{ เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; แจ้งข่าวเปิดพรี 15 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; แจ้งข่าวเปิดพรี 15 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม  (อ่าน 53190 ครั้ง)

ออฟไลน์ NormalVee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 9 3/7/62 p.5
«ตอบ #150 เมื่อ15-07-2019 20:17:51 »

ดิออนสู้เขานะ ชนะใจลูกได้ แต่พ่อแอนด์เดอะเครือญาตินี่เกียมไม้ไว้รอฟาดแล้วววว

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 9 3/7/62 p.5
«ตอบ #151 เมื่อ16-07-2019 02:20:04 »

แล้วงี้จะคบกันได้หรอ...........

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 9 3/7/62 p.5
«ตอบ #152 เมื่อ25-07-2019 06:30:41 »

ดิออนจะเป็นแวมไพร์ไหมนะ จะคบกันได้ไหม พ่อตาดุ 55555
สู้ๆน้าาาาา

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #153 เมื่อ02-11-2019 23:44:40 »

VAMPIRE PROBLEM ;w; #11

   
“ออกมาได้แล้ว”
   
กี้! กี้!
   
ผมที่กำลังสนุกได้ที่กับการทัวร์คฤหาสน์หลังใหม่ของดิออนร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะเมื่อกี้คือแบบเป็นช่วงระทึกขวัญของชีวิตมาก พวกวาติกันยืนสังสรรค์กันเต็มลานไปหมด น่ากลัวมาก แต่ดีหน่อยที่เหมือนปีนี้จะจับพวกชาวไม่ใช่คนไม่ค่อยได้ ผมเลยไม่รู้สึกผิดมาก
   
เอาจริง ผมก็อยากช่วยพวกเขาแหละ แต่เชื่อเหอะว่า ลำพังแค่ตัวเองผมก็แทบจะเอาตัวไม่รอดละ อย่าให้ไปช่วยใครอีกเลยจะดีกว่า เดี๋ยวจะหนักกว่าเดิม
   
ผมคิดก่อนที่จะมุดตัวออกจากเสื้อดิออนที่เป็นยูนิฟอร์มของพวกวาติกัน ซึ่งมันก็อึดอัดแล้วร้อนมาก คือถ้าผมเผลอแห้งตายในนั้น ผมจะไม่แปลกใจเลยจริงๆ
   
กี้!
   
ผมบินไปเกาะบนมือดิออน และนอนแปะอยู่บนนั้นอย่างออดอ้อน
   
ให้ตายเหอะ ผมโคตรคิดถึงดิออนเลย!
   
“ขอร่างมนุษย์”
   
ดิออนยิ้มมุมปากนิดๆ ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ยอมทำตามแต่โดยดี เพราะร่างมนุษย์ของผมน่ารักกว่าร่างค้างคาวเป็นไหนๆ แถมยังจะมีความสามารถเยอะกว่าอีก เอาจริง ถ้าเมื่อกี้พ่อดิออนยังสงสัยดิออนไม่เลิกแล้วเปิดเสื้อเข้ามาเจอผม แค่เอามือตบผม ผมก็ตายละ
   
“นายไม่อยู่สังสรรค์กับพวกนั้นเหรอ”
   
ทันทีที่คืนร่างมนุษย์ผมก็ถามดิออนด้วยความอยากรู้ คือดิออนมันก็เป็นเจ้าภาพจัดงานที่ไทยด้วยไง จะไม่อยู่ยันจบงานก็น่าเกลียด แต่ที่น่าเกลียดกว่าคงจะเป็นผมที่น่าจะช็อคตายอยู่ตรงนั้น เพราะตอนใกล้จะจบงาน พวกวาติกันชอบมานับหัวกันว่าจับพวกอมนุษย์มาได้กี่ตัว ก่อนที่จะลงมือตัดหัวหรือฆ่าอย่างเลือดเย็น
   
แล้วคือผมเคยเห็นเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อนไง ซึ่งมันก็น่ากลัวมากจนผมอยากลาออกจากการเป็นแวมไพร์เลย
   
“ไม่”
   
ดิออนตอบผมสั้นๆ แล้วก้มลงจูบผม แน่นอนว่าผมไม่ขัดขืนยอมเปิดปากให้มันเอาลิ้นเข้ามารุกรานอย่างง่ายดาย และแกล้งใช้เขี้ยวกดบนลิ้นซุกซนของมันเบาๆ เพื่อไม่ให้มันลืมว่ากำลังต่อกรกับอะไรอยู่
   
แต่ที่ผิดคาดคือ นอกจากมันจะไม่กลัวผมกินเลือดแล้ว มันยังกดหัวผมให้ผมฝังเขี้ยวลงกับลิ้นมันแรงมากกว่าเดิมจนเลือดออก ซึ่งผมก็เผลอดูดกลับตามสัญชาตญาณเพราะเลือดของดิออนอร่อยที่สุดในโลก
   
“อื้ออ”
   
ผมหลุดเสียงครางออกมาตอนที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูกปลดชุดออก และกำลังโดนรังแกหัวนมอย่างรุนแรง มันใช้มือที่ใหญ่ๆ จนตบผมในร่างค้างคาวให้ตายในครั้งเดียวได้บิดขยี้หัวนมผมไม่หยุดจนมันขึ้นสีแดงก่ำ
   
“เจ็บ  ดิออน ฮื่อ ผมเจ็บ”
   
ทั้งๆ ที่ปากบอกมันอย่างนั้น แต่ร่างกายของผมกลับแอ่นให้มันรังแกมากกว่าเดิม จนเหมือนมือของมันจะปรนเปรอให้กับผมได้ไม่พอ มันถึงเปลี่ยนมาเป็นปากของมันที่ครอบครองหัวนมของผมแทน
   
“..ดิออน”
   
ผมขยำผมมันแน่นหอบหายใจหนัก รู้สึกเสียวซ่านจนยืนแทบไม่อยู่ ดีหน่อยที่ดิออนแขนประคองเอวผมไว้หลวมๆ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ผมก็คงจะลงไปกองกับพื้นแน่ๆ
   
“อืม”
   
หลังจากที่กลั่นแกล้งผมจนพอใจ ดิออนก็อุ้มผมไปไว้บนเตียงของมัน ซึ่งก็ใหญ่มากแล้วก็นุ่มมาก!! ผมเลยเผลอลืมไปสักพักว่าทำอะไรอยู่ แล้วกลิ้งไปมาบนเตียงมัน
   
คือผมว่าห้องนอนผมเว่อร์แล้วนะ เจอห้องนอนดิออนเข้าไปคือเว่อร์กว่าอีก ทุกอย่างดูหรูหรามากและถูกตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรป แถมรอบๆ ห้องมันยังมีพวกดาบ และอุปกรณ์ฆ่าแวมไพร์อะไรไม่รู้ห้อยเต็มไปหมด
   
และแน่นอนสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของห้องผู้นำตระกูลวาติกัน ซึ่งก็คืออาคมที่จัดการพวกแวมไพร์ตัวร้ายอย่างผม แต่ก็นะ ถ้าเป็นผมสมัยยังไม่ได้ใบ ป่านนี้ก็คงไหม้เป็นยุงโดนไม้ตียุงช็อตไปละ
   
เอาจริงถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เก่งอะไรมากมายหรอก ที่ผมทนอาคมพวกนี้ได้แบบสบายๆ ของเพราะเลือดของดิออนนั่นแหละ
   
ว่าไปพูดถึงดิออน ผมก็เหมือนลืมอะไรไปอย่างแฮะ
   
“!!”
   
ผมยกมือขึ้นปิดปากทันทีเพื่อกลั้นเสียงร้องที่ตื่นตระหนกของตัวเอง เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าโดนดิออนคร่อมอยู่และกำลังง่วนอยู่กับการถอดเสื้อของตัวเอง
   
“ตกใจอะไร”
   
ดิออนเลิกคิ้วถามผมงงๆ แล้วโยนเสื้อคลุมที่ยังหลงเหลือฝุ่นนั่นออก และอวดกล้ามหนาๆ ของมันที่ขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันแข็งแรงและสุขภาพดีขนาดไหน
   
“นายตัวใหญ่มากเลย”
   
ผมบ่นอุบแล้วก้มมองตัวเองที่ยังผอมแห้งเหมือนเดิม เหมือนแวมไพร์ขาดสารอาหาร ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะกินอะไรบำรุงตัวเองดี เห็นคนอื่นกินเลือดเหมือนกันก็ตัวใหญ่นะ ทำไมผมตัวแค่นี้อยู่คนเดียวก็ไม่รู้
   
ดิออนยิ้มนิดๆ ก่อนที่มันจะก้มลงมารังแกผมต่อ มือของมันล้วงเข้าไปในกางเกงของผมแล้วออกแรงบีบขย้ำก้นอย่างแรงจนผมเผลอหลุดครางออกมา
   
“เจ็บ”
   
ผมบ่นเบาๆ แล้วขยับตัวขึ้นไปคล้องคอมันลงมาเพื่อบังคับให้มันจูบผม
   
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมโคตรชอบจูบของมันเลย
   
ผมหลับตาพริ้มครางในลำคอ ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันจะทำอะไรกับร่างกายผม เพราะผมยอมให้มันทำทุกอย่างตามใจ ยกเว้นอยู่อย่างเดียวคือจับผมปิ้ง อันนี้ห้ามเลย
   
“..ดิออน”
   
ผมผละออกมาและก้มมองกับท่อนลำใหญ่ที่ดูจะใหญ่กว่าที่ผมจินตนาการไว้มาก จนผมเผลอกลืนน้ำลายเอือกหวาดๆ
   
“อืม”
   
มันตอบผมเสียงนุ่ม ไม่ได้รีบดึงดันที่จะเอาเข้ามาแต่ใช้มันตีกับก้นจนดังแปะๆ
   
ผมหน้าร้อนผ่าว รู้สึกเขินมากจนทำอะไรไม่ถูก
   
“ผม ผมไม่ได้นอนกับมนุษย์มานานมากๆ แล้ว นาย นายช่วยเบาแรงหน่อยนะ”
   
จากความทรงจำที่ได้เต้นแมงมุมด้วยกัน ผมยังจำได้ดีเลยว่าดิออนมันแรงเยอะขนาดไหน ขนาดตอนนั้นมันยังเด็กๆ ยังแข็งแรงขนาดนั้น ถ้าโดนตอนนี้ผมไม่กระดูกหักตายเลยเรอะ
   
ฮึก เอาจริงคนที่แก่อาจจะไม่ใช่ดิออน แต่น่าจะเป็นผมเองมากกว่า แงงงง
   
“เป็นอะไรอีก”
   
มันถามผมงงๆ เพราะอยู่ๆ ผมก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
   
“ผมแก่แล้ว!”
   
“…แวมไพร์อายุอยู่ได้เป็นพันปีไม่ใช่เหรอ”
   
“ก็ใช่ แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองแก่แล้วนี่นา”
   
ผมหน้ายู่ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกว่าตัวเองแก่แบบจริงจังจริงๆ
   
“นายต้องทำเบาๆ นะ ดิออน ผมไม่อยากกระดูกหัก”
   
ป็อก!
   
“โอ๊ย! ดิออน ผมจะงอนแล้วนะ!”
   
ผมกุมหน้าผากโวยวายหน้ายู่ ไม่พอใจขั้นสุด เพราะจริงจังกับเรื่องนี้มาก
   
“กระดูกนายไม่หักหรอกน่า” ดิออนตอบผมด้วยสีหน้าเหมือนระอาใจ แล้วดึงมือผมไปจูบ “และต่อให้นายอายุเท่าไหร่ ฉันก็ยังชอบนายอยู่ดี”
   
“…”
   
ผมหน้าแดงก่ำเพราะนี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ดิออนบอกชอบผม หรือเคยบอกไปแล้วก็ไม่รู้ ผมจำไม่ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำหัวใจผมเต้นแรงมาก
   
ผมเม้มปากแน่นหลบตามัน เพราะสู้สายตาของมันไม่ไหว
   
ดิออนหล่อชะมัดเลย
   
ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมวันที่เจอกันครั้งแรกผมถึงอยากได้มันนัก เอาเข้าจริง วันนั้นต่อให้ผมรู้ว่ามันเป็นวาติกัน ผมก็คงจะหาทางเต้นกับมันให้ได้อยู่ดี
   
“ดิออน”
   
ผมเรียกมันเสียงเบา
   
“อืม”
   
มันครางรับผมในลำคอและลูบหัวผม แต่ขณะที่เดียวร่างกายส่วนล่างของมันก็บดเบียดอะไรแข็งๆ เข้าที่ต้นขาผมอย่างลามก
   
“เป็นแวมไพร์เถอะนะ”
   
ผมหน้าแดงก่ำดึงมือมันมากุมและพูดด้วยสีหน้าจริงจังที่สุดในชีวิต
   
“แต่นายกำลังคุยกับผู้นำตระกูลวาติกันอยู่นะ”
   
ดิออนมันหัวเราะเบาๆ
   
“แล้วอีกอย่างถ้าฉันเป็นแวมไพร์ นายจะไปกินเลือดใคร”
   
“..จริงๆ มันก็ไม่ต้องกินเลือดก็ได้อ่ะ ถ้าผมมีคู่แล้ว”
   
ผมเขินจนไม่อยากมองหน้ามัน ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมพวกวาติกันที่รู้ดีไปหมดซะทุกเรื่อง ทำไมถึงไม่รู้เรื่องพื้นฐานพวกนี้ของแวมไพร์กัน!
   
“หมายความว่าไง”

“นายไม่รู้จริงๆ เหรอ”
   
ผมหน้ามุ่ย เริ่มเอะใจแปลกๆ พอเงยหน้ามองถึงรู้ว่าตัวเองโดนดิออนหลอกเข้าให้แล้ว และก่อนที่จะได้โวยวายอะไรก็ผวาเฮือกจิกใส่แขนดิออนตอนที่มีบางอย่างพยายามดึงดันเข้ามาข้างใน
   
“..อ๊า!”
   
ผมกัดฟันแน่นพยายามกลั้นเสียงของตัวเอง รู้สึกทั้งจุกและอึดอัด ทั้งๆ ที่มันยังเข้ามาไม่ทันหมดเลยด้วยซ้ำ แต่กลับรู้สึกคับแน่นไปหมด
   
“..ฮื่อ ช้าๆ หน่อย”
   
ผมดันอกมันออกพยายามอ้อนวอนให้มันเอาเข้ามาช้ากว่านี้ เพราะแค่นี้มันก็ทำผมเสียวจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว และด้วยขนาดมันเอง ทำให้มันไม่ต้องใช้ความพยายามมาก ผมก็หมดเรี่ยวแรงเอาได้ง่ายๆ
   
“..อยากเป็นวาติกันไหม”
   
ดิออนกระซิบถามผมข้างหู ก่อนที่มันจะจูบหลังใบหูผมเบาๆ จนผมหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้
   
“ไม่อยาก”
   
ผมตอบโดยไม่ต้องคิด คำถามแบบนี้ก็เหมือนถามผมว่าอยากตายไหมอ่ะ คำตอบที่มันจะได้รับทันทีเลยคือไม่มีทาง
   
“..ตอนนี้ฉันก็ยังเป็นแวมไพร์ไม่ได้เหมือนกัน”
   
“มันก็ไม่เหมือนกันไหมอ่ะ เป็นวาติกันไม่เห็นดีเลย วันๆ เอาแต่จะไล่ฆ่าคนอื่น” ผมหน้ามุ่ย “เป็นแวมไพร์ดีกว่าตั้งเยอะ โอ๊ย!”
   
ผมเผลอร้องออกมาตอนที่อยู่ดีๆ ก็โดนดิออนงับคอ ก่อนที่ผมจะผวาเฮือก เพราะนอกจากมันจะแกล้งงับคอผมแล้วมันก็ยังดันส่วนที่เหลือเข้ามาในทีเดียวอีก!
   
“พอแล้ว ดิออน อย่าเพิ่งขยับนะ ฮึก ผม ผมจะตายอยู่แล้ว ดิออน!!”
   
ผมพยายามโวยวายแต่ก็ไม่ได้ผล มันเริ่มขยับเอวและกระแทกเข้ามาแบบหนักๆ แบบเหมือนเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มันมีมาใช้ในสยบและลงโทษแวมไพร์อย่างผม
   
และใช่
   
มันรู้สึกเสียวเป็นบ้าเลย
   
ผมครางออกมาทุกครั้งที่มันขยับและตอกลึกเข้ามาในส่วนที่ลึกที่สุดของผม
   
ให้ตายเหอะ ถ้านี่คือการลงทัณฑ์จากวาติกัน ผมจะยอมอ้าขาให้มันจัดการทุกวันเลย!
   
“ดิออน จูบ จูบผมหน่อย”
   
ผมตอนนี้ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะคล้องคอมันลงมาจูบด้วยซ้ำ ได้แต่ขยำคอเสื้อมันแน่นเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ดูจะมากจนผมแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว
   
“ไม่”
   
ดิออนปฏิเสธผมอย่างไร้เยื่อใย ทำเอาผมหน้าบูดกำลังจะโวยวายก็เบิกตากว้างตอนที่มันโน้มหัวลงมากัดคอผมอีกรอบ และจงใจใช้เขี้ยวที่ไม่ยาวมากของมัน ลากไปตามลำคอของผมราวกับกำลังหาจุดที่ดีที่สุดในการกินเลือด
   
“จะกินเลือดผมเหรอ”
   
ผมสบตานัยน์สีเทาขุ่นของมันและถามมันเสียงเบา
   
“ใช่”
   
“แต่นาย..ยังไม่เป็นแวมไพร์..นะ”
   
ผมพยายามพูดให้เป็นประโยคแต่ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแม้แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่หยุดขยับ  และตอนนี้ช่วงล่างของผมก็เริ่มรู้สึกชาๆ ละ
   
“ก็เป็นวาติกันที่กินเลือดแวมไพร์ไง”
   
มันหัวเราะในลำคอก่อนที่กัดพอผมจนจมเขี้ยว!
   
“อ๊า!!”
   
ผมทุบไหล่มันปั่กๆ น้ำตาแตก
   
เจ็บ!!!
   
“ดิออน! ไม่เอา มันเจ็บ”
   
ผมร้องไห้เลย ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าตัวเองจะโดนกัด ที่ผ่านมาเป็นฝ่ายกัดคนอื่นมาก่อนไง มันทำให้ผมรู้เลยว่าโดนกัดคอมันเป็นอะไรที่เจ็บมากๆๆๆ ไม่รู้ว่าดิออนทนให้ผมกัดคอบ่อยๆ ได้ไง
   
นี่มันเจ็บกว่าตอนแม่พาผมไปฉีดยาตอนเด็กๆ อีก!
   
“อย่าร้อง”
   
“ฮึก ทำไมมันเจ็บขนาดนี้อ่ะ ผม ผมคิดตลอดมาเลยนะว่ามันไม่เจ็บ”
   
หลังจากนั้นผมเหมือนปิดสวิตช์ตัวเองเลย ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเอาแรงที่ไหนมาผลักมันออก แต่ผมก็ผลักมันออกได้ และวิ่งเข้าห้องน้ำไปดูคอตัวเองในกระจกเพราะอยากรู้ว่ามันเป็นแผลใหญ่ขนาดไหน
   
“…”
   
เป็นรูเลยอ่ะ
   
ผมกระพริบตาปริบมองเลือดที่ทะลักออกจากคอตัวเองไม่หยุด และขมวดคิ้วมองคนที่ตามมาทีหลังแบบงอนๆ แต่พอกำลังจะบ่น ผมก็ต้องตกใจอีกรอบที่เห็นตาของดิออนเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ ก่อนที่มันจะลากลิ้นเลียแผลผมและกินเลือดที่ไหลออกมา
   
“..นาย”
   
“ก็อยากให้เป็นแวมไพร์ไม่ใช่เหรอ” ดิออนมันวางคางบนไหล่ผมและยิ้มจางๆ ใช้นัยน์ตาที่แดงเรืองรองขึ้นกว่าเดิมมองผมในกระจก ส่วนมือของมันก็ยังป้วนเปี้ยนอยู่ตรงสะโพกผมไม่ห่าง
   
“อื้อ ก็ใช่ แต่มันก็ไม่ใช่วิธีนี้ไหมอ่ะ”
   
ผมหน้าบูดงอแงใส่มัน
   
“รู้ไหมว่ากว่าแม่จะจับผมฉีดยาได้ ผมยังกลัวแทบแย่เลยนะ”
   
การเป็นแวมไพร์มีหลายวิธีมาก และวิธีที่ผมกะจะดิออนทำคือกินเลือดของพวกแวมไพร์บรรพบุรุษที่ถูกเก็บรักษาไว้ในสมาคมที่อายุหลายร้อยปี ที่เลือดแค่หยดเดียวก็สามารถเปลี่ยนแวมไพร์จากแวมไพร์ธรรมดาให้เป็นแวมไพร์ทรงพลังในพริบตา แต่วิธีนี้อาจจะยากหน่อยตรงต้องผมอาจจะใช้เวลาอ้อนพ่อ
   
“แล้วเลือดผมมันก็ไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้นด้วย”
   
คือถ้าเป็นเลือดของพวกคนต้นตระกูลกินนิดเดียวก็สามารถเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าเป็นเลือดผมคือคนละเรื่องเลย ด้วยพลังแวมไพร์ของผมที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ ดิออนกินไปก็เป็นแวมไพร์ได้แค่สองสามนาทีอ่ะ น้อยกว่าเวลาต้มมาม่าให้อืดอีก
   
“ฉันไม่กินเลือดคนอื่น” ดิออนมันจูบคอผมเบาๆ “ถ้าไม่ใช่เลือดนาย ฉันไม่กิน”
   
“แล้วเมื่อไหร่นายจะได้เป็นแวมไพร์อ่ะ”
   
ผมถอนหายใจใส่ดิออน
   
“ก็จนกว่าเลือดนายจะทำให้ฉันเป็นแวมไพร์ได้”
   
มันยิ้มพร้อมสอดนิ้วเข้ามาในตัวผมและจงใจกดย้ำๆ ตรงจุดอ่อนไหวของผม ที่ยังไงก็ไม่สามารถทำให้ผมพอใจได้เท่าของๆ มัน ผมดึงมือมันออก และหลุบตามองท่อนลำของมันที่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีวี่แว่วท่าที่จะปลดปล่อยสักนิด ทั้งๆ ที่ผมเผลอปล่อยไปตั้งหลายรอบแล้ว
   
“น่ากลัวกว่าเขี้ยวของผมอีก” ผมกลืนน้ำลายเอือกตอนที่เห็นเส้นเลือดชัดๆ แต่ก็ไม่ลังเลที่จะสอดเข้ามาในตัวด้วยตัวเอง ซึ่งครั้งนี้ก็เอาเข้าง่ายกว่ารอบแรก แต่ก็ยังเข้ายากอยู่ดีเพราะขนาดที่ใหญ่เกินไปของมัน
   
ผมเอามือเกาะกำแพงพยายามประคองตัวเองให้ยืนให้อยู่เพื่อที่จะรับแรงกระแทกของมันที่ดูเหมือนจะแรงกว่าตอนที่อยู่บนเตียงอีก
   
“..ครูซ”
   
มันคำรามต่ำๆ ข้างหูผม มืออีกข้างของมันก็ขยี้หัวนมผมไม่หยุด จนผมแทบจะแยกประสาทไม่ออกว่าตัวเองเสียวตรงไหนกันแน่ แต่มันวูบโหวงไปหมด และทำเอาผมครางจนเสียงแหบแห้ง
   
มันทำผมอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะกระแทกแรงๆ ย้ำๆ อยู่สักพักก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรอุ่นๆ ในตัว
   
“…เสร็จแล้วเหรอ”
   
ผมหอบหายใจเหลือบมองทั้งมันทั้งตัวเองในกระจก  ถึงเห็นว่าหน้าผมหน้าแดงก่ำมันและยับเยินสุดๆ ถ้ามีคนบอกผมว่าผมเพิ่งถูกรถทับมา ผมก็เชื่อเพราะสภาพผมยับยู่ยี่มาก ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด แถมเสื้อผ้าแวมไพร์ผมยังขาดอีก
   
ส่วนดิออนเหรอ สภาพมันต่างกับผมลิบลับ มันดูไม่เหนื่อยเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ผมเหนื่อยแทบตาย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันสีหน้ามันตอนนี้โคตรหล่อเลย
   
“อืม”
   
มันตอบผมในลำคอ ก่อนที่จะดึงของมันออกเพื่อที่จะทำความสะอาดให้ผม เอาจริง ผมดูออกนะว่ามันยังไม่พอ แต่ถ้าขืนมันจับผมกินอีกรอบ ผมได้ตายคาห้องมันแน่ๆ
   
ผมที่หมดสภาพไปแล้วปล่อยให้มันอุ้มไปแช่ในอ่าง และอาบน้ำให้
   
“..เดี๋ยวผมทำเอง”
   
ผมหน้าแดงตอนที่มันพยายามล้วงเอาน้ำเหนียวข้นในตัวผมออก ซึ่งตอนนี้มันไหลอาบขาของผมจนผมรู้สึกเขินกว่าเดิม และอยากเปลี่ยนเป็นร่างค้างคาวให้รู้แล้วรู้รอด
   
ระหว่างที่ผมกำลังง่วนอยู่กับการจัดการตัวเอง ระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ ซึ่งมันก็อุ่นและทำให้ผมรู้สึกดีมาก ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นจูบมันแทนคำขอบคุณ ก็ต้องตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างที่มันเอามาใส่น้ำให้ผมซะก่อน
   
“คุณเป็ด!”
   
ผมร้องลั่น ตื่นเต้นมากกับฝูงเป็ดสีเหลืองที่ดิออนเอามาลอยน้ำให้ผมเล่น คือตอนเด็กๆ ผมชอบเล่นอะไรพวกนี้มาก และจนตอนถึงตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ แต่ไม่ค่อยได้เล่นเพราะกลัวแม่จับได้ว่าเล่น
   
ผมก็เข้าใจแม่แหละว่าอยากให้ผมทำตัวให้สมอายุ แต่จริงๆ ผมก็ยังชอบของเล่นพวกนี้มากนี่นา
   
ผมนั่งเล่นกับฝูงเป็ดยางและปล่อยให้ดิออนอาบน้ำให้
   
“ครูซ”
   
“?” ผมไม่ได้ตอบแต่เงยหน้ามองมันที่อยู่ดีๆ ก็ทำเสียงจริงจัง
   
“นายเป็นลูกชายของลอร์ดแกร์รี่นะ”
   
“..อือ”
   
ผมพยักหน้ารับเบาๆ แต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าดิออนพูดถึงเรื่องนี้ทำไม
   
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเลือดนายจะทำให้ฉันเป็นแวมไพร์ไม่ได้”
   
“…”
   
พอมันพูดถึงพลังแวมไพร์ของผม ผมก็ซึมเลย
   
“นายเชื่ออย่างนั้นจริงเหรอ”
   
ผมเลิกหวังว่าพลังตัวเองจะตื่นไปตั้งนานแล้วเอาจริง อย่างแม็กซ์คือเพิ่งร้อยปีพลังก็ตื่นแล้วอ่ะ ส่วนของผมเหรอง่อยเหมือนเดิม ลำพังแค่ทุกวันนี้ผมเอาตัวรอดจนสอบผ่านได้ใบมาก็ดีแค่ไหนแล้ว
   
เหมือนมันจะทนเห็นผมหงอยไม่ได้ เลยดึงมือผมขึ้นมาจูบปลอบ
   
“อืม”
   
“แล้ว ถ้าเกิดว่าพลังผมมันตื่นตอนผมอายุห้าหกร้อยปีจะทำไงอ่ะ ถึงตอนนั้นนายก็กลายเป็นกระดูกไปแล้วอ่ะ”
   
แค่จินตนาการว่าดิออนตายก่อนผม ผมก็จะร้องไห้แล้ว แงงงง
   
“พลังนายมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกน่า”
   
มันยิ้มมุมปากก่อนที่จะหลับตาและลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเป็นสีแดงเรืองรองที่ถึงแม้จะจางลงมากแล้ว แต่มันก็ยังหลงเหลืออยู่
   
“!!!”
   
“ระหว่างนี้นายก็หาทางเพิ่มพลังแล้วกันนะ ครูซ ส่วนฉันจะเป็นวาติกันไปพลางๆ ก่อน ช่วงนี้ยังมีอะไรที่ฉันต้องจัดการด้วยตัวเองอยู่”
   
=========

แง หายไปนาน พอดียุ่งๆ กับต้นฉบับอีกเรื่องค่ะ  :ling3:

#ห้ามปิ้งค้างคาว
   

   
   



ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #154 เมื่อ03-11-2019 05:56:03 »

น้องเล่นเป็ดดด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #155 เมื่อ03-11-2019 08:50:45 »

นานมาก!

ออฟไลน์ oily06

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #156 เมื่อ03-11-2019 11:48:14 »

สิบกว่าปีที่รอคอย ในสุดพี่ดิออนเขาก็ได้กินค้างคาวแล้วค่ะ! น้องครูซเขาเคยน่าเอ็นดูยังไงก็ยังน่าเอ็นดูอยู่อย่างนั้น
นี่ถ้าดิออนเปลี่ยนเป็นแวมป์ในร่างอายุ35+ ก็คือแซ่บลืมมม น้องครูซจะได้ผัวร่างแดดดี้อยู่ด้วยกันไปอีกหลายร้อยปีเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ NaunaeZaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #157 เมื่อ03-11-2019 21:48:22 »

ไม่ได้อ่านนานเบยย แต่ยังติดตามอยู่น้า หุ่นพี่ดิออนคือแซ่บมากแม่!!

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #158 เมื่อ12-11-2019 07:28:34 »

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
«ตอบ #159 เมื่อ12-11-2019 13:51:03 »

 o13 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 11 2/11/62 p.6
« ตอบ #159 เมื่อ: 12-11-2019 13:51:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 12 16/11/62 p.6
«ตอบ #160 เมื่อ16-11-2019 20:20:27 »

VAMPIRE PROBLEM ;w; #12

   
“ตื่นได้แล้ว”
   
“..แต่ผมก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วนี่ ไม่ตื่นไม่ได้เหรอ”
   
ผมที่ตอนนี้ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มงึมงำตอบดิออนง่วงๆ ไม่ยอมแม้แต่จะลืมตาด้วยซ้ำ เพราะผมเหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อคืนมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเหนื่อยอะไรนักหนา แค่ขยับตัวตอนนี้ผมยังไม่อยากทำเลย
   
“ฉันไม่อยากให้นายอยู่ที่นี่คนเดียว มันไม่ปลอดภัย”
   
ดิออนพูดพร้อมกับสอดมือเข้ามาในผ้าห่ม และช้อนตัวผมเพื่อที่จะพาผมไปอาบน้ำอีกแล้ว
   
“ฮื่อ แต่ผมง่วงนี่นา”
   
ผมงอแงแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ซึ่งพอถึงห้องน้ำดิออนก็ค่อยๆ วางผมลงในอ่างอาบน้ำอย่างบรรจง ก่อนที่มันจะยื่นแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันไว้แล้วให้ผม
   
“ขอบคุณนะ”
   
ผมยิ้มให้ดิออนจนตาหยี และนั่งเท้าแขนกับอ่างอาบน้ำแปรงฟันแบบง่วงๆ ปล่อยให้ดิออนมันใช้มือใหญ่ที่ร้อนจัดนั่นถูสบู่ให้ผม
   
“อื้อ”
   
ผมเผลอครางออกมาเบาๆ ตอนที่มันจงใจให้ปลายนิ้วบดขยี้ตรงหัวนมผมที่ตอนนี้ก็ยังเป็นรอยฟันของมันอยู่ และมันก็ไวต่อสัมผัสมากๆ ด้วย
   
ผมรีบเอามือมันออก ไม่ให้มันจับและตั้งใจแปรงฟันต่อโดยเฉพาะส่วน ‘เขี้ยว’ ที่ผมหวงแหนมันเป็นพิเศษ เอาจริงตอนแปรงฟันผมก็แอบคิดถึงสมาคม เพราะนอกจากจะผลิตครีมกันแดดแวมไพร์ขายกันแล้ว ยังส่งออกแปรงสีฟันสำหรับแวมไพร์โดยเฉพาะด้วย บอกเลยว่าขายดีสุดๆ ขนาดพวกหมาป่ายังซื้อไปใช้เลย
   
ผมนั่งแปรงอยู่สักพักก็ลุกขึ้นไปบ้วนน้ำตรงอ่างล้างหน้า แล้วกลับไปแช่น้ำอุ่นให้ดิออนปรนนิบัติต่อ เอาจริงๆ ถ้าพวกวาติกันเปิดมาเห็นผมกับดิออนตอนนี้คงตกใจตาย เพราะสภาพดิออนตอนนี้ตลกมาก มันถกแขนเสื้อกับกางเกงตัวเองขึ้นเพื่อที่จะอาบน้ำให้ผมโดยเฉพาะ
   
“หิวไหม”
   
“แค่เมื่อวานผมก็อิ่มจะตายอยู่แล้ว”
   
ผมหาวหวอดฟุบตรงขอบอ่าง เพราะหลังจากมีอะไรกันเสร็จ ผมก็เผลอกินเลือดมันอีก คือถ้าตอนนั้นผมคืนกลับเป็นร่างค้างคาวคงอ้วนตุ๊บมาก บินไม่ขึ้นแน่นอน
   
“ดี”
   
มันยิ้มแล้วลูบหัวผม ก่อนที่จะมันจะพาผมขึ้นจากอ่างเพื่อที่จะเช็ดตัวให้ผม
   
จริงๆ ผมก็อยากอายบ้างนะ แต่ดิออนมันก็เห็นผมมาขนาดนี้แล้วอ่ะ จะอายก็อายไม่ทันแล้วจริงๆ เพราะผมในสภาพยับยู่ยี่เหมือนผ้าขี้ริ้วโดนทุบมันก็ยังเคยเห็นมาแล้วเลย
   
“ดิออน”
   
ผมเรียกมันตอนที่มันหันกลับไปเช็คกับตัวเองในกระจก พยายามให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิมที่ดูสุขุมของมันซึ่งเอาเข้าจริง ผมว่าต่อให้มันไม่ใส่อะไรเลย มันก็ยังดูน่าเกรงขามกว่าผมอยู่ดีอ่ะ
   
มันมีวันฮาโลวีนปีนึง ที่ผมเคยอยากกินลูกอมมากๆ  แล้วผมก็ใช้ร่างแวมไพร์ไปหลอกเด็กกลุ่มหนึ่งและพบว่าไม่มีใครกลัวผมเลย แถมยังล้อผมว่าใส่เขี้ยวปลอมด้วย!!!
   
ถ้าไม่ติดว่ามีกฎของสมาคม ผมคงจะแปลงร่างโชว์แล้วแย่งขนมมาให้หมดเลย ให้สาสมกับที่รุมทำร้ายจิตใจแวมไพร์ที่รักสันติที่สุดในโลกอย่างผม
   
“ว่า”
   
มันเหลือบมองผมพร้อมกับเซ็ตผมของมันไปด้วย ซึ่งผมก็ต้องยอมรับเลยว่าพอมันใส่เครื่องแบบสีดำของพวกวาติกันแล้วมันโคตรหล่อเลย แล้วยิ่งมันเป็นระดับหัวหน้าตระกูลความวิจิตรตระการตาเลยมากเป็นพิเศษ เสื้อคลุมของมันถึงจะดูเหมือนเรียบๆ แต่รายละเอียดคือถี่ยิบมาก แถมยังมีช่องกระเป๋าเล็กๆ ที่เหมือนจะสามารถซุกซ่อนอาวุธได้ทุกที่ด้วย
   
“นายชอบผมจริงๆ ใช่ไหม”
   
ไม่รู้ว่าทำไมพอถามคำถามนี้ ผมกลับไม่กล้าสบตากับมันซะงั้น
   
ผมกลัวว่าตัวเองจะถูกหลอกอีก
   
“ถ้าจะฆ่าผมก็อย่าให้ผมทรมานมากนะ ผมกลัวเจ็บ”
   
และถ้าผมถูกมันหลอกจริง นี้ก็คงเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั้งในชีวิตผมที่โดนหลอก เอาจริง ผมก็ไม่เคยนับหรอก โดนหลอกบ่อยเกิน ก็ไม่เข้าใจตัวเองนะทำไมไม่รู้จักเข็ดสักที
   
“!”
   
ผมเบิกตากว้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่ามีมีดเงินจ่ออยู่ที่ต้นคอ กลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์แผ่ออกมาอย่างชัดเจนจนผมเผลอกลืนน้ำลายเอือก เพราะรู้ว่าถ้าผมเผลอไปโดนแม้แต่นิดเดียว คอผมได้ไหม้แน่ๆ
   
“ถ้าฉันจะฆ่านาย ฉันฆ่าไปนานแล้ว ครูซ”
   
ดิออนมันพูดกับผมเสียงกระซิบ ก่อนที่มันจะเก็บมีดมันเข้าเสื้อคลุมมัน และจูบหัวผมเบาๆ เหมือนจะจูบปลอบ แต่บอกตามตรงว่าถ้ามันอยากปลอบผม คือมันก็ไม่ควรใช้มีดขู่ผมตั้งแต่แรกแบบนี้ไหมล่ะ
   
“แล้วนายชอบผมจริงๆ เหรอ”
   
ผมเงยหน้ามองมัน เพราะไม่รู้ว่าแวมไพร์ที่รักสันติและไร้สาระไปวันๆ อย่างผมมีอะไรน่าสนใจ เผลอเหยียบแล้วน่าจะตายทันทีอะไรอย่างนี้เหรอ หรือว่าร่างค้างคาวของผมมันน่ารัก
   
“แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันชอบนายไม่ได้”
   
ดิออนขมวดคิ้ว
   
“ก็ผมกากมากนี่นา แถมยังหลอกง่ายอีก”
   
“…”
   
“ไม่เห็นจะมีอะไรน่าชอบเลย”
   
ผมพูดเสียงเบา ก่อนที่จะร้องออกมาเบาๆ ตอนที่ถูกมันรวบไปกอด หน้าของผมฝังบนอกของมันจนผมหายใจแทบไม่ออก แต่พอผมจะโวยวายก็โดนมันลูบหลังด้วยมือร้อนจัดของมัน
   
ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ผมถึงรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ เอาเข้าจริงตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กเลย
   
“ฉันชอบนาย”
   
“…”
   
“แล้วมันก็ไม่เกี่ยวกับว่านายเก่งหรือไม่เก่งด้วย”
   
เหมือนมันจะกลัวผมคิดมาก ตอนนี้มันเลยพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจดีกับผมมาก ขัดกับหน้าดุๆ ของมัน มันปล่อยผมออกเพื่อที่จะบังคับให้ผมสบตากับมัน
   
“เห็นแล้วก็ชอบ มันก็แค่นั้น”
   
มันยิ้มให้ผมบางๆ แล้วลูบหัวผม
   
“มั่นใจในตัวเองหน่อย ครูซ”
   
“…ฮึก”
   
ผมร้องไห้เลย คือที่ผ่านมาผมเป็นคนที่โดนเปรียบเทียบตลอดเวลาไง ปกติน้องจะโดนเทียบกับพี่ แต่ผมกากผมเลยโดนเทียบกับน้อง แล้วน้องผมนับวันก็เก่งขึ้นทุกวัน ผิดกับผมที่ทำอะไรก็ไม่เคยรอดสักอย่าง อายุขนาดนี้แล้วพลังยังนิดเดียวเอง
   
“อย่าร้อง”
   
มันเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ แต่ผมยิ่งร้องหนักกว่าเดิมอีก
   
คือมันก็ต้องเข้าใจหน่อยอ่ะว่ามันเรื่องนี้มันเป็นแผลในใจผมมานานมากๆ แถมยังไม่เคยมีใครสังเกตเห็นมันด้วย เพราะผมไม่ค่อยแสดงท่าทีอะไร แต่เอาจริงผมก็ไม่อยากคิดมากเรื่องพวกนี้หรอก ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้อ่ะ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เพียงแต่ว่าพอมันมีคนมาสะกิดมันแรงๆ ผมก็เจ็บทุกทีเลย
   
เป็นแวมไพร์กากๆ บนโลกนี้มันอยู่ยากอ่ะ แถมแดดประเทศไทยยังแรงด้วย ผมไม่เผลอแห้งตายก็ดีแค่ไหนแล้ว
   
ก๊อกๆ
   
เสียงเคาะประตูข้างนอกเล่นเอาผมสะดุ้งสุดตัว เลิกร้องไห้ชั่วคราวแล้วคืนร่างเป็นค้างคาวทันทีตามสัญชาตญาณ ก่อนที่ผมจะโดนยัดเข้าไปในเสื้อดิออนอีกแล้ว
   
คือเอาจริงนะ ผมว่าจะตายเพราะขาดอากาศหายใจตายในนี้เนี่ยแหละ
   
ผมหายใจแฮ่กๆ เกาะอยู่บนเสื้อตัวในของมัน พยายามอยู่แถวกระดุมเพื่อที่จะได้แอบดูสถานการณ์ข้างนอกแก้เบื่อบ้าง เพราะอยู่ในนี้ค่อนข้างร้อนและน่าเบื่อมาก
   
ซึ่งผมก็รู้สึกว่าช่องกระดุมมันใหญ่ไป ก็เลยเจาะรูเล็กๆ แล้วเอาตาแนบเพราะอยากรู้ว่าใครมาเรียก และผมก็ได้ตาโตทันที
   
ไอ้น้องเซน!!
   
“งานพร้อมแล้ว”
   
ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน แต่เซนกลับแสดงท่าทีห่างเหินกับพี่ชายตัวเองอย่างเห็นได้ชัด และผมก็ดูออกด้วยว่ามันไม่ค่อยชอบพี่ตัวเอง
   
“ขอบใจ”
   
ดิออนตอบสั้นๆ แล้วก็เดินออกจากห้องทันที และผมก็ตื่นตาตื่นใจกับคฤหาสน์ของมันอีกรอบ เพราะมันใหญ่มาก มีพวกโคมระย้าด้วย ซึ่งมันก็สวยมากและแสบตามากด้วย
   
ผมมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ คือฟีลเหมือนมาเที่ยวอ่ะ เพราะมันมีไม่กี่ที่หรอกที่ผมไม่เคยไป ถ้าไม่อันตรายเกินไป ผมก็ไปมาหมดแล้วอ่ะ เท่าที่ความสามารถของตัวเองจะเอื้ออำนวย
   
แต่ดูเหมือนว่าความสนุกของผมก็ต้องจบลงตอนที่มันมาถึงประชุมที่ห้องโถงใหญ่ และมีพวกผู้นำตระกูลวาติกันจากประเทศต่างๆ ยืนเรียงรายกันเต็มไปหมด ส่วนบนพื้นนั้นมีร่างของพวกอมนุษย์ หมาป่า และปีศาจต่างๆ ที่จับกันมาได้นั้นถูกจับมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา ส่งเสียงเซ็งเซ็งแซ่ร้องขอชีวิตกันระงม แถมมีบางส่วนที่ตายไปแล้วด้วย
   
“..!”
   
มีแวมไพร์ถูกจับมา! แถมยังเป็นแวมไพร์ในสมาคมที่ผมรู้จักอีก ถึงจะไม่ค่อยก็ได้คุยกันก็เถอะ แต่ผมก็จำได้ว่าเป็นแวมไพร์เด็กอายุไม่ถึงร้อยที่น่าจะออกไปเที่ยวข้างนอกช่วงวันฮาโลวีนพอดี แล้วน่าจะหนีกลับสมาคมไม่ทัน ซึ่งสภาพตอนนี้ก็ค่อนข้างแย่มากเหมือนจะตายได้ตลอดเวลา
   
ผมตัวสั่นงึกๆ แทบจะร้องไห้อีกรอบ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะผมไม่มีปัญญาช่วยแน่ๆ แถมที่ตรงนี้ยังเป็นดงวาติกันอีก บอกตามตรงว่าถ้าผมไม่ได้กินเลือดของดิออนตอนนี้ก็คงจะแห้งตายไปตั้งนานแล้ว
   
เอาจริง ผมก็อยากเรียกให้สมาคมมาช่วยนะ แต่ผมก็กลัวทำคนตายเพิ่มอ่ะ จากหนึ่งคนอาจจะเป็นสิบคนในสมาคมเลยก็ได้ แถมผมก็บอกพ่อไปแล้วด้วยว่าดูแลตัวเองได้
   
“…”
   
เป็นภาระอีกแล้วสินะ
   
ผมพยายามไม่ร้องไห้ แล้วพยายามคิดหาทางช่วย จริงๆ อยากช่วยทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ เพราะชาวไม่ใช่มนุษย์ส่วนใหญ่เขาก็เกื้อกูลกันดีอ่ะ ตอนเด็กๆ ผมหลงทางยังเคยถูกพวกมนุษย์หมาป่าพาไปส่งสมาคมเลย ใจดีมาก
   
ผมกลืนน้ำลายเอือกตอนที่ดิออนมันไปยืนตรงโพเดียมที่ยกสูงขึ้นจากพื้นปกติ และเมื่อมองลงไปก็เห็นพวกวาติกันที่มาร่วมงานไปนั่งประจำที่ของตัวเองกันแล้ว ซึ่งแต่ละประเทศก็มีสีเสื้อคลุมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่สิ่งที่ทุกตระกูลที่มาร่วมนั้นมีเหมือนกันนั้นคือดาบศักดิ์สิทธิ์ที่หลอมจากเงินแท้และการสวดภาวนาจากนักบวชมานับร้อยคน
   
“วันนี้ก็เป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกท่านได้มาร่วมงานเทศกาลล่าปีศาจในวันนี้”
   
ดิออนพูดออกมาด้วยภาษากลางของพวกวาติกันซึ่งไม่ใช่ภาษาไทย แน่นอนว่าผมฟังออกเพราะในหลักสูตรการเป็นแวมไพร์เบื้องต้นบรรจุภาษาพวกวาติกันเข้าไปด้วย
   
“ผมดิออน ผู้นำตระกูลวาติกันแห่งประเทศไทยขอเป็นตัวแทนขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้เกียรติเราจัดงานอันทรงเกียรตินี้ งานที่จะประกาศถึงแสนยานุภาพของเราชาววาติกัน วันที่วาติกันจะประกาศกร้าวต่อหน้าพวกอมนุษย์ชั้นต่ำทุกตัวว่าเรานั้นเป็นนักบุญผู้สูงศักดิ์ที่จะมาทำลายความชั่วร้ายของพวกมัน”
   
“…”
   
เอาจริงคือผมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงดีที่คนพูดประโยคเหล่านี้คือดิออน มันก็พูดด้วยฐานะหน้าที่ของมันนั่นแหละ แต่ลึกๆ ผมก็อดเจ็บไม่ได้อยู่ดี เพราะตอนนั้นที่โดนจับมาผมก็เคยฟังประโยคพวกนี้มาก่อน
   
มันเจ็บปวดนะที่ถูกปฏิบัติด้วยอย่างโหดร้าย ทั้งๆ ที่ผมก็เป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งในโลกเหมือนกันอ่ะ ทำไมถึงต้องมาแต่งตั้งตัวเองให้เป็นผู้พิทักษ์สันติภาพให้กับโลกด้วย ไอ้พวกปีศาจชั่วร้ายมันก็มีแหละ แต่ไล่ฆ่าทุกตัวมันก็ไม่ใช่ไหมอ่ะ
   
ผมยังไม่เคยฆ่าใครเลยนะ แวมไพร์ที่นั่งตรงนั้นก็ด้วย
   
การไม่ได้เป็นมนุษย์มันร้ายแรงมาก จนถึงขั้นต้องฆ่าพวกผมให้หมดเลยเหรอ
   
“เราจะชำระล้างบาปที่มันได้สร้างขึ้นมาในโลก เราจะเข่นฆ่าและทำลายมันทุกตัว เราจะคืนความบริสุทธิ์ให้กับโลกมนุษย์ด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์และจิตวิญญาณของเรา!”
   
พูดจนถึงตอนนี้มันก็เอื้อมมือไปหยิบดาบเงินที่น้องของมันประคองมาให้ และชูขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งนอกจากมันแล้วผู้นำตระกูลคนอื่นๆ ก็ชูขึ้นมาเหมือนกันเพื่อเป็นการแสดงการยอมรับต่อคำปฏิญาณเหล่านี้ ก่อนที่มันจะฟันลงมาเพื่อเป็นการ ‘เปิด’ พิธีชำระล้างบาปอย่างเป็นทางการ
   
เสียงกรีดร้องของเหล่าปีศาจดังไม่หยุดอย่างทุกข์ทรมาน เคล้ากับคาวเลือดและความสนุกสนานคึกคักในการไล่ฆ่าเหล่าอมนุษย์บางคนที่หลุดจากพันธนการได้ พวกมันพยายามช่วยเหลือกันเอง พยายามต่อสู้โต้กลับแต่ก็ไร้ผล เพราะถ้าหากมีพลังมากพอพวกมันก็คงไม่ถูกจับมาตั้งแต่แรก
   
“…”
   
ยิ่งเห็นผมก็ยิ่งโกรธ  ผมโกรธจนร้องไห้ออกมา แต่อีกใจหนึ่งก็กลัว กลัวว่าทำดิออนเดือดร้อน เพราะลำพังถ้าผมตายคนเดียวแบบโง่ๆ ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอก แต่มีดิออนมาเกี่ยวข้องด้วยไง
   
“..ช่วยด้วย”
   
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอยู่ๆ แวมไพร์เด็กนั่นก็หันมาทางผม แล้วพูดอออกมา
   
ชั่ววินาทีนั้นคือผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ผมรู้แค่ว่าตัวเองไม่สนใจอะไรอีก พอออกจากเสื้อดิออนได้ผมก็คืนร่างแวมไพร์ปกติในพริบตา แล้วซัดพลังใส่พวกวาติกันทุกตัวที่เข้าใกล้พวกที่ไม่ใช่คนอย่างผม
   
ผมแยกเขี้ยวออกมา นัยน์ตาของผมกลายเป็นสีแดงเรืองรองอย่างดุร้าย เพราะผมตอนนี้ค่อนข้างโกรธมาก ถึงจะรู้ว่าพลังของผมมันกากมาก แต่ผมก็พยายามปกป้องทุกคนเท่าที่จะทำได้
   
สำหรับผมไม่มีใครสมควรถูกฆ่าอย่างไร้เหตุผลทั้งนั้น!
   
“ครูซ นี่มันครูซใช่ไหม!!”
   
พวกวาติกันตะโกนกันเสียงเซ็งแซ่กันไม่หยุด ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้จักผมได้ยังไง อาจจะดูออกจากเสื้อคลุมแวมไพร์ของผมที่เป็นเครื่องแบบเฉพาะสำหรับผู้สืบทอดเลือดสายตรงจากบรรพบุรุษและค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เตะตาพอสมควร
   
แน่นอนว่าผมไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หายไปง่ายๆ ใช้พลังแวมไพร์ของตัวเองสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา ซึ่งผมก็คิดอะไรไม่ออกเลยสร้างพวกสิงโตออกมาสองสามตัว แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงออกมาตัวใหญ่กว่าที่ผมคิดมาก มันคำรามออกมาเสียงดังลั่นจนกระจกแตก ก่อนที่ผมจะสั่งให้ออกพวกมันโจมตีพวกวาติกันที่จะมาทำร้ายพวกปีศาจ
   
“ถอยไป!!”
   
ผมคำรามใส่วาติกันคนหนึ่งที่ทำท่าจะฆ่าแวมไพร์เด็กคนนั้น สร้างดาบจากพลังตัวเองขึ้นมาและพุ่งเข้าไปสกัดกับดาบเงินแท้ที่มันตั้งใจจะตัดคอพวกไม่ใช่คนอย่างผม
   
ฉ่า..
   
ผมมองมือตัวเองที่โดนน้ำมนต์ซึ่งถูกสาดมาจากอีกฝั่งอย่างเฉยเมย แม้ว่ามันจะกลายเป็นแผลพุพองเหมือนถูกน้ำร้อนจัดลวกก็ตาม ผมผลักวาติกันคนนั้นออก แล้วกระชากแวมไพร์เด็กที่นอนกองอยู่บนพื้นขึ้นมาและใช้พลังตัวเองบังคับให้อีกฝ่ายรีบคืนร่างค้างคาว
   
“อย่าบอกใครว่าฉันมาที่นี่”
   
ก่อนที่ผมจะส่งมันออกไปข้างนอกไกลๆ ด้วยพลังแวมไพร์ ผมก็อดกำชับไม่ได้ เพราะค่อนข้างห่วงสวัสดิภาพตัวเองหลังรอดออกไป คือถ้าพ่อจับได้ว่าผมยังเล่นอยู่ที่นี่ ผมได้โดนขังลืมอีกแน่ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สนุกเลยสักนิด
   
กี้!
   
“จะช่วย? ตลกแล้ว ถ้านายช่วยฉันได้นายก็ไม่เกือบตายแบบนี้หรอก”
   
เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันแย่มาก ผมเลยค่อนข้างควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยอยู่ พูดตอกกลับไปด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากทำสักนิด
   
“จำไว้ นายไม่ต้องตามใครมาช่วยทั้งนั้น ฉันเอาตัวรอดได้ แล้วก็หุบปากซะ”
   
ผมบินหลบกระสุนห่าใหญ่ที่ถูกยิงตามขึ้นมา และใช้พลังตัวเองเกือบครึ่งในการส่งเจ้าแวมไพร์ในสมาคมนี่ไปไกลๆ จากเขตของพวกวาติกัน จนผมเผลอสมาธิหลุดไปชั่วขณะหนึ่ง
   
ปัง!
   
“…”
   
ผมก้มมองท้องตัวเองที่เป็นรูอีกแล้ว ดีหน่อยที่ไม่ใช่แผลเดิม แต่ก็เจ็บเหมือนกันอยู่ดี เพราะไอ้กระสุนเงินที่ทะลุผ่านท้องผมไปนี้ไม่แน่ใจว่าโดนพวกนักบวชสวดภาวนากี่ร้อยปี ทำไมมันถึงได้ทำผมแสบขนาดนี้
   
ผมคำรามออกมาอีกรอบ รู้สึกโกรธจัดยิ่งกว่าเดิม หอบหายใจจนตัวโยนโดยไม่สนใจเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากท้อง ลำคอแห้งผากกระหายเลือดถึงขีดสุด ประสาทสัมผัสทั้งหมดทรงประสิทธิภาพขึ้นหลายเท่า จนผมได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจในทรวงอกของเหล่าวาติกันที่กำลังเต้นอยู่
   
และแน่นอน ผมได้กลิ่นเลือดด้วย
   
ผมเลียริมฝิปากมอง ‘เหยื่อ’ ของตัวเองอย่างหิวโหย ก่อนที่อีกสักพักจะได้สติขึ้นมาว่ามันไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง
   
แย่แล้ว
   
“…”
   
ผมกลืนน้ำลายเอือก รู้สึกหวาดกลัวตัวเองขึ้นมา
   
ผมกำลังจะคลุ้มคลั่ง
   
ปัง! ปัง!
   
กระสุนเงินยังคงยิงอัดขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะฆ่าสิ่งมีชีวิตอัปมงคลชั่วร้ายอย่างผม แต่ผมก็หลบได้ทุกนัด และช่วยทำลายอาคมบางส่วนตรงหน้าต่างให้พวกปีศาจบางตัวหนีออกไป
   
“ฮื่ออ”
   
ผมใช้เขี้ยวกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดอาบ พยายามใช้ความเจ็บปวดประคับประคองสติตัวเองไม่ให้หลุด เพราะผมไม่รู้เลยว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองคลุ้มคลั่งแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
   
“ฆ่ามัน!!! มันกำลังจะคลุ้มคลั่งแล้ว!!!”
   
ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกวาติกันถึงได้รู้ดีและแตกตื่นกันนัก
   
เอาเข้าจริงผมก็คลับคล้ายคลับคลาว่าตอนเด็กๆ ผมเหมือนจะเคยคลุ้มคลั่งไปรอบนึงเหมือนกัน แต่ผมก็จำอะไรไม่ได้เลย
   
“อย่าฆ่าพวกเขา”
   
ผมพยายามพูดให้เป็นประโยค แต่เสียงที่ออกมากลับฟังดูน่ากลัวและดุดันมาก ไม่เข้ากับคอนเซ็ปแวมไพร์ที่รักสันติที่สุดอย่างผมเลยสักนิด
   
“ฆ่ามัน!!! อย่าปล่อยให้พวกมันรอดไปได้!! หน้าที่ของเราคือชำระล้างบาปที่พวกมันสร้างขึ้นมา!! เราจะปล่อยให้พวกปีศาจชั่วร้ายพวกนี้สร้างบาปต่อไปไม่ได้อีก!!!”
   
แต่ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งเปล่าประโยชน์ พวกวาติกันล่ากันดุดันมากกว่าเดิม ปีศาจหลายตัวที่กำลังจะหนีรอดออกไปได้ก็ตายในพริบตา พวกที่เหลือที่เห็นว่าพวกพ้องตัวเองตายก็เลิกหนีแล้วเอาคืนพวกวาติกัน
   
“หนีไปสักทีสิวะ!”
   
ผมตะคอกเพราะมันเป็นอะไรที่เสียเวลาและเปล่าประโยชน์ที่จะมาต่อกรกับพวกวาติกันในเขตของพวกมันแบบนี้ คือเอาจริงตอนนี้ผมก็หนีได้นะ แต่อะไรบางอย่างในตัวผมมันกลับไม่ยอมให้ทำ ทั้งๆ ที่ผมอยากหนีแทบตาย
   
ให้ตายสิ
   
มันเกิดอะไรขึ้นกับแวมไพร์ที่อ่อนด๋อยและรักสันติที่สุดอย่างผมกับนะ
   
ปัง! ปัง!
   
หลบกระสุนอยู่สักพัก ผมก็พุ่งตัวเข้าไปหาวาติกันที่น่าจะเป็นผู้นำตระกูลสักประเทศในพริบตา ก่อนที่จะคว้าลำคอของมันขึ้นมาบีบแน่นและชูขึ้นมาเป็นตัวประกัน
   
“ข้าจะฆ่ามัน ถ้าพวกเจ้ายังไม่หยุด”
   
ผมพูดเสียงเย็นด้วยภาษาโบราณที่มั่นใจว่าพวกวาติกันต้องเข้าใจกันทุกคน
   
“ทุกคนหยุดก่อน เราจะปล่อยให้ท่านได้รับบาดเจ็บไม่ได้!”
   
เหล่าวาติกันจากประเทศเดียวกันที่มาด้วยกันตะโกนกันระงม แต่ก็ไร้ผลเพราะวาติกันบางส่วนก็ยังคงฮึดฮัดพยายามที่จะกำจัดตัวชั่วร้ายอย่างผมให้ได้ ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ฆ่าใครเลยแม้แต่คนเดียว พวกที่นอนบนพื้นก็สลบด้วยฝีมือของสิงโตผมทั้งนั้น
   
“ถ้าหากเราปล่อยให้มันรอดไปอีก เราจะเสียโอกาสฆ่ามันอีกนะ!! มันจะฆ่ามนุษย์และสร้างบาปที่ไม่มีทางชดใช้ได้ให้กับเรา”
   
ทั้งๆ ที่โดนปลายกระบอกปืน ดาบ หรืออาวุธอีกนับไม่ถ้วนเล็งมาที่ตัวเอง แต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวสักนิด สงบนิ่งและจดจ้องไปยังพวกมัน พยายามประวิงเวลาที่ให้กับพวกปีศาจคนอื่นที่ฉวยโอกาสนี้หนีออกไป
   
ผมมองไปทั่วจนกระทั่งสายตามาหยุดที่ใครบางคน
   
ใครที่ช่วงชิงลมหายใจผมไปเมื่อคืน
   
ผมสบตากับดิออน ไม่ได้พูดอะไร เอาเข้าจริงสถานการณ์ตอนนี้ก็ค่อนข้างบ้าและแปลกประหลาดพอตัว
   
ผมกำลังยืนบีบคอมนุษย์คนหนึ่งอยู่ ต่อหน้าผู้นำตระกูลวาติกันที่เป็นคู่นอนตัวเองเมื่อคืน และปลายดาบเงินที่มันเคยชูขึ้นฟ้านั้น ตอนนี้กลับกำลังชี้หน้าผมอยู่
   
“…”
   
ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรน่ายิ้ม แต่ผมกลับยิ้มออกมา
   
แววตาของดิออนตอนนี้ว่างเปล่า เย็นชา ราวกับว่าผมกับมันไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดาบของมันที่ไม่รู้ว่าซ่อนอาคมแบบไหนไว้ เรืองรองและมีไอสีขาวที่แผ่กลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ออกมา
   
“จะฆ่าข้ารึ มนุษย์”
   
ผมหรี่ตามองมัน รู้สึกเจ็บปวดเคล้ากับความไม่แน่ใจ
   
เพราะผมไม่เคยอ่านมันออกเลยว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ที่มันพูดกับผมเมื่อกี้ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ เป็นแค่ประโยคส่งๆ ที่พูดออกมาแบบไม่ตั้งใจเพื่อซื้อใจแวมไพร์หน้าโง่อย่างผม
   
พอคิดแบบนี้ผมก็รู้สึกเจ็บปวดมากจนเผลอปล่อยให้สิ่งที่ผมกดเอาไว้ตลอดแย่งชิงร่างของผมไปในพริบตา
   
“ฆ่าเราซะ ดิออน เราจะปล่อยให้บาปอันหนักอึ้งนี้มีชีวิตต่อไปอีกไม่ได้!”
   
เหยื่อในมือผมก็ช่างน่าสรรเสริญในความกล้าหาญเหลือเกิน
   
ผมหัวเราะแล้วทุ่มมันลงพื้น ก่อนที่จะก้มหลบคมดาบของดิมันพร้อมๆ กับใช้มีดที่สร้างขึ้นมาจากพลังแทงมันกลับ จนเลือดมันชุ่มมีด พอๆ กับเลือดของผมที่ชุ่มดาบมัน
   
แน่นอนว่าผมไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง สนุกสนานกับการหลบพร้อมกับเลียมีดที่ชุ่มเลือดของมันไปด้วย
   
อร่อย..
   
ผมหัวเราะออกมาไม่หยุด  กำลังจะเล่นกับมันต่อก็สัมผัสได้ถึงภัยอันตรายจากด้านหลังที่มีทั้งกระสุนทั้งน้ำมนต์
   
ชั่ววินาทีนั้นผมระเบิดพลังออกมา
   
ผมคำรามจนพวกมนุษย์ชั้นต่ำที่พลังไม่ถึงขั้นล้มไปกองกับพื้น ส่วนพวกที่ยังทนยืนได้ผมใช้พลังความมืดสร้างเฉพาะส่วนมือและบีบคอพวกมัน
   
“..พวกเจ้ากล้ากับข้าหรือมนุษย์”
   
ผมผุดยิ้มออกมาอย่างสะใจ พอจะควบคุมให้พวกมือบีบแรงขึ้นอีกก็ถูกขัดจังหวะอีกครั้งด้วยเจ้าของเลือดอร่อยๆ
   
“อย่าทำให้ข้าโกรธ.. ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า”
   
เพราะเห็นแก่เลือดอร่อยๆ ที่อีกฝ่ายมอบให้ ผมถึงยอมเล่นสนุกกับมันสักพัก ไม่ฆ่ามัน
   
“ครูซ”
   
“…”
   
ผมมองมันด้วยความงุนงงเมื่ออยู่ๆ มันก็ทิ้งดาบของตัวเอง แล้วเดินเข้ามาหาผมมือเปล่า
   
“คิดจะทำอะไรกันแน่ มนุษย์”
   
ผมเผลอถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกหวาดหวั่นกับมนุษย์ต่ำต้อยที่ไม่มีแม้แต่อาวุธที่จะทำร้ายผมด้วยซ้ำ
   
“..ครูซ”
   
“…”
   
ผมมองเจ้ามนุษย์ที่อยู่ๆ ก็คุกเข่าตรงหน้าผมด้วยความงุนงง แต่ก็ไม่กล้าคลายความระวัง เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นลูกไม้ใหม่ๆ ของพวกมนุษย์รึเปล่า
   
“…”
   
ผมสบตากับเจ้ามนุษย์ที่ตอนนี้ไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาที่มันมองผมกลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ชัดเจน
   
“..เจ้าเป็นใครกันแน่”
   
ผมรู้สึกถึงลำคอที่แห้งผาก ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงนักกับมนุษย์ต่ำต้อยคนหนึ่ง
   
“วาติกันที่ชอบแวมไพร์อย่างนาย”
   
มันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนที่จะเลียเลือดที่เลอะแขนมันพร้อมกับจ้องผมไปด้วย
   
“…คิดจะทำอะไร มนุษย์”
   
ผมขมวดคิ้วถามมันเสียงแผ่วและเบิกตากว้างตอนที่เห็นนัยน์ของมันค่อยๆ กลายเป็นสีแดงฉานแบบเดียวกับผม มันสลัดเสื้อคลุมนักบวชของมันทิ้งและถอดเสื้อมันออก จนเหลือแผ่นอกเปลือยเปล่ากับรอยสักของพวกวาติกัน
   
“เป็นเหยื่อของนาย”
   
มันยิ้มมุมปากแล้วก้มหยิบมีดเงินของใครไม่รู้ขึ้นมากรีดแขนของมัน ปล่อยให้เลือดอันล้ำค่าหยดลงบนพื้นอย่างช้าๆ และยื่นแขนมาทางผม
   
ผมไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ยอมเดินไปหามัน เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองควบคุมสถานการณ์อยู่ ผมสะบัดมือใช้พลังแวมไพร์ในการปัดมีดของมันออก และไปหยุดยืนตรงหน้ามัน
   
ผมเมินแขนชุ่มเลือดที่มันยื่นให้ และจดจ้องไปยังลำคอของมันที่เหมือนกับว่ามีรอยกัดจางๆ เหมือนเพิ่งจะถูกกัดมาไม่นานด้วยซ้ำ
   
ผมขมวดคิ้ว
   
“เจ้าเคยถูกแวมไพร์กัดหรือ มนุษย์”
   
“อืม”
   
มันยิ้มบางและโน้มหัวลงมาเพราะผมสูงไม่ถึงคอมัน
   
“…”
   
ผมเลียเขี้ยวอย่างชั่งใจ รู้สึกงุนงงกับสถานการณ์ตอนนี้มาก แต่ความกระหายจัดก็ทำให้ผมเขย่งเท้าและรั้งคอมันลงมาอีกเพื่อฝังเขี้ยวบนลำคอมัน
   
อร่อยชะมัดเลย
   
ผมกลืนเลือดของมันลงคอ รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งไปกว่านั้นคือสัมผัสที่มันลูบหลังผมเบาๆ ก็ยิ่งทำให้ผมสงบลงมาก
   
“..อย่ากินเยอะนัก เดี๋ยวฉันจะตายก่อน”
   
มันพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจนผมน้ำตารื้นออกมา
   
ผมจำได้แล้ว
   
“..ดิออน”
   

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 12 16/11/62 p.6
«ตอบ #161 เมื่อ16-11-2019 20:23:17 »

ผมถอนเขี้ยวออกมาทันที เพราะช่วงนี้ผมกินเลือดมันไปเยอะมาก และเลือดมันก็ยังทรงประสิทธิภาพเหมือนเดิม แปปเดียวแผลบนตัวผมหายหมด ผิดกับมันที่ตอนนี้เหมือนสลับบทกับผมอ่ะ ยับยู่ยี่กว่าตอนผมโดนประตูหนีบอีก
   
“เห็นไหม นายไม่อ่อนแอ”
   
มันลูบหัวผม ทั้งๆ ที่หน้ามันซีดมาก จนผมไม่รู้ว่าระหว่างเป็นลมกับตายอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน
   
ไม่ได้นะ!!! ดิออนยังไม่แก่เลยอ่ะ จะตายตั้งแต่ตอนนี้ไม่ได้!!
   
“..นายห้ามตายนะ ดิออน แต่หน้านายซีดมากเลยอ่ะ”
   
ผมลนลานมากจนพวกสิงโตที่ผมเรียกออกมาก็ลนลานเหมือนกัน จนเปิดโอกาสให้พวกวาติกันบางคนโจมตีผม
   
แน่นอนว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะร้องไห้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้มันไม่จำเป็นแล้ว
   
ผมเหลือบมองพวกมันแล้วใช้พลังแวมไพร์กดพวกวาติกันให้นอนลงบนพื้น และหันมาสนใจดิออนต่อ
   
“ตอนนี้เลือดนายก็น่าจะได้แล้วนะ”
   
มันมองผมยิ้มๆ
   
“…”
   
ผมกลืนน้ำลายเอือกแต่ก็ยอมพยักหน้าหงึกหงักยอมให้มันกินเลือดผม ถึงแม้ว่าผมจะกลัวเจ็บ แต่ผมก็กลัวมันตายมากกว่า ให้ตายสิ ถ้าเลือดดิออนเป็นน้ำตาลตอนนี้ผมก็คงเป็นเบาหวานล่ะอ่ะ กินเยอะเกิน
   
“ฆ่ามันซะ ดิออน!!!”
   
“…”
   
ผมเหลือบมองดิออนสลับกับพ่อดิออนที่ตอนนี้พยายามตะเกียกตะกายให้หลุดจากพันธนการของผม ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับดิออนมองผมด้วยความเกลียดชังที่สุดเท่าที่ๆ มนุษย์คนหนึ่งจะเกลียดชังใครได้ ซึ่งผมมั่นใจมากว่าถ้าสายตาที่มองมาเป็นมีด ตอนนี้ผมก็คงจะตายไปแล้ว
   
ดิออนยิ้มนิดๆ มองพ่อตัวเอง ก่อนที่มันจะกวาดสายตามองเหล่าวาติกันที่นอนสยบอยู่บนพื้น ซึ่งก็แทบไม่มีใครเลยที่จะสามารถขัดขืนพลังของผมได้
   
เอาเข้าจริงที่พลังผมมันทรงพลังขนาดนี้ได้ก็เพราะเลือดของดิออนด้วยนั่นแหละ เหมือนน้ำมันที่ราดบนกองไฟจนตอนนี้มันลามไปเผาไหม้ทุกอย่าง
   
ถ้ามันเลือกผม มันก็เหมือนกับเผาบ้านตัวเองนั่นแหละ
   
“ดิออน!!!”
   
พ่อมันคำรามออกมาอย่างหัวเสียเพราะดิออนไหวไหล่ใส่อย่างไม่ยี่หระ และก้มลงเลียซอกคอผมจนผมหน้าแดงก่ำ แต่ก่อนที่มันจะฝังเขี้ยวบนคอผม ก็มีคนขัดจังหวะขึ้นมาอีก
   
“ผมฆ่าพี่แน่”
   
น้องเซนมองดิออนด้วยรอยยิ้มๆ ดูพึงพอใจมากกว่าผิดหวัง
   
“…”
   
ซึ่งตอนที่ผมกำลังลุ้นว่าผมจะตอบอะไรน้อง มันก็ฝังเขี้ยวใส่คอผมซะก่อน
   
“อ๊า! เจ็บ!!!”
   
ผมสะดุ้งเฮือกผวาเกาะมันแน่น น้ำตาแตกเพราะมันเจ็บมาก ผมจิกเล็บเข้าแขนล่ำๆ ของมัน พยายามไม่สนใจความเจ็บปวดตรงคอ และมองลูกกระเดือกของมันที่ขยับขึ้นมาลงไม่หยุด
   
“..อื้อ”
   
ผมร้องในลำคอซึมๆ คือผ่านไปสักพัก ถึงร่างกายจะเริ่มชินแล้วแต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดีอ่ะ แต่ดีหน่อยที่ผมไม่ค่อยรู้สึกล้าเท่าไหร่ เพียงแค่รู้สึกเหมือนถูกดูดพลังไปก็เท่านั้น
   
“..!!”
   
ผมเบิกตากว้างเพราะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมันที่ไม่ใช่แค่ตาแดง แต่ตอนนี้คือเหมือนตัวมันใหญ่ขึ้นด้วย เขี้ยวที่ฝังอยู่ในลำคอผมก็เหมือนจะยาวขึ้นพร้อมๆ กับปีกที่งอกออกจากแผ่นหลังหนาของมัน
   
มันกำลังจะเป็นแวมไพร์จริงๆ
   
“ดิออน!!!”
   
พ่อมันคำรามออกมาดังลั่นพร้อมๆ กับเสียงฮือฮาของพวกวาติกันที่เห็นวาติกันด้วยกันเองกลายเป็นแวมไพร์ต่อหน้าต่อตา คือเอาจริงต่อให้เป็นพวกแวมไพร์ด้วยกันเองมาดูก็ตกใจอ่ะ เพราะพวกแวมไพร์ไม่เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นแวมไพร์มานานมากแล้วจริงๆ
   
มันกินต่ออยู่สักพักจนร่างกายมันหยุดเปลี่ยน มันก็ผละออกจากคอผมโดยที่ไม่ลืมที่จะเลียเลือดที่เปรอะคอผม แบบเดียวกับที่ผมเคยทำให้กับมัน
   
“…”
   
มันหยุดยืนตรงหน้าผมและจ้องผมนิ่งด้วยร่างแวมไพร์ ส่วนฉากหลังของมันนั้นก็เป็นภาพที่ไม้กางเขนห้อยกลับด้านลงมากับพวกวาติกันที่เหมือนกำลังจะอกแตกตาย เพราะมีวาติกันที่มีสายเลือดอันสูงส่งและได้รับการอำนวยอวยพรจากพระเจ้ายินยอมที่จะรับบาปอันหนักหนาและความอัปมงคลของปีศาจเข้าร่างตัวเอง
   
ผมมองดิออนด้วยความรู้สึกเหมือนจะร้องไห้
   
ดิออนโคตรหล่อเลยอ่ะ

=======

ไม่ค่อยเลยนะ ยัยน้อน 5555555555555

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 12 16/11/62 p.6
«ตอบ #162 เมื่อ16-11-2019 21:52:28 »

ตอนนี้ไคลแมกซ์มาก..กกกกกกกก   :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 12 16/11/62 p.6
«ตอบ #163 เมื่อ16-11-2019 22:02:46 »

น้องมาแล้วววว

ออฟไลน์ ข้าวสวย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 12 16/11/62 p.6
«ตอบ #164 เมื่อ17-11-2019 00:02:58 »

เริ่ดดดดดดดดด​ ชั้นละชอบเรื่องนี้จริงๆ

ออฟไลน์ Piechicofic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 12 16/11/62 p.6
«ตอบ #165 เมื่อ20-11-2019 20:23:48 »

กรี๊ด ซีนนี้หล่อมากดิออน โซแดมฮอท ;-;

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
«ตอบ #166 เมื่อ01-12-2019 00:31:54 »

VAMPIRE PROBLEM ;w; #13

   
“…ครูซ”
   
ดิออนเรียกผมเพราะผมมัวแต่เหม่อมองมันแบบหลงมาก
   
เท่อ่ะ เท่กว่าพ่อผมอีก ถ้าลงประกวดแวมไพร์ที่หน้าตาดีที่สุดในสมาคมมันต้องติดแน่ๆ เลย ผมรับประกัน เพราะผมจะไปบังคับให้ทุกคนโหวตดิออนให้หมด
   
หล่ออ่ะ
   
“จะเอาไงต่อ”
   
มันพูดแล้วพยิกเพยิดไปทางพวกวาติกันที่ตอนนี้โวยวายกันเสียงดังลั่นและตะโกนว่าบาปไม่หยุด จนผมอยากตะโกนกลับไปบ้างว่าไม่บาปซะหน่อย ผมเป็นแวมไพร์ที่เป็นมิตรต่อโลกจะตาย ยังไม่เคยฆ่าคนสักครั้งในชีวิต ขนาดวันนี้ผมเผลอสติหลุดไปบ้างก็ยังไม่พลั้งมือฆ่าใครเลย
   
“กลับสมาคม ผมจะเอานายไปอวดแม่”
   
บอกเลยว่าแม่ต้องภูมิใจในตัวผมมากแน่ๆ ที่อุตส่าห์หาคู่ได้เหมาะสมกับตัวเองขนาดนี้ คือแม่เคยจะจับผมคลุมถุงชนไง แต่ผมไม่ยอม เลยหนีออกจากสมาคมวันนั้นเลย แม่เลยไม่พูดถึงมันอีก และปล่อยให้ผมเป็นแวมไพร์ที่ไร้สาระไปวันๆ อย่างมีความสุข
   
“ตามใจ”

มันยิ้มแล้วจับมือผมขึ้นมาจูบโดยไม่สนใจสายตาพวกวาติกันที่มองมาสักนิด

“มีอะไรที่อยากทำอีกไหม ผมรอได้นะ”
   
เอาจริงผมก็ดีใจแหละที่ดิออนยอมเป็นแวมไพร์เพื่อผม แต่ผมก็ว่ามันฉุกละหุกไปอ่ะ มันน่าจะยังหลงเหลืออะไรที่อยากทำในฐานะมนุษย์บ้างแหละ
   
“..ก็มี”
   
มันตอบทั้งๆ ที่ยังกุมมือผมอยู่ และหันไปมองพ่อสลับกับน้องตัวเอง สีหน้ามันเย็นชาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
   
“พ่อจะมองว่าผมเป็นพวกนอกรีตหรือคนทรยศก็เชิญเถอะ แต่ผมอยากจะบอกพ่อมาตลอดว่าพวกปีศาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ในพระคัมภีร์เขียนเอาไว้ พวกมันก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกับเรา ตอนเด็กๆ ที่พ่อคิดว่าผมรอดจากจมน้ำได้เพราะพระเจ้าช่วย แต่จริงๆ แล้วมีปีศาจช่วยผม ทั้งๆ ที่พวกมันก็รู้ว่าผมเป็นพวกวาติกัน”
   
แววตาของดิออนอ่อนลงเมื่อพูดถึงปีศาจตนนั้น
   
“ผมว่าเราควรเลิกฆ่ากันสักที เพราะการสร้างความแค้นต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ที่แม่ตายก็เพราะว่าพ่อเคยไปฆ่าพวกหมาป่าไม่ใช่เหรอ พวกมันถึงตามมาแก้แค้นเรา”
   
“…”
   
พ่อของดิออนไม่ได้พูดอะไรก็จริง แต่สีหน้าคือแสดงชัดออกมาว่าไม่ยอมรับและเชื่อในสิ่งที่ดิออนพูดสักนิด ส่วนน้องเซนก็ยังคงโวยวายอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
   
“พี่บ้าไปแล้วเหรอ!!! พวกปีศาจก็คือปีศาจ พระคัมภีร์ไม่มีวันโกหกเรา พวกมันคืออสุรกายที่ตั้งใจมาทำลายความสงบสุขของมนุษย์ คือบาปอันนักหนาที่โลกแบกรับเอาไว้และเราก็ต้องเป็นคนชำระมัน!!”
   
“…ไปกันเถอะ”
   
ดิออนกลอกตาแล้วโอบเอวผม
   
“อื้อ”
   
ผมกวาดตามองหาพวกปีศาจเป็นครั้งสุดท้ายและพบว่าพวกที่ยังมีชีวิตก็หนีกันไปหมดแล้ว
   
“…”
   
ผมชะงักนิดหน่อยตอนที่เห็นพวกที่หนีไม่ทันต้องตายกันแทบเท้าพวกวาติกัน มันทำให้ผมรู้สึกแย่จนผมเผลอตัวสั่น และทำให้ดิออนต้องกระชับมือผมอีกรอบ
   
“ไปหาแม่นายกัน”
   
มันกระซิบบอกผม ผมถึงสงบลงแล้วใช้พลังส่งตัวเองกับดิออนกลับไปสมาคม

   

“พี่ครูซ!!!”
   
เท้าผมยังไม่ทันแตะพื้น แม็กซ์ก็ตะโกนดังลั่นเพราะผมกะพลังไม่ถูกเลยมาโผล่กลางห้องรับแขกที่มีครอบครัวผมนั่งกันครบองค์ประชุม ทั้งพ่อ แม่ แม็กซ์ แล้วก็เซน น้องคนเล็กของผมที่โดนน้องดิออนก็อปชื่อ ชื่อก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมมาตั้งซ้ำกันก็ไม่รู้
   
“..เอ่อ ผมกลับมาแล้ว”
   
ผมเลิ่กลั่กมากเพราะทุกคนจ้องผมแบบกดดันมากอ่ะ ก่อนที่ผมจะซุกหน้าใส่แขนดิออนเพื่อหนีจากความเป็นจริง ที่ทุกคนมามองผมน่ากลัวมาก
   
อะไรอ่ะ ไม่มีใครดีใจเลยเหรอที่ผมได้แฟนกลับมาอ่ะ
   
“ใคร?”
   
พ่อผมถามผมเสียงดุ ซึ่งผมก็รู้แหละว่าพ่อรู้ว่าผมพาใครมา แต่พ่อคงอยากได้คำตอบจากผมมากกว่า แถมดิออนตอนนี้ก็กลับเป็นร่างมนุษย์ปกติแล้วอ่ะ เพราะพลังแวมไพร์ของมันยังไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่
   
“คู่ของผม”
   
ผมตอบพ่อเสียงเบา ช้อนตามองพ่อด้วยสีหน้าที่น่าสงสารที่สุดในชีวิต ยิ่งกว่าสีหน้าที่แม่เคยบอกว่าเหมือนลูกหมาหิวข้าวอีก
   
“หัวหน้าวาติกัน?”
   
“ครับ แต่ แต่ดิออนเป็นแวมไพร์แล้วนะ แล้วก็เป็นแวมไพร์ที่นิสัยดีมากๆ ด้วย”
   
เอาจริงตอนนี้คือผมอยากคืนร่างกลับเป็นค้างคาวแล้วหนีไปซ่อนตัวที่ไหนสักที่มากอ่ะ ทุกคนน่ากลัวมาก ขนาดแม่ที่รักผมที่สุดในโลกยังมองผมแบบดุมากเลยอ่ะ
   
อะไรกัน ไม่มีใครดีใจกับผมเลยเหรอ ผมอุตส่าห์หาคู่ที่เป็นถึงหัวหน้าวาติกันได้เลยนะ!
   
“พี่แน่ใจนะว่ามันจะไม่ทรยศเรา”
   
รอบนี้น้องแม็กซ์เป็นฝ่ายจี้ผมบ้าง ผมหันไปตอบทันทีเพื่อไม่ให้บรรยากาศคุกรุ่นไปมากกว่านี้ ให้ตายเถอะ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรดิออนของผมทั้งนั้น
   
“แน่ใจสิ! ดิออนไม่ทำอะไรแย่ๆ แบบนั้นหรอก จริงไหม ดิออน”
   
ผมหันไปถามความเห็นดิออน ซึ่งผมก็เพิ่งเห็นว่าหน้ามันนิ่งมาก ไม่แสดงอารมณ์อะไรสักนิด จนผมเริ่มหวั่นใจว่าแม้แต่มันเองก็อาจจะไม่มั่นใจในตัวผมรึเปล่า
   
“..เป็นอะไร”
   
มันขมวดคิ้วตอนที่ผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แล้วลูบหัวผมเบาๆ เชิงปลอบ ก่อนที่มันจะหันไปหาพ่อผมที่มองมันเหมือนจะฆ่าให้ตายทั้งเป็น
   
“…”
   
“…”
   
ดิออนกับพ่อผมจ้องตากันนิ่งๆ แบบไม่มีใครยอมใครอยู่สักพัก และในระหว่างที่ผมเริ่มง่วง พ่อก็อาศัยจังหวะที่ผมเผลอแยกตัวผมออกจากดิออนไปยืนข้างหลังตัวเอง แน่นอนว่าผมงอแงไม่หยุด
   
“พ่อ ห้ามทำอะไรดิออนนะ!!”
   
ผมเกาะชายเสื้อพ่อแน่นมาก
   
“มันเป็นวาติกัน”
   
พ่อหันมาดุผมเสียงเข้มด้วยสีหน้าที่น่ากลัวกว่าตอนที่ผมแอบหนีเที่ยวอีก ถ้าผมอยู่ในร่างค้างคาวตอนนี้คงไม่วายตัวหดเหลือเท่ามด ผมตัวสั่นแต่กลัวดิออนตายมากกว่าเลยเถียงพ่อกลับ
   
“แต่ก็เป็นคู่ของผมอ่ะ”
   
“ลูกนอนกับมันแล้ว?”
   
“…”
   
ผมหน้าแดงแต่ก็พยักหน้า ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้เลยว่าตัวเองได้ตัดสินพลาดมาก เพราะพอผมพูดจบบรรยากาศในห้องก็เย็นยะเยือกขึ้นมาเลย พลังแวมไพร์ของพ่อแผ่ขยายไปทุกตารางนิ้ว ทุกอย่างในห้องสั่นไม่หยุด
   
“พ่อโกรธอะไรอ่ะ ก็ผมชอบดิออนจริงๆ นี่นา แล้วดิออนก็นิสัยดีด้วย”
   
ผมถามพ่อเสียงสั่น ล่าสุดที่พ่อโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้คือนานมากแล้วจริงๆ
   
“ลูกยังไม่ห้าร้อยเลย”
   
พ่อผมกดเสียงต่ำคุยกับผม แต่ตาจ้องดิออนไม่กระพริบซึ่งดิออนมันก็นิ่งมาก สบตากับพ่อผมแบบไม่วอกแวก ถ้าเปลี่ยนเป็นผมที่โดนมองแบบนั้นตอนนี้คือกลัวจนเข่าอ่อนแน่ๆ
   
“แต่ผมก็สี่ร้อยแล้วนะ! แม็กซ์ก็มีคู่แล้วอ่ะ ทำไมผมจะมีบ้างไม่ได้”
   
ผมงอแงพยายามจะกลับไปหาดิออน แต่ก็โดนพ่อดึงคอเสื้อเอาไว้
   
“ก็ลูกยังไม่โต”
   
“ผมโตแล้ว!” ผมหน้ายู่เถียงพ่อแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากแม่ที่ไม่สนใจผมเอาแต่สนใจดิออน “แม่ พ่อใจร้ายอ่ะ พ่อจะไม่ให้ผมมีแฟน”
   
“ก็ลูกยังไม่โตจริงๆ นี่” แม่ผมหัวเราะเบาๆ “แล้วทำไมถึงต้องหัวหน้าตระกูลเลยล่ะ แค่วาติกันธรรมดาพ่อก็รับไม่ได้แล้ว”
   
“..ก็ดิออนหล่ออ่ะ” ผมตอบเสียงเบา
   
“ครูซ”
   
พ่อผมเอ็ดผมเสียงดุ น่าจะเพราะเหตุผลของผมแย่มาก ใช่ มันแย่จริงแหละ ถ้าเปลี่ยนจากดิออนเป็นผู้นำวาติกันคนอื่นอาจจะจับผมปิ้งไปตั้งนานแล้ว
   
“…ผมไม่มีวันทำร้ายครูซ”
   
ดิออนที่ยืนเงียบมานานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่นัยน์ตาสีเทาของมันจะขึ้นสีแดงจางๆ เพื่อให้พ่อผมรู้ว่ามันรับพลังแวมไพร์ไปแล้ว
   
“วาติกันกับแวมไพร์ฆ่ากันมาหลายร้อยปี อะไรที่ทำให้ผู้นำวาติกันอย่างคุณมายุ่งกับลูกผม”
   
พ่อเหมือนจะรำคาญที่ผมพยายามจะตะเกียกตะกายกลับไปหาดิออนไม่หยุด เลยรวบตัวผมมากอดไว้หลวมๆ แล้วเอาเสื้อคลุมบังผมไว้ไม่ให้ดิออนเห็น
   
“ผมจะงอนพ่อแล้วนะ”
   
ผมบ่นอุบงึมงำคนเดียว  ไม่กล้าโวยวายต่อเพราะพ่อกอดผมแน่นมากเหมือนกลัวว่าดิออนมันจะทำร้ายผมจริงๆ
   
“ผมชอบลูกคุณ”
   
“ถ้าพวกคุณยังแค้นพวกแวมไพร์อยู่ ก็มาลงที่ผม จะฆ่าก็ฆ่าผม อย่ายุ่งกับครูซ เขาไม่เกี่ยว เขาไม่เคยฆ่าใคร ไม่เหมือนกับพวกวาติกันบ้าเลือดอย่างพวกคุณ”
   
“ผมไม่เคยฆ่าใคร”
   
“…สบตาข้า มนุษย์”
   
ผมตัวแข็งเลยตอนที่เห็นพ่อตัดสินใจใช้พลังอ่านใจ เพราะปกติพ่อจะใช้เฉพาะช่วงเวลาที่สำคัญจริงๆ เนื่องจากมันค่อนข้างเปลืองพลังแวมไพร์มาก
   
“…”
   
ผมอาศัยจังหวะที่พ่อกำลังใช้สมาธิกับการอ่านใจ แอบชะโงกหัวไปมองดิออนที่ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว ดีนะ ที่พ่อไม่จับได้ตอนอยู่กระท่อมอ่ะ ไม่งั้นกระท่อมได้แตกแน่
   
“…ดิออน”
   
ผมเผลอพึมพำเรียกชื่อมันเริ่มกังวลนิดๆ
   
ถามว่าผมไว้ใจมันไหม ก็ไว้ใจแหละ แต่ลึกๆ ผมก็ยังแอบกลัวอยู่ดีว่าจะโดนหลอกอีก ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคือผมคงร้องไห้ทุกวันอ่ะ เพราะผมชอบมันจริงๆ
   
มันอยากฆ่าผมจริงๆ เหรอ..
   
ผมกลืนน้ำลายเอือกด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าพ่ออ่านเรื่องอะไรบ้าง ทำไมถึงได้นานเหลือเกิน แถมแรงที่กอดผมยังแน่นขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
   
“ฮึก”
   
ผ่านไปสักพักทุกอย่างก็ยังเงียบอยู่และตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จนผมทนไม่ไหวสะอื้นออกมา
   
ดิออนจะฆ่าผมจริงๆ สินะ
   
ผมมองหน้ามันด้วยความเศร้าหมอง รู้สึกเจ็บจนแทบทนไม่ไหว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากโดนปิ้งให้ตายตรงนี้ให้รู้รอดเลยอ่ะ
   
ทำไมโลกถึงใจร้ายกับผมตลอดเลยอ่ะ
   
แงงงงงงง
   
“ร้องไห้ทำไม”
   
ดิออนมันเลิกคิ้วงงๆ มองผม
   
“ก็นายจะฆ่าผมอ่ะ ฮึก ทำไมอ่ะดิออน ไหนบอกว่าชอบผมไง”
   
แม้แต่ตอนนี้พ่อก็ยังกอดผมแน่นมาก ผมจะยกแขนขึ้นมาปาดน้ำตายังทำไม่ได้เลย น้ำตาเลยไหลพรากๆ ไม่หยุด
   
“..ถามพ่อนายดูสิ”
   
“ฮึก พ่อ ดิออนจะฆ่าผมจริงๆ เหรอ”
   
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพ่อ ถึงเห็นว่าพ่อผมไม่ได้มองดิออนด้วยสายตาดุร้ายแล้ว แต่เป็นสีหน้าที่ยุ่งยากใจและไม่เต็มใจมากๆ
   
“..เปล่า” พ่อเค้นเสียงตอบผม
   
“แล้วพ่อตกใจอะไรอ่ะ กอดผมแน่นขนาดนี้ทำไม”
   
ผมหน้าบูดเพราะรู้สึกร้องไห้เสียเที่ยวมาก
   
อะไรกัน ผมตกใจแทบตาย
   
“ลูกยังไม่โตเลย” พ่อผมถอนหายใจแรงมาก แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาเช็ดน้ำตาให้ผม “เคยบอกกับแม่ไม่ใช่เหรอว่าสักหกเจ็ดร้อยถึงค่อยมีคู่”
   
ผมหัวเราะคิกคัก “ก็ดิออนหล่ออ่ะ”
   
“…”
   
พ่อผมขมวดคิ้วแต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้ผมกลับไปหาดิออนเหมือนเดิม
   
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ฆ่า ทำไมถึงไม่เชื่อกันสักที”
   
ดิออนมันถอนหายใจแล้วลูบหัวผม
   
“ก็นายชอบทำหน้าน่ากลัวอ่ะ”
   
ผมบ่นแล้วดึงแขนดิออนมากอดแล้วซบหน้าเหมือนเดิม และพอผมมองน้องตัวเองทั้งสองคนก็ถึงเห็นว่าแม็กซ์ทำหน้าไม่พอใจมาก มองดิออนด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสุดๆ
   
“แม็กซ์!”
   
ผมเอ็ดเลย ถ้าพ่อไม่ว่า ไม่ว่าใครก็ห้ามว่าดิออนของผมทั้งนั้น
   
“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย” แม็กซ์ขมวดคิ้วมองผมบ้าง “แล้วทำไมต้องเป็นมันด้วย”
   
“ก็ดิออนเป็นสเปคพี่อ่ะ ที่สมาคมไม่มี พี่ก็ต้องหาเอาข้างนอกสิ”
   
เอาจริงผมก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ครอบครองสเปคในฝัน คือการได้ดิออนมาน่าจะดีสำหรับผมมาก เพราะมันหล่อและทุกอย่างก็ดีมาก ดีที่สุด
   
“แล้วนี่ลูกให้เลือดใครไป พ่อเหรอ”
   
แม่ผมถามบ้างซึ่งคำถามนี่ก็เฉพาะเจาะจงกับดิออนโดยเฉพาะ
   
“เลือดผมเอง”
   
ผมตอบด้วยสีหน้าภูมิใจสุดๆ และผลที่ได้คือทุกคนทำหน้าเหมือนไม่เชื่อผม จนผมเริ่มหงอลงนิดๆ แล้วลองเรียกพลังแวมไพร์โชว์ทุกคนเพื่อที่จะยืนยันกับทุกคนว่าผมโตพอที่จะมีแฟนแล้ว!
   
แต่ลึกๆ ในใจ ผมก็ยังแอบกลัวอยู่ดี ผมกลืนน้ำลายเอือกด้วยความประหม่า จนดิออนมันต้องลูบหลังผม ผมถึงสมาธิขึ้นแล้วเรียกพลังออกมา
   
“…พลังลูกตื่นแล้วเหรอ?”
   
พ่อถามผมด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
   
“!”
   
ผมถึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาดูพลังตัวเอง เอาจริงๆ ผมก็ยังกลัวมากอยู่ดีที่พลังของตัวเองจะกลับไปกากเหมือนเดิม แต่พอลืมตาขึ้นมาถึงเห็นว่ามันเป็นกลุ่มก้อนพลังงานสีดำที่หมุนริ้วเร็วมากพอๆ กับของพ่อ และดูทรงพลังมาก ผมก็ยิ้มกว้างเลย
   
ผมไม่กากแล้ว!
   
ผมไม่ต้องอยู่ระดับบ๊วยของสมาคมแล้ว!!!
   
ผมคิดอย่างดีอกดีใจ เพราะครองตำแหน่งบ๊วยกับรองบ๊วยมานานมาก แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ากำลังจะคุยกับพ่ออยู่ มัวแต่ตื่นเต้นกับพลังของตัวเองที่มีใช้กับเขาสักที
   
“ครูซ”
   
“?”
   
ผมเงยหน้ามองดิออนก่อนที่จะมันพยักพเยิดให้ผมหันไปพ่อ ผมถึงเห็นว่าพ่อผมยิ้มบางอยู่
   
ยิ้ม?
   
พ่อผมเนี่ยนะยิ้ม!!
   
ผมตาโตแบบตกใจมาก นี่มันน่าตกใจกว่าพลังผมตื่นอีก ผมสลายพลังแวมไพร์แล้วไปหลบอยู่หลังดิออน และชะเง้อมองพ่อแบบหวั่นๆ ซึ่งการกระทำของผมเหมือนจะไม่ถูกใจพ่อเท่าไหร่ พ่อถึงหุบยิ้มเลย
   
“ตกใจอะไร”
   
พ่อผมขมวดคิ้ว
   
“..ก็พ่อยิ้มอ่ะ ปกติพ่อไม่ยิ้มให้ผม”
   
ผมตอบพ่อเสียงอ้อมแอ้ม ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริงซะอีก ผมก็รู้แหละว่าพ่อรักผมถึงได้โหดกับผมมาก แต่ผมก็กลัวพ่ออ่ะ ถึงตอนนี้จะกลัวน้อยลงนิดๆ แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี
   
“..เหรอ” พ่อผมพูดเสียงอ่อนลง “มาหาพ่อก่อน อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมนุษย์ชั้นต่ำนี่”
   
“ไม่ชั้นต่ำสักหน่อย”
   
ผมเถียงเสียงเบาแต่ก็ยอมเดินไปหาพ่อ เพราะพ่อเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง
   
“…”
   
ผมสบตากับพ่ออยู่สักพัก ก่อนที่พ่อจะพูดอะไรออกมา
   
“อีกไม่นานจะตำแหน่งหัวหน้าสมาคมจะต้องถูกเปลี่ยนมือ”
   
พ่อผมลูบหัวผม
   
“พลังของลูกตอนนี้ก็น่าจะมากพอที่จะชิงตำแหน่งนี้ได้ ถ้าลูกต้องการพ่อก็จะช่วย”
   
ผมเบิกตากว้าง
   
งั้นก็หมายความว่าผมต้องดำเนินธุรกิจครีมกันแดดแวมไพร์กับกิจการของแวมไพร์ทั้งหมดต่อเหรอ!
   
“ลูกอยากได้รึเปล่า?”
   
ผมกระพริบตาปริบยังงุนงงกับสถานการณ์อยู่ สมองน้อยๆ ของผมกำลังคิดตามอย่างเชื่องช้า เพราะนึกสภาพตัวเองเป็นหัวหน้าสมาคมไม่ออก แวมไพร์ที่รักสันติที่สุดในโลกอย่างผมจะไปสั่งใครได้ ถามจริง ถ้าสั่งให้ทุกคนเผ่นให้ไวที่สุดก็น่าจะถูกต้องมากกว่า
   
พ่อปล่อยให้ผมคิดอยู่สักพัก สุดท้ายผมก็ส่ายหัวดิกปฏิเสธพ่อทันที
   
“พ่อให้คนอื่นเถอะ ผมไม่อยากได้”
   
ผมพอใจกับการใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ มากกว่า เพราะการเป็นหัวหน้าสมาคมมันเท่ก็จริง แต่ก็เครียดอ่ะ ผมขี้เกียจคิดสูตรครีมกันแดดแวมไพร์สูตรใหม่ ลำพังแค่ทาทุกวันก่อนออกจากห้องผมยังทำบ้างไม่ทำบ้างเลย
   
“ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกพ่อนะ ยังพอมีเวลาให้คิดอยู่”
   
ที่มาประชุมกันก็ครบองค์ประชุมคงเพราะเรื่องนี้สินะ เอาจริง คนที่มีสิทธิ์ได้มากกว่าผมก็คือแม็กซ์ที่มีนิสัยคล้ายกับพ่อ ขืนให้ผมเป็นจริง สมาคมคงได้ล่มสลายกันพอดี
   
“ครับ”
   
ผมพยักหน้าน้อยๆ เชิงรับรู้ แล้วพยักเพยิดไปทางดิออนเพราะอยากรู้ว่าพ่อจะทำยังไงกับดิออน คือเมื่อกี้พ่อก็ไม่ชัดเจนไงว่ายอมรับหรือไม่ยอมรับ แต่ที่แน่ๆ คือผมมั่นใจว่าพ่อเกลียดขี้หน้าดิออนมาก
   
“…จะอยู่ก็อยู่”
   
พ่อผมเค้นเสียงแบบไม่เต็มใจมาก มองดิออนตาขวางจนผมหน้ายู่
   
“พ่อห้ามแกล้งดิออนนะ! ไม่งั้นผมจะร้องไห้”
   
ถึงผมปกติผมจะร้องไห้อยู่แล้วก็เหอะ แต่ผมก็จะร้องอีกเพราะผมคงสู้กับพ่อไม่ได้ 
   
“..แต่มัน ทำลูกร้องไห้นะ”
   
พ่อผมพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนมากจนผมหน้าแดงก่ำ คือผมก็ไม่รู้ว่าพ่ออ่านใจมันเรื่องอะไรบ้าง แต่ถ้าพูดด้วยสีหน้าแบบนี้ก็คงจะทุกเรื่องอ่ะ ซึ่งพ่อก็คงไม่คิดว่าผมกับมันความสัมพันธ์จะถึงขั้นนั้นแล้วจริงๆ
   
“แต่ผมก็ยอมไง”
   
ผมพูดเสียงเบาเริ่มรู้สึกเขินจนทนไม่ไหว เลยเดินไปหาดิออนแล้วลากมันกลับห้องตัวเองแบบไม่สนใจใครอีก ดีหน่อยที่ไม่มีใครมาขวางผมอีก เพราะผมเขินจนจะร้องไห้แล้ว!

========

น้อนน่ารัก  :hao5:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
«ตอบ #167 เมื่อ01-12-2019 08:39:43 »

ดิออนเป็นแวมไพร์แล้ว~

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
«ตอบ #168 เมื่อ01-12-2019 15:24:35 »

คุมพ่อไปเจออะไรมาบ้างเนี่ย..ยยยย อยากรู้  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
«ตอบ #169 เมื่อ09-12-2019 19:54:17 »

น่ารักมากมายเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
« ตอบ #169 เมื่อ: 09-12-2019 19:54:17 »





ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
«ตอบ #170 เมื่อ10-12-2019 06:47:25 »

เจ้าครูซยังน่าเอ็นดูเหมือนเดิม น่ารักมาก

ออฟไลน์ wine422

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 13 1/12/62 p.6
«ตอบ #171 เมื่อ11-12-2019 14:06:54 »

น้องงงง น้องกว่านี้ไม่มีแล้ว ครูซ ต้าวค้างคาวน้วยยยย :-[

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 14 15/12/62 p.6
«ตอบ #172 เมื่อ15-12-2019 23:16:28 »

VAMPIRE PROBLEM ;w; #14

   
“พี่ครูซ”
   
กี้! กี้!
   
ผมในร่างค้างคาวที่กำลังนอนแปะอยู่บนไหล่ดิออนเหลือบมองน้องเซ็งๆ เพราะพอผมกับดิออนอาบน้ำเสร็จก็มาเคาะประตูห้องเฉยเลย อะไรกัน พอเห็นผมมีแฟนหน่อยก็หมั่นไส้เรอะ
   
ทีเมื่อก่อนนะ ผมกลิ้งเล่นในห้องจนไม่รู้จะทำอะไรก็ไม่มีใครมาเคาะสักคน!
   
อยู่สมาคมเฉยๆ น่าเบื่อจะตายไป ไม่มีอะไรน่าสนุกเลยสักนิด จะชวนเล่นเหมือนตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้ เพราะทุกคนก็กดดันให้ผมทำตัวเหมือนพี่คนโตซึ่งผมก็ไม่อยากทำ ก็ผมยังไม่อยากแก่อ่ะ
   
แต่ที่แน่ๆ เลยคือตอนนี้ผมอยากจู๋จี๋กับดิออน! ตอนอาบน้ำจูบไปรอบเดียวเอง ยังไม่หนำใจเลยอ่ะ
   
แม็กซ์ขมวดคิ้วมองผมก่อนที่จะมองดิออนตาขวาง
   
“พี่ยังไม่โตเลย แล้ววาติกันนี่มันก็ดูไว้ใจไม่ได้ด้วย”
   
กี้!!
   
ผมที่ขี้เกียจเกินกว่าจะคืนร่างมนุษย์ เลยเท้าเอวบ่นน้องบนไหล่ดิออนมองน้องตาขวางกลับบ้าง
   
“ผมรู้น่าว่าพ่อบอกว่ามันไม่ทำร้ายพี่แน่ๆ แต่ผมกับพ่อก็ไม่ชอบหน้ามันอยู่ดี ทำไมพี่ต้องเอามันกลับบ้านด้วย ผมไม่เห็นชอบหน้ามันเลย!”
   
นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้อง ผมจะคิดว่าแม็กซ์จะมาแย่งผมจากดิออนละ
   
กี้ๆๆๆ
   
ผมร่ายยาวพยายามหาเหตุผลในการไล่น้องไปไกลๆ ซึ่งไกลของผมก็คือห้องของน้องผมที่อยู่ตรงข้ามกันเนี่ยแหละ ดีหน่อยที่กำแพงที่นี่ค่อนข้างหนามาก เวลาผมทำอะไรก็ไม่มีใครได้ยิน
   
“พี่ยังไม่เคยมีแฟนเลย! พี่จะไปรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นคนดี! ตอนนี้มันอาจจะดีแต่ปีหน้ามันอาจจะทิ้งพี่ก็ได้!”
   
กี้!!!
   
โอ๊ย ผมเริ่มคิดถึงน้องแม็กซ์ผู้เคร่งขรึมของผมละ น้องคนเก่าผมหายไปไหนเนี่ย ดีหน่อยที่เซนเป็นพวกนอนไว ตอนนี้คงหลับตายไปแล้ว ส่วนผมก็มีวิบากกรรมต้องตีกับน้องชายตัวเองต่อ
   
“พี่ครูซ!! ผมเป็นห่วงพี่นะ ผมถึงมาทะเลาะกับพี่เนี่ย”
   
กี้!
   
ผมถลาไปซบต้นคอดิออนแล้วแลบลิ้นใส่น้อง เพราะดูยังไงก็คุยไม่รู้เรื่อง
   
“พี่ครูซ! พี่เลือกมันเหรอ!!! ผมเป็นน้องพี่มาสามสี่ร้อยปีเลยนะ แต่ไอ้วาติกันบ้านี้พี่เพิ่งรู้จักมันไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ!”
   
พูดไปก็จริงแฮะ แต่ก็พูดเกินไปไหมอ่ะ พูดเหมือนผมเป็นใจแตกเลยอ่ะ แต่ผมก็ใจแตกอยู่แล้วนี่นา ผมเลยพยักหน้ายอมรับไป น้องเลยเดือดกว่าเดิม
   
“พี่ครูซ!”
   
ผมถอนหายใจเซ็งๆ แล้วยอมคืนร่างมนุษย์แต่โดยดี และแน่นอนว่าผมก็ซบแขนดิออนเหมือนเดิมเพราะมันค่อนข้างอุ่น ซึ่งก็น่าจะเป็นผลมาจากที่มันยังไม่ได้เป็นแวมไพร์เต็มตัว
   
“พี่เคยมีแฟน” ผมตัดสินใจพูดออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากพูดถึงเท่าไหร่ พอเห็นสีหน้าอึ้งๆ ของน้องก็หลุดขำออกมาไม่ได้ “เห็นพี่แบบนี้พี่ก็ต้องเคยมีแฟนมั้งไหมอ่ะ พี่อายุจะสี่ร้อยแล้วนะ แม็กซ์ ตอนที่พี่หนีออกไปเล่นข้างนอก คิดว่าพี่เที่ยวเล่นเฉยๆ เหรอ พี่ก็ลองทำหมดนั่นแหละ”
   
พูดเหมือนมีแฟนเยอะแต่จริงๆ ก็มีแค่คนสองคน ตั้งแต่สมัยผมอายุร้อยต้นๆ นู่น หลังจากโดนหลอกจนเป็นค้างคาวมีเขาสองรอบ ผมก็เลิกมีความสัมพันธ์กับมนุษย์แบบจริงจังมาหลายร้อยปี จนกระทั่งมาเจอดิออนเนี่ยแหละ ผมถึงได้ลืมหลักการทุกอย่างของตัวเองหมดเลย
   
“ไม่ต้องหวงพี่นักหรอก พี่ก็รักแม็กซ์เหมือนเดิมนั่นแหละ”
   
ผมยิ้มจนตาหยีให้น้อง พอเห็นน้องเบือนหน้าหนีแบบเขินๆ ถึงพูดต่อ
   
“แต่ช่วงนี้ก็อาจจะน้อยกว่าดิออนนิดนึง”
   
“…”
   
“ฉะนั้นเลิกงอนพี่แล้วปล่อยพี่ไปสักที ให้พี่มีเวลาอยู่กับคู่มั้งเหอะ รู้ไหมกว่าพี่จะหาคู่ที่ถูกใจมันยากขนาดไหน! ของดีแบบนี้หายากมากเลยนะ”
   
ผมหัวเราะคิกคักตอนที่ดิออนมันถอนหายใจเหมือนระอาผมนิดๆ อะไรกัน ผมอุตส่าห์ชมมันตั้งเยอะตั้งเยอะ มันไม่สนใจเลยเหรอ จริงสิ ดิออนฟังภาษาค้างคาวไม่ออกนี่นา น่าเสียดายชะมัด
   
“..พรุ่งนี้ถ้าพี่ตื่นตอนไหนก็ไปหาผมที่โรงอาหารแล้วกัน ผมมีของให้พี่”
   
“ให้ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”
   
ผมพูดไปหาวไปเพราะเริ่มง่วงขึ้นมาจริงๆ อาจจะเพราะช่วงนี้ผมใช้พลังเยอะเกินไปด้วยมั้ง ถึงผมการนอนกับดิออนจะทำให้ผมอิ่ม แต่ยังไงผมก็ยังต้องการเวลานอนอยู่ดี
   
พอเห็นว่าตัวผมเริ่มย้วยกว่าเดิม ดิออนมันก็ช่วยประคองและโอบเอวผมไว้หลวมๆ มือที่ไม่รู้ว่ามันตั้งใจวางหรือเปล่าตรงอยู่ที่สะโพกของผมพอดี
   
ผมหน้าแดงตอนที่มืออุ่นร้อนของมันแตะโดนก้นผม
   
ให้ตายเหอะ..
   
“เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน!” แน่นอนว่าน้องผมก็ตาไวเห็นผมหน้าแดงเลยมองดิออนตาขวาง “แวมไพร์ก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมายุ่งกับพี่ผมด้วยวะ ให้ตายสิ ผมน่าจะฆ่าคุณตั้งแต่วันนั้นเลย!”
   
“…”
   
ผมเหลือบมองดิออนก็เห็นว่ามันยิ้มนิดๆ ไม่พูดอะไร ดึงตัวผมไปกอดแน่นกว่าเดิมแล้วจูบหน้าผากผมต่อหน้าน้อง
   
“พี่คุณเลือกผมเอง”
   
“…”
   
ผมหน้าแดงเถือกรู้สึกเขินจนแทบจะคืนร่างค้างคาวให้รู้แล้วรู้รอด
   
มันหล่ออ่ะ ทำไมหล่อขนาดนี้วะ แล้วทำไมต้องมาจูบผมตอนนี้ด้วย!
   
ผมเขินมากจนต้องก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาน้อง
   
ให้ตายสิ ใจผมเต้นแรงกว่าตอนมีแฟนคนแรกอีกอ่ะ แงงงง
   
“เจอกันพรุ่งนี้!!!”
   
น้องผมคำรามใส่เหมือนรับไม่ได้ แล้วเดินกระแทกเท้ากลับเข้าห้องไปอย่างหงุดหงิด พอได้ยินเสียงปิดประตูแล้วผมถึงเงยหน้าขึ้นมองดิออนอีกรอบก็ถึงเห็นมันยิ้มให้อีก
   
“ไปนอนสิ ง่วงไม่ใช่เหรอ”
   
มันถามผมด้วยน้ำเสียงนุ่มแล้วลูบผม แต่หน้าผมก็ยังร้อนผ่าวอยู่ดีเพราะมืออีกข้างของมันก็ยังวนเวียนอยู่แถวเอวผมไม่เลิก อาจจะเพราะเมื่อกี้ตอนที่น้องผมเคาะประตูกำลังขัดช่วงเวลาสำคัญด้วย
   
“ถ้ามีคนบอกว่านายเป็นปีศาจผมก็เชื่อนะ”
   
ผมสบกับนัยน์ตาสีเทาของมันที่จ้องผมนิ่ง จนผมตัวเองสะท้อนในแววตาของมัน
   
เอาจริงตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วอ่ะว่าใครเป็นเหยื่อใครกันแน่ หรือความจริงแล้วผมเป็นเหยื่อของมันมาตลอดก็ไม่รู้ เพราะผมไม่เคยตามความคิดมันทันสักที
   
แต่จะเป็นหรือไม่เป็นผมก็ไม่สนใจหรอก
   
“นายตอนนี้โคตรหล่อเลยอ่ะ ดิออน หล่อกว่าตอนเรียนมหาลัยอีก”
   
ผมเขย่งเท้าขึ้นจูบปลายคางของมันเพราะสูงไม่ถึง จริงๆ ก็อยากจูบปกติแหละ แต่ถ้ามันไม่โน้มหัวลงมาผมก็สูงไม่ถึงอ่ะ คือเมื่อก่อนผมก็จูบถึงนะ ตอนที่มันเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาอ่ะ
   
“…”
   
ดิออนขมวดคิ้วเหมือนอดกลั้นอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะลากผมเข้าห้องและล็อคประตูอย่างแน่นหนา มันจูบผมแบบแรงมากเหมือนมันเขี้ยว มันจูบผมอยู่นานจนผมต้องทุบมัน มันถึงยอมปล่อยผม
   
ผมหัวเราะในลำคอตอนที่ก้มมองแล้วเห็นอะไรแข็งขืนที่อยู่ใต้กางเกงของมัน และหาวออกมาง่วงๆ
   
“ผมเหนื่อยแล้วอ่ะ ไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะ”
   
จริงๆ ก็อยากช่วยนะ แต่ผมก็ง่วงมากจริงๆ มันล้าไปหมดเลยอ่ะ พอถึงเตียงก็เหมือนโดนดูดวิญญาณไปเลย ผมพยายามปรือตามองดิออนกะจะบอกมันว่าฝันดีนะ แต่ก็เผลอสลบไปก่อน

   

ผมตื่นมาอีกทีก็เห็นตัวเองในร่างแวมไพร์นอนขดอยู่บนตัวดิออนโดยที่ถูกมันกอดเอวไว้หลวมๆ พอผมจะขยับตัวผมก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติของร่างกายตัวเองทันที
   
“…”
   
ผมขยับตัวไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะตะคริวกินหรืออะไร แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมยังเหนื่อยอยู่เลยอ่ะ ผมหลุบตามองดิออนก็ถึงเห็นว่าร่างของมันกำลังปรับตัวเข้ากับเลือดแวมไพร์ของผมอย่างช้าๆ ซึ่งก็คงจะต้องใช้เวลาหน่อย เพราะมันเป็นวาติกันสายเลือดบริสุทธิ์เลย ต่อให้ได้เลือดพ่อผมไปก็คงต้องใช้เวลาเหมือนกันอยู่ดี
   
ผมจ้องหน้ามันแล้วหลุดยิ้มนิดๆ
   
ให้ตายเหอะ ผมว่าผมเลือกเวลากลับไปหามันได้โคตรดีเลย เพราะพอมันโตแล้วมันโคตรเท่เลย ว่าแต่ ทำไมมันโตแล้วเท่อ่ะ ทำไมผมไม่ถึงเท่บ้างนอกจากเป็นแวมไพร์ที่รักสันติที่สุดแล้ว ผมมีอะไรเปลี่ยนบ้างเนี่ย ขนาดแม็กซ์ยังดูโตขึ้นเลย
   
ผมขมวดคิ้วนั่งนึกอยู่สักพัก ก่อนที่จะพบว่าผมไม่มีอะไรโตขึ้นเลยสักนิด สูงยังไม่สูงขึ้นเลย! ผมอ่ะหยุดสูงมาตั้งแต่อายุไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่คนอื่นก็สูงเรื่อยๆ ปกติ   
   
คิดไปคิดมาผมก็เริ่มซึม ผมไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจเลยอ่ะ
   
ผมนอนหงุงอยู่บนตัวมันสักพักก่อนที่จะหัวเราะคิกคักออกมา เพราะรู้แล้วว่าตัวเองมีอะไรน่าภูมิใจตอนโต
   
ผมมีคู่แล้วไง!
   
ผมยิ้มแล้วตัดสินใจนอนต่อเหมือนเดิม เนื่องจากผมยังเหนื่อยมาก ให้ตายเหอะ ผมก็นึกว่ากินเลือดแล้วก็เป็นแวมไพร์ได้เลยอ่ะ ทำไมไม่เห็นมีใครบอกผมเลยว่าผมต้องถูกดูดพลังด้วย ซึ่งกว่าดิออนจะเป็นแวมไพร์เต็มตัวผมก็ไม่รู้ว่าตอนไหนอ่ะ ถึงพลังผมจะไม่กากแล้วก็เหอะ แต่เลือดของดิออนมันก็อาจจะบริสุทธิ์มากก็ได้
   
“ฝันดีนะ”
   
ผมกระซิบบอกมันเสียงแผ่ว จริงๆ อยากจุ๊บมันอีกแต่ไม่มีแรงแล้วเลยต้องสลบเหมือดไปอีกรอบ

   

กี้!
   
ตื่นมาคราวนี้ผมคงร่างแวมไพร์ไม่ได้ด้วยซ้ำตอนนี้เหลือแต่ร่างค้างคาวที่ใช้พลังแวมไพร์ค่อนข้างน้อย ซึ่งถ้าผมยังคงร่างค้างคาวไม่ได้อีกก็เกินไปละ
   
ผมนอนแปะอยู่บนไหล่ดิออนง่วงๆ ปรือตามองมันแต่งตัวในกระจกแล้วหวาดหวอด  ก่อนที่จะรีบขยี้ตาแล้วมองใหม่
   
กี้ๆๆ
   
ผมที่ยังอยู่ในท่านอนค้างคาวดาวโวยวายไม่หยุดตอนที่เห็นดิออนที่ดูเหมือนแวมไพร์มากขึ้น เขี้ยวของมันยาวขึ้นจนแทบจะชัดเจนเหมือนแวมไพร์ปกติแล้ว แต่สิ่งที่ชัดเจนกว่านั้นคือนัยน์ตาสีเทาของมันถึงเริ่มมีสีเข้มขึ้นจนเกือบดำ ไม่ใช่สีนัยน์ตาธรรมชาติแบบที่มันมีอีกต่อไป
   
“ขอร่างมนุษย์ได้ไหม”
   
กี้!
   
ผมส่ายหัว พอหายตื่นเต้นผมก็นอนแปะไร้เรี่ยวแรงเหมือนเดิม
   
“ยังไม่หายเหนื่อยอีกเหรอ”
   
มันขมวดคิ้วมองผมด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
   
กี้..
   
ผมตอบมันเสียงอ่อย จริงๆ ก็อยากคุยกับมันมากกว่านี้นะ แต่กว่าดิออนจะฟังภาษาค้างคาวของผมออกก็คงใช้เวลาอีกเป็นร้อยปีอ่ะ เพราะขนาดแวมไพร์ด้วยกันเองบางทียังคุยไม่รู้เรื่องเลย
   
“จะไปหาน้องนายไหม”
   
พอเห็นว่าผมพยักหน้า ดิออนมันก็พาผมออกจากห้องแล้วเดินไปโรงอาหารของคฤหาสน์โดยอาศัยผมบอกทางด้วยน้ำเสียงกี้ๆ ที่เบาจนผมยังสงสารตัวเอง
   
นี่ผมลืมขั้นตอนไหนไปรึเปล่านะ…
   
ผมคิดอย่างหดหู่และก็คิดไม่ออกว่าตัวเองลืมอะไร คือมันก็นานแล้วอ่ะ เรียนเป็นชาติแล้ว สมองน้อยๆ ของผมจะไปจำอะไรได้ ลำพังแค่ทางกลับบ้านได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
   
ผมว่าผมต้องลืมไปขั้นตอนหนึ่งแน่ๆ เลย
   
ผมในร่างค้างคาวเอามือกุมหัวเพราะรู้ดีว่าถ้าน้องผมรู้เรื่องนี้ ผมได้โดนเฉ่งแน่ แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อีกสักวันสองวัน ผมว่าผมได้เหลือซากกระดูกค้างคาว
   
“..พี่ครูซมารึยัง?”
   
ทั้งๆ ที่ปกติแล้วน้องจะสัมผัสกลิ่นอายผมได้ แต่วันนี้น้องผมกลับสัมผัสไม่ได้สักนิด ทักดิออนด้วยน้ำเสียงที่น่าโดนผมบ่นมาก
   
อย่างน้อยๆ ดิออนก็เป็นพี่เขยนะ!!!
   
กี้…
   
ไม่รอให้ดิออนตอบน้อง ผมก็เป็นฝ่ายทักน้องเองขณะที่นอนแห้งกรอบเหมือนค้างคาวแดดเดียวบนตัวดิออนพร้อมๆ กับความรู้สึกที่วูบโหวงโดนดูดพลังออกไปเรื่อยๆ ไม่หยุด
   
“…”
   
น้องผมนิ่งอยู่สักพักก่อนที่จะสะดุ้งสุดตัว จนเผลอทำกล่องอะไรสักอย่างที่เหมือนจะเอามาให้ผมตกลงพื้นจนทุกอย่างเทกระจาดออกมาจากกล่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นตุ๊กตากับขนมหวานที่ผมชอบทั้งนั้น
   
ผมมองของพวกนั้นตาวาวก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาแตกแทน ตอนที่ถูกน้องวิ่งมาเอาตัวผมบนไหล่ดิออนไปดูอย่างใกล้ชิดด้วยสีหน้าเหมือนโลกจะแตก
   
“พี่ครูซนี่พี่ลืมขั้นตอนสุดท้ายเหรอ!!” น้องผมคำรามใส่ผมเสียงดังลั่นตาแดงก่ำ “ให้ตายเหอะ ผมน่าจะเอะใจตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าพี่ดูแปลกๆ ผมไม่น่าคิดไปเองเลยว่าไอ้วาติกันบ้านี้ทำพี่หมดแรง!”
   
แม็กซ์บ่นไปพร้อมกับถ่ายโอนพลังแวมไพร์ของตัวเองให้กับผม ทำให้ผมเริ่มกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง
   
“อาจารย์ก็ย้ำตั้งหลายรอบนะว่าห้ามลืมขั้นตอนนี้นะ พี่ครูซ ทำไมพี่ถึงยังลืมอีก ถ้าเกิดพี่ไม่กลับสมาคมพี่ตายได้ง่ายๆ เลยนะ!!!”
   
ผมเอามือค้างคาวปิดหน้าไม่กล้ามองหน้าน้องเพราะรอบนี้ผมผิดจริง ผมหูลู่ลงอย่างสำนึกผิดและพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเพื่อที่จะทำให้น้องรำคาญตาน้อยที่สุด
   
กี้ๆๆ..
   
ผมพึมพำบอกน้องเสียงเบาว่าผมจำไม่ได้ ก็ใครจะไปรู้อ่ะว่าวันนึงผมจะได้แฟนเป็นวาติกันอ่ะ ผมตอนนั้นคือหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่มีวันเอาวาติกันเป็นคู่แน่นอน แทบจะสาบานกับเพื่อนแล้วด้วยซ้ำเพราะมั่นใจมากว่าพวกวาติกันจะเป็นพวกสุดท้ายที่ผมเลือกเป็นแฟนด้วยแน่
   
ซึ่งพอตัดภาพมาสองสามร้อยปีต่อมา ผมรู้สึกอยากกลับไปดีดตัวเองตอนนั้นมากที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนตั้งแต่แรก
   
“พี่ต้องใช้อาคมด้วย เข้าใจไหม พี่ต้องใช้อาคม xxx ของตระกูลเราในการจำกัดพลัง ซึ่งตอนนี้ผมก็ว่าไอ้วาติกันบ้านี้ก็น่าจะได้พลังพี่มากเกินพอแล้ว พี่ไม่ต้องให้มันได้พลังถึงขั้นแปลงร่างเป็นค้างคาวหรอก เพราะยังไงมันก็ไม่มีทางน่ารักเท่าพี่แน่”
   
กี้!
   
ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยในประโยคสุดท้าย ก่อนที่จะคืนร่างเป็นแวมไพร์ ซึ่งผมก็ยืนได้ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่จนต้องเกาะน้องเอาไว้ และยิ้มให้ดิออนที่สบตากับผมด้วยนัยน์ตาสีเข้มของมัน
   
“..นายอยู่นิ่งๆ นะ”
   
ผมกัดปลายนิ้วตัวเองจนเลือดออกแล้วดึงแขนดิออนมาวาดสัญลักษณ์ประจำตระกูลผมพร้อมกับท่องคาถาไปด้วย ดีหน่อยที่ผมยังพอจำอะไรพวกนี้ได้บ้าง ไม่อย่างนั้นรอบนี้น้องคงได้ฆ่าผมจริงๆ แน่
   
บรรยากาศรอบห้องเริ่มเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด สีหน้าของดิออนเปลี่ยนไปนิดหน่อยตอนที่ต้นแขนของมันเริ่มปรากฎตราประทับสีดำขึ้นมาอย่างชัดเจนพร้อมๆ กับเลือดของผมที่ระเหิดหายไป
   
ผมท่องอยู่สักพักจนมาถึงคำสุดท้ายของคาถาทุกอย่างก็เหมือนจะสั่นจนถึงขีดสุดและหยุดลงแบบเงียบๆ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
   
แน่นอนว่าพอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็อดไม่ได้ที่จะจูบเบาๆ บนตราประทับของมัน
   
“นายเป็นของผมแล้ว”
   
ผมยิ้มจนตาหยีพอจะกระโดดกอดมันก็โดนน้องรั้งคอเสื้อออกแยกออกมา
   
“แม็กซ์!!!!”
   
ผมโวยวายใส่น้องพยายามตะเกียกตะกายกลับไปหาดิออน
   
ทำไมอ่ะ ทำไมทุกคนต้องขัดขวางผมกับดิออนตลอดเลย!
   
“พี่ก็อยู่กับมันทั้งวันแล้วไหม! อยู่กับน้องบ้างจะตายรึไง” แม็กซ์บ่นผมเสียงขรม คือถ้าบอกว่าเป็นพ่อปลอมตัวมาผมก็เชื่อนะเพราะเหมือนมาก แต่ดีหน่อยที่มันเป็นน้องผม ผมเลยโวยวายมันได้
   
“พี่ก็อยู่สมาคมแบบเหี่ยวๆ มาสามสี่ร้อยปีแล้วไหมอ่ะ พี่ยังอยู่กับดิออนได้ไม่ถึงปีเลย!”
   
ผมหน้าบูดหันไปมองน้องด้วยสีหน้างอนที่สุดในโลก
   
“แล้วพี่ก็พี่นายนะ! เชื่อฟังพี่มั้งสิ”
   
“ผมก็น้องพี่นะ พี่สนใจผมบ้างสิว่าผมซื้ออะไรมาให้พี่บ้าง” น้องผมที่หน้าบูดพอกันดีดนิ้ว แล้วพลังแวมไพร์ของน้องผมก็จัดการกวาดไอ้ที่เทกระจาดบนพื้นกลับมาใส่กล่องอีกครั้งให้มันลอยกลับมาหาผม
   
“!!!”
   
ผมเบิกตากว้าง ตกใจอีกรอบเพราะมีแต่ของที่ผมชอบไปหมดเลย แถมเป็นของที่ผมอยากกินแต่ไม่ได้กินอีก ช่วยไม่ได้วันฮาโลวีนทีไร ผมหลอกใครไม่เคยสำเร็จเลยอ่ะ คือก็ไม่เข้าใจนะว่าเขี้ยวผมมันเหมือนเขี้ยวปลอมตรงไหน ทำไมไม่เห็นมีใครกลัวบ้างเลย! พวกเด็กเวลาเห็นผมไปแย่งขนมก็ชอบไล่อ่ะ บอกว่าผมโตแล้วไม่ต้องกินขนมหรอก
   
แน่นอนว่าผมก็ค่อนข้างเจ็บใจแหละ คือถ้าออกจากสมาคมแบบปกติก็จะได้เงินมาซื้อขนมกินเอง แต่นี้แอบหนีออกมาไง เลยต้องใช้ชีวิตเร่รอนแบบแวมไพร์ยาจก น่าสงสารมาก เอาจริงๆ ผมก็งงนะว่าตัวเองอยู่มาถึงอายุขนาดนี้ได้ไงวะ แต่เอาเหอะ รอดมาได้ก็ดีละ
   
“..ให้พี่เหรอ”
   
จากสีหน้างอนที่สุดในโลกตอนนี้เปลี่ยนเป็นรักน้องที่สุดในโลกทันที
   
ผมยิ้มหวานให้น้อง แต่น้องก็ยังหน้าบูดอยู่ดี
   
“ถ้าไอ้วาติกินบ้านี่เลี้ยงพี่ได้ ผมก็เลี้ยงพี่ได้เหมือนกัน พี่ไม่ต้องไปรักมันมากหรอก”
   
“น้องกับแฟนมันก็ไม่เหมือนกันไหมอ่ะ”
   
ผมหยิบลูกอมในกล่องมาแกะกินซึ่งมันก็หวานมาก ผมเลยหยิบช็อกโกแลตที่น่าจะดูไม่หวานมากออกมาแกะแล้วสบตากับดิออนให้มันรับรู้ว่าผมจะโยนให้มันนะแล้วถึงโยนให้มัน
   
“พี่ครูซ!”
   
ผมหัวเราะเพราะรู้อยู่แล้วว่าน้องจะโวยวายที่ผมให้ดิออนกินก่อน คือจริงๆ จะป้อนให้น้องก่อนแหละ แต่อยากแกล้งไง หวงผมเหลือเกิน
   
ผมป้อนขนมสักอย่างใส่ปากน้องให้เลิกบ่น แล้วก็มาดื่มด่ำกับตุ๊กตาหมีที่น้องซื้อให้ผมแทน คือมันนุ่มมากจนผมอยากคืนร่างค้างคาวแล้วกอดตุ๊กตานี้ทั้งวันให้รู้แล้วรู้รอด
   
“ทำไมซื้อให้พี่อ่ะ”
   
ผมกอดตุ๊กตาแล้วถามน้อง รู้สึกดีใจสุดๆ เพราะไม่ได้อะไรแบบนี้มานานมากแล้ว
   
“..ก็วันเกิดพี่ไง ถึงจะเลยมานานแล้วก็เหอะ”
   
น้องผมพูดด้วยสีหน้าเขินๆ พยายามไม่สบตาผม
   
“…ขอบคุณนะ”
   
ผมเงียบไปสักพัก เพราะผมก็แทบจะลืมความสำคัญของวันเกิดไปแล้ว ทำไงได้ แวมไพร์อายุยืนเกิน จัดทุกปีก็เปลืองเงิน แล้วมันก็ซ้ำๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมโคตรมีความสุขเลย ถึงผมจะจำไม่ได้ก็เหอะว่าตัวเองอายุเท่าไหร่แล้ว
   
“!!”
   
น้องผมสะดุ้งตอนที่ผมหันไปกอดน้องแทน ซึ่งน้องก็ไม่รู้ว่าตกใจอะไรนักหนาเพราะยืนตัวแข็งเลย
   
ให้ตายเหอะ ผมไม่ได้กอดน้องมานานแค่ไหนแล้วนะ
   
ผมกอดน้องอยู่สักพักพอน้องเผลอ ผมก็รีบไปหาดิออนเลย แน่นอนว่าผมคว้าลังที่เต็มไปด้วยขนมติดมือมาด้วย ผมให้ดิออนถือลังให้ ส่วนผมก็กอดตุ๊กตากับแขนมันอีกที
   
“…”
   
น้องผมขมวดคิ้วมองผมแล้วถอนหายใจเซ็งๆ
   
“พ่อบอกว่าหลังจากนี้ให้ไอ้วาติกันนี่ไปเรียนด้วย สอบให้ได้ใบก่อน พ่อถึงอนุญาตให้พี่กับมันออกไปข้างนอกได้”
   
ผมพยักหน้าหงึกๆ ทำหน้าเหมือนตั้งใจฟัง แต่จริงๆ คือในใจผมวางแผนหนีเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ขนาดเมื่อก่อนผมไม่มีใบยังหนีได้เลย นับประสาอะไรกับตอนนี้อ่ะ แถมดิออนยังเคยเป็นผู้นำตระกูลวาติกันอีก ใครหน้าจะมารังแกผมกับดิออนได้
   
“พ่อบอกว่าถ้าพี่หนีออกไปอีก จะจับไอ้วาติกันบ้านี้ส่งคืนวาติกัน”
   
“พี่ก็ไม่ได้จะหนีสักหน่อย”
   
ผมเถียงแบบเหี่ยวๆ  เพราะถ้าพูดขู่มาแบบนี้ก็คงทำจริงอ่ะ
   
“มันยากมากเลยเหรอ”
   
ดิออนถามและก้มมองผม
   
“จริงๆ ก็ไม่ยากหรอก แต่เมื่อก่อนผมกากไงก็เลยไม่ผ่านสักที แต่ไม่ต้องห่วงนะ ดิออน เดี๋ยวผมจะไปเรียนเป็นเพื่อนนายเอง!”
   
แน่นอนว่าเรียนเป็นเพื่อนของผมก็คือการอยู่ในร่างค้างคาวแล้วหลับซบมันเฉยๆ ผมหลับได้ตลอดแหละ ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเรียน สมองน้อยๆ ของผมชอบจำอะไรสนุกๆ มากกว่า
   
“คิดรอแล้วกันว่าอยากไปไหน”
   
“อื้อ”
   
ผมยิ้มจนตาหยีแล้วซบแขนมัน
   
ถึงผมจะเคยเที่ยวไปทั่วแล้วก็เหอะ แต่การได้ไปเที่ยวกับดิออนสองต่อสองน่าจะเป็นอะไรที่สนุกมากแน่ๆ
   
แค่คิดผมก็มีความสุขแล้วอ่ะ การใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ของผมจะมีสีสันขึ้นแล้วสินะ
   
“..เดือนหน้า จะมีการประลองหาหัวหน้าสมาคมคนใหม่”
   
น้องผมพูดเหมือนพูดลอยๆ เพราะไม่ได้มองผม แต่ผมก็รู้แหละว่าน้องจงใจพูดให้ผมได้ยิน
   
“พ่อบอกว่าเพื่อไม่ให้เป็นที่คลางแคลงใจในความสามารถของหัวหน้าสมาคมคนใหม่ ทุกคนสามารถร่วมเข้าแข่งขันได้ ใครที่ชนะจนถึงคนสุดท้ายก็จะได้เป็นหัวหน้าสมาคมแต่ก็ต้องผ่านการยอมรับจากกรรมการสมาคมจากประเทศอื่นๆ อย่างน้อยสามประเทศถึงจะครองตำแหน่งนั้นได้”
   
“พี่ไม่ลงนะ”
   
ผมออกตัวก่อนเลย ถึงตอนนี้พลังผมจะตื่นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองกากอยู่ดีและผมก็ไม่อยากโชว์กากให้ใครดูด้วย
   
“แต่ผมลง”
   
น้องผมพูดเสียงเข้มมองผมนิ่ง ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่น้องลง คือน้องผมก็มีแววมาตั้งแต่เด็กแล้วอ่ะ ไม่กาก ส่วนผมกากตั้งแต่เด็กเลยไม่มีอะไรพวกนี้อยู่ในสมองสักนิด
   
ผมรู้อยู่ละว่าตำแหน่งหัวหน้าสมาคมมันมีอะไรมากกว่าที่ต้องมีพลังเยอะอ่ะ ขนาดพ่อผมที่เก่งๆ ยังยุ่งจนหัวปั่น ตอนเด็กๆ ผมแทบไม่ได้เจอพ่อ ซึ่งตอนนั้นแม่ผมก็ยุ่งเหมือนกันเพราะอยู่ในช่วงสงครามกับพวกวาติกัน
   
วันๆ ผมเลยไม่รู้จะทำอะไร ก็นั่งเล่นไปเรื่อยอ่ะ เพื่อนที่อายุใกล้กันก็ชอบมาแกล้งผมอีก เพราะผมกากไม่สมกับเป็นลูกหัวหน้าสมาคม ผมตอนนั้นก็ไม่อยากเพิ่มภาระให้แม่ก็เลยชอบแปลงร่างเป็นค้างคาวแล้วหามุมมืดๆ มุดร้องไห้คนเดียว
   
แต่เรื่องนี้พวกนี้มันก็เป็นแค่อดีตแหละ ผ่านมาตั้งนานจนผมเกือบลืมไปหมดแล้ว แต่มันก็ยังเป็นแผลหนึ่งของผมอยู่ดี
   
“อือ พี่จะอยู่เชียร์แล้วกัน”
   
ผมยิ้มให้น้อง
   
“พี่พูดแล้วนะ!”
   
น้องผมดูดีใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนผมอดยิ้มมากกว่าเดิมไม่ได้
   
“เอาตำแหน่งมาให้ได้นะ แม็กซ์”

---------------

ใครแกล้งน้อน  :fire:

#ห้ามปิ้งค้างคาว

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 14 15/12/62 p.6
«ตอบ #173 เมื่อ16-12-2019 11:35:05 »

เป็นพี่น้องที่น่ารัก..แม็กซ์หวงพี่ชายมาก  :3123:

ออฟไลน์ Lille.Guk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 14 15/12/62 p.6
«ตอบ #174 เมื่อ17-12-2019 12:42:41 »

เจ้าแม็กซ์หวงครูซสุดด 55555 :impress2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 14 15/12/62 p.6
«ตอบ #175 เมื่อ18-12-2019 09:51:39 »

รอๆ

ออฟไลน์ kikie26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 14 15/12/62 p.6
«ตอบ #176 เมื่อ19-12-2019 22:46:00 »

น้องแม็กน่ารัก รอวันประลองเลย

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 14 15/12/62 p.6
«ตอบ #177 เมื่อ20-12-2019 19:51:01 »

น้องหวงพี่ :hao7:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 15 7/1/63 p.6
«ตอบ #178 เมื่อ07-01-2020 23:04:32 »

ตอนที่ 15

   
“สอบเหรอ ก็ยากอ่ะ”
   
ผมหน้ายู่ทันทีที่ดิออนถามถึงเรื่องสอบระหว่างที่มันกำลังเรียนอยู่ในห้องโถงรวมกับแวมไพร์คนอื่นๆ ที่มาเรียนเพื่อเตรียมตัวเหมือนกัน มีแวมไพร์หลายคนแอบมองผมกับดิออน แน่นอนว่าผมไม่สนใจแถมยังภูมิใจด้วยซ้ำ
   
ก็ผมอ่ะ เอาของที่ดีที่สุดในแดนมนุษย์มาเป็นแฟนเลยนะ!
   
ในประวัติศาสตร์แวมไพร์หลายร้อยหลายพันปีไม่เคยมีใครเอาผู้นำตระกูลวาติกันมาเป็นแฟนมาก่อน ผมเลยเป็นคนแรกที่เปิดประเดิมเลย คือถ้าเป็นวาติกันธรรมดาทุกคนก็เฉยๆ แต่นี่เป็นผู้นำวาติกันที่ทุกคนเคยเห็นในไลน์บ่อยๆ ไง ซึ่งผมก็เพิ่งมารู้ทีหลังเนี่ยแหละว่าในหมู่แวมไพร์ดิออนก็ค่อนข้างดังพอตัวเลย
   
“ยากมากเลยเหรอ”
   
ดิออนกระซิบถามผมต่อ สีหน้าดูเบื่อหน่ายกับสิ่งที่อาจารย์สอนบนกระดานมาก ซึ่งก็เป็นพวกทฤษฎีความรู้เบื้องต้นทั่วไปสำหรับชาวแวมไพร์ที่ควรรู้อะไรทำนองนั้น
   
“ทฤษฎีอ่ะไม่ยากหรอก ผมสอบรอบเดียวก็ผ่าน แต่ที่ยากคือปฏิบัติอ่ะ ไม่ผ่านสักที”
   
“ไอ้ที่ทำให้นายหายไปเป็นสิบปีใช่ไหม”
   
“ก็พลังผมยังไม่ตื่นอ่ะ จะทำอะไรมันก็ยากไปหมดนี่นา”
   
ผมหน้างอ
   
“..แต่พลังก็ตื่นแล้วนี่”

พอเห็นผมงอแงมันก็ลูบหัวผมจนผมกลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม จริงๆ ผมอยากคืนร่างค้างคาวแล้วอ้อนมันนะแต่ติดที่ว่าคุยกันไม่รู้เรื่องเนี่ยแหละ
   
ผมหัวเราะอยู่สักพักก่อนที่จะรีบปิดปากเงียบตอนที่อาจารย์มองเขม่นมาทางผม รอจนอาจารย์หมกมุ่นกับการสอนต่อผมก็ป้องปากกระซิบกระซาบกับดิออน
   
“เรื่องสอบทฤษฎีนายไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวผมโกงให้เอง”
   
“…”
   
“อย่ามองผมแบบนั้นสิ ถึงผมจะสอบรอบเดียวผ่านก็เหอะ แต่มันยากนะสำหรับคนที่เคยเป็นมนุษย์ธรรมดาอย่างนายอ่ะ ประวัติศาสตร์แวมไพร์อะไรไม่รู้เต็มไปหมด เยอะพอๆ กับมนุษย์แหละ แต่ที่เวอร์กว่าคือทุกคนมีพลังแทบไม่เหมือนกันเลย คือผมอยากไปเที่ยวแล้วอ่ะ ผมเบื่อสมาคมแล้ว!”
   
ถึงผมจะกลับมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เหอะ แต่ผมก็เบื่อแล้วนี่นา ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนุกเลยสักนิด แล้วผมก็ไม่ชอบรับพวกภารกิจของสมาคมไปทำด้วย เวลากลับมาทีก็ได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาหาเลือดกินแล้วก็ผ่านไปอีกวัน ยังคงคอนเซ็ปต์แวมไพร์ไร้สาระไปวันๆ ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
   
“แล้วจะโกงยังไง”
   
“มีวิธีแล้วกัน”
   
ผมหัวเราะคิกคักแล้วคืนร่างกลับเป็นค้างคาวตัวจิ๋วไปซบบนไหล่ดิออนเพื่อที่จะนอน
   
“เหนื่อยเหรอ”
   
มันถามผมด้วยรอยยิ้มมุมปาก จนผมมั่นใจเลยว่าถ้ายังอยู่ในร่างมนุษย์ผมก็คงหน้าแดงเถือกอ่ะ แต่นี่อยู่ในร่างค้างคาวไงก็ดำๆ มันก็คงดูไม่ออกหรอก
   
ผมยกมือขึ้นปิดหน้าเขินๆ
   
เหนื่อยสิ เหนื่อยมากด้วย เมื่อวานไม่รู้ว่ามันคึกอะไรจัดการผมตั้งแต่ดึกยันเช้าอ่ะ
   
กี้!!!
   
ผมที่กำลังหลับเพลินๆ ร้องลั่นตอนที่อยู่ๆ ก็โดนคีบไปวางบนมือใครสักคน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นเร็วมากจนดิออนจะคว้าผมไว้ไม่ทัน ผมใช้มือขยี้ตาพยายามมองว่าใครมาหยิบผมเหมือนหยิบของฟรีตามห้างแบบนี้
   
“!!!!!”
   
กี้!!!!!
   
ผมตาโตร้องลั่นดังกว่าเดิมอย่างเสียขวัญ
   
ไอ้เบน!!!
   
กี้ๆๆๆ
   
ผมโวยวายพยายามตะเกียกตะกายกลับไปหาดิออนแบบลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าพลังตัวเองตื่นแล้ว ผมแทบจะน้ำตาแตกตอนที่มันเอาผมเข้าไปใกล้หน้าของมัน
   
“อย่ามายุ่งนะ!!!”
   
ผมรีบคืนร่างมนุษย์แล้ววิ่งไปหลบหลังดิออนทันทีแล้วชะเง้อหน้าออกมาด่า ‘ศัตรูตัวฉกาจ’ ของผม
   
ใช่ ในชีวิตแวมไพร์กากๆ ของผมที่เต็มไปด้วยศัตรูมากมาย มีคนที่ผมจัดอันดับให้ด้วยว่าเป็นศัตรูที่ร้ายแรงและใจร้ายที่สุดของผม คือถ้ามันมีงานอดิเรกเป็นปิ้งแวมไพร์เล่น ผมก็ไม่แปลกใจอ่ะ
   
“อะไรกัน ไม่เจอกันตั้งนาน นายทักทายเพื่อนเก่าด้วยประโยคแบบนี้เหรอ”
   
เบนมองผมด้วยสีหน้าผิดหวัง ซึ่งถ้าเป็นแวมไพร์ทั่วไปที่ไม่รู้จักมันก็หลงกลอ่ะ ผมเองก็เคยเป็นคนที่หลงเชื่อมันเหมือนกัน พอรู้จักกันไปสักพักถึงได้รู้ว่าภายใต้หน้าหล่อๆ ใส่แว่นกรอบบาง ดูไร้พิษภัยของมันนั้นเป็นของปลอม เพราะความจริงคือมันเป็นหมาป่าหุ้มหนังแกะชัดๆ
   
มีที่ไหนอ่ะ เรียนก็มาเรียนคลาสเดียวกับผม อายุก็เท่ากัน แต่มันแกล้งให้ผมร้องไห้ทุกวันเลยอ่ะ แถมยังเคยปลอมเป็นพวกวาติกันบุกเข้ามาในห้องแล้วจับผมในร่างค้างคาวที่กำลังหลับตายไปมัดใส่ไม้แล้วปิ้งกับไฟ คือที่ผมฝังใจกับการปิ้งค้างคาวก็เพราะมันส่วนหนึ่งเลย
   
“ไปไหนก็ไปเลย! ไม่ต้องมายุ่ง!”
   
ผมหน้าบูดแล้วโบกมือไล่มันเหมือนไล่ยุง
   
“เรื่องที่มีคู่แล้ว เป็นเรื่องจริงเหรอ?”
   
มันทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูดแล้วถามผมหน้าตาเฉย ซึ่งผมก็เพิ่งสังเกตว่ามันดูเหมือนจะสูงขึ้นกว่าที่เคยเจอกันครั้งล่าสุดแถมยังดูสุขุมขึ้นด้วย
   
“นี่ไงคู่ผม ไม่เห็นรึไง”
   
ผมแยกเขี้ยวใส่มัน ดีหน่อยที่ตอนนี้ดิออนเรียนเสร็จแล้วและมานั่งอ่านหนังสือในโรงอาหาร ผมกับเบนเลยเสียงดังกันได้เลยเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจใคร
   
“..มนุษย์?”
   
เบนแค่นเสียงถามผมเสียงสูงแล้วมองเหยียดดิออนของผม
   
“แวมไพร์ต่างหาก”
   
ผมเถียงแล้วเอาหน้าซบแขนดิออนแสดงความสนิทสนมให้มันดูแบบสุดๆ
   
“…แต่ยังไงมันก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี”
   
เบนตอบผมเสียงขุ่นสีหน้าหงุดหงิด
   
“นายหาคู่ที่มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไง ทำไมต้องไปเอามนุษย์ชั้นต่ำพรรค์นี้ด้วย”
   
ผมกำลังจะเถียงกลับแต่พอเห็นสีหน้าเหมือนจะย่างแวมไพร์ของดิออน ผมก็รีบกระแซะดิออนทันที คือผมก็โกรธเหมือนกันแหละ แต่ผมก็ยังไม่อยากให้ดิออนหงุดหงิดนี่นา น่ากลัวอ่ะ ให้คนที่ทำตัวเหมือนโลกจะแตกทุกวันมีแค่ผมก็พอแล้ว
   
“คู่ผม ผมจะเลือกอะไร มันก็เรื่องของผมไหมล่ะ นายเหอะมาทำอะไรที่นี่ หรือโดนไล่ออกจากที่โน่นแล้ว”
   
ผมถามทั้งๆ ที่รู้ เพราะเบนก็เหมือนกับผมและน้อง หนึ่งในผู้มีสิทธิ์ถ้าชิงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมประจำประเทศไทย คือเอาจริงผมก็ไม่รู้ว่าไอ้ตำแหน่งนี้มันน่าแย่งตรงไหน แต่ถ้าพ่อผมเป็น ผมก็ให้คะแนนความเท่เต็มล้านอ่ะ พ่อผมเท่มาก เท่ที่สุด
   
“รู้อยู่แล้วจะถามทำไม”
   
มันขมวดคิ้วมองผม
   
“แล้วอีกอย่างนะ ฉันว่างมาทวงตำแหน่งคืนแล้ว”
   
“ตำแหน่งอะไร”
   
“คู่ของนายไง”
   
มันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือรุนแรงมาก
   
“ฉันเป็นคู่ของครูซแล้ว”
   
ดิออนตอกกลับด้วยน้ำเสียงโหดมาก ถ้าผมโดนมันดุแบบนี้คงร้องไห้ทั้งวันอ่ะ
   
ผมกอดแขนดิออนแน่นเลยเพราะมันทำท่าจะไปสู้กับเบน คือดิออนก็เพิ่งฝึกใช้พลังแวมไพร์ได้ไม่เท่าไหร่เอง ผมไม่รู้ว่าควบคุมได้ดีแค่ไหน หรือมันจะใช้ศาสตร์ของวาติกันสู้ก็ไม่รู้
   
แต่ที่แน่ๆ เลยคือผมไม่ปล่อยให้เกิดการตีกันแย่งผมที่นี่แน่ๆ ให้ตายเหอะ นี่มันโคตรจะเป็นสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนเลย แล้วอีกอย่างนะ เบนมันชอบผมจริงเหรอ ทำไมผมไม่รู้มาก่อน
   
“แวมไพร์ในสมาคมก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ นายก็เลือกๆ เอาสักคนไม่ได้รึไง ทำไมต้องมายุ่งกับผมด้วย!”
   
ผมตัดสินใจไปยืนขวางดิออนไว้ ไม่อยากให้มันออกตัวแรงมาก ผมยังไม่อยากเป็นหม้ายตั้งแต่เพิ่งเป็นแฟนกับมันได้ไม่ถึงเดือน
   
“ฉันเคยบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ ครูซ ว่านายต้องเป็นคู่ฉัน!”
   
มันพูดแบบเอาแต่ใจมากแถมยังทำหน้าเหมือนผมเป็นคนผิดอีก ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยตกลงอะไรกับมันเลยว่าจะเป็นคู่ด้วยอ่ะ จะให้ผมเป็นแฟนกับมันเหรอ ไม่มีวันนั้นหรอก!!
   
“ไม่เป็น!”
   
ผมร้องลั่นหน้างอใส่มัน คือถ้าทะเลาะกันในห้องผมจะจูบดิออนโชว์มันละ ให้มันรู้ไปเลยว่าผมน่ะรักและถวายตัวให้กับดิออนขนาดไหน พอเบนจะโวยวายต่อผมก็พูดตัดบทมัน
   
“แล้วนายอ่ะไม่ใช่เสป็คผมด้วย ที่ผมชอบคือแบบนี้”
   
ผมผายมือใส่ดิออนด้วยสีหน้าภูมิใจมาก แน่นอนว่าถ้าพ่อกับน้องผมมาเห็นผมแด๊ดแด๋อย่างนี้คงรับไม่ได้แน่ๆ
   
“ผมไม่สนใจหรอกนะว่านายจะพูดอะไร แต่ยังไงผมก็มีคู่แล้วอยู่ดี ฉะนั้นเลิกยุ่งกับผมสักที มันน่ารำคาญ”
   
ถึงจะเคยอยู่ในสถานะเพื่อนร่วมชั้นกันมาก็เหอะ แต่สำหรับผมเบนก็เป็นคนที่แกล้งผมเยอะเกินไปคนหนึ่งอ่ะ ที่ผมไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองก็เพราะว่ามันชอบมาล้อผมด้วยอ่ะ
   
ผมไม่รู้ว่ามันจำได้ไหมว่าตัวเองทำอะไรกับผมไปบ้าง แต่ผมจำได้ทุกอย่างอ่ะ กับแวมไพร์กากๆ ที่พลังยังไม่ตื่นอย่างผมแค่รั้งท้ายก็น่าอายพอแล้ว พอโดนล้อว่ากากกว่าเด็กอีก ก็ยิ่งทำให้ผมไม่อยากเรียน ไม่กล้าโผล่หน้าไปห้องเรียนด้วยซ้ำ

“...”
   
ไม่รู้ว่าดิออนมันสัมผัสได้ว่าผมซึมลงหรืออะไร อยู่ๆ มันก็ดึงผมไปอยู่ข้างหลังมัน
   
“ไสหัวไป!!”
   
มันตะคอกใส่เบนเสียงดังลั่นจนผมสะดุ้งสุดตัว
   
“...”
   
แต่เรื่องที่ประหลาดกว่านั้นคือเบนไม่ได้ตะคอกกลับ ทั้งๆ ที่ปกติมันเป็นคนไม่ยอมใครเลย
   
ผมพยายามจะชะเง้อมองมันแต่ก็ถูกมือดิออนกดไว้ไม่ให้ดู จนกระทั่งมันไปแล้ว ดิออนถึงยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระ มันเอามือหนาๆ ของมันลูบใต้ตาผมที่ผม
   
“อย่าร้อง”
   
“...”
   
ผมร้องไห้เหรอ
   
ผมลองลูบใต้ตาตัวเองบ้างถึงได้รู้ว่าผมน้ำตาซึม คือผมก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะว่าตัวเองร้องไห้เรื่องอะไร แต่แค่เห็นหน้าเบนแล้วนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนที่มันเคยทำกับผม ผมก็เจ็บแล้วอ่ะ
   
มันเป็นคนแกล้งผม มันก็คงจำไม่ได้หรอก
   
ผมก็พยายามจำไม่ได้แหละ แต่สุดท้ายก็ยังจำได้อยู่ดี แล้วตอนนี้มันก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอ่ะ มันอาจจะชอบผมจริงก็ได้ แต่ผมก็คงยอมรับความรู้สึกมันไม่ได้ แค่เพื่อนผมยังยอมรับให้มันเป็นไม่ได้เลย
   
“เบนนิสัยไม่ดี ชอบแกล้งผม”
   
ปกติผมไม่ใช่คนขี้ฟ้องนะ แต่พอเห็นหน้าดิออนแล้วผมก็สารภาพออกมาหมดเลย
   
ผมไม่อยากให้มันเป็นห่วงผมอ่ะ ผมร้องไห้ด้วยเรื่องไร้สาระแค่นี้เอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่
   
“ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่แสบตานิดหน่อย”
   
“กลับห้องไหม”
   
“อื้อ”
   
ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วปล่อยให้มันพาผมกลับห้อง

   

หลังจากที่เจอเบนผมก็ขลุกตัวอยู่ในห้อง ตอนดิออนออกไปเรียนผมก็ไม่ได้ตามไป พวกคนอื่นๆ ที่สิทธิ์ในการแย่งชิงตำแหน่งเหมือนกันก็เริ่มตามมาสมทบ สมาคมแวมไพร์ที่เคยเงียบสงบช่วงนี้จึงเสียงดังมาก กึกก้องแทบจะตลอดเวลาจากการพูดคุยสังสรรค์ และการลงเงินพนันกันเพื่อเล่นสนุกว่าใครจะได้เป็นผู้ครอบครองตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ไป
   
ถามว่าผมรู้ได้ไง
   
“อ้าว นายไม่ลงเหรอ ครูซ อุตส่าห์มีสิทธิ์ลงทั้งที”
   
เพื่อนเก่าแก่ผมคนหนึ่งมาเคาะประตูถามผม ทั้งๆ ที่มันก็ลงเงินไปกับคนอื่นไปแล้ว
   
“จะลงทำไม ให้แม็กซ์ลงอ่ะดีแล้ว”
   
ผมหน้าบูดใส่มัน
   
“แค่คิดว่าจะเที่ยวไหนดี ผมก็ปวดหัวจะแย่ อย่าให้ผมต้องมาปวดหัวเรื่องสมาคมเพิ่มเลย”
   
มันพยักหน้าแกนๆ ก่อนที่จะทำหน้ามีเลศนัยใส่ผมจนผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
   
“วาติกันที่สู้กับเบนเมื่อวานเป็นคู่นายใช่ไหม”
   
“หมายความว่าไง ใครสู้กัน”
   
ผมย้อนถามมันเสียงสูงตาโตแบบตกใจมาก เพราะวาติกันในสมาคมก็มีแค่ดิออนคนเดียวอ่ะ แถมเมื่อวานมันกลับห้องมาก็ดูเหนื่อยกว่าปกตินิดหน่อยไม่เหมือนสภาพที่เพิ่งไปฟัดกับอดีตท็อปห้องสักนิด
   
“เบนไปท้าวาติกันแล้วสองคนนั้นก็ไปตีกันที่สนาม คือฉันบอกตามตรงเลยว่านายโคตรพลาดที่ไม่เห็น เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ฉันเบนมันแพ้ใครสักคนราบคาบขนาดนี้ ไอ้วาติกันนั้นเก่งเป็นบ้าเลย ใช้ทั้งพลังแวมไพร์ทั้งพลังพวกวาติกัน จนเบนมันขอถอนตัวแล้วหนีกลับบ้านแล้ว”
   
“..ดิออนเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
   
ผมถามอึ้งๆ
   
เพราะนี่มันโกงมาก ผมฝึกพลังแวมไพร์เพื่อต่อสู้ตั้งนานกว่าจะคล่อง ดิออนเพิ่งเรียนได้ไม่นานเองก็เก่งขนาดล้มเบนได้แล้วอ่ะ ขี้โกง!
   
“ก็เก่งขนาดนั้นแหละ แต่นายก็นะ มนุษย์ก็มีตั้งเยอะแยะแต่ดันเอาวาติกันมาเป็นคู่ พรุ่งนี้ก็ซ่อนๆ คู่ของนายหน่อยแล้วกัน งานประลองใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ถ้าพวกผู้ใหญ่ที่ตามมาเห็นผู้นำตระกูลวาติกันมาอยู่ในสมาคมแบบนี้คงตกใจตายกันพอดี”
   
“ดิออนเป็นแวมไพร์แล้ว”
   
ผมเถียงทันที เพราะทุกคนก็น่าเห็นอยู่อ่ะว่าดิออนมีเขี้ยวแถมยังบินได้ด้วย! ถึงจะเคยเป็นวาติกันมาก่อนก็เหอะแต่ตอนนี้ดิออนก็เป็นแวมไพร์แล้วอ่ะ ขนาดพ่อผมที่ว่าเคร่งเรื่องการเอาคนนอกเข้ามาในสมาคมยังให้ผ่านเลย
   
“ฉันรู้ แต่มันก็เคยเป็นวาติกันมาก่อนอยู่ดี แล้วพวกผู้ใหญ่เขาค่อนข้างสนใจตรงนี้”
   
“...แต่”
   
“ไม่มีแต่ แม็กซ์ฝากมาบอกนายด้วยว่าเก็บคู่นายไว้ในห้องให้ดีๆ อย่าให้หลุดออกมา ไม่งั้นพวกผู้ใหญ่เขาไม่เอามันไว้แน่”
   
“..ก็ได้”
   
ผมรับคำหงอยๆ เพราะใจจริงอยากพาดิออนไปเชียร์น้องด้วย แต่ก็เข้าใจแหละว่าการเปิดใจรับคนนอกมาเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมเป็นอะไรที่ทำใจยอมรับได้ยาก ขนาดแวมไพร์ในสมาคมเองบางคนยังดูไม่ค่อยพอใจเลย ทั้งๆ ที่ดิออนก็ทิ้งอนาคตอันรุ่งโรจน์ของตัวเองในฐานะวาติกันไปแล้วแท้ๆ
   
ผมก็แค่อยากให้ทุกคนยอมรับดิออนเหมือนถึงผมยอมรับเท่านั้นเอง
   
“แต่ฉันถูกชะตาแฟนนายนะ เขาดูรักนายจริงๆ ”
   
“...เหรอ”
   
ผมหน้าแดงเพราะพอฟังจากคนอื่นแล้วมันโคตรจะเขินเลย
   
“เออสิ ดุๆ จริงจังแบบนั้นเหมาะกับแวมไพร์ไร้สาระอย่างนายจะตาย”
   
ผมหัวเราะรับคำเหน็บแนมเพราะมันจริงมาก ดิออนได้ผมเป็นแฟนก็เหมือนเลี้ยงลูกอ่ะ ผมทำอะไรไม่เป็นนอกจากน่ารักไปวันๆ ไร้สาระแล้วก็หลับ เป็นแวมไพร์ที่รักสันติและเป็นมิตรที่สุดในโลก เสียดายที่ผมสังเคราะห์แสงไม่ได้ ไม่งั้นโลกคงจะรักผมมากกว่านี้
   
“เอ้านี่ ของขวัญ”
   
“ของขวัญไรอ่ะ”
   
ผมถามงงๆ แต่ก็รับมาแกะ ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ทุกคนถึงขยันให้ของขวัญเกิดผมเหลือเกิน
   
“ก็วันเกิดนายไง ถึงจะผ่านมาแล้วก็เหอะ”
   
“ทำไมให้อ่ะ ปกติไม่ค่อยให้นี่นา”
   
“เออให้ก็เอาๆ ไปเหอะ ของฟรี”
   
ยิ่งมันพูดแบบนี้ผมยิ่งสงสัย ซึ่งพอแกะออกมาผมก็ตกใจจนแทบทำหลุดจากมือ
   
มันให้ชุดกระต่ายผม!!
   
ไม่ใช่กระต่ายน้อยน่ารักด้วย แต่เป็นชุดกระต่ายที่ดูแล้วโคตรจะลามกเลย!!! ดูก็รู้ว่าซื้อมาแกล้งผมอ่ะ
   
“ไม่เอา! เอาคืนไปเลย!!”

ยิ่งเห็นผมเขินมันก็ยิ่งหัวเราะลั่น

“ก็นายเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าชอบชุดกระต่าย”

“ผมบอกว่าชอบกระต่าย ไม่ใช่ชุดกระต่ายไหมล่ะ”

แค่ผมถือผมก็เขินแล้วอ่ะ ผมจะไม่ยอมใส่มันแน่ๆ

ซึ่งระหว่างที่ผมพยายามยัดเยียดชุดคืนให้มันแบบสุดชีวิต คนที่ผมไม่อยากให้มาเจอที่สุดก็เดินกลับมาหาผมพอดี พอเห็นว่ายังไงก็ยัดเยียดคืนไม่สำเร็จผมก็เอายัดๆ ใส่ในเสื้อตัวเอง และได้แต่หวังว่าดิออนจะไม่สังเกตเห็นมัน

“แฟนนายกลับมาแล้ว งั้นฉันไปละ”

“ไปไหนก็ไปเลย!”

ก็อยากจะลาดีๆ นะ แต่มันให้ของแบบนี้มาอ่ะ

คือแค่เมื่อวันก่อนผมก็แทบตายแล้วอ่ะ ขืนถ้าผมใส่แบบนี้แล้วดิออนชอบมาก ผมก็คงได้แห้งตายคาห้องกันพอดี

“มีอะไรรึเปล่า”

ดิออนมันถามผมงงๆ ผมที่ขี้เกียจตอบก็เลยดึงมันเข้าห้องแล้วโน้มหัวมันลงมาจูบผม จูบอยู่สักพักกว่ามันจะยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ

“..ดิออน นายสู้กับเบนมาเหรอ”

ถึงผมจะค่อนข้างเชื่อใจเพื่อนมากก็เหอะ แต่ผมก็อยากรู้จากปากมันเองอยู่ดี

“อืม” มันพยักหน้าง่ายๆ แล้วลูบหัวผม ไม่ได้อธิบายอะไรกับการกระทำของตัวเอง แต่ผมที่ดันเข้าใจดีก็น้ำตารื้นเลย
มันทำเพื่อผม

“พลังนายโคตรขี้โกงเลย”

ผมบ่นอุบแล้วเขย่งขึ้นจูบมันอีก ผมครางในลำคอปล่อยให้มันล้วงเข้ามาในเสื้อ ยินยอมให้มันทำทุกอย่างกับตัวเองและลืมไปเลยว่าผมแอบยัดซ่อนอะไรไว้

“นี่คือ?”

ดิออนที่ตอนแรกยังสนใจกับการลวนลามร่างกายผม ตอนนี้มันกลับให้ความสนใจสุดๆ กับสิ่งที่มันเจอในเสื้อผม มันคลี่ชุดกระต่ายที่ไอ้เพื่อนบ้าซื้อมาให้ผมออกมาจนสุด และมองสลับกับผม

“...”

“...”

พอได้สติผมก็หน้าแดงแจ๋แล้วส่ายหน้าทันควัน

“..ไม่ ไม่ใช่ของผมนะ ดิออน ผม ผมไม่ใส่หรอก!”

“...”

ผมหน้าแดงกว่าเดิมตอนที่เห็นสายตาอ้อนวอนของมัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันไปเอามาจากไหน แต่คือผมโคตรแพ้เลย ให้ตายเหอะ นี่คือความรู้สึกของคนอื่นเวลาที่ผมใช้สายตาแบบลูกหมาหิวข้าวใช่ไหมเนี่ย
แล้วยิ่งดิออนมันหล่อด้วยอ่ะ ผมยิ่งโคตรแพ้เลย

ผมทนใจแข็งได้สักพักสุดท้ายก็แพ้แบบราบคาบ

“ก็ได้ ก็ได้ ผมใส่ก็ได้! แต่ผมให้แค่รอบเดียวนะ พรุ่งนี้ผมต้องตื่นไปเชียร์น้อง”

ผมจำได้ว่าตัวเองบอกมันอย่างนั้นนะ แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็มากกว่าหนึ่งรอบอยู่ดี

;w;

-----------

สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะคะ  :mc3:  ถึงจะล่าช้าไป 7 วันก็ตาม 5555555555   

ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 15 7/1/63 p.6
«ตอบ #179 เมื่อ07-01-2020 23:29:36 »

อยากเห็นกระต่ายครูซ   :hao6:
สวัสดีปีใหม่คุณนักเขียนเช่นกันค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด