บทที่25
คนในกองถ่ายได้รับบัตรเชิญไปงานฉลองหมั้นของจิระทุกคนแม้แต่เขาก็เช่นกัน กานดารับสิ่งนั้นมากับมือด้วยใบหน้าที่เกือบจะบิดเบี้ยว ให้ตายเถอะทนเก็บความริษยาชิงชังเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
กานดารู้เหตุผลที่ต้องจัดงานหมั้นอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ดี ปราบดาเล่าให้ฟังแล้วเมื่อวานก่อน งานหมั้นครั้งนี้มีเพื่อเปิดตัวทายาทคนสำคัญอย่างเพทายและจิระเขายังรู้ด้วยว่าจิระได้หุ้นของบริษัทมาอยู่ในมือถึง 10 เปอร์เซ็น
นี่มันไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่เขาเองก็เป็นลูกของคุณพ่อเหมือนกันแท้ๆ ต่างกันตรงที่เขาเป็นลูกที่คุณพ่อไม่เคยยอมรับ เขาเติบโตมากับคำบอกเล่าของแม่ที่ป่วยหนักจนตายไป
แม่บอกว่าน่าเสียดายที่คมสันไม่ยอมรับกานดาเป็นลูก นับตั้งแต่รู้ว่าเป็นลูกเขาก็แอบแวะเวียนไปดูหน้าพ่อและครอบครัวของพ่อเสมอ เขาพบว่าลูกชายของพ่อทั้งสองคนไม่มีใครมีดีเทียบเท่าตนได้เลย
แล้วทำไมในเมื่อมีลูกที่ยอดเยี่ยมอย่างเขาคุณพ่อถึงไม่หันมาเหลียวแลบ้าง เพราะแม่ของเขาเป็นเพียงแค่เด็กเสิร์ฟอย่างนั้นหรือ ยัยดารินอะไรนั่นก็เป็นแค่ผู้หญิงในบาร์เหมือนกัน
หรือว่าเป็นเพราะเขาเป็นลูกที่ไม่ตั้งใจให้เกิด ใช่สิหลังจากมีลูกครบสามคน พ่อก็ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมีลูกของตัวเองอีกเลย
การที่จิระประสบความสำเร็จได้เงินทองมากมายและเป็นที่รักขนาดนี้ กานดาอยากจะร้องตะโกนออกมาให้เต็มเสียง เขาจะมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อคนที่อยากให้ลิ้มรสความเจ็บปวดเหมือนอย่างเขานั้น ได้รับพรจากฟ้าและไม่ต้องไขว่คว้าอะไรเลย
เกลียด เกลียดมัน เกลียดไอ้จิระ
แม้จะเกลียดแค่ไหนแต่ก็ยังต้องปั้นหน้ายิ้ม กานดารู้สึกอยากกลับบ้านหลบไปเลียแผลใจเพื่อหาที่ระบายความคลั่งแค้นอันนี้
วาดดาวกับชาติชายเป็นนักพนันตัวยง สองสามีภรรยาอาศัยอยู่ด้วยเงินที่ได้จากการพนันในบ่อนต่างๆ สองผัวเมียตระเวณไปทุกที่ที่มีบ่อน
แต่ว่าช่วงนี้ดวงของทั้งคู่ตกหรือไงนะ สามวันนี้เล่นไปก็แทบไม่ได้เงินเลย ยิ่งเล่นเสียยิ่งมีแรงฮึดว่าลองอีกหนน่าเดี๋ยวก็ได้กำไร สุดท้ายต้องกู้เจ้าของบ่อนมาลงทุนจนเป็นหนี้บานเบอะ ต้องถูกคุมตัวเพื่อคุยกันเรื่องหนทางใช้หนี้
“ว่าไงมึงจะหาเงินมาใช้กูยังไง”
หินผาถามด้วยเสียงที่มีเมตตา แต่ใบหน้าไม่ได้ใจดีเหมือนเสียง สองผัวเมียกลัวจนหัวหด
“เอ้า...ทำไมไม่ตอบ” หินผาถีบเก้าอี้โครมใหญ่ ย่างสามขุมเข้ามาใกล้กระซิบถามสองผัวเมีย
“ว่าไง เลือกเอานะว่าผัวหรือเมียที่จะขายอวัยวะมาใช้หนี้กู”
“ไม่...ไม่” วาดดาวกับชาติชายกอดกันกลมถึงพวกเขาจะเป็นผีพนัน แต่ต่างก็รักกันมาก
“นายหินผา ให้เวลาเราหาเงินหน่อยเถอะครับ ร...เราต้องหามาใช้ได้แน่”
“ให้เวลาพวกมึงหนีนะหรือ” ไม่พูดเปล่ายังถีบหน้าชาติชายจนล้มกลิ้ง วาดดาวผวารีบคลานตามไปดูสามี
“นายหินผาอย่าทำอะไรผัวป้าเลย ป้ายอมทำทุกอย่างแล้ว....” วาดดาวพนมมือไหว้ประหลกๆ น้ำตาพรั่งพรูเป็นสาย
“ทำอะไรก็ได้งั้นสิ” หินผาหัวเราะ
“จ๊ะๆ” สองผัวเมียรีบรับคำทันที พวกเขามองดูนายหินผาที่อารมณ์ดีขึ้นและเดินกลับไปนั่งเก้าอี้
“ได้ข่าวว่าพวกมึงมีน้องสาวชื่อกิ่งหยก จงกล”
“จะ แต่น้องสาวตายไปนานแล้วเหลือแต่หลานชื่อกานดา” วาดดาวตอบ หินผายิ้มชอบใจ ก่อนจะโยนซองน้ำตาลใส่หน้าสองสามีภรรยา
“เปิดดู”
สองสามีภรรยาทำตามหินผา ด้านในเป็นรูปของกิ่งหยกกับคนรักเก่า บางรูปเป็นรูปกิ่งหยกเด็กทารกและแฟนเก่า ทั้งหมดเป็นภาพเก่าที่มีเด็กและคนรักเก่าอยู่ในนั้นทั้งหมด
“น...นายไปค้นบ้านเราหรือครับ” ชาติชายถามเสียงสั่น
“เออ...กูส่งคนไปค้นมา”
สองสามีภรรยามองหน้ากันว่าทำไปทำไม รูปของกิ่งหยกแฟนเก่าและหลานของเขาเกี่ยวอะไรกับเงินที่ยืมมา
“มึงเอาของพวกนี้ไปให้หลานมึงนะ บอกมันว่าถึงเวลาแล้วที่จะบอกความจริง”
“ความจริงเรื่องอะไรคะนายหินผา” วาดดาวยังสงสัยไม่หาย
“จะจริงหรือไม่จริง มึงก็ต้องยืนยันกับหลานมึงเอาไว้ ว่านี่คือรูปของมันและคนในรูปเป็นพ่อของมันแน่นอน”
“ต..แต่ว่า...” วาดดาวลังเล ถึงแม้รูปพวกนี้เป็นของจริงแต่ว่ามัน....
“มึงเลือกเอานะ ว่าจะช่วยหลานหรือช่วยตัวเอง ถ้ามึงทำตามที่กูสั่งแล้วกูจะยกหนี้ทั้งหมดให้พวกมึง”
“วาด...รับคำไปสิ” ชาติชายบอกวาดดาว ภรรยามีความลังเลอยู่ไม่น้อย เธอไม่เคยทำดีกับน้องสาวและหลานเลย ดูแลยามน้องสาวป่วยก็ไม่เคย หรือแม้แต่พอน้องสาวตายก็ไม่รับกานดามาเลี้ยงที่บ้าน
“ว่าไง...ถ้ามึงไม่รับปาก กูจะเอาผัวมึงไปชำแหละเอาอวัยวะขายแล้วนะ”
หินผาส่งสัญญาณให้ลูกน้องลากตัวของชาติชายออกไป วาดดาวลนลานรีบรับคำทันที
“ยอมแล้วๆ นาย”
“ดี มึงกลับไปได้ รีบทำตามที่สั่งซะ ผัวมึงกูจะเก็บไว้เป็นตัวประกันก่อน”
หลังจากวาดดาวจากไป หินผาก็โทรรายงานผลให้นายใหญ่ฟัง
<” ว่าไง” >
“เป็นตามแผนทุกอย่างแล้วครับนาย”
<” ดี กูจะให้รางวัลมึงอย่างงามหินผา” >
หลังจากหินผาตัดสายไป สิบทิศก็หันมาชนแก้วกับเพทายต่อ
“แผนการณ์ของแกเป็นไปได้ราบรื่นดีว่ะ”
“ต้องขอบใจนายที่อุตส่าห์ยื่นมือช่วยเสมอนั่นแหละ” เพทายยิ้มบางๆ ก่อนยกแก้วขึ้นดื่ม
“ท่าทางอีกไม่นานคงมีข่าวใหญ่ติดๆ กันแน่ๆ พวกมันคงไม่คิดหรอกว่ากำลังเต้นอยู่บนมือของแกเพทาย”
“ก็ต้องขอบใจที่นายให้ยืมเครือข่ายกับลูกน้องนั่นแหละ ขอบใจจริงๆ นะ”
น้อยครั้งที่เพทายจะแสดงสีหน้าซาบซึ้งแบบนี้ นี่แสดงว่าเรื่องนี้สำคัญกับเพื่อนคนนี้มากจริงๆ
“เอาน่าเราสองคนล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกัน ถ้าไม่มีนายฉันคงถูกฆ่าตายไปแล้วด้วยฝีมือคู่อริของพ่อ อย่างว่าและมาเฟียอย่างเราหาคนจริงใจด้วยยากเหลือเกิน”
จากนั้นเพทายอยู่ดื่มกับสิบทิศต่ออีกหน่อยก่อนจะขอตัวกลับในเวลาเกือบตีหนึ่ง
ทีแรกกานดาไม่ดีใจซักนิดที่วาดดาวมาเยี่ยม ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าป้าคนนี้ไม่เคยดูดำดูดีเขากับแม่ซักนิด ที่นี้พอเห็นว่าเขาหาเงินได้ก็มาหาตั้งใจจะมาเกาะอย่างนั้นหรือไง
กานดาแสดงตัวไม่เป็นมิตรกับป้าคนนี้ทันที หากแต่วาดดาวกลับพูดจาฉอเลาะน่าฟังจนสุดท้ายก็ต้องเชื้อเชิญให้เข้ามาในห้องพัก
“ท่าทางจะกินดีอยู่ดีขึ้นนะ เห็นว่ามีทั้งงานถ่ายแบบและโฆษนาเยอะแยะเลยนี่” วาดดาวมองไปรอบห้องที่ตกแต่งเป็นอย่างดี
“ป้ามีอะไรก็พูดมาเถอะครับ ถ้าเงินล่ะก็ผมไม่มีให้ยืมนะ”
วาดดาวไม่เพียงไม่ยืมเงินแต่ปั้นหน้าเศร้าขอโทษในทุกสิ่งที่ทำมา กานดาคาดเอาไว้แล้วว่าอาจจะมาไม้นี้ จึงทำนิ่งเสียไม่พูดอะไร จวบจนคนเป็นป้านำรูปถ่ายเก่าๆ ออกมาให้ดู
“ป้าคิดว่าควรจะเล่าเรื่องของหลานกับแม่และพ่อของหลานให้ฟังได้แล้ว คิดว่าของพวกนี้น่าจะสำคัญกับหลาน”
กานดากระจ่างตาทันทีที่เห็นหลักฐานสำคัญ เขาเพียรหาของพวกนี้ในบ้านเก่าโกโรโกโสที่อยู่กับแม่มาตลอด จวบจนแม่ตายก็ยังหาไม่เจอเขาถึงได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
กานดาหยิบรูปเหล่านั้นขึ้นมาดู รวมทั้งการ์ดข้อความต่างๆ ที่ดูเหมือนเป็นการ์ดที่แนบมากับของขวัญ ชื่อในนั้นระบุชัดว่ามาจาก คมสัน มกรธวัช
“ป้าคิดว่ามันอาจจำเป็นต่อกานดานะ”
“ใช่ครับ..จำเป็นมากๆ” กานดายิ้มอย่างผู้มีชัย เท่านี้ก็หาเรื่องเรียกร้องให้คมสันตรวจดีเอ็นเอแล้วรับเขาเป็นลูกคนหนึ่งได้เสียที
กานดามีความสุขจนยิ้มแก้มปริ
+++++++++++++++++++++++++++++++++
นี่กะพยายามเรียบเรียงว่าจะเขียนยังไงให้เข้าใจได้ง่ายมากที่สุด
หวังว่าจะไม่เข้าใจยากหรือเรียบเรียงออกมาน่าเบื่อเกินไปนะคะ
แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ