเอ็ง”


“คุณรบแล้วไง ห้ามว่าพี่เจนของพายนะ”


“อะไรของเอ็งเนี่ย ไอ้พาย!”


“พายเบื่อจัง คนชอบคิดว่าพี่เจนสู้คนนั้นคนนี้ไม่ได้ ทั้งๆที่พี่เขาออกจะเก่ง ไม่นับเรื่องที่น้องวินกับคุณหญิงชื่นชอบ พี่เจนเรียนจบตั้งเมืองนอกเมืองนา การศึกษาและประวัติการทำงานก็ดี”  ติดที่เคยคบกับเจ้านาย แต่นั่นไม่เกี่ยวไหม ไม่! 


จริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวทั้งหมด พายกำลังหลงประเด็น!


“เอ็งว่าอะไรนะ ไอ้เจนเนี่ยนะ แล้วแกไปรู้มาจากไหน”


“ก็คุณหญิงบอก”


“ตายห่าแล้ว! นี่ข้าเล่นไปจงเกลียดจงชังว่าที่ลูกสะใภ้คุณหญิงท่านและแม่ยายคุณรบเลยเหรอ” 


“ยัง แม่ ยัง!”  เขายังไม่ได้กัน!


“ทำไงดีล่ะไอ้พาย เอ็งยังเรียนไม่จบเสียด้วย”  แล้วจะไปหาเงินจากไหนมาส่งเสีย


“แม่! อย่าเพิ่งคิดไปไกล”


“แม่ต้องไปขอโทษไอ้เจนหรือเปล่า”


“พี่เจนเขายังไม่ได้เป็นแฟนกับคุณรบนะ”


“อ้าว!”


“แม่นี่ไม่เข้าใจผมเลย”  เลิกๆ เลิกถามได้แล้ว! เอาเป็นว่าพระพายจะชิปคู่รบเจนเหมือนคนอื่นไหม….


ค่อยให้คุ้กกี้ทำนายกันละกัน!


xxx


นักรบยืนลังเลอยู่หน้าห้องนอนของลูกชายอีกครั้ง แต่วันนี้มันดูจะเร็วไปสักหน่อย


เขาเคาะห้อง 2-3 ครั้ง แต่เจนรักษ์ก็ไม่ได้เดินมาเปิดให้อย่างรวดเร็วเหมือนทุกครั้ง เกิดอะไรขึ้นในห้อง โดยไม่รีรอเพราะมีสิทธิ์อยู่เต็มเปี่ยม นักรบบิดลูกบิดเขาไป พอดีกับที่อีกฝ่ายกำลังจะเดินมาเปิดประตูให้กัน ดวงตาของเราประสาน ก่อให้เกิดความกระดากอายอยู่ในความรู้สึกซึ่งไม่สะท้อนจากแววตา


“ขอโทษครับ กำลังจะไปเปิดพอดี”


“ทำอะไรอยู่”


“กำลังจะนวดให้น้องอยู่ครับ คุณรบรอแป็ปนึงได้ไหม เดี๋ยวผมไปเคาะห้องเรียกถ้าเสร็จแล้วนะครับ”  เขาขมวดคิ้ว รู้สึกต่อต้านประโยคนั้นอยู่ไม่น้อย


“นวดให้ตาหนูอยู่เหรอ”


“ครับ”


“ผมจะเข้าไปดูด้วย”


“เห”


“ไม่ได้เหรอ”  เอ่อ เพราะต้องการป้องกันความเสี่ยงเลยไม่อยากอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่คำว่าเสี่ยงนั้นๆ ไม่ได้ดูเป็นรูปธรรมเอาเสียเลย เจนเองก็อธิบายไม่ได้เสียด้วยสิว่าระแวงอะไร และเรื่องที่นวดให้ลูกเขามันก็สมควรให้อีกฝ่ายได้มารับรู้ เมื่อนึกตามหลักความเป็นจริงและเจตนารมณ์ที่ดีของตัวเองแล้ว ก็พยักหน้าและเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเข้ามาภายใน


เจ้ากบอ้วนนอนหงายไม่ใส่เสื้อรออยู่บนฟูก รอบตัวรายล้อมไปด้วยตุ๊กตาที่ไม่รู้มากจากไหนเยอะแยะ ดวงตาใสเหมือนลูกแก้วดูแวววาวยามที่ได้เห็นผู้มาเยือน เจ้าตัวเล็กยิ้มโชว์เงือกหัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว เขามองไปที่เจนรักษ์ที่ไปจัดเตรียมของมา ท่าทางเหมือนเพิ่งจะอาบน้ำให้ตาหนูเสร็จ เมื่อครู่คงจะกำลังใส่แพมเพิร์ทให้ลูกกบอยู่จึงออกมาเปิดประตูให้กันไม่ได้


“เด็กตัวเล็กแค่นี้ต้องนวดด้วยเหรอ”  เขาถาม


“ครับ มันช่วยทำให้นอนง่าย สุขภาพก็จะดี แล้วก็ดีต่อพัฒนาการด้วยครับ”


“………….”  ดูมีประสบการณ์ราวกับเคยเลี้ยงของตัวเองมาก่อน


“ศึกษาจากในเน็ตครับ ยูทูปก็มีสอน”  ชิงตอบราวกับรู้ว่าจะคิดอะไร


กลิ่นโลชั่นของเด็กที่ถูกเทลงบนฝ่ามือเล็กน้อยเตะจมูกนักรบ เขาได้กลิ่นนี้จากตัวลูกอยู่บ่อยๆแต่เพิ่งเคยได้เห็นขั้นตอนการใช้งาน  ในระหว่างที่ทำนั่นทำนี่ เจนรักษ์ก็ชวนเจ้าลูกกบพูดคุยราวกับคุยกันรู้เรื่อง ตัดขาดบุรุษที่สามเช่นเขาออกจากวงโคจรอย่างสิ้นเชิง เริ่มที่นวดจากใบหน้าให้อย่างอ่อนโยนและพูดคุย ตาหนูของเขาดูพอใจกับการปรนนิบัติจากพี่เลี้ยงคนโปรดมาก เพราะดูแลดีแบบนี้สินะ ถึงได้ติดแจ และงอแงตอนที่พี่เจนจะหนีไปไหนต่อไหน


“เอาไว้วันหลังคุณรบจะลองมานวดให้น้องก็ได้นะครับ”


“ไม่ดีกว่า ผมมือหนัก”


“………”


“อันนี้ผมจริงจังนะ”  อยากให้รู้ไว้ว่าเจนรักษ์ไม่สามารถบังคับเขาได้ทุกเรื่อง


“ลองดูก่อนไม่เสียหายนี่ครับ”


“ผมกลัว…..”  มันไม่ใช่แค่เขากลัวจะทำลูกเจ็บเพราะนวดให้ แต่เขากลัวในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับตาหนู


“ครั้งแรก ใครๆก็กลัวครับ”


“เดี๋ยวตาหนูเจ็บ”


“ถ้าน้องเจ็บ น้องมีวิธีแสดงออกให้เราเห็นครับ คุณรบไม่ต้องห่วง ผมอยู่ตรงนี้ด้วย ช่วยดูได้อยู่แล้ว”  เจนพยายามจะพูดให้เขาเชื่อถือ


“……….”


“และความกลัวไม่ได้แย่เสมอไปหรอกครับ”


“………….”


“อย่างน้อยมันก็ทำให้เราระมัดระวังจนไม่ทำพลาดอีก….ไม่ใช่เหรอครับ”


“………….”


“………….”


“………….”


“เอ่อ….ผมคงพูดมากไป”


“ไม่…. ไม่เป็นไรหรอก”  นักรบเข้าใจ แต่ที่เงียบไปนั้น


เพราะไม่มีใครเคยบอกเขาแบบนี้มาก่อน


ตรรกะง่ายๆ เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ความกลัวจะทำให้คนเราระมัดระวังและไม่พลาดซ้ำๆ มันเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร ตัวเองก็คงจะคิดได้ หากแต่เพราะความกลัวนั่นแหละ ที่ปิดหน้าต่างวิสัยทัศน์ทุกช่องของเขา และเมื่อเจนรักษ์ซึ่งเป็นคนอื่นพูดมันออกมา น้ำหล่อเลี้ยงบางอย่างก็ได้ไหลซึมเข้าชโลมพื้นดินที่แห้งผาก คำที่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง คำที่มีผลเหมือนเป็นเชื้อเพลิงกำลังใจ คำ…..ที่ไม่มีใครข้างกายบอกกัน


คำ….ที่ฟังยังไงก็เหมือนการปลอบโยนพวกขี้แพ้
แต่มีผลทำให้ไม่มีทางยอมแพ้อีกเป็นครั้งที่ 2


“ผมกำลังคิดว่าจะซื้อห่วงยางคอมาให้น้องลอยเล่นในอ่างน้ำ”


“กะละมังในห้องน้ำน้องวินนะเหรอ?”


“ไม่ใช่ครับ เจนจะไปหาสระน้ำแบบเป่าลมของเด็กมาใส่น้ำให้น้องว่ายตอนกลางวัน”


“………..”


“ขอโทษครับ ลืมตัวอีกแล้ว”


“ช่างเถอะ จะเรียกอะไรก็เรียก”


“ครับ”


“บ้านเรามีสระว่ายน้ำ”


“มันใหญ่และลึกไป ผมกลัว”  แล้วทีนี้ไม่แทนตัวเองว่าเจนแล้วนะ


“เอาเถอะ จะไปซื้ออะไรก็เบิกเงินแม่ ผมอนุญาตไปซื้อได้”


“ขอบคุณครับ”


“แอ แอ้ออออออออออออ”  เสียงเรียกของน้องวินดังขึ้นกลางปล้อง คนทั้งสองสะดุ้ง เริ่มรู้ตัวว่าเราอยู่ในถิ่นใครและเมินเจ้าถิ่นเขาอย่างนั้น


เรียกร้องความสนใจเก่งนะเจ้ากบน้อย!


“จริงด้วยสิ  คุณรบรอแป็ปนึงนะครับ”  เจนรักษ์นั้นอยู่ๆก็ลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปที่ลิ้นชักเสื้อผ้า หยิบชุดสีเขียวตัวนึงขึ้นมาก่อนจะเดินกลับมาที่เดิม


“อะไรน่ะ”  เขาถาม ขมวดคิ้วตามสไตล์


“ผมไปเห็นในเน็ต น่ารักดีเลยซื้อมา”  โดยไม่ถามความเห็นคนเป็นพ่อของตุ๊กตาที่ตัวเองจับแต่ง เจนรักษ์ได้ทำการยัดเยียดชุดสีเขียวให้ลูกชายของเขาที่อยู่ในสภาพเกือบเปลือย และคนเป็นพ่อก็ได้เห็นว่าไอ้เขียวๆนั่นมันคืออะไร


มันคือชุดกบเคโระ


“น่ารักใช่ไหมครับ มีหมวกฮู้ดตรงนี้ด้วย”  ซื้อเอง จับใส่เอง และชมเอง นักรบเริ่มเห็นใจลูกที่โดนชะตากรรมคล้ายๆกัน


“จะซื้ออะไรก็ไปเบิกด้วยละกัน”


“แฮ่ รู้แล้วครัว คุณรบถอยไปจนชิดผนังเลยได้ไหม อย่างนั้นละครับ”  เห็นไหม ว่ายังไม่ทันขาดคำ มีสั่งกันอีกแล้ว!


แล้วทำไมเขาต้องทำตาม


“ปรบมือเรียกน้องด้วยครับ อย่าดิ้นสิเจ้าลูกกบ ตื่นเต้นเหรอ”  พอสั่งเขาต่อแล้วก็หันไปสั่งลูกของเขาต่อ มันน่าหักเงินนัก


แต่เขาก็ทำตามอยู่ดี


“น้องวินไปหาคุณพ่อสิครับ คุณพ่อเรียกใหญ่แล้วเห็นไหม!”  หลังจากที่วุ่นวายกับการหยิบมือถือขึ้นมากดนั่นนี่พร้อมๆไปกับจับเจ้าแสบไม่ให้คลานหนีไปไหน ในที่สุดครูฝึกลูกกบก็จัดการปล่อยนักกีฬาออกจากสนามแข่ง นักรบที่ไม่รู้ไปอารมณ์ดีมาจากไหนก็ยอมเล่นตาม



“ตาหนู มาหาพ่อเร็วๆ อย่างนั้นละครับ เก่งมาก คนเก่ง”  เขาปรบมือเรียก ยิ้มไปพลางมองเจ้าลูกกบเคโระกึ่งคลานกึ่งกระโดดมาหาท่าทางตื่นเต้น ระยะทางไม่ยาวนัก ใช้เวลาไม่นานก็อยู่ในระดับที่แค่เอื้อมถึง และในที่สุดเจ้ากบน้อยก็ลอยมาอยู่กับอกพ่อ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ คึกจนน่ากลัวว่าคืนนี้จะไม่ยอมนอน แต่เขากำลังมีความสุขมากจึงละเว้นกฏเกณฑ์ทุกอย่าง จมอยู่ในห้วงของความสุข จนลืมมองไปว่ามีบุคคลที่สามนั่งอยู่ด้วย


และไม่ใช่แค่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ยังบันทึกทุกอย่างไว้ในมือ


“ทำดีมากเจ้าลูกกบ!”  พี่เลี้ยงเจ้าลูกกบเอ่ยชม ความไร้เดียงสาที่นำมาซึ่งคำชมยิ่งทำให้เจ้าหนูตื่นเต้นไปใหญ่ แต่คนพ่อกลับมาหน้านิ่งแล้ว เมื่อเจนรักษ์ได้เห็นดังนั้นจึงค่อยๆสลดลง


งุ้ย…..ก็อยากให้คนอื่นได้เห็นว่าเหนือพัฒนาการน้องวิน
เราได้เห็นคุณรบในแง่มุมที่ดีกว่า…..


“ขอโทษครับ แต่คุณหญิงอยากเห็น”


“เลยจะส่งให้คุณหญิงดูสินะ”


“ผมเปล่าคิดอะไรไม่ดีนะครับ คือ…ไม่ได้จะประจบด้วย แต่….”


“ส่งมาให้ผม”


“ครับ?”


“ผมจะส่งให้คุณแม่ดูเอง คุณไม่ต้องส่งก็ได้ แล้วเลิกนะนิสัยแอบถ่าย”  แล้วที่ติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องนี้น่ะ มันฝีมือใครวะ?


“ก็ได้ครับ”


“มีไลน์ไอดีของผมแล้วเหรอ”


“……………”


“เมมเบอร์โทรส่วนตัวผมไว้ในเครื่องแล้วใช่ไหม” 


“ครับ”


“มันควรจะเด้งขึ้นมานะ”


“เห็นแล้วครับ”


“งั้นก็ส่งคลิปนั้นมา”


“ก็ได้ครับ”


“แล้วต่อไปถ่ายอะไรก็ส่งมาให้ดูด้วย”


“…………”  รู้หรอกเหรอว่างานอดิเรกของเจนคือการถ่ายน้องวิน


“ดูจากกล้องวงจรปิดมันมองไม่ชัด”


อา….เพราะอย่างนี้สินะ


“รบกวนคุณด้วยล่ะกัน”  คนเป็นพ่อ…ก็อยากเห็นคนเป็นลูกในระยะที่ใกล้ขึ้น และเจนก็เป็นคนที่ใกล้ชิดน้องวินที่สุด จริงๆแล้วมันก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ ดูแล้วก็เป็นหน้าที่ แต่…..


คุณรบไม่เคยขอให้ใครทำอย่างนี้ให้….มาก่อนนี่นา….


xxx


“มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นเหรอครับคุณรบ”  เลขาที่ดีควรถามสารทุกข์สุขดิบของเจ้านายใช่ไหม


คุณเพชรถึงได้ถามเก่งแบบนี้….


“ก็ไม่มีอะไรนี่”  แปลก….


กาแฟรสชาติน้ำล้างเท้าที่เพชรชงยังดูหวาน…ท่านประธานถึงกับดื่มไปครึ่งแก้วแล้วทีเดียว


“มีอะไรในมือถือเหรอครับ”


“แค่กๆ คุณชงอะไรของคุณเนี่ย!”  ห่วยแตกก็รู้ตัวครับ แต่ดื่มไปครึ่งแก้วแล้วไม่ใช่เหรอ


“เห็นเอาแต่จ้องมือถือนะครับ” 


“มันเรื่องส่วนตัวของผม”  แน่ะ คนเรา! มีปิดบังด้วยนะ ทำตัวเป็นดาราตอบคำถามนักข่าวนะ


“คุณเจนส่งอะไรมาให้ดูเหรอครับ”  จัดซะดอก จริงๆพื้นฐานมาจากความมโน แต่เพราะเราคือชิปเปอร์อันดับ 2  ที่จะต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจนแม้ว่ากัปตันจะตามมาล่มเรือทีหลังก็ตาม


“รู้ได้ไง”  อ้าวเฮ้ย! ถูกเหรอ!


“คุณเจนส่งอะไรมาให้ดูเหรอครับ”  ในเมื่อเปิดช่องให้ถามก็ถามครับ เชิญขิงใส่ได้ตามสบาย


“คลิปที่ผมเล่นกับลูกชายน่ะ ไม่มีอะไรหรอก นี่ก็ส่งไปให้แม่ดูเหมือนกัน”  สรุปไม่ใช่ความลับสุดยอดหรอกเหรอ แถมชิปเปอร์อันดับ 1 ก็รู้แล้วด้วย โดนเตะตัดขนาดนี้ จะไปขิงใครได้ต่อฟะ!


“อ๋อครับ ว่าแต่คุณรบดูสนิทกับคุณเจนนะครับ”


“ก็ธรรมดานะ เจนก็โอเค เลี้ยงลูกผมได้ดี”


“เหรอครับ เนี่ยพวกพนักงานก็พูดกัน”  แต่ไหนๆก็ไหนๆ อดขิงคนโน้นคนนี้ก็ไม่เป็นไร  กูขิงอีตัวเตะตัดนี่ก็ได้ครับ!


“อะไรของคุณ”  คุณรบขมวดคิ้ว แน่ะๆ สนใจอะดิ


“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณรบอย่าไปใส่ใจเลย”


“แล้วคุณจะพูดทำไมถ้าไม่ให้ผมใส่ใจ”  อย่ารีบดิโว้ย ขอผมค่อยๆขิงได้ไหม


“ฝากดูคุณเจนหน่อยละกันนะครับ ตอนนี้เขาลือไปกันใหญ่แล้ว กลัวจะไปถึงหูคุณรัชนีนุช”


“ลือ….ลืออะไร”


“ก็เรื่องคุณเจนกับคุณรบกำลังคบกันนะครับ”


“อะไรนะ”


“ครับ….ผมเองก็ไม่ได้เชื่อหรอกครับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป”


“พวกเขาไปเอาข่าวมาจากไหน”  ทำไมเจ้าตัวถึงไม่รู้ใช่ไหม


ได้เวลาเอาขิงฟาดหน้าเจ้านายแล้วครับ…


“ก็มีคนถ่ายภาพคุณรบไปดูหนังกับคุณเจนมาไงครับ”


“……….”


“ที่คนปักใจเพราะเห็นคุณเจนใส่สูทของคุณรบด้วย ตอนนี้ก็เลยลือกันใหญ่เลย”


“ไปชงกาแฟมาใหม่”


“ครับ?”  เดี๋ยวสิ กูยังพูดไม่จบ!


“ชงกาแฟนะ ไม่ต้องไปชงอย่างอื่น”  โห้ยยยยยยยยย!


เตะตัดเก่งกว่านักเตะมืออาชีพก็คุณรบนี่แหละครับ!


xxx


ลือกันไป…ขนาดนั้นเชียวเหรอ…


นักรบยอมรับว่าเขาประมาทและไม่คิดว่าจะมีคนเห็น ในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้คิดเช่นกัน แถมเห็นอีกคนหนาวจนสั่นขนาดนั้นในขณะที่เขาร้อนอยากถอดสูทอยู่แล้วและยังขี้เกียจถือเลยส่งให้ใส่เพราะไม่คิดอะไร แต่คนที่เห็นดันเอาไปคิดเป็นตุเป็นตะ ให้ตายสิ!


สถานะของนักรบคือพ่อหม้าย การจะมีคนมาดามใจมันเป็นเรื่องไม่แปลก แต่ตัวเขาไม่พร้อมจะมีใคร แถมอีกฝ่ายเป็นเจนรักษ์ที่มีสถานะเป็นพี่เลี้ยงของลูก และเป็นลูกของพี่เลี้ยงที่สนิทสนม เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย ที่ต้องรับมือกับสายตาของคนที่มองมา และสายตาของแม่ไพผู้เป็นแม่ๆแท้ของเจนรักษ์…..


แต่นิสัยออกไปแก้ข่าวก็ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติที่เขาไม่ได้สนใจอะไรมากมายก็คงจะปล่อยเบลอ หากแต่นี่มีความรู้สึกของแม่ไพมาเกี่ยวข้องด้วย อะไรที่เคยคิดจะไม่ยุ่งและสนใจ ก็กลับเป็นว่าต้องมานั่งแคร์ความรู้สึกของอีกคน ป่านนี้เจนรักษ์จะรู้หรือยังหนอ และกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เหมือนกันไหม


ทำไมถึงได้คิดถึงขึ้นมาได้นะ… เจ้าของชื่อนี้…..



“ครับ แม่”  ในระหว่างที่คิด เสียงโทรศัพท์จากมารดาก็ดังขึ้น นักรบรับสายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย


“ตารบ คลิปที่ส่งมาน่ารักมากเลย เจนถ่ายให้เหรอลูก”


“ครับ เมื่อวานผมเข้าไปเล่นกับตาหนูมา เจนเขาก็เลยถ่ายให้”


“ดีแล้วๆ ไปเล่นกับลูกนะ ลูกจะได้ติดเราบ้าง”


“ตอนนี้ไม่ได้เอะอะอะไรก็พี่เลี้ยงหรอกหรือครับ”


“น้อยใจน้องเจนเขาทำไม นั่นก็ลูกเราไหม หัดไปกอดหอมซะบ้าง” 


“ครับ รู้แล้ว ว่าแต่แม่ไม่ได้ยุ่งอะไรกับฝั่งคุณรัชนีนุชแล้วใช่ไหมครับ”  อย่างไรก็ตามเรื่องที่คุณเพชรทิ้งท้ายให้ระวังก็กลับเข้ามา


“ใช่ แม่ไม่ยุ่งแล้ว”


“เผอิญวันก่อนมีข่าวลือแปลกๆของผมกับเจน ช่วยดูเจนให้หน่อยละกันนะครับเขาน่าจะยังไม่รู้อะไร”


“ตายแล้ว…นักรบรู้แล้วเหรอจ้ะ”


“คุณแม่รู้อยู่แล้วเหรอครับ”  ใครเป็นคนบอกนะ


“อืม แต่ไม่ต้องห่วงนะลูก แม่จะดูแลน้องให้” อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกตะหงิดๆในน้ำเสียง วิธีเรียก และจุดมุ่งหมายของมารดาเสียหน่อยแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป


บทสนทนาระหว่างแม่ลูกสิ้นสุดลงโดยที่ไม่มีความกระจ่างใจแม้แต่น้อย นักรบยอมรับว่าเป็นห่วงเจนรักษ์ในฐานะผู้ไม่เกี่ยวข้องอยู่เสียหน่อย แต่เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อค้นพบว่าได้พี่เลี้ยงที่ดีกับลูกมาไว้ในมือขนาดนี้ เขาเองก็ไม่อยากจะเสียไปง่ายๆแม้เจ้าตัวจะบอกว่าสักวันนึงต้องไป นักรบเริ่มคิดหาวิธีที่จะรั้งเหนี่ยวอีกฝ่ายไว้ แต่มันอาจจะยากที่เขาจะคิดถึงมันคนเดียว คงต้องให้ใครสักคนมาช่วย เพราะถ้าเจนรักษ์คิดจะไป ก็ไปได้ง่ายๆ  เนื้อหาในสัญญาก็ไม่ได้ระบุเรื่องห้ามลาออกอะไรไว้ และแถม…คนในบ้านรัตนสกุลไม่มีใครที่ผูกพันธะหรือเก่งพอที่จะพูดแล้วอีกฝ่ายจะไม่ไป


พันธะ….อย่างนั้นหรือ


ไลน์!  ทั้งๆที่วางสายไปแล้ว แต่แม่ก็ยังส่งรูปมาให้ทางไลน์ ปกตินักรบไม่ค่อยเปิดหรอก เพราะมันมักจะเป็นภาพสวัสดีวันนั้นวันนี้เสียมากกว่า แต่เพราะกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่จึงเปิดดูไปโดยที่ไม่รู้ตัว และยิ่งกว่านั้น…..เขาก็ไม่รู้เลยว่าจะยิ้มออกมาเมื่อได้เห็น….สิ่งที่ถูกถ่ายมาสดๆร้อนๆ และเพิ่งถูกส่งมา….เมื่อสักครู่นี้


ภาพเจนรักษ์ในชุดนกฮูกกำลังอุ้มเจ้ากบเคโระและยิ้มกว้างให้กล้อง…..








Tbc

Talk: วันนี้ตัดอารมณ์สายฮาด้วยโมเมนท์นุ่มนิ่มของรบเจน วันนี้เจ้ากบน้อยออกแล้วนะคะ ดีใจกับทุกคนที่รอคอยด้วยน้า
หลังจากนี่ผ่านมาจะยีสิบตอนแล้ว เราจะค่อยๆเห็นโมเมนท์รบเจนแต่เรายังไม่แน่ใจเลยค่ะว่าจะกี่ตอนจบ555 แต่ยังไงก็ฝากมนุษย์นกๆซึนๆคู่นี้ด้วยนะคะ มีอะไรคอมเมนท์บอกหรือติดแท้ก #เจนไม่นก  ในทวิต หรือมาทวงถามกันได้นะคะ แหล่งกบดานของเราอยู่ที่ @reallyuri ค่ะ


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ
เอาใจช่วยนิยายนกๆรายวันเรื่องนี้ด้วยนะคะ

Ps. จริงๆว่าจะลงแบบวันเว้นวัน แต่ก็นั่นแหละค่ะ เอาอะไรกับตัวเองไม่ค่อยได้เหมือนกัน5555
















หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-07-2018 20:34:33
หวายๆนักรบเห็นแล้วยิ้มหน้าบานแน่เลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-07-2018 20:52:54
เรือรบเจนดูท่าจะรอดนะคะ ช่วยกันพายช่วยกันแจว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-07-2018 20:58:24
คนอ่านควรจะดีใจใช่ไหม รบคิดจะรั้งเจนไว้บ้างแล้ว  :katai5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Raam ที่ 11-07-2018 21:15:34
ฮือออออน่ารักกกกก เรือของเราจะต้องแล่นต่อไป เราจะไม่หยุดพาย :-[ :impress2: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-07-2018 21:18:09
 :L2: :L1: :pig4: :-[

โมเม้นหวานๆ

อยากจะให้มาลงวันละสองรอบ น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 11-07-2018 21:26:55
คุณเพชรนี่ชงเก่งทุกอย่างยกเว้นกาแฟสินะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 11-07-2018 21:32:02
เจ้ากบน้อยใส่ชุดเคโระๆต้องน่ารักแน่เลยยยยยยยย เจนก็น่าร้ากแม่บ้านสุดๆ
ทุกคนอยู่เรือรบเจนหมดแล้ว รอให้รบเจนรู้ใจกันซะที
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 11-07-2018 21:36:37
มาค่ะ เรามาแจว!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-07-2018 21:44:00
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-07-2018 21:44:46
คุณรบเริ่มคิดถึงเรื่องการผูกพันธะเพื่อรั้งเจนไว้แล้ว แถวยังเริ่มคิดถึงเจนบ่อยๆอีกด้วย งานนี้เรือเราใกล้จะบินแล้ว ขอให้คุณรบหลงรักเจนไวๆ
ส่วนน้องพายไม่ต้องเสียเวลาคิดมากนะลูก ถ้าใจอยากจะชิปก็รีบลงเรือมาร่วมกันชิปเลย 555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 11-07-2018 22:02:56
แกร๊ร๊ร๊ร๊ เราชอบมากเลยยยยยย

ฮืออออ เจนก้น้องงง น้องวินก้น้องงง คุณเพชรก้ฮาไปอี๊ก มีแค่พ่อพระเอกบทน้อยอย่างคุณรบเนี่ยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยยยย

 :hao6:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-07-2018 22:32:15
คิดถูกแล้วที่คุณรบจะรั้งเจนไว้  :katai2-1:
ไม่งั้นขาดจะขาดแม่กบ  :z3:
ขาดคนมีคุณภาพคับบ้าน คับบริษัทเลยนะ   :serius2:

นักรบ  เจนรักษ์    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-07-2018 22:52:44
คุณรบก็เอาใจผูกพี่เจนไว้ซิ จะได้ไม่ไปไหนอีก o18
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-07-2018 00:04:40
อ่านไปขำไป อยากช่วยไปพายเรือ 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 12-07-2018 00:32:40
ตระกูลนี้พายเรือกันเก่ง!  55555555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 12-07-2018 01:04:26
ว้ายยยยเรือเริ่มแล่นแล้วววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: skyberry ที่ 12-07-2018 01:52:57
เอ้ออออออ ความคิดจะจับเจนมาสักทีนะคุณรบ อิอิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 12-07-2018 09:46:06
เรือก็แล่นต่อไป :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 12-07-2018 09:47:06
โอ๊ยยยยย น่ารักกกกกกก แม่นกฮูกกะลูกกบ งืออออ :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 19] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.7.2018 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-07-2018 10:04:46
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 12-07-2018 19:13:03
#เจนไม่นก
แผนการแรกของชิปเปอร์รบเจน






Twinkle, twinkle, little star


“……….”   


How I wonder what you are


ที่นักรบขมวดคิ้วไม่ใช่ว่ากำลังหงุดหงิดอะไร แต่เผอิญว่าเขากำลังได้ยินเสียงเพลงหลุดออกจากปากของอีกคนขณะที่กำลังกล่อมตาหนู แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แต่ก็รู้ได้ว่าเพลงอะไร เจนรักษ์กำลังร้องเพลงนั้นเบาๆ แต่แม้จะเบาแค่ไหน ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเงียบงันก็ยังถือว่าดังอยู่ดี

Up above the world so high
Like a diamond in the sky
Twinkle, twinkle little star
How I wonder what you are

เจนรักษ์ที่เสร็จภารกิจสะกดจิตกบนั้นหัวเราะออกมาเบาๆอย่างพอใจ เปลือกตาสีอ่อนของน้องวินนั้นคลุมปิดดวงตาใสแจ๋ว จังหวะการหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอ  ความเงียบสงบที่แผ่กำจาย ความอ่อนเดียงสาของเทวดาตัวน้อยที่กำลังหลับใหล ทำให้คนกล่อมนอนรู้สึกสบายใจกับภาพข้างหน้า เนิ่นนานจนไม่รู้เลยว่ามีคนยืนอยู่ไม่ไกล คนมาใหม่ที่เห็นเจ้าตัวกำลังนอนหนุนแขนตัวเองตะแคงข้างและตบพุงเจ้าลูกกบกล่อมให้นอน



Twinkle, twinkle, little star อย่างนั้นหรือที่เอาไว้กล่อมเจ้าลูกกบนอน นักรบเองก็เหมือนจะชอบเพลงนี้เหมือนกัน เพลงสำหรับเด็กที่เขาไม่เคยกล้าร้องอย่างออกเสียง แต่ค้นพบความสงบอย่างประหลาดเมื่อได้ฟัง ทว่าก็ไม่ค่อยมีโอกาสหรอกว่าจะได้ฟัง คงเป็นเพราะเขายังไม่ค่อยมีโอกาสได้อยู่ใกล้ๆ


“คุณรบกลับมาแล้วเหรอครับ”  เจนที่สังเกตเห็นกันสักทีนั้นเด้งตัวขึ้นนั่ง ก็เล่นนอนอยู่กลางห้องรับแขกแบบนี้ แขกไปใครมาก็จะมองว่าไม่งาม แต่นี่ดีแล้วเหรอที่ให้เจ้าของบ้านเขามาเห็นสภาพขี้เกียจตัวเป็นขน กล่อมน้องวินและตัวเองหลับตามไปอย่างนั้น


“อืม คนอื่นๆล่ะ” 


“แถวสระว่ายน้ำครับ”  ตอนบ่ายๆแบบนี้ไม่ร้อนกันหรือไงนะ อาจจะเพราะเขาเพิ่งกลับมาก็เลยรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบกายมันสูงกว่าปกติ ได้พักสักหน่อยคงสบายตัวขึ้น


วันนี้เป็นวันเสาร์ และใช่…เขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก นักรบมีนัดตีกอลฟ์ในตอนเช้า ทานอาหารกลางวันกับบรรดานักธุรกิจที่นัดเจอกันวันนี้ก็กลับมาบ้าน และมันก็ได้เวลานอนกลางวันพอดี เขาถึงได้เห็นความสามารถพิเศษของพี่เลี้ยงเด็กที่ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่องเป็นคนโปรดของทุกคนในบ้าน


นั่นคือการร้องเพลงกล่อมเด็กเป็นภาษาอังกฤษ


นักรบไม่ได้คุยอะไรต่อกับอีกฝ่าย เขาเดินไปหามารดาที่กำลังนั่งเล่นอ่านหนังสือแปลอยู่ที่สระว่ายน้ำซึ่งร่มรื่นกว่าที่เขาคิดในยามบ่ายเช่นนี้ ทันทีที่เห็นร่างสูง คุณพรรณีก็ยิ้มและวางหนังสือที่เธอกำลังติดใจลง ต่อให้ติดใจอย่างไร ก็ไม่มีใครเป็นที่รักได้เกินชายหนุ่มซึ่งครั้งหนึ่งเคยน่าเอ็นดูเท่าน้องวินในตอนนี้ นักรบนั้นนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม ตั้งใจจะไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ


“แม่คิดว่าเราจะกลับเย็นกว่านี้”


“ผมก็คิดเหมือนกันครับ”  แต่มันก็ได้แค่คิด เพราะในความเป็นจริงคือพอจ่ายเงินค่าอาหาร เขาก็ไม่รู้จะไปไหน ทั้งๆที่มีสถานที่มากมายที่ไปได้ อย่างเช่นที่ทำงานที่เขามักจะคลุกตัวอยู่แม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม แต่นักรบก็เลือกกลับบ้าน มันเหมือนมีเสียงพร่ำหาลอยลมมา…ทั้งๆที่ไม่ได้มีอยู่จริง


Twinkle, twinkle, little star….


เหมือนจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเหมือนกันที่นักรบไม่ได้ฮัมเพลงออกมาแบบนี้ เขากลายเป็นคนมีอารมณ์ขันหรือความสุนทรีย์น้อยกว่ามาตรฐานตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็คงตั้งแต่วันที่รัตนสกุลพยายามขยายอาณาจักรและขาดคนที่จะสานต่อจนต้องปั้นเด็กหนุ่มอายุน้อยคนหนึ่งให้พร้อมสำหรับการมายืนบนแท่นปกครองสูงสุดกระมัง คุณพรรณีที่อ่านหนังสืออยู่อดจะเหลือบมองลูกชายที่กำลังอ่านเอกสารบางอย่างในมือไปพร้อมๆกับฮัมเพลงโดยไม่รู้ตัว เพลงนี้ใครๆก็รู้จักดี แต่ดูเหมือนจะได้ยินบ่อยครั้งในช่วงหลังๆมานี่


Twinkle, twinkle, little star….


“ตาหนูชอบเพลงนี้มากเลย”  คุณพรรณีเอ่ยขึ้นลอยๆ


“เหรอครับ ไม่ได้ยินนานแล้วนะ” 


“ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เนอะ”


“คงตอนผมยังเด็กๆละมั้ง”


“ก็นะ ลูกก็ไม่ได้เล่นเปียโนมาสักพักแล้วนี้”


“……….”


“ช่วงหลังๆมานี้ลูกยุ่งจนน่าใจหาย แต่ก็ขอบคุณมากที่ทำเพื่อเรา”  แม้จะยิ้มและพูดคำว่าไม่เป็นไรออกมา แต่ในชั่วขณะหนึ่งนั้น


นักรบเพิ่งนึกได้ว่า….เขาเคยเล่นเปียโนมาก่อนเหมือนกัน

xxx


Twinkle, twinkle, little star….


ดวงตาของเจนรักษ์ค่อยๆเปิดแม้ภาพจะมัวไปสักหน่อยแต่สิ่งที่แล่นเข้ามาในหูนั้นชัดเจน เสียงเปียในในท้วงทำนองที่คุ้นเคยดังเข้ามา ทำให้คนที่เหมือนจะหลับไม่ลึกเท่าไหร่ถูกดึงเข้าสู่โลกแห่งความจริงที่เหมือนจะซ้อนทับกับความฝัน ไม่รู้ว่าเสียงดังมาจากไหน แต่เสียงกังวานนั้นมันเหมือนจะดังมาไม่ไกล ตอนนั้นความรู้สึกคุ้นเคยก็บอกกัน ว่าอาจจะเป็นไปได้ที่เปียโนที่ไม่เคยมีใครใช้กำลังถูกเล่น


ลมที่พัดมาเอื่อยๆ เสียงเปียโน และเจ้าตัวเล็กที่น่ารักเหมือนเทวดาตัวน้อย ทุกองค์ประกอบในตอนนี้ เหมือนกำลังสร้างโลกแห่งความฝันให้กันแม้นี่จะคือความเป็นจริง แก้มนุ่มสีระเรื่อของน้องวินเหมือนจะยั่วยวนให้เขี่ยเล่นเบาๆ ในตอนนี้เจนเหมือนได้ลอยอยู่บนปุยเมฆ ริมฝีปากอิ่มนั้นเผยยิ้มออกมา งานที่เจนทำตอนนี้ช่างดีเหลือเกิน เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ถึงไม่ยอมหางานอื่นทำ


เสียงเปียโนที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบและยังมีติดขัดอยู่บ้างทำให้คนฟังยิ่งสงสัยว่าใครกัน ตั้งแต่เจนมาอยู่ที่นี่และได้เห็นเปียโนหลังนั้น ก็มีความเชื่อมาตลอดว่ามันคงพังและวางไว้สวยๆประดับบ้าน หากแต่ไม่ใช่เลย เจ้าของแค่ไม่ได้สนใจหรือมีอารมณ์อยากจะปล่อยกายใจไปกับเสียงดนตรี คนตัวเล็กค่อยๆเดินตามเสียงเพลงไป แต่คนแบบนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ หากไม่ใช่คนที่ยุ่งมากจนไม่มีเวลาหาความสุขให้ตนเองเยี่ยงเขา


คุณนักรบนั่นเอง….


“…………”


“………….”


ความเงียบเข้าครอบงำ แม้แต่เสียงดนตรีก็หยุดไปพร้อมๆกับการมาของคนที่คงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเปียโนหลังนี้ เจนรักษ์เองก็ตกใจไม่น้อยที่เป็นต้นเหตุให้ความสุนทรีย์ของเขาต้องหยุดลง ยิ้มออกมาอย่างเก้อๆให้กันหนึ่งครั้ง แต่นักรบไม่ได้ชักสีหน้าแบบที่ชอบทำ หลายๆเรื่องที่เคยชอบทำ…กลายเป็นไม่คิดว่าจำเป็นต้องทำ….ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ


“ผม…กลับไปดูน้องวินนะครับ”


“เล่นเปียโนเป็นไหม” 


“แฮ่…ผมจะเอาอะไรมาเป็นละครับ”


“ก็เห็นทำได้ตั้งหลายอย่าง” ทำขนม นวดให้เด็ก หลายๆอย่างที่อีกฝ่ายทำ มันทำให้เขาทึ้งจนนึกอยากลองหย่อนเบ็ดลงไปเผื่อว่าจะมีอะไรให้ทึ้งได้มากกว่านี้อีก


“หลายอย่างที่ว่ามันมีสอนในยูทูปครับ”


“เปียโนก็มี”


“ยกเว้นเปียโนไว้ละกันครับ”  เพราะที่บ้านไม่มีเปียโน จะให้ฝึกกับอะไรดีล่ะ


“น้องวินชอบ Twinkle, twinkle, little star เหรอ”


“ครับ”


“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”


“อย่าบอกนะครับว่าที่คุณรบมาเล่นเปียโนนี่”


“…….”


“เพราะน้องวินชอบ” 


“…….”


“…….”


“อืม”  เป็นคำตอบสั้นๆ


แต่ทรงพลังในด้านความรู้สึก


ในฐานะผู้สนับสนุนอันดับ 1 คำตอบของเขามันทำให้ตนได้ยิ้มกว้างออกมา ผู้ชายซึนๆคนนึงยอมที่จะพูดความจริงออกมาบ้างแล้ว รอยยิ้มของเจนรักษ์ที่ยิ้มจนตาปิดนั้นก่อความอึดอัดให้เขาขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ระวังตัวและไม่เข้าใจตนเอง นักรบนั้นเบือนหน้าหนีกลับมาที่เปียโนของเขา  กระแอมไอแก้เขินทั้งๆที่รู้ว่ามันยิ่งผิดปกติ


“น้องชอบเพลงนี้ด้วยครับ อะไรอ่ะ ผมนึกเนื้อร้องไม่ออก มี เรโด เร มีมีมี เรเรเร”


“อะไรนะ”


“อ่า…ก็ผมนึกเนื้อร้องไม่ออก”  แต่ท่องมาเป็นโน้ตได้


“ไหนบอกไม่เล่นเปียโน”


“โรงเรียนที่บ้านนอกเขาสอนเมโรเดียนครับ”


“ท่องใหม่สิ”  นักรบเปลี่ยนประเด็นแล้วกลับมาสนใจเพลงที่จำเนื้อร้องไม่ได้แต่จำโน้ตเพลงได้ ลองกดดูแล้วก็พบว่าเขาคุ้นอยู่เหมือนกัน แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จนแล้วจนรอดก็ยอมแพ้ และเดินตามคุณพี่เลี้ยงออกมาหาข้อมูลในแท็ปเล็ตด้วยกัน จึงได้พบว่าไอ้ ‘มี เรโด เร มีมีมี เรเรเร’ ที่ว่านั้นคือ


หนูมาลี….


“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว”  และพอหาเพลงเจอก็ไม่รู้ทำอีท่าไหนถึงได้กลับมาที่ห้องที่จัดเก็บเปียโนหลังเก่าของเขาอีกครั้ง นักรบกดโน้ตไป ส่วนอีกฝ่ายก็ร้องเทียบเสียง เจนรักษ์ไม่ได้ร้องเพลงเพราะ ยิ่งร้องยิ่งตลกด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเราถึงมาจบลงแบบนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน


“คุณรบคะ”  เสียงของคุณอำไพดังขึ้น ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอ่านโน้ตที่คุณรบน่าจะเคยเล่นได้แต่ต้องรื้อฟื้น เจ้าของดวงตาแป๋วของเทวดาตัวน้อยนั้นจ้องมองมาที่เราสองคน เพราะตื่นแล้ว แต่โชคดีที่อำไพเฝ้าให้อยู่จึงไม่งอแง ท่าทางนิ่งเงียบแบบเด็กเพิ่งตื่นนอนช่างน่าเอ็นดู แต่พอได้เห็นหน้าพี่เจนคนโปรดก็ดิ้นและตื่นเต้นจนทาสคนโปรดต้องรีบว้าปไปเอามาอุ้มไว้กับอกตัวเอง


“น่ารักมาก ตื่นแล้วไม่งอแงด้วย”  เจนรักษ์อยากจะฟัดให้เต็มปอด แต่ก็เกรงใจคนพ่อที่มองมา ทว่าเมื่อเหลือบมองไปทางนั้น ก็ได้เห็นเขายิ้มให้ อืม…แน่นอนว่ายิ้มให้น้องวิน เพราะหลังจากนั้นเขาก็เล่นเพลงที่เจ้าตัวชื่นชอบจนเรียกคืนความสนใจทั้งหมดไปไว้ที่ตัวเอง


เจ้ากบน้อยใจง่ายเสียจนพี่เจนอยากจะน้อยใจ


แต่คุณรบก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าเจนที่ได้มีโอกาสอยู่ด้วยมากกว่าหรอก พอถึงวันธรรมดาที่คนพ่อต้องไปทำงาน คนลูกก็อยู่กับเจนทั้งวัน ติดทั้งพี่เลี้ยงและก็ติดทั้งน้ำผลไม้ของพี่เลี้ยง เจนมาอยู่เดือนกว่าแล้ว จากตอนแรกที่คิดว่าคงเข้ากันกับที่นี่ไม่ได้ ก็กลับกลายเป็นว่าเข้ากันได้เร็วกว่าที่คิด จากที่คิดจะอยู่ไม่นาน ระยะเวลาก็เหมือนจะนานขึ้นเรื่อยๆ จริงๆเจนควรจะคิดถึงอนาคตตัวเองมากกว่านี้ แต่มันแค่เดือนกว่าเองไม่ใช่เหรอ อีกส่วนนึงก็คิดว่ามันยังเร็วที่จะจากลา อย่างน้อย ก็อยากได้ยินเจ้าลูกกบเรียกกันว่า ‘พี่เจน’ อย่างชัดถ้อยชัดคำเสียก่อน


“แอะ แฮะๆ”  แต่เดี๋ยวนี้เริ่มพูดเก่งแล้ว  อีกไม่นานก็อาจจะออกเสียงคำว่าพี่เจนได้แล้ว


“อร่อยไหมเจ้าลูกกบ”  ดูดน้ำจนหมดแก้ว เจนถือว่าประสบความสำเร็จให้น้องหัดดูดน้ำจากหลอด


คุณพรรณีที่เพิ่งได้เข้ามาก็เห็นว่าเจนกำลังเล่นกับหลานของเธอพอดี ระยะเวลาที่อาจจะไม่นานมากนี้มันช่วยทำให้เธอยิ่งมั่นใจในตัวอีกฝ่ายว่าจะทำหน้าที่ต่างๆได้ดียิ่งขึ้น งานเจนน่ะสบาย แต่บางคนถ้าสบายจนเคยตัวก็จะละเลยการทำงานที่ดี ทว่าเจนไม่เป็นเช่นนั้นเลย แม้จะลดความเกร็งลงแล้ว แต่ก็ยังปฏิบัติงานได้ดีอยู่ คุณพรรณีชอบที่เจนใส่ใจพัฒนาการของตาหนูมากๆ และไม่ละเลยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวลูกกับพ่อ หากไม่มีเจนรักษ์ในวันนั้น ก็คงไม่ต้องเดาหรอกว่าตารบจะได้อุ้มลูกเองหรือยัง


“เจน วันนี้ว่างไหมลูก”  เป็นคำเรียกขานที่ตอนแรกเจนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็เริ่มจะชิน เจนหันไปยิ้มให้ผู้มาใหม่ซึ่งมีเมตตาต่อกันเสมอ


“งานของเจนก็มีแต่เจ้าก้อนนี้แหละครับ คุณหญิงมีอะไรอยากให้รับใช้ไหมครับ”  คุณพรรณีเองก็อยากให้เจนเปลี่ยนสรรพนาม แต่ก็รู้ว่ามันยังไม่เหมาะ เธอไม่ได้เร่งรัด แต่เจนก็เหมือนจะไม่รู้อะไรเอาเสียเลย


ซึนกว่ารบวินก็เจนรักษ์นี่แหละ…..


“คือนี่น่ะ…พระพายสอบติดมหาลัยแล้วใช่ไหม”


“อ๋อ ครับ….” จะว่าไปวันนั้นพระพายก็ตะโกนลั่นรอบบ้านอย่างเสียจริตตกอกตกใจกันไปเป็นแถบๆ


“ก็เลยอยากจะพาเจนไปเลือกของขวัญด้วยกันน่ะ วัยใกล้ๆกันน่าจะรู้ใจ”  งุ้ยยยยย พอบอกว่าเจนวัยพอๆกับพระพายนี่หน้าตั้งหลังตรงเลยครับ ใช่ครับ….ในบ้านหลังนี้นอกจากน้องวินแล้วก็มีพี่เจนนี่แหละครับที่วัยใกล้เคียงกับพระพาย นั่นหมายความว่าเจนยังขบเผาะอยู่ ใช้ได้ครับคุณหญิง ไอ้เจนพร้อมจะไปลุยไฟไปไหนไปกันแล้วครับ


แล้วไม่รู้ว่าเจนหลอกง่ายไปหรืออย่างไร เรา 3 คน 3 เจเนเรชั่น เล็ก กลาง ใหญ่ ก็พากันออกจากบ้าน ครั้งนี้คุณหญิงท่านมีความประสงค์อยากพาตาหนูคนเล็กไปเปิดหูเปิดตาบ้าง จะว่าไปท่านก็ไม่ค่อยได้ออกมาไหนกับน้องวินเท่าไหร่ เพราะน้องยังเล็ก เป็นห่วงกันนั่นแหละครับ เจ้ากบตื่นเต้นเลยอยู่ไม่สุข ขนาดถูกจับให้นั่งติดคาร์ซีทแล้วนะนี่!


“ดูตาวินสิ ตายแล้ว ชอบล่ะสิ เราน่ะ”  คุณหญิงท่านเล่นกับหลานอยู่หลังรถโดยมีเจนรักษ์เป็นคนขับรถอยู่ด้านหน้า จริงๆท่านก็ให้เจนสามารถใช้รถของที่บ้านอย่างอิสระ ซึ่งบางทีเจนก็ใช้เพราะต้องออกไปซื้อของหรือทำธุระให้ท่านบ้าง


จากตำแหน่งที่เป็นแค่พี่เลี้ยง บางทีเจนก็ต้องทำหน้าที่ช่วยธุระต่างๆ แต่เจนก็ไม่ได้ไม่พอใจกับการสั่งงานแบบนั้นทั้งๆที่มันไม่ได้อยู่ในรายละเอียดที่ตกลงกันแต่แรก ต้องยอมรับว่าการอยู่แต่บ้านเลี้ยงเด็กมันก่อให้เกิดความเครียด ยิ่งเจนที่แทบจะใช้ชีวิตปล่อยผีทุกวันศุกร์มาก่อนไม่นานมานี้ ชีวิตที่ไม่ต่างจากการขังตัวเองไว้ในบ้านนั้นทำให้รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง การได้ออกมาทำธุระต่างๆตามที่ได้รับการไหว้วานนั้นช่วยทำให้ความหงุดหงิดนั้นหายไป เจนจึงไม่บ่นอะไรยามถูกใช้งาน


ซึ่งตอนแรกที่คุณรบรู้ พ่อคุณก็ขมวดคิ้วเหมือนเดิม แบบที่เจนไม่รู้ว่าพอใจหรือไม่ หรือพี่เขาไม่เคยพอใจกับอะไรเลยก็เป็นได้ แต่หลังจากนั้นคุณพรรณีก็ถล่มใช้ยันจ่ายค่าน้ำค่าไฟต่างๆนานา ซึ่งได้ครับ เจนจะได้ฝึกไว้ การจัดการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการจ่ายบิลบัตรเครดิตต่างๆก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่ออนาคต และ….บ้านอยู่ย่านสุขุมวิท แต่กูหาเรื่องไปจ่ายแถวอารีย์ครับ อู้เก่ง /อู้ที่ไม่ใช่ภาษาเหนือ ขอบคุณ…


“เออเจน……เราแวะเข้าไปตึกของตารบหน่อยสิ”


“ครับ?”


“ฉันอยากพาตารบไปกินข้าวด้วยกัน”


“อ่อ ได้ครับ”  เจนจึงรีบตบไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน บอกช้ากว่านี้มีแนวโน้มจะถูกคันหลังด่าพ่อด่าแม่ให้นะนี่ แต่เจนยอมครับ เราต้องส่งเสริมความสัมพันธ์ในครัวเรือน


แต่เมื่อเรามาถึงแล้ว เจนเอารถไปจอด ยังไม่ทันได้บอกว่าจะรออยู่ที่รถเพื่อที่พอคุณหญิงลากลูกชายออกจากโต๊ะทำงานได้ เจนก็จะขับวนไปรอที่หน้าบริษัทให้ แต่คุณพรรณีท่านรู้ท่าน จัดการเอารถเข็นคุณหนูออกมาเองเสร็จสรรพ กวักมือเรียกเจนให้ช่วยถือถุงหิ้วต่างๆที่เจนไม่รู้ว่าวาร์ปมาได้ไง แล้วท่านจะเข็นน้องเดินนำไป ให้พี่เลี้ยงเป็นอีบ้าหอบฟางเดินตามแบบงงๆ


เราเข้ามาในส่วนของตึกเลยไปในส่วนของออฟฟิศ และตั้งใจจะไล่เดินขึ้นไปเรื่อยๆ หยุดแผนกนั้นนี้ราวกับมาหาเสียงเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านสมัยถัดไป พนักงานจำนวน 3 คนมารับของจากมือเจนไป ประจวบกับจังหวะเจ้าลูกกบหงุดหงิดที่ถูกจับให้นอนนิ่งๆในรถเข็นทั้งๆที่ได้มาเที่ยวที่แปลกใหม่ คนเป็นพี่เลี้ยงที่เพิ่งพ้นสภาพอีบ้าหอบฟางจำต้องมาอุ้มกบเดินต่ออย่างช่วยไม่ได้ ไม่งั้นเขาจะสาปแช่งเอาครับ เพราะลูกคุณ….ไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน


ข้อนี้อาจจะไม่ได้ละเว้นแม้แต่ลูกของประธานบริษัทด้วย….


“น่ารักจังเลย”  ใช่ครับ….เหล่าพนักงานที่คงไม่มีวันได้เห็นคุณรบในเวอร์ชั่นที่น่ารักขนาดนี้ย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดา เจนก็พอจะรู้ถึงชื่อเสียงด้านการทำงานของเจ้านายมาบ้าง แต่ทุกคนคงไม่มีใครได้รู้ว่าความซึนเก่งของคุณรบนั้นน่ารักขนาดไหน


ขนาดไหนเหล่าไอ้เจนบ้า!!!!!!!


“เดี๋ยวเราไปแผนกต่อไปกันดีกว่าเนอะเจนเนอะ”  ดีครับ ใครก็ได้เอาไอ้เจนออกไปจากหลุมความคิดชั่วนี้ที ขนลุก….


เรามากันที่แผนกต่อไป การเดินหาเสียง เอ้ย!ฝากของกินให้ทุกแผนกดำเนินไปได้ด้วยดี ท่านหยุดพูดคุยกับแผนกแต่ละแผนก การปรากฏตัวอย่างกะทันหันทำให้คนที่อู้งานเก่งเหมือนเจนรีบหันมาขยันทำงาน จะว่าไปคนแบบนี้มีทุกที่เลยเนอะ ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้รับดวงตากรุ่มกริ้มมองมาหนึ่งอัตรา เจนรักษ์ที่อุ้มเจ้าลูกกบอยู่พยายามหาว่าคุณน้าท่านนี้มองใครอยู่ แต่นอกจากกูก็ไม่มีใครยืนทางนี้แล้ว เอ๊ะ…หรือตรงนี้ไม่ได้มีไอ้เจนแค่คนเดียว สงสัยไปสักพักก็เริ่มหลอนได้ยินคำว่า…


พี่เห็นหนูด้วยเหรอ….


“คิกๆ น่ารักจังเลยนะคะ ท่านรอง”  คุณน้าท่านนั้นหันไปหัวเราะกับคุณหญิงเมื่อเห็นหน้าเด๋อของเจนที่มองซ้ายขวา


“เจนอย่ามาน่ารักแถวนี้ลูก”


“อยากจองให้ลูกชายที่บ้านด้วยจังเลยค่ะ เสียดายที่ลูกวรรณายังเรียนไม่จบ”  โห้ยยยยย แต่เจนชอบนะครับแบบนั้น งานดีไหม พี่พร้อมเปย์นะ มีค่าเทอมหรือยัง….


“ไม่ได้จ้ะ เจนต้องอยู่เลี้ยงน้องวินให้ที่บ้านฉัน อย่าคิดฉกไปเชียว”


“ตายแล้ว….จองไว้เลี้ยงลูกให้ลูกชายแล้วเหรอคะเนี่ย เสียดายจริงๆ”  คุณน้าวรรณาอะไรนี่ยิ้มอะไรแปลกๆ ก็เจนถูกจ้างมาดูแลลูกเขานี่ครับ ไม่ให้เจนดูแลน้องวินแล้วจะให้ไปดูใคร….


ลูกชายคุณหญิง…..คุณรบนะเหรอ!!!!!!!


“…………”  พอครับ เจน….ตั้งใจนับ 1-1000 ไปเลย


“มะ มะ มา”  เสียงเรียกพลางตบแก้มของเจ้าลูกกบวัย 8 เดือนนั้นยิ่งทำให้การนับตัวเลขยิ่งเป็นไปไม่ได้ อยากจะเอาหัวไปจุ่มท่อ เพื่อจะเย็นขึ้น


“ว้ายยยยยยย ดูเขาเรียกกันสิคะ”  เรียกบ้าอะไรวะ น้องกบมันพูดรู้เรื่องอะไรที่ไหน พูดคนเดียวเก่งเชียวล่ะคนนี้


เก่งพอๆกับเจนที่ชอบคิดไปเองคนเดียวเลยล่ะ


“คุณแม่ครับ”  เสียงทุ้มที่เจนรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นใครดังขึ้น ร่างเล็กนั้นนิ่งราวกับเป็นหุ่น มันน่าตกใจน้อยที่ไหน ก็คู่กรณีทางความคิดมาปรากฏตัวถึงที่ อย่าถามหาความพร้อมครับ กูไม่มีทั้งนั้น


“อ้าวตารบ…กำลังจะไปหาพอดีเลยนี่”  คุณหญิงนั้นท่านเป็นผู้ทำให้บรรยากาศไม่เก้อจนเกินไป เจนในตอนนี้เป็นใบ้อย่างเต็มรูปแบบไปแล้ว ส่วนในสมองนั้นนะเหรอ


ฟดาฟกดาดสกเสวงกสเวส…..เป็นแบบนี้ไปแล้วครับ


“มะมะ มา”  ยังเป็นเจ้ากบน้อยที่คอยเรียกสติให้กันเสมอ เจ้าก้อนน้อยนั้นดิ้นคลุกคลั่กในอ้อมกอดเจน


“อะไรครับน้องวิน”  เจนถามเสียงเบา เราต้องการสนทนากันก่อนไหม ต้องการอะไร…หืม?


“มะมา มา”


“ครับ?”  ใบหน้าน่ารักนั้นดูเอาแต่ใจขึ้นมา หงุดหงิดอะไร หืม?


“ปะปา ปา!”


“………..”


“………..”


“………..”  เอาละครับ…..เงียบกันทั้งบริษัทเลย มีใครอยู่ไหม ฮัลโหลวววววววว


“ปะปา!”  มีน้องวินอยู่ฮับ….น้องคงอยากบอกอย่างนี้


“อา…ปะป๋า โอเคครับพี่เจนเข้าใจแล้ว”  เจนนั้นพยักหน้าเออออก่อนจะส่งเจ้าลูกกบให้คนพ่อที่รอรับไปงงๆเหมือนกัน แม้แต่นักรบที่พร้อมรับทุกสถานการณ์ก็ยังมึนๆ เออเรามาขอทบทวนเหตุการณ์เมื่อครู่นิดหน่อย


คือเจ้าวินเขาเรียกพ่อเขาว่า…ปะปะน่ะ….


“เฮ้ย…”  มันใช่เหรอวะ


“ปะ ปา ปา มา”   จริงๆเด็กวัยนี้จะเริ่มมีการพูดออกเสียงเป็นคำๆแบบไร้ความหมายบ้างแล้ว เราไม่รู้หรอกว่าคำที่ออกมาหมายถึงคุณรบหรือไม่  ทว่าคนพ่อนี่ชิงหน้าแดงไปแล้ว คงรู้ตัวแล้วแหละว่าเกิดอะไรขึ้น


และคงเห็นแล้วว่าการมาของเขา….ทำให้พนักงานชั้นนี้ทำหน้าฟินกันขนาดไหน….


“……..”


“………”


“ตารบดีใจละสิที่ลูกเรียก”  คุณหญิงท่านก็พยายามจะเบี่ยงเบนความคิด เจนที่กำลังคิดไม่เสร็จก็พานสะดุ้งและก็สนใจเรื่องใหม่ เออ… เมื่อกี๊คิดอะไรอยู่วะ ขากลับคงต้องขอแวะซื้อน้ำมันตับปลา


“เอ่อ…”  คุณรบเองก็คงหมุนคว้างอยู่กลางอวกาศเหมือนกันเลยตอบไม่ค่อยถูก อย่างว่า….เขาคงจะตกใจและดีใจที่ถูกเรียกว่าพ่อ….เจนนั้นยิ้มออกมา อย่างน้อยที่เหนื่อยมาตลอดก็ให้ผลตอบแทนที่เห็นได้ชัดเรื่อยๆ ต่อจากนี้อาจจะมีคุณรบที่มาพรากเอาความสนใจจากน้องวินไปจากเจน แต่นั่นไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรจริงๆ


เพราะเป็นคุณรบ…เจนเลยยินดีจริงๆ


“ยิ้มอะไร” 


“เปล่าครับ” คนซึนเขินครับ กิ้วๆ เอ่อ…ล้อไม่ได้ครับ ขาพี่เขายาวกว่า เตะทีคาดว่าสูงกว่าหัวไอ้เจนแบบนี้ ไม่น่าจะรอดถูกถีบตกตึก


“อย่าให้รู้นะ”


“รู้อะไรครับ”  วั้ยๆเขินครับคนเรา เออ…แซวเก่ง เมื่อกี๊ยังสตันท์เพราะพี่เขาอยู่เลย อย่างว่าแหละ พ่ายแพ้ในความคิด ก็ต้องเอาชนะในความเป็นจริง ว่าแต่สนิทกันเนอะ แซวซะน่าหักเงินเดือนเชียว


“เลิกเล่นกันได้แล้วทั้งคู่”  แม้คุณพรรณีจะฟินมากก็ตาม แต่มากกว่านี้คุณรบจะเสียปกครองหมด เป้าหมายของเธอที่ขุดเจนรักษ์ออกจากบ้านนี้ไม่ใช่แค่ซื้อของขวัญให้พระพายหรือพามากินข้าวกับคุณรบ ตอนแรกเธอคิดว่าคงจะแค่ได้แสดงให้คนอื่นได้รู้ว่าเด็กคนนี้ที่กำลังอุ้มว่าที่ประธานบริษัทรุ่นถัดไปคือคนสำคัญ แต่พอนักรบที่ไม่ได้อยู่ในแผนการเข้ามา ทุกอย่างมันเกินคาดกว่านั้น การมาของเจนรักษ์ไม่ได้เพื่อมาเปลี่ยนให้บ้านที่จืดชืดและขื่นขมให้มีรสหวานขึ้น


แต่การมาของเจนรักษ์ที่พรหมลิขิตไว้แล้วนั้น…
เหมือนจะเปลี่ยนโลกให้ผู้ชายตระกูลรัตนสกุลทั้งใบเลยทีเดียว…..








Talk:  เรามานั่งดูแล้วค้นพบว่าเรื่องนี้มันยาวจัง ปกติเราไม่ค่อยแต่งอะไรยาวๆขนาดนี้ ก็ดีใจค่ะ555 คือถ้าถามว่ายาวแค่ไหน เราแต่งตอนที่ 25 จบแล้ว นักรบยังไม่ได้เห็นขาอ่อนน้องนกเลย55555 แต่เราวางพลอตไปจนจบแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าเราจะเทกลางคันนะคะ แต่งมาขนาดนี้แล้วจะเทก็ไม่ใช่เรื่องแล้วล่ะ5555

มาลงอีกแล้ว ขอบคุณที่ไม่เบื่อนะคะ แต่ขอแจ้งก่อนว่าพรุ่งนี้เราคงไม่ได้ลงนะคะ ไม่ต้องรอกันน้า 
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ วันก่อนเราไปส่องแท้กมา ดีใจมากที่มีคนติดแท้กให้เสมอในทวิตเตอร์นะคะ แต่คอมเมนท์ในนี้ก็ดีใจนะ อ่านทีไรแล้วฮึด อยากลงทุกวัน55555

PS
คาดว่าไม่น่าเกิน 40 ตอน
เห็นมีคนพูดถึงเพชรพาย จริงๆแล้วจงใจให้ชิป
มีใครเห็นอีกคู่นึงที่น่าชิปที่ในเรื่องไหม ออกแบบวับแวมมาก คนนึงมาแค่เสียง อีกคนมาแค่ชื่อ

#เจนไม่นก twitter @reallyuri
















หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-07-2018 19:28:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-07-2018 20:47:42
 :L2: :L1: :pig4:

ฮ่าฮ่า มีเขิล มีแซว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-07-2018 21:02:18
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 12-07-2018 21:27:22
แงงงง ลูกกบทำดีลูกกกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 12-07-2018 21:49:25
อีกคู่นั่นพี่เคลกับตัวจุ้นแน่ๆ
แต่คุณหญิงโหดมาก พายเรือตอนแรกเอาไปเปิดตัวที่บริษัทเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 12-07-2018 21:50:29
อยากฟัดลูกกบบบบบ  :-[
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 12-07-2018 22:09:05
คู่ของตัวจุ้นเหรอ!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-07-2018 22:22:08
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-07-2018 22:38:34
ลูกกบเค้าเรียกปะป๊า มะม๊าแน่ๆเลย จริงป่าวไม่รู้แต่เราจะไปให้สุด ฟัดๆๆๆลูกกบ พี่เจนเค้ามโนคนเดียวเก่งนะ แต่ทำไมซึนไม่เข้าใจคุณหญิง :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-07-2018 23:22:12
แหม คุณแม่พาเจนเดินเปิดตัวไปทั่วเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: punnicha ที่ 13-07-2018 03:10:20
แงงงง ชอบบบ เรื่องชงไว้ใจคุณผู้หญิง :hao7: นักเขียนสู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-07-2018 05:17:16
อูยยยยยย..........  :hao5:
เจ้าลูกกบ เรียกปะป๊า  หมะม้า  ได้แล้ว   :z3: :z3: :z3:
ที่สำคัญ เรียกเจนว่า หมะม้า  นี่แหละ   :sad4:

รบ  เจน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-07-2018 08:12:11
น้องกบเรียกพี่เจนว่ามาม๊าใช่ไหม น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 13-07-2018 08:58:40
 :-[ น่าร๊ากกกก  รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 13-07-2018 13:18:11
เจ้าลูกกบน่ารักจังเลยยยยยยยย หัดเรียกปาปา มามาแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: shinachan ที่ 13-07-2018 16:08:50
ชอบเรื่องนี้มากมากเลยค่ะ ♥
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-07-2018 21:25:36
ลูกกบเอ้ยยยย น่ารักจริง ๆ เรียกได้ถูกเวลาเลย ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 20] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 12.7.2018 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 13-07-2018 21:29:30
เจนตอนที่ 21. วันนี้จะมาไหม เค้ารอเธออยู่นะจ๊ะ ให้คุ้กกี้ทำนายกันว่าจะมาไหมม
หัวข้อ: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 14-07-2018 16:24:03
#เจนไม่นก
เจนกับการลืมวิธีหายใจ





ยังจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้นะคนเรา….ขนาดโดนดุก็แล้ว โดนด่าก็แล้ว
กลายเป็นคนหน้าทะเล้นต่อหน้าเขาแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่….


นักรบก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เรานั้นเปลี่ยนไป จากคนที่ไม่ชอบหน้ากันจากใจจริง กลับกลายเป็นคนที่พูดคุยกันได้มากขึ้น แลกเปลี่ยนความเห็นด้านการเลี้ยงเด็กกันได้มากขึ้น ยิ้มและหัวเราะต่อหน้ากันได้มากขึ้น มันเป็นไปแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ รู้แค่เพียงว่ามันเป็นมาสักพักแล้ว และตัวเขาก็ไม่เคยจะรู้ตัว


หรือไม่แม้แต่จะไม่พอใจอะไรเลย


“ตารบ นี่แม่จะไปซื้อของกับเจน เลยแวะมาชวนเราไปกินข้าวด้วย”  ในที่สุดก็ได้เข้าเรื่องสักที หลังจากที่คนนึงเอาแต่กลั้นยิ้มจนแก้มพอง ส่วนอีกคนก็ทำหน้าดุแต่ก็หน้าแดงใส่ จริงๆนักรบให้คุณเพชรซื้อข้าวมาให้สำหรับมื้อกลางวันแล้ว แต่เพราะเจ้าลูกกบเกาะกันไม่ปล่อยแบบนี้ ใจคนเป็นพ่อก็อ่อนยวบ ทำหน้าดุใส่เท่าไหร่ก็ทำซึนเก่งไม่สนใจพ่อเท่านั้น คิดอีกทีเขาควรจะดุพี่เลี้ยงเด็กเรื่องทำกิริยาไม่สำรวมด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงตอบตกลงไปไม่ยาก ทว่ายังไม่ได้พูดอะไรเลย


“ว่าแต่เราต้องชวนคุณเพชรไปด้วยไหมครับ”  เจนรักษ์ที่ตั้งสติเก็บยิ้มไว้ได้แล้วก็ถามออกมาหน้าซื่อ ขัดคอนักรบที่กำลังจะตอบตกลงจนเขารู้สึกหงุดหงิดออกมา


วันนี้เส้นความอดทนขาดผึงบ่อยจัง


“นั่นสิ เราควรชวนตาเพชรไปด้วยดีไหม”  คุณพรรณีหันมาถาม นักรบนั้นนิ่งเงียบ ใบหน้าไม่บอกอารมณ์ว่าอยู่ในลักษณะไหน ดวงตาเขาเหลือบมองพี่เลี้ยงเด็กตัวเล็กนิดๆและก็พบดวงตาใสแจ๋วของอีกฝ่าย ไม่ว่าใครในที่นี้จะคาดหวังไว้อย่างไร แต่นักรบรู้ชะตากรรมของเลขาตัวเองดี



“คุณเพชรคงไปไม่ได้ครับ”


“อ้าว ทำไมเหรอ”  แม่ของเขาถามออกมา จริงๆมันก็เร็วไปที่จะตอบเพราะยังไม่มีใครไปถามคุณเพชรที่กำลังต่อคิวซื้อข้าวให้ท่านประธานสักคน จะโทรไปสั่งให้กลับมาก็ยังทัน ข้าวกลางวันนั่นก็ไม่ต้องซื้อมาแล้ว แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ ประธานบริษัทหนุ่มนั้นเลือกที่จะตีหน้านิ่ง ไม่มีลังเลที่จะตอบ


“คุณเพชรต้องเตรียมเอกสารสำหรับประชุมตอนบ่าย3ครับ”  ใช่….คุณเพชรติดงาน บ่าย3พวกเขาจะมีประชุมกัน คุณพรรณีเออออพยักหน้า ตั้งใจจะพาเลขาผู้เป็นเพื่อนร่วมเรืออีกคนไปทานข้าวด้วยเผื่อว่าเราจะหามุกอะไรมาช่วยดันเจ้าเด็กสองคนนี้ให้เข้าที่เข้าทางระหว่างมื้อได้บ้าง แต่ถ้าติดงานก็ไม่เป็นไร ทว่าสิ่งที่คุณหญิงไม่รู้และจะไม่มีวันได้รู้นั้นคือประชุมตอนบ่าย3อะไรนั่นนะมีจริง


แต่เป็นบ่าย 3 ของวันจันทร์หน้าโน่นครับ!


เจนรักษ์เป็นคนขับซึ่งนั่นนับรบไม่มีปัญหาอะไร เรามาที่ร้านอาหารร้านโปรดของคุณพรรณีที่ไม่ไกลจากตึกรัตนสกุลมากนัก เขาไม่มีปัญหากับการที่อีกฝ่ายจะเป็นคนขับ แต่มีปัญหาที่ต้องมานั่งข้างหน้าด้วยแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยเป็นคนเรื่องมาก แต่ก็มากเรื่องได้หากมันเกี่ยวข้องกับพี่เลี้ยงเด็กหน้าทะเล้น แม้จะพยายามแย่งชิงที่นั่งข้างหลังทว่าเป็นแม่ของเขานั่นแหละที่ไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาดก็จะอยู่กับเจ้าลูกกบที่นั่งในคาร์ซีทให้ได้ อะไรตัวจะติดกันได้ขนาดนั้น และนักรบจะชนะได้ไง เป็นเจนรักษ์ที่ได้กลั้นยิ้มจนแก้มบวมอีกครั้งขณะกำลังจะสตาร์ทรถ อยากจะดึงให้แก้มมันหลุดติดมือนัก แซวเก่ง!


พวกเรามาที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านประจำที่แวะเวียนมาบ่อยครั้งตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก เจนรักษ์รับหน้าที่อุ้มลูกของเขาและพาเข้าไป เก้าอี้ของเด็กถูกนำมาวางไว้ข้างกายโดยพนักงานสาวคนนึงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในฐานะลูกค้าประจำ เจ้าลูกกบที่วันนี้ตื่นเต้นมากหน่อยมองไปรอบๆอย่างสนใจ เจนค่อยๆคล้องผ้ากันเปื้อนและป้อนอาหารเด็กให้ในระหว่างที่คนอื่นๆกำลังดูเมนู และเจ้าตัวก็ดูจะมีความอยากอาหารอยู่บ้างเลยกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใคร


“มัมหม่ำครับ อ้ามมมมมม”  นักรบนั้นส่งเสียงเหอะออกมา จำเป็นต้องทำเสียงสองใส่ตอนป้อนอาหารให้เจ้าลูกกบด้วยเหรอ วันนี้เจนรักษ์ทำอะไรก็ดูน่าหงุดหงิดในสายตาเขาไปหมด


“เจนจะกินอะไรดีละลูก ดูเมนูก่อนไหม”  คุณพรรณีถามก่อนจะส่งเมนูให้ แต่อีกฝ่ายยังมือระวิงป้อนข้าว เช็ดปากให้น้องวินที่ดูจะรักความสะอาดแต่เด็ก ไม่เช็ดปากหน่อยเดียวก็โวยวายเสียงดัง เอาแต่ใจเหมือนใครกันนี่!


“อา ไม่เป็นไรครับสั่งอะไรมาก็ได้ ผมกินได้หมดเลยครับ” นี่ก็ตามใจเก่ง


“เจนมาเลือกก่อนดีกว่า เอาที่หนูชอบจริงๆเถอะนะจ้ะ”  คุณพรรณีก็ยังคงโน้มน้าวอยู่ดี เจนรักษ์จึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว


“งั้นเอา Pasta Aglio E Olio with Italian Sausage ก็ได้ครับ”  เจนที่ยังคงวุ่นวายกับการเช็ดปากให้น้องได้พูดออกไปโดยไม่แม้แต่จะมองเมนู เพราะตนก็มีเมนูประจำกันตายในตอนที่อยากกินอะไรเผ็ดๆแต่อยู่ในแดนฝรั่งเหมือนกัน และค่อนข้างมั่นใจว่าทุกร้านอาหารอิตาเลี่ยนต้องมีเมนูแนวๆนี้ พาสต้าผัดน้ำมันมะกอกกระเทียมกับไส้กรอกแบบอิตาเลี่ยน


“……………”


“รับเป็นเส้นแบบไหนดีคะ” พนักงานที่รับออเดอร์นั้นถาม


“เส้นสปาเก็ตตี้ก็ได้ครับ”  เพราะพาสต้านั้นเหมือนเป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่ง ก็เหมือนสั่งก๋วยเตี๋ยว ต้องระบุว่าจะกินเส้นอะไร แต่ก่อนเจนก็เด๋อครับคิดว่าพวกอาหารเส้นๆนานาชนิดของอิตาเลี่ยนเรียกว่าสปาเก็ตตี้ แต่จริงๆแล้วสปาเก็ตตี้เป็นชื่อเรียกเส้นยาวๆกลมๆที่มีขนาดแบบเส้นเบอร์ 3 ซึ่งเป็นเส้นขนาดที่ได้รับความนิยม บอกความจำนนไปเสร็จก็หันไปป้อนข้าวน้องต่อโดยไม่สนใจว่าใครจะมองกันยังไง


“เจนอยากกินพิซซ่าหน้าอะไรจ้ะ”


“Smoked salmon or Peperoni ก็ได้ครับ”  พอยุ่งๆก็จะกระแดะพูดไทยคำอังกฤษคำงี้แหละครับ


“งั้นเอาทั้งสองหน้าอย่างละครึ่งละกัน”  คุณหญิงหันไปแจ้งความต้องการกับพนักงานรับออเดอร์ สั่งเครื่องดื่มอีกนิดหน่อยและก็ปิดเมนูเพื่อส่งคืน


ความสงบกลับมาหาเจนอีกครั้งเมื่อภารกิจเลือกอาหารนั้นจบสิ้น เจ้าลูกกบนี่ป้อนข้าวช้าๆได้ที่ไหน เอะอะอะไรก็กลืนๆอย่างนั้น ที่พุงกลมๆนั้นมีท่อสูบอยู่เหรอ กินเก่งกินไวชะมัด ป้อนไปเช็ดไปเพราะคุณชายท่านไม่ชอบเลอะจนทำให้ยุ่งไปหมด ไม่นานหลังจากนั้น เจนก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าอาหารของตนนั้นถูกนำมาวางไว้ข้างหน้าแล้ว และคาดว่าที่เหลือก็กำลังจะตามมา


“สลัดไหมลูก”  คุณพรรณีหันมาถาม เจนยิ้มตอบอย่างเหนื่อยๆ


“สั่งเป็นซีซาร์สลัดมา ทานได้ไหม” เจ้าของเสียงทุ้มนั้นถามซ้ำ


“ทานได้ครับ”  แต่เจนยังทานไม่ได้….


ต้องจัดการน้องวินให้เรียบร้อยก่อน


และเมื่อเจ้าลูกกบที่ได้แปลงร่างกลายเป็นลูกหมูกินเสร็จแล้ว  เจ้าตัวที่เห็นอาหารบนโต๊ะวางอยู่หน้าตาสวยก็เอื้อมมาจะกินด้วยเสียให้ได้ แต่มันได้ที่ไหนเล่าหึ! ฟันก็มีอยู่เท่านี้ริอาจจะกินของหนัก ติดคอแล้วจะหัวเราะให้! เจนรักษ์พยายามคว้าเจ้าลูกกบให้สำรวมอยู่กับที่ ไม่งั้นจะตกจากเก้าอี้ได้ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ทำไปทำมาก็ร้องไห้ออกมาเสียเลย ดีจ้นนนนนต้องพาออกไปปรับทัศนคติข้างนอกร้านกันสองคน ไม่งั้นลูกค้าคนอื่นที่เห็นว่าลูกชายคุณรบที่ไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนจะมองแรงได้


“ตาหนูนี่ยิ่งโตยิ่งดื้อ”  นักรบบ่นพึมพำ


“นักรบเองก็ดื้อ ดื้อกว่าตาวินด้วยซ้ำ”


“………..”


“ถ้าเรากินเสร็จแล้วก็ไปเรียกเจนรักษ์เข้ามา เดี๋ยวแม่ดูให้”  บางทีคุณหญิงพรรณีอาจจะไม่ได้อยากกินข้าวกับลูกจริงๆ


แต่แค่อยากหาคนมาเปลี่ยนเวรดูตาหนูวินกับคนโปรดเท่านั้น….


เดี๋ยวนี้เจนรักษ์ชี้นกเป็นไม้ได้ พูดอะไรก็น่าเชื่อถือกว่าลูกในไส้ โปรดปรานยิ่งกว่าใครไม่รู้ว่าห้อยพระอะไรไว้หรือไปทำสาริกาลิ้นทองที่ไหนถึงได้ติดกันทั้งครอบครัวอย่างนี้ นักรบมองออกไปด้านนอก ยังเห็นอีกฝ่ายอุ้มตาหนูโยกไปโยกมา จริงๆนี่ก็ใกล้จะบ่ายแล้ว นักรบควรจะกลับไปทำงานให้เป็นแบบอย่างที่ดีของลูกน้อง แต่เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน เขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปหา


“เข้าไปกินข้าวได้แล้ว”


“แต่น้องวิน”


“ส่งมานี่”  ไหนมาคุยกันหน่อยสิ ดื้อทำไม เขาหมายถึงเจ้าตัวเล็กนะ ส่วนคนอุ้มนี่ก็ดื้อเหมือนกัน ถามมากนัก


เจ้าลูกกบยอมมาอยู่กับเขาแต่โดยดี  ทว่าเมื่อเจนจะเดินเข้าไปแล้วตัวคนพ่อยังนิ่งอยู่ก็ส่งเสียงโวยวาย อยากจะดุลูกแต่ก็กลัวลูกจะกลัวเกินไป ขนาดยังไม่ดุเจ้าตัวแสบก็เหมือนจะรู้ตัวบ้างแล้วว่าคนพ่อกำลังจะไม่พอใจ เจนรักษ์ที่ไม่อาจจะเข้าไปข้างในได้โดยไม่พะวงจึงเดินกลับมา มือยื่นจะรับกลับไปไว้กับอกอีกครั้ง แต่เขาไม่ส่งให้ แถมยังหันหลังหนีอีก ทีนี้เลยยิ่งร้องไห้เลย ดื้อเกิน เจนรักษ์เลี้ยงตามใจไปเหรอ ก็ไม่หรอก แค่เลี้ยงให้ติดกันมากเกินไปมากกว่า


สุดท้ายแล้วที่ตั้งใจจะปรับทัศนคติกันข้างนอกร้านก็ต้องพากันเข้ามาข้างใน แดดตอนบ่ายนี่แรงเกินกว่าคนเป็นพ่อจะใจแข็งปล่อยลูกยืนอย่างนั้นได้นานๆ จะมาร้องก็ร้องกันในนี้นี่แหละ แต่ไม่เลย….แค่มีพี่เจนนั่งกินข้าวอยู่ตรงข้าม และคุณพ่อที่กอดไว้แต่ทำหน้าดุไม่เล่นด้วย เจ้าลูกกบก็ไม่ดื้อหรืองอแงให้ต้องลำบากใจอะไร โล่งเสียจนคุณหญิงต้องถอนหายใจออกมา


“เพิ่งจะเคยเห็นว่าดื้อขนาดนี้นะเรา” 


“………..”  นักรบยังคงเงียบ เขาเริ่มจับจุดวิธีการเลี้ยงเด็กดื้อได้ ในเมื่อไม่กล้าดุก็ต้องเงียบให้รู้ว่าไม่ชอบ ตอนนี้เจ้าตัวแสบที่ยืนเหยียบตักในอ้อมกอดของเขาทำได้แค่เล่นเนคไทเล่นและช้อนตามองเป็นระยะ ฉลาดจะประเมินสถานการณ์เหมือนกันนะเรา


“ปกติดื้อขนาดนี้ไหม”  คุณพรรณีหันไปถามคุณพี่เลี้ยงที่กำลังหมุนเส้นสปาเก็ตตี้


“ก็ไม่นะครับ แต่เจนไม่ค่อยพาออกไปไหน วันนี้คงดีใจใหญ่เลยหงุดหงิดเวลาคนไม่ยอมตามใจ”  เพราะปกติไม่เอาแต่ใจไง เขาต้องยอมรับว่าสภาพความเป็นอยู่ที่ต่างไป มันอาจจะกระทบกับพฤติกรรมเป็นธรรมดา


“วันหลังต้องให้เจนพาออกมาบ่อยๆ” 


“เจนก็อยากพาออกมาครับ”  แทนตัวเองว่าเจนได้ถ้าคุยกับคุณหญิง คนโปรดของท่านไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย


“ผมเป็นห่วง ไม่อยากพาไปเดินไหนต่อไหน”  เจนก็ตัวเล็กแค่นี้ บางทีเขาก็ยังสงสัยว่าเอาตัวเองคนเดียวรอดได้หรือเปล่าจะมาเอาเจ้าลูกกบกึ่งหมูนี่ไปไหนต่อไหน


“เรื่องมากจังตารบ ก็เข้าใจนะว่ามีลูกคนเดียว งั้นวันหลังก็พาออกไปเองเสียบ้างสิ เราก็เหมือนกันเอาแต่หมกแค่ที่ทำงานกับบ้าน หัดออกไปซื้อของใช้เองซะบ้าง มันลำบากคนอื่นนะรู้ไหม”  คุณหญิงท่านได้ดีก็เอาใหญ่ สวดยับยาวถึงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย ฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะเขาเอาแต่จ้องมองหน้าพี่เลี้ยงที่เซี้ยวเหลือเกินวันนี้ ยังจะหัวเราะอะไรอีกไหม แต่ไม่เลย….เจนก้มกินเงียบๆ ท่าทางจะอร่อยจริงๆหรือหิวก็ไม่รู้


“ผมจะพยายามครับ”


“ถ้าตัวเองก็ไม่น่าจะเอาอยู่ก็ให้เจนเขาไปด้วย ถ้าซื้อของไม่เป็นก็ให้เจนพาไป ทุกวันนี้เขาก็จัดหามาให้เราทุกอย่างแทนแม่อำไพแล้ว”


“…………”  จัดหาให้….ทุกอย่าง….


จริงๆนักรบนั้นยุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดเรื่องซื้อของใช้ส่วนตัว แต่ก็มีคนจัดหาให้ตลอดทั้งพวกแชมพู ครีมอาบน้ำ หรือพวกเครื่องใช้ต่างๆที่ส่วนตัวเกินไปหรือเป็นเรื่องที่ผู้หญิงไม่น่าจะเข้าใจอย่างพวกครีมโกนหนวดอะไรพวกนี้ก็อาจจะบอกให้เลขาซื้อมาให้ ทว่าเดี๋ยวนี้เขาแทบไม่เคยได้บอกให้เลขาหาอะไรมาให้เลยเพราะไม่มีอะไรหมดเลยสักอย่าง แถมเมื่อวานนี้….เขารู้สึกเหมือนได้เห็นของใช้ใหม่ๆบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย


อย่างชั้นใน….เป็นต้น


“เจนรักษ์”


“ครับ”  อีกฝ่ายที่กำลังใช้มีดหั่นพิซซ่านั้นเงยหน้าขึ้นมามอง ดูเหมือนจะไม่รับทราบว่าเรากำลังคุยอะไรกันเลย มุ่งแต่จะกินเท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจจะอร่อยและหิว แต่อีกส่วนคงเพราะจะมาทวงเอาเจ้าตัวเล็กในอกเขากลับไปนั่นเอง เลยต้องรีบเร่งกิน


“เป็นคนซื้อของใช้มาให้ผมเหรอ” 


“ครับ เผอิญในบ้านมีผมคนเดียวที่ขับรถได้ก็เลยอาสาไปซื้อของใช้มาให้ทุกคนนะครับ”  ไม่ใช่แค่ของเขาหรอก คิดมากน่า….


“แล้วนายรู้ได้ไงว่าผมอยากได้อะไร หรือควรซื้ออะไร”


“………….”


“ไปค้นห้องผมมาเหรอ”  น้ำเสียงของเขาราบเรียบจนเจนยอมรับว่ากระเดือกอะไรไม่ลงแล้ว ไหนใครจะรับรองความปลอดภัยให้ไอ้เจนวะ ไหนใครบอกว่าเข้าไปดูได้จะไม่มีใครตายไง! คำตอบคือไม่มีเว้ย ไอ้เจนก็พาซื่อ!


“เอ่อ คือ…ผมขอโทษครับ”


“………..”


“ตารบก็จะดุน้องทำไม แม่ให้เข้าไปดูเองแหละ ผู้ชายเหมือนกันเขาก็ต้องพอรู้ว่าอะไรควรซื้อไม่ควรซื้อไม่ใช่เหรอ จะได้แบ่งเบางานตาเพชรบ้าง ให้มันทำงานบริษัทให้ก็พอ  เรื่องส่วนตัวอะไรที่เจนเขาช่วยได้ก็ให้เขาช่วย” หรือจริงๆคุณหญิงท่านอาจจะโดนตาเลขานั่นซื้อไปเสียแล้ว อีตาเพชรแหละตัวดี หาเรื่องใช้อำนาจคุณหญิงในทางไม่ชอบในการลดงานของตัวเอง เป็นแผนของมันมาตั้งแต่ต้นสินะ! ถ้าเจนตายวันนี้ สาบานว่าอีตาเพชรไม่ได้อยู่เป็นสุขเหมือนกันแน่!  กูจะเอาให้มันลาสิกขาบวชอุทิศบุญกุศลคืนกันเลย!


“ดูทุกอย่างเลยแม้แต่ชั้นในก็ดู และซื้อมาให้ด้วยเนี่ยนะครับ”  นักรบหันไปพูดเสียงนิ่ง หากแต่ใบหน้าของคนรู้ดีนั้นขึ้นสี นี่กำลังกล่าวหาว่าเจนเป็นโรคจิตไปแอบดูกางเกงในของเขาเหรอฟะ….กูเอาตัวเองเขาเตาเผาพิซซ่าของร้านนี้เลยได้ไหม จะได้จบๆ ทุกคนจะได้เป็นสุข เจนก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสบายใจ


“คุณรบครับคือผมดันเปิดไปเห็น  ไม่ได้ตั้งใจจะดูนะครับ”  ก่อนตาก็ขอแก้ตัวซะหน่อยให้ชาวโลกรู้ว่าเจนเจตนาดีไม่ได้หวังร้าย เผื่อตายไปจะไม่ตกนรกหมกไหม้ด้วย เจนสับเพร่าเองที่ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนเลยเปิดทุกลิ้นชักและพบเห็นกางเกงในของเขาวางเรียงรายอยู่ เพราะคุณรบซักเองเลยไม่มีใครสนใจสภาพเก่าใหม่ แต่จริงๆมันก็ไม่เก่าขนาดนั้นหรอกนะ เจนแค่คิดว่าเออซื้อเผื่อไว้ให้ จะได้ไม่ต้องมาซื้อใหม่อะไรแบบนี้  คือจริงๆกูก็เห็นกางเกงในเขาแล้วนึกขึ้นได้ว่าควรซื้อของตัวเองด้วย เลยซื้อมาเผื่อเว้ย!


“แถมซื้อแบรนด์และไซส์ที่ผมใส่มาให้ด้วย”  ดวงตาของคุณนักรบดูเป็นประกายแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งนี้อาจจะเพราะเขารู้แล้วว่าจะเอาคืนกันยังไง กำลังสนุกสินะ เออ…สนุกอยู่สินะ!


“ผมก็ต้องดูตัวที่คุณรบใส่ไหมครับไม่งั้นจะไปซื้อถูกได้ไง” เอาจริงๆก็ได้วะ


จริงๆงานพวกซื้อของส่วนตัวเจนก็เคยทำ….ให้วิลเลี่ยม….


ไอ้ความละเอียดดูนั่นซื้อนี่อะ มันเป็นพื้นฐานการทำงานที่เคยผ่านมาตั้งแต่สมัยก่อนได้วิลเลี่ยมมาเป็นเจ้านายอีก ไอ้การจะไปจัดซื้อของให้คุณรบนั้นไม่ได้ถือเป็นเรื่องยากอะไรเลย และเจนมั่นใจว่าทำได้ดีกว่าใครอีก จะบอกคุณรบว่าไม่ต้องเขินว้อยเพราะมันเป็นเรื่องปกติ  แต่มาคิดใหม่ทำใหม่ คุณรบเขาไม่ได้เขิน แต่เอ็งอะเขินแล้ว เจนไม่ได้เป็นเลขาเขาเสียหน่อย ไปจุ้นจ้านดูกางเกงในเขาแบบนั้นมันก็เสียมารยาท เจนรู้แต่กูซื้อไปแล้วนี่ครับ….


ไม่ได้ทำให้ผัวคนเดียวด้วยแต่กูทำให้ผู้ชายทุกคนที่จ่ายเงินเดือนนะเว้ย!


ทว่าตอนที่นักรบแกล้งเจนรักษ์นี่คุณพรรณีจะไม่ยุ่ง เธอกำลังประเมินเด็กสองคนนี้ว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง นักรบกับเรื่องซึนๆนะเป็นของธรรมดา แต่ว่าอย่างนี้มันไม่ใช่…วันนี้ฝนต้องตกดินต้องทลายแล้วที่ลูกชายเธอกำลังใช้สายตาแบบนั้นหยอกเจนรักษ์ กับอีเรื่องแค่กางเกงในตารบไม่ได้จำเป็นต้องหยิบมาเป็นประเด็นสนใจหรือเปิดโอกาสให้เจนพลิกเกมให้ตัวเองเสียเปรียบเลย แต่ก็ยังคงขยี้อยู่อย่างนั้นเพราะเห็นเจนไม่สู้ คุณพรรณีทั้งขำทั้งสงสาร ทางออกที่ดีของเจนมันมีอยู่ตรงหน้าจริงๆก็แค่ย้อนไปว่าเป็นห่วงกลัวเน่าก็เท่านั้น ตารบก็คงจะทึ้งหัวตัวเองแล้วจับโขกโต๊ะไปแล้ว แต่คนตัวเล็กคงเขินเกินกว่าจะคิดออกว่าเรื่องของส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นต้องมาเขินแบบนี้


ไปเขินมันทำไม…คนดีๆที่ไหนเขาแซวคนหวังดีซื้อกางเกงในมาให้ว่าโรคจิต!


แต่ถ้าเจนเขินกว่านี้และนักรบยังสนุกไม่เลิกแบบนั้นก็คงไม่มีใครได้ไปไหน คุณพรรณีถอนหายใจออกมา อยากต่อว่าลูกชายและโอ๋เจนรักษ์จะแย่ แต่เธอก็ทำไม่ได้ ความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้ามากมายที่ได้เห็นนักรบเป็นในวันนี้ทำให้เธอเห็นเค้าลางที่ดี และการได้เห็นคนทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์ในเชิงสนิทสนมกันมากขึ้นก็ทำให้ชื่นใจว่าต่อไปมันอาจจะดีกว่านี้  ในฐานะชิปเปอร์นั้นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่จะปล่อยไปแบบนี้ก็อาจจะลงอีหรอบเดิม เพราะฉะนั้น


ต้องอาศัยความหวั่นไหวนี้ขยี้เข้าไปด้วยการชงเข้มๆแบบไม่พึ่งเนสกาแฟ!


“อะแฮ่ม”


“ครับ คุณแม่อะไรติดคอเหรอครับ”  เล่นมุกเยอะนะวันนี้ คุณพรรณค้อนให้ลูกชายที่ไม่คิดว่าจะแสบได้ขนาดนี้ไปที นานๆทีอารมณ์ดีมันก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าเยอะมันน่าฟาด


“ต่อไปก็พาน้องไปซื้อของใช้ส่วนตัวซะ ถ้าไม่อยากให้ใครมายุ่มย่าม เข้าใจไหม”


“ครับ”


“ถ้าไม่เข้าใจ ฉันจะไม่ให้เจนรักษ์เขาไปยุ่งกับกางเกงในของเธออีกแล้วนะตารบ จะเปล่าให้เน่าไปเลย”  คนตัวเล็กสะดุ้งโหยง เจนไม่ได้อยากไปยุ่งกับกางเกงในของใครครับ มันเป็นความเคยชินของหน้าที่ที่เคยทำ


“เข้าใจแล้วครับ ผมจะระวัง” วันหลังก็ล็อคลิ้นชักใส่ชั้นในไปเลย ไม่ๆ ล็อคห้องแล้วขังตัวเองตายไปเล้ย! เจนรักษ์กำลังจะถอนหายใจ บทสนทนาอันล่อแหลมของเรากำลังจะจบลง


แต่ไม่ครับ….คิดผิดอย่างที่ไม่มีโอกาสได้คิดใหม่ทำใหม่…..


“แต่เห็นเลือกเก่งวันหลังจะไม่ให้มาค้นแล้วแต่จะพาไปซื้อแทน คุณแม่โอเคนะครับ”  อีคุณรบ….


จิกเก่งกว่านกก็มึงแล้วละครับ


“เจนก็…โอเคนะครับ”  เขายิ้ม ยักคิ้วกวนๆมาให้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีหน้าแบบนี้อยู่กับตัวด้วย หน้าแบบไหนอะเหรอ….


ก็หน้าแบบที่ทำให้เจนที่เป็นมนุษย์มา20กว่าปี….
แต่ลืมวิธีหายใจในวินาทีเดียวที่เขาเอ่ยชื่อและขยิบตาให้กันออกมา….








Talk : มาลงนิยายตามสัญญาค่า คุณรบก็ซักผ้าเก่งนะคะ นอกจากจะซักกางเกงในเองแล้วก็ยังซักน้องเจนซะขาวเลย งุ้ยยยยยย

ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และการติดแท้ก #เจนไม่รัก ในทวิตเตอร์นะคะ ยังคงเป็นปลื้มทุกคนที่ได้อ่านค่ะ
เดี๋ยวมาต่อตอนต่อไปพรุ่งนี้นะคะ
อาจจะขอลงเรื่องสั้นคั่นด้วยนะคะ เรามีการเอาฟิคที่เคยแต่งมารีไรท์เป็นเรื่องสั้นด้วย
Twitter @reallyuri

 






หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 14-07-2018 16:40:19
คุณรบบบบบบบบบ อย่าแกล้งน้องงงงงงง :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 14-07-2018 16:55:48
น้อวววว มีความแกล้งน้องเจนนน อยากให้ถึงวันเค้ารักกันไวๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: skyberry ที่ 14-07-2018 17:04:52
งื้อออออ คุณรบใส่กางเกงในไซต์อะไร เดี่ยวเราไปซื้อแทนเจนได้นะ อาสา 555555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 14-07-2018 17:05:10
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-07-2018 17:29:04
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-07-2018 17:34:05
เริ่มมีพัฒนาการความกวน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-07-2018 18:10:45
ร้ายขึ้นทุกวันนะคุณรบ  กันท่าก็เป็นแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 14-07-2018 18:23:45
 :-[ขออีกๆติดงอมแงมแล้วเนี่ย :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-07-2018 18:45:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: T_TARS ที่ 14-07-2018 19:00:35
คุณรบนี่มันร้ายนะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 14-07-2018 20:44:20
คุณรบเริ่มออกลายหละ เป็นคุณพ่อลูกหนึ่งทั้งทีมันก็ต้องมีอะไรๆบ้างสินะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 14-07-2018 21:31:07
โอ๊ยยยความคุณรบ :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 14-07-2018 22:56:13
โง้ยยยยยยยย ตอนที่แล้วเจ้าลูกกบมีพัฒนาการ วันนี้ตาคนพ่อบ้างแล้ว
คุณรบแอบหึงใช่มะ ตอนเจนบอกว่าชวนเพชรไปกินข้าวด้วย  :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-07-2018 23:50:56
ความสัมพันธ์เริ่มคืบหน้าแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 15-07-2018 00:49:15
กรี้ดๆๆๆๆสลบเลย  จะมีค่ายไหนเอาไปทำละครไหมๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-07-2018 04:44:41
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-07-2018 08:31:14
คุณรบก็ขยันแกล้งเจนจังงง 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-07-2018 08:57:51
คุณแม่ฟินยิ่งกว่าเจนค่ะ พี่เชื่อ สาววายเข้าใจดี
ลูกกบเรียกหมะม้าอีกทีให้ชื่นใจเร้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 15-07-2018 14:31:22
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 21] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 14.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-07-2018 15:34:10
โอ้ยยยยย ถ้าถึงขั้นขยิบตาให้ แกล้งให้เขินขนาดนี้ อนาคตลูกกบต้องมีมาม๊าชื่อเจนแน่นอนค่ะเหล่าชิปเปอร์ทั้งหลาย เตรียมฟินนนนน o13
หัวข้อ: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 15-07-2018 17:21:30
#เจนไม่นก

เจนกับหน้าที่ใหม่


 

 

 

 

 หลังจากนั้นมันก็จะ….อึดอัดหน่อยๆ

เพราะเจนมักจะเห็นคุณรบซ้อนทับกับภาพกางเกงใน

 

 

เออก็รู้ว่าคิดไม่ดี แต่เจนไม่สามารถหยุดความคิดเลวๆนั่นได้ หลังจากออกจากร้าน คุณรบก็กลับไปออฟฟิศ และพวกเราก็ไปซื้อของขวัญให้พระพาย โดยมีเจนเป็นคนให้ความเห็น และจบด้วยการซื้อนาฬิกาข้อมือให้เรือนนึง ตอนที่มอบให้ พระพายก็มีท่าทางตกใจอย่างเห็นได้ชัด ปากบอกจะไม่รับ แต่เพราะคุณหญิงท่านข่มขู่ไว้มากเลยต้องรับไป และน้องก็หันมาขอบคุณเจนที่เป็นคนเลือกและซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้อีก พระพายคงไม่รู้….ว่าเจนแค่ช้อปเยอะเพราะสติไม่ค่อยอยู่กับตัว

 

 

แต่ไม่เป็นไรครับ คนมันรวย เอาแต่ขุนกบให้อ้วนจนไม่ค่อยมีเวลาใช้เงิน กลับมาที่ภาระหน้าที่ที่ต้องเจอะเจอคุณรบเช้าค่ำแบบทุกวัน โชคดีครับที่ไม่มีใครกลับมาแซวเรื่องกุงเกงในให้ต้องขุ่นเคืองใจอีก เราเซ็นสัญญาสงบศึกลอยๆและกลับมาทำหน้าที่พ่อและพี่เลี้ยงที่ดีให้น้องวินอีกครั้ง วันและคืนผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเจนรักษ์ก็พอใจกับสิ่งนั้นมาก

 

 

กับผีพ่อมึงดิ…..

 

 

จริงๆแล้วกูไม่โอเคเลยครับ จะอะไรก็ไม่โอเคทั้งนั้น แม้คุณรบจะไม่มีทีท่าคุกคามสติที่ไม่ค่อยสมประกอบของเจนรักษ์อีกต่อไปแล้ว แต่ที่เคยทำ มันไม่ได้ลบออกไปได้เลย ปกติความจำไม่ดี แต่ไอ้เรื่องแบบนี้ดันไม่เคยลืม ทว่าเจนก็สามารถต่อชีวิตมาได้วันเว้นวันแบบที่ถอนหายใจยาวถึงยะลาหลังจากที่อีกฝ่ายทักทายแล้วเดินจากไป คุณรบคงไม่รู้หรอกว่าทั้งวันที่ทำมา เหนื่อยที่สุดก็ตอนเจอหน้าเขานี่แหละ

 

 

“อำไพ ตารบลงมาหรือยัง”  อยู่ตรงไหนในบ้านนี้ก็ต้องได้ยินชื่อนี้จริงๆ เจนนั้นหันไปมองคุณพรรณีที่ลงมาถามหาลูกชาย ป่านนี้มันเป็นเวลาตื่นนอนของเจ้าตัวเขา คงยังไม่ลงมาหรอก

 

 

“ยังไม่ลงมาเลยค่ะ มีอะไรเหรอคะคุณผู้หญิง”  แม่ได้ถามออกไป

 

 

“ฉันปวดแขนน่ะสิ เมื่อวานคงนอนทับแขน ตอนนี้ยกไม่ขึ้นเลย”

 

 

“คุณหญิงไม่สบายเหรอครับ ให้ผมพาไปโรงพยาบาลไหม”  เจนรักษ์นั้นหันไปเสนอตัว แต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้า

 

 

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น แต่ตารบวันนี้นี่สิ”

 

 

“คุณรบทำไมเหรอคะ”  แม่ถามอีกครั้ง

 

 

“ก็ฉันยกแขนไม่ได้ เลยไม่รู้จะผูกเนคไทให้ลูกยังไง”

 

 

“จริงด้วยสินะคะ”

 

 

“คุณรบผูกเนคไทเองไม่ได้เหรอครับ”  เจนถามซ้ำ ตกใจไม่น้อยกับการได้ยินเรื่องที่แปลกราวกับมีคนวิ่งมาบอกว่าโลกจะแตก คุณชายผู้สมบูรณ์แบบคนนั้นนี่นะ ผูกเนคไทเองไม่เป็น….

 

 

“ใช่จ้ะ ฉันต้องไปผูกให้ตลอดเลย นี่ไม่รู้ออกมาแล้วจะโวยวายหรือเปล่า”  โวยวายเป็นกับเขาด้วย

 

 

“เอาไงดีละคะ หรือจะให้อำไพลองผูกให้ดูไหมคะ” คนพูดก็ยังทำหน้าเครียด แม่เองก็ทำเป็นกับชาวบ้านเขาที่ไหนล่ะ

 

 

“ลองดูไหม แต่ก็กลัวจะไม่สวยนะ เอาไงดีวันนี้ตารบมีประชุมสำคัญกับลูกค้าเสียด้วย”  คุณหญิงทำหน้าเป็นกังวล เจนเองก็มองแม่กับคุณเขาสลับไปมา และอาจจะเพราะจ้องแรงไปกระมัง

 

 

“เจน….เราผูกเป็นใช่ไหมลูก”  ฉิบหายล่ะ

 

 

นี่ขนาดคิดกูก็ยังไม่ได้แม้แต่จะคิดเลยนะครับ!

 

 

ด้วยเหตุนี้เจนจึงได้มาอยู่ในห้องคุณรบ อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็เป็นได้ที่ได้เข้ามาในตอนที่เขาเองก็ยังอยู่แบบนี้ ถ้าไม่มีเหตุให้มาตรวจสอบกางเกงในให้ก็ไม่อยากจะเข้ามาหรอกครับ จริงๆแล้วน่ะ.... เจนอยากจะอยู่ให้ห่างจากห้องนี้ออกไปสักสามกิโลเลยด้วยซ้ำ ติดที่ภาระหน้าที่มันทำให้ต้องนอนอยู่ห้องข้างๆ

 

 

“…………”

 

 

“…………”

 

 

“เข้ามาทำไม”  นี่พูดกับแม่ไม่มีหางเสียงงี้เหรอคุณรบ! อ๋อไม่…หรือเขาพูดกับเจน

 

 

“……..”  แต่อะไรที่ไม่รู้ เราก็จะไม่ตอบรับ เกิดโชว์เด๋อไปเขาจะได้หันมาบอกว่าไม่ได้ถามใส่กันอีก จริงๆหน้านี่ก็ไม่ได้ฉีดโบท็อกนะครับ แต่อาจจะชาได้และมีด้านได้อายอดเป็นบางครั้ง

 

 

“แม่ให้เจนมาช่วยเราผูกเนคไทเองแหละ”  คุณพรรณีเอ่ยออกมา

 

 

“ผูกเนคไท?”  งงทำไมครับ ก็ทำไม่เป็นไม่ใช่เหรอ กิ้วๆ วั้ยๆ

 

 

“อ่ะ เจนตามมาสิลูก เดี๋ยวแม่จะช่วยดูเนคไทให้”  คุณหญิงท่านไม่อยู่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น เจนรักษ์นั้นเหลือบมองใบหน้าคมของเจ้าของห้องนิดนึงแต่ไม่ได้พูดอะไรให้เสียมู้ดออกไป เดินตามคุณหญิงไปที่ตู้เสื้อผ้าและมองดูเนคไทมากมายตรงหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมองอยู่เช่นกัน

 

 

“………….”

 

 

“เจนว่าสีไหนดีลูก”  เจนนั้นเกาหัวเบาๆ นี่นอกจากต้องมาผูกให้แล้วยังต้องมาช่วยเลือกอีกเหรอวะ เจนรักษ์สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะหันกลับไปมองที่เจ้าของห้องซึ่งยืนนิ่งราวกับเขาเป็นรูปปั้น ประเมินด้วยสายตาและจินตนาการภาพรวมของทั้งลักษณะงานและบุคลิกภาพทั้งหมด ก่อนจะหยิบเนคไทสีน้ำเงินเข้มและสีเทาเข้มอีกอันขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วลูบเล็กน้อยด้วยความเคยชินบางอย่าง ก่อนจะเดินไปหาหุ่นไล่กาใส่เสื้อเชิ้ตที่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

 

 

“…………”  เขาเงียบ ก้มมองหัวทุยของๆคนที่เดินมายืนเทียบเนคไทตรงหน้าให้ จริงๆของแบบนี้เขาเลือกเองได้ และแม่ก็คงไม่ต้องลำบากยกแขนมาผูกเนคไทให้กันหรอก แค่ทำปมไว้ให้นักรบก็สามารถหยิบจับมาสวมและจัดเองได้ ทว่าเขาก็ยังทำแค่ยืนนิ่งมองดูเจนรักษ์พิจารณาไปพลางพูดคนเดียวเบาๆแบบนี้ ในระยะที่ใกล้แบบที่ก้มมองนิดหน่อยกำลังพอดี เขาเพิ่งได้เห็นว่าอีกคนมีแพขนตาดูน่ารักทั้งๆที่มันเป็นแค่แพขนตาธรรมดาไม่ได้หนาหรืองอนยาว ดวงตากลมที่ตกน้อยๆนั้นทำให้เหมือนจะดูเศร้าแต่เพราะเป็นเจนรักษ์ทุกอย่างจึงกลับตาลปัตรไปหมด ริมฝีปากอิ่มนั่นก็เหมือนกัน พูดกับเขาทีไรก็มีแต่เรื่องให้นิ่งงันไปหมด ตอนพระเจ้าสร้างเด็กคนนี้ขึ้นมาต้องตั้งค่าส่วนผสมไปผิดบ้างแน่ๆ

 

 

“ผมว่าอันนี้ดีไหมครับ”  จริงๆเนคไทสีเทาดูนอกสายตาเขาเหมือนกัน แต่พอเห็นแม่ยิ้มให้ก็รู้ว่าคุณพรรณีชอบ คนโปรดนี่เนอะ ต่อให้หยิบลายตุ๊กตาหมีมาก็ต้องชมว่าดี โชคดีที่เขาไม่มีของแบบนั้นในห้อง

 

 

และเมื่อได้รับคำอนุญาตเห็นชอบจากแม่ของเขา คนตัวเล็กก็จัดการพาดอันที่ไม่ใช้ไว้กับไหล่ของตน ก่อนจะพาดอันที่ได้ไปต่อคล้องคอของเขา มือเล็กนั่นจับนู่นพันนี่อย่างคล่องมือไม่มีลังเล หน้าตาดูจริงจังและไม่ติดแววขี้เล่นแบบที่ชอบเป็นกับน้องวิน อาจจะเพราะบทบาทของเจ้านายแต่ละคนไม่เหมือนกัน และนี่คือบทบาทที่อีกฝ่ายเลือกมาแสดงต่อหน้าเขา ภาพลักษณ์ที่ดูไม่เหมือนเจนรักษ์ยามปกติที่เคยได้เห็นสะกดให้มองอย่างนั้น จนกระทั่งยามที่อีกฝ่ายปรับให้ต่ำแหน่งปมเข้าที่จนเสร็จแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดมอง จึงทำให้ตอนที่คนถูกมองช้อนตาขึ้นมา……

 

 

ดวงตาของเราจึงได้ประสานกัน……

 

 

“……….”

 

 

“……….”

 

 

“เจนผูกสวยมากเลยลูก เร็วมากด้วย”

 

 

“แฮ่ๆ มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”  แววตาเมื่อครู่เปลี่ยนไปราวคนละคน เจนรักษ์นั้นหันไปตอบรับบทสนาของคุณพรรณีด้วยรอยยิ้มที่ดูร่าเริงแต่ก็ถ่อมตนในนั้น ไม่…เจนรักษ์เก่งมากเลย ทำเร็วกว่าที่แม่ของเขาทำอีก จะบอกว่าเพราะเป็นผู้ชายถึงทำเร็ว แต่ผู้ชาย….ผูกเนคไทให้คนอื่นได้คล่องมือขนาดนี้เชียวหรือ

 

 

และต้องทำอาชีพอะไรถึงจะต้องผูกเนคไทบ้าง

 

 

“……..”  เยอะแยะจะตายไป อาชีพที่ผูกเนคไท มันไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งสูงส่งอะไรเพื่อทำเป็น แต่นักรบแค่สงสัย….ว่าอีกฝ่ายเคยทำงานอะไรมาถึงได้ผูกเป็นก็เท่านั้นเอง และตอนนี้ก็เพิ่งคิดขึ้นได้ว่าไม่เคยถาม เอกสารก็ไม่เคยให้กรอก

 

 

“เท่านี้ฉันก็สบายใจแล้ว ต่อไปนี้จะได้มีคนมาทำให้แทนเสียที”

 

 

“…………”

 

 

“ฝากนักรบกับเจนด้วยนะจ้ะ”  คุณผู้หญิงเจ็บแขนแต่บอกว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล นั่นเท่ากับว่าไม่ได้เป็นอะไรหนักมาก แล้วทำไมหน้าที่นี้คุณหญิงจึงพูดเหมือนกับว่า…..‘ฝากลูกคนนี้อีกคนนะจ้ะ ต่อไปเรื่องผูกเนคไทเป็นหน้าที่เธอแล้วล่ะ’  อะไรประมาณนั้นเลย

 

 

“…………”

 

 

“…………”  และนั่นเท่ากับว่า ไม่ใช่แค่ตอนอุ้มลูกไปบ้ายบายเขาก่อนทำงาน ตอนเย็นคอยเฝ้าให้เขาเล่นกับลูกและกล่อมนอน แต่ว่าต่อจากนี้…..

 

 

เจนต้องมาเลือก….และผูกเนคไทให้เขาในห้องนี้เหรอ?!?!?!?!???

 

 

 

“ถ้าไม่รบกวนเกินไป ฝากเจนเลือกชุดให้นักรบด้วยนะจ้ะ ลูกคนนี้นี่….ปล่อยให้เลือกเองก็เลือกแต่เสื้อขาวกางเกงดำ”  ก็ค่อนตู้มันก็มีแต่สีนี้ไม่ใช่หรือไง แต่เดี๋ยวนะ ว็อททททททททททท

 

 

คุณนักรบนี่มันทำอะไรเป็นบ้างวะ!!!!!!!!!!!!

 

 

xxx

 

 

อีกไม่นานเจนรักษ์คงก้าวไกลไปพร้อมๆกับประเทศไทย

 

 

จากพี่เลี้ยงลูก เริ่มต้องไปเลี้ยงพ่อ บ้านไหนจะยัดเยียดงานพี่เลี้ยงให้ได้ขนาดนี้ไหมวะ ต่อไปไม่ต้องไปตบตูดคุณรบกล่อมนอนเลยใช่ไหม แต่คิดดังไม่ได้ เดี๋ยวเขาให้ไปทำจริง บ้านนี้ยิ่งเชื่อถือไม่ค่อยได้อยู่ แต่ถึงกระนั้นเจนก็ไม่คิดว่ามันเลวร้ายหรือโดนเอาเปรียบเสียเท่าไหร่ เรียกว่าเป็นการเลี้ยงลูกน้องให้เชื่องเยี่ยงหมาเก่งดีกว่านะ เพราะตั้งแต่มานี่ ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็ยังมีแรงใจ อาจจะเพราะคุณผู้หญิงทำให้รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ด้วย เจนจึงยินดีกับทุกเรื่องที่ถูกไหว้วานโดยไม่เกี่ยงงอน แต่ทำไปทำมา….ก็กลายเป็นว่าจะเกี่ยงงอนก็ไม่ได้….

 

 

“………….”  และแขนคุณหญิงก็ไม่หายสักที เป็นอาทิตย์แล้วควรไปตัดทิ้งไหมครับ แขนนั่นน่ะ!

 

 

“เสร็จแล้วครับ”  จัดให้เข้าที่เรียบร้อย เจนรักษ์ทำมันได้ดีสมเป็นมืออาชีพ เออ…ก็มันเคยเป็นส่วนนึงในอาชีพกูมาก่อนนี่หว่า เรื่องแค่นี้ง่ายๆ แต่ที่ไม่เข้าใจคืออีตาเพชรที่จ้างมาเป็นเลขานี่ให้มาผูกแทนให้ไม่ได้เหรอไงวะ นี่ถูกจ้างมาเป็นเลขาน้องวินนะ ไม่ใช่เลขาคุณรบ

 

 

“ผูกเก่งนะ”

 

 

“ครับ”  อีตานี่ก็เหมือนกัน ทำท่าทำทางอยากจะถามแต่ไม่ถามสักที นี่ก็คันปากอยากจะตอบจนตอนนี้หมดอารมณ์หมดล่ะ เออ….จนจบเรื่องนี้ก็ยังได้เป็นแค่น้องนกที่เรียนจบม.3อยู่ดีละวะ ไม่ได้เป็นคุณจีนที่เรียนจบบริหารซะที (ขอย้ำว่าเจนมีชื่อตอนโกอินเตอร์ว่าจีน)

 

 

เจนรักษ์นั้นเดินตามเขาลงมาที่ห้องครัว ได้เวลาที่ทุกคนจะทานข้าว แต่เจนที่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ขอตัวเลี่ยงไปที่อื่น ทว่าฟ้าไม่ประทานความสงบที่แท้จริงในยามเช้ามาให้ เพราะทันทีที่เดินมาถึงห้องรับแขก ก็ได้พบกับแขกที่ไม่เคยได้รับเชิญแต่เสนอหน้ามาบ่อยราวกับเป็นเจ้าของบ้านอย่างอีตาเพชร เลขาที่ไม่รู้เขาจ้างให้มาเป็นเห็บหรือหมัด เกาะเก่งนัก

 

 

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเจน”

 

 

“มารับคุณรบเหรอครับ”

 

 

“จริงๆก็อยากพาคุณเจนไปด้วยครับ งานเยอะ อยากมีคนช่วย”

 

 

“ช่วยเอาไปเผา?”

 

 

“แหมมมมมม พูดงี้คุณนักรบเป็นลมรอเลยนะครับ พวกเราทำกันหนักมากกกกกกกก”

 

 

“นอกจากจะแหมไปถึงพระจันทร์แล้ว ไอ้มากนี่ก็กอไก่เยอะอย่างเกินจำเป็นนะครับ”

 

 

“โหยคุณเจน ถอดคำมาแซะเก่งจริงๆ แต่พวกผมงานยุ่งจริงๆนะครับ”

 

 

“ใครถาม ผมไม่ได้อยากรู้”

 

 

“แหมมมมมมม ขอยาวอีกสักรอบ แล้วใครบอกให้คุณนักรบกลับมากล่อมน้องนอนล่ะครับ”

 

 

“………….”

 

 

“บางทีพี่แกก็ไม่ยอมกินข้าวกลางวันเลยครับ จะบึ่งกลับมาและโทรมาใช้งานตอนกลางคืนตลอด” เป็นภาระระหว่างดูบอลมากมาย

 

 

“ไปร้องเรียนกับกรมแรงงานสิครับ มาบอกอะไรผมล่ะ”  แต่จริงๆที่อีกฝ่ายพูดมาก็รู้สึกอยู่บ้างเหมือนกัน นี่เราหวังดีจนไปกดดันเขาขนาดนั้นเลยเหรอ เห็นหน้านิ่งๆเลยไม่รู้จะสงสารทำไม…อย่างนั้นสินะ

 

 

“แฮ่ๆ อยากไปครับ แต่คุณรบบอกว่ายอมจ่ายค่าชดเชยให้แลกกับการไสหัวไปซะ”  แต่ถ้าคุณเพชรออกจริง แล้วใครจะมาช่วยคุณรบกันเล่า ก็เป็นเจนไม่ใช่เหรอที่ทำให้เลขาของเขาคนนึงต้องออก แม้อีกฝ่ายจะผิดเต็มประตูและเจนจะไม่ได้รู้สึกว่าตนผิดสักนิด ทว่าพอได้ยินอย่างนี้แล้วก็อดจะคิดว่าเป็นเพราะตนเองนั่นแหละที่ทำให้หลานคุณชะนีนุชอะไรนั่นเป็นบ้าเสียก่อน จะบอกว่าไม่ผิดเลยมันก็พอได้

 

 

แต่จะบอกว่าไม่มีความตั้งใจจะไปก่อกวน…ก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่….

 

 

“วันก่อนคุณเจนมาออฟฟิศก็พากันออกไปกินข้าว ไม่ชวนผมกันเลยนะครับ”  นี่ก็ยังตัดพ้อ เพ้อกับเรื่องไร้สาระอยู่นั่น

 

 

“คือพวกผมไปซื้อของให้พระพายนะครับ”

 

 

“ซื้อให้น้องพาย….มีอะไรหรือครับ”

 

 

“น้องสอบติดมหาลัยน่ะ เป็นมหาลัยxxที่น้องอยากได้นะครับ คุณหญิงเลยให้ของขวัญ”

 

 

“อ่อออออ งี้ก็ศิษย์ร่วมสถาบันผมเลยอะดิ”

 

 

“จบมหาลัยมาเหมือนกันหรือครับ”

 

 

“แน่ะ จะถามว่าหน้าถ่อยๆแบบผมเรียนจบมหาลัยมาได้ไงใช่ป่ะ เห็นงี้เกียรตินิยมนะครับ”  หน้าตาโคตรไม่ให้

 

 

“เป็นที่เกลียดอย่างได้รับความนิยมหรือเปล่าครับ”

 

 

“ความหมายประมาณนั้นเลยครับ ว่าแต่พระพายเตรียมตัวไปถึงไหนแล้วเนี่ย เดี๋ยวคราวหน้าเจอกัน ผมต้องแสดงความยินดีหน่อยล่ะ”

 

 

“ตอนนี้ได้ยินว่าหาหออยู่นะครับ เออเป็นรุ่นพี่ก็ดีแล้ว ดูมีประโยชน์ขึ้นมาหน่อย”

 

 

“ง่า….ทำไมฟังดูทะแม่งๆวะครับ”

 

 

“คิดมาก ผมชมนะเนี่ย”

 

 

“ครับๆ ชมก็ชม ว่าแต่มีอะไรให้รับใช้ครับ”

 

 

“แนะนำหอให้น้องหน่อยดิ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องยิบย่อยเสียด้วย พอให้คำแนะนำได้ไหม”

 

 

“อ๋อได้สิครับ จะว่าไปหอที่บ้านผมก็ยังมีห้องว่างอยู่นะ ใกล้เต็มแล้วแหละแต่ถ้าน้องอยากได้เดี๋ยวให้ล็อคไว้ก่อน อยู่หน้ามหาลัยเลย สะดวกสุดละ”

 

 

“หะ?”

 

 

“จะบอกว่าผมขี้โม้เรื่องหอผมอยู่หน้ามหาลัยละสิ แต่ใช่ครับ อยู่หน้ามหาลัยเลย”

 

 

“เปล่า…จะถามว่าหน้าอย่างนี้มีหอ…คือจะบอกว่าทำธุรกิจหอพักไรงี้อยู่เหรอ??”

 

 

“ธุรกิจที่บ้านนะครับ ผมเป็นคนพื้นที่แถวนั้น หน้าตาดูไฮโซไม่เหมือนคนต่างจังหวัดใช่ไหมครับ”

 

 

“เปล่า….หน้าตาดูไม่รวย”

 

 

“คนเรารวยที่ใจใช่ใบหน้าเด้อครับ เอาเป็นว่าถ้าน้องสนใจผมพาไปดูได้นะ แต่ขอเวลาหน่อยตอนนี้งานยุ่งอ่ะ ถ้าจะไปกันเองก็ได้นะครับ เดี๋ยวโทรไปบอกคนที่นั่นให้ต้อนรับ”

 

 

“งานเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

 

“ก็….ครับ”

 

 

“………….”

 

 

“แต่คุณเจนไม่ต้องห่วงนะครับ คุณรบเคยเจอที่หนักกว่านี้มาแล้ว”  เอ๊ะ แล้วเราวกกันมาที่เรื่องนี้ได้ไงกันวะ แล้วที่หน้ากูนี่เขียนว่าห่วงคุณรบอยู่หรือไง

 

 

เจนหรือไอ้คุณเพชรนี่กันแน่ที่มั่ว ใครงงบอกที!

พอ! มึงอะไปพัก!

 

 

แต่เรื่องที่อีตาคุณเพชรนี่พูดก็เป็นเรื่องที่เจนเก็บมาคิดไม่ตก คิ้วของเจนนั้นขมวดมุ่น ไม่ได้หงุดหงิดเพราะการผูกปมเนคไทให้คุณรบไม่สวยอย่างที่ตั้งใจ แต่มันทุกเรื่องนะแหละที่ทำให้หงุดหงิดแบบนี้ นี่กูสามารถเรียกร้องค่าทำขวัญที่ไหนได้บ้าง ไม่ได้ใช่ไหม โอ้ย หงุดหงิดว่ะ ฆ่าให้ตายแม่งทั้งนายและลูกน้องเลยดีกว่า!

 

 

“เจนรักษ์”

 

 

“…………”

 

 

“เจน”

 

 

“…………”

 

 

“คุณเลื่อนปมมาสูงขนาดนี้ กะเอาให้ผมหายใจไม่ออกเลยใช่ไหม”  ใช่! กูจะฆ่ามึง แต่เดี๋ยวนะ!

 

 

เจนคิดได้ แต่ทำไม่ได้นะเฟ้ย!!!!

 

 

“ขอโทษครับ”  เจนรีบคลายมือก่อนจะเลื่อนปมลงมา เกือบได้เกิดเหตุฆาตกรรมในบ้านรัตนสกุลแล้วไหมล่ะ

 

 

“เป็นอะไรน่ะ….เห็นเอาแต่ขมวดคิ้วหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว”

 

 

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

 

 

“…………”

 

 

“จริงๆนะครับ”  เจนย้ำ แต่ก็ยังไม่ยอมมองตา จะว่าไป….เจนก็หลีกเลี่ยงการจ้องตาเขามาแต่ต้น

 

 

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจงั้นเหรอ แม่ใช้งานคุณเยอะไปหรือไง”

 

 

“เอ่อ….ไม่ครับ”  งานสบายแบบที่ไอ้เจนนึกละอายตัวเองแบบนี้นะเหรอเรียกว่าลำบาก ไม่เลย บางทีเจนอยากจะให้คุณหญิงทุ่มกันสักตั้งด้วยงานกองเบ้อเร่อด้วยซ้ำ

 

 

“อืม อยากได้อะไรก็ไปบอกแม่ผมไว้ละกัน”  นักรบพยักหน้ารับทราบไม่ถามซักไซ้ เขายกแขนขึ้นมาข้างนึงเพื่อจะติดกระดุมที่แขนเสื้อ แต่มันก็ทุลักทุเลพอประมาณจนเจนเป็นคนอาสาช่วยติดกระดุมนั้นให้ และเดินไปหยิบเสื้อสูทมาช่วยสวม จะว่าไปแล้วก็ทำเกินหน้าที่จริงๆ อีกนิดมึงควรไปใส่ถุงเท้าให้เขาด้วย…..

 

 

แต่เจน….รู้สึกไม่ดีกับตัวเองเลย

 

 

“ช่วงนี้คุณรบงานยุ่งเหรอครับ”

 

 

“………”

 

 

“ผมเห็นไฟเปิดดึกๆนะครับ เลยเดาเอา”

 

 

“นอนไม่หลับหรือตั้งใจจับผิด”  กูจะไปตั้งใจจับผิดทำไมกันวะ

 

 

“ผมลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกนะครับ”  แต่ไม่ใช่ครับ….จริงๆก็ตั้งใจสังเกตและตื่นมากลางดึกเพื่อมองดูนั่นแหละ

 

 

ยิ่งได้เห็นใต้ตาของอีกฝ่ายก็ยิ่งมั่นใจ เขาดูโทรมกว่าเดิมอาจจะเพราะโหมงาน ทว่าเวลากลับบ้านก็ยังตรงเวลาเหมือนเดิม มาเล่นกับน้อง ช่วยเจนนวดให้น้อง และกล่อมน้องนอน เบ็ดเสร็จทั้งหมดไม่เกิน 2 ชั่วโมงหรอก แต่ 2 ชั่วโมงนั่นก็มากพอให้เอาเวลาไปทำงานให้เสร็จและนอนเร็วๆไม่ใช่เหรอ คิดไปคิดมาก็วนกลับมาที่เดิม คือเจนไปกดดันให้เขาทำมันทั้งหมดสินะ

 

 

“ไม่ต้องไปคิดอะไร”

 

 

“ผมเปล่านะครับ”  เถียงเก่ง ก็มันมีเหตุผลอะไรให้เจนคิดไหมล่ะ

 

 

“หยิบน้ำหอมตรงนั้นมาให้หน่อยสิ ขวดไหนก็ได้”  เขาสั่ง และเจนก็เดินไปหยิบมาให้อย่างคนว่าง่าย ในสามขวดนั้นเจนก็เลือกแบบที่ตนคิดว่าชอบที่สุดออกมายื่นให้เขา ก่อนจะขมวดคิ้วและคิดขึ้นได้ว่าจะเลือกทำไมวะ ไม่ได้ไปดมด้วยสักหน่อย แต่พอคุณรบฉีดที่ข้อมือ จมูกเจ้ากรรมก็ยังสาระแนไปทำฟุดฟิดใส่ เสือกยันจมูกจริงๆ คนอะไร

 

 

“แฮ่….หอมดีนะครับ”  แก้ตัวแก้เก้อกันไปเมื่อคุณรบมองมา อย่าเพิ่งด่าว่าเจนโรคจิตครับ ยังไม่อยากมีคดีทับซ้อนกับเรื่องมาค้นกางเกงในใคร

 

 

“อย่าคิดมากเรื่องนั้นละกัน”

 

 

“…………”

 

 

“หากจะมีอะไรที่นายทำได้ ก็อยากจะให้ทำให้ดีที่สุด”

 

 

แล้วอะไรกันล่ะที่เจนทำได้….

 

 

“เลี้ยงลูกของผมให้ดีที่สุดล่ะกัน เข้าใจไหม”  ก็นั่นมันหน้าที่ของเจนไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าไม่เลี้ยงลูกของเขาให้ดีที่สุด แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะจ้างกัน เจนรักษ์รับรู้ถึงข้อเท็จจริงตรงนี้และพยายามทำให้ดีมาตลอด รวมทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของ 2 พ่อลูกก็เช่นกัน เจนก็ทำอย่างบริสุทธ์ใจ และเห็นผลลัพธ์ที่ดีจนไม่ไว้วางใจหากจะยอมปล่อยให้คุณรบเว้นระยะห่างเพื่อกลับไปเคลียร์งานให้เต็มที่แบบเดิม เพราะไม่รู้เลยว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน เจนอยากช่วย แต่คุณรบบอกว่าเจนช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่เจนรู้ดี…ว่าไม่ใช่ทำไม่ได้

 

 

แต่ไม่รู้ว่าลงมือทำไปแล้วจะดีไหม….ต่างหาก…..

 

 

และเพราะเหตุนี้เจนรักษ์กับตาหนูของเขาจึงมีแผนมาโผล่ที่ตึกรัตนสกุลในตอนบ่ายของวันธรรมดา ก็พอรู้หรอกว่าการอุ้มเด็กเล็กมาด้วยแบบนี้มันเป็นจุดเด่น แต่เจนก็เหมือนจะไม่ค่อยมีทางออกที่ดีเท่าไหร่นัก หลังจากได้คุยกับอีตาเพชรเพราะความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว ใช้เวลาไม่นานก็ตัดสินใจที่จะออกมาโดยการบอกกล่าวทุกคนในบ้านไว้ และก็ได้รับความเห็นชอบอย่างง่ายดาย คุณพรรณียิ้มบอกกล่าวขอบคุณ คุณอำไพเดินไปจัดเตรียมผลไม้ และน้าจินเป็นคนไปเตรียมกล่องข้าว ทุกอย่างถูกจัดเตรียมอย่างรวดเร็วถึงมือของเจนที่กำลังจัดข้าวของของเจ้ากบอ้วน

 

 

“ปา….ปา….”

 

 

“ปะครับ เราไปหาปะป๋ากันนะ”  ก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วเขายินดีที่จะให้น้องวินเรียกแบบไหน แต่เพราะคำว่าปะป๋ามันออกเสียงง่ายที่สุดสำหรับเด็กเล็กในยามนี้ เจนจึงเลือกที่จะเอ่ยถึงเขาโดยใช้คำนี้เพราะคิดว่ามันอาจจะง่ายต่อการจำแนกบุคคลของน้องวิน

 

 

“อะนี่…น้ำผลไม้ น้าใส่กระติกไว้ให้แล้ว”  น้าจินนั้นเอาถุงใส่ของมาให้เพิ่มเติม เจนกำลังจัดการให้เจ้าลูกกบนั่งให้เรียบร้อยในคาร์ซีท

 

 

“ขอบคุณครับ ผมจะบอกคุณรบให้ว่าน้าจินเตรียมให้นะ”  ตอนนี้เจนกับน้าจินญาติดีกันแล้ว

 

 

“เออ ไม่ต้องบอกคุณเขาก็รู้”  แหมมมมมม ก็นี่ใครละเนอะ

 

 

“ครับๆ ผมไปก่อนนะ”

 

 

“เออ….เจน”

 

 

“ครับ”

 

 

“เรื่องเจ้าพายอ่ะ ขอบใจเอ็งมากที่จัดการหาหอให้นะ”

 

 

“หอคุณเพชรนะครับ”  ไม่ได้ลำบากอะไรเลย

 

 

“อืม แต่ถ้าไม่ได้เอ็งไปคุยกับคุณเขา มันก็คงจะหาหอต่อไปอย่างนั้นแหละ แถมเขาว่าหอคุณเพชรนะจองยาก เต็มตลอด”  เพราะอยู่หน้ามหาลัยจึงเป็นที่นิยมและมักถูกจับจองล่วงหน้านานๆ ต้องขอบคุณที่มีคนออกพอดีและขอบคุณที่คุณเพชรล็อคคิวห้องไว้ให้ และเพราะเจนเองก็รู้สึกติดหนี้บุญคุณเจ้าตัวอยู่ไม่น้อย จึงโทรไปไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบด้านการทำงาน และพบว่าเขายังไม่ได้ทานอะไร อันเนื่องมาจากว่า….

 

 

ไม่กล้าไปกินก่อนเจ้านาย…..

 

 


“เออเรื่องคุณรบก็ด้วย”

 

 

“…..ครับ…..”

 

 

“…………”

 

 

“มีอะไรหรือเปล่าครับน้าจิน”

 

 

“เฮ้อ….เห็นเอ็งโง่ๆแบบนี้แล้วข้าก็คิดไม่ออก”

 

 

“ครับ?”  ถึงหน้าเจนจะดูโง่แบบนกๆ แต่สมองกูนี่ระดับมหาลัยนะครับ เก่งกว่าคุโด้ ชินอิจิในร่างโคนันคุงที่ยิงยาสลบชาวบ้านแล้วเสือกไปยืนพากย์เสียงใกล้ๆเสียอีก

 

 

“เออ ข้าขอให้เอ็งโชคดีล่ะกัน”

 

 

“หน้าผมมันดูซวยขนาดนั้นเลยเหรอน้าจิน” เพราะความโง่ซ้ำซากนี่ละมั้งถึงได้โดนฟาดไปอีกที จินตนาถอนหายใจออกมา คนแบบนี้นะเหรอที่จะมาเป็นสะใภ้ของรัตนสกุล คิดผิดก็อยากให้ไปคิดกันใหม่ แต่คิดกันให้ดีๆแล้ว….

 

 

“จริงๆเป็นเอ็งมันก็ไม่แย่หรอก สู้ๆละกันนะไอ้เจนนะ”  เพราะถ้าจินตนาเป็นคุณพรรณี ได้เห็นหน้าไอ้เด็กโง่ๆแต่จิตใจดีๆ แข็งนอกอ่อนโยนและหวงห่วงทั้งลูกและหลานเขาแบบนี้ เป็นใครก็ต้องคิด…อยากได้มาร่วมสกุลกันทั้งนั้น แต่เจ้าตัวล่ะ….

 

 

จะอยากดองกับรัตนสกุลที่ไม่เคยโชคดีในเรื่องความรักนี้หรือเปล่า…..

 

 

 

Tbc

 

 

 

Talk: ความก้าวหน้าของเจนและคนรอบข้างนั้นเป็นไปในทางที่ดีค่ะ ดีใจที่มีคนบอกว่าเรื่องนี้มันฟีลกู้ด โดยส่วนตัวเราไม่ค่อยแน่ใจกับแนวที่แต่งออกมาเท่าไหร่ แต่จะพยายามต่อไปนะคะ ตอนนี้ชิปเปอร์เรือรบเจนชงแรงมาก มีการทำงานเป็นทีมอย่างที่ไม่ได้เห็นได้ชัดแต่เราจะเห็นบทบาทกันเรื่อยๆ น่อวววววว ตอนนี้เราแต่งนำมาหลายตอนละค่ะ เขินจริง เขินจัง เขินจนไม่เป็นอันแต่งต่อ /อ้าว5555555555

 

ขอบคุณที่ติดตาม คอมเมนท์ และแท้กใน #เจนไม่นก <<ติดตามสปอยล์ได้ที่นี่ บางทีวี้ดล่วงหน้าไปคนเดียวใจก็รับไม่ไหวต้องกรีดร้องออกมาใส่ทวิต555

 

Twitter @reallyuri

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 15-07-2018 18:00:26
แก๊งชิปเปอร์เริ่มสร้างโมเม้น5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-07-2018 18:30:48
ดีนะคุณรบไม่พูดว่า “แค่เจนเลี้ยงลูกของเราดี ๆ ก็พอเรื่องอื่นไม่ต้องคิดมาก”
ไม่งั้นชิปเปอร์ทั้งหลายคงปิดหมู่บ้านฉลอง 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-07-2018 18:38:47
คุณแม่พรรณีนี่แหละกัปตัน ค่อยๆเพิ่มหน้าที่ภรรยาให้เจน
ดูแลคุณรบ ดูแลลูกกบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-07-2018 18:47:12
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: buadin ที่ 15-07-2018 19:06:55
 :mew3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-07-2018 19:10:30
เจนแสดงฝีมือเรื่องการเลี้ยงลูกให้เห็นแล้ว เหลือด้านเลขาเนี่ยเมื่อไหร่คุณรบจะได้เห็น
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-07-2018 19:14:51
วรั้ย อะไรจ๊าไม่กล้ามองสบตา
เขินรอล่วงหน้านะคะ เอามาลงเลย  :katai2-1: พายเพชรก็ดีนะคะ
คุณหญิงทำดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 15-07-2018 19:38:27
ชอบความคุยกันของน้องเจนกะคุณเพชร ตลก
ตบมุกกันเก่ง! 5555555555555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2018 19:39:54
หน้าที่เจนเพิ่มเติมแล้ว.......   :mew1:
จากเดิมเลี้ยงเจ้าลูกกบ   :hao3:
มาดูแลซื้อของ กกน.ให้พ่อลูกกบ  :z3:
ตอนนี้มาผูกเนคไท ......  :ling1:
อยากอ่านตอนเจนช่วยงานที่ตึกรัตนสกุลแล้ว  :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-07-2018 20:13:52
ขยายหน้าที่ไปอีก  :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 15-07-2018 21:27:03
เขาผูกไทให้กันค่ะคุณ!!! คุณแม่ชิปเต็มกำลังเจนเตรียมตัวรับมือพ่อกบเพิ่มได้เลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 15-07-2018 21:51:53
ความเขินยังตามมาอีก 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-07-2018 22:05:49
เจนคนเด๋อ2018 55555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 15-07-2018 22:57:07
กรี้ดดดดด แงง น่ารักกก โอ้ยยย ใจน้องงงงง
เขาผูกเนคไทด์ เลือกน้ำหอมให้กันด้วยค่าาาา
รู้สึกเหมือนเจนมีแววจะได้ช่วยงานนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 16-07-2018 00:07:58
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: punnicha ที่ 16-07-2018 02:12:09
ชิปเปอร์สู้ต่อไปค่ะ!!! เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้าา :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 22] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.7.2018 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-07-2018 18:41:51
ทั้งผูกเนคไทให้ ทั้งเลือกน้ำหอมให้  ทำหน้าที่ศรีภรรยาได้ดีจริงๆ แถมยังมีชิปเปอร์อันดับหนึ่งอย่างคุณหญิงแม่คอยชง คอยเชียร์อีก

ชอบเวลาเจนกับคุณเพชรคุยกันมากกกกกกก  ต่อปากต่อคำกันมันเลย
หัวข้อ: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-07-2018 19:38:20
#เจนไม่นก

เจนกับการเป็นหนุ่มแว่น

 

 

 

 

 

การต้อนรับนี่ดีมาก….ขาดแต่พรมปูให้เดินตามทางไป

 

 

อาจจะเพราะไม่มีพนักงานคนไหนเข้าหน้าคุณรบได้อีกแล้ว เจนจึงเหมือนเป็นความหวังครั้งใหม่ของหมู่บ้าน เมื่อมาถึงที่ประชาสัมพันธ์ พนักงานสาวก็กุลีกุจอมาช่วยถือของในมือกุยทางให้ ปล่อยให้เจนรับผิดชอบสะพายเจ้าลูกกบขึ้นไปบนชั้นอันเป็นที่ทำงานของเหล่าผู้บริหาร ประตูทุกบานนี่ไม่ต้องผลักเองเลย แทบจะมีคนผลักให้ทุกประตู

 

 

คุณรบนี่น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ อืม….ก็น่ากลัวนะแหละ เจนก็พอจะรู้อยู่เพราะตนเองก็เคยประสบพบมามาก แต่เพราะว่าท่าทีที่อ่อนลงของเขาทำให้ความหวาดกลัวนั้นเริ่มจะหายไปหมดแล้ว หรือไม่ก็คงเพราะความคึกคะนองไม่กลัวตายของตัวเองนั่นแหละ ที่ยังทำให้ลอบยิ้มเวลาที่เขาพลั้งเผลอพลาดอะไรไป  เจนช่างเป็นคนไม่กลัวความตายที่แท้จริง และคุณสมบัติเหล่านี้ ควรได้เป็นผู้กล้าของบรรดาบริวารทั้งหลายในบริษัทใช่ไหม

 

 

“ขอบคุณมากครับ”  เจนนั้นหันไปยิ้มและค้อมหัวให้ พนักงานสาวนั้นส่งยิ้มกลับก่อนจะเอ่ยออกมา

 

 

“สู้ๆนะคะ เอาใจช่วยค่ะ”  นั่นห้องประธานหรือพื้นที่สงครามครับ ถามจริงๆ

 

 

คงจะเป็นอย่างหลัง จึงทำให้พนักงานสาวหายตัวไปหลังจากที่เจนแค่หันไปมองประตูแค่ชั่ววินาที จะว่าไม่เข้าใจเธอเลยก็ไม่ใช่ ครั้งนึงเจนก็เคยเป็นพนักงานบริษัทมาก่อนเช่นกัน จึงไม่แปลกที่จะเข้าใจและยิ้มออกมาเพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ทั้งๆที่มันผ่านมายังไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ แต่ชีวิตเจนกลับผกผันได้ขนาดนี้

 

 

โทษเจ้าลูกกบนี่ได้ไหม….อยากกัดแก้มนัก

 

 

“อ้าวคุณเจน”  นี่ก็สู่รู้นัก เปิดประตูออกมาหาได้เหมาะเจาะนัก คนตัวเล็กมองเลขาเจ้าของห้องด้วยแววตาประเมินในรอยยิ้มไม่จริงใจของอีกฝ่าย อาหารที่รับคืนมาจากพนักงานหญิงคนนั้นไปอยู่ในมือของอีกคนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 

 

“ผมเพิ่งมาถึงได้ไม่ถึงสิบวิเลย บังเอิญจังเลยนะครับ”

 

 

“ฮะๆ นี่อาหารกลางวันของคุณรบเหรอครับ”  รู้ดีไปอีก

 

 

“ครับ น่าเสียดาย….ผมบอกที่บ้านไม่ทันว่าคุณเพชรยุ่ง เขาก็เลยเผื่อมาให้อีกชุด ไว้คราวหน้าผมจะเตือนให้ว่าไม่ต้องทำเผื่อนะครับ”  ความห่วงใยอันไม่จริงใจนั้นถูกส่งกลับไปบ้าง  แต่เจนไม่รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรออกไปเพราะอีกฝ่ายยิ้มกว้าง

 

 

“โหยยยยยคุณเจนจะมาอีกเหรอครับใจดีจัง”

 

 

“………..”  ฉิบหายแล้ว

 

 

“ถ้าไงเชิญเข้าไปข้างในก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”  เจนพลาด

 

 

พลาดลงหลุมที่ตัวเองขุดลงไปทั้งตัว!

 

 

แต่เจ็บใจไม่ได้นานก็ต้องเดินเข้าไปเพราะไม่งั้นเจ้าของห้องอาจจะตะโกนด่าแม่กันออกมา เจนนั้นเดินเข้าไปภายใน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาแม้จะอ้างว่าคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ แต่รังสีความกดดันของตัวบอสที่แผ่ออกมา เจนรักษ์เริ่มเข้าใจแล้วว่าคนทั้งบริษัทที่มองกันเหมือนผู้กล้าที่กินดีหมีนี่มันเพราะอะไร

 

 

“ช่วยเอานี่ไปถ่ายเอกสารด้วย”  เขาพูด ทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้ามาจากเอกสารและเครื่องคิดเลข  ในตอนนี้เจนยังไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เพราะบรรยากาศมันกดดันจนหาเสียงของตัวเองไม่เจอ กระนั้นด้วยความเคยชินหรือเพราะทำอะไรไม่ถูกก็ไม่รู้ เจนจึงเดินไปทั้งๆที่ยังมีเจ้าลูกกบอยู่ที่เป้ด้านหน้าแบบนี้  หยิบเอกสารที่เขาว่านั่นแล้วไปถ่ายเอกสารให้ในเครื่องปริ้นท์เตอร์ขนาดเล็กที่อีกด้านนึง ถูกเครื่องหรือเปล่าไม่รู้ แต่ทั้งห้องก็เห็นแค่เครื่องนี้ละนะ

 

 

“แอะ คิกๆ”  เสียงหัวเราะชอบใจของเจ้ากบที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับเสียงเครื่องปริ้นท์นั้นดังขึ้น มือของผู้ใหญ่ทั้งสองชะงัก โดยเฉพาะเขาที่กำลังกดเครื่องคิดเลขอยู่ นักรบรีบเรียกสติก่อนจะกดปุ่มเท่ากับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมา แล้วจึงหยุดมือ เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เครื่องปริ้นท์  ตัวเล็กๆของเจนรักษ์นั้นไม่ได้เล็กจนสามารถเอาไปมุดซ่อนตัวที่มุมไหนได้เลย ยิ่งขาแข็งไปหมดแล้วอย่างนี้ คงต้องยอมจำนนให้โดนด่าอย่างเดียว

 

 

“เจนรักษ์”  เขาเหมือนจะยังไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่เจนถ่ายเอกสารเสร็จแล้วจึงเดินนำมาให้เขา นักรบได้เห็นเต็มๆตาว่านอกจากพี่เลี้ยงจะมาแล้ว เจ้าลูกกบดูโอ้ก็มาด้วย แถมยังหัวเราะไม่ได้ดูอารมณ์คนเป็นพ่อเอาเสียเลย

 

 

“เจนต้องขอโทษคุณรบก่อนหรือเปล่าที่อยู่ๆก็เข้ามา” พูดให้ดูสวยไปอย่างนั้นล่ะ จริงๆอยากให้ไปด่าไอ้เพชรนู่นมาก ที่เปิดประตูและดุนหลังให้เข้ามานี่มันทั้งนั้น

 

 

“มาทำอะไรที่นี่”

 

 

“ผมเอาอาหารกลางวันมาให้ครับ”

 

 

“ใครสั่ง”  แล้วใครให้ดุล่ะ

 

 

“ไม่มีครับ”

 

 

“แล้วมาทำไม”

 

 

“……………”

 

 

“เจนรักษ์”

 

 

“ผมรู้สึกไม่ดีครับ”  ก็รู้ว่าเงียบไปก็ไม่ได้อะไร และเจนก็ไม่อยากให้เขาขึ้นเสียงใส่จนหงุดหงิดให้น้ำตาไหล  จึงยอมที่จะพูดความจริงออกมา ใช่…..เจนรู้สึกผิด แบบโคตรรู้สึกผิด

 

 

แต่รู้สึกผิดอะไร….

 

 

“ปะ ปะ ปา”  แต่ดูเหมือนเจ้าลูกกบไม่ได้เข้าใจในสถานการณ์อะไรเลย ยังส่งเสียงนั่นนี่อย่างร่าเริง

 

 

“รู้สึกผิด ทำไม”  เขาถามออกมา

 

 

“ผมได้ยินว่าคุณรบงานเยอะมากๆและยังจะกลับบ้านไปเจอน้องวิน แถมช่วงนี้งานของคุณรบและคุณเพชรก็เยอะมากขึ้นไปอีก ทำกันไม่ทันแล้ว”

 

 

“การที่ผมกลับไปหาลูกมันไม่ได้เป็นอะไรที่เธอจะต้องมารู้สึกผิด”

 

 

“ผมทราบ”

 

 

“………….”

 

 

“แต่ผมก็รู้สึกอยู่ดี”  เพราะเจนห้ามมันไม่ได้ ถ้าเจนไม่มีเรื่องกับคุณรฐา และไม่พยายามทำให้เขามาเจอลูกทุกวัน บางทีคุณรบก็อาจจะไม่พยายามบีบรัดทุกอย่างให้เข้ากับตารางเวลาของครอบครัว เพียงแค่มองเจนรักษ์ที่ก้มหน้าลง เขาก็พอจะเข้าใจ อยากจะดุอีก แต่ก็ทำไม่ลง ไม่รู้ทำไมใจถึงไม่แข็งพอแบบที่เคยเป็น เขาเห็นถุงในมือและตัวเจ้าลูกกบที่อีกคนแบกมาด้วยแล้วก็ถอนหายใจออกมา

 

 

“ผมจะกินข้าวกลางวันแล้ว”  เขาตัดจบด้วยการยอมๆไปซะ ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะโกรธเคืองไปทำไมด้วยอีกส่วน เขาเพิ่งสังเกตว่านี่มันก็บ่ายแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเพราะมัวแต่ห่วงว่าจะทำไม่ทัน ทำให้ไม่ได้กลับบ้านไปหาลูก  เป็นอย่างนี้มาหลายวันจนน้ำหนักลดไปเหมือนกัน ตราบใดที่ร่างกายไม่ทรุดหนัก ก็ไม่มีหรอกที่จะยอมรับและรักตัวเองจริงๆ

 

 

เขากับเจนรักษ์ช่วยกันเคลียร์พื้นที่ของโต๊ะให้มีที่ว่างสำหรับวางกล่องข้าว อาหารหน้าตาน่ากินที่ดูก็รู้ว่าฝีมือใครถูกวางไว้ เรียกให้น้ำย่อยได้ทำงาน  เขารับรู้แล้วว่าร่างกายเองก็ต้องการ หากแต่จิตใจก็ยังคงฝืนไว้นาน เจนรักษ์นั้นรินน้ำจากเหยือกใส่แก้วให้กัน  เป็นการบริการแบบที่เขาน่าจะชินได้แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกพิเศษขึ้นมา เจ้าตัวยืนละล้าละลังทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะล็อคเป้าหมายไปที่โซฟาที่อยู่อีกมุมนึงของห้อง

 

 

“เอาเก้าอี้นั่นมานั่ง”  เขาหลุดสั่ง เจ้าของร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ เสียงของนักรบคงดูดุแต่ว่าเขาจงใจ

 

 

เจนรักษ์นั้นเอาตาหนูออกจากเป้อุ้มเด็ก ลากเก้าอี้ที่เลขาของเขาเคยใช้นั่งขณะที่ทำงานอยู่ที่นี่มานั่งตรงข้าม จับน้องวินยืนบนตักเป็นกันชนระหว่างเราสองคน ช่างหาทูติสัมพันธไมตรีได้เหมาะสม เพราะทันทีที่ดวงตากลมนั้นจ้องมองคนหน้าดุ เขาก็ไม่พูดบ่นอะไรอีกเลย แต่ในระหว่างที่ทานอาหารอยู่นั้น เจนรักษ์ที่เกลียดความเงียบงันก็ได้ถามออกมา

 

 

“งานเยอะ….มากไหมครับ”

 

 

“อืม”

 

 

“วันนี้คุณรบทำงานเยอะๆ กลับดึกๆก็ได้นะครับ”

 

 

“ทำไมล่ะ”

 

 

“เดี๋ยวผมกล่อมน้องให้เอง เอาไว้ให้คุณรบทำงานเสร็จแล้วก็พักผ่อนกับน้องยาวๆดีกว่าไหมครับ”

 

 

“………….”

 

 

“ก็เป็นแค่ไอเดียของเจนเองครับ ทำไม่ได้ก็……”

 

 

“งานผมเยอะ ไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่เหมือนกัน” แม้มันจะมีเดดไลน์ แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทำให้ต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม จนตอนนี้ก็ยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ ตัวเลขที่ไม่ตรงกันแบบนี้ทำให้ยิ่งช้า ตอนนี้ทุกแผนกกำลังเร่งจัดการปัญหากันอยู่ แต่คงอีกสักพักกว่าจะจัดการเรียบร้อย

 

 

“เจน…..พอจะช่วยอะไรได้ไหมครับ”

 

 

“…………….”

 

 

“คือ….เจนถ่ายเอกสารได้ แล้วก็ซื้ออาหารของว่างมาให้ได้”

 

 

“…………….”

 

 

“ง่า….แต่เจนกลับไปเลี้ยงน้องให้ดีแบบที่คุณรบว่าก็ได้ครับ คุณรบจะได้ไม่ต้องห่วง”

 

 

“ใช้พวก Microsoft พื้นฐานได้ไหม”

 

 

“…………..”

 

 

“ถ้าไม่ได้ก็คอยถ่ายเอกสารกับหาของกิน”

 

 

“ได้ครับ”

 

 

“……………”

 

 

“แต่ขออนุญาตฝากน้องวินไว้กับแม่ได้ไหมครับ”  อย่างไรก็ตามคุณพี่เลี้ยงก็ไม่ได้ลืมหน้าที่

 

 

แค่ขอฝากหน้าที่นี้….ไว้ชั่วคราว……

 

 

ก็ไม่รู้หรอกว่ามันพอจะมีงานอะไรให้พี่เลี้ยงเด็กทำได้บ้างในบริษัทนี้ แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือกล่อมเจ้าลูกกบให้นอนกลางวันเสียก่อน น้องวินไม่ได้งอแง ตาใสมากเลยทีเดียวเชียวแหละ แต่ก็นะได้เวลาแล้วพอขวดนมใส่ปากปุ๊บเจ้าตัวก็เคลิ้มปั๊บ เลี้ยงง่ายจนน่าตกใจ ใช้เวลาไม่นานก็นอนหลับแล้ว ไม่งอแงอยากเล่นกับคุณพ่อหรือพี่เจนเลยสักนิด

 

 

สมกับเป็นลูกชายใครก็ไม่รู้…..

 

 

 

“หลับดีๆนะเจ้าลูกกบ”  เจนที่พาน้องมานอนในโซฟาเบดของห้องทำงานคุณรบนั้นกระซิบบอกเบาๆ คาดว่าคนพ่อคงจะทานข้าวเสร็จแล้วเพราะได้ยินเสียงต็อกแต็กจากแป้นพิมดังขึ้น  เจนรักษ์ยืนขึ้น พร้อมสำหรับการทำงานแล้ว ทว่าเมื่อเดินกลับไปหาที่โต๊ะ คุณนักรบก็ยังเอาแต่สนใจข้อมูลในคอมพิวเตอร์มากกว่าตัวบุคคลที่ยืนเก้กังทำอะไรไม่ถูก เจนไม่อยากเรียกให้ดูเสียมารยาท เพราะที่ยืนอยู่นี่ก็กดดันเขาแบบไม่มีมารยาทพอแล้ว

 

 

จริงๆแล้วเจนรักษ์ไม่รู้เรื่องของบริษัทนี้มากนัก เป็นไปได้ว่างานที่เขาจะให้ช่วยอาจจะไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะเขาก็คงไม่ทราบแน่ชัดว่าคนมาของานทำนั้นทำอะไรได้บ้าง เอกสารทางการเงิน แฟ้มสำหรับใส่เอกสารให้เซ็นมากมายวางกองไว้อยู่ เขายังคงพิมพ์งานอย่างต่อเนื่องและไม่ได้หันมามองกันแต่อย่างใด จนกระทั่งกดส่งเมล์ฉบับนั้นไปจึงได้เอ่ยปากออกมา

 

 

“ช่วยเอาแฟ้มพวกนี้ไปคืนให้กับแต่ละแผนกให้ผมที”

 

 

“เอ่อครับ”  จริงๆแล้วเจนยังจำไม่ค่อยได้เลยว่าแผนกไหนๆของบริษัทนี้อยู่ตรงไหน แล้วจะเอาไปคืนให้ได้อย่างไร ที่เห็นๆนั้นมีอยู่สามแผนกที่ต้องไป ฝ่ายการเงิน มาร์เก็ตติ้ง และฝ่าย HR

 

 

เจนรักษ์ค่อยๆปิดประตูอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้กวนเหล่าบรรดาผู้ชายนามสกุลรัตนสกุลที่คนนึงหลับส่วนอีกคนทำงาน และเมื่อหันกลับมาก็ได้เห็นคุณเพชรที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่นั้นยักคิ้วให้ แน่นอนว่าเหม็นขี้หน้า แต่ในเวลานี้ถ้าไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง คาดว่าคงไปไหนไม่ได้ ต้องเอาแฟ้มพวกนี้ฟาดหัวคนระบายอารมณ์

 

 

“เป็นแผนคุณใช่ไหม”

 

 

“โหยยยย คุณเจนเก่งจัง”  รู้ทันด้วย

 

 

“อย่างคุณนี่อ้าปากก็เห็นไปถึงม้ามแล้ว”

 

 

“แฮ่ ช่วยกันหน่อยนะครับคุณเจน ตอนนี้พนักงานเราลาออกกันไปเยอะ งานที่พวกผมไม่เคยทำก็ต้องมาทำกันนี่แหละ ขนาดท่านประธานยังต้องเอาพรีเซ็นเทชั่นมาแก้เองเลย”

 

 

“พนักงานลาออกเยอะเหรอ”  แปลก….ไม่รอโบนัสกันหรือไง

 

 

“ก็ครับ”

 

 

“ปกติสันดารแบบคุณเพชรต้องเล่าแล้ว แต่ที่อ้ำอึ้งทำหน้าน่าสงสัยเนี่ย”

 

 

“แฮ่”

 

 

“เพราะเรื่องพนักงานลาออกนี่เกี่ยวกับผมใช่ไหม”  ทำไม….คิดว่าเจนรักษ์จ้องจับเจ้านายกันค่อนบริษัทหรือไงถึงได้ไม่พอใจลาออก

 

 

“แฮ่ ก็….ท่านประธานไล่คุณรฐาออกและก็เปรี้ยวไปนิด พวกโครงการร่วมก็ระงับ เวนเดอร์ที่ทางนั้นแนะนำให้ก็ไม่ได้ไปต่อหลายโปรเจ็คเหมือนกัน ตอนนี้ก็เลยต้องมาใช้กรรมเพราะทางนั้นเขาเล่นซื้อตัวคนของทางเราไปนะครับ”

 

 

“หะ…..”

 

 

“มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณเจนหรอกครับ ท่านหาจังหวะมาสักพักเหมือนกัน”

 

 

“จะบอกว่าผมเป็นข้ออ้างสินะ”

 

 

“ก็ไม่เชิงครับ จริงๆก็สนิทกันมาตั้งแต่รุ่นประธานคนก่อน ตอนหลังจับทุจริตบางอย่างได้บ้างแต่ไม่กล้าทำอะไรโผงผาง คุณรบเองก็เกรงใจคุณรัชนีนุชเพราะหย่ากับหลานเธอด้วยนะครับเลยเงียบๆกันไปก่อน พอมาเกิดเรื่องคุณเจนปุ๊บ ท่านก็สั่งลงดาบเลย”

 

 

“………….”

 

 

“เอ่อแต่ว่า…คุณรบคิดไว้ก่อนแล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้นะครับ ท่านไม่ได้ใส่ใจอะไรและไม่ได้รู้สึกผิดที่ทำลงไปเลย หนำซ้ำยังยักไหล่ไม่แคร์ใคร ต่อให้ผมอยากจะบอกว่าแคร์ผมบ้าง งานมันเยอะก็เถอะ”

 

 

“ผมเอาเอกสารลงไปให้แผนกต่างๆก่อนละกัน”  เจนรักษ์ปัดจะคุยต่อ รำคาญ

 

 

“ว่าแต่คุณเจนตกลงช่วยแล้วเหรอครับ”

 

 

“………….”

 

 

“ผมดีใจแทนคุณรบนะครับถ้าคุณเจนหวังดีกับเจ้านายผมจริงๆ”

 

 

“ผมดูเป็นคนไม่จริงใจขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

 

“เปล่าครับ เพราะคุณเจนดูเป็นคนดีต่างหาก”

 

 

“…………..”

 

 

“เลยดีใจมากที่คุณเจนยอมมาช่วยนะครับ”  อีตาเพชรนี่

 

 

มันพูดอีหยังของมันวะ………..

 

 

และเราก็กลับมาโหมดจริงจังอีกครั้ง คุณเพชรเป็นคนชี้บอกว่าแผนกไหนไปยังไง พร้อมกำชับให้กลับมาช่วยทำงานต่อ เนื่องจากว่าคุณรบอาจจะยุ่งจนไม่เป็นอันฝากฝังอะไร เพราะฉะนั้นอีตาเพชรนี่แหละที่จะเป็นคนมอบหมายเอางานที่มันยังไม่ได้ทำมาโบ้ยให้เจนทำเอง ซึ่งงานเหล่านั้นต้องมั่นใจว่าเจนซึ่งไม่รู้ห่าอะไรเกี่ยวกับบริษัทนี้จะช่วยได้ ทั้งนี้คำว่าเคยเป็นเลขาเหมือนกัน ไม่ได้รับประกันว่าฝีไม้ลายมือเจน จะเก่งหรือง่อยกว่าอีตาเพชรนี่เหมือนกัน!

 

 

“อ้าวคุณเจน”  ผู้จัดการฝ่ายการเงิน คุณวรรณาที่เจนเคยมาพบกับคุณหญิงเมื่อคราวก่อนได้กล่าวทัก เธอยิ้มให้อย่างผู้ใหญ่ใจดี แต่เจนรู้ว่าเธอนั้นโหดและเขี้ยวแบบขิงๆในชีวิตจริง

 

 

“หวัดดีครับ เจนเอาเอกสารมาให้จากคุณรบนะครับ”  และเจนรู้ว่าตัวเองต้องทำตัวให้มีมารยาทที่ดี ดูกิ้วก้าวกับผู้ใหญ่วัยป้าให้เขาเอ็นดูไว้ก่อน ไม่รู้ว่าต้องได้ช่วยงานอะไรคุณรบบ้าง และบางทีโลกมันก็อาจจะกลมต้องเวียนมาเจอกันอีกก็เป็นได้

 

 

“มาช่วยงานคุณรบเหรอคะ น่ารักจังเลย ขอบคุณมากนะคะ” เธอกล่าวขอบคุณและรับเอกสารไป แววตาดูวิบวับแปลกๆแต่เจนเลือกที่จะไม่ใส่ใจ

 

 

“เห็นคุณเพชรบอกว่ามีเอกสารที่คุณรบขอให้เอากลับไปด้วย มิทราบว่าเตรียมไว้หรือยังครับ”

 

 

“เตรียมเสร็จพอดีเลยค่ะ คุณเจนจะเอาไปเลยไหมคะ”  เจนพยักหน้า รับแฟ้มงานสองแฟ้มใหญ่มาไว้ในมือ ยิ้มให้ก่อนจะเดินกลับไป

 

 

จะว่าไปแล้วคุณรบไว้ใจเจนให้ยุ่งกับเอกสารการเงินของบริษัทแล้วหรือนี่…..

 

 

ก็ไม่รู้หรอกว่าที่อุ้มอยู่นั้นสำคัญและเป็นความลับแค่ไหน แต่เจนจะพยายามคิดว่าถ้ารัตนสกุลมอบหมายยอมรับให้สองอ้อมแขนของเจนที่มีไว้อุ้มน้องวินผู้ซึ่งจะขึ้นมาเป็นนายเหนือหัวคนต่อไปแล้วล่ะก็ พวกเอกสารทางการเงินพวกนี้ก็คงจะยินดีให้เจนได้เป็นผู้จับถือมาส่งให้พวกเขาได้เช่นกัน และถึงตนจะคิดไม่ซื่อจริงๆ….ช่วงเวลาสั้นๆก็คงเอามาตรวจดูอะไรไม่ได้อยู่ดี โชคดีนะเนี่ยที่เจนเป็นคนดีไม่เคยหวังร้ายกับบ้านหลังนี้เลย ถ้าถามว่าเพราะอะไร….เพราะมันเหนื่อยไงครับ เจนไม่โรคจิตหาเรื่องใส่ตัวให้มานั่งแก้หรอกนะ

 

 

“ขออนุญาตครับ”  เจนรักษ์นั้นเอ่ยขออนุญาต ก่อนจะใช้ไหล่ดันประตูที่เปิดแง้มนิดๆเข้ามา เอกสารสองแฟ้มใหญ่ถูกนำมาวางไว้ตามการโบ้ยใบ้ของตาคุณเพชรที่อยู่ในห้อง เจนเหลือบไปมองน้องวินเพียงเล็กน้อย คงอีกสักพักกว่าจะตื่น ภาวนาให้น้องพระพายกับคุณอำไพมารับไวๆ เพราะเจนได้โทรไปบอกทุกคนแล้ว

 

 

ว่าตั้งใจจะช่วยให้งานคุณรบเสร็จไวๆเช่นกัน

 

 

ในตอนนั้นคุณหญิงนิ่งเงียบไปพักใหญ่จนเจนใจเสีย ก่อนที่เธอจะกล่าวคำขอบคุณด้วยน้ำเสียงดีใจขึ้นมา เธอบอกว่าเธออนุญาตให้เจนช่วยได้ตามความเหมาะสมแล้วแต่วิจารณญาณ  กำชับเรื่องความเจ้าเล่ห์ของเลขาคุณนักรบอีกนิด ก่อนจะให้คุยกับแม่ เจนฝากฝังให้ช่วยดูแลตาหนูแทนเพราะติดภารกิจ คุณอำไพสอบถามด้วยความเป็นห่วงอีกนิด แต่เมื่อเจนได้อธิบายว่ามันเป็นความสบายใจของเจนที่มีส่วนทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แม่ก็เข้าใจและอวยพรให้กัน น้องพระพายที่นั่งพาแม่ขึ้นรถแท็กซี่มา อาสาจะขับรถกลับให้เพราะต้องพาน้องวินกลับบ้านและรถที่เจนขับมามีคาร์ซีทอยู่คันเดียว ในส่วนของเจนนะเหรอ…

 

 

ก็คงต้องโบกรถคนแถวนี้กลับละมั้ง…..

 

 

 

“คุณเจนครับ ผมเอาโน้ตบุคมาให้แล้ว และก็โต๊ะทำงานชั่วคราวใช้โต๊ะผมตรงนั้นได้เลย”  ช่วงที่งานเยอะ เพชรก็จะนั่งทำงานในห้องของคุณนักรบเช่นกันจึงมีโต๊ะทำงานเล็กๆอยู่ตรงนั้นด้วย

 

 

ว่าแต่เจนมานั่งของเขา แล้วเขาล่ะจะไปไหน???

 

 

 

“ผมต้องช่วยคุณรบตรวจบัญชี จะนั่งทำงานที่ตรงนั้น ถ้ามีคำถามก็เรียกได้เลยนะครับ”  เพชรเองก็ไม่ได้มีท่าทีกวนๆแบบที่ชอบเป็น เขาอธิบายงานให้เจนอย่างจริงจังเพราะแต่ละวินาทีมีค่า เพชรอยากจะกลับไปดูNetflix ที่บ้านเพราะไม่คุ้มค่าใช้จ่ายรายเดือน บ่องตงๆ

 

 

“คุณเพชรมันจะมีอะไรที่ผมพอจะทำได้ไหม”

 

 

“มีแน่นอนครับ แต่เอาที่ง่ายๆก่อนเลยละกัน เคยทำพวก Presentation บ้างไหม”

 

 

“ก็…เคยนะ”

 

 

“เอกสารชุดนี้เป็นเอกสารชุดเก่าที่ทีมงานที่ลาออกไปทำไว้ ผมกับเจ้านายคิดใหม่ทำใหม่แล้วโน้ตแก้และเพิ่มด้วยปากกาไว้แล้ว อยากให้คุณเจนช่วยออกแบบและทำออกมาให้หน่อย ตอนนี้เราไม่มีไฟล์ต้นฉบับต้องทำใหม่หมด พวกข้อมูลรูปภาพผมเซฟไว้ที่หน้า Desktop ให้แล้ว ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมที่จะต้องใช้ประกอบก็อยู่นี่ครับ”

 

 

“รูปแบบเอาแบบนี้เลยไหมครับ”

 

 

“พื้นฐานเอาแบบนี้ก็ได้ครับ”

 

 

“โอเค”  เจนเปิดดูแต่ละหน้า โชคดีที่พวกเขาไม่ใช่พวกลายมือหวัดจนเกินไป มีภาษาไทยปนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งนั่นก็ดีแล้วสำหรับเจน

 

 

“แต่ถ้าคุณเจนมีไอเดียที่ดีกว่าและคิดว่าพวกผมจะนำไปใช้ในการประชุมนำเสนอได้ก็ใส่มาครับ”

 

 

“คุณจะไม่งงกับที่เจนออกแบบเหรอ”

 

 

“ผมเป็นคนพรีเซ็นท์เอง พอคุณเจนทำเสร็จผมก็จะมาเช็คและสอบถามเองครับ”

 

 

“ผมจะทำให้เสร็จในวันนี้”  เจนบอกด้วยความมั่นใจ ก่อนจะก้มลงไปหยิบของบางอย่างขึ้นมา  ก็จริงอยู่ว่าถ้าให้คุณเพชรมาทำย่อมเร็วกว่าเพราะเจนนั้นเหมือนเริ่มจากศูนย์ แต่เพราะเพชรเองก็ติดงานอื่นจึงจำต้องหยิบยื่นงานที่พอจะแบ่งให้ได้มา เจนรักษ์สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะหยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่ หวังว่าการเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ผ่านมาจะไม่ลดทอนศักยภาพที่ตนมีลงไปหมด เจนต้องทำทั้งหมดให้เสร็จวันนี้ และจะต้องไม่ทำให้ใครรู้สึกผิดหวังที่ฝากฝังให้ช่วยงานด้วย!

 

 

ผ่านไปสักพัก เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องก็ดังขึ้น เป็นพระพายกับคุณอำไพที่บอกว่าจะมารับน้องวินนั่นเอง เจนนั้นวางเอกสารในมือลงพร้อมกับเดินไปหาคนทั้งสอง คุณอำไพนั้นค่อยๆอุ้มน้องวินที่กำลังหลับอยู่อย่างสงบ โชคดีที่วันนี้น้องหลับลึกจึงไม่โวยวาย เจนไม่น่าพาน้องมาแต่แรกเลย แต่ก็อยากให้คุณพ่อได้เห็นน้อง จะได้วางใจและตั้งใจทำงาน

 

 

ทว่าตอนที่คุณอำไพหันมาล่ำลา คุณรบที่ไม่เคยวางมือจากงานก็เดินเข้ามา รอยยิ้มที่ดูเหน็ดเหนื่อยของเขาเหมือนแสงแรกของวันที่แท้จริง มือใหญ่ของเขาค่อยๆแตะเบาๆลงบนแก้มนุ่มของเจ้าลูกกบที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง ต่อให้คุณรบเป็นยอดมนุษย์แค่ไหน เขาก็ไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่กำลังจะหมดพลังงาน และหากจะถามหาขุมพลังของเขา ก็เหมือนจะมีเพียงแห่งเดียวในที่นี้เท่านั้น

 

 

คือน้องวินที่เขาทุ่มเททุกอย่างให้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ

ความรักช่างเป็นเรื่องที่เข้าใจยากแต่ชวนอบอุ่นเสียจริง

 

 

“เดี๋ยวป๊ะป๋าจะรีบกลับไปหานะ”  เขาจะสู้อีกอึดใจเพื่อได้ผลตอบแทนอันคุ้มค่า หากการเจอกันเพียงครู่มันไม่พอ คงต้องลองยอมห่างกันสักพักแบบที่เจนรักษ์แนะนำ เพื่อให้ได้โอกาสมากอดลูกให้เต็มอกอย่างสบายใจสักครั้งดู เขาก็ไม่อยากจะเชื่อหรือไม่อยากจะขอร้องไหว้วานให้ใครมาเป็นที่พึ่งยามยาก แต่ก็ยอมรับว่าพอได้ปลดหลายสิ่งหลายอย่างลงจากบ่าตนดู ก็ชักเริ่มจะติดใจ

 

 

และในวันนี้ก็ได้อนุมัติเรื่องแปลกๆที่สุดในชีวิตลงไปตั้งหลายเรื่อง

โดยเฉพาะเรื่องพนักงานใหม่ชั่วคราวที่ยืนหน้าสลอนอยู่ตรงนี้

 

 

“ตั้งใจทำงานนะคะ คุณรบ”  คุณอำไพพูด และก็เดินจากไปจริงๆ

 

 

คุณเพชรอาสาพาไปส่งที่รถเพราะกลัวว่าพระพายซึ่งไม่เคยมาจะมาไม่ถูก เจนไม่ได้เห็นแววตาสุดเสียดายของอีกฝ่าย แต่กลับกัน เจนนั้นได้เห็นแผ่นหลังของผู้ชายที่หันหลังกลับไปนั่งโต๊ะทันทีที่ประตูปิด ทั้งนี้คุณรบยังดูเหนื่อยเหมือนเดิม แต่บรรยากาศ ไม่ได้ดูตึงเครียดอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว

 

 

“เจนรักษ์”  เขาเรียก เพราะอีกคนยังเอาแต่มอง

 

 

“ครับ จะกลับไปทำงานเดี๋ยวนี้ละครับ”

 

 

“เปล่า”

 

 

“อ่า….”

 

 

“จะถามว่าชงกาแฟเป็นไหม”

 

 

“ก็…ได้อยู่นะครับ”

 

 

“ออกจากห้อง เลี้ยวขวา มีเครื่องทำเอสเพรสโซ่อยู่ คุณช่วยชงมาแก้วนึงที”  เขาสั่งทั้งๆที่ยังไมได้เงยหน้ามองกันสักนิด แต่เจนก็ยิ้มออกมา แม้ว่างานของตนยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็ตาม

 

 

“เอาแบบที่ชงกินที่บ้านนะครับ”

 

 

“อืม”  เขาเลิกคิ้วขึ้น ตอบรับไปงั้นทั้งๆที่ยังไม่เคยบอกอีกฝ่ายถึงรสนิยมทางกาแฟของตัวเองเลย แต่เจนรักษ์พูดราวกับว่ารู้อยู่แล้ว จะว่าไป…..กาแฟในกระติกน้ำร้อนที่มาพร้อมกับอาหารเช้าใส่กล่องของแม่ไพก็เหมือนจะรสชาติเปลี่ยนไปนิดๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ….

 

 

ก็แค่คิดว่ามันอร่อยกว่าที่เคยดื่มประจำ….ก็เท่านั้นเอง…..

 

 

 

TBC

 

Talk: มันก็จะค่อยเป็นค่อยไปเกินไปหรือเปล่า แต่ก็ประมาณนี้ละค่ะ ความสามารถของน้องเจนค่อยๆเฉลยแล้ว แต่นิยายเรื่องนี้มีคอนเสปต์เอาพลอตละครมายำใหม่ เลยออกมาแบบนี้แฮ่ๆ ขอบคุณที่เอ็นดูน้องนกนะคะ ถึงน้องจะเอ๋อๆแต่เราจะพยายามไม่ทำให้น้องน่ารำคาญจนทุกคนเบื่อนะ ส่วนต่อพ่อกบคนซึนก็ใจเย็นกับเขาหน่อยเด้อ

 

ขอบคุณสำหรับทุกความชอบ ขอบคุณคนที่ตามอ่านมาทุกตอน หรือคนอ่านใหม่ๆด้วยนะคะ

สำหรับคอมเมนท์และ #เจนไม่นก ในทวิตเตอร์เราก็อ่านเช่นกันค่ะ อย่าเพิ่งรำคาญนะคะ ไฟกำลังลุกเลยจะเวิ้นเก่งนิดนุง

 

Twitter @reallyuri

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-07-2018 19:51:04
ตามแผนชิปเป้อร์  ดีจัง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 16-07-2018 19:57:09
หูยยยยยยยยย ทำคะแนนนนำโด่งเลยนะคะเจนรักษ์ ดีงามแบบนี้ไม่มีซะหรอกจะนก เนอะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 16-07-2018 20:22:42
กว่าคุณรบจะรู้ตัว เจนคงเข้ามายึดพื้นที่ในหัวใจจนเต็ม
 ขอบคุณฮะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-07-2018 20:29:55
ถือว่าก็มีมุมหวานๆกันอยู่นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 16-07-2018 20:43:01
นี้ติดมากๆๆจริงๆๆนะเนี้ยะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-07-2018 20:55:34
ป่านนี้คุณแม่คงนั่งเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาแห่งความปลื้มใจอยู่แน่ๆ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kakilover ที่ 16-07-2018 20:56:15
มารอติดตามความน่ารักของลูกกบกับพี่นกและรอดูความซึนของพ่อกบด้วย สนุกและจะติดตามอ่านไปเรื่อย (แต่จะให้ดีขอวันละ 2 ตอนนะ คริ คริ) :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 16-07-2018 20:58:47
น้องเจนใส่แว่นนนนน กรี๊ดดดดดดดด ชอบบบบบ น้องงงงงง  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 16-07-2018 22:22:31
วิญญาณเลขาเริ่มเข้าร่างแล้วใช่มั้ยนุ้งเจน 555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-07-2018 22:45:48
น้องเจนในลุคเลขา พนักงานออฟฟิตมันดีอย่างนี้นี่เอง เจนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-07-2018 23:15:03
รุกพื้นที่ตั้งแต่ ครัว ห้องน้อน ยัน ออฟฟิส
คุณรบ ไม่รอดแน่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 16-07-2018 23:24:42
หน่องเจนนนนนนนน
ถ้าจะควบหน้าที่เลขาอีกหนึ่งตำแหน่งแบบนี้ คาดว่าคุณรบคงจะไปไหนไม่รอด
(หรือถ้าคิดจะไปคงโดนชาวเรือเอาแหเหวี่ยงใส่แล้วลากกลับมาให้น้องเจนเป็นแน่)

ลุ้นมากค่ะว่าเมื่อไหร่คุณรบจะรู้สักที่ว่ามะม้า เอ้ย พี่เลี้ยงของน้องวินเขาเคยทำอาชีพอะไร
นี่ผ่านมาสามสี่ตอนแล้วก็ยังไม่ถาม
ถามเถอะค่ะ คนอ่านอึดอัด อยากให้รู้จะแย่แล้ว
จะได้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากกว่าแค่ที่บ้าน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 16-07-2018 23:31:28
รอดูสกิลความโหดในการเป็นเลขาของเจน ว่าจะสุดยอดขนาดไหน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-07-2018 23:33:13
เป็นพี่เลี้ยงลูก ช่วยจัดชุดทำงาน ผูกเนคไท ไปช่วยทำงานที่ออฟฟิตอีก ขาดแค่เป็นภรรยาและมะม๊าของลูกแล้วล่ะเจน o18
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-07-2018 23:34:00
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-07-2018 02:04:07
ทำเกือบครบแล้วเจน เก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-07-2018 02:13:03
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 17-07-2018 06:36:05
งุ้ยยยยยยย พี่เจนจะแสดงฝีมือล้าววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-07-2018 08:50:43
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 17-07-2018 13:05:06
เจนเป็นทุกอย่างให้คุณรบแล้ว
ขาดแค่อย่างเดียวคือเป็นภรรยาให้คุณรบ 55
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 17-07-2018 19:06:06
อ่านรวดเดียวเลยค่ะะะะ  สนุกมากๆเลยค่าาาา
นุ้งเจนนนนนนนนนน~~~~ คนน่ารักก
ปล.หลงคุณน้องวินมากๆ   :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-07-2018 19:16:57
 :katai5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 23] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.7.2018 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 17-07-2018 20:19:23
วันนี้เจนจะมาไหม  รออยู่นะ จ๊ะ
หัวข้อ: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 17-07-2018 21:32:44
#เจนไม่นก
รบเจนหวานเย็น




ในที่สุด ทุกอย่างก็ทันการณ์


นักรบแทบจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลยเพราะวันนี้เขามีเรื่องให้จัดการเต็มไปหมด ทว่าในช่วงระยะเวลาอันยาวนานที่จมอยู่ในห้วงของตัวเลขและเอกสาร ในตอนที่เขาพักสายตาก็พบว่า ภาพที่เขาเห็นคือคนตัวเล็กกับแว่นตากรอบบางที่นั่งอีกมุมนึงของห้อง ภาพของเจนรักษ์ที่ดูไม่ชินตาเอาเสียเลยนั้นทำให้เขาเผลอพักนานไป เหมือนถูกดึงดูด เข้าไปในหลุมที่หาทางออกไม่ได้


แต่นักรบก็ควบคุมตัวเองให้ขึ้นมาก่อนที่จะตกลงไป เขามองแก้วกาแฟที่ถูกดื่มจนหมดก่อนจะหักห้ามใจไม่สั่งอีกแก้ว แล้วกลับมานั่งทำงานเงียบๆจมอยู่กับมันแบบที่สมควรจะทำ ระยะเวลาหลายชั่วโมง เราไม่ได้คุยกันเลย จนถึงตอนนี้ที่อีกฝ่ายพับหน้าจอโน๊ตบุคแล้วเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป เหลือบมองนาฬิกาอีกที่นี่ก็จะสี่ทุ่มแล้ว จะมีที่ไหนได้อีกที่เราอยากจะไปนอกจากบ้าน


เลขาของเขาสั่งให้เจนรักษ์ทำอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ นักรบไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวตรงนั้นเพราะเพชรเป็นประโยชน์ต่อเขาในหลายๆงาน แต่อีกฝ่ายไม่สามารถทำมันทุกอย่างได้ เขาจึงมอบหมายให้อีกคนถ่ายงานที่พอจะให้ทำได้ไปให้เจนรักษ์ช่วย นั่งอยู่นานขนาดนั้นมันก็ต้องพอจะมีอะไรที่ทำได้บ้างแหละ ไม่อย่างนั้นเลขาของเขาคงไม่ปล่อยไว้ให้ทำคนเดียวนานขนาดนี้


ตลอดช่วงระยะเวลาที่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เขาได้ยินเสียงของเพชรกับเจนพูดคุยกันแต่ไม่ได้ใส่ใจนัก ทั้งนี้เขาไว้ใจเลขามากทีเดียว และมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอะไรให้เขาต้องผิดหวัง เพชรนั้นคงตรวจสอบงานของเจนรักษ์ซ้ำอีกครั้งก่อนจะปล่อยผ่านแน่ๆ เขาเชื่ออย่างนั้น เพียงแต่ว่างานแบบไหนกันที่เจนรักษ์ได้ทำ……เขาเองก็ไม่รู้เลย เราสามคนแยกกันที่โรงจอดรถ เจนรักษ์กับเขาขึ้นมาบนรถเพื่อมุ่งสู่บ้านรัตนสกุล ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่ก็พอจะดูได้ว่าอีกฝ่ายเหนื่อยล้า แม้แต่แว่นตาที่ปกติไม่เคยเห็นใส่ เจ้าตัวลืมถอดออกมา


“ช่วยโทรถามที่บ้านให้หน่อยว่ามีอะไรกินไหม”


“ไม่มีครับ แม่ส่งข้อความมาแล้ว”  จริงๆนักรบก็ไม่ได้เรื่องมากเรื่องกินอะไรหรอก แค่โยเกิร์ตเบาๆเขาก็พอจะกินได้ แต่เจนรักษ์ที่ไม่ได้กินอะไรเลยนี่สิ…..ของแค่นั้นจะไปพอได้อย่างไร


นับรบตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน แต่คนที่นั่งมาด้วยไม่ได้ท้วงติงอะไร ทั้งนี้เจนรักษ์เองก็ไม่ได้ชินเส้นทางในกรุงเทพ ที่ขับไปได้ก็มีแค่ห้างแถวบ้านหรือว่าตึกรัตนสกุลเท่านั้น นักรบค่อยๆหาที่จอดที่ยังพอมีว่างข้างๆทาง ในตอนนั้นเองคิ้วสวยของอีกฝ่ายก็เริ่มที่จะขมวดมุ่น แน่นอนว่าสมองที่ไม่รู้คิดอะไรแปลกๆได้มากมายนั้นคงจะคิดไปไกลแล้ว แต่เขาไม่ได้มีหน้าที่อธิบาย


“ที่นี่ที่ไหนครับ”


“ร้านข้าวต้ม”  แต่เพราะอีกคนถามเขาเลยต้องตอบ ทั้งนี้นักรบรู้สึกหิวขึ้นมาแล้วจริงๆ ขนาดที่ว่าแค่โยเกิร์ตคงเอาไม่อยู่


“เอ่อ คุณรบหิวเหรอครับ”


“แล้วไม่หิวหรือไง”


“ก็หิวครับ”  แต่เจนว่าจะไปกินมาม่า


“ร้านนี้อร่อย มาสิ”  คำยืนยันของอีกฝ่ายทำให้ทราบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา และที่เลือกร้านนี้ก็มีความตั้งใจและมีเจตนาในระดับหนึ่ง เจนรักษ์มองตามเจ้าของรถที่ก้าวขาออกไปแล้วด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ก่อนจะออกจากรถตามกันไปเพราะเขาอาจจะหงุดหงิดขึ้นมาได้ที่ทำอะไรชักช้า


ร้านข้าวต้มที่เปิดจนดึกนั้นคราคร่ำไปด้วยลูกค้ามากมาย ทว่าความชอบของคุณรบดูไม่ค่อยเข้ากันกับตัวเขานัก เพราะทุกสิ่งที่มีในร้านช่างดูตัดกับบุคลิกที่เนี้ยบตั้งแต่ความคิดยันเสื้อผ้าที่ใส่ ทว่าจะพูดอย่างนั้นก็ไม่แฟร์กับเขาเสียเท่าไหร่ เพราะนักรบนั้นได้ถอดสูทและเอาเนคไทออกแล้ว เขาขี้ร้อนจริงๆนั่นแหละจึงต้องปลดกระดุมออกสักเม็ด แต่ถ้าขี้ร้อนแบบนี้ จะมาร้านนี้ทำไม ถ้าถามว่าทำไมนะหรือ…..


เพราะทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นในตัวของมันเองไง


คนทุกคนย่อมมีด้านหรือมุมที่ต่างจากที่คนอื่นเคยเห็น ไม่ใช่แค่เจนรักษ์ที่มีภาพลักษณ์นิ่งเงียบใส่แว่นทำงานเท่านั้น ตัวเขาเองก็รู้จักที่จะผ่อนคลายอยู่บ้าง เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกที่จะตึงได้ตลอดเวลาแบบนั้น นักรบรู้จักร้านนี้จากปัญหารถติดของกรุงเทพมหานคร ช่วงเวลาที่ยาวนานในรถทำให้เลือกที่จะหาที่จอดและหาอะไรกิน ในตอนนั้นเขามองเห็นร้านนี้จากในรถ โดยไม่รู้ตัวก็เผลอกลืนน้ำลายแค่เพียงมองเท่านั้น และเพราะเหตุการณ์วันนั้น จึงทำให้แวะเวียนกลับมาบ่อยๆเหมือนเช่นวันนี้


หลายคนอาจจะมองว่าร้านข้างทางดูไม่เหมาะกับเขา แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครตัดสินใครได้เพียงแค่นั้น มันคือความสบายใจของนักรบที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง คงไม่ต้องรอให้ใครบอกหรอกว่าอย่างไหนดีกว่ากัน เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ต้องรับมันทั้งหมดก็คือตัวเขาอยู่ดี เจนรักษ์ไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจเมื่อนั่งอยู่ตรงข้ามเขา อีกฝ่ายใช้เวลาอยู่นานกับการดูเมนู


“เอาอะไร”  เขาถามเพราะอีกฝ่ายไม่เลือกสักที


“เจนไม่เคยมากิน คุณรบมีอะไรแนะนำไหมครับ”  เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ก็พอเข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่เคยมาร้านนี้ แต่มันก็ร้านข้าวต้มธรรมดาทั่วไปไม่ใช่หรือไง อย่างน้อยคนเราก็ต้องมีไอเดียอาหารที่ชอบเวลามาร้านแบบนี้บ้างสิน่า


“เอาข้าวต้มหรือข้าวสวย”


“ข้าวต้มครับ”  เขาพยักหน้าก่อนจะหันไปสั่งอาหารที่คิดว่าพอกับสองคนกิน


เรากลับมาที่ความเงียบงันอีกครั้ง คนที่นั่งตรงข้ามเขาถอดแว่นออกเสียที ท่าทางคงเพิ่งจะรู้ตัว ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมาทางเขา และยิ้มให้อย่างเก้อๆ ก่อนจะตักน้ำแข็งรินน้ำให้กัน จะว่าไปวันนี้ก็เหมือนจะเป็นวันแรกที่เขาพาใครสักคนมา ปกตินักรบมักจะมาที่นี่คนเดียวตอนเลิกงาน และไม่เคยมีความคิดจะชวนใครมา ในตอนนี้เมื่อมีเจนรักษ์อยู่ด้วย


เขาก็รู้สึกราวกับว่าบรรยากาศในสถานที่เดิมๆล้วนดูต่างจากเดิม


“…………”   แต่ว่าอะไรกันนะที่ต่างไป มันเริ่มชักจะไปกันใหญ่แล้ว เพราะแต่ละที่ที่อีกฝ่ายเคยได้ไป ล้วนเป็นที่ที่ไม่มีใครเคยได้ไปถึงจริงๆ


ในห้องนอนลูกที่บ้าน
ห้องทำงานที่ออฟฟิศ
ที่นั่งข้างๆในโรงหนัง
ห้องนอนแถวตู้เสื้อผ้า
และล่าสุด….คือที่นั่งตรงข้ามของร้านข้าวต้มที่ไม่เคยพาใครมากิน


“กุนเชียงน่าอร่อยจัง”  เสียงของเจนรักษ์ที่ดูตื่นเต้นยามอาหารมาเสิร์ฟปลุกเขาออกจากภวังค์ กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาทำให้ความอยากอาหารเริ่มทำงาน นักรบอาศัยประโยชน์ในช่วงนี้ที่จะลืมๆบางเรื่องที่คิดค้างไว้ไป


เพราะคิดต่อ…ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา


เราสองคนจัดการอาหารตรงหน้าเงียบๆ ไม่รู้ว่าหิวหรือไม่แต่ก็ทานกันจนหมด เราสองคนนั่งนิ่งๆพักท้อง แต่เขาเห็นว่าพี่เลี้ยงน้องวินกำลังมองไปที่ร้านขายน้ำแข็งไสหวานเย็นข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากกิน นักรบถอนหายใจออกมา เขาอยากจะมองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยพวกนี้เพราะมันได้เวลาที่ควรจะกลับบ้านได้แล้ว แต่เขากลับเลือกที่จะเรียกเด็กร้านข้าวต้มมาถามอะไรนิดหน่อย


“น้องๆ สั่งขนมร้านข้างๆมากินได้ไหม”


“ได้ครับพี่ เดินไปสั่งได้เลยเดี๋ยวเขามาเสิร์ฟเอง”


“อืม งั้นจะกินอะไร”  คำถามนี้หันมาถามคนที่มองของหวานจนตาเชื่อมกว่าน้ำเชื่อม เจนรักษ์สะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับตัวเอง แต่มันก็เกี่ยวจนได้สิน่า


“เอ่อ ไม่เป็นไรครับคุณรบ”


“อยากกินก็สั่ง ผมไม่ได้ห้ามอะไร”


“ง่า….แต่เจนไม่อยากให้คุณรบรอ”


“สั่งมากินด้วยกันไง”


“คุณรบจะกินจริงๆเหรอครับ”  แววตาของเจนรักษ์ดูสนใจขึ้นมา หากเป็นความประสงค์ของตัวเขาเองก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องขัดใช่ไหม งั้นไม่ต้องเกรงใจละนะ


“อืม เอาเหมือนกันนี่แหละ”  เจนรักษ์ยิ้ม แม้จะเหนื่อยล้าแต่การได้ชาร์จพลังด้วยของหวานๆ แค่คิดก็ทำให้ยิ้มออกมาเต็มแก้ม นักรบนิ่งเงียบไปกับความเรียบง่ายและธรรมชาติเหล่านั้นของคนที่นั่งตรงข้าม พักนึงจนกระทั่งคนตัวเล็กกลับมานั่งที่


“เขากำลังทำให้ครับ รอแป็ปนึงนะ”  กับแค่ของกินทั่วไป  คนเราต้องมีความสุขจนยิ้มได้เต็มแก้มขนาดนั้นเลยหรือไง เจนรักษ์นั้นหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป อาจจะเพราะได้อยู่ด้วยกันสองคนในสภาพที่ไม่ปกตินัก มันทำให้นักรบสังเกตเจนรักษ์ขึ้นมา อีกฝ่ายใช้มือถือเครื่องนี้มาตั้งแต่แรก แต่เขาเพิ่งสังเกตว่ามันคือมือราคาแพงรุ่นนึงเลย และแม้แต่เสื้อผ้าวันนี้ก็ดูเป็นทางการเพียงพอจะเข้าบริษัทให้ดูเนียนไปกับการเป็นพนักงานออฟฟิศ หากไม่บอกว่าเป็นพี่เลี้ยง คงมีแต่คนคิดว่านี่คือพนักงานคนนึงในบริษัทเป็นแน่


มันทำให้เขากลับมาสงสัยอีกครั้งว่างานเก่าของเจนรักษ์นั้นคืออะไร….. 


“วันนี้ทำงานเป็นไงบ้าง”  แต่เขาไม่ได้ถามคำถามนั้นตรงๆ เอาแค่เรื่องใกล้ตัวที่ต้องใช้ในเร็วๆนี้ก่อนดีกว่า


“ก็กว่าจะเข้าใจก็สักพักเหมือนกัน คุณเพชรให้ตรวจราคาในเอกสารสั่งซื้อและใบเสนอราคาด้วยครับ”


“แล้วเจออะไรบ้างไหม”


“เจอที่แปลกๆครับ ผมทำรวบรวมเป็นลิสต์ไว้ให้แล้ว ส่วนเอกสารที่เจอก็จัดชุดไว้ เผื่อคุณรบอยากสุ่มตรวจ” เขายังไม่ทันบอกว่าจะสุ่มหรือไม่ เจ้าตัวก็คิดแทนเสียแล้ว จะเรียกว่ารู้ทันหรืออย่างไรดี เรียกว่ารอบคอบคงจะพอใช้ได้อยู่มั้ง


พอทานอาหารเสร็จ เขาก็จ่ายเงินและพากันขึ้นรถกลับบ้าน นักรบคงอาบน้ำและนอนเลย เขาคงไม่สามารถไปเจอน้องวินที่หลับแล้วได้เพราะมันจะทำให้เสียเวลาไปนาน เขาไม่สามารถอดใจหันหลังกลับหากได้เห็นหน้าลูกจริงๆ งานนี้คงต้องฝากเจนรักษ์ดูต่อ ก็ไม่รู้ว่าที่ให้มาช่วยนั้นจะเป็นประโยชน์บ้างไหม แต่อย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นถึงน้ำใจของอีกฝ่ายที่มีต่อรัตนสกุล


“พรุ่งนี้ผมยังต้องไปไหมครับ”


“ขอดูก่อน….แล้วยังไงจะให้คุณเพชรโทรมาหากต้องการความช่วยเหลือ”


“ครับ”


“เจนรักษ์…นายอาจจะเป็นคนเก่งและผมดีใจที่คุณอยู่กับครอบครัวเรา”


“ครับ”


“และผมดีใจยิ่งกว่าที่คุณเป็นคนเลี้ยงน้องวินให้ผม แต่ถ้ายังไงล่ะก็”


“………..”


“ยังไงผมก็อยากให้คุณดูน้องวินนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบให้คุณมาทำงานด้วยหรอก”


คุณรบอยากจะพูดอะไร….


“ก็เหมือนที่คุณไว้ใจผมนั่นแหละ ผมเองก็ไว้ใจคุณเหมือนกัน”  ต่อให้ใครอยากจะให้เจนมาทำงานกับเขาที่บริษัท แต่จริงๆสำหรับเขา คนเก่งมันไม่ได้หายากจนเกินไปเลย แต่คนที่รักและหวังดีต่อครอบครัวเขา


มันไม่ได้ควานหาได้ง่ายๆทั่วไปเช่นกัน……


พวกเรามาถึงบ้านและแยกย้ายกันเข้าห้องนอน ความเหนื่อยล้าทำให้ทันทีที่หัวถึงหมอน จิตของเราก็วาร์ปมาอีกทีในตอนที่ตื่น ซึ่งเจนรักษ์ตื่นขึ้นมาก็พบว่าน้องวินนั้นตื่นอยู่ข้างๆแล้ว คิดถึงพี่เจนไหมนะ ไม่ได้เห็นหน้ากันก่อนนอน แต่ตื่นมาได้เจอกันเป็นคนแรกแบบนี้ น้องวินจะคิดถึงพี่เจนไหมนะ งอนกันหรือเปล่าที่กล่อมให้นอนกลางวัน แต่ตื่นมาไม่อยู่มาเล่นด้วย ทว่าคำถามในใจนั้นได้รับการตอบเป็นรอยยิ้มกว้างของเด็กที่นอนหลับจนอิ่ม


เจนที่ยังขี้เกียจมากๆนั้นฝืนใจลุกขึ้น ทิ้งเจ้าตัวตาแป๋วให้นอนดิ้นไปมาบนเบาะนอน หนีเข้ามาทำธุระในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาและอุ้มเจ้าลูกกบไว้กับอก หอมฟัดแก้มนุ่มนั้นให้หนำใจก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจที่สำคัญแต่ไม่ได้บอกใครไว้ในตอนเช้า เจนนั้นเคาะประตูห้องซึ่งเชื่อมกันกับอีกห้องนึงเบาๆ ก่อนนี้เจนรักษ์ไม่เคยมีความกล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ประตูบานนี้เลย มันเหมือนเป็นสถานที่ต้องห้ามทางความรู้สึกมาตลอด และมันก็ไม่เคยเปิดออกมาจนกระทั่งความรู้สึกบางอย่างที่เคยอยู่ห่างไกลได้เข้าไปใกล้อีกขั้น และในที่สุดประตูบานนั้นก็เปิดออกให้เห็นห้องอีกห้องที่อยู่ติดกัน


และเจ้าของห้องที่แต่งตัวเรียบร้อย จะขาดก็แค่เนคไทที่ยังไม่ได้จัดเตรียม


“วันนี้น้องวินตื่นเช้ามากครับเลยพามาหาคุณรบก่อน”  ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่งของเขากลับมีรอยยิ้มออกมา ทั้งๆที่ควรจะล้าเพราะวันวานแต่กลับได้รับกำลังใจเต็มเปี่ยมในตอนเช้า เจ้าลูกกบยิ้มกว้างเมื่อเจอกันในทันที เขารับมาอุ้มไว้ด้วยความเต็มใจ ตอนนี้เจนรักษ์เข้านอกออกในได้โดยไม่ต้องมีคุณหญิงมาคอยกำกับอีกแล้ว แต่ก็ยังเข้ามาในยามที่เขาอยู่ด้วยเพราะมีหน้าที่ต่อกัน


“เหมือนอาฟเตอร์เชฟของผมใกล้จะหมดแล้ว”  และนักรบก็ดูจะไหว้วานกันให้ทำเรื่องส่วนตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เจ้าลูบกบกำลังตบเปาะแปะบนหน้าผู้เป็นพ่อเรียกร้องให้สนใจกัน


“เดี๋ยววันหยุดนี้ผมจะไปห้างพอดี จะซื้อเข้ามาให้เลยนะครับ”  เจนพูด ในขณะที่กำลังเลือกเนคไทให้เขา จริงๆก็มีไอเดียอยู่แล้ว อาจจะพูดได้ว่าเจนรู้ว่าเขามีอะไรอยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ ก็ช่วงหลังมานี่….อยู่ๆก็ได้มาช่วยจัดการเรื่องส่วนตัวของพ่อน้องกบบ่อยๆยังไงล่ะ


นักรบนั้นวางตาหนูไว้บนเตียง เจ้าตัวเล็กนั่งมองผู้เป็นพ่อตาแป๋วขณะที่เจนรักษ์กำลังผูกเนคไทให้เขาอย่างตั้งใจ อาจจะตื่นเต้นหรืออย่างไรก็ไม่เข้าใจ เจ้าลูกกบที่ดูจะชอบเตียงนอนของคุณพ่อก็ขย่มเตียงขึ้นลงอย่างสนุกสนาน การเคลื่อนไหวที่แรงเกินและขาดการระมัดระวังตามประสาเด็กอายุไม่ถึงขวบปีทำให้ร่างของเจ้าตัวเล็กทำท่าเหมือนจะตกลงมา ในตอนนั้นเองผู้ใหญ่สองคนที่เห็นก็รีบถลาเข้าไปหมายจะรับ ทำให้ร่างของเจนที่ตะครุบเจ้าตัวเล็กที่ขอบเตียงไว้ตกอยู่ในอ้อมกอดของนักรบที่ก้าวมาช้ากว่าเพียงเสี้ยววินาที


“……….”


“………..”  อาฟเตอร์เชฟอาจจะยังพอมีใช้อยู่แน่ๆ


เพราะเจนได้กลิ่นมันลอยมาแตะจมูกในยามที่อยู่ใกล้ชิดแบบนี้


เจนรักษ์นิ่งสนิทอยู่ในอ้อมกอดของเขา ในตอนนี้นักรบเห็นเพียงแค่ศรีษะของอีกฝ่ายที่ก้มหน้ามองเจ้าตัวเล็กโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆออกมา เขาเป็นคนถอยออกมาก่อน และอีกฝ่ายก็ค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับที่อุ้มน้องวินไว้อยู่ มันเป็นอุบัติเหตุต้องท่องจำให้ขึ้นใจ ไม่มีใครอยากจะให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย


“ยิ้มอะไรเนี่ย”  เจนหรี่ตามองน้องวินที่ยังคงยิ้มแม้จะเพิ่งผ่านประสบการณ์หวิดเจ็บตัว คนเขาเป็นห่วงกันแทบตาย เจ้าลูกกบหน้าแป้นนี่!  เจนรักษ์ทำทีกลบเกลื่อนด้วยการยกความสนใจทั้งหมดไปที่เจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดเสียแทน แต่ท่าทางแบบนั้นมันช่างดูไม่เนียนเอาเสียเลย นักรบเองก็ยืนเงียบ เขาติดกระดุมข้อมือด้วยตัวเอง ไม่ได้รอให้ใครมาเป็นคนติดให้เหมือนวันก่อน ทั้งๆนี้เพราะไม่ถนัดนักมันจึงอาจจะช้าทำให้เสียเวลาไปบ้าง แต่เขาไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดใจหากจะใช้เวลามากเกินไปกับการแต่งตัวในวันนี้เลย


ทว่าความเป็นจริงไม่ปราณีนัก นักรบจำต้องออกไปทำงานอยู่ดี


“ไปละนะ”  เขาพูด ก่อนที่จะค้อมตัวลงมาให้อยู่ในระดับที่พอดีกับตาหนูในอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ยามนี้ดวงตาที่สั่นไหวด้วยความตกใจของเจนรักษ์อยู่ในสายตาเขาทั้งหมด เขาเพิ่งจะเห็น….ว่าแก้มอีกฝ่ายสุกปลั่งได้ขนาดไหน


เขินเก่งพอๆกับที่เฉไฉเก่ง……..


“ผมไปล่ะ ถ้ายังไงอาจจะโทรมานะ”  เมื่อวานเขาบอกจะให้เพชรเป็นคนติดต่อมา เจนก็ได้แต่หวังว่าคนโทรมาจะยังเป็นคุณเพชรอยู่ดี


เพราะเจนไม่รู้ว่าต้องรับมือกับโทรศัพท์อย่างไรตอนที่คุณรบโทรมานะสิ….


xxx



“รู้สึกตื่นเต้นเหมือนโดนเพื่อนทั้งห้องถีบให้มาพรีเซ็นท์โครงงานเลยครับ”  เลขาของเขาบ่นให้ฟัง วันนี้เป็นวันที่บริษัทเราต้องนำเสนอแผนงานให้กับคู่ค้าต่างชาติ


จริงๆแล้วตัวแทนแผนกที่เกี่ยวข้องควรจะเป็นคนออกมาทำ แต่เพราะยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบภายในและพนักงานเก่งๆที่มักรับหน้าที่นี้ได้ลาออกไปกะทันหัน นักรบจึงไร้ทางเลือกและให้คนใกล้ตัวมาเป็นคนบรรยาย เขาหวังว่าช่วงพายุเข้านี่มันจะผ่านพ้นไปจริงๆเสียที ไม่ใช่แค่ตัวเขาเองที่หนัก แต่พนักงานที่ทำงานด้วยกันก็จะเหนื่อย ทั้งนี้บุคลากรดีๆที่เสียไปเราก็เอากลับคืนมาไม่ได้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าคนใหม่ๆที่เข้ามาแทนจะทำงานให้บริษัทดีๆไม่ได้ บางทีนี่ก็เป็นโอกาสที่ดี


ที่จะตัดเนื้อที่เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้ายออกจากการปกครองตรงนี้ซะเลย!


เขามองเอกสารตรงหน้า ไม่ยักกะรู้ว่าเพชรจะมีเวลาทำสคริปต์ในการพูดด้วย เรื่องบางเรื่องอาจจะไม่ได้ขึ้นสไลด์แต่ว่าอาจจะมีการพูดหรืออธิบายปากเปล่าแทน เขาก็คิดว่ามันดีไม่น้อยที่มีการเตรียมพร้อมจะได้ไม่มาลนลานหน้างาน โอกาสที่โปรเจ็คนี้เราจะได้มามันไม่ได้เต็มร้อยนัก แต่เขาก็อยากจะมั่นใจว่าทางรัตนสกุลได้นำเสนออย่างดีที่สุด เขามองไปยังเพชรที่ให้ทำหน้าที่สื่อสารนี้ไปพลางก้มลงดูสคริปต์ที่มีเพียงเขาและเพชรเท่านั้นที่ถือไว้  อ่านมันคร่าวๆในระหว่างที่เพชรบรรยายออกไป เพื่อดูเนื้อหาประกอบ


ทว่าบางอย่างได้สะกิดให้ตั้งใจอ่านและดูสคริปต์มากกว่านี้ ไม่รู้เพชรเอาเวลาที่ไหนไปทำ….เอกสารพวกนี้เรียกว่าถูกจัดวางลำดับขั้นตอนและดึงความน่าสนใจออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ มีทั้งสิ่งที่เขาเคยโน้ตให้ก่อนหน้านี้ว่าควรใส่ไป แต่เขาไม่ได้บอกละเอียดว่าต้องการแบบไหน และในส่วนรูปแบบนำเสนอในสิ่งที่เขาบอกว่าควรมี ก็กลับทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ที่แปลกออกไปนั่นคือสำนวนเอกสารที่ถูกทำมานั้น


ช่างดูไม่เป็นตัวเพชรเอาเสียเลย………


“………..”  ใช่….ไม่ได้ดูเหมือนที่เพชรเคยทำเลย


ทั้งนี้เขาไม่ได้กล่าวว่าสไตล์การทำงานของเพชรไม่ดี  เลขาที่คุ้นเคยกันนั้นมีความคล่องแคล้ว ทำทุกอย่างได้ตามความต้องการของเขาเสมอยกเว้นเรื่องพูดมากและชงกาแฟห่วยแตก ทว่าเอกสารชุดนี้ใช้คำไม่เหมือนกับที่เจ้าตัวมักใช้ คนแต่ละคนมักจะมีสำนวนภาษาเป็นของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่เอกสารข้างหน้านี้ด้วยเช่นกัน มันถูกเขียนออกมาได้ดีเหมือนที่เพชรเคยเขียน แต่เขียนออกมาได้ไม่เหมือนตัวของเพชรเลย


ยังไงกันนะ ยังไง!


เจ้าของมือเรียวสวยนั้นเขี่ยริมฝีปากตัวเองเล่นอย่างใช้ความคิด เขาพอจะคิดออกว่าทำไม แต่มันกลับมีบางจุดที่ไม่ค่อยเมคเซนส์สำหรับตรงนี้สักเท่าไหร่ หากจะถามว่ามีใครไหนอื่นอีกที่ทำเอกสารนี้แทน มันก็เป็นไปได้ที่เพชรจะไปไหว้วานให้คนเขียนแทนให้ แต่ในระยะเวลาอันสั้นแค่วันเดียวเท่านั้น ใครกันที่จะไปไหว้วานได้ ที่เขาเห็นคาตาก็มีแค่เพียงคนเดียว แต่คนเดียวในความคิดเขานะเหรอที่จะเป็นคนทำมันออกมา


นักรบนั้นลอบมองสายตาของคู่ค้าที่ตั้งใจฟังสิ่งที่เลขาของเขาได้พูดออกไป ใบหน้าที่ดูมีความพอใจทำให้เขาโล่งอก แต่สิ่งที่อยู่ในมือก็กระชากให้กลับมาคิดหาเหตุผลรับรองอีกครั้ง ใครเป็นคนทำเอกสารพวกนี้ เขาควรจะถามเพชรออกไปใช่ไหม เพราะสุดท้ายแล้วคนที่รู้ความจริงดีที่สุดก็คือคนที่เอาเอกสารพวกนี้มาใช้นั่นแหละ แต่แค่คิดถึงแววตาของอีกฝ่ายที่ล้อกันหากเขาถามออกไป ความอยากรู้อยากเห็นอะไรนั่นก็คงถูกทำให้หมอดดับไปเหมือนทุกครั้งแน่นอน ดังนั้นเขาจึงกลับมาพิจารณาข้อความแต่ละตัวอักษรที่เขียนด้วยตัวเอง


การใช้คำศัพท์
การเรียบเรียงประโยค
บอกให้เขารู้ว่าผู้เขียนมีความสามารถทางภาษาระดับธุรกิจที่ดี


“Thank you for your attention. Any question?”  ขอบคุณสำหรับความสนใจ  พวกคุณมีคำถามไหม นั่นคือสิ่งที่เพชรได้พูดออกไป หลังจากที่การนำเสนอได้เสร็จสิ้น คำถามต่างๆจากปากผู้เข้าร่วมประชุมทำให้นักรบและเพชรนั้นยุ่งอยู่สักพักในการคิดคำตอบให้ดูเหมาะสมกับสถานการณ์และความเป็นไปได้ แต่ในช่วงหนึ่งที่สมองของเขาว่างเปล่า คำถามเดิมๆก็วนกลับมาอีกครั้ง


เขาคิดว่ามันเป็นไปได้นะ ที่จะเป็นคนๆนั้นที่จัดทำเอกสารพวกนี้ แต่มันก็ขัดกับความเข้าใจที่เขาฝังหัวมาทั้งหมดเหมือนกัน ก็อยากจะเชื่อว่าเจนรักษ์เป็นคนทำ เพราะท่าทางที่ดูคล่องแคล่วจากการช่วยงานเมื่อวาน มันทำให้เขาเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีหน่วยก้านที่ดี คงจะเชื่อสนิทใจหากเอกสารที่พวกเขาใช้ในการนำเสนอนั้นเป็นภาษาไทย แต่นี่มันเป็นภาษาอังกฤษล้วน และอังกฤษที่เขียนในกระดาษพวกนี้ ก็เหมือนที่เขาบอก….ว่ามันสละสลวยดูดี ราวกับว่าผู้เขียนมีความสามารถทางภาษาระดับธุรกิจหรือสูงกว่า


แต่เจนรักษ์ที่แม้แต่สัญญาภาษาไทยก็ยังอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องคนนั้นนะเหรอ….


“…………”


“Thank you for your participation and  all the questions. We hope that you will consider our plan and if you still have any question, please don’t be hesitate to let us know. Thank you very much”  ขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมและทุกคำถาม เราหวังว่าทางคุณจะพิจารณาแผนของเรา และถ้าคุณยังมีคำถาม ได้โปรดอย่าลังเลที่จะให้เราทราบ ขอบคุณอีกครั้งครับ


เพชรได้กล่าวปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ เขายิ้มให้กับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนและพูดคุยอีกนิดหน่อยก่อนจะนำพาแขกทุกคนให้ออกไปเพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน แม้ว่าความคิดของนักรบจะตีพันแค่ไหน แต่เขาก็ต้องรีบสวมหัวโขนในฐานะประธานบริษัทต่อไป เอาเป็นว่าเขาไม่มีคำถามอะไรสงสัยเกี่ยวกับพวกเอกสารที่ถูกใช้งานอย่างเต็มที่เหล่านี้แล้ว ดูจากท่าทีของคู่ค้าก็พอใจกันไม่น้อย มีแนวโน้มว่าจะได้รับข่าวดีในอีกไม่นาน ต้องขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงคนที่เขียนสคริปต์ให้เพชร และพรีเซ็นเทชั่นให้บริษัทเขา……เจนรักษ์ ……มันอาจจะเป็นไปได้


ว่าคนๆนึงอาจจะใช้ภาษาไทยได้ไม่ถนัด
แต่กับภาษาอังกฤษนั้น….ง่ายดายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก………






Talk:  ว่าจะไม่อัพเนาะคนเรา…
ในส่วนของพรุ่งนี้ ก็ให้คุ้กกี้ทำนายกันนะคะ : )
ส่วนใครที่รอฐานะของเจนเปิดเผย ก็….ค่อยๆเรื่อยๆไปกับคุณรบนะคะ
พระเอกของเราไม่รีบเท่าไหร่ นางรอได้5555





















หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 17-07-2018 22:08:10
พรุ่งนี้มาใหม่นะอยากเห็นความเงิบของรบจังเลยยย 55
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 17-07-2018 22:09:06
ลุ้นยิ่งกว่าหวย ก็เมื่อไหร่คุณรบจะรู้ความลับน้อง เจนนี่แหละ :katai5: :ling3: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 17-07-2018 22:17:26
รบไม่รีบแต่คนอ่านรีบ โอ้ยลุ้นมีแอบเขินกันเบาๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-07-2018 22:25:04
น้องกบเล่นเพลิน หรือตั้งใจจะสร้างโมเม้นให้ปะป๊ากะมาม๊ากันแน่ลูก อิอิ
ส่วนเรื่องของเจนรอดูคุณรบรู้ความจริง อยากรู้ว่าคุณรบจะทำไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-07-2018 22:27:57
 :L2: :L1: :pig4:

เรื่อยๆ หวานเย็น concept คุณรบ อุอิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-07-2018 22:49:30
มีความช่างสังเกตุ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-07-2018 23:03:12
ผ่างงงงเจนเองจ้า.
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-07-2018 23:06:51
ทำดีมากลูกกบสร้างโมเม้นหวานๆให้ปะป๊ามะม๊า คุณรบไม่รีบแต่เราอยากให้เจนเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา(ว่าไปนั่น) ขอบคุณค่ะ คุ๊กกี้ทำนายว่าพรุ่งนี้พี่เจนน่าจะมานะคะ555555 รอค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 17-07-2018 23:08:09
เจ้าลูกกบแผลงศรรักไป1ดอกเบาๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 17-07-2018 23:25:17
ชอบน้องวินอย่างแรง เด็กอะไรเลี้ยงง่ายเป็นที่สุด ชอบเวลาลูกกบอยู่กับพ่อกบ

หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-07-2018 23:53:06
วิเคราะห์คนเขียนสคริปต์พอๆกับวิเคราะห์หุ้นเลยนะคะคุณพ่อกบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 18-07-2018 00:08:19
โอยยย หวานเบาๆ ละมุนน กามเทพกบน้อยน่ารักกกกก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-07-2018 01:22:56
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 18-07-2018 01:23:49
คุณนักรบรีบบ้างก็ได้ คนอ่านลุ้นนนนน 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 18-07-2018 16:15:32
กรี๊ดกร๊าด ชอบความคิดคุณรบ แบบเน้นในครอบครัวมากกว่าทำงาน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: AmPnie ที่ 18-07-2018 19:30:05
คุณรบถามค่ะ ถามบ้างก็ได้อย่าซึนเกิน คนอ่านอยากให้ถามค่ะ ถามมมมมม  :serius2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 18-07-2018 20:48:01
คุณรบไม่รีบแต่คนอ่านรีบค่ะ อย่ามัวสงสัยร่ำไรอยู่ในใจคนเดียว ถามไปเลยคุณรบ ดิฉันอยากเห็นเจนรักษ์ แกรนด์โอเพนนิ่ง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 18-07-2018 21:41:02
ลงวันนี้เล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ♥
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 18-07-2018 21:54:57
คืนนี้มามั้ยหนอ..  :katai5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 18-07-2018 22:29:03
วันนี้โดนเทท แน่เลยยย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 18-07-2018 23:41:27
ติดเรื่องนี้งอมแงมเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 19-07-2018 00:06:31
 :o12:จะลงแดงแล้ว :z3:  :katai1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 19-07-2018 09:53:48
สงสัยเจองานด่วนแหงๆ เมื่อวานเลยไม่ได้มาลง ว่าแล้วก็อ่านเจ้าลูกกบวนอีกรอบดีกว่า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 19-07-2018 13:32:40
โอ้ยยยย ชอบจังงง มาต่อเร็วๆนะคะ :ling1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-07-2018 15:23:11
 :katai5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 19-07-2018 20:12:38
วันนี้เจนจะมาไหมมมหนอเค้ารอเธอยู่นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 19-07-2018 21:20:29
วันนี้ก็รอน้องเจนอยุ่นาจาาา :hao5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 19-07-2018 21:31:08
นักเขียนแจ้งทางทวิตเตอร์หละครับว่าน้องนกเราจะมาวันเสาร์นะ เพราะงั้นช่วงนี้ก็อ่านความน่ารักของเจ้าลูกกบอันเก่าวนๆไป  :katai5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 19-07-2018 23:30:25
แน่ใจนะคะว่าเป็นลูกคุณหญิงจริงๆไม่ใช่เด็กเก็บมาเลี้ยงจากที่ไหน
ทำไมไม่ได้นิสัยรวดเร็วฉับไวจากแม่มาบ้างเล้ยยยย
อันนั้นเขาสงสัยแป๊บเดียวน้องเจนก็ถูกซักฟอกขาวเป็นโอโม่(แถมยังต่อเรือติดมอเตอร์แล่นออกอ่าวไทยนำไปแล้วด้วย)
ถามเลยค่ะถามเลย ถ้ากระจ่างเรื่องงานแล้วอย่าลืมถามเรื่อง มะม๊า ของเจ้าลูกกบด้วยนะคะ ><
เราจะได้สบายใจ เตรียมตัดชุดไปงานเปิดตัวสะใภ้รัตนสกุล ><
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 20-07-2018 00:30:04
รอวันเสาร์วนไปค่ะ งื้ออออ น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 20-07-2018 14:48:46
 :z13: :katai4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Raam ที่ 20-07-2018 20:17:43
รอออออออออ :z3: :z13: :ling1: :katai4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: manneewan ที่ 21-07-2018 07:22:11
อย่าเทเรานานขนาดนี้เลน ฮือคิดถึงเจนแล้ววววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 21-07-2018 08:47:16
ก็คุณเจนเขาโกอินเตอร์ไงเลยอ่านภาษาไทยไม่ถนัด55555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: kakilover ที่ 21-07-2018 09:06:24
 :z13: :m7: :m22: :pigwrite:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 21-07-2018 16:08:09
มาปูเสื่อรอ น้องเจนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 24] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 17.7.2018 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-07-2018 16:28:58
 :katai5: :ling1:

มารอนุ้งเจนนนนน
หัวข้อ: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 21-07-2018 16:47:48
#เจนไม่นก
เจนกับภาพแห่งความทรงจำ


ความวุ่นวายในช่วงที่ผ่านมาดีขึ้นแล้ว และมันก็ช่างพอเหมาะพอเจาะที่ทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทางได้ตอนก่อนช่วงหยุดยาวพอดี ดังนั้นนักรบจึงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในวันหยุดที่กำลังจะถึงนี้ ทว่าเวลาที่เขาคิดว่ามันช่างหนักหนา มันก็ผ่านไปได้ง่ายดายเหลือเกิน ส่วนนึงอาจจะเพราะความช่วยเหลือที่ไม่คิดว่าจะได้จากใครบางคน และเจนรักษ์ยังเข้ามาช่วยเป็นครั้งคราวยามที่ล้นมือและมีบางสิ่งที่อีกฝ่ายพอจะทำให้


ในการประชุมครั้งนั้น ผลตอบรับจากทุกฝ่ายออกมาดีมาก เลขาของเขาได้รับคำชมจนบางแผนกอยากจะแย่งตัวไปทำงานด้วย แต่คงไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าเขา ทว่าเจ้าตัวที่ไม่เคยมีความอ่อนน้อม อยู่ๆก็พูดออกมาสั้นๆว่าคงทำคนเดียวได้ไม่ขนาดนี้ ต้องขอบคุณเจนรักษ์ที่เข้ามาช่วยทำสคริปต์และพรีเซ็นเทชั่นรวมทั้งเก็งคำถามพร้อมทั้งพูดคุยเพื่อเนรมิตคำตอบให้ก่อนการประชุม นักรบจำได้ว่าเขาตกใจที่ได้ยินขึ้นไปอีกเพราะถึงแม้จะสงสัยว่าอีกฝ่ายทำเอกสารให้จริง แต่ไม่คิดว่าจะมีส่วนร่วมช่วยคิดด้วยขนาดนี้ แต่ว่าเพชรพูดออกมาหมดแหละดีแล้ว


เพราะเขาขี้เกียจฟังมันขิงใส่หากไปถามเอง


มีบ้างที่ถามว่าเจนรักษ์เป็นใคร ซึ่งเพชรก็ตอบไปว่าเป็นพี่เลี้ยงของน้องวินตามความจริง มีบ้างที่ถามว่าพอจะดึงตัวมาทำงานด้วยกันได้ไหม เขาก็เลือกที่จะตอบไปสั้นๆว่ามันก็แล้วแต่เจ้าตัว แต่ในใจของเขานั้นเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมา ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้คนเก่งมาทำงานด้วย และแม้งานนี้อาจจะเหมาะสมกับเจนรักษ์มากกว่างานที่เขาให้ทำอยู่ แต่ก็ยังมองว่างานเลี้ยงลูกของเขาให้ดีก็ไม่ใช่ว่าจะหาคนมาแทนได้ง่ายๆ ดังนั้นถึงจะบอกว่าแล้วแต่เจนรักษ์


แต่สุดท้ายเขาก็จะทำให้เจนรักษ์แล้วแต่เขาอยู่ดี!


xxx


อาชีพของเจนควรจะได้รับวันหยุดยาวเหมือนคนอื่นบ้าง แต่เจนก็ไม่รู้จะไปไหน ทำอะไร


เหมือนเจนจะไม่ได้ออกแบบเต็มๆมานาน ทุกคนคิดถึงความขี้บ่นของเจนไหม….จริงๆนี่เราเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวแล้ว แต่เจนไม่ได้มีแพลนจะหยุดไปไหน ทั้งๆที่ทุกคนในบ้านรัตนสกุลมีแผนกันแล้ว ด้วยเพราะพระพายสอบติดมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้ คุณพรรณีที่มองพระพายเป็นลูกเป็นหลานคนนึงจึงตัดสินใจพาเหล่าบรรดาคนงานและตัวน้องไปเที่ยวไหว้พระเลี้ยงอาหาร และแน่นอนเจนรักษ์ที่อยู่ในฐานะคนเลี้ยงน้องของบ้านหลังนี้ก็จะได้ไปด้วย


ในที่สุดก็จะได้เที่ยวแบบจริงๆสักที หลังจากที่นกมานาน!


ทั้งนี้เจนเคยพยายามแล้วที่จะออกไปเที่ยวในวันหยุดที่ตนได้รับ แต่เพราะความไม่ชำนาญเส้นทางทำให้ทุกครั้งที่ขับรถออกไป ไม่หลงก็หาทางไปต่อไม่เจอ เจนรักษ์มีปัญหากับการดูแผนที่ในมือถือขณะขับรถมากๆ ดังนั้นพอเริ่มรู้ตัวว่าไม่รอด ก็มักจะหาทางกลับทางเก่าทุกครั้งเพราะกลัวว่าจะหลุดหายไปในประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่รู้ตัว แต่คราวนี้พระพายเป็นคนขับ พี่เจนนอนได้!


“เจนจ้ะ”  คุณพรรณีเรียก เจนที่กำลังเก็บของเล่นน้องวินนั้นหันไปมอง ตอนนี้เจ้าตัวเล็กที่กำลังเกาะคอกยืนได้แล้วส่งเสียงดีใจที่ได้เจอคุณย่า จะว่าไปตอนนี้น้องก็ 10 เดือน  ซึ่งหมายความว่าเจนได้มาอยู่ที่นี่ราวๆ 4 เดือนแล้ว และก็ครับ….


ยังไม่ได้ไปไหนอยู่ดีครับ


ค่อนข้างนานกว่าที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่คนเราอยู่ได้ด้วยความสบายใจจริงๆ เจนยอมรับว่ามีความเครียดน้อยมาก ดังนั้นการเป็นขี้ข้าใครเขาก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ถ้าใจเราบอกว่าใช่ ตัวเราก็อยู่ได้ เงินเดือนก็ได้ เต็มแถมไม่ค่อยได้ใช้ เจ้านายก็ไม่ค่อยบ่นเพราะยังพูดเป็นคำไม่ได้ เหนื่อยหน่อยก็ตอนต้องอุ้มแต่ทนไหว บางทีเจ้าตัวไม่อยากให้อุ้มก็จะอุ้ม เพราะเอ็นดู เกิดเป็นพี่เลี้ยงเจ้าลูกกบ เจนยังหาข้อเสียอะไรที่อยากบ่นแบบจริงๆจังๆไม่ค่อยเจอ


“มีอะไรหรือครับ” 


“วันนี้เราว่าจะทำดินเนอร์ดีๆกันสักมื้อ เอาเป็นเสต็กดีไหม”  เจนตาลุกวาว ในหัวนี่คิดถึงซอสสูตรพิเศษของตระกูลคูเปอร์ที่เจนได้รับการถ่ายทอดมา ถ้าได้เนื้อดีๆคงจะฟินน่าดู เห็นไหมว่างานดีๆที่หลอกแดกของฟรีดีๆแบบนี้นี้ไม่ได้จะหากันง่ายๆ


“เอาครับ เดี๋ยวเจนทำซอสและซุปให้”


“ไว้ใจไม่ผิดคนจริงๆ นี่ฉันได้ไวน์แดงมา เจนมาดื่มด้วยกันนะ”


“ถ้าคุณหญิงไม่ว่าอะไร เจนก็ขอบคุณครับ”  จริงๆแล้วงานของเจนอาจจะไม่เหมาะที่จะดื่มนัก แต่ถ้าจิบๆคงไม่เป็นไร อย่างไรซะเจนก็ดื่มหนักไม่ได้อยู่แล้ว


คอไม่แข็งเท่าคนในบ้านคูเปอร์
เลยกลัวว่าจะเป็นหมาโชว์พวกรัตนสกุลด้วย


เจนกับคุณอำไพออกมาซื้อของสำหรับนำกลับไปทำอาหารมื้อเย็น ถึงนี่จะไม่ได้เป็นวันหยุดอย่างเป็นทางการ แต่ความรู้สึกของเจนเหมือนได้พักผ่อนแบบอันลิมิเต็ดจริงๆ เจนพาแม่ไปซื้อเสื้อผ้าที่ร้านชื่อดังร้านนึงที่ราคาไม่แพงและมีแบบเรียบๆแต่ใส่สบาย การได้ใช้เงินที่ตัวเองหามากับเรื่องแบบนี้ ช่วยเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างที่เจนไม่เคยได้ทำและขาดมานาน ใครจะว่าอู้งานก็ช่างเถอะ แต่การอู้งานคือความสุขที่ยั่งยืนของคนทำงานนะ


เราเลือกซื้อของกันในซุปเปอร์สำหรับนำไปเตรียมอาหารและกลับบ้าน วันนี้ทุกคนจะได้ร่วมโต๊ะด้วยกันโดยไม่มีการแบ่งแยกเจ้านายหรือลูกน้อง เป็นความน่ารักของบ้านหลังนี้ที่ให้เกียรติคนทำงานและไม่เคยหยามเหยียดใคร เจนรักษ์ขับรถกลับบ้านในทันทีด้วยไม่อยากฝากเจ้าลูกกบไว้ที่ใครนานๆ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เพิ่งได้เห็นว่าเจ้าตัวเล็กอยู่ด้วยนั้นไม่ใช่ใคร


เป็นคุณพ่อที่ก็หยุดงานในวันนี้เหมือนกัน


“จะ เจ มัม มา”  จะเรียกเจนหรือเปล่านะ เรียกเจนอยู่ใช่ไหม


ยิ่งเจนเดินเข้าไปใกล้ ก็ยิ่งปรบมือตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ คนพ่อที่ให้ลูกนั่งซ้อนตักอยู่ที่โซฟานั้นจะส่งลูกให้ แต่เจนรักษ์รีบหักเลี้ยวไปห้องน้ำเพื่อล้างมือก่อนซะงั้น อยากจะกอดอยากจะหอมจะแย่ แต่ติดว่าไม่อยากให้เจ้าลูกกบไม่สบาย  หยอกกันเล่นอยู่พักนึงก็ถูกเรียกไปช่วยเตรียมอาหาร ส่งเจ้าลูกกบที่กำลังสนุกคืนสู่อกพ่อของเขา และก็จากมา โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเจน….กล้าไปนั่งใกล้ๆกับคุณนักรบโดยไร้ซึ่งป้อมปราการที่เรียกว่าชนชั้นของนายจ้างและลูกจ้างเสียแล้ว


อาหารเย็นหน้าตาน่าทานถูกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร นักรบเป็นคนเปิดขวดไวน์ที่คุณพรรณีเตรียมไว้และรินให้กับทุกคน บทสนทนาเรื่องต่างๆเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้นบนโต๊ะอาหารแห่งนี้ อดีตของรัตนสกุลถูกถ่ายทอดออกมา ทำให้ผู้มาใหม่อย่างเจนได้รับรู้เรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งวัยเยาว์ของนักรบที่ครั้งนึงเคยดื้อซนจนไม่มีใครเอาอยู่ แต่กลับมาตกม้าตายได้เพียงเพราะวุ้นที่คุณอำไพเอาไว้หลอกล่อ


ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณนักรบจะเคยดื้อ
และไม่คิดว่าจะเห็นแก่กินขนาดนั้นด้วย


“คุณรบชอบกินวุ้นผลไม้มาก ยิ่งตอนกลับมาจากไปซนนี่กลายเป็นเด็กว่าง่ายไปเลยค่ะ”  เจ้าตัวคนถูกพูดถึงเอาแต่ยิ้ม ส่วนผู้ที่ได้รับสารในครั้งแรกอย่างเจนนี่แทบตบหัวตัวเองให้หัน ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริงไม่ได้ฝันไป


“ตารบชอบทับทิมกรอบด้วย”


“แม่ไพเคยเอาของที่บ้านทำขายกลับมาให้ชิม คุณรบติดใจใหญ่”  แม่ของเจนดูจะมีความสุขยามได้พูดถึงเด็กที่ตนเคยเลี้ยง แม้จะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่โอกาสจะมาฟื้นความหลังอะไรนี่ ไม่เคยจะได้มีหรอก คุณนักรบท่านเซเล็บขนาดไหน ระดับขี้เล็บอย่างคนทั่วไปนะเหรอ จะแซวได้


ทุกคนไม่ได้ไม่กลัวตายแบบอีตาเพชรซะหน่อย!


“ว่าแต่เจนละลูก ตอนเด็กๆเป็นไง”


“เป็นเด็กเรียบร้อยครับ”


“เรียบร้อยโรงเรียนไม้เรียวนะสิ”  แม่แย้งขึ้นในทันที แหมมมมมมมมก็ยังพูดไม่จบป่ะ


“ไม้เรียวอะไร ไม้แขวนเสื้อต่างหาก”  รักโลกเราก็อย่าทำร้ายต้นไม้ครับ อย่างเจนที่คลีนๆนี่ต้องไม้แขวนเสื้อดีแล้ว ใช้งานได้หลากหลาย ฟาดเสร็จก็เอาไปตากผ้าต่อ คลีนๆรักโลกร้อน สมควรส่งไปประกวดเป็นตัวแทนประเทศ


“ยังจะเล่นตัวเองอีกนะ”  ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นด้วยเลยเล่นกับตัวเองก็ได้ เจนรักษ์เป็นคนง่ายๆครับ ไม่มีคนคบก็คบกับตัวเองเงียบๆกับไอ้จอมจุ้นแค่สองคนก็ได้ แม้น้องจะรำคาญ แต่ไม่เป็นไร พี่เอ็นดูหรอกเลยไม่อยากให้ใครเขามายุ่ง


พวกเราพูดคุยกันไปสักพัก จิบไวน์กันพอหอมปากหอมคอก็ย้ายที่ไปนั่งกันที่ห้องรับแขก ถือไวน์กันไปคนละแก้วพร้อมอุปกรณ์ให้ความบันเทิงต่างๆ และหนึ่งในอุปกรณ์เหล่านั้น มีของที่เจนไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาเผา ช่างเป็นวันหยุดยาวที่หรรษาจริงๆ  และปีนึงคงจะจัดได้แค่ครั้งเดียวแบบนี้ เพราะถ้าจัดบ่อยๆเงาหัวคงไม่ค่อยจะมีเหลือไว้ให้ชมเท่าไหร่ เพราะอัลบั้มภาพของคุณรบตอนเด็กนั้นถูกเอามากางหลาซะหมดบ้าน แม้แต่เจนรักษ์ที่ปกติก็กลัวตายยังต้องเอามาดูพลางเงยหน้ามองเทียบ


“ปะ ปา ปา”  เจ้าลูบกบที่ค่อยๆปีนเกาะไหล่กันเพื่อทรงตัวยืนนั้นก็เหมือนจะความสนใจในอัลบั้มภาพ  คงจะงงสินะว่าตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นได้ไง


ก็เหมือนพ่อเสียขนาดนั้น!


“สำเนาเป๊ะดีนะครับ”  ตอนทำนี่ใช้ให้เครื่องถ่ายเอกสารเป็นสักขีพยานเหรอ ถ้าภาพมันไม่ซีดก็จะคิดว่าเอาน้องวินมานั่งแก้ผ้าในอ่างอาบน้ำแล้วถ่ายแล้วนะ


“…………”  อุ้ย พี่เขาไม่ชอบให้แซว นี่ก็ลืมไป


“แต่ก็ไม่ค่อยเหมือนหรอกครับ แฮะๆ”  จริงๆถ้าดูแค่หน้าก็คือคล้ายมาก แต่บรรยากาศ…..


มันคือคนละคน….


หรืออาจจะเพราะเจนได้ใกล้ชิดกับน้องวินเลยเหมารวมว่านิสัยไม่เหมือนกัน ไอ้เจนจะไปรู้อะไร ตอนคุณรบเกิดมาน่าฟัดแบบน้องวิน เจนยังเป็นอากาศธาตุ หรืออาจจะเป็นหมาแก่ใกล้ตายที่ยังไม่ได้กลับชาติมาเกิดเป็นนกแบบนี้ก็เป็นได้ แต่คุณรบในอัลบั้มภาพนั้นดูพยศมากกว่าเจ้าตัวแสบที่ยืนโยกไหล่กันแบบนี้ โยกเสียแรงจนพี่เจนเอียงไปเอียงมา หนักเข้าจึงรวบมาฟัดเสียเลย แง่ม!


“คิกๆ อะ ฮะๆๆๆ”


“อยากโดนฟัดใช่ไหมๆ อยากโดนใช่ไหม”


“ว้าย ดูรูปนี้สิ”  อยู่ๆคุณพรรณีก็ร้องออกมา ก่อนจะยื่นเอาอัลบั้มให้อำไพได้ดู และเพราะรีแอคชั่นของแม่ที่มักจะนิ่งอยู่เสมอ ทำให้เจนสนใจว่าอะไรดีๆในภาพเหรอที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เจนรักษ์พยายามที่จะเอนตัวไปแอบดูด้วย แต่ก็ยังมองเห็นไม่ชัดอยู่ดี ในตอนนี้เจ้าลูกกบในอ้อมอก ก็ได้แปรสภาพเป็นลูกหมาหัวเน่าแล้ว


“ให้เจนดูด้วย”  เสียงสองสามสี่ที่มักใช้คุยกับคุณหนูน้องวินถูกนำมา คิดว่าแม่จะเอ็นดูอยากจะประคบประหงมกันบ้างไหม ไม่….ความเอ็นดูของแม่หายไปตั้งแต่เจนพ้นวัยเด็กชายแล้ว ซึ่งมันก็ผ่านมานานแล้วเช่นกัน


“น่ารักเนอะ เธอคิดเหมือนฉันไหมจินตนา”


“น่าจะใช่นะคะ”  น้าจินเองยังได้เห็นเลย โหววววว อะไรวะ นี่เป็นหมาหัวเน่าไปพร้อมๆกับน้องวินแล้วเหรอ เอ๊ะ! หรือเป็นคนเดียวมานานแล้ววะ


“จะว่าไปก็เหมือนจะคุ้นๆอยู่นะคะ”  คุ้นอะไรเล่าแม่


“ถามเจนสิ ถามเจนบ้าง”


“จะมายุ่งอะไรนะเรา”


“ก็เจนอยากรู้”


“อะ งั้นดูให้เต็มตานะ แล้วถ้าพูดไม่ออก ฉันจะตีให้”  ด้วยความหมั่นไส้เสียเต็มประดา แม่เลยเอาอัลบั้มแห่งความลับนั่นให้ดู เจนที่เสือกเก่งเป็นชีวิตจิตใจนั้นยิ้มดีใจที่ก่อกวนได้สำเร็จ ทว่าเมื่อได้เห็นรูปแล้ว…..


เตรียมยื่นปากไปให้แม่ตีเลยครับ!!!!!!


“เป็นไงล่ะเจน….พูดไม่ออกเลยใช่ไหม”  น้าจินถาม ยักคิ้วกวนกันอย่างสะใจ


“………..”


“ขอพระพายดูบ้างครับ”  พระพาย….น้องไม่ได้ขอ น้องมาหยิบไปจากมือพี่โดยไม่ขออนุญาตแบบนี้ แถวบ้านพี่เรียกไม่มีมารยาทนะรู้ไหม เจนหันไปค้อนให้น้องชายร่วมโลกคนนั้น แต่ได้รับเพียงแค่การเพิกเฉยกลับมา หมาหัวเน่าภาค 2 ครับ


“แม่….”


“เอ๊ะ นี่มันคุณรบใช่ไหมครับ แล้วคุณรบกอดใครอยู่อะครับ”  ภาพที่เห็นคือภาพของเด็กชายนักรบที่น่าจะอยู่ในวัยราวๆ 7-8 ขวบกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาสีสด ในอ้อมกอดมีเด็กน้อยตัวเล็กที่น่าจะอยู่ในวัยราว 3-4 ขวบ บางทีที่เจนพูดไม่ออกไม่ใช่เพราะเด็กคนนั้นมีความผิดปกติหรือหน้าตาขี้เหร่อะไร กลับกัน เด็กคนนี้มีโครงหน้าหวาน ตาโตแบบตกๆ แก้มยุ้ย และริมฝีปากอิ่มสีชมพู ดูน่ารักน่าเอ็นดู


จนไม่อาจจะคิดว่าโตมา….จะกลายเป็นคนหน้าถีบแบบนี้


“พี่เจนไงล่ะพระพาย”  คุณอำไพเป็นคนไขข้อข้องใจให้พระพาย และดีครับ ตอกย้ำไปที่ใจไอ้เจนแรงๆให้มันพังไปเลย


ในตอนนี้ที่ทุกอย่างกระจ่างชัดในความคิดของทุกคนในที่นี้ยกเว้นเจ้ากบที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย คุณนักรบคือคนเดียวที่เจนไม่กล้าสบตา ไอ้ห่า….ปีนเกลียวเจ้านายแต่เด็กเลยนะไอ้หมาเจน ทว่าสิ่งที่เจนจะไม่ได้รับรู้เลยคือสีหน้าของอีกฝ่ายที่ได้ทราบว่าคนตื่นเต้นอะไรกันเป็นอย่างไร นักรบที่ยังไม่เห็นภาพแต่ทราบเหตุการณ์แล้วนั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขามองเจนรักษ์ก่อนจะมองไปที่อัลบั้มในมือของพระพาย แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่มีความทรงจำเหล่านั้น จะว่าไปแล้ว….


ก็เหมือนจะไม่มีใครในบ้านที่จำได้ว่าเจนรักษ์เคยมาเจอเขามาก่อน


“จะว่าไปแม่ก็คุ้นๆนะว่าญาติแม่อำไพมาเยี่ยม”  คุณพรรณีพูดออกมา


“ใช่ค่ะ ตอนนั้นพาเจ้าลูกหมานี่มาดูยีราฟที่เขาดิน ยังพูดไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” อำไพขยายความให้ เมื่อนึกภาพลูกชายในอดีตที่ซ้อนทับกับตอนนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็มีให้เห็น เธอลูบหัวเจนที่ยังทำหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ด้วยความเอ็นดู ยิ่งทำให้เจ้าตัวพองแก้มใสของตัวเอง


“ปีนเกลียวแต่เด็กเชียวนะเอ็ง”  เป็นน้าจินที่ตอกมุดโลงให้ดังโป้ก!


“แงงงง คุณรบ เจนขอโทษ”  ซะหน่อย เราต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผิดพลาดไป


“ขอโทษอะไร จำได้เหรอเรา”  เออจำไม่ได้เลย…..นี่ถ้านั่งไทม์แมชชีนกลับไปได้ จะไปกระชากไอ้ลูกหมานั้นแล้วโยนลงมาจากต้นมะม่วงอีกที


“ปีนเกลียวอะไรกัน น่ารักออก ตอนนั้นน้องเจนติดพี่รบแจเลย เอะอะก็เรียก ‘พี่รบคนดี’ ‘พี่รบใจดี’ ใหญ่ ในรูปนี่ตารบก็กำลังป้อนเค้กน้อง เห็นไหม”  ป้อนอะไรก็ไม่รู้ ปากกูเลอะไปหมดแล้วครับ ป้อนหรือยัดเอาดีๆ แล้วนั่นกอดกูทำไม คนทัลลึ่ง!


แล้ว ‘พี่รบคนดี’ ‘พี่รบใจดี’ นั่นคืออะไร ไม่โอเคครับ คือกูไม่โอเค!


“จะว่าไปเจนก็เคยน่ารักแบบนั้นเหมือนกันนะ ครั้งนึงในชีวิต”  แม่พูด กระชากเจนออกจากภวังค์คนคิดงุ้งงิ้ง


“ตอนนี้ก็น่ารักอยู่”


“น่าลักไปใส่กระสอบ แล้วลอบไปทิ้งลงคลองแสนแสบ”  โอ้โห! ขมคอขึ้นมาเลยครับ น้ำเน่าด้วย


“งุ้ยยยยยยยยยยยย”


“ฮึๆ”  ทว่าเสียงหัวเราะทุ้มๆนั้นก็สะกิดเรียกเจนที่ทำหน้ากระเง้ากระงอดให้กลับมาเป็นคน วันนี้เล่นมุกเยอะเกินจนคุณรบหลุดหัวเราะออกมา ดีครับ เรื่องทุเรศๆแบบนี้ก็จำซะนะครับ จะได้รู้ว่าที่จ้างมาไม่ใช่พี่เลี้ยงแต่เป็นตลกคาเฟ่ ควรได้ค่าเอ็นเตอร์เทนเพิ่มในเงินเดือนด้วยจริงๆ


ล้อเลียนกันเป็นที่สนุกปากแล้วก็มานั่งเล่นไพ่ ทว่าเด็กอินเตอร์อย่างรบเจนนั้นแยกออกมานั่งต่างหาก ตาหนูไม่ยอมไปนอนซะทีเราเลยมานั่งเลี้ยงกันอยู่สองคนอย่างงงๆราวกับว่าถูกกันออกมาอยู่ชายแดนอะไรแบบนั้น เจนรักษ์นั้นจิบไวน์เรื่อยๆ ยังไม่มีท่าทีว่าจะเมาเพราะต้องควบคุมตัวเอง กลายเป็นว่าเจนกับคุณรบต้องมานั่งเล่นเกมเด็กๆอย่างโดมิโนด้วยกันแทน ดีครับ โกอินเตอร์ซะนาน เกมเด็กๆแบบนี้ไม่ได้แตะมานานก็คิดถึงอยู่บ้าง อ่อไม่ใช่….จริงๆแล้วเล่นอะไรกันไม่ค่อยเป็นทั้งคู่


“อืม สรุปเรื่องพรีเซ็นเทชั่นที่ทำให้น่ะ ได้รับคำชมมากเลยนะ”  นักรบพูดออกมาในระหว่างที่กำลังวางโดมิโนของตัวเอง


“ลูกค้าโอเคไหมครับ”


“กำลังจะเซ็นสัญญากันหลังจากนี้”


“ดีใจด้วยนะครับ”


“อืม ทุกคนช่วยๆกันน่ะ”  เจนรีบอาศัยจังหวะนี้แอบดูโดมิโนที่ยังเหลืออยู่ในมือของเขา แต่นักรบหลบเก่งก็เลยได้แต่ยิ้มเก้อ เจ้าลูกกบที่อยู่ในอ้อมกอดของคุณอำไพนั้นดูจะงัวเงียไม่น้อย เจนเองก็เริ่มจะกรึ่มๆเหมือนกัน นี่ขนาดว่าควบคุมตัวเองได้ แต่ระดับความสามารถทางการดื่มแอลกอฮอลล์ต่ำแบบนั้นก็นะ เป็นคนคออ่อน ต้องทำใจ


“ดึกแล้ว เดี๋ยวฉันเอาตาวินไปด้วยละกันนะ”  เหมือนเจนจะได้ยินเสียงคุณพรรณีลอยมา แต่เพราะเจ็บใจที่คุณรบมีโดมิโนสีคู่และลงรัวๆห้าตัวรวดจึงทำให้ไม่ได้สนใจนัก เจนรักษ์ที่แพ้อย่างราบคาบขอล้างมืออีกตา


“อย่าดื่มเยอะ”  แล้วรินเก่งทำไม เจนรักษ์มองค้อนอย่างไม่รู้ตัว แต่ว่าไม่ได้ ห้ามถือสาคนเมาที่ถูกมอมด้วยตัวเองนะครับคุณรบ


“รอบนี้เจนจะชนะ”  แล้วก็จัดการคว่ำโดมิโนทั้งหมดเพื่อเตรียมจั่วไหม เจนยกขาขึ้นมานั่งชัน สบายกว่าอยู่บ้านตัวเองก็อยู่บ้านคนอื่นนี่แหละครับ โดยเฉพาะบ้านเจ้านาย


“แต้มบุญก็ไม่ค่อยจะมีนะเราอ่ะ”


“หึ้ย วันนี้เจนจะไม่นก”


“ชนะแล้วก็ไม่ได้อะไร”


“แต่เจนจะชนะ!  เจนจะไม่นก!”


“เมาแล้วจริงๆ”  แต่เขาก็ยอมเล่นกับคนเมาต่ออีกเกม และอีกหลายๆเกม นักรบไม่ค่อยได้พักผ่อน ดึกขนาดนี้เขาควรจะง่วง และเพราะอีกฝ่ายต้องตื่นเช้า เขาควรจะบอกว่าพอและไปนอนได้แล้ว


 แต่ไม่….นักรบยังคงยอมเล่นต่อไปโดยไม่พูดแย้งอะไร


“เคยทำงานอะไรมาก่อน”  เขาถาม มั่นใจส่วนนึงว่าเจนรักษ์ไม่ได้เมาขนาดที่จะขาดสติพูดไม่รู้เรื่อง


“เป็นเลขา”


“แล้วทำไมไม่เคยบอก”


“ก็…..คุณรบไม่เคยถามนี่ครับ”


“ผมผิดเหรอ ว่าแต่คุณปิดบังผมทำไม”


ไม่ได้ปิดบังสักหน่อย แต่พูดมากก็ไม่ดี คนจะหาว่าขี้อวด”


“ผมไม่เห็นว่ามันจะดูขี้อวดตรงไหน”


“ก็เจนจะไปรู้คุณรบไหมล่ะ ไม่เอา! อย่าลงสีเหลืองสิ เจนไม่มีสีชมปูวววว!!!”  พี่เลี้ยงเด็กวัย 27 ขวบที่หน้าแดงไปหมดเพราะฤทธิ์ไวน์กำลังทำปากจู๋แย้งเขาซึ่งเป็นเจ้านาย


“แล้วเราเคยเจอกันด้วยเหรอ”


“เจนจะเอาอะไรมาจำได้ละครับ ตอนนั้นจำชื่อตัวเองได้ก็เก่งแล้วล่ะ”  ก็จริงเพราะอีกฝ่ายไม่น่าจะจำได้ เจนเองก็ไม่ได้ดูฉลาดหรือความจำดีอะไร เป็นเขาเสียอีกทีที่ควรจะจำได้ ซึ่งก็ยอมรับว่าถ้าไม่ได้เห็นไอ้รูปนั่นซึ่งพระพายแอบยัดใส่มือให้ดูตอนหลังก็คงลืมทุกสิ่งไปหมด ในตอนนี้เขาเหมือนจะคุ้นๆว่าเคยเล่นกับเด็กคนนึงที่เอาแต่ติดกันแจ จะอ่านหนังสือก็มาแย่งการ์ตูนที่ซ่อนอยู่ด้านในมาโยน  เป็นนกฮูกเกรี้ยวกราดแต่เด็กเลยทีเดียว


ใช่…เขาไม่ได้เรียกเด็กนั่นว่าเจน แต่เรียกว่าไอ้เด็กนกฮูก เพราะเสื้อลายนกฮูก


‘ปี้ยบเล่นกาบเจง’
‘ปี้ยบปายดูยีราฟคอย้าวยาวกับเจงไหม’
‘ปี้ยบเกาแก้มให้เจงหน่อย’


อืม…ที่มันอะไรก็เจงๆ เพราะชื่อเจน ไม่ได้ชื่อนกฮูกอย่างหน้าตา
และตอนนี้มันก็ 27 แล้ว แต่ยังพูดมากเหมือนตอน 4 ขวบไม่มีผิด!


“เอาอีกไหม”  เขาถาม


“คุณรบจะมอมเจนเหรอ  ไม่ง่ายนะขอบอก”


“ก็ไม่เห็นยากตรงไหน”  อยากจะอัดคลิปวิดีโอเอาไว้มายันที่หน้านกๆนี่อีกสักที


“อ๋าคุณรบบอกแล้วไงว่าอย่าลงสีเหลืองๆ! นี่ไม่เห็นเป็นเจ้านายนี่ฟาดไปแล้วนะเนี่ย” 


“โชคดีนะ ที่เป็นเจ้านาย”  เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยมั้ง ที่สนุกกับเกมโดมิโนจริงๆ เขาเลยตามใจโดยการวางโดมิโนที่มีคู่สีเหมือนกันลงไปตอกย้ำความนกที่หน้าของอีกฝ่ายให้โวยวายหนักกว่าเดิมจนต้องรื้อเล่นอีกเกม วันนี้นักรบไม่ได้แค่ดวงดีเป็นพิเศษ แต่ยังโชคดีเป็นพิเศษ วันหยุดยาวนี่มันดีจริงๆ และที่ดีกว่าคือพรุ่งนี้เขาก็หยุด และเพราะจะชิลๆอยู่บ้านไม่ไปเที่ยวกับคณะท่องเที่ยวของพวกแม่ๆด้วย ดังนั้นเขาจึงนอนดึกแค่ไหนก็ย่อมได้


แต่เจนนอนดึกไม่ได้


“อีกแก้วนะ”  โดยที่เจนไม่รู้ตัว นักรบได้เปิดไวน์เพิ่มอีกขวด และจัดการรินให้คนที่แก้มแดงโวยวายบ่นเหมือนใครไปอุดปากไว้ตลอด 4 เดือนที่เข้ามาอยู่ในบ้านรัตนสกุล เขาเพิ่งค้นพบความตลกของเจนก็ในวันที่เป็นคนดึงตัวตนของอีกคนออกมาด้วยตัวเองในวันนี้แหละ นักรบยิ้มอย่างมีเลศนัย มองเจนรักษ์ดื่มไวน์แดงอีกแก้วที่รินให้อย่างเจ็บใจที่เล่นกี่ตาก็ไม่เคยชนะ ใช่….เจนจะไม่ชนะ


และเจนก็จะนกทริปพรุ่งนี้
เพราะไม่ตื่นด้วยไง!


Tbc






Talk:  เอาน้องเจนมาเสิร์ฟครับ ตามสัญญาวันเสาร์เน้อ มีเรื่องนึงที่จะขอแจ้งให้ทราบ คือช่วงนี้เรางานเริ่มเยอะขึ้นกว่าเดิมค่ะ จริงๆมันก็มีแนวโน้มว่าจะเยอะมาสักพักแหละ แล้วทีนี้กำหนดการมันเลื่อนขึ้นจากที่เราคิดไว้เลยทำให้มาลงบ่อยๆไม่ค่อยได้ ส่วนนึงเป็นเพราะเราต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆเลยไม่ได้เคลียร์งานที่ออฟฟิศด้วยค่ะ พอกลับมาเลยทำโอทีบานเลย คอมบริษัทจะมาลงนิยายก็ไม่ได้ด้วย แล้วคือแต่งไม่ทัน5555 เลยลงทุกวันก็ไม่ได้ แถมถ้าฝืน ร่างเราก็อาจจะพังจริงๆ เพราะบิสเนสทริปต่างจังหวัดแบบไปกลับทุกวันและโอทีไม่ใช่เรื่องเล่นๆเบยสำหรับผู้หญิงวัยยี่สิบตอนปลาย

แล้วช่วงที่ผ่านมามันมีหลายสิ่งให้คิด มีสำนักพิมพ์ติดต่อมาค่ะ ซึ่งตัวเราก็อยากรวมเล่มน้องไว้อยู่แล้วเลยสนใจ นี่เลยคิดนั่นนี่ไปมาว่าจะเอายังไง ทำไหวไหม แต่ก็ยังอยากอยู่ดี ฮือออออ ตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะลงสัปดาห์ละ 2 ตอน (เพราะเรามีเวลาเต็มๆในการแต่งหนังสือแค่เสาร์อาทิตย์ และอาจจะทำได้แค่วันละตอน) และหลังจากนั้นอาจจะแต่งเรื่องของเพชรพายขึ้นมาให้ได้อ่านกันต่อ มิทราบว่ามีใครเป็นแม่ยกคู่นี้ไหมคะ?

พูดซะยาว แต่ถ้าเราสามารถปรับแนวทางให้ดีขึ้นได้ในอนาคต เราจะลองดูนะคะ สำหรับใครที่ติดตามและต้องคอยมาเฝ้าว่าลงไหม คือปกติเราจะมีอัพเดทในทวิตเตอร์ @reallyuri หรือแท้ก #เจนไม่นก แต่เราไม่แน่ใจว่าผู้อ่านบางท่านอาจจะไม่เล่นหรือเปล่า เราควรทำเฟซบุคขึ้นมาไหมคะ อันนี้ลองถามดูก่อนนะ

ขอบคุณที่ทวงถามกันมาค่ะ ส่วนนึงเราดีใจมาก และอีกส่วนก็รู้สึกเกรงใจมากๆเหมือนกันที่ให้รอ
แต่ขอบคุณมากนะคะ ที่รักน้องนกกันขนาดนี้ มันเกินความคาดหมายของเราจริงๆค่ะ m(._.)m


ทอล์กซะยาว ลืมพูดถึงเรื่อง คุณรบนางเป็นคนหวานเย็น จนถึงตอนนี้นางก็รู้แค่นี้ ให้เวลากับความสัมพันธ์ของทั้งคู่เนาะ เดี๋ยวสนางก็รู้จักน้องเองแหละค่ะ และนางก็จะรักน้องเองเช่นกัน : )









หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 21-07-2018 17:06:59
เป็นกำลังใจจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-07-2018 17:09:12
ต้องเป็นทริปพิเศษ รบพาไปเองไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-07-2018 17:12:57
รายสัปดาห์ก้อเอาค่ะค่อยๆรักกันก้อดีเนาะ
น้องลูกกบก้อจะค่อยๆโตขึ้นๆเหมือนกัน พยานรักอิอิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2018 17:13:38
 :heaven 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: pan19891990 ที่ 21-07-2018 17:16:43
ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ มารอเจน เอ้ยยยมารอคนเขียนทุกวันเลย ลงไม่บ่อยไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่มาลงให้ได้อ่านแล้วอินไปกับเจนกับเจ้ากบน้อยและคุณพ่อของเค้าก็ดีใจแล้วค่ะ  :impress2: 5555 ถ้างานหนักก็ต้องรักษาสุขภาพตัวเองก่อนนะคะ ยังไงก็รอติดตามตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 21-07-2018 17:23:54
ร้ายยยยยยย อะไรคือการจะมอมยัยเจนของเราไม่ให้ได้ไปทริปนะ แหมมมมมม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-07-2018 18:24:54
เจนทำงานเก่งมาก  :katai2-1:
คุณรบรู้แล้วว่า เจนเคยทำงานเลขาจากการนำเสนอที่เจนทำ 
คุณเพชรก็ให้เครดิตเจนด้วย เยี่ยมไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 21-07-2018 18:28:25
ถ้าเจนนกทริปพรุ่งนี้  ก็จะอยู่บ้านสองต่อสองกะคุณรบใช่ไหมมมมม  งื้ออออ   :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 21-07-2018 18:29:18
ตลกตรงเป็นนกฮูกเกรี้ยวกราดตั้งแต่เด็ก555555555555555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: buadin ที่ 21-07-2018 18:55:24
คุณรบจอมวางแผน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 21-07-2018 18:57:41
ว้ายยร้ายยมอมเหล้าน้องนะพี่รบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 21-07-2018 19:18:47
งื้อออออ พี่รบจะกินนกเหรอคะ ><
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 21-07-2018 19:25:29
ปี้ยบๆ เกาแก้มเจงหน่อย 555555555 โคตรน่ารัก :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-07-2018 19:28:41
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-07-2018 19:38:45
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 21-07-2018 19:46:48
กรี้ดๆๆๆ 3. 4. 5. ตลบเลยทีเดียววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 21-07-2018 20:48:32
อิตาคุณปี้ยบนี่มันร้ายกว่าที่คิดเว้ยยยยยยยย เห็นแรกๆดูทะมึนๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 21-07-2018 21:01:50
รอได้ค่า
เราว่าเปิดเพจก็ดีนะคะ เวลามีอะไรจะได้อัพเดตได้
เพราะว่าเราเป็นคนนึงที่ไม่เล่นทวิตอะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 21-07-2018 21:02:22
เป็นกำลังใจให้คุณนีกเขียนในเรื่องงานนะค้า รอได้ค่าถึงแม้จะติดงอมแงมก็ตาม

โอ้ยยยยยยยย คุณรบกับเจนเคยมีโมเม้นกันตอนเด็กๆด้วยน่าร้าก พ่อเจ้าลูกกบเริ่มมีพัฒนาการแล้ว
วางแผนจะมอมให้เจนอยู่กับตัวเองใช่แมะ แหนนนนแหนนนนน :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 21-07-2018 21:40:27
รู้แล้วนะคะ ว่าเรื่องนี้คนที่ร้ายที่สุดคือใครร

ปล.ไม่อยากเร่งคุณนักเขียนเลยค่ะ แต่เราติดเรื่องนี้จริงๆ งื้ออออ เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-07-2018 23:47:50
แนะๆๆๆๆๆๆ คุณรบมีแผนอยู่บ้านกับเจนแฮะ ยังไงๆๆๆ นี่มอมเจนถูกมะ จำตอนเด็กได้ด้วย o13
อัพตอนไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่อย่าเทก็พอ เอางานกับสุขภาพก่อนเนอะ ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-07-2018 00:55:39
คุณรบร้ายนะคะ จะมอมเจนเพื่อที่จะได้อยู่บ้านด้วยกันใช่ไหม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-07-2018 07:11:46
กะมอมให้เจนไม่ได้ไปทริปวันพรุ่งนี้เพื่อจะได้อยู่กันสองคนใช่ไหม แอบร้ายนะคุณรบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-07-2018 10:24:28
ว๊าย ๆๆๆ นัอง เจงงงง เทอเสร็จพี่รบแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 22-07-2018 12:53:20
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 25] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 21.7.2018 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Raam ที่ 22-07-2018 13:52:19
ทำไมร้ายยยยย คุณรบมันร้ายค่ะคุณ
หัวข้อ: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 22-07-2018 17:41:38
#เจนไม่นก
เจนภาพตัด






อยู่ๆก็วาร์ปมาอยู่ห้องน้องวินได้ยังไง….
แถมนอนคนเดียวด้วยนะ กอดน้องหมีของคุณหนูน้องวินเอาไว้ด้วย…..


“เอื้อออออออออออ”  ภาพล่าสุดที่เจนจำได้คือ การเอาโดมิโนที่คุณรบวางเป็นตัวสุดท้ายเพื่อแสดงว่าชัยชนะในเกมที่สิบของเราเขาเป็นผู้ได้ไปมาใส่ในปาก ลำบากให้เจ้านายต้องมาง้างปากเอาออกให้ เมาเป็นหมาเลยนะครับไอ้เจน คึกอะไรได้ขนาดนั้น! แล้วนี่มันกี่โมงแล้ววะ….เป็นคำถามที่ไม่มีใครมาตอบให้เพราะอยู่คนเดียวในห้องนอนของน้อง เจนที่หน้าบวมตุ่ยจำต้องควานหามือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดดู อืม….10 โมงเอง


หืม…..


“เชี้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!” ร่างกายที่ไม่มีแรงเมื่อครู่นี้เด้งขึ้นมาราวกับไปกินดีหมี ภาพทริปเที่ยว 1 วันที่วาดฝันไว้
หายวับไปในพริบตา เมื่อเช็คโทรศัพท์แล้วพบว่าแม่ถ่ายรูปอาหารเช้าที่ไปกินกันมาอวด อืม เขากินมื้อเช้ากันแล้วด้วย


กูสิครับ….ภาพตัดเพิ่งตื่นเนี่ย!


“แม่”  ทำไมไม่ปลุกวะ คือคำถามที่เจนอยากจะถามทันทีที่โทรไปหา


“ไม่ตื่นเอง ช่วยไม่ได้”


“แล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ ฮื้อออออออออ”  วนรถกลับมารับได้ไหม


“ไม่รู้แล้ว อยู่บ้านนั่นแหละช่วยดูคุณหนูน้องวินให้ด้วย”


“ดูน้อง อ้าว….น้องไม่ได้ไปด้วยเหรอ”  ภาพก่อนตัดเมื่อวานนั้น เจนจำได้ว่าคุณหญิงเอาน้องไปนอนด้วยนี่นา


“ก็ไม่ได้มาด้วยนะสิ ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า ไปช่วยคุณรบซะนะ”  ไปช่วยคุณรบซะนะ


ซะนะ
ซะนะ
ซะนะ!!!!!!!!!!!!!!!


นักรบได้ยินเสียงตึงตังดังมาจากห้องข้างๆ เดาได้ว่าอีกฝ่ายคงจะตื่นมาตรัสรู้ได้ด้วยตัวเองแล้วว่าไม่มีใครรอ จะว่าไปวันพักผ่อนของเขานั้นนอนน้อยกว่าที่คิด เมื่อคืนกว่าจะเอาโดมิโนที่เจ้าตัวซนเอาใส่ปากออกมาได้ก็เสียเวลาพอตัว เขาค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายเมาแล้วเพราะนอกจากจะทำอะไรแผลงๆแล้วก็ยังร้องไห้ออกมากะอีแค่เล่นเกมแพ้ ในที่สุดเขาก็จัดการหิ้วไปโยนไว้ในห้องน้องวิน ซึ่งโชคดีที่ถูกพาไปนอนในห้องของแม่ของเขา ก่อนจะมาจัดการทำลายหลักฐาน ถ้าแม่รู้ว่าเปิดไวน์เพิ่มมาอีกสองขวด มีหวังได้โวยวายลั่นบ้าน ก็เห็นคนเมามันตลกดีเลยรินไม่ยั้งก็แค่นั้นเอง


ไวน์แพงด้วยนะ ดื่มอย่างกับน้ำเปล่าเข้าไปได้


ก๊อกๆ….สงสัยจะรู้แล้วว่าเจ้านายสองคนอยู่ในบ้านจึงได้มาเคาะประตูห้องเขาแบบนี้ เผื่อๆคงจะไปเดินหามาทั่วบ้านแล้วละมั้ง แต่เดินเท่าไหร่ก็คงไม่เจอเพราะตั้งแต่รับเจ้าเด็กเอาแต่ใจนี้มาไว้ดูแล นักรบก็ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย จะมีแต่เจ้าลูกกบนี่แหละที่ได้ดื่มนมและหลับไปอีกตื่นแล้ว ตอนนี้ก็สะลึมสะลือนอนซุกอยู่กับอกพ่อ ขี้เกียจพอกันทุกคนในวันนี้


“เข้ามาได้” เขาตะโกนบอกออกไป


“ขออนุญาตครับ”  ดูจากหน้าตาแล้วคาดว่าถ้าหมอบคลานมาได้ก็คงจะทำ นักรบต้องกลั้นขำหนักมากเมื่อนึกถึงวีรกรรมก่อนภาพตัดของอีกฝ่าย


“เจะ เจะ เจ” 


“น้องกินอะไรยังครับ”  เจนถาม พอเจ้าลูกกบเห็นพี่เลี้ยงคนโปรดก็ยกตัวขึ้นมามองตาใส ต่างจากเจ้าลูกกบขี้โวยวายเมื่อตอนเช้าตรู่ที่ถูกปลุกไปเที่ยว  โวยวายเก่งดังข้ามกำแพงมาหลายห้องจนคนพ่อต้องตื่นออกไปดู หงุดหงิดมากที่มีคนปลุกและไม่ยอมออกไปไหนจนคนพ่อต้องขอมาอุ้มเอง มองหน้าโดยไม่พูดอะไรก็ยังเบะอยู่ ดุก็แล้วก็ยังงอแง จนต้องยอมรับมาเลี้ยงแทนเพราะพี่เลี้ยงนอนตายอยู่ห้องข้างๆไม่กระดุกกระดิกไม่รู้เรื่องราว และก็ใช่ครับ


ทั้งเจนและน้องวินต่างถูกทิ้งไว้อยู่กับนักรบ


“ให้นมกินแล้ว และก็หลับไปอีกตื่น”  จริงที่ว่าพอส่งมาให้นักรบดูแลก็จะมีคนไม่กล้าดื้อเพราะกลัวพ่อดุ เจ้าตัวเจ้าเล่ห์เลี่ยงไปดูดนมนอนหนีพ่อบ่น ยังไงซะวันนี้ก็มีคนตามใจแล้วไง ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป


“อา งั้นก็โอเคครับ”  เพราะเจนคือกัลยานมิตรที่ใจดีกว่าพ่อของตน ตาหนูจึงได้ชูแขนไปให้อุ้ม ปากนี่ยิ้มกว้างส่งเสียงเอาะแอะให้คนพ่อต้องส่ายหน้า


“แต่ผมยังไม่ได้ทาน”


“คุณรบจะทานอะไรไหมครับ”


“กุ้งเผา”


“ง่า….เจนจะไปงมกุ้งมาให้”


“…………”


“ไม่ตลกสินะ แฮะๆ”  เล่นเอง ตบมุกเอง เก้อเอง กลับกลอกไวเสียจริง


“พาตาหนูไปอาบน้ำ อีกครึ่งชั่วโมงทันไหม”  ไม่ทันก็ต้องทันละครับตอนนี้ เจนรักษ์มองนาฬิกา โชคดีที่อาบน้ำมาก่อนแล้วจึงสามารถจัดการเจ้ากบน้อยภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ก่อนที่คุณนักรบจะโมโหหิวแล้วแดกหูเจนแทนกุ้งเผา ไวกว่าที่เจนรักษ์เคยทำสถิติมาทั้งหมด เราสามคนพ่อลูกและพี่เลี้ยงก็มาอยู่ในรถที่คุณนักรบจะเป็นคนขับพาไป ว่าแต่อะไรทำให้พี่แกอยากกินกุ้งเผาขึ้นมาวะ


ติดละครพีเรียดเรื่องนึงของไทยอยู่เหรอไง?


“ร้านกุ้งเผานี่อยู่ที่ไหนอะครับ” 


“ไม่ไกลนี่แหละ หิวแล้ว แถวนี้ก็เผาอร่อยเหมือนกัน”  เจนเองก็บ้าบอที่คิดไปเองว่าเขาจะขับพาไปถึงอยุธยา ใช่ครับคุณนักรบคงไม่พาไป ในวันหยุดยาวอย่างนี้กรุงเทพเป็นสถานที่น่าเที่ยวขึ้นมาเลยทีเดียวเพราะรถไม่ติด จะว่าไปเจนก็เพิ่งได้เห็นกรุงเทพที่ไม่มีความวุ่นวายแบบนี้เป็นครั้งแรก อยากจะตบหน้าตัวเองใหม่และแหกตาดูว่านี่คือสุขุมวิทตอนใกล้เที่ยงจริงหรือไม่?  ใช่หรือไม่ใช่!


สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยก็จัดการป้อนอาหารเจ้าลูกกบก่อนครับจะได้ไม่งอแงมาก เสร็จแล้วเจนก็ค่อยละเลียดกินแต่ละอย่างที่คุณรบเป็นคนเลือก มันช่างดีงามจนต้องหลับตาพริ้มเพื่อซึบซาบให้ทุกรสชาติประทับอยู่ในความทรงจำ ในตอนนี้ต่อให้คุณหนูน้องวินส่งเสียงดัง เจนก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว กุ้งเผาทำให้หูดับไปทั้งสองข้าง ตัดขาดโลกใบนี้คือไปอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ดมุ่งสู่นิพพาน


“อร่อยสินะ”  ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกันสักคำ แค่เห็นหน้านักรบก็ฟันธงได้ว่าเจนรักษ์กำลังฟินอยู่



“อร่อยมากครับ งื้มมมมม น้องวินรีบๆโตสิครับ พี่เจนจะได้พามากินจุ้งกัน 2 คนเรา”  กุ้งครับ แต่อร่อยมากเลยเอ็นดูเรียกจุ้งแทน


“………..”


“ขอใช้มือเลยนะครับคุณรบ” 


“อืมงั้นไหนๆก็มือเลอะแล้วคุณแกะให้ผมด้วยล่ะกัน”  อ้าว…ไหงเป็นงั้น


เจนรักษ์มองค้อนเขาเล็กน้อยแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี ก็จริงๆอย่างที่เขาว่าว่ามือเลอะแล้วก็แกะให้เลยแต่นี่สั่งเป็นคนใช้เชียวนะคุณ แม้ไอ้เจนจะมีสถานะเป็นลูกน้องคนนึงแต่มันใช่หน้าที่จะต้องมาแกะกุ้งแกะปูให้กินไหมครับ ไม่บอกให้กูป้อนใส่ปากให้ด้วยเลยล่ะ ทำตัวเป็นน้องวินไปได้ ให้มันรู้ด้วยครับว่าจ้างมาเลี้ยงลูกคุณนะ ไม่ได้ให้มาเลี้ยงคุณ แต่ด่าคุณรบในใจได้เท่านั้นละครับ เพราะในความเป็นจริงคือเจนแกะกุ้งจนจะหมดจานแล้ว


“เอาจริงๆคือผมแกะไม่เป็น”  แต่ในที่สุดเขาก็สารภาพออกมา เออ….คุณรบนี่ทำอะไรก็ไม่เป็น ขนาดซื้อของเองยังไม่ได้ นับประสาอะไรกับการแกะกุ้งวะ


“ตอนอยู่เมืองนอกไม่เคยทำอาหารเลยเหรอครับ”


“ผมอยู่ง่ายกินง่าย” 


“มันไม่ตรงคำถามปะครับ”


“หัดฟังให้จบก่อนสิ ก็เพราะกินง่ายอยู่ง่าย แถวนั้นมีอะไรขายผมก็กินได้หมด มันจะไปยากตรงไหน”  โอเค ไอ้เจนผิดเองที่ถาม คุณรบเขาสายเปย์ อะไรขายและมันแดกได้แถวนั้นพี่เขาก็ซื้อแดกหมดแหละครับ คนมีเงินทำอะไรก็ไม่ผิด วู้วววววว!


“โอเคเจนผิดเอง”


“กำลังคิดว่าผมทำอะไรไม่เป็นละสิ”


“แฮ่….คุณรบหาเงินเป็นไงครับ”  ทำไมรู้ทันเก่ง มานั่งในความคิดกันตั้งแต่เมื่อไหร่


“ผมทำเฟรนช์โทสได้”  เขาบอก ลบล้างข้อกล่าวหาว่าทำอะไรไม่เป็นในหัวเจน  โอเคครับคุณเขาทำของกินได้ตั้ง 1 อย่าง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจนประทับใจ


“เจนดีใจมากครับที่ได้ยินว่าคุณรบตอกไข่เป็นด้วย”  ขอซับน้ำตาแป็ป อย่างน้อยเขาก็ตอกไข่ตีๆกับนั่นนี่ เอาขนมปังไปชุบแล้วเอาไปปิ้งบนกระทะได้เลยนะเว้ย ถ้าบอกว่าทำไข่เจียวไม่เป็นนี่น่าฆ่ามาก พี่แกจะข้ามขั้นไปไกลเกิน


แต่เจนที่ล้อเลียนกันก็ต้องหุบปากฉับแล้วหลบตาหนี นั่นเจ้านายเว้ย เขาไม่ปาเปลือกกุ้งใส่หน้าก็บุญแค่นั้นแล้ว เจนได้แต่พึมพำขอโทษและเลี่ยงไปมองเจ้าลูกกบที่กำลังเล่นกับของเล่น พอได้เห็นพี่เจนมองมาก็ยิ้มกว้างโชว์เหงือกใหญ่ เจนก็อยากจะเล่นด้วยแต่ติดที่มือนี่มีแต่กลิ่นกุ้ง


หลังจากมื้ออาหารที่เจนแซวเสียจนพังไม่เป็นท่า เราสามคนก็มาอยู่ในรถ ทว่าจุดหมายต่อไปไม่ใช่บ้าน หากแต่เป็นห้างทางผ่าน ซึ่งเราจะต้องไปซื้ออาหารมาเตรียมไว้สำหรับมื้อเย็นอีก คุณรบพาเจนมาที่ซุปเปอร์ในห้างแห่งนึง อุ้มลูกเดินหนีไปไม่แน่ใจว่าเพราะงอนหรือเปล่า แต่ไม่เป็นไร ถ้าหาไม่เจอเจนจะแอบไปเจาะยางรถคุณรบก่อนก็ได้!


ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร พ่อของลูกกบก็เดินมาหากันพร้อมรถเข็น เจนนั้นเหลือบมองเขาแป็ปนึง ก่อนจะก้มลงไปเลือกผลไม้สำหรับทำน้ำผลไม้ให้คุณหนูวิน  เขาเลื่อนรถเข็นตามกันให้เจนเอาของที่เลือกได้มาใส่ แต่เหมือนคุณรบจะเลือกซื้อของบางอย่างไว้แล้วเหมือนกันเพราะรถเข็นที่เอามาไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่คิด พิสูจน์ได้แล้วว่าไม่ใช่เขาซื้อของไม่เป็น แต่ขี้เกียจและมีเงินเลยมักใช้ลูกจ้างไปซื้อ!



เรากลับมาบ้าน โดยที่ยังไม่มีใครกลับมา ตอนนี้ยังไม่เย็นดีละมั้งทุกคนจึงยังไม่มีใครคิดจะกลับ เจนอาสาจะเอาน้องวินที่ยังหลับเข้าบ้าน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ทันทีที่เอารถไปเก็บ คุณรบก็กลับเข้ามาในบ้านและทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ท่าทางมึนตึงอะไรไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว ทว่ามันเป็นเรื่องปกติของเราที่จะไม่พูดคุยเล่น เจนยังคงอุ้มน้องวินและโยกไปมาเพราะน้องเหมือนจะสะดุ้งเมื่อครู่เลยกลัวจะงอแง เจ้าตัวเล็กยังคงสะลึมสะลือคาอก ไม่รู้เพราะกล่อมดีหรือเปล่าเลยไม่โวยวาย


“อาหารเย็นตอนกี่โมงดี”


“อีกสักพักได้ไหมครับ เจนยังไม่หิวเลย”


“……………..” 


“แต่ถ้าคุณรบอยากทานก็…ได้นะครับ”


“ยังไม่หิวเหมือนกัน”


เจนพยักหน้า ก้มมองเจ้าลูกกบที่พักแก้มกับต้นแขนตน มองอะไรนิดหน่อยก่อนจะยิ้ม และอุ้มเจ้าลูกกบไปจับตั้งข้างๆคนเป็นพ่อของเขา น้องวินที่ยังงัวเงียนั้นเอียงตัวเอาหัวไปหนุนกับแขนของคุณรบ มองเจนอย่างเหม่อลอย ในขณะเดียวกันที่คนพ่อก็จ้องเจนเหมือนกัน จะไม่ให้จ้องได้ไง อยู่ๆก็เอาลูกมานั่งข้างๆเขา และตัวเองก็ถอยไปตั้งกล้องทำท่าจะถ่ายกันแบบนี้ ไม่มีปี่มีขลุ่ยหรือขออนุญาตอะไรกันสักนิด


“ทำอะไรอ่ะ”


“ไม่ถ่ายติดหน้าคุณรบหรอกครับ ไม่โมโหนะ”  โมโหอะไรเล่า ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ


“แล้วถ่ายไปทำอะไร”  แล้วทำไมไม่โมโหจริงๆล่ะ นักรบเองก็ชักจะเอาใหญ่แล้ว ยอมให้ปีนเกลียวขนาดนี้ได้ไง เคยตัวหมด


“วันนี้น้องใส่เสื้อสีเดียวกับคุณรบเลย บังเอิญนะเนี่ย”  เจนรักษ์ยิ้มจนตาหยี ยื่นรูปในมือถือให้คนถูกถ่ายดู นักรบยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เขาไม่ชอบถูกถ่ายรูป แต่ลักษณะการถ่ายแบบที่เขามองไม่ออกว่าเป็นศิลปะยังไงแบบนี้ก็ไม่ชอบอยู่ดี ไม่สิ….หงุดหงิดอะไรก็ไม่รู้


“…………”


“นี่ไงครับ ผมไม่ได้ถ่ายเห็นหน้าเลย”  เห็นแค่อก ถ้าให้พูดชัดๆ ในรูปเหมือนจะโฟกัสที่ตาหนูซึ่งมองกล้องตาแป๋ว สีเสื้อเราสองคนสีเดียวกันและพอได้มาถ่ายติดกันให้เห็นเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนพ่อของเขาแบบนี้ มันยิ่งดูน่ารักและอบอุ่น แต่ภาพของเจนรักษ์มันตัดแค่ถึงช่วงอกของเขา….


“………….”


“ง่า เดี๋ยวนี้เขานิยมถ่ายรูปเสื้อคู่พ่อลูกนะครับ”  เขาก็เหมือนจะเคยผ่านหูผ่านตาภาพอะไรแบบนั้นมาบ้าง แต่ถ่ายไม่เห็นหน้าแล้วจะไปรู้ได้ไงว่าเจ้าลูกกบถ่ายคู่กับพ่อมันอยู่ เออ….ก็จริงที่คุณนักรบไม่ชอบถ่ายรูป


แต่ก็ไม่ชอบที่เจนพูดว่าถ่ายรูปคู่เสื้อพ่อลูกแต่ไม่เห็นหน้าคนพ่อเช่นกัน!


“………..”


“น้องวินผมหน้าม้ายาวเหมือนกันนะเนี่ย รำคาญไหมลูก”  เจนถาม เขาก็พอรู้ว่าคำเรียกเด็กว่า ‘ลูก’ สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไปก็ใช้กันเพราะเอ็นดู เจนรักษ์ก็คงมีเจตนาประมาณนั้น ทว่าทำไม…..


อยู่ๆหัวใจเขาก็รู้สึกวาบหวามแปลกๆ


“ตัดผมดีไหมเนี่ย เดี๋ยวหลับคืนนี้พี่เจนจับตัดแน่”  หรือจะมัดจุกให้ดี แต่บ้านเรามีหนังยางรัดผมเสียทีไหน


“ตัดเลยสิ”


“ครับ?” 


“รออะไร ทำไมต้องรอให้หลับ”


“มันอันตรายนะครับ เกิดน้องดิ้นขึ้นมา แล้วเจนถือกรรไกรอยู่” 


“ก็เพราะมันอันตรายไงละ ถ้าลูกผมนอนดิ้น แล้วมืดๆดึกๆใครเขาตัดผมกัน”


“แต่นี่มันก็เย็นแล้วนะครับ”


“ไปเอากรรไกรมาสิ” 


“คุณรบ”


“เดี๋ยวผมจับตาหนูไว้ให้”


“…………”


“หรือจะให้ผมไปช่วยจับตอนน้องนอนแล้ว”  เจนรักษ์มั่นใจว่าไม่อยากให้คุณรบมาช่วยกันตัดผมน้องวินตอนดึกๆแน่นอน ใบหน้าน่ารักขึ้นสี ภาพคุณรบบนเบาะนอนของน้องวินกับตนเองที่กำลังตัดผมให้น้องตอนกลางดึกผุดขึ้นมา เจนงึมงำรับคำก่อนจะหันกลับเดินขึ้นไปเอากรรไกรตัดผมที่ตัวเองซื้อเตรียมไว้จะเอามาตัดให้น้องวินก่อนนี้ มาตัดกันกลางบ้านตอนเย็นๆนี่แหละ อย่าไปตัดก่อนนอนเลย ใจจะเต้นแรงและพาลไม่ได้หลับแทน


เจนผู้ว่าง่ายนั้นเดินไปเอากรรไกรตัดผมมาตามคำสั่งของเจ้านาย นักรบที่หน้าเข้มได้ทั้งวันค่อยๆหลุดยิ้มออกมา เกร็งหน้ามานานก็ย่อมเหมื่อยบ้างเช่นกัน แต่เพราะอะไรไม่รู้เขาถึงชอบดุอีกฝ่าย อาจจะเพราะการแสดงออกทางใบหน้าที่หลากหลายนั้นน่าสนใจล่ะมั้ง นักรบเองก็เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนขี้แกล้งขนาดนี้ก็ตอนได้เริ่มสนิทกับเจนรักษ์มากขึ้น หวังว่าพี่เลี้ยงของเจ้าลูกกบจะไม่งอนลาออกกันไปก่อนนะ ก็เจ้าตัวเคยบอกเองนี่ว่าสักวันจะไป


จะว่าไปแล้วเขาก็พอจะเข้าใจว่าทำไม….หากอีกฝ่ายเคยทำงานเลขามาก่อนอย่างที่เมาบอกกันเมื่อวาน นั่นก็หมายความว่าเจ้าตัวก็คงคิดจะกลับไปทำงานบริษัทแบบที่เคยทำมา มันก็เข้าใจได้ งานเลี้ยงเด็กไม่ได้ใช้สกิลความสามารถแบบที่ตนสะสมมาอย่างเหนื่อยล้า ถ้าไปถามคุณเพชรเลขาของเขาก็คงจะได้คำตอบแบบเดียวกัน แต่ก็ยังดีที่อีกฝ่ายยังทำอยู่และไม่มีท่าทีว่าจะเบื่อหน่ายอยากเปลี่ยนงานให้เห็นแต่อย่างใด


เจนกลับมาพร้อมกับกรรไกรอันเล็กสีพาสเทลในมือ ดูก็รู้ว่าซื้อมาใช้กับเจ้าตัวเล็กของเขาเสียมากกว่าใช้งานอย่างอื่น นักรบจับน้องวินที่หนุนแขนกันอยู่ให้ขึ้นมานั่งบนตัก เจนรักษ์นั้นนั่งยองๆกับพื้น เงยหน้ามองเหยื่อของวันที่มองกันตาแป๋ว และหวีผมหน้าม้าให้เพื่อประเมินว่าควรจะตัดประมาณไหน


“คุณรบช่วยประคองใบหน้าน้องให้หน่อยได้ไหมครับ” 


“อย่าดิ้นนะตาหนู”  เขาสั่งเสียงเบา ภารกิจการตัดผมเจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าจะกลัวหรือไม่ ได้เริ่มขึ้น สองมือใหญ่ของนักรบประคองแก้มน้องทั้งสองข้างล็อคไม่ให้ส่ายหน้าไปไหน  เจนรักษ์พยักหน้ารับเมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว มือนึงยกขึ้นมารองเศษผม เจ้าลูกกบที่เห็นพี่เจนทำอะไรแปลกๆกับตนก็เบะออกมา


“โอ๋ๆ แป็ปนึงนะครับ เดี๋ยวก็เสร็จนะ”


“เจน…เร็วๆ น้องวินก็อยู่นิ่งๆลูก”  เจนรีบฮึบความอยากโอ๋ที่มีในใจทั้งหมดก่อนจะตั้งใจตัดให้


“จะเสร็จแล้วครับ”  เจ้าลูกกบเองก็ฮึบอยู่เหมือนกัน แค่เบะปาก ยังไม่ร้องออกมา เก่งมากจนอยากจะหอมแก้มให้รางวัลเด็กดี เจนหวีผมให้น้อง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย คนเป็นพี่เลี้ยงวางกรรไกรที่โต๊ะข้างโซฟาก่อนจะลุกขึ้น แต่เพราะนั่งเกร็งอยู่นานจึงเซนิดไปชนเข่าของคนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่ได้ตั้งใจ และกำลังจะล้มลงนั่งบนตักของเขา


ทว่าเจ้าตัวก็เบี่ยงตัวเฉียดตักเขาไปนิดๆและลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าที่พื้นเอง
โอ้ย……


“………”


“เหมือนตะคริวจะกินครับ”  เจนยอมรับในความกากของร่างกาย นักรบส่ายหน้าออกมานิดๆ เขาตกใจไม่น้อยที่เห็นอีกฝ่ายจะล้ม และองศาการล้มเมื่อครู่ก็เหมือนจะลงมานั่งบนตักเขาหรืออาจจะทับน้องวินได้ นักรบไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ชอบเห็นอีกฝ่ายเบี่ยงลงไปนั่งที่พื้นให้เจ็บตัวอย่างนั้น และที่ไม่ชอบที่สุด


คือตัวเองที่ย้อนแย้ง


“ขอเจนนั่งแป็ปนะครับ”


“ลุกไหวไหม”


“แฮ่ อูยยยยย”  เสียงครางเจ็บยามที่เจนซึ่งพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อจะยืนนั้นทำให้เขาต้องช่วยคว้าแขนอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นให้ได้ เจนทับเท้าของเขาอยู่ แต่มันไม่ได้เจ็บอะไร ดูจากที่อีกฝ่ายลุกลำบากยากเย็นอย่างนั้น เดาได้ว่ามันคงทรมานแน่ๆ เจนรักษ์เบ้หน้าก่อนจะนั่งลงบนโซฟาไม่ไกลจากที่เขานั่งอยู่ นักรบมองอีกฝ่ายที่กำลังนวดขาให้ตัวเองอย่างไม่ถนัดนักก็ถอนหายใจออกมา


“อุ้มน้องวินให้หน่อยได้ไหม”


“คะ…ครับ”  เจนนั้นยังงงๆแต่เขากลับส่งเจ้าลูกกบมาให้ที่ตักเสียแล้ว เกิดเป็นน้องวินก็แย่อย่าง โดนโยนไปให้คนนั้นทีคนนี้ที เจนนั้นนึกสงสารน้องอยู่ในใจนิดหน่อยก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่ขาของตน


แต่คือมันไม่ใช่มือกูไงงงงงงงงงงงงงง


“คุณรบ!!!”  เจนร้องออกมา ไม่ใช่ว่าเจ็บ


แต่นั่นมันเจ้านายนะครับ


“ทำอะไรเงอะๆงะๆ”  ฮืออออ เจนผิดไปแล้ว แต่ไม่ใช่ดิวะ


“คุณรบครับ ลุกขึ้นมาเถอะ มันไม่ดีนะครับ เจนเป็นลูกน้องนะ”  เจนร้องออกมา ลนลานเสียยิ่งกว่าอะไร


“แล้วไง ใครเห็น ตอนเป็นตะคริวมันต้องนวดแบบนี้”


“คุณรบครับ เจนนวดเองได้”  แต่เจนก็ยังแย้ง นักรบจึงได้เงยหน้าขึ้นมามองตาดุ เท่านั้นแหละหุบปากฉับ แต่ในใจที่เถียงแบบไม่มีใครทัน ก็อย่างนี้มันดีที่ไหนกันเล่า ไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆ ร้อยไม่ดี พันก็ไม่ดีว้อย


“นั่งเงียบๆแล้วจับน้องวินดีๆ เข้าใจไหม”  เข้าใจก็ได้ครับ เจนเบะปากออกมาแข่งกับน้องวิน ก็คุณรบนวดเจ็บอ่ะ!


“อ้าว น้ำตาไหลไปอีก ซึ้งเหรอ”


“เจ็บครับ!”  เจนเถียงทันควัน แล้วน้ำตาแค่ซึมว้อยๆ


“ฮึๆ กินข้าวยัง”


“แป็ปนึงได้ไหมครับ เดี๋ยวเจนไปเตรียมให้”  เขาพยักหน้าก่อนจะนวดต่อไป พักนึงจนเจนร้องบอกว่าอาการดีขึ้นนั่นแหละ


ทว่านักรบนั้นเมื่อนวดเสร็จก็เดินไปที่ห้องครัว ทิ้งเจนให้คุยกับเจ้าลูกกบคนเดียว เมื่อคนพ่อไม่อยู่ การฟัดคนลูกก็ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ทว่าฟัดไปได้สักพัก ก็ลองลุกขึ้นยืนดู  อืม….ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ พอลองเดินดูก็พบว่านั่งก่อนดีกว่าอย่าเสี่ยงเอาเจ้าลูกกบไปล้มด้วยเลย เดี๋ยวพ่อเขาเอาเรื่องกันจริงๆแน่คราวนี้


นั่งไปสักพักก็เบื่อ มองนาฬิกาและก็คิดว่าควรไปเตรียมอาหารสักที มองซ้ายขวาคุณรบก็ไม่อยู่ ลองลุกและก้าวขาอีกทีก็พบว่าพอจะไปได้แล้วจึงอุ้มเจ้าตัวเล็กไปด้วยกันที่ห้องครัวที่ซึ่งมีเก้าอี้นั่งของน้องอยู่ด้วยจะได้จับล็อคไว้แล้วไปทำงาน ทว่าเมื่อเข้าไปในครัวก็ได้เห็นภาพที่เกือบทำให้ปล่อยน้องวินลงพื้นเพื่อเอามือมาขยี้ตา ก็นั่นมัน……


คุณรบในผ้ากันเปื้อน……


xxx


“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”  คุณรัชนีนุชที่เดินตึงตังเข้ามาในบ้านนั้นพูดออกมาอย่างเหลืออด ก็จะอะไรซะอีก


ก็พวกรัตนสกุลนะสิ!


“ไม่คิดจะญาติดีกันอีกจริงๆสินะ”  เธอนั้นโกรธจนสั่นไปหมด ทั้งเรื่องเหตุการณ์ของหลานสาวทั้งสองคน ทางนั้นไม่ไว้หน้ากันเลย และมันก็ลามมาถึงเรื่องธุรกิจที่เคยดำเนินด้วยดี ก็กลับติดขัด แน่นอนว่าเธอได้จัดการซัดกลับไปแล้ว ทว่าพวกนั้นมันแมวเก้าชีวิตจริงๆ เงินก็เสียไปมากกับการซื้อตัวคนของทางนั้นมา แต่ไม่เห็นมันจะสะดุ้งสะเทือนทางไหน แล้วยังมีหน้ามาแย่งคู่ค้ากันไปอีก มันจะมากไปแล้วนะ!


ไหนมันบอกว่ารักรดามากนักหนาขนาดที่ไม่ชายตามองรฐาไงล่ะ!!!


ไม่ได้แล้วเธอต้องทำอะไรสักอย่าง สิ่งที่เห็นในวันนี้ยิ่งตอกย้ำว่า นักรบ รัตนสกุลจะหันหลังให้กับทั้งลูกหลานและธุรกิจของเธออย่างถาวรแล้ว ข่าวลือบ้าบอนั่นเป็นจริง แม้ว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธ แต่มันก็แค่ลมปาก ถ้าไม่มีอะไรกัน คนที่หยิ่งยโสโอหังอย่างนักรบนะเหรอ จะมาเดินเข็นรถเข็นตามไอ้เด็กนั่นเป็นหมาตามเจ้าของแบบนั้น!


“ไม่ได้การล่ะ”  เธอต้องทำอะไรสักอย่าง  คุณรัชนีนุชยอมไม่ได้ เธอทั้งเสียดายและโกรธไปพร้อมๆกัน เพราะไอ้เด็กที่ชื่อเจนนั่นแท้ๆ บ้านนั้นก็ปกป้องมันเข้าไป คิดว่าคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเป็นแค่ลูกคนใช้อย่างนั้นนะเหรอจะมาเป็นแม่ใหม่น้องวิน


ใช่….มันเป็นไม่ได้หรอก


“ฮึๆ”  มันไม่มีทางเป็นได้หรอก นอกจากจะไม่ใช่แม่แท้ๆ มันยังเป็นผู้ชายอีก แค่นั้นก็พ่ายแพ้แล้วชัดๆ ไอ้เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แกไม่รู้ซะแล้วว่ากำลังเล่นกับใคร แกไม่รู้หรอกว่าอีกไม่นานจะอยู่ในสถานะไหน  ตัวสำรองก็ยังเป็นตัวสำรองวันยังค่ำ เป็นได้แค่นั้นก็จะเป็นได้แค่นั้น


เพราะแกไม่มีวันชนะตัวจริงไปได้หรอก!


“ฮัลโหล”  รัชนีนุชที่กดโทรออกไปยังเบอร์นึงซึ่งไม่ได้ติดต่อมานาน เมื่อปลายสายรับทราบ เธอก็ยิ้มออกมา


นี่คือหมากที่เธอจะใช้
และเป็นหมากที่นักรบ รัตนสกุลจะต้องยอมแพ้…..



tbc




Talk: ตบท้ายด้วยอะไรที่เหมือนจะมาม่า แต่ว่ารอดูกันนะคะว่าจะม่าถึงใจไหม อย่าเพิ่งเขวี้ยงมะม่วงใส่เรา เรายังยืนยันที่การจบเรื่องแบบที่พี่รบได้เห็นขาอ่อนน้องเจนแน่นอน แต่รอกันหน่อยเนาะ

ช่วงกลางสัปดาห์ไม่น่าจะลงได้นะคะ เราก็พยายามจะสร้างเพจเฟซบุคนะคะ แต่ก็……ขอโทษค่ะ คือเราหง่าวเอง
ขอบคุณมากที่ติดตามนะคะ
Twitter @reallyuri
#เจนไม่นก







หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 22-07-2018 18:06:00
ป้านุชยังไม่จบอี๊กกกกกกกก   :katai1:

คุณรบนี่มีความย้องแย้งมาก  เอ็นดู  5555555 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 22-07-2018 18:26:21
อ๊่าววว อิป้านั่นยังไม่ตายอีก 5555555555
คุณรบนวดขาน้องเจนอ่ะ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟินนนน :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-07-2018 18:44:36
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 22-07-2018 18:55:34
จะเรียกแม่น้องวินกลับมาเหรอ

แล้วถ้าคุณรบกลับไปเหมือนเดิมก็ไม่เป็นไร เราจิพาเจนออกไปหาหนุ่มๆคนใหม่ ฮิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 22-07-2018 20:18:57
นี่ว่า...ไม่น่าม่าหรอก เจนเอาอยู่ หึหึ
อยากสะกิดมนุษย์ป้า...ลูกคนใช้ที่จบเมืองนอกและเป็นเลขามา ไม่ธรรมดาหรอกนะคะ อยากให้ป้าคิดสักนิดนึง เหอๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 22-07-2018 20:24:40
นางต้นตระกูลมนุษป้าชะนีนุชยังมีพลังอีก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 22-07-2018 20:49:16
เตรียมมะม่วงไว้เขวี้ยงรัชนีนุชแทนได้มั้ย

ขอบคุณนักเขียนจ้า +
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-07-2018 21:37:56
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-07-2018 21:43:06
มาแล้วจ้าตัวเร่ง เอ้ากองชงมาทำงานเร็ว
น้องลูกกบจะเรียกเจนได้แล้ว ดีใจจัง
ว่าแต่คุณรบเป็นตัวเองมากค่ะ ช่างขี้แกล้งน้องเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-07-2018 21:53:05
จะฟ้องเอาลูกกบไปหรอป้า
นิสัยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Tukta3039 ที่ 22-07-2018 23:52:37
จะเอารดามาสู้หรอ?? หรือจะฟ้องเอาน้องวิน แต่ถ้าฟ้องเอาน้องวินนี่ไม่น่าจะชนะ เพราะฝ่ายพ่อฐานะดี เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แลเวน้องวินก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร 
แต่!! ถ้าเอารดามาเกี่ยวก็ไม่แน่ รบยังสับสนตัวเองอยู่เลย ยังไม่รู้ตัวว่าชอบเจน แลเวรดามาทำให้เขวจะทำยังไงงงงงงง  :katai1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 23-07-2018 00:41:08
ป้าวางหมากผิดทุกรอบแหละ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 23-07-2018 06:36:18
เอาป้าชะนีนุชไปเก็บหน่อย กำลังฟรุ้งฟริ้งพออ่่านมาเจอพาร์ทป้าแกปุ๊บหมด'รมณ์
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-07-2018 07:56:40
ป้าชะนีนุชยังไม่จบอีก จะเอาใครมาเป็นเบี้ยอีก รดาเหรอ?
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-07-2018 18:51:35
เหอะ.............รำคาญยัยป้าม้ามณี   :angry2:
เห็นพ่อลูก เขาเข็นรถเข็นกับเจน ก็วุ่นวายใจเหมือนเดินบนกองไฟ
วางแผนอะไรอีก
จะฟ้องเอาหลาน หรือให้แม่ลูกวินมาเอาลูกกบไปเลี้ยง  :m16: :m16: :m16:
นี่ถ้าเห็นคุณรบนวดขาให้เจน มิชักดิ้นชักงอเป็นผีเข้าไปแล้วรึ   :z6:

นักรบ  เจน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-07-2018 19:22:48
รำคาญยัยป้ามาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 23-07-2018 22:00:35
เราเจอคนเขียนพิมพ์ผิดที่นึงค่ะ
“เราสามคนพ่อลูกและพี่เลี้ยง”   อันนี้ต้องเป็น   “เราสามคนพ่อลูกและมะมา(ของลูกกบ)” รึเปล่าคะ ><

เพิ่งจะรู้ว่าคุณรบก็มีมุมร้ายกาจกับเขาด้วย มอมให้เมาแล้วตื่นไปเที่ยวไม่ทัน
พามากินข้าวนอกบ้าน แล้วกลับไปยังทำอาหารให้กินอีก เริ่มเข้าคอร์สพ่อบ้านแล้วสิเนี่ย
น่ารักมากกกกก อยากให้ชิปเปอร์เบอร์หนึ่งกลับบ้านไวๆจังเลยค่ะ ฮ่าๆๆ

คุณป้าคะ เมื่อไหร่ที่หมากของคุณป้าเผยตัวออกมา
ดิฉันเชื่อว่าพญาครุฑแบบน้องเจนจะกลายร่างเป็นครกแล้วตำหมากของคุณป้าแหลกแน่ๆ ==
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 23-07-2018 23:43:00
หลงเข้ามาอ่านติดใจเจ้าลูกกบทันที น้องน่ารัก อยากฟัดแก้มบ้าง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 26] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 22.7.2018 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-07-2018 20:13:57
 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 24-07-2018 21:45:48
#เจนไม่นก

กินคาวไม่กินหวานไม่ใช่เจน


 

 

 

“ดีขึ้นแล้วเหรอ”  เขาที่ยุ่งๆอยู่หันมามองกัน ช็อตที่เขานั้นหันมาทั้งที่มือถือกระทะแบบนั้นมันช่าง….

 

 

ฟหดห่ดาหวกสาวสสซสหด ……คิดเชี้ยอะไร ไปตายซะเจน!!!!

 

 

“คุณรบทำอะไรเหรอครับ”

 

 

“เห็นว่าเผาบ้านอยู่ปะละ”  บางทีก็ไม่น่าสนิทกันเลย ตอนรับสมัครมาเป็นนายจ้างไอ้เจนไม่เห็นเขาจะเขียนบอกในเรซูเม่เลยว่าเป็นคนกวนขนาดนี้

 

 

“คุณรบถือกระทะทำไมอะครับ”

 

 

“ทำครัว”

 

 

“แต่เราซื้อมาแล้วนี่ครับ”


 

“ก็ไปแกะอุ่นสิ”

 

 

“หะ….”  เจนยังคงไม่เข้าใจ และเขาก็ถอนหายใจออกมาในความอยากรู้อยากเห็นไปหมดของคนเป็นพี่เลี้ยงของลูก ช่างไม่มั่นใจอะไรในตัวกันเสียเลย ก็อย่างที่เจนรู้ นักรบเคยไปเรียนต่างประเทศหลายปี เขาอาจจะใช้ทักษะการใช้เงินในการได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำอาหารไม่ได้ แน่นอนว่านักรบทำอาหารง่ายๆได้แบบพอกินกันตายในวันที่ขี้เกียจแม้แต่จะคุยกับคนรับโทรศัพท์ร้านพิซซ่า และห้องเขาก็พอจะมีของสดที่ใช้ประกอบการทำอาหารประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่บ้าง อย่างเช่นไข่เป็นต้น อีกทั้งเขาก็มีโอกาสได้ทำเฟรนช์โทสต์มาก่อน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเอาให้คนกินได้โดยต้องไม่มีใครตาย

 

 

และเพราะเจนรักษ์ทำสายตาเหมือนเชื่อถือเขาเสียเต็มประดาแบบนั้น ตอนแวะที่ห้างเขาเลยหนีไปหยิบวัตถุดิบที่ต้องใช้ซื้อกลับมาด้วย นักรบหันไปมองเจนรักษ์ที่กำลังอุ่นอาหารพลางแอบเหลือบมองเขาในบางครั้งอย่างมีคำถาม สิ่งที่ได้มีเพียงการเบือนหน้านี้และทำนั่นนี่ของตัวเองต่อไปโดยไร้ซึ่งคำตอบใดๆ อาหารที่ซื้อมาถูกอุ่นให้ร้อนและกำลังจะถูกนำไปที่ห้องทานข้าว

 

 

“ทานที่นี่แหละ”  เขาสั่ง ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าคิดว่าคงเห็นด้วยกับความสะดวกในการเก็บล้าง

 

 

เจนรักษ์เดินไปที่เก้าอี้ข้างๆตัวน้องวิน พักขาเอามือเท้าคางกับเคาน์เตอร์บาร์ จ้องมองคนที่ยังวุ่นวายกับครัวอยู่ มันเป็นภาพที่ทำให้หัวสมองของเจนว่างเปล่าโดยไม่ทราบเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดมองได้ราวต้องมนต์สะกด คุณรบจะรู้ตัวไหมว่าไหล่ของเขากว้างและมือใหญ่ที่เห็นเส้นเลือดชัดเจนนั่นดูน่ามองแค่ไหนยามที่จับนู่นหยิบนี่ และเพราะภาพลักษณ์ที่เหมาะกับสูทและห้องทำงานมากกว่า มันทำให้ภาพของเขาในตอนนี้ที่ดูไม่ชินตาเอาเสียเลย มันจึงดูอาจจะเหมือนขัดตา แต่ก็ทำให้หยุดมองไม่ได้  และมันก็รู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก….

 

 

คงจะดีถ้าบนตัวเขาไม่มีเสื้ออยู่

 

 

“มองอะไร”  เขาที่หันมาพร้อมกับบางสิ่งในจานนั้นถาม ชะงักไปกับสายตาที่มองมา แต่ไม่ได้นึกอึดอัดหรือรังเกียจแต่อย่างใดทั้งๆที่สิ่งที่เจนรักษ์ทำนับได้ว่าเสียมารยาทอย่างยิ่ง ทว่าสิ่งที่เขาตระหนักนั้นมีเพียงสิ่งเดียว คือเขาเป็นคนๆเดียวที่อยู่ในสายตาของอีกฝ่ายมาตลอด เมื่อนึกได้อย่างนั้นใบหูก็ร้อนอย่างไร้เหตุผลที่มีสาระขึ้นมา

 

 

“แค่คิดว่าคุณรบทำอะไรนะครับ”  เจนนั้นไม่ได้หลบตากัน ก็เจนสงสัยเช่นนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่ไม่ได้พูดออกไปคือสิ่งที่อธิบายไม่ได้ว่าแค่สงสัยทำไมต้องมองนานๆ

 

 

และทำไมต้องมีความคิดล่วงละเมิดแบบนั้นด้วย!!!!!!!

 

 

“ทำเฟรนช์โทสต์”

 

 

“อา…..” ใจเย็นนะเจน ใจเย็น ว้อยยยยยยยยยยย

 

 

“พอพูดถึงวันนี้เลยอยากรื้อสูตรดูน่ะ ว่ายังทำได้ไหม”  เพราะไม่ได้ทำมานานด้วยส่วนนึง ข้ออ้างดูใช้ได้ แต่จริงๆแล้วมันเพราะโดนปรามาสโดยเจ้าของนัยตาใสนี่ไม่ใช่เหรอ

 

 

เราสองคนนั่งกินอาหารไปเงียบๆจนหมด สลับไปเล่นกับน้องวินบ้างจนมาถึงตาของหวาน แม้เจนจะมีความไม่เชื่อถือคุณรบอยู่บ้างแต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทก็ต้องชิมซะหน่อย ว่าแต่ทานได้จริงๆเหรอ ตัวพ่อคุณเองก็บอกว่าอยากกิน แต่ก็ยังไม่ให้เห็นเขาจะแตะสักนิด และพอมันเข้าปาก คนที่เคยปรามาสในใจและส่งสายตาล้อเลียนกันไปก็แทบจะวางช้อนส้อม ไม่ได้เพราะมันไม่อร่อยหรอก

 

 

อยากลงไปกราบขอโทษ เจนผิดไปแล้ว!!!

 

 

“อร่อยไหม”  นักรบยิ้ม เขายักคิ้วให้เจนรักษ์ที่จิ้มชิ้นต่อไป ก็แค่ขนมปังชุบไข่กับนู่นนี่เอาไปจี่กระทะ มันเป็นอะไรที่ธรรมดามาก แต่รบมั่นใจว่าเขาทำได้ดี

 

 

เพราะเขาเคยตั้งใจที่จะทำให้มันอร่อยที่สุดเพื่อใครสักคน

 

 

“เจนว่าถ้ามีผลไม้กับไอติมด้วยนะ”

 

 

“ไม่อร่อยเหรอ”  เสียงแข็งขึ้นมาเลย คือเจนยังพูดไม่จบไหม

 

 

“ผมว่ามันจะเป็นอะไรที่เข้ากันสุดๆต่างหาก แค่นี้ก็อร่อยนะครับ แต่คุณรบลองคิดว่ามันมีอะไรแบบนั้นดูสิ” แต่เจนสู้ครับ ก็ไม่ผิดอ่ะ!

 

 

“อืม เสียดายที่ไม่ได้ซื้อกลับมา”

 

 

“ลองไหมครับ เดี๋ยวเจนไปหั่นสตอเบอร์รี่กับตักไอติมให้”

 

 

“สตอเบอร์รี่ที่ซื้อวันนี้นะเหรอ แล้วไอติมเอาจากไหน”  เจนยิ้มก่อนจะจ่อนิ้วที่ริมฝีปาก

 

 

“ชู่ววว ของพระพายครับ อย่าบอกน้องนะ”  เท่านี้เขาก็กระจ่างใจ พอเรื่องทำผิดนี่รีบหาพวกเชียวนะ เขายิ้มและส่ายหัวนิดๆ มองตามร่างเล็กที่วิ่งไปที่ตู้เย็น ก่อนจะหันกลับมามองจานเฟรนช์โทสต์ที่จริงๆก็ตั้งใจทำให้อีกคนได้ชิมเพื่อลบคำสบประมาส

 

 

ตั้งใจทำเพื่อใครสักคนนะเหรอ…..

 

 

“………..”  นักรบจิ้มขนมปังฝีมือตัวเองขึ้นมาใส่ปาก มันอร่อยแต่ไม่ใช่ของโปรดเขา นักรบทำอาหารไม่เก่ง แต่ก็อยากจะทำเพื่อใครสักคนที่เขาหลงรักอย่างสุดหัวใจในตอนนั้นจึงพยายามขอให้เพื่อนที่ทำมันได้อร่อยมากๆช่วยสอน  เสียไปก็เยอะแต่ในที่สุดก็ได้ผลงานที่ดีๆออกมา ทั้งๆที่เขาไม่ได้ชอบกินของหวานแต่ก็ต้องกินไปมากมายเพื่อลองชิมฝีมือตัวเอง ทว่าในวันที่เขาเอาไปให้อีกฝ่าย สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงแค่รอยยิ้มที่ปากไม่ออกตา ไม่มีคำชมและเขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้กินมันหรือเปล่า

 

 

รอยยิ้มที่เขาเพิ่งมารู้ว่ามันเสแสร้งสิ้นดี

 

 

“เจนเอามาแล้ว”  น้ำเสียงสดใสในยามเย็นของวันหยุดปลุกเขาให้หลุดจากภวังค์ ในอดีตเขาเคยทุ่มเทกับเรื่องมากมายเพื่อพบเจอกับความผิดหวัง การกระทำทั้งหมดที่พยายามไปนั้นสูญเปล่าจนหมดศรัทธาในเรื่องต่างๆ เขาไม่เคยคิดว่าเฟรนช์โทสต์เป็นของกินที่อร่อยอีกเลยจนกระทั่งได้เห็นแววตาและรอยยิ้มของคนที่นั่งตรงข้ามกันเมื่อครู่ ซึ่งในตอนนี้กำลังตักไอศกรีมวางข้างๆจานและจัดวางผลไม้ที่เจ้าตัวเตรียมให้

 

บนจานเฟรนช์โทสต์ที่เคยดูจืดชืดนั้นกลับเต็มไปด้วยสีสันที่ถูกใครอีกคนมาแต่งเติม

 

 

“ลองชิมดูอีกสิครับ”  เจนรักษ์เชิญชวนด้วยรอยยิ้ม นักรบทำหน้านิ่ง แต่เขาต้องใช้ความพยายามในระดับหนึ่งเลยก่อนจะตักกินทีละอย่าง และเมื่อมันผสมอยู่ในปาก ทันใดนั้นต่อมรับรสก็ประมวลผลออกมาได้ในทันที

 

 

“อืม”

 

 

“อร่อยไหมครับ”  เจนรักษ์รอคอยคำตอบอย่างคาดหวัง เขาไม่ได้ตอบอะไรแต่ยื่นช้อนของตนให้อีกฝ่าย  ทว่าทั้งๆที่เจนก็มีช้อนของตัวเอง แต่ก็ยังอ๋องเอาช้อนที่เขายื่นมาตักไปกินอีก นักรบนั้นหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อย เขามีคำตอบให้ตัวเองในใจแล้ว

 

 

อย่างที่เจนรักษ์ว่า  แบบเดิมมันก็อร่อย แต่แบบนี้มันอร่อยกว่า อาจจะเพราะรสชาติที่หลากหลายนั้นเป็นไปในทางที่เหมาะสม ทว่าส่วนหนึ่งในความรู้สึกของนักรบนั้นท้วงกัน ว่ามันไม่ใช่แค่ขนมปัง ไข่ น้ำตาล อบเชย นม ไอศกรีมช็อกโกแลต และสตอเบอร์รีสด หรืออะไรหรอก แต่มันเพราะคำชมที่เขาได้รับจากคนๆเดียวบนโลกที่ได้ชิมเฟรนช์โทสต์ฝีมือเขา  เฟรนช์โทสต์ที่เขาฝังมันลงไปลึกสุดใจพร้อมๆกับความรักที่มีให้กับรดา และไม่คิดว่าจะได้ทำให้ใครกินอีก ทว่าในวันนี้มีคนได้กินมาแล้ว คนๆนี้อาจจะได้เป็นคนแรกบนโลกที่ได้กินมันก็เป็นได้

 

 

และรอยยิ้มของคนๆนี้ก็ทำให้มันอร่อยกว่าเดิมในความรู้สึกของเขา

 

 

เหล่านักท่องเที่ยวในวันนี้คงจะมากันดึกๆ ดีแล้วที่พระพายไปด้วยเพราะเด็กนั่นขับรถเก่งใช่ย่อย ในส่วนของคนที่อยู่บ้านเพราะนกอย่างเจนและคนที่ตั้งใจอยู่บ้านอย่างคุณรบก็พากันมาอาบน้ำให้น้องวินที่งอแงจะอยู่บ้านเช่นกัน เจนนั้นเตรียมน้ำใส่อ่างอาบน้ำ ในขณะที่คุณรบช่วยจัดการถอดเสื้อผ้าให้น้องอยู่ด้านนอกก่อนจะพาเข้ามา เจนจัดการสระผมให้เจ้าตัวเล็ก มีคุณรบที่นั่งอยู่ไม่ห่างเป็นผู้สังเกตการณ์   แปลกนักที่พ่อของเจ้านายตัวน้อยมานั่งอยู่ตรงนี้ แต่ไม่มีอีกแล้ว เจนที่เกร็งไปหมดเมื่อถูกสายตาเขาจับจ้อง มันเพราะว่าเราสนิทกันมากขึ้นแล้วนะเหรอ มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก

 

 

เพราะแววตาของเขาที่มองมาไม่ก่อให้เกิดความประหม่าต่างหาก

 

 

เล่นน้ำป๋อมแป๋มกันพอแล้ว พี่เจนที่กลัวจะเป็นหวัดเพราะแช่น้ำนานก็จัดการห่อซูชิโรลเจ้าลูบกบออกมานอนแผ่ ทาแป้งให้หอมจนขาวไปทั้งตัวก่อนจะเตรียมตัวลงทอด ไม่ใช่สิ….เตรียมใส่เสื้อผ้ากินนมและก็นอน แต่เหมือนน้องวินจะไม่ยอมง่ายๆเพราะเจ้าตัวซนยังคงเอาแต่เล่นนั่นเล่นนี้จนคนเฝ้าแทบจะหลับแทนอยู่แล้ว หนักเข้าคนเป็นพี่เลี้ยงต้องอุ้มแล้วจับโยกเบาๆให้เคลิ้มหลับไปเอง

 

 

“หลับได้แล้ว เจ้าตัวเล็ก”  เจนรักษ์พูดออกมา งานเลี้ยงเด็กอาจจะหนักหนา แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ดูเหนื่อยใจ เขามองภาพของเจ้าลูกกบนั้นซบอกพี่เลี้ยงฝืนทำตาแข็ง

 

 

“ไหนผมขอลอง”  นักรบร้องขอ เขาเห็นเจนจับโยกอยู่นานแล้วก็ยังดื้ออยู่ คนตัวเล็กพยักหน้าให้ก่อนที่เราจะเปลี่ยนถ่ายจากอ้อมแขนสู่อีกอ้อมแขน

 

 

“ค่อยๆโยกช้าๆครับ”  เจนกำกับอยู่ไม่ไกล เขาพยายามทำให้ดูใกล้เคียงกับที่อีกฝ่ายเคยทำ มือเล็กของเจ้าลูกกบยังคงจับนิ้วมือของพี่เลี้ยง ลูบเล่นเพลินๆไม่ยอมปล่อยทำให้เจนห่างไปไหนไม่ได้ ทว่าความประหม่าที่ควรจะมีก็ไม่ได้เกิดขึ้น เจนรักษ์ยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนที่มืออีกข้างจะลูบหน้าลูบหัวน้องวินแผ่วเบา มือข้างที่น้องวินจับอยู่นั้นค่อยๆกำรอบมือน้องเป็นการบอกให้เชื่อมั่นว่าจะไม่หนีไปไหน ก็อ้อนเก่งขนาดนี้จะไปไหนได้ เพราะถ้าไม่รักเลย

 

 

ก็คงไม่อยู่มานานถึงป่านนี้หรอก….

 

 

“หลับแล้ว”  ภาพของเทวดาตัวน้อยที่หลับในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อทำให้เจนยิ้มก่อนจะเงยหน้ามองคนที่สูงกว่า ดวงตาของนักรบเองก็ดูอ่อนโยนกว่าที่เคยเห็น

 

 

“กว่าจะหลับได้”

 

 

“วันนี้ได้อยู่กับคุณพ่อทั้งวันมั้งครับ เลยอยากจะอยู่เล่นนานๆ”

 

 

“พาไปนอนเถอะ เดี๋ยวจะตื่นเสียก่อน”  เขาบอก ก่อนที่จะค่อยๆอุ้มน้องไปนอนดีๆ  เราสองคนนั่งนิ่งมองตาหนูแก้มย้อยที่เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเผลอไผล น้องวินในยามหลับดูน่าเอ็นดูที่สุด มือเล็กที่กำหลวมๆนั้นช่างดูนุ่มนิ่มไปหมด ความสงบเงียบที่แผ่กำจายไปทั่วห้องทำให้ละสายตามองไม่ได้เลย โลกใบไหนก็ไม่น่าอยู่เท่าโลกใบนี้จริงๆ

 

 

“ผมกลับห้องก่อนนะ”  แต่นักรบต้องไปก่อน เขาจำต้องกลับไปนอนที่ห้องตัวเองเพราะเจนก็คงต้องพักผ่อน ช่วงเวลาในฐานะพ่อและพี่เลี้ยงได้สิ้นสุดลงต่อเมื่อน้องวินหลับไหล พวกเขาเองก็ต่างแยกย้ายกันไปจัดการธุระส่วนตัวเช่นกัน

 

 

“ครับ”  เจนนั้นลุกขึ้น ทำหน้าที่เดินไปส่งเขาตามมารยาท แม้ว่าประตูห้องที่กั้นกลางจะอยู่ไม่ไกลเลย เสียประตูห้องข้างๆถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เจ้าของร่างสูงนั้นได้เดินผ่านพ้นอาณาเขตจากห้องของน้องวินไปยังห้องของเขา ทว่าตราบใดที่ประตูยังไม่ปิดลง เขาก็ยังคงได้เห็นคนตัวเล็กที่เดินมาส่งกัน

 

 

วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานเหลือเกิน…..

 

 

“ขอบคุณคุณรบที่พาไปทานข้าวข้างนอกวันนี้นะครับ”  เจนกล่าวขอบคุณเขา เพราะตนอาจจะไม่ได้พูดคำนี้เลยทั้งวัน

 

 

“แกะกุ้งให้แล้วไง”  จริงๆที่ชวนไปเพราะอยากหาคนไปแกะกุ้งให้หรอก

 

 

“ก็ยังต้องขอบคุณอยู่ดี”  เจนพึมพำ

 

 

“งั้นก็ขอบคุณเรื่องที่ช่วยนวดให้”  ใบหน้าของเจนแดง ความเด๋อด๋าเจ็บตัวของตนนั้นมันช่างน่าอาย แต่เจนไม่ยอมหรอกนะ

 

 

“ก็ช่วยชิมเฟรนช์โทสต์ของคุณรบแล้วไง”  แต่เจนไม่ยอมหรอกนะ เรื่องเอาบุญคุณนะขอให้บอกมา ว่าแต่มันเป็นภาระจริงๆเหรอกับการที่กินไป เพราะเจนก็กินเยอะกว่าเขาไปจนหมดไม่ใช่เหรอ เจ้าเด็กนกฮูกขี้หมานี่

 

 

“ถือเป็นบุญคุณอย่างยิ่ง”  ถึงจะมีคำประชดประชันมากมายออกมาจากปาก แต่เจนก็ยิ้มรับ บางทีเป็นอย่างนี้ก็ดีกว่าแบบที่เคยเป็นมาทั้งหมด คุณรบอาจจะไม่ได้ดูเป็นมิตร แต่เจนก็เริ่มจะเรียนรู้ว่านั่นคือบุคลิกของเขา คนๆนึงไม่จำเป็นต้องเปิดรับคนทั้งโลกด้วยการปั้นหน้ายิ้มหรือแสดงท่าทางด้านบวกๆให้ใครเข้ามาถ้าใจเขาอยากจะบวกคนพวกนั้นจะแย่ เราไม่จำเป็นต้องดีกับคนทั้งโลก เพราะคนทั้งโลกไม่มีวันจะดีกับเราเช่นกัน และถ้าเขาอยากจะเปิดใจให้ใครหรือดีกับใครสักคน เขาเองก็คงจะมีวิธีที่ที่จะรับใครเข้ามาในแบบของเขาเอง มันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดาษดื่น เพราะไม่ใช่คนมากมายที่เขาอยากให้เข้าใกล้ แต่เป็นคนไม่กี่คนที่ถูกขัดกรองไว้แล้วว่าดีพอ

 

 

และคงจะดีถ้าคุณนักรบจะยอมรับให้เจนเข้ามา

จะในฐานะคนที่ไว้ใจพอๆกับแม่ไพ น้าจิน หรือเอ็นดูพอๆกับน้องพายก็ยังดี

 

 

“แต่อร่อยมากครับ”

 

 

“………..”

 

 

“ยังไงเจนก็ต้องขอบคุณที่คุณรบทำของหวานให้กินหลังอาหารคาวอยู่ดี”  คนตัวเล็กยิ้มให้ มันอร่อยจริงๆนะ

 

 

เพราะงั้นคุณรบห้ามเจนไม่ให้กินไม่ได้หรอก เพราะเจนจะกิน

และเจนจะขอบคุณเขาด้วย ไม่รู้ล่ะ!

 

 

 

นักรบกลับเข้ามาในห้อง อยู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยไม่มีแรงจะยืนจนต้องทิ้งตัวลงกับเตียงนอน แต่ก็หันไปมองประตูห้องที่คั่นกลางนั่นอยู่ดี เจนรักษ์คงไปทำธุระส่วนตัวของเขาแล้ว นักรบเองก็ควรจะหนีไปจัดการตัวเองบ้างเสียที วันนี้ทั้งวันมันช่างยาวนานเหลือเกิน การพักผ่อนแบบนี้ก็ไม่ได้เหนื่อยน้อยกว่าการไปทำงานเลย แต่การไปทำงาน ก็ไม่ก่อให้เกิดรอยยิ้มติดแก้มที่กว้างอย่างนี้เช่นกัน

 

 

เหมื่อยแก้มบ้างไหม…นักรบ….

 

 

คุณพ่อยังหนุ่มนั้นเรียกสติก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อจัดการทำความสะอาดตัวเอง วันนี้เขาอยู่กับลูกนานเหลือเกิน ได้เห็นเจ้าตัวเล็กในด้านที่หลากหลาย ได้อุ้มกอดกล่อมให้นอน เขาได้ทำอะไรหลายๆอย่างในหนึ่งวันแบบที่คนเป็นพ่อควรจะได้ทำ มันคือความเหนื่อยที่ได้มาซึ่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง จะเรียกได้ว่าวันนี้ นักรบรู้สึกปลอดโปร่งมากกว่าทุกวัน และถ้าไม่ได้พี่เลี้ยงเด็กคนเก่งคนนั้นช่วยอยู่ข้างๆ บางทีความทรงจำเหล่านี้ก็คงจะไม่ได้เกิดขึ้น

 

 

เขาออกมาจากห้องน้ำอย่างสดชื่น ความอิ่มเอมใจยังคงประดับบนใบหน้าไม่สร่างจนเกรงว่าถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกคนจะหึกเหิมเกิน เขาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับทั่วใบหน้าและผม ปกติถ้าไม่มีงานหรืออ่านบทความอะไร นักรบก็ไม่ใช่คนติดมือถือนักหรอก ทว่าเขาดันเหลือบไปเห็นแจ้งเตือนที่จู่ๆก็ขึ้นมาในตอนนี้ คงเป็นคนไม่กี่คนบนโลกที่เขายังอนุญาตให้แจ้งเตือนทุกครั้งที่ส่งข้อความมา และ 1 ในนั้นก็มี….เจนรักษ์

 

 

เขาส่ายหน้า ห้องก็อยู่ข้างๆกันแต่ก็ต้องส่งข้อความหา ไม่ใช่ว่าเจนรักษ์ทำไม่ถูกต้องหรอก เป็นเขาหากมีเรื่องจะติดต่อก็ไม่ค่อยอยากใช้วิธีการเดินไปเปิดประตูรบกวนอีกฝ่ายเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวจะรู้ไหมเนี่ยว่าการส่งรูปอะไรก็ไม่รู้มาให้รัวๆก็ถือเป็นการรบกวนเช่นกันยิ่งในตอนกลางคืนแบบนี้ ทว่านักรบไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอีกฝ่ายเลย เขาเปิดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นที่รัวส่งแจ้งเตือนมาให้ ก่อนจะเห็นว่านั่นคือภาพของน้องวินที่จงใจถ่ายให้เห็นว่าใส่เสื้อคู่กับเขาแบบที่เจ้าตัวเอาให้ดูหลังถ่ายเสร็จนั่นแหละ คงนึกขึ้นได้เลยส่งมาให้ตอนนี้ ถ่ายไปเยอะกว่าที่คิดเหมือนกันนี่นา

 

 

หืม…..

 

 

Nakrob Rattanasakul : เจนรักษ์

Nakrob Rattanasakul : ไหนคุณบอกว่าไม่ได้ถ่ายติดหน้าผมไง

Nakrob Rattanasakul : แล้วที่ส่งมานั่นมันอะไร

Jen : สติ๊กเกอร์หมาหูตก

Jen : เจนส่งผิด

Jen : ไม่ใช่สิ

Jen : เจนเผลอกดถ่าย

Jen : เดี๋ยวเจนตัดหัวคุณรบให้นะ

 

 

เดี๋ยวเถอะ!

 

 

Nakrob Rattanasakul : ถ้าตัดหัวผม ผมตัดเงินเดือนคุณ

Nakrob Rattanasakul : แฟร์ดีไหม

Jen : ไม่แฟร์

Jen : เจนไม่ผิด

Jen : คุณรบไม่อยากให้มีหน้าตัวเองในรูปเอง

Jen : เดี๋ยวเจนตัดหัวให้แล้วก็ดีลีทรูปออกจากเครื่องและไลน์แชทให้ด้วย

Jen : เจนขอโต๊ด

 

 

คนเราจะพูดมากและทะเล้นได้มากขึ้นในโปรแกรมแชทจริงๆ

 

 

Nakrob Rattanasakul : หักเงินเดือน ห้ามลบทั้งนั้น

Jen : อ้าว

Nakrob Rattanasakul : ราตรีสวัสดิ์ และอย่าให้เห็นว่าแอบลบ

Jen : คุณรบ

Jen : คุณรบ

Jen : คุณรบ

Jen : คุณรบบบบบบบบบบบบบบบบบบ อย่าอ่านไม่ตอบสิครับบบบบบ

 

 

งั้นไม่อ่านก็ได้….

Turn off notification….เอาไว้พรุ่งนี้ค่อย turn on อีกทีละกัน

 

 
xxx

 

 

ตัดภาพไปที่สมาชิกชาวเรือที่ได้ออกไปข้างนอกในวันนี้

 

 

ทริปการเดินทางผ่อนคลายนั้นเป็นไปอย่างสบายๆ ขับกันไปถึงมหาวิทยาลัยที่พระพายกำลังจะเข้าเรียนเพื่อไปดูหอพักที่เจนรักษ์ช่วยหา หรือจะพูดง่ายๆก็คือหอของอีตาคนเชื่อถือไม่ได้นั่นแหละ เหล่าบรรดาแม่ๆที่มาเยือนถึงถิ่นนั้นได้ทำการขู่กรรโชกลูกชายเจ้าของหอไว้เรียบร้อยเกี่ยวกับความปลอดภัยของพระพาย ตรงนี้ก็น่าซึ้งใจเพราะน้องไม่ใช่ลูกหลานของคุณหญิง แต่ท่านก็ยื่นเงินจ่ายค่ามัดจำเอาไว้ให้ทั้งหมด โดยมีอีตาคุณเพชรเอาพานมารองรับไว้ พระพายเกือบจะซึ้งแล้วแต่เห็นภาพนี้ก็คิดอีกทีว่าคนเราจำเป็นต้องเล่นใหญ่ไปทำไม

 

 

“ข้างหลังนี้มีสวนด้วย”  อำไพชี้ชวนให้จินตนาออกไปดูด้วยกัน พระพายที่ร้อนจึงนั่งอยู่กับคุณหญิงในห้องของผู้จัดการหอ ที่วันนี้ตาเพชรรับหน้าที่มาเอาหน้า

 

 

“และค่าเช่าห้องของน้องน่ะ ส่งมาเก็บที่ฉันโดยตรงนะ ทุกเดือนด้วย”  คุณพรรณีกำชับ เธอจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้จนกว่าพระพายจะเรียนจบ คนตัวเล็กนั้นมองไปรอบๆก็พบว่าสถานที่มันดูดีในระดับนึงเลย และยิ่งอยู่ในทำเลที่ดีแบบนี้ คาดว่าค่าเช่าห้อง….คงจะแพงน่าดู

 

 

“ได้ครับคุณท่าน เพชรจะทำให้มั่นใจว่าค่าใช้จ่ายจะถูกเก็บไปอย่างถูกต้องแน่นอน”

 

 

“แล้วให้คนดูแลน้องให้ด้วย ห้ามให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาจีบน้อง เข้าใจไหม!” คำสั่งของคุณหญิงนั้นทำให้พระพายหน้าแดงขึ้นมา ทำไมพระพายต้องโดนผู้ชายจีบด้วยล่ะ

 

 

“หอของเรามีกล้องวงจรปิดโดยรอบ ผมมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นแน่นอนครับ”  ตานี่ก็ตะเบ๊ะรับไปอีก น่าหมั่นไส้ หันมามองพระพายบ้าง ลูกตาจะถลนอยู่แล้ว!

 

 

“ดีมาก”  คุณหญิงเอ่ยชมก่อนจะยิ้มอย่างพึงใจ

 

 

“ว่าแต่คุณเจนไม่มาด้วยเหรอครับวันนี้ เห็นวันก่อนขิงใส่อยู่ว่าจะได้มาเที่ยว”

 

 

“ตารบไม่ให้มา”

 

 

“หา!”  ไม่ใช่แค่พี่เพชรหรอกที่ร้อง พระพายเองก็อึ้งเหมือนกัน คุณหญิงท่านเอาความมั่นใจมาจากไหน พระพายอยู่บ้านเดียวกันยังไม่เห็นเขาจะจีบกันเลยนะ!

 

 

“อืม ตารบไม่ให้มา”

 

 

“แน่ใจว่าไม่ได้มโนไปเอง โอ้ย!”  สมน้ำหน้า แม้พระพายจะคิดไม่ต่าง แต่ก็ไม่ปากไวไปพูดอย่างนั้นหรอก สมแล้วที่ถูกท่านเอาพัดฟาดแบบนั้น มันน่าโบกให้ติดกำแพงนักเชียว

 

 

“เห็นฉันเป็นคนยังไงยะ ตานี่!”

 

 

“แฮ่ เพชรแค่ไม่เชื่อหูนะครับ”  พระพายเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อหูเลย เอาที่ไหนมาบอกว่าคุณรบไม่ให้มา เจ้าที่ท่านไม่ได้แรงขนาดนั้น ตอนเช้ายังเห็นคุณรบออกมาอุ้มลูกอยู่เลย แถมไม่ได้พูดอะไรด้วยนะว่าไม่ให้พี่เจนไป

 

 

เอ๊ะ….แต่คุณรบไม่ได้พูด ก็ไม่ได้หมายความว่าให้มาได้นี่

 

 

“เมื่อวานนี้ตารบกับเจนเขานั่งกินไวน์และแยกวงไปเล่นเกมด้วยกัน”  คุณหญิงท่านเริ่มอธิบายมาเป็นฉากๆ อาจจะเพราะทั้งสองเป็นเด็กนอกด้วยกันทั้งคู่แถมยังเรียนและทำงานเป็นหลักจึงไม่เข้าใจเกมที่พวกเราเล่นอยู่ เลยแยกไปเล่นเกมง่ายๆอย่างโดมิโน

 

 

แล้ว…..

 

 

“ก็ดื่มไวน์กันอะนะ เจนก็คออ่อนในระดับนึง ยุง่ายด้วยล่ะ”

 

 

แล้ว…..

 

 

“เมื่อเช้าแอบไปเห็นขวดไวน์เปล่าวางซ่อนอยู่ เธอคิดว่าคนแบบเจนจะกล้าเปิดมาดื่มเองไหมล่ะ เดินตรงให้ได้ก็เก่งแล้ว”

 

 

โหย เริ่มพีคล่ะ

 

 

“หมายความว่าคุณรบพยายามจะมอมคุณเจนเหรอครับ”  เลขาพี่เพชรกอดตัวเองขึ้นมา ยังโว้ย เขายังไม่ได้กัน

 

 

“ก็ประมาณนั้น แต่คงไม่ได้ล่วงเกินอะไรหรอก เขาก็แยกกันนอนอยู่นะ”

 

 

“ของแบบนี้มันมาแยกตอนหลังได้นะครับ”

 

 

“ตายละ หรือฉันควรรีบเตรียมขันหมากไปสู่ขอน้องให้ตารบดี เกิดไปข่มเหงน้องขึ้นมา”

 

 

“ผมว่าถ้าเมื่อวานมันดราม่าจริง พี่เจนคงไม่โพสต์ภาพไปกินอาหารทะเลวันนี้หรอกครับ”  พระพายแย้งออกมา นี่ในอินสตาแกรมยังเห็นคุณเจนรักษ์โพสต์ภาพของกินอยู่เลยนะ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนั้นหรอก

 

 

“เจนไปกินอาหารทะเลเหรอวันนี้”

 

 

“ครับ พายเห็นพี่เจนโพสต์รูปด้วย”

 

 

“ตารบพาไปเหรอ”  ก็อาจจะเป็นไปได้

 

 

“แล้วคุณหญิงรู้ได้ไงว่าคุณรบไม่ให้มาละครับ”  เพชรกลับมาที่ประเด็นแรก เออคุณหญิงรู้ได้ไงนะเหรอ

 

 

“ก็ตารบบอกนะสิ”

 

 

“ครับ?”

 

 

“อืม ตารบบอกว่าเจนเมามาก วันนี้แฮงค์แน่นอน”

 

 

ก็แหงสิ จับเขากรอกไปขนาดนั้น

 

 

“แล้วแถมน้องวินก็งอแงจะอยู่บ้านด้วย อย่าให้เจนไปเลย”  อ๋อ….จริงด้วย คุณรบไม่ให้มาเพราะน้องวินต้องมีคนดูแล แต่อยากจะแหมไปถึงพระจันทร์….คนแฮงค์นี่ต้องพาไปกินซีฟู้ดแก้แฮงค์เหรอ หวายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

เอาเถอะครับคลื่นลมแรงแค่ไหนก็สาดมาเถอะครับ

เรือรบเจนแข็งแกร่งพร้อมรับเสมอ!!!!!!!!

 





 

Tbc

 

 

Talk:  สรุปทุกคนก็ยังไม่รู้ว่าคุณรัชนีนุชวางแผนอะไร ก็ให้รบเจนเขาเลี้ยงลูกกันไปก่อนนะคะ มีโมเมนท์เพชรพายด้วยนิดนึง(โมเมนท์อะไรเห็นแต่คนหมั่นไส้) ตอนนี้เรื่องเพจเฟซบุคก็ไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ สมัครไว้แล้วค่ะ แต่ตั้งลิงค์ไม่ได้ ง่าวจริงๆ ไม่เถียงใครเลย จริงๆตั้งใจมาลงพรุ่งนี้ค่ะ แต่คาดว่าไม่น่ารอดเลยลงวันนี้แทน ยังไงฝากดูแลน้องด้วยนะคะ น้องเจนเห็นร้ายๆ ไม่ร้ายเท่าตาปี้ยบนะจะบอกให้ เรื่องนี้บางทีเราอาจจะไม่ต้องการนางร้ายจริงๆ เพราะปี้ยบจะเป็นให้คุณแล้ว5555

 

สปอยและอัพเดทใน # เจนไม่นก ในอนาคตถ้าลงตอนหลักไม่ไหว อาจจะมาลงช็อตสตอรี่รบเจนในทวิตให้อ่านนะคะ ยังไงฝากติดตามด้วย

Twitter @reallyuri

 

แต่คิดว่าลงอีกทีเสาร์อาทิตย์นี้นะคะ สักวันแหละ5555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 24-07-2018 22:18:35
เรือรบเจนแข็งแกร่งและไปไวมาก :katai2-1:
เค้าจีบกันแล้วใช่ไหมคะ  คิคิคิคิคิ  :hao6:

หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-07-2018 22:30:47
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-07-2018 22:36:24
ช่วยเราด้วยเหมื่อยแก้มมาก หุบยิ้มไม่ได้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 24-07-2018 23:02:26
หื้ม กัปตันเรือคุณหญิงแม่นี่ก็มโนเก่งมิเบานะคะ โฮะๆๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-07-2018 23:20:25
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 25-07-2018 00:13:25
ครอบครัวเป็นใจขนาดนี้
ลมหนุนลมส่ง หางเสือ แข็งแกร่งแน่นอน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-07-2018 00:19:19
คุณรบบบบบบบบบบ เริ่มหวั่นไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 25-07-2018 01:31:05
มีหลายขะม้วดปม จริงจังๆๆๆๆ ใจจริงอยากมาอ่านืกวันแต่เห็นใจคนเขียนสู้ๆๆๆนะรอวันเสาร์ก็ได้.  เรื่อนี้เป็นเรือเหล็กที่แข็งแรงงง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 25-07-2018 09:02:10
ข้ามไปรอเสาร์อาทิตย์เลยได้มั้ย55555
ว่าแต่คุณชะนีนุชมีแผนอะไร คิดจะเล่นกับปี้ยบระวังจบไม่สวยนะดูลูกเรือเขาด้วยยย :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-07-2018 09:03:31
กัปตันเรือที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีจริง ๆ ค่ะคุณแม่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-07-2018 09:21:35
 :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 25-07-2018 09:29:25
5555555555555555555 ขำโว้ยยยยยยย เอาพานมารองเงินมัดจำ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 25-07-2018 09:29:54
ขำคุณเพชรมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-07-2018 10:02:57
กองเชียร์ก็ฟินสิแบบนี้ เจ้าตัวนี่จะไหวไหม กลั้นยิ้มไม่ดีนะเดวหน้าตึง
ยัยรดามาแต่ชื่อแต่หมั่นไส้มากจ้า หว่ายๆนกแล้วย่ะหล่อน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 25-07-2018 10:26:50
เรือลำนี้แข็งแกร่งสุด  :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 25-07-2018 11:31:54
รบเจนอยู่ด้วยกันแล้วน่ารัก คนอ่านยิ้มตาม o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 25-07-2018 12:24:38
พายุใดๆก็ไม่สามารถทำอะไรเรือ "รบเจน" ได้ เพราะมีคุณหญิงเป็นกัปตันเอง

 :hao7:   :hao7:   :hao3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 25-07-2018 12:52:03
ลูดเรือฟินตัวจะแตกแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-07-2018 12:58:37
เรือรบเจนจงเจริญ ไม่หวั่นแม้วันมามาก55555 เคมีเข้ากันมากเลยคุณรบกับพี่เจน พี่เจนนี่แหละตัวจริง o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Yysll ที่ 26-07-2018 09:22:01
เรือรบเจนติดเทอร์โบไปแล้วก็เหลืแแต่เรือเพชรพายนี่แหละจะแล่นไหมค่ะ ถ้ากัปตันเรือมาเห็นตอนนี้คงฟินแน่ๆ 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 26-07-2018 22:01:04
โฮ้ยยยยยยยยยย
เค้าขอโทษที่ตอนนั้นแอบสงสัยว่าคุณรบเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงค่ะ
เจ้าเล่ห์แบบนี้ได้แม่มาชัดๆ (ถึงสกิลจะยังไม่เท่าเพราะแอบขวดไวน์ไม่ดีก็เถอะ><)

ค่อยๆคืบคลานเข้าใกล้ใจน้องแบบนี้ ร้ายกาจชะมัด
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: punnicha ที่ 26-07-2018 22:48:59
ตลกคุณเพชรอ่ะแง55555555 คนเขียนสู้ๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 27] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 24.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 27-07-2018 08:11:27
เจนจ๋าาาาาาาาา พรี่รอเจนอยู่วววววววววว
หัวข้อ: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 28-07-2018 12:44:58
#เจนไม่นก
เจนต้องสะสาง



อืมมมมมมมมมม


“คิกๆ แฮะๆๆๆๆ”  เสียงหัวเราะใสๆของเด็กอารมณ์ดีที่ปลุกเจนให้ตื่นนอนแต่เช้านั้นมันช่าง….


“ตื่นเร็วอีกแล้วเหรอเจ้าลูกกบ”  แต่ช่างมันเจนจะนอนต่อ


อุบ!


“น้องวีนนนนนนนน” เต็มรักเลย เจ้าลูกกบคนดีของทุกคนนั้นทับมาเต็มรักเลย พอเริ่มจะเก่งก็ปีนขึ้นมาขย่มเลยนะ นอนต่อได้ก็ไม่ใช่คนแล้วแหละ….ศพแน่นวล…



“คิกๆ” 


“ไหนใครแกล้งพี่เจน!”  ในเมื่อนอนต่อไม่ได้ก็สนองความต้องการน้องเสียหน่อย เจนรักษ์คว้าเจ้าจอมซนมานอนทับตัวเองก่อนจะระดมหอมแก้มไปมา แจกความสดใสด้วยน้ำลายยืดๆในยามเช้า จนเปื้อนหน้าไปหมด


ฟัดจนหนำใจแล้วก็อุ้มพาไปข้างล่าง ตอนนี้คงมีคนกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ ทว่าเจนคิดผิด ตอนนี้ยังไม่สว่างดีเลย แต่เจนกลับตื่นลงมาคนเดียว แต่ในเมื่อตื่นแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับไปนอนอีกครั้ง คนตัวเล็กเลือกที่จะพาน้องวินไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตัว  ก่อนที่จะเริ่มปิ้งขนมปังและทอดไข่สำหรับมื้อเช้าของตน และเพราะเสียงเครื่องทำกาแฟที่ดังขึ้นไปข้างบนนั้น


มันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าคนที่ผูกเนคไทให้ทุกวัน…อยู่ข้างล่างนั้น


“ขอกาแฟให้ผมแก้วนึงด้วยสิ”


“อ้าวคุณรบ”  วันนี้ทำไมเขาตื่นเช้าจังล่ะ เจนที่กำลังทำหลายๆอย่างไปพร้อมกันหันไปหาร่างสูงที่เพิ่งเดินเข้ามา บนแขนของเขามีเสื้อสูทและเนคไทพาดอยู่


“วันนี้ผมต้องไปต่างจังหวัดน่ะ”  เขาตอบคำถามที่เจนอยากรู้แต่ไม่ได้พูดออกมา ก่อนจะนั่งลงที่ข้างของลูกชายตัวเองซึ่งกำลังสนใจของเล่นส่งเสริมพัฒนาการในมือ


“รับอาหารเช้าด้วยไหมครับ เจนกำลังจะทำพอดี”


“อืม ขอสักชุดล่ะกัน ยังพอมีเวลา”  เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ และเพราะตนให้ความสนใจกับมัน เจ้าตัวเล็กเห็นดังนั้นจึงเอามือของตนตะปบลงไปที่นาฬิกาพ่อ


“งั้นเป็นอเมริกันเบรกฟาสต์ละกันนะครับ”  เขาไม่ตอบสิ่งใดเพราะกำลังให้ความสนใจกับตาหนูที่อยากรู้อยากเห็นไปหมด เขาพูดคุยกับน้องวินทั้งๆที่อีกฝ่ายยังพูดไม่รู้เรื่องและสื่อความไม่เข้าใจ เช้าวันนี้เริ่มต้นได้ดีจนเรียกกำลังใจได้มากโข กลิ่นอาหารที่เย้ายวนและเสียงฉ่าที่ดังมานั้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้น บัดนี้มีเพียงแค่แผ่นหลังของเจนรักษ์ที่เขาเห็น


คนตัวเล็กกับผ้ากันเปื้อนสีเทา


“นี่ครับ”  เจนเดินมาพร้อมกับอาหารและกาแฟที่เขาร้องขอ วางไว้ให้ตรงหน้าก่อนจะเดินไปเอาของตนเองมานั่งที่ฝั่งตรงข้าม หยอกน้องวินที่มองมาครู่นึง ก่อนจะกัดขนมปังปิ้งที่ตนทำมา  นักรบจ้องมองนาฬิกา เขาสามารถที่จะค่อยๆกินไปได้อีกแค่ 20 นาที แต่คาดว่าทุกอย่างคงหมดก่อนนั้น ปกติเขากินข้าวได้เร็วมาก แต่วันนี้เขาเลือกที่จะค่อยๆละเลียด


อยู่ๆก็อยากจะใช้ชีวิตช้าๆกับเขาบ้าง


“คุณรบนี่ปกติทานพวกน้ำเต้าหู้ปะครับ”  เจนถาม เป็นบทสนทนาแรกหลังจากที่ว่างเว้นมาสักพัก


“ก็กินได้”


“เจนกับแม่จะทำน้ำเต้าหู้กันนะครับ ยังไงเจนจะทำเผื่อนะ”


“อืม”


“น้ำเต้าหู้ร้อนๆตอนเช้ากับปาท่องโก๋กับโจ๊กก็ดีนะ เดี๋ยววันพรุ่งนี้เจนออกไปซื้อตอนเช้าดีกว่า”


“เผื่อด้วยชุดนึง”


“ครับ?”


“ที่พูดมานี่ไม่ได้ถามว่าผมอยากกินด้วยไหมหรอกเหรอ”  เออ แล้วเจนจะพร่ำเพ้ออะไรนักหนา


“ก็ถ้าคุณรบ….”


“ชุดนึง ผมจะกินข้าวเช้าที่บ้านพรุ่งนี้”  เจนพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะรีบคว้ามือเจ้าลูกกบจอมซนที่แอบคว้าขนมปังพี่เจนไปจะเข้าปาก น้องวินเริ่มโตขึ้นแล้ว อยากลองนั่นนี่และอะไรที่ไม่ชอบก็จะดื้อไม่ยอมกิน วุ่นวายอยู่กับคนลูกสักพัก ก็มารู้ตัวอีกทีตอนที่คนพ่อซึ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆก็อุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมามองหน้า


“อย่าดื้อ”  แล้วใครให้มองหน้าหาเรื่องกับลูกแบบนี้นี่ แล้วเจ้าตาแป๋วนี่ก็ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย


“แอะแฮะ แฮะๆ”  ลูกชายบ้านนี้มันยังไงนะโดนดุแล้วหัวเราะ


“ไหนสัญญากับปะป๋าก่อนสิว่าจะไม่ดื้อ” เขาดึงลูกเข้าสู่อ้อมอก หอมซ้ายหอมขวาเรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าตัวเล็ก เห็นเช่นนี้ก็สบายใจจนยิ้มออกมา


เราสองคนเดินมายังหน้าบ้านทั้งๆที่เจนยังกินไม่หมดแบบนั้น บ้านทั้งหลังยังคงเงียบงันเพราะมันยังไม่ได้เวลาเริ่มงาน ทว่าฟ้าที่เริ่มสางแล้วก็ทำให้เห็นพระอาทิตย์ที่ฉายแสง ปกติคนบ้านนี้ก็ไม่ใช่พวกคุณนายตื่นสายอะไรกัน แต่การที่เจนได้ตื่นก่อนใครแล้วมานั่งกินเงียบๆอย่างนี้มันก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ บอกไม่ถูกว่าแบบไหนดีกว่า เรียกว่าดีคนละแบบ ระหว่างกินกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ กับกินคนเดียว ไม่สิ….


กินกับลูกกบกับพ่อกบ


“ไปล่ะ”  เขาบอก แต่ปากบอกเช่นนั้นทว่ามือก็ยังไม่หยุดไล้แก้มของเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนของเจน


“บ้ายบายคุณพ่อสิ ไหนส่งจูบเร็ว”  เจนอุตสาห์สอนให้ส่งจูบไหนล่ะไม่ยอมส่งสักที ดื้ออยู่อย่างนั้นจนคนพ่อทนไม่ไหว


ต้องก้มลงมาหาและจูบแก้มลูกชายที่อยู่กับอก…..ของเจน


“…………..”


“ไหนคิสปะป๋าด้วยสิครับ”  ก่อนที่จะเอียงแก้มให้น้องวินได้แตะปากลงไปเบาๆ จากวันนั้นที่เจอกันจนถึงวันนี้ เจนรักษ์เพิ่งรู้เองว่าคุณรบที่แข็งๆและเย็นชามากๆคนนั้น เวลาที่เขากล้าที่จะแสดงความรักกับใคร


เขาจะน่ารักและอบอุ่นได้ขนาดนี้


“………….”


“อย่าลืมที่คุยกันไว้นะ” 


“คะ…ครับ”  เจนนั้นเหมือนจะหลงอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง ท่าทางเหม่อลอยเมื่อครู่ถูกฉุดกลับมาไม่ทันตั้งตัว พวงแก้มแดงสุกปลั่งอย่างไร้ความจำเป็น


“ที่คุยกันไว้”


อา….ครับ”  แต่เราคุยอะไรกันเหรอ จริงๆแล้วเราคุยกันด้วยหรือไง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เจนรักษ์ได้รับรู้ไหมว่าเราคุยกันดีขึ้นมาก และคุยกันเยอะขึ้นมาก หรือไม่รู้ตัวเลย….


เพราะมักจะหลุดเพ้อไปทุกทีที่เผลอมองหน้าหรือไง


“น้ำเต้าหู้ โจ๊ก และปาท่องโก๋ พรุ่งนี้นะ”  เขายิ้มให้ คราวนี้ไม่ใช่ยิ้มที่ให้กับน้องวิน


แต่เป็นยิ้มที่ให้กับเจนรักษ์คนเดียว….


xxx


ตบหน้าเรียกสติ 3 ที ปฏิบัติ!
แปะ แปะ แปะ


“เออ ก็เจ็บนี่หว่า”  ต้องโง่ เด๋อ และบ้าแค่ไหนที่ตบหน้าตัวเองจริงๆแบบนี้


แต่สถานการณ์แบบตอนนี้ เจนอยากเอาหัวโหม่งพื้นจากชั้น 3 ลงมาด้วยซ้ำ การที่ชั่ววูบนึงมองว่าคุณรบกร้าวใจ เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง ท่องไว้เจน คุณรบจะเป็นผัวใครก็ได้ แต่เป็นผัวเอ็งไม่ได้ว้อยยยย!!! อยากได้ชื่อว่าเป็นคนใช้ตั้งใจจับเจ้านายหรือไง ก็ไม่ไง ดังนั้นเจนรักษ์จะเป็นเมียใครก็ได้เช่นกัน แต่ห้ามเอาตัวเองไปเสนอตัวเป็นเมียคุณรบเด็ดขาด!!!


“เจะ เจะ เจ”  เสียงเรียกของน้องวินที่รอให้เจนป้อนข้าวต่อนั้นเรียกสติกันกลับมา เจนจมอยู่กับความคิดอย่างว่ามาหลายวันแล้ว และก็ยอมรับว่าช่วงนี้ตนเองไม่มีประสิทธิภาพสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เขาบอกว่าจะมากินข้าวเช้าด้วยและให้เตรียมไว้ให้ ในตอนนั้นเจนก็ไม่คิดว่าเขาจะมาจริงเพราะคุณรบยุ่งจะตาย แต่เขาก็มา ทว่าที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่า


คือเจนเอง
เจนเอง
เออเจนนี่แหละ….ที่ดันเตรียมทุกอย่างและเปี่ยมไปด้วยความหวังว่าเขาจะมา


“เจะ เจะ เจ”  น้องวินเรียกกันอีกครั้ง เจนนี่ใช้ไม่ได้เลย


“ครับๆ พี่เจนขอโทษน้า”  บอกขอโทษก่อนจะเช็ดปากและป้อนข้าวคำใหม่ให้ พยายามโฟกัสกับงานที่ทำจนป้อนข้าวน้องหมด ก่อนจะเอาจานของน้องไปล้างผึ่งไว้


จะว่าไปช่วงนี้เจนก็เอื่อยๆจริงๆนั่นแหละ


“เป็นเพราะอยู่ติดบ้านนานไปปะนะ” เจนคิด แต่ในขณะเดียวกันก็แย้งขึ้นมาในหัว มันไม่น่าจะใช่ เพราะเจนเองก็ไม่ได้รู้สึกอยากไปไหนเป็นพิเศษ


ล้างจานเสร็จก็พาน้องวินขึ้นไปบนห้อง จับเจ้าตัวเล็กลงไปนั่งในรถเข็นสำหรับหัดเดิน ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ฟังเสียงกรุ๊งกริ๊งที่มาจากน้องวินก่อนจะตะแคงข้างมองเจ้าลูกกบที่เอ็นเตอร์เทนตัวเองอยู่ หรือนี่จะเป็นโรคซึมเศร้าแบบที่คนเป็นแม่ชอบเป็นกันนะ แต่นี่เจนไปเป็นแม่ของน้องวินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!


ไม่ได้การล่ะ เจนต้องสะสาง!


คนตัวเล็กลุกขึ้นก่อนจะเดินไปค้นสัมภาระของตัวเองออกมา พบออแกไนซ์เซอร์ที่ตนเคยใช้ตอนทำงานในนั้น เจนไม่ได้เปิดมันมาหลายเดือนแล้ว ร่วมๆ 5  เดือนได้ละมั้ง ปากกาที่สอดอยู่นั้นก็ไม่ได้จับมานาน เจนรักษ์นิ่งเงียบกับตัวเองสักพัก ความรู้สึกเก่าๆที่เคยมีถูกนำพากลับมาในตอนที่เจนจับออแกไนซ์เซอร์เล่มนี้ จะบอกว่าคิดถึงก็ไม่เชิง แต่จะบอกว่าโล่งใจก็ไม่ใช่


นี่คือความรู้สึกของผู้หญิงที่ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านหรือเปล่านะ


“เจ เจ เจ้”  แต่เสียงของเจ้าตัวน้อยที่กำลังไถไปมานั้นกลับเรียกให้หันไปมอง คนๆเดียวที่เป็นที่สนใจของเจนในตอนนี้คงมีแค่คนนี้ ชีวิตดั่งฝันแบบที่ไม่เคยฝันจะมีมาก่อนคือช่วงเวลานี้นี่เอง คือตอนที่เจนได้รับรู้ถึงการเป็นที่รักอย่างมากมายแบบนี้ มีใครคนนึงที่คอยเรียกร้องความสนใจและให้ความสนใจต่อกันแบบนี้ ไม่รู้ว่าพอน้องวินโตขึ้นแล้วจะยังเรียกหาแต่พี่เจนๆแบบนี้ไหม


“ช่างมันก่อนเถอะเจน”  แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เจนคงค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เหมือนทุกทีนั่นแหละ


เจนเป็นผู้มีประสบการณ์ชีวิต เจนต้องทำได้…


กระดาษปากกาพร้อม ที่เหลือคือใจที่ไม่แน่ใจว่าพร้อมไหม เจนค่อยๆคิดลำดับทุกอย่างในหัวที่ตีกันยุ่งไปหมด และก็ค่อยๆเขียนมันลงไป คำถามแรกที่ออกมาจากหัวคืออยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปจนถึงเมื่อไหร่ ก็คงอีกสักระยะนึง มันไม่มีทางที่จะยาวนานแบบที่คุณอำไพอยู่ที่นี่ เป้าหมายของเราไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แม่มาเพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและส่งไปให้เจนและยายได้ใช้ที่ต่างจังหวัด แต่เจนนั้นไม่ได้หาเงินส่งไปให้ใครและมีเงินเก็บในประมาณนึง แล้วจุดประสงค์ของเจนที่มาอยู่ที่นี่มันเพราะอะไรกันล่ะ


เหตุผลเดิม > พักผ่อนและอยากอยู่กับแม่
เหตุผลเพิ่มเติม >


“…………..”  เจนลังเลที่จะเขียนมันลงไปแม้ว่ามันจะเป็นความจริง ในตอนนี้จะตลกก็ตลกไม่ออก เจนยอมรับว่าพอเข้าโหมดนี้ก็ทำให้ตนเสียจริตความเป็นเจนรักษ์คนตลกแบบออแกนิกซ์ของโลกใบนี้ไปเหมือนกัน แต่อย่างไร ถ้าไม่เขียนก็จะจัดการความคิดไม่ได้

เหตุผลเดิม > พักผ่อนและอยากอยู่กับแม่
เหตุผลเพิ่มเติม > รักน้องวิน และบ้านรัตนสกุลทำให้เจนรู้สึกอบอุ่น


เพราะเจนเป็นเด็กขาดความอบอุ่น


ข้อเท็จจริงตรงนี้เป็นสิ่งที่เจนไม่อยากยอมรับแต่ก็รู้ตัวมาตลอด เจนเป็นเด็กขาดความอบอุ่น แต่เพราะตนไม่อยากให้ปัญหาของตัวเองเป็นภาระใคร ประจวบกับการเกลียดความดราม่าที่ดูงี่เง่าๆพวกนั้น จึงทำให้เจนไม่เคยเรียกร้องอะไรให้คนอื่นต้องมาลำบากใจ และทดแทนความรู้สึกที่ว่าขาดนั้นลงไปด้วยการเพิ่มเติมความรักความห่วงใยให้ตัวเองแทน


เจนมีพื้นฐานเป็นคนรักตัวเอง


แต่อย่างไรเจนก็หนีไม่พ้นการเป็นเด็กที่ต้องการความรักอยู่ดี และเจนรู้ว่าจะทำให้คนรักได้ เราก็ต้องเป็นเด็กดี เจนไม่เคยโกรธหรือยอมแพ้ต่อความรักที่ตนต้องการจริงๆ แค่เจนไม่เคยเรียกร้องให้คนอื่นต้องพยายามหามาให้ ครอบครัวคือสิ่งแรกที่เด็กชายเจนรักษ์ได้รู้จักและมอบความรัก เพราะถ้าหากเจนไม่รู้จักการรับก็จะไม่มีวันได้รู้ว่าตนก็ต้องให้ ดังนั้นความเป็นอยู่ที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับการเป็นครอบครัวที่รัตนสกุลมีให้ จึงผูกมัดเจนไว้อย่างไม่รู้ตัว


แล้วจะอยู่ไปถึงเมื่อไหร่….


“อืม….ยากแฮะ”   เจนไม่อยากกดดันตัวเอง แม้ว่ามองตาของคุณพรรณี เจนก็เดาได้ว่าคุณเขาอยากให้เจนอยู่ที่นี่ตลอดไป แต่เจนไม่สามารถอยู่ไปตลอดได้เพราะอาชีพพี่เลี้ยงเด็กไม่เคยเป็นแผนการของชีวิต และเจนก็หวั่นถึงความไม่แน่นอนบางอย่างที่คาดเดาไม่ได้ด้วย ดังนั้นสักวันเจนจะต้องจากไปก่อนที่อะไรที่ว่านั่นจะเกิดขึ้น และสักวันนั้นคงยังไม่เกิดเร็วๆนี้ บางทีเจนอาจจะอยู่ที่นี่ไปอีกสักปี หรือสักปีกว่าเพื่อให้น้องวินโตขึ้นมาในระดับนึงแต่ไม่โตจนเกินไปเพราะยิ่งโต….น้องก็จะยิ่งจดจำกัน


แล้วจะพาแม่ไปด้วยไหม….


“พา”  เจนตอบตัวเองได้ในทันที นี่คือเป้าหมายแรกเริ่มที่เจนตั้งไว้ แต่บางทีเจนอาจจะออกไปก่อนเพื่อไปเซ็ตที่ทางให้ตัวเอง ทำธุรกิจที่ไทยนี่ก็ดี บางทีอาจจะขอเวลาอีกสักปีหลังออกไป เพื่อให้ทุกอย่างลงตัวค่อยพาแม่ไปด้วย อย่างว่า….ไม่มีลูกจ้างที่ไหนที่จะอยู่กับเจ้านายได้ตลอดไป เราเลิกทาสกันมานานแล้วด้วย และเจนอยากให้แม่สบายเสียที เป็นคุณนายตื่นสายทำอะไรสบายๆดูแลเจนบ้างแม้เจนจะโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วก็ตาม


กับคุณพรรณีล่ะ…..


เจนก็จะให้แม่กลับมาหา ไปเที่ยวด้วยกัน ความสัมพันธ์ของนายบ่าวที่นี่เหมือนคนอยู่กันเป็นเพื่อน ถ้าไม่นับเรื่องทำงานบ้านให้แล้วได้รับเงินเดือน คุณพรรณีเองก็เป็นคนแก่ที่ไม่มีเพื่อนแท้ในวัยเดียวกันมากมาย ดังนั้นคนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างแม่และน้าจินจึงเหมือนเป็นเพื่อนไปโดยปริยาย คนแก่ 3 คนชอบนักล่ะที่ได้เที่ยว เจนไม่ว่าถ้าแม่จะไปเที่ยวกับเขา แต่ต้องไปอยู่กับเจนเพราะเจนจะไม่อยู่เป็นพี่เลี้ยงน้องวินไปจนแก่เหมือนกัน


ทว่าคิดแบบนั้นก็ดูจะโหดร้ายเกินไป


เจนหันไปมองดูน้องวินที่ยังเล่นสนุกอยู่ คำว่าพี่เจนจะไม่อยู่เลี้ยงหนูนั้นมันโหดร้ายสำหรับใครกันแน่ กับเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว หรือกับผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องทั้งหมดและอาจจะจดจำไปจนตาย ดวงตาของเจนที่เคยจริงจังเมื่อยามไล่เขียนทุกอย่างในหัวกลับมีน้ำตาคลอ เมื่อไหร่กันนะที่เจ้าลูกกบน้อยเข้ามาอยู่ในใจของเจนทั้งใจแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่กันที่เจนอ่อนไหวไปกับเรื่องของเด็กคนนึงที่ไม่ได้เป็นแม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะทั้งชาตินี้เจนไม่อาจจะมีลูกได้ ความรักของเจนถูกจำกัดแค่คนในครอบครัวเท่านั้น คำว่ารักคนอื่นจนหมดใจสำหรับเจนแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย


คนตัวเล็กลุกขึ้นไปอุ้มเจ้าตัวน้อยออกมาจากรถเข็นเด็กสำหรับหัดเดิน หวังให้อ้อมกอดนุ่มนิ่มหอมกลิ่นนมและแป้งเด็กปลอบโยนกัน ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น และเจนไม่จำเป็นต้องเครียดไปก่อน แต่แค่คิดมันก็ทำให้รู้สึกแย่ไปหมดแล้ว จมูกรั้นสูดดมกลิ่นหอมจากแก้มนิ่มเบาๆแต่กดแช่อยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน สักวันน้องวินจะโตและเขาจะเปลี่ยนไป และสักวันเจนก็จะไม่สามารถเดินเข้ามากอดได้แม้เจอกันอีกครั้งใช่ไหม ดังนั้นยิ่งตัดใจได้เร็วเท่าไหร่ มันย่อมดีกว่า


ตาหนูไม่ได้ผิดเลย ผิดที่พี่เจนอ่อนแอเกินไป


“ด้า!”


“เจ้าลูกกบ”


“ด้า!”  น้องวินยื่นของเล่นในมือให้ นั่นสิ แล้วจะตัดใจได้ไหม


“ให้พี่เจนเหรอ”


“เจเจ้!”


“…………”  ช่างมันเถอะ  เจนนั้นกอดน้องอีกครั้งก่อนจะซุกใบหน้าลงกับไหล่นุ่มนิ่ม เอาเป็นว่าถ้าแม่ของเจนอยากจะมาเที่ยวเล่นกับคนที่นี่ เจนก็จะมาด้วย และถ้าน้องวินจำพี่เจนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พระพายเองก็ไม่ได้รู้จักเจนมาก่อน ทุกวันนี้เรายังเป็นพี่น้องที่ดีและเจนก็เอ็นดูอีกฝ่ายมาก ในขณะเดียวกันพระพายเองก็ดูจะชอบตนมากเหมือนกัน ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ว่าต่อให้เจนจะไม่ใช่คนเลี้ยงน้อง ก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะไม่รักพี่เจนนี่นา ลืมกันก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเจนมาทำให้รักใหม่ก็ได้ กับเด็กคนหนึ่ง มันไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเลย


การทำให้ผู้ใหญ่บางคนรัก….มันน่าเหน็ดเหนื่อยเสียยิ่งกว่าด้วยซ้ำ!


“พี่เจนฮูกๆรักน้องวินอ๊บๆนะครับเด็กดี”


สติมาปัญญาเกิดเสียทีนะเจนรักษ์ ตอนนี้เจนสบายใจขึ้นโข แม้จะยังไม่แน่ใจว่าตนกำลังทุกข์เรื่องอะไรอยู่ ความรักอันไร้เดียงสานี่ช่างเป็นยาบำบัดได้ดีจริงๆ อาจจะดื้อบ้าง งอแงนิดหน่อย แต่ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวเล็กทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด ชั่วแวบที่มีความคิดว่าหากเราไม่เคยได้เจอกันนั้นคงจะดีได้ถูกลบล้างไป โชคชะตานำพาให้เจนได้ปกป้องน้องในวันนั้น และเพียงแค่สบตาก็เหมือนจะตกหลุมรักเข้าเสียแล้ว


ดังนั้นเรามาค่อยๆโตไปด้วยกันนะ


ครืดดดดดดดดด


“หืม”  เจนที่กอดฟัดน้องอยู่นั้นมองไปที่โทรศัพท์ที่สั่นสะท้าน เป็นตัวจุ้นที่โทรมา เจนกดรับ ก่อนจะเริ่มบทสนทนา


โทรมาได้จังหวะพอดีเลย


“หวัดดี”  เจนกล่าวทักทายออกไป


“เมื่อไหร่จะกลับเมกาเนี่ย”  จริงๆคำถามนี้เจนเพิ่งจะตอบให้ตัวเองเลย


“คงสักพักอ่ะ เลี้ยงน้องก่อน”


“เลี้ยงน้อง โหยยยยยยยไม่แม่พระก็นางงามอะ รักเด็ก”


“น้องวินน่ารักมาก จุ้นต้องได้เจอถึงจะรู้”  เจนเลี่ยงใช้คำหยาบ แม้น้องจะยังเด็กแต่เจนก็อยากจะฝึกตัวเองไว้เป็นนิสัยไม่ให้ทำเป็นเยี่ยงอย่าง


“ทำไมพูดเพราะวะ”


“กอดน้องอยู่”


“แคร์มากด้วย ถ้าบอกว่าเป็นแม่เด็กก็เชื่อละนะ หรือจริงๆแอบไปคลอดไว้เลยต้องเลี้ยงดู”


“…………”  ไม่ เจนจะไม่เถียง


“หรือจริงๆแล้วเป็นอะไรกับพ่อเด็ก ตอบมานะ!”


“เฮ้อ….”


“…………”


“………….”


“พี่เจนถอนหายใจใส่จุ้นเหรอ!”


“พี่แค่เหนื่อยและเถียงไม่ได้เพราะอุ้มน้องอยู่ต่างหาก”  เวลาที่งอนก็จะร่ำร้องอยากเป็นน้องแหละคนเรา


“ชักจะหงุดหงิดน้องวินอะไรนี่แล้วจริงๆ”  มาแย่งความรักไปนะเหรอ ให้ตายเหอะจุ้น ปัญญาอ่อนว่ะ!


“ทะเลาะอะไรกับพี่เคลมา”


“……………”


“หงุดหงิดเหมือนผู้หญิงตอนเมนส์ไม่มานี่ถ้าไม่ใช่พี่เคลแล้วจะใคร เปิดโอกาสให้บอกมา เร็วๆเล่า!”  ปกติจุ้นมันไม่ใช่คนแบบนี้หรอก แต่พี่เคลผู้เป็นดั่งทุกข้อยกเว้นของความงี่เง่า มันก็จะฮอร์โมนแปรปรวนนิดหน่อย


“ก็ส่งคนมาช่วยบริหารร้าน ทำให้เราว่าง และก็ต้อนกลับบ้าน”  ฟังดูก็เป็นเรื่องที่ดีนี่ แต่เชื่อเหอะ ลองเป็นพี่เคลต่อให้ทำดีแค่ไหน ในสายตาคนบางคนก็ไม่เคยดีขึ้นมาหรอกครับ และเจนก็พยายามปรับทัศนคติกับมันแล้ว


แต่เด็กน้อยมันไม่เคยโตเลยจริงๆ


“เลยว่าจะหาเรื่องทำตัวให้ไม่ว่างอ่ะ”


“จะทำธุรกิจใหม่อีกเหรอ”


“เปล่า จะไปเที่ยว”


“ไม่ว่าง ต้องเลี้ยงน้อย”


“โหยยยยยยยยยย”


“ไปต่างประเทศด้วยมันหลายวัน เข้าใจไหม”


“ก็เนี่ยจะไปหาเนี่ย ฟังให้จบก่อนสิ คนเรา”


“…………”


“ไม่คิดถึงน้องเหรอ พี่เจนไม่คิดถึงน้องใช่ไหม”


“เอ่อ….ก็ไม่นะ”


“น้องน้อยใจอ่ะ”


“แล้วจะมาหาไหม”


“มา! เพราะเจนคือข้ออ้างเดียวที่เรามี”  เข้าใจแล้วล่ะ….


คือจริงๆคนเราจะอยากเจอหรือไม่มันไม่เกี่ยวเลย คือคนเรามันไม่มีทางเลือก ว่าถ้าบอกว่าจะไปเที่ยวคนเดียวก็มีคนไม่ยอมให้ไป ดังนั้นเลยต้องอ้างรายนามที่น่าเชื่อถือ และเจนเป็นคนนึงที่มีชื่ออยู่ในนั้น แค่จุ้นพูดว่ามาหาเจน พี่เคลก็อนุมัติคำขอโดยไม่ฟังเหตุผลแล้วล่ะ คงรู้ว่านกน้อยขังไว้ในกรงทองนานๆมันจะหงุดหงิดงุ่นง่าน แต่ถ้าปล่อยก็ไม่ได้แบบนี้ สู้ให้ไปบินเล่นในกรงที่น่าไว้ใจของคนอื่นบ้างดีกว่า


“จะมาก็มา นี่เดี๋ยวจะลิสต์ของที่จะให้เอามาให้ด้วย จ่ายเงินให้แน่นอนไม่ต้องห่วง”  ไหนๆก็ไหนๆเปิดพรีออเดอร์เลยดีไหม


“ว่าแต่อยู่ที่นั่นเป็นไงบ้าง”


“ค่อยมาฟังตอนที่มาแล้วไหม คุยวันนี้ก็ไม่มีเรื่องเล่าอะดิ”


“แสดงว่ามีสินะ”


“…………..”


“กิ้วๆ”


“ไอ้จุ้น”


“ไหนว่าไม่พูดคำหยาบ”


“ก็ลืมอ่ะ”


“จ้า ไม่เล่าก็ไม่เล่าเนอะ”  ไม่งั้นตบะแตกออกมาทั้งสวนสัตว์ต่อหน้าน้องวินแน่นอน เจนเห็นด้วย เรื่องบางเรื่องก็ควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แม้บางทีเราจะอยากเอาของเปรี้ยวไปจิ้มน้ำปลาหวานมากก็ตาม


“เอองั้นเจอกันล่ะกัน”  แต่ส่วนนึงในใจเจนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้เจอจุ้น แม้เราจะตีกันบ่อยจนคนคิดว่าเกลียดกัน แต่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นแต่วัยเยาว์นั้น การันตีได้ว่าทั้งสองไม่ใช่แค่พี่น้อง หากแต่เป็นเพื่อนที่สนิทมากๆคนนึง แม้ว่าความสับสนวุ่นวายที่มีในหัวของตนนั้นจะถูกเยียวยาด้วยความน่ารักที่ชนะทุกสิ่งของน้องวินไปแล้ว แต่ก็ยังมีเหลืออยู่บ้างในหัวให้นึกถึงยามเหงา


คุณรบคือชื่อของหัวข้อที่ยังไม่ถูกเขียนในกระดาษหน้านั้น


“………….”  เจนเม้มปากแน่น อยากจะละมันไว้แล้วไม่ต้องทำความเข้าใจกับอะไรเลย แต่เจนไม่อาจจะทนกับสิ่งที่ค้างคาเหล่านั้นได้จริงๆ


คนตัวเล็กเลือกจะปิดสมุดและเก็บมันใส่กระเป๋า ในส่วนหัวข้อที่ไม่ได้เขียนนั้น มันไม่มีอะไรชัดเจนเลยในเรื่องของความรู้สึกหรือคำถาม ก็ยอมรับว่าหวั่นไหวไปกับเขาบ้าง แต่เจนไม่อาจจะเข้าข้างตัวเองหรือหวังเรื่องแบบนั้นได้เลย เพราะมันก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเรื่องแบบนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้ และอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เจนก็อยากจะตัดออกไปจากหัวสมองและหัวใจ เจนรู้จักความหวั่นไหวมากกว่าที่ใครคิด เพราะประสบพบเจอมันมามาก และลงท้ายที่ว่าเจ็บปวดอยู่บ้างในทุกครั้ง


ดังนั้นเจนอาจจะหวั่นไหวไปกับคุณรบที่ดีพร้อมได้เหมือนกับที่ชอบพระเอกละครสักเรื่อง แต่เจนรู้ดีว่าความหวั่นไหวมันไม่จีรัง และถ้าฝืนทำให้มันเป็นเรื่องที่ใหญ่ไปกว่าการคิดไปเองคนเดียว เรื่องมันอาจจะแย่เหมือนกับทุกครั้งที่พบเจอ คุณรบจะเป็นของใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ของเจน หรือเจนจะเป็นของใครก็ได้ แต่ไม่ใช่คุณรบ สมองของเจนตรึกตรองข้อนี้ดี และมีเหตุผลประกอบที่เหมาะสม แต่เจนไม่อาจจะตัดสัมพันธ์กับรัตนสกุลด้วยการเอื้อมหาคุณรบแบบที่เคยทำกับคนอื่น และนอกจากนั้น…..


เจนยังไม่อยากมีความรัก


ตอนนี้เจนยุ่งเกินกว่าจะมีความรัก และยิ่งเป็นความรักที่ต้องฝ่าฟัน หรือปรบมือฝ่ายเดียวยิ่งไม่อยากมี แต่ก็ไม่อยากให้สถานะความสัมพันธ์ระหว่างตนกับคุณรบสะบั้นลง สถานะเจ้านายลูกน้องแบบที่เป็นอยู่อย่างนี้ก็ไม่ได้แย่ แต่เจนก็อดจะคาดหวังให้ตนได้มากกว่านั้นไม่ได้ บ้านรัตนสกุลนั้นดีต่อเจนและแม่มาตลอด อย่างน้อยเจนก็เลยอยากได้รับความรักและเมตตาเช่นกัน ทว่าแม่ทำงานมานานมากๆและได้รับความเชื่อถือจากพวกเขาอย่างเต็มหัวใจ ดังนั้นระดับความสำคัญย่อมต่างอยู่แล้ว ไม่เป็นไร เขาให้เจนได้นิดหน่อยก็ได้ แต่อย่างน้อย….


ก็ขอให้เอ็นดูเจนเหมือนที่เอ็นดูพระพายก็ยังดี
แค่นี้เองที่เจนจะพยายามและอยากขอให้ได้มา



Talk  หลายคนอาจจะคิดว่าเราจะตัดเรื่องเข้าดราม่าหรือเปล่า น้องเจนนางอาจจะมีความคิดดราม่าบ้างเพราะเบื้องหน้าที่สดใส น้องเป็นคนที่มีชีวิตดราม่าคนนึงเลย แต่ตัวตนและการแสดงออกแบบเจนๆมันเลยทำให้ดูไลท์ แต่มันคงไม่ดราม่าหักมุมอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ ช่วงนี้ก็ช่วยอดทนกับน้องนิดนึง นี่บอกทั้งคนอ่านและคุณรบด้วย5555 ต่อไปเราอาจจะได้เห็นมุมอื่นๆของคุณรบที่นอกจากความซึนมากขึ้น ฝากติดตามด้วยนะคะ

เจนไม่นกยาวมากตอนนี้ไม่คิดว่า 40 ตอนจะเอาอยู่ อะไรจะหวานเย็นขนาดนั้น
อยากวางยาแล้วจับสองคนนี้ขังและตัดจบให้รู้แล้วรู้รอด555555555
ส่วนเพชรพายจะยาวแค่ไหน เราก็ถามใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ฝากติดตาม ‘เพชรพระพาย’ ที่น่าจะตามมาต่อจากนี้
เราจะยังคงความละครน้ำเน่าอย่างทั่วถึง

ขอบคุณทุกคนที่เฝ้ารอและทุกความเห็นให้เราปรับปรุงและทุกกำลังใจ
ฝากน้องนกกับพ่อกบของเราต่อไปด้วยนะคะ #เจนไม่นก twitter@reallyuri



หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-07-2018 13:13:48
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-07-2018 13:29:17
เหนื่อยแทนเจนเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 28-07-2018 13:31:31
หัวหน้าชิปเปอร์รู้คงน้ำตาไหล
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 28-07-2018 13:54:46
ผูกพันกับลูกกบไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 28-07-2018 14:09:03
มาอาทิตล่ะ 4 ตอนกำลังดีนะ 555. แบยได้อ่านวันเว้นวัน 555 คือเาชอบเจนอยากได้รบอยากคบกับเพรชอยากเสร็จที่พะพาย สุดท้ายจบตบแบบชะนีนุชตาย 5555.
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 28-07-2018 14:40:42
ขอสารภาพว่าเวลาเราอ่านความคิดคุณรบทีไร
เราอยากจะกรอกตาเป็นเครื่องหมายอินฟินิตี้มากเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
ตอนนี้น้องก็เริ่มกำหนดจุดหมายให้กับตัวเองแล้ว แล้วคุณรบจะทำให้น้องหวั่นไหวแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่
รีบๆรู้ใจตัวเอง แล้วก็รีบๆยอมรับนะคะ น้องจะได้ไม่ต้องคิดหนักนานๆ

ชอบที่เจนรู้ตัวเองและยอมรับตัวเองในเรื่องการขาดความรักได้แบบนี้
ทำให้น้องไม่ต้องดราม่ามาก หาอะไรมาคลายมันได้เสมอ
รักตัวเองให้เป็นแล้วเดี๋ยวก็จะมีคนอื่นมารักเราเองแหละเนอะ (เช่นปี้ยบเป็นต้น><)
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 28-07-2018 16:05:06
จะรอจนเค้ารักกัน เรือรบเจนไปต่อค่ะ !!  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 28-07-2018 16:07:13
โอ๋ๆ น้องเจนเห็นสดใสไม่คิดว่าหนูจะคิดมากขนาดนี้ คงใจหายน่าดูถ้าวันนึงเจนออกไปไม่ได้เลี้ยงน้องวินแล้ว
น้องวินต้องคิดถึงพี่เจนแน่นอน เป็นกำลังใจให้เจนนะ เชื่อสิว่าไม่ได้คิดไปเองหรอก พ่อกบต้องมีหวั่นไหวบ้างน่า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 28-07-2018 16:47:48
ที่เจนดราม่าเพราะไม่รู้ว่าเรือรบเจนมาแรงขนาดไหน ถ้ารู้ว่าทุกคนเชียร์แล้วไม่อยากให้เจนไปไหนคงไม่คิดมาก

พ่อกบเขาก็เอ็นดูเจนมาหลายตอนแล้วนะ  ส่วนลูกกบน่ารักขึ้นทุกวัน ยิ่งโตยิ่งรู้จักอ้อนนะนี่  :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 28-07-2018 17:13:04
แบบนี้พูดยาก แต่คุณรบยังไงคะ เริ่มเอ็นดูเจนละใช่มั้ยยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-07-2018 17:27:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-07-2018 19:05:48
เห็นใจและเข้าใจน้องนะ รวบรัดไม่ได้จริงๆแม้อยากจะวางยาก็เหอะ แต่เมาไวน์ก็เอานะตะเอง ขำๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-07-2018 19:06:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-07-2018 19:54:25
เจน รักลูกกบ และเอ่อ......สนใจพ่อลูกกบแล้ว  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-07-2018 22:40:54
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-07-2018 23:19:20
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-07-2018 13:49:46
คุณรบจะเป็นผัวใครไม่ได้นอกจากผัวพี่เจน และพี่เจนต้องเป็นเมียคุณรบ ในนามของลูกเรือรบเจนขอยืนยันแบบนี้ อยากให้ตัวจุ้นมาไทยเร็วน่าจะสนุกมากๆ ยิ่งมาเจอคุณป้าคนนั้นยิ่งน่าสนุก o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 28] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.7.2018 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 29-07-2018 16:59:52
อยากรู้ว่าถ้าเจนลาออกคุณรบจะเป็นอย่างไง แต่ที่อยากรู้มากกว่าคือเขาจะจีบกันตอนไหน5555555

ปล.รีบมาต่อนะคะะ อย่าปล่อยให้คิดถึงลูกกบนาน :hao6:
หัวข้อ: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 29-07-2018 18:48:36
#เจนไม่นก
เจนจุ้นอินไทยแลนด์


“ฮายยยยยยยยยยยยยยย”


“………….”


“คิดถึงน้องไหมพี่เจน”  หากใครคิดว่าจุ้นเป็นผู้ชายตัวสูงหุ่นใหญ่ ขอให้กลับไปดูว่ารากเหง้ามันมาจากบ้านเดียวของเจนเพราะฉะนั้นส่วนสูงและขนาดตัวจึงไม่ต่างกันนัก แม้เจ้าตัวจะเคลมว่าส่วนสูงที่สูงกว่า 2 เซ็นติเมตรนั้นดูยิ่งใหญกว่า แต่นั่นมันไม่น่าตื่นตาตื่นใจเลย กลับกัน….มันดูน่าสงสารมากกว่าที่ได้เห็นว่าน้องชายของตนนั้นปลงไม่ตกขนาดหนักจนต้องมาข่มคนพี่ที่เตี้ยกว่านิดหน่อย


“ไปยัง”  เจนนั้นตัดบทก่อนจะเดินนำไปยังลานจอดรถของสนามบินสุวรรณภูมิ คนสำคัญระดับระเทศแค่ไหนที่ต้องมารับ นี่ถ้าเจ้าตัวไม่เคลมว่าของพรีออเดอร์ของเจนนั้นหนักหนาสาหัสมากมายก่ายกองเว่อร์วังอย่างนั้น รับรองครับ….กูจะให้มึงนั่งแอร์พอร์ตลิงค์ ต่อรถไฟใต้ดิน มาขึ้นบีทีเอส แล้วรอให้มันเสียจนพอใจค่อยมาต่อรถแท็กซี่เข้าซอยบ้าน!


ไม่มีคำว่าปราณีในสายเลือดพี่น้องหรอก!


“มีรถประจำตำแหน่งด้วย”


“อืม ว่างๆจากเป็นพี่เลี้ยงก็มาเป็นคนขับรถ”


“แล้วว่างเป็นแม่ของลูกให้เจ้านายยัง”


“จะว่างหลังจากที่น้องจุ้นตกเป็นเมียพี่เคล”  เจนกับจุ้นรักกันมากขนาดไหนย่อมดูได้จากฝีปากการต่อปากของเจนที่ส่งกลับไป ตัวจุ้นหุบปากฉับก่อนจะกลับไปสนใจท้องถนน ดูก็รู้ว่าแซวตอนนี้ เจนเอาจริงๆ เอาตายจริงๆ นี่ไปกินรังผึ้งที่ไหนมาถึงดูอารมณ์ไม่ดี ปกติก็แซวได้อยู่นะ แต่ตอนที่แซวไม่ได้นี่มันไม่ปกติเอาเสียเลย อะโด่ก็ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแล้วจะหงุดหงิดทำไม แต่เดี๋ยวนะ….


ได้เหรอ….ได้เหรอวะ


“นี่พาไปหาป้าก่อนไปโรงแรมได้ป่ะ จองโรงแรมไว้ให้แล้วใช่ไหม”


“อืม จะไปหาแม่ก่อนก็ได้”  ถ้าไม่ได้คุยเรื่องบาดหู เจนก็คุยด้วยดีๆได้อยู่ แสดงว่าเนื้อหาเรื่องพ่อของน้องวินอะไรนั่นถือเป็นเรื่องอ่อนไหวสินะ….งุ้ยยยยยยยย


ความอยากรู้อยากเห็นในตัวจุ้นเดือดพล่านไปหมดแล้ว!


เรามาถึงบ้านรัตนสกุลไม่นานหลังจากนั้น น่าแปลกที่วันนี้รถไม่ติด อาจจะเป็นฤกษ์ที่ดีเพราะตัวจุ้นกลับมาเมืองไทยครั้งแรกในรอบหลายปี และกรุงเทพก็เป็นเมืองที่อีกฝ่ายไม่คุ้นชินเอาเสียเลย นี่เรื่องที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านก็เพิ่งรู้นะเนี่ย เจนรักษ์ที่พามาถึงบ้านก็รีบทวงสิ่งของที่ฝากซื้อทันที แน่นอนว่าตัวจุ้นเอามาหมดแต่แพคใส่กระเป๋าเดินทางมา ต้องมานั่งแกะกันก่อนเพราะของใช้ส่วนตัวก็เยอะ


“มาแล้วเหรอ ตัวจุ้น”  เสียงของป้าอำไพดังมาก่อนตัว จุ้นที่ลากกระเป๋าใบใหญ่เดินตามเจนรักษ์เข้ามาในตัวบ้านนั้นเงยหน้าขึ้นมาและยิ้มให้ ป้าอำไพยังคงเป็นผู้ใหญ่ที่มีใบหน้าใจดีเสมอ นึกแปลกใจเหมือนกันว่าใจคออำมหิตแบบเจนนั้นไปเอาเยี่ยงอย่างมาจากใคร


“ไหว้เจ้านายพี่ด้วย”  และเพราะเราอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ หน้ากากพี่น้องจึงต้องถูกนำมาใช้ ถ้าเป็นในเวลาปกตินะเหรอ…คำว่าไอ้เxยเจนก็ยังดูซอฟท์ไปเลย


“สวัสดีครับ”  จุ้นก็ไหว้อย่างว่าง่าย แต่พอเงยหน้ามาดูพร้อมสติอีกที ก็ไม่พบใครนอกจากป้าอำไพ


และเด็กน้อยอีกคนนึงที่เธออุ้มอยู่


“เจนก็….”


“ผิดตรงไหนล่ะแม่ น้องวินเป็นเจ้านายของเจนนะ”  อ๋อ ไอ้เจน นี่มึง!!!


“น้องคงเจ็ทแล็ค เข้ามากินน้ำในบ้านดีๆก่อนสิจุ้น”  จะบอกว่าความเด๋อที่ได้มานี่ไม่ได้เป็นเพราะเจ๊ทแล็คแต่อย่างใด เป็นมาแต่เกิดครับ โชคดีที่เจนแบ่งไปบ้าง ไม่งั้นชีวิตคงลำบากกว่านี้


ตัวจุ้นได้นั่งลงบนโซฟา โดยคนเกรี้ยวกราดเป็นคนไปเอาน้ำมาให้ตามคำสั่งแม่ บ้านของเจ้านายเจนนั้นสวยเลยทีเดียว ดูก็รู้ว่ารวย  แต่รวยแล้วไง เงินไม่ใช่ของเจนซะหน่อย อย่างนี้ก็ขอยืมไม่ได้ใช่ไหมล่ะ นั่งมองนั่นนี่ไม่นาน คุณป้าผู้ดูใจดีและแต่งตัวดีคนนึงก็เดินเข้ามา เธอยิ้มให้ตัวจุ้นอย่างเป็นมิตร และนั่นคือเหตุผลให้เด็กดีต้องแสดงความเคารพ


“น้องตัวจุ้นใช่ไหมจ้ะ”  คำเรียกขานที่ทำให้ตัวจุ้นดูตัวเล็กตัวน้อยตะมุตะมินั้นน่าขนลุกเบาๆแต่ก็ยิ้มออกมา


“ครับ คุณพรรณีใช่ไหมครับ”  คิดว่าต้องใช่ จุ้นเก่ง จุ้นรู้


“ใช่แล้วจ้ะ มานานหรือยังเอ่ย กินอะไรหรือยัง”  นี่ไง กูเก่งจริงๆ ว่าแต่เจ้าของบ้านนี่เขาทักลูกพี่ลูกน้องของพี่เลี้ยงหรือหลานชายของคนใช้สุภาพโดยให้ความเอ็นดูขนาดนี้เลยหรือนี่ สงสัยต้องคิดใหม่ทำใหม่ คุณหญิงคุณนายสมัยนี่เขาไม่เชิ่ดหน้าจนคอเคล็ดแบบในละครกันอีกแล้ว ไอ้ที่ถือตัวยกตนขึ้นสูงนั่นมันหมดยุคไปแล้วจริงๆ ละครทีวีควรเริ่มปฏิวัติได้แล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นเจนก็จะเอาแต่ทำตามอย่างไร้เหตุผลอยู่นั่น


“เพิ่งมาถึงครับ พี่เจนไปเอาน้ำให้อยู่ ต้องรบกวนคุณหญิงเลยนะครับ” เกือบหลุดคำว่าไอ้เชี่ยเจนแล้ว แต่แปะอิ๊บทัน


“จริงๆนี่ก็บอกเจนว่าให้ตัวจุ้นมาพักกับเราได้ แต่เจนเขาไม่ให้มา ตัวจุ้นไปทะเลาะกับเจนแล้วมาพักที่นี่ก็ได้นะจ้ะ”  เดี๋ยวๆ อะไรกันวะ คือคนเรานี่ต้องยุให้ไปทะเลาะกันกับเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ เป็นประสงค์ร้ายที่ดูจะไลท์ๆมากเลยนะนี่ แต่จุ้นชอบ จริตได้!


“ไม่เป็นไรหรอกครับ เกรงใจด้วย เผื่อจุ้นกับเจนกลับดึก”


“อ๋อใช่ เจนมาบอกเหมือนกันว่าจะขอลางานไปเที่ยวกับจุ้น แต่ถ้าอยากหาคนไปเป็นเพื่อนละบอกกันได้เลยนะจ้ะ เจนเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องในกรุงเทพอะไร ให้ฉันพาไปก็ได้นะจ้ะ”  จริงๆแล้วอยากเกาะไปเที่ยวด้วย แต่อย่าดีกว่าครับ ถ้ารู้ว่ากิจกรรมที่วางแผนไว้มีอะไรบ้างแล้วจะหนาว


“รบกวนจังเลยครับ ถ้าคุณหญิงจะกรุณาก็ให้ผมแวะมาทานอาหารฝีมือป้าไพที่นี่บ้างก็จะเป็นพระคุณครับ”  จุ้นหวังแค่นั้นจริงๆ ถึงแม้ตนจะไม่ได้สนิทสนมกับแม่ของเจนรักษ์เพราะผู้เป็นป้าต้องมาทำงานนานๆ แต่ก็จดจำได้ดีว่าป้าไพมักจะมีของฝากติดไม้ติดมือเป็นที่ชื่นชอบในวัยเยาว์เสมอ คุณหญิงพรรณีนั้นพยักหน้ารับทราบ เธอชวนพูดคุยเกี่ยวกับบ้านเมืองและอากาศอยู่พักนึง  เจนรักษ์และป้าไพก็เดินกลับมาพร้อมคุณหนูวินในอ้อมอก


“ไปนานจุง”  ตัวจุ้นยู่หน้า ก็แค่ไปรินน้ำทำไมหายไปเกือบครึ่งชั่วโมง


“ไปสอยมะม่วงอยู่ จะกินไหม”  เท่านั้นตัวจุ้นก็ตาลุกวาว อยู่เมืองนอกเมืองนา การจะได้กินมะม่วงมันไม่ง่ายเท่าที่ไทย แม้จุ้นจะมีเงินและซื้อกินได้ แต่มันไม่ฟินเท่ากินที่นี่! ที่ๆจะไปขโมยขึ้นต้นมะม่วงบ้านไหนแบบอันลิมิเต็ดแบบฟรีๆอย่างนี้!


“มีมะม่วงน้ำปลาหวานไหม”  ป้าไพหัวเราะ ตัวจุ้นไม่ใช่เด็กไม่มีมารยาท การวางตัวกับคุณพรรณีนั้นเหมาะสมจนคนเป็นผู้ใหญ่ก็นึกเอ็นดู ทว่าก็ยังติดนิสับบางอย่างที่ดูมีเสน่ห์คล้ายๆกับคนพี่ เด็กบ้านนี้น่ารักกันทั้งบ้านจริงๆ แต่ชมมากไม่ดี น่าเอ็นดูเก่ง ก็เหลิงเก่งด้วยเช่นกัน


เรา 4 คนยกเว้นน้องวินตั้งวงกินมะม่วงน้ำปลาหวานต้อนรับการกลับมาไทยในรอบหลายปีของจุ้นกันอย่างสนุกสนาน ก็มีบ้างที่ต่อปากต่อคำกับเจนรักษ์ แต่ดูเหมือนทุกอย่างดูพาสเทลไปหมดในสายตาของผู้ใหญ่ ต้องมีแต้มบุญดีแค่ไหนที่ด่ากัน ก็ทำให้มันดูมีฟิลเตอร์นกกระจิบคุยกันได้แบบนี้ ทว่าเมื่อเห็นเจนถูกตัวจุ้นยึดไป เจ้าตัวเล็กที่ถือแก้วน้ำผลไม้ก็เริ่มเบะปากเรียกร้องความสนใจ ทว่าความเล่นน้อยของน้องไม่ทำให้ใครได้เห็น เจ้าตัวจึงร้องโวยวายออกมา


“เจะ เจเจ อื้อออออ”


“ลืมไปเลย ว่าไงครับคุณหนู”  เพียงเท่านี้เจนก็กลับไปเป็นของน้องวินแล้ว เจ้าเด็กนี่จะว่าหน้าตาน่ารักมันก็น่ารักอยู่หรอก แต่ออกไปทางแนวน่าฟัดมากกว่า


“เออ ซื้อของฝากมาฝากน้องด้วยนี่หว่า”  จุ้นเพิ่งนึกได้จึงเดินไปคุ้ยกระเป๋า จริงๆตัวจุ้นเองก็นั่งอยู่ที่นี่นานเกินคาด อาจจะเพราะคุยเพลินติดลมบนอยู่ คุณหญิงก็ขายเก่ง ชวนเที่ยวนั่นนี่จนเริ่มจะใจอ่อนแล้ว นี่พอฟังแผนตะเวนกินทั่วราชอาณาจักรไทยของคุณท่าน ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายหลายเอื๊อกทั้งๆที่มะม่วงยังคาปาก


“อะนี่ของฝากน้องวิน”  เจนรับของฝากจากตัวจุ้นมาก่อนจะส่งให้เจ้าตัวเล็กที่โยเยอ้อนกันไม่หยุด พอเห็นของเล่นที่ไม่คุ้นตาก็คว้ามากอดไว้ มองหน้าคนให้อย่างประเมินก่อนจะเอียงคอสงสัย….ว่าพี่คนนี้เป็นใครเหรอ


“น่ารักอ่ะ เจน เราเอากลับเมกากันได้ไหม ใส่ถ่านกี่ก้อนเนี่ย”


“ไอ้จุ้น”  ต่อหน้าย่าเขา!


“เจนพูดไม่เพราะเลยอ่ะ”  เจนหันไปขอโทษคุณหญิงที่เผลอหลุดความถ่อยออกมา ก่อนจะหันไปจ้องตัวจุ้นตาถลน


“แต่น้องน่ารักจริงๆครับ มิน่าละคุณพี่เลี้ยงติดมาก เอะอะๆก็น้องๆๆๆ นี่พูดบ่อยจนนึกว่าคลอดมาเอง”


“จุ้น ถ้าไม่กินมะม่วงก็กลับเลยมะ เดี๋ยวไปส่งที่สนามบิน”  ถ่อว้อย คนเพิ่งมาป่ะ!


“รีบไล่เนอะ ปกปิดไรไว้ปะวะ”


“ปกปิดพี่เคลไว้ว่าวันนี้จุ้นชวนไปเที่ยวไหน”


“ดีล!”  โตๆกันแล้วไม่ต้องพูดมาก  ถ้าเรื่องถึงหูพี่เคลล่ะก็ ทุกสมมติฐานที่อยู่ในหัวตัวจุ้นจะต้องถูกพ่นบนกำแพงบ้านรัตนสกุลแน่นอน! หลังจากพูดคุยกันให้พอเป็นที่คึกคัก น้องพระพายคนน่ารักและน้าจินก็กลับมาบ้าน ตอนนี้น้องเปิดเทอมแล้วและกลับมาเยี่ยมเกือบทุกอาทิตย์ ทันทีที่เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ก็เข้ามาทักทาย เจนจึงถือโอกาสได้แนะนำตัวจุ้นให้รู้จัก แต่คิดไปคิดมา


ไม่ควรรู้จักกันสักเท่าไหร่นะ….


“นี่ๆ เราชอบน้องอ่ะ พาน้องไปกับเราได้ไหม”


“น้องยังอายุไม่ถึง” 


“งั้นเราซื้อขึ้นไปดื่มกินบนโรงแรมก็ได้นะ”


“บอกว่าน้องยังอายุไม่ถึง”  เจนรักษ์ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลยครับ ตอนอยู่กับตัวจุ้นนี่


เข้าใจแล้วใช่ไหมทำไมมันถึงชื่อจุ้น
เพราะมันมาจากคำว่าจุ้นจ้าน!


“ฟังแล้วรู้เลยนะครับว่าจะพาไปทำอะไร”  พระพายอมยิ้ม


“งั้นไปกันไหม ไปเผาผีเจนกัน”


“จุ้น!”


“อยากไปครับ แต่ต้องดูน้องแทนพี่เจน  เอาไว้คราวหน้านะครับ”  พระพายยกเอาเหตุผลมาปฏิเสธ ซึ่งเจนก็คิดว่าดีแล้ว ปล่อยน้องเขาไว้บนฟ้าเถอะ เราอย่าลากลงมาเกลือกกลั้วเลย อนึ่งส่งไปอยู่ที่หอพักของอีตาคุณเพชรก็ไม่รู้จะติดเชื้ออะไรมาบ้างหรือไม่ อยากจับน้องเอาแอลกอฮอลล์ราดแท้ๆ แต่กลัวน้องจะเข้าใจเจตนาของเจนผิดไป


เราพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่นิดหน่อยก็เห็นว่าฟ้าเริ่มมืด อาหารเย็นถูกนำมาจัดเสิร์ฟและเราก็ร่วมทานอาหารด้วยกัน เจนรักษ์มองไปยังประตูหน้าบ้าน ปกติเวลานี้คุณนักรบควรกลับจากที่ทำงานแล้ว แต่นี่ก็ยังไม่เห็นเงาของเขาเลย ไม่แม้แต่จะมีข้อความมาบอกว่าจะได้กลับมากล่อมน้องนอนไหม ทว่าเมื่อสบสายตาของคนที่เพิ่งแลนด์ดิ้งสู่ประเทศไทยได้ไม่นานก็รีบทำตัวให้ปกติที่สุด เท่านี้ตัวจุ้นมันก็มโนไปถึงดาวเสาร์แล้ว


“พี่เจน”


“ไม่มีอะไรทั้งนั้น”  แก้ตัวก่อน มันใช่ปะนี่!


“ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย”


“ไม่พูดอะไรก็ดีแล้ว”


“งั้นเอาไว้พูดคืนนี้นะ”


“จุ้นจริงๆ”  จุ้นที่เป็นคำด่าครับ ไม่ใช่ชื่อมัน


กินเสร็จก็แจกของ เจนฝากซื้อหมดแหละแจกให้ทั้งบ้าน ในส่วนของคุณหญิงก็มีผลิตภัณฑ์มากมายจากบริษัทพี่เคล จริงๆแค่โทรไปบอกพี่ชายบุญธรรม เขาก็พร้อมจะเตรียมให้แล้วส่วนนึง แต่พอบอกว่าให้ฝากผ่านตัวจุ้นมาให้ ก็ดูเหมือนปริมาณจะได้เกินมามากตามความพอใจในตัวชิปเปอร์อันดับ 1 ของเคลจุ้นที่ร้องขอไป และเพราะได้มามากจึงแบ่งให้คนอื่นไปด้วย ส่วนคุณหญิงที่ได้ผลิตภัณฑ์โปรดมาอย่างไม่คาดฝันนี่ก็แทบเรียกเจนและจุ้นไปหอมหัว รักมาก แต่เจนไม่แน่ใจว่าตัวเองสระผมมาหรือเปล่าเลยรีบเบรกไว้ ไม่งั้นความเอ็นดูจะเปลี่ยนเป็นความน่ารังเกียจ เจนยังไม่อยากมีปัญหาในส่วนของตรงนั้น


เจนฝากฝังน้องวินกับน้องพระพายที่วันนี้จะไปนอนห้องคุณพรรณีกับน้องและทุกคน พระพายอาจจะโตแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าพระพายเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงดูใกล้ชิดกับคนที่นี่จึงสามารถเข้านอกออกในและได้รับความเอ็นดูอย่างล้นหลาม หากตอนนั้นเจนรู้ว่าจะได้รับความรักอย่างพระพายเช่นกัน บางทีตนอาจจะรับข้อเสนอและมาอยู่ที่นี่ด้วยเพื่อได้ใกล้ชิดกับแม่ แต่อย่างว่า….ครอบครัวที่อเมริกาก็รักเจนไม่แพ้กันเพราะฉะนั้นมันไม่ควรที่จะเปรียบเทียบแบบนี้ แค่รู้ว่าพวกเขาเองก็เอ็นดูเจนในตอนนี้เหมือนกันก็พอแล้ว มีคนรักย่อมดีกว่ามีคนเกลียดเป็นไหนๆ แล้วเราจะหวังมากมายไปเพื่ออะไร


“น้องน่ารักเนอะ”


“อืม น่ารักมากเลย”  เจนที่ขับรถไปโรงแรมให้ตัวจุ้นเมื่อได้ยินคำกล่าวชมน้องวินก็อดไม่ได้จะพร่ำเพ้อให้ฟังว่าน้องน่ารักอย่างไร ก็เจนหลงของเจนอ่ะ เจนก็อยากอวยน้องให้ทุกคนเห็นถึงความน่ารักที่น้องมีนะสิ


เห็นไหมอวยไปอวยมา ตัวจุ้นยิ้มเลยใช่ไหม
แต่เดี๋ยว….มันจะยิ้มล้ออะไรของมัน….


“กูก็รักของกู”  พ้นเขตอารักขาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเกรงใจใดๆอีกต่อไป


“โหย มองจากพระจันทร์ก็เห็นว่าเอ็นดูหนักมาก มีบ้านขายบ้านให้แล้วมั้ง” 


“นี่ยังคิดเลยว่าถ้าไม่มีลูกจะยกมรดกให้”


“ยังหวังจะมีลูกอีกเหรอวะ”


“………”  จริงๆเจนก็คิดมาสักพัก ตั้งแต่เลี้ยงน้องวินและได้รู้ว่าคงไม่ได้เลี้ยงตลอดไป


ก็อยากจะอุปการะเด็กสักคนเอาไว้เหมือนกัน


“เออ เจน”


“………”


“มึงมีอะไรบอกได้นะเว้ย”


“………”


“รู้ใช่ป่ะ ว่าเอาจริงๆคุยกับกูได้ทุกเรื่อง” 


ก็รู้แหละ


“เหมือนที่กูก็บอกทุกเรื่องไง”  ใช่….เจนบอกเรื่องที่คิดไม่ตกให้จุ้นฟังได้ทุกเรื่อง ความสัมพันธ์พี่น้องฉันเพื่อนของเรามันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ด้วยวัยที่ใกล้เคียง ด้วยพื้นฐานที่ใกล้ชิด ตัวจุ้นเป็นเพื่อนที่รู้จักเจนและรู้เรื่องของกันและกันมากที่สุด อาจจะด่าๆเถียงๆกันบ้าง แต่ก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วคนที่สปอยล์กันมากที่สุดก็เราสองคนนั้นแหละ เจนก็ว่าจะเล่านะ แต่ที่ผ่านมามันยังไม่อยู่ในจังหวะที่พอเหมาะ ทั้งสถานที่ และสภาวะทางความรู้สึกที่ไม่คงที่ เจนจึงเลือกจะเลี่ยงมาตลอด และวันนี้มันเลี่ยงไม่ได้แล้วใช่ไหม


ไม่ใช่หรอก….วันนี้ต่างหากที่ทุกอย่างมันเหมาะสมที่จะพูด


“กูว่ากูอาจจะเริ่มชอบเขาว่ะ”


“………..”


“พ่อน้องวินน่ะ”  เป็นอย่างที่จุ้น….


คิดไว้ไม่มีผิด…..ไม่มีผิดจริงๆ


เรามาถึงโรงแรมโดยปลอดภัย ตัวจุ้นจองไว้หลายวันอยู่เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาพักร้อนยาวที่ตนไม่เคยได้มี ในระหว่างที่จัดข้าวของ เจนรักษ์ก็เข้าไปอาบน้ำอาบท่าคลายร้อน พี่ชายตัวเล็กมีสัมภาระติดมือมานิดหน่อยเพราะตั้งใจจะอยู่ค้างแค่วันเดียว ไม่รู้ว่าเพราะความรับผิดชอบหรือเพราะอยากไปอยู่กับน้องวินมากกว่ากันแน่ แต่ก็เผื่อไว้ถ้าตัวจุ้นอ้อนก็อาจจะอยู่ด้วย ซึ่งไม่มีทาง….อย่ามาคาดหวังอะไรแบบนั้น เพราะจุ้นไม่อ้อนเจนหรอกเว้ย!


หลังจากเจนอาบเสร็จ ตัวจุ้นก็เข้าไปอาบต่อ จริงๆแล้วควรจะพักผ่อนให้เต็มที่ในวันนี้เพราะยังเหนื่อยล้าจากการเดินทางอยู่มาก แต่จุ้นได้ยาดี นอนหลับยาวจนนึกว่าตายไปแล้วบนเครื่องบิน ดังนั้นเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จจึงกระโดดขึ้นมานั่งบนเตียงที่คนพี่นอนหลับตาอยู่ ถ้าไม่ตื่นก็มีทางเดียวคือตาย นี่บอกไว้ก่อนเลย!


“เล่า!”


“ยังไม่กิน” 


“ไม่ได้หมายถึงเหล้าที่ดื่มได้ แต่หมายถึงให้เล่ามา”  เกริ่นอินโทรมาซะขนาดนั้นแล้วจะเทกันไม่ได้นะพี่ชาย เจนรักษ์ลืมตาเหลือบมองน้องชายของตนอย่างหน่ายๆก่อนจะลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิจ้องหน้าคนอยากรู้อยากเห็น


“ก็บอกไปแล้ว”


“ขอรายละเอียดเพิ่มเติม เช่นชอบยังไง ชอบที่ไหน ชอบเพราะอะไร มีรูปประกอบด้วยจะดีมาก” เอาให้รู้ซึ้งเห็นจริงจิ้นได้!


“ชอบที่ไหน ก็ชอบที่บ้านเขาเพราะอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพราะอะไรยังไงนี่ไม่รู้ ส่วนรูปประกอบก็นี่”  โชคดีที่ใครบางคนสั่งห้ามลบรูปไว้ก่อนเลยมีรูปเข้าไว้ ตัวจุ้นรับไปพิจารณาคัดสรรค์ก่อนเลือกว่าจะเข้ากริฟฟินดอร์หรือสลิธีรีน อืม….น่าจะสลิธีรีนนะคนนี้ ไม่ใช่สิ ผิดเรื่อง!


“หล่อนะ จะว่าไปแล้วน้องได้พ่อมาเต็มๆเลยปะเนี่ย”


“อืม ปั้นมาตรงดีเอ็นเอมาก” 


“นึกหน้าแม่ไม่ออกเลยทีเดียว”


“บอกตรงๆว่าไม่เคยเห็นแม่เขาเหมือนกัน”


“เขาหย่ากันแล้วเหรอ”


“อืม ได้ยินว่าอย่างนั้นนะ”


“แล้วนี่ทุกข์อะไร โสดนี่ จีบได้ ไม่ผิดศีลธรรม”  ถ้าเรื่องมันง่ายอย่างนั้นเจนคงไม่คิดจนปวดกระบาลอย่างนี้ เหล่มองตัวจุ้นที่คิดอะไรน้อยๆก่อนจะอธิบายให้ฟังอย่างตั้งใจ เพราะเดี๋ยวมันไม่เข้าใจ


“………..”  มันไม่ใช่แค่ว่าต่างคนต่างโสดแล้วจะคบกันได้ มันมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เจนไม่กล้าเดินเข้าไป 1 คือเรื่องความรู้สึกของคุณรบที่อาจจะไม่ได้คิดอะไร เจนยังรู้สึกดีๆกับเขาและอยากให้ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นมาในรูปแบบนั้นคงอยู่ต่อไป ถ้าวันนึงเจนเดินหน้าแล้วก้าวพลาด มันอาจจะไม่เหลืออะไรเลย และเจนไม่อยากจะเสี่ยงตรงจุดนั้น


ในส่วนของข้ออื่นๆ นั้นคือเรื่องของคนรอบข้าง แม่ของเจนอาจจะรับได้ที่เจนไม่ชอบผู้หญิง แต่คนอื่นๆในบ้านจะยินดีให้เจนกับคุณรบรักกันได้เหรอ แล้วถ้าคุณรบไม่ได้รักเจนล่ะ คนอื่นในบ้านจะยังมองเจนแบบเดิมได้ไหม ตรงนี้มันเจ็บปวดเกินไปจนไม่กล้าคิด เจนว่ามันดีแล้วที่จะเป็นเจนรักษ์ที่ทุกคนเอ็นดู และเป็นพี่เจนที่น้องๆนับถือดีกว่า


“คิดมากไปปะวะ”  แต่ถึงตัวจุ้นจะพูดแบบนั้น ทว่าเจ้าตัวเองก็ขมวดคิ้วไม่ต่าง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในคราเดียว


อีกอย่าง….เจนยังไม่พร้อมจะมีความรัก จริงๆแล้วเจนผ่านการมีความรักกับคนมาหลายคนแล้ว เจ็บมาก็หลายรูปแบบ ในตอนนี้ตนคิดว่าความรักไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปไขว้คว้ามาแบบเดิม แค่รูปแบบความรักที่คนในบ้านรัตนสกุลและแม่ให้มา เจนก็คิดว่ามันพอฟัดพอเหวี่ยงให้เจนรู้สึกว่ามันเพียงพอ และเพราะพอใจอยู่กับแค่ตรงนี้ ดังนั้นจึงไม่อยากสูญเสียไปมันไปทั้งหมด


“แล้วจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตหรือไง”


“ตลอดชีวิตมันยาวไป เอาแค่ปีหน้าก่อนได้ไหม”


“แล้วปีหน้าคิดว่าจะมีคนมาให้รักหรือไง”


“จริงๆ จะใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่คุณรบ”


“แปลกๆว่ะ”  ก็เพราะเป็นคุณรบถึงได้ชอบไม่ใช่หรือไง


“………….”  ต่อให้ง้างปากออกมา ก็จะไม่พูดใช่ไหม!


“เหล้าไหม”


“ก็ที่ลากมานอนด้วยเพราะจะกินเหล้าไม่ใช่หรือไง”


“รู้ดี”


“นี่พี่ใคร”


“จ้ะ พี่ชาย งั้นเป่าผมแป็ปนึง เดี๋ยวไปกินเหล้ากัน”  ตัวจุ้นที่ตั้งใจมาพักผ่อนกลับมาเจอเรื่องดราม่าของพี่ชายที่หนักหน่วงพอสมควรอย่างไม่คาดฝัน สิ่งเดียวที่ทำได้มีแค่รับฟังจริงๆเพราะเราสองก็มีเรื่องที่เป็นความลับที่บอกใครไม่ได้ ปัญหาของเจนอาจจะดูไม่ได้แก้ยากในสายตาใคร แต่ตัวตนของเจนนั้นแก้ยากเพราะมันเรื้อรังมานานแล้ว ตอนนี้เจนอาจจะยังไม่บอกกัน แต่ไม่ยากหรอกที่จะลองดู กับเจนที่เป็นอย่างนี้อาจจะต้องใจเย็นสักหน่อย แต่ถ้าเข้าหาถูกวิธี


มันคายออกมาหมดยันวันตกฟากของเขาแน่นอน!


และจุ้นก็ไม่คิดว่าตนควรฝืนใจคนที่เป็นห่วงและคอยปกป้องกันมาตลอดคนนี้ด้วย….การแสดงออกต่อกันของเราอาจจะแข็งกระด้าง แต่ความผูกพันที่มีนั้นมากมายเกินกว่าที่ใครจะคาดเดา ถ้าเจนว่าอย่างนั้นดีตัวจุ้นก็พร้อมจะเห็นด้วย เจนรักษ์อาจจะดูแข็งแกร่งแต่มันแค่เปลือกนอก ภายในนั้นบอบบางไม่ใช่น้อย เจ้าน้ำตาก็ที่ 1 นิสัยนางงามรักเด็กจนต้องยกนิ้วให้ ส่วนนึงอาจจะเพราะในวัยเด็ก เจนนั้นมีแค่จุ้นจริงๆ แม้จะพูดว่าเจนมีแม่ที่รัก มีน้าสาวที่เอ็นดู แต่จะมีสักกี่คนที่คอยซับน้ำตาในยามที่ต้องการจริงๆ


ไม่มีเลย….ทุกคนอยู่ใกล้หัวใจ แต่ห่างไกลจากกายทั้งนั้น…..


และเพราะว่าเจนรักจุ้นมากถึงขนาดที่ยอมเจ็บตัวเพื่อไม่ให้จุ้นเจ็บ ความรุนแรงที่เจนต้องมาเผชิญแทนจนเป็นเหตุผลหนึ่งที่มีผลต่อมาจนถึงปัจจุบันนั้นหนักหนาไม่น้อยเลย แล้วทำไมจุ้นจะอดทนกับความน่ารำคาญนี้ไม่ได้ เท่านี้มันยังตอบแทนสิ่งที่พี่ให้และต้องเสียไปในวันที่เราไม่มีใครได้ด้วยซ้ำ คุณนักรบอะไรนั่นจะรู้สึกยังไงและคิดยังไงจุ้นไม่รู้


แต่ที่รู้คือจุ้นอยากให้เจนมีความสุขที่สุด…..
และอะไรที่จุ้นทำได้ จุ้นก็จะทำ!



Talk:  จริงๆวันนี้ที่มาลงนี่ก็เพราะดีดด้วยในระดับนึง น้องเจนของเรามาไกลกว่าที่เราคิดไว้ ขอบคุณสำหรับความเอ็นดูน้องนกตัวน้อยตัวนี้มากๆนะคะ ตอนนี้เจนอาจจะมาม่าไปหลายตอน แต่พระเอกขี้ม้าขาวของเราจะตามมาในไม่ช้า คุณรบต้องได้เห็นขาอ่อนเจนค่ะ ยังไงก็ต้องได้ ไม่งั้นเราจะจับมอมทั้งคู่และขังไว้ซะเลยจริงๆ

วันนี้เราได้เห็นว่าน้องนกติดอันดับในหมวดนิยายวายใน 100 อันดับ คือสำหรับเรานี่คือไม่ไหวแล้วววววววววววว เราเคยเป็นคนอ่านที่นั่งหานิยายจากอันดับนั้นผ่านแอพของเด็กดีทุกวันช่วงที่ยังไม่ได้แต่งนิยาย บอกตรงๆว่าสำหรับเราไม่ว่าจะเรื่องอะไรตรงนั้นที่ติดมันฮีลหัวใจเราได้จริงๆค่ะ พอวันนี้ไปหาอ่านเรื่องอื่นบ้าง ได้มาเห็นน้องนกติดอยู่หน้า2 นี่ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ กรี๊ดอัดหมอน สรุปเราต้องอ่านเธอจริงๆใช่ไหม เอาดีๆ เราเลยมาอ่านตอนนี้ ตรวจและลงวันนี้เลยค่ะ ดีดเวอร์ๆ

ทีนี้ก็เลยไปนั่งอ่านคอมเมนท์เรื่อง #อาทิตย์ศศิ ที่ดองค้างไว้ชาติเศษด้วย เรายอมรับค่ะว่าลืม55555 ความจำช่วงนี้เราสั้นค่ะ ถึงอยากไปแต่งต่อ ตอนนี้เลยมันก็อาจจะไม่ติดต่อกันนัก เอาเป็นว่ากำหนดการของน้องนกกับตาเพชรเสร็จเมื่อไหร่เราจะกลับมานั่งวางพลอตขององค์ชายอาทิตย์และเขียนต่อ ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แต่ฝากเรื่องนั้นไว้ด้วยนะคะ เอาไว้ใกล้ๆจะได้อ่านแล้วจะมาบอกอีกที แต่เรื่องนั้นต่างกับเรื่องนี้มาก อย่าคาดหวังว่าจะเจอน้องเจนในนั้น555


ทอล์กจะยาวกว่านิยายแล้ว ฝาก #เจนไม่นก twitter@reallyuri ส่วนเฟซที่ว่าจะเปิดยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ไม่รู้ทำไมเราง่าวจริงหรือแค่ขี้เกียจ…..

**ถ้าเห็นคำผิดพวกนะคะ นะค่ะ น่ะค่ะ ค่ะ คะ อะไรแบบนี้มาบอกเราได้นะคะ จริงๆเราซีเรียสนะ แต่ทำไมง่าวแบบนี้ก็ไม่รู้ ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ เรารู้ว่ามันส่งผลให้ขัดอรรถรส เราจะพยายามแก้ไขนะคะ






หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 29-07-2018 19:00:13
โถ่พี่เจนนนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-07-2018 19:02:01
ฝากด้วยนะตัวจุ้น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-07-2018 19:10:46
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-07-2018 19:27:36
พี่เจนอย่าเครียด  :3123:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 29-07-2018 19:36:24
น้องเจนอย่าเพิ่งคิดมาก  มานอนกับจุ้นกลับไปลูกกบงอนแน่  พ่อลูกกบก็งอนแน่กลับบ้านไม่เห็นหน้าเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2018 19:40:01
 :กอด1: กอดปลอบใจน้องนก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-07-2018 19:45:43
เจนแคร์ครอบครัวนี้มากจริงๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 29-07-2018 19:52:23
โถ เจะ เจ เจของลูกกบ คิดถึงเจ้าลูกกบจัง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-07-2018 20:11:06
ตัวจุ้นช่วยพี่เจนด้วย เจนอย่าคิดมากนะ รบเจนชิปเปอร์อันดับ1คือคุณหญิงพรรณีเองจ้าาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-07-2018 21:01:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-07-2018 21:17:00
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-07-2018 22:01:50
เจนแคร์ครอบครัวนี้มากจริงๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-07-2018 22:18:10
ตอนเด็ก ๆ จุ้นกับเจนไปเจออะไรมาบ้างเนี่ย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-07-2018 22:43:28
เจน กลัวผิดหวัง.......กลัวนกอีก   :o12:
กลัวคุณรบ รับไม่ได้ที่เจนชอบคุณรบ  :serius2:
เลยเครียดไปก่อนล่วงหน้า  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 29-07-2018 23:14:39
ยังคงแฝงดราม่าชีวิตน้องเจนไว้อยู่
น้องเจนจะรู้มั้ยน้อ ว่าคนที่บ้านรัตนสกุลเขามีอาชีพเสริมเป็นชิปเปอร์
ถ้ารู้ซะก็จะได้ตัดเรื่องหนักใจออกไปอีกหนึ่ง

ขนาดมีแค่ชื่อโผล่มาก็ยังอุตส่าห์ทำให้น้องห่วงได้อีกนะ
มาง้อน้องด่วนๆค่ะคุณรบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 30-07-2018 01:09:08
เจนเธอต้องไปต่อ แต่ถ้าเป็นเราก็คิดมากก ระหว่างความรักในสองรูปแบบ  ก็แอบกลัวๆๆเหมือนกันมาอีกนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 30-07-2018 11:04:08
เจนกับจุ้นน่ารักจัง คือเหมือนมีกันและกันมาแต่เด็กๆ
ถ้าเจนรู้ว่าคนในบ้านชงเจนรบขนาดไหนเจนจะต้องดีใจแน่ๆ
ตอนนี้ก็เหลือแค่คุณรบแล้วล่ะว่าจะยังไง ถ้าชอบเจนบ้างก็ทำให้เจนรู้หน่อย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 29] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 29.7.2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 31-07-2018 00:25:00
ขอบคุณตัวเองมากที่กดเข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกตั้งแต่ตอนแรก ชอบที่เจนสู้คนไม่ยอมให้ใครรังแกง่ายๆ เป็นนายเอกที่มโนและเพ้อเจ้อเก่งมากแถมการศึกษาก็ไม่ธรรมดาด้วย น้องวินก็น่ารักน่าฟัด ก็ถ้าทำใจรักกับคนพ่อไม่ได้งั้นเปลี่ยนเป็นรอน้องวินโตก่อนมั้ยเจน ฮ่าๆ อยากอ่านเพชรพายเร็วๆแล้วเหมือนกัน เกลียดความเล่นใหญ่และกวนของอิคุณเพชรมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 01-08-2018 17:48:18
#เจนไม่นก
เจนกับเรื่องเหล้า



“You made me drunk!”  มึงทำกูเมา นี่คือสิ่งที่เจนพูดออกมาอย่างยากลำบาก


“มันต้องเมาเว้ยเจน อกหักมันต้องเมา!”  ตัวจุ้นอธิบายให้ฟังชัดๆ และอีกอย่าง ส่งอะไรไปให้มันก็กรอกเข้าปากหมดไม่ได้ยั้งเลย ยังนั่งได้นี่ก็ถือว่าเกินคนล่ะ


“My heart isn’t broken. I didn’t fall in love with him!” อกกูไม่ได้หัก กูไม่ได้หลงรักเขาเว้ย!


“เชื่อแล้วจ้ะพี่  อีกแก้วไหม”  ตอนที่รำคาญก็อาศัยรินเข้าไป แล้วเจนแม่งก็ยุง่าย ให้ตายเหอะ ดีแค่ไหนแล้วที่มาเมากับจุ้น เป็นหมาขนาดนี้เอาให้ใครเห็นไม่ได้เลยจริงๆ


แต่คนที่เชื่อคำพูดบ้าๆนั้นหมากว่าเชื่อจุ้นเหอะ บางทีก็ตกหลุมไปแล้ว แต่แม่งยังหลอกตัวเองว่าเกาะกิ่งไม้เอาไว้ได้อยู่ เจนปกติมันเฮิร์ทเป็นบ้าและอารมณ์เสียเป็นแองกรี้เบิร์ดทั้งวันแบบนั้นที่ไหน เอาไปหลอกใครก็ได้ แต่หลอกไอ้ตัวจุ้นที่แค่มันอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ไม่ได้หรอก ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ขนาดนี้มีหรือว่าจะพลาด เก่งกว่านี้กูก็ไปเป็นเทพธิดาพยากรณ์แล้วเหอะ!


นั่นคือความคิดของจุ้นที่มีต่อเจนในตอนนี้ สภาพคนเมาที่ดูจะเป็นหมาในสายตาของญาติผู้น้องนั้นก็ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ไม่ได้หมายความว่าการอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบคราวนี้มันสาหัสหรอก ครั้งไหนก็สาหัส แต่เจนรักษ์ก็กลับมาในสภาพที่เป็นนกที่น่าภูมิใจได้ดีเหมือนเดิม บางทีวันนี้เมาแล้วพรุ่งนี้ก็อาจจะกลับมาวิ่งแถ่ดๆพากันไปกินชาบูได้แบบที่เคย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน อย่างที่บอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก เจนมีภูมิคุ้มกันทางด้านความรักที่น่าทึ่งคนหนึ่ง เราไม่สามารถด่าพี่คนนี้ว่าเจ็บแล้วไม่จำได้


แต่บางทีก็สามารถด่าว่าขี้ขลาดได้เต็มปากเช่นกัน


“order more! I need more!”  เอาอีกๆ


“พอแล้วมึง ดูสภาพมั้งเดินเซเป็นเลข 8 แล้ว” ไม่เจียมตัวที่แท้จริงเลยคนนี้


“ฮืออออออ I don’t like him. I hate him….no I don’t hate him! I just….ว้อยยยยย”  กูไม่ชอบเขา กูเกลียดเขา ไม่ดิ กูไม่ได้เกลียดแต่กูแค่ ว้อยยยยยยย นี่คือสิ่งที่คนเมาตะโกนดังๆในใจจนมันหลุดปากออกมา เจนรักษ์ทิ้งตัวลงนอนกับโซฟาของร้าน โชคยังดีที่ตัวจุ้นพามากินที่บาร์ชั้นบนของโรงแรม ถ้าไกลกว่านี้คงต้องมีคนตายแน่นอน ใครนะเหรอ….ทั้งคู่ คนนึงตายเพราะโดนรถชนหรือโดนซ้อมฐานเมาเรื้อน อีกคนตายเพราะโดนฆ่าโดยที่บ้าน ฐานดูแลพี่ชายไม่ดีนะสิ


“เจน มานี่ คุยกับกูดีๆดิ”  ตัวจุ้นที่ดื่มเหล้าเท่ามดตอดขนมเค้กนั้นตัดสินใจเดินไปนั่งที่ข้างๆเจนซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน บางอย่างที่เข้าตามาบอกกันว่ามันดูไม่ถูกต้องนัก เพราะฉะนั้นเราสองพี่น้องอาจจะต้องเคลียร์กันดีๆ


และตอนเมานี่แหละดีที่สุดแล้ว


“มึงรักเขาป่ะ”


“ไม่ได้รักไงวะ”


“ไม่ชอบเขาเลยหรือไง”


“ไม่ชอบ….งื้อออออออ”


“เกลียดหรือเปล่า”


“ไม่ได้เกลียด”


“แล้วกับเขานี่รู้สึกไงวะ”


“อือออออออออออออ”


“อะไรวะ อือเนี่ย”


“อย่าเร่งดิวะ”


“อะ….take your time นะ ค่อยๆคิด”


“อืม ก็ไม่ได้รัก ชอบ หรือเกลียด”


“แล้วรู้สึกไง”  คนเมาเงียบไปครู่นึง ก่อนจะเอียงคอตัวเองซบกับไหล่ของผู้เป็นน้อง ไม่ได้จะสวีทอะไรแบบนั้นหรอก เหมื่อยคอ


“ก็แบบรู้สึกดี ตื่นเต้นบ้าง หวั่นๆบ้างเวลาอยู่ใกล้ คือแบบเขาเป็นคนดีอ่ะ แบบรักครอบครัว คือมึงรู้ใช่ไหมว่ากูเนี่ยมีปัญหากับความเยอะสิ่งของครอบครัวมาก” 


“อืมๆ”  จุ้นเข้าใจ เจนนั้นมีปมกับเรื่องครอบครัวเป็นพิเศษ กำพร้าพ่อแบบที่ไม่มีวันรู้ว่าพ่อเป็นใคร แม่ก็อยู่ด้วยไม่ได้ ยายก็ตายให้เห็นต่อหน้า น้าสาวกับลูกพี่ลูกน้องก็โดนลุงเขยซ้อม ตัวเองก็โดนลูกหลงบ่อยๆ แล้วไหนจะกลายเป็นมือที่สามของครอบครัวคนอื่นแบบที่ไม่เคยคิดอยากจะเป็น เจนแม่ง….โคตรมีปมเลยว่ะ!


“คือกูก็ไม่ได้จะดราม่าอะไรเรื่องปัญหาที่ผ่านมาของตัวเองหรอกเว้ย เอิ้ก! แค่กๆ แต่แบบ you know! He is the best family man I ever met. He did everything he could for his son and his mom”  เขาคือโคตรแฟมิลี่แมนเท่าที่เจนเคยเจอ เขาทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อลูกและแม่ของเขา ความประเสริฐที่เจนบอกเล่านี้ทำให้จุ้นพยักหน้า ก่อนจะพาดมือกับไหล่ของพี่ชาย จุ้นพอจะเข้าใจเหตุผลของอีกฝ่ายที่ซ่อนอยู่แล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าเป็นบ้าอะไรถึงเรอออกมาแล้วเปลี่ยนภาษาได้ มันดูซกมกอย่างน่าทึ่งทีเดียว


“So….you like him?”  เลยรักเขาใช่ป่ะ จุ้นถามกลับหลังจากได้ยินความในใจเกี่ยวกับสรรพคุณยาต่างๆนั้น


“I kinda….like him but I’m not ready to have that kind of relationship”  คือเจนก็ชอบแต่ก็ไม่พร้อมจะมีความสัมพันธ์ในรูปแบบนั้นไง


“อย่าอคติดิวะ การที่อกหักมาไม่นานนี้ไม่ได้หมายความว่ารักครั้งต่อๆไปมันจะแย่หรอก”


“จะบอกว่าไม่ลองไม่รู้ใช่ไหม แล้วถ้าลองแล้วไม่เวิร์คล่ะ”


“แล้วมันมีอะไรที่เสียไปไหมล่ะ”  จุ้นถาม ปวดหัวกับการสวิชต์ภาษากระทันหันไม่ใช่น้อย


“ความรู้สึกกูไง”


“………….”


“ ความรู้สึกแม่ ความรู้สึกทุกคนไง”


“มึงเลยจะสละตัวเองถอยออกมางี้เหรอ”  เจนผู้เสียสละ ทำบุญเก่งจริงๆ


“อืม….คุณรบข้องเกี่ยวกับคนที่กูรักหลายคนเกินไปน่ะ ฮึก”  ข้อนี้ตัวจุ้นเข้าใจดีใช่ไหม บางทีคนที่เรารัก ก็ไม่ใช่คนที่เราควรจะรักจริงๆ


ตัวอย่างของตัวเองก็มีอยู่ไม่ใช่หรือไง กับพี่เคลน่ะ….


สำหรับเจน คนที่ผ่านมาและผ่านไปไม่ได้มีความเกี่ยวข้องลึกซึ้งกับคนในครอบครัวเจนเลยสักนิด ดังนั้นการจบกันมันก็ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลือให้ดูไปถึงอนาคต  คุณรบที่รายล้อมไปด้วยคนที่เจนแคร์จึงเป็นคนที่อันตรายที่สุด อันตรายมากๆจนเจนไม่กล้าถลำลึกไปมากกว่านี้ เพราะลำพังที่ผ่านมาในชีวิต ก็หนักหนาสาหัสมามากพอแล้ว แต่ถึงพวกนั้นจะเป็นคนที่เจนไม่มีชนักอะไรติดตัวด้วย เจนก็ยังไม่กล้าจะลงหลักปักใจรักใครจริงๆจังๆเลย


เพราะมันน่ากลัวเกินไปถ้าเราถอนใจขึ้นมาไม่ทันในวันที่เขาจะจากไปนะสิ….


มันอาจจะเป็นคำสาปของเจนที่ทำให้ไม่ไว้ใจใครเลย แต่เจนเติบโตมากับการเป็นเด็กที่ถูกแม่ฝากไว้กับยาย พ่อก็ไม่รู้อยู่ไหน เติบโตมาข้างๆบ้านของน้าสาวที่แต่งงานกับตาลุงขี้เมาและมีลูกชายที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน  เจนได้รับความรักจากยายแต่มันไม่พอ จะไปร้องขอจากแม่เขาก็ทำงาน การติดต่อสื่อสารที่ไม่นำสมัยเหมือนตอนนี้ทำให้เจนต้องเฝ้ารอเนิ่นนานกว่าจะได้พบเจอ จะไปหาน้าสาวเขาก็ให้ไม่ได้เพราะปัญหาครอบครัวก็รุมเร้าทางฝั่งนั้น หนักมากจนเจนเองก็ต้องยื่นมือเข้าไปดึงตัวจุ้นออกมา


ภาพความร้าวฉานที่ได้เห็นทุกวันทำให้เด็กน้อยรู้สึกไม่มั่นคงในความรัก เจนทั้งเจ็บทั้งกายที่โดนทำร้ายเวลาที่ลุงเมาแล้วจะทำร้ายตัวจุ้น และเจ็บทั้งใจที่ปกป้องใครไม่ได้ ความผิดหวังทำให้รักและอยากจะปกป้องคนในครอบครัวให้ดีที่สุด เพราะตนมีมันอยู่แค่นี้  ประกอบกับการที่ไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดูจึงทำให้ถูกล้อถูกกลั่นแกล้ง ด้วยความไม่ยอมคนจึงทำให้ไร้เพื่อนขาดมิตร เด็กตัวเล็กที่หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ จำต้องสร้างเกราะกำบังให้ดูเหมือนคนก้าวร้าว และปิดกั้นคนนอกไม่ให้เข้ามาในพื้นที่หวงห้าม นานเข้าเจนก็คัดสรรคนเข้ามาในชีวิตอย่างละเอียด และเผื่อใจไว้เสมอว่าทุกคนจะไม่จริงใจต่อกัน  เจนยังคงเป็นอย่างนั้นมาจนถึงวันนี้ และเจนก็คงจะไม่สามารถเปลี่ยนไปได้ง่ายๆเพราะทุกอย่างมันได้สร้างตัวตนนี้ขึ้นมาจนสมบูรณ์แบบแล้ว


เพราะถ้าเจนเปลี่ยน เจนก็กลัวว่าตนเองจะแตกร้าวเหมือนกัน


“เข้าใจแล้ว ไม่เป็นไรนะ งั้นก็อย่าชอบเลย หักห้ามใจละกัน”  อย่างที่บอกว่าเราสองคนเป็นพวกที่สปอยล์กันขั้นสุด ถ้าเจนบอกว่าไม่อย่างรุนแรง ตัวจุ้นก็พร้อมจะผลักดันให้ยอมแพ้เช่นกัน


“อื้อออออ กูปวดหัว”  ก็เล่นดื่มไม่ยั้งขนาดนั้น


“เออเจน”


“หืม”  เจนนอนได้เลยหรือเปล่า ง่วงแล้วนะ


“แต่ถ้าเขาเข้ามาหาเองนี่”


“………..”


“ยังเปิดรับพิจารณานอกรอบได้ปะวะ”  ตัวจุ้นมันพูดอะไร


มันจะส่งใครไปออดิชั่นเหรอวะ???????????


xxx


นักรบนั่งแทบไม่ติดเมื่อได้มองภาพข้างหน้า…


“เฮ้ เหล้าแทบไม่พร่องเลยนี่หว่า นานๆทีจะมายังมานั่งเฉยอีก ดื่มๆเว้ย”  เพื่อนสมัยเรียนนั้นพยายามคะยั้นคะยอให้เขาดื่ม แต่ไม่ล่ะ นักรบไม่มีอารมณ์จะเอาอะไรลงท้องในตอนนี้ เพราะเขามีบางสิ่งที่อยากจะกลืนลงเสียมากกว่า


เหตุเกิดจากคนที่นั่งอยู่โต๊ะที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก


เพราะเขาแทบไม่ได้เจอหน้าเพื่อนฝูงจนแทบจะถูกเลิกคบอยู่รอมร่อ วันนี้นักรบที่พอจะว่างเลยแวะมาเพื่อให้เห็นหน้าค่าตาอัพเดทเรื่องราวชีวิตช่วงที่ผ่านมาให้พอหอมปากหอมคอ เขาตั้งใจจะดื่มบ้างเล็กน้อย แต่ที่ทำอยู่นี่มันน้อยกว่าที่คาดไว้เสียอีก เพราะอะไรนะเหรอ……เพราะคนๆนั้นไงเล่า!


“แล้วนั่นเอาแต่มองอะไรวะ”  เพื่อนอีกคนถาม แต่นักรบก็ยังคงเงียบ จริงๆแล้วคำถามต่างๆไม่เข้าหัวเขาเลย อารมณ์คุกกรุ่นในใจนี่มันคงจะบดบังความสามารถทางการรับรู้และมารยาทสังคมแบบที่เขามีจนหมดสิ้นแล้ว


“มันไม่ฟังเลยเว้ย”  เกินเยียวยาแล้วแหละ


“ลุกไปหาเลยไป”  ก็คิดว่าควรเป็นงั้น


“เฮ้ย! แต่เขาไม่ได้มาคนเดียวปะวะ ดูดิ กอดกันกลมเชียว” เพื่อนอีกคนชี้ชวน และนั่นก็คือภาพที่เขามองอยู่ แถมมองมานานแล้ว


“อย่าบอกนะเว้ยว่า”


“………….”


“รบ…มึงนกแล้วว่ะ” เขาขมวดคิ้ว หงุดหงิดกับการที่มีเสียงบ่นงุ้งงิ้งเขาหู จับประเด็นหรือหาสาระไม่ได้ สิ่งเดียวที่ได้ยินชัดนั่นคือคำว่า


นก….


“นกอะไรวะ”  ในที่สุดก็มีสักคำที่หลุดออกมา เพื่อนบางคนถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก มันยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ขอบคุณสวรรค์


“ก็แปลว่าพลาดแล้วไง มึงไม่ได้เขาหรอก”


“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนก”


“กูไม่รู้เว้ย!”  และไม่มีใครในที่นี่รู้ด้วยว่าคำนี้มันบัญญัติมาจากไหน ปกตินักรบ รัตนสกุลก็เป็นเพื่อนที่รับมือยากอยู่แล้ว ภาวะอารมณ์แบบที่ไม่รู้เป็นอะไรแบบนี้ ยิ่งรับมือยากไปใหญ่


“กูว่าน้องเขาสนิทกันมากอ่ะมึง อีกนิดนี่ดูดปากกันแล้วนะ”


“แต่ตัวเท่าๆกันเลยนะเว้ย”


“ใครจะไปรู้วะ เมียกูยังสูงกว่ากูเลย”  ทฤษฏีนี้มีคนมายันแล้วว่าความสูงไม่มีผลในแนวราบจริงๆ ยิ่งฟังเขายิ่งปวดหัวและหงุดหงิด รำคาญจนปวดหัว ส่วนหงุดหงิด….ก็คงเพราะปวดหัวเช่นกัน


“เฮ้ย! มึงดู”  คนนึงในกลุ่มชี้ชวนเสียงดัง นักรบหันตามทางที่มือของเจ้าของเสียงชี้ แล้วคิ้วเขาก็ขมวดหนักกว่าเดิม


“เอออะไรวะ ทะเลาะกันเหรอ”


“นั่นดิ เมื่อกี๊ยังกอดกันอยู่เลย”


“เออ! ทำไมน้องคนนั้นตะกุยใส่อีกคนแล้ววะ เฮ้ย เดี๋ยว! ไอ้รบ!”  ตอนนี้ต่อให้ช้างมาฉุดกลับก็คงไม่กลับมาแล้วล่ะ


เพราะนักรบได้เดินหน้าเต็มเครื่องสูบไปที่โต๊ะนั้นแล้ว!


แม้เดินไปหาแล้วจะทำอย่างไรก็ยังไม่รู้ แต่ภาพที่เห็นมาตลอดนั้นชวนคิดไปไกล และเพราะไม่มีโอกาสได้สอบถามสิ่งที่สงสัย นักรบจึงคิดไปมากมายอย่างที่ตัวเขาไม่เคยเป็น เขานั้นเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามากับผู้ชายอีกคนที่ขนาดตัวพอๆกัน ตอนแรกก็แปลกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้เจออีกฝ่ายในสถานที่แห่งนี้ ส่วนคนที่มาด้วยเป็นใครก็ไม่ทราบ ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนกัน แต่สักพัก….ไอ้การถึงเนื้อถึงตัวมันก็ย้ำให้เขาได้รู้ว่าคนทั้งสองคนคงไม่ใช่แค่สนิทกันธรรมดา


และก็หยุดคิดไม่ดีไม่ได้อีกเลยหลังจากนั้น


“Get away from me!”  ออกไปนะ คือสิ่งที่เจนตะโกนออกมาพร้อมกับผลักอีกฝ่ายที่ยังจับมือถือแขนอยู่


“เฮ้ย! เจนไม่เอาดิวะ”  อีกฝ่ายพยายามจะรวบมือที่ตะกุยกันอยู่นั่น นักรบรีบไปคว้ามือของเจนรักษ์ให้หยุดก่อนจะฉุดให้ออกห่าง


“What the fuck!”  เชี้ยอะไรวะ เจนอุทานออกมาที่อยู่ๆใครก็ไม่รู้ก็จับกันไว้ แต่ในยามนี้น้ำตาที่คลอเบานั้นทำให้มองอะไรไม่เห็นหรอก


และก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาทันที


“………….”


“………….”


“คุณทำอะไรเขา”  นักรบออกปากพูดมาก่อน คนสองคนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครสักพัก ส่วนเจนรักษ์นั้นเหมือนจะหมดฤทธิ์ไปแล้ว


“เจ้านั่นต่างหากที่ทำผม”  ตัวจุ้นอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง เป็นเขาหรอกที่เจ็บตัว!


ก็พอรุกถามว่าถ้าอีกฝ่ายเป็นคนเข้ามาจีบเองมันจะทำยังไง ปกติคนดีๆเขาต้องก้มหน้าเขินอายอะไรอย่างนี้ใช่ไหม แต่เจนรักษ์ไม่เหมือนใคร คนที่อกหักทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มรักนั้นเกรี้ยวกราดมากอย่างถึงที่สุด เจ้านิ้วทู่ๆนั่นก็เอามาตะกุยคนถาม คือถ้ามันรุนแรงดูเข้มแข็งดูรุนแรงจะไม่ว่าเลย…..แต่มันดูตลกเสียมากกว่า และที่ตลกกว่าคือมีคนอินตามมันด้วยนี่แหละ


จุ้นเป็นห่วงอนาคตของโลกจริงๆ ถ้าคู่นี้เขาได้กัน
เพราะเขาจะเอออกันทุกเรื่อง ชี้ไม้เป็นนกได้ก็คราวนี้ล่ะ!


“เจน กลับกันไหม”  จุ้นถามขึ้นทั้งๆที่ยังไม่สามารถปะชิดตัวอีกฝ่ายได้ ก็แหมมมมม ใครก็ไม่รู้ทำตัวเป็นพ่อมาคุมอยู่นี่


“ไม่กลับ! จะไปอยู่กับตาหนูน้องกบ งื้อ!” 


“เฮ้อ…..”  แล้วไปเมาบอกพ่อเขาอีก จุ้นละอยากเอาหัวโขกพื้น


“งื้ออออ เจนง่วง”  ถึงได้บอกให้ไปนอนไงล่ะ ตัวจุ้นเหล่มองคนที่ตัวเองจัดการมอมเมื่อครู่อย่างเคืองๆ เออความผิดของจุ้นด้วยนี่ล่ะ แค่ส่วนนึงนะ


“ผมจะพาเขากลับไปด้วย”  ไม่มีใครถามหรือขอความช่วยเหลือ นักรบกล่าวออกมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนทั้งสองเป็นอะไรต่อกัน แต่เขาแสดงความจำนงออกไป และมันไม่ใช่คำขอ


แต่เป็นคำสั่งที่ไม่สนว่าใครจะว่าอย่างไร!


“เขามากับผม”  แต่ตัวจุ้นไม่สามารถยกให้ง่ายๆ


“แต่เขาอยู่บ้านเดียวกันผม”


“เป็นอะไรกันล่ะ”


“พี่เลี้ยงของลูก”  เขาตอบได้ทันที


“ผมเป็นน้องชายของเขา”


“………….”


“เป็นคนที่มั่นใจได้ว่าอยู่ด้วยแล้วเขาจะปลอดภัย”


“………….”


“เมื่อครู่เราทะเลาะกันนิดหน่อย ต้องขอบคุณที่เป็นห่วงพี่ชายผมนะครับ”


“ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณเป็นน้องชายเขาจริงๆ”  ที่เงียบไปไม่ใช่ว่าเขาสลดลงหรอก นักรบกำลังดูอีกฝ่ายให้ชัดๆ ทั้งคำกล่าวอ้างและลักษณะท่าทาง ทำไมต้องระแวงนะเหรอ……เพราะวันนี้เจนต้องกลับกับเขา เหตุผลมันก็มีแค่นั้นแหละ และไม่มีคำอธิบายอื่นใดมาแนบท้ายเหตุผลนั้นเหมือนเคย


“ผมยังเป็นน้องชาย ไม่ว่าจะมีอะไรมายืนยันก็ยังพูดได้ว่าเป็นน้อง แล้วคุณล่ะเป็นใคร อยู่ๆก็เดินมายุ่งเรื่องชาวบ้าน”  ท่าทางคุกคามของนักรบไม่ได้ทำให้ตัวจุ้นหวั่นเกรงเลย มิหนำซ้ำ ยังกล้าท้าทายกลับ เอาความมั่นใจมาจากไหนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ต่อยปากให้ อาจจะเพราะบทบรรยายสรรพคุณของเจนก่อนหน้านี้ละมั้ง ขอให้พี่ชายของตนไม่ได้เข้าใจคุณรบอะไรนี่ผิดไปด้วยเถอะ ไม่งั้นไอ้จุ้นตายแน่!


“น้องชาย….เขาไม่เห็นเคยพูดถึงว่ามี”  แล้วจะเถียงทำอีหยังวะ หน้าอย่างนี้ไม่มีวันเป็นผัวไอ้เจนหรอก เชื่อกูเหอะ!


“ที่ไม่พูด ไม่ใช่ว่าเพราะคุณไม่สำคัญพอที่จะเล่าให้ฟังหรือเปล่า”


“………….”


“ผมมีหลักฐานยืนยัน นี่คุณนักรบใช่ไหมครับ โทรถามแม่คุณเลยก็ได้ วันนี้ผมไปเจอท่านมาก่อนจะมาที่นี่กับเจน”


ฝีปากของตัวจุ้นนี่พอๆกับตัวเจนตอนที่ยังไม่ได้มาเป็นลูกจ้างของเขาเลย นักรบหมดสิ้นคำพูดโดยแท้จริง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมามันก็ล้วนเป็นความจริง และมันก็แทงใจเข้าไปทั้งหมด นักรบไม่ได้เป็นอะไรกับเจน และไม่ใช่คนที่สำคัญพอที่จะสาธยายให้ฟังว่าโคตรเหง้าของตนมีใครบ้าง เจนรักษ์ทำถูกแล้ว นักรบเข้าใจดี แต่กว่าจะเข้าใจ


เขาก็ต้องสูดลมหายใจเข้าออกหลายครั้งจนกว่าจะคิดได้


“เข้าใจแล้ว”  วันนี้เขาคงต้องยอมแพ้ เขาไม่มีสิทธิ์อะไร นี่มันนอกเวลางานของอีกฝ่าย แต่ถึงเป็นเจ้านาย ก็เอาแต่ใจอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย สิ่งที่รั้งเจนไว้คงมีแค่เงินเท่านั้น เหมือนที่มันใช้รั้งรดาไว้กับเขาได้พักนึง และเมื่อมันหมดประโยชน์หรืออีกฝ่ายไม่ต้องการแล้ว ก็จะไม่มีใครอยู่กับเขาให้เสียเวลา


“เจนจะกลับไปหาเจ้าลูกกบ”  ทว่าเสียงที่ดังออกมาจากปากของคนที่ไม่มีใครแน่ใจว่าหลับอยู่หรือไม่ก็ฉุดรั้งเขาให้กลับมา มันเหมือนแสงสว่างที่วาบออกมาในขณะที่นักรบไม่คิดจะเดินไปข้างหน้าอีกต่อไป หัวใจของเขาพลันเต้นแรงเมื่อได้ยินเช่นนั้น


แล้วไฉนเขาถึงจะไม่คว้าเอาไว้….


“เฮ้ออออออ นี่น้องนะ นี่น้อง”  ตัวจุ้นเบะปากมองเจ้าตัว เราไม่ได้เจอกันตั้งนานแท้ๆ คนเมาหนอคนเมา ไม่รู้อ้างลูกหรือเปล่า


ก็พ่อเขามาตามกลับไปด้วยแบบนี้?!!!?!?!???


“คุณพาหมอนี่กลับไปละกัน”  ตัวจุ้นที่ทำคะแนนนำมาตลอดนั้นเหมือนถูกชิงคะแนนพิเศษโดยอีกฝ่ายในช่วงวินาทีสุดท้าย จะเห็นแก่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี่ละกันนะ ได้กันเมื่อไหร่….จะเอาคืนให้สาสมไปเลยคอยดู!


“ขอบคุณมาก”  เขาพูดเช่นนั้น ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องอะไรให้ขอบคุณ อีกฝ่ายไปทำเรื่องน่าซาบซึ้งให้กันตอนไหน


“ผมกลัวเจ็บตัวหรอก”  ถึงตัวจุ้นจะบอกอีกฝ่ายแต่แรกว่าจะไม่ทำอันตรายเจน แต่ไม่ได้หมายความนี่ว่าเจนจะไม่ทำกัน ก็เล่นตะกุยไม่ยั้งแบบนั้น ขึ้นไปอยู่ด้วยกันสองต่อสองอาจจะได้ยกเท้าขึ้นมายันกันแน่ ตัวจุ้นสูงกว่านะ ลืมไปแล้วเหรอ เขาจัดการเจนได้แน่ อย่าหาว่าไม่เตือน


เจ้าของร่างสูงค่อยๆก้มลงไปประคองให้คนง่วงนอนนั้นลุกขึ้น เจนไม่ได้ให้ความร่วมมือนักเพราะแยกแยะอะไรไม่ค่อยจะได้นอกจากความเมาของตัวเอง ตัวจุ้นที่นั่งอยู่จ้องมองทั้งสองฝ่าย จริงๆแล้วตนนั้นนั่งฝั่งตรงข้ามกับเจนมาตลอด และก็เห็นผู้ชายคนนึงที่จ้องมองมาทางโต๊ะเราโดยไม่มีแม้จะหลบตา โชคดีที่เขาหล่อ ครั้งเดียวที่ได้เห็นรูปที่เจนถ่ายไว้ ก็รู้ได้ทันทีเมื่อได้เจอตัวจริงแม้ที่นั่งเราจะไม่ได้ใกล้กันมากขนาดนั้น ต้องเรียกว่าหล่อทะลุไฟสลัวเลยทีเดียว และยิ่งเดินเข้ามาให้เห็นหน้าใกล้ๆก็ยิ่งมั่นใจว่าใช่แน่ๆ


ทว่าสิ่งนึงที่ไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าปล่อยให้ไปด้วยกันในสภาพนี้นี่ดีกับพี่ชายของตนหรือเปล่า แต่ก็คงต้องลองเสี่ยงดู เพราะเจนนั้นอาการหนักไม่ใช่น้อย จากที่ระแวงชาวบ้านเก่งอยู่แล้ว พอมาเจอวิลเลี่ยมไปคงหาทางขึ้นคานอย่างเป็นสุขด้วยตัวเองแล้วแน่ๆ จริงๆมันก็ไม่แย่หรอก ความรักไม่ใช่เรื่องที่ดีกับทุกคน ถ้าคิดว่ามีแล้วจะไม่ดี ตัดออกไปอย่างที่เจนว่ามันก็ดีอยู่ ตอนแรกจุ้นก็คิดเช่นนั้น แต่มาเปลี่ยนความคิดเอาทีหลัง ก็ตอนที่จ้องดวงตาของคนที่มาตามหิ้วกลับคนนี้ดีๆนั่นแหละ


ไม่ได้เป็นอะไร แล้วทำไมต้องแสดงท่าทางหึงหวงด้วย


“หึ…”  ตัวจุ้นหลุดหัวเราะออกมา ก็ถ้าคนสองคนรักชอบกัน แล้วทำไมเจนจะต้องเป็นฝ่ายเสียสละถอนตัวออกก่อนด้วยล่ะ มันไม่ใช่ไม่แฟร์กับตัวเองคนเดียว แต่ไม่แฟร์กับอีกฝ่ายด้วยไม่ใช่หรือไง


ดูก็รู้แล้วว่าจุ้นนี่ลงเรือลำไหน


“ฝากดูแลพี่ชายด้วยนะครับ หมอนี่เมาแล้วพูดมาก เลอะเทอะ”  นักรบพยักหน้า เขาพอรู้ แต่คงไม่รู้ว่าคนตรงหน้านั้นลงทะเบียนสมัครลงชื่อเป็นชิปเปอร์เรือ ‘รบเจน’ ระยะทดลองไปแล้ว แต่บอกก่อนว่าตัวจุ้น….ไม่อ่อนโยน!


“ไม่ต้องห่วง ถ้าพี่คุณเป็นแผลตรงไหน คุณก็รู้ว่าบ้านผมอยู่ไหน”  ชอบจังพี่เขยแบบนี้….ตัวจุ้นยิ้มอย่างพึงใจ ทุกคนในเรื่องดูจะชอบเขานะ จะมีแค่คนเดียวแหละที่ยังห้ามตัวเองไม่ให้ชอบอยู่นั่นแหละ แต่ก็เข้าใจได้ จะรักใครสักคนดีๆอีกสักที มันก็ต้องดูให้ชัดเจน และถ้าพี่เจนดูคนเดียวไม่ไหว เดี๋ยวน้องช่วยก็ได้นะ


แต่บอกอีกครั้ง ว่าไม่อ่อนโยน!


“เรื่องเจ็บตัวนะไม่เท่าไหร่ครับ แต่อย่าทำให้เจ็บใจล่ะ”


“…………”


“ผมน่ะไม่ได้อะไรหรอก ไม่ค่อยหวงพี่ด้วย”  จริงๆแล้วจุ้นนี่ออกจะอวยอีกฝ่ายเสียด้วย แต่ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีขึ้นมา หน้าที่หลักของตนคือการดูแลเสียมากกว่า ในส่วนคิวบู๊นี่คงไม่รับรู้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย


แค่เป็นทางเลือกที่ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วยมากที่สุดต่างหาก


“แต่มีผู้ชายคนนึงเขาขี้หวงกว่าผมมาก แล้วถ้าเขารู้ว่าคนโปรดเจ็บล่ะก็นะครับ….”


“…………..”


“เก็บให้เป็นความลับจากเคลวิน คูเปอร์ให้ดีละกัน”  จริงๆพี่เคลก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้นหรอก เอ็นดูเจนอยู่มาก แต่ไม่ก้าวก่าย หากไม่ไปขอความช่วยเหลือ อย่างว่า….เจนกับเขาเป็นพี่น้องที่เหมือนญาติกัน และจริงๆครอบครัวคูเปอร์ก็รับอุปการะเจนมาหลายปี เอ็นดูกันไม่น้อยทั้งตระกูลเลย เพราะฉะนั้นถ้าพูดยุนิดๆ พวกเขาก็พร้อมจะของขึ้นกันถ้วนหน้า ซึ่งทุกวันนี้คนที่ถูกยืมชื่อมายังไม่รู้อะไรทั้งนั้น แต่ชื่อเจ้าตัวดันขึ้นมาเป็นลำดับแรกในหัวซะงั้น ก็บอกแล้วว่าจุ้นไม่อ่อนโยน! ในเมื่อเจนเหนื่อยแทบตาย อีกฝ่ายคิดยังไงก็ไม่มีใครรู้ ชอบเจนหรือแค่หวงก้างหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ดังนั้นจุ้นที่เป็นชิปเปอร์ฝึกหัดสายฮาร์ดคอร์เลยพูดไปเช่นนั้น…..


ก็หวังจะหายซึนกันซะทีนะคนเรา
นี่อยากอุ้มหลานจะแย่อยู่แล้ว!




Tbc


Talk:
เราบอกแล้วว่าจะทำตามสัญญา ฮืออออออออออ ช่วงนี้งานยุ่งๆมาก เราอาจจะได้มาลงอีกทีวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้นะคะ อย่างที่แจ้งไปว่างานมันเข้าสู่ช่วงยุ่งของปีแล้ว ต่อให้เรามีที่แต่งทิ้งไว้แล้วแต่ก็อาจจะเอามาลงไม่ได้เลย เพราะกลับบ้านดึกบ่อยๆ เราไม่สามารถใช้คอมที่ทำงานลงนิยายได้จริงๆ และกลับบ้านร่างก็พังแล้ว ฮือออออออออ
อีกอย่าง น้องเจนไม่หวานเย็นแล้ว เนื้อเรื่องจะต้องถูกเราทบทวนมากขึ้นเพราะปมที่วางไว้ตั้งแต่หวานเย็นเริ่มจะคลาย เรายังยืนยันว่าเรื่องนี้จะจบค่ะ วางไว้ที่ 40 แต่ทุกวันนี้มีแนวโน้มจะเกินแน่นอน
เห็นคนเข้ามาอ่านกันมากขึ้น ขอบคุณมากนะคะที่ชอบน้องเจนนกๆ เอ้ย ไม่นก เราจะพยายามรีบมาต่อนะคะ แต่ยังไงขอยืนที่สัปดาห์ล่ะสองตอนก่อนนะคะ พอเรื่องนี้จบเรามีแพลนจะแต่ง ‘เพชรพระพาย’ ค่ะ ถ้ายังไงฝากติดตามด้วยนะคะ //ฝากตัวก่อนแต่ยังไม่ได้เริ่มสักประโยคเลย55555

#เจนไม่นก
Twitter @reallyuri





หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 01-08-2018 17:54:54
   :pig4:
 
เจน เอ้ย ชีวิตเรามีความคล้ายกันมาก

ยกเว้น ชีวิตรัก

 ..ใช่จ๊ะช้านนนน อิจฉา คนในนิยาย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวสวย ที่ 01-08-2018 17:56:11
รออาทิตย์ ศศิอยู่นะคะ หายไปนานเลย คิดถึงมากๆ อยากอ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-08-2018 18:18:11
ง้อววววววววว    :z2:  นี่ก้อรอเขาลากกันกลับห้องค่า น้องเจนไมร้สติอย่าเพิ่งบอกหมดน้า หมั่นไส้คุณรบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2018 18:25:16
รอเธออยู่เสมอนะจ้ะ มีลูกเรือเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-08-2018 19:12:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-08-2018 19:18:47
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 01-08-2018 21:15:23
เรือรบเจนจะเป็นเรือสำราญ5555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-08-2018 23:05:48
น้องตัวจุ้นชิปเปอร์ฝึกหัดสายฮาร์ดคอร์ ฝีปากไม่เป็นรองใครจริงๆ ชอบตอนกัดกับพี่เจนมันส์ดี

คุณรบต้องรุกจีบพี่เจนก่อนนะ เนี้ยโอกาสดีพากลับไปนอนด้วยแล้วเนียนคลุกวงในเลย55555 แนะนำได้เลวมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-08-2018 23:26:35
ไปๆๆๆ ตามพ่อกบกลับบ้านดี ๆ นะเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-08-2018 01:11:00
เอ็นดูเจนที่ถึงแม้จะเมาแต่ก็ยังคิดถึงเจ้าลูกกบนะ ส่วนพ่อกบนี่ เอ๊ ยังไง มีหวงออกหน้าออกตา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: skyberry ที่ 02-08-2018 02:04:25
ชงให้แบบร้ายๆอ่ะจุ้น 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 02-08-2018 02:18:45
ลุ้นนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-08-2018 02:19:38
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-08-2018 07:30:13
จุ้นชงด้วย ขู่ไปด้วย ชิปเปอร์สายฮาร์ดคอร์จริงๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-08-2018 07:32:26
พ่อลูกกบ อยากรู้ความในใจเจน.......
ก็ตอนนี้ไง............เหมาะเลยตอนนี้
รู้แล้วก็จีบเจนเลย ก็ห่วง หวง หึงเจนไม่ใช่หรือ
นกจะได้ไม่มา บินไปจากทั้งเจน ทั้งคุณรบ   :m20: :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-08-2018 08:01:06
ตามพ่อกบกลับบ้านดีๆ นะเจน  :เฮ้อ:  จะให้คู่นี้สมหวังพ่อกบต้องเป็นฝ่ายรุกก่อน  :mew5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 02-08-2018 09:29:47
รอติดตามเรื่องต่อไปค้าาาาา :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 02-08-2018 16:19:36
โอ๊ยเจนเมนแล้วสปีคอิงลิชใหญ่เลย 55555555555555
แหมๆๆๆ คุณรบ เปงผัวอ่อมาหึงเจนกับตังจุ้นอ่ะ กิ้วววๆๆๆ :katai3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 03-08-2018 00:52:49
อีกวันเดียววววว รอๆๆๆ อยากเห็นคนหายซึนไวๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 30] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 1.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 03-08-2018 23:46:18
มาค่ะ ร่วมด้วยช่วยกันพาย
หัวข้อ: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 04-08-2018 10:20:59
#เจนไม่นก
เจนกับภาพตัดที่แย่กว่า






เคลวิน คูเปอร์ เป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาหวง!


นักรบจัดการยัดขาของอีกฝ่ายเข้าไปในรถ ก่อนจะยืดตัวเต็มความสูงแล้วปิดประตูดังปังด้วยหมายจะระบายอารมณ์ และเดินไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ หงุดหงิดคนข้างๆไม่น้อย แต่เพราะอะไรกันละ ใช่….ต้องเป็นเพราะเรื่องที่เอาแต่เมาไม่รู้เรื่องอย่างนี้แน่ๆ  ดวงตาคมกร้าวไม่มีแม้แต่จะเหลียวมอง ยังคงเป็นนักรบที่เย็นชาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่กับคนๆนี้ดูเหมือนว่าความอดทนจะต่ำไปเสียทุกอย่าง เพราะไม่นานเขาก็เหลือบมองคนตัวเล็กที่หลับสนิทข้างๆอย่างเผลอไผลไปเสียแล้ว


“โถ่เว้ย!”  คำสบถที่ไม่ได้ดังมากออกจากปากเขา ตัวเจนรักษ์ไม่น่าหงุดหงิดเท่าตัวเองเลยจริงๆ เขาเสยผมขึ้นไปอย่างหงุดหงิด ก่อนจะขับรถออกไปยังจุดหมายที่จะพาเจนรักษ์ไปเก็บไว้ในคืนนี้


เพราะกลับบ้านไม่ได้….แน่นอน จะเอาคนเมาไปนอนที่ไหน ตอนเอามาก็ดึงดันจะเอามาโดยไม่ได้คิดอะไรให้ถ้วนถี่ สภาพนี้นอนกับตาหนูไม่ได้ และตอนนี้น้องวินนอนอยู่ไหนก็ไม่รู้ แม่ไพอาจจะไปนอนเป็นเพื่อนที่ห้องก็เป็นได้ แล้วจะให้คนเมาที่ควบคุมยากอย่างนี้กลับไปรบกวนชาวบ้านเหรอ ไม่มีทาง มิหนำซ้ำแม่ของอีกฝ่ายได้เห็นลูกตัวเองแบบนี้ คิดสิว่าจะมองหน้ากันติดไหม


ด้วยความจำเป็น นักรบจำต้องพาเจนไปเก็บไว้ที่คอนโดที่เขาซื้อทิ้งไว้ แต่ก่อนเขาพักอยู่ที่นั่นประจำ แต่พอเลิกกับรดาแล้วมีน้องวินอยู่ที่บ้าน เขาก็ไม่ค่อยได้ใช้งานมันสักเท่าไหร่ โชคดีที่วันก่อนให้คนไปทำความสะอาดไว้ให้เพราะคิดว่าวันนี้เจอเพื่อนแล้วจะแวะไปค้างก่อนจะกลับไปบ้านในวันถัดๆไป แต่ชะตาหนอช่างเล่นตลก จะให้เขากลับคนเดียวก็ไม่ได้เชียวหรือ


จะโทษฟ้าโทษดินทำไม ก็เป็นตัวเองทั้งนั้นที่เลือก!


กว่าจะลากเจ้าตัวดีขึ้นมายังห้องพักได้ก็เล่นเอาลากเลือดเหมือนกัน แม้เจนรักษ์ในยามหลับจะรับมือง่ายกว่ายามเมา แต่เพราะหลับแล้วหลับเลยหลับลึกๆแบบที่เป็นอย่างนี้แหละถึงไม่ได้ให้ความร่วมมือในการเคลื่อนย้าย ดีหน่อยว่าตัวเล็กเลยจับขึ้นบ่าเดินมาจากลิฟท์ถึงห้องได้โดยที่ไหล่เขาไม่หักไปเสียก่อน นักรบคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว แต่ก็อดมีโทสะไม่ได้ยามมาถึงสถานที่ลับของตน


และเขาก็โยนเจนลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี ทว่าอีกฝ่ายกลับมุ่ยหน้า ถึงจะเมาและหลับลึกแบบนั้น แต่ไม่ได้ตายซะหน่อย อยู่ๆตัวก็ลอยมากระแทกเตียงแบบนั้นยังไงก็ต้องรู้สึกรู้สา ถึงจะฟูกนุ่ม แต่ก็อาจจะเจ็บตัวอยู่ก็เป็นได้ นักรบที่รู้สึกผิดขึ้นมาจึงลงไปนั่งข้างอีกฝ่ายเพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด


“เป็นไงบ้าง”


“อื้อออออ”


“โทษทีนะ”  ไม่รู้ว่าอารมณ์หงุดหงิดมันละมุนตุ้นขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นักรบไม่ใช่คนอ่อนโยน ใจดี หรืออะไรเถือกๆนั้นเลย แต่พอเห็นอีกฝ่ายนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดใจที่เคยแข็งกระด้างก็อ่อนยวบ ไหนใครว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินถึงจะกร่อนกันนะ เจนรักษ์ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย แต่ทำไมหินในใจเขาถึงยวบง่ายเช่นนี้ล่ะ


ต้องเรียกว่าคนใจง่ายใช่หรือไม่?


“อื้อออออ”


“ไหวไหม”  เขาเริ่มรู้สึกสงสาร  มันมากกว่าความรู้สึกผิดที่ทำลงไป


“ไม่หวายยยยย I’m not ok”  เจนไม่โอเค


“กินน้ำก่อนไหม”


“I don’t need a water. I want more whiskey”  ไม่เอาน้ำ เอาวิสกี้มาเพิ่ม เสียงคนเมาพึมพำไว้เช่นนั้น


แต่มันทำให้คนฟังนิ่งงันไปเช่นกัน…..


“Take me back. I want to hug my little froggy”  พาผมกลับไปที อยากจะกอดเจ้าลูกกบแล้ว


“ไม่ได้ นายกลับแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ”


“เป็นผัวเหรอมาสั่งอ่ะ No no!  you are not my husband you are just…..whatever….”  ไม่ๆ คุณไม่ใช่สามีผมซะหน่อย คุณก็แค่….ช่างมันเหอะ


“…………..”


“อีกอย่าง….ผมไม่มีใครสักหน่อย กับวิลเลี่ยมก็เลิกแล้วด้วย หมอนั่นมันนอกใจก่อน เอ๊ะ! ใช่ปะวะ”


“วิลเลี่ยมนี่ใคร”


“แฟนเก่า เจ้านายเก่า ชู้คนเก่า แม่งงงงงงงงงงง”  เจนยังคงหลับตาพูดและก็พูดไม่หยุด


“เป็นเจ้านายและก็เป็นแฟนได้ด้วยเหรอ”  นักรบไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องขบกรามแน่นยามที่ได้ยิน แต่ก็ถามออกไปอย่างติดแววประชดประชัน


“เป็นได้ดิ ก็เป็นแล้วเลิกแล้วไง ฮะๆ”


“เลิกมานานหรือยัง”


“ก่อนมาไทยอีก ให้ตายดิ คบไปได้ไงวะเนี่ย how professional I am” โคตรโปรเลยให้ตายเถอะ 


“………….”


“So It’s no need to ask about the relationship with another boss. No more!” คนตัวสูงที่มองหน้าคนเมาพูดนั้นยิ่งคุกกรุ่นในใจ เจนนั้นกล่าวไว้ว่าไม่จำเป็นต้องถามถึงความสัมพันธ์กับบอสอีกคนเลย เพราะมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก


“นายดื่มมากเกินไปจริงๆ”  แม้จะไม่มีอะไรที่น่าจรรโลงใจแม้แต่น้อย ทว่านักรบไม่เอ่ยปากคำว่าหยุดออกมา ความอยากรู้อยากช่างน่ากลัว เขาไม่รู้ว่าสุดท้ายพอรีดทุกสิ่งออกจากปากเจนรักษ์ได้แล้ว คืนนี้มันจะจบเช่นไร


“You know what? คุณรบน่ะเป็นคนที่ดีคนนึงเลยนะตัวจุ้น”  ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเห็นขนาดตัวคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เท่ากับน้องชายตัวเองได้อย่างไร แต่ที่น่าตกใจกว่าคือชื่อของเขาในบทพูด และยิ่งตกใจมากขึ้นที่อยู่ๆเจนก็ลุกขึ้นนั่งและโอนเองมาทางนี้


“ทำอะไร”  น้ำเสียงเขายังติดเย็นชา แต่คนไม่กลัวตายยังคงยิ้มอย่างทะเล้น


“อาจจะขี้เก๊กไปหน่อย แต่เป็นคนดีเลยนะ คุณรบเนี่ย” 


“…………..”  เขาไม่รู้ว่าควรจะยิ้มหรือหัวร้อนดี เพราะอีกฝ่ายวิจารณ์กันก่อนจะมาชม แล้วก็ปีนเกลียวด้วยการขยับมาหาแล้วใช้นิ้วมือของตนแตะแก้มเขาเบาๆ


“แต่คนดีที่เป็นเจ้านายไม่ดีหรอกนะ เพราะเจนจะกลายเป็นลูกน้องที่คิดไม่ซื่อ ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และทรยศต่อความไว้ใจของทุกคน”



“…………..”


“เจ้านายที่มีเมียและลูกแล้วยิ่งไม่ดีใหญ่ ฮึก”   เสียงสะอื้นนั่นทำให้ใบหน้าดุๆของเขาถอดสี ดวงตาโตที่แม้ปลายหางตาจะตกลงแลดูเศร้าแต่เจ้าตัวก็ทำเหมือนร่าเริงอยู่เสมอมีหยาดน้ำคลอ ริมฝีปากของเจนสั่นระริก มันทำให้ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างขึ้นมา


และหัวใจของเขาก็ปวดหน่วงแบบที่ไม่ได้รู้สึกมาสักพัก


“เจนทำผิดอะไร ต้องนกอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจ แค่เกิดมาก็ผิดแล้วใช่ไหม พ่อก็ไม่เคยมี แม่ก็ไม่เคยเลี้ยง ยายก็มาชิงตายไปก่อน เป็นกาฝากไปเกาะคนนั้นคนนี้ไปทั่ว มีแฟนก็ถูกทิ้ง พออายุเยอะอยากจะลงหลักปักฐานกับใครสักคน เขาก็มาหลอกไปเป็นชู้ เจนทำผิดอะไรนักหนาวะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ฮือออออออ”  น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเจือเสียงสะอื้น และทำนบเขื่อนที่ไม่สามารถเก็บกักน้ำในตาเหล่านั้นได้อีกต่อไปต่างพากันพังทลายตรงหน้า ไม่ใช่แค่เจนรักษ์ที่ร้องไห้อย่างรุนแรง แต่ภาพคนตัวเล็กที่สะเทือนไปทั้งกายนั้นดูน่าสงสารเกินกว่าจะทำใจแข็งไว้ได้ นักรบพาลทำอะไรไม่ถูกก็คราวนี้


“เจนรักษ์”  เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา ไปไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะพานพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้เลย เพราะคงไม่มีใครในโลกที่อยากจะเมา ปรับทุกข์ โวยวาย และร้องไห้อย่างน่าสงสารต่อหน้าคนแบบนักรบนี่ไม่เคยสนดินฟ้าอากาศที่ไหนคนนี้ แต่เจนรักษ์ ได้ทำมันไปทั้งหมดแล้ว และก็ดึงความสนใจของเขาจากดินฟ้าอากาศและทุกอย่างบนโลกไปจนหมดไม่มีเหลือในวินาทีนี้จริงๆ


“เจนจะไม่รักใครอีกแล้ว ฮึก ที่รักไปแล้วมันเอาคืนมาไม่ได้แล้ว ฮืออออออ”  คนตัวเล็กนั้นก้มหน้าลง ไหล่บางสะอื้นฮักอย่างน่าสงสาร หากแต่ตัวเขายังคงนิ่งเฉย แม้ว่าใจจะละลายเป็นน้ำแล้วก็ตาม นักรบนี่มันใช้ไม่ได้จริงๆ ทำไมเป็นคนใจร้ายแบบนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เคยนึกชอบตัวเองเสียเท่าไหร่ ทำคนมากมายเสียใจ และยังมีหน้ามามองคนอื่นที่เขากำลังเจ็บปวดขนาดนี้อยู่เฉยๆได้อีกเหรอ ยังไงก็ไม่มีใครรู้ใครเห็น…..ว่าเขาสงสารเจนรักษ์แค่ไหน


และอยากกอดโอ๋อีกฝ่ายแค่ไหนเมื่อได้ยินเสียงปานขาดใจของอีกคน


“เจน”  มือใหญ่ของเขาวางบนไหล่บางนั้นเบาๆคล้ายจะปลอบโยน ไม่รู้อีกฝ่ายจะรับรู้ความตั้งใจของเขาหรือไม่ แต่ก็หวังว่าจะทราบได้ว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียวในยามนี้ และแม้ว่าเขาจะไม่สามารถแบ่งเอาความทุกข์มาช่วยแบกรับได้ แต่ก็หวังให้อีกฝ่ายได้รู้ว่ายังมีความปรารถนาดีรายล้อมอยู่รอบๆไปหมด เจ้าของดวงตาวาวด้วยหยาดน้ำตานั้นเงยหน้ามามองกันเพียงครั้ง และทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของกันและกัน เราสองต่างก็โผกอดกันอย่างไร้เหตุผลในทันที เพราะอะไรนะเหรอ


ช่างมันเถอะ….มันไม่ได้สำคัญในเวลานี้เสียเท่าไหร่หรอก


เสียงร่ำไห้ของเจนที่ซบใบหน้าลงกับไหล่ของคุณรบนั้นตอกย้ำให้ได้รู้ว่าเขาทำได้แค่นี้จริงๆ แต่มันก็ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายเย็นชาที่หวังดีคนนึงจะทำได้  เจนรักษ์เมามาก และไม่อาจจะแยกแยะว่าทำอะไรอยู่ หากแต่เขาเป็นคนเดียวที่ได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พรุ่งนี้นักรบจะทำหน้าเช่นไร และเจนรักษ์ที่ได้รู้ว่าใช้เวลาอยู่กับเขาทั้งคืนจะมีสีหน้าแบบไหนก็สุดแท้ แต่เราไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราปัญหาตรงนี้ ก็ควรแก้ตอนนี้ และเขายังคงลูบหลังอีกฝ่ายเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นมา แม้มันอาจจะไร้ประโยชน์ก็ตาม


“เจนก็อยากมีความรัก อยากจะถูกรักเหมือนกันนะ ฮึก”


“คนรักนายเยอะแยะไปไม่ใช่เหรอ”  คนในครอบครัวเขาก็รัก แม่และน้องชายของเจนก็แสดงออกว่าแคร์เด็กคนนี้มากมายเช่นกัน แล้วมีอะไรต้องกังวลอีกเล่า


“รักแต่ไม่ได้อยู่ใกล้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรเล่า เพราะเจนไม่เคยรู้หรอก ไม่เคยรู้เลย แม่อาจจะรักคุณรบมากกว่าเจนก็ได้ ก็เขาเลี้ยงมา”  นี่ไง พาลแล้วเห็นไหม ให้ตายเหอะ นี่เขาเผลอยิ้มออกมาตอนฟังคำประชดประชันของคนเศร้าได้อย่างไร


“แม่นายไม่มีวันรักคนอื่นได้มากกว่าหรอก”


สิ้นคำปลอบโยนของเขา เจนก็ปล่อยโฮอย่างหนักออกมาอีกระลอก นักรบรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก เจนน่าสงสาร หากแต่ก็ดูน่าเอ็นดูขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขารู้สึกพิเศษที่ได้ยินเรื่องราวความลับเหล่านี้ที่ออกจากปาก หากเจนไม่เมา เจ้าตัวก็คงไม่เล่าให้ใครฟังแม้แต่แม่ของตนเอง ความน้อยใจเหล่านี้ถูกกลบจนมิดด้วยความเก่งกาจที่เจ้าตัวพยายามแสดงให้คนอื่นเห็น แต่เจนที่เก่งตลอดเวลาไม่มีอยู่จริง เจนอาจจะเก่งในสายตาของทุกคน แต่เจนไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักความอ่อนแอ


และเขาดีใจที่เจนแสดงออกมาให้เขาเห็นในตอนนี้อย่างที่ไม่รู้ว่าทำไม


“แล้วน้องวินล่ะจะรักเจนไหม”


“รักสิ”


“ถ้าวันนึงเจนไม่อยู่ด้วยแล้วนะเหรอ”  คำพูดของคนที่ยังคงร้องโวยวายทำให้มือที่ลูบหลังให้อยู่หยุดชะงัก


เจน….จะไปไหนเหรอ…..


“มันดีแล้วที่เจนไม่รักใครเลย ดีแล้วจริงๆ”


ไม่มีรัก ย่อมไม่มีทุกข์ สัจจะธรรมข้อนี้ที่นักรบเคยประสบนั้นก็ทราบดีอยู่
แต่ไม่พอใจทีได้ฟังจากปากอีกคนเอาเสียเลย


“ถ้าเจนรักวิลเลี่ยม ป่านนี้เจนไม่มีวันเลิกกับเขาหรอก”  เพราะเจนไม่เคยปักใจรักเจ้านายเก่าคนนั้นจริงๆ ตอนที่ต้องแยกทางกัน เจนจึงตัดใจได้ง่ายดายนัก หลังจากลองรักๆเลิกๆมาหลายครั้ง เจนก็มีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และในตอนนี้


หัวใจเจนก็เย็นชาได้ถึงระดับนั้นแล้ว


“แต่เจนจะไม่รักน้องวินได้จริงๆเหรอ”


ไม่….น้องวินบริสุทธิ์และมีความจริงใจให้กัน….เจนห้ามใจไม่ไหวหรอก


“เจนรักและเอ็นดูเจ้ากบน้อยจริงๆซะแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงนะ”  มีอะไรอีกเหรอที่เขาไม่จะต้องห่วง นักรบไม่แน่ใจเลยจริงๆว่ามันเป็นเรื่องที่น่าฟัง


“……….”  แต่ถึงเขาไม่ฟัง เจ้าตัวก็จะพูดออกมาอยู่ดีใช่ไหม  คนตัวเล็กผละออกมา ขยี้ตาที่ใกล้จะปิดลงของตน แต่ก็ฝืนไม่ค่อยไหวนัก


“เจนง่วงแล้ว วันนี้ฝันร้ายจัง”  เจ้านกฮูกบ้าบอ ใครกันที่ฝันอยู่แล้วง่วงได้อย่างเจ้าบ้าง


“งั้นก็นอนเถอะ”  อะไรที่ไม่ดีก็อย่าพูดออกมาอีกเลย เพราะวันนี้เขารับฟังมาเยอะแล้วทั้งเรื่องเศร้าๆและเรื่องน่ารักๆ


เขาไม่อยากฟังคำพูดที่ค้างคาอยู่นั่นของเจนแล้วล่ะ


“อืม เจนนอนก่อนนะจุ้น ฝันดี”  คนที่ผละออกมาจากอ้อมกอดนนั้นช้อนตามองกัน แพขนตาน่ารักที่มีหยดน้ำเกาะยิ่งทำให้ดวงตาของเจนแลดูน่ารักขึ้นมา มือเล็กลูบหัวของเขาเบาๆ ดวงตาหรี่ปิด วันนี้ถ่านหมดแล้วจริงๆ แต่ก่อนจะนอน เจนจะขอมอบรางวัลให้ผู้รับฟังที่ดี


จุ๊บ!


“ฝันดีนะครับคุณรบ”


“…………..”  เจนประทับริมฝีปากของตนกับแก้มของเขาเบาๆ ฉับพลันริ้วสีแดงก็ขึ้นพาดแก้มของเขาทั้งสองข้าง ใจของนักรบเหมือนจะลอยหลุดออกไป


ทว่า….


“เจนไม่รักคุณรบหรอก ไม่ต้องห่วงนะ” 


มันมีอะไรที่ต้องห่วงล่ะ


“……………..”


“เจนต้องกลับไปรักตัวเองแล้วล่ะ”  และอะไรที่ไม่จำเป็นและมีแนวโน้มจะเป็นเนื้อร้ายก็ต้องตัดทิ้ง


เขามองดูเจนที่เช็ดน้ำตาให้ตัวเอง ในเมื่อเลือกที่จะเจ็บเองก็ต้องรักษาตัวเองให้เป็น เด็กคนนี้ยิ้มให้เขา มันเป็นรอยยิ้มที่เศร้าจนเขารู้สึกก่ำกึ่งระหว่างความสงสารในตัวเองหรืออีกฝ่าย ร่างเล็กค่อยๆทิ้งตัวลงนอน ยังคงมองกันด้วยดวงตาใสแจ๋วแม้จะบอกว่าง่วงนอนแล้ว นักรบถอนหายใจ เขาลุกขึ้น ห่มผ้าให้ก่อนจะบอกลาด้วยการปิดไฟและออกจากห้อง เจนนั้นเลือกใช้วิธีที่ชาญฉลาดกับตัวเอง สมกับที่เป็นผู้มีประสบการณ์ความผิดหวังมาอย่างโชกโชน


แต่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง บีบรัด
และปวดหน่วงทรมานได้อย่างที่ไม่เคยเป็นเช่นกัน!


xxx

.
.
.
.


ภาพตัดอีกแล้ว….


“อื้ออออออออ”  เมื่อวานกินไปกี่แก้วนะ ทำไมเจนจำอะไรไม่ได้เลย


ผ้าห่มนุ่มจัง นี่คือสิ่งที่เจนคิดออกเป็นอย่างแรก สภาพของตนนั้นยังเหมือนเมื่อวานหลังอาบน้ำก่อนไปกินเหล้า แต่หน้าคงบวมฉึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ดวงตาโตนั้นเหม่อลอยหาจุดโฟกัสไม่ได้ เจนหาวออกมาก่อนจะซุกใบหน้าลงกับหมอนนุ่ม ปวดหัวไปจนทำอะไรไม่ได้เลยนอนนิ่งๆ เมื่อวานตัวจุ้นมอมมายกันหนักมาก เผื่อๆเจนอาจจะร้องไห้ออกมาด้วย เพราะตอนเครียดๆตนนั้นเก็บนั่นนี่ไม่ค่อยได้ระบายอะไรออกไปในชีวิตจริงหรอก พอเมาแล้วยั้งไม่เคยอยู่เลย ก็อย่างว่า


เมาแล้วควบคุมตัวเองไม่เคยได้จริงๆ


“หืม”  คิ้วสวยขมวดมุ่น เจนว่าอะไรมันแปลกๆอยู่


เมื่อวานห้องที่เลือกอยู่กับตัวจุ้น มันเป็นห้องเตียงคู่นี่ แล้วทำไมที่เจนนอนมันเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่แทนล่ะ การตกแต่งแม้ดูสวยมีสไตล์ แต่มันก็ไม่ได้คล้ายกับโรงแรมที่ตนเคยเห็นเลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกระแวงแล่นขึ้นมา ความกลัวเริ่มจับใจ ตัวจุ้นไปไหน แล้วทำไมเจนถึงมาอยู่ที่นี่ สำรวจตัวเองดูก็ไม่เห็นบาดแผลหรือว่าร่องรอยว่าถูกกระทำอะไรแปลกๆ ความรู้สึกกลัวจึงตกไปอยู่ในเรื่องความปลอดภัยของน้องชาย


“ไม่เอานะตัวจุ้น”  เจนนั้นพยายามที่จะลุกขึ้น แต่อย่างที่คิดไว้ว่าคงจะปวดหัวมาก คนตัวเล็กนั้นเมื่อปรับสภาพจูนทุกอย่างได้พอประมาณก็รีบเดินไปที่ประตูห้อง เปิดมันออกมาและก็พบว่าที่นี่ไม่น่าจะใช่โรงแรมหรอก


มันเหมือนคอนโดของใครสักคนมากกว่า….


แล้วเจนมาที่นี่ได้ไง เหมือนเดิม ไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องใดๆกับห้องๆนี้ คนตัวเล็กนั้นมองไปที่ประตู ก่อนจะมองไปที่หน้าต่าง ลักษณะที่เห็นคาดว่าน่าจะสูงพอสมควรไม่ควรผลีผลาม แต่ประตูก็อยู่ไม่ใกล้เท่าไหร่ หากโดนตะครุบตัวทันก็คงหนีไม่ได้ง่าย แล้วตัวจุ้นล่ะ อยู่ที่นี่ด้วยไหม ตอนนี้เจนตลกไม่ค่อยออก แม้ว่าตนจะไม่ได้ถูกมัดหรือทำร้ายอะไร แต่ก็บอกไม่ได้ว่ามันปลอดภัย 100% นี่


“คุณรบ”  แต่ไม่นานหลังจากมองไปรอบๆ เจนก็ค้นพบแล้วว่าใครกันที่เป็นคนพามา


ร่างสูงของเขาที่นอนบนโซฟานั้นดูไม่ค่อยสบายนัก เขาอยู่ในชุดอยู่บ้าน แต่เห็นได้ชัดว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขาที่เจนอาศัยอยู่ด้วย เจนอยากจะตามหาตัวจุ้นใจจะขาด แต่มือถือของตนก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน อาจจะลืมไว้ที่ห้องก่อนลงไปกินเหล้า เพราะเจนน่าจะรู้ตัวว่าคงจะเมาเลยไม่ได้เอาลงไปแต่แรก แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน ตัวจุ้นอยู่ที่ไหน แล้วทำไมเจนถึงมาอยู่กับคุณรบได้ล่ะ


“จะไปไหน”  น้ำเสียงเรียบนิ่งดังออกมาจากริมฝีปากของคนที่เจนเคยคิดว่าเขาคงนอนอยู่ แต่ไม่เลย นักรบไม่ได้หลับ เขาตื่นมาตั้งแต่ก่อนจะได้ยินเสียงประตูที่เจนเปิดออกมาเสียอีก และจะว่าไปเขานอนไม่หลับนักเพราะที่นอนมันไม่ได้นอนสบายขนาดนั้น และเหนือสิ่งอื่นใด…..คนที่ยืนอยู่ในห้องนี้อีกคนก็เหมือนจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นอนไม่ค่อยหลับเช่นกัน


“…………….”   


“……………..”


ในตอนนี้เจนคิดไปไกลเสียแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องตัวจุ้นไปอยู่ไหน ทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ ทว่าคู่กรณีที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขามาเจอกันได้อย่างไร เจอกันแบบไหน แล้วเจนทำอะไรลงไปบ้าง! แม้ว่าเจนรักษ์จะเคยเมามาย ก่อความวุ่นวายน่าปวดหัวมาเยอะแยะ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะรู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ ความไม่รู้ทำให้คิดไปมากมาย จนยากจะกู่กลับ และคุณนักรบ ก็ยังเอาแต่นั่งจ้องหน้ากันแบบนั้น อย่างไร้ซึ่งคำพูดใดๆ มันก็เหมือนที่เขาเป็นทุกทีนั่นแหละ เย็นชาแบบที่เขาเป็น แต่เพราะเจนเริ่มรู้สึกดีๆกับเขาแล้ว


เลยรู้สึกแย่ไปเองกว่าที่เป็น…..


“ผม….ผมกลับบ้านได้ไหม”


“ไม่ได้”


นั่นหมายความว่ายังไง


“…………”


หมายความว่าเจนจะกลับบ้านหลังนั้นไม่ได้อีกหรือเปล่า


“เดี๋ยวผมมา แปรงสีฟันสำรองอยู่ในห้องน้ำ จัดการตัวเองอยู่ที่นี่”


และเขาก็ลุกและออกจากห้องไปเลยทั้งอย่างนั้น…..


เจนไม่อยากยอมรับ ว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นบีบหัวใจตนจนเจ็บไปหมด ไม่มีที่คุณรบจะมองตา เขาลุก เดินผ่านกันไปก็ไม่แม้แต่จะมอง เสียงปิดประตูของเขาทำให้เจนนึกประหลาดใจที่ตนยังสามารถยืนได้อยู่ แต่ก็รู้ตัวว่าไร้แรงกายเต็มที หัวใจของเจนเหมือนไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไปเพราะมันไม่สามารถควบคุมได้ และเจนก็ไม่ชอบภาวะแบบนี้เลย ที่หัวใจไม่รักดีทิ้งตัวลงจากที่สูงกระทันหันแบบนี้


“……………”  ก้อนสะอื้นเหมือนจุกอยู่ที่ลำคอ เมื่อวานเจนคงร้องไปมากมายเพราะวันนี้ไม่มีน้ำตาไหลอีกต่อไป ไหนเจนบอกว่ามันยังทันอยู่ไง แต่ทำไมความรู้สึกของเจนตอนนี้ มันแย่เหลือเกิน


ดวงตากลมโตนั้นมองไปที่ประตูห้องซึ่งมันถูกปิดลงแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าหัวใจตัวเองยังเปิดรับอะไรได้อยู่ เจนรู้ได้ไงนะเหรอ เจนไม่ได้ซื่อบื้อนะ ก็มันเจ็บซะขนาดนี้จะมาพูดว่าไม่รู้สึกอะไร มันก็ไม่ใช่อยู่แล้วไหม แต่เจนยังรู้สึกอะไรได้อีก ทั้งๆที่ป้องกันตัวเองอย่างดี แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่อะไรที่ห้ามปรามได้เลยใช่ไหม ใช่…..มันไม่ง่ายเลย ในเมื่อคุณรบที่เจนเห็น เขาดีเสียขนาดนั้น แม้ในสายตาของคุณรดา หรือของใครเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดี แต่สำหรับเจน เขาเพียงพอ……


หรืออาจจะเกินเอื้อมถึงด้วยซ้ำ


xxx


นักรบรู้ดีว่าเจนไม่ได้เกลียดกัน….เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดเช่นนั้นด้วยซ้ำ


แต่เมื่อได้เห็นหน้าก็รู้ดีว่ายังไม่สามารถเผชิญหน้าได้ เขาเลยยังเลี่ยงอยู่จนถึงตอนนี้ นักรบออกมาจากห้อง เขาไม่สามารถทนแววตาของเจนรักษ์ที่มองมาได้เพราะมันเต็มไปด้วยความผิดหวัง ตัวเขาเองก็เหมือนจะผิดหวังเช่นกันเพราะเรื่องเมื่อวาน ทั้งๆที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะละเอียดอ่อนแบบนั้น แต่เจนรักษ์ก็ได้พิสูจน์ให้เขาได้ทราบแล้วว่านักรบก็เป็นอีกคนที่มีหัวใจ เฉกเช่นคนทั่วไป ไม่ได้พิเศษไปกว่าใครเลย


เด็กคนนั้นขอกลับบ้าน แต่เขาห้ามไว้ เรายังไม่ได้คุยกัน แต่นักรบไม่คิดเหรอว่าเมื่อวานเราคุยกันพอแล้ว เจนรักษ์คงไม่มีอะไรจะคุยกับเขาอีก ถ้าอีกฝ่ายจะมีมันก็คงไม่พ้นคำแก้ตัว แต่นักรบไม่คิดว่าเจนจะเป็นคนแบบนั้น ถ้าอีกฝ่ายมีเรื่องจะคุย มันก็คงเป็นการเปิดอกคุยกันมากกว่า เขาเคยระแวงอีกฝ่ายมาตลอดว่าจะคิดไม่ซื่อ แต่เจนชัดเจนมาตลอด แม้ในสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจจะเป็นเช่นไร แต่ความประสงค์เดิม ก็จะไม่มีวันลบล้างได้ เจนบอกแล้วว่าไม่อยากมีเรื่องชู้สาวเกิดขึ้นกับเขา และไม่ว่ามันจะเพราะประสบการณ์เลวร้ายกับนายเก่าหรือเพราะความเป็นมืออาชีพอะไร ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเจนเองก็ไม่อาจต้านทานลิขิตสวรรค์ได้  ความหวั่นไหว หรือเรื่องของหัวใจมันห้ามยาก


แต่ห้ามตัวเองไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้


ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ…..ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่เขาต้องการ คนแบบนี้แหละที่ทำงานให้เขาได้ดี เจนรักษ์สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างทั้งฝีมือและการจัดการทางด้านความรู้สึก นักรบคิดเช่นนั้น เขาออกไปซื้ออะไรขึ้นมาเพื่อเผื่อให้อีกฝ่าย ตั้งใจว่าจะกลับไปพูดคุยนิดหน่อยแล้วพากลับบ้าน และถ้าเจนเมาหนักจนจำไม่ได้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เขาก็ไม่คิดจะรื้อฟื้น แม้มันจะเป็นไปไม่ได้ ที่เขาจะลืมก็ตาม แต่นักรบไม่ได้มีความคิดที่จะเสียเจนรักษ์ไป อย่างไรซะเขาก็เป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้แหละ และเขาจดจำทุกคำที่อีกฝ่ายเคยบอกไว้ขึ้นใจเหมือนกัน ว่าจะไม่ไปไหน จนกว่าจะช่วยหาคนดีๆมาอยู่กับน้องวินได้


และถ้าคนที่หามาดีไม่พอเท่าที่เจนเป็น!
เขาจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เจนรักษ์ไปจากบ้านของเขาได้เช่นกัน!








Talk: ระยะทางสำหรับเรื่องนี้ยังยาวไกล ปมก็มีมากมายที่ยังไม่ได้เคลียร์ ล้องห้ายให้ตัวเองกับเจนและขาอ่อนของเขา

มีนักอ่านท่านนึงคอมเมนท์เรื่องของที่ว่าทำไมตัวร้าย(คิดว่าคุณรัชนีนุชกับรฐา) ถึงคิดกับเจนแต่แรกว่าจะมาจับคุณรบ อันนี้เราจะไม่บอก หุหุ จริงๆแล้วบอกไม่ได้ค่ะ มันจะเฉลยในอนาคตแต่ถ้าใครมีอะไรตรงไหนสงสัยอย่าเก็บไว้นะคะ เพราะหวานเย็นซะเหลือเกิน เราอาจจะมีหลงๆลืมๆบ้างเพราะนี่มันก็สามสิบกว่าตอนแย้ววววว สงสัยตรงไหนมาบอกกันนะคะ เราจะเอาไปพัฒนาการเขียนให้เรื่องนี้ยิ่งดีขึ้นๆไปค่ะ  ขอบคุณเรื่องความเห็นมากนะคะ

ข่าวร้าย เจนจะไม่จบใน 40 ตอน เพราะหวานเย็นกันมานาน รบเจนควรจริงจังสักทีไม่ใช่กิงก่องแก้วต่อไปแบบที่ผ่านมานี้5555 ต่อจากนี้จะจริงจังแล้วค่ะ ขอเวลาอีกไม่นานเราจะทำตามสัญญา /ตะเบ๊ะ  เจนมีแนวโน้มจะมี 45 ตอนค่ะอัพเดทกันแบบจัยๆ ส่วนเรื่องอื่นๆที่จะตามมาเช่นเพชรพระพายนี่กี่ตอนไม่รู้ เคลจุ้นก็ไม่รู้ (ทุกวันนี้พี่เขายังออกมาแค่ชื่อ) และจะมีตอนพิเศษไหม ม่ายรู้555 แต่ต้องมีเพราะบอกสำนักพิมพ์แล้วว่าต้องมี!

มีบางคนถามเรื่องอาทิตย์ศศิ ซึ่งตอนนี้ปิดไม่ให้อ่านแล้ว เราขอโทษนะคะที่ไม่ได้ต่อเลย ทำไปทำมาเล่นพลอตใหญ่มากและโดนความเจนล้างสมองทำให้กลับไปแต่งแนวนั้นไม่ออกเลย คงต้องเคลียร์กันเป็นเรื่องๆ ดังนั้นเมื่อจัดการทั้งหมดข้างบนเสร็จแล้ว เราอาจจะยกแผงรีไรท์เพราะยอมรับว่าที่ทำลงไปนี่ไม่พอใจเท่าไหร่ อยากแก้ไขขอโอกาสได้ไหม5555

ขอบคุณทุกคอมเมนท์ที่ทำให้น้องเจนมาถึงวันนี้ได้ ฝาก #เจนไม่นก ด้วยนะคะ
Twitter @reallyuri






หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-08-2018 11:02:13
คุณรบนี่ซื่อบื้อกว่าที่คิดนะ แต่ดีแล้วที่จะไม่ยอมปล่อยเจน ลองปล่อยสิ เจ้าลูกกบคงอาละวาดแน่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 04-08-2018 11:05:13
สารภาพหมดเปลือกแล้วเจนรักษ์ นี่คือรักลูกหรือรักพ่อว่าซิ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 04-08-2018 11:19:56
ปากบอกไม่รักเขา แต่พอเขาจะไปก็จะยื้อทุกวิถีทางนี่นะคุณรบ? มีความย้อนแย้งในตัวสูงสลัด!!
กรรมของเจนที่มี(ว่าที่)ปั๋วแบบนี้ :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 04-08-2018 11:56:49
เฮ้อ.... รอดูกันต่อไปจ้า
 :3123:  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 04-08-2018 13:14:45
ทำไมคุณรบทำกะนุ้งเจนแบบนี้วววววว
 :katai4:  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-08-2018 13:33:18
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 04-08-2018 13:42:55
ถ้าห้ามตัวเองไม่ให้รักได้ คงไม่มีใครอกหัก สู้ๆนะเจน เรือเจนรบต้องไม่ล่ม5555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-08-2018 13:45:14
สายมโนมาเจออะไรจะเกิดขึ้น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-08-2018 14:01:20
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-08-2018 14:05:42
คุณรบกับเจนเข้าใจกันไปคนละทางแล้ว
ตีคุณรบสักทีได้ไหมเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 04-08-2018 18:19:19
ไม่มีใครดีเท่าเจนแล้วค่ะคุณรบ เราฟันธงงงง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-08-2018 20:49:02
ตอนนี้คือมาม่าสุดดดด เจนร้องไห้น่าสงสารอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2018 21:20:23
ลุ้น    :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-08-2018 21:31:30
หลังจากที่ฟีลกู๊ดดูเจนดี๊ด๊ามาหลายตอน หลังจสกนี้ก็จะเริ่มหนักหน่วงจริงจังแล้วใช่มั้ยคะ หวังแค่ว่าคงไม่ดราม่าเพราะเจนไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 04-08-2018 22:20:45
เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีคุณรบคนซึน
เจนเสียน้ำตาเป็นปี๊บๆ หน้าตาบวมฉึ่งขนาดนี้ ยังทำร้ายจิตใจกันได้ลง
ใจร้ายมากกกกกก
ลงเรือรบเจนแต่ขอนั่งฝั่งน้องจุ้นนะ
คนแบบคุณรบมันต้องเจอลูกเรือฮาร์ดคอร์แบบนี้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-08-2018 00:32:16
 :เฮ้อ:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: AmPnie ที่ 05-08-2018 00:52:05
คุณรบนี่จะซึนให้ได้ใช่ปะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 31] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.8.2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 05-08-2018 01:29:43
 :serius2: :call: :hao7:
หัวข้อ: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 05-08-2018 18:35:24
#เจนไม่นก
เจนกับการขอความรัก


มันเหมือนช่วงเวลาที่เจนถูกแม่จับได้ว่าทำผิด
แต่เจนไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป


อาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่เรียกว่าดีนัก เจนกำลังกระวนกระวายและทำตัวไม่ถูกในห้องชุดของคอนโดที่ไม่แม้แต่จะเคยเหยียบย่างมาก่อน แต่ห้องนี้ดูเข้ากับคุณรบอย่างประหลาด บางทีนี่อาจจะเป็นหลุมหลบภัยอีกแห่งที่เขาน่าจะเป็นคนพาเจนมา แต่เราไปเจอกันที่ไหน เจอกันยังไง แล้วมันเกิดอะไรบ้าง คนมีชนักติดหลังแทบนั่งไม่ติดที่ ถ้าเป็นไปได้ เจนก็อยากจะหนีไปให้ไกล ถ้าหากคู่กรณีไม่ใช่คุณรบ เจนก็คงไม่อยู่แล้ว ไม่สิ ถ้าเป็นคนอื่น เจนอาจจะไม่หนี


แต่เพราะเป็นคุณรบ เจนต้องอยู่เจอแม้จะไม่อยากก็ตาม


เจนไม่อาจจะตัดสัมพันธ์กับบ้านรัตนสกุลได้ และจำเป็นต้องมีสติรับฟังเรื่องราวที่กำลังจะได้ยิน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาจะพูดหรือไม่ ในตอนนี้ที่ทำได้อย่างเดียวคือรอ เวลาแต่ละวินาทีแลดูช้ากว่าทุกครั้ง เหงื่อกาฬก็พาลจะแตกพลั่ก เจนอาจจะสร่างเมาแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลย เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และมันเกี่ยวกับท่าทีเย็นชาเมื่อครู่นี้ไหม


และเขายังจะให้เจนกลับบ้านไปกับเขาอยู่หรือเปล่า


ยิ่งคิด ก็ยิ่งไม่เข้าใจ และยิ่งหาทางออกให้กับปัญหาที่ตนกำลังเผชิญอยู่นี้ไม่เจอ เจนจะไปแน่นอน แต่ในตอนนี้ตนไม่พร้อมเลยจริงๆ ไม่ใช่ว่าลำบากอะไร แต่ความผูกพันมันไม่ได้ตัดขาดกันง่าย ในตอนนี้เจนรักษ์คิดไปไกลจนไม่รู้ประเด็นหลักของปัญหาที่ตนคิดอยู่แล้ว หากคุณรบยังมาช้ากว่านี้ เกรงว่าคงมีคนๆนึง ต้องอกแตกตายเป็นแน่


และแล้วประตูก็ได้เปิดออก…..


“………”


“………”


“ซื้อข้าวมาให้” 


“เอ่อ….”


“……….”


“ขอบคุณคุณรบมากครับ”  มีเป็นหมื่นล้านคำในหัวใจ


แต่ไม่มีอะไรได้ถูกถ่ายทอดออกมา….


เจนนั้นเดินไปช่วยเขาในการจัดอาหารใส่จาน แต่เราก็ยังคงเงียบงันอยู่อย่างนั้น อาหารมื้อนี้เหมือนไร้รสชาติ แต่เจนก็ยังฝืนตักโจ๊กเข้าปากเพราะทุกครั้งที่เงยหน้ามาก็ได้เห็นว่าเขามองอยู่ ความเงียบที่อึดอัดแบบนี้ มันทำให้เหนื่อยเหลือเกิน ในที่สุดเจนก็วางช้อน ไม่สามารถทานได้อีกต่อไป ความอยากอาหารที่ไม่มีตั้งแต่ต้น ฝืนเท่าไหร่มันก็ไม่มีขึ้นมาหรอก


“อิ่มแล้วเหรอ”


“ขอโทษครับ”


“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก”


“คุณรบเห็นตัวจุ้นไหม”


“จุ้น?”


“น้องชายผมนะครับ”


“อ๋อ เขาคงกลับไปที่พักของเขาเอง ไม่ต้องห่วงนะ”


“งั้นเหรอครับ……”


“…………..”


“แล้วทำไมเจนถึงได้……”


“นายเมามากไง”


“อา……”


“แล้วเจนทำอะไรแปลกๆลงไปหรือเปล่า”


“…………..”


“คงทำไปเยอะมากสินะครับ”


“อืม”  เขาไม่ปฏิเสธเลย ทั้งเรื่องที่เจนทำเรื่องแปลกๆไปเมื่อวาน


และเรื่องที่เขาทำเรื่องแปลกๆไปในตอนนี้………


ทุกอย่างไม่ได้เป็นดั่งใจคนทั้งคู่ ความตั้งใจที่จะเคลียร์ปัญหาไม่ได้ทำได้โดยง่ายเลย เจนนั้นดูประหม่าและไม่กล้าที่จะเดินเข้าหา ส่วนนักรบแม้จะทำเหมือนตัวเองอยู่นิ่ง แต่จริงๆแล้วเขาก็กระวนกระวายไม่ต่างกัน และเขาก็ขี้ขลาดกว่าที่ใครคิดเพราะในยามที่เจนรักษ์เหมือนอยากจะพูด เขากลับก้มหน้าลงไปกินข้าวเสียงั้น วันนี้เราจะจัดการมันได้ไหม


“เจนยังกลับบ้านกับคุณรบได้ไหม”


“ได้สิ”


“จริงเหรอครับ”


“อืม”


“งั้นเจนขอกลับเลยได้ไหม”


“เดี๋ยวผมไปส่ง”


“ครับ”


“แต่ไม่ใช่ตอนนี้”  เขาคงทำอะไรให้ดีในวินาทีนี้หรือตอนนี้ไม่ได้ แต่นักรบสามารถยืดเวลาให้กับตัวเขาเองได้ เมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นคนขี้ขลาดไปเสียแล้ว และเมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นคนที่เข้าประเด็นที่ต้องการไม่ได้ นักรบยังคงถ่วงเวลาด้วยการกินข้าวทีละคำอย่างเชื่องช้า ยื้อเวลาและความอึดอัดให้ดำเนินต่อไป ราวกับไม่สนใจอีกคนที่ใกล้จะอกแตกตาย เขาไม่เห็นหรอกเหรอ


ว่าเจนนั้นจวนเจียนจะร้องไห้ออกมาแล้ว……


ไม่หรอก….เขาเห็น แต่ก็ทำอะไรไม่ค่อยถูกเหมือนกัน นักรบก็ยังคงเป็นคนที่รับมือได้ยาก และรับมือกับคนนี้ยากเหมือนเดิม เขามีความตั้งใจอยู่เต็มเปี่ยม หากแต่ไม่สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ จะว่าเป็นเพราะความกลัวหรือไรกันนะ น่าแปลกใจที่เขาก็มีมันเหมือนกัน แต่เพราะว่ามีนั่นแหละ จึงทำให้นักรบไม่มีซึ่งความกล้าที่จะจัดการออกมา


หากจะถามว่าใครที่แย่นั่นคงเป็นเขาเอง


“พักผ่อนก่อนเถอะนะ กลับไปแบบที่หน้าบวมๆตาบวมๆแบบนี้ได้ที่ไหนกัน”  ในที่สุดก็หลุดออกมาประโยคนึงจนได้ แม้จะห่างไกลจากที่ได้คาดหวังไว้ แต่นักรบก็ทำได้ดีที่สุดเท่านี้จริงๆ แต่คนฟังที่ใจนั้นแฟบเหลือนิดเดียวก็กลับกลายมาพองฟู


“มันไม่ได้บวมสักหน่อย”  แต่ก็ยังไม่ยอมรับ คนฟังที่นั่งละเลียดอาหารอยู่ถึงกลับส่ายหน้า พอเห็นฤทธิ์เดชของเจนกลับมาเขาก็เผลอหลุดยิ้มที่มุมปากให้คนที่ได้เห็นต้องใจเต้น


“วันนี้ได้ส่องกระจกหรือยัง”  เขาถาม ก่อนจะวางช้อน ฝืนกินต่อไปก็ไม่ได้อร่อยขึ้นมา ใครจะไปรู้ว่าเพียงแค่ประโยคเดียวที่ดูเหมือนจะห่วงใย มันจะสร้างสถานการณ์ให้ดีขึ้นมาได้ บางทีนักรบเพียงแค่ต้องลองอะไรใหม่ๆหลายๆแบบ แบบที่เขาไม่เคยเป็น และแบบที่จะทำให้ใครบางคนรู้สึกดี


“ฮึ”


“เอาแต่คิดอะไรอยู่ฮึ? กลัวผมไล่ออกเหรอ”


“…….”


“ผมไม่ให้ออกง่ายๆหรอกนะ”


“แต่เจนเมา”  และพูดบ้าอะไรออกไปมากมาย เขาโอเคเหรอกับพฤติกรรมแบบนั้นของลูกจ้าง จริงๆก็ไม่โอเคหรอก


แต่เจนพิเศษน่ะ เส้นใหญ่กว่าใคร…..


“นอกจากหอมแก้มผมทีนึง ก็หลับเลย ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดมาก”  เขาละใจความสำคัญอื่นๆไป บางเรื่องเจนก็ไม่ต้องรู้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่ควรรู้และยากที่จะควบคุม นักรบตัดสินใจที่จะไม่พูด เพราะหากพูดแล้วมันยิ่งทำให้กระดาก การรั้งเจนในสถานการณ์แบบนั้นอาจจะยาก ที่เจนอยู่ด้วยทุกวันนี้เพราะใจ ไม่ใช่เงินตรา อะไรที่เกินจำเป็น เขาก็ไม่ควรทำ เพราะเขาไม่แน่ใจนักว่าใจของเขาจะรั้งเจนให้อยู่ได้ไหม สิ่งที่นักรบมั่นใจมาตลอดคือเงินที่เขารู้วิธีหาเท่านั้นเอง


“ผมทำอะไรนะ!”


“ตรงนี้”  เขาชี้ให้ดู ยิ่งพูด เจนยิ่งอยากจะระเบิดตู้ม


“………………”


“ผมไม่ถือสา ไม่ต้องรู้สึกผิด”  ไม่ได้รู้สึกผิด แต่กูเขินเว้ย! เจนอยากจะพูดแบบนี้แต่ทำได้แค่มองค้อนออกไป คุณนักรบแม่งกวน ถ้าตอนสมัครงานมารู้ว่าพอสนิทกันแล้วจะเป็นแบบนี้นะ


เจนจะ….เจนจะ….ก็จะสมัครอยู่ดี
แต่จะไม่แตะเหล้าไปตลอดการจ้างงาน


“อิ่มแล้ว ถ้าจะช่วยรับผิดชอบสักอย่าง ก็นี่….ล้างจาน”


“…………..”


“เสร็จแล้วก็เข้าไปนอนในห้องซะ ผมจะดูหนัง”


“เรากลับไปดูที่บ้านก็ได้นี่ครับ”


“เรา? อยากดูกับผมหรือไง”


“เปล่าครับ แต่เจนอยากกลับแล้ว”


“ขี้เกียจครับ”


“เจนขับให้”


“ไม่ไว้ใจคนเมา”


“เจนไม่เมาแล้ว!”


“อย่าขึ้นเสียง บอกให้ไปนอน”


“……….”


“ถ้าไม่ไปนอนในห้องจะให้มานอนตรงโซฟานี่ก็ได้ แต่ผมจะดูหนัง”  เอาสิ พอหายสลด ก็กลับมาเป็นนักรบผู้เผด็จการ



เจนต้องยอมจำนนอย่างจำใจ ในที่สุดก็ยอมลุกไปเก็บชามไปล้าง และเดินไปเข้าห้องนอนโดยไม่ได้เห็นว่าใครบางคนนั้นมีรอยยิ้มกว้างขวางนัก นักรบทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟา เขาเปิดหนังขึ้นมาดู ปล่อยเวลาไปกับเรื่องไร้สาระแบบที่ไม่ค่อยจะเป็น อาจจะเพราะตัวไร้สาระวันนี้มานอนอยู่ที่ห้องนอนของเขาก็เป็นได้ เจนเองก็หยุดโวยวาย เป็นเด็กที่ว่าง่ายจนที่เคยกังวลนั้นดูไร้ค่าไปเลย นึกขึ้นแล้วก็ตลกตัวเองจริงๆ


แต่มันดีแล้วเหรอที่ทำเช่นนี้…..


ไม่มีอะไรดีทั้งนั้นแหละ แต่เขาเชื่อว่าแบบนี้มันดีที่สุดแล้ว นักรบอาจจะต้องแบกรับความรู้สึกของเจนรักษ์ไว้โดยที่อีกฝ่ายไม่มีทางได้รู้ แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาอะไร เขาสามารถรับมันได้ ไม่ใช่แค่เจนรักษ์ จะกับใครก็ตามเขาก็รับได้โดยที่ไม่มีรังเกียจรังงอน ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่สร้างปัญหา เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือไง และเขามั่นใจอย่างมากด้วยว่าเจนจะไม่สร้างความวุ่นวายอะไร แต่ที่เขาคิดน้อยไป มันคงเป็นในส่วนของปัญหาทางจิตใจที่เขาปล่อยทิ้งไว้ให้มันค้างคา ถ้าเจนรักเขา และเขาละรู้สึกอย่างไรกับเจน


นักรบก็รู้ดีนี่ว่าการเล่นกับหัวใจของคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องดีเลย


เขารู้ และเข้าใจดี เพราะครั้งหนึ่งก็เคยเป็นเหยื่อมาก่อนเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้รู้สึกกับเจนรักษ์ แบบที่รดาเคยรู้สึกกับเขา แม้ไม่อาจจะพูดว่ารักใคร่ได้เต็มปาก แต่ก็เรียกได้ว่ารู้สึกดีที่มีอีกฝ่ายใกล้ชิด รู้สึกสบายใจที่มีอีกฝ่ายอยู่ไม่ไกล แต่ความรู้สึกจะตีความว่ารักมันก็ยังเร็วไป ประสบการณ์สอนให้เขาใช้สมองให้มากกว่าหัวใจ และเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมามันก็เลวร้ายมากมาย จะให้เขาตกหลุกรักใครสักคนง่ายๆ มันคงไม่มีทางเกิดขึ้น เขายังไม่แน่ใจเลยว่าเลิกรู้สึกผิดกับเรื่องนั้นหรือยัง จึงไม่อยากสร้างเรื่องใหม่ๆให้รู้สึกแย่ซ้ำๆ แต่การทำตัวกลางๆแบบนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ แล้วนักรบควรจะทำอย่างไร


นักรบมองไปที่ประตูห้อง ทีวีที่เปิดทิ้งไว้นั้นเหมือนจะแค่ทำหน้าที่ของมัน แต่เขาไม่ได้ชายตาแล โดยไม่รู้ตัว เขาแคร์อีกฝ่ายกว่าที่คิด หากนักรบยังเป็นแบบนี้ เจนรักษ์จะโอเคหรือไม่ อีกฝ่ายก็เป็นคนมีความรู้สึกเหมือนกัน แต่เรื่องที่เจนพูดออกมาเมื่อวาน ก็ทำให้เขารู้ได้ว่าเจนนั้นก็พยายามจะไม่รักใคร เราสองคนต่างก็มีแผลที่คล้ายแต่ไม่เหมือน และคนแบบเราสองคนนะเหรอ….ที่จะทำให้อีกฝ่ายว้าวุ่นใจ และผิดหวังได้จริงๆ


“คุณรบ”  เสียงของเจนที่ดังขึ้นทำให้นักรบสะดุ้ง เขาไม่ได้ดูหนังแต่กำลังใช้ความคิดอย่างอื่นอยู่


“ตื่นแล้วเหรอ”  พอหันไปมองนาฬิกา เขาก็ค้นพบว่ามันแค่ 20 กว่านาทีเท่านั้น


“ผมนอนไม่หลับครับ”


“…………….”


“เมื่อวานผม….ได้พูดอะไรกับคุณรบบ้างไหม”


“พูดมากเชียวล่ะ”


“ง่า…..คือเจนเป็นคนเมาแล้วพูดมาก”   ไม่เมาก็พูดมาก แต่ไม่ค่อยพูดกับเขา


“อืม”


“แล้วก็ชอบพูดเรื่องที่ไม่น่าพูดด้วย”  คงจะออกมาคุยเรื่องนั้นสินะ


“ก็ไม่ได้อะไรนี่”  แต่เขาก็ยังทู่ซี้ต่อไป นักรบกำลังพยายามช่วยนายอยู่นะเจน ให้ความร่วมมือกันหน่อยสิ


“เมื่อวานเจนได้พูดอะไรแปลกๆกับคุณรบไปหรือเปล่า”


“ผมจำไม่ได้” 


“……………”


“มันก็ไม่ได้มีอะไรหรอกนะ”  นักรบนั้นปรับท่านั่งของเขาให้ดีขึ้น จ้องมองอีกฝ่ายที่ยืนเก้ๆกังๆตรงนั้น เจนไม่ได้เดินเข้ามาใกล้ และไม่รู้ว่าเพราะคำตอบของเขาหรือเปล่าที่ทำให้เราเหมือนจะยิ่งห่างกันไปอีกไกล


“เจนคิดว่า เจนได้พูดอะไรไปเสียอีก”


“มานั่งตรงนี้สิ”  เขาเรียก ตบที่นั่งข้างๆโซฟาให้อีกฝ่ายนั่งลง


แต่เจน…..เต็มไปด้วยความลังเล


“บอกให้มานั่งไง” 


ก็ยังดื้ออยู่ดี


“จะคุยไม่ใช่เหรอ”


“……………”


“หรือไม่อยากคุยแล้ว”  น้ำเสียงที่เคยแข็งๆขู่ๆของเขานั้นอ่อนลง เมื่อเห็นเจ้าลูกนกเริ่มเข้าสู่กระบวนการหวั่นเกรงเขาจนน่ากลัวจะบินหนีไปเสียก่อน นักรบก็เรียนรู้ที่จะหลอกหล่ออีกฝ่ายด้วยวิธีอื่น


เจนรักษ์มานั่งที่ข้างๆเขาอย่างที่สั่งไว้ แต่ว่าก็เว้นระยะห่างให้กันมากพอสมควรทั้งๆที่โซฟามันไม่ได้กว้างอะไรมากมาย นักรบนั้นจ้องมองอีกฝ่ายที่ก้มหน้าไม่มองกัน คงจะคิดมากจนนอนไม่หลับสินะ เขาเองก็เครียดเหมือนกัน เครียดจนดูหนังไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว แต่เราจะมีวิธีที่คุยกันได้ดีๆและหาประโยชน์ที่ลงตัวต่อสองฝ่ายได้ไหมถ้าเขาเอ่ยปากพูดสิ่งใดไปแล้ว เหตุการณ์เมื่อวานเขาเรียนรู้ว่าเจนรักษ์เองก็เปราะบางมาก หากทำอะไรผลีผลาม เจ้านกน้อยนี่อาจจะหนีออกจากกรงไป


และกรงของเขามันไม่ได้ถูกปิดตายไว้เสียด้วย


“อย่าไปคิดให้มันมากเลย”  เขาพูดก่อน อดไม่ไหวที่จะลูบหัวทุยๆของเจ้าตัวคนที่เอาแต่ก้มหน้า


“เจนก็แค่…..” ไม่เข้าใจคุณรบ


“นอกจากพูดมากแล้วยังคิดมากอีกหรือไง หืมมมมม”  น้ำเสียงที่ดูใจดีจนเกินไปของคุณรบทำให้เจนตามไม่ทัน คนตัวเล็กหันมามองใบหน้าเขาอย่างหวาดๆ และมันทำให้นักรบได้เห็นว่าอีกฝ่ายตาแดงไปหมด ก็บอกให้ไปพักไง ตายังบวมอยู่เลย


“ก็เจนไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป”


“ไม่มีอะไรหรอก”


“เจนกลัวคุณรบโกรธ”


“ผมดูเหมือนคนที่โกรธคุณอยู่หรือเปล่าล่ะ”


“เจน…………..”


“ผมต้องโกรธคุณแน่ ถ้าคุณถือโอกาสนี้หนีไป”


“………….” 


“จะไม่มีการไล่ออกใดๆเกิดขึ้นหรอกนะ” เขาพูดอย่างชัดเจน และหัวใจของเจนก็เริ่มจะพองฟู


“จริงเหรอครับ”


“คุณอยากอยู่กับผมไหม”


“………………..”


“ถ้าใช่ ก็จะไม่มีการไล่ออกอะไรเกิดขึ้น”


“อยากอยู่ครับ”


“เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”


“ผมอยากเป็นพี่เลี้ยงของน้องวินไปอีกสักพัก”


“อืม”  แต่สักพักของแต่ละคน ก็มีคำนิยามไม่เหมือนกัน หัวใจของเขาเหมือนจะหล่นวูบลงมาเมื่อเจนรักษ์เอ่ยประโยคนั้น  ในความหมายที่ดี ก็มีอีกส่วนที่เขาคิดว่ามันช่าง….คลุมเครือไปในทางที่ไม่ค่อยดีเช่นกัน


แต่ตอนนี้เขาคงไม่ขออะไรไปมากกว่านี้ได้อีก


“อยากอยู่ก็อยู่ไปสิ”


“……….”


“อยู่เท่าที่อยากอยู่นั่นแหละ บ้านรัตนสกุลยินดีต้อนรับ”  คำพูดของเขาเรียกรอยยิ้มกว้างของเด็กที่นั่งน้ำตาคลอเมื่อครู่ เขาลูบหัวเจนเพื่อย้ำให้ทราบว่าไม่มีอะไรที่ทำให้เขาเคืองโกรธเลยแม้แต่น้อย คำพูดเมื่อคืนวานก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจแต่อย่างใด แต่จะถามว่ารู้สึกพอใจมากไหม มันก็ไม่ใช่แบบนั้น นักรบเองก็ไม่เข้าใจตัวเองและหงุดหงิดอยู่เช่นกัน ทว่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มออกมา เขาก็เหมือนจะลืมเลือนมันไปได้


“ผมถามคุณรบเรื่องนึงได้ไหม”


“ว่ามาสิ”


“คุณรบพอจะรักผม…..”


“………….”


“เอ่อไม่ใช่สิ เอ็นดูผมเหมือนพระพายได้ไหม”  เจ้าของดวงตากลมนั้นวูบไหวไปเพราะคำพูดผิดๆของตน นักรบเองก็เงียบงันไปชั่วขณะ คำถามเรื่องความรู้สึก มันไม่ใช่อะไรที่ตอบได้ง่ายๆเลย


“อิจฉาอะไรพระพายอยู่เหรอ”  แต่เขาเลือกที่จะถ่วงเวลาการตอบคำถามไปสักนิด


“เปล่าหรอกครับ ผมเข้าใจนะว่าพระพายน่ะ อยู่กับคุณหญิงมานานตั้งแต่เด็ก ทุกคนก็ย่อมเอ็นดูเป็นธรรมดา ส่วนเจนน่ะเพิ่งมา แถมยังก่อปัญหาตั้งมากมาย”


“พูดอีกก็ถูกอีก”


“คุณรบอ่ะ! ผมแค่อยากจะรู้เท่านั้นเองว่าพอจะเป็นไปได้ไหม”


“เพื่ออะไรล่ะ”


“ก็….นั่นสิ”


“ตอบตัวเองไม่ได้ซะงั้น”


“ก็เจนอ่ะ ไม่มีญาติเหลือที่ไทยแล้วนี่ครับ”


“………….”


“คือก็ไม่ได้ปีนเกลียวอยากจะขึ้นมาเป็นญาติของคุณรบหรอกนะ แต่ว่าถ้ามีคนสำคัญอยู่ที่นี่ก็ดีไม่ใช่เหรอครับ แม่เองก็อยากอยู่ที่นี่ด้วย”


“อย่างนั้นเองเหรอ”


“อืม แต่ไม่เป็นไรนะครับ ถ้าคุณรบตอบไม่ได้”


“ผมก็เอ็นดูอยู่นะ” แต่ในฐานะอะไรกันล่ะ


“จริงเหรอครับ”  แล้วเรื่องที่คุยกันเมื่อวานล่ะ เจนไม่ได้คาดหวังเลยหรือ


“อืม”  หรือนักรบควรจะทวงถาม


“ถ้างั้นขอเจนอยู่ไปอีกสักพักนะครับ”  แต่มันไม่จำเป็นหรอก


“ได้สิ”  เพราะสิ่งที่เขาต้องการทั้งหมดก็แค่ให้เจนอยู่ต่อไม่ใช่หรือไง


ในช่วงเปราะบางแบบนี้ อย่าแหวกหญ้าให้ตื่นดีกว่า……


เจนนั้นมักน้อยดีจัง….แต่จะมักมากไปทำไม ในเมื่อมีแค่นี้ก็ต้องขอแค่นี้ อีกอย่าง ความรู้สึกหวั่นไหวที่มีกับคุณรบอาจจะไม่ใช่ของแท้ก็เป็นได้ วันนึงมันคงจะจางหายไปราวกับไม่มีจริง มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกซะหน่อย อย่างไรซะเจนก็เคยมีประสบการณ์แนวๆนี้มาก่อน ความทุกข์ที่มีมาตลอดเช้าถูกกำจัดให้หายไป ตอนนี้เจนเริ่มมีความสุขขึ้นมากับการได้พูดคุยกับเขา และทุกอย่างก็มีแนวโน้มไปในทางที่ดี และแม้ที่ขอไปอาจจะดูน้อยกับความต้องการจริง แต่เจนไม่ติดใจอะไรเลย พอใจแล้วเพราะนี่ก็มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้คุณรบจะหน้านิ่ง ตอบอะไรคลุมเครือ ทว่าการตอบบ้างก็ยังดีกว่าความเงียบงัน


แต่เรายังไม่ได้กลับบ้าน อย่างน้อยก็ตอนนี้ เพราะตาของเจนยังบวมอยู่ คุณรบแนะนำให้เอาช้อนแช่เย็นมาแปะดู เพราะงั้นก็เลยเสียเวลาเอาช้อนไปแช่ และมานั่งดูหนังกับคุณรบเพราะนอนไม่หลับ ความประหม่าในตอนแรกแทบไม่มีเหลืออยู่แล้วจริงๆ แถมหนังที่เขาเลือกนี่ก็สนุกเลยทีเดียว เรานั่งเงียบๆกันไปสักพัก เจนก็เดินไปเปิดตู้เย็นเอาช้อนที่แช่ไว้ออกมา


นักรบเหลือบมองคนที่ยังเก้ๆกังๆเอาช้อนทิ่มตาตัวเอง เขาส่ายหน้าออกมา คนอายุ 27 ที่บางทีก็ดูสมวัย บางทีก็ดูอ่อนกว่าวัย  แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อที่จะอยู่ด้วย เจนรักษ์มีบุคลิกนิสัยที่ทำให้อยู่ด้วยได้นานๆอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่เคยพาใครมาที่นี่แม้แต่คุณพรรณี และยิ่งไม่เคยชอบให้ใครมาดูหนังด้วยเพราะไม่ชอบให้ใครมายุกยิกอยู่ใกล้ๆ มันทำให้ดูหนังไม่รู้เรื่อง แล้วถามว่าที่ให้มาเดินไปเดินมานี่ดูหนังรู้เรื่องเหรอ ตอบเลยว่าไม่


ก็เลยดูอีกคนเดินไปเดินมาแทน


“ทำงี้ปะครับ”  เจนเอาช้อนแปะที่ตาให้ดู เขานั้นส่ายหน้า….ของแบบนี้ต้องสอนด้วยเหรอ


“มานี่สิ”  เขาเรียก เจ้าตัวก็เดินไปหาแต่โดยดีและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ นี่ไง ขอให้เอ็นดูแบบพระพายแล้วพระพายเคยมานั่งจุ้มปุ๊กแบบนี้ข้างๆนักรบหรือไง เจนรักษ์ตีความอะไรผิดไปหรือเปล่า….


งั้นก็บ่นออกไปสิ ห้ามออกไปสิ
เจนไม่ใช่คนสอนไม่จำเสียหน่อย


“เอาหลังช้อนนี่อ่ะ วางทาบไปล่ะมั้ง”  บอกตรงๆเขาก็ไม่เคยลอง อย่างว่า….คนเรามีวิธีระบายความเครียดหลากหลายแบบ และแบบของนักรบไม่ใช่การร้องไห้ เพราะงั้นวิธีการบำบัดอาการตาบวมจึงไม่เคยอยู่ในสารานุกรมส่วนตัว


“แบบนี้สินะครับ”


“หลับตาสิ”  เจนนั้นช้อนตามองเขาที่พูดออกมา แววตามีความวาบไหวอยู่ในนั้น


“เอ่อ….”


“ไม่งั้นมันก็ทิ่มตาเอานะสิ” 


“อา…ครับ”  ถือว่ามีเหตุผล เจนจะลดอาการใจเต้นลงให้หน่อยก็ได้


เปลือกตาสีอ่อนนั้นขยับเล็กน้อยยามที่ความเย็นจากช้อนนั้นกระทบกัน เจนพยายามปั้นสีหน้าของตนให้นิ่งแม้หัวใจจะสั่นไหวและเลือดจะซูบฉีดเต็มอัตราไปที่แก้ม นักรบรับหน้าที่เป็นผู้กู้ภัยทางดวงตาให้กับคนตัวเล็กโดยที่ไม่มีใครร้องขอ และเขาก็ไม่เคยบอกว่าจะทำ ระยะห่างที่เราสองพยายามแสดงออกมาเพื่อกีดกันไม่ให้อีกฝ่ายเผลอเข้าไปเริ่มเจือจาง แต่เขาบอกไม่ได้ว่าชอบแบบนี้มากกว่าไหม ทั้งๆที่เป็นระยะอันตรายแต่เขาก็เลือกที่จะเข้าไปใกล้ชิด เจนรักษ์ที่หลับตาอยู่ไร้ซึ่งความสามารถในการป้องกันตัวเอง และเขาก็คิดว่ามันดีจังที่อีกฝ่ายจะไม่รับรู้  เขาชอบตอนนี้ที่สุด


ตอนที่เจนพูดคุยอย่างเป็นปกติ
นั่งนิ่งๆข้างๆอย่างไม่ระมัดระวังอะไร
และดวงตาที่ปิดอยู่ก็ไม่เห็นว่าตัวเขานั้นมองกันแบบไหน
แต่ความชอบของตนเอง อาจจะทำให้ตัวเขานั่นแหละที่เข้าจุดวิกฤติ


“ถือเองได้แล้ว”  นักรบบอก  เขาต้องออกห่างหน่อยล่ะ และเจนรักษ์ก็รับทราบ มือเล็กที่วางอยู่ข้างตัวเมื่อครู่ถูกยกขึ้นมา คนที่sหลับตาอยู่เหมือนจะมีอุปสรรคเพราะไม่รู้ว่าอะไรๆอยู่ตรงไหน มือเล็กจึงค่อยๆไล่หาตำแหน่งที่นักรบจับช้อนไว้ให้อยู่ ไอ้การหาช้อนน่ะมันก็ง่ายอยู่หรอก


แต่จับยังไงไม่ให้โดนมือเขานี่สิ….มันยาก


“………….”


“………..”  มือของเจนนั้นสัมผัสอยู่บนหลังมือของเขาแผ่วเบา แต่นักรบไม่ใช่พระอิฐพระปูนถึงจะไม่รู้ ใบหน้าอีกฝ่ายยังคงแต่งแต้มด้วยสีชมพูแดงแต่ใบหน้าเรียบนิ่ง เหมือนดั่งเขาที่ปฏิบัติตัวเงียบนิ่ง ไม่พูดและไม่ขยับ ทว่าหัวใจกับเริ่มปรับตัวรับภาวะที่เต้นแรงกว่าเดิม


และปล่อยให้เจนจับมือของเขาไว้แบบนั้น


“เจนขอช้อนครับ”  จนในที่สุดต้องมีคนที่ทนไม่ไหวพูดออกมา และเขาก็ค่อยๆคลายมือให้อีกคนได้ครอบครองช้อน


“จับดีๆ”  เขาสั่งทับ แต่เจนไม่ใช่เด็กอายุเท่าน้องวินที่จะบื้อทำช้อนทิ่มตาได้ทั้งๆที่หลับตาไว้ตลอดแบบนี้ คุณนักรบคงไม่รู้อะไรว่าทำไมเจนถึงไม่ยอมลืมตาแม้แต่ครั้งเดียว แต่ไม่รู้นั่นแหละดีแล้ว


ก็ที่เจนเอาแต่หลับตามันก็เป็นเพราะเขาไม่ใช่หรือไง!


“…………..”  เจนที่จับช้อนมั่นแล้ว ค่อยๆขยับไปนั่งหันหน้าไปทางทีวีแต่โดยดี อย่างนี้ไม่ไหวจริงๆ ถ้าลืมตาขึ้นมาเห็นดวงตาของคุณรบล่ะก็เจนต้องช็อคตายไปแน่ๆ แค่นี้ผิวของตัวเองก็แดงจะแย่อยู่แล้ว เพียงแค่คิดว่าคุณรบมองกันอยู่ ร่างกายของเจนล้วนพร้อมจะมีปฏิกิริยา นี่แหละที่เจนเกลียดความเป็นคนคิดเยอะของตัวเอง ถ้าคิดแล้วมันสร้างสรรค์ก็ดีอยู่หรอก แต่คิดไปคิดมา กลับเสียเปรียบเองเสียงั้น มันน่าไหมเจน!!!!


แต่แบบนี้มันดีแล้วจริงๆ มันเป็นประโยชน์แล้วจริงๆ  เจนก็ได้อยู่บ้านเขาต่ออย่างที่เราทั้งสองต้องการ ส่วนในความรู้สึกมันก็มีบ้างที่ไม่ค่อยสบายใจ แค่ได้เห็นว่าเจนยังหวั่นไหวต่อหน้าบ้าง แม้จะหน้าห่วง แต่นักรบกลับรู้สึกสบายใจ อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวานที่ใจของเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่มจริงๆ ความรู้สึกของเจนนะช่างมันเถอะ เพราะสำหรับเขาแค่มีเจนอยู่ใกล้ๆ จะในฐานะอะไรก็ย่อมดีหมด แม้มันจะยังคลุมเครืออยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม…..


ก็ต้องยอมรับว่ามีอยู่ใกล้ๆดีกว่า
เพราะมันทำให้อุ่นใจและสบายใจจนหาที่สุดไม่ได้แล้วจริงๆ


Talk:  อย่าว่าคุณรบ คนเราก็ต้องมีสับสนไปบ้างงงงงงงงงช่วยเห็นใจคนหวานเย็นที่กลัวตัวเองด้วยยยยยย55555 วันนี้รีบมาเร็วๆเพราะคิดว่าตอนนี้จะช่วยเคลียร์แต่ก็ไม่รู้จะหนักกว่าเดิมหรือไม่ เอาเป็นว่าลงเรือรบเจนแล้วอย่ารีบขึ้นนะคะ ถ้าไม่ใช่คุณรบเรื่องนี้ได้เป็นเจนนกๆไปแล้วจริงๆนะ เจนล่มเรือเพชรเจนไปนานแล้วนะ ผู้ชายอีกคนที่โสดในเรื่องก็มีคนแปะป้ายจองแล้วนะ555555 ได้โปรดยกน้องเจนให้คุณรบเถอะค่ะ เห็นแก่ลูกกบตาดำๆนะ อย่าให้น้องวินกำพร้าแม่ คุณรบกำพร้าเมียโลยยยย55555


ตอนถัดไปก็ยังไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ เอาเป็นว่าความดราม่าแบบหวานเย็นก็จะมีเป็นระลอกเพราะเราจะหวานเย็นตลอดไปไม่ได้
/คุณเพชรงอนแล้ว เรื่องเดี่ยวไม่ได้ออกสักทีเพราะรบเจนมัวแต่หวานเย็น


ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ
#เจนไม่นก
Twitter @reallyuri
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-08-2018 19:15:54
อื้อหือออ   ขอบคุณช้อน
ขอบคุูณที่มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2018 19:18:00
ยังมึนๆงงๆอยู่เช่นเดิม
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-08-2018 19:27:58
ให้เวลาคุณรบต่อไป  แต่ตอนนี้ดีขึ้นกล้าพูดกล้าทำกว่าตอนแรกเยอะ  :katai2-1:

คิดถึงลูกกบแล้วววววววววววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-08-2018 19:31:18
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 05-08-2018 19:34:16
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-08-2018 20:04:10
ป๊าม๊ามัวแต่สวีทกัน
ป้าๆ ทางนี้คิดถึงลูกกบแล้วค่า 55555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 05-08-2018 20:37:01
เพลงมา อยู่ต่อเลยได้มั้ย อย่าเพิ่งปล่อยให้ฉันต้องไป
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 05-08-2018 21:59:59
รู้สึกหมั่นไส้คุณรบขึ้นมาเป็นพักๆค่ะ
เหมือนจะคิดได้แล้วนะแต่ก็ยังลังเลยึกๆยักๆอยู่นั่น
คนอ่านลุ้นนะคะว่าเมื่อไหร่จะยอมรับตัวเองสักที
ตัวจุ้นอยู่ไหนเนี่ยรีบมาพาเจนกลับไปด้วยด่วนๆเลย คนทางนี้ต้องการตัวเร่งปฏิกิริยาแรงค่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-08-2018 22:25:35
อยากให้คุณรบชอบเจนมากๆ เร็วๆจัง ไม่อยากให้เจนนก ไม่อยากให้คิดมากเศร้ามาก :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 05-08-2018 23:10:01
สับสนเก่งงงงง ซึนเก่งงงงง :katai1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: orloftin ที่ 05-08-2018 23:52:55
อย่าสับสนมากนะคุณรบ สงสารนุ้งเจนนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-08-2018 21:55:31
คุณรบอย่าปล่อยให้เจนนกนะ รอวันที่คุณรบมั่นใจในความรู้สึกทีมีต่อเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 32] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.8.2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-08-2018 01:15:20
จะบอกว่าบรรยากาศมันอึมครึมก็ไม่ใช่ ออกจะมึนๆอึนๆมากกว่า ก็ต่างไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไงนี่นะ ตอนหน้ากลับบ้านได้แล้วนะคิดถึงเจ้าลูกกบแล้ว
หัวข้อ: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 08-08-2018 19:39:43
#เจนไม่นก
เจนจะสู้


แม้ไม่ใช่ข้อสรุปที่ดี แต่แค่นี้ก็ยอมรับได้
เฉพาะตอนนี้เท่านั้น….


ความสัมพันธ์แบบนี้มันอาจจะดูน่าขัดใจไปบ้าง แต่ก็ไม่เลวร้ายเพราะหัวใจจำต้องใช้เวลา เขาพาเจนรักษ์กลับบ้านหลังจากที่เคลียร์ปัญหาทางความคิดและการกระทำได้แล้ว ตาของอีกฝ่ายยังไม่หายบวมหรอก แต่ทิ้งไว้ในห้องต่อไปคาดว่าอาจจะบวมหนักกว่าเดิมเพราะเจนอาจจะร้องไห้หาว่าเขาขังไว้จริงๆ ทว่าก่อนกลับ เจนรักษ์นั้นขอให้แวะที่โรงแรมเมื่อวานที่เขาไปเจออีกฝ่าย คาดว่าคงไปหาคู่กรณีที่ลอยแพกันอย่างเลือดเย็น


“คุณรบกลับไปเลยก็ได้นะครับ”


“แล้วนายล่ะ”


“ผมจะตามกลับไปนะ”


“ทำธุระนานเหรอ”


“ก็แค่จะเอามือถือครับ”


“งั้นผมรอได้ จะนั่งรอที่ล็อบบี้”


“อย่าเลยครับ มันดูไม่ดี”


“ยังไง?”  นี่เขาไม่เข้าใจหรือแกล้งกันอยู่นี่ เจนรักษ์เม้มปาก จะให้พูดทุกอย่างออกมาให้ชัดเจนให้ได้เลยใช่ไหมว่าตรงไหนที่มันไม่ดี ก็ไม่ดีไปหมดนั่นแหละ เริ่มจากเจนมาเที่ยวกับน้องแบบข้างคืน อยู่ๆก็เมา แล้วเขาก็ไม่รู้มาจากไหน อยู่ๆก็หิ้วปีกพาไปนอนด้วย ก่อนเล่นกับหัวใจเจนตั้งแต่ตื่นมาจนถึงตอนนี้  แล้วจะมานั่งรอ พากลับบ้านไปด้วยกันทั้งๆที่ไม่มีตรงไหนที่ดูเหมือนจะมาด้วยกันด้วยซ้ำ เขาคิดว่าเจนจะตอบคำถามคนอื่นอย่างไร แล้วไม่คิดบ้างเลยหรือไงว่ามันไม่เหมาะสม


นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ!


“ไปทางเดียวกัน และผมก็ไม่มีธุระอะไรด้วย ทำไมเราจะกลับทางเดียวกันไม่ได้”  คิดน้อยไปสิ เจนเผลอเขวี้ยงค้อนใส่เข้าให้ ทำไมเป็นคนเข้าใจยากกกกกกกกกกกก


“ผม…เดี๋ยวคนอื่นงงว่ามาด้วยกันได้ไง”


“อ๋อ”


“มันดูไม่ดี”  เอาจริงๆไม่ต้องในสายตาใครหรอก ไปคลุกด้วยกันทั้งวันทั้งคืนแบบนั้นในห้องเจ้านาย เจนว่ามันก็ดูไม่ดีจริงๆนั่นแหละ ถึงจะไม่มีอะไรก็ตามเถอะ แต่เจนก็อดจะคิดมากคนเดียวไม่ได้


“อะไรที่ดูไม่ดี”


“ก็…….”


“เราไปลอบทำอะไรแปลกๆกันหรือไงทำไมต้องคิดว่ามันจะดูไม่ดีด้วย”  แล้วทำไมต้องทำเสียงเหมือนโกรธเจนด้วยล่ะ ไม่ดีก็คือไม่ดีสิ ตัวเองไม่แคร์เพราะไม่มีคนกล้ามาถามไง แล้วเจนล่ะ….คิดถึงความรู้สึกคนอื่นบ้างสิ


เออจะคิดทำไม….เป็นเจ้านายไม่ใช่ลูกน้องนี่


“งอนอะไรอีก”  แน่ะ! รู้ทัน


“ไม่ได้งอนครับ”  จะมาสนทำไม เป็นแค่ลูกน้อง จะไปงอนคุณรบได้ที่ไหนกัน


“กลัวอะไรนักหนา ไม่มีใครคิดเล็กคิดน้อยหรอก”


“งั้นก็ขอโทษที่คิดไปเองครับ”


“คิดจริงๆด้วยสินะ”  เขาหัวเราะออกมา แต่นั่นยิ่งทำให้เจนหน้ามุ่ย รู้งี้บอกว่าจะไปเที่ยวกับตัวจุ้นต่อก็ดีหรอก


“ผมแค่ไม่อยากกวนคุณรบและไม่อยากให้คุณรบตกเป็นขี้ปาก”  นี่เจนหวังดีนะ จะว่าไปที่พูดมาทั้งหมดมันก็เพื่อเขาทั้งนั้นแหละ เจนผู้มักน้อย ชอบเขาแต่ไม่คาดหวังอยากได้มาครอบครอง ที่บอกมาทั้งหมดนี่ก็เพื่อเขาทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย เพราะเจนไม่แคร์คำพูดใคร ไม่แคร์ความรู้สึกใคร เลยจริงๆ


และใครคนนั้นได้รวมตัวเองลงไปหรือยัง….


ที่เลี่ยงเขานี่ไม่ได้เพราะแคร์ความรู้สึกตัวเองเป็นที่สุดเหรอ นักรบเหมือนจะเผื่อใจไว้ครึ่งๆกับคำพูดนี้ของเจน แน่นอนว่าเขาก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าคนที่บ้านจะปล่อยผ่าน แม้ไม่มาถามแต่ก็คงคิดกันไปไกลแน่นอนถ้าเห็นว่ากลับไปด้วยกันทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีวี่แววว่าจะมาเจอกัน เขาจะปล่อยเจนให้กลับไปเองก็ได้ เลี่ยงปัญหาได้ดีเช่นกัน แต่ก็ไม่ทำ ไม่ใช่เพราะสนุกกับการเห็นอีกคนเต้นผางแบบนี้หรอก แต่เพราะอะไรนะเหรอ


ก็บอกแล้วไงว่าชอบให้อยู่ใกล้ๆ
แต่ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน!


“มันดูไม่ดีนะครับ ที่ผมจะเดินกับคุณรบแบบที่ไม่มีน้องวินอยู่ด้วย”  สิ้นคำพูดของเจน นักรบก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก็จริงที่เจนจะมาเดินกับเขาไปมาทั้งๆที่ทำงานตำแหน่งพี่เลี้ยงของลูกแล้วมันดูไม่ดี แต่ยังไงเราก็ถือว่าเป็นคนทำงานด้วยกัน มันจะมาดูไม่ดีอะไรนักหนาเล่า ไม่ใช่ว่านักรบไม่ได้สนใจจะแคร์สายตาชาวบ้าน แต่เขาจะบอกว่าไม่แคร์เลยก็ไม่ใช่


แต่ค้นพบว่าเขาแคร์ความรู้สึกของตัวเองกับคนที่นั่งที่นั่งข้างๆในรถมากกว่า


“คิดอะไร


“ดูถูกตัวเองอยู่หรือเปล่า”


“เจนเปล่าครับ”


“แล้วทำไมถึงเดินคู่กับผมไม่ได้ แคร์ใคร เขาได้มาให้ข้าวผมกิน ให้ตังค์ผมใช้เหรอถึงต้องแคร์”


“ก็เจนบอกว่าเดินได้ถ้ามีน้องวิน”  แล้ววันนี้น้องวินไม่มาด้วย


“เจน มันไม่เกี่ยวกับน้องวิน”


“คุณรบ แต่เจนก็ไม่ได้ดูถูกตัวเองนะ”


“……….”


“แต่เจนให้เกียรติคุณรบอยู่นะครับ”


“ยังไง”


“คุณรบกับเจนไม่ใช่เพื่อนกันใช่ไหมครับ ญาติกันก็ไม่ใช่ คุณรบขับรถมารอคุณเพชรกลับบ้านด้วยหรือเปล่าครับ”


คำตอบคือ…..ไม่


“………….”


“เพราะงั้นคุณรบกลับไปก่อนเถอะนะครับ อย่าให้ใครเห็นเลย”


“ผมเข้าใจว่าคุณหวังดีนะเจน”


“คุณรบ”  และเจนก็เริ่มเข้าใจว่าเขาโกรธ….ทั้งๆที่เข้าใจว่าเจนก็หวังดี


“แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามันจำเป็นอยู่ดี”  นี่ไง….


เป็นคนดื้อและเข้าใจยากแบบนี้ไง!


“…………..”


“อืม แต่เอาเป็นว่าเข้าใจแล้วล่ะกัน”  และก็เป็นคนที่ประชดประชันเก่งแบบนี้ด้วยไง มันทำให้เข้าถึงยากและยากที่จะกล้าเข้าถึง…..


เจนนั้นลงมาจากรถแล้ว เรื่องที่ผ่านมาตั้งแต่เช้าที่เราคุยกันได้ดีนั้นเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง ทุกอย่างมันสวิงเสียจนเจนนั้นตั้งตัวไม่ทัน และเมื่อตนลงมาจากรถ เขาก็ขับออกไปในทันที ภาพ….ที่มองไปจนลับตานั้นทำให้ใจเหมือนจะสลาย เจนเหมือนจะไร้แรงเดินอยู่หน้าประตูทางเข้าของโรงแรม มันก็เป็นไปตามความต้องการของตนเองทั้งหมดไม่ใช่หรือไง แล้วจะมางุ้งงิ้งไม่พอใจเสียใจอะไรแบบนี้อีก เจนเองที่บอกว่าไม่เข้าใจเขา แต่สุดท้ายก็ไม่เข้าใจตัวเองที่สุดนั่นแหละ


ตั้งสติและเก็บความเสียใจเอาไว้ก่อนจะเดินขึ้นไปหาตัวจุ้นที่น่าจะอยู่ในห้อง เคาะประตูเรียก 2-3 ทีก็มีคนเดินมาเปิดประตูให้ และอย่างที่คิด ตัวจุ้นที่ไม่กล้าไปไหนเองยังคงนอนเล่นอยู่ในห้อง ดูจากสภาพแล้วก็คงนั่งทำงานนั่นนี่อยู่คนเดียว อย่าเรียกว่ามาเที่ยวพักผ่อนพักร้อนบ้าบออะไรเลย เรียกว่ามาเปลี่ยนที่นั่งทำงานจะดีซะกว่า


“อย่าเพิ่งด่าดิ”


“ไม่ได้จะด่า”


“อ้าว ไม่โกรธแล้วเหรอ”  จริงๆมันสมควรโกรธตัวจุ้นที่ส่งเจนให้กับใครที่ไหนไม่รู้ แม้เป็นคุณรบที่ไว้ใจได้ แต่ต้องคิดบ้างว่าเจนที่เมาเป็นหมานั่นไว้ใจได้หรือเปล่า เสียหายแค่ไหนต้องลองถามคุณรบดูอีกสักครั้ง พอคิดถึงเรื่องเมื่อวานที่ตนจำอะไรไม่ได้เลย คำพูดของเขาเมื่อเช้าก็ทำให้หน้าร้อนฉ่า


เจน…แก้มคุณรบ….


“แล้วเป็นไรไปวะ ทำไมหน้าแดงๆ”  เจนส่ายหัวจนแทบปลิวหลุดจากคอ เอาเป็นว่าจะไม่คาดโทษอะไรตัวจุ้นเรื่องความสันดารเลวของมันเมื่อวาน เพราะนอกจากตนจะเรียกร้องเอาอะไรกลับไม่ได้แล้ว ยังอาจจะโดนแซะถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนส่งมอบให้ ยันส่งมอบกลับมาในวันนี้


และเพราะคิดแล้วทำให้ใจมัน….รับไม่ไหวจริงๆ


“ตาบวมๆมานะ ไอ้คุณตัวสูงนั่นทำอะไรมาป่ะ”  เขาไม่ได้ทำ เจนสิทำเขา


แล้วก็จบด้วยการทะเลาะกันก่อนจากมาเนี่ย….


“กู กู….” 


“ไหน เข้ามาก่อนดิ”  อีกนิดนึงเจนก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน ตัวจุ้นที่เข้าใจได้ดังนั้นจึงเปิดประตูห้องให้กว้างขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้เข้ามา เจนกำลังต้องการหลุมหลบภัย และโดยที่ไม่ต้องจับเจ้าพี่ชายง่าวๆของตนลงไปแช่แฟ้บแต่อย่างใด


เจนก็ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาเป็นที่เรียบร้อย…..


จริงๆเจนอยากจะร้องไห้ตั้งแต่เห็นหน้าเขาตอนตื่นแล้ว  ทว่าบรรยากาศตอนนั้นชวนให้เก็บกักเอาไว้ อั้นเหมือนฝนก่อนจะเทเป็นพายุลงแบบนี้ ตัวจุ้นนั่งลูบหัวลูบหางให้อย่างสงสาร ไม่รู้ว่าปล่อยลูกนกไปเข้าปากเสือหรือจระเข้หรือไง กลับมาถึงร้องไห้ขี้มูกโป่งน่าสงสารไปหมดแบบนี้ ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นวะ ตัวจุ้นนี่ชิงอวยเจนก่อนได้ไหม?


“มันเกิดอะไรขึ้น”  หลังจากที่ปล่อยให้ร้องมาสักพักจนมาถึงระดับขั้นที่แค่สะอึกสะอื้น ตัวจุ้นก็เริ่มยิงคำถาม เจนที่เปราะบางแบบนี้ไม่ค่อยจะเล่นลิ้นหรอก มีแต่ความจริงเท่านั้นแหละที่จะออกจากปาก


ความจริงในแง่ของเจนเท่านั้นนะ….


เจนเล่าทุกเรื่องที่รู้ให้ตัวจุ้นฟัง แน่นอนว่าใส่สีตีไข่ไปเท่าที่ตนรู้สึก ฟังแล้วอาจจะดูจับใจความยาก แต่ก็พบว่ามีปัญหากับคู่กรณีมากเลยทีเดียว จากที่เล่ามามันก็ดูเหมือนจะไม่แย่มากมาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็ดูจะไว้หน้ากันและเกรงใจกันในระดับนึงเลย จึงยอมๆความกันไป หารู้ไม่ว่าไอ้ที่ยอมๆนั่นน่ะไม่มีใครโอเคเลยสักนิด พอมันถึงที่สุดแล้วถึงระเบิดกระจุยคนละทิศคนละทางแบบนี้


“ขอกูสรุปนะ”


“งืม”


“คือมึงตื่นมาเจอเขาแต่จำอะไรไม่ได้”


“ใช่”


“เขาบอกว่ามึงพูดมากแต่ไม่บอกว่าพูดอะไรออกมาบ้าง งี้ถูกปะ”


“อืม กูถึงงงๆอยู่นี่ไง”  จริงๆแล้วเจนก็งงกับทุกเรื่องนั่นแหละไม่ใช่แค่เรื่องนี้


“แต่เขาบอกว่ามึงไปลวนลามเขา”


“แค่หอมแก้ม”


“ต้องให้โทมัสกับพี่เคลไปขอคุณรบไหม โอ้ย อย่าฟาด!”  ตัวจุ้นนั้นป้องกันตัวเอง พอกลับมามีสติก็จะเป็นคนรุนแรงประมาณนี้แหละ


ในส่วนเรื่องที่ตกลงว่าจะอยู่ร่วมกันนั้นเข้าใจได้ เพราะมันเป็นความต้องการของทั้งสองฝ่าย ตกลงว่าจะเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องของกันและกันเพราะได้ตกลงเช่นนี้มาตั้งแต่เริ่ม ก็เข้าใจได้ดีเพราะนี่คือความสัมพันธ์ที่ถูกต้องแล้ว แต่ที่ไม่โอเคก็น่าจะเป็นในส่วนของความต้องการที่แท้จริงมากกว่า ดูก็รู้ว่าเจนชอบเขา แต่ก็รู้สึกปลอดภัยกับสถานะแบบนี้มากกว่าขอขยับขึ้นไป ส่วนนักรบเองนั้นคิดอะไร ตัวจุ้นไม่รู้หรอก


รู้แค่ว่าเจ้านายปกติไม่พาลูกน้องไปนอนในห้องนอนที่คอนโดแบบนั้น…..


“แล้วมึงก็โกรธเขาเรื่องที่เขาจะพาไปส่งบ้าน” 


“ไม่ได้โกรธ แค่บอกว่าไม่เหมาะสม”


“ดูถูกตัวเองไปปะวะ”


“อย่ามาพูดเหมือนคุณรบนะ!”  จี้ใจดำไปอีก ขยี้แรงๆไปอีก!!!!


“กูจะไปรู้ไหมว่าเขาพูดน่ะ”  ได้คำตอบมาเป็นการค้อนใส่กันอีกที เจนจะไม่พูดให้มากความเพราะแค่นี้ก็แทบจะไม่มีจุดยืนบนโลกแล้ว


จริงๆเรียกว่าต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกันมากกว่า สำหรับตัวจุ้นแล้ว ที่เจนพูดก็ถูก คุณรบไม่ควรให้เจนไปไหนมาไหนด้วยโดยไม่มีลูก เพราะหน้าที่ของเจนคือการเลี้ยงลูกให้เขา หากเดินด้วยกัน 2 ต่อ 2 คนก็จะมองไม่ดีได้ แต่ในส่วนของคุณรบที่ไม่สนดินสนฟ้าอะไรก็ไม่ได้ผิด ก็มาด้วยกัน แม้จะมายังไงก็ช่างมันไม่ใช่เรื่องของคนอื่น ในเมื่อเขาไม่ลำบากจะให้กลับด้วย แล้วจะร้อนตัวไปทำไมในเมื่อไม่ได้ไปลอบเป็นชู้กันจริงๆเสียหน่อย ที่เขาคิดก็ไม่แย่…  แต่อีตานั่นไม่รู้หรอกว่าคนที่ลอบเป็นชู้ทางใจอ่ะ มันเจ็บ!


แล้วคำพูดของคุณรบก็แปลกๆ จะมาชวนทะเลาะปัญญาอ่อนแบบนี้มันก็ดูไม่ได้เข้ากับบุคลิกเขาเลย บอกว่าใครจะคิดไงก็เรื่องของเขา อยู่ที่เราคิดอย่างไรมากกว่า แต่เขากับเจนก็เป็นแค่นายจ้างลูกจ้างไง จำเป็นต้องมาชวนทะเลาะงอนกันแบบนี้ด้วยเหรอ ตีลังกาดู ยังไงมันก็แปลกๆแบบหาดีไม่ได้เลยไอ้คู่นี่ แล้วนี่ไง คนหวังดี คนไม่คิดอะไร คนมักน้อย สุดท้ายก็ต้องมานั่งร้องไห้น้ำตาไหลให้ตาบวมติดต่อกันทั้งวันแบบไม่มีใครรับผิดชอบ


“งั้นนอนที่นี่เลยไหม”


“ไม่ได้ จะกลับไปดูน้อง” นี่ไง คนเรา! น้อยใจพ่อเขา แต่จะกลับไปเลี้ยงลูกเขานะ ไม่บอกกันว่าเป็นพี่เลี้ยง นี่ก็จะคิดว่าเป็นเมีย ให้ตายเหอะ


“บ่อน้ำตาตื้นแบบนี้อะนะ จะกลับไปเลี้ยงลูกเขา น้ำตานี่ไหลเผาะๆ”


“กูร้องหมดตัวแล้ว!”  ไม่มีเหลือให้ร้องแล้วเว้ย


“จะว่าไป มึงก็ไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้มาหลายปีแล้วนะ”


“อืม ก็คงจะแบบกักไว้หลายปีเลยสลายเป็นฝายแตกแบบนี้”  ตัวจุ้นส่ายหน้ารัวๆ จริงๆคือชื่นชมนักรบไม่น้อยที่ทำให้เจนร้องไห้หนักมากได้ ก็คนมันนกมาตลอดก็เลยชิน ชินไปบ่อยๆก็โนสนโนแคร์ ร้องห้งร้องไห้นี่มันเป็นเรื่องเด็กประถม แต่พอเจอพี่มัธยมเข้าหน่อยก็อ่อนปวกเปียก ให้ตายเหอะ ทำดีที่อเมริกามาตลอด แต่มาเหลวเป๋วเพราะแดดเมืองไทยสินะ ของเขาดีจริงๆ


เราพูดคุยกันอีกเล็กน้อยให้เจนได้ตั้งสติและวางแผนรองรับการปะทะกันในรอบต่อไป เดาได้ว่าป่านนี้คุณรบคงจะกลับถึงบ้านไปแล้ว และเจนก็จะกินข้าวอะไรให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องมาเจอกันอีก เข้าไปก็จะตรงไปหาน้องวินเลย มีตัวประกันเป็นเจ้าลูกกบจะได้เลี่ยงไม่ต้องสนทนากันให้มาก ตั้งสติให้ดีเพราะต่อจากนี้เจนจะเป็นพี่เลี้ยงที่ดี หมดแล้วยุคที่จะปีนเกลียวตีซี้กับเจ้านาย


ตัวจุ้นกับเจนลงลิฟท์มาเพื่อออกไปนอกโรงแรมเพื่อไปหาอะไรกินกันตามแผนที่เจนวางไว้ หลังจากได้ระบาย ได้มือถือ และได้กระเป๋ากลับคืนเจนก็สบายใจ อย่างน้อยมีตัวจุ้นอยู่ที่ไทยก็ดีไปอย่าง ถ้าตีกันกับคุณรบอีกก็แค่หนีมาหาได้ แต่ให้คิดดูแล้วเจนก็ไม่ชอบตัวเองที่หนีเก่งแบบนั้นเท่าไหร่ ชนกันให้ตายก็ไม่ตายจริงๆหรอก เมื่อทำใจสู้เสือแล้ว เจนที่ไม่หวั่นก็เดินอย่างมาดมั่นมุ่งหน้าจะออกจากโรงแรม


ทว่า…..



“ไหนบอกแค่ไปเอามือถือ”



หืม……….


“…………”


“…………”


“สวัสดีครับ คุณนักรบ”  เป็นตัวจุ้นที่เห็นคนสองคนซึ่งเจอะเจอกันแล้วไม่รู้จักทักทาย คนสมัยนี้ช่างไม่มีมารยาทเลยต้องแสดงมารยาทที่ดีออกไปให้ดูเสียหน่อย แต่มันใช่เวล่ำเวลาไหม เจนค้อนใส่ญาติผู้น้องตาแทบหลุด


“สวัสดีครับ คุณ….” นักรบไม่แน่ใจในชื่ออีกฝ่ายนัก เมื่อวานเราได้แนะนำไปหรือเปล่านะ


“ผมชื่อจุนครับ”  ตัวจุ้นได้จัดการบอกชื่อในวงการไป ซึ่งแน่นอนนั่นทำให้เขาสับสนพอควรเลย เพราะเจนเรียกว่าตัวจุ้นแต่เจ้าตัวบอกว่าชื่อจุน อืม…ก็พอเข้าใจได้ ไม่สนิทจะไปเรียกว่าจุ้น มันก็เหมือนจะไปด่าเขาทั้งๆที่ยังไม่ได้รู้จักด้วยซ้ำ


“ผมนักรบ เจ้านายของเจน”  มีการบอกสถานะยืนยันกันให้ทราบ ในตอนนี้เอง จุ้นเริ่มรู้สึกได้ว่าไอ้พี่ชายที่เตี้ยกว่า 2 เซ็นนั้นไปหลบอยู่ที่ข้างหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จิตวิญญาณหึกเหิมระดับบางระจันเมื่อครู่ไปไหนแล้วฮึ? เจนรักษ์คงเก่ง


“ผมนึกว่าคุณกลับไปแล้ว”  ตัวจุ้นเลยคุยแทน


“เจนบอกงั้นเหรอครับ”


“ครับ เขาบอกว่าคุณกลับไปแล้ว เลยจะไปกินข้าวกับผมก่อน”


“เพราะงี้เลยไม่ได้รีบลงมาสินะครับ”  นักรบยิ้มออกมา แต่แววตาไม่ได้ยิ้มเลย มันทำให้คู่กรณีขนลุกอย่างไรไม่รู้


“ก็เห็นว่าไม่มีคนรอนะครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆคงจะมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น”  เป็นตัวจุ้นที่ช่วยกู้สถานการณ์ เจนรักษ์ก็ควรกลับมาเฟี๊ยสได้แล้ว!


“แล้วนี่จะไปไหนกันครับ”


“อ๋อ เจนบอกจะพาไปทานข้าว”


“ทานข้าวเหรอ”


“ครับ เผอิญผมไม่ค่อยรู้จักร้าน” 


“เจนก็ไม่ค่อยรู้จักร้านเหมือนกัน เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมพาไป” 


“ละ….ลำบากคุณรบเปล่าๆครับ”  เจนแย้งออกมา ในที่สุดก็หาลิ้นของตัวเองเจอ


“ไม่ได้ลำบากอะไรนี่”  แต่ดวงตาของเขาก็ยังไม่ยิ้มเหมือนเดิม และมันยิ่งทำให้เจนเสียวสันหลังวูบ


“แต่…แต่ว่า”


“หลานแม่ไพมาเยี่ยม มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะพาไปกินข้าวด้วยไม่ใช่เหรอ”  เขาไม่ได้พูดถึงการให้เกียรติเจน เขาพูดถึงตัวจุ้น และนั่นทำให้เจนเม้มริมฝีปากแน่น เลี่ยงที่จะตอบคำถามทุกอย่าง แม้คำถามนั้นๆจะไม่ได้ต้องการคำตอบอยู่แล้ว มือที่จับชายเสื้อตัวจุ้นนั้นกำแน่นจนญาติผู้น้องสังเกต เจนอาจจะบอกว่าน้ำตาหมดตัวแล้วไม่มีไหลออกมา แต่ความรู้สึก….มันไม่มีลิมิตที่แท้จริงหรอกนะ ตาคุณนักรบนี่ก็จริงๆเลย!


แผลของเจนถูกซ้ำๆกี่รอบแล้วนี่วันนี้!!!


“อีกอย่างให้คุณจุนเขาไปด้วยก็ดีไม่ใช่เหรอ….”


“…………”


“เจนจะได้ไม่คิดว่ามันไม่เหมาะสมอีกไง”  เขาพูดเช่นนั้นออกมา ก่อนจะเดินนำเราสองคนมายังร้านอาหารชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลกันนั้นของโรงแรม ตัวจุ้นไม่ได้เห็นแก่กินหรอก แต่คำพูดและท่าทางของเขามันทำให้ตัวจุ้นนึกอยากลองใจเจนอีกสักครั้ง เจนอาจจะยอมแพ้แล้ว แต่นั่นมันทางความคิด ในด้านความรู้สึก ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนทั้งคู่….ที่ยังไม่รู้ใจตัวเอง


“ประชดเก่งเนาะ”  จุ้นนั้นกระซิบบอกเจนเบาๆ


“เข้าใจกูหรือยัง”  ไม่แปลกเลยที่จะน้ำตาไหล นี่ถ้าไม่ได้รู้สึกแคร์อะไรเขาหรือครอบครัว เจนรักษ์เสยหน้าไปแล้ว ไม่เก็บกดมาร้องไห้เป็นเผาเต่าแบบนี้หรอก


เราทั้ง 3 คนอยู่ในห้องอาหารที่นักรบเป็นผู้แนะนำมา  เลือกดูอาหารที่ชอบก่อนจะสั่งกันคนละอย่างสองอย่าง และในระหว่างที่รอนั้น บนโต๊ะก็แทบจะเงียบงันเพราะคนสองคนที่สนิทสนมกันกว่าอีกคนไม่ยอมที่จะเปิดปากคุย นี่เรากะจะมากินข้าวกันแบบนี้จริงๆนะเหรอ อึดอัดแหะ ตัวจุ้นที่เรียกร้องอยากจะมีมื้ออาหารที่เป็นมิตรต่อสังคมและโลกจึงเป็นฝ่ายเปิดปากเพื่อชวนพูดคุยแทน


คุณนักรบเองก็ไม่ได้หยิ่งขนาดที่จะถามไม่ตอบ เขาชวนพูดคุยกลับเยี่ยงคนมีมารยาท แต่ไอเย็นที่ส่งผ่านออกมายังคงมีอยู่ และนั่นทำให้คนบนโต๊ะรู้ว่าเขายังไม่พอใจเจนอยู่หลายส่วน แต่นี่มันลูกน้องไง ไม่ใช่เมียเสียหน่อยถึงจะมาดัดนิสัยแบบนี้ได้ ตัวจุ้นเองก็ไม่ได้พอใจเขามากเท่าไหร่ แต่หลายอย่างมันก็ยังไม่ค่อยเคลียร์นัก จะให้ชิงเล่นงานเขาแทนเจนที่ไม่กล้าทำอะไรเลยมันก็ดูจะยังไม่มีจังหวะนัก ในใจภาวนาให้มันเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ที่พอจะเปิดช่องทาง และสวรรค์ก็เข้าข้างเพราะในตอนนั้นเองมือถือของเจนก็ขึ้นหน้าจอสว่าง ใครสักคนนึงที่ฟ้าประทานนั้นโทรหาเจนพอดี


“พี่เคลโทรมาเหรอ”


“อืม”  เจนตอบรับตัวจุ้นเล็กน้อย ในใจนึกสงสัยว่าพี่เคลโทรหาทำไม


“โทรหาหลายรอบแล้วด้วยวันนี้”  พอโทรหาตัวจุ้นไม่ติดก็โทรหาเจน โดยหารู้ไม่ว่ามือถือของเจนก็อยู่ที่จุ้น


“มีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ”  ใบหน้าที่ติดจะเป็นห่วงนั้นอยู่ในสายตาของทุกคนบนโต๊ะ รวมถึงเหยื่อตัวใหญ่ที่ยังไม่ยอมกินเบ็ดสักที


“รับสิ”  จุ้นบอก ส่วนเจนนั้นหยิบมือถือขึ้นมา มองหน้าเขาที่มองมาที่เจนเช่นกัน คนตัวเล็กกัดริมฝีปากช่างใจอยู่ครู่นึง แววตาของคุณรบนั้นชวนให้รู้สึกอึดอัดนักจึงเลือกที่จะรับสายนั้น


“งั้นขอตัวแป็ปนะครับ”  เจนกล่าวขอสั้นๆก่อนจะรับสายที่โทรมาไม่หยุดและเดินออกไปจากร้านเพื่อพูดคุยให้สะดวก เพราะพี่เคลมักโทรมาเรื่องตัวจุ้น เลยไม่อยากให้อีกฝ่ายที่นั่งใกล้ๆได้ยินจึงเลือกจะเดินออกไปคุยเอง ทว่าการกระทำของเจนนั้นมันชวนคิดไปอีกแบบนัก ต้องเป็นคนสำคัญมากแค่ไหนถึงได้ดูห่วงใยขนาดนั้น


ต้องสำคัญกว่าคนที่ปฏิเสธจะกลับบ้านด้วยแบบเขาใช่ไหม….


“ต้องขอโทษแทนเจนจริงๆ หมอนั่นเองก็ชอบโทรมา ไม่รับก็ไม่ได้ด้วย”  ตัวจุ้นที่เห็นทุกอย่างนั้นเริ่มที่จะใส่ไฟ และเมื่อรู้สึกตัว นักรบก็เปลี่ยนแววตาที่ใช้เมื่อครู่ให้ดูสงบนิ่งเหมือนเดิม


“ครับ ผมเข้าใจ”  เข้าใจอะไรล่ะ ตัวจุ้นอยากจะถามแต่เลี่ยงที่จะถามอย่างอื่นแทน


“ถ้าเจนทำอะไรให้คุณรบไม่พอใจผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ รายนั้นมีวีรกรรมกับเจ้านายเก่ามาเยอะเลยไว้ตัวนิดนึง”  นักรบนั้นหรี่ตามองอีกฝ่าย เป็นไปได้ว่าเจนจะเล่าให้ฟังทั้งหมด มิน่าละถึงใช้เวลาหายกันไปซะนาน


“ครับ”  แล้วกับเจ้านายคนปัจจุบันนี่ต้องระวังให้หนัก


“ปกติสู้คนมาก แต่เพราะเป็นคุณรบเลยเกรงใจมากๆเช่นกัน”


“นี่ขนาดเกรงใจแล้วนะเนี่ย”  เขาพูดให้ดูติดตลก แต่จริงๆไม่ตลกเลย


“เห็นคุณรบเป็นห่วง และปรารถนาดีกับเจนผมก็ดีใจครับ”  คำป้อยอนี่เกินจริงไปเสียมากๆ


“ไม่เลยครับ เขาดูแลลูกให้ผมอย่างดี”


“เจนรักเด็กครับ”


“พอจะมองออกครับ”


“และก็อยากให้เด็กมีครอบครัวที่อบอุ่นด้วย เลยทุ่มเท เขาอาจจะพูดมากกับคุณรบซะหน่อย ช่วยเข้าใจหน่อยนะครับ” 


“ครับ”  เพราะเจนไม่เคยมีครอบครัวที่อบอุ่น จึงอยากจะช่วยสร้าง เขามองเจตนาของเจนออก แต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เหมือนกัน


“ถ้ายังไงก็รบกวนทางฝั่งคุณรบเข้าใจเจนบ้างนะครับ”


“ครับ?”


“คุณมีเรื่องกดดันในแบบของคุณ  เจนก็มีในแบบของเขา”


“………..”


“อย่าโกรธเจนเลยนะครับ เพราะเขาก็แคร์คุณมากเหมือนกัน”


ก็เจนทำให้มันน่าโกรธ


“ผมไม่ได้บอกว่าเจนถูกหรอกนะครับ แต่ถูกผิดมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน”


“………….”  สถานการณ์ของแต่ละคน นำพาความกดดันคนละแบบมา เจนอาจจะไม่ได้ถูกต้องในสายตาของเขา แต่อาจจะถูกต้องในแง่ของความสบายใจของตนเอง คนเราบางทีก็ต้องใช้สมองนำความรู้สึกเช่นกัน


“และถ้าเจนแคร์คุณมากไป จนไม่แคร์ตัวเอง สุดท้ายแล้วใครเจ็บล่ะครับ”


เจนไง เจนเอง…..

 
“ให้เขาเหลืออะไรเป็นของตัวเองบ้างเถอะครับ….เขายกให้คุณทั้งหมดไม่ได้หรอก”  เพราะสุดท้ายแล้วนักรบกับเจนที่เดินเคียงข้างกันในวันนี้


เมื่อเจอทางแยกก็ต้องจากกันอยู่ดี
แล้วเราจะทุ่มทุกอย่างให้หมดหน้าตัก ไปทำไม…..




talk:  แว่บมาลง อนุญาตให้ด่าคุณรบว่ากากได้ ไม่เถียงแล้ว ฮืออออออออออออ

#เจนไม่นก twitter@reallyuri
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-08-2018 19:52:57
ตัวจุ้น มามะ มาหอมหัวทีนึง
พี่เคลมาพอดีเลย ปรบมือค่ะ
ส่วนพระเอกหรอ หึ นึกได้แล้วค่อยมาง้อน้องเจนนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-08-2018 20:05:39
คุณรบบบบบบ  :katai1:อยาก :z6:ให้รู้ใจตัวเองสักทีจัง


 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-08-2018 20:41:30
ดูคุณรบแคร์เจน ค่อนข้างมากแล้วนะ  :hao3:
เจนเองก็คิดเยอะ เหมาะสมไม่เหมาะสม แคร์สังคมเกินไป  :mew2:
อย่างที่คุณรบพูดก็ถูก เขาไม่ได้มาซื้อข้าวให้เรากิน
แค่เดินด้วยกัน ปากหอย ปากปู อยากพูดก็พูดไป ไปสนใจทำไม จริงนะเจน   :really2:

เจน จะคิดน้อย............
ก็ต้องให้ฝ่ายคุณรบชัดเจนกับเจนก่อน จริงปะ :mew1:
คุณรบ  เจน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คิดถึงลูกกบ   :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 08-08-2018 21:00:21
นังคุณรบบบบ :katai1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-08-2018 21:16:35
ของมันต้องมี ตัวจุ้น!!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-08-2018 21:49:29
ปรบมือให้ตัวจุ้นอีกครั้ง :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 08-08-2018 23:31:59
อ่อนใจกับความคิดและการกระทำของคุณรบมากค่ะ
น้องร้องจนตาบวมเป่งขนาดนั้น พูดมาถึงขนาดนี้ยังไม่เข้าใจอีก
แค่ทำตามใจตัวเองมันยากตรงไหนเนี้ยยยยยยย

ถ้าจุ้นคิดว่าเกินเยียวยา แนะนำให้เรียกกำลังเสริมจากชิปเปอร์ที่บ้านค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 09-08-2018 00:14:42
รอตอนเขาง้อกันอยู่นะคะะ :hao5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 09-08-2018 01:08:55
อีคุณรบบบบบบบ   :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-08-2018 01:14:40
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 09-08-2018 01:59:13
รักตัวจุ้นนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 09-08-2018 02:44:16
อะโห +10 ให้ตัวจุ้น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-08-2018 18:35:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-08-2018 19:14:42
อึมครึมจังช่วงนี้ กอดปลอบพี่เจน คิดถึงลูกกบอ่ะไม่เจอหลายตอนแล้วนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 33] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 8.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-08-2018 21:51:36
คุณรบนี่นิกจากจะบื้อเรื่องการเลี้ยงลูกแล้วนี่ก็ยังบื้อเรื่ิงการจีบด้วยเหรอคะเนี่ย เหอมมม
หัวข้อ: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 11-08-2018 16:33:34
#เจนไม่นก
เจนกับสินบน


เจนไม่เถียงเขาอีก เรื่องที่ให้กลับด้วยกัน


และสุดท้ายเจนก็ยอมเขาในทุกเรื่อง แม้ว่าเขาจะไม่แสดงท่าทางอยากให้กลับด้วยกันอีกแล้ว นักรบนั้นยังเงียบไปตลอดทางที่อยู่ด้วยกัน จริงๆเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอด เจนจะไม่คิดอะไรเลย หากความอบอุ่นในยามเช้าบ่ายของวันไม่เคยเกิดขึ้น ในวันนึงคนเราต้องเจอกับภาวะหลากหลายทางอารมณ์มากมายแค่ไหน เมื่อไหร่กันเจนจะได้หลุดจากอีเครื่องเล่นรถไฟเหาะนี่สักที


เจนกับเขาเข้ามาในบ้าน ยังคงไม่มีใครพูดอะไร แม่ของเจนเดินเข้ามาหาเราทั้งคู่ และเจนก็เตรียมไว้แล้วว่าจะพูดความจริงให้ฟัง แม้มันจะดูไม่ดี ทว่าก็ยังไม่มีใครถามอะไรออกมา แม่ยังคงสนใจเรื่องอาหารการกินของเราสองคนที่เพิ่งกลับมาถึง ตอนนี้ก็ค่ำมืดแล้ว คนที่บ้านนี้น่าจะกินกันเรียบร้อยแล้ว  วันนี้เวลาเหมือนจะเดินช้า เจนต้องเผชิญกับปัญหาทางอารมณ์หลายๆอย่างจนพาลคิดว่าเมื่อไหร่วันนี้จะหมดไป และมันก็เหมือนกับที่เขาเคยบอกว่าไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพราะไม่มีใครถามหรอก


“ว่าแต่มาด้วยกันได้ไงคะนี่?”  แต่ก็ไม่….ในที่สุดก็มีคนถาม เจนถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ ทั้งๆที่เคยกระตือรือร้นต่อการตอบคำถามนี้ แต่เจน….. เหนื่อยเกินกว่าจะดิ้นรนอะไร


“ผมเจอเจนที่หน้าปากซอยก็เลยรับเข้ามาด้วยครับ”  ดวงตาของเจนเบิกกว้าง เป็นเขาที่แก้ตัวออกมาให้ทั้งหมด


“………..”


“งั้นเหรอคะ แล้วเจนละลูก ทานมายัง”


“เรียบร้อยแล้วครับ”  เจนตอบสั้นๆ แต่ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับคำถามของแม่นัก คำตอบของเขาควรจะทำให้เจนรู้สึกสบายใจ แต่ก็ไม่เลย เจนไม่เคยพอใจอะไรเลย ทำไมเป็นคนเรื่องมากอย่างนี้นะ จริงๆเจนไม่ได้เรื่องมากหรอก….


แต่เจนแค่คิดว่าเขายอมได้อย่างไร
หรือเพราะมันไม่เคยสำคัญอะไรกับเขาจริงๆ


เจนแยกกับเขา ไม่ได้ทวงถามอะไรต่อ ตีความไปว่าตนนั้นน่ารำคาญในสายตาของอีกฝ่ายไปแล้ว วันนี้เจนเรียกร้องเกินไปไหม ขอนั่นขอนี่ และเขาก็มอบให้ทุกอย่างที่ต้องการ มีลูกน้องที่ไหนจะน่ารำคาญขนาดนี้ไหมนี่ แม้จะพูดว่าเพื่อตัวคุณรบเอง แต่ลึกๆคำขอของเจนมันก็เห็นแก่ตัวเองทั้งนั้น เพราะตนรู้สึกลึกซึ้งและไม่อยากถลำลึก เจนจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อกันตัวเองออกมา ทั้งทางด้านความรู้สึก และการกระทำ หวังว่าเขาจะเข้าใจว่าทำไมเจนถึงเรียกร้อง เพราะเจนไม่อยากเจ็บแล้ว และในวันนึงหากทุกอย่างมันเผยออกมา เขาจะเข้าใจกันไหมว่าที่ทำไปทั้งหมด เจนก็ระวังแล้วเช่นกัน


“น้องวิน”  เจนนั้นเรียกเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในรถลากของเด็ก ใบหน้าน่ารักนั้นหันมามองกันก่อนจะยิ้มให้ ยังคงตื่นเต้นเหมือนเดิมเวลาเจอกัน



พี่เจนกลับมาแล้ว


“เจ เจะ เจ”


“เจ เจ เจ้”  เจนทักทายกลับ นั่งลงข้างๆรถเข็นก่อนจะจิ้มแก้มนิ่มอย่างเอ็นดู หวังว่าความน่ารักของคนลูก จะช่วยบรรเทาความเครียดที่เกิดจากคนพ่อได้ด้วยเถิด


“พี่เจนฟ้องได้ไหม วันนี้ปะป๋าเรานะ….”  แต่เจนไม่ได้พูดอะไรอีก ที่ทำมีเพียงมองหน้าน้องที่เอาแต่ชวนคุยไม่หยุด รอยยิ้มของเจ้าตัวเล็ก ช่วยให้เจนลืมเรื่องที่ทุกข์ใจได้บางขณะ


และโชคดีที่เจนไม่มีน้ำตาให้ไหลแล้ว


“อาบน้ำไหมครับตัวเล็ก” เจนถาม แต่ไม่รอความสมัครใจ อุ้มเจ้าตัวเล็กปลิว จับลอกคราบและหยอกกับพุงกลมเล็กน้อย ก่อนจะอุ้มไปอาบน้ำในห้องน้ำ


จริงๆวันนี้เจนลางานเต็มวัน แต่พอได้เห็นมันก็อดไม่ได้ที่จะทำนั่นนี่ จริงๆการหายไปของเจนไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย คนในบ้านหลังนี้ก็อยู่กันมาได้ตั้งนมนาน การที่เจนมามันอาจจะช่วยทำให้ดีขึ้น หากแต่พวกเขาก็ไม่ได้ขาดเหลือเพราะฉะนั้นต่อให้เจนไม่อยู่ พวกเขาก็อยู่กันได้ เมื่อคิดว่าตนนั้นไม่ได้มีค่ามากมายอะไร น้ำตาก็พาลจะไหลจนต้องเงยหน้าขึ้นไว้ ให้มันไหลย้อนกลับ


“เจ เจ”


“เรียกเจนเหรอครับ”


“เจน เจ เจ”  น้องวินชี้ไปที่สมุดนิทานเล่มโปรด ที่เจนเล่าให้ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ นี่ก็ใกล้เวลานอนแล้ว เจนจึงหยิบมันขึ้นมาอ่านให้ฟัง อ่านไปสักพัก ดวงตากลมโตของเจ้าลูกกบก็ค่อยๆปิดลง พร้อมกับมือที่ยังถือขวดนมอยู่ และเมื่อฝืนต่อไปไม่ไหว น้องวินเด็กดีก็หลับไปแล้วปล่อยให้ขวดนมหลุดมือ เจนที่สังเกตเห็นจึงเอามันไปเก็บ ก่อนจะดึงผ้าห่มผืนน้อยมาคลุมตัวให้ เป็นเด็กก็ดีเหมือนกันนะ ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร แต่เจนรู้….วันนึงภาระความรับผิดชอบของเด็กคนนี้จะใหญ่ขึ้น


เห็นตัวอย่างได้จากพ่อของเขา…..


เมื่อคิดถึงคนพ่อ เจนก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมา ก็รู้แหละว่านั่นคือความต้องการส่วนตน แต่ในด้านความรู้สึกเล่า คุณนักรบโอเคจริงๆใช่ไหมกับการพูดโกหกออกไป เขาไม่ได้อยากทำให้มันเป็นความลับเพราะมันไม่มีอะไรต้องปิด เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริง จะโกหกให้มันดูลับๆล่อๆทำไม เจนก็เข้าใจดีอยู่หรอก แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่ามันจะดีจริงๆ ถ้าคนอื่นสงสัยไปผิดๆล่ะ คุณรบจะเสียหายแค่ไหน แล้วเจนเองก็ไม่อยากได้ชื่อว่าคิดจับเจ้านายด้วย ทั้งๆที่มันไม่เป็นความจริงเลย ดังนั้นก็เลยไม่อยากให้เข้าใจผิดกัน


แต่เจนก็ไม่ชอบคุณนักรบที่เย็นชาแบบนี้…..


เจนไปทำอะไรให้เขาโกรธ ก็เหมือนจะรู้ แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะมาโกรธกันทำไม และทั้งๆที่ไม่เคยเห็นด้วยกับการที่จะมาโกหกเรื่องไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ทำไมจู่ๆเขาถึงเป็นฝ่ายออกปากออกไปได้ หากเขาคิดเห็นตรงกับเจนก็ว่าไปอย่าง เป็นแบบนี้แล้ว เจนไม่แน่ใจเลยว่าเขายินดีหรือไม่ ถ้าไม่ยินดี….แล้วจะทำไปทำไม ทำเพื่อให้เจนสบายใจงั้นเหรอ ช่างดูไม่สมกับเป็นเขาเอาเสียเลย


แต่จะไปคิดแทนคุณนักรบก็ไม่ได้ เจนเลือกที่จะหยุดคิดและพยายามทำใจปล่อยให้มันเป็นไป จะอย่างไรก็แล้วแต่ เจนก็เป็นแค่ลูกจ้างคนนึงที่ไม่ควรจะไปเร่งเร้าเอาแต่ใจกับเจ้านายให้มากนัก ต่อไปนี้เจนจะไม่คุยกับเขาให้เกินจำเป็น จะไม่เรียกร้องเอาจากเขาให้มากความ จะเลี้ยงลูกของเขาให้ดี และถ้ามีอะไรให้ทำ ก็จะไม่ขัดขืน ถ้าเจนแค่ทำให้เรื่องมันง่ายแบบนี้ เราก็ยังคงร่วมงานกันได้ใช่ไหม


ก็เขาเป็นคนบอกเอง….ว่าเจนอยู่ที่นี่ได้…..


และเจนก็ทำตามที่ใจคิดเอาไว้ ความอึมครึมแต่เช้านั้นไม่ทำให้ใครมีความสุขเลย ไม่มีใครหลบหน้า มีแต่คนที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เจนนั้นเคาะประตูเข้าไปหา   เดินไปเลือกเนคไทมาให้เขาที่ยืนรออยู่ เจนทักทายเขาเสียงเบาและไม่มีการชวนคุยเหมือนที่เคยทำแล้ว นักรบเองก็เช่นกัน เขาแทบไม่มองหน้าพี่เลี้ยงเด็กคนนี้เลย


เพราะตาของเจนยังบวมไม่หายสักที….


“เสร็จแล้วครับ”  เจนบอก หลังจากจัดเนคไทให้เขาอย่างดี


ก่อนจะหันหลังและเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป…..


มันน่าหงุดหงิดเสียจริง อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง เรื่องที่เกิดเมื่อวานนั้นมันเกินกว่าที่จะควบคุมจริงๆ หลังจากที่คิดว่ามันต้องแย่แน่ๆ แต่เราก็ตกลงกันได้ ทว่าในช่วงเย็น เราก็มีเรื่องกัน จะเรียกว่าเป็นการทะเลาะกันครั้งแรกก็เป็นได้ และเจนไม่มีทีท่าว่าจะยอมกันเลยสักนิด และนักรบไม่เคยเจอใครที่ดื้อแพ่งได้ขนาดนี้ ไม่สิ….รดาไม่ยอมเขายิ่งกว่า แต่เพราะรดาเป็นคนที่เขาควบคุมไม่ได้แต่แรกอยู่แล้ว หรือจริงๆเขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าจะควบคุมเจนรักษ์ได้เช่นกัน


สรุปแล้วไม่มีอะไรอยู่ในการควบคุมได้เลยใช่ไหม
ไม่สิ ต้องพูดว่าไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปควบคุมทั้งนั้น


ใบหน้าของเจนยังเรียบนิ่ง และเขาไม่ชอบให้มันเป็นเช่นนั้น แต่นักรบจะไปมีสิทธิ์อะไรได้ ในเมื่อเขาตกลงใจกับตัวเองว่าจะถอยสักนิดเพื่อตัวเองและอีกคน เมื่อวานนี้ที่เขาพูดไปเช่นนั้นโดยที่ไม่บอกอีกฝ่าย ก็ไม่รู้ว่าเจนรักษ์จะคิดไปถึงไหนต่อไหน บางทีที่ตาบวมขนาดนั้นก็ไม่เพราะคิดเรื่องนั้นอยู่หรอกรึ? เด็กบ้าอะไรคิดมากจัง ก็เห็นว่าพูดอย่างนี้แล้วสบายใจมากกว่า แล้วมานั่งน้อยใจอะไรกันอีก จะไม่ปล่อยให้เขาโกรธบ้างเลยใช่ไหม ทำไมเป็นเด็กเอาแต่ใจแบบนี้


“ปะ ปะ ปา”  เจ้าลูกกบในอ้อมกอดของเจนที่เดินมาส่งกันเหมือนทุกเช้านั้น เอื้อมตัวไปหากัน เจนที่ดูเหมือนจะเหม่อลอยก็ส่งให้เขารับไปอุ้ม จริงๆก็ไม่ได้เหม่อไปไหน เพียงแค่ไม่อยากจะมองตาเขาให้มันไม่สบายใจมากกว่า


ใครกันที่ขี้งอน….


“เจ้าลูกกบ พี่เจนของเราเป็นอะไรน่ะ งอนอะไรปะป๋าอีก”  เพราะชื่อของตนนั้นดังออกมาจากปากเขา มันทำให้เจนเงยหน้าขึ้นมามองกัน ดวงตาที่แห้งผากแลดูเย็นชาเมื่อครู่เหมือนมีหยาดน้ำใสคลอ ตอนนี้เจนก็ยังไม่ได้ลงจากรถไฟเหาะใช่ไหม


“ผมไม่ได้….”


“ก็เจนอยากให้พูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”  เขายอมรับว่าที่แสดงออกไปนั้น ส่วนนึงเขาก็เคืองอีกฝ่ายไม่น้อยที่ไม่ยอมกัน แถมต้องให้รอ อีกทั้งน้องชายของอีกฝ่ายก็มาพูดอะไรใส่ตั้งมากมาย นักรบนั้นก็คิดว่าเขาพูดแบบนั้นไปก็ได้ในเมื่อทุกคนต้องการให้เขาทำเช่นนั้น ทว่าความไม่พอใจที่แฝงอยู่ก็ทำให้เขามึนตึงใส่ไปอย่างที่เห็น และเจนเองก็ไม่คิดที่จะเข้าหากันก่อนเลย ก็แหงล่ะสิ….คนที่ขาดความมั่นใจมาตลอดอย่างเจนจะไปคาดหวังอะไรได้


ถ้าหวังแล้วมันเจ็บ
ก็ปล่อยให้ความเจ็บทำให้ชินชาไปไม่ดีกว่าเหรอ


“ก็คุณรบ….เจนไม่รู้ว่าคุณรบโกรธหรือเปล่า”


“ก็ถามสิ”


“ใครจะไปกล้าละครับ”


“จริงๆถ้าไปถามตอนนั้น ผมก็อาจจะตวาดคุณจริงๆ”  นักรบยอมรับว่าเขาเองก็หัวร้อน เจนช้อนตามองเขา แค่ปกตินิ่งๆก็กลัวจนจะบ้าอยู่แล้ว ถ้าโดนตวาดขึ้นมาจริงๆ….ได้วิ่งไปกระโดดหน้าต่างห้องนอนแน่นอน


“เจนทำตัวไม่ถูก”  จะให้เจนทำตัวยังไง ตัวเองก็ต้องระวัง แต่เขาก็ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือเลย เจนยังไม่อยากรักใครนะ แล้วอ้อยเรี่ยราดใส่ ใครเขาให้ทำกัน!


“เลยหลบไปร้องไห้นะเหรอ”


“ไม่ร้อง ถามน้องวินได้”


“………น้องวินเมื่อวานพี่เจนร้องไห้ไหมลูก”  ใครใช้ให้ถามจริงๆ!


“เจ เจะ เจ”  แล้วนี่ใครใช้ให้ตอบกัน


งอนมันทั้งพ่อทั้งลูก!


“แต่เจนไม่ได้ร้องจริงๆนะ”  แต่ก็ยอมรับว่าจิตตกอยู่บ้าง


“ก็ถ้ายังร้องออกและยังมาทำงานได้ปกติ ก็ยอดมนุษย์ล่ะ คุณเป็นอูฐเหรอ ถึงได้เก็บน้ำไว้ใช้มากมายขนาดนี้”  ถ้าไม่เห็นว่าอุ้มลูกอยู่ เจนอาจจะเตะเขาไปแล้วโทษฐานล้อเลียน ทำไมคนเราต้องเก่งได้ขนาดนี้ด้วย คุณรบนี่เหมือนจับเจนมากระชากลงน้ำและพาลงกระทะทองแดงก่อนจะพาขึ้นสวรรค์แล้วพาดิ่งตัวมาลงนรกอีกรอบ นี่เมื่อวานที่เจนเครียดไป ได้ประโยชน์ที่ใครบ้างนี่


“ก็บอกแล้วไงไม่ให้คิดมาก”


“ลองมาเป็นเจนดูไหมละครับ”


เขาส่ายหน้า


“จะมาว่าเจนไม่ได้นะ”


“ไม่ได้ว่านี่”


“…………”


“ให้กำลังใจอยู่ สู้ๆนะ”  จบประโยค ไม่ทันที่เจนจะหน้าแดง กำลังใจในอ้อมอกของเขาก็ถูกส่งมาให้เจนอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัว เอาอีกแล้ว นี่ลูกกบนะไม่ใช่ลูกบอลจะมาโยนสุ่มสี่สุ่มห้าได้ที่ไหน คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ขายทั้งกล้วยกวน อ้อยเชื่อม ใจไอ้เจนบางไปหมดแล้ว


ช่วยให้ความร่วมมือกันหน่อยดิวะ!


คุณรบนะคุณรบทำอะไรก็ไม่รู้ เจนเหนื่อยนะรู้ไหม หลังจากที่ส่งคนพ่อไปทำงานแล้ว พี่เลี้ยงที่อารมณ์ดีขึ้นแต่หงุดหงิดหนักมากก็พาเจ้าลูกกบมานั่งเล่นในครัว เมื่อวานเจนไม่ได้ร้องไห้อีก แต่ทุกวันนี้หน้ายังไม่หายบวม และพอคิดถึงวิธีแก้บวมวิธีนึงที่ได้ลองไว้ก็พลันหน้าแดงขึ้นมา เห็นไหมว่าการเป็นคนแบบคุณรบนี่ไม่ดีจริงๆ คือแบบไม่ดีเลยอ่ะ


“ฟุ้งซ่านอะไรอีกวะ”


“เฮ้ย!”   


“ทำเป็นเห็นผีไปได้”


“ตัวจุ้น เอ็งมาได้ไง”  แล้วอยู่ๆเข้ามาในบ้านชาวบ้านเขางี้ ไม่มีใครจะคิดว่ามันเป็นขโมยเหรอ


“นั่งรถมาหา จะมาขอกินข้าวเที่ยงด้วย”


“นี่ยังไม่เที่ยงเลย”


“เออรู้ กินข้าวเช้ามาแล้ว จะมาฝากท้องข้าวเที่ยงไง”


“เข้ามาได้ไงเนี่ย”


“เจอคุณรบขับรถสวนออกไป”  นี่ก็ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าบ้านเขา พอเจ้าของบ้านออกไปเห็น โชคดีที่เขาจำได้จึงไม่แจ้งตำรวจ ตัวจุ้นที่แวะมาเยี่ยมจึงได้เข้ามาในบ้านเพราะได้รับอนุญาตเมื่อครู่ ก็บอกแล้วว่าจุดประสงค์ที่มาไทยนี่ไม่เน้นเที่ยว เน้นมาป่วนเจนต่างหาก เจ้าตัวแขกที่ไม่ได้รับเชิญถือโอกาสนั่งลงข้างๆน้องวินที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว เจนนั้นหันกลับไปหั่นผลไม้ตามที่ตั้งใจ ทิ้งไว้ให้น้องวินดูแลตัวจุ้นแทน (เอ๊ะ?)


“แล้วนี่เจอคนอื่นหรือยังอ่ะ”  เจนถาม ขณะที่ยังสาละวนกับการจัดเตรียม


“ยังเลย เจอแต่เจนกับเจ้าลูกหมูนี่”


“ลูกกบ”


“เดี๋ยวนี้เขาให้อิมเมจเด็กเป็นลูกกบได้ด้วยเหรอวะ”


“อย่าปล่อยไว้ที่พื้นเด็ดขาด กระโดดเก่งเป็นกบเลย”  แล้วตอนนี้ก็หัดยืนแล้ว อีกไม่นานคงจะเดินฉิว เจนต้องไปฟิตร่างกายเอาไว้วิ่งไล่จับบ้างแล้ว


“ว่าแต่เมื่อวานกลับบ้านกับพ่อกบเป็นไงบ้างวะ ตีกันไหม”


“ไม่เลย เงียบมาก นึกว่าโกรธกูซะอีก”


“ก็คงโกรธอะแหละมั้ง ตอนกูคุยด้วยก็ดูนิ่งๆนะ คนบ้าอะไรกดดันเก่งพอๆกับ…..”


“พี่เคลใช่ป่ะ”  เจนนั้นบอกชื่อที่ไม่ได้ถูกพูดออกไป เริ่มเข้าใจความรู้สึกตัวจุ้นเวลาต้องเผชิญหน้ากับพี่ชายคนนั้น และแม้เจนจะบอกว่าไม่มีอะไรให้กังวลเลย แต่พอมาโดนกับตัวเอง….คำว่าร้องไห้เป็นเผาเต่าต้องทำเช่นไร เจนก็ผ่านมันมาแล้ว!


“อย่าพูดชื่อ เออว่าแต่เมื่อวานคุยกันเรื่องอะไร” นั่นพี่เคลหรือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ทำไมถึงพูดชื่อไม่ได้


“อ๋อ พี่เคลโทรมาชวนกลับไปบ้านน่ะ ใกล้วันเกิดโทมัสแล้ว”


“ถึงกับต้องโทรมาเลยเหรอ”


“อืม อย่างนั้นเลยแหละ ไม่ต้องห่วงนะ พี่เคลไม่ได้ถามอะไรเรื่องตัวจุ้นสักอย่าง ไม่ติดใจอะไรด้วยที่ตัวจุ้นไม่ยอมรับสาย”


“แล้วรู้ได้ไงว่ากูไม่ยอมรับสาย!” 


“พูดไม่เพราะ เดี๋ยวตีปากเลย”  แล้วคนที่บอกจะตีปากจะมาชูมีดใส่ทำไม! ตัวจุ้นแย้งอยู่ในใจ ไม่ได้หลุดออกไปเพราะมีดมันอันตราย


“แล้วรู้ได้ไงว่าไม่รับสาย”


“ไม่รู้ พี่เคลไม่ได้พูดด้วย แต่นี่เดาเก่ง เขาโทรมาแต่ไม่รับจริงๆใช่ไหมล่า”  เจนเดาเอง ไม่มีหรอกที่พี่เคลจะถามหา ซึ่งนั่นดีแล้วกับตัวจุ้น


แต่ทำไมอยู่ๆก็หงุดหงิดวะ…..


“เออๆ วันนี้มื้อกลางวันเขากินไรกันวะ”  ดังนั้นต้องเปลี่ยนเรื่อง


“ไม่รู้ดิ ไม่ได้ทำเองอ่ะ”


“อยากกินขนมฝีมือยาย”


“……. ถ้ายายลุกมาทำให้นี่วิ่งนะ” 


“ไม่ใช่ๆ นี่หมายถึงทำกินกันมะ ไม่ได้เข้าครัวนานแล้วด้วย เอาอะไรดี ขนมชั้น บัวลอย”


“เอาเป็นทับทิมกรอบไหม”


“ทับทิมกรอบ?”


“เออ ทับทิมกรอบล่ะกัน”  และเจนก็ไม่ได้รีรอให้อีกฝ่ายตอบตกลงใจว่าอย่างไร แต่เจนเลือกแล้วว่าจะทำทับทิมกรอบ


และเพราะตัดสินใจได้ดังนั้นเจนจึงเร่งมือเตรียมน้ำผลไม้ให้น้องวินให้เรียบร้อย เหลือบตามองนาฬิกา ก่อนจะคำนวณอะไรในหัวคนเดียว และเดินไปหยิบกระดาษมาขีดๆเขียนๆ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของตัวจุ้นหมด จริงๆตัวจุ้นรู้อยู่แล้วว่าเจนน่ะทำงานบ้านคล่องแคล่วเพราะต้องคอยช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ทว่าใครจะไปรู้ว่าภาพของเจนในครัวบ้านคนอื่นแบบนี้มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ยิ่งตอนที่เจนหันมาสนใจเจ้าตัวเล็กยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกละมุนตา ภาพแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน เพราะเจนในอดีตมีภาพลักษณ์คล่องแคล่วแบบคนทำงานมากกว่า….


ภาพ….ที่เหมือนจะเป็นพ่อบ้านหรือแม่บ้านแบบนี้….


“ทำงานนี่สนุกไหมวะ”


“สนุกนะเว้ย”


“เออ ดูก็รู้”


“กวนเหรอจุ้น”


“เปล่า เจนดูมีความสุขจริงๆนะ”


“……………” 


“ไม่คิดกลับคืนวงการธุรกิจแล้วเหรอ”


“ต้องกลับดิ”  เพื่อความเป็นอยู่อันยืนยาวและมั่นคง สักวันนึงเจนก็จะกลับไป แต่ตอนนี้เจนเหมือนได้มาพักร้อน และเป็นการพักร้อนที่ได้เงินไปด้วย แม้บางทีจะเสี่ยงเหมือนได้ขึ้นรถไฟเหาะวันละหลายๆครั้งก็ตาม


“แล้วจะทำอะไรต่อ คิดไว้ยัง”


“ยังอ่ะ อีกสักพักเลย”


“กะเลี้ยงลูกกบให้โตเลยเหรอ” 


“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก อีกสัก….ปี…สองปีค่อยไป”


“ขอให้มันจริงเหอะ”  ตัวจุ้นละกลัวจังเลย ไอ้ความมั่นใจของเจนนี่ไม่รู้เอามาจากไหน ตอนนี้นี่หลงกว่าใครก็เจ้าลูกกบนี่แหละ เดี๋ยวอีกปีสองปีอะไรนั่น ขี้คร้านจะต่อไปเป็นสิบๆปี


หรือตลอดไป…. ถ้าตกลงปลงใจไปเลี้ยงพ่อกบด้วยอีกคน


เจนที่จัดการวางแผนอะไรเสร็จสรรพเดินไปหาแม่เพื่อพูดคุยเล็กน้อย พอบอกว่าจะทำขนมไทยแม่ก็ตกใจอยู่พอควรเลย ก็อย่างว่า สูตรขนมของยาย แม้แต่แม่เองก็ยังไม่รู้ มีแต่เจนนี่แหละที่ต้องคอยช่วยยายที่แก่แล้วและทำคนเดียวไม่ไหว ทำไปทำมาเลยได้สูตรมาเอง และคงเป็นพรสวรรค์ด้วยส่วนนึงที่ทำให้จดจำได้ดีแม้ไม่เคยสอนกันเป็นกิจจะลักษณะก็ตาม


“เจนจะทำขนมอะไรนะลูก”  คุณพรรณีที่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นถามขึ้น เจนทำขนมเก่ง แต่ไม่เคยเห็นทำขนมไทยมาก่อน


“ว่าจะทำทับทิมกรอบนะครับ”


“ดีเลย ทำเยอะๆเผื่อตารบด้วยนะ”


“ครับ”     เจนต้องทำเผื่อเขาในฐานะคนหาเงินให้ใช้อยู่แล้ว


“ตารบชอบมากเลย ยิ่งสูตรของแม่ของอำไพนี่ยิ่งชอบ เอามาฝากที่ไรกินคนเดียวหมดตลอดเลย ตาลูกคนนี้”


“……ครับ”


“นี่ถ้าพี่เขารู้ว่าเราจะทำต้องดีใจมากๆแน่เลย”


“แฮ่ คงไม่ขนาดนั้นมั้งครับ”  แต่จริงๆเจนก็หวังไว้นิดหน่อย  ก็พอตัวจุ้นบอกอยากทำเจนก็คิดขึ้นได้ว่าทำอันนี้ก็ดี….ส่วนนึงก็เพราะรู้ไงว่าคุณรบชอบ


ติดสินบนเอาไว้ จะได้เลิกแกล้งกันสักที…..ใจเต้นแรงมันเหนื่อยนะรู้ไหม!


และก็อย่างที่คิดไว้ เมื่อเขากลับมาถึงบ้านเพื่อร่วมมื้อเย็น ของว่างที่เขาไม่คิดว่าจะมีก็ถูกจัดวางไว้ตรงหน้า นักรบเพียงเลิ่กคิ้วขึ้นมา เขาไม่ได้ถามออกไป เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงมีคนอธิบายให้ฟังเอง แต่เจนจะไม่พูดอะไร เพราะเจ็บคอ ไม่ใช่….คือที่ไม่พูดนี่เพราะไม่อยากเสนอหน้าเว้ย! แค่นี้ก็ได้ซีนเยอะแล้ว แบ่งให้คนอื่นบ้าง


“อันนี้เจนทำนะลูก ลองชิมดูสิ”  เห็นมะ อยู่เฉยๆก็มีคนบอกเขาให้แทน เจนยักคิ้วให้ทีนึงอย่างเป็นต่อ



“…………..”  แต่คุณนักรบรับมือได้ดี เขาเลือกที่จะเงียบไม่สนใจ จึงรับไปหนึ่งแต้มสลิธิรีน ปล่อยให้เจนรักษ์กริฟฟินดอร์ค้อนลมไป


“อร่อยไหมลูก”


“ดีครับ”  เขาพูดอย่างนั้น เออเจนก็รู้เว้ยว่ามันดี แต่กลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปากเหรอถึงได้พูดน้อยประหยัดคำแบบนี้ อวยกันหน่อย มันจะอึดอัดตายให้ได้เลยหรือไง


และเขาก็กินไปเงียบๆจนหมดนะแหละ ก็คงอร่อยละมั้ง เพราะเจนก็ชิมจนมั่นใจแล้วว่ามันคือรสมือแบบเดียวกับที่ยายทำ แต่คนท่ามากคือคนท่ามาก วิทยาศาสตร์อาจจะช่วยแก้ไขรสชาติอะไรให้ได้บ้าง ในส่วนของอคติหรืออุปนิสัยมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคุณรบไม่ได้บอกว่ามันอร่อย งั้นต่อไปเจนจะไม่ทำให้กินอีกแล้ว ทีนี้ก็อย่ามาง้อแล้วกัน!!!


“ทำเองเหรอ”  บอกแล้วไงว่าอย่ามาง้อ ฮึ!


“เปล่าครับ สั่งให้คนอื่นทำให้”  เจนตอบเช่นนั้น ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา คนเราจะงอนเช้าเย็น งอนทุกวันไม่มีเว้นแบบนี้ไม่ได้ แต่ไม่ทันแล้วครับ เจนสะบัดก้นอุ้มเจ้าลูกกบเดินหนีคนพ่อแล้ว แต่ขาสั้นหนีเท่าไหร่ก็ไม่พ้น


“พูดดีๆหน่อยสิ”  เขาเตือน เอออย่างน้อยก็เจ้านายละวะ


“เจนทำเองครับ เผอิญตัวจุ้นอยากกิน”  จุ้นอยากกินขนมไทยรสมือแบบยาย และทับทิมกรอบก็คือขนมไทย เจนพูดผิดตรงไหน ไม่ได้ผิดเลยนะ


“ตัวจุ้นนี่ชอบอะไรเหมือนผมเนอะ ขนมไทยมีตั้งร้อยพันอย่าง”  อย่ามารู้ทัน ได้โปรด เจนหรี่ตามองเขา ก่อนจะส่งตาหนูให้คนพ่อที่ยังอยู่ในชุดทำงานอุ้ม เอาอีกแล้ว เวลามีปัญหาชอบโยนกันไปมาแบบนี้ทุกที สักวันนึงน้องวินต้องโวยวาย คอยดู!


“บังเอิญหรอกครับ เจนคิดว่าคุณรบไม่น่าจะชอบเสียอีก”


“ผมว่าเคยมีคนบอกคุณนะว่าผมชอบทับทิมกรอบสูตรคุณยายมาก”


“เจนจำไม่เห็นได้”


“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงวันนี้ก็ได้กินแล้ว”


“………..”


“อร่อยนะ”


“ก็ต้องอร่อยสิ เจนตั้งใจทำ”


“อืมรู้สึกได้เลยล่ะ”


“………….”


“ว่าคนทำต้องเอาใจใส่มากแน่ๆ”


“คุณรบชอบก็ดีแล้วครับ”


“อืมนั่นสิ……ผมชอบ….มากจริงๆ”  กลับกันเจนนั้นไม่ค่อยชอบคำว่าชอบของเขาเลย….


ขนมวันนี้ไม่ได้ใช้อ้อยเป็นส่วนประกอบเสียหน่อย…..


“ทำให้กินอีกสิ”  เพื่ออะไรกันล่ะ  ติดสินบนทั้งที แทนที่จะให้ความร่วมมือ เจนทำแล้วไม่เห็นจะได้กำไรแถมยังพากันขาดทุนซ้ำๆแบบนี้


คิดจะขายทั้งทีมันก็ไม่ควรโดนกินทั้งขนมลามไปถึงทั้งตัวแบบนี้เซ่ะ!
ถูกผู้บริโภคเอาเปรียบชัดๆ!!!!!!!






Talk: คุณรบคนกากของทุกคนและสินบนไม่ได้เรื่องของเจนเอง55555  สุขสันต์วันหยุดยาวนะคะทุกคน รบเจนอาจจะเคลียร์กันช้าหน่อยแต่เคลียร์กันชัวร์ๆแน่นอน เราจะพยายามไม่ปล่อยให้รอนานกัน ทุกคนอาจจะกำลังเซ็งความกากของคุณรบแต่แอบอยากให้เข้าใจเขานิดนึง5555 ด่าได้แต่อย่าแรง เจ็บปวดแทน55555


ฝากรบเจนเรือหน่วงแบบหวานเย็นไว้ต่อไปนะคะ อีกไม่นานเกินรอพี่เคลผู้ที่ทุกคนเรียกร้องให้มาแปะมือต้องได้ออกค่ะ ออกแค่ชื่อมานานแล้ว5555555

@twitter reallyuri
#เจนไม่นก




หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-08-2018 16:46:35
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2018 16:58:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-08-2018 17:13:54
หมั่นไส้เนาะ คำว่าชอบนี่มีนัยยะอะไรป้ะ ขอชัดเจนๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 11-08-2018 18:26:33
คุณรบนี่ไม่ธรรมดานะ พูดแต่ละทีเจนม้วนได้หลายตลบเลย   :katai2-1:

ลูกกบน่ารัก  อยากเห็นโมเม้นท์ พ่อแม่ลูกเล่นกันบ้าง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-08-2018 20:02:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-08-2018 20:04:12
คุณรบ........แน่ะ อ่อยเจนแล้ว

จาก       ".......สั่งให้คนอื่นทำ
มาเป็น    “เจนทำเองครับ เผอิญตัวจุ้นอยากกิน” 
             “ก็ต้องอร่อยสิ เจนตั้งใจทำ” อ้าว.......เจนเฉลยเองซะและ           
             “คุณรบชอบก็ดีแล้วครับ”

            “อืมนั่นสิ……ผมชอบ….มากจริงๆ”
เอ่อ..........คุณรบ บอกเจนชัดๆสิที่ว่าชอบน่ะ ชอบขนม หรือ ชอบเจน
ชอบขนมไม่สำคัญเท่าชอบเจนนะ   :-[
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 11-08-2018 20:47:34
อยากได้พี่เคลอ่ะ แค่ได้ยินซื้อก็ตกหลุมรักแล้ววว
ขอจากตัวจุ้นได้มั้ยยยยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 11-08-2018 21:03:37
เจนรักษ์อยู่ไหน คุณรบให้ใจเอาไปเลยพรี่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-08-2018 21:49:51
จะจีบก็บอกกันไปตรงๆค่ะคุณรบอย่ามาท่ามากกันแบบนี้ เนอะลูกกบเนอะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-08-2018 22:08:37
ลูกกบช่วยป๊ากะพี่เจนหน่อยสิ่ลูก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-08-2018 22:39:27
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 11-08-2018 23:36:16
คุณรบผีเข้าผีออกอ่ะ
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทำเอาอารมณ์น้องสวิงไปหมดแล้ว
อีกอย่างนึงนะ เจนรักษ์เป็นนกนะคะไม่ใช่ช้างจะได้มาคอยป้อนอ้อยให้บ่อยๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-08-2018 23:39:13
จีบยังไงให้ไม่รู้ว่าจีบ คุณรบอ้อยมากกกกก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 12-08-2018 00:13:27
นี้คือพยายามห่างกันถูกม้ะะ ไหนระยะห่างพูดดดดด55555555 :ling1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-08-2018 00:26:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-08-2018 06:47:05
คุณรบชอบอะไรจ๊ะ บอกให้ชัดเจนหน่อยสิว่าชอบขนมหรือชอบเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-08-2018 08:04:17
คุณรบขอความชัดเจนด้วยค่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 34] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 11.8.2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 12-08-2018 20:19:36
ต่างคนต่างไม่เข้าใจกันนนนน​ รอคุณรบชัดเจนกว่านี้นะคะ​ เจนจะได้ไม่ปิดกั้นตัวเองงงว :ling1:
หัวข้อ: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 15-08-2018 18:42:37
#เจนไม่นก
เจนกับการเดินถอยหลัง


และหลังจากนั้นมา เจนก็ตัดสินใจไม่เดินหน้าและไม่ถอยหลังอีก
เพราะเหมือนว่าเจตนาที่ดีของตน สุดท้ายแล้วก็ถูกตีความไปแบบเผียดๆเรื่อยจนทนไม่ไหวแล้วว้อย!


“วันนี้ก็ยังยุ่งอยู่หรือครับ”  นักรบถามแม่ไพของเขา


“ค่ะ ไม่รู้ยุ่งอะไรนักหนา”  คำตอบของแม่ไม่เชิงแซะ ถ้าเจนรู้คงกระอักเลือดตาย


“นี่ก็ไม่รู้ว่าผมให้เงินเดือนน้อยไปหรือเปล่า คุณพี่เลี้ยงดูยุ่งจัง”  นักรบพูดด้วยรอยยิ้มเหี้ยม  เจนรักษ์หลบหน้ากันมาจะอาทิตย์แล้ว ถ้าไปทำเรื่องอะไรให้งอนก็ดีอยู่หรอก แต่นี่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก


“ไม่รู้สิคะ ทำไมไม่ลองไปถามดูละคะ คุณรบ”  คุณอำไพตอบกลับยิ้มๆ


“วันนี้มาผูกเนคไทให้ก็รีบๆ สงสัยจะยุ่งจริงๆ”  นึกภาพคนที่เปิดประตูเข้ามา หยิบเนคไท จับพาดคล้องคอ ผูกและรูดทันที ทำรุนแรงซะอย่างกับไม่กะให้เข้ามีชีวิตอยู่ต่อไปอีก


ถามจริงโกรธหรือเขิน….ทำอะไรให้มันชัดเจนหน่อยสิ


แต่เขามั่นใจว่าไม่มีอะไรให้โกรธ นักรบนั้นเมื่อพอจะจับทางเจ้าตัวดีได้บ้างแล้ว เขาก็เร่งรีบแก้ไขไม่ให้เวลามันผ่านไปนาน เจนรักษ์นั้นสำหรับเขาเป็นอะไรที่เปราะบางมาก และไม่น่าเชื่อว่าเขาจะรับมือได้ทั้งหมดด้วยความยินดี ในความต่างทางบุคลิกนี้มันไม่ได้ชี้ชัดเลยว่าเรานั้นต่างกันมากมาย จริงๆแล้วเขาค้นพบว่าเจนมีมุมเปราะบางแบบที่เขาเองก็มี เราต่างก็มีปัญหาและไม่เคยให้ความไว้ใจกับใครจริงๆ และจุดๆนั้นก็เหมือนจะดึงดูดกันและกันให้เข้ามาใกล้ นอกเหนือที่ว่าอยู่ด้วยแล้วสนุกดี นักรบก็ค้นพบแต่ความสบายใจ


แต่ไหงเป็นงั้นไปแล้วล่ะ


ตีความได้อย่างเดียวว่าเขิน แต่จะเขินอะไรขนาดนั้น นักรบได้แต่ถอนหายใจ จะว่าไปเขาเองก็ไม่ค่อยรู้ตัวนักว่าทำอะไรลงไปบ้าง เจตนาแรกเริ่มเพียงแค่ให้เราคุยกันได้ดี พอเห็นเจนเริ่มจะไม่พอใจ เขาก็มักมีความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปพูดคุยให้อีกฝ่ายสบายใจ ไฉนเลยเจตนาจะผันแปรไปเป็นการเกี้ยวพาราสีได้ เขาเองไม่เคยคิดอยากทำอย่างนั้น แต่เมื่อมองดวงตาและท่าทางของอีกฝ่าย เขาก็หลุดเสมอ ช่างน่าประหลาดใจนักเพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อนเลย


อาจจะเพราะความสบายใจที่กล่าวไว้ในตอนแรก กับเจนเขาแทบไม่ต้องปรุงแต่งปรุงเสริม หรือจะปรุงก็เป็นไปเพราะความพอใจและชื่นชอบในปฏิกิริยาของอีกฝ่ายมากๆ โดยรวมแล้วเพราะเหตุผลเหล่านี้ มันจึงทำให้เขาเผลอแสดงออกถึงมุมอื่นๆที่ไม่คุ้นเคยออกไป แต่อย่างไรดีนะ ไม่คุ้นเคย แต่เขาก็ยังสบายใจ และไม่เคยต้องหวั่นเกรงว่าสิ่งที่ทำไปจะดูไม่ดี และอะไรที่เจนบอกกันว่าไม่เหมาะสม หัวของเขาก็มักจะคิดตามและเออออตามไป


แต่หัวใจกลับค้านชนฝา เพราะไม่มีอะไรไม่เหมาะสมเลยสักนิดเดียว


สุดท้ายแล้วเขาก็ออกจากบ้านโดยที่ยังไม่ได้ไขข้อข้องใจสักนิดเดียว แต่นักรบร้ายกาจกว่านั้น เจนรักษ์อาจจะได้สัมผัสมันมาบ้างแล้ว คิดจะเล่นแง่กับเขาไม่ง่ายนักหรอก ได้ชื่อว่าเป็นเหยื่อก็จะได้เป็นตลอดไป และเหยื่อตัวน้อยนี่ก็เล่นสนุกเสียด้วย เขาจึงจริงจังกับการวิ่งไล่จับครั้งนี้ นี่คิดว่าจะหนีไปได้ไกลแค่ไหนกันเชียว ถ้ายังเป็นพี่เลี้ยงน้องวินอยู่ ไกลสุดเขาให้แค่บนต้นมะม่วงเถอะ!


อย่าคิดว่าจะไปไหนรอดเลย…..

xxx



คุณรบไม่อ่อนโยนเลย!


ในตอนแรกๆก็พอจะรู้หรอกว่าเป็นคนเกรี้ยวกราดแบบเงียบๆ แต่พออยู่ไปนานวัน เจนก็เริ่มเห็นพระฤทธิ์พระเดชของเขามากขึ้น เหมือนกับว่ายิ่งหนีก็จะยิ่งตาม แต่ถ้าอยู่เฉยๆก็จะทำให้หนีอยู่ดี คนแบบนี้มันอีหยังวะ เจนตามไม่ทัน เจนไปไม่ถูก และเจนก็ไม่คิดจะตามแล้วด้วย!  แต่ทำไมไม่รู้ พอหนีไปเรื่อยๆก็เริ่มรู้สึกว่าเขานั้นเริ่มไม่ได้เดินตาม เจนอาจจะเผลอน้อยใจ แต่ไม่เลย ทำไมเจนถึงคิดว่าคุณรบกำลังจะทำอะไรสักอย่าง….


ที่ชั่วร้ายและเอาคืนกันได้แบบเจ็บแสบกว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่า


“นี่กูไปทำอะไรให้เขาเนี่ย”  นอกจากทำหน้านกๆไปวันๆก็ไม่ได้ทำอะไรแล้ว พอเราเริ่มได้สติตีตัวออกห่าง ก็เป็นเขานั่นแหละที่มากระชากให้กลับไปในวังวนนรกนั่นอีกครั้ง นี่กะจะเอาความสนใจจากเจนไปทั้งหมดทุกคนเลยใช่ไหม รักทั้งลูกแล้วก็ยังต้องเผื่อไปให้พ่ออีกเหรอ!


“เจนจ้ะ”  ตายยากจริงๆตระกูลนี้ คิดถึงลูกคิดถึงหลาน คนแม่ก็เรียกหาด้วย


“ครับ”  เจนนั้นขานรับ ผละจากน้องวินที่กำลังดูดน้ำผลไม้


“เดี๋ยวช่วยอะไรหน่อยได้ไหมจ้ะ”  คุณหญิงพูด ดูท่าทางออกจะเกรงใจ


แต่นั่นมันไม่จริง!


“อะไรเหรอครับ”


“ช่วยเอาอาหารกลางวันไปส่งให้ตารบหน่อยได้ไหม เขารีบเคลียร์งานน่ะวันนี้”


“งานคุณรบยุ่งเหรอครับ”


“เดี๋ยวจะไปบิสเนสทริปยาวน่ะ เลยต้องรีบ”


“อา…”


“จะว่าไปเจนก็จะลายาวอาทิตย์หน้าเหมือนกันนี่ พอดีเลย”


อย่าพูดอะไรที่เป็นลางสิครับ!


“หายกันไปทั้งคู่ก็ดี จะได้ไม่ต้องลำบากฉันมาผูกเนคไทให้”  เจนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก คำพูดนี้ไม่ได้พิสดารจนเกินรับได้จริงๆ


แต่ภาระที่ต้องแบกกล่องข้าวไปส่งให้คุณพ่อกบก็ยังคงต้องทำอยู่ดี เจนรักษ์นั่นมาโผล่ที่ออฟฟิศและพกน้องวินมาอีกเช่นเคย จริงๆไม่มีใครบอกให้เอามาด้วย แต่การมีไว้ก็เหมือนพกพระ ทำให้รู้สึกอุ่นใจยิ่งกว่า ก็อย่างที่บอกว่าเจนไม่ควรอยู่กับคุณรบโดยไม่มีน้องวิน อาจจะดูน่าหมั่นไส้คนอะไรคิดมากไปนิด แต่เจนก็ยังคิดว่ามีไว้สบายใจกว่าอยู่ดี


วันนี้ก็ยังได้รับการต้อนรับดีจากเจ้าหน้าที่ของทางตึกเช่นเดิม บางทีเจนยังสงสัยด้วยซ้ำว่ากับคุณนักรบเองจะได้รับการต้อนรับดีขนาดนี้ไหม พอมาถึงห้องท่านประธาน เลขาผู้รู้ใจก็ออกมาราวกับมีพรายไปกระซิบบอกไว้ก่อน น้องวินในอ้อมแขนของเจนนั้นเอาแต่หลบคุณเพชรที่หยอกเก่งหยอกอยู่ได้อย่างไม่แน่ใจว่าชอบหรือรำคาญกันแน่ หยอกไปรอบๆตัวเจนสักพักให้รู้สึกรำคาญได้ไม่นาน


ก็ได้ระเห็จไปเพราะคนข้างในนั้นออกมามองกันด้วยตาที่ขวางราวกับมีบ้านแถวบางขวาง


“ไปชงกาแฟ”  นักรบที่เฝ้ารอมาสักพักแล้วนั้นทนต่อไปไม่ไหว คาดการณ์ไว้แม่นยำว่าเลขาหน้าเป็นของเขาต้องออกไปชวนทำเรื่องไร้สาระเป็นแน่จึงออกมาตามด้วยตนเอง นักรบรู้สึกเหมือนเขารอมานานแล้ว แต่จริงๆมันไม่ถึง 3 นาทีด้วยซ้ำที่เจนมายืนอยู่หน้าประตูแห่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วเราก็เห็นตรงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ว่าคุณเพชรนี่แม่งเกะกะชะมัด


“ปาปา ป้า!”  น้องวินที่เห็นผู้พิทักษ์อันดับหนึ่งของตนเดินมาก็ส่งเสียงเรียก อาจจะยินดีด้วยซ้ำที่ในที่สุดก็มีคนมาไล่ตาลุงนี่ไปเสียที และคนนั้นไม่ใช่ใคร….ปะป๋าของหนูเองไง


“มากับเขาด้วยเหรอเจ้าลูกกบ”  ดูเหมือนจะพูดกับลูก แต่ก็มองคนอุ้มด้วยแววตาคาดโทษทั้งๆที่เจนว่าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ แต่ทั้งๆที่มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดไป แล้วทำไมเจนต้องกลืนน้ำลายไม่หยุดแบบนี้


“ปะ ป้า”  หนูไม่รู้ หนูโดนลากมา น้องวินอาจจะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองอยู่ด้วยภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ ยิ่งเห็นแววตาที่เหมือนกำลังจ้องเหยื่อของเขาที่มองมา เจนก็ยิ่งกอดเจ้าลูกกบแน่นกว่าเดิม ถามว่าช่วยอะไรได้ไหม ต้องได้สิ นี่ชื่อจริงชื่ออัศวินนะ!


“กินข้าวมาหรือยัง”  แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดกับเจ้าตัวเล็กอีกต่อไปแล้ว น้ำเสียงนั้นแม้จะดูเรื่อยๆแต่ก็นุ่มนวลลง อย่างไรก็ตามที่เจนทำมาทั้งหมด นักรบไม่ได้มองว่ามันน่ารำคาญเลย กลับกันเขารู้สึกว่าน่าขันเสียด้วยซ้ำ ช่างเลือกคนกลางได้ดีเสียจริง ติดสินบนด้วยไอติมรสไหนเล่า


“เอ่อ ยังครับ”  ก็ไม่มีใครให้เจนกิน!


“งั้นเข้ามา”   เขาบอกก่อนจะหลีกทางให้เจนเข้าไปภายในห้อง ว่าแต่คุณรบที่เจนคิดไว้คือคนที่งานยุ่งนี่หว่า เอ….เจนว่าเจนจำไม่ผิดนะ หรือที่ผ่านมานั่นแกล้งทำเป็นยุ่งวะ เนียนเชียว


บนโต๊ะทำงานยังมีเอกสารมากมายวางเรียงรายรอให้จัดการอยู่ ก็คงจะยุ่งจริงๆนะแหละ วันนี้ก็อาจจะไม่ได้กลับบ้านมากล่อมน้องวินนอน แต่เดี๋ยวเจนค่อยถามทีหลัง นักรบที่เดินตามมานั้นเป็นฝ่ายจัดการเก็บแฟ้มและเอกสารต่างๆด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้เจนเห็น แต่เพราะเราต้องใช้พื้นที่ตรงนี้ และการเก็บเองก็ช่วยทำให้เขารู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนได้ดี รอจนมีพื้นที่พอเพียงแล้ว เจนก็หยิบกล่องข้าวที่น้าจินเตรียมให้ขึ้นมาจัดวาง ก่อนจะหยิบน้ำส้มคั้นสดในกระติกน้ำขึ้นมาให้ด้วยเช่นกัน


“คั้นมาเผื่อผมด้วยเหรอ”


“เจนคั้นให้น้องวิน แต่มันมีเยอะไปต่างหาก….”  คนอะไรขี้ตู่!  เป็นอะไรกับผู้นำประเทศปะเนี่ย  แค่กๆ!


“ใจดี”  พูดว่าขอบคุณมันยากไปเหรอ ชมแล้วยิ้มแบบนั้นทำไม อยากได้อะไร แค่นี้เจนก็แทบจะขายบ้านให้ลูกแล้ว อย่าให้เกิดความรู้สึกอยากเสียตัวให้คนพ่อสิ! เอ๊ะ….ไม่ได้ดิ เจนจะอยู่บนคานอย่างมีคุณภาพ รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เปย์


“คุณรบจะทานเลยไหมครับ”  เขายิ้มรับให้กับหน้าบึ่งๆของคนที่ไม่ชอบใจกับท่าทางไนซ์ๆที่เขาทำ นักรบเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้สนุกกับการเป็นใครคนนึงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงเพราะแค่จะได้เห็นท่าทางน่าสนใจของอีกฝ่าย เขาถึงกลับพลิกคาแรคเตอร์จากฟ้าไปเหวเลยทีเดียว


ว่าแต่เขาเป็นใคร…. ทำแบบนี้กับเจนได้ไง
ใครอนุญาตเหรอ?????


จริงๆก็ไม่มีใครอนุญาตหรือสั่งห้ามอะไร แต่เขาไม่ใช่คนที่ชอบเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคนเท่าไหร่ แม้แต่กับรดาเองเขาก็มีวิธีแสดงความรักแบบเงียบๆ ซึ่งบางทีก็เงียบเกินไปจนอีกฝ่ายไม่สนใจ หรือต่อให้แสดงออกชัดเจนหรือเงียบงันแค่ไหน คนที่ไม่ใช่สำหรับรดา ยังไงมันก็น่ารำคาญอยู่ดี แต่กับเจน เขายอมรับว่าท่าทางไนซ์ๆที่ว่านี่มันจะเกินไปสักหน่อย สนุกอะไรมันก็ควรมีลิมิตบ้าง แต่ที่ทำมาทั้งหมดยังไม่รู้ซึ้งถึงลิมิตของตัวเองเลย ซึ่งจะให้รู้สึกมันก็ไม่ยากนัก เพียงแค่ตอบคำถามง่ายๆคำเดียว


ที่ทำไปนั้นรู้สึกอึดอัดบ้างหรือยังล่ะ?


ไม่เคยถามตัวเอง และไม่เคยรู้สึกเมื่อลองถามตัวเองดู….เขาเคยมีลิมิตกับทุกคน และแม้แต่กับเจนรักษ์ก็เคยมีเหมือนกัน ทว่าเวลาคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ลิมิตดังกล่าวไม่เคยถูกพูดหรือคิดถึงมันอีกเลย เขารู้สึกเป็นธรรมชาติมาก ทั้งๆที่มันไม่เคยเป็นส่วนนึงในธรรมชาติของผู้ชายที่ชื่อนักรบ รัตนสกุลมาก่อน ต้องยอมรับแล้วล่ะว่าเจนรักษ์นั้นพิเศษกับเขาคนนี้มากมายเหมือนกัน


แต่มันใช่….ความรักหรือยังล่ะ


ว่าแต่อะไรคือความรักเหรอ……จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจ ทั้งชีวิต เขาคิดว่าความรักนั้นคือความห่วงใยแบบที่มีให้กับลูกและแม่หรือเปล่า กับรดานั้นเขาเพิ่มความหวั่นไหวลงไปในนั้น และก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับกลับ หากแต่วันนึงเมื่อรับรู้ว่าการรั้งไว้ไม่ช่วยอะไร เขาก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆ พร้อมกับคำว่าพอแล้ว ในวันนี้เขากลับมามีความหวั่นไหวอีกครั้ง แต่ก็น่าคิดว่ามันจะฉาบฉวยหรือไม่ เขาเคยเป็นคนที่ปักใจกับใครคนนึงนานกินเวลาหลายปี แต่ก็รับรู้ว่าวันนึงช่วงเวลาเหล่านั้นเมื่อผ่านไปก็ไม่เหลือคุณค่า และในช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้ ใครจะไปกล้าตอบได้….ว่าความหวั่นไหวนั้นมันคืออะไร


เพราะความรักมันเป็นนามธรรมที่ยากเกินกว่าคนแข็งๆอย่างเขาจะเข้าใจ


“กะ ก้า กา”  แต่เขามองเจนที่กำลังคุยกับเจ้าลูกกบราวกับเพื่อนเล่นแล้วเขาสบายใจ รู้สึกเหมือนมองได้ทั้งวันโดยไม่ต้องทำอะไร และมีบางครั้งก็อยากจะหลุดออกจากการมองเฉยๆและเข้าไปมีส่วนร่วม นักรบเคยหวงความเป็นส่วนตัว ทุกวันนี้ก็ยังเป็น แต่เขาคิดว่าการที่เจนรักษ์อยู่ในนั้น ไม่ใช่การก้าวก่ายแต่อย่างใด หากไม่เพราะเจ้าตัวมีตัวตนอยู่ในนี้อยู่แล้ว ก็เป็นเขานั่นแหละที่เดินเข้าไปหาเอง


มันก็ชัดเจนแต่ก็ทำเหมือนไม่ชัดเจนอยู่ดี….
ทั้งนี้เขาสบายใจอย่างนี้ หรือว่ากลัว…หากกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง….


“เจนเอง….ก็จะไม่อยู่บ้านเหรอ”  เขาถาม กำลังจิบน้ำส้มที่ไม่ใส่น้ำตาลจนเกินไปที่เจนทำให้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวันนี้ที่ไม่ชงกาแฟมาด้วย เพราะไม่อยากให้เขาดื่มมันเท่าไหร่ และเพราะเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ออกปากให้อีกคนออกไปชงกาแฟให้กันแทนคนที่ชงมาให้แล้วเขาไม่เคยกินจริงๆ ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าหายไปชงกาแฟแถวไร้กาแฟหรือเปล่าถึงได้หายไปเหมือนตายแบบนี้


“ครับ ทั้งๆที่ทำงานมาได้ไม่นานแท้ๆ ต้องขอโทษจริงๆนะครับ”  เจนตอบกลับอย่างนอบน้อม ท่าทางที่ดูเกรงอกเกรงใจคงไว้ซึ่งสถานะผู้ว่าจ้างและลูกจ้าง นักรบจำต้องยกแก้วขึ้นจิบอีกครั้งเพื่อเลี่ยงการแสดงออกทางใบหน้า


“ไม่ต้องหรอก เราอยู่กันแบบสบายๆ”  จริงๆก็ไม่สบายขนาดนั้นหรอก เขานึกสงสัย ว่าหากไม่ใช่คนแบบเจนรักษ์ ที่ทำตัวแบบเจนรักษ์ และเป็นที่เอ็นดูแบบเจนรักษ์ มีนายจ้างที่ไหนจะยอมให้ลายาวเป็นอาทิตย์แบบนั้นบ้าง แต่อีกฝ่ายต้องกลับบ้านนี่นา ทั้งนี้คุณพรรณีคงต้องยอมเพราะถ้าไม่…ก็เป็นไปได้ที่ว่าอีกฝ่ายจะไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีก


“ขอบคุณคุณรบมากครับ”  เจนยิ้มให้เขา เป็นการขอบคุณกันในความเอื้อเฟื้อ ถึงยังไงเขาก็คงไม่ได้เจออีกฝ่ายในระยะเวลาไล่เลี่ยกันเนื่องจากว่าเขามีบิสเนสทริปที่ต่างประเทศ เท่าที่รู้ คือเจนจะต้องกลับไปหาญาติผู้ใหญ่ที่เคยรับกันไปเลี้ยงดู คนพวกนั้นสำคัญกับเจนมากอย่างไม่ต้องสงสัย และคงสนิทสนมกันมากๆ....เพราะเจนมีตัวตนอยู่ที่นั่นมานานแสนนาน  นานมากจนเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในปีนี้


มื้ออาหารของเขาเสร็จสิ้น แต่เจนก็ยังไมได้กลับ ทั้งนี้เพราะเจ้าลูกกบได้ย้ายถิ่นฐานจากตักพี่เจนไปยังตักของคนเป็นพ่อ เห็นได้ชัดว่านักรบไม่มีอาการเกร็งกับลูกชายเหมือนที่เคยเป็นในตอนนั้น ทางด้านความรู้สึกผิดก็คงจะถูกชะล้างไปหมดแล้ว เจนรักษ์ถือว่าภารกิจของตนนั้นผ่านพ้นไปได้อย่างดี ต้องขอบคุณเขาที่อดทนและให้ความร่วมมือมาตลอด นักรบไม่ได้รู้สึกติดค้างอะไรต่อน้องวินอีกแล้ว การที่เขาเลิกกับแม่ของอีกฝ่ายไปไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก และเขาก็รู้สึกผิดที่ทำให้ลูกกำพร้ามาตลอด แต่ก็ไม่สามารถทนรั้งรดาไว้ได้จริงๆ ถ้าเขาไม่เคยพยายามขอร้อง และถูกปฏิเสธอย่างเย็นชามานับครั้งไม่ถ้วนเช่นนั้น บางทีเขาอาจจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ให้กับลูกชายที่จะเกิดมาคนนี้


แต่ภาพฝันแบบนั้นไม่มีวันจะเกิดขึ้น…..


ทว่าในตอนนี้เขาก็หมายมั่นที่จะสร้างภาพฝันที่สมบูรณ์แบบแบบใหม่ให้กับลูกชาย ต้องขอบคุณเจนรักษ์ที่ทำให้เขาคิดได้ เราสองคนคือเด็กที่แตกหักในวันวานซึ่งมีแนวคิดตรงข้ามกันมาตลอด เจนเป็นเด็กกำพร้าอย่างแท้จริง แต่รับรู้ได้ด้วยตนเองว่าความรักสร้างได้รอบตัว เพราะความรักนั้นมีคำนิยามมากมาย และเด็กคนนึงอาจจะไม่มีพ่อหรือแม่ แต่ยังมีคนมากมายที่พร้อมจะเติมเต็มส่วนที่เขาอาจจะขาดหายไป หากไม่มีเจนเข้ามาในชีวิต นักรบที่มีทั้งพ่อและแม่แต่เติมไม่เคยเต็มคนนั้นจะรู้ตัวไหม ว่าเขานี่แหละที่กำลังสร้างบาดแผลให้ลูกจากความกลัวของตนเอง


“ปะ ปา”


“ชอบจังเลยนะเนคไทของป๊ะป๋าเนี่ย”  เขาพูดกับลูก เขี่ยแก้มอมชมพูนั้นอย่างเผลอไผล เอะอะเอาเข้าปากตลอด


“คิกๆ ฮะๆ”


“พี่เจนผูกให้ป๊ะป๋าสวยๆ ตาหนูจะมาทำเลอะๆไม่ได้นะครับ ป๊ะป๋าผูกเองไม่เป็นนะ”


“แบ แบ้”


“เดี๋ยวพี่เจนโกรธเราสองคนนะ แล้วใครจะมาผูกให้ป๊ะป๋ากัน”


“พูดซะเจนดูเป็นคนร้ายๆเลยครับ”  ในที่สุดคนที่นั่งใจเต้นแรงมองภาพสองพ่อลูกคุยกันเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวก็ต้องบ่นออกมาเมื่อมีชื่อของตนในบทสนทนา ก็เพราะเจนนั่งอยู่หรอก เขาเลยพูดถึง จะมาพูดลับหลังไปทำไม เจนไม่ได้ยินก็ไม่รู้สึกอะไรนะสิ ผิดจุดประสงค์ในการพูดถึงของเขาหมด


“เจนจะดูใจดีกว่านี้ ถ้ามาผูกเส้นใหม่ให้ผม”  ก็เส้นที่สวมอยู่นี่มันเยิ้มน้ำจิ้มเจ้าลูกกบไปหมดแล้วนะสิ


“แล้วเจนเลือกอะไรได้บ้างไหมล่ะครับ”  เจนพูดออกมา ดูก็รู้ว่างอนกันอยู่ จะว่าไปเจนก็งอนคุณรบทั้งวัน เขาจะเพิกเฉยตามสไตล์ของเขาก็ย่อมได้ แต่นี่ก็ง้อได้ง้อดี ง้อแล้วก็ทำให้งอนอีก คนบ้าบออะไรก็ไม่รู้ เหมือนเอาเจนมาตีด้วยไม้หน้าสาม ก่อนจะทายาและลูบหัวให้ แล้วก็จับมาตีๆๆๆๆอีก


“ผมจะกลับไปทำงานแล้วล่ะ”  ในที่สุดช่วงเวลาที่เจนไม่โปรดปรานก็กำลังจะจบลง แต่ลึกๆก็แอบใจหายไม่น้อย


หลังจากเก็บข้าวของ คนตัวเล็กก็เดินไปรับเจ้าลูกกบจากตักพ่อเขา จับใส่เป้อุ้มแปลงร่างเป็นลูกจิงโจ้ชั่วคราว ก่อนจะเหยียดตัวยืนหลังตรง และเมื่อใบหน้าเงยขึ้นมาได้องศาที่พอเหมาะ ก็ได้เห็นว่าเจ้าของร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพง ทั้งตัวของเขาดูเนี้ยบไปหมด แลดูเหมือนมีแสงเจิดจ้าจนเจนต้องก้มหน้าลงเพื่อหลบตา มือของเขาดูเรียวสวยน่าลูบไล้และมันก็ยื่นส่งเนคไทของเขาที่น่าจะมีเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งในห้องแห่งนี้ เจนรับมาก่อนจะจัดการทำหน้าที่ของตน ในใจพยายามหยุดคิดทุกสิ่งทุกอย่าง สุดท้ายเจนก็ทำไม่ได้ และมือของตนก็ชะงัก เมื่อความคิดแล่นเข้ามาในจุดที่เกินจะรับไหว คุณรบดูดีมากๆ เขาดูเหมือนจะเป็นไทป์แบบที่เจนชอบและคลั่งไคล้ และเมื่อนึกถึงสถานะระหว่างเรา และภาพลักษณ์ของเขา


มันก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวร้ายๆกับเจ้านายคนเก่าขึ้นมา


“………”


“………”


“………”  ไม่มีอะไร….



ไม่มีอะไร….เจนบอกตัวเองเช่นนั้นก่อนจะจัดการผูกเนคไทให้เขาอย่างสวยงามจนเสร็จ ราวกับช่วงเวลาที่หยุดนิ่ง นักรบรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างได้เกิดขึ้นแล้ว เขาก้มลงมองเจนรักษ์แต่ไม่ได้คำตอบอะไรออกมา แม้แต่สีหน้า อีกฝ่ายก็ซ่อนไว้มิดชิด ราวกับไม่ใช่เด็กเด๋อๆที่เขารู้จัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวมีมุมนี้อยู่ด้วยจริงๆ เจนไม่ใช่เด็กใสซื่อจากบ้านนอกที่ไหน แต่อีกฝ่ายเคยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้บริหารมาก่อน และนั่นทำให้เจนสามารถกอบกู้ตัวเองจากภาวะทางอารมณ์และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อย่างกระทันหันได้ดี ถ้าทำจริงๆ


แต่เจนรักษ์ที่เป็นแบบนี้ทำให้เขาหวั่นใจ….เมื่อคู่กรณีเหมือนจะเป็นตัวเขาเลย


“เจน….ขอตัวก่อนนะครับ”  ตลอดมาเจนอาจจะใจอ่อนเกินไปจริงยอมแสดงด้านอ่อนแอเหล่านั้นออกมา แต่ถ้าวันไหนใจแข็งจริงๆก็คงไม่ยอมอีกต่อไป และเราก็จะได้เห็นหน้ากากอันนั้นที่เจ้าตัวไม่เคยเอามาใส่


“อืม”  หรือเขาควรให้ระยะกับเจนนิดหน่อย รุกแรงง้อเก่งแบบที่ทำนั้นอาจจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับการป้องกันตัวเองระดับนี้ที่เขารู้สึกได้ อยู่ๆกำแพงที่มองไม่เห็นก็เหมือนจะหล่นลงมาแยกเราออกจากกัน ทั้งๆที่เจนนั้นอยู่เพียงเอื้อมมือ และไม่ใช่นักรบเอื้อมได้ไม่ถึงหรอก แต่เขาไม่มีสิทธิ์อะไรจะเอื้อมไป


ตัวเป็นใคร แล้วรู้สึกอย่างไรเขายังไม่ยอมตอบตัวเองเลย….


“ที่คุณรบทำไป เจนไม่โอเคนะครับ”  แล้วเรื่องที่เราเลี่ยงจะพูดกันออกมาสักพัก….


ก็มีคนๆนึงที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว


“แต่เจนจะพยายามไม่คิดอะไรล่ะกัน”


“ผมทำอะไรเหรอ”  แต่เขาก็ยังถามคำถามที่ตัวเองรู้คำตอบอยู่แก่ใจ อย่าบีบให้เจนต้องพูดออกมาชัดๆจะได้ไหม เขามองอีกฝ่ายโดยไม่หลบตาแม้แต่น้อย แต่ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ควรทำเช่นนั้น เขาควรรู้ว่าเจนโกรธมาก


โกรธทั้งเขา…และโกรธตัวเอง


“ถ้าคุณรบไม่ได้ทำอะไร ก็คงมีแต่เจนที่ผิดแล้วล่ะครับ”


“เจนทำอะไรผิดเหรอ บอกผมได้ไหม”


“ไม่บอกครับ”


“แล้วผมจะรู้ไหมว่าทำผิดอะไร”


บอกแล้ว…..ว่าอย่าบีบให้เจนพูดออกมา


“ผมจะไม่พูดครับ”


“……….”


“เพราะอะไรที่มันไม่มีวันเป็นไปได้ ผมก็จะปล่อยมันไปให้เวลาเป็นคนจัดการให้”  แล้วอะไรกันล่ะที่เจน….จะให้เวลาเป็นตัวชะล้าง


“………….”


“คุณรบก็ลองถามความรู้สึกตัวเองดีๆละกันครับ”   


เขาก็ถาม แต่ไม่เห็นจะมีคำตอบ


“อย่าให้การกระทำเดินนำ แต่ความรู้สึกหยุดอยู่กับที่แบบนี้เลยครับ มันไม่เป็นผลดีต่อใครจริงๆ” เพราะเจนก็สังเกต และพอจะมองออก เจนไม่ใช่เด็กหัดริรัก ประสบการณ์ที่ตนพอมีจากคนรอบตัวหรือตัวเอง มันทำให้เจนมั่นใจในระดับนึงว่าเราสองคนเดินก้าวผ่านจุดที่ควรเป็นมาแล้ว แต่ก็ยังลังเลที่จะเดินก้าวต่อหรือพูดออกไป ซึ่งการก้าวต่อไป มันอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับเราทั้งสองฝ่ายนัก แม้จะไม่แน่ใจความรู้สึกของเขา 100%  แต่จะผิดอะไร เพราะเจ้าตัวเอง ยังไม่คิดจะเรียนรู้จักความรู้สึกของตัวเองเลยด้วยซ้ำ


แล้วเจนจะเอาที่ไหนไปรู้ใจเขาแทนกันล่ะ…..


“………….”


“หรือจะให้เจนแนะนำก็ได้ครับ”


ก็ถ้าเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตโดยที่พยายามไม่สนใจความรู้สึกที่แท้จริงต่อไปแล้วล่ะก็…..


“ถ้าไม่เดินหน้าก็เดินถอยหลังไปเลยก็ได้ครับ เพราะเจน….ก็พยายามเดินแบบนั้นอยู่เหมือนกัน”  นักรบขมวดคิ้ว เขาเริ่มรู้สึก….โกรธและผิดหวัง


แต่จะโกรธใครได้ โกรธเจน….หรือโกรธตัวเอง?
 

“ช่วยเอ็นดูเจนแบบที่เอ็นดูพระพาย…ก็พอนะครับ” อย่าให้ความหวั่นไหว….ทำให้เราที่ไม่พร้อมรักใครเดินไปสู่จุดที่จะทำร้ายตัวเองอีกต่อไปเลย…..เจนรู้ว่าเราทั้งสองต่างเหนื่อย….เรากลัวการรักคนที่เราแคร์มากๆ


และไม่พร้อมรับความสูญเสียใดๆอีกต่อไปแล้ว!






Talk:  แตกหักกันไปเล้ยยยยย มาถึงตรงนี้ก็ไม่รู้คนอ่านจะด่าเราไงแล้ว มาม่าซดกันมากี่ชามแล้วให้ตาย จะหวานจะง้องอนกันได้น้องเจนก็บีบผงเครื่องปรุงเขย่าๆผสมในถุงมาม่าซะอย่างนั้น เห็นหลายคนร้องเรียกให้เบิกตัวพี่เคลที่แค่ชื่อก็เรียกพ่อ(ทูนหัว) เรามีข่าวดีมาบอกว่า ออกตอนหน้า แต่เพราะพี่เขาไม่ใช่พระเอก(เลยไม่กาก) เพราะฉะนั้นอยากคาดหวังเยอะนะคะ ฮือออออออ

เอนี่เวย์ ตอนนี้เราหนีไปแต่งนิยายน้ำเน่าของน้องพายสีพาสเทลและพี่เพชรสีรุ้งแล้วค่ะ คาดว่าถ้าลงเจนจบจะลงคู่นั้น และแน่นอนว่าเคลจุ้นยังไม่ได้แต่งโลย เอารบเจนให้รอดก่อนเด้อ และหลายคนอาจจะคิดว่าเพชรจะต้องกากกว่าคุณรบแน่นอน อันนี้เราไม่รุ้ ก็ให้คุ้กกี้ทำนายกัน555555 (ว่าเราจะแต่งจบไหม)

ฝากเอ็นดูไปอีกสักพักนะคะ อย่าเพิ่งยอมแพ้ ดราม่าความกลัวนี่เป็นพลอตใหญ่สุดในเรื่องนี้แล้วค่ะ ถ้ารักกันได้อุปสรรคใดๆก็ไม่อาจจะขวางกั้นอีกต่อไป คือเป็นคนเก่งทั้งคู่ค่ะ แต่เขาต่างก็มีปมเรื่องครอบครัวคนละแบบ ถ้าดูดีๆจะเห็นว่าเจนนั้นโหยหาครอบครัวมากแต่พยายามกดเอาไว้โหยหาความรักแต่ไม่เคยรักใครได้จริงเพราะความกลัวแฝงอยู่ในใจ ส่วนคุณรบที่มีพร้อมทุกอย่างและมีความมั่นใจในตัวเองสูงเคยพยายามสร้างครอบครัวแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นต้องให้เวลากันหน่อยเนาะ ไม่มีใครอยากพลาดซ้ำๆเพราะองค์ประกอบที่คอนโทรลไม่ได้มันเยอะเนอะ

ฝากติดตามด้วยนะคะ แล้วเราก็ขอแจ้งว่าตอนหน้าขอมาวันเสาร์นะคะ





หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-08-2018 18:53:08
เปิดใจกันไหมล่ะ เผื่อว่าคนกากๆหรือคนร้ายๆคนนั้นอาจจะกล้ายอมรับอะไรบ้าง
จะกล้าไหม จะกล้านึเปล่า หึหึ
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-08-2018 20:10:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-08-2018 20:41:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 15-08-2018 20:53:13
เราจะฟ้องหัวหน้าชิปเปอร์คุณหญิงแม่ต้องรู้เรื่องนี้5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 15-08-2018 21:21:05
เราไม่ว่าเจน เราเข้าใจที่ต่างคนต่างกลัว แล้วเราก็หมั่นไส้คุณรบที่เข้าหาทั้งที่ยังไม่ชัดในความรู้สึกตัวเอง คุณรบควรกลับไปทบทวนกับตัวเองก่อน
ทีมเจนค่ะ เราโดนเจนล้างสมองไปแล้ววว


คุณรบคนกาก ชาตินี้จะได้เห็นขาอ่อนเจนมั้ย 555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 15-08-2018 22:00:10
อยากให้ถึงวันเสาร์แล้ว :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-08-2018 22:31:50
 :เฮ้อ:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-08-2018 23:23:54
เอ้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-08-2018 01:08:14
จะบอกว่าดราม่าก็ไม่เต็มปาก รู้สึกมึนๆอึนๆกับความคิดและความรู้สึกของตัวละครมากกว่า อ่านจบแบบงงๆตกลงยังไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-08-2018 10:34:02
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-08-2018 10:57:34
เจนก็กลัวเพราะไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง คุณรบก็ยังคลุมเคลือ รอเวลาเป็นตัวนำทางเลย เอาใจช่วยทุกคนแต่เรือผีอย่างเราจะยังคงชิปต่อไปจ้า o18
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 16-08-2018 12:13:38
ชอบนะคะที่เจนตัดสินใจแบบนี้ หมั่นไส้พ่อพระเอกเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-08-2018 14:12:44
เราไม่ว่าเจน เราเข้าใจที่ต่างคนต่างกลัว แล้วเราก็หมั่นไส้คุณรบที่เข้าหาทั้งที่ยังไม่ชัดในความรู้สึกตัวเอง คุณรบควรกลับไปทบทวนกับตัวเองก่อน
ทีมเจนค่ะ เราโดนเจนล้างสมองไปแล้ววว


คุณรบคนกาก ชาตินี้จะได้เห็นขาอ่อนเจนมั้ย 555555

ก็ว่างั้น
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 16-08-2018 14:16:52
จะไปกันต่อหรือพอแค่นี้ น้องเจนต้องตัดสินใจแล้วหละ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 35] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 15.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-08-2018 15:04:10
คุณรบคนกาก จะทำอะไรก็รีบทำนะ
หัวข้อ: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-08-2018 19:08:12
#เจนไม่นก
เจนกับการเดินก้าวหน้า


แบบที่เป็นอยู่นี่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าดีหรือไม่ดีเหมือนกัน


“เฮ้อ”  แต่เจนได้พูดไปหมดแล้ว ในสิ่งที่อยากพูดมานาน หากไม่เพราะภาพของวิลเลี่ยมที่ซ้อนทับในตอนนั้นที่เราอยู่ด้วยกัน เจนก็อาจจะไม่มีความกล้าที่จะพูดในสิ่งที่คิดออกไป ทว่าคิดดีหรือไม่นั่นก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่พูดไปก็ไม่มีวันหวนกลับคืนมาได้ เจนควรยอมรับผลการกระทำ และหากความสำคัญระหว่างกันจะเปลี่ยนแปลงไปก็ต้องทำใจ ไม่มีอะไรจีรังได้จริงๆ เพราะมันไม่มีอะไรเป็นไปได้สำหรับเราในตอนนี้เช่นกัน


แล้วในอนาคตต่อจากนี้ก็อาจจะไม่มีอีกแล้วด้วย


“ป๊ะป๋าของหนูโกรธพี่เจนหรือเปล่านะ”   เจนถามน้องวิน


“บู ปูว” 


“พูดให้มันรู้เรื่องหน่อยสิเจ้าลูกกบ”  ยังมาเอียงคอทำหน้าแป้นแล้นอีก เจนยิ้มออกมา แม้จะเป็นความสบายใจเพียงชั่วครู่ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้รับความสบายใจอะไรเลย  ทั้งนี้ก็ไม่แน่ใจว่าที่รู้สึกอยู่คือรู้สึกผิดหรือเปล่าที่การที่เราพูดตรงๆเพื่อให้ความกระจ่างทางด้านความสัมพันธ์ อาจจะทำให้ใครคนนึงเจ็บปวดกับคำๆนั้นและมันไม่ได้ช่วยให้เราชัดเจนอะไรขึ้นมา แต่ที่ชัดเจนนั้นคือความห่างเหินที่เกิดขึ้น และคนๆหนึ่งที่เจ็บปวดอาจจะเป็นเจนคนนี้….ทั้งๆที่เป็นคนพูดมันออกมาเอง เจนแค่ไม่อยากให้อดีตมันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถ้าเจนยังชอบคนแบบเดิมๆ เรื่องเดิมก็อาจจะไม่มีวันเปลี่ยนไปเลย จริงๆเจนก็รู้แหละว่าต่อให้ภายนอก บุคลิก ลักษณะของคุณรบต่อให้เหมือนคนรักเก่าของเจนแค่ไหน แต่เขาไม่ใช่ เขาไม่เหมือนจริงๆ แต่เจน….ไม่พร้อมจริงๆ ไม่พร้อมเลยที่จะยอมรับว่าเขากำลังจะเปิดใจและเดินเข้าหากัน ช่วงเวลานั้นๆที่เกิดขึ้น ความหวานขมที่เขาถ่ายทอดมาให้ เจนรับรู้หมดทุกอย่าง และพิจารณาแล้วว่ามันไม่ควรดำเนินไปต่อ


และช่วงนี้คนเนี้ยบ….ไม่ต้องการเนคไทบนคออีกต่อไปแล้ว  เขาอาจจะเข้ามาหาลูกบ้าง เล่นกับน้องวินเสร็จก็กลับไปนอน ตอนเช้าก็ออกไปทำงานก่อนเวลาที่น้องจะตื่น เจนกำลังทำให้มันแย่ลงใช่ไหม ด้วยการทำให้เรารู้สึกอึดอัดต่อกันมากขึ้นอย่างนี้ แต่เจนก็คิดว่าอย่างนี้มันดีกว่าจริงๆ อย่าให้เจนอ่อนไหวไปกับคุณรบมากกว่านี้เพื่อให้ตัวเองต้องเจ็บเลย และอย่าให้อีกฝ่าย….หวั่นไหวไปกับความชั่วครั้งชั่วคราวนี้และพยายามเดินเข้ามาในโลกที่ยังไม่พร้อมของเจน เพราะสุดท้ายแล้ว…..ก็คงไม่มีใครกล้าขยับเข้าหากันจริงจังอย่างนั้นหรอก


เจนเป็นผู้ชาย เป็นลูกของพี่เลี้ยงที่เขารักและนับถือมาก ในขณะนี้เจนก็มีสถานะเป็นพี่เลี้ยงลูกของเขา ส่วนเขาก็เป็นพ่อหม้ายลูกติดที่อาจจะยังรักเมียเก่าอยู่ มองอย่างไรก็เห็นแต่ความไม่แน่นอนซ่อนอยู่ในทุกย่างก้าวนี่ ถ้าจะหยุดก็ควรหยุดตั้งแต่รู้แต่เนิ่นๆ เก็บตัวไปรักษา ยับยั้งอาการ ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง บางทีครั้งต่อไป เขาอาจจะทำมันได้ถูกต้องและเจนอาจจะรับมือได้ดีกว่าเดิม สุดท้ายแล้วเราก็จะได้ไม่ต้องสูญเสียทุกสถานะสำคัญที่เคยมี และคงมันไว้อยู่อย่างนี้ได้ยั่งยืน ตอนนี้อาจจะเจ็บปวดนิดหน่อย แต่คนที่เคยผ่านพ้นความเจ็บปวดมากมายมาก่อนอย่างเราสองคนยังไงก็ผ่านมันไปได้


อย่างน้อยเจนก็เชื่อแบบนั้น และย้ำกับตัวเองว่าต้องเป็นเช่นนั้น


“เดี๋ยวพี่เจนต้องไปแล้วนะ”  เจนพูด ก่อนจะฟัดแก้มนุ่มอีกครั้ง ครั้งนี้ช่างน่าใจหายนัก เพราะเจนจะไปนานๆ ไม่รู้เจ้ากบน้อยจะลืมกันไปเลยหรือเปล่า


และเจนก็เดินจากมา เงียบๆ ไม่ทำให้ตัวเองดูน่าสงสัย แม่ของเจนรับช่วงดูแลเจ้าลูกกบต่อไปแล้ว เราวางแผนกันมาประมาณนึงไม่ให้น้องวินโยเยร้องตาม ใจนึงก็อดสงสารไม่ได้ นี่เจนไปแค่อาทิตย์เดียว แต่ทำไมใจเหมือนจะขาดเลยนะ อาจจะเพราะเจนเอาแต่คิดถึงความรู้สึกของน้องมากเกินไป ใจมันถึงได้บางไปหมดแบบนี้


“จะไปแล้วเหรอลูก”  คุณหญิงที่เห็นเจนลากกระเป๋าเดินมานั้นทักก่อน เธอรับทราบดีว่าเจนจะเดินทางในวันนี้ ในใจก็รู้ว่าเจนใช่ว่าจะไปแล้วไม่กลับ แต่เมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินลากกระเป๋าออกมาก็อดจะใจหายไม่ได้


เพราะไม่แน่ใจจริงๆว่าสิ่งที่บ้านนี้มีอยู่จะรั้งอีกฝ่ายได้บ้างหรือยัง?


“ครับ คุณหญิงอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม เดี๋ยวเจนซื้อมาให้”


“พอแล้วลูก กลับมาบ้านเราเถอะนะ”  คำพูดของเธอทำให้ใจของเจนสะท้านไปเหมือนกัน คำเรียกที่ดูชิดใกล้ และคำเชิญที่ทำให้น้ำตาคลอนั้นทำให้เจนต้องรีบยั้งใจเอาไว้ เธอก็เอ็นดูเจนมากๆขนาดนี้เช่นกัน ระยะเวลาไม่กี่เดือนที่เจนพยายามไป มันไม่ได้สูญค่าจริงๆ เจนได้รับความรักอย่างล้นหลามจากคนในครอบครัวนี้ และเจน…ก็อยากให้มันคงอยู่แบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงไป


“ขอบคุณคุณหญิงมากนะครับ”  เจนคงกลับมาแน่ กลับมาในแบบที่ดีขึ้นด้วย


ในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน คุณรบเองก็ไม่อยู่ที่นี่ และบางทีความรู้สึกที่กำลังเริ่มก่อตัวในใจเราทั้งสอง มันอาจจะไม่พัฒนาและสามารถถึงขั้นจางหายไปในระหว่างนี้ เจนอาจจะคาดหวังกับเรื่องดีๆหลังจากกลับมาได้ ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาเมื่อฮึดสู้กับความทรมานทางความรู้สึกที่ต้องผจญ พอยิ่งถูกมือเล็กๆของคุณหญิงลูบหัวลูบหน้าอย่างอ่อนโยนแบบนี้ ใจก็ยิ่งพองฟูขึ้นมา เจนอาจจะไม่ต้องการความรักจากทุกคนบนโลก ยิ่งคนที่เราไม่เคยคิดจะแคร์ เราจะไปขอความรักจากคนพวกนั้นทำไม แต่ตอนนี้เจนทั้งแคร์และรักใคร่คนในบ้านนี้เหลือเกิน


เลยไม่อยากทำให้ความรู้สึกชั่ววูบหวั่นไหวใดๆมาพรากมันออกไปได้เช่นกัน


“ไปดีมาดีนะลูก ไม่ต้องเอาอะไรกลับมาทั้งนั้นแหละ”  คุณหญิงพูด คำอวยพรในแบบของเธอทำให้เจนต้องยิ้ม


แต่ประโยคต่อไปก็เล่นเอาทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน


“เอาตัวเองที่สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆ กลับมาหาพวกเราก็พอนะ อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยให้พวกเราต้องห่วงพอ เจนต้องรักตัวเองนะ รู้ไหมจ้ะ”  เท่านั่นแหละครับ เท่านั้นเลย


บ่อน้ำตาก็ตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…..


“อ้าวร้องไห้ไปอีก ร้องไห้ไปอีก ทำไมเป็นเด็กแบบนี้นะเนี่ย ตัวก็ไม่เล็กเท่าน้องวินนะลูก”  เจนจะร้องอะ เจนจะร้อง ทำไมดีกับเจนแบบนี้ ทำไมดีต่อใจแบบนี้ แล้วอย่างนี้เจนจะไปไหนพ้น เจนไปไหนไม่ได้แล้วเห็นไหม เดี๋ยวก็ทิ้งตั๋วเครื่องบินเสียนี่ แต่เจนต้องไปอ่ะ เจนต้องไป ใครๆก็รักเจนไปหมดอย่างนี้ แล้วเจนจะทำยังไงดี เจนชอบ แต่ใจของเจนไม่ชินเลย ยิ่งคนบ้านนี้รักเจนแบบนี้ แล้วเจนจะทำให้พวกเขาผิดหวังได้ยังไง เจนจะไปรักคุณรบแบบนั้นได้


“เจนจะรีบกลับมานะครับ”  จริงๆแล้วเจนหลอกทุกคนบนโลกมาตลอดแม้แต่ตัวเอง เจนไม่ได้เข้มแข็ง ไม่ได้เกรี้ยวกราดเอาแต่ใจ หรือไม่ยอมคน เจนเป็นคนอ่อนแอคนหนึ่งที่พยายามจะสร้างตัวตนที่อยากเป็นเพื่อไม่ให้ภายในที่บอบช้ำของตนต้องแตกสลาย ภายในที่มีแผลเหวอะหวะมากมายจากคนรอบตัวในอดีต


แต่ตัวตนปลอมๆนั้นใช้ไม่ได้เลยกับคนที่เจนแคร์ไปแล้วในปัจุบัน เจนจะไปอยากได้อยากมีคุณรบเป็นของตัวเองแบบนั้นได้ไง เพราะความรักแบบครอบครัวอย่างนี้ต่างหากที่เจนโหยหามากกว่าความรักเชิงชู้สาวไหนๆ! เจนไม่เก่งเลยที่จะรักษาความรักกับคนรักสักคนไว้ได้ เจนจึงไม่มีความมั่นใจว่าจะเก็บคุณรบไว้กับตัวได้ และถ้าวันหนึ่งคุณรบจากไป คนในบ้านของเขาก็อาจจะเอาใจห่างจากเจนไปเช่นกัน


และเจนจะรับมันไหวเหรอ ความเสียหายนี้มันอาจจะรุนแรงกว่าครั้งไหนๆเลยนะ


“จ้า” แต่ตอนนี้ที่เจนกับคุณรบยังไม่รักกัน มันก็ยังดีอย่างนี้แหละ


“เจนจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ จะไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ”  จะไม่ทำให้ผิดหวังเลย เพราะฉะนั้นรอเจนหน่อยนะ เจนเก่ง เจนผ่านมันมาทั้งหมดแล้ว จะผ่านมันอีกสักอย่าง ทำไมจะทำไม่ได้


เจนจะเป็นเจนที่ดีกับบ้านรัตนสกุลให้ได้จริงๆ


xxx

เจนไม่น่าจะอยู่แล้วล่ะ….เขาคิดเช่นนั้น ตอนนี้นักรบเองก็ไม่เห็นเจนมาสักพัก อาจจะเป็นความพยายามของเขาเองที่พยายามจะหลบหน้าอีกฝ่าย และตอนนี้เขาก็ไม่รู้หรอกว่าเจนไปไหน หรืออาจจะกลับบ้านไปแล้วอย่างที่เจ้าตัวเคยมาขออนุญาตไว้สักพัก เขาคิดว่าเราคุยกันเข้าใจแล้ว แต่จริงๆมันคือการที่เจนบอกให้เขาเข้าใจแค่ฝ่ายเดียว ตัวนักรบไม่ได้เข้าใจอะไรเลย หรือไม่ยอมเข้าใจจริงๆมากกว่า


และเพราะไม่เข้าใจเลยไม่พร้อมจะเจอหน้า….


ไม่หรอก เขาเข้าใจ แต่เพราะคิดว่าแบบที่เป็นอยู่นั้นมันก็ดีอยู่แล้วจึงไม่คิดจะทำอะไรเพิ่มเติม การเดินหน้าแบบชัดเจนบางทีมันก็มีข้อเสีย หากจะกลับมาแก้ไขก็ทำได้ยากกว่า ซึ่งการทำให้มันค้างคา บางทีก็ช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้น แต่กับเรื่องความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ทำแบบที่ทำไปมันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะยอมรับได้ ก็ยอมรับว่าเห็นแก่ตัว  และเจนก็แสดงตัวออกมาแล้วว่าไม่ชอบ
 

และไม่ยอมให้เดินหน้าต่อไปด้วย…


นักรบอาจจะเคยลังเลว่าเขาควรจะเดินต่อไปแบบเต็มที่ดีไหม ผิดกับเจนที่ชัดเจนว่าไม่ต้องการ เขารับรู้ความหวาดกลัวของอีกฝ่ายดีเพราะเด็กนั่นพูดมันออกมาหมด ต่อให้บางสิ่งไม่ได้พูดออกมา แต่เขาก็เข้าใจได้ มาถึงตรงนี้เขาไม่ว่าว่าเจนงี่เง่าที่กลัวไม่เข้าเรื่องหรอก เพราะใครๆก็กลัว และเขาก็กลัวที่จะมีความรักอีกครั้งเหมือนกัน และเพราะเรากลัว เราก็เลยเป็นแบบนี้ในทุกวันนี้ไง บางทีเราอาจจะไม่เหมาะที่จะมีใครข้างกายแล้วจริงๆ….ถ้าในวันนั้นนักรบไม่รักผู้หญิงที่ชื่อรดา…เขาก็จะไม่ทำให้น้องวินกำพร้าแม่ แล้วถ้าในวันนี้เขารักเจนรักษ์เข้าไปแล้วอย่างที่คิดไว้จริงๆ ต่อไปจะมีใครต้องสูญเสียอะไรอีกหรือเปล่า?


มันอาจจะดีถ้าอีกฝ่ายไม่เข้ามาในชีวิตของกันและกัน ทว่านั่นมันเป็นเสี้ยวเดียวของความรู้สึก เขายังรู้สึกขอบคุณเจนอยู่เสมอที่เข้ามาเติมสีสันในชีวิตในด้านต่างๆ หากไม่ติดว่าตัวเขาไม่ชัดเจนและหวาดกลัวกับการที่จะมีความรักอีกครั้ง เจนถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้ แต่ถึงจะมีเรื่องนั้นติดค้างอยู่ เจนก็ยังเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของปีนี้อยู่เช่นกัน เพราะใช้ชีวิตมาถึงปีนี้ เขายังหาเรื่องราวดีๆที่เกิดกับคนนอกครอบครัวไม่ได้ จะอย่างไรก็แล้วแต่เขาไม่ควรเลยจริงๆ ไม่ควรคิดว่าเราไม่ควรเจอกัน และไม่ควรคิด….คิดถึงเจน…..


และตอนนี้กับแค่ความรู้สึกเดียวที่ค้างคาก็ทำให้วุ่นวายใจไม่รู้จบ


เขาไม่เคยเป็นคนไม่ชัดเจนแบบนี้มาก่อน แม้จะไม่เคยพูดตรงๆแต่ก็แสดงออกด้วยท่าทางเสมอว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ทว่าทำไมกับเจนรักษ์คนนั้น เขาถึงได้เป็นคนน่ารังเกียจขนาดนี้  ทำไมเขาต้องมีความสุขกับการได้เห็น ได้หยอก ได้ยิ้มกับอีกคน และทำไมต้องรู้สึกหวั่นไหวในยามที่อีกฝ่ายยิ้มหวานให้กับลูก และเผื่อแผ่ส่งยิ้มมาให้กับเขา เมื่อรับรู้ว่าความปรารถนาดีนั่นเป็นของเขาคนเดียวนะ ของเขาคนเดียว…นักรบก็ยิ่งรู้สึกตื้นตันใจ และคิดอยากยึดมันทุกอย่างไว้แต่เพียงผู้เดียว


ทว่าตอนที่เขาอยากจะยอมรับความรู้สึกนั้น อีกด้านของความรู้สึกก็ต่อต้าน เขาเคยพยายามสร้างครอบครัวกับคนที่รักแต่ล้มเหลว และมันเพิ่งจะผ่านมาไม่นานนัก จะให้เขามาสร้างกับคนที่เพิ่งเจอแต่ถูกใจในทันทีนั้น ระบบป้องกันความเจ็บปวดก็รั้งกันไว้ จนทำให้แสดงออกได้เพียงส่วนหนึ่ง ส่วนที่ดูเห็นแก่ตัวที่สุดและที่ทำนั้นเห็นแก่ตัวแค่ไหนก็รู้ดี เจนอยากออกห่างจากเขาอยู่แล้ว แต่เป็นเขาที่หาเรื่องเข้าหาตลอดแบบนั้น เพราะเพียงว่าอยากจะมั่นใจว่าทางที่จะเลือกมันดีแล้วจริงๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั่นคือความหวั่นไหวชั่วครั้งคราวหรือจริงจัง การทดลองของเขาจึงกินเวลาแถมยังเอาแต่ดึงดันเข้าหาโดยไม่คิดถึงผลกระทบหลังจากนั้นให้ดี และตอนนี้ เจนรักษ์ไม่ยอมให้เขาใช้กันเป็นหนูทดลองความรู้สึกอีกแล้ว


และการไม่มาพบเจอก็เหมือนจะดี….เพราะการไม่เจอทำให้อีกฝ่ายไม่ต้องเห็นหรือรับรู้ ไม่มีคนคอยรุกไล่ทำให้หวั่นใจหรือเขินอีกแต่อย่างใด ทว่าในด้านของเขามันอึดอัดทรมานไม่ใช่น้อยจนทำให้กลับมาคิดว่าเรื่องที่มันเหมือนจะง่ายราวปลอกกล้วยเข้าปากยามคิด แต่กลับยากเย็นเวลาทำได้ขนาดนี้ไปแล้วหรือ แม้ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ เจนรักษ์มีอิทธิพลต่อเขาประมาณหนึ่งเลย ไม่สิ…. ถ้าไม่มากพอ นักรบจะมาหงุดหงิดงุ่นง่านใจแบบนี้ได้ยังไง


“บอร์ดดิ้งพาสครับคุณรบ”  เขารับมันมาจากเลขาอีกที โดยที่ไม่ได้สนใจว่าในมือนั้นมีอะไรบ้าง ตอนนี้เขาก็ต้องออกเดินทางแล้วเช่นกัน  หากเวลาเป็นยาที่เยียวยาที่ดีได้ งั้นอิทธิพลของเจนรักษ์ที่มีต่อเขานี่ต้องใช้เวลาแค่ไหนเหรอที่จะเยียวยาได้ และอะไรที่มันเกิดขึ้นแล้ว เราสามารถที่จะทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นได้จริงๆไหม บอกตรงๆนักรบก็ไม่รู้หรอก แต่เอาเป็นว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกันนี้ มันอาจจะน่าหงุดหงิดเสียหน่อย แต่หากการเจอกันแล้วทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจเท่าไหร่นัก นักรบก็คิดว่าดีเหมือนกัน


เพราะเขาไม่ถนัดรับมือกับการจัดการตัวเองให้ชัดเจนในหัวข้อนี้จริงๆ
แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าในตอนนี้สิ่งที่ต้องการจริงๆคือเวลาหรือโอกาสแก้ตัวอีกครั้งมากกว่ากัน




ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-08-2018 19:09:06
xxx



“พอเจนมาก็ไม่มีใครสนใจจุ้นสักคน”  ดูสิคนเรา


อายุเท่าไหร่แล้วน่ะตัวเอง……ส่องกระจกบ้าง


“ก็จุ้นอยู่ที่นี่ทุกวันนี่ลูก”  คุณพราวผู้เป็นแม่ของตัวจุ้นและน้าแท้ๆของเจนรักษ์เอ่ยขึ้น นึกขันกับความขี้งอนไม่จริงของลูกชายที่ไม่ค่อยกลับมาบ้านแต่ก็ยังเรียกร้องความสนใจเมื่อคู่แข่งอันดับหนึ่งกลับมาเยี่ยม


“แต่จุ้นไม่ค่อยได้เจอแม่เหมือนกันนะ”  หลังจากที่ตัวจุ้นโตและทำงาน ลูกก็ออกไปอยู่ข้างนอก นานๆทีจะกลับบ้าน และวันนี้บ้านเราก็อยู่กันพร้อมหน้าเหมือนวันวาน มีคุณพราว มีโทมัสสามีของเธอ มีเจน มีตัวจุ้น


และเคลวิน….


ครอบครัวของเราอาจจะไม่ได้สืบตรงสายเลือดกันทั้งหมด เพราะคุณพราวนั้นหลังจากหย่ากับสามีเก่าเพราะมีปัญหาเรื่องเหล้ายาที่ส่งผลถึงความรุนแรงในครอบครัว ตัวเธอและลูกชายตัวน้อยตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงอยู่หลายปี แม้กระทั่งหลานชายที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆที่พยายามจะเข้ามาห้ามปรามก็โดนลูกหลงไปด้วยบ่อยครั้ง เธอรู้ว่าเจนนั้นเอาตัวเองเข้าปกป้องตัวจุ้นที่เป็นน้องจนได้รับบาดแผลไปไม่มากก็น้อยพอกัน เธอรู้สึกผิดและในขณะเดียวกันก็รักเจนรักษ์เหมือนลูกชายอีกคน ส่วนหนึ่งเพราะเจนนั้นเป็นเด็กกำพร้าพ่อ และเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูของเธอและแม่พร้อมๆกับที่เลี้ยงตัวจุ้น


เสียงร้องไห้ของลูกและใบหน้าที่ดูเจ็บปวดของเจนยามกอดตัวจุ้น มันทำให้เธอรู้สึกผิดมาจนวันนี้ว่าเธอรอเวลานานเกินไปหรือเปล่า เด็กทั้งสองไม่ควรต้องมาประสบพบอะไรแบบนั้น โดยเฉพาะเจนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ก็รู้ว่าเพราะเจนนั้นรักพวกเราทุกคนมากๆ หากจะเจ็บปวด สู้โดนด้วยย่อมดีกว่ายืนมองอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร  และนั่นทำให้เธอไม่เคยลืมน้ำใจของเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่นั่งมองเราสองคนแม่ลูกด้วยดวงตาไร้เดียงสาถามหาความรักจากคนเป็นแม่แต่เอื้อมขว้าไม่ได้ น่าเห็นใจแต่ก็เข้าใจทุกฝ่ายได้ เธอจึงเรียกเจนเข้ามาซุกในอ้อมอกด้วยอีกคน กอดปลอบกันไปสามคนอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อพบพานเรื่องราวร้ายๆ


จนวันนึงฟางโง่ๆของเธอก็ขาดผึง พราวไม่รอช้าที่จะวางแผนอย่างรัดกุมและหย่าขาดกับสามี ทั้งนี้เธอจะทำมันไม่ได้เลย หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสามีคนปัจจุบัน หรือในขณะนั้นเขาเป็นเพียงนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่มีสถานะเป็นแค่เพื่อน เราบังเอิญเจอกันในโรงแรมที่พราวทำงาน  อาจจะเพราะความรักที่เขามี โทมัสจึงพยายามที่จะเข้าใจและช่วยเหลือเมื่อร้องขอ และพราวก็ได้หย่ากับสามี โดยได้รับความคุ้มครองจากโทมัสที่หลงรักกันฝ่ายเดียวมาพักใหญ่


หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้แต่งงานหรือตกลงปลงใจกับเขาทันทีเลยหรอก หากแต่ก็ยอมรับว่าชื่นชอบเขาอยู่ไม่น้อยจากสิ่งที่เขาทำลงไป แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เราตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไม่น้อย  พราวเองก็มีหวั่นไหวไปกับคำพูดลับหลังพวกนั้นบ้าง แต่เมื่อมองลูกชายของตนเองเธอก็ทำใจ ไม่มีใครจัดการเรื่องนี้ได้หรอก เธอไม่มีทางเลือกในตอนนั้นสักเท่าไหร่และเรามาได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว หากคนเราไม่อยู่กับความเป็นจริงในขณะนั้น และเอาแต่โทษตัวเองที่เลือกทางเดินผิดไป บางทีตัวจุ้นและเจนก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตที่ดีแบบนี้ก็เป็นได้


บางทีเราอาจจะมีตอนจบที่เลวร้ายกว่านั้น
หากเรายังอยู่กับคนที่รักเราแบบผิดๆต่อไป


และพราวก็ตัดสินใจเลือกที่จะไปต่อกับโทมัส หลังจากที่ยายของจุ้นและเจนจากไป เธอลังเลอยู่ไม่น้อย เพราะอาจจะไม่ได้รักอีกฝ่ายแบบนั้นเลย แต่จะเรียกว่าความจำเป็นเสียทีเดียวก็ไม่ใช่ พราวเองก็รู้สึกดีกับการได้รับการดูแลจากโทมัส แม้มันอาจจะไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวามแต่มันก็อุ่นใจ บางทีหากมันพอแล้วกับความรัก เลือกคนที่รักเราก็ยังดีกว่าเลือกคนที่เรารักแต่เขาไม่เคยรักเราจริงๆ และพราวไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว


เธอมีทั้งลูกซึ่งคือจุ้น และหลานซึ่งคือเจนที่กำพร้าคนเลี้ยงดูแล้วจริงๆ


โทมัสเข้ามาขอกันในจังหวะที่ใช่มากๆ เธอตอบรับเพราะคิดทบทวนมาดีแล้วแค่รอจังหวะ และก็ได้มาที่อเมริกานี้ในฐานะคนในครอบครัวคูเปอร์ มันอาจจะยากในช่วงแรกสำหรับการจากบ้านมาอยู่ในที่ที่ซึ่งต่างจากบ้านเกิดโดยสิ้นเชิง แต่เพราะความช่วยเหลือที่ได้รับมาตลอดจากโทมัสและลูกชายของเขา เราสามคนจึงผ่านมันมาได้ เธอจะต้องให้เครดิตความช่วยเหลือนี้กับเด็กคนนั้นอีกคน….เคลวินคือคนที่พวกเราจะลืมไม่ได้เด็ดขาด


เคลวิน คูเปอร์….ลูกติดของสามีที่อายุมากกว่าเจน 6 ปี และมากกว่าจุ้น 7 ปี


เคลวินมีความเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่แรกเจอ การที่คนนอกเข้ามาในบ้าน มันไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มตั้งแง่กับคนในครอบครัวใหม่ เขายังให้ความสนิทสนมกับเราทั้งสามคนอย่างเอื้ออารี เป็นลูกชายจอมดื้อของเธอเสียอีก ที่ตอนนี้ดูจะตั้งแง่กับพี่ชายคนใหม่นี่เสียหน่อย จะเพราะวัยต่างกันอย่างนั้นเหรอ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ตอนมาใหม่ๆก็ดูจะสนิทสนมกันดี เรียกพี่เคลอย่างนั้นพี่เคลอย่างนี้  แต่พอโตขึ้นก็ไม่รู้ว่าทำไมทำให้ห่างออกไป จะว่าเพราะวัยก็อาจจะเป็นได้


แต่เรื่องนี้คนที่จะรู้ดีที่สุดก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ?


“แล้วเจนเป็นยังไงบ้าง”  เสียงทุ้มนุ่มของเขานั้นถามออกไป ตั้งแต่มานี่เขาก็ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดกับใคร และประโยคแรกก็ให้กับเจน น้องชายที่เขาเอ็นดูมากๆคนนึง


โดยรู้หรือไม่รู้ว่ามันทำให้อีกคนขมุบขมิบปาก


“สบายดีครับ พี่เคลล่ะ ทำงานหนักไหม”


“ก็เหมือนเดิม”  เขายิ้มให้เจน และคำตอบของเขาก็แปลว่ายุ่ง


และยุ่งกว่ากับการสู้รบปรบมือกับตัวจุ้นจ้าน!


มื้ออาหารของครอบครัวเป็นไปอย่างเรียบง่าย นี่ไม่ใช่วันแรกที่เจนกลับมา แต่เป็นวันแรกที่เคลวินสามารถมาร่วมโต๊ะอาหารได้ จริงๆเขาเป็นคนโทรบอกให้เจนกลับมาเอง แต่ก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่ให้เวลากับน้องได้ไม่มากพอ ทั้งนี้พอเราต่างเติบโต ทุกคนก็ย่อมมีภาระเป็นของตัวเอง ซึ่งเคลวินในฐานะพี่ใหญ่ของน้องทั้งสองจะมีภาระมาเร็วหน่อย และพี่ชายคนนี้ก็ให้ความรู้สึกที่โตกว่าเรามากๆ


และแน่นอนว่าเขาเคยเป็นต้นแบบให้ชื่นชม
แต่นั่นมันก็เป็นอดีตไปแล้ว


“พี่เคลยังไม่เลิกสูบอีกเหรอครับ”  เมื่อได้ยินเสียงของเจน เขาก็ขยี้บุหรี่ในมือทิ้งด้วยปลายเท้า ก็ทำนิสัยไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าเจนจะรับไม่ได้ เจนรับได้อยู่แล้ว พี่ไม่ได้ไปฆ่าใคร แต่จะมีคนที่รับไม่ได้มากๆอยู่คน ซึ่งดีแล้วที่ไม่มาเห็น ไม่งั้นวันนี้เจนไม่ต้องนอนกันล่ะ ตัวจุ้นต้องเอาแต่บ่นให้ฟังแน่นอน


เอาล่ะเจนขอเปิดตัวคนซึนอีกคนของเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกที
ตัวจุ้นเองนั่นแหละ ไอ้จุ้นเลยไม่ใช่ใคร!


“ก็รู้นะว่าเด็กบางคนไม่ชอบ”


“เด็กบางคนที่ว่าต่อให้พี่ทำดีแค่ไหนก็ไม่ชอบกันนะเหรอ”  ทั้งๆที่เรื่องที่เขาพูดชวนปวดใจ ทว่าเคลวิน คูเปอร์กลับมีรอยยิ้มออกมาเพียงเมื่อคิดถึงเด็กปากไม่ดีที่วิจารณ์ทุกอย่างในตัวเขา ทั้งๆที่วันนึงเคยเกาะกันแจ เรียกพี่เคลจ๊ะ พี่เคลจ๋าอยู่ตลอด เด็กคนนั้นไปอยู่ไหนแล้วหนอ เหลือเพียงแต่เด็กร้ายกาจหนึ่งคนไว้ให้ดูต่างหน้า แต่กว่าตัวตนไม่น่ารักแบบนั้นจะโผล่มา ก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกกับน้องชายต่างสายเลือดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเช่นกัน


ก็ไม่รู้ว่าที่สายไปคือตัวจุ้นหรือเขาเองกันแน่…..


“แต่ยังเป็นเด็กดีอยู่นะ”  เขาพูดออกมา เมื่อนึกถึงเด็กคนนั้นก็มีรอยยิ้มเสมอ และเจนก็รับรู้ด้วยตลอด โชคดีที่เจนไม่เคยขัดขวาง ไม่หรอก….เจนระวังเผื่อตัวจุ้นมาตลอดแต่เด็ก แต่เพราะเป็นพี่เคลจึงยอมให้ ถ้าไม่ใช่พี่เคลเจนก็คงต้องคัดหน่อย งานหนักเหมือนกัน แต่โชคดีที่มีพี่เคลอยู่ เจนเลยไม่ต้องทำหน้าที่อะไรแบบนั้นเลย


เพราะพี่เคลมีประสิทธิภาพจนเข้าขั้นน่ากลัวเลยทีเดียว


“ยังควบคุมได้อยู่สินะครับ”


“พี่ถึงได้บอกว่าตัวจุ้นเป็นเด็กดีไง”  และนั่นทำให้เขายิ้มอย่างภูมิใจในตัวเด็กน้อยของเขา ต่อให้ดื้อและงอแงเก่งแค่ไหน พอบอกให้เป็นเด็กดีก็ทำได้ แม้จะหน้างอเป็นตะขอแต่ก็ยอมทำตาม  เพราะอยู่เป็นไง ทุกวันนี้เขาเลยไม่กล้าใช้ไม้แข็งด้วยเท่าไหร่ กลัวฟาดไม่ยั้ง ออมมือไม่ทันแล้วน้องจะเตลิดไปให้ต้องตามจับกันอีก ก็ไม่ใช่ว่าตามจับไม่ได้นะ แต่อะไรที่แคร์มากก็อยากจะทะนุถนอมเยอะๆ เลยกลายเป็นบางทีก็สปอยล์กันจนเคยตัว แต่ทำไงได้….


มันเหมือนว่าเขาเกิดมาเพื่อสปอยล์ตัวจุ้นเสียแล้วสิ


“ว่าแต่เจนเป็นไงบ้างเรา”


“พี่เคลถามคำถามซ้ำอ่ะ”


“เจนก็รู้พี่ไม่ได้ถามอะไรซ้ำ”


“……..”


“มีใครหรือยังน่ะเรา”


“พี่เคล….ไอ้จุ้นเล่าเหรอ”


“เปล่า เมื่อกี๊เจนเพิ่งบอกพี่เอง”  เจนพลาด พลาดจริงๆ


“ไม่ค่อยดีครับ”


“เขาเป็นคนไม่ดีเหรอ”


“ก็ดีบ้าง…ไม่ดีบ้าง”


“เขาไม่รักเจนเหรอ”


“เขา….อืมจะพูดไงดี คือเขาก็ไม่ชัดเจน แต่เจนก็รู้สึกว่าคนที่เขาไม่คิดอะไรก็ไม่ทำตัวแบบนั้นหรอก”  ที่คุณรบทำมามันทำให้เจนสงสัยในความรู้สึกของเขา แต่ก็พยายามปัดตกหลายครั้ง ทั้งนี้ส่วนนึงเพราะเจนไม่ยอมรับมันด้วยถ้ามันจะเกิดจริงๆ


“แล้วเจนชอบเขาไหม”


“……….”


“ถ้าไม่ชอบ เราจะทำหน้าแบบนั้นทำไมเนอะ”  เขาลูบหัวเจนเบาๆ จะว่าไปแล้วมือของเขาเหมือนจะใหญ่พอๆกับคุณรบเลย แต่ความรู้สึกที่ได้ มันต่างกันนัก ไม่ใช่ว่าสัมผัสของพี่เคลไม่อ่อนโยน แต่มันเป็นสัมผัสที่คุ้นชินก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น อุ่นใจ ปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เช่นกัน แต่กับคุณรบ….ทั้งหมดที่ว่ามานั้นมีหมด แต่ที่มีเกินออกมา


คือทุกครั้งที่เขาสัมผัส ใจเจนจะเต้นแรง
และเมื่อเขาผละออกไป ใจก็เหมือนจะเรียกร้องให้เขากลับมา


“เจนก็คงชอบเขาแหละ”  ตอนนี้เจนมั่นใจในตัวเองข้อนี้มาก แต่ที่ไม่มั่นใจก็มีหลายส่วน และส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของความเหมาะสมของช่วงเวลาและโอกาส อย่างว่า….การตกหลุมรักสามารถเกิดขึ้นได้หลายๆครั้ง วันนี้เจนผลักคุณรบไป ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่มีโอกาสไปใจเต้นกับใครได้อีก ใช่….เจนยังมีโอกาสได้ตกหลุมรักใครได้อีกหลายๆครั้ง แต่นั่นมันก็ยังเป็นขั้นตอนของการคาดคะเน เจนหวังว่าตนจะยังไม่มีรักสุดท้ายในปีนี้ เพราะเจนยังไม่พร้อมจะรักใคร และคุณรบเองก็เช่นกัน…..


เขาเองก็ดูไม่น่าจะพร้อมรักเจนหรอก…..




Talk:


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ของทุกคนนะคะ เราอาจจะไม่ได้ไปตอบโดยตรง แต่ทุกความเห็นและความสงสัย เราจะพยายามเอาไปปรับปรุงค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมาก ในส่วนข้างล่างนี้จะเป็นการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเยอะสิ่งของเจนกับคุณรบ ใครไม่ติดปัญหาหรือไม่ได้อยากรู้ก็ไปสกิปอ่านช่วงบรรทัดล่างๆได้เลยน้า

คือจริงๆเราก็ไม่แน่ใจว่าควรจะมาอธิบายตรงนี้ไหมว่าทำไมช่วงหน่วงมันยาวจัง จริงๆเรื่องนี้เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันเป็นฟีลกู้ดแต่แรกนะคะ แต่พอเห็นคนคิดอย่างนั้นก็ไม่กล้าพูดเท่าไหร่….จริงๆเจนเป็นเด็กมีปัญหาอย่างที่เรารู้ ขาดความมั่นใจแต่ต้องทำเป็นชินกับการถูกทิ้งเพื่อให้คนรอบตัวสบายใจ แถมตลกกลบเกลื่อนเก่ง กลบเกลื่อนมาทั้งเรื่อง ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นตลกร้ายๆสร้างตัวตนแข็งๆมาเพื่อปกป้องตัวเอง คนก็เลยอาจจะติดภาพเจนหวานเย็นมานาน
 
แต่จริงๆน้องมีมุมที่ขี้กลัวโดยเฉพาะเรื่องความรักและครอบครัว และปกติคนเราเดินสะดุดหินล้ม ก็จะระมัดระวังในการเดินใช่ไหมคะ เจนก็เหมือนกันค่ะ หลักๆคือเจนเคยพลาดและจะไม่พลาดอีก อย่าลืมว่าคุณรบรักรดามาก่อนมากๆ เขาเป็นเจ้านายเหมือนวิลเลี่ยมอาจจะดีกว่าตรงที่หย่าเมียแต่ความรู้สึกอาจจะยังไม่หย่าจริงก็ได้ เขาชอบเจนแต่เขาก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกมั่นคงที่ว่าจะรักเจนจนพร้อมจะฝ่าฟันกับทุกอย่างจริงๆ แล้วเจนก็รักครอบครัวเขาจนกลัวว้าถ้าพลาดจะเข้าหน้ากันไม่ติดด้วย ในส่วนคุณรบที่รักกะปิดรักกะเปิดนี่ก็เพราะเคยเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงแต่พอพลาดเลยสูญเสียความมั่นใจไป ทีนี้ก็แบบอยากลองเชิงก่อนแต่ช้าไง น้องเจนไม่รอ คือเรื่องมันดำเนินเรื่อยๆ เราคงไม่สามารถจะทำการรวบรัดดราม่าที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกสับสนเพราะประสบการณ์ที่สะสมมานานหลายปีของมนุษย์ได้ ซึ่งในช่วงหวานเย็นก็ปูปมมาบ้างแล้ว

แต่ยืนยันว่าตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไปฟ้าจะเปิด555555 ตอนถัดๆไปนี่จะพยายามมาใกล้ๆกันนะคะ กลางเดือนแบบนี้ยังมาได้ถี่อยู่ค่ะ ตั้งใจจะมาทุกวันสัก 4 ตอน.ให้จบปมหลักถ้าเป็นไปได้ แล้วอาจจะขอพักยาวหน่อย อาจจะสัก 2 วีคและกลับมาลงตอนที่เหลือจนจบ
#เจนไม่นก twitter @reallyuri



หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-08-2018 19:16:37
เอาใจช่วยทุกคนค่ะ คนเขียนสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-08-2018 20:07:34
ขอให้ฟ้าเปิดจริงๆ นะคะ 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 16-08-2018 20:18:42
ปะป๋าก็ไม่อยู่ พี่เจนก็ไม่อยู่ลูกกบของป้าจะไม่งอแงแย่เหรอนี่

กลับมาแล้วก็ยอมรับใจตัวเองนะคุณรบ กล้าๆหน่อย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-08-2018 20:32:24
ทุกคนสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-08-2018 20:49:45
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-08-2018 21:05:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-08-2018 21:06:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 16-08-2018 21:14:49
ชอบในความมาติดๆกัน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 17-08-2018 00:50:39
อ่านมาสองตอนรวด แต่คุณรบก็ยังคงไม่ชัดเจนอยู่เหมือนเดิม
คนเราก็มีความอดทนไม่เท่ากันเน้อ
เขาพูดตัดรอนขนาดนี้ก็ยังจะมากลัวๆอยู่อีก เฮ้อออ  อิหยังวะ(ยืมน้องเจนมา)
แล้วอีกอย่างนะ น้องคนนี้เขาชื่อเจนรักษ์ค่ะ ไม่ใช่รดา
อันนี้ต้องจำให้แม่น ท่องทุกคืนหลังกล่อมลูกกบนะคะ

และพี่เคลตัวเป็นๆมาแล้วววว เปิดตัวด้วยบทสนทนา
คือคุยกับเจนนะแต่ไหงวกไปเรื่องตัวจุ้นตลอดเลย

สงสารคุณเพชร อะไรจะรุงรังในสายตามสามคนพ่อแม่ลูกขนาดนั้นเนี่ย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-08-2018 01:16:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 36] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 17-08-2018 09:26:26
รอลุ้น
หัวข้อ: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 17-08-2018 18:58:16
#เจนไม่นก
เจนอินอเมริกา


หลังจากพูดคุยปรับทุกข์กับพี่ชายใหญ่ที่บ้าน ก็ได้ฤกษ์นัดแนะกันออกไปทำธุระอื่นๆกับเคลวินในวันถัดไป จะเรียกว่าอย่างไรดีล่ะ เพราะเจนมีปัญหามาก บางทีตัวจุ้นเองก็รับฟังและให้คำเสนอแนะได้ไม่ดีพอ เรื่องบางเรื่องเคลวินก็ให้คำปรึกษาได้ดีพอกันหรือดีกว่าตามสไตล์ผู้มีอายุมากกว่าย่อมมากด้วยประสบการณ์ และเพราะพี่เคลมีความร้ายอยู่ในตัว เรื่องล่อลวงกัน พี่เคลก็ทำได้เก่งจนเจนที่เป็นสายอ่อนอยู่แล้วยอมเปิดปากพูด


เจนไม่เข้าไปหาที่บริษัท….คือจริงๆเจนไม่อยากจะเข้าไปแค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก เลยเลือกที่จะนั่งรออยู่ในร้านกาแฟแถวๆนั้น หลังจากที่โทรไปหาแล้ว รอไม่นาน ร่างสูงของพี่ชายก็เดินมาหา วันนี้เคลวิน คูเปอร์ก็ยังดูดีในชุดสูทแบบเดิม ภาพของเขามันดูซ้อนทับกับผู้ชายอีกคนจนเจนต้องสะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านออกไป


ไม่อยากยอมรับว่าคิดถึงสายตาคู่นั้น หรือแม้แต่กลิ่นกายของเขายามที่เจนกำลังผูกเนคไทให้ ความใกล้ชิดที่เคยคุ้นชินมันยังติดตรึงอยู่ในหัว ทั้งๆที่เราไม่ได้มีสถานะพิเศษกว่ากัน ผ่านมาก็หลายวันแล้ว อยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยมีกันและกันมาก่อน ไม่มีใครที่นี่เกี่ยวข้อง เจนเหมือนได้กลับมาอยู่ที่ที่ก่อนเราเจอกัน แล้วทำไม….ตัวตนของเขาถึงถูกนำพามาด้วย เจนควรจะตัดใจได้บ้างแล้ว แต่ทำไมมันเหมือนไม่ได้มีอะไรเพิ่มหรือลดน้อยลงเลย


เคลวิน ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม จริงๆเขาอาจจะแค่ตั้งใจจะมาเป็นเพื่อนเที่ยวของเจน หรือไม่ก็คงรอให้เจนเปิดปากเองมากกว่า ในแต่ละวันตั้งแต่มา เจนเอาแต่คลุกอยู่บ้าน ช่างดูไม่เหมือนเจนคนเดิมที่มีพลังงานอย่างล้นเหลือที่เขารู้จัก อาจจะมีออกไปข้างนอกบ้าง แต่ก็มีจุดประสงค์หลักคือไปพูดคุยกับเพื่อนที่มีลูกแล้ว น้องชายของเขาดูเผินๆอาจจะไม่ได้ดูเปลี่ยนอะไรไปมากมาย แต่คนที่รู้จักกันมานานและรู้จักดีย่อมเห็นจุดเล็กๆที่คนอื่นอาจจะไม่ได้สังเกต


“เราจะเดินไปแผนกหนังสือเด็กก็ได้นะ”  เคลวินยิ้มให้ พี่ชายที่หน้าคนละเบ้าคนนี้ดูจะรู้ใจคนเป็นน้องชายไปหมด เจนยิ้มให้เขาเต็มแก้มก่อนจะคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตามไปยังโซนหนังสือเด็ก ไม่ต้องถามเลยว่าเจนซื้อไปให้ใคร


ก็มีอยู่อีกคนนั่นแหละที่เจนคิดถึงมากๆ


“พี่ไม่เคยรู้ว่าเจนรักเด็กขนาดนี้”  เขาพูด มองเจนด้วยสายตาอ่อนโยน ในสายตาคนภายนอก พี่น้องไม่ได้ร่วมสายเลือดอย่างเราคงดูสวีทจนชวนเข้าใจผิด แต่จริงๆไม่ได้มีอะไรเลย เคลวินนั้นไม่ใช่คนใจดีกับใครไปทั่ว แต่จะมีบุคคลยกเว้นอยู่ไม่กี่คนในโลกที่จะมีสิทธิ์ได้รับความอ่อนโยนของหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันคนนี้ และหนึ่งในนั้นคือเจน


ที่ชอบทำตัวออดอ้อนใส่พี่ชายให้คนไม่กล้าเข้ามาจีบพี่ตัวเอง!


“น้องต้องชอบเล่มนี้แน่เลย” 


“รู้ดีไปอีก”  เขาหัวเราะให้กับการคิดไปเองของพี่เลี้ยงที่ทำตัวเหมือนแม่เด็ก เขาลูบหัวเจนอย่างเอ็นดู ก่อนจะได้รับรอยยิ้มเจิดจ้าจากน้องชาย เคลวินเอ็นดูเจนจริงๆเพราะน้องเป็นเด็กที่น่าสงสารแต่ก็น่ารักมาก ทั้งชีวิตเขาเป็นลูกคนเดียวมาตลอด แม้จะโตเกินไปที่จะเล่นเป็นเด็กๆ แต่การมีเด็กหนุ่มที่มีเชื้อสายเดียวกับฝั่งแม่เข้ามาในชีวิตก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกต่อต้าน เขาไม่เคยต้องการพี่น้อง และเฉยๆในตอนแรกที่พ่อพาคุณพราวและเด็กๆพวกนี้เข้ามาในชีวิต แต่การได้มาพบกับความเปลี่ยนแปลงที่ดีในชีวิตครอบครัวนั้นเป็นเรื่องที่เขาพอใจ แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรกับเจนเกินเลยไปกว่านี้


เพราะเราสองคนเลือกจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ แบบพี่น้องแท้ๆอะไรอย่างนั้น


“พี่เคลก็รีบมีลูกได้แล้วนะ เจนอยากอุ้มหลาน”


“ตัวจุ้นท้องให้พี่ได้ไหมล่ะ”


“แค่พี่เคลเดินไปใกล้ ก็ไม่ใช่ว่าจุ้นมันเผ่นแล้วเหรอครับ”  จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าเกลียดหรอก แต่คงตื่นเต้นจนกลัวๆ


“เป็นความจริงที่เจ็บปวด แต่พี่รับได้”  เขายิ้ม เห็นเรื่องการต่อต้านของน้องชายคนเล็กเป็นเรื่องตลกขำขันไปเสียแล้ว ต้องเป็นคนมีตรรกะแบบไหนกันนะ


“เอาแต่เล่นๆไม่จริงจัง เดี๋ยวจุ้นหนีไปมีแฟนจริงๆแล้วจะหนาว”


“เชื่อพี่สิว่าไม่มีทาง”  แม้เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก แต่เจนรู้


ว่าเขาหมายความตามนั้นทุกประโยค


“พี่ไม่ได้มั่นใจในตัวจุ้นขนาดนั้นหรอก แต่พี่มั่นใจในตัวเองมากๆว่าพี่จะเป็นแบบนี้ และพี่เชื่อว่าปรบมือข้างเดียวไม่มีวันดัง” 


“………..”  ความรักของเขามันเห็นแก่ตัว เขารู้ดี แต่แล้วอย่างไร….สุดท้ายแล้วตัวจุ้นก็มีใจให้เขาไม่ใช่หรือไง แม้ขั้นตอนมันจะเห็นแก่ตัวมากก็ตาม ทว่าผลลัพท์มันก็น่าพอใจ


“ถ้าวันนึงเจนเห็นแก่ตัวได้มากกว่าที่กลัวแล้ว เจนจะมีความกล้ากับทุกอย่าง และจะดื้อรั้นกับทุกสิ่ง”  ถ้าเจนเป็นแบบที่พี่เคลว่าก็คงจะดี เพราะในวันที่รู้ตัวว่าชอบเขาแล้ว เจนก็จะเดินหน้าต่อไป ใครจะมาแย่ง หรือใครจะห้ามไม่ให้เรารักกันเจนก็จะไม่มีวันยอม ถ้าเจนเห็นแก่ตัวต่อคนที่รักทุกคนได้แล้วล่ะก็…ทุกอย่างคงจะดี….เพราะเจนก็คงจะไม่ปล่อยไปเหมือนกัน….แต่เจนรักพวกเขาทุกคนเกินกว่าจะเห็นแก่ตัวได้ ถ้าวันนึงเขาอยากจะจากไปหรือใครอยากจะเกลียดเจน เจนก็คงยินดีเก็บมันมาเศร้าคนเดียว เจนไม่ใช่คนไม่สู้คนหรือจะยอมใครง่ายๆ


แต่ก็ง่ายนิดเดียวกับคนที่….เจนรักไปแล้ว


“เชื่อพี่สิว่าใครก็ตามที่ทำให้เจนรักได้ พวกเขาต้องรักเจนมากพอที่จะยอมให้เจนเอาแต่ใจ” เคลวินยิ้มอย่างมั่นใจให้น้อง อธิบายให้เจนเข้าใจในสิ่งที่เขามองเห็น หากน้องไม่ออกมาจากความกลัว น้องก็จะติดบ่วงแบบนี้ไปตลอดชีวิต หากเจนมั่นใจสักนิดเจนจะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เปิดรับใครง่ายๆ และถ้าถึงขั้นกล้าที่จะร้องขอความรักจากใคร ในเสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกนั้นต้องมีความมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายก็รักกัน


และถ้ารู้สึกถึงขั้นนั้นแล้วไม่ต้องกลัวเลยว่าเราจะต้องเป็นผู้รักษามันฝ่ายเดียว เพราะความรักจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าคนที่มากกว่าหนึ่งคนในนั้นไม่ช่วยกันประคอง ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ความรักที่มีต่อคุณรบเพียงคนเดียว แต่รวมถึงคนอื่นๆในบ้านรัตนสกุลที่เจนก็รักพวกเขา และก็ดูเหมือนพวกเขาที่กล่าวมาก็รักเจนเช่นกัน เป็นเช่นนี้แล้วอย่ากลัวไปเลยว่าเราจะเหนื่อยแค่ฝ่ายเดียวจริงๆ เคลวินรู้ว่าเจนไม่เคยลงหลักปักใจกับคนรักคนไหนมาก่อนขนาดนี้มันเลยไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับความรักที่กำลังจะเกิด ความรักของคนๆนี้ที่เจนเป็นกังวล มันเป็นสโคปที่ใหญ่กว่าเดิม ใหญ่แบบที่ชีวิตนี้เจนไม่เคยคาดหวังว่าจะมีจริงๆ และเพราะมันเหมือนฝันเกินไป เจนจึงคิดว่ามันคงมีแค่ไหนฝันจริงๆ


เลือกซื้อของกันเสร็จ พี่ชายที่เจนรักษ์ชอบออดอ้อนก็พาไปทานอาหารต่อ สำหรับเจน…การเกิดมาเป็นลูกคนเดียว มีญาติผู้น้องเป็นเพื่อนสนิทมันอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ เมื่อพี่เคลเข้ามาในชีวิต เจนก็ตอบคำถามข้อนั้นให้ตัวเองได้อย่างชัดเจน เพราะเจนไม่มีพี่ชายหรือพี่สาว แถมยังมีไอ้ตัวจุ้นจ้านเป็นน้องอีก ไอ้จะไปอ้อนใครยังไงก็ทำไม่ได้จริงจัง การมีพี่เคลเข้ามาในชีวิตนั้นตอบโจทย์ความต้องการในตรงนี้ได้จริงๆ  เขาถึงได้เป็นแค่พี่ชายไง เพราะเจนว่าเขาเป็นพี่ชายที่ดี แต่เป็นคนรักเหรอ….


ลองถามจุ้นสิว่าถ้ามันดี…ป่านนี้มันเสียตัวให้เขาไปแล้วล่ะ
ไม่เกรี้ยวกราดก่อนจะกลัวแล้ววิ่งหนีแบบที่เป็นอยู่นี่หรอก…..


ทานข้าวเสร็จ สุภาพบุรุษผู้ร้ายกาจของตัวจุ้นก็ส่งเจนขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านกลับช่อง วันนี้จะเป็นวันแรกที่เจนจะกลับเข้าไปนอนในอพาร์ทเมนท์ของตนที่ปิดทิ้งไว้ตั้งแต่บัดนั้น จริงๆแล้วเจนจะกลับมาทำความสะอาดด้วย วันนี้ก็คงจะเหนื่อยหน่อย แต่คงอีกพักใหญ่เจนถึงจะได้กลับมา เพราะงั้นไปดูหน่อยก็ไม่เสียหายหรอก ไม่รู้อีกเมื่อไหร่จริงๆ เจนถึงจะทำใจเอาน้องวินห่างอกไปได้แบบนี้ แค่คิดถึงน้อง ตัวคนพ่อก็ห้อยตามมาในความคิด เจนคิดถึงเขา ทำไมจะรักก็ยาก เลิกรักทั้งๆที่เราก็เหมือนจะไปกันได้ด้วยดี มันก็ยิ่งยาก นี่เจนขาดความมั่นใจไปมากขนาดนั้นอย่างที่พี่เคลพูดจริงๆเหรอ และคุณรบทำให้เจนมั่นใจได้หรือเปล่า


ว่ารักของเรามันยังเป็นไปได้….


xxx


ตอนแรกก็คิดว่าตาฝาด แต่มองไปให้ดีๆก็แน่ใจว่านั่นคือเจนรักษ์


เขาไม่มีทางลืมใบหน้าของคนที่ทำให้เกิดความรู้สึกหวั่นไหวราวกับเด็กหนุ่มในรอบหลายปีได้หรอก แต่ที่ไม่เชื่อสายตาตัวเองแต่แรกที่เห็นเพราะสถานที่ที่เราจากกันมาคืออีกซีกโลกนึง ในหัวของเขาค้านชนฝาเลย ความบังเอิญบ้าบออะไรนี่มันไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก ในใจคิดโทษตัวเองที่ฟุ้งซ่าน ก่อนจะเบือนหน้านี้เพราะรำคาญในความไร้สาระนี่ ทว่าหางตาไวก็ดันไปเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาคนเดียว


แต่มีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนประกบข้าง


ผู้ชายคนนั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา นักรบไม่แน่ใจว่าเขามีเชื้อชาติอะไร แต่น่าจะเป็นลูกครึ่งเอเชีย เมื่อพินิจคนตัวเล็กให้ดีๆแบบตั้งใจอีกครั้งเขายิ่งมั่นใจว่านั่นคือเจนรักษ์ และเมื่อคิดให้ดีอีกชื่อนึงก็ตามเข้ามาอย่างที่เขาไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าตนเองเก็บรายละเอียดเรื่องส่วนตัวในชีวิตของเจนได้ดีขนาดนี้ เพราะชื่อเดียวที่คิดออกและเคยหัวฟัดหัวเหวี่ยงร้อนไปกับมันอยู่เป็นชั่วโมงนี่มีอยู่คนเดียว….


เคลวิน คูเปอร์…..


นักรบยืนอยู่ในร้านหนังสือ เขากำลังเลือกดูสิ่งที่สนใจแต่กลับถูกดึงความสนใจออกไปด้วยคนคู่หนึ่ง พวกเขาเดินไปดูหนังสือเด็กด้วยกัน หัวเราะต่อกระซิกน่ารำคาญตาอยู่ไม่ไกล นักรบนึกสบถในใจอยู่หลายครั้งที่เห็นท่าทางสนิทเกินพอดีแบบที่ไม่มีระยะห่างให้เหมือนที่มีกับเขา ทั้งหงุดหงิดและน้อยใจ จนแปลกใจในความอ่อนไหวแบบที่ไม่เคยเป็นแบบนี้ของตัวเองเหมือนกัน


“คุณรบครับ”  เลขาของเขานั้นเรียกกัน นักรบรีบเบือนหน้าหนีจากภาพนั้นและปั้นหน้านิ่ง ในใจเขาเหมือนจะลุกโชนด้วยแรงริษยา น่ากลัวว่าถ้ายังดูต่อไป มันจะไม่ใช่แค่ดูแล้วสิ และนักรบที่ต้องถอยห่างจากเจนรักษ์ก็ไม่อยากขาดสติละทิ้งความพยายามที่ผ่านมาของตนเองนักหรอก มันเหมือนกับว่าเส้นด้ายของเขากำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะฉีกขาด และตัวตนที่พยายามจะรักษาก็จะพังทลายลง


“ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย อยากกลับที่พัก”  เขาพูด น้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิม แต่เพชรจะรู้ดีกว่าชาวบ้านเขาอยู่หน่อยว่านี่คือน้ำเสียงตอนที่หงุดหงิดเข้าขั้นรุนแรง


แล้วคุณรบหงุดหงิดเรื่องอะไรถึงได้เอะอะจะกลับไปนอนแบบนั้น?


แน่นอนว่าเพชรไม่ได้รู้ได้เห็นแม้จะมีสกิลการเสือกที่ดี บางทีคุณเขาอาจจะไม่สบายจริงๆอย่างที่กล่าวอ้าง และเพราะลุยงานหนักติดกันมาหลายวันตั้งแต่อยู่ไทยมาจนถึงตอนนี้ ไทม์โซนก็เปลี่ยน อากาศก็เปลี่ยน ต่อให้เป็นยอดมนุษย์เจ้านายที่เขี้ยวแค่ไหน ก็ย่อมมีลิมิตทางกายภาพอยู่บ้าง คุณรบไม่ได้เป็นยอดมนุษย์จริงๆเสียหน่อย แม้บางทีจะทำตัวเป็นอมนุษย์ในความรู้สึกให้ได้เห็นบ่อยๆก็ตาม


และก็สมพรปากจริงๆ คุณเขาป่วยจริงในวันถัดมา ทั้งนี้คนป่วยก็ไม่ได้เรื่องมากงอแง เพราะถ้าคุณรบเป็นเช่นนั้น เพชรก็คงทำตัวไม่ถูกและเอาตัวเองกระแทกกระจกเอาหัวลงพื้นจากชั้นที่ 10 กว่าของโรงแรมแห่งนี้ สิ่งที่คุณรบทำคือโทรมาบอกเขาว่าไม่สบาย ไม่อยากให้รบกวนกับสั่งรูมเซอร์วิสมาให้หน่อย แน่นอนว่าหน้าที่เลขาที่ดีเพชรต้องทำมันทั้งหมด อย่าว่าแต่หน้าที่เลขาเลย จริงๆมันก็เป็นมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานนั่นแหละ อย่าคิดว่าเพชรจะไม่มีนะ เขาก็คนๆนึงนะเว้ยยยยยย


ทว่าเขามีงานมากมายที่ต้องทำ เพราะคุณรบป่วย แต่เวลาเรามีจำกัด เพชรในฐานะเลขาจึงต้องวิ่งงานแทนในส่วนที่ทำแทนได้ แต่มันก็เยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แล้วอย่างนี้จะปล่อยให้คนป่วยนอนตายก็ทำไม่ได้ จะหาใครมาดูแลเขาเองก็ยังไม่เห็นทาง และอีกหน้าที่หลักที่ต้องทำแต่มันแสนจะทรมานใจคือการโทรบอกคนที่บ้านเจ้านายให้ทราบถึงสถานการณ์ แน่นอนว่าคุณพรรณีท่านเครียดไม่น้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ได้ยินแว่วๆมาว่าจะเป็นลมให้ได้


“คุณหญิงครับ ก่อนเป็นลมมาบอกผมก่อนว่าควรเอาไงดี” เพราะนี่คิดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่เคยเห็นยักษ์มารป่วยมาก่อนก็จะไปไม่เป็นอยู่หน่อยๆ


“แล้วฉันจะเอายังไง ตาเพชรแกไปจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันเลยนะ”  สรุปคือโทรไปนี่คือการเพิ่มงานให้ตัวเองใช่ไหม ก็ได้วะ


“คุณหญิงจะไปคืนนี้เลยเหรอคะ”  น่าจะเป็นเสียงน้าจินที่พูดขึ้น


“ฉันเป็นห่วงลูกไม่ไหวแล้ว ตาเพชรอะไรนี่ไม่มีทางดูแลตารบได้หรอก”  เอะอะก็อย่าพาดพิงครับ แต่เพชรก็ยอมรับว่าทำไม่เป็น กลัวคุณรบช้ำ กลัวคุณรบตาย กลัวไปหมด


“คุณหญิงใจเย็นๆนะคะ ทานอาหาร ทานยาก็น่าจะดีขึ้น พี่อำไพได้จัดยาทั่วไปเตรียมให้คุณรบแล้วใช่ไหม”  น้าจินนี่ใช้ได้เลย มีสติพอสมควร


“จัดไว้ให้แล้วนะคะ”


“งั้นเดี๋ยวผมจะไปถามคุณรบดูให้นะครับ”  เพชรเริ่มเห็นแสงสว่างในชีวิต


“งานไม่ยุ่งมากใช่ไหมตาเพชร”


“พอดูได้อยู่ครับ”  จริงๆก็รัดตัวแต่มันทำไงได้ละเฮ้ย นั่นเจ้านายนะ!


คุณรบยังไม่ได้เซ็นอนุมัติโบนัสปีนี้เลย?!?!?!?!??!!!!


“ทำไงดีล่ะ”  คุณหญิงท่านก็ไม่วางใจทันที ไม่ได้กลัวตาเพชรจะหยิบยาพิษให้ลูกท่านกินหรอก แต่คนเป็นแม่ยังไงก็ห่วง ยิ่งเพชรที่อยู่ด้วยก็เหมือนจะยุ่งมากๆด้วยแล้ว เธออยากไปหาตารบให้รู้สึกอุ่นใจเดี๋ยวนี้เลย


“คุณหญิงใจเย็นนะคะ” อาจจะเป็นคำเดียวที่น้าจินพูดได้ แต่น้าจินก็พูดออกไปแล้ว


“ใจเย็นๆไหวได้ไงเล่า”


“ถ้างั้นเราให้พระพายบินไปดูให้ไหมคะ คุณหญิงบินเองตอนนี้จะลำบาก”  บินไฟลท์ไกลๆ การเตรียมตัวที่ไม่พร้อม กับคนอายุอานามขนาดเธอนั้นมันอาจจะไม่ค่อยไหวเสียเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจจะล้มตามลูกไปด้วย เธอพยายามคิดตามหลักความเป็นจริงแต่ก็ยังคงห่วงอยู่ดี


“พระพายยังไม่มีวีซ่าอเมริกา ไปไม่ได้หรอก”  ไม่ทันการณ์ อะไรก็ไม่ได้เลยจริง


“ถ้างั้นก็คงต้องขอให้เจนช่วยแล้วล่ะค่ะ”


“…………..”


“…………..”


“จะดีเหรอแม่ไพ มันวันหยุดของเจนนะ”  คุณหญิงท่านเกรงใจจริงๆ ไม่ได้เอาหัวใจชิปเปอร์มายุ่งกับงานนี้เลย


“ก็มันช่วยไม่ได้นี่คะ เจนต้องเข้าใจอยู่แล้ว”


“ตอนนี้เจนก็อยู่อเมริกาเหมือนกันด้วย”  น้าจินพูดออกมา แต่เฮ้ย! ทำไมเพชรไม่เคยรู้?


“เดี๋ยวไพโทรตามลูกนะคะ เดี๋ยวให้เจนโทรหาคุณเพชรนะคะ”  เพชรนั้นพยักหน้ารับทราบแม้เราจะไม่ได้คุยกันต่อหน้าก็ตาม ได้ยินอย่างนี้เขาก็โล่งใจไปเยอะเลยทีเดียว อย่างน้อยมือนุ่มๆของคุณเจนก็คงดูแลคุณรบได้ดีกว่าที่เพชรทำแน่นอน คิดได้ดังนั้นเขาก็ใจจดใจจ่อรอคอยการโทรมาจากใครบางคน โอ้ย! จะบ้าแล้วโว้ย


ทำไมกูต้องมาลุ้นเผื่อคุณรบขนาดนี้ด้วยนี่!

xxx


 เมื่อวางสายจากคุณเพชร เจนก็กลับมานั่งเฝ้ารอข้อความจากเขาต่อ พอได้ยินว่าคุณรบป่วย ใจของเจนก็อยู่ไม่สุขแล้ว และเราก็หนีกันไม่พ้นจริงๆเพราะเขาดันมาป่วยที่นี่ ที่ๆเจนเอื้อมถึง และมีแค่เจนที่เหมือนจะทำได้ แต่ถึงทำได้ ความรู้สึกไม่สบายใจก็มีอยู่หลายส่วนจึงทำให้ลังเล ทว่าเมื่อยิ่งได้ยินว่าคุณรบไม่ยอมกินอาหารเพราะไม่ถูกปากก็ยิ่งขมวดคิ้ว พอเราจะตัดใจก็มาทำให้ห่วงแบบนี้เหรอ เขานี่จะเอาอะไรกับเจนหนักหนา ไม่ต้องรักกันก็ได้ เจนก็บอกไปแล้ว


แต่ช่วยรักตัวเองหน่อยได้ไหม…


“โชคดีนะที่ทำกับข้าวไว้แล้ว”  ไม่รู้ว่าฟ้าฝนอะไรดลบันดาลให้เจนอยากกินอาหารเบาๆเลยต้มข้าวต้มเอาไว้ เหมือนจะรู้ว่านอกจากตนแล้วจะมีอีกคนที่ได้กิน เจนไม่รอช้าเมื่อเห็นว่าโลเกชั่นที่ต้องไปคือที่ไหน คนตัวเล็กรีบไปเตรียมข้าวของให้พร้อมและออกเดินทางให้ไว ลองดูกันหน่อยสิว่าพี่เจนที่ปราบเจ้าลูกกบอยู่หมัดแล้ว จะจัดการกับผู้ใหญ่งี่เง่าผู้พ่อคนนั้นไหวหรือไม่  ก็คดีความของเรายังไม่ชัดเจนเลยนี่ ว่าแต่ในส่วนไหนกันล่ะที่ไม่ชัดเจน


ก็เกือบทั้งหมดนั่นแหละ แต่ความรู้สึกน่ะค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าใช่!


ดูจากโลเกชั่น โรงแรมที่ทั้งสองเข้าพักนั้นไม่ได้ไกลจากอพาร์ทเมนท์เสียเท่าไหร่ ถ้ารถไม่ติดซึ่งเป็นไปได้ยากก็ไปถึงได้ในเวลาไม่นาน เจนรักษ์เผื่อใจไว้บ้าง หากแต่เมื่อเอาตัวขึ้นแท็กซี่มาได้ ก็มาถึงหน้าโรงแรมโดยใช้เวลาเดินทางไม่นานอย่างที่คิด ฝนฟ้าเป็นใจให้เจอขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะสะดวกเจอกันไหม คุณรบคงไม่ไล่ตะเพิดกันออกมาหรอก แต่ท่าทางประจำแบบที่เขาชอบเป็น นั่นแหละที่เจนไม่ชอบที่สุด ถ้าใครได้สัมผัสด้านน่ารักของเขาเมื่อไม่นานมานี้ คงไม่มีใครอยากกลับไปเห็นท่าทางเย็นชาไม่เห็นใครนั่นอีกหรอก แม้ด้านน่ารักนั่นจะไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยเลยก็ตามเถอะ


เจนมาอยู่ที่หน้าห้องของคุณรบโดยคุณเพชรเป็นคนพามา เขาเคาะห้องเรียกให้เจ้าของห้องมาเปิด เคาะอยู่หลายทีเหมือนกันจนเจนใจเสีย ทุกอย่างช่างเงียบสงัด โทรเข้าไปเขาก็ไม่รับ คุณเพชรที่ไม่เคยดูพึ่งพาได้ในสายตานั้นคอยบอกเจนเสมอว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แน่นอนว่าเจนย่อมไม่เชื่อ แต่ก็ดีกว่าการพูดจาแบบปกติแบบที่เจ้าตัวเป็นมากกว่า รออยู่นานจนจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรม ประตูเจ้าปัญหาก็เปิดออกมา


“…………..”


“…………..”


“คุณรบไหวไหมครับเนี่ย”  เป็นเพชรที่เริ่มสนทนา


“ผมแค่นอนหลับ ไม่ได้ยินเสียงเรียก”  จริงๆเขาได้ยินแต่มันเหมือนจะอยู่ระหว่างความฝันกับความจริง และที่ไม่ลุกมาเพราะยังไม่ตื่นจริงๆ หรือเขาอาจจะไม่ได้อยากตื่นขึ้นมาก็ได้ แต่เสียงเรียกรอบตัวมันเยอะเกินกว่าที่จะเพิกเฉยต่อไป สุดท้ายเขาก็ต้องฉุดร่างพังๆของตัวเองที่กำลังได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาและเปิดประตู


เพื่อพบว่าความจริงไม่ได้ต่างจากความฝัน…..


“…………..”


“…………..”


“ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว ผมคงต้องไปแล้ว ยังไงรบกวนคุณเจนด้วยนะครับ”  เพชรพูดเช่นนั้นก่อนที่จะรีบเดินกลับไปเอาสัมภาระที่เขาต้องเอาไปพบลูกค้าในวันนี้ เพชรไม่ได้เล่นอะไรต่อไปอีก เพราะสถานการณ์มันจริงจังเกินกว่าจะทำตัวแบบนั้นขึ้นมา แม้เขาจะรู้สึกได้ว่าคนสองคนปฏิบัติตัวต่อกันราวกับไม่ใช่กันและกันมาก่อน เขาจากมาโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมอง


และเมื่อคุณเพชรไม่อยู่แล้ว…ก็มีแค่เจนที่ต้องเผชิญกับความเป็นจริงเพียงคนเดียว


“…………..”


“เข้ามาก่อนสิ”  ไม่ใช่เจนหรอกที่ต้องเผชิญมันเพียงคนเดียว เขาก็ด้วย…..


นักรบนั้นรู้สึกเหมือนนี่คือความจริงที่เหมือนฝัน เมื่อครู่นี้เขาก็มีเจนรักษ์วนเวียนอยู่ในฝันแบบนี้ มันไม่ใช่ฝันดีหรือร้ายจนเกินไป เหมือนกับความจริงที่เผชิญในตอนนี้ เขารู้สึกดีใจที่ได้เจอ แต่ในขณะเดียวกันบทสนทนาของเราในวันนั้นก็ยังคงหลอกหลอน มันทำให้เขาไม่กล้าแสดงออกจนมากเหมือนที่เคยทำ ทั้งนี้เขาตระหนักเสมอ


ว่าเจนไม่ชอบ….และเขาอยากไม่อยากให้เจนไม่ชอบ….


“คุณรบเป็นไงบ้างครับ”  เขาเห็นเจนมีข้าวของมาเต็มไม้เต็มมือ คนตัวเล็กเดินเอามันไปวางก่อนจะหันมาถามกัน ท่าทางก็ดูประหม่าไม่ต่าง


“ไม่เป็นไรมากหรอก”


“แต่คุณเพชรบอกว่าคุณรบไม่ยอมทานอาหาร”


“ผมทานไม่ค่อยลง”  จริงๆคือเขาค่อนข้างเลือกกินเวลาป่วย ซุปของที่นี่มันก็โอเค แต่ทานไปได้ไม่เยอะก็รู้สึกพอ อย่างไรก็ตามเขาอยากได้กลิ่นกระเทียมเจียวหอมๆกับข้าวต้มร้อนๆมากกว่า นักรบโชคดีมาตลอดที่แทบไม่ป่วยเลย แต่เผอิญตอนนี้เขาโชคร้าย และการที่พระเจ้าส่งเจนมานี่ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า เพราะมันเหมือนตอกย้ำกันอีกนัย เจนคือคนที่ไม่อยากเจอแต่คิดถึงที่สุดคนนึงเหมือนกัน


“เห็นคุณเพชรบอกว่าคุณรบมีไข้”  เอะอะอะไรก็จากปากคุณเพชรไปเสียหมด เจนมาอยู่ที่นี่ ความกล้าหาญเอาแต่ใจถูกริดรอนไปหลายส่วน จะบอกว่าเจนแบบนี้เป็นที่คุ้นตา แต่ไม่คุ้นต่อใจเลย


“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก แค่กๆ”  ไม่มีอะไรน่าห่วงที่ไหน เจนมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์เพียงชั่วครู่ ก่อนจะปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติ แต่นักรบเห็นมันหมดแหละ และเขาก็รู้สึกเหมือนจะใจเต้นเมื่อจับได้เสียอย่างนั้น ไหนใครบอกกันว่าถอยได้นะ ไม่ใช่คนที่ตีหน้านิ่งแต่กำลังหงุดหงิดกันอยู่ตรงนี้ใช่ไหม


เป็นห่วงก็รู้อยู่หรอก ไม่บอกก็พอเข้าใจ


“กินยาหรือยังครับ”


“กินแล้ว”


“แล้วที่วางไว้ที่โต๊ะนั่นอะไรครับ”  คนเราพอเขินต้องดุด้วยเหรอ


“ผมว่าผมกินไปแล้วนะ” 


“น้ำที่วางบนโต๊ะดูยังไม่มีคนดื่มด้วยซ้ำ”  จะว่าไปซุปก็เหมือนจะไม่พร่องสักนิด ยาก็เต็มแผง ที่แกะออกมาเม็ดนึงนั่นก็ยังวางไว้อยู่ มันทำให้เจนคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย


คุณรบเป็นเอามากแล้วแหละ


“ผม….ง่วง”


“ง่วงก็ต้องกินยาครับ”


“มันไม่อร่อย”


“ยาที่ไหนก็ไม่อร่อยหรอกครับ”


“ผมหมายถึงอาหาร”


“……………”


“ยังไงผมขอนอนพักอีกสักหน่อยล่ะกัน”


“ถ้าเอาแต่นอนไม่กินยามันจะหายช้านะครับ”  เจนก็ยังบ่น ทั้งๆที่คิดว่าคงจะไม่ได้พูดอะไรเพราะต่างคนต่างเย็นชาต่อกัน ทว่าพอได้เห็นเขาเปิดปากพูดคุยเหมือนปกติก่อนหน้านี้ขึ้นมา ใจของเจนที่บางอยู่แล้วก็อ่อนยวบ


เจนเพิ่งรู้ว่าที่เดินถอยหลังมาตั้งนาน จริงๆแล้วมันไปไม่ถึงไหนเลยจริงๆ


“ผมทำข้าวต้มกุ้งมาให้”


“ผมอยากนอนก่อน”


“………..”


“ผมทานก็ได้”  อย่าทำหน้าเหมือนจะโกรธกันแบบนั้นสิ


“เดี๋ยวเจนเตรียมให้นะ” ให้ตายสินักรบ….เขาไม่สามารถดื้อหรืองอแงได้เหมือนน้องวินเพราะพี่เจนทั้งรักทั้งโอ๋ แต่นักรบคือผู้ชายคนที่เจนระวังทุกฝีก้าวในการเข้าหา สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะยินยอมโอนอ่อนตามเพราะสงสารคนที่กำลังพยายามจัดการกับความคิดและการกระทำของตัวเองให้เหมาะสม และอย่างที่เจนว่า เขาจะมาดื้อไม่ได้เพราะจะไม่หายเอา และนักรบก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆที่ควรจะงอแง


ร่างสูงนั้นทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เขามองตามพี่เลี้ยงของลูกที่ได้มาเจอกันในสถานที่อันแสนไกลจากบ้าน ไม่มีเสียงของน้องวิน ไม่มีเสียงของใคร มีเพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงถอนหายใจของเขาที่ดัง เราอยู่กันสองคนในที่ที่ไม่มีใครเห็นเราอย่างแท้จริง เจนรักษ์ยังดูคล่องแคล่ว และใจดีต่อเขาอย่างที่เคยเป็นแม้มันจะแฝงไปด้วยการระมัดระวัง เขาอยากจะทำให้เจนรู้สึกสบายใจ แต่ตัวเขากลับหนักใจยิ่งกว่า ส่วนหนึ่งเขามีคำถาม….ว่าสำหรับเจนแล้ว…..


“คุณไม่เคยบอกว่าจะมาที่อเมริกา”


“ผมบอกว่าจะมาเยี่ยมพ่อแม่บุญธรรมนะครับ”  เจนไม่ได้มีเจตนาโกหก


“คุณอยู่ที่นี่มาก่อนเหรอ”  แต่เขาก็ไม่ได้จะงี่เง่าโกรธโมโหที่ไม่เคยรู้อะไร เพราะสาเหตุที่ไม่เคยรู้ เพราะไม่เคยถาม ตอนนี้ถ้าอยากรู้ก็ถามออกไปสิ ไม่เห็นจะยาก


“ครับ อยู่มาตลอด”  และพอถาม เจนก็ตอบให้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว


“เมื่อวานผมเห็นคุณในร้านหนังสือ”


“ผมไปเดินดูของให้น้องวินนะครับ”  เขายิ้ม เมื่อคิดได้ว่าความใจดีของเจนเผื่อแผ่มาให้ตาหนูเสมอก็ดีใจ แต่ก็จำได้แม่นว่าเจนไม่ได้ไปคนเดียว…


“แล้วคนเมื่อวานนั่นใครเหรอ”


“ครับ?”


“เคลวิน คูเปอร์ใช่ไหม ถ้าผมจำไม่ผิด”


“…………..”


“………….”


“ครับ ใช่”  ตอนนี้เขากระจ่างใจมาในระดับนึงแล้ว เหลือเพียงแค่คำถามเดียวที่คิดมาสักพักแล้วว่าตกลงจะเอายังไง ทว่าสิ่งที่ขาดอยู่ในวินาทีนี้คือ…..


ความกล้า….ที่จะเอ่ยออกไป



Talk: ฟ้าเริ่มจะแง้มแล้วค่ะ คนอ่านคงงงว่าตรงไหน555 แง้มจริงค่ะ พรุ่งนี้เปิดออกเลย สาบาน จะลงทุกวันจนถึงอาทิตย์นี้จบปมแรกนี้ไว้ไม่ให้ค้างคา อาจจะหายหน้าแต่อย่ากลัวจะกลับมาพร้อมที่เหลือแน่นอนค่ะ



หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-08-2018 19:44:11
กล้าๆหน่อยคุณ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Plavann ที่ 17-08-2018 19:50:23
ไม่เอาคุณรบ อย่ามาป๊อดแถวนี้ คว้าไว้สิ ความสุขตัวเองยืนอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 17-08-2018 19:57:43
เชียร์คุณรบ กล้าๆหน่อยนะจ๊ะน้องเจนจะได้ใจอ่อนซักที
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-08-2018 20:19:48
ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-08-2018 20:24:03
พี่รบเกาแก้มน้องเจงหน่อย
มัวเกร็งกันไปเดี๋ยวไม่หายป่วยนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 17-08-2018 22:47:24
มัวแต่เกร็งกันไปเกร็งกันมา จนนี่จะเกร็งตามละ
คุณรบก็หัดๆพูดออกไปซะบ้าง ไม่งั้นไม่รู้ชาติไหนจะคืบหน้า
อยากอ่านคู่เคลวินตัวจุ้นเลยอ่า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: moodyfairy ที่ 17-08-2018 23:36:09
กล้าๆกันหน่อยเสะะะะะะ :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 37] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 18-08-2018 11:44:41
ต้องกล้าสิคุณรบ  :mew2:
หัวข้อ: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 18-08-2018 17:31:28
#เจนไม่นก

เจนชอบ อยากได้ ขอนะ


 

“………….”

 

 

“………….”

 

 

“พี่เคลเป็นพี่ที่นับถือกันน่ะครับ ลูกของพ่อบุญธรรม”  นักรบไม่ได้ถามออกไปหรอก

 

 

แต่เจนตอบมันขึ้นมาเอง…

 

 

ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจความต้องการของเขาหรือแค่อยากจะพูดออกมาเอง ทว่าความกระจ่างชัดก็ทำให้รู้สึกสบายใจ ในตอนนี้เขาคงป่วยเกินกว่าจะคิด ถึงจะไม่รู้ว่าจริงอย่างพูด หรือฝ่ายพี่เคลอะไรนั่นคิดกับเจนแค่น้องหรือเปล่า แต่นักรบจะหยุดมันไว้เท่านี้ กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยกับกระเทียมเจียวที่เขาชอบนั้นเรียกความต้องการอาหารออกมา ดูแล้วมันก็เหมือนจะยังอุ่นๆอยู่ คาดว่าทำเสร็จอีกฝ่ายคงต้องดิ่งมาหากันเป็นแน่ ความเอาใจใส่นี่…ทำให้เขาตัดใจกับเรื่องที่ค้างคานั่นไม่ลงเลยทีเดียว

 

 

นักรบนั่งกินอาหารเงียบๆ มีเจนที่คอยจัดนั่นเตรียมนี่ ยังคงไม่อยู่เฉยเพราะการอยู่เฉยจะทำให้เจนรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ทว่าก็ไม่สามารถหยุดมองเขาได้เลย ในยามที่เผลอไผลเจนจะต้องมองสำรวจเขาทุกครั้งไป ก็ไม่รู้ว่าเขารู้ตัวหรือไม่ แต่ถ้ารู้ตัวก็ถือว่าใจดีมากเพราะเขาไม่แซวอะไร ยังคงนิ่งๆทำเป็นไม่สนใจแล้วกินอาหารต่ออย่างนั้น

 

 

ใบหน้าของคนป่วยดูโทรมๆ ผิวของเขาขึ้นสีชมพูเพราะพิษไข้ ดวงตาก็ดูจะคลอไปด้วยหยาดน้ำใส เขาป่วยและดูอ่อนแอจริงๆจนน่าสงสาร ความลังเลทั้งหลายทั้งปวงตอนที่กำลังเดินทางมานั้นหายไปหมดแล้วเมื่อได้เห็นสภาพเหล่านี้ เจนไม่สามารถคิดเป็นอื่นไปได้เลยเพราะแม้เราจะอยู่ใกล้กัน ก็ยังรู้สึกห่วงหาขนาดนี้ อย่างที่คิดไว้เลยว่าเจนนั้นพยายามก้าวถอยหลังแต่จริงๆแล้วที่เหนื่อยแสนสาหัสมาทั้งหมด

 

 

ที่ทำลงไปคือการย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนเลย

 

 

“ยาครับ”  หลังจากเขาวางช้อน เจนก็รินน้ำให้ใหม่และยื่นยาให้ คนป่วยควรได้รับการพักผ่อนที่เหมาะสมตามที่เขาเรียกร้อง นักรบรับยาจากมือเจนไป แต่เขาก็ยังไม่เอามันเข้าปากอยู่ดี

 

 

หรือว่าคุณรบจะไม่ชอบกินยา….

 

 

“ต้องกินนะครับ”

 

 

“อย่าเพิ่งเร่งสิ”  ไม่ชอบกินขนาดนั้นเลยเหรอ เจนมองตาเขา แววดื้อรั้นอยู่ในนั้น ยังคงไม่เอาเข้าปาก แต่เจนคงไม่เข้าใจเขาหรอก เพราะคุณรบไม่ได้มีปัญหากับการกินยา

 

 

แต่มีปัญหากับเจนหลังจากนี้….

 

 

แต่สุดท้ายเขาก็กลืนมันลงคอไปเสียอย่างนั้น สุดท้ายแล้วก็ปากหนักเหมือนเดิม เจนเองก็อดแปลกใจไม่ได้ที่สมมติฐานของตนจะผิดพลาด คุณรบไม่ได้ไม่ยอมกินยา แต่แค่ไม่กินมันเท่านั้น เขาก็ดูเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไปเวลากินยา ไม่ได้มีสีหน้าไม่ชอบหรืออะไรเป็นพิเศษ กินเสร็จแล้วก็ลุกเดินไปที่เตียงนอน หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลี่ๆก่อนจะหันมาหาเจนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

 

 

“จะกลับเลยไหม”

 

 

“………..”  เขาไล่เจนเหรอ?

 

 

“ไม่ได้ไล่หรอกนะ”

 

 

“…………”

 

 

“ผมต้องขอบคุณก่อนสิ…ขอบคุณนะที่มา”  ในที่สุดก็กลับมามีมารยาทที่ดี เจนพยักหน้าตอบรับคำขอบคุณของเขา แต่ในส่วนคำถามแรกก็ยังไม่ได้ตอบออกไป

 

 

เพราะไม่รู้จะเอาไงเหมือนกัน

 

 

เขาค่อยๆเอนตัวลงนอน ก่อนจะพลิกตัวตะแคงหันหลังให้ การพักผ่อนที่ดีไม่ควรมีเจนอยู่สายตา คนตัวเล็กที่มองแผ่นหลังของเขาได้แต่เม้มปาก มีอยู่เป็นร้อยพันคำที่อยากพูดออกไป แต่ก็ไม่มีประโยคใดหลุดออกไป เจนครุ่นคิดดีแล้วจึงถอนหายใจ คนตัวเล็กนั้นเดินไปเก็บข้าวของของตนเอง ทุกอย่างดูชักช้าอ้อยอิ่ง ดูไม่ใช่เจนรักษ์ที่ทะมัดทะแมงทำอะไรรวดเร็วคนก่อนเลย ไม่รู้ว่าตั้งใจ หรือหมดกำลังใจกันแน่เหมือนกัน

 

 

ทว่านักรบยังไม่ได้เข้าสู่นิทราอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเขาจะอยากพักผ่อนแค่ไหน แต่เสียงของความเคลื่อนไหวของเจนนั้นดึงความสนใจของเขาไปเสียหมด ในขณะที่หลับตา เขาก็เงี่ยหูฟัง และในขณะที่รับฟัง เขาก็ได้ยินทุกอย่างชัดเจน เจนเก็บของอยู่ เจนกำลังก้าวเดิน และเจนกำลังบิดลูกบิดประตู….

 

 

นั่นหมายความว่าเจนนั้นกำลังจากไป???

 

 

“………….”  แต่เขาก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความจริง นักรบไม่ควรคาดหวังว่าเจนจะอยู่ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์เช่นนั้น สิ่งที่ทำกับเจนลงไปนั้นมันเลวร้าย เขารู้ทั้งรู้ว่าการล้อเล่นกับหัวใจคนที่เจ็บปวดมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่สุด ตัวเขาเองยังไม่ชอบอะไรเช่นนั้นเลย และทำไมถึงได้ไปทำเช่นนั้นกับเจนรักษ์เล่า แค่มองตาก็รู้แล้วว่าเจนนั้นหวั่นไหวกับเขามากแค่ไหน บางทีเราสองคนอาจจะเป็นเอามากพอกัน หวาดกลัวกับเรื่องความรักพอกัน กลัวที่จะยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นที่มีให้กันพอกัน  เราอาจจะรู้สึกหวั่นไหวและสับสนอยู่พอกัน ในตอนนี้…ความคิดและหัวใจของเราก็อาจจะกำลังต่อสู้กันอยู่ และยังไม่มีการประกาศผลแพ้ชนะใดๆ นักรบเสียเวลามามากพอไหมกับความพยายามที่เหมือนจะไร้ค่าที่ผ่านมา เราใช้เวลาที่จะหลีกเลี่ยงกันมานานหรือยัง แล้วถ้ายังมีใครสักคนล้ำเส้นเข้าไป ใครอีกคนจะตอบรับเช่นไร

 

 

ถ้าเจนกลับมาลอยหน้าลอยตาตรงหน้า…เขาควรจะทำเช่นไรดี

ระหว่างจับมือเล็กนั่นให้แน่น กับเดินหันหลังให้และไม่มีวันหวนกลับไปตลอดกาล….

 

 

“คุณรบ”  เจนเผลอเรียกชื่อของเขาออกมา เมื่อมือใหญ่ของคนป่วยจับข้อมือของตนเอาไว้ ดวงตาโตของเจนเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เจนก็แค่เอาผ้าขนหนูชุบน้ำไปวางบนหน้าผากให้ด้วยหวังให้คนป่วยหายเร็วๆแค่นั้นเอง

 

 

นี่ไปทำอะไรให้เขาโกรธอีกหรือเปล่า….

 

 

“………….” เจนก็แค่….ยังไม่อยากจากไปเท่านั้นเอง

 

 

ลังเลอยู่ไม่นาน แต่มันนานในความรู้สึก จริงๆแล้วเจนไม่ควรอยู่ต่อ หากต้องการจะปกป้องความรู้สึกของตนเองที่ยิ่งถลำลึกนี่ล่ะก็ เจนไม่ควรจะอยู่รอดูเขากินยาด้วยซ้ำ แต่ก็อยากอยู่ อยากมั่นใจว่าเขาจะไม่เป็นไร และอีกส่วนมันเหมือนกับความรู้สึกผิดที่มีต่อคนที่เราแคร์มาก เจนอยากจะอยู่เพื่อกอบกู้ความรู้สึกผิดบางอย่าง และอยากจะอยู่….เพราะวันนี้ไม่มีที่ไหนบนโลกที่น่าอยู่เท่าห้องๆนี้อีกต่อไปแล้ว และนี่คงเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เจนยอมรับความต้องการของหัวใจอย่างตรงไปตรงมา

 

 

แทนที่จะกลับไป ร่างเล็กเดินไปเก็บข้าวของ เหลือบมองเขาที่ยังนอนนิ่งซ่อนใบหน้าเอาไว้ไม่ให้ได้เห็น ลังเลตีกันไปมาในหัวอยู่หลายครั้งและคิดได้ว่าไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย เราเหมือนทะเลาะทั้งๆที่ไม่เคยเปิดประเด็นพูดคุยอะไรสักคำ วันนั้นเจนอาจจะพูดตรงๆ แต่การพูดตรงๆครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดผลที่ชัดเจนเลย จะเอายังไงดีล่ะ แตกหักกันไปเลยไหม ในเมื่อเรากลับไปอยู่ในจุดที่ควรเป็นก็ไม่ได้ งั้นเดินหน้าไปให้รู้เรื่องกันไปเลยดีไหม

 

 

จะได้ไม่ต้องฝืนธรรมชาติกันอีกต่อไป

 

 

เมื่อตัดสินใจว่าจะอยู่ เจนก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาชุบน้ำบิดมาดๆก่อนจะนำไปวางบนซีกหน้าของคนที่ยังเอาแต่หลับซุกหมอนอย่างนั้น เจนทำมันอย่างแผ่วเบาด้วยไม่อยากรบกวน แต่เกรงว่ามันยังคงไม่พอเพราะเขานั้นสะดุ้งและจับมือกันทันที ไม่เปิดโอกาสให้เจนได้ชักมือกลับด้วยซ้ำ เจนว่าทำทุกอย่างอย่างเงียบเชียบแล้วเชียว หรือเสียงเต้นของหัวใจ….มันดังเกินไปจนเขาได้ยินเหรอ

 

 

“……….”

 

 

“เรามาคุยกันดีกว่านะ”  นั่นคือสิ่งที่เจนพูดอยู่ในใจ หากแต่เป็นริมฝีปากของคุณรบที่ถ่ายทอดมันออกมา เขาเองก็คิดไม่ต่าง เจนจ้องมองดวงตาคมของเขา มันไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนเคย อาจจะเพราะเขายังป่วยด้วยกระมัง เจนพยักหน้าเบาๆ มือของเขายังคงอยู่ที่ข้อมือของตน แม้เจนจะยอมแล้วแต่นักรบก็ไม่ปล่อยไป ไม่รู้ว่ากลัวอะไรอยู่หรือเปล่า เจนไม่หนีไปหรอก แต่ไม่ใช่แค่นักรบที่ไม่อยากปล่อยกันไป เจนเอง….ก็ไม่อยากให้เขาปล่อยให้เจนจากไปอีกเช่นกัน

 

 

“คุณรบคุยได้เหรอครับ”

 

 

“หืม?”

 

 

“หมายถึง พักผ่อนก่อนไหม”

 

 

เพราะเจนรอได้

 

 

“เจนไม่ไปไหน”

 

 

แต่นักรบรอไม่ได้

 

 

“คุยตอนนี้แหละ”

 

 

ก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจ

 

 

“คุณคิดว่าผมจะหลับลงได้เหรอ”

 

 

แน่นอนว่าไม่ได้

 

 

“เรามาคุยกันให้รู้เรื่องกันดีกว่านะ”  เจนก็หวังว่าเราจะได้ทำอะไรให้มันชัดเจนจริงๆเสียที

 

 

ทว่าเรากลับตกอยู่ในห้วงแห่งความเงียบงันอีกครั้ง ความตั้งใจก็ส่วนนึงแต่การเริ่มต้นมันช่างยากเย็น เจนนั้นลงมานั่งบนเตียง อยู่ใกล้ชิดกันในระดับที่นักรบเห็นได้ว่าแก้มใสนั้นกำลังขึ้นสีแม้เจ้าตัวจะก้มหน้าหนี มือของเขายังคงจับอยู่ที่ข้อมืออย่างเอาแต่ใจ ก็ไม่รู้หรอกว่าบทสนทนาของเราจะสรุปเรื่องราวนั้นๆออกมาเป็นอย่างไร แต่บรรยากาศเงียบๆตอนนี้ช่วยฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวของจิตใจได้ดีทีเดียว

 

 

ก็ได้แต่หวังว่าเรา…จะใจตรงกัน

 

 

“บอกว่าจะคุยแต่เราก็ไม่พูดอะไรสักที”

 

 

“ก็…..” เขาไม่ได้โทษเจนรักษ์ที่เงียบเป็นเป่าสากทั้งๆที่ปกติเป็นคนพูดมากเจื้อยแจ้วเจรจาหรอก  การเผชิญหน้ากับคู่ค้าครั้งไหนก็ไม่เคยเหมือนครั้งนี้ นักรบเองก็ยอมรับว่ารับมือไม่ค่อยได้ แต่โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าหรือกดดันกัน ดังนั้นเรามาคุยกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ให้มันชัดเจนต่อจากนี้ดีไหม

 

 

“รู้ใจผมบ้างหรือเปล่า ถามจริงๆ”

 

 

“ก็รู้บ้าง…ไม่รู้บ้างครับ”  เหมือนคนที่พยักหน้าและส่ายหน้าพร้อมๆกัน แต่นักรบกลับยิ้มออกมา เขาเอนตัวลงกับหมอนที่เอามาวางตั้งไว้ให้มากขึ้น แต่มือก็ยังไม่ปล่อยไป

 

 

“แล้วรู้ใจตัวเองหรือเปล่า”

 

 

“รู้ครับ”  เป็นคำตอบที่เสียงเบาแต่ชัดเจน

 

 

“เยี่ยม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”  นักรบพอใจแล้วเมื่อมาถึงตรงนี้ และคำตอบของเขาก็ทำให้หัวใจของเจนเต้นแรง เจนเคารพในการตัดสินใจของตัวเองเสมอ และก็คิดว่าที่ผ่านมาอาจจะมีการตัดสินใจผิดถูกไปบ้าง แต่ไม่คิดว่าคู่กรณี…ก็ยินดีกับมันเช่นกัน บอกแล้วไง ไม่มีใครเชื่อเจนเลย…ว่าภายใต้ท่าทางที่แสนเย็นชาไม่สนใจใคร

 

 

จริงๆคุณรบนั้นแสนดี…ดีจนเจนไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เอื้อมถึงด้วยซ้ำ

แต่เขาก็ยื่นมือมาจับมือเจน…ด้วยตัวเองแล้ว

 

 

“เจน….”

 

 

“……..”

 

 

“อย่าหลบหน้าสิ เงยขึ้นมามองกันก่อน ผมป่วยอยู่นะ”

 

 

“ก็เจนเขินอ่ะ ไม่ได้อ๋อ!”  ระบายไม่ได้ก็โวยวายซะแบบนี้ เขาหัวเราะออกมาก่อนจะไอค่อกแค่ก เออเนอะ ถ้าเจนป่วยตามนี่คุ้มไม่คุ้ม รับผิดชอบชีวิตเจนเลยนะ

 

 

“เขินได้ แต่ต้องคุยด้วย อย่าให้ผมพูดคนเดียวสิเจ็บคอ”

 

 

“หรือจะคุยกันทีหลังดีละครับ”

 

 

“เจน….”

 

 

“…………..”

 

 

“ก็รู้ว่ารอไม่ได้นี่”

 

 

“ก็….”

 

 

“เอาไงดี จะให้ผมฉุดคุณหนีตามกันเลยไหม”

 

 

“คุณรบ!”

 

 

“ก็รู้นี่ว่าผมคิดยังไงอยู่” แต่ไม่รู้ไงว่าจริงจังแค่ไหน แล้วรู้ตัวเองแล้วหรือไงถึงมาทำแบบนี้ เจนไม่ได้เชื่อคนง่ายนะ….

 

 

แต่คุณรบก็ไม่ใช่คนขี้โกหกเหมือนกัน….

 

 

“บอกแล้วไงครับว่ารู้บ้าง ไม่รู้บ้าง”  โอ้ย เหนื่อย! ทำไมคุณรบงอแงเก่ง!

 

 

“ก็ยังถือว่ารู้หรือเปล่า”

 

 

“คุณรบข้ามขั้นตอนไปปะครับ จะฉุดทำไมเนี่ย เจนก็อยู่บ้านคุณรบปะ”

 

 

“สรุปจะกลับไปอยู่บ้านผมใช่ไหม”

 

 

“แล้วเจนเคยพูดตอนไหนว่าจะไม่อยู่”

 

 

“เคยบอกว่าจะไม่อยู่ตลอดไป พูดเองจำไม่ได้เหรอ” เขาอยากถามให้แน่ใจ ตอนนี้นักรบก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าการทำให้เจนรักษ์ได้อยู่ใกล้ๆตัว ได้ยิ้ม หัวเราะ และมีความสุขตอนที่อยู่กับเขา และมันจะเป็นไปได้ไหมว่าถ้าเราเป็นแฟนกันแล้ว….นักรบจะได้อะไรแบบนั้นจากเจน เจนจะยังกลัวอยู่ไหม แต่เขาไม่กลัวแล้วนะ…

 

 

“เออว่ะ”  อนาคตก็คืออนาคต ตอนนั้นถ้ามันจะเกิด ค่อยกลัวก็คงยังไม่สายหรอก ในเมื่อเจนรักษ์เห็นมาทุกด้านแม้แต่ด้านแย่ๆของเขาหมดแล้ว จะวางมาดไปเพื่ออะไรอีก ถ้าจะต้องเลิกกันและร้องไห้บ้านแตก ก็ถือว่าเราเท่าเทียม นักรบก็คนหนึ่งคน เขาคงไม่สามารถเป็นต้นแบบที่ดีหรือดูเท่ในสายตาใครสักคนได้ตลอดเวลา และกับคนที่เขารัก…..เราจะมาสนใจทำไมว่าเรามีด้านที่น่าสมเพชแค่ไหน  และนี่เจนนะไม่ใช่รดา เขาจะเอาบรรทัดฐานแบบเดิมมาใช้ไม่ได้หรอก ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกจริงๆไหม อย่าทำให้รักมันเป็นเรื่องยากกว่าการเซ็นสัญญาซื้อที่ดินสิ การลงทุนไหนๆก็ไม่แน่นอนหรอก ข้อมูลแน่นแค่ไหนก็พลาดกันได้หมด

 

 

“ไม่ผิดหรือเปล่าที่ผมจะระแวง ไหนมองหน้ากันดีๆ”  เหิมเกริมนะครับ ใครใช้ให้อยู่ๆกับเอามือมาจับแก้มให้หันไปทางพี่แก แค่จับจะไม่ว่าเลย บีบเล่นไม่ได้เว้ย!

 

 

“โอ้ยเหนื่อย เจนไม่คุยด้วยแล้วได้ไหม”

 

 

“เอาไงดี เอาไงดี” เขายิ่งเร่งเร้า

 

 

“คุณรบข้ามขั้นตอนไปปะครับ” บ่องตง!

 

 

“ข้ามเหรอ?”

 

 

“ไหนต้องพูดยังไงก่อน พูดกับเจนดีๆก่อน”  พอเขาเล่นหัวมา เจนก็แฟร์ เล่นหัวกลับ นี่ไงคนจริงกระทิงแดง ที่อึดอัดแบบเมื่อครู่นี้เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง เจนรักษ์คนเดิมนั้นกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมๆกับคุณรบนี่เลย ถ้าไม่ป่วยก็อยากจะซัดซักดอกเหมือนกัน เจ้านายก็เจ้านายเถอะ

 

 

“ชอบ อยากได้ ขอได้ไหมครับ” คุณร๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ!!!!!!!!

 

 

“ถามจริงครับ ตอนขอเมียเก่าแต่งงานได้พูดอะไรแบบนี้ปะครับ”  ไม่แปลกเลยที่เมียจะขอหย่า….แต่คำพูดห่ามๆไม่เต็มบาทของเขาก็ทำให้เจนหน้าแดงเขิน ตกใจเพราะไม่เคยคาดเลยว่าคุณรบจะเป็นผีบ้าไปกับเขาอีกคน ให้เจนบ้าคนเดียวก็พอแล้ว คุณรบอย่าทำตัวเจริญรอยตามเจนและเลขาตัวเองแบบนี้สิ หรือเจนต้องพาคุณรบไปโรงพยาบาลจริงๆ

 

 

“ไม่รู้สิ โดนคลุมถุงชนเลยไม่เคยขอแต่งงาน”  และเขาก็ไม่ได้ขอเจนแต่งนะ คิดไกลเกินไปแล้ว โชคดีที่ยังไม่โทรเรียกทนายมาคุยเรื่องมรดกสินสมรสบ้าบอ โอ้ยยยยยยยยยยย

 

 

“แล้วปกติคุณรบพูดแบบนี้เหรอครับ”  นี่ไม่ใช่คุณรบที่รู้จัก คุณรบที่รู้จักไม่พูดหยาบคายแบบนี้ จริงๆเขาก็ไม่ได้พูดหยาบคายเลย แต่คำพูดมันดาเมจกันรุนแรงราวเอาค้อนปอนด์ทุบหัวเจน นี่หัวกูยังวิ้งอยู่เลยนี่!

 

 

“ไม่พูดกับใคร แต่เคยสุภาพคุยกับเมียเก่าแล้วเขาไม่เอา เลยคิดว่าคนน่าจะชอบผู้ชายแบบนี้”

 

 

“คุณรบ….” ในเนื้อความเล่นๆ แฝงไปด้วยความไม่มั่นใจของเขา มันทำให้ไปไม่เป็น

 

 

“ก็ไม่แย่นะ พูดตรงๆเลยก็สบายใจดี ชัดเจน แต่ถ้าเจนไม่ชอบก็บอกได้”  เขาก็จะแฟร์ๆเหมือนกัน

 

 

“หมายความตามที่พูดจริงๆเหรอครับ”  เรื่องหยาบคายไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่มันเป็นความจริงที่ออกมาจากปากเขา เจนว่าเจนรับได้ ไม่สิ เจนไม่จำเป็นต้องสนใจวิธีพูด แต่ความรู้สึกที่แท้จริงๆต่างหาก เจนแคร์มาก แคร์จริงๆด้วย เขายอมรับความรู้สึกตัวเองได้แล้วจริงๆเหรอ เขาจะรักเจนจริงๆใช่ไหม แล้วเจนล่ะ….ไม่กลัวการมีความรักในตอนนี้แล้วเหรอ

 

 

“อืม….”

 

 

“……….”

 

 

“ผมอาจจะป่วย พูดจาแปลกๆไปบ้าง แต่ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ คิดมาดีแล้วด้วย ตอนแรกก็ว่าจะไม่เอาอยู่หรอก ก็เหมือนที่คุณคิดแหละว่ามันอาจจะไม่เวิร์ค”  จริงๆเราต่างก็คิดเหมือนกัน พอได้ยินเช่นนี้เจนเลยเข้าใจเขาอย่างถ่องแท้ ในหัวของเราเต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่าเมื่อเราเปลี่ยนความสัมพันธ์แบบนั้นแล้ว เส้นสายสัมพันธ์ดีๆที่มีจะพังทลายลง

 

                                                                                                                                                                     

และที่สำคัญไม่ใช่แค่ความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ต้องเสียไป แต่ความรู้สึกของตัวเองล่ะ เขาสองคนยังกลัวความล้มเหลวในชีวิตรักอยู่นะ แผลทางความรู้สึกจะนานแค่ไหน สะกิดมันยังเจ็บ นับประสาอะไรกับแทงแผลใหม่ขึ้นมาล่ะ จริงๆต่อให้เราห่างกันไปและไม่สนใจกันอีก ก็ไม่สมควรโทษอีกฝ่ายเลย เราเหมือนกันกว่าที่คิด และมันก็เข้าใจได้หากเราจะงี่เง่าเหมือนกัน แต่มันจะดีกว่าหรือไม่…ถ้าหันหน้าเข้าหากัน และยอมเป็นคนแพ้ต่อโชคชะตาดูสักครั้ง เจนเองก็เจ็บมาเยอะ….เจ็บอีกสักครั้งมันจะเป็นอะไรไปล่ะ ยังไงที่พยายามหักห้ามใจมาหลายวัน ก็ทำไม่ค่อยจะได้อยู่แล้วนี่….

 

 

“เจนเองก็….ชอบ….อยากได้”

 

 

“หะ”

 

 

“ขอ…ได้ไหมครับ”

 

 

“………..”

 

 

“เฮ้อ คุณรบอย่าทำเจนเก้อดิ”

 

 

“………..”

 

 

“เจนก็ชอบคุณรบนะ”

 

 

หน้าของเจนจะระเบิดอยู่แล้ว

 

 

“แล้วก็…จะลองเสี่ยง…ดู”  จริงๆเจนไม่มีทางแน่ใจได้หรอกว่านี่คือทางที่ถูกต้องไหม บางทีพรหมลิขิตอาจจะไม่ได้กำหนดให้เราได้คู่กันนาน แต่วันนี้เจนมั่นใจว่าซื้อกันวันนี้ แถมฟรีความรักให้เลย

 

 

ขายเก่งขนาดนี้จะรีรออะไร….

เลิกปิดกั้นตัวเองสักที เราควรจะรักกันได้แล้ว!

 

 

“มาลองรักกับเจนดูนะครับคุณรบ อุ้บ!”  เจนนี่พูดมากจริงๆ ไม่ได้คุยกับเขานานพอเปิดปากให้พูดก็พูดไม่หยุด ทำแบบนี้มันน่ารำคาญรู้ไหม เขารู้แล้วว่าชอบ อยากได้ ขอความรักกัน และเขาก็รู้แล้วเช่นกันว่าการปิดกั้นไม่ได้ช่วยให้มีความสุขได้เลยจริงๆ แม้ว่าความรักจะน่ากลัว แต่กี่ครั้งเมื่อมันมาเยือนต่อหน้าและเป็นอะไรที่เขาเองก็ชอบกลับเหมือนกันแบบนี้ เขาก็ห้ามใจไม่ค่อยได้หรอก ก็อย่างที่บอก

 

 

ชอบนะ อยากได้….ขอได้ไหม

 

 

ริมฝีปากของเราที่ประกบกันอย่างแผ่วเบา มันพลิ้วไหวราวสายลมอันอบอุ่น ในยามแรกที่โดนจู่โจม เจนนั้นตกใจและไม่เคยคิดว่าคุณรบจะทำแบบนี้ ทว่าความกะทันหันในยามแรกได้แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน ไม่มีการรุกล้ำอะไรมากกว่านั้น เจนรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเขาที่กำลังไม่สบาย แต่ก็ยังบ้าบอแสร้งลืมและปล่อยให้ริมฝีปากของตนแนบชิดกับของเขา

 

 

ดวงตาของเจนปิดลง ให้ประสาทสัมผัสทั้งหมดในร่างกายทำงานน้อยลงเพื่อที่จะได้จดจ่อกับจูบแรกของคนที่เพิ่งได้สารภาพรักไป เราอยู่บนเตียงในโรงแรม สภาพล่อแหลมอย่างนี้อาจจะก่อให้เกิดเรื่องไม่น่าไว้ใจ ทว่ามันไม่มีการรุกล้ำใดๆมากกว่านั้น ริมฝีปากของคุณรบขยับน้อยๆจนเจนใจหาย กลัวว่าเขาจะผละออกไปแต่ไม่ คุณรบเองก็อยากอยู่ตรงนี้ต่อเหมือนกัน เขาดูดคลึงริมฝีปากอิ่มที่เอาแต่เจื้อยแจ้ว เป็นบทลงโทษแสนหวานที่คนขี้รำคาญได้รับการจ่ายที่ดูจะคุ้มค่า แต่คุณรบเขี้ยวแค่ไหนใครก็รู้ดี เขายังคงตักตวงเอาจากเจนรักษ์ราวกับไม่อิ่ม บางทีถ้าเขาบดขยี้กันมากกว่านี้ อาจจะกินกำไรได้มากกว่าหรือเปล่า

 

 

ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้สิเนอะ

 

 

“อืม”  เสียงครางแผ่วเบาๆของเจนดังขึ้น เขาดูดดึงริมฝีปากล่าง ก่อนจะบดเบียดจูบหนักหน่วงขึ้น เรียวลิ้นของเขาที่เจนไม่เคยรู้ว่ามันช่ำชองขนาดนี้กำลังสำรวจกันไปหมด ไม่ทันที่สติจะทำงาน เจนก็ตอบรับและสวนกลับไปด้วยเสน่หาที่มี

 

 

ร่างเล็กของเจนเหมือนจะถูกดึงให้ไปแนบชิดกับเขามากขึ้น ก่อนที่เราสองคนจะเอนตัวลงมา มือของเจนเกาะอยู่ที่อกของเขาซึ่งนอนราบไปกับหมอนที่เคยตั้งไว้ มือของเขาดันหลังของเจนให้ลำตัวยิ่งเข้ามาแนบชิดกันขึ้นไปอีก เจนเองก็ใจง่าย ไม่คิดจะผละออกทั้งๆที่มีสติแต่ก็ยังยอมถูกล่อลวงไปกับรสจูบที่หลากหลายนี่ เขาเหมือนจะดูดกลืนไปมากกว่าริมฝีปากของเจน เราแลกจูบกันอย่างนั้นราวกับมันจะไม่มีวันจบสิ้น ไม่ใช่แค่มือของเจนที่สัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจ ริมฝีปากของเจนก็ได้สำรวจสถานที่ที่ซึ่งน้อยคนนักจะได้ลิ้มลอง จากความวาบหวามเบาบางนั้น เมื่อไหร่กันนะที่จูบของเราถึงถลำลึกมาได้ขนาดนี้ รู้แค่ว่าทุกวินาทีที่เสียไป มันก็ยิ่งร้อนแรง น่ากลัวว่าตอนนี้ใบหน้าของเจน อาจจะร้อนกว่าอุณหภูมิร่างกายของคุณรบแล้วจริงๆ

 

 

เราผละออกจากัน ใบหน้าของคุณรบนั้นอยู่ไม่ไกลจนเจนอาจจะห้ามใจไม่ไหวจูบที่แพขนตาที่ปกคลุมดวงตาคมดุนั่น ริมฝีปากของเขาบวมเจ่อขึ้นมา มันต้องเป็นเพราะจูบอันร้อนแรงของเราเมื่อครู่แน่นอน เจนไม่ได้จับเวลาไว้แต่คิดว่ามันนานอยู่เหมือนกัน จะว่าไปนี่อาจจะไม่ใช่จูบแรกของเรา แต่เป็นจูบแรกที่นานที่สุดของเจนก็ว่าได้ มันเต็มไปด้วยความหลงใหลคะนึงหา การหลอกตัวเองที่ทำมานานทำให้เราหลงใหลริมฝีปากของกันและกันได้นานขนาดนั้น โชคดีที่มันไม่ได้ไปต่อถึงอะไรที่ลึกซึ้งขึ้น ไม่งั้นเราสองคนต้องตายกันไปข้างแน่นอน และคุณรบก็ป่วยอยู่ด้วย

 

 

“ผมป่วยอยู่”

 

 

“คุณเริ่มก่อนนะ”  ห้ามโทษเจนเด็ดขาด

 

 

“โทษที เคยเห็นแต่ในละคร อยากรู้ว่าถ้าทำจริงๆจะเป็นไง”  ก็เลยจับเจนไปจูบปิดปากแบบนั้นนี่นะ สรุปทุกคนในเรื่องนี้จะมีความเป็นแฟนละครหลังข่าวทุกคนให้ได้เลยใช่ไหม

 

 

“……….”  แต่คนเขาเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะเฟ้ย! ยกขันหมากมาขอเลย เจนจะให้แม่เรียกสินสอดสักร้อยล้าน

 

 

“ขอโทษ คุณจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”  ตัวแพร่เชื้ออยู่นี่เอง ตอนนี้มารู้สึกผิดก็สายไปแล้ว

 

 

“คุณรบก็หายมาดูแลเจนสิ”  เขาหัวเราะออกมา เจนยังคงอยู่บนตัวเขา เอาสิเมื่อกี๊ยังเป็นแค่เจ้านายกับพี่เลี้ยงเด็กที่มึนตึงอยู่เลย ตอนนี้เหิมเกริมขึ้นมาอยู่บนตัวกันได้แล้ว อะไรจะว่องไวปานกามนิตหนุ่มขนาดนั้น

 

 

“ยังไม่ทันได้เป็นแฟนเลย เรียกร้องเสียแล้ว”  เจนค้อนกลับ คนอะไรปากไม่ดี จูบกันจนปากเจ่อแล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก

 

 

“ดี! งั้นไม่เป็นแล้ว ไม่คุ้ม เดี๋ยวป่วย เจนไปก่อนนะ”

 

 

“เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้ขอเลย ปฏิเสธซะแล้ว”  เขารั้งเจนที่กำลังจะลุกหนีกัน นี่ไง เพราะเป็นคนแบบนี้ไง!

 

 

อมยิ้มจนแก้มจะแตกแล้ว ต้องรอให้ไข้แดกก่อนใช่ไหมถึงจะได้เป็นแฟนพี่รบน่ะ!

((ฝึกเรียกพี่ในใจไปก่อน พอของจริงมาแล้วจะได้ชินปาก))

 

 

“เป็นแฟนกันนะครับ”

 

 

“อืม”

 

 

“น่ารัก”

 

 

“ตั้งนานแล้วเหอะ”  เขายิ้ม แฟนใหม่คนนี้นี่เซี้ยวจริงๆ

 

 

“ดีครับ งั้นกลับไปหาน้องวินกันนะ”

 

 

“ถึงไม่กลับด้วย ก็จะไปหาน้องวินอยู่ดี”

 

 

“ดีครับฝึกไว้นะ”

 

 

“………..”

 

 

“เดี๋ยวนอนก่อน เจนก็ไปกินยาดักก่อนนะ อยากดูแลอยู่หรอก แต่ป่วยไม่ดีจริงๆ ลูกเล็ก เข้าใจกันเนอะ”  เจนพยักหน้า ก่อนจะลงจากตัวเขาแต่โดยดี คนป่วยมีไออยู่บ้างนิดหน่อย เมื่อครู่ก็จูบลืมตายเลย เจนคงต้องไปกินยาดักไว้จริงๆ

 

 

“หายไวไวนะครับ”

 

 

“อืม”  เขายิ้มให้ ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนมาตะแคงด้านที่เจนอยู่ ดวงตาของเขาเยิ้ม ใบหน้าก็ยังคงแดงเพราะพิษไข้ แต่รอยยิ้มจากปากและตาทำให้เจนเขิน อีกนิดแอปเปิ้ลที่กินแก้เขินก็พาลจะติดคอไปด้วย

 

 

“หลับได้แล้วครับ เดี๋ยวไม่หายหรอก”

 

 

“ครับ รอหายก่อนนะ”

 

 

“………..”  บีหนึ่ง แกได้ยินแบบที่ฉันได้ยินไหม

 

 

“หายแล้ว พี่จะรีบไปรับผิดชอบเจนนะ”  ฉันก็คิดว่าได้ยินว่ะบีสอง

 

 

ได้เวลาไอ้เจนระเบิดตัวตายตรงนี้แล้วครับ

มาพ่งมาพี่อะไร คนบว้า! แง่ม!

 

 

Tbc

 

 

Talk:  เป็นบทบรรยายจูบที่เขียนเพลินมากๆ เรื่องนี้หวานเย็นมานานพอดราม่าก็ยิงยาว เล่นเอาเราอึดอัดไปเหมือนกัน พอได้ปลดปล่อยเราเลยต้องให้เขาตักตวง อาจจะเป็นบทจูบกากๆไม่ถูกใจต้องขอโทษด้วยนะคะ น้องเจนคนฉดฉัยของเรากลับมาแล้ว ปล่อยให้น้องได้วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์กับคุณรบสักพักนะคะ ตอนหน้าฟ้าจะเปิดร้อยเปอร์ ให้กำลังใจเจนไม่นกแล้วด้วยนะคะ

ตอนหน้าเจนฟ้าเปิดว่าจะมาพรุ่งนี้นะคับ
ขอหายหน้าไปพักนึง จะกลับมาพร้อมกับการจัดการปมอื่นๆที่เหลืออยู่
อาจจะมีเรื่องระทึกใจนิโหน่ยให้พอใจหายคว่ำ แต่การกลับมาจะไม่ทิ้งช่วงนานในแต่ละตอนแน่นวล



#เจนไม่นก twitter @reallyuri

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-08-2018 18:17:41
คนป่วยก็ไม่เบานะจ๊ะ เย้ เลิกกากแล้วแพร่เชื้อหวัดแทน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-08-2018 18:40:27
 :mc4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 18-08-2018 18:56:44
มันดีต่อใจจริงๆ เปิดใจคุยกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 18-08-2018 19:02:02
รออออออิอิอิ   
ละมุนมาอ๊ะ งื้ออออออ น่ารัดมากกกก
คนเก่งเจอกับคนเก่งด้วยกัน ยังไงอุปสรรค ก็ผ่านได้ง่ายสวย  โอ้ยยย  เค้าเป็นแฟนกันแล้วสวย 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 18-08-2018 19:25:20
พบผู้กล้าสองคน  เขาเป็นแฟนกันแล้ว  :katai2-1:

ชาวเรือรบเจนรู้ข่าวจะขนาดไหนนี่ 

คิดถึงลูกกบแล้วววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-08-2018 19:49:42
 :mc4: เป็นแฟนกันได้ซะที
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 18-08-2018 20:13:20
รบเจน อ๊ายๆๆๆ  :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 18-08-2018 20:23:57
เจนเขิน แต่กูตายไปแล้วจ้าาาา ลาก่อนน เขินไม่ไหว
กลับไปลูกเรือทิ้งไม้พายไปเลย กัปตันแล่นเรือไปไกลแล้ววว :ling1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 18-08-2018 23:15:18
เขินตัวแตกไปเลยจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 38] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 16.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-08-2018 16:23:54
โอ้ยยยยยยแทบอยากจะจุดพลุฉลอง กว่าจะเคลียร์จะคุยให้เข้าใจกันได้นี่ลุ้นทุกตัวอักษร เห็นแววว่าตกลงเป็นแฟนกันแล้วคุณรบต้องหวานขึ้นแน่ๆเลย เลขาพี่เพชรคงได้มีเรื่องแซวไม่ขาดปากแน่ๆ
หัวข้อ: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 19-08-2018 16:34:57
#เจนไม่นก
รบเจนกึ่งออฟฟิเชี่ยล


“ผมขออุ้มตาหนูหน่อย”  นายจ้างที่รักได้กล่าวออกมา ตอนนี้เรากำลังเริ่มพิธีกรรมการส่งขึ้นรถไปทำงาน เจนที่เป็นพี่เลี้ยงที่ดีก็ส่งลูกชายสุดที่รักของเขาให้ ใช่แล้ว….เราสองคนกลับมาแล้ว เป็นอาทิตย์แล้วแหละที่กลับมา


มาพร้อมสถานะไม่มีซื่อพ่วงท้ายอยู่ด้วย


“วันนี้ก็ห้ามดื้อห้ามซนนะรู้ไหมครับ”  เขาบอกกับลูกชายก่อนที่จะกดใบหน้าตาหนูเบาๆให้ซบกับอก


เพื่อที่จะได้…


จุ้บ!


“คุณรบ!”  เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะ ที่จมูกเจนนี่ ไม่ใช่ที่หน้าลูกเขา!


“ฮึๆ”  ยังมีหน้ามาอมยิ้มอีก น่าจับตีจริงๆ


“เดี๋ยวมีคนมาเห็น”   กระซิบเสียงเบา


“ผมดูแล้ว ไม่มีใคร”  เรื่องทำผิดนี่ขอให้บอก ไม่ต้องเดาเลยว่าสมัยเรียนเด็กชายนักรบที่ดูจะอยู่ในระเบียบ เรียนเก่งเป็นที่ชื่นชอบนั้นจริงๆแล้วแสบเงียบแค่ไหน ถ้าน้องวินในการดูแลของเจนเป็นแบบเขา…โหยยยย กลัวใจ ไม่อยากฟาดเลย….


“เราคุยกันแล้วไงครับ”  เจนก็ยังเอ่ยปากตักเตือน จะทำให้เห็นว่าชอบไม่ได้ ไม่งั้นเอาใหญ่ ใช่แล้ว…หลักการนี้คือหลักการเดียวกันกับที่ใช้เลี้ยงน้องวิน มีอย่างที่ไหนขอลูกไปอุ้มแล้วปิดตาเพื่อไม่ให้ตาหนูเห็นว่าคนพ่อกำลังจะทำอะไรพี่เลี้ยง เจนว่าเจนคิดไม่ซื่อแล้ว คุณรบนี่คิดได้โฉดกว่าหลายเท่าเลยทีเดียว


ไหนคุณรบคนซึนในตอนต้นล่ะ ฮัลโหลวววว!


ได้น้องวินคืนมาก็ได้ลาคนเป็นพ่อจริงๆซักที ในที่สุดปัญหาของเจนในตอนเช้าก็ได้จรลีไปทำงานเหมือนชาวบ้านเขา แต่พอพ้นสายตา ใบหน้าบูดบึ้งแสนงอนนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา โอ้ยจะบ้า ทำไมชอบทำให้เขิน เห็นเจนความดันต่ำเหรอถือได้ชอบทำให้เลือดสูบฉีดแต่เช้าแบบนี้ แล้วเมื่อครู่ไม่ใช่ยกแรก ไม่อยากจะตัดภาพไปก่อนหน้านี้เลยจริงๆ แต่ตัดซะหน่อยก็ได้


อยากขิง งุ้ยยยยยยยย

xxx


 แต่ก่อนจะขิงใส่ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอกลับมาที่เหตุการณ์ทั่วไปในช่วงที่เพิ่งกลับมาไทยกันก่อน….


หลังจากตกลงเออออเป็นแฟนกันและจูบปากฝากไข้แพร่เชื้อนั้น เจนกับคุณรบก็กลับมาไทยในเวลาไล่เลี่ย เราเตี๊ยมกันมาดีแล้วว่าจะเก็บเป็นความลับเรื่องความสัมพันธ์นี้สักระยะ ดูเหมือนเจนจะว้อนท์ตรงนี้มากกว่าคุณรบเสียหน่อย แต่โดยรวมแล้วเราตกลงร่วมกันเป็นอันจบ จริงๆแล้วความสัมพันธ์หวานเย็นของเราที่ผ่านมานั้นมันไม่สามารถเรียกได้ว่าจีบกันจริงๆเพราะฉะนั้นเราข้ามขั้นตอนมาไกลเหลือเกิน รู้ตัวอีกทีเจนก็ไปคร่อมตักพี่เขาแล้วจูบอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับอดยากปากแห้งมาหลายปีเสียแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงตกลงกันว่าถ้ากลับไปบอกทุกคนว่าเป็นแฟนกันแล้ว จะพาลคิดว่าเราเมา พลาดได้เสีย เจนท้อง คุณรบต้องรับผิดชอบกันเสียเปล่า เราเลยจะตีเนียนกลับมาค่อยเป็นค่อยไปที่บ้าน ได้จังหวะปุ๊ป เราค่อยเปิดกันอีกทีก็ย่อมได้


นี่ก็เป็นครั้งแรกของเจนเหมือนกัน ที่ตกลงเป็นแฟนกับคนที่ไม่เคยจะพาไปเดทแบบจริงๆจังๆ หรือส่งไซน์ทำนองว่าอ่อย คือจริงๆคุณรบก็อ่อยไงอ่อยแบบเอาสนุกอ่ะ และเจนไม่ได้อ่อยกลับเพราะไม่ได้คิดอยากได้แฟนแต่ต้น ทว่าโดยรวมแล้วความรู้สึกของเราคือของจริง และเจนก็ปลื้มเขาแบบว่ายอมมองข้ามปัจจัยอื่นๆ เช่นอาการใจเต้นตอนคู่เดทพาไปเที่ยว เออ…มันจะสำคัญอะไรเพราะที่ผ่านมาเจนก็ใจเต้นเพราะคุณรบบ้าง และเราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยอยู่ด้วยกันสองต่อสอง งี่เง่าใส่เขาเจนก็ทำไปแล้ว เลี้ยงลูกให้เขาเจนก็ทำอยู่ทุกวัน บอกเลยว่าที่ผ่านมามันข้ามขั้นเพราะฉะนั้นจะมาใช้สเต็ปสูตรสำเร็จแบบคนทั่วไปหรือกับคนเก่ามาใช้ไม่ได้ ก็ใจเราว่าใช่ จะเอายังไงใจก็ยังว่าใช่ หู้วววว เห็นไหม บทจะง่ายเจนก็ง่าย


แต่คุณรบไม่อ่อนโยนจริงๆ…..


ไม่อ่อนโยนในที่นี่คือไม่ได้หมายความเราได้กันแล้ว! เหมือนจะเป็นคนง่ายๆแต่เจนก็ไม่ได้ง่าย อีกอย่างคุณรบก็ไม่ได้เริ่มอะไรแบบนั้นก่อนด้วย จะให้จับเขาขึงและเริ่มก่อนเจนก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เว้นเสียแต่คุณรบจะมากระซิบบอกก่อนว่าชอบ เจนจะได้ลองทำ (ผิดส์) คือเจนหมายถึงจูบบบบบบบ


ด้วยความที่เราจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้เลย เจนยอมที่จะมีความสัมพันธ์ในฐานะเมียเก็บของเขา (กระซิกๆ) แต่เราจะสวีทหวานกันได้ก็ต่อเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่บางกรณีมีน้องวิน ถือไม่นับ งงไหม? คือลวนลามกันได้ถ้าอยู่กันสองต่อสอง อันนี้เจนไม่ได้เสนอและเขาไม่ได้ใช้คำว่าลวนลามแบบตรงๆ แต่พิสูจน์จากที่ผ่านมา เจนจัดมันไว้ในข่ายลวนลาม ทั้งถูกทำและทำเอง แฟร์ๆแมนๆทำมาทำกลับไม่โกงเพราะชอบ (แน่ะ!)


 แต่ถ้าน้องวินอยู่ด้วย เราก็ยังสามารถแสดงความรักได้ แต่จำกัด….ทั้งนี้เราสองคนเห็นด้วยกับการเป็นแบบอย่างที่ดีให้น้อง และถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไม่ควรให้น้องวินเห็น เพราะเจนไม่ใช่แม่ อีกทั้งสถานะก็ยังไม่ชัดเจน เราต้องมองน้องเป็นผู้ใหญ่คนนึง ในเมื่อจะประกาศให้คนรู้ในภายหลัง ก็ต้องทำตัวให้เหมาะสมแม้ว่าน้องจะยังพูดอะไรไม่ได้ก็ตาม อีกอย่าง ถ้าวันหนึ่งเจนกับคุณรบเลิกกัน น้องจะได้ไม่สับสน….


นี่ยังจะเลิกกับคุณรบอยู่อีกเหรอ


ถูก….ก็พอคุณรบหายป่วย คุยรู้เรื่อง ไม่งอแง ไม่พูดจากแปลกๆราวกับไม่ใช่ตัวเอง เจนก็มีการเช็คสมองและความทรงจำเขานิดหน่อย แน่นอนว่าเขารู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป รู้ลึกรู้จริงขนาดจะเล่าให้ฟังเป็นฉากๆตอนๆจนต้องรีบตะครุบปากไว้ด้วยเห็นแก่ยางอายที่ตนพอจะมี เราเปิดอกคุยกันแบบตรงๆว่าต้องการอะไรแบบไหนโดยเอาประสบการณ์ที่มีมาใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างกฎ ตรงนี้ทุกคนคงคิดว่าเรื่องของหัวใจมันมีกฏเกณฑ์อะไรด้วยเหรอ อันนี้ก็ถูกเพราะถ้ามันมีกฏเกณฑ์และห้ามได้ ก็ขอย้อนกลับไปเรื่องบทสนทนาการขอเป็นแฟนที่ฮาร์ดคอร์ที่สุดเท่าที่คุณรบจะเป็นได้นั่นอีกที ก็มันไม่ได้ไง ถ้าได้เจนจะไปปีนตักเขาอย่างนั้นเหรอ


แต่เรามีกฏเกณฑ์ของการอยู่ร่วมกันได้ ก่อนหน้าเราก็มีอย่างนี้ แต่ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว กฎมันก็ต้องมีเปลี่ยนแปลง ลดทอน เพิ่มเติมเช่นกัน และเราเรียนรู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน สามวันเจนอาจจะดี สี่วันคุณรบอาจจะร้ายก็ย่อมได้ เจนยอมรับว่าก็ปวดหัวใจอยู่นิดนึงที่พูดคำว่า….


‘ถ้าคุณรบหมดรักเจนและเห็นคนอื่นดีกว่าก็มาบอกและก็ไปก็ได้นะครับ บอกกันตรงๆ’
เขาพยักหน้า และตอบกลับมาว่า ‘เช่นกัน’ และเราก็เงียบกันไปชั่วครู่
 เจนจึงเปิดปากพูดย้ำอีกครั้ง ‘เจนไปแน่ถ้าเจอคนที่หล่อและดีกว่าคุณรบ’


ทุกคนคงคิดว่ายังไม่ทันคบกันเกินวันก็ทะเลาะกันแล้วล่ะสิ แต่ไม่เลย เพราะนี่คือคุณรบเอง คุณรบไง แต่จริงๆคุณรบที่ผีระดับที่คุณเพชรยังอายนี่เจนก็ไม่เคยพบเจอเหมือนกัน เขาเพียงแค่ยักคิ้ว ปรับท่านั่งให้สบายขึ้นแล้วพูดว่า ‘เอาสิ เอาเลย’ ใจของเจนบางไปหมด แต่เขาก็พูดต่อว่า ‘หายากหน่อยแต่คงพอมี ถ้าเจอดีๆแล้วจะไปก็ไม่ว่า แต่เอาให้ดีกว่าให้ได้จริงๆนะ’


หมั่นไส้…คนอะไรมั่นหน้ามั่นโหนก….


แต่การเจรจาของเราผ่านไปได้ดีจริงๆ ยอมรับว่านักรบนายแน่มาก เอาใจเจนและแถมตัวไปให้เลย เจนรักษ์ไม่เคยมีแฟนที่สามารถพูดตรงๆได้ขนาดนี้มาก่อน  ทั้งๆที่คบมานั้นก็ถ้าไม่ใช่ฝรั่งก็เป็นตี๋อินเตอร์ที่เกิดและโตในอเมริกาทั้งนั้น คุณรบนี่เรียกว่าเป็นคนแรกที่ข้อตกลงเยอะหน่อย อาจจะเพราะก่อนมาคบกันเราถ่วงกันมามาก  พอรู้ว่าฝืนไม่ไหวเลยสร้างกฎแห่งการอยู่ร่วมเอาไว้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ แต่จริงๆที่คุยกันมันก็เรื่องทั่วไป แค่กับคนก่อนๆนี้เจนยกมันไว้ให้เป็นเรื่องของศีลธรรม ไม่เคยบอกใครก่อนว่าห้ามทำเพราะคิดว่าทุกคนต้องรู้และเข้าใจเพราะมันเป็นคอมมอนเซนส์ แต่คอมมอนเซนส์ของแต่ละคนคงต่างกัน ไม่งั้นจะรู้ตัวอีกที เจนกลายไปเป็นชู้ชาวบ้านแล้วอย่างนั้นเหรอ?


เรากลับไทยมาใช้ชีวิตตามปกติแบบมีชนักติดหลังนิดหน่อยรู้สึกเหมือนปีนต้นงิ้วน้อยๆให้พอกระชุ่มกระชวย คุณรบกลับมาก่อนเพราะเขามาทำงานแต่เจนมาเยี่ยมญาติ หลังจากนั้นสองวันเจนถึงบ้าน มองเขาแล้วก็ไม่ชินนิดหน่อย เหงื่อนี่แตกพลั่กแต่เขายังมาทำมาทำหน้าทำตาล้อเลียนให้ต้องถลึงตาใส่ รู้แล้วว่าเป็นแฟนและกำลังจะก้าวสู่การเป็นเมีย แต่อ่อนโยนกับเจนหน่อยได้ไหม ถนอมกันบ้างเดี๋ยวหัวใจวายตายก่อนได้กินพอดี ยิ่งแพ้คนหล่อที่เล่นหูเล่นตาเก่งอยู่ด้วย


วันที่เจนกลับมันดึกแล้วเลยได้เจอเขาแป็ปนึง แทบจะไม่ได้รำลึกความหลังย้ำเตือนความจำว่า ‘เธอเป็นแฟนฉันแล้วรู้ตัวบ้างไหม’ เจนก็เหนื่อยมากๆหลับเป็นตายข้างๆน้องวินที่ชิงหลับก่อน ภาพตัดมาอีกทีก็เช้าตรู่ ได้เวลาที่คุณพ่อตื่นจะต้องไปทำงานพอดี เจนเดินไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟันให้เรียบร้อย ออกมาดูเจ้าลูกกบว่าตื่นหรือไม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายังหลับสนิทก่อนจะย่องเข้าห้องพ่อกบแบบเงียบๆด้วยความคิดไม่ค่อยซื่อเท่าไหร่


เขารออยู่ พร้อมสายตาเจ้าชู้แบบที่ไม่เคยมี เลือดลมของเจนพุ่งปรี๊ดเมื่อคิดได้ว่าที่ทำมาทั้งหมดนี้โคตรจะลอบเป็นชู้เลย ตอนรู้ตัวว่าเป็นชู้ของวิลเลี่ยมนี่ไม่ได้ชอบเลยนะ เกลียดแบบจริงจัง แต่พอเป็นยุคสมัยของคุณรบนี่มันกลับเร้าใจแบบแปลกๆ ขนาดเจนใส่เสื้อผ้าครบ เขายังมองให้ตื่นเต้นได้ประหนึ่งเหมือนใส่หูแมวและชุดคอสเพลย์อยู่ ต้องท่องศีลแปดในใจหนักมาก เจนหลบตาเขาและเดินไปเอาเนคไท เลือกไม่นานเพราะของมันคุ้นเคยกันดีก็หยิบมาเส้นนึง


ก่อนจะหันหลังกลับไปแล้วก็ชนเข้ากับอกของเขาที่มาตอนไหนก็ไม่รู้…


“คุณรบ”  คนผีทัลเล มองตาเจนก็รู้ว่าคิดอะไร คิดไม่ดีใช่ไหม ใช่แน่นอนเพราะเจนก็คิดบ่อยๆอยู่เหมือนกัน


“คิดถึงพี่ไหม”  ตัยๆๆๆ กะให้เจนละลายตรงนี้เลยใช่ไหม


“เดี๋ยวสายหรอกครับ”  ไดอะล็อกนางเอกก่อนโดนกินต้องมา ขอบคุณช่วงเวลาหลายชั่วโมงของการเดินทางกลับที่ทำให้เจนมีเวลารีรันละครหลังข่าว รับบทนางร้ายคนใช้ที่อยากจับพระเอกมานาน วันนี้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกจริงๆแล้ว


“ก็ผูกสิ” 


“…….”  ต้องเลือกแล้วว่าจะผูกเนคไทให้คุณรบหรือผูกคอตัวเองตายไปเลยเพราะเขินฉิบหาย  เจนนั้นหลบตามองพื้น อาศัยความชำนาญในการตวัดเนคไทคล้องคอให้เขาที่ย่อตัวลงมาให้เจนทำมันได้ถนัด แต่ยิ่งเขาย่อตัวลงมาเท่าไหร่ สายตาของเจนที่หนีประกายตาวิบวับนั่นก็ยิ่งประสบความลำบากที่จะหนี คุณรบตามกันเก่งราวเจ้าหนี้นอกระบบ รู้ตัวอีกทีมือสองข้างที่ไม่เคยมีท่าทีว่าจะเจ้าชู้ได้ขนาดนี้มาก่อนก็มาอยู่ที่เอวของเจนแล้ว ไม่ต้องทายว่าเจนต้องแขม่วเร็วแค่ไหนเมื่ออยู่ๆมือเจ้าชู้ก็จับเข้ามาได้ตรงนี้!


“สรุปว่าคิดถึงพี่ไหม”


“ก็คิดถึงอยู่นะ”  เจนยังคงหลบตากะเอาให้คอหัก ในเมื่อก้มต่ำพี่แกก็ไม่ยอม งั้นหันหน้าหนีเลยละกัน


“เวลาคิดถึงเขาไม่มองหน้ากันเหรอ นี่อยู่ตรงนี้ไง มองหน่อยสิ แฟนเจนหล่อนะ”  โว้ยๆๆๆๆ พ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ เมียเก่าขอเลิกได้ไง นี่อยากจับเข่าคุยกับคุณรดามาก ฮอตอย่างกะฟายเอ่อร์ขนาดนี้ทิ้งไปได้ไง เป็นเจนนี่ทิ้งไม่ลงหรอก เพราะก่อนทิ้งคงใจเต้นแรงตายก่อน แผ่นดินไหวแต่เจนไม่ไหวที่แท้ทรู


“แล้วจะมามองอะไรใกล้ๆละครับ คุณรบ”  ยิ่งหนีก็ยิ่งตาม เจนในอ้อมแขนเอาแต่วุ่นวายไม่หยุด และอย่างที่บอกว่านักรบกลัวสาย เขาเลยปล่อยมือจากเอวเจน….


 เปลี่ยนมาประคองแก้มใสก่อนจะบดเบียดจูบลงไปที่ริมฝีปากของคนเล่นตัวเก่งระดับออสการ์นั่นสักที…
ทำอย่างนี้เสียแต่แรกก็จบ ลุ้นอยู่นานแล้ว…


คำว่าคิดถึงจากปากหนักๆของเจนนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ภาษากายได้ถ่ายทอดให้เขาได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายก็คิดถึงมากพอกัน เจนจูบเขาตอบ มือที่เคยประคองบังคับให้เจนจูบกันนั้นเปลี่ยนมาเป็นกอดรัดเอวบางให้เข้ามาแนบชิด มือไม้ของเจนที่ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนก็ถูกยกขึ้นไปคล้องคอเขา นักรบเปิดริมฝีปากเพียงนิดเพื่อส่งสัญญาณให้ทราบก่อนจะลุกล้ำเข้าไปภายในที่หอมหวาน เขาไม่เคยได้รับอรรถรสของจูบแบบนี้กับใครมาก่อน เรื่องของเทคนิคกับเรื่องของอารมณ์ร่วมนั้นมันไม่เกี่ยวข้องจริงๆ แบบนี้มีแต่อยากจะค้นหา อยากจะโถมเข้าใส่ และอยากจะ….


ทำต่อเนื่องไปนานๆ


“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”  ทว่าเสียงร้องของห้องข้างๆก็เรียกให้เราผละออกจากกันในทันที เมื่อสักครู่เราเหมือนถูกล่อลวงไปสู่ภวังค์จนอยากจะหลอกถามอีกฝ่ายเหมือนกันว่าได้ทำยาเสน่ห์อะไรใส่ลงไปหรือเปล่า เจนนั้นรีบจัดเสื้อผ้าให้เขา ก่อนจะพุ่งไปอีกห้องด้วยความเร็วแสง นักรบได้แต่หัวเราะให้ภาพนั้น เจนช่างเหมือนคุณแม่ที่ดอดมาเล่นรักกับคุณพ่อ ก่อนจะวิ่งไปหาคุณลูกตอนงอแงจริงๆ


นักรบแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะเดินเข้ามาที่อีกห้อง เจ้าลูกกบจอมก่อกวนนั้นกำลังซบไหล่พี่เลี้ยงคนโปรด ใบหน้ายังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ตื่นมาก็ป่วนพ่อเลย ไม่ต้องเดาว่าต่อไปใครจะตบตีแย่งเจนกับเขากัน นักรบมองเจ้าแก้มป่องที่มองมาทางเขาอย่างใสซื่อ แพ้กันมานักต่อนักแล้วกับสายตาแบบนี้ เจนหันมาพูดอย่างไม่มีเสียงว่า ‘หงุดหงิดใหญ่เลย’ ให้ ซึ่งเขาเห็นด้วย หงุดหงิดไม่ใช่น้อยเลยทั้งพ่อและลูกเนี่ย!


แต่เจ้าลูกกบเหรอจะสู้ความแพรวพราวของคนพ่อได้ นักรบเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอาลูกล้อลูกชนจากไหนมามากมายเพราะส่วนตัวก็ไม่เคยได้ใช้ อย่างที่บอกว่าเจนเข้ามาเพื่อเปลี่ยนชีวิตทุกคนในครอบครัวจริงๆ แม้แต่เขาที่ไม่น่าจะมีผลกระทบเข้าไปก็โดนความน่ารักเอาใจใส่และความเด๋อด๋านั่นดาเมจเข้าเต็มๆ ธรรมชาติของเจนได้ดึงเอาส่วนที่เหมือนจะไม่ใช่ตัวเขาให้ออกมา มันเป็นตัวตนใหม่ๆแบบที่นักรบไม่เคยคิดว่าเขาเองก็มีมันอยู่ และเขาไม่ได้ไม่ชอบตัวตนแบบนี้นะ ตราบใดที่เจนมองมันว่าดี อะไรก็ดีไปหมดนั่นแหละ เขาเองก็อวยอีกฝ่ายไม่แพ้กันเหมือนกัน


ในอดีตเขาเหมือนบุคคลสีเทา ไร้สีสัน จืดชืด ดึงดูดผู้คนด้วยรูปลักษณ์ที่ฉาบเคลือบ แต่เมื่อใครได้เข้ามา พวกเขาก็ต้องรีบออกไป เพราะไม่เพียงนักรบจะไม่ค่อยเปิดรับใคร กับคนที่ยอมเปิดรับ เขาก็ไม่สามารถถ่ายทอดตัวตนที่มีเสน่ห์ออกมาได้จริงๆ อาจจะเพราะนิสัยบางอย่างของเจนรักษ์กับการเข้าหาที่ไม่ธรรมดานั่นก็เป็นได้ที่ทำให้นักรบอาการหนักได้ขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเจอใครที่น่าแกล้งให้งอน และชวนให้ง้อได้เท่านี้มาก่อน และนี่คงเป็นเหตุผลที่กล้าแสดงออกละมั้ง


“ไว้วันหยุดของคุณรอบนี้ไปดูหนังกันไหม”   เขาบอก ในขณะที่เจ้าลูกกบยังซบอกพี่เจนออดอ้อน ไม่ได้เจอกันนานต้องยอมกันหน่อย แค่นี้พ่อก็ดูดพลังและเรียกร้องความสนใจจากพี่เจนไปเยอะแล้ว น้องวินต้องกลับมาทำคะแนน!


“……”


“คราวนี้ผมไม่เอาสูทไปแล้วนะ”


“งั้นเจนเอาไปเอง”  เจนขี้หนาว เขาก็รู้นี่


“ไม่ต้องเอาไปหรอก”


“กะให้เจนเป็นปอดบวมตายเหรอ”


“ไม่ตายๆ”


“ยังไงเนี่ย”


“เดี๋ยวกอดให้”


“………..”


“หนาวเนื้อห่มเนื้อไง”


“ถามตรงๆ เคยเจ้าชู้อย่างนี้มาก่อนปะครับ”  นักรบยิ้ม เขาส่ายหน้า


แล้วไปเอาที่ไหนมาเจ้าชู้วะ


“บอกตรงๆไม่เคยจีบใครก่อนด้วยซ้ำ”


“โกหกตกนรกนะครับ”  แล้วเราก็จะได้ไปเจอกันในภพภูมิต่อๆไป เจนแม่งก็ไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรอก เอาดีๆ

“ไม่เคยจีบเลย จีบเจนคนแรกเนี่ยแหละ คิดว่าผมมีเวลานักเหรอ แต่งเมียยังต้องให้ผู้ใหญ่คลุมถุงให้ ทำลูกก็ต้องไปนัดกันไว้ก่อน”  แล้วเรื่องใส่ถุงล่ะทำเป็นไหม เจนอยากจะถามแต่เรื่องนัดเนิดอะไรที่เขาว่าไว้กลับทำให้สนใจขึ้นมา


“ …………..”


“ที่กระโดดเป็นกบนี่ทำกิฟท์นะ”  ความรู้ใหม่เลย ว่าที่อุ้มอยู่เนี่ยผลผลิตทางวิทยาศาสตร์การแพทย์อันล้ำสมัยและแรงเงินที่คุณรบหามาล้วนๆเลย แต่เดี๋ยว…..


งั้นก็หมายความว่า….


“คุณรบอย่าบอกเจนนะว่า….”


“พี่ไม่เวอร์จิ้นนะ”  ไม่ต้องรอให้ถาม เขามองหน้าก็เห็นลิ้นไก่เจนงอกออกมาหมดแล้ว


“แล้วไป”


“คาดหวังอะไรอยู่เหรอ กลัวพี่ทำไม่ดี?”


“มาพูดอะไรต่อหน้าลูกหะ!”  เรามีกฎในการอยู่ร่วม เจนอยากจะปริ้นท์มาแปะไว้ที่ฝาบ้านแต่ก็กลัวคุณพรรณีจะรู้เvาว่าแอบคิดไม่ซื่อกันอยู่


“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังทีหลังก็ได้”


“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”


“รอให้เราอยู่ด้วยกันสองต่อสองล่ะกัน”


“………..”


“กฏเกณฑ์ของการอยู่ร่วม….ไม่มีความลับต่อกัน ใช่ไหม”  เขายิ้ม เรากำลังเดินออกจากห้องน้อง ไปเพื่อส่งให้เขาไปทำงาน กิจวัตรแบบที่เราเคยทำวนกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อยที่เรามีสถานะขึ้นหน้าต่อท้ายมากกว่าเดิม เจนยิ้มให้เขา นักรบถือว่าอยู่เป็น อันนี้ชอบ ใช้ได้ สมแล้วที่ไว้วางใจ เรามาถึงที่ห้องรับแขก เจนปล่อยน้องให้นั่งลงกับพื้น ยังพอมีเวลาที่คุณรบจะได้อยู่กับลูกก่อนไปทำงานเราก็จะไม่พลาด


“ดะ ด้า”  เจ้าตัวเล็กนั้นค่อยๆจับโซฟาและยืนขึ้น ก่อนจะเดินเลียบทั้งๆที่มือก็ยังคงจับอยู่อย่างนั้น


“เจ้าลูกกบนี่ยังเดินไม่ได้อีกเหรอ”  เขาเองก็ไม่ค่อยได้สังเกต


“แล้วแต่คนนะครับ บางคนเดินเร็วเดินช้า นี่เท่าที่เจนจำได้ก่อนไปน้องก็เกาะเดินเก่งแล้วนะครับ” เรากลับมาที่บทสนทนาเรื่องลูก จีบกันบ่อยก็เอียน เอางานเอาการบ้าง นี่ไม่ใช่กฎของการอยู่ร่วม แต่เป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานของการอยู่ให้ยืดอยู่ให้เป็น


“จะขวบนึงแล้วนะ”  จะว่าไปก็ใช่ น้องกำลังจะขวบนึงในไม่ช้า


“อย่างงี้ก็จะวันเกิดน้องแล้วสิ”  เจนหันกลับไปมองเจ้าลูกกบ  ตัวหนักขึ้น โตขึ้น เกาะเดินเก่งขึ้น พูดก็เก่งขึ้น รู้ตัวอีกทีอาจจะเป็นหนุ่มแล้วก็ได้ แค่คิดว่าเจนจะได้อยู่กับน้องไปเรื่อยๆ ก็ยิ้มออกมาแล้ว


ใช่….แผนการลาออกของเจนนั้นยังไม่มีกำหนดที่ชัดเจนเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือสถานการณ์ตำแหน่งพี่เลี้ยงอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ร่วมกับคุณรบนั่นเอง ในตอนนี้เจนก็หวังไว้ก่อนว่าจะได้อยู่นานๆ ตราบใดที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของคุณรบก็หนีเจ้าลูกกบนี่ไม่พ้นอยู่ดี ไม่น่าเชื่อว่าวันนึงเจนจะติดบ่วงทั้งพ่อทั้งลูกได้ขนาดนี้ ว่าแล้วก็หอมแก้มหนึ่งที มันเขี้ยวมากๆ


“ดีแล้ว เจนอาจจะไม่ได้เห็นน้องตอนเกิด แต่เจนคงได้ฉลองวันเกิดหนึ่งขวบกับน้องใช่ไหมครับ” 


“………”


“แค่คิดเจนก็ดีใจแล้ว” 


“ทำไมพูดจาหวังน้อยจังล่ะ”


“………….”  เอาจริงๆเจนไม่ได้ตั้งใจ


“อีกไม่นานก็วันเกิดน้องวินแล้วนะ”  แต่จริงๆทุกอย่างมันอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เราอาจจะเลิกกันเมื่อไหร่ก็ได้ ปัจจัยที่บีบคั้นก็มีอยู่ทั่วไปไม่ใช่เหรอ เจนชอบเขา เจนยอมรับ แต่เจนไม่ผิดที่จะไม่ประมาท


“เจนไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นหรอกนะ”


“พี่อยากให้เจนมั่นใจในตัวพี่มากกว่านี้”


“คุณรบ”


“เดือนนึงมันสั้นไปถ้าเราจะต้องเลิกกัน พี่ยังไม่มีแผนจะปล่อยมือเจนไปง่ายๆ จำไว้ด้วย”  เขาพูดย้ำเตือนให้มั่นใจ น้ำตาของเจนคลออยู่ที่เบ้า มันพร้อมจะร่วงไหลอยู่เสมอ และเจนต้องฮึบไว้เพราะคนอื่นอาจจะสงสัยว่าเจนร้องไห้ทำไม ทว่าความพยายามมันเหมือนจะไม่เป็นผลเลย เจนไม่อาจจะพูดได้ว่าสิ่งที่รู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่มันตื้นตันจนอยากจะร้องไห้ออกมาให้มันจบๆไปซะ


“เจ้!”


“……..”  น้องวิน….ลูก….


“เจ เจ เจ้”  เจ้าลูกกบในชุดนอนที่สองมือเกาะอยู่กับขอบโซฟานั้นหันมามองทั้งเจนและคุณรบ น้องปล่อยมือข้างนึงมาโบกให้…


ก่อนที่มืออีกข้างจะปล่อยออกจากขอบโซฟา
ขาทั้งสองข้างของน้องจะเตาะแตะและเดินเข้ามา
และล้มลงตรงหน้าเราทั้งสองคน


“……….”


“…………”


“ยะย่า…..”  เดี๋ยวนะ….


“เจน….”  คุณรบเรียก บางทีเราก็ไม่มีสติพร้อมๆกันเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก


“คุณรบ”


“ตาหนู”  คุณรบค่อยๆพยุงน้องให้ลุกขึ้นและดึงมากอดเอาไว้ ตอนนี้น้องขึ้นมานั่งบนตักของคุณรบที่ตกใจไม่แพ้กันแล้ว


“ป่า ป้า”  สิ่งที่เราเห็นนั้นมันตรงกันใช่ไหม ความรู้สึกนี่มันคืออะไรกัน เจนจะไม่ไหวแล้ว


“เอาเลย อนุญาตให้ร้องได้”  เขาเองก็อยากจะร้องออกมาเหมือนกัน ส่วนเจนที่พร้อมร้องตั้งแต่ก่อนน้องเดินนั้นไม่เหลือแล้ว เจนต้องไปเซิ้งที่วัดไหนให้มันสาแก่ใจวะนั่น ชีวิตเจนช่วงนี้จะพีคเกินไปแล้วนะ


“ทำดีมากตาหนู”  เขาพูดกับลูก ใช่….มันเป็นอย่างนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมาหาเจนที่กำลังปล่อยน้ำตาหนึ่งสายให้ไหลออกมา


ถ้าจะใจดีช่วยส่งทิชชู่มาให้เจนหน่อย


“ทำดีมากครับ เจน….”  แต่ใจร้ายมากนอกจากไม่ส่งทิชชู่มาให้


เขายังใช้มือเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มใสนั่นอย่างแผ่วเบา…
ฟ้าดินไม่กะให้เจนมีชีวิตรอดแล้วล่ะ ใจพองจนจะระเบิดแล้วนี่



Talk: ก็จะเป็นคู่ที่น่าหมั่นไส้ประมาณนึง5555 เอาเป็นว่าปมดราม่าของรบเจนก็จบลงไปแล้ว เป็นแฟนกันแล้ว งั้นจบเรื่องได้ ((เดี๋ยวๆๆ))  ยังไม่จบค่ะ ยังเหลืออีกนิดนึงถึงจะจบ ช่วงหลังเราจะมาคลายปมต่างๆที่ผูกไว้ ทั้งเรื่องรดา  ที่มาของน้องวิน และเรื่องคุณรบไม่เวอร์จิ้น และขาอ่อนของน้องเจน55555 ดังนั้นฝาก ด้วยนะคะแต่จะไม่ทิ้งช่วงหน่วงให้ทุกคนด่าคุณรบแล้ว555 ต่อไปจะเป็นเรื่องแบบใจๆเท่านั้น คาดว่าจะขอหายไปสักสองวีคแล้วจะกลับมาลงแบบถี่ๆให้ดีไหมคะ???

งั้นฝากแท้ก #เพชรพระพาย คู่ #เจนไม่นก ไว้ที่นี้ด้วยนะคะ
เราจะลงเรื่องของตาเพชรต่อจากเจนไม่นกในกระทู้นี้เลยสำหรับที่เล้า คิดว่าจะไม่แยกเรื่องเหมือนที่อื่น555

เห็นหลายท่านท้วงมาเรื่องคำผิด เราขอบคุณมากนะคะ บางคำยอมรับค่ะว่าไม่รู้จริงๆ555  ต้องขอโทษที่ทำให้เสียอรรถรสด้วยนะคะ จริงๆเรามีการตรวจก่อนจะลงอยู่แล้ว อาจจะมีหลุดสายตาไปบ้างหรือบางคำคือสะกดผิดมาตั้งแต่ประถม ต้องขอบคุณที่เข้ามาบอกนะคะ บางคำเรามีการเอาไปแก้ในไฟล์ต้นฉบับแต่ไม่ได้แก้ในที่ลงเพราะมันเยอะมาก555 คือเราลงไว้หลายเว็บด้วยอ่ะค่ะ ค่อนข้างลำบากนิดนึง ฮือออออออ

เรื่องเพจในเฟซก็มีทำแล้วเช่นกัน แต่ยังตั้งชื่อเพจไม่ได้อ่ะ ถ้าไงฝากลิงค์ไว้นะคะ จะพยายามเข้าไปอัพเดทค่ะ
https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202/
ในทวิตเตอร์ก็ยังคงเวิ่นอยู่นะคะ @reallyuri
https://twitter.com/reallyuri











หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 19-08-2018 17:12:54
คุณร๊บบบบบ อ้อยเก่งมากก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-08-2018 17:22:35
 เป็นตอนที่ใจพองมากๆเลย ลูกกบขาแข็งงดกระโดดมาเดินเตาะแตะแล้ว
ส่วนคุณพ่อกบก็แปลงร่างเป็นพ่อเสือร้าย
ส่วนคุณพี่เลี้ยงนกฮูกก็เด็ดหีกทิ้งถาวร เตรียมตัวให้ดีนะคะ ตัวอาจระเบิดได้
รอช่วงขาอ่อนด้วยใจจดใจจ่อค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 19-08-2018 17:49:14
ดีต่อใจมากตอนนี้   :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-08-2018 18:21:05
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 19-08-2018 19:33:33
เป็นพัฒนาการที่ดีของน้องวิน รวมถึงคุณรบกับพี่เจน ตอนนี้น่ารักมากก ไม่ไหวว ใจบางง

มาต่อบ่อยๆน้าาาา รอๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-08-2018 20:03:38
 :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-08-2018 20:37:32
 :man1:

 :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-08-2018 20:40:56
 :o8: :o8: :o8:
แหมมมมมมมมมมมม พอเป็นแฟนกันแล้วนี่อ่อยกันเรี่ยราดมากหวานม๊ากมาก
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-08-2018 21:42:36
เข้าใจกัน..........
คบกันแล้ว........เยี่ยมๆๆๆๆๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ลูกกบเริ่มเกาะเดิน
แล้วก็เริ่มหัดเดิน....สุดยอดดดด อเมซิ่งงงงง
ต่อหน้าต่อตาพ่อรบกับแม่เจน   :m20: :laugh:

คุณรบ  เจน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-08-2018 22:10:44
ลูกกบมาจากทำกิ๊ฟ งืมมมมมมมม
แต่คุณรบไม่ซิง จริงอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 19-08-2018 22:27:47
คุณรบอัพเกรดแล้ววว
สิ่งที่ไม่เคยทำไม่เคยพูดก็ได้เอามาใช้กับเจนแล้ว
ถือว่าเจนเป็นคนแรกได้สินะ น่ารักอ่ะ ให้อภัยก็ได้

ส่วนเรื่องลูกกบเนี่ย ถ้าจะมีลูกกันแบบธรรมชาติก็จะไม่แปลกใจเพราะแต่งกันแล้ว
แต่แบบนี่ทำกิฟต์ โหยยยยย เซอร์ไพรซ์สุดๆ

ปล.เราเชียร์คุณเพชรนะ
ชอบที่คุณเพชรยอมรับนิสัยตัวเองเรื่องเอาใจใส่คนรอบข้างแบบพิเศษ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-08-2018 22:43:37
คุณรบไม่กากแล้ว ใจบางไปหมด :-[
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 20-08-2018 19:43:57
บิดตัวเป็นโปเต้ คุณรบบบ พรี่คะะะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-08-2018 21:35:18
ใจบางไปหมดแล้วเนอะพี่เจน นี่ขนาดไม่เคยจีบใครนะ ยังอ่อยเก่ง  :-[
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 22-08-2018 15:34:41
โอ้ยยยยยยยย​ เปงแฟนกันแร้วทำไมคุณรบดูเจ้าชู้​ เวอร์ชั่นนี้ไม่อ่อนโยนเลย ตาหนูน้องกบมีพัฒนาการที่ดีแล้ว​ ดีใจจจจจ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-08-2018 19:45:11
 :katai5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 39] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 19.8.2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-08-2018 21:13:28
 :pig4:
หัวข้อ: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 25-08-2018 14:55:08
#เจนไม่นก

รบเจนกับการติดโปร


 

“วันนี้จะไปไหนลูก”  คุณอำไพทัก หลังจากที่กล่อมน้องนอนกลางวันแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เจนรักษ์จึงจำต้องใช้วันหยุดไปกับการอยู่ดูแลน้อง หากเป็นงานชนิดอื่นที่หยุดแต่เหมือนไม่ได้หยุดแบบนี้ คงมีบ่นให้หูชากันไปข้าง แต่เพราะเป็นน้องวินไง น้องวินคืองานของเจน งานที่น่ามันเขี้ยวที่สุด พอน้องงอแงเข้ามากอด มาซบ มันเหมือนมีเสียงที่วิ้งอยู่ในหัวอย่างนี้เลย…

 

 

‘ไม่ให้เจนไปนะ ไม่ให้เจนไป’

ครับ….เจนไปไหนไม่รอดจริงๆครับ

 

 

แต่เจนก็ต้องไป เพราะพ่อกบกำลังรออยู่ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จต้องอยู่ที่นั่น ใช้ความพยายามมากมายเจนก็สะกดจิตน้องวินให้ไม่งอแงได้ ถึงแม้นี่จะล่วงเลยเวลามานานพอตัวแล้ว แต่อย่างที่บอกว่างานของเจนนั้นก็เหมือนได้พักผ่อนอยู่ในทุกวัน ดังนั้นไม่มีอะไรเลยที่เจนอยากจะแย้ง และถ้าหากไม่ได้นัดคุณรบไว้ เจนก็คงไม่อยากออกไปไหน อยู่ฟัดลูกกบเล่นก็สนุกดีเหมือนกัน อา….ทำไมเจนปรับตัวกลับมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้เร็วนักล่ะ นี่เพิ่งกลับมาไม่ใช่เหรอ

 

 

“กลับดึกไหมเจน”  คุณอำไพถามพลางลูบใบหน้าของลูกชายคนเดียว เจนยิ้มเกิดอาการอยากเบี้ยวคุณรบขึ้นมาจริงๆ

 

 

“ก็ดึกนิดหน่อย วันนี้เจนอยากดูหนัง”

 

 

“อย่าลืมเอาเสื้อหนาๆไปด้วยนะลูก”  แม่กล่าวตักเตือน ถึงอยากจะอยู่อ้อนต่ออีกสักหน่อยแต่ก็คงไม่ได้หรอก เดี๋ยวคุณรบเอาตายเลยถ้ารู้ว่าเบี้ยว พูดคุยกันอีกเล็กน้อย อ้อนแม่อีกสักนิดหน่อยเจนก็ได้ฤกษ์ออกจากบ้าน ส่วนเสื้อหนาๆอะไรนั่นก็ไม่ได้เอามาหรอก

 

 

เพราะเจนแอบเอาไปใส่ไว้ในรถคุณรบตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้ว

 

 

Jen : ออกมาแล้วนะครับ

 

 

เจนส่งข้อความหาเขา และรอไม่นานเลย

 

 

Nakrob Rattanasakul : จะรีบไปหาครับ

 

 

เจนยิ้ม บ้าจริง!

 

 

เจนออกจากบ้านรัตนสกุลและเรียกพี่วินที่ขับผ่าน ทำไมชีวิตแฟนของคนรวยต้องดูลำบากแบบนี้นะเหรอ ก็เพราะเรานัดเจอกันที่ห้างเลยไง ไม่ไกลนี้แหละ พารากอนเอง…. และเจนก็ไม่ได้เอารถไป เพราะคนเราต้องมาคนละครึ่งทาง คุณรบขับรถไปทำงาน ขากลับก็ขับกลับเอง จะใช้คุณเพชรก็ได้ แต่เจนไม่ให้ใช้ เพราะอะไรนะเหรอ

 

 

เพราะเพชรรู้โลกรู้ไง….

 

 

จริงๆเราเถียงกันมารอบนึงเรื่องการออกไปเดทกันวันนี้ เพราะเจนมีวันหยุดแค่วันเดียว แต่ได้เจอหน้าเขาทุกวัน วันหยุดวันเดียวนั้นคุณนักรบเลยเสนอว่านานทีปีครั้งก็ขอให้ไปเที่ยวกับเขาสองต่อสองบ้าง เพราะเจนยังเป็นแค่แฟนไม่ใช่เมีย ต้องอ่อยเขาก่อนแล้วพอผ่านโปรเขาถึงจะให้อะไรๆก็น้องวินลูกชายของเขาได้ จริงๆเจนคิดว่ามันเป็นเหตุผลที่งี่เง่า แต่ถ้าแฟนหาข้ออ้างอยากจะอยู่ด้วยกันสองต่อสองได้ดีกว่านี้ไม่ได้ เจนก็โอเค เรื่องให้อ่อยเราก็พอจะถนัดอยู่บ้าง ขอแค่คุณรบบอก ก็พร้อมจะจัดให้

 

 

แต่ที่เถียงกันหลักๆเลยคือจะกลับยังไง! ก็ถ้าเจนขับรถไป เขาขับรถไป ตอนกลับจะให้เอาเชือกมาพ่วงไว้ แล้วเจนนั่งรถคุณรบกลับเรอะ พอบอกว่าจะขับกลับเองก็ไม่ยอมอีกนั่นแหละ ก็นะเป็นแฟนก็อยากจะอยู่ด้วยก็เข้าใจ แต่คิดบ้างว่าเจนออกไปก็ออกไปคนเดียว แล้วกลับมากับคุณรบได้ไง คนก็จะสงสัย แล้วต่อไปคนก็จะรู้ และพอทุกคนรู้ บ้านก็จะบึ้ม

 

 

คุณรบเพียงแค่ส่ายหน้า ไม่รู้ระอาในความคิดของเจนหรือความเล่นใหญ่ที่กางแขนสุดแขนโชว์ความใหญ่ของ ‘บึ้ม’ ที่ว่า ก็เจนกลัวนี่ คุณรบไม่กลัวแต่เจนกลัวอ่ะจะทำไม ขอให้เจนได้ทำใจก่อนไม่ได้เหรอ เอะอะขอเป็นแฟน ลากไปจูบ อยู่ๆก็บอกว่าติดโปรก่อนนะ แต่จะไปแนะนำให้แม่รู้จัก คือคิดว่าใจเจนรับได้เหรอ รับไม่ได้ไง เจนไม่รู้จะมองหน้าคุณหญิงอย่างไร เมื่อกี๊ยังเป็นแค่พี่เลี้ยงน้องวินอยู่เลย อยู่ๆก็ปีนเกลียวจะไปเป็นเมียของพ่อน้องวินนี่นะ เดี๋ยวคุณหญิงท่านช็อค แม่เจนช็อคตาม น้าจินตกใจมาก และน้องพายคงแน่นิ่งไปเลย สุดท้ายแล้ว…เจนคงไม่พ้นต้องถูกไล่ออกจากบ้าน ตัดแม่ตัดลูก

 

 

คิดมาก เจนรู้….แต่เจนก็คิดอ่ะ คิดมากไว้ก่อนก็ดีกว่าคิดน้อยไม่ใช่เหรอ รอเตรียมความพร้อมก่อนเล็กน้อย เจนจะเดินเข้าไปสู่ขอคุณรบกับคุณหญิงท่านเอง รอให้เจนรู้สึกมั่นคงกว่านี้ รอให้เจนรู้สึกว่าการคบหากับคุณรบดีต่อเราทั้งคู่จริงๆ เจนจะเข้าไปสารภาพบาปเอง ถ้าคุณหญิงไม่ยอม เจนก็จะฉุดคุณรบแล้วอุ้มน้องวินหนีตามกัน แต่กว่าจะถึงเวลานั้น ขอให้เจนได้มีเวลาในการวางแผนก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้ขายอพาร์ทเมนท์ที่อเมริกา ห้องนั้นคงเล็กไปนิด แต่จะหาทางขยับขยายให้ได้

 

 

ใช่แล้ว….เจนคนมโนเก่งได้กลับมาสักพักแล้ว

 

 

วันๆก็มีแค่นี้ อวด(ว่าที่)หลัว อวดลูกของ(ว่าที่)หลัว และหาทางหลบไม่ให้คนอื่นรู้ว่าแอบคบ(แต่ยังไม่ได้กัน) วินมอเตอร์ไซค์พาร่างของเจนรักษ์ที่บ่นขิงข่าในใจมาเทียบจอดริมฟุตบาต เจนจ่ายเงินให้พี่วินก่อนจะหันหลังและเดินเข้าห้างใหญ่สุดหรูกลางเมือง จัดทรงผมนิดหน่อยเพื่อให้กล้องวงจรปิดตอนเข้าห้างจับภาพเจนที่ดูดีกว่าตอนหัวฟู เดินขึ้นไปร้านหนังสือเพราะไม่รู้จะไปไหน คุณรบบอกจะรีบมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะติดงานอะไรไหม

 

 

เจนไม่ใช่พวกโทรจิกอยู่แล้วเพราะเข้าใจดีว่างานของเขาเป็นอย่างไร อย่างว่าแหละ เจนก็เป็นเลขามาก่อน จึงเข้าใจบทบาทของการทำงานอย่างดีเยี่ยม และก็ไม่ชอบหากมีใครมาเร่งๆในขณะที่กำลังทำงาน บางทีก็ต้องเข้าใจว่าความรักรอได้ แต่เดดไลน์มันรอไม่ได้ ว่าแล้วก็ภาวนาให้คุณรบกลับไปปั่นงานอะไรให้เสร็จสรรพ แถมวันนี้เขามีนัดลูกค้าข้างนอกด้วย ส่งข้อความไปบอกเขาว่าอยู่ในร้านหนังสือ เดี๋ยวมาถึง

 

 

เขาก็มาหากันเองแหละ….

 

 

“เจน”

 

 

“คุณรบ”  คือถ้าเรียกเฉยๆจะไม่อะไรเลย

 

 

นี่พี่แกเล่นแบ็คฮักด้วย

 

 

“…….”  ลวนลามกันในที่สาธารณะ แต่บอกตรงๆว่าชอบ ปลื้ม อยากได้ เอาอีก

 

 

“รอนานไหม”

 

 

“ไม่เท่าไหร่ครับ”  อ่านนิยายจบไปสามบท แต่เจนไม่ได้พูดออกไป ถึงรู้ว่าพูดเขาก็ไม่รู้สึกผิดหรอก เพราะเขารู้ว่าเจนจะเข้าใจ เพราะถึงไม่เข้าใจ เขาก็มาเร็วที่สุดแล้วอยู่ดี เพราะฉะนั้นได้รู้ว่าการทำงานทำให้เขามาหาเร็วกว่านี้ไม่ได้ แต่เขาก็มาให้เร็วที่สุด เท่าที่เขาจะสามารถ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ

 

 

“จองตั๋วหนังยัง”

 

 

“รอคุณรบมาเลือกเนี่ยแหละ”  เจนดูเวลา เขาทำได้ดีที่สุดจริงๆ นี่มันก่อนเวลางานเลิกเสียด้วยซ้ำ และนั่นทำให้เจนยิ้มขึ้นมาคนเดียว

 

 

เราสองคนขึ้นมาเลือกหนังที่อยากดูและที่นั่งที่ต้องการ แน่นอนว่าคราวนี้เจนเลือกหนัง คุณรบเลือกโรง อาจจะเพราะคราวที่แล้วเขาหลับ เพราะฉะนั้นจึงเลือกที่โรงที่มีที่นั่งเป็นโซฟานอนพร้อมหมอนผ้าห่ม กะว่าจะนอน ส่วนเจนนั้นคงได้ดู เพราะฉะนั้นเลยได้เลือกหนังแทน ก็แฟร์ดี คนเรานอนที่ไหนไม่นอน ต้องยอมจ่ายเงินหลายพันมานานในโรงหนัง

 

 

“เลือกที่มันถูกกว่านี้ก็ได้”

 

 

“ก็รู้อยู่ว่ารวย” จ้ะ ไม่มีอะไรจะเถียง

 

 

เราสองคนออกมาหาร้านอาหารทาน มันก็ไม่ใช่เดทอะไรที่หวือหวาหรอก ไม่มีช่อดอกไม้ ไม่มีของขวัญเซอร์ไพรส์ เพราะเอาเข้าจริงๆเจนก็ไม่ค่อยอินกับอะไรพวกนี้ พวกแฟนเก่าทำมาให้หมดแล้ว แฟนใหม่ก็ไม่ต้องทำตามก็ได้ แต่ถ้าอยาก เจนก็ไม่เรื่องมาก ขอเป็นบ้านสักหลัง รถที่ใช้อยู่โอนชื่อมาให้สักคันก็โอเค เจนไม่เรื่องมากเท่าไหร่เห็นไหม แค่ขอแบบจัดใหญ่ๆก็พอ

 

 

บทสนทนาของคนที่มาเดทในวันนี้กับเจนคือเรื่องงาน นี่โรแมนติคที่สุดพอๆกับรสวาซาบิที่ขึ้นจมูกจนสำลักออกมา แต่เจนชอบนะ บอกไม่ถูก อาจจะเพราะคุณรบไม่ค่อยคุยเรื่องงานให้ฟังเท่าไหร่ พอได้เห็นมุมมองนี้มันก็ทำให้เจนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคนที่มาเดทและคุยเรื่องงานให้ฟังอยู่นิดหน่อย

 

 

จะหาว่าอวยก็อวยเถอะ แต่คุณรบโหมดทำงานที่ไม่ใช่เจ้านายสายตรงนี่ดูหล่ออ่ะ ดูเก่ง ฉลาด แต่ถ้าเจนทำงานเป็นวัวเป็นควายแบบคุณเพชรไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กแบบนี้ก็คงจะอดด่าแฟนว่า ‘ไอ้เวน’ ไม่ได้  จริงๆวิลเลี่ยมก็โดนมาแล้วแต่แค่แปลไม่ออกก็เท่านั้น เฮ้อ…คบคุณรบนี่เวลาอยากด่าอยากบ่นก็ทำไม่ค่อยได้ รู้ทันไปทุกภาษา….เผื่อๆพี่แกอาจจะตบกลับด้วยสำเนียงแบบบริติชให้ขนลุกเล่น เอาที่คุณสบายใจ เจนพร้อมสำหรับโซ่แส้กุญแจมือแล้ว ช่วยเฆี่ยนและด่าเจนด้วยสำเนียงบริติชนั่นที

 

 

ในที่สุดก็ถึงเวลาดูหนังแล้ว อย่างที่คุณรบคุยไว้ว่าโรงหรู สมราคาคุย และก็อย่างที่คิด คนรวยจ่ายเงินมาเพื่อนอนแต่นอนธรรมดาโลกไม่จำ….จ่ายเงินแพง มาเพื่อกอดเจนที่แท้ทรู ใบหน้าคมหล่อซุกอยู่ที่อก อึดอัดนิดหน่อยแต่เจนก็ยิ้มไม่หยุดทั้งๆที่ฉากซึ่งกำลังฉายนั้นดราม่าพอตัว ในที่สุดเจนที่สู้คนก็ปรับท่านั่งให้สบายขึ้น ยอมให้เขากอดก่ายหลับตาอยู่อย่างนั้น เพราะอะไรแบบนี้เราไม่ได้ทำกันที่บ้านจริงๆ

 

 

เพราะเจนยังเป็นพี่เลี้ยงน้องวิน ทุกคืนก็ต้องนอนกับน้อง ตอนเช้าอาจจะมีแอบจูบแอบหอมกันบ้าง แต่ไอ้ที่จะมานอนชิลกกกันแบบนี้ มันก็ยังไม่มีโอกาส หลังจากกลับจากอเมริกาเราก็หลบซ่อนกันพอดู โชคดีที่โรงหนังในวันนี้คนไม่ได้เยอะมากนัก เด็กชายนักรบของพี่เจนก็ดูเหมือนจะหลับแบบเอาจริงเอาจังมาก ที่มาดูหนังนี่จริงๆไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย แต่ถ้าให้เดาว่าที่ชวนมา….คิดเป็นอื่นไปนอกจากอยากทำอย่างนี้ด้วยกันไม่ได้เลยทีเดียว 

 

 

เรากลับบ้านด้วยกันเพราะมันดึกแล้ว คงไม่มีใครลุกมาดู แต่ถึงลุกมาก็คงจะบอกไปว่าเราเจอกันอยู่ที่หน้าปากซอย ใบหน้าของคนที่เคยอารมณ์ดีในโรงหนังพลันกลับมายุ่งเมื่อเจนยังคงยืนยันที่จะไม่บอกใครเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา สำหรับคุณรบนั้นมันง่ายแค่เอ่ยปาก ต่างคนต่างโตกันแล้วเรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องให้ใครตัดสินใจแทน และถ้าเขาพาคนแย่ๆเข้าบ้าน แม่ของเขาย่อมไม่พอใจ แต่นี่ใคร….เจนรักษ์นี่คนโปรดไม่ใช่เหรอ

 

 

ก็คนโปรดไงเลยไม่อยากกลายเป็นคนที่ถูกเกลียด….

 

 

ตอนนี้เราสองต่างเงียบงัน ไม่มีใครอยากขึ้นเสียงหรือทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้อีกแล้ว เขายอมตามใจเจนเพราะใบหน้าที่ดูเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่เข้าใจในความหวั่นระแวงของอีกฝ่ายเสียเท่าไหร่ แต่สำหรับเจนแล้ว ไม่มีใครที่สำคัญสำหรับคุณพรรณีได้เท่าคุณรบหรอก ซึ่งมันก็ใช่ ต่อให้เจนเป็นคนโปรดแค่ไหน แต่จู่ๆจะไปคบกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ มันก็อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับได้ เจนระลึกตนเสมอว่าเป็นผู้ชาย ต่อให้คุณพรรณีอยากให้คุณรบเป็นฝั่งเป็นฝาอีกสักครั้ง ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะมาชดเชยส่วนนี้ได้ เจนนั่งกัดปากเงียบๆ การทะเลาะกันคือส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ แต่มันไม่ควรจะเป็นหลังจากตอนที่กอดกกกันในโรงหนังเมื่อครู่เลยจริงๆ

 

 

“พี่ยังยืนยันว่าควรเปิดตัวนะ”

 

 

“แต่เจนยังไม่พร้อม”

 

 

“แล้วเมื่อไหร่เจนจะพร้อม”

 

 

“……..”

 

 

“เจนคิดว่าแม่จะเกลียดเจนลงเหรอ เผลอๆจะมาตีอกชกหัวพี่ด้วยซ้ำที่ไปยุ่มย่ามกับคนโปรดของเขา”

 

 

“เจนสมยอม”  ยังจะมาทะเล้น!

 

 

“แล้วแม่ไพเขาจะโกรธเจนลงหรือไงที่มาสมยอมให้พี่ปู้ยี้ปู้ยำน่ะ”

 

 

“ยังไม่โดนซะหน่อย”  คุณรบนี่ความจำเสื่อมเหรอวะ

 

 

“เดี๋ยวก็โดน อยากโดนก่อนให้ผู้ใหญ่รู้เรื่องเหรอเรานี่”

 

 

“………..”

 

 

“พี่ทนไม่ไหวแล้วนะ จะเข้าบ้านตัวเองยังต้องวางแผน พี่เก็บสมองไปคิดเรื่องผลกำไรไตรมาสหน้าไม่ได้เหรอ”

 

 

“คุณรบก็ไม่ต้องคิด เดี๋ยวเจนคิดให้!”

 

 

“……….”

 

 

“เรื่องแผนเข้าบ้านนะ”  แล้วก็ลดวอลลุ่มลง เจนไม่ได้หมายถึงเรื่องไตรมาสแต่อย่างใด กลัวทำบริษัทเขาเจ๊ง

 

 

“กลัวอะไรอยู่เหรอ”  เขาพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ กับเจนที่มีปมเยอะแยะเรื่องครอบครัวก็ต้องใจเย็นๆฟังเขาหน่อย

 

 

“ก็กลัวคนอื่นโกรธ

 

 

“เราก็รู้ว่าไม่มีใครโกรธ เราดีกับน้องวินดีกับคุณแม่ขนาดนั้นใครจะโกรธลง”

 

 

“……….”

 

 

“มีเหตุผลอื่นใช่ไหม บอกพี่มานะ”  เขากำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านแล้ว ถ้าไม่เล่าก็ไม่ได้ต้องเข้ามันล่ะ

 

 

เดี๋ยวพาไปปรับทัศนคติที่อื่นแทน!

 

 

“คือ…พี่รบไม่โกรธเจนนะ”  นั่นไง ของมันต้องมีจริงๆ เรื่องต้องใหญ่ด้วยไม่งั้นคำว่าพี่ไม่ออกจากปากหรอก

 

 

“ไม่โกรธ….ถ้าสุดท้ายแล้วคุยกันรู้เรื่อง”

 

 

“ง่า….นี่เจนพูดได้ไหมเนี่ย”

 

 

“ก็เลือกเอาว่าจะพูดและวางแผนกัน หรือจะให้พี่เดินไปเคาะประตูห้องทั้งบ้านมาชุมนุม”  หรรษาเลยทีนี้ นอนอิ่มไปเหรอถึงคึกจัง

 

 

“พี่รบคิดว่าเป็นเจนนี่ดีแล้วเหรอ”

 

 

“…………..”  มาถึงขนาดนี้แล้ว

 

 

“แบบเปิดตัวให้แม่รู้ เจนก็เข้าใจนะว่ามันสะดวก แต่แบบเราเพิ่งคบกันป่ะ ปกติเขาไม่ไปแนะนำแฟนกันเร็วขนาดนี้หรอกใช่ไหม”  มันก็ใช่สำหรับกรณีของคู่อื่น

 

 

และเขาไม่ชอบใจคำว่า ‘สะดวก’ เลย

 

 

“เจนคิดว่าพี่เป็นคนมักง่ายหรือเปล่า”

 

 

“เปล่าครับ”

 

 

“แล้วอะไรคิดว่าพี่อยากพูดเพื่อให้เราสะดวกล่ะ”

 

 

“………….”  คือเจนก็ไม่ได้จะหมายความอย่างนั้น และไม่เคยคิดจะดูถูกเลย

 

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหมือนฝันแบบที่เจนไม่เคยมีเค้าลางหรือจินตนาการมาก่อน

และเพราะไม่เคยเตรียมพร้อม ก็มักจะระแวงกับสิ่งที่กำลังหรืออาจจะเจอ

 

 

“เราไม่เหมือนคู่อื่นเข้าใจไหม เจนรู้จักกับที่บ้านพี่ดี เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนเป็นแฟนด้วยซ้ำ ถ้าเพราะเหตุผลนี้เจนคิดว่าพี่อยากบอกทุกคนเพราะมันสะดวกสำหรับเรา พี่จะบอกว่ามันไม่ใช่”

 

 

“เจนไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่คือเจนแค่แบบเออเราจะจริงจังกันแค่ไหน ตอนนี้มันก็ดีไง แต่ถ้าต่อไปเราไม่ใช่ล่ะ สู้ให้ระยะนี้เป็นขั้นทดลองคบไม่หวือหวากันไปก่อนไหม”

 

 

“พี่รู้สึกเหมือนเป็นชู้เจนเลย ต้องหลบซ่อน”

 

 

“เจนก็เหมือนกัน”  จะบอกว่าชอบเพราะตื่นเต้นเจนก็ประชดไปงั้นแหละ จริงๆก็ไม่มีใครชอบความอึดอัดประมาณนี้เท่าไหร่ จะทำอะไรก็ต้องคอยเหยียบเท้ากันใต้โต๊ะไว้ ชีวิตเต็มไปด้วยความหวาดระแวง แต่เจนอยากจะมั่นใจในตัวเอง และอยากจะมั่นใจในตัวเขา ทั้งนี้เจนก็อยากให้เขาได้ลองคิดให้ถ้วนถี่ว่าเราเป็นแบบนี้ดีแล้วจริงๆไหม เขารักเจนจริงๆใช่ไหม

 

 

ไม่ใช่เห็นว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะมาแทนใครในขณะนี้?

 

 

“ถ้าพี่อยากให้เจนให้เกียรติตัวเอง พี่ต้องเริ่มจากการให้เกียรติเจนก่อนหรือเปล่า”

 

 

“ครับ?”

 

 

“บางทีก็เหมือนเจนจะคิดว่าตัวเองไม่มีค่าพออย่างนั้นอย่างนี้ เจนรักตัวเองพี่รู้ แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนที่ตัวเองแคร์ บางทีเจนก็ไม่ให้เกียรติตัวเองเท่าไหร่”  เขาจะมารู้อะไร สนิทกันเหรอ ก่อนหน้านั้นก็แทบไม่คุยกันเลย ไม่หรอก ที่เขาพูดมาเป็นตัวตนของเจนหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ นักรบแค่เคยเห็นเจนร้องไห้ระบายเรื่องคับแค้นใจเวลาเมา ผนวกกับได้ยินสิ่งที่แม่ไพเคยพูดถึงบ้าง เขาก็ทำมาพูดเป็นรู้ดี ทว่าสิ่งที่เขาพูด

 

 

กลับทำให้น้ำตาเจนไหลออกมา

 

 

“ร้องไห้อีกล่ะ”

 

 

“รำคาญเจนหรือเปล่า”

 

 

“จะพูดว่าเจนให้โอกาสพี่เลิกกับเจนได้นะ อย่างนี้หรือเปล่า?”

 

 

“ก็……”  อย่างที่เขาเคยบอกว่าไม่มีแผนจะปล่อยมือเจนในเร็วๆนี้ เจนก็เช่นกัน แต่การจะติด Probation ให้หัวใจมันก็เป็นเรื่องที่…..พูดยาก เจนเสนอ แต่เขาไม่สนองอ่ะ

 

 

“พี่อยากให้เกียรติเจนนะ…”

 

 

“………..”

 

 

“เจนล่ะ จะให้เกียรติพี่ได้ไหม”

 

 

“พี่รบ”

 

 

“เจนพอจะยอมรับกับตัวเอง และยอมรับกับทุกคนว่าเรากำลังดูใจกันได้ไหมครับ”  ตายไปแล้วเจน

 

 

ตายไปแล้วจริงๆ….

 

 

เจนดูเป็นคนร้ายๆไปเลยที่ปล่อยให้เขาต้องแบกรับความเอาแต่ใจบ้าบอของเจนกับปมที่แก้ไม่หายนี่ รู้ตัวอีกทีเราก็เอารถเข้ามาจอดในบ้าน และจะแยกห้องนอนกันพร้อมกับเรื่องที่ค้างไว้เพราะไม่มีสิ่งใดที่ตอบออกไปจากปากเจน นักรบไม่ได้คิดตื้นๆแค่เรื่องความสมควร แต่เขาคิดมาได้ลึกซึ้งกว่านั้น คำว่าให้เกียรติของเขา มันไม่ได้หมายถึงเขาให้เจนฝ่ายเดียว แต่มันรวมถึงการให้อีกฝ่ายแบบเท่าเทียมกัน จริงๆแล้วในส่วนตรงนี้ควรเป็นเจนที่ไปเรียกร้องเขาไม่ใช่หรือ แต่เขากลับเป็นฝ่ายเรียกร้องให้กับตัวเจนเองและกับตัวเขาด้วย ทำอย่างนี้ไม่แฟร์เลย ไม่แฟร์สำหรับตัวเขาและไม่แฟร์ที่ทำให้เจนรู้สึกผิดไปพร้อมๆกัน

 

 

เรากำลังจะแยกกันแล้ว เขาหันมาลูบหัวให้ คุณรบไม่โกรธ แต่เขาไม่สามารถหยอกล้อเจนได้ในตอนนี้จริงๆ หรือเจนทำให้เขาผิดหวังกันนะ แต่เจนจะผิดหวังกว่ามากๆถ้าวันนึงเราบอกทุกคนไปแล้วว่าคบหากัน แต่สุดท้ายก็เลิกกันในระยะเวลาอันสั้น คนรอบตัวเราจะผิดหวังแค่ไหน ทำไมเจนต้องคิดถึงคนอื่นมากมายขนาดนั้นด้วย ในเมื่อตอนนี้คนที่เจนควรแคร์

 

 

คือคนที่เจนมีใจให้ที่สุดคนนี้ในตอนนี้ไม่ใช่หรือ

 

 

“คุณรบ”  เจนเรียกเขาที่กำลังจะเดินเข้าห้องไป ปกติเราจะพบกันจากประตูห้องทางเชื่อมระหว่างห้องทั้งสอง แต่วันนี้เจนได้ผลักเขาให้เข้าไปจากประตูหน้า

 

 

และพาร่างของตัวเองตามไปแนบชิด

 

 

“เจนขอโทษนะครับ”  เจนกล่าวชิดที่ริมฝีปากของเขาก่อนจะเขย่งปลายเท้าและกดจูบเบาๆที่ริมฝีปากของนักรบ ไม่มีหรอกที่เจนจะรุกก่อน แม้ไม่ใช่คนขี้อายเพราะโต้ตอบกันได้สมน้ำสมเนื้อ แต่เจนไม่เคยล่วงเกินเขาก่อน เป็นนักรบที่เริ่ม และเจนก็สนอง ทว่าแบบนี้ไม่ใช่ไม่ดีนะ เขาแค่ไม่ชิน แต่ก็เต็มใจ

 

 

และเข้าใจความรู้สึกของการเป็นผู้สมยอมเสียแล้ว

 

 

หลังจากริมฝีปากของเรานิ่งค้าง ไม่มีการลุกล้ำไปมากกว่านั้น เจนก็ผละออกมาจากริมฝีปากของเขา ปลายเท้าที่เขย่งกลับมายืนพื้น และใบหน้าของเจนก็ซบลงกับอกของเขา เหมือนจะอยากให้เขาปลอบ แต่เจนคือคนที่ต้องปลอบกันไม่ใช่เหรอ คำว่าขอโทษที่บ่นพึมพำนั้นพอดีกับหัวใจ แต่ขอโทษอะไรล่ะ ขอโทษที่ดื้อ ขอโทษที่ไม่เข้าใจ หรือขอโทษที่ทำให้เสียใจ

 

 

“เจนยอมแล้วครับ”

 

 

“ยอมอะไรครับ”

 

 

“ยอมรับกับตัวเอง”

 

 

“ครับ”

 

 

“และเราไปยอมรับกับคนอื่นก็ได้”

 

 

“เจนพร้อมแล้วจริงๆเหรอ ไม่ใช่ว่าไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เพราะพี่งอนหรอกนะ”

 

 

“เจนพร้อมแล้วจริงๆ”  ถ้าจุดประสงค์ของเขาคือการให้เกียรติเจน นั่นเท่ากับเขายืนยันแล้วว่าความรู้สึกที่มีต่อกันมันไม่ใช่เรื่องฉาบฉวยมีช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่เดือนนี้ แต่ถึงมันจะแค่เดือนนี้ เจนก็ไม่ต้องคงต้องแคร์มันแล้ว เอาให้มันรู้ไปสิว่าคุณรบจะเป็นคนแบบนั้น แตกเป็นแตกไปเลย ถ้าเจนเพิ่มหน่วยลงทุนแล้วเขาจะเทกลางทาง ก็ให้มันรู้ไปว่ารัตนสกุลไว้ใจไม่ได้

 

 

“น่ารักอีกแล้ว”

 

 

“น่ารักตั้งนานแล้ว”

 

 

“ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

 

 

“………….”

 

 

“ถ้าไม่น่ารัก ไม่ตกหลุมรักหรอก เชื่อเหอะ”  เชื่อๆก็เชื่อ

 

 

นี่ก็หลงตัวเองในระดับหนึ่งเหมือนกัน

 

 

ทว่าวันนี้เป็นคืนแรกที่เรานอนร่วมเตียงกัน เพราะน้องวินถูกพาไปนอนกับคุณหญิงตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ทางสะดวกขนาดนี้จะมีได้อีกที่ไหน แต่ก็นั่นแหละ นอนคุยกันและก็หลับไปทั้งอย่างนั้น เจนยังไม่ได้ผ่านพิธีกรรมทำเมียอะไรนั่นอย่างเป็นทางการ นี่ก็นึกสงสัยว่าเขากะจะบอกแม่ก่อนจริงๆเหรอว่าคบหาดูใจกันอยู่ เพื่อที่จะว่าทางจะเปิดให้ทำเรื่องแบบนั้นได้ จริงๆเจนก็ไม่ได้มายขนาดนั้น แต่ก็เอาที่เขาสบายใจเหอะ รู้ว่าเขาทำเพื่อให้เราคิดว่าให้เกียรติก็พอแล้ว แม้จริงๆอยากจะสะกิดถามเหมือนกันว่าทางสะดวกนะ ไม่ลองหน่อยเหรอ….เจนซื้ออุปกรณ์มาพร้อมจะ ‘รบ’ แล้วด้วย

 

 

แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้พูด ทุกวันนี้ภาพลักษณ์ก็ไม่ค่อยจะดีอยู่ ก็เอาเป็นว่านอนๆไปเหอะ ตื่นมาเขาก็ไปอาบน้ำเตรียมจะแต่งตัว เจนเองก็แยกไปเพื่อกลับไปเฝ้าห้องเผื่อว่าใครพาน้องวินมาจะได้ไม่ตกใจว่าเจนไปไหน ถึงแม้ว่าจะยอมเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้วางแผนกันเลยว่าจะไปพูดยังไง ดังนั้นเจนจึงต้องระวังตัวก่อนไม่ให้ข่าวรั่วไหล อย่างไรก็อยากจะพูดด้วยปากตัวเองจริงๆ

 

 

ทว่ารอเท่าไหร่น้องวินก็ไม่ได้มา คุณรบถึงกับเดินมาหาพร้อมกับเนคไทที่หยิบมั่วๆมาให้ผูก โชคดีที่มันเป็นอันที่โอเคเจนเลยไม่ต้องไปเลือกให้ใหม่ เราสองคนเดินตามกันลงมาข้างล่าง ทุกคนรอกินข้าวอยู่ ปกติคุณรบไม่ค่อยได้กินข้าวบ้านหรอก แต่เพราะเมื่อวานไม่ได้เจอตาหนูตอนกลางคืนเขาเลยเลือกที่จะเข้าสายหน่อยเพื่อให้เวลากับครอบครัว เจนเองก็ไปนั่งประจำที่ เพื่อรออาหารเช้าจากน้าจิน

 

 

“เมื่อวานกลับกันมากี่โมงเหรอเจน” คุณพรรณีถาม

 

 

“ดึกหน่อยนะครับ เผอิญเจนเจอคุณรบที่ปากซอยเลยได้ติดรถเข้ามาด้วย”

 

 

“โชคดีแล้ว มันอันตราย”  คุณหญิงยิ้มให้ เธอดูพอใจกับการที่เจนกลับมาพร้อมคุณรบ แต่เธอคงยังไม่รู้ว่าเราไม่ได้แค่เจอกันที่หน้าปากซอยบ้าน

 

 

“ใช่ครับสมัยนี้มันอันตราย”  คุณรบเองก็สมทบทับ เจนหันไปยิ้มให้ทั้งๆที่ยังงงๆ

 

 

“คนสมัยนี้คิดอะไรกันก็ไม่รู้นะคะ”  น้าจินสมทบต่อ แล้วก็พูดเรื่องข่าวในทีวีที่ได้อ่านมา ทว่ารอยยิ้มของคุณรบยิ่งทำให้เจนรู้สึกแปลกๆ

 

 

แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง

 

 

“สมัยนี้อันตรายจริงๆครับ ยิ่งเจนชอบนั่งรถมอไซไปไหนมาไหนคนเดียว ถ้าไม่มีน้องวินไปด้วยจะไม่ขับรถเลย”  เรื่องนั่งพี่วินจากทองหล่อไปพารากอนเมื่อวานนี่จะขุดมาฟ้องชาวบ้านทำไมเนี่ย

 

 

“ตายจริง! เจนรักษ์”  เจนหันไปยิ้มเฝื่อนๆให้ ในใจคาดโทษแฟนหนุ่มที่ยังติดโปรอยู่ในข้อหาพูดมาก

 

 

“เจน แม่บอกแล้วไงว่าให้ขับรถไปน่ะ”

 

 

“ก็เจนขี้เกียจอะแม่” เจนหันไปทำเสียงง้องแง้งใส่คนเป็นแม่ที่มีความเป็นห่วงลูก ได้ยินว่าจะไปดูหนังก็คิดว่าคงแถวพร้อมพงษ์ ที่ไหนได้นั่งมอเตอร์ไซค์ยาวไปเลยเหรอ นี่คิดว่าบ้านเราอยู่สุขุมวิทซอยไหนกัน

 

 

“เจนไม่ได้ขี้เกียจหรอกครับแม่ไพ” แต่ยังไม่ทันที่เจนจะได้แก้ตัวอย่างเต็มรูปแบบ….คุณรบพูดแทรกออกมา ฟ้องเก่งแต่ทำไมนะ….คุณรบ….แปลกๆนะวันนี้

 

 

พูดมากผิดปกติและยิ้มเยอะผิดปกตินะเนี่ย….

 

 

“แต่เจนต้องนั่งรถกลับกับผมอยู่แล้วเลยขับรถไปไม่ได้ต่างหากครับ”  หืมมมมมมมมมมมมมมคุณรบ

 

 

เจนยังไม่พร้อมรบนะเว้ย!!!!!!!!!!

 

 

Talk:

 

บอกว่าจะพักยาวแล้วมาลงทีเดียว แต่ตอนนี้ไม่มากไม่มาย คั่นเวลากันไปก่อนนะคะ เดี๋ยววีคหน้าจะมาต่ออีกคราวนี้ว่าจะมาถี่หน่อย งิงิ  เราเหมือนจะเคยบอกว่าน้องเจนมีเจ้าของแล้ว พี่ๆจากสนพ.เฮอร์มิท จะมาดูแลน้องเจนให้กับเรานะคะ


ถ้ายังไงฝากน้องเจน พี่เพชร พี่เคล กับทุกๆคนด้วยนะคะ
#เจนไม่นก

Twitter: https://twitter.com/reallyuri (https://twitter.com/reallyuri)
Facebook Fanpage https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202/ (https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202/)


 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 25-08-2018 16:35:54
“ก็รู้อยู่ว่ารวย” หมั่นไส้คุณรบหนักมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 25-08-2018 18:07:49
ว้าวสวย เปิดตัวแล้วใช่มั้ยยวน  ขออีกตอนนะไรท์
พลีสสสสสส  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-08-2018 18:30:23
เจน ขี้กลัวมากกกกกกกกกก
คิดแทนคนนั้น คนนี้ คนโน้นไปหมด   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หารู้ไม่ว่าคุณพรรณี คิดจะให้เจนมาอยู่กับคุณรบตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว

คุณรบ  เจน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-08-2018 18:45:18
เจนรีบๆเปิดเถอะแล้วเจนจะรู้ว่าคุณแม่คุณรบนั่นแหละคือมือพายอันดับหนึ่งของเรือรบเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-08-2018 18:47:09
เริ่มเดินแล้วเจ้าลูกกบ งานนี้พี่เจนปลื้มสุดๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-08-2018 20:36:49
พร้อมไปกับคุณรบเถอะ เหล่าชิปเปอร์รอมานานแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-08-2018 20:51:19
ยินดีด้วยค่ะ คราวนี้เรือเราจะเป็นเรือสำราญที่ไม่ต้องพายอีกต่อไป
พร้อมรบเพราะอุปกรณ์พร้อมฮี่ๆน้องเจ๊นนนนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-08-2018 21:26:37
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-08-2018 21:27:48
กรี๊ดดดดดดดด คุณรบจะเปิดตัวแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: shinachan ที่ 25-08-2018 22:08:46
ช่วยเฆี่ยนและด่าเจนด้วยสำเนียงบริติชนั่นที

โอ้ยยย เจนนนนนนน!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 25-08-2018 22:15:37
น้องเจนพร้อมรบ ฮ่าๆๆ น่ารักจริงๆ ถ้าคุณรบรู้นี่ไม่น่ารอดนะ
แต่รู้สึกหมั่นไส้พี่รบมากค่ะ ตอนที่บอกว่าติดโปรให้ตามใจคนพ่อก่อน อิหยังวะ

เปิดตัวไปเลยเถอะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นตามน้องเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-08-2018 22:22:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-08-2018 22:55:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-08-2018 22:57:21
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-08-2018 23:30:37
ขำความพร้อมรบของเจนตอนกลางคืน 5555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-08-2018 08:10:55
โอ้ยยยยย ทำไมตัดให้ต่อมเผือกเราทำงาน อยากรู้ต่อคุณรบจะบอกทุกคนเลยมั๊ย เจนยอมหมดกับคำที่คุณรบบอกต้องการให้เกียรติเจน o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 27-08-2018 22:52:48
ชอบตรรกะ ชอบความคิด ชอบวีถีครอบครัว..ในทุกอักษร
หัวข้อ: Re: [บทที่ 40] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 25.8.2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: nidasu ที่ 28-08-2018 00:53:09
แกรนด์โอไปเลยจร้าาาาาาา :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 28-08-2018 20:01:27
#เจนไม่นก
รบเจนแบบออฟฟิเชี่ยล

“……….”


“……….”


มุกไม่ฮา พาครอบครัวเครียดใช่ไหม
ไม่ใช่…ไม่ใช่มุก


“คุณรบหมายความว่าคุณรบไปกับเจนแล้วกลับมาด้วยกันเหรอคะ”  อำไพออกปากถาม เจนได้แต่ท่องนะโมตัสสะที่ช่วยอะไรไม่ได้ในสถานการณ์นี้รัวๆ 5 รอบ ทั้งๆที่ปกติเขาก็ท่องกันแค่ 3


“ครับ”


“เอ่อ…ไปทำอะไรกันมาเหรอคะ หรือว่าไปซื้อของให้น้อง?”


“ก็ด้วยครับ”


“………..”


ถือซะว่าเจนไม่ได้อยู่ตรงนี้ แม้กายหยาบจะยังอยู่ครบ


“ผมกับเจนเราเริ่มดูใจกันแล้วครับ”


“………..”


“………..”


“ช่วยสนับสนุนเราสองคนด้วยนะครับ”  จะเรียกว่าเป็นเหตุการณ์โซโล่โดยคุณรบแค่คนเดียวก็ว่าได้ เพราะตอนนี้ทุกคนเงียบราวกับทิ้งกายหยาบไว้แล้วพาสภาพจิตไปกรี๊ดที่ยอดเขาเอเวอร์เรสกันเรียบร้อยแล้ว คุณรบกับเจนน่ะเหรอ


กำลังดูใจกัน???????


“เจนขอโทษ”  เจนพาตัวกลับมาเป็นคนแรกเพราะไปก่อนเป็นคนแรกเช่นกัน ตอนนี้เจนพร้อมแล้วที่จะสู้ศึกไปกับคุณรบ


“แล้ว….เอ่อ คุณรบกับเจนไป…”  น้าจินตนาที่เคยปรามาสกันเรื่องจับคุณรบเอ่ยปาก แม้เราจะญาติดีกันแล้ว แต่เจนก็กลัวว่าเธอจะยังมีความคิดนั้นอยู่ เจนพยายามแล้วนะที่จะไม่อะไรกับคุณรบแบบนั้น แต่ถ้าห้ามใจกันได้ เรื่องแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก เจนอ้าปากออกมากำลังจะพูด ทว่าก็เป็นคุณรบที่ชิงตอบเสียก่อน


“มันก็เรื่อยๆนะแหละครับ แต่ไปตกลงกันได้ที่อเมริกา”  ทว่าเจนก็ไม่มีโอกาสที่จะเอ่ยพูดคำนั้นได้เลย อาหารมื้อนี้ดูไม่อร่อยเข้าเสียแล้ว คนตัวเล็กมองคนรักที่เป็นผู้นำการตอบคำถามด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะก้มหน้า ถ้าเจนทำให้มันได้ดีกว่านี้ก็ดี คุณรบก็จะได้ไม่ต้องแบกรับคนเดียว
 

“นักรบ…ลูกจริงจับกับเจนเหรอ”  คำพูดของคุณหญิงพรรณีทำให้เจนคิดดีไม่ได้เลย กับคนที่เจนแคร์ เจนไม่สามารถเชิ่ดหน้าและตะโกนตอกกลับไปได้จริงๆ   


“เจน….”  แม่นั้นหันมาเรียกกัน เจนเงยหน้ามอง ก่อนจะเอ่ยปากเรียกแม่อย่างไม่มีเสียง อย่างไรก็ตามความรักทำให้เจนรู้สึกผิดต่อคนอื่นอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน คุณพรรณีลูบหัวลูกชายเบาๆ มันทำให้รู้สึกดีขึ้นเพราะคนที่ตนเคร์คนนึงส่งสัญญาณแห่งความไว้ใจกลับมาให้แล้ว


“ถ้าไม่จริงจังในระดับนึง ผมก็ไม่คบครับ แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบเสียเวลา”


“ตารบพูดอย่างนี้ไม่ถูกนะลูก” หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณนักรบพูด เจนจะคิดว่ามันเป็นการหยามเกียรติกันในระดับนึง แต่เพราะเป็นเขาพูด เจนจึงตีความหมายที่แท้จริงได้ ใช่….ถ้าไม่จริงจังในระดับนึง คนที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างเขา ไม่ทุ่มเทให้เจนขนาดนี้หรอก เจนเสนอทางเลือกให้เขาไปแล้วว่าถ้าเราแอบคบกัน ตอนเลิกก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทว่าเขายินดีที่จะเปิดเพราะต้องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถ้าเขาไม่จริงจังกับเจนในระดับหนึ่ง คนพูดน้อยอย่างเขาจะไม่มีวันพูดออกมา


และวันนี้เขาก็พูดออกมาเองทั้งหมดคนเดียว


“เห็นแก่น้องมั้ง น้องเสียความรู้สึกหมดแล้ว”  คำพูดของคุณหญิงพรรณีเหมือนเริ่มจะเปิดฟ้าให้กับเจน


“ก็เพราะเห็นแก่น้องไงครับผมเลยพูดเอง คนโปรดของคุณแม่ไม่ให้ผมพูดด้วยซ้ำ กลัวแม่ไม่รัก กลัวผมจะเบื่อ กลัวไปหมด”  คุณนักรบได้พูดความกังวลของเจนออกมาให้คนอื่นฟังทั้งหมด แต่เจนคิดอย่างนั้นจริงๆ และเจนก็อ่อนไหวมาก ทุกคนบนโต๊ะยกเว้นเจ้าลูกกบหันมามองเจนเพียงคนเดียว ตอนนี้เจนมีเพียงแต่สีหน้าแห่งความกังวล ดวงตานั้นเอ่อไปด้วยหยาดน้ำ ทุกคนมีสีหน้าลำบากใจ จนทำให้หัวใจของคนที่คิดไม่ดีอยู่แล้วยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่


“แล้วนั่นเป็นอะไรล่ะ”  น้าจินถาม น้ำเสียงห้วนๆที่ดูปกตินั้นดูรุนแรงในความรู้สึกเจนเข้าไปอีก หยาดน้ำตาแรกไหลผ่านแก้มอย่างช่วยไม่ได้


“เจน”   ก็ไม่คิดว่าจะเป็นมากขนาดนี้ หากเป็นคนอื่นเจนจะไม่สนเลย เรื่องปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้อะไรนั่นเจนไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นปัญหา ตลอดมาคิดว่าถ้าต้องเผชิญเรื่องแบบนั้นจริงๆก็จะตอกกลับเอาให้หงายไปทั้งบ้าน แต่มันใช้กับบ้านรัตนสกุลไม่ได้ เพราะเจนก็รักทุกคนเหมือนกัน


“ตายแล้ว เสียใจอะไรล่ะนั้น เจนอย่าร้องสิลูก”  คุณหญิงที่เห็นก็ตกใจ เธอรีบดึงทิชชู่และส่งให้เจนอย่างอารี เท่านั้นแหละคนเจ้าน้ำตาก็ได้กลับมาทวงแชมป์ร้องไห้มาราธอน นักรบส่ายหัวแล้วยิ้มออกมา แฟนของเขาทำไมถึงเข้าใจยากเย็นนักหนอ


บนโต๊ะนี้ไม่มีใครที่ต่อต้านเราทั้งคู่เสียหน่อย


“แอะ”  แต่อาจจะมีคนนึงที่ต่อต้านอยู่


“ฮึก…..”


“แอ้!!!!!!!!!!!!”  เจ้าตัวเล็กร้องออกมา ไม่รู้เพราะเห็นพี่เจนเสียใจเลยออกมาร้องเรียกความเป็นธรรมให้ หรือออกมาต่อต้านพ่อที่แย่งพี่เจนไป


ขอให้ไม่ใช่อย่างหลังล่ะกัน….


“ดูสิตาหนูหงุดหงิดแล้วเห็นไหม”  คุณพรรณียิ้มออกมา เจนที่แม้จะเสียใจร้องไห้อยู่ก็รีบจัดการหยุดน้ำตาของตนไว้เพียงเท่านั้น คนตัวเล็กรีบอุ้มน้องออกมาจากที่นั่งและกอดโอ๋ไว้กับอก เจนโยกตัวน้อยๆกล่อมน้องให้สงบลง แต่ศึกครั้งนี้ผู้ชนะจะไม่หยุดง่ายๆจนกว่าทุกคนในบ้านจะจัดการดีๆ รู้เลยว่าใครคือบิ๊กบอส


“โอ๋ ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้องน้า” 


“ฮึก เจ เจ้ ฮือออออออออออ”


“ครับ เรียกเหรอ เรียกพี่เจนเหรอ”  ตอนนี้เจนมีสีหน้าเปื้อนยิ้มขึ้นมาด้วยเพราะเสียงร้องของจอมแสบ และมือเล็กๆที่เกาะกันไว้


ทุกคนในที่นั่นนิ่งเงียบ พวกเรามองหน้ากันและกัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมาชั่วครู่ ก่อนที่คุณพรรณีจะยิ้มออกมา น้าจินและแม่ก็ยิ้มตาม คุณรบนั้นก็ยิ้มและส่ายหัวอย่างระอา วันนี้เขาไปสายอีกแล้ว แต่มันดูจะคุ้มค่าสุดๆ ถ้าวันนี้ไม่ได้เปิดใจ สักวันเขาก็ต้องหาเรื่องพูดเรื่องนี้อยู่ดี มันอาจจะเร็วเกินไปในความคิดเจนรักษ์ที่เราจะเปิดตัว กับคนอื่นเขาก็คงจะปล่อยทิ้งไว้ก่อนเหมือนกัน แต่นี่เจนก็อาศัยอยู่ที่เดียวกัน ไม่พูดวันนี้ เก็บไว้ก็พาลจะอึดอัดเปล่าๆ และนักรบก็ค่อนข้างมั่นใจแล้วเจนนั่นแหละที่ดีที่สุดสำหรับเขาตอนนี้ หรืออาจจะตลอดไป


เพราะนี่ก็มีชีวิตอยู่กับตัวเองมาหลายสิบปี เจอะเจอคนมาหลายแสนล้านคน
ก็ยังไม่เคยเจอใครที่เหมาะมือเหมาะใจขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ


“ยินดีกับลูกทั้งสองคนด้วยนะจ้ะ”  คุณพรรณีพูดออกมา


“………..”


“อย่าเครียดอย่างนั้นสิเจน แม่…เรียกแทนตัวเองว่าแม่ได้ไหมเนี่ย ตายแล้วฉันเขินจัง”  คุณหญิงเจ้าของบ้านยิ้มออกมา ใบหน้าและรอยยิ้มของเธอดูจริงใจ แม้แต่เจนเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อหู


“คุณหญิง….เจนขอโทษครับ”


“ตายแล้ว! ขอโทษอะไรกัน”  ตอนนี้เธอดูเหมือนจะโกรธ เจนรักษ์จึงกลับมาเบะปากเตรียมพร้อมอีกครั้ง


“นี่เจนพูดเล่นพูดจริงเนี่ย”  น้าจินเองก็ยังงงๆ งงว่าที่คิดว่าเจนเป็นคนฉลาดเสมอมานั่นมันเรื่องจริงหรือโกหกกันแน่ พายเรือกันแรงขนาดนั้นนี่ไม่เคยดูออกเลยเหรอ


“ฮึก….”


“ตายแล้วๆ”  คุณพรรณีนั้นเมื่อเห็นว่าที่ลูกสะใภ้จะปล่อยโฮอีกรอบก็รีบลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆและกอดเอาไว้ ใครจะกล้าดุคนขวัญอ่อนอย่างเจนได้ลงคอ นี่ไม่รู้หรือไม่เคยคิดจะรู้เลยเหรอ


ว่ากองเชียร์เตรียมเปิดแชมเปญฉลองแล้ว!!!


มื้อเช้าที่กินเวลายาวนานเกือบเที่ยงเพราะว่าที่ลูกสะใภ้เข้าใจยากเอาแต่งอแง คุณอำไพส่ายหัวออกมาได้แต่ยิ้ม ในส่วนเจนก็ยังกอดน้องวินนั่งสะอื้น กว่าจะเข้าใจและเชื่อว่าอะไรเป็นอะไรก็ต้องอธิบายกันยกใหญ่ ไม่มีใครต่อต้านการรักกันของเจนกับคุณรบเลยสักนิด ทุกข้อกล่าวหาที่เจนเตรียมไว้ให้ตัวเองนั้นถูกลบล้างไปหมด และเจนก็ยังเป็นคนโปรดในบ้าน


กว่าจะรู้ว่าตัวเองสำคัญแค่ไหนก็เสียน้ำตาไปเยอะอยู่พอกัน


“เห็นไหม แม่จะดีใจสักหน่อย น้องเจนก็เอาแต่ร้องไห้ น่าตีจริงๆเด็กคนนี้พูดละไม่ยอมฟัง”  หูดับเพราะเสียงร้องไห้ในใจมันดังเกินไป เจนอยากจะบอกไปอย่างนั้นแต่ก็ทำได้แค่นั่งเฉยๆกับสูดน้ำมูก


“แม่เห็นหรือยังครับ เด๋อขนาดนี้ถ้าผมไม่รักจริงไม่ขอมาเป็นแฟนหรอก”  แซวนะ เออเอาสิ ให้เจนมันจมดินไปเล้ย!


“ก็ผมกลัวว่าทุกคนจะ….ไม่ชอบนี่ครับ อีกอย่างนึง เจนก็เป็นผู้ชาย”


“อืม แต่เจนก็รักทุกคนที่นี่ใช่ไหมจ้ะ”


“ครับ”


“แค่นี้ก็พอจะมาเป็นคนในครอบครัวเราแล้วล่ะ ตารบก็ออกจะรวย หน้าที่การงานก็มั่งคง ลูกชายก็มีตั้งหนึ่งคน ที่ไม่มีคือความรักดีๆ ถ้าเจนจะใจดีกับพวกเรา ช่วยรักตารบ เติมเต็มให้ลูกของแม่และทุกๆคนในบ้านเรา แค่นี้ก็พอแล้ว เจนไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรเลย เป็นแค่เจนก็ดีที่สุดแล้วจ้ะ”  ด้านความรู้สึกที่ถูกพูดออกมาโดยผู้ปกครองสูงสุดในบ้านทำให้เจนยอมรับความจริงดีๆนี่เต็มอก สองมือพนมและไหว้ขอบคุณในความกรุณาที่มีต่อกัน เจนหันไปมองแม่ที่ไม่ค่อยได้พูดอะไรออกมา และสิ่งที่ได้รับก็มีรอยยิ้มใจดีแบบที่เคยได้เสมอ


“ยินดีด้วยนะลูก”


“แม่จ๋า เจนคบกับคุณรบได้ใช่ไหม” 


“ไปขอคุณแม่ของคุณรบเขาสิลูก มาขออะไรที่แม่ล่ะ แค่คุณหญิงยอมรับเจน อำไพก็ไม่มีอะไรจะแย้งแล้วล่ะค่ะ”  สิ้นคำแม่ เจนก็หันไปหาคนที่ตนเพิ่งไหว้เมื่อครู่ ดวงตาที่ยังคงมีหยดน้ำประดับนั้นช้อนมองอีกฝ่าย คนมองต้องอดไม่ได้ยกมือขึ้นมาหยิกแก้มเบาๆ


“ผม…ขอคุณรบได้ไหม”  นักรบยิ้มกว้าง เขาไม่เคยคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะมีโมเมนท์ถูกขอกับแม่แบบนี้ มันช่างตื่นตัน อบอุ่น และตลกขบขันในคราวเดียว อยากจะถามออกไปนัก


มีสินสอดอะไรมาสู่ขอกันบ้างล่ะ….


“แม่ให้ไปเลย เอาตารบแถมน้องวินไปด้วย ไม่พอเหรอ ได้! รอแม่แป็ปนึงนะ จะขึ้นไปหยิบกล่องเครื่องเพชรให้”


“คุณหญิงคะ!”  แม่ของเจนร้องออกมา ส่วนเจนนั้นตาค้างไปแล้ว


“ไม่พอเหรอ งั้นฉันจะพาไปดูที่แถวศาลายา ไปกันเจน ไปดูว่าหนูชอบไหม”  เนี่ย มันเป็นแบบนี้ไงคนบ้านนี้


เอะอะอะไรเล่นใหญ่ เอะอะอะไรก็เอาเงินเปย์ไว้ก่อน
แต่เจนชอบ หอมกลิ่นเงินชะมัด


“คุณหญิงคะ อย่านะคะ”  เป็นแม่ที่ปฏิเสธออกมาก่อน


“ไม่ต้องหรอกครับ เจนไม่ได้อยากได้อะไร”  เพราะอะไรน่ะเหรอ…


ตัวคุณรบแพงกว่าของที่คุณหญิงจะให้อีก


“นี่ฉันดีใจมากเลย ตื่นเต้นมาก เจนลูก ขอบคุณมากนะจ้ะ”  จากคนทรยศตอนนี้เจนเหมือนเป็นฮีโร่มากอบกู้โลก  ง่อวววววถ้าการที่เจนกับคุณรบรักกันแล้วมันสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นได้ งั้นเจนจะรักคุณรบให้แรงๆไปเล้ย


“ตายล่ะ อย่างนี้ฉันต้องไปเพิ่มโบนัสให้อีตาเลขาเจ้าเล่ห์นั่นหรือเปล่าเนี่ย”


“………”  เลขา…เจ้าเล่ห์?


“ตาเพชรทำดีมาก ป่านนี้รู้เรื่องหรือยังก็ไม่รู้ ชงกาแฟห่วยแต่ชงให้คนรักกันเก่งเหลือเกิน”


“…….”  อ๋อ ที่ผ่านมา….


ฝีมือมันทั้งนั้นเลยสินะ อีตาคนขี้เสี้ยมนี่!


“คุณรบ”  เจนหันไปเรียก ใบหน้าจริงจังว่าไม่ยอม


“ห้ามมาพูดว่าเราจะไม่เปิดตัว”


“เจนไม่ยอมอ่ะ พอคิดว่าจะมีคนมาพูดว่าเรารักกันได้นี่เพราะอีตาเพชร เจนแม่งยิ่งแค้นอ่ะ ไม่น่ารักคุณรบเลย”


“พี่ผิดปะเนี่ย”


“ผิดที่ทำให้เจนรัก” งุ้ยยยยย งั้นก็ยอมให้เกลียดเลย เกลียดแลงๆ


“ไม่ต้องห่วงนะเจน คุณเลขาทำดีขนาดนี้ไม่ต้องรอรับโบนัสสิ้นปีหรอก เดี๋ยวให้ชดเชยไป3เดือน แล้วเชิญออกเลย”  เจนยิ้ม ชอบความแสบที่เท่าเทียมกันของคนรัก บทสนทนาของคุณรบเวอร์ชั่นอารมณ์ดีกำลังจะมีเมียแล้วทำให้คนทั้งบ้านฮาครืน การเข้ามาของเจนผู้เกรี้ยวกราดนั้นสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนทั้งบ้าน และในที่สุดสมาชิกที่ยิ้มยากที่สุด


ก็มีความสุขกับเขาจริงๆเสียที


ทว่าจนแล้วจนรอดอีตาเพชรก็ไม่ถูกไล่ออก ทั้งนี้ด้วยเพราะคุณเพชรนั้นเป็นฝีพายที่เก่งกาจในตอนแรก แต่ช่วงหลังยุ่งไม่ค่อยได้ทำคะแนน เป็นผลให้ชิปเปอร์หน้าใหม่อย่างตัวจุ้นที่พายได้ฮาร์ดคอร์ด้วยการเสี้ยมแรงๆ ทำเอาอึมครึมกันไปนานจนทนไม่ไหวต้องยอมรับความรักของกันและกันจริงๆ คุณเพชรนั้นออกมายอมรับว่าพยายามพายแล้วแต่เรือไม่ค่อยเดิน วันนั้นที่คุณรบป่วยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อย่าให้คุณรบตายก่อนวันออกโบนัสก็พอ นอกจากโบนัสจะไม่ได้ มันยุ่งยาก ตนไม่อยากเป็นเลขาที่จะต้องทำเรื่องส่งศพเจ้านายกลับประเทศไปเผา วันนั้นจึงพาเจนรักษ์มาช่วยดูแลให้ หวังผลแค่คุณรบไม่ตาย แต่ไม่คิดว่าจะได้กันจริงๆจังๆเพราะเหตุการณ์นี้


เรียกว่าพายเรือกันแผ่วๆ แต่อยู่ๆลมก็แรงพัดเรือเข้าเส้นชัยไปซะอย่างงั้น


ด้วยคุณงามความดีและความบริสุทธิ์ใจของเลขาซื่อบื้อนั่นเลยทำให้ยังมีบุญได้อยู่ต่อไป ส่วนโบนัสก็ได้มากกว่าเดิมนิดหน่อย แต่จะเพิ่มเปอร์เซ็นการขึ้นเงินเดือนให้ในการปรับคราวหน้า ถ้าไม่ทำตัวผีๆอีกปีหน้าคงมีหลั่งน้ำตาด้วยความปิติอย่างแน่นอน เจนยื่นแอปเปิ้ลให้ตาหนู ก่อนจะทำหน้าทำตาเคี้ยวยุบยับหยอกล้อกันบนโต๊ะอาหาร เป็นภาพคุ้นตาที่พาให้ปลื้มปิติใจ บ้านรัตนสกุลกลับมาสมบูรณ์พร้อมแล้ว


“ดีใจกับน้องวินจริงๆเลย ในที่สุดก็มีคุณแม่ที่น่ารักกับเขาเสียที”  คุณพรรณีที่ยืนชื่นชมอยู่สักพักได้เดินเข้ามา


“เอ่อ แต่เจนก็….ยังคิดว่าตัวเองไม่ใช่แม่ของน้องหรอกนะครับ”


“หืม มีอะไรหรือเปล่าลูก”


“เอ่อ ก็เปล่าหรอกครับ ไม่ได้ไม่สบายใจอะไรด้วย แต่เจนเป็นผู้ชาย ถึงเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นแม่ของน้องได้”


“น้อยใจ….เหรอจ้ะ”


“เปล่าเลยครับ คือผมแค่คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว”


“…………..”


“แค่น้องวินรักผมอีกคนก็โอเคแล้วล่ะครับ เป็นแม่หรืออะไรอย่างนั้นแบบคุณรดา เจนไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้นหรอกครับ”  และอีกอย่างคุณรบก็เคยรักคุณรดามาก เขาชอบเจนมากก็จริงแต่เรื่องที่ให้มาแทนที่คนรักเก่าซึ่งเป็นแม่ของลูก เจนไม่คิดจะไปเรียกร้องอะไรแบบนั้นเลย


“ตารบได้บอกไหมว่ารดาน่ะ เขาไม่ได้มีคุณสมบัติการเป็นแม่อะไรขนาดนั้นหรอกนะจ้ะ”


“ผมพอจะทราบอยู่บ้างครับ แต่เจนก็หวังจะเป็นเจนที่ได้มาเท่านี้เลยพยายามไม่สนใจ”  จริงๆคือไม่กล้าถาม ขนาดคุณรบยังให้เกียรติด้วยการไม่ถามถึงอดีตอันเหวอะหวะของเจนเลย แล้วเจนจะไปสะกิดแผลเก่าของเขาขึ้นมาทำไม เจนไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เขายังรักคุณรดาไหม แต่ก็คิดว่าเราก้าวผ่านความรักที่สดใสแบบเด็กๆนั่นไปแล้ว และเจนก็ชอบที่ความสัมพันธ์ของเราเต็มไปด้วยความเข้าใจและให้เกียรติกันแบบนี้ที่ตกลงกันไว้  แต่ลึกๆเจนก็รู้ว่าเรามีบางอย่างที่ไม่ได้เข้าใจกันแม้แต่น้อย และพยายามเลี่ยงที่จะทำความเข้าใจอยู่เพราะไม่มีใคร….อยากหวนกลับไปเจ็บปวดกับเรื่องเดิมๆอีกแล้ว


“เฮ้อ มันอาจจะเป็นความผิดของฉันเองก็ได้”


“ครับ?”


“เจน….ฉันก็หวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วกว่านี้”  เพราะเราเจอกันช้าไป


นักรบจึงเสียเวลามากเกินไปให้กับคนที่ไม่รักกัน…..


ทั้งนี้คุณพรรณีรู้สึกว่าส่วนหนึ่งมันเพราะตัวเธอเองไม่มากก็น้อย กับคุณรัชนีนุชที่หวนคืนกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นเพื่อนสนิทมากเสียจนถ้าวันหนึ่งเกลียดกันก็น่ากลัวว่าจะเกลียดกันมาก มันเป็นกรรมอะไรหนอที่ทำให้เราต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ แต่จะโทษอีกฝ่ายก็ทำได้ไม่เต็มปาก เพราะสาเหตุ….มันก็เป็นเพราะเธอส่วนหนึ่ง


“พ่อของคุณนักรบน่ะ”


“ครับ?”


“เราไม่เคยรักกันมาก่อนจะแต่งงานหรอกจ้ะ”


“………..”


“คนที่เขารักมากๆน่ะ คืออาของรดา….รัชนีนุชนั่นแหละ”  ใบหน้าของคู่สนทนานั้นเปลี่ยนไป คงไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเป็นจริง แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่เธอเองก็พยายามไม่พูดถึง เพราะว่ามันสมควร….จบลงไปเสียที….


ครั้งหนึ่งกับรัชนีนุช เราเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนหญิงล้วน รัชนีนุชเป็นคนสวยจัด ไม่แปลกเลยที่ใครๆก็จะตกหลุมรัก ส่วนพรรณีนั้นเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา เธอไม่ได้มีเสน่ห์ล้นเหลือแม้หน้าตาจะไม่ได้ดูแย่หรือเข้าขั้นอัปลักษณ์ทว่าก็จัดอยู่ในชั้นธรรมดา เมื่อต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเรียนคนละคณะ เราสองคนก็ยังคงติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ และวันหนึ่งรัชนีนุชก็พาแฟนของเธอที่เพิ่งคบกันให้รู้จัก


เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกผิดกับการได้เจอแฟนของเพื่อน


พี่ธานิญนั้นเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ที่บ้านเขามีกิจการที่กำลังเติบโตไปได้สวย เมื่อยืนเคียงข้างกับรัชนีนุชที่เป็นถึงดาวคณะ พวกเขาดูเหมาะสมกันดีช่างน่าชื่นชมนัก เธอเองก็ยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอกับคนที่เพียบพร้อมไปเสียทุกด้าน ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ถึงแม้จะเป็นเพื่อนที่เคยสนิทกันมากแค่ไหน แต่เพราะปัจจัยรอบด้านก็ทำให้เราห่างกันมากขึ้น ทว่าก็ยังมีความรู้สึกดีๆให้กัน และเมื่อมีโอกาสก็มาเจอทุกครั้ง


เราสองคนเรียนจบ รัชนีนุชนั้นเข้าทำงานในบริษัทของพ่อทันทีทั้งๆที่เราเคยคุยกันไว้ว่าอยากไปเรียนต่างประเทศเหมือนกัน ตอนนั้นพรรณีไม่ค่อยทราบเท่าไหร่ว่าทำไม แต่เราสองคนก็แทบไม่ได้ติดต่อกันอีกเพราะระยะทางและความห่างไกล ทว่าเมื่อกลับมาเธอก็ได้รู้ว่าเพื่อนนั้นได้แต่งงานออกเรือนไปแล้ว…..กับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่อายุห่างกันเกือบยี่สิบปี


รัชนีนุชดูไม่มีความสุข ทว่าด้วยนิสัยที่ไม่ชอบให้ใครมาสงสารติดจะหยิ่งยโสทำให้ไม่เคยพูดถึงความทุกข์ใจที่มี ธุรกิจของครอบครัวเธอนั้นมีปัญหา ประจวบเหมาะกับที่สามีของเธอเข้ามาช่วยอุ้มชูได้พอดี ทว่าการช่วยเหลือไม่ได้มาฟรีๆ หากครอบครัวของเธอต้องจ่ายด้วยอนาคตของลูกสาวคนโต และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบ 4 ปีอย่างธานิญ


เวลาเปลี่ยน นิสัยคนยังเปลี่ยน นับประสาอะไรกับความสนิทสนม รัชนีนุชที่แต่งงานเข้าบ้านนักธุรกิจใหญ่ไปดูเย็นชากับเพื่อนฝูงมากขึ้น เธอก้าวเข้าสู่รูปแบบความสำเร็จของตัวเอง ธุรกิจของครอบครัวของเธอนั้นได้รับการกอบกู้คืนชีพกลับมา และวันหนึ่งเธอก็สามารถเอาชนะการฟ้องหย่ากับสามีที่สุดแสนจะเจ้าชู้และได้เงินกลับมามากมาย ทว่ามีได้ก็ต้องมีสูญเสีย และสิ่งที่เสียไป มันอาจจะรุนแรงเกินกว่าที่จะอภัยให้ไหว


เพราะแฟนเก่าของเธอที่จำใจทิ้งไปกำลังจะมีลูกกับเพื่อนสนิท…..


ในตอนที่พรรณีกลับมาประเทศไทยและเริ่มทำงาน ผู้ใหญ่ที่เธอนับถือได้แนะนำให้รู้จักกับครอบครัวของธานิญ ในครั้งแรกที่เจอ เธอจำเขาได้ทันทีแม้ไม่แน่ใจว่าเขาจำเธอได้หรือเปล่า เขาดูเป็นคนเย็นชา ยิ้มน้อยกว่าเดิม เธอคิดว่ามันเป็นเพราะการแยกทางระหว่างเขาและรัชนีนุชที่ทำให้เป็นเช่นนั้น เราที่แทบไม่รู้จักได้รับการแนะนำจากผู้ใหญ่ และก็เข้าสู่พิธีสมรสตามความต้องการของคนในครอบครัว…..หรือเรียกง่ายๆว่าถูกคลุมถุงชน


พรรณีได้เรียนรู้ว่าเพื่อนสนิทของเธอแสดงสีหน้าได้เก่งก็ตอนนี้แหละที่เราเริ่มจะเสแสร้งพูดคุยกัน ตอนที่เธอแต่งงานกับเขา รัชนีนุชกำลังดำเนินการขอหย่ากับสามีอยู่ พรรณีคงจะตัดใจจากธานิญได้บ้างหากเขาแสดงออกว่ายังมีเยื่อใยกับรัชนีนุชแต่ไม่….เป็นเธอที่ยังมีเยื่อใยต่อเพื่อนเพียงฝ่ายเดียว สามีของเธอนั้นเขาไม่ได้แสดงออกว่ายังรักหรือเป็นห่วงออกไป แฟนเก่าของเขาก็คือคนๆหนึ่งที่ผ่านเข้ามาและก็จากไป สร้างบาดแผลไว้ แต่วันหนึ่งมันก็ดีขึ้น


ในขณะที่พรรณีกับธานิญกำลังปลูกต้นรักกันอยู่นั้น พรรณีทั้งสุขใจแต่ก็ทุกข์ไปพร้อมๆกันเพราะเธอรู้ว่ารัชนีนุชไม่เคยอยากจะปล่อยมือเขามาให้เธอเลย และเพราะเหตุนี้มันจึงอาจจะปลูกฝังเมล็ดความเกลียดชังเอาไว้ในความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่ผู้หญิงบางทีก็เก่งเกินไป เกลียดหรือกลัวกันอยู่แต่เราสามารถเก็บมันได้อย่างมิดชิดและยิ้มออกมาให้กันราวกับไม่มีความรู้สึกในแง่ร้ายใดๆในใจ


ในขณะที่พรรณีมีแต่ความรู้สึกผิดเลยยอมเปิดที่ให้ธุรกิจของเราสองตระกูลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกันได้ รัชนีนุชที่โกรธแค้นก็เริ่มที่จะหาผลประโยชน์จากความเปราะบางตรงนี้ มันไม่ใช่ว่าพรรณีไม่รู้ แต่ตอนนั้นเธออ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้ และเธอก็ไม่สามารถเลิกคบกับเพื่อนคนนี้ได้ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะทุกครั้งที่เห็นว่ารัชนีนุชที่เคยงดงามถูกรุมล้อมไปด้วยคนมากมายในอดีต ตอนนี้ไม่มีใครเหลืออยู่เลยนอกจากความริษยา ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้พรรณียอมที่จะเป็นฝ่ายสูญเสียบ้างหากมันจะทำให้เพื่อนกลับมา แต่อย่างไรเธอก็ไม่มีวันยอมเสียธานิญให้อีกฝ่ายแน่นอนและนั่นคือความผิดพลาดของเธอ

ทั้งๆที่เธอไม่จำเป็นต้องเสียอะไรเลย แต่เธอก็ยอมสูญเสียอย่างงี่เง่าไปกับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้กลับ




Talk:  มาทำไมวันนี้555 คือไม่มาวันนี้ก็ไม่รู้จะมาวันไหนแล้ว แต่คิดว่าเสาร์นี้น่าจะมาได้นะ ช่วยรอหน่อยนะคะ
วันนี้เรามีเรื่องมาบอก จริงๆเราเพิ่งรู้เมื่อวาน5555 เดิมที่เรื่องนี้มีกำหนดทำประมาณ 2 เล่ม แต่เพราะเราใส่ไม่ยั้งทำให้จำนวนหน้างอกเงย โอ้ววววววววว งอกมาอีกเล่มแล้ว ตอนนี้กำลังปรูฟแบบกันเพิ่มเพราะความไม่ยั้งมือของเรา ถ้าถามว่ามันสามเล่มเลยเหรอ คงต้องงั้นค่ะเพราะที่มีอยู่แบบยังแต่งไม่จบก็ตกหนาเล่มละ 2 เซนกว่าเขาไปแล้ว มันอ่านยาก อันตรายต่อคนที่นอนอ่านด้วย555 เลยต้องทำเล่มสามออกมา และถ้าถามว่าไอ้ที่ไม่ยั้งมือคืออะไร

คือ เจนไม่นก Intro – 47 (แค่นี้ก็ฟาดไปสองเล่มแล้ว) เพชรพระพาย intro-14 เคลจุ้นความยามประมาณ 3 แต่จะรวบเป็นตอนเดียว และสเปเชี่ยลของพวกเขาเหล่านั้นอีกตั่งต่าง และจะขาดไม่ได้กับน้องวิน เราอยากเขียนมาก ลิสต์ลำดับเหตุการณ์มา 12 อย่างเพื่อความเป็นพระเอกของน้องแต่ยังไม่ได้เขียน5555 เห็นไหมว่าสองเล่มมันไม่พอแล้วววววว  ฮืออออ ขอโต๊ดดดดดดด

แต่….หนังสือน่าจะออกปีหน้านะคะ ถ้ายังไงเผื่อพื้นที่ให้เจนไม่นกทั้งสามเล่มสามคู่และน้องหนูอีกหนึ่งคนนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ ถ้าไงขออนุญาตฝากตัว #เจนไม่นก #เพชรพระพาย ด้วยนะคะ



หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-08-2018 20:34:11
จุดพลุฉลองเย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-08-2018 20:39:46
ซับซ้อนกันเล็กๆนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 28-08-2018 21:02:07
พึ่งเข้ามาอ่าน.,ชอบความคิดของเเต่ละคน..จะเอาฮาไปไหน..555..
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-08-2018 21:30:57
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 28-08-2018 21:49:56
ทำไมคุณหญิงแม่ถึงใจอ่อนแบบนี้ มันไม่ใช่ความผิดคุณหญิงแม่ซักหน่อยไปแบกไว้ทำม๊ายยยยยย :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 28-08-2018 22:20:38
 ฮาความคิดเจนนี่ล่ะ ทิ้งกายหยาบไปกรี๊ดร้องที่เทือกเขาเอเวอร์เรส555555 คิดได้ไง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-08-2018 22:58:38
โอ้ะ เรื่องราวมากมายจริงๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 28-08-2018 23:08:51
ออกเล่มสามมาก็ได้นะ งืออออ จะอีก100ตอนก็พร้อมเปย์น้องนกกับพี่รบ  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: MeiHT ที่ 28-08-2018 23:45:19
หลังจากรอมาเนิ่นนานนนนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-08-2018 00:56:32
 :katai2-1: :mc4: :katai2-1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 29-08-2018 10:11:47
คุณแม่ใจปล้ำมาก ยกคุณรบพร้อมน้องวินใหแล้วยังจะแถมเครื่องเพชรกับที่ดินอีก  :hao6:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-08-2018 14:43:57
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-08-2018 14:56:05
อย่างรัชนีนุชนี่เขาเรียกว่า " หมาหวงก้าง " อ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-08-2018 19:55:04
ได้เวลาที่เหล่าชิบเปอร์จะโยนไม้พายแล้วปล่อยให้เรือแล่นเองแล้ว  :mc4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-08-2018 20:21:25
รัชนีนุช ทำตัวเอง จงจมปลักตายไปความริษยาเถอะ   :hao3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 30-08-2018 00:14:09
อื้อหืออออ สองบ้านนี้เขามีปัญหามาตั้งแต่รุ่นแม่เลยเชียวรึ
แต่มาปลดล็กที่รุ่นลูกก็ดีแล้ว จบๆกันไป
รอดูคุณป้าบ้านนู้นอกแตกตอนรู้ข่าวเรือรบเจนเข้าเส้นชัยนะคะ อิอิ
ส่วนน้องเจน ที่สมบัติไม่เอาขอแค่คุณรบคนเดียวเพราะรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าของทั้งหลายต้องเป็นของคุณรบ ><


คุณเพชรของเค้าก็มีผลงานเหมือนกันสินะ
สิ้นปีอย่าลืมโบนัสเยอะๆนะคะจะได้มีตังค์ไปเปย์เด็ก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 41] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 31-08-2018 00:56:03
บทที่ 30 แล้ว หนทางอีกยาวไกล
หัวข้อ: [บทที่ 42] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 01-09-2018 19:20:53
#เจนไม่นก
เจนรักษ์ นักรบ และ..รดา…


เป็นเรื่องที่งี่เง่าและน่าก่นด่าตัวเองที่สุด


เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น….ตอนที่นักรบมาบอกว่าเขาชอบหลานสาวของรัชนีนุชซึ่งก็คือรดา มันเหมือนกับเธอหลงผิดเห็นแสงสว่างที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดีๆกลับมา ตามด้วยความที่ว่าเธอเองก็แต่งงานจากการคลุมถุงชนมาก่อนและค่อยๆมารักกันภายหลังจึงเห็นดีเห็นงามที่จะให้นักรบและรดาแต่งงานกัน ทั้งนี้รัชนีนุชก็เห็นดีงามด้วย เพราะการดองกับรัตนสกุลที่ใหญ่โตขึ้นด้วยฝีมือของพรรณีและธานิญจะยิ่งทำให้ธุรกิจของเธอยิ่งเจริญขึ้นไป


แต่เธอลืมคิดไปว่าลูกชายของเธอนั้นไม่ได้ถูกเลี้ยงมาให้แสดงความรักหรือรู้จักความรักโดยละเอียดอ่อน ตั้งแต่เล็ก นักรบถูกเลี้ยงด้วยความเข้มงวดโดยคนเป็นพ่อของเขาที่คาดหวังให้ลูกเจริญรอยตาม รัตนสกุลในยุคสมัยของนักรบจะต้องดีขึ้นไปเรื่อยๆ และนั่นทำให้ลูกชายของเธอเติบโตขึ้นมาเพื่อเห็นแก่ครอบครัวและคนรอบข้างที่ใกล้ชิดเท่านั้น ชีวิตของนักรบนั้นมีแต่เรื่องงานและเรื่องเรียนตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่น


ลูกชายของเธออาจจะมีคนเข้าหาบ้าง ทว่านักรบก็เย็นชาเกินกว่าจะตกลงกับใครง่าย ทว่าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย….ลูกของเธอชอบหลานของรัชนีนุชและเรียนรู้ว่าถ้าอยากได้ ก็ต้องได้มาเท่านั้น และเพราะเขาไม่เคยมีภูมิต้านทานความเจ็บปวดด้านความรักแบบชู้สาว มันทำให้นักรบต้องพบเจอกับความผิดหวังตั้งแต่รักครั้งแรกในตอนที่อายุล่วง 30 ไปแล้ว


เมื่อได้เห็นลูกอย่างนั้น มันทำให้เธอตาสว่างและยอมรับว่าความต้องการที่จะกลับไปญาติดีกันกับรัชนีนุชมันเป็นเรื่องฝันเฟื่อง หากใส่ใจตัวตนของนักรบเสียนิด เธออาจจะพูดเบรกให้ลูกชายได้คิดก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าต่อไป แม้ว่าห้ามแล้วก็อาจจะไม่ฟังกันก็ตาม ทว่าเธอไม่เคยพูด และมันโชคร้ายกว่านั้น การคลุมถุงชนสำเร็จไปได้ด้วยดีด้วยการผลักดันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ในตอนนั้นเหมือนกับว่ารดาจะมีปัญหากับแฟนหนุ่มที่คบอยู่จึงยินยอมแต่งงานกับนักรบโดยง่าย


เด็กทั้งสองอาจจะไม่ได้เริ่มด้วยความรัก สำหรับนักรบกับรดาที่เริ่มจากศูนย์ ฝ่ายที่รักมากกว่าย่อมหวังให้อีกคนรักกันขึ้นมา แต่เพราะความรู้สึกที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ยิ่งอยู่ไปก็ยิ่งอึดอัด ลูกชายของเธอเป็นฝ่ายรับความรักจากคนอื่นมาตลอดแต่กลับไม่เคยมอบความรักให้ใครจริงๆมาก่อนจึงเริ่มหาวิธีการ นักรบคิดว่าการมีลูกอาจจะช่วยสร้างโอกาสให้ ในส่วนของรดาที่ให้ความร่วมมือแต่งงานมาด้วยความหวังว่าสักวันคงจะเริ่มชอบกันก็ยินยอมที่จะมีลูกด้วย….โดยวิธีทางการแพทย์….


และเด็กชายอัศวินก็ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวของเรา


ทุกอย่างมันดูเหมือนจะดีแล้ว แต่ไม่ใช่เลย หลังจากตั้งครรภ์ รดากับนักรบยิ่งเหินห่างกันเข้าไปอีก ด้วยเพราะความจริงที่รดาไม่เคยรู้กลับมาถูกเปิดเผยตอนนี้ กับแฟนหนุ่มที่เคยคบกันมาก่อนที่จะแต่งงานนั้น กลายเป็นว่าเธอไม่ได้ถูกทรยศ หากเป็นคนในครอบครัวของเธอจงใจสร้างเรื่องให้เกิดความเข้าใจผิดจนต้องเลิกรากันไปต่างหาก!


และเพราะเช่นนี้ รดาที่กำลังท้องอยู่ก็เครียดจนสร้างความหวาดหวั่นให้คนในบ้าน เธอรู้สึกเหมือนถูกทรยศโดยคนในครอบครัวและมองว่ารัตนสกุลร่วมมือกันกับพวกเขาหักหลังเธอ อาจจะเพราะฮอร์โมนที่แปรปรวนด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แม้จะพยายามอธิบายเท่าไหร่มันก็เหมือนว่าเธอจะไม่รับฟัง หนักเข้า…ข้าวปลาก็ไม่ยอมแตะจนน่ากลัวว่าจะมีผลกระทบต่อลูก ยิ่งมีปากเสียงกัน รดาที่เริ่มจะเกลียดนักรบก็ข่มขู่ว่าจะเอาลูกออก ไม่มีใครรู้ว่าเธอหมายความตามนั้นหรือไม่ แต่นักรบที่ต้องแบกรับความผิดหวังและปัญหาเหล่านี้ก็ต้องตัดสินใจว่าจะต้องทำอย่างไร


และเขาก็เลือกที่จะทำข้อตกลงเพื่อปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ


แต่อิสระมีราคาที่ต้องจ่ายทั้งสองฝ่าย รดาจำต้องอยู่จนกว่าจะคลอดทายาทของรัตนสกุลออกมา ส่วนนักรบ…เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเธอ เขาจึงต้องออกจากบ้านนี้ไปอยู่อีกที่เพื่อไม่ให้เกิดความเครียด ในตอนนั้นความเห็นภายในบ้านก็แตกออกเป็นหลายๆแบบ อำไพที่เลี้ยงดูคุณรบมาย่อมไม่ชอบใจรดาที่เอาลูกมาขู่ ส่วนจินตนาที่อาจจะมีนอกในกับทางฝั่งของคุณหญิงรัชนีนุชบ้างเพราะน้อยใจในความลำเอียงของคุณหญิงพรรณีก็อาจจะเกิดความสงสาร เธอจึงเป็นคนที่ดูแลรดาให้โดยหวังว่าพ่อแม่ลูกจะกลับมาอยู่ด้วยกันหลังจากนี้ ส่วนคุณพรรณีนั้นเธอจมอยู่กับห้วงของความรู้สึกผิดและเห็นใจลูกชาย


หลังจากคลอด แผนการหย่าที่วางไว้ถูกนำมาใช้ แน่นอนว่าทางครอบครัวของรดาย่อมไม่ยอมเช่นนั้น แต่ทางนักรบก็ยืนกรานว่าจะหย่าขาดให้ได้โดยไม่เคยพูดว่าได้ตกลงกันไว้ คนอื่นเข้าใจว่าเพราะเข้ากันไม่ได้ แต่จริงๆมันลึกซึ้งกว่านั้นแต่เราไม่อาจจะอธิบายให้เข้าใจ อย่างไรนักรบก็รักรดา และนี่คือสิ่งที่คนรักขอมาทำไมเขาจะทำให้ไม่ได้ ดังนั้นเพื่อให้หย่าขาดกันง่ายๆ ทางรัตนสกุลจึงต้องจ่าย….จ่ายความสะดวกสบายให้กับธุรกิจของรัชนีนุช


จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์วันนั้น วันที่พี่เลี้ยงที่ทางฝั่งนั้นแนะนำมาก่อเรื่อง เดิมทีนักรบเลี้ยงเธอไว้เพราะเกรงใจคนของอีกฝั่งที่อยากจะมั่นใจว่าหลานชายจะได้รับการดูแลอย่างดี กลับกลายเป็นว่าเจนที่เข้ามาได้ทำการเปิดโปงแผนร้ายอย่างไม่ตั้งใจ ไม่มีใครหวังดีกับรัตนสกุล พี่เลี้ยงคนนั้นก็เป็นคนที่หามาไว้เพื่อจับตามองสถานการณ์ภายใน ไม่ได้ถูกจ้างมาเลี้ยงน้องวินจริงๆ เมื่อเริ่มจับจุดแปลกๆได้จุดนึงก็เริ่มตามล่าจุดถัดๆไปอย่างเงียบเฉียบ และวันนั้นที่เจนถูกทำร้ายร่างกายก็เหมือนดีเดย์ที่จะประกาศตัดความสัมพันธ์ พรรณีและนักรบอาจจะยอมคนให้มากระทำกับตนได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของลูกหลานแล้วล่ะก็ ไม่มีใครยอมใครกันทั้งนั้น


การเข้ามาของเจนรักษ์ในช่วงเวลาที่ใช่นี้ถือว่าเปลี่ยนชะตาของบ้านรัตนสกุลไปเลย เจนอาจจะไม่รู้สึกอะไรมากมาย ทว่าแสงสว่างเพียงน้อยนิดในความมืดมิดก็ถือว่าส่องแสงได้แล้ว นักรบที่ต้องจ่ายมากมายให้กับครอบครัวนั้นทั้งเงินทองและความรู้สึก ก็ปิดกั้นตัวเองมาพักใหญ่ และคนที่เขาไม่มีความกล้าจะเข้าใกล้มากที่สุด ไม่ใช่ใครเลย….แต่เป็นน้องวิน ลูกชายของเขาเอง


เขาคือคนที่อยากมีลูกเพราะคิดว่าจะผูกรักกับรดาได้ และคือคนที่ทำให้ลูกกำพร้าแม่เพราะไม่มีวันทำให้รดารักได้เช่นกัน ความรู้สึกผิดที่สะสมมาตั้งแต่ตอนที่รดาท้อง แม้ว่าใครจะบอกว่าเขาไม่ผิด แต่นักรบก็รับรู้เสมอมาว่าถ้าหากเขาไม่พูดให้แม่ไปทาบทามรดาให้ เรื่องมันก็จะไม่เป็นเช่นนี้ ในตอนที่รดาจากไป เขานั้นหมดอาลัยเสียจนไม่แม้แต่จะเหลียวมอง ไม่ใช่ว่านักรบใจแข็งเย็นชาอะไรหรอก แต่หัวใจของเขามันเหมือนได้แตกสลายไปแล้ว ถ้าไม่มีเจนเข้ามา แผลนั่นมันจะยิ่งเรื้อรังแค่ไหน น้องวินจะได้ก้าวเข้าไปหาพ่อของเขาตลอดชีวิตไหม ไม่มีใครรู้เลย เพราะนักรบไม่ใช่แค่เพียงปิดกั้นคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้


เขายังปิดกั้นตัวเองไม่ให้เข้าไปเป็นภัยกับใครอีกเช่นกัน


“…………”  เจนรักษ์อาจจะไม่เคยได้ยินหรือรับฟังเรื่องระหว่างของคนรักกับภรรยาเก่ามาก่อน แม้คุณนักรบจะเคยบอกว่าเขาจะเล่า แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีโอกาส ถ้าเราไม่มัวแต่มัวเมาไปกับรสรักที่ยังหวานชื่นสดใหม่ และยุ่งไปกับการทำงานแล้วล่ะก็ บางทีการที่เจนได้รับฟังจากคุณรบ มีคำถามอะไรก็จะได้ถามกับเจ้าตัวเลย เพราะเจนก็ไม่อยากให้ความรู้สึกสงสัยค้างคาไว้ ก่อเป็นความรู้สึกไม่พอใจและนำมาซึ่งการเลิกรา แค่คิดตรงนี้ก็ใจหาย เขาทำอะไรใส่เจนหนอ


ถึงนึกเสียดายและเสียใจทุกครั้งหากคิดว่าเราที่สมบูรณ์แบบต่อกันขนาดนี้จะเลิกรากัน


“เจนคงไม่โกรธหรือเกลียดฉันใช่ไหมจ้ะ”  คุณพรรณีถาม เธอไม่คิดว่าเจนเป็นคนใจแคบ คนทุกคนล้วนมีความผิดพลาด เจนส่ายหน้า เพราะตนก็ก่อเรื่องไว้มากมายทุกวันนี้มีทั้งแก้ได้ แก้ไม่หมด และไม่แก้แล้วก็เยอะ แล้วการที่เจนไปตัดสินอีกฝ่ายเพราะเรื่องที่เจ้าตัวเคลมว่าผิดอย่างไม่ตั้งใจนั้น เจนจะทำลงไปได้ไง ในขณะเดียวกันแม้จะไม่เคยชื่นชอบคุณรัชนีนุชเท่าไหร่เพราะเจอะเจอฤทธิ์เดชกันโดยตรง แต่วันนี้ก็ยอมรับ….


ว่าถึงจะร้ายแต่ก็ไม่ใช่ร้ายแบบไร้เหตุผล
แต่เหตุผลและความเหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมีมาตรวัดมาตัดสินได้


สำหรับคุณรัชนีนุชที่ต้องทิ้งคนรักทั้งๆที่ยังรักอยู่นั้น เธอก็ทำมันด้วยความจำเป็น ทว่ามันก็ไม่แฟร์กับคุณธานิญที่ต้องยอมรับการเลิกราเพราะด้วยการที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือครอบครัวเธอในตอนนั้นได้เช่นกัน มันคือความจำเป็นแบบที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ตัวคุณพรรณีเองแม้จะชื่นชมหรือแอบชอบคุณธานิญมาก่อนก็ไม่ได้ผิดอะไร การแอบรักโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อนถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ คุณพรรณีแคร์เพื่อนมากเธอจึงเก็บงำความรู้สึกนั้นไว้ ทว่าเมื่อมีโอกาสในเวลาที่เหมาะสมและพร้อมไปด้วยปัจจัยต่างๆ มันก็ไม่ผิดเลยที่คนซึ่งมีความรู้สึกดีๆอยู่แล้วจะรับของที่เคยต้องห้ามนั้นมา ทว่าคุณพรรณีก็รู้ดีว่าของที่เคยต้องห้าม จะผ่านไปนานแค่ไหนคำว่า ‘ต้องห้าม’ ก็จะอยู่ติดพ่วงท้ายตลอดไป


การที่คุณรัชนีนุชจะร้ายใส่คุณพรรณีและครอบครัวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะเธอไม่หลงเหลืออะไรแล้วนอกจากเงินทองและชื่อเสียง ซึ่งมันคือสิ่งสุดท้ายที่จะเสียไปไม่ได้อีก ฉะนั้นในความรู้สึกของคนที่ร่วมเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งทางฝั่งคุณรัชนีนุชหรือทางรัตนสกุล นี่คือเรื่องที่จะคาราคาซังตลอดไป เจนก็เข้าใจแต่รับไม่ได้มากเท่าเพราะตนก็มองตามแบบฉบับคนนอกผู้มาทีหลังและอยู่เฉยๆก็โดนด่า ถ้ามาด่ากันตอนนี้จะไม่ว่าเลยเพราะได้คุณรบมาจริงๆแล้ว แต่มาด่าก็ใช่ว่าจะไม่สู้นะ เพราะเจนไม่ได้ไปแย่งของๆใครมา


เจนรู้ดีว่าการเป็นชู้ชาวบ้านให้ความรู้สึกอย่างไร
ดังนั้นอย่าริอาจมาสอนผู้มีประสบการณ์!


“หากผมจะรู้สึกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้….ก็คงรู้สึกดีที่เราได้มาเจอกัน”  เจนตอบกลับไป มือของเจนนั้นกุมมือของคุณผู้หญิงเอาไว้ เจนรู้ว่าเราไม่สามารถย้อนเวลาไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นได้ และเจนก็คิดว่าดีแล้วที่ทำไม่ได้ เพราะอะไรรู้ไหม…


เพราะเจนชอบที่พวกเราได้เจอกันในเวลานี้มากกว่า


เจนเชื่อในความเหมาะสมทางด้านต่างๆ ทั้งเวลาและปัจจัยต่างๆ หากเจนได้เจอกับทุกคนที่นี่ในตอนนั้นที่เขาเรียกให้มาอยู่ด้วยและปฏิเสธที่จะไปกับทางฝั่งคูเปอร์ การมาของเจนอาจจะทำให้อนาคตของรัตนสกุลไม่ได้เป็นแบบนี้ เจนกับคุณรบอาจจะไม่ได้รักกัน เจนอาจจะเห็นเขาเป็นพี่ชายคนหนึ่งเหมือนพี่เคล ตาเพชรอาจจะไม่ได้เป็นเลขาคุณรบและอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกเพราะเจนจะมาทำหน้าที่นี้แทน ทั้งนี้ทั้งหมดมันเป็นเรื่องในจินตนาการของเจนแต่เพียงผู้เดียว แต่เรื่องที่ชวนใจสลายที่สุดนั้นคือ….น้องวินอาจจะไม่ได้เกิดมา เจนจึงขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพื่อไปเจอเรื่องร้ายๆและกลับมาเจอกันในตอนนี้ ตอนที่ทุกอย่างดลบันดาลให้เรารักกัน


“แม่ดีใจเหลือเกินที่ได้หนูมาเป็นลูกอีกคน”  เจนยิ้ม ในเวลาไม่กี่วันเจนได้ขยับมาเป็นลูกอีกคนไปเสียแล้ว คุ้มจะตายไปกับการที่ไปโดนหลอกให้เป็นชู้ เพื่อมาเจอคนอีกหลายคนที่ดีกับชีวิตเราจริงๆ


“ไม่ต้องห่วงนะครับ เจนอาจจะเป็นแม่ของน้องวินไม่ได้จริงๆ แต่อยากให้รู้ว่าเจนรักและหวังดีกับน้องจริงๆ” เจนพูด ก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่ยังคงแทะแอปเปิ้ล


“เจน….”


“ผมรักน้องวินก่อนคุณรบอีก ฮะๆ” แต่ถ้าไม่มีน้องวิน….เจนก็ไม่รู้ว่าตนจะได้รักคุณรบหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาความประทับใจที่มีต่อคนพ่อนั้น ก็เป็นเพราะพัฒนาการและการปฏิบัติตนในฐานะพ่อต่อคนลูกทั้งนั้น มันทำให้เจนอยากจะมองดูเขามากขึ้น อยากรู้ว่าเขาจะมีบทบาทอย่างไรต่อคนนั้นคนนี้ รู้ตัวอีกทีก็ถอนสายตาไม่ได้ มันเป็นความชอบที่เริ่มก่อตัวขึ้น ไม่ช้าไม่เร็ว แต่ส่งเสียงเงียบงัน โดยไม่รู้ตัวมันก็หยั่งรากลึกมั่นคงกว่าที่นึกคิด และเมื่อวันหนึ่งที่ตัดสินใจกับตัวเองว่าจะเปิดรับใครสักคนเข้ามา ความรู้สึกที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ก็เผยตัวชัด จากความเข้าใจ เราเริ่มก้าวเข้าสู่พื้นที่ของความรักเข้าเสียแล้ว


“ตารบได้ยินงอนตายเลย นี่ตาหนูเองก็ดูจะหวงแสนหวงนะเนี่ย”  เจนหัวเราะออกมา คนพ่อก็อยากจะเกาะติด คนลูกก็ไม่ยอมยกให้ คุณรบทำบาปกรรมอะไรกันหนอ ถึงต้องมาแย่งเจนกับลูกตัวเอง เป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมาเลย แค่คิดถึงวีรกรรมตอนที่กำลังจะเดินเข้ามากอดเจนแล้วน้องวินร้องไห้ ก็ยิ่งทำให้หัวเราะออกมา แม้เจนจะบอกว่าตนพอใจกับสถานะครอบครัวที่ขาดๆเกินๆของตนแต่ก่อน ทว่าในวันนี้เจนกับรู้สึกดีกว่า


เมื่อใครอีกคนเข้ามาทำให้คำว่า ‘ครอบครัว’ แลดูสมบูรณ์ขึ้นในความเข้าใจ


xxx


จินตนาทำงานกับคนที่บ้านหลังนี้มานาน อาจจะตั้งแต่ตอนที่เธอเพิ่งคลอดพระพายได้ไม่นาน ลูกยังอายุไม่ถึงขวบปี เธอก็จำต้องจากมาหาเงินส่งกลับไปให้ที่ญาติๆที่รับหน้าที่เลี้ยงดูลูกใช้ เดิมทีก็แค่คาดหวังว่ารัตนสกุลจะดีกับเธอบ้าง แต่พวกเขากลับให้อะไรกันหลายอย่าง และที่ผู้หญิงห้วนๆอย่างเธอจะรู้สึกเป็นพระคุณยิ่งก็คือการที่พวกเขาบอกว่าเธอสามารถพาลูกมาอยู่ด้วยได้


ไม่ใช่แค่กับเธอเท่านั้น แต่กับพี่อำไพที่เป็นรุ่นพี่ก็สามารถทำได้ ถ้าอยากจะทำ เธอเคยไม่เข้าใจมาตลอดว่าทำไม แต่แล้ววันนึงก็ได้เข้าใจ เพราะเมื่อได้พบกับเจนรักษ์….ลูกชายคนเดียวของแม่บ้านรุ่นพี่คนนั้น ทุกอย่างก็กระจ่างไปหมด เดิมทีเธออาจจะตั้งแง่ ด้วยความริษยาบางอย่างที่มีกับคนแม่ที่คุณหญิงมักจะเรียกหาเสมอ ในขณะเดียวกันช่วงนั้นเธอก็มักจะได้คุยกับคุณรัชนีนุช โดนใส่ไฟมาก็มากจึงทำให้มองหน้าเจ้านายตัวเองไม่ติดสักพักใหญ่


เจนรักษ์เป็นเด็กที่ให้ความรู้สึกร้ายๆในตอนแรก อาจจะเพราะว่าตอนที่เด็กคนนั้นเข้ามีเรื่องกับพี่เลี้ยงคนเก่าจินตนาไม่อยู่ และเพราะคำบอกเล่าจากคุณรัชนีนุชที่ว่าลูกของอำไพตั้งใจมาจับคุณรบ เธอเองก็หน้ามืดตามัวรังเกียจรังงอนไปก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้รู้ความจริง ช่างเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้ เธอยอมรับ แต่วันนึงที่เรารู้จักกันมากขึ้น ความคิดของเธอก็เริ่มที่จะ เปลี่ยนไป ต่อให้เจนเป็นคนร้าย แต่ดีกับพระพายแค่นั้นเธอก็พอใจแล้ว และเด็กคนนั้นก็เอ็นดูพระพายมาก


มากเสียจนเธอละอายใจที่ไม่เคยรู้สึกเอ็นดูกันมาก่อนเลย


แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่สามารถปรับปรุงตัว ความสัมพันธ์ระหว่างจินตนากับทางคุณรัชนีนุชก็เริ่มที่จะเหินห่าง ยิ่งเวลาผ่านไปเมื่อได้เห็นว่าเจนรักษ์มีความสามารถก็ยิ่งชื่นชม และในวันนั้นที่คุณเขาบุกมาที่บ้านเพื่อหาเรื่องเจนรักษ์ ด้วยความรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เธอเข้ามา จินตนาจึงเข้าไปจัดการรับมือต่อ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอำไพจึงค่อยๆดีขึ้นไป


ในส่วนเรื่องที่เจนรักษ์กับคุณรบรักกัน….น่าแปลกใจที่เธอไม่เกิดความคิดที่ไม่ดีกับพวกเขา และยินดีด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ อาจจะเพราะองค์ประกอบทั้งหลายมันแลดูเหมาะสม ทั้งการศึกษา หน้าที่การงาน และทุกอย่าง และเธอก็ยอมรับว่าการเข้ามาของเจน ทำให้บรรยากาศหลายอย่างในบ้านแห่งนี้ดีขึ้น อีกอย่างถ้าไม่เพราะความช่วยเหลือของเจน เธอก็คงไม่สามารถช่วยพระพายเรื่องการเรียนหรือเรื่องส่วนตัวที่เด็กวัยใกล้เคียงกันจะเข้าใจมากกว่า การมีเจนรักษ์ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดูอย่างใกล้ชิดจึงถือเป็นเรื่องที่ดี


แต่แล้ววันหนึ่ง….เธอก็รู้สึกไม่ดีบางอย่าง


“สวัสดีค่ะ”  จินตนากรอกเสียงไปตามสาย เบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ที่เธอเคยพูดคุยด้วย หากแต่มันก็นานมาแล้วที่เราคุยกัน อย่างไรก็ตาม การที่เราเคยคุยกันมันอาจจะไม่ได้หมายความว่าในตอนนี้มันเหมาะสมที่จะคุย ทว่าเธอไม่คิดว่ามันจะดีกว่าหากไม่รับสายไปซะ เพราะถ้าอีกฝ่ายไม่เลิกรา ยังไงเธอก็ต้องได้คุยหรือรับรู้ว่าคู่สายกำลังนึกจะทำอะไร


“จินตนา นี่ฉันเองนะจ้ะ”


“คุณรดา”  นานพอตัวที่เธอไม่ได้ทราบข่าวคราวของผู้หญิงคนนี้ และนานพอตัวเลยกว่าที่เธอจะเปล่งเสียงออกมา จินตนามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ แม้ว่าเธอไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน แต่ก็อยากมั่นใจว่าจะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เพราะต่อให้เธอไม่คิดอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าคนมองอยู่จะเข้าใจผิดไม่ได้


“ฉันเอง เธอสบายดีไหม” 


“สบายดีค่ะ” ครั้งหนึ่งจินตนาเคยได้ดูแลผู้หญิงคนนี้ยามเธอตั้งท้อง เรียกว่าเธอแทบจะเป็นคนเดียวดีกว่าที่ยังเข้าหน้ากันติด ทั้งนี้ไม่ใช่ว่ารัตนสกุลรังเกียจรังงอนอะไรแม่ของลูกของคุณนักรบหรอก ทว่าตัวรดาเองต่างหากที่ดูเหมือนจะตั้งแง่ทางฝั่งเราไว้เยอะ หากไม่มีจินตนาอยู่ที่นี่ ก็ไม่รู้ว่ายามที่รดาอยากติดต่อมา เธอจะติดต่อผ่านใคร


“เธอรู้จักคนที่ชื่อเจนรักษ์หรือเปล่า…แม่จิน”  จะให้พูดตรงๆว่าแม้เธอจะเคยดูแลคุณรดาและเป็นคนเดียวในบ้านที่ยังเข้าหน้าอดีตลูกสะใภ้คนนี้ติดในช่วงเวลาอันตึงเครียดนั้น ทว่าการเห็นฤทธิ์เดชของคุณรัชนีนุชที่มาวีนแตกในบ้านหลังนี้ กับเรื่องของคุณรฐาที่ทำร้ายร่างกายเจนในวันนั้น มันทำให้เธอไม่แน่ใจนักว่ารดาที่เธอพูดคุยด้วย เป็นคนแบบไหน?


จะเป็นคนดี และก็ร้าย ก่อนจะกลับมาดีเพื่อทำเรื่องร้ายกาจอีกหรือไม่


“รู้จักค่ะ”  แต่ไม่มีข้ออ้างหรือเหตุผลใดที่จินตนาจะไม่รู้จักเจนรักษ์ เธอโกหกไม่ได้เพราะมันจะงี่เง่ามาก


“เขาเป็นคนอย่างไรเหรอ”


“คุณรดาจะอยากรู้ไปทำไมเหรอคะ”


“…………..”


“เอ่อ….จินตนาไม่มีเจตนาไม่ดีหรอกนะคะ” 


“ฉันแค่อยากคุยกับเขา”


“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะคุณรดา”  แม้คุณรดาจะดูมีเจตนาที่ดี แต่อย่างไรเธอก็ไม่หวังให้สภาพภายในของรัตนสกุลเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้แล้ว แม้จะเคยหวังว่าอีกฝ่ายจะขึ้นมาเป็นเจ้านายอีกคนเคียงข้างกับคุณนักรบ เพื่อช่วยเยียวยาแผลใจที่เคยสร้างร่วมกันมา แต่วันนี้จินตนาได้ตาสว่างแล้ว แผลที่เกิด คนรักษาไม่จำเป็นต้องเป็นคนทำก็ได้


ไม่งั้นจะมีหมอไว้รักษาคนไข้ทำไมกัน!


“จินตนา ทำไมถามมากจังเลยล่ะจ้ะ”


“………….”


“นี่ที่บ้านนั้นเกลียดฉันกันทั้งบ้านเลยเหรอ”


“พวกเราไม่ได้เกลียดคุณรดาหรอกค่ะ”


“อืม”


“แต่ทางคุณรดาล่ะค่ะ เกลียดกันมากหรือเปล่า”


“……………”


“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณรดา”


“…………..”


“ถ้ายังไงอิฉันขอตัวก่อนนะคะ”


“เดี๋ยว”


“คะ?”


“ฉันอยากคุยกับเจนรักษ์จริงๆ”


“………….”


“อย่างน้อยไปถามอีกฝ่ายให้หน่อยได้ไหมว่าเขาอยากคุยด้วยหรือเปล่า”


“เอ่อ…..”


“ถ้าเขาไม่อยากคุย เธอก็โทรมาบอกกันหน่อยล่ะกัน ฝากด้วยนะจ้ะ”  และรดาก็ไม่รอให้จินตนาปฏิเสธอะไรอีกต่อไป


ถึงแม้รดาจะไม่ใช่เจ้านาย แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน


เธอกลัวว่าเมื่อเรื่องไปถึงหูเจนรักษ์ คุณนักรบกับเจนก็อาจจะทะเลาะกัน….ไม่มีใครชอบเรื่องของแฟนเก่าหรอก แต่นี่เป็นภรรยาเก่าที่มีพยานรักร่วมกันให้ดูอยู่ที่นี่ และเจนเองถ้าเป็นเรื่องของน้องวินก็ยิ่งอ่อนไหวไปกันใหญ่ จินตนาไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนชักศึกเข้าบ้านเจ้านายอีกแล้ว ไม่ได้กลัวว่าพวกเขาจะต่อว่า แต่กลัวว่า…..เธอจะรู้สึกผิดกับตัวเองมากกว่าเดิม…


อีกใจหนึ่งก็เชื่อว่าเจนมีวุฒิภาวะพอ แต่ก็ไม่แน่ใจ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้ที่คนเป็นแม่โทรไปหาลูกชายเพื่อปรึกษา แต่ก็ไม่แปลกอะไรเพราะพระพายก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว ตั้งแต่เข้ามหาลัยไปบางสิ่งบางอย่างในตัวลูกทำให้เธอคิดว่าพึ่งพาได้มากขึ้นเธอจึงโทรไป และลูกก็คิดเหมือนกันว่าเจนรักษ์น่าจะควบคุมมันได้ทุกอย่าง ดังนั้นจินตนาจึงไม่ลังเลเลยที่จะเดินไปหาอีกฝ่ายที่เพิ่งกล่อมน้องวินหลับ เจนดูแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเข้ามาหา แต่ก็ยิ้มรับ


“เจน….”  เธอเป็นคนห้วนๆ ไม่มีหางเสียง แต่น้ำเสียงคราวนี้ไม่เกรี้ยวกราดเหมือนเคย ใบหน้าของเจนแลดูแปลกใจไม่น้อย


“มีอะไรหรือเปล่าน้าจิน”


“คือว่านะ”


“………….”


“คุณรดาโทรมา…เอ่อ…เขาอยากคุยกับเจน”


“………….”


“………….”


“ครับ”  เจนเงียบไปชั่วครู่ แน่นอนสำหรับคนที่อาศัยในรอบรั้วเขตบ้านนี้ ชื่อนี้เหมือนจะมีอำนาจบางอย่างอยู่เสมอ


“คือ…แต่น้าบอกไปแล้วว่าไม่ได้ แต่เขาก็ยังยืนยันให้มาถามเจนก่อนว่าจะคุยด้วยได้ไหม”


“……….”


“ให้น้าไปปฏิเสธให้ไหม”  เจนที่ได้ยินดังนั้นก็รับทราบในความปรารถนาดีของอีกฝ่าย ไม่น่าเชื่อว่าการที่เจนร้องไห้ออกมาเพราะแคร์ทุกคนในบ้านวันนั้น จะทำให้ทุกคนมองว่าเจนดูเปราะบางกว่าที่พวกเขาเห็นไปขนาดนั้น ใช่…เจนอ่อนไหวได้ง่ายดาย หากเป็นเรื่องของคนที่เจนแคร์


และคุณรดาที่เกี่ยวข้องกับแผลเก่าคุณนักรบที่เจนแคร์ล่ะ
ทำให้เจนแคร์ด้วยได้ไหม….


“ไม่ต้องหรอกครับ”


“เจน”


“ขอเบอร์ให้ผมนะครับ เดี๋ยวผมโทรไปเอง”  ใช่….เจนแคร์ แต่การหนีหรือเพิกเฉยไม่ได้คำตอบ สักวันนึงเจนก็คิดว่าถ้ายังคบกับคุณรบต่อไป การพบเจอภรรยาเก่าของอีกฝ่ายย่อมเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ และเจนก็ไม่เคยคิดจะเลี่ยง แค่ตอนนี้มันยังดูเหมือนจะเร็วเกินไป แต่จะช้าเร็วก็ย่อมเจออยู่ดีไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นจะหนีความจริงไปทำไม


ถ้าเจนแคร์คุณนักรบ ก็ย่อมต้องใส่ใจกับอดีตของเขา
และคุณรดาคืออดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบันของเรา
แล้วมีเหตุอะไรเล่าที่เจนจะเพิกเฉยไปได้!


Talk:  เหมือนจะเข้าโหมดดราม่า แต่เรามีสิ่งดีๆมานำเสนออออออออออออออออ นั่นคือเราจะลงเรื่องนี้ทุกวันจนกว่าจะจบค่ะ ใจคืออยากจบแล้ว เรามาจบไปด้วยกันเถอะ เนาะๆๆๆๆๆๆ ทีนี้ค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่าโมเมนท์ชิปเปอร์ที่เรือเข้าฝั่งนั้นมันน้อยนิด จริงๆบรรยากาศในเรื่องช่วงนี้ไม่เปิดทางให้ชิปเปอร์กระโดดโลดเต้นนัก ตาเพชรก็….วางแผนจีบลูกพายอยู่ เลยไม่มีใครมาเปิดแชมเปญฉลองกันให้เห็น ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่ะ แต่มีเป็นตอนพิเศษให้กับเหล่านักพายมืออาชีพของเราทุกคน555555
ต่อจากนี้ไปจนตอนจบเราว่าจะลงแบบรัวๆวันล่ะตอนนะคะ
ฝากติดตาม #เจนไม่นก และ #เพชรพระพาย ที่กำลังมาเทียบเรือรับชิปเปอร์ด้วยนะคะ
Twitter @reallyuri





หัวข้อ: Re: [บทที่ 42] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-09-2018 19:41:33
 o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 42] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 01-09-2018 20:40:53
รดาเธอจะร้ายหรือดีเราต้องมาดูกัน  เดาไม่ถูกอาตตะมาแบบนางฟ้าแต่ก็ทำประดูจมารร้ายก็เป็นได้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 42] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-09-2018 21:21:56
เชื่อว่าต้องยินดีด้วยเพราะลูกกบนั้นไฟเขียวแล้ว คนอื่นห้ามขัดค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 42] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-09-2018 21:58:02
ไม่รู้ว่ารดาจะมาไม้ไหน สู้ๆนะเจน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 42] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 28.8.2018 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-09-2018 23:11:33
เอาใจช่วยหนูเจนจ้า
หัวข้อ: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 02-09-2018 12:04:48
#เจนไม่นก
เจนที่หายไป


อยู่ๆเจนก็อยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณรบ ทั้งๆที่มันไม่เคยเป็นเรื่องต้องห้าม เขาดูเปิดเสมอหากเจนอยากจะคุยแต่แค่เราไม่เคยมีโอกาสหรืออยากมาก่อน ทว่าเมื่อถึงตอนที่อยากจะพูด เจนกลับรู้สึกเหมือนพูดออกมาไม่ออกเสียอย่างนั้น คุณนักรบที่อยู่ในชุดนอน เขาให้น้องซบอกอยู่อย่างนั้น พ่อลูกก็อย่างนี้ แย่งเจนกันเสร็จก็หันมาสงบศึกกันยามเหนื่อย เป็นภาพน่ารักที่เจนต้องยิ้มออกมา และอยากจะเก็บความสงสัยที่กลัวจะสร้างความขุ่นมัวให้กับคืนดีๆได้


“แฟนหล่อมากใช่ไหมถึงเอาแต่จ้องไม่หยุดน่ะ” หมั่นไส้ คนอะไรหลงตัวเอง


“ถ้าไม่หล่อ ก็ไม่คู่ควรกับเจนหรอก”  แต่มีหรือที่จะสู้เจนได้ ยิ้มอย่างผยองใจ เจนก็คลานเข้าไปหาสองพ่อลูกก่อนจะกอดร่างของทั้งสองไว้ ใบหน้าของเจนซบลงที่ไหล่ของเขาพอดี และดวงตาของเจนก็สบเข้ากับตาแป๋วของเจ้าลูกกบพอดี เจนลังเลเหลือเกินว่าเราควรจะพูดดีไหม


“วันนี้ไม่คึกเลยนะเรา แม่ดุมาเหรอ”  กับเจนจะมีอะไรที่ทำให้หงุดหงิดได้บ้าง คุณนักบนึกได้เท่านี้ แต่คงลืมไปว่ามีอีกคนนึงที่ขาดไม่ได้เลย


นั่นก็คือเขาเอง


“พี่รบ”  แต่ความอยากรู้อยากเห็นของเจนมันทำให้ยั้งปากไว้แทบจะไม่อยู่อยู่แล้ว


“หืม”


“แม่ของน้องวินน่ะ”


“………….”


“เขาเป็นคนแบบไหนเหรอ”


“พี่ไม่รู้”


“…………..”


“จริงๆ คือพี่ไม่รู้”


“แต่เคยรักเขานะ”


“ใช่….”


“พี่รบจะ….ไม่รู้หน่อยเหรอ”


“ไม่ล่ะ…พี่ไม่อยากรู้แล้ว”  ต้องเจ็บมากแค่ไหนกัน….ถึงไม่อยากรับรู้เรื่องของอีกฝ่ายแล้ว


“…………”


“ถ้าการรับรู้ทำให้มั่นใจอะไรแบบผิดๆงั้นไม่รู้ดีกว่า”


“…………..”


“ไม่ใช่ว่าพี่เจ็บจนไม่อยากรู้อะไร ทุกคนก็ดูเหมือนจะปกป้องพี่กันมากเกินไปแต่ว่านะ….”


“……………”


“ตอนนั้นมันอาจจะเหมาะสมแล้วที่ทุกคนจะปกป้องแต่ตอนนี้พี่มีเจนแล้ว”


“……………”


“เชื่อใจพี่หรือเปล่า”


“เพราะเจนชวนพูดเรื่องเมียเก่าใช่ไหม ถึงได้มาปากหวานใส่กันขนาดนี้”  เจนยิ้มให้เขา


“ของงี้ก็ต้องระแวงกันบ้าง”


“ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า”


“ทำให้เจนมาแหกอกพี่เหรอ”


“ระวังตัวไว้ด้วย เจนรักษ์จัดหนักนะจะบอกให้”


“รอให้มาจัดจะแย่ จะจัดทีไรลูกร้องทุกที”  ว่าแล้วเขาก็หรี่ตามองตัวปัญหาที่ไม่ยอมหลับสักที นิ่งคาอกเขาเป็นก้างขวางคอมาพอแล้ว นักรบเคยคิดว่าคนที่ยุ่งเรื่องชาวบ้านได้น่ารำคาญที่สุดคือเพชรมาตลอด กรรมตามสนองแบบติดจรวจหรือไงที่ไปด่ามันไว้ ถึงต้องมารับมือกับลูกชายไม่รู้จักโต (?)แบบนี้


“ถ้าวันนึงนะพี่รบ”


“วันไหนล่ะ”  เขากะจะกวนกลับไป


“วันที่เจนอาจจะอยู่หรือไม่อยู่แล้ว”


“……………”  แต่เจนเหมือนจะไม่เล่นด้วย


“ถ้าคุณรดาเขาขอกลับมาอ่ะ….”


“ไม่….ไม่ไว้ก่อน”


“พี่รบ คำถามยังไม่จบ” อย่ามารีบตอบ เดี๋ยวเจนตบร่วงเลย


“เพื่อความสบายใจของพี่และเจนในตอนนี้  พี่จะตอบว่าไม่ไว้ก่อน”


“แต่ในอนาคตอาจจะเยสงี้เหรอ”  เจนขมวดคิ้ว


“งั้นมาฟังคำถามกันต่อให้จบ เจนว่ามาเลย”  เพิ่งรู้ว่าเป็นคนกะหล่อนด้วย เจนหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ


“ถ้าเขาขอกลับมาหาน้องวินอ่ะ จะให้ไหม”  คือคำถามอ่ะ มันก็แค่นี้แต่ไม่ฟังให้จบ ทว่าเจนไม่รู้หรอกว่าสำหรับนักรบ


คำถามนี้ตอบยากเสียยิ่งกว่า….


“……………”


“พี่รบ”


“พี่….ไม่ได้อยาก ไม่สิ ไม่รู้ ก็ไม่อยากให้เขามา”


“…………”


“แต่ถ้าน้องวินพูดถึงแม่ และถ้าเขามาบอกว่าอยากมาหา พี่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี”  เพราะเหนือความต้องการของเขา ก็ยังมีลูกของเขาอยู่ และเจนก็รู้ว่าต่อให้ได้รับความรักกลับมาแค่ไหน แต่ตนก็เป็นได้แค่คนรักของคุณรบ


ไม่มีวันเป็นแม่ของน้องวินได้….


“เจนเข้าใจ”  เจนพูดมาสั้นๆ สั้นเกินกว่าจะเป็นเจนแบบที่เคยเป็น นักรบจ้องมองคู่สนทนาอย่างไม่เข้าใจ แต่เจนไม่ได้มองตาเขาอีกต่อไปแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด เจนนั้นกลับให้ความสนใจกับน้องวินที่หลับตาพริ้ม นิ้วมือของเจนเกลี่ยแก้มนุ่มเล่น ตาหนูนั้นโตขึ้นทุกวันๆ วันนึงก็จะเรียกคุณรบว่าป๊ะป๋าได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ แล้วก็จะเรียกเจนว่าพี่เจนได้อย่างชัดเจน


แต่คำว่าแม่ล่ะ….น้องวินจะเอาไปเรียกใคร?


สรุปแล้วสิ่งที่เจนอยากคุยกับคุณรบที่สุดก็กลายเป็นว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง คือจริงๆมันก็เปิดอกแล้ว แต่เจนก็ยังมีความไม่แน่ใจในบางสิ่งที่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร สุดท้ายแล้วก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นโดยที่เรื่องเก่าก็ยังค้างคา เจนยังไว้ใจคุณรบอยู่ ความเชื่อใจเป็นเรื่องที่บางทีก็อธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้ แต่มันจะเกิดขึ้นในวันที่เราเริ่มไว้ใจกัน และเจนไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยไปเองเพื่อทำลายความไว้ใจตรงนั้นที่เรากำลังก่อร่างสร้างกันมา


แต่เจนก็ตัดสินใจแล้วเช่นกัน….


“คุณคงจะเป็นคุณรดา”  เจนไว้ใจเขา และไว้ใจตนเอง แต่เราก็ไม่มีใครหนีความจริงไปได้ เจนจำต้องยอมรับอดีตของคุณรบ และฝึกความแข็งแกร่งทางจิตใจไว้ ไม่มีเหตุผลอะไรให้เจนไม่กล้ามาพบเธอ เพราะวันนั้นที่โทรหา เธอบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไร เจนยินดีที่จะรับฟัง


“เจนรักษ์สินะ”  เธอตอบ เรามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอมารอสักพักแล้ว คาดว่าคงอยากเจอกันมาก เจนก็อยากให้เรื่องมันจบๆไปเหมือนกัน


ดังนั้นเรามา….จบเรื่องหน่วงๆหัวใจนี่กันเถอะ


xxx


เจนดูแปลกๆ….
แต่จริงๆเจนก็แปลกๆไปบ้างอยู่แล้ว…


ตั้งแต่เริ่มคบกันอย่างจริงจัง และเริ่มเรียนรู้กันในอีกหลายๆมุม เราต่างก็เห็นแง่มุมอื่นๆ หรือแม้แต่ตัวเราเองก็ได้เห็นตัวตนอื่นๆที่ไม่เคยเป็นเช่นกัน บางทีความสัมพันธ์แบบคนรักที่ช่วยกันเลี้ยงลูกไปเรื่อยๆ มันอาจจะดูไร้ความหวือหวา แต่ความสงบแบบนี้ก็ช่วยทำให้หัวใจที่มักจะฟุ้งซ่านหาทางหยุดไม่ได้ของเรานั้น ได้กลับมามีจุดยืนที่มั่นคงและนุ่มนิ่มในเวลาเดียว เขาชื่นชอบแบบนั้น


และในตอนเช้าที่ลูกยังไม่ตื่น การที่เราต้องหลบซ่อนแอบพลอดรักกันก็น่าตื่นเต้น การคบกันกับเจนรักษ์นั้นให้รสชาติที่หลากหลายและความรู้สึกที่พองฟูจนไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำๆได้ นักรบยิ้มออกมา เขารู้สึกภูมิใจในตนเองนักที่วันนั้นได้แสดงความกล้าและก้าวผ่านความต้องการที่จะโดดเดี่ยวตลอดไปอันเหมือนเป็นคอมฟอร์ทโซนออกมาหาอีกคน และขอบคุณเจนที่กล้าที่จะเลือกกันแม้ว่าเราอาจจะต้องยืนอยู่บนความเสี่ยงที่มีพื้นฐานของความไม่แน่นอน


นักรบมาทำงานต่างจังหวัด เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาไปเสียแล้ว แต่วันนี้จำต้องค้างเพราะประชุมช่วงเย็น จะกลับก็ย่อมได้ แต่ตอนเช้าของพรุ่งนี้ก็ยังมีเยี่ยมชมอีกอยู่เหมือนกัน จริงๆแล้วถามว่าชอบไหม แต่ก่อนก็เฉยๆ อาจจะเพราะว่าตอนนี้มีบางคนที่เพิ่มขึ้นมารออยู่ที่บ้าน มันทำให้เขาอยากจะกลับไปแค่ให้ได้เห็นหน้าสักครึ่งชั่วโมง แต่ภาระหน้าที่ก็ทำให้ต้องเต็มใจก้มหน้ายอมรับมัน


และที่ต้องยอมรับมากที่สุดคือการได้คบกันคือเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิต


เพราะชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่มั่นคง เขาเคยกังวลมาตลอดว่าหากต้องมีความรักอีกสักครั้งมันจะทำให้ทรมาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องอย่างที่บิดเบือนไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ก็ยังทรมานอยู่ ทรมานอยู่กับความคิดถึง นักรบเคยคิดว่าการมีความรักจะนำพาความผิดหวังต่างๆมากมายมาสู่ชีวิต เลยไม่เคยคาดหวังให้ตัวเองมี หรือพยายามไม่มีความรักนั่นแหละ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องทำใจยอมรับภาวะทรมานต่างๆที่จะเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เขาทนได้นะ


แม้จะคิดถึงมากก็ตาม….


เจนโทรมาพอดี….เขาฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะตีหน้านิ่ง นักรบยังอยู่ในห้องประชุม เขาไม่สามารถคุยกับเจนได้มากมาย แต่อย่างไรเขาก็อยากจะรับสายนี้ ร่างสูงนั้นขออนุญาตทุกคนในห้องนั้นก่อนจะรีบออกมาเพื่อไปหาจุดอับสายตา เขาอยากจะคุยกับคนรักที่เขาตีโพยตีพายไปว่าอีกฝ่ายก็คงคิดถึงกันมากเช่นกัน แต่นี่เราเพิ่งจากกันไม่ถึงวันเลยนะ


“ครับ”  เขารับสาย…


“คุณรบ…ประชุมอยู่หรือเปล่า”


“ครับประชุมอยู่”


“…………”


“เจนมีอะไรหรือเปล่า”


“อา….คุณรบไปประชุมก่อนดีกว่า”


“ไม่มีอะไรด่วนใช่ไหม”


“ไม่มีครับ”


“………..”


“เอาไว้เดี๋ยวเรากลับมาคุยกันนะ”


เอาไว้แล้วเราค่อยกลับมาคุย….ใช่….เขายิ่งรู้สึกประหลาดๆ และคงต้องกลับไปคุยแน่ๆ มีอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า ทว่าเขาต้องพยายามไม่คิดต่อไป นักรบมีเรื่องที่ต้องทำมากมายก่อนที่จะกลับไปเคลียร์กับอีกคน คำถามมากมายที่ถูกถาม และความสงสัยที่เขามีในการประชุมทำให้หลีกเลี่ยงเรื่องของคนที่บ้านไปได้บ้าง ความยุ่งวุ่นวายของการทำงาน และการรีบเร่งเพื่อให้มันจบเร็วๆทำให้เขามีสมาธิอยู่กับมันโดยแทบจะไม่ได้นึกถึงคนที่ทำตัวแปลกๆไปเลย เมื่อเสร็จจากงานเขาก็รีบมุ่งหน้ากลับบ้าน


ทว่าก็เหมือนจะมาช้าไป….


“น้าจินครับ”  นักรบที่เพิ่งเอารถไปเก็บเมื่อเดินเข้าบ้านมาก็ได้พบกับจินตนาคนแรก เธอเองดูแปลกใจไม่น้อยที่เห็นคุณรบในช่วงเวลาบ่ายๆแบบนี้  เธอรับไหว้คุณรบอย่างงงๆ


“กลับเร็วจังค่ะวันนี้”


“เผอิญผมมีนัดกับเจนไว้นะครับ ว่าแต่เขาอยู่ไหนเหรอ”


“เอ่อ ไม่ทราบเลยค่ะ น่าจะอยู่กับน้องวินหรือเปล่า”


“อ่า งั้นน่าจะอยู่บนห้อง”  เขากล่าวขอบคุณและเดินขึ้นไปบนห้อง เคาะประตูห้องของตาหนูเบาๆ น่าจะเป็นเวลานอนกลางวันของน้องวิน คนเป็นพี่เลี้ยงก็คงอยู่ไม่ไกลตัว ถ้าไม่กำลังเล่นมือถือเรื่อยเปื่อยก็คง….


จะนอนอยู่ข้างๆกัน


“………..”


“………..”


“คุณรบ”  มันควรจะเป็นเจนที่กล่าวทักทายและยิ้มให้เขาเมื่อได้เห็นหน้า และตอนนี้เขาควรจะยิ้มและเดินก้าวไปหาอีกฝ่าย แต่ไม่เลย สิ่งที่เขาทำคือยืนนิ่งเงียบและกวาดตามองไปรอบห้องด้วยหมายจะค้นหาว่าที่บางตารางนิ้วของห้องนี้จะมีเจนรักษ์อยู่ตรงนั้น แต่ไม่เลย


ไม่มี….แม้แต่เงา


“แม่ไพ…เจนเขาออกไปข้างนอกเหรอครับ”  ถ้าไม่ใช่ห้องนี้แล้วจะเป็นส่วนไหนของบ้าน บางทีเขาก็เชื่อในความคิดของตัวเองจนเกินไป นักรบพยายามบอกว่าเขานั้นก็มีผิดพลาดได้ บางทีเจนก็คงอยู่แถวๆนี้ ใช่….ต้องอยู่ไม่ไกลกันมากหรอก ต้องอยู่สักที่นึงนี่แหละ


ที่ไหนสักที่ที่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือของเขา


“เจนเหรอคะ”  อำไพที่เฝ้าดูแลน้องวินนั้นขมวดคิ้วน้อยๆ  เธอดูเหมือนจะไม่ทราบอะไร และใจนักรบเหมือนจะไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป มันดูบีบรัดโดยแรงที่เขามองไม่เห็น


หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ


“ไม่ได้ไปกับคุณรบเหรอคะ”  ไม่….ถ้าเจนอยู่กับเขาในช่วงเวลาที่หายไปนี่ เขามั่นใจว่าเจนจะไม่ไปไหนเกิน 3 เมตรเลย


แต่เจนไม่ได้อยู่กับเขา….


นักรบนั้นใบหน้าถอดสี เขาเดินออกจากห้องของลูกและรีบควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงที่มันก็มีแค่มือถือนั่นแหละ ทว่ายามรีบร้อนเช่นนี้ อะไรก็ดูเหมือนจะหายากขึ้นมา ช่างน่าหงุดหงิดใจ แต่ว่าเขาก็ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกนี้ไม่ได้แล้ว ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงไปหมด เขาบอกไม่ถูกว่าสิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่ในใจนี่คืออะไรเพราะมันผสมปนเปไปหมด  เป็นห่วง คิดถึง หวั่นใจ อยากเจอ มันมากกว่านั้น และเขาก็ไม่คิดว่าจะมีคำๆใดที่สามารถอธิบายทุกความรู้สึกที่มีต่อความรักที่ชื่อเจนรักษ์ได้ ในทุกห้วงแห่งความรู้สึกทั้งดีและร้าย เขาหาคำบรรยายใดๆมาไม่ได้


ทั้งสุขจนยากจะอธิบาย
และทุกข์….จนยากจะรับไหว


ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้……


“………………” เอาใหม่…..


ก็ยัง…..ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้……


“เจน…..”  นี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่ามันเกิดอะไรไปแล้ว


ความเป็นห่วงนั้นเหมือนจะพุ่งจนหยุดไม่อยู่ นักรบจำต้องเรียกสติ บางทีเจนอาจจะยังอยู่แถวนี้ก็เป็นได้ แค่ติดต่อไม่ติด ไม่ได้หมายความว่าหายไปไหน เขากำมือถือแน่น ก่อนจะออกเดินด้วยความหวังจะได้เห็นคนตัวเล็กที่พอดีกับอ้อมกอดของเขาที่สุดที่ส่วนใดส่วนนึงของบ้าน เจนอาจจะออกไปข้างนอก และกำลังกลับเข้ามา และเมื่อเขาเดินหาตรงนั้น ก็จะได้เห็นรถของเจนกำลังมาจอดที่โรงจอด และเราก็จะเจอกัน เขาจะกอดเจนไว้


ทว่านักรบหาจนทั่วจนถึงโรงรถ เขาก็ยังไม่ได้เห็นเงาของเด็กคนนั้น มิหนำซ้ำ….รถของที่บ้านที่กลายเป็นรถประจำตำแหน่งของอีกคนก็ยังคงจอดไว้อยู่ และข้างในก็ไม่มีเจ้าของรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเขาพองฟู นักรบรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่….เขาจะไม่หยุดแค่นั้น ในที่สุดเขาก็พาตัวเองกลับเข้าไปในรถ กดโทรออกหาเจน แต่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครรับ และคนๆเดิมที่พูดกลับมาว่าไม่มีสัญญาณตอบรับ….ก็ทำให้เขารำคาญจนนึกอยากเรียกทนายมาฟ้องให้รู้แล้วรู้รอด


ในที่สุดเขาก็ทำตัวเป็นเด็กหนุ่มบ้าบอที่หาคนรักอย่างเป็นบ้า เดินเข้าออกร้านนู้นร้านนี้ให้ควักแต่พบเจอกับความว่างเปล่า ไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นเจนรักษ์นี่ดีหรือไม่ เจนไม่ค่อยไปไหน ถ้าไม่อยู่บ้านก็มาห้างนี่ แต่เพราะเป็นเจนนั่นแหละมันเลยทำให้เขาคิดไม่ออกอีกว่าควรจะไปไหนต่อหากไม่เจอที่นี่ เขายังคงโทรไปถามคนที่บ้านว่าเจนกลับมาหรือยัง ทว่าสิ่งที่ได้นั้นคือความว่างเปล่า เดินหาจนเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาแล้ว บางทีเจนอาจจะกลับบ้านตอนนี้แหละ นักรบหวังว่าเขาจะคิดถูกจึงขับรถกลับบ้าน ทว่ามือก็ไม่เคยหยุดโทรหาอีกฝ่ายเลย


เมื่อกลับถึงบ้าน ความจริงที่เขาไม่อยากให้เกิดซ้ำๆก็ยังเกิดขึ้น เจนยังไม่กลับมา และไม่มีใครทราบว่าไปไหน นักรบนั่งหน้าเครียด ตอนนี้แม่ของเขาไม่ได้อยู่ไทย และนักรบก็ยังไม่คิดจะบอกเพราะขนาดคุณอำไพยังไม่รู้ แล้วคุณพรรณีจะทราบได้อย่างไร และถ้าเธอไม่ทราบแล้วไปบอกให้ทราบ เกรงว่าเรื่องจะวุ่นวายกว่านี้ คิดอย่างไรก็เห็นแต่ทางตันและความวุ่นวาย นักรบจึงนั่งน่าเครียดอยู่ที่โซฟา


“ผมคิดว่าเราคงต้องแจ้งความ”  ด้วยความไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆที่เราก็คุยกันเป็นมั่นเหมาะว่าจะมาคุยกันตอนเขากลับมาแล้วแต่จู่ๆก็หายไป นักรบคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย  แม้ว่าจะไม่อยากให้เป็นจริงแต่เขาก็เห็นแค่ทางนี้เท่านั้น บรรยากาศในบ้านแม้จะอึมครึมมาเสมอ แต่แทบไม่เคยจะร้อนเป็นไฟลนได้ขนาดนี้มาก่อนเช่นกัน


“ใจเย็นๆนะคะคุณรบ”  แม่อำไพท้วง เธอยังอุ้มน้องวินไว้กับอก


“ผมว่าแจ้งไว้ก่อน เราไม่มีใครรู้เลยว่าเจนหายไปตอนไหน ผมเองก็ได้รับโทรศัพท์จากเจนว่าจะกลับมาคุยกันตอนเสร็จงาน หลังจากนั้นก็เปิดโหมดเครื่องบินไม่ให้ใครรบกวนยาวๆเพราะอยู่ในระหว่างการประชุมและพักผ่อนก่อนจะไปประชุม” ปกติถ้ามีเรื่องด่วนอะไรจะมีโทรศัพท์อีกเครื่องที่เลขากับแม่ติดต่อมาได้ ทว่าก็ไม่เคยมีใครติดต่อมาในระหว่างนี้ เขารู้สึกผิดเหลือเกินที่มัวแต่เห็นแก่งานจนลืมคิดว่าบางทีเจนอาจจะติดต่อมาขอความช่วยเหลือ นึกแล้วก็ได้แต่เจ็บใจตัวเอง


“คุณรบคะ แม่ไพว่าเจนไม่น่าเป็นไรหรอกค่ะ ไม่แน่ว่าอาจจะออกไปเที่ยวหรืออะไรแบบนั้นหรือเปล่า”


“ใช่ค่ะคุณรบ น้าเองก็ไม่คิดว่าเจนจะถูกทำร้ายหรอกนะคะ แต่ก็…..”


“ก็ไม่มีใครรู้นี้ครับว่าเกิดอะไร ผมว่าเราควรแจ้งความ”  เพราะนี่มันก็อาจจะเกินวันแล้วที่เจนหายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ เมื่อวานน้องวินเองก็นอนกับคุณอำไพ ไม่ใช่กับเจน….นั่นแปลว่าเจนหายไปนานแล้ว


“คือว่านะคะคุณรบ”  จินตนาเอ่ยปากออกมา เธอยังลังเลที่จะพูด


“…………”


“คือน้าก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่หรอกนะคะ” 


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“คือว่าวันก่อนคุณรดาติดต่อมา”


“………….”


“………….”


“เธอบอกว่าอยากคุยกับเจน”


“แล้ว….เจนได้คุยไหม”  เหมือนลำคอของเขาแห้งผากออกมาพร้อมกับความรู้สึกหวั่นเกรงอย่างไร้สาเหตุ


“คือ…น้าไปถามเจน เขาขอเบอร์คุณรดาไป…..”  เขาคิดเป็นอื่นไม่ได้เลย ยิ่งเป็นคนตรงๆและไม่เคยอยากจะหลีกหนีความจริงแบบเจนรักษ์ด้วยแล้ว


เขาคิดอย่างอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว….


xxx



รดาเองก็พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่ายินดีกับรักครั้งใหม่ของสามีเก่าได้หรือเปล่า
แต่ตอนนี้เธอมีความสุขดี….จนยิ้มออกมา……


รดาเพิ่งกลับมาเมืองไทยได้ไม่นาน และเธอก็อาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ได้สักพักแล้ว มันไม่ใช่ว่าเธอไม่มีบ้านอยู่ที่นี่ทั้งๆที่กำเนิดในเมืองไทย แต่เธอยินดีที่จะอยู่โรงแรมมากกว่าเพราะความสะดวกสบาย  บางเรื่องเงินก็ซื้อความสบายใจได้ แม้ไม่ได้ซื้อทุกอย่างได้เลย ครอบครัวของเธอได้ปลูกฝังค่านิยมที่เกี่ยวข้องกับการเงินให้ลูกหลานแต่เด็ก พวกเราทุกคนพยายามที่จะหาเงินเข้ากระเป๋าให้ได้มากๆ เพราะเชื่อว่าการมีเงินจะช่วยทำให้มีความสุข และเธอไม่เถียงเลย


แต่จะมีใครในบ้านรับรู้ว่าเงินก็ทำให้เราสูญเสียความสุขไปได้


เรื่องระหว่างเธอกับนักรบ รัตนสกุลนั้นเริ่มต้นมาเนิ่นนานตั้งแต่ตอนที่เธอไปเรียนต่อปริญญาที่อังกฤษ เขานั้นไม่ใช่พวกประเภทที่จะมาสังสรรค์ แต่วันนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้เรามาเจอกันที่บ้านของพี่คนไทยคนหนึ่ง และดูเหมือนว่าความใกล้ชิดสนิทสนมของนามสกุลของเราจะทำให้เขาเข้ามาในชีวิตของกันและกันได้มากขึ้น ทว่ารดานั้นไม่เคยรู้สึกกับเขา


นักรบสามารถเป็นอะไรให้เธอได้บ้าง….บอกตามตรงคือเขาไม่สามารถเป็นอะไรได้เลยแม้แต่เพื่อนหรือพี่ชาย กระนั้นความหวังที่จะสานสัมพันธ์เป็นคนรักนั้นยิ่งยากที่สุด เขาเองก็เป็นผู้ชายทั่วไป มีคบหาคนนั้นคนนี้ ไม่ได้เจ้าชู้ แต่ไม่ใช่คนที่มีเสน่ห์ในสายตา หรือเขามี แต่เธอไม่เคยมองเห็น แต่ก็ยังต้องมีเขาอยู่ในชีวิต เพราะประกาศิตความกระหายเงินของครอบครัว มันอาจจะดูเลว แต่เธอก็ต้องทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ให้ท่าเขาบ้างตามที่ถูกสั่งให้ทำ


และเธอไม่เคยต่อต้าน เพราะรดาเองก็ชอบเงินเหมือนกับคนอื่น แค่ไม่เคยชอบในตัวตนของนักรบ รัตนสกุล เขาดูเย็นชา รักคนไม่เป็น แต่ก็ยังริมาชอบกันได้ แต่จะว่าเพราะอะไรก็ตามที่ทำให้เธอไม่ชอบเขา มันก็อาจจะเพราะความไม่ชอบในตัวเองแบบที่เธอเป็นด้วย ความรักกับการเงินมันอาจจะเป็นไปได้ และเธอพยายามจะเชื่อมาตลอด แต่ในใจก็นึกขัดแย้งอยู่มาก เธอยังคาดหวังการพบเจอเจ้าชายในฝันจริงๆที่จะเดินเข้ามาพาเธอออกไปจากวังวนแห่งความงมงายเหล่านี้  อยากจะทิ้งตัวตนความเป็นรดาที่คบหากับทุกคนเพื่อผลประโยชน์ ไปสู่ความรักที่แสนบริสุทธิ์เหมือนในนิยาย


และในที่สุดพระเอกนิยายของเธอก็ไม่ใช่นักรบจริงๆ


รดาเจอกับคนที่ใช่หลังจากที่ได้เจอกับนักรบ มันเหมือนรักแรกพบและมันเกิดขึ้นเร็วมาก ยิ่งตอกย้ำว่าอะไรที่ไม่ใช่ก็ยิ่งไม่ใช่ ตอนนั้นเธอหลงเขามาก หลงจนไม่สนใจความรู้สึกของรุ่นพี่ที่ชื่อนักรบอีกเลย ทว่าทางครอบครัวก็ยังคงดึงดันให้เธอไว้หน้าเขาบ้าง ดังนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับคนรักจึงไม่เชิงหลบซ่อน และมันก็ไม่เคยซ่อนได้จริงๆเพราะนักรบและคนในครอบครัวก็รู้ดีถึงการมีอยู่ของเขาคนนั้น


เธอยังเด็ก เด็กมากๆ และเมื่อวันนึงเธอได้เห็นภาพบาดตาที่รุนแรงของเขากับผู้หญิงอีกคน มันก็ทำให้เธอจำต้องตัดใจ แต่เธอไม่ได้ศูนย์สิ้นทุกสิ่ง ด้วยความโกรธ แรงผลักดัน เธอตอบตกลงแต่งงานกับนักรบโดยไม่ลังเลด้วยหวังว่าจะทำให้ตัวเองรู้สึกภูมิใจที่เอาชนะคนรักได้ ทั้งๆที่เกมนี้มีแค่เธอที่ลงแข่งคนเดียวแท้ๆ ความรักของเธอกับนักรบมันไม่เคยเริ่ม และตอนที่เราพยายามจะเริ่ม มันก็พาลจะยิ่งอึดอัด


การมีลูกเป็นการตัดสินใจที่ผิดสำหรับเธอ รดาไม่ได้รักหรือชอบเด็กเป็นพิเศษ แต่เธอก็เห็นด้วยเมื่อนักรบยื่นข้อเสนอเรื่องการมีลูกมาให้ รัตนสกุลจำเป็นต้องมีผู้สืบทอด และครอบครัวของเธอก็อยากให้เรามีโซ่ทองคล้องใจเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจที่ทำร่วมจะมีการรับประกันที่ดี ในตอนนั้นเธอก็ยังเป็นคนโง่ๆที่คิดว่ามันถูกต้อง กับการให้กำเนิดเด็กคนหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ของทุกคน และก็คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับตัวเธอ แต่ไม่ใช่เลย….


เธอไม่ได้รับประโยชน์และยิ่งเสียประโยชน์จากเหตุการณ์นี้!

Talk:  เราบอกแล้วว่าจะมาทุกวัน และวันนี้ก็มาแย้วววววววววววว ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราจะค่อยๆมาไขปริศนาธรรมที่ว่าเจนรักษ์หายไปไหน ได้อย่างไร และทำไมกันนะคะ เป็นบทดราม่าสุดท้ายก่อนจบเรื่อง ต่อไปคุณรบจะได้เห็นขาอ่อนน้องเจนละค่า ขอโทษผู้อ่านในเด็กดีที่ไม่อาจจะลงคัทให้อ่านที่นี่ได้ แต่เราลงไว้ในหลายเว็บ ไปหาอ่านที่จากตรงนั้นและกลับมาเมนท์ตรงนี้ให้ก็ได้นะคะ ส่วนเราลงที่ไหนอย่างไร ไปหาเอาในแท้ก ในทวิต หรือเฟซเอาเด้อ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-09-2018 12:28:17
 :katai1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 02-09-2018 12:32:10
น้องเจนหายไปไหน รีบกลับมาหาพี่รบด่วนๆเลยเขาจะไปแจ้งความแล้วนะ
เป็นการเฉลยเหตุการณ์ที่ค้างคาและรู้สึกกดดันมากค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 02-09-2018 13:22:47
 :katai1: :katai1: เจนหายไปไหน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-09-2018 13:47:49
นักรบก็ไม่ถูกใจรดา แล้วนัดพบเจนเพื่ออะไร  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-09-2018 14:27:39
 :ling1: :ling1: :ling1: เจนนนนไปแอบอยู่ไหนกลับมาจะตีก้นให้ลายเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-09-2018 14:32:12
น้องเจนหายไปไหน แล้วรดาต้องการอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 02-09-2018 16:22:21
น้องเจนรีบกลับมานะ น้องกบคิดถึงแล้ว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-09-2018 19:04:32
 :เฮ้อ:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-09-2018 20:07:55
แล้วเจนหายไปไหน  :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 02-09-2018 20:19:20
เจนไปไหน  อย่ามาทำเป็นนางเอกผู้เสียสละน่ะ  น้องกบกับคุฯรบกำลังรอเธออยู่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-09-2018 20:42:40
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 02-09-2018 21:50:52
เราว่า เจนน่ะ 'รับ' มือกับปัญหาได้อยู่แล้วววว เพราะไรท์เคยบอกว่า คุณรบกับเจนถ้ารักกัน  ยังไงก็สบายเพราะเก่งทั้งคู่ ทั้งแคร์กันและกัน ไม่อยากให้เสียใจ ยังไงคนที่ต้องออกไปจากชีวิตคือ รดา คนที่กล้าเอาชีวิตที่เกิดมาแลกความความสุขตัวเอง คนแบบนี้เขาไม่เรียกว่าแม่  ก็แค่คนให้ที่อาศัยท้องมาเกิดก็เท่านั้น คนแบบนี้ไม่สมควรได้อะไรทั้งนั้น!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-09-2018 23:26:38
คุณรดาโตมาแบบไหนเนี่ย การปลูกฝังลูกบ้านนี้แบบบบบบบ !!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-09-2018 23:48:29
เจน ทำอะไรคิดถึงใจพี่รบบ้าง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 43] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 2.9.2018 P.23
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 03-09-2018 00:25:04
น้องกบรอเจนกลับบ้านอยู่นา  :hao5:
หัวข้อ: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 03-09-2018 19:06:21
#เจนไม่นก
ถ้าเจนคือนางร้าย รดาก็คือนางเอก?

ไม่ว่าเด็กชาย อัศวิน รัตนสกุลจะเป็นที่รักในปัจจุบันสักแค่ไหน
แต่จุดกำเนิดของเขา…มันไม่ได้สวยงาม…..


เราตกลงที่จะใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อมีเขาขึ้นมาและมันก็เกิดได้ไม่ยากกับหนุ่มสาวที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแต่ไม่ยอมมีสัมพันธ์ทางกายเช่นเขาและเธอ นักรบให้เกียรติเธอ เขาไม่ข่มเหงกันเพราะรู้ว่าเธอยังไม่นึกรัก แต่ก็ยอมรับว่ามีความหวังว่าสักวันนึงเราจะรักกัน เรื่องจริงไม่ใช่ละคร เธอไม่อาจจะรักคนที่ฝืนใจฝืนกายกัน จากความรู้สึกเฉยๆมันอาจจะกลายเป็นเกลียดชังได้ถ้าเขาทำแบบนั้น


ในที่สุดเธอก็มีน้องวินให้กับทุกคน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้มีให้กับตัวเอง หากเงินสามารถบันดาลทุกสิ่ง แล้วทำไมบางอย่างที่เป็นก้อนขมุกขมัวในหัวใจของเธอถึงไม่สามารถกำจัดให้หายไปได้ ในเมื่อก็ทำทุกอย่างที่ถูกต้องไปแล้ว แต่รดาไม่เคยคิดว่าการทำให้คนอื่นพอใจเพื่อแลกกับความสบายใจของตัวเอง มันไม่พอเพียงกับการจัดการหัวใจที่พุพังไปบางส่วนของตนเองได้ จนแล้ววันนึงเธอก็ได้รับทราบบางอย่าง


และฟางเส้นสุดท้ายก็ได้ขาดลง


ทุกอย่างเป็นการจัดฉาก คนที่เธอรักที่สุดไม่เคยนอกใจกัน และภาพต่างๆที่เคยเกิดขึ้นก็ย้อนกลับมาในหัวราวกับว่ามันฝังอยู่ส่วนใดส่วนนึงในจิตใจมาตลอด บางทีก็เป็นเธอนั่นแหละที่สงสัยแต่ไม่เคยหยิบมาตั้งคำถามเป็นจริงเป็นจัง ภาพวันที่มีการมาสู่ขอ งานแต่งงาน ตอนที่นักรบและทุกคนในครอบครัวของเธอเดินมาโน้มน้าวให้มีลูก วันที่เธอไปพบแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์เพื่อการมีบุตร ทุกความดีที่ทุกคนเคยทำ ถูกลบล้างได้ภายในเสี้ยววินาทีเดียวเพราะคำว่า


‘ไม่เคยมีความจริงใจ และหลอกลวงกันมาตลอด’


ในตอนนั้นเธอเหมือนนางเอกที่โดนกระทำอย่างเลวร้าย นักรบไม่เคยล่วงเกิน แต่ก็เหมือนสมรู้ร่วมคิดกับคนในครอบครัวในการทำร้ายเธอที่เขาบอกว่ารักและจะดูแล เขาสวมเขาให้กันอย่างเลือดเย็น รดาไม่เคยคิดอะไรกับเขาเกินคนที่เข้ามาในชีวิตและหวังดีต่อกัน ทว่าในวันนั้นทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด เขากลายเป็นตัวร้าย ที่แม้จะรักกัน แต่ก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว


เธออยากออกไปจากความน่าสะอิดสะเอียนนี่เต็มทน แต่ก็ไปไหนไม่ได้ เธอมีบ่วงร่วม คือเด็กที่เคยไม่เคยคิดต้องการจริงๆมาตั้งแต่แรก เธอลักลอบติดต่อกับคนรักที่อยู่กันคนละประเทศ เราสองคนจะต้องกลับไปพบกันแน่ แต่เธอก็ไม่สามารถพูดกับเขาได้อย่างเต็มปากว่าตอนนี้ในร่างกายของเธอมีใครอีกคน เพราะในความเป็นจริงมันไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนสามารถยอมรับการมีอยู่ของเด็กคนหนึ่งที่ไม่ใช่ลูกของเขา เธอไม่สามารถพาเด็กคนนี้ไปด้วยได้ในฐานะแม่ และยัดเยียดให้คนรักของเธอเป็นพ่ออย่างเห็นแก่ตัว แต่ก็ยังเห็นแก่ตัวอยู่ดีเพราะเธอไม่อาจจะสูญเสียเขาไปได้อีก และก็ไม่สามารถยอมรับนักรบ รัตนสกุลได้อีกแล้ว


แต่การเอาเด็กออกก็ไม่ใช่ทางที่เธออยากจะเลือก นับวันเธอยิ่งต่อต้านทุกคนหรือแม้แต่อาหาร ความเครียดทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนท้องที่ดีได้ การเข้าหาของนักรบยิ่งแล้วใหญ่ เธอปฏิเสธเขาอย่างรุนแรง และร่างกายของเธอก็ยิ่งตอบสนองความเกลียดชังนี่ สุดท้ายแล้วเราก็มีโอกาสที่จะสูญเสียน้องวินไป ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีกันในหัว เธอยังมีอนาคตที่ดีมากมายรออยู่ แต่ก็ผิดพลาดยอมทิ้งอนาคตที่ตัวเองต้องการมาจมปลักอยู่อย่างนี้ ในที่สุดต้องมีคนยอมที่จะหยุด และรดาก็ไม่มีปากเสียเพียงพอที่จะเริ่มได้เพราะเธอเริ่มมาตลอด แต่กลับไม่มีใครเห็นคุณค่า


นักรบจึงเข้ามายุติทุกอย่างที่เขามีส่วนเริ่ม…..


การเข้ามาของเขาในตอนแรกทำให้เธอไม่ไว้ใจ แต่เมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผลเธอก็เริ่มที่จะยอมรับข้อเสนอ ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ว่าเขาก็คิดมาดีแล้วว่าจะต้องยอม เพราะไม่เช่นนั้นมันอาจจะไม่ใช่แค่การเสียเพียงหนึ่ง แต่ก็อาจจะเสียถึงสอง และนักรบมีมโนธรรมกว่านั้น ความหวังในภาพทั้งหมดของเขาอาจจะพังครืน แต่เขาจะไม่ยอมเสียทุกอย่าง แม้ว่านี่อาจจะดูไร้หัวใจ แต่นักรบก็คือนักธุรกิจที่ต้องได้ไม่ใช่เสีย และถ้าจะต้องเสีย ก็จะไม่ยอมเสียทั้งหมด เขาต้องการ….


ต้องการลูกของเขา
และจะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว….


ข้อเสนอของเขาไม่ใช่สิ่งที่ตอบได้ทันที แต่ต่อให้เธอมีเวลามากอีกเท่าไหร่ ก็คิดว่านี่มันดีที่สุดสำหรับคนที่พังทลายและต้องการเริ่มใหม่อย่างเธอแล้ว เธออาจจะเห็นแก่ตัวและไม่อาจจะรู้สึกรักลูกได้อย่างเต็มหัวใจ แต่ก็ไม่อยากให้เขาตาย เธอยังต้องการเวลาที่จะเรียนรู้ความรู้สึกของตัวเองหลังจากความเกลียดชังนี่จบไปเสียที และหากอัศวินไม่ได้เกิดมา วันหนึ่งเธออาจจะรู้สึกผิดและเจ็บปวดเกินกว่าจะจินตนาการได้ 


และเพื่อไม่ให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปอีก เธอจึงหยุดโกหก และสารภาพความจริงกับแฟนหนุ่มที่ไม่ทราบเรื่องอะไร โชคดีที่เขายอมรับการตัดสินใจนี้ เราอาจจะทุกข์ แต่เราจะแก้ไขมันไปเรื่อยๆ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ความผิดพลาดของเธอฝ่ายเดียว เราต่างก็ผิดพลาด และมันจะต้องช่วยกันแก้ไข แม้วิธี…จะน่าลำบากใจ


นักรบถอยห่างไปจากชีวิตของเธอเพื่อความสบายใจของทุกคน เขาให้เธออยู่บ้านของเขา ให้อยู่ในการดูแลของคนในบ้านเพราะต้องการแน่ใจว่าลูกของเขาจะปลอดภัย เรามีการเซ็นสัญญายินยอมและป้องกันปัญหาการเรียกร้องในภายหลังแล้ว การหายไปของเขานั้นไม่ได้นิ่งเฉย เขาได้ไปปูทางการหย่าและทำให้ทุกอย่างมันไม่รุนแรงเกินไป ทุกอย่างควรจะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย เว้นเสียแต่ครอบครัวของเธอจะไม่มีทางยอม


แต่ในที่สุดพวกเขาก็ยอม รดามั่นใจว่านักรบคงจะยอมแลกบางอย่าง หรือทำบางอย่างเพื่อข่มขู่ให้อีกฝ่ายยินยอมกันง่ายๆ แต่แล้วไง มันไม่เกี่ยวกับเธอแล้ว เขาปล่อยให้เธอเล่นบทนางเอกที่เข้ากันไม่ได้กับเขาและอยากจะออกไปโดยยกลูกให้เขาดูแล เดิมทีบ้านนั้นไม่เคยยินยอมให้รัตนสกุลมีสิทธิ์ในตัวของน้องวินทั้งหมด แต่พวกเขาก็ต้องยอมเพราะนักรบมีทั้งสัญญายินยอม และยังเล่นนอกในทางธุรกิจไม่หยุด ทว่าเขาก็เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น้อยจึงแบ่งรับแบ่งสู้กันเรื่อยมา


จนกระทั่งเจนรักษ์…เข้ามา


ชื่อนี้ไม่เคยมีบทบาทมาก่อนในช่วงระยะเวลาที่เธอมีฉากแสดงร่วมกับเขา เราล้วนเป็นนักแสดงที่สวรรค์ลิขิต ชื่อนี้คงเหมือนกุญแจที่เข้ามาปลดปล่อยรัตนสกุลจากบ่วงที่เราร่วมสร้าง เมื่อเธอกับเขาหย่ากันแล้ว ทางบ้านก็ยินยอมส่งเธอไปเมืองนอกเพื่อเลี่ยงการตอบคำถามกับสังคมรอบข้าง เงินทองมักจะมาพร้อมกับอำนาจและความหน้าบางอย่างนี้แหละ แล้วมันก็เป็นไปตามที่เราคิดไว้ นักรบที่หายไปเขากลับไปคิดมาให้ ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการมากมายจากผู้ชายคนนั้น เธอคงไม่สะดวกสบายเท่าวันนี้


และทำไมเธอถึงกลับมาในชีวิตของเขาอีก….


เพราะการเข้ามาของเจนรักษ์ทำให้เกิดความหวาดระแวงภายในบ้านของเธอ คุณครูพี่เลี้ยงที่ถูกว่าจ้างโดยคุณอานั้นโดนขับไล่จากรัตนสกุลและเธออ้างว่าเด็กที่ชื่อเจนรักษ์ซึ่งเป็นลูกคนใช้ในบ้านพยายามทำทุกอย่างให้เธอถูกขับไล่ออกมาโดยการใส่ร้าย ซึ่งเป้าหมายคือการเข้าไปเป็นแม่ของ…น้องวิน และนั่นเท่ากับเป็นเมียของคุณรบ….


สำหรับรดาที่เคยอยู่กินในบ้านหลังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะมองมันเหมือนฉากในละครน้ำเน่า เจนรักษ์ที่เธอไม่รู้จักนั่นคงโง่เง่าสิ้นดีที่ทำแบบนั้นเพราะมันดูง่ายเกินไป ทว่าก็มีคนเชื่อ โง่เง่าจริงๆ แต่ก็เป็นไปได้เพราะอำไพเองก็ตั้งแง่กับรดามาตลอด ถึงกระนั้น เธอกับจินตนาก็ช่วยกันดูแลรดาในระหว่างที่ยังไม่คลอด แต่มันก็เพราะรดากำลังอุ้มลูกของคุณรบ ถ้าเป็นไปได้ อำไพคนนั้นคงไม่อยากจะเห็นหน้าเธออีก ที่ทำมึนตึงใส่กันไม่น่าใช่เพราะอยากกันที่ไว้ให้ลูกชายของเธอเข้าหาคุณรบ แต่น่าจะเป็นเพราะรักและสงสารคุณรบที่เธอเลี้ยงมามากกว่า


เมื่อได้รับการติดต่อจากที่บ้านให้กลับมา ตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าเธออยู่กินกับคนรักแล้ว มันคือการแก้แค้นในแบบของรดาเอง ในตอนนี้เธอนั้นจดทะเบียนสมรสกับเขาแล้ว และไม่คิดจะกลับมาวนเวียนอยู่ในความเกลียดชังและความโลภนี้ ต่อรองอยู่นานก็ยังดึงดันจะให้กลับมาอยู่ได้ เพียงแค่เธอกลับไปอ่อยนิดหน่อย…พวกเขาคงคิดว่านักรบรักเธอถึงขนาดจะกลับมาหา ใช่…พวกเขาคิดถูก นักรบเคยรักกันมาก ตอนนี้อาจจะหลงเจนรักษ์แต่ก็ยังมีใจให้เธออยู่ก็เป็นได้ แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าต่อให้เอาสิบรดาไปฉุดนักรบให้กลับมา เขาก็ไม่มีทางจะกลับไป


เพราะเขาคงไม่กล้ารักกันมากกว่ารักตัวเองอีกต่อไปแล้ว….


เธอติดต่อไปที่ทางนั้นเพื่อที่จะได้พูดคุยกับเจนรักษ์ก่อนโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร เพราะการติดต่อนักรบไปก่อนไม่ใช่ว่าเขาจะคิดไปเองเหรอว่าเธออยากได้ลูกคืนหรือกำลังจะเล่นแง่ เราอาจจะดูเหมือนจบด้วยดี แต่ก็ทิ้งแผลใจกันไว้ยาวและลึกเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ คนในบ้านนั้นแม้แต่จินตนาก็ดูเหมือนจะระแวงเธออยู่บ้างเหมือนกันทั้งๆที่เคยดีต่อกันมากมายจนเข้าขั้นประจบประแจง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในระหว่างนี้ และเธอก็อาจจะได้รู้หากได้คุยกับคนที่ชื่อเจนรักษ์


เป็นคนจริงเลยทีเดียว พอถามว่าคบกันอยู่เหรอ ก็ตอบตรงๆ ดวงตาของอีกฝ่ายไม่ได้ดูอ่อนแต่ไม่ได้ดูแข็ง ท่าทางฉลาดและกิริยามารยาทซึ่งดูออกว่าถูกปั้นแต่งให้ดูดี ทุกอย่างที่เป็นตัวเจนรักษ์ซึ่งมาหาเธอในวันนั้นทำให้เธอรู้ว่าต่อให้เป็นลูกคนใช้ ก็เป็นลูกคนใช้ที่ต่างจากในละครอย่างสิ้นเชิง บอกกันว่าเป็นลูกเศรษฐีหรืออะไรอย่างนี้เธอก็เชื่อ แต่พอได้คุยแล้วก็ไม่แปลกใจเลย เพราะเธอถามตรงๆ อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน…ฉลาด นอบน้อมบ้าง ไม่โอ้อวด แต่ก็ไม่ยอมให้ถ้าเธอจะมาขออะไรที่ให้ไม่ได้….


นับว่านักรบเลือกมาดีเลยทีเดียวคนนี้ และเท่าที่ดูก็คงจะรักกันมาก ไม่งั้นคนทางบ้านเธอไม่ดิ้นกันรุนแรงแบบที่จะฉุดเธอให้กลับมาให้ได้ และที่เธอมาในครั้งนี้ก็อยากจะมั่นใจว่าการเปิดตัวคนรักของเธอจะเป็นไปได้ด้วยดี นักรบ รัตนสกุลจะต้องไม่กลับมามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆอีก และเจนรักษ์ก็เหมือนจะทำให้มั่นใจได้ในระดับนึง


แต่ที่ยังมั่นใจไม่ได้…คือความรู้สึกของนักรบเอง เพราะยังไม่ได้ยินจากปากเขา ทว่าเหมือนฟ้าฝนดลบันดาลใจให้เธอได้รับฟัง ในขณะที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกอีกเบอร์ที่โทรเข้ามายามค่ำคืน


เป็นนักรบที่โทรมา….


“คุณคุยอะไรกับเจนรักษ์”  น้ำเสียงที่ดูไม่สบอารมณ์นั้นทำให้เธอแทบจะหลุดขำ ดูเหมือนว่าไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว


“ก็เปล่านี่ ทั่วไป ตักเตือนนิดหน่อย ไม่มีอะไร”


“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ผมกำลังขับรถไปหา”


“จะมาทำไม…”  เธอก็ยังคงระแวงเขาอยู่ดี


“ถ้าไม่ได้คุยต่อหน้าผมไม่มีวันเชื่อใจคุณแน่” แต่นักรบก็ระแวงเธออยู่เช่นกัน


“…………”


“ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้คุณคือเบาะแสที่ผมมี”


รดาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็ยินดีจะบอกชื่อของโรงแรม น้ำเสียงของเขาดูร้อนรน ผิดไปจากท่าทางเย็นๆติดจะเศร้าของเขาที่เธอเคยเห็น เธอไม่ได้คุยกับเขาอีกเพราะอีกไม่นานอีกฝ่ายก็คงจะมาหากัน ระยะทางจากบ้านหลังนั้นมาถึงที่นี่ในยามค่ำคืนใช้เวลาไม่นานนัก และนักรบควรจะมาถึงภายในครึ่งชั่วโมง แต่ล่วงเลยผ่านไปเป็นชั่วโมงเขาก็ยังไม่มา ระดับความสำคัญของเขาค่อนข้างต่ำในความรู้สึกเธอจึงไม่มีความกระตือรือร้นอยากพบเจอ แต่ผ่านไปถึงเที่ยงคืนแล้วก็ยังมาไม่ถึง….


น่าแปลกใจว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน?


xxx


นักรบไม่ใช่ว่าไม่ไป…แต่มีเหตุให้ไปไม่ถึง
นั่นเพราะความประมาทของเขาเองจึงทำให้ไปไม่ถึงโรงแรมแต่เกือบจะต้องมาจบที่โรงพยาบาลแบบนี้


เป็นความผิดของเขาที่ขับรถไม่ดูทางและเอาแต่ดูมือถือ ในระหว่างที่กำลังไปหารดาเขาก็เอาแต่กดโทรหาคนรักซึ่งหายตัวไป จนพลาดชนเข้ากับคันหน้าไปเต็มๆ ดีที่ว่าไม่แรงมาก เพราะรถคันนั้นบุบเล็กน้อย ส่วนเขาก็….มีรอยที่ใบหน้านิดหน่อย เพื่อเก็บไว้ย้ำเตือนความโง่ โชคดีที่คู่กรณีเองก็ไม่ติดใจเอาความกันมาก เขายินดีจ่ายค่าซ่อมและค่าทำขวัญให้ แต่ต้องโทรเรียกเลขามาเคลียร์ในยามวิกาลแบบนี้


“คุณรบทำไมซวยจังครับ เนี่ย!”  กลายเป็นว่าแทนที่จะไปหารดา เป็นอันว่าต้องกลับไปบ้านแทน เพราะไม่มีใครยินยอมให้เขาเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงอีกแล้ว…ก็คิดกันมากไป ใครมันจะหาเรื่องรถชนอีก!


เขาไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก ยื่นมือไปเอากุญแจรถของอีกฝ่ายมาก่อนจะขับกลับไปบ้าน เพราะตอนนี้แม่ไพที่ทราบเรื่องว่าเขารถชนยืนยันเช่นนั้น และน้ำเสียงสั่นเครือของเธอก็ทำให้นักรบต้องยินยอมกลับไปอย่างใจเย็น อย่างไรก็ตามนี่ก็ดึกแล้ว เขาก็เพิ่งคิดได้ว่าไม่ควรไปกวนรดาในตอนนี้  จริงๆเขาควรอยู่แก้ปัญหาเรื่องรถก่อน ไม่ควรทิ้งไว้ให้เพชรดูคนเดียว แต่ เพราะที่บ้านก็เหมือนจะวุ่นวายน่าดูจึงต้องรีบกลับไป โชคดีที่ออกมาได้ไม่เท่าไหร่จึงใช้เวลาไม่นานเลย


และเขาก็ได้เห็นพี่เลี้ยงที่รักกันมากร้องไห้เมื่อตอนที่เห็นหน้าเขาในตอนนี้ เธอรีบกุลีกุจอเดินเข้ามาหา สำรวจไปทั่วว่าคุณรบของเธอเป็นเช่นไรบ้าง และรอยช้ำม่วงนั่นก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมา กลายเป็นว่าตอนนี้เขามีหน้าที่ในการปลอบโยนแม่ของคนรักที่ร้องไห้อย่างหนัก เธอยืนยันจะให้เขาไปโรงพยาบาลให้ได้ ไปกับเธอเดี๋ยวนี้เลย และถ้าหากว่าแม่ไพเป็นขนาดนี้แล้ว เขาก็ต้องยอมที่จะไปตรวจดูว่าภายในไม่มีอะไรบุบสลาย


เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงกว่าพายุจะแลดูสงบ พวกเรากลับมาอยู่ที่บ้านรัตนสกุลด้วยหัวใจที่เหนื่อยล้า เจนยังไม่กลับมาและไม่ได้ดูมีที่ท่าจะกลับหรืออยู่ที่ไหนที่เรารู้ เขามองหน้าแม่ไพที่ดูเหนื่อยล้า ก่อนจะหันไปมองพระพายที่กลับมาในคืนนั้นเพื่อช่วยเลี้ยงดูน้องวิน ทำไมทุกอย่างมันดูวุ่นวายเช่นนี้หนอ….


“แม่ไพขอโทษนะคะคุณรบ”


“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าแม่ไพเป็นห่วง จะไม่ขับรถโดยประมาทอีกแล้ว”


“…………..”


“ไปพักก่อนเถอะนะครับ”  เขาลุกขึ้น ยิ้มให้เธออย่างอ่อนล้า ก่อนจะช่วยประคองให้พี่เลี้ยงคนสำคัญในชีวิตได้ลุกขึ้น คุณนักรบเป็นเด็กดีสำหรับเธอเสมอมา ทำไมอำไพถึงได้….


ทำเรื่องแบบนั้นลงไปกันนะ….


“คุณรบคะแม่ไพขอโทษ”


“ครับ?”  นักรบก็บอกว่าไม่เป็นไรอย่างไรเล่า


“แม่ไพผิดเองที่ทำให้คุณรบเป็นแบบนี้”


“………..”


“แม่ไพรู้ค่ะ ว่าเจนอยู่ที่ไหน”  เพราะเหตุนี้อย่างไรเล่า เธอถึงรู้สึกผิด แต่อำไพไม่ได้อยากเล่นสนุกกับความรู้สึกของคนอื่น เพราะเธอไม่เคยสนุกเลย ตอนนั้นอะไรกันหนอที่ดลใจให้เธอปิดบัง


เพราะความไม่ไว้ใจหรืออย่างไรกันนะ……..


วันนั้นลูก…ออกไปจากบ้าน เธอก็ถามตามปกติว่าไปไหน ทว่าคำตอบไม่ใช่สิ่งที่น่าฟัง…..รดาคือชื่อที่เธอไม่คิดอยากจะได้ยิน แม้ว่าทุกอย่างจะมีเหตุผลในตัวมันเอง คนทุกคนอาจจะยอมรับและสงสารชะตากรรมของคุณรดาที่ตกเป็นเครื่องมือ แต่คุณรบเองก็น่าสงสารสำหรับเธอเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเราอาจจะไม่ใช่แม่ลูก แต่เธอก็เอ็นดูเขามากและก็หวังให้เขามีความสุข แต่การมีอยู่ของคุณรดา มันเลวร้ายในความรู้สึก….


และเมื่อวันหนึ่งที่เจนรักษ์ ลูกชายที่เธอรู้สึกผิดอยู่เสมอเดินกลับเข้ามาในชีวิต เราสองคนต่างก็อ้าแขนรับกันและกัน การที่ลูกมาอยู่ที่นี่ ทิ้งศักดิ์ศรี ทิ้งการงาน ทิ้งโอกาสมากมายเพื่อเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่นี่ เธออดเสียดายแทนลูกไม่ได้ แต่ก็เห็นแก่ความสุขของเราสองคนจึงไม่เคยคิดอะไรอีก และวันหนึ่งที่เธอไม่นึกคิดก็เกิดขึ้น เมื่อคุณรบบอกกับทุกคนว่ากำลังคบหากันอยู่

เธอไม่ได้รังเกียจคุณรบ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมรับได้ทั้งหมด เจนนั้นคือลูกรักเพราะเธอมีเขาเพียงคนเดียว ช่างน่าเสียดายนักที่ไม่มีโอกาสจะแสดงออกให้รับรู้ถึงความรักที่มีให้ แต่ก็หวังมาตลอดว่าเจนจะรับรู้และเข้าใจกัน ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่เธอรู้ดีว่ามันก็แค่ ‘ดูเหมือน’ เจนคิดได้ แต่บางทีหัวใจของเจนก็เหมือนไม่เปิดรับเหตุผลนั้นๆ


การอยู่ร่วมกันมันอาจจะช่วยชดเชยเวลาที่เสียเปล่าไป อำไพรักลูกมาก และเจนก็รู้ดีว่าแม่รักและพร้อมจะสนับสนุนลูกในทุกก้าวของชีวิต การรักกับคุณนักรบนั้นอำไพก็ยินดี แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่เธอไม่รู้จัก บางทีเธอก็ไม่รู้สึกหวั่นระแวงในรูปแบบนี้ เพราะเธอรู้จักคุณนักรบมากไป จึงเกิดความไม่ไว้ใจในบางอย่าง และมันไม่น่าเกิดขึ้นเลย


ลูกออกไปพบกับเมียเก่าของคนรัก มันใช่เรื่องที่ดูดีที่ไหน เธอห้ามแล้ว แต่เจนก็ยังยืนยันจะไป พอถามว่าได้บอกคุณรบไหม อีกฝ่ายก็ไม่ตอบ เจนออกไปจากบ้าน และไม่กลับมาอีกเลย แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน เจนโทรมา บอกว่าจะไม่กลับบ้าน ขอกลับไปอเมริกาสักพัก ฝากบอกทุกคนด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เจนดูวุ่นวายอยู่ เราจึงไม่คุยกันมากมาย สั้นๆและได้ใจความ แต่มันมีความไม่เข้าใจ….


เธอไม่รู้ว่ารดาทำอะไรลงไปหรือเปล่า
และไม่รู้ว่าเจนคิดอะไรอยู่เหมือนกัน


“………..”  คุณนักรบเงียบ รับฟังกันต่อไป อำไพพูดต่อไปด้วยความรู้สึกผิด ด้วยเพราะไม่ไว้ใจในความสัมพันธ์ของคุณรบและรดา เธอรู้ว่าคุณรบคบกันเจน แต่ก็เคยรักผู้หญิงคนนั้นมาก เจนซึ่งเปราะบางกับเรื่องการเป็นมือที่สามอาจจะยอมถอยไปและหนี ดังนั้นเธอจึงไม่ควรให้เขาตามเจอในทันที อำไพจะบอกคุณรบในเวลาที่สมควรว่าเจนไปไหน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเธออยากจะเห็นให้มั่นใจ


ว่าคุณรบนั้นจะทำทุกอย่างเพื่อเจน….


“อย่าร้องไห้ครับแม่ไพ”  เธอคงรู้สึก….ผิดมากที่ทำให้คุณนักรบของเธอมีแผล แต่เป็นคุณอำไพก็ลำบากเช่นกัน คนหนึ่งก็ลูกที่เธอไม่เคยได้มีโอกาสเลี้ยงแต่ก็รัก ส่วนอีกคน…คือเด็กที่เธอสอนให้รู้จักความรักมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่ล้วนสำคัญแค่คนละรูปแบบก็เท่านั้น


“แม่ไพขอโทษนะคะ คุณรบ” เธอยังคงร้องไห้ เป็นนักรบที่ต้องช่วยซับน้ำตาให้ ก็ยังดีที่รู้ว่าเจนไปไหน โอกาสที่อีกฝ่ายมีความปลอดภัยแลดูสูงขึ้น เขาปลอบโยนอำไพอีกสักพัก พระพายเองก็ช่วยพูดให้เธอใจเย็น เมื่อเห็นเธอเริ่มจะสงบแล้ว เขาจึงลุกขึ้นและจะกลับไปห้องทำงาน


“คุณรบจะไปไหนครับ”   พระพายถาม


“ตอนนี้คุณเพชรคงยุ่งๆอยู่ ผมว่าจะไปจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน”  อเมริกา…. เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล และเขาควรจะเริ่มจากที่ไหน บอกตามตรงว่านักรบนั้นเริ่มรู้สึกว่าตนโง่มาก โง่แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็ต้องยอม เพราะนี่คือเรื่องของความรัก ความรักทำให้ทุกคนบนโลกล้วนลืมที่จะใช้สมองให้มากกว่าหัวใจ และความรักของเขาก็ชื่อเจน….


มันไม่มีคำว่า ‘ดูเหมือนเจน’ อีกต่อไปแล้ว


“ทุกๆคนโอเคไหมครับ”  แต่นักรบยังไม่ทันได้ทำอะไร เลขาที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจอะไรนัก สภาพของคนในบ้านรัตนสกุลดูเหมือนจะยังไม่มีใครได้นอน บรรยากาศตอนนี้ดูไม่ดีนัก ทั้งๆที่เพชรอาจจะอยากดีใจที่เขาไม่ใช่คนเดียวในเรื่องนี้ที่ทำงานหนักคนเดียว


“มาพอดีเลย ผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อย”  บางทีให้เพชรจัดการให้ น่าจะเร็วกว่า


“มีอะไรกันเหรอครับ”


“รบกวนติดต่อครอบครัวของเจนที่อเมริกา หรือเคลวิน คูเปอร์ให้ผมหน่อย”


“…….เคลวิน…คูเปอร์”   ใครกันวะ….เพชรตามไม่ทันแล้วครับพี่ชายรบ


“คุณรบไปเตรียมตัวเถอะนะครับ เดี๋ยวผมจองตั๋วเครื่องบินให้”  พระพายเองก็พูดออกมา แต่ยังไม่มีใครอธิบายให้เพชรเข้าใจ


“งั้นผมรบกวนหน่อยนะ”  เขาหันไปขอบคุณ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินขึ้นห้องไปจัดการเตรียมข้าวของที่จำเป็น เขาอยากได้ไฟลท์ที่เร็วที่สุด แต่ก็คิดว่าพระพายคงเข้าใจดี เด็กคนนี้ฉลาดและรู้ทันความคิดเขาในระดับนึง


สักวันคงไม่พ้นได้ทำงานด้วยกันอย่างแน่นอน….


“แล้วคุณรบจะให้ผมติดต่อไปเรื่องอะไรเหรอครับ”  เพชรแย้งขึ้นมา เขาคงโทรไปหาอีกฝ่ายไม่ได้หากรู้เรื่องแค่นี้  นักรบชะงัก เขาเพิ่งนึกได้ว่าครอบครัวของญาติเจนที่นั่นหรือเคลวิน คูเปอร์ที่ว่าไม่ใช่คนธรรมดา อยู่ๆจะโทรไปแล้วบอกว่าอยากคุยก็คงจะไม่ได้  เขากัดริมฝีปาก ใช้ความคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกไป


“บอกว่าติดต่อมาด้วยเรื่องของเจนรักษ์”


“………”


“บอกเขาไปว่าผมคือคนรักของเจน!”


นักรบจะไม่อ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว!


Talk: ชื่อเรื่องไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเท่าไหร่ แต่เนื้อเรื่องคือพลิกจากที่คิดไปบ้างไหมคะ มีใครเดาได้ไหมว่าเจนไปไหน และทำไมคุณรบถึงตามหาแบบงงๆ เข้าใจแม่ไพกันนิดนะคะ แม่เขาก็ห่วงลูกแต่ก็รักคุณรบค่ะ แต่ว่าก็ไม่เคยทำอะไรให้เจนเลย ก็อาจจะแบบชั่ววูบไปบ้างอยากปกป้องรู้สึกผิด คือแม่เขาก็เห็นว่าคุณรบเขาเคยรักเมียเก่ามากด้วย พอรู้ว่ารักกันก็ไม่อาจจะวางใจได้ สถานการณ์ในตอนนี้มันเหมือนบีบๆให้แม่ไพเลือกลูกกับคุณรบด้วยแหละค่ะ ตัดสินใจลำบากเหมือนกันเนาะ ทั้งนี้เราไม่เคยวางตัวละครแม่ไพอยู่ในกลุ่มชิปเปอร์นะคะ55555 นี่คืออีกหนึ่งตัวละครที่มีหลายมุมของเรา

พี่เคลจะกลับมาอีกสักตอน มารอดูกันว่าจะเป็นยังไงนะคะ ดราม่าคราวนี้ค่อนข้างสั้น เพราะเหตุการณ์จริงเกิดแค่ 2-3 วัน พอเขารักกันอะไรๆก็ชัดเจนอะเนอะ ยังไงเรากลับไปอเมริกากันสักครั้ง และทิ้งน้องกบไว้ในการดูแลของชาวชิปเปอร์นะคะ5555 วงวารน้อง บทน้อย ถึงจะมีอิมแพคเยอะก็ยังบทน้อยอยู่ดี แต่ไม่ต้องห่วง พระเอกตัวจริงอย่างน้องวินจะมีตอนพิเศษของตัวเองแน่นอน ซึ่ง…ยังแต่งไม่เสร็จอ่ะ5555

จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เห็นขาอ่อนน้องอยู่ดี แต่สักวันค่ะ สักวัน มันจะจบแล้วต้องได้เห็น อดทนรอกันสักนิดนะคะ เราอาจจะลงมืดๆหน่อยเพราะต้องกลับจากทำงาน แต่ถ้าวันไหนค่ำๆยังไม่มา จะพยายามมาลงตอนดึกๆนะคะ

หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-09-2018 19:29:58
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-09-2018 19:32:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Destiny ที่ 03-09-2018 19:42:12
ทำไมรู้สึกว่าน่ารำคาญขึ้นเรื่อยๆ จังคะ นิสัยเจน คิดมาก คิดไปเองคนเดียว มีอะไรไม่บอก ทำอะไรไม่ถาม ความมีเสน่ห์ช่วงแรกหายไปหมดเลย ตอนนี้นิสัยเจนรักเหมือนผู้หญิงช่วงมีประจำเดือนเลยจริงๆนะ ขออภัยหากทำให้คนเขียนรู้สึกไม่ดีนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายภาษาสวยๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-09-2018 19:55:52
เจนทำไมทำตัวเป็นเด็กแบบนี้อะ
ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 03-09-2018 20:08:30
รอ ต่ออีกๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 03-09-2018 20:26:48
อย่างน้อยเราก็ไม่ได้คิดไปคนเดียว ทำไมรู้สึกว่าตัวละคร น่ารำคาญ เยอะ เวิ่นเว้อจังเลยอะคะ เอะอะหนีตลอด
อีกเรื่องคือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภาษาดี สวย แต่บทบรรยายเยอะมากกก เยอะจนดูเหมือนน้ำ เราเลื่อนผ่านๆเลย ทนอ่านไม่ไหว เราไม่ใช่ประเภทยาวไปไม่อ่านนะคะ แต่อันนี้เรารู้สึกว่าบรรยายไปเยอะมากก คนคุยกันอยู่ไม่กี่ประโยค
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Dadidice ที่ 03-09-2018 20:30:24
ทำไมรู้สึกว่าน่ารำคาญขึ้นเรื่อยๆ จังคะ นิสัยเจน คิดมาก คิดไปเองคนเดียว มีอะไรไม่บอก ทำอะไรไม่ถาม ความมีเสน่ห์ช่วงแรกหายไปหมดเลย ตอนนี้นิสัยเจนรักเหมือนผู้หญิงช่วงมีประจำเดือนเลยจริงๆนะ ขออภัยหากทำให้คนเขียนรู้สึกไม่ดีนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายภาษาสวยๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 03-09-2018 21:18:09
รอลุ้นล่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-09-2018 21:35:18
ยังไงๆ   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-09-2018 21:38:57
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 03-09-2018 21:51:16
เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนต่อไปค่ะะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 03-09-2018 23:40:31
ไหนบอกเข้าใจกันแล้วไง ไหนบอกเจนจะแคร์แค่คนที่เจนรักไง แล้วบินกลับไปอเมริกาทำไมทำไมไม่คุยไม่พูดกันดีๆ ถ้าต่อไปจะเลิกกันมันก็เพราะนิสัยไม่ยอมพูดยอมคุยกันของเจนนี่แหละ แอบเสียดายนิสัยที่มั่นใจของเจนนะ คือมาตอนแรกๆเจนเซลฟ์มากจริงๆไม่น่าเป็นคนที่ไม่มั่นใจอะไรแบบนี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-09-2018 23:46:27
ความรักมันก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้าง แต่เราก็ยังไม่รู้เลยนะว่าเจนคุยอะไรกับรดาถึงรีบปุ๊บปั๊บไปอเมริกาแบบนี้ รอเจนแถลงข่าวจ้า คุณรบตามไปแล้วเจนโดนแน่ o18 ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 03-09-2018 23:58:45
นี่แอบคิดอยู่ว่าหรือน้องจะกลับอเมริกา(จริงๆคือคิดถึงพี่เคล><)
คุยกันให้เข้าใจนะ มีอะไรก็บอกเขาก่อน จะได้ไม่วุ่นวายขนาดนี้
ส่วนรดาก็เข้าใจความรู้สึกแล้วก็แนวคิดแล้วล่ะ ว่ายังไงก็ไม่เข้าไปยุ่งกับบ้านคุณรบเด็ดขาด
แต่คือพอคุณรบประสบอุบัติเหตุ รดาก็หายไปจากสารบบเลย ไอ้ที่จะถามจะคุยอะไรก็ไม่มี
รู้สึกค้างคาแทนรดาเลยค่ะ อยากจะโทรกลับไปถามจี้ทำไมยังไม่มาอีกอะไรแบบนี้ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-09-2018 00:11:39
 จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-09-2018 00:32:31
เจนนนน เฮนโล่วววววววว
ไปลากแฟนคุณรดากลับมาเรอะ รึยังไง
เจนต้องคิดให้มันน้อยลงหน่อยน๊าาา
หัวข้อ: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 04-09-2018 18:21:42
#เจนไม่นก

เจนรักษ์-เคลวิน-นักรบ

 

 

“Thank you so much. We will wait for the good news” ขอบคุณครับ เราจะรอข่าวดีจากทางคุณ เจ้าของร่างสูงนั้นพูดเช่นนั้นกับปลายสาย พระพายมองเลขาของคุณรบที่ดูเหมือนไม่ใช่คนที่ตนเคยรู้จักมาก่อน แต่ก็ไม่แปลก จะมาเป็นเลขาคุณรบ หากไม่ทำงานเก่ง ก็คงจะอยู่ด้วยกันไม่รอด

 

 

คุณรบเพิ่งขึ้นไปได้แค่สิบกว่านาที แต่ทำไมคุณเพชรถึงได้ติดต่อไปที่ฝั่งนั้นได้เร็วนักล่ะ ก็เพราะอำไพนี่แหละที่เป็นคนให้เบอร์ติดต่อไปที่ทางบ้านคูเปอร์ และทางคุณพราวก็รีบประสานงานให้ไปคุยกับทางเลขาของคุณเคลวินเพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครติดต่อเขาได้เช่นกันจึงอาจจะต้องผ่านเลขาของเขาอีกที และเมื่อได้เบอร์มา คุณเลขาของคุณรบก็จัดการเข้าไปปะฉะดะ…อืม ก็จะดูรุนแรงไปนิด

 

 

แต่เราไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร และไม่มีใครรู้ว่าทำไมคุณรบถึงติดต่อไปที่พี่ชายของคุณเจนก่อน ทำไมไม่เป็นคนอื่น อาจจะเพราะเจนเคยบอกว่ามีความสนิทสนมนับถือกันอย่างพี่น้อง และการไปรบกวนผู้หลักผู้ใหญ่ในตอนนี้เกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างเขากับเจนรักษ์มันก็อาจจะดูไม่ดี เขาคิดว่าเคลวินที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวน่าจะคุยง่าย หรือไม่ก็คุยยากไปเลย ของแบบนี้ก็ไม่รู้หรอก แต่มันคงเป็นสัญชาตญาณในยามที่เกือบจะจนตรอกล่ะมั้ง และอย่างที่คิดไว้เมื่อเพชรลองตะล่อมถามคนที่บ้านหลังนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าเจนอยู่ไหนเช่นกัน

 

 

แล้วทำไมไม่ติดต่อไปที่เจนล่ะ เพราะพวกเขาพยายามกันมาตลอดไม่ใช่เหรอ เจนอยู่ต่างประเทศ ปิดเครื่องไว้ และไม่มีใครรู้ว่าจะติดต่อได้อย่างไร ในระยะเวลาอันสั้นและเต็มไปด้วยความร้อนรน คุณรบมองหมากที่ต้องเดินด้วยความพยายามที่จะรอบคอบที่สุด ลูกทีมเรือรบเจนที่อยู่ที่นี่ก็พยายามจะช่วยกัปตันอย่างเต็มที่เหมือนกัน ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเริ่มแล้ว แต่เราก็ไม่รู้ว่าปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้นี้จะทำให้เขาไปถึงฝั่งฝันหรือไม่

 

 

“ได้แต่รอละนะ”  เพชรพูดขึ้น เขายิ้มให้กับพระพายที่กำลังวุ่นวายอยู่หน้าจอคอมและมือถือ ในช่วงระยะเวลาไม่นาน พระพายเองก็หาตั๋วเครื่องบินเดินทางไปนิวยอร์คให้กับคุณรบได้ เด็กคนนี้มีไหวพริบ ฉลาด และรวดเร็ว แค่แนะนำวิธีการที่ควรใช้ในยามเร่งด่วนแบบนี้เล็กน้อย พระพายก็เข้าใจโดยเร็วและทำตามทันที

 

 

“พายได้ไฟลท์ที่เร็วที่สุดให้แล้ว”  พระพายสั่งปริ้นท์เอกสาร ก่อนจะยื่นรายละเอียดไฟลท์ให้กับเลขาตัวจริง เพชรนั้นรับไปดูก่อนจะมีรอยยิ้มอย่างพึงใจออกมา ดูจากเวลาแล้วคงต้องรีบไป ไม่งั้นอาจจะไปบอร์ดดิ้งไม่ทันการณ์ พระพายก็ภูมิใจที่ได้เป็นประโยชน์กับคุณรบบ้าง เด็กหนุ่มยิ้มกว้างออกมา

 

 

ก่อนที่ทุกสิ่งจะเหมือนหยุดนิ่งเมื่ออีกคนวางฝ่ามือของเขาบนหัวของพระพาย

 

 

“…………..”

 

 

“เก่งมาก เด็กดี”  ใช่….พระพายรู้ว่าตัวเองเก่ง

 

 

แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลามันเหมือนหยุดไปชั่วครู่แบบนั้น….

 

 

“Hello!” เวลาเหมือนกลับมาเริ่มเดินอีกครั้งเมื่อเพชรได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศ เด็กหนุ่มตัวบางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทั้งๆที่ไม่ได้มีเหตุการณ์น่ากลัวอะไรเกิดขึ้นสักนิด ใบหน้าน่ารักพยายามผินหนีภาพแผ่นหลังของเลขาหนุ่มที่หันหลังไปคุยกับผู้อื่น แต่สายตาไม่สามารถหยุดเหลือบมองได้เลย

 

 

พระพายก็ไม่ชอบความคิดของตนเองสักเท่าไหร่….

 

 

เขาเดินออกไปแล้วทิ้งไว้แค่พระพายที่ใจเต้นแรง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระพายได้เจอคุณเพชร เราเจอกันบ่อยจะตายและตอนนี้พระพายก็อยู่ที่หอพักซึ่งมีเขาเป็นเจ้าของด้วย และใช่ว่าตนจะกลับมาบ้านรัตนสกุลบ่อยเสียเมื่อไหร่ เสาร์อาทิตย์ก็ได้เจอพี่ชายคนนี้อยู่บ่อยครั้ง บางทีเขาก็เอาอะไรมาให้กินจากที่บ้าน ท่าทางเล่นๆและเข้าถึงง่ายทำให้พระพายยิ้มและบางทีก็ส่ายหัวระอาไปบ้าง แต่บางมุมที่หาได้ยากหรือพระพายไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก

 

 

กลับทำให้ใจเต้นตึกตักแบบที่ต้องคอยห้ามตัวเองเสมอ

พระพายไม่มีสิทธิ์ ท่องไว้สิพระพาย….ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์

 

 

xxx

 

 

“This is Calvin Cooper speaking”

 

 

เคลวิน คูเปอร์กำลังพูดอยู่

 

 

“May I speak to….umm…”

 

 

ผมขอคุยกับ…เอ่อ….

 

 

“Someone who claimed himself to be Jen’s boyfriend!”  ใครสักคนที่เคลมว่าตัวเองเป็นแฟนของเจน!

 

 

เพชรว่าตัวเองก็เอาไม่อยู่แล้วล่ะงานนี้…..

 

 

ท่องนะโมตัสสะในใจได้หนึ่งจบก่อนจะตอบเขาให้รอสายและเดินไปหาคนที่แอบอ้างตัวว่าเป็นแฟนของเจนที่ห้อง อ้าปากพะงาบพะงาบให้เจ้านายดูว่าใครโทรมา คุณนักรบที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะรับสายไปคุยเอง คนจริงมันต้องอย่างนี้แหละ กล้าทำกล้ารับ และกล้าโดนเขาด่าด้วย เพชรย่องออกมาเพราะนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย แม้จะอยากเสือกเพียงใดแต่แววตาของคุณนักรบช่างไม่ปราณีกันในขณะนี้จริงๆ

 

 

“Nakrob speaking”  นักรบกำลังพูดอยู่

 

 

“คุณเป็นใคร” อีกฝ่ายตอบกันกลับมาด้วยภาษาที่ทำให้เขาต้องเบรกทุกสิ่งที่อยากจะพูดออกไป เจนไม่เคยบอกว่าพี่ชายพูดไทยได้ แถมชัดด้วย…

 

 

“ผมคบกันเจนอยู่”

 

 

“แล้วติดต่อมาทางผมทำไม”

 

 

“……….”

 

 

“ว่าไงครับ คุณนักรบ”

 

 

“ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เจนหายตัวไปและติดต่อไม่ได้”

 

 

“………….”

 

 

“ผมอยากเจอน้องชายของคุณ เลยลองให้เลขาติดต่อไปดูเผื่อว่าคุณจะทราบ”

 

 

“จองตั๋วเครื่องบินไว้หรือยัง”

 

 

“ครับ”

 

 

“เอาเป็นว่าผมจะให้คนไปรับคุณที่สนามบิน ให้เลขาของคุณติดต่อมาเรื่องไฟลท์และการติดต่ออีกทีละกัน”

 

 

“ขอบคุณมากครับ”  นักรบเองก็ไม่รู้ว่าเขาไว้ใจอีกฝ่ายได้ไหม แต่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสีย อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าเคลวิน คูเปอร์คุยง่ายกว่าที่คิด อาจจะเพราะเขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร และเจอกับอะไรมาบ้าง

 

 

“ยังไงก็…ถ้ามีอะไรที่ต้องเคลียร์ก็มาเคลียร์กันให้เรียบร้อย”

 

 

“……….”

 

 

“อย่าทำให้เจนเสียใจ”  และหลังจากนั้นเราต่างก็วางสายเพื่อไปวุ่นวายกับตนเอง

 

 

การหายไปของเจนทำให้เขาแทบบ้าตาย นี่มันภารกิจควานหาข้ามซีกโลกหรือนี่ เขาเดินออกมาพร้อมกระเป๋าเดินทางที่ไม่แน่ใจว่าใส่ทุกอย่างครบหรือไม่ เลขาของเขาที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนก็รอกันอยู่ เพชรจะขับรถไปส่งเขาที่สนามบิน สั่งงานกันในรถและทางโทรศัพท์จนพอใจ เขายุ่งวุ่นวายกับงานและข้อมูลต่างๆที่หามาได้ในระหว่างนี้ พอรู้ตัวก็ได้ยินประกาศให้ปิดเครื่องมือสื่อสารแล้ว

 

 

รอก่อนนะเจน….

พี่กำลังจะไปหาเดี๋ยวนี้…..

 

 

.

.

.

.

.

เป็นอย่างที่เคลวิน คูเปอร์บอกไว้ เขาส่งคนมารับ

แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากำลังจะไปไหน…..

 

 

แม้ว่านักรบจะคบหาเปิดใจกับเจนแล้ว แต่เราก็ยังจะต้องเรียนรู้กันให้มากขึ้น กว่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นเจนรักษ์ เด็กคนนั้นเจออะไรมาบ้าง ถูกเลี้ยงมาในสังคมแบบไหน ถึงได้แข็งแกร่งเหมือนหินผา แต่ก็บอบบางราวใบไม้ไหวได้แบบนั้น นักรบกล่าวทักทายคนที่ติดต่อโทรหากันเพื่อจะรับเขาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง นักรบเดินหน้าแล้ว และเขาถอยกลับไม่ได้

 

 

เขามองไปยังวิวเมื่อง นิวยอร์คมีความวุ่นวาย โดยรวมมีความคล้ายกรุงเทพ รถที่ติดเหมือนกันก็ทำให้เขาหงุดหงิดได้ไม่ต่าง ทั้งๆที่ควรจะคุ้นเคยได้แล้วแต่ในยามที่อยากจะเจอบางคนจนใจจะขาด เขาทำใจให้เย็นได้ยากเหลือเกิน แต่ละวินาทีมันเดินช้าราวกับประสิทธิภาพของนาฬิกานั้นแย่ลง แพงเสียเปล่าแต่ทำไมเดินช้าเช่นนี้

 

 

ทว่าเวลาก็ไม่เคยหยุดเดินแต่อย่างใด เป็นความรู้สึกเรานั้นไซร์ที่รั้งไว้ทั้งนั้น

 

 

ในที่สุดรถก็จอดอยู่ที่หน้าตึกแห่งหนึ่ง นักรบนั้นเดินลงจากรถ เขามองไปรอบๆด้วยหมายจะจดจำหรือมองหาใครบางคนแต่ก็ยังไม่เห็นมีใครที่คุ้นตา รอจนกระทั่งใครสักคนเดินออกมาทักทายและเชื้อชวนให้เขาเดินเข้าไปข้างใน เท่าที่ได้คุยกัน คนๆนี้บอกกับเขาที่นี่คือที่พักของเจนและเจนก็อยู่บนห้อง เขารับทราบในข้อมูลและเชื่อมั่นว่าการแก้ปัญหานี้จะถูกจัดการโดยให้ความเป็นส่วนตัว แต่เคลวิน คูเปอร์อาจจะส่งคนมาอยู่ที่นี่เพื่อไม่ให้เขาทำอันตรายต่อเจนรักษ์

 

 

ก็ยังต้องระวังกันบ้างเพราะไม่รู้จัก

แต่ก็ถือว่าใจดีแล้วที่เปิดโอกาสให้มาหา

 

 

เขามายืนอยู่ที่หน้าห้องของเจน ตัวตนของอีกฝ่ายที่เขาไม่เคยได้เห็น นักรบกำลังจะได้เห็นมันแล้ว ทั้งนี้แม้ว่าเขาจะพร้อมเสมอที่จะพบเจอกัน แต่เมื่อมาถึงเวลาจริงๆ ความรู้สึกหวาดกลัวบางอย่างก็บุกโจมตี ถ้าเจนไม่อยากเจอกันและต่อต้านล่ะ เขาจะรับได้ไหม อย่างน้อยก็อยากจะรู้นะว่านักรบทำผิดอะไรถึงได้หนีกันไปหรือปิดหนทางที่จะติดต่อกันแบบนี้ เพราะมีแต่ความไม่เข้าใจ เขาจึงอยากที่จะเข้าใจและกลัวที่จะเข้าใจพร้อมๆกัน

 

 

แต่ในที่สุด….เขาก็ทำการเคาะประตูห้องของอีกฝ่ายไปแล้ว

 

 

หากจะพูดว่าการมาที่นี่เขารู้สึกเหมือนเวลามันเดินช้าลง ทว่ามันเทียบเท่ากับตอนนี้ที่เขารับรู้ได้ถึงทุกจังหวะการหายใจเข้าออกของตนเองไม่ได้เลย ดวงตาของเขาพร่ามัว รู้สึกเหมือนประตูบานนั้นทำท่าจะเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ความกลัวก่อให้เกิดภาพหลอน แต่ก่อนที่เขาจะเป็นอะไรไป…นักรบก็อยากจะให้ตัวเองได้มีโอกาสพูดคุยกับเจนรักษ์ดีๆสักครั้งหนึ่ง อาจจะไม่ได้ฟังคำนั้นก็ไม่เป็นไร

 

 

แต่ขอให้ได้บอก…ออกไปก่อนจะได้ไหม

 

 

กริ๊ก….

 

 

“………….”

 

 

“…………”  ในที่สุด….เจนก็เปิดประตูออกมา

 

 

“…………”

 

 

และกำลังจะปิดประตู….

 

 

“เจน! ได้โปรด!”  นักรบรีบสอดมือเข้าไปในช่องว่างนั่น แม้ว่าเจนจะเปิดประตูออกมาเพียงนิดและเมื่อได้เห็นเขาก็จะปิดลง แต่อย่างไรก็อยากให้ได้อธิบายหรือได้ฟังกันก่อน

 

 

เราอย่าปิดโอกาสที่จะรักกันอีกได้ไหม

 

 

“คุณรบ ทำไมมาอยู่ที่นี่”

 

 

“ผมมาหาคุณ กลับกันเถอะนะ”

 

 

“………..”

 

 

“ได้โปรด….กลับไปกับผมเถอะ”

 

 

“เจน….”

 

 

“ผมขอร้องล่ะ เราคุยกันเถอะนะเจน ไม่พอใจอะไรก็บอกมาเถอะนะ” เขาเห็นดวงตาที่ไหวหวั่นของเจนผ่านทางช่องแคบของประตูที่เปิดอ้าออก ดวงตาของเจนสื่อความหมายได้ดีกว่าคำพูด และเขาก็ขอคิดไปเอง…ว่าเจนยังมีความรู้สึกดีๆหลงเหลือให้แก่กัน

 

 

“คุณรบ…”

 

 

"ผมไม่ได้รักรดาอีกต่อไปแล้ว”

 

 

“……..”

 

 

“แต่ผมรักคุณ”

 

 

“………..”

 

 

“ให้ผมได้รัก….ให้พี่ได้รักเจนได้ไหม”  สรรพนามที่คุ้นเคยในช่วงนี้ถูกนำกลับมาใช้ เขาดึงความกล้ามาถ่ายทอดความรู้สึกที่มีทั้งๆที่ไม่ใช่คนพูดเก่งหรือปากหวานอะไรขนาดนั้น ดวงตาของนักรบเหมือนะจะถ่ายทอดทุกอย่างออกมาให้เจนได้รู้ มือของเขาที่ยังกั้นประตูไว้บอกเจนว่าไม่มีทางที่เขาจะเลิกราง่ายๆ บางทีถ้าอยากจะจากกันไป

 

 

อาจจะต้องตัดมือเขาไปก่อน….

และเจนล่ะจะว่าอย่างไร….

 

 

ภายใต้ดวงตาวูบไหวของเจนรักษ์ที่มองมา คำหลายร้อยพันไม่ได้ถูกถ่ายทอดออกไป แต่เจนเองก็มีสิ่งที่อยากจะพูด ทว่ามันจะเป็นไปในทางไหนก็ไม่มีใครรู้ เจนจะใจแข็ง หรือใจอ่อนให้กับนักรบหรือเปล่า ดวงตาของเจนอาจจะมีความรักอยู่ในนั้นแต่สมองของเจน ก็อาจจะห้ามปรามกันไม่ให้แสดงคำว่ารักออกไปแล้ว หากเราไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน เราก็จะไม่ระแวงกันอีก หากว่าเราไม่เคยเจ็บปวด….ก็คงไว้ใจกันมากกว่านี้

 

 

นักรบคงไม่ได้คาดหวังความไว้ใจจากเจนมากเกินไปใช่ไหม?

 

 

“คุณรบ”  เจนเรียกเขาออกมา น้ำเสียงที่แผ่วเบาเป็นเหมือนน้ำที่หลั่งลงมาจากฟ้าบนผืนแผ่นดินที่แห้งผาก

 

 

“พี่….ขอร้อง”

 

 

“ครับ”

 

 

ไม่มีอีกแล้ว….

 

 

“เอามือออกเถอะนะ”

 

 

รักของเรา

 

 

“เจน…”

 

 

“เอามือออกเถอะนะครับ”

 

 

ที่เขาทำไปมันไม่พอหรอกเหรอ?

 

 

“ให้เจนได้เปิดประตูให้คุณรบได้เข้ามานะ”

 

 

เจนจะเปิดออกทั้งประตูห้องและประตูใจให้คุณรบทั้งหมด….

 

 

เขายอมแต่โดยดีแม้จะยังหวั่นใจอยู่บ้าง เจนปิดประตูแล้วและชั่วอึดใจประตูบานนั้นก็เปิดออกกว้าง พร้อมกับรอยยิ้มกว้างขวางของคนรักตัวเล็กที่ส่งมาให้กับเขา นักรบเหมือนจะขาอ่อนไปเลยตอนนั้น เขาทุ่มเทมาก มากจนเรียกได้ว่ามากเกินไป แต่คนรับย่อมประทับใจในสิ่งที่ได้มาอยู่แล้ว เจนไม่เคยมั่นใจในตัวเขาวันไหนเท่าวันนี้เลย คุณรบอาจจะดูหล่อน้อยกว่าปกติไปเสียหน่อย แต่วันที่ดูโทรมๆแบบนี้….เขาช่างดีกับใจเสียจริง

 

 

“ให้ตายสิ”  เขาบ่นออกมาก่อนจะคว้าเจนเข้ามากอดเอาไว้ให้จม เจนยิ้มกว้างในอ้อมกอดนั้น ไม่คิดเลยว่าคุณรบจะมาหากันที่นี่ แต่ก็พอจะเดาได้ว่าทำไม แค่ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะทุ่มเททิ้งงานการมาก็เท่านั้น

 

 

เจนว่าจะเปิดประตูห้องให้เขาอยู่แล้วเมื่อได้เห็น แต่ที่หยุดค้างไปนานเพราะตกใจอยู่ คำสารภาพนั่นก็เหมือนกัน เจนไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมาก่อน ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเรียบเรียงความรู้สึก บางทีถ้าเจนไม่เอ๋อแบบนี้ เขาคงได้เข้าห้องมานานแล้ว แต่เพราะเจนเอ๋อไง เขาก็เลยคิดว่าเจนไม่พอใจและจะปิดประตูใส่ แต่มันไม่ใช่….ก็โซ่มันคล้องอยู่แล้วจะเปิดประตูได้อย่างไรเล่า

 

 

“ปี้ยบของเจนน่ารักจังเล้ย”  เจนพูดงุ้งงิ้งอยู่กับบ่าของเขา แต่นักรบนี่สิ ใจหายไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เด็กบ้านี่! เขาต้องทำโทษด้วยวิธีไหนถึงจะสาสม

 

 

“อย่าหายไปไม่บอกกล่าวอีกนะ”

 

 

“ขอโทษครับ”  จริงๆเจนบอกแม่ไปและคิดว่าแม่คงบอกต่อ ส่วนคุณรบนี่ต้องติดต่อไปอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าคุณเขาติดต่อไม่ได้ คาดว่าประชุมเลยไม่อยากให้สายไหนรบกวน เจนก็เลยบอกแค่แม่คนเดียวว่าจะกลับอเมริกาโดยไม่กล้าบอกเหตุผลเพราะแม่อาจจะตกใจ และบินมาเลยโดยที่ไม่ได้บอกใครอื่นอีก บ้านรัตนสกุลก็ไม่ได้กลับไปเอาข้าวของด้วย มือถือแบตก็หมด ที่ชาร์ตก็ไม่มี แถมเพิ่งจะได้ซื้อเมื่อสองชั่วโมงก่อน ชาร์ตติดก็โทรหาเขาคนแรก ทว่าก็ติดต่อไม่ได้ คาดว่าเพราะเขายังอยู่บนเครื่อง ไลน์ก็เหมือนจะมีปัญหามาเป็นอาทิตย์แล้วแต่ก็ประมาทปล่อยทิ้งไว้จนหาทางติดต่อไปบอกไม่ได้ ว่าแต่เขาไม่สังเกตเลยหรือไงว่าคนหนีมาที่ไหนจะมาตัวเปล่าอย่างนี้ อ๋อ…ที่นี่ก็บ้านเจนนี่เนอะ มีทุกอย่างให้ใช้อยู่แล้วจะกลัวทำไมเรื่องสัมภาระ

 

 

“ใจหายไปหมดแล้วรู้ไหม”

 

 

“น่าฉงฉานจัง”  เดี๋ยวเหอะ!

 

 

เจนยิ้มทะเล้นออกมา ลูบหน้าลูบตาคนหล่อแต่ดูโทรมด้วยความเอ็นดู เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดรุนแรง จึงทำให้เขามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ อยากจะขอโทษที่ทำให้ลำบาก แต่อีกใจก็เป็นปลื้มๆมากที่ได้รับความรักมากมายจากคนตรงหน้า มือของเจนนั้นสัมผัสไปที่แก้มสาก ตอหนวดที่ขึ้นมาทำให้รู้สึกจั๊กจี๊ ต้องวุ่นวายหากันแค่ไหนหนอคนเนี้ยบถึงได้เป็นไปซะขนาดนี้ เจนยิ้มก่อนจะเขย่งตัวเพียงนิดไปจุ๊บที่ปลายคางของเขา

 

 

ก็รู้ว่ามันน่าโมโหแต่เจนก็ชอบที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้วจัง….

 

 

หลังจากที่ไปพูดคุยกับคุณรดา เธอก็ยืนยันว่าเธอไม่ต้องการคุณรบแล้วทำให้เจนมั่นใจว่าต่อให้อีกฝ่ายจะยังรักเธออยู่เขาก็กลับไปหาไม่ได้อีก นอกเสียจากฝั่งคุณรัชนีนุชจะก่อปาฏิหาริย์ออกมาฉุดคุณรบไปเคียงคู่หลานสาวตัวเองสักคนที่เธอชอบยื่นมาเสนอ คุณรดานั้นคงจะไม่เข้ามาข้องเกี่ยวอีก เธอจะไปบอกกับคนในครอบครัวว่าเธอแต่งงานแล้ว และกำลังท้องลูกอีกคนกับคนรักที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันได้ไม่นาน เจนยินดีกับพวกเขาทั้งคู่ เอาจริงๆไม่เคยนึกยินดีกับคนไม่รู้จักกับเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่นี่เจนยินดีจริงๆ

 

 

ตัดคู่แข่งทางใจไปได้คน…จะดีใจกันไม่ได้เชียวเหรอ?

 

 

ทีนี้ถ้าถามว่าทำไมเจนถึงมาที่อเมริกานี่แทนที่จะกลับบ้านรัตนสกุล คำตอบคือพอแยกกันกับคุณรดาเจนก็โทรไปหยั่งท่าทีของคุณรบดู ซึ่งอีกฝ่ายก็ยุ่งอยู่และเจนเองก็ยังเรียบเรียงคำถามไม่ได้ เจนอยากให้ทุกอย่างมันชัดเจน ไปเจอมาก็อยากจะบอก และอยากจะถามให้แน่ใจว่าเขาไม่คิดจะกลับไปอีกใช่ไหม จะอย่างไรเจนก็ไม่อยากจะนกอีกแล้วนะ เพราะเจนก็ยอมรับว่าคนเราลงทุนต้องหวังผล และเจนก็เริ่มลงทุนกับคุณรบไปแล้ว

 

 

เผื่อๆก็เทไปหมดทั้งใจเสียแล้วด้วย….

 

 

ทว่าทุกอย่างไม่เป็นใจ ในขณะที่กำลังจะกลับบ้าน สายจากอเมริกาก็ดังขึ้น เป็นพี่เคลที่โทรมา หากมันไม่ใช่เรื่องด่วนสำคัญอะไร เจนก็คงจะไม่วุ่นวายใจขนาดบินกลับมาด่วนแบบนี้ และเรื่องด่วนที่ร้ายแรงของเจนก็ไม่แพ้เรื่องภายในครอบครัวนั่นแหละ ไม่ใช่เจนคนเดียวที่หายตัวไปจากบ้านรัตนสกุลหรอกนะ….ตัวจุ้นมันก็หายไปจากบ้านคูเปอร์เหมือนกัน

 

 

และคือพี่เคลน่ะ พี่เคลที่ไม่อ่อนโยนน่ะ เขาไม่ยอมให้จุ้นห่างไปจากตาเขาได้หรอก และเจนก็ไม่ยอมเช่นกันเพราะจุ้นมันเหมือนเอาความซวยติดตัวมาแต่เกิด ไปที่ไหนก็มีเรื่อง การมีอยู่ของพี่เคลแม้จะทรมานใจไปบ้าง แต่ก็นับว่าปกป้องตัวจุ้นจากภัยอันตรายอื่นได้ แต่ไม่สามารถปกป้องตัวจุ้นจากพี่เคลได้จริงๆ สองคนนี้ดูยังไงก็รู้ว่ารักชอบกัน เคลวินอาจจะเปิดเผย แต่อีกคนก็ไม่ยอมรับ

 

 

ฟังแล้วคู่นี้ก็น่ามคานพอๆกับรบเจนเลยทีเดียว

 

 

และเจนก็อยากจะไปช่วยเขาตามหามัน ส่วนหนึ่งตนก็ไม่มั่นใจหรอกว่าจะหาเจอ แต่ก็พอมีทางอยู่บ้างเลยถ่อจากไทยมาอีกซีกโลกในเวลาสั้นๆ เพราะเหตุนี้ถ้าบอกแม่ของตนว่าจุ้นหายไป แม่อาจจะตกใจกว่าที่จะรับมือไหวในตอนนั้น เจนจึงบอกแค่ว่าจะกลับมาอเมริกา พอมาถึงยังไม่ได้พักเลยก็ออกไปตามหาน้องกับพี่เคล และโชคดีที่มันไม่ได้หายไปไหนไกล ยังไม่ทันได้เบิ๊ดกระโหลก พี่เคลก็ส่งกลับมาที่อพาร์ทเมนท์ให้พักผ่อน เจนนั้นได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสบายๆหลับไปได้นิดนึงก็ตื่นมาโทรสั่งอะไรกิน เพิ่งรับพิซซ่ามาถาดนึงได้ไม่นาน ยังไม่ทันได้แกะกินเลย ก็ได้ยินเสียงกดออดเรียกอีกครั้งคิดว่าคนส่งอาจจะมีอะไร แต่คราวนี้คนมาหาไม่ใช่คนส่งพิซซ่าแต่อย่างใด….

 

 

แต่เป็นคนส่งรักมาให้ทั้งหัวใจนั่นเอง งุ้ยยยยยยยย

 

 

และตอนนี้เจนก็มีคนช่วยจัดการพิซซ่าอีกคน เรานั่งกินที่โซฟาในห้อง คุณรบเดินทางมาเพราะเข้าใจผิดไปหลายขนาน จริงๆเจนก็ไม่เคยบอกใครที่บ้านคูเปอร์หรอกว่าคบกันแล้ว อย่างดีก็บอกพี่เคลว่ามีใจให้แต่ยังไม่ง่ายก็แค่นั้น ทว่าเจนยังนึกขำที่เขาโทรไปบ้าบอใส่พี่ชายของเจนอย่างนั้น ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติคุณนักรบอาจจะโดนตะเพิด แต่คาดว่าพี่เคลคนดีคงยังไม่อยากจะทำบาปตอนนี้ การส่งเสริมบุญด้วยการให้คนรักกันถือว่าเป็นกุศลใหญ่

 

 

และแอบอ้างกับตัวจุ้นได้ด้วยว่าทำให้เราสองได้รักกัน…

 

 

เมื่อนึกขึ้นมาได้ตรงนี้ เจนก็กัดพิซซ่าค้างส่งผลให้ชีสยาวเชื่อมเป็นเส้น ให้ตายเหอะพี่เคล…เจ้าเล่ห์นัก ไม่ต้องเดาเลยว่าการที่เขาอำนวยความสะดวกให้คุณนักรบขนาดนี้ต้องได้ประโยชน์ในทางใดทางนึง นอกจากจะแอบอ้างความดีงามกับตัวจุ้นได้แล้ว ยังกันเจนออกจากการปกป้องจุ้นได้อย่างเต็มรูปแบบ เพราะไม่มีซะหรอกที่คุณนักรบจะปล่อยเจนไปหาผู้มีพระคุณที่กำลังจะกลายร่างเป็นราชสีห์ขย้ำเจ้าจิ้งจอกดื้อด้านนั่น มันน่าตีนักคนพวกนี้ ไม่รู้คุณรบจะรู้ไหมว่าตัวเองถูกใช้เป็นเครื่องมือเสียแล้ว

 

 

“เหรอ”  และเมื่อเจนพูดความคิดของตนให้คุณรบฟัง เขาก็ตอบกลับมาแค่นี้ โถ่…นี่เจนนะ เจนที่เป็นแฟนคุณรบไง เห็นดีเห็นงามและส่งเสริมกันหน่อยไม่ได้เหรอ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอย่างนี้นะ

 

 

“งั้นเจนเรียกรถไปหาจุ้นล่ะ”  เจนต้องไปปกป้องน้อง

 

 

“หึ ไม่ให้ไปหรอก”  ถ้าคนสองคนนี้ได้เจอกัน เจนคาดว่าเขาต้องเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่ามุซาชิและโคจิโร่แห่งแก๊งค์ร็อกเก็ตในเรื่องโปเกมอน คุณนักรบยังคงกินพิซซ่าโดยไม่สนใจท่าทีต่อต้านของเจนรักษ์ เจนกำลังจะพ่นสายฟ้าเป็นปิกาจูแล้วนะ อยากเห็นดีกันใช่ไหม

 

 

“จะไป”

 

 

“ไม่เอา ขี้เกียจตามแล้ว เหนื่อย”  คนอะไรทำไมยอมแพ้ง่ายๆล่ะ

 

 

“คุณรบนอนรอนั่นแหละเดี๋ยวกลับมาหา” เจนกำลังลุกขึ้นแต่นักรบบอกแล้วว่าเขาเหนื่อยขี้เกียจตามหา และเพื่อไม่ให้ต้องเสียแรงเปล่าอีก เขาจึงฉุดเจนให้กลับมานั่ง แต่เปลี่ยนโลเกชั่นนิดหน่อยจากโซฟาเป็นบนตักเขาที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกทีแทน

 

 

“…………”

 

 

“…………”

 

 

“ไม่ให้ไป”  เขาบอกอีกครั้ง ลำแขนแกร่งกอดรัดเจนไว้ ขาก็ยกขึ้นมาพาดล็อกไม่ให้ไปไหนได้ ทว่าก็ยังคงกินพิซซ่าในมือให้หมด ปล่อยให้เจนหูเหอแดงอยู่ในอ้อมกอดของเขา

 

 

“คุณรบปล่อยเจนก่อนก็ได้”  เรียวขาของเจนที่ถูกล็อกไว้อยู่นั้นหุบฉับ อยากจะตีตัวเองให้ตายที่ดื้อกับเขาแบบนี้ เจนไม่โอเคนะ ถึงแม้จะใจกล้าและบ้าบิ่นมากก็ตาม แต่ก็เขินว่ะ….ยิ่งมองต่ำยิ่งคิดดีไม่ได้เลยจริงๆ

 

 

หรือว่าวันนี้รบเจน….จะได้ตัดภาพไปที่โคมไฟกับเขาสักที

น้องวินไม่อยู่….ก็ดูพ่อกบจะร่าเริงอยู่หน่อยๆเหมือนกันนะ….

 

 

Talk

เป็นดราม่าที่…. เฉลยมาทุกคนคงแบบอ้าวววว เล่นใหญเว่อร์5555 คือจริงๆเราสร้างตัวละครเจนขึ้นมาเหมือนจะให้อ่านง่ายๆแต่ถ้ารู้จักจริงๆจะรู้ว่ามีปมชีวิตเยอะ เพราะรักตัวเองมาก จึงพร้อมเทเสมอหากมันไม่โอเคกับตัวเอง และเพราะรู้ว่าเจนเป็นแบบนี้คุณรบจึงเดาทางเจนไม่ค่อยออกเมื่อมันเกิด และทุกคนก็บิ้วใส่พี่แกเหลือเกิน เป็นเราถ้าแบบคุยกันว่าจะกลับมาคุยแต่อยู่ๆก็หายไป คนนึงบอกว่าไปหารดา อีกคนก็บอกว่าไม่ติดต่อมา นี่ก็คิดดีไม่ได้แล้ว แล้วพอมาเจอ เห็นน้องปิดประตูใส่ก็คิดว่าต้องพูดไว้ก่อน ไม่ได้ดูเลยว่าเจนอยากเปิดประตูจะแย่แล้ว555 แต่น้องก็วุ่นๆอะเนอะ มีความพยายามแต่ไม่พอ ส่วนนึงน้องอาจจะคิดว่าคุณรบคงจะรออยู่บ้านสวยๆไม่ดิ้นรนมาหากันด้วย คุณเขาบ้างานอ่ะ

ส่วนเรื่องบทบรรยายที่เยอะไป เราต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ไม่ชอบใจ เราพยายามสร้างเรื่องนี้ให้หนักที่ความคิดตัวละครจริงๆเลยใส่บทพูดน้อยซึ่งมันนำมาซึ่งความไม่เข้าใจกันของตัวละคร อาจจะพลาดที่ตรงนี้ ต้องขอโทษที่ทำให้ไม่ชอบใจด้วยนะคะ คือเราพยายามตัดแล้วหลังจากแต่งออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าตัดน้อยไปหรือเปล่า อาจจะเพราะกลัวคนอ่านไม่เข้าใจความรู้สึก หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ อ่านข้ามได้ค่ะ เราจะพยายามปรับปรุงในจุดนี้ที่ทำให้เบื่อ และขอบคุณสำหรับคอมเมนท์นะคะ


ตอนต่อไปมาร่วมลุ้นขาอ่อนของน้องเจนกันนะคะ จะจบแล้วล่ะ เอาใจช่วยเจนที่ไม่นกแล้วด้วยนะคะ

 #เจนไม่นก twitter @reallyuri

 

 

 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-09-2018 18:46:31
เจนลูกกกกก ขอบ้องหูซักทีได้ไหม 555555555
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-09-2018 19:00:32
 :pig4:  ทางสะดวกแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 44] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 3.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 04-09-2018 19:36:17
นี่แอบคิดอยู่ว่าหรือน้องจะกลับอเมริกา(จริงๆคือคิดถึงพี่เคล><)
คุยกันให้เข้าใจนะ มีอะไรก็บอกเขาก่อน จะได้ไม่วุ่นวายขนาดนี้
ส่วนรดาก็เข้าใจความรู้สึกแล้วก็แนวคิดแล้วล่ะ ว่ายังไงก็ไม่เข้าไปยุ่งกับบ้านคุณรบเด็ดขาด
แต่คือพอคุณรบประสบอุบัติเหตุ รดาก็หายไปจากสารบบเลย ไอ้ที่จะถามจะคุยอะไรก็ไม่มี
รู้สึกค้างคาแทนรดาเลยค่ะ อยากจะโทรกลับไปถามจี้ทำไมยังไม่มาอีกอะไรแบบนี้ ฮ่าๆ

สงสารคุณรดาเหมือนกัน 5555 โทรมาบอกหน่อยก็ได้ รอเก้อเลย โธ่
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-09-2018 20:05:11
โล่งใจไปที คิดว่าเจนจะเป็นอะไรไปซะอีก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 04-09-2018 20:12:44
นึกว่ามาม่า ไหงกลายเป็นฝอยทอง  555  ความแซ่บความนัวความน้ำตาตกหมดไปกลายเป็นความหวาน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 04-09-2018 20:18:44
หือออ อยากอ่านพี่เคลกับจุ้นเลยจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-09-2018 20:23:32
เจนนนนนนนนนนน :a5: :a5: ไอ้เราก็นึกว่านอยด์หนัก ที่ไหนได้

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 04-09-2018 20:23:58
ถ้าสนิทกันคงต้องเรียก อิเจ้นนนนนนนน 5555
ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้บนโลก โอ้ยยยย ปวดตับแทนนักรบ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-09-2018 20:58:10
อ่านจบได้แต่ร้อง "โว้ยยยยย เจนนนนนนน"  :mew5:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 04-09-2018 21:06:26
คุณรบจะได้เห็นขาอ่อนเจนก็คราวนี้แหละ

หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-09-2018 00:25:16
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 05-09-2018 01:57:22
โว๊ะ!!มาอเมริกาโดนที่ไม่บอกอะไรใครเลยว่าเกิดไรขึ้นก็สมควรที่แม่เจนจะเข้าใจผิดอะ ก็ถ้าเจนจะบอกไปว่าพี่เคลมีเรื่องให้ช่วยเลยต้องกลับแบบด่วนๆแม่ไพก็คงบอกคุณรบไปแล้วแหละแล้วเขาก็จะไม่วุ่นวายกันแบบนี้ คือบางทีเราก็รู้สึกว่าวุฒิภาวะในการตัดสินใจและแก้ปัญหาของเจนนี่ไม่สมกับคนที่เคยทำงานเป็นเลขาฯให้กับบริษัทในต่างประเทศแบบนี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 05-09-2018 18:19:50
#เจนไม่นก
ขาอ่อนของเจน


ภาพตัดไปที่โคมไฟเมื่อคืนนี้
ก่อนจะตัดมาที่ขาอ่อนของเจนที่อยู่ในครัว


เขายิ้มออกมา แม้จะตื่นพร้อมกับความว่างเปล่าที่ข้างๆ แต่รับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเจนรักษ์ที่อยู่ในพื้นที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้ และกลิ่นอาหารที่ลอยมาก็ทำให้เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน เขามองอีกคนที่กำลังทำอาหารอย่างตั้งใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาและสวมกอดอย่างแผ่วเบา เจนไม่ได้ตกใจเพราะเหมือนจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าเขาต้องทำเช่นนี้  นักรบไม่ได้ทำมันอย่างเงียบเฉียบ


“ตื่นแล้วเหรอครับ”  เจนถามทั้งๆที่ยังทาเนยถั่วลงบนขนมปัง เจนซื้อของสดมาเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ยังคิดอยู่เลยว่าคงเอาไปให้คนที่บ้านคูเปอร์กินต่อก่อนกลับ แต่มีคนมาช่วยแชร์ก็ดี ถึงยังไงก็คงไม่หมดอะนะ


“ทำไมตื่นเร็วล่ะ”  ก็เจนนอนต่อไม่ได้ไง จริงๆถ้าตัดภาพไปที่โคมไฟแบบนั้น คนที่ควรจะตื่นมาทำอาหารและเอาไปเสิร์ฟให้กันบนเตียงควรจะเป็นเขาหรือเปล่า แต่คุณรบที่ไม่ได้นอนมาตั้ง2-3 คืนมีหรือจะไม่หลับเป็นตาย ทำได้แค่นี้ก็เก่งแล้วถ้าเขายังทำเรื่องทะลึ่งๆกับเจนได้ก็ไม่ใช่คนแล้ว! เขานอนไปเป็นสิบชั่วโมงแล้วเนี่ย! รู้ตัวบ้างไหม คนอะไรเป็นซุปเปอร์แมนหรือไง ห้ามตายเด็ดขาดนะ เจนจะไม่ยอมนกแล้ว จัมวรั้ย!


เหมือนช่วงเวลาแห่งการฮันนีมูนของคู่รักเพิ่งแต่งงานเลย ไม่มีเสียงเด็กมากวนใจ แม้ว่านี่จะบ่ายแล้ว แต่เจนกับเขาก็ยังอ้อยอิ่งคลอเคลียกันอยู่ในครัวของห้องๆหนึ่งในมหานครอันแสนวุ่นวาย เจนไม่เคยคิดมาก่อนว่านิวยอร์คจะโรแมนติคได้ขนาดนี้เมื่อได้แฟนที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร….


เราสองคนไปนั่งกินอาหารเช้าด้วยกันที่โต๊ะอาหาร ซึ่งเก้าอี้ก็มีสองตัว แต่คุณรบทำเหมือนไม่เห็นมันและบังคับให้เจนมานั่งกินบนตักเขา เจนก็สายอ่อยไง ยอมก็ได้ นี่คุณรบแฟนเจนเองนะ จะกลัวฟ้าดินทำไม ช่างเป็นมื้อเช้าที่เนยถั่วแสนหวานตัดกันได้ดีกับน้ำส้มสำเร็จรสออกเปรี้ยวจริงๆ เจนยิ้มทั้งปากและตา เราพูดคุยกันเรื่องที่มาที่ไปของความเข้าใจผิดครั้งใหญ่นี้ เพราะเมื่อวานไม่มีอารมณ์คุย ง่วงและเหนื่อยมาก ฟังแล้วเดี๋ยวของขึ้น…


และได้ข้อสรุปว่า…
- ไลน์เจนเสียใช้ไม่ได้เป็นวีคแล้วเลยไม่ได้ไลน์มาทิ้งไว้
- โทรหาคุณรบไม่ติด มีแต่เบอร์แม่เลยโทรบอกแค่แม่ แต่แม่ดันไม่บอกคุณรบต่อ
- คุณรบติดต่อไปตอนที่เจนอยู่บนเครื่องหรืออยู่เมืองนอกแล้ว สัญญาณเบอร์ของเจนเป็นของที่ไทยเลยใช้ไม่ได้
- เจนได้ชาร์ตแบตมือถือตอนกลับมาที่พัก พยายามติดต่อไปหาคุณรบ พี่แกก็อยู่บนเครื่องละมั้ง
- คิดได้ว่างั้นโทรไปหาแม่ล่ะกัน ก็ดันมีคนมาเรียกหน้าห้อง…


และนั่นคือคุณรบคนดีของเจนเอง….


ยังเหลือโทรไปฝากข้อความไว้ที่เลขาของเขากับส่ง SMS อีกอย่างที่เจนไม่เคยมีความคิดจะทำ นักรบได้แต่เก็บข้อโต้แย้งนี้ไว้ พยายามทำตัวเองให้ใจเย็น ความคิดน้อยของเจนครั้งนี้มันเกิดคาดไปจริงๆ ทั้งๆที่เจนละเอียดรอบคอบกับเรื่องงานมาโดยตลอดแต่กลับพลาดอย่างใหญ่หลวงในเรื่องนี้ อาจจะเพราะเป็นคนจัดการในเรื่องส่วนตัวได้ไม่ค่อยดีด้วยหรือเปล่า ถึงเป็นเหตุให้เลิกกับแฟนมาหลายต่อหลายครั้ง


หรือเพราะเรื่องการหายตัวไปของตัวจุ้นมันสำคัญกับอีกฝ่ายจนทำให้ลืมคิดเรื่องอื่นไป ทั้งนี้อาจจะเพราะมันเคยเกิดเหตุร้ายแรงกับน้องชายที่เคยหายตัวไปมาก่อน เจนจึงเอาแต่คิดเรื่องของครอบครัวจนไม่มีที่เหลือให้คิดเรื่องอื่น….ยิ่งเคลวิน คูเปอร์ที่โทรมาหานั้นไซโคเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร….อืม ก็ไม่แปลกใจแล้วแหละว่าทำไมถึงได้รับการช่วยเหลือจากผู้ชายคนนั้นดีแบบนี้….แต่ท่องไว้นักรบ นั่นพี่ชายของคนรัก และใครจะไปคิดว่าเจนจะลืมนึกหน้าหลังได้ขนาดนี้ด้วย


 อย่างไรก็อยากให้แคร์ความรู้สึกของเขาอีกนิด จะมัวแต่คิดว่าคุณรบคงไม่คิดอะไรเพราะเจนดูแลตัวเองได้หรือตัวเองไม่สำคัญเท่างานของเขา ซึ่งมันไม่ใช่ อยากจะให้มั่นใจในความรู้สึกของเขามากกว่านี้เพราะมันไม่ได้เหมือนวันแรกที่เราเจอกันอีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยพูดชัดๆว่าเป็นคนขี้หวงและแคร์มากกว่าปกติแค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องของความรัก….เรายังต้องปรับปรุง และเรียนรู้กันให้มากขึ้นจริงๆ


“ปกติแต่งตัวแบบนี้เหรอ”  เขาถาม ดวงตาจดจ้องไปที่เจน จะว่าไปแล้วเขาก็สงสัยมาตั้งแต่เห็นเมื่อวานแล้วแต่ยังไม่สามารถามแทรกได้


เจนนั้นก้มลงมองร่างของตนตามสายตาของเจ้าของตักไป และก็พบกับต้นตอของคำถาม มันเป็นภาพที่ชวนหวิวใจจริงๆด้วยเมื่อนึกเปรียบการแต่งกายของเราในวันนี้ ว่าแล้วก็ทำให้หลุดกลืนน้ำลายเอือกเมื่อภาพที่เห็นมันคิดดีๆไม่ได้เลยจริงๆ  ทั้งนี้มันเป็นความบังเอิญล้วนๆ เจนไม่ได้ตั้งใจอ่อย และถ้าอ่อยก็ไม่เคยอายหรอก เว้นเสียว่าไม่ตั้งใจนี่แหละ…ก็เลยเขินจนหูดำ เอ้ยหูแดงออกมา


คุณนักรบไม่ได้ใส่เสื้อ มีแค่กางเกงนอนผ้ายืดสีเทานุ่มๆ เขาเคลมว่าเอาเสื้อผ้ามาน้อย อันนี้เจนก็พอเข้าใจ ส่วนเจนที่ไม่ได้เอาเสื้อผ้าอะไรมาเลย ก็จำต้องใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้ ซึ่งเจนก็พอจะจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเคยแรดมากขนาดไหน ไม่อยากให้คุณรบเปิดตู้เสื้อผ้าที่นี่ของตนดูสักเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่จับใส่เลยเดี๋ยวนั้น ก็มีแนวโน้มจะเอาไปเผาเลยอยู่เหมือนกัน


“ก็….เจนมีแต่แบบนี้ในตู้”  และมันก็ชุดอยู่บ้านปะวะ คุณรบอ่ะ คิดมาก


“อืม เสื้อบางๆแบบนี้เอาไปใส่ข้างนอกไม่ได้นะ นิวยอร์คก็ใช่จะไม่หนาว”  แล้วพูดเรื่องหนาวแต่นิ้วทำไมถึงได้มาบี้หัวนมเจนล่ะ! ก็รู้ว่าคอมันกว้างและบางจนจะเห็นหัวนมแต่ไม่ต้องย้ำได้ไหม! จะด่าก็ด่ามาเหอะแต่ใครใช้ให้มาเล่นกับจุดอ่อนไหว!


“คุณรบ ไม่เอา…”  เจนร้อง มือนั้นก็รวบมือของเขาที่วุ่นวายอยู่กับยอดอกข้างนึงของตน ทว่ามันไม่สามารถหยุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และมืออีกข้างนั่นได้


“แล้วกางเกงนี่ก็บางนะ เป็นหวัดแย่เลย”


“อื้ออออ!!!!!”  รู้งี้ให้ประตูหนีบเสียตั้งแต่เมื่อวานดีกว่าจะได้ไม่ซนจับอะไรก็ไม่รู้


ก็รู้อยู่หรอกว่าเจนใส่กางเกงผ้าสีขาวที่สั้นมากกกกกกกกก แต่เจนไม่ได้ใส่ออกไปไหนนี่หว่า จะมาหวงเหิงอะไรมันก็ไม่สมควร ก็เจนสะดวกแบบนี้แล้วมันผิดตรงไหนกันวะ แล้วมือนั่นอ่ะ ไม่ได้อนุญาตให้มาลูบคลำต้นขาเลยนะ เอาออกไป! แล้วใครใช้ให้ล้วงเขาไปข้างในเล่า! มันจะมากไปแล้วนะ นักรบ รัตนสกุล!!!!


“ทำไมไม่แต่งแบบนี้ที่บ้านเราบ้างล่ะ”  เขาถามชิดผิวเนื้อของเจน เสียงกระซิบอันนุ่มนวลขัดกับสัมผัสที่เอาแต่ใจนั้นทำให้เจนเริ่มหายใจไม่เป็น


“แต่งได้ไงละ คนเขาได้หาว่าไปจับผู้ชายแทนมาเลี้ยงเด็กเอาสิ”  นี่ขนาดแต่งตัวเรียบร้อยไปเลี้ยงลูกกบแล้วนะ ยังตกพ่อกบกลับมาได้ทั้งตัว….


“พี่ไม่ว่าเจนเรื่องรสนิยมแบบนี้หรอกนะ”  ยั่วๆบดๆบ้างก็ดี แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าชอบเจนที่นิสัยใจคอและการวางตัวเสมอมา แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว  จะแก้ผ้าและใส่หางแมวเดินรอบห้องเลยก็ยิ่งชอบ


“คุณรบ อื้อออออ” จะบ่นงุ้งงิ้งอะไรนักหนา เขาเลื่อนมือไปจับใบหน้าของคนน่ารักมาจูบปิดเสียงบ่นมากมายนั่น ทว่ามือก็กลับมาเล่นกับผิวเนื้อเนียนที่ต้นขา เขาชอบขาขาวๆนี่จัง  ไม่ค่อยได้เห็น แต่พอได้เห็นแล้วหัวใจมันกระชุ่มกระชวยเป็นบ้า


อยากขย้ำให้ขึ้นสี
และอยากจะจูบ…ปลอบประโลมด้วยตัวเอง


ไม่รู้จูบที่ยาวนานนั้นดูจะเละเทะไปถึงไหนต่อไหน เพราะตอนนี้เจนที่นั่งดีๆก็เปลี่ยนมาคร่อมตักเขาเสียแล้ว นอกจากขาของเจนเขาก็ค้นพบว่าก้นเองก็สมควรถูกรังแกมากเช่นกัน เขาไล่ชิมรสชาติของเจนที่มีรสเนยถั่วทั้งปากและลำคอ และเหมือนคนเก่งจะรู้งานดี เปล่งเสียงครางพร้อมกับแหงนคอให้เขาได้ชิมอย่างสะดวกสบาย ยังไงก็ขอลืมลูกเต้าไปสักวันก่อนละกัน…


“อ๊ะ!คุณรบ!”  เจนร้องเรียกเมื่อจู่ๆเขาก็ลุกขึ้นมาแบบไม่ได้บอกกล่าว สองขาของเจนเกี่ยวเอวของเขาไว้แน่นอย่างกับลูกโคอาล่า แต่ว่ายังไม่ทันที่ความคิดจะได้เลยเถิด ตัวของเจนก็ได้ไปนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับร่างของเขาที่ตามมาทาบทับ


เราสองคนประกบจูบกันด้วยรู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น เจนเองก็โตพอจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้หวงตัวกับเรื่องแบบนี้ ส่วนคุณรบเองก็เป็นพ่อหม้าย แม้ว่าลูกที่กระโดดเป็นกบนั้นจะได้มาด้วยวิธีทางการแพทย์ แต่เขาก็เคลมเองว่าตนไม่ได้เวอร์จิ้น ทว่าสิ่งที่เจนกลัวมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น ถึงเราจะบอกว่ารักกัน แต่เจนก็เป็นผู้ชายนะ….แล้วคุณรบจะรับได้จริงๆเหรอ ในเมื่อมันไม่เคยมีกรณีอ้างอิงหลุดถึงหูมาก่อนว่าเขาจะเคยพิศวาสเพศชายไหนอื่นนอกจากเจน….


“คุณรบ”


“เรียกพี่ก่อน”  เขาขบกัดใบหูของคนที่สอนไม่จำ แต่มือของเจนกลับดึงดันที่จะดันเขาให้ออกห่างไป ในที่สุดนักรบก็ต้องยอมเจนรักษ์ เขาลุกขึ้นมามองเจนที่อยู่ในสภาพหมิ่นเหม่ เสื้อที่เขาเคลมว่าบางนั้นเลิ่กขึ้นไปเผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบ คอเสื้อที่ทำให้เห็นไปถึงไหนต่อไหนก็ถูกเขาดึงให้กว้างออกจนโชว์ไหล่มนด้านนึง ทีนี้มาที่กางเกงขาสั้นที่ใส่นอนแต่ไม่น่าได้นอนนั่นก็เหมือนกัน มือของเขาได้ดึงมันจนแทบจะหลุดออกจากเอว เผยให้เห็นท้องน้อยที่ต่ำลงมาจากสะดือที่สุดแสนจะยั่วยวน เจนนั้นน่าขย้ำไปเสียทุกส่วน แล้วเขาต้องรออะไรอีกเล่า


รอความสมัครใจของเจนไง….


“คุณรบแน่ใจแล้วเหรอครับ”  เขาขมวดคิ้ว จนป่านนี้ยังจะไม่แน่ใจอะไรได้อีก


“พี่…”  เขาย้ำลงไป


“พี่รบ…”


“………”


“เจนเป็นผู้ชายนะ มันไม่….อ๋า!!! “  ไม่เหมือนผู้หญิง…เขารู้ ใช่ว่านักรบจะโง่จนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร และเขาก็ไม่คิดว่าสมองน้อยๆที่คิดมากมายของเจนนั้นคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เขาไม่ยอม ในเมื่อไม่ยอมเรียกกันว่าพี่ดีๆ งั้นวันนี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรเลยล่ะกัน


ครางอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะสาสม….


“พี่รู้ครับ”  เขากระซิบที่หูหลังจากที่ฉีกทึ้งเสื้อที่เขานึกหมั่นไส้จนขาด พี่รบคนขรึมนั้นเหมือนไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลก เจนนั้นก็เหมือนลูกนกที่สั่นน้อยๆในอ้อมแขนของเขา แต่ใช่ว่าเจนจะกลัว….


บอกตรงว่าตื่นเต้น อยากได้ อยากโดน….


โดยไม่ปล่อยให้รอ คุณรบก็จัดให้เจนโดนในทันที มือของเขาล้วงเข้าไปในชายกางเกงขาสั้น มือก็ยังคงซุกซนอยู่อย่างนั้น ไปพร้อมๆกับปากที่ยังคงดูดกินผิวเนื้อหวานของคนที่ยั่วยวนกันอย่างหนัก ใบหน้าของเจนขึ้นสีแดงก่ำ เรากำลังทำเรื่องทะลึ่งๆที่แค่จินตนาการก็ชวนให้หายใจสะดุดแล้ว ตอนนี้เจนต้องเก่งแค่ไหนกันเชียวเพราะจินตนาการกำลังจะเป็นจริง และคุณรบก็เรียกเจนกลับมาจากความคิดบ้าบอด้วยมือของเขาที่เขี่ยยอดอกสีอ่อนของตนเล่น


คุณรบไม่อ่อนโยนและเจนไม่คิดจะเรียกขอความอ่อนโยนในตอนนี้


“อืมมมมม”  ร่างบางของเจนที่มีเพียงเสื้อผ้าที่ขาดลุ่ยนั้นแอ่นอกขึ้นรับสัมผัสของปลายลิ้นสาก เขาทั้งดูดดึงและปรนเปรอให้มันเหมือนกับที่เคยทำกับริมฝีปากของเจน ส่วนมืออีกข้างก็สัมผัสอีกข้างไม่ให้มันรู้สึกหงอยเหงา ความรู้สึกปวดหน่วงที่เวียนวนที่ท้องน้อยทำให้เกิดเสียน่าอายมากมาย คุณนักรบที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของเจนนั้นทำมันได้ดีจนเกินไป และเขาก็รู้ดีเพราะขาทั้งสองข้างนี้ทั้งเกร็งและจิกปลายเท้าลงกับเตียงทุกครั้งที่เขาเพิ่มจังหวะรุนแรง มือของเจนที่เคยขยำผ้าปูที่นอนค่อยๆถูกยกขึ้นเหนือหัว มือเล็กจับเอาลูกกรงของเตียงไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ยิ่งเขาทำให้ร่างกายของตนร้อนเป็นไฟขึ้นมากเท่าไหร่ เจนก็โหยหาเรียกร้องความเป็นตัวเองที่หลุดลอยไปทุกครั้ง


เขาปรนเปรอเจนอยู่สักพักจากส่วนบนและค่อยๆเลื่อนลงมาข้างล่าง ก่อนจะหยัดตัวขึ้นมานั่งมองภาพของเจนที่สุดแสนจะน่าอาย กางเกงนอนที่สุดแสนจะน่าขัดใจนี่ยังไม่ได้ถูกถอดออกไปเสียที และเขาก็เอาแต่จดจ้องมันจนเจนต้องยกขาหนีขึ้นมากอดเอาไว้ เพราะกางเกงมันเป็นสีอ่อนและตัวเล็ก มันทำให้เขาเห็นส่วนสัดของกันชัดยิ่งขึ้น และเจนก็ไม่แน่ใจว่าอยากให้เขาเห็นมันหรือไม่


เรา….ต่างก็มีเหมือนกัน
และเจนไม่อยากให้เขาเปลี่ยนใจเพราะความเหมือนนี่


“เจนมีเหมือนที่พี่มี” คุณรบพูดออกมา เขาจ้องมองเจนที่ดึงขาทั้งสองข้างขึ้นไปกอดเพื่อปกปิดเรื่องน่าอายอันเป็นธรรมชาติของตนไว้ มือของเขาแตะเบาๆลงบนมือของเจนที่กอดขาตนเองชิดอกอยู่ ดวงตาฉ่ำเยิ้มของเจนนั้นดูน่ามอง แต่คนไม่ให้มองก็หันใบหน้าไปซุกหมอนหนีดวงตาของเขาเสียอย่างนั้น


ใช่…เพราะเรามีเหมือนกัน


“แต่พี่ไม่คิดว่าร่างกายของพี่…น่ากินเท่าของเจนเลยนะ”  และเขาจะพิสูจน์ให้ดูว่าร่างกายของเจนที่มีเหมือนๆกันกับเขานั้น


ทำให้เขากินได้อร่อยขนาดไหน…


ยิ่งเจนยกขาขึ้นชิดอกเท่าไหร่ ยิ่งเปิดโอกาสให้เขาได้เข้าถึงเนื้ออ่อนของต้นขาใกล้ๆกับก้นงอนๆนั่น นักรบนั้นยกขาของเจนที่ขวางการเข้าถึง ก่อนจะประทับจูบเบาๆลงบนต้นขาขาวๆที่เจ้าตัวไม่เปิดโอกาสให้ได้เห็นมาก่อน คุณรบจะพิสดารเกินไปแล้ว เจนทั้งอายและหวั่นใจในท่าทีของเขาไม่ใช่น้อย ยิ่งเขาจูบหนักหน่วงขบเม้มมากขึ้นเท่าไหร่ เจนยิ่งหนีบขาด้วยรู้สึกอึดอัดมากขึ้น ดวงตาใสที่คลอหยาดน้ำได้ปลดปล่อยหนึ่งสายให้รินรด เพราะความทรมาน


สองมือของเขาแกะขาเรียวเนียนนั้นให้แยกออกจากกันเพื่อแทรกใบหน้าของตนเข้าไป แม้เจนจะขืนไว้  แต่ริมฝีปากของเขาก็ช่วยสลายแรงต้านจนหมดสิ้น เขาสามารถได้ไปทั้งตัวจริงๆ นักรบที่จับขาของเจนเอาไว้ทั้งสองข้างไล่ชิมตั้งแต่หัวเข่าเรื่อยมาที่บริเวณขาหนีบอันเป็นจุดอ่อนไหว ดวงตาคมปราบมองกันอย่างแวบวับ ให้คนที่ผงกหัวขึ้นมาดูความเร่าร้อนของเขา ว่านักรบหมายความอย่างนั้นตามจริง


เจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตนเอง และเสียงริมฝีปากของเขาที่ดูดึงผิวเนื้ออ่อนของตน ไล่มาเรื่อยๆโดยไม่หยุดมองหน้ากัน  เรียวลิ้นและริมฝีปากของเขาดูดดึงเข้ามาเรื่อยจนถึงขาอ่อนของเจน ไรหนวดของคนเนี้ยบที่ครูดกับผิวเนื้อไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บ แต่ก่อให้เกิดความรู้สึกประหลาดรุนแรงเกินบรรยาย ขาอ่อนของเจนมันคงขึ้นรอยน่าอายเอาไว้ให้อวดตัวเองเมื่อจบกิจนี้ แต่มันจะยังไม่จบง่ายๆ เจนรู้ได้เพราะเขาทำทุกอย่างได้เชื่องช้า ปลุกปั่นอารมณ์ให้ทรมานจนถึงขีดสุด


“พะ…พี่รบ”  ริมฝีปากของเขาประทับลงบนส่วนอ่อนไหวที่มีผ้าเนื้อบางกั้นผ่าน มันโป่งนูนอึดอัดจนสุดจะทนและเขากำลังหยอกล้อกันโดยไร้ความปราณี


“อยากให้พี่อ่อนโยนไหม”


“ยะ…อยาก”


“แต่คำว่าอ่อนโยนของคนเราไม่เท่ากันหรอกนะ”  ลิ้นของเขาเลียแอ่งสะดือของเจนอย่างยั่วยวน ทำให้เจนต้องเผลอกลืนน้ำลายเมื่อมอง


“อะ…อ่อนโยนกับเจนด้วย”  คำร้องขอนั้นได้หลุดออกไป นักรบยิ้มออกมา เขาลากลิ้นของตนลงต่ำลงเรื่อยๆ จนมันมาถึงขอบยางยืดของกางเกงผ้านี่ เขายิ้มออกมา ช้อนตามองความสั่นไหวในดวงตาของเจน แต่ถึงจะห้ามกันก็ไม่ทันแล้ว เพราะฟันของเขาได้กัดลงที่เชือกซึ่งผูกเป็นโบว์ ก่อนจะค่อยๆดึงมันขึ้นจนปมคลาย เจนชักไม่แน่ใจแล้วสิ…


ว่าจะผ่านศึกนี้ไปได้ง่ายๆโดยที่หัวใจไม่บางได้อย่างไร


เขากระชากกางเกงตัวเล็กนี่ออกไป และไปหาถุงยากับเจลหล่อลื่นมาจากไหนเจนก็ไม่ทราบ เท่าที่จำได้คือตนไม่มีของแบบนี้อยู่ที่ห้องตั้งแต่ไปเมืองไทย แล้วเขาเอามาจากไหนกัน  ในขณะที่ชื่อของเคลวิน คูเปอร์หลุดเข้ามาในหัวและเมื่อเขาปรนเปรอเตรียมกันจนพร้อม เขาก็ค่อยๆเข้ามาทีละนิด ช้าๆให้ได้ปรับตัว แม้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เจนก็ไม่โอเคกับการที่ตัวเขาจะเข้ามาในทันทีทันใด อย่างไรซะก็ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานเหมือนกันเพราะมัวแต่ไปเลี้ยงลูกให้เขานี่แหละ!


แต่เจนก่นด่าเขาได้ไม่นาน เมื่อเริ่มขยับ…นักรบก็ได้เข้ามาครอบครองความคิดของเจนทั้งหมด มันไม่พอจริงๆสำหรับคนเห็นแก่ได้คนนี้ ได้ไปทั้งตัวทั้งใจก็ยังจะเอาให้ได้แม้แต่ความคิดกันหรือนี่ เจนนั้นไหวโยกไปกับจังหวะที่เขาขยับกาย เสียงครางต่ำข้างหูบอกให้เจนรู้ว่าเขาเองก็รู้สึกไม่ต่าง เมื่อร่างกายของเจนได้ยึดเอาตัวตนของเขาไปแล้ว เราก็เหมือนตกเป็นของกันและกันโดยสมบูรณ์


“อ๊ะ พะ พี่รบ…ชะ ช้า”  เขาเจอจุดอ่อนไหวของเจนแล้ว และดูเหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ สะโพกของเขายังคงทำงานได้ดีจนเจนนึกอยากทุบสักที คำสั่งห้ามของเจนรักษ์ไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปเมื่อนักรบได้รุกไล่ร่างกายกันเข้ามา เจนได้ครอบครองเขาแล้ว ชายผู้เป็นดั่งข้อต้องห้ามทุกอย่างในชีวิต แต่ก็เป็นชายที่เข้ามาปลดล็อกประตูรักของเจนรักษ์โดยไม่รู้ตัว


ร่างกายของเจนดูเหมือนไม่เป็นของเจนอีกต่อไปเมื่อได้ครอบครองเขา นักรบยังคงเข้าออกสำรวจไปมาอย่างไม่นึกเบื่อในเกมอารมณ์ครั้งนี้  เขาทอดถอนร่างกายมาครั้งนึงก่อนจะจับเจนให้พลิกคว่ำ และกลับเข้าไปหาช่องทางอุ่นร้อนที่สุดยั่วยวนนั่นอีกครา เสียงครางและเสียงผิวเนื้อกระทบกันของเรานั้นก่อให้ความรู้สึกระดากได้ แต่หาได้มีใครสนใจไม่แล้ว  เขาที่ทาบทับอยู่บนตัวของเจนนั้นจับใบหน้าน่ารักที่เต็มไปด้วยราคะที่เขาสร้างให้หันมาจูบกัน เรียวลิ้นที่หยอกล้อดูดดึงเสียงน่าอายให้หายเข้าไป จังหวะที่เขายังคุมนั้นทำให้เจนทนไม่ไหวต้องปลดปล่อยออกมา 


ทว่ามันไม่สิ้นสุดแค่นี้


จะเรียกว่าตายอดตายยากกันจริงๆ เมื่อกำจัดกำแพงน้ำแข็งที่ว่าด้วยเรื่องทางเพศลงได้เราก็ไม่มีใครยอมใครแล้ว เจนนั้นขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของเขาและนำพาให้ความแข็งตึงนั่นกลับเข้ามาอยู่ในร่างของตนเองอีกครั้ง เริ่มอย่างช้าๆให้ร่างกายได้ปรับตัว คุณนักรบนั้นเข้ามาอยู่ในร่างกายกันลึกขึ้นเรื่อยๆจนต้องเบ้หน้า แต่มันคือความทรมานที่เต็มไปด้วยความสุขสม เจนเริ่มเป็นผู้คุมเกมช้าๆ น่าอึดอัดจนทำให้เขาต้องคำรามออกมาด้วยไม่พอใจ และนึกหมั่นไส้กับรอยยิ้มน้อยๆของคนที่ขึ้นมาคร่อมบนตักเขาเอง ขัดใจเสียจนต้องกระแทกตัวเองเข้าไปแรงๆเพื่อเร่งเร้า และเมื่อคุณรบทำเช่นนั้นมันก็ทำให้เจ้าของรอยยิ้มกวนต้องเบ้หน้า เรียกรอยยิ้มคืนจากใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความสะใจได้ไม่ยาก


“อ๊ะ..อา…”  เหมือนเจนจะเสียจุดยืนให้เขาเสียแล้ว เจนนั้นตามเขาไม่ทันจริงๆและตอนนี้นักรบก็กลับมาเป็นผู้คุมเกมอีกครั้ง เขาส่งความเอาแต่ใจขึ้นไปจนคนข้างบนต้องสะท้านไปหมด มันทั้งเจ็บ ทรมาน แต่ก็สาสมในความรู้สึก เขาค่อยๆพาร่างของเจนให้กลับไปนอน เราเกี่ยวรัด ครอบครองกันไปทั้งร่าง จับจองไปเสียทุกสิ่ง ศูนย์เสียแบบหยาดเหงื่อต่อหยาดเหงื่อ จนในที่สุดเราก็เห็นปลายทางของหมากกระดานนี้ หลังจากมันผ่านไปหลายต่อหลายครั้ง เขาทบต้นและดอกจากเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้โดยใช้ร่างกายของเจนจ่ายหนี้ให้ทั้งหมด


เจนปลดปล่อยเสียงครางออกมาในปากของเขา สองขายังคงเกาะเกี่ยวเอวสอบที่เคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เจนรู้สึกเบาตัวเพราะได้เอาความน่าอึดอัดออกไป แต่เจนคิดว่าร่างกายคงไม่ไหวแล้ว คงต้องปล่อยให้คุณรบไปต่ออย่างน่าเสียดาย ทว่าผ่านไปได้ไหมนานร่างสูงของเขาก็กระตุกเกร็ง…ก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงทาบทับลงมา พร้อมกับจบเกมที่ทำให้เตียงนอนของเจนดูเละเทะไม่มีชิ้นดีนี้ด้วยตนเอง


“อืม”  เขาหลับตาลง ฟังเสียงของเจนที่คลอเคลียอยู่ข้างหู เขารวบรวมแรงใจดึงร่างกายให้ลุกขึ้นก่อนจะจัดการกับซากถุงยางให้เรียบร้อย และกลับมานอนอิงแอบกับเจนทั้งร่างเปลือยเปล่านี้ เขาสุขสมอย่างไม่น่าเชื่อ การทำรักไปพร้อมๆกับมีความรักให้คู่ของตนเองนั้นมันดีขนาดนี้ เขารู้สึกเหมือนไม่ได้สัมผัสมันมานานแล้ว และดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ มันดีมากๆ  ขอบคุณตัวเองที่มีความรัก และขอบคุณตัวเองที่ดั้นด้นมาเพื่อความรักถึงวันนี้


เจนรักพี่รบนะ….แววตาของเจนสื่ออกมาเช่นนั้นพร้อมกับปากที่พูดออกมาแบบไร้เสียง เขายิ้ม ดูเหมือนมันจะไม่จบสิ้นง่ายๆอย่างที่คิดหรือระแวง เขาดึงคนขี้อ้อนมากอดไว้ก่อนจะหลับตาลง กลิ่นผิวเนื้อของเจนนั้นให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ


พี่ก็รักเจน…และในที่สุดเราสองคนก็รักกัน…
โดยไม่มีกำแพงฐานะ ความเป็นมาขวางกั้น หรือเงื่อนไขของหัวใจอะไรต่อไปอีกแล้ว
เราสองได้ปลดแอกตัวเองจากอิสระเข้าสู่การกักขังอันแสนหวานในอ้อมอกแห่งความรักแล้วจริงๆ


.
.
.
.
เจนลืมตาตื่นขึ้นเพราะกลิ่นอาหาร
อืม…มันควรจะเป็นอย่างนี้จริงๆ


“ตื่นแล้วเหรอ”  เขายิ้มให้เจนที่เพิ่งตื่น ร่างกายของเจนยังคงเปลือยเปล่า ทว่าแม้ห่อตัวเองอยู่ในผ้าห่ม ก็ยังรู้สึกอึดอัดกับดวงตาของเขาที่มองมาอย่างกรุ้มกริ่ม นักรบถือจานของกินด้วยมือหนึ่งและเดินมาพิงขอบประตูห้องนอน ว่าแต่ทำไมเขาถึงไม่อายบ้างนะ ใส่แค่กางเกงนอน โชว์อกเปลือยเปล่าและร่องรอยความรุนแรงของเจนที่ผ่านมานั่นอย่างไม่อายฟ้าดินหรือใครหน้าไหนเลยทั้งนั้น


เจนหันไปมองนาฬิกา นี่มันก็เย็นแล้ว และเราก็เหมือนจะปรับเวลาอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ปรับได้ก็เก่งล่ะ ตื่นมากินและบริหารร่างกายอย่างหนักขนาดนั้น ไม่ให้สลบก็ไม่สมกับที่เสียน้ำไปสินะ เจนถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้ม เขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับจานเฟรนซ์โทส จริงๆเจนอยากกินข้าว แต่พอเห็นคุณนักรบก็คิดว่าอยากกินเขามากกว่า เดี๋ยวๆ! ยังไม่อิ่มหรือไง เมื่อกี๊ใครสลบก่อนใครนะ….


“กินหน่อยนะ รองท้องไปก่อน”  เขาค่อยๆนั่งลงข้างๆและยื่นจานไปให้


“อืม”  เจนรับจานมาถือเอง ก่อนจะเอนกายพิงร่างของเขา ใช้ส้อมจิ้มขนมปังที่ถูกหั่นมาหนึ่งชิ้นเข้าปาก วัตถุดิบไม่ครบแต่พอกินกันตายได้ แค่คิดว่าคุณนักรบที่ไม่ถนัดเรื่องครัวๆทำให้ เจนก็เผลอยิ้มออกมาแล้ว


“ถ้ายังไง อาบน้ำกันก่อนแล้วค่อยออกไปกินอาหารกันข้างนอกก็ได้”


“อื้อ”


“แต่ถ้าเดินไม่ไหวเดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”


“อืม ว่าแต่พี่รบต้องกลับวันไหนอ่ะ”  เจนถาม


“อืม อีกสามวันน่ะ พี่ซื้อตั๋วเผื่อเวลาตามง้อเจนด้วย”  เจนยิ้มออกมา ตั๋วของเจนจริงๆต้องกลับพรุ่งนี้ แต่เดี๋ยวยกเลิกแล้วกลับสายการบินเดียวกันดีกว่า


“ถ้าง้อไม่ได้ทำไงละเนี่ย” ว่าแต่นี่ให้เวลาตัวเองง้อเจน 3 วันจริงๆเหรอเนี่ย….


“ก็อยู่ต่อ เลื่อนตั๋ว แค่นั้นเอง”


“งานการไม่ทำแล้วเหรอไง”


“งานอ่ะ เดี๋ยวค่อยทำก็ได้”


“…….”


“แต่ง้อเจน….ต้องรีบทำเนอะ”  น่ารัก…คือคำที่เจนคิดได้ในตอนนี้ เจนจิ้มขนมปังอีกชิ้นก่อนจะยื่นให้เขากิน หอมแก้มสากของเขาก่อนจะชักชวนสิ่งที่ตั้งใจ


“ไปเจอครอบครัวเจนที่นี่กันไหม”


“ได้สิ”  เขายินดีที่จะได้พบทุกคนที่เจนรัก เพื่อที่จะว่าจะได้บอกคนเหล่านั้นว่ารักเจนแค่ไหน ต่อไปนี้เส้นทางแห่งอนาคตของเรามันได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว


และไม่มีวันที่เราจะต้องเกรงกลัวการจับมือกันให้มั่น
เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคใดๆอีกต่อไป….



Talk:
คุณงามความดีของขาอ่อนถึงขนาดถูกนำมาตั้งเป็นชื่อตอน555
ในส่วนของฉากนั้นโปรดอย่าว่าในความกากของเรา ต่อให้พยายามจะเขียนแค่ไหนมันก็ได้แค่นี้จริงๆ ฮือออออออออ น่าจะถนัดเรื่องบ่นขิงข่ามากกว่า5555 ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์เรื่องเจนหายไปจากทุกคนนะคะ และก็ขอโทษที่ทำให้จมดิ่งไปกับเรื่องของเจนก่อนจะกรอกตาบนกันถ้วนหน้า จริงๆมีตอนพิเศษว่าด้วยการพบกันของเคลวินและคุณรบด้วย ซึ่งในตอนนี้คุณรบคงลืมบอกเจนว่าตราบใดที่ลูกกบไม่อยู่ หนี้ของเจนจะไม่มีวันหมดไปง่าย5555 ค่าตัวพี่เขาแพงต้องชดใช้กันให้คุ้ม555
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้ว เราก็จะกลับไปหาลูกกบกันอีกนิด และจะกลับมาหาเพชรพระพายกันจริงๆ ในส่วนเรื่องของพระพายก็จะว่าด้วยเรื่องปัญหาชีวิตของทั้งคู่และความรักของเขาสองคนในประมาณ 10 กว่าตอนนิดๆ ดราม่าเล่นไม่ใหญ่เท่าคู่นี้ และจะพยายามมาอย่างสม่ำเสมอนะคะ แต่ไม่อาจจะบอกว่าจะมาติดๆกันได้แบบนี้จริงๆ55

หัวข้อ: Re: [บทที่ 45] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 4.9.2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 05-09-2018 18:39:32
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 05-09-2018 18:48:23
คุณรบดุจังอ่าา
คุณรบคนขรึมในวันนั้นหายไปแล้ว 5555
ชอบความแรดของเจนน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-09-2018 18:52:11
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 05-09-2018 19:01:35
โดนกินแล้วน้องเจนนนนนนน​ คุณรบดุจุง :hao6:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-09-2018 19:29:30
อิฉันมีความสุข~~~
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-09-2018 19:38:01
โอ้โหพ่อหม้ายก้อพ่อหม้ายเถอะ ดุแท้
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-09-2018 19:53:05
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 05-09-2018 20:03:44
คือดีมาก  ดีมากมายย 
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 05-09-2018 22:07:48
ปี้ยบคนนั้นไปไหนแย้ววววว เหลือแต่พี่รบคนที่ทำให้หัวใจน้องเจนบางจนจะทะลุได้
สรุปว่ากลับมาฉุกเฉินนะ แอบโล่งใจนึกว่าน้องจะคิดอะไรมากซะอีก
นี่ดีไม่ดีพี่รบอาจจะเลื่อนตั๋วอีกก็เป็นได้เพราะอยู่นี่ไม่มีลูกกบมาขัดจังหวะ ><

และเราก็นึกว่าจะได้เจอพี่เคล แต่ไม่อ่ะ ตอนหน้าจะได้เจออยู่ใช่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-09-2018 22:38:12
เจนแซ่บมะพี่รบ ในที่สุดก็ได้กินเจนซะที ห่างสายตาลูกกบต้องจัดให้คุ้มนะ :z1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 05-09-2018 22:58:16
อ๊ายยยคุณรบดุเว่อร์  :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-09-2018 23:07:04
ทำไมพี่รบไม่อ่อนโยนเลย  :m25:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-09-2018 00:34:38
 :mc4: :man1: :mc4:



 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-09-2018 11:26:29
คุณรบไม่อ่อนโยนเลย ทำไมถึงได้เซ็กซี่และโซฮอทขนาดนี้ ทั้งเจรทั้งคนอ่านใจเหลวกันไปหมดแล้ว ตอนหน้าจะจบแล้วคิดถึงลูกกบจัง
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 06-09-2018 18:49:48
โดนพ่อกบกินซะแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: [บทที่ 46] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 5.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-09-2018 19:04:52
มารอของวันนี้ค่ะ
หัวข้อ: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (นักรบxเจนรักษ์) 6.9.2018 P.25 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 06-09-2018 19:13:54
#เจนไม่นก
เจนไม่นก


ชีวิตมันก็จะเรียบง่ายประมาณหนึ่ง
เรียบง่ายแบบที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ชีวิต


“ด้า!”


“ด้า!”  เอาสิ…ด้ามาด้ากลับไมโกง เจ้าตาใสที่ตื่นมาได้ไม่นานกำลังเล่นจ๊ะเอ๋กับคุณพี่เลี้ยงคนโปรดอยู่บนฟูกนอน  เป็นเช้าวันหยุดที่สดใสแบบที่เจนไม่เคยคิดว่าจะมีได้เช่นกัน เจนค่อยๆทาบนิ้วที่ริมฝีปาก ส่งเสียงชู่วออกมาเป็นการส่งสัญญาณว่าอย่าเสียงดัง


“แฮะๆ…แฮ่”


“ป๊ะป๋าหลับอยู่นะครับ”  เจนพูดเสียงเบา ก่อนจะมองเลยร่างนุ่มนิ่มของน้องวินไปที่ทางอีกคนที่หลับสนิทอยู่ไม่ไกลกันนัก ใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง  เจนไม่อยากให้คุณรบตื่นขึ้นมาเพราะกว่าจะได้กลับก็ดึกมากๆ ทว่าความคิดถึงสั่งให้คนพ่อที่ควรจะไปพักผ่อนเลือกที่จะมาเคาะห้องลูก นั่งเล่นอยู่ที่นี่ทั้งๆที่น้องวินก็หลับไปแล้ว นั่งไปนั่งมาก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆเจ้าลูกกบ ก่อนจะหลับยาวตามกันไป จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นนอนขึ้นมา


เจนดึงน้องเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน เราใส่ชุดนอนสีเดียวกันในวันนี้ เพราะความว่างงานและมีเงินเปย์ของเจนทำให้ไอเทมคู่ต่างๆถูกหาซื้อมาใช้ เจ้าลูกกบตัวน้อยที่เพิ่งจะหัดเดินได้ไม่นานหัวเราะคิกคักอยู่กับอกพี่เจนที่นอนราบไปกับฟูก เราสองคนกลิ้งไปมาอยู่อย่างนั้น ลืมเลือนไปเลยว่าใครบางคนกำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ และเขาไม่ใช่คนที่หลับลึกนัก


ยิ่งคนที่ก่อกวนกันโดยไม่ได้ตั้งใจต่างเป็นคนที่เขาก็รัก


“พี่รบ”  เจนเรียก อยู่ๆคนร่างสูงก็ดึงทั้งเจนและลูกในอ้อมกอดของเจนไปสู่อ้อมกอดของเขา นักรบยังคงหลับตา แสร้งทำเป็นละเมอทั้งๆที่ใครที่ไหนก็ดูออกว่าเขาแกล้งทำ เจนหรี่ตามองเขาอย่างไม่เชื่อถือ ทว่าก็ยังยอมอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น จริงๆเจนก็ไม่ได้หนาวอะไร แต่อุณหภูมิร่างกายของคนพ่อและคนลูกที่เจนสัมผัสได้ กับกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำยาปรับผ้านุ่มในผ้าห่มนวมที่พันกายเราทั้งสาม มันทำให้เจนเคลิ้มไปจนยอมที่จะไม่เรียกร้องขอออกจากอ้อมกอดของคนที่แกล้งเอาเปรียบกันแต่เช้า


เหมือนฝัน….เหมือนฝันจริงๆ


“อ้าว หลับไปแล้วเหรอ”  กลายเป็นคนแกล้งหลับที่อดทนรอเจนมาโวยวายไม่ไหว เขาเลยลุกมาโวยวายแทน อุตสาห์ดึงมากอด แต่เจ้าตัวกลับไม่โวยวายเขาเลยหมดโอกาสฟัด นักรบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แต่อีกคนที่ก็ไม่ได้หลับจริงๆแต่แค่เคลิ้มกลับรู้ตัว มือเล็กถูกยกมาดันหน้าของเขาออก นี่ขนาดแค่มือยังรู้สึกยุบยิบ ถ้าให้คุณรบเอาหน้ามาฟัดกัน แก้มของเจนคงช้ำ


ก็คุณรบไม่ยอมโกนหนวดอีกแล้วอ่ะ….


เนี่ยพอคบกันแล้วเริ่มเคยตัวแล้วเห็นไหมล่ะ อย่างที่เจนเคยพูดเสมอมา ไทป์ที่ตนมองจนต้องห้ามใจไม่ให้เหลียวหลังคือผู้ชายเนี้ยบๆ จริงๆเจนก็เป็นผู้ชายเนี้ยบๆคนนึง และไม่ใช่ว่าเจนจะไม่มีหนวดสักหน่อย แต่เพราะดูแลดี ไอ้ไรเขียวๆอะไรแบบนี้จึงไม่มีให้เห็นบนหน้าใสๆ กรรมพันธุ์ทางแม่ของเจนถือว่าดีเลย ทั้งตัวจุ้นและเจนเรียกว่ามีผิวที่เรียบเนียนในระดับหนึ่ง แต่เพราะเป็นผู้ชายจึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษเพื่อให้มีผิวที่ดีตามอุดมคติของตนเอง ทุกวันนี้แม้ไม่ได้ใช้หน้าตาในการทำมาหาเลี้ยงชีพแล้ว (?) แต่เจนก็ยังดูแลไม่ได้ขาดตกบกพร่อง แถมดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ก็เนี่ย….งานการก็ไม่ได้ทำจริงจังใช่ไหม ที่จริงจังที่สุด ก็คือเจ้าลูกกบในอ้อมกอดนี่แหละ


“อื้อ”  เสียงครางไม่พอใจดังออกมาจากลำคอของเขา


“หนวดไม่โกนนะ”


“ก็พี่เหนื่อยอ่ะ”  เขาก็ยังโต้แย้ง เจนควรเห็นใจ เพราะตนก็รู้ดีที่สุดจริงไหม


“ไม่ได้ว่าครับ เข้าใจ แต่ก็อยากให้รู้ด้วยว่ามันเจ็บ แถมฟัดลูกแบบนี้ น้องวินก็เจ็บนะ” 


“ดุจริง เป็นเมียแล้วเลยดุกันได้ใช่ไหม”


“พี่รบ!”


“สรุปคือถ้าไม่โกนหนวด ก็คือจะไม่ได้ฟัดทั้งลูก และพี่เลี้ยงของลูกใช่ไหม”


“ถ้าลูกไม่ร้อง ก็ฟัดลูกได้ครับ แต่พี่เลี้ยงของลูกนี่….”


“ว่าไงครับ”


“ลองครับ เจนจะกรี๊ดใส่หูให้แตกไปเลย!”  และเขาเชื่อว่าเจนทำได้จริงๆ คนเรามีความสามารถได้ระดับนั้นจริงๆ


เรากลับจากอเมริกากันมาสักพัก และเจนได้พาเขาไปเปิดตัวที่บ้านครอบครัวคูเปอร์อย่างเป็นทางการแล้ว อย่างที่คิดไว้ เคลวิน คูเปอร์คนอันตรายที่กะจะกักบริเวณตัวจุ้นไว้ในบ้านกับเขาแค่สองคนจำต้องพาจอมแสบที่หนีงอนกันไปมาร่วมโต๊ะอาหารด้วย ความเอาแต่ใจของเขาที่ลากเจนมาถึงอเมริกาก่อนจะเฉดหัวมาโดนคุณนักรบยำต่อไม่ได้ถูกสะสาง เพราะหนึ่งในเหยื่อของเหตุการณ์อย่างคุณรบได้ยกหนี้ให้พี่ชายเจนที่คุยกันดีแต่ไปทบต้นทบดอกค่าตั๋วเครื่องบินและค่าเสียเวลาของเขาจากเจนจนแทบไม่เหลือวิญญาณกลับมา ที่เอวหยอกเป็นอาทิตย์นี้ไม่ต้องถามเลยว่าเอาคืนเก่งแค่ไหน มีแค่ระเบียงห้องล่ะมั้งที่เจนยังไม่ได้ไปเยือน!


งานนี้คนทั้งสองได้เจอกันครั้งแรก แต่ก็ดูจะสนิทสนมกันเร็วราวกับรู้จักกันมาสิบปี! คนไว้ใจไม่ได้ก็ย่อมเป็นมิตรกับคนประเภทเดียวกันสินะ เหมือนกับว่าทางฝั่งพี่น้องคนสนิทคิดไม่ซื่อก็ลงเอยยอมรับกันแล้วเช่นกัน หลังจากที่กลัวคนในบ้านรับไม่ได้อยู่นาน ในที่สุดตัวจุ้นก็ยอมรับความจริงที่หนีไม่พ้นอยู่ดี ที่สำคัญ ไม่มีใครไม่รู้เลยเหอะ! แต่เรื่องของคนอื่นที่ไม่ใช่เจนรบ เก็บไว้อ่านในตอนพิเศษกันเถอะนะ แค่กๆ


เรากลับมาที่ไทยและโดนคุณแม่ของคุณรบสวดยับทั้งบ้านที่วุ่นวายขนาดนี้ เจนเพิ่งรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุกับเขาเล็กน้อย แต่ถึงจะเล็กน้อยแค่ไหนก็เรียกน้ำตาจากคนบ่อน้ำตาตื้นอย่างเจนได้ละกัน และหลังจากนั้นทุกคนก็วุ่นวายกับการปลอบเจนที่โทษตัวเองไม่หยุด เดือดร้อนคุณเพชรต้องเอาใบรับรองแพทย์ของเจ้านายมาโชว์ให้ดู และเมื่ออยู่ด้วยกันกับคุณรบ เขาก็ยืนยันหนักแน่นว่าเขาไม่เป็นไร เพราะถ้าเป็นอะไรจริงๆ ก็คงไปไม่ถึงอเมริกาและเสียตัวให้กันไปหลายยกแบบนั้น พอรื้อฟื้นความทรงจำแบบหน้าด้านๆให้กันแบบนั้น น้ำตาเจนก็ไหลย้อนกลับ และหันมาใช้ความรุนแรงใส่เขาอย่างสาสมกับความสามารถในการก่อกวน แต่อย่างไรนี่ก็คือบทเรียนที่ต้องระวัง เจนจะใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ความรู้สึกคนรักเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เพราะกับคนนี้เขาแคร์เจนมากและเจนก็แคร์เขาด้วยเช่นกัน มันไม่คุ้มเลยหากจะต้องสูญเสียอะไรไปทั้งนั้น

เราได้คุยกับแม่ของเจนเรื่องความรู้สึกของเราทั้งคู่ที่ชัดเจน ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะกลัวเธอจะรู้สึกระแวงเรื่องคุณรดาอีก แต่คุณรบอยากให้แม่ไพมั่นใจในตัวเขา ไม่ใช่ในฐานะของคุณรบที่เธอเลี้ยงมา แต่เป็นคุณรบที่เป็นคนรักของเจน…ลูกชายสุดหวงของเธอ  ในที่สุดคุณอำไพก็ยินดีและยอมรับที่จะมีเขามาเป็นลูกของตนอีกคนจริงๆ….


ส่วนน้าจินที่เคยเป็นขี้อิจฉากลับไม่รู้สึกอะไรที่เจนได้เป็นแฟนคุณรบและแม่ไพที่ได้เลื่อนเป็นแม่ยาย ทั้งนี้อาจจะเพราะเรื่องราวที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกพอใจกับสถานะต่างๆของตัวเองแล้ว เราถือเป็นผู้ร่วมงานกัน ไม่มีการเป็นคนใช้เจ้านายที่แท้จริงๆ เพราะคุณหญิงพูดชัดว่าทุกคนต่างมีบทบาทที่ต้องเกื้อกูลกันทั้งนั้น ผนวกกับข้อตกลงของพระพายที่ยอมทำกับบ้านรัตนสกุลในช่วงนี้ มันทำให้เธอหมดห่วงกับอนาคตของลูก และยินดีกับทุกคนที่ก้าวผ่านเรื่องเลวร้ายที่กัดกินใจกันเป็นปีๆ


ส่วนพระพาย…หลังจากได้ช่วยคุณนักรบในวันนั้นก็เหมือนจะชัดเจนในตัวเองขึ้นมาอีกนิด และด้วยแรงเสี้ยมหรืออย่างไรไม่ทราบ หลังจากปิดเทอม พระพายที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ก็จะแบ่งเวลามาเรียนรู้งานกับรัตนสกุล โดยตำแหน่งที่คาดหวังไว้ไม่ใช่อะไรที่ไหนเลย แต่ก็เป็น ‘เลขาคุณรบ’ เพราะหัวไว น่าไว้ใจ และทันความต้องการของเขา พิสูจน์ได้จากการหาตั๋วเครื่องบินและไหวพริบในการช่วยประสานงานกับทางคูเปอร์ เรียกว่าเหตุการณ์เจนรักษ์หายทำให้พระพายได้ฉายแสงขึ้นมา ว่าแล้วก็ไม่รู้ว่าสรุปที่หายไปนี่น่าด่าหรือน่าชื่นชม


 แต่จริงๆเรื่องที่พระพายมาช่วยงานเจนว่ามันมีเงี่ยนงำ เอ้ย! เงื่อนงำ….


“คิดอะไรอยู่อีกล่ะ”  เขาถาม แต่บอกให้โง่เหรอ ในส่วนเรื่องกิ๊วก๊าวของเจนและคุณรบนั้นก็มีบ้างหลังจากกลับมา แต่ก็ต้องแอบทำกันบ้างไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็ก (น้องวิน) และความไม่เหมาะสม (คนแก่ทั้งหลาย) ในส่วนของที่นอนประจำของคุณรบก็ควรจะเป็นห้องของเขาไม่ใช่ห้องน้องวินแบบนี้ แต่คนพ่อกำลังคิดเรื่องตกแต่งห้องลูกเพื่อให้พ่อมานอนด้วยได้เช่นกัน นักรบนั้นเติบโตมาด้วยความรักแบบเข้าใจยากของคนเป็นพ่ออย่างคุณธานิญมาตลอด หลังจากที่เจนเข้ามาในชีวิต เขาก็คิดได้ว่าไม่ควรทำให้ลูกลังเลในความรักของเขา ดังนั้นจึงต้องแสดงออกไปให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้


“เจนเปล่าน้า”  แต่เขาไม่ยอมฟังคำแก้ตัว นักรบนั้นดึงเจนให้เข้าสู่อ้อมกอดเขาอีกครั้งก่อนจะฟัดแก้มอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยว และทั้งหมดอยู่ในสายตาของน้องวินที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้


เมเดย์ๆ เจนโดนทำร้าย
โดยปีศาจหนวดยักษ์ไม่น่าไว้ใจ


“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”  และเสียงร้องประกาศิตของผู้พิทักษ์องค์รักของเจนหรือเด็กชายอัศวินก็ทำให้คนทั้งสองหยุดชะงักและผละออกจากกัน พวกเขาแสดงความรักต่อหน้าน้องกันบ้าง และหลายครั้งน้องมักจะแหกปากโวยวายออกมา


มันเพราะอะไรกัน……..


“เจะเจ เจะเจ้ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”


เจนของหนู เจนเป็นของหนู…นักรบรู้สึกได้ว่าลูกตะโกนคำนั้นใส่หน้า


“โอ๋ มาแล้วครับ เจเจ ของน้องวินมาแล้ว”  และเช่นเคย ถ้าให้ลำดับความสำคัญ นักรบเหมือนอยู่ปลายแถวเลย ตอนนี้เจ้าลูกกบมาเอาหน้าไปแล้ว เขาเหมือนถูกทิ้งเป็นหมาหัวเน่าจนต้องเกาหัวแกรกๆแก้เก้ออยู่คนเดียว ให้ตายสิ


แต่นักรบยังยืนยันในความตั้งมั่นของเขา…


ร่างสูงนั้นค่อยๆคลานไปหาคนทั้งคู่ที่นั่งกอดปลอบกันอยู่ น้องวินหยุดร้องแล้วและกำลังซบใบหน้ากับอกของเจน เขาเขี่ยแก้มใสของเด็กขี้งอนเล่น ทั้งเอ็นดู ทั้งขำ…และมันเขี้ยว เจนส่งลูกให้เขาเมื่อร้องขอ น้องวินที่เห็นภาวะความเป็นภัยของคนพ่อน้อยลงแล้วจึงยอมให้สัมผัสกันได้แต่โดยดี แต่เจ้าลูกกบนะเหรอ จะมารู้ทันพ่อกบที่เกิดก่อนมานาน รู้ไว้ซะด้วยเจ้าลูกชาย ว่านายน่ะเกิดมาช้าเกินไป


“น้องวินครับ”  เขากระซิบเสียงเบา


“งืออออ”  น้องนั้นยังคงเบะปากงอนอยู่แต่ไม่ร้องแล้ว


“ป๊ะป๋าจะบอกให้อย่างนะครับ”


ใช่…ลูกอ่ะเกิดมาช้าไป


“เจนเป็นของป๊ะป๋า”


หืม….


“และป๊ะป๋าไม่ใจดี”


เสียดายที่หนูนะเกิดมาช้าไป


“ป๊ะป๋าไม่ยกให้นะครับ”


ฮึก


“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”


“พี่รบ!!!!!!!!” และบ้านรัตนสกุลก็จะมีเสียงร้องปะปนไปกับเสียงร้องไห้แบบนี้


เป็นข้อยืนยันให้ทุกคนได้รู้….ว่าเจนและคุณรบ….
เราสองคนไม่มีใครต้องนกอีกแล้ว…..



Talk: 
เป็นตอนสั้นๆว่าด้วยบทสรุปของเรื่องนี้ แต่จริงๆมันจะมีตอนพิเศษอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องด้วย เช่น ความเห็นของคุณรบต่อคู่เพชรเจนที่เรือล่มแบบไม่มีวันกลับ ตอนพิเศษคู่รบเจนเจอกันตอนเป็นเด็กน้อย ตอนพิเศษการรวมตัวของเหล่าชิปเปอร์ที่ลืมวี้ดภารกิจรบเจนได้กันแล้ว และอื่นๆ แม้แต่การเจอกันของเคลจุ้นและรบเจนก็มี และยังมีอีกที่ยังไม่ได้แต่ง5555 อย่างที่บอกว่าจำนวนตอนเยอะ แถมยังมีคู่อื่นอีก เราเลยต้องทำกัน 3 เล่มเลย เพราะตอนหลักของเจนอย่างเดียวรวมๆแล้วถ้าทำสองเล่มก็ยังมีโอกาสปาหัวแตกได้555 ยังไงฝากเจนไม่นกที่กำลังจะทำเป็นเล่มด้วยนะคะ เรื่องนี้น่าจะได้ออกในงานหนังสือสักงานของต้นปีหน้า และจะมีอีบุคหลังจากนั้น ในระหว่างนี้เราจะลงเพชรพระพาย และตอนพิเศษอื่นๆเรื่อยๆเพื่อไม่ให้คิดถึงกัน ในกระทู้นี้ต่อเลยแหละค่ะไม่เปิดใหม่ 555 /งุ้ยยยยยยขายเก่ง55555
มาถึงเรื่องเพชรพระพาย เราว่าจะลง intro ให้อ่านในวันนี้หรือพรุ่งนี้ในเว็บนี้ และตอนที่ 1 ในเสาร์หรืออาทิตย์นี้แหละค่ะ มาลุ้นเอาใจช่วยคนไม่นกที่กำลังต่อเรือปูพรมเชิญน้องมาขึ้นเรือกันนะคะ อาจจะมีอ้างถึงคู่รบเจนหน่อย เพราะถือเป็นคู่ตัวอย่างที่เพชรใช้เป็นแบบอ้างอิงในการจีบพระพาย คู่นี้จะอารมณ์ขึ้นลงหน่อยเพราะพระพาย น้องก็จะพาสเทลนิดๆหม่นหน่อยๆ แต่พอมาบทพ่อพระเอกก็จะดีดเลย ตอนแต่งก็แทบเอาหัวโขกโต๊ะ555
มาถึงตรงนี้เราก็ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้ความสนใจนะคะ เจนไม่นกไปเกินกว่าที่เราคิดไว้จริงๆ อาจจะมีผิดพลาดมากมายในแง่ต่างๆก็ต้องขออภัยในจุดๆนี้และน้อมรับคำชมและคำแนะนำทุกอย่างไว้ ถ้ายังไงเราขอฝากเรื่องอื่นๆที่จะมีในอนาคตต่อไปด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ
และหวังว่าจะได้เจอกันอีกครั้งในเร็วๆนี้



หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-09-2018 19:32:10
 :man1:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-09-2018 19:50:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 06-09-2018 19:53:15
ฮ่าๆ..คุณพ่อร้ายมาก..น้องวินอย่ายอมลูก..เเย่งพี่เจนมา..55
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ..สนุกๆเเบบนี้นะคร้าาา..
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-09-2018 20:06:07
จบได้น่ารักมากเลยค่ะ สงสารน้องวินโดนพ่อแย่งพี่เจนไป น้องอย่ายอมค่ะลูก น้องต้องสู้!!!
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-09-2018 20:21:44
 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-09-2018 21:00:25
โฮ้ย..............ดีต่อใจเจงๆ  :mew1: :mew1: :mew1:

เจ้าลูกกบหวงเจน   :z3:
พ่อรบก็แย่งเจนอีก  :laugh:
แบ่งๆกันนะพ่อลูก 
เจนรักทั้งสองคนอยู่แล้ว
นักรบ  เจนรักษ์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-09-2018 21:09:06
พ่อกบร้ายจริงๆ ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 06-09-2018 21:41:31
คุณร๊บมันร้ายยยยย !!

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-09-2018 22:06:40
เอ็นดูลูกกบเหลือเกิน ลูกเอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 06-09-2018 22:33:59
แล้วเจอกันใหม่นะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-09-2018 00:16:17
สนุกมากๆ เลยครับ ตามอ่านสองวันจนจบเลย
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-09-2018 00:24:53
หลังจากที่ชุลมุนวุ่นวายปนดราม่านิดๆในที่สุดเจนก็ไม่นกแล้วววตาทชื่อเรื่องเลย อยากอ่านตอนพิเศษที่เจ้าลูกกบสักสองสามขวบอยากรู้ว่าจะหวงพี่เจนขนาดไหน
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-09-2018 01:16:17
พี่รบหวงเก่งงงง กับลูกยังไม่ยอมเลย ตอนนิ่งก็นิ่งซะ พอเป็นแฟนหื่นมาก ขอบคุณค่ะ สนุกมาก
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 07-09-2018 14:22:33
เบื้องหลังความมโน ความเวิ่นเว้อของเจน คือความที่เข้าใจตัวเอง รู้ว่าตัวเองเป็นใคร กำลังทำอะไร และเพื่ออะไร  คนเราอาจไขว้เขวคิดเป็นตุเป็นตะได้ แต่สุดท้ายแค่หาบทสรุปให้ตัวเองได้ก็โอเค และเจนก็เป็นเช่นนั้น

:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [บทที่ 47] เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนจบคู่รบเจน) 6.9.2018 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: AmPnie ที่ 07-09-2018 17:51:09
เจ้าลูกกบบบบบบบบ น่ารักกกกก มาป้าฟัดทีนะลูกกก  :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 07-09-2018 20:49:50
เพชรพระพาย
Intro


พระพายก็เป็นแค่พระพาย
พระพายจะเอาอะไรไปเทียบเคียงเขา


พี่เจนบอกว่าพระพายคนดีดูมีความเป็นนางเอกละครมากกว่า แต่จริงๆพระพายมองว่าพี่เจนเป็นคนน่ารักและมีเสน่ห์มากๆ เมื่อตอนที่ได้ยินว่าทั้งคุณรบและพี่เจนคบกันแล้ว พระพายก็รู้สึกดีใจกับทั้งคู่ เพราะมองมุมไหนเขาสองคนก็มีความเหมาะสมกันในทุกๆด้าน ถึงแม้พี่เจนจะพูดเสมอว่าเราต่างก็เหมือนกัน แต่จริงๆเราไม่เหมือนกัน….เพราะพระพายก็เป็นแค่พระพาย พระพายไม่เคยเป็นแบบพี่เจน


และเพราะเป็นแค่พระพายจึงมิอาจเทียบเคียง


พระพายอาจจะมีชื่อเล่นว่าพายหรือบางคนก็เรียกพระพายไปเลย แต่บางคนก็จะชอบเรียกพระพายและต่อด้วยคำว่า ‘คนดี’ เข้าไป ทั้งๆที่พระพายก็ไม่ได้รู้ว่าตนเองจะเป็นคนที่ทำดีได้พิเศษกว่าคนอื่นๆตรงไหน แต่คำเรียกขานที่ว่า ‘น้องพระพายคนดี’ ก็ทำให้ตนลอบยิ้มทุกครั้ง เพราะแม้ตนไม่อาจจะเทียบเคียงความพิเศษอื่นใดกับคนอื่นได้ คำว่าคนดีก็ทำให้พระพายที่ไม่มีอะไรเลยรู้สึกว่าตนพิเศษขึ้นมา


พิเศษที่เป็นคนดีอย่างไร
แต่ก็ใช่ว่าคนดี ผีจะคุ้มเสมอ….


“ปิดเทอมนี้พระพายจะไม่ไปเที่ยวด้วยกันจริงๆเหรอ”  พริมพราวนั้นออกปากถามพระพาย ที่บ้านของเธอนั้นจัดได้ว่ามีฐานะที่ค่อนข้างรวย การคบกันกับเธอจึงทำให้คนอื่นสงสัยว่าพระพายนั้นอยากจะเกาะเพื่อนรวยหรือเปล่า แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่ต้องมาคอยบอกย้ำกับใครว่าที่พวกเขาคิดมันไม่ใช่ การคบหากันมันต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมอยู่แล้ว และระหว่างเรามันคือผลประโยชน์ที่เรียกว่าความสบายใจ


“พระพายบอกพริมพราวแล้ว ว่าเราจะเข้าไปฝึกงาน”


“ทำไมรีบฝึกนักล่ะ พระพายยังไม่จบปีหนึ่งเลยนะ”


“ก็พายอยากทำอ่ะ ได้เงินด้วยนะ”  จริงๆแล้วพระพายก็ได้เงินจากบ้านรัตนสกุลอยู่ตลอด และการเข้าไปฝึกงานนี้พวกเขาก็ไม่ได้เร่งเร้ากันเลย แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง อย่างแรกเลยคือพระพายอยากมีประโยชน์กับพวกเขาให้เร็วที่สุด และช่วงปิดเทอมที่ว่างๆนั้น พระพายก็อยากจะทำอะไรสักอย่างให้ตนได้รู้สึกถึงคุณค่า อย่างน้อยก็ช่วยลบล้างความรู้สึกผิดบางอย่างในใจที่ใครๆก็บอกกันว่าไม่จำเป็นต้องคิดมาก


พระพายเป็นที่รักมากไป….


บางทีก็น่าอึดอัดแต่ในความอึดอัดกลับรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจอย่างเป็นที่สุด บ้านรัตนสกุลที่แม่ทำงานอยู่เอ็นดูและคอยช่วยเหลือกันมาก พี่เจนที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานก็มักจะให้เงินให้ของด้วยความเอ็นดู พระพายรู้สึกขอบคุณกับการมอบให้ที่เหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านี้ แต่บางทีก็รู้สึกอยากจะยืนได้ด้วยตัวเองบ้าง พระพายก็อายุ 19 ปีแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่เดินไม่แข็งอย่างไรไม่รู้ หรือว่าพระพายนั้นจะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนตนอายุพอๆกับน้องวิน?


การถูกรักมันก็ดี แต่บางทีก็รู้สึกเหมือนไม่ถูกเชื่อใจเหมือนกัน


“คนนั้นใช่พระพายที่เขาลือกันใช่ไหมเธอ”


“ฉันว่าใช่นะ วิชานี้ก็เรียนด้วยเหรอ”


“แกว่าเขาเป็นเด็กเสี่ยจริงๆไหม”


“แต่ฉันได้ยินว่าเป็นลูกเมียน้อยนะ”


“อ้าว ไม่ใช่ว่าเป็นแค่ลูกคนใช้เหรอ”


“………….”


“เฮ้ย! เราว่าเขาได้ยินว่ะ”


“จ้ะ! พวกเราได้ยิน!”  เป็นพริมพราวที่ตะโกนบอกออกไป คนพวกนี้ช่างไร้มารยาท เธอหันไปมองเพื่อนที่ยังคงนั่งเงียบ แต่ในใจ…พระพายคงอยากกู่ร้องออกมา เด็กคนนี้ควรจะได้เริ่มต้นปี 1 ในมหาวิทยาลัยแบบเด็กทั่วไปสิ


ทำไมพระพายถึงต้องมาเผชิญกับอะไรแบบนี้ด้วย….


ทุกอย่างเริ่มจากการที่พระพายชื่อว่า พระพาย ชวนันท์…. นามสกุลของพระพายไปเหมือนกับเด็กแฝดคู่หนึ่งที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละวิทยาเขต เท่าที่พระพายรู้คือพวกเขาเป็นคนดังน่าดู แต่มันไม่น่ามีอิทธิพลมาถึงทางนี้ ถ้าใครบางคนไม่พยายามทำอะไรบางอย่าง พระพายเองก็ไม่คิดว่าโลกใบใหม่ที่เรียกว่ามหาวิทยาลัย มันจะมีคนร้อยพ่อพันแม่และคนที่คิดต่างกันอย่างสุดขั้วขนาดนั้นจริงๆ


แต่มันก็มีไปแล้ว….


เท่าที่ทราบ….ชวนันท์คือตระกูลนักธุรกิจที่น่าจะใหญ่พอๆกับรัตนสกุล แต่รัตนสกุลเพิ่งจะมาอู้ฟู้เป็นที่รู้จักในสมัยของท่านธานิญ รัตนสกุล พ่อของคุณรบที่เสียไปแล้ว พระพายไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับชวนันท์ น่าจะเพราะนามสกุลดันไปเหมือนกันก็แค่นั้น เพราะนี่คือเรื่องจริงไม่ใช่ละคร พระพายคงไม่ได้เป็นลูกเศรษฐีบ้านนึง เพื่อมาเป็นลูกคนใช้ที่ทำงานอยู่อีกบ้านนึงได้หรอก


พระพายไม่ใช่เดือนคณะ แต่ก็มีคนพูดว่าพระพายเหมาะสมจะเป็นมากกว่าบางคนที่เป็นอยู่ ตั้งแต่ช่วงรับน้อง พระพายได้เข้าไปอยู่กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งของคณะที่มีเพื่อนคนหนึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นเดือนเพื่อเข้าแข่งขันกับคณะอื่นๆของมหาวิทยาลัย พระพายรู้สึกยินดีกับเพื่อนจริงๆ ช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่เรื่องดีๆก็อยู่ไม่นาน ก่อนงานที่มีการจัดประกวดดาวเดือน คนในคณะบางคนเริ่มเห็นต่างและมีเสียงบอกว่าเพื่อนคนนั้นที่ได้เป็นเดือนไม่เหมาะสม และมันจะไม่เกี่ยวข้องกับพระพายเลยถ้ามีบางคนพูดว่าพระพายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเหมาะสมกว่า


ด้วยความที่กลุ่มนั้นเป็นกลุ่มใหญ่ บ้างก็เห็นด้วย บ้างก็ไม่เห็นด้วย และก็มีบ้างที่ไม่สนใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นประเด็นที่ว่าเพื่อนไม่ควรเสียบแทงข้างหลังเพื่อนก็เป็นประเด็นหลักให้เล่น ถึงแม้พระพายจะยืนยันว่าตนไม่ต้องการตำแหน่งนี้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่เชื่อ และบางคนที่ไม่เชื่อนี้ ก็ก่อความวุ่นวายให้กันด้วยการเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ทั้งเป็นจริงและไม่เป็นจริงออกไปพูด


เกิดข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับพระพายในคณะ และด้วยเพราะนามสกุลของพระพายดันไปเหมือนกับคนดังของมหาวิทยาลัย เรื่องไร้สาระที่ว่าพระพายเป็นเครือญาติของลูกเศรษฐีตระกูลชวนันท์ก็แผ่กระจาย แต่ในความเป็นจริง….พระพายเป็นแค่ลูกคนใช้ในบ้านรัตนสกุล แม้จะได้อยู่หอราคาแพงและรถญี่ปุ่นตัวท็อปมาใช้ แต่ก็ยังห่างไกลจากการเป็นลูกคนมีเงินนัก และนั่นมันก็ไม่ใช่ของๆพระพายเสียหน่อย!


หลังจากนั้นข่าวที่ว่าพระพายเป็นแค่ลูกคนใช้ก็ถูกแพร่กระจายออกไปด้วย ทว่าความจริงอันเป็นสิ่งไม่ตายน่าจะช่วยทำให้สบายใจขึ้นมา แต่ไม่เลย คนกลับเอาไปลือกันผิดๆต่อว่า พระพายเป็นแค่ลูกคนใช้ที่อยากจะดังเลยแอบอ้างว่าตนเป็นลูกเศรษฐีเพราะหวังว่าจะได้เข้ากลุ่มเป็นเพื่อนกับคนรวย และด้วยเพราะเหตุนี้ กลุ่มใหญ่ที่พระพายเข้าไปเป็นเพื่อนซึ่งประกอบด้วยเพื่อนที่ที่บ้านมีฐานะหลายคนก็เริ่มที่จะตีตัวออกห่าง


ไม่ว่าจะเพราะพวกเขาไม่ชอบความไม่จริงใจของพระพาย หรือเพราะขยะแขยงสถานะลูกคนใช้ที่พระพายเป็นอยู่จริงๆก็ตาม มันก็ทำให้เจ็บใจอยู่บ้าง แต่ไม่นานพระพายก็สามารถหาเพื่อนดีๆได้สองคน และรู้สึกสบายใจกว่ากับคนน้อยๆที่เข้าถึงได้ง่าย พริมพราวหรือพริม และ ธนทัต หรือทัต คือเพื่อนที่สนิทกันที่สุดในตอนนี้ พวกเราเจอกันเพราะวิชาเอกตัวเดียวกัน ด้วยเพราะที่นั่งว่างที่เหลืออยู่ทำให้เราได้มาเป็นเพื่อนกันจริงๆจังๆ และโชคดีที่ทั้งสองไม่ไหวเอนกับกระแสแอนตี้ของพระพายในมหาวิทยาลัย


อีกไม่นานก็สอบปลายภาคเสร็จแล้วและพระพายก็ตัดสินใจที่จะเข้าฝึกงานกับรัตนสกุลในช่วงปิดเทอม จริงๆพระพายเองก็ตั้งใจว่าจะไปช่วยคุณรบทำงานอยู่แล้วในตำแหน่งอะไรก็ได้ แต่เพราะเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้พระพายต้องเข้าไปช่วยเหลือเพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของคุณนักรบที่เลขาคนสนิทเพียงคนเดียวคงทำไม่ไหว หลังจากนั้นคุณหญิงพรรณีก็ได้เข้ามาสอบถามว่าสนใจมาเป็นเลขาอีกคนของคุณรบไหม และพระพายก็ตอบตกลงด้วยยินดีที่จะได้ทำงานในตำแหน่งที่เป็นประโยชน์กับคุณรบสูงสุดนี่ด้วย!


อันว่าคนเรามีเรื่องร้ายๆย่อมมีเรื่องดีๆ เสียงนกกาและคำนินทาอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดไปบ้างแต่เป็นมนุษย์ก็ต้องรู้จักปรับตัว พระพายคงไม่สามารถไปนั่งจับเข่าอธิบายเรื่องทั้งหมดให้คนแต่ละคนได้เพราะทุกวันนี้ยังเข้าใจต่างกัน และสังคมมหาวิทยาลัยก็ใหญ่ โลกเรามันก็ไม่ได้กลมขนาดนั้น พระพายใช้เวลาปรับตัวกับกระแสร้ายๆของตนอยู่พักนึง เผลออีกนิดเดียวก็กำลังจะเข้าสู่ช่วงการปิดเทอมใหญ่


เจ้าของร่างเพรียวบางนั้นถอนหายใจ เหลืออีกวิชาที่ต้องสอบในวันจันทร์หน้า และพระพายก็ไม่ได้กลับไปบ้านรัตนสกุลมาสักพักแล้วจึงเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตที่มีแค่ในหอและคณะของตนอยู่ไม่น้อย หากเพื่อนทั้งสองของพระพายไม่อยู่ด้วย มันก็ไม่น่าออกไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ใช่ว่ากลัวการถูกนินทา แต่อึดอัดเสียมากกว่าที่ถูกจ้องมอง


แต่พระพายก็จำต้องออกไปหาอะไรกินเหมือนคนอื่นเขาเหมือนกัน วันนี้วันเสาร์ หลายคนคงเดินทางกลับบ้านกันไปแล้ว ยิ่งนี่ก็ช่วงปิดเทอมพอดี บางคณะอาจจะสอบหมดแล้ว ออกไปตอนนี้คนคงไม่เยอะ และพระพายเองก็คิดว่าไปแค่แถวๆหอก็พอแล้วไม่ต้องไปไหนไกลๆหรอก ทว่าเมื่อตนเปิดประตูออกมา ก็ได้พบกับอีกคนที่บางทีก็อยู่ร่วมชั้นกัน


พี่เพชร…


“หวัดดีครับพระพาย”


“หวัดดีครับ”  ทำไมพี่เพชร หรือเลขาของคุณรบถึงมาอยู่ห้องข้างๆนะเหรอ จริงๆเขาก็ไม่ได้อยู่ถาวรหรอก จากที่นี่ไปทำงานมันไกลมากๆนะ แต่เพราะบ้านของเขาอยู่ที่นี่  วันหยุดก็เป็นเรื่องปกติที่จะกลับมา แต่พระพายเองก็เพิ่งรู้ได้ไม่นานว่าบ้านที่ว่านั่นคือห้องข้างๆนี่ หอพักนักศึกษาแห่งนี้ที่ครอบครัวของเขาปล่อยให้เช่ารายเดือนนี่แหละ


พี่เพชรเคลมว่าเขาต้องมาจัดการดูเอกสารนั่นโน่นบ้างและหลายครั้งก็อยากจะหนีความวุ่นวายมานั่งกินข้าวชิลๆแถวบ้านเกิดเมืองนอน ที่พระพายรู้ก็ไม่ได้เพราะถาม แต่คนช่างพูดเป็นคนบอกออกมาทั้งหมดในวันหนึ่งที่เขามาเคาะประตู  โดยปกติพระพายจะกลับบ้านรัตนสกุลเกือบทุกอาทิตย์ และมักจะกลับมาในเย็นวันอาทิตย์เพราะมีเรียนในช่วงเช้าวันจันทร์ หลายครั้งก็มักจะสวนกันหรือว่าได้ทักทายพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าแปลกเลยสำหรับคนที่อยู่ห้องข้างๆกันแบบนี้


“พระพายกินอะไรหรือยัง”  เขาถาม


“ยังเลยครับ พายว่าจะออกไปหาอะไรมากินที่ห้องพอดี”


“จะไปกินที่ไหนล่ะ”


“แถวๆนี้มั้งครับ พายขี้เกียจขับรถ”  ค่าน้ำมันรัตนสกุลก็เป็นคนออกให้ ถ้าไม่จำเป็นพระพายก็ไม่ค่อยอยากจะใช้ ส่วนใหญ่ก็มีไว้สำหรับวันที่ต้องกลับจากคณะดึกๆ อาจจะเอาไว้ไปส่งเพื่อนและกลับหอตัวเอง แต่หลักๆจะเอาไว้กลับกรุงเทพเสียมากกว่า


“งั้นเดี๋ยวพี่ขับรถให้ ไม่ขี้เกียจพอดี”  อ้าว….


และการที่พระพายจะขี้เกียจหรือไม่มันไปเกี่ยวอะไรกับเขาละนั่น!


จริงๆคือจะชวนไปกินข้าวด้วย แต่พูดคลุมเครือเสียจริงเลยตาคนนี้ ในที่สุดพระพายก็มานั่งอยู่ข้างๆคนขับอย่างงงๆด้วยความเนียนระดับเทพของเลขาว่าที่เจ้านายของตน พระพายนั้นจะเรียกว่าคุ้นเคยกับเขาอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้สนิทนัก เพราะพระพายก็เป็นแค่เด็กในบ้านมีหน้าที่หลักในการผลาญตังค์ ต่างจากเขาที่เป็นคนที่ทำงานช่วยคุณรบหาเงิน


“พระพายกินอะไรได้บ้างครับ เดี๋ยวพี่พาไป”


“อะไรก็ได้ครับ เอาที่พี่เพชรชอบเลย”


“งั้นกินข้าวเสร็จแล้วเราไปกินพายกันเถอะ”


“ครับ?”


“แถวร้านผัดไท มีร้านขายขนมไม่ไกลกันอ่ะ พายสัปปะรดอร่อยมากๆ อยากให้ลอง”  ก็แล้วไป


ทำไมชอบพูดให้คิดไม่ดีอยู่เรื่อยเลย!



ในที่สุดรถของพระพายที่คุณหญิงให้มาขับแต่พี่เพชรยืมมาใช้ต่อก็ได้มาจอดเทียบหน้าร้านผัดไทที่เจ้าตัวเคลมนักหนาว่าอร่อยมากก่อนตายต้องมาลอง พระพายเดินลงมาพร้อมกับไปจับจองที่นั่งข้างใน รอคนที่กำลังจอดรถให้เรียบร้อยอยู่โดยการดูเมนูที่มีให้เลือกไม่กี่อย่าง รอไม่นานเขาก็เดินลงมาพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มน้อยๆให้กัน ตอนที่ทำตัวดีๆก็ทำได้แต่ไม่ค่อยชอบจะทำ นี่แหละข้อเสียที่ไม่จำเป็นต้องแก้ไขของคุณเพชรเลขาคุณรบเขาล่ะ


“พระพายสั่งอะไร พี่เลี้ยงเอง เอากุ้งเผามาก็ได้นะ”


“งะ ร้านขายผัดไทปะครับ”


“เออนั่นดิ ว้า…ไม่มีกุ้งเผาอ่ะ เอาไว้เราค่อยไปกินกุ้งเผากันเนอะ อืมๆ”  เดี๋ยวนะ


เรานี่….รวมพระพายลงไปแล้วเหรอ?


แต่พระพายก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก มีอะไรให้กินก็สั่งไปตามนั้นบางทีเดี๋ยวเขาก็ลืมความบ้าๆบอๆที่ทำกันไว้วันนี้ คุณเพชรยุ่งจะตาย คุณรบใช้เก่งแค่ไหน เขาชอบเอามาเผาให้แม่ฟังหมดแหละ….จะว่าไปช่วงนี้แม่ก็ชอบพูดถึงเขาบ่อยๆนะ ทั้งๆที่ไม่เคยสนิทสนมกันแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าช่วงหลังๆที่พระพายกลับบ้านไป สิ่งที่มักจะได้ยินก็คือเรื่องของเขาจากปากแม่ ออกไปทางชื่นชมเสียส่วนใหญ่ ไม่แน่ใจว่าแอบไปทำของอะไร และถึงไปทำจริงๆ


ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม….



talk:  ขอมาเปิดอินโทรของคู่เพชรพระพายก่อนนะคะ กำหนดลงตอนแรกว่าจะเป็นพรุ่งนี้
ขออนุญาตลงต่อตรงนี้เลยนะคะ
ฝากติดตามเรือที่คนต่อเรือผีอีกเรื่องนะคะ


หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-09-2018 20:53:15
น้องพายมาแล้ว แถมมียัยเพชรคอยจะสิง555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-09-2018 21:20:45
 :mc4:  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-09-2018 21:51:42
อิพี่้พชรนี่เห็นเนียนๆหยิดน้ิงตั้งแต่เรื่องเจนแล้วตกลงคิดจริงๆใช่มั้ยคะพี่ ไม่ใช่ทำตัวเป็นหมาหยอกไก่นะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-09-2018 22:11:38
อ้าวน้องพายไหงมาเจอสังคมดราม่าในมหา'ลัย  ถถถ..อดทนไว้น่ะคนดีของพี่
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-09-2018 22:17:06
แหมๆๆๆ กินข้าวเสร็จจะชวนไปกินพาย เดี๋ยวๆๆๆเจอคุณแม่เจนแหกอกมายุ่งกับน้องพาย :laugh:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: chun22 ที่ 07-09-2018 22:52:27
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-09-2018 00:03:58
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 08-09-2018 08:52:38
รอติดตามค้าาาา :mew2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-09-2018 11:56:08
คุณเพชรกินพาย !!!!
จริงๆ น้องพายคนดี กับปี้เจนเนี่ย นิสัยคล้ายกันเลยนะ 555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย Intro) 7.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 08-09-2018 12:13:35
ชอบน้องพายแต่จะตามทันปากคุณเพชรหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 08-09-2018 19:22:59
เพชรพระพาย
ตอนที่1 ปลาทูของพระพาย



‘เพชรพิสุทธิ์ เจริญกิจธารา’ คือชื่อของพระเอกนิยายเรื่องนี้
พระเอกนิยายนะ ไม่ใช่พระเอกลิเก ชื่อเหมือนแต่บทบาทไม่เหมือน ดูดีๆ


นายเพชรพิสุทธิ์ หรือที่ใครๆก็รู้จักดีในนามของ เพชร คุณเพชร เลขาเพชร หรือไอ้เพชร บ้างก็เรียกเห้เพชร แต่จะเรียกดีๆก็เรียกว่าพี่เพชรเหมือนที่น้องพายเรียกก็ได้ เขาเป็นเจ้าของหอพักที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง วิทยาเขตหนึ่งในจังหวัดที่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพมหานคร ดูโดยรวมแล้วก็หล่อและรวยในถิ่นนี้ แต่ถ้าถามว่าประกอบสัมมาชีพใดเลี้ยงตนเอง ก็คงจะบอกได้แค่ว่าอาชีพของเขาต้องไม่ธรรมดา


เขาเป็นถึงเลขาให้กับนักรบ รัตนสกุล


ถ้าถามว่าแล้วมีหอพักอยู่แล้วจะไปทำงานอะไรเป็นขี้ข้ารองมือรองตีนให้ชาวบ้านทำไม มีเวลาสักแปดวันปะละ คนเรามันก็มีสตอรี่ที่มายาวๆเหมือนกัน  เอะอะจะถามแล้วให้ตอบเลยมันก็ไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าเขาคือเลขาคุณภาพดีของคุณนักรบซึ่งเป็นพระเอกนิยายในเรื่อง ‘เจนไม่นก’ นั่นแหละ เออเรื่องนั่นแหละ ที่พระเอกกากๆ นายเอกนกๆอ่ะ รู้จักใช่ไหม ไปหาอ่านกันได้นะ


ถ้าถามถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่ตกฟาก เขาก็บอกได้ว่าเขาเกิดที่โรงพยาบาลใหญ่ประจำจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลมาก ครอบครัวนั้นเป็นคนมีฐานะ ทำธุรกิจมากมายเป็นที่นับหน้าถือตาในจังหวัด และหอพักแห่งนี้ก็เป็นธุรกิจตกทอดมาถึงท้องของเขานั่นเอง ถ้าถามว่าธุรกิจหอพักนั้นดีไหม สำหรับเขาก็ถือว่าดีนะ ให้รายได้สม่ำเสมอ แต่ก็มีบ้างที่ต้องลงทุนจัดการค่าซ่อมแซมหรืออะไรบ้าง มันเป็นธรรมดาของธุรกิจประเภทนี้ เขาเป็นเจ้าของหอพักที่มารับช่วงต่อได้ไม่กี่ปี และปีที่ดำเนินงานด้วยตนเองก็เพิ่งเข้าสู่ปีที่ 3 นี้ หอพักหน้ามหาลัยของเขาก็มีโอกาสได้ต้อนรับแขกพิเศษที่รู้จักกันเองคนหนึ่ง


โดยการแนะนำของคุณเจนไม่นก….


พระพาย ชวนันท์….คือชื่อของเจ้าของห้องข้างๆที่เขาปล่อยให้เช่าพิเศษ  ความพิเศษในตัวน้องก็อย่างที่รู้กันดีว่าพระพายเป็นคนโปรดของคุณพรรณี รัตนสกุล นายเหนือหัวสูงสุดของเขา ผู้ซึ่งเป็นลูกของคนงานที่บ้านที่ได้รับการส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอด และอนาคตของน้องก็ไม่พ้นสักตำแหน่งในบริษัทของคุณรบ และเพชรได้เห็นอนาคตของน้องแล้ว รู้ไว้ซะว่าเลขาของนักรบ รัตนสกุลน่ะ มีสิบคนก็ไม่พอ จำไว้!


และเพชรจะไม่นกตามคุณเจนด้วย คอยดู!


“เดี๋ยวพระพายสอบอีกทีวันไหนครับเนี่ย พี่ไม่ค่อยเห็นอยู่หอวันเสาร์แบบนี้เลย”  แม้จะทำงานอยู่กรุงเทพ แต่มรดกอยู่ที่นี่ เพชรจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่กลับมาดูบ้าง เงินใครก็หอมทั้งนั้น เงินโบนัสของคุณรบนี่ยิ่งหอมไปใหญ่ ทุกปีเขาต้องหวั่นใจ ว่าที่คุณรบจะจ่ายให้นี่โบนัสหรือเงินชดเชย(สำหรับไล่ออก)


“เหลือวันจันทร์เช้าครับ” พระพายตอบ


“แล้วกลับกรุงเทพเลย?”


“ก็คงงั้นครับ”  พระพายนั้นตอบสั้นๆเหมือนเดิม ผัดไทของเรามาเสิร์ฟพอดีและน้องกำลังบีบมะนาว น้องดูสนใจกับอาหารข้างหน้า ตอนแรกพระพายก็ดูจะเฉยๆ  แต่พอเอาเข้าจริงก็หิวใช่ย่อยเหมือนกันนี่นา


“อ่านหนังสือจบยังครับเนี่ย”


“ก็เรื่อยๆนะครับ ใกล้จบแล้ว”  เห็นคุณหญิงขิงใส่กันเสมอมาว่าเด็กๆบ้านนี้มีแต่คนเก่ง คุณเจนเห็นนกๆก็เหมือนจะจบด้วยเกรดดีที่ต่างประเทศอยู่พอตัว แต่คุณหญิงจะขิงทำไม เด็กพวกนี้ลูกหลานตัวเองแท้ๆก็ไม่ใช่ เอาเวลาไปดูลูกชายกากๆของตัวเองเถอะ เรียนเก่งหาเงินเก่งแต่กว่าจะได้เมียจริงจังได้ข่าวว่าทุ่มเทกันไปเท่าไหร่แล้ว นี่ได้ยินว่าที่ถ่อไปคร่ำครวญถึงหน้าห้องคุณเจนคิดว่าเขาทิ้ง แต่จริงๆคุณเจนจะเปิดประตูให้แต่เขาเอามือมาขวางทางเลยเอาโซ่คล้องออกไม่ได้ กากได้ใคร อยากเห็นหน้าบรรพบุรุษชะมัด และการที่เจ้านายมีเมียไปก็ไม่ได้ทำให้เลขาที่มีอยู่สบายใจเพราะอะไรรู้ไหม


เพราะเหมือนได้เจ้านายอีกคน….


“แล้วพี่เพชรงานยุ่งไหมครับช่วงนี้”  พระพายถาม เป็นคำถามของคนมารยาทดี


“ไม่ค่อยยุ่งครับ”


“ดีจังนะครับ”


“คุณเจนมาแย่งงานไปทำครับ”  ใช่….คำอธิษฐานต่อสวรรค์ได้เป็นจริง ในที่สุดคนที่เพชรพิสุทธิ์ได้เล็งไว้ก็ติดกับกันเข้าอย่างจัง ตอนนี้งานที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของคุณรบ คุณเจนเอาไปดูแลหมดแล้ว อย่างว่า ร้อยชายชู้ หรือจะสู้ชายที่เป็นเมียได้ และแม้จะรักโบนัสเทียบเท่าชีวิตแค่ไหน เพชรก็จะไม่เสียสละตัวเองถึงขั้นนั้นเพื่อรัตนสกุล


แค่คิดขนที่นิ้วเท้าก็ลุกแล้ว…


เราสองคนเริ่มกินอาหารกันอย่างจริงจัง ผัดไทร้านนี้เด็ดเหมือนที่เจ้าถิ่นได้เคลมไว้ ช่วงเวลาเกือบปีที่พระพายได้มาอยู่ที่นี่ยังพิสูจน์ความรู้ลึกรู้จริงของตนไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่อย่างว่า….พระพายไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะไปตรงไหนก็เหมือนว่า….จะเจอกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันทุกที่ จริงๆพระพายก็ไม่คิดว่าคนอยู่สถาบันเดียวกันจะรู้จักกันทุกคน นักศึกษาเป็นพันเป็นหมื่นต่อรุ่นย่อมเป็นธรรมดาที่เราจะไม่รู้จักกัน แต่ทำไม…


ใครๆก็เหมือนจะรู้จักพระพาย…


“…………”


“ไม่อร่อยเหรอครับพระพาย”  พี่เพชรถาม เขานั้นแทบจะยกจานขึ้นเทเข้าปาก แต่พระพายกับเริ่มชะลอความเร็ว


“เปล่าหรอกครับ พระพายคงอิ่มแล้ว” พระพายนั้นยิ้มให้เป็นมารยาท


“…………”


“พี่เพชรทานได้ตามสบายเลยนะครับ ไม่ต้องห่วงพาย”


“พี่ว่าจะเบิ้ลอีกจานพอดี น้องพายรอได้ปะครับ” 


“กะ..ก็ได้ครับ” เขายิ้ม พระพายเลยยิ้มตอบ แต่ในใจกลับกู่ร้องอยากจะบ้าตายกับความชิลในร้านผัดไทของผู้ชายคนนี้ พระพายอยากกลับบ้าน ใครก็ได้ช่วยตะโกนใส่หน้าอีตาพี่เพชรนี่ที พระพายยังไม่อยากเป็นบ้าตามเขานะ!


“งั้นน้องๆ พี่ขอสั่งเพิ่มหน่อย”  คุณเพชรที่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยกลับทำในสิ่งตรงข้ามกับความรู้สึกของพระพายที่แทบจะก้มลงไปกราบให้กลับบ้าน แต่จริงๆรถคันนั้นก็ของพระพายที่คุณหญิงให้ยืมมาไม่ใช่เหรอ ทิ้งอีตาเลขาไม่รู้ความนี่ไว้แล้วขับกลับไปเลยก็ได้ มากับคนใจหมา ก็ต้องหมากลับบ้างเป็นธรรมดา เขาคงเข้าใจ


“พี่เพชรครับ”  หรือพระพายจะบอกเขาไปว่าพระพายรีบ อ่านหนังสือไม่ทัน แต่เมื่อกี๊ยังบอกว่าสบายมากจนอีกคนเผลอคิดไปแล้วว่าจบมาพระพายต้องได้เกียรตินิยมแน่ๆ


“อ๊ะ พระพายครับดูนั่นสิ”  ดูอะไรอีก! พระพายไม่รู้ว่าใบหน้าหงุดหงิดของตนดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้อย่างไร


“คือว่า…”


“เขาถ่ายรูปเราสองคนด้วยแหละ หันไปยิ้มให้กล้องหน่อยเร้ว!”  เพราะสัญชาตญาณหรือไร เจ้าของใบหน้าน่าแกล้งถึงได้หันไปมองตามทิศทางที่คนเป็นพี่ชี้ และก็ได้เห็นว่าเป็นดังเขาพูด โต๊ะข้างๆถือมือถือขึ้นมาท่าทางแปลกๆทางเรา


เหมือนเขาจะถ่ายรูปอยู่จริงๆ


“…………”


“…………”


ไม่เอานะ…


“อ้าว พระพาย!”  พระพายนั้นหยิบกุญแจรถที่วางอยู่และลุกขึ้นทันที


กลับเองเลยนะ คนบ้า!


แต่พระพายก็ทำได้แค่เอาตัวเองมานั่งอยู่เงียบๆคนเดียวในรถแบบนี้ หลังจากที่ลุกขึ้นก็เดินออกมา ด้วยแรงอารมณ์ก็เกือบจะสตาร์ทรถและขับออกไปแล้ว ทว่าสิ่งที่ได้ทำคือการเข้ามานั่ง สตาร์รถ แต่เมื่อกำลังจะเปลี่ยนเกียร์ มือของตนก็หยุดชะงัก จากตรงนี้กลับหอก็ไกล ฟ้าก็มืด จะให้นั่งมอเตอร์ไซค์กลับก็สงสาร อย่างน้อยเขาก็ทำให้พระพายได้พักหอพักที่ใครๆก็อยากจะเช่าแห่งนี้ แถมตลอดมาก็เป็นพี่ชายข้างห้องที่ดีมาตลอด มิหนำซ้ำยังเป็นเลขาของคุณรบ พระพายทำไม่ได้หรอก


ก็อก…ก็อก…ก๊อก….


“รอนานไหมครับ”  คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยได้ไม่นาน คนที่พระพายทิ้งไว้ในร้านก็มาเคาะกระจกรถ เพชรยังคงมีรอยยิ้มอยู่เสมอแม้ว่าพระพายจะแสดงออกว่ากำลังงอแงหนักมาก และเพราะท่าทางที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมันทำให้พระพายต้องถอนหายใจอย่างปลงๆ จะไปอะไรกับเขาล่ะ ผิดก็ไม่ใช่ความผิดเขาซะหน่อย แต่มันสำหรับคนอื่นพวกนั้น คงจะผิดที่พระพายมากินข้าวกับคนนั้นคนนี้บ้างก็เท่านั้นเอง


เฮ้อ….



“เห็นพระพายกินไม่กี่คำ นี่ครับพี่ให้เขาใส่กล่องมาให้”  เขาชูถุงหิ้วที่ภายในคงมีกล่องผัดไท ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ยิ่งรู้สึกได้ถึงความห่วงใย และแค่นี้ก็ทำให้รู้สึกผิดกับเขาแล้วที่ทำตัวเสียมารยาทขนาดนั้น


“ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ และขอบคุณด้วยนะครับ ว่าแต่พี่เพชรสั่งมาอีกจานไม่ใช่เหรอ พายไม่เร่งนะไปกินก่อนก็ได้”


“อ๋อ ครับ”


“เอ่อ…พายรอในรถนะครับ”


“พี่ไม่ได้จะกินเลยหรอกครับ ใส่กล่องไปกินเหมือนกัน สำหรับมื้อเช้าพรุ่งนี้” ช่างเป็นคำอธิบายที่ยิ่งทำให้รู้แย่ลงไปอีก ไม่ใช่ว่าเขาอ้างออกมาเพื่อให้สบายใจหรอกเหรอ บางทีการเป็นคนแบบพระพายก็อยู่ยากไม่ใช่น้อย รู้สึกกังวลไปหมดทั้งๆที่คนบางคนก็พยายามทำให้เราสบายใจ


“งั้นเรากลับกันเลยไหมครับ”  พระพายยิ้มให้ ช่างเรื่องความรู้สึกผิดก่อน พระพายอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว คนตัวเล็กดึงสายเบลท์มาคาดตัวอีกครั้ง หมายจะขับรถออกไปจากตรงนี้


“เดี๋ยวแวะร้านขนมให้พี่ก่อนได้ไหมครับ”  เขาท้วงออกมา พระพายพยักหน้า ขอให้ออกจากร้านนี้ไปก่อน


“พี่เพชรบอกทางละกันครับ”


“ได้ครับ พี่อยากกินพายพอดีเลย”


“………….”


“ไปกินพายก่อนกลับหอกันเถอะครับ พายร้านนี้อร่อยมากเลยนะ”  เขายิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ดูแปลกตา แปลกขนาดที่ทำให้ขนลุกได้ คุณเพชรนี่ยังเป็นคนอยู่ใช่ไหม ไม่ใช่ผี ว่าแต่เขาจะเป็นผีอะไรดีล่ะ ผีทะเลเหรอ…ได้ไหม ได้ไหมนะ ว่าแต่ทำไมกันนะ….


จู่ๆพระพายก็เลิกรู้สึกผิดกับเขากะทันหันแบบนี้
รักง่ายก็หน่ายง่ายเหรอ….คนแบบพระพายน่ะ……


แล้วเราก็ไปร้านขายขนมที่เขาว่า ซึ่งเป็นโชคดีของพระพายไม่ใช่น้อยที่ตนจะได้โอกาสซื้อของตุนสำหรับวันพรุ่งนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทำให้พระพายไม่อยากจะออกไปไหนมาไหนอีก ขนาดมีเพื่อนออกมาแล้วก็ยังมีคนทำแบบนั้นใส่ ใครๆก็รักความเป็นส่วนตัวไม่ใช่เหรอ และยิ่งถูกละเมิดแบบนั้นยิ่งควรจะรู้สึกไม่ดีไม่ใช่หรือไง พระพายไม่ชอบการที่ถูกถ่ายรูปไปอวดโชว์คนอื่นเรียกยอดคอมเมนท์ที่มีแต่การทำร้ายกัน พระพายไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนั้น และไม่อยากเป็นเหยื่อที่ถูกทำร้ายทั้งๆที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย


และการที่พระพายเกิดมาเป็นแบบนี้ก็ไม่เคยเป็นความผิดด้วย!


เหมือนที่พี่เจนคิดนั่นแหละ การเกิดมาและมีแม่ทำอาชีพเป็นคนใช้ไม่เคยทำให้พระพายน้อยใจ แม่จินของพระพายอาจจะไม่ใจเย็นอย่างแม่ไพของพี่เจน เธออาจจะสอนอะไรพระพายไม่ได้มาก แถมยังเป็นคนพูดจาไม่น่าฟังในบางครั้ง แต่พระพายก็รับรู้ถึงความเหนื่อยยากและความรักของแม่ที่มีให้เสมอ อีกทั้งคุณพรรณีก็พูดให้ฟังเสมอว่าการเป็นคนดูแลบ้านให้เธอ คือการที่มาทำงานเพื่อรับเงินเดือน ทุกคนในบ้านรัตนสกุลมีบทบาทต่างๆเป็นของตัวเอง และนั่นทำให้พระพายไม่เคยรู้สึกดูถูกอาชีพของแม่ หรือความเป็นอยู่ของตนไม่ว่าจะในฐานะไหนในรัตนสกุล ใครดีมาก็ดีตอบ แต่ใครร้ายมา…พระพายก็แค่ไม่ต้องสนใจทั้งหมดก็ได้


Rrrrrrrrr


หืม….
พริมพราวโทรมา…


“ฮัลโหล พริมพราว”  พระพายรับสาย เมื่อเห็นว่าใครโทรมาก็รับทันที วันนี้พริมพราวอยู่บ้าน มีอะไรกันนะ


“พระพาย วันนี้ไปไหนมาหรือเปล่า”


“กินข้าว….กับพี่ที่รู้จัก” 


“แน่ะ รู้ทันนะว่าจะโดนถามอะไร” พระพายยิ้ม รู้ว่าเพื่อนจะถามอะไร ถ้ามาแบบนี้แสดงว่าคงมีคนโพสต์รูปที่แอบถ่ายที่ร้านแล้ว พริมพราวเวลาที่เห็นอะไรเกี่ยวข้องกับพระพาย บางทีเธอก็จะเอามาเล่าให้ฟัง แม้จะบอกเธอไปบ้างแล้วว่าพระพายไม่ได้อยากรู้ทุกเรื่อง แต่เพื่อนก็ยังอยากเล่า ช่วงหลังเลยทำใจและคิดให้มันร้ายๆไปก่อนบ้าง เพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีอะไรที่ต้องช็อคอีกต่อไป


“อืม เห็นแล้วล่ะว่ามีคนถ่ายรูป”


“มีคนกล้าถ่ายซึ่งๆหน้าด้วยเหรอ”  มันชักจะกล้าไปแล้ว พริมพราวคงคิดเช่นนี้ พระพายก็พยักหน้าตอบตัวเองในใจ มันมีคนกล้าทำแบบนั้นจริงๆ การที่พระพายไม่ว่าอะไรพวกเขาตีความกันไปหรือเปล่าว่าถ่ายกันได้ตามใจชอบ ตนแค่ไม่อยากมีเรื่องเลยก้มหน้าก้มตาเอา ทุกวันนี้คนในคณะก็แทบจะไม่มองหน้าแล้ว ถ้าทำตัวแรงๆกลับก็กลัวว่าจะยิ่งอยู่ยาก พระพายก็แค่อยากจะอยู่ให้รอด เพราะช่วงเวลานี้มันคงไม่นานเท่าไหร่ จบออกไปก็คงไม่มีใครจำ แต่ที่จดจำได้…


ก็คงมีแต่คนที่ถูกกระทำให้เจ็บอยู่คนเดียว


“พระพาย”


“อา…”  ดูเหมือนจะเหม่อนานไปหน่อยจนคนที่อยู่ปลายสายต้องร้องเรียก


“มีใครเข้ามาว่าอะไรหรือเปล่า”


“ไม่มีใครกล้าหรอก”  แต่ถึงขั้นนั้นจะให้อยู่เฉยๆโดนด่า ร้องไห้ปาดน้ำตามันก็ไม่ใช่ พระพายก็ไม่นางเอกเหมือนที่ใครๆบอกว่าเป็นขนาดนั้นหรอก แต่ถึงขั้นด่ากลับไหม พระพายก็ไม่คิดว่าตนจะทำเช่นกัน นั่นสิแล้วตอนนั้นพระพายจะทำยังไงนะ


ก็คงจะหันไปมองหน้าพี่เพชร….ละมั้ง….
บ้าไปแล้วพระพาย หันไปแล้วเขาจะช่วยอะไรได้…..


“ว่าแต่นี่ไปกับใครเหรอ” 


“ถ่ายติดเขาหรือเปล่า”


“อืม แต่ไม่ชัดหรอก ว่าแต่ใครเหรอ”


“เลขาของเจ้านายน่ะ”


“อา….แล้วไปเจอกันได้ไงน่ะ”


“พี่เขาเป็นเจ้าของหอที่ให้เช่าน่ะ เผอิญคงมาเก็บค่าเช่ามั้ง เจอกันเลยถือโอกาสยืมรถไปกินผัดไท”  พระพายหัวเราะให้กับความคิดตัวเอง คิดภาพคุณพี่เพชรเหน็บกระเป๋าที่รักแร้และเดินเก็บค่าเช่าตามห้องด้วยวิธีเคาะประตูไปพลาง เรื่องรถนั่นเขาก็แค่ไม่มีเลยยืม แต่จะยืมไปเลยก็เกรงใจเลยติดสินบนพาไปกินข้าวด้วยไง ไม่มีอะไรมากหรอก


“เนี่ยมีคนเอาไปลือกันว่าพระพายกับพี่เขาเป็นอะไรกันด้วย”


“ไม่มีอะไรหรอก ช่างเขาเถอะ เรารู้ตัวเองดี”  ว่าพระพายไม่เหมาะสมกับเขาหรอก จริงๆพระพายไม่ได้สนเรื่องที่คนอื่นจะลือยังไง กังวลที่ตัวเขาจะไม่ชอบใจมากกว่า


และถ้าเขามาต่อว่า…พระพายก็คงเสียใจเพราะตนทำอะไรไม่ได้เลย


“นี่อ่ะ เห็นมีคอมเมนท์ด้วยนะว่า พี่เขาเข้าไปคุยกับคนที่แอบถ่ายคนนึง”


หืม….


“เห็นเขาว่าพี่เขาน่ากลัวมากด้วย”


“พี่เพชรน่ะเหรอ”  หรือว่า…ตอนที่พระพายลุกไปตอนนั้น เขาเข้าไปคุยเหรอ


“อืมเนี่ย มีคนบอกว่าพี่เขาเดินเข้าไปหาเลย ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่บรรยากาศน่ากลัว”  คนแบบพี่เพชรที่ยิ้มเป็นบ้าได้ทั้งวันนะเหรอจะทำเรื่องน่ากลัวๆลงไป พระพายคิดไม่ออกเลย คงลืออะไรกันมั่วๆอีกล่ะสินะ


“ช่างเหอะ คงลือกันไปเรื่อย”


“ว่าแต่พระพายสนิทกับพี่เขาเหรอ”


“ก็ไม่หรอก แต่คิดว่าเขาน่าจะมาเป็นคนสอนงานให้อ่ะนะ”  เพราะพระพายจะได้ทำงานในตำแหน่งเลขาอีกคนในอนาคต ถ้าไม่ใช่พี่เพชรที่มาเทรนกัน พระพายก็คิดถึงคนอื่นไม่ออกแล้ว ไม่ใช่เขาก็คงพี่เจน แต่พี่เจนก็ไม่เคยทำงานกับคุณรบจริงๆจังๆเท่าพี่เพชรนี่นา


“ถ้างั้นพี่เขาก็เลยแบบเออพามาเลี้ยงข้าวก่อนไรงี้ปะ จะได้ไม่เกร็ง”


“ก็คงงั้นมั้งนะ”


“เป็นเลขาประธานบริษัทนี้เขาจบอะไรกันมานะ เออพระพายรู้ป่ะ”


“เอ่อ…ก็ไม่รู้สิ คณะเดียวกับเรามั้ง”


“มันไม่มีคณะเลขาด้วยสิเนอะ”  พระพายยิ้มไปตามพริมพราว เราไม่ได้คุยเรื่องภาพนั้นแล้ว ตอนนี้เราหันมาเอาดีเรื่องวิชาสุดท้ายที่ต้องเข้าสอบกันมากกว่า


อีกนิดเดียวเองพระพาย…อีกนิดก็จะได้กลับบ้านเราแล้ว…


ในวันต่อมาพระพายก็ยังคงสู้ต่อแม้จะอยากกลับบ้านเต็มทน พระพายยังเด็ก บางทีความอดทนก็ต่ำ ยิ่งเหลือแค่วิชาสุดท้ายยิ่งอยากจะจบมันเร็วๆ แต่เหมือนยิ่งเร่ง เวลาก็เดินช้า สุดท้ายแล้วจึงทำได้แค่ซบใบหน้าลงกับโต๊ะญี่ปุ่นที่เอามาวางไว้กลางห้อง แก้มใสถูกพองลม  หิวอ่ะ ทำไมถึงหิวน่ะเหรอ นี่ก็เที่ยงแล้วไง แล้วพระพายก็ซื้อขนมมาน้อยไป หิว แต่ไม่อยากออกไปไหนเลย แม้แต่ห้องนอนของตัวเอง ก็ไม่อยากจะเดินออกไปด้วยซ้ำ….


ก็อก….ก็อก….


“ครับ”  พระพายลุกขึ้นอย่างเบื่อหน่าย ร่างบางเดินไปส่องตาแมวดูว่าผู้มาเยือนเป็นใคร รอยยิ้มที่กว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ทำให้ใช้เวลานึกอะไรอยู่ในใจนานไปชั่วครู่  ในที่สุดพระพายก็ยอมเปิดประตูด้วยกลัวว่าเจ้าของรอยยิ้มจะรอจนเหงือกแห้ง ก็พี่แกเล่นไม่หุบยิ้มเลยนี่


“ตื่นแล้วเหรอครับ”


“พายตื่นนานแล้วครับ”  ตื่นมานั่งหน้าหนังสือเฉยๆ ยิ่งอ่านบทท้ายๆยิ่งงง


“แล้วนี่กินไรยังครับ”  พระพายส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะเห็นว่าในมือของเขานั้นมีปิ่นโตแบบสมัยก่อนทั้งหมด 4 ชั้น คิ้วสวยขมวดน้อยๆ จริงๆก็ไม่มีอะไรให้ต้องงงหรอก เขาหวังดี พระพายเห็นอยู่


แต่ก็งงว่าทำไปเพื่ออะไรก็เท่านั้นเอง


“กินเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะครับ”  เขายิ้ม ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ได้มีใครอนุญาต แต่ช่างเหอะ ฉโนดที่ดินผืนนี้มันชื่อของคุณเพชรพิสุทธิ์นี่นา พระพายจะไปห้ามอะไรเขาได้ ได้ซุกหัวนอนในหอดีๆแบบที่มีแต่คนอิจฉาแบบนี้มันก็ดีแค่ไหนแล้ว


อาหารที่คนเจ้ากี้เจ้าการเอามานั้นทำให้พระพายถึงกับกลืนน้ำลาย แม้ว่ากลิ่นมันจะแรงไปหน่อย แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานชั้นเยี่ยม คนเอามาฉีกยิ้มกว้าง เขาไม่เหมื่อยปากบ้างเหรอ อะไรจะมีความสุขได้ขนาดนั้น พระพายที่เห็นว่าเขามองอยู่ก็รีบทำตัวสำรวม พระพายดูหิวมากเลยเหรอเมื่อกี๊ แต่ก็สมควร พายไก่เพียงชิ้นเดียวที่ซื้อมาจากร้านเมื่อวานจะไปพออะไร เจ้าตัวประเมินความสามารถทางการหิวของเด็กอ่านหนังสือสอบต่ำเกินไปแล้ว พระพายกำลังอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอนนะ


ทันทีที่ตักเอาปลาทูและผักจิ้มน้ำพริกเข้าปาก ใบหน้าแห่งความสุขก็ฉายชัดออกมา มีความสุขจัง นั่งกินข้าวโดยที่ไม่มีคนไม่รู้จักมามอง แถมทุกอย่างก็รสชาติถูกปากไปหมด ใบหน้าฟินจนคนที่ยิ้มได้ทั้งวันต้องหลุดหัวเราะ นี่เขาจะแอดวานซ์ความเป็นคนอารมณ์ดีไปเพื่อใคร


“ก็มันอร่อยนี่ครับ พี่เพชรซื้อมาจากไหนเหรอ”


“เปล่าครับแม่พี่ทำ”


“ก็ว่าอยู่ว่าพี่เพชรไม่น่าทำ”


“ไหงงั้นล่ะ พี่แกะปลาทูเองนะ”


“อันนั้นไม่เรียกว่าทำอาหารนะครับ”


“โถ่ เรารึอุตสาห์แงะก้างปลาออกให้เพราะหวังดี”  นี่เขาตั้งใจมาชวนพระพายกินข้าวขนาดนั้นเลยหรือนี่


“แต่อร่อยและกินง่ายมากเลยครับ ขอบคุณพี่เพชรมากๆน้า”


“ไม่เป็นไรครับ พี่คิดว่าพระพายคงไม่อยากออกไปไหนเลยเอามาเผื่อ”


“……….”  เขารู้งั้นเหรอ


“ถ้าแม่พี่เห็นพระพายกินได้ขนาดนี้นี่คงฟินตายเลย เอองั้นพี่วิดีโอคอลหาดีกว่า อยากให้คุณนายเห็นหน้าลูกค้าตอนฟินๆ” 



“……………”  พระพายจะห้าม แต่เห็นเขาดีใจขนาดนั้นก็หยุดคำพูดตัวเองไว้ที่ปลายลิ้น ในที่สุดพระพายก็ยิ้มออกมา แม้จะเป็นยิ้มที่ออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน แต่มันก็คือยิ้มที่จริงใจที่สุดของวัน การได้เห็นว่ามีคนเป็นห่วงเป็นใยไม่ว่าจะเพราะอะไรมันก็ทำให้สบายใจได้ บางทีพระพายอาจจะคิดมากไป พี่เพชรไม่ได้เรียนอยู่จะไปรู้อะไรล่ะ บางทีเขาก็คงแค่คิดว่าพระพายไม่อยากออกไปไหนแค่นั้นก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้น คนคิดมาก็หันไปจริงจังกับการตักอาหารเข้าปากคำโต


“แม่! นี่เพชรเอง เพชรไงลูกชายแม่อ่ะ นี่เหยื่อกินขี้มือของเพชรเอง ทักทายพระพายหน่อยดิแม่”  พระพายแทบสำลัก ตาพี่นี่ก็บ้าบอได้ตลอด เกือบเอาออกมาหมดทั้งลำไส้แล้วไหม เล่นอะไรไม่ได้ดูเลย เหยื่ออะไรที่ไหน เอ….หรือว่าพี่เพชรแอบใส่อะไรไม่ดีให้กิน


“บังเต็มจอขนาดนั้นแม่จะเห็นหน้าน้องไหมชาตินี้”  นี่ก็ไม่ได้ดูไซส์ตัวเองเลย ตัวก็ใหญ่ มีหรือว่าหน้าจะเล็ก พระพายส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก็มีรอยยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าการเข้ามาในห้องของคนที่น่ารำคาญคนนึงจะทำให้โลกที่เงียบเข้าขั้นติดลบของตนเริ่มได้รับการเติมเต็ม


“หวัดดีครับแม่พี่เพชร พระพายเองครับ”


“ว้ายนี่หรือหนูพระพาย น้องน่ารักจังเลยตาเพชร”  พระพายยิ้มรับในคำชมแต่ก็โบกมือปฏิเสธระวิง


“เพราะเพชรหล่อไงแม่”


“เขาเกิดมาน่ารักมันไปเกี่ยวกับหน้าขี้เหร่ๆของแกตรงไหน” 


“แม่อ่ะ! นี่น้องเพชรลูกแม่เอง ลูกที่แม่เพิ่งจะหอมแก้มและชมว่าหน้าดีได้แม่ไง”  เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมก็เป็นหน้าที่ที่จะเรียกร้อง แต่คนอายุ 26 ปีนี่เขาต้องเรียกร้องความสนใจจากแม่ขนาดนี้เลยเหรอ พระพายหลุดหัวเราะออกมา ไม่ใช่ว่ารับไม่ได้ แต่มันน่าขำ คนตัวใหญ่บางคนอายุเยอะแค่ไหนก็ยังงอนแม่ได้นะ แต่ก็จริง พระพายจะเกิดมาหน้าแบบไหนก็ไม่เกี่ยวกับเขา และการที่เขาหน้าตาหล่อก็ไม่ได้ทำให้พระพายมาพบเจอหรืออยู่กับเขาแบบนี้ เรียกว่าสวรรค์ลิขิตมากกว่า แต่จะลิขิตให้พระพายมาใช้กรรมหรือไม่….ก็แล้วแต่สวรรค์จริงๆ


“น้องพายลูก นี่เรียนปีไหนแล้วครับเนี่ย”


“ปี 1 ครับ”


“พรุ่งนี้ก็ปี  1 เทอมแรกวันสุดท้ายแล้วนะครับ”  เขาหันมายิ้มให้ นัยน์ตาดูภูมิใจยิ่งกว่าคลอดพระพายคนดีของสังคมนี้ออกมาเอง





ต่อข้างล่าง
.
.
.





 




 
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 08-09-2018 19:23:17

“ถ้าไม่ได้อาหารของคุณแม่ พายต้องหิวจนลุกไปสอบพรุ่งนี้ไม่ไหวแน่เลย ขอบคุณมากนะครับ ผักหวานอร่อยมาก น้ำพริกก็ตำอร่อย ปลาทูก็หอม แกงจืดก็รสดีมากครับ”


“แน่ะคนเรา ขอบคุณแม่พี่ทำไม พี่แกะปลาทูให้แถมถือมาเคาะห้องนี่ไม่คิดจะขอบคุณมั้งเหรอ”


“โอ้ยพ่อ! ไม่บอกน้องด้วยล่ะ ว่าผักนั้นพี่ปลูกเอง ไปเด็ดมาต้มให้น้องด้วยตัวเอง ปลาทูกับหมูก็ขี่มอไซไปซื้อมาเอง น้ำพริกก็เป็นคนอาสาตำ แม่ก็ไปเรียกมาทำมาปรุงให้ ส่วนตัวเองกำกับและวิจารณ์ประกอบไป หมั่นไส้” 


ตึก…ตึก…อยู่ๆพระพายก็ใจเต้นอย่างไร้เหตุผล….


“ฮะๆ เพชรแสนดี เพชรรู้”  คนบ้าจะไปรู้อะไร…ว่าบางทีก็แค่ความอยากกินส่วนตัวของเขาเลยทำนั่นทำนี่ไปแล้วมันอาจจะเยอะเกินกินไม่หมดเลยเอามาแบ่งกัน


แต่มันทำให้พระพายฟุ้งซ่านไปไกลแล้ว….


“อย่าถือสาตาพี่บ้านี่นะลูก เพื่อนก็ไม่ค่อยจะมี ทนๆคบมันไปเพื่อเห็นแก่มวลมนุษยชนนะลูกนะ”  พระพายยิ้มจนตาหยีให้กับคนในมือถือ พยายามไม่คิดอะไร สะกดจิตตัวเองไว้ว่ามันไม่มีอะไร


พี่เพชรแค่อยากกิน เขาทำเพราะเขาอยากกิน!


“บ้านแม่อยู่ในซอยข้างๆ เปิดเทอมแล้วแวะมาหาแม่ได้นะลูก คนแก่อยู่คนเดียวกับผักที่ลูกชายปลูกไว้ไม่กิน มาช่วยแม่กินนะลูก”  แม่ของเขานั้นเชิญชวนอย่างใจดี พระพายยังลังเลอยู่หลายส่วนแต่ก็พยักหน้ารับ


“โหยยยยแม่ เพชรก็ปลูกให้แม่กินไง แล้วเพชรทำไร เพชรเป็นขี้ข้าคุณรบอยู่กรุงเทพไหม จะให้เอะอะมากินผักแล้วกลับกรุงเทพเหรอ”


“จ้ะพ่อ พระพายลูก อย่าลืมมาช่วยแม่กินนะ ตายักษ์ปักหลั่นนี่นะปลูกให้กิน กินไม่หมดปล่อยเน่าน่าเสียดาย เพราะงั้นมาช่วยกันกินหน่อยนะจ้ะ”  พระพายยิ้ม เห็นแก่ผักที่เขาปลูกหรอกนะ กลับมาแล้วจะแวะเข้าไปหาบ้างก็ได้ อีกอย่าง….พระพายก็ไม่มีที่ไปในบางวัน ได้ยืดเส้นยืดสายเข้าครัวบ้างก็ดี อยู่หอแบบนี้เบื่อมาม่าจะแย่ พระพายอาจจะเกรงใจนิดหน่อย แต่คิดว่าถ้ามีอะไรติดไม้ติดมือไปฝากเรื่อยๆหรือช่วยทำงานบ้านก็อาจจะได้รับความเอ็นดูไม่ยาก แต่ของแบบนี้คงต้องลองดูกันไปสักพัก


เขาวางโทรศัพท์ลงแล้ว คาดว่าถ้าไม่ทำก็อาจจะโดนคนเป็นแม่แซะจนพรุนไปหมดต่อหน้าคนนอกแบบพระพายแบบนี้ แต่ได้เห็นว่าเขาก็พอจะเอ็นดูพระพายอยู่บ้างก็อุ่นใจ การมาเริ่มต้นชีวิตนักศึกษาห่างอกคนในครอบครัวและบ้านรัตนสกุลที่อยู่ด้วยมาเนิ่นนาน บางทีพระพายก็อดจะใจหายหรือท้อแท้ ความคิดถึงมันกัดกิน นอกจากเพื่อนสองคน พระพายก็ไม่มีใครอื่นที่นี่ การได้รู้จักคนอื่นๆที่ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าๆของพระพายในมหาวิทยาลัยก็ถือว่าเป็นเรื่องดี อย่างน้อย….มันก็อาจจะช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจพระพายไว้ที่นี่บ้าง ไม่งั้นมันก็พาลจะอยากหนีไปให้ไกลอย่างที่เป็นอยู่ทุกวัน


“ยิ้มแล้ว”  และเมื่อรู้สึกตัวว่าเขามองอยู่ ริมฝีปากบางก็ปิดฉับ นี่พี่เพชร มองอยู่ตลอดเลยหรือนี่!


“พระพายจะยิ้มบ้างไม่ได้เลยเหรอครับ”


“ยิ้มได้สิครับ ยิ้มเยอะๆเลย”  เพราะพระพายไม่ค่อยจะยิ้มไง ตั้งแต่เขาเจอหน้าเมื่อวานแล้ว ถ้าไม่เหม่อลอยก็มักจะก้มหน้าก้มตา คิดว่าคนอื่นไม่เห็นเหรอ เพชรไม่ใช่คนอื่นเสียหน่อย มีกันอยู่สองคนที่นี่แท้ๆจะให้เขาหันไปมองใคร ถ้าจะมองก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ แต่พูดไม่ได้ เดี๋ยวพระพายนอนไม่หลับ….


“ไม่ยิ้มแล้วก็ได้ เดี๋ยวพี่เพชรหาว่าพายเป็นบ้า ยิ้มได้ทั้งวันเหมือนพี่เพชร”  นั่นแปลว่าพระพายด่าเขาหรือไม่….แต่ก็จริง สองวันมานี้ยิ้มได้ทั้งวัน เริ่มสงสัยว่าผักที่ปลูกหลังบ้านนั่นมีกัญชาด้วยหรือเปล่า


“จะยิ้มเป็นบ้าทั้งวันเลยก็ได้ครับ”


“………….”


“พระพายยิ้มแล้วน่ารัก…ยิ้มเป็นบ้าทั้งวัน พี่เพชรก็ว่าน่ารักอยู่ดีครับ”  แล้วตอนนี้ยิ้มซื่อๆเด๋อๆของเลขาคุณรบหายไปไหน


ทำไมพระพายถึงเห็นแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหมาป่าสวมหนังแพะล่ะ….
แบะๆๆๆๆๆๆๆ


“พายจะอ่านหนังสือแล้ว พี่เพชรรบกวน เชิญออกไปเลยครับ”  ทำไมมันเป็นการไล่ที่ดูมุ้งมิ้งอย่างนี้ พระพายเองก็ไม่ชอบตัวเองที่ดูเป็นคนไม่เด็ดขาด เห็นไหมนั่น คนถูกไล่ที่ไหนจะยิ้มแทนที่ทำหน้าสลดให้สะใจ น่าหมั่นไส้เสียจนต้องยู่หน้าพร้อมตบเท้าตัวเองระบายอารมณ์


“หงุดหงิดยังตัลลั้กเลย คนอัลไล”  เป็นพระพายคนดีของคุณหญิงพรรณีนี่มองจากพระจันทร์มาก็ยังเห็นว่าน่ารัก แม่จินผู้เกรี้ยวกราดเลี้ยงลูกชายมายังไง ถึงได้น่ารักน่าเอ็นดูได้ขนาดนี้


น่าเอ็นดูขนาดที่ทำคนบางคนตื่นเช้าขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อปลาทูที่ตลาดมาทอดและแกะให้กิน….


“พี่เพชรชอบแซวอ่ะ ไร้ประโยชน์มาก พระพายยังไม่สนิทกับพี่เพชรนะครับ”  พระพายพูดความคับข้องใจของตัวเองมาตรงๆ ก็จริงที่ว่าเขากับน้องยังไม่สนิทกัน เราต่างก็เหมือนคนแปลกหน้ามาตลอด เพชรทำงานกับรัตนสกุลตั้งแต่เรียนจบ จนตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปี เขามีโอกาสได้เข้าบ้านไปรับเจ้านายหรือนั่งกินข้าวคุยงานที่นั่นบ่อยๆ พระพายเองก็อยู่ที่บ้านหลังนั้นมาตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เจอ สิ่งที่เราทำคือการยิ้มและทักทายแบบห่างๆ ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แล้วทำไมกันนะ เขาถึงจงใจหาเรื่องมาตีสนิทแบบนี้


เพราะว่าหวังผลประโยชน์จากพระพายเหมือนที่หวังกับทุกคนหรือเปล่า….
ก็เดี๋ยวต่อไปต้องเข้าไป…ทำงานด้วยกันแล้วนี่นา….


Talk:   เอาเพชรพระพายตอนแรกมาเสิร์ฟแล้วค่ะ ความดราม่าพาสเทลของพระพายเป็นไงบ้างคะ แต่เดี๋ยวพระเอกของเราก็มาช่วยน้องแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยให้แย่ลงหรือดีขึ้นเหมือนกันนะ55

ฝากเอ็นดูพระเอกที่ต่อเรือเองเรื่องนี้ของเราด้วยค่ะ อย่าปล่อยให้พี่เขาคอยที่ท่า กระโดดขึ้นเรือมาให้กำลังใจกันหน่อยเร้วววววว


#เพชรพระพาย #เจนไม่นก
twitter: @reallyuri
Facebook: https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202






หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-09-2018 20:39:24
น้องน่ารัก เพชรดูบ๊องๆ แต่เฉียบคมใช่เล่น
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-09-2018 20:45:25
ทีมเลขาคุณรบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 08-09-2018 21:00:40
ท่าทางจะเข้ากันได้ดีนะคะคู่นี้
อ่านถึงตอนเดินไปหาคนถ่ายรูปแล้วให้อารมณ์ พายข้าใครอย่าแตะ มากๆเลยค่ะ ฮ่าๆ
เราเชื่อว่าถึงแม้ไม่มีฝีพาย คนอย่างคุณเลขาเพชรก็คงจะเอามือวักน้ำให้เรือมันเล่นไปได้อยู่ดี
เป็นกำลังใจให้จีบน้องได้สำเร็จค่ะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2018 21:20:25
 :man1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 08-09-2018 21:50:37
 :katai2-1: ต่อไปน้องต้องไปฝึกว่าจากพี่เจนแล่วละ  จะได้ต่อกรกับเลขเพชรได้ :katai3:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-09-2018 00:37:22
พี่เพชรแน่ใจนะว่าไม่ใช่พระเอกลิเกอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 09-09-2018 01:31:18
ดูท่าแล้วพี่เพชรจะไม่กากเหมือนเจ้านายนะคะ 55555 สงสารน้องพระพายทำไมต้องมาเจอเรื่องแย่ๆในสังคมมหาลัยตั้งแต่ปี1ด้วยนะ หวังว่าพี่เพชรจะช่วยให้น้องรู้สึกดีขึ้น
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-09-2018 07:48:23
ถึงพี่เพชรจะดูบ๊องๆบ้าๆบอๆ แต่พี่เพชรก็ทำให้น้องพระพายยิ้มได้ล่ะนะ ดูแลน้องด้วยจัดการคนที่แกล้งน้องด้วย #กระโดดขึ้นเรือเพชรพาย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่1) 8.9.2018 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-09-2018 00:15:40
พระพายใสมากเลยลูกไม่น่าจะต้องมาตกบ่วงอิพี่เพชรมันเลยจริงๆ สงสารน้องโดนคนในมหาลัยจ้องจับผิดขนาดนี้ อยากรู้มากว่าตอนพี่เพชรเดินไปหาคนแอบถ่ายนี่พูดว่าอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 11-09-2018 19:33:39
เพชรพระพาย
#คนขับรถของพระพาย

ในที่สุดพระพายก็สอบเสร็จสักที….


“ทำได้ไหมอ่า”  พริมพราว เธอกลับบ้านไปเมื่อวันหยุด หนังสือก็อ่านจบแค่รอบเดียว


“พอได้นะ”  พระพายตอบเช่นนั้น ส่วนธนทัตชายหนุ่มผู้เงียบขรึมก็พยักหน้า


“ทำไมมีแต่คนเก่งนะพวกนี้”


“เราไม่ได้บอกว่าทำได้เสียหน่อย” พระพายแย้ง


“แล้วทำไม่ได้เหรอ”


“…………..”  คือจริงๆพระพายก็ไม่ควรจะทำได้หรอก


ถ้าไม่มีคนช่วยติวให้….


“นั่นกระดาษอะไรอ่ะพระพาย”  พริมพราวถาม มันยิ่งน่าสงสัยเมื่อพระพายพยายามเอามันไปซ่อน แต่ธนทัตไวกว่าเพราะเขาคว้ามาจากมือของคนขี้หวงได้ทัน


“กระดาษเลคเชอร์….เหรอ”  ธนทัตหยิบขึ้นมาดูก่อนจะพึมพำกับตัวเอง เขาส่งให้พริมได้ดู และทั้งสองต่างก็ขมวดคิ้ว


“แน่ะ ไปติวกับใครมา”  มันดูเหมือนจะเป็นกระดาษทดที่ใช้เขียนตัวอย่างด้วยลายมือใครสักคนเสียมากกว่า แต่ใครล่ะ พระพายไม่มีพี่รหัส และยิ่งไม่สนิทกับใครใหญ่เพราะเหตุการณ์ในช่วงนี้


น่าสงสัยชั่ยมั่ยชั่ย!


“อืม พี่……” พระพายกำลังจะตอบ ทว่าภาพที่มุมนึงก็ทำให้คำตอบของตนถูกกลืนหายเข้าไป


เพราะรอยยิ้มคุ้นตานั้นกำลังใกล้เข้ามา


“นั่นใครน่ะ”  เสียงกระซิบและสายตาจ้องมองนั้นมีทั่วทุกหนแห่ง ตอนนี้ใต้ตึกคณะเหมือนจะแตกฮือด้วยเพราะการมาเยือนของคนๆนึงที่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร จะบอกว่าเป็นนักศึกษาก็ไม่ใช่ อาจจะเพราะหน้าตาพี่คนนี้เรียกได้ว่าไม่เนียนไม่ต้องกลับมาเรียนใหม่ พระพายกลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อคิดได้ว่าอาจจะเป็นตัวเองก็เป็นได้ที่ทำให้เขามาที่นี่ ทว่าก็ดูเหมือนจะเข้าข้างตัวเองเกินไป


แต่นั่นแหละ….เป็นพระพายจริงๆ


“ที่ติวให้ออกสอบไหมครับ”  รอยยิ้มที่มีมากมายก่ายกองของเขาเหมือนจะเจิดจ้าจนต้องหลบตา


“พะ…พี่เพชร”  กว่านานที่พระพายจะหาเสียงตัวเองเจอ ที่หลบตานี่ก็ไม่ใช่ว่าเพราะเขาส่องสว่างอะไรอย่างนั้น แต่พระพายเขิน เดินมาก็เด่นแล้ว เข้ามาหากันทำไมเนี่ย คนอะไรทำตัวเป็นปัญหาเก่งจริงๆ


“ครับ พี่เพชรเอง พี่เพชรที่หล่อๆและช่วยติวให้พระพายไง”


“วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอครับ”


“ลาพักร้อนบ้างอะไรบ้าง คนเราต้องสร้างคุณค่าให้เจ้านายคิดถึงบ้าง”  บางทีวันนี้คุณรบคงหนีบลูกและคนที่เขายัดเยียดตำแหน่งแม่ของลูกไปออฟฟิศด้วย คนบางคนที่เอะอะลางานบอกว่าสร้างคุณค่าควรระวังไว้ มโนไปคนเดียวระวังได้รับเงินชดเชยเชิญออกไม่รู้ตัว พระพายหรี่ตามองตาคนโดดเด่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ กระทืบเท้าก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนคิดว่ายังไม่โต


ว่าแต่เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคนบนโลกนะ!


“เอ่อ…พี่…หวัดดีค่ะ”  พริมพราวที่ยืนมองอยู่นานตัดสินใจขัด ทัตที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ยกมือขึ้นไหว้ท่าทางงงงวยไม่ต่าง เพชรยิ้ม เขาตั้งใจมาหาน้องโดยเฉพาะ หลังจากเมื่อวานติวและเก็งข้อสอบให้พระพายที่ไม่มีแม้แต่เลคเชอร์ของพี่รหัส เราก็แยกย้ายกันไปเข้าห้องตัวเอง พระพายคงคิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก และได้ไปเจอกันที่กรุงเทพในฐานะน้องฝึกงานและพี่เลี้ยง ทว่าไม่เลย…


เขาใจกว้างกว่านั้นเยอะมาก


“มาขอติดรถพระพายเข้ากรุงเทพหน่อย ให้พี่นะครับ ถือว่าเป็นค่าติวเมื่อวาน”


“โอ้วววววววววว”


“อู้วววววว”



“พริมพราว ธนทัต”  เสียงแข็งที่สุดในชีวิตพระพายแล้ว เพชรพิสุทธิ์ยิ้มกว้าง เขาดูคนน่ารักของรัตนสกุลที่กำลังเกรี้ยวกราดขั้นสุด แต่ใครจะกลัวได้ลงคอ ตอนโกรธนี่ยิ่งกว่าหน้าบีบอีก ถ้าจับบีบตอนนี้ต้องมีคนดิ้นตายอ่ะ คนๆนั้นชื่อเจนรักษ์


“โอ้ยล้อเล่นน่า ก็เมื่อกี๊ถามตั้งนานว่าใครติวให้ก็ไม่ยอมตอบ แต่เอาเจ้าตัวมาแสดงตัวแทน ร้ายกาจนะจ้ะ พระพาย”


“ร้ายกาจอะไร เขามาขอติดรถกลับหรอก ใช่ไหมครับพี่เพชร” พระพายหันไปขอคำยืนยันกับเขา


“ครับ แล้วก็ขอติดไปกินอาหารกลางวัน ไอติม และบิงซูด้วย”


“พี่เพชร”  เกรงใจพระพายบ้าง ต่อให้คนจ่ายไม่ใช่พระพาย แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องเห็นแก่กินและอยากกินกับเขา


“พี่เลี้ยงขอบคุณที่ขับรถให้ไงครับ”


“พายไม่เอา ไปเลี้ยงคุณรบสิ คุณรบจ่ายค่าน้ำมันให้พระพาย”


“โหยยยยย พระพายไม่เอางี้ดิครับ อย่าเอะอะเอ่ยชื่อคุณรบ เดี๋ยวพี่เจนของพระพายมาแหกอกพี่ ถ้ารู้ถึงหูที่บ้านว่าพี่พาพระพายไปกินข้าวแล้วไม่เลี้ยงนี่พี่โดนหักเงินเดือนแน่นอน ถือว่าช่วยๆกันนะครับ”  แล้วทำไมต้องพาไปกินข้าวให้มันลำบากถูกหักเงินเดือนเล่า! ยิ่งคุยกันพระพายยิ่งหงุดหงิด ที่หงุดหงิดนี่แปลกไม่แปลก ก็พี่เพชรพูดไม่รู้เรื่อง นี่พระพายงงหรือพระพายงง เฮ้อ….



“พระพายๆ”  พริมพราวที่เห็นท่าไม่ดีเลยรีบเรียก คนตัวบางหันมามองหน้าง้ำ ยังไงก็ไม่ยอม ท่าทางหงุดหงิดนั่นไม่ต่างกับกระต่ายตอนหงุดหงิด เห็นแล้วสลดไม่ลงจริงๆ


“พริมพราว เราไม่ไป”


“น่า….รีบขอบคุณพี่เขาสิ ของฟรีดีจะตาย เนอะทัตเนอะ ขอบคุณพี่เพชรมากนะคะ ถ้าไงทัตกับพริมฝากตัวกับท้องมื้อนี้ด้วยนะคะ” เธอหันไปพยักเพยิดกับอีกคนก่อนจะหันมายิ้มร่าให้เขา จริงๆเพชรไม่ได้ชวนใครอื่น แต่ก็ดี! อยากเปย์นักใช่ไหม พระพายจะให้เปย์ให้หนำใจ! อย่าให้พระพายร้าย อย่าให้พระพายเกรี้ยวกราด!


“งั้นขอบคุณพี่เพชรนะครับ ไปกันเถอะ เดี๋ยวพายขับรถไปส่ง”  พระพายรีบรวบความไม่เปิดช่องให้ปฏิเสธ เพชรพิสุทธิ์ยิ้มให้กับความแสบระดับอนุบาลของน้องที่ไม่ทันชาวบ้านเขา พอเพื่อนชี้ทางสว่างก็รีบตะครุบ หารู้ไม่ว่าแค่มองตาเพื่อนผู้หญิงของพระพายคนนี้เราก็เข้าใจกัน ถ้าเพื่อนไม่ไปด้วย เห็นทีวันนี้คงไม่ได้กินข้าวดีๆ คนน่ารักก็ดื้อได้เหมือนกันนะ จะซื้อใจกระต่ายก็ต้องพาคนเลี้ยงกระต่ายไปด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิ….


ชั่วช้ากันเป็นดรีมทีมจริงๆ….พระพายที่น่าสงสารของคุณหญิงพรรณี!


ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงตามมาถึงนี่ เหตุนั่นก็เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่มีเยอะเป็นปกติของเขาเอง แม้คุณนักรบจะเอ่ยปากพูดว่าให้มันน้อยๆลงหน่อย แต่ลืมไปแล้วเหรอว่าที่ได้ดีมีเมียเป็นของตัวเองทุกวันนี้….ไม่ใช่เพราะความเสือกของนายเพชรพิสุทธิ์ เจริญกิจธาราหรอกเหรอ??? นักรบนายกากอ่ะ กิ้วๆ ถ้าไม่มีแรงใจเดินเรือของชิปเปอร์ นายไม่ได้เห็นขาอ่อนของมนุษย์นกหรอก บอกไว้ด้วย!


และท่าทางแปลกๆของพระพายที่ได้เห็น….มันปลุกต่อมอยากรู้อยากเห็นของเขาให้เดือดพล่าน เห็นอย่างนี้นายเพชรพิสุทธิ์ก็เป็นนักศึกษามาก่อนเหมือนกัน เห็นกากๆแบบนี้ก็เรียนจบกับเขาด้วย มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะรู้ทันหรือมีสัญชาตญาณในบางเรื่อง แม้จะยอมรับว่าเรามันต่างยุคแต่ก็ปะติดปะต่อได้ไม่ยาก ก็ดูสิ รบเจนนี่ไม่เห็นมีอะไรในกอไผ่เท่าไหร่ หน้าก็ยังไม่ค่อยมองกัน แค่รูปเดินออกมาจากโรงหนังรูปเดียวนี่เป็นเรื่องเป็นราวเลย ถ้าผ่านการเป็นชิปเปอร์เรือผีที่มีโมเมนท์แห้งๆมาได้ สัจธรรมอะไรบนโลกก็ตรัสรู้ได้เหมือนกัน ไม่เกินความสามารถเลย


วันนั้นที่เห็นคนถ่ายรูปเขากับน้อง แว้บแรกก็พาลคิดไปถึงเพจ ‘บัณฑิตหล่อบอกต่อด้วย’ แต่มานึกได้ว่าหลังจากเข้ากรุง เขาก็กลายเป็นแรร์ไอเท็มของที่นี่ จะมีเด็กรุ่นน้องที่ไหนจดจำกันได้ว่าเขาเคยส่งยา เอ้ย! ไม่ใช่ เป็นนักศึกษามหาลัยดังไม่ไกลจากร้านผัดไทที่ไปกินเมื่อวานก่อน โดยเฉพาะท่าทางของพระพายที่แสดงออกว่าไม่พอใจจนลุกหนีนั่นเช่นกัน น้องไม่ได้เป็นคนแบบนี้เลย มันต้องมีเงี่ยนงำ เอ้ย! เงื่อนงำ นี่ใครนี่เพชรเอง เพชรที่ขี้เสือกไง จำได้ป่ะ ที่ขี้เสือกจนได้ดีเจ้านายมีเมียไปคนไง ถ้าเสือกอีกคุณรบอาจจะได้มีเมียอี 2-3 คนก็เป็นได้!


จะเรียกว่านี่คือสวัสดิการช่วยเหลือสมาชิกของเรือรบเจนก็ว่าได้ หลังจากที่คู่นั้นได้กัน กัปตันก็ไม่สนลูกเรือและจัดการพายกันเอง เล่นเอาว่างงานกันไปเป็นแถบ ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนแก่ที่บ้านรัตนสกุลต้องเหงาและเฉาตาย เพชรจึงได้เอาเรื่องที่พบเจอไปเพ็ดทูล เมื่อทราบได้คุณหญิงก็ตบเข่าฉาด ใครกล้ามาทำพระพายของเธอ! บอกเลยว่าเรื่องนี้ใครจะด่าลูกชายที่ชื่อนักรบว่ากากก็ได้ แต่ห้ามมาว่าร้ายพระพายเด็ดขาด ศักดิ์ศรีมันต่าง นี่พูดเลย!


แกต้องลางานไปเฝ้าน้อง!….คือประกาศิตสั่ง คุณรบเองที่โอ๋พระพายอยู่เงียบๆอย่างห่างๆด้วยความห่วงๆก็พยักหน้า ไม่แน่ใจว่าที่ให้เพชรหยุดกะทันหันนี่เพราะรำคาญจริงหรือแค่อยากส่งไปช่วยดูน้อง แต่ก็ถือว่ารัตนสกุลเปิดไฟเขียวแล้วสำหรับการกอบกู้วิกฤตให้ชีวิตมหาลัยของพระพายครั้งนี้ เพชรมั่นใจมากว่าถ้าเจนรักษ์รู้มันต้องสนุก นั่นเจนมือตบกับเพชรขาเสือกไง ดรีมทีมของวิชาชีพเลขาที่แท้ทรู


สิ่งแรกที่เขาทำคือการติดต่อสายรหัสที่ยังเรียนอยู่เผื่อว่าจะรู้อะไรบ้าง และมันไม่ทำให้เพชรผิดหวัง เพราะไม่นานพอบอกชื่อพระพายออกไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจนแม้แต่ข้อมูลการเขี่ยข้าวโพดอ่อนไปทิ้งในข้าวกล่องวันรับน้องมันก็บอก ยืนยันความเป็นคนดังของพระพายที่น่าตกใจให้ทราบ ก็รู้แหละว่าน้องหน้าตาและนิสัยน่ารัก….แต่คนน่ารักไม่ควรถูกกระทำแบบนั้น….


ทั้งหมดที่ว่ามาคือเหตุผลที่ทำให้เขามานั่งอยู่ที่นี่ กินข้าวกับพระพายและผองเพื่อนที่แกล้งหลอกมากินฟรี ก่อนจะมานั่งอยู่ในรถของรัตนสกุลในฐานะคนขับ แน่นอนสิว่าเขาต้องยึดมาขับเอง ใครจะใช้ให้คุณพระพายคนดีของคุณพรรณีขับให้กันล่ะ และแม้คนเซี้ยวจะสะใจกับการหลอกให้เขาเลี้ยงข้าวในตอนแรก แต่เมื่อเห็นเพื่อนของตนสั่งมากินแบบไม่ค่อยเกรงใจ เจ้าตัวก็กลับมานั่งหน้าหงอย


“พี่เพชรครับ”


“………..”


“เดี๋ยวพายจ่ายเงินคืนให้นะ”


“พี่เพชรบอกว่าเลี้ยงไงครับ”


“ง่า…ไม่เอา”


“ไม่เอาก็ต้องเอาครับ เพราะพี่จ่ายไปแล้ว”


“ได้ไงครับ พี่เพชรเสียเงินไปตั้งเยอะ”


“พระพายเสียดายแทนพี่เหรอครับ”


“พายเกรงใจ”


“คนกันเอง เกรงใจอะไรกันครับ”


“แต่พายรู้สึกไม่สบายใจ”


“งั้นเอาไว้วันหลังค่อยเรียกข้าวพี่ก็ได้นะ เราต้องเจอกันเกือบทุกวันเลยนี้นา” จะว่าไปก็จริง ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป พระพายก็จะได้ฝึกงานกับรัตนสกุลแล้ว และก็คงจะได้เจอกันทุกวัน บางทีที่เขามาหานี่ก็เพื่อที่จะทำให้เราสนิทสนมกันก่อนเริ่มงานจริง จะได้ไม่อึดอัด


รถของพระพายที่เพชรขับให้เลี้ยวเข้ามาในประตูบ้านหลังใหญ่ พระพายกำลังลังเลอยู่เลยว่าตนควรจะทำอย่างไรเพื่อไปส่งเขา เท่าที่รู้คือคุณเพชรนั้นอยู่คอนโดไม่ไกลจากที่นี่ บางทีพระพายก็ไม่ควรปล่อยให้เขาขับมาแต่แรก ถ้าตนขับ…บางทีก็อาจจะปล่อยเขาไว้ที่ไหนสักแห่งหรือไปส่งเขาที่พักก่อน คนลางานมาก็อยากจะพักผ่อนจริงไหม มาส่งกันแบบนี้แล้วเขาจะกลับยังไง อย่าบอกนะว่าพระพายจะต้องย้อนไปส่งอีกรอบ?


“นี่พี่โทรบอกคนที่บ้านแล้วว่าวันนี้จะแวะมากินข้าวด้วย”  ทำเหมือนเป็นบ้านตัวเองไปแล้วเนอะคนเรา พระพายก็ได้แต่พยักหน้าเออออ จะว่าไปเพชรก็มาเกาะกินฟรีอย่างนี้บ่อยๆ ไม่ใช่เงินพระพายนี่ จะไปวิจารณ์ก็ไม่ใช่เรื่องเนอะ เพชรนั้นเข้าไปจอดรถอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคย เราเดินออกจากโรงรถเพื่อเข้าไปในตัวบ้านที่เงียบสงบ พระพายรู้สึกมีความสุขเมื่อได้กลับมาที่นี่ แม้พูดไม่ได้เต็มปากว่าบ้านหลังนี้เป็นของตน แต่ความรักที่คนในบ้านนี้ให้


พระพายสามารถครอบครองมันไว้ได้ทั้งหมด!


“ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้ะพระพาย”  เสียงของพี่เจนที่ดังออกมาทำให้พระพายตกใจ น้องวินในชุดกบเคโระโระในอ้อมกอดก็ตื่นเต้น โชว์ยิ้มกว้าง น้องมีฟันขึ้นแล้ว มันน่าเอ็นดูเสียจนต้องเข้าไปหยอกเอิน


“หวัดดีครับพี่เจน ไหนๆน้องวินของพี่พายอยู่ไหน โตเป็นหนุ่มแล้วววววว”  เจนส่งน้องให้พระพายอุ้มแต่โดยดี น้องวินที่เหมือนจะไม่ได้เจอพระพายมานานก็ตื่นเต้นส่งเสียงทักทายหัวเราะอย่างอารมณ์ดีใหญ่ เริ่มเข้าใจพี่เจนขึ้นมานิดๆว่าทำไมถึงติดน้องได้ขนาดนี้ ก็เพราะความนุ่มนิ่มและทุกสิ่งที่เป็นน้องวินที่สามารถเยียวยาคนรอบข้างได้จริงๆนี่ไง น่ารักเสียจนเห็นแล้วทนไม่ไหว ใครใจแข็งได้ก็ยอดมนุษย์เสียแล้ว


“ปะปาย ยายา” 


“พี่พายก็คิดถึงน้องวินครับ”  จริงๆก็คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกแต่ก็อยากตอบอยากคุยด้วยเหมือนกัน


“ไหนคิสพี่พายหน่อยสิน้องวิน พี่พายมาเหนื่อยๆ คิสพี่พายให้หายเหนื่อยเร็วๆ”  และน้องก็พูดง่าย เจ้าตัวเล็กยื่นหน้าไปชนปากคนตัวบางตามคำสั่ง ให้ตายเหอะตอนบอกให้คิสป๊ะป๋านี่ทำที่แก้มนะ กับพี่พระพายนี่ ที่ปากเลยเหรอ เจ้าชู้ได้ใครกัน เจนรักษ์ต้องระวังคุณรบไว้บ้างไหม


เราผู้ใหญ่สามคนและเด็กน้อยน่ารักอีกคนเดินเข้าไปในห้องทานข้าว คาดว่าทุกคนคงรอกันอยู่ วันนี้เป็นวันที่พระพายรู้สึกโล่งใจที่สุดแม้ไม่รู้ว่าเกรดจะออกเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าทำเต็มที่ อย่างไรก็ตามไม่มีที่ไหนดีเท่าสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรัก พระพายคิดเช่นนั้นและตั้งใจจะวิ่งเข้าไปโผกอดแม่ที่น่าจะกำลังตักข้าวให้กับทุกคน ทว่าภาพที่เห็นกลับทำให้พระพายหยุดนิ่ง


ไม่มีแม่ที่กำลังตักข้าว….ไม่มีป้าไพที่กำลังรินน้ำ
แต่อาหารทุกอย่างที่ดูมากมายกลับทุกจัดเรียบร้อย….และห้องทานข้าวก็ถูกตกแต่งด้วยสายรุ้งมากมาย


“ยินดีต้อนรับพระพายกลับบ้านจ้า”  พระพายไม่แน่ใจว่าคนพูดประโยคนี้มีใครบ้างเพราะเหมือนน้ำตาจะเอ่อจนมองอะไรไม่เห็น มือที่ยังอุ้มน้องวินกระชับแน่นด้วยกลัวว่าความอ่อนแอในใจที่กำลังถูกเติมเต็มจะทำให้อ่อนแรงจนเผลอทำน้องหลุดมือ พี่เจนที่พอจะเข้าใจความอ่อนไหวจึงช่วยพาน้องออกจากอ้อมกอดของพระพาย และปล่อยให้คุณหญิงเจ้าของบ้านที่กรุณาพระพายอย่างเป็นที่สุดได้สวมกอดเพื่อปลอบขวัญ พระพายเป็นใครกันสำหรับบ้านนี้ ทำไมถึงได้รับความรักมากมาย….


“ร้องอะไรกันลูก ไม่ร้องสิ”  คุณพรรณีเอ่ยปลอบ สำหรับเธอนั้น ไม่ได้เอ็นดูเด็กคนนี้เพียงเพราะหน้าตา แต่ตั้งแต่ที่เด็กคนนี้มาอยู่ด้วย ทุกอย่างเธอไหว้วานได้ ไม่สบายพระพายก็คอยเฝ้า ทำหน้าที่ที่ไม่ใช่ของตนได้ดีราวลูกหลานคนหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่จะได้รับความเอ็นดูมากมาย


ในส่วนของนักรบนั้นเขามัวแต่ทำงาน ไม่ใช่ว่าไม่รักหรือห่วงใยแม่ แต่เขาไม่สามารถทิ้งงานได้ เพราะภาระรับผิดชอบต่อคนเป็นร้อยเป็นพันมันมากเกินจนไม่อาจจะทุ่มเทให้กัน มันอาจจะดูเหมือนไร้เหตุผลหรือมีข้ออ้างที่จะปัดความรับผิดชอบ แต่เขารู้ว่าพระพายยินดี และก็อยากจะมั่นใจว่าคนที่ทำหน้าที่บางอย่างแทนเขามาตลอดจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด วันนี้เขาจึงกลับบ้านเร็วอย่างเต็มใจ


ส่วนเจนรักษ์นั้นพระพายถือเป็นน้องชายที่ถูกชะตาแต่แรก แม้เจนในช่วงแรกจะมีปัญหากับแม่ของพระพาย แต่เด็กน้อยไม่เคยไม่ให้ความยุติธรรมต่อกัน และพระพายก็ทำให้เจนได้เห็นภาพบางอย่างของตัวเอง เรามีความคล้ายที่ต่าง แต่โดยรวมเราล้วนโชคดีในความขาดๆเกินๆเหมือนกัน สำหรับเจนนั้นพระพายควรจะได้รับความรักที่ดี น้องควรจะมีความสุขให้สมกับสิ่งที่น้องทำ และเมื่อมีคนขี้เสือกบางคนมาใส่ไฟให้ฟังว่าพระพายโดนกระทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตนแทบเต้นไปมหาลัยพระพายเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่าคุณรบห้ามไว้ วันนี้คนขับรถกลับให้พระพายต้องไม่ใช่อีตาเพชรแน่นอน!


“มีแต่ของโปรดพระพาย พี่เจนอบเค้กไว้ด้วย”


“พี่เจน…”  และเพราะทำอะไรเพื่อช่วยไม่ได้ พวกเราจึงตัดสินใจที่จะปลอบขวัญน้อง พระพายเองก็มีสำนึกต่อตนเองต่ำเกินไป น้องทนแบกรับความเจ็บปวดโดยไม่โต้ตอบ และไม่บอกใครให้ต้องคิดมากไปด้วย บอกแล้วว่าในสายตาของเจน พระพายนั้นนางเอกตัวจริงของเรื่องนี้ ส่วนตนน่ะนางอิจฉาที่เป็นลูกคนใช้ ส่วนคุณรบน่ะตัวร้ายเลย ร้ายมากๆ ถ้าไม่รวยนี่ไม่แน่ใจว่ายังมีดีอยู่ไหม….


“รีบกินกันเถอะ เดี๋ยวเย็นหมดนะจ้ะพระพาย”  ป้าไพนั้นยิ้มให้กัน ช่วงหลังๆแม่กับป้าไพนั้นเหมือนจะญาติดีกันขึ้นมา พระพายชอบบ้านรัตนสกุลตอนนี้ที่สุด คนตัวบางเดินเข้าไปกอดป้าที่ใจดีต่อกันมาเสมอแม้ว่าจะเคืองโกรธแม่ของพระพายอยู่ ก่อนที่ดวงตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาเกาะบนขนตาที่เรียงตัวสวยจะมองเห็นแม่ของตนที่ยืนอยู่ข้างหลัง แม่ไม่ยิ้ม แต่แม่…ก็ไม่ได้ทำหน้าเคืองโกรธกัน และนั่นทำให้พระพายรู้ว่า แม่เองก็ดีใจที่พระพายกลับมา


“พายกลับมาแล้วครับแม่”  เมื่อผละจากป้าไพ พระพายก็สวมกอดคนเป็นแม่ แน่นอนว่าจินตนาไม่ใช่คนที่ยิ้มเก่ง เธอเป็นคนโผงผางติดจะหน้าบึ้ง หากแต่ทุกคนในบ้านรู้ว่าเธอเป็นคนจริงใจแต่ปากร้ายไปอย่างนั้น เธอกอดลูกชายกลับ พอได้ยินเรื่องนั้นที่พระพายเจอ หัวใจคนเป็นแม่ย่อมเจ็บปวด และเจ็บยิ่งกว่าที่ต้องมารู้จากปากคนอื่น ทว่ากำลังของเธอที่มีอยู่แค่นี้ มันทำให้ยิ่งรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้ จึงดีใจเหลือเกินที่ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ห่วงใยพระพาย


ในวันนั้นเธอช่างโชคดีที่มีความกล้าที่จะเปิดประตูเข้ามาของานทำที่นี่….


“ทำไมแกนี่ไม่เหมือนฉันเลยนะ”  หรือบางทีเราก็อาจจะมีความคล้ายกันเกินไป ในบางด้านที่ไม่มีใครเคยรู้


“แม่ไม่ร้องนะ”  พระพายพูด มองดวงตาของแม่ที่มีคราบน้ำตาก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระพายยิ่งโทษตัวเองกับการจัดการปัญหาที่ไม่ได้เรื่อง แต่การนิ่งเฉยก็ถือเป็นการแก้ที่ดีอย่างหนึ่งไม่ใช่หรือไง ใช่…ถ้าเราไม่สนใจ ก็ไม่มีใครเดินเอามีดมาแทงกันเพราะเรื่องงี่เง่าแบบนั้นหรอก แต่ถ้าพระพายไม่สนใจจริงๆก็ดี คำว่าพระพายโอเคมันก็แค่คำปลอบใจ เพราะจริงๆแล้วตัวเองก็แค่พยายามจะรับมันให้ได้และอยู่กับมันโดยหลอกกันต่อไปว่าไม่เจ็บอะไร


สิ่งที่ทำอยู่มันไม่ต่างกับการหนีเลย….


“พายกลับมาหาแม่แล้ว”  พระพายยิ้มทั้งน้ำตา และแม่ก็ยิ้มตอบ พระพายเคยคิดมาตลอดว่าแม่เป็นคนที่ยิ้มแล้วดูสวยมาก แต่แม่ก็ไม่ค่อยยิ้ม ถ้ามองดีๆจะเห็นได้ว่ารอยยิ้มของเราแม่ลูกมีความคล้ายกัน แม้ว่าพระพายจะไม่ได้หน้าเหมือนแม่ แต่รอยยิ้มทำให้เราดูไม่ต่าง และตอนนี้เราก็มีความสุขดีในอ้อมกอดของกันและกัน  โดยมีอ้อมกอดของรัตนสกุลที่ให้ไออุ่นมาตลอดสิบกว่าปีล้อมรอบอีกที พระพายรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย และคอมฟอร์ทโซนนี่อาจจะสปอยล์กันโดยไม่รู้ตัว เมื่อตนต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกคนเดียว ก็เลยทำมันเละไม่เป็นท่าแบบนี้ การเป็นพระพายคนดีในบ้านหลังนี้อาจจะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง


แต่การเป็นคนดี….ไม่ได้แปลว่าสังคมจะดีกลับมาตลอดไป


พระพายควรจะทำอย่างไรในเมื่อตัวตนของตนมันเป็นเช่นนี้มาตลอด มันก็น่ารำคาญใจเช่นกันที่ประกาศตัวว่าอยากเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือรัตนสกุล ทว่ากับเรื่องส่วนตัวแค่นี้พระพายยังแก้ไขไม่ได้ แถมนิสัยของตนกลับกลายเป็นดาบสองคมให้คนเข้ามาทำร้าย ไม่มีใครที่ดีที่สุดได้จริงๆ มนุษย์คือสิ่งที่ซับซ้อนไม่ซื่อตรง ดังนั้นต่อให้พระพายตรงไปตรงมา ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะยอมรับ ทำดี…แต่ไม่เป็นที่รักมันเป็นเช่นนี้นั่นเอง


เรามานั่งกินข้าวและพูดคุยกัน ปาร์ตี้แสดงความยินดีกับการจบปี 1 ของพระพายนั้นริเริ่มโดยพี่เจนที่หงุดหงิดงุ่นง่านใจที่ทำอะไรไม่ได้ โดยมีคนที่คุณก็รู้ว่าใครเสี้ยมอยู่ข้างหลัง แม้แต่คุณรบที่มักจะหนีอีเวนท์ครอบครัว ครั้งนี้เขาก็เข้าร่วม มันทำให้พระพายรู้สึกดีขึ้นที่ได้เห็นความใส่ใจจากทุกคนที่พระพายรักและเคารพ ความวุ่นวายที่ใครบางคนถือวิสาสะเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยไม่ขอนี่ จะเรียกว่าเป็นเรื่องที่ควรโกรธหรือขอบคุณดีล่ะ พระพายสับสนไปหมดแล้วและทุกครั้งที่หันไปมองตัวปัญหาของตน ก็มักจะได้เห็นรอยยิ้มของคนที่ช่วงนี้ทำอะไรดีๆให้กันมากมาย เขายิ้มได้ทั้งวันแบบนั้นเพราะเขามีความสุข หรือเพราะอะไรกันหนอ….


“ยินดีด้วยนะครับ”  เขาพูด ไม่มีเสียงออกมาจากริมฝีปากนั้น แต่ทุกสิ่งส่งเข้ามาที่ใจพระพาย ชั่วขณะที่บ้านรัตนสกุลมีแต่เสียงพูดคุยอันเต็มไปด้วยความสุข เมื่อดวงตาของเพชรและพระพายสบกัน พวกเขาเหมือนถูกตัดฉับเข้าไปสู่โลกที่ไม่มีใครเข้าใจว่ามันคือที่ไหน พระพายนั้นไม่เหมาะสมกับพี่เพชรจริงๆในตอนนี้


แต่ในอนาคต….พระพายจะก้าวข้ามจุดนี้ของตัวเองไปหาเขาได้ใช่ไหม…
รักครั้งแรกของพระพาย….

Talk: ตัดฉึบแบบเอ๊ะ ไม่จริงใช่ไหม ใครรักครั้งแรกของพระพายนะ หืมมมมมม ได้เหรอไรงี้
เราจะมาอัพเดทเรื่อยๆเกี่ยวกับวันลงนิยาย ไม่ได้กำหนด ตามความสะดวกเลยค่ะ555
วันก่อนเราเพิ่งประกาศเรื่องตอนพิเศษของน้องวิน
ก็มีนักอ่านที่คิดขึ้นได้ว่าเราไม่เคยเห็นน้องวินแสดงความเห็นอะไรในเจนไม่นกเลย นั่นแหละค่ะตอนพิเศษของน้องวิน
เราจะมาเปิดเผยความรู้สึกของทารกกันนะคะ5555 และตอนนี้เราก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสได้ทำตอนพิเศษของน้อง
ในแบบที่โตแล้วพร้อมจะมีแควนเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปแย่งเจนกับพ่อแล้วไรงี้
มาติดตามกันนะคะว่าจะได้ทำไหม แต่อยากทำอ่ะ อยากทำมากกกกกกกกกกกก
ฝากรักพระเอกผู้ทรหดของเราคนนี้ด้วยนะคะ มาดูว่าน้องจะยอมขึ้นเรือไหม แต่เอ๊ะน้องก็ชอบพี่เขานี่จะไม่ลงเรือจริงๆเหรอ
มาดูกันค่ะ  มาดู5555
ฝากแท้ก #เพชรพระพาย คู่ #เจนไม่นก
Twitter @reallyuri
Facebook : https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202










หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-09-2018 19:44:54
โอ๋ๆนะน้องพาย ปะปาย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 11-09-2018 20:00:23
น้องพระพายนี่ต้องไม่ใช่แค่ลูกแม่บ้านธรรมด๊าธรรมดาแน่เลย  รอติดตามต่อจ้า  อิอิ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-09-2018 20:06:43
โอ๋ๆนะพระพาย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-09-2018 20:57:54
น้องพายสู้ๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-09-2018 21:34:57
เพชรรู้ไหมเนี่ย ว่ากำลังพายเรือลำใหม่อยู่
ท่าทางมีคนช่วยส่งกันเพียบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 11-09-2018 22:29:17
ติดตามค้าาา  :mew2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 11-09-2018 23:03:13
พี่เพชร น้องพาย ช่วยกันพายเรือลำนีไม่ต้องพึ่งชิปเปอร์กันเลยเนอะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-09-2018 00:27:25
ถึงใครไม่รักแต่ทุกคนในครอบครัวรักและเอ็นดูน้องพระพายนะจ๊ะ อบอุ่นดีจัง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-09-2018 00:48:53
ตอนนี้ดรีมทีมมากคือถ้าใครมามีปัญหากับพระพายอีกนี่บอกเลยว่าเจนพร้อมตบมาก ฮ่าๆๆ แล้วตอนท้ายนี่มันยังไง ขอเอ๊ะ!?ด้วยคน ตาเพชรเนี่ยนะรักครั้งแรกจองพระพาย โอ้วววม่ายยยยย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-09-2018 01:46:52
ทำไมน้องถึงหลงผิดให้คนขี้เสือกเป็นรักแรกของน้องได้ล่ะเนี่ย โถ่~ แต่ดูแล้วน้องจะยังไม่ค่อยทันความเจ้าเล่ห์ของคนพี่นะ สู้ๆนะน้องพาย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่2) 11.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 12-09-2018 13:59:42
กอดปลอบพระพาย พระพายโชคดีที่อยู่ในบ้านที่มีแต่คนรัก
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 12-09-2018 19:08:51
เพชรพระพาย
ชาไข่มุกของพระพาย


เขาว่ากันว่ารักครั้งแรกมักไม่สมหวัง
พระพายก็ไม่เคยหวังให้เขามารักด้วย…


แล้วพระพายไปรักเขาได้ยังไง จริงๆแล้วรักครั้งแรกมันมักจะมาจากความปลาบปลื้มในตัวคนๆนึงไม่ใช่เหรอ พระพายเองก็ปลื้มพี่เพชรมานานแล้ว บางทีอาจจะตั้งแต่ตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาทำงานกับคุณรบใหม่ๆ การได้พบเจอคนอื่นๆนอกเหนือจากคนในบ้านและที่โรงเรียน มันทำให้เกิดความรู้สึกหวั่นไหวแบบที่ไม่เคยคุ้นเคยมาก่อน และพระพายก็รู้สึกกับเขาตั้งแต่แวบแรกที่ได้สบตากัน


เขาแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม พระพายไม่เคยเจอใครที่ให้ความรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพียงแค่เขายิ้มและทักทายแบบเป็นกันเองให้กับเด็กหนุ่มในชุดมอซอทั้งๆที่เขาใส่สูทและยื่นมือมาให้จับโดยไม่มีแววรังเกียจที่ดวงตา แค่นี้เองใช่ไหมที่ทำให้พระพายปลื้มเขาแล้ว ใช่…รักแรกพบมันก็แค่นี้แหละ และพระพายก็ได้เรียนรู้ว่าตนเองก็ปลื้มเขามากไม่ใช่น้อย


สมกับเป็นเจ้านายและลูกน้อง สองคนนี้ไม่ได้มีความคล้ายคลึงอะไรขนาดนั้น พี่เพชรขี้เล่นต่างกับคุณรบที่นิ่งขรึมมาก ทว่าเขากลับเข้ากับบ้านหลังนี้ได้ และไม่เคยนึกรังเกียจคนใช้หรือลูกคนใช้บ้านนี้เลย ได้ยินมาว่าเป็นที่รักในหมู่แม่บ้านที่บริษัทมากด้วย ความไม่ถือตัวและอัธยาศัยดีของเขาทำให้พระพายยิ่งตกลงไปในบ่วงแห่งความปลาบปลื้มหนักขึ้น จนในวันนึงพระพายได้เรียนรู้และเข้าใจเองว่าความรู้สึกของตนมันไม่ใช่ธรรมดาอีกต่อไป เพราะถ้าแค่ปลื้ม…


พระพายคงจะไม่หวั่นไหวยามเขายิ้มมาให้ที่เราคนเดียว….


แต่คนนิสัยดีแบบเขานะเหรอจะยิ้มให้พระพายคนเดียว และเพราะเหตุนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้ปลื้มเขาขนาดนั้น พระพายรู้และเจียมตัวดีว่าไม่มีทางอยู่ในสายตาของพี่ชายผู้ใจดีนี้ได้ ดังนั้นตลอดหลายปีที่แอบปลื้มอยู่คนเดียว พระพายที่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ดีๆของเราต้องเสื่อมคลายไปจึงได้แต่ปิดบังความรู้สึกและตีตัวออกห่างยามที่จำเป็น และรักครั้งนี้ก็คงไม่มีวันได้สารภาพไป…


หรือเปล่า…พระพายก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน?


“………..” 


“พระพายพร้อมแล้วนะ”  พี่เจนที่เดินมาส่งกันหน้าบ้านนั้นถามหาความมั่นใจ พระพายที่อยู่ในชุดนักศึกษาแต่ไม่ผูกเนคไทนั้นชูสองนิ้วให้เห็นว่าพร้อมจะสู้ตาย น้องวินในอ้อมกอดพี่เจนเลยชูแขนสองข้างขึ้นตาม


โอ้ยยยยย ทำไมน่ารักน่าหยิกแบบนี้


“ไหนหอมแก้มพี่พายทีนึงก่อนสิน้องวิน บอกพี่พายสิ สู้ๆ!”


“สู้ๆ”  พระพายส่งเสียงร้องออกมาก่อนจะยื่นแก้มให้น้องแตะริมฝีปากเบาๆใส่ หยอกกันไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินออกมา พระพายยิ้มให้คุณรบที่กำลังจะออกไปทำงานด้วยกัน แสร้งทำเป็นไม่เห็นมือของเขาที่สวมกอดเอวของพี่เลี้ยงน้องวินไปเสียอย่างนั้นด้วยรู้มารยาท


“คุณรบ!”


“ไหนคิสพ่อน้องวินสิครับ”  อันนี้พูดกับลูกหรือพูดกับใคร พระพายที่หันหลังออกไปเอารถแล้วแต่ได้ยินเต็มสองหูก็ได้แต่ลอบยิ้มไม่ให้คนกระทำและถูกกระทำต้องขัดเขิน คุณรบช่างดูเหมือนไม่ใช่ตัวเขาที่เคยรู้จักมาก่อน ความรักนี่…ทำให้คนเปลี่ยนไปได้จริงๆ และพี่เจนก็เข้ามาเปลี่ยนคุณรบให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาสองคนช่างเหมาะสมราวกับถูกสร้างมาเพื่อกันและกันจริงๆ


พระพายจะมีวันได้โชคดีแบบพี่เจนไหมนะ….


การเริ่มงานวันแรกของพระพายเริ่มต้นด้วยการตามคุณเลขาตัวจริงไปกล่าวทักทายแต่ละแผนก ต่อไปพระพายอาจจะต้องช่วยพี่เพชรประสานงานและรับคำร้องต่างๆหากมี ดังนั้นทุกคนควรได้รู้จักกันเพื่อที่ต่อไปจะได้ทำงานด้วยถูก เป็นธรรมดาที่น้องใหม่ที่ไม่เคยเข้าสู่วงการมนุษย์เงินเดือนจะมีมนุษย์สัมพันธ์เป็นเยี่ยม พระพายถนัดทำให้คนรักไม่ชอบทำให้คนเกลียด ทว่าก็ยอมรับว่าปรบมือข้างเดียวมันก็ไม่ดังบ้างในบางที แต่การทำดี…ย่อมได้เปรียบอยู่เสมอ พระพายเชื่อเช่นนั้น…


“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”  ก่อนจะยกมือไหว้ทุกคนในห้องโดยมีคุณเลขาผู้พามายืนยิ้มอย่างภูมิใจอยู่ข้างหลัง เขานี่แหละคนที่กำลังจะเลี้ยงพระพายให้ทุกคน!



แต่การทำงานมันไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆ ในวันแรกของพระพายแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งมองพี่เพชรและคุณรบคุยกัน แน่นอนสิ่งที่พวกเขาคุยกัน ไม่ใช่อะไรที่เข้าใจได้เลยในทันที ทุกอย่างดูหน้าตื่นตาตื่นใจเหมือนฉากหนึ่งในละคร ทว่าเมื่อผ่านไปสักพักความเบื่อหน่ายก็เข้าครอบงำ พระพายอยากเป็นประโยชน์บ้าง แต่ดูเหมือนตัวจะไร้ประโยชน์ที่สุด


ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าพระพายเพิ่งจะมา ไม่มีใครเกิดมาแล้วทำทุกอย่างได้หรือเข้าใจทุกสิ่งแบบนั้นหรอก ขนาดไปโรงเรียนวันแรกก็ยังต้องจับทางเรียนรู้เลยไม่ใช่เหรอ การเข้ามาฟังนี่ก็ไม่ใช่การนั่งเฉยๆอย่างเดียวไม่ใช่หรือไง ทั้งหมดที่พวกเขาคุยก็คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ทว่าข้อมูลมันมีมากมายจับความอะไรไม่ได้ เพียงวันแรกที่มาทำงานก็เกิดคำถามกับตัวเองแล้วว่านี่….มันเหมาะกับพระพายจริงๆใช่ไหม....


ทำไมไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้ล่ะ


ไม่หรอกมันก็คล้าย ทว่ามันไม่มีอะไรง่ายดายแบบนั้น พระพายก็เข้าใจ ทว่าก็ยังช็อคอยู่ดีเมื่อได้มาเจอกับของจริงในวันนี้ ตอนเย็นจึงกลับบ้านไปอย่างงงๆ จะว่าเวลาผ่านไปเร็วมันก็ไม่ใช่ ความว่างเปล่าทำให้ตนรู้สึกเหมือนเวลามันผ่านไปช้าเหลือเกิน แต่มันก็คงเป็นแค่ช่วงนี้ที่ยังทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ในตอนเย็นหลังเลิกงาน มันเป็นหน้าที่ของพระพายที่จะขับรถพาคุณรบกลับบ้าน ในตอนนี้เท่านั้นที่พระพายคิดว่าตนมีประโยชน์อยู่บ้าง ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่จะเดินไปถึงจุดเดียวกับที่พี่เพชรยืนอยู่กันนะ


“เดี๋ยวพรุ่งนี้งานของเพชรคงลงตัวขึ้น จะให้เขาสอนงานจริงๆล่ะกันนะ”  ดูเหมือนคุณรบจะอ่านเด็กคนนี้ได้ขาดเลยทีเดียว เขาที่คุยงานกับเลขานั้นสังเกตเห็นท่าทางหงอยๆของพระพายที่มองเราทั้งคู่จึงได้พูดออกไป ซึ่งคำพูดที่ดูเอาใจใส่ของว่าที่นายจ้างก็เรียกรอยยิ้มและดวงตาเป็นประกายจากคนที่ขับรถอยู่


“ขอบคุณคุณรบมากนะครับ”


“นอกเวลางานพระพายจะเรียกพี่รบเหมือนพี่เจนก็ได้นะ”


“แต่พายก็เรียกคุณรบอย่างนี้มาตั้งนานแล้วนะ”


“พี่นับศักดิ์ตามเจนน่ะ”  พระพายนั้นเอียงคอ สงสัยกับคำพูดของเขาอยู่หน่อย ที่พระพายเรียกคุณรบว่าคุณรบ นั่นก็เพราะเขาคือนายจ้างของแม่ ลูกชายของผู้มีพระคุณที่ให้การศึกษาและที่อยู่อาศัย สถานะของตนในบ้านรัตนสกุลเรียกได้ว่าเป็นคนใช้คนหนึ่งที่ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับเป็นความเมตตากรุณามาตลอด อย่างนี้แล้วจะให้พระพายเรียกออกไปได้อย่างไร


คุณรบเอง…คิดอะไรอยู่


พระพายไม่ได้ตอบอะไรเพราะจะให้เรียกพี่เลยมันก็ไม่ชิน โดยส่วนตัวแล้วกับคุณรบก็ไม่ได้สนิทสนมอะไร ก่อนที่จะเป็นคุณรบแบบทุกวันนี้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่เมืองนอก กลับมาก็วุ่นวายอยู่กับธุรกิจเลยไม่ค่อยได้พูดคุย ก่อนหน้านี้เขาก็ดูจะน่ากลัวอยู่บ้าง นั่นทำให้พระพายไม่เคยคิดอยากจะเข้าใกล้เสียเท่าไหร่ ดังนั้นตอนที่ได้เจอพี่เพชรครั้งแรก ยังอดตกใจไม่ได้เลยว่าคนแบบนี้นะเหรอจะทำงานกับคุณรบที่ดูเย็นชาได้นานๆ แต่ก็….นานจนน่าตกใจเหมือนกันนะ


ในวันต่อมาพระพายมีอะไรให้ทำแล้ว….เหมือนที่คุณรบบอกไว้ว่าพี่เพชรน่าจะว่างสอนงาน ตลอดช่วงเช้าเขาได้แจกแจงหน้าที่ทั่วไปที่เขาทำอยู่เป็นประจำให้ฟัง พระพายที่เป็นนักเรียนที่ดีก็แทบจะจดทุกตัวอักษร มีคำถามก็ถามเพื่อให้ได้คำตอบ ตลอดทั้งวันผ่านไปพร้อมๆกับการได้หยิบจับบางอย่างขึ้นมาทำตามคำสอนโดยมีการประกบเคียงข้าง


และในวันต่อๆมาพระพายก็ได้หยิบจับงานบางอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มตัว เอกสารมากมายของพี่เพชรนั้นแม้จะถูกเก็บอย่างดี แต่ของอดีตท่านประธานซึ่งเป็นคุณพ่อคุณรบนั้นไม่ได้รับการจัดเก็บที่ดีนัก หน้าที่ของพระพายคือการดู และแยกประเภทความสำคัญ เพราะมันเป็นเอกสารที่มีมานานแล้วจึงควรถูกจัดหมวดหมู่และเก็บเข้ากล่องเพื่อนำไปฝากไว้ในคลังเก็บเอกสาร โชคดีที่มันมีไม่เยอะมาก พระพายที่อยู่ในผ้ากันเปื้อนซึ่งคุณแม่บ้านเอามาให้ใส่จึงทำมันเสร็จเร็วกว่าที่คิด หลังจากล้างมือไม้แล้วก็เอาลิสต์ที่บันทึกไว้ไปให้คนสอนงานของตนได้ดู


“เก่งมาก”  คำชมที่พระพายรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับการนั่งคลุกฝุ่นจัดเอกสารทำให้ยิ้มออกมาเต็มแก้ม ช่วงเวลาที่ท้อแท้และรู้สึกไร้ค่าเหมือนจะค่อยๆจางหายไปจากความรู้สึก ไฟที่เหมือนจะโหมในกายแรงขึ้น ทำให้อยากจะหยิบจับทุกอย่างขึ้นมาทำ


ผ่านไปเป็นอาทิตย์ พระพายเริ่มมีงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น แม้จะยังขลุกขลักอยู่ แต่ก็เริ่มเคยชินและยอมรับกับความอ่อนด้อยของตัวเองได้บ้าง ช่วงเวลากลางวันที่เป็นเวลาพัก บางทีพี่เจนก็จะพาน้องวินมานั่งกินข้าวกับคุณรบในห้อง ซึ่งแน่นอนว่าพี่เจนต้องชวนพระพายด้วย แต่คนถูกชวนก็รู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร เวลาของพี่เจนกับพระพายนะยังมีได้อีก แต่คุณรบที่ทำงานก็หนักและวันหยุดบางวันก็ต้องไปทำงานนั่นล่ะ การไปขัดขวางความรักของคนทั้งสองมันเป็นบาปหนัก พระพายรู้ดี


เลยต้องหลบมากินข้าวกล่องที่แม่ทำมาให้กับพี่เพชรในห้องประชุมทุกวันยังไงล่ะ….


“ปกติพี่เพชรมากินที่นี่ตลอดเลยเหรอครับ” พระพายที่กินข้าวเที่ยงกับเขาทุกวันเพิ่งจะเกิดคึกอยากถาม คงเพราะหมดเรื่องคุยละมั้ง จะชวนคุยเรื่องงานตอนนี้ก็เป็นเวลาพักของเขาอยู่ด้วย ถึงจะมีไฟ แต่ก็มีกาลเทศะเช่นกัน


“เพราะมีพระพายมาด้วยพี่เลยมากินที่นี่”


“อ้าว แล้วปกติพี่เพชรกินที่ไหนครับ บอกได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”


“ทางหนีไฟบ้าง ในครัวบ้าง หรือไม่ก็ลงไปกินหน้าเซเว่นบ้างแล้วแต่โอกาสครับ”


“ฟังดูไม่ใช่ที่ที่กินสบายเลยนะครับ”


“แบบนี้ดีกว่าจริงๆครับ”  สำหรับเพชรแล้ว อาหารกลางวันไม่เคยเป็นอะไรที่เขาให้ความสำคัญ มีอะไรสะดวกที่ไหนก็กินที่นั่น แต่เหมือนเพราะมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เขาเปลี่ยนมานั่งกินอย่างเรียบร้อยในห้องแบบนี้


ไม่มีใครที่อยู่ใกล้ชิดจะมองไม่ออกว่าพระพายตั้งใจแค่ไหนกับการฝึกงาน บางวันพระพายนั้นอยู่ดึกกว่าคุณรบด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าเพชรที่เป็นผู้สอนงานก็ย่อมต้องอยู่ด้วย การที่พระพายขยันและมีความรับผิดชอบก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกับบริษัท ทว่าบางอย่างมันก็ไม่ได้รีบเร่งอะไรหรอก จะไม่ทำเลยก็ไม่มีใครว่าอะไร และแน่นอนว่าเพชรเองก็คงไม่ว่า


แต่เขาก็ไม่เคยพูดว่าเอาไว้ทำวันหลังกันเถอะ….


เพชรเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาไม่สามารถพูดได้ว่าไม่ได้แกล้งเอาเปรียบหรือหาผลประโยชน์อะไรจากการที่น้องต้องกลับบ้านดึกเพื่อมาทำงานกับเขา ทั้งนี้เขารู้อยู่เต็มอกว่ามันมีผลประโยชน์แอบแฝงเพียงแต่เพชรเลี่ยงจะแสดงหรือพูดออกมาตรงๆ ก็อย่างว่า….ใครจะพูดออกมาเพื่อให้ตนเองต้องเสียเปรียบล่ะ ในเมื่อรักจะเอาเปรียบก็ต้องไปให้สุด และหยุดที่คุณรบจ่ายโอทีมาซะดีๆ แถมอาหารที่บ้านรัตนสกุลทำให้น้องและเผื่อมาถึงพี่ก็อร่อยกว่าอาหารเซเว่นเป็นไหนๆ ที่พูดมานี่ไม่ได้เห็นแก่กินเลยสักนิด แต่ทุกอย่างที่มากับพระพายล้วนอร่อยจริงๆ อร่อย….มากๆ


“พระพายชอบงานที่ทำไหม”  อันนี้เขาอยากรู้ เพราะมันวัดชะตาได้เลย


“ชอบนะครับ”


“จริงๆอาทิตย์เดียวอาจจะยังบอกอะไรไม่ได้หรอก แต่ได้ยินว่าชอบก็แสดงว่ามีความคืบหน้าบ้างแล้ว”  เขาพูด พระพายอาจจะดูสุขุมเหมือนผู้ใหญ่ แต่ประสบการณ์ที่น้อยกว่าในเรื่องบางเรื่องก็ยังดูเป็นเด็กจริงๆ แต่เด็กนั้นดี เนื้อหนังก็อร่อย แค่กๆ


“อื้ม ฝากพี่เพชรช่วยชี้แนะด้วยนะครับ”  พระพายยิ้ม หมายความทุกคำตามคำพูด


“ไม่ต้องห่วงครับ พี่จะดูแลพระพายอย่างดีที่สุด” ส่วนเขาก็หมายความทุกคำตามคำพูดนี้เช่นกัน และมันทำให้พระพายนั่งไม่ติดที่สักเท่าไหร่กับดวงตาคู่นั้น


“แฮ่ พี่เพชรใจดีจัง”


“ครับ” ใจดี หล่อ เปย์ไว ดูยังไงก็เพอร์เฟคเนอะ บ้านไหนได้ไปเป็นลูกเขยล่ะก็ได้ดีกันทุกบ้าน


และพระพายจะรู้ไหมว่าเขาจะหมายความตามนั้นจริงๆ


เราไม่ค่อยได้หยอกล้อกันเหมือนที่เคยเป็น อาจจะเพราะช่วงเวลาส่วนใหญ่ที่พระพายอยู่กับเขาคือในเวลาทำงาน เพชรแม้จะขี้เล่นบ้าง แต่ก็ให้เห็นหมวดจริงจังอยู่บ่อยครั้ง พระพายก็บอกไม่ถูกนักว่าแบบไหนในตัวเขาที่ทำให้ชอบ ทว่าแบบนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร มันก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะมีมุมแบบนี้ เพราะว่าไร้สาระทั้งวัน คุณรบก็คงไม่จ้างไว้ทำงานด้วยจริงๆ


แต่มันก็มีบ้าง…..


“คุณรบง่า เอะอะเดี๋ยวนี้อะไรก็คุณเจนๆนะครับ เพชรน้อยใจแล้วนะ”  คือพระพายก็อยากจะเห็นพี่เขาผ่อนคลายเหมือนตอนนอกเวลางานบ้าง แต่ไม่ได้ให้มาง้องแง้งกวนเท้าคุณรบแบบนี้!


“…….”


“หึ แต่ก่อนนะอะไรๆก็เรียกแต่เรา เดี๋ยวนี้เหรอ ไปไกลๆไป กาแฟที่เราชงให้ก็ไม่กิน”


“ลองดื่มดูบ้างไหมล่ะ จะได้ไปลงนรกให้จบๆไปซะ” รัตนสกุลไม่ต้องลำบากจ่ายค่าชดเชยให้ด้วย ชงเองตายเอง ฟังยังไงคนได้ประโยชน์ก็คือคุณรบอยู่ดี


“โหยก็เว่อร์ไปครับ ถ้าแค่กินกาแฟแล้วมันจะตายเนี่ย” พระพายนั้นก็สงสัยว่าไอ้กาแฟที่ว่านี่เขาทำห่วยแตกแค่ไหน และถึงยังไงคุณรบก็ไม่คิดจะกินอยู่แล้ว….


พระพายก็เลยยกขึ้นมาลองดื่มดูหนึ่งอึก….


“.........”


“.........”


“พระพาย”  คุณรบเรียกกันด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ไม่อยากจะเชื่อว่าน้องจะบ้าบอได้ถึงขนาดนี้ คนเราไม่ต้องเป็นเจ้าหนูจำไมไปกับทุกเรื่องก็ได้นะ


“............”


“อื้อออออออ แง่ะ”  พระพายเบ้หน้า หน้าตาบิดเบี้ยวของน้องที่อดทนหนักมากทำให้เข้าใจคำว่ากินแล้วตายของคุณรบขึ้นมาเลย จริงๆคุณรบไม่ได้คาดหวังอะไรแบบนี้จากพระพายเลย อย่างว่า….เขาไล่เลขาให้ไปตาย ไม่ได้บอกให้เลขาฝึกงานไปตายแทน!  ว่าแต่อีตาคุณเพชรชงของแบบนี้ขึ้นมาได้นี่ต้องเป็นอัจฉริยะทางด้านไหน ด้านการทำลายล้างเหรอ??


นี่เขาเอาน้ำอะไรมาทำให้คุณรบกินเนี่ย!!!!!


“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถาม น้ำเสียงดูตกใจไม่ใช่น้อย ไม่ใช่….จริงๆแล้วเขาไม่คิดว่าพระพายจะกินมัน นี่คือเหยื่อทางอ้อมของการวางยาคุณรบหรือเนี่ย ว่าแต่เขาไม่เคยชิมฝีมือตัวเองจริงๆใช่ไหม พระพายทำได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก หน้าตายังคงขื่นขมอยู่อย่างนั้น มันบอกไม่ถูกว่ามันเป็นรสอะไร พระพายได้แต่ทำปากพะงาบๆอธิบายไม่ออก คือมันก็กาแฟนี่แหละ


แต่เป็นกาแฟชั้นเลว….
เลวแบบที่ไม่คิดว่าจะมีเลวได้มากกว่านี้อีก….


“พี่เพชรกลับไปทำงานอื่นเถอะครับ พายไม่อยากให้คุณรบตายอ่ะ”  แล้วเชื่อไหมว่าคุณรบบอกมันมาหลายปีแล้วว่ามันห่วย แต่เพชรไม่เคยฟัง ทุกวันนี้คุณรบอยู่มาได้จนมีเมียอีกครั้ง พึ่งแต้มบุญล้วนๆมาต่ออายุตัวเองไขตัวเองแท้ๆ เชื่อเถอะว่าไม่เพราะทำบุญมาหนักละก็ เจนไม่นก ได้กลายเป็นเจนนกๆแน่นอน…เด็กชายอัศวินไม่กำพร้าพ่อก็ดีแค่ไหนแล้ว!


ตอนแรกพระพายก็คิดว่าคุณรบอวยพี่เจนเกินไปเรื่องชงกาแฟอร่อย แต่ทำไปทำมาก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้อวยหรอก ถ้าดื่มกาแฟของเลขาตัวเองได้ กาแฟที่ไหนบนโลกก็อร่อยแล้วทั้งนั้น เราสองคนพี่เลี้ยงและเลขาฝึกหัดเดินมาเก็บแก้วกาแฟที่ดูน่ารังเกียจนั้นกันสองคน เขานิ่งเงียบผิดปกติเข้าไปอีก ทั้งๆที่พระพายว่าช่วงหลังมานี่เขาก็ไม่ค่อยเฮฮาอะไรเท่าไหร่แล้ว พอน้อยใจเรื่องกาแฟก็ยิ่งกดดันกันเข้าไปอีก แต่พระพายไม่รู้จะปลอบยังไง ก็มันดื่มไม่ได้ เสี่ยงตายจริงๆ


“แต่สักวันพี่เพชรต้องชงอร่อยแน่ครับ เชื่อพายนะ”  พระพายยิ้มให้กำลังใจ หวังว่าคุณเลขาจะอารมณ์ดีขึ้น ทว่าเขากลับถอนหายใจออกมา ดูท่าทางจะเศร้ากับการไม่ถูกยอมรับในเรื่องนี้มาก หรือนี่จะเป็นวิกฤตของเลขาวัยกลายคน (??)


“พี่ต้องตกงานแน่เลย”  และความกังวลของเขาก็ทำให้พระพายยิ่งตกใจ มันไม่ขนาดนั้นหรอกน่า พระพายส่ายหัวจนผมปลิว และยิ่งเห็นเขายกแก้วกาแฟขึ้นจิบทั้งๆที่เคยเตือนเรื่องระดับความเป็นภัยแล้ว


เชื่อเถอะว่าใครก็กินมันไม่ได้ทั้งนั้น


“แค่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” แม้แต่คนชงเองก็ตาม


“ฮือออออ พายบอกพี่เพชรแล้ว”  ทำไมไม่จำบ้าง พระพายเบ้หน้าแทน รสฟาดที่ปลายลิ้นยังคงติดตรึง แค่คิดถึงก็พาลให้ขนลุกไปหมดทั้งตัว สงสารที่ตัวเองที่ชิงดื่มก่อน และสงสารเขาที่นึกบ้าๆทำโทษตัวเองด้วยการลองดื่มดู  เพชรเทกาแฟแก้วนั้นอย่างไม่ใยดีลงในซิงค์ วางแก้วให้แม่บ้านของบริษัทมาล้างก่อนจะเดินไหล่ตกออกจากแพนทรี่ พระพายที่เห็นแล้วรู้สึกใจไม่ดีเลยเดินตามไปวนรอบตัวเขาเหมือนเวียนเทียน


“พระพายไม่ต้องห่วงพี่นะครับ”  ก็พระพายเป็นห่วงนี่ พระพายรู้ดีว่าความผิดหวังมันเป็นอย่างไร ยิ่งคนที่ทำทุกอย่างได้ดีแต่มาตกม้าตายเรื่องกาแฟแบบนี้  ดูก็รู้ว่าเขาคงเสียใจมากมาย พระพายเองตั้งแต่เข้ามาทำงานกับทุกคนที่นี่ก็มีเรื่องให้รู้สึกท้อแท้และไม่พอใจในตัวเองมากเหมือนกัน แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากเขาไม่ใช่หรือไง ทุกวันนี้พระพายจึงเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น และเมื่อเห็นเขากำลังลำบากก็อยากจะช่วย


แม้ตัวเองก็ยังไร้ประโยชน์อยู่เหมือนเดิม


“พระพายรู้ไหมเนี่ยว่าคุณรบอนุมัติให้ติดตั้งไอ้เครื่องทำกาแฟนั่นและจ่ายค่าเมล็ดกาแฟอย่างดีให้พนักงานบริษัทได้กินทุกคน ส่วนคุณรบเนี่ยถ้าไม่ให้คุณเจนชงใส่กระติกมาให้ ก็นู่น เดินไปร้านกาแฟนู่น วันนึงกินกาแฟเกือบห้าร้อย”  พระพายตาโตกับราคากาแฟหนึ่งวันของคุณรบมาก แถมสิ่งที่พี่เพชรอธิบายก็ยิ่งทำให้คนที่ประหยัดเงินเก่งอย่างตนยิ่งเห็นคล้อยตาม อย่างนี้ไม่แปลกเลยที่พี่เพชรจะรู้สึกแย่ใช่ไหม แต่คุณรบคงไม่ไล่คนเก่งออกเพียงเพราะกาแฟที่เขาทำมันส่งผลถึงตายหรอก


อย่างดีก็ไปหักเงินเดือนและเอาเงินส่วนนั้นไปซื้อกาแฟกินเองนั่นแหละ ….
แต่วันละห้าร้อย เดือนนึงก็…..ฮืออออ พระพายสงสารอ่ะ


“ปกติพี่เพชรไม่กินกาแฟเหรอ”  จริงพระพายก็ไม่ได้ชอบกิน แต่ถึงไม่ชอบก็รู้ว่ารสชาติแบบไหนกินได้ และรสแบบไหนใกล้เคียงกับสารพิษ


“อืม พี่ไม่ชอบ เลยชงยังไงก็ไม่ดี”  เพราะโดยส่วนตัวก็ไม่กิน แล้วจะเอาที่ไหนมารู้ว่ากาแฟแบบไหนมันอร่อย สำหรับคนไม่กินกาแฟ….ของแบบนี้ก็คงไม่มีอะไรต่างสินะ พระพายพยักหน้าเออออเข้าใจ ยินดีที่เขาระบายอะไรให้ฟังบ้าง มันทำให้รู้สึกเป็นประโยชน์และเข้าถึงเขาได้ง่ายขึ้น


“พี่เพชรกินชาไหม แบบชานมไข่มุกอ่ะ อร่อยนะ”


“ก็….กินบ้างนะครับ”


“งั้นพระพายเลี้ยงนะ ใจเย็นๆ ทำอารมณ์ดีๆ ส่วนเรื่องกาแฟคุณรบไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพระพายชงเอง”  คนดีของคุณหญิงพรรณียิ้มให้กำลังใจ สำหรับเพชรนี่เหมือนแสงสว่างหนึ่งเดียวของเขา ในวันที่ดูมืดมน เขาเชื่อว่าพระพายสามารถทำให้โลกของทุกคนดูสดใสขึ้นมาได้ราวกับว่าน้องพกเอาทุ่งลาเวนเดอร์ไปด้วยทุกที่ แม้ว่าตัวเองก็มีเรื่องกลุ้มใจ แต่ก็พร้อมที่จะมอบความปรารถนาดีของตัวเองให้คนอื่นเสมอ คนแบบนี้มีอยู่บนโลกก็ดีนะ


มีอยู่บนโลกของเขาก็ดีเหมือนกันนะ…


เรื่องกาแฟคุณรบอะไรนี่ไม่ใช่วิกฤติเลขาวัยกลางคนหรอก มันวิกฤติมานานแล้ว และยิ่งวอแวหนักขึ้นเมื่อมีคุณเจนเข้ามา จริงๆเขาไม่ได้ชงกาแฟมาให้คุณรบนานแล้ว แต่กลับมาชงวันนี้อีกครั้งเพราะอะไรนะเหรอ เพราะหวังในความใจดีของคนที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปซื้อชานมไข่มุกให้กันอย่างไรเล่า เพชรยอมรับว่าตอแหลเก่ง ถ้าทำแล้วพระพายจะสนใจ แต่เชื่อเหอะเรื่องนี้ไม่มีใครเก่งเท่าคุณรบที่สับกาแฟเขาให้สุด แล้วไปหยุดที่การออดอ้อนให้เมียชงให้ เออชงกันเก่งดีนัก พ่อจะลากมาชงคู่เพชรพายกันให้หมดคอยดู และที่เขาชงห่วยนั่นไม่ใช่ว่าห่วยจริงๆหรอกนะ


คุณรบก็ทำเป็นเล่นใหญ่ไปงั้นเองแหละ แค่กๆ


“พี่เพชรตามพระพายลงมาทำไมอะครับ”  พระพายถาม หลังจากที่เขาเข้ามาในลิฟท์ด้วย มันจะมีช่วงหนึ่งที่น้องเหมือนจะรู้ทันกันไปเสียทุกเรื่อง และบางช่วงที่น้องตามกันไม่ทัน แต่จะแบบไหนก็ดูน่าเอ็นดู นี่คงไม่รู้หรือคาดไม่ถึงสินะ


“ก็พระพายอยากเลี้ยงชานมไข่มุกพี่”


“พายก็จะลงไปซื้อให้ไงครับ”


“นี่ไง พี่จะลงไปเลือกเอง”


“แต่คุณรบทำงานคนเดียว”


“โหยยยย เป็นโสดคนเดียวตั้งนานยังทำได้ พระพายเชื่อพี่ว่าคุณรบไม่เหงาหรอกครับ”  พระพายจ้องเขาตาถลน คือมันไม่เกี่ยวว่าคุณรบจะเหงาหรือไม่…


แต่เลขาสองคนจะพร้อมใจกันอู้งานไม่ได้เว้ยยยย!!!!!!



Talk: มาติดกันอีกวัน ฮืออออต่อเรือเพชรพายอย่างขยันขันแข็ง ฝากให้กำลังใจพระเอกตัวน้อยๆคนนี้ไว้สักคน ช่วงนี้พี่เขายังค่อยๆขายอ้อยให้น้องอยู่ แต่เดี๋ยวเขาจะทุ่มป้ายโปรโมชั่นใส่พระพายในอีกไม่นานนี้แล้ว ขอให้จับตามองคู่ที่สองของจักรวาลนกๆนี้ไว้ด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามพี่เพชรเขาแจงแล้วว่าจะไม่นก ยังไงก็ไม่ก ก็มารอดูกันค่ะ ให้พระพายทำนายกัน5555

ตัวเรื่องอาจจะจบเร็วๆ พอจบจักรวาลนี้เราก็เคยคิดจะแต่งอาทิตย์ศศิต่อ แต่ตอนนี้มันอืดๆหน่อย อาจจะไปเน้นการไดเอทและทำงานสักพัก พอใจกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไหร่เราจะกลับมาแต่งนิยายต่อแน่นอน แต่ถ้าไฟลุกโชนไดเอทก็คงต้องรอเหมือนกัน555

ฝากแท้ก #เพชรพระพาย #เจนไม่นก เอาไว้ที่นี้
Twitter @reallyuri
Facebook:

ฝากสปอยล์สิ่งที่คิดจะแต่งไว้ตรงนี้ด้วย



คุณป๋าอาจจะคิดว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่
เพราะในตอนที่อายุเท่ากันเขาไม่เคยเรียกร้องได้ขนาดนี้

“ไม่ให้” และนักรบ รัตนสกุลในยามนี้ก็ไม่ใจดีกับลูกของเขาเหมือนตอนที่น้องวินยังเป็นก้อนอีกต่อไป ยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ เขาก็พยายามจะเข้มงวดกับลูกให้เหมาะสมกับสิ่งที่เขาต้องเจอ แต่บางทีมันก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะคนที่เขาเคยยัดเยียดความเป็น ‘แม่’ ให้ ‘ลูก’ ทำหน้าที่ได้ดีเกินไป และเพราะเจนรักษ์เลี้ยงกันมาดีขนาดนั้น

นายอัศวิน รัตนสกุล ถึงได้มาเผชิญหน้าต่อรองกับเขาอย่างไม่เกรงฟ้าเกรงดินขนาดนั้น

“ครับ”  เจ้าก้อนตัวน้อยกระโดดเป็นกบในวันนั้น บัดนี้ได้เติบใหญ่เทียบความสูงได้สูสีกับเขาคนเป็นพ่อที่นับวันก็เริ่มจะโรยรา จะบอกว่า ‘น้องวิน’ โตมาคล้ายเขาก่อนหน้านี้ก็ว่าได้ รูปลักษณ์เราคล้ายกันเลยทีเดียว แต่นิสัยไม่เหมือนหรอก อย่างน้อยนักรบก็ไม่เคยกล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการขนาดนี้ และอันที่จริงเขาไม่เคยมีความต้องการแบบที่ลูกมาขอเขาอยู่เลย

“วินต่อรองมาแล้วครั้งนึง จำได้ไหม”  ทำไมวินจะจำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรไปบ้าง ตอนที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้ขอมาครั้งหนึ่งแล้ว และตอนนี้ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยนี่อีก ยังไงก็จะไม่ทำตามให้ได้เลยใช่ไหม

“จำได้ครับ”

“แล้วคราวนี้จะเอาอะไรมาต่อรอง”  เราไม่เคยขอกันฟรีๆ เป็นลูกของนักรบเท่ากับแบกความหวังของรัตนสกุลไว้ด้วย และนั่นคือกฎระหว่างเราพ่อลูก เจ้าของดวงตาคมปราบไม่ต่างกันไม่เคยจะลดละ อย่างไรก็จะเอาให้ได้

เขาจะไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศในตอนนี้!






หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-09-2018 20:48:49
ช่วยด้วย พระพายคนดีโดนล่อลวง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-09-2018 21:09:27
ตาเพชรนี่เจ้าเล่ห์มากนะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 12-09-2018 21:59:19
เพชรพระพาย กำลังไปได้ดี ชอบสปอยล์อะอยากอ่านแล้ว  :mew2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-09-2018 23:19:06
ไม่ห่วงน้องวินหรอก ยังไงม๊าเจนก็ช่วย 5555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 13-09-2018 01:13:42
คนอื่นยังไม่พาย เพชรชงเองซะงั้น
ต้องห่วงพระพายมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-09-2018 11:20:57
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 13-09-2018 13:39:59
ฝ่ายพระพายรู้แล้วว่ามีใจให้พี่เพชร  เหลือฝั่งพี่เพชรที่ยังดูไม่ออกว่ามีใจให้พระพายมากน้อยเท่าไหร่

น้องวินออกนิดเดียวก็น่ารักเหมือนเดิม   :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-09-2018 22:13:28
พี่เพชรนี่ร้ายอ่ะ ร้ายจริงๆ น้องพายหลงกลแล้ว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 14-09-2018 09:25:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 14-09-2018 19:50:23
 :man1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่3) 12.9.2018 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-09-2018 20:38:44
 :katai5:
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 14-09-2018 21:53:44
เพชรพระพาย
#ความผิดพลาดของพระพาย


การฝึกงานของพระพายดูชัดเจนขึ้นเมื่อเริ่มทำมาได้2สัปดาห์กว่า ๆ


แม้การทำงานจะเรียกได้ว่าเหนื่อยกว่าตอนเรียน แต่พระพายกลับรู้สึกคุ้นเคยกับมันจนนึกภาพตัวเองที่เป็นนักศึกษาไม่ออกเท่าไหร่ คงบอกได้ว่าเป็นปกติสุขดี จนมานึกได้ว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน พระพายยังไม่อยากกลับไปเรียน แต่ก็รู้ว่าไม่มีใครฝืนปรากฏการณ์ธรรมชาติเหล่านั้นได้ ทุกวันนี้ความรู้สึกชอบตัวเองมันเพิ่มพูนขึ้นจึงไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงความมั่นคงทางจิตใจนี้ แต่ใครเล่าจะรู้…


ว่าคนเราอยู่ที่ไหน อุปสรรคก็จะตามไปที่นั่น…


“พระพายครับ พี่จำได้ว่าวันนี้คุณรบไม่มีนัดกับใครตอนบ่าย 4 นี่” เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาหากันที่แพนทรี่


“อา….ครับ”


“แล้วคุณรบโอเคแล้วเหรอ”

“อะไรเหรอครับ”  พระพายค่อนข้างงงในคำถามนี้


“ผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งแวะมา เขาบอกว่าเลขาของคุณรบแจ้งเขาว่าคุณรบว่างช่วงบ่ายๆเย็นๆวันนี้”


“อา…พายบอกเขาเอง เห็นอีกฝ่ายบอกว่ามีเรื่องด่วนเลยโอนสายไปให้แต่คุณรบไม่รับ”


“………..”


“พาย…ทำอะไรผิดหรือเปล่า”  ทำไมพี่เพชร….ถึงเงียบไปแบบนี้ล่ะ เรื่องที่พระพายทำลงไป...มันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือ


และแค่คำขอโทษ…มันจะเพียงพอไหม


แต่คำขอโทษเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรเพราะพระพายไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ความจริงที่ว่า ‘งานต้องมาก่อน’ ทำให้คุณรบต้องมานั่งพูดคุยกับผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้งจนเลยเวลาเลิกงาน และถ้าวันนี้ไม่ใช่วันสำคัญอะไร คุณเขาก็คงจะกลับรถกับพระพาย แต่เพราะวันนี้มันสำคัญกว่าวันปกติทั่วไป คุณรบจึงรีบออกจากบริษัททันทีที่เพื่อไปทำธุระส่วนตัว และพระพายยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปแทน


“……..”  ถ้าพระพายรู้สักนิดว่าทำไม ก็คงจะบอกคุณผู้จัดการคนนั้นให้มาก่อนหรือหลัง เพราะคนทำงานทุกคน ย่อมทำงานเพื่อความสุขส่วนตัวทั้งนั้น


“วันหลังพระพายต้องระวังนะครับ”  คนสอนงานไม่ได้ดุพระพาย แต่พระพายกำลังโทษตัวเอง ทั้งๆที่ความผิดพลาดคือประสบการณ์แท้ๆ แต่ก็ยังยอมรับมันไม่ได้ พระพายไม่อยากให้คุณรบลำบากเพราะตนเอง และยิ่งมารู้เอาตอนนี้ว่าวันนี้สำคัญกับคุณรบแค่ไหน


ก็ยิ่งเสียใจ….


“พายขอโทษครับ”


“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องขอโทษไงครับ พายไม่ผิดสักหน่อย”


“พายเสียใจ”


“พระพายไม่ต้องขอโทษหรอกครับและพี่ก็ว่าคุณรบคงไม่โกรธนะ”


“พี่เพชร….”


“วันนี้เรารีบกลับบ้านดีกว่าไหมครับ” เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ


“………..”


“วันนี้วันเกิดพี่เจน ถ้าพระพายไม่อยู่ พี่เจนก็คงเสียใจ”  ต่อให้ทุกอย่างออกมาดี พี่เจนดีใจกับการที่พระพายมา แต่พระพายจะดีใจได้อย่างไร….ที่ทำให้ทุกอย่างที่คุณรบวางแผนไว้เกือบจะพังทลาย


เราสองคนมาที่บ้านรัตนสกุลหลังจากที่ทุกอย่างถูกเริ่มไปหมดแล้ว พี่เจนและคุณรบทักทายพวกเราด้วยรอยยิ้มอย่างที่คิดไว้ บางทีพี่เจนก็อาจจะไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนคุณรบก็คงไม่มีทางเล่า พระพายนั้นได้แต่ยิ้มให้ทั้งสองด้วยความรู้สึกแย่ในหัวใจ คนข้างๆกายของพระพายก็เงียบไป เขาไม่เหมือนพี่เพชรที่พระพายชอบค่อนแคะและสร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคน ดวงตาของเขา…..นั้นไม่เชิงว่างเปล่า และพระพายกลัวว่า…เขาจะผิดหวังในตัวพระพายเอง….


หลังจากที่พี่เจนเป่าเทียน และทุกอย่างเริ่มที่จะดึกเกินไป น้องวินที่ดูจะง่วงนอนแล้วถูกพาขึ้นไปนอนกับคุณหญิง หนึ่งวันที่สำคัญในบ้านนี้กำลังจะจบลง ทว่าพี่เจนก็ยังมีความสุข และคุณรบที่เอาแต่มองเจ้าของวันเกิดก็ดูจะมีความสุขไปด้วย ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี และพระพายก็ไม่รู้สึกว่าตนเองเหมาะสมที่จะไปแชร์สิ่งเหล่านี้กับพวกเขาเลยเดินถอยออกมาคนเดียว


พี่เพชรกลับไปแล้ว แม้ว่าเขาจะพูดว่าไม่ได้ผิดหวังหรือคาดหวังอะไรในตัวกันเลย แต่พระพายก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น อาจจะเพราะเขาพูดว่าไม่ได้คาดหวังล่ะมั้ง พระพายเลยยิ่งรู้สึกแย่ สิ่งที่เกิดขึ้นหักล้างความภูมิใจที่พระพายพยายามสั่งสมขึ้นมา และการที่ได้รับวันหยุดมันไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะต้องจมกับความรู้สึกแย่เหล่านี้ก่อนจะไปกอบกู้ตัวเองในวันทำงานสัปดาห์ต่อไป


“พระพาย”  พี่เจนเดินเข้ามาหาอย่างสดใส พระพายนั้นรีบหันไปยิ้มให้แม้จะซ่อนทุกอย่างไม่ได้หมดก็ตาม


“พี่เจน”  ทำไมทุกคนต้องดีกับพระพาย ทั้งๆที่พระพายไม่สามารถตอบแทนได้ดีๆ


“เศร้าอะไรนะเรา ไหนเล่าให้พี่ฟังสิ”


“………..”


“นี่ลืมกันหมดแล้วหรือไง ว่าพี่เจนก็เคยทำงานเป็นเลขานะ แถมทำมานานกว่าอีตาเพชรขี้กากนั่นด้วย ไหน มันทำอะไรเราไหนบอกพี่มาสิ จะได้เฉ่งให้ถูกเรื่อง”


“พายทำผิดเอง”  มันไม่เกี่ยวกับพี่เพชรเลย


“……….”


“แต่เล่าให้พี่เจนฟังไม่ได้ เดี๋ยวพี่เจนโกรธพาย”


“เด็กโง่ของพี่เจน  เล่ามาเถอะ ใครโกรธเราลงก็ไม่ใช่คนแล้ว อย่าให้พี่ไปเค้นคอคุณรบนะ!”  ก็เล่นหลุดมาซะขนาดนี้ ต้องให้พระพายรู้สึกผิดกับคุณรบอีกเยอะแค่ไหนที่ทำให้เขาลำบากและยังทำให้พี่เจนโกรธไปอีก


แต่ความรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำไปและความหวังว่าจะได้รับการอภัยจากพี่เจนก็ทำให้พระพายหลุดออกมา เมื่อไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ในเรื่องที่ทำพลาดไป คุณรบจึงยอมให้ผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งเข้าพบ พระพายจะไม่รู้สึกผิดไปมากเท่านี้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะผู้จัดการคนนั้นเข้ามาคุยกับคุณรบเรื่องการขอเพิ่มงบโฆษณานอกรอบ ทั้งๆที่เรากำลังจะมีประชุมกันในอาทิตย์หน้า แต่อีกฝ่ายนั้นต้องการรวบรัดมันให้เสร็จเร็วขึ้นด้วยมีความจำเป็นบางอย่างที่เราไม่ทราบแต่พอจะเดาได้ 


ผู้จัดการคนนั้นเป็นคนสนิทของคุณพ่อจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ในทันที และเขาก็รู้ว่าคุณรบพยายามหลบเลี่ยงที่จะเจอตรงๆแบบนี้จึงติดต่อผ่านมาหาพระพายที่ไม่รู้แบคกราวด์ต่างๆ และเพราะคำพูดที่ทำให้ดูเหมือนงานด่วน บริษัทจะลำบาก อีกทั้งการรวบรัดตัดตอนอย่างมีชั้นเชิง พระพายจึงบอกตารางงานของคุณรบให้อีกฝ่ายโดยไม่ได้คิดอะไรเพราะโอนสายไปให้คุณรบเท่าไหร่เขาก็ไม่รับ


และเพราะคุณรบยุ่งมาตลอดทั้งวันจึงไม่เคยมีโอกาสได้ถามหรือบอกมาก่อน พระพายเล่าให้เจนฟังประมาณหนึ่ง ในส่วนเรื่องที่คุณรบต้องตาลีตาเหลือกออกมาหา ก็พยายามจะข้ามๆไป ไม่เช่นนั้นคุณรบได้ไปเคลียร์กับพี่เจนยาวแน่ๆ และเท่าที่ฟังมาเจนก็เข้าใจและนึกภาพตามเป็นฉากๆได้ ว่า….


พระพายตกหลุมพรางคนที่อยู่เป็นและอยู่มานานโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย


“………”


“....…..”


“มิน่า….”


“พายขอโทษ”


“มันก็ไม่ใช่ความผิดของพระพายหรอกนะ พวกลุงแก่ๆนั่นมันตั้งใจเข้าทางพระพายอยู่แล้ว เรื่องนี้ตาเพชรเองก็คงไม่ได้ระวังเอาไว้ด้วย” หรืออาจจะระวังแต่ก็หลุด


“…พายผิดเอง”


“คนสอนงานที่ไม่ได้เรื่องนี่มันน่าด่าชะมัด”


“อย่าว่าพี่เพชรเขานะครับ”  ก็พระพายบอกว่าตัวเองผิดเอง ปกป้องกันเก่งเสียจนเจนกลอกตามองบน นี่ที่เขาเดินมาหาพระพายนั่นก็เพราะอีตานั่นมาขอให้ช่วยปลอบให้หน่อยหรอกนะ ไม่งั้นเจนก็คงมัวแต่มีความสุขจนไม่เห็นอะไรผิดปกติ น้องก็ยิ้มให้แต่ในใจก็คงมีอะไรมากมายที่ไม่กล้าพูดออกไป


พระพายเป็นพวกมีระเบียบและรักความสมบูรณ์แบบในระดับหนึ่งเลย แถมยังมีความรักพวกพ้อง ผูกพันกับบ้านหลังนี้มากกว่าเจนด้วยซ้ำ ไม่แปลกหากน้องจะร้องไห้เป็นเผาเต่า และเพราะความเกรงอกเกรงใจจึงพยายามจะแก้ไขคนเดียวเงียบๆไม่บอกใคร เป็นนิสัยดีๆที่ไม่เป็นผลดีกับตัวเองแม้แต่น้อย และเพราะสังเกตจุดนี้ได้ เพชรที่เอนเตอร์เทนคนเป็นอย่างเดียวจึงมาขอความช่วยเหลือที่เจนซึ่งไม่รู้อะไร แต่น่าจะเข้าใจความรู้สึกพระพายได้ไม่ยาก


เพราะเลขาต่างก็เคยต้องรับมือกับความผีบ้าต่างๆคล้ายๆกัน


“พระพาย เรานะมันอ่อนต่อโลกจริงๆ”


“เห…”


“บางทีพระพายก็เหมือนจะรู้ทันทุกอย่าง แต่บางอย่างก็เหมือนจะไม่รู้อะไรเลย”  ซึ่งทุกคนในบ้านหรือแม้แต่ตัวของเพชรเองก็มองว่าความอ่อนต่อโลกของน้องนั้นมันเป็นเรื่องที่ดี ทุกคนเอ็นดูพระพายเหมือนเด็กน้อยก็ไม่ปาน แม้ว่าพระพายจะออกความเห็นแย้งอะไรได้ แต่ทัศนคติโดยรวมก็ยังถือว่าจรรโลงใจ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เชิงว่าถูกหลอกนัก…แต่เรียกว่าไม่ทันกันเสียมากกว่า


คาดว่าทั้งหมดคงเป็นแผนของผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งที่อยากจะขอเพิ่มงบทั้งๆที่รู้ว่าเอาเข้าที่ประชุมจะไม่ผ่านการเห็นชอบกับอีกหลายฝ่าย เลยตั้งใจใช้ความสัมพันธ์อันดีที่มีมากับพ่อของคุณรบไปพูดคุยกับคุณรบก่อนวันประชุม แต่คุณรบไม่เปิดช่องให้สักเท่าไหร่ หรืออาจจะไม่ได้อยากให้อยู่แล้ว อีกฝ่ายจึงพยายามหาช่องว่าง


หากเป็นเพชรแล้วเขาคงตัดไปเลยเพราะรู้ระเบียบและเรื่องภายในดี แต่พระพายเพิ่งมา ยังไม่ทราบอะไรนัก และเพราะน้องเล่นบทที่ไนซ์ต่อคนทั่วไปอย่างมากๆแล้วจึงไม่ยากที่จะหลอกใช้ อีกฝ่ายอาจจะไม่ได้หวังว่าจะได้ แต่ก็บ้าบิ่นมากที่จะลองคาดหวังกับความใหม่หมดจดของพระพาย และมันก็สำเร็จเสียด้วย ส่วนน้องก็เห็นว่ามันไม่ได้อะไรกับการบอกตารางงานของคุณรบให้ทราบเพราะคงคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากจะติดต่อมาช่วงนั้น น้องคงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาดักเจอ


“……”


“พระพาย งานของเลขาพูดง่ายๆคือการทำให้นายพอใจในเรื่องต่างๆใช่ไหม และการทำอย่างนั้นได้ พระพายต้องรู้ใจคุณรบเหมือนที่พี่เพชรรู้ แต่พี่เพชรก็ไม่ได้รู้ใจคุณรบในเดือนแรกที่ทำงานเหมือนกัน เพราะงั้นอย่าโทษตัวเองสิ”


“แต่พายรู้จักคุณรบมานานแล้ว”


“พระพายรู้จักคุณรบที่บ้านหลังนี้ แต่คุณรบที่เป็นประธานบริษัทน่ะ พระพายเพิ่งเจอเขาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเองนะ”  เจนอธิบายอย่างใจเย็นให้น้องที่พยายามโทษตัวเองได้ฟัง


“……..”


“พระพาย…ถ้าอยากจะเป็นเลขาต้องทำใจนะ งานนี้เราใส่หน้ากากเข้าหาคนเยอะมาก ใจต้องแข็งเพื่อประโยชน์ของเจ้านายและของตัวเรา จะคิดถึงคนอื่นก่อนนั้นไม่ได้แม้จะเป็นประโยชน์ของบริษัทก็ต้องเป็นประโยชน์ต่อนายเราจริงๆด้วย”


“ครับ”


“พระพายเป็นคนเก่งแต่อาจจะต้องฝึกตรงนี้อีก พี่ว่าพี่เพชรเขาคงมองออกแล้วล่ะ ค่อยๆฝึกไปนะ”


“พายนึกว่าที่พี่เพชรดูกะหล่อนนั่นเพราะเขาเป็นพี่เพชรเสียอีก”


“ก็ไม่ใช่ว่าเลขาทุกคนจะดูกะหล่อนแบบพี่เพชรหรอก อีตานั่นแค่เอาความกะหล่อนของตัวเองมาเป็นประโยชน์กับงานเฉยๆต่างหาก”  พี่เจนชมได้เจ็บมาก พี่เพชรที่กำลังโกรธพระพายอยู่อาจจะกระอักเลือดแล้วก็เป็นได้


“พายจะตั้งใจ พี่เพชรจะได้ไม่โกรธ”


“พี่ว่าพี่เพชรไม่ได้โกรธหรอกนะ” 


“แล้วทำไมเขาถึงบอก…ให้พี่เจนมาคุยแทนละครับ”  พระพาย….คิดให้ดีไม่ได้เลย ถ้าเขาไม่เคืองกันแล้วเขาจะไปบอกให้คนอื่นมาพูดกับพระพายทำไม


“เพราะเขา…คงเจ็บใจมั้งที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พลาด”


“…………”


“จริงๆในช่วงฝึกงาน คนสอนงานที่ดีต้องคอยช่วยระวังใช่ไหม แต่นี่มันประมาทชัดๆจะโทษพระพายฝ่ายเดียวมันไม่ถูกเลย เลวมากๆด้วย ถ้ามันทำ พี่จะไปชี้หน้าด่ามันหน้าบริษัทให้ดู”  นี่ก็โอ๋เก่ง โอ๋ถัดมาจากน้องวินก็น้องพายของพี่เจนนี่แหละ อยากให้ไปโอ๋คุณรบให้ได้แบบนี้บ้าง


แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่พี่เจนว่า…เพราะฉะนั้นก็หมายความว่า…


“ให้มันจมกับความรู้สึกผิดที่ทำน้องเศร้าไปเลย ดี!”  นี่ก็อะไรจะเกลียดจะชังเขาได้ขนาดนั้น  แต่แค่พี่เจนย้ำชัดๆถึงความเป็นไปได้ทางความรู้สึกที่พี่เพชรอาจจะเผชิญอยู่นะตอนนี้


พระพายก็น้ำตาคลอแล้ว…


“อ้าว…ร้องอะไรอีกเนี่ย”


“ฮึก ก็พาย…พายทำให้พี่เพชรเสียใจ”


“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ความผิดเราน่ะ”


“แต่ถ้าพายไม่พลาด พี่เพชรก็คงจะไม่พลาดในฐานะคนสอนงาน”  จริงๆแล้วเขาทุ่มเทสอนให้พระพายมากอย่างไม่หวงวิชา แต่ต่อให้พยายามแค่ไหน ความผิดพลาดมันก็เกิดกันได้ เพราะเราคือมนุษย์


เราไม่สามารถควบคุมความผิดพลาดหรือมนุษย์เหมือนกันได้หรอก


“เฮ้อ…”


“………”


“พี่ว่าตาเพชรไม่ได้โกรธพระพายหรอก ถ้าโกรธคงไม่ขอร้องพี่ให้มาคุยกับน้องแบบนี้ แต่รู้สึกผิดไหม ก็อาจจะ”


“ทำไงดี…”  ทำอย่างไรพระพายจะแก้ไขมันได้?


“โตๆกันแล้วคงจัดการความรู้สึกได้ไม่ยาก พระพายก็ไปชวนคุยด้วยหน่อยละกัน”


“แล้วพี่เพชรจะคุยกับพระพายไหม”


“คนมันต้องทำงานด้วยกันนะ แล้วตานั่นก็ไม่ได้เกลียดพระพายด้วย”  ออกจะแคร์ด้วยซ้ำ…แคร์แบบที่ไม่ได้แคร์คุณรบด้วย


“……..”  แต่ถ้าเราจะคุยกันแต่เรื่องงานแบบที่พี่เจนว่า…พระพายก็ไม่ชอบเท่าไหร่นะ


“ลองง้อดูก่อนก็ได้ เราอาจจะไม่ได้ผิดแต่ถ้าไปคุยด้วยดีๆ ปรับทัศนคติตัวเองได้ดีขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะเผื่อแพร่ความคิดบวกนี่ไปให้ตานั่นได้ เอาเป็นว่าพี่ว่าคุยไม่ยากหรอก แมวเก้าชีวิตแบบเลขาที่ต้องผ่านประสบการณ์โดนทึ้งมานับครั้งไม่ถ้วนแบบนั้นมันไม่ตายง่ายๆหรอก”


“………..”


“เขาแค่กังวลว่าจะทำยังไงพระพายถึงจะมีเก้าชีวิตได้เหมือนเขาก็เท่านั้นเอง”


“จริงเหรอครับ”


“ไม่รู้สิ แต่เป็นพี่เจน พี่จะคิดนะ”  เพราะพี่เจนเอ็นดูพระพาย และถ้าพี่เพชรเอ็นดูหรือแคร์พระพายแบบที่พี่เจนหรือคนในบ้านนี้เป็น เขาก็จะเป็นห่วงพระพายในแบบเดียวกัน ทุกคนที่นี่ไม่มีใครอยากถอดพระพายออกจากตำแหน่งนี้อยู่แล้ว พระพายเองก็ไม่ควรยอมแพ้ อย่าให้งานที่พลาดเพียงชิ้น ทำลายล้างความสำเร็จนับครั้งไม่ถ้วนที่ทำมา


และถ้าพระพายไม่เห็นค่าของตัวเอง
ต่อให้เพชรตะโกนบอกเท่าไหร่เจ้าตัวก็คงไม่มีวันได้ยินจริงๆ


xxx

เขาไม่อยากสูญเสียพระพายที่ไร้เดียงสาไป
แต่ก็ยอมรับว่างานที่น้องอยากทำ…ความไร้เดียงสาคือสิ่งที่ไม่จำเป็น….


เมื่อวานเป็นวันที่ตลกไม่ออกอย่างที่ไม่เคยเป็น พระพายมีอิทธิพลกับเพชรพิสุทธิ์มากจนเขายังตกใจในตัวเอง  ทั้งๆที่มันไม่ควรเป็นขนาดนี้เพราะเขาควบคุมทุกอย่างได้มาตลอด ทว่าเมื่อได้เห็นแววตาผิดหวังในตัวเองของพระพาย เขาก็ตระหนักได้ในความผิดพลาดที่เขาทำขึ้น จะว่าเพชรนั้นปกป้องพระพายมากเกินไปก็ได้ แต่เขาก็ทำเพื่อความสบายใจของตัวเองเช่นกัน เพราะขนาดทำขนาดนี้แล้ว…มันยังหลุดรอดสายตาไปบ้างเลย


“สายแล้วเหรอเนี่ย”  เพราะมันเป็นวันหยุด เขาเลยอ้อยอิ่งเกินไป และวันนี้เขาต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแม้ไม่มีใครรอเป็นพิเศษแต่เขาก็มีงานของทางนั้นที่ต้องกลับไปดูแล และแถมช่วงนี้ทางครอบครัวก็วุ่นวายมาก เมื่อวานทั้งวันเขาแทบจะจดจ่อกับงานไม่ได้เมื่อปู่ขยันโทรมาสายแทบไหม้ จนทำให้เขาหลุดการดูแลพระพายไปอย่างไม่น่าให้อภัย


แต่ถึงจะสายแล้วก็ไม่ได้ใช้เวลานานจนเกินไปที่จะมาถึงที่บ้านของแม่ที่ต่างจังหวัด อาจจะเพราะมันไม่ได้ไกลกันมากขนาดนั้นขับเพลินๆยังไม่ทันเหนื่อยก็มาถึง เพชรเปิดประตูรั้วก่อนจะขับรถเข้าไปเก็บ เข้ามาทักทายแม่เพื่อให้แม่ไม่รู้สึกน้อยใจที่เขาไม่สนใจเพื่อคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ รดน้ำต้นไม้ด้วยตัวเอง แล้วค่อยไปเคลียร์นั่นนี่กับผู้จัดการหอที่จ้างมาดูแลความเป็นไปและความสะดวกสบายของผู้เช่า เขาลำดับทุกอย่างไว้ในหัวแล้ว แต่เหลือเพียงแค่ทำเท่านั้น


ทว่า…


“มาแล้วเหรอครับ”


“……….”


“พายเอง”  ในตอนนี้พระพายไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ารุกมาถึงนี่จะทำให้เขาตกใจจนช็อคไปไหม แล้วก็ใช่เลย เพชรช็อคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขอให้ความช็อคของเขา ไม่ออกมาร้ายจนเกินไปเลยนะ ได้โปรดอย่าไล่พระพายกลับบ้านตอนนี้เลย


“พระพายมาได้ยังไงครับ”  เขาไม่คิดว่าพระพายจะมาที่นี่ เพชรเอย…เอ็งคงไม่ได้หลับอยู่ใช่ไหม  และคงจะไม่ปู้ยี้ปูยำพระพายในฝันจริงๆใช่ไหม?


“พายไปหาที่หอแล้ว แต่พี่คนดูแลบอกว่าพี่เพชรจะแวะเข้าบ้านมารดน้ำต้นไม้ก่อนเสมอ เลยบอกทางมา”  พอฟังมาถึงตรงนี้เพชรก็มั่นใจทีเดียวว่านี่ไม่ใช่ฝัน เพราะฝันของเขาพระพายคงไม่พูดอย่างมีเหตุผลอยู่แน่ ช่วยดูบ้างว่าเจ้าของความฝันคือใคร นี่เพชรเอง เพชรที่ไร้สาระในนิยายคนอื่นมาได้เป็นสิบตอน แต่กลับตลกไม่ออกในนิยายที่ตัวเองเป็นพระเอก


“พระพายมีอะไรหรือเปล่า โทรมาก็ได้นะ เอ่อแต่พี่ไม่ได้ไล่นะ”  ตอนนี้เขากลับมาสับสนตัวเองอีกครั้ง สำหรับเพชรที่ผ่านเหตุการณ์เมื่อวานมา เขาเริ่มมองพระพายเป็นแก้วที่แตกได้จริงๆแล้ว


และการทำตัวแบบไปไม่เป็นของคุณเลขามืออาชีพ ก็ทำให้คุณเลขามือสมัครเล่นใจฝ่อไปบ้าง ใจพองบางหนเช่นกัน ทว่าจริงๆแล้วมันก็แค่เพราะพ่อพระเอกคนนี้รับมือไม่ทันกับการถูกรุกในยามสายที่ยังตื่นไม่ดีนัก


“พายมีเรื่องอยากจะคุยด้วยเลยมาหา แต่เคยจำได้ว่าพี่เพชรบอกว่ากลับบ้านทุกวันหยุด”  น้องจดจำเรื่องของเขาได้ แค่นี้ก็พอรู้แล้วว่าพระพายก็แคร์ แต่พระพายเป็นคนใจดี เพราะฉะนั้นนี่ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติของคนใจดีก็เป็นได้


“………”


“พระพายคุยกับพี่เจนแล้วเลยอยากจะมาขอโทษ”


“ขอโทษทำไมครับ พระพายไม่ผิดสักหน่อย”


“ก็ถ้าพายไม่ทำพลาด พี่เพชรก็ไม่ต้องรู้สึกผิดที่สอนพายไม่ดีไงครับ”


“……….”


“พายขอโทษนะ ให้โอกาสพายอีกครั้งนะ”  ให้ตายเหอะ เข้าใจผิดเก่ง….แล้วทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ให้มันดูน่ารักด้วยเล่า มาขอโอกาสบ้าบออะไรกัน เพชรพิสุทธิ์นี่แทบจะเอาทุกทรัพย์สินที่มีไปขายและยกให้ไปเสียจบๆด้วยซ้ำ


“น้องพายไม่ต้องขอโทษ พี่ไม่ได้รู้สึกผิดแบบนั้น”


แล้วเขารู้สึกผิดแบบไหน…..


“พี่แค่….อาจจะรู้สึกแย่ที่ทำให้พระพายเสียใจและผิดหวังในตัวเองมากกว่านะครับ แต่ไม่ได้โกรธน้องเลย ที่เมื่อวานไม่ค่อยได้คุยเพราะเห็นพระพายเครียดๆอยู่ด้วย ส่วนพี่ก็ยุ่งๆเรื่องที่บ้าน”  เขาไม่เคยคิดว่าพระพายจะตีความการแสดงออกของเขาไปว่ามันดูเย็นชา จริงๆเขากำลังนิ่งและคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี และที่ไม่ได้เข้าไปเล่นด้วยเพราะยุ่งอยู่กับการคุยโทรศัพท์นี่แหละ


นี่ไม่ใช่ปีแรกที่ทำงาน เพชรรู้ดีว่าความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ เขาจึงไม่ได้คาดหวังว่าพระพายจะทำทุกอย่างได้ถูกต้อง จริงๆเรื่องแบบนั้นเขาก็ไม่ได้สอนพระพายแต่แรกเพราะไม่อยากให้น้องมองโลกร้ายๆไปก่อน ก็ยอมรับว่าที่ทำน่ะ คือการสปอยล์กันเกินไป แต่เขาเป็นห่วงความรู้สึกน้องมากกว่า จึงไม่ทันระวังว่าเขาปกป้องตลอดไปไม่ได้หรอก


และเมื่อพระพายได้เผชิญกับมันจริงๆเขาจึงผิดหวังในตัวเองนักที่ทั้งไม่เคยบอกให้ระวัง ยิ่งผิดหวังในตัวเองนักที่ทำให้พระพายรู้สึกแย่กับสิ่งที่ทำผิดพลาดไป และเขาก็ไม่สามารถช่วยกอบกู้ความรู้สึกของพระพายได้เลยในตอนนั้น และเพราะมันติดเสาร์อาทิตย์ จึงต้องไปขอให้เจนทำให้ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ


บนโลกของการทำงานมันไม่ใช่อะไรที่สอนกันได้ทุกเรื่อง พระพายยังต้องเผชิญอีกหลายส่วน ทุกวันนี้เขาอาจจะสอนน้องไม่ถูกต้องนัก เพราะสุดท้ายมันก็ต้องมีเรื่องที่น้องต้องเผชิญคนเดียว ปีกของเขามันไม่กว้างพอที่จะปกป้องน้องได้ทุกอย่าง บางทีเขาอาจจะต้องให้น้องได้เติบโตแบบที่ควรจะเป็นบ้าง การเอ็นดูพระพายเหมือนคนบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้ แต่ทำแล้วไม่เป็นผลดีกับพระพายจริงๆ


พระพายนิ่งไป เหมือนตัวเองก้าวไปสู่ในโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แววตาท่าทางและคำสารภาพของรุ่นพี่ตรงหน้าทำให้รู้สึกแปลกจริงๆ เขาก็คือคนที่พระพายรู้จักมากหลายปีแล้ว แต่ทำไมพระพายกับรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเขาเสียอย่างนั้น แม้จะรู้ดีว่ามนุษย์มีมุมต่างๆที่ต้องใช้เวลาถึงจะปลดล็อคเข้าไปทีละจุด แต่ภาพข้างหน้าที่ได้เห็นมันเกินกว่าที่พระพายคาดหวังไปบ้าง และไม่คิดเลยว่าอีกด้านมุมนึงที่ตนได้ปลดล็อคเข้าไปจะเป็นเช่นนี้ เขาเองก็กังวลมาก และเห็นได้ชัดว่าแคร์กันมากมาย…..


“พาย…ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ”


“งั้นก็ดีแล้วครับ”


“ถ้าพายไม่เป็นไรแล้ว…พี่เพชรก็ต้องดีขึ้นด้วยนะครับ”


“…………”


“พายอุตสาห์มาถึงนี่เลยนะ”  อย่าทำให้ความพยายามของพระพายศูนย์เปล่าสิ


รีบกลับมาเป็นคนเดิมให้พระพายสบายใจหน่อย
เป็นแบบนี้พระพาย….ไม่ชินเลยจริงๆ….


“พายมาง้อพี่ถึงที่นี่เลยนะ”  ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดทั้งหมด แต่การเปิดใจก่อนเป็นเรื่องที่ดีกว่า ในเมื่อตอนนี้พี่เพชรระแวงที่จะสัมผัสเพราะกลัวน้องแตกร้าว  ก็คงเป็นตัวคนน้องที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา เขายิ้ม การถูกแคร์นั้นมันเป็นเช่นนี้เอง


“งื้ออออ เป็นการง้อที่น่ารักมากเลยครับ พี่เพชรช๊อบบบบ” ไม่ต้องทำหน้าเหมือนอยากบีบกันขนาดนั้นก็ได้ แม้คำพูดแบบนี้พระพายจะไม่เคยนึกชอบแต่ก็สบายใจที่ได้ฟัง อย่างน้อยกำแพงที่เคยขวางกั้นก็ค่อยๆบางลงแล้ว


“พี่เพชรไปทานข้าวเถอะครับ คุณแม่รอนานแล้ว วันนี้พระพายมาช่วยคุณแม่พี่เพชรทำอาหารด้วยนะ”  เขายิ้มออกมา ต้องใจกล้าแค่ไหนที่จะบุกมาถิ่นเขาได้และบุกไปช่วยแม่เขาทำครัวทั้งๆที่เคยคุยกันแค่ครั้งเดียวแบบนั้น พระพายเป็นเด็กน่ารัก ใครมองหรือได้รู้จักต่างก็เอ็นดู ไม่แปลกใจที่จะได้เข้าบ้านคนอื่นง่ายแบบนี้ แต่แค่คิดว่าเจ้าตัวทำทั้งหมดเพื่อเขา เพชรก็มีกำลังใจขึ้นมาจากที่คิดว่าที่ทำไปมันไม่มีอะไรดี ไม่หรอกที่ทุ่มเทไปนะมันส่งผลบ้างแล้ว ช้าๆแต่ก็เห็นได้…ว่ามันมีความไว้วางใจเกิดขึ้นจริงๆ


นี่แหละเมล็ดพืชที่เขาหว่านลงดิน
มันกำลังจะแตกรากหยั่งลึกเพื่อรอการออกผลออกดอกให้เก็บกิน….


Talk : เพชรไม่ค่อยรุกจีบค่ะ(เหรอ) พี่เขาทำตามแสตนดาร์ดการปลูกฝังจิตสำนึกรักให้น้อง ค่อยๆหยอด ค่อยๆใส่ แต่สม่ำเสมอเข้าไว้คือหลักการถถถถ ก็จะค่อยๆเห็นปมนั้นนี้ค่อยคลายกันไป แต่ขอให้มั่นใจว่ามันจะจบในไม่นานค่ะ

ฝาก #เจนไม่นก #เพชรพระพาย และต่อไปอาจจะได้มี #ลูกชุบของอัศวิน แอร้ยยยยยยยย 555

Twitter @reallyuri


หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-09-2018 22:02:24
โอ๋ๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-09-2018 22:45:25
ไม่ร้องนะน้องพาย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-09-2018 23:01:58
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-09-2018 07:47:39
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 15-09-2018 12:21:46
 :hao7: น้องงงงงง อิตาเพชรทำหวังผลนี่หว่า :hao3:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่4) 14.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-09-2018 09:36:25
อิตาเพชรนี่ก็ปลูกดอกฝังรากรอกินผลน้องพายอย่างเดียวเลย รอเก่งว่างั้น ทีมพี่เจนรอช่วยชี้หน้าด่าตาเพชรหน้าบริษัท :laugh: :laugh:
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-09-2018 17:00:03
เพชรพระพาย
#พระพายกับสายรหัสคนถ่อย


พระพายเป็นเด็กที่เข้ากับทุกบ้านได้ราวกับว่าเกิดมาเพื่อเป็นบุตรหลานของชาวโลกทุกคน…แน่นอนรวมถึงบ้านหลังนี้ที่หล่อหลอมตัวตนความเป็นเพชรพิสุทธิ์ขึ้นมาด้วย เพราะตอนนี้พระพายได้กลายมาเป็นลูกรักของแม่ของเขาแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ไม่เกินความคาดหมายเลย เพราะพระพายสามารถคาดเดาได้ทุกอย่าง….ก็ไม่ทุกอย่างหรอก แต่เกือบทุกอย่าง….


เสน่ห์ของพระพายคือการเป็นเด็กซื่อตรง ไร้เดียงสา อ่อนโยนเหมือนกับพกพาเอาทุ่งลาเวนเดอร์ไปกับตัวด้วยทุกที่ หากสามารถปราบพยศเป็นยอดรักของคุณหญิงพรรณีได้ ก็ไม่มีบ้านไหนยากเกินไปสำหรับพระพายหรอก แม้มันจะเป็นไปด้วยความบังเอิญก็ตาม….พระพายคงหนีไปไหนไม่พ้นแล้วจริงๆ….


“คุณแม่ครับ เดี๋ยวพายล้างให้เอง” 


“ไม่เป็นไรหรอกลูก หนูเป็นแขก ไปพักให้หายเหนื่อยเถอะ” 


เอาเป็นว่าเหยื่อได้เข้ามาติดกับก่อนกำหนดเสียอีก จริงๆนี่ว่าจะล่อลวงมาบ้านตอนเปิดเทอมที่พ้นสภาพพี่เลี้ยงกับนักศึกษาฝึกงานเป็นหนุ่มออฟฟิศกับนักศึกษาข้างห้องนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร มาเร็วอย่างนี้ อะไรดีๆก็อาจจะเกิดเร็วขึ้นก็เป็นได้ เพชรคิดได้อย่างนั้นก่อนจะริเริ่มอะไรใหม่ๆที่เขาว่าดีก็ต้องดี และโปรเจ็คนี้จะผ่านไปไม่ได้เลยถ้าไม่ได้พระพายมาเป็นนักแสดงนำเช่นเดิม


“พระพายครับ”เขาเดินไปยืนข้างๆ ช่วยซาวจานที่พระพายล้างน้ำยาไว้แล้ว


“ครับ”


“วันนี้พี่มีเลี้ยงข้าวน้องรหัสที่ยังมีชีวิตอยู่ ไปเป็นเพื่อนไหมครับ”


“เอ่อ…”  น้องรหัสเขา หรือรุ่นพี่ที่คณะของพระพาย….เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้พระพายไม่คิดว่ามันจะดีนักหรอกที่ให้ไปพบเจอ แต่เพชรกลับส่ายหน้าปฏิเสธก่อนโดยไม่รอให้คนที่เขาชวนพูดปัดด้วยซ้ำ


“ไปนะครับ พี่ให้มันเอาชีทปีหนึ่งมาให้พระพายด้วย”


“พวกเขารู้เหรอครับว่าพระพายรู้จักกับพี่เพชร”  แววตาของน้องวูบไหว ความกลัวที่ครอบงำนั้นน่าเอ็นดูจนเขาอยากจะฉุดมาโอบกอด แต่ต้องรั้งมือไว้ มันยังเร็วเกินไปเดี๋ยวพระพายจะเอาสก๊อตไบร์ทฟาดหน้าเขาหน้าซิงค์ล้างจานที่บ้านตัวเองนี่แหละ…


“รู้สิครับ พี่บอกไปน่ะ”


“แล้วพวกเขา โอเคเหรอครับ”


“ลองไม่โอสิครับ นี่พระพายคิดว่าพี่เป็นใคร”


“ลูกแม่ไพลินบ้านเลขที่ 481” 


“ชอบเล่นมุกเหรอครับ เดี๋ยวพี่ให้เล่นเพชร”  พระพายยู่หน้า คนบ้าก็คือคนบ้า สลดได้ไม่นานก็กลับมาเป็นคนบ้าเล่นมุกผีๆใส่กัน ไม่ใช่ผีธรรมดาด้วยนะ ค่อนไปทางผีทะเลเลยทีเดียว


“ล้างจานดีๆเลยครับ ไม่งั้นพายจะเอาฝอยขัดหม้อขัดเพชรให้สะอาดให้ดู!”  สรุปไม่ใช่แค่สก๊อตไบร์ทเสียด้วย นี่มันเป็นคำขู่ที่สุภาพหูที่สุดเท่าที่ชีวิตของเพชรพิสุทธิ์เคยได้ยินมา…


หลังจากออกจากบ้าน เขาก็พาน้องกลับมาที่หอเพื่อเคลียร์งานอย่างที่ตั้งใจด้วยความเร็วสูง นี่มันก็เย็นแล้ว คาดว่าสายรหัสผู้อดยากของเพชรพิสุทธิ์ที่ยังมีชีวิตอยู่คงรอให้เขาไปเลี้ยงข้าวจนใจจะขาด เขามาเคาะประตูเรียกพระพายอยู่ที่หน้าห้อง พอพระพายเปิดประตูห้อง เขาก็พาน้องที่ยังดูกล้าๆกลัวๆออกจากหอไป บอกแล้วว่าไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก เพราะที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่สายรหัสรุ่นน้องเขา เพราะพี่บัณฑิตน่ากลัวสุด บอกเลย…


“พายไปด้วยจะดีเหรอ มันสายพี่เพชรนะ”


“ดีสิ พระพายไม่มีพี่รหัสไม่ใช่เหรอ”  หรือจริงๆคือมี แต่พี่รหัสคนนั้นไม่เคยมาดูดำดูดี แต่ไม่เป็นไรนี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ไม่มีใครตายเพราะไม่มีพี่รหัสหรอกน้า


ให้ขวัญและกำลังใจเจ้าลูกกระต่ายขี้กลัวไปพลางขับรถออกไปที่ร้านอาหารที่มักจะเลี้ยงกันเป็นปกติ พาน้องเข้ามาในร้านก็รู้ได้ทันทีว่าต้องไปนั่งโต๊ะไหน เพราะเหล่ารุ่นน้องทั้ง 4 ที่มีชีวิตมาที่นี่โบกมือโหวกเหวกโวยวายต้อนรับเขากันใหญ่ พระพายนั้นเหมือนจะตัวเล็กลงเมื่อเดินเข้าไปใกล้ และเจ้ากระต่ายก็ทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเอาแต่เกาะอยู่ที่หลัง อะไรจะขี้กลัวได้ปานนั้น เมื่อกี๊ยังจะเอาฝอยขัดหม้อขัดกันอยู่เลย


“พี่เพชรอ่ะ พายไปรอข้างนอกนะ”


“ไม่ต้องเลยครับ มาแล้วก็ต้องนั่ง เฮ้ยพวกมึง เอาเก้าอี้มาให้น้อง!”  ในฐานะคนจ่ายเงิน สั่งอะไรก็ต้องได้ในวินาทีนั้น ในที่สุดคนตัวบางก็ได้มานั่งที่เก้าอี้ซึ่งมีคนเอาเสื้อเช็ดให้อย่างทะนุถนอมและเลื่อนมาที่พระพายซึ่งไม่พร้อมจะนั่งทั้งๆที่ไม่ได้เป็นริดสีดวงอะไร ดวงตากลมโตยังคงมองคนพี่ที่ขู่เข็ญกันว่าจะขอร้อง แต่เสียใจด้วย….เพชรพิสุทธิ์เปลี่ยนไปแล้ว! น้ำตาทุกหยดที่เขารีดออกมาจากพระพายต้องให้ประโยชน์สูงสุดต่อจากนี้!


“น้องพายสั่งเลยนะครับ วันนี้เสี่ยเขาเลี้ยง เอาที่ดีที่สุดมา ปลากะพงจากภูเขาหิมาลัยพี่เขาก็จ่ายให้ได้”  ใครคนนึงบนโต๊ะพูดขึ้นพลางยื่นเมนูให้พระพายด้วยรอยยิ้มและท่าทางใจดี แต่พระพายยังทำตัวไม่ถูกนัก


“น้องเขางงไปหมดแล้วมึง ปลากะพงเชี้ยไรมาจากภูเขาหิมาลัย เรียนจนโง่เหรอ”  อย่าทะเลาะกันนนนน!!!!


“โหยเฮีย เราก็อยากจะโชว์ความป๋าให้น้องดู นี่ก็ทะนุถนอมจั๊นนนนน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลย”  คนพูดนี่คงไม่เคยได้มาสัมผัสน้องพระพายคนดังของคณะจริงๆ เพชรยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ นี่ไง….เขาถึงได้เอานางฟ้ามาโปรดพวกไพร่นี่กัน จะได้รู้ฤทธิ์พระพายซะบ้าง แล้วจะได้รู้ว่าที่เขาทำนั้น….มันไม่มีอะไรเกินจริงไปเลย


“เอ่อพี่เพชรก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ”  พระพายพยายามแก้ตัว แต่ยิ่งแก้ มันยิ่งน่าสงสัย


“อ้าว แล้วพี่เพชรนี่ขนาดไหนเหรอ ใหญ่ไหม”ไอ้พวกสัปดนนี่


“พี่เพชรเป็นพี่เลี้ยงของพายที่ทำงานนะครับ แต่เจ้านายใหญ่คือคุณนักรบ” 


“…………..”


“…………”เป็นไงล่ะ เงิบกันทั้งโต๊ะ พระพายมาได้ไม่ถึงสองนาที โชว์อิทธิฤทธิ์ใส่สายรหัสผู้บาปหนาของนายเพชรพิสุทธิ์จนไปไม่เป็นกลับบ้านไม่ได้แล้ว


“ง่า….อย่าทะเลาะกันนะครับ”  พระพายพูดออกมา พวกเขาเสียงดังและพูดคำหยาบกันไปมาจนทำให้น้องคิดเช่นนั้น พระพายนี่ดูใสซื่อเสียเลยเกิน เกิดมาไม่เคยเห็นคนหยอกกันแรงๆเหรอ น้องถึงได้คิดไปว่าทะเลาะกัน  อยากจับไปเข้าคลาสแดกดันคนให้ได้ดีอย่างเจนรักษ์ชะมัด….


“พี่เพชรเลี้ยงน้องมาไงเนี่ย”สายรหัสปี 3 เหมือนจะชื่อพี่ชิ้น


“กูไม่ใช่พ่อใช่แม่เขา” เอ๊ะ ไอ้นี่ ถามยังไง???


“โคตรรูกอ่ะ” ธีรวุทธิ์หรือธีร์ปีสองสายรหัสคนถ่อยถาม


“รูก?” เพชรพิสุทธิ์นิ่วหน้า


“น้อน” เจตภัทร ปีห้าสายรหัสคนถ่อยย้ำ


“แปลว่าอะไรวะ” ตามไม่ทัน


“อะไรก็ตามที่แปลว่าน่ารักน่าบีบน่าทะนุถนอม” ธารากร ปีสี่อธิบาย


“อะ กูเก็ตล่ะ ทีนี้เข้าใจกูแล้วใช่ไหม”  ทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก พระพายก็ได้แต่คิดว่าทำไมพี่เพชรเข้าใจอะไรง่ายจัง ว่าแต่ที่เขาพูดถึงนี่คือพระพายเหรอ


“น้องไม่เหมือนแบบที่กูคิดเลยอ่ะ แบบ…ไม่หยิ่งเลยอ่ะ”


“พายไม่หยิ่งนะ”  พระพายเถียงกลับเสียงเบา ยังคงกังวลเรื่องที่คนอื่นลือกันออกไป ท่าทางเลิกลั่กแต่น่ารักนั้นทำให้สายรหัสคนถ่อยถึงกับหัวเราะออกมา เริ่มเข้าใจว่าทำไมเพชรถึงอยากให้ทุกคนได้สัมผัสพระพายจริงๆ


เพราะพระพายไม่เหมือนกับที่ใครๆเขาเล่ามา…


หยิ่ง ขี้โกหก หัวสูง นิสัยไม่ดี…คนในคณะรู้กันหมดว่าพระพายเป็นเช่นนั้น แต่ไม่เคยมีใครไปถามพระพายจริงๆ พระพายตอนอยู่ที่คณะไม่ใช่คนที่ร่าเริงและไม่คุยกับใครนอกจากเพื่อนสนิทอีกสองคน แต่นั่นก็ไม่แปลกเลยเพราะตนเองถูกพูดแบบนั้น พระพายคงกะจะให้เวลาทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่เรื่องร้ายๆยิ่งนับเวลาก็ยิ่งนานออกไปทางความรู้สึก หากไม่มีตัวช่วยดีๆก็คงไม่มีทางออกมาจากบ่อโคลนพวกนั้นได้ เพราะฉะนั้นคนอื่นจึงต้องมาสัมผัสพระพายในสถานการณ์ที่ต่างออกไป เพื่อที่จะได้รู้ว่าน้องจริงๆแล้วเป็นคนแบบไหน


เพชรรู้และจับจุดถูก วันนี้คนนึงพูดแบบนึง พรุ่งนี้คนอีกคนก็จะต้องได้ฟังและพูดต่อ เขาใช้วิธีเดียวกันกับที่ผู้ไม่ประสงค์ดีทำกับพระพาย ในเมื่อมาถึงจุดนี้ พระพายก็เหมือนไม่มีอะไรจะเสียเพราะชื่อเสียที่ตัวเองไม่ได้สร้างได้ถูกทำให้ป่นปี้ไปแล้ว จะกู้ชื่อให้  ถ้าไม่ลองทำทุกอย่างก็คงไม่รู้ว่าอย่างไหนดี และก็ดูเหมือนว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องพยายามอะไรเลย เพราะโทนเสียง ความนอบน้อม ความไร้เดียงสาที่น้องมี มันช่วยผลักดันให้คนอื่นที่รับข้อมูลมาผิดๆได้กระจ่างแก่ใจแล้ว


“ผมว่าน้องแม่งถูกแกล้งแน่เลยว่ะ”  ไอ้ปีห้าที่จริงๆควรจะจบไปได้แล้วแต่ยังมานั่งเนียนเรียนและเนียนแดกได้พูดขึ้น จุดประเด็นได้ดีมาก


“พี่แม่งใจเย็นเว้ย น้องพระพายเขาตัวหดเท่ามดแล้ว พูดไรเกรงใจน้องบ้างสิเฮ้ย”  เป็นธารากรปีสี่ที่ต้องคอยปราม


“พระพายไม่เป็นไรนะครับ”  ปีสองที่นั่งใกล้ๆหันมาพูดให้กำลังใจ สายรหัสเขามีแต่ผู้ชายห่ามๆ เด็กน้อยที่เลี้ยงมาเหมือนถูกปั้นอย่างพระพายก็อาจจะทำตัวไม่ถูก ไม่ต้องเดาเลยว่าเพื่อนๆต่อให้เป็นคนห่ามกันแค่ไหน แต่พออยู่กับน้องทุกคนคงหันมาพูดเพราะด้วย มันเป็นเอฟเฟคจากตัวตนที่ทำให้คนอื่นปฏิบัติตาม นี่ไงทุ่งลาเวนเดอร์ของรัตนสกุล น้องพายผู้พิชิตองคุลีมารที่แท้ทรู


“ไม่ต้องกลัวนะ”  เขาพูดปลอบ ได้ทีพลางลูบหลังน้องที่ทั้งงงและตกใจที่คนพวกนี้มีอะไรให้หึกเหิมกัน ก็บอกแล้วว่าน้ำตาของพระพายจะไม่เสียไปอย่างไร้ความหมายอีก แม้น้องจะถือคติต้องไม่จองเวรกรรมต่อกัน แต่ช้าไปแล้วเพชรอนุญาตให้ตัวเขาเองเป็นเจ้ากรรมนายเวรของพระพายแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น จะไปจดลิขสิทธิ์ตัวเองให้ดูด้วย อย่ามาท้านะ ว่าแต่ใครท้า? กรมทรัพย์สินทางปัญญาเหรอ?


“พายไม่เป็นไรครับ จริงๆก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วด้วย”


“รูกกกกกก”  ไอ้พวกที่หึกเหิมสถาปนาตนเป็นอัศวินของพระพายได้แต่ครวญคราง


“คือ…พระพายอาจจะแบบ…ทำให้เขาเห็นว่าเป็นคนงั้นก็ได้อะครับ”


“น้อนนนนนนน”


“เข้าหัวกันบ้างไหมชาวเรา อย่าเวอร์”  เพชรก็ได้แต่ปรามไปตามหน้าที่ หากแต่เขานั่นแหละคือผู้ผลักดันเบอร์หนึ่ง!


“พี่เพชรน้องอย่างนางฟ้าอ่ะ ถ้านี่มีธูปผมจุดละนะ” ธีร์หันไปพูด อีกนิดจะกราบแทบตักน้องแล้ว


“เชี้ยผมขอหวยได้ปะ”  ปีห้าที่อดอยากพ่อแม่จะไม่ส่งเงินให้หันมาถาม


“น้องพายเกิดวันที่เท่าไหร่ครับ”  นี่ก็กะจะขอหวยลูกเดียว เพชรหันควับ เขาว่ามันชักจะมากไปแล้วล่ะวันนี้


“เอ่อ วันที่ 7 กันยาครับ”


“ง่อว ขอวิ่งไปติดต่อเจ้ามือหวยแป็ป” นายลูกชิ้น ชินภัทร


“กูฝากด้วยไอ้ชิ้น”  ปีห้าพูดกับปีสาม เอาสิทำกันเป็นทีม


“แล้วนี่พี่เพชรบอกให้ผมเอาเลคเชอร์ในตำนานไปให้นี่ พระพายไม่มีพี่รหัสเหรอครับ”  ในที่สุดก็มีคนหนึ่งที่ดูมีสติกว่าใครชวนพระพายคุยในเรื่องมีสาระ พระพายพยักหน้าเบาๆ แต่ทุกคนรู้ว่าพระพายมี


และรู้ด้วยว่าทำไมมันถึงมีแต่เหมือนไม่มี


“งั้นพระพายจะไม่รังเกียจพี่ใช่ไหมถ้าพี่ขอเป็นพี่เทคเราน่ะ”  ปีสองที่สมองโตกว่าปีห้านั้นหันมาสบตาเขา ทำดีมากไอ้ธีร์ กลับไปเดี๋ยวโอนตังค์ให้


“จะดีเหรอครับ คือแบบพระพายเกรงใจ”


“เกรงใจอะไร พี่ไม่มีน้องรหัส ซิ่วไปตั้งแต่ยังไม่ได้รับน้องเลย เนี่ย เลคเชอร์ในตำนานของศาตราจารย์เพชรพิสุทธิ์ไม่ได้ส่งต่อให้รุ่นเราเนี่ย ช่วยเอาไปได้ไหมครับ”


“…………”  พระพายไม่ตอบแต่หันมามองตาเขา เจ้าของเลคเชอร์ในตำนานของสายรหัสคนถ่อยนั้นยิ้มให้เห็นว่าเขายินดี


“พี่ได้เกียรตินิยมด้วยนะ เผื่อพระพายไม่รู้”  เขาหันมาขยิบตาให้ พระพายก็รู้หรอกว่าเขานะเก่งแค่ไหน แต่การที่พระพายไม่ได้รหัสนั้นแล้วไปเอาเลคเชอร์ของเขามา มันจะดีเหรอ


“พระพายจะได้มีไว้ให้รุ่นน้องต่อๆไปด้วยไง”


“แต่เดี๋ยวพายก็จะมีน้องรหัสเหมือนกันนะ”  พระพายแย้ง


“ก็ถ่ายเอกสารให้ไปอีกสิครับ พี่จะบอกให้นะว่าเลคเชอร์พี่เพชรนะกระจายข้ามวิทยาเขต แต่คนส่วนใหญ่มีไม่ครบกันหรอกนะ”  ปีสี่อธิบายเพิ่มเติม ทุกคนดูเป็นงานราวกับซิงค์สมองนักขายตรงกันมาก่อน


“……….” 


“แต่ยังไงพระพายก็เลคเชอร์ของตัวเองด้วยอยู่แล้ว วันนั้นพี่ก็เห็นนะ ดีเลยแหละ พระพายก็เอาของตัวเองและของพี่ให้น้องไปก็ได้”


“รับสายเราไปเถอะครับ อย่าให้พวกเรากำพร้าปีหนึ่งเลย”    ปีห้าที่เรียนไม่จบได้กล่าวเอาไว้ ก็น่าสงสัยว่ามีเลคเชอร์ดีอยู่ในมือแล้วทำไมยังเรียนไม่จบเหมือนกัน ราคาคุยหรือเปล่าเลคเชอร์คุณเพชรนี่ แต่พระพายก็ตัดสินใจแล้ว มีคนรักและเอ็นดูก็ย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือไง….และพระพายก็มีคนเกลียดในคณะเยอะแล้ว มีคนชอบบ้าง…ก็ดีเหมือนกัน


“ฝากตัวด้วยนะครับ”  พระพายยิ้มออกมา เป็นยิ้มที่กว้างที่สุดตั้งแต่ที่มีมาในระยะรัศมีไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่เรียน พระพายอาจจะได้เริ่มชีวิตนักศึกษาทั่วไปช้ากว่าคนอื่น แต่เขาจะทำให้มั่นใจ


ว่าพระพายจะได้เริ่มมันอย่างจริงจังต่อจากนี้


ยื้อยึงกันอยู่นานในที่สุดงานเลี้ยงก็ต้องเลิกรา พระพายกับเขาเข้ามาอยู่ในรถมุ่งหน้ากลับหอ มันมืดแล้วจึงไม่มีใครมุ่งหน้ากลับกรุงเทพกันวันนี้ เพชรเหลือบมองคนข้างกาย พระพายมีใบหน้าที่แจ่มใสกว่าตอนมาแม้ว่าที่โดนไปจะทำเอาไปไม่ถูกสักเท่าไหร่ น้องถูกคนลอบข้างโอ๋มาดีจริงๆจนมาเจอของแปลกเลยอดไม่ได้จะคัลเจอร์ช็อค แต่ไม่เป็นไร ค่อยๆปรับกันไป พระพายไม่ได้แก่เกินจะดัดหรอก แค่ต้องให้โอกาสน้องได้รับรู้เรื่องเลวๆของสังคมบ้าง


“ขอบคุณพี่เพชรมากนะครับที่ขู่เข็ญพายไปด้วย”  พระพายหันมาขอบคุณเขาอย่างจริงใจ ต้องพูดว่าขู่เข็ญเลยทีเดียว เพราะถ้าเขาไม่มีความอดทนต่อแววตาออดอ้อนของเจ้ากระต่ายน้อยแล้วล่ะก็ บางทีเรื่องดีๆวันนี้ก็ยังไม่เกิด ใช่…พระพายมองว่าการเปิดโลกไปเจอคนถ่อยๆเหล่านั้นคือเรื่องดีๆ


“ดีใจที่พระพายชอบนะครับ”


“พายได้มีพี่เทคกับเขาแล้ว ทำไมจะไม่ดีล่ะครับ”  เขายิ้มให้กับพระพายที่มีความสุข ใช่…พระพายได้สายรหัสปีสองของเขาขอไปดูแล ทุกอย่างเหมือนจะเป็นความประสงค์ของพระเจ้า….ที่ประสงค์ให้เขาเลือกที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้ให้


“ต่อไปนี้เราก็เกี่ยวข้องกันแล้วนะ” ใบหน้าหวานของน้องพลันแดงขึ้นมา


“ได้ไงอ่ะ พี่ปีสองขอเทคพายคนเดียวนะ”  ถึงพระพายจะได้รับมรดกตกทอดเลคเชอร์ของเขาก็เถอะ


“แล้วพระพายไม่อยากเกี่ยวข้องกับพี่เหรอ”


“……….”


“พี่ก็เทคแคร์เราอยู่นะ”


“ก็พี่เพชรเป็นพี่เลี้ยงของพาย”


“พี่เลี้ยงที่ให้พระพายซื้อชาไข่มุก ล้างจานให้ แลกกับการพามาเจอสายรหัส แกะปลาทู ล่าสุดวันนี้แกะส้มให้กินด้วย”


“………”


“พี่ชอบเป็นพี่เลี้ยงพระพายจัง” ดูเหมือนจะได้กับได้ ได้อะไรไม่รู้


แต่รู้ว่าพระพายเหมือนจะมีแต่เสียกับเสียเลย….


“แล้วนี่พระพายขับรถมาเหรอครับ พี่ไม่เห็นรถจอดเลย”  เขาเปลี่ยนเรื่อง ไม่งั้นพระพายอาจจะระเบิดตัวตายได้


“อา…รถส่งเข้าศูนย์นะครับ”


“แล้วนี่มาไงครับเนี่ย”  เขาเกือบเบรกหน้าทิ่ม


“ก็…นั่งรถตู้มาครับ”  แล้วแม่บอกว่าน้องมาตั้งแต่เช้า เป็นไปได้ว่าน้องรีบไปนั่งรถตู้ที่ท่ารถและมาถึงที่นี่แต่เช้าโดยไม่มีรถ เพชรนั้นเหลือบมองคนข้างตัวอย่างฉงนใจ ไม่คิดว่าภารกิจง้อกันของเขาจะเป็นเรื่องใหญ่ของพระพายขนาดนี้ เพราะมันไม่ได้ดูลำบากไปเหรอ….ถ้าคุณหญิงพรรณีรู้ว่าพระพายทำอะไรแบบนั้นลงไป มีหวังมาแหกอกเขาแน่นอน


แต่คงไม่สู้รู้ว่าพระพายโดนแจกอ้อยไปเท่าไหร่แล้ว….


“ก็พายอยากมาหาพี่เพชรนี่นา ห้ามโกรธนะ”


“วันหลังโทรมาก็ได้ นัดเคลียร์ใจๆไปเลย ไม่ต่อวิ่งมาหาถึงแบบนี้ รถตู้มันก็อันตรายอยู่นะ เข้าใจไหม”  ถึงแม้เขาจะขึ้นบ้างด้วยหวังจะขออาศัยรถบางคนกลับกรุงเทพด้วย แต่ไม่ชอบใจที่น้องทำนัก อย่างว่า….ลองได้สปอยล์แล้วเลิกยาก


“ก็พายไม่รู้นี่ว่าพี่เพชรจะหายงอนไหมเลยต้องรีบมาง้อ”


“พี่ไม่ได้งอนเด้อ”


“ก็แบบพายไม่อยากให้พี่เพชรรู้สึกไม่ดีแล้ว”  เราเดินกันมาถึงหน้าห้อง หมดไปหนึ่งวันแต่พระพายก็ยังไม่เข้าใจจริงๆเหรอ ว่าเขารู้สึกอย่างไร เพชรแค่รู้สึกผิดและทำอะไรไม่ถูกที่สอนน้องไม่ดีจนทำให้น้องผิดหวังกับตัวเองอย่างนั้น แต่เมื่อน้องมาโชว์ให้เห็นแล้วว่ามีสปิริตจะสู้ต่อ เขาก็กลับมาบ้าบอได้เหมือนเดิม เพราะคนเราไม่มีวันปรบมือข้างเดียวดังได้หรอก การเรียนรู้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือมันก็เท่านั้น


“พี่เพชรง้อไม่ยากนะครับ ถ้าเป็นพระพายน่ะ”  เขาบอกพระพาย จ้องมองไปที่แววตาคู่นั้น อยากให้อีกฝ่ายค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในใจจะขาด แต่มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับพระพายในตอนนี้ เพชรเองก็ยอมรับ


ว่าเขาสร้างตัวตนออกมาหลายมุมเกินไปเพื่อให้คนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
และคนที่เขาหวังให้มาจับกันก็คือคนที่ไร้เดียงสาที่สุดด้วย


“แค่พระพายมาบอกว่าต่อไปพระพายจะตั้งใจและเปลี่ยนทัศนคติใหม่ จะสู้คนบ้าง ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร แค่นี้ก็ง้อพี่ได้แล้วครับ”  แต่ในทางปฏิบัติมันไม่แค่นี้นะสิ พระพายปล่อยปะละเลยปัญหานี้และยอมคนง่ายมาจนชิน สุดท้ายแล้วความใจดีของน้องกลับมากัดกร่อนความรู้สึกให้เจ็บปวดเกินกว่าจะนับ


เพชรประคองแก้มใสให้มองเขาตรงๆไม่หลบตาไปไหน พระพายรู้ดีว่านี่คือข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่น้องอาจจะเหนื่อยที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว บนโลกนี้หากจะต้องมีคนแบบพระพายเพื่อเป็นแสงสว่างบนโลก โลกนี้ก็ต้องมีคนแบบเพชรที่เหมือนความมืดฉุดน้องออกมาจากพวกคิดไม่ดีขึ้นมาเช่นกัน และนั่นมันก็อยู่ที่น้องจะเลือกและอยู่ที่เพชรอีกเช่นกัน…ว่าเขาจะกะล่อนเอามุกไหนมากระตุ้นความเฉื่อยชาของคนโลกสวย


“พี่เพชร…วันนี้ที่พาไปเจอสายรหัสเพราะอยากให้พายไปจัดการเรื่องนั้นเหรอ”  ดวงตากลมช้อนมองเขาราวกับจะถามหาความจริงที่มีมากกว่าคำถาม นั่นคือเจตนาของเขาเสียมากกว่า ทำไมคนเราที่เป็นแค่พี่เลี้ยงในที่ทำงาน ต้องแคร์กันมากขนาดนี้ด้วย


“อยากให้จัดการทุกเรื่องครับ”


“………”


“เราน่ะ จะยี่สิบแล้วนะ พอเรียนจบก็ต้องมาทำงานกับคุณรบ อันนี้รู้ตัวดีใช่ไหม”


“อืม”


“แล้วคิดว่าเราในตอนนี้เป็นได้ไหม”


“ไม่ได้ครับ”


“ได้ครับ ไหนพูดใหม่สิ”


“หึ พายยังไม่เก่งแบบพี่เพชรเลย”


“พระพายไม่มีวันเก่งเหมือนพี่ เหมือนที่พี่ไม่มีวันเป็นคนดีได้เท่าพระพาย” 


“แต่พายเพิ่งทำพลาดไป”


“ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน”


“พี่เพชร….”


“พระพายเป็นเลขาคุณรบแล้วนะ เนี่ยมะรืนนี้ก็เป็นอีกแล้ว ไม่พร้อมตอนนี้จะไปพร้อมตอนไหนครับ”


“อืม”


“แล้วพอเปิดเทอมมาพระพายก็จะกลับไปเป็นนักศึกษาที่โดนคนทั้งมหาลัยนินทา”


“……….”


“พี่ไม่ว่าถ้าพระพายจะนิ่งเฉย แต่ถ้าโอกาสมาแล้วลองคว้าดูไหมครับ”


“โอกาสเหรอครับ”


“ใช่ครับ ถือว่าเป็นโอกาสลองสนามก่อนมาสู้ในสนามจริงของการทำงานดูนะ”  น้องกำลังทำความเข้าใจกับมันอยู่ พระพายไม่เคยคิดอยากจะสู้ใครเพราะหวั่นใจกับความพ่ายแพ้ ด้วยความรักความสมบูรณ์แบบของตัวเองเลยไม่อยากยอมรับหากจะแพ้ในเรื่องงี่เง่าแบบนี้จึงเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับคนมากมายและยอมรับความโดดเดี่ยวที่ไม่เคยทำลายกัน เพชรเข้าใจตรรกะของพระพายดี แต่เขาแค่ไม่ได้แสนดีแบบน้องเท่านั้น


เขามันตัวร้ายหรือไม่ก็เป็นเพื่อนพระเอกมาตลอด ไม่มีทางที่จะเป็นคนดีที่โง่ๆแบบพระเอกในละครที่ทำร้ายนางเอกมาทั้งเรื่องเพื่อมางอนง้อขอคืนดีในตอนท้าย แต่เขาคือใครสักคนที่จะเอื้อมมือไปคว้านางเอกเอาไว้และไม่มีวันยกให้ไอ้พวกแอบอ้างเป็นพระเอกหน้าไหน เขาจะฉุดน้องให้ต่ำลงมาถึงจุดที่ต้องจับถอดออกจากการเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้ และมาเกลือกกลั้วอยู่กับเขา ในเมื่อทำตัวเองให้เหมาะสมกับพระพายไม่ได้ ก็มีทางเดียวคือทำให้พระพายเหมาะสมกับเขาเท่านั้น


และเพชรก็ได้ริเริ่มแผนการนั้นมาเกือบปีแล้วตั้งแต่วันนั้น…
วันที่พระพายได้สารภาพความรู้สึกกับเขา….


Talk:  หลังจากที่เพิ่งเอาคอมไปซ่อม เราก็รีบมาลงอย่างด่วนเลยยยยยยยยยยย พ่อพระเอกต่อเรืออย่างขะมักขะเม้น ยิ่งเห็นน้องเปิดให้ยิ่งได้ใจไปฉุดกระชากลากถูชาวบ้านเขา เรือนี้ไม่ต้องการลูกเรือจริงๆ กัปตันขยันมาก5555
เรื่องนี้จะถูกใส่ในเล่มชุดเดียวกับเจนไม่นกด้วยค่ะ ในเล่มจะมีอีกคู่คือเคลจุ้น แต่อีกคู่ที่กำลังจะแต่ง(คือยังไม่ได้แต่ง)คือคู่พี่น้องวินกับพี่ลูกชุบตัวละครใหม่ของเรา ฮืออออออออ
วันก่อนเราได้เห็นดราฟท์ของหน้าปกทั้งสาม(บอกก่อนว่ามีสามเพราะยาวมากจริง) น้องวินน่ารักมากกกก แต่ยังเอามาอวดไม่ค่อยได้เพราะต้องแก้อีก5555 พร้อมเมื่อไหร่จะเอามาอวดค่ะ รอหน่อยน้า
Twitter @reallyuri
Facebook  https://www.facebook.com/pages/category/Writer/Skylover-x-novels-249101909234202/
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2018 17:21:13
 :fire: ไฟสู้ลุกพรึบพรับ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 16-09-2018 17:22:16
พี่เพชรดูแลทุกอย่างเลย  o13       ว่าแต่พระพายไปสารภาพความรู้สึกกับพี่เพชรตอนไหนนี่

รอๆตอนต่อไปนะคะ  :3123:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-09-2018 21:11:01
เดี๋ยวก่อนนะพี่เพชร น้องพระพายไปสารภาพความรู้สึกกับพี่ตอนไหนเนี่ย
น้องพายน่ารักมากเลย อยากจับมากอดมาหอมหัวสักที สู้ๆนะรูกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 16-09-2018 22:48:43
 o13 o13
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-09-2018 00:14:47
พี่เพชรดูแลน้องพายดีๆ นะครับ //สงสารน้องจัง ทำไมชีวิตน้องต้องถูกนินทาว่าร้ายตลอดเลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-09-2018 01:09:18
อิพี่คะ อ้อยมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-09-2018 15:31:18
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-09-2018 21:50:22
หืม?อะไรนะ!?พระพายสารภาพรัก โอ้ยยยย พระพายลูกกกกกกทำไมหนูไปเห็นดีเห็นงามกับอิตาพี่เพชรเนี่ยหืม แล้วทำไมอิพี่มันไม่รับรักน้องไปเลยล่ะมาเต๊าะไว้ทำไม
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่5) 16.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-09-2018 15:55:22
ชอบที่พระพายใสซื่อน่ารัก แต่ก็ต้องสู้คนและทันคนเพราะถ้าอยากทำงานเป็นเลขาคุณรบพระพายต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง สู้ๆนะพระพาย :กอด1:
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 18-09-2018 19:26:45
เพชรพระพาย
#พระพายให้หวย


“แล้วนี่พระพายจะกลับยังไงครับ”


“…….”


“พี่ไม่ให้กลับรถตู้หรอกนะ”  แล้วพระพายจะกลับยังไงล่ะ


“งั้นพี่เพชร…ไปส่งพายหน่อยได้ไหม”


“……….”


“แลกกันนะ เดี๋ยวคราวหน้าพายเอารถมาจะพาไปส่ง”  เขายิ้มออกมา เริ่มคิดว่าเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ…


“ไม่ใช่พระพายตั้งใจหรอกเหรอที่จะให้พี่ไปส่งอ่ะ”


“………”


“แงะๆๆๆๆๆๆ”


“ก็พายไม่รู้ว่าจะง้อได้ตอนไหน ใครจะไปรู้ล่ะเห็นตัวใหญ่ใจอาจจะน้อยก็เป็นได้”


“เลยกะขอเนียนมาง้อในรถต่อ และรถนี่เอาไปเข้าศูนย์จริงเหรอ? ใช้ได้เลยนะเรา พี่ต้องคิดใหม่ทำใหม่แล้ว”  ว่าพระพายไม่ได้ไร้เดียงสาจริง ไม่…พระพายอะไร้เดียงสา ไม่งั้นไม่จับกันได้ง่ายขนาดนี้หรอก


“วันหลังพี่เพชรห้ามงอนพายแล้ว พายไม่มาง้อแล้วด้วย”


“อ้าวได้ไง ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบสิ”


“รับอะไร พายไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”


“งุ้ยยยยยยย”


“พี่เพชรอ่ะ พายจะฟ้องพี่เจน”


“ฟ้องให้มาแง๊วๆใส่พี่เหรอครับ”


“หึ ฟ้องพี่เจนให้ไปแง๊วๆใส่คุณรบแล้วให้คุณรบมาจัดการ”


“พี่ก็จะบอกคุณรบว่าโดนพระพายรังแก”


“พายเป็นเด็กดี คุณรบไม่เชื่อหรอก”


“จ้ะ….คุณรบไม่เชื่อหรอกจ้ะ”


“………”


“แต่พี่อาจจะถูกไล่ออกฐานไปรังแกลูกรักของพี่เจนได้นะเนี่ย โปรดเมตตาคนขี้แกล้งที่ไม่ได้ตั้งใจแต่เจตนานะครับพระพาย”


“พี่เพชรขี้แกล้งอ่ะ”


“ครับพี่ขี้แกล้ง”


“เห็นไหม”


“แต่พี่แกล้งเราได้คนเดียวนะ”


“……….”


“ใครแกล้งเราพี่ไม่เอาไว้นะครับ”  และเขาเหมือนจะหมายความตามนั้น


เพราะแววตาของเขา…บอกพระพายเช่นนั้น….จริงๆ


ทุกอย่างดูจะเป็นไปในทางที่ดี ทั้งเรื่องการงานและความสัมพันธ์ หลังจากกลับมาบ้านและเข้าสู่วันทำงาน พระพายก็กลับมาตั้งใจทำงานอีกครั้งอย่างระแวดระวังกว่าเดิม ในตอนนี้ไม่ว่าใครจะไหว้วานให้ทำอะไร ก็ไม่ตกปากรับทำไปเสียทั้งหมดแล้ว แน่นอนว่ามันอาจจะสร้างความไม่พอใจบ้าง แต่พระพายก็เอาตัวรอดมาได้ ความก้าวหน้าที่ได้เห็นนั้นทำให้เพชรพึงพอใจว่าลูกศิษย์ของตนนั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีอย่างที่เขาต้องการจริงๆ


หากไม่แน่ใจ พระพายก็มักจะปรึกษาแต่มันไม่ใช่การถามแบบไม่คิดมาก่อน พระพายมักหาวิธีด้วยตนเอง แต่ก็ยังมาถามเขาว่าวิธีนี้มันโอเคไหม และเพชรก็มักจะให้คำปรึกษาสอดแทรกไปเสมอในเคสที่เจอมาใกล้เคียงกัน การทำงานกับรัตนสกุลนั้นดำเนินต่อเนื่องไปได้ด้วยดีจนตอนนี้ทุกคนต่างคุ้นหน้าชินตาน้องกันหมดแล้ว แต่วันนึงสถานะชั่วคราวก็ต้องจบลง


และพระพายก็ต้องกลับไปเรียน….


“วันนี้พี่เพชรต้องได้เลี้ยงข้าวพระพาย”เขาพูด


“เพราะพี่เพชรกินข้าวพายฟรีมาหลายมื้อแล้วใช่ไหม”  พระพายก็กล้าหยอกเอินเขามากขึ้น มันเป็นธรรมดาของคนที่ได้เปิดใจต่อกัน และเพชรก็เฝ้ารอความคืบหน้าทางความสัมพันธ์ให้มันเกิดขึ้นมาสักพักแล้ว


“ของพระพายที่ไหน แม่จินฝากมาให้พี่ไม่ใช่เหรอ”


“พี่เพชรต้องไปทำเสน่ห์ใส่แม่ของพระพายแน่เลย เอ็นดูหนักกว่าลูกตัวเองแล้วนี่” วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พระพายต้องมาทำงานที่นี่ แต่เมื่อเปิดเทอมและตารางเรียนออก ถ้าพระพายมีเวลาก็ว่าจะมาช่วยถ้าทำได้ ยังไงพระพายยังหวังว่าจะได้เรียนรู้งานให้มากที่สุด วันหนึ่งเพชรพิสุทธิ์อาจจะโดนเลื่อยขาเก้าอี้จริงๆ เขาเดินนำน้องไปร้านอาหารที่เลือกไว้ จองโต๊ะที่ดีที่สุดไว้แล้ว และแน่นอน….ได้ขอคุณพ่อพระพายทื่ชื่อคุณรบไว้แล้วเช่นกัน


ว่าวันนี้ขอพาลูกชายสุดหวงมาทานข้าวปรับทัศนคติหน่อยนะ


“แล้วพระพายทำเสน่ห์ใส่แม่พี่ไหม ทุกวันนี้เอะอะอะไรก็พระพาย เจอกันแค่วันเดียวนี่แทบจะยกไร่ยกสวนให้แล้ว”  สิ้นคำวิจารณ์ของเขาพระพายก็ยิ้มยิ้มจนตาหยี คนตัวบางกอดเมนูแล้วทำหน้าล้อเลียนเขา ถ้าคิดจะทำให้โกรธล่ะฝันไปเถอะ มันน่ามันเขี้ยวเสียมากกว่าจริงๆ


“พระพายจะไม่ยอมเสียดุลให้พี่เพชรหรอก แม่จินรักพี่เพชรนักใช่ไหม ได้!งั้นพระพายยึดคุณไพลินของพี่เพชรแทน”  พระพายช่างหยอกไม่ดูตาม้าตาเรือ


“งั้นพี่ยอมเสียดุลก็ได้ครับ”เพราะตาเพชรมันรอจังหวะนี้มานานแล้ว“งั้นมาแลกแม่กันเนอะ พระพายเรียกคุณไพลินว่าแม่พิน ส่วนพี่เพชรเรียกน้าจินว่าแม่จิน เท่าเทียมกันไหมครับ”


“…………”


“เงียบทำไมล่ะ ไม่อยากโดนโกงไม่ใช่เหรอเรา” 


“คนบ้า”  ทำไมเขาบอกว่าเราเท่าเทียม แต่แววตาเป็นประกายของเขาทำให้พระพายรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบเลยล่ะ ไม่แฟร์เลยที่เขามองกันวิบวับแบบนั้น แต่ตัวพระพายกลับไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมามองเขาได้อย่างเต็มตาด้วยซ้ำ พี่เพชรขี้โกง พระพายต่อว่าในใจ ไม่ยอมแพ้แต่จะพาล


“อ้าว พี่ไม่ได้เข้าใจถูกเหรอว่าเราอยากมาเป็นลูกของแม่พี่อีกคน”  นิ้วมือของเขาที่อยู่ๆมาจากไหนไม่ทราบค่อยๆเชยคางของพระพายให้หันมามอง เพชรพิสุทธิ์ไม่อ่อนโยนเลย


“ใครอยากจะได้แม่พี่เพชรมาเป็นแม่ตัวเองกัน”  พระพายบ่นงุ้งงิ้ง แววตาต่อต้านแต่สั่นระริก พระพายเป็นเด็กดื้อที่เขาชอบที่สุด มันทำให้ภายในของเขาระอุไปด้วยความต้องการบางอย่าง ต้องการจะปราบเด็กดื้อ


“แต่พี่อยากได้แม่ของพระพายมาเป็นแม่จะตาย ใจดี ทำอาหารเก่ง” 


“ก็ไปขอแม่สิ” 


“พูดแล้วนะ”


“…………”


“ถ้าแม่ให้แล้วห้ามมาแง้วๆใส่พี่นะ”  มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเพชรจะไปขออะไรกับแม่ของพระพายหรือเปล่าแต่ตอนนี้คิดดีไม่ได้เลยอ่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!


อาหารมาเสิร์ฟแล้ว คาดว่าถ้าตอนนั้นยังหยอกน้องไม่หยุด ต้องมีคนเขินจนล้มโต๊ะเป็นภาระคนหยอกไปอีก เพชรนั้นตักอาหารใส่จานน้อง ทำเป็นใจดี แต่หน้าตาดูก็รู้ว่าทำดีหวังผล พระพายกล่าวขอบคุณ ไม่แน่ใจว่ารับรู้ถึงเจตนาหรือไม่ แต่คงพอรู้ว่าโดนเพชรเล่นของใส่ เพราะใจมันสั่นไหวทุกทีที่เขาทำอะไรแบบนี้ คาดว่าถ้าเขาทำของใส่กันทั้งวัน พระพายคงไม่เป็นอันได้ทำงานทำการ


“จันทร์หน้าเปิดเทอมแล้วใช่ไหม แล้วกลับหอวันไหนเหรอ”


“ว่าจะกลับวันจันทร์เลยครับ”


“ว้า งี้ก็อดเจอเลยอ่ะดิ”  หรือพระพายจะพยายามเลี่ยงจริงๆ เขินหนักมาก เขินไม่ไหวแล้ว


“ถึงพระพายกลับก็ไม่บอกพี่เพชรหรอก เราจะอยู่เงียบๆไม่ออกไปไหน”


“เดี๋ยวพี่ไขกุญแจเข้าไป” 


“แน่ะ ฟ้องแม่จริงด้วย”


“กลัวแม่จินตีพี่เพชรจังเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะ เรากล้าทำกล้ารับผิดชอบ”


“พอเลยพี่เพชร ที่บ้านปลูกอ้อยขายเหรอครับ พายเลี่ยนไปหมดแล้ว”  โดนตอกกลับแบบตรงๆด้วยความทนไม่ไหว เขาดีใจที่พระพายไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดดูไม่ออกว่าที่เขาเพียรขายตรงไปนั้นหมายถึงอะไร แต่ขายเก่งขายบ่อยขนาดนี้ ถ้ายังตีมึนได้อีก พระพายก็ซึนกว่าคุณรบและคุณเจนรวมกันแล้ว


“ไปเรียนแล้วก็อย่าเพิ่งมีแฟนนะครับ ใครมาจีบก็ให้บอกว่าพ่อดุมากเอาไว้รู้ไหม”


“บ้าเหรอ จะมีใครจีบ”


“ก็นี่ไง”


“………..”


“พี่ตั้งวงเป็นด้วยนะ เดี๋ยวรำให้ดู”


“พี่เพชรอ่ะ ไปเซิ้งหน้าร้านเลยนะ อย่ามาเซิ้งตรงนี้ พระพายอายเขา” เขาหัวเราะลั่น ก็บอกแล้วว่าพระพายน่ะ เขาแกล้งได้คนเดียวเท่านั้น เพราะแกล้งแค่นี้พระพายก็ตัวแดงเป็นกุ้งแล้ว ถ้าให้คนอื่นมาแกล้งอีก คงอกแตกตายจริงๆ แล้วเพชรก็ยอมให้คนอื่นมารังแกพระพายของเขาไม่ได้หรอก พระพายเป็นของเขาคนเดียวก็พอแล้ว และแม้เขาจะแสดงชัดเจนกับอีกฝ่ายและรู้ถึงความรู้สึกของพระพายมาตั้งแต่ต้น แต่เรายังเป็นแฟนกันไม่ได้หรอก


พระพายอาจจะชอบแต่ยังยอมรับเขาจนเต็มหัวใจไม่ได้….


xxx


#พระพายให้หวย กำลังเป็นที่ร่ำลืออยู่ในตอนนี้


พระพายแทบไม่อยากจะเชื่อว่าในระยะเวลาแค่ปีเดียวจะมีเรื่องต่างๆมากมายเกิดขึ้นกับตน โดยส่วนตัว พระพายแทบไม่เล่นเฟซบุคและตัวเองก็มีแค่อินสตราแกรมที่แม้จะตั้งพับบลิคไว้แต่ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นด้วยเท่าไหร่ หลังจากที่มีข่าวเสียหาย พระพายก็แทบไม่สนใจโซเชี่ยลให้ต้องน้อยอกน้อยใจอีกเลย และเพราะเช่นนั้นตนจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นี่พระพายกำลังมีแท้กเป็นของตัวเองเหรอ?


“แล้วพระพายไม่รับโทรศัพท์เราเลยอ่ะ”  พริมพราวยังคงบ่นอยู่ เธอโทรหา ส่งข้อความ ทำทุกอย่างจนต้องมาเคาะประตูห้องเด็กเลี้ยงแกะของพี่เพชรที่บอกว่าจะกลับมาวันจันทร์ ตอนนี้พระพายมาอยู่ที่หอแล้ว และเพิ่งจะจัดห้องเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องรัวๆ กะว่าถ้าเป็นพี่เพชรจะงอนให้ ทว่าพอมันไม่ใช่ก็ได้แต่งงๆ ร่างบางมองเจ้าของห้องข้างๆที่มายืนพิงประตูยิ้ม เขาเป็นคนลากน้องกลับมาเอง มารถคนละคันก็จริงแต่ว่าสุดท้ายก็จองผูกขาดการกินข้าวทุกมื้อกับพระพายไว้ และเพชรก็รู้ว่าพระพายไม่รู้อะไร เพราะน้องแทบไม่แตะมือถือเลย จะเอาเวลาที่ไหนไปแตะในเมื่อเขายังก่อกวนไม่หยุดตลอดมื้อ


“ไม่ได้ยินเลยอ่ะ ขอโทษนะ”  พอเขายิ้มร้ายใส่แบบนั้น พระพายก็ได้แต่โทษว่ามันเพราะเขาคนเดียว แล้วพริมพราวเข้ามาได้ไงนี่ ที่นี่เป็นหอรวมก็จริงแต่แยกชั้นชายหญิงชัดเจนนะ ไม่ต้องเดาเลยว่าใครพาเข้ามา ก็พระพายเห็นนี่ว่าพี่เพชรแลกเบอร์กับเพื่อนทุกคนของพระพายเอาไว้! ที่เลี้ยงข้าววันนั้นนะคุ้มทุกเม็ดทุกดอกเลยทีเดียวเชียวแหละ


“เนี่ยพระพายไปให้หวยพี่ปี3 แต่ไม่เคยให้เราเลยนะ แล้วนี่ไปสนิทสนมกันได้ยังไง”


“พายไม่ได้ให้”


“แล้วอยู่ๆเขามาเอาวันเกิดของพระพายไปแทงหวยนี่เหรอ”


“ง่า พี่เขาเป็นพี่รหัสของพี่เทคเรา เผอิญเราไปทานข้าวด้วยกัน”


“แล้วพระพายไปทานข้าวกับคนไม่รู้จักได้ไง”  พริมพราวถามยากไปอีก พระพายได้แต่ถอนหายใจพลางมองค้อนหัวหน้าลูกสมุนผู้ริเริ่มแท้กที่ทำเหมือนน้องเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพรุ่งนี้มีคนเอาธูปใส่น้ำแดงมาให้นะ พระพายจะไปฟ้องแม่พี่เพชร!


แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องมานั่งอธิบายให้เพื่อนของตนเข้าใจลำดับความเป็นมา และได้ไงไม่รู้ พี่เพชรตัวดีก็มานั่งๆนอนๆอยู่ในห้องพระพาย เนียนเข้ามาพร้อมกับทัตที่นั่งไถมือถือคนเดียวเงียบๆ แม้จะเจ็บใจสุดแสนแต่ก็ต้องจดจ่ออยู่กับการเล่าและการตอบทุกคำถามเสียก่อน ไม่งั้นแทนที่จะได้แง้วๆใส่พี่เพชร อาจจะต้องโดยพริมพราวแง้วๆใส่ก่อนจริงๆ และเมื่อพระพายได้เล่าทุกอย่างแล้ว พริมพราวก็เอาแต่มองหน้าเจ้าของห้องและคนเสียมารยาทสับกันไปมา ระยะเวลาแค่เดือนเดียวเอง อะไรมากมายมันเกิดขึ้นเยอะจริงๆเริ่มเชื่อแล้วที่เขาลือว่าตาคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นแต่หมายถึงยากุซ่าหรือแมลงสาปกันล่ะ


“งั้นตอนนี้พระพายก็มีพี่เทคแล้วอ่ะดิ”


“อื้ม พี่เขาจะเอาเลคเชอร์มาให้เราด้วย พี่เพชร พายแบ่งให้เพื่อนไปซีรอคได้ไหม”


“ได้สิครับ มีอะไรก็ถามได้นะ เห็นงี้พี่ A วิชาLinguistic นะ”  พริมพราวหันขวับ คนหน้าตาแบบนี้นะเหรอที่ได้เอวิชาที่ใครๆก็บอกว่ายากกัน


“พี่เพชรได้เกียรตินิยมด้วยนะ จบเอกจีนโทอิงค์ด้วย”  พระพายอธิบายเพิ่มเติมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับรุ่นพี่บัณฑิตที่ดูนิสัยไม่ค่อยดีคนนี้ พริมพราวยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ ถ้ามองแค่หน้าก็คิดว่าอาจจะจบวิศวะเครื่องกล แต่ก็พอจะได้ยินมาก่อนว่าเรียนคณะเดียวกันและเป็นคนดังของรุ่นแค่ไม่คิดว่าจะดังเรื่องวิชาการ….


“ถ้าพี่ไม่โดดเข้าเชียร์ต้องได้เป็นเดือนมหาลัยด้วย พระพายขายให้หมดสิ ว่าพี่หล่อด้วย”  พระพายถลึงตาใส่ ทำไมคนเราหน้าด้านมาชมตัวเองบนเตียงคนอื่นได้ขนาดนี้ และสมมติฐานของเขาจะเว่อร์ไปไหม แค่เดือนคณะไม่พอใจ ต้องมั่นหน้าไปเทียบตัวเองกับเดือนมหาลัยด้วย คิดว่าตัวเองหล่อหรือไงเออหล่อ พระพายก็ชอบแหละ แต่หมั่นไส้มากๆอ่ะ


“เลคเชอร์ของพี่เพชรดังมากครับ”  ธนทัตเอ่ยขึ้น หลังจากที่เขาไม่ได้พูดอะไรเลย ก็อย่างว่า ทัตเป็นคนเงียบๆพูดไม่ค่อยทันใคร แต่ข้อมูลก็แน่นอยู่นะ


“นี่ว่าจะไปขอเก็บเปอร์เซ็นกับร้านซีรอคใต้คณะเหมือนกัน เก็บไว้ซะอย่างกับว่าเป็นแบบเรียนคู่ของวิชา”  แต่ต้นฉบับที่สายรหัสสืบทอดจะมาครบถ้วนกว่า รวมถึงชีทสรุปและเก็งข้อสอบ เขาเป็นคนดังล่องหนของคณะจริงๆ คนส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าเพชรพิสุทธ์รหัส 074 แต่น้อยคนในปัจจุบันจะรู้จักหน้าตา นี่เป็นปูชยนียบุคคลหรือไง ดีนะ สร้างตำนานไปคู่กันกับพระพายให้หวย


“ว่าแต่เขาพูดถึงพระพายกันด้วย แต่เราไม่ได้เอามาคุยด้วยเพราะพระพายเคยบอกว่าไม่อยากรู้”  พริมพราวพูดขึ้น ใบหน้าของพระพายเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมายิ้มอีกเหมือนเดิม นี่ปลอบใจตัวเองอยู่เหรอ….เด็กขี้กลัว


“อืม พูดพร้อมๆกับเรื่องหวยเลย ดังใหญ่แล้ว ระวังมีคนมาขูดขอเลขนะ”  ทัตเสริม


“ถ้าพระพายแม่นจริง ป่านนี้ไม่เรียนแล้ว เราจะซื้อหวยและนอนอยู่บ้าน” เพชรยิ้ม ไฮเปอร์แบบกระต่ายพระพายทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก แต่ก็เอาที่น้องสบายใจ อยากนอนไม่ต้องเล่นหวยก็ได้ เดี๋ยวเขายกตำแหน่งคนเก็บค่าเช่าให้แล้วสถาปนาน้องเป็นคุณนายประจำหอพักแทนการเป็นว่าที่เลขาคุณรบ และแน่นอน ต้องโดนบรรดาองค์รักษ์บ้านรัตนสกุลเป่าดับระหว่างทางกลับบ้านอย่างไม่ต้องเดา


เขามองน้องที่ไปบังคับให้กลับมาที่หอด้วยกันในวันเสาร์หลังจากที่ไปกินอาหารด้วยกันในวันศุกร์ หากไม่เข้าทางแม่สงสัยพระพายจะกลับมาวันจันทร์จริงๆ และเพราะเขาบอกว่าจะช่วยดูแลให้ แม่จินตนาที่รักและหวังดีกับลูกกว่าใครก็ส่งลูกเข้าปากหมาป่า ให้เจ้าตัวเล็กขับรถมาหน้ามุ่ยตลอดทาง เพชรนี่โลภมากนะ เจอทุกวันทำงานและยังอยากเจอกันในวันหยุดอีก ถามจริงจะไม่ให้พระพายพักเลยหรือไง ใช่…..ให้พักไม่ได้


เพราะต่อไปน้องจะไม่ได้มีแค่เขาเป็นตัวเลือกอีกต่อ


เพชรมั่นใจในตัวเองและตัวน้องในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องหาทางป้องกันไว้ ทุกวันนี้แทบจะสวดมนต์เป่าหัวพระพายทุกวันให้เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าพระพายทำหน้ารับไม่ได้กับความสนิทสนมเข้าขั้นลามปามของคนพี่ที่กระทำต่อกัน ก็บอกแล้วว่าชาตินี้พระพายเกิดมาใช้กรรม ส่วนนายเพชรนั้นก็เกิดมาก่อกรรมไปเรื่อยๆเพื่อได้กลับมาเจอกันใหม่ชาติหน้าอย่างไรเล่า


“แต่พระพายไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก พี่เขาเขียนถึงพระพายดีมากเลย”


“ว่าแต่ใครเขียนถึงอ่ะ”


“พี่ชิ้นอ่ะ พระพายรู้จักปะ”


“อ๋อ พี่ปีสามของพี่เทคพายเอง”  พระพายเหลือบไปมองบรรพบุรุษสายของพี่ชิ้นที่ยิ้มให้บางๆ เขาไม่ได้ตกใจเลย อาจจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วหรือไม่ก็มีส่วนร่วมเต็มๆ พระพายยังจำได้ถึงสิ่งที่เขาพูด


พี่เพชรอยากให้พระพายเปลี่ยน


“ดีแล้วที่ไปให้หวยถูกคน”  ทัตพึมพำเบาๆแต่พวกเราล้วนได้ยิน พระพายไม่เคยอยากจะสนใจเรื่องข่าวลือของตัวเองเท่าไหร่และประกาศตัวชัดเจนไม่ให้เพื่อนพูด แต่ท่าทางเพื่อนและรอยยิ้มของเขามันทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา


ความอยากรู้ที่มีแสงของความหวังประดับประดา


หลังจากที่เพื่อนกลับห้องกลับหอตัวเองกันไปหมด พระพายก็จัดการขับไล่คนข้างห้องให้ออกไปอย่างสุภาพหูที่สุด ในที่สุดก็มีเวลาอยู่กับตัวเองเสียที แล้วตอนนี้พระพายก็จะค่อยๆส่องดูว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทำใจอยู่ไม่นานก็ล็อคอินแอพพลิเคชั่นที่มีไว้แต่ไม่เคยใช้ หวังว่าตอนนี้ตลาดจะยังไม่วายจนไม่สามารถหาต้นตอของอะไรได้เลย โชคดีที่พี่รหัสของพระพายคนนึงส่งคำขอเป็นเพื่อนมาให้และเขาไม่ได้ล็อคเฟซไว้จึงเข้าไปส่องเงียบๆก่อน และพระพายก็ได้เห็น….


ว่า #พระพายให้หวย คืออะไร


Chinn Chinapat

เมื่อวานนี้ เวลา 18.00 น.

จริงๆก็เจอน้องมาสักพักแล้ว ก็แบบอย่างที่พูดไปแหละเว้ยว่าน้องไม่หยิ่งเลยยยยย ถ้าปูชนียบุคคลของคณะอย่างเฮียเพชรเจ้าของเล็คเชอร์วิชาบังคับชื่อดังของคณะไม่พาไปแดกข้าวกับน้องล่ะก็ พวกเราคงแบบไม่รู้ว่าน้องพระพายผู้ฉาวโฉ่เป็นคนแบบไหน เออจริงๆมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของพวกกู(หรือพวกมึง)ด้วยแหละที่จะไปตัดสินว่าเขาเป็นคนยังไง เอี้ยแค่ไหน แต่แบบเออพระพายนี่แม่งควรยกให้คนดีมารยาทเด่นของสังคมอ่ะ  กูไม่เคยเจอใครที่ใสได้ขนาดนั้นมาก่อนจริงๆเว้ย คือเล่นมุกทะลึ่งน้องแม่งก็ไม่รับแบบหน้าเอ๋อๆตามไม่ทันจนพวกกูรู้สึกบาป
 /พนมมือและพนมมือหนักกว่าที่ขอวันเกิดน้องไปแทงหวยแล้วเสือกถูกเลขท้ายสองตัว
นี่กูมาตั้งเตตัสเพื่อสรรเสริญน้องเทวดาที่แท้ทรู เพราะน้องเลย พี่ถึงมีเงินกินไปอีกเดือน
/กราบแบบเบญจางค์ #พระพายให้หวย

เอออีพวกขี้นินทาเจ้าตัวเขาก็ยอมรับนะว่าแม่เขาทำงานเป็นแม่บ้าน ไม่ได้รวยแถมได้ทุนบ้านเจ้านายส่งเสีย น้องไปฝึกงานบริษัทเขาด้วยเว้ย ไม่ได้อยู่เฉยๆเกาะใครกิน หรือมีเสี่ยเลี้ยง เออกูแบบเข้าใจเลยเว้ย เจอเด็กน่ารักแบบนี้เป็นกูนะโยนเป๋าตังค์ให้เลย ไม่แปลกที่บ้านเจ้านายจะค่อดเอ็นดู แต่แม่เขาสอนมาดีมากๆมึง  มีมารยาทใครอยู่ด้วยก็โคตรสบายใจ จังไรอย่างพวกกูอยู่ด้วยแล้วเหมือนได้ฟังธรรมทั้งๆที่น้องแม่งไม่ได้พูดอะไร คือแบบต้องบาปหนาขนาดไหนวะถึงเกลียดและใส่ความเขาลงอ่ะ  พวกมึงไม่กลัวตกนรกกันเหรอวะ กูนี่เห็นพระพายที อยากถามหาทางไปสวรรค์เลย ฝากถามน้องมันหน่อยได้ไหมว่ามีพี่น้องหรือเปล่า อยากจีบ

/พระพายน่าจะติดจองแล้วอีกครั้งน้องให้หวยแม่นมาก ตามไปกราบตีนน้องซะ #พระพายให้หวย
/อันนี้เฟซส่วนตัว ใครด่าพระพายให้กูฟัง เจอกูหลังตึก 17
/อีคนมาด่าพระพายมึงต้องมีหลักฐานว่าเขาเอี้ยยังไงมาให้กูดู ไม่งั้นสายกูจะไปแหกมึงกลับ
/ดูไม่รู้เลยว่ากูเอฟซีใคร
/สายกูที่ยังมีชีวิตวนเวียนเป็นสัมภเวสีรัศมีนี้ รับเทคพระพายทั้งสายเว้ย
/อยากได้พระพายเป็นสะใภ้สาย ต้องทำยังไง อร๊างงงงงงงงงงงงง
ขออนุญาตแท้กพ่อมาถามความได้คืบเอาศอก เอ้ย! ความคืบหน้า @Petchpisut J อร้างงงงงงงงง


“………..”  นี่มันอะไรกัน….


ข้อความของพี่ชิ้นหรือพี่ปี 3 ในสายของพี่เพชรนั้น มีคนแชร์และแสดงความคิดเห็นมากมาย พระพายเพิ่งรู้ว่าเขาแอบถ่ายรูปพระพายที่ยิ้มกว้างจนตาปิดไว้และเอามาโพสต์ลงด้วย จริงๆพระพายต้องโกรธหรือเปล่าที่โดนละเมิดแบบนั้น ทว่าสิ่งที่รู้สึกมีแต่ความตื้นตันใจในคำอธิบายตัวตนของพระพายที่เขารู้สึก ก็ไม่ได้หวังให้ใครมาเข้าใจหรือชื่นชมเยินยอ แต่มีสักคนที่เห็นว่าพระพายไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร แค่นี้ก็ดีใจแล้ว และพระพายไม่ได้หวังว่าคอมเมนท์เหล่านั้นจะเห็นด้วยหรือไม่ แค่พบว่าสายของพี่เพชรยินดีต้อนรับกัน มันก็น่าพอใจแล้วจริงๆ


ทว่าพระพายก็อดจะอยากรู้ว่าคนที่ถูกแท้กมา…ได้มากับเขาจริงๆหรือเปล่า


PrimprowJindaworanan ทำไม#พระพายให้หวย ไม่เคยบอกเพื่อน!

ธนทัต สิงหเวโรจน์@PrimprowJindaworananเพราะเธอบุญไม่ถึง

PrimprowJindaworanan @ธนทัต สิงหเวโรจน์แรงมากกกกก ใจเพื่อนบางไปหมดแล้ว

เจตน์ เจตภัทร
#พระพายให้หวย ลืมซื้อครับไอ้สัด

Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร อะ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ครับ

เจตน์ เจตภัทร @Chinn Chinapatมาเลี้ยงกูเลย

Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทรกูเป็นน้องครับ

เจตน์ เจตภัทร @Chinn Chinapat ขึ้นกูมึงกับพี่ปีห้าได้เหรอครับ

Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร พ่อ @Petchpisuth J พารูกมาให้ขูดหวยที

Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร @Petchpisuth J หวัดดีครับพ่อ

Teerawut TEETEE @Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร @Petchpisuth J ใครพ่อน้อง #พระพายให้หวย

เจตน์ เจตภัทร @Chinn Chinapat@PetchpisuthJ@Teerawut TEETEE พ่อทูนหัวไง

Teerawut TEETEE @Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร @Petchpisuth J ใช่เร้ออออออออ

เจตน์ เจตภัทร @Chinn Chinapat@Petchpisuth J@Teerawut TEETEE งุ้ยยยยยยยยยยย ไปลากมาให้ครบสายจะได้โชว์สะใภ้

Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร @Petchpisuth J@Teerawut TEETEEงุ้ยยยยยยย พ่อทูนหัวของน้อน

Teerawut TEETEE @Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร @Petchpisuth J แน่ะพ่อเงียบ

เจตน์ เจตภัทร @Chinn Chinapat@Petchpisuth J@Teerawut TEETEE  เฝ้าเด็กอยู่เห็นในไอจีไหม ไปนอนเตียงใครก็ไม่รู้ผ้าปูที่นอนสีหวานเชียว

Chinn Chinapat  @เจตน์ เจตภัทร @Petchpisuth J@Teerawut TEETEEงุ้ยยยยยย


จริงๆมีคอมเมนท์ของคนนอกด้วยแต่อ่านแค่นี้พระพายก็หน้าร้อนแล้ว ทำไมแซวกันเก่ง สายนี้นี่ติดเชื้อเหรอ ควรจะพาไปเข้าหน่วยกักกันไหม พี่เพชรเลี้ยงด้วยอะไร ทำไมนิสัยเสียคล้ายกันแบบนี้ เอาพระพายไปเทคอย่างนั้น พระพายจะบ้าตามหรือเปล่า นี่คุ้มไหมกับความอยากรู้อยากเห็นบ้าๆบอๆ แต่ก็ดีใจที่หลายคนที่มาคอมเมนท์ต่างแสดงความคิดเห็นไปในทางที่ดี ไม่มีใครกล้าว่าพระพายในนี้สมกับที่โดนขู่ไว้ พระพายส่องไปเรื่อยๆ พยายามไม่สนใจการชงและแซวตั่งต่างของพี่น้องผองเพื่อนร่วมสถาบัน จนกระทั่งได้เห็นภาพไอดีคุ้นตาที่มาตอบปัญหาเชาวน์ของชาวสายสักที


แบบไม่เมนชั่นใครเป็นพิเศษ


Petchpisuth J ครับ

 
ง่ายๆสั้นๆคลุมเครือ…แต่สมเป็นเขาที่ทำให้พระพายใจเต้นได้เสมอ….


Talk:  เกี่ยวกับเรื่องพระพายให้หวยแล้วดันหวยออก 79 จริงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บอกก่อนนะคะว่าเราไม่ได้ตั้งใจจจจจจ คือตอนนี้เราแต่งทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนลงเจนไม่นกจบแล้ว พระพายกำลังจะฟ้าเปิดแล้ว สมกับเป็นเรือที่พายด้วยใจและใช้เงินในการซื้อชิปเปอร์จริงๆ ขนาดคุณรบรวยกว่ายังไม่ป๋าขนาดนี้เลย 55555

ฝากแท้ก #เพชรพระพาย

Twitter @reallyuri










หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-09-2018 20:17:12
อิฉันลืมไปได้อย่างไรว่าสายเทคจะเอาไปซื้อหวย!!!!!!!
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-09-2018 20:39:00
น้องน่าเอ็นดู ใครๆก็รัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 18-09-2018 21:10:57
สายเทคนี่สายแข็ง  จะมีใครจะกล้าหาเรื่องพระพายอีกไหม  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-09-2018 21:26:53
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-09-2018 21:46:58
เยี่ยมมาก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-09-2018 22:18:52
ขำในความให้หวยของพระพายจริงๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 18-09-2018 22:21:13
 :hao5: :hao7: งุ้ยยยย ชอบสายเทคนี้ตริงงง
คนอิจฉาน้อน อย่ามาวอร์นะเว้ย เดี๋ยวจะโดน  o18 o18
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-09-2018 23:04:45
แงงง โอ้ยยย เราก็พลาด #พระพายให้หวย เด้อออ ตอนนี้ต้องขอบคุณอิพี่เพชรมันจริงๆแหละที่พาน้องไปรู้จักกับสายรหัสอะ คือตอนนี้น้องมีพวกแล้วไม่โดดเดี่ยวแล้ว ใครหาเรื่องพระพายนี่คงต้องเตรียมรับศึกเลยนะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-09-2018 20:07:36
  :katai5:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-09-2018 21:38:50
ต้องขอบคุณพี่เพชรที่พาน้องพระพายมารู้จักกับสายรหัสนี้ หวังว่าชีวิตในมหาลัยของน้องจะดีขึ้นและทำให้น้องมีความสุขนะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่6) 18.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 21-09-2018 21:25:29
 :katai3:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่7) 22.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 22-09-2018 18:06:04
เพชรพระพาย
#เปิดเทอมใหม่ของพระพาย


‘น้องเขาดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ’
‘พระพายเคยให้กลุ่มหนูเอาเลคเชอร์ไปลอกด้วย ตอนนั้นไปขอยืมก็กลัวๆนะ แต่เขายิ้มน่ารักมากเลย’
‘หรือว่าเขาจะแค่หน้านิ่งๆจริงๆแล้วไม่หยิ่ง’
‘ใครมันจะบ้ายิ้มได้ทั้งวัน’
‘เราว่าหน้าตาเขาน่ารักมากเลยนะ ไม่ได้ดูอวดรวยด้วย ก็กินข้าวเหมือนคนทั่วไป’
‘แล้วถ้ามันไม่มีมูลคนเขาจะเอาไปลือกันได้เร้อ’
‘เออสรุปเป็นลูกคนใช้จริงๆ’
‘แล้วใครบอกว่าเขาเป็นลูกคุณหนูหยิ่งๆวะ’
‘เป็นลูกคนใช้แล้วไง คนเราวัดกันที่ตรงไหนกันวะมึง เขาเป็นคนดีให้หวยเก่งก็จบแล้วจ้ะ’
‘พระพายจ๋า งวดหน้าเลขอะไรจ๊ะ’


พระพายไม่คิดว่าจะมีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมายขนาดนี้…
มันเกินคาดจริงๆ….


“………”  จริงๆพระพายไม่ใช่ไม่คาดหวังว่าวันหนึ่งทุกคนจะรู้ความจริง เพราะความจริงคืออะไรพระพายก็ไม่ได้รู้แน่ชัดนัก ที่รู้คือรู้แค่ว่าตัวเองเป็นลูกของแม่จินที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนรอบข้างมาตลอด ในวันหนึ่งพระพายอยากจะยืนให้ได้ด้วยตนเอง แต่ก็มาได้รับรู้ทีหลังว่าตนไม่สามารถหนีความช่วยเหลือจากคนอื่นได้พ้นจริงๆ แต่มันไม่ใช่ข้อเสียหรอก เหล่านี้มันคือผลจากการเป็นที่รักทั้งนั้น พระพายไม่ควรปฏิเสธความช่วยเหลือจากใคร และความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งไม่ดีที่ไหน ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ให้เรียนรู้ และคนเราไม่อาจจะเรียนรู้ได้ หากไร้การช่วยเหลือ
PrapieChawanan ถูกหวยแล้วอย่าลืมมาเลี้ยงข้าวพายด้วยน้า


พระพายตัดสินใจที่จะทิ้งคอมเมนท์เอาไว้ ก่อนจะไปกดตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของเหล่าบรรดารุ่นพี่ ทว่าอยู่ๆการแจ้งเตือนเพื่อนใหม่ก็เด้งขึ้นมา เขาเป็นคนที่ต้องคิดหนักหน่อยว่าควรจะรับดีไหม ก็เล่นตอบแค่ ‘ครับ’ พระพายจะไปเข้าใจอะไร แต่ทั้งหมดทั้งปวง มันอาจจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีเขา


‘คุณตอบรับคำขอของ Petchpisuth J’


“……….”  แล้ว….


พระพายทำไปแล้ว….


แล้วทำไมต้องมาเขินหน้าแดงอยู่คนเดียว พระพายทำถูกต้องแล้ว พี่เพชรเป็นพี่ที่ทำงาน เป็นรุ่นพี่ที่คณะ เป็นคนที่ทำให้พระพายได้รับความเข้าใจจากคนมากมายที่นี่ อะไรที่พระพายไม่เคยมีในตลอดปีที่ผ่านมา เขาก็ช่วยทำให้มันเป็นจริงได้ ไม่ว่าเขาจะทำตัวบ้าบอใส่กันไปบ้าง แต่นี่คือของจริง….ความห่วงใยของเขามันไม่ใช่เรื่องโกหกหลอกลวงเลย พระพายไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเขา แล้วเหตุใดถึงต้องมาเอาใจใส่ พาไปไหนมาไหนขนาดนี้


แค่คิดตาม หัวใจก็พลันเต้นตามแล้ว….


xxx


วิชาเรียนแรกเมื่อเปิดมาคือวิชาเรียนรวม พระพายมักจะไปพร้อมๆกับพริมพราวเสมอเพราะเราอยู่หอเดียวกันแค่คนละชั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่าพลิกความรู้สึกในแง่ลบของพระพายให้หงายขึ้นมาบวกๆหน่อยแต่ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น จนกระทั่งเข้ามาในอาคาร ก็ได้เห็นผู้คนจ้องมองมาและพูดคุยกัน นี่พระพายเข้าใจอะไรผิดไปเหรอ พวกเขาคิดว่าเราสร้างกระแสหรือเปล่า แต่ไม่เป็นไรหรอก พระพายคงไม่รู้สึกแย่ไปได้มากกว่านี้แล้ว เพราะอย่างน้อยก็มีคนจำนวนหนึ่งในสายรหัสของพี่เพชรที่ดูจะเชื่อ พวกเขาพากันเมนชั่นมาขอเลี้ยงชาบูพระพายกันใหญ่ จนกระทั่ง ‘พ่อ’ ไล่ให้ไปนอนทุกคน


‘Petchpisuth Jพวกมึงไปนอนให้หมด ส่วน PrapieChawanan ฝันดีครับ ฝันถึง ‘พ่อ’ ด้วยนะ’


“วันก่อนโมเมนท์เยอะนะพ่อรูก”  เดี๋ยวนี้พริมพราวก็ติดเรียกแบบนี้ไปแล้ว


“เจ้าของรูปผ้าปูที่นอนสีชมพูติดแท้กมาหาด้วยนะน้อน รับแอดเขาแล้วเหรอ” ทัตก็แซว…คนพวกนี้แซวเก่ง ตอนปิดเทอมลงซัมเมอร์ขับร้องเพลงอีแซวกันมาเหรอ?!!


อืม หลังจากนั้นก็แซวกันไม่หยุด บางคนถึงขั้นเชียร์ให้ไปเคาะประตูกล่อมเลยไหนๆก็นอนห้องข้างๆกัน บางคนก็บอกว่ารับน้องปีหน้าจะสอนน้องร้องโห่ไปช่วยยกขันหมาก ส่วนตาคนที่ถูกพาดพิงอีกคนก็ไม่น้อยหน้า ภาพผ้าปูที่นอนห้องพระพายที่เขามานอนเล่นตอนที่เนียนเข้ามากับเพื่อนๆคนอื่นๆก็กลับไปอีดิท ติดแท้กและหวีดเล่นใหญ่ไปเองว่าในที่สุดน้องก็รับแอด ต่อไปไม่หวีดคนเดียวเงียบๆแล้ว จะติดแท้ก และได้โอกาสเมื่อไหร่ จะมาหวีดข้างหู


พี่เพชรก็เก่งทำพระพายเขินแบบเครียดๆอย่างนี้แหละ เขาเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว โดยเฉพาะนอกเวลางาน หยอดได้หยอด หยอดเก่งจนอยากไปถามคุณไพลินว่าที่บ้านขายทองหยิบทองหยอดหรือเปล่า ทำไมหยอดเก่งได้แบบนี้ พระพายชักจะเขินจนอยากจะไปบอกคุณรบให้ย้ายพี่เพชรไปไว้แผนกการขายแล้วนะ  หยอดเก่ง ขายเก่ง เก่งไปหมดคุณรบต้องงงใจว่าทำไมชงกาแฟห่วย!


“แล้วนี่พี่เขาอยู่ไหนอ่ะ นี่ถ้าเดินมาส่งลงจากหอ เราจะยกให้แล้วนะ ไม่ใจเลย ผู้ชายอะไร”  อยู่ห้องข้างๆเสียเปล่า


“เขาขับรถออกจากหอไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว พี่เขาทำงานกรุงเทพน่ะเลยต้องรีบออก”  และมันก็น่าตีนัก ใครใช้ให้มาเคาะห้องพระพายตอนตีห้ามาเพื่อบ้ายบาย แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเกรงใจ คราวหน้าขอใช้กุญแจสำรองไขเข้ามาเลยได้ไหม พระพายที่ยังงัวเงียก็พยักหน้าเออออไป กว่าจะมารู้ว่าโดนเล่นของไว้ก็มาระลึกได้ตอนที่อาบน้ำแต่งตัวก่อนมาเรียนพระพายไปแอบชอบคนแบบนี้ได้ไงเนี่ยทำไมต้องเป็นคนดีที่มักจะเป็นคนเลว และก็เป็นคนบ้าที่ทำให้หวั่นไหวเพราะบางทีก็ดูเท่ด้วย งื้อออ พระพายจะฟ้องให้พี่เจนไปตีหัว!!!


“โหยขยันจังว่ะ เป็นเรานะขับกลับตั้งแต่เคลียร์ธุระเสร็จล่ะ” ทัตพูด


“ไม่ได้ดิ ขนมจีบยังขายไม่หมด เป็นเรา เราก็จะอยู่จีบพระพายล่ะ”


“จีบได้นะ พริมพราวเป็นผู้หญิงนี่ พายเป็นผู้ชาย”


“พระพายก็เป็นผู้ชายที่น่ารักน่าบีบจนผู้หญิงอย่างพริมพราวอยากจะกระทำชำเรารังแก ยอมให้จีบแมะ”


“พริมพราวไปนั่งไกลๆเราเลยนะ ทะลึ่งอ่ะ!”  พระพายต่อว่าออกมา ใบหน้าฉุนเฉียวแต่ดูน่ารักนั้นยิ่งทำให้เพื่อนยิ้มล้อ เป็นเปิดเทอมวันแรกที่ไม่เลวเลย ดีกว่าที่พระพายคิดไว้เสียอีก ตอนที่ทำงานอยู่พระพายนั้นได้แต่คิดว่าไม่อยากกลับมาเรียนเลยเพราะที่เป็นอยู่นั้นดีอยู่แล้ว ทว่าเมื่อกลับมาเรียนจริงมันก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัวอย่างนั้น พระพายจะกลัวทำไมกันเนี่ย ไม่มีใครหมั่นไส้พระพายขนาดเดินเอาน้ำมาสาดหน้าหรอกยิ้มให้ตัวเองได้สักพัก พระพายก็มองเลยไปเห็นกลุ่มคนที่จ้องมองกันกลับมา ดวงตากลมโตของพระพายก็มองกลับโดยไม่แสดงออกถึงความไม่พอใจ ในตอนนั้นก็ลังเลว่าจะทำเช่นไร แต่เพราะวันนี้อารมณ์ดีมากๆ….จึงยิ้มออกไปให้คนที่มองมาอย่างเป็นมิตร พวกเขามองกันดูลังเลไม่น้อย ทว่าไม่นานจนทำให้ใจเสีย


พวกเขาทุกคนก็ยิ้มกลับมาให้พระพาย….


“ขอโทษที่เสียงดังน้า”  ความรู้สึกดีใจนี่มันอะไรกันนะ แต่ก็พยายามควบคุมให้ได้ ก่อนจะหาเรื่องชวนคุยแก้เก้อออกไป พวกเขารีบส่ายหน้าบอกกล่าวว่าไม่เป็นไร หนึ่งในนั้นยื่นลูกอมให้ ก่อนจะบอกขอบคุณเรื่องเลคเชอร์ที่คงเคยขอลอกของพระพายไป เอาจริงๆก็จำไม่ได้หรอกว่าเคยให้ใครยืมไปบ้าง เพราะในคลาสเล็กๆที่วันนั้นฝนตกคนไม่มาเรียนกันเกือบยกห้อง มีพระพายคนเดียวที่ตั้งใจจดเลคเชอร์ สัปดาห์ถัดไปพอทุกคนได้ยินจากอาจารย์ว่าที่สอนว่าจะออกสอบด้วยทุกคนก็ลนลาน พระพายที่ตั้งใจจะให้พริมพราวกับทัตยืมอยู่แล้วจึงอนุญาตให้ทั้งสองเอาไปซีรอคให้สำหรับคนอื่นด้วย ตอนนั้นไม่มีใครมาขอบคุณกับพระพายโดยตรง แต่เห็นได้เลยว่ามีคนไม่ลืมเหตุการณ์นั้น อย่างที่แม่เคยพูดไว้จริงๆ


‘ถ้าทำดี ยังไงก็ต้องมีคนรัก’


พระพายก็ไม่รู้ว่าดึงตัวตนที่แจ่มใสของตนเองออกมาได้อย่างไร อาจจะเพราะอะไรๆในชีวิตช่วงนี้มันดีมากจนไม่สามารถเก็บความสุขไว้ภายในคนเดียวได้ และเมื่อตนได้แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงออกไปโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเอาไปพูดถึงในทางไม่ดีอีก ก็เหมือนว่าข่าวลือว่าพระพายนิสัยไม่ดีจะเริ่มหายไปและมีเสียงชื่นชมมาแทน บางครั้งพระพายก็ได้รับคำทักทายหรือคำขอโทษจากคนที่ไม่รู้จักตามทางเดิน ยอดขอเป็นเพื่อนและติดตามในเฟซก็สูงขึ้นอย่างน่าตกใจว่าไปทำอะไรไว้ แต่พี่เพชรก็มาบอกว่าให้รับไมตรีของคนอื่นไว้เพราะพระพายไม่จำเป็นต้องกังวลเลย


อา…เดี๋ยวนี้อะไรๆก็พี่เพชรเนอะ


สำหรับพระพาย….พี่เขาทั้งอยู่ใกล้และไกลไปพร้อมๆกัน เขาสามารถทำให้พระพายเชื่อว่าทำแบบไหนถึงจะดี อาจจะเพราะเขามีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าที่ใกล้เคียงกันจึงให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่น อีกทั้งรอยยิ้มของเขาที่มองมายามพระพายพูดว่าเป็นกังวล และคำปลอบใจที่บอกว่าพระพายเป็นเด็กดี แค่เป็นตัวของตัวเองก็ทำให้คนเกลียดไม่ลงหรอก ซึ่งตรงนั้นพระพายไม่เคยคิดมาก่อนเลย พระพายเคยทำให้คนเกลียดขนาดกลั่นแกล้งรุนแรงแบบนั้นมาก่อนเลยนะ เป็นแบบนี้จะดีจริงๆเหรอ


“บอกตรงๆพระพายตอนนี้ดูดีกว่าตอนนั้นอีก”  ทัตพูด หลังจากที่พระพายอ้อมแอ้มถาม พริมพราวน่ะยังไงก็อวยกันอยู่แล้ว จึงต้องเลี่ยงมาถามทัตบ้าง


“ตอนนั้นแย่มากเลยเหรอ”


“ไม่แย่หรอก แต่ดูเกร็งๆน่ะ”


“………..”


“อืม พระพายดูเกร็งๆดูคิดเยอะมากๆอ่ะ ตั้งแต่ตอนรับน้องแล้ว แต่ตอนนี้พระพายดูเป็นมิตรขึ้น ก็ยังดูระมัดระวังอยู่นะ แต่ก็ทำตัวสบายๆขึ้น ซึ่งเราว่าดีกว่า”  ทัตพูดออกมาอย่างชัดเจนเลยทีเดียว ถ้าพระพายไปถามบรรดาสายอวยรอบตัว ทุกคนย่อมบอกว่าพระพายแบบไหนก็น่ารัก แต่เมื่อทัตที่เห็นกันมาตั้งแต่ตอนนั้นมาบอกก็เข้าใจได้ง่ายขึ้น พระพายดูเกร็ง ดูเครียด อันนั้นพระพายไม่เคยรู้ตัวจนมาคิดได้เมื่อทัตทักขึ้นมา และมันก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ


ในตอนนั้นพระพายอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ติดเที่ยวตามสไตล์เด็กที่ที่บ้านมีฐานะและเพิ่งได้ห่างอกพ่อแม่ แม้พวกเขาจะยังควบคุมผลการเรียนได้ แต่ก็รักสนุกมากเช่นกัน พระพายที่มีพื้นฐานเป็นคนเรียบร้อยและไม่ค่อยชอบใช้เงินสิ้นเปลืองไปกับเรื่องที่ตนไม่ได้สนใจก็เลยรู้สึกเกร็งๆที่จะอยู่ด้วย ตอนนั้นพระพายกังวลมากกว่าว่าจะหาเพื่อนไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าโอกาสที่จะรู้จักคนใหม่ๆมันก็ไม่ได้เป็นศูนย์เสียทีเดียว


และเพราะเข้าไปอยู่ในกลุ่มนั้นแล้ว จะออกมาก็ทำไม่ได้ง่าย ตอนนั้นพระพายจึงไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองนัก และมันอาจจะทำให้พระพายดูไม่น่าคบ หลอกลวง หรืออะไรก็ตามที่ถูกกล่าวหามานั่นจริงๆ  และแล้วพระพายก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเฟดตัวเองออกมายังไง เพราะสุดท้ายพวกเขาเตะกันออกมาด้วยการหนีหน้า เมิน และทำเหมือนพระพายไม่มีตัวตน จะว่าไปต้องขอบคุณเหตุการณ์ร้ายๆพวกนั้นที่ทำให้พระพายหลุดออกมาได้ ในวันนี้แม้จะใช้เวลานานไปเสียหน่อยกับการหลงเดินผิดทาง แต่พระพายก็ได้เพื่อนดีๆ พี่ดีๆ และตัวตนที่ตนเป็นคืนมา


ทั้งนี้พระพายก็ไม่ลืมให้เครดิตคนบ้าบอที่ขับรถจากกรุงเทพมาหากันในเย็นวันพฤหัสแบบนี้…..


“พรุ่งนี้พี่เพชรไม่ทำงานเหรอครับ”  พระพายถามในขณะที่นั่งปลอกกระเทียมที่บ้านของแม่ของเขา อืม พระพายแวะมาที่นี่บ้างตามที่เคยพูดไว้ เอาขนมเอานั่นนี่มาฝาก นั่งคุยด้วยแป็ปนึงและกลับไป ทว่าวันนี้เป็นตัวลูกชายเจ้าของบ้านเองที่ไปลากกันมาช่วยเตรียมผักตำน้ำพริก แล้วนี่เขาเหาะจากกรุงเทพมาได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง


“พรุ่งนี้วันหยุดปะครับ”  พระพายก็เกือบลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้วันหยุดนักขัตฤกษ์ จริงๆพระพายก็ว่าจะกลับบ้านรัตนสกุลไปช่วยเลี้ยงน้องวินเหมือนกัน ป่านนี้วิ่งได้แล้วมั้ง พี่เจนคงวิ่งเหนื่อยตายแล้ว


“แล้วพี่เพชรทำไมมาถึงเร็วจังครับ นี่เพิ่งเวลาเลิกงานไม่ใช่เหรอ”


“พี่มาทำธุระให้คุณรบนะ เสร็จแล้วเจ้านายก็ใจดีบอกไม่ต้องเข้าออฟฟิศ”  หรือไม่คุณรบก็เปิดแนบกลับบ้านไปเล่นกับลูกกับพี่เจน เขาเหม็นขี้หน้าเลขาจะตายแล้วมั้ง


“หยุดยาวสามวันพี่เพชรคงนั่งทำงานหัวปั่นที่นี่แน่ๆเลย” 


“ไม่ครับ พี่จะกลับกรุงเทพกับพระพาย”


“แล้วพายเกี่ยวไรด้วยอ่ะ”


“เพราะที่มานี่รถบริษัทมาส่ง แต่ไม่รับกลับไง เอาพี่กลับไปด้วยนะ น้า….”  คนตัวบางมองเขาอย่างที่อยากจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้รถของคนขับรถคุณรบมาส่งแล้วไล่เขากลับไปเลย เพื่อจะให้พระพายขับไปส่งนี่นะ ตลกล่ะ….


“พาย จะกลับบ้าน บ้านเราอยู่คนละซอยขี้เกียจไปส่ง”


“ไปส่งที่บ้านรัตนสกุลก็ได้ครับ พระพายไปไหน พี่เพชรไปนั่น”


“ไม่เอางะ กว่าพี่เพชรจะทำงานเสร็จ พายจะกลับบ้านแต่เช้า”


“ไม่เอางะ พระพายรอพี่เพชรหน่อยจิ กลับคนเดียวมันเหงานะ ไม่กลัวคิดถึงกันเหรอ”


“ใครจะมาคิดถึงกัน”


“ไม่เจอกันเป็นอาทิตย์ ไม่คิดถึงพี่เพชรแล้วเหรอครับ”


“………”


“เดี๋ยวนี้เพื่อนเยอะแล้วนี่ คนเอ็นดูกันทั้งวิทยาเขต เดี๋ยวนี้ได้แท้ก #เทวดาอักษร ไปด้วยนี่เนอะ”


“เปล่านะครับ”


“อืมๆไม่คิดถึงก็ไม่คิดถึง พี่จะจำไว้ว่าเราไม่เคยทำงานด้วยกันทุกวัน จะจำไว้ว่าพระพายไม่เคยสนใจพี่ ทุกอย่างมันเป็นพี่คิดไปคนเดียวจริงๆ”  ขอร้องได้ไหม อย่าดึงดราม่า


“พี่เพชร”


“เออ เรามันก็แค่พี่บัณฑิตจบไปแล้วนี่ จะสู้อะไรกับเด็กที่เรียนอยู่ละเนอะ” อะ!ยังไม่หยุดอีก


“ขับรถให้พระพายกลับหน่อยนะครับ” ถ้าน้องขับรถอยู่ก็ให้เรียกว่าเลี้ยวสุดในตอนนี้ แต่เพชรก็ตามทันทุกมุกเช่นกัน


“ครับ รับรองไม่เกิน 4 โมง ล้อรถพระพายหมุนกลับกรุงเทพแน่นอน”  เนี่ยไง เพราะเป็นคนแบบนี้ไง จะดราม่าทีใครจะไปเชื่อใจ อยากกลับด้วยใช่ไหม ตามใจเลย ขับเองเลยนะ….


พระพายจะนอน ไม่สนใจแล้ว!!!!!!!


ทว่าพอเอาเข้าจริงๆพระพายก็ไม่ได้นอนเพราะคนพูดมากเอาแต่ชวนคุยชวนแวะ ก็รู้แหละว่าเป็นเจ้าถิ่น แต่ไม่ต้องขับรถของพระพายวนไปนั่นไปนี่ขนาดนั้นก็ได้นะเฮ้ย!แล้วนี่กี่ทุ่มจะถึงบ้าน ตาเพชรพิสุทธิ์กะจะซื้อเลี้ยงทั้งซอยบ้านเลยเหรอ ซื้อเหมือนเหมาจนต้องปราม นี่เขาคิดจริงๆใช่ไหมว่าเราขับรถกระบะกันอยู่กว่าจะรู้ตัวพระพายก็บ่นไปเยอะ และที่รู้ตัวก็เพราะเขายิ้มนั่นแหละ ยิ้มอะไร มีอะไรสนุกงั้นเหรอ


“พี่เพชรยิ้มทำไม” เป็นบ้าเหรอ ถ้าเป็นพี่เจนต้องถามแบบนี้แน่ๆ


“พระพายน่ารัก”


“พายบ่นๆพี่เพชรนะเหรอน่ารัก?”  หรือเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ งั้นไม่ต้องไปแล้วล่ะบ้าน พระพายอนุญาตให้เขาขับไปโรงพยาบาลได้


“พระพายไม่เคยบ่นใครแต่พระพายบ่นพี่”


“…………”


“ชอบอ่ะ ต้องทำตัวแบบนี้ใช่ไหมพระพายถึงจะบ่น”


“บ้าไปแล้ว”  อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดเลย คนๆนี้เกินเยียวยาแล้วจริงๆ


แต่พระพายก็ลอบยิ้มในขณะที่หันไปมองวิวนอกกระจกรถ ไม่ใช่ว่ามีอะไรน่าสนใจหรอก แต่ความคิดของตนกำลังน่าสนใจ พระพายเคยคิดว่าช่วงนี้คือช่วงที่มีความสุขที่สุด เพราะทุกอย่างรอบตัวทำให้รู้สึกดี การมีเขาเข้ามาในชีวิตนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเขาทำทุกอย่างให้พระพายได้รับความสุขแบบนี้ เขาจึงเป็นภาพรวมของความสุขทั้งหมดเท่าที่พระพายจะบรรยายได้ และคงบรรยายคำว่าความสุขได้ไม่หมด


เอาเป็นว่าความสุขของพระพายเรียกว่าพี่เพชรล่ะกัน….


แต่พระพายก็ยังไม่รู้สึกเต็มอิ่มมากนัก จะเรียกว่าอย่างไรดีล่ะ ที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว แต่ถ้าได้อีกก็ดีกว่า พระพายเคยเลี่ยงเขามาตลอดเพราะการแอบรักข้างเดียวเป็นเรื่องที่ทรมานจนเกินไป การปิดตาไม่รู้ไม่เห็นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทว่าตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว….


ถ้าเขาไม่ ‘อ่อย’ มาก พระพายก็คงไม่มีวันอ่อยเขาก่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพระพายจะตีรวมไปเลยได้ไหมว่าความห่วงใย การดูแลต่างๆที่เขาทำให้ และการวนเวียนอยู่รอบๆ มันคือส่วนนึงของการ ‘อ่อย’ พระพายของเขา เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พระพายก็ยินดีที่จะ ‘อ่อย’ กลับไปเช่นกัน


เดิมทีพระพายไม่เคยหวังเพราะรู้ว่าเราไม่เทียบเท่า แต่ในวันนี้ที่พระพายเริ่มรับรู้ความมีคุณค่าในตัวเองในด้านต่างๆ พระพายอยากจะเปิดใจ และเดินก้าวเข้าไปหา อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก พระพายอยากจะสมบูรณ์แบบกว่านี้ ดีกว่านี้ ไม่ต้องดีเท่าใครก็ได้ แค่ให้พระพายรู้สึกพึงใจว่าที่เป็นอยู่นั้นเหมาะสม ควรค่ากับการอยู่เคียงข้างเขา


“พี่เพชรมาแป็ปๆและกลับกับพายเลยจะดีเหรอครับ”  มันก็ไม่ค่อยจะดีใช่ไหมล่ะ ที่โปรโมชั่นจัดหนักแค่ตอนจีบกัน เขาดูมาทำงานแป็ปๆและก็กลับ ไม่มีเวลาส่วนตัวของตัวเองจนพระพายเกรงใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เราดันมาเริ่มต้นกันแบบไม่ถูกที่ถูกเวลาเสียเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเขาไม่มาตอนนี้ พระพายคงแก้ไขวิกฤตอะไรของตัวเองไม่ได้


“ดีสิ อยากเจอต้องได้เจอ”  จ้ะ พ่อคนเล่นใหญ่ ถ้าพระพายไม่ให้ใช้รถแล้วจะกลับยังไง นั่งรถตู้ต่อรถแท๊กซี่ไปสินะ


“แล้วแม่ของพี่เพชรอ่า….”


“ไม่เป็นไรหรอก”  จะไม่เป็นไรได้ไง


ที่พระพายได้ยินมามันไม่ใช่นะ……….


“…………”  ทุกครั้งที่พระพายเจอแม่ที่เขายกให้เป็นแม่ของพระพายไปอีกคนและยึดแม่จินของพระพายเป็นแม่ของตัวเองไปแล้วนั้น แม่ของเขาก็มักจะเล่าให้ฟังเสมอว่าพี่เพชรกลับมาบ่อยๆก็ตอนที่พระพายมาอยู่ที่นี่ด้วย ก่อนนี้พี่เพชรจะกลับบ้านไม่บ่อยนัก  สมัยเรียนก็ไม่ค่อยมาบ้านเอาแต่อยู่ที่หอพักทั้งๆที่อยู่ซอยข้างๆกัน มาปลูกผักแต่ก็ทิ้งไว้ให้ดูแล โทรมาหาบ่อยก็จริง แต่ไม่ค่อยมีเวลามาหา ดังนั้นคุณไพลินจึงดีใจกับการมาของพระพายทุกครั้ง เพราะมันเหมือนจะดึงดูดให้พี่เพชรมาหากันด้วย


พระพายก็ไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านี้มันเป็นอย่างไร แถมตนเองก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะไปจุ้นจ้านเรื่องของครอบครัวคนอื่นแบบนั้น แต่เท่าที่ฟังก็คือเขาไม่ใช่คนแบบที่พระพายเห็นเป็นประจำเท่าไหร่ แต่ทุกคนก็มีด้านมุมที่ไม่แสดงให้คนอื่นเห็นอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ อย่างที่น้องๆสายรหัสของเขาได้เห็น คือพี่ชายสุดทะเล้นที่เรียนเก่ง แต่พระพายก็ได้เห็นด้านจริงจังยามทำงานของเขาอยู่บ่อยครั้ง ถึงได้บอกว่าไม่มีใครรู้จักตัวตนของเขาได้ดีหรอก แต่พระพายก็อยากจะรู้จักให้มากขึ้นกว่านี้


“แม่ของพี่เพชรตำน้ำพริกอร่อยอ่ะ”  อยู่ๆพระพายก็พูดขึ้น ก่อนจะหันหน้าไปหาเขาที่ขับรถอยู่


“ชอบเหรอครับ”


“ไว้วันหลังมาตำน้ำพริกกินแบบเมื่อวานกันอีกนะ พระพายชอบ นั่งที่บ้านพี่เพชรลมเย็นๆ ได้กลิ่นใบไม้”  พระพายกำลังล่อลวงให้เขากลับบ้าน ไม่ใช่ว่าเพราะอยากจะเชื่อมสัมพันธ์แม่ลูกอย่างเดียว แต่พระพายอยากรู้มุมอื่นๆในตัวเขา เพราะพระพายเชื่อว่ามันยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่มีโอกาสได้รู้เห็น และถ้ามันไม่ลำบากจนเกินไป พระพายก็อยากเห็นพี่เพชรที่เป็นลูกของคนๆนึง เหมือนที่พระพายเป็นลูกของแม่จิน พระพายอยากรู้ว่าด้านมุมอื่นๆของเขา นอกจากการเป็น เลขาของคุณรบที่กวนๆและรุ่นพี่ที่คณะที่ปากไม่ใช่แต่ใจดี เขายังสามารถเป็นอะไรได้อีก


พระพายบอกแล้วว่าตัวเองน่ะ…ตกหลุมรักเขามานาน
แต่เพิ่งจะกล้าเข้าหา…..


“ผักที่บ้านก็อร่อยอ่ะ พายไปขอมาทำสุกี้กินกับเพื่อนด้วย”


“ช่วยเอาไปกินที แม่ชอบบ่นว่าจะเน่าแล้ว”  เขาพูดยิ้มๆ แต่มันก็เพราะเขาเองไม่ใช่เหรอที่ไม่ค่อยกลับไปกิน ปลูกไว้ทำไมไม่รู้ รู้แค่ว่าต้องปลูกไว้


“วันก่อนพายก็ไปปลูกพริกทิ้งไว้ ว่างๆก็รดน้ำต้นไม้ไว้ให้”


“ทำดี ขโมยกินแล้วก็ต้องช่วยปลูกด้วย”


“ไปขอตะหาก ไม่ได้ขโมยเสียหน่อย”


“กินผักเยอะๆจะได้โตไวๆ”


“พายโตแล้วเหอะ”


“ให้พี่พิสูจน์ไหม”


“พี่เพชรคิดไม่ดี”


“งั้นพระพายคิดกับพี่ดีๆอยู่ใช่ไหมครับ”


“พี่เพชรพูดไม่รู้เรื่องแล้วอ่ะ”  เขาหัวเราะออกมา ชอบหยอกจริง ชอบหยอกจัง นี่ชอบพระพายจริงปะเนี่ย ทำไมแกล้งเก่งล่ะ


“ยังไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไรนะ”


“…………”


“แต่ต้องรู้สักวันนะ” เขาหยุดไปนิดนึง “พี่รอวันที่พระพายจะรู้และเข้าใจพี่ไม่ไหวแล้วจริงๆ” พระพายก็กำลังเรียนรู้วิธี…ที่จะไปยืนเคียงข้างพี่เพชรอยู่ยังไงล่ะ….


อาจจะเดินช้าไปบ้าง แต่ช่วยใจเย็นนิดนึงนะ….

Talk: ใจเย็นๆนิดนึงนะคะ(บอกคนอ่าน) ช่วงนี้มาบ้างไม่มาบ้าง แต่อยากให้รู้ว่าจะมานะคะ555 เรื่องนี้ไม่ยาวมากแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีดราม่าเนาะ เดี๋ยวก็มีแต่ไม่ยาว (เพราะเดี๋ยวไม่จบ) ส่วนดราม่าเรื่องอะไร มีใครตอบได้ไหมคะ เออคือมันยังไม่ม่าหรอก แต่นี่ก็ครึ่งนึงของเรื่องแล้ว ก็มารอดูกัน55555

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย
Twitter @reallyuri

หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่7) 22.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-09-2018 18:46:33
ปริ่ม
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่7) 22.9.2018 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 22-09-2018 21:27:02
คู่นี้น่ารักอะะะะะะะะะะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 23-09-2018 14:03:34
ขออนุญาตแทรกตอนพิเศษของพระเอกที่แท้จริงของซีรีส์นี้นะคะะะะะ
ส่วนเพชรพระพายตอนต่อไปเดี๋ยวเจอกันน้าาาาาาาาาาา

เรื่องของน้องวิน

#พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน

 

 

 

 

ในครั้งแรกที่น้องวินได้ยินเสียงของมนุษย์จริงๆ

มันเหมือนจะผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง

 

 

“…………”

 

 

“ตารบ ดูตาหนูสิลูก!”  เสียงของมนุษย์เพศหญิงที่ดูตื่นเต้นดีใจยามที่ได้เห็นกันนั้นทำให้ ต้องลืมตาขึ้นมา ทว่าก็ยังมองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก อาจจะเพราะเพิ่งกำเนิดเกิดมาบนโลกนี้ได้แค่เพียงไม่กี่วัน จริงๆนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงคนหรอก น้องก็เหมือนจะได้ยินมาสักพักแล้ว แต่….

 

 

ไม่มีครั้งไหนที่เหมือนครั้งนี้เลย

 

 

“นั่นสิครับ” ฝ่ามือของมนุษย์ผู้ชายคนนึงนั้นเข้ามาใกล้กันในระยะที่เด็กทารกแรกเกิดรู้สึกได้ ทว่าเขากลับชะงักและผละออกไป ทำไมกันล่ะ…..

 

 

“อ้าว มีอะไรหรือเปล่าลูก”  คุณพรรณีหันไปถามลูกชายของเธอ หลังจากที่รดาคลอดน้องวิน น้องก็ถูกพามาจากห้องคลอด ในตอนนั้นเธอจะทำหน้าอย่างไรยามได้ยินเสียงของเด็กน้อยคนนี้ร้อง เหล่าสมาชิกรัตนสกุลที่ไม่ได้รับสิทธิ์ให้รับรู้จึงไม่ทราบ และก็คงไม่มีความจำเป็นต้องอยากรู้อยากเห็นอะไรอีก เพราะมันได้จบลงไปแล้ว และคงจะจบลงไปเลยตามเนื้อหาสัญญาที่เธอได้เซ็นไปเมื่อหลายเดือนก่อน อย่างไรก็ตามเด็กคนนี้กำลังจะนำพาความสุขที่แท้จริงมาให้กับบ้านเรา

 

 

ทายาทคนแรกของนับรบ รัตนสกุล

 

 

“ตัวเขาเล็กมากๆเลย”

 

 

“แน่สิลูก”  ก็น้องยังไม่ถึงเดือนเลย

 

 

“ดูบอบบางมากๆเลยด้วย”  เขารำพันกับตัวเอง

 

 

“กลัวเหรอจ้ะ ตารบ”

 

 

“ครับ”  เขากลัวว่าจะทำลูกเจ็บตัว เพราะเขาทำทุกอย่างที่ทุกคนต้องการเพื่อทะนุถนอมเด็กคนนี้อย่างเต็มความสามารถ และเขากลัว….กลัวที่จะสัมผัสกับความรัก เพราะมันช่างบอบบางอย่างน่ากลัว

 

 

“วันก่อนแม่แจ้งพยาบาลไว้แล้วเรื่องชื่อของน้อง วันนี้เราว่าง แม่เลยพามาดูหน้าลูกและก็ชื่อด้วย”  คุณหญิงพรรณีปิดบังไว้อย่างสุดความสามารถ อยากให้คนพ่อได้มารับทราบนี่ แต่ก่อน สรรพนามที่เราใช้กับเด็กคนนี้จะมีเพียงแค่ ‘เขา’ ‘ตาหนู’ ‘น้อง’ แต่จากนี้ไป…..

 

 

เราจะเรียกเขาว่า ‘น้องวิน’

 

 

“อัศวิน รัตนสกุล”  เป็นชื่อที่ไม่ต้องตามหาความหมายเพราะทุกคนที่รู้ภาษาไทย คงจะรู้ว่าอัศวินคืออะไร และชื่อนี้ก็ถูกตั้งมาให้พ้องกับชื่อของคนเป็นพ่อ ‘นักรบ รัตนสกุล’

 

 

ต่างก็เป็นชื่อเรียกของผู้กล้าทั้งสิ้น เขายิ้มออกมาให้กับความคิดสร้างสรรค์ของคนเป็นแม่ แม้ว่าชื่อของเขานั้นคุณปู่จะเป็นคนตั้งก็ตาม อย่างไรก็ตามการที่ชื่อของลูกคล้องกับคนเป็นพ่อแบบนี้ มันก็น่าชื่นใจไม่น้อย  มองไปรอบๆ สมาชิกในบ้านที่มาดูหน้าคุณหนูคนใหม่ต่างก็ยิ้มแย้ม ตัดกับบรรยากาศก่อนหน้านี้ที่ไม่ใช่แค่มีการแบ่งฝ่าย พวกเราต่างระแวงและยุ่งวุ่นวาย การได้เห็นหน้าเด็กคนหนึ่งนั้น จึงดูเหลือเชื่อเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเขาได้นำความสงบสุขมาให้อย่างแท้จริง

 

 

เจ้าของสถานะ ‘พ่อ’คนใหม่ได้พยายามอีกครั้งในการขุดความกล้าทุกอย่าง ก่อนจะจิ้มไปที่ผิวแก้ม ตาหนูตัวเล็กที่ผิวยังเหี่ยวๆแดงๆนั้นหาวแล้ว คงอยากนอนเต็มทน เด็กวัยนี้อะไรๆก็นอนไว้ก่อนทั้งนั้นแหละ เขาเลื่อนมือไปสัมผัสมือเล็กที่ยกชูขึ้นอย่างแผ่วเบา นุ่มนิ่มและบอบบางอย่างที่คิด และยังไม่ทันได้ชักมืออก นิ้วเล็กๆแดงๆนั้นก็กำรอบนิ้วก้อยของเขาเอาไว้หลวมๆ จุดรอยยิ้มของเขาในครั้งแรกของเดือนขึ้นมา ตอนนั้นเขาได้ให้คำสัญญากับตัวเองแล้วว่า…

 

 

จนกว่าอัศวินจะเติบโตขึ้นมาเป็นอัศวินที่แท้จริง….

นักรบคนนี้จะดูแลปกป้องอัศวินด้วยตัวของเขาเอง

 

 

แต่เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ง่ายเลย ยามที่เขาต้องทำตามใจใครๆเพียงเพื่อจะรักษาบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ และความรู้สึกกลัวภายในใจนับวันยิ่งกัดกิน นักรบเลือกที่จะดูแลและปกป้องอัศวินตัวน้อยด้วยการอยู่ให้ห่าง ทว่ามันกำลังปลูกฝังเมล็ดพันธุ์อะไรบางอย่างลงไป หากสถานการณ์เหล่านี้ดำเนินต่อไป เด็กน้อยน่ารักผู้นี้จะเติบโตมาอย่างสิ้นหวังเป็นแล้วแน่ ดังนั้นต่อไปนี้ฟ้าจำต้องส่งใครสักคน….ใครสักคนที่รัก และหวังดีกับน้องวินจริงๆและคนๆนั้นจะเป็นคนเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ให้การเมล็ดพันธ์แห่งความรักอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่แค่กับน้องวินเท่านั้น…..

 

 

นักรบก็ควรจะได้รับความสุขกับเขาเสียที….

 

 

xxx

 

 

นี่น้องวินเอง…..

 

 

“………….”  น้องยังพูดไม่ได้ เลยไม่สามารถบอกความต้องการของตนให้คนอื่นเข้าใจ และน้องก็ไม่ค่อยร้องไห้เพราะน้องเหนื่อย….ในความเป็นจริงคือน้องไม่สนใจคนๆนี้เท่าไหร่นัก แม้ว่าใครๆจะบอกว่าเขาเป็นคนที่จะมาช่วยเลี้ยงดูน้องวิน แต่น้องวินไม่ชอบเธอเลย! แม้แต่น้อยนิดก็ไม่ชอบ แต่บอกใครไม่ได้!

 

 

และวันนี้พี่เลี้ยงที่คุณยายรัชนีนุชส่งมาให้ก็พาน้องวินมาเดินเล่นในสวน จะให้พูดให้ถูกคือตัวเองอยากมาเฟซไทม์คุยกับเพื่อนแต่ไม่อยากให้คนในบ้านรู้เห็นมากกว่าเลยต้องอ้างเอาน้องออกมาด้วย น้องวินยังไม่ได้นอนกลางวัน แต่เดี๋ยวก็คงจะหลับในรถเข็นนี้ได้เอง อยากจะร้องไห้งอแงให้พากลับห้อง แต่ก็เหมือนจะรู้ว่าทำไปตอนนี้ก็ไม่ได้รับความสนใจหรอก หรือถ้าสนใจ น้องวินก็ไม่ชอบอยู่ดี…..เพราะพี่เลี้ยงคนนี้ชอบตวาดเสียงดัง และน้องวินไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลย….

 

 

นั่นตัวอะไรน่ะ!!!!!.....ที่มาไต่แขนกันอยู่ตอนนี้ น้องวินเข้าใจว่ามันคืออะไรสีดำตัวเล็กๆ เล็กกว่าตัวน้องวินหลายเท่าเลย แต่ทำไมถึงไต่อยู่ที่แขนของน้องวินไปมาได้ อันนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ดวงตากลมโตขี้สงสัยนั้นมองเจ้าตัวดำๆนั่นไต่แขนป้อมๆของตัวเองต่อไป ก่อนที่จะเกิดความรู้สึกจี้ดบางอย่างที่ทำให้สะดุ้งสุดตัว และเบะปากร้องออกมา……ทั้งๆที่หนูก็ไม่ได้อยากจะร้องเลย….

 

 

“แงงงงงงงงงงงงง” แต่มันเจ็บอ่ะ ออกไปจากแขนน้องวินนะ ชิ่วๆ

 

 

“โอ้ยยยยยรำคาญไอ้เด็กเวรนี่!!!!”  และพอยิ่งเจอเสียงดังๆก็ยิ่งร้องดังเข้าไปใหญ่ ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบ แต่มันไม่ใช่แค่นั้น

 

 

น้องแค่แยกคำว่าไม่ชอบออกจากความหวั่นกลัวไม่ได้…..

 

 

“บอกให้หยุดร้องไง”  น้องแค่ร้องดังหน่อยเดียวเองทำไมต้องเอามือมาปิดปากน้องด้วย มันไม่ได้ทำให้น้องหยุดร้องหรอกนะ แต่น้อง….

 

 

อึดอัด หายใจไม่ค่อยออก….

 

 

“โอ้ย!!!ใครน่ะ”

 

 

“…………”

 

 

“ใครโยนมะม่วงมา!!!”  นั่นสิใครกัน แต่ช่างเถอะ….

 

 

ใครก็ได้มาช่วยน้องที….

 

 

เจ้าตัวเล็กในรถเข็นนั้นเหมือนจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่ใครสักคนกำลังเถียงกับพี่เลี้ยงของตนเพราะถูกล็อคอยู่ในรถเข็น แม้จะหยุดร้องไปแล้วแต่ก็ยังสะอื้นฮัก ระดับสายตาของน้องวินในจุดที่ยังอยู่นี้ไม่เห็นใครสักคนเลย เป็นเช่นนี้ยิ่งไม่ชอบมากกว่า แต่ถ้าน้องร้องไห้ น้องจะโดนปิดปากอีกไหม อัศวินตัวน้อยของบ้านรัตนสกุลทำได้แค่สับสนอยู่ในใจ อย่างน้อยการมีเสียงคนอยู่รอบกายก็ยังให้ความรู้สึกไม่เดียวดายจนเกินไป

 

 

“ผมจะพาไปด้วย”เสียงของใครคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นอยู่เหนือหัว โดยไม่ให้รอ เจ้าของเสียงก็ได้เดินมาหากัน มือของคนๆนั้นได้เก็บหลังคาของรถเข็นให้ ทำให้น้องวินได้เห็นแสงสว่างที่ลอดผ่านใบไม้มากมายลงมา

 

 

และใบหน้าของคนที่ไม่คุ้นเคย….

 

 

“ไปกับพี่เจนก่อนนะครับ เด็กดี”  ใบหน้าของคนมาใหม่ดูเป็นมิตร น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดูนุ่มนวลเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่ ในตอนนี้คนที่ตนไม่ชอบเหมือนจะไม่อยู่แล้ว เจ้าตัวเล็กมองหน้าคนมาใหม่ตาใสแจ๋ว ที่ดวงตายังคงคลอไปด้วยหยาดน้ำ มึนงงไปกับเหตุการณ์ต่างๆแต่ก็ไม่ได้ร้องโวยวายเมื่อถูกลากไปไหนมาไหนอีก อย่างน้อยพี่คนนี้….ก็มากับย่าไพ….

 

 

น้องวินนั่งมองคนโต้เถียงกัน มีคุณย่า ย่าไพ ย่าจิน และคนอื่นๆมากมาย ทว่าคนที่มาใหม่คนนั้นกลับดูตั้งใจเถียงเป็นพิเศษ บรรยากาศรอบตัวดูวุ่นวาย แต่แล้วมันก็จบลง ด้วยเพราะเป็นเด็กจึงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายคนที่น้องวินไม่ชอบก็ออกไป และมีคนใหม่มาแทนที่….คือพี่ใจดีที่เรียกกันว่าเด็กดี เห็นไหมว่าน้องวินเป็นเด็กดีจะตาย ทำไมพี่เลี้ยงคนเก่าไม่เข้าใจ….

 

 

คนที่เป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวินค่อยๆคลานมาหา เช็ดน้ำลายให้กับน้องและยิ้มให้ ไม่เหมือนพี่เลี้ยงคนเก่าที่เช็ดไปแล้วก็บ่นไป แต่พี่เลี้ยงคนใหม่ไม่ได้เข้ามาคนเดียว เขามากับผู้ชายตัวสูงท่าทางดุๆคนหนึ่งที่น้องได้เจอเขาอยู่บ่อยๆ เขาไม่เคยดุน้องหรอก แต่ท่าทางของเขาก็ดูไม่ได้อยากจะเข้าใกล้กัน น้องวินไม่ใช่ไม่ชอบเขา แต่แค่ไม่เข้าใจมากกว่า….นอกจากพี่เลี้ยงคนนั้น ทุกคนก็อยากเล่นกับน้องทั้งนั้น น้องไม่น่ารักเหรอ ทำไมไม่ชอบมองหน้ากัน?

 

 

“จา จา จา”  อย่ามัวแต่คุยกับคนนั้นสิ มาคุยกันน้องก่อน เจ้าตัวเล็กตบตักพี่เลี้ยงคนใหม่ที่ใครๆก็เรียกว่าเจน 2-3 ที ท่าทางของน้องทำให้ผู้ใหญ่ในห้องต่างพอใจ น้องวินก็พอใจ เพราะพี่เลี้ยงคนใหม่ใจดี ไม่ดุน้องวินแม้แต่คำเดียวตั้งแต่เราเจอกัน ทั้งๆที่น้องทั้งร้องไห้ ทำน้ำจิ้มที่ปากย้อยไม่หยุด แถมยังไปตบตักเรียกก็ยังหันมาให้ น้องวินชอบ และคำว่าชอบของน้องต่างจากคำว่าไม่ชอบนัก เพราะชอบคือชอบ ไม่เหมือนคำว่าไม่ชอบที่ใช้ร่วมกับคำว่ากลัว

 

 

คนตัวเล็กอุ้มน้องขึ้นมาจ้องตา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้น้องงงนิดหน่อย คนอะไรยิ้มเก่งจัง ที่แก้มนี่ใส่อะไรไว้เหรอ มือเล็กจึงตบเบาๆลงบนแก้มใสของคนพี่ ดวงตาโตกลมสุกสกาวนั้นจ้องมองอย่างเป็นมิตร ปากเล็กๆที่เคลือบน้ำใสๆที่เรียกว่าน้ำจิ้มของเด็กน้อยนั้นพึมพำเป็นภาษาที่ผู้ใหญ่ที่ไหนก็ไม่เข้าใจ แต่หากใครสักคนจะบอกได้ว่ามันแปลว่าอะไร คงแปลว่า….

 

 

ยินดีที่ได้รู้จักนะฮับ….เจนเจน….

 

 

Talk:  มาแบบสั้นๆให้หายคิดถึงน้อง อย่างที่เราเคยโม้ไปว่ามันจะมีตอนพิเศษที่เป็นเรื่องของน้องวินในมุมของน้องด้วย เราอาจจะไม่ได้ลงให้อ่านทุกตอน แต่จะมาบ้างให้หายคิดถึง ในระหว่างที่รอเล่มนะคะ จริงๆยังมีอีกเยอะเลยที่ยังไม่ได้ลง เพชรพระพายก็เพิ่งมาถึงครึ่งเรื่องเอง ต่อนี้ก็คงจะเข้มข้นขึ้นแล้ว นอกจากนี้ยังมีตอนพิเศษอื่นๆของเจน เช่นการเจอกันของคู่รบเจนเคลจุ้น ตอนพิเศษการเจอกันครั้งแรกของรบเจนสมัยยังเป็นเด็กๆ และอื่นๆ อาจจะมีที่ลงให้อ่านได้และที่ต้องเก็บในเล่ม แต่รับรองว่าคุ้มค่ะ ตอนนี้กำลังเริ่มแต่งอัศวินตอนโตเป็นหนุ่มแล้วมีความรักเป็นของตัวเองด้วย แต่เราจะเน้นเรื่องการเติบโตของน้องมากกว่า มาดูกันว่าโตแล้วจะซึนเก่งเหมือนพ่อไหม ให้คุ้กกี้ทำนายกันนะคะ5555

ยังไงตอนนี้ก็ขอฝาก #เพชรพระพาย ที่เปิดไว้อีกเรื่องด้วยนะคะ พ่อพระเอกต่อเรือเก่งมาก ชิปเปอร์อะไรไม่จำเป็น พายเองหมด  เดี๋ยวพอเข้าสู่จุดไคลแมกซ์จะมาลงทุกวันแน่นอน แต่ช่วงนี้สิ้นเดือนก็จะงานเยอะนิดนึง5555

 

Twitter @reallyuri

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย และกำลังจะมี #ลูกชุบของอัศวิน ซึ่งในตอนนี้อัศวินยังเป็นก้อนอยู่5555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-09-2018 14:19:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-09-2018 15:15:33
น้องงงงงงงง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-09-2018 15:54:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-09-2018 17:39:17
งืออออ น้องวินน่ารักจังเลยลูกกกกกก นี่แหละพระเอกตัวจริงของเรื่องนี้ฉากสบตากับพี่เจนนี่เรียกว่ารักแรกพบได้รึเปล่านะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-09-2018 19:28:21
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 23-09-2018 20:19:03
 :z10:   โอ๊ยยยย  อิป้าโดนป้ายยาคร่าาาาาา
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-09-2018 21:39:39
ลูกกกกกกกกกกกกก น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 23-09-2018 23:04:31
น้องวินน่ารัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-09-2018 23:05:50
เอ็นดูน้องวินมากเลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 24-09-2018 07:32:01
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-09-2018 08:03:06
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-09-2018 23:08:33
โอ้ยยยยยย น้องวินจ๋าคิดถึงจังเลย น่ารักจังเลยลูก :กอด1: อยากฟัด
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ พี่เลี้ยงคนใหม่ของน้องวิน) 23.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 25-09-2018 01:31:04
 :mew4:เราติดเด็กวินไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 25-09-2018 19:50:29
เพชรพระพาย
#พระพายรว้ายรว้าย


จะว่าไปพระพายก็ไม่ได้จะรู้จักพี่เพชรดีนัก....


แต่อยู่ๆจะให้ไปถามมันก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ใช่ไหม การที่คนเราจะตกลงปลงใจกัน แค่รู้สึกเหมือนกันนั้นไม่พอจริงๆ มันจำเป็นต้องมีความรู้สึกร่วม พระพายนั้นไม่ได้รู้จักพี่เพชรดีเท่าไหร่นัก และตนตระหนักในข้อนี้ได้เพราะเราสนิทมากขึ้น แต่คนหนึ่งคนไม่ได้มีแค่ด้านเดียวให้เรียนรู้ และเพชรพิสุทธิ์ก็มีด้านที่หลบซ่อนไว้ โดยไม่รู้เลยว่าเขาจะยินดีเปิดมันหรือไม่


แม้พระพายจะอยากรู้ แต่คงไม่สามารถไปบอกเขาว่าให้บอกทั้งหมดแม้แต่ด้านมืดที่ไม่อยากให้เห็น พระพายไม่ใช่คนโลกสวย แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าตนมีมุมมืดๆน้อยกว่าคนอื่นถ้าไม่ได้คิดไปเอง และก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนแบบพี่เพชรไม่น่าจะทำเรื่องร้ายแรงจนเกินรับได้ จะว่าไปพระพายก็ไม่มีมาตรฐานของตัวเองเท่าไหร่ คิดว่าถ้าตราบใดมันไม่น่าสะอิดสะเอียนจนเกินไปก็คงรับได้


“……….”  แต่ตอนนี้รับรู้ว่าตนกำลังถูกจ้องมองอยู่


ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่….


“พิตช์มองพระพายอยู่หรือเปล่า”  ทัตนั้นกระซิบบอกเสียงเบา รู้สึกถึงสายตาของเจ้าของชื่อมาสักพัก พระพายพยายามไม่ใส่ใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนร่วมชั้นที่ชื่อพิตช์มองกัน ถามว่ามองกันทำไม พระพายก็คงไม่รู้ และถ้าถามว่าเราเกี่ยวข้องอะไรกัน พระพายก็จะบอกว่าไม่….


ไม่ยุ่งเกี่ยวกันมาตั้งแต่มีปัญหาตอนนั้นแล้ว


พิตช์เป็นเดือนของคณะเรา เขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตมหาลัยของพระพายเริ่มต้นได้ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย มาถึงตอนนี้พระพายก็มีชีวิตที่โอเคขึ้น แต่ก็ไม่มีใครอยากให้เรื่องร้ายๆแบบนั้นเกิดขึ้นซ้ำๆหรอก พระพายไม่ใช่คนโลกสวยขนาดที่กลับไปหาเพื่อนเก่าที่เคยทำร้ายกันได้ อย่างที่เพชรมักพูด เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บและทนต้องไม่ใช่พระพาย!


“มันจะมาไม้ไหนอีกวะ”  จริงๆแล้วพริมพราวก็มีปัญหากับเขาเพราะโดนหางเลขไปกับพระพายตั้งแต่ตอนที่เริ่มสนิทกัน ตอนนั้นพระพายก็กังวลว่าตนจะเสียเพื่อนไป แต่โชคดีที่เพื่อนของพระพายตอนนี้ทุกคนเข้าใจ ทว่าพิตช์ก็ไม่ปล่อยไปและเริ่มปล่อยข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตัวพริมพราวว่าเป็นเด็กเสี่ย ซึ่งพริมพราวไม่ใช่คนแบบพระพายที่จะนิ่งเฉย พริมพราวเอาเสี่ยตัวจริงมาหาเรื่องอีกฝ่ายถึงที่ เธอโกรธมากเพราะผู้ชายที่เป็นเสี่ยของเธอนั้นคือพี่ชายที่อายุมากกว่าสิบกว่าปี จริงๆอายุก็ไม่มากพอจะเป็นเสี่ยได้ ต่พอถูกกล่าวหาว่าเป็นเสี่ยแบบนั้น เจ้าตัวที่ถูกเรียกด้วยสรรพนามที่แลดูแก่กว่าวัยจึงยอมตามน้องสาวมาหาเรื่องด้วย เล่นเอาเพื่อนกลุ่มเก่าพระพายไม่มองหน้าพระพายจนทุกวันนี้ ไม่รู้พริมพราวทำอะไรไปบ้าง


แต่การมีเรื่องกับพริมพราว ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยพระพายไป ก็ไม่รู้ว่าจะอะไรนักหนา ทั้งๆที่ไม่เคยทำอะไรให้แต่พออยู่เงียบๆอีกฝ่ายก็ยังเล่นข่าวปลอมไม่เลิก พระพายเคยได้ยินจากพริมพราวว่าการแกล้งใครคนนึงเพื่อมีเรื่องคุยสนุกๆกันในกลุ่มเป็นเรื่องที่บางกลุ่มโปรดปราน มันไม่น่าเห็นด้วยเลยสักนิดกับการทำลายชีวิตคนอื่นเพื่อหาเรื่องคุยกัน ไม่รู้จะทำอะไรก็ไปวัดเสียซิ อย่างน้อยนั่งสมาธิก็อาจจะช่วยยกระดับจิตใจต่ำๆกันได้บ้าง


จะว่าไปช่วงหลังพระพายก็ติดนิสัยพี่เจนมาไม่น้อย….


เพราะพี่เพชรบอกว่าพระพายควรจะสู้บ้าง และในบรรดาคนทั้งหมดที่พระพายหวังจะพึ่งได้นอกจากพี่เพชรก็คือพี่เจนที่ตอนนี้เริ่มเข้ามาช่วยงานคุณรบในบางโปรเจ็ค พี่เพชรบอกว่าการได้พี่เจนเป็นคนรักสำหรับคุณรบถือเป็นลาภอันประเสริฐแท้เพราะพี่เจนเก่งทั้งงานในบ้านและงานในที่ทำงาน จริงๆแล้วพี่เจนนั้นอายุมากกว่าและทำงานมาก่อนคุณเพชรเสียอีก ดังนั้นพระพายจึงสามารถขอให้พี่เจนเป็นแบบอย่างได้ แต่ช่วงหลังพี่เพชรก็บอกเหมือนกันว่ากับพี่เจนนี่ให้เอาเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่าง


พูดอะไรงงเนอะ ทุกวันนี้พระพายยังไม่เข้าใจเลย….


“เดินมาล่ะ”  ทัตพูดให้พริมพราวได้วอร์มมือเผื่อว่าต้องก่อวอร์ แต่นี่เราอยู่กันใต้ตึกคณะนะ ใครจะมาก่อวอร์กันที่นี่ได้


“หวัดดีพิตช์”  พริมพราวหันไปทักทาย รอยยิ้มไม่จริงใจนั้นส่งกันไปมา พระพายเพียงมองสองปาร์ตี้ทั้งฝั่งเราและเขาด้วยสายตาปกติ


“พระพาย ตอนนี้ได้ยินว่าไปฝึกงานกับรัตนสกุลเหรอ”  พิตช์นั้นใช้น้ำเสียงไม่เชิงเสียงสอง พวกเรารู้โดยอัตโนมัติว่าต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ อย่างไรก็ตามคนทั้งคณะรู้จักพิตช์และพระพายดี ในส่วนพระพาย….ก็จะมีชื่อเสียติดตัวอยู่หน่อย มีคนมาแก้ข่าวให้แล้ว แต่ไม่รู้จะมีคนเชื่อบ้างหรือไม่


“อืม เราว่างน่ะ”


“เนี่ย จริงๆถ้าว่างก็น่าจะมาช่วยงานชั้นปีนะ เราอ่ะยุ่งไปหมด เขาต้องคิดเรื่องรับน้องปีหน้าแล้ว”  คิดกันแล้วเหรอ ว้า…นี่ยังอยู่แค่ปีหนึ่งเองนะ ทำไมมาไวไปไวนักล่ะ


“อืม ถ้ามีเวลาเราจะไปช่วยนะ”


“ว่าแต่เนี่ย เขาจะมีจัดประกวดแต่งนิยายของเอกภาษาไทยอ่ะ พระพายลงด้วยไหม” 


“ทำไมเหรอ พิตช์จะลงเหรอ”  พระพายถามหน้าซื่อ เพิ่งรู้ว่าปีหนึ่งก็ลงได้


“เปล่า เราไม่ลงแล้วเพราะเป็นเดือนคณะไปแล้ว แต่พระพายลงได้นะ อย่างน้อยก่อนจบปีหนึ่งก็น่าจะได้สักรางวัล เอาเป็นรางวัลเรื่องเขียนนิยายเป็นไง แบบตัวเอกเป็นลูกคนใช้ที่หลอกคนอื่นว่าเป็นลูกเศรษฐีอะไรแบบนี้อ่ะ”


“………….”


“อยากได้ใบสมัครก็บอกได้นะ เดี๋ยวเอามาให้ งั้นไปก่อนนะ”  จะไปแล้วเหรอ พระพายยังไม่ได้ปฏิเสธเรื่องประกวดอะไรนั่นเลย ในขณะที่จะเรียกอีกฝ่าย ก็ต้องพยายามกันพริมพราวที่กำลังกางเล็บออกมาในทันควัน พิตช์นั้นยิ้มเยาะก่อนจะหันหลังจากไป พระพายยังพูดไม่จบเลย ทำไมไปเร็วนักล่ะ อย่างน้อยให้ได้แก้ตัวก่อนสิว่าไม่อยากลงประกวดอะไรเลย เรียนเยอะ งานยุ่ง พระพายไม่ได้เก่งแบบพิตช์ที่เที่ยวเล่นทุกคืนและทำกิจกรรมได้ไม่ขาดนี่นา


และพระพายต้องทำเกรดให้ได้เกียรตินิยมด้วยนะ…


“พิตช์!”  พระพายเรียก ว่าแต่เสียงตัวเองดังพอไหม


ก็น่าจะดังพอ เพราะทั้งคณะได้หันมามอง


“มีอะไรเหรอ พระพาย”  อีกฝ่ายยิ้ม คิดแล้วว่าพระพายต้องหาเรื่องกลับ


“เมื่อเช้าไปใส่บาตรมา”  มีข้าว 1 แกง 1 ขนมและน้ำอย่างละ 1


“หืม..”


“กรวดน้ำไปให้ ได้รับไหมอ่ะ” แม่เคยสอนว่าถ้าใครทำอะไรไม่ดีหรือทำให้เราสบายไม่ใจแปลว่าเขาอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา การทำบุญแผ่ส่วนกุศลไปให้ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ที่ร้ายๆดีขึ้นได้ พระพายจึงทำบ้าง และวันนี้ก็อธิฐานมอบให้พิตช์เพียงคนเดียว สบายใจขึ้นบ้างไหม จะได้รู้ว่าที่ทำไปให้น่ะพอหรือยัง?


“………..”


“…………”


“………..”


“ถ้าสบายใจแล้ว เราขอคืนนะ ปากกาเมื่อตอนรับน้องอ่ะ”


“เอ่อ…..”


“มันหาซื้อไม่ได้แล้ว เอามาคืนเถอะนะ”  จริงๆพระพายก็ขอร้องดีๆนะ


ทำไมต้องวิ่งหนีด้วย….


แล้วทำไมคนอื่นๆต้องหัวเราะด้วย พระพายนั้นเห็นทัตกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ ส่วนพริมพราวก็หัวเราะหลุดจริตหญิงงามแบบที่ชอบพูดถึงไปแล้ว เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆใต้ตึกบ้างก็หัวเราะ บ้างก็มองอึ้ง และบ้างก็กลั้นขำเหมือนทัต พระพายก็พลันหน้าแดงและเขย่าแขนพริมพราว พลาดแล้วพระพาย พลั้งพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ความร้ายๆที่คิดดังเกินไปแบบพี่เจนซึมเข้ากระแสเลือดแล้ว เข้าใจคำว่าเอาเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่างของพี่เพชรที่แท้จริงก็ตอนนี้



“โอ้ยต้องมีคนติดแท้กด่าแบบพระพายแล้วล่ะ”  พริมพราวว่าเช่นนั้น


“คิดได้ไงอ่ะ ไปทำบุญให้จริงๆเหรอ”


“งืม มีข้าวแกงขนมและน้ำหนึ่งชุด น้อยไปไหมอ่ะ”


“เฮ้ยทำจริงดิ โอ้ยไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย ฮ่าๆ” นั่นขำหรือจะตาย ทำไมดูทรมาน


“ก็รู้หรอกว่าไม่ควรถามออกไป แต่ตอนนั้นพระพายก็เคืองอยู่อ่ะ อยากด่าแรงกว่านี้แต่นึกไม่ออก เจ็บใจ”  นี่ขนาดด่าไม่ออกนะเนี่ย โดนด่าไปแบบนี้ยังทำตัวไม่ถูก ถ้าพระพายด่าจริงๆไม่ขาดใจตายไปเลยเหรอ ขำจนขาดใจน่ะ เป็นการด่าที่น่าเอ็นดูเกินไป รับไม่ได้ ใจบาง


“เรื่องที่มาชวนประกวดแต่งนิยายอะนะ ดูออกด้วยเหรอว่าเขามากระแนะกระแหนคดีแข่งเดือนแข่งดาวและเรื่องนามสกุลดังเมื่อเทอมที่แล้ว” ทัตถามแทรก พระพายได้แต่หรี่ตามอง


“ดูไม่ออกก็บ้าแล้ว พายไม่ได้ซื่อขนาดนั้น”  เพื่อนทั้งสองตาโต ก็คิดว่าซื่อมาตลอด ไม่รู้จักเหรอ พระพายโค้ดลับ ‘น้องนางเอก’ น่ะ นี่คิดว่าเป็นนางเอกมาตลอด ทำไมกลายเป็นคนแบบนี้ เอ๊ะ หรือเป็นมานานแล้ว


“สายรหัสคนถ่อยของพ่อเพชรต้องภูมิใจอ่ะ” พริมพราวพูด ทัตพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย


“เรื่องนี้ต้องถึงหูพ่อเพชร”


“เธอก็คิดเหมือนฉันใช่ไหมบีสอง”  พริมพราวหันไปถามความเห็น


“จะไปเล่นตลกคาเฟ่เหรอถึงต้องฟ้องพี่เพชร”  แน่ะๆ ร้ายกาจขึ้นทุกวันนะคนเรา


“เราว่าเขาต้องภูมิใจในตัวพระพายมากแน่ๆ”


“ทำตัวนิสัยไม่ดีอย่างนี้อะนะ”  พระพายย้อนถามทัต พระพายว่าที่ทำไปไม่น่ารักเลย แต่ก็ไม่ได้เสียใจมากมายกับที่กระทำไปเท่าไหร่นัก ถ้าสามารถย้อนกลับไปได้ อาจจะพูดไม่ให้มันดูตลกแบบนี้


“ไม่หรอก มันสมควรแล้ว คนแบบนั้นวีนเหวี่ยงแรงๆไปก็ไม่สะทกสะท้าน เผื่อๆอยากให้พระพายหลุดมาดที่คนอื่นเขาเอ็นดูกันอยู่ด้วย”  ทัตว่า และพริมพราวก็เออออ พิตช์คงคิดว่าพระพายคงเหวี่ยงกลับแบบที่คนอื่นทั่วไปทำกัน แต่นี่คือพระพายนะ จะไปคาดหวังอะไรแรงๆแบบปกติไม่ได้หรอก เคยคบกันมาพักนึงนี่ไม่เคยรู้อะไรกันเลยเหรอ?


“………”


“แต่ทำแบบนั้นเราว่าอีกฝ่ายไม่อยู่เฉยแน่ๆ เตรียมตัวไว้เลย”  พริมพราวย้ำอีกครั้ง เมื่อคิดตามก็ต้องหดคอกลับ


“พระพายไม่สู้ได้ไหม”


“แล้วทำอะไรได้บ้างล่ะ” ทัตถาม


“ไปขอคืนคำและยื่นนิ้วก้อยให้แบบนี้” พระพายยื่นนิ้วก้อยให้ ก่อนจะแสดงความย้อนแย้งในตัว “ได้เหรอทัต พิตช์ปาดคอพายแน่” มือที่ยื่นไปนั้นถูกนำมาโชว์ปาดคอตัวเองช้าๆ


“งั้นก็ตั้งรับเท่านั้น”  ทัตจึงเสริม


“ก็คงอย่างนั้น เฮ้ออออ พายไปซื้อของใส่บาตรสักเก้าองค์ดีกว่า”  หรือจริงๆควรจะอุทิศให้ตัวเองดีที่สุด จะได้มีของไว้ป้องกันภัย เห็นทีว่าอุทิศให้อีกฝ่าย ต่อให้หนีไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว พระพายได้แต่ปลงตกท่ามกลางเสียงหัวเราะของผองเพื่อนที่ตลกในความคาดไม่ถึงนี่ เรื่องนี้ต้องถึงพ่อเพชรจริงๆ


พ่อเพชรต้องภูมิใจที่ผลิตมารร้ายขึ้นมาได้อย่างที่เขาปรารถนา….


และเมื่อได้มาเจอกันอีกครั้งในวันเสาร์ พระพายที่เกเรไม่ยอมกลับบ้านก็ต้องมานั่งวุ่นวายใจกับคุณเลขารุ่นพี่ที่บุ้ยปากไปให้ดูว่าเขาซื้ออะไรมาเตรียมไว้ให้ จริงๆเมื่อคืนนี้เขามาถึงที่หอตั้งแต่กี่โมงพระพายก็ไม่รู้เพราะอ่านหนังสืออย่างเดียว ใกล้จะสอบกลางภาคแล้ว และจริงๆก็มีควิซบ่อยๆ เพราะรู้ว่าตนกลับไปอ่านไม่ค่อยได้เท่าไหร่จึงอาศัยอ่านก่อนกลับไปเยอะๆ เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าเขามาทำงานแล้ว และก็อ้างมาขอกลับด้วยซะงั้นเหมือนเดิมในวันเสาร์


“ทำไมไม่ขับรถมาครับ”  พระพายถาม ใบหน้าบึ้งตึง


“ขี้เกียจครับ แฮะๆ” 


“แล้วนั่งรถไฟ ไปต่อแท็กซี่ แล้วขึ้นรถตู้มานี่ไม่เหนื่อยกว่าเหรอครับ”  พระพายไม่อยากจะบ่นเขา ทำอะไรลำบากอยู่เรื่อย แต่ก็ยอมรับว่าดีใจที่ได้เจอ และจะได้เจอกันเต็มๆวันถ้าพระพายกลับกรุงเทพกับเขา


“ไม่หงุดหงิดสิครับ นี่…พี่ซื้อสังฆทานมาด้วยนะ เผื่อพระพายอยากจะไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล”  ข่าวไปถึงหูพ่อแล้วจริงๆ มาถึงก็เล่นประเด็นนี้ด้วยสายตาแบบนั้นก่อนเลย น่าทุบจริงๆ


“ก็ดีครับ งั้นไปรับคุณแม่ด้วยกันนะ จะได้ไปทำบุญด้วยกันไง”  แต่พระพายไม่ต่อความนั้นด้วยและเปลี่ยนประเด็น ถึงไม่อยากไปยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่น แต่แค่นี้คงไม่เป็นไรอยู่แล้วมั้ง


“ครับ ลูกรักของคุณแม่ไพลินว่าไง พี่เพชรก็ว่างั้นครับ”


“เตรียมตัวเป็นหมาหัวเน่าได้เลย”  พระพายว่าเข้าให้ แต่พระพายคงไม่รู้หรอกว่าจริงๆเขาไม่เคยเป็นที่โปรดปรานได้แบบพระพาย


หลังจากไปทำบุญด้วยกันสามคนเขาก็พาแม่กลับไปกินข้าวและส่งที่บ้าน พระพายไม่ได้ถามว่าทำไมเขาถึงกลับไปกับพระพายในวันนี้ แต่ก็สงสัยอยู่ไม่น้อย จะว่าเพราะจีบพระพายหนักมาก มันก็ดูจะไม่ใช่ทั้งหมด หากใครสักคนมาจีบกันและทิ้งแม่ไว้อย่างนั้น พระพายก็คงไม่ชอบ ทว่าท่าทางการแสดงออกของพี่เพชรในระหว่างที่เราอยู่กันสามคนและเมื่อแยกออกมานั้นมันดูแปลกๆชอบกล


ซึ่งพระพายก็บอกไม่ได้ว่ามันแปลกตรงไหน


เขาพูดเล่น สนุกสนาน หยอกล้อเหมือนปกติทั่วไป ทว่ายามที่ผละจากแม่ออกมาแล้ว และเรามาอยู่ด้วยกันสองคน พี่เพชรที่มักจะทำตัวทะเล้นล้นๆจนต้องดุนั้นก็ดูเงียบขรึม อย่างไรก็ตามพระพายก็คิดว่านี่ก็คือตัวตนของเขาอยู่ดี เพียงแต่ว่ามันดู….ไม่คุ้นเคยกับพี่เพชรวันนี้เท่าไหร่ จริงๆเขาก็เป็นมานานแล้ว หรือเพราะพระพายได้สนิมสนมกับเขามากขึ้น จุดสังเกตเลยยิ่งชัดเจน


“วันหลังพี่เพชรไม่ต้องอ้างมาขอขับรถส่งพระพายกลับบ้านหรอกนะครับ อยู่บ้านกับคุณแม่ก็ได้นะ”


“พี่ไม่อยากค้างที่นั่นนานๆ  กลับกรุงเทพวันทำงานมันเหนื่อยเกินไป”


“แล้วพี่เพชรจะกลับหอไปทำไมละครับ”


“ไปหาพระพายและไปเคลียร์งานไงครับ”


“……….”


“ซึมอะไรครับ”


“คุณแม่พี่เพชรบ่นว่าคิดถึงพี่เพชรหนักมาก”


“………”


“พระพายเลยรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ยึดพี่เพชรเป็นของตัวเองแบบนี้ แต่ก็ดีใจที่พี่เพชรอยากอยู่ด้วย”  มันคือความย้อนแย้งที่ต้องเผชิญ ในขณะที่อยากจะเป็นเด็กดี ทำให้คนอื่นๆรัก พระพายก็อยากจะเห็นแก่ตัวและยึดครองเขาไว้คนเดียว


“พี่ยอมให้พระพายรู้สึกผิดนะ”


“………..



“เพราะมันทำให้พี่รู้สึกดี”  พี่เพชรเห็นแก่ตัวกว่าที่คิด และเขาทำให้พระพายรู้สึกว่าการเห็นแก่ตัวไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรเพราะเราก็เป็น พระพายรู้สึกผิดได้…แต่ก็ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ


เพราะเขาจะไม่ให้ความร่วมมือ


เราไม่ได้ตรงกลับบ้านกันเลยหรอก หากแต่แวะมาดูหนังด้วยกัน ในหนึ่งอาทิตย์อาจจะมีเพียงวันเดียวที่เราได้อยู่ด้วยกันแบบเต็มๆก็จริง ทว่าแค่นี้พระพายก็มีความสุข เพราะงานเยอะ เรียนหนัก และมีคนอื่นๆที่เราต้องดูแล วันอาทิตย์ของพระพายจึงต้องอยู่บ้านเต็มวัน แต่ในระหว่างนั้นเราก็แชทคุยกันถึงเรื่องราววันนั้น


ความสัมพันธ์ประมาณนี้มันดีจริงๆ แต่ลึกลงไปพระพายก็โหยหาความมั่นคงบางอย่าง เพราะที่เป็นอยู่มันเหมือนกับเชือกสองเส้นที่พันกันไว้หลวมๆ มันอาจจะขาดออกจากกันได้ง่าย ทว่าพระพายก็ไม่รู้วิธีการขมวดปมให้ตึง ดังนั้นจึงต้องยอมปล่อยให้ความคลุมเครืออันแสนหวานละมุนนี้ดำเนินต่อไป


“เดี๋ยวนี้พระพายติดมือถือเนาะ”  เจนแอบจ้องมานานแล้ว และน้องก็ไม่ได้จะรู้ตัวจนต้องออกปากเตือน…หรือว่าแซว


“อ่า…พี่เจน”


“กับอีตาเพชรเหรอ”  พอพูดชื่อคู่สนทนาอันไกลโพ้น พระพายก็ตกใจลนลานทำตัวไม่ถูก ทำไมพี่เจนรู้ล่ะ บอกไว้เลย…เรื่องตัวเองเจนไม่ค่อยรู้หรอก ซึนเก่ง แต่เรื่องชาวบ้านนี่ต้องได้เกียรตินิยม


“พี่เจนมีไรให้พายช่วยไหม”


“พายช่วยคิดดีๆเรื่องตานั่นได้ไหม” คำเตือนที่มาพร้อมร้อยยิ้มล้อนี่ดูเจตนายากจริงๆ


สำหรับเจน ตาเพชรอะไรนั่นไม่ได้แย่หรอก แต่แถมฟรีก็ไม่เอา คุณรบว่าร้ายแล้ว แต่ตานั่นก็ร้ายเหมือนกัน และเชื่อสิว่าถ้าเพชรเจนเกิดขึ้นจริงๆแล้วล่ะก็ คงต้องมีเผานั่งยางกันตายแน่นอน เจนไม่ชอบคนแบบนั้นเท่าไหร่ ต่อให้รักแค่ไหน…ก็ไม่แน่ใจว่าจะรักพอขนาดที่จะเปลี่ยนคนกะล่อน ให้จริงใจกับเราได้จริงๆหรือเปล่า ตัวพระพายนั้นมีความพิเศษในตัวที่อาจจะสร้างปาฏิหาริย์บางอย่างได้ แต่….ก็ยังน่าห่วงอยู่ดี เพราะปรบมือข้างเดียวไม่ดังจริงๆ


ถ้าตาเพชรไม่ได้รักน้องมากขนาดจะให้ความร่วมมือ
พระพายไม่มีทางเข้าไปในห้องหัวใจชั้นในของอีกฝ่ายได้หรอก


เจนไม่ได้บอกว่าเลขาทุกคนหน้าไหว้หลังหลอกหรือสวมหน้ากากเก่ง แต่ในชีวิตการทำงาน ยิ่งขึ้นสูง หน้ากากยิ่งมาก และไม่ว่าจะเจนรักษ์หรือเพชรพิสุทธิ์ เราดิ้นรนต่อสู้เก่งกันทั้งคู่ นั่นหมายความว่าสิ่งที่ผ่านมาทำให้เรามีของแบบนั้นอยู่ในตัว ซึ่งเจน…ยังไม่ค่อยเห็นคนๆนั้นถอดมันออกมาเท่าไหร่ และเพราะเป็นเช่นนั้น เราจึงเป็นไปได้ยาก มันไม่คุ้มที่จะเข้าไป ก็ไม่ได้รักขนาดนั้น งั้นสู้ไม่เริ่มเลยดีกว่า


ในตอนที่เลขาของคุณรบได้ยินที่เจนคุยกับแฟนเก่าและรู้เรื่องเกี่ยวกับเจนทั้งหมด แววตาของหมาป่านั่นทำให้เจนรู้ว่าเขาคาดหวังอะไรบางอย่างในตัวกัน ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะหวังให้เจนมาคบกับคุณรบแบบนี้ แต่ก็ดูออกว่าอีกฝ่ายหวังใช้ประโยชน์กัน หากจะบอกว่าเพชรคือหมาป่า เจนก็จิ้งจอกนั่นแหละ รู้ทัน แต่ไม่ทำอะไร


เพชรพิสุทธิ์นั้นวางความสัมพันธ์ของตนเองกับผู้อื่นให้มีฐานะทางผลประโยชน์ร่วม เขาเป็นเลขาของคุณรบ สถานะอย่างเป็นทางการคือคนที่จะหวังดีกับเจ้านายตราบที่จะได้รับเงินเดือน เจนมาคิดได้ทีหลังว่าตานี่ทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ ไม่ว่ารูปแบบไหนก็จะตลกกลบเกลื่อนกะล่อนไปเรื่อย ดูได้จากการกำเนิดเรือรบเจนของบ้านรัตนสกุลสิ ถ้าไม่ใช่เพราะเพชรพิสุทธิ์เป็นคนริเริ่ม บางทีเจนกับคุณรบก็ยังไม่ได้คุยดีๆกันหรอก


และมันดีตรงไหนที่เจนกับคุณรบได้กันนะเหรอ? ได้ยินว่าโบนัสรอบนี้มีความพิเศษกว่าทุกปีเลยทีเดียว นอกจากเจนเข้าไปช่วยเรื่องการวางระบบที่บริษัทบ้าง ก็มีการจ้างงานคนใหม่ๆที่เล็งไว้มากขึ้น หลังจากที่คนเก่าๆที่มีอิทธิพลมานานลาออกไปเพราะโดนคู่แข่งซื้อด้วยความไม่พอใจที่คุณนักรบมารักกับเจนและตัดใจเรื่องเมียเก่าได้เด็ดขาด


ผลจากเหตุการณ์นั้น ทำให้คุณรบก็ไม่ทำงานหนักเท่าก่อนเพราะเขาไม่ต้องมาระแวงพวกงูแก่ๆที่จ้องจะฉกกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ และนั่นทำให้งานเลขาก็ลดลงด้วย พวกนั้นไม่รู้เลยว่าคุณรบหาเรื่องให้ออกอยู่แล้ว และเพชรผู้เป็นเลขาที่ดีก็ได้ช่วยหาวิธีที่จะทำให้งานมันง่ายขึ้น โดยเอาหัวใจของเจนรักษ์และนักรบเป็นเดิมพัน


ทั้งนี้ต่อให้เจนกับคุณรบไม่ได้กันจริงๆ  แต่ข่าวลือที่แผ่ออกไปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาของเจ้านายและพี่เลี้ยงก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ศัตรูเป็นฟืนเป็นไฟจนพยายามทำลายเราโดยไม่รู้ว่านี่คือกับดัก เจนอาจจะโกรธที่ถูกกระทำเหมือนเป็นหมากตัวหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะผลตอบรับมันน่าสะใจยิ่งกว่า


ถ้าเป็นเจน…ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงจะทำเหมือนกัน และนอกเหนือจากความต้องการผลงานของตาเพชรแล้ว เจนรู้ว่าทั้งหมดนี้ที่เขาทำไปด้วยความสะใจเหมือนกัน อาจจะโดนผีใส่มาเยอะจนแค้นจัดนับวันรอเอาคืนกลับจนเนื้อเต้นไปหมด ตลกร้ายไหมล่ะ…ตาเพชรพิสุทธิ์คนนี้ที่เจนรู้จัก คนเจ้าเล่ห์พรรค์นี้ จะเอาด้านมุมไหนของตนเองไปให้น้องเรียนรู้…


“พระพายจะระวังครับ”  น้องไม่ได้ใสซื่อขนาดจะตามไม่ทันหรอก แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลา เจนเชื่อว่าน้องคงรู้ตัวอยู่แล้ว ว่ากำลังเผชิญกับอะไร และถ้ามันไม่คุ้มจะเสี่ยงพระพายคงไม่จุ่มเท้าเข้าไปแล้วส่วนหนึ่งแบบนั้น เพชรเองอาจจะร้ายกับคนเป็นร้อยพัน แต่หนึ่งในนั้นอาจจะไม่ใช่พระพายเลยก็ได้ เพราะตั้งแต่สังเกตมา….ท่าทางของเขา ไม่เหมือนที่มีให้ใครเลยจริงๆ


ภายใต้ความอดทนนั่น เขากำลังสร้างอะไรบางอย่างที่มั่นคงอยู่ ในความร้ายกาจเจ้าแผนการทั้งหมดเจนเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับตัวพระพายที่สุด ถ้าไม่รู้สึกอะไรด้วย คนบ้าบางคนคงไม่เฝ้าเหยื่อของตนตั้งนานสองนานโดยไม่จับกินสักทีแบบนี้ ตานั่นไม่น่าป็อดเหมือนคุณรบหรอก….มั้งนะ


อย่างไรก็ตามเจนก็เห็นว่าเพชรนั้นไม่ได้คิดร้าย เขาลดการ์ดของตัวเองลงกับน้อง ในวันที่เขามาขอให้เจนช่วยคุยปลอบพระพายก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแคร์และมีความชัดเจนพอ เมื่อเทียบกับคุณรบในตอนนั้น เพชรดูชัดเจนกว่า แต่ถ้าน้องเรียกร้องขึ้นมา…คนพี่จะมอบให้แค่ไหนกัน เจนนั้นอยากเห็นบทสรุปของสองคนนี้นัก ว่าการที่เพชรพยายามเปลี่ยนโลกทั้งใบของพระพาย


ตนเองจะถูกน้องเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแทน


Talk: ยังเหลืออีกปมเล็กๆสองปมของคู่นี้ที่เรามีแง้มๆออกมาแล้วคนละปมคนปัญหา แต่สุดท้ายเราจะจบดีๆเพื่อเป็นรางวัลคนขยันให้กับพระเอกที่พายเก่งที่สุดในซีรีส์นี้ มีคนเดาด้วยว่าเจนต้องไม่ยอมยกน้องให้ แต่จริงๆเจนใจดีค่ะ จริงๆคือเจนมีลูกชายสองคนต้องดูแล ไม่ว่างมาคอยกีดกันจีงๆ วอนจงเห็นใจ555 เมื่อวันก่อนเราแอบสปอยล์รูปน้องวินในทวิต ในเด็กดี และในเฟซ น้องน่ารักไหมคะ ตอนเห็นครั้งแรกนี่คือกรีดร้องให้ในความน่าฟัด ฮืออออออ ถ้าน้องออกมาเป็นเล่มแล้ว อย่าลืมรับน้องไปฟัดกันนะคะ อย่างไรก็ตาม เพชรพระพายก็จะอยู่ในนั้นด้วย อ่านไปก็อย่ากรอกตาบนบ่อย เป็นห่วงสุขภาพ555


Twitter @reallyuri
Facebook : https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202 (https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202)







หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 25-09-2018 20:33:43
 :heavenเมือมีที่ปรึกษาดีขนาดนี้ พะพาย จะบ้มยักเพรชได้หรือรอติดตามตอนค่อไป 555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 25-09-2018 20:37:48
พายน่ารักมาก วิธีโต้กลับคนใจร้ายก็ยังน่ารักน่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-09-2018 21:08:06
คือโดนพระพายถามดังๆว่าทำบุญให้ได้รับมั๊ยนี่อยากจะแทรกแผ่นดินหนีเลยนะ เจ็บมากถามแบบใสซื่อ555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-09-2018 22:04:52
น้องพายยย ด่าแบบนี้เอาน้ำสาดเลยเถอะลูกเอ้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 26-09-2018 10:23:39
 o13 ดีมากน้องพาย.....คนแบบนี้ไปดิ้นใสมันไม่ได้ ต้องตอกกลับแบบคนมีสกุล ด่าเหมือนไม่ด่าไง :laugh: o18
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-09-2018 12:52:45
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่8) 25.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 26-09-2018 23:51:59
เจอตัวแล้วคนเต้าจ่าวใส่ร้ายพระพาย แบบนี้น่าให้แก๊งค์สายเทคของคุณพ่อเล่นงานซะจริงๆ
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 27-09-2018 20:44:30
เพชรพระพาย
พระพาย ชวนันท์

พระพายก็ไม่คิดว่าตนจะได้ต้อนรับแขกที่ไม่เคยพบหน้าที่ใต้ตึกคณะในวันนี้ และตอนนี้กำลังนั่งงงมากๆเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเด็กแฝดคู่นี้ เราเรียนอยู่ปีเดียวกัน คนละคณะ คนละวิทยาเขต อาจจะเดินสวนกันตอนรับน้องรวมหรือไม่ยังไงก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยด้วยมาก่อน แม้ว่าคนอื่น….บางคนจะคิดว่าเรารู้จักกันแล้วก็ตาม


คณะที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายพลันเงียบเหมือนป่าช้า เมื่อคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนเดินเข้ามาและตรงมาที่โต๊ะนี้ พระพายว่าเคยพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันมาก่อนนะ หรือว่าวันนี้ต้องพูดอีกครั้งให้ทั้งสองคนเข้าใจว่าไม่เคยอยากเกาะพวกเขาดัง แค่เรามีนามสกุลเหมือนกัน แต่เราไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย


“พระพาย ชวนันท์ใช่ไหม”


“ครับ”  พระพายตอบรับเสียงเบา หนึ่งในสองคนนั้นถามมา ใบหน้าติดจะเหย่อหยิ่ง แต่พระพายก็ไม่ได้จะอ่อนให้เสียทีเดียว อย่างไรก็ตามพระพายยึดหลักการในการดำเนินชีวิตในทางสงบ


“นายรู้ไหมว่าเราสองคนคือใคร”  ถ้าเป็นพี่เจนต้องพูดแน่ๆว่าตัวเองยังไม่รู้ แล้วจะมาถามคนอื่นทำไม แต่พระพายทำได้แค่พยักหน้า


“แล้วรู้ไหมว่าทำไมเรามาที่นี่”  วิทยาเขตต่างจังหวัดที่ต้องนั่งรถมาเป็นชั่วโมง พระพายส่ายหน้า แต่คิดดีไม่ได้เลย


“นายมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรารู้ตัวไหม”


“หืม…ถ้ามาเรื่องข่าวลือว่าผมเป็นญาติละก็ ต้องขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนนะ ผมได้พยายามบอกคนอื่นไปแล้วว่าไม่ใช่”


“ไม่ใช่งั้นเหรอ….”  คนหนึ่งย้อนคำพูดพระพาย


“แก้ตัวแล้วด้วย”  อีกคนก็สมทบ จะเอายังไงกันนะสองคนนี้ ต้องทำยังไงเหรอเขาถึงจะพอใจ


“วันนี้เรามาเรียนที่นี่ แต่เดี๋ยวต้องรีบไปแล้ว เอาเป็นว่าติดต่อมาที่นามบัตรนี้ด้วย”  คนหนึ่งได้ยื่นนามบัตรให้พระพาย ทั้งๆที่คำอธิบายอะไรก็ไม่ได้มีเยอะแยะเลย


“เราอยากคุยกับนายมาก เรื่องชวนันท์ เอาเป็นว่าติดต่อมาด้วยล่ะ”  แต่พระพายไม่ได้เห็นความจำเป็นต้องคุยกับเขาเลยสักนิดเพราะตั้งแต่เกิดมาพระพายก็ไม่ได้รู้จักชวนันท์เลย โลกเล็กๆของพระพายมีแต่คนที่พระพายล้วนรู้จักแล้วทั้งนั้น จึงไม่เคยสนใจมาก่อน ทว่าดูเหมือนคนอื่นจะให้ความสนใจกับการที่สองพี่น้องนั้นมาหากัน ทุกคนดูมีคำถามมากมายยิ่งกว่าตัวพระพายเองเสียอีก และเพราะไม่รู้จะจัดการยังไง คนเดียวที่หวังพึ่งได้ก็คงจะมีแค่เขาคนนั้น


คนที่พระพายใช้เวลาก่อนนอนมาบอกราตรีสวัสดิ์
และเฟซไทม์หากันบ่อยครั้งหลังอาบน้ำ


“………..”


“เขาให้นามบัตรมาด้วยอ่ะ”


“นามบัตรของเขาเหรอครับ”  เพชรถาม สองคนนั้นยังเป็นแค่เด็กอยู่ไม่ใช่หรือไง


“ฮึ…นามบัตรของบริษัทอ่ะ ตำแหน่งเดียวกับพี่เพชรเลย”  เป็นเลขา แต่เลขาของใครกันละ


“พระพายถ่ายรูปนามบัตรส่งให้พี่ดูหน่อยได้ไหม”


“ไม่เอาอ่ะ นี่ไม่ใช่งานของพี่เพชรนะ พระพายแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ เหมือนเล่าให้ฟังว่ากินอะไร”


“โหหหหหหห ต่อมเสือกพี่กระพือไปหมดแล้ว ถามจริงเรื่องมันเล่นใหญ่ขนาดนั้นเอาไปเปรียบเทียบกับอาหารกลางวันได้เหรอครับ”  เพชรทั้งขันทั้งเอ็นดู พระพายไม่อยากให้เขามานั่งลำบาก แต่เล่าให้ฟังแบบนี้ใครมันจะไปอดใจได้ นี่ใคร…เพชรพิสุทธิ์เลขาคุณรบไง ที่เสือกจนเจ้านายได้เมียแต่ตัวเองยังหาเมียอยู่ ให้ตายเหอะทำไมพระพายทำเหมือนไม่รู้จักเขาเลย จริงๆน้องอาจจะรู้จัก แต่ไม่อยากใส่ใจเรื่องสันดานส่วนตัวนั้นก็เป็นได้


“ก็มันไม่ใช้งานพี่เพชร เรื่องส่วนตัวของพายมันวุ่นวาย”


“แล้วไม่อยากให้พี่เขาไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเหรอครับ”


“……”


“มันไม่ใช่งานนะรูก พี่เพชรอยากมีส่วนร่วมตั้งแต่พระพายเกิด เข้าโรงเรียน สอบติดมหาวิทยาลัย งานรับปริญญา”


“อย่ามาพูดว่าวันตายด้วยนะ”


“พี่คงตายก่อน” เพราะอายุมากกว่าและปากหมาด้วย อาจจะตายก่อนจริงๆ


“……”


“อยากมีส่วนรวมในวันแต่งงานอ่ะได้ป่ะ”


“บ้า” 


“แหม ทำเป็นเขิน เราอาจจะอยากไปเป็นแขกหรือคนกล่าวบนเวที”


“พี่เพชรไม่น่านับถือพอจะเป็นประธานในงานของพายหรอก” ปากดีนะเด็กน้อย


“ใครบอกจะเป็นประธาน จะเป็นเจ้าบ่าวตะหาก”  น่ะๆ  อย่าท้า เดี๋ยวไปขอกับแม่แล้วจะหนาว พระพายไม่ต่อความเรื่องนี้และยินยอมส่งนามบัตรให้เขาแต่โดยดี


“เอาไปแล้วห้ามเอาไปบอกใครนะ”


“พี่ไม่บอกหรอก แต่พระพายควรคุยกับแม่นะ”


“………..”


“พี่เพชรก็ไม่อยากจะบอกว่าติดละครหลังข่าวเหมือนกัน แต่ว่ามันน่าสงสัยไหม”


“พาย….กลัว”


“ความจริงบางเรื่องเราเลี่ยงจะกลัวไม่ได้หรอกครับ แต่ไปถามแม่ดู แม่อาจจะตอบกลับมาว่าเพ้อเจ้อก็ได้”


“พายก็อยากจะเพ้อเจ้อ แต่เอาจริงๆก็กลัวอะครับ”


“งั้นพี่เพชรไปเป็นเพื่อนไหม ยังไงพระพายก็เอาแม่พี่ไปแล้ว พี่ไปเจอแม่น้องบ้าง แฟร์ดี”  ก็เหมือนจะแฟร์แต่พระพายก็ว่ามันทะแม่งๆ ชัดเจนกว่าเจนรักษ์ก็ดูจะเป็นเพชรพิสุทธิ์นี่แหละ รักจริงหวังแต่งขนาดไหน ถ้าก้าวพลาดไป รับรองว่ารัตนสกุลได้เฉือนระบบสืบพันธุ์หลักของเขาแน่นอน นี่ใจๆแค่ไหนจะเดินเข้าไปหาในบ้านนี่ ฝากให้น้องได้คิสนิสนึงว่าเขาเอาจริง


“จะดีเหรอครับ” ดีสิ…มันต้องดีอยู่แล้ว


ก็บอกแล้วไงว่าอยากอยู่ร่วมในทุกโมเมนท์ของชีวิต….


ถ้าจะพูดว่าชีวิตที่ผ่านมาของเพชรพิสุทธิ์นั้นเคยจริงใจกับใครเท่านี้หรือไม่ ดูหน้าด้วย หล่อๆแบบนี้มีหรือว่าจะเป็นมิตรต่อทุกคนบนโลก เขาเลือกที่รักมักที่ชังได้ดี และก็ไม่ได้ปิดเรื่องที่มีนิสัยแย่ๆหลบในแบบนี้ เขามีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตคนเดียว แต่การได้มาหวานเลี่ยนแบบหวังผลใส่ลูกของแม่บ้านบ้านของเจ้านาย เขาก็หวังผลประโยชน์เช่นกัน


และนั่นคือเหตุผลที่เขากับพระพายมาที่บ้านรัตนสกุลในวันเสาร์ เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำแน่นอน และเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของน้อง เขาจึงเสนอแนะว่าควรจะคุยกับแม่ก่อน แต่แม่จินของพระพายเป็นคนดุและไม่ยอมใครง่ายๆ การมีเขาอยู่อาจจะช่วยทำให้เกิดความเกรงใจในระดับหนึ่ง แต่น้องก็ยังกลัวอยู่ดี เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้….ถ้ามันหนักหนามาก ก็หนีตามกันได้เลย ค่าสินสอดจะได้ไม่ต้องเสีย (ผิดส์และมีโทษถึงตาย)


“…………”


“แม่จ๋า…..”


เพชรเป็นคนพูดเรื่องนี้แทนน้องเพราะพระพายมิอาจจะอ้าปากพูดอะไรออกไปได้ ไม่ใช่ว่าพระพายจะไม่สงสัย ทว่าน้องยังหลอกตัวเองเก่งพอตัว ในส่วนเขาที่เหมือนจะเสือกเรื่องครอบครัวคนอื่นเก่งนั้น น้าจินได้ทราบแล้วว่าเขานั้นคิดกับลูกชายอย่างไรและไม่ได้กีดกัน ดังนั้นการปรากฏตัวมาเจ้ากี้เจ้าการประหนึ่งพระพายเป็นลูกของตัวเขาเองนั้น จึงไม่ถูกรังเกียจแต่อย่างใด ทว่าอย่างที่คิดไว้ว่ามันมีเงื่อนงำ ไม่เช่นนั้นคนปากไวอย่างจินตนาน่ะหรือ จะเงียบเช่นนี้


“พายไม่รู้ก็ได้นะแม่ เรามาลืมๆกันนะ”


“พวกเขาบอกว่าจะกลับมาหาเอ็งไหม” 


“เขาบอกว่าให้ติดต่อมาให้ได้นะจ้ะ”


“แม่ไม่อยาก…ให้เอ็งไปเกี่ยวข้อง”


“แต่ทางชวนันท์ไม่น่ายอมนะครับ”  เพชรเอ่ยปากออกมา ตอนนี้เราอยู่ที่ห้องทานข้าวของบ้านคุณรบ นั่งคุยประหนึ่งยึดบ้าน และเหมือนเราเด็กสองคนจะกดดันคนที่มีความอาวุโสมากสุด เพชรอาจจะอยากรู้จนเนื้อเต้น แต่ปล่อยมันเต้นไป วุฒิภาวะเขามีมากพอจะยับยั้งชั่งใจ และนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพระพายที่เกี่ยวข้องกับแม่ เขาคงเข้าไปยุ่มย่ามอะไรไม่ได้อยู่แล้ว


“……….”


“คุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้ไหมครับน้าจิน”  เพชรถาม เพราะถ้าหากฝั่งนั้นเขามาวุ่นวายกับทางผู้ใหญ่ของรัตนสกุล สู้คนในเป็นฝ่ายบอกก่อนไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่เสียน้ำใจกัน


“คุณหญิงท่านพอรู้เรื่องแต่น้าก็ไม่อยากรบกวนท่านหรอกนะ”


“ไม่ต้องไปรบกวนหรอกครับ ผมแค่กังวลว่าถ้าเขาติดต่อมาที่คุณรบหรือคุณหญิงท่าน จะเสียน้ำใจกันเปล่า”


“…………..”


“ผมในฐานะเลขาอาจจะไม่สามารถกันอะไรตรงนั้นได้ ผมเลยแค่เสนอไอเดียเฉยๆ ยังไงน้าจินลองทบทวนดูก่อนก็ได้ครับ”  พระพายนั้นเงียบไปแล้ว ดูท่าจะใจเสียเพราะสีหน้าของแม่ แม้ว่าน้องจะไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจอะไรเลย


ในที่สุดเราก็ได้ข้อสรุปโดยการไปบอกเรื่องนี้ให้นายใหญ่ของบ้านทราบ และเพชรก็เนียนกินข้าวเย็นต่อที่บ้านรัตนสกุลอย่างที่ไม่ได้มีนัยแดกฟรีซ้อนเร้นแนวๆนี้ในหัวมาก่อน


“อืม”  หลังจากที่รับฟังเรื่องราวจากเพชรฟีจเจอร์ริ่งพระพายแล้ว ท่านก็ทำเพียงถอนหายใจออกมา ตอนนี้สองแม่ลูกได้ตัวลีบลงเหลือเท่ามดแล้ว เพชรยังคงบีบมือพระพายให้กำลังใจ บอกแล้วว่าพี่เลี้ยงได้ พี่จะพาน้องหนีเอง


“คุณเพชร”  แต่นางร้ายของเรื่องก็ขัดจังหวะ


“ครับ คุณเจน”


“มืออ่ะ….ไม่ต้องจับตลอดก็ได้นะ น้องไม่หนีไปไหน ไม่ต้องเครียด”  ไม่ได้เครียดแต่หลอกแต๊ะอั๋ง บนโลกนี้ไม่ต้องมีคนแบบเจนรักษ์ก็ได้นะ คือลวนลามคนอื่นเก่งจนรู้ทันชาวบ้านเขาไปหมดแบบนี้ เพชรเองก็กะให้กำลังใจไง เจนก็คิดมากน้า พระพายสลัดมือเขาออกมาอย่างไม่ใยดี ใบหน้าซีดๆของน้องพลันเจือด้วยสีแดง ดวงตากลมเหมือนลูกกวางนั้นหลบตาคนพี่จนต้องเสมองพื้น ส่วนตาคนมักมากก็ได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อนให้คุณหญิงและคุณรบ


“ก็ติดต่อเขากลับไป”


“แต่คุณหญิงคะ”  จินตนาจะร้องท้วง


“ลูกโตแล้วจินตนา เราเลี้ยงเขามา เรารู้ว่าเขาจะคิดยังไง”


“………”


“ไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก เพราะเราจะส่งคนที่เลวร้ายกว่าไปช่วยงานด้านหน้า” 


“ใครเหรอครับ”  เพชรถาม คนที่ชั่วร้ายที่ว่านี่หรือจะเป็นคุณเจน ก็ดีนะ คุณเจนดูคล่องตัว ปากจัด แซะเก่ง รู้ทันชาวบ้าน


“เลขาตารบ ชื่อนายเพชรพิสุทธิ์ ชั่วร้ายและกะล่อนที่สุดเท่าที่ชาตินี้ฉันเคยเจอ”  สาบานว่านั่นคือคำพูดของคุณหญิงพรรณี เพชรได้แต่ยิ้ม บอกไม่ถูกว่ารู้สึกขมหรือหวาน พระพายเหลือบมองหน้าคนที่เสนอมือยื่นมาแต่ต้น ทั้งๆที่บอกว่าไม่อยากให้เขามาข้องเกี่ยวเพราะมันไม่ใช่งาน แต่ในที่สุดก็มีคนประทานงานให้แล้ว และน่าแปลกใจไม่น้อยที่เขายินดีจะทำมัน….


มากกว่างานเอาแก้วกาแฟที่ไม่ได้กินของคุณรบไปเก็บด้วยซ้ำ….


“แต่ว่ามันรบกวน”  พระพายพูดออกมา อย่างไรเด็กดื้อคือเด็กดื้อ


“ไม่หรอก ต่อให้ไม่ทำคุณเพชรก็ต้องแอบไปทำอยู่ดี ผมว่ารู้จักเลขาผมดี”  ซึ้งใจคุณรบจริงๆที่รู้ทัน แต่ใช่แล้ว ยังไงก็จะทำ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะชอบเสือกใช่ไหม นั่นก็ส่วนหนึ่ง….แต่เขาไม่ได้อยากรู้เรื่องน้ำเน่าๆของทุกคนบนโลกซะหน่อย


แต่เรื่องน้ำเน่าของพระพายมันหอมเหมือนกลิ่นดอกไม้ต่างหาก….


“เป็นเลขา โดนแบบนี้มาต้องทำยังไงรู้ใช่ไหม ไปทำซะ”  คุณหญิงเน้นย้ำ และเมื่อได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ สองแม่ลูกผู้หน้าบางจึงไม่มีเหตุผลที่จะอ้างปฏิเสธอะไรได้อีก จินตนานั้นเช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหลออกมา พระพายใจเสียไม่น้อยที่เหมือนตัวเองเป็นคนเอาเรื่องหนักใจมาให้ครอบครัว แต่เมื่อมองไปที่คนข้างๆซึ่งตอนนี้ไม่ได้จับมือกันอีกแล้ว รอยยิ้มของเขาก็ทำให้น้องได้รู้ว่าต่อให้ไม่ได้จับมืออยู่จริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน


“มันจะโอเคครับ”  และเขาก็จะทำให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ


เพราะตัวร้ายเช่นเขาเทิดทูนนางเอกของเรื่องนี้กว่าใคร…..


และเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างเป็นมืออาชีพ ยิ่งกรณีถูกผลักดันให้ทำอย่างเป็นทางการ เขาจึงติดต่อไปที่เลขาของทางนั้นในฐานะเลขาของคุณรบที่ติดต่อมาด้วยเรื่องส่วนตัวของคนในบ้าน รัตนสกุลรักพระพายของเขามาก อาจจะมองเห็นเป็นลูกหลานคนหนึ่งเลยก็เป็นได้ ทั้งนี้เขาเข้าใจเจตนาของคุณหญิงดี เพราะเราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาดีหรือมาร้าย คนสมัยนี้ดูให้รู้ใจกันก็ยาก การมาในฐานะของรัตนสกุลเป็นการประกาศชัดว่าสองแม่ลูกนี้อยู่ในการดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นจะเล่นแง่อะไรย่อมทำไม่ได้ง่าย และเมื่อติดต่อไปอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา


และเราก็ได้ข้อตกลงในการเข้าพบกันอย่างเป็นทางการ


“…….”  พระพายนั้นดูตื่นเต้น แน่นอน น้องยังเด็ก ส่วนแม่นั้นไม่มาเพราะไม่พร้อมจริงๆน้องจึงต้องมาแทน


“ตื่นเต้นเหรอครับ”  เราอยู่กันที่ห้องอาหารที่ถูกจองไว้ บางทีเขาก็จองให้คุณรบเพื่อประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับลูกค้าบ้างเช่นกัน พระพายนั่งเงียบ นั่งเฉยๆดูเหมือนปกติแต่เขาดูออกว่าน้องนั้นตื่นเต้น


“ก็…งืม”


“เป็นผู้ใหญ่แล้วน้า”


“แล้วตื่นเต้นไม่ได้เหรอ”  น้องจะร้องไห้แล้ว ดูสิเบะใหญ่เลย โอยยย อยากปลอบแต่ก็อยากจะทำให้ร้องเอง สับสนกับตัวเองชิบหาย บ้าไปแล้ว!


“ได้ครับ แค่จะบอกว่าวันนี้โตแล้ว เก่งแล้ว ไม่ร้องไห้”  สุดท้ายก็อวย ผู้ชายสไตล์พ่อที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูที่แท้ทรู ต้องได้ไปเป็นเขยอ่ะ ดีขนาดนี้ต้องได้ไปเป็นเขยแล้วจริงๆ


“พี่เพชร….”  อย่าเบะสิลูก เดี๋ยวศีลแตกจับแกล้ง


“พระพายเชื่อพี่นะว่ามันต้องผ่านไปได้”


“อืม”


“ถ้าพระพายทำดีพี่พาไปเลี้ยงบิงซู”


“แล้วถ้าพายทำไม่ดีอ่ะ”


“จะพาไปกินหมูกระทะปลอบใจ”


“……….”  คือยังไงกูก็จะพาไปอย่างนี้ใช่ไหม?


“แต่พี่เชื่อว่าพระพายทำได้อยู่แล้วครับ”


“พี่เพชร”


“งั้นวันนี้ไปกินบิงซู และอาทิตย์หน้าพี่พาไปกินหมูกระทะ อืม..ใช่ได้”  คิดเองเออเองชงเอง พระเอกนิยายเรื่องนี้เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว เจนไม่นกยังต้องมีชิปเปอร์ แต่นี่พระเอกคือใคร พายมาเองตั้งแต่ต้นเรื่องให้รู้ไว้ด้วย บอกแล้วว่าไม่เคยนก เพราะฮาร์ดเซลล์ยิ่งกว่าพระเอกเจนไม่นกไงเล่า!


การพบกันของเราสองฝั่งถูกดำเนินไปอย่างเป็นมืออาชีพ และในตอนนี้เรื่องที่พวกเราได้ยินมาก็ถูกยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ฝันหรือพลอตละครน้ำเน่าที่ไหน พระพายไม่ใช่แค่ลูกคนใช้บ้านรัตนสกุล หากแต่ยังพ่วงตำแหน่งลูกชายของหนึ่งในทายาทของตระกูลชวนันท์ที่ร่ำรวย น้องนิ่งเงียบ ปล่อยให้ตัวแทนของตนซึ่งคือพี่เพชรเป็นผู้พูด ไม่ใช่ว่าน้องไม่มีคำถาม แต่สถานะใหม่ที่ตนได้รับมานี้มันทำให้พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้คงต้องมีแต่ความเชื่อใจในตัวเขาแล้ว เพราะพระพาย….ไม่สามารถรับรู้ได้อีกต่อไป


“เนื่องด้วยคุณท่านใหญ่นั้นอายุมากแล้ว เลยมีความประสงค์อยากจะพบคุณพระพายสักครั้งนะครับ” คุณท่านใหญ่หรือคุณปู่ของพระพายนั้นอยากเจอกัน แต่ตลอดที่ผ่านมา พระพายไม่เคยได้ยินหรือรับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาเลย เขาเอง….รู้หรือไม่ ว่าพระพายมีชีวิตมาสิบกว่าปีแล้ว และทำไมต้องเป็นตอนนี้?


“ทางผมขอสอบถามหน่อยได้ไหมครับ ว่าทำไมถึงรู้ว่าคุณพระพายเป็นใครอยู่ที่ไหน”


“จริงๆต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่าตอนที่คุณจินตนาอุ้มคุณพระพายหนีออกจากบ้านไป ทางเราไม่มีใครรู้จริงๆ ทางคุณวุฒิชัย….คุณพ่อของคุณพระพายเองก็ดูเหมือนจะมีการตกลงกับทางคุณจินตนาเอาไว้จึงไม่มีการไปพบ แต่เท่าที่ทราบคือคุณวุฒิชัยมีการส่งเงินทองมาให้ใช้บ้าง”  จริงๆแล้วแม่ของพระพายติดต่อกับพ่อมาตลอด เงินที่พระพายใช้ไปนั้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากคนเป็นพ่อก็เป็นได้ เด็กหนุ่มก้มหน้าลง มือเล็กกำแน่น ก่อนจะเงยหน้ามาและมองตัวแทนทางฝั่งพ่อของตนพูดต่อไป


ว่าทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้….


“จริงๆแล้วเพราะคุณพัดและคุณภามที่บอกเราว่าเจอคุณพระพาย”  พัดและภาม นั่นคือชื่อของฝาแฝดที่เป็นคนยื่นนามบัตรมาให้ อาจจะเพราะความฉาวของพระพายที่คนลือกันผิดๆว่าเป็นคนของตระกูลชวนันท์ จึงทำให้เขาตามตัวกันเจอ ใครจะไปรู้ว่าเรื่องตลกร้ายในวันนั้นจะกลายมาเป็นเรื่องจริงในวันนี้ พระพายเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกเขาจริงๆ


“ขอบคุณสำหรับวันนี้ครับ ยังไงทางเราคงต้องเอาเรื่องนี้กลับไปพูดคุยกันอีกที ถ้ายังไงผมจะติดต่อกลับไป”  เพชรนั้นกล่าวปิดบทสนทนาให้เพราะเขารู้ว่าน้องอาจจะไม่ไหวแล้ว และเพราะยังไม่รู้จักอีกฝ่ายดี เขาจึงไม่หวังให้พระพายแสดงความอ่อนแอ สำหรับเขาแล้วน้องจะอ่อนโยนกับศัตรูได้เพราะเขาแข็งพอที่จะต่อกร แต่พระพาย….จะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด


“ถ้ายังไงทางเราอยากให้คุณพระพายได้ไปเจอคุณท่านใหญ่จริงๆ ช่วยเห็นแก่ท่านด้วยเถอะนะครับ”


“………….”


“คุณวุฒิเธอปิดเรื่องของคุณไม่ให้ท่านรู้มานานแล้ว ท่านรอคุณมาหลายปี ได้โปรดไปเจอสักครั้งเถอะครับ”  แล้วทำไมคุณวุฒิอะไรนั่น ถึงต้องปิดเรื่องของพระพายไม่ให้คุณท่านใหญ่ตามเจอล่ะ ปริศนาตรงนี้พระพายไม่เข้าใจจริง


ว่าพ่อของพระพายนั้นประสงค์ดีหรือร้ายกันแน่…..


ไม่มีบิงซูสำหรับรางวัลคนเก่ง แต่เป็นพระพายที่นั่งกอดแก้วน้ำในรถของเพชรพิสุทธิ์ น้องยังคงนิ่ง ไม่พูดไม่จา และเขาก็ไม่ได้ก่อกวนอะไร วันนี้มันหนักหนาสำหรับเด็กที่กำพร้าพ่อมาทั้งชีวิตคนหนึ่ง ทั้งๆที่พระพายไม่เคยขาดเพราะคนรอบข้างให้มาตลอด มันจึงทำให้พระพายไม่เคยมีความต้องการในตัว ‘พ่อ’  มาก่อน และในวันนี้เมื่อ ‘พ่อ’ มีตัวตนขึ้นมาในชีวิตพร้อมเครือญาติคนอื่นๆที่ไม่เคยคิดว่าจะมี น้องจึงสับสน ไปไม่ถูก และสิ่งที่แสดงออกมามันมีแต่ความเงียบงัน เพื่อยืนยันว่าพระพายกำลังคิด….ไปเอง


“หรือว่าเราจะกลับบ้านรัตนสกุลกัน”  เพชรถาม น้องนั้นส่ายหน้า ความจริงอยู่กับปากแม่ แต่พระพายยังไม่แน่ใจว่าอยากรู้เลยหรือไม่ ทั้งๆที่วันหนึ่งก็จะได้รู้ แต่วันนี้มันกะทันหันไป ใจ….ไม่พร้อม…..


“พายยังไม่อยาก….กลับ”


“แล้วไปไหนดี ห้องพี่ไหมล่า….”  ความพยายามพูดเล่นของเขาดูจะไม่เป็นผล ถ้าเป็นปกติ พระพายต้องหันมาฟาดงวงฟาดงาใส่แล้วทั้งๆที่ตัวเล็กเท่ากระต่ายในมือ ทว่าน้องกลับนิ่งไม่รับมุก เฮ้อ….ตานี่นี่ไม่เคยรับมือกับความเครียดของน้องได้เลยจริงๆ


“ไปห้องพี่เพชรก็ได้ครับ”


หะ!


“พาย….อยากพักก่อน”  ที่พูดมานี่คิดหรือยัง คิดสิคิด! ให้โอกาสโทรหาเจนรักษ์เพื่อปรับทัศนคติก่อนได้นะ!


“แน่ใจนะครับ”  เปิดโอกาสแล้วจริงๆแต่มือนี่สตาร์ทรถแล้วล่ะ


“อื้อ”


“พร้อมเป็นของพี่เพชรแล้วเหยอ”


“พายแค่หิว”  แงงงงงง อย่าเพิ่งเต๊าะพระพายตอนนี้!


“พี่ตัวใหญ่ กินอิ่มแน่นอน”  นี่ไงเป็นคนแบบนี้ไง เดี๋ยวก็กัดจริงให้จมเขี้ยวเลย ทำไมเก่งเรื่องทำให้เครียดและระอาไปได้พร้อมๆกันแบบนี้


“พี่เพชร…..”


“ครับๆ พี่รู้กาลเทศะดีน่า แต่ไปห้องพี่จะดีเหรอ”


“พายหิว อยากกินข้าว  แต่ไม่อยากไปนั่งที่ร้าน รำคาญเสียงคน”  และไม่อยากกลับบ้านรัตนสกุลตอนนี้ ยังไม่พร้อมเจอใคร


“พาไปบ้านก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณหญิงพรรณีเล่นงานพี่ พระพายต้องช่วยนะ”


“ช่วยยังไงครับ”


“ช่วยรับผิดชอบพี่ ยกขันหมากมา โอ้ย!”  สักทีเหอะ หมั่นไส้ไม่ไหวแล้ว


“พี่เพชรไม่เล่นดิ พายเครียด”  ก็รู้หรอกว่าที่เล่นอยู่นั่นเพราะอยากให้หายเครียด เขาจึงปั้นหน้าขรึมจริงจังขึ้นมาและขับรถออกไป พระพายมองเขาเพลินๆและก็ยิ้ม วันนี้เขาทำเพื่อพระพายได้ดีมาก ในความหดหู่และวุ่นวายใจกับข่าวสารใหม่ๆเกี่ยวกับชีวิตตนเองที่ไม่เคยรู้นั้น การมีอยู่ของเพชรพิสุทธิ์อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้หายเครียดได้เลย แต่มันก็ไม่ได้ไร้ความหมายเสียทีเดียว


“แวะซื้ออะไรเข้าไปกินดี”


“แล้วแต่พี่เพชรเลยครับ”


“งั้นกลับไปห้องแล้วสั่งไลน์แมนมาส่งละกัน บอกแม่ไว้นะว่าจะกลับบ้านดึก เดี๋ยวที่บ้านห่วง” พระพายยิ้มรับกับคำสั่งของเขา การมีอยู่ของพี่เพชรวันนี้มีค่ากับพระพายมาก ท่ามกลางคลื่นลมที่โหมกระหน่ำถาโถมมาตลอดปีนี้ เขาอาจจะไม่ใช่ทุกอย่างที่ตอบโจทย์หรือนำพาปัญหาออกไปจากตัวพระพายได้ทั้งหมด


แต่เขาก็พยายามช่วยเหลือกันมาตลอด เป็นดั่งแสงสว่างในความมืดมิดของคนที่พยายามจะแข็งแกร่งด้วยตนเองคนเดียว วันนี้พระพายรู้แล้วว่าตนผ่านมันไปได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคแบบไหน จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องมีเขาอยู่ในทุกโมเมนท์ของชีวิตตนเองจริงๆ แต่การอยู่บนโลกที่โหดร้ายกับใครสักคนที่เป็นเสาหลักให้ในบางทีแล้ว


ในที่สุดพระพายก็รู้ว่าที่ตรงไหนจะสามารถพักพิงเพื่อที่จะกลับมาสู้ใหม่ได้อีกครั้ง….


Talk : จริงๆในพลอตละครทั่วไปชาติกำเนิดจะเป็นอะไรที่เปราะบางที่สุด แต่นายเอกซีรีส์นี้เป็นอะไรที่ไม่อินละครสุดๆ ไม่มีความดราม่าแฝง อยากให้น้องเป็นอะไรก็เป็นอันนั้นอะแหละ555 แต่จากนี้คิดว่าเรื่องจะเข้มข้นขึ้นเนอะ หลังจากต๊ะตอนยอนตามแบบรบเจนหวานเย็นมานาน ใกล้จบแล้วเช่นกัน แต่ดราม่าสั้นๆแบบแค่อึดใจ เรามั่นใจว่าไม่หน่วงนานเท่าเจนไม่นก ช่วยดูหน้าพระเอกเรื่องนี้ด้วย5555

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย



หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-09-2018 21:01:21
ทำไมเราทำใจลำบาก  ใจนึงก็สงสารน้องไม่อยากให้หน่วง ใจนึงก็อยากให้มีซีนดราม่าประเภทให้อิตาเพชรช้ำใจบ้าง ถถถถถ...หลงรักน้องแต่หมั่นไส้อิตาเพชร 5555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-09-2018 21:08:27
โถ่วรูกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-09-2018 21:42:59
อิเพชรมันจัดการได้อยู่แล้ว ปัญหาดราม่าต่างๆต้องกระเจิง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 27-09-2018 21:43:25
ที่ว่าปู่อยากเจอนี่เป็นเพราะจะยกทรัพย์สินอะไรให้รึเปล่าเพราะก็ถือว่าเป็นหลานเหมือนกัน ถ้าเป็นจริงก็เชื่อว่าพระพายคงไม่รับหรอกเพราะน้องก็เป็นของน้องแบบนี้ อาจจะแค่รับรู้ว่าตัวเองเป็นใครยังไงแต่น้องก็คงเลือกอยู่กับรัตนสกุลอะแหละ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 27-09-2018 22:25:12
น้องพายรูกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-09-2018 22:30:33
พี่เพชรไม่น่าถามคุณหญิงหรอกว่าใครเลวร้ายที่สุด มันเห็นๆกันอยู่55555 เอาดราม่าพอกรุบกริบพอค่ะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 28-09-2018 02:04:59
มาเลยได้ไหมค้อมเสือกกระพรือใหญ่แล้วว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-09-2018 04:37:23
เป็นกำลังใจให้น้องพายเด้ออออ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่9) 27.9.2018 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 28-09-2018 12:41:44
เพชรกับเจนนี่ทันกันจริงๆ    :katai2-1
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 29-09-2018 17:18:35
เพชรพระพาย
ครอบครัวของพระพาย

และเพราะพระพายมีคนที่เสือกเก่งอย่างมีคุณค่าอย่างเขา ทุกอย่างเลยเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี….


“อืม ถ้ามีปัญหาก็มาบอกแม่ละกัน”  จินตนาบอกกับเจ้าตัวเล็กของเธอที่วันนี้โตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตตัวเองแล้ว ปัญหาที่มันเคยค้างคามานานและรอวันสะสาง ดูเหมือนว่าเราต้องสะสางกันในเร็วๆนี้


ใช่….พระพายเป็นลูกหลานคนหนึ่งของตระกูลชวนันท์ ที่เกิดกับเธอและวุฒิชัยชวนันท์ผู้ซึ่งเป็นลูกชายคนกลางของท่านเจ้าสัวใหญ่ พระพายไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เป็นผลผลิตของความโลภที่เธอเคยนึกเกลียดชัง ทว่าวันหนึ่งเมื่อได้กลายมาเป็นแม่ เธอก็ไม่สามารถทิ้งลูกของตนได้ลงคอ กรรมมันได้ตามสนองแล้วที่คิดล้อเล่นกับความรัก เลยได้ความรักมาเป็นภาระหนึ่งอัตรา แต่พระพายทำให้เธอได้รู้ว่าลูกคือภาระที่มีค่าเท่าที่ชีวิตเธอจะมีได้


จินตนาเกิดมาในครอบครัวพ่อค้าที่ต่างจังหวัด เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ไม่ได้มีฐานะลำบากอะไร ทว่าในตอนเป็นวัยรุ่น เธอรักสนุกและไม่เคยสนใจเรียน ใช้ชีวิตอยู่กับแฟนหนุ่มมากหน้าหลายตาไม่เคยหยุดที่ใคร นี่คือสิ่งที่เธอไม่ได้บอกลูกเพราะกลัวว่าเขาจะผิดหวังในตัวแม่ของตนจนเกินรับไหว จินตนาจึงเลี่ยงที่จะพูดเรื่องในอดีตกับลูกมาตลอด และโชคดีที่พระพายถูกเลี้ยงมาอย่างดี ไม่ขาดเหลืออะไร และมีความสุขกับชีวิตตัวเองดี จึงไม่คิดจะที่จะถามคำถามอะไรให้แม่ไม่สบายใจ บางทีพระพายก็อาจจะรู้….ว่านี่คือคำถามที่แม่ไม่เคยอยากนึกถึงคำตอบ


ไม่มีอะไรที่จินตนาไม่มั่นใจในตัวลูก พระพายไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้จักระวังตัว และอย่างน้องเด็กคนนี้ก็ไปกับคุณเลขาของคุณรบ ถึงแม้ว่าเพชรจะอายุไม่มาก แต่เขามีความน่าเชื่อถือ หากทำงานกับคุณรบแบบเคียงบ่าเคียงไหล่มาได้หลายปี เธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขานั้นเก่งกาจพอตัว และเพราะรู้ว่าเขาคนนี้คิดอะไรกับลูกชาย….จินตนาจึงค่อนข้างวางใจ สำหรับเธอเขาผ่านเพราะเท่าที่รู้จักมา ผู้ชายคนนี้ไม่มีข้อเสียที่รับไม่ได้ และพระพายก็คงไม่หลับหูหลับตารักใครสักคนโดยมองข้ามความเป็นจริงที่ว่า…..เราเข้ากันไม่ได้หรือไปกันไม่รอดอะไรแบบนี้หรอก


เมื่อ 19 ปีก่อน จินตนาในวัย  24 ได้เจอกับวุฒิชัยที่ร้านเหล้าร้านหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยคนมีเงิน เธอยังเรียนไม่จบ แต่จริงๆให้เรียกว่าไม่คิดจะเรียนให้จบดีกว่า หลังจากที่มีการแบ่งสมบัติเมื่อพ่อแม่เสียชีวิต เธอก็หลงระเริงกับการใช้เงินปรนเปรอความสุขให้ตัวเองโดยไม่คิดเลยว่าเงินทองที่มีมูลค่ามากมายในตอนนั้นจะมีวันหมดไป จินตนาเคยคิดว่าการที่เธอผลักดันตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนรวยๆเช่นคลับหรูๆได้นั้นมันคือการลงทุนประเภทหนึ่ง


หลังจากที่เจอกับพ่อของพระพายที่เข้ามาติดพัน เธอก็คิดไปเองว่าคงได้เป็นสะใภ้ชวนันท์แน่แล้ว และเขาเองก็ให้คำสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะแต่งงานกับเธอ ถ้าถามว่าจินตนารักเขาไหม ก็ไม่ได้รักหรอกเขาดูดี ร่ำรวย เธอชอบเขาได้ การมีลูกให้เขาจึงเป็นเรื่องที่เธอยินดีเสียยิ่งกว่ายินดีเพื่อผูกมัด การเข้าไปในบ้านของเขา เธอก็ไม่ได้ถูกต้อนรับดีหรอก แต่ก็ห่างไกลจากคำว่าถูกรังเกียจไปหลายขุม เหมือนที่เขาบอกไว้ ว่าแค่เธอมีลูกได้ ทุกอย่างมันก็จะดีไปเอง


ทว่าหลังจากคลอดพระพายได้ไม่ถึงปี ความจริงก็กระจ่างชัด แม้ว่าจะสงสัยมานานว่าทำไมชายหนุ่มอนาคตไกลหน้าตาดีมีฐานะและห่างไกลจากความเจ้าชู้เช่นวุฒิชัยถึงมาลงเอยกับเธอ วันหนึ่งเธอก็ได้รู้ว่าเขามีเหตุผลที่ทำให้กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ไอ้รักไม่รักอะไรนั่น จินตนารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้รักเธอ เขาอาจจะต้องการทายาทเพื่อสืบเชื้อสายต่อไป แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะมีคนรักอยู่แล้ว….


และคนๆนั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวเขาเสียยิ่งกว่าเด็กใจแตกอย่างเธอเสียอีก….


เขาชื่อชนาธิป และเขาเป็นผู้ชาย  วุฒิชัยไม่สามารถเปิดตัวกับครอบครัวด้วยรู้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับ และวันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจบอกจินตนา ในตอนนั้นเธอเริ่มจะมีความรู้สึกดีๆให้เขาแล้ว และการมีลูกก็ควรจะผูกมัดเขาได้ ซึ่งในความเป็นจริงมันก็ใช่ แต่เรื่องของหัวใจมันซับซ้อนกว่านั้น เขาสองคนรักกันเกินไป และเธอก็เหมือนเหยื่อของเหตุการณ์ครั้งนี้ จินตนายังจำภาพของชนาธิปที่ก้มลงกราบเธอในวันที่เธอเข้าไปด่าว่าเรื่องที่ถูกหลอกลวง พวกเขาเจตนาทำลายชีวิตกัน แต่ก็พยายามจะชดเชยให้ในทุกสิ่งที่เสียไป


ในตอนนั้นด้วยความโกรธและทิฐิที่มีอยู่ เธอยืนยันว่าจะไปจากบ้านชวนันท์ทั้งๆที่แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว พวกเขาวอนขอไม่ให้เธอพาลูกไป แต่จินตนาก็อ้างถึงสิทธิ์ที่ถูกกระทำ เธอขู่พวกเขาว่าจะเอาเรื่องของทั้งสองไปประจาน ชนาธิปนั้นถึงกับขออยู่ห่างกับวุฒิชัยหากมันจะทำให้เธอพอใจเพราะรู้ว่าเขารักลูกมาก  แม้ว่าจะรักแค่ไหน มันก็ต้องมีคนหนึ่งที่เสียสละไป และสุดท้าย….มันก็เป็นเธอ….


เขาไม่รักเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเลยเหรอ ไม่….เขารัก แต่เธอตั้งข้อเสนอเด็ดขาดว่าเธอจะเป็นฝ่ายไปและเอาพระพายไปด้วยไม่ว่าชนาธิปจะไปหรือไม่ก็ตาม เธอไม่อาจทนอยู่บ้านหลังนั้นให้เสียสุขภาพจิตได้อีกต่อไปแล้ว เธอจึงยินยอมตกลงที่จะรับเงินเพื่อเลี้ยงดูลูกทุกเดือน ทั้งๆที่ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกรักพระพายมากเท่านี้ด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงเอามานะเหรอ….เผื่อๆวันหนึ่งวุฒิชัยอาจจะมาตามตัวเธอกลับไป แล้วในวันนั้นเขาอาจจะตัดชนาธิปออกไปได้จนหมดหัวใจ ทว่ารอแล้วรอเล่า….เขาก็ไม่เคยมา….


จนกระทั่งเธอหมดใจจากเขาไปเสียเอง….


เขาไม่เคยมาหาเธอ แต่ก็มีบ้างที่แอบไปเจอพระพาย ลูกอาจจะไม่รู้  แต่ตอนเที่เด็กมากๆ คนเป็นพ่อและคนรักของเขาได้เฝ้ามองพระพายอยู่ห่างๆเสมอ เธอรู้และทำเป็นไม่เห็นในบางทีเพราะในตอนนั้นเธอคิดได้ว่าถ้าก้าวพลาดขึ้นมา เธอจะมีปัญญาอะไรไปสู้เอาพระพายกลับมาจากชวนันท์


หลังจากหนีออกมา มันก็เป็นเธอที่เลี้ยงลูกในคอนโดที่เขาจัดหาให้  พระพายน่ารักขึ้นทุกวันจนคนเป็นแม่อดใจรักไม่ไหว และเพราะรักจึงเริ่มจะเกิดความกลัวว่าพวกเขาจะมาพรากลูกไปและเอาคืนกันอย่างสาสม เธออาจจะไม่ได้เจอหน้าพระพายอีกเลย


ในที่สุดก็ตัดขาดจากพ่อของลูกโดยการย้ายออกมา เงินที่เขาฝากเข้าบัญชีให้ก็ไม่เคยใช้ด้วยระแวงว่าเขาจะตามเจอ แรกเริ่มเลยเธอเอาลูกไปฝากไว้กับลูกพี่ลูกน้องคนนึงอยู่เป็นปีและสมัครงานเป็นแม่บ้านของรัตนสกุล ใช้ชีวิตอยู่เงียบๆหาเงินส่งไปให้ลูก แต่พอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณหญิงพรรณี เจ้านายจึงแนะนำให้พามาเลี้ยงเมื่อโตขึ้นในระดับหนึ่งพระพายอยู่ที่นี่เป็นหลัก จะมีกลับไปอยู่กับญาติที่เอ็นดูกันบ้างช่วงปิดเทอม  และตอนที่เธอให้กลับไปช่วงที่คุณรดามาอยู่เพราะไม่อยากให้ลูกมายุ่งเกี่ยวด้วย


ทว่าวุฒิชัยก็ตามกันเจออยู่ดี แต่เขาอาจจะไม่เคยบอกท่านเจ้าสัวใหญ่ว่าหาลูกเจอแล้ว เราตกลงกันว่าเขาจะดูลูกอยู่ห่างๆ ส่งเสียให้เรียนได้ถ้าเธอเรียกร้อง ทว่าก็ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจอะไรอีกแล้ว คุณหญิงพรรณีได้เข้ามาช่วยพูดคุยกับเขาเพื่อให้เข้าใจซึ่งความต้องการและมั่นใจว่าพระพายจะโตมาอย่างมีคุณภาพ


ด้วยความรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้จินตนากลายเป็นเช่นนี้ พวกเขาจึงยินยอมที่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบและไม่เคยเรียกร้องอะไรเพิ่มด้วยกลัวว่าจะกระทบถึงสุขภาพจิตของลูก อาจจะเพราพระพายยิ้มแย้มได้สดใสเกินไป ไร้เดียงสาเกินไป ไม่มีใครอยากทำลายพระพายเพียงเพราะความผิดพลาดในอดีตของพ่อแม่หรอก ทุกวันนี้เราจึงปล่อยให้อดีตร้ายๆเป็นแค่เรื่องที่ควรถูกลืม ทว่าไม่มีใครลืมได้จริงๆและเธอก็เล่าให้พระพายฟังแล้ว


“แม่ขอโทษนะ” เธอพูดเสียงเบา พระพายนั้นยิ้มให้ แม้จะไม่ใช่ยิ้มที่สดใสนัก แต่ก็เป็นยิ้มที่ทำให้เธอรู้ว่าลูกพอใจกับสิ่งที่ได้ฟังแล้ว


“พายจะไปแล้วกลับมาหาแม่นะครับ”


“พาย” เธอเรียก


“ครับ”


“อย่าโกรธพวกเขาเลย แม่ก็ผิด….นะ”  เธอย้ำ ไม่อยากให้เรามีบาปกรรมต่อกันอีกแล้ว แค่นี้เธอก็พรากลูกมาจากพ่อนานไปแล้ว นอกจากเรื่องเห็นแก่ตัวพวกนั้นที่เราสองคนทำลงไป ที่เหลือนั่นคือความพยายามที่จะประคับประคองความสัมพันธ์อันสุดแสนจะเปราะบางซึ่งกินเวลายาวนานมา 19 ปีได้ วันนี้พวกเราต้องอภัยให้กันเสียที และมันต้องเริ่มจากการยอมรับผิด


“แม่ไม่ต้องห่วงพายนะ”  เธอรู้ว่าพระพายมีหัวคิด บางทีมันก็มากกว่าเธอในวัยเดียวกันเสียอีก แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้จึงหันไปหาอีกคน


“ฝากน้องด้วยนะคะคุณเพชร”


“ครับ”  เขายิ้มตอบกลับมา เขายินดีเสียยิ่งกว่างานใดๆที่ทำ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้เลยว่างานยากๆที่เรียกว่าการทะนุถนอมแก้วบางๆที่ชื่อว่าพระพาย ชวนันท์ จะเป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุขขนาดนี้ เราบอกลาจินตนาที่ยังคงเป็นห่วงเป็นใย ก่อนจะเดินขึ้นรถเพื่อไปพบกับท่านเจ้าสัวใหญ่ที่อยากจะพบหน้าหลานชายที่พลัดพรากจากกันไปนาน



จะรู้สึกอย่างไรกันนะ เหมือนพจมานตอนเข้าบ้านทรายทองแบบที่พี่เจนชอบพูดถึงหรือไม่…..ว่าแต่พจมานเครียดแบบนี้เลยหรือ พระพายนั่งอยู่ที่โซฟาของบ้านหลังใหญ่แถบปริมณฑล การรอคอยแต่ละวินาทีมีค่าราวกับถูกคูณไปเท่าทวี ทว่าคนข้างกายก็หันมายิ้มให้กันราวกับจะบอกว่ามันไม่เป็นไร และเมื่อพระพายรู้สึกอุ่นใจได้ผู้ที่เชิญเรามาก็เดินเข้ามาในห้องรับแขกอย่างเชื่องช้า


ในที่สุดพระพายก็ได้เจอหน้าคนที่มีสายเลือดเดียวกัน


“พระพายใช่ไหมลูก”  เจ้าสัวชรานั้นมองหลานชายที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน จดจ้องใบหน้าน่ารักที่คลับคล้ายว่าจะเหมือนกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วของเขา วันนี้กระจ่างใจแล้วว่าใบหน้าน่ารักและดูใจดีของเด็กคนนี้เหมือนใคร เมื่อแรกเริ่มได้สบตา พระพายมีแววไม่แน่ใจว่าควรปฏิบัติตัวเช่นไร เด็กหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองประเมินอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะลูบท้ายทอยและยิ้มเขินที่ทำตัวไม่ถูก


“พระพายเองครับ”  ในวันนี้ท่านเจ้าสัวก็รู้ได้ว่าหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องทำในชีวิต ท่านได้ทำสำเร็จไปแล้วเรื่องนึง


เรามาอยู่ในห้องทานข้าวของที่บ้าน มันต่างจากที่พระพายคิดเพราะผู้ร่วมทานข้าวมีเพียงแค่ไม่กี่คน ทั้งๆที่พวกเขาอาจจะอยากมาดูผู้ต้องการร่วมส่วนแบ่งทางผลประโยชน์ที่เพิ่งโผล่มา ทว่ากลับไม่มีใคร หรือจริงๆพวกเขาอาจจะไม่อยากเจอหน้าพระพายก็เป็นได้ ท่านเจ้าสัวนั้นนั่งประจำที่หัวโต๊ะ พระพายถูกจัดให้นั่งข้างๆฝั่งขวาและที่ข้างๆพระพายคือพี่เพชรที่มาช่วยในกรณีที่มีอะไรฉุกเฉิน ส่วนฝั่งตรงข้ามที่นั่งข้างๆท่านเจ้าสัวฝั่งซ้ายนั้น….


พระพายเดาว่าเขาคือพ่อของพระพาย…และใครอีกคนที่เขารัก….


พระพายหันไปขอบคุณแม่บ้านที่ตักข้าวให้ และยิ้มให้กับทุกคนอย่างมีมารยาท สายตาของคนเป็นพ่อทำให้พระพายรู้สึกประหม่าไม่น้อย จนตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คุยหรือทักทายกันเลยด้วยซ้ำ พระพายมีแค่พนมมือไหว้และก็เอาแต่ตอบคำถามของคุณปู่ที่ถามมาเท่านั้น สถานการณ์ยังน่าอึดอัดอยู่พอประมาณ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไรเลย ถึงแม้เราจะมีสายเลือดใกล้ชิด แต่ความใกล้ชิดทางกาย….เรียกได้ว่าแทบเป็นศูนย์


เขาอาจจะเคยโอบอุ้มกันไว้ในอ้อมแขน แต่พระพายกลับไม่เหลือความทรงจำเหล่านั้นเลย น่าแปลกที่ไม่โกรธเขาที่ไม่พยายามหรือเสียสละกว่านี้ พระพายมีความสุขกับการอยู่ใต้ปีกของรัตนสกุลแล้วและไม่คิดว่าตนขาดสิ่งใดให้แค้นเคือง ที่รู้สึกตอนนี้คงจะเป็นความรู้สึกผิดเสียมากกว่า คนที่จำได้ เจ็บกว่าคนที่ไม่มีความทรงจำ….


“คุณปู่ทานนี่หน่อยนะครับ”  พระพายตักอาหารใส่จานให้เจ้าสัวโดยที่ไม่รู้ว่าธรรมเนียมบ้านนี้เป็นเช่นไร


“พระพายเองก็กินเยอะๆนะลูก”


“ขอบคุณมากครับ”  พระพายกล่าวขอบคุณก่อนจะมองไปที่จานข้าวของตนเอง มันแทบจะไม่พร่องเลย พระพายรู้สึกเหมือนกับว่าจะกินสักคำก็ไม่ได้หากยังไม่ได้จัดการสิ่งที่ค้างคาใจ พระพายไม่รู้หรอกว่าที่ทำไปนี่มันจะดีหรือไม่


แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองได้กลับไปทั้งๆที่ยังไม่เคยเรียกคำนั้นออกมา


“คุณพ่อกับคุณชนาธิปก็ทานเยอะๆนะครับ” พระพายได้ทำการตักอาหารให้คนนั้นทีคนนี้ทีก ดวงตากลมราวลูกกวางนั้นช้อนมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ประโยคที่พระพายพูดออกมาพลันก่อให้เกิดความเงียบอันน่าอึดอัดออกมาจนความรู้สึกไม่ดีตีขึ้นไปที่ต่อมน้ำตา ยังไม่ทันที่พระพายจะได้ร้องออกมา


ก็มีคนที่ชิงร้องก่อนแล้ว


“คุณชนาธิป อย่าร้องครับ”  พระพายรีบหยิบกล่องทิชชู่แล้วลุกขึ้นยื่นส่งไปให้ชนาธิปที่น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติ เขาจมอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดมาที่ทำให้ลูกกับพ่อต้องพลัดพราก เราสองคนจับมือกันไปเฝ้าดูพระพายที่โรงเรียนห่างๆเสมอมา ทั้งๆที่มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะเติบโตมาอย่างดี แต่มันก็ไม่เคยเพียงพอ ความรู้สึกผิดที่ถาโถมทำให้ได้เชยชมรักขมๆมาตลอดหลายปี ในวันนี้เมื่อได้เจอกับพระพายตรงๆ เขารับรู้แล้วว่าลูกของคนรักได้เติบโตมาอย่างดงามจริงๆ ทั้งๆที่ควรจะโกรธเกลียดกันแต่พระพายกับไม่แสดงอาการเหล่านั้นให้เห็น จะว่าหลอกลวงกันก็ไม่ใช่


พระพายยืนละล้าละลังอยู่อย่างนั้น ท่าทางไม่มั่นใจนั้นฉายชัด คนเป็นลูกมองหน้าเลขาของคุณรบที่มาด้วย เขายิ้มให้อาจจะอยากเอ่ยชมว่าทำดีแล้ว จึงหันไปมองคนเป็นพ่อที่เพิ่งได้เจอกันอย่างเป็นทางการ วุฒิชัยส่ายหัวน้อยๆเอือมระอากับคนรักที่อ่อนไหวง่าย เรื่องมันผ่านมานาน และทิ้งแผลยาว จนวันนี้ยังไม่อาจจะรู้ว่าดีขึ้นหรือไม่ แต่ก็โล่งใจในระดับหนึ่ง พระพายคือการมีอยู่ของความสุขที่แท้จริง เมื่อได้เจอกันพวกเขาตระหนักข้อนั้นได้ดี


“กินข้าวกันเถอะครับ”  พระพายพูดด้วยรอยยิ้ม ในประโยคง่ายๆนั้นเหมือนจะแฝงคำว่า ต่อจากนี้มามีความสุขกันเถอะให้คนทั้งคู่ ใช่แล้วจริงๆ….ต่อจากนี้พวกเขากำลังจะได้เริ่มต้นอย่างมีความสุขจริงๆ


เพราะในที่สุดก็ได้เจอกับเจ้าของชื่อความสุขที่มาปลดปล่อยกันสู่อิสระแล้ว


พระพายพูดคุยกับพวกเขาจนถึงเวลาอันสมควร คนทั้งสองได้รับการยอมรับจากครอบครัวเมื่อไม่นานมานี้ และเมื่อปลดล็อคมันได้ พวกเขาจึงตอบรับคำขอของคนเป็นพ่อเรื่องที่จะปล่อยให้เจอลูก ทว่าก็ไม่เคยบอกว่าพระพายอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเด็กแฝดลูกของพี่ชายมาบอกคุณปู่ว่าได้เจอพระพายแล้ว พวกเขาจึงยินยอมให้ติดต่อไปหา ทั้งๆที่สิ่งที่กลัวที่สุดคือการปฏิเสธกันกลับมา โชคดีที่ไม่เป็นเช่นนั้น


พระพายสัญญาว่าจะแวะมาหา อย่างไรก็ตามก็แจ้งความประสงค์ว่าจะเรียนและทำงานกับรัตนสกุล แม้จะน่าเสียดายเพราะพวกเขาอาจจะอยากให้พระพายกลับมาทำงานกับที่บ้าน แต่อย่างนี้มันดีแล้ว วุฒิชัยไม่ได้ห้ามปรามใดๆ เพราะพวกเขารู้ว่ายังมีคนมากมายที่ไม่พอใจอยู่ และลูกไม่ควรมาเจอะเจอความริษยาในครอบครัวนี้ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้อง ความเป็นชวนันท์ของพระพายจะถูกจำกัดในวงแคบแค่พวกเราที่มาเจอกันในวันนี้ น้องยินดีด้วยรอยยิ้มและบางทีอาจจะเป็นความต้องการเบื้องลึกของน้องอยู่แล้วด้วย


เด็กน้อยออกปากว่าไม่ต้องการมรดกอะไร แต่จะมาเยี่ยมเยือน หรือถ้าสะดวกก็ไม่รังเกียจที่จะให้มาหาเช่นกันเพราะอย่างไรก็ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพอยู่แล้ว และวันหยุดก็ค่อนข้างจะยุ่งเพราะต้องกลับไปอยู่กับแม่หรืออ่านหนังสือสอบบ้าง ผู้ใหญ่ทั้งหลายเข้าใจดี อาจจะเสียดายนิดๆที่พระพายไม่ต้องการอะไร


แต่พวกเขาก็ตกลงที่จะทำตามความต้องการของพระพายไปก่อน วุฒิชัยและชนาธิปออกมาส่งพระพายเพื่อขึ้นรถกลับบ้านรัตนสกุล สักวันพวกเขาจะเข้าไปพบคุณหญิงพรรณีเพื่อขอบคุณในความกรุณาต่างๆแน่ และเพราะเธอเอ็นดูพระพายประหนึ่งลูกหลานคนหนึ่ง คนเป็นพ่อที่แท้จริงก็จำเป็นต้องเข้าไปพูดคุย


“พายกลับก่อนนะครับคุณพ่อ”


“กลับดีๆนะลูก”  วุฒิชัยพูดขึ้น การเจอกันของเราวันนี้มันสั้นไป แต่พระพายได้ให้สัญญาว่าเรายังมีเวลาเหลืออยู่อีก


“แล้วให้พวกเราไปเจอบ้างนะครับพระพาย”  ชนาธิปพูดขึ้น พระพายนั้นยิ้มให้อย่างเป็นมิตร นึกนับถือในความรักของทั้งสองคนไม่น้อย แม้ว่าแม่ของตนจะน่าสงสารก็ตาม แต่เป็นเช่นนี้แหละดีแล้วจริงๆ เราทุกคนอยู่ในที่ทางที่ใช่จริงๆของเราแล้ว


และก็ได้เวลาที่พระพายจะต้องกลับไปบอกทุกคนว่าพระพายโอเค….


“ขอบคุณพี่เพชรมากนะครับ”  พระพายพูดหลังจากที่รถเคลื่อนออกมาแล้ว แววตาของน้องที่มองมาทำให้เขาต้องยิ้ม วันนี้เพชรแทบไม่รู้สึกว่าเขาคือเลขาของคุณรบที่ถูกสั่งให้มาทำงาน แต่เป็นผู้ชายที่ชื่อเพชรพิสุทธิ์ที่กำลังมาให้กำลังใจคนสำคัญ พระพายโชคดีจริงๆในทุกๆที่ เขารู้สึกว่าการมีอยู่ของน้องคือของขวัญอันล้ำค่า คนที่อยู่รอบตัวของน้องทุกคนโชคดี และเขาก็อยากเป็นคนโชคดีคนนั้นเหมือนกัน


“คุณวุฒิกับคุณชนานี่รักกันนานดีนะครับ”


“อืม เขาคงเจออะไรกันมาเยอะ พายดีใจกับพ่อด้วย”


“ไม่น้อยใจใช่ไหมครับ”


“จริงๆก็น่าน้อยใจแต่ไม่เลย พายมีความสุขจนลืมน้อยใจไปแล้ว”


“พี่ดีใจที่พระพายไม่จมอยู่กับความเครียดแค้นนะ น้องจะเป็นคนที่มีความสุขมากๆ”  เพราะถ้าใครได้เจอแบบพระพาย พวกเขาไม่มีทางมีความสุขจริงๆได้หรอก จะมีสักกี่คนที่อยู่กับปัจจุบันได้จริงๆกัน น้อยคนมาก


เขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่ใช่…..


“อาจจะเพราะพายมีความสุขแต่เด็กมั้ง คิดน้อยด้วยล่ะ พี่เจนบอกว่าก่อนรัตนสกุลย้ายมาอยู่ที่สุขุมวิทต้องปลูกบ้านกลางทุ่งลาเวนเดอร์แน่ๆ”  พระพายพูดพลางขำไป มันก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ทว่ารัตนสกุลที่แท้จริงไม่เห็นจะเป็นแบบพระพายเลย เพราะฉะนั้นข้อสันนิษฐานของคุณเมียเจ้านายคนนั้นก็ถูกลบล้างไป ถ้าบอกว่าบ้านอยู่บนกองเพลิงละก็ เพชรพิสุทธิ์จะพิจารณาเชื่อและไว้วางใจอีกสักครั้งจริงๆ


“เห็นพระพายมีความสุขพี่ก็โอเคแล้วครับ จะได้กินบิงซูอร่อยๆ”


“งะ ยังจะกินอีกเหรอครับ แฮะๆ” 


“กินครับ พระพายใช้งานพี่หนักมาก ต้องเลี้ยง เอาอะไรก็ได้ แต่พี่ขอพระพายหนึ่งที่”  ดูเป็นการเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจจนพระพายยู่หน้าใส่ อย่างไรดีล่ะ ไม่เขินนะ แต่ดีใจที่เขาเรียกร้องจะมีกันแบบนี้ พระพายชอบพี่เพชรจริงๆ ชอบมานานแล้ว และถ้าเขาขยันอ้อยคว่ำใส่แบบนี้ก็คงจะเลิกชอบได้ยากหน่อย และตอนนี้อยากเรียกร้องมากๆว่าอย่าหยุดอ้อยเร็วๆนี้นะ ให้พระพายพร้อมก่อน ถ้าวันหนึ่งพระพายดีพร้อมพอจะยืนข้างกันเมื่อไหร่ ตอนนั้นแหละ….


จะแจกอ้อยกลับแบบไม่เลี้ยง ไม่ให้ก็ยัดใส่มือเลยคอยดู!


“พี่อยากจะมีคนรักแบบคุณชนาบ้างจัง”


“ตกหลุมรักคุณชนาเหรอ นั่นแฟนของพ่อพายนะ ไม่ให้พี่เพชรหรอก หวง”  แม้จะอายุเยอะแต่คุณชนายังดูดีอยู่ พระพายอาจจะแพ้ก็ได้เพราะงั้นต้องรีบทำคะแนน


“หวงคุณชนาหรือหวงพี่ครับเอาดีๆสิ”


“คิดเอาเองสิครับ เรียนก็จบเกียรตินิยม ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ดี ต้องให้สอนจริงๆเหรอ”


“จริงๆก็ไม่จำเป็นหรอกครับ”


“……….”


“เกียรตินิยมของพี่บอกว่าพี่หวงพระพาย และจะไม่ให้พระพายเป็นของใคร”


“พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้”  พระพายพูดเบาๆแก้เขินไปงั้น แต่หัวใจกลับพองฟูไปหมดแล้ว


“จริงๆนะ”


ไม่ต้องย้ำมากก็ได้


“ยกให้ได้คนเดียวคือพี่เพชรคนเดียว”


เขารอวันที่เราจะก้าวมายืนตรงจุดเดียวกันแทบไม่ไหวแล้ว!


Talk:  วันนี้มาถึงตอนที่ 10 แล้ว อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่ะ ช่วงนี้สิ้นเดือนต้นเดือน เราก็จะยุ่งหน่อยๆ ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์มากเลย รู้สึกเหมือนมีคนอ่านเยอะขึ้นก็รู้สึกดีใจมากค่ะ ในส่วนไหนที่ผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ด้วย เราเองก็พยายามจะเรียนรู้อยู่เรื่อยๆเหมือนกัน ต้องขอบคุณสำหรับความเห็นต่างๆนะคะ เรื่องคำผิดก็จะพยายามดูให้ดี มันก็จะมีความผิดแบบที่มองข้าม หาไม่เจอ กับคำผิดแบบที่สะกดผิดมาตลอดชีวิตเหมือนกัน เราเป็นคนที่สับเพร่ามาก เพราะทำอะไรเร็วไปหมด ช่วงหลังนี่แว่นหายด้วย ตอนนี้คิดว่าได้สั้นเพิ่มแล้ว555 ไม่ใช่เพราะแต่งนิยายมากไปหรอกค่ะ งานด้วย เล่นมือถือด้วย แต่จะพยายามแก้ไขค่ะ ช่วงหลังมีคนทักคำผิดมาให้ ก็มักจะไปแก้ในไฟล์เสมอ แต่บางทีแก้ลงในเว็บไม่ไหว เพราะลงหลายเว็บเหลือเกิน อย่างไรก็ขอบคุณที่ช่วยทักมานะคะ


#เจนไม่นก #เพชรพระพาย

หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-09-2018 17:54:55
แก้มปริแล้ว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-09-2018 18:10:38
จริงงงงงงง บ้านรัตนสกุลคืออยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ 5555555555555 แม่จินเลี้ยงน้องพายมายังไง ทำไมน้องดีอย่างงี้ืหอมหัวทีซิลูกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 29-09-2018 19:21:44
พระายคงเกิดในทุ่งราเวนเดอร์นะเนี้ยย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 29-09-2018 20:54:54
พระพาย เกิดมาเพื่อทุกคนจริงๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-09-2018 00:41:42
น้องพายหนูสดใสมากเลยลูกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 30-09-2018 00:56:46
รถอ้อยคว่ำเป็นระยะๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-09-2018 07:16:39
น้องพายคือน้ำทิพย์ชโลมจิตใจคน ดีงามจิตใจดี กอดๆๆ ฟัดๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่10) 29.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-09-2018 10:49:11
น้องพายเป็นเด็กดีมากเลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่11) 30.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 30-09-2018 17:29:00
เพชรพระพาย
พระพายกับปัญหา


ชีวิตของพระพายราบรื่นดีเมื่อมาถึงตอนนี้ กับพ่อที่เพิ่งได้เจอกันก็ทำความรู้จักสนิทสนมกันได้ดี แฟนของพ่อก็นิสัยดี ทุกคนล้วนเอ็นดูพระพาย  มีอยู่วันหนึ่ง พระพายมากินข้าวกับพ่อและแฟนของพ่อ ส่วนหนึ่งเพราะพี่เพชรยุ่งๆด้วยเลยไม่ได้มาด้วยกัน แต่ถึงอย่างไรเขาก็คงไม่มาด้วยเพราะนี่มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวหากเขาจะมา ก็คงมารอรับไปเที่ยวเล่นแป็ปๆและกลับบ้านรัตนสกุล เจอนิดๆให้หายอยาก แต่นี่แทบไม่ได้เจอกันเลย


“วันนี้ไม่มีคนมารับกลับเหมือนทุกครั้งเหรอลูก”  พระพายพยักหน้า วันนี้คงต้องขอให้พ่อไปส่งหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่กลับเหมือนตอนมา แต่แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเป็นพ่อย่อมอยากไปส่ง ว่าแต่พี่เพชรทำอะไรอยู่ พระพายไม่ได้เจอมาสองสัปดาห์แล้วนะนี่


“คุณเพชรเนี่ยน่ารักดีนะพระพาย”  คุณชนาหรือน้าชนาที่พระพายเรียกนั้นยิ้ม


“พี่เพชรเป็นคนดีครับ”  พอพูดแล้วก็คิดถึงเลยไหม เขาไลน์มาบอกว่าทำธุระกับที่บ้าน ได้ยินว่าคุณปู่ป่วยพระพายเลยไม่อยากจะงี่เง่า แถมไม่ได้เป็นอะไรกันจะไปถามเยอะแยะก็ไม่เหมาะควร


ความสัมพันธ์ของเด็กสองคนดูจะยังคลุมเครือแต่ชัดเจนในความรู้สึกดี ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาจึงย่อมดูออกถึงเจตนา และก็ยินดีด้วยเพราะเขาก็ดูเหมือนจะดูแลพระพายได้ เพชรพิสุทธิ์ไม่ได้ให้ความรู้สึกของการอยากจะมายุ่มย่ามกับสมบัติของทางชวนันท์ ขนาดพระพายยังไม่เคยรู้ที่มาของตนเองด้วยซ้ำแล้วนับประสาอะไรกับคนรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้องทางเครือญาติ


 และนั่นทำให้พวกเขาพอใจในตัวเลขาคนนั้นอยู่พอควร อีกอย่างยุคสมัยนี้ก็เปิดกว้างให้กับความรักรูปแบบนี้มากขึ้น ไม่เหมือนพวกเขาที่ทำอะไรต้องเกรงใจครอบครัวของวุฒิ ดังนั้นจึงอยากจะสนับสนุนลูกหากเขาชอบพอกันจริงๆ นอกจากนั้น แม้ว่าพระพายจะบอกเรื่องว่าไม่ต้องการอะไรไปแล้ว แต่พระพายเป็นลูก พวกเขาย่อมอยากจะให้บางสิ่งบางอย่าง วุฒิชัยนั้นพาพระพายและชนาธิปออกมาจากบ้าน ขับรถมายังสถานที่หนึ่ง


“พ่อพาพายมาทำไมที่นี่อะครับ”


“พระพายว่าที่นี่เป็นไง”


“ก็ดีนะครับ”  ตึกแถวย่านหนึ่งที่มีรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทพาดผ่านนั้นดูน่าสนใจ  แต่พระพายก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี


“จริงๆพ่อกับน้าชนาอยากให้พระพายนะ”


“ให้พาย?พายบอกว่าจะไม่เอาไงครับ”  ใช่ ลูกพูดแบบนั้นจริง แต่ก็อย่างที่บอกว่าอดไม่ได้ เขาอาจจะฝากเงินจำนวนมากให้ลูกไว้และรู้ว่าจินตนาไม่ได้เอาออกไปใช้เลย แต่ก็ยังอยากให้อีกอยู่ดี พระพายเป็นเด็กดีขนาดนี้แถมยังยอมรับเราสองคนได้โดยไม่มีรังเกียจรังงอน มันอดไม่ได้ที่จะเอ็นดูและรู้สึกขอบคุณไปด้วย


“รับไปเถอะนะพระพาย อันนี้เป็นที่ดินของน้าและของวุฒิ เราอยากให้มันในฐานะที่เป็นของส่วนตัวของเราไม่ใช่ของชวนันท์”


“…………”


“ลูกอาจจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ พ่อเองก็เชื่อใจ แต่ก็อยากจะมั่นใจว่านี่จะสามารถช่วยพยุงให้ในวันที่พระพายลำบาก”  วุฒิเสริม เขาอาจจะไม่สามารถให้หุ้นหรือส่วนหนึ่งของธุรกิจของชวนันท์กับพระพายได้แม้จะถูกร้องขอ สถานะของเขาในบ้านไม่ใช่ว่าจะมั่นคงนัก พี่น้องเองต่างก็ตบตีแย่งชิง


การดึงพระพายเข้ามาอาจจะเป็นผลเสียกับลูก ซึ่งพระพายมิอาจจะมีทายาทได้ และก็ไม่อยากให้ลูกเดินหลงทางเหมือนที่เขาและชนาธิปเป็นถ้ายังดันทุรังให้พระพายถลำลึกเข้ามาเป็นชวนันท์ ลูกอาจจะถูกดกดดันเรื่องการมีทายาทหรือการทำธุรกิจกับที่บ้าน มันไม่ควรจะมีใครต้องศูนย์เสียอีกแล้ว แต่อย่างไรก็อยากให้พระพายได้มีสิ่งใดได้แทนใจบ้าง อย่างน้อยนี่ก็ได้ชื่อว่าจากพ่อของเขา ไม่ใช่ชวนันท์


“พระพายขอบคุณทั้งสองคนมากครับ”  ในที่สุดลูกก็รับมันไว้ เขาทั้งสองยิ้มออกมา ก่อนที่จะต้องรับอ้อมกอดจากเด็กน้อยที่พวกเขาเฝ้ามองกันมานาน วันนี้พระพายเติบใหญ่ขึ้นมาแล้ว และได้นำความสุขสงบที่แท้จริงมาสู่ชีวิตอันวุ่นวายของเราเสียที


xxx


“ดีใจกับเพื่อนด้วยนะ ในที่สุดก็ได้เจอพ่อแล้ว”  พริมพราวปลาบปลื้มแทนเหลือเกินที่พระพายพ้นสภาพจากการเป็นเด็กกำพร้าพ่อแล้วจริงๆ ถึงเพื่อนไม่เคยดราม่าเรื่องนี้ให้ได้เห็น แต่ลึกๆเด็กทุกคนต่อให้เพียบพร้อมแค่ไหนก็อาจจะมีโมเมนท์อยากถามหาพ่อเหมือนกันละมั้ง และพ่อพระพายก็ไม่ได้เป็นคนธรรมดา หากแต่เป็นคนที่อยู่ในตระกูลซึ่งถูกทุกคนปรามาสไว้…..ก็ว่าอยู่ว่าเป็นลูกแม่บ้าน แต่หน้าตาผิวพรรณมารยาทนี่มันคุณชายชัดๆเลย


“วันนี้พายเลยจะเลี้ยงข้าวมันไก่ทั้งพริมพราวและทัตนะ สั่งได้เล้ย เดี๋ยวเปิดเทอมเจอกันจะเลี้ยงชาบูอีกรอบ” 


พวกเขาพูดคุยอย่างสนุกสนานทั้งๆที่นี่คือช่วงสอบ ช่วงชีวิตปีหนึ่งจะว่าสั้นมันก็สั้น เผลอแป็ปๆการเป็นนักเรียนมัธยมก็หลงเหลือเป็นเพียงความทรงจำที่จางลงทุกวันและปีต่อๆไปเราก็จะไม่มีใครที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์นั่งก้มหน้าอีกต่อไปแล้ว แต่ขอบคุณปีหนึ่งเหลือเกินที่ทำให้เรามีเพื่อนที่ดีแบบนี้ หากไม่มีพวกเขา พระพายจะมีความสุขแบบทุกวันนี้ไหมนะ


“เฮ้ย พิตช์มาอ่ะ” 


ทัตพูดขึ้น พระพายที่กำลังรอข้าวมันไก่นั้นเผลอเงยหน้าไปสบตากับเจ้าของชื่อพอดี พิตช์มากับใครก็ไม่รู้ ดูไม่ใช่เด็กมหาลัยนี้เลย แต่เพราะคดีที่มีต่อกันมาหลายคดี พระพายจึงไม่คิดจะทักทายอะไร ทว่าก็ไม่มีเหตุผลให้กินเร็วๆเลี่ยงหนีไป เพราะเราหนีปัญหาไม่ได้หรอก ยิ่งถ้าปัญหาคืออะไรที่อยากจะวิ่งเข้าหากันจนตัวสั่นแล้วล่ะก็นะ….


“ข้าวมันไก่ร้านนี้ดังนะ คนดังก็ชอบมากินด้วย”  พิตช์นี่เป็นอะไรเหรอ เจอกันทีไรไม่เคยทักทายปกติเลย ขยับปากทีไรพริมพราวก็กำมือแน่นทุกที ลำบากพระพายต้องคอยห้าม


“ถ้าไม่รีบไปนั่งระวังโต๊ะเต็มไม่ได้กินนะพิตช์”


“พี่ทองครับ นี่ไงครับที่ผมบอก เด็กของลูกพี่ลูกน้องของพี่”


“อ๋อคนนี้นะเหรอที่เป็นลูกคนใช้แบบที่พิตช์บอกพี่ เหมาะสมกับดีนะ” ตอนนี้ต่อให้เป็นพระพายก็โกรธอ่ะ คนเจอกันครั้งแรกต้องพูดใส่กันแบบนี้เลยเหรอ มารยาทไม่มีบางทีสติก็ควรจะมีหรือเปล่า?


“โทษนะครับ โต๊ะมันก็เต็มแล้วอะ ไปนั่งที่อื่นได้ไหมครับ”  พระพายถาม ดวงตาแข็งแบบที่ไม่เคยเป็น ในตอนนั้นเองพริมพราวเองยังใจบาง เพิ่งเคยเห็นพระพายโกรธก็วันนี้ แต่อย่าว่าแต่พริมพราวเลย พระพายเองก็เพิ่งเคย!


“เราไม่อยู่ตรงนี้นานหรอกพระพาย ไม่อยากให้ใครเอาไปพูดว่าคุยกับลูกคนใช้ที่เป็นเด็กเลี้ยงของลูกชู้อีกที”


“นี่พิตช์ไม่ตามข่าวเลย พระพายเขาเป็นลูกคนใช้ที่มีพ่อชื่อว่าวุฒิชัย ชวนันท์นะ”  พริมพราวพูดขัดขึ้น


“…………”


“จะเขียนนิยายก็เอาไปเขียนให้ครบ บอกคนอื่นเขาไม่หมดมันไม่ดีรู้ไหม ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ ได้ยินว่าที่บ้านทำการค้ากับบริษัทย่อยที่เป็นของคุณวุฒิโดยตรงด้วยไม่ใช่เหรอ ไปพูดกับลูกเขางี้ ระวังนะจ้ะ”


“เราไปกันก่อนเถอะครับพี่ทอง”  ต่อให้พิตช์จะเชื่อหรือไม่ แต่พระพายก็คิดว่ามันดีแล้วที่คนทั้งสองจากไปเสียที พระพายมีอีกหลายอย่างต้องไปทำ ทั้งกิน อ่านหนังสือสอบ ไลน์ไปคุยกับคนข้างห้องที่วันนี้บอกจะกลับมาติวให้ เห็นไหมว่ามันมีอะไรที่น่าทำกว่าเยอะเลย


และนี่เป็นข่าวใหม่มากสำหรับพระพายเช่นกัน แต่ช่างเถอะ ขู่ไป จริงๆพระพายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี บริษัทของพ่อไม่ได้อยู่ในอำนาจที่พระพายจะก้าวก่ายได้ตั้งแต่ที่พูดไว้ตอนแรก แต่การมีนามสกุลชวนันท์ที่ใช้ได้จริงๆก็อำนวยความสะดวกได้เหมือนที่พี่เจนพูดไว้ ถ้ารำคาญหมาเห่าให้กัดกลับ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีวันหยุดเห่าหรอก โชคดีที่พริมพราวกัดให้แล้ว


ที่เหลือก็สุดแท้แต่เวรและกรรมละกันนะ!


คนข้างห้องมาติวให้จริงอย่างที่พูด พระพายก็พยายามที่จะจดจ่ออยู่กับมัน ทว่าบางช่วงเมื่อได้มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็หวนคิดถึงคนที่ได้เจอในวันนี้ ทั้งสองไม่ได้มีหน้าตาเหมือนหรือคล้ายกันหรอก แต่สรรพนามที่ใช้เรียกพระพายนั้น มันคิดเป็นอื่นไม่ได้เลย เขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับพี่เพชรแน่ๆ พระพายถามได้ไหม ควรจะถามหรือเปล่า แต่พระพายไม่เคยเอาปัญหาส่วนตัวอย่างเรื่องของพิตช์ไปเล่าให้พี่เพชรฟังมาก่อนเลยนะ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่บ้างก็เถอะ


“พี่เพชรหล่อมากไหม มองขนาดนี้แสดงว่าต้องหล่อมากเลยสินะ”  ใบหน้าของเขาดูอ่อนล้า ทว่าก็ยังหยอกกันเก่ง น่าหมั่นไส้ พระพายจึงเอาปากกาในมือเขียนบนหลังมือเขาไว้


‘คนไม่หล่อ’


“สะเทือนหัวใจไปถึงสันป่าตอง เราว่าเราก็หล่ออยู่นะ”  ก็ไกลไปนะบางที


“คนหล่อเขาไม่พูดว่าตัวเองหล่อหรอกครับ”


“มันก็มีคนหล่อที่ไม่พูดเพราะไม่รู้ตัว แต่พี่รู้ดี หน้าพี่เอง ทำไมจะไม่รู้”  เขาบ่นพึมพำพลางคว้าเอาปากกาของพระพายมาเขียนเพิ่มบนหลังมือตัวเองที่ด้านล่างคำปรามาส เขายอมเป็นคนไม่หล่อก็ได้แต่จะเป็น


‘คนไม่หล่อ ของพระพาย’


“ให้ฟรีก็ไม่เอา”  พระพายบอกพลางยึดปากกากลับมา


“ใครบอกว่าให้ฟรี คนเขามีพ่อมีแม่นะ วั้ยๆ พระพายอ่ะ”  แล้วมาทำสะดีดสะดิ้ง มันใช่เหรอ


“ยิ่งมีราคายิ่งไม่เอา เปลืองตังค์”


“ใจร้าย เขารู้กันทั้งบางแล้วว่าพี่เข้ามาในห้องพระพาย พี่เสียหายนะ เอามาปู้ยี่ปู้ยำไม่รับผิดชอบ”


“พระพายไม่ได้ทำซะหน่อย”  กล้าพูด ได้เห็นพระพายแตะเนื้อต้องตัวเขาบ้างปะละ เจ้าของมือใหญ่จะคว้าปากกาจากมือน้องกลับมา แต่พระพายไม่ยอม แย่งกันไปกันมา


ในเมื่อไม่อยากให้ก็ไม่เป็นไร งั้นก็เอาทั้งมือทั้งปากกาไปเลยล่ะกัน


“………”


“………” 


ในความเงียบ มีคนหนึ่งที่ยิ้มกริ่ม และอีกคนกำลังเขิน


“ขอมือพายคืนด้วยครับ”  นั่นแปลว่าช่วยปล่อยมือจากมือของน้องด้วย แต่เพชรกลับส่ายหน้า


“ถ้าอยากได้มือคืน งั้นพี่ขออย่างอื่นแทน….”


“……..” 


“ขออันนี้ละกัน”  เขาปล่อยมือใหญ่ๆของเขาที่กุมมือของพระพายออก และเปลี่ยนสถานที่อยู่ของตนไปที่ข้างหลังของพระพาย ใบหน้าของเขาที่เจ้าตัวอ้างว่ามันหล่อ ในยามนี้ซุกอยู่กับไหล่ของพระพาย มือทั้งสองข้างก็โอบกอดกันไว้หลวมๆ ถ้าเป็นปกติใจของพระพายคงเต้นแรงไปแล้ว ครั้งนี้ก็เต้นแรง แต่ก็เต็มไปด้วยความห่วงหาบางอย่าง


“พี่เพชรครับ”


“แป็ปนึงนะครับ คนดี”  คำเรียกที่ไม่มีชื่อทำให้หัวใจของพระพายอ่อนแอเหมือนไม่เคยเป็น ในตอนนี้พระพายรู้สึกเหมือนเขาคือบอลลูนที่ค่อยๆปล่อยลมออกมาทีละน้อย พระพายคงโวยวายไปแล้ว หากแต่ลมที่เขาปล่อยออกมา มันเหมือนสิ่งที่แบกรับไว้อยู่ ที่หายไปวุ่นวายมานี่.....ไปเจออะไรมานะ


“ไม่เป็นไรนะครับ หายไวๆนะ เพี้ยง!”  พระพายยกมือของเขาข้างที่ถูกเขียนเล่นและโอบกอดตนอยู่หลวมๆขึ้นมาเป่าให้ คนที่พักพิงอยู่ที่ไหล่บางนั้นลอบยิ้มน้อยๆให้กับการกระทำนั้น ตอนนี้น้องได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเต็มใจ จะว่ามันคือความเจ้าเล่ห์ของเขาที่ทำเช่นนี้ไหม ก็ใช่….แต่เรื่องที่ว่ากำลังอ่อนแออยู่หรือเปล่า ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกเช่นกัน…..


พระพายนั้นให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆที่เพชรควรจะเป็นคนมาติวให้แท้ๆ ทั้งนี้เขาอาจจะดูเหมือนคนที่ตลกได้ไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทว่ามันก็ย่อมมีบางทีที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องราวต่างๆ เขาไม่อาจจะทำตัวแบบนั้นหรือคิดเช่นนั้นได้ตลอดไป


ทว่าก็ไม่เคยที่จะแสดงมันออกมาให้ใครดูแม้แต่คนในครอบครัว พระพายเป็นคนแรกที่ทำลายความอดทนของเขาให้พังลงได้ อาจจะเพราะจิตสำนึกที่อยู่ลึกๆบอกกันว่าจะไม่เป็นไร…..หากเป็นพระพายล่ะก็ต่อให้ร้องไห้ออกมาตอนนี้ก็ไม่เป็นไร


เพราะพระพายคือคนที่จะทำให้หยุดร้องได้อย่างแน่นอน…


“พี่เพชร พายเมื่อยแล้ว” คนตัวเล็กในอ้อมกอดนั้นยุกยิก เขาคงกอดน้องท่านี้มานานและมันก็คงถึงเวลาต้องคืนให้สักที เพชรปล่อยพระพายออกมา เขากำลังจะถอยห่างเพราะที่ได้รับมามันก็มากพอ ทว่าพระพายไม่ปล่อยกันไป


“………….”


“ค่อยหายเมื่อยหน่อย”  พระพายที่พลิกหันมาหานั้นโอบกอดเขาเอาไว้ แก้มนิ่มของน้องนั้นเอียงซบกับไหล่ของเขา เสียงของพระพายที่ถูกเปล่งออกมาอย่างน่ารักทำให้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง เป็นพระพายนี่ดีนะ เขาไม่ทันได้ร้องไห้อย่างที่อยากเลย แต่ได้ยิ้มออกมาแทนแบบนี้


“พี่ชอบพระพายจังเลย”  และเขาหมายความตามนั้นจริงๆ


“พายก็ชอบพี่เพชรจังเล้ย!”  เราจะเหมารวมว่านี่คือการสารภาพความรู้สึกอย่างเป็นทางการได้หรือเปล่า แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญหรอก เพราะการกระทำ….สำคัญกว่าคำพูดจริงๆต่อให้คนทั้งโลกไม่ยอมรับในตัวเขา แค่พระพายคนเดียวก็พอแล้ว


แค่พระพายคนเดียวที่อยากจะขอไว้จริงๆ


เรากอดกันอยู่นานจนเขาต้องเตือนน้องว่าควรจะไปอ่านหนังสือสอบได้แล้ว ผ่านมาอีกเทอมที่เขาได้ใกล้ชิด เพชรตั้งใจว่าช่วงเวลาที่เขาขอลาจากคุณรบมาจัดการธุระส่วนตัวของทางบ้านนี้ เขาจะพาน้องกลับไปกรุงเทพด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าจะรอจนสอบวันสุดท้ายไม่ได้ ไม่เป็นไร เราค่อยไปเจอกันที่กรุงเทพก็ได้ พระพายกำลังจะกลับมาที่รัตนสกุลในช่วงปิดเทอมใหญ่นี่ และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่รัตนสกุล แต่ก็มั่นใจว่าเราจะอ้าแขนให้กันและกัน


ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มาจากไหน และมีที่มาอย่างไรใช่ไหม….


“พระพายเหลือสอบอีกกี่วิชา”  เขาถาม พลางเล่นผมเส้นเล็กของน้อง ทุกอย่างในตัวพระพายแลดูนุ่มนิ่มในความรู้สึกไปหมด แค่พระพายยืนอยู่เฉยๆไม่ได้หาภัยอันตรายมาให้ตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความต้องการทะนุถนอม


“อีกสามวิชา เนี่ย จันทร์ พุธ ศุกร์”  น้องชูนิ้วให้ดูเหมือนเด็กๆ


“อีกนิดเดียวเอง สู้ๆ สอบเสร็จแล้วจะเลี้ยงบิงซู”เขาบีบแก้มยุ้ยๆนั่น อาศัยความใจดีที่อาจจะยังมีเหลือแบบเศษๆในวันนี้จับนู่นแตะนี่ไปเรื่อยก่อนพระพายจะรู้ตัวแล้วตะเพิดกันออกจากห้อง


“บิงซูอีกแล้ว”  น้องมุ่ยหน้า ก็เขาไม่รู้ว่าน้องชอบอะไร และเด็กๆเนี่ยชอบบิงซูกันไม่ใช่เหรอ จะหลอกเด็กก็ต้องเอาของที่เด็กชอบมาล่อสิ ว้า….พระพายนี่แก่กว่าที่คิดนะเนี่ย….เหมาะกับคนแก่แบบเขาแล้ว อืมๆ


“แล้วพระพายอยากกินอะไร ชาบู หมูกระทะ”


“อยากมาม่าเกาหลีแบบเผ็ดๆ”


“โหว กินหรูอ่ะ”


“ก็อยู่บ้านพี่เจนไม่ให้กิน พระพายจะใส่ชีสด้วย เยอะๆ”  พระพายไม่รู้เสียแล้วว่าคนห้ามนั่นแหละตัวแดกเลย เห็นคุณรบนี่ซื้อกลับไปเซ่นไหว้ทุกครั้ง ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ บอกเลย


“งั้นมากินห้องพี่เพชร ใส่เยอะๆเอาให้อ้วนเลย”


“งะ จะขุนพายเหรอ”


“เอาให้แจ้มยุ้ยๆ พุงนุ่มๆ ชั่งกิโลขายให้ได้ราคาดีๆ”


“ขายกันได้ลงคอ”


“หรือจะกินเองให้อร่อยดีล่ะ”


“…….”


“กระดูกจะติดคอพี่ไหมเนี่ย อย่าลืมอาบน้ำด้วยนะ เหม็น”


“บ้าบอ”  ด่าเจ็บจัง แต่เขาหัวเราะออกมา พระพายเป็นคนที่ด่าแล้วโกรธไม่ลงจริงๆ พระพายรีบดุนหลังเขาให้ออกไป เพชรก็ไม่คิดจะฝืนรั้งไว้ต่อ น้องควรจะเคลียร์หัวตัวเองและพร้อมกับการสอบ ช่วงเวลาปิดเทอมของน้องยังไงก็มีกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันไม่มีอะไรต้องห่วงเลย


เขาแปะโพสต์อิตที่แอบเขียนเมื่อครู่บนตัวน้อง ก่อนจะโบกมือบ้ายบายให้ แค่เพียงผนังกั้นห้องเท่านั้น แต่การมีอยู่ของเราจะเหมือนเคียงข้าง พระพายจ้องมองโพสต์อิตที่คนพี่เขียนแปะบนมือของกัน ปกติพระพายต้องหน้าแดงและตีอกชกหัวอยู่นานที่เขินกับอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้ แต่พระพายยอมรับอย่างเต็มอกว่าดีใจที่ได้เห็น


‘ติดจองไว้ก่อนนะ คนน่ารักของพี่เพชร’


ชีวิตเด็กปีหนึ่งกับการสอบที่ทำให้สภาพนั้นหัวฟูไม่ต่างกันได้ดำเนินมาถึงวันสุดท้าย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพระพายต้องได้อยู่สอบวันสุดท้าย ทั้งๆที่รุ่นพี่ในคณะคนอื่นได้กลับกันไปเกือบหมดแล้ว แต่เป็นเช่นนี้ก็ดี สอบติดๆกันทุกวันแบบนั้นอาจจะตายได้ ใครจะไปอ่านทัน และเพราะมีเวลาอ่านพอตัวก็เลยไม่งอแงกับเพื่อนว่าทำไม่ได้เท่าไหร่ เพราะพระพายตั้งใจไว้ว่าอยากได้เกียรตินิยมให้ได้ ก็เลยค่อนข้างจะเข้มงวดกับตัวเอง


“ทำทันไหม”  ทัตหันไปถามพริมพราว


“ได้ทำ”  และทั้งสองก็หัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า ภาษาศาสตร์ได้ฆ่านักศึกษาอย่างเลือดเย็นทั้งเป็น พระพายได้แต่ส่ายหัวให้กับเพื่อนๆที่พากันสติเลื่อนลอย เราสองคนมุ่งหน้าจะไปยังโรงอาหาร ทว่าทัตขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ทิ้งไว้แค่พริมพราวและพระพายให้ยืนรออยู่หน้าลิฟท์


“เดี๋ยวพริมพราวกลับบ้านเลยไหม”


“ว่าจะกลับพรุ่งนี้นะ วันนี้ขอนอนไว้อาลัยก่อน พระพายล่ะ”


“ว่าจะกลับเลย เออหรือว่าเราไปกินอะไรอร่อยๆกันดี พายขับรถไปหลังมอกันไหม”


“อืมดีเลย อา…..พี่คนนั้นนี่”  พริมพราวที่ดูจะยังเลือนลอยไปมานั้นอยู่ๆก็พูดขึ้น พระพายหันไปมองตามสายตาของเธอก็ได้เห็นกับกลุ่มเด็กปีสองที่เดินลงบันไดกันลงมา พวกเขาจ้องมองพระพายและพริมพราวอยู่ชั่วครู่แต่ก็หลบตาแสร้งทำเป็นไม่สนใจ


“มีอะไรเหรอ”


“พี่รหัสพระพายอยู่ในกลุ่มนั้นอ่ะ”  จะว่าไปพระพายก็ไม่เคยเจอกันตรงๆเพราะแสร้งหลอกตัวเองว่าคงไม่มี ทั้งๆที่รู้ดีว่าเธอคนนั้นมีตัวตนอยู่ แต่ดูเหมือนว่าพี่ผู้หญิงที่เป็นพี่รหัสของพระพายนั้นจะเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับพิตช์ ดังนั้นพระพายจึงไม่เคยคาดหวังว่าจะเจอและคิดว่าไม่เจอดีกว่า พอนึกได้ถึงเรื่องนี้ก็ขอบคุณพี่เพชรจริงๆที่ส่งมอบคนดีๆมาให้กัน


ทัตออกมาสมทบกับพวกเรา และเพราะลิฟท์ของคณะไม่จอดที่ชั้นนี้ พวกเราจึงต้องลงบันไดกันเอาเอง พระพายต้องคอยระวังไม่ให้เพื่อนที่ไม่ได้นอนมาทั้งสองกลิ้งหลุนๆตกบันได จะว่าไปทัตก็เข้าห้องน้ำนานจนพวกเรานึกกลัวว่าจะไปหลับในห้องน้ำ โชคยังดีที่ออกมาเสียก่อนไม่งั้นพระพายคงต้องลำบากเป็นแน่ หยอกล้อแซวกันระหว่างทางเดินไปที่รถโดยไม่มองทางข้างหน้าให้ดี และมันก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งตัดหน้าเรา


“…”


“สวัสดีครับน้องพระพาย”


“…”


“ไม่ใช่ลูกคนใช้แล้วหยิ่งเหรอครับ”


“อย่ายืนขวางทางครับ มีรถเข้าออก” พระพายไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่แจ้งความต้องการของตนออกไป


“โกหกไม่ดีนะพระพาย คุณวุฒิไม่เคยมีลูก พนักงานในบริษัทเขาก็รู้กัน”  หรือต้องให้พระพายไปขอให้คุณวุฒิมาบอกพิตช์กับตัวเองถึงจะเชื่อ พระพายไม่เคยอยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่อยากดึงใครมาเกี่ยวข้อง แต่ทำไมคนอื่นจ้องจะวุ่นวายกันนัก และตรงนี้มันเปลี่ยวเสียด้วย แม้ว่าพระพายจะมีกันมาสามคน แต่อีกฝ่ายมาห้า แถมเหมือนจะไม่ใช่นักศึกษาที่นี่เสียด้วย


“เฮ้ยๆมึง น้องเขาก็น่ารักนี่หว่า มาตกลงธุระกันดีๆเถอะ เนาะ”  ใครสักคนในกลุ่มนั้นพูดออกมา ทว่าหน้าตาไม่ได้ดูเหมือนจะมาดี อย่างไรก็ตามสายตาแบบนั้นที่ใช้มองพระพาย ถ้าไม่ใช่คนที่ชื่อเพชรพิสุทธิ์มองมา พระพายกลับมองว่ามันน่ารังเกียจทั้งหมด ไม่ได้เหมารวม แต่เลือกที่ดีที่สุดเท่านั้น!


“มึงคิดว่าคนที่เกี่ยวข้องกับไอ้หน้าตัวเมียนั่นมันน่าเอาเหรอวะ อย่างนี้มีถมเถแถวสนามหลวง วันหลังกูขับพามึงไปเลือกได้เว้ย”  คำพูดของผู้เข้ามาขวางทางกันนั้นดูเหมือนจะไม่ประสงค์แค่ขวางเฉยๆ แต่อย่างนี้มันเย้าแหย่กันชัดๆ พระพายไม่ได้จะโง่จนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร


“ทำอาชีพแมงดาแถวนั้นเหรอครับ ดูรู้ดีนะเนี่ยว่าหน้าแบบไหนขายแถวสนามหลวงด้วย”  พระพายก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเอาที่ไหนมาพูด แต่ถ้าให้เดามันคงมาจากสายเลือด พระพายที่สุภาพนั้นคงมีเชื้อมาจากฝั่งชวนันท์จริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเชื้อแม่จะทิ้งขว้างไปตอนก่อนคลอด


“มึงจะเล่นกับกูจริงๆใช่ไหม”


“ไม่อยากยุ่งด้วยครับ พ่อแม่สั่งสอนให้มาเรียน ไม่ให้ยุ่งกับคนไม่ดี”  พระพายตอบหน้านิ่ง ทั้งๆที่จริงๆก็กลัวไปหมด แต่พี่เจนเคยพูดว่าโดนซ้อมสักผัวะ แล้วเอาคืนให้ถึงตายไปเลยก็คุ้มดี ว่าแต่นี่มันจะคุ้มจริงๆไหมนะเหรอ เออ…อาจจะไม่คุ้ม


เพราะตรงนี้มีทัตและพริมพราวอยู่ด้วย!


“อย่าเข้ามาจะดีกว่าครับ”


“มึงคิดว่าห้ามกูได้เหรอ มึงเป็นใคร พ่อกูใหญ่แค่ไหนแถวนี้มึงรู้ไหม”


“ไม่รู้ครับ แต่รถพระพายมีกล้อง”  พระพายชี้ หลีกเลี่ยงความรุนแรงไว้ก่อนน่าจะดีกว่า เพื่อนสองคนที่เงียบอยู่ ป่านนี้ไม่รู้ว่ากลัวกันไปถึงไหน


“……กูไม่ได้พูดเหรอว่าพ่อกูเป็นใคร”


“และรถเป็นทรัพย์สินของรัตนสกุล ถ้าอยากลองก็ได้ครับ”พ่อเป็นใครพระพายไม่สน แต่รถเป็นของคุณรบพระพายรู้แค่นี้


“คราวนี้มึงจะอ้างอะไรอีก เป็นเมียเก็บหรือเป็นลูกของพวกรัตนสกุลงั้นเหรอ”


“เป็นลูกของลูกจ้างของรัตนสกุลครับ แต่เขาให้รถมาใช้”


ทว่าในส่วนที่ไม่เคยพูดออกจากปากตนเองออกไป….


“แต่พ่อชื่อวุฒิชัย ชวนันท์น่ะเรื่องจริง” พระพายได้หันไปบอกกับพิตช์ที่เป็นคนสร้างความเชื่อให้คนอื่นมาตลอดว่าพระพายเป็นชวนันท์คนหนึ่ง ในวันนี้พระพายได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าตนนั่นใช่ แต่อีกฝ่ายจะเชื่อกันจริงๆหรือเปล่าล่ะ


“กะ…คิดว่าจะมีใครเชื่อ หะ!”  เพราะมันเป็นเรื่องโกหกมาตลอดทั้งๆที่มันออกจากปากตัวเอง ทว่าพิตช์ที่แผ่ข่าวลือแปลกๆออกไปย่อมรู้ดีว่าพระพายนั้นนิ่งมาตลอดไม่เคยอธิบายหรือแก้ไขความเข้าใจ ดังนั้นคำพูดของเพื่อนร่วมชั้นปีคนนี้จึงมีน้ำหนักรุนแรงอยู่พอตัว ก่อให้เกิดความสั่นไหวในความเชื่อที่ตนมี ทั้งๆที่ก็กลับไปเช็คมาแล้วกับผู้จัดการแผนกจัดซื้อของบริษัทย่อยของชวนันท์


แต่….คนพวกนั้นไม่ใช่คนใกล้ชิดจริงๆ


“จะทำอะไรก็คิดดีๆ”  พระพายนั้นฝากไว้อย่างนั้น แววตาที่แข็งกร้าวของพระพายประกาศชัดว่าไม่เกรงกลัวอะไร ทั้งนี้พระพายไม่เคยเริ่มก่อนและไม่เคยคิดจะเริ่ม แต่ถ้าต้องสู้ก็ไม่มีทางที่จะยกธงขาวก่อน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือกลับไปคิดถึงผลลัพท์ให้ดีๆ เพราะถ้าดึงทั้งรัตนสกุลและชวนันท์เข้ามา


คนที่ลำบากอาจจะไม่ใช่แค่ตนเองแล้ว….


“ทอง!” ทว่ายังไม่ทันที่ใครจะได้ทำอะไรรุนแรง เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาก็เรียกความสนใจไปได้หมด ร่างสูงของมนุษย์ที่กำลังเต็มไปด้วยความขึงเครียดโกรธแค้นนั้นพุ่งตรงเข้ามา แววตาของเพชรพิสุทธิ์ดูน่ากลัวเกินกว่าที่ทุกคนซึ่งรู้จักเขาจะคาดหมาย นี่อาจจะไม่ใช่ตัวตนแบบที่ใครรู้จักจริงๆ


และนี่อาจจะเป็นตัวตนที่เขาก็ไม่เคยได้รู้จักมาก่อนเช่นกัน…..


Talk: มาถึงตรงนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าดราม่าหวยออกที่ใคร ใช่ค่ะ พระเอกของเรามีที่มาไม่ทัมดา ชาติกำเนิดของพระพายนี่เป็นดราม่าในทุ่งลาเวนเดอร์อย่างแท้จริง เพราะพระเอกออร่าตัวร้ายแบบโปกๆของเรามีเรื่องราวอันซับซ้อนรอวันเฉลยอยู่ เตรียมนับถอยหลังตอนจบได้เลยค่ะ อีกไม่นานเกินรอ ส่วนใครใคร่หาหวยสำหรับวันพรุ่งนี้ รอมิอาจจะรับประกันเลขให้ท่านได้555  ขอให้อ่านตอนนี้และทำใจให้สบาย บางทีหลับตาอยู่เลขอาจจะขึ้นมาในมโนจิตก็เป็นได้นะคะ5555
ขอให้ทุกคนโชคดีในวันที่ 1 ค่ะ

#เพชรพระพาย #เจนไม่นก
















หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่11) 30.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 30-09-2018 18:00:02
 o18 มาเด้....อยากให้ที่บ้านล่มจม เข้ามาเด้ :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่11) 30.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 30-09-2018 18:11:59
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่11) 30.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-09-2018 18:37:40
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ น้องพระพายสู้ๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่11) 30.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-09-2018 19:10:29
ต้องทำให้รู้สำนึก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่11) 30.9.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 01-10-2018 18:58:54
พระพายสู้ๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 01-10-2018 19:43:37
เพชรพระพาย
พระพายต้องเลือก


“……….”


“……..”


“มาแล้วเหรอไอ้ลูกเมียน้อย”  จริงๆพระพายก็รู้อยู่แล้วว่าคนนิสัยแย่นี่พูดถึงใคร แต่เมื่อเขามาปรากฏตัวตรงนี้ ก็ใจหายอยู่เหมือนกัน พระพายไม่ชอบการทะเลาะวิวาท และไม่อยากเห็นคนที่ตนแคร์ลำบาก


“พี่เพชรเราไปกันเถอะครับ”  พระพายดึงเสื้อของเขาไว้ ไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ สายรหัสของเขาก็มาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นคนพาพี่ใหญ่มาที่นี่ด้วยตนเอง


“มึงเสือกอะไรด้วย กูตั้งใจจะพาเด็กนี่ไปปรับทัศนคติ ไม่ได้ตั้งใจจะทำเหี้ยๆอะไรอย่างที่มึงคิดหรอก ไอ้เพชร!” 


“มึงเอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนมายุ่งกับคนอื่นเขา พระพายเป็นลูกของคุณวุฒิชัยจริงๆ พ่อมึงใหญ่ที่นี่แต่ไม่ใหญ่คับฟ้า น้องด้วย อยากโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยหรืออยากจบอนาคตตัวเองแบบไหน อยากมีโอกาสเลือกหรือให้คนอื่นเลือกให้ก็บอกมา!”  พระพายแทบไม่เคยเห็นพี่เพชรพูดคำหยาบด้วยน้ำเสียงที่กะจะเอาให้ตายแบบนี้ ทั้งๆที่แววคุกคามของฝ่ายตรงข้ามต่อพระพายมันมากมายกว่า แต่พี่เพชรที่เป็นเช่นนี้ต่อคนอื่น ก็ทำให้พระพายหยุดสั่นไม่ได้ ด้านนี้ของเขา…บอกไม่ถูกว่าดีหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือไม่ได้ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย


“มึงนั่นแหละเสือกมายุ่งเรื่องคนอื่นก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะมึงครอบครัวกูก็ไม่ต้องลงเหวอย่างนี้ อย่ามาพูดว่าไม่ใช่เพราะมึงพ่อกูถึงไปมีเมียน้อยจนแม่กูประชดเอาไอ้ตัวเข้าบ้าน เป็นลูกเมียน้อยแล้วยังสะเออะทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่น มึงมันเหี้ยเพชร เหี้ยแต่เกิด ชาวบ้านเขารู้กันหมดว่าแม่มึงคลอดมารหัวขนอย่างมึงออกมาเพื่อเรียกเงินจากปู่กู มึงมันไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำไอ้ชาติหมา!”  คำด่าของคนนั้นทำให้พระพายสะดุ้ง พลันมือของเขาโอบกอดพระพายไว้หลวมๆ ทว่าแววตาของเขามันเหมือนจะฆ่าคนได้ในตอนนี้


“มึงไปถามพ่อมึงดีๆว่าเพราะกูหรือเพราะอะไร”


“มึงจะด่าว่าเพราะความเงี่ยนของพ่อกะแม่กูเลยมีผัวเมียใหม่กันทั้งคู่อะเหรอ ไม่ใช่เพราะมึงอยากได้มรดกปู่จนตัวสั่นเลยตัดคู่แข่งบ้านอื่นเหรอ ต้องเหยียบหัวคนกี่คนถึงได้ดีขนาดนี้ ไอ้เศษขยะ!”


“กูถึงได้บอกไงว่าคนที่เอาแต่โทษว่าเป็นความผิดคนอื่นทำอะไรมันก็ไม่ได้ดี อย่ามาอิจฉาถ้ามึงไม่มีปัญญาพอ!”


“เออพวกกูมันไม่มีปัญญาไปขี้โกงแบบมึงไงเพชร!”


“…….”


“ถ้ามึงไม่เกิดมา แม่มึงก็ไม่ต้องเอามึงมาเร่ขายหาเงิน ปู่ก็หลงสงสารโยนเศษเงินให้ ใครจะไปคิดว่าเด็กเหี้ยนั่นมันจะเจริญรอยตามแม่เหี้ยๆของมัน ปู่กูแม่งก็โง่ที่เชื่อฉากที่มึงจัด มึงทำอะไรลงไปบ้างล่ะให้ได้ไอ้หอพักหน้ามอนั่นไป กูรู้ว่ามึงหาผู้หญิงมาให้ปู่ กับคนอายุจะร้อยปีมึงยังเอานะไอ้เหี้ย!”


“แค่มึงคิดกับปู่แบบนั้นกูก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริงๆ”  เพชรเพียงพูดแค่นั้น เขาไม่อยากจะสาวความกับคนที่เอาแต่อารมณ์ และทั้งนี้ เขาไม่เคยคิดที่จะพูดความจริง อย่างไรก็ตาม….


ปึ่ก!


“กูไม่รู้เรื่องพ่อกับแม่มึง บังเอิญเจอกับพ่อมึงที่อาบอบนวดครั้งเดียวตอนไปทำงานให้นาย ได้ยินว่าเป็นลูกค้าประจำมาตั้งแต่ก่อนกูเกิดอีก ส่วนแม่มึง กูได้ยินว่าเลี้ยงผู้ชายไว้ตั้งแต่ตอนมึงเรียนม.ต้นแล้ว นั่นหลักฐานที่กูหาได้ เอาไปแหกตาดูถ้าพบว่าปลอมตรงไหนเดินไปบอกปู่ให้มาแหกอกกูได้”  หลังจากโยนซองเอกสารปึกใหญ่ให้อีกฝ่าย เขาก็สมทบ ก็คิดอยู่ว่าประเด็นนี้มันจะเล่นไม่เลิกจนตาย แต่เขาก็ไม่เคยพูดอะไรออกไป จนกระทั่งได้ยินว่ามันเจอกับพระพายนี่แหละ


เขาก็เหนื่อยที่จะจัดการกับความเข้าใจผิดๆของครอบครัวคนอื่นเต็มทน….


“มีคำถามอะไรก็มาถามกูหรือไม่ก็ปู่ อย่ามายุ่งกับคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับกูแบบนี้”


“มึงมันเหี้ยเพชร”  ถ้าคนมันบริสุทธิ์ใจ หลักฐานกองหนาแบบนี้คงไม่คิดที่จะหามาหรอก เจตนาไม่ดีเท่านั้นที่ผลักดันให้คนทำอะไรแบบนี้ได้


“นั่นก็เรื่องของมึง”


“ที่มึงเข้าใกล้น้องเขาเพราะอยากไปมีส่วนร่วมกับชวนันท์จนตัวสั่นสินะ” คำว่าชวนันท์ทำให้พระพายสะดุ้ง เพชรสามารถรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมแขนของเขาเป็นเช่นไร ทว่าเขากลับกอดแน่นขึ้น


ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม….


“มึงคงวางแผนเข้าหาตอนรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำดีด้วย เข้าไปยุ่งกับครอบครัวเขาให้เกิดความวางใจแบบที่มึงทำกับทุกคนสินะ”


“………..”  เขาเงียบ บางทีมันอาจจะไม่จำเป็นต้องต่อความใดๆกับคนแบบนี้


หรือไม่…เขาอาจจะไม่มีข้อแก้ตัวให้กับคำกล่าวหาพวกนั้น….


หลังจากเขวี้ยงมีดที่มองไม่เห็นใส่พระพายแล้ว กลุ่มคนที่เข้ามาหาเรื่องก็พร้อมใจกันหลีกทางให้พวกเราเอารถออก เพชรพิสุทธิ์ขอกุญแจรถจากมาเพื่อที่จะขับพาออกไปจากตรงนี้ ผองเพื่อนของพระพายที่นั่งมาด้วยพูดอะไรไม่ออกและได้แต่ขึ้นรถตามคำบอก เหล่าพี่น้องรหัสของเขานั้นพากันไปเดินขึ้นรถและขับตาม


ตอนนี้ในรถของเรานั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน และใบหน้าของเพชรที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มในวันนั้นที่พระพายทักว่าบ้าหรือเปล่า วันนี้พระพายไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาแม้แต่นิดเดียว…สักนิดก็ไม่มีจริงๆ มีแต่เรื่องราวมากมายที่ประดังประเดเข้ามา….


“พระพายครับ”


“……….”


“เดี๋ยวพี่จอดรถที่หน้ามหาลัย พระพายเปลี่ยนมาขับไหวไหมครับ”


“ครับ….”


“ขับพาเพื่อนไปส่งที่พัก เดี๋ยวพี่จะไปนั่งรถคันหลังแล้วให้ตามไป”


“พี่เพชร”


“เดี๋ยวพี่จอดตรงนี้นะครับ”  เขาไม่รอฟังคำถามจากคนคิดช้า เพชรพิสุทธิ์เทียบรถจอดหลังจากพ้นประตูของมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน และยังไม่ทันที่จะมีคำถามอะไร เขาก็เปิดประตูรถและเดินตรงไปยังรถคันหลังที่จอดรอหลังจากที่ตามมา พระพายมองตามเขาจนสุดสายตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาและเดินออกจากรถเพื่อไปนั่งที่คนขับ


“พระพาย”  พริมพราวเรียก


“เราว่าพริมพราวกลับบ้านวันนี้พร้อมทัตเถอะนะ เราขอโทษจริงๆที่เกิดเรื่องวันนี้”  พระพายรีบกู้คืนสติหลักจากที่มันเอาแต่คิดเรื่องของคนที่ตามมาทีหลังแต่จากไปก่อนคนนั้น


“เราไม่เป็นไร แต่พระพายไม่เป็นไรใช่ไหม”


“ไม่รู้สิ”


“พระพาย….”


“รู้สึกแย่แบบบอกไม่ถูกอ่ะ”


“……….”


“เดี๋ยวทัตไปหอเราเลยไหม เอาของส่วนตัวมาแล้วใช่เปล่า”  พระพายอยู่หอเดียวกับพริมพราว หลังจากที่ทัตตอบรับกลับมาเราก็วนรถไปที่หอพักของพระพายซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในทันที ตอนนี้ไม่มีใครง่วงหนาวหาวนอนกันอีกแล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกว่าเป็นประสบการณ์เกินคาดหมายเลยก็ว่าได้


หลังจากพาทั้งสองคนมาที่หอเสร็จ พวกเราก็ตกลงที่จะไปคุยกันในห้องของพริมพราวที่อยู่ในชั้นของผู้หญิง มันอาจจะดูแปลกๆและไม่ดีอยู่บ้าง แต่เจ้าของห้องอนุญาตแล้ว หารือเรื่องความปลอดภัยจนได้ข้อสรุปว่าพริมพราวจะให้คนที่บ้านมารับเธอกับทัตเข้ากรุงเทพและพาทัตไปส่งที่บ้านต่อ เรามีข้อมูลฝ่ายตรงข้ามน้อยเกินไปจึงทำตัวไม่ถูก แต่พระพายก็คิดว่าหากจำเป็นอาจจะต้องขอให้พ่อช่วยจริงๆแม้ว่าจะไม่อยากร้องขอมากเกินไปก็ตาม


ในส่วนของคำกล่าวหาที่อีกฝ่ายพูดถึงคนที่พระพายแคร์….มันก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ข้อมูลใหม่ๆที่แลดูจะเป็นการกล่าวหาทำให้ช็อคไปเลยเมื่อได้ยิน พระพายเม้มปากแน่น สับสนไปหมดกับข้อมูลเหล่านี้ พี่เพชรทำเช่นนั้นจริงๆเหรอ เขาเกี่ยวข้องแค่ไหน และเขาทำมันเพื่อมรดก หรือเงินทองจริงๆหรือไง….


“พระพายอย่าคิดมากนะ”ทัตบอก


“เราสับสนไปหมดแล้ว”


“พระพาย…ถ้าสงสัยต้องถามนะ” 


ก็คิดงั้นแต่ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปหาอย่างไร….


พระพายเติบโตมากับการเลี้ยงดูที่ดี เด็กน้อยไม่เคยมีความอิจฉาริษยาอยากได้อยากมีจนเกินกำลัง ไม่เข้าใจความโลภดังกล่าวเสียเท่าไหร่และไม่เคยเจอคนเป็นๆที่ทำเรื่องแบบนั้นอย่างในละครมาก่อน อย่างไรก็ตามคนแบบนั้นที่ว่าอาจจะอยู่ใกล้ตัวพระพายกว่าที่คิด


เพชรพิสุทธิ์มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาครอบครัวชาวบ้าน แต่เขาก็รอบรู้มีข้อมูลเตรียมพร้อมจนทำให้มันดูน่ากลัวว่าเขาจ้องมองคนอื่นแค่ไหนและข้อมูลเหล่านั้นเท็จจริงอย่างไร ทว่าพระพายก็ไม่อาจจะปักใจเชื่อได้สักฝ่าย เหตุผลในสมองตีกันจนยุ่งเหยิงทำให้เริ่มไม่ออกบอกไม่ถูกแบบนี้


“พระพายเชื่อไหมว่าพี่เพชรเข้าหาเพราะผลประโยชน์”  พริมพราวเอ่ยถามเสียงเบา จริงๆเรื่องนี้เธอไม่ควรก้าวก่าย แต่อย่างไรพระพายก็เพื่อน เพื่อนที่ต้องเตือนเมื่อเดินทางผิด…ใช่ไหม


“ไม่รู้”  พระพายเหมือนไม่เคยรู้อะไรมาก่อนแม้แต่เรื่องของตนเอง เรื่องชวนันท์ก็ทราบเป็นคนท้ายๆในบ้านรัตนสกุลทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเองแท้ๆ และเพราะพี่เพชรทำงานให้คุณรบ ก็มีโอกาสที่เขาจะรับทราบมาก่อน


จะว่าไปเขาก็เข้าหากันในช่วงหลังจากเข้ามาเป็นเด็กในหอพักของเขา ทั้งๆที่ก่อนนี้เราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย พี่เจนเองก็พูดว่าเขานั้นร้าย พระพายเองก็รับรู้มาตลอดว่าเขาใช้นิสัยส่วนตัวบางอย่างเพื่อความสำเร็จของงาน แต่ไม่คิด…ว่าเขาจะใช้มันหาผลประโยชน์จากกันเลย


และมันก็เป็นพระพายเองไม่ใช่เหรอที่ไปเล่าเรื่องที่เด็กแฝดบ้านชวนันท์มาหา….


“………”พระพายเพิ่งบอกเขาด้วยว่าพ่อจะยกตึกแถวตรงนั้น และเขาก็บอกกลับมาว่ามันมีมูลค่าหลายสิบล้าน…


“เดี๋ยวเย็นนี้รถบ้านเราจะมารับ เรากลับพร้อมกันไหม แบบ…พระพายจะขับตาม หรือไปกับเราแล้วค่อยให้คนมาเอารถวันหลังก็ได้นะ”  พริมพราวเสนอ และรอท่าทีของพระพายมาตอบสนอง


เจ้าของส่วนเกี่ยวข้องของเรื่องราวชวนปวดหัวถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตาลงพักสมองที่ตีพันกันยุ่งเหยิง พระพายไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ก็ไม่ชอบหนีไปไหน ไม่เคยสู้ แต่ไม่ชอบหนีปัญหาเช่นกัน และเวลาก็เหมือนจะเหลือน้อยเต็มที


“เรากลับห้องก่อนนะ”  เพียงคำเดียวที่พูดออกมา เพื่อนๆก็เข้าใจได้ทันที…ว่าพระพายได้ตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปบนห้อง…


และอาจจะแวะไปหาคนข้างๆห้องด้วย…..


พระพายเดินมาถึงหน้าห้องของเขา มันดูเงียบงันเหมือนไม่มีใครอยู่ในนี้ เพชรเองก็อยู่บ้างไม่อยู่บ้างอย่างที่รู้ แต่พระพายฉงนใจนักว่ายามนี้เขาจะอยู่หรือไม่ เราเพิ่งจากกันไป และพระพายก็ได้เห็นรถของรุ่นน้องของเขาที่ขับตามมา ทว่ายามนี้คนที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไปไหน…พระพายเคาะประตูเรียกสองสามครั้ง ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ทว่าเสียงอันแรงกล้าในอกบอกว่าเขานั้นอยู่ในนี้…เพราะพระพายอยู่ในตึกนี้เช่นกัน…


“พี่เพชร เปิดประตูให้พายหน่อย”


“………”


“พี่เพชรครับ”


“………”


“พาย….มีเรื่องจะปรึกษา”  พระพายไม่รู้ว่าควรจะเรียกเขาออกมาด้วยวิธีไหนจึงเลือกวิธีนี้เป็นวิธีแรก และมันก็ทำให้เขาเปิดประตูออกมา…


แค่ครึ่งเดียว


“…………พี่เพชร”  เขาเปิดประตูออก แต่ปิดกั้นไม่ให้พระพายเข้ามาด้วยโซ่คล้องประตู อย่างไรก็ตามพระพายก็ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าเขาชัดๆ ที่เห็นนั้นก็แค่เสี้ยวหน้าของเขา กับหางตา….ที่ไม่ได้มองกัน


“เดี๋ยวพี่จะรีบจัดการไม่ให้มายุ่งกับพระพายและเพื่อนอีก”  เขามีเรื่องมากมายต้องจัดการ อย่างไรก็ตามถ้าเล่นกันถึงขั้นนี้ก็คงต้องเด็ดขาดบ้างแล้ว พระพายยังต้องเรียนอยู่อีกสามปี ถ้าไม่ตีงูให้ตาย มันก็แว้งกัดเรื่อยๆแบบที่เป็นมาตลอด


ฝั่งน้องรหัสเขาทั้งหลายก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะธารากรที่อยู่ปีสี่เองก็เป็นลูกคนใหญ่คนโตในพื้นที่เหมือนกัน ลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนั้นคงไม่เข้ามายุ่งยากกับฝั่งสายรหัสเขานัก ส่วนเพื่อนพระพาย อาจจะให้ทางฝั่งธารากรช่วยเผื่อแผ่ความปลอดภัยไปให้ และก็คงอาจจะต้องเข้าไปคุยกับปู่ถึงปัญหาที่อีกฝ่ายนำมาจริงๆ กับเพชรนี่ไม่เท่าไหร่โดนบ่อยแล้ว


แต่กับพระพาย…เขายอมให้ไม่ได้


“เดี๋ยวพี่จะแจ้งเรื่องนี้ให้คุณหญิงพรรณีทราบนะครับ พระพายไม่ต้องห่วง แล้วก็..ถ้าอยากแจ้งความพี่จะประสานช่วย”


“พี่เพชร”


“กว่าจะเปิดเทอมคิดว่าเรื่องคงเรียบร้อย กลับมาเรียนได้ปกติแล้วครับ”


ไม่…ตอนนี้ไม่ปกติเลย….


“เรื่องหอพัก ถ้าพระพายกลัวว่าเขาจะเข้ามาได้เพราะเป็นญาติพี่ ขอให้วางใจได้ว่าเขาไม่กล้า ผู้จัดการหอเป็นคนของพี่และเขาไม่กล้าทำอะไรเกินหน้ากับทรัพย์สินที่เคยเป็นของปู่ด้วย วางใจได้ครับ”


ฟังพระพายหน่อย….


“แต่ถ้าอยากไปอยู่ที่อื่น…พี่จะให้เขาทำเรื่องโอนค่ามัดจำคืนให้นะ”


อย่าไล่พระพาย


“วันนี้ก็กลับกับเพื่อนก่อนนะครับ จะทิ้งกุญแจรถไว้ก็ได้ เดี๋ยวพี่ขับกลับไปคืนที่บ้านให้”


“………..”


“ไม่ต้องห่วงนะ”


“……พี่เพชรครับ”


“พระพายจะไม่เป็นอะไร พี่สัญญา”


“…………พาย…”


พายไม่เป็นไร


“ไว้เจอกันนะครับ” แต่พี่เพชรไม่ใช่….


ปัง!


“พี่เพชร เปิดประตูให้พายหน่อย เปิดประตูให้พายนะครับ”  พระพายร้องเรียกเขาจากหน้าห้องหลังจากรับฟังถ้อยคำมากมายที่ออกจากปาก เขาไม่เปิดโอกาสให้พระพายได้ถาม หรือสงสัย หรือรู้สึกอะไรหน่อยเลยหรือ? เรื่องวันนี้มันอาจจะมากเกินรับไหว แต่ไม่ใช่พระพายจะรับไม่ได้สักหน่อย และอย่างน้อยเขาก็ควรจะให้โอกาสกันบ้าง


ให้โอกาสพระพายได้ถามหน่อยว่าเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม….


“……….”


ไม่ได้การแล้วจริงๆ….


“พี่เพชร” เขาคงจะไม่เปิดให้


เจ้าของร่างบางที่ยืนเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้องนั้นถอนหายใจออกมา ต่อให้เรียกหาหรือทำเช่นไรเขาก็ไม่เปิดให้ มันเจ็บปวดเกินคำบรรยายจริงๆ ที่แค่เพียงกำแพงนี้ขวางกั้น แต่เราเหมือนอยู่กันห่างไกลแสนไกล เฝ้ามองเขามานาน แต่ไม่ได้รู้จักเขาดีกว่าใคร ทว่าไม่ว่าตัวตนแบบไหนก็ควรจะได้รับรู้และเห็น….เขาไม่ควรปิดโอกาสแบบนี้ แล้วมันดีแล้วเหรอที่เขา….จะปิดโอกาสในการเอาเปรียบพระพายที่เป็นชวนันท์ ช่างเป็นคนร้ายที่ยอมแพ้ง่ายดายเกินไปจริงๆ


พระพายยังไม่ทันมีอะไรให้เขามาปอกลอกเลย…..

xxx


น้องอาจจะยอมแพ้ไปแล้ว….


“เฮ้อ”  เพชรคิดว่าพระพายคงเข้าใจว่าวันนี้ไม่พร้อมเจอ เขารู้สึกผิดกับน้องและมีเรื่องวุ่นวายมากมายต้องตามแก้ คงจะพบหน้าพูดคุยหรือแก้ตัวอะไรตอนนี้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีอะไรให้แก้ตัว แต่การพูดความจริงอาจจะถูกตีความเป็นอื่นไปได้ เพชรจึงเลือกที่จะไม่อธิบายในทันที และพระพายเองก็คงเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรอ


เขาหวังเช่นนั้น…..


“เชี้ยแม่ง!”  เขาสบถออกมา ชีวิตช่วงนี้มันหนักหนาเพราะคุณปู่ป่วยอย่างเดียวไม่พอ ยังร้องขอแกมข่มขู่ให้เขางัดทุกดอกทุกเม็ดที่เก็บหอมรอมริดเป็นงานอดิเรกไว้ไปให้ดูแก้ง่วงตอนอยู่โรงพยาบาล….เรียกหาก็บ่อย ยังจะนำปัญหามาให้ตามแก้เป็นหางว่าว ไปทบต้นทบดอกกลับได้ไหม พ่อจะคิดบัญชียาวทั้งตระกูลเลยคอยดู


ปัญหากับทองนั้นมันมีตลอด ก็อย่างที่บอกว่าเขามันลูกเมียน้อยของลูกชายคนโตที่เมียหลวงมีลูกไม่ได้จึงถูกให้ความสำคัญในระดับหนึ่ง ตัวทองนั้นเกิดก่อน แต่เป็นลูกของน้องชายคนรองจึงไม่แปลกที่จะไม่ชอบขี้หน้ากัน ก็เรื่องเงินๆทองๆนั่นแหละ


และยิ่งรู้ว่าที่มาในการยึดคืนทรัพย์สินบางอย่างและประเด็นชู้สาวที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่โตอื่นๆตามมามันเกี่ยวข้องกับเขา อีกฝ่ายก็ยิ่งทวีความเกลียดชังแบบไม่เลือกหน้าเข้าไปอีก แต่ก็ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าไปถึงตัวพระพายแบบนี้!  แต่ก่อนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวเพราะรำคาญปนขี้เกียจ แล้วใครใช้ให้มาสุมไฟใส่กันล่ะ อยากมีเรื่องก็ไม่มาบอกดีๆ จะได้จัดให้สักดอก!


ตลอดมาเพชรพยายามเลี่ยงบ้างแต่นี่คงเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็อย่างที่อีกฝ่ายบอกว่าเขาไม่ใช่คนดีนัก ทุกสิ่งที่หามามันก็เพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ในภายหลังทั้งนั้น และเขาก็ชอบที่จะดูความพินาศของสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆที่มักจะกล่าวหากันว่าบ้านของเขามันฉาวโฉ่ ตัวเขามันกาลกิณี


เรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวหาว่าแม่คลอดเขามาหากินนั้นก็ไม่สามารถเถียงได้ถนัดปากนัก ขนาดชื่อ ‘เพชร’ ยังตั้งมาข่มพี่ที่ชื่อ ‘ทอง’ เลย! ที่มาของชื่อนี่เฟี้ยวมากๆ สวรรค์ได้กำหนดให้เป็นเจ้ากรรมนายเวรคนอื่นตั้งแต่เกิดมาเลยจริงๆ ชีวิตนี้เลยอยู่ไม่สุขนัก ถนัดเป็นปลิงไปดูดเลือดคนอื่นเขาแล้วเราก็สบายใจ


ทั้งนี้เพชรเคยบังเอิญไปได้ยินบทสนทนาของแม่และตา มันเป็นตามนั้นจริงๆ ตาให้แม่จับพ่อที่มีเมียอยู่แล้วแต่ไม่มีลูก เผื่อว่าเขาจะหย่าเมียและมาแต่งงานกับเมียใหม่แทน จุดประสงค์หลักมันก็เพื่อเงินและเงินทั้งนั้น ใครๆก็รู้ว่าปู่ของเขาอยากให้พ่อมีหลานให้อุ้มแม้ว่าลูกคนรองจะมีหลานชายที่รอรับทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็ตาม การเกิดมาของเขาจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่ก็มีความเป็นเสนียดจัญไรอยู่บ้างตามที่คนจะคิดไป


ทว่าสถานะของแม่ในตอนนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียนอกสมรสเท่านั้นเพราะพ่อก็ไม่ได้หย่ากับเมียของเขาแต่อย่างใด เพชรได้เจอเธอบ้าง ได้รับกระแสเกลียดชังมาเป็นระยะแต่ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรเพราะเธอก็คงทุกข์ระทมกับการที่ไม่สามารถมีลูกให้พ่อได้


ส่วนคุณไพลินหรือแม่ของเขาเองนั้นจะเรียกว่ามีความสุขก็หาได้ไม่ เพราะที่ตั้งใจไว้มันไม่เป็นดั่งหวัง ในตอนนั้นถึงเขาจะกังขาว่าแม่รักกันจริงหรือไม่ แต่เขาก็วางตัวทำเป็นไม่สนใจ รักแม่เท่าที่ใจจะรับไหว พยายามเข้าหา หัวเราะหยอกล้อให้เหมือนที่ทำประจำกับคนอื่น แต่ก็ยอมรับว่าเลี่ยงที่จะเคลียร์ปัญหาหัวใจนั่นเสมอมา


แล้วบ้านนี้เหมือนบ้านคนอื่นที่ไหน จะอยู่นิ่งๆสบายๆไม่สนสมบัติอะไรเท่ากับฆ่าตัวตายท่ามกลางฝูงแร้งโดยมีปู่บนบัลลังก์เมฆเอาแส้เฆี่ยนต่ออีกที คุณรบและรัตนสกุลถือเป็นพระมาโปรดกันเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้นเพชรพิสุทธิ์ก็คงต้องไปวนเวียนในวัฏจักรความหน้าเลือดของตระกูลต่อไป


และเพราะเติบโตมาในสถานการณ์ที่ชวนให้เอาตัวรอดยิ่งกว่ารายการเซอร์ไวเวิลที่ไหน การกลายเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องเกินตัว เพชรถูกหล่อหลอมมาด้วยการเลี้ยงดูแบบนี้ และก็แตกหักเช่นนี้มานานแล้ว จนตอนนี้คงไม่มีใครมาขัดเกลานิสัยของเขาให้ดีขึ้นได้ และเขาคงไม่ยอม เพราะเป็นคนดี…มันดูจะตายง่ายเกินไป


พระพายคงรู้สึกผิดหวังในตัวเขาหลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมดไป ข้อมูลดราม่ามันมากมายและย้อนแย้งเกินกว่าที่เขาจะรวบรัดตัดตอนอธิบายให้น้องฟังได้ง่ายๆ จะบอกว่าเขาอยากได้สมบัติอะไรนั่นเหรอ ไม่หรอก เป็นแค่ลูกเมียน้อยที่หวังจะหุบสมบัติชาวบ้านจะไปหวังอะไร ไม่งั้นไม่หนีตามคุณรบไปหรอก


แต่ถ้าถามว่าเอาไหม เขาอยากให้ก็เอาแหละ ยอมไปหมด เงินและที่ดินนี่มันหอมแค่ไหน ดูหน้านี่ด้วย เขาเรียกว่าหล่ออย่างหน้าเงิน  และเพราะเป็นคนย้อนแย้งอย่างนี้ไง จึงยังไม่พร้อมจะยอมรับกับน้องว่าเป็นคนดีๆที่ทำเลวๆ อีกทั้งต้องมานั่งคิดหาวิธีการแก้ไขถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ให้ใครต้องมาลำบาก มันทำให้เขายุ่งมาก แต่อย่างไรก็ตามทุกสิ่งมันก็ไม่รุนแรงได้เท่าการจับพระพายมานั่งคุยและค้นพบว่าน้องมองกันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป


ใจบางขนาดนี้คิดว่าจะรับไหวจริงๆเหรอคนเรา


พระพายอาจจะคิดว่าเขานั้นไกลเกินเอื้อมถึงเพราะตนเป็นแค่เด็กในบ้านรัตนสกุล แต่พระพายไม่รู้เลยว่าการที่น้องพยายามทำทุกอย่างให้เก่งกาจเพื่อมาเทียบเคียงกับเขา เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าน้องเป็นคนที่คิดดีทำดีแค่ไหน เขามันไกลเกินเอื้อมจริง แต่เป็นขั้วตรงข้ามที่เลวแบบเกินกว่าที่พระพายจะเอื้อมถึง ทว่าก็ยังอยากให้น้องเอื้อมไปหาหรือไม่ก็พาตัวเองลงมาเพื่อพบว่าน้องนั้นอยู่ไกลกว่าจะเอื้อมถึงจริงๆ ทำไมกันนะ….


อีกเพียงเอื้อมมือเราก็จะเอื้อมถึงกันแล้ว
แต่เราก็เอื้อมกันไปไม่ถึงจริงๆ….


Talk: อนุญาตให้ด่าพระเอกได้ค่ะ เชิญตามศรัทธา555 แต่ตอนหน้าถ้าไม่สงสารก็รบกวนขากถุยใส่ต่อไปได้ค่ะ555 แต่งมาสิบกว่าตอนออร่าพระเอกออกเมื่อตอนก่อนแค่เดินมาและเรียกชื่อ วงวารแต่ก็สมน้ำหน้าด้วย5555 วันนี้ก็จะหน่วงหน่อย แต่นี่คือก๊อกเดียว ตอนหน้าก็สบายใจได้ ตอนถัดไปก็จบแล้ว สั้นเนอะ5555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-10-2018 20:14:59
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-10-2018 20:25:59
เรื่องนี้ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งลอยออกไปอีกโลกนึง
ทุกตัวละครมีความซับซ้อนโผล่มาแบบไม่จบไม่สิ้น 555555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-10-2018 21:04:32
นี่เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 01-10-2018 21:26:26
ว่าเจนคิดมากแล้ว อิตาเพชรคิดมากกว่าอีก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 01-10-2018 22:19:29
เฮ้ย พี่เพชร ไม่เอาดิ เรามันสัน..แค่กๆ พื้นเพเป็นคนไร้ยางอาย อย่ามาดราม่าใส่กันนะ ไม่เหมาะกับเทอ อย่างเพชรนี่ต้องแข็งแกร่งสมชื่อ ขอพี่เพชรคนหน้าทนคืนด้วยค่ะ สงสาร :sad4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-10-2018 22:28:32
อาจเป็นเพราะเราเห็นอิพี่เพชรมันมามากแล้วเลยไม่ค่อยตกใจสักเท่าไหร่ถ้าอิพี่มันจะร้ายจริงๆ ไม่ด่าพี่้พชรด้วยเพราะฝั่งที่เข้ามาหาเรื่องพระพายนี่น่าด่ากว่า เชื่อว่าตอนนี้น้องคงสับสนแต่คงไม่ถอดใจหรอก อิพี่เจอน้องอีกทีอาจเหวอแดกก็ได้เพราะน้องคงเป็นเหมือนที่เคยเป็นอะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-10-2018 23:47:36
ดราม่าเพชรแรง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่12) 1.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-10-2018 15:24:23
พี่เพชรอย่าคิดมาก น้องพายอยากคุยกับพี่นะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 02-10-2018 19:24:34
เพชรพระพาย
พระพายไม่อ่อนโยน

แย่ที่สุด แย่มากๆ….


เขาอาจจะทำพระพายหลุดมือไปจริงๆเพราะเรื่องนี้ เพชรอาจจะไม่ใช่คนที่ถูกที่สุด แต่ก็ไม่ได้ผิดที่สุดแต่ต่อให้ผิดก็ไม่ยอมรับ นี่ไงความย้อนแย้งที่น่ารังเกียจ น้องต้องรับไม่ได้แน่ๆ แต่น้องก็ไม่ใช่คนที่ตัดสินอะไรเป็นขาวดำไปเสียเลยหรอก พระพายอาจจะดูซื่อ แต่ไม่ได้โง่ ตราบใดที่เพชรยืนกรานว่าจริงใจและพร้อมที่จะตอบ เขาก็มั่นใจว่าพระพายจะตั้งใจฟังโดยให้ความยุติธรรม


ทว่าเขาก็ไม่รู้ว่าตอบแบบไหนออกไปจะทำให้ตนดูดีขึ้นมาได้ คิดแทบหัวแตกอยากเอาหัวชนกำแพงให้รู้แล้วรู้รอดเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็กลัวเจ็บ ทำไมอารมณ์โศกแบบนี้ยังกากได้วะ ทำไมเป็นคนโง่ที่หน้าตาหล่อแบบนี้ หล่อเฉยๆไม่ได้หรือไงทำไมต้องกากและโง่ไปด้วย แม่ง….


แล้วนี่น้องอุตส่าห์มาหามารับฟัง ก็ยังมีหน้าไปปิดประตูใส่น้องอีก แดกกาแฟแก้วเดียวกับคุณรบหรือไงถึงได้เชื้อกากแบ่งมาขนาดนี้ ถึงแม้พระพายจะไม่ใช่เจนรักษ์ที่จะมโนเก่งออกไปดาวพลูโต แต่น้องก็เป็นคน และเพราะเป็นคนก็ต้องรู้สึกไม่ผิดหวังก็โกรธ


ทำไมคิดไม่ได้เร็วๆกันนี่ เกียรตินิยมนี่ควรเอาไปคืนมหาวิทยาลัย ต้องวางแผนเตรียมคำพูดให้สวยหรูไปอีกทำไม แค่จริงใจมันไม่พอใช่ไหม….ใช่….บนโลกที่เขาเกิดและเติบโตมาแค่จริงใจ….มันอยู่ไม่ได้จริงๆไง ทุกวันนี้เลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้เป็นคนจริงใจได้


รู้แค่ว่าชอบพระพายมาก…ก็เท่านั้น…..


“เฮ้ย!น้องๆ อย่าเว้ย กลับไปๆๆๆ” 


เพชรพิสุทธิ์สะดุ้งโหยง ท่ามกลางความเงียบของหอพักในวันที่นักศึกษาทยอยกลับบ้านกลับช่องหลังสอบเสร็จไปแล้ว เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายจากผู้จัดการหอที่จ้างให้ช่วยดูแล เสียงที่ดังมาถึงห้องนั้นจับประเด็นไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันมาจากที่ข้างนอก เพชรนั้นเกาหัวอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น


วันนี้มันวุ่นวายจริงๆ และพอเขาออกมาชะเง้อคอลงไปดูก็พบกับพี่ผู้จัดการกำลังเลิ่กลั่กตกใจเหมือนเห็นผี มือก็ชี้โบ้ชี้เบ้ขึ้นฟ้า ผีเข้าเหรอ? จะเบิกเงินขอทำบุญหอใหม่หรือไง ก็ดีเหมือนกัน เพชรพิสุทธิ์ควรได้น้ำมนต์มาชะล้าง เขามองไปรอบๆตามทิศทางมือที่ชี้ไม่รู้เรื่องนั่นและเขาก็ได้เจอผีเข้าอย่างจัง


และผีก็กำลังเกาะผนังห้องที่เชื่อมระหว่างห้องเขาและห้องข้างๆ


“ฮึก….”


“พะ..พระพาย”  เสียงที่เปล่งออกไปนั้นเหมือนจะแหบแห้ง เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้สีหน้าตนเองเป็นเช่นไร เหมือนตอนเจอผีไหม เพราะมั่นใจว่าไม่เคยเจอใครที่ผีเท่าตัวเองมาก่อน


ทว่ายามนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของคนที่บอกว่าโดนผีหลอกเข้าแล้ว และคำว่า ‘พระพาย’ ก็ไม่ใช่คำเรียกขานยามต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้าเหมือนคำว่าโอ้มายก็อด น้องใจบุญแต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นพระโพธิสัตว์พอ แต่ที่เขาเปล่งชื่อเรียกน้องขึ้นมา…เพราะผีที่ว่าคือพระพายที่ปีนเหยียบระเบียงและกอดผนังกำแพงที่กั้นห้องเราไว้อยู่


“พี่…เพชร”


“ละ..ลงไป..ดะ ดะ..เดี๋ยว..นี้เลยนะ!”  เขาชี้หน้าพูดออกไป น้ำเสียงร้อนรนปานจะร้องไห้ ทว่าแม้แต่น้ำลายยังกลืนไม่ลง


ถ้าลูกเขาตกลงไป ไม่อยากจะคิดถึงบัญชีหนังหมาที่ยาวเป็นหางว่าวให้เขารอไปโดนสะสาง เริ่มจากบ้านรัตนสกุลก็เหลือแต่กระดูกแล้ว คงไม่เหลือร่างไปถึงชวนันท์ บัดนั้นจิตวิญญาณของเพชรพิสุทธิ์คนนี้คงดับสลายไม่เหลือให้เกิดใหม่มาเป็นหมาได้แล้วจริงๆ แล้วทำลงไปไม่คิดถึงจิตใจเขาบ้าง? เขาจะเอาพระพายที่ไหนมาคืนให้หัวใจตัวเอง คิดสิ คิด!


“พี่เพชรไม่ให้พระพายไปหาอ่ะ!”  น้องเบะปาก คนใจร้ายชี้หน้าต่อว่าทำหน้าจะร้องไห้ แต่คนปีนนี่ ร้องไห้ไปแล้ว! สูงน้อยเสียเมื่อไหร่ ทำใจมาก็นานกว่าจะเริ่มปีนป่าย พระพายไม่ใช่พี่เจนที่ปีนต้นมะม่วงเก่งนะ แล้วนี่มันต้นมะม่วงที่ไหน ระเบียงของหอพักชั้น 5 ชัดๆ


“เดี๋ยวไป! เดี๋ยวพี่ไปหาเองเลย ลงมา….ลงมาเดี๋ยวนี้!”  น่าตีนัก แต่ต้องลงมายืนให้เรียบร้อยให้เขาไปตีเท่านั้น ตอนนี้ใจของเพชรไม่ดีเลย ใครใช้ให้ปีนเข้าห้องผู้ชายแบบนี้ เด็กบ้าๆๆๆๆ น่าจับตี พ่อแม่สอนมายังไงทำไมเป็นชาววังที่แสนเฮี้ยว!


 ไอ้คำพูดที่คิดมาตั้งนานกระเด็นกระจัดกระจายหายหมดหัว คาดว่าขวัญเขาต้องหลุดหายไปถึงเชียงใหม่แล้วแน่ๆ เห็นพระพายเงียบๆ แต่เปรี้ยวมากๆนะ เข็ดฟันฉิบหาย ถ้าไม่รักและโอ๋มากจะถามออกไปว่าอยากตายเหรอ! ที่สุดของแจ้จริงๆเลยเด็กนี่!


หลังจากมองดูพระพายปีนลงจากระเบียงไปยืนอย่างปลอดภัยบนพื้นได้ เพชรพิสุทธิ์ก็ไม่แม้แต่จะเสียเวลาถอนหายใจ เขารีบวิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วประหนึ่งเดอะแฟลชแห่งค่ายDC และบิดลูกบิดประตูด้วยความเร็วระดับควิ๊กซิลเวอร์X-Men ของค่าย Mavel


รอไม่นานเสียงลูกบิดแห่งความหวังก็ดังแกร๊ก ประตูถูกเปิดออก แต่พระพายที่เปรี้ยวไปถึงขั้วหัวใจของเขาวันนี้กับเปิดมันไว้แค่นั้น อย่างที่เขาทำกับอีกฝ่ายเมื่อครู่…..


“………..”  ตอนออกแบบหอพัก ทำไมถึงสั่งทำโซ่คล้องไว้ให้ทุกห้องแบบนี้ กรรมสนองที่แท้จริง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวเป็นเช่นไร ก่อนจะกลับไปทบทวนแปลนก่อสร้างใหม่ เขาควรไปหยิบคีมตัดเหล็กมาไหม เอาดีๆ!


“พระพาย…”  เขาเรียกน้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรง ทำไมถึงทำกับฉันได้…คนดีของพี่เพชร….


“รู้สึกยังไงครับที่ต้องมายืนหน้าห้องและต้องมาฟังคนบ้าพูดอะไรงึมๆงำๆ ฟังไม่รู้เรื่อง!”  ดุกว่าบุพการีไอ้เพชรรวมกันร้อยคน พระพายผู้ถูกเลี้ยงดูประหนึ่งชาววังโดยคุณหญิงพรรณี นั้นเป็นคนแบบนี้เอง รู้งี้อย่าบ้ากล้าแหยมกับน้อง! ว่าแต่ที่พูดไปยาวเหยียดตอนนั้นน้องไม่รู้เรื่องเลยเหรอ ไอ้โง่แต่หล่อเอ้ย!


“เปิดให้พี่นะครับ”


“ตอนนั้นพายพูดว่าไง เปิดให้พายหน่อยนะครับใช่ไหม แล้วทำไมไม่เปิด!”  คนจริงกระทิงแดง เจนไม่นกปลุกเสกของอะไรใส่พระพายคนดีของเขากันนี่!


“ตอนนั้นพี่…เอ่อ ยุ่ง…”


“พี่จะบอกว่าพระพายมารบกวนพี่เหรอครับ แล้วทำไมพี่เพชรมาเกาะแกะพระพายตั้งนานไล่ก็ไม่กลับ ไม่คิดบ้างละว่าตัวเองก็ยุ่งเรื่องชาวบ้าน!”  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครด่าเขาเจ็บขนาดนี้เลย ด่าเจ็บกว่าไอ้ตัวเงินตัวทองที่ด่าเขาวันนี้ที่มหาลัยเสียอีก คำว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านของพระพาย….เหมือนเก็บรวมรวมความโกรธแค้นของคนทั้งโลกที่ถูกเขาเสือกเอาไว้แล้วระเบิดลงตู้มเดียว ก่อนไปโดนรัตนสกุลเล่นงาน พระพายก็เล่นเขาแทบไม่เหลือแม้แต่จิตวิญญาณ ไม่ต้องเกิดใหม่เป็นหมาแล้ว เกิดไปเป็นแมลงสาปที่โดนคนทั้งโลกรังเกียจเลยดีกว่า ทำเทวดาคนดีของชาวโลกโกรธจัดได้ขนาดนี้


“พี่…ขอโทษ”


“……….”


“ตอนนั้นพี่ไม่พร้อม”


“ไม่พร้อมก็บอก พายรอได้ แต่อย่าทำอย่างนั้น”  พระพายลดวอลลุ่มลงแต่ก็ยังตักเตือนเขาที่ทำผิดไป คำว่าถูกผิดของเพชรที่คิดมานั้นถูกสั่นคลอนด้วยความรู้สึกอันบอบบางแต่แข็งแกร่งของพระพายไปแล้ว


น้องไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดมาเลย ตอนนี้ยังช็อคไม่หายที่ถูกด่าแบบพระพ้ายพระพาย น่าผิดหวังที่เขาคาดการณ์เกี่ยวกับตัวน้องผิดทั้งๆที่ถูกต้องมาตลอด แต่ว่า….คนที่แคร์มากไม่ใช่หรือไงที่ทำให้เขาเห็นดำเป็นขาวไปได้ขนาดนี้  สิ่งที่เรียกว่าความรักมีอานุภาพมากพอในการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างบนโลกจริงๆ


“………”


“……….”


แอ้ด……….


“เข้ามาก่อนสิครับ”  เสียงกุกกักและเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้เพชรเงยหน้าขึ้นมา น้องพูดกับเขาพร้อมกับเชื้อเชิญให้เข้าไป หากพระพายยังงอนอยู่ วันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องเสียที แล้วคราวนี้ก็น่ากลัวว่าคนที่โดนด่าจนสำนึกผิดจะเป็นฝ่ายปีนเข้าห้องกันมาเอง


“………..”  เขายืนเงียบ มือไม้เหมือนวางไม่ถูก พระพายที่เดินนำไปชิงนั่งบนเตียงก่อน จ้องมองเขาที่โดนด่าจนสติหลุดไปกัมพูชาก่อนจะถอนหายใจออกมาพลางตบที่นั่งข้างๆเตียง


“มานั่งนี่ครับ”  พระพายสั่ง เขาหรี่ตามองน้องอย่างไม่ไว้ใจ นอกจากจะใจกล้าปีนเข้าห้องผู้ชายแล้วยังชวนผู้ชายมานั่งบนเตียงอีก ถ้าเป็นปกติเพชรพิสุทธิ์คงระริกระรี้ไปนั่งให้เกาคางอยู่หรอก แต่วันนี้มันไม่ปกติไง ไม่มีใครปกติเลยสักคน หรือจะว่าไปตั้งแต่ที่เขาเอาตัวตนถ่อยๆของตนเองไปยุ่มย่ามในชีวิตของน้อง พระพายก็ไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอีกเลย…


ต้องโทษเขาให้รับผิดชอบใช่ไหม
งั้นเขายอมเป็นของน้องเลยละกัน….


“เอ้อ!”  เขาอุทานออกมาทันทีที่นั่งลงข้างๆตามที่น้องสั่ง คนตัวบางโถมตัวเข้ากอดเขา นอกจากจะปีนห้อง ดุด่า ชวนนั่งบนเตียงนอน ยังเข้ามากอดกันก่อนอีก ไอ้ตัวเงินตัวทองลูกพี่ลูกน้องเขาไปทำอะไรพระพายไว้ ทำไมวันนี้ถึงได้เป็นหนักแบบนี้เล่าเนี่ย!


“อย่าหนีพระพายแบบนี้อีกนะ ถ้าโกรธ ถ้าไม่สบายใจ อนุญาตให้อยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ต้องบอกพระพายให้มั่นใจก่อนว่าถ้าพร้อมจะมาเจอ”


“……..”


“การรอแบบไม่มีจุดหมายมันเจ็บปวดนะครับ”  พระพายรักเขาข้างเดียวมาตลอด พยายามตัดใจก็หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จะด้วยเพราะตนเองหรือเพราะเขาที่ไม่เปิดโอกาสให้ก็ตาม แต่พระพายก็พยายามแล้วและผลคือไม่สำเร็จ

ดังนั้นตนจึงเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปและก็เห็นกำหนดการที่เราจะเป็นทางการซึ่งกันและกันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทว่าวันนี้มันเหมือนฟ้าผ่าลงมา ข้อมูลมากมายเข้าหัวจนพระพายเองยังประมวลไม่ทัน ยอมรับว่าใจนึงก็คิดไม่ดีไปแล้ว แต่เมื่อเห็นเขาปิดประตูใส่ ใจมันยิ่งคิด…ไปเลวร้ายยิ่งกว่า


“อย่าปิดประตูใส่พระพาย พี่เพชรจะไม่เล่าอะไรเลยก็ได้ จะไปนอนร้องไห้เอาหัวโขกชักโครกก็ได้ แต่อย่าไล่พายไป พายจะอยู่”


“พี่ไม่ได้ไล่เราครับ พี่แค่คิดไม่ออกเลยไม่รู้จะพูดยังไง กลัวพูดไม่ดีแล้วพระพายเข้าใจผิดด้วย”  เขาลูบหลังคนเสียขวัญที่ทำเรื่องสยองขวัญใส่กันยิ่งกว่า เขาสิที่สมควรถูกปลอบโยน พระพายอาจจะไปแล้วไปเลย แต่เพชรนี่ไม่ตายดีแน่ เผื่อๆถูกจับแก้ผ้าลากประจานไปทั่วจังหวัดและมีขบวนรถหมอลำวิ่งตาม แค่คิดก็อดสูตัวเองแล้ว


“ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ไปเขียนรายงานมาส่งสิ ถนัดไม่ใช่เหรอ”  นี่พระพายคนดีหรือเจนไม่นกนี่ แซะเก่งได้ใครมา


“ไม่เขียนแล้วครับ พี่จะเล่า พระพายอยากรู้อะไร พี่มีปานแดงที่ง่ามขาหรือซอกตูดตรงไหน พี่จะบอกให้หมด!”


“บ้า! ไม่อยากรู้!”  อย่าทุบอก ใจบางไปหมดแล้วรูก ไม่อยากรู้แต่นี่อยากบอก ถ้าไม่ให้บอกก็อยากจะโชว์


“พระพายฟังพี่นะ”


“ไม่ฟังเรื่องบ้าๆนะ”  เขาผละจากน้องออกมา จ้องมองใบหน้าที่นึกเอ็นดูจนอยากชวนมาดูเอ็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้ตีนแมวขี้กลัววันนี้อย่างแผ่วเบา และยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกของวัน


“ไม่บ้าหรอก”


“…………..”


“พี่ไม่ใช่คนดี”


“พระพายรู้ ใครๆก็บอก”


“แล้วพระพายเชื่อพวกเขาเหรอ”


“หึ พายเชื่อตัวเอง และก็เชื่อว่าพี่เพชรไม่ใช่คนดีจริงๆนั่นแหละ”  เจ็บไปหมดแล้วหัวใจ โดนด่าว่าไอ้จังไรตั้งแต่ปี1 ยันเรียนจบแล้วยังไม่เจ็บเท่าคำนี้ของพระพายคำเดียว เป็นคนเลวที่ยอมรับตัวเองแต่ไม่พร้อมจะยอมรับว่าพระพายก็คิดว่าเขาเลวจริงๆ โมเม้นท์นี้ก็จะเกลียดความใจบางที่ย้อนแย้งกับความเป็นจริงเช่นกัน


“พี่จะเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนเด็กๆให้พระพายฟัง”  พระพายไม่อยากรู้แต่ต้องปล่อยให้คนที่ใจบางไปหมดอย่างเขาเล่า ในเมื่อไม่รู้จะเริ่มตรงไหน งั้นเริ่มแม่งตั้งแต่ตอนตกฟากเลยละกัน!


เขาเล่าให้พระพายได้รู้ถึงจุดประสงค์ของการมีอยู่ของเขาตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์แม่ ปู่ของเขาเป็นคนร่ำรวยมีชื่อเสียง ใครๆก็อยากจะเข้ามาเป็นสะใภ้แต่ปู่ก็เลือกมากเพื่อผลประโยชน์ ทว่าตาของเขาก็เจ้าเล่ห์ไม่แพ้กัน เพชรเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ของเขานั้นเป็นเหยื่อที่เห็นดีเห็นงามด้วยหรือเปล่า


 สรุปแล้ว..เขาก็มองกลางๆไว้ว่าทุกคนก็ร้าย เพราะฉะนั้นตนเองก็ไม่ควรทำตัวเป็นเหยื่อให้คนดูถูกว่าเป็นลูกของผู้หญิงแพศยาที่เอาลูกมาอ้างหาเงินเข้ากระเป๋า ใครร้ายมาก็ร้ายกลับ ยังไงก็ไม่มีคนนับญาติอยู่แล้ว จะต้องสนใจความรู้สึกบ้าบอของกันและกันทำไม


เพชรนั้นใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงมากมาย บางครั้งนั้นเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยซ้ำ เขาจึงต้องดิ้นรนและคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้ตนเองอยู่ต่อไป และบางทีก็อาจจะต้องกอบโกยบ้าง ทั้งนี้มันไม่ใช่แค่เพื่อต่อยอดความอยู่รอด แต่เขาก็เป็นคน โกรธได้ รู้สึกเป็น ดังนั้นการที่ได้ทำร้ายคนอื่น มันก็แฟร์ไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้กระทำฝ่ายเดียวเสียหน่อย…


พระพายก็เหมือนจะพอรู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของเขากับแม่มันแปลกๆ ในตอนแรกหากได้เข้ามาก็อาจจะไม่เห็นอะไรผิดปกติ แต่เขาปกปิดได้ไม่นานหรอก ยิ่งทำก็ยิ่งไม่เนียน ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่รักมากไม่ลงเช่นกัน ทั้งนี้เขารู้ว่าแม่รัก แต่ก็ไม่อาจจะยอมรับการกระทำของแม่ได้ทั้งหมดเพราะมันส่งผลทำให้ตัวเขากลายเป็นคนเกลียดโลกเกลียดสังคมแบบนี้ และเพื่อเลี่ยงการมีปากเสียงหรือประกาศให้แม่รู้ว่าเขาทราบ เพชรจึงเลือกที่จะไม่อยู่ด้วยนานๆ เอาเป็นว่าให้พอรู้ว่ารักนะแต่ไม่แสดงออกละกัน


ในส่วนของการเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทำให้คนอื่นเขาแตกแยก เพชรค้านหัวชนฝาบ้าน มองหน้ายังไม่อยากจะมองแล้วนับประสาอะไรจะไปชวนชาวบ้านเขามีชู้ ถามจริงเถอะว่าไอ้ตัวเห้นั่นคิดได้ไง สนิทกันจังจะไปชวนพ่อมันมาก๊งเหล้าเคล้านารีอย่างกับเป็นเพื่อนร่วมรุ่น


ทั้งนี้เขาสนิทกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงหลายแห่งด้วยเพราะเป็นลูกค้าของรัตนสกุลบ้างหรือไม่ก็พาลูกค้าไปใช้บริการบ้าง บังเอิญเจออาของตัวเองในอาบอบนวดเลยถามนั่นถามนี่ เหล่าผู้ดูแลก็พร้อมใจกันประคบประหงมเล่าให้ฟัง ดูเหมือนคู่ผัวตัวเมียนี่เขาจะรู้กันมานานแล้วว่าต่างฝ่ายต่างมีชู้ แต่ไม่เคยบอกลูกชายโง่ๆของตน อยู่สร้างภาพด้วยกันไป กินเงินกงสีตระกูลเรื่อยๆอย่างมีความสุขมานาน


จริงๆเขากับปู่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันนัก ปู่วางตัวเป็นกลางด้วยตัดสินไม่ได้ว่าจะให้ใครดูแลธุรกิจเป็นหัวเรือหลักต่อ ทองไม่ใช่คนเก่ง เข้าขั้นไม่เอาถ่าน ส่วนเพชรแม้จะเก่งแต่ก็ไว้ใจไม่ได้เพราะคดีเยอะไม่พอยังถูกจัดเป็นลูกนอกคอกของบ้านไปอีกแถมเรียนจบ ยังเอาหน้าตัวเองพร้อมเรซูเม่เก๋ๆไปยื่นให้รัตนสกุล พร้อมย้ายไปอยู่กรุงเทพแทบจะไม่กลับมาเหลียวแลทางบ้านอยู่หลายปี


จนกระทั่งปู่โทรมาบอกว่าจะยกหอพักให้ แบบเอาไปเลยฟรีๆ เขาถึงได้ยอมกลับมาหามาดูใจว่าใกล้ตายหรือเป็นอัลไซเมอร์อยู่หรือเปล่า แต่จริงๆตอนนั้นปู่ให้ตามหาคนรักที่ไม่ได้ครองคู่กัน ใครจะไปรู้ว่าตาเฒ่าร้ายๆจะมีโมเม้นท์โรแมนติคในชีวิตกับเขาด้วย


และจริงๆก็ไม่ได้หายากเย็นอะไร เพราะปู่มีชื่อเสียงเรียงนามให้ครบ และพบว่านามสกุลของเธอคนนั้นตรงกับสายรหัสจังไรของเขาคนหนึ่ง ตอนนั้นก็ได้แต่สงสารปู่เลยไม่กล้าพูดอะไรออกไปมาก กลัวไม่ได้หอ แล้วไอ้เจตต์ก็ไม่แย่แค่ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ เขาพามันมากราบไหว้ จัดใส่มือไปให้ 3-4 พัน ให้มันสาธยายถึงความดีงามของย่ามันอย่างนั้นอย่างนี้ว่ายังรักและคิดถึงปู่ของเขาตราบสิ้นลมหายใจ คิดว่าพอปู่ได้ฟังคงจะตายตาหลับสักที สรุปไม่….


เป็นภาระกันไปอีกยาวนานอย่างที่เห็นเลยจ้า….


ยอมรับว่าเห็นคนทำเรื่องชั่วๆแล้วอดไม่ได้ต้องเก็บเป็นหลักฐาน และไม่ได้กะจะชื่นชมคนเดียวด้วย เขาตั้งใจจะเอามันออกมาอวดสายตาต่อหน้าประชาชนเหมือนกัน แค่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ทว่าปู่ของเขาที่ควรจะนอนพะงาบๆกลับว่างจนมานั่งตรวจสอบบัญชีของธุรกิจที่ทำและพบหลายจุดที่แปลกประหลาด แต่เริ่ม เพชรไม่ได้เข้าไปยุ่งกับกงสีตรงนั้นเพราะแย่งเอาหอพักมาได้แล้วก็พอใจ เลยไม่ได้เพ็ดทูลอะไรออกไป ทว่าตาเฒ่านั่นก็ตรัสรู้ชอบได้เองไปอีก คนแก่ 4.0 จริงๆ


ทั้งนี้ด้วยเพราะคงอยากยึดนั่นตัดนี่กลับคืนมา และเอาไปจัดสรรใหม่รวมทั้งแก้เผ็ดลูกหลานแบบเจ็บๆตามประสาคนแก่ร้ายๆ ก็เลยเลือกใช้เขาซึ่งมีงานอดิเรกในการเก็บข้อมูลแปลกๆมาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในภายภาคหน้า จริงๆเราทำงานร่วมกันบ้างมานานแล้ว ได้ดิบได้ดีจนได้หอพักมาเป็นของตัวเองอย่างที่เห็นนี่แหละ เลยจะเรียกใช้ง่ายหน่อย ไอ้เราก็กลัวว่าที่เก็บไว้จะเน่าไม่ได้ใช้ก็เลยแบ่งๆให้ไป ทว่าครั้งนี้คงเล่นแรงขนาดทำให้คนบางคนถึงกับประสาทกินทำตัวเป็นหมาไม่ได้ฉีดพิษสุนัขบ้า


“สรุปที่พี่ชายพี่เพชรบอกว่าพี่เพชรหาผู้หญิงไปให้ปู่ สรุปคือ…พี่เจตต์อะนะ”  เข้าใจผิดไปไกลมากๆ ไกลจริงๆคนเรา


“จริงๆแล้วมันไม่ใช่พี่ แค่อายุมากกว่าแต่มันเป็นตัวเห้ ชื่อมันก็เห้แล้ว มันก็ทำตัวเห้ด้วย ปู่แค่อยากเจอคนรักเขา พี่เลยพาหลานเขามาเพราะเขาตายแล้ว แล้วมันดันเสือกซวยเป็นไอ้เจตต์ ทองมันคิดไม่ดีไปเอง”


“แล้วพี่เพชรไม่บอกเขาอ่ะ” 


“บอกไปมันฟังไหมล่ะ บอกว่าพ่อกับแม่มันมีชู้ไม่เกี่ยวกับกู มันยังไม่ฟังพี่เลย”


“พูดไม่เพราะ”


“ขอโทษครับ”  กราบที่ร่องอก ลดความเกรี้ยวกราดลง 3 เบอร์ บัดเดี๋ยวนี้!


“ช่างเขาเหอะ แล้วพี่เพชรเอาไงต่อไปอ่ะ” 


“พี่ก็จะดูแลพระพายอย่างดี ทะนุถนอมพระพายให้ดีที่สุด ให้เกียรติพระพาย รับผิดชอบทุกอย่าง พี่ผิดเอง”


“ไม่เกี่ยวกับพายรึเปล่า หมายถึงที่บ้านอ่ะ เอาไง” ไม่เนียน พระพายให้ไปเรียนมาใหม่


“ก็คงฟ้องปู่อะแหละ พี่ก็อยู่ของพี่ดีๆไม่เคยเอาเอกสารใส่ร้ายพ่อแม่มันไปให้ซะหน่อย มาขอซื้อต่อเอง พี่ก็ร้อนเงินจะเอาไปแต่งเมียเลยขายซะ ได้เงินมาเยอะอยู่ก็เอาไปเลี้ยงบิงซูทุกอาทิตย์”


“อื้ออออ บอกว่าพายไม่เกี่ยว พูดซะพายเป็นผู้ร่วมก่ออาชญากรรม”


“แน่ะๆ ยอมรับว่าเป็นเมียเหรอ ยังไม่เป็นเลยนะ เป็นเลยไหม ไหนๆก็อยู่บนเตียงอยู่แล้ว”  ทะลึ่ง!


“ไปกินบิงซูด้วย ไม่ใช่เมียที่พี่เพชรรักจริงหวังแต่งซะหน่อย อย่าเหมารวม” เพราะอยู่บนเตียงนี่แหละคว้าหมอนง่ายหน่อยเลยคว้ามาเขวี้ยงใส่หน้าซะ


“แล้วอยากให้รักจริงหวังแต่งไหม”


“………..”


“บอกพี่มาสิ ธนาคารยังไม่ปิด พี่ไปถอนเงินมาขอเราได้เลยนะ เฮ้ย!”  เอาหมอนฟาดหน้าอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องเอาหมอนกดไว้อย่าให้โอกาสได้มีลมหายใจมาทำให้พระพายใจหยุดเต้นได้เพราะคำพูดจากปากมอมๆ คนบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ บ้ามาก นอกจากนิสัยไม่ดีทำตัวเลวร้ายกับคนอื่นเพราะปัญหาครอบครัว นี่ยังพอเข้าใจ แต่ที่ทะลึ่งตึงตังไม่รู้จักเวล่ำเวลานี่ใครสอน เอาเวลาที่ไหนนอกจากเจ้าคิดเจ้าแค้นคนอื่นมาฝึกได้ไง คนอะไรอ่ะ มัลติสกิลสุดๆ คุณรบจ้างมาเพราะงี้เหรอ ได้! เดี๋ยวพระพายไปบอกพี่เจนให้ไล่ออกซะ


คุณรบเป็นของพี่เจน = รัตนสกุลเป็นของพี่เจน


“พระพาย หายใจไม่ออกครับ! เดี๋ยวเป็นหม้ายนะ ไม่เอาๆ!!” จะตายอยู่แล้วยังวอนอีกแน่ะ คนเรา


“อย่าโมเมครับ ใครจะแต่งด้วย พระพายเป็นผู้ชายจะไปแต่งกับพี่เพชรได้ไง เรียนสูงซะเปล่าไม่รู้เรื่อง”


“ครับ ผู้ชายครับ เป็นผู้ชาย”  ในที่สุดเขาก็แย่งอาวุธสังหารมาได้และจัดการเขวี้ยงไปที่หัวเตียง


ก่อนจะคว้าอาชญากรที่หน้าตาน่ารักที่สุดมากอดไว้อย่างไม่กลัวตายอีกต่อไป


“พี่เพชร!”


“แต่เป็นผู้ชายที่พี่เพชรรัก”


“…………”


“พระพายอาจจะพูดว่าพระพายไม่เหมาะสม มีไม่เทียบเท่าหรืออะไรก็ตามพี่จะบอกว่ามันไม่ใช่”


“พี่เพชรรู้”


“รู้ครับ….แล้วพี่จะบอกให้ว่าพี่ไม่ได้สูงส่ง เก่งกาจอะไรเลย”


“ก่อนนี้พระพายเป็นแค่ลูกคนใช้”


“พี่ก็เป็นแค่ลูกเมียน้อยหรือเปล่า”


“แต่พี่เพชรคือพี่เพชรอ่ะ พี่เพชรเก่งกว่าพระพายตั้งเยอะ”


“พี่ไม่ได้เก่งกว่าหรอก พี่แค่แกล้งเก่งกว่าเท่านั้น จริงๆเราอาจจะไม่ได้ต่างกันเลย พี่มีน้อยไปด้วยซ้ำ”  เขามีน้อยกว่าตรงไหนเหรอ?


ดูไม่ยากเลย…ความเป็นคนดี ความเป็นที่รัก เขาล้วนมีน้อยกว่าน้องทุกอย่าง แล้วเช่นนี้เราควรจะเอากฎเกณฑ์ไหนมาตัดสินดีว่าใครอยู่จุดไหนยังไง และอย่างที่บอก…ว่าน้องพยายามเพื่อให้เก่งกาจมาเทียบเท่า แต่ความดีของน้องทำให้ความอดทนของเขาขาดผึง


เขาไม่มีวันรอพระพายมาเทียบเท่าเพราะเบื้องหลังของเขามันว่างเปล่าไร้การเติมเต็ม ในขณะเดียวกันน้องก็แสนดีอยู่สูงเกินกว่าคนที่สกปรกมอมแมมจะเอื้อมหา นั่นคือสาเหตุที่เขาไม่อาจจะอยู่เฉยได้หลังจากมั่นใจว่าหลงเสน่ห์ความน่ารักของน้องไปแล้วเช่นกัน เพชรจึงเข้ามาในชีวิตพระพาย พยายามจะดึงพระพายลงต่ำมาให้เทียบเท่าเขา แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยได้รับรู้เลยว่าจริงๆน้องก็คนๆหนึ่งไม่ใช่เทวดาหรือนางฟ้าที่ไหน


และเราต่างก็มีกิเลส ตัณหา ความต้องการเหมือนๆกัน


Talk: ผิดคาดมากกกกกกกกกกก นึกว่าจะมีคนด่าพี่เขา แต่กลายเป็นว่าด่ากันไม่ลงเลย รอดูกระแสคอมเมนท์ตอนนี้เลยค่ะว่าจะเป้นไง แต่นิยายชุดนี้มาเป็น 50 ตอน ยังไม่เห็นมีใครเห็นใจพี่เพชรเลย ชีวิตดราม่าที่ผ่านมาถือว่าคุ้มแล้ว5555 ตอนหน้าจบแล้วค่ะ เป็นบทสรุป แวะบ้านรัตนสกุลนิดหน่อย อาจจะหายไปนิด และจะกลับมาสั้นๆ ให้พอหายคิดถึงน้า

#เจนไม่นก #เพชรพระพาย






หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 02-10-2018 19:49:32
 o18เค้าเรียกว่ารู้จักเอาตัวรอดคะคุณพี่เพชร การดราม่าไม่เหมาะกับพี่เลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-10-2018 20:19:06
 o13  ให้ทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-10-2018 20:39:32
ต้องให้พระพายไปดูหน้าปู่เพชร คนแก่แสบๆ ที่เพชรจะเป็นแน่ในอนาคต
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 02-10-2018 20:40:45
เดี๋ยวค่ะ!!!! ตอนหน้าจะจบไม่ได้นะคะะะะะ แงงงงง ขออีก10ตอนได้มั้ยง่าาาาา 55555555 อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นเจน จะจบแล้ว เสียจุย แต่ก็แฮ๊ปปี้นะ งงมั่ยงง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 02-10-2018 20:42:17
 :-[
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 02-10-2018 21:10:44
นึกว่าจะเป็นพาร์ทจัดเต็มของพี่เพชร แต่น้องพายขโมยซีนหมดแล้ว ฮือออ 555555 อัพเกรดเบอร์แรง ปีนเข้าห้องเขาแถมยังตกผู้ได้ทั้งตัว จะฟ้องพี่เจนนนน อิพี่เพชร แกล่อลวงน้องจนเสียผู้เสียคนหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-10-2018 21:26:24
อุตส่าห์จะทำซึ้งๆตอนเล่าเรื่องสักหน่อยแต่ก็มาหลุดกับความผีบ้าของอิพี่เพชรมันนี่แหละ ก็บอกแล้วว่าน้องไม่เข้าใจผิดหรอกเพราะน้องรู้แล้วไงว่าแกเลวอยู่แล้วนังพี่เพชร ชอบตอนนี้มากๆได้เห็นพระพายมุมเกรี้ยวกราดบ้างมันดีต่อใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-10-2018 11:45:26
พระพายใจมากอ่ะ ปีนเข้าหาพี่เพชรไม่กลัวร่วงเลย ไม่เอาแบบนี้แล้วนะลูก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-10-2018 16:04:02
โถ่นายเพชร ให้พระพายหอมปลอมซักสิบที
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่13) 2.10.2018 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-10-2018 01:48:19
โอ้ยน้องงงงงง ถึงกับต้องปีนระเบียงไปหาพี่เค้าเลยหรอ
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่14 end) 6.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 06-10-2018 17:13:22
เพชรพระพาย
เพชรพระพาย

ไม่ว่าใครก็มีปัญหาในชีวิตจริงๆ…


ในที่สุดพระพายก็ได้รับรู้คำอธิบายจากปากเขา และแม้ว่ามันจะเชื่อไม่ได้ แต่ก็จะเชื่อ เพราะอย่างไรพระพายก็รู้จักเขามากที่สุด แม้ว่าตัวตนที่เขาแสดงให้เห็นจะหลอกลวงกันมาตลอดอย่างไรก็ตามพระพายเลือกเองว่าจะเป็นคนโง่เพื่อมีความสุข และต่อให้เขาร้ายกับคนทั้งโลก ทว่าเขาเคยไหมสักครั้งที่ร้ายใส่กัน ไม่เลย… ไม่ว่าเขาจะหวังอะไร สิ่งที่ให้กันมาคือความใส่ใจที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจ


เราเป็นเด็กที่เกิดมาด้วยเหตุผลแปลกๆของพ่อและแม่ ใช้ชีวิตในครอบครัวแบบที่ถูกคนอื่นเลือก แต่เราเลือกที่จะเป็นคนแบบนี้ตามบริบทต่างๆที่เติบโตมา บางทีถ้ากลับกัน พี่เพชรอาจจะไม่ร้ายกาจขนาดนี้ถ้าโตในบ้านที่เต็มไปด้วยความรักของรัตนสกุล


แต่พระพายก็นึกภาพพี่เพชรในบ้านหลังนั้นไม่ออกนัก อย่างไรก็ตามก็นึกกังขาเหมือนกันว่าในโลกของการแข่งขันในครอบครัวของเขา พระพายจะเอาตัวรอดได้ไหม?ที่แน่ๆคงไม่เป็นพระพายแบบวันนี้ และก็คงไม่ได้รู้สึกดีๆกับคนที่ขาดความรักและเต็มไปด้วยความต้องการแบบเขา


“โอ๋นะ….”  พระพายลูบหัวของเขา ทั้งๆที่เพชรพิสุทธิ์ก็อายุไม่ใช่น้อยๆแล้วแต่ก็อยากจะปลอบโยนให้กับทุกสิ่งที่เขาพบเจอ เด็กคนหนึ่งในความคิดของพระพายไม่ควรจะเจออะไรแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครอบครัวแบบที่ว่าไม่มีอยู่จริง การแสดงความรักต่อกันมีรูปแบบมากมาย แบบที่เห็นแก่ตัวจนไม่อาจจะเรียกว่ารักได้เลยก็มีอยู่จริงเช่นกัน


“ปลอบพี่เหรอครับ”


“ขวัญเอยขวัญมานะ”  พระพายคือความสุขที่เขาไม่เคยได้สัมผัสจริงๆ และมือของน้องที่ลูบหัวกันอยู่นี่ก็ทำให้เขารับรู้ว่านี่แหละคือสัมผัสของความสุข


“พี่ไม่เป็นไรนะ ชินแล้ว”  กับเรื่องร้ายทั้งปวงมันก็อาจจะเหมือนฝันร้ายอันยาวนานจนเขาแทบไม่มีความทรงจำดีๆของฝันดีอยู่เลย แต่เพราะว่าชินแล้วนั่นแหละ เลยไม่เจ็บปวดอะไร แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่โหยหาความสุข ที่ฝ่าฟันมาถึงทุกวันให้ถึงตัวพระพายนี่ ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเขายังไม่อาจจะเป็นคนเลวได้เต็มตัว เพราะเขาหวังให้คนดีๆคนหนึ่งเดินมาหากัน


“ไม่ดีกับใจพายเลย มีอะไรปรึกษาน้องได้นะ ต่อให้ตอบไม่ได้แต่จะยิ้มให้ ยิ้มสวยนะรู้เปล่า”  เขายิ้มให้คนที่แอบอ้างสรรพคุณเสร็จสรรพ แต่ใช่…น้องยิ้มสวย ทำให้โลกสดใสแม้ใบหน้าของเขาจะหมองคล้ำ


“พระพายเชื่อเขาไหมว่าพี่เข้าหาเพราะเงิน”  แต่เขาไม่แน่ใจหรอกว่าน้องคิดงี้หรือเปล่า


“ก็น่าคิดนะ แต่พายเพิ่งรู้เมื่อเดือนก่อนเองแล้วพี่เพชรจะมารู้ได้ไง”


“จริงๆถ้าพี่อยากรู้ก็รู้ได้ แต่พี่สนใจแค่พระพายที่อยู่ในรัตนสกุลเลยพลาดไม่ได้สนใจตรงนั้น”


“ว้า….มันน่าพลาดเลยเนอะ”


“พี่ไม่ได้สนใจชวนันท์อยู่แล้ว”


“………..”


“พระพาย ที่เป็นลูกเศรษฐีบ้านชวนันท์ไม่ใช่คนที่พี่เคยรู้จัก พี่รู้จักแต่คนนี้….”เขาชี้ไปที่น้อง“พระพายคนนี้เท่านั้นครับ” และพระพายก็ยิ้มให้กับคำสารภาพที่ไม่มีคำว่ารักในประโยค


ในส่วนเรื่องที่ว่าเขาเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ให้ตัดไปเลย เรื่องที่พระพายเป็นชวนันท์เขาไม่เคยรู้ต่อให้เห็นนามสกุลน้องมาตลอดและรู้ว่าชวนันท์ใหญ่โตแค่ไหน สำหรับเขาพระพายคือเด็กที่มีจิตใจบริสุทธิ์คนหนึ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมหาไปมาก และเขาก็ไม่เคยอยากได้อยากมีของคนอื่น ที่ทำตัวร้ายกาจนั่นก็กับคนที่ร้ายใส่กันก่อนก็เท่านั้นเอง


ชวนันท์ไม่เคยเป็นเป้าหมายและจะไม่เป็นเป้าหมายของเขาเลยหากพระพายไม่ใช่คนของพวกเขา และเพราะเขาอยากได้พระพายมาก ต่อให้พระพายนามสกุลหรูกว่านี้ก็คงต้องคว้ามาให้ได้อยู่ดี และเอามาแค่ตัวและหัวใจนะ ทรัพย์สินอะไรก็ไม่ได้อยากได้ เพราะเขาจะทำทุกอย่างขึ้นมาเพื่อให้พระพายภูมิใจว่าต่อให้เขาจะแย่แค่ไหน สองมือของเขาก็จะทำตามใจโดยการทำเพื่อพระพายทุกอย่าง


“พี่ไม่รอแล้วได้ไหม”


“………”


“พี่หลอกตัวเองให้ดูพระพายพยายามต่อไปไม่ไหว และคงไม่สามารถเป็นคนดีที่เหมาะสมกับพระพายได้ เราจะไม่มีวันได้บรรจบกันจริงๆถ้ายังพยายามไขว้คว้าสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”


“พี่เพชร”


“พระพายรับได้ไหมถ้าพี่ไม่ดีพอแบบนี้”


“……….”


“พี่ไม่รู้ว่าเป็นคนดีต้องทำยังไงเพราะไม่เคยอยากเป็น สิ่งเดียวที่พี่รู้คืออยากดูแล ทะนุถนอม และมีพระพายอยู่ใกล้ๆ”


“อืม”


“ถ้าตกลงขอให้ชูสองนิ้วและส่งเสียงปู้ด”


“ไร้สาระอีกล่ะ”


“แล้วรับได้ไหมครับ”เขาหัวเราะกลบเกลื่อน เอาแต้มบุญของคนบาปทั้งชีวิตมาใช้สารภาพไปหมดแล้ว เขาคงคาดหวังให้ตัวเองทำดีกว่านี้ไม่ได้ในเมื่อทุกอย่างมันกะทันหันไปหมด แต่เขาอยากมีสิทธิ์มีเสียงในตัวพระพายอย่างเต็มที่ และคิดว่าวันนี้ต่อให้ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วจริงๆ


“…………”


“รับพี่ได้ไหม” พระพายจะรับได้ไหม ได้หรือเปล่า….


ประวัติเสียเยอะเป็นหางว่าว สุ่มเสี่ยงจะถูกกระทืบทุกวัน แถมยังหาเรื่องมาให้ทั้งๆที่น้องไม่รู้เรื่อง พระพายจะรับได้ไหมคนแบบนี้….คนที่บอกว่ารักและจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มีความสุข แต่ไม่มีอะไรมารับประกันให้เชื่อใจได้จริงๆเพราะสิ่งที่เขามีก็แค่หัวใจที่น้องไม่มีวันรู้ลึกรู้ดีเท่าเขาว่ามันคิดเห็นเช่นไร


แต่ถ้าไม่ขอตอนนี้ก็อาจจะไม่มีโอกาส และก็อาจจะต้องตกอยู่ในห้วงแห่งความหวาดกลัวว่าจะสูญเสียอีกไม่รู้ต่อกี่ครั้ง มันดูเหมือนเป็นวัฏจักรที่สิ้นหวังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ขึ้นอยู่กับพระพายที่อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารนี้แล้ว อนาคตของเขาอยู่ในกำมือของลูกกระต่ายตัวนี้จริงๆ


“เป็นแฟนกับพายนะ”  ในที่สุดก็ได้พูดออกไปแล้ว


แต่เดี๋ยวนะเฮ้ยได้เหรอเว้ยยยยยยยย!?!?!?!?!!!!!!!!!!


“……….”และคนฟังก็นิ่งเงียบ นานจนคนพูดถอนหายใจออกมา


“เวลาขอเป็นแฟนสั้นๆแค่นี้ก็พอ ไม่ต้องพูดเยอะ ต้องให้สอนด้วย วู้ว!” อย่าให้พระพายต้องบ่น ไม่งั้นจะไล่ไปปรับทัศนคติหน้าประตูห้องอีกรอบ ไหนว่าจะไม่กากเหมือนพระเอกเรื่องโน้นไง!


“พระพาย….ไม่อ่อนโยนเลย”เห็นใจพี่บ้าง ใจบางรอบที่ร้อยล้านแล้ววันนี้


“อ่อนโยนกับอ่อนแอมันอยู่ใกล้กันนะครับ พายไม่ใช่ทั้งสองแบบ ยึกยักอยู่ได้ จะเป็นไม่เป็น นับ1-10นะ”  เอ้า 1…2...3…


“ปะ..เป็นครับๆ เป็นเดี๋ยวนี้เลยครับ!!” กลัวไม่ได้เป็นจัด


“เป็นแฟนพายนะ”


“เป็นครับ รับผิดชอบพี่ที แผ่นดินไหวแต่พี่เพชรไม่ไหวแล้วเนี่ย เฮิ่ก…จะเป็นลมขอยาดมหน่อย” 


พระพายสายฮาร์ดคอร์นี่ดาเมจมาก ในหนึ่งวันจะทำเขาช็อคไปสิบรอบ เริ่มตั้งแต่ปีนห้องเกาะรั้วชั้น5 แง้มประตูด่าจนกลับบ้านไม่ถูก จบลงด้วยขอเป็นแฟนแถมสอนกันอย่างเลือดเย็น ถูกตกแล้วครับ เอาจริงๆ ต้องโอชิคนนี้แล้วล่ะถ้าน้องเป็นไอดอล ไอ้เพชรจะเหมางานจับมือไม่แบ่งโอตะคนไหนเลย กูจะจับจะลูบจนมือน้องเปื่อยไปข้าง คอยดู!


ตัดกลับมาที่พระพายที่รู้แล้วว่าพี่เพชรรู้ว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดอะไรขึ้นแต่ตอนนั้นเขาเมาและเอาแต่หลับท่าเดียว ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาจะรู้เรื่องทั้งหมด แสบจริงๆคนนี้ แต่ถ้าเอาเรื่องทุกอย่างหมดล่ะก็ คาดว่าคงไม่ได้มีแฟนแล้วจริงๆเพราะตาคนร้ายจัดต้องโดนสับเละเป็นชิ้นๆแน่นอนแบบไม่ต้องสืบ และเพราะว่าไม่ถือโทษไง เราเลยก้าวหน้ามาได้แบบนี้ อะไรที่ไม่ใช่ข้อดีแต่พอรับได้ พระพายก็ยินดีรับมาทั้งหมด และถ้าพี่เพชรบอกว่าตนเองไม่สามารถเป็นคนดีเทียบเท่าพระพายได้


พระพายก็จะเป็นคนช่วยให้เขาได้เป็นคนดีเอง!


“จุ๊บ!”


“พระพายครับ!”  เดี๋ยวนี้เซี้ยวเนอะคนเรา ใครสั่งใครสอนเนี่ย ลูกชายเขามีพ่อมีแม่ไหม เดี๋ยวเราถอนเงินมาให้ แล้วเอามาขอเราซะนะ อย่างด่วนๆเลย!


“พายจุ๊บพี่เพชรแล้ว”นี่เขาต้องเป็นพระเอกภาษาอะไรที่ต้องมางงตอนโดนจุ๊บเองเคลมเองแบบนี้ แผ่นดินไหว ใจเพชรไม่ไหวจริงๆ แม่งเอ้ย!


“แปะน้ำลายจองไว้ก็ไม่ว่าครับ จูบอีกดิ”


“บ้า! ได้คืบเอาศอกนะคนเรา”  จริงๆแล้วอยากได้ทั้งตัว แต่พูดไม่ได้เพราะเดี๋ยวไม่ได้แม้แต่เล็บขบ เพราะพระพายคงซัดเขาจนหัวขาดแน่นวลลลลล


“คนเรานะ เต๊าะเราก็ไม่เคยทำ แต่จูบเราไปแล้วตั้งสองครั้ง”


“นั่นไงไม่ได้หลับจริงๆด้วย”


“แฮ่…”


“โกหกเก่ง ไว้ใจได้ไหมนี่”


“ไม่ได้ก็ต้องได้แล้วละครับ”


“…………”


“ขอพี่จุ๊บคืนบ้างนะ”  เขาขอ น้องช้อนตามองเขาที่มองมา


ไม่มีรอยปฏิเสธทางคำพูดหรือแววตา นั่นทำให้เขาที่ท็อปวิชาตีความเลือกที่จะจู่โจมน้องอย่างที่ใจต้องการ งานนี้ต้องทบต้นทบดอกตามประสาคนหน้าเงินที่หล่อมากๆ พระพายคงไม่รู้ว่าวันที่สารภาพรักกับคนเมา เขาต้องอดทนอดกลั้นรอมาถึงวันนี้ถึงเพียงไหน ความคิดถึงทำให้เวลาแค่วินาทีมีความยาวนานเทียบเท่าชั่วโมงเลยทีเดียว


ริมฝีปากของเขาประทับลงบนริมฝีปากซุกซนของพระพาย ความร้อนของใบหน้าน้องเหมือนจะแผ่กำจายไปทั่วกายในยามที่รับรู้ถึงการมีอยู่ที่ใกล้ชิดขึ้น ลมหายใจของเขาบอกกันว่าเราใกล้กันแค่ไหน และพระพายก็มีเขาอยู่ตรงนี้แล้วในระยะที่ไม่เพียงแค่ใกล้แต่มีสิทธิ์อ้างความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้ทั้งตัว


เพชรพิสุทธิ์มิได้ลุกล้ำให้กระต่ายน้อยตกใจ จูบของเขาเนิบนาบ ค่อยๆสร้างเสริมประสบการณ์วาบหวามที่พระพายไม่เคยได้รับให้เคยชิน นี่คงเป็นขั้นตอนที่เชื่องช้ารอวันกินที่ให้ความรู้สึกมั่นคงที่สุด และเขาอยากจะทะนุถนอมพระพายให้ได้มากเท่าที่จะทำได้แต่ก็อดไม่ไหวที่จะจาบจ้วง


“อื้ม”  คนอะไรโกหกได้แม้แต่ความต้องการจริงๆของตัวเอง ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อความตั้งใจ เพราะความอ่อนหวานอันไร้เดียงสาของพระพายที่สุดแสนจะยวนเย้าสัญชาตญาณนักล่าของเขา ริมฝีปากที่ช่ำชองกว่าบดเบียดราวกับจะดูดชิมความหอมหวานของน้ำหวานดอกไม้ออกมาจนหมด แต่พระพายมีมากจนเด็ดดอมเท่าไหร่ก็เหมือนจะไม่ลดลงเลย น้องไล่ตามจูบของเขาอย่างไร้เดียงสา สุดท้ายแล้วคนแพ้ก็คือเขาเองที่ยอมผละออกมาให้น้องได้หายใจ


แต่ก็ไม่นานเพราะว่าอาจจะเสพย์ติดเข้าแล้ว….


ด้วยความต้องการบางอย่างที่โหยหาในรสจูบของกันและกันนี่ พระพายบดเบียดร่างเข้าไปแนบชิดปล่อยให้เขานำพากันเข้าสู่ห้วงอารมณ์ที่คละคลุ้งไปด้วยความเสน่หาอันแสนหวาน เขาดูดกลืน บดเบียด และฝังตัวตนอันแปลกใหม่เข้ามาหา ทำให้พระพายได้รู้สึกถึงการมีอยู่ของอีกภาคส่วนของตนเองที่ไม่เคยเห็น สัมผัสของเขาที่ปัดป่ายไปทั่วไหล่และหลังทำให้รู้สึกถึงความร้อนแรงอันแสนอบอุ่นและปลอดภัย


พระพายชอบที่จะอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่ว่าตอนนั้นเขาจะดูน่าหวาดกลัวราวกับเป็นคนละคนแต่พระพายก็ยังชอบอยู่ดี เพราะจะได้รู้ว่าภายนอกอ้อมกอดอุ่นนี้ เขาจะไม่ดีกับใครเท่าที่ดีกับพระพายได้อีก และคงไม่กังขาอีกว่าเราเหมาะสมกันหรือไม่ เพราะทันทีที่ได้สัมผัสอุ่นไอของตัวเขาพระพายก็ได้รู้….


ไม่มีที่ไหนที่ให้ความอบอุ่นกับพระพายได้เท่านี้
และไม่มีใครอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้พอดีเท่าพระพายอีกแล้ว….


xxx


กลับมาที่บ้านรัตนสกุลเพื่อเพ็ดทูลความเป็นจริงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นกัน…


เพชรก็ไม่แน่ใจว่านี่เขามาบ้านเจ้านายหรือมาขึ้นศาล ไม่ใช่ศาลยุติธรรมแต่ออกศาลไคฟงหน่อยๆ มีใต้เท้า กงซุน องครักษ์ ดีใจที่ไม่มีใครลั่นกลองเบิกตัวจำเลยขึ้นศาลออกมา พระพายก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เล่นกับน้องวินที่อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารแสร้งไม่รู้เรื่องรู้ราว นี่ไงคนจริง โบ้ยเก่งดีเนาะ แล้วตอนนี้เพชรเป็นอะไร ฮัลโหล วัชพืชไหม เป็นอะไรที่ต้องโดนแดกเท่านั้นและเท่านั้นจริงๆ


“ฉันได้ยินว่าน้องโดนหาเรื่องเพราะแก แกจะชดใช้ยังไง”ท่านเปาที่นั่งบัลลังก์ศาลถามหน้าดำคร่ำเครียด มีเจนไม่นกเป็นกงซุน ลูกชายคนเดียวอย่างคุณรบเป็นองครักษ์จั่นทำหน้าเครียดกดดันไปงั้น


“ผมชดใช้ให้ทั้งตัวและหัวใจครับ ขอเชิญเรียกสินสอดมาทางนี้ โว้วๆๆ”  เพชรรีบหลบหมอนอิงที่ท่านเปาโยนมาจ้าละหวั่น ใครมันซื้อหมอนมาเยอะแยะวะ ว่างเหรอ กลัวไม่มีงานทำเลยซื้อหมอนมาให้ซักก็ได้เหรอ วงวาร


“อีตาเพชร แกมัน ฮึ้ย!”  ไม่มีคำด่าในภาษาไหนที่เหมาะสมอีกแล้ว ตอนนั้นก็งงใจว่าสัมภาษณ์ผ่านมาได้ยังไง มันต้องทำของใส่คุณรบแน่ ก่อนมีรบเจนต้องมีรบเพชรอะ น่าคิด….


“พระพาย ถอนตัวยังทันนะ”คุณรบพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง


“ผมแปะน้ำลายจองไว้แล้วครับคุณรบ” คราวนี้ต้องมีถ้วยรางวัลชนะเลิศตีกอล์ฟของคุณรบเขวี้ยงใส่หน้าจริงๆ ลูกเขามีพ่อแม่นะเฮ้ย! แต่พระพายเริ่มก่อนแล้วเขาสมยอมต่างหาก!


“ให้มันได้อย่างนี้ซิ”  กงซุนเจนส่ายหน้าระอา ก็คิดไว้แล้วเหมือนกันว่ามันมีเงื่อนงำ….


เอาจริงๆก็พอได้ยินมาบ้างว่าน้องช่วยประสานงานกับทางคูเปอร์และหาตั๋วเครื่องบินให้คุณรบไปหาเจนอย่างทันท่วงที เจนจึงได้เจอคุณรบที่เมกาตอนนั้น ทว่าจะบอกว่าเพราะน้องค้นหาตัวเองเจอเลยมาฝึกงานที่รัตนสกุลตั้งแต่ยังไม่จบปี 1 ก็ไม่ใช่ คุณหญิงไปชวน และพอคุยกันดีๆก็ได้ยินว่ามีคนเสี้ยม ซึ่งคนๆนั้นไม่ใช่ใครเลย…


คนที่ไม่ควรโดนแค่หมอน ถ้วยรางวัล แต่ควรโดนมะม่วงทั้งเข่งเทใส่หัวด้วย!


“เจ้าเล่ห์เพทุบายนักนะแก เรื่องหอก็จัดการให้เสร็จสรรพ นั่นคาดหวังใช่ไหม” คุณพรรณีต้องการยาดม แต่ก่อนเป็นลมต้องให้ด่าจนสมใจก่อน


“เปล่าครับตอนนั้นยังไม่ได้อะไร อยากได้เงินเลยหาห้องให้จริงๆไม่ติงนัง”


พระพายหันขวับ….


“เผอิญเมา พระพายมาอุ้มขึ้นห้องครับ ตอนนั้นเลยรักจริงหวังแต่ง อยากได้เป็นแฟน ขอจองก่อนได้ไหมอ่า?”


“ตารบไปเอาปืนมา!”  คุณรบพยักหน้า แต่พระพายลุกแล้ว ไปเอาเองเลย คนชั่วๆแบบนี้เก็บไว้ไม่ได้!


“ใจเย็นครับทุกคน วันนี้ผมมาชี้แจง ยังไม่ส่งผู้ใหญ่มาทาบทาม เห็นแก่พระพายที่ยังเด็กเถอะครับ”  เพราะเห็นแก่น้องที่ยังเด็กไงจึงไม่ควรมาติดบ่วงคนจังรี้จังไรแบบนี้ เจนรักษ์มองหน้าอีกฝ่าย อยากด่าแต่ด่าไม่ออก เอาปืนมายิงแม่งให้จบๆไปซะดีกว่า ทำไมเป็นคนแบบนี้ เหมือนจะเป็นคนดีนะ แต่ดีไม่สุดเลวไม่สิ้นจริงๆ


ในที่สุดเพชรพิสุทธิ์ก็ได้ทำการชี้แจงประเด็นปัญหาครอบครัวของเขาที่มีปัญหากับน้อง ตอนนี้ไอ้เห้เอ้ย! ลูกพี่ลูกน้องของเขาถูกส่งไปเรียนต่ออยู่กับญาติที่อเมริกา ทั้งนี้เพชรได้เข้าไปฟ้องปู่และยื่นคำขาด ซึ่งปู่ฟังไหมก็ไม่ แต่เขาก็ขุดทุกอย่างที่มีไปขายให้ ขมขู่ทั้งเรื่องการล้มธุรกิจหลักที่ปู่ทำมา ถามว่าได้ไหม ถ้าใจเราว่าได้มันก็ต้องได้ ซึ่งปู่รู้ดีว่าหลานรักคนนี้เก็บไว้ใช้เป็นเรื่องที่ดีกว่าเก็บไว้เป็นศัตรู เพชรมีศักยภาพตามความบ้าเลือด แต่จริงๆที่เก่งมากคือเรื่องเขียนนิยาย กูจะแฉลงพันทิพให้หมด ยูสเซอร์ในมือสั่นไปหมดแล้วครับพี่น้อง


ซึ่งทางฝั่งไอ้ทองที่เกือบชวดมรดกพอปู่บอกกลายๆว่าถ้าตั้งใจเรียน ฝึกงานและบรรลุเป้าหมายได้จะยกธุรกิจให้ทั้งหมดยกเว้นหอพักของเพชร อีกฝ่ายก็ตาลุกวาว ตอนนั้นอยู่ในนรกก็เห็นเป็นสวรรค์ไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าปู่พูดไปงั้นหรือเปล่า แต่ก็ขอให้มันจริงเพราะทองมันตั้งความหวังไว้เยอะมากว่ามันต้องได้ และมันก็สัญญาว่าจะไม่มาข้องเกี่ยวกับเขาหรือคนรอบตัวเป็นการขอบคุณที่หลีกทางให้ ทั้งนี้ก็ขออวยพรให้มันได้ดี ถูกยิงตายที่อเมริกาไปเลยก็ได้ ไม่ถือสา อโหสิให้ สาธุ


เขาไม่ต้องการอะไรจากบ้านหลังนั้นอีก ที่มีอยู่ก็โอเคพอใจแล้ว และพอใจจะกลับมาทำงานกับคุณรบแม้จะโดนเหม็นขี้หน้าเรียงตัวก็ตาม ถามว่าจริงๆไม่อยากได้เหรอ เป็นคนหน้าเงินมันก็ต้องอยากได้ แต่เป็นคนขี้เกียจและขี้รำคาญมากกว่าเลยไม่อยากดิ้นรน และอีกอย่างหนึ่งเขาคลุกคลีอยู่กับมันมาตลอดก็รับทราบว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย เขาไม่อยากเอาชีวิต สุขภาพกายและสุขภาพจิตไปแลกกับเงินทองที่มีมูลค่ามากมาย แต่อาจจะไม่ได้ให้คุณค่ามากสุด


ความสัมพันธ์กับแม่หลังจากประกาศว่าไม่เอาอะไรก็ไม่ได้ดีขึ้นและเลวลง ส่วนหนึ่งเขารู้แล้วว่าแม่ไม่ได้อะไรเท่าตา และตาก็ตายไปแล้ว แม่เองก็อยู่กับความไม่แน่นอนมาตลอดและสูญเสียอนาคตที่ตนควรจะเป็นไปมากกับการจมปลักอยู่กับความอยากได้อยากมี สุดท้ายแล้วแม่จึงเลือกที่จะปลงและยอมรับความต้องการของเขา เพราะเวลาของคนแก่เหลือน้อยลงทุกปี มีเงินมากมายก็ไม่น่าจะใช้หมดจริงๆ


พระพายรับอาสาในการเป็นกาวเชื่อมสัมพันธ์เพราะลำพังเขาคงไม่อาจจะทนอยู่กับแม่ได้นานๆ แต่แค่นี้แม่ก็พอใจแล้วที่จะได้เห็นลูกชายมาวนเวียนใกล้ๆแม้จะมีลูกสะใภ้ (??) อยู่ด้วยตลอดเวลา เขาต้องยอมพระพาย แต่มันไม่ใช่สถานการณ์จำยอม เขามองว่าน้องอยากช่วยเหลือและความช่วยเหลือแบบนี้แหละที่เขาต้องการมาตลอดชีวิต แค่ไม่มีใครเคยยื่นมือมาให้ก่อนมากกว่า ชีวิตที่ขาดๆเกินๆของเพชรก็แลดูจะสมบูรณ์ดี


แต่เขาต้องการการยอมรับจากทุกคนที่พระพายรักและเขาก็รักพระพายเช่นกัน….


“……….”


“ผมก็รู้ว่าผมยังไม่ดีพอที่จะทำให้ทุกท่านเชื่อใจ”


“ไม่ใช่แค่ไม่ดีพอ ไม่ดีมากกกกกกกกก” 


“คุณเจนเดินไปเอามีดมาแทงกันเลยดีกว่าครับ อย่าเอาไว้”  ก็เข้าใจว่าหวังอยากให้น้องมีแฟนเป็นผู้เป็นคนกว่านี้ ไม่ใช่คนที่เอาแต่ทะเล้นทะลึ่งตึงตัง แต่ทุกคนก็ยอมรับว่าเพชรรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ดี ดูแลคุณรบมาได้ตามหน้าที่แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง จะติดที่เจ้าเล่ห์เสียหน่อย แต่วางใจได้ว่าถ้าเขารักและเทิดทูนพระพายจริงๆ นั่นก็ไม่น่าติดปัญหาอะไร


ก็บอกตรงๆว่าที่ติดเพราะมันเป็นคนน่าหมั่นไส้


“เฮ้อ แม่จินล่ะ…รับลูกเขยขี้เหร่แบบนี้ได้ไหม”  เขาว่าเขาหล่อนะ เพชรหน้าบูดบึ้ง ส่วนพระพายนั้นอมยิ้มให้กับความรักของทุกคนที่มีต่อแฟนหนุ่มของตน


“จริงๆแล้วจินไม่ติดปัญหาหรอกค่ะ เพชรก็มาคุยเป็นกิจจะลักษณะไว้นานแล้ว”


หืม………


“ตั้งแต่ก่อนพระพายปิดเทอม 1 อีกมั้งค่ะ คุณเพชรมาหาแล้วบอกว่าชอบน้อง ขออนุญาตจีบ จินก็บอกไปว่าอย่าหักหาญน้ำใจน้องเพราะก็รู้ว่าคนนี้ก็แอบปลื้มคนพี่อยู่”  พอพูดมาถึงตรงนี้คนน้องก็เขินหน้าแดง แม่รู้ด้วยเหรอนี่….


“แล้วจะยกให้ง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอแม่จิน” คุณพรรณีถามย้ำ เปลี่ยนใจทันนะ คิดใหม่ไหม


“ง่ายๆอย่างนี้เลยค่ะ”  อันที่จริงแล้วลูกคือคนสำคัญที่เธอไม่ได้ปล่อยปะละเลย แต่เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้พลาดโอกาสมากมายไปหลายอย่างเพราะความผิดพลาด เธอมั่นใจในตัวพระพายดีเพราะพยายามเลี้ยงลูกให้เติบโตมางดงามไม่ให้ใครว่าได้ว่าลูกเจริญรอยตาม และก็พอใจที่พระพายเป็นได้ดั่งที่ฝันไว้ แต่เธอจะควบคุมไปตลอดไม่ได้


และพระพายมีความคิดของตัวเอง เด็กคนนี้มั่นใจและเลือกคนรักได้เองเพราะฉะนั้นเธอจึงวางใจในระดับหนึ่ง และคุณเพชรที่เธอเห็นเขาก็ไม่ได้แย่เลย ในเมื่อคนสองคนรักกัน ใยผู้ใหญ่จะต้องมาคิดแทนด้วย เธออาจจะไม่ใช่แม่ที่พูดเพราะปากหวาน แต่รู้หน้าที่ดีว่าเธออาจจะช่วยคิดได้แต่ตัดสินใจแทนไม่ได้ และถ้าลูกเจ็บจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดแต่ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว หน้าที่ของเธอคือแค่ปลอบโยนและซับน้ำตาจริงๆ


“ตามนี้ก็ตามนี้”  ก็แม่เขาอนุมัติแล้วจะห้ามอะไรได้ คุณหญิงถอนหายใจออกมา เอายาดมจ่อจมูกมองหน้าเลขาของลูกชายที่ยิ้มกว้างด้วยตาขวางๆ ยอมให้เขาเลยจริงๆ ยอมให้เขาเลยก็ได้


เด็กสองคนเดินออกมานั่งคุยกันแถวสระน้ำของบ้านรัตนสกุล พระพายต้องซักให้ละเอียดจริงๆว่าแอบทำลับหลังอะไรมาบ้าง ทั้งเรื่องที่รู้ว่าพระพายชอบเขาก่อน เรื่องที่ไปคุยกับแม่ และเรื่องที่เสี้ยมคุณหญิงให้มาเสี้ยมพระพายต่อไปเป็นเลขาคุณรบเพื่อที่จะได้สอนงาน ก็รู้แหละว่าจะเจ้าเล่ห์ แต่ไม่คิดว่าจะทำมากมายถึงขั้นนี้ มันน่าโกรธไหมเนี่ย!


“ง่า…ไม่โกรธกันเนอะ”  เพชรขอร้อง วันนี้เขาระบมไปทั้งตัวแล้ว


“วันหลังห้ามนะ อย่ามีความลับ”


แต่พระพายก็ไม่โกรธหรอกเพราะทั้งหมดคือสิ่งที่ทำให้เราก้าวผ่านเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบของเรามาได้จนได้เคียงคู่กันวันนี้ หากไม่สารภาพรักกับคนเมาไป เขาก็อาจจะไม่มีวันรู้ใจตนเองได้ และถ้าเขาไม่รู้ใจตัวเองแล้วล่ะก็ ปฏิบัติการทำตามอำเภอใจพวกนั้นก็จะไม่เกิด พระพายก็คงเป็นได้แค่น้องข้างห้อง ไม่ใช่คนสำคัญแบบที่เป็นอยู่แบบนี้


“แต่ขอบคุณนะครับ ที่ทำเพื่อพระพาย”


“การที่พี่ทำตามใจตัวเอง และเรารักกันก็ถือว่าทำตามใจของกันและกัน ไม่โกรธกันเนาะ”  พระพายพยักหน้า และอย่างที่ว่าไป ความรักทำให้ผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิดมานักต่อนัก เรื่องนี้ก็ยอมรับได้เหมือนกัน


“พายรักพี่เพชรนะ”และคำนี้คือบทสรุปต่างๆที่มาของเหตุผลที่ทำให้เรื่องประหลาดยากจะรับไหวกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ของเราสองคน


“พี่ก็รักพระพายมากเหมือนกัน” พระพายยอมรับเขาได้ไม่ว่าสิ่งที่ทำลงไปจะเป็นแบบไหน ถ้าเรายังอยู่ในจุดเดิมที่พยายามไขว้คว้าเอื้อมหากันต่อไปก็คงไม่มีวันได้ลงเอย ไม่มีใครหรอกที่ยืนอยู่ในจุดที่เอื้อมไม่ถึงเพราะเราอยู่ใกล้กันเกินกว่านั้น อย่าใช่สมองแต่ให้ใจมองแล้วจะเห็นว่าเราไม่ต่างกันเลย และในวันนี้เราก็ได้มายืนเทียบเท่ากันแล้ว


ในจุดที่ไม่ได้ดีเกินไป และไม่เลวเกินไป
เป็นจุดที่เหมาะกับคนที่เปรียบเหมือนดั่งสีขาวและสีดำของกันและกันจริงๆ


END



Talk:

ช่วงนี้ชีวิตจะวุ่นวายกับงานและการวางแผนไตรมาสสุดท้ายและไตรมาสแรกของปีหน้ามาก(พูดซะดูยาก) วันนี้พระเอกมาเทียบเรือตอนสุดท้าย ใจหายมาก พระเอกผีๆแบบนี้ที่โลกไม่ต้องการ แต่พอสุดท้ายก็ใจหายดี สีสันของสังคมจริงๆ555
จริงๆสำหรับเพชรพระพายมีตอนพิเศษอีกสองตอน ว่าด้วยเรื่องก่อนเหตุการณ์ในเรื่อง เช่นตอนที่พระพายเคยสารภาพรัก และการรวมตัวของชิปเปอร์เจนไม่นก
ต่อไปคงเอาอันนั้นอันนี้มาลงเป็นตอนพิเศษในเรื่องของเจนไม่นกนะคะ เราจะยังไม่ไปไหน จะสปอยล์กันต่อเนื่องในทวิต เฟซ และจะมาลงให้อ่านบ้างนะ ใครสนใจไปติดตามกันได้เลยจย้า
ปีหน้าคาดว่าเล่มคงได้ออกขายช่วงไตรมาสแรก (เราหวังเช่นนั้น) แต่ทุกวันนี้ยังไม่ได้ส่งต้นฉบับเลยค่า5555 ยังไงฝากเอ็นดูเจนไม่นก เพชรพระพาย เคลจุ้น ลิตเติ้ลอัดชะวินกับเจนและคนหน้าดุของเขา ลูกชุบของอัศวิน อัศวินของลูกชุบที่ออกมาทั้งหมดรวมแล้ว 3 เล่มด้วยนะคะ แน่นมาก แน่นจน 2 เล่มเอาไม่อยู่แน่นวล ส่วนอีบุคจะมีหลังจากตีพิมพ์แล้วนะคะ โดยทั้งหมดจะถูกจัดการโดยสนพ.เฮอร์มิทน้า
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (เพชรพระพาย ตอนที่14 end) 6.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 06-10-2018 19:46:35
ชอบเพชรนะ ไม่ได้ดีไม่ได้เลวเกินไป  ชอบเจนแซะเก่งจริงๆ  ชอบน้องวินเลี้ยงง่ายจริงๆ

ชอบคุณรบ ชอบพระพาย  รอเล่มค่ะ   :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 07-10-2018 17:27:40
ลิตเติ้ลอัดชะวินกับเจนและคนหน้าดุของเขา 2
#คนหน้าดุของน้อง


พี่เจนใจดีจริงๆ…..น้องวินคิดไว้ไม่ผิดเลย


ที่น้องวินปลื้มมากๆคือการที่พี่เจนไม่ทำตาดุใส่กัน แถมยังชอบมีของกินแปลกๆมาให้ลอง เป็นอะไรเย็นๆ บางอันก็หวานๆ บางอันก็เปรี้ยวๆมีหลายสี น้องวินชอบพี่เจนจริงๆนะ เพราะพี่เจนทำอะไรก็อร่อย นิสัยก็ดีไม่ค่อยดุว่า แถมยังชอบหยอกล้อกันเล่นอีก โดยรวมแล้วตอนนี้คะแนนพี่เจนได้ไปเยอะที่สุดเลย รองลงมาก็เป็น คุณย่า กับย่าไพ


แต่ไม่ใช่ว่าพี่เจนไม่เคยดุกันเลย ตอนที่น้องอมอะไรที่พี่เจนไม่ให้เอาเข้าปาก พี่เขาก็ชอบมองกันดุๆและทำท่าทางให้รู้ว่าไม่ชอบนะ และน้องวินก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ชอบพี่เจนที่ดุน้องวิน แต่น้องวินรู้สึกเสียใจที่ทำให้พี่เจนไม่ชอบมากกว่า ดังนั้นพอพี่เจนไม่พอใจ น้องก็จะชอบเอาหน้าไปถู หรือมองกันด้วยตาแป๋วๆมากกว่าจะเบะปากร้องไห้ ในที่สุดพี่เจนก็ยิ้มจนตาหยีให้กัน และน้องชอบแบบนี้มากกว่าจริงๆ


ในทุกวันพี่เจนจะป้อนข้าวให้น้องหรือให้น้องกินนมก่อนที่ตัวเองจะได้กิน แต่อย่างนี้ก็ดีแล้วเพราะว่าพี่เจนไม่เหมือนพี่เลี้ยงคนเก่า เวลาน้องหิวน้องก็มักจะแสดงออกตรงๆโดยไม่มีความกลัว ก็ใช่ว่าน้องจะอดทนกับความหิวได้ น้องก็ไม่เคยทนหรอก แต่กับพี่เจนที่ตอบรับกันไวกว่าใคร น้องเลยไม่ต้องร้องไห้นาน จริงๆน้องวินก็ไม่ชอบร้องไห้หรอก มันเหนื่อย…


วันนี้น้องก็กินจนอิ่มแล้ว แต่พี่เจนยังไม่ได้กินเลย ถึงกินก็ไม่ได้กินเยอะเท่าไหร่ เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะผู้ใหญ่ตัวใหญ่คนนั้นนะแหละที่ทำให้พี่เขาอึดอัด ทำไมชอบทำหน้าดุเสียงเข้มตลอดเลยนะ พี่เจนน่ารักขนาดนี้จะดุพี่เขาทำไม ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าทำให้พี่เขากลัวน่ะ น้องวินจะไม่ชอบแล้วนะ คนเราต้องรักกันเข้าไว้สิ อย่าให้น้องต้องสอนนะว่าทำตัวให้น่ารักต้องทำยังไง


“เชิญคุณนักรบเลยครับ” พี่เจนไม่กินแล้วเหรอ น้องวินแบ่งนมของน้องให้กินเอาไหม ไม่ได้นี่….น้องกินหมดไปแล้วอ่ะ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่เจนไม่สนุกเหรอ งั้นน้องวินให้ยืมของเล่นเอาไหม อันนี้น้องวินชอบมากเลยนะ


แต่น้องชอบพี่เจนมาก งั้นจะให้ยืมละกัน


“ขอบคุณคุณน้องวินนะครับ”  พี่เจนรับไปพร้อมกับบีบของเล่นให้มันออกเสียง มันต้องอย่างนั้นแหละ มันเล่นแบบนี้เลย น้องวินส่งเสียงหัวเราะไปพร้อมๆกับตีมือไปมา ดูน้องวินสิ ทำอย่างนี้ไงถึงจะรักกัน เห็นไหมละคนหน้าดุยิ้มออกมานิดๆแล้ว!


“ตารบก็เล่นกับลูกหน่อยสิ”


“………..”


“เร็วเข้า ตอนนี้ตาหนูอารมณ์ดีอยู่นะ”  อยากเล่นกับน้องเหรอ?


“นั่นสิคะคุณรบ ลองดูไหมคะ”  ย่าไพก็อยากให้เล่นกับน้องวินใช่ไหม?


ดูเหมือนใครๆก็อยากให้เขามาเล่นกับน้อง น้องวินใจดีนะ อุตสาห์เอาของเล่นอันโปรดให้พี่เจนด้วย แต่ของเล่นจะถือเฉยๆแบบนั้นไม่ได้ ของเล่นมันก็ต้องเล่นแบบนี้สิ น้องวินส่งเสียง“บูบูบูว” เลียนเสียงตุ๊กตาบีบๆอันโปรดของตน เรียกร้องความสนใจจากพี่เจนที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ และพี่เจนมักจะมีไอเดียดีๆเสมอ จึงได้พูดออกไป….


“คุณนักรบครับ” คนหน้าดุไม่ตอบอะไรกลับมา น้องวินยังคงสนใจอยู่ในโลกของตัวเอง สายตาเอาแต่มองของเล่นอันโปรดในมือของพี่เจน


“เอานี่คืนให้น้องวินทีนะครับ”  คนตัวเล็กลุกขึ้นก่อนจะเอื้อมส่งของเล่นในมือให้กับเขา น้องวินมองตามตาไม่กระพริบ แต่ไม่ได้ร้องไห้งอแงออกมาเพราะจะอย่างไรนั่นก็พี่เจน พี่เจนไม่แกล้งทำของน้องหายหรอก ใช่ไหม?


เอาละสิถ้าไม่ได้คืนมาจะทำยังไง นั่นอันโปรดเสียด้วย น้องค่อยๆยกมือขึ้นมาอม จริงๆก็ชอบอมมือตัวเองนะ แต่สู้ของเล่นอันนั้นไม่ได้ ถ้าไม่เล่นก็คืนให้น้องเถอะนะ น้องสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี จะไม่โวยวายตอนพี่เจนป้อนข้าวช้าอีกแล้ว ในขณะที่กังวลอย่างนั้น เขาที่ทำอะไรไม่ค่อยจะถูกก็ตัดสินใจทำบางอย่าง…


บู บู บูววววว


“……” ในตอนนั้นเองทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันแค่อึดใจ ก่อนที่จะมีคนรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น น้องวินก็ยังจ้องมองคนที่เอาของเล่นไปบีบเล่นด้วยสายใสแจ๋วชอบก็เล่นได้นะ แต่ต้องคืน


“เยส!”  เสียงของพี่เจนที่ข้างๆตัวดังขึ้น น้องวินหันไปมองด้วยความสนใจ ชอบของเล่นของน้องวินหรือเปล่า? ชอบเสียง บู บู บูววววว ไหม??


บู บู บูววววว


ย่าไพร้องไห้ทำไม….


บู บู บูวววววว


คุณย่าก็ด้วย…ทำไมทำหน้าแบบนั้น แล้วถ่ายรูปน้องวินอยู่เหรอ น้องหล่อไหม?


 “บุบุบู…”  บอกแล้วว่าของเล่นของน้องสนุก ใครได้เล่นก็ต้องชอบทั้งนั้นชอบก็เล่นอีกสิ พี่เจนจะได้ยิ้มสวยๆให้น้องอีก ถ้าอยากเล่นอีกก็บอกได้นะ น้องวินใจดีจะให้ยืม


แต่ยืมแล้วต้องคืนน้องนะ


เราสองคนกลับมาที่ห้องนอนหลังจากมื้ออาหารอันยาวนานได้จบลง สุดท้ายแล้วคนหน้าดุก็คืนของเล่นให้น้อง ท่าทางแข็งตึงของเขาที่เคยมีดูลดลง เป็นคนใช้ได้เหมือนกันถ้าพี่เจนไปเลี้ยงก็คงจะน่ารักขึ้นกว่านี้ แต่น้องวินไม่ให้หรอก เพราะพี่เจนเป็นของน้องอยู่ แต่ถ้ามาขอดีๆก็อาจจะแบ่งให้ยืมบ้างก็ได้ น้องวินใจดีให้ยืมของเล่นก็ได้….ให้ยืมพี่เจน…ก็คงจะได้มั้ง?


“ทำดีมากเจ้ากบน้อยยยยยย”  พี่เจนจะมาแล้ว พี่เจนจะกินพุงน้องแล้ว น้องวินดิ้นหนีกรี๊ดกร๊าด บอกไม่ถูกว่าชอบหรือไม่ชอบแต่พอเป็นพี่เจนงั้นชอบก็ได้ เหนื่อยหน่อยแต่น้องชอบ งั้นแสดงว่าน้องไม่ใช่เด็กขี้เกียจสินะ


คนตัวเล็กระดมจูบลงบนแผ่นหลังแน่นๆของน้องที่ถูกเรียกในอีกชื่อว่าเจ้ากบน้อย ยิ่งพี่เจนทำแบบนี้ น้องยิ่งตื่นเต้นอยากจะกระโดด ติดที่ยังเดินเหมือนคนอื่นไม่ได้เลย น้องอาจจะอ้วนเกินไปเลยยกขาไม่ค่อยขึ้น ฮึบ!


“อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย”  เสียงแหลมเล็กที่ทั้งกรี๊ดทั้งหัวเราะนั้นออกมาจากปากเด็กอารมณ์ดี พี่เจนสนุกไหมวันนี้ น้องวินสนุกจังเลยดูเหมือนว่านี่แหละจะเป็นสิ่งที่พี่เจนทำให้น้องได้อีกอย่าง ยิ้มให้น้อง ทำให้น้องได้ลองอะไรใหม่ๆ


และคนหน้าดุคนนั้น….ก็ไม่เห็นจะดุตรงไหนเลย




Talk:  อุ้มน้องมาให้อ่านอีกสักตอน อันนี้ก็จะพาราเรลไปกับช่วงเหตุการณ์ของเจนไม่นกอะนะคะ ซึ่งเราแต่งเป็นตอนไม่ยาวมากไว้ 12 ตอน จะเอามาลงให้อ่านกันบ้างนะคะ และก็จะเอาตอนพิเศษอื่นๆมาให้อ่านกันอีก ถ้ายังไง รอกันหน่อยนะคะ ไม่นานเกินรอ อีกตอนพิเศษที่อยากลงคือตอนที่เจนยังเด็กค่ะ งุ้ยยยย อ่านแล้วอาจจะเอ็นดูกว่านุ้งวิน น่าบีบมากจริงๆคลอัลลัย
ตอนนี้ #เพชรพระพาย ลงจนจบแล้วค่า ใครรอให้จบก่อนแล้วไปอ่าน ตอนนี้ไปอ่านได้แล้วนะคะ พระเอกเราเก่งสุด พายเอง ชงเองจนมาถึงฝั่งฝัน  งานนี้ชิปเปอร์ไม่ต้องมีจริงๆ เป็นเองได้หมด ดราม่าไม่เยอะค่ะ จริงๆมีแต่เพราะพระเอกเป็นแบบนี้เลยไม่มีใครรับรู้รสดราม่า555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-10-2018 17:57:39
น่าเอ็นดูเจ้ากบน้อย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-10-2018 18:06:01
เจ้ากบน้อยของพี่เจนน่ารักมากเลยลูก จะรออ่านตอนพิเศษที่เจนยังเป็นเด็กๆนะคะ อยากอ่านน้องเจนอ้อนพี่รบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 07-10-2018 19:11:14
กบน้อยน่ารัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 07-10-2018 19:43:31
หนูกบเริ่มชอบคุณพ่อหน้าดุแล้ว..555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-10-2018 21:12:28
เป็นกบน้อยที่น่าฟัดมากๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-10-2018 23:31:41
 :mew1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-10-2018 23:40:05
ความคิดเจ้ากบน่าฟัดมาก แง๊ TT
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 08-10-2018 00:52:10
มาเลยยยอยากอ่านตากบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-10-2018 02:17:00
ในที่สุดนังพี่เพชรก็เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาเสียที สองตอนสุดท้ายพระพายแมนมากเลยลูกแมนกว่าอิพี่เพชรมันอีก ขอเป็นแฟนเองงี้ ทำตัวเกรี้ยวกราดงี้ นี่มันนิวพระพายมากๆกรือเพราะอยู่ใกล้อิพี่มันเกินไปเลยซึมซับนิสัยมาก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือสุดท้ายพี่เพชรก็กากอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-10-2018 00:09:31
น้องวินน่ารักจัง ^^
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 10-10-2018 06:21:53
น้องกบน่ารัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-10-2018 23:10:57
คิดถึงอยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-10-2018 11:41:48
ลูกกบน้อยยย น่ารักจังตอนโตจะเป็นยังไงนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-10-2018 22:07:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 13-10-2018 13:57:22
เราเพิ่งอ่านถึงตอนที่ 29 นะคะ
(ตั้งแต่บ่าย 4 จนจะถึงเที่ยงคืนแล้วเนี่ย)
ชอบค่ะ ... แม้ตอนแรก ๆ จะอ่านข้ามบ้างเวลาเจนเวิ่นจนสำนวนรุงรัง
แต่โดยรวม ชอบมากค่ะ

แม้จะยังอ่านไม่จบ แต่พรุ่งนี้ มั่นใจว่าจะตามต่อจนจบ
แต่ที่ทำให้อยาก "ปักหมุด" ก่อนคือ ... เราเจอว่าคุณโอเคกับการให้ทักท้วงเรื่องคำผิด
เราเลยอยากบอกว่า เรา...สะดุดกับคำว่า "ปลอก" มากค่ะ
เพราะมีหลายจุด มีหลายบท มีหลายตอนมาก
เนื่องจากมีมะม่วง มีกุ้งเผามาเกี่ยวข้อง

คำนี้ ปอกผลไม้ ปอกเปลือกกุ้ง ปอกมะม่วง ปอกหอม ... สารพัด
ใช้คำว่า ปอก นะคะ
ถ้า "ปลอก" แบบนี้ คือปลอกมีด ปลอกหมอน ... ปลอกดาบ
เป็นปลอกที่ต้องห่อหุ้มค่ะ

ไม่เคืองกันนะคะ
เพราะถ้าไม่อ่าน และไม่รัก เราก็ไม่บอกหรอกค่ะ :bye2:





หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 15-10-2018 21:14:25
โอยยย น่ารักกันจริงๆเล้ยยยย  :o8:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 16-10-2018 14:23:56
พี่เพรชก้อยังคงเป็นพระเอกที่ฮาเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนน้องพายน่ารักเสมอ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 17-10-2018 02:49:02
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 17-10-2018 05:47:21
กบน้อยของพี่เจน เอาชนะใจคุณรบ แต่กว่าคุณรบจะรู้ใจตัวเองก็ทำให้ลุ้นไปกับพี่เจน เรื่องนี้ชอบกบน้อยที่สุดมีความน่ารัก o13
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 17-10-2018 15:59:13
หลายหลากอารมณ์ ชอบ ๆ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: aisies.J ที่ 17-10-2018 23:44:51
ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องนี้สนุกน่าติดตามดี แต่พอมาเจอเจนตอนที่หลังจากไปหารดาแล้วก็กลับเมกาไปดื้อๆเลยตัดสินใจเลิกอ่าน เจนที่ดูเพ้อเจ้อและมั่นใจในตัวเองตอนแรกมันหายไป คาแรคเตอร์เปลี่ยนไปมากเหมือนคนเขียนคนละคนหรือแต่งไว้สักพักแล้วกลับมาแต่งใหม่ทำให้ไม่อินกับคาแรคเตอร์และหงุดหงิดกับนิสัยเจนมาก ขอโทษที่ทำให้คนเขียนหมดกำลังใจนะคะ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: w-for-winnie ที่ 18-10-2018 10:23:03
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ยอมถ่างตาอ่านจนดึกดื่น 55555
คุณรบก็ซึนไปอีก แต่ไหงไปๆมาๆกลายเป็นแจกอ้อยทั้งสวน
ส่วนเจนก็เปรี้ยวไปอีก มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน

รออ่านตอนพิเศษนะคะ ขอ nc ด้วยถ้าเป็นไปได้นะคะ 555555 น้องเจนฮ็อตซะขนาดนี้

ขอบคุณนักเขียนนะคะ

ป.ล. จะแต่งเรื่องของจุ้นกับพี่เคลด้วยหรือเปล่าคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: JanTi ที่ 18-10-2018 14:07:16
ขอบคุณนะคะ ชอบทั้งสองคู่เลย เหล่าชิปอายุมากทุกคนด้วย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-10-2018 05:12:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ2 #คนหน้าดุของน้อง) 7.10.2018 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 30-10-2018 20:35:58
อ่านจนจบเลย สนุกมากๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 02-11-2018 19:39:01
ลิตเติ้ลอัดชะวินกับเจนและคนหน้าดุของเขา
น้อง5ขวบแล้ว ตอนที่ 1
#เจนเป็นของน้อง

เจนเป็นของน้อง น้องมาก่อน


คือสิ่งที่น้องอยากบอกคุณป๋ามาก เพราะทุกคนพูดเหมือนกันหมดเลยว่าเจนรักน้องก่อนจะรักคุณป๋าอีก ทว่าตั้งแต่ยังจำอะไร ไม่ได้จนจำได้บ้าง คุณป๋าก็บอกกันว่าเจนเป็นของป๊ะป๋าและแสดงหลักฐานโดยการกอดโชว์ แต่น้องมีพยานบุคคลเต็มไปหมด ทุกคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจนเป็นของน้องมาก่อน และมาเป็นของคุณป๋าได้ นั่นแปลว่าคุณป๋ามาแย่งไป!


“คุงป๋าแย่งของน้อง”  น้องวินในวัย 5ขวบที่มานอนตักพี่เจนที่ถ่ายทอดเรื่องราวการเจอกันของเราพอเห็นเจ้าตัวเล็กของคุณรบงอนคุณป๋าแบบนี้ พี่เจนที่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเรียกกันว่า ‘เจะเจเจ’ ก็ได้แต่ยิ้ม เวลามันผ่านไปเร็วขนาดที่ เจ้าตัวเล็กโตขนาดนี้แล้ว พี่เจนอุ้มจะไม่ขึ้นแล้วเนี่ย!


“คุณป๋าแย่งคนเดียวไม่ไปหรอกนะ พี่เจนก็ใจง่าย”


“ใจง่ายนี่คืออะไย มันมีใจยากไหม”  ถึงน้องวินจะพูดจาฉะฉานเหมือนผู้ใหญ่แต่บางทีเจนก็ต้องยอมรับว่าน้องยังเป็นแค่เด็กที่อายุแค่ 5ขวบ และน้องยังไม่เข้าใจคำยากๆหรือความซับซ้อนของโลก


เอาเป็นว่า…..


“เจนเป็นของน้อง” จะยังไงก็เป็นของน้อง และเพราะขี้อ้อนแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆน่ะสิ เจนถึงไปไหนไม่พ้นกับเขา เจ้าตัวเล็กนั้นซุกหน้าอยู่ที่พุง ปล่อยให้เจนลูบหัวไปมา


น้องวินดูคล้ายภาพของคุณรบในทุกช่วงวัย ยิ่งโตยิ่งเหมือนจนแม้แต่คนพ่อยังหลอนกลัวว่าลูกจะมีปัญหาด้านการแสดงออกแบบที่เขามี ซึ่งเจนก็คอยปลอบเสมอมาว่าไม่หรอก เพราะมีคนเลี้ยงชื่อเจนรักษ์นี่ น้องวินของคุณป๋าไม่มีทางโตมาเป็นคนแข็งกระด้าง นิสัยเสีย เย็นชา ไม่มีอะไรดีแบบที่เขา(เคย)เป็น และแน่นอนว่าพอพูดออกไป คุณรบก็แทบจะบีบคอให้ตายตรงนั้นเลย ไม่ต้องมีชีวิตมาเลี้ยงลูกให้เขาแล้ว!


ปกติน้องวินจะไม่แทนตัวแบบนี้ แต่กับคนในครอบครัวที่เรียกกันมาแบบนี้ก็จะแทนตัวเองน่ารักๆ เพราะเจนสอนเสมอว่าความน่ารักสามารถชนะทุกอย่างได้ และเพราะน้ำตาของน้องไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนตอนเป็นเจ้าลูกกบอีกต่อไปแล้ว จะสู้กับคุณป๋าก็ต้องไปหาเทคนิคมาใหม่ และน้องก็เก่งพอจะรู้ด้วยตัวเองว่าทำแบบไหนคุณป๋าจะแพ้


กับคำเรียกว่าคุณป๋าก็เหมือนกัน ก่อนนี้ก็เรียกป๊ะป๋าอยู่ดีๆหรอก แต่พอเริ่มโตก็เขินไม่อยากเรียก เลยมาถามเจนว่าเรียกป๊ะป๋ายังไงดี ด้วยคิดไม่ออก เจนเลยบอกว่าเรียกคุณป๋าไหม เติมคำว่าคุณไปให้ดูสุภาพ น้องก็เชื่อและยึดตามนั้นมาตลอดหลายเดือน ทำคุณรบที่ชอบความโมเอ้ต้องใจสลาย แต่ก็ต้องยอมรับเพราะพระเอกไม่ได้สิทธิ์ที่จะงอแงกับเรื่องแบบนี้


เห็นไหมว่าใครเป็นทาสลูก ทาสเมีย ทว่าสะใจได้ไม่นาน ก็ค้นพบว่าน้องวินก็ไม่เรียกกันพี่เจนแล้ว ย่อเหลือแค่เจน ทำเอาอ้าปากค้างไปเกือบวันเหมือนกัน


เจนกับคุณรบช่วยกันเลี้ยงให้น้องเติบโตมาแบบที่เราต้องการจะเป็น น้องได้สิทธิ์วิ่งเล่นและร่ำเรียนพิเศษพอสมควร ทั้งนี้เราก็หาเวลาพาน้องไปเที่ยวเล่นหรือเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่มีใครสอนได้ด้วยความรักที่เราสองคนพยายามจะมอบให้ น้องจึงเติบโตมามีใบหน้าเหมือนเด็กชายนักรบ แต่ได้รับสิทธิ์ให้มีความสุขแบบที่เด็กชายนักรบและเด็กชายเจนรักษ์อยากจะมี ทั้งนี้เพราะน้องก็คือความรักของเราสองคน


ตอนนี้น้องวินเข้าโรงเรียนแล้ว ในทุกวันเจนจะขับรถไปส่ง ฟัดแก้มแรงๆและกอดแน่นๆเหมือนกับไม่อยากให้น้องไป น้องก็จะขัดขืนหน่อยๆเพราะอาย แต่จริงๆแล้วชอบมากๆ ก่อนจะให้คุณครูจูงมือเข้าไป เจนจะยืนรอโบกมือบ้ายบายอยู่อย่างนั้น แต่น้องรู้ว่าบางวันเจนแอบไปหลบอยู่ไม่ไกลและแอบดูกัน เจนตัวเล็กนะ แต่เสามันไม่ได้ใหญ่ก็แค่นั้น น้องรู้ น้องเห็น…


วันที่มาส่งกันเข้าโรงเรียนวันแรกก็ร้องไห้แงๆ จนน้องที่อยากจะร้องไห้ถึงกับร้องไม่ออก อาจจะเพราะเจนขโมยน้ำตาไปร้องแทนหมดแล้ว แถมยังมารอรับกลับบ้านตั้งแต่เที่ยง แต่อย่าไปบอกเจนล่ะ เดี๋ยวเจนเขิน และเจนเขินทีไร ก็งอนทุกทีงอนแล้วก็ชอบทุบคุณป๋าด้วย คุณป๋าไม่เข้าใจ น้องวินก็ไม่เข้าใจแต่สะใจ…


“เมื่อไหร่น้องวินจะปิดเทอมกันน้า พี่เจนขี้เกียจไปส่งแล้วรู้ไหมเนี่ย”  เจนชอบบ่นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเจนขี้เกียจหรอก เจนเหงาไม่มีคนเล่นด้วย คุณป๋าที่ยึดเจนตลอดเวลาก็ต้องไปทำงาน เหลือเจนให้เดินลอยไปลอยมาอยู่แต่ในบ้าน ฟุ้งซ่านจนต้องกระโดดไปของานคุณป๋าทำบ่อย แต่พอเจนไปหาคุณป๋าก็ไม่ค่อยทำงาน ทำไปทำมาเจนเลยมารอน้องหน้าโรงเรียนแทน


“น้องก็ไม่อยากเรียน น้องอยากอยู่กับเจน”  เจนเป็นของน้องแทนไหมล่ะ ถ้าเจนเป็นของน้อง น้องไม่ต้องไปเรียนแล้วก็ได้ เดี๋ยวให้คุณป๋าหาเงินให้เราสองคนใช้ก็ได้เนาะ


“ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวพอคุณป๋าแก่ทำงานไม่ไหวแล้ว ก็เป็นน้องวินที่ต้องมาทำงานเลี้ยงพี่เจน และน้องวินจะทำงานได้ก็ต้องเรียน รู้ไหมครับ”  น้องไม่รู้ ยิ่งไม่รู้เข้าไปใหญ่เจนไล่ให้ไปเรียนแต่ก็ยังไปแอบเฝ้า เจนไม่ไปเรียนบ้างหรือไง?


วันนี้วันอาทิตย์แต่คุณป๋าก็ต้องไปทำงานเพราะเป็นช่วงที่ยุ่งมากๆ ปล่อยเจนให้เป็นของน้องวินครึ่งวันก่อนที่พี่เจนจะไปช่วยงานช่วงบ่าย แต่น้องรู้ว่าเขาจะต้องมาทวงคืนกันในตอนกลางคืนแน่ๆ ขนาดเรานอนด้วยกันทุกคืนสามคน น้องยังไม่รู้สึกเลยว่าเจนเป็นของน้อง เพราะคุณป๋าตัวใหญ่แย่งกอดหมด พอเราจะไปกอดด้วย ก็โดนกอดแบบรวบสอง น้องอึดอัด น้องไม่ชอบ น้องยอมให้เจนกอดได้คนเดียว


ไม่ใช่น้องไม่รักคุณป๋านะ ยามสงบเราก็รักกันดี แต่ยามรบเราก็ตีกันเก่งสมชื่อนักรบกับอัศวิน แต่ถ้ามีคนอื่นอยากมารบกับเรา แน่นอนว่าคุณจะหาทีมเวิร์คที่ไหนดีกว่านี้ไม่ได้ เราสองพ่อลูกก็ได้พิสูจน์สมรรถภาพในการเขี่ยศัตรูให้พ้นทางมาแล้ว และนั่นทำให้รู้ว่าเราพ่อลูกรักกันมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องของเจน


นอนเอื่อยกันสักพัก พี่เจนก็พาน้องไปหาคุณป๋าที่ทำงานเพื่อช่วยงานที่วุ่นวายช่วงนี้ คุณป๋าใช้คุ้มเลยแหละ เป็นคนรักด้วย เป็นคนงานด้วยในยามจำเป็น น้องก็นั่งเล่นนอนเล่นไปเรื่อยจนนอนหลับไปจริงๆในห้องทำงานของคุณป๋า ตื่นมาก็เห็นแต่บิดาของตัวเองยุ่งหัวฟู ส่วนพี่เจนนี่คงหนีไปสงบสติอารมณ์ร้านกาแฟแต่ไปซื้อเค้ก ตอนเครียดๆก็ต้องกินของหวานนั่นแหละ


ทว่าน้องตื่นมางอแงหาพี่เจน และคุณป๋าคงเพิ่งนึกได้ว่านี่มันผ่านไปสักพักแล้วจึงลงไปตาม ก็อุ้มกะเตงกันลงไปนั่นแหละ เจ้าตัวเล็กซุกใบหน้ากับไหล่กว้างของเขา ยังซึมเพราะนอนไม่พอ เราสองคนพ่อลูกเดินลงมาตามคนรักของเราที่แอบอู้หนีมากินเค้กคนเดียว และเมื่อเดินมาถึงจุดหมาย ภาพตำตาก็ทำให้ชาไปทั้งตัว


แน่นอนว่าทั้งพ่อและลูกด้วย


“…” นายคิดเหมือนฉันไหม B1


“…”  มันไม่โอเคจริงๆงะ B2


กล้ามาจีบเจนของเราพ่อลูกได้ยังไง!


“เอาเลยตัวแสบ”  เขาหันไปส่งสัญญาณให้กับลูกที่พลันหายซึม ตอนนี้ไฟแค้นกำลังลุกโชน ประหนึ่งสงครามระหว่างกันถูกยุติเมื่อมีมือที่สามจากไหนไม่รู้พุ่งมา แย่งเจนกันเองได้ แต่ห้ามใครมาแย่งแล้ว สงครามนี้มีแค่นักรบและอัศวินก็เพียงพอ หมูหมากาไก่อะไรก็ไม่จำเป็น!


ตัดภาพมาที่เจนรักษ์ซึ่งงงในงงกับเอกสารบริษัทคุณรบ ช่วยมาเป็นปีก็ยังงงในงงอยู่ดี อาจจะเพราะทำไม่สม่ำเสมอด้วยมั้งเลยยังมึนๆถึงทุกวันนี้ แต่ช่วยไม่ได้ในเมื่องานหลักคือเลี้ยงลูกให้เขานี่นา จนป่านนี้เจนก็ยังได้เงินเดือนประหนึ่งคนทำงานคนนึง ทว่าทางความรู้สึกเราก็รู้กันดีว่าที่เจนอยู่เพราะอะไร ไม่ใช่แค่ว่าเป็นพี่เลี้ยงของน้องหรอก ที่อยู่เนี่ยเพราะรักน้อง และรักพ่อน้องมากด้วยไง


แต่งานวันนี้ดูจะไม่เสร็จเลย บางทีอาจจะต้องขอให้คนที่บ้านมารับตาหนูกลับไปนอนดีๆที่บ้าน ส่วนเจนคงต้องลุยงานช่วยคุณรบไม่งั้นได้กลายเป็นซอมบี้จริงๆแน่ เดี๋ยวแฟนไม่หล่อ เจนยอมไม่ได้ ทว่าพอมาช่วยจริงๆก็ยอมแพ้ ไฟยังไม่มา เลยหนีทั้งพ่อและลูกมานั่งกินเค้ก ทว่าไม่ทันกินดีๆ ก็มีคนเข้ามาทัก ซึ่งแน่นอนเราเป็นคนอัธยาศัยดีเจอคนบอกว่ารู้จัก เราก็เซย์ไฮกลับ แต่เอาจริงๆป่ะ


ใครวะ? จำไม่ได้


“Hi Jen! Long time no see. How are you doing?” ไง เจน เป็นไงบ้าง


“Ah….I’m fine”  ก็…ดีนะ…  ว่าแต่นั่นใครล่ะเนี่ย


เราคุยกันสักพัก เจนเริ่มจะจำได้ว่าเขาคือลูกค้าคนหนึ่งสมัยเจนทำงานอยู่ที่อเมริกา ฟังเขาที่ถือวิสาสะย้ายมานั่งด้วยก็ได้ทราบว่าเจ้านายเก่าเจนถูกเด้งออกจากบริษัทและหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เอาจริงๆเจนก็ไม่ได้สนใจนัก แต่แค่หาช่องจากไปไม่ได้ เค้กก็สั่งมานั่งกินไง แล้วจะทำไงล่ะ ไม่กินงั้นเหรอ ไม่ได้สิ….งกอ่ะ…


ยิ่งคุยยิ่งอึดอัด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแปะป้ายว่ามีเจ้าของแล้วบนหน้าผากเหมือนกันคนจะได้ไม่มาจีบ ถ้าเป็นปกติก็คงอดไม่ได้อยากเช็คเรทติ้ง แต่นี่คือหิวและโหยมาก อยากกินต้องทำไง เอาโปะหน้ามันไปเลยแล้วซื้อใหม่ดีไหม อย่าชวนคุยมาก นี่อู้งานมา เดี๋ยวแฟนจับได้เข้าใจไหม เจนพยายามส่งสัญญาณทางสายตาแบบพอมีมารยาทกึ่งๆขับไล่ แต่มันไม่เป็นผล ขอร้องล่ะตอนนี้ใครก็ได้ช่วยที….


“มามี๊”  เออนี่มันวันอะไรของเจนวะ เจอคนมาก่อกวน และเจอเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาเกาะขา ไม่เข้าใจกันเลยหรือไง ว่าลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนน่ะ!


“……..”


“เค้กๆ” 


“What!? Who is your mom?”  อะไร ใครแม่นาย? คู่สนทนาที่เจนจำชื่อไม่ได้ถามเจ้าตัวเล็กที่เดินมาเกาะขาเจนเสียงดัง และนั่นทำให้เจนหันควับ โอเค! ลูกคุณอาจจะไม่น่ารักสำหรับทุกคน


แต่น้องวินน่ารักสำหรับเจนมากๆเว้ย!


“น้องวินลงมาได้ไงครับเนี่ย”


“Mommy. Give me just one bite, please”แม่จ๋า ให้น้องหนึ่งคำ น้า… เราคุยกันสองภาษาในบ้าน ไม่แปลกที่บางทีน้องวินจะพูดภาษาอังกฤษออกมาได้ ซึ่งบางทีก็พูดเก่งกว่าภาษาไทยบางประโยคด้วยซ้ำ เจนอุ้มน้องขึ้นมานั่งตัก ตัดขาดคนไม่รู้จักออกไปจากโลกของตนอย่างสิ้นเชิง


“No, we already talked” ไม่ครับ เราคุยกันแล้ว


“But Papa said that you will give it to me”  แต่คุณป๋าบอกว่าเจนจะให้น้อง….นี่ไงความอวยของคุณป๋าที่ออกจากปากน้อง ยามรบเราสามัคคีกันได้ขนาดนี้ พี่เจนอยากจะลุกขึ้นมาแห่นางแมวขอบคุณสวรรค์สักสามรอบ


“You already got your ice-cream. Remember?”  แต่น้องวินได้ไอศกรีมไปแล้ว ลืมไปแล้วเหรอ เจนถามกลับ เล่นแง่เก่งนะเราน่ะ


“One bite, please”  หนึ่งคำ น้า…ดูสิ ขี้อ้อน ขี้ต่อรอง ได้ใครมาจะไปหยิกให้เนื้อเขียวเลย เห็นแก่ความน่ารักและความดีความชอบที่เข้ามาตอนนี้ เจนเลยตักให้กินหนึ่งคำตามขอ ท่าทางสนิทสนมราวแม่ลูกทำให้คนนอกถึงกันอึ้งไปเลย และตอนนี้คนนอกก็คือคนนอกอย่างแท้จริง เพราะสวรรค์ได้ส่งรุ่นจูเนียร์มาลองเชิง


ทีนี้ให้รุ่นซีเนียร์เขามาทวงบ้าง


“Sorry to keep you guys waiting”  ขอโทษที่ทำให้รอนะ…เจ้าของร่างสูงของนักรบที่เดินถือกาแฟและน้ำหวานนั้นค่อยๆก้มตัวลงประทับจูบที่แก้มซ้ายของเจน อย่างนั้นเลยแหละ ต่อหน้าทุกคนในที่นั่นเลยแหละ ไม่แคร์สายตาใครก็ควรแคร์สายตาเจนบ้าง แทบจะถลนออกมานอกเบ้าอยู่แล้ว


“คุณรบ”  มาให้หยิกจริงๆสักที


“รอนานไหมครับ ว่าแต่…เพื่อนเหรอ”  เขาหันไปให้ความสนใจกับบุรุษที่สามซึ่งถูกลืมไปแล้วด้วยรอยยิ้ม ซ่อนความอยากฆ่าคนด้วยรอยยิ้มอย่างแนบเนียน


“เอาจริงๆ เจนก็ใม่รู้อ่ะ น่าจะคู่ค้าตอนอยู่บริษัทเก่า”  เจนอธิบายสั้นๆแต่ชัดเจน เขาหันไปยิ้มให้อีกฝ่ายอีกครั้ง


“Sorry about my son and nice to meet you. My name is Nakrob Rattanasakul”ขอโทษเรื่องลูกชายและยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมนักรบ รัตนสกุล…เขาพูดก่อนจะยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับอีกฝ่ายที่ยังงงๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาเพื่อสร้างความชัดเจน “I’m Jen’s husband”  ผมเป็นสามีของเจน โห…ชัดเลยไหม


ไม่เข้าใจก็เชิญเอาหัวไปจุ่มท่อไป๊!


ในตอนนี้อะไรก็หยุดมือไม้ที่เลื้อยไปมาของสองพ่อลูกตระกูลนักสู้นี่ไม่ได้ เรื่องแสดงความเป็นเจ้าของต่อผู้อื่นละเก่งนะ แต่เจนชอบเลยไม่ได้สะบัดสะบิ้งอะไร อยากกอดกันนักใช่ไหม? เจนจัดให้ด้วยการเกี่ยวเอวเขามากอดไว้ และเจ้าลูกกบนี่ก็อยากกอดกันนักก็แถมหอมให้อีกฟอด พันกันเป็นเถาวัลย์เลยทีนี้ เอาให้รู้ไปว่าเจนเป็นของใคร!


“Can we go now?”  เจ้าตัวเล็กที่เอาใบหน้ามาเอียงซบอกถาม ท่าทางดูสะลึมสะลือเหมือนนอนไม่พอนี่ไม่รู้ทีเล่นทีจริง แต่คุณรบไม่รอช้า รีบตบมุก


“Sorry again…He is so sleepy but he cannot sleep if my Jen won’t be next to him”ขอโทษอีกครั้งครับ เด็กนี่ง่วงนอนแต่นอนไม่ได้ถ้าไม่มีเจนของผมอยู่ข้างๆเจนอยากจะแหมถึงดวงจันทร์ ดูแต่ละคำของพ่อคุณสิ! เจนของผม ผมเป็นสามีของเขา โอ้ยคุณรบไม่อ่อนโยนเลย เดี๋ยวเจนละลายก่อนได้ไปกล่อมลูกคุณรบนอนหรอก แม่งเอ้ย!


“Oh, I understand”   โอ้ ผมเข้าใจครับ…อีกฝ่ายดูเข้าใจง่ายทันทีที่เจนมีผัวและลูกเป็นของตัวเองยามนี้ รัตนสกุลที่เป็นทีมเวิร์คที่สุดในรอบปีสมควรได้รับรางวัลออสการ์ทั้งพ่อและลูก เจนจะอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นแต่เป็นเขาที่รับจอมแสบไปอุ้มเอง ก็ดูมีจะงอแงอยู่หน่อย แต่พอคุณพ่อบอกว่าจะเลี้ยงช็อคโกแลตปั่นกับขนมเค้กอีกชิ้นก็สงบเสงี่ยมเรียบร้อยราวกับไม่เคยเป็นเด็กดื้อมาก่อนในชีวิต


เราสามคนพ่อแม่ลูก(?) ซื้อของที่ต้องการและกลับมาที่ออฟฟิศของคุณรบ เจ้าของร่างสูงที่สวมบทบาทผัวขี้หึงเมื่อครู่เข้าชาร์ตใส่โต๊ะทำงานราวกับว่าไม่ได้เจอกันมาเนิ่นนาน  ส่วนเจนก็พาเจ้าลูกกบไปนั่งกินขนม ในส่วนตรงนี้ก็ดูเหมือนจะไม่เคยง่วงมาก่อน ขัดกับท่าทางที่จะนอนให้ได้เมื่อตอนอยู่ร้านกาแฟเมื่อครู่มาก น้องวินมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง ตีบทแตกขนาดเจนที่เก่งเรื่องตีสองหน้ายังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน


“เกือบจะทำตัวไม่น่ารักแล้วนะ”


“น้องหล่อ ไม่น่ารักหรอก”  โอ้ยยยยยยจ้า พ่อคนหล่อ หล่อได้ใครล่ะเนี่ย โดนคุณรบเป่าหูว่าเราสองพ่อลูกหน้าดีที่สุดในจักรวาลนี้มาใช่ไหม ต้องใช่แน่ๆ เจนคิดถึงคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว


“พี่เจนหมายถึงแกล้งทำเป็นงอแงเมื่อกี๊นี้”


“น้องเปล่างอแง”  น้องแค่เรียกร้องจะกินเค้กและน้องก็ง่วงตอนนั้น แต่ตอนนี้ไม่ง่วงแล้ว กะล่อนได้พ่อ หรือได้เลขาของพ่อ?


เจนออกไปช่วยคุณรบทำงาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอก เพราะต้องพาคุณลูกของคุณรบกลับบ้านไปนอน วันนี้คุณรบคงน้องๆโต้รุ่ง แต่ไม่…เขาเห็นสายตาของเด็กชายอัศวินที่เคยผูกเป็นพันธมิตรนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย ให้ตายวันนี้ก็จะกลับไปกอดลูกกอดเมียที่บ้านแม้งานการจะไม่ค่อยปราณีกันสักเท่าไหร่ก็ตาม เขาไม่ได้กลัวเจนจะรักลูกมากกว่าหรอก ก็ยอมรับว่าเจนรักน้องวินมาก่อน แต่มันเป็นรักคนละแบบกัน อันนั้นก็รู้ดี แต่ถามว่าที่ทำไปทั้งหมดนี่เพื่ออะไร…


เพื่อสนองตัณหาความหมั่นไส้ลูกชายล้วนๆเลย


มันอาจจะเป็นวิธีการแสดงความรักแบบแปลกๆระหว่างลูกผู้ชาย การหยอกให้ลูกงอนถือเป็นการแสดงความรักได้อย่างนั้นหรือ จริงๆแล้วมันมีไว้เพื่อความใกล้ชิดต่างหาก นักรบไม่ใช่คนที่แสดงความรักเก่ง การหยอกลูกแบบนี้ก็ช่วยทำให้เขาได้ใกล้ชิดลูกมากขึ้น อย่างน้อยตอนที่เจนกอดน้องวินอยู่ เขาก็สามารถเดินไปกอดทั้งคู่ได้เลย เพราะคนทั้งสองต่างก็ให้ความหมายของความรักและความต้องการปกป้องคนละแบบจากเขา


“คุงป๋า บ้ายบาย”  เจ้าตัวแสบยืนโบกมือบ้ายบายให้ เรียกความสนใจของเขาจากงานไปทั้งหมด เขาเดินไปอุ้มลูกจะเอากลับไปเล่นด้วยที่โต๊ะทำงาน และได้ผล น้องวินของทุกคนก็โวยวายออกมา


“ช่วยคุณป๋าทำงานก่อนสิครับ ไหนใครบอกอยากโตมาเก่งๆนะ”


“น้องยังไม่โต คุงป๋าเลี้ยงน้องก่อน งื้ออออ น้องจะกลับกับเจน”


“พี่รบเอาคืนมาเดี๋ยวนี้”  เจนย่างสามขุมจะเดินมาหา


“ไม่รักคุณป๋าเหรอ ไหนใครแอบอุ้มพาไปกินไอติมวันก่อนนะ”  ได้ทีก็ทวงบุญคุณ ห้ามบอกเจนนะว่าน้องไปอ้อนคุณป๋าให้พาไปกิน เดี๋ยวโดนดุ


“น้องก็รักคุงป๋า แต่คุงป๋าต้องทำงานเยอะๆ”


“คุณป๋าเหนื่อย มาช่วยกันก่อน”


“เอาไว้น้องพาไปกินไอติมละกัน จะได้หายเพี้ยงๆ”  และก็เป่าลมใส่หน้าเขา ให้ตายสิอ้อนได้แสบและกะล่อนได้ใคร เขาว่ามันต้องมาจากเจนรักษ์อย่างแน่นอน พาเขาไปกินไอติมเหรอ ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยนะ


และในที่สุดเจนก็ไปทวงน้องวินออกมาจากอ้อมแขนของคุณนักรบได้ จูบลาเขาตามคำสั่งไปที และก็ถูกน้องวินที่ไม่ยอมน้อยหน้าหอมแก้มไปทีเป็นครอบครัวที่วุ่นวายจริงๆ กว่าจะกลับถึงบ้านรัตนสกุล เจนแทบหมดแรง แต่น้องวินยังคงดูคึกคัก วันนี้คงนอนอิ่มแล้วจริงๆ น่ากลัวว่าตอนกลางคืนจะไม่ยอมหลับยอมนอนอีก เจนส่ายหน้าเบาๆคิดถึงความเหนื่อย ก่อนจะตรวจเช็คข้อความที่คุณรบส่งมา ในที่สุดวันนี้ก็จะกลับบ้านมาให้ได้



ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 02-11-2018 19:39:19

Nakrob Rattanasakul :พี่จะกลับบ้านนะ เหลือของกินไว้ให้ด้วย


จ้า….เจนคงทำอะไรไม่ได้จริงๆเกี่ยวกับเรื่องนี้


ใกล้เวลาที่คุณรบจะกลับมาแล้ว เจนหันไปมองอาหารที่ใส่ตู้เย็นรอให้เขามาอุ่น พาน้องวินไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว เจนก็ไปอาบน้ำบ้าง เลยได้แต่สั่งให้น้องวินอยู่เฉยๆและรีบอาบน้ำด้วยความเร็วเหมือนวิ่งผ่าน พอแต่งตัวเสร็จก็ออกมาพบเห็นเด็กป่วยหนึ่งอัตรา…


“เจน….”


“เป็นอะไรครับเนี่ย”  เจนเดินเข้าไปหา เด็กน้อยจอมแสบที่นอนแผ่อยู่บนเตียงท่าทางอ่อนโรยไร้เรี่ยวแรง แตกต่างจากเมื่อครู่ที่ยังร่าเริงสดใส


“น้องตัวร้อนจี๊ ไม่มีแยงเยย”  ไม่มีแรงเลยเหรอ? มันเป็นอะไรละเนี่ย


“ตัวร้อนจริงๆด้วย”  เจนสัมผัสหน้าผากของตาหนูเบาๆ มันร้อนจริงๆ แบบร้อนเกินไป ผิดปกตินัก


“เจนนอนกับน้องนะวันนี้ น้องป่วย”


“ไปหาหมอไหม”


“ไม่อาว เจนอยู่กับน้องนะ”


“พี่เจนก็อยู่กับน้องวินทุกคืนไงครับ เรานอนกันสามคนตลอดนะ ลืมแล้วเหรอ”


“ให้คุงป๋าไปนอนห้องอื่น เดี๋ยวคุณป๋าป่วย”


“…”


“นะเจน…น้องเป็นห่วงคุงป๋ามากๆ”  มันอย่างนี้นี่เอง เจ้าตัวแสบนี่ เจนถอนหายใจออกมา อยากจะขำในความคิดอันบรรเจิดของเด็ก 5 ขวบที่วางแผนไล่พ่อตัวเองไปนอนที่อื่น ให้มันได้อย่างนี้สิสองคนนี้ ไอ้ที่ตัวร้อนนี่ไม่ใช่เจนไม่รู้เลยนะ ก็ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นี่คล้ายๆว่าจะได้ยินเสียงไดร์เป่าผมไง ว่าจะออกมาดู เสียงก็หายไปแล้ว น่าตีนัก ใครใช้ให้เล่นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบนี้!


“ก็ได้ครับ งั้นเรามานอนกันเถอะนะ”  เจนยอมตกลงในเบื้องต้นไป เห็นแก่ความพยายามของเด็กดื้อละกัน แต่ในส่วนคุณรบจะยอมไหม ก็ให้เป็นในส่วนของคุณพ่อ ถ้ายังงอแงกันทั้งคู่ งั้นนี่เลย….เจนไปเอง รักกันให้ดีๆล่ะ


เจ้าตัวแสบที่เห็นเจนยอมกันง่ายๆก็กระยิ่มยิ้มย่องในใจ คืนนี้เจนเป็นของน้องแล้ว คุณป๋าจะต้องร้องไห้แงๆที่ไม่ได้นอนกอดเจนแน่ๆ ให้เจนกับน้องบ้าง คุณป๋ายึดไปบ่อยแล้ว เราต้องแบ่งกันไง จำได้ไหม เป็นเด็กดีต้องแบ่งปัน คุณครูสอนน้องมา แต่ว่าถ้าคุณป๋าดื้อ น้องก็ไม่จำเป็นต้องขอดีๆใช่ไหม แล้วพี่เจนก็บอกว่าเด็กฉลาดชาติเจริญคุณป๋าเข้าใจน้องเนอะน้องกำลังทำเพื่อชาติอยู่


ทว่าคนเป็นพ่อที่ไม่ทราบเรื่องอะไรก็กลับมาตามที่เขาได้บอกไว้ เจนนั้นส่งสัญญาณไม่ให้เสียงดัง จะให้น้องวินรู้ไม่ได้ว่าคุณป๋ามาแถวนี้ เดี๋ยวได้งอแงไม่ยอมนอนอีก โชคดีที่หลับไปสักพักแล้ว แต่ก็ไม่รู้จริงๆว่าจะตื่นมาหรือเปล่า เจนนั้นย่องออกไปยืนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง คุณรบจะขำก็ขำไม่ออก อะไรจะอยากยึดพี่เจนจากพ่อขนาดนี้นะเจ้าลูกกบ ถ้าไม่ให้จะงอแงขนาดไหนนี่ ก็เล่นซะใหญ่ปานนั้น


“พี่จะต้องคุยกับลูกล่ะ”


“ลูกอายุ 5 ขวบเองนะพี่รบ”


“พี่ก็คุยดีๆสิ จะไปดุลูกทำไม เห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย”  นักรบหรี่ตามองเจนที่ทำหน้าที่แม่ของลูกได้ดีเกินไป เรื่องสปอยล์ตาหนูจนติดกันสุดๆนั้นยกให้คนนี้เขาล่ะ โอ๋กันมาตั้งแต่เป็นลูกกบ จนตอนนี้อุ้มไม่ไหวแล้ว หนัก…


เขาก็ยังยืนกรานจะนอนกับจอมแสบต่อไปนั่นแหละ และตอนเช้าก็ออกมานอนอีกห้องเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นจนงอแงคุยกันไม่รู้เรื่อง ทว่าเพราะนอนหลับไม่สนิทตลอดคืนด้วยต้องระวังลูกมาเห็น คุณนักรบในตอนเช้าหลังจากโหมงานอย่างหนักหน่วงจึงมีสภาพเหมือนซอมบี้มากกว่า เจนจึงสั่งงดกาแฟและให้กินอาหารอ่อนๆในตอนเช้าเพื่อปล่อยกลับไปนอนดีๆอีกครั้ง


“คุงป๋าไม่สบายเหยอ”


“อื้อ”  เขาตอบสั้นๆ มองแววตาของเด็กน้อยที่ดูเป็นห่วงกันแล้วพูดอะไรไม่ออก


“จะหายไหม”


“หายสิ” เจนที่เห็นพ่อลูกซักถามอาการกันและกันก็นึกสนใจ น้องวินไม่ได้ใจร้ายกับคุณป๋าหรอก จริงๆก็รักเขามากแต่แสดงออกไม่เก่งกับคนประเภทเดียวกันนี่แหละ มาดูตอนนี้สิ เอาแต่จ้องคุณป๋าตาโหลใหญ่เลย ท่าจะเป็นห่วงจริงๆ


“น้องวินไม่สบายรู้สึกดีขึ้นรึยังครับ”  เจนหันไปถามน้อง จอมแสบดูลุ่กลิ่กอย่างเห็นได้ชัด


“หายแล้วคับ”


“ดีแล้วลูก”  นักรบนั้นลูบหัวจอมแสบที่หัดโกหกเบาๆ เขาควรจะทำอย่างไรดีนะ ลูกทำผิดแต่ทำไมเขากลับไม่รู้สึกว่ามันร้ายกาจเกินอภัยเลย หรือคนเป็นพ่อเป็นแม่คือสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อรักลูกอย่างเดียวกัน


“คุงป๋าไม่สบายเป็นอะยัย”


“คุณป๋านอนไม่ค่อยหลับครับ”  เขาตอบความจริง


“เพราะไม่ได้กอดพี่เจนเหรอ”


“เอ่อ…”


“งั้นน้อง…แบ่งพี่เจนให้ก็ได้”  ทั้งนักรบและเจนรักษ์เคยถามตัวเองมาตลอดว่าเราจะปล่อยน้องวินไปนอนคนเดียวได้ตอนไหน และในตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบนั้น อาจจะเพราะเราไม่อาจจะปล่อยมือตาหนูที่น่าเอ็นดูขนาดนี้ของเราไปได้จริงๆ


“คุงป๋าไม่ได้นอนไม่หลับเพราะไม่ได้กอดพี่เจนหรอกครับ”  นักรบอธิบาย และเจนก็ยิ้มออกมา “แต่คุณป๋านอนไม่หลับเพราะไม่ได้นอนกับพี่เจนกับน้องวินต่างหาก”  นี่คือความจริงที่มากกว่า


หากเป็นเช่นนี้แล้วเขาต้องแยกไปนอนคนเดียวล่ะก็ เขาคงนอนไม่หลับจริงๆ ไม่รู้ว่ามันกลายเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่าพื้นที่เตียงมันดูกว้างเกินไป เขาไม่อาจจะทนไหวอีกต่อไปแล้วหากมันจะไร้การเติมเต็ม เจนยิ้มให้กับคำตอบของเขาและหันไปลูบหัวเจ้าลูกกบที่ไม่พูดอะไรอีก เขาดึงลูกมานั่งที่ตักก่อนจะหอมแก้มซ้ายเบาๆ รู้สึกดีใจกว่าอะไรทั้งปวงที่ได้เห็นว่าลูกมีความห่วงใยให้กัน ตาหนูเองก็กอดเขากลับ ทำตัวน่ารักดีมาก


“ต่อไปนี้นอนกับน้องก็ได้”  เขายิ้ม เจนยิ้ม สรุปผลลัพธ์ของการนอนไม่หลับคือท่าทีที่อ่อนลงของลูกชายสินะ


เจนจึงคิดได้ว่าน้ำขึ้นต้องรีบตัก…


“น้องวินเก่งมากเลยครับ”  เจนชม ก่อนจะกล่าวต่อ  “งั้นวันนี้พ่อลูกนอนด้วยกันดีๆนะ พี่เจนจะไปนอนกับย่าไพ”


“เจน!!!!”  และสองชายหนุ่มตระกูลรัตนสกุลก็สามัคคีลุกมาโวยวายพร้อมกัน คือมันไม่ควรเป็นแบบนี้นี่!


“ทำไม! พ่อลูกอยากนอนด้วยกันมันก็ดีไม่ใช่เหรอ แล้วเจนจะไปนอนกับแม่บ้างไม่ได้หรือไง”  ผู้ชายพวกนี้ลืมกันไปแล้วเหรอว่าเจนก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่กับเขาเหมือนกัน ยึดกันไปนอนด้วยตั้งหลายปี ถ้าเจนไม่ท้วงเรื่องนี้คงไม่มีใครคิดได้ เผื่อๆต่อให้คิดก็ไม่ให้ไปง่ายๆ เพราะฉะนั้นเจนต้องใช้มุกนี้


และคนที่ได้รับผลประโยชน์ที่สุดจากเด็กแกล้งป่วยกับผู้ใหญ่นอนไม่หลับคือเจนรักษ์นั่นเอง!


ทว่านอนไปได้แค่คืนเดียวก็โดนอุ้มกลับมานอนด้วยกัน และตอนนี้เจนก็อยู่ระหว่างพ่อลูกเจ้าปัญหา ตะแคงไปข้างใดข้างนึงก็ไม่ได้ เดี๋ยวอีกคนงอน แล้วนี่ควรจะทำยังไงดีล่ะ มองซ้ายทีคุณรบก็จ้องอยู่ มองขวาทีตาหนูก็จ้องไม่เลิกราเช่นกัน ถามจริง…นี่เราจะนอนจ้องกันไปตลอดทั้งคืนเลยหรือไง!


“เอางี้ละกัน”  ในที่สุดเจนก็ตัดสินใจได้ คนตัวเล็กจับน้องวินให้มานอนคั่นกลางระหว่างเรา อย่างนี้ล่ะดีที่สุดแล้ว คุณรบได้กอดทั้งลูกและเจน และเจนก็ได้กอดทั้งน้องวินและคุณรบ ทำอย่างนี้จะได้ไม่มีใครว่าใครได้อีก เมื่อจัดการได้ลงตัว เจนก็หลับตาลงพร้อมรอยยิ้ม น้องก็ยิ้ม คุณป๋าก็ยิ้ม และทุกคนก็ยิ้ม รัตนสกุลที่เป็นแบบนี้


มันดีที่สุดจริงๆ…



Talk: ขอโทษที่ให้รอตอนพิเศษมากเลยนะคะ ตอนนี้เรากำลังติดพันสิ่งอื่นอยู่ แต่ต้องขอขอบคุณทุกความสนใจในเจนไม่นกนี้ด้วยนะคะ ได้ยินว่ามีคนไปถามที่บูทของเฮอร์มิทในงานหนังสือ น้องยังไม่ได้ออกเล่มเลย ปีหน้ามาแน่นอน ช่วยรอหน่อยนะคะ



จริงๆยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ได้ลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ขอเราเคลียร์หลายสิ่งนั้นก่อนนะคะ ยังมีตอนพิเศษที่ทั้งจะลงให้อ่านในนี้(แต่ยังไม่ได้ลง) และที่มีให้อ่านเฉพาะในเล่ม นอกจากเพชรพระพายที่ลงในนี้จนจบ(เปิดเป็นอีกเรื่อง) เคลจุ้นที่เป็นเรื่องสั้นยังไม่มา ก็จะมีเรื่องสั้นคู่ของน้องวินด้วยนะคะ ยังไงช่วยรอกันหน่อยน้า จะมาให้หายคิดถึงแน่นอน



ตอนนี้แอบไปเปิดเรื่องใหม่มาด้วย แต่ยังไม่ได้ไปต่อเพราะว่าอยากแต่งให้ได้เยอะๆก่อนจะได้ลงแบบถี่ๆไปเลย สำหรับคนที่รอติดตามอ่าน finding the twilight ที่เป็น mpreg ของเรา เรื่องนั้นต้องมีเด็กแน่นอนค่ะ แต่ตอนที่เท่าไหร่นี่ยังแต่งไม่ถึงเบย55555 ถ้าใครสนใจเชิญไปติดตามไว้ก่อนได้นะคะ จะรีบคลอดตอนต่อไปให้อ่านค่ะ

ทางจิ้มไปเรื่องใหม่ที่เปิดไว้ >> https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764)

 
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 03-11-2018 00:32:59
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 03-11-2018 01:25:47
เป็นกำลังใจให้นะเด็กชานอัศวิน
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 03-11-2018 01:56:30
น้องวินร้ายยยยยยนะนั่น55555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 03-11-2018 04:13:28
เจ้าลูกกบของป้าโตแย้ววววววน่าฟัดมากกกกกกกนี่ตอนเป็นหนุ่มจะน่ารักแค่ไหนจะมีชายไหนมาจีบให้คุณป่ากับแม่เจนหวงไหมเนี่ยยยยยยยยยยสนใจมีภาคต่อไหมคะ 5555555 หรือจะเมะน้าาาาป้าอยากรู้แล้ววว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-11-2018 11:12:38
 o13
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 04-11-2018 04:58:56
เจ้าลูกกบน่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-11-2018 13:48:29
ลูกกบนี่เจ้าเล่ห์แต่เด็กเลยนะแต่ก็น่ารักจนใจอ่อนตลอด
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 06-11-2018 23:09:39
เจ้าลูกกบนี่แสบจริงๆ 5555+
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-11-2018 22:57:41
เจ้าลูกกบนี่แสบแต่เด็กเลยนะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ3 #เจนเป็นของน้อง) 2.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 13-11-2018 10:25:06
ครอบครัวอบอุ่นมาก น้องวินลูกโตมาต้องได้ทั้งพ่อทั้งพี่เจนมาแน่สอนมาดี แสบมาก555 น่าหยิก เพชรพระพายนี่เข้าใจกันได้ดี ขอบคุณคนเขียนมากเลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 18-11-2018 20:33:48
ปี้ยบกับน้องเจง


ใครๆล้วนก็ต้องเคยเกิดเป็นเด็ก


“ด้า!”  เหมือนน้องวินที่กำลังยกมือแกว่งเจ้าตุ๊กตายีราฟในมือไปมา ใครๆก็ต้องเคยเป็นเด็กใช่ไหม และเด็กแบบน้องวินอาจจะโตมาเหมือนพ่อของเขามากกว่าที่เราคิดก็ได้ เพราะแค่นี้ก็ได้เค้าหน้าที่คล้ายกันจนน่าใจหายแล้ว เมื่อมองสลับกัน ต้องพูดออกมาเลยว่าดีเอ็นเออยู่บนหน้าจริงๆ


“มีอะไรครับ”  คุณรบที่อ่านหนังสืออยู่บนเบาะของลูกโดยมีผ้าห่มลายการ์ตูนของน้องวินบนตักทำให้เจนต้องยิ้มออกมา พอผมฟูเหมือนกันก็ยิ่งเหมือน สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ


“แค่มองว่าวันนี้แฟนเจนไม่หล่อเลย”  เจนค่อยๆคลานไปหาและจัดแต่งส่งผมของคนที่เพิ่งตื่นนอนให้เรียบร้อย อย่างแรกของวันที่ทำของเรานั้นคือการตื่นมาเล่นกับลูก ช่างให้ความรู้สึกที่อบอุ่นจริงๆ


“เจง เจ!” น้องวินเรียก ตอนนี้น้องเดินเริ่มคล่องแล้วเลยลุกเดินมาหา ก่อนจะมาโถมตัวเข้าใส่อย่างที่ไม่กลัวเจนหงายหลัง


“โอ้ยยยย เจ้าลูกกบ จะไม่ให้พี่เจนแตะต้องพ่อเราเลยเหรอเนี่ย”  หวงมาก หวงจริงๆ ไหนฟัดแก้มหน่อย ทำไมเป็นเด็กขี้หวงแบบนี้


“คิก อ๋า… เจ ปา ปา”  หลังจากฟัดจนพอใจก็ซุกพุงนุ่ม สูดดมกลิ่นหอมของนมและแป้งเด็กที่เป็นเอกลักษณ์ของเด็กในวัยนี้ เจนไม่อยากจะคิดเลยว่าตนก็คงจะมีช่วงเวลาที่มีกลิ่นเหล่านี้ติดตัวเหมือนกัน และตนก็จำอะไรไม่ได้ แม้แต่เรื่องที่ว่าครั้งหนึ่งเจนกับคุณรบเคยเจอกันมาก่อน มันก็ไม่มีหลงเหลือในความทรงจำ ผละออกจากพุงน้อง ก็อุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมากอดไว้ และพิงร่างกับไหล่ของคนพ่อที่ทำตัวสบายๆในวันพักผ่อน นักรบมองคนทั้งสองอย่างฉงนใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า จอมขี้เกียจเอ้ย!


“พี่รบ”


“ครับ”


“พี่รบจำเจนตอนเด็กๆได้ไหมอ่ะ”


“นึกอะไรอยู่ครับเนี่ย”


“ก็เจนจำพี่รบไม่ได้”


“จะเอาที่ไหนมาจำล่ะคนเรา ตอนนั้นเจนยังพูดไม่ชัดเลยมั้ง”


“นั่นนะสิ แต่เจนสงสัยไง”


“สงสัยอะไรครับ”


“สงสัยว่าพี่รบจำเจนได้หรือเปล่า”


“…”


“ว่าแต่จำได้ไหม”


“ถ้าบอกว่าจำไม่ได้จะโกรธไหม”


“ก็….ไม่มีสิทธิ์โกรธหรอกเนาะ”  เจนมองหน้าเขาอย่างไม่คิดอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะน้อยใจเพราะต่างก็เด็กทั้งคู่ อีกอย่างคุณนักรบที่เจนรู้จักมา ก็ไม่ใช่คนที่ถนัดการจดจำเรื่องของใครเท่าไหร่ กับเด็กคนหนึ่งก็คงไม่ได้สำคัญอะไรที่เขาจะต้องมาจดจำ คุณรบเป็นเช่นนี้มาตลอดตั้งแต่รู้จัก และตอนนี้เจนก็เพิ่งได้ก้าวเข้ามาเป็นคนสำคัญของเขา เพราะฉะนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ที่จะต้องจดจำต่างหากล่ะที่สำคัญ


นักรบมองคนรักที่ถามคำถามนั้นและได้รับคำตอบที่ดูไม่เหมือนในเทพนิยาย เขาขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งไปซ้อนหลังของอีกคนที่กำลังอุ้มลูกเขาอยู่ ก่อนจะก้มลงหอมหัวของคนที่ถามคำถามกันแบบนั้น มันก็ไม่ใช่เขาจำไม่ได้หรอก ซึ่งปกติเขาก็ไม่ได้ชอบจำอะไรพวกนั้นนัก แต่เจนคงเป็นข้อยกเว้นอยู่บ้าง เพราะในความทรงจำของเด็ก 8 ขวบ มันมีเจนอยู่ในนั้นจริงๆ จากวันนั้นที่เรามานั่งดูรูปสมัยเด็กๆกัน มันเลือนลางแต่มีอยู่ และเมื่อเจนเข้ามาเพิ่มระดับความสำคัญ มันก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น ใครจะไปคิดว่าเจ้าเด็กนกฮูกตาขวางๆขี้อ้อนในวันนั้น


จะกลายมาเป็นหวานใจของเขาในวันนี้….
.
.
.




“ไหว้คุณหญิงก่อนสิลูก ธุจ้าสิจ้ะ”  คุณอำไพที่เพิ่งไปรับเจนมาจากอ้อมอกของน้องสาวได้บอกกับลูกชายตัวน้อยของเธอเช่นนั้น เพราะน้องมีธุระที่กรุงเทพเลยถือโอกาสพาหลานและลูกเข้ามาหา และเธอก็ได้ร้องขอให้เจนมาอยู่ที่นี่ด้วยระหว่างที่เธอไปทำธุระ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กที่หน้าหวานอย่างกับเด็กผู้หญิงก็นั่งกับพื้นงกๆเงิ่นๆ ยกมือธุจ้าอย่างงงๆให้คนนั้นทีคนนี้ที เจ้าลูกนกดูน่าเอ็นดูในสายตาของผู้ใหญ่ในบ้านทันทีที่ได้พบเห็น


“นี่น้องเจนลูกของอำไพเหรอเนี่ย น่ารักจังเลย” คุณหญิงเธอชอบเด็กตัวเล็กๆ ไม่แปลกเลยที่จะให้ความเอ็นดูจอมดื้อตัวน้อย


“บอกคุณหญิงท่านไปสิลูก หนูชื่ออะไร”  อำไพบอกลูก และเจนก็ยังคงงงๆอยู่


“หนูชื่อเจง”  เจ้าตัวเล็กพูดด้วยเสียงเบา ยังตื่นคนอยู่ บ้านหลังนี้ดูใหญ่และสะอาดสะอ้านจนทำตัวไม่ถูก ขนาดแม่อยู่ด้วยตรงนี้ก็ยังประหม่า คุณอำไพส่ายหน้าให้กับความพูดไม่ชัดของเด็กน้อย


“ไหนมาหาฉันหน่อยสิ เข้ามาๆ”  เธอกวักมือเรียก แล้วจอมดื้อก็เดินเข้าไปหาแต่โดยดี คุณผู้หญิงผู้ใจดียกเจ้าตัวเล็กขึ้นไปนั่งบนตัก เจนตัวเล็กมากจริงๆ มากกว่านักรบตอนที่อายุเท่ากันด้วยซ้ำ


“หนูตัวไม่หนักนะจ้ะ”  เพราะถูกล้อแซวบ่อยๆเวลาที่ขอให้ยายอุ้ม เจนจึงหันไปบอกคุณหญิงแต่เนิ่นๆไว้ก่อน เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่ตรงนั้นกับความซื่อหมดจดของเจ้าลูกนกตัวเบานี่


“เทียบกับนักรบของฉัน เจนไม่หนักเลยลูก มาพอดีเลยนักรบ มาหาแม่หน่อย”  ตอบรับเจ้าตัวเล็ก แต่เมื่อเหลือบไปเห็นเจ้าตัวใหญ่ของเธอ คุณพรรณีก็จัดการกวักมือเรียกลูกชายที่เพิ่งทำการบ้านเสร็จ นักรบเดินมาหาแม่อย่างว่าง่าย ตาไม่หยุดมองจ้องเด็กที่แม่ของเขาโอบกอดไว้อยู่


“ครับ คุณแม่”


“นี่ลูกของแม่ไพไงจ้ะ”  คุณหญิงพรรณีแนะนำให้เสร็จสรรพ เด็กชายนักรบจ้องมองใบหน้าของคนน้องด้วยสายตานิ่งเรียบ เขาเพียงพยักหน้ารับทราบไม่ได้กล่าวอะไรออกมา ทำให้บุคคลซื่อใสยิ่งไม่เข้าใจ


“หนูชื่อเจง”


“ครับ”  ชื่อ….เจง??


“ปี้จ๋าชื่ออะไย”  เจ้าตัวเล็กเอียงคอน้อยๆ อยากจะเห็นหน้าพี่ชายคนนี้ให้ชัดขึ้นอีกหน่อย เขาใส่แว่นด้วย เจงก็อยากใส่แว่น จะได้เท่ๆเหมือนกัน


“ชื่อนักรบ”


“ยักยบ”


“นักรบ”


“ยัก….ง่า…หนูจำไม่เก่ง”  สองพยางค์นี่มันยาวเกินไปสำหรับเด็กเล็กหรือนี่ เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะตัดรำคาญ


“เรียกว่าพี่รบ”


“ปี้ยบ”


“พี่รบ”


“ปี้ยบได้ไหม” เจ้าตัวเล็กย่นคิ้วทำปากจู๋ คำว่าพี่รบมันเรียกยากไป เกิดเป็นลูกนกลิ้นไก่สั้นแต่ติดจะพูดมากเลยมาขอต่อรอง ตอนนั้นเจ้าของตักกลั้นขำจนไหล่สั่นไปหมดแล้ว นักรบจ้องมองแม่ของตนอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ สำหรับเขามันไม่มีอะไรตลกเลย เอาจริงๆเขาไม่อยากให้เรียกอะไร และมาสนใจกันด้วยซ้ำ ช่างเป็นเด็กที่ไม่เป็นมิตรต่อเด็กที่อายุน้อยกว่า สตรี หรือคนชราสักนิด


“อยากเรียกอะไรก็เรียกๆไปเถอะ”  เขาจะถือว่านั่นไม่ใช่ชื่อเขาจริงๆล่ะกัน ทะเลาะกับเด็กไปก็ไม่ได้ความอะไร คิดได้ดังนั้นเลยคิดว่าจะออกไปหาอะไรกินและอ่านหนังสือต่อสักหน่อย


“ปี้ยบๆปายหนาย”


“………….”


“คุงป้าคงฉวย ปี้ยบปายหนาย”  พอเห็นคนพี่ไม่ตอบก็เลยเงยหน้าไปถามเจ้าของตัก


“เจน”  แม่เรียก เจ้าเด็กนี่มันชักจะปีนเกลียวเกินไปแล้ว แต่คุณพรรณีห้ามไว้ ให้เรียก ‘พี่รบ’ ดีๆ ยังออกมาเป็น ‘ปี้ยบ’ แล้วกับคำว่าคุณหญิงหรือคุณท่าน เจ้าลูกนกนี่จะเรียกออกมาได้ไง เธอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ถ้ามีเจ้าตัวเล็กน่ารักแบบนี้วิ่งรอบบ้านก็คงจะดี แต่อำไพได้เลือกที่จะให้ลูกอยู่ไกลเพราะกลัวจะรบกวนคุณรบนั่นแหละ เธอรับผิดชอบต่อหน้าที่ได้ดี แต่อาจจะขาดไปบ้างในฐานะแม่จริงๆ


“ไปกับพี่เขาสิลูก ตารบพาน้องไปเล่นในสวนสิจ้ะ อำไพจ้ะ เอาขนมกับน้ำหวานไปให้เด็กๆหน่อยสิ”  และเพราะประกาศิตของแม่ คนพี่เลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพาเจ้าตัวเล็กลูกพี่เลี้ยงของเขามาด้วย เจ้าเด็กเจงเดินเตาะแตะตามกันมาหน้าระรื่น ขัดกับท่าทางยินดีของลูกชายเจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก


นักรบเป็นลูกคนเดียว รอบตัวเขาไม่มีเด็กในวัยเดียวกันอยู่รอบตัวและก็ใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัดไปกับการศึกษา เขาอาจจะได้เล่นเกมหรือเพลิดเพลินอยู่บ้าง แต่นั่นก็มักจะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวหรือเล่นกับผู้ใหญ่ได้ มนุษย์นกเด็กนี่จึงเป็นเด็กเล็กๆคนแรกในชีวิตของเขา น้องไม่ได้ดูบอบบางให้ต้องทะนุถนอม และเขาก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะประคบประหงมแต่อย่างใด


“นี่นะ นี่นะ เจงจะได้ไปดูฮิปโปโปด้วย พี่รบไปกับเจงไหม”


“ไม่ไป”  เพราะมีเรียนเปียโนและภาษาจีน


“มียีราฟคอย๊าวยาวด้วยนะ


“………..”  คนพี่ชักสงสัย….ว่าที่น้องมันว่ามา คือคำถามหรือแค่ประโยคบอกเล่าเพราะมันไม่ฟังอะไรเลย


“แล้วมีช้างตัวหย่ายๆ” รำคาญมีความหมายอย่างไร วันนี้เพิ่งได้เข้าใจ


นักรบเร่งฝีเท้า เขาอยากจะเดินหนีเจ้าเด็กที่เอาแต่พูดเป็นต่อยหอยจะตายอยู่แล้ว อยู่บ้านไม่มีคนคุยด้วยเหรอถึงพูดไม่หยุดแบบนั้น แล้วนี่ไม่รู้จักกาละเทศะเลยหรือไง ถึงได้ทำตัววุ่นวายใส่คนที่เพิ่งรู้จักแบบนี้ พ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอว่ามาบ้านคนอื่นให้ทำตัวดีๆ น่ารำคาญจริงๆ วันนี้เขาสัมผัสคำว่าน่ารำคาญเยอะมากเป็นพิเศษจริงๆ


“ปี้ยบอย่าวิ่ง เดี๋ยวหกโล้ม อ๊ะ!”  นั่นไงคนเรา….บอกห้ามไม่ให้คนอื่นวิ่งหนี


แล้วจะวิ่งตามทำไม!


“…………”  เขาหยุดเพื่อหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่ล้มลงไปกับพื้นหลังจากวิ่งตามกัน ยังไม่ทันขาดคำของเจ้าตัวเลยเห็นไหม เห็นแล้วมันน่ารำคาญจริงๆ แต่ถ้าปล่อยไว้เขาก็อาจจะถูกแม่ดุได้ และอีกอย่าง….ก็ไม่รู้แม่ไพจะว่ายังไงด้วยที่ให้ลูกมากับเขาแล้วเจ้าตัวก็มาล้มได้แผลแบบนี้ ก็ใครใช้ให้ปล่อยมากัน…..เขามันไม่ใช่คนนิสัยดีอะไรเลย….


และเป็นคนที่ไม่อยากวุ่นวายกับเด็กโง่เง่าขี้แยด้วย….


“…………..”  เขาเดินไปหยุดนิ่งอยู่ข้างหน้า จ้องมองเจ้าตัวเล็กที่ก้มมองเข่าของตัวเอง ไหล่เล็กสั่นสะท้าน


แต่ไม่ยักจะมีเสียงร้องสักแอะ….


“เจงไม่ย้อง”


“………….”


“ฮึบ เจงจะ…ฮึก….ไม่ย้อง”  แต่เจงเจ็บ เขาส่ายหน้าให้ความย้อนแย้งดังกล่าวของคนที่บอกกับตัวเองว่าจะไม่ร้อง ทั้งๆที่อยากจะร้องไห้จะแย่อยู่แล้ว เจงยังเอาแต่กลั้นสะอื้น มันยิ่งน่าหงุดหงิดกว่าเดิมหลายเท่า แต่ทำไมต้องแคร์ด้วย มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย


“เจ็บมากไหม”  เขาถามเสียงเรียบ นักรบไม่ใช่เด็กที่อ่อนโยน เขาดูนิ่งเกินไปเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่นั่นมันก็แค่ภายนอกเท่านั้น จะอย่างไรเขาก็เป็นแค่เด็กปากแข็ง จริงๆเห็นแล้วก็รู้สึกผิด และรู้สึกห่วง แต่ไม่อยากยอมรับว่าตนคือต้นเหตุที่ทำให้ลูกของพี่เลี้ยงที่รักต้องเจ็บตัว เขานึกภาพออกว่าเมื่อแม่ไพเห็นก็คงจะยิ้มให้เขาเหมือนเดิม แต่ก็อาจจะน้อยใจว่าลูกของเธอไปทำให้ลูกเจ้านายไม่พอใจ เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจแม่ไพที่เลี้ยงกันมา จึงรู้สึกผิดและหงุดหงิดกับมันมากพอตัว


“ฮึก ไม่เจบ”


“เจ็บก็บอกว่าเจ็บสิ”


“ไม่เจบ ถ้าเจบ เจงก็ต้องร้องห้ายแงๆ” แล้วที่เป็นอยู่ไม่ได้ร้องไห้แงๆอยู่เหรอ เงยหน้ามาเถียงกันหน้าดำหน้าแดงทั้งที่น้ำตาคลอแบบนั้น


มีใครเคยสอนเด็กนี่ไหมหนอว่าเป็นเด็กไม่ควรโกหกผู้ใหญ่ (?)


“ถ้าเจงร้องห้าย แม่จ๋าก็จะไม่กลับบ้านเราอีก”


“………….”


“แม่จ๋าบอกร้องห้ายไม่น่ายัก แม่จ๋าบอกเจงสู้ๆ”  ในความเป็นจริงแม่ของเจ้าลูกนกคงบอกกันว่าอยากให้เข้มแข็งไว้ ทุกครั้งที่อำไพจะกลับมาทำงานที่บ้านรัตนสกุล เธอมักจะต้องจากลาลูก ด้วยความเป็นแม่ หากลูกอ้อนก็คงยากที่จะทานทน ดังนั้นเธอจึงบอกให้เจนเข้มแข็งเอาไว้ อย่างน้อยก็เพื่อเจนเองที่ต้องพบเจอการจากลาอย่างนี้ในทุกวันหยุดเทศกาล และเพื่อตัวเธอเองที่จะไม่ต้องเห็นน้ำตาของลูกให้เจ็บช้ำใจ แต่อย่างนี้มันเป็นผลดีกับใครกัน


เป็นผลดีกับเด็กชาย นักรบ รัตนสกุลไง….


“อย่าเอามือมาลูบหน้า”  เขาร้องบอกหลังจากที่เจงสะกดน้ำตาตัวเองได้แล้ว อาการเจ็บยังมีอยู่ แต่เห็นว่าพี่รบไม่ไปไหนมันทำให้สบายใจมากกว่า


“เจงคันแก้ม”


“มือเลอะ”  ก็เมื่อกี๊เพิ่งล้มไม่ใช่หรือไง


“มันยุบยิบ”  ใบหน้าน่ารักแสดงออกว่าขัดใจ แต่ถึงอย่างไรเด็กรักสะอาดอย่างเขาก็ไม่อาจจะยอมรับได้จริงๆ


แต่จะไปว่าน้องว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนไม่ได้….


“เกาแก้มให้เจงหน่อย”


“……..”


“งือออออ”  ก็ได้ ก็ได้….เอางั้นก็ได้


“พอใจหรือยัง”  เขาถาม ใช้ปลายนิ้วเขี่ยแก้มน้องตามที่เจ้าตัวร้องขอ เขาเพิ่งเคยได้สัมผัสแก้มเด็กคนอื่นเป็นครั้งแรก และค้นพบว่าแก้มของเด็กเล็กมันนุ่มนิ่มดีจัง โดยเฉพาะเด็กที่แก้มเยอะเป็นพิเศษแบบเจ้าลูกนกตัวนี้


เขาอุ้มจอมแสบไปทำแผล ต้องเรียกว่าอุ้มเลย แม้นักรบจะไม่ใช่เด็กตัวใหญ่ แต่แค่ยกตัวเจ้าตัวเล็กขึ้นมาอุ้มเข้าไปในบ้านเขาก็พอทำได้แม้จะตะกุกตะกักเสียหน่อย เขาวางน้องกับพื้นห้องน้ำ ล้างขาแข้งให้ก่อนจะจูงเดินไปนั่งในห้องอ่านหนังสือใกล้ๆ นักรบเดินไปหยิบกล่องยาที่จำได้ว่าแม่ไพเก็บไว้แถวนี้มา หยิบขวดนั้นจับขวดนี้มาพิจารณาแต่ว่าก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าควรทำยังไงเรื่องนี้มันยากไปสำหรับเด็กจริงๆ….เขาเพิ่งเห็นความไร้ประโยชน์ของตัวเองในวันนี้


“คุณรบทำอะไรอยู่เหรอคะ”  อำไพที่เดินไปหาที่สวนเพื่อเอาขนมไปให้แต่ไม่เจอนั้นตามหาทั่วบ้าน เห็นประตูห้องหนังสือที่เป็นห้องโปรดของคุณหนูเปิดทิ้งไว้ เธอจึงเดินเข้ามา นักรบสะดุ้งน้อยๆหันมามองกันด้วยความตกใจ


“แม่จ๋า….”  เจนเรียกแม่เสียงละห้อย น้ำตาในตาเหมือนจะไหลกลับมา ที่สะกดจิตไม่ให้ร้องแม่จะได้ไม่โกรธนั้นไร้ค่าเหลือเกิน


“ไหนบอกจะไม่ร้องไง”  เขาถาม ไม่รู้ว่าตนเองอ่อนโยนขนาดนี้ได้ยังไง แต่เขาเห็นความพยายามที่ไร้ค่านั้นดูน่าเอ็นดูขึ้นมา อย่างที่บอกว่าเขาอาจจะรู้สึกผิดจริงๆ และเพราะเขายึดแม่ไพมาจากเจ้าตัวน้อยนี่ไม่ใข่เหรอ มันถึงได้มีตรรกะเรื่องการร้องไห้แปลกๆแบบนั้น


“เป็นอะไรไปลูก”  อำไพเดินมาหาลูกชาย เธอเห็นกล่องยา และเมื่อสำรวจดีๆก็เห็นแผลถลอกที่หัวเข่าของเจ้าลูกนก


“เจง….เจง….”


“ผมเดินเร็วไปครับ น้องตามไม่ทันเลยล้ม”


“แล้วเดินเร็วทำไมเล่า เราเนี่ย” อำไพหันไปดุลูกชาย แม้เจนจะยังเล็กแต่ก็ไม่ได้หมายความจะตักเตือนไม่ได้


“ฮึก…เจง เจง” แต่น้องจะเข้าใจรึเปล่ามันก็อีกเรื่อง เขามองเจ้าลูกนกที่ทั้งเจ็บทั้งกลัวแม่โกรธอย่างสงสาร ก่อนจะพูดออกมา


“อย่าว่าน้องเลยครับ ผมผิดเอง”


“คะ?”


“ผมวิ่งหนีน้อง น้องเลยวิ่งตามครับ”  และก็อย่างที่เห็น จะเอาอะไรกับการให้เด็กน้อยวิ่ง


“ลูกของแม่ไพ ทำให้อึดอัดหรือเปล่าคะ”  อำไพหน้าเสีย และนั่นทำให้นักรบยิ่งเสียใจ


“ผมแค่….ไม่ชิน”  ในตอนนี้นักรบเองก็รู้สึกว่ามันยากที่จะยอมรับความรู้สึก ใช่….เขาเคยไม่ชอบน้อง ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่ารู้สึกต่อน้องแบบไหน ที่แน่ๆ…..คือไม่ชอบตัวเองยิ่งกว่า….


“แม่จ๋า อย่าตีปี้ยบน้า”


“…………”


“เจง….เจง ไม่ดื้อ ไม่ดื้อ”  เจนจะไม่ดื้อ เจ้าลูกนกคงอยากจะพูดแบบนี้ เธอสงสารลูกใจจะขาด เอ็นดูมากๆด้วย ส่วนคุณรบเธอก็ไม่โกรธ เพราะเด็กชายไม่ได้ตั้งใจ และเพราะเธอเลี้ยงมา….จึงรู้ว่ามันยากต่อคุณรบที่จะรับมือกับความเปราะบางแบบนี้ได้แค่ไหน


คุณรบเป็นผู้ใหญ่เกินตัวก็จริง แต่ดูเหมือนว่าต่อให้เขาจะโตขึ้นแค่ไหน เรื่องที่อยากที่สุดก็คือการฝากฝังให้ดูแลคนอื่น เพราะเขาไม่เคยต้องดูแลใครมาก่อนในชีวิต และเพราะเป็นลูกคนเดียวที่ไม่เคยรู้สึกขาดแคลน การได้มาเจอกับเด็กที่สดใสและร่าเริงจนเกินไปอย่างเจน มันก็คงยากจะรับมือ อำไพเข้าใจและน้อยใจไม่ลงเมื่อได้เห็นว่าคุณนักรบพยายามดีที่สุดแล้วที่จะแก้ไขตัวเอง ในตอนนี้เขาไม่มีมาดเด็กชายผู้หยิ่งยโสที่อยากจะเดินหนีเจ้าลูกนกอีกต่อไปแล้ว…..


ในที่สุดเธอก็ต้องใจอ่อนให้เด็กทั้งคู่และส่ายหน้าออกมา ยอมรับในคำแก้ตัวและความช่วยเหลือทุกอย่างก่อนจะบอกว่าไม่เป็นไร เธอทำแผลให้เจ้าลูกนกที่กลั้นน้ำตาจนสุดความสามารถ และทุกครั้งที่รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา ร่างเล็กก็จะสะดุ้งโหยง และคนพี่ที่ไม่รู้ว่าอ่อนโยนขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็จับมือน้องไว้ เอาทิชชู่เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา ช่วยเจนที่ไม่อยากร้องไห้ให้สบายใจขึ้นเพราะไม่มีน้ำตาหลงเหลือที่น้ำตา


“เปี้ยงๆ เจงไม่เจ็บ ไม่เจ็บ”


“ไม่เจ็บแล้วลูก”  อำไพลูบหัวทุยนั่นเบาๆ เอ็นดูเจ้าลูกนกที่แสร้งทำเป็นเก่งและยิ้มทั้งที่น้ำตาคลอ เธอเอากล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลไปเก็บ ตั้งใจที่จะพาเจ้าตัวเล็กออกมาห่างๆคุณหนูเพราะไม่อยากให้คุณหนูรำคาญอีก ทั้งนี้เธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไรคุณรบที่ไม่เอ็นดูลูกชายของเธอ เพียงแค่คิดว่าคงจะดีกว่าหากแยกออกจากกัน ทว่าเมื่อกลับมาก็ได้เห็นว่าคุณรบ….ได้อนุญาตให้เจ้าเจนไปนั่งข้างๆขณะที่กำลังเล่นเปียโนอยู่


เด็กคนหนึ่งกำลังบรรเลงเพลงตามที่เขาได้เรียนมา ส่วนเด็กอีกคนที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในชีวิตจริงมาก่อนก็ได้แต่ตื่นตาตื่นใจกับเครื่องดนตรีชิ้นใหญ่ที่เรียกว่าเปียโน เจนไม่ดื้อไม่ซนแบบที่บอกไว้ เจ้าลูกนกไม่ได้แตะต้องของของคนพี่ที่มีราคาแพง ที่จะทำคือปรบมือเปาะแปะและจ้องมอง ‘ปี้ยบ’ ด้วยความอึ้งทึ่งและชื่นชมในความสามารถ


“ปี้ยบเก๊งเก่ง” คำชมของเด็กน้อยทำให้เขาส่ายหน้า ก็ยังคงเรียกกันว่าปี้ยบอยู่ดีสินะคนเรา


“ต้องฝึกถึงจะเก่ง”


“เจงเล่นไม่ได้ เจงโง่”


“ใครบอกกันว่าเราโง่ ไหนลองกดลงไปสิ”  เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ก่อนจะจับมือน้องมากดทีละโน้ต เจ้าตัวน้อยเกร็งอย่างเห็นได้ชัด


“คุงน้าบอกว่าเจงโง่ เจงก็โง่สิ”


“เจงไม่โง่หรอก”  เขาส่ายหน้า ลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่มีความคิดอะไรผิดๆกับตัวเอง นักรบโตมากับคำชมมากมาย เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโง่ และไม่เคยคิดว่ามีใครสมควรกับคำนั้น โดยเฉพาะเด็กตัวเล็กๆที่แค่พูดยังไม่ชัด


“ปี้ยบใจดี ยูบหัวเจง”


“แค่ลูบหัวก็ใจดีแล้วหรือไง”  เขาบอกไว้ก่อนจะขยี้หัวทุยนั่นแรงๆอย่างมันเขี้ยว แต่น้องไม่ได้ทำหน้ายู่ไม่ชอบใจกับการกระทำนั้น เจ้าลูกนกทำได้แค่ยิ้มกว้างๆ ยิ้มโง่ๆแต่มันทำให้เวลาของเด็กชายที่โตกว่าเหมือนจะหยุดหมุนไปชั่วคราว เขาเพิ่งได้รู้ว่าคำว่าเด็กน่ารัก….มันคือเด็กแบบนี้….


เจ้าลูกนกถลามากอดเขาไว้ ใช้แก้มของตนเองลูบแขนของเขาอย่างถือวิสาสะ แต่เด็กก็ทำอะไรไปตามเด็ก และเจนที่เป็นเด็กขี้อ้อนก็ทำไปตามความต้องการของหัวใจโดยไร้ซึ่งเหตุผลแอบแฝง ใครดีมาก็ดีตอบ และปี้ยบของเจงก็ดีกับเจงมาก เขาอุ้มเจงมา พูดปกป้องเจงกับแม่ และยังพามาเล่นเปียโนนี่อีก ในชีวิตของเจงที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่ปี ก็เพิ่งเคยเจอคนที่สุภาพและใจดีแบบเขานี่แหละ….ที่บ้านนอกไม่เห็นมีใครสักคนแบบพี่เขาเลย ทุกคนเดินหนีเจงเพราะเจงไม่มีพ่อไปหมด….เล่นกับยายก็ไม่สนุกเลย….ตัวจุ้นก็ยังเด็กไปเล่นแรงๆก็ไม่ได้….


นักรบที่ถูกออดอ้อนกะทันหันทำอะไรไม่ถูก เขาไม่ใช่เด็กที่คุ้นชินกับการถูกทำแบบนี้ และรอบตัวก็ไม่เคยมีเด็กเล็กๆใกล้ๆมาก่อน ชั่ววูบเขาคิดว่าชอบสัมผัสนุ่มนิ่มแบบนี้จนนึกอยากมีน้อง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าน้องของตัวเองจะน่ารักได้เท่าเจ้าลูกนกนี่หรือเปล่า และเมื่อคิดได้ว่าแบบนี้คงหาทั่วไปไม่ได้ก็กอดตอบ อยากจะรับรู้ความรู้สึกที่หายากนี่ให้คุ้มค่าเหลือเกิน


เจนไม่ได้ดื้อซนแบบที่ใครคิด เจ้าเด็กน้อยตามคนพี่ในทุกสิ่งที่เขาทำ ทั้งเล่นเปียโน อ่านหนังสือ ดูการ์ตูน จนในที่สุดก็หลับไป  ได้เวลาที่ต้องล่ำลากันแล้ว ในตอนนั้นเองนักรบกับน้องยังคงนอนอยู่ในห้องนั่งเล่นของที่บ้าน เขาไม่เคยนอนเวลานี้มาก่อน มันน่าแปลกที่วันนี้อะไรๆในชีวิตของเด็กชายนักรบต่างก็ไม่เหมือนเดิม แม่ของเจนเดินเข้ามา เธอค่อยๆอุ้มเจ้าตัวดีที่หลับใหลอยู่อย่างเงียบเฉียบด้วยกลัวจะตื่นมางอแง


อำไพจ้องมองคุณนักรบเพียงนิด ยิ้มพึงใจในความอ่อนโยนของเด็กน้อยที่เธอเลี้ยงมากับจอมซนที่เธอไม่ได้เลี้ยงแต่ช่างน่ารักน่าชังน่าฟัด น่าเสียดายที่เด็กสองคนมีเวลาน้อยไปจริงๆ หากเจนอยู่กับเขานานกว่านี้ บางทีชีวิตของนักรบคงมีสีสันมากกว่านี้ ทว่าชะตาได้ลิขิตไว้แล้วว่าพวกเขาต้องมีความจำเป็นเพื่อแยกจากเพื่อเป็นคนอื่นของกันและกัน วันพรุ่งนี้ของเจงจะไม่มีปี้ยบ และปี้ยบ….ก็จะกลับมาเป็นคุณนักรบแบบที่เป็นเหมือนในทุกวัน และทุกวัน….โดยที่ไม่มีเจง….


เพื่อที่ว่าวันหนึ่งพวกเขาจะกลับมาพบกันโดยมีน้องวินเป็นริบบิ้นผูกสัมพันธ์
.
.
.



“………..”  เขามองเจนในอ้อมกอดด้วยความรู้สึกหลากหลาย ความทรงจำมากมายชัดเจนขึ้นแม้จะยังเลือนรางอยู่ เขาพอจะจำได้แล้วว่าได้เจอกับเจนอย่างไร และเกิดอะไรขึ้นในหนึ่งวันอันแสนแปลกประหลาดของเขา น่าเสียดายที่ตื่นมาก็ไม่ได้ใส่ใจกับการหายไปของเจนนัก อาจจะเพราะวันเดียวมันไม่พอจะสร้างความผูกพันอะไร แต่บางทีเขาอาจจะเสียดายแต่จำไม่ได้ก็ได้….ที่เจ้าลูกนกบินหนีไปในตอนนั้น ลูกนกที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนไม่ใช่นักรบในทุกวัน


“แฟนพี่รบน่ารักมากไหมถึงได้เอาแต่มองแบบนั้น”  เจนที่นั่งอยู่ที่หว่างขาของเขาพูดขึ้น ทั้งที่ไม่เห็นแต่ก็ยังจะคิดไปเองว่าเขามองอยู่ ขี้มโนนะเราอ่ะ แต่ใช่….เขามองอยู่จริงๆ


“ไม่น่ารักมั้ง”  เขาตอบก่อนจะดันร่างเจนให้เอนไปอีกด้านทั้งๆที่ยังกอดน้องวินอยู่ จับแก้มของเจนมาบีบจนปากจู๋ก่อนจะจูบแรงๆด้วยความมันเขี้ยว เจนของเขาในวันนี้ ยังคงน่ามันเขี้ยวเหมือนน้องเจงในวันนั้น


“ปี้ยบ! เอ็บ!” เจ็บ!


“………..”


“เอาอือออกไอ!”  เอามือออกไป! บีบมาได้นะคนเรา


“เรียกใหม่สิ”


“หืม”


“เรียกปี้ยบใหม่สิเรา”


“แล้วไม่ได้ชื่อรบหรือไง”  เจนถาม ทั้งงงทั้งรำคาญ เจ้าลูกกบเอาของเล่นตีคนพ่อ งี่เง่าและยังวุ่นวายจริงๆ


“เรียกสิ”


“พี่รบ”


“ปี้ยบสิ”  ก็ยังจะเอาให้ได้


“ปี้ยบ”  เรียกก็ได้วะ แล้วเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พอใจก็ยิ้มกว้าง หอมแก้มเจนดังฟอดหลายฟอดจนต้องยู่หน้ารำคาญ


“น่ารักมากเจ้าลูกนก”


“เป็นบ้าอะไรของพี่เนี่ย”  เจนถาม หรือว่าจะทำงานหนักไปจริงๆ แต่เจนไม่รู้อะไรเพราะตอนนั้นยังเด็กมาก นักรบอยากจะโอนถ่ายความทรงจำในหัวของเขาให้อีกฝ่ายจะแย่แต่ก็ต้องตัดใจ เขาจูบหน้าผากเนียนแผ่วเบา รู้สักรักและเอ็นดูคนรักมากขึ้นในวันนี้ เมื่อคิดดูแล้วเจนสร้างความประทับใจให้กับเขาได้เสมอ บางทีมันก็เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่วันวาน


และไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้เสมอไป….


“แต่ก่อนเจนเรียกตัวเองว่าเจงกับหนูแล้วเรียกพี่ว่าปี้ยบ”


“……..”


“ลิ้นไก่สั้นนะเรา มีมาต่อรองพี่ด้วยว่าเรียกพี่รบยากไป เรียกปี้ยบได้ไหม”


เจนเขิน ไม่อยากเชื่อเขาเพราะถ้าเป็นจริงนี่มันน่าอายมากๆ แต่ก็เด็กอะเนอะ น่ารักจะทำอะไรก็ไม่ผิด และเจนก็ไม่เคยผิดเพราะเจนน่ารัก และนักรบคงคิดเช่นนั้น เขาค่อยๆผละออกมาและจูบลงบนหัวเข่าของเจนที่เคยหกล้มยามวิ่งตามเจนมองการกระทำนั้นอย่างงุนงง เขาที่เงยหน้าขึ้นมามองคนที่เอียงคอสงสัยก็ยิ้มให้


“โชคดีที่ไม่มีแผลเป็น ไม่งั้นคงต้องยกขั้นหมากไปสู่ขอกันแต่แรกเลย”  นี่ก็พร่ำเพ้ออะไรไม่รู้ เจนงง แต่เจนไม่ได้โง่นะ


“ไม่มีแผลแล้วจะทำไม ไม่มาขอเหรอคนบ้า เอาลูกเขามานอนกกอย่างงี้แล้วไม่รับผิดชอบนะ”แล้วใครกันเอาลูกกบของชาวบ้านไปนอนกกเป็นแม่ไก่แบบนี้ เขาหรี่ตามอง อยากจะเคลมกลับใจจะขาด แต่ไม่ดีกว่า แม่ไก่อาจจะหยิกกลับจนเนื้อเขียว


“เดี๋ยวให้น้องวินพาพ่อยกขันหมากไปขอเลย เรียกร้องมากนักก็บอกมาว่าเอาสินสอดเท่าไหร่”  เจนหรี่ตามองพ่อคนรวยที่คลานเข้ามาชิดก่อนจะกอดเจนที่กอดลูกเขาอยู่อีกครั้ง สินสอดเหรอเจนไม่เคยคิดเลย เอาเป็นทองหนักตามอายุของเจนดีไหม อื้ม…มันก็ดูจะน้อยไปหน่อย เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน ถ้าจะเรียกร้องขอให้กอดกันตลอดไปนี่จะเยอะไปไหม แต่ให้น้อยกว่านี้ไม่ยอมแน่ๆ เจ้าลูกนกจะไม่ยอมนกอีกแล้ว!


“เป็นปี้ยบของเจงตลอดไปละกันนะ”  เจนพูดอย่างน่ารักก่อนจะเอียงซบกันอย่างออดอ้อน มันทำให้เขายิ้มออกมา และคิดได้ว่าพรหมลิขิตมันคงมีอยู่จริงๆและเขาไม่นึกเสียดายเวลาเลยที่เจ็บปวดมาเพื่อได้รับความสุขที่มากมายในวันนี้มันช่างคุ้มค่าเหลือเกิน


เพราะเขาได้เจงของปี้ยบคืนมาในอ้อมกอดจริงๆแล้ว….



Talk:  ยังไม่ลืมเจนกันใช่ไหม ไม่ได้มานานแล้วเพราะเรามัวแต่นอน5555 นอนเก่งค่ะ อ่านนิยายก็เก่ง ดูหนังเก่ง แต่ทำงานไม่เก่งและแต่งนิยายไม่เก่งเบย ฮืออออออออออ555555 ยังมีคนรอตอนพิเศษของเจน เรื่องเต็มของน้องวิน และอาทิตย์ศศิอยู่ไหม อย่าเพิ่งลืมเรานะ เราก็จะพยายามไม่ลืมและขุดตัวเองมานั่งเขียนให้ได้เลยค่ะ

สำหรับที่คุงน้าที่เจนพูดถึง คือน้องยังเด็กเลยไม่ได้อธิบายชัดว่าน้าไหน จริงๆแล้วเจนพูดถึงน้าเขยที่ชอบใช้ความรุนแรงนะคะ น้องค่อนข้างจะซึมซับและมีอคติแบบที่เราเห็นในตอนโต ทั้งนี้มันเพราะเขาถูกทรีทมาตั้งแต่วัยเท่านี้เลย แต่เจนนี่เป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆโดนด่าว่าโง่น้องก็ยังมองงงๆ เอ๊ะหรือโง่จริงๆ จริงๆก็ไม่โง่หรอกค่ะแต่ยังเด็กก็ต้องใจเย็นกันหน่อยเนาะ โตมาก็ออกจะเก่งเนอะ เก่งแบบเอ๋อๆเด๋อๆไปหน่อย

ยังไงก็ยังขอฝากเรื่องนี้ไว้ต่อนะคะ ยังไม่จบเลยจริงๆแล้ว มีตอนพิเศษที่ต้องลงอีก และยังมีเรื่องเต็มของพ่อหนุ่มน้อยอีกเรื่องอีก ช่วยรอกันหน่อยนะคะ ขอเราไปเฆี่ยนอีกเรื่องก่อนน้าๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 18-11-2018 20:57:51
โธ่หนูเจงกับปี้ยบในที่สุดก็ได้สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ของตัวเองละน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-11-2018 20:59:58
 :L2: :L1: :pig4:

คิดถึงครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 18-11-2018 21:33:41
คิดถึงเด็กวิน
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-11-2018 21:35:47
เคมีแรงมาตั้งแต่เล็ก
ชอบมาก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 18-11-2018 22:09:12
น่ารักกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-11-2018 22:51:03
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-11-2018 23:27:29
 :man1: ช่างน่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 27-11-2018 22:44:00
 :pig4: :L2: :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ4 #ปี้ยบกับน้องเจง) 18.11.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-11-2018 09:33:46
เรื่องนี้คือไม่ว่าอ่านตอนไหนก็มีความสุขตลอดเลย รอค่ะ :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 09-12-2018 20:28:20
ลิตเติ้ลอัดชะวินกับเจนและคนหน้าดุของเขา
น้อง5ขวบแล้ว ตอนที่ 2
#วันแม่ของน้อง

จะรูปแบบการใช้ชีวิตแบบไหน มันก็ย่อมต้องมีปัญหาเกิดขึ้น เจ้าลูกกบโตขึ้นทุกวัน และปัญหาต่อจากนี้ที่ต้องเผชิญคือวันแม่แห่งชาติ ซึ่งเจนประสบปัญหาตั้งแต่เด็กตลอดช่วงอยู่ในไทย ไม่ได้อยากให้ยกเลิกวันแม่ แต่อยากให้ยกเลิกธรรมเนียมประเพณีบ้าบอคอแตกบางอย่างออกไปจากชีวิตเด็กสักที มันก็ไม่จำเป็นต้องตอกย้ำใส่เด็กบางคนที่เขาไม่มีแม่…


อย่างน้องวินเป็นต้น!


“เดี๋ยวพี่เจนพาน้องวินไปเที่ยวดีกว่า เรามาลาหยุดกันเถอะเนอะ”  ก็ไม่รู้ว่าเจนคิดแทนน้องเกินไปหรือเปล่า  แต่เจนจำตัวเองที่ร้องไห้ทุกครั้งในพิธีไหว้แม่ในวันแม่ของโรงเรียน คือมันไร้สาระมากแต่ก็ทำให้ใจชอกช้ำมากเช่นกัน เออ…แม่เจนไม่ได้ตาย แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วจะคิดถึงบ้างไม่ได้หรือไง!


การเห็นคนอื่นทำซึ้งไหว้แม่ในวันนั้นมันสนุกตรงไหน ซึมมากนี่ผ่านมาหมดแล้วบอกเลย! และอวยน้องวินมากๆด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นในชีวิตน้องจะต้องลาหยุดทุกวันแม่อ่ะบอกไว้เลย จัดเป็นวาเคชั่นของครอบครัว ลาหยุด 1 วัน และมีวันหยุดราชการอีกวันไปเที่ยว ครูคนไหนมาวอแวใส่น้อง นี่ก็จะเดินไปฟาดฟันใส่ให้หมดอ่ะ แม่งเอ้ย!


“เจนจะอยู่กับน้องทั้งวันไหม” 


“แน่นอนสิ”  ไปลากน้องมาหยุดแล้วไม่อยู่กับน้องก็ดูจะหมาเกินไป เจนทำไม่ได้บอกตรงๆ เพราะงั้นเรามาหยุดแล้วไปเที่ยวด้วยกันนี่แหละ ทุกๆวันแม่ในชีวิตน้องวินจะต้องมีเจนอะบอกเลย ไม่ได้อินกับการเป็นแม่ แต่รับผิดชอบเรื่องสั่งให้ลาหยุด เป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไรก็ไม่รู้เนอะ งี่เง่าอ่ะ แต่อย่างน้อยก็รอให้น้องโตมาอีกสักหน่อยดีกว่า รู้ความแล้วคุยกันรู้เรื่อง จะไปเข้าร่วมพิธีนี่ก็จะไม่ว่าอะไร ขออย่างเดียว…น้องห้ามน้อยใจที่ไม่มีแม่นะ  พี่เจนจะเสียใจมากจริงๆ


เจนรู้ว่าไม่สามารถทดแทนให้น้องได้ในส่วนตรงนี้ แม้จะทุ่มเทและทิ้งชีวิตส่วนตัวที่ควรจะรุ่งโรจน์ในอีกแบบมาเลี้ยงลูกให้คุณรบแค่ไหน แต่ในความเป็นจริงคือไม่มีใครแทนที่คุณรดาได้ เจนไม่ได้คลอดมา แถมยังไม่ได้ใกล้เคียงกับการเป็นเพศที่คลอดน้องออกมาได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นตนจึงไม่คิดจะหวังให้น้องมองกันเป็นแม่เพียงเพราะเป็นคนรักของพ่อ ทุกวันนี้แค่รู้ว่าน้องรักและหวงกันมากมายก็ปลื้มจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว


“แต่น้องอาจจะไม่ได้คิดเหมือนเจนก็ได้นะลูก อยู่ๆก็ให้น้องวินหยุดนี่ มันจะดีเหรอ”  อำไพท้วงลูก เธอไม่เห็นด้วยแม้จะเห็นใจกับสิ่งที่เจนต้องเจอ แต่อย่าลืมสิ คนเราไม่เหมือนกันเสียหน่อยทว่าคนมีประสบการณ์ตรงยิ่งไม่สนใจ ก็คนมันอคตินี่จะทำอะไรได้ ส่วนนักรบที่ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมเหมือนชาวบ้านนักจึงเฉยๆอยู่แล้ว ที่เรียนจบมาได้เพราะรวยล้วนๆ


“น้องวินอยากไปโรงเรียนไหมครับ” เจนหันไปถาม


“น้องอยากอยู่กับเจน” ให้มันได้อย่างนี้สิลูกใคร!


“ไปกันใหญ่แล้วเนี่ย”  อำไพที่กังวลต่ออนาคตของรัตนสกุลนั้นส่ายหัว จริงๆไม่มีใครค้านอะไรเจนหรอก มีแค่เรื่องนี้ที่เจนเอาแต่ใจ ส่วนวันอื่นๆก็เห็นกระตือรือร้นล่อลวงเจ้าลูกกบไปโรงเรียนดี เรียกว่าพี่เจนว่าไงน้องก็ว่างั้น ชี้ไม้เป็นนกสุดๆไปเลยล่ะคนนี้


“น้องมีของมาฝากย่าๆทุกคนด้วย”  น้องวินที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนนั้นหยุดการมีปากเสียงในบ้านด้วยการเรียกความสนใจของทุกคน เจ้าตัวเล็กค่อยๆนั่งลงกับพื้น เปิดกระเป๋าและหยิบของบางอย่างออกมาให้ ก่อนจะเดินไปหาคุณย่าพรรณีที่นั่งอยู่ที่โซฟา


“ตาหนู…ลูก…”เธอถึงกับพูดไม่ออก


“ดอกมะลิฉวยๆให้คุณย่าครับ”  ครั้งล่าสุดที่เธอได้รับมันคือตอนที่นักรบเด็กๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้มีโมเมนท์นี้อีก เธอรับมันมาก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวา จริงๆทำแบบนี้มันช่างอบอุ่นนัก สำหรับเจนที่ยิ้มจนแก้มแทบแตกนั้นชอบแบบนี้มากกว่าไปทำซึ้งที่โรงเรียนเสียอีก


ทว่าน้องยังไม่หยุดแค่นี้..


“น้องมีมาให้ย่าไพกับย่าจินด้วย”  ในตอนนี้อดีตพี่เลี้ยงของคุณป๋าและผู้ใหญ่อีกคนต่างก็พากันตกใจไปพร้อมๆกัน เจ้าตัวเล็กวิ่งไปคว้าเข็มกลัดดอกมะลิในกระเป๋าอีกสองดอกมาและทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าคุณย่าทั้งสอง น้ำตาแตกจริงๆทั้งคนได้รับทั้งคู่และคนมองอย่างเจนรักษ์…


เจนเลี้ยงน้องมาดีจริงๆ ภูมิใจกับตัวเองยิ่งนัก


“ตังค์น้องหมดแย้ว”  คาดว่าวันนี้เจ้าตัวดีคงไม่ได้กินขนมที่ตนชอบแต่พี่เจนแสนชังในคุณภาพที่ไม่เหมาะสมกับโภชนาการที่ควรได้รับ อดทนได้ดีมากเจ้าลูกกบ เอ็นดูเสียอยากจะขับรถพาไปกินบิงซูในตอนนี้เลยจริงๆ


“ขอบคุณมากค่ะน้องวิน ขอให้หนูมีแต่ความสุขความเจริญนะลูก”  น้าจินกล่าวอวยพรให้ น้องยิ้มร่า กอดคนนั้นทีคนนี้ที ก่อนจะวิ่งกลับมาหอมแก้มคุณย่าพรรณีอีกครั้ง ถึงจะซนแต่เป็นเด็กดีมีคุณภาพจริงๆ


“เป็นเด็กดีมากเจ้าลูกชาย”  นักรบเองที่ได้เห็นก็ปลาบปลื้ม เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยทำอะไรแบบนี้ แต่ในทุกๆปีที่อยู่ไทย เขามักจะพาทุกคนในบ้านไปทานข้าวข้างนอกอยู่แล้ว อาจจะไม่ได้พูดว่าสำหรับวันอะไร แต่ก็หวังให้ทุกคนเข้าใจในความพูดน้อยนี้ เขายิ้มก่อนจะหันไปลูบหัวเจนที่ต้องยื่นมือไปหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา


“เห็นแล้วดีใจจัง”  เจนพูดเช่นนั้นพลางซับปลายหางตา


“น้อยใจไหมเนี่ย”


“น้อยใจทำไม ดีใจมากด้วยที่น้องเป็นเด็กดีแบบที่เจนหวังไว้” 


“แบบที่เราหวังไว้เลยล่ะ”  สำหรับเขา เจนอาจจะไม่ใช่แม่ของน้อง แม้จะมีสถานะพ่วงเป็นคนรักของเขา แต่เจนเป็นมากกว่านั้น และเขาก็เชื่อว่าลูกชายก็รักเจนอาจจะเหมือนกับที่นักรบรักคุณพรรณีแบบนั้น


“เจน!”  ทว่ายังไม่ทันได้น้ำตาแห้งเลย น้องวินก็วิ่งร่าเข้ามาหากัน เจนยิ้ม อุ้มน้องมานั่งตัก


“น่ารักมากครับวันนี้”


“แต่ตังค์น้องหมดแย้ว”


“เดี๋ยวพี่เจนเลี้ยงไอติมเอง”


“เย้ๆ อันนี้ให้เจนนะ”  แค่ได้ยินคำว่าไอติม เด็กตะกละก็ส่งเสียงดีใจ ทว่าก็ไม่ลืมที่จะยื่นของสำคัญให้ เป็นถุงผ้ารูดเชือกที่ใส่ของใช้จุกจิกของน้องไปโรงเรียน เจนเป็นคนซื้อมาให้เอง เด็กนี่นะ ตังค์หมดแล้วเลยมาหลอกเงินยายซื้อขนมยายเหรอ ทว่าเมื่อคลายเชือกและเปิดดูของภายใน…


เจนก็พูดอะไรไม่ออก


“เจนชอบอันนี้ น้องเลยไปซื้อมาให้ แต่น้องไม่มีตังค์อ่ะเลยได้แค่ดอกเดียว” ดอกกุหลาบสีขาวกับการ์ดทำมือนะเหรอ? ที่น้องวินทำมาให้


เจนไม่ใช่แม่…น้องเองก็ไม่รู้ว่าคนเป็นแม่ต้องทำยังไงบ้าง ทว่าทั้งชีวิตนี้ตนมีเจนเป็นเหมือนทุกอย่างที่เข้าใจ เรียกว่าเป็นตัวตนของคนที่ขาดไม่ได้ ขาดไปแล้วจะคิดถึงมากๆดีกว่า และเพราะเจนไม่ชอบดอกมะลิเท่าไหร่เพราะมีความรู้สึกฝังใจกับวันแม่ ท่าทางที่ไม่ชอบนั้นทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกว่าต้องให้อะไรบางอย่างที่พิเศษกว่าก็เลยแอบไปขอซื้อกุหลาบขาวมาดอกนึงที่ร้านขายดอกไม้แถวโรงเรียน คนขายที่เห็นและเอ็นดูจึงลดราคาให้พร้อมตัดก้านและหนาม ก่อนจะจัดให้อยู่ในสภาพคงทนที่สุดจนกว่าจะถึงมือผู้รับ และตอนนี้เจนก็ได้รับมันมาแล้ว


น้องคงเห็นว่าเจนชอบมองกุหลาบขาวร้านนั้นบ่อยๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับดอกไม้นี่มันไม่สามารถบรรยายออกมาได้ รับรู้ถึงความรู้สึกรักของน้อง ทว่าด้วยความไม่เคยคาดหวังอะไรแบบนี้ทำให้ตนไปต่อไม่ถูก นักรบที่พลาดให้แก่ลูกชายในวันนี้ทำได้แค่คว้ากล่องทิชชู่มาไว้ใกล้มือ ก่อนจะดึงและยื่นให้คนที่กำลังจะเขื่อนแตกอีกรอบ


“ใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆพูดค่อยจา”  เขาบอก ยิ้มให้กับคนรักและลูกชายที่น่ารักของตัวเอง เอาเป็นว่าเขาจะยกให้เจ้าลูกกบซักครั้งนึงละกัน


“เจนเป็นอะไร”  น้องถาม เจนนั้นคว้ากันไปกอดรัดแน่นขึ้น ไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกแช่มชื่นใจ แบบนี้ในวันแม่มาก่อน ทว่าน้องก็ทำให้เห็นได้ว่าวันนี้ในทุกๆปีของเจนต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปตลอดการณ์ เจนไม่ใช่แม่ แต่ก็ดีได้เทียบเท่าแม่ของน้องแล้วใช่ไหม น้องไม่รู้สึก ก็ทั้งชีวิตไม่เคยมีแม่เลยนี่นา มีแต่เจนเสมอมา และคนอื่นๆในครอบครัวที่รักน้อง ดังนั้นมันไม่สำคัญหรอกว่าน้องจะแสดงความรักให้แม่ได้ที่ไหนในวันนี้ เพราะวันที่เกี่ยวข้องกับความรัก ก็ควรแสดงความรักต่อคนที่มีอยู่ใกล้ๆนี่สิ


“ฮึก พี่เจนรักน้องวินมากๆนะครับ”  พูดไปพลางสะอึกสะอื้นไป นักรบทำได้แค่ช่วยเช็ดน้ำตา


“โอ๋ๆนะ น้องก็รักเจนมากเท่าฟ้าเล้ย”  พูดพลางลูบหัวให้ เป็นภาพที่จะว่าซึ้งก็เผลอขำออกมาจริงๆ แต่อย่างนี้มันดีแล้วล่ะ เป็นบ้านรัตนสกุล เป็นครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้มันดีพอแล้วล่ะ ต่อจากนี้ไปบ้านหลังนี้คงมีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เคล้าคลอกับเสียงสะอื้นต่อไป แต่ทั้งหมดทั้งมวล สะท้อนให้เห็นว่าเรารักกันมากแค่ไหน


ขอบคุณที่น้องวินได้เกิดมา
ขอบคุณเจนที่ก้าวเข้ามาหา
และขอบคุณนักรบที่ไม่เคยย่อท้อ
ต่อจากนี้เรามามีความสุขกันต่อๆไปจากนี้เถอะนะ!

xxx


“แล้วไม่มีของคุณป๋าเหรอ”  นักรบถาม นึกอยากแซวเจ้าลูกกบที่ตอนนี้ปลอบเจนจนหยุดร้อง


“ไม่มี…”


“เดี๋ยวคุณป๋าให้ตังค์ไปซื้อมาให้”


“น้องไม่ซื้อ”


“….”


“ใครให้ดอกมะลิคุณป๋าในวันแม่กัน รอวันพ่อก่อนสิน้องจะเก็บตังค์ซื้อให้”


“ตาหนู”


“ใจร้อนจังคุงป๋านี่ อ๊ะ!อย่ามาหอมนะ!!!!”  และไม่ต้องเดาเลยว่าใครคว้าน้องวินจากอกแม่นกไป เป็นพ่อกบแน่แท้แล้วที่ทั้งมันเขี้ยวและเอ็นดูเจ้าลูกชายคนนี้ ขอบคุณจริงๆที่เกิดมามอบความสุขอันมากมายให้กับเขา และขอบคุณมากๆที่รักกัน


แม้เราจะรัก…ในแบบของเรามากๆก็ตาม…


xxx


“ขำคุณรบกับน้องวินจัง หวงพี่เจนจนเข้าไปขัดขาแบบนั้น”  พระพายหัวเราะออกมา สิ่งที่ตนได้เห็นในร้านกาแฟตอนพี่เจนมีคนมาจีบนั้นช่างน่าขัน จนอดไม่ได้ต้องมาเล่าให้คนรักฟังโดยกำชับว่าครั้งนี้ไม่ควรจะเพชรรู้โลกรู้เหมือนเคย


“ถ้ามีคนมาจีบพระพายพี่ก็เข้าไปแน่นอนครับ”  เพชรจะทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครแย่งน้องไปจากเขาได้


“จะเข้าไปแบบคุณรบเหรอครับ”  เข้าไปทำหน้าซื่อแต่กดดันชาวบ้านและพูดข่มทุกคำแบบนั้นนะเหรอ น่าสนแฮะ ทำให้หึงสักทีดีไหมเนี่ย


“ไม่เหมือน เพราะพี่ไม่ใช่คุณรบ”  เขาไม่อาจจะเป็นแบบเจ้านายได้ ถ้าน้องโดนจีบคงไม่ทำแบบนั้นเพราะมันอาจจะไม่ให้ผลชะงัก


“แล้วจะทำไงครับ”  พระพายถาม ดวงตาวิบวับอยากรู้อยากเห็น


“อยากรู้เหรอครับ”  เพชรถาม เขาตาเป็นประกายอยากสาธิต น้องก็พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

   
เขาจึงเขยิบไปควงแขนพระพาย


“พี่จีบผัวหนูเหรอคะ”  และแสดงให้ดูว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ๆ พระพายนิ่งอึ้งไปกับสีหน้าและท่าทางแบบนั้นที่จู่ๆก็เปลี่ยนไปของคนรัก


อย่าบอกนะว่า…


“อย่ามายุ่งกับผัวหนูนะ แต่ถ้าเหงา จีบหนูได้นะคะ จุ๊บๆ”  โหยยยยยยยย นี่มัน….


คนเราต้องลงทุนสร้างอินเนอร์ให้ตัวเองเบอร์นี้เลยเหรอ


“งั้นพระพายจะพยายามไม่ให้ตัวเองโดนจีบ พี่เพชรจะได้ไม่ลำบาก”  น้องค่อยๆจับแขนของเขาที่คล้องกันออกไปอยู่ใกล้ๆแล้วขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ว่าแต่วิธีนี้ มันคูลกว่าการหวงก้างแบบคุณรบและลูกกบตรงไหน


“น้องพระพายจะไหวเหรอคะ ให้พี่เพชรช่วยไหม”  นั่น…ยังคงอินกับบทบาทอยู่นะ แล้วท่ายืนแอ่นตูดบิดขาอะไรนั่นล่ะ ใครเขาเสี้ยมสอนกันเอ๊ะ!หรือว่าเป็นอยู่แล้ว


ก็ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นปริศนาธรรมกันต่อไป…


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


Talk: 
จริงๆนี่ดองเรื่องนี้ไว้นานมากและคงจะลงลำดับเรื่องผิดเอาเจนกับปี้ยบขึ้นก่อนอีก ฮือออออออ ความอดนอนนี่
แอบมีเพชรพระพายในนี้มาด้วย หวังว่ายังมีคนจำพระเอกที่ชื่อพี่เพชรได้5555
น้องวินก็จะขี้บ่นแบบเจนนิดหน่อย ตรงนี้ต้องรู้ว่าใครเลี้ยงมาด้วยนะคะ5555
ต่อจากนี้ไปยังมีตอนพิเศษเคลจุ้นที่จะลงในนี้อีกรวมถึงเรื่องเดี่ยวของน้องวิน ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ
สำหรับเรื่องที่แต่งและลงประจำช่วงนี้อยู่จะมีเรื่อง finding the twilight #อาทิตย์ศศิ ที่เป็นแฟนตาซีออกพีเรียดที่จริงจังมากอยู่ ตอนนี้เริ่มทยอยลงมาถึงตอนที่ 6 แล้ว ไปตามอ่านระหว่างรอกันได้นะคะ แต่เป็น mpreg นะคะ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764)



ใกล้จะหนาวแล้ว(เหรอ)
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
#เจนไม่นก
@reallyuri
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 09-12-2018 20:58:40
น้องวินเด็กดี  น่ารัก :3123: :3123: :3123: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 09-12-2018 21:10:44
รักเด็กชายวิน  อยากเห็นวินช่วงอายุ 10. 15. เข้ามหาลัย เรียนจบคริคริ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 09-12-2018 21:31:02
ลูกกบเป็นเด็กดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-12-2018 23:13:43
น่ารักมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-12-2018 00:50:41
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-12-2018 19:44:23
ลูกกบน่ารักจัง อยากฟัดๆๆๆๆๆ แก้ม :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 10-12-2018 21:23:13
 :กอด1: ลูกกบของป้าาาาาาาเอ็นดูแรงงง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-12-2018 21:43:25
โอ้ยยยยยยย ตลกพี่เพชร 5555
แย่งซีนมรกอ่ะพูดเลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-12-2018 22:24:46
เจ้าลูกกบน่ารักมากเลยทำพี่เจนเขื่อนแตกอีกแล้ว
ส่วนพี่เพชรนี้อินเนอร์แรงไปหน่อยนะ 555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2018 11:57:12
 :man1:  เอ็นดูเด็ก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 13-12-2018 01:17:28
ลูกกบน่ารักตลอด
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 13-12-2018 05:22:47
น่ารัก  :m3: สุขใจ  :m1: ฟิน  :mc2:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : วันแม่ของน้อง) 12.12.2018 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: wipor ที่ 13-12-2018 10:34:48
เขียนได้น่ารักมากเลยค่ะ มุกเยอะ เขียนละเอียดมาก 
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-12-2018 19:24:16
รบเจน VS เคลจุ้น
**เป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากที่ตัวจุ้นที่หนีไปกลับมาแล้วอะคับ




คือก็มีคิดไว้ว่ามันอาจจะเป็นแบบนี้…แต่ไม่คิดว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ


“มึงคิดเหมือนกูไหมวะ บี1”  เจนหันไปถามคู่หูที่สูงกว่า 2 เซนติเมตร


“กูก็คิดเหมือนกันว่ะ บี2” ตัวจุ้นเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง คิดถึงเมื่อตอนที่อยู่ด้วยกันแล้วต้องออกมาเจอเจนก็ยังมีท่าทีอิดออดอยู่นะ แต่พอเจอคนที่คุยถูกคอด้วย


เราสองคนก็เหมือนจะไม่มีตัวตนไปเลย


“ผมเห็นด้วยว่าธุรกิจพลังงานน่าสนมากๆ โดยเฉพาะพลังงานทางเลือก”


“ใช่ครับ ทางรัตนสกุลก็มีการลงทุนตรงนี้อยู่เหมือนกัน”


“ทางคูเปอร์จับธุรกิจด้านแฟชั่นมากกว่า แต่ผมเองก็มีการซื้อหุ้นพวกนี้ไว้เหมือนกัน” ก็ไม่ใช่ว่าเจนกับจุ้นไม่มีความรู้ความสามารถในสิ่งที่สองหนุ่มคุยกัน แต่…


ไม่รู้จะแทรกตรงไหนเลยทีเดียว


“พวกเรานี่มาเป็นก้างขวางคอเขาหรือเปล่านะ”  เจนหันไปชนแก้วไวน์กับตัวจุ้น เราดื่มกันมาสักพักแล้วตั้งแต่มื้อเย็น ซึ่งเจนก็ยั้งมือยั้งปากไว้บ้าง สภาพตัวเองตอนเมาน่าดูที่ไหนกัน ส่วนตัวจุ้นเองก็ไม่ได้ดื่มเยอะ ไม่ใช่ว่าคออ่อนหรอก แต่แค่ไม่อยากก็เท่านั้น


ตอนนี้เราอยู่ที่บ้านคูเปอร์ ทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว และถือโอกาสที่คุณรบมาตามกันจึงได้แนะนำเขยใหม่แกะกล่องให้เลย ซึ่งน่าแปลกมาก เจนไม่เคยกระตือรือร้นจะพาแฟนมาแนะนำตัวเพราะไม่เคยคิดว่าตนจะอยู่รอดตลอดฝั่ง จึงเลี่ยงจะพาครอบครัวมาผูกพันกับคนรัก กับวิลเลี่ยมก็เคยจะพามาพบผู้ใหญ่ที่บ้านแล้ว แต่สุดท้ายดันไปจับได้ก่อนว่าเขามีเมีย ทุกวันนี้คุณรบเลยกลายเป็นคนแรกที่เจนพามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่าเป็นที่ชื่นชอบจนน่าหมั่นไส้


ผู้ใหญ่ของทางบ้านก็ได้ขึ้นไปนอนที่ห้องแล้ว เหลือแต่พวกเด็กๆที่ยังคงดื่มกินพูดคุยกัน จริงๆเจนก็ไม่ได้เจอตัวจุ้นนาน เราก็ควรจะมีอะไรมาคุยอัพเดทกันบ้าง แต่ไม่เลย เหม็นขี้หน้ามาก ด่ากันในไลน์มาเยอะแล้ว ไม่คิดอยากจะคุยกันอีก ตัวจุ้นยังแอบเคืองเจนไม่หายที่เป็นคนพาพี่เคลมาหา ทั้งๆนี้สุดท้ายแล้วคนที่ฟินสุดก็มันนี่แหละ ทำมาเป็นสะดีดสะดิ้ง


“กับพี่เคลนี่เปิดตัวได้แล้วใช่ไหม”


“เปิดอะไร”


“อ้าว….วันก่อนพี่เขาพูดเองนะว่าอยากอยู่กับแฟน มึงไม่ได้อยู่กับเขารึไง”


“ไม่ได้อยู่!”  แล้วเถียงหน้าดำหน้าแดงทำไม เจนหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ และแน่นอน ไม่เชื่อใจเลยสักนิด ที่คอมันเนี่ย…รอยอะไรหึ


“……….”คนพี่ที่ไม่มีความเชื่อถือกันอยู่จัดการเขี่ยปกเสื้อของน้องชาย เผยให้เห็นร่องรอยที่ลำคอ


“ยุงตัวใหญ่เนอะ”


“………..”


“กัดซะช้ำเลย รุนแรงกันจิ๊งงงง คนสมัยนี้” 


“เจน….” ยิ่งพูด ก็ยิ่งขึ้น….


และพอขึ้นแล้วอะไรก็หยุดไม่ได้ สองหนุ่มที่นั่งบนโซฟาจะก่อสงครามกันรอมร่อ ตัวจุ้นจ้องมองพี่ชายด้วยสายตาเหยียบเย็น ทว่าคนพี่แคร์ที่ไหน ยังคงยิ้มลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกรู้สาอะไร ด้วยความหมั่นไส้ทั้งหมดที่ตัวจุ้นพอจะมี เจ้าของร่างบางได้พุ่งเข้าใส่ก่อนจะถลกเสื้อของเจนรักษ์ขึ้นมา เผยให้เห็นร่องรอยแมลงกัดไม่ต่างกันเต็มแผ่นอก การที่คุณรบใจดีไม่ทำที่คอไว้ ไม่ได้หมายความว่าในร่มผ้าจะไม่มีนะ เจนยังจำได้ว่าที่ต้นขาของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยสัปดนของเมื่อคืนวาน


“ไงล่ะคนเรา”  ก็ไม่ได้ต่างกันหรอก ตัวจุ้นเหยียดยิ้มอย่างพอใจที่เอาคืนได้สำเร็จ เจนนั้นหน้าแดงออกมา ทั้งโกรธทั้งอาย แต่ก็เสตาไปมองคนทำ และเมื่อเจนมองไปที่โต๊ะอาหารตรงนั้น ตัวจุ้นก็มองตาม….


ก่อนจะพบว่าต่อให้แก้ผ้าตรงนี้…ก็ไม่มีใครสนใจ….


“………..”นายก็คิดเหมือนฉันใช่ไหม B1


“………..” คิดอยู่เหมือนกันเลยอ่ะ B2


ได้เวลาเรียกผู้ชายกลับห้องแล้ว!


แต่ผู้ชายที่ถูกกล่าวถึงกลับไร้เงื่อนงำว่าตอนนี้คนรักได้หายไปไหนกันสองคน ก็มันน่าน้อยใจไหม ตีกันจะเป็นจะตาย แทบจะถอดเสื้อออกมาสะบัดใส่หน้ากันก็แล้วยังไม่มีใครลุก งานนี้คู่อาฆาตอย่างเจนกับจุ้นจึงขอจับมือกันไม่ทน เดินขึ้นห้องปล่อยแฟนหนุ่มของตนทั้งสองคนนั่งคุยกันต่อไป บอกเลยว่าเจนจุ้นไม่อ่อนโยน เดี๋ยวเรารู้กัน ได้ๆ…


ตัดภาพมาที่ชายหนุ่มทั้งสองที่ยังคงแลกเปลี่ยนทัศนะจนไม่รับทราบว่าเจ้าลูกแมวสองตัวของพวกเขาอยู่ที่ไหน เศรษฐกิจการเมืองรอบโลกถูกนำมาพูดคุยจนคิดว่าอีกนิดคงต้องพาลไปถึงเศรษฐกิจดาวพลูโตแล้วหากจะคุยกันยาวขนาดนี้ นักรบหยิบมือถือขึ้นมาดูนาฬิกา นี่มันก็ดึกมากแล้วจริงๆ แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้วด้วย เขากำลังจะบอกกับพี่ชายของคนรักเลยว่าคงต้องไปแล้ว ทว่ามือถือกลับส่งสัญญาแจ้งเตือนบางอย่าง


ไม่ใช่แค่ของเขา แต่ของเคลวินก็ด้วยเช่นกัน….


“………..” นายก็คิดเหมือนฉันใช่ไหม B1


“………..”อย่าเอาไว้เลยนะ B2


ได้เวลาไปจัดการกับเด็กชอบเรียกร้องความสนใจแล้ว…


เจนกำลังคิดว่าที่ตนทำไปเพราะแรงอารมณ์นี่จะส่งผลเสียใดๆหรือเปล่า อย่างไรพรุ่งนี้ก็ต้องกลับประเทศ กำลังหาเรื่องไม่ให้กลับดีอยู่ใช่ไหม แต่นี่ก็เป็นพวกยุขึ้นไง แล้วไอ้จุ้นก็ยุเก่งมากๆแบบมากๆด้วย รู้ตัวอีกทีก็ส่งรูปไปหาด้วยความสะใจ ก่อนจะมานั่งเป่าผมสำนึกผิดอยู่ตรงนี้ พลางคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก ติดลมบนคุยกันยันดึกดื่นนี่คุณรบคงเหนื่อยจนไม่สนใจอะไรแล้ว อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ คงไม่คึกแบบนั้นหรอก


“พี่เคลรี้ดแล้วอ่ะมึง”  ตัวจุ้นที่นอนอยู่ปลายเตียงทั้งชุดคลุมอาบน้ำได้พูดขึ้นมา และนั่นทำให้เจนวางไดร์เป่าผมลงและหันมาให้ความสนใจกับข้อความที่เพิ่งส่งไป ก็น่าดีใจอยู่หรอกที่เขาเปิดอ่านเร็วขนาดนี้ แต่นี่มันเร็วไปเว้ย ยังสำนึกไม่ทันเลย


“คุณรบก็รี้ดแล้ว”  เจนพูดก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตู ถ้าถามว่านี่ห้องใครก็ควรจะให้คนนั้นไปเปิดใช่ไหม แต่ตัวจุ้นมันยักไหล่ไม่สนใจ มันก็เป็นแบบนี้ไง เดี๋ยวพี่เคลก็พังห้องเข้ามาหาให้ ถ้ามีการสอบสวนว่าใครเริ่ม เจนจะใส่ความมันก่อนเป็นคนแรกเลย นึกคึกบ้าอะไรมายุกันก็ไม่รู้…


ปึงๆๆ! เสียงเคาะประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง คนเคาะกำลังมีอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดและมันทำให้เจนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จนคิดได้ว่าไม่ควรปล่อยให้ใครรอนาน จะโทษก็โทษไอ้จุ้นเลย เจนไม่เกี่ยว… นึกบทพูดของตนไว้ ก่อนจะเดินทำใจกล้าไปเปิดประตู ทางอีกฝั่งคงตกลงกันไม่ได้ว่าใครควรจะยื่นหน้าเข้ามาก่อนกัน เขาจึงยืนอยู่ข้างๆกันและยิ้มให้


อึก…เป็นยิ้มที่ดูเหี้ยมเกรียมจนต้องกลืนน้ำลาย


“ง่วงหรือยังครับเจน”  พี่เคลถาม


“เอ่อ ก็…”


“วันนี้เจนจะนอนที่นี่”  เสียงตอบนั้นดังมาจากเตียงนอนข้างใน ไอ้เจ้าของห้อง มึงไม่ต้องเสนอหน้ามาตอบแทนเลย!


“เอางั้นจริงๆเหรอครับ”


“พี่เคลนอนคุยกับคุณรบไปก่อนก็ได้นะ เจนกับจุ้นจะนอนด้วยกันที่ห้องนี้” ก็ยังชิงตอบแทนไปอี้กกกกก คนบ้าอะไรไม่กลัวตาย บอกแล้วไงว่าชีวิตไอ้ตัวจุ้นนั้นไม่เคยทำให้ตัวเองปลอดภัย


“เจนจะนอนกับตัวจุ้นจริงๆเหรอ”  คราวนี้เป็นคุณรบที่ถาม


“เจน…ไหนมึงบอกจะนอนกับกูไง”


“มะ…มึง”  กูพูดตอนไหน…


กูพูดว่าจะลงอ่างไปเซลฟี่กับมึง….ไม่ได้จะนอนด้วย!!!


“งั้นคุณเคลวิน เราออกไปดื่มกันต่อข้างนอกดีกว่า เห็นคุณบอกว่ามีสถานที่ดีๆอย่างแนะนำ”  คราวนี้คุณรบได้ตัดเจนออกจากบทสนทนาและหันไปคุยกับคู่หูใหม่ที่เพิ่งได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการในวันนี้


“ใช่…ร้านนั้นดีมากๆเลย ปกติตัวจุ้นไม่ให้ผมไปคนเดียว แต่ถ้ามีคุณรบไปด้วยก็คงไม่เป็นไร”  คำว่าไม่ยอมให้ไปคนเดียวทำให้เจนจุ้นหูตั้งขึ้นมา ร้านแบบไหนกันนะที่ไม่ยอมให้เขาไปคนเดียว เชี่ยเอ้ย!…คิดดีไม่ได้เลยทีเดียว…


ที่คิดได้ตอนนี้คือ strip club….หรือคลับเปลื้องผ้า….


“……….”


“……….”


“ขอไปกับคุณเคลนะครับ เจน” คุณรบยิ้ม ทั้งปากแล้วแววตา ซึ่งเจนอยากจะสวนขึ้นมาว่าไม่ได้ ทว่าตัวจุ้นกับปรี่มาเอามือปิดปากกันก่อน


“เชิญครับ แล้วกลับมาดีๆนะ”  ตัวจุ้นพูดออกมาก่อนจะคลอเคลียอยู่ที่ใบหู ริมฝีปากบางของคนเป็นน้องกัดกกหูบนของเจนเบาๆเป็นการยั่วเย้า ไม่ต้องเดาเลยว่ามีประสิทธิภาพดีแค่ไหน “ส่วนเจน…เดี๋ยวผมดูแลให้” ก่อนจะทิ้งท้ายอีกคำที่บาดใจคุณรบไว้ เจนมองตาเขาที่มองมา ก่อนจะขยิบตาให้ทีนึง บอกแล้วไงว่ายุเก่ง ยุขึ้น คุณรบมองเราสองคนด้วยแววตาเย็นชา ทว่ามีอีกคนที่ไม่มองอะไรอีกต่อไปแล้ว


“ชักจะมากเกินไปแล้วล่ะ”  เป็นพี่เคลที่ดึงตัวจุ้นออกมาจากเจน ก่อนจะแบกน้องชายนิสัยเสียคนเล็กของบ้านขึ้นบ่า แล้วพาไปที่ห้องนอนของเขา ในตอนนี้เหลือเพียงแค่เจนกับคุณรบที่ยังคงมองตากัน….


“……….”  เกิดเป็นความเงียบชั่วครู่หลังจากการท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ ยังคงไม่มีใครพูดอะไรและยังคงจ้องตากันแบบนั้น เจนโกรธเขาอยู่บ้างแต่ทำตัวไม่ถูกมากกว่าเมื่อเจอะเจอกับสถานการณ์แบบนี้…


และต้องมีใครที่หยุดมัน…


“เฮ้อ…”  เป็นเขาที่ยอมหยุดและเดินถอยออกมาก่อน คุณรบคงจะกลับไปที่ห้องนอนและไม่ได้ไปในสถานที่ที่เจนไม่ชอบให้ไปจริงๆ แต่มันจะเป็นอย่างนี้จริงๆนะเหรอ ตอนนี้เองเจนได้มาทบทวนสิ่งที่กระทำลงไปทั้งหมด แม้จะบอกว่าตัวจุ้นชวน แต่เจนก็เป็นคนทำ….


ภาพของเจนในมือถือที่ถูกเขาเปิดอ่านนั้นเป็นรูปที่จงใจถ่ายส่งไปให้ดู เมื่อครู่เจนกับจุ้นพากันขึ้นห้องมาเพื่อเริ่มดำเนินแผนการเรียกคนรักกลับห้องด้วยการลงไปแช่ในอ่างอย่างแนบชิด เจนนั้นนั่งซ้อนหลังกับจุ้นในสภาพเปลือยเปล่าแบบมีกางเกงบ็อกเซอร์ติดตัว แต่ภาพที่ถ่ายออกมามันเหมือนว่าไม่ได้ใส่อะไร แถมยังเอาแก้มชิดกันแบบนั้น คุณรบเห็นแล้วจะไม่รู้สึกอะไรมันก็ไม่ใช่แล้วล่ะ…


แต่ก็ไม่ชอบที่เขาอ้างว่าจะไปนั่นนี่แบบที่รู้ว่าเจนต้องโกรธแบบนั้น แม้จะรู้ว่าเขาคงโกหกแต่ใจของเจนมันคิดไม่ดีไปแล้ว ในตอนนี้เป็นเขาไม่ใช่เหรอที่ควรจะง้อกัน ไม่ใช่เจนที่ต้องมาเป็นฝ่ายโดนเมินใส่แบบนี้ คิดได้แล้วก็ปิดประตูห้องของตัวจุ้น และกลับไปนั่งบนเตียง เอากับเขาสิ….แผนการพาคุณรบกลับห้องนอนได้สำเร็จอย่างยอดเยี่ยม คุณรบกลับห้องไปแล้ว…แบบที่ไม่มีเจนในห้องนั้นด้วย


“……….”ให้ตายเหอะ…


นี่เราเพิ่งจะคืนดีกันเองไหม!!!


นักรบกลับไปห้องที่ทางคูเปอร์จัดให้พักในวันนี้เพียงคนเดียวโดยไร้เงาของคนรักที่คิดแผนการไม่น่ารักมาเรียกกันกลับห้อง เขาไม่ได้หึงตัวจุ้นกับเจนหรอก ยังไงสองคนนั้นก็ไม่ได้ดูจะไปด้วยกันได้ในทางนั้นเลย มองแล้วก็ดูขัดลูกตาอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้หึง แค่รู้สึกโกรธๆที่เจนงอนไม่เข้าเรื่องแบบนี้ บางทีถ้าอีกฝ่ายอยากให้เขาขึ้นห้องก็แค่เดินมาบอกกันดีๆเขาก็พร้อมจะไปด้วยแล้ว เคลวินเองก็เหมือนกัน ถ้าเจนกับตัวจุ้นมาเรียก เราย่อมพร้อมจะจบบทสนทนาและขึ้นมานอนกอดกันแล้ว ป่านนี้


 เรายอมรับว่าคุยเพลินเพราะนักรบอยากจะสนิทสนมกับครอบครัวของเจนให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเคลวินเองก็ให้ความร่วมมือตามนั้น ทว่าเรื่องมันเกินมือไปนิด ทันทีที่เห็นภาพของเจนกับตัวจุ้น เขามีขัดเคืองอยู่บ้างเพราะเด็กสองคนนั้นงอนได้น่าตีมาก แต่ยิ่งเล่นกันแรงเท่าไหร่ เขายิ่งเห็นว่าควรเงียบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้อะไรๆก็ใช้แต่อารมณ์ เดี๋ยวพอเย็นลงก็คงกลับไปคุยกันได้ อย่างน้อยเขาก็ว่าจะอาบน้ำก่อน และค่อยไปตามเจนกลับห้องมานอน พรุ่งนี้เราต้องบินกลับไทยกันด้วย


แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น….


“……….”


“……….”


“เจนมานอนแล้ว”  แล้วคิดว่าเขาควรจะให้กลับมาดีๆไหม ไม่รู้สิ เด็กดื้อก็ไม่ควรได้รับการให้อภัยเร็วแบบนั้น


“พี่นึกว่าเจนจะนอนห้องตัวจุ้นแล้วซะอีก”


“ก็ตัวจุ้นไม่นอนแล้ว เจนจะนอนทำไม”


“กลายเป็นคนติดนอนกับคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เจนของพี่ออกจะเก่ง”  เขายังคงพูดคำประชดประชันออกมา และมันทำให้เจนสะท้านในความเย็นชาที่ถูกปั้นแต่งนี้ ก็รู้ว่าคุณรบไม่พอใจ แต่อย่าโกรธนานได้ไหม เราเพิ่งจะรักกันดีๆเองนะ


“เจนไม่เห็นจะเก่งเลย”


“……….”


“ถ้าเก่งเจนคงไม่ทะเลาะกับพี่รบหรอก”


“ครับ…”


“ขอเจนเข้าไปนอนในห้องนั้นด้วยไม่ได้เหรอ”  เจ้าของดวงตาโตเศร้าๆนั้นช้อนมองกันอย่างขอความเห็นใจ และดูกันว่านักรบจะใจแข็งไปได้สักแค่ไหน


“……….” เขาว่าจะแข็งอีกสักหน่อย


“นะ…”


“……….”


“เจนยอมให้พี่รบทำโทษเลย”


“ครับ”  อะ….ลองพูดข้อเสนอมา


“ตีก้นเจนก็ได้ เจนเป็นเด็กไม่ดี”  ต้องตีเลยใช่ไหม ตีเพี้ยะๆ


เด็กไม่ดีจะได้หลาบจำ….


xxx

ตัดภาพที่ห้องของลูกชายตัวจริงของเจ้าของบ้านหลังนี้….


“ปล่อยนะพี่เคล!”


“จะร้องให้พ่อกับแม่มาได้ยินเลยใช่ไหม อยากเปิดตัวแรงแบบนั้นจริงๆเหรอ”  เขาถามความเห็นของคนขี้โวยวาย และได้ตามนั้น ตัวจุ้นเงียบแบบที่ไม่เคยเงียบในชีวิตนี้เลยเมื่อฉุกคิดขึ้นได้


เขาแบกร่างบางมายังห้องนอนของเขา และมันจะเป็นห้องนอนของเราในคืนนี้ ยั่วกันเก่งดีนัก ก็อยากจะรู้ว่าจะยั่วกันต่อไหม คนจริง ต้องเก่งจริง และต้องกล้าพอจะเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมาสิ ทำอะไรเอียงๆไปตลอดแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่จะชนะเขากัน คิดว่าเอาเจนมากอดไว้จะช่วยอะไรได้ ให้รู้กันไปเลยว่าเคลวินกับนักรบ มีวิธีจัดการร้อยพันที่เจ้าเจนกับตัวจุ้นจะต้องหลาบจำอย่างแน่นอน


หากจะพูดถึงเราสองคนแล้วต้องเรียกว่าคุยได้ถูกคอ หรือถ้าไม่คุยแต่ถ้าเป็นเรื่องของเจนสำหรับคุณรบ หรือเรื่องของตัวจุ้นสำหรับเขา ดูเหมือนว่าเราไม่จำเป็นต้องพูดออกมา แค่มองตากันก็เข้าใจถึงวิธีการ ในวันนั้นที่เขาได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือในการตามหาเจน เขาก็วางแผนไว้แล้วว่าเจนจะต้องอยากอยู่ประนีประนอมให้เขาและตัวจุ้นที่ทำผิดรุนแรง หรือเรียกง่ายๆว่าก้างขวางคอนั่นแหละ พอนักรบติดต่อมา เขาเลยรีบส่งเจนไปให้โดยไม่เหลือหนทางให้มาขัดจังหวะได้ และนักรบก็ดูเหมือนจะทราบและยอมทำตามอย่างดี ทั้งนี้เขาคนนั้นก็คงยอมให้เจนทำเขาเสียเวลารวบรัดไม่ได้หรอก บอกแล้วว่าเราเข้าใจกันมากกว่าที่คิด


เผื่อๆพรุ่งนี้สองคนนั่นอาจจะได้เลื่อนไฟลท์กลับจริงๆ…


“ทำอย่างนี้ต่อหน้าแขกได้ที่ไหนกัน แย่ที่สุด”  ตัวจุ้นกระชับชุดคลุมที่ตัวเองใส่ไว้หลังจากที่ลงมานั่งบนเตียงของเขา อายเจนก็อาย กับคุณรบนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย….ขอไม่เจอหน้าอีกสักสามปีจะได้ไหม…


“แล้วจุ้นชวนเจนทำกับแขกของเราแบบนั้นได้ไง ไหนคิดคำตอบไว้รึยัง”


“จุ้นจะทำอะไรก็เรื่องของจุ้น ใช่เรื่องของพี่เคลที่ไหน”  เจ้าของใบหน้าหยิ่งยโสเชิ่ดใส่ เขายิ้มให้กับท่าทางเก่งกล้านั่นที่อีกไม่กี่นาทีต้องเปลี่ยนสีหน้าราวฟ้าเหว


“ถ้าไม่ใช่เรื่องของพี่แล้วจะเป็นเรื่องของใครกันล่ะ”


“เรื่องของจุ้น”


“นี่ก็คิดว่าเรื่องของจุ้นเป็นเรื่องของพี่มาตลอดเลยนะ”


“……….”


“ถ้าพี่คิดไปเองก็ขอโทษด้วย งั้นพี่จะไม่ตามจุ้นไปไหน จุ้นจะอยู่ที่ห้องของพี่หรือไม่ก็จะไม่สน จะเก็บของย้ายออกก็จะไม่ว่า ต่อไปก็ไม่ต้องคอยบอกว่าจะไปไหนเพราะจุ้นคงไม่โกรธ”  เขาคิดว่าตัวจุ้นโดนสปอยล์มาหนักเกินไปและเป็นเขานี่แหละที่ชอบสปอยล์น้องเหลือเกิน ไม่แปลกเลยที่จะดูเหมือนของตายของเจ้าจิ้งจอกตาใสนี่  ตัวจุ้นเห็นเขาเป็นใครกันนะ นี่เคลวิน คูเปอร์ไง….คิดว่าเขาเป็นคนที่จะชี้ไม้เป็นนกได้จริงๆนะเหรอ??


“……….”


“จะกลับห้องก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ก็จะออกไปแล้วเหมือนกัน”


“จะไปไหน…”  ในตอนนี้ความรู้สึกไม่ดีเริ่มตีกัน และมันก็เริ่มจะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ


“กลับที่พักครับ” แล้วที่บ้านนี้พักไม่ได้หรือไงถึงต้องไปพักที่อื่น ไม่อยากเจอหน้ากันขนาดนั้นเลยหรือไง


“แน่ใจนะว่ากลับที่พัก”


“แล้วพี่ไปไหนมันเรื่องของตัวจุ้นหรือครับ”


“……….”


“ขนาดเรื่องของเรายังไม่ใช่เรื่องของพี่เลย” จะเอาอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม


ไหนใครบอกว่าขอโอกาสให้ได้เป็นของตัวจุ้นกัน!!


“……….”


“……….”


“งั้นพี่ไปก่อนนะ”  ในตอนนี้ตัวจุ้นหันหน้าไป ไม่คิดจะมองเขาแล้วแม้แต่น้อย เคลวินลุกขึ้น เขากำลังจะเดินออกไปจากประตูห้อง สายสัมพันธ์ของเราแน่นนัก บางทีวันนี้เขากลับไป ตัวจุ้นก็คงแกล้งลืมว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นและตีเนียนมาซบอกออเซาะกันเหมือนเดิม ซึ่งเขาไม่เป็นไร ยังไงก็ได้ เพราะต่อให้ตัวจุ้นไม่อยู่ใกล้ๆ ทุกๆอย่างก็ดูเหมือนจะอยู่ในความควบคุมได้อยู่ แค่เขาชอบ….ที่จะได้มีจอมเจ้าเล่ห์ในอ้อมกอดมากกว่าก็เท่านั้นเอง…


“จุ้นก็รักกวินนะ”


“……….”


“……….”  อะไรนะ…เมื่อครู่


ตัวจุ้นบอกว่ารักเขางั้นเหรอ???


“……….”


“ไหน หันหน้ามาคุยกันหน่อยสิ”  เป็นเขาที่กลับไปหาก่อน กลับไปหาเช่นนี้ทุกที ตายรังแบบซ้ำๆทุกการเยื้อย่างต่างๆของเด็กคนนี้ที่อยู่ในการปกครองของเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เป็นเขานั่นเองที่ตกเป็นทาสอย่างที่พาตัวเองกลับมาไม่ได้ ตอนนี้เขาพร้อมจะอยู่ที่ปลายเท้าของอีกฝ่ายแล้ว ขอเพียงตัวจุ้นเอ่ยปากมา เขาพร้อมจะคุกเข่ามันตรงนี้!


“จะคุยอะไรนักหนาน่ะ”  เสียงที่ดูตัดรำคาญนั้นมีไว้เพียงแค่แก้เขิน เขารู้ดีว่าน้องไม่ได้โกรธเหมือนเสียที่เกรี้ยวกราดในตอนนี้ และเป็นเขาที่เชยคางให้น้องหันมามองกัน


“ครับ…เมื่อกี๊พูดว่าอะไรนะ”


“……….” ของอย่างนี้…คนเราอยากจะฟังซ้ำหลายๆครั้งทำไมกัน


“ไหนพูดให้พี่ฟังอีกครั้งสิ เด็กดี…” คำตอบของเขาคือนับครั้งไม่ถ้วน ต่อให้ตัวจุ้นพูดอะไรไม่ได้อีกต่อไป เขาก็ขอยกเว้นคำหนึ่งเอาไว้ให้ตัวจุ้นได้รับสิทธิ์ในการพูดจา….คำนั้นคือคำว่า ‘รัก’


“ระ…รักกวิน”


“ครับ”


“ก็พูดไปแล้ว”


“เก่งมากครับ”  และเด็กดีที่ดื้อซนวันนี้ ควรจะได้รับรางวัลใช่ไหม เขาไม่รอให้น้องถามหามัน


เพราะตอนนี้ได้ครอบครองริมฝีปากที่บอกคำว่ารักไว้แล้วทั้งหมด….

หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 16-12-2018 19:24:34

xxx


เพี้ยะ…เพี้ยะ…


ตัดอารมณ์ความหวาน ด้วยการกลับมาดูการทำโทษที่แสนโหดร้าย


“พี่รบ…เจนเจ็บ” คนน้องที่ถูกคนพี่จับนอนพาดตักโวยวาย นี่ฟาดกันกะไม่ให้โตเลยหรือไงนะ


“ก็ต้องตีให้เจ็บไม่ใช่หรือครับ” นี่เขาเข้าใจอะไรผิดกับคำว่าทำโทษอยู่เหรอ ทำไมเจนแย้งราวกับว่าที่เขาทำมันไม่ถูกต้องล่ะ ในเมื่อเสนอเองว่าให้ตีก้น เขาก็ตีจริงๆ แล้วที่ทำอยู่นี่ไม่ได้ตีตรงไหนเหรอ


ว่าแต่….คาดหวังอะไรกันละเด็กนี่…


“พรุ่งนี้ต้องนั่งเครื่องบินนานนะ สงสารก้นเจนบ้าง”  เจนรักษ์บ่นพึมพำ เขาก็อยากจะสงสารอยู่หรอก แต่ก็อยากให้คิดก่อนทำเยอะๆเหมือนกันไม่ใช่เอะอะยุขึ้นไปหมด มือของเขาลูบก้นของคนที่บอกว่าโดนตีแรงเบาๆ  เจนที่บ่นอยู่ถึงกับชะงัก ฉับพลันเมื่อเขาอ่อนโยนต่อกัน ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกที่แปลกออกมา มือซุกซนของเขาสาละวนอยู่กับก้นงอนๆของคนรัก สัมผัสไปพลางสำรวจมันด้วยความฉงนใจ ทว่าใบหน้ากลับนิ่งไม่แสดงความคิดเห็น เจนเดาอารมณ์เขาไม่ถูกเหมือนกัน


“อืม…”  เขายังคงลูบไปมา ควานหาบางสิ่งภายใต้เนื้อผ้าฝ้ายของชุดนอนที่ตัวจุ้นให้ใส่


“พี่รบ”  เจนเอ่ยเรียกเขา พอดีกับที่เจ้าของมือซนหน้านิ่งได้ควานเจอเส้นบางอย่าง ก่อนที่จะดึงและปล่อยจนอย่างไม่ปราณี….


เปรี้ยะ!


“พี่รบ!”  เจนโวยวาย ที่เขาดึงอยู่น่ะ….มันสายกางเกงในชาวบ้านเขานะเว้ย!


“ใส่อะไรของเจนน่ะ”  และเขาก็ไม่รอให้ความสงสัยค้างคานานไป นักรบจัดการดึงกางเกงนอนของเด็กน้อยที่เรียบร้อยกว่ากางเกงขาสั้นไม่ปิดอะไรที่เจนชอบใส่ในห้องพักอีกที่ และมันทำให้เขาได้รู้ว่า…คนเราเรียบร้อยได้ไม่จริงใจเอาเสียเลย…


“……….”


“อา…กางเกงในแบบนี้มันใส่ปิดอะไรได้บ้างเนี่ย”  ว่าแล้วเขาก็ขออีกเปรี้ยะ แบบที่คราวนี้ไม่มีกางเกงนอนกั้นแล้ว คนเรานี่เป็นแฟนกันมากี่วัน นึกจะจับถอดกางเกงก็ได้เลยเหรอ จะดีดกางเกงในให้เนื้อช้ำก็ได้ใช่ไหม แล้วถ้ามันปิดไม่ได้มันจะเกิดมาเป็นกางเกงในทำไม คนบ้านี่!


“ของตัวจุ้น”  ทั้งชุดนี่ก็ของตัวจุ้นมัน เข้าใจไหมเนี่ย ทำเหมือนไม่เคยเห็นกองผ้าเน่าในบ้านเจนซะอย่างนั้น


“แต่เจนก็ชอบ พี่รู้” ทำมาเป็นสู่รู้เรื่องรสนิยมความชอบด้านจีสตริงของคนอื่น แล้วสนุกนักเหรอกับการดีดไปมางี้


“พี่รบ!”  เจนยิ่งโวยวาย ยามนี้เขาไม่แค่ตี ดีดเท่านั้นแล้ว แต่ยังบีบขยำอย่างมันมืออีกต่างหาก และถ้าเจนคิดว่าแค่นี้มันสาแก่ใจเขาแล้วจริงๆ บอกเลยว่าคิดผิดไปมาก


“ตอนแรกว่าจะไม่อะไรแล้วเชียว”  เขากลัวมากว่าวันนี้เจนจะเหนื่อยจนกลับพรุ่งนี้ไม่ไหวเลยตั้งใจจะละเว้นไว้ แต่ยั่วกันขนาดนี้คงต้องสนองความต้องการด้วยการล้มเลิกความตั้งใจจริงๆ นิ้วเรียวยาวของเขารู้ดีกว่านั้น และมันจะไม่ทำแค่ ตี ดีด บีบ ขยำอีกต่อไปแล้ว…


“อึก!”


“ชู่ว…”  เขาส่งสัญญาปลอบโยนให้ แต่นั่นมันก็หลังจากที่เขาแทรกนิ้วเข้ามานิ้วนึงแล้ว แม้การเคลื่อนไหวจะทำโดยช้า แต่ว่าเจนก็ยังอึดอัดจนต้องกำมือตัวเองแน่นอยู่ดี เจนคิดภาพออกเลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในลักษณะไหน และมือของคุณรบกำลังทำอะไรใต้เส้นบางๆของจีสตริงที่ไม่ใช่ของเจนจริงๆ


วันนี้เจนจะขาดดุลทางเศรษฐกิจให้กับคุณรบอีกแล้วใช่ไหม…


“วันหลังมีอะไรพูดดีๆรู้ไหมครับ”


“อึก…ตัวจุ้นต่างหากที่ผิด อื้ออออ”  มือข้างหนึ่งของเขากำลังอยู่ในระหว่างการใช้งานเพื่อทำโทษกันอยู่ แต่เขาก็ส่งมืออีกข้างขึ้นมายกตัวของเจนให้ลุกขึ้นมาคร่อมตัก ทว่ามือของเขาก็ยังคงอยู่อย่างนั้น และมันทำให้เจนต้องขมิบเกร็งอย่างเสียจริต


“ทำไมชอบโทษคนอื่นอย่างนี้ล่ะ เด็กนิสัยเสีย”  เขาก้มลงมองด้านล่างของเจน เพิ่งได้เห็นว่าที่เจนอ้างว่าจีสตริงมันปิดได้นั้นหมายความว่าอย่างไร แต่มันก็ดูน่าอึดอัดอยู่นะแบบนี้


“จุ้นมันผิดจริงๆอ่ะ พี่รบมองอะไรเนี่ย อื้อ!”  ใครอนุญาตให้พูดมากกัน เขาปิดปากเจนด้วยมือของเขาข้างที่ว่าง ก่อนจะขยับมือส่งนิ้วชี้เข้าไปในริมฝีปากอิ่มของคนขี้บ่น ไม่นานนิ้วกลางก็ตามมา ขนาดแสดงว่าไม่ชอบ เจนก็อมมันอย่างไร้ซึ่งการโต้แย้ง ก็เพราะเป็นอย่างนี้ไง จะให้ปล่อยไปยังไงไว้…


ถ้าเขาหนีไปอาบน้ำตอนนี้…ฟ้าดินได้หัวเราะเยาะกันจนถึงวันที่น้องวินบวชแน่นอน…


หลังจากที่ทุกอย่างมันดำเนินมาจนถึงจุดที่หยุดไม่ได้ของเราแล้ว เจนที่พร้อมทั้งใจและกายก็ค่อยๆจับแกนกายของเขากดลงเข้ามาด้วยตนเอง ใบหน้าที่ดูทรมานของคนรักอยู่ในสายตาของคุณรบที่ยังอยู่ในโหมดของผู้คุมทำโทษ รอเจนอย่างใจเย็นให้ครอบครองเขาให้เต็มที่เท่าที่จะรับไหว ก่อนจะนั่งเฉยๆให้เจนซุกหน้ากับไหล่เพื่อพักให้ร่างกายเคยชิน


สองแขนเรียวโอบกอดเขาเอาไว้ ร่างเล็กค่อยๆขยับกาย เบียดส่ายสะโพกอยู่บนตักของเขาด้วยท่าทางที่เร่าร้อนผิดกับวาจาที่คอยจะปฏิเสธกัน ให้ตายเหอะ…เจนของเขาร้อนแรงถึงเพียงนี้ แล้วใครเราจะทนโกรธต่อไปได้ไหวอีก บั้นทายของเจนคงเต็มไปด้วยรอยแดงของฝ่ามือเขาทีทั้งตีทั้งบีบจนมันมือไปหมด เขาตะปบมันอีกครั้งด้วยความมันเขี้ยวยามเจนผ่อนแรง ก่อนจะเป็นคนควบคุมจังหวะทั้งหมดด้วยตนเองอีกครั้ง อา…พระเจ้า…เขาไม่สามารถทิ้งเจนไปดูใครที่ไหนเต้นเปลื้องผ้าได้จริงๆ เพราะที่นี่ก็มีแล้ว และไม่ได้เต้นธรรมดาด้วย เพราะที่ทำอยู่คือเต้นบนตัวเขาจริงๆ แล้วเช่นนี้จะเสียเงินเสียเวลาออกไปแย่งคนอื่นดูทำไม ในเมื่อก็มีอยู่แล้ว…


“รอบเดียวพอนะ”  เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับไม่ไหว เจนแจ้งเตือนกันไปพร้อมๆกับขยับกายไปมา เสียงครางหอบที่เต็มไปด้วยความเสี้ยวซ่านทำให้พึงใจ เขาตอบเจนกลับเพียงสั้นๆว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควบคุมได้เลย


“มันขึ้นอยู่กับเจนแล้วล่ะครับ”  ถ้าอยากให้รอบเดียวก็อย่าซน เพราะนักรบบอกเลยว่าเขาจ้างเลขามาดี…


จะให้เลื่อนตั๋วเครื่องบินมานอนกกคนเอวยอก… ก็ยังได้!


สุดท้ายแล้วหนึ่งรอบก็เป็นแค่เรื่องโกหก…เพราะเราจบที่สองรอบครึ่ง!….ครึ่งคืออะไรไม่ต้องรู้ ในตอนนี้เจนกระฟัดกระเฟียดพอที่จะไม่พอใจคนขี้สงสัย ก่นด่าอยู่ในใจอย่างอึดอัดทรมาน ก่อนจะหรี่ตามองตาคนข้างๆที่ต่างจากวันแรกที่เหยียบประเทศนี้อย่างสิ้นเชิง วันนั้นหน้าโทรมอย่างกับซอมบี้ ทำไมวันนี้มันขาวผ่องอย่างกับหนีไปฉีดกลูต้า แง่มมมมมมม!!!!!!


“ขอบคุณมากนะครับ”  เป็นการชาร์ตพลังที่เยี่ยมที่สุด เขาหันไปกระซิบขอบคุณคนที่ยอมเหน็ดเหนื่อยปวดเหมื่อยให้เขาเอาแต่ใจเป็นชั่วโมงเมื่อวาน รับรู้ได้ถึงภาวะที่ไม่คงที่ทางสภาพอารมณ์ของเจนรักษ์ แต่แล้วไงใครแคร์….


“ไว้วันหลังถ้ามีโอกาสก็มาเยี่ยมอีกนะจ้ะ”  แม่ของตัวจุ้นกล่าว ก่อนจะอ้าแขนให้เจนเข้าไปกอด ถึงเมื่อวานจะกี่รอบ วันนี้เราก็ไม่ได้เลื่อนไฟลท์กัน ต่อให้เจนจะเหมื่อยสายตัวแทบขาด แต่ให้ทราบไว้ว่ามีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน จะไม่มีใครรู้ว่าเราทำอะไรกันเมื่อวาน ต้องไม่มีใครเลื่อนไฟล์ททั้งนั้น ทว่าในขณะที่เจนกำลังกอดร่ำลาผู้ใหญ่ สายตาล้อเลียนของเคลวิน คูเปอร์ก็ทำให้นึกโมโหขึ้นมา อย่างจะกระโดดถีบ แต่แค่เดินธรรมดาให้ได้….ก็ว่าลำบากแล้ว


วันนี้ตัวจุ้นไม่สู้ ไม่ลงมาส่ง… เป็นน้องที่ใช้ไม่ได้ แต่ก็เห็นใจเพราะถ้าเราประสบชะตาเช่นเดียวกันแล้วนะ B2 นี่ก็เข้าใจว่าคงไม่อยากลุกจากเตียงไปไหน ถ้าเลือกได้เจนก็เลือกนอนอยู่แบบนั้นเหมือนกัน มึงทำดีแล้ว หาเรื่องฉิบหายมาชวนพี่เต้า และจบลงด้วยการทำโทษคู่แบบที่เกือบจะไม่ได้ผุดได้เกิดแล้ว ได้มีใครลืมบอกมันหรือเปล่าว่านี่เจนไง ลูกเล็กผัวใหม่…วัยกำลังกลัดมัน….


“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับและดูแลอย่างอบอุ่น ถ้าไปเมืองไทยก็แวะไปหาเราบ้างนะครับ”  คุณนักรบกล่าวปิดอย่างสุภาพและมีมารยาทที่สุด ผิดกับการกระทำกึ่งป่าเถื่อนเมื่อวานราวคนละคน เจนแค่พยักหน้าให้ ก่อนจะพากันไปนั่งในรถที่ทางคูเปอร์จัดหาไว้ให้ เจนต้องกลับอเมริกาแล้ว


ป่านนี้ลูกกบร้องไห้แงคิดถึงพี่เจนแย่แล้ว…


“วันหลังอย่าได้หนีมาและอย่าได้กล้าประชดอะไรแบบนั้นอีกนะครับ”  เขาพูดขึ้นมา และนั่นทำให้เจนส่ายหน้า หลายวันมานี่การเป็นของคุณรบบ่อยครั้งก็ทำให้เจนลืมวันลืมคืนได้เช่นกัน เพราะงั้นไม่เอาแล้ว ที่แรดๆคิดแต่เรื่องใต้สะดือนั่นก็จะไม่ท้าทายฟ้าดินอีกต่อไปเช่นกัน


“เจนง่วงง่ะ”


“เดี๋ยวก็ได้ไปนอนบนเครื่องบินแล้ว”


“ขอนอนก่อนได้ไหม”  เขาถอนหายใจออกมา ไม่ใช่ว่ารำคาญเจนแต่รำคาญความไม่เอาไหนของตัวเองที่แค่โดนอ้อนนิดหน่อยก็ยอมไปหมด สุดท้ายแล้วนักรบที่ทำเจนอดหลับอดนอนก็ต้องยอม…โอบเจนให้เข้ามาชิดใกล้ และให้หัวทุยๆนั่นหนุนไหล่ตัวเองไว้

“เฮ้อ…”  อีกสักที เบื่อตัวเองชะมัด


“พี่รบใจดีจัง”


“ครับ”


“เดี๋ยวปลุกเจนด้วยนะ”


“ครับ พี่ไม่ทิ้งเราไว้ที่นี่แน่”  เจนควรรู้ว่าเขาลำบากแค่ไหนในการมาพากลับไป แต่เจนคงรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่เราจะได้มามีความสุขร่วมกันแบบนี้….และต่อไปมันคงจะยากขึ้นไปอีกเพื่อรักษาความสัมพันธ์ เขาคิดถึงแค่นั้นก่อนจะเหลือบมองคนที่หลับตาพริ้มนอนที่ไหล่ของเขา แต่ถึงจะยากก็คงคุ้มละมั้ง เพราะถ้าไม่คุ้ม….


คงไม่มีผู้ชายคนนี้ ที่ทิ้งทุกอย่างและมาตามกันกลับถึงที่นี่
และมันคงจะไม่ดี….ถ้าเขาจะยอมเสียเจนออกไปจากชีวิตจริงๆ….


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  -


Talk:

โปรดอย่าถือสาความบ้ายุของเจนและความงงๆในตัวเองของตัวจุ้น
จริงๆตอนหลักของเคลจุ้นก็มีคับเป็นเรื่องสั้นที่ขยายความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากกว่านี้เป็นเหตุการณ์ประมาณตอนที่จุ้นหนีไปจนเจนต้องหนีคุณรบไปตามนั่นแหละ แต่ต้องขออนุญาตใส่ไว้ในเล่มเนอะ ._. ซึ่งเล่มก็จะเปิดให้ซื้อกันในปีหน้านี่แหละคับ ตอนนี้รู้แค่ว่ามีสามเล่ม5555 มีbox มีอีบุ๊คด้วยแต่ช้าหน่อย และปกฟรุ้งฟริ้งมาก เดี๋ยวทราบอะไรเพิ่มเติมแล้วจะมาบอกอีกทีน้า หรือไม่ก็ติดตามข่าวสารได้ในเพจของ hermit ได้เช่นกันคับ

ตอนนี้ลงตอนพิเศษของเจนไม่นกครบแล้ว…ในเล่มนี้จะมีตอนพิเศษของเพชรพระพาย และของเจนไม่นกอีก โดยเฉพาะตอนพิเศษของน้องวินตอนเป็นเบบี้นี่ยังมีอีกเยอะเลยที่ไม่ลง ตัวเรื่องทั้งหมดเฉพาะตอนหลักก็ยาวมากเวอร์จนขนาดสองเล่มเก็บไม่พอเราเลยจัดหนักจัดเต็มใส่ไปให้

แต่ยังไม่หมดแค่นี้ อย่างที่เราขายแล้วขายอีกคือยังมีเรื่องของน้องวินกับลูกชุบเหลืออยู่รอให้ลงให้อ่านกันต่อ รอติดตามอ่านกันได้ ในระหว่างนี้ก็ไปอ่าน #อาทิตย์ศศิ กันก่อนได้เด้อ เป็นแฟนตาซีพีเรียดตบตีอวดอวยแง่งอนตามประสา ดราม่าไม่เยอะเท่าเจนด้วยซ้ำไปมั้ง มีแต่ความหลงเมียไปวันๆ ตอนนี้ทยอยลงแล้ว แต่งไว้เยอะแล้วกลัวบูด รีบลง555

ลิงค์ไปอ่าน #อาทิตย์ศศิ >>https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764)



หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2018 20:04:29
น่ารักจริงๆ พี่เขาก้อยุขึ้นด้วยนะ จัดให้หลายดอกเลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-12-2018 20:53:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-12-2018 21:06:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 16-12-2018 21:33:52
สนุกมาก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: love-boy ที่ 17-12-2018 15:47:25
 :haun4: :pighaun: :z1:
คิดถึงน้องเจน พี่รบ เจ้ากบตัวน้อยด้วย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 18-12-2018 20:05:32
OMGGGGGGGGG :hao7: :haun4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 18-12-2018 22:06:45
รออ่านตอนพิเศษในเล่มทีเดียว
หยอดปุกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ffern ที่ 22-12-2018 20:40:51
ตลกความละครของเจนคิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปหมดขำ5555555555555555เเต่นางน่ารักน้า :hao6:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-12-2018 21:53:07
มาแพ็คคู่เลย 5555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ตอนพิเศษ5 #ตอนพิเศษ : รบเจน VS เคลจุ้น) 16.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ffern ที่ 24-12-2018 20:51:39
อ่านเเล้วอยากบีบเเก้มน้องวินมาก มาก มากกกกกกมากกกกกกกกกกกกก น้องวินรูกเป็นก้อนเลยหนาาาา
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 25-12-2018 21:00:34
ลูกชุบของอัศวิน
intro

คุณป๋าอาจจะคิดว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่
เพราะในตอนที่อายุเท่ากันเขาไม่เคยเรียกร้องได้ขนาดนี้


“ไม่ให้” และนักรบ รัตนสกุลในยามนี้ก็ไม่ใจดีกับลูก เหมือนตอนที่น้องวินยังเป็นก้อนอีกต่อไป ยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ เขาก็พยายามจะเข้มงวดกับลูกให้เหมาะสมกับสิ่งที่เขาต้องเจอ แต่บางทีมันก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะคนที่เขาเคยยัดเยียดความเป็น ‘แม่’ ให้ ‘ลูก’ ทำหน้าที่ได้ดีเกินไป และเพราะเจนรักษ์เลี้ยงกันมาดีขนาดนั้น


นายอัศวิน รัตนสกุล ถึงได้มาเผชิญหน้าต่อรองกับเขาอย่างไม่เกรงฟ้าเกรงดินขนาดนั้น


“ครับ”  เจ้าก้อนตัวน้อยกระโดดเป็นกบในวันนั้น บัดนี้ได้เติบใหญ่เทียบความสูงได้สูสีกับเขาคนเป็นพ่อที่นับวันก็เริ่มจะโรยรา จะบอกว่า ‘น้องวิน’ โตมาคล้ายเขาก่อนหน้านี้ก็ว่าได้ รูปลักษณ์เราคล้ายกันเลยทีเดียว แต่นิสัยไม่เหมือนหรอก อย่างน้อยนักรบก็ไม่เคยกล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการขนาดนี้ และอันที่จริงเขาไม่เคยมีความต้องการแบบที่ลูกมาขอเขาอยู่เลย


“อัศวินต่อรองมาแล้วครั้งนึง จำได้ไหม”  ทำไมน้องวินจะจำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรไปบ้าง ตอนที่กำลังจะเข้ามัธยมปลายก็ได้ขอมาครั้งหนึ่งแล้ว และตอนนี้ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย  ยังไงก็จะไม่ทำตามให้ได้เลยใช่ไหม?


“จำได้ครับ”


“แล้วคราวนี้จะเอาอะไรมาต่อรอง”  เราไม่เคยขอกันฟรีๆ เป็นลูกของนักรบเท่ากับแบกความหวังของรัตนสกุลไว้ด้วย และนั่นคือกฎระหว่างเราพ่อลูก เจ้าของดวงตาคมปราบไม่ต่างกันไม่เคยจะลดละ อย่างไรก็จะเอาให้ได้


เขาจะไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศในตอนนี้!


“แล้วแต่คุณป๋าเลยครับ”


“แล้วแต่ป๋าเลยใช่ไหม”


“ครับ ผมขอแค่ยังไม่ไปตอนนี้”


“อัศวิน...ลูกก็รู้ว่าเราควรจะไปเรียนต่อต่างประเทศ”


“งั้นผมขอไปเรียนต่อตอนปริญญาโท”


“เห็นไหมว่ายังไงเราก็ต้องไปอยู่ดี”


“คุณป๋าก็รู้ว่าผมไม่พร้อม”


“ไม่พร้อมและจะไม่มีวันพร้อมถ้ายังเป็นแบบนี้” เขากล่าวดักคอออกมา แต่เมื่อมองตาของคนที่ไม่ตอบโต้ก็เหมือนจะยอมความ “เข้าใจล่ะ…”  นักรบเพียงแค่ถอนหายใจออกมา ในที่สุดเขาก็แพ้ลูกชาย


จะไม่ให้แพ้ได้ไง เขาก็แพ้มาตั้งแต่วันที่อัศวินเกิด และสาเหตุที่ลูกยังไปไม่ได้ไกลกว่าย่านที่รถไฟฟ้าเข้าถึง ส่วนหนึ่งมันก็เพราะการเลี้ยงดูที่อบอุ่นจนเกินไป เกิน…จนลูกชายของเขาเคยตัว


อัศวินเป็นเด็กที่แปลกกว่าเด็กทั่วไปอยู่หน่อย ปิดเทอมที่กำลังจะขึ้นเทอมสองของมัธยมปลายชั้นปีที่สุดท้ายกำลังจะมาถึง ทว่าเด็กคนนี้กลับไม่เคยชื่นชอบการไปท่องเที่ยวกับเพื่อนไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ไม่ใช่ว่าน้องวินหรือคุณวินของบางคนจะไม่มีเพื่อนหรอก เขามีในจำนวนนึง และส่วนใหญ่จะยอมรับได้กับการที่เขามีเวลาเปิดปิดแบบนี้


นักรบก็ว่ามันดีที่ลูกชายจะชอบเอาเวลาวันหยุดไปตีกอล์ฟกับพ่อหรือนั่งรถไปหาคุณย่าที่ย้ายไปอยู่แทบปริมณฑล แต่พอผ่านไปนานวันเข้า หากยังเป็นแบบนี้ นักรบก็บอกไม่ถูกว่ามันเหมาะสมหรือไม่ ไอ้ติดบ้านติดครอบครัวมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถึงขนาดบอกปัดการส่งเสียให้ไปเรียนต่างประเทศนี่มันก็…

“ป๋าจะให้วินไปทำงาน”  เขาบอกกับลูกเช่นนั้น นักรบในวัย 40กว่าปีที่ยังคงดูดีตามประสาคนที่มีคนดูแลดีนั้นมองลูกชายของตนที่นับวันก็ยิ่งเติบโตมาคล้ายเขา นักรบไม่อยากจะฝืนลูกหากไม่อยากไป แต่ก็อยากให้ก้าวข้ามจุดนี้ไปให้ได้ ไม่มีใครได้อะไรดั่งใจทุกอย่างหรอก


“ได้ครับ”  จริงๆนี่ก็ไม่ใช่การทดสอบอะไร ต่อให้ลูกบอกว่าไม่อยากไปเรียนต่อที่ไหน เขาก็คงยอมรับอยู่ดี เอาไว้ค่อยถึงตอนปริญญาโทล่ะกัน ตอนนั้นต่อให้ต้องเอาช้างมาฉุด ตาหนูก็ต้องไปให้ได้ ทว่าที่เขาตั้งเงื่อนไขนี้ขึ้นมา…


มันก็ด้วยหลายๆเหตุผล…


“อะไรนะ...”  นี่คือคำแรกที่หลุดออกมาหลังจากที่น้องวินพูดบนโต๊ะอาหาร ตอนนั้นนักรบแทบสำลักข้าว เสียงเจนนั้นห้วนจนน่ากลัวใจ


“คุณป๋าจะให้ผมไปทำงานขายของในห้าง” เขาพูดออกมาด้วยหน้านิ่งๆ ยิ่งโตยิ่งก๊อปปี้กันเข้าไปอีก แต่ทำไมร้ายใส่กันนักล่ะ


“คุณรบ”


“เราคุยกันแล้ว”  ก็เป็นน้องวินเองไม่ใช่หรือไงที่พูดว่ายอม ขอแค่ให้ได้อยู่ต่อ ที่เขาใช้ให้ไปทำนี่มันก็ไม่ได้อะไรเลยนะ อย่างน้อยคนเราจะเริ่มต้นทำอะไรใหญ่ๆ มันก็ควรเริ่มจากเล็กๆก่อน แม้ว่านักรบเองจะไม่เคยไปลองทำอาชีพนี้ดูก็ตามเพราะเลือกไปเรียนต่อต่างประเทศแทบจะทันทีโดยไม่รอให้ใครยื่นข้อเสนอ


“แต่ไม่เห็นคุยกับเจนเลย”  กลายเป็นว่าคนพ่อต้องเคลียร์กับพี่เลี้ยงลูกให้ได้ก่อนใช่ไหม? ให้ตายเหอะ เขาถูกเรียกมาคุยถึงสาเหตุที่ส่งลูกไปทำอาชีพพนักงานแนะนำสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตหลังจากมื้ออาหารที่ทานไม่ค่อยลงทันที


เราสองคนนั่งจ้องหน้ากันบนเตียง ในตอนนี้ตาหนูไม่ได้นอนที่นี่แล้ว ขอย้ายไปนอนคนเดียวตั้งแต่อายุ 8 ขวบนั่นแหละ ขอบคุณที่ตัวเองกับเพชรช่วยกันกรอกหูทุกวันว่ามีแค่ลูกแหง่เท่านั้นที่อยากนอนกับคุณป๋า แต่ใช้เวลาหลายปีเชียว และพอสำเร็จ เขาก็ต้องจ่ายโบนัสเพิ่มให้ผู้ร่วมขบวนการอย่างน่ารำคาญ


“ทำไมอยู่ๆให้น้องไปทำอาชีพนั้น”


“ก็อยากให้ลูกออกจากบ้านบ้าง”


“แต่มันเหนื่อยนะ น้องจะไหวเหรอ”


“เจนครับ ตาหนูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”  จะโอ๋ก็ให้มันน้อยๆหน่อย


“แต่เจนห่วงน้องนี่”


“เอาจริงๆนะครับ แยกกันบ้างก็ดี ให้ไปทำนั่นนี่ด้วยตัวเองบ้าง เจนจะดูกันตลอดไปไม่ได้หรอกนะ”  เขาพูด ก็เจนน่ะ งานวันแม่ก็พาไปเที่ยวเล่น ไม่เคยร่วมกิจกรรมโรงเรียนสักปี ค่ายนั่นนี่ก็ไม่เคยให้ไปเพราะแค่เจ้าตัวบอกว่าอยากอยู่กับเจน เอะอะ อะไรก็เจน นี่มันจะเสียการปกครองไปหมดแล้ว! อนาคตของรัตนสกุลจะเป็นเด็กติดเมียพ่อไม่ทำอะไรอย่างนี้ไม่ได้!


“แต่เจนห่วงน้อง ไปข้างนอกก็ไปด้วยกันตลอด ไปกินข้าวกับเพื่อนไม่กี่ชั่วโมง เจนก็ขับรถไปส่ง”  ให้มันได้อย่างนี้สิ


“เจน…พี่บอกแล้วใช่ไหม”


“ก็เข้าใจแต่…”


“ถ้าเข้าใจก็ต้องหักห้ามใจครับ”  เขาประคองแก้มของเจนที่ยังคงนิ่มมือแม้เวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ คนที่เป็นทุกอย่างสำหรับเขาในตอนนี้ทำให้เขาทั้งหนักใจและนึกขันในใจเสียเหลือเกิน รักมากก็รู้หรอก แต่จะรักทั้งทีก็ต้องยอมทำใจ ไม่งั้นอัศวินของเราก็ไม่โตสักทีเห็นไหม


“ให้ทำแค่อาทิตย์เดียวได้ไหม”


“งานมันสัปดาห์ล่ะสามวันครับ ให้ทำทั้งเดือนที่ปิดเทอมนั่นแหละ”


“แต่ว่า…”


“ไม่มีแต่แล้วครับ”  แต่เยอะนักนะ เดาว่าถ้าบอกให้ไปทำแทนกันก็คงเอาอย่างนั้นแน่ งานนี้เขาต้องเล่นไม้แข็งจริงๆ


กับคุณรบก็ไม่สามารถแย้งอะไรต่อได้แล้ว งั้นคงทำได้แค่ไปคุยกับเจ้าลูกกบตัวใหญ่ของเจนนั่นแหละ วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอมของอัศวิน เจนเป็นคนเดียวที่ยังคงทำหน้าที่รับส่งกันทุกวันตั้งแต่เข้าเนอร์สเซอร์รี่ จนวันนี้ที่เรียนมัธยมปลายแล้ว เจนก็ไม่คิดจะหยุด และตาหนูเองก็ไม่เคยขอให้เลิก เพราะฉะนั้นเราจึงโอ๋กันอย่างนี้ยาวๆอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร


“น้องวิน ถ้าไม่อยากทำก็บอกพี่เจนได้นะ”  โน้มน้าวพ่อไม่ได้ งั้นคนลูกล่ะ…


“ไม่ล่ะครับ คุณป๋าอยากให้ลอง ก็ลองดู” อย่างน้อยก็ดีกว่าไปเรียนต่างประเทศ


“มันจะลำบากนะสิ ทำไมเราไม่อยากไปเรียนอังกฤษเหมือนคุณป๋าล่ะ”


“ผมไม่อยากไปไหนไกล”


“พี่เจนเลี้ยงเราดีไปเหรอ”  เจนพูดเหมือนจะติดตลกแต่ก็รู้สึกแย่ที่ต้องยอมรับว่านี่คือต้นเหตุที่แท้จริง


“เลี้ยงดีครับ แต่ไม่เกี่ยวหรอก  ก็แค่ไม่อยากไป”


“น้องวิน…”


“ทำงานแค่เดือนเดียวกับหายไปหลายปี อย่างนี้ดีกว่านะ”  เจนยิ้มออกมา อย่างน้อยเจ้าตัวก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อยากทำเสียเลย และนั่นทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย เจนลูบหัวจอมดื้อที่ยังคงน่ารักเหมือนวันแรกที่ได้เจอกัน มันคือความผูกพันที่เจนบอกไม่ได้จริงๆว่าอะไร


“ถ้าไม่ไหวยังไงมาบอกพี่เจนนะ”


“เจนจะสู้กับคุณป๋าให้น้องเหรอ”  อัศวินนั้นยิ้มสดใส เขาเคยถูกเพื่อนล้อเรื่องการแทนตัวแบบนี้กับเจน แต่เพราะอยากคงสภาพความน่าเอ็นดูที่เป็นแบบตอนนั้นที่จำได้ไว้ น้องวินใช้สรรพนามนี้กับเจนบ้าง เพราะเจนไม่ใช่แม่ ไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย สิ่งเดียวที่รั้งเจนไว้คือความรักของทุกคนในบ้านเท่านั้น และน้องก็คือหนึ่งในบ้านหลังนั้นที่มีพันธะต้องผูกมัดเจนเอาไว้


“หึ…เอาจริงๆก็สู้ไม่ได้หรอก” ใช่...เจนสู้ไม่ได้ เว้นเสียแต่จะโกงนิดหน่อย “แต่จะไปช่วยน้องวินขายเอง ชู่วๆนะ อย่าให้คุณป๋ารู้”  จบคำสารภาพน้องวินก็หลุดขำออกมา เจนไม่ใช่แม่ แต่เป็นมากกว่าแม่จริงๆ


อัศวินไม่เคยมีแม่หรือสัมผัสแม่ที่แท้จริงของตนเองมาก่อน แม้แต่ทุกวันนี้จึงไม่รู้ว่าลูกต้องรู้สึกกับแม่อย่างไร แต่ก็เดาว่ามันคงเหมือนความรักความผูกพันที่ตนมีให้กับเจนที่ไม่ใช่แค่แฟนของพ่อ หากไม่มีเจน บ้านเราคงไม่มีสีสันขนาดนี้ หากไม่มีเจน น้องวินคงไม่รู้จักความรักได้มากมายขนาดนี้


“ไปก่อนนะ”


“สู้ๆ”  เจนนั้นยิ้มให้ก่อนจะปลดล็อกให้เจ้าลูกกบของตนลงจากรถไป มองตามแผ่นหลังของคนที่เดินหายเข้ารั้วโรงเรียนไป เจนก็ได้แค่คิดว่าเวลามันผ่านไปเร็วนัก และเป็นอย่างที่คุณรบพูด เราคงดูแลน้องตลอดไปไม่ได้ น้องต้องหัดดูแลตัวเองให้เป็น แต่ในตอนนั้นไม่มีใครคิดเลยว่ามันยังมีอีกวิธี...


คือมีใครสักคนมาดูแลน้องแทน



TALK
เห็นในความพยายามของคุณรบที่จะสร้างผู้นำรัตนสกุลคนใหม่หรือยังทุกคน
คุณพ่อไม่ได้มีจุดประสงค์จะกันลูกไปหาเมียเอ้ย!ให้ห่างจากเมียตัวเองเลยนะคะ
นี่บอกเลยว่าเป็นพระคุณของคุณพ่ออันใหญ่หลวง
เรื่องนี้คือเหตุการณ์ของหนุ่มน้อยวัยขบเผาะกำลังค้นหาตัวเอง
ตัวละคนที่ทุกคนรักอย่างคุณเพชรจะตามหลอกหลอนไปทุกเรื่องเพราะค่าตัวถูก555
ยังไงฝาก #ลูกชุบของอัศวิน อีกสักเรื่องนะคับ หมดอันนี้ก็ไม่มีอันไหนแล้ว รอเล่มกันไปเลยล่ะกัน
เห็นร่างภาพประกอบตาเพชรล่ะหมั่นไส้ พูดตรงๆว่าหล่อขนาดนี้ได้ยังไง55555
ยังฝาก #อาทิตย์ศศิ ที่ลงต่อไม่รอแล้วนะอย่างต่อเนื่อง ไปอ่านให้น้องหน่อย ไม่ชอบค่อยกดปิด5555





หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-12-2018 21:11:08
น่ารักจังลูกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Gareki ที่ 25-12-2018 21:20:16
โอ๋กันไปมาแต่เล็กจนดตจริงๆ ก็เจนรักของเจนอะ :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 25-12-2018 22:01:29
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:  ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากขอบคุณที่นักเขียนยังมาเขียนตอนน้องวินให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: @rnon ที่ 25-12-2018 22:17:14
 :กอด1:    กอดน้องวิน

      โตแล้ว ............ จะทำอะไรก็ได้


ยกเว้นดื้อกะเจน 55    :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 26-12-2018 21:31:19
น้องวินโตแล้วก็ยังรู้สึกว่าน่ารักเหมือนเป็นลูกกบเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-12-2018 00:08:20
ลูกชุบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 27-12-2018 01:21:35
น้องวินของป้าาาาาามาแล้ววววว
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 28-12-2018 11:12:50
งือออออ แค่อินโทรก็มอไม้สั่นไปหมดแล้วววว.
รอนะคะ//
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : Intro) 25.12.2018 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 31-12-2018 13:22:35
โตเป็นหนุ่มแล้วจ้าลูกกบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 31-12-2018 19:09:36
ลูกชุบของอัศวิน 1


นี่จะเป็นวันแรกสำหรับการใช้ชีวิตแบบที่คุณป๋าบอกว่าต้องลอง


ตั้งแต่เช้ามาน้องวินไม่ได้เจอเจนเลย อาจจะเพราะคุณป๋านั้นกังวลว่าจะงอแง ก็ไม่งอแงแล้วไง นี่อายุก็ 18 แล้ว เลิกงอแงมานานแล้ว ทำไมแค่นี้ถึงไม่เข้าใจ!


สำหรับแผนการนี้ อาเพชรซึ่งเป็นเลขาของคุณป๋าเป็นคนประสานงานหาตำแหน่งโดยบอกทีมงานว่าเขาเป็นญาติเพื่อไม่ให้คนอื่นๆเกร็งที่ต้องใช้งานลูกประธาน พวกเราซักซ้อมกันเป็นอย่างดี เรียกว่าคนอื่นพยายามจะซักซ้อมกันมากกว่า อัศวินเพียงอยู่เฉยๆ รับฟัง และพยักหน้าบ้าง


เขาไม่ได้ต่อต้าน ทว่าก็เป็นคนที่มีสีหน้าเรียบนิ่งในบางทีไม่ต่างจากคนเป็นพ่อ นักรบเองจะดูเฟรนด์ลี่กับคนๆเดียวเท่านั้นคือเจนรักษ์ และนั่นคือข้อเดียวที่เราพ่อลูกเหมือนกันมากที่สุด หลายครั้งก็ก่อปัญหาแย่งเจนกันตั้งแต่เด็กจนโต ตอนนี้เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเกิดแล้ว แต่น้องวินก็ยังติดเจนอยู่ดี และให้ออกมาข้างนอก ก็คงจะเป็นแผนของคนพ่อที่พยายามจะสั่งสอนให้เขาเคยชินกับการออกมาใช้ชีวิตโดยพึ่งตัวเอง


คุณอาเพชรที่เป็นคนขับมาส่งนั้นบอกทางและชี้แจงรายละเอียดอื่นๆให้ทราบ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพนักงานแนะนำสินค้าก็จะมาในอีกไม่นาน สินค้าที่จะต้องดูแลในวันนี้เป็นโปรดักส์ใหม่ของทางบริษัทในเครือนั่นคือมีทบอลสำเร็จรูปสำหรับคนรักสุขภาพที่ไม่ค่อยมีเวลาซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน


อัศวินนั่งอ่านเอกสารที่เพชรเตรียมไว้สำหรับเตี๊ยมกันก่อน และโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลพนักงานแนะนำสินค้าหรือเรียกสั้นๆว่า PC นั้นโทรตามกันแล้ว“งั้นผมไปล่ะครับ” อัศวินยกมือไหว้ก่อนจะเดินลงไป เขามีมารยาทเสมอถึงแม้จะดูเย็นชา อีกอย่างอาเพชรก็สนิทสนมกับที่บ้านมาก พระพายก็…น่าเสียดายที่เป็นแฟนของอาเพชรคนนี้ไปเสียแล้ว


เขาเดินมาหาเจ้าหน้าที่ที่โทรตาม และทันทีที่ปรากฏตัวก็สร้างความตกใจไม่น้อย ไม่ใช่เพราะหน้าเหมือนพ่อจนแผนแตกหรอก เพราะไม่ใช่ทุกคนในบริษัทที่จะได้เห็นคุณนักรบ ทว่าลักษณะท่าทางโดยรวมของเขาดูไม่น่าจะเป็นเด็กที่มีใจอยากมาทำงานแบบนี้เสียเท่าไหร่ดูเป็นลูกคุณหนูเกินไปเหรอ อืม…มันก็คงจะอย่างนั้น


“น้อง…เอ่อ อัศวินปะครับ”  แต่ถึงจะเตี๊ยมกันว่าเป็นญาติของอาเพชร แต่เมื่อมาดูชื่อในบัตรประชาชนอีกรอบ พนักงานคนนั้นก็ต้องตาโต เขานึกไว้แล้วเชียวว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แผนแตกตั้งแต่พูดคำว่าสวัสดีเนี่ยนะ


“พี่ครับ”


“คะ…ครับ”


“ผมสมัครใจมาหาประสบการณ์เองครับ”  เขายิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยอีกคำมาสมทบ “ช่วยให้ความร่วมมือด้วยนะครับ”  วันนี้พนักงานคนนั้นอาจจะฝันร้ายได้กับรอยยิ้มนี้ อัศวินไม่ธรรมดาจริงๆ...


เพราะมีชื่อเต็มนามสกุลเต็มคือ นายอัศวิน รัตนสกุล...


เขาเดินตามพนักงานคนนั้นเข้ามายังบริเวณที่ต้องมีการแลกบัตรประชาชนและเขียนชื่อเพื่อแจ้งว่าจะเข้ามาในพื้นที่เพื่อสาธิตการทำอาหารสำหรับการส่งเสริมการขาย ในช่วงเช้าแบบนี้มันก็ดูจะยุ่งเป็นพิเศษเพราะซุปเปอร์เปิดแล้ว ขณะที่กำลังต่อแถวเพื่อลงชื่อ อัศวินก็มองโดยรอบด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนกระทั่ง…


“อะ!”  เสียงของคนที่ยืนข้างหน้านั้นเรียกให้เขาหยุดสนใจความวุ่นวายเหล่านั้น ดวงตาของเขาจ้องมองปากกาที่มีคนยื่นให้มา ก่อนจะมองไปตามเรียวแขน และขึ้นมาบนใบหน้าที่มีดวงตากลมโตจ้องมองกันอยู่


“อ้าวววว! น้องชุบ”ทว่านี่ไม่ใช่เสียงของอัศวินที่เอ่ยทักเจ้าของร่างเล็กนั่นออกไป เป็นพนักงานที่ดูแลเขานั่นเองที่ทักทาย คงจะรู้จักกัน


“อ้าว!หวัดดีครับพี่เปรม” เจ้าของมือที่ถือปากการีบชักกลับมาเพื่อพนมไหว้ รอยยิ้มกว้างที่ดูสดใสนั้นดึงดูดความสนใจของเขาได้ชะงักเลยทีเดียว


“น้องชุบมาขายอะไรครับเนี่ย”  คาดว่าน่าจะเป็นคนๆนึงที่ทางรัตนสกุลเคยจ้างเป็น PC มาก่อน


“ขายผลไม้นำเข้าครับ ทางพี่เปรมมาขายอะไรเอ่ย”


“อ่อ นี่น้อง PC ทางพี่เอง วันนี้พามาขายมีทบอลน่ะ”


“น่ากินจัง”  ใบหน้าที่ดูเสียดายนิดๆนั้น ทำให้เขานึกคิดอาจจะเป็นคนมาแย่งงานของคนๆนี้ไป และนั่นทำให้เขาเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา แต่นั่นแหละ…นักรบตีหน้าขรึมเก่งแค่ไหน อัศวินเองก็เดินตามแบบวัดรอยเท้ามาเช่นกัน


เขาปล่อยให้คนทั้งสองมีบทสนทนากันต่อไป ก่อนจะลงชื่อของตนเองให้เรียบร้อย เรากล่าวลากันสั้นๆเพื่อแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เปรมที่เป็นผู้ดูแลได้พาเขาไปแนะนำสถานที่ในการจัดเตรียม อุปกรณ์ที่ต้องใช้ และสคริปต์ต่างๆที่ต้องใช้พูดทว่าคนสอนไม่อาจจะอยู่ด้วยตลอดไป ต่อไปนี้เป็นเขาเองที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ


และก็พบว่ามันเป็นงานที่น่าเบื่อมาก…


จริงๆงานนี้เหมือนจะไม่ใช่งานที่ยากเลย เขาใส่ผ้ากันเปื้อน ใส่หมวก และถือถาดที่มีถ้วยชิมมากมาย ทว่านี่ก็ผ่านไปจนเกือบจะหมดช่วงเช้า แต่เขาเพิ่งได้เข้าไปเตรียมอาหารแค่ครั้งเดียวเอง ค้นพบว่ามันยากอยู่ที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหา บางคนก็ดูเหมือนสนใจเลยเดินมาด้อมๆมองๆ แต่ก็ผ่านไป


“เฮ้อ…”


“ถอนหายใจอะไรเหรอ”


“…”โชคดีนะ…ที่ไม่ใช่คนขวัญอ่อน…


อยู่ๆก็มายืนอยู่ข้างหลังและช้อนตามองกันแบบนั้น คิดว่าคนปกติคงตกใจเป็นแน่แท้ แต่ว่าอัศวินเก็บอารมณ์ได้ดี เขาพิจารณาใบหน้าของคนที่อยู่ๆก็โผล่มา เป็นคนที่คุยกับพนักงานบริษัทคุณพ่อที่ได้เจอเมื่อเช้านี่เอง…ชื่ออะไรนะ ไม่ได้ถามไว้ซะด้วย จะว่าไป เราก็ไม่เคยคุยกันสักคำ


“ครับ”


“ชื่อชุบนะ ชื่ออะไรเหรอ?”


“…”


“เราเอานี่มาให้”  เขากำลังลังเลว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ยังไม่ทันได้ตอบคำถามให้เจ้าตัว อีกฝ่ายก็ยื่นเอาไม้จิ้มฟันที่จิ้มชิ้นแอปเปิ้ลอันเล็กๆมาให้ มีแต่เรื่องให้ลังเลเต็มไปหมดเลย นี่มันอะไรกันเนี่ย!


“อันนี้ของให้ลูกค้าชิมไม่ใช่เหรอ?”  แล้วอยู่ๆเอามาให้เขานี่นะ?


“อื้อ ก็ไม่ดีหรอกแต่แลกกันเนอะ”  ก็พอจะรู้ว่ามันคงมีอะไรแบบนี้บ้าง แต่ก็ตกใจยามที่อีกฝ่ายคว้าถ้วยพลาสติกที่ใส่มีทบอลหั่นเป็นชิ้นเล็กๆในถาดของเขาออกไป คนตัวเล็กมองซ้ายขวา ก่อนจะรีบจิ้มมันเข้าปาก อัศวินยังคงงงงัน โดยไม่รู้ตัวเจ้าของรอยยิ้มกว้างก็ยิ้มให้เขาจนตาหยี คนอะไรเนี่ย!

เกิดมานอกจากเจนแล้วก็ไม่เคยพบเจอ!


“จะได้เวลากินข้าวแล้วนะ”  คนที่เรียกตัวเองว่าชุบนั้นเรียกเขาอีกครั้ง อา…ใช่สิ แต่ยังแจกตัวอย่างไม่หมดนี่น่า


และยังไม่ทันหายตกใจกับเรื่องต่างๆ เจ้าตัวคนเจ้ากี้เจ้าการก็จัดการเอาถาดของเขาไปช่วยแจกซะงั้น ยังไม่ทันได้แย้งอะไรแอปเปิ้ลชิ้นเล็กๆนั่นก็ถูกยัดเข้ามาในปากของเขา คนที่ดูร่าเริงเหมือนใส่แบตมามากเกินไปใช้เวลาไม่นาน ดูก็รู้ว่าพูดเก่ง พูดแป็ปเดียวก็แจกหมด และก็หันมายิ้มให้เขาอีก


“ไปกินข้าวกันได้แล้ว”  และใครบอกว่าจะไปกินด้วย! ไม่มีใครบอกสักหน่อย?


“…”  แต่ก็มีคนตามไป  มัน…บ้าบอก็ตรงนี้


ตลอดทางก็จะมีคนที่ทักทายคนอื่นไปทั่ว และหันมาถามกันว่าแอปเปิ้ลอร่อยไหม ซึ่งมันก็อร่อยดี เหมือนที่เจนชอบซื้อไปปอกให้กินนั่นแหละ เขาเพิ่งรู้ว่ามนุษย์ชุบคนนี้ยืนอยู่ไม่ไกลกัน ก็นะเราอยู่ในโซนตู้แช่เหมือนกันมันจะไปไหนได้ไกลเล่า และเพราะอย่างนี้เจ้าตัวก็เลยได้เห็นเขาอยู่บ้าง และเห็นยืนโดดอยู่คนเดียวไม่มีใครคุยเลยเข้ามาทัก เพื่ออะไรเหรอ? ในฐานะรุ่นพี่ PC ที่ดีหรือไง?


“ว่าแต่ชื่ออะไรนะ”  นั่นไง ก็เพราะพูดมากอย่างนี้ไง เขาเลยยังไม่ได้บอกชื่อออกไปเลย!


“ชื่อวิน”


“แล้วอายุเท่าไหร่”


“18”  มันจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือไง


“สิบแปด!!!!!” 


“…”


“…”  ว่าแต่…


มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?!?!!!!!


“นึกว่ารุ่นเดียวกันเสียอีก! พี่อายุ 20 ละนะ”  จะตกใจก็ไม่แปลกล่ะ เขาต่างหากที่ต้องคิดว่าอีกฝ่ายรุ่นเดียวกัน ก็ไม่เคยมีคนรู้จักอายุ 20 มาก่อน ว่าแต่คนวัยนี้ต้องเจี๊ยวจ๊าวแบบนี้เลยเหรอ? นึกว่ามีแค่เจนเสียอีกแต่เจนก็เป็นแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่น้องวินจำความได้


เรามาอยู่กันที่ร้านข้างทาง เป็นครั้งแรกที่อัศวินได้กินอาหารแบบข้างทาง เพราะเขาอนามัยหรือถูกเลี้ยงมาดีเกินไปงั้นเหรอ ก็คงใช่ เด็กติดบ้านอย่างเขามักจะกินอาหารที่บ้าน ต่อให้ซื้อมาจากข้างทางก็มักกินในบ้าน ส่วนที่ออกไปข้างนอกเพื่อกินข้าวก็มักจะมีโอกาสพิเศษเสมอ กับร้านก๋วยเตี๋ยวที่ขับมาจอดและตั้งโต๊ะแบบนี้ถือเป็นครั้งแรกเลย


“ป๊อกๆร้านนี้อร่อยมาก”


“ป๊อกๆ ?”


“อื้ม ก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆไง น้องวินเอาเส้นอะไร เดี๋ยวพี่ชุบเขียนให้”  แล้วเราก็ดูสนิทสนมกัน กลายเป็นพี่ชุบกับน้องวินไปเสียแล้ว เขารู้สึกแปลกๆอยู่ไม่น้อย นี่เป็นไม่กี่ครั้งที่คนแปลกหน้าหรือคนไม่สนิทจะเรียกกันว่าน้องวินและแทนตัวเองว่าพี่ ไม่ได้ถือตัวจนรับไม่ได้หรอก แค่รู้สึกแปลกๆแค่นั้น


หลังจากสั่งไปและอาหารมาเสิร์ฟ อัศวินก็ทานมันอย่างนั้นเลย เขารู้ว่ามันมีพวงก๋วยเตี๋ยวเพื่อให้ปรุงเพิ่มเติมตามรสที่ชอบ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก แต่เพราะปกติจะมีเจนที่คอยทำให้ เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะทำยังไง กับเรื่องง่ายๆแต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็กลายเป็นเรื่องยากๆได้ทั้งนั้น


“น้องวินกินจืดเหรอ?”


“ขี้เกียจปรุงน่ะ”


“ใส่น้ำส้มหน่อย และพริกนิดๆก็อร่อยดีนะ”  เขาฟังคนแนะนำบอกมาเลยลองทำตาม แต่ก็ค้นพบว่ามันทำให้น้ำซุปเปรี้ยวโดด นิยามคำว่าหน่อยของเรานี่ไม่เท่ากันจริงๆ ทำไปทำมาเลยต้องลองเยาะน้ำปลาใส่น้ำตาลมาตัดแบบนิดหน่อย และค่อยๆชิม ทำไปทำมามันก็รสชาติดีขึ้นเอง ก็ไม่ได้ยากอะไร อย่างน้อยวันนี้ก็พอรู้แล้วว่าต้องปรุงให้ตัวเองยังไง


เราเดินกลับไปเข้างานหลังจากพัก ยังเหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าที่ต้องทำงานน่าเบื่อนี่ ยิ่งคนเดินผ่านน้อย เขายิ่งค้นพบว่ามันน่าเบื่อ ทั้งๆที่ไม่ใช่คนชอบพูดชอบคุย แต่การยืนอยู่เฉยๆแบบนี้ นอกจากน่าเบื่อแล้วยังแปลกมากๆอีกด้วยอัศวินถอนหายใจออกมา จริงๆแล้วการไปเรียนต่อต่างประเทศตามความประสงค์ของผู้เป็นพ่ออาจจะง่ายกว่าทำเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่อยากไปอยู่ดี แม้จะเป็นคนไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ก็เกลียดการอยู่อย่างโดดเดี่ยว


ท่ามกลางผู้คนเดินขวักไขว้ ที่ตรงนี้ในฐานะเจ้าหน้าที่สาธิตสินค้ามันช่างว่างเปล่า ไม่แน่ใจว่าอย่างนี้เรียกว่าเงียบเหงาหรือไร้ตัวตนไปแล้วกันแน่ เป็นอย่างนี้เขาไม่ชอบมันเลย ในขณะที่กำลังยืนเบื่ออย่างนั้นก็หันไปมองรอบด้าน ที่ตรงนั้นที่ใครอีกคนกำลังทำหน้าที่แบบเดียวกัน ต่างที่ชนิดสินค้า…


รอยยิ้มสดใสนั้นมันดูต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง ต้องเก่งหรือมีความชอบกันหรือถึงทำได้ดีจนน่าตกใจแบบนั้น ทว่าเจ้าของรอยยิ้มนั้นเมื่อจับได้ว่าเขามองอยู่ก็ยิ้มให้ และชี้ชวนให้คนที่ตนคุยอยู่หันมามองทางนี้ อัศวินเกือบหลบตาไม่ทัน เขาหันกลับมาสนใจงานของเขาซึ่งก็คือการยืนนิ่งๆ แต่แล้วก็มีคนเดินเข้ามาหา


“อันนี้ฮะ อร่อยมากๆเลย” เป็นคนที่เขาพยายามเลี่ยงที่จะสบตาอย่างไม่น่าสงสัย

   
“อันนี้นี่มันอะไรละจ้ะ”  ทว่าชุบกลับไม่ได้มาวุ่นวายคนเดียว รุ่นพี่ตัวเล็กได้พาคนอื่นมาด้วย เป็นคุณป้าท่านนึงที่ดูเหมือนจะเดินมาจับจ่ายใช้สอยอาหารสด


“มีทบอลครับ”  อัศวินเพียงตอบสั้นๆ


“ลองชิมได้นะฮะ อันนี้อร่อยมากเลยน้า”  ทว่าคำอธิบายที่เขาควรจะมีกลับถูกกลืนเข้าไปในลำคอ คนตัวเล็กที่พาคนอื่นมาจึงหยิบถ้วยชิมในถาดให้กับคุณป้าท่านนั้นด้วยตนเองแบบแถมฟรีรอยยิ้ม


“มันเป็นเนื้อเหรอจ้ะเนี่ย”


“เอ่อ…ส่วนผสมจะไม่มีเนื้อสัตว์เลยครับ เหมาะสำหรับคนทานมังสวิรัติหรือคนที่รักสุขภาพ” แต่เมื่อโดนถาม คำตอบมันก็ออกมาเอง


“แถมเตรียมง่ายมากๆนะฮะ  แค่เอาไปอุ่นในไมโครเวฟก็พร้อมทานแล้ว”  เป็นชุบที่ช่วยเสริมให้ น่าแปลกใจที่ข้อมูลเหล่านี้ไปอยู่ในหัวอีกฝ่ายได้ไง แต่มันก็ไม่ยาก ในเมื่อจอมเกาะติดได้เดินผ่านเขาในระหว่างกำลังเตรียมตัวอย่างทดลองเหล่านี้


“อร่อยดีนะ ว่าแต่แพคล่ะเท่าไหร่เหรอจ้ะ”


“ตอนนี้มีโปรโมชั่นอยู่ด้วยนะฮะ เป็นสินค้าเพิ่งเปิดตัวเลย”  แน่นอนว่าคำถามนี้เขาก็ไม่ได้ตอบเอง จอมยุ่งถึงกับหยิบสินค้าขึ้นมาแนะนำต่อให้ เขามองคู่สนทนาสองคนอย่างฉงนใจ แต่ไม่มีติดลำบากใจอยู่ในนั้นเลย เมื่อมาเทียบกันแล้ว…คนๆนี้ขายเก่งกว่าเขาจริงๆ ไม่นาน…ก็สามารถปิดการขายได้แล้วถึง 2 แพค


เรียกว่าเป็น 2 แพคแรกของวันนี้เลยดีกว่า…


ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย เขาก็เดินมาเซ็นชื่อออกจากพื้นที่และหมายมั่นจะมุ่งหน้ากลับบ้าน คุณป๋าที่มองว่าบททดสอบมันควรจะมากกว่าการให้มายืนขายของได้มอบหมายเพิ่มเติมให้กลับบ้านเอง ดังนั้นเขาจึงคิดจะนั่งแท้กซี่กลับเพราะไม่มีกฎเกณฑ์บังคับกันไว้


“น้องวีนนนนนนนน”


“…”


“กลับรถเมล์หรือเปล่า นั่งสายอะไรเหรอ”


“เอ่อ…ไม่รู้ครับ” เพราะไม่ได้คิดจะกลับรถเมล์


“อ้าว แล้วนี่ไปไหน ไปรถไฟฟ้าหรือเปล่า”  รถไฟฟ้าไหม…อืม จะว่าไปก็เคยขึ้นรถไฟฟ้าไปลงแถวบ้านอยู่นะ


“ก็…ครับ”


“งั้นขึ้นรถเมล์ไปด้วยกันไหม พี่ชุบจะไปขึ้นรถไฟฟ้าอยู่พอดี”


และด้วยเหตุนี้อัศวินจึงไม่ได้นั่งรถแท๊กซี่กลับบ้านเพราะมีอีกวิธีที่น่าจะเวิร์คกว่าการฝ่ารถติดจากบางนาไปทองหล่อในตอนเย็นๆวันศุกร์แบบนี้ แต่นี่คือครั้งแรกของการนั่งรถเมล์เลยนะ เขาไม่ค่อยได้ดูทีวีอยู่แล้วด้วย จะไปรู้ได้ไงว่านั่งรถเมล์ต้องทำอย่างไรและนั่งสายไหน? อัศวินรู้สึกระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อยในขณะที่โหนรถ เหลือบมองหาตัวอย่างจากคนนั้นคนนี้และก็ค้นพบว่าสิ่งที่ต้องทำคือการยื่นเงินให้กับเจ้าหน้าที่ที่เดินมาเหมือนนักเลง


“ครับ”  และเขาก็ยื่นแบงค์ที่เล็กที่สุดในกระเป๋าเงินตอนนี้…แบงค์ 500


“โหยยยย ไม่มีทอนหรอกน้อง”


“พี่ๆ งั้นเอาของผมไปก่อน”  เขาหันควับ ได้ไงกันเล่า!


“พี่ชุบ!”


“เอาน่า เดี๋ยวค่อยคืนพรุ่งนี้ อย่าเถียงเดี๋ยวได้กระเด็นลงรถหรอก”  อัศวินที่ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้นั้นมองหน้ากระเป๋าท่าทางนักเลงที่ฉีกตั๋วสองใบส่งให้กับคนจ่ายเงินด้วยความไม่พอใจ แต่แล้วมันก็ไม่เกิดอะไรขึ้น กับแค่เงินห้าร้อย ทำไมถึงไม่มีทอน ทว่าก็ไม่ได้บ่นอะไรออกไป เขาแค่เก็บความไม่พอใจไว้แค่นั้น


เราลงรถเมล์ป้ายเดียวกันและต่อรถไฟฟ้า คนพามาได้ลงไปก่อนที่สักสถานีนึง แม้ว่าอัศวินจะเงียบแค่ไหน แต่อีกฝ่ายก็ชวนคุยเก่งเหลือเกิน คาดว่าวันนี้คงพูดเยอะที่สุดในรอบเดือนที่ผ่านมา อัศวินกลับมาถึงบ้านรัตนสกุลด้วยความเหนื่อยล้า คาดว่าเขายังไม่ชินกับการยืนนานๆแบบนี้ และไม่ชินกับการยอมรับความพ่ายแพ้แบบงงๆนี้เช่นกัน

วันนี้คุณป๋ายังไม่กลับ ขอให้กองงานหล่นทับไม่ได้กินข้าวเย็นซะเลย พอนึกถึงข้าว เจนก็เดินมาหาพร้อมลากกันไปที่โต๊ะอาหาร วันนี้เราก็กินกันสองคน ดูเหมือนจะเหงาแต่เชื่อสิ ว่าจะเจนทำให้เราสามารถรู้สึกเหมือนมีคนมากกว่าสามคนนั่งอยู่ตรงนี้ได้


“เหนื่อยไหมน้องวิน”


“ก็เหนื่อยครับ แต่เจ็บใจ ขายไม่ค่อยออก”


“เราก็เป็นคนพูดเก่งที่ไหน ถอดแบบคุณป๋ามาเต็มๆแบบนั้นให้ไปยืนเป็นจ่าเฉยซะยังดีกว่า”  อันนี้ว่าคุณป๋าหรือว่าน้องกันนะ


“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะตั้งใจครับ”


“ว่าแต่นี่กลับมาไงเนี่ย”  เจนถาม


“นั่งรถเมล์ ต่อรถไฟฟ้า แวะซื้อน้ำและต่อพี่วินครับ”


“หะ…รถเมล์?”


“อื้ม ได้นั่งรถเมล์แล้ว”  ครั้งแรกในชีวิต…ในวันนี้นี่นะ โอ้ยตาย! เจนจะตายให้ได้ ทำไมไม่ให้เจนได้เตรียมตัวเตรียมใจ


“อย่าบอกนะว่าลูกชุบพานั่ง”


“ครับ?”


“ลูกชุบพานั่งใช่ไหมน้องวิน”


“ลูกชุบ…พี่ชุบเหรอครับ”  แล้วเจน…ไปรู้จักลูกชุบได้ไงลูกเก็บเหรอ?


“โอ้ยยยยย!! เราบอกให้ช่วยดูแลดีๆแท้ๆเลย”


“เจนส่งพี่ชุบมาเป็นสปายเหรอครับ”  ทำอย่างนี้ผิดกติกานี่ ถ้าคุณป๋ารู้…ที่ยืนขาแข็งมาทั้งหมดวันนี้ถือเป็นโมฆะ


“พี่เจนไม่ได้ส่ง น้องวินอย่าเข้าใจผิดๆสิ”  คนโดนถามตอบอย่างเลิกลั่ก ไม่มีการส่งใครไปด้วยจุดประสงค์นั้นจริงๆหรอก แต่เจน…ทำเรื่องที่ผิดกว่านั้น


จริงๆแล้ว เจนไปซื้อของที่นั่นบ้าง ใช้บริการอยู่หลายซุปเปอร์ในย่านที่สุขุมวิทจะไปถึงได้หลายแห่ง และด้วยนิสัยว่าง เอ่อม…ว่างถือเป็นนิสัยได้หรือเปล่านะ แต่เอาเป็นว่าว่างเลยไปเดินซื้อของบ่อยๆดังนั้นกับบางคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี โดยเฉพาะ ‘ลูกชุบ’ พนักงานแนะนำสินค้ามือโปรที่โผล่ไปอยู่หลายๆแห่งรอบๆเขตแดนที่รถไฟฟ้าจะพาไปถึง


อาจจะเพราะความเหมือนที่แตกต่างของเราสองคนต่างวัยกันก็เป็นได้ เจนถูกชะตาเด็กคนนั้นนักด้วยฝีมือการขายที่น่าเอ็นดู จึงมักจะซื้อของที่เจ้าตัวแนะนำอยู่บ่อยครั้งและเริ่มสนิทสนมกัน อีกทั้งก็เป็นเจนนี่แหละที่แนะนำให้ลูกชุบได้มาเป็นพนักงานแนะนำสินค้าของรัตนสกุลบางงาน ทว่าเด็กหนุ่มก็รับงานไปเรื่อยเพราะเรียนไปด้วย ทำเท่าที่ไหว แต่บางทีก็ฝืนคำว่าไหวไปอยู่บ้างเหมือนกัน


ด้วยความเป็นห่วงวันนี้ก็ตั้งใจจะไปด้อมๆมองๆไม่ให้รู้ตัว ทว่ามีคนรู้ตัวก่อนใครนั่นคือลูกชุบ เจนแทบจะกระโดดไปตะครุบปากแทบไม่ทัน ก่อนที่จะอธิบายให้ฟังว่าแอบมาดูใคร ทั้งนี้ไม่ได้บอกลูกชุบไปหรอกว่าน้องวินนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ก็บอกไว้แค่ว่าเป็นญาติที่เลี้ยงดูมา เป็นห่วงมากๆ เลยถือโอกาสฝากฝัง แต่เจนไม่คิดเลยว่าคำว่าดูแลนั้นจะตีเป็นวงกว้างขนาดทำให้คนตัวเล็กนั่นพาลูกชายบ้านชาวบ้านไปกินป็อกๆและนั่งรถเมล์


ในโอกาสนี้อัศวินได้สอบถามไปพร้อมแสดงข้อสงสัยเกี่ยวกับการทอนเงินของรถเมล์ไทย และได้ทราบว่าบางทีเขาก็ไม่มีเงินทอนหรือขี้เกียจทอน คนส่วนใหญ่ควรจะเตรียมเงินให้พอดีหรือไม่มากจนเกินไปเอาไว้ ทั้งนี้ก็ไม่เคยรู้เลยว่าค่ารถเมล์นั้นมันถูกขนาดนี้ ไม่แปลกล่ะถ้ามีคนมายื่นแบงค์ห้าร้อยให้ อัศวินคงกำเหรียญปาใส่หน้าเป็นแน่ และเมื่อคิดถึงข้อผิดพลาดมากมายของตนวันนี้ก็พลันคิดถึงอีกคนที่ดูเหมือนจะน่ารำคาญ แต่ก็น่าสนใจ ในเรื่องหลายๆก็เหมือนจะมีเรื่องดีๆ


“ลูกชุบเก่งมาก และใจดีด้วย มีอะไรก็ถามได้หมดเลย”  เจนพูดเช่นนั้น และน้องวินก็รู้ว่าคนจุ้นจ้านใจดีแค่ไหน อา…ชมเก่ง ป่านนี้คงลอยหลุดออกจากหน้าต่างบ้านไปแล้วล่ะมั้งนั่น


แต่ก็จริงที่ว่าเก่ง เขายังมองออกว่าตัวเองอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่ายเยอะเมื่อดูถึงจุดนี้ มีตั้งหลายเรื่องที่อัศวินไม่รู้ ไม่เข้าใจ ในขณะที่อีกฝ่ายทำมันออกมาได้เป็นธรรมชาติ เราอาจจะอ้างถึงความมีประสบการณ์ของอีกฝ่าย แต่ถ้าเขายังเป็นอย่างนี้มันก็คงไม่พัฒนาไปไหน


“ผมทำได้ไม่ดีเลย”  เขาพูดออกไปอย่างนั้น และมันทำให้เจนวางช้อน


“ไม่ๆน้องวิน อย่าคิดมาก วันนี้น้องวินขึ้นรถเมล์เป็นแล้วไง”  ใครบอกว่าขึ้นเป็น มีคนจูงมือขึ้น ต่อให้เป็นพรุ่งนี้ถ้าไปคนเดียวก็คงขึ้นไม่เป็นอยู่ดี กับเรื่องที่คนอื่นมองว่าง่าย แต่โตมาจนขนาดนี้ยังทำไม่ได้ มันกลับกลายเป็นเรื่องยากที่มีผลต่อความเชื่อมั่นในตนเอง


“ยังมีอีกเยอะที่ยังทำไม่ได้”  บางทีไอ้ที่คุณป๋าบอกว่าอยากให้ออกไปข้างนอกไปทำงานนี้มันก็ด้วยหลายเหตุผล ลูกชายของคุณป๋าน่ะโตแค่ตัวจริงๆ และถ้าไม่เลือกเดินตามเส้นทางเดียวกัน ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในทางที่แตกต่างสินะ


“ไม่มีใครเก่งแต่เริ่มหรอกนะ”  พี่เจนพูด แต่ริมฝีปากมีรอยยิ้มเมื่อเห็นแววขัดใจของเด็กที่เอาแต่ใจนับตั้งแต่วันนี้อัศวินคงเอาจริงแล้ว บางทีที่เลือกไปขอให้ลูกชุบช่วยก็คงไม่ใช่เรื่องที่แย่เกินไป คุณรบก็พูดน้อยเกินเมื่อไหร่น้องวินจะไปเข้าใจล่ะ พ่อลูกคู่นี้นี่นะ ไม่ได้ล่ะ เจนต้องไปจัดการคุณรบแล้ว ตาคนปากหนักนี่ ส่วนน้องวินก็…


พอจะเป็นไปได้ไหมนะ? ที่จะฝากลูกชุบจัดการไปก่อน….


TALK
นิยายเรื่องนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นน้องวินเท่สุดเป็นพระเอกสุดอะไรหรอกนะคะ
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าน้องก็เป็นลูกคุณหนูระดับหนึ่ง แถมเก็บตัวด้วย
ดังนั้นเรื่องนี้น้องก็จะมีขาดๆบ้าง เกินๆบ้าง ต้องติดตาม แหมะไหนๆก็ติดตามมาตั้งแต่ฟันยังไม่ขึ้นเนาะ555
#เจนไม่นก
TWITTER @reallyuri






หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ooomukooo ที่ 31-12-2018 19:38:06
ลูกชุบน่าร้ากกกกกกก
รอตอนต่อไป  :hao7:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 31-12-2018 20:04:46
ลูกชุบน่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-12-2018 20:56:17
ชุบๆจุ๊บๆ Happy New Year นะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-12-2018 21:27:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Cappello ที่ 31-12-2018 22:06:02
น้อนนนนนนนนนนนนนนน :impress2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Gareki ที่ 31-12-2018 22:21:08
มีแวววว มีแววได้เ มี ยยย :hao7: :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-01-2019 01:45:29
เจนเป็นกามเทพไปแล้วรู้ตัวหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 02-01-2019 02:09:07
ชอบบุคลิกของหนูวินมากจริงๆมองเป็นน้องเสมอแม้จะโตแค่ไหนเจ้าลูกบของป้าาาา
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 02-01-2019 12:39:48
น้องงงงง น้องโตแล้วแต่ก็ยังเป็นน้องงงง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-01-2019 20:11:55
พี่เจนก็คือพี่เจนนนนน
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 1) 31.12.2018 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: namtok ที่ 02-01-2019 21:44:46
 :o12: :o12: :o12: ค่อยเป็นค่อยไปนะเจ้ากบ โอ้ยยยย //เจนก็ห่วงลูกเกิ้น
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 05-01-2019 18:43:51
ลูกชุบของอัศวิน 2

“อ่ะนี่!”  เจนที่ยิ้มอย่างสดใสดูไม่น่าไว้ใจเลยในตอนนี้


“อะไรครับ”  อัศวินถามเมื่อเจนส่งถุงอะไรสักอย่างมาให้ พอเปิดดูก็พบว่าข้างในมีถุงคุ้กกี้ เจนเพิ่งอบเมื่อวาน แต่เอามาให้ทำไม? แถมผูกโบว์ซะเรียบร้อยแบบนี้


“เอาไปให้ลูกชุบที”  ว่าแล้วเชียว!  ตั้งแต่เมื่อวานแล้วเอะอะอะไรก็ลูกชุบๆ ก็เข้าใจว่าคนโปรด แต่คนโปรดอันดับ 1 (น้องวิน) และอันดับ 2 (คุณป๋า) นั่งอยู่ตรงนี้แท้ๆยังทำหน้าระรื่น ต้องมีคนขมวดคิ้วก่อนไปทำงานเสียแล้ว


“อะไรคือลูกชุบ!”  นักรบที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ถึงกับชะงัก ก่อนจะหันมาถามเจ้าของคุ้กกี้


“ต้องพูดว่าใครต่างหาก ลูกชุบคือเด็กที่ทำงานที่เดียวกับน้องวิน น้องที่เจนรู้จักเอง”


“แล้วไปรู้จักกันได้ไง”นั่นไง คนโปรดเบอร์สองถึงกับทำเสียงห้วนๆ


“ก็ไปซื้อผักผลไม้ให้พ่อลูกจอมเรื่องมากกินเลยรู้จักไง น้องทำงานที่ซุปเปอร์ เจนเห็นขายเก่งเลยชวนมาขายให้สินค้าบริษัทคุณรบไง”  แต่ไม่ได้บอกคุณรบนะ ระดับนี้จิกหัวใช้เลขาคุณรบได้เลย ทั้งเก่งและจะใหญ่กว่าประธานบริษัทแล้ว


“ผมต้องระวังตัวหรือเปล่า”ระวังอะไร?มือที่ 3 หรือการยึดอำนาจจากมือที่ 1 ล่ะ


“เฮ้อ…ลูกชุบนี่ตัวเท่าเมี่ยงจะไปกลัวอะไร” เป็นความจริงที่ว่าถ้าเจนกับลูกชุบอยู่ด้วยกันต้องอยู่ในห้องเก็บเสียงเท่านั้น อีกอย่างถ้าคุณนักรบคือแบบที่เจนชอบ ลักษณะของลูกชุบนั้นก็ไกลจากแบบที่เจนชอบในเชิงนั้นไปเลย อาจจะเรียกว่าเอ็นดูแบบที่เอ็นดูพระพายนั่นแหละ


“ก็แล้วไป”  ก่อนจะกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ เอ๊ะ…หรือเจนควรจะเดินควงลูกชุบแบบเปิดเผยดี ซึ่งนั่นไม่ดีแน่ๆ คุกอาจจะถามหาก็เป็นได้ ดูจากทรงหน้าแล้ว อาจจะรุ่นเดียวกับน้องวินหรืออ่อนกว่าด้วยซ้ำ จะว่าไป…เจนก็ไม่เคยถามประวัติความเป็นมาของน้องเลย เจอหน้ากันทีไร คุยแต่เรื่องของกินทุกที


ในที่สุดก็ได้เวลาส่งพ่อและลูกกบออกจากบ้าน วันนี้คุณรบบอกจะไปส่ง แต่เจ้าแสบบอกว่าจะนั่งรถไฟฟ้าต่อบีทีเอสเอง เผื่อเวลาไว้นานพอตัวเลย คนพ่อส่งถึงแค่รถไฟฟ้า เราไม่ได้พูดอะไรกันแต่รับรู้ได้ถึงความจริงจังในวันนี้ เป็นอีกวันที่ขึ้นรถไฟฟ้าและถ้าเวลาเหลือพอก็จะขึ้นรถเมล์แบบที่เมื่อวานเจนสอนเอาไว้ แต่ถ้าไม่มีก็เรียกแท็กซี่เอ้า


“น้องวีนนนนนนนน”  แต่สงสัยได้ขึ้นรถเมล์แน่ๆวันนี้


คนตัวเล็กที่สดใสเปล่งปลั่งราวกับเมายาเสมอมานั้นเดินเข้ามาในโบกี้เดียวกับเขา มันเป็นความบังเอิญหรือความตั้งใจของใครก็ไม่มีใครรู้ แต่วันนี้เช้าของเขาถูกเตรียมพร้อมทางความร่าเริงจากเจนมาก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นมันต้องไม่เป็นอะไร


เราสองคนลงรถไฟและต่อรถเมล์อย่างที่ตั้งใจไว้  อัศวินเดินตามอีกฝ่ายเงียบๆแสร้งทำทุกอย่างให้ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งๆที่กำลังพยายามเก็บข้อมูลอยู่ ลูกชุบเป็นคนตัวเล็กเหมือนเจนเลย บุคลิกที่ร่าเริงนั้นดูจะมีมากกว่าเจนด้วยซ้ำ ยิ้มสวยเหมือนพี่พระพาย และมีความใจดีเผื่อแผ่แบบพระพายมากกว่าที่เจนเป็น เป็นความร่าเริงแต่มองโลกในแง่ดี


ว่าแต่สิ่งที่เขาควรจะสังเกตไม่ใช่ลูกชุบสิ! มันชักมากไปแล้วนะอัศวิน นายมาทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมไปข่มคุณป๋าอยู่ไม่ใช่หรือไง! อย่าให้อย่างอื่นมาดึงความสนใจอออกไปสิ ใช่! เขาต้องขึ้นรถเมล์สายนี้ แต่นี่มันไม่เหมือนสายที่นั่งเมื่อวานนี่ เมื่อวานเป็นรถไม่มีแอร์ วันนี้มีแอร์ อา…ประเทศไทยมีรถเมล์หลายประเภท และหลายสายอาจจะผ่านจุดหมายของเขาสินะ สงสัยต้องแอบหาข้อมูลหน่อยล่ะว่าสายไหนผ่านบ้างจะได้มาคนเดียวถูก!


แต่ขั้นตอนการจ่ายเงินก็คล้ายๆกัน ตรงนี้อัศวินสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว มีการถามค่าโดยสารจากกระเป๋ารถเมล์ก่อนจะยื่นแบงค์ 20 ให้ไป จากที่เจนเล่าให้ฟังคือรถเมล์มีหลายประเภท ค่าโดยสารก็ต่างกันไป บางคันเป็นแบบเหมาจ่าย บางคันเป็นแบบคิดตามระยะทาง เมื่อวานเราติวกันแล้ว วันนี้จึงไม่พลาด!


การทำงานในช่วงเช้านั้นสั้นๆ อัศวินเริ่มเรียนรู้ที่จะพูดเชิญชวนให้ลูกค้ามาหยิบชิมบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จแบบที่ตั้งเป้าไว้ บางคนเดินมาหยิบและเดินจากไปไม่รอฟังเขาพูดต่อ ของชิมหมดเร็วขึ้นก็จริงๆแต่ยังไม่มีโอกาสได้แนะนำสินค้าดีๆเลย มีอะไรที่ทำผิดพลาดไปอีกงั้นเหรอ?


“ต้องยิ้มด้วยสิ”  ยิ้ม!


“…” ยิ้ม..


“ยิ้มแบบนี้”  และก็ยิ้มเต็มแก้มให้เขาดู เราพักเบรกกันแล้ว และก็มานั่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้อนๆเหมือนเดิม ในขณะที่รออาหาร เขาก็ทำใจกล้าถามรุ่นพี่ที่รู้จักเพียงแค่คนเดียวในที่แห่งนี้


“มันหงุดหงิด ใครจะไปยิ้มได้”  เขาพูดออกไป


“ไม่เห็นยากเลย ง่ายนิดเดียวแบบนี้ไง”  แล้วเจ้าของรอยยิ้มเต็มแก้มก็จัดการสาธิตกับใบหน้าของเขา ลูกชุบที่แนะนำตัวแค่ว่าตนชื่อชุบนั้นยื่นแขนออกไปหา ก่อนจะใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างกดยกมุมปากของเขา


“…”  ช่วยดูหน้าด้วยว่านี่เล่นอยู่หรือเปล่า!


“แค่ยกมุมปากขึ้นไปก็ดูใจดีขึ้นแล้ว”เขาไม่ได้อยากดูใจดี…


ดังนั้นก็ช่วยเกรงใจกันบ้าง!


“อย่าทำตาแข็งแบบนั้นสิ คนอื่นกลัวหมด”  แล้วลูกชุบไม่กลัวเลยหรือไง นี่ทำให้กลัวอยู่ทำไมยังไม่กลัวอีก ต้องให้ถลึงจนตาถลนออกมาเลยไหมถึงจะกลัวกันได้ คิดว่าเป็นคนโปรดของเจนแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ โลกมันไม่ได้สวยหรูขนาดนั้นหรอก!


“เอามือออก”  เขาสั่งพลางรวบมือของอีกฝ่ายออกไป และอีกจุดสังเกตุคือมือของลูกชุบเล็ก…และอุ่นนุ่มมาก


“ก็พี่ชุบอยากบอกน้องวินนี่ ว่าทำหน้าดุไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นะ ลูกค้าที่ไหนจะกล้ามาเข้าใกล้เราล่ะ”


“…”


“ยิ้มหน่อยสิ และพูดเพราะๆว่า ‘มีทบอลอร่อยๆครับ’ แบบนี้”ว่าไปพลางสาธิตด้วยการยื่นตะเกียบให้ อัศวินที่คิดตามก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าคนขายหน้าบึ่งแบบเขาก็คงไม่มีใครอยากซื้อ แต่ต้องโทษใครเล่าที่ทำให้หน้าเขาเป็นเช่นนี้ โทษคุณป๋าดีไหม เราก็หน้าคล้ายๆกัน รายนั้นก็ไม่ได้ดูเป็นมิตรกับคนอื่นสักเท่าไหร่


เรากลับมาทำงานพร้อมคำถามเดิมว่างานนี้มันเหมาะกับเขาจริงๆไหม อัศวินค้นพบว่าการยิ้มกว้างๆทำให้ตัวเองดูหน้าตึงแปลกๆจึงไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เขามีเพื่อนน้อย ในตอนเด็กๆพี่เจนเคยบอกว่าน้องวินยิ้มน่ารัก แต่เมื่อโตขึ้นโครงหน้าเริ่มเปลี่ยน รอยยิ้มก็อาจจะไม่ใช่อะไรที่เหมาะกับทุกช่วงวัยอีกต่อไป แถมอุปสัยก็เปลี่ยนตาม รอยยิ้มเป็นเรื่องที่ต้องสร้าง ไม่ใช่ความต้องการโดยแท้จริงอีกต่อไป


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“…”  อัศวินที่กำลังแจกของชิมอยู่ทำสีหน้าไม่ถูก อยู่ๆคนที่ไม่ควรจะอยู่ในระบบชีวิตตอนนี้กลับมาโผล่ที่ตรงหน้า เพชรพิสุทธิ์เหมือนจะโผล่มาในยามที่ไม่ต้องการเสมอ แต่น้องวินเคยต้องการเขาด้วยหรือไง?


“ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวขายของไม่ออกนะครับคุณหนู”  รู้ดีไปอีกว่าปัญหาที่กำลังขบคิดอยู่คืออะไร


“ลุงเพชรมาทำไมครับ”


“อาเพชรก็พอมั้งครับ”  อายุก็น้อยกว่าทั้งคุณรบและเจน ถ้าหลานไม่หมั่นไส้บางทีก็ได้เป็นอาอยู่หรอก เขาพยายามจะเพิกเฉยต่อท่าทางตึงๆอารมณ์ไม่ดีของคนลูก เพราะชินกับท่าทางแบบนี้ที่มีเหมือนคนพ่อ ก่อนจะอธิบายต่อไป  “คุณรบใช้มาสืบราชการลับนะครับ”  ยังคงเป็นเลขาที่ใช้ได้คุ้มเช่นเคย โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ยิ่งดูเป็นความชำนาญเฉพาะทางที่ไหว้วานใครอื่นไม่ได้


“เรื่องลูกชุบใช่ไหม”


“โหหหหหห แสดงว่าคอนเนคปัญหาทางสุขภาพจิตได้กับคุณพ่อ”  เรื่องเจนคือปัญหาหลักของเรา แต่เชื่อเถอะว่ากับลูกชุบนี่ไม่มีอะไรหรอก การเป็นคนโปรดนั้นมีหลากหลายความหมาย แต่เขามั่นใจว่าลูกชุบมาแย่งเจนไปไม่ได้หรอก ดีดทีเดียวก็กระเด็นแล้ว


“อยู่ตรงนั้นน่ะ แวะไปซื้อแอปเปิ้ลสิ”  เขาตอบแบบปัดรำคาญ


“ไปมาล่ะครับ เลยแวะมาหา เห็นยืนหดหู่อยู่เลยเป็นห่วง”นี่เขาดูเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือนี่ อัศวินมองหน้าเลขาของคุณป๋าของเขาและก็นึกขึ้นได้ว่าคนปากแบบนี้อยู่รอดมาได้ไงตั้งหลายปี แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าไม่มีใครโกรธคนๆนี้ได้เลย อย่างเต็มที่ก็แค่หมั่นไส้อะไรบางอย่างในตัวของเพชรพิสุทธิ์บางอย่างในตัวเขานั้นมันคืออะไรกันเหรอ?


ความกะล่อนไง…


“อาเพชร”


“ครับ”  ในที่สุดก็เรียกอาสักที


“ตอนเย็นมารับผมที่รถไฟฟ้าทองหล่อหน่อยสิ”


“ก็ได้เหรอครับ?”  บ้านนี้นี่ยังไง เป็นเลขาคุณรบคนเดียว พ่วงตำแหน่งทาสของเมียและสารถีให้ลูกชายด้วยเหรอ ได้เหรอ เอาจริงๆ


“ต้องได้ครับไม่งั้นพระพายรู้แน่ว่าวันนี้อาเพชรแวะมาเต๊าะเด็ก”  พูดพลางพยักเพยิดไปที่ทางลูกชุบที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว จริงๆพระพายไม่ใช่คนงี่เง่าที่จะเชื่ออะไรแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคุณหนูน้องวินพูดล่ะก็…อึก…น้ำลายแกลลอนนึงก็กลืนลงคอไม่พอหรอก ในที่สุดก็ต้องจำยอมไปรับทั้งๆที่วันนี้ไม่ได้เต๊าะใครจริงๆ(?)


ขากลับบ้าน เขาก็ยังไม่พอใจกับยอดขายที่สัมผัสได้ด้วยตัวเองเท่าไหร่ และเหมือนเดิมก็ยังกลับกับลูกชุบ ทั้งๆที่ให้อาเพชรมาอยู่รอรับที่นี่ไปเลยก็ได้ แต่ก็ไล่ให้ไปเจอแถวบ้าน มันเพราะอะไรกันนะ ต้องเป็นเพราะไม่อยากให้ลูกชุบรู้แน่ๆว่าเป็นลูกคุณหนู


“น้องวินทำดีแล้ว เชื่อสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”  นี่ก็ไม่ได้ขอคำปรึกษา ไม่ได้พูดด้วยเลยแล้วมาทำเป็นรู้ดี   


“…”  มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะเขาจะไม่มีวันย่ำอยู่กับที่  อัศวินเงียบและเสมองไปทางอื่น ถ้าไม่ใช่กับเจนก็ดูเหมือนจะมีความอดทนต่ำกับคนทั่วไปเสียหน่อยอยู่เหมือนกัน นี่แหละเหตุผลที่ไม่ค่อยอยากออกจากบ้าน ไม่ชอบความวุ่นวาย


“อย่าทำหน้าเหมือนรำคาญขนาดนั้นสิ”  อีกฝ่ายพึมพำเสียงเบาก่อนที่จะถอยห่างออกไป เขากลับมามองที่ใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวังนั่นอีกครั้ง ฉับพลันก็รู้สึกผิดขึ้นมา ก่อนจะคว้าฉุดให้เข้ามาหา แต่อย่างไร…มันก็ดูจะใกล้กว่าเดิม


“ไม่ได้รำคาญ แต่กำลังคิดอยู่” 


“…”


“เอาขนมไปกินนะ”  เขาเกือบลืมไปเสียแล้วว่าเจนฝากของมาให้ โชคดีที่ถือติดมือมาด้วย และเมื่อยื่นถุงขนมให้ ดวงตาของรุ่นพี่ตัวเล็กก็เป็นประกาย ให้ตายเหอะ แพ้จริงๆด้วย คนอะไรเศร้าไม่จริง น่าตีนัก!


“ให้พี่ชุบเหรอ?”  ถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ เดี๋ยวก็ไม่ให้เสียเลย!


“เจนฝากมาให้”


“พี่เจนฝากมาเหรอ!”  ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นยิ่งเป็นประกายใหญ่ นั่นทำให้เขายิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีก แค่พูดชื่อเจนก็ต้องดีใจขนาดนี้เลยเหรอนี่ เขาเริ่มรู้สึกหวงขึ้นมาหน่อยล่ะ หวงใคร…หวงเจน?


“อืม”


“พี่เจนฝากมาใช่ไหม พี่เจนใจดีจัง พี่เจนนะ พี่เจน นะ…อื้อ!!!”  น่ารำคาญ ปิดปากไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอายุน้อยกว่าจริงๆ เพราะมือของเขาใหญ่พอที่จะปิดได้ทั้งหน้าของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ อัศวินตีหน้านิ่ง


“เงียบได้หรือยัง”  เขาถาม ลูกชุบพยักหน้า และมันก็แค่นั้นเองที่ได้อิสระ ทว่าดวงตาแป๋วคู่นั้นก็ยังมองอยู่ มือที่ปิดปากอยู่จึงถูกเลื่อนมาปิดตาให้ซะจบๆ เป็นความเงียบที่เสียงดังจริงๆสำหรับดวงตาคู่นี้


“ปิดตาพี่ชุบทำไม?”


“บอกให้เงียบไง” เดี๋ยวก็ปิดปากด้วยซะเลย


“เดี๋ยวเลยบ้านพี่ชุบ” อีกคนว่าอย่างกระเง้ากระงอด


“อีกสถานีนึง”  กลายเป็นว่าเขาจำได้ อัศวินแค่ความจำดีหรอก เขาไม่ได้ตั้งใจจำ


“อ้าว..งั้นก็ต้องลงแล้วสิ”  ก็ใช่น่ะสิ  “ยังไม่อยากลงเลย”


“ไม่อยากกลับบ้านหรือไง” เด็กนิสัยไม่ดี


“อืม…”  ลูกชุบเพียงตอบรับสั้น ก่อนจะเอ่ยมาอีกคำ  “ยังไม่อยากกลับเลย”


“…”


“น้องวิน?”  เพราะความเงียบของรุ่นน้องตัวสูง ทำให้มือเล็กที่เขาเคยสัมผัสและรับรู้ถึงความนุ่มนิ่มถูกยกขึ้นมาสัมผัสข้อมือของเขา ไม่ได้เด็ดขาดจะเปิดตาให้อีกฝ่ายมองหน้าไม่ได้เด็ดขาด อัศวินคิดว่าเขาไม่เป็นตัวเองมากๆในตอนนี้


“อดทนหน่อย จะลงแล้ว”  ยังไงลูกชุบก็ต้องกลับบ้าน ไม่งั้นมันเป็นอันตรายกับเขาจริงๆ ดวงตาคมจ้องมองไปยังด้านนอก ใกล้ได้เวลาแล้ว เขาเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยังคงถูกปิดตา เห็นอีกฝ่ายทำจมูกฟุดฟิดเล็กน้อย ก่อนจะดึงให้อีกฝ่ายไปยืนที่หน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงประกาศ แทนที่ลูกชุบจะรู้ตัวว่านี่มันได้เวลาที่จะต้องแยกจากกันแล้ว แต่บางสิ่งกลับดึงสติของตนไปเสียอย่างนั้น อะไรนะเหรอ…


กลิ่นของน้องวิน


“หอมจัง”  อา….ให้ตายเหอะทำไมมันยังไม่ถึงสักทีนี่ อัศวินได้แต่งุ่นง่านอยู่ในใจ และทำไมจะต้องตัวเล็กพอดีกับตัวเขาได้ขนาดนี้ มองจากตรงนี้ก็เห็นกระหม่อมของอีกฝ่ายชัดจนขณะที่หันหลังให้กัน ถ้าหันหน้ามา…ริมฝีปากเจื้อยแจ้วนั่น…ต้องพอดีกับหัวใจแน่ และจู่ๆภาพประหลาดก็ซ้อนทับขึ้นมาให้หงุดหงิดอีกครั้ง พอดีกับที่ประตูกำลังเปิด โชคดีที่โบกี้นี้คนไม่เยอะ


“กลับดีๆนะ”  เขากระซิบบอก ก่อนจะดันให้อีกคนออกไปจากรถไฟฟ้า ยังไม่ทันที่ลูกชุบหันมาบอกลา…


เขาก็เดินหนีไปนั่งตรงไหนสักแห่งเสียแล้ว…


“บ้ายบาย”  แต่อัศวินก็ได้ยินเสียงของคนร่าเริงอยู่ดีทั้งๆที่หลบมาถอนหายใจคนเดียวแล้ว อยู่กับคนแบบลูกชุบทำหัวใจเต้นแรงเกินไป และนี่มันควบคุมยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เขารู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเองก็ตอนที่ต้องรับมือกับคนๆนี้ และยังไม่มีวิธีแก้ไขให้ดีขึ้นแม้จะกลับไปวางแผนดีแค่ไหนก็ตาม นี่มันแค่วันที่ 2 ที่ได้รู้จักกันนะ ยังไม่เคยเจอใครที่มีอิทธิพลที่ทำให้รำคาญแต่แคร์ได้ขนาดนี้มาก่อนเลย และคนแบบนี้บนโลกมันมีอยู่เยอะไหม? ชักจะเหนื่อยแล้วนะ


เมื่อมาถึงสถานีทองหล่อ คนที่กลัวพระพายมากก็มารอรับตามที่ได้ตกลงไว้ แต่เราจะยังไม่ไปบ้านรัตนสกุลเลยทีเดียว เพราะนายน้อยได้สั่งให้คนขับรถพาไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เราสั่งน้ำมานั่งจิบและอยู่กับตัวเองกันสักพัก จนมีคนที่ทนไม่ไหว และนั่นคือคนที่ไม่ได้อยากมาตั้งแต่แรก


“คุณหนูน้องวินครับ”


“ครับ”


“บอกอามาเถอะครับ”  เพชรจะไม่ไหวแล้ว อยากรู้ด้วย กลัวด้วย ใจบางไปหมดแล้ว


“…”


“ใครทำให้เจ็บช้ำ หรือกลายเป็นเด็กมีปัญหายังไง บอกอาได้นะครับ” 


“ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกครับ”  เป็นอะไรกันไปหมดแล้วนะคนเรา จริงๆแล้วอัศวินไม่ได้เรียกคุณอาเลขามาเพื่อถกปัญหาชีวิตวัยรุ่นอันว้าวุ่นของเขาเสียหน่อย ที่เรียกมานี่เพราะเห็นว่ามีความสามารถเฉพาะทางต่างหาก และความสามารถที่ว่านั่นก็คือ…ความกะล่อนนั่นไง


จะบอกว่าอัศวินถอดแบบของคุณพ่อมาเลยมันก็ไม่ถูกนัก เรียกว่าซึมซับมามากเลยคล้ายๆก็คงจะมากกว่า ทว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ไม่รู้และไม่เข้าใจ การเลี้ยงดูน้องวินโดยเจน ไม่เหมือนกับคุณรบที่เติบโตมา ดังนั้นมันจึงมีหลายอย่างที่คนเป็นลูกจับไม่ได้ไล่ตามไม่ทันอยู่เยอะ ทว่าก็ไม่เคยคิดว่าตนอยากจะเหมือนพ่อ ในส่วนของเลขาพ่อนั้น…ก็ไม่เคยมีความคิดที่อยากจะเหมือนมาก่อนเช่นกัน


“อา…จริงๆมันก็ไม่ใช่ความกะล่อนหรอกครับที่ทำให้อามีวันนี้ได้”  แต่ถึงอย่างไรเพชรพิสุทธิ์ก็ดูภูมิใจในความดิ้นได้ของตัวเองและทุกอย่างมีพื้นฐานมาจากตรงนี้ แต่ใช่ว่าเขาจะมีมันเป็นพิเศษอยู่คนเดียว คนบนโลกที่ฉลาดๆในการใช้ชีวิตหลายๆคนก็เป็นแบบเขาทั้งนั้น เป็นแบบไหนนะเหรอ…ก็มีสวิชท์ปรับโหมดสำหรับทุกสถานการณ์ไง


“…”


“คุณหนูต้องเข้าใจก่อนว่าคนเราจะตรงเป็นไม้บรรทัดไม่ได้ มันก็ต้องมีงอกันบ้าง”  เพชรพิสุทธิ์พยายามอธิบาย เขาเข้าใจว่าน้องวินชอบที่จะเป็นตัวของตัวเองและเหนื่อยที่จะปั้นแต่ง แต่จะเอาแต่ใจถึงเพียงนั้นไม่ได้ โลกภายนอกไม่ใช่สถานที่ที่เราจะสามารถคัดเลือกคนให้เข้าและออกไปจากชีวิตได้อย่างง่ายดาย  ในทุกช่วงเวลาและทุกโอกาส สิ่งที่ควรมีคือกาลเทศะ


“ผมแค่ไม่ชอบยิ้ม หรือทำหน้าตาเป็นมิตรมากเกินไป”  เหมือนกับที่โรงเรียนนั่นแหละ เขาไม่ชอบให้คนมายุ่งวุ่นวายมากๆ การทำหน้าดุก็ช่วยได้ดีทีเดียวเลย


“แต่เราจำเป็นต้องเป็นมิตรเพื่อผลประโยชน์ของเราบ้าง”


“ไม่ใช่ว่าเราเป็นผลประโยชน์ของคนอื่นเหรอครับ”


“ไม่เสมอไปครับ บางทีคนอื่นก็เอื้อประโยชน์ให้เราได้ และบางทีเราก็แบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน”  เพชรยิ้มให้กับคำถามของคุณหนูผู้ที่แท้จริงไม่ได้เอาแต่ใจ หากแต่ด้อยประสบการณ์  “การมีมิตรย่อมดีกว่าศัตรู และบางทีการเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัวก็อาจจะดีกว่าการมีมิตร”  เขาไม่ลังเลเลยที่จะถ่ายทอด น้องวินถือเป็นเด็กที่ทุกคนเอ็นดู เขาถือเป็นคุณรบในเวอร์ชั่นที่น่ารักกว่า และเพราะทุกคนได้เห็นน้องในทุกช่วงเวลา ย่อมเกิดความรู้สึกผูกพัน


“แปลว่าผมต้องลองยิ้มโง่ๆแบบนั้นอะเหรอ”


“บางทีคนเราก็ต้องทำหน้าโง่ๆแบบนั้นครับ”  เขายิ้ม “แม้แต่คุณรบก็ต้องยิ้มเวลามีคนจะเอาเงินมาให้เราเหมือนกัน”  นี่ไม่ได้หลอกด่าว่าเขาโง่นะ แค่บอกว่ามีกาลเทศะ


“คุณป๋าก็เป็นเหรอ”  แต่ดูเหมือนน้องวินจะให้ความสำคัญกับใจความอื่น จึงไม่ได้สังเกตความน่าอ่อนไหวในประโยคนัก สมกับเป็นลูก เมื่อพูดถึงคุณรบน้องวินก็ให้ความสนใจอย่างนี้แหละ คนอื่นอาจจะมองว่าน้องไม่ค่อยเคารพพ่อ แต่จริงๆแล้วไม่เลย หากตัดเรื่องชอบแกล้งกันไปบ้าง อัศวินถือเป็นคนๆหนึ่งที่จัดได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ เลยด้วยซ้ำ เล่นก็อปกันมาซะขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าพ่อมีมุมอื่นๆที่ตนไม่เคยรับรู้ก็ยิ่งสนใจ


ว่าแต่คนหน้าหยิ่งคนนั้นนะเหรอจะมีมุมแบบนั้น แน่นอนว่าเขามี ไม่งั้นนอกจากเมียจะหาเองไม่ได้แล้ว บริษัทก็คงจะดูแลไม่ได้เช่นกัน ในฐานะผู้บริหาร เขาสามารถเป็นได้ทั้งบุคคลที่หน้าเกรงขามและดูเป็นมิตรในยามที่จำเป็น เมื่อน้องวินที่เคยเห็นแต่ท่าทางกวนๆขรึมๆของคนพ่อได้ยินดังนั้น ความรู้สึกแง่ลบเกี่ยวกับการฝืนแสดงออกก็เป็นเรื่องที่แทบจะลืมไปเลย เพราะถ้านักรบทำได้ แล้วอัศวินทำไม่ได้ หมายความว่ารัตนสกุลจะสิ้นสุดที่รุ่นของนักรบเท่านั้นใช่ไหม ไม่ได้…มันต้องดีเท่า หรือดีกว่าเท่านั้น!

ใช้เวลาคุยกันไม่นาน อัศวินที่ต้องทำงานวันอาทิตย์อีกวัน จึงกลับบ้านมาหัดยิ้มให้ดูโง่ๆเหมือนที่ลูกชุบยิ้ม ยิ้มยังไงให้ดูซื่อใสน่าไว้ใจกันนะ ในเมื่อหน้าดุขนาดนี้ ไม่ได้ดูน่าเอ็นดูเท่าอีกคนเสียหน่อย แต่เดี๋ยวนะ…นี่คิดว่าคนที่อายุมากกว่าถึง 2 ปีดูน่าเอ็นดูอย่างนั้นเหรอ มันเกิดอะไรขึ้นกับคลื่นสมองของตนกันนี่!


“น้องวิน”  เสียงเรียกที่ดังจากที่ประตูทำให้เขาที่ยืนอยู่หน้ากระจก กำลังทำตัวแปลกๆอยู่ต้องหุบยิ้มฉับและหันไปมอง คาดว่าน่าจะเป็นพี่เจน แต่ไม่ใช่…เป็นแฟนของพี่เจนต่างหาก


“คุณป๋า”  เมื่อกี๊นี้ไม่เห็นใช่ไหม?


“ทำอะไรอยู่”  แล้วคนพ่อล่ะทำอะไรอยู่ อยู่ๆก็เข้ามาหากันแบบนี้ไม่ใช่นิสัยปกติเลย ถ้าไม่มาขิงใส่ว่าวันนี้ไปไหนทำอะไรมากับเจน นักรบก็ไม่ค่อยสร้างโมเมนท์พ่อลูกกันเสียเท่าไหร่


“กำลังหัดยิ้มอยู่ครับ”  แต่เขาก็ตอบไปตรงๆเพราะคาดว่าเลขาของพ่อคงเพ็ดทูลไปหมดแล้ว และเขาคงเห็นยอดขายในรายงานของลูกที่ทำส่งไปด้วย 2 วันที่ผ่านมานี้ เรียกว่าขายได้น้อยเป็นประวัติการณ์ การจ้างพนักงานสาธิตของบริษัทได้เลย…


ทั้งๆที่สาขานั้นเป็นสาขาที่มียอดขายอาหารสดเยอะมากๆแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร แต่ยอดขายสินค้าใหม่ที่เปิดตัวได้ไม่กี่เดือนตัวนี้กับไม่กระเตื้อง เราเลี้ยงลูกเป็นไข่ในหินแบบนั้น เขาย่อมรู้ดีว่าทำไม แต่ไม่คิดว่าลูกจะเอาไปปรึกษาเลขาของเขา ซึ่งจริงๆเพชรก็ไม่ได้แย่หรอก คนๆนั้นก็เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ถ้าถามเรื่องงานก็ตอบได้อย่างมืออาชีพนั่นแหละ


แต่เขาแค่ไม่คิดว่าคนอย่างอัศวินจะวุ่นวายใจถึงเพียงนี้ นี่นักรบดูเหมือนคนคาดหวังในตัวลูกสูงไปเหรอ เจ้าลูกชายถึงได้กดดันตัวเอง ทว่ามันไม่แปลกหรอก อัศวินสำนึกตนในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของเขาได้ดี เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบจึงเป็นสิ่งที่เจ้าตัวตระหนักถึงได้ดีที่สุด


“คุณป๋าว่ายิ้มแบบเจนนี่ยากไหม”


“….”


“เฮ้อ…ง่ายสินะ”  อ่อนหัด น้องวินช่างอ่อนหัดจริงๆ เขายังเทียบเคียงคุณป๋าไม่ได้สินะ


“ถ้าคุณป๋าทำได้ น้องวินก็ชอบคุณป๋ามากกว่าเจนแล้วสิ” แต่ความจริงมันเป็นแบบนี้ อัศวินนี่หันขอแทบหลุดเมื่อได้ยินคำตอบของพ่อ อย่างนี้ก็ได้เหรอแต่ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆนี่


ใครจะไปยิ้มโง่ๆแบบนั้นได้กัน!


“ฟ้องเจนแน่”  ไอ้ลูกไม่รักดี! ให้มันได้อย่างนี้สิ


“หรือน้องวินยิ้มได้ ไหนยิ้มให้คุณป๋าดูสิ”  แน่นอนว่าไม่ได้เหมือนกัน ไม่งั้นเราจะเกิดมาเป็นพ่อลูกกันเหรอ?


“เฮ้อ…” ก็ถ้าทำได้ คงไม่มีคนมานั่งเครียดแบบนี้ คุณป๋าหัวเราะเบาๆก่อนจะลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่วันนี้เกือบจะสูงเท่าเขา


เจ้าเด็กแก้มกลมที่พอเห็นก็วิ่งเข้าหา แต่พอเห็นเจนก็ทิ้งเขาไปอยู่ไหนแล้วนะ? ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มแล้ว ดีกรีความอ้อนก็ลดไปตามระยะเวลา แต่น้องวินไม่เคยไม่น่ารักในสายตาคนเป็นพ่อจริงๆ  เราใช้ความเงียบคุยกัน ซึมซับบรรยากาศอยู่ประมาณสิบนาที จนกระทั่งลูกชายคนเดียวของเขาถามคำถามบางอย่างที่ไม่คิดว่าจะออกจากปากหนักๆนี่


“ตอนนี้คุณป๋าเจอเจนครั้งแรกรู้สึกยังไงเหรอ” 


“ถามทำไมกันเนี่ย”


“ตอบสิ”  เจ้าของคำถามขมวดคิ้วในยามที่ไม่ได้รับความร่วมมือ เอากับเด็กนี่สิ อยากจะรู้ให้ได้เลยใช่ไหม


“ไม่ชอบ”


“อ้าว”


“เจนไม่ได้ดูใจดีกับคุณป๋าเหมือนที่เจอน้องวินหรอกนะ รายนั้นตั้งป้อมกับทุกคน มีแค่น้องวินคนเดียวที่เขาเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็น”  ดูเหมือนว่าอัศวินจะหน้าแดงขึ้นมา เขามีโอกาสได้ดูรูปตัวเองสมัยเป็นเด็กๆบ่อย เพราะเจนชอบนั่งดูเลยได้อานิสงค์ และเจนมักจะชอบยิ้ม ชอบพูดเรื่องเก่าๆว่าน้องน่ารักยังไง ภาพเจนที่ดูรักและเอ็นดูกันมาก ช่างขัดกับสิ่งที่คนพ่อเล่ายิ่งนัก เจนที่ดูไม่เป็นมิตรเหรอ? ไม่เคยเห็นเลยแฮะ


เป็นความจริงที่ว่านักรบกับเจนไม่อาจจะชอบกันได้ในวินาทีแรกที่สบตา เพราะทั้งสองห่างไกลจากความเป็นมิตรต่อกัน ทว่าความเป็นไปได้ของความรักนั้นมีมาก เมื่อเคมีนั้นกลับเข้ากันได้ดีในเวลาต่อมา และตัวผสานเคมีเหล่านั้นก็คือเด็กหนุ่มในวันนี้ที่ตอนนั้นยังเป็นแค่ก้อนกลมๆยิ้มเห็นแต่เหงือกและพูดไม่รู้เรื่อง หากไม่มีน้องวิน นักรบเองก็ไม่คิดว่าเขากับเจนจะรักกันได้ ดังนั้นเด็กคนนี้จึงเปรียบเสมือนคนที่ทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ขึ้นมา


แล้วความรักมันเกิดขึ้นได้ยังไง จริงๆแล้วมันเริ่มขึ้นตอนไหนก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด ทว่าเขารู้สึกตัวได้ว่าชอบให้เจนอยู่ใกล้ๆ ชอบฟังเจนพูดชอบฟังเจนหัวเราะ และที่ชอบที่สุดคือการที่เจนยิ้มมาให้ นักรบยอมรับว่าเขาจะเย็นชาได้อีก แต่เพราะมันมีน้องวินอยู่ตรงกลางที่ดึงให้ต้องเฝ้ามองและระวังภัยจากคนแปลกหน้าที่ชื่อเจนรักษ์ ทำไปทำมา เขาก็มองเจนในอีกแบบไปแล้ว และนั่นคงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้เรียนรู้กันในแง่มุมที่นอกเหนือจากความเย็นชา


“ยากจัง”  และเมื่อถ่ายทอดให้น้องวินได้รู้ เด็กนี่ก็ยังไม่เข้าใจเสียทีเดียว อัศวินพยายามทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่เสมอมา ทั้งนี้อาจจะเพราะอยากจะเป็นให้ได้เหมือนพ่อไวๆหรือยังไง แต่เขาก็ยังเป็นแค่เด็กมัธยม ยังมีอีกหลายมุมที่น่าเอ็นดูเหมือนวันก่อนๆนั้น


“แล้วอยู่ๆมาถามทำไมล่ะ ไปเจออะไรหรือไง”


“…”


“จริงเหรอเนี่ย”


“ไร้สาระ ไม่เจออะไรสักหน่อย”  ปากหนัก เหมือนใครกันนะ เหมือนเจนแน่ๆ ไม่เห็นจะเหมือนเขาสักนิด


“งั้นก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ก็ไปทำงานด้วย ถ้าทำไม่ไหวก็มาบอกจะได้ส่งไปเรียนทัน”  นักรบขยี้ผมเจ้าลูกชายปากแข็งของเขาอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของลูกไปยังห้องตัวเอง เรื่องไร้สาระงั้นเหรอ ให้มันจริงเหอะ จะบอกให้ว่าพ่อก็เคยคิดแบบนั้น แล้วมันเป็นไง ทุกวันนี้ก็ยังไม่หลุดจากหลุมแห่งความไร้สาระ โทษเจนคนเดียวเลย


ว่าแต่ทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่องความรักล่ะ?


TALK
หนุ่มน้อยถามเรื่องความรักกับคุณป๋าไปทำไมกันนะ5555
ไม่ไปถามกับพี่ชุบอ่ะ555 เห็นคนชอบลูกชุบกันเราก็ดีใจค่ะ น้องวินนี่เป็นลูกของใครหลายคนๆ
เราก็แอบกลัวว่าคนจะหวงไม่ยกให้พี่ชุบ แต่เห็นคนชอบพี่ชุบงุ้นงี้ก็ดีใจ
ตอนนี้แววพระเอกยังมาไม่ครบ เราต้องให้น้องวินได้เติบโตนะคะ อาเพชรจะดูแลคุณหนูให้ทุกคนเอง วางใจได้

ขอพื้นที่ขายของหน่อย
ฝากตัวและใจให้สองเรื่องข้างล่างหน่อย
#อาทิตย์ศศิ อีกไม่นานจะจบแล้วคับ https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68747.msg3902764;topicseen#msg3902764)
#คู่กินคู่กัด เปิดมาตอนเดียว ช่วยคาดหวังในตัวน้องด้วยค่ะ555 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69337.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69337.0)





หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 05-01-2019 21:12:37
น้องวินโชคดีกว่าป๋า ตรงเจอทั้งเจนแล้วก็ลูกชุบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-01-2019 21:22:13
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-01-2019 21:31:19
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: namtok ที่ 05-01-2019 23:09:48
เอ้ หวงใครนะนี่ไม่รู้เลยน้องวินบอกหน่อยดิ :mew4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-01-2019 23:30:15
คุณพ่อคุณลูกเขาคุยกันแบบมึนๆกวนๆ  น้องวินได้พ่อมาเยอะนะนี่  :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 05-01-2019 23:44:09
ลูกกบน้อยในวันนั้นจะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกขั้นแล้วกำลังจะมีความรักแล้วสินะพ่อหนุ่มน้อยของป้าาาา  :o8:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-01-2019 00:12:07
เสร็จแน่ ๆ คุณป๋า น้องจะมีความรักแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 06-01-2019 02:14:19
น้องวินของพี่เจนน คิดถึงตอนตัวโน้ยๆจัง แต่ตอนนี้ก็น่ารัก เรื่องนี้ต้องปรึกษาพี่เจนรึเปบ่าน้า
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-01-2019 03:36:44
วัยรุ่นว้าวุ่น
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-01-2019 08:11:52
พี่ลูกชุบนี่คือโคลนนิ่งของพี่เจนเลยเนอะน้องวิน o18
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-01-2019 11:34:18
วินน่ารัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 06-01-2019 16:51:16
มันน่ากังวลตรงให้เพชรดูแลนี่แหละ!!!
หนูชุบน่ารักกกก โมเม้นบนbts คือเขินเเทนนน
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 08-01-2019 07:57:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 08-01-2019 08:27:01
ไม่อยากนึก ถ้าน้องมีความกะล่อนของอิตาเพชร จะเป็นยังไง

มันจะเจ้าเล่ห์แค่ไหนกันน้าาาาา แต่เราชอบน้องวินที่เป็นวัยเรียนรู้มากเลย

น่ารักมากกก ให้น้องซึมซับนิสัยมาอย่างละนิดหน่อยก็พอเนอะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 2) 5.1.2019 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 09-01-2019 17:13:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 3) 12.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 12-01-2019 16:10:06
ลูกชุบของอัศวิน 3


“เฮ้อ…” 


ไม่มีเรื่องอื่นที่คุยกับพ่อได้ดีกว่านี้แล้วเหรออัศวิน ทำไมถึงชวนคุยเรื่องนี้นะ เพราะไม่อยากคุยเรื่องงานกับพ่อเท่าไหร่ อาจจะอายที่ต้องยอมรับว่าตนทำได้ไม่ดี และเพราะพ่อคือคนที่อยากจะเทียบเคียงได้มากที่สุด จึงเลี่ยงจะคุยเรื่องนี้  แต่เรื่องความรักนี่นะ? ช่างดูไม่เหมาะสมเอาเสียเลย!


ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนมาสนใจหรือเรื่องพวกนี้ไกลตัวไปหรอก แต่เพราะว่าไม่เคยคิดจะมีคนรักจริงๆ จนบัดนี้จึงยังไม่มีใครสักที แต่อัศวินเพิ่งอายุแค่ 18 จะรีบไปสนใจทำไม แย่งเจนกับพ่อก็สนุกดี และทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครข้ามผ่านกำแพงสูงที่ตั้งไว้มาได้ เอาเป็นว่าคนที่เข้ามายังไม่มีใครที่เขาสนใจ มีแต่ความรำคาญใจและอยากหลบเลี่ยงเท่านั้น


อย่างคนที่เพิ่งได้เจอเมื่อวันก่อนนั่นก็เป็นอีกคนที่ดูน่ารำคาญ แต่…ลูกชุบไม่ได้เข้าหาเขาในเชิงนั้นหรอก คนนั้นก็แค่บ้าๆบอๆยุ่งเรื่องชาวบ้านไปหน่อยก็แค่นั้นเอง อืม…ก็เจนฝากให้มาดูแลนี่เนอะ ก็ทำได้ดีตามหน้าที่ แต่ทำไมต้องรู้สึกแย่ตอนที่ทำให้อีกฝ่ายถอยห่างไปแบบนั้น รำคาญไม่ใช่เหรอ ปกติไม่แคร์ใครไม่ใช่เหรอ แต่กับลูกชุบ เขาไม่อาจจะพูดได้ว่ารำคาญอย่างแท้จริง


ในเช้าของวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ไม่มีลูกชุบที่ขึ้นมาในโบกี้เดียวกันอีก ไม่มีความบังเอิญเกิดขึ้นซ้ำๆในชีวิต และเขาก็คงต้องมานั่งคิดว่าอีกสี่วันที่ไม่มีงานทำนี่จะทำอะไร ไม่สิ…วันนี้ต้องทำให้ดีที่สุดอย่างไรต่างหาก เมื่อมาถึงซุปเปอร์ เขาก็พบว่าลูกชุบมาถึงก่อนอยู่แล้ว อีกฝ่ายยิ้มให้ ทักทายอย่างร่าเริง เขาจำภาพนั้นไว้เพื่อคิดต่อไปว่าตนควรจะทำอย่างนั้นดีไหมตอนที่ทำงาน แต่รับตัวเองที่เป็นแบบนั้นไม่ได้จริงๆ


แต่คุณป๋าก็ไม่ได้ยิ้มแบบนั้นนี่…ตรงนี้ก็ยังติดอยู่ในใจเขาอยู่เหมือนกัน แล้วถ้าคุณป๋ามายืนอยู่ตรงนี้เขาจะทำหน้าอย่างไรกันนะ อัศวินพยายามนึกภาพ หากว่านักรบมาทำหน้าที่การขาย บางทีเขาก็คงไม่ได้ยิ้มโง่ๆแบบที่เราคุยกันเมื่อวาน แต่ยิ้มแบบไหนที่จะทำ? อา…ทั้งๆที่รู้จักคุณป๋าดีกว่าใครไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเราเหมือนกันขนาดนี้…


“ชิมได้นะครับ”  ก็คงยิ้มน้อยๆและมองคนอื่นด้วยสายตาแบบที่มองคนในครอบครัวแบบนี้ละมั้ง


เมื่อจับจุดได้ เขาก็เริ่มทำตามแบบที่นึกภาพไว้ จากที่ยืนทื่อและยื่นส่งแบบในทุกๆวัน เขาลองค้อมตัวลงมานิดนึง อัศวินเป็นคนตัวสูงและมีบุคลิกที่สง่า ซึ่งบางทีมันก็ดูไม่เป็นมิตรต่อแม่บ้านในที่แห่งนี้ เขาได้สังเกตว่าที่นี่จะมีแม่บ้านชาวต่างชาติมาเดินบ้าง เมื่อพวกเธอเดินผ่านมาก็ลองนำเสนอต่างภาษาดูและก็พบว่าได้รับความสนใจมากขึ้น ในที่สุดก็พอจะมีคนที่ยืนฟังอธิบายสินค้าจนจบสักที


“ไปกินข้าวกันเถอะ”  เมื่อได้เวลาพัก ลูกชุบก็เดินมาชวน เขาก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี อีกเรื่องนึงที่ทำได้ในช่วงนี้แต่คนที่บ้านยังไม่รู้คือปรุงก๋วยเตี๋ยวให้ตัวเองเป็นแล้ว


เราสั่งอาหารมากิน ลูกชุบกล่าวชมในพัฒนาการทางการทำงานของเขาในวันนี้ ส่วนนึงต้องยอมรับเลยว่าเจ้าตัวเองก็เป็นเหมือนต้นแบบให้หาแนวทาง เขาอาจจะทำไม่ได้เหมือนลูกชุบเพราะไม่ได้ดูเฟรนด์ลี่ขนาดนั้น แต่ก็พยายามปรับให้เป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด


“น้องวินหล่อนะ”  อยู่ๆก็พูดขึ้นมา เขาแทบสำลักน้ำซุบ โอย…  “คือแบบหน้าตาแบบนี้ยังไงใครๆก็อยากเข้าใกล้ไง”


“หล่อแล้วไง”  เอาจริงๆก็ไม่เคยชมตัวเองว่าหล่อหรอก รู้ตัวว่าหน้าตาดีในระดับหนึ่ง แต่จู่ๆต้องมาฟังคนสาธยายความหล่อด้วยตาแป๋วๆนั่น มันแปลกๆจริงๆ ยุบยิบหัวใจแปลกๆ แก้มก็เหมือนจะร้อน


“ก็ใครๆก็อยากเข้าหาคนหล่อไง ถ้าเป็นคนหล่อที่ดูนิสัยดี เชื่อพี่ชุบไหม ว่าต้องขายดีแน่ๆ”


“ขายดี?”


“ขายของดีไง คนเราก็เข้าหากันเพราะหน้าตาก่อนทั้งนั้นแหละ”  คุยกันมาตั้งนานเขาเพิ่งจะเข้าใจเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายก็ตอนนี้ อาจจะเป็นอย่างที่ลูกชุบว่า มีคนมาด้อมๆมองๆแต่ไม่กล้าเข้าหาเพราะเขาชอบทำหน้าดุ แต่พอวันนี้ไม่เกร็งหน้าแบบวันก่อนๆแล้วก็จะเห็นคนเดินเข้ามาเรื่อยๆ มันอาจจะผิดที่เขาเกร็งหน้าจนชินก็เป็นได้


เรากลับมาทำงาน วันนี้ลูกชุบดูซึมผิดปกติ แม้จะยังพูดมากเหมือนเดิม แต่อัศวินดูออกว่ารอยยิ้มเหล่านี้มันถูกเค้นออกมา จะว่าไปเขาก็ไม่ค่อยจะรู้จักอีกฝ่ายดีนัก เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่พูดๆออกไปนั้นแทบไม่มีเรื่องส่วนตัวเลย ถ้าไม่เรื่องเขาก็เรื่องงานเรื่องกินเรื่องนั่นนี่ แต่ไม่มีเลยที่จะบอกว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน


มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะพูด ยิ่งพูดก็ยิ่งแปลกเพราะเราเพิ่งรู้จักกัน อัศวินยังไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวให้อีกฝ่ายรับฟังด้วยซ้ำ เขาระวังตัวเองดีไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม ด้วยความที่นามสกุลรัตนสกุลย่อมมีคนอยากจะเข้าหาอยู่แล้ว และนั่นทำให้เลือกที่จะไม่สนิทกับใครจนเกินไป อัศวินไม่ต้องการคนมากมายรอบตัวเขาอยู่แล้ว ที่มีอยู่ก็ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการจริงๆ


ยอดขายที่เห็นได้ด้วยตาของตนเองทำให้เขารู้สึกพอใจ แม้จะไม่ได้ยิ้ม แต่อัศวินก็ไม่ได้มีใบหน้าเครียดขึงเหมือนวันก่อนๆ  และตอนนี้เขาก็กำลังกลับบ้านกับลูกชุบ อื้ม…ทำไปทำมาก็เดินกลับโดยที่รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เรารอรถเมล์อยู่ด้วยกัน คาดว่าตอนเย็นวันอาทิตย์คงรถไม่ติดเท่าไหร่


แต่คนแน่นบนรถเมล์นั้นไม่แน่…


“โอ๊ะ ขอโทษน้า”  ลูกชุบพูด ยามที่รถเบรกทีแล้วคนตัวเล็กที่ฐานอาจจะไม่แข็งแรงเท่าเซมาหา ให้ตายเหอะ รถทั้งติด คนก็เยอะ แต่ทำไม…ไม่น่าหงุดหงิดเลยนะ?


อาจจะเพราะว่ากำลังอารมณ์ดีเรื่องที่ทำงานได้มากกว่า ไม่ใช่เพราะอย่างอื่นหรอก รถยังคงเบรกไปมา ลูกชุบก็เซไปนู่นนี้เรื่อยเปื่อย เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจแล้วที่คนตัวเล็กเซไปโดนคนอื่น และคนๆนั้นก็ยิ้มให้ยามที่ได้เอ่ยขอโทษออกไป หัดมีความเกรงใจในคนอื่นหน่อยสิ!


“น้องวิน”


“เขยิบมาทางนี้หน่อยก็ได้”  เขาดึงให้ลูกชุบเข้ามาใกล้ขึ้น อย่างน้อยถ้าจะเซอีกก็ไม่ไปชนใครเขา อัศวินถือเป็นผู้เสียสละของวันนี้ อีกไม่กี่ป้ายก็จะลงแล้ว และเขาก็มองไปข้างหน้า ต่างกับลูกชุบที่เอาแต่ก้ม


เราลงรถและต่อรถไฟฟ้าอย่างที่ทำกันปกติ คงไม่ได้เจอกันอีก 4 วัน ก็ไม่แน่ใจนักว่าลูกชุบจะไปอยู่ไหนทำอะไร อัศวินผู้ปากหนักไม่แน่ใจว่าควรจะถามออกไปไหม แต่ในที่สุดก็คิดว่าควรจะพูดอะไรออกไป เพราะลูกชุบเงียบเกินไปแล้ว เขาไม่ชินเอาเสียเลย


“พรุ่งนี้ก็มาทำที่นี่หรือเปล่า”


“ไม่อ่ะ พรุ่งนี้ไม่มีงาน”


“เหมือนกันเลย กว่าจะมีก็วันศุกร์”  งานของเขาที่สาขานี้คือทำทั้งเดือน แต่ทำแค่สัปดาห์ละ 3 วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์


“อาทิตย์หน้าไม่มีงานแล้วอ่ะ คงต้องหาก่อน”


“อ้าว…แล้วงานขายแอปเปิ้ลล่ะ”  อัศวินคงไม่รู้ตัวว่าอยู่ๆเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เริ่มอารมณ์เสียอย่างที่บอกไม่ถูก


“หมดจ็อบแล้วอ่ะ แต่เดี๋ยวคงมีงานอื่นๆที่อื่นๆอะไรแบบนี้”  งานแบบนี้มักจะไม่อยู่ประจำที่สาขาไหนอยู่แล้ว ตามการจ้าง ถ้าสะดวกและคุ้มเงินก็ไป สำหรับลูกชุบ ตนก็ไม่ได้ทำอยู่ที่เดียว


“แล้วงานพวกนี้หาได้ยังไง”


“มันมีคนมาประกาศหาเรื่อยๆอ่ะ แล้วก็มีพี่ที่ทำบริษัทรับจัดอีเวนท์ที่รู้จักกันมาชวน น้องวินอยากทำด้วยเหรอ”  เปล่า เขาไม่อยากทำ แค่อยากรู้ แต่จะรู้ไปทำไม


“…”


“อา เดี๋ยววันนี้ต้องลงสถานีถัดไปแล้วแหละ แวะไปทำธุระหน่อยอ่ะ”  อะไร…ยังไม่ถึงสถานีที่ขึ้นลงประจำเลย ทำไมวันนี้ลงเร็วนักล่ะ “ถ้าโชคดีคงได้เจอกันอีกนะ”  แต่งานพวกนี้มันไปเร็วมาเร็วแบบนี้แหละ จะไปคาดหวังอะไรมาก มิตรภาพ 3 วันนี่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ว่าแต่ลูกชุบนี่…เย็นชากว่าที่เขาคิดไว้อีก


“อืม ก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะกัน”


“เอาไว้เจอกันนะ”  เจอกัน…เจอยังไง คิดว่ามันง่ายนักเหรอที่จะเจอเขาน่ะ ลูกชุบช่างไม่รู้อะไรเสียแล้ว หรือไม่เคยอยากรู้กันแน่ แหงล่ะสิ อีกฝ่ายทำงานแบบนี้ พบเจอคนมาก็มากหน้าหลายตา ย่อมไม่เคยคาดหวังที่จะเจอใครซ้ำๆอยู่แล้ว ที่พูดมาล้วนเป็นมารยาท แล้วที่ผ่านมาน่ารำคาญถึง 3 วันนั่น มันอะไรกันเหรอ?


เขาถูกปั่นหัวอยู่หรือไง!


“อ๊ะ เดี๋ยวต้องลงแล้วล่ะ”


“อืม”


“ตั้งใจทำงานมากๆนะน้องวิน”  และโดยไม่ทันตั้งตัว คนที่ตัวเล็กกว่าก็เขย่งปลายเท้าตนขึ้นมาและเอามือลูบหัวของเขา ไม่ใช่ว่าอัศวินไม่เคยโดนลูบหัว แต่ไม่เคยถูกจู่โจมโดยคนนอกมาก่อน “บ้ายบาย”  รอยยิ้มสดใสแต่แววตาเศร้านั้นดูเปล่งประกายจนยากจะลบเลือนออกจากความคิดของเขา ก่อนที่ประตูจะปิดลง ร่างนั้นก็ได้หายไปแล้ว


เหมือนกับสติของเขาที่หายไปด้วย…


“บ้าเอ้ย”  นี่มันอะไรกันอัศวิน ทำไมอยู่ๆถึงไม่เป็นตัวเองได้ขนาดนี้ เกิดมาก็ 18  ปีแล้ว เขาไม่รู้สึกหนักใจกับความหงุดหงิดแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ


“กลับมาแล้วเหรอน้องวิน”  เขาชะงักเมื่อเห็นว่าเจนเดินมาหากัน ทั้งๆที่ปกติต้องเข้าไปออดอ้อนหรืออยากจะเล่นด้วย แต่นี่ไม่เลย ไม่อยากจะพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว


“ผมเหนื่อย ขอขึ้นไปนอนเลยได้เปล่า”  แต่จะทำให้เจนเห็นไม่ได้ว่าเขากำลังหงุดหงิดอยู่ เจนเพียงแค่พยักหน้าและมองกันนิดหน่อย อัศวินรีบหนีขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ของเขาก่อนที่เจนจะจับได้ ให้ตายเหอะ นี่ไม่เคยเป็นเด็กแบบนี้มาก่อน เจนจะน้อยใจไหม เจนจะเข้าใจหรือเปล่า นี่มันความผิดใครกันนี่ เพราะลูกชุบของเจนแท้ๆเลย!


และวันหยุดปิดเทอมที่ได้นอนอย่างเต็มอิ่มก็ดูว่างเปล่า ทั้งๆที่ทำงานไปแค่ 3 วัน กลับสร้างช่องว่างประหลาดให้กันได้ ยกยอดความดีไปที่ลูกชุบเลยได้ไหม ส่วนหนึ่งเขาคิดว่าที่มันแปลกๆก็เพราะคิดได้ว่าคนเราเข้ามาเพื่อจากไปง่ายๆแบบนั้นจริงๆเหรอ อัศวินคงเด็กเกินไปจริงๆ เขาเด็กจนไม่รู้เรื่องอะไร ใน 3 วันนี้มันก็เพียงพอแล้วให้พิสูจน์ความอ่อนด้อยของตัวเอง ทั้งเรื่องงาน และเรื่องความสัมพันธ์ต่อบุคคล


เดี๋ยวพรุ่งนี้ มะรืนนี้คงเลิกคิดถึงไปเอง ทีลูกชุบเองก็ยังจากกันมาง่ายๆเลย เขาที่ดูเย็นชากว่าย่อมปล่อยวางได้ง่ายดาย แต่ที่ผ่านมามันน่าประหลาดนัก อัศวินไม่เคยมีโมเมนท์นอนกลิ้งไปมาบนเตียงเพียงเพื่อคิดถึงท่าทีการจากลาอย่างเป็นทางการที่ไม่ดูเป็นทางการแบบนั้นมาก่อนเลยจริงๆ


มันคงไม่มีเรื่องบังเอิญให้เรากลับมาทำงานร่วมกันหรอก คุณป๋าคงให้เขาทำงานที่นี่แค่ในตอนนี้เท่านั้น และหลังจากนั้นคิดว่าเขาจะวนเวียนมาเจอง่ายๆเหรอ ไม่หรอก มันไม่มีเรื่องบังเอิญแบบนั้น หรือต่อให้ตั้งใจ ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายนัก รู้แค่ทำงานสาธิตสินค้าให้กับหลายๆที่ ขึ้นลงรถไฟฟ้าสถานีไหน และมีรอยยิ้มแบบที่…เขาบอกว่าโง่แต่มองแล้วสบายใจ พอไม่ยิ้มบ่อยๆแบบเมื่อวาน…ก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่


“ตาหนู” 


“เข้ามาได้ครับ” เป็นนักรบที่มาเคาะประตูห้อง อัศวินรีบเด้งตัวลุก เขาไม่อยากดูแปลกๆให้พ่อเห็น และการนอนแผ่ไม่ทำอะไรนี่แหละแปลกแล้ว…ว่าแต่คุณป๋าไม่ไปทำงานเหรอ?


“เป็นเด็กมีปัญหาไปแล้วเหรอ เจนเครียดมากเลย น้องไม่ลงไปกินข้าวด้วยตอนเช้า”  อา… เพราะเจนไม่แน่ใจว่าน้องโกรธหรือเปล่าเลยไม่กล้ามาเจอ งานนี้ก็เลยดันหลังคุณรบขึ้นมารับมือ น้องโตช้าไปไหมสำหรับการมีปัญหาวัยรุ่น แต่ตอนนี้ก็มีปัญหาจริงๆ


“เปล่าครับ แค่อยากนอนเลยไม่ลงไป”


“วันก่อนก็มาถามเรื่องตกหลุมรัก อย่าบอกนะว่าอกหักเลยเอาแต่นอน ไม่กินข้าวปลา”  นักรบตั้งใจจะพูดเล่น เขายิ้มออกมา แต่อยู่ๆก็ต้องหุบฉับ เพราะสีหน้าตกใจของอัศวินนั้นทำให้เขาไปไม่เป็น


“ผมเปล่าอกหัก!”  เจ้าตัวจึงรีบแก้ตัว


“แปลกๆนะ เล่าให้คุณป๋าฟังได้ไหม”


“...”


“ไว้ใจคุณป๋าเปล่า”  ไอ้ไว้ใจนะไว้ใจ แต่ไม่แน่ใจ…


ว่าคุณป๋านะเหรอจะให้คำปรึกษาด้านนี้ได้ดี??


แต่เมื่อเทียบกับอาเพชรแล้ว คุณป๋าถือว่าเก็บความลับได้ เมื่อเทียบกับเจน ก็ถือว่าขี้ตกใจน้อยกว่า ถ้าเจนรู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดลูกชุบ เจนนั่นแหละที่จะต้องคิดมากกว่าใคร คนกลางที่เอ็นดูคนนั้นและรักคนนี้อย่างเจนจึงไม่ควรทราบเรื่องที่สุด อัศวินนั้นกลืนน้ำลายเอือก เขาไม่อยากเล่านัก แต่ก็คิดว่าถ้าไม่เล่าก็คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ อย่างว่า…ช่วงนี้ค้นพบว่าตนเองอ่อนด้อยนัก แม้ไม่แน่ใจว่าพ่อจะช่วยได้ แต่ก็อาจจะทำได้ดีกว่า


“ลูกชุบ…” ในที่สุดก็มีหนึ่งคำหลุดออกมาจากปาก


“เด็กคนนั้นทำไมเหรอ” นักรบก็พอจะรู้จักอยู่หรอก เขาให้เพชรไปแอบดู เพราะคนๆเดียวที่ได้ใกล้ชิดกับคนสำคัญของเขาทั้งคู่ มันก็จะน่าสนใจหน่อยๆ แต่เท่าที่ฟังรายงานมา ก็ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวลนี่ ว่าแต่มีอะไรกันเหรอ?


“ผมจะไม่ได้เจอลูกชุบอีก” น้องวินก็ดูสับสนในตัวเองไม่น้อย “เขาเองก็ไม่ได้ดูจะอยากเจอกันเป็นพิเศษ ซึ่งมันก็ปกตินะ ก็โอเคอ่ะ”  แต่คนฟังรู้ใช่ไหม…


ว่ามันไม่มีอะไรที่โอเคสักอย่าง!


“…”


“…”


“คือผมว่าเขาเป็นคนแปลกๆอ่ะ ทำเหมือนมาสนใจกัน มาดูแลกัน แล้วจะไปก็ไป”


“เขาไม่ได้ให้เบอร์ติดต่อไว้เลยเหรอ?”


“ไม่อ่ะ”  และน้องวินก็ไม่คิดจะขอด้วย


“รู้ใช่ไหม ว่าที่เขามายุ่งกับเราเพราะเจนไปขอให้เขาช่วยดูแล”  จริงๆก็พอรู้ แต่คุณป๋าตอกย้ำ  “และงานของเขาก็จบแล้วด้วย เจนไม่ได้ให้อะไรนอกจากคุ้กกี้ ที่เขาทำให้เรานั่นมันก็พึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเจนกับเขา ไม่ใช่เขากับเราเลยนะ”


“เข้าใจแล้วครับ”  ว่าอัศวินไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร


“สรุปคือชอบเขา”


“ไม่ได้ชอบ”


“งั้นเกลียด”


“ไม่ได้เกลียด”


“งั้นเฉยๆ”


“…”  มันก็ไม่เฉยนะ แล้วมันเป็นยังไงกันล่ะ


“อ้าว อัศวิน รู้สึกยังไงก็ไม่รู้ตัวเหรอ แล้วคุณป๋าจะรู้แทนไหม”  อย่ากดดันนักสิ นี่ลูกนะ ไม่ใช่ลูกน้อง!


“ก็แค่สนใจ”  มันคงเป็นอะไรประมาณนี้


“อืม”


“คือ…ลูกชุบมีทักษะที่ดี เห็นแล้วก็สนใจ แต่ไม่ได้ชอบ เกลียด หรือเฉยๆ คุณป๋าเข้าใจไหม”  ทำไม่ยิ่งพูดเหมือนยิ่งรู้สึกแก้ตัวนะ ไม่คุยกับคุณป๋าแล้ว!


“เข้าใจแล้วครับ”  แล้วทำไมต้องทำตาแบบนั้นด้วย “เข้าใจว่า เรามีความสนใจในตัวลูกชุบในด้านความเป็นโปรทางการทำงาน”  ใช่ ๆ แบบนั้นแหละ


“อืม แบบแค่ยังดูดข้อมูลไม่หมดเลยหงุดหงิดนิดหน่อย”  นี่คือนิดหน่อยนะ เด็กเอ้ยเด็กน้อย คิดจะหลอกใครก็หลอกไปเหอะ แต่หลอกพ่อตัวเองนะ….ยังเร็วไป 20 ปี!


“ถ้างั้นเข้ามาที่บริษัทคงตื่นตาตื่นใจ มีคนมากมายเก่งกว่าลูกชุบเยอะ”  แต่ในความเป็นจริงคืออัศวินเคยพบเจอคนเหล่านั้นมาแล้วและไม่เคยตื่นเต้นตกใจจนเสียจริตขนาดนี้ โอเค ทุกเหตุผลถูกตีแตกหมดแล้ว


“ก็…สนใจลูกชุบจริง แต่สนใจเพราะอะไรนั้นมันก็บอกไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันเป็นความลับ แต่แค่ไม่แน่ใจ!” ในที่สุดก็ยอมรับออกมา ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะได้ชื่อว่าลูกชายของนักรบ ปากแข็งกับใครได้ทั้งโลก แต่ต้องยกเว้นพ่อเขาไว้คน และนักรบก็เหมือนจะมีประสบการณ์คล้ายคลึงมาก่อน เขาพอจะบอกได้ว่าควรทำไง


“ยังอยากทำงานกับลูกชุบไหม?”


“ครับ?”


“น้องวินยังอยากทำงานกับลูกชุบไหม?”  นักรบยังคงถามคำเดิม จริงๆลูกชุบไม่มีงานแล้ว และไม่มีช่องทางติดต่อ แต่ทั้งนี้เขารู้ว่าถ้าได้ชื่อว่าถึงมือของคุณป๋าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ว่าแต่เขาจะให้มันเป็นไปยังไงล่ะ ความสนใจนี่มันควรจะหยุดแค่นี้เหมือนการละเล่นเด็กๆไหม หรือยังไง…เขาควรจะสนใจลูกชุบต่อไปไหม??


“รบกวนคุณป๋าด้วยครับ”  และในที่สุดก็ได้ตัดสินใจที่จะเดินต่อ นั่นทำให้คุณป๋ายิ้มกว้าง ถ้าอะไรที่มันค้างคาต่อให้เราไม่เห็นอนาคตของมันแต่ก็ขอให้ได้ไปจนสุดทาง นักรบขยี้ผมลูกชายที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งกว่าเดิม ทำอย่างนี้ช่างไม่สมกับเป็นอัศวิน รัตนสกุล แต่แบบไหนล่ะที่สมกับเป็นเขา? คนที่ประสบความสำเร็จตามแบบพ่อ หรือแบบตัวเอง ใครที่จะเป็นคนเลือกกัน?


“รอรับข้อความจากคุณป๋านะครับ”  และนักรบจะไปจัดการมาให้ในแบบที่เขาเห็นสมควร เขาอาจจะดูสปอยล์ลูก แต่เชื่อสิ มันจะไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เขาอาจจะเป็นพ่อ แต่ไม่อาจจะไปกำหนดเส้นทางพรหมลิขิตให้กับใครได้ ดังนั้นต้องเป็นอัศวินที่จะต้องเดินต่อไปเอง เขาจะแค่ชี้ทาง แต่สร้างสะพาน…


ต้องเป็นตัวเองทำเท่านั้น


ลูกชุบในวันนี้ดูว่างเปล่ากว่าทุกวัน ทั้งๆที่เตรียมใจไว้แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่พอตื่นมาอย่างไร้จุดหมาย มันก็ยากจะข่มตาต่อไป หลังจากที่พลิกตัวไปมาได้สองสามครั้ง ก็พบว่านี่ยังเช้าเกินกว่าที่ใครๆในบ้านจะตื่น หรือว่าลูกชุบควรจะออกไปจากบ้านเสียแต่ตอนนี้ แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ตรงไหนก็ดูจะเสียเงินทั้งนั้นเลย


ด้วยความจำเป็นบางอย่าง เด็กหนุ่มจำต้องหาเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค่าแรงที่ทำมาคงโอนราวๆสัปดาห์หน้า ตอนนี้ก็ต้องประหยัดกันหน่อย หลังจากลุกลงจากเตียง ก็แอบดูลาดเลาข้างนอกว่าเป็นเช่นไร เมื่อเห็นทางสะดวกจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากบ้าน จะไม่มีการนั่งรถไฟฟ้าอีกเพราะมันสิ้นเปลือง ในวันที่ไม่รีบร้อนก็มักจะนั่งรถเมล์แบบนี้แหละ


จุดหมายปลายทางในวันนี้คือห้องสมุดแห่งหนึ่ง ลูกชุบชอบมาอาศัยนั่งที่นี่เพราะไม่มีที่ให้ไป ต่อให้ง่วงอยากนอนต่อแค่ไหนก็ต้องอดทน คนตัวเล็กค่อยๆปิดประตูเบาๆ มองบ้านหลังนี้ที่เคยอบอุ่นด้วยสายตาอมทุกข์ ก่อนจะรีบสะบัดหัวไล่ความคิดเสียดายต่างๆออกไปให้เร็วที่สุดและออกเดินทาง


เมื่อวานนี้ก็เอาแต่หางาน แต่เหมือนจะไม่มีงานอะไรในช่วงนี้ที่ทำได้เลย จริงๆลูกชุบสามารถหางานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหารในห้างได้ แต่ที่ไม่ทำเพราะรายได้แบบนี้ได้ดีและมีให้ทำตลอดแม้เปิดเทอม เรื่องเวลาก็จัดสรรค์ได้ง่ายกว่าจึงทำมาตลอด ทว่าช่วงนี้มันซบเซาเลยออกจะว่างๆนิดหน่อย


เมื่อมาถึงห้องสมุด ตนก็หยิบสมุดขึ้นมาทำบัญชีรายรับรายจ่าย เคร่งเครียดไปกับสถานการณ์ปัจจุบันนิดหน่อย ในหัวก็พลันคิดไปถึงเด็กคนนึงที่เพิ่งได้รู้จักแต่จากกันแล้ว น้องวินที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับพี่เจนคนนั้นนั่นเอง…ลูกชุบอาจจะดูเด็กกว่าวัย แต่ไม่เคยเจอใครที่ดูโตกว่าวัยแบบนั้นมาก่อนเหมือนกัน เขาตัวสูง เสียงทุ้ม ใบหน้าเคร่งขรึม เราเหมือนอยู่คนละโลกแม้จะยืนห่างกันระยะไม้บรรทัดวัดก็ตาม


“น้องวิน”  ป่านนี้จะตื่นยังนะ ลูกชุบไม่ได้ขอเบอร์ไว้เพราะเขาก็ไม่ได้จะดูเหมือนอยากรู้จักอะไรกันอยู่แล้ว เมื่อวานก็ไม่ค่อยได้ยิ้มให้เพราะมีปัญหาที่บ้าน ไม่รู้เขาจะสังเกตไหม คงไม่หรอก อัศวินคงพยายามอยู่แต่กับงานของเขาจนไม่สนใจอะไร แต่เจ้าตัวคงไม่รู้ ว่าภาพของเขามันติดตา


เด็กคนนั้นดูไม่เหมือนคนในชีวิตจริง อาจจะเพราะรอบตัวของลูกชุบไม่มีใครเหมือนเขาเลย น้องวินจึงดูพิเศษขึ้นมาทันตา ท่าทางหยิ่งๆของเขาอาจจะทำให้คนไม่ชอบได้ แต่ไม่รู้ทำไม ไม่มีสักครั้งที่จะนึกโกรธเกลียดได้ลง อาจจะเพราะความพยายามที่เห็นได้ชัดนั้นมันน่าเอ็นดู


ซึ่งเป็นคำเรียกที่ขัดกับภาพของเด็กผู้ชายตัวสูงดูเคร่งขรึมไปมาก แต่ลูกชุบมองน้องวินว่าน่าเอ็นดูจริงๆ แต่เราก็จากกันแล้ว และคงเหมือนคนอื่นๆที่ไม่ได้เจอกันอีก นี่ไม่ใช่งานแรก และลูกชุบไม่ถลำลึกกับใครเพราะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกหรอก  น่าเสียดาย แต่เป็นเรื่องปกติมากๆ ทว่าในระหว่างที่คิดไปเรื่อยเปื่อย โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกที่ไม่เคยเมมไว้


“สวัสดีครับ”  อาจจะเป็นคนโทรมาจ้างงานก็ได้ เพราะงั้นต้องตอบดีๆแบบกลางๆไว้ก่อน


“…”


“สวัสดีครับ?”  ทำไมไม่พูดล่ะ พูดสิ กำลังอยากได้งานเลย


“นี่ผมเองนะ”  ในที่สุดปลายสายก็พูดออกมา แต่มันทำให้ลูกชุบมึนงง “วินเอง”  แต่แล้วก็ร้องอ๋อขึ้นมาในใจ แต่เดี๋ยวนะ…มันใช่เหรอ??


นี่น้องวินจริงๆเหรอ???


“น้องวิน”  เขาเอาเบอร์มาจากไหน แล้วทำไมหัวใจต้องเต้นแรงถึงเพียงนี้ด้วย


“เผอิญว่าได้งานเป็นอีเวนท์ยาวที่ห้างแถวชิดลม”


“อา…”


“เขาหาสองคนน่ะก็เลยลองโทรมาชวนดู”  แต่ประเด็นคือเบอร์นี้เอามาจากไหน “ขอเบอร์จาก..พี่เจนมา”  และอีกฝ่ายก็เฉลยมาให้แบบไม่ต้องรอให้สงสัยไปมาก และคนที่จิตใจห่อเหี่ยวก็เผยรอยยิ้มกว้างที่ปลายสายคงไม่รู้เพราะมัวแต่สนใจบทพูดอยู่ ไม่รู้ว่าที่ลูกชุบยิ้มได้ขนาดนี้เพราะงาน…หรือเพราะน้องวิน


“งานเริ่มเมื่อไหร่เหรอ”


“มะรืนนี้”


“น้องวินก็ไปใช่ไหม”


“ถ้าไม่ไปจะโทรมาชวนเหรอ”  นั่นสินะ แต่ลูกชุบก็แค่อยากจะย้ำอีกครั้งเอง เพราะอยากเจอมาก อยากเจอจริงๆ แล้วเราจะได้เจอกันใช่ไหม


เราจะได้อยู่อีเวนท์ยาวด้วยกันจริงๆใช่ไหม??


“จะมาไหม”


“มาสิ”  เสียงของลูกชุบสั่นเครือโดยไม่ทราบเหตุผล อาจจะเพราะโอกาสที่ได้รับนั้นมันมาในเวลาที่ต้องการ โดยคนที่…ใช่ด้วยจริงๆ


“ต้องมาให้ได้นะ”


“อืม”


“งั้นขอไลน์ไอดีไว้ได้ไหม”  ในที่สุดคำที่พูดยากสุดก็ได้พูดออกไป “จะเอาไว้ส่งรายละเอียดให้น่ะ” แต่ก็รีบอธิบายต่อเพื่อไม่ให้คิดไปไกล ไม่รู้ว่าที่คิดไกลนั่นคือฝ่ายไหนกันแน่เหมือนกัน


“เบอร์นี่แหละ”


“อืม”


“ของน้องวินก็เบอร์นี้ใช่ไหม”


“เมมไว้เลยนะ”  เขาสั่งทับ ลูกชุบพยักหน้าแม้อีกฝ่ายจะไม่เห็นก็ตาม


การพูดคุยที่เหมือนจะยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้วในตอนนี้ ลูกชุบคงไม่รู้ว่าอัศวินต้องรวบรวมความกล้าขนาดไหนที่จะโทรหา คุณป๋าไม่อ่อนโยนจริงๆ เขาได้โทรไปคุยกับผู้ดูแลงานนี้ที่บริษัทด้วยตัวเองเพื่อหาตำแหน่งว่างให้กับเขา โชคดีที่จะมีจัดอีเวนท์ส่งเสริมการขายที่ซุปเปอร์ย่านชิดลมเป็นเวลา 2สัปดาห์ติด


จริงๆทำมาให้ขนาดนี้ก็ควรจะทำให้เสร็จ แต่ไม่ กฎก็คือกฎ และคุณป๋าไม่เคยอ่อนโยนกับใครจริงๆ และสิ่งที่อัศวินได้รับตอนที่คุณป๋าส่งข้อความมา ก็คือข้อมูลตำแหน่งงานว่าง และเบอร์โทรของผู้ร่วมงานที่ยังไม่ทราบเรื่องอะไร


เขาลังเลไม่น้อยที่จะโทรไปบอกเพราะมันจะดูแปลกๆไปไหมที่ทำแบบนี้ แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้วก็คิดว่าเจ้าของรอยยิ้มโง่ๆคงไม่คิดอะไรเขาก็เลยโทรไป แต่แค่ประโยคสั้นๆ จะเอ่ยออกไปมันก็ไม่ง่ายดายเอาเสียเลย เขารู้สึกเหมือนใช้พลังงานไปมากกับเหตุการณ์นี้


“…”  แต่ลูกชุบก็ได้ตกลงแล้ว


เราไม่รู้หรอกว่ารักจะมาเมื่อไหร่…


“…”  เหมือนที่นักรบและเจนรักษ์เคยประสบ และอัศวินอายุยังน้อย ไม่รู้ตัวก็ไม่แปลก แต่น้องไม่ได้อยู่คนเดียวและคิดเองคนเดียว ทำไม… นี่อัศวิน ลูกของนักรบนะ มีอะไรที่มันยากเกินไปด้วยหรือ? ไม่มีหรอก


ต่อให้มันมี…ก็จะลองทำให้มันไม่มีดูให้ได้!


TALK
น้องวินนี่ลูกใครทำไมเป็นเด็กแบบนี้555
รู้สึกเหมือนมาลงน้องวินช้าเลย จริงๆสัปดาห์ที่ผ่านมาเรายุ่งด้วย
และช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่ทุ่มเทให้กับ #อาทิตย์ศศิ
แต่จะพยายามมาเรื่อยๆนะคะ อย่าเพิ่งลืมตาหนูกันนะ
#เจนไม่นก #ลูกชุบของอัศวิน
@reallyuri



หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 3) 12.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-01-2019 17:03:37
 :impress2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 3) 12.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 12-01-2019 21:29:28
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 3) 12.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-01-2019 22:51:54
เอ็นดูหนูลูกกบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 3) 12.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-01-2019 11:28:10
น้องวินมีอะไรให้บอกป๊ะป๋า ป๊ะป๋าช่วยได้ o13 ป่านนี้พี่เจนจะหายเครียดรึยัง55555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 13-01-2019 13:59:54
ลูกชุบของอัศวิน 4


อัศวินกำลังทำเรื่องที่แปลกที่สุดในโลก…


เขาไม่เคยมีปัญหากับการตื่นเช้า แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะดูว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวไหนในตู้ที่ดีที่สุด เลือกน้ำหอมที่คิดว่ากลิ่นจะไม่ฉุนแต่มันให้ลักษณะเฉพาะตัว แม้แต่เรื่องผมก็ไม่เคยสนใจอยากจะเซ็ต ทว่าวันนี้เขาทำทั้งหมด แถมยังส่องกระจกตรวจความเรียบร้อยและฝึกทำหน้าทำตาต่างๆด้วย


บ้าไปแล้ว เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!


และจบลงด้วยการมาเร็วกว่าเวลาปกติไปครึ่งชั่วโมง ต้องการเวลาแค่ไหนเพื่อสงบสติอารมณ์กัน อยากทำงานขนาดนั้นเลยเหรอ สุดท้ายจากความตื่นเต้น ก็มายืนรออยู่ไม่ไกลจากจุดนัดพบด้วยจิตตกๆนิดๆ ยังไม่ทันได้ทำงาน ก็เครียดขนาดนี้แล้ว แล้วนี่อีก 2 อาทิตย์เลยนะที่ต้องอยู่ด้วยกัน


มาคิดดู เรื่องที่เขาโทรไปหาลูกชุบด้วยตัวเองก็บ้ามาก แค่คุณป๋าบอกว่าต้องเป็นเขาโทรไปชวนเท่านั้น อัศวินก็ทำแล้ว ใจง่ายเหลือเกิน แล้วดูเจ้าตัวดีสิ รับโทรศัพท์เสียงใสแบบนั้น มันทำให้เขายิ้มเหมือนคนบ้าออกมา ชักจะมีอิทธิพลมากเกินไปแล้ว อะไรที่ปรามาสคุณป๋าไว้ วันนี้แทบจะเป็นเองทั้งหมด!


“น้องวิน”  อย่ามาเรียกน้อง และอย่าเรียกกันเสียงดังแบบนั้น ขอร้อง!


ในที่สุดลูกชุบก็มา ก่อนเวลานัด 15 นาที พอตระหนักได้ถึงตรงนี้ หัวใจของเขาก็เต้นระรัว อย่างน้อยก็ไม่ใช่เขาที่บ้าไปเองคนเดียวละมั้ง ไม่สิ ลูกชุบอาจจะแค่ออกเช้าเพราะกะเวลาไม่ทันเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นเลย เราสองคนก็แค่กะเวลาออก ‘ไม่ทัน’ เท่านั้น


ต่อจากนี้เราต้องเจอหน้ากันติดๆไปอีก 2 อาทิตย์ ดูไม่ออกแล้วว่านี่เป็นผลประโยชน์ของ ลูกชุบ ของรัตนสกุล หรือของเขากันแน่ ในขณะที่บรีฟงาน ก็เหลือบมองอีกฝ่ายเป็นระยะ แม้กระทั่งเริ่มทำงาน ก็ยังแอบมองอีก อา…นี่มันบ้าบอเกินไปแล้วจริงๆด้วย


“พี่ชุบดีใจมากๆเลยที่น้องวินโทรหา”  แล้วเมื่อกำลังสูดเส้นก๋วยเตี๋ยว เจ้าตัวดีก็พูดขึ้นมาทำเอาสำลัก


“แค่กๆ”  ไม่รู้ว่าที่หน้าแดงอยู่นี่เพราะปัญหาทางการสำลัก หรือเขินกันแน่


“โอ๋ๆ กินเป็นเด็กๆเลยนะ”  หุบปากไปซะ!


แต่ลูกชุบคิดเช่นนั้นจริงๆ หากไม่ได้น้องวินโทรมา วันนี้ก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน ทำอะไรอยู่ กลายเป็นคนไฮเปอร์ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันก็ไม่แน่ใจ แต่การได้ออกมาทำงานคือความรู้สึกสบายใจจริงๆ เรายังไม่ค่อยสนิทสนมกันหรอก เวลา 3-4 วันมันน้อยมากที่จะเชื่อใจหรือสนิทกับใครบางคนจริงๆ แต่ลูกชุบกลายเป็นตัวเลือกที่อัศวินโทรหา มันเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ


ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่ก่อตัวเป็นพิเศษนี่ มันเป็นไปในมุมมองไหนกัน?


เราทำงานด้วยกันได้ดี คนหนึ่งรูปหล่อ อีกคนดูน่าเอ็นดู ลักษณะภายนอกที่ดูต้องห้ามแต่ดูน่าเข้าหาต่างดึงดูดให้คนสนใจ และตามมาสนใจโปรดักส์ที่เรานำเสนอร่วมกัน แค่เพียงวันแรกสินค้าก็เกือบหมดสตอคแล้ว โชคดีที่ช่วงบ่ายทางทีมงานได้จัดการนำมาเติมให้เพิ่มได้ทัน


และจากชิดลม เราก็กลับบ้านด้วยกันในตอนเย็น เพราะเป็นวันธรรมดา มันก็จะเบียดๆกันหน่อย ยิ่งสายสุขุมวิทขาออกไปทางสำโรงในตอนเย็นคนยิ่งแน่น ลูกชุบเองก็ไม่ได้อยากอยู่ใกล้อัศวินถึงเพียงนี้ แต่เพราะเจ้าตัวอยู่ใกล้ราวจับเลยคว้าไว้ได้ ส่วนรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่า ก็ทำได้แค่คว้าเสื้อของอีกคนไว้ตามการอนุญาตของใบหน้านิ่งๆนั่น


“...”


“...”


“วันนี้ลงทองหล่ออีกหรือเปล่า”


“อืม”  ก็บ้านผ่านทางนั้น  อัศวินคิดไปว่าคงอยู่แถวเพชรบุรีหรืออะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่หรอก มันอยู่ในซอยซึ่งคั่นระหว่างทองหล่อกับเอกมัยต่างหาก แต่เขาไม่ได้พูดออกไป ค่าที่ดินสมัยนี้แพงแค่ไหนเขารู้ แต่รัตนสกุลครอบครองมันมาเกือบจะ 100 ปีแล้วมั้ง


“ดีจัง ทองหล่อมีแต่อาหารกับขนมอร่อยๆ”


“เหรอ…ไม่ค่อยได้กินอ่ะ”


“ได้ไง!”


“กินแต่ข้าวบ้าน”  ก็เพราะอยู่แต่บ้านไงเลยไม่ค่อยได้ออกมากิน อย่างดีก็ซื้อเข้าไปกินบ้าง แต่นั่นเจนหรือคนอื่นๆซื้อ อัศวินไม่ซื้อ นอนรอกินอย่างเดียว


“บุฟเฟต์หมูเกาหลีตรงนั้นอร่อยมากเลยนะ พี่ชุบชอบไปกินกับเพื่อนบ่อยๆ”


“...”


“ว่าแล้วก็อยากกินล่ะสิ”  และคนที่บ่นพึมพำกับตัวเองก็หยิบมือถือขึ้นมากะว่าจะโพสต์ถามเพื่อน เขาไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกชุบนะ แต่เรายืนใกล้กัน แล้วลูกชุบตัวเล็กกว่าไง มันเลยเป็นระยะที่มองเห็นได้…ชัดเจนพอดิบพอดี


“งั้นไปกินกันไหม”


“หืม…”  ลูกชุบยังพิมพ์ไม่จบเลย


“อยากลองเหมือนกัน”  ก็ไม่รู้สินะว่าอยากลองกินบุฟเฟต์แบบนั้นสักครั้ง หรือแค่อยากลองกินมื้อเย็นกับใครมากกว่า


และนั่นคือจุดเริ่มต้นอันแปลกประหลาดระว่างเด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายกับมหาวิทยาลัย จากมื้อแรก ก็มีมื้อที่สอง และมันน่าประหลาดที่กินติดๆกันได้ทุกวัน! ถ้าลูกชุบไม่ชวน ก็เป็นเขาเองนี่แหละ ทุกวันอัศวินจะกลับบ้านไปทำการบ้านว่าด้วยเรื่องของสถานที่กินเที่ยวย่านสุขุมวิท บางอันมันก็ไม่ได้อร่อยเลย แต่เพียงแค่คิดว่าล่อลูกชุบได้ ก็ยินดี


แล้วทำเช่นนี้เป็นประโยชน์ต่อใคร? กับเด็กน้อยที่ไม่ค่อยได้ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างอัศวิน หรือกับเด็กโตกว่าที่ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตในบ้านแบบลูกชุบ สุดท้ายแล้วมันก็เหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อคนทุกคู่ เพราะคนนึงมีรอยยิ้มระหว่างมื้อ ส่วนอีกคนก็เหมือนจะชอบมองรอยยิ้มนั้นเพลินๆ การเฝ้ารอให้วันใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกลายเป็นเรื่องที่ไม่ประหลาดอีกต่อไปแล้ว และการครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้กลางวันกับเย็นจะกินอะไรก็เป็นเรื่องที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ



“...”  แต่มีคนนึงที่เสียประโยชน์


“เอาน่า”


“เดี๋ยวนี้น้องทำตัวประหลาดไปมาก”  พี่เจนนั่นเอง ใช่…พี่เจนที่กำลังรอน้องกลับมากินข้าวเย็นด้วยทุกวันนี่แหละ และก็เป็นคนเดียวกับที่เอากับข้าวใส่ตู้เย็นและอุ่นให้กินในตอนเช้าแทน


“พี่บอกแล้วว่าลูกของเราต้องโต” เนียนมากี่ครั้งแล้วพ่อ ลูกของคุณรบคนเดียว ไม่ใช่ลูกของเจนสักหน่อย ไม่ได้เบ่งออกมาเองนะ เผื่อลืม


“โตแบบแปลกๆนะเดี๋ยวนี้ กลับบ้านมืดๆทุกวัน เจนเป็นห่วงมาก”  เจ้าของร่างเล็กกล่าวพลางพิงร่างของตนลงไปบนร่างของเขาที่กำลังช่วยปรับความเข้าใจ


“ดีแล้ว แต่ก่อนสิ ติดบ้านเกินไป”


“แต่เดี๋ยวนี้ก็กลับดึกบ่อยๆเกินไป!”


“โตเป็นหนุ่มช้าเลยกินเวลาหน่อย เข้าใจลูกหน่อยสิ!”  เออ ลูกก็ลูก! แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มันต้องห่วงลูกไม่ใช่หรือไง คุณนักรบนี่อะไรกันนะ ทำไมถึงยิ้มแปลกๆและดูผ่อนคลายแปลกๆแบบนั้น


“ให้ใครตามดูลูกหรือเปล่า”


“ไม่มีใครทำอย่างนั้นหรอกครับ”


“งั้นพี่รบก็ต้องรู้อะไรมาสินะ”


“ก็นิดนึง”


“ไม่เล่าให้เจนฟังหน่อยเหรอ”


“รอน้องวินมาเล่า”  เขาจะเปิดเผยความลับของลูกได้ไง เจนรู้ องค์ลงแน่นอน เผื่อๆโลกรู้ด้วย เสียงดัง..


“แน่นะ” ถามย้ำ แต่ใบหน้าดูมีเลศนัยเสียยิ่งกว่าคนถูกถาม


“ทำอะไรน่ะเจน”


“หึหึ”  ชักจะเริ่ม…


ไม่น่าไว้วางใจแล้วสิ…


สามีภรรยาที่ดีไม่ควรมีความลับต่อกัน คือสิ่งที่เจนบอกกับเขาเมื่อวาน และเมื่อเขามาบอกลูกว่าโดนอะไร เจ้าตัวแสบที่เป็นต้นเรื่องก็แค่ขำ นักรบหรี่ตามองเจ้าลูกบ้าบอแต่เช้าอย่างไม่สบอารมณ์ มันดีจริงๆเหรอที่เขาไปยุยงส่งเสริมให้มันออกจากบ้านแบบนี้


“ขำอะไร”


“จากที่กะว่าจะเขี่ยผมออก จะได้อยู่กับเจน กลายเป็นเจนงอนออกไปอยู่ที่อื่น”  ใช่…เจนขอย้ายห้องจนกว่าน้องวินจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้น!


“พ่อไม่ได้เขี่ย แต่หวังดี”  และเขาก็เป็นคนเก็บความลับเก่ง อย่างน้อยก็เก่งกว่าใครทุกคนรอบตัวของอัศวิน ทุกวันนี้ เรื่องราวแปลกประหลาดนี่เลยยังไม่มีใครรับรู้ ก็คิดดูว่าถ้าเพชรรู้ โลกรู้ไง!


“แต่ก็ขอบคุณนะครับ ช่วยได้เยอะเลย”  และอัศวินก็ยังไม่อยากให้ใครรู้จริงๆ


“...”


“ถ้าไงก็รบกวนคุณป๋าต่อไปด้วยนะครับ สวัสดีครับ”  สรุปจะไม่ไปต่อรองกับเจนให้คุณป๋าจริงๆใช่ไหมนี่เจ้าลูกคนนี้ พูดเสร็จก็เปิดประตูรถเดินลิ่วๆไปถึงไหนต่อไหน ให้ตายเหอะ!


เป็นนักรบคนเดียวสินะที่นกที่แท้จริงในเรื่องนี้!


อัศวินใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการทำงานเพื่ออยู่กับใครอีกคนนึงอย่างสิ้นเปลืองมาก เผลอแป็ปเดียวมันก็ผ่านไปเป็นอาทิตย์แล้ว เขานั่งรถไฟฟ้ามาที่ซุปเปอร์ในตอนเช้าอย่างอารมณ์ดี ยืนรอใครอีกคนที่คงมาถึงไม่นานต่อจากนี้ พลางคิดไปด้วยว่าจะชวนไปกินอะไร โดยที่ไม่ได้สนใจว่าช่วงเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ โดยที่เขาไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่


แต่จริงๆต้องการอะไรจากการไปชวนลูกชุบมาทำงานด้วยกันล่ะ ตั้งแต่แรกแล้วเขาทำตามอารมณ์มาตลอด ซึ่งมันผิดต่อวิถีการใช้ชีวิตของตัวเองมาก และมันก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมาย จวบจนตอนนี้เขาก็ค้นพบความต้องการใหม่ๆอย่างไม่สิ้นสุด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกย่ำแย่ต่อตัวเอง หากในทุกวันยังตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวังแบบนี้ จะเอาเวลาที่ไหนไปรู้สึกไม่ดีกับตัวเองอย่างนั้นล่ะ


เขายิ้มน้อยๆเมื่อเห็นลูกชุบกำลังเดินเข้ามา สุขภาพจิตของเด็กอายุ 18 ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อัศวินไม่ค่อยยิ้มพร่ำเพรื่อ เขามักยิ้มให้กับคนที่คุ้นเคย แต่ไม่ใช่กับอากาศและธรรมชาติแบบนี้ แค่เพียงเห็นลูกชุบเดินมา ริมฝีปากก็ยกขึ้นแล้ว และมันดูจะกว้างขึ้นทุกๆวัน คนตัวเล็กโบกมือให้อย่างร่าเริง และเมื่อเดินเข้ามาใกล้ขึ้น


เขาก็ได้เห็นอะไรบางอย่าง…


ไปล้มมาเหรอ? คือความคิดแรกที่เขาคิดถึงเมื่อเห็นรอยช้ำที่ศอก แต่ไม่ได้ถามอะไรเพราะเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ เราใช้เวลาร่วมกันหนึ่งวันตั้งแต่เช้าจนมืดไปตามแผนการที่วางไว้เมื่อคืนวาน และทุกอย่างก็วนกลับมาเหมือนลูปเดิมในวันใหม่ ทว่าวันนี้สลับกัน ลูกชุบเป็นฝ่ายมารอเขาก่อนในตอนเช้า


และรอยช้ำนั้นก็ดูเด่นกว่าเดิม…


“...” ลูกชุบนี่…ซุ่มซ่ามขนาดนั้นเลยเหรอ?


หน้าตาอาจจะดูเป็นอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริงที่ได้รู้จัก ลูกชุบห่างใกล้จากคำว่าซุ่มซ่ามไปมาก อีกคนไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย  จะหยิบจับทำอะไรก็คล่องแคล่วไปหมด  แทบไม่เคยเห็นความผิดพลาด อัศวินรู้ได้ไงนะเหรอ ก็เป็นเขาไม่ใช่หรือไง ที่เฝ้ามองแทบจะตลอดเวลา ถึงไม่อยากยอมรับแค่ไหน แต่มันก็เป็นความจริง ลูกชุบ…คือคนที่เขามองนานกว่าใครจริงๆ


“ที่แขนไปทำอะไรมาน่ะ”  เขาว่าจะไม่ถามเลย ถ้ารอยวันนี้มันต่างจากเมื่อวาน เมื่อวานยังแค่รอยช้ำรอยเดียวที่แขน วันนี้มันมีรอยช้ำใหม่


ในจุดที่ติดๆกัน…อีกรอย


“อ๋อ ล้มน่ะ”  ส่วนหนึ่งก็คิดไว้ว่ามันอาจจะเป็นแบบนั้น และลูกชุบก็ตอบแบบนั้น แต่คนเราจะล้มซ้ำๆเพื่อได้แผลในระยะใกล้ๆกันในสองวันเลยเหรอ ลูกชุบประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว นี่ใครกัน! อัศวินที่มองแต่ลูกชุบไง คิดว่าจะไม่สังเกตใช่ไหม ใช่! ลูกชุบคงไม่คิด เพราะคงไม่เคยคิดหรอกว่าจะถูกมองแบบไหน เพราะขนาดตัวเขายังไม่คิดว่าตัวเองจะบ้าได้ขนาดนี้เหมือนกัน!


“...” แต่อัศวินก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และก็ตั้งใจจะกลับมาเป็นผู้สังเกตการต่อไป


เรายังวนลูบใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ตื่นเช้ามาเจอกันเพื่อทำงาน กินข้าวกลางวันด้วยกัน ตกเย็นก็ไปลองนู่นลองนี่ที่ใครว่าดี และจากลาเพื่อมาพบกันใหม่ ก็ยอมรับว่าไม่อาจจะวางใจต่อไปได้ เพราะทุกวันนี้ยังชอบสังเกตนั่นนี่บนตัวลูกชุบเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม อีกฝ่ายดูจงใจซ่อน แต่เขาก็จงใจมองหา มันเลยมักจะเห็น


จาก 1 เพิ่มเป็น 2 และ 3 – 4 ตามลำดับ ให้ตายสิ นี่ไม่ใช่ลำดับขั้นของความสำเร็จ แต่เป็นรอยแผลของลูกชุบต่างหาก อัศวินกัดฟันกรอดที่ได้เห็นมัน อีกแล้ว ซ้ำๆ ไม่รู้จะอะไรนักหนากับตัวเล็กๆนี่ ทำไมมันขยันช้ำขยันเขียวได้ขนาดนี้ และก็ได้ค้นพบด้านใหม่ๆของตัวเองในตอนนี้ ด้านใหม่ๆที่เรียกว่าความห่วงใยปนเปไปกับความไม่ชอบใจ


“...”  และลูกชุบก็หมดข้อโต้แย้งมาสักพักกับเรื่องที่ตนมีแต่รอยแผลมาหากัน ทว่า…


ก็ไม่ได้บอกเขาว่าเพราะอะไร…


“เฮ้อ…”  แค่เพียงเสียงถอนหายใจของอัศวินก็ทำให้อีกฝ่ายน้ำตาคลอ จะแคร์กันมากไปแล้วนะ หัวใจนี่… แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ เราเป็นอะไรกันเหรอ ถึงจะต้องมาบอกทุกสิ่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น ลูกชุบ…จะร้องไห้ออกมาแล้ว


ทว่า…


“มีอีกไหม”  อัศวินกลับเลือกที่จะไม่ถาม ไม่พูดถึง แต่แสดงออกในแบบของเขา แบบที่ว่าหยิบกล่องใส่พลาสเตอร์ยาและยาทาแก้ช้ำขึ้นมา มันทำให้ลูกชุบช้อนตามองรุ่นน้องตัวสูงนั่นเพื่ออ่านเขาอีกที นี่น้องวิน…ไม่ได้โกรธหรือระอากันอยู่ใช่ไหม? ที่เขาดูเหมือนจะซุ่มซ่ามอย่างรุนแรงและหนักเกินไปหน่อย


“น้องวิน”  อัศวินไม่ได้ส่งกล่องให้ แต่เป็นคนทายาและแปะพลาสเตอร์ด้วยตัวเอง ใบหน้าขาวๆของลูกชุบขึ้นสีระเรื่อ หัวใจก็พลันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสที่อ่อนโยน มันดูไม่ใช่เขาจริงๆ แต่เขาที่เป็นแบบนี้มันดีจริงๆ ดีตรงไหน…หัวใจเต้นแรงขนาดนี้


“อ่ะนี่”  และจุดสุดท้ายที่เขาแปะให้คือรอยที่มุมปาก ต้องซุ่มซ่ามแบบไหนกันถึงได้เอาปากไปกระแทกกับอะไรแบบนั้น ถ้าอัศวินเชื่อว่าล้มจริงเขาก็บ้ามากแล้ว แต่เขายังลังเลที่จะถาม เลยเลือกไม่ถามอะไรออกไปมากกว่า การที่มาไล่ติดพลาสเตอร์ให้แบบนี้ไม่ใช่แค่ห่วง แต่อยากให้อีกคนรู้ตัวว่าเขาเห็น และคิดอย่างไร หวังว่าคนซื่อจะเข้าใจเจตนานี่สักที


และถ้าเป็นไปได้ก็เปิดปากเล่าให้ฟังก่อนที…


“ขอบคุณนะ”  เขาส่งกล่องให้ หากมันจะมีอีกก็เป็นลูกชุบเท่านั้นที่รู้ เพราะนี่ก็เยอะแล้วที่สังเกตเห็นได้ มันมากไปแล้ว และมันไม่ควรจะเพิ่มมาทุกวันแบบนี้ เขาไม่อาจจะปกป้องอีกฝ่ายได้ในสถานะของเพื่อนร่วมงานหรือรุ่นพี่รุ่นน้องแบบที่เป็นอยู่ มันน่าหงุดหงิดใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ทำไมเราถึงได้รู้จักกันแสนสั้นแบบนี้


และอีกแค่ 3 วัน ก็จะหมดข้ออ้างให้อยู่ต่อไปแล้ว


“...”


“...”  และเราสองคนก็รู้จุดนี้ดี



“วันนี้ไปกินข้าวมันไก่แถวอนุกันไหม”


“อนุไหน”


“สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิน่ะ”


“ไกลไหม”


“น้องวิน…ไม่ว่างเหรอ”


“เปล่าหรอก”  ถ้าเป็นกับคนอื่นก็ไม่แน่


“...”


“แค่อยากรู้”  ว่าจุดที่เรายืนอยู่ตรงนี้ มันห่างกันไกลมากกว่าไหม


เรามากินข้าวเย็นกันที่ร้านที่ลูกชุบเลือก ปกติเราไม่เคยนั่งรถไฟฟ้ามาไกลขนาดนี้เลย นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เขามาไกลถึงตรงนี้ก็เป็นได้ เขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับถนนแถวนี้ และไม่คิดว่าผู้คนจะพลุกพล่านวุ่นวายได้มากขนาดนี้เช่นกัน ต้องขอบคุณลูกชุบไหม ที่มาเปิดโลกทางการเรียนรู้กรุงเทพมหานครให้เขาขนาดนี้


“เผอิญวันนี้พี่ชุบจะค้างแถวนี้”  แล้วมันเพราะอะไรถึงต้องมาค้างแถวนี้ เขาขมวดคิ้วอีกแล้ว อัศวินไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าตัวเองหน้าดุแค่ไหน ทำหน้าแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ อย่าดุกันซี่...


“ทำไม”


“ก็…เพื่อนพี่ชุบอยู่แถวนี้”


“เพื่อน? ไว้ใจได้ไหม”  ก็ต้องไว้ใจได้สิ...คนตัวเล็กช้อนตามองเขาที่ดุเก่งกว่าใคร ใน 2 สัปดาห์ที่รู้จักกัน ลูกชุบเรียนรู้ที่จะเกรงใจอัศวินได้ขนาดนี้แล้ว มันแปลกมากๆ แปลกจริงๆ


“...”


“กินข้าวเถอะ”  อาหารมาเสิร์ฟพอดี เรียกว่าคั่นเวลาน่าหนักใจให้กันได้อย่างพอดิบพอดี ลูกชุบพยักหน้าก่อนจะจัดการทานอาหาร แต่เพราะบรรยากาศกดดันเมื่อครู่ ทำให้ไม่เจริญอาหารเท่าไหร่


และอัศวินก็สังเกตได้


“เอ๊ะ!”คนตัวเล็กร้องเสียงหลง เมื่ออัศวินเอาเลือดหมูในจานตัวเองมาใส่จานของลูกชุบ


“ให้”


“ไม่อาวววววว”  ลูกชุบก็ไม่กินนี่!


“ใจดี ผมกินอันนี้ให้”  แล้วยังมีหน้ามาขโมยแตงกว่าอีก ไม่ต้องมาแลกกันแบบนี้เลยนะ ลูกชุบกำลังจะบ่นกลับไปแล้ว แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลานั่น ก็ทำได้แค่ก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ ซ่อนแก้มแดงๆของตนไว้ไม่ให้ใครเห็น


หลบเก่งเป็นบ้า…อัศวินจะไม่เห็นได้ลงคอเลยเหรอ??


“หึหึ”  และแน่นอนว่าเขาเห็นและจงใจให้มันเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเลือดพ่อมันแรงมากหรือเปล่า แต่เขาคิดว่าจับทางทำให้อีกคนหลงลืมปัญหาติดอกได้ชั่วขณะออกมาแล้ว


การหว่านเสน่ห์โดยตั้งใจทั้งที่ไม่จำเป็นนี่แหละที่ได้ผลชะงักนัก อัศวินก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ทว่ามันดูเป็นธรรมชาติมากเมื่ออยู่กับลูกชุบ จะว่าเพราะลูกชุบ เลยได้แสดงตัวตนด้านแปลกๆออกมา บางทีก็สงสัยว่ามีมันอยู่แล้วหรือเปล่า แต่ปกติเขาอยู่ในโหมดประหยัดพลังงานไง เลยไม่เคยเห็นมันมาก่อนในชีวิต และต้องแบตเตอร์รี่ประเภทไหน ที่ดึงฟังก์ชั่นแฝงแบบนี้ออกมาได้ น่าตลกชะมัด…แต่ถ้าตลกแล้วมีความสุข ก็ยืนยันจะทำต่อไปเรื่อยๆ


ขอแค่ระหว่างเรามีเวลาต่อไปเรื่อยๆก็พอ


“งื้อ พี่ชุบกลับเองได้”


“จะส่ง”   เขายังยืนกราน


“มันใกล้แค่นี้เอง”


“เพราะใกล้ไงเลยไป” 


“หึ”  แปลว่าไกลๆจะไม่ไปงั้นเหรอ จะงอนแล้วนะ


“เป็นแค่ลูกชุบอย่าเถียง”


“…” 


“เวลาคนเขาเสนอตัวไปส่งก็รับๆไว้เถอะ เขาหวังดี” จริงๆนะเหรอ? “ยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ไม่ใช่เหรอ”  เพราะแผลพวกนี้เหรอ ถึงทำให้อัศวินเป็นห่วงขนาดนี้


ลูกชุบจะคิดเข้าข้างไปเองได้ไหม…


“เห…”  แต่ยังไม่ทันได้คิดเข้าข้างตัวเองไปเลย อัศวินก็คว้ามือเล็กไปจับและฉุดให้ไปเดินข้างๆกันแล้ว


“เดี๋ยวหลง”  เหตุผลนี้ใช้กับเด็กอายุ 20 ปีได้ที่ไหนเล่า! เจ้าผู้ใหญ่อายุ 18! ลูกชุบได้แต่ค้านในใจไม่ออกเสียงออกมา ส่วนนึงก็คงจะเพราะหวั่นเกรงว่ามือใจดีนี่จะปล่อยกันไป


“...” และหัวใจของลูกชุบยังรับไม่ไหวจริงๆในตอนนี้


ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามที่ทำให้คนเย็นชาใจดีต่อกัน ลูกชุบก็ยังรู้สึกขอบคุณในสิ่งเหล่านั้นอยู่ดี เพราะในยามที่อ่อนแอสุดๆไปเลยนี่ หัวใจอาจจะต้องการ มืออุ่นที่กระชับกันนั้นให้ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ดี และแม้ว่าเราอาจจะดูแปลกๆในสายตาคนอื่น แต่อัศวินและลูกชุบไม่มีความคิดจะสนใจมันเลยเวลานี้ และถ้าแสงไฟตามข้ามทางไม่เพี้ยนจนเกินไป ใบหน้าของคนหน้าดุยังคงนิ่งสนิท


แต่ใบหูออกจะขึ้นสีให้เห็นอยู่ไม่น้อย…



“ขอบคุณน้องวินมากนะ”


“อืม”  ทั้งๆที่ก็เขินขนาดนี้แท้แต่ก็ยังยอมกันทุกอย่าง แม้สักนิดลูกชุบก็ไม่ได้ร้องขอเพราะไม่เคยคาดหวังอะไร แต่การทำให้กันเช่นนี้มันกำลังจะไปจุดประกายอะไรบางอย่างรู้ไหม…


บางอย่างที่เรียกว่าแสงแห่งความหวังอย่างไรเล่า…


นี่อัศวินทำอะไรลงไป เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เมื่อส่งลูกชุบถึงมือเพื่อนที่ลงมารับเสร็จ เขาก็ทักทาย พูดคุยกับอีกคนพอประมาณ หลังจากที่แยกมาอยู่คนเดียวก็จมกับความรู้สึกมากมายที่ประดังประเดเข้ามาหา ช่างเป็นวันที่ยาวนานจริงๆ และเป็นวันที่เขารู้สึกไปมากมาย ทั้งผิดหวัง วุ่นวายใจ ห่วงหา และตื่นเต้นดีใจ


นี่หรืออาการของคนโตเป็นหนุ่มแบบที่ใครๆเขาบอก


“บ้าไปแล้ว” คนพวกนั้นหรือตัวเองล่ะที่บ้าไปแล้ว อาจจะเป็นตัวเองก็ได้ เขาเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าทั้งๆที่ยังหน้าร้อนขนาดนี้ได้ยังไง แล้วเรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มมันหายไปไหนหมด ทำไมกับแค่คนที่ตัวเล็กกว่าถึงทำให้เข่าอ่อนไปได้ขนาดนี้


แล้วควรเอาไงดีล่ะทีนี้?


“เฮ้อ”  ควรจะเริ่มจากการหาร้านทานข้าวร้านต่อไปสำหรับพรุ่งนี้


และมันก็กำลังจะจบลงแล้ว ปิดเทอมอันแสนสั้นและกิจกรรมที่ไม่ยาวนาน หากนั่นไม่ใช่ลูกชุบ มันก็คงจะจบไปโดยง่าย ต่างคนคงไม่คิดจะติดต่อกันอีกเพราะไร้ผลประโยชน์ หรือเขาจะชวนอีกฝ่ายมาทำงานอีกดี? แต่ถึงอย่างนั้นอัศวินก็ไม่ได้ปิดเทอมยาวนัก เป็นครั้งแรกที่คิดว่าปิดเทอมแรกของชั้นปีมันสั้นเกินไป สั้นมากจริงๆแล้วควรจะทำยังไงต่อดี จะมีใครบอกกันได้บ้างไหม?


อัศวินต้องบ้าแน่แล้ว เขาจะบอกกับคนอื่นๆยังไงถึงอาการที่เป็นอยู่ ศัตรูทางหัวใจตลอดกาลอย่างคุณป๋าก็คงช่วยไม่ได้ ในส่วนของเจนถ้าพูดให้ฟังคงฟูมฟายไปกันใหญ่ เพราะเรื่องนี้มันไม่ปกติเลย ก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าอะไรเป็นอะไร และมันก็ชัดเจนขึ้นมาในตอนนี้ แต่จะให้ประกาศออกไปก็ไม่สมกับเป็นเขาเอาเสียเลย จะให้พูดอย่างไรดีล่ะ พูดออกไปตรงๆเลยได้ไหม…


เจน…คุณป๋า…
น้องคิดว่าน้องกำลัง…มีความรัก



TALK
กลัวว่าจะลืมลงตาหนูอีกก็เลยมาลง
เหล่าป้าๆน้าๆที่ติดตามเรียลลิตี้ชีวิตน้องวินมาตั้งแต่ฟันยังไม่ขึ้น
เลยเห็นฟีลเตอร์น้องในพระเอกเรื่องนี้ อ่านเมนท์ก็ตะหมูกบานที
มีแต่คนชมพระเอกของพี่ชุบว่าน่ารักไม่เกรงใจส่วนสูงพ่อให้มาเลย
น้องงอนแล้ว อ่อจะหล่อขนาดนี้ทำไมมีแต่คนชมว่าน่ารัก555
#เจนไม่นก @ reallyuri





หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 13-01-2019 15:29:34
น้องวิน พูดตรงๆเลยลูกว่ามีความรัก  คุณป๋าคงไม่เท่าไหร่ พี่เจนนี่สิจะออกอาการยังไง

ลูกชุปต้องมีปัญหากับทางบ้านแน่เลย อยากให้น้องวินรู้ปัญหาลูกชุป  แววพระเอกจะได้ออกมา

เพราะตอนนี้ก็ยังมองน้องวินเป็นเด็กน้อยเหมือนเดิม เอ็นดูลูก  :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 13-01-2019 15:32:22
ไปอธิบายแม่กบยังน้อง

ลูกกบ แม่เครียดละมั้ง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-01-2019 16:16:08
น้องวินลูกกกกกกกกกกกกก ยิ่งอ่านยิ่งเอ็นดูน้องวิน
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-01-2019 16:38:02
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-01-2019 20:38:46
ลูกชุบคือโดนคนในครอบครัวทำร้ายรึเปล่า เห็นว่ามีปัญหา น้องวินจะช่วยลูกชุบได้มั๊ย :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 14-01-2019 10:06:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-01-2019 10:46:22
ควต้องขอแรงแม่กบเสียแล้วนะลูก
ลูกชุบไปโดนใครตบตีมาลูก ไม่เอานะหนูต้องลุกขึ้นสู้
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-01-2019 12:02:57
 :man1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 14-01-2019 16:37:55
หนูลูกชุบของป้าาาาาาา~ใครทำอะไรหนูรอก่อนนะลูกอัศวินขี่กบของป้าจะไปช่วยหนูแน่นอน ฮืออออ่านแล้วน้ำตาซึมเหมือนลูกชุบอยากบอกอยากเล่านะแต่ดูก็กลัวจะทำให้ลูกกบไม่สบายใจไปด้วย และคงคิดยังไม่สนิทกันมากพอกลัวอีกคนจะไม่อินไปด้วย โธ่มาให้ป้ากอดทีสิหนูลูกกกกก อัศวินคนเก่งของป้ามีความรักแล้วต่อไปขี่กบไปช่วยพี่เขานะลูก  :hao5:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 14-01-2019 23:39:50
ตาหนูของป้าาาาา  น่ารักอะไรขนาดนี้!!!!!!!!
ลูกชุบคนดีใครทำหนูคะลูกกกก แม่จะไปตีตีตีตีตีตี มันให้เองงงง :m31:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 15-01-2019 01:07:13
ครอบครัวลูกชุบเป็นอะไร ทำไมทำร้ายกัน
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 15-01-2019 08:28:01
น้องวิน ต้องช่วยลูกชุบให้ได้นะ เป็นห่วงจัง

คุณป๋า พี่เจน ช่วยน้องด้วยยยยยย

ลูกชุบสู้ๆ เกิดอะไรขึ้นก็สู้ๆน้าาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 4) 13.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 16-01-2019 16:40:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 18-01-2019 20:19:37
ลูกชุบของอัศวิน 5


แล้วเมื่อไหร่กันที่อัศวินจะบอกออกไป?
ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดแน่ชัด


“เฮ้ออออออ”  แต่จะเปิดเทอมอยู่แล้ว จะปล่อยมือลูกชุบได้ลงคอเชียวเหรอ อัศวินดูเป็นคนตกหลุมรักอะไรง่ายๆหรือไง ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งได้กระสับกระส่ายแบบนี้เป็นครั้งแรกนี่แหละ แน่นอนว่าปล่อยไปไม่ได้ แต่จะให้เก็บไว้ใกล้ๆ ก็ไม่มีวิธีดีๆผุดขึ้นมาในหัวเลย


การมาเจอกันแบบที่รู้ใจแล้วกลายเป็นเรื่องยากแต่ขาดไม่ได้ขึ้นมา วันนี้เขาเป็นฝ่ายมารอลูกชุบแน่นอน ใจน่ะอยากเจอ แต่มันก็เขินตัวเองและอีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูก อัศวินรู้ดีว่าตัวเขานั้นก็ไม่ได้ย่ำแย่ มีคนมากมายที่สนใจเขา แต่ไม่เคยมีใครเข้าตาและได้เฉียดกลายเข้ามาใกล้หัวใจ มีแค่รุ่นพี่หัวกลมคนนั้นแหละที่เข้ามาใกล้ที่สุด ใกล้จุดกึ่งกลางของหัวใจแล้ว


เดี๋ยวลูกชุบก็คงมา เขาคิดเช่นนั้นขณะยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา ทว่าอัศวินก็ยังคงรอต่อไปจนกระทั่งใกล้เวลาเข้างานขึ้นมาทุกที แปลก…ปกติลูกชุบไม่ใช่คนแบบนี้ เรามักจะได้มายืนคุยแถวนี้ราวๆเกือบ 10 นาทีก่อนเข้างานทุกวัน แต่วันนี้มันจะเข้างานอยู่ไม่กี่นาทีนี้แล้ว ทำไมยังไม่มาอีก เขาไม่ลังเลเลยในเมื่อมันมีเหตุผลให้โทรหา และก็พบว่า…


ไม่มีใครรับสาย…


เมื่อโทรหาอีกครั้งกลับถูกตัดสาย อัศวินพยายามทำใจให้เย็นและเชื่อว่าอีกฝ่ายคงมาสายและกำลังวิ่งอยู่จึงไม่สะดวกรับ แต่รอแล้วรอเล่า… ก็ยังไม่มีใครมา…จนกระทั่งเวลางานมันถูกเริ่มไปราวๆ 5 นาทีแล้ว เขาโทรกลับไปอีกครั้ง และก็พบว่ามือถือได้ถูกปิดลงแล้ว


แปลกมาก แปลกมากจริงๆ ในตอนนี้เขาไม่สามารถห้ามความรู้สึกตนเองได้ อากาศดีๆในยามเช้าพลันร้อนอบอ้าว เขาพยายามติดต่ออีกฝ่ายไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ผลลัพท์ยังเหมือนเดิม ตอนนั้นได้รู้แล้วว่าไม่ควรโง่ทำซ้ำและทำอย่างอื่นที่ดีกว่า เขาโทรหาพี่ที่ดูแลเราสองคนที่สาขานี้ เพื่อสอบถามว่ามีใครโทรไปลางานไหม กลายเป็นว่าฝ่ายนั้นก็เพิ่งทราบว่าลูกชุบไม่ได้มาทำงานจากเขา…


“พี่ไม่รู้จริงๆครับ คุณอัศวิน”  ปลายสายก็กระวนกระวาย ทั้งนี้การรับสายจากลูกชายประธานบริษัทในเรื่องชวนหงุดหงิดมันทำให้รับมือไม่ถูก ความหงุดหงิดนี่อาจจะครอบงำจนทำให้ทำเสียงไม่น่ารื่นหูใส่ใคร และมันอาจจะทำให้คนที่อยู่ใต้บัญชาของบิดาต้องตื่นกลัว


ในที่สุดอัศวินจึงแจ้งไปว่าตนจะไม่เข้า ให้หาคนมาแทน และขอโทษที่ทำให้ลำบาก นี่คือเหตุการณ์ที่ก่อความวุ่นวายต่อหัวใจของมากเกินไป มากเกินจะอยู่เฉยๆและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ และเขาเลือกจะทิ้งงานที่ขอมาทำและเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อไปหาลูกชุบที่ห้องของเพื่อนที่เมื่อวานได้ไปส่ง จริงๆอยากจะนั่งแท้กซี่ไป แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไกลจากที่นี่ไหม รถติดหรือเปล่า และต้องขึ้นฝั่งไหน ปัดโธ่เอ้ย! ทำไมช่างไร้ประโยชน์เช่นนี้!


ในที่สุดเขาก็เดินย้อนทางเดิม เห็นทีถ้าได้เจอต้องต่อว่าสักหน่อยแล้ว แต่ตอนนี้ขอให้ได้เจออย่างปลอดภัยด้วยเถิด ถ้าไม่เพราะช่วงหลังๆคนตัวเล็กมีแต่แผลมาให้เห็นทุกวันล่ะก็ เขาอาจจะไม่คิดร้ายและห่วงหาขนาดนี้ แต่เพราะมันรุนแรงขึ้นทุกวันนะสิ ถึงได้เป็นห่วงและก็โกรธตัวเองมากด้วยที่สงสัยแต่ไม่มีความกล้าจะถามออกไป!


มันเกิดอะไรกับลูกชุบกันแน่?


“ครับ”  อัศวินรับโทรศัพท์ เขากำลังเดินออกจากรถไฟฟ้าและนึกย้อนความทรงจำเมื่อวานที่ได้มาที่นี่ แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรดี ปลายสายก็ส่งเสียงกลับมา


“อัศวิน”  น้ำเสียงนี้ วิธีเรียกแบบนี้ เขาคิดเป็นอื่นไม่ได้เลย นี่คือคุณนักรบ รัตนสกุล ยามที่กำลังโกรธลูกชายคนเดียวของเขาอยู่


“คุณป๋า…”


“ทำอะไรของลูก และนั่นอยู่ไหน”  เขาจับกระแสเสียงได้ ไม่ใช่บ่อยครั้งที่นักรบจะเป็นเช่นนี้ แม้เราจะทะเลาะกันบ่อยแต่มันก็เล่นๆ ไม่เคยหรอกที่เขาจะโกรธกันจริงๆจังๆ แต่วันนี้มันไม่ใช่ นักรบกำลังโกรธ และมันเรื่องอะไร ตัวลูกชายก็พอจะรู้


“ผมกำลังตามหา…ลูกชุบอยู่ครับ”  ในขณะที่เท้าก็ไม่หยุดเคลื่อนไหว เขาก็พยายามหาคำตอบที่เหมาะสม


“กลับมาเดี๋ยวนี้ ลูกคิดว่าลูกทำอะไรอยู่!”  ไม่มีคำว่าน้องวิน ไม่มีคำว่าตาหนู ในตอนนี้คุณป๋าโกรธจริงๆ แต่เขา…มาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปแบบคว้าน้ำเหลว


“ขอโทษครับคุณป๋า ผมจะรีบกลับไป”


“ลูกรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป ไม่รับผิดชอบแค่ไหน ทำไมเป็นคนแบบนี้!”


“ผมเป็นห่วงลูกชุบ ถ้าเจอตัวแล้วจะรีบกลับไป”  และเขาก็อธิบายสาเหตุที่ทำให้ห่วงมาก นักรบฟังอย่างใจเย็นทั้งๆที่ยังมีอารมณ์กรุ่นโกรธ


วิธีการของอัศวินมันหุนหันพลันแล่นเกินไป ลูกชายของเขาทำให้พนักงานลำบากต้องขอโทษผู้จัดการซุปเปอร์ และยังต้องหาคนไปทำแทนอย่างกะทันหัน  ตามระเบียบแล้วมันผิดและต้องโดนแบล็คลิสต์ นี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงทำแบบนี้ลงไป เพราะเป็นลูกของประธานบริษัทงั้นเหรอ ถึงจะทำตามอำเภอใจอย่างไรก็ได้?


“แล้วลูกคิดว่าจะหาเจอ?”


“…”


“อัศวิน…ลูกได้คิดก่อนหรือเปล่าว่านี่มันอันตรายแค่ไหน”  ใช่…เขาควรจะคิด ในเมื่อคิดไปได้ว่าลูกชุบกำลังอยู่ในอันตราย แล้วเขาเป็นใครถึงจะไปช่วยได้ คุณป๋าพูดถูก แต่ก็ไม่อาจจะอยู่เฉย


“คุณป๋า…”


“ลูกคิดว่าถ้าเป็นอะไรไปจะมีคนชื่นชมงั้นหรือ ได้คิดไหมว่าเจนกับคุณป๋าและคุณย่าจะเสียใจแค่ไหน” เขาตระหนักถึงข้อนั้นดี เพราะทุกคนให้ความสำคัญกับเขาที่สุด ไม่ใช่ฐานะทายาทคนเดียวของตระกูล แต่เพราะเขาเป็นที่รัก การที่นักรบพูดแบบนั้นออกมาตรงๆ มันแทงทะลุใจคนมุทะลุจริงๆ


“…”


“แล้วนี่อยู่ไหน”


“แถวหอของเพื่อนลูกชุบครับ ผมพาเขามาส่งที่นี่เมื่อวาน”


“แน่ใจได้ไงว่าเขาอยู่ที่นี่”  การควานหาคนๆนึงแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร อัศวินเอาความมั่นใจมาจากไหนนะเหรอ ไม่มีทั้งนั้นแหละ ที่เขามี…คือที่นี่ที่เดียว เพราะไม่มีที่อื่นอีกแล้วที่อยู่ในความทรงจำระหว่างกัน


“…”


“กลับบ้านเราถ้าหาไม่เจอ”


“ครับ”


“ลูกจะทำจริงๆใช่ไหม”


“ผมจะระวังตัว และถ้าหาไม่เจอ”


“….”


“จะไปรอคุณป๋าที่บ้านเราครับ”  เพราะมันไม่มีที่ไหนที่เขาไปได้อีกแล้ว อัศวินไม่อาจจะตัดใจ แต่แค่ไม่มีทางไปต่อแล้วจริงๆ เขารู้ถึงความสำคัญของตัวเองในบ้าน และก็ไม่ต้องการทำให้คนอื่นเป็นห่วงกว่านี้


บางทีเจนอาจจะไม่ทราบเรื่อง และคุณป๋าก็พูดถูกทุกอย่างว่าเขาทำตัวเสี่ยงเกินไป และทำให้ชื่อเสียงของคุณป๋าเสียหาย เด็กนี่เป็นใครมาจากไหนไปทำอย่างนั้นกับลูกน้องของคุณป๋า การทำให้คนอื่นตกอยู่ในความกลัวและกังวลมันไม่ใช่เรื่องดี และเพราะความเอาแต่ใจนี่ มันทำให้พนักงานคนนึงเกิดความเสี่ยงในหน้าที่การงานขึ้นมา เขาเอาแต่ใจมากจริงๆ


และก็คว้าน้ำเหลว เมื่อมาถึงก็ได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ ถามยามก็แล้วแต่ไม่มีใครทราบ จริงๆคือเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนของลูกชุบชื่ออะไร การมายืนรอหน้าหอพักของคนอื่นโดยไร้จุดหมายนั้นก็ไม่ดีนัก ในที่สุดก็ยอมแพ้และทำตามสิ่งที่สัญญากับคนเป็นพ่อเสียแต่โดยดี เพราะไม่เคยเป็นเด็กเกเรและไร้ความรับผิดชอบจริงๆ ไม่ใช่แค่คุณป๋าที่ผิดหวัง แต่เขาก็ผิดหวังในตัวเองมากเช่นกัน


“กำลังกลับครับ”  เขารายงานตามความจริงไป ไร้ประโยชน์ที่จะโกหกและหาต่ออย่างไร้เงื่อนงำอื่นใดอีก


“ไม่เจอเหรอ”


“ครับ”


“กลับยังไง รถไฟฟ้าเหรอ”


“ครับ”


“เฮ้อ…”  นักรบเองเมื่อได้ยินเสียงอันสิ้นหวังนี่ก็ไม่อยากจะว่ากล่าวอะไรอีก อัศวินก็คล้ายๆกับเขา บางทีในตอนที่อายุเท่ากันก็คงจะเลือกทำอะไรเหมือนกัน นักรบเองก็พอจะรู้ว่าความรักมันทำให้เลือดร้อนได้ขนาดไหน ว่าแต่เจ้าลูกชายล่ะ รู้ตัวเองบ้างหรือยัง และถ้ารู้ตัวแล้ว… ก็หวังว่าอีกฝ่ายจะดีพอกับสิ่งที่น้องวินได้เพียรทำไป


เพราะมันยากจะมองหน้าลูกที่ผิดหวังกับสิ่งที่เขารัก…


“ทำไมไม่ไปหาที่บ้านเขา”


“ผมไม่รู้”


“…”  แต่ก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้ เพียงแค่ลูกชายของเขาไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลืออะไรอีกแล้ว ในเมื่อก่อเรื่องไปเสียขนาดนี้ อัศวินยังเป็นเด็กดีของพ่อและทุกคนจริงๆ แล้วเขาจะไม่ช่วยเหลือได้เหรอ? อดใจไม่ไหวจริงๆหรอก “คุณป๋าจะไม่ปล่อยให้เราไปคนเดียว”  แต่มันต้องมีใครไปด้วย เห็นไหม…


สุดท้ายนักรบก็ตามใจแม้จะหวาดกลัวเพียงใดก็ตาม


น่าแปลกที่นักรบปล่อยให้ลูกไปหาลูกชุบที่บ้าน รัตนสกุลมีฐานข้อมูลตอนกรอกใบสมัครของตัวปัญหาอยู่ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะดึงมันออกมา แต่หาเจอหรือเปล่านั่นมันอีกเรื่อง เขาไม่เคยคิดจะพึ่งพ่ออีกต่อไป แต่ก็เป็นอีกฝ่ายที่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ แน่นอนว่ามันไม่มีการเรียกร้องอะไรเกินไปกว่าการให้กลับมาอย่างปลอดภัย แต่เพราะเราไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด จึงไม่ปล่อยให้ไปแต่เพียงผู้เดียว มันต้องมีอีกคนไปด้วย และคนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่คุณป๋าไว้ใจและกล้าปล่อย…ให้ไปตาย


“อาเพชรจะรอที่สถานีทองหล่อ คุณป๋าต้องไปประชุมแล้ว”


“ขอบคุณครับ”


“แล้วจำไว้นะอัศวิน”  เขาอยากจะเน้นย้ำให้เจ้าลูกชายรับรู้ “ดูแลตัวเองดีๆแทนคุณป๋าที่ไปดูไม่ได้ด้วย” เขาตอบรับไป อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่กล้าทำให้คุณป๋าผิดหวังอีกแล้วในวันนี้


เมื่อมาถึงสถานีทองหล่อ สองขายาวของเด็กหนุ่มก็แทบจะกระโดดลงมาจากบันไดของสถานี เขาเร่งรีบ อยากให้ขาของตัวเองไวตามจังหวะหัวใจ ในที่สุดก็มาอยู่ในรถของคุณอาเลขาที่ขับมาถึงแบบพอดิบพอดี คาดว่าอาเพชรคงรู้แล้วว่าบ้านของเจ้าตัวดีอยู่ที่ไหน โดยไม่พูดพล่ำทำเพลงอะไร รถของเราก็ตรงไปยังเส้นทางที่ได้มาจากผู้เกี่ยวข้อง กรุงเทพมหานครจะใหญ่แค่ไหนกัน อัศวินเสียเวลาไปก็เยอะแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอเสียที!


“เหนื่อยหน่อยนะครับวันนี้”  อาเพชรน่าจะทราบเรื่องแล้ว เขาเป็นคนที่มีความสามารถในการปะติดปะต่อเรื่องขั้นสูง แค่มีชิ้นส่วนนิดหน่อยก็สามารถคาดเดาได้แม่นยำ บางทีวันนี้เราอาจจะเจอลูกชุบได้ด้วยฝีมือเขาก็เป็นได้


“ก็ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่า”  เอาจริงๆ แม้อัศวินจะมั่นใจว่าตกหลุมรักเข้าแล้ว แต่ก็ไม่เคยลงทุนขนาดนี้ให้กับสิ่งนี้มาก่อนเพราะมันเป็นครั้งแรก ทุกย่างก้าว แม้จะลงมือทำไปเกินครึ่ง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความลังเล


“ถ้าคุณหนูวินทำมาถึงขั้นนี้แล้ว มันต้องคุ้มถ้าได้เจอครับ”  ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น ถ้าได้เจอจะจับเขย่าสักที เอาให้รู้เรื่องกันไปเลย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันไม่ควรสั้นแค่ปิดเทอมขึ้นเทอม 2 แล้ว


เขาควรจะทำให้มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดแบบระยะยาวจริงๆ



อัศวินครุ่นคิดมาตลอดทางตั้งแต่นั่งรถมา และตอนนี้เราก็เข้ามาในซอยที่ระบุไว้ในเอกสารสมัครงานของลูกชุบ เอาจริงๆเขาไม่เคยเข้าใกล้ชีวิตส่วนตัวของใครเท่านี้มาก่อนเพราะรักสันโดษจนบางทีก็ดูเป็นพวกไม่แคร์โลก อย่างนี้ก็ไม่ชินเท่าไหร่นัก ทว่ามันก็ถอยหลังกลับไม่ได้ มีแต่ต้องยอมรับว่านอกจากเข้าซอยบ้าน ยังต้องเอาตัวเข้ามาในชีวิตของลูกชุบด้วยตัวเอง



“อาว่า…น่าจะเป็นบ้านหลังข้างหน้านี่แหละครับ เดี๋ยวเราจอดเลยไปหน่อยดีกว่า”


“อาเพชรจอดให้ผมลงก่อนก็ได้ครับ จะดูลาดเลาหน่อย”


“ได้ครับ แต่อย่าทำอะไรผลีผลามนะ”  เพราะหน้าที่ของเขาคือมาปกป้องชีวิตของลูกชายคุณรบ ถ้าเกิดตายโดยที่ไม่เหลือโอกาสให้เขาหมายหัวใครไว้ก่อนแบบนั้น มีหวังโดนคุณเขาประหารเจ็ดชั่วโคตร!


อัศวินลงรถมาก่อนตามที่ได้คุยกัน เขายืนเก้ออยู่หน้าประตูบ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่มากสีฟ้าซีดๆ เต็มไปด้วยความเงียบงันแบบให้ความรู้สึกแปลกๆ มองหารถของอาเพชรที่บอกจะเอาไปจอดข้างหน้าหน่อย และกลับมาดูลาดเลารอบตัว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเหรอ ทำไมเงียบกันจัง?


อย่างนี้ก็หมายความว่าลูกชุบก็ไม่อยู่บ้านด้วยอย่างนั้นหรือ นั่นหมายความว่าที่มาถึงนี่ก็ไร้ความหมายงั้นสิ? แต่นอกจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนแล้ว ยิ่งคิด จากที่เคยลังเลว่าการเข้ามาที่นี่จะเป็นเรื่องที่ดีในระยะยาวไหม เขากลับลืมมันไปทั้งหมด ในตอนนี้ลูกชุบอยู่ที่ไหน และจะตามหาได้อย่างไร จะไปถามหาได้ที่ใคร อัศวินไม่รู้อะไรเลย


กึก..กึก…


แต่แล้วอะไรบางอย่างก็ดูแปลกๆไป เขาได้ยินเสียงและการขยับแปลกๆของหน้าต่างบานหนึ่งที่มองเห็นได้จากจุดที่ยืนอยู่ อัศวินมองไปรอบๆ เขาควรจะหลบไปสักนิดเผื่อว่าจะถูกเข้าใจผิด ทว่าหน้าต่างบานนั้นก็ยังขยับแปลกๆจริงๆ หัวใจเขาเต้นตึกตักอย่างไม่มีสาเหตุ และมันเหมือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ



พลันสายตาได้เห็นร่างของอาเพชรที่กำลังเดินมา เขารีบส่งสัญญาณให้อีกคนหยุดอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ทั้งๆที่นี่คือสิ่งที่คุณป๋าไม่ชอบที่สุด ทว่าบรรยากาศและสถานการณ์ก็ทำให้อาเพชรเผลอไผลทำตามคำสั่งกันโดยง่าย ก่อนจะมองไปตามทิศทางที่มือของลูกเจ้านายชี้ชวนให้มอง ที่หน้าต่างบ้านหลังนั่น….


มันกำลังจะเปิดออก!


“…”  อัศวินไม่ส่งเสียงอะไรออกมา เขาเห็นแล้วว่าใครเปิดหน้าต่าง และมันก็คือคนที่เขาอยากจะถามที่สุดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทั้งเรื่องที่ว่าทำไมไม่ไปทำงาน ทำไมถึงติดต่อไม่ได้


และทำไมต้องปีนหน้าต่างแบบนั้น!!!


ในที่สุดสายตาของเราก็สบกันเข้า แม้เขาจะพยายามหลบซ่อนตัวแค่ไหน แต่ก็ยอมรับว่าทำได้ยากเมื่อลูกชุบอยู่ที่สูงกว่า น่าแปลกที่ปกติลูกชุบคงเรียกหาเสียงดังอย่างร่าเริง ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายรีบส่งสัญญาณให้เขาเงียบและกวักมือเรียกให้เข้าไปใกล้ แต่มันจะใกล้ได้สักแค่ไหนเชียว ในเมื่อเรามีทั้งกำแพงและประตูกั้น หวังว่าลูกชุบคงไม่บินลงมาให้เขารับจริงๆ


“!!!”  ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างน่าตกใจแต่เงียบงัน ลูกชุบไม่ได้กระโดดลงมาให้เขากลัวเล่น แต่กลับโยนกระเป๋าใบเบ้อเร่อมาให้รับ แย่แล้ว! หากนี่เป็นของโจรขึ้นมา เขาจะเอาหน้าที่ไหนไปพูดแก้ตัวกับเจน นี่คิดถูกหรือผิดที่ตามมาถึงที่นี่กันนี่!


ทว่าที่น่าตกใจกว่าคือการที่ลูกชุบกำลังทำตัวเป็นลิงเกาะเกี่ยวปีนป้ายไปทั่ว ขาก็สั้นแล้วยังจะปีนจากชั้นสองลงมาอีก ทำไมไม่ลงบันไดมาดีๆ และเพราะกลัวอีกฝ่ายตกลงไปจึงเฝ้ามองจนแทบลืมหายใจ แต่เขาทำอะไรให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว สภาพของเขาตอนนี้คงตลกน่าดู ยืนเขย่งเท้ากอดกระเป๋าให้อีกฝ่ายไปมาแบบนี้


“โอ้ย!”  ในที่สุดก็ไม่รอดจริงๆ ขาสั้นและไม่เจียมมันเป็นเช่นนี้เอง ตกลงมาจูบพื้นอย่างไม่ต้องสงสัย


“ลูกชุบ!”  เขาร้องเรียก ยิ่งเข้าไปใกล้ประตูบ้านที่ขวางกั้น สถานการณ์ตอนนี้ช่างน่าสงสัยและน่าอันตราย แต่ภาพอีกฝ่ายที่ตกลงมามันทำให้เขาลืมคิดถึงผิดชอบชั่วดี บางทีนี่อาจจะเป็นการช่วยโจรอยู่ แต่…เอาไว้เราค่อยไปคุยกันที่โรงพักละกัน


“นี่มันอะไรกันน่ะ!” ทว่าเสียงที่ดังออกมาทำให้คนในบ้านรู้ตัวและออกมาดู ในตอนนี้ต่อให้เจ็บแค่ไหน ลูกชุบก็พยายามจะลุกขึ้นยืน แม้มันจะลุกได้ลำบากยากเย็นก็ตาม


“ภาพ! ชุบมันจะหนีแล้ว!!!”  อัศวินเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงที่ถลาออกมาจากประตูเพื่อที่จะเข้ามาจับตัวของลูกชุบที่ลุกแล้วก็ล้มอย่างนั้น ผู้ชายอีกคนที่ตะโกนในตอนแรกรีบฉุดคนที่พยายามลุกอีกครั้งให้ล้มลงไปอีก เป็นภาพที่ดูวุ่นวายซึ่งอัศวินไม่เคยชอบใจ แต่ครั้งนี้…เขาอดไม่ไหวที่จะไม่เข้าร่วมจริงๆ


ขอโทษคุณป๋าจริงๆนะครับ…


“ใครวะ!” เขาอาศัยความได้เปรียบในการปีนประตูบ้านชาวบ้านเข้ามา จากแค่คนดูก็มาร่วมฉุดกับเขาแล้ว อัศวินลืมแล้วสิ้นคำสั่งของนักรบที่คุยกันเป็นมั่นเหมาะก่อนมา


“น้องวิน”  แม้แต่ลูกชุบก็ไม่อยากจะคิดว่าผู้ชายหน้าขรึมคนนี้จะมาร่วมวง มันดูผิดจากภาพที่เราได้เห็น แม้แต่อัศวินก็ยังงงตัวเอง เขาแทบไม่เคยปีนต้นไม้ อย่าว่าแต่ปีนบ้านคนอื่นเลย!


“มึง! บุกรุกบ้านกูเหรอ!”


“นี่บ้านพ่อของชุบ!”


“มึงหุบปากไปเลยไอ้เด็กเหี้ย!”  เอาจริงๆ อัศวินไม่ได้ใสซื่อขนาดไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน แต่แค่ไม่ชอบ…เมื่อมันอยู่ใกล้ๆหู


“พูดให้มันดีๆนะ”


“มึงเป็นใคร เสือกเรื่องชาวบ้านทำไม”  ตอนนี้มันอาจจะเกินมือ เพราะมัวแต่ยื้อฉุดลูกชุบที่เสียหลักล้ม ผู้หญิงอีกคนที่ก็พยายามจะฉุดเขาให้ออกไป เล็บมือของเธอ จิกลงบนเนื้อของเขา มันเจ็บ แต่อัศวินไม่ได้อ่อนแอที่จะร้องโอดโอย แค่ลังเลว่าจะสลัดยัยป้านี่ออกไปจากตัวได้ไหม


อย่างน้อยเขาก็ผู้ชายคนหนึ่ง…


“หยุดเดี๋ยวนี้!”  และก็มีคนมาดึงยัยป้านั่นออกไปจากตัวเขาสักที และคนๆนั้นก็คือคนที่เขาสั่งให้อยู่ห่างๆ คงเห็นแล้วว่าคุณหนูปีนเข้าบ้านชาวบ้านเขาแบบนั้น ถ้ายังอยู่เฉยๆได้…ก็เตรียมคอขาดได้เลย


และเพชรพิสุทธิ์ที่แม้จะอายุมากเสียหน่อยแต่ก็ตัวเล็กตัวน้อยเสียที่ไหน ท่าทางของเขาก็ดูน่ากลัวไม่น้อย ทุกคนตรงนั้นชะงัก สบโอกาสให้เขาผลักอีกคนออกไปและดึงลูกชุบเข้ามาใกล้ได้ง่ายๆ ว่าแต่นี่มันเรื่องอะไรก็ยังไม่เข้าใจนัก เอาเป็นว่าตอนนี้ลูกชุบต้องปลอดภัยแน่ และอย่างที่คิดไว้เลย…ว่าคนตัวเล็กนี่กำลังมีปัญหา!


“พวกแกเป็นใครกันเนี่ย”


“ไอ้ชุบ! พวกนี้มันใคร อย่าบอกนะว่ามึงไปเป็นเด็กเสี่ยจริงๆ” ก็ที่นี่มันใช่สถานที่ที่ผู้ชายใส่สูทจะมาเดินเผ่นผ่านเหรอ เขาก้มลงไปมองลูกชุบในอ้อมแขน ก็ค้นพบว่าอีกฝ่ายกำลังสั่นไหวอย่างน่ากลัว


“มึงมันไม่รักดีจริงๆด้วย”  เขาหันไปมองคนพูดด้วยสายตาที่ชาตินี้คงไม่มีวันเป็นมิตรกันได้ เพียงแค่สายตาของอัศวินที่มองไปเท่านั้น อีกฝ่ายก็ขนลุกซู่อย่างไม่มีสาเหตุ


“คุณหนูครับ เราพาคุณลูกชุบไปกันเถอะครับ” เขาพยักหน้า ก่อนจะค่อยๆประคองให้ลูกชุบลุกขึ้น แม้อีกฝ่ายจะหมดแรงเต็มที


“เดี๋ยว! พวกมึงไม่มีสิทธิ์จะพาไอ้เด็กเวรนี่ไปด้วย”


“ใช่! ต้องให้มันเอากุญแจมาให้เราก่อน”


“คุณลูกชุบครับ คุณอาถามหน่อย คุณลูกชุบอยากไปกับพวกเราไหมครับ” เพชรไม่สนใจคำพูดของใครหน้าไหนทั้งนั้น สายตาของผู้อายุมากกว่าและผ่านปัญหามากมาย ดราม่ามาตลอดชีวิตย่อมเข้าใจสถานการณ์บางส่วนดี เขาเลือกจะถามเจ้าตัวคนเจ็บโดยตรง และแน่นอน…ว่าลูกชุบพยักหน้า


“ไปครับ”  อัศวินไม่สนใจด้วยซ้ำ แม้ลูกชุบจะอยู่ แต่เขาไม่ให้!


“ผมจะพาไปคุณหนูไปส่งที่บ้าน และจะกลับไปรายงานคุณพ่อที่บริษัทนะครับ” เขาผายมือให้เด็กทั้งสองคนเดินออกไปก่อน มองดูทั้งสองพ้นประตูไปแล้ว ก็หยิบกระเป๋าใส่นามบัตรของตัวเองออกมาและยื่นให้หนึ่งในสองคนนั้นที่ยังปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ถูก


คุณหนู? บริษัท? คุณพ่อ? นี่มันอะไรกัน!!?!!!?


“ผมเป็นตัวแทนจากรัตนสกุล ชื่อเพชรพิสุทธิ์ครับ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการทำร้ายร่างกายดังกล่าว หากต้องการเรียกค่าทำขวัญ ฟ้องร้อง ขอให้ติดต่อมาที่นามบัตรนี้”  เขายิ้มให้ มันเป็นยิ้มที่ไม่เรียกว่าเป็นมิตร “ในส่วนของทางเรา จะกลับไปพิจารณาโดยละเอียดอีกครั้งว่าจะจัดการยังไงดี”


“กะ…แก”


“หวังว่าอย่างแย่ ก็ขอให้จบในโรงพักนะครับ”  เพราะนั่นแฟร์ที่สุดแล้วเท่าที่นึกภาพออก ถ้าไม่… “แต่ถ้าอยากง่ายๆก็บอกได้ครับ”  รัตนสกุล ก็มีให้คุณเลือก หลายรูปแบบเช่นกัน!


ไม่มีใครพูดหรือต่อรองอะไรออกมาอีก คาดว่ายังหาปากกันไม่เจอ เพชรไม่รอช้า เพราะนี่ก็เสียเวลามากแล้ว เขาเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น และไปยังที่จอดรถที่ป่านนี้เด็กสองคนคงกำลังรออยู่ จากที่ฟังดู ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นปัญหาครอบครัว ซึ่งเป็นด้านที่เขามีความถนัดเสียด้วย แต่ลูกชุบของอัศวินดูจะรับมือไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แน่นอน ว่าไม่ใช่ทุกคนบนโลกจะเกิดมาเหมือนเพชร


“เฮ้อ…”  สงสัยคงได้กลับไปซักฟอกกันสนุกแน่ๆ เพชรส่ายหน้ายิ้มๆ เหนื่อยแทนทั้งคู่ จนตอนนี้คุณหนูวินก็ยังกอดอีกฝ่ายเอาไว้ หากคุณเจนมาเห็นต้องอกแตกเป็นคนแรก คนนึงก็เอ็นดู อีกคนนี่ก็เลี้ยงมา เลือกไม่ถูกเลย ไม่รู้จะปวดหัวแบบไหนดี


เอาเป็นว่าอาเพชร…
จะเอาใจช่วยห่างๆอย่างห่วงๆนะครับ



TALK:
บอกแล้วว่าอาเพชรนี่ครั้งนึงเป็นพระเอกนิยายเลยนะตัวเทอออออ555
ตอนนี้เราอาจจะหายหัวเก่ง ไม่ใช่อะไร งานเยอะตัวเท่าโลก5555
แต่ตอนนี้ #เจนไม่นก เปิดจองกันแล้วนะเจ้าคะ ปกสวยมากด้วย มีสามเล่มรับประกันความยาว5555
สนใจไปเจอะเจอกันได้ที่ www.hermitbookshop.com (http://www.hermitbookshop.com)
สำหรับคำถามที่พบบ่อย มีลงงานสัปดาห์หนังสือและร้านหนังสือนะคะ
แต่สำหรับกล่องที่ยังไม่เผยโฉมตอนนี้จะมีให้สำหรับคนที่สั่งจองและถ้าเหลือก็จะมีขายในงานหนังสือเนอะ
รับประกันความน่ารักของกล่อง แบบยังไม่ออก แต่ในใจเราคือน่ารักตัวเท่าโลก5555
ในส่วนของอีบุคนี่ เราเคยสอบถามสนพ เมื่อนานมาแล้ว เขาว่ามีเด้อ แต่อาจจะช้าหน่อยนาจา
ก็ยังไง ฝากอ่านเรื่องนี้กันต่อ และฝากไปเปย์ตะหนูด้วย
รักมากฮะ มีคำถามก็ฝากกันไว้<3 อาจจะตอบช้า แต่จะมาแน่นวล555
@reallyuri




หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 18-01-2019 21:07:52
น้องงงงง ลูกกบ มีความรัก ใจป้า
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-01-2019 21:22:46
หลานป้าเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ ฮรึก พาสะใภ้กลับคฤหาสน์ไปำหว้แม่เจนเถอะจ้ะหนูลูกกบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 18-01-2019 21:22:57
คุณป๋าและอาเพชรเป็นฮีโร่ตลอดอ่ะ ^^

กลับบ้านไปเจอเจน เด็กๆ จะรับมือยังไง
เอ๊ะ หรือเจนจะรับมือเด็กๆ ยังไง...ได้เด็กมาเลี้ยงอีกคนแหง 555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2019 23:18:41
โอ้โห ลูกกบมีความรัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 19-01-2019 23:43:39
แงงงงงง  น้องชุบบบบบ ใครทำไรน้องงงง
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 5) 18.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 20-01-2019 10:21:40
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 21-01-2019 19:15:48
อัศวินของลูกชุบ6


มันเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตวันนึงเลยของลูกชุบ


แม้ตอนนี้จะปลอดภัยในอ้อมกอดของอัศวินแล้ว แต่สภาพของลูกชุบ ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับว่าโอเค หากน้องวินไม่มาที่นี่ ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อๆไป แต่ทำไมเจ้าของอ้อมกอดนี้ถึงได้มาที่นี่ได้ ลูกชุบเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน เท่าที่จำได้ก็ไม่เคยบอกก่อนนี่ว่าอยู่ที่นี่ เมื่อคิดๆดีๆให้ถี่ถ้วน คำตอบนั้นหาไม่ยาก


เพราะรัตนสกุลไง… ลูกชุบได้ยินคุณอาที่มาด้วยพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับรัตนสกุล แล้วน้องวินเกี่ยวข้องอะไร? เท่าที่จำได้ นามสกุลนี้คือเจ้าของธุรกิจมากมายในประเทศ และลูกชุบก็ร่วมงานด้วยบ้าง แต่สัดส่วนของตนต่อรัตนสกุลนั้นมันเล็กน้อยเหมือนมดตัวนึง แล้วทำไมจู่ๆ ถึงได้เอื้อมมือมาช่วย?


“เดี๋ยวอาพาไปส่งที่บ้านก่อนนะครับ”  ผู้ชายใส่สูทที่เข้ามาจบความรุนแรงต่างๆพูดขึ้น ลูกชุบไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน


“ครับ ถ้ารุนแรงกว่านั้นเดี๋ยวผมให้เจนพาไปโรงพยาบาล”  ไปโรงพยาบาล ไปทำไม อา…ใช่ เพราะลูกชุบเจ็บตัวอยู่นี่นะ


“น้องวิน”


“เงียบก่อน”  อัศวินเพียงตอบกลับแค่นั้น เขากระชับอ้อมกอดมากขึ้นแม้ว่าคนตัวเล็กจะดิ้นนิดๆให้เขารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าน้องวินยังไม่ปล่อย งั้นลูกชุบก็จะนั่งแบบนี้ต่อไปแล้วนะ


เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าอายมาก กับคนที่รู้จักกันน้อยเกินไปอย่างอัศวิน ลูกชุบไม่ยินดีให้เขามาเห็นด้านนั้นของตน ไม่รู้ป่านนี้เขาจะคิดไปถึงไหน ลูกชุบมีแต่ความกังวลใจจนไม่อาจจะถ่ายทอดอะไรออกมาได้ดีในตอนนี้ เมื่อวานอัศวินอุตสาห์ไปส่งที่หอเพื่อน แล้วทำไมถึงโผล่มาปีนหน้าต่างบ้านหลังหนึ่งย่านอ่อนนุชได้ล่ะ จะมีใครยอมฟังและเชื่อลูกชุบไหม


ปัญหามันค้างคามายาวนานตั้งแต่ตอนที่พ่อของลูกชุบแต่งงานใหม่เมื่อ 5 ปีก่อน ผู้หญิงคนนั้นที่มีลูกติดมาคือแม่เลี้ยงของลูกชุบเอง ในตอนนั้นเธอก็ใจดีต่อกันอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยสนิทหรอก เพราะลูกชุบไม่ได้ยอมรับว่าเธอคือแม่ของตนขนาดนั้น และนั่นอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตที่จะไม่ผูกพันกับคนที่ภายหลังจะทำร้ายกันอย่างเลือดเย็น


เราเข้ามาในรั้วของบ้านหลังหนึ่ง ลูกชุบไม่แน่ใจว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลกเพราะสมองนั้นทำงานอย่างหนักขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของอัศวินในตอนนี้ บ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านที่ลูกชุบมี และมันก็ดูดีจนฉุดกันออกมาจากโลกอันฟุ้งซ่าน และเมื่อรถจอด อัศวินก็ได้ปล่อยให้เป็นอิสระจากอ้อมกอดของเขา เราลงมาจากรถ และคนที่เดินออกมาจากในบ้านก็ทำให้ลูกชุบตกใจจนตาโต


“อ้าว ไม่ไปทำงานเหรอวันนี้”  เป็นพี่เจนนั่นเอง พี่เจนที่ใจดีหางานดีๆให้ลูกชุบทำ ทำไมพี่เขามาอยู่ที่นี่ อย่าบอกนะว่า…


นื่คือบ้านของน้องวิน…


“แล้วนั่นลูกชุบไปโดนอะไรมา”  ใบหน้าของพี่เจนดูเคร่งเครียดขึ้น คนตัวเล็กสะดุ้งโหยง มองไปทางไหนก็ไม่รู้จักทางไป จึงได้เอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังคนตัวสูงที่พามา


“ขอเอาลูกชุบมาฝากแถวนี้ก่อนครับ”  อัศวินอธิบายสั้นๆ เขาพยุงคนที่เอาแต่หลบข้างหลังให้เดินเข้าไปข้างใน ร่างเล็กส่ายหน้ารัวๆ แต่เขาพยักหน้าให้ ไม่สนใจการโต้แย้งใดๆทั้งนั้น เจนมองเด็กทั้งสองอย่างงงงวยก่อนจะหันไปสบตากับเพชรที่พามาส่ง เลขาของคุณรบเพียงยิ้มให้ ก่อนจะกล่าวลาไปทำงานต่อ มันอะไรกันวะเนี่ย!


ลูกชุบรู้สึกเหมือนตัวเองจะตัวเล็กลงไปได้อีกเมื่ออยู่ในห้องรับแขกแห่งนี้ การตกแต่งของมันไม่ได้หรูหรา แต่เรียกว่าดีกว่าความเป็นอยู่ของลูกชุบไปมากเลยทำให้ประหม่า อัศวินนั่งอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้เข้ามากอดกันแล้ว และพี่เจนก็เดินออกมาพร้อมกับน้ำเย็นๆให้เราสองคน


“มันเกิดอะไรขึ้น”  ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะต้องอธิบาย แววตาของลูกชุบดูตระหนก ส่วนคนที่เหมือนจะรู้เรื่องอยู่บ้างอย่างน้องวินกลับถอนหายใจออกมา อย่างไรซะคนที่รู้ดีที่สุดคือลูกชุบไม่ใช่เหรอ มันต้องเป็นเจ้าตัวปัญหานี่พูดเท่านั้น


“ลูกชุบไม่มาทำงาน ผมเลยไปตามหา ไปเจอกำลังปีนหน้าต่างบ้านอยู่”  พอพูดถึงตรงนี้ตัวลูกชุบยิ่งหดเล็กเข้าไปอีก


“ลูกชุบเนี่ยนะ?” และก็หดได้อีกเมื่อพี่เจนเสียงดัง


“มีปัญหากันนิดหน่อย ดูได้จากสภาพครับ”  มีการใช้กำลังกันเกิดขึ้น สภาพของลูกชุบถลอกปอกเปิกไปหมด แม้แต่ที่แขนของอัศวินก็มีร่องรอย เจนเห็นเลยรีบคว้ามาดู


“โดนอะไรเนี่ย”


“เล็บจิกครับ แต่ผมฉีดพิษสุนัขบ้ามาแล้วคงไม่เป็นไร”  มันใช่ที่ไหนเล่า! ปากคอเราะร้ายขนาดนี้ได้ยังไง เจนถลึงตาใส่คนที่ตอบหน้าตาย ก่อนจะหันไปมองลูกชุบอย่างเป็นห่วง มีรอยช้ำตามตัว ใบหน้า และท่าทางสลดนั่นก็ดูน่าสงสาร


“ผมขอโทษครับ”  ลูกชุบเอ่ยขอโทษออกมาที่ทำให้เขาต้องมาเจ็บตัวด้วย แต่ไม่เลย…อัศวินมันรนหาที่ไปเจอเองไม่ใช่หรือไง?


“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราถึงโดนขนาดนี้”  เจนถาม เป็นคำถามที่อัศวินเองก็อยากรู้


“คือแม่เลี้ยงผม…กับเอ่อ ลูกของเขา”  มันยากจะอธิบาย แต่เพียงแค่เกริ่นเท่านี้เจนก็พอวาดภาพออกได้


“โดนมานานแค่ไหนแล้ว แผลพวกนี้”  แต่อัศวินเป็นคนถามแทน


“ตั้งแต่ เอ่อ…พ่อเสีย”


“…”


“…”   มันเป็นเช่นนี้มาสักพักแล้ว ลูกชุบถูกขัดขาบ้าง บางทีเขาก็ทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่ช่วงหลังๆก็ชัดเจนว่าจงใจ ทั้งนี้ลูกชุบเป็นคนซ่อนกุญแจตู้เซฟ เพราะข้างในมีสมบัติที่พ่อเก็บไว้และลูกชุบไม่ประสงค์ให้เธอเอาไปทั้งหมดเพราะบางอย่างมีคุณค่าต่อจิตใจ ทว่าการเจรจาไม่เป็นผล มันจบลงที่ลูกชุบมักถูกทำร้ายร่างกาย


ช่วงหลังมานี่ลูกชุบได้ไปขออาศัยบ้านเพื่อนเป็นบางครั้ง หากกลับไปที่บ้านก็มักจะเลือกเวลาที่คนอื่นไม่อยู่ หรือยอมจ่ายเงินให้พวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ทั้งนี้ลูกชุบอ้างเสมอว่าไม่รู้เรื่องกุญแจ แต่ช่วงหลังๆการประนีประนอมเป็นไปได้ยากเหลือเกิน พอไม่กลับบ้าน พวกเขาก็ตามกันเจอ จนต้องไปขอพักกับเพื่อนที่อาศัยไกลออกไปเพื่อความปลอดภัยเช่นเมื่อวาน


วันนี้ลูกชุบตั้งใจจะไปเอาข้าวของที่สำคัญออกมาอย่างกะทันหันแต่เช้าตรู่ก่อนจะไปทำงานและจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ก็รู้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ในขณะที่ยังขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้ ตัวเองที่เหลืออยู่ตัวคนเดียวจำต้องทำบางอย่างเพื่อความปลอดภัย


ทว่าพอกลับไปเอาก็พบว่าพวกเขาดักรออยู่ก่อนจะออกมา และลูกชุบก็ถูกขังอยู่ในห้องๆหนึ่งบนชั้นสองพร้อมกับข้าวของที่ไปเก็บมาโดยไม่สามารถติดต่อใครได้ คาดว่าพวกเขาคงกำลังวุ่นวายกับการไปหาเพื่อนของลูกชุบที่ข้างล่างเพื่อเรียกดูของส่วนตัวที่ฝากไว้


จึงไม่ทันระวังว่าคนที่ถูกขังจะหาทางสะเดาะกลอนทั้งประตูและหน้าต่าง และหวยออกที่กลอนหน้าต่าง พอเปิดประตูมาก็อย่างที่เห็น น้องวินรออยู่ข้างล่าง ด้วยสถานการณ์ที่จวนตัว ลูกชุบจึงโยนกระเป๋าไปให้ โดยไม่คิดเลยว่าจะเป็นการดึงอีกฝ่ายให้มาลำบากแบบนี้


“ลูกชุบ ขอโทษพี่เจนและน้องวินด้วยครับ”  ความจริงที่ออกจากปากตนเองแบบซ้ำๆเหมือนย้ำแผลแห่งความอ้างว้างและความน้อยเนื้อต่ำใจ น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงจากหางตา เจนที่เห็นดังนั้นส่ายหน้าออกมา ก่อนจะหยิบทิชชู่ให้


“ว่าแต่ลูกชุบอายุเท่าไหร่แล้ว” เจนถาม


“20 จะ 21แล้วครับ”


“แม่เลี้ยงเขาได้จดทะเบียนสมรสกับคุณพ่อหรือเปล่า”


“เปล่าครับ” 


“แล้วนี่ลูกชุบจะไปพักที่ไหน เรามีญาติอยู่หรือเปล่า”


“ลูกชุบจะไปพักกับเพื่อนแถวอนุเสาวรีย์ คิดว่าพวกเขาคงยังตามไม่เจอ”  เจนส่ายหน้าช้าๆ ส่วนน้องวินถลึงตามองอีกฝ่ายที่ทำอะไรเหมือนจะไม่คิดให้รอบคอบ ไม่…ในสถานการณ์ของลูกชุบ นี่มันรอบคอบที่สุดแล้วจริงๆ


หลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมด เจนก็ออกไปคุยโทรศัพท์อยู่นานสองนาน ทิ้งให้คนสองคนที่ตอนมาก็กอดกันดีอยู่ แต่ในตอนนี้คนๆนึงกลับตึงใส่กันอย่างเห็นได้ชัด ความผิดของลูกชุบหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่คนถูกมองก็ใจฝ่อไปเสียแล้ว นี่เคยบอกอัศวินแล้วใช่ไหมว่าเขาหน้าดุแค่ไหน


“น้องวิน”  ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าขึ้นมา “พี่ชุบขอโทษ”


“ลูกชุบทำอะไรผิดเหรอไง”


“…”  นั่นสิ


“ผมไปช่วยเอง ไม่ได้ขอก่อนนะ”  ก็จริงๆ แต่อัศวินก็เจตนาดีไม่ใช่หรือ เขาทำเพื่อลูกชุบไม่ใช่หรือไง


“ต่อไปพี่ชุบจะระวัง”


“แล้วที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังเลยหรือไง”  ก็เพราะว่าใช้ไง แต่ต่อให้ระวังแค่ไหนก็หนีไม่พ้นอยู่ดี “ตัวเองก็รู้ดีแท้ๆ” 


ตัวลูกชุบคงรู้ดีอยู่แล้วว่าการหนีไม่ใช่ทางออก แต่แค่ไม่รู้ว่าจะจัดการเองอย่างไร แม้จะอายุมากกว่าอัศวิน แต่อย่าลืมสิว่านี่ก็เป็นแค่ลูกชุบที่อายุ 20 ประสบการณ์ชีวิตไม่ได้มากพอที่จะเด็ดขาดได้ แล้วอย่างไร? ลูกชุบควรทำอย่างไรหรือถึงจะแก้ปัญหาได้ คำถามนี้มีคำตอบไหม ไม่…


แม้แต่คนตั้งคำถามก็ไม่รู้เช่นกัน


บางทีอัศวินก็ไม่ได้เก่งไปกว่า กะแค่ไปตามหา เขาก็หุนหันพลันแล่นไปมากจนทำตัวเองให้มีแผล ที่สัญญากับคุณป๋าไปทำได้กี่ข้อ เขาตระหนักในความผิดของตัวเองดี และไม่พอใจอย่างมาก ทั้งความงี่เง่าของตัวเองและอีกคน เจนกลับเข้ามาแล้ว และได้พาลูกชุบไปข้างนอก อัศวินจะออกไปด้วย แต่เจนกลับสั่งให้เขาอยู่อย่างสงบเสงี่ยมในบ้าน แน่นอนว่าต้องไม่ยอม แต่แล้วไง…


ตอนนี้ทั้งเจนและคุณป๋าก็โกรธพอกัน…


“พี่เจนจะพาชุบไปไหน” ลูกชุบถาม ยังนึกถึงท่าทางไม่ชอบใจของคนน้องที่คงรออย่างกระฟัดกระเฟียด อยู่ๆก็ลากมาโดยไม่บอกอะไร ลูกชุบเองก็หวั่นใจไม่น้อย


“พาไปคุยกับผู้ใหญ่ที่จะช่วยเรา”


“พี่เจน จริงๆแล้วลูกชุบ…”


“ดูแลตัวเองได้จริงๆเหรอ?”

   
“ลูกชุบไม่อยากให้คนอื่นมาลำบาก”


“พี่ถือว่าพี่ทำให้เราเพราะเราลำบากช่วยดูตาหนูมาให้”  ตาหนู…เจนคงหมายถึงน้องวิน แต่ที่ฝากเอาไว้ มันดูจะเทียบไม่ได้เลยกับความช่วยเหลือนี่ ทว่ายังไม่ได้แย้ง เจนก็กล่าวต่อไปอีก “คุณพ่อของน้องวินเขายินดีจะช่วย”  เพราะเจนออกไปคุยกับคุณรบมา น่าแปลกที่เขารู้มากกว่าที่เจนคิด แต่ช่วงหลังๆพ่อลูกก็ดูมีความลับกันอยู่ อาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้


เจนไม่ได้โง่ขนาดที่จะมองไม่ออก พอน้องวินประคองลูกชุบที่บาดเจ็บมาที่บ้าน ตนรับทราบได้ทันทีว่านี่เองคือความลับของจอมดื้อเงียบ เกินคาดไปเสียหน่อย แต่ก็พอจะเดาได้ ก็เล่นทำตัวประหลาดๆมาตลอดช่วงนี้ พอมาเจอลูกชุบ เจนก็ปะติดปะต่อเรื่องได้ ทุกอย่างดูเมคเซ้นส์ขึ้นมาเลย ที่จะหงุดหงิดนั่นก็ไม่แปลก อะไรจะหวงได้ขนาดนี้ เจ้าหนุ่มเลือดร้อน!


คุณรบตัดสินใจให้คนรู้จักที่เป็นตำรวจเข้ามาช่วยดูแล ที่ไม่เล่นลับหลังเพราะเรามีข้อมูลเกี่ยวกับลูกชุบน้อยเกินไป หากเขาเป็นคนไม่ดีขึ้นมา เท่ากับว่าเรากำลังส่งเสริมน้องวินให้กับคนไม่ดีอย่างนั้นหรือ? ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงๆก็ต้องกล้ายอมรับวิธีทางกฎหมาย และนี่เป็นวิธีการคัดสรรขั้นหนึ่งของคุณรบและเจน


ทั้งๆที่เด็กสองคนนี้ยังไม่ได้ไปถึงไหนกันหรอก แต่ผู้ปกครองที่ดี ย่อมต้องการให้คนดีๆเข้ามาในชีวิตของลูกตัวเองมากกว่า แม้เจนจะพอรู้จักลูกชุบอยู่บ้างแต่มันผิวเผินเกินไป หากจะต้องยอมรับให้อีกฝ่ายเข้ามาเป็นคนสำคัญอีกคนในชีวิตของเด็กที่เลี้ยงมา เจนย่อมอยากดูให้ดีจริงๆ


ในขณะที่อีกคนซึ่งรออยู่นั้นวุ่นวายใจ ในที่สุดก็มีใครบางคนกลับบ้านมา แต่นั่นไม่ใช่ลูกชุบ!อัศวินที่แทบจะวิ่งออกมาดูหน้าบ้านนั้นทำสีหน้าอย่างไรไม่ทราบได้เมื่อเห็นว่าใครกลับบ้านเร็ว ไม่รู้เจนพาลูกชุบไปที่ไหน แต่ตอนนี้เขาต้องรับมือกับคนนี้ก่อน เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายมีเรื่องให้สะสางเยอะ


“มานั่งคุยกับคุณป๋าก่อน”  และเขาก็เดินตามไปแต่โดยดี


“ผมต้องขอโทษคุณป๋าด้วยครับ”  คาดว่าที่กลับเร็วคงไม่ใช่แค่เรื่องที่เราคุยกัน บางทีนักรบก็อาจจะรู้แล้วเรื่องที่เขาได้แผลมานิดหน่อย


“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว แต่ต่อไปต้องระวังและมีสติกว่านี้”


“…”


“พวกเขามีอาวุธหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดีที่ปลอดภัยกลับมา”  เขาพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะตามด้วย “แต่ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร ต่อไปอัศวินต้องระวังกว่านี้” ก็พูดไปงั้นแหละ เพราะสุดท้ายอัศวินจะเป็นเช่นไร คนเป็นพ่อเช่นเขาก็ควบคุมไม่ได้ทั้งหมด แค่เห็นว่าลูกยอมว่าง่ายนั่งฟังคำสั่งสอน ใจก็อ่อนยวบไปแล้ว


“คุณป๋าให้เจนมาพาลูกชุบออกไปเหรอ” 


“อืม…เราคุยกันว่าจะให้อาพงษ์ช่วยดูแลให้ ลูกชุบบรรลุนิติภาวะแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่ใช่แม่ และไม่ได้จดทะเบียนด้วย เรื่องมันคงไม่วุ่นนัก”


“ขอบคุณคุณป๋ามากครับ”  คาดว่าน้องที่ยังเด็กคงจัดการอะไรไม่ได้ดีนัก อัศวินควรตระหนักได้แล้วว่าแม้จะสูงใหญ่กว่าเจน แต่แท้จริงแล้วก็ยังมีสภาพไม่ต่างจากลูกนกที่ต้องรอพ่อแม่เอาอาหารมาให้กิน เขาไม่อาจจะปกป้องตัวเองได้ ไฉนเลยจะเสนอหน้ายื่นมือไปปกป้องใคร แม้คนๆนั้นจะเป็นคนที่หัวใจของเขาบอกว่าต้องปกป้องก็ตาม ชีวิตจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ถ้าไม่มีอาเพชรไปด้วยวันนี้ มันจะจบง่ายๆไหมก็ไม่รู้เลย


และนักรบก็ไม่ใช่พ่อที่จะหาอาหารให้ลูกกินตลอดไปเช่นกัน!


“วันนี้คุณป๋าเห็นว่าความผิดพลาดนี้ดีอยู่อย่าง อย่างน้อยอัศวินก็รู้สักทีว่าตัวเองยังไม่พร้อมสำหรับรัตนสกุล”  ดูเป็นคำพูดที่แรง แต่ก็ใช่ ในตอนนี้ยังไงเขาก็ไม่มีทางพร้อม ถ้ายังเอาแต่ใจต่อไป ก็อาจจะไม่มีวันพร้อมเลย และอัศวินก็รู้สภาพของตนเองดีกว่าใคร เขายอมรับในความบกพร่อง และขณะเดียวกันก็ไม่พอใจสักนิด เลือดแห่งความทะเยอทะยานกำลังพุ่งพล่าน นักรบเห็นดีว่าจะตีเหล็กต้องตีตอนร้อนนี่แหละ เขาถึงกลับมาก่อน


“เข้าใจแล้วครับ”


“คุณป๋าให้กลับไปคิดว่าเราจะเอายังไง จะหยุดเรียนมหาลัยมาช่วยคุณป๋าก่อนก็ได้ หรือจะเรียนไปทำงานไปก็ได้ หรืออยากเรียนอย่างเดียวคุณป๋าก็ไม่ว่า”  อย่างไรก็ตามนักรบให้สิทธิ์ในการตัดสินใจแก่ลูก และมั่นใจว่าลูก จะเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดอย่างไม่โอนเอียง เขาหวังกับอัศวินไว้เยอะ เหมือนกับที่อีกฝ่ายหวังในตนเอง “เรื่องของลูกชุบก็ไปคิดมาด้วย”


เพราะเข้าไปในชีวิตอีกฝ่ายแล้ว จะเดินออกมาเลย ก็จะเห็นแก่ตัวจนเกินไป…


วันนี้เจนไม่ได้พาลูกชุบกลับมาด้วย และไม่พูดกับน้องวินในเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ไม่ได้แสดงออกว่าโกรธเคืองกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่คิดจะดุด่าอะไรอีกเพราะรู้ดีว่าน้องก็รู้สึกผิดกับตัวเองพอ เลี้ยงมากับมือย่อมรู้ดีแก่ใจ สุดท้ายเราก็นั่งกินข้าวเงียบๆ เจนมีบอกนิดหน่อยว่าพาลูกชุบไปฝากไว้กับคุณย่าให้ท่านช่วยดูแล้ว ก็จะหมดห่วงอยู่หน่อย ที่ห่วงตอนนี้…ก็คงเรื่องที่ต้องไปคิดดู


เขาจะเอายังไงต่อไปดี…


คำว่าไม่พร้อมสำหรับรัตนสกุลมันน่าเจ็บปวด ทั้งๆที่ก็เป็นรัตนสกุลตั้งแต่เกิด แต่วันนี้เขาได้พิสูจน์ให้ทุกคนและตัวเองได้เห็นว่ายังไม่พร้อม ไม่มีใครโทษหรือโกรธเคือง ทั้งนี้ก็รู้ตัวแล้ว ว่าไม่สามารถอยู่เฉยและเป็นคนไม่พร้อมตลอดไปได้ แม้จะไปช่วยงานคุณป๋าได้ แต่ไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นอัน แม้จะเรียนเก่งเป็นที่ชื่นชม แต่ก็ยังต้องให้เจนคอยดูแลและคิดแทนว่าวันนี้จะต้องทำอะไร พอมีปัญหาคนที่แก้ให้ ก็ไม่ใช่ตัวเองอยู่ดี เป็นเช่นนี้แล้วจะขึ้นมาแทนคุณป๋าได้ไง?


มีตัวเลือกมากมายในหัวที่คิดมาเมื่อวาน ถึงเวลาที่จะโตสักที และวันนี้ที่โต๊ะอาหารตอนเช้า เขาจะแจ้งให้กับทุกคนได้รับรู้ถึงสิ่งที่ได้ตัดสินใจ อัศวินจะไม่ยอมเป็นลูกกบในกะลาที่มีแม่นกคอยอยู่ไม่ไกลอีกต่อไปแล้ว และไม่รู้ว่าทางเลือกนี้ดีที่สุดหรือไม่ แต่ อย่างที่คุณป๋าพูด ว่าเขาบ่ายเบี่ยงมาหลายครั้งแล้ว วันนี้ต้องรู้ตัวสักทีว่าตนนั้นอ่อนด้อยแค่ไหน


“น้องวิน”


“ลูกชุบ” ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ก็ไหนเจนบอกว่าพาไปอยู่กับคุณย่าแล้วนี่ แค่วันเดียวก็พามาเลยเหรอ? ได้เห็นใบหน้าของอีกคนดูสดใสขึ้นมาเขาก็ยิ้ม ถูกแล้วที่เจนเป็นคนช่วยดูแลให้ เพราะอัศวินคงไม่มีอำนาจพอที่จะช่วยเหลือได้ และถ้าเขาทำ…ก็ไม่พ้นการอ้างอำนาจของรัตนสกุลที่ยังไม่มีสิทธิ์เอื้อมถึงในตอนนี้ไปช่วยลูกชุบอย่างน่าละอายหรอก


ได้ยินว่าพี่พระพายช่วยรับมาส่งให้ ก่อนจะออกไปจัดการธุระให้คุณป๋าต่อ ลูกชุบช่วยเจนจัดอาหารและนำมาเสิร์ฟให้กับเราพ่อลูก ก่อนที่เจนจะชี้ชวนให้ทานอาหารเช้าร่วมกัน เป็นครั้งแรกที่มีคนอื่นบนโต๊ะอาหารมื้อเช้าของที่บ้าน และคนอื่นก็ทำให้อัศวินยิ้มออกมา ไม่มีท่าทางของความหงุดหงิดไม่พอใจใดๆอยู่ เมื่อได้มองตาลูกชุบในวันนี้มันก็ทำให้เขาตัดสินใจได้เด็ดขาด


“ผมเลือกมาแล้วครับ”  อัศวินได้พูดออกไป ในตอนนั้นคุณป๋าที่กำลังจะหยิบช้อนส้อมก็หยุดมือไว้แค่นั้น เขาประสานมือวางบนโต๊ะ ตั้งใจฟัง มีเพียงลูกชุบคนเดียวที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไร


“ว่าไง”


“ผมจะเข้าไปช่วยงานที่บริษัทและเรียนไปด้วย”


“อืม”


“ผมหมายถึงบริษัทในเครือที่อังกฤษและเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นั่น”


“น้องวิน…” แต่เจนคาดไม่ถึงนัก หลังจากมองหน้าคนลูก ก็หันไปมองคนพ่อที่ยิ้มน้อยๆ อัศวินเคยเป็นคนที่คัดค้านเรื่องนี้มากที่สุด แต่วันนี้กลับออกปากว่าจะไปเอง อยู่ๆมันก็ง่ายอย่างนี้เลย “คุณรบ…”  เจนหรี่ตามองเมื่อพอจะจับได้ มันมีคนคำนวณไว้อยู่แล้วสินะ และคนๆนั้นก็กำลังยิ้มอย่างพอใจ


“ผมรู้ดีครับว่าคุณป๋ารู้ว่าผมจะเลือกอะไร”  และก็รู้ว่านักรบใช้สถานการณ์นี้ในการชี้นำให้อัศวินตัดสินใจแบบนี้ หากลูกไม่ออกไปทำงานข้างนอก ก็คงไม่รู้หรอกว่าตนยังด้อยประสบการณ์มากมาย และชักช้าเกินไปแค่ไหน นักรบเองก็ไม่ได้เก่งกาจไปกว่าในตอนที่อายุเท่ากัน จนตอนนี้ก็ยังบกพร่องอยู่เยอะ แต่เขาหวัง…ว่าอัศวินจะเป็นได้มากกว่า…


“ถ้างั้นก็ไปเลือกมาว่าอยากเข้าที่ไหน”


“แต่ผมจะไม่ยอมทำตามข้อเสนอคุณป๋าฝ่ายเดียว”


“คุณป๋าไม่ได้เสนอ” เขาเคยเสนอ แต่ลูกไม่สนอง นั่นถือเป็นโมฆะไปแล้ว


“แต่ผมไม่ทำงานฟรีครับ”  แต่แววตาแบบนั้นไม่น่ารักเลย มันทำให้นักรบรู้สึกเหมือนแก่ลงไปเยอะเมื่อเห็นภาพซ้อนของเจ้าเด็กที่พูดไม่รู้เรื่องเมื่อวันวานขึ้นมา เลี้ยงลูกให้มาต่อรองกันแบบนี้ ใช้ได้ที่ไหน!


“ว่ามา”  ในเมื่อกล้ามาเสนอ คนพ่อก็ยินดีจะฟังเผื่อจะสามารถสนองให้ได้ ทว่าก็พอนึกออกว่าอะไรที่ถูกจะขอมา


“ระหว่างที่ไม่อยู่ ช่วยดูแลลูกชุบให้ด้วยครับ”  เขาหันไปมองอีกคนที่ตัวเล็กเท่ามดเมื่อทุกคนกำลังคุยกันเรื่องภายใน แล้วจู่ๆก็มีชื่อของตนผุดขึ้นมา มันก็ได้เหรอ?


“น้องวิน!”  มันไม่ได้นะซี่!


“ได้!”  แต่นักรบได้ประกาศชัดว่าได้ ช่างขัดแย้งกับในใจของลูกชุบนัก ว่าแต่นี่เราอายุเท่าไหร่กัน ทำไมต้องให้เด็กอายุ 18 มารับผิดชอบชีวิตด้วย?


“งั้นก็ตกลงครับ”


“แต่ว่า…”


“ไม่มีแต่ ลูกชุบ!”  เขาหันไปบอก จริงๆยังไม่เคยขออนุญาตกับเจ้าตัวเรื่องที่จะมาดูแลเลย ทำอย่างนี้ก็ดูจะเจ้ากี้เจ้าการไปหน่อย แต่ที่เป็นห่วงน่ะ เรื่องจริง… “อย่าทำให้ผมห่วง”  แล้วแบบนี้ลูกชุบจะไปพูดอะไรได้ มีเจนที่ยิ้มมาให้อย่างเข้าใจ ก่อนจะชี้ชวนให้เราทานอาหารเช้ากันเสียที เพราะเรื่องต่อจากนี้ ไม่ใช่อะไรที่ผู้ใหญ่ควรจะเข้าไปเกี่ยวแล้ว


และในที่สุดเราก็ได้มีเวลาส่วนตัวร่วมกัน ตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ได้คุยเพราะมันมีแต่เรื่องยุ่งๆ ลูกชุบถูกพาตัวไปพบเพื่อพูดคุยแจ้งความ ตรวจร่างกาย เมื่อมีผู้ใหญ่เข้ามาช่วย แม้จะไม่รู้จักกัน แต่ดูจากท่าทางแล้วไว้ใจได้ จึงพอวางใจ ต่อจากนี้ก็คงจะค่อยๆสะสางกันไป และคงเคลียร์ได้ในที่สุด ทว่าวันนี้เขาต้องเคลียร์กับเด็กนี่เสียหน่อย พูดอะไรออกไปน่ะเมื่อกี๊!


“น้องวิน พี่ชุบลำบากใจนะ”


“ผมก็ลำบากใจเหมือนกันนะ!”  แล้วมาขึ้นเสียงใส่ทำไม ลูกชุบไปทำอะไรให้เหรอ อ๋อ…ทำให้ห่วงไง


“แล้วมันใช่เรื่องเหรอที่จะมาให้คนอื่นมาดูแลพี่แบบนี้”  เราเป็นอะไรกันเหรอ ไหนพูดสิ!


“ก็ถ้าผมดูแลได้ ก็ทำเองไปแล้ว!”


“….”


“แต่ผมยังทำได้ไม่ดีไง”  และเขายังเจ็บใจไม่หาย “อย่ามาบอกว่าดูแลตัวเองได้ด้วยนะ จะฟาดให้” ลูกชุบสะดุ้งโหยง มันใช่เหรอ!


“แล้วน้องวินต้องไปเรียนเมืองนอกเพื่อพี่นี่มันใช่เหรอ”  ต้องเสียสละมากขนาดนี้เลยหรือไง นี่แค่ลูกชุบเองนะ ลูกชุบที่เป็นแค่ลูกชุบไง ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย


“คิดว่าผมทำเพื่อลูกชุบขนาดนั้นเหรอ” ดวงตากลมโตวูบไหวเมื่อฟังคำนี้ มันเหมือนจะบอกว่าประมาณตัวผิดไป มันก็ใช่ อัศวินไม่ได้ทำเพื่อกันขนาดนั้นหรอก เป็นลูกชุบที่คิดไปเองทั้งนั้น และเมื่อนึกขึ้นได้ใบหน้าที่เคยเกรี้ยวกราดนิดๆก็ดูสลดลง คิดไปกันใหญ่แล้ว อัศวินรู้ได้เลย ลูกชุบเป็นผู้ใหญ่ที่โกหกไม่เก่ง คิดอะไรก็แสดงออกทางใบหน้า


“อือ…”


“เรื่องไปเรียน ผมทำเพื่อตัวเอง เพื่อที่บ้าน แต่ทั้งนี้มันก็เพราะลูกชุบทั้งนั้น”  เขาอธิบาย มือทั้งสองข้างวางบนบ่าของคนที่ก้มหน้า บังคับให้ฟังแม้ไม่ต้องการ “ถ้าไม่มีลูกชุบ ผมก็คงไม่มีวันคิดแบบนี้”  เพราะลูกชุบเท่านั้นเลย ถ้าไม่ใช่ลูกชุบที่ก่อให้เกิดความรู้สึกห่วงหา มีหรืออัศวินจะลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองให้ออกจากเซฟโซน


“น้องวิน”


“เงยหน้าหน่อยสิ”  เขาเชยคางลูกชุบให้มาสบตา ก็ไม่ชอบอธิบายอะไรให้มากความ แต่ไม่ชอบให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดมากกว่า “ลูกชุบทำให้ผมรู้ว่าผมไม่พร้อมจะดูแลใคร และทำให้รู้ว่ายังไม่สามารถทำอะไรได้อีกมากมาย ดังนั้นผมจึงต้องไปจากที่นี่”


มันไม่ใช่เพราะลูกชุบทำให้เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็เพราะลูกชุบที่ทำให้คิดได้…


“ผมไปไหนมาไหนเองไม่เป็น ปรุงก๋วยเตี๋ยวเองก็ไม่ได้ ทันคนอื่นเสมอ แต่ไม่เคยใช้คนอื่นให้เป็น นั่นแหละตัวผมในตอนนี้”  และเขาจะไม่ยอมเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต


“มันไม่แย่หรอก”


“มันแย่สิ อายุ 18 แล้วนะ” และอีกไม่กี่ปีก็จะอายุเท่าลูกชุบในตอนนี้ และอีกไม่กี่ปี ก็ต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรที่บรรพบุรุษสร้างมา


“น้องวินจะไปนานไหม”


“คิดว่า 4-5 ปี”


“แล้วพี่ชุบคิดถึงได้ไหม”  พอพูดไปก็เขินเอง มีสิทธิ์อะไรไปขอคิดถึงเขา แต่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าพูดอย่างนี้มันน่ารักเกินไปแล้ว!


“ลองไม่ดูสิ”  แค่ได้ยินแบบนี้ก็ชื่นใจ แม้ว่าเราจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของอาการนั้นๆก็ตาม แต่ไปตอนนี้แหละดีแล้ว หากเขาติดไวรัสลูกชุบระดับลึกๆลงไป บางทีมันอาจจะตัดใจยากกว่านี้ และในระยะเวลาที่หายไป มันอาจจะเหมาะสมแล้วที่จะพิสูจน์ว่านี่มันฉาบฉวยไปไหมสำหรับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ก็อย่างที่รู้กัน…ว่าน้องไม่เคย และอย่างที่รู้กัน


ว่านี่อาจจะเป็นรักครั้งแรก…


“ไปแล้วกลับมาได้ไหม”  ลูกชุบถาม ยอมรับว่าตั้งแต่ได้พบกันมา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นมันดีมากๆ จนนึกเสียดายหากเราต้องจากกันทั้งๆที่ยังไม่ได้มีโอกาสได้เที่ยวเล่นคบหามากกว่านี้ แน่นอนว่าในจุดที่วาบหวามต่อใจมากกว่าที่เป็นอยู่ มันยังไปต่อไม่ได้ง่าย แต่…จะลบให้หาย มันก็ทำไม่ได้เลยเช่นกัน


“จะพยายาม”  เขาจะกลับมาบ้าง แต่คาดว่าคงยุ่งทีเดียว เพราะต้องทำงานไปด้วย และเขาจำเป็นต้องยอมรับว่านี่คือการอดเปรี้ยวที่ทรมานที่สุด เพื่อดูว่าความหวานจะคุ้มค่าไหม เป็นการลงทุนที่เสี่ยงที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ในเมื่อไม่เคยลงทุนเพื่อใครมาก่อน และลูกชุบเป็นคนแรกที่ได้มันไป ก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ แต่ไม่มีการคืนคำแน่!


“แล้วน้องวินจะนั่งรถเมล์ได้ใช่ไหม ปรุงก๋วยเตี๋ยวได้หรือเปล่า จะดูแลตัวเองได้ไหม”  หลังจากได้ยินว่าเขาทำอะไรไม่ได้ ลูกชุบไม่ใช่คนที่หัวเราะเยาะ หากแต่แสดงความเป็นห่วงออกมา บางทีเขาพอจะรู้แล้วว่าทำไมถึงได้รักเจนได้ขนาดนี้ ทุกคำตอบมันมาจากลูกชุบจริงๆ เขาไม่ได้รักเจนเพราะเจนเป็นแฟนพ่อหรอก อัศวินก็แค่รักคนที่ห่วงใยคนอื่นอย่างบริสุทธิ์ใจมากกว่า และคนอื่นในนั้น ต้องได้รวมเขาเข้าไปแล้ว ทว่ากับลูกชุบ อัศวินไม่ต้องการแค่นี้!


เขาต้องการจะสำคัญกว่าคนอื่นไหนๆในนั้นต่างหาก!


TALK
มาถึงตรงนี้รู้หรือยังคะว่าใครเป็นตัวร้ายของเรื่อง
คุณพ่อกบนั่นเองงงงงงง นางเป็นคนโชคดีที่สุดในเรื่องนี้แล้ว หลังจากนกทุกเรื่อง
เรื่องส่งลูกออกจากอกไม่นกนะพ่อ
จริงๆคุณรบก็ไม่เชิงคำนวณไว้หรอก คุณพ่อแค่รู้ว่าลูกชอบเอาชนะ
และถ้าออกไปใช้ชีวิตเดินดินกินข้าวแกงแล้วได้เห็นตัวเองไม่ได้ดั่งใจน้องก็อาจจะยอมห่างจากอกเจนที่ประคบประหงมเอง
จะอยู่ที่นี่และฝึกงานก็ได้ แต่ก็รู้ว่าเจนต้องเข้ามาแทรกแซงแน่น้องเลยทำใจฮึบและไปไกลๆเจนเองเลยดีกว่า
เรื่องนี้คุณป๋าคำนวณไว้นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้
อายุมากขึ้นคุณพ่อก็จะเดินตามสายมารเหมือนเลขา555
ตอนหน้าจบแล้ว แม่ๆไม่งอแงนะคะ555





หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-01-2019 20:46:33
ลูกกบในที่สุดก้อพาสะใภ้ไปฝากแม่นกแล้ว ปลื้มปริ่ม
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 21-01-2019 21:08:14
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-01-2019 21:54:32
อัศวินใจเด็ดมาก พี่เจนต้องห่วงแย่แน่เลย
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 21-01-2019 23:15:08
แง่ๆๆๆๆอย่ารีบจบได้ไหมคะใจป้ามันอ่อนแอพอได้ยินคำนี้ ลูกกบของป้าจะโตเป็นหนุ่มไปอีกก้าวแล้ววว รีบโตแล้วมาดูแลพี่ลูกชุบนะลูกกกกก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-01-2019 23:30:18
ยินดีกับคุณป๋าที่ชนะลูกกบได้ซะที หลังจากน้องเกิดมา 18 ปี 5555555555555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 22-01-2019 00:31:30
ลูกกบเท่มาก  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-01-2019 03:37:53
โอ้โห ยิ่งใหญ่มากเจ้าลูกกบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 22-01-2019 17:10:51
ไม่อยากให้จบเลย น้องวินเก่งมาก เจ้าลูกกบสู้ๆ

ฮึบๆ อดเปรี้ยวแล้ว ขอตอนกินหวานด้วยน้าาาา

เป็นกำลังใจให้ทั้งน้องวินทั้งลูกชุบเลย

คนเขียนด้วยน้าาาา รออ่านจ้าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 22-01-2019 22:32:04
ถึงเวลาที่ลูกกบต้องโต ออกจากอ้อมแขนพ่อแม่เพื่อเรียนรู้ชีวิตแล้วต่อไปจะได้ดูแลลูกชุบเองได้ o13
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 6) 21.1.2019 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 22-01-2019 23:55:37
งุ้ยยย น้องงงงกบบบบ จบแน้วว ป้าคิดถึงแย่เลยยลูกเอ้ยยยย
หัวข้อ: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 23-01-2019 19:15:56
อัศวินของลูกชุบ 7
END

หลังจากนั้นลูกชุบก็อยู่ในการดูแลของรัตนสกุลมาตลอด…


จนเรียนจบ ทำงาน ก็ยังไปมาหาสู่กับที่บ้านของน้องวิน มิหนำซ้ำยังได้เป็นพนักงานบริษัทในแผนกมาร์เก็ตติ้งที่นี่ด้วย และเพราะว่าเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่ใช่เรื่องยากลูกชุบได้พูดคุยกับเขาบ่อยครั้ง ทั้งเห็นหน้าและไม่เห็นหน้า บางครั้งก็เปิดเครื่องทิ้งไว้ระหว่างทำธุระ แม้ไม่ได้พูดคุย แต่เพื่อให้รู้สึกถึงการมีอยู่ที่ข้างกาย


แต่พอไปแล้ว…เขาก็ไม่เคยกลับมา


ลูกชุบก็เข้าใจ และไม่เคยเรียกร้องงี่เง่าจนเกินไป มีกระเง้ากระหงอดใส่บ้างแต่ไม่ได้งอนให้อีกฝ่ายหนักใจ ลูกชุบทราบดีว่าน้องวินจำเป็นต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย เขาเลยยุ่งมาก และไม่ได้กลับมาที่ไทยเพราะช่วงที่ว่างก็ทำงานตลอด เราจะได้คุยกันบ้างเล็กน้อย ให้พอรู้ว่ายังมีกันและกัน


ก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวมันดำเนินอย่างนี้มาได้อย่างไร เพราะการช่วยเหลือของรัตนสกุล ทำให้ลูกชุบที่ไร้ญาติขาดมิตรยังเหลือใครบางคนบนโลกที่อยู่เคียงข้าง ในวันหยุด บางทีก็จะมาพบคุณหญิงย่าและพี่เจนบ้าง มันเหมือนการทำประโยชน์ให้กับน้องวินทางอ้อม อยู่ไปอยู่มา ก็สนิทสนมกันขึ้นไปอีก


ตอนนี้พวกแม่เลี้ยงก็ได้ย้ายออกไปแล้ว ลูกชุบกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านอย่างปลอดภัย ไม่มีเรื่องอะไรให้กังวล ที่กังวลก็มีแค่เรื่องของน้องวินนั่นแหละ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เหมือนมีสถานะพิเศษที่ไม่เคยมีใครเอ่ยออกมาเป็นคำพูด มันไม่ใช่เพื่อนแต่ยังไม่ถึงคนรัก ก็แค่คนที่ถ้าโทรมาและไม่ติดอะไรก็ต้องรับ ไปไหนไกลๆก็ต้องบอก เท่านั้นเอง…


“จะไปกินข้าวกับพวกสายรหัสหน่อยนะ” สายของลูกชุบนั้นค่อนข้างสนิทกันมาก แม้จะเรียนจบมา 3 จะ 4 ปีแล้ว แต่ก็ยังติดต่อ ไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อยๆ ลูกชุบเป็นคนที่มนุษย์สัมผัสดีแค่ไหน ทำไมน้องวินจะไม่รู้!


“ไปอีกแล้วเหรอ”  แต่เขามันคนมนุษย์สัมพันธ์ยอดแย่! เลยไม่ชอบให้ลูกชุบสนิทกับใครไปเรื่อยงั้นเหรอ?


“อื้ม ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้ว”  จะต้องเจออะไรกันนักหนา เขาเอาใบหน้าของตนออกห่างจากจอมือถือ ส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด ตอนนี้กำลังเฟซไทม์คุยกันขณะที่กำลังทำนั่นทำนี่อยู่ เราใกล้ชิดสนิทกัน แต่เพราะอยู่ห่างไกล อะไรๆก็ย่อมควบคุมยาก และเพราะเขาอยู่ตรงนี้ โอกาสจะเคาะกะโหลกคนซื่อบื้อเลยเป็นศูนย์


“ใครไปบ้าง”


“มีพี่กิต”


“ไอ้นั่นอีกแล้วเหรอ”


“น้องวินพูดไม่เพราะเลย เขาโตกว่าน้องวินอยู่หลายปีเลยนะ”


“อืม”  แล้วไง…โตกว่าแต่ไม่ได้เป็นแม้คนรู้จักนี่ต้องเรียกพี่ด้วยเหรอ เขาไม่มีวันไปอยากสนิทสนมกับคนแบบนั้นหรอก คนแบบไหนนะเหรอ คนที่จีบลูกชุบแบบนั้นนะสิ


อัศวินมีสิทธิ์โทรหาหรือรับสายลูกชุบที่โทรมา แต่ไม่มีสิทธิ์หึงหวงหรือไปสั่งไม่ให้ลูกชุบทำอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆเราควรเป็นได้มากกว่า แต่ในขณะที่ห่างไกลกัน เขาไม่มีความกล้าที่จะกล่าวขออะไรที่เห็นแก่ตัวแบบนั้น แม้บางทีจะห้ามตัวเองไม่ให้พูดอะไรเป็นเชิงหึงหวงไม่ได้ก็ตาม


“ช่วงนี้งานยุ่งไหม”  ลูกชุบถาม พับผ้าไปด้วย คุยไปด้วย


“ก็ยุ่งเป็นปกตินะแหละ”


“เห็นวันก่อนอาเพชรบอกว่ากำลังช่วยหาข้อมูลเรียนต่อโทให้”


“อืม”


“อีกสองปีสินะ”


“เรียนแค่ปีเดียว”


“ก็อีกปีสินะ”


“….”  ทำไมล่ะลูกชุบ


พูดออกไปสิว่าคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว!


จริงๆน้องวินไม่เคยบ่นว่าเขาเหนื่อยหรือไม่ แต่เป็นพี่เจนที่มักจะพูดให้ลูกชุบได้ยินเสมอถึงความนอนน้อยและทำงานหนักของอีกฝ่าย น้องวินอยากไล่ตามคุณรบให้ได้ และเขาต้องพยายามมากมายเพื่อทำให้ดีกว่า น้องไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดนัก เลยกังวลว่าตนจะช้ากว่าที่ควรเป็นเลยหันมาเข้มงวดกับตัวเองตั้งแต่จบมัธยม และนั่นทำให้ลูกชุบเป็นห่วง


ไทม์โซน ภาระ ทุกอย่างที่กั้นเราไม่ให้เจอกันมันอาจจะทำให้ใครบางคนยอมแพ้ได้ แต่ตรงนี้ใจของเราต่างรั้งเอาไว้ จริงๆลูกชุบอยากถาม อยากให้เขาพูดระบายถึงสิ่งที่หนักหนาออกมาบ้าง แต่ก็กลัวว่าเขาจะตระหนักได้ว่าถ้าฝืนทำหลายๆอย่างเกินไป สู้ตัดมันทิ้งบ้างบางอย่างจะดีกว่า และสิ่งที่น้องอาจจะตัดทิ้งคือสิ่งที่ไร้ค่าที่สุด


นั่นคือตัวลูกชุบเอง


“พี่ชุบจะไปหาพี่เจนแล้ว”


“ไปทำไม”


“วันนี้พี่เจนชวนไปกินข้าวกับคุณย่าและนอนค้าง”  เดี๋ยวนี้สนิทกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย แผนฝากไว้กับเจนนี่มันมีข้อดีอยู่อย่าง อัศวินโตแล้ว ไม่ว่างมาเล่นด้วย งั้นเล่นกับลูกชุบไปก่อนล่ะกัน และลูกชุบก็ดูจะชอบวนเวียนอยู่รอบๆบ้านเขา ซึ่งดี ต่อไปจะได้ไม่เคอะเขิน


“อืม ถ้างั้นก็ไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันมื้อเย็น”


“น้องวินก็นอนเยอะๆนะ เดี๋ยวตาดำ ไม่หล่อ”  คนตัวเล็กพูด แสร้งทำเป็นพับผ้าแต่เขารู้หรอกว่าอาย ถ้าเขินแล้วจะแซวทำไมนะคนเรา


“ดีออก จะได้ดูน่าสงสาร”


“ลูกชุบสงสารแล้วทำอะไรไม่ได้ อย่าทำให้สงสารได้ไหม” 


“ถ้างั้นเดี๋ยววางแล้วนอนเลย”  ทั้งๆที่เขาเพิ่งตื่นนี่แหละ ตื่นปุ๊ปก็คอลหาปั๊ป


“งั้นพี่ชุบไปแล้วนะ”


“อืม”


“วางก่อนสิ”


“ถ้าจะไปก็วางเอง”


“ง่า…”  แล้วลูกชุบจะใจแข็งทำได้ยังไง


“ว่าไง” น้องวิน…ไม่ดีต่อใจเลยจริงๆ


แต่แล้วอัศวินก็วางให้ เพราะเจนโทรมาจิกเรื่อยๆ วันนี้มีนัดกันจริงๆและเจนก็ทำแต่ของโปรดลูกชุบเอาไว้ให้ เอะอะอะไรก็ลูกชุบ เอ็นดูกว่าน้องวินแล้วมั้งเนี่ย ช่วงนี้เจนไม่ค่อยคอลหาเลย คาดว่าเอาแต่คิดเรื่องขุนลูกชุบของเขาให้อ้วน กลับไปอาจจะกอดแล้วนิ่มก็เป็นได้ พอคิดถึงตรงนี้ก็นึกได้ว่าไม่เคยกอดลูกชุบจริงๆ ตอนลากันก็แค่โบกมือลา


เวลาของเราที่ไม่ได้เจอกันมันยาวนาน และก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาไม่สามารถลืม หรือเพิกเฉยลูกชุบลงได้   เจ้าตัวจะรู้ไหมว่าความบ้าบอมันถึงขั้นที่ว่าไปที่ไหนเห็นอะไรก็คิดถึงไปหมด ไม่อย่างนั้นจะซื้อส่งไปให้บ่อยๆแบบนั้นเหรอ นี่ขนาดยับยั้งชั่งใจไว้แล้วด้วย แต่เมื่อไหร่เขาจะได้ยื่นมันให้ด้วยมือตัวเองเสียที


“เฮ้อ”  อัศวินถอนหายใจออกมา ที่บอกลูกชุบว่าจะไปนอนก็ไม่ เขาวุ่นวายกับการดูเอกสารศึกษาต่อปริญญาโทอยู่ และภาระบนโต๊ะทำงานก็ยังมีอีกเยอะ จริงๆมันก็เยอะอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้มันเยอะพิเศษ


ถ้าไม่ติดต่อไปบ่อยเท่าเดิม จะมีคนงอนไหมหนอ…


ช่วงนี้น้องวินก็จะยุ่งหน่อยๆ และมันก็เป็นมาหลายสัปดาห์จนนับเป็นเดือนได้แล้ว เขาไม่แม้แต่จะเฟซไทม์ทิ้งไว้และทำธุระ แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้เลยในบางวันและหลายๆวัน มันก็จะคิดถึงมากหน่อย ถึงแม้เราจะไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่มันก็ไม่นานขนาดนี้ เขาก็บอกแหละว่าช่วงนี้ยุ่ง แต่คงเป็นลูกชุบเองที่เหงาแต่เรียกร้องอะไรไม่ได้


“จะไม่กลับไทยมาปีนี้จริงๆเหรอ”  ไหนบอกว่าไปแค่นี้ไง จะเรียนต่อปริญญาโทเลยเหรอ


แต่มันจำเป็นนี่นา…ลูกชุบก็พยายามจะเข้าใจ แต่แค่น้อยใจนี่ เราก็จะไม่มีสิทธิ์เลยเหรอ ถึงน้องวินจะเป็นคนเงียบๆและถนัดจะฟังมากกว่าพูดจ้อก็ตาม แต่การที่ได้ยินเสียงหัวเราะน้อยๆ เสียงตอบรับในลำคอ เท่านี้ก็เหมือนมอบพลังมากมายให้กันแล้ว อย่าลืมสิ…ชีวิตของลูกชุบเปลี่ยนไปขนาดนี้ก็เพราะเขาเลยนะ


“วันนี้ก็ทำโอทีเหรอลูกชุบ”  เพื่อนร่วมรุ่นในแผนกที่กำลังจะกลับบ้านหันมาถามกัน แต่ลูกชุบยังเอาแต่จ้องจอคอมพ์


“อืม”  กลับไปก็วุ่นวายอยู่กับความคิดของตัวเอง กลับไปก็ยังไม่ถึงเวลาที่น้องวินกลับที่พักด้วย


“อย่าทำงานหนักมากนะ ซูบจะแย่”  นี่ก็ว่าอ้วนขึ้นนะ เจอพี่เจนทีไรแทบจะจับป้อนใส่ปากทุกที แต่ลูกชุบก็ผิด พอได้ยินว่าเป็นของโปรดของน้องวิน ก็เผลออ้าปากงับอยากชิมไปทุกอย่างไม่ได้คิดเลยว่าจะโดนโกหกหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ดูซูบอยู่ดี ไม่รู้จะซูบอะไรนักหนา


ช่างเถอะ…น้องวินไม่ได้อยู่ไทย จะมาดุกันได้ยังไง ลูกชุบถอนหายใจออกมา ก่อนจะกลับมาสนใจกับงาน ทำให้เสร็จทั้งๆที่ไม่เรียบร้อย เงยหน้าขึ้นมามองนาฬิกา เก็บของและกลับบ้าน ก่อนนอนก็จะกลิ้งรอโทรศัพท์ กดเข้าไปดูแอพพลิเคชั่นที่ใช้สื่อสาร ไม่มีการเคลื่อนไหว รอเป็นชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้คงไม่มาแล้วแหละ…


Lukchub : คิดถึงแล้วอ่ะ


ในที่สุดก็ตัดสินใจทิ้งข้อความไว้ ไม่ไหวแล้ว คิดถึงจะแย่ ถ้าเห็นข้อความแล้วไม่ตอบกลับมา ลูกชุบคงเสียใจ อัศวินสำคัญต่อกันมาก พอหายไปแบบนี้ เลยยิ่งรู้ตัวว่าอีกฝ่ายสำคัญแค่ไหน ไม่ต้องคุยหรือโทรกลับมาหรอก แค่ส่งสติ๊กเกอร์กลับมาก็ดีแล้วจริงๆ อย่างน้อยลูกชุบจะได้เชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดไป


“หน้าตาดูไม่ดีเลย ทำงานไม่เสร็จเหรอ”  เพื่อนร่วมงานที่ลงไปกินอาหารเที่ยงด้วยกันถาม ลูกชุบเพียงช้อนตามองก่อนจะยัดหลอดน้ำฝรั่งเข้าปากและดูดต่อ ไม่อธิบายดีกว่า คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่าคิดถึงมากมีอาการเป็นเช่นไร


“ตาขวางแล้ว ยังไม่หมดเวลาพัก จะนอนก็ขึ้นไปนอนก่อนได้นะ”  และลูกชุบขอจองห้องประชุมเล็กไว้เลย! เมื่อวานนอนไม่หลับเพราะบางคนไม่โทรมา ก่อนเริ่มทำงานช่วงบ่ายถ้าสภาพยังเป็นแบบนี้หัวได้ปักแป้นพิมพ์แน่ แล้วกินกาแฟไม่เป็นด้วย มันขมอ่ะ


ร่างเล็กที่ทิ้งตัวลงบนโซฟาเบาๆนั้นมองเพดานก่อนจะถอนหายใจออกมา ผ้าห่มนี่ก็ได้มาจากพี่เจน เห็นว่าน้องวินซื้อฝากคุณป๋ามาให้เพราะได้ยินว่าลูกชุบชอบหนีไปงีบตอนกลางวัน คลุมมันจนถึงจมูก ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมที่ตนเป็นคนเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มเองให้เต็มปอด คิดถึงจนจะบ้า มันเป็นแบบนี้เอง


ถ้าวันนี้ไม่คอลมา ลูกชุบจะทำไงดี ส่งไลน์ไปบอกว่าคิดถึงก็แล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบอะไรด้วย อย่าให้ถึงขนาดต้องไปตามทวงคำตอบที่นู่นเลย ลูกชุบลางานช่วงนี้ไม่ได้ จะว่าไปก็ไม่มีสักครั้งที่จะไปหาแม้อยากจะไป เพราะเข้าใจว่าภาระเขาเยอะ เลยไม่คิดว่าจะได้เที่ยวด้วยกันเท่าไหร่ ถ้าไปก็คงไม่พ้นเป็นภาระอีกฝ่ายไปด้วย เลยไม่เคยเอ่ยปากอยากไปหา แต่ถ้าวันนี้ได้คุยกันจะลองพูดดู ดวงตากลมค่อยๆปิดสนิท สักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ให้ลูกชุบชาร์ตพลังไปสู้ต่อนะ ถ้ายังไงวันนี้


ลูกชุบจะโทรไปบอกว่าคิดถึงมากและอยากเจอด้วยตนเอง…


‘ไหนบอกว่าคิดถึงไหน’
‘งืม คิดถึงสิ’
‘นี่ก็คิดถึงเหมือนกัน’  เขายิ้ม ‘อย่าขี้เซานักสิ’


เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังเบาๆปลุกให้ลูกชุบตื่นขึ้นมา อีกไม่ถึงห้านาทีจะเริ่มงานแล้ว ควรจะลุกไปเก็บผ้าห่มและกลับไปที่โต๊ะเสียที แต่ก็อยากจะเอื่อยเฉื่อยอีกนิด เมื่อกี๊กำลังฝันดีๆอยู่เลย มันต้องเป็นเพราะคิดถึงมากเกินไปแน่ๆ ก็เลยทำให้ฝันว่าเขามาอยู่ใกล้ๆแค่ตรงนี้ แต่ลูกชุบเหนื่อยมาก ความตั้งใจสวนทางกับพลังงานที่มีอยู่จริง คิดอยากจะโถมกอดแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย


“ตื่นแล้วเนอะเด็กขี้เซา”  หัวหน้าทีมสาวที่เห็นลูกทีมเดินออกมาจากห้องประชุมเล็กเอ่ยทัก ลูกชุบดูเหมือนเด็กๆตอนที่กอดผ้าห่มลายการ์ตูนและขยี้ตาไปด้วย ผมก็ยุ่งไม่สมกับเป็นพนักงานออฟฟิศเอาเสียเลย


“ชุบง่วง”  เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าง่วง คนอื่นในทีมหันมายิ้มให้ ลูบหัวคนละทีสองทีก่อนจะกลับมาทำงานอย่างจริงๆจังๆ วันนี้ทุกคนยุ่งๆดูเงียบแปลกๆ


“อีกสิบนาทีเข้าประชุมกับทางผู้บริหาร เสนอโปรเจ็คนะ”  หัวหน้าทีมพูดเตือนความพร้อม ลูกชุบหาวออกมา ก่อนจะตัดสินใจเดินไปล้างหน้า ครึ่งชั่วโมงคงมากไป มันไม่ได้ช่วยทำให้ตื่น มันทำให้ง่วงหนักกว่าเดิม!


กลับมาที่โต๊ะก็พบว่าคนอื่นกำลังจะออกไปประชุมกันแล้ว ลูกชุบก็หยิบนั่นนี่ตามเขาไป ตนไม่ใช่คนพรีเซ็นต์แต่มีหน้าที่ซัพพอร์ตต่างๆ กับคุณรบนั้นก็คุ้นเคยดีในระดับหนึ่ง และลูกชุบก็ทำงานมาสักพักแล้ว มันจึงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น


“สมาชิกมากันครบแล้วใช่ไหม”  ผู้ใหญ่สักคนเอ่ยถาม ลูกชุบมองไปรอบๆ ก็เหมือนจะครบแล้วล่ะนะ ผู้จัดการหันมาพยักหน้าให้ “เริ่มเลยนะคะ คุณนักรบ” ท่านถามย้ำอีกที และคำตอบคือการพยักหน้าหนึ่งครั้งของเจ้านายสูงสุด


“เริ่มไปก่อนเลยก็ได้ครับ”  คำพูดคำจาที่ดูเรียบนิ่งแต่คลุมเครือนั้นผ่านหูของลูกชุบไปเลย ตอนนี้คนขี้เซาเข้าโหมดเป็นการเป็นงานแล้ว สิ่งที่อยู่ตรงหน้ามีโน้ตบุคและเอกสารมากมายที่เตรียมมาอย่างดี การเสนอโปรเจ็คได้เริ่มต้นขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น


การนำเสนอดำเนินไปอย่างราบรื่นสมกับที่ทุกคนเตรียมพร้อมมาอย่างดี ลูกชุบยิ้มจนแก้มปริที่สีหน้าของผู้ใหญ่หลายๆท่านดูพอใจ ในฐานะคนเตรียมงานก็พลอยจะเป็นปลื้ม หัวหน้าที่นำเสนอข้อมูลเรียบร้อยกล่าวจบการนำเสนอ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงถามตอบและฟังความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ คำถามที่คิดว่าจะมี ได้ถูกถามออกไปและลูกชุบก็ได้เตรียมข้อมูลประกอบไว้ให้ ตอบไปได้สัก 2 คำถามก็เห็นได้ถึงแนวโน้มของผลงานในวันนี้


ก่อนที่ประตูจะเปิดออกอีกครั้ง…


“ขออนุญาตครับ”  เจ้าของร่างสูงของผู้มาใหม่นั้นกล่าวอย่างมีมารยาทก่อนจะเดินเข้ามา ทั้งนี้เขาไม่ได้แต่งตัวแบบเป็นทางการนัก แต่เสื้อคอโปโลสีกรมท่ากับลายแทบสีแดงที่พาดตัวเสื้อนั้นดูดีบนตัวเขามากเลยทีเดียว เป็นผู้ชายที่ดูดีทั้งๆที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไร เขาไม่ได้เหมือนวันแรกที่ได้พบ เพราะดูจะตัวใหญ่ขึ้น เขาเคยเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงที่ดูเก้งก้างกว่านี้


และเขาก็ทำให้ความรู้สึกที่ได้พบอีกครั้งแตกต่างออกไป


“ช้ามากนะ อัศวิน”  มันเข้าช่วงท้ายแล้ว เขาสายไปมาก ท่านประธานได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขรึมๆ


“ขอโทษด้วยครับ เพิ่งจัดการได้”  ก็ไม่รู้หรอกว่าจัดการอะไร แต่มาสายเลยทีเดียว


ช้าไปสำหรับความคิดถึงตั้ง 6 ปี


น่าแปลกที่ลูกชุบไม่ได้ตะโกนโหวกเหวกหรือทำตัวตื่นเต้นแบบที่ควรจะเป็น อาจจะเพราะหลายปีที่ผ่านมา คนเราก็ย่อมโตขึ้นและมีบุคลิกนิสัยเปลี่ยนไปบางตามบทบาทต่างๆที่มีเพิ่ม เพื่อเลี่ยงที่จะสบตา ลูกชุบหันไปสนใจคำถามและเอกสารเพิ่มเติมของตนต่อไป จนกระทั่งจบการประชุมนั่นแหละ


พี่ๆในแผนกต่างส่งยิ้มมาให้ คงจะยินดีที่วันนี้ทำงานเสร็จเสียที อุตส่าห์เตรียมกันมาหลายวัน คนตัวเล็กยิ้มกลับ เก็บข้าวของโดยพยายามจะไม่สนใจผู้เข้ามาใหม่ในช่วงหลัง บางทีแค่มองหน้า แข้งขาก็พาลจะอ่อนยวบแล้ว ความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงนะเหรอ? มันชาไปหมด จับความรู้สึกไม่ได้ ราวกับไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ นี่เหรอผลลัพธ์ของคำว่าคิดถึงมาก?


ปกติลูกชุบความรู้สึกช้าอยู่แล้ว? หรือว่าช่วงนี้อ๋องๆนอนน้อยเลยช้าผิดปกติเข้าไปอีก? แม้แต่ตัวเองยังสงสัย ว่าอะไรทำให้คีพคูลตั้งแต่ห้องประชุมใหญ่ จนถึงโต๊ะทำงานของตัวเองตอนนี้ แต่น้องวินก็ไม่เห็นจะทักกันเลยนี่นา เออ…แล้วน้องจะมาทักได้ไง ผู้ใหญ่อยู่ตรงนั้น มันไม่งามเลยจริงๆ ลูกชุบก็แค่พนักงานคนหนึ่งเองด้วย เขาเป็นถึงลูกชายคุณรบเชียวนะ


“ลูกชุบยังไม่ตื่นเหรอ”  พี่ที่นั่งโต๊ะข้างๆหันมาถามพลางดีดนิ้ว น้องไม่ใช่หมา ทำไมเรียกแบบนี้!


“อื้ม รู้สึกชาๆมึนๆ”


“ไม่สบายหรือเปล่า”


“ตัวไม่เห็นร้อนเลย”


“งั้นลืมอะไรหรือเปล่า”  ลืมอะไรหรือเปล่า… ลืมอะไรเหรอ? “เช่นลืมสติทิ้งไว้ที่ห้องประชุม” ใช่…ลืมไปแล้วจริงๆ


ลืมไปว่าคิดถึงมากๆ แล้วต้องทำยังไง!


“ชุบไปห้องน้ำก่อน!”  กว่าจะรู้ตัวว่าตนเอ๋อคิดอะไรไม่รู้อยู่นานมาก ก็รู้เสียทีว่าสิ่งที่ควรทำที่สุดหลังจากได้เจอคนที่คุยกันเกือบทุกวันแต่ไม่ได้เห็นหน้ามาหลายปีนั้นคืออะไร ลูกชุบแทบจะวิ่งขึ้นไปชั้นผู้บริหารถ้าหากลิฟท์ไม่เปิดก่อนให้ตนเบรกจนหน้าแทบคว่ำ ถ้าน้องวินรู้ว่าวิ่งอาจจะโกรธกันก็เป็นได้ แต่ยอมให้โกรธเลย ขอให้พี่ชุบได้คุยด้วยสักนิดก่อนก็ยังดี


ในระหว่างที่ลิฟท์กำลังขึ้นไปเรื่อยๆ คนที่เหงื่อเริ่มจะแตกก็พลันคิดนั่นนี่ ทำไมน้องวินไม่ติดต่อมา ไม่อ่านไลน์ หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนี้ แต่การจะเข้าถึงตัวน้องวินในชั้นผู้บริหารอาจจะไม่ง่าย ลูกชุบทำอะไรผลีผลามไม่ได้ จึงจำเป็นต้องคิดให้ดี เริ่มจากเดินตัวตรงช้าๆไปแจ้งเลขาคุณรบอย่างอาเพชร หรือจะดีให้เจอพี่พระพายจะรับมือได้ง่ายกว่า อาเพชรขี้แกล้งอ่ะ!


แต่เพราะคิดเพลินจึงทำให้ลิฟท์ดีดลงไปที่ชั้น G เพราะลืมกดชั้นจุดหมาย! เป็นอะไรนี่วันนี้ แม้แต่ตัวเองยังรู้สึกโมโหตัวเอง แต่ละวินาทีมีค่ามาก ลูกชุบรู้สึกว่าถ้าเสียไปอีกแม้แต่น้อย โอกาสที่จะได้เจอก็ยิ่งห่างออกไป คนเราพอแยกกันไปนานๆ ความกลัวในใจก็จะเกิดขึ้นมาแบบนี้ เพราะฉะนั้นไม่สำคัญแล้วว่าจะชวนน้องคุยอะไร ถ้าเจอหน้าแล้วสิ่งที่ต้องทำคือกอดไว้ กอดไว้ให้แน่นเลย!


ติ๊ง!


“….” เมื่อประตูลิฟท์เปิด ดวงตาของลูกชุบก็โตขึ้น เมื่อสายตาของเราประสานกันมันเหมือนจะเกิดประกายไฟรุนแรง “น้องวิน!”  นี่คือสิ่งที่คนตื่นเต้นช้าเอ่ยปากออกมา ก่อนจะถลาเข้าไปกอดคนที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ ให้ตายสิ!


“มาช้า”  เขายืนรอตรงนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว ทั้งๆที่คิดว่าจะเป็นฝ่ายรอให้รุ่นพี่ผู้ซื่อบื้อมาหาเองที่นี่ ก็เกือบถอดใจไปหลายยกเหมือนกัน นี่อ่อยแค่ไหนแล้วอัศวิน มายืนรอเขาหน้าลิฟท์ในชั้นทำงานผู้บริหารนี่นะ อีกนิดถ้าไม่มาคงไปรอหน้าโต๊ะจริงๆ


“มาได้ไง ทำไมไม่บอก” ทีลูกชุบยังบอกเลยว่าจะไปไหนมาไหน เรื่องใหญ่อย่างนี้ทำไมไม่บอก!


“ยุ่งมาก เลื่อนตั๋วกลับด้วยเลยต้องเคลียร์งานเยอะมาก”


“อย่างน้อยก็น่าจะบอก ปล่อยพี่ชุบไลน์ไปหา นอนมองจอโทรศัพท์ตั้งนาน” เขายิ้มออกมา คนขี้บ่นทำขนาดนั้นเลยเหรอ แค่เขาไม่ติดต่อมาก็รอแบบนั้นเลยเหรอ?


บอกไม่ถูกจริงๆว่าสงสารหรือดีใจ เพราะแค่เข้ามากอดกันแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนก็ทำให้ใจเต้นแรงแล้ว ถูกว่าก็ถือว่าคุ้ม จริงๆเขาก็คิดถึงมากไม่แพ้กันแต่งานมันยุ่ง ถ้าการไม่ได้คุยจะทำให้เราสะสมความคิดถึงเอาไว้ขนาดนี้แล้วระเบิดออกมาอย่างตรงไปตรงมา ก็อาจจะเรียกว่าคุ้มมากจริงๆ


“ขอโทษ”  เขาเอ่ยออกมา ก่อนจะดันลูกชุบออกนิดหน่อย ไม่ใช่ว่าไม่อยากกอดนะ แต่อยากเห็นหน้าและแววตาคู่นั้นที่มองกัน


อัศวินปิดการแจ้งเตือนไว้เพราะอยากสนใจแค่งาน และเพราะบอกไปแล้วว่ายุ่งคงไม่ค่อยได้มา เลยคิดว่าอีกฝ่ายคงเข้าใจและไม่รอกัน กว่าจะได้เปิดอีกทีก็ตอนที่ลงเครื่องมาแล้ว และคำว่าคิดถึงของใครบางคนที่ได้เปิดอ่าน ก็ทำให้เขาไม่แม้แต่จะโทรตามให้ที่บ้านมารับ แต่นั่งรถเช่าจากสนามบินมาเลย พอเจนรู้ถึงได้เคืองมาก ไม่ใช่แค่ลูกชุบที่เพิ่งรู้หรอก ทุกคนในบ้านรัตนสกุลก็เช่นเดียวกัน


“แล้วทำไมไม่บอกหน่อยล่ะว่าจะกลับมา”  ลูกชุบยังคงถาม


“ยุ่งด้วย อยากเซอร์ไพรส์ที่บ้านด้วย”


“แม้แต่พี่ชุบก็บอกไม่ได้เหรอ”  จริงๆลูกชุบถามผิด ขนาดคนที่บ้านเขายังไม่รู้ แล้วตัวเองเป็นใคร?


“บอกไม่ได้ กะว่าจะมาดูว่าอู้งานไหม”  ตั้งใจจะจับผิดสินะ!


“แล้วอู้ไหมล่ะ”  ลูกชุบออกจะตั้งใจทำงาน อันนี้มั่นใจมากว่าถ้ามาดูวันนี้ ไม่มีหรอกที่จะอู้!


“เห็นแค่นอนได้น่าลักหลับมาก เลยจับไม่ได้ว่าอู้ไหม”  ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้อู้!


“…”  แต่เดี๋ยวนะ…


“ช้าอีกแล้ว กินน้ำมันตับปลาบำรุงสมองบ้างไหมเนี่ย”


“น้องวิน!”  มันก็ใช้เวลาคิดนานหน่อยเพราะสิ่งที่ได้ยินมันทั้งคลุมเครือและชัดเจน ชัดก้องในใจมาก แต่น้องวินเคยพูดอย่างนี้ที่ไหน!


“เรียกซะเสียงดังแบบนี้ เคืองที่เป็นห่วงอยากให้กินของมีประโยชน์หรือเคืองที่ไปแอบดูตอนหลับเหรอ”  ทุกเรื่องเลยได้ไหม ทำไมโตมาเป็นเด็กแบบนี้นะ ถ้าลูกชุบระเบิดตัวตายไม่ต้องโทษใครเลยจริงๆ เป็นห่วงอะไร พูดจาไม่ดีต่อใจเลย อย่างนี้มันประสงค์ร้ายชัดๆ


อย่าบอกนะว่าเขาแวะไปหาตอนที่ลูกชุบหลับอยู่ ตอนนั้นก็หลับซะลึกเชียว มีคนเดินเข้ามาก็ไม่รู้ตัว แล้วนี่ผ่านเข้ามาถึงห้องนั้นได้ยังไง อย่าบอกนะว่าคนในทีมอนุญาตให้เข้ามา งั้นก็หมายความว่าทุกคนรู้แล้วนะสิว่าเป็นใครและทำอะไรน่าอายแบบนั้น มิน่า…วันนี้คนยิ้มให้เยอะมาก ไอ้เราก็คิดว่าเรื่องงาน ที่ไหนได้ แซวเก่งอ่ะ!


“แล้ว..เจอพี่เจนยัง”  พอเขินก็เปลี่ยนเรื่อง ถือว่าสกิลใช้ได้


“เจอแล้ว”  ก่อนเข้าไปดูลูกชุบประชุมเลย พอเขาเห็นข้อความชวนยุบยิบหัวใจก็จัดการให้สนามบินหารถให้ และโทรหาคุณป๋าว่าจะมา คาดว่าคุณป๋าคงโทรหาเจนให้มาเจอที่ออฟฟิศเพื่อเตรียมบ่นลูกชายที่ไม่บอกกล่าวเรื่องกลับ พอถึงออฟฟิศ อาเพชรก็พาไปหาลูกชุบทันทีตามประสาคนแก่หัวใจวัยรุ่น 


พอเข้าไปยืนมองคนขี้เซาได้สักพัก พี่เลี้ยงที่คุมทั้งพ่อและทุกสิ่งในบ้านก็องค์ลงมาลากออกไปปรับทัศนคติข้างนอก นานพอตัว จนเข้าประชุมสายเลย ตอนนั้นยอมรับว่าหูชาไปแล้วจริงๆ ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นนอกจากเสียงหัวใจตัวเอง


“ว่าแต่จะกลับมานานแค่ไหน”  หลังจากยิงคำถามรัวๆ ก็เริ่มจะรู้สึกตัวได้ว่าถามมาเยอะมากแถมกอดเขาแน่นเชียว ตอนนี้เอวของตนก็ยังถูกประคองจับไว้หลวมๆ ความเขินอายคงทำให้กดใบหน้าลงมองพื้น แค่เห็นรองเท้าของเราที่ประจันหน้ากันอย่างใกล้ชิดก็ทำให้หน้าแดงขึ้นไปอีก เขาอยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ


“อยากให้อยู่นานๆไหม”


“น้องวินต้องเรียนต่อปริญญาโทนี่เนอะ”  อืม อาเพชรหาข้อมูลเรียนต่อให้จริง


แต่ไม่ได้คิดจะไปตอนนี้หรอก


“อยากให้ผมอยู่ไหมล่ะ” เขากระซิบเสียงเบาแต่ดังชัดเจน บีบคั้นให้ลูกชุบยอมรับว่าจักรวาลในตอนนี้มีแค่เราหน้าลิฟท์


“น้องวิน” 


“ผมตามใจลูกชุบเลยนะ”


“ถ้าให้อยู่ที่นี่อีกสักสามเดือนอ่ะ” อยู่กับลูกชุบอีกสักพักได้ไหม หวังมากไปหรือเปล่า


“ผมจะไม่กลับ” 


“ไหนว่าจะตามใจไง”  แต่หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆกับคำปฏิเสธที่ดูไม่รักษาสัญญา


“เพราะใจลูกชุบไม่ได้บอกนี่ว่าอยากให้กลับ” 


“ขี้ตู่ รู้ได้ไง” เขาบอกจะตามใจ ไม่ได้จะตามปากเสียหน่อย แล้วมารู้ดีได้ไงว่าใจของคนอื่นคิดยังไง


คำตอบนั้นไม่ยากเลย…


“ก็ใจเรามันคิดตรงกันมานานแล้วนี่นา”


เขาปล่อยลูกชุบกลับไปทำงานแต่โดยดี รั้งไว้นานกว่านี้คงไม่ได้กลับไปทำแล้วจริงๆ และอย่างที่คิดไว้ว่าทุกคนคาดเดากันไปเองแต่ถูกต้องว่าลูกชุบมีคนมาปักป้ายจองถึงที่ ในตอนนี้ไม่มีหน้าไปมองใครแล้วทั้งสิ้น งานการจะทำต่อไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้


เป็นพี่เจนที่ดักรอเราตอนเลิกงาน วันนี้ต้องต้อนกลับบ้านรัตนสกุลให้ได้ทั้งคู่ จะยังไม่ยอมให้ไปสวีทกันสองคนหรอก ทำให้คนอื่นเป็นห่วง มันไม่ถูกต้อง วันนี้คุณรบจึงนั่งข้างคนขับ และลูกชายของเขา กับใครสักคนที่ใกล้ชิดนั่งอยู่แถวหลังของรถยุโรปคันหรู เรามาถึงบ้านที่คุ้มครองกันมานานแสนนาน พอดีกับมื้อเย็นที่พวกคุณย่าและแม่บ้านรุ่นใหม่ๆทำรอไว้อยู่


ต่อข้างล่าง





หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: skylover☁ ที่ 23-01-2019 19:18:27
พูดคุยกันจนดึกดื่น ก็ได้เวลาที่ลูกชุบต้องกลับบ้านเพราะพรุ่งนี้ต้องรีบไปทำงาน แน่นอนว่าต้องมีคนไปส่ง และครั้งนี้คนที่อาสาคือคนที่ควรจะมีปัญหาเรื่องเวลา แต่ใจมันสู้เลยมองขวางใส่ทุกคนเพื่อกันตำแหน่งพลขับให้ตนเอง อัศวินได้พาลูกชุบขับออกจากบ้านรัตนสกุลในยามดึกอย่างเชื่องช้าเพื่อซึมซับช่วงเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันตอนนี้


“ถ้าเหนื่อยก็ไม่น่ามาส่ง”


“ไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าไม่ไหวจริงๆก็นอนบ้านลูกชุบไง”  แน่ะ!


“ให้ไม่ได้เสียหน่อย”  แล้วทำไมคนเราปฏิเสธเสียงเบาแบบนี้ ตอนบ่นละออกจะเสียงดัง


“มาบอกว่าคิดถึงงั้นงี้ แต่พอจะไปอยู่ด้วยก็ไม่ยอมนะ”


“มันไม่ดีไม่ใช่เหรอ” 


“ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก คิดถึงขนาดนี้”  และคำพูดที่แปลยากของเขาก็ทำให้หน้าแดง ใครคิดถึงใครเหรอ ลูกชุบนะคิดถึงอยู่แล้ว แต่ตัวอัศวินล่ะ คิดยังไง? “นอนด้วยล่ะกัน”  คำถามในใจของลูกชุบไม่มีคำตอบออกมา เขาเอาแต่ใจมาก แต่ลูกชุบก็เหมือนจะยินดีตามใจอยู่


“ร้อนก็ห้ามบ่นนะ ห้องนอนอีกห้องมันไม่มีแอร์นี่”


“นอนห้องลูกชุบไม่ได้เหรอ”


“…”  ได้ไงเล่า


“ไหนบอกว่าคิดถึงไง”  อัศวินหันมามองตา รถยังติดอยู่ เขาคุมได้ แต่ใจของลูกชุบมันเตลิดไปหมดแล้ว “หรือเพราะเจอกันแล้ว เลยไม่คิดถึงแล้ว”  นั่นสิ ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ให้คิดถึงแล้ว แต่ถ้าเสียไปอีกครั้ง จะทนไหวรึ?


“น้องวิน”  คนตัวเล็กเรียกชื่อเขาออกมา  “เราอยู่ในสถานะที่คิดถึงกันได้เหรอ?”  นี่คือคำถามที่ค้างคาแม้จะรู้สึกไปหมดแล้วก็ตาม มาถึงตรงนี้คงต้องมีคนตอบหรือทำอะไรให้ชัดเจนสักที


“ได้สิ”  เขาตอบสั้นๆ คำว่าคิดถึงนั้นใครๆก็รู้สึกได้ เป็นครอบครัวหรือเพื่อนก็รู้สึกได้ “แต่ถ้าอยากจะรักนี่ เราเป็นสถานะนั้นได้ไหม”


“…”


“ได้หรือเปล่า”  ทำไมมาถามลูกชุบล่ะ… ถ้าตอบเข้าข้างตัวเองจะทำไง? ใครจะรับผิดชอบ?


“มันก็…”


“รักผมบ้างไหม”


“อืม”


“ว่าไงล่ะ”


“รักสิ”  ลูกชุบตอบออกมา “รัก เลยคิดถึงมากไง”  เวลาและระยะทาง ทุกอย่างสร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างเราแบบนี้ขึ้น จนตอนนี้ที่เผชิญกับความเดียวดายมาเนิ่นนาน ลูกชุบก็อยากจะทำตามใจตัวเองบ้าง หากความสุขมาอยู่ใกล้ตัวแล้ว มันผิดไหมที่จะไขว้คว้า


“ผมก็เหมือนกัน”  อัศวินยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเกียร์และเดินหน้า ไฟเขียวแล้ว อีกไม่นานก็คงถึงบ้าน ความคิดถึงที่มีมาก อาจจะทำให้การเจอกันในวันนี้ชดเชยไม่พอ


แต่ลูกชุบค้นพบว่าตนก็โลภมากเช่นกัน ชดเชยเท่าไหร่ก็เหมือนจะไม่พอดีกับหัวใจ ไม่เป็นไรนะค่อยๆชดเชยกันไป เพราะเขาให้เวลากันมามากตามที่ใจต้องการแล้ว หลังจากผ่านไปหลายปี วันนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของความสุขของลูกชุบก็ว่าได้ จะไม่มีคนต้องเหงาหรือจมกับความคิดถึงที่ไขว้คว้าไม่ได้อีกต่อไป เพราะลูกชุบ…


ได้มีอัศวินเป็นของตัวเองแล้วจริงๆ



END



TALK
ตอนจบแล้วววว ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้กันนะคะ
เจนไม่นกเป็นนิยายที่ยาวมากๆ ขนาดทำเป็นเล่มยังมีตั้งสามเล่มซึ่งเกือบจะมีสี่555
เราดีใจนะคะที่ทุกคนชอบน้องวินตอนโต ผิดคาดมากเลย เราคิดว่าทุกคนจะติดภาพเบบี้ของลูกกบ
แต่ที่เกินคาดที่สุดคือทุกคนรู้สึกเอ็นดูน้องวินที่โตแล้ว ซึ่งเรามีเจตนาที่จะเขียนให้น้องดูสับสนกับทางเลือก
ไม่ได้มีเจตนาใส่ความน่าเอ็นดูเข้าไป คงต้องขอบคุณที่ทุกคนเอ็นดูกันแล้วล่ะค่ะ
ต่อจากนี้ไป เราไม่มีอะไรจะลงที่ตรงนี้อีกแล้ว เพราะได้ลงครบ จะมีทีไม่ลงบ้างแต่อยู่ในเล่ม
และก็ไม่มีแผนการปิดตอนเพราะไม่มีความจำเป็นในตอนนี้ (ซึ่งในอนาคตก็คงไม่มี)
หากใครสนใจก็หาซื้อกันได้ค่ะ ตอนนี้เฮอร์มิทกำลังเปิดจองอยู่
และคาดว่าหลังจากงานหนังสือเดือนเมษา2562 นี้คงมีขายตามร้านหนังสือ และถัดจากนั้นคงมีอีบุค
สำหรับคนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซื้อขาย รบกวนติดต่อทางเพจสนพโดยตรงนะคะ
เพราะเราเองก็อาจจะตอบไม่ได้หรือไม่เร็วพอ

สุดท้ายนี้ เจนไม่นกถือเป็นนิยายที่ทำให้เราสามารถกลับมากระตือรือร้นกับงานเขียนได้หลังจากผ่านไปเป็นปี
เราเคยมีความเชื่อว่าเขียนมาหลายสิบจนเกือบร้อยเรื่องจนไม่มีอะไรจะเขียนแล้ว เราควรหยุดและหางานอดิเรกใหม่
และคิดอยากเลิกเพราะเริ่มเข้าสู่ภาวะไม่พึงพอใจต่อผลงานที่ออกมา
แต่กระแสตอบรับและความรู้สึกที่มีต่อตนเองระหว่างเขียนเรื่องนี้ ดีจนไม่อยากเลิกเขียนถาวรเลยค่ะ
บางทีคนเราอาจจะต้องการเวลาพักและเริ่มใหม่จริงๆก็เป็นได้ เราอาจจะพักบ้างหรืองานเยอะจนหายบ้าง
แต่ฝากติดตามผลงานใหม่ๆที่จะเขียนต่อไปนี้ด้วยค่ะ ถ้าไงก็มาเป็นเพื่อนกันในทวิตเตอร์หรือเฟซบุคได้
เราจะคอยอัพเดทผลงานและอาจจะรีทวิตเรื่อยเปื่อยบ้าง ทักมาได้ เราว่าเราใจดีอยู่นะ5555
Twitter
Facebook
ขอบคุณทุกคนที่ชอบและติดตามกัน เราสัญญาว่าจะผลิตผลงานที่ดีคืนสู่สังคม555
รักและขอบคุณนะคะ
มิน (ที่เป็นชื่อเล่นของเราจริงๆ ไม่ได้เอามาจากคำว่ามินฮยอน555)






หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-01-2019 00:35:10
จบได้ดีมากเลยค่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-01-2019 01:35:45
ปลื้มปริมมาก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 24-01-2019 12:58:24
 อยากมีอัศวินเป็นของตัวเองบ้างอ่ะ  ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆแบบนี้นะคะ จะรอเรื่องต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ> <
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 24-01-2019 14:23:18
ในที่สุด ฮืออออออออ

รู้สึกปลื้มปริ่มไปหมด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 24-01-2019 18:18:34
จบไปแล้วจริงๆเหรอแงงงงย้อนไปอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 24-01-2019 19:21:19
โอ๊ยยยยจบแล้วลูกกบของป้าาาใจป้าอยากมีสักร้อยตอนไปเลยอยากเห็นพัฒนาการความรักของทั้งสองคนนี่แค่จุดเริ่มต้นเองสินะประคับประคองกันไปเรื่อยๆนะลูกกกกก  :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-01-2019 19:58:31
 :man1:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-01-2019 13:17:48
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 01-02-2019 03:27:08
อีเจนอีเวร!!  :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 01-02-2019 23:46:30
สนุกมาก เอ็นดูเจ้าลูกกบ  :กอด1:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 03-02-2019 09:50:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 04-02-2019 12:12:34
สนุกมากเลยค่ะ    :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 05-02-2019 22:36:05
อ่านรอบที่สาม
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 06-02-2019 17:19:31
สนุกมากค่ะ เราอ่านข้ามคืนเลย
ขอบคุณสำหรับมุมมองความรักดีดีแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 09-02-2019 15:31:32
 o13 น้องวินน่ารัก
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 09-02-2019 21:11:49
น้องกบของเจ้มีเมียเเล้ว..โตเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ..
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 11-02-2019 21:11:22
โอ๊ยยยยยยย ชอบเรื่องนี้ค่ะ จริงๆเราว่าน่าสนใจตั้งแต่การตั้งชื่อเรื่องแล้วค่ะ และก็ไม่ผิดหวังที่เข้ามาอ่าน เพราะเจนไม่นกคือเดอะไอดัลลลของเรา คนอะไรเหมือนจะไร้สาระแต่ก็มีสาระนะเห่ย เป็นเรื่องที่ครบสูตรจริงๆค่ะมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นอา รุ่นลูกเลย งานดีย์ จนถึงตอนนี้เรารู้สึกได้ว่าเราติ่งเจนมาก อยากอ่านตอนพิเศษเบาๆของเจนจังเลยค่ะ เยิฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 12-02-2019 01:21:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: สิงหา ที่ 17-02-2019 23:10:45
อ่านยาวๆมาตั้งแต่ เจนรบ เพชรพาย จนถึงน้องวินพี่ชุบเลย แม้จะมีขัดใจกับเจนช่วงท้ายเรื่อง แจ่โดบรวมคือสนุก น่ารัก โดยเฉพาะตอนเลี้ยงลูกกบมันได้ความอบอุ่นมาด้วย
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 18-02-2019 11:54:54
ฮือออออ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วมีความสุขมากค่ะ
ยิ่งอ่านเรื่องของน้องวิน ป้าที่ความสุขมากกก เหมือนเห็นลูกหลานโตเป็นผู้ใหญ่
ได้ส่งถึงฝั่งฝัน เป็นฝั่งฝา ไม่พอจริงๆ ไว้จะซื้อเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 26-03-2019 16:17:26
อ่านจบ หลงน้องวินจ้าา
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 21-06-2019 23:37:29
สนุกมากเลยค่ะ
ชอบมากเลย
ลูกกบน่ารักมาก 555
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 17-03-2020 23:00:53
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 10:22:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เ จ น ไ ม่ น ก (ลูกชุบของอัศวิน : 7) 23.1.2019 P.36 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 10-01-2021 08:45:12
 :hao7: :hao7: :hao7: ชอบโว้ยยยย ชอบมากกกกก