เพชรพระพาย
#คนขับรถของพระพาย
ในที่สุดพระพายก็สอบเสร็จสักที….
“ทำได้ไหมอ่า” พริมพราว เธอกลับบ้านไปเมื่อวันหยุด หนังสือก็อ่านจบแค่รอบเดียว
“พอได้นะ” พระพายตอบเช่นนั้น ส่วนธนทัตชายหนุ่มผู้เงียบขรึมก็พยักหน้า
“ทำไมมีแต่คนเก่งนะพวกนี้”
“เราไม่ได้บอกว่าทำได้เสียหน่อย” พระพายแย้ง
“แล้วทำไม่ได้เหรอ”
“…………..” คือจริงๆพระพายก็ไม่ควรจะทำได้หรอก
ถ้าไม่มีคนช่วยติวให้….
“นั่นกระดาษอะไรอ่ะพระพาย” พริมพราวถาม มันยิ่งน่าสงสัยเมื่อพระพายพยายามเอามันไปซ่อน แต่ธนทัตไวกว่าเพราะเขาคว้ามาจากมือของคนขี้หวงได้ทัน
“กระดาษเลคเชอร์….เหรอ” ธนทัตหยิบขึ้นมาดูก่อนจะพึมพำกับตัวเอง เขาส่งให้พริมได้ดู และทั้งสองต่างก็ขมวดคิ้ว
“แน่ะ ไปติวกับใครมา” มันดูเหมือนจะเป็นกระดาษทดที่ใช้เขียนตัวอย่างด้วยลายมือใครสักคนเสียมากกว่า แต่ใครล่ะ พระพายไม่มีพี่รหัส และยิ่งไม่สนิทกับใครใหญ่เพราะเหตุการณ์ในช่วงนี้
น่าสงสัยชั่ยมั่ยชั่ย!
“อืม พี่……” พระพายกำลังจะตอบ ทว่าภาพที่มุมนึงก็ทำให้คำตอบของตนถูกกลืนหายเข้าไป
เพราะรอยยิ้มคุ้นตานั้นกำลังใกล้เข้ามา
“นั่นใครน่ะ” เสียงกระซิบและสายตาจ้องมองนั้นมีทั่วทุกหนแห่ง ตอนนี้ใต้ตึกคณะเหมือนจะแตกฮือด้วยเพราะการมาเยือนของคนๆนึงที่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร จะบอกว่าเป็นนักศึกษาก็ไม่ใช่ อาจจะเพราะหน้าตาพี่คนนี้เรียกได้ว่าไม่เนียนไม่ต้องกลับมาเรียนใหม่ พระพายกลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อคิดได้ว่าอาจจะเป็นตัวเองก็เป็นได้ที่ทำให้เขามาที่นี่ ทว่าก็ดูเหมือนจะเข้าข้างตัวเองเกินไป
แต่นั่นแหละ….เป็นพระพายจริงๆ
“ที่ติวให้ออกสอบไหมครับ” รอยยิ้มที่มีมากมายก่ายกองของเขาเหมือนจะเจิดจ้าจนต้องหลบตา
“พะ…พี่เพชร” กว่านานที่พระพายจะหาเสียงตัวเองเจอ ที่หลบตานี่ก็ไม่ใช่ว่าเพราะเขาส่องสว่างอะไรอย่างนั้น แต่พระพายเขิน เดินมาก็เด่นแล้ว เข้ามาหากันทำไมเนี่ย คนอะไรทำตัวเป็นปัญหาเก่งจริงๆ
“ครับ พี่เพชรเอง พี่เพชรที่หล่อๆและช่วยติวให้พระพายไง”
“วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอครับ”
“ลาพักร้อนบ้างอะไรบ้าง คนเราต้องสร้างคุณค่าให้เจ้านายคิดถึงบ้าง” บางทีวันนี้คุณรบคงหนีบลูกและคนที่เขายัดเยียดตำแหน่งแม่ของลูกไปออฟฟิศด้วย คนบางคนที่เอะอะลางานบอกว่าสร้างคุณค่าควรระวังไว้ มโนไปคนเดียวระวังได้รับเงินชดเชยเชิญออกไม่รู้ตัว พระพายหรี่ตามองตาคนโดดเด่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ กระทืบเท้าก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนคิดว่ายังไม่โต
ว่าแต่เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคนบนโลกนะ!
“เอ่อ…พี่…หวัดดีค่ะ” พริมพราวที่ยืนมองอยู่นานตัดสินใจขัด ทัตที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ยกมือขึ้นไหว้ท่าทางงงงวยไม่ต่าง เพชรยิ้ม เขาตั้งใจมาหาน้องโดยเฉพาะ หลังจากเมื่อวานติวและเก็งข้อสอบให้พระพายที่ไม่มีแม้แต่เลคเชอร์ของพี่รหัส เราก็แยกย้ายกันไปเข้าห้องตัวเอง พระพายคงคิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก และได้ไปเจอกันที่กรุงเทพในฐานะน้องฝึกงานและพี่เลี้ยง ทว่าไม่เลย…
เขาใจกว้างกว่านั้นเยอะมาก
“มาขอติดรถพระพายเข้ากรุงเทพหน่อย ให้พี่นะครับ ถือว่าเป็นค่าติวเมื่อวาน”
“โอ้วววววววววว”
“อู้วววววว”
“พริมพราว ธนทัต” เสียงแข็งที่สุดในชีวิตพระพายแล้ว เพชรพิสุทธิ์ยิ้มกว้าง เขาดูคนน่ารักของรัตนสกุลที่กำลังเกรี้ยวกราดขั้นสุด แต่ใครจะกลัวได้ลงคอ ตอนโกรธนี่ยิ่งกว่าหน้าบีบอีก ถ้าจับบีบตอนนี้ต้องมีคนดิ้นตายอ่ะ คนๆนั้นชื่อเจนรักษ์
“โอ้ยล้อเล่นน่า ก็เมื่อกี๊ถามตั้งนานว่าใครติวให้ก็ไม่ยอมตอบ แต่เอาเจ้าตัวมาแสดงตัวแทน ร้ายกาจนะจ้ะ พระพาย”
“ร้ายกาจอะไร เขามาขอติดรถกลับหรอก ใช่ไหมครับพี่เพชร” พระพายหันไปขอคำยืนยันกับเขา
“ครับ แล้วก็ขอติดไปกินอาหารกลางวัน ไอติม และบิงซูด้วย”
“พี่เพชร” เกรงใจพระพายบ้าง ต่อให้คนจ่ายไม่ใช่พระพาย แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องเห็นแก่กินและอยากกินกับเขา
“พี่เลี้ยงขอบคุณที่ขับรถให้ไงครับ”
“พายไม่เอา ไปเลี้ยงคุณรบสิ คุณรบจ่ายค่าน้ำมันให้พระพาย”
“โหยยยยย พระพายไม่เอางี้ดิครับ อย่าเอะอะเอ่ยชื่อคุณรบ เดี๋ยวพี่เจนของพระพายมาแหกอกพี่ ถ้ารู้ถึงหูที่บ้านว่าพี่พาพระพายไปกินข้าวแล้วไม่เลี้ยงนี่พี่โดนหักเงินเดือนแน่นอน ถือว่าช่วยๆกันนะครับ” แล้วทำไมต้องพาไปกินข้าวให้มันลำบากถูกหักเงินเดือนเล่า! ยิ่งคุยกันพระพายยิ่งหงุดหงิด ที่หงุดหงิดนี่แปลกไม่แปลก ก็พี่เพชรพูดไม่รู้เรื่อง นี่พระพายงงหรือพระพายงง เฮ้อ….
“พระพายๆ” พริมพราวที่เห็นท่าไม่ดีเลยรีบเรียก คนตัวบางหันมามองหน้าง้ำ ยังไงก็ไม่ยอม ท่าทางหงุดหงิดนั่นไม่ต่างกับกระต่ายตอนหงุดหงิด เห็นแล้วสลดไม่ลงจริงๆ
“พริมพราว เราไม่ไป”
“น่า….รีบขอบคุณพี่เขาสิ ของฟรีดีจะตาย เนอะทัตเนอะ ขอบคุณพี่เพชรมากนะคะ ถ้าไงทัตกับพริมฝากตัวกับท้องมื้อนี้ด้วยนะคะ” เธอหันไปพยักเพยิดกับอีกคนก่อนจะหันมายิ้มร่าให้เขา จริงๆเพชรไม่ได้ชวนใครอื่น แต่ก็ดี! อยากเปย์นักใช่ไหม พระพายจะให้เปย์ให้หนำใจ! อย่าให้พระพายร้าย อย่าให้พระพายเกรี้ยวกราด!
“งั้นขอบคุณพี่เพชรนะครับ ไปกันเถอะ เดี๋ยวพายขับรถไปส่ง” พระพายรีบรวบความไม่เปิดช่องให้ปฏิเสธ เพชรพิสุทธิ์ยิ้มให้กับความแสบระดับอนุบาลของน้องที่ไม่ทันชาวบ้านเขา พอเพื่อนชี้ทางสว่างก็รีบตะครุบ หารู้ไม่ว่าแค่มองตาเพื่อนผู้หญิงของพระพายคนนี้เราก็เข้าใจกัน ถ้าเพื่อนไม่ไปด้วย เห็นทีวันนี้คงไม่ได้กินข้าวดีๆ คนน่ารักก็ดื้อได้เหมือนกันนะ จะซื้อใจกระต่ายก็ต้องพาคนเลี้ยงกระต่ายไปด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิ….
ชั่วช้ากันเป็นดรีมทีมจริงๆ….พระพายที่น่าสงสารของคุณหญิงพรรณี!
ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงตามมาถึงนี่ เหตุนั่นก็เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่มีเยอะเป็นปกติของเขาเอง แม้คุณนักรบจะเอ่ยปากพูดว่าให้มันน้อยๆลงหน่อย แต่ลืมไปแล้วเหรอว่าที่ได้ดีมีเมียเป็นของตัวเองทุกวันนี้….ไม่ใช่เพราะความเสือกของนายเพชรพิสุทธิ์ เจริญกิจธาราหรอกเหรอ??? นักรบนายกากอ่ะ กิ้วๆ ถ้าไม่มีแรงใจเดินเรือของชิปเปอร์ นายไม่ได้เห็นขาอ่อนของมนุษย์นกหรอก บอกไว้ด้วย!
และท่าทางแปลกๆของพระพายที่ได้เห็น….มันปลุกต่อมอยากรู้อยากเห็นของเขาให้เดือดพล่าน เห็นอย่างนี้นายเพชรพิสุทธิ์ก็เป็นนักศึกษามาก่อนเหมือนกัน เห็นกากๆแบบนี้ก็เรียนจบกับเขาด้วย มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะรู้ทันหรือมีสัญชาตญาณในบางเรื่อง แม้จะยอมรับว่าเรามันต่างยุคแต่ก็ปะติดปะต่อได้ไม่ยาก ก็ดูสิ รบเจนนี่ไม่เห็นมีอะไรในกอไผ่เท่าไหร่ หน้าก็ยังไม่ค่อยมองกัน แค่รูปเดินออกมาจากโรงหนังรูปเดียวนี่เป็นเรื่องเป็นราวเลย ถ้าผ่านการเป็นชิปเปอร์เรือผีที่มีโมเมนท์แห้งๆมาได้ สัจธรรมอะไรบนโลกก็ตรัสรู้ได้เหมือนกัน ไม่เกินความสามารถเลย
วันนั้นที่เห็นคนถ่ายรูปเขากับน้อง แว้บแรกก็พาลคิดไปถึงเพจ ‘บัณฑิตหล่อบอกต่อด้วย’ แต่มานึกได้ว่าหลังจากเข้ากรุง เขาก็กลายเป็นแรร์ไอเท็มของที่นี่ จะมีเด็กรุ่นน้องที่ไหนจดจำกันได้ว่าเขาเคยส่งยา เอ้ย! ไม่ใช่ เป็นนักศึกษามหาลัยดังไม่ไกลจากร้านผัดไทที่ไปกินเมื่อวานก่อน โดยเฉพาะท่าทางของพระพายที่แสดงออกว่าไม่พอใจจนลุกหนีนั่นเช่นกัน น้องไม่ได้เป็นคนแบบนี้เลย มันต้องมีเงี่ยนงำ เอ้ย! เงื่อนงำ นี่ใครนี่เพชรเอง เพชรที่ขี้เสือกไง จำได้ป่ะ ที่ขี้เสือกจนได้ดีเจ้านายมีเมียไปคนไง ถ้าเสือกอีกคุณรบอาจจะได้มีเมียอี 2-3 คนก็เป็นได้!
จะเรียกว่านี่คือสวัสดิการช่วยเหลือสมาชิกของเรือรบเจนก็ว่าได้ หลังจากที่คู่นั้นได้กัน กัปตันก็ไม่สนลูกเรือและจัดการพายกันเอง เล่นเอาว่างงานกันไปเป็นแถบ ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนแก่ที่บ้านรัตนสกุลต้องเหงาและเฉาตาย เพชรจึงได้เอาเรื่องที่พบเจอไปเพ็ดทูล เมื่อทราบได้คุณหญิงก็ตบเข่าฉาด ใครกล้ามาทำพระพายของเธอ! บอกเลยว่าเรื่องนี้ใครจะด่าลูกชายที่ชื่อนักรบว่ากากก็ได้ แต่ห้ามมาว่าร้ายพระพายเด็ดขาด ศักดิ์ศรีมันต่าง นี่พูดเลย!
แกต้องลางานไปเฝ้าน้อง!….คือประกาศิตสั่ง คุณรบเองที่โอ๋พระพายอยู่เงียบๆอย่างห่างๆด้วยความห่วงๆก็พยักหน้า ไม่แน่ใจว่าที่ให้เพชรหยุดกะทันหันนี่เพราะรำคาญจริงหรือแค่อยากส่งไปช่วยดูน้อง แต่ก็ถือว่ารัตนสกุลเปิดไฟเขียวแล้วสำหรับการกอบกู้วิกฤตให้ชีวิตมหาลัยของพระพายครั้งนี้ เพชรมั่นใจมากว่าถ้าเจนรักษ์รู้มันต้องสนุก นั่นเจนมือตบกับเพชรขาเสือกไง ดรีมทีมของวิชาชีพเลขาที่แท้ทรู
สิ่งแรกที่เขาทำคือการติดต่อสายรหัสที่ยังเรียนอยู่เผื่อว่าจะรู้อะไรบ้าง และมันไม่ทำให้เพชรผิดหวัง เพราะไม่นานพอบอกชื่อพระพายออกไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจนแม้แต่ข้อมูลการเขี่ยข้าวโพดอ่อนไปทิ้งในข้าวกล่องวันรับน้องมันก็บอก ยืนยันความเป็นคนดังของพระพายที่น่าตกใจให้ทราบ ก็รู้แหละว่าน้องหน้าตาและนิสัยน่ารัก….แต่คนน่ารักไม่ควรถูกกระทำแบบนั้น….
ทั้งหมดที่ว่ามาคือเหตุผลที่ทำให้เขามานั่งอยู่ที่นี่ กินข้าวกับพระพายและผองเพื่อนที่แกล้งหลอกมากินฟรี ก่อนจะมานั่งอยู่ในรถของรัตนสกุลในฐานะคนขับ แน่นอนสิว่าเขาต้องยึดมาขับเอง ใครจะใช้ให้คุณพระพายคนดีของคุณพรรณีขับให้กันล่ะ และแม้คนเซี้ยวจะสะใจกับการหลอกให้เขาเลี้ยงข้าวในตอนแรก แต่เมื่อเห็นเพื่อนของตนสั่งมากินแบบไม่ค่อยเกรงใจ เจ้าตัวก็กลับมานั่งหน้าหงอย
“พี่เพชรครับ”
“………..”
“เดี๋ยวพายจ่ายเงินคืนให้นะ”
“พี่เพชรบอกว่าเลี้ยงไงครับ”
“ง่า…ไม่เอา”
“ไม่เอาก็ต้องเอาครับ เพราะพี่จ่ายไปแล้ว”
“ได้ไงครับ พี่เพชรเสียเงินไปตั้งเยอะ”
“พระพายเสียดายแทนพี่เหรอครับ”
“พายเกรงใจ”
“คนกันเอง เกรงใจอะไรกันครับ”
“แต่พายรู้สึกไม่สบายใจ”
“งั้นเอาไว้วันหลังค่อยเรียกข้าวพี่ก็ได้นะ เราต้องเจอกันเกือบทุกวันเลยนี้นา” จะว่าไปก็จริง ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป พระพายก็จะได้ฝึกงานกับรัตนสกุลแล้ว และก็คงจะได้เจอกันทุกวัน บางทีที่เขามาหานี่ก็เพื่อที่จะทำให้เราสนิทสนมกันก่อนเริ่มงานจริง จะได้ไม่อึดอัด
รถของพระพายที่เพชรขับให้เลี้ยวเข้ามาในประตูบ้านหลังใหญ่ พระพายกำลังลังเลอยู่เลยว่าตนควรจะทำอย่างไรเพื่อไปส่งเขา เท่าที่รู้คือคุณเพชรนั้นอยู่คอนโดไม่ไกลจากที่นี่ บางทีพระพายก็ไม่ควรปล่อยให้เขาขับมาแต่แรก ถ้าตนขับ…บางทีก็อาจจะปล่อยเขาไว้ที่ไหนสักแห่งหรือไปส่งเขาที่พักก่อน คนลางานมาก็อยากจะพักผ่อนจริงไหม มาส่งกันแบบนี้แล้วเขาจะกลับยังไง อย่าบอกนะว่าพระพายจะต้องย้อนไปส่งอีกรอบ?
“นี่พี่โทรบอกคนที่บ้านแล้วว่าวันนี้จะแวะมากินข้าวด้วย” ทำเหมือนเป็นบ้านตัวเองไปแล้วเนอะคนเรา พระพายก็ได้แต่พยักหน้าเออออ จะว่าไปเพชรก็มาเกาะกินฟรีอย่างนี้บ่อยๆ ไม่ใช่เงินพระพายนี่ จะไปวิจารณ์ก็ไม่ใช่เรื่องเนอะ เพชรนั้นเข้าไปจอดรถอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคย เราเดินออกจากโรงรถเพื่อเข้าไปในตัวบ้านที่เงียบสงบ พระพายรู้สึกมีความสุขเมื่อได้กลับมาที่นี่ แม้พูดไม่ได้เต็มปากว่าบ้านหลังนี้เป็นของตน แต่ความรักที่คนในบ้านนี้ให้
พระพายสามารถครอบครองมันไว้ได้ทั้งหมด!
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้ะพระพาย” เสียงของพี่เจนที่ดังออกมาทำให้พระพายตกใจ น้องวินในชุดกบเคโระโระในอ้อมกอดก็ตื่นเต้น โชว์ยิ้มกว้าง น้องมีฟันขึ้นแล้ว มันน่าเอ็นดูเสียจนต้องเข้าไปหยอกเอิน
“หวัดดีครับพี่เจน ไหนๆน้องวินของพี่พายอยู่ไหน โตเป็นหนุ่มแล้วววววว” เจนส่งน้องให้พระพายอุ้มแต่โดยดี น้องวินที่เหมือนจะไม่ได้เจอพระพายมานานก็ตื่นเต้นส่งเสียงทักทายหัวเราะอย่างอารมณ์ดีใหญ่ เริ่มเข้าใจพี่เจนขึ้นมานิดๆว่าทำไมถึงติดน้องได้ขนาดนี้ ก็เพราะความนุ่มนิ่มและทุกสิ่งที่เป็นน้องวินที่สามารถเยียวยาคนรอบข้างได้จริงๆนี่ไง น่ารักเสียจนเห็นแล้วทนไม่ไหว ใครใจแข็งได้ก็ยอดมนุษย์เสียแล้ว
“ปะปาย ยายา”
“พี่พายก็คิดถึงน้องวินครับ” จริงๆก็คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกแต่ก็อยากตอบอยากคุยด้วยเหมือนกัน
“ไหนคิสพี่พายหน่อยสิน้องวิน พี่พายมาเหนื่อยๆ คิสพี่พายให้หายเหนื่อยเร็วๆ” และน้องก็พูดง่าย เจ้าตัวเล็กยื่นหน้าไปชนปากคนตัวบางตามคำสั่ง ให้ตายเหอะตอนบอกให้คิสป๊ะป๋านี่ทำที่แก้มนะ กับพี่พระพายนี่ ที่ปากเลยเหรอ เจ้าชู้ได้ใครกัน เจนรักษ์ต้องระวังคุณรบไว้บ้างไหม
เราผู้ใหญ่สามคนและเด็กน้อยน่ารักอีกคนเดินเข้าไปในห้องทานข้าว คาดว่าทุกคนคงรอกันอยู่ วันนี้เป็นวันที่พระพายรู้สึกโล่งใจที่สุดแม้ไม่รู้ว่าเกรดจะออกเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าทำเต็มที่ อย่างไรก็ตามไม่มีที่ไหนดีเท่าสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรัก พระพายคิดเช่นนั้นและตั้งใจจะวิ่งเข้าไปโผกอดแม่ที่น่าจะกำลังตักข้าวให้กับทุกคน ทว่าภาพที่เห็นกลับทำให้พระพายหยุดนิ่ง
ไม่มีแม่ที่กำลังตักข้าว….ไม่มีป้าไพที่กำลังรินน้ำ
แต่อาหารทุกอย่างที่ดูมากมายกลับทุกจัดเรียบร้อย….และห้องทานข้าวก็ถูกตกแต่งด้วยสายรุ้งมากมาย
“ยินดีต้อนรับพระพายกลับบ้านจ้า” พระพายไม่แน่ใจว่าคนพูดประโยคนี้มีใครบ้างเพราะเหมือนน้ำตาจะเอ่อจนมองอะไรไม่เห็น มือที่ยังอุ้มน้องวินกระชับแน่นด้วยกลัวว่าความอ่อนแอในใจที่กำลังถูกเติมเต็มจะทำให้อ่อนแรงจนเผลอทำน้องหลุดมือ พี่เจนที่พอจะเข้าใจความอ่อนไหวจึงช่วยพาน้องออกจากอ้อมกอดของพระพาย และปล่อยให้คุณหญิงเจ้าของบ้านที่กรุณาพระพายอย่างเป็นที่สุดได้สวมกอดเพื่อปลอบขวัญ พระพายเป็นใครกันสำหรับบ้านนี้ ทำไมถึงได้รับความรักมากมาย….
“ร้องอะไรกันลูก ไม่ร้องสิ” คุณพรรณีเอ่ยปลอบ สำหรับเธอนั้น ไม่ได้เอ็นดูเด็กคนนี้เพียงเพราะหน้าตา แต่ตั้งแต่ที่เด็กคนนี้มาอยู่ด้วย ทุกอย่างเธอไหว้วานได้ ไม่สบายพระพายก็คอยเฝ้า ทำหน้าที่ที่ไม่ใช่ของตนได้ดีราวลูกหลานคนหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่จะได้รับความเอ็นดูมากมาย
ในส่วนของนักรบนั้นเขามัวแต่ทำงาน ไม่ใช่ว่าไม่รักหรือห่วงใยแม่ แต่เขาไม่สามารถทิ้งงานได้ เพราะภาระรับผิดชอบต่อคนเป็นร้อยเป็นพันมันมากเกินจนไม่อาจจะทุ่มเทให้กัน มันอาจจะดูเหมือนไร้เหตุผลหรือมีข้ออ้างที่จะปัดความรับผิดชอบ แต่เขารู้ว่าพระพายยินดี และก็อยากจะมั่นใจว่าคนที่ทำหน้าที่บางอย่างแทนเขามาตลอดจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด วันนี้เขาจึงกลับบ้านเร็วอย่างเต็มใจ
ส่วนเจนรักษ์นั้นพระพายถือเป็นน้องชายที่ถูกชะตาแต่แรก แม้เจนในช่วงแรกจะมีปัญหากับแม่ของพระพาย แต่เด็กน้อยไม่เคยไม่ให้ความยุติธรรมต่อกัน และพระพายก็ทำให้เจนได้เห็นภาพบางอย่างของตัวเอง เรามีความคล้ายที่ต่าง แต่โดยรวมเราล้วนโชคดีในความขาดๆเกินๆเหมือนกัน สำหรับเจนนั้นพระพายควรจะได้รับความรักที่ดี น้องควรจะมีความสุขให้สมกับสิ่งที่น้องทำ และเมื่อมีคนขี้เสือกบางคนมาใส่ไฟให้ฟังว่าพระพายโดนกระทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตนแทบเต้นไปมหาลัยพระพายเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่าคุณรบห้ามไว้ วันนี้คนขับรถกลับให้พระพายต้องไม่ใช่อีตาเพชรแน่นอน!
“มีแต่ของโปรดพระพาย พี่เจนอบเค้กไว้ด้วย”
“พี่เจน…” และเพราะทำอะไรเพื่อช่วยไม่ได้ พวกเราจึงตัดสินใจที่จะปลอบขวัญน้อง พระพายเองก็มีสำนึกต่อตนเองต่ำเกินไป น้องทนแบกรับความเจ็บปวดโดยไม่โต้ตอบ และไม่บอกใครให้ต้องคิดมากไปด้วย บอกแล้วว่าในสายตาของเจน พระพายนั้นนางเอกตัวจริงของเรื่องนี้ ส่วนตนน่ะนางอิจฉาที่เป็นลูกคนใช้ ส่วนคุณรบน่ะตัวร้ายเลย ร้ายมากๆ ถ้าไม่รวยนี่ไม่แน่ใจว่ายังมีดีอยู่ไหม….
“รีบกินกันเถอะ เดี๋ยวเย็นหมดนะจ้ะพระพาย” ป้าไพนั้นยิ้มให้กัน ช่วงหลังๆแม่กับป้าไพนั้นเหมือนจะญาติดีกันขึ้นมา พระพายชอบบ้านรัตนสกุลตอนนี้ที่สุด คนตัวบางเดินเข้าไปกอดป้าที่ใจดีต่อกันมาเสมอแม้ว่าจะเคืองโกรธแม่ของพระพายอยู่ ก่อนที่ดวงตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาเกาะบนขนตาที่เรียงตัวสวยจะมองเห็นแม่ของตนที่ยืนอยู่ข้างหลัง แม่ไม่ยิ้ม แต่แม่…ก็ไม่ได้ทำหน้าเคืองโกรธกัน และนั่นทำให้พระพายรู้ว่า แม่เองก็ดีใจที่พระพายกลับมา
“พายกลับมาแล้วครับแม่” เมื่อผละจากป้าไพ พระพายก็สวมกอดคนเป็นแม่ แน่นอนว่าจินตนาไม่ใช่คนที่ยิ้มเก่ง เธอเป็นคนโผงผางติดจะหน้าบึ้ง หากแต่ทุกคนในบ้านรู้ว่าเธอเป็นคนจริงใจแต่ปากร้ายไปอย่างนั้น เธอกอดลูกชายกลับ พอได้ยินเรื่องนั้นที่พระพายเจอ หัวใจคนเป็นแม่ย่อมเจ็บปวด และเจ็บยิ่งกว่าที่ต้องมารู้จากปากคนอื่น ทว่ากำลังของเธอที่มีอยู่แค่นี้ มันทำให้ยิ่งรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้ จึงดีใจเหลือเกินที่ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ห่วงใยพระพาย
ในวันนั้นเธอช่างโชคดีที่มีความกล้าที่จะเปิดประตูเข้ามาของานทำที่นี่….
“ทำไมแกนี่ไม่เหมือนฉันเลยนะ” หรือบางทีเราก็อาจจะมีความคล้ายกันเกินไป ในบางด้านที่ไม่มีใครเคยรู้
“แม่ไม่ร้องนะ” พระพายพูด มองดวงตาของแม่ที่มีคราบน้ำตาก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระพายยิ่งโทษตัวเองกับการจัดการปัญหาที่ไม่ได้เรื่อง แต่การนิ่งเฉยก็ถือเป็นการแก้ที่ดีอย่างหนึ่งไม่ใช่หรือไง ใช่…ถ้าเราไม่สนใจ ก็ไม่มีใครเดินเอามีดมาแทงกันเพราะเรื่องงี่เง่าแบบนั้นหรอก แต่ถ้าพระพายไม่สนใจจริงๆก็ดี คำว่าพระพายโอเคมันก็แค่คำปลอบใจ เพราะจริงๆแล้วตัวเองก็แค่พยายามจะรับมันให้ได้และอยู่กับมันโดยหลอกกันต่อไปว่าไม่เจ็บอะไร
สิ่งที่ทำอยู่มันไม่ต่างกับการหนีเลย….
“พายกลับมาหาแม่แล้ว” พระพายยิ้มทั้งน้ำตา และแม่ก็ยิ้มตอบ พระพายเคยคิดมาตลอดว่าแม่เป็นคนที่ยิ้มแล้วดูสวยมาก แต่แม่ก็ไม่ค่อยยิ้ม ถ้ามองดีๆจะเห็นได้ว่ารอยยิ้มของเราแม่ลูกมีความคล้ายกัน แม้ว่าพระพายจะไม่ได้หน้าเหมือนแม่ แต่รอยยิ้มทำให้เราดูไม่ต่าง และตอนนี้เราก็มีความสุขดีในอ้อมกอดของกันและกัน โดยมีอ้อมกอดของรัตนสกุลที่ให้ไออุ่นมาตลอดสิบกว่าปีล้อมรอบอีกที พระพายรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย และคอมฟอร์ทโซนนี่อาจจะสปอยล์กันโดยไม่รู้ตัว เมื่อตนต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกคนเดียว ก็เลยทำมันเละไม่เป็นท่าแบบนี้ การเป็นพระพายคนดีในบ้านหลังนี้อาจจะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง
แต่การเป็นคนดี….ไม่ได้แปลว่าสังคมจะดีกลับมาตลอดไป
พระพายควรจะทำอย่างไรในเมื่อตัวตนของตนมันเป็นเช่นนี้มาตลอด มันก็น่ารำคาญใจเช่นกันที่ประกาศตัวว่าอยากเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือรัตนสกุล ทว่ากับเรื่องส่วนตัวแค่นี้พระพายยังแก้ไขไม่ได้ แถมนิสัยของตนกลับกลายเป็นดาบสองคมให้คนเข้ามาทำร้าย ไม่มีใครที่ดีที่สุดได้จริงๆ มนุษย์คือสิ่งที่ซับซ้อนไม่ซื่อตรง ดังนั้นต่อให้พระพายตรงไปตรงมา ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะยอมรับ ทำดี…แต่ไม่เป็นที่รักมันเป็นเช่นนี้นั่นเอง
เรามานั่งกินข้าวและพูดคุยกัน ปาร์ตี้แสดงความยินดีกับการจบปี 1 ของพระพายนั้นริเริ่มโดยพี่เจนที่หงุดหงิดงุ่นง่านใจที่ทำอะไรไม่ได้ โดยมีคนที่คุณก็รู้ว่าใครเสี้ยมอยู่ข้างหลัง แม้แต่คุณรบที่มักจะหนีอีเวนท์ครอบครัว ครั้งนี้เขาก็เข้าร่วม มันทำให้พระพายรู้สึกดีขึ้นที่ได้เห็นความใส่ใจจากทุกคนที่พระพายรักและเคารพ ความวุ่นวายที่ใครบางคนถือวิสาสะเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยไม่ขอนี่ จะเรียกว่าเป็นเรื่องที่ควรโกรธหรือขอบคุณดีล่ะ พระพายสับสนไปหมดแล้วและทุกครั้งที่หันไปมองตัวปัญหาของตน ก็มักจะได้เห็นรอยยิ้มของคนที่ช่วงนี้ทำอะไรดีๆให้กันมากมาย เขายิ้มได้ทั้งวันแบบนั้นเพราะเขามีความสุข หรือเพราะอะไรกันหนอ….
“ยินดีด้วยนะครับ” เขาพูด ไม่มีเสียงออกมาจากริมฝีปากนั้น แต่ทุกสิ่งส่งเข้ามาที่ใจพระพาย ชั่วขณะที่บ้านรัตนสกุลมีแต่เสียงพูดคุยอันเต็มไปด้วยความสุข เมื่อดวงตาของเพชรและพระพายสบกัน พวกเขาเหมือนถูกตัดฉับเข้าไปสู่โลกที่ไม่มีใครเข้าใจว่ามันคือที่ไหน พระพายนั้นไม่เหมาะสมกับพี่เพชรจริงๆในตอนนี้
แต่ในอนาคต….พระพายจะก้าวข้ามจุดนี้ของตัวเองไปหาเขาได้ใช่ไหม…
รักครั้งแรกของพระพาย….
Talk: ตัดฉึบแบบเอ๊ะ ไม่จริงใช่ไหม ใครรักครั้งแรกของพระพายนะ หืมมมมมม ได้เหรอไรงี้
เราจะมาอัพเดทเรื่อยๆเกี่ยวกับวันลงนิยาย ไม่ได้กำหนด ตามความสะดวกเลยค่ะ555
วันก่อนเราเพิ่งประกาศเรื่องตอนพิเศษของน้องวิน
ก็มีนักอ่านที่คิดขึ้นได้ว่าเราไม่เคยเห็นน้องวินแสดงความเห็นอะไรในเจนไม่นกเลย นั่นแหละค่ะตอนพิเศษของน้องวิน
เราจะมาเปิดเผยความรู้สึกของทารกกันนะคะ5555 และตอนนี้เราก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสได้ทำตอนพิเศษของน้อง
ในแบบที่โตแล้วพร้อมจะมีแควนเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปแย่งเจนกับพ่อแล้วไรงี้
มาติดตามกันนะคะว่าจะได้ทำไหม แต่อยากทำอ่ะ อยากทำมากกกกกกกกกกกก
ฝากรักพระเอกผู้ทรหดของเราคนนี้ด้วยนะคะ มาดูว่าน้องจะยอมขึ้นเรือไหม แต่เอ๊ะน้องก็ชอบพี่เขานี่จะไม่ลงเรือจริงๆเหรอ
มาดูกันค่ะ มาดู5555
ฝากแท้ก #เพชรพระพาย คู่ #เจนไม่นก
Twitter @reallyuri
Facebook :
https://www.facebook.com/Skylover-x-novels-249101909234202