## Destiny love ท้าชะตาเปลี่ยนรัก บทที่32 8/7/2018 หน้า8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## Destiny love ท้าชะตาเปลี่ยนรัก บทที่32 8/7/2018 หน้า8  (อ่าน 30587 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
แงง ค้างง

ออฟไลน์ minnien

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำลังจะบ่นนักเขียนว่าทำเราค้าง พอเจอคำว่าบัญชีเป็นกำลังใจให้เลยค่ะ สู้ๆ รอได้ค่า :hao7: :a5:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รออออแ

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
อ่านคืนเดียวถึงตอน27เลย

สนุกมากค่ะ วางไม่ลงเลย

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค่ะ :3123:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่28

กานดากระหยิ่มยิ้มย่องกับข่าวและกระแสสังคมที่ยิ่งนานวันยิ่งดีกับตนเอง ภาพที่ถูกปล่อยทางโลกโซเชียลเมื่อรวมกับข่าวที่ปราบดาช่วยโหมเข้าไป มันได้สร้างภาพลักษณ์เด็กหนุ่มผู้น่าสงสาร ผลคือได้รับแรงใจจากสังคมแถมยังได้งานเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว



ป้าข้างบ้านz02 : ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ว่าที่จิระรังแกกานดาบ่อยๆ เพราะรู้หรือเปล่าว่ากานดาเป็นลูกคนละแม่ แหมถ้าใช่ล่ะก็สงสัยว่ากลัวจะโดนแย่งมรดก #กานดาnumber one



Ssnumber: ฉันว่าต้องรู้แน่ๆ เลยคุณป้า ไม่งั้นทำไมถึงจงใจเป็นศัตรูมาตลอด #กานดาnumber one



ป้าข้างบ้านz02 : ใช่ไหมล่ะ แล้วตอนนี้นะ ฉันไม่พอใจที่คุณป๋าไม่ยอมรับกานดาเป็นลูก ตาแก่นั่นโง้โง่นะ มีลูกที่ดีแบบนี้แต่ไม่ยอมรับ#กานดาnumber one



Ssnumber: งั้นพวกเรามาร่วมแรงร่วมใจกดดันกันจนกว่าตาแก่นั่นจะยอมตรวจdnaดีไหมป้า ถ้าไม่ตรวจนะพวกเศรษฐีพวกนี้ไม่ยอมรับความจริงแน่ๆ #กานดาnumber one



ป้าข้างบ้านz02 : ฉันเห็นด้วย กลุ่มเราจะเดินหน้าเรียกร้องเพื่อกานดา#กานดาnumber one



กานดาอ่านข้อความของแฟนคลับตัวเอ้ของเขาในแอพโซเชียลแล้วก็ให้ลำพองใจ เพราะสองคนนี้นี่แหละที่ปลุกกระแสเรียกร้องความยุติธรรมให้รุนแรงกว่าเดิม

จากนั้นกานดาก็หยิบนิตยสารข่าวซุบซิบขึ้นมาอ่าน ปราบดาทำได้ดีทีเดียว ผู้ชายของเขาส่งคนไปสัมภาษณ์จิระถึงกองถ่าย เนื้อหาใจความคือปฏิเสธไม่รู้เรื่องที่เขาเป็นพี่น้องต่างมารดา

แต่ก็อย่างว่าแหละกระแสสังคมหันเหมาทางเขา กานดาหัวเราะด้วยความชอบใจ ถึงแม้จะมีคนแก้ตัวแทนจิระ แต่คนเหล่านั้นก็ยังแสดงความคิดเห็นไปในทางสงสารเขาอยู่ดี

เท่านี้คุณพ่อก็น่าจะรู้ตัวแล้วว่าควรต้องทำยังไง



จิระมาถ่ายหนังที่กองถ่าย สิ่งแรกที่ทุกคนทำเมื่อเจอหน้าเขาคือตั้งคำถามเกี่ยวกับกานดา จิระทำเหมือนเดิมเพียงแค่ตอบว่าเขาไม่รู้

“อ้าวน้องกานดามาแล้ว” พวกทีมงานกระซิบกระซาบกัน จิระหันไปมองก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังเดินตรงมาด้วยท่าทางและสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเศร้าซึมมันยิ่งทำให้ฝ่ายนั้นดูน่าทะนุถนอมเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว

“อยากรู้จังว่าพวกเขาจะทำยังไงหลังจากรู้แล้วว่าต่างเป็นพี่น้องกัน”

พวกทีมงานกระซิบกระซาบและรอลุ้น พอกานดาเดินมาปะกับจิระ คนตัวเล็กก็มีสีหน้าไม่สบายใจก้มหัวขอโทษขอโพยทั้งที่ไม่มีความผิด

“พี่ขอโทษนะจิระที่สร้างความวุ่นวายให้” ถ้านับตามเดือนเกิดกานดาก็ต้องเป็นพี่อย่างแน่นอน เขาเกิดเดือนมกราคม ส่วนจิระเกิดเดือนเมษา ดังนั้นจึงแทนตัวเองว่าเป็นพี่ เท่ากับว่ากานดาประกาศตัวอย่างมั่นใจ

“ไม่ต้องขอโทษหรอกกานดา ข่าวลือมีอยู่ทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ฉันจะเอาใจช่วยนายให้พ่อยอมตรวจdnaนะ”

แค่เอาใจช่วย แต่ไม่ได้บอกว่าจิระต้องลงมือ ตอนนี้พวกทีมงานเริ่มรู้สึกไม่ดีต่อจิระ หลักฐานออกชัดเจนขนาดนั้น นี่แสดงว่าจิระเกลียดกานดามาก หรือว่ากลัวจะมาแย่งมรดกไป

“นั่นสิ...นั่นสินะ ก็แค่รูปภาพใครเขาจะเชื่อ” กานดาหัวเราะเศร้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าเริงอย่างปกติ

“วันนี้ถ่ายฉากสุดท้ายแล้ว น่าเสียดายจังเลยนะ ทำงานกับจิระผมสนุกมากแท้ๆ เลย”

“อื้อ แต่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา แต่ก็นะคนเข้มแข็งอย่างนายล้มแล้วก็ลุกใหม่ได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว สู้ๆ นะ” จิระตบบ่ากานดาสองสามที มันสร้างความงุนงงเป็นอย่างมากต่อการกระทำของอีกฝ่าย กานดาแสดงสีหน้าประหลาดใจอย่างปิดไม่มิด

คนอย่างจิระนี่นะ จะเอาใจช่วยหรือปลุกปลอบเขาแบบนี้ นี่มันอะไรกันแน่วะ

หลังจากเข้าฉากตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงเย็น ฉากสุดท้ายที่เหลือก็มาถึง ต้นข้าวต้องถูกคนร้ายที่คู่อริส่งมากรีดหน้าจนยับ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกานดาก็มายืนดูการแสดงของจิระ

หมอนี่มันทำได้ดีเกินคาดทุกครั้งไปจนน่าโมโห หลายครั้งที่กานดารู้สึกว่ามันเกินฝีมือของนักแสดงหน้าใหม่ไปหน่อย

นี่แสดงว่าแอบซุ่มเรียนการแสดงมา น่าอิจฉา สำหรับลูกที่เกิดมาบนกองเงินกองทองคงมีเงินใช้ไม่รู้จักหมดสินะ นี่มันไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเลยซักนิด

หลังจากพัชรถ่ายทำทุกฉากในหนังจนครบ เขาก็สั่งปิดกอง พวกทีมงานและนักแสดงไปสังสรรค์ กันในตอนกลางคืน จิระเองก็ไปด้วย ทว่ากานดากลับขอตัวไม่ไปร่วมงานสีหน้าเขาดูเศร้าๆ จนน่าเป็นห่วง

ต้องเป็นเพราะจิระกีดกันและคุณป๋าไม่ยอมรับเป็นลูกแน่ๆ พวกทีมงานและนักแสดงพากันตั้งข้อสงสัย ทุกคนพากันคุยลับหลังแม้จิระจะอยู่ในงานฉลองด้วยเช่นกัน

“ลำบากหน่อยนะ” พัชรมานั่งข้างๆ จิระ เขายื่นแก้วน้ำหวานให้คนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะรับไปดื่ม

“ลำบากยังไงครับ”

“ก็พวกปากหอยปากปูที่นินทานายไงล่ะ สงสัยจริงว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับครอบครัวนายตรงไหน” พัชรพูดไม่ได้เสียงเบาเลยซักนิด ทำเอาทีมงานและนักแสดงหุบปากฉับเลิกกระซิบกระซาบเรื่องของกานดากับจิระแล้วเงี่ยหูฟังพัชรคุยแทน

“นายรู้สึกยังไงเรื่องกานดา”

“ก็ไม่ยังไง เขามีสิทธิเรียกร้องความยุติธรรม อีกอย่างสิ่งที่เขาต้องการจากพ่อของผม จะได้ตามที่หวังหรือเปล่า ผมไม่ใช่คนตัดสินใจ”

จิระพูดอย่างไม่ยี่หระ “สำหรับผมเขาเป็นคนอื่นที่ถ้าดีมาก็ดีกลับร้ายมาผมก็พร้อมสนองเท่านั้นเอง”

“แล้วถ้าเขาเป็นพี่น้องของนายจริงๆ ล่ะ” พัชรถาม จิระโคลงศีรษะไปมา

“เอาไว้ตรวจdnaก่อนค่อยว่ากัน”

จิระยิ้มกว้างให้พัชระ “ผมมีน้องชายแล้ว เพิ่มพี่ชายมาอีกคนก็ไม่ประหลาดใจนักหรอก”

พัชรนิ่งมองดูคนที่ยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน หมอนี่เป็นคนเข้มแข็งกว่าที่คิดไว้เยอะมากทีเดียว ทั้งๆ ที่เจอมรสุมติดๆ กันตั้งมากมายขนาดนั้น แถมกับพี่น้องต่างมารดาที่ควรจะเกลียดก็ยังยอมรับได้อย่างง่ายดาย

“ก่อนหน้านั้นนายเกลียดกานดาเพราะรู้อยู่แล้วหรือเปล่าว่าเป็นพี่น้องต่างแม่ กลัวหรือไงว่าจะถูกแย่งมรดก” พัชรแกล้งถามกวนให้ขุ่นเพื่อดูปฏิกิริยา

“ผมกับเขาเราเป็นคู่แข่งกัน ผมอิจฉาเขาที่เขาเก่งกว่าทั้งที่ฐานะทางบ้านไม่ดี มันก็เท่านั้นแหละ” จิระยักไหล่ “ถ้าคุณตามโลกโซเชียลซักหน่อยคุณก็จะรู้ความสัมพันธ์ของผมกับกานดา”

“มีแต่นายไปแกล้งเขาทั้งนั้นนี่”

จิระหัวเราะชอบใจยกใหญ่ “ผมยอมรับว่าผมทำจริงๆ ก็ผมหมั่นไส้เขานี่”

“แต่ตอนนี้นายเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหม”

“คุณสังเกตด้วยหรือครับ” จิระหันมามองด้วยแววตาสงสัย พัชรมองเมินไปอีกทางไม่ยอมสบตาตรงๆ

“ฉันมีตามีสมองนะ”

“ผมก็ว่างั้น” พอจิระพูดจบพัชรก็ตบมือลงบนบ่าของเขาหนักๆ

“ไปเรียกผู้จัดการนายมา ให้เขาพากลับบ้านซะนี่มันดึกแล้ว”

“คร๊าบ....” ดังนั้นจิระจึงกลับบ้านตามที่พัชรสั่ง เขาไม่รู้เลยว่าคืนนี้กานดาจะก่อเรื่องราวใหญ่โตจนแม้แต่วศินเองยังนิ่งเฉยไม่ได้



กานดากลับบ้านมาด้วยความหงุดหงิด นี่เขาอาศัยช่องทางต่างๆ กดดันคุณพ่อไปตั้งเยอะแยะ แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรคืบหน้า ทำยังไงดีนะ ทำยังไงถึงจะเรียกร้องความสนใจได้

กานดาเดินวนไปวนมาในห้อง ตอนนั้นสายตาเจ้ากรรมปะเข้ากับคัตเตอร์อันหนึ่ง วิธีเรียกร้องความสนใจมีมากมาย พอคิดได้กานดาก็เอารูปของเขากับพ่อแม่มาวางตามพื้นให้เหมือนกับเขากำลังนั่งดูมัน

กานดากะเวลาคร่าวๆ อีกไม่ถึงชั่วโมงเพื่อนคนหนึ่งของเขาจะมาหาที่บ้าน ประจวบเหมาะแก่การจัดฉากพอดี



+++++++++++++++++++++



                  จริงๆ ตั้งใจจะเขียน เนื้อเรื่องในส่วนของเพทายในตอนพิเศษ5555 เฉลยก็ไม่ลุ้นเนอะ ขออำภัยอิอิ

                  รูู้สึกว่าปมสุดท้ายนี่เขียนยากน่าดูเลย แต่จะพยายามทำออกมาไม่ให้น่าเกลียดเกินไปนะคะ

                   แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ตบมือแปะๆให้กานดา

เธอเป็นนักแสดงที่แสดงเก่งๆจริงๆ

นี่ถ้าจิระไม่กลับชาติมาแก้ไขจะสู้กานดาได้หรือเปล่าน้อ :m28:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
มันน่าสงสัยนะ เราไม่เชื่อว่ากานดาคือลูกของคมสันจริงๆอ่ะ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ลุ้นต่อไป รออ่านเหมือนกันนนนน  :mew1:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
กานดามั่นใจจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เดาว่าไม่ใช่

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่29

ข่าวกรีดข้อมือของ กานดา จงกล กลายเป็นข่าวดังคึกโครม ใครๆ ต่างก็ว่ากันว่าดาราหน้าใหม่ที่กำลังไปได้สวยผู้นี้กำลังเครียดจัด ส่วนเรื่องอะไรนั้นใครๆ ก็เดาได้ไม่ยาก

ในโลกโซเชียลเริ่มมีเรื่องราววัยเด็กของกานดา ทั้งเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับคมสันและกิ่งหยกผู้เป็นแม่ที่ตายไป เรื่องราวถูกตีสีใส่ไข่จนเริ่มเลยเถิดอย่างเหลือเชื่อ

ตอนนี้ลือถึงขั้นว่าจินดาภรรยาหลวงของคมสันเป็นมือที่สามที่แย่งคนรักของกิ่งหยกแม่ของกานดาไป ทำเอาคมสันปวดหัวทุกวัน

สุดท้ายในวันที่สามที่กานดาอยู่ในโรงพยาบาล วศินเรียกคมสันไปคุยตัวต่อตัวในห้องทำงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“เจ้าจะเอายังไงคมสัน” วศินถาม

หมู่นี้หลายๆ อย่างที่โถมเข้าใส่คนในครอบครัวมีมากไปหมดจนดูวุ่นวาย โดยเฉพาะเรื่องของดารินเองก็ยังไม่เข้าที่

ความวัวไม่ทันหายแท้ๆ กลับมีเรื่องเด็กที่ชื่อกานดาอีก วศินไม่รู้เลยว่ามีหลานคนนี้อยู่ เขาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ หากรู้ถึงตัวตนของหลานคนนี้แต่แรกเขาคงสั่งให้คมสันรับเข้ามาในบ้านแต่ต้นไม่ปล่อยให้ลำบากข้างนอกแบบนี้

“ไปรับเด็กนั่นเข้าบ้านเราซะ” วศินออกคำสั่งเฉียบขาด

“แต่คุณพ่อ...เด็กนั่นไม่ใช่ลูกผม”

“จะใช่หรือไม่ใช่ไว้ตรวจdnaกันก่อน พ่อไม่รู้นะว่าอะไรทำให้เด็กคนนั้นปักใจเชื่อว่าเป็นลูกของเจ้า แต่ก็เห็นแล้วว่าเด็กนั่นต้องรับภาระทางใจมากแค่ไหน ผลที่ได้เจ้าเห็นแล้วนี่”

คมสันคอตกจริงๆ ที่เขาไม่สนใจเด็กคนนั้นทั้งหมดก็เพื่อเด็กนั่นเอง เพราะเข้าใจว่าเด็กไม่มีความผิด จะผิดก็กิ่งหยกที่ทำกับเขาอย่างแสบสัน

เข้าใจว่ากิ่งหยกคงเลี้ยงดูกานดาให้เชื่อว่าเป็นลูกของเขามาโดยตลอด ก็ไม่แปลกใจหล่อนเองยังเข้าใจว่ากานดาคือลูกของเขา ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาลอบตรวจdnaของเด็กตั้งแต่แรกเกิด รวมถึงส่งคนไปสืบภายหลังถึงได้รู้ว่ากิ่งหยกเองแอบคบผู้ชายซ้อนไว้หนึ่งคน

มีผู้ชายนอนด้วยถึงสองคนจะแยกไม่ออกว่าเป็นลูกใครก็ไม่แปลก แต่ก็นั่นแหละหากอยากสบายคงต้องสะกดจิตตัวเองและลูกให้คิดว่ากานดาเป็นลูกของเขา

18 ปีก่อนหลังจากตรวจdna เขาโอนเงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีของกิ่งหยกแล้วหายตัวมาอย่างเงียบๆ ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดกิ่งหยกเข้ากับเขาได้ดีที่สุด ดังนั้นเงินจำนวน 1 ล้าน ที่โอนให้ไว้เลี้ยงบุตรก็เหมาะสมแล้ว

กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างนี้ เขาไม่รู้จะทำอย่างไร เขารู้สึกเวทนากานดาเหลือเกิน เชื่อว่าหากตรวจdnaแล้วพบว่าไม่ใช่ลูกของเขาเด็กนั่นคงไม่ต่างจากถูกผลักร่วงลงเหวไป

“ไปรับเด็กนั่นจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้านเรา แล้วจัดการตรวจdnaให้เรียบร้อย เข้าใจนะคมสัน”

“ครับคุณพ่อ”



กานดาอยู่ในห้องพักของโรงพยาบาลอย่างกะวนกะวายใจ นี่ก็วันที่ 4 แล้ว ไม่มีวี่แววของคุณพ่อเลยซักนิด ถึงแม้ว่าในโลกโซเชียลจะโหมด่าคนในตระกูลมกรธวัชอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีใครมา

นานมากแล้วที่กานดาไม่ได้รู้สึกเศร้าและเสียใจอย่างจริงจัง ตั้งแต่แม่ตายและต้องเลี้ยงดูตัวเองด้วยการเป็นเด็กของปราบดา เขาก็ไม่เคยร้องไห้ฟูมฟายอีกเลย

ชีวิตส่วนใหญ่ของเขานับจากแม่ตาย มีแต่การเฝ้าดูจิระอย่างใกล้ชิดและอิจฉา เขามีอะไรไม่ดี แล้วหมอนั่นมีอะไรดี คุณพ่อถึงเลือกจิระแล้วเขี่ยเขาทิ้งตั้งแต่แรกเกิด

ก็รู้อยู่ว่าที่ทำลงไปทั้งหมดนั้นมันแย่ แต่ถ้าให้หยุดรังแกจิระ เขาก็ทำไม่ได้ ทุกครั้งที่หดหู่และเสียใจ เขาจะวนเวียนอยู่ข้างๆ จิระ หาเรื่องรังแกลับๆ เพื่อระบายความคับคั่งอันนี้ไป

หลายต่อหลายครั้งที่ถามตัวเองว่าเหนื่อยไหม จะพอได้หรือยัง แต่มันหยุดไม่ได้ ตัวตนของจิระเหมือนหนามยอกใจโดยตลอด รวมถึงจิระเองก็เห็นเขาเป็นศัตรูเช่นกัน หมอนั่นเองก็ไม่เคยทำดีหรือพูดดีกับเขาเลยไม่ใช่หรือไง

เกลียด เกลียดตัวเองที่ต้องมานั่งร้องไห้ เกลียดที่ต้องแอบมองครอบครัว มองคุณพ่อจากเงามืด เขาเคยพยายามทำดีกับจิระหลายครั้งเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งอย่างเนียนๆ

แต่ด้วยความที่จิระเป็นคนที่มีหนามแหลมคมมากกว่าคนทั่วไป แถมอีกฝ่ายยังตั้งป้อมรังเกียจเขาอย่างเห็นได้ชัด ก็ในเมื่อเกลียดเขานักก็ดีเหมือนกัน เขาเองก็ไม่ใช่ดอกไม้อ่อนแอ

กานดาเป็นดอกไม้ที่มีหนามแหลมคม และพร้อมจะทิ่มแทงจิระลูกที่ได้รับความรักจากคุณพ่อไปจนหมด แต่มาวันนี้เขาเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน เขาอุตส่าห์ลงทุนทำโง่ๆ ยอมทำร้ายตัวเองจนเกือบตาย

“ทำเพื่ออะไรกันนะเรา” กานดาพยายามกลั้นน้ำตา แต่เพราะเจ็บปวดเหลือเกินจึงร้องไห้ออกมาอย่างไร้เสียง

“ขอเข้าไปนะคะ” เสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้อง กานดารีบปาดน้ำตา

คนที่เข้ามาในห้องกานดารู้จักดี จะไม่รู้ได้อย่างไรเขาแอบเฝ้ามองดูคนๆ นี้มานานพอๆ กับเฝ้ามองจิระ

“คุณน้ามีอะไรกับผมหรือครับ”

“น้าชื่อจินดา มกรธวัช นะ ที่มาวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับเรา”

“เรื่อง...เรื่องอะไรครับ” กานดาเผลอทำสีหน้าเข้มขึ้น หรือว่าจะมาเล่นงานเขาแทนจิระ

“น้ามาในฐานะตัวแทนของบ้านมกรธวัช” จินดามองดูรอยกรีดที่ข้อมือแล้วรู้สึกเวทนา คมสันนะคมสัน ก็รู้อยู่ว่าเป็นผู้ชายมักมาก แต่ไม่คิดว่าถึงขั้นไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้

“ลำบากหน่อยนะลูก คุณปู่ให้เราไปอยู่ที่บ้านมกรธวัชเพื่อรอพิสูจน์dnaนะลูกนะ”

“เอ๊ะ...” กานดายังไม่เข้าใจที่จินดาพูด “คุณน้าหมายถึง”

“คุณปู่อนุญาตให้หนูได้พิสูจน์ความจริงแล้วนะ น้าเขาใจว่ามันเหมือนไม่ยุติธรรม แต่พวกเราเห็นว่ามันดีที่สุดแล้ว วันนี้ออกจากโรงพยาบาลใช่ไหม เดี๋ยวเราไปที่บ้านหนูกันแล้วจัดกระเป๋าไปที่บ้านมกรธวัชกันนะ”

“ท่านวศินอนุญาตให้ผมไปอยู่ที่บ้านหรือครับ ให้ตรวจdna”

“ใช่จะ”

กานดาปั้นสีหน้าไม่ถูก ทั้งที่นี่เป็นสิ่งที่รอคอยมานาน แต่เมื่อโอกาสมาถึง เขากลับรู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจยังไงบอกไม่ถูก

วศินแจ้งเรื่องที่กานดาจะมาอาศัยอยู่ในบ้านมกรธวัชให้สมาชิกครอบครัวทั้งหมดทราบ ตามจริงจิระจะไม่สนใจเรื่องของกานดาเลยก็ได้ แต่พอมาคิดให้ดีแล้ว หากผลตรวจdnaออกมาเป็นอย่างที่เพทายบอก เขาก็รู้สึกสงสารขึ้นมานิดหน่อย

กานดาคนนั้นถูกแม่เลี้ยงดูมาให้เชื่อว่าเป็นลูกของพ่อมาโดยตลอด พอรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ไม่แปลกใจว่าทำไมหมอนั่นถึงเห็นเขาเป็นศัตรูนัก

เพทายบอกว่ากานดาอิจฉาเขา แต่พอมาคิดดูให้ดีๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องอิจฉาเท่านั้น จิระรู้ดี มันมาจากการที่เขาไปรังแกกานดาก่อนจนกระตุ้นให้ฝ่ายนั้นตอบโต้ด้วยเช่นกัน

เดี๋ยวนี้ชีวิตเขาดีขึ้นมากกว่าชาติที่แล้วหลายเท่า ดังนั้นจึงไม่รู้สึกโกรธแค้นกานดาอย่างที่ควรเป็น กลับรู้สึกเวทนาที่ฝ่ายนั้นไม่มีใครคอยปกป้องเหมือนอย่างที่เพทายปกป้องเขา และเขาดูแลดารัน

<นายอยากได้รับการยอมรับจนถึงกับกรีดข้อมือเลยเชียวหรือ> ถ้าบอกว่าเสแสร้งก็ไม่ถูกเสียทีเดียว การที่คนเราจะทำร้ายตัวเองเพื่ออะไรบางอย่าง นั่นหมายถึงเขาต้องการมันมาก หรืออีกในหนึ่งก็คือสุดๆ กับทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้ว

จิระหันไปมองหน้าเพทาย อีกฝ่ายกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมา แผนการเร่งให้ทำลายตัวเองเร็วขึ้นของคนรัก ช่างร้ายกาจ เขาไม่รู้ว่ากานดาจะเข้มแข็งพอที่จะผ่านไปได้ไหม

จริงๆ ก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นแบบนี้อยู่หรอก แต่ถ้าไม่ทำให้รู้กันตั้งแต่ตอนนี้ เพทายบอกว่าหากปล่อยไปนานๆ กานดาจะก่อเรื่องได้ใหญ่โตกว่านี้

อย่างสำนวนที่พูดกันว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด หากไม่สั่งสอนตอนนี้ กานดาจะเพิ่มความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจมากกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่าหมอนั่นเป็นอย่างที่เพทายพูดไหม แต่เขาเลือกที่จะเชื่อคนรักอย่างหมดใจ



++++++++++++++++++++++++++++++++

คนเขียนไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น แต่เวลาต้องตีกะเฆี่ยนนะ 5555

สงสารกานดากันใช่ไหมเอ่ย จุดจบนางทั้งแย่และไม่แย่จ้า ไม่สปอยนะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ทำตัวเองทั้งนั้นอ่ะะ เห้ออออ ไม่สงสารและไม่เกลียด

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
จัดการตอนนี้ดีกว่าปล่อยเอาไว้

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ทำให้รู้แล้วตัดใจก็ดีเหมือนกัน

เจอกันพรุ่งนี้น้าาาาาาา :L2:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ไม่สงสารอ่า ทำตัวเองทั้งหมดรวมถึงแม่ด้วย

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ถอนหายใจรัวให้กานดา

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :เฮ้อ: ทำตัวเองนะกานดา
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
แพ้ภัยตัวเองและแพ้ความเจ้าเล่ห์ของเพทาย

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กานดาต้องโดนแบบสาสม !!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่30

วินาทีที่ถูกพามาที่บ้านมกรธวัช กานดารู้สึกเหมือนทุกอย่างเป็นความฝัน ไม่ให้เหมือนฝันได้ยังไง ในเมื่อก่อนหน้านั้นคิดว่าคนในบ้านหลังนี้ต้องต่อต้านการมาของเขาแน่นอน

แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น กานดาได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างดีจนไม่รู้สึกเหมือนตนเองเป็นลูกนอกกฏหมายเลยแม้แต่นิดเดียว

กานดาไม่เข้าใจเลยซักนิดว่าทำไมคุณจินดาถึงได้แสดงความปรานีแก่เขานัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจิระ ฝ่ายนั้นไม่ได้มีท่าทีรังเกียจเขาเลยจนรู้สึกไม่อยากเชื่อ

กานดาคาดหวังว่าจะได้พบหน้าคุณพ่อ ไม่ได้คาดหวังให้คุณพ่อรัก เขาแค่อยากถามว่าเพราะอะไรถึงทิ้งตนกับแม่ไป แต่คนที่คาดหวังกลับไม่ได้อยู่ที่บ้านมกรธวัช

เขาไม่รู้ว่าคุณพ่อไปไหน แต่ก็เดาได้ไม่ยากนัก คุณพ่อคงอยากหลบหน้าเขานั่นเอง ทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ กระนั้นเมื่อมาพบกับเหตุการณ์จริง ก็รู้สึกร้อนผะผ่าวที่กระบอกตา

วันนี้ทั้งวันกานดามีถ่ายโฆษณาหลายตัว ในขณะที่จิระยังคงว่างงานนั่งแกร่วอยู่บ้าน แปลกที่จิระไม่ดิ้นรนหางาน ทั้งๆ ที่จิระคนนั้นเป็นคนกระหายความก้าวหน้าและชื่อเสียง

กานดาเก็บความสงสัยเอาไว้เต็มหัว เขาไม่สามารถสลัดเรื่องราวเกี่ยวกับจิระได้ ถึงแม้ไม่กระทบงาน แต่สองวันมานี้เหมือนได้พบจิระในมุมมองใหม่

หมอนั่นไม่สำรวยฟู่ฟ่าเท่าเดิม ไม่สิยังคงเป็นคนประเภทดูแลตัวเองดีใช้ของมีราคาเหมือนเดิม แต่ไม่สุรุ่ยสุร่ายอวดรวยเกินงามอีกต่อไป

แล้วยังมีอะไรอีก จิระที่เคยเกลียดน้องชายคนนั้น ดูแลน้องชายต่างมารดาอย่างดี เด็กที่ชื่อดารันนั่นถูกจิระเอาอกเอาใจจนเรียกได้ว่ามองแทบไม่ออกว่าเป็นพี่น้องต่างมารดา

แล้วยังมีอะไรอีกนะ อ้อ...จิระซึ่งเกลียดแสนเกลียดคู่หมั้นของตนเองมาตลอด เวลานี้ปฏิบัติตัวไม่ต่างกับเจ้าแมวเปอร์เซียที่อยากออดอ้อนเจ้าของ

เขาตกข่าวอะไรไปหรือไงนะ มันไม่น่าใช่แบบนี้สิ จิระที่เคยดูถูกคนเขาไปทั่ว จิระที่ขี้โมโห จิระที่เอาแต่ใจ ฟุ้งเฟ้อ และชอบอวดคนนั้น เปลี่ยนเป็นอะไรไปแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติของจิระที่มีต่อเขา หมอนั่นแม้ไม่ได้มาวุ่นวายจนน่ารำคาญ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้รับการดูแลอย่างดีจากจิระ

ทั้งพาไปแนะนำส่วนต่างๆ ของบ้าน ทั้งฝากฝังให้คนรับใช้คอยดูแลความสะดวก จะบอกว่าหมอนั่นยอมรับได้อย่างนั้นหรือเรื่องที่เขาเป็นพี่ชาย

แปลกๆ ๆ ๆ นี่มันแปลกเกินไปแล้ว สองวันมานี้ยอมรับว่าอึดอัด เขาไม่รู้ว่าจะแสร้งปั้นหน้าอย่างไรเวลาพบจิระ บ้าเอ๊ย จู่ๆ ก็มาทำดีด้วยต้องการอะไรกันแน่

กานดาคิดว่าอีกไม่นานจิระคงเผยธาตุแท้ ทว่าหนึ่งสัปดาห์พอดีที่ฝ่ายนั้นทำดีกับเขา ดีเสียจนเขาปฏิบัติตัวด้วยไม่ถูก เขายอมให้หมอนั่นชกยังดีกว่ามาเคาะเรียกหน้าห้องเพื่อให้ไปทานข้าว มันประหลาด ประหลาดจริงๆ



“พี่จะไปไหน” ดารันถามจิระที่เดินนำฉับๆ ไปตามทาง

“ไปตามกานดามาทานข้าว” จิระตอบ

“ต้องไปเรียกทุกครั้งนี่นะ พี่ดีกับเขาเกินไปไหม”

“นายก็เห็นที่พวกคนใช้แสดงออกแล้วนี่”

ดารันยิ้มเยาะหลังจากจิระพูดจบ เขารู้ดีว่าจิระหมายถึงอะไรพวกคนใช้เกลียดกานดาและไม่ค่อยยอมรับใช้หมอนั่น ทุกอย่างเป็นฝีมือของเขาเอง

จริงๆ ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับกานดา แต่เพราะทราบเรื่องราวต่างๆ มากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นจากคำบอกเล่า เจอมากับตัว หรือตามสัญชาติญาณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เป็นคู่ปรับกับจิระ ยิ่งได้ฟังจากคำบอกเล่าที่เขาแกมบังคับมาก็ยิ่งรู้สึกว่าพี่ชายของตนนี่ช่างโง่ไม่มีใครเกิน

ถูกยั่วยุปั่นหัวก็โต้ตอบด้วยความรุนแรงทุกครั้ง เดี๋ยวนี้ยังดีขึ้นหน่อยที่มีสติรู้คิดไม่เหมือนเมื่อก่อน สำหรับเขาแค่ฟังคำบอกเล่าไม่ต้องอยู่ร่วมเหตุการณ์ก็เดาออกได้ทั้งหมด

ไม่สิ อาจเป็นเพราะว่าเขารักพี่ชายอย่างจิระแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นความคิดอ่านจึงเอนเอียงเข้าข้างพี่ชายไปเสียหมด ดังนั้นแม้ไม่แสดงออกแต่เขาก็เป็นตัวตั้งตัวตีที่ทำให้คนรับใช้กระด้างกระเดื่องต่อกานดา

“พวกคนใช้ทำไมหรือพี่จิระ” ดารันถาม สีหน้าไม่ต่างจากปกติไม่มีพิรุธทั้งสิ้น

“ก็เหมือนไม่ชอบ แล้วไม่ดูแลรับใช้กานดาอยู่คนเดียว”

“งั้นรึ...”

“ก็เออสิ” จิระตอบ รู้สึกวันนี้ดารันดูกวนๆ ดีเหลือเกิน

“พี่จะเดือดร้อนทำไม พี่นี่แปลกนะ อยู่ๆ เกิดมาเป็นห่วงศัตรูคู่แค้น ประหลาดคน อีกอย่างเรายังไม่รู้เลยว่าเขาใช่พี่น้องเราจริงไหม ไม่จำเป็นต้องรีบทำดีหรอก”

ดารันไม่ได้พูดเสียงเบานัก และเขาจงใจพูดยามที่อยู่หน้าห้องของกานดา หลังจากพูดจบโดยไมทันตั้งตัวกานดาก็เปิดประตูออกมาเผชิญหน้า

สีหน้าของกานดาไม่ได้ดูหงอหรือแหยเอาอกเอาใจใครเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทว่าแววตากลับวาววับพร้อมสู้รบตบมืออย่างที่สุด

ดารันกระตุกยิ้ม นี่สินะธาตุแท้ของหมอนี่ ก็ดีเลย พี่จิระควรได้เห็น คราวนี้จะได้เลิกโง่เห็นจิ้งจอกเป็นกระต่ายเสียที

“นายต้องการอะไรกันแน่จิระ”

“หะ” จิระงงไปหมดต่อคำถามของกานดา

“ฉันถามอีกครั้งว่านายต้องการอะไรกันแน่”

“ฉันเหรอ...ก็จะมาเรียกนายไปทานข้าวไง”

ดารันหัวเราะเยาะหยัน บางทีพี่ชายของเขาบทจะเซ่อก็ได้ใจจริงๆ สีหน้านี่บอกชัดเลยว่าพูดออกมาจากใจ

“เลิกสร้างภาพเสียทีได้ไหม” กานดาไม่ได้ตะคอก แต่กำหมัดแน่นและตัวสั่นเทิ้ม ดารันรู้สึกเป็นห่วงกลัวว่าพี่ชายจะตอบโต้อีกฝ่ายไม่ได้จึงทำท่าเข้าไปคุย แต่จิระพูดกลับเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ฉันทำดีกับนายระดับที่ใช้ต้อนรับแขกของบ้าน ลองคิดดูให้ดีสิ พาเดินชมบ้าน ฝากฝังคนใช้ เรียกมาทานข้าว ร้ายกันเกินไปหน่อยนะที่หาว่าฉันเสแสร้งนี่”

“นายไม่เคยดีกับฉันแบบนี้” กานดากัดฟันกรอด จ้องมองดูจิระตรงๆ



จิระไม่เสียเวลาคิดคำตอบแต่อย่างใด เขายักไหล่ “ก็ฉันเบื่อแล้ว เบื่อที่จะตามเกลียด ตามฟาดฟันกับใคร ชีวิตฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก ถ้าเกิดต้องมานั่งเสียเวลาคิดว่าใครเกลียดตัวเองแล้วหาวิธีตอบโต้ หรือนั่งอิจฉาจนวางแผนรังแก มันก็เสียเวลาชีวิตน่ะนะ นายเป็นคนฉลาดน่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ”

ดารันเห็นด้วยกับจิระทุกประการ เขาสังเกตเห็นว่ากานดาหน้าซีดเผือด ดูท่าทางคงทั้งตกใจทั้งคาดไม่ถึง อย่าว่าแต่หมอนี่เลย เขาเองก็ไม่ต่างกัน ดารันเองก็เคยเป็นศัตรูที่ฟาดฟันกับจิระมาตลอด

การที่จิระเปลี่ยนไปขนาดนี้ยังความสงสัยมาให้เขามากมาย บางที่ดารันก็แอบคิดว่ามีใครสับเปลี่ยนวิญญาณใหม่มาสิงจิระ แต่หลังจากที่สังเกตอย่างถี่ถ้วนมาระยะหนึ่ง

จิระก็ยังคงเป็นจิระ ของที่ชอบหรือพฤติกรรมคุ้นชินยังคงทำแบบเดิมโดยไม่ได้ตั้งใจ จิระทำตัวดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะขจัดนิสัยน่ารำคาญออกไปทั้งหมด

ยังคงมีนิสัยขี้เหงาและเรียกร้องความสนใจอย่างน่าชัง เมื่อก่อนแค่กับภาคิน แต่เดี๋ยวนี้ลามปามมาใช้กับเขาด้วยอีกคน พูดง่ายๆ คือบางครั้งก็เข้ามาอ้อนเขาที่เป็นน้องชายเหมือนแมวตัวใหญ่ พฤติกรรมน่าเหนื่อยใจแบบนี้บางทีคงแก้ไม่หายทั้งชีวิต

“นายนี่มันน่ารังเกียจ”

ใช่น่ารังเกียจจริงๆ แบบนี้มันก็เหมือนทิ้งเขาให้กลายเป็นนางร้ายเพียงผู้เดียวโดยสมบูรณ์สิ กานดารู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ นี่มันเหมือนกับเขาพ่ายแพ้ พ่ายแพ้จิระอย่างหมดรูป

“ฉันจะไปถ่ายละคร” กานดาก้มหน้าก้มตาแหวกทางระหว่างดารันและจิระ อีกไม่นานผลตรวจdnaจะออกมา ถึงตอนนั้นเขายังต้องกังวลอะไรอีก

จิระจะทำดีเพราะเสแสร้งหรือจริงใจก็ช่าง ในที่สุดเขาจะได้สิ่งที่ปรารถนาและยืนท่ามกลางแสงสว่างอย่างเท่าเทียม

ทว่า...คำพูดของจิระวนเวียนอยู่ในหัวของกานดาจนสลัดไม่หลุด เขาเองก็เคยคิดแบบนั้นนับครั้งไม่ถ้วน เคยพยายามเข้าหาจิระอย่างดี แต่หมอนั่นไม่เคยเห็นความตั้งใจของเขาเลย

แล้วทำไมจู่ๆ ถึงคิดได้ขึ้นมา ขี้โกง ขี้โกงจริงๆ จะบอกว่าไม่ต้องการความเกลียดชังที่มีต่อเขาแล้วงั้นหรือ หมายถึงไม่เห็นเขาในสายตาแล้วใช่ไหม

กานดาสับสน เจ็บใจ และรู้สึกอ้างว้าง ที่ผ่านมาลงทุนลงแรงไปตั้งเท่าไหร่ แต่ศัตรูของเขากลับมาบอกซึ่งๆ หน้าว่าพอแล้ว แล้วเขาล่ะ...จะทำอย่างไรต่อไป

เดินหน้ารังแกคนที่เขาไม่สนใจตัวเองแล้วอย่างนั้นหรือ ถ้าทำอย่างนั้นก็รู้สึกว่าตนเองเป็นคนพ่ายแพ้และน่าสมเพชที่สุด เขาจะทำอย่างไรต่อไปดี...

กานดาใช้สายตาอ้างว้างมองไปบนถนน เขาไม่รู้แล้วว่าที่ผ่านมาพยายามทำเพื่ออะไร แต่พอนึกถึงผลตรวจdnaแรงใจก็กลับมาอีกครั้ง

อย่าไปคิดถึงจิระ เขาควรคิดถึงสิ่งที่หวังเอาไว้มาโดยตลอด



++++++++++++++++

ที่มาสั้นไม่ต้องแปลกใจ เวลาแต่งนิยายมันน้อยงานใหม่หยิบมือถือมาพิมนิยายไม่ได้เลยค่าTT

ตอนนี้ต้องมาแต่งตอนกลางคืน ง่วงนอนละเกิน

ปกติเราใช้เวลาแต่งนิยายห้าหน้าคือสองชั่วโมงกว่าๆ ก็นะถึงมีพลอตในหัว

แต่นั่งแก้ไปแก้มาเยอะ ลบทิ้งเยอะกะมีค่า

ที่นี่มันสั้นมากอะนะ แต่อยากให้อ่านกันทุวันเราเลยเอามาลงสเต็ปเดิมเลย

ขอบคุณทุกความเห็นที่ผ่านมานะคะ แล้วอย่าลืมแสดงความคิดเห็นให้เราอีกนะคะ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
บางที กานดา ก็ยึดติดเกินไปกับสิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นของตัวเอง เหมือนมีไอคิวแต่ขาดอีคิว  อยากได้แต่ไม่ทำตัวมีให้คุณค่า  คนแบบนี้ไม่น่าสงสารเท่าไหร่ จริงๆทำคนเราเรียนเก่งขนาดนี้ ไปสอบเป็นหมอ หรือหาหนทางชีวิตดีๆนาจะโอเคกว่า มาตามหาว่าพ่อไม่ยอมรับตนเอง ทำชีวิตยุ่งเหยิง
ถ้ามันเป็นของเราจริง สักวันก็ต้องกลับมาเป็นของเราป่ะ #ทีมจิระ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
คนอื่นเขาหยุดแล้วเราก็ควรหยุดนะกานดา

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
 :z3:ค้างเหลือเหินค่า อยากอ่านต่อแล้ว คุณนีกเขียนสู้ๆค่ะ ถ้าไม่ไหวพักสีกพักก็ได้ค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เตรียมพบคนหน้าแหก 1ea

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
รอๆๆ รอวันกานดาหน้าแตก 

 :pig4:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอเลยจ้า

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่31

ปราบดามีคนที่เกลียดและเริ่มจะเกลียดหน้ามันขึ้นเรื่อยๆ ไอ้หมอนั้นมันมีตำแหน่งเป็นรองบรรณาธิการ ยังหนุ่มแน่นและเป็นคลื่นลูกใหม่ไฟแรง

เพราะแนวคิดอันล้ำหน้าหลากหลายกับการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมจนมันก้าวขึ้นมาเป็นรองบรรนาธิการด้วยวัยเพียงแค่ 27 เท่านั้น

ปราบดาอิจฉาสายหมอก มันไม่ได้แค่หล่อเท่านั้นแต่ยังฉลาดอีกด้วย ถึงแม้เขาจะคอยแย่งผลงานหรือกดหัวมันบ่อยครั้งก็ไม่สามารถปิดบังประกายแสงแห่งความล้ำเลิศของมันไปได้

วันนี้ก็เหมือนกันมันได้เสนอบางสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาท่ามกลางการประชุม ปกติสนพจะมีการส่งตัวโฆษนาไปตามช่องทางสื่อtvและวิทยุเพื่อเชิญชวนกับแนะนำให้ลูกค้าใหม่ๆ รู้จักนิตยสารรวมถึงหนังสือพิมพ์ของสนพ

แต่คราวนี้เผลอแผลบเดียว ไอ้สายหมอกถึงกลับกล้าเสนอแผนการโฆษนารูปแบบใหม่ทั้งที่มันไม่ใช่หน้าที่ของแผนกตัวเอง

จริงๆ ปราบดาคิดว่ามันเป็นรูปแบบการโฆษนาที่น่าสนใจ เขาคิดไม่ถึงมาก่อน แต่ก็รู้มาว่าที่ประเทศอื่นรวมถึงในประเทศตนเองก็เริ่มมีการโฆษนาผ่านแอฟfด้วยเหมือนกัน

“น่าสนใจดีนี่ เท่าที่คุณแจกแจงรายละเอียดมา มีข้อดีหลายอย่างทีเดียว”

พัชราภาดูพออกพอใจ สายหมอกยังเสนอให้เปิดเพจออฟฟิตเชียลของสนพในแอฟfเพื่อรายงานความคืบหน้าและคอนเทนต์ต่างๆ ของสนพ

ทุกคนในที่ประชุมเห็นด้วยโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ตามจริงปราบดานึกอยากขัดแข้งขัดขาอยู่บ้าง แต่พอเห็นสีหน้าของพัชราภาเขาก็หุบปากไม่กล้ากวนน้ำให้ขุ่น

การประชุมที่ว่านี้เป็นเรื่องเมื่อ5เดือนก่อน เพียง5เดือนเท่านั้นผลจากการโฆษณาและเสนอคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางแอพf มันกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นถึง 3 เปอร์เซ็น

ปราบดาไม่คิดมาก่อนว่าการเสนอโฆษนาให้ผู้คนบนแอฟจะส่งผลดีถึงขนาดนี้ คิดๆ ดูแล้วรู้สึกเจ็บใจที่ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้มาจากการเสนอของตนเอง





ความเจ็บใจนี้ยังไม่เท่ากับการที่ไอ้สายหมอกถูกเสนอให้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการในสนพลูกที่ตั้งขึ้นมาใหม่ คุณพัชราภาเริ่มสนใจพวกวรรณกรรมวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นงานวรรณกรรมแปลจากต่างประเทศหรือแม้แต่งานจำพวกนิยายรักวัยรุ่น

ปราบดาไม่ถนัดงานด้านนี้ก็จริง แต่รู้สึกเสียดายแล้วก็คิดว่าถึงต้องควบตำแหน่งทั้งงานเดิมและงานใหม่เขาก็น่าจะทำได้ดี

สงสัยว่าวันนี้ต้องเข้าไปอ้อนคุณพัชราภาเสียหน่อย เขารู้ดีว่าตนเองเป็นที่รักของพัชราภา ในบรรดาเด็กที่คุณเลี้ยงมา ไม่ใช่เขาหรือที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมที่สุด

ปราบดาเดินอาดๆ ไปยังห้องทำงานส่วนตัวของพัชราภาในบริษัท เลขานุการคุ้นชินกับการมาของปราบดาดี

วรินทรยิ้มเยาะปราบดาโดยไม่ให้เห็น ผู้ชายคนนี้ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ถือตัวว่าเป็นที่รักของคุณพัชราภา วางก้ามไปทั่ว ตอนนี้จะตกกระป๋องยังไม่รู้ตัวอีก

“มาทำไมคะคุณปราบดา” วรินทรถาม

“ฉันก็มาหาคุณพัชราภานะซี้ถามได้”

“เข้าไม่ได้ค่ะ คุณเขายุ่งอยู่”

“ทำไมจะเข้าไม่ได้ ฉันต้องรายงานเกี่ยวกับงานให้คุณทราบนะ”

วรินทรเบ้ปาก มาเรื่องงานหรือมาเรื่องกามเพื่อหาผลประโยชน์กันแน่ เธอเป็นเลขานุการที่พัชราภาไว้ใจให้ทำทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องที่บ้านยันที่ทำงาน ทำไมเธอจะไม่รู้สถานะของปราบดา

“ยังไงก็เข้าไม่ได้ค่ะ” วรินทรแกล้งแสร้งทำเป็นเดินเข้ามาขวาง แต่ตามจริงอยากให้ปราบดาเสนอหน้าเข้าไปอย่างโง่ๆ จะได้รู้ตัวซักทีว่าตกกระป๋องมันเป็นยังไง

“หลีก” ปราบดาผลักวรินทรจนเซ เธอไม่ได้ล้มและไม่ได้ห้ามปราบดาอีก

“คุณอิ๋วผมเข้าไปนะครับ”

ปราบดาผลักประตูเข้าไปและพบภาพบาดตา ไอ้สายหมอกกำลังบรรจงจุมพิตริมฝีปากลงบนหลังมือของพัชราภาซึ่งนั่งไขว้ห้างบนเก้าอี้

ปราบดาทั้งหึงทั้งรู้สึกโกรธจนเส้นเลือดบนขมับปูดบวม เขาปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วชกสายหมอกจนหน้าสะบัดหัน

ปราบดาสะใจที่สามารถทำให้สายหมอกเลือดออกได้ แต่แวบหนึ่งเห็นสายตาดุดันของมันชำเลืองมา สายตาราวกับนักฆ่านั้นทำเอาตัวชาไปชั่วครู่

“หยุดเดียวนี้นะ” เพราะคำพูดของพัชราภาทำให้การวิวาทจบลง

“ปราบดากล้าดียังไงถึงมาก่อเรื่องในห้องทำงานของฉัน”

“ก็มันล่วงเกินคุณอิ๋วนี่ครับ”

“แค่นั้น...” พัชราภาเลิกคิ้ว ปราบดารีบพลั่งพรูความในใจออกมาทันที

“ไม่ใช่แค่นั่นสิครับ ผมรู้ว่าไอ้สายหมอกมันคงเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการของหัวสนพใหม่ แต่ผมเกรงว่านอกจากมันจะฝีมือไม่พอ อาจจะไม่ซื่อสัตย์ต่อคุณอิ๋วด้วย”

“อ้อ...” พัชราภายกยิ้ม เธอใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางกับโต๊ะ ส่วนมือข้างที่เหลือก็เคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ

“เธอเดาได้ถูก สายหมอกเขาใช้ร่างกายเข้าแลกเพื่อไต่เต้าจริงๆ แต่เขาก็มีฝีมือโดดเด่นน่าจับตามอง”

“ฝีมืออะไรกันครับ แค่เสนอหัวข้อที่ไม่ตรงกับตำแหน่งหน้าที่เท่านั้นเอง”

ปราบดายังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สายหมอกยกยิ้มเหี้ยมเกรียม เขารอให้คุณพัชราภาแจกแจง

“ฉันมีหูตาในสนพเยอะ ใครทำอะไรฉันรู้ทั้งนั้น ผลงานระยะหลังส่วนใหญ่ของเธอตอนนี้ก็แย่งมาจากสายหมอกทั้งนั้นนี่”

ปราบดาหน้าซีดเผือด พอหันไปมองสายหมอกก็พบว่าอีกฝ่ายแสยะยิ้มอยู่

“อย่าไปเชื่อไอ้ผู้ชายบำเรอที่เอาตัวเข้าแลกสิครับ ชั้นต่ำอย่างมันต้องโกหกแน่ๆ”

“ฉันว่าไม่น่าใช่นะ สายหมอนี่ฉันเล็งเอาไว้ตั้งแต่เขาเข้ามาสมัครงานใหม่ๆ ก่อนหน้านั้นเขาไม่ยอมรับข้อเสนอของฉันไม่ว่าจะด้านใดๆ จนเขาทนให้เธอขโมยผลงานต่อไปไม่ไหว ตอนนี้ฉันถึงได้เขามายังไงล่ะ”

“คุณอิ๋วอย่าไปหลงกลมันสิครับ มันรับข้อเสนอเพราะผลประโยชน์มันไม่ได้รักคุณอิ๋วอีกหน่อยมันก็ต้องมีคนอื่น”

พัชราภามองปราบดายิ้มๆ “พูดถึงเรื่องผลประโยชน์และความรัก” กล่าวจบก็ก็ต่อสายโทรศัพท์ภายในไปหาวรินทร “เข้ามาหาฉันพร้อมเอกสารส่วนตัวของปราบดาซิ”

วรินทรรีบหอบสิ่งต่างๆ เข้ามา เธอมองปราบดาแล้วยิ้มเยาะ “นี่ค่ะคุณอิ๋ว”

พัชราภาโยนเอกสารให้ปราบดาดู ในนั้นมีทั้งรูปถ่ายที่เขาเข้าออกโรงแรมกับกานดา รวมไปถึงข้อความตอบโต้ทางแอพLที่ถูกปริ้นออกมาจากpc

“สนุกไหมปราบดา เอาเงินของฉันไปบำเรอเด็กเลี้ยงของตัวเอง”

พัชราภายิ้มหวาน ในขณะที่ปราบดาหน้าซีดเผือด ปากคอเขาสั่นไปหมด หมดสิ้นกันแล้วทั้งหน้าที่การงานทั้งเงินทองที่ควรได้รับ

“ฉันไม่ต้องการคนทรยศ เพราะงั้นฉันจะตัดขาดจากเธอ และจะให้เธอออกจากงานที่ทำอยู่สิ้นเดือนนี้จะโอนเงินค่าชดเชยให้ตามกฏหมายที่ระบุเอาไว้ แล้วก็อย่าได้คิดก่อเรื่องวุนวายให้ฉัน เธอคงรู้สินะว่าฉันมีเส้นสายมากมายทีเดียว”

“คุณอิ๋ว ให้โอกาสผม” ปราบดาพุ่งตัวเข้าหาพัชราภาหมายจะกอดขาอ้อนวอน แต่ถูกสายหมอกถีบจนล้มกลิ้ง

“อยากถูกฉันฟ้องร้องข้อหาทำร้ายร่างกายหรือปราบดา” พัชราภายิ้ม

“วรินทรให้รปภมาลากตัวปราบดาออกไป”

“ผมยังต้องการเวลาอธิบาย” ปราบดาเหมือนไม่ยอมแพ้ แต่เมื่อเจอสายตาวาววับของสายหมอกเขาก็ไม่กล้าโวยวายอีก ได้แต่เดินตามรปภออกจากบริษัทไป

จบสิ้นแล้วชีวิตของเขาจบสิ้นแล้ว เชื่อว่าคงไม่สามารถเข้าทำงานในสนพไหนได้อีก คนอย่างคุณอิ๋วคงร่อนจดหมายไปทุกสนพแล้วแน่ๆ ความฝันของเขาจบลงแล้ว มีแต่ต้องไปเริ่มใหม่ในสายงานด้านอื่น



พัชราภามองแผ่นหลังหดหู่ของปราบดาด้วยรอยยิ้มเปรมปรีดิ์ คนที่ทำกับเธอก็ต้องเจอแบบนี้ สำหรับปราบดาเธอยังปรานีเขามาก แค่ไล่ออกจากงานแถมร่อนจดหมายไปทั่วไม่ให้กลับมาทำงานด้านนี้อีก

แต่กับไอ้ชู้นั่นเธอไม่ปรานีแน่ๆ แค่คิดว่าปราบดานำเงินที่ได้จากเธอไปเลี้ยงดูมันต่อ เธอก็โมโหจนเส้นเลือดปูดบวม

“สายหมอก เธอคิดว่าพวกดารานี่อะไรสำคัญที่สุด” พัชราถาม

“คงเป็นหน้าตาละมั้งครับ”

พัชราภาฟังแล้วหัวเราะชอบใจ เธอต่อสายหาสิบทิศ เพื่อนใหม่ที่เพทายแนะนำให้เธอรู้จัก ทั้งเพทายทั้งสิบทิศต่างเป็นผู้ชายเกรดssที่หน้าตาหล่อเหลาและมีประโยชน์มาก แต่น่าเสียดายเธอชอบผู้ชายที่อยู่ในกำมือมากกว่า

“สิบทิศช่วยงานพี่หน่อยได้ไหมคะ”

<” เรื่องอะไรหรือครับคุณอิ๋ว” >

“เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ แค่สั่งสอนไม่ให้ดาราหน้าใหม่กล้าเผยอชูคออีกเท่านั้น เอาเบาะๆ ก็พอนะคะ”

<” เบาะๆ นะครับ” > สิบทิศหัวเราะชอบใจ หลังจากคุยกับพัชราภาเสร็จก็หันมาชนแก้วกับเพทายต่อ

“พี่อิ๋วมาขอให้ช่วยอีกแล้ว” สิบทิศรายงานให้เพทายฟัง คนฟังยิ้มละไม

“เรื่องอะไรล่ะ”

“เรื่องของกานดา จงกล” สิบทิศส่งสัญญาณให้ลูกน้องชงเหล้ามาให้เพิ่ม

“การลงมือของนายนี่น่าขนลุกจริง ลงดาบโดยไม่ให้มือเปื้อนเลยนะ”

เพทายไม่ตอบได้แต่ดื่มเหล้าในแก้วของตตัวเองเงียบๆ

“ถูกสั่งสอนติดๆ กันแบบนี้ กูเดาว่านิสัยเด็กนั้นคงเปลี่ยนจากกหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย”

“ก็ต้องดูกันไป ถ้านิสัยยังแย่เหมือนเดิมก็อาจจะต้องเล่นกันแรงมากขึ้น”

เพทายบอกสิบทิศ คนฟังนึกอยากหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก เพทายเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรกับศัตรูจะไม่มีความปรานี เด็กนี่โชคดีที่ยังแค่อยู่ในระดับสั่งสอน

“เออ ช่างเรื่องคุณอิ๋วกับเด็กนั่นไปเหอะ มาดื่มกันต่อดีกว่า อย่าเสียเวลาเลย”

จากนั้นสิบทิศก็ชวนเพทายดื่มจนถึงตีสาม เขามีเรื่องให้คุยเยอะแยะมากจึงไม่ยอมปล่อยเพื่อนสนิทสมัยเด็กคนนี้ไปง่ายๆ แต่ก็รั้งเพทายให้อยู่ถึงเช้าไม่ได้อยู่ดี



++++++++++++++++++++++++++++++

บทสรุปของกานดาใกล้มาถึง รู้สึกเขียนยากกลัวเขียนออกมาไม่ดีแฮะ5555

มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องทำไมคนในเรื่องยอมรับเรื่องชายรักชายง่ายจัง

คือปัจจุบันนี้กฏหมายคู่ชีวิตเพศเดียวกันก็ยอมรับหลายประเทศแล้วเนอะ

ในยนิยายเรา เราจินตนาการว่าให้ กฏหมายนี้และเรื่องราวชสายรักชายถูกยอมรับอย่างปกติแล้ว

ออกจะแฟนตาซีไปบ้าง อย่าพึ่งเบื่อรำคาญหรือขัดใจนะคะ ลองอ่านนิยายเราดูก่อน

ถ้าไม่ชอบจริงๆ จะทิ้งเราไปก็ไม่ว่ากันค่ะTT แต่กะอยากให้อ่านจนจบนะ อุตส่ามาอ่านแล้ว

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด