## Destiny love ท้าชะตาเปลี่ยนรัก บทที่32 8/7/2018 หน้า8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## Destiny love ท้าชะตาเปลี่ยนรัก บทที่32 8/7/2018 หน้า8  (อ่าน 30400 ครั้ง)

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พระเอกคือใคร :hao4:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
กานดาจะร้ายไปไหน

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่14

หลังจากเดินออกมาจากกองถ่ายไปยังรถ จิระก็ถอนหายใจออกมา พลอยชมพูหันมาส่งยิ้มให้

“สงสัยว่าผมคงถูกเล่นงานหนักอีกแล้วแน่ๆ”

“หมายถึงพวกนักข่าวหรือคะ”

“อื้อ...ข่าวแย่ๆ มันไปไวนะครับ แถมเจ็บตัวด้วยอีกแน่ะ”

“คุณเก็บอารมณ์ได้ดีมากเลยนะคะ ฉันเห็นทั้งสองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น”

“คุณหลบอยู่มุมไหนนี่” จิระหันไปมองมือข้างหนึ่งยังใช้น้ำแข็งประคบอยู่

“ขอโทษนะคะที่ฉันไม่ออกไป ถ้าฉันไปร่วมเหตุการณ์ด้วยเกรงว่ามันจะเลยเถิดกลายเป็นช่วยกันรังแกไปเปล่าๆ”

“งั้นก็ดีแล้วครับ” จิระยิ้มๆ “เดี๋ยวก่อนไปโรงพยาบาลไปรับดารันก่อนนะครับ น่าจะได้เวลาเลิกคลาสของเขาแล้ว”

“ค่ะ” พลอยชมพูหมุนพวกมาลัยหักรถเปลี่ยนเลนมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนสอนการแสดงของดารันทันที



“ไหงถึงหน้าเยินได้ขนาดนี้” พอเจอหน้ากันดารันก็ถามถึงทันที

“แย่ขนาดนั้นเชียว” จิระนึกอยากส่องกระจกขึ้นมานิดๆ

“ก็ไม่ขนาดนั้น เกิดอะไรขึ้นถึงได้หน้าช้ำแบบนี้ล่ะ”

“ก็นะ....” จิระเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง พอเล่าจบดารันก็หัวเราะชอบใจ

“นายหัวเราะที่ฉันเจ็บตัวหรือไง”

“เออสิ...” ดารันกระตุกยิ้ม จริงๆ มันประหลาดมากที่จู่ๆ จิระเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ถึงคนอื่นไม่สังเกต แต่คนที่เป็นคู่ปรับมาตลอดอย่างเขาย่อมรู้ดี ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คิดอยากค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักนิด

“ท่าทางจะโง่ลงนะ ยอมเจ็บตัวตั้งสองครั้ง แถมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้นักข่าวจะเอาไปลือยังไง แย่จังเลยนะ”

“นึกว่าจะสงสารฉันซักนิด”

“อย่ามาทำอ่อนแอ นายน่าจะเตรียมใจตั้งแต่มาเป็นนักแสดงแล้วนี่ การเป็นคนของประชน ต้องเจอข่าวซุบซิบทั้งทางดีทางร้าย ถ้าทนไม่ได้ก็เลิกทำอาชีพนี้ไปดีกว่า”

ดารันพูดด้วยเสียงที่เข้มงวด เขาไม่ใช่คนละเอียดอ่อนนักเพราะงั้นจึงพูดตรงๆ และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจิระที่ผ่านมา หากทำตัวอ่อนโยนคงจะดูตลก เสแสร้ง และประดักประเดิด

จิระไม่พูดอะไรทำเพียงแค่ส่งยิ้มกลับไป เขาเข้าใจสิ่งที่ดารันพูดดี ในชาติที่แล้วเขาล้มลุกคลุกคลานกับข่าวลือพวกนี้มามาก ร้องไห้เสียใจหรือหวั่นกลัวก็มากเช่นกัน แต่หลังจากเข้าใจโลกนี้ดีขึ้น เขาก็แทบไม่รู้สึกอะไรมากนัก

เรื่องของกานดาวันนี้ก็เหมือนกัน สิ่งเดียวที่จะขจัดคำนินทาไปได้ คือตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ให้ความเป็นมืออาชีพกลบทับข่าวลือในทางลบออกไป



เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจิระได้รับการตรวจจากคุณหมอประจำตัว ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักพอออกมารับยาก็พบว่าเพทายมาหาเขาถึงที่

“มาได้ยังไง” จิระยิ้มจนแก้มปริ

“แก้มคุณช้ำ” เพทายใช้ปลายนิ้วจับคางจิระก่อนจะขยับเพื่อให้สามารถเห็นรอยช้ำได้ถนัดๆ

“พรุ่งนี้ยังต้องถ่ายหนังอีกไหมครับ” เพทายถาม

“ไม่ต้อง ผู้กำกับให้พักได้หนึ่งวัน”

เพทายฟังคำตอบแล้วคลี่ยิ้ม “ดีจริง ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณไปกับผมตามสัญญานะครับ”

ไม่นึกว่านัดเดตครั้งที่สองจะเร็วขนาดนี้ ทั้งที่นึกว่างานรัดตัวเพทายจนขยับทำอะไรไม่ได้เลยแท้ๆ

“ได้ยินจากคุณปู่ว่างานนายยุ่งมาก พรุ่งนี้แน่ใจนะว่าจะว่าง”

“ผมไม่ผิดสัญญาแน่”

“อื้อ...”

เพราะว่าจิระทำตัวว่าง่าย เพทายจึงใช้มือลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ คนตัวเล็กกว่ารับตาพริ้มเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ที่น่ารักมากเหลือเกินในสายตาเพทาย

แต่สำหรับกับจินดาที่มาเห็นโดยบังเอิญกับดารันแล้วมันชวนให้ประหลาดใจมาก คนเป็นแม่ที่รีบมาโรงพยาบาลเพราะได้รับแจ้งจากพลอยชมพูตั้งใจมาดูอาการลูกชาย

กลับพบว่าเพทายที่น่าจะปลดเปลื้องภาระในการดูแลจิระไปแล้วปรากฏตัวข้างกายลูกชายของเธอ แถมปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนช่างหวานแหวว...

ใช่หวานแหวว ลูกชายของเธอที่เคยเกลียดเพทายมากมาก่อนนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เพทายที่เยือกเย็นและเฉยชาต่อจิระทุกสถานการณ์คนนั้นกลับทำเหมือนรักและเอ็นดูจิระมากมายขนาดนี้

คราวก่อนตอนที่เข้ามารับหมัดคมสันแทนจิระก็คิดไปอาจแค่เป็นห่วงเป็นใยกันเฉยๆ ไอ้แบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้คมสันเดือดดาลจนลงมือ

จริงๆ ถ้าจิระรักใครชอบใครสำหรับเธอขอแค่คนคนนั้นเป็นคนดีก็พอ เพทายก็ใช่ว่าไม่ดี แต่หลังจากฟังเรื่องของเด็กคนนี้จากคมสันมา เธอก็เริ่มกังวลแปลกๆ

เริ่มคิดไปว่าจิระอาจถูกเพทายล่อลวงลับหลังอะไรทำนองนี้ ขณะที่จะเดินออกไปหาลูกชายก็พบว่าจากอีกฝั่ง หม่อมเจ้าภาคิน เดินมาและตรงไปหาจิระ

แย่เลย เขาเห็นฉากที่เพทายลูบหัวและจิระหลับตาพริ้มพอดิบพอดี เธอไม่อยากคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น จินดาตัดสินใจแอบสังเกตการณ์ไปก่อน



ดารันมองดูภาพหวานแหววและบรรยากาศสีชมพูของจิระกับเพทายด้วยความประหลาดใจนิดๆ แต่ก็นั่นแหละ มันไม่ใช่เรื่องของเขา คิดอย่างนั้นจวบจนภาคินแฟนของพี่ชายต่างมารดาปรากฏตัว

ดารันยังนึกแปลกใจตัวเองเลยที่รู้สึกเป็นห่วงเกรงว่าจะเกิดเรื่อง

“ฉันได้ข่าวว่าเธอบาดเจ็บก็เลยรีบมาดู ไม่นึกว่าจะมีคนตัดหน้าคอยดูแลเสียก่อน” ภาคินยังยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิม ขณะที่ภายในหัวประมวลภาพเหตุการณ์ที่เห็นอย่างฉับไว

<จิระไม่ได้เกลียดเพทายอย่างนั้นหรือไง เมื่อกี้นี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนเกลียดกัน มันดูไปคล้ายคนรักที่กำลังอวดความสนิทสนมให้คนอื่นเห็นมากกว่า>

“คุณพี่เลี้ยงก็ยังดูแลจิระดีเหมือนเดิมนะ จิระเขาโตแล้วไม่จำเป็นต้องตามทุกฝีก้าวมั้ง”

“คุณจิระเป็นเด็กชายตัวน้อยที่น่ารักในสายตาของผมเสมอ”

แม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนจิระให้เป็นแบบไหนก็ตาม เพทายคิดอย่างนั้น

“ความภักดีแบบนั้นมาจากไหนกันเพทาย ไหนลองบอกให้ฉันฟังที”

เพทายไม่เสียเวลาครุ่นคิดเขาตอบคำถามภาคินอย่างง่ายดาย

“นับตั้งแต่คุณจิระเลือกที่จะเข้ามาคุยกับผมท่ามกลางผู้คนมากมายผมก็มองแต่เขามาโดยตลอด”

ภาคินกระตุกยิ้ม เขาไม่รู้หรอกนะว่าไอ้เหตุการณ์ที่ว่ามันคือตอนไหนและเมื่อไหร่ แต่เขาเริ่มไม่สบอารมณ์ “พูดจาเหมือนบอกรักเลยนะ”

พอภาคินจุดประเด็น จิระก็ใจเต้นตึกตัก ชาติที่แล้วเขาลงเอยกับเพทายก็จริง แต่ฝ่ายนั้นยังไม่เคยพูดความในใจให้เขาฟัง นั่นเป็นเพราะช่วงเวลาที่คุณสามีดูแลเพื่อให้เขาคลายความเศร้า จิระเป็นฝ่ายเอาแต่ใจและพูดเรื่องของตัวเองฝ่ายเดียวตลอด

<เพทายเขาทนเราได้ยังไงกันนะ> คิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆ เขาอยากฟังความในใจของเพทาย <ถ้าเขารักเราอีกครั้งเมื่อไหร่ คราวนี้จะถามว่าเพทายเห็นดีอะไรในตัวเรา>

จะว่าไปด้วยคำพูดเมื่อกี้ จิระเดาเอาจากความทรงจำเลือนลาง เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 6 ขวบ เขาเป็นคนเข้าไปทักเพทายที่ยืนโดดเดี่ยวและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

เพทายฝังใจกับเขาด้วยเรื่องเพียงเท่านี้น่ะหรือ เรื่องเพียงเล็กน้อยแค่นี้

<บ้าจริงทำไมเราถึงจำเรื่องตอนนั้นไม่ได้นะ>

“ตายจริง ทำไมอยู่กันพร้อมหน้าเลยล่ะจ๊ะ”

การปรากฏตัวของจินดา ทำให้บรรยากาศกดดันอันตรธานหายไป เธอเลือกที่จะโผล่มาในจังหวะนี้ เพราะไม่ต้องการให้ลูกชายคนดีของเธอถูกต้อนจนมุม

“สวัสดีครับคุณแม่” ภาคินไหว้จินดา จินดารับไหว้

“ผมได้ข่าวว่าจิระบาดเจ็บเลยลองมาดูที่โรงพยาบาลประจำของเขาน่ะครับ”

“ขอบใจมากนะภาคินที่ดูแลน้องเสมอเลย แล้วนี่จะกลับเลยหรือเปล่าจ๊ะ”

“ผมตั้งใจว่าจะชวนจิระไปทานข้าว แต่ดูท่าทางคงต้องเป็นคราวหน้า คนที่บ้านเขามากันเยอะแยะ ผมไม่กล้าตัดหน้าพาเขาไปเถลไถลหรอกครับ”

“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ไม่ต้องเกรงใจน้าหรอกนะภาคิน”

ภาคินขมวดคิ้ว สรรพนามแทนตัวของจินดาซึ่งใช้กับเขาเปลี่ยนไป ปกติจะแทนตัวเองเป็นแม่แต่คราวนี้ใช้เป็นน้าเสียนี่

“คุณแม่คงรู้แล้วว่าเราสองคนเลิกกัน”

“อ๋อ...จะ” เธอไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหม นี่เด็กรุ่นลูกแผ่รัศมีกดดันเธอหรือนี่ ทั้งที่ภาคินกำลังยิ้มแท้ๆ

“คุณแม่คงไม่รังเกียจใช่ไหมครับ ถ้าเกิดผมจะขอเวลาทำให้จิระกลับมารักผมใหม่”

จิระเม้มปากเข้าหากัน นึกอยากต่อว่าภาคินให้เลิกตื้อตัวเองได้แล้ว แต่พอหันไปมองเพทายอีกฝ่ายส่งสัญญาณมาให้เขานิ่งเฉย ดังนั้นจิระจึงไม่พูดอะไร

“ฉันไม่รู้นะว่านายทำอะไร” ภาคินหันมาประกาศสงครามกับเพทาย

“แต่ฉันเองก็มีความพยายามไม่แพ้ใครเหมือนกัน” ขณะที่พูดภาคินหันมามองจิระ สายตาเขาดูมั่นใจในตัวเอง เหมือนนักรบที่พร้อมฟันฝ่าทุกอย่าง

“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณแม่” ภาคินไหว้จินดาอีกครั้ง

“จะ กลับบ้านดีๆ นะ”

“ครับไว้ผมจะหาเวลาว่างไปเยี่ยมคุณแม่ที่บ้านมกรธวัช”

“จะ”

พายุได้สลายตัวไปแล้ว จิระสบตากับเพทาย สายตาของอีกฝ่ายช่างอ่อนโยนเหลือเกิน

“ช่วยเล่าหน่อยได้ไหม เรื่องสมัยเด็กของฉัน”

จิระลืมไปว่ารอบกายมีใครอยู่ เพทายคลี่ยิ้มอ่อนโยน ยังไม่ทันได้รับคำตอบจินดาก็เข้ามาขวางเสียก่อน

“เอาล่ะกลับบ้านเถอะ เพทายเธอเองก็น่าจะมีงานอยู่ใช่ไหม”

เมื่อถูกจินดาเตือนเพทายก็ยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู

“ผมต้องไปแล้วจริงๆ ต้องพาท่านวศินไปตีกอร์ฟที่บ้านเพื่อนของท่านน่ะครับ”

“ตายจริงคุณพ่อมาด้วยหรือเนี่ย”

“ท่านคุยกับเพื่อนของท่านอยู่ที่คาเฟ่ใกล้ๆ นี่ ท่านจินดาไปอาจทำให้ท่านวศินไม่สะดวก”

เมื่อเพทายหาทางลงให้แบบนี้ จินดาก็โล่งใจ เธอยังไม่อยากให้จิระเจอคุณพ่อตอนนี้ เรื่องอาการบาดเจ็บจากการทำงานเธอจะเข้าไปพูดกับคุณพ่อเอง ก็ถ้าท่านถามน่ะนะ

“งั้นเรากลับบ้านกัน คุณชมพูกลับได้เลยนะเดี๋ยวฉันจะพาลูกชายสองคนกลับเอง”

ออกคำสั่งจบเธอก็พาดารันกลับจิระไปยังรถ ระหว่างทางกลับบ้านเธอลอบสังเกตปฏิสัมพันธ์ระหว่างจิระและดารันอย่างเงียบๆ

ประหลาด ประหลาดมากๆ เด็กสองคนนี้สามารถนั่งใกล้กันโดยไม่ทะเลาะกันได้ จิระก็อ่านบทของตัวเองไป ส่วนดารันก็เล่นมือถือเงียบๆ

ปกติแค่มองหน้ากันยังแยกเขี้ยวใส่กันเลย ตั้งแต่ลูกชายเธอกลับมาจากการแข่งรายการเรียลลิตี้ ก็มีเรื่องให้ประหลาดใจเพิ่มขึ้นทุกวัน

ลูกชายเธอเติบโตขึ้นแล้ว จินดาใช้ข้ออ้างนี้ในการหาคำอธิบายทั้งหมด เธอจะคิดมากทำไมเมื่อพี่น้องเขาไม่ทะเลาะกัน เธอไม่ชอบดารินก็จริงแต่ไม่นึกเกลียดดารัน

เธอคิดเสมอว่าเด็กที่เกิดมาไม่ผิด เขาเลือกเกิดไม่ได้ หากเธอจะรังเกียจต้องมาจากพฤติกรรมหยาบช้า ซึ่งดารันไม่เป็นแบบนั้น

“จิระเดี๋ยวไปห้องของแม่นะ แม่มีเรื่องจะคุยกับลูก” เธอบอกจิระหลังจากกลับมาถึงบ้านมกรธวัชแล้ว





+++++++++++++++

เบิ้ลสองตอนได้เพราะเป็นวันหยุด ฮิฮิฮุฮุ 

เด๋วกลับไปเล่นcivilaizationต่อ พระเอกเป็นใครไม่น่าเดากันยากนะ ไม่ซับซ้อน

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มาสองตอนเลย :mew1:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ใครพระเอก :hao4:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ดีใจที่เปิดมาเจออีกตอน อร๊ายยยยย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ยังไม่แน่ใจว่าใครพระเอก แต่ทีมเพทายเต็มกำลังเลยค่ะ


คนแต่งแต่งดีมากอ่ะ เราชอบบบบ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


พระเอกเป็นใครกันนะ ไม่น่าเดายาก.  เหรอออออ5555


2ตัวเลือกอยู่ดีอ่ะ. เพทายนักธุรกิจไฟแรง กับ พัชรผู้กำกับหนุ่ม


ชาตินี้อาจเปลี่ยนแปลงไปจากชาติที่แล้วไหม. จากพฤติกรรมของจิระ


สิ่งดีๆจะเข้ามาในชีวิตและครอบครัวน่ะ.


ดูอย่างภาคินซิ. ยังกลับมาง้องอนตามตื้อจิระอยู่เลย.


อ่ะ.  เชียร์ผัวเก่าเหมือนเดิมก้อได้ก้อได้.


#ทีมเพทาย





 :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:



..



ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่15

จิระตามจินดาไปยังห้องส่วนตัวของแม่ ถูกเรียกให้ไปนั่งข้างๆ กันบนเตียง แม่ดูมีท่าทางอึดอัดและลังเลใจที่จะพูด

“จิระลูก...ชอบเพทายงั้นหรือจ๊ะ”

“ครับ...ผมชอบเขา”

พอได้ฟังคำพูดของลูกชายจินดาก็ถอนหายใจ “แม่จะไม่ห้ามให้ลูกรักใครหรอกนะ แต่ลูกต้องรู้ประวัติความเป็นมาของเพทายเอาไว้ก่อนคงดีกว่า”

จิระขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าแม่ต้องการสื่ออะไร แต่ก็นิ่งฟังแม่เล่าเรื่องของเพทายอย่างเงียบๆ

“ผมรู้อยู่แล้ว เพทายเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเขาคร่าวๆ”

จิระหมายถึงเมื่อชาติที่แล้ว หลังจากแต่งงานกันเพทายเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองเป็นหลานซึ่งเกิดจากน้องสาวของคุณปู่ที่หนีตามผู้ชายไป

ก่อนวันที่เขาจะตาย เพทายตั้งใจจะพาเขาไปเคารพอัฐิของแม่ที่วัดพร้อมกับเล่าเรื่องของตนเองให้เขาฟัง ทว่าจิระก็มาประสบอุบัติเหตุตายเสียก่อน

“อา...เขาบอกลูกงั้นรึ”

จินดาคราง นี่ลูกชายของเธอกับเพทายก้าวหน้ากันไปถึงขนาดนี้แล้วหรือนี่

“แม่ครับ” จิระคว้ามือของแม่มากุม “ตอนนี้ผมเข้มแข็งพอที่จะลุกขึ้นเองถึงแม้จะลมลงไปอีก ผมแค่อยากลองซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกแล้วก็เดิมพันกับความรักอีกซักครั้ง แม่อย่าเป็นห่วงผมเลย”

สีหน้าจริงจังของจิระทำให้จินดาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก ในเมื่อลูกชายของเธอเติบโตขึ้นแล้ว เธอก็ควรให้เขาล้มและลุกด้วยตัวเอง สิ่งที่คนเป็นแม่ควรทำคืออยู่เคียงข้างลูกเสมอไม่ว่าจะล้มหรือก้าวเดินอย่างสง่างาม

“เข้าใจแล้วจะ...แม่จะอยู่ดูลูกตลอดไป ไม่ว่าจิระจะล้มหรือก้าวเดินอย่างสง่างาม แม่จะค่อยสนับสนุนลูกอยู่ข้างหลัง จิระทำตามที่ต้องการเถอะ”

“ขอบคุณครับแม่” จิระยิ้มแล้วหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่



สำหรับเรื่องของเพทายจิระพอเดาได้ว่าแม่กังวลเรื่องอะไร คงกลัวว่าเขาอาจถูกเพทายใช้เป็นเครื่องมือแล้วเขี่ยทิ้ง ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงเขาก็ไม่โทษเพทายเลย ในเมื่อทั้งชาติก่อนและชาตินี้ก่อนที่เขาจะกลับมาเกิดใหม่ ตัวเขาเองก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเพทายดีเลยแม้แต่นิดเดียว

แค่ครั้งนี้เท่านั้น ขอให้เขาได้ลองไล่ตามความรักอีกซักครั้ง กับเพทายที่เคยมอบความรักความอบอุ่นมาให้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต



คมสันลงมายังห้องอาหารเป็นคนแรก กิจวัตรประจำวันของเขาคืออ่านข่าวจากหลายๆ สนพ วันนี้เขาหยิบเอาหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อที่สุดเปิดอ่านเป็นฉบับแรก หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เล่มนี้ มีบทสัมภาษณ์ของเพทาย ทั้งยังมีรูปเหมือนกรอบใหญ่แปะหรากินพื้นที่ 2 ใน 5 ของหน้าแรก

ตรงข้อความเล็กๆ ใต้รูปบอกให้อ่านต่อที่หน้า 3 คมสันกัดฟันกรอด ครุ่นคิดว่าน้ำหน้าอย่างมันไปทำอะไรถึงมีสนพ.ไปขอสัมภาษณ์ จากนั้นพอเหลือบมองก็พบว่ามุมบนของรูปเพทายมีกรอบเล็กๆ เป็นรูปของวศิน มันทำให้คมสันเดาว่าอาจเป็นเพราะคุณพ่อนั่นแหละที่ทำให้มันมีโอกาสแบบนี้

คมสันไม่รีรอที่จะเปิดหน้า 3 อ่าน พอได้อ่านเขาก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ พออ่านจบก็แทบจะฉีกหนังสือพิมพ์ทิ้งด้วยความเดือดดาล

ธุรกิจแนวใหม่อะไรวะ ร้านคาเฟ่แบบCo-working Space อะไรกันวะ ศัพย์แนวใหม่ที่ไอ้เพทายมันบัญญัติขึ้นมาช่างน่าขยะแขยง ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าเป็นแนวคิดทุเรศๆ ร้านคาเฟ่ที่สามารถให้ลูกค้านั่งทำงานได้ นั่งประชุมได้

แนวคิดเหี้ยๆ ถ้าปล่อยให้ลูกค้านั่งนานๆ รายได้ของร้านก็ลงลดน่ะสิ แล้วอะไรคือพิสูจน์แนวคิดแล้วจากการทดลองเปิดมา 4 ปี จนมีนักธุรกิจและนักศึกษามาใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเปิดสาขาเพิ่มถึง 20 สาขา ทั่วเมืองB นี่มันซุกโครงการนี้ไว้ใต้จมูกข้าตั้ง 4 ปีเชียวหรือวะ

<ลำเอียง คุณพ่อลำเอียง> คมสันริษยาจนตาแดงก่ำ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเป็นแค่ลูกบุญธรรมที่มีหุ้นของครอบครัวแค่ 3 เปอร์เซ็นเท่านั้น แถมคุณพ่อเองก็ยังไม่ไว้ใจให้เขาทำอะไรเอง

คมสันรู้ดีว่าตัวเองไม่มีหัวทางธุรกิจ แต่ก็มีความหวังพอสมควรเพราะจิระนั้นหัวดีเรียนเก่งจนได้อันดับดีๆ เสมอมา เขาคาดหวังให้จิระเป็นตัวแทนของตน ทั้งอย่างนั้นไอ้ลูกไม่รักดีกลับทำตัวเหมือนหญิงแพศยาเอนเอียงเข้าหาไอ้เพทาย

ไอ้ลูกโง่มันคิดหรือว่าถ้าไอ้เพทายมันได้ดิบได้ดี มันจะเลี้ยงดูตัวมันอย่างดีงั้นรึทำไมลูกของเขาถึงได้โง่อย่างนี้ แล้วทีนี้ควรทำอย่างไรดี ยิ่งนานวันไอ้เพทายมันยิ่งโดดเด่น หากมันยังก้าวหน้าไปมากกว่านี้ สายตาของคุณพ่อคงมองมันจากแค่แขนขวากลายเป็นผู้สืบทอดในใจไปก็เป็นได้

ขณะที่คิดอย่างเป็นกังวลไอ้ลูกตัวดีกับภรรยาหลวงก็เดินคลอเคลียกันเข้ามา ตามด้วยดารันลูกคนเล็ก โดยนิสัยของคมสันที่เป็นคนสนใจเพียงแต่เรื่องของตัวเอง

แม้จะเห็นความสนิทสนมอย่างไม่น่าเชื่อระหว่างจินดา จิระ และดารัน เขาก็ไม่ได้สังเกตหรือแปลกใจ นั่นก็เพราะมัวแต่คิดโทษจิระว่าไม่เอาไหน แถมในหัวยังคิดแค้นเพทายโดยไม่มองอย่างอื่นเลย

ซ้ำร้ายไปกว่านั้นไอ้เพทายยังเดินเข้ามาพร้อมคุณพ่อ พูดคุยกระหนุงกระหนิงบอกชัดถึงความสัมพันธ์ ไฟริษยาลุกช่วงในดววงตาของคมสัน ถ้าเพียงแต่จิระมันรักดีซักหน่อยที่ยืนตรงนั้นคงเป็นมันไม่ใช่ไอ้เพทาย

“โอ้...มากันเร็วเหลือเกินนะ” วศินดูอารมณ์ดีกว่าทุกเช้า หลังจากนั่งบนเก้าอี้ก็เริ่มทักทายพูดคุยกับลูกหลาน

“ได้ฟังจากเพทายมาแล้วว่าเมื่อวานจิระเจ็บจากการถ่ายทำ เป็นยังบ้างล่ะวันนี้”

จินดาเกร็งตัวทันที หรือว่าคุณพ่อจะเอาเรื่อง ขณะที่รวบรวมคำพูดที่คิดมาทั้งคืนเพื่อตอบคำถาม ก็ถูกคมสันตัดหน้าพูด

“จินดานี่เธอปล่อยให้จิระมันเจ็บตัวในกองถ่ายรึ ไหนว่างานขายเนื้อหนังพวกนี้สบายๆ ไง ถึงกับต้องเจ็บตัวแบบนี้ เลิกทำมันไปเสียดีกว่าไหมหะ”

คมสันเอาอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหมดใส่ลงมากับเหตุการณ์ที่จิระเจ็บตัวอันนี้ ก็ดีเหมือนกันเขาจะใช้เป็นข้ออ้างกับคุณพ่อสั่งให้จิระมันเลิกทำงานเป็นดาราบ้าๆ นี่ซักที

“คุณพ่อเห็นไหมครับว่ามันไร้สาระมากแค่ไหน เงินก็น้อย แถมยังต้องเจ็บตัวอีก”

“เงินที่ได้จากการเป็นนักแสดงมันก็ไม่น้อยนะครับคุณพ่อ”

คมสันแทบไม่อยากเชื่อหู นี่ดารันพูดเอาใจช่วยจิระมันหรือ ไอ้ที่พี่น้องรักกันมันก็ดี แต่ไม่ควรให้ท้ายพี่ชายทำเรื่องโง่ๆ หรือเปล่า

“ดารันเราไม่รู้อะไรอย่าพูดแทรกผู้ใหญ่จะดีกว่า”

ดังนั้นดารันจึงหุบปากแล้วก้มหน้าไม่พูดอะไรอีก

“คุณพ่อผมว่าให้จิระมัน” ยังพูดไปจบวศินก็ยกมือส่งสัญญาณบอกให้คมสันหยุดพูด เขาจำต้องหุบปากอย่างไม่เต็มใจ

“ไหนมาให้ปู่ดูรอยที่หน้าสิ” วศินกวักมือเรียก จิระลุกไปหาคุณปู่ย่อตัวลงเพื่อให้อยู่ในระดับสายตาที่คุณปู่เห็นถนัดๆ

“ไม่ค่อยร้ายแรงเท่าไหร่ นี่คงประคบมาทั้งคืนเลยสิ”

“ครับคุณปู่”

“เราชอบงานแสดงใช่ไหม”

“ครับ” จิระตอบ

“ถึงจะต้องเสี่ยงเจ็บตัวก็ยังชอบงั้นรึ”

“มันเป็นความเสี่ยงในอาชีพครับ ถ้ารักที่จะทำงานนี้ ผมต้องเตรียมใจว่าจะเจออะไรอีกเยอะมาก”

“รวมถึงข่าวซุบซิบโง่ๆ นี่ด้วยใช่ไหม” วศินกล่าวจบก็หยิบแท็ปเล็ตขึ้นมาเปิดอ่านข่าวให้ได้ยินกันทั่วถ้วน

“ดาราหน้าใหม่ จ ทะเลาะกับ ดาราหน้าใหม่ ก อีกแล้ว แต่ไม่น่ากรี๊ดเท่ากับผู้กำกับ พ ปลอบใจ ก ด้วยการพาไปซื้อเสื้อผ้ากระหนุงกระหนิง”

“นั่นไง” คมสันตบโต๊ะ “จิระมันไป่ก่อ...”

“เงียบก่อน” วศินปรามทำให้คมสันต้องหุบปากอีกครั้ง

“รู้สึกยังไงกับข่าวซุบซิบอันนี้ หืม...”

“ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ มีควัน ห้ามสุริยแสงจันทร์ ส่องไซร้ ห้ามอายุให้หัน คืนเล่า ห้ามดั่งนี้ไว้ได้ จึ่งห้ามนินทา” จิระกล่าวคำคมออกมาเป็นคำตอบ วศินได้ฟังแล้วอมยิ้มน้อยๆ

“หลานจะบอกว่าปลงและทนได้งั้นรึ” จิระยักไหล่ทั้งยังแลบลิ้นออกมา

“ผมอวดเก่งไปอย่างนั้นแหละครับคุณปู่ จิตใจของคนเราในแต่ละวันไม่นิ่ง บางอย่างผมอาจทนได้และบางอย่างอาจทนไม่ได้ แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าจะอยู่ในวงการนี้ ผมก็ไม่ควรเก็บมาคิดไปซะทุกเรื่อง”

“เออ...แนะ...แม่จินดา สอนลูกได้ดีทีเดียวนี่” วศินหันไปชม

จินดาปั้นหน้าไม่ถูกทีเดียว เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าลูกชายคนนี้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขนาดนี้ได้ตอนไหน ลูกของเธอเข้มแข็งขึ้นจนน่าภูมิใจขนาดนี้ เธอรู้สึกพลาดอะไรไปหลายๆ อย่าง แต่ก็อดมองลูกชายคนเดียวด้วยความรักหลงไม่ได้

“เอาเถอะ ถ้าชอบวงการนี้ปู่จะไม่ห้าม แต่ถ้าล้มเมื่อไหร่ต้องกลับมาเรียนรู้กิจการของบ้านเรา โดยส่วนตัวปู่เองก็พอรู้เรื่องวงการนี้อยู่บ้างเพราะหลานของเพื่อนเองก็ฝั่งตัวในวงการนี้จนมิดร่างไปแล้ว...ดารันเองก็เหมือนกันนะ ถ้าอยากทำอะไรใหม่ๆ เหมือนจิระปู่จะให้โอกาส”

“อย่าพูดเล่นสิครับคุณพ่อ” คมสันแทบร้องครางออกมา เขาคิดในแง่ร้าย หรือว่าคุณพ่อจะพยายามเขี่ยลูกๆ ของเขาออกไป เพื่อให้ไอ้เพทายมันขึ้นมาแทนที่ โธ่โว้ยไอ้จิระก็ไม่ได้เรื่อง ส่วนดารันก็หัวอ่อนเกินไป ทีนี้เขาจะพึ่งใครได้

ในขณะเดียวกันสำหรับดารัน คำพูดของคุณปู่เปรียบเสมือนเส้นทางแห่งความหวัง การที่หนทางเปิดกว้างขนาดนี้ มันทำให้อดนึกขอบคุณจิระที่เป็นคนบุกเบิกเส้นทางจนก้าวเดินไปอย่างง่ายๆ ไม่ได้

ดารันพึมพำขอบคุณพี่ชายโดยไม่ให้ใครได้ยิน แต่ว่าถึงคุณปู่อนุญาตก็ไม่รู้อุปสรรคชิ้นใหญ่อย่างคุณแม่เขาจะฝ่าฟันไปได้ไหม ถึงตรงนี้ใบหน้าที่เคยยิ้มสดใสของดารันก็สลดลง

สิ่งที่คุณแม่ต้องการ คือเขาที่เป็นเหมือนตุ๊กตา ตุ๊กตาที่นำมาซึ่งชัยชนะกับชื่อเสียงเหนือจิระและคุณจินดา เขารู้ว่าไม่สามารถเรียกร้องให้ใครช่วยได้

แต่ลึกๆ อยากให้ใครซักคนเป็นกำลังใจและคอยผลักดัน ดารันปลายมองไปยังจิระอย่างลังเลใจ เขายังไม่กล้าไว้ใจจิระ ถึงแม้อีกฝ่ายจะพยายามทำตัวเป็นพี่ชายที่ดี

จังหวะนั้นจู่ๆ มือถือของคมสันก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์แปลกๆ แต่ไม่รับก็ไม่ได้เผื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นคมสันจึงขอตัวไปรับสายที่ห้องอื่น

“คุณพ่อคมสันหรือครับ นี่ผมภาคินเอง”

คมสันเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมไปได้เบอร์ผมมาจากไหนหรือครับ”

“คุณพ่อไม่ต้องพูดสุภาพกับผมก็ได้ครับ คุณเป็นพ่อของจิระผมเห็นเป็นเหมือนพ่อแท้ๆ อยู่แล้ว”

“อ้อ...”

“ผมขอเลี้ยงข้าวคุณพ่อซักมื้อ พูดคุยเกี่ยวกับจิระซักหน่อยได้ไหมครับ”

ถึงตรงนี้คมสันก็ประมวลผลในหัวอย่างรวดเร็ว จิระมันบอกว่าเลิกกับภาคินแล้ว แต่นี่ภาคินคิดจะเข้าทางเขาเพื่อง้องอนจิระ

จู่ๆ หลอดไฟแห่งความคิดก็สว่างวาบในหัวของคมสัน ถ้าจิระมันแต่งงานกับภาคิน ก็หมายความว่าทั้งเงินทุนและแรงสนับสนุนจำนวนมากจะได้มาในมือ อย่างนี้มันก็เป็นหลักประกันในอนาคตที่ดีไม่ใช่หรือไง

“โอเค...นัดวันมาเลย พ่อพร้อมที่จะไปกินข้าวกับคุณเสมอ”



++++++++++++++++

อยากเล่นเกมส์ ดีทรอย บีคัม ฮิวแมน มาก แต่ไม่มีเงินซ์ื้อเครื่องเพลย์4 

จึงได้แต่ดูแคสเกมของตาเอก ฮารทร็อคเกอร์ กับ นัทปิ่นโตไปพลางๆ

โอ้ยดูตะบี้ตะบันแบบว่า 5555 เวลามีเท่าไหร่ไม่เคยพอ

แสดงความคิดเห็ฯเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อย่าสร้างเรื่องดิคมสัน :z6:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ตาคม นี่รักแต่ตัวเองมากๆ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาคมสันไปเก็บ ขี้อิจฉาจริงๆ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Merai_View Ha Bin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เกลียดอิภาคินอ่ะ  :m31:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่16

หลังจากไปส่งดารันที่โรงเรียนสอนการแสดง จิระก็นั่งอยู่ในรถปล่อยให้เพทายเป็นผู้นำทริปเดตในครั้งนี้

“นี่เรากำลังจะไปไหนหรือเพทาย”

“ไปเคารพอัฐิแม่ของผม”

พอได้ยินคำตอบจิระก็มีคำถามในหัว นี่เขาไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม มันไม่แปลกไปหน่อยหรือที่เพทายจะพาเขาไปเคารพอัฐิของแม่ ก็ในเมื่อชาตินี้ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมาเกิดใหม่ เพทายยังลิ้มรสชาติความแสบของเขาอยู่เลย

ถึงแม้ว่าสองสามอาทิตย์มานี้จิระจะเปลี่ยนแปลงไปและพยายามรุกจีบ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับอีกฝ่ายก็ไม่ควรคืบหน้าเร็วอย่างนี้

ก่อนหน้านั้นทำไมเขาไม่นึกเอะใจมาก่อนเลยนะ จากความสัมพันธ์ในช่วงนี้ของเขากับอีกฝ่ายทำให้คิดได้ว่าปฏิกิริยาตอบโต้ของเพทายที่มีต่อเขาควรจะนิ่งเฉยเย็นชาสิ

หรือว่า จิระใจเต้นตึกตัก เขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังขับรถ

เขาอยากรู้ความจริง แล้วด้วยความที่เป็นคนโผงผางและค่อนข้างตรง ถึงจะพยายามแก้นิสัยเดิมที่ทำให้เสียเปรียบอันนี้ เขาก็ยังเลือกทำตามหัวใจเรียกร้อง

“ฉันกลับชาติมาเกิดใหม่ และชาติที่แล้วเราสองคนได้แต่งงานกัน ถ้าฉันบอกอย่างนี้นายจะเชื่อไหม”

จิระจ้องมองใบหน้าของเพทายอย่างเอาเป็นเอาตาย ตื่นเต้นเหลือเกินกับคำตอบ

“ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงชาตินี้ผมก็จะแต่งงานกับคุณอีก”

เพทายอมยิ้มขณะหมุนพวกมาลัย ในขณะที่จิระนิ่งงัน จริงๆ คำถามของเขานั้นอ้อมค้อมไป ควรอธิบายเพิ่มเติมเช่นว่า นายกลับชาติมาเกิดเหมือนฉันใช่ไหม อะไรทำนองนี้

แต่เพราะเขินอายขึ้นมาเสียแล้ว คำพูดของเพทายไม่ได้หมายความว่าต้องการที่จะแต่งงานกับเขาหรอกหรือ

เพราะว่าเขินอายจิระจึงแก้อาการด้วยการมองออกไปนอกหน้าต่าง

“ฉันอยากให้นายเล่าเรื่องของฉันกับนายสมัยเด็กให้ฟัง”

“คุณในสมัยที่เป็นเด็กน่ารักมาก”

เพทายพูด เขาหวนระลึกถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้น ตั้งแต่จำความได้เขาก็มักมองแม่ด้วยสายตาที่เจ็บปวดผสมดูแคลนมาโดยตลอด แม่ของเขาไพลินเป็นผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกคนหนึ่ง

เป็นลูกคุณหนูที่หวังจะพบรักแท้โดยไม่แบ่งแยกฐานะ ถูกพ่อสวะหลอกให้หนีตามกันและเริ่มต้นชีวิตอันยากลำบากในฐานะคนหาเงินนับแต่ตอนนั้น

ไพลินเชื่อว่าปวิธเป็นคนน่าสงสาร เพราะหากไม่มีเธอปวิธจะไม่เหลือใคร ดังนั้นต่อให้คนเป็นสามีเอาแต่ดื่มเหล้าอาละวาดหรือทุบตีเพทายเธอก็ยังพร่ำสอนให้ลูกชายคนเดียวอดทน

เพทายเติบโตขึ้นมากลายเป็นคนก้าวร้าว ใบหน้าสวยหวานไปกันไม่ได้กับการกระทำ แต่ละวันของเพทายหมดไปกับการทะเลาะวิวาธ เขาต่อยตีเก่งเรื่อยๆ จนปวิธไม่กล้าลงมือทุบตีเขา

เนื่องจากทั้งรำคาญทั้งสมเพชผู้เป็นแม่นานวันเขาเพทายก็เหินห่างจากไพลิน เขาทำตัวลอยอยู่เหนือทุกสิ่งไปโรงเรียนบ้างไม่ไปบ้างแต่ก็ยังไถเงินแม่ตนเองทุกวัน

จนมีอยู่วันหนึ่งเขาก็พึ่งรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง นั่นแหละเพทายถึงได้เกิดความกลัวจับใจเป็นครั้งแรก หากแม่ตายเขาจะเหลือตัวคนเดียว จะไม่มีใครมอบความรักความเมตตาให้เขาอีก

เมื่อรู้ตัวว่าสิ่งใดสำคัญเพทายก็ทำงานหาเงินอย่างหนักเพื่อรักษาแม่ ทว่ามันไม่เคยพอ เขาต้องปล่อยให้แม่ป่วยและตายไปอย่างช้าๆ เพราะอย่างนั้นเมื่อลุงของเขาวศินปรากฏตัวขึ้นในงานศพของแม่

เพทายจึงขุ่นมัวและชิงชัง เขาโทษว่าเป็นความผิดวศินทั้งๆ ที่ไม่ใช่ แถมหลังจากนั้นไม่กี่วันยังถูกเชิญไปงานวันเกิดอันหรูหราของลุง

คิดหรือว่าเพทายจะยินดีและมีความสุข เขาหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสาย ในขณะที่แม่ของเขาต้องลำบาก แต่คนที่นี่กลับอยู่สุขสบาย มันน่าแค้นใจนัก

ในตอนนั้นเด็กตัวเล็กๆ ก็สะกิดขาเขา เพทายก้มลงไปมอง เด็กคนนั้นทำหน้าไม่สบายใจทั้งยังยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้

“ขอบใจ” เพทายรับมาและไม่ได้สนใจเด็กคนนั้นอีก แต่เด็กนั่นไม่ไปกลับยืนเป็นเพื่อนเขานานทีเดียว

“น้องจิก็เหงาเหมือนกัน แม่ของจิไม่ค่อยว่างเพราะเป็นดารา ส่วนพ่อของจิก็วุ่นวายกับพวกอีหนู”

เพทายหันไปมองตาปริบๆ นี่เด็กน้อยจะรู้ความหมายของคำพูดตัวเองไหมนะ

“รู้ความหมายของอีหนูหรือไง”

“รู้สิ...ถ้าเป็นน้องจิจะไม่ทำให้คนที่จิชอบเสียใจเด็ดขาด” พูดจบเด็กน้อยก็ก้มหน้าทั้งบิดมือไปมาด้วยความขวยเขิน

“เพราะงั้นพี่คนสวยต้องเป็นเจ้าสาวของจินะ น้องจิสัญญาว่าจะไม่นอกใจ”

“จีบกันง่ายๆ อย่างนี้เลย”

“ไม่ได้เหรอ” จิระตัวน้อยเอียงคอมองมาตาแป๋วๆ ท่าทางน่ารักน่าชัง ในตอนนั้นวูบหนึ่งรู้สึกถึงความดำมืดในจิตใจ

“ฉันไม่ชอบคนพูดพล่อยๆ ถ้าฉันเอาจริงล่ะก็นายอาจจะเดือดร้อนได้นะ”

“น้องจิเอาจริงไม่พูดพล่อย ถ้าจิไม่คว้าพี่ไว้ตอนนี้จิก็อดได้เจ้าสาวที่สวยที่สุดในงานสิ”

เพทายกระตุกยิ้มมุมปาก “เจ้าสาวที่ซอมซ่อแบบนี้ นายไม่อายหรือ”

“จิสัญญาว่าถ้าพี่มาเป็นเจ้าสาวของจิ จิจะดูแลอย่างดี”

“สาบานแล้วนะ”

“เกี่ยวก้อยสาบาน” จิระกับเพทายเกี่ยวก้อยกัน หลังจากนั้นก็ถูกรบเร้าให้มาพบกันอีก ทีแรกเขาตั้งใจจะหนีออกจากบ้านไปหางานทำเลิกเรียนและไม่ต้องการอยู่กับพ่อขี้เมา

แต่คุณลุงก็เสนอให้เป็นพี่เลี้ยงของจิระแลกเงิน จิระรบเร้าให้เขารับปากทำงานนี้

“นายอยากให้ฉันมาเจอนายบ่อยๆ งั้นสิ”

เพทายถามความรู้สึกจิระต่อหน้าวศิน เขาไม่ได้กลัวว่าลุงจะมองเขาไม่ดีซักนิดเดียว ต่อให้มองว่าไม่ดีหรือขับไล่เขาไป เขาก็เตรียมหาลู่ทางเอาไว้แล้ว เพื่อนที่สนิทสนมร่วมลำบากด้วยกันมาพร้อมจะช่วยเหลือเขาเสมอ

แต่จิระตัวน้อยทั้งออดอ้อนทั้งข่มขู่ตบท้ายด้วยการร้องไห้ เด็กนี่ต้องการเขามากถึงขนาดนั้น ดังนั้นเพทายจึงตอบตกลง

จากนั้นไม่เพียงมอบเงินค่าแรงให้ ยังส่งเสียค่าเล่าเรียนอย่างดี ช่วงนั้นเหมือนชีวิตของเขาจะเป็นขาขึ้น เมื่อแม่ตายพ่อก็ทิ้งเขาไปอยู่กับเมียใหม่ ดังนั้นเพทายจึงอาศัยอยู่ในห้องเช่าที่วศินจัดหาให้

จิระที่ว่าง่ายเชื่อฟังและช่างออดอ้อนนั้นช่างมีแรงดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก เด็กน้อยมักพูดว่าเพทายคือสำบัติของตนและตัวเองก็คือคนของเพทาย

ปากก็พร่ำบ่นว่าถ้าโตขึ้นเมื่อไหร่จะแต่งงานกัน เรื่องนี้แม้แต่คุณลุงเองก็ทราบดี คำสัญญาและรอยยิ้มที่มอบให้มาเป็นเหมือนคำสาป โดยไม่รู้ตัวจิระก็กลายเป็นเสมือนดวงจันทร์ที่โคจรรอบๆ เพทาย

น่ารัก อบอุ่น และอ่อนหวาน สองปีผ่านไปอย่างมีความสุข เพทายไม่เคยเอาใจใส่ใครขนาดนี้มาก่อน ในแต่ละวันยิ่งเพิ่มพูนความหวงแหนและความเป็นเจ้าของดั่งเช่นคำขอแต่งงานที่จิระพร่ำบอกต่อเนื่องราวกับคำสาป

“ถ้าอยากแต่งงานกับจิระ เธอก็ต้องมาเป็นลูกบุญธรรมของฉันเริ่มเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัว หรือคิดว่าไง”

คุณลุงยื่นข้อเสนอให้เขา ตอนนั้นเขากำลังจะเรียนจบมัธยมปลายและจิระอายุใกล้เก้าขวบ นับวันยิ่งน่ารักน่าชังมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เด็กนี้กลายเป็นดอกไม้ที่กลางใจเบ่งบานและคอยให้รดน้ำจนเติบโต

“ผมต้องทำยังไง”

เพทายรับข้อเสนอ ดังนั้นจึงต้องไปเรียนที่มหาลัยชั้นยอดในต่างประเทศตามคำสั่ง จิระร้องห่มร้องไห้ปานขาดใจ

ครั้งสุดท้ายที่แยกจากกัน จิระตะโกนใส่หน้าเขา ว่าไม่ต้องการเจอคนทรยศอย่างเขาอีก

เขาใจว่าคงแค่เสียใจที่ต้องแยกกันหลายปี แต่เมื่อกลับมาถึงได้รู้ว่า คมสันยุแยงจนจิระเกลียดชังเขาเข้าแล้ว

“ทั้งที่คุณดื้อเหลือเกิน แต่ผมก็ยังยึดมั่นกับความรักที่มีต่อคุณ ถึงแม้หลายครั้งจะอยากจับคุณมาขย้ำขยี้สั่งสอนให้หลาบจำก็ตาม”

“ฉันขอโทษ จนถึงก่อนหน้านั้นที่ฉันเกลียดนาย ไม่สิโทษใครไม่ได้ต้องโทษฉันเองที่อ่อนแอ”

“ผมรู้แล้ว คุณยังเล็กนัก แถมระยะเวลาที่ห่างกันก็ยาวนาน อีกทั้งคุณเองก็ต้องการได้รับความรักจากคนเป็นพ่อ ผมเข้าใจดี”

“นายคงไม่เกลียดฉันใช่ไหม” จิระเสียงสั่น เริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง

“หรือว่าที่ทำดีกับฉันเพราะแค่สงสาร”

“ทั้งรักทั้งสงสาร ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณนับวันยิ่งยุ่งเหยิงพันกันจนแก้ไม่หลุด แม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกเลยก็ตาม”

“นายยังอยากแต่งงานกับฉันไหม” จิระไม่รู้ตัวว่าแววตาของตนตอนนี้เว้าวอนแค่ไหน เพทายจอดรถแล้วหันมามอง เขาคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ

“ยังมีคนที่ดูแลคุณได้ดีมากกว่าผมอีกหรือ”

“แค่อยากดูแลแค่นั้นหรือ” จิระรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง เพราะมันไม่ใช่คำบอกรักเสียทีเดียว

“ผมหนีคุณไปไหนไม่พ้นตั้งแต่คุณพร่ำบอกรักผมเหมือนเป็นคำสาปตลอดสองปีนั้น”

“ทั้งๆ ที่ฉันทำไม่ดีกับนาย ตลอด15ปีเนี่ยนะ” หยาดน้ำเอ่อคลอดวงตา จิระปาดมันออกพยายามสะกัดกั้นไม่ให้น้ำตาไหลมากกว่าเดิม

เวลานี้จิระไม่สนใจอีกแล้วว่าเพทายจะกลับชาติมาเกิดใหม่หรือไม่ เขารู้สึกโหยหาตัวตนของเพทายเหลือเกิน อีกฝ่ายซับน้ำตาให้ก่อนจะกอดเขาเอาไว้แนบแน่น สุดท้ายก็ร้องไห้ออกมาจนได้

“ผมจะอยู่ข้างๆ คุณเสมอ”

เพทายลูบหลังของจิระปลุกปลอบอย่างอ่อนโยน

<เพราะคำสาบานที่เหมือนคำสาปนั้น ต่อให้คุณมีปีกและบินหนี ผมก็จะหักปีกคุณทิ้งไป >



“ทำยังไงถึงจะทำให้คนรักที่เอาแต่ดื้อแพ่งถึงจะหันกลับมาสนใจผม”

เพทายในวัยหนุ่มใหญ่ขอคำปรึกษากับสิบทิศเพื่อนเก่าแก่ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยประถม เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนรักที่ต่างก็ให้การสนับสนุนกันและกันมาตลอด เขาทำงานด้านสว่าง สิบทิศก็ทำงานด้านมืด

“นายหมายถึงดาราเกรดซีหน้าตางดงาม พ่อคู่หมั้นในนามของนายนะหรือ พูดก็พูดเถอะนายในตอนนี้หาคนใหม่ดีๆ กี่คนก็ได้”

สิบทิศกระดกเหล้าขึ้นดื่ม พอหันไปมองอีกทีก็พบว่าเพทายกำลังไม่พอใจอย่างมาก ดังนั้นจึงได้แต่หัวเราะแก้เก้อ

“ถึงนายไม่ทำอะไรก็มีคนหมายหัวเด็กของนายไว้เหมือนกันนา”

พอได้ฟังเพทายก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที แต่สัญญาณกล้องวงจรปิดจากมือถือมันดังขึ้น นั่นหมายความว่ามีคนเข้าไปในบ้าน

เพทายเปิดวงจรปิดผ่านมือถือแล้วพบว่าจิระที่เมาอย่างหนักหิ้วผู้ชายคนหนึ่งมากกกอดในเรือนหอที่ท่านวศินเตรียมไว้ให้พวกเขา

เพทายไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองมีสีหน้าดุร้ายมากแค่ไหน ด้วยอารมณ์ชั่ววูบทำให้ไม่นึกอยากสนใจเรื่องที่สิบทิศพูดขึ้นมา

สุดท้ายผลร้ายที่เกิดขึ้นกับจิระ แม้แต่เพทายก็บอกไม่ได้ว่าเขาดีใจหรือเสียใจกันแน่ แต่ในที่สุดก็ได้มาไว้ในครอบครอง



+++++++++++++++++++++++

จริงๆ แล้วเพทายเป็นหนุ่มยัน และเขาจะยันขึ้นเรื่อยๆ 

ไม่รู้ว่าจิระจะรับมือไหวหรือเปล่าน้า55555

อย่าเพิ่งช็อกกันเน้อ ทุกคนย่อมมีด้านมืด

เต้นระบำวนไป ยังมีคนขึ้นเรือเพทายxจิระอยู่ม้ายยยยยยย

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
มุมหึง เหอะๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ปักหลักและยึดมั่นในเรือเพทายจิระ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2018 20:27:01 โดย MayA@TK »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
หนุ่มยันรึ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่17

ในที่สุดก็ทราบความรู้สึกที่แท้จริงของเพทายซักที

จิระค่อยๆ โอบกอดเพทายขณะนึกถึงเรื่องเกี่ยวกับสามีในชาติที่แล้ว วันนั้นคือคืนฉลองแต่งงานของพวกเขา เพทายถูกเพื่อนจำนวนมากบังคับให้ดื่มจนเมา

ปกติเพทายเป็นคนไม่ค่อยพูด และต่อให้ดื่มก็ไม่เคยดื่มจนเมา แต่ครั้งนี้เหมือนจะต่างออกไป

“ผมขอโทษนะจิระ” หลังล้มตัวลงนอนด้วยกันเพทายก็พูดขึ้น จิระได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจากตัวสามีแต่ไม่แน่ใจว่าเขาเมาหรือไม่เมากันแน่

“ขอโทษอะไร” เพทายกุมมือของจิระเอาไว้แน่น สีหน้าบอกชัดถึงความเจ็บปวด

“เพราะผมปล่อยปละละเลย คุณถึงได้ต้องเสียโฉมเพราะพวกขี้เมา”

“นั่นมันอุบัติเหตุนี่” จิระยิ้มแล้วใช้มือข้างที่เหลือลูบเสี้ยวหน้าเพทายอย่างรักใคร่

“ไม่หรอกผมรู้ทั้งรู้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้น แต่เพราะความหึงหวงจึงไม่สนใจมัน ผมขอโทษนะ”

เพทายจุมพิตลงบนหลังมือของจิระนับครั้งไม่ถ้วน จากนั้นถึงได้รู้ว่าเพทายหึงหวงเพราะอะไร

หลังจากรับรู้ความจริงจิระไม่ได้โกรธหรือเสียใจ เขาเองก็ทำผิดไม่น้อยเหมือนกัน แต่เพทายยังให้โอกาสอีกหลายครั้ง

เขากับเพทายเพียงต้องการโอกาสเพื่อเริ่มต้นใหม่ และเขาเองก็ไม่ต้องการหวนกลับไปสู่วังวนแห่งความโสมมนั้นแล้ว

ทุกคนสามารถแก้ไขความผิดผลาดได้ด้วยการเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ยิ่งเพทายนำมาสารภาพแบบนี้จิระไม่รู้จะแค้นเคืองให้ได้อะไร คนคนนี้สาบานแล้วว่าจะดูแลเขาไปชั่วชีวิต และในชาตินี้เขาก็ยังยืนยันคำเดิม

จากนั้นจิระกับเพทายก็พากันไปยังที่เก็บอัฐิของไพลิน พวกเขาช่วยกันทำความสะอาดที่นั่น เพทายไม่ใช่คนพูดเยอะอยู่แล้วดังนั้นคนที่พูดสร้างบรรยากาศจึงเป็นจิระเสียส่วนใหญ่

“เสร็จจากนี่แล้วเราไปไหนกันต่อดี” จิระถาม

“ผมอยากอวดหนึ่งในคาเฟ่ที่ผมดูแลอยู่ตอนนี้ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วเราไปหาของกินที่นั่นดีไหมครับ”

“อื้อ...ก็ดี” จิระเองก็รู้สึกหิวนิดๆ แล้ว ดังนั้นจึงพากันไปยังคาเฟ่ที่ว่าซึ่งอยู่ใจกลางเมืองB

เมื่อไปถึงก็พบบรรยากาศแบบคุ้นเคย ร้านคาเฟ่ร้านนี้คือร้านที่เพทายพาเขามาพักผ่อนชิวๆ บ่อยครั้งในชาติที่แล้ว

ร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่แบบ Co-working Space จำได้ว่าในช่วงที่เขาอายุ 27 ปี ร้านประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก การที่สถานที่แบบนี้มาโผล่ก่อนเวลาในมือของเพทาย

ยิ่งทำให้จิระคิดว่าคุณสามีเองก็น่าจะกลับชาติมาเกิดใหม่เช่นกัน

<ลองทดสอบดูอีกซักหนดีกว่า>

“ชาติที่แล้วเราแต่งงานกันยังไม่ถึงเดือนดีฉันก็มาตายไปก่อน ถ้าชาตินี้ได้อยู่ร่วมกันนานๆ คงดีนะ” จิระรอปฏิกิริยาของเพทาย ดูสิว่าเขาจะรู้สึกยังไง

“คุณช่วยเล่าเหตุการณ์ก่อนที่คุณจะตายให้ผมฟังได้ไหม”

เพทายทำหน้าเคร่งขรึม การตอบโต้ต่างไปจากที่จิระคาดนิดหน่อย

“วันนั้นนายสัญญาว่าจะเล่าเรื่องส่วนตัวทั้งหมดให้ฉันฟัง แล้วก็เรามีแผนที่จะไปเคารพอัฐิคุณแม่ของนายที่วัด ตอนนั้นนายมีธุระต้องเข้าประชุมกะทันหันแต่เช้า ดังนั้นระหว่างรอนายฉันจึงขับรถคันโปรดของเราออกไปรอที่ร้านคาเฟ่ ตอนที่ฉันตายฉันไม่สามารถเหยียบเบรคได้ คิดว่าสายเบรคน่าจะขาด”

เพทายทำสีหน้าครุ่นคิดครู่หนึ่ง “รถคันนั้นเป็นคันโปรดที่เรานั่งไปด้วยกันบ่อยครั้ง ไม่แน่ว่าคนที่ต้องการให้ตายจริงๆ อาจเป็นผม”

“เอ๊ะ...” จิระงงกับข้อสันนิษฐานในทีแรก แต่ไม่นานนักก็เข้าใจได้ดี

“นายจะบอกว่าการตายของฉันไม่ปกติ”

“ผมไม่ได้ฟันธง แต่ก็คิดไปทางนั้นได้ คุณบอกว่ารถที่พาคุณไปตายคันนั้นเป็นคันโปรดที่เรานั่งด้วยกันเสมอ ดังนั้นก็คิดได้ว่าคนที่ถูกหมายหัวเป็นได้ทั้งผมและคุณ แต่ตัวคุณไม่น่าบาดหมางร้ายแรงกับใครจนถึงกับฆ่าฟัน”

“นี่เราถูกสั่งฆ่าหรอกหรือนี่” จิระขมวดคิ้วเข้าหากัน ถ้าหากสมมุติฐานนี้เป็นความจริง จะมีใครเป็นตัวเลือกได้ คนที่เกลียดเพทายในตอนนั้น คนที่แสดงความเป็นปรปักษ์กับเพทายมากที่สุด <พ่อหรือ! >

จิระไม่กล้าฟังธงเขาได้แต่เก็บความคิดเลวร้ายอันนี้ไว้ในใจ

“ถ้าตอนนั้นฉันไม่ตาย นายก็อาจเป็นคนตายแทนสินะ” จิระรู้สึกไม่ดีเลย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

“ผมจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก” เพทายบีบมือของจิระเบาๆ ปลอบขวัญ

จิระเงยหน้าขึ้นมองเพทาย “ถ้าเกิดว่าคนที่วางแผนการณ์ในครั้งนั้นคือพ่อของฉัน นายจะทำยังไง ถ้าเกิดว่าคราวนี้เขาทำมันอีก อ๊ะ...นี่แค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้น อาจไม่เป็นความจริง”

“คุณจิระ...ฆาตกรรมหรือวางแผนฆ่าเป็นคดีร้ายแรง คุณรู้ใช่ไหม”

“ฉันเข้าใจดี” จิระบีบมือของเพทายแน่น ไม่นึกฝันว่าประโยคที่มีไว้เพื่อทดสอบว่าเพทายกลับชาติมาเกิดหรือไม่จะกลายเป็นการจุดประเด็นเบื้องหลังการตายของเขาแทน

จิระภาวนาขอให้คนลงมือไม่ใช่พ่อของเขา ถึงแม้ว่าแรงจูงใจในการฆ่าเพทายจะชี้ชัดมากก็ตาม นั่นก็เพราะหลังจากเขากับเพทายแต่งงานกัน คุณปู่ที่อายุมากแล้วก็ยกหุ้นเกือบทั้งหมดให้เพทายเพียงคนเดียว

เม็ดเงินที่ควรจะได้เป็นจำนวนมหาศาลกับกิจการในครอบครัวทั้งหมดอยู่ในกำมือของผู้นำอย่างเพทาย คุณพ่อ ดาริน ดารันล้วนน่าสงสัย ทั้งอย่างนั้นกับดารันในชาตินี้เขาไม่คิดว่าน้องชายต่างมารดาจะโหดเหี้ยมอะไร

ขณะที่ครุ่นคิดเสียงเรียกเข้าจากมือถือก็ดังขึ้น จิระรีบรับสายเพราะคนที่โทรมาคือดารัน

<นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกคลาสของดารัน น่าจะพักกลางวัน มีอะไรหรือเปล่านะ>

<” คิดยังไง ถึงได้เอาปืนมาขู่ฉันหะนีโอ” >

<ปืน? > จิระประสานสายตาเข้ากับเพทาย ดูเหมือนว่าเด็กอีโมจะทำอะไรบางอย่างกับดารัน แล้วเพราะต้องการให้ช่วยดารันถึงได้ลอบโทรมาหาเขาแบบนี้

<” นายเองนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ หลายอาทิตย์มานี้นายห่างเหินกันไปจนฉันปวดใจไปหมด ตอนนี้ที่คอนโดของฉันมีปาร์ตี้ เราไปสนุกกันดีกว่าน่าทุกคนรออยู่นะ” >

ระหว่างที่ฟังดารันโตต้อบกับนีโอ เพทายก็กดอัดเสียงสนทนาจากอีกฝากเอาไว้ จิระรู้สึกขอบคุณในความรอบคอบของอีกฝ่าย

<” นายหมายถึงคอนโดริเบอร์รัลห้อง808ที่ถนนสายFนะหรือ ไหนนายบอกว่าห้องนั้นพ่อจะให้พี่นายมาอยู่แทนไง ยังไม่รีบย้ายออกอีกหรือหะ” >

การที่ดารันบอกที่อยู่ให้เสร็จมันก็ดี แต่คิดอีกทีไม่รู้ว่าเด็กอีโมพวกนั้นจะไหวตัวทันไหม จิระกดปิดเสียงทางฝั่งเขาไม่ให้ฝั่งดารันได้ยิน ปรึกษากับเพทายแล้วไปที่รถก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ดารันบอก

<” ก็นี่ไงจัดปาร์ตี้ครั้งสุดท้ายก่อนย้ายบ้าน แปลกตรงไหน” >

<” ปาร์ตี้พี้ยาอย่างทุกทีสินะ” > ดารันกล่าวเสียงที่ฟังดูเย้ยหยัน นีโอหัวเราะชอบใจ

<” และคราวนี้ฉันจะไม่ใจดีกับนายอีก ในฐานะคนสนิทของฉันนายต้องลองมันจะได้เป็นพวกเราจริงๆ ซักที” >

“บ้าเอ๊ย...” จิระสบถ เป็นเรื่องยาเสพติดอย่างที่คาดไว้จริงๆ ด้วย ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วดารันเต็มใจหรือเปล่า แต่ชาตินี้เขามั่นใจว่าดารันไม่ได้ชอบมันแน่ๆ

ขณะที่จิระกังวลอย่างหนัก เพทายต่อสายโทรศัพท์ไปหาสารวัตรในพื้นที่ซึ่งสนิทกัน จิระรู้สึกขอบคุณอีกครั้ง ถ้าไม่มีเพทายอยู่ด้วยเขาคงต้องทำอะไรเองคนเดียวทั้งหมดในสภาพที่ลนลานแบบนี้



++++++++++++++++++++++



ตอนนี้สั้นกว่าทุกทีอย่าแปลกใจ เวลาเขียนมันน้อยเลยมาแค่นี้

ตอนหน้ากะอ่านจะสั้นอีกเหมือนกันเพราะสองวันนี้ไม่ค่อยว่างเลย

งานเยอะมากสมองไม่ค่อยทำงาน5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :L2: เป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วเราจะรอค่ะ อยากรู้ว่าทั้ง 2 คนจะดำเนินไปยังไงต่อ  :L2:
                                                    :pig4:

ออฟไลน์ M_mA

  • เด้กน้อยที่จมอยู่กับความฝัน....
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ลุ่นไปหมดเลยยยยย!! #ติดตามจร้าาา

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
สรุปเพทายพระเอก

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่18

ใครจะไปคิดล่ะว่าขณะที่เดินไปหาข้าวกินตอนพักคลาสจะถูกพวกนีโอใช้ปืนที่อยู่ในเสื้อคลุมจี้เอาแบบนี้ ดารันถูกบังคับให้ขึ้นรถก่อนจะถูกพาไปยังคอนโดของนีโอ

ภายในคอนโดกว้างเด็กอีโมหลายคนนอนตาลอยระเกะระกะ ที่พื้นมีทั้งบ้องสูบและเข็มฉีดยารวมไปถึงเหล้ากับเบียร์วางกองเป็นจุดๆ

“เข้าไปสิ” นีโอสั่ง อีกฝ่ายใช้ปืนใต้เสื้อคลุมจี้หลังทำให้ดารันต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้

หลังจากประตูปิดลงดารันมองไปรอบๆ พยายามหาทางหนีทีไล่รวมถึงสังเกตผู้คน คนที่ยังมีสติอยู่มีเพียงนีโอกับพรรคพวกที่ไปรับเขามายังคอนโดแห่งนี้

“มานี่สิ” นีโอเสียบปืนเข้ากับซองใส่ปืนที่เอวก่อนจะกวักมือเรียกดารันให้ไปนั่งบนโซฟาด้วยกัน

หลังจากดารันนั่งลงอีกฝ่ายก็หยิบเข็มฉีดยาซึ่งเตรียมรออยู่แล้วขึ้นมา พวกเพื่อนกลุ่มเดียวที่ยังมีสติส่งเสียงเชียร์ให้นีโอจัดการกับดารัน



น้ำหวานเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังที่มีคนติดตามถึง 3 ล้านคน เธอเป็นคอสเพลย์เยอร์ที่มีชื่อ แถมยังเป็นนักแคสเกมส์ที่คนติดตามก็มากมาย วันนี้เธอตั้งใจไลฟ์สดให้ทุกคนดูคอนโดที่เธอพึ่งย้ายมาใหม่

เธอใช้เวลา 20 นาทีอวดห้องของเธอให้ผู้คนที่เข้ามาติดตามราวๆ 800 คนได้ ก่อนจะตัดสินใจพาทุกคนไปดูบรรยากาศรอบๆ คอนโดตามลำดับ

“อุ๊ยคนนั้นคุ้นๆ จังเลยค่ะ” เธอไม่เพียงพูดกับผู้ติดตามยังหันกล้องไปหาชายหนุ่มหน้าตาดีสุดๆ สองคนที่กำลังเคาะประตูห้องใกล้ๆ เธอ

“นั่นมันจิระนี่ ตายจริงฉันพึ่งได้ดูเขาในรายการnew star ไม่นานนี้เอง” น้ำหวานพูดกับคนที่เข้ามาตามดูผ่านการไลฟ์สดจากแท็ปเล็ต



หนึ่งหมัดสุดยอด : เอ้านั่นจิระ นี่หว่า หมอนั่นมาทำอะไรที่บ้านหวานๆ คับ หรือว่าเป็นโรคจิตที่ตามติดหวานๆ



สาวหน้าใส : วั้ย ฉันเป็นแฟนคลับของเขาน้า หวานๆ ซูมหน้าเขาหน่อยคร่า



ป้าข้างบ้านz02 : เธอชอบดารานิสัยเสียนี่เข้าไปลงได้ไง ไอ้เจ้านี่รังแกกานดาเหมือนเป็นเรื่องปกติ #กานดาnumber one



Ssnumber : จริงๆ เมื่อไม่กี่วันยังผลักกานดาจนล้มอยู่เลย หมอนี่มาหาเรื่องใครอีกหรือเปล่า #กานดาnumber one



สายสายก็ได้ : ไหนขอพวกเราดูหน่อยสิหวานๆ ว่านายจิระมาทำไม



นี่เป็นแค่ส่วนน้อยที่พากันรัวความเห็นเข้ามาหาน้ำหวาน จริงๆ ก็รู้ว่าแอบถ่ายคนอื่นมันไม่ถูกต้อง แต่อยู่ๆ ยอดคนดูก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ดังนั้นเธอจึงยืนถ่ายจิระกับผู้ชายอีกคนอย่างช่วยไม่ได้



“ขอโทษครับ เรามาส่งพิซซ่า”

จิระกดกริ่งหน้าห้องพร้อมกับโกหกใช่จิระโกหก แถมคำโป้ปดยังถูกแพร่ผ่านทางโซเชียลอย่างรวดเร็ว



ป้าข้างบ้านz02 : เขาโกหกทำไม หรือว่ามาเซอร์ไพรท์เพื่อนซักคน



ความคิดเห็นจำนวนมากเด้งขึ้นมารัวๆ ผู้ติดตามกับคนแชร์ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่กำลังสงสัยกัน คนในห้องก็เปิดประตูออกมา จิระทำท่าชะโงกหน้าเข้าไปดู เมื่อเห็นน้องชายของตนกำลังดิ้นรนขัดขืน เขาก็ผลักคนขวางประตูเข้าไปด้านใน

“ดารัน ไอ้เลวปล่อยน้องชายของฉันนะโว้ย”

ความชุลมุนที่เกิดขึ้นผ่านการไลฟ์สดสร้างความตื่นเต้นจนเป็นแรงกระเพื่อม

ป้าข้างบ้านz02 : หมอนี่ทำร้ายคน เป็นอันธพาลที่นิสัยไม่ดีจริงๆ ด้วย



Ssnumber : ตามเล่นงานคนอื่นจนถึงที่เลยรึ อย่าบอกนะว่านั้นเป็นบ้านของกานดา



สาวหน้าใส : ไม่ใช่ย่ะ ไม่ได้ยินหรือว่าจิระพูดถึงน้องชาย



ดาบใหญ่สะท้านฟ้า : น้องชายจิระชื่อดารันหรือฟะ



นารีทิพย์ นาคสมบูรณ์ : หวานๆ ตามไปดูสิคะ



มีอีกหลายเสียงที่ขอร้องให้เธอตามไปดู จริงๆ เธอก็อยากรู้เหมือนกัน ดังนั้นจึงค่อยๆ เดินไปยังหน้าประตูที่เปิดค้างเอาไว้

เธอพบว่าภายในห้องนั้นคือแหล่งมั่วสุมดีๆ นี่เอง และตอนนี้จิระกับเพื่อนของเขากำลังปะมือกับเด็กอีโมที่ท่าทางเหมือนคนติดยา ดูเหมือนว่าการต่อยตีในครั้งนี้ฝ่ายจิระจะได้เปรียบ

“ว้าย” น้ำหวานตื่นตกใจ เพราะเด็กขี้ยาคนหนึ่งชักมีดพกออกมาตั้งใจจะแทงจิระ

เหตุการณ์มันเร็วมาก ใครจะคิดว่าจิระฉากหลบได้ทันอีกทั้งยังบิดข้อมือจนคู่ต่อสู้กำมีดไว้ไม่อยู่ เมื่อมีดหลุดจากมือจิระก็เข้าคลุกวงในแทงเข่าที่ท้องจนมือมีดทรุดลงไปกอง

“ยอดเลย” ไม่ต้องพูดว่าน้ำหวานประทับใจแค่ไหน คนที่ดูไลฟ์สดเองก็ไม่ต่างกัน จิระคนนั้นสู้เก่งขนาดนี้เชียวรึ

แต่ความตื่นเต้นในฝีมือจิระไม่ได้อยู่นานนัก เพราะเด็กอีโมที่เหลืออยู่อีกคนชักปืนออกมาเล็งยิงไปทางจิระและเพื่อน น้ำหวานหวีดร้องเสียงดังมือไม้อ่อนจนแท๊ปเล็ตแทบหลุดจากมือ

ทว่าวินาทีความเป็นความตาย เด็กหน้าตาดีที่อยู่ด้านหลังคว้าแจกันทุบหัวจนคนถือปืนในมือล้มลงไปนอน หมอนั่นยังไม่สลบดี จิระเข้าไปเตะเสยคางซ้ำจนมันแน่นิ่งไป

เป็นฉากระทึกขวัญที่ยอดเยี่ยมมาก ถึงคนติดตามจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พออนุมาณได้ว่าเด็กติดยาพวกนี้ทำเรื่องแบบไหน

“พี่จิระ”

ภาพน้องชายเดินเข้ามาพิงซบไหล่ของจิระชวนให้รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง ได้ข่าวว่าจิระเป็นดาราหน้าใหม่นิสัยเสียที่เอาแต่หาเรื่องทะเลาะกับกานดา ชอบอาละวาดใช้กำลังเป็นลูกคุณหนูที่หาดีไม่ได้คนหนึ่ง

จากเหตุการณ์ที่แพร่ภาพทางโซเชียลอันนี้มันสร้างความประทับใจให้กับผู้ติดตามดูหลายคน ผู้คนเข้าใจว่าจิระคนนี้นั้นไม่แย่อย่างข่าวซึ่งได้เห็นมา ก็ถ้าจิระจงใจใช้กำลังกับกานดาจริงๆ คงไม่จบแค่ล้มละมั้ง

แต่ก็มีบางคนที่ยังไม่เห็นดีเห็นงามไปทั้งหมด ก็อย่างว่าแหละถ้าใช้กำลังเต็มที่คงได้เข้าคุกเข้าตารางกันไป ใครมันจะเสี่ยงล่ะ

เวลานี้ผู้คนที่ตามดูไลฟ์แบ่งแยกเป็นสองข้าง แต่ฝั่งที่ประทับใจในตัวจิระมีมากกว่าถึงสองเท่าตัว

การไลฟ์สดในครั้งนี้ กานดากับพัชรเองก็ได้ดูเช่นกันจากมือถือของทีมงาน

กานดานั้นถึงกับลอบกัดเล็บ ก็รู้อยู่ว่าจิระมันมีแรงหมีควาย แต่ไม่คิดเลยซักนิดว่าจะต่อยตีเก่ง ท่าทางทะมัดทะแมงนั่นต้องแอบฝึกมานานแล้วแน่ๆ ทำไมเขาไม่เคยรู้เลยนะ

ขณะเดียวกันพัชรที่ดูอยู่ตั้งแต่ต้นรู้สึกเหมือนถูกจุดประกายบางอย่าง ท่าทางทะมัดทะแมงนั้นน่าลองให้มาแคสบทภาพยนต์เรื่องถัดไปของเขา

<หลังจบงานที่ถ่ายค้างอยู่นี้แล้ว ให้หมอนี่มาลองแคสบทเรื่องใหม่ดูก็ไม่เสียหายอะไร>

“เอ้าๆ เลิกดูได้แล้ว เตรียมถ่ายฉากต่อไป”

พัชรตะโกนบอกทีมงานให้เริ่มถ่ายอีกครั้ง แต่ดูเหมือนทีมงานจะยังตื่นเต้นกับฉากบู๊ระห่ำของจิระ ดังนั้นระหว่างถ่ายทำก็ยังมีพูดคุยถึงเรื่องนี้ไปตลอดการทำงาน

++++++++++++++++++++++



มาสั้นๆ จริงๆ ตอนนี้กับตอนที่แล้วควรเป็นตอนเดียวกันนะ เฮ้อ

แสดงความคิดเห็ฯเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
อร๊ายฮีโร่ตัวจริง หนูจินี่เอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด