{ เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; แจ้งข่าวเปิดพรี 15 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; แจ้งข่าวเปิดพรี 15 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม  (อ่าน 59075 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
บางทีปีศาจก็น่ารักกว่าพระที่มีอีโก้ เห็นว่าตัวเองมีอำนาจตัดสิน จัดการคนอื่นได้

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #213 เมื่อ18-03-2020 22:20:55 »

ตอนที่ 19
             
ช่วงนี้ชีวิตของผมสงบสุขมาก
 
ทุกอย่างในชีวิตดูเหมือนรู้เห็นเป็นใจไปหมด ไม่เหมือนตอนต้นเรื่องที่มีแต่เรื่องวุ่นๆ อะไรไม่รู้เยอะแยะเกิดขึ้นกับแวมไพร์ที่รักโลกและโลกรักที่สุดอย่างผม
 
กี้!

ผมในร่างค้างคาวเอาหน้าไถนิ้วดิออนอ้อนๆ ตอนที่มันเอานิ้วมาแหย่ผมที่กำลังนอนแทะช็อกโกแลตที่ใหญ่กว่าตัวผมอีก

“ปากเลอะหมดแล้ว”

ดิออนหัวเราะในลำคอก่อนที่มันจะนั่งอ่านหนังสือต่อ ซึ่งพอมาอยู่ด้วยกันจริงๆ ผมถึงรู้ว่ามันเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากแล้วก็ชอบอ่านอะไรที่เข้าใจยาก บางทีเวลาผมหลับแล้วตื่นมาก็เห็นมันนั่งฟังอะไรไม่รู้อยู่ แต่ที่แน่ๆ คือผมไม่ฟังอะไรแบบนั้นแน่ เพราะสมองน้อยๆ ของผมรับไม่ไหวจริงๆ

กี้!

ผมเอามือเล็กๆ เช็ดปากตัวเองแล้วไปเกาะมือดิออน เรียกร้องความสนใจมันหลังจากที่ผมหลับไปสามรอบและในท้องผมก็เต็มไปด้วยขนม ถ้าแวมไพร์เป็นเบาหวานได้ตอนนี้ผมคงเป็นไปแล้ว

“เบื่อแล้วเหรอ”

มันหยิบผมไปวางบนมือมันปล่อยให้ผมกัดนิ้วมันเล่น ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่ได้เบื่ออะไรหรอก ผมก็แค่อยากอ้อนมันเฉยๆ เสียดายที่จนถึงตอนนี้ดิออนก็ยังภาษาค้างคาวของผมไม่เข้าใจสักที ผมเลยคุยกับมันไม่ได้

ผมเหลือบมองหนังสือมันที่เพิ่งอ่านได้ครึ่งเล่มแล้วก็ส่ายหัว แล้วกลับไปนอนแทะช็อกโกแลตเหมือนเดิม ทำไงได้ก็ผมว่างเกินไปอ่ะ ตอนนี้ตำแหน่งผมในสมาคมก็เป็นแค่สมาชิก แล้วช่วงนี้พวกวาติกันก็เหมือนจะพักฟื้นตัวกันด้วย ผมเลยว่างกว่าเดิม ไม่มีภารกิจอะไรให้ทำ แล้วช่วงนี้ผมก็ขี้เกียจเที่ยวด้วยเพราะครั้งล่าสุดที่ไปก็เกือบครึ่งปี ดิออนตามใจผมมาก มันพาผมไปทุกที่ที่ผมอยากไป ไม่ว่าอะไรผมสักคำไม่ว่าผมจะทำเรื่องไร้สาระแค่ไหนก็ตาม

สิ่งเดียวที่มันขอจากผมคือตอนนอนด้วยกันให้ผมอยู่ในร่างมนุษย์ เพราะมันเคยเกือบนอนทับผม ซึ่งผมก็อยากจะบอกมันว่า ผมไม่แบนง่ายขนาดนั้นหรอก ขนาดประตูหนีบกินเลือดดีๆ วันเดียวผมก็หายแล้วอ่ะ

จริงๆ ผมก็ชอบอยู่ในร่างค้างคาวมากกว่าด้วยแหละ ใช้พลังงานน้อยดี แล้วผมก็ขี้เกียจคุยกับแวมไพร์คนอื่นในสมาคมด้วย ถ้าในวันนั้นไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่ผมก็จะอยู่แต่ในกระเป๋าเสื้อดิออนแล้วก็หลับทั้งวัน ปล่อยให้มันทำสิ่งที่มันอยากทำในสมาคม

แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบังเอิญหรืออะไรดี เวลาผมกับมันแอบพลอดรักกัน พ่อก็ชอบมาเห็นตลอดแล้ววันนั้นผมก็จะโดนผมจับแยกจากมัน ไปใช้เวลาอีกครึ่งวันกับพ่อที่เดี๋ยวนี้หมกมุ่นอยู่กับการฝึกทำขนมเพราะหลานชอบกิน

ใช่ ตอนนี้ผมมีหลานแล้ว ;w;

ผมไม่รู้ว่าผมกับดิออนไปเที่ยวนานแค่ไหน แต่พอกลับมาอีกทีผมก็โดนแม็กซ์บ่นจนหูชา คือผมไปนานจนหลานโตพอที่จะวิ่งมากอดขาผมแล้วอ่ะ

“ลุงครูซ!”

 “…”

ผมในร่างค้างคาวสั่นสะท้านทันทีเพราะคำว่าลุงนั้นทรงอานุภาพมาก อะไรกัน หน้าผมยังเด็กอยู่เลย! มาเรียกลุงได้ยังไงกันอ่ะ ไม่ยุติธรรมเลย

“ลุงดิออน ลุงครูซหลับเหรอฮะ”

หลานผมปีนขึ้นมาเกาะบนโต๊ะและมองผมตาวาว เห็นได้ชัดว่าจะมาชวนผมไปเล่นเป็นเพื่อนเพราะแม็กซ์คงจะยุ่งอยู่กับการทำงาน แล้วผมก็ไม่รู้ว่าหลานผมติดใจอะไรผมนักหนา ชอบชวนผมไปเล่นด้วยตลอดเลย

ผมอายุห้าร้อยแล้วนะ! โตแล้ว!

ผมแกล้งหลับแล้วกรนเบาๆ

“อืม”

ดิออนที่รู้ใจผมเป็นอย่างดีก็เออออไปตามเรื่องตามราว

“แต่เมื่อกี้ผมยังเห็นลุงครูซแทะช็อกโกแลตอยู่เลย ลุงครูซไม่หลับจริง! ลุงครูซโกหกผม ผมจะฟ้องคุณปู่!!!”

ไม่รู้ว่าหลานผมเห็นคราบช็อกโกแลตหรืออะไร แหกปากโวยวายผมดังลั่นจนผมสะดุ้งขึ้นมานั่งจ้องหลานตัวเองเซ็งๆ คือเด็กวัยใกล้ๆ หลานผมก็มีนะ ทำไมถึงได้ติดใจผมนัก แถมหน้าตายังเหมือนน้องผมอีก

“ลุงครูซ ผมอยากวาดรูปๆๆ ”

กี้ๆๆ

ผมร้องไล่หลานผมให้ไปวาดกับคนอื่นเพราะเรื่องวาดรูปผมก็วาดห่วยเหมือนกัน

“ลุงครูซพูดอะไรอ่ะ  ผมฟังไม่รู้เรื่อง”

หลานผมทำหน้างง จนผมยอมคืนร่างเป็นมนุษย์เพื่อเจรจาไล่หลานไปที่อื่น เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาพักผ่อนของผมกับดิออน ผมยังไม่อยากเลี้ยงเด็กตอนนี้ ถึงจะเป็นหลานแท้ๆ ของผมก็เถอะ

“..ลุงไม่ว่าง”

กลืนเลือดมากคำว่าลุง นี่ผมต้องใช้ชีวิตกับคำนี้ไปอีกกี่ร้อยปีเนี่ย โอ๊ย แค่คิดก็รับไม่ได้แล้ว ผมเริ่มแก่แล้วเหรอ อีกไม่นานเขี้ยวผมก็จะหักใช่ไหมเนี่ย แงงง

“แต่หลุยส์ไม่เห็นลุงครูซจะทำอะไรเลย ลุงครูซเล่นกับผมหน่อย ผมอยากเล่นกับลุงครูซ”

“...”

ผมลูบหน้าตัวเอง แบบพอโดนเด็กว่าวันๆ ผมไม่ทำอะไรก็แอบชานิดๆ แต่มันไม่มีอะไรให้ทำขนาดนั้นอ่ะ จะให้ผมไปช่วยขายครีมกันแดดแวมไพร์ก็ไม่ใช่เรื่องอ่ะ

“นะ ลุงครูซนะ เล่นกับผมหน่อย ผมอยากเล่นกับลุง ครูซ”

“เล่นคนเดียวไม่ได้เหรอ ตอนเด็กๆ ลุงก็เล่นคนเดียวอ่ะ”
             
ผมหน้ามุ่ยเพราะผมเลี้ยงเด็กไม่เก่งเลยสักนิด แต่เรื่องเล่นคนเดียวตอนเด็กๆ นี่เรื่องจริงนะ ผมตอนเด็กก็ซนพอๆ กับหลุยส์เนี่ยแหละ พอบินเป็นก็บินไปทั่วสมาคมเลย
             
“ไม่เอา ผมอยากเล่นกับลุงครูซ”
             
“แล้วลุงดิออนอ่ะ ไม่อยากเล่นด้วยเหรอ”
             
ผมหัวเราะคิกคักตอนพาดพิงถึงดิออนเพราะหลานผมส่ายหัวดิกเลย ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรนักหนา คือดิออนมันก็หน้าดุแหละแถมยังชอบทำหน้านิ่งๆ อีก ถ้าผมอายุเท่าหลุยส์แล้วเจอดิออนคงร้องไห้ไปแล้ว
             
ไม่สิ ตอนผมเจอมันครั้งแรก ผมก็ร้องนี่หว่า แถมยังร้องไห้เหมือนโลกจะแตกด้วย
             
“..นะฮะ ลุงครูซ ไม่วาดรูปก็ได้”
             
“..เฮ้อ ก็ได้”
             
ผมถอนหายใจยาวเพราะมองไปมองมาก็เริ่มใจอ่อนอ่ะ คือหน้าหลานผมเหมือนแม็กซ์ตอนเด็กๆ เลยอ่ะ ตอนนั้นก็ชอบมาอ้อนให้ผมไปเล่นด้วยเหมือนกัน
             
“งั้นเดี๋ยวผมมานะ ดิออน”
             
ผมมองดิออนหงอยๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังอยากนอนอ้อนมันต่อแหละ แต่จะปล่อยให้หลานนั่งหงอยไม่มีเพื่อนเล่นก็ดูจะใจร้ายเกินไปเหมือนกัน
             
ผมจูงมือหลานไปนั่งเล่นอีกมุมหนึ่งของห้องสมุดที่เป็นมุมเด็กซึ่งพอมีของเล่นลับสมองกองทิ้งไว้อยู่บ้าง บางอันผมก็เคยเล่นตั้งแต่สมัยผมยังเด็กซึ่งจนตอนนี้มันก็อยู่ สุดยอดมาก นวัตกรรมแวมไพร์จงเจริญ
             
ผมเลือกอยู่สักพัก สุดท้ายก็เอาจิ๊กซอมาต่อเพราะดูจะเป็นอะไรที่น่าจะทำให้หลานผมเงียบได้นานสุดละ ซึ่งมันก็เป็นรูปอะไรก็ไม่รู้ แต่จิ๊กซอคือเยอะและละเอียดมาก ไม่รู้ว่าระหว่างผมต่อเสร็จกับผมตายก่อนอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน
             
“ลุงครูซ”
             
“..ว่า”
             
สารภาพตามตรงว่าต่อไปต่อมาผมก็เริ่มสนุกอ่ะ เริ่มตั้งใจเล่นกว่าหลานอีก
             
“ลุงดิออนเป็นวาติกันเหรอฮะ”
             
ผมเลิกคิ้วนิดๆ กับคำถามของหลุยส์เพราะผมก็อยู่กับดิออนนานจนแทบจะลืมไปแล้วว่ามันเป็นวาติกัน อย่างมากที่สุดเวลาที่นึกออกก็ตอนมีอะไรกับมันแล้วผมฝังเขี้ยวใส่รอยสักวาติกันของมันนั่นแหละ
             
“อือ หลุยส์ไม่ชอบวาติกันเหรอ”
             
ตอนผมอายุประมาณนี้ก็กำลังเริ่มเรียนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างวาติกันกับแวมไพร์เลย แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นแวมไพร์ก็ต้องเข้าข้างแวมไพร์ด้วยกันอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าหลานผมจะไม่ชอบวาติกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเท่าไหร่ ถึงหลักสูตรจะพยายามสอนให้เคารพสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกก็เถอะ
             
“เปล่าฮะ ผมแค่สงสัยเฉยๆ ผมแค่อยากรู้ว่าถ้าผมเป็นวาติกันแล้วลุงครูซจะเล่นกับผมมากกว่าลุงดิออนไหม”
             
ผมหลุดหัวเราะออกมาทันที เพราะพอนึกถึงตอนที่ตัวเองรู้ว่ามันเป็นวาติกันครั้งแรกก็เล่นเอาผมกลัวแทบตายอ่ะ ถ้าหลานผมเป็นวาติกันไปด้วย หัวใจผมไม่วายตายเลยเหรอ
             
“ไม่ตลกนะ ลุงครูซ ผมจริงจังนะ ถ้า ถ้าผมเป็นวาติกัน ลุงครูซจะยอมเล่นกับผมทุกวันไหม”
             
หลานผมพูดด้วยสีหน้าจริงจังมาก ราวกับว่าการได้เล่นกับผมนั้นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ขอโทษเถอะแต่ละอย่างที่ผมพาหลานไปทำคือโคตรไร้สาระเลย พาไปซื้อไอติมงี้ ไปเล่นบ้านบอลข้างนอก อะไรทำนองนั้นที่ในสมาคมแวมไพร์ไม่มี เอาเข้าจริงหลานผมก็มีพี่เลี้ยงนะ แต่ก็ขยันมาอ้อนผมเหลือเกิน ถ้าไม่บอกผมคงจะเผลอคิดไปแล้วว่านี่เป็นลูกของผมกับดิออนอ่ะ
             
“ลุงดิออนเป็นแฟนลุงเอง”
             
ถึงผมจะเกลียดคำว่าลุงก็เถอะ แต่ผมโคตรชอบคำว่าแฟนเลย จะพูดว่าผัวหรือสามีให้หลานฟังก็ดูจะเกินไปหน่อย แต่เอาจริงจนถึงตอนนี้ผมก็ไม่กล้าเรียกดิออนด้วยคำอื่นที่นอกจากแฟนหรือคู่อยู่ดี มันเขินอ่ะ
             
“ผมรู้น่า!”
             
“รู้แล้วก็ไม่ต้องสงสัย ลุงอยากอยู่กับแฟนมากกว่ามานั่งเลี้ยงหลานแน่ๆ อ่ะ”
             
ผมหัวเราะเพราะยิ่งพูดหลานผมก็ยิ่งหน้ามุ่ย ตลกอ่ะ โคตรน่าแกล้งเลย
             
“แล้วทำไมต้องมาเล่นกับลุงด้วยอ่ะ ไม่มีเพื่อนคนอื่นเหรอ”
             
สุดท้ายผมก็อดไม่ไหวที่จะยื่นมือไปดึงแก้มหลานตัวเองอย่างมันเขี้ยว
             
เอาจริงๆ ดูไปดูมา เด็กก็น่ารักดีอ่ะ
             
“มีสิ! แต่ผมอยากเล่นกับลุงมากกว่า แล้วพ่อก็บอกให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนลุงครูซด้วย”
             
หลานผมตอบเสียงเจื้อยแจ้ว ซึ่งมันก็ทำให้ผมค้นพบความจริงสักทีว่าทำไม หลานผมถึงโผล่มาหาผมบ่อยๆ ช่วงนี้ ให้ตายเหอะ ไม่รู้จะหวงผมอะไรนักหนา ดิออนก็เป็นพี่เขยมาตั้งนานแล้วอ่ะ ทำไมไม่ยอมสนิทกันสักที
             
คราวนี้ผมถึงเป็นฝ่ายหน้ามุ่ยบ้าง แต่จิ๊กซอที่ผมยังต่ออยู่ก็สนุกเกินกว่าจะทำให้ผมอารมณ์เสีย ผมนั่งต่อเกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะได้รูปที่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งก็คือรูปคฤหาสน์แวมไพร์ที่อยู่กันทุกวันนี่เอง
             
แน่นอนว่าพอต่อเสร็จแล้วผมก็ค่อนดีใจมาก คือมันเหมือนทำอะไรสำเร็จอ่ะ ถึงจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ก็เถอะ แต่สำหรับผมมันก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในวันที่แสนจะเรียบง่ายนี่อยู่ดี
             
ผมลูบหัวหลานตัวเองและพยายามชมเยอะๆ เพราะรู้ดีว่าคำชมนั้นมีผลมากขนาดไหนกับเด็กคนหนึ่ง
             
“เล่นเสร็จแล้ว ไปหาเพื่อนไป ลุงจะกลับไปหาแฟน”
             
หลังจากขยี้หัวหลานจนหนำใจผมก็ไล่หลานตัวเองทันที เนื่องจากอยากกลับไปนอนแทะช็อกโกแลตเต็มทนแล้ว ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมช่วงหลายสัปดาห์มานี้ผมถึงอยากกินอะไรหวานๆ เป็นพิเศษ แถมยังกินเยอะกว่าปกติด้วย
             
“ไม่เอา ผมอยากอยู่กับลุงครูซ ผมจะไปด้วย”
             
“ไปหาคนอื่นไป ลุงง่วงแล้ว”
             
แล้วคือนอกจากผมจะอยากกินอะไรหวานๆ แล้ว ช่วงนี้ผมยังนอนเยอะผิดปกติอีก
             
ผมจะตายไหมอ่ะ หรือผมกำลังจะจำศีล แต่แวมไพร์ไม่จำศีลกันนะ ปกติถ้าไม่บาดเจ็บหนักๆ อ่ะ แล้วสรุปผมเป็นอะไรกันแน่เนี่ย หรือจริงๆ ผมแค่ขี้เกียจเฉยๆ
             
ไม่อ่ะ ขี้เกียจก็คืออยากอยู่เฉยๆ แต่นี่ผมง่วงมากแล้วก็กินเยอะมากอ่ะ
             
มันไม่ปกติ
             
คิดไปคิดคิดมาผมก็เริ่มกลัว ผมเลยเดินจูงหลานกับไปหาดิออนเพราะดูยังไงก็คงไล่ไม่ไป แต่เดินยังไม่ถึงโต๊ะดิออนผมก็ดันวูบมานอนบนพื้นซะก่อน
             
“ครูซ!!”
             
นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยินเสียงดิออนมันตะโกนดังขนาดนี้ ผมพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ได้ โลกมันมืดไปหมดเลยอ่ะ ผมไม่ได้เหนื่อยมากขนาดนี้มานานแล้วอ่ะ
             
“ครูซ ครูซ”
             
“..อือ”
             
ผมครางในลำคอง่วงๆ พยายามจะตอบดิออนกลับแต่สุดท้ายผมก็สลบไปซะก่อน ซึ่งก่อนที่ผมจะหมดสติ ผมก็อดน้ำตาคลอไม่ได้
             
ผมเพิ่งห้าร้อยเอง ผมจะตายแล้วเหรอ แงงงงงง
             
แหง่ก
 
             

ผมไม่รู้ว่าผมหลับไปนานแค่ไหน แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นระยะเวลาการนอนที่ยาวนานมาก จนผมคิดว่าการหลับของผมรอบนี้เป็นการซ้อมตายของผมด้วยซ้ำ
             
“..ดิออน”
             
ผมเรียกมันเสียงแผ่ว มองใบหน้าด้านข้างของมันที่ตอนนี้ฟุบหลับอยู่ข้างผมและหายใจอย่างสม่ำเสมอ
อุณหภูมิร่างกายมนุษย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในร่างกายมันกอบกุมมือผมแน่นราวกับว่ากลัวว่าจะสูญเสียผมไป แม้แต่ตอนที่มันหลับสนิทมันยังไม่กล้าปล่อยมือผมด้วยซ้ำ

“...”

คนรักของผมก็ยังคงหลับเหมือนเดิม ซึ่งถ้าให้ผมเดา มันก็คงนั่งรอผมฟื้นอยู่นานมากอ่ะ เพราะปกติมันไม่ใช่คนที่หลับลึกแบบนี้หรอก ขนาดผมตกเตียงกลางดึกแบบไม่รู้ตัว มันยังตื่นมาเอามาผมขึ้นไปนอนด้วยอ่ะ

“..ดิออน”

ผมกระซิบเรียกมันอีกแต่มันก็ยังนิ่งอยู่ ผมเลยค่อยๆ แกะมือมันออกอย่างระมัดระวัง เอาหมอนตัวเองไปรองหัวให้มัน ก่อนที่จะเดินออกจากห้องพยาบาลของสมาคม ซึ่งสิ่งที่แปลกคือตอนนี้ผมรู้สึกสดชื่นมากแต่บนข้อมือผมกลับมีรอยเจาะอะไรไม่รู้ ที่ให้ผมเดาก็คงเป็นสายน้ำเกลือหรืออะไรทำนองนั้น

“ตื่นแล้วเหรอ ครูซ”

“ครับ คุณย่า”

ผมสะดุ้งเลยพอรู้ว่าคนที่มาดูแลผมรอบนี้คือคุณย่าผมเอง แบบย่าผมก็เกษียณตัวเองจากการเป็นหมอไปตั้งนานแล้วอ่ะ อยู่ๆ กลับมาดูแลผมแบบนี้ ผมเริ่มกลัวแล้วอ่ะว่าผมจะเป็นอะไร

ผมกลืนน้ำลายเอือกตอนที่ย่าเดินเข้ามาใกล้ผม พยายามไม่ตัวสั่นเพราะย่าผมดุกว่าพ่อผมอีก แบบพ่อผมว่าดุแล้ว เจอคุณย่าเข้าไป ตอนเด็กๆ คือผมตัวแทบเท่ามดอ่ะ ก้มหน้าจนชิดอกทุกทีเลยเวลาเจอคุณย่าแต่ละที
ผมไม่เคยดีพอ ไม่เคยดีพอจริงๆ คุณย่าตำหนิผมแทบตลอดเวลาจริงๆ ตอนนี้มาช่วยดูแลผมตอนเด็กๆ เพราะผมตอนนั้นนอกจากจะซนแล้วยังป่วยง่ายอีก เกือบตายไปตั้งหลายรอบ ถ้าไม่ได้คุณย่าช่วยดูแลก็คงจะตายไปจริงๆ

“ขอย่าดูหน้าหน่อย”

“ครับ”

ผมสบตากับย่าตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะอายุห้าร้อยแล้วและมีคู่เป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่พอยืนต่อหน้าบุคคลนี้ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองกลับไปเป็นแค่เด็กที่ล้มเหลวคนนั้นอีกครั้ง
ความมั่นใจที่เคยมีของผมแทบจะหายไปหมด

“สีหน้าดีขึ้นแล้วนี่”

ย่าผมยิ้มบางแต่มันกลับไม่ได้ทำให้ผมโล่งใจสักนิด คือเอาจริงๆ ตอนนี้ย่าผมก็อายุปาไปพันปีแล้วมั้ง ผมไม่แน่ใจ แต่ก็ยังดูแข็งแรง ที่น่าเสียดายนิดหน่อยคือไม่สามารถควบคุมให้ร่างกายคงสภาพให้เด็กเหมือนผมได้ ตอนนี้ย่าเลยดูแก่ขึ้นมากกว่าที่ผมเคยเห็นล่าสุด

แต่ที่แน่ๆ ก็ยังดูน่ากลัวมากอยู่ดี
             
“ครับ”
             
ผมรับคำเสียงเบา พยายามทำตัวตามหลักมารยาทที่คุณย่าเคยสอนผมและพยายามทำตัวให้น่ารำคาญน้อยที่สุดเพื่อที่จะไม่ทำให้คุณย่าโกรธ
             
“ดีใจไหม”
             
ดีใจ? ดีใจเรื่องอะไร
             
ผมกระพริบตาปริบงงๆ แต่ก็ไม่กล้าถาม
             
“ย่าถามก็ตอบสิ” ย่าผมหรี่ตามองผมดุๆ แน่นอนว่าผมงงมาก แต่ถ้าตอบแบบส่งๆ ผมก็กลัวโดนย่าด่าอีก
             
“ดีใจเรื่องอะไรเหรอครับ”
             
“ก็เรื่องมีหลานให้ย่าไง”
             
เดี๋ยวนะ
             
ผมกระพริบตาถี่ๆ เพราะไม่แน่ใจ่ว่าตัวเองได้ยินถูกรึเปล่า จะว่าฝันก็ไม่ใช่เพราะผมนอนมาเยอะมาก เยอะจนถ้านอนมากกว่าผมคงจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
             
“หมายถึงหลุยส์เหรอครับ”
             
ผมถามงงๆ จนย่าเลยทำหน้าดุใส่
             
“เธอนั่นแหละ”
             
“..ผมเหรอ” ผมแทบจะหาเสียงตัวไม่เจอ คือแวมไพร์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีลูกยากอ่ะ โดยเฉพาะกับผมที่เป็นผู้ชายอีกก็น่าจะยากกว่าเดิมอีกเป็นสิบๆ เท่าอ่ะ
              “
เธอจำไม่ได้รึไงว่าถ้าเป็นสายเลือดแท้จะท้องได้ เพราะต้นตระกูลแวมไพร์ของเราท่านไม่มีเพศด้วยซ้ำ” ย่าผมทำหน้าดุกว่าเดิม แต่ความจริงตอนนี้ก็ทำผมตกใจเกินกว่าจะมากลัวย่าละ
             
นี่ผมท้องเหรอ..
             
ผมก้มมองท้องราบเรียบของตัวเองที่ดูปกติเกินกว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ซุกซ่อนอยู่ในนั้นได้ คือถ้าผมท้องจริงมันก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ช่วงนี้ผมรู้สึกแปลกๆ แหละ เนือยไปหมด แต่ท้องเลยนะ
             
ผมกำลังจะมีลูกกับดิออนจริงๆ เหรอ
             
พอนึกถึงเรื่องนี้ผมก็หน้าแดงเพราะผมก็เคยพูดเล่นๆ กับมันอ่ะ ว่ามันมีอะไรกับผมบ่อยจนถ้าผมท้องได้คงท้องไปแล้ว แต่นี่ดันท้องจริงไง
             
“หลังจากนี้ก็ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย อย่ามัวแต่ทำตัวไร้สาระ โตพอจะมีหลานให้ย่าแล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ หน่อย”
             
ย่าผมเอ็ดผมแต่ก็ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เพราะคงจะดูออกว่าผมน่าจะไม่รู้จริงๆ นั่นแหละว่าตัวเองท้อง แต่ท้องเลยนะ เอาจริงมันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยอ่ะ
             
“..แล้วคู่ของผมรู้รึยังครับ”
             
ผมถามย่าเสียงเบา
             
“ยัง ย่ายังไม่ได้บอกใคร รอให้เธอตื่นขึ้นมาก่อนแล้วให้ไปบอกคนอื่นเอง”
             
ย่าผมลูบหัวผมทั้งๆ ที่เป็นคนที่ไม่ชอบสัมผัสตัวใคร และครั้งสุดท้ายที่ย่าลูบหัวผมก็คือตอนที่ผมหกล้มหัวแตกแล้วเลือดไหลเยอะมากจนผมร้องไห้ไม่หยุด
             
“...”
             
ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกน้ำตาคลอนิดๆ เหมือนจะร้องไห้
             
เอาจริงๆ วันนี้ผมก็ดีใจอ่ะที่ได้เจอย่า หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานมากเพราะย่าผมก็อยู่กับคุณปู่อีกที่หนึ่ง แถมย่ายังไม่ชอบเดินทางอีก การมาครั้งนี้คงจะมาเพื่อดูแลผมโดยเฉพาะ
             
“เด็กดีของย่าโตแล้วสินะ”
             
ย่าผมเปรยขึ้นมาเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเองแต่ก็ยังไม่หยุดลูบหัวผม จนผมเริ่มหายใจตกใจและมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถเลี้ยงดูเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ซุกซ่อนอยู่ในท้องผมได้
             
สมาคมแวมไพร์จะมีค้างคาวเพิ่มอีกตัวแล้วสินะ
 
---

 :katai5:         
 

ออฟไลน์ GDNEE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #214 เมื่อ18-03-2020 22:41:57 »

ตายแล้ววว จะมีลูกแล้วววว ครูซซซซซซซซซซซ ดีใจด้วยยยยยยย

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #215 เมื่อ19-03-2020 13:58:17 »

ดีใจด้วย..ยยยยยยยย  :mc4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #216 เมื่อ20-03-2020 10:35:04 »

ท้องแล้ว~

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #217 เมื่อ24-03-2020 22:26:51 »

ท้องแล้วววว
ต่อจากนี้ครูซต้องเป็นหัวหน้าเด็กโตแน่ๆ พากันป่วน ฮาาา

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #218 เมื่อ25-03-2020 20:33:52 »

จะมีครูสน้อยแล้ว

ออฟไลน์ pmotosporth

  • [url=http://motosporth.com/]motosporth[/url]
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • ข่าวมอเตอร์สปอร์ต
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #219 เมื่อ26-03-2020 16:43:39 »

เรื่องสนุกมากๆครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
« ตอบ #219 เมื่อ: 26-03-2020 16:43:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Piechicofic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 19 18/3/20 p.8
«ตอบ #220 เมื่อ04-04-2020 12:24:15 »

แงอยากเลี้ยงหลาน ซนๆดื้อๆ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 20 18/3/20 p.8
«ตอบ #221 เมื่อ12-04-2020 23:05:14 »

ตอนที่ 20
 
             
 “ดิออน”
             
ผมเรียกคนรักของตัวเองที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและออกมาพร้อมกับชุดนอน และกลืนน้ำลายเอือกเขินๆ เพราะจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้บอกมันอ่ะว่าทำไมผมถึงเป็นอะไร
             
คือตอนนี้ก็บอกทุกคนไปแล้วอ่ะยกเว้นมัน
             
“ว่า”
             
มันเดินมันนั่งข้างๆ ผมบนเตียงแล้วดึงมือผมไปจูบ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ผมเขินกว่าเดิมอีก คือตอนบอกครอบครัวผมว่าผมเขินแล้วนะ มาเจอดิออนผมหยุดหน้าแดงไม่ได้เลย
             
ใครจะไปรู้อ่ะที่พูดไว้เล่นๆ มันจะกลายเป็นความจริง แบบตอนแรกผมก็คิดอยู่ว่าถ้าดิออนอยากมีลูกจริงๆ ก็อาจจะอุปการะอะไรสักอย่างมาเลี้ยง แบบพวกหมาป่า เซนทอร์อะไรแบบนั้น ที่ผมไม่เอาแวมไพร์เพราะปกติอยู่ในสมาคมโอกาสที่สมาชิกในสมาคมจะตายก็ต่ำมากอ่ะ ไม่ค่อยมีแวมไพร์กำพร้าสักเท่าไหร่หรอก ส่วนพวกมนุษย์ยิ่งแล้วใหญ่เลย ผมทนร้องไห้ตอนที่เด็กพวกนี้ตายไม่ได้หรอกนะ
             
ฉะนั้นการที่อยู่ๆ ผมท้องเองแบบนี้มันเป็นอะไรที่โคตรเหนือความคาดหมายเลย
             
แน่นอนคนที่ตกใจกว่าผมคือน้องผมทั้งสองคนที่ช็อคมาก ตกใจกว่าพ่อกับแม่อีก ส่วนพ่อกับแม่ผมก็ดูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ แถมแม่ยังกำชับให้ผมดูแลร่างกายดีๆ เพราะหลังจากนี้ผมอาจจะอ่อนแอลงเนื่องจากต้องแบ่งสารอาหารและพลังไปให้สิ่งมีชีวิตในท้องผมด้วย 
             
แต่เอาเข้าจริงสำหรับผมจะมีลูกหรือไม่มีลูกไม่ได้สำคัญหรอก แค่ผมได้อยู่กับมันทุกวันมันก็ดีมากๆ แล้วอ่ะ แต่ก็นะ มีแล้วก็ต้องเลี้ยง ผมจะเลี้ยงเองโตไหมเนี่ย
             
“..ผม”
             
ผมก้มหน้างุดไม่เข้าใจว่ากับอีกคำหนึ่งมันพูดยากตรงไหน แต่มันพูดไม่ออกอ่ะ
             
“มีอะไรรึเปล่า”
             
มันทำหน้างงแต่ก็ยังไม่ปล่อยจากมือผม ดูเพลิดเพลินกับการเอามือใหญ่ๆ ของมันลูบนิ้วของผมที่มันเพิ่งจูบไป
             
“...ท้อง”
             
ทำใจอยู่สักพักกว่าผมจะพูดออกไปได้ แต่เสียงเบามาก
             
“อะไรนะ”
             
มันทำหน้างงหนักกว่าเดิมจนผมแทบจะหลุดขำออกมา คือเขินมันก็เขินอ่ะ แต่ขำมากกว่า
             
“ผมท้อง”
             
“...”
             
ดิออนมันนิ่งไปสักพักก่อนที่จะพยักหน้ารับรู้แบบไม่แปลกใจเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ผมจินตนาการเอาไว้ว่ามันต้องตกใจมากแน่ๆ แต่ความจริงคือนิ่งมาก ไม่ตกใจสักนิด
             
“นายไม่ตกใจเหรอ”
             
ผมถามมันงงๆ
             
“ตอนแม่ฉันท้องน้องฉันก็มีอาการเหมือนนาย”
             
มันยิ้มบางแล้วดึงมือผมอีกข้างไปกุม ก่อนที่จะสบตากับผมด้วยสีหน้าจริงจัง
             
“ไม่ต้องกังวล ฉันเลี้ยงเด็กเป็น”
             
“แต่ผมเลี้ยงไม่เป็น”
             
ผมหน้างอเพราะปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ผมเนี่ยแหละ ความสามารถในการเลี้ยงเด็กเล็กเป็นศูนย์ ที่ทำได้มากที่สุดคือพาไปซื้อไอติมหน้าปากซอยอ่ะ ถ้ามากกว่านั้นคือนั่งร้องไห้เป็นเพื่อนอ่ะ
             
ถึงผมจะรู้ก็เถอะว่าทุกคนช่วยเลี้ยงและให้คำปรึกษาได้แน่ๆ แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี
             
เด็กคนหนึ่งเลยนะ คือผมก็ไม่อยากเป็นผู้ปกครองที่แย่หรือพึ่งพาไม่ได้อ่ะ แต่ผมไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรแบบนั้นได้
             
“ผมจินตนาการภาพนายออกนะว่าจะเป็นพ่อแบบไหน แต่ผมจินตนาการตัวเองไม่ออกเลยอ่ะ”
             
ผมหลุบตามองมือตัวเองหงอยๆ เพราะภาพในหัวผมคือดิออนน่าจะเป็นพ่อที่เท่มากอ่ะ ขนาดมันเป็นแฟนผมมันยังเท่เลย แล้วผมอ่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย
             
“แต่ฉันจินตนาการออกนะ”
             
ดิออนมันลูบหัวผมเบาๆ
             
“ไม่ต้องคิดมาก นายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้ว เข้าใจไหม”
             
ดิออนมันดึงมือผมไปแนบแก้มมันและสบตากับผม
             
“ฉันเชื่อว่านายจะเลี้ยงเขาได้”
             
“..ผม”
             
“และฉันมั่นใจว่าเด็กที่นายเลี้ยงต้องเป็นเด็กดีเหมือนที่นายเป็น”
             
“แต่ผมชอบหนีเที่ยวนะ”
             
พอโดนดิออนปลอบมากๆ ผมก็เริ่มยิ้มออก คือเรื่องความมั่นใจมันก็เป็นปัญหาที่ผมแก้ไม่ได้สักที ทั้งๆ ที่ดิออนมันก็พูดอยู่ตลอดว่ามันมั่นใจในตัวผมอ่ะ แต่ผมก็เลิกคิดถึงความล้มเหลวของตัวเองไม่ได้สักที ถึงผมตอนนี้จะมีพลังแล้วก็เถอะ แต่ความเจ็บปวดที่ผ่านมามันก็ทำให้ผมกลัวอ่ะ
             
ผมไม่อยากให้ลูกผมต้องมาเจออะไรแบบผมเลย การถูกคาดหวังจากครอบครัวมากๆ ในฐานะลูกคนโตแทบจะทำทำลายตัวตนผมไปแล้วด้วยซ้ำ
             
คือต่อให้ไม่มีใครพูดถึงหรือเดินมาเยาะเย้ยผม ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมล้มเหลวในฐานะว่าที่หัวหน้าสมาคมคนต่อไปอ่ะ
             
ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะเก่งพอที่ปกป้องเขาจากเรื่องพวกนี้ไหม
             
สำหรับผมมันเป็นเรื่องใหญ่มากจริงๆ
             
“ลูกของเราจะมีความสุข ครูซ”
             
“อือ”
             
ผมพยักหน้าแล้วก้มมองท้องตัวเองหงอยๆ
             
ผมจะพยายามให้ถึงที่สุดแล้วกัน
 
             

และหลังจากที่ทุกคนในสมาคมรู้ว่าผมท้อง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มาตราการตรวจคนเข้าออกเข้มมากเหมือนพ่อกลัวผมหนีออกจากสมาคม คุณย่าก็เอานู่นเอานี่มาขุนผมเช้าเย็นที่ส่วนใหญ่เป็นของบำรุงอะไรสักอย่างจากไหนไม่รู้
 
แต่ที่แน่ๆ คือไม่อร่อยเลย ;w;
             
มันขมจนผมแทบลิ้นชา แล้วพอย่ารู้ว่าผมกินแต่ขนมกับของหวานไม่ค่อยกินของมีประโยชน์ ผมก็ถูกงดของแหวนไปโดยปริยายและได้แต่น้ำตาตกในเวลาย่าเอาของกินเล่นผมไปให้หลุยส์หมดเลย
             
ย่าใจร้าย!
             
ผมในร่างค้างคาวน้ำตาแตกบนมือดิออน คิดถึงช็อกโกแลตอย่างสุดหัวใจแต่ที่มีให้กินก็มีแต่ของอะไรไม่รู้ คือตอนนี้ไม่มีใครตามใจผมเลยอ่ะ แม็กซ์ก็ดุผมตอนผมแอบขโมยขนมหลานกิน แม่ก็บังคับให้ผมนอนพักเพราะท้องผมตอนนี้ก็เริ่มนูนแล้ว คนอื่นๆ ในสมาคมเวลาเห็นผมไปเล่นตรงไหนนิดหน่อยก็ฟ้องดิออนให้มาตามเก็บผมเลย
             
“อย่าร้อง”
             
ดิออนมันพยายามปลอบผมแต่ผมก็ยังไม่หยุดงอแง
             
กี้ๆๆ
             
ผมงอแงเพราะนอกจากผมจะอยากกินขนมแล้ว เดี๋ยวนี้ผมยังเหนื่อยแทบจะตลอดเวลาด้วย
             
“ไม่ร้องนะครับ”
             
แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ดิออนก็ยังฟังไม่ออกว่าผมบ่นอะไร แต่ผมก็ยังเศร้าอยู่ดี ผมเบื่ออ่ะ อยากออกไปสูดอากาศนอกสมาคมบ้าง อย่างน้อยก็ขอแค่เดินไปซื้อไอติมหน้าปากซอยก็ได้
             
ผมสะอื้นในร่างค้างคาว เห็นสีหน้าทำอะไรไม่ถูกของดิออนก็เริ่มสงสารเพราะมันก็พยายามประคบประหงมผมสุดแล้วอ่ะ แต่ผมก็ยังอยากร้องไห้อยู่ดี
             
ผมร้องไห้ต่ออยู่สักพักก่อนที่จะตาโตตอนที่ดิออนหยิบช็อกโกแลตที่กลายเป็นของหายากในสมาคมมาให้ผมกิน
             
กี้!
             
ผมตาโตทำท่าจะเข้าไปกอดช็อกโกแลตก็โดนดิออนจับตัวเอาไว้ก่อน
             
“ให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”
             
ผมพยักหน้ารัวๆ แล้วโผกอดช็อกโกแลตที่ใหญ่กว่าตัวผม
             
อร่อยจัง
             
หูผมลู่ลงตอนที่รู้สึกมีความสุขมาก นี่สิอาหารที่ผมควรจะได้กิน ถึงมีจะไม่ค่อยมีประโยชน์แต่มันก็ดีต่อใจอ่ะ พวกของมีประโยชน์ไม่อร่อยแต่ทำตัวผมตุ๊บมาก ถ้ามีมนุษย์มาเห็นผมในร่างค้างคาวตอนนี้คงคิดว่าเป็นลูกบอลค้างคาวสูบลมอ่ะ เอาจริง ผมก็เริ่มสงสัยเหมือนกันว่าตัวเองเป็นแวมไพร์จริงไหมหรือจริงๆ แล้วเป็นค้างคาวที่รับงานเป็นแวมไพร์
             
ดิออนปล่อยให้ผมกินช็อกโกแลตจนหมด ทั้งๆ ที่ปกติผมกินไปครึ่งอันผมก็อิ่มแล้ว แล้วด้วยความที่ผมกินช้าบางส่วนของช็อกโกแลตเลยละลายไปบ้างและมันก็ติดหน้ากับตัวผมจนดิออนต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าของมันมาเช็ดเนื้อตัวให้ผม
             
กี้!
             
ผมที่พอได้กินอะไรหวานๆ เยอะ ๆ ก็เริ่มอารมณ์ดีเอาหน้าไถมือดิออนอ้อนๆ ระหว่างที่มันเช็ดหน้าให้
             
กี้ๆ
             
ผมรักดิออนที่สุดเลย!
             
มันยิ้มมุมปากแล้วลูบหัวผมที่พอกินเสร็จก็ง่วงอีกแล้ว ผมหาวง่วงๆ แล้วซบมือมัน
             
“ร่างมนุษย์ไหม”
             
มันถามผมแต่ผมส่ายหัวเพราะการอยู่ในร่างนี้ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยน้อยลง ถึงผมจะชอบตอนที่มันนอนกอดผมก็เถอะ แต่ช่วงนี้ผมเหนื่อยมากจริงๆ
             
ผมเอาหัวไถมือมันอีกสองสามรอบเชิงลาก่อนที่จะเผลอผล็อยหลับไปอีกรอบ
 
             


“...หน้าเหมือนนายมากเลยอ่ะ”
             
ผมนั่งจ้องหน้าลูกชายตัวเองที่กำลังหลับอยู่ในเปลเด็กหลังจากที่เกิดมาได้หนึ่งปี ซึ่งยิ่งโตก็ยิ่งหน้าเหมือนดิออนอ่ะ มีแค่สีผมกับตาที่เหมือนผม
             
“ไม่ดีเหรอ”
             
ดิออนถามผมระหว่างที่มันง่วนอยู่กับการชงนมสูตรพิเศษที่คุณย่าให้มา
             
 “ดีสิ”
             
 ผมหัวเราะคิกคักแล้วมองหน้า ‘การ์วิน’ เพลินๆ เพราะลูกติดผมมาก คือก็อยู่กับดิออนบ้างแต่ติดผมมากกว่า จนผมเริ่มรู้สึกว่าเหมือนมีก้อนดิออนจิ๋วมาอยู่ด้วย ลูกผมไม่ค่อยร้องอ่ะ ชอบนั่งมองผมแล้วก็ยิ้มจนตาหยี แต่เวลาเจอพ่อคือหน้าบูด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
             
“ทำไมลูกไม่ชอบฉัน”
             
พอชงเสร็จมันก็มานั่งข้างผมแล้วขมวดคิ้วบ่นเซ็งๆ
             
“นายหน้าดุมั้ง” ผมขยับตัวพิงไหล่มันแล้วหยิบมือของมันมาจับเล่น “แต่จริงๆ ตอนนายไม่อยู่ ลูกก็มองหานะ”
             
“...”
             
มันขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก้มมองหน้าลูกที่หลับอยู่บ้าง ซึ่งลูกก็เพิ่งหลับได้ไม่นานหลังจากที่นั่งเล่นกับผมมาทั้งวัน
             
“..นายว่าผมเลี้ยงลูกดีไหม”
             
ถึงจะเลี้ยงมาหนึ่งปีแล้วก็เถอะ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี ผมอยากให้วันทุกวันของเขาเป็นวันที่มีความสุขอ่ะ จะร้อยปีหรือพันปีข้างหน้า ผมก็อยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุด
             
“ดีสิ”
             
มันดึงมือผมไปจูบ
             
“แต่ลูกน่าจะเหงานะ”
             
“จริงอ่ะ แต่ผมเล่นด้วยทั้งวันเลยนะ”
             
ผมกระพริบตาปริบงงๆ เพราะนอกจากผมแล้ว คนที่มาช่วยเลี้ยงหลานเยอะมาก ทั้งพ่อแม่ผม คุณย่า คนอื่นๆ ในสมาคมก็ช่วยดูแลลูกผม แถมหลุยส์ก็ยังชอบมาเล่นด้วยอีก ฉะนั้นผมไม่รู้เลยว่าลูกผมจะเอาเวลาไหนมาเหงา
             
คนที่เหงาจริงๆ น่าจะเป็นดิออนมากกว่า
             
“ลูกบอกฉันว่าอยากมีน้อง”
             
ผมหน้าแดงเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง ลูกผมยังพูดเป็นประโยคไม่ได้เลย!
             
“ดิออน!”
             
ผมมองมันเขินๆ คือก็อย่างที่รู้อ่ะ แวมไพร์มีลูกยาก ผ่านมาเป็นร้อยๆ ปีอ่ะกว่าผมกับดิออนจะได้ลูกคนแรก ฉะนั้นเรื่องจะมีต่อทันทีนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะขนาดผมกับแม็กซ์ยังห่างกันเป็นร้อยปีเลย
             
“นายไม่อยากมีเหรอ”
             
“…”
             
ผมหน้าแดงกว่าเดิม คือจะมีก็มีได้แหละ
             
“รอให้ลูกโตกว่านี้ก่อนไหมอ่ะ ผมเลี้ยงสองคนพร้อมกันไม่ไหวหรอก”
             
ถึงลูกผมจะไม่ค่อยซนก็เถอะ แต่ติดผมจนผมแทบไปไหนไม่ได้อ่ะ จนบางทีผมก็รู้สึกว่าตัวเหมือนมีโคอาล่ามากกว่าแวมไพร์แล้ว คิดๆ ไปผมก็อยากให้ลูกผมได้ร่างค้างคาวสักที เพราะผมอุ้มลูกนานๆ ไม่ค่อยไหว
             
“อืม แล้วแต่นาย”
             
แน่นอนว่าดิออนมันก็ยังตามใจผมเก่งเหมือนเดิม ผมว่าถ้าผมอยากได้คฤหาสน์ของพวกวาติกันมาเป็นสนามเด็กเล่นให้ลูก มันก็คงไปจัดการพวกวาติกันให้อ่ะ
             
ให้ตายเหอะ ผมโคตรโชคดีเลยอ่ะที่ได้มันมาเป็นคู่ แต่เอาจริง ถ้ามันไม่นิสัยแบบดีแล้วเป็นพวกวาติกันคลั่งลัทธิปกติก็คงจะจับผมปิ้งไปนานแล้วนั่นแหละนะ
             
หรือจริงๆ ที่ผมซวยตลอดเวลา เพราะเอาดวงทั้งหมดใช้ไปกับดิออนวะ
             
ผมหลุบตามองดิออนที่นั่งหาวง่วงๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายซุกผมบ้าง มันขยับตัวนิดหน่อยแล้วนอนตักผมก่อนที่มันจะผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ด้วยกันใหม่ๆ มันเป็นคนที่หลับยากมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณความระแวงหรืออะไร
             
ผมมองสำรวจหน้าของมันอย่างเพลิดเพลิน เพราะต้องเลี้ยงลูกมันเลยไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่ เลยดูไม่ค่อยเนี๊ยบเหมือนเดิม ดูยุ่งๆ เลอะๆ เหมือนพ่อลูกอ่อนอ่ะ
             
ผมพยายามกลั้นหัวเราะตอนที่เห็นคราบนมที่เลอะคอเสื้อมันอย่างเห็นได้ชัด คือก็ชงจะมาปีนึงแล้วนะ ผมก็เห็นเลอะเกือบทุกวัน แม้แต่วันนี้ก็ยังเลอะอ่ะ
             
ผมไม่รู้ว่าพวกวาติกันมันหมายหัวดิออนกันไหม แต่บอกตามตรงถ้าพวกนั้นมาเจอดิออนในสภาพนี้ก็คงจำไม่ได้อ่ะ ไม่เหมือนหัวหน้าตระกูลวาติกันคนเท่คนนั้นสักนิด
             
ตอนนี้มันเหมือนเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้นเอง
             
ผมมองมันเพลินๆ อยู่สักพักใหญ่ก็เริ่มยิ้มไม่ออก เพราะเหน็บเริ่มกินแล้วผมก็รู้สึกเจ็บและจั๊กจี้มาก แต่พอเห็นท่าทางหลับสบายของมันผมก็ทำใจปลุกไม่ได้อ่ะ คือเมื่อคืนตอนลูกร้องมันก็เป็นคนกล่อมทั้งคืนเลยอ่ะ ส่วนผมสลบไปแล้วตื่นงัวเงียขึ้นมาก็รับช่วงต่อตอนเช้า เห็นตาดำๆ ของมันถึงรู้ว่ามันไม่ได้นอนอ่ะ 
             
ขนาดผมไล่ไปนอนยังไม่ไปเลย
             
ผมถอนหายใจแล้วนั่งต่อแบบนั้นเพราะยังอยากให้มันนอนอีกสักพัก ซึ่งระหว่างนี้ผมก็ต้องทนขาชาไปก่อนและภาวนาไม่ให้ขาผมไม่เจ็บไปมากกว่านี้
             
;w;

---------

 :กอด1:       

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 20 12/4/20 p.8
«ตอบ #222 เมื่อ12-04-2020 23:36:47 »

้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว  :กอด1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 20 12/4/20 p.8
«ตอบ #223 เมื่อ13-04-2020 20:08:10 »

ครอบครัวอบอุ่น

ลูกหวงแม่กับพ่อ  :hao7:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 20 12/4/20 p.8
«ตอบ #224 เมื่อ14-04-2020 01:15:49 »

ลูกน่ารัก

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 20 12/4/20 p.8
«ตอบ #225 เมื่อ14-04-2020 23:18:29 »

อร๊ายยยยยยย
มีเบบี๋ด้วยกันแล้วววว ><
หน้าเหมือนดิออน โตมาต้องหล่อ เท่ มากแน่ๆเลยอ่า  :hao7:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
«ตอบ #226 เมื่อ05-05-2020 21:11:47 »

ตอนที่ 21

   
ก็อย่างที่รู้อ่ะว่าแวมไพร์มีลูกยาก
   
แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงเป็นข้อยกเว้นก็ไม่รู้ เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปีผมก็ท้องอีก งงมาก ไม่รู้ดิออนมันขยันเกินไปหรือยังไง แต่ผมก็ท้อง ดีหน่อยที่หลังจากนั้นผมก็ไม่ท้องอีก แล้วคือลูกสองคนก็สลับกันร้องอ่ะ ไม่รู้แม่ทนผมได้ไง ผมตอนเด็กๆ คือร้องทั้งวัน แต่แน่ล่ะ ผมคงน่ารักแหละ แม่เลยไม่เอาไปทิ้งก่อน
   
“แม่”
   
ผมที่อยู่ในร่างค้างคาวรีบมุดเข้าไปใต้หมอนตอนได้ยินเสียงลูกคนโตของผมเดินมา ซึ่งแน่นอนว่าผมซ่อนตัวไม่สำเร็จเพราะตรงนี้เป็นที่นอนประจำของผม ลูกเลยรู้ทันและหยิบหมอนออกจนเจอผมที่นอนแหง่กอยู่
   
“…”
   
กี้!
   
ผมหาวหวอดใส่ลูกง่วงๆ ที่ตอนนี้โตแล้ว นับแบบพวกมนุษย์ก็คงประมาณ ม.ปลาย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะพอโตแล้วก็มีคนช่วยเลี้ยงน้อง
   
“พ่อถามว่าแม่จะไปข้างนอกด้วยไหม”
   
กี้ๆ
   
ผมส่ายหัวพยายามแย่งหมอนกลับ แต่ลูกก็ไม่ยอมคืนให้จนผมหน้างอ
   
ให้ตายเหอะ เอาจริงๆ คือนอกจากจะหน้าเหมือนดิออนแล้วยังนิสัยเหมือนดิออนอ่ะ บางทีก็ชอบแกล้งผมหน้านิ่งๆ แล้วตอนนี้ก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
   
กี้!
   
ผมเท้าเอวจะดุลูกในร่างค้างคาว ซึ่งผมก็รู้แหละว่าสภาพนี้มันไม่โคตรไม่น่ากลัวเลย เพราะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นใครกลัวผมในร่างนี้สักคน
   
“พ่อบอกให้แม่ไปด้วย แม่นอนเยอะแล้ว วันนี้”
   
กี้ๆๆ
   
นอนเยอะอะไรกัน ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้นอนเลยต่างหาก หลังๆ มานี้สมาคมก็ไม่ค่อยปล่อยให้ผมไร้สาระไปวันๆ แล้ว ใช้ไปทำนู่นทำนี่บ้าง เจรจาขายครีมกันแดด ไปตีกับพวกโกสต์ที่ชอบมารุกล้ำอาณาเขตที่สมาคมดูแลบ่อยๆ
   
แล้วคือตอนที่ผมว่างนอนเล่นก็มีแค่ตอนลูกไปเรียนอ่ะ
   
“ไปด้วยกันหน่อย”
   
ผมหน้ามุ่ยกว่าเดิมเพราะรอบนี้ดิออนมาตามเอง มันยีหัวลูกยิ้มๆ แล้วหยิบผมมาวางบนมือ
   
กี้!
   
ผมแลบลิ้นใส่มันแล้วหาวอีก
   
ไม่ไปหรอก ผมง่วงจะตายอยู่แล้ว ขนาดเมื่อคืนที่เป็นเวรผมเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน ผมยังหลับก่อนลูกเลย ไม่แน่ใจว่าผมเล่าให้ตัวเองฟังหรือลูกฟังกันแน่
   
กี้ๆๆ
   
ตัวผมแทบจะปลิวตกจากมือดิออน ตอนที่มีค้างคาวอีกตัวบินมากอดผม ซึ่งก็คือ ‘อลิส’ ลูกสาวคนเล็กของผมเอง หน้าเหมือนผมและน่ารักเหมือนผม แถมยังชอบอยู่ในร่างค้างคาวเหมือนผมอีก
   
กี้!
   
ผมกอดลูกกลับแน่นด้วยความคิดถึง ให้ตายเหอะ ลูกน่ารักมากเลยอ่ะ ตอนนี้เพิ่งขึ้นประถมเองแต่ก็ซนมาก จนพวกพี่เลี้ยงที่มาช่วยเลี้ยงบางทีก็ตามไม่ทัน
   
“การ์วินดูน้องนะ”
   
สุดท้ายดิออนมันก็แยกผมออกจากลูกอีก มันหยิบลูกผมออกจากผมแล้วยื่นให้การ์วิน ก่อนจะยัดผมใส่กระเป๋าเสื้อ  ซึ่งเอาจริงๆ บางทีผมก็สงสัยนะว่าผมเป็นแวมไพร์หรือเป็นตัวอะไรกันแน่
   
ผมโบกมือบ๊ายบายลูกแล้วมุดหลบเข้าไปในหลับในกระเป๋าเสื้อต่อ จริงๆ ก็รู้แหละว่าผมควรคืนร่างมนุษย์ได้แล้ว แต่ผมก็ง่วงอยู่ดี
   
“ร่างมนุษย์ไหม พ่อนายเรียก”
   
ก่อนที่จะออกจากห้อง ดิออนก็ไม่วายหยิบผมออกมาคุยด้วยอีก ผมงับนิ้วมันเซ็งๆ แล้วยอมคืนร่างมนุษย์เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่พ่อผมจะเรียกผมกับดิออนเข้าไปหาพร้อมกันแบบนี้
   
คือพ่อผมก็ยังคงเป็นพ่อตาที่ยังไม่ชอบหน้าดิออนเหมือนเดิมแหละนะ ถึงตอนนี้ผมจะลูกสองแล้วก็เถอะ แต่พ่อผมก็ยังหวงผมอยู่ดี ซึ่งเดี๋ยวนี้ดิออนมันก็ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมมากเวลาเจอพ่อผมแต่ละที เพราะบางทีมันก็ชอบมันเขี้ยวอะไรไม่รู้แล้วมาแกล้งผมจนผมจะร้องไห้ตั้งหลายรอบ
   
ไม่รู้ว่ามันจะมันเขี้ยวผมอะไรนักหนา ผมว่าผมก็หน้าตาเหมือนเดิมอ่ะ หรือจริงๆ แล้วมันรำคาญเวลาผมกับอลิสคุยกันร่างค้างคาวแล้วฟังไม่ออก แบบกี้ๆ อะไรกันนักหนา ซึ่งก็จริงเพราะกี้ๆ กันทั้งวัน
   
“ดิออน!”
   
ผมเอ็ดมันตอนที่คืนร่างมนุษย์แล้วมันดึงมือผมไปกัดบ้าง
   
“โทษที”
   
มันหัวเราะแล้วจูบมือผมเหมือนจะปลอบ ซึ่งก็ไม่ช่วยอะไรเพราะเป็นรอยฟันไปแล้ว
   
“..มันอดไม่ไหวจริงๆ ”
   
“ทำไมอ่ะ ผมน่าแกล้งขึ้นเหรอ”
   
ผมบ่นมันเซ็งๆ เริ่มอยากฟ้องพ่อว่าโดนมันแกล้งแต่ก็กลัวพ่อจะทำโทษมันไม่ให้เจอผม ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงคนที่จะร้องไห้ก่อนคงจะเป็นผมอีก
   
“..นายสวยขึ้น”
   
“...”
   
ผมหน้าแดงเขินๆ ไม่ชินสักทีเวลาที่โดนมันชมอ่ะ ผมก้มหน้างุดไม่สบตาแล้วปล่อยให้มันพาผมเดิน แต่ผมก็ยังอยากคุยเรื่องนี้ต่ออยู่ดี
   
“ผมว่าผมก็เหมือนเดิมอ่ะ”
   
“ไม่เหมือน”
   
“เหรอ”
   
คุยเรื่องนี้ผมก็อดสำรวจหน้ามันบ้างไม่ได้ ซึ่งก็แน่นอนว่ายังหล่อเหมือนเดิมแต่สุขุมขึ้นมาก จนหน้ามันนิ่งๆ ตอนนี้คือน่ากลัวกว่าตอนที่ผมเจอมันครั้งแรกอีก แบบถ้ามันไม่ใช่แฟนผม ผมคงวิ่งหนีแล้ว
   
“ตอนนี้นายเหมือนแวมไพร์จริงๆ ”
   
“...”
   
ผมขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่ามันชมรึเปล่า แล้วผมควรดีใจไหม
   
“รู้ไหมว่าพวกคนในสมาคมพูดถึงนายยังไง”
   
ผมส่ายหัวเพราะวันๆ เลี้ยงแต่ลูกกับนอน ผมจะเอาเวลาไหนไปสนใจคนอื่นกัน
   
“นอกจากน้องชายนาย ก็มีนายนั่นแหละที่เด็กๆ อยากเป็นกัน”
   
“จริงอ่ะ”
   
ผมถามมันแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ คือต่อให้ตอนนี้ผมจะไม่ใช่อันดับบ๊วยของสมาคมแล้วก็เหอะ แต่ผมว่าผมก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดที่จะมาเป็นแบบอย่างให้ใครอยู่ดี
   
“อืม นายอาจจะไม่รู้ตัวหรอก แต่นายตอนนี้ดูเป็นสายเลือดแท้ของแวมไพร์จริงๆ”
   
ดิออนมันหยุดเดินแล้วก้มมองผม
   
“นายเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ครูซ ถึงนายจะคิดอยู่ตลอดก็เถอะว่านายยังเป็นแวมไพร์อายุสามสี่ร้อยคนนั้น แต่ตอนนี้นายอายุแปดร้อยกว่าแล้วนะ นายโตและสง่างามมากพอที่จะชิงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมด้วยซ้ำ”
   
“...”
   
ผมหน้าแดงกว่าเดิม
   
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยอ่ะว่าดิออนมันมองผมด้วยความคิดแบบนี้มาตลอด
   
“จนบางครั้งฉันก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ครอบครองนายไว้คนเดียว”
   
ดิออนยิ้มบางให้ผม คือเป็นยิ้มที่ผมรู้เลยอ่ะว่าถ้าอยู่ในห้องมันคงจูบผมไปแล้ว
   
“...อยากจูบนายชะมัดเลยอ่ะ”
   
ผมบ่นเซ็งๆ เพราะเดินมาถึงห้องประชุมใหญ่แล้ว เปิดเข้าไปก็คือเจอพ่อนั่งอยู่แน่นอน แต่ผมอยากจูบมันมากเลย นานๆ ทีมันจะพูดอะไรแบบนี้อ่ะ
   
“จูบตอนนี้ พ่อนายได้เปลี่ยนใจแล้วออกมาฆ่าฉันแน่”
   
มันหัวเราะก่อนที่จะเปิดประตูและพาผมเข้าไปในห้อง
   
“..?”
   
ผมชะงักไปสักพักเพราะคิดว่าจะมีแค่พ่อกับแม่แต่ความจริงคือมีพวกผู้อาวุโสในตระกูลด้วย ซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่ถ้าไม่ใช่งานสำคัญหรืองานใหญ่ๆ ก็จะไม่ปรากฏตัวให้เห็นอ่ะ
   
สรุปแล้ววันนี้เป็นวันอะไรกันแน่เนี่ย
   
ผมกลืนน้ำลายเอื้อกแต่ก็เดินไปนั่งประจำตัวแหน่งตัวเองซึ่งไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกจัดเอาไว้หัวโต๊ะข้างดิออน แถมบรรยากาศในห้องก็เงียบมาก ดีหน่อยที่ผนังห้องในสมาคมค่อนข้างหนา ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอ่ะถ้าทุกคนได้ยินที่ผมคุยกับดิออนเมื่อกี้
   
“ครูซ”
   
ผมเผลอกลั้นหายใจตอนที่ได้ยินชื่อตัวเองจากปากผู้อาวุโสที่สุดในตระกูล คือล่าสุดที่ได้คุยกันคือตอนที่ผมเด็กมาก
   
“ครับ”
   
ผมตอบกลับด้วยภาษาโบราณของแวมไพร์ เพราะพอจะเดาได้แล้วว่าพิธีกรรมอะไรสักอย่างที่จะเกิดขึ้นวันนี้คงจะทางการและสำคัญพอตัว
   
“เลือด”
   
ผู้อาวุโสบอกผมสั้นๆ ก่อนจะส่งมีดสั้นต่อมาเป็นทอดๆ พร้อมกับร่ายเวทย์โบราณไปด้วย ผู้อาวุโสคนอื่นก็ร่ายเวทย์ในส่วนของตัวเองจนอากาศในห้องสั่นระริก ขุมพลังแห่งความมืดค่อยๆ ผุดออกมาจากกล่องที่วางอยู่กลางโต๊ะก่อนจะถูกสูบเข้าไปในมีดสั้นสีดำสนิทที่แม้จะรับพลังเข้าไปอย่างมากมายแต่ก็ยังคงนิ่งสงบไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว

ผมก้มมองมีดที่ในที่สุดก็ส่งมาถึงผม ซึ่งมันก็เบากว่าที่ผมคิดและลวดลายที่สลักอยู่บนด้ามมีดนั้นก็เป็นรูปมนุษย์ที่กำลังดื่มเลือดจากปีศาจคู่พันธะสัญญาซึ่งก็คือท่านคาร์บิลัส ราชาปีศาจผู้ครองอำนาจเหนือปีศาจทั้งปวง

“..!”

ผมเงยหน้าสบตากับพ่อทันทีเพราะรู้แล้วว่าวันนี้พ่อเชิญผู้อาวุโสของตระกูลมาทำไม

“อย่าทำพลาดล่ะ”

เสียงของพ่อในหัวแทบจะทำผมร้องไห้

พ่อยอมรับดิออนแล้ว

ผมหยิบแก้วไวน์มาตรงจุดที่ถูกวาดอักขระเอาไว้ก่อนที่จะบรรจงใช้มีดกรีดข้อมือตัวเองให้เลือดไหลออกมา ซึ่งระหว่างนั้นผมก็อดแอบมองดิออนไม่ได้ และพบว่ามันมองผมด้วยรอยยิ้มบางเหมือนรู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น

ผมหน้ามุ่ยใส่มันเซ็งๆ เพราะคนที่ควรจะตื่นเต้นกับพิธีกรรมนี้มากที่สุดควรจะเป็นมันอ่ะ ไม่ใช่ผมซะหน่อย

“พอ”

แผลของผมหายสนิททันทีตอนที่ท่านผู้อาวุโสพูดซึ่งก็ได้ประมาณครึ่งแก้วพอดี

ผมเบิกตากว้างเพราะเพียงชั่วพริบตาเลือดของผมก็กลายเป็นสีดำ ก่อนที่มีดที่อยู่ในมือผมจะสั่นอย่างรุนแรงราวกับว่ามันกำลังดีใจนักหนาที่จะได้เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็น ‘แวมไพร์’ อีกครั้ง

“ส่งมีดให้คู่ของเจ้าซะ”

“...”

ผมรู้สึกลังเลนิดหน่อยเพราะจากที่เคยเรียนมาก็พอจะรู้ว่าการที่มนุษย์จะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์อย่างเต็มตัวนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่ทรมานมาก มีมนุษย์หลายคนที่ทนความเจ็บปวดระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านไม่ไหวจนตายไปก็ตั้งหลายคน
ผมรู้แหละว่าดิออนยอมรับความทุกข์ทรมานนั้นได้ แต่ผมก็ไม่อยากให้มันเจ็บอยู่ดีอ่ะ

“ครูซ”

ดิออนมันกระซิบเรียกผมจนผมต้องตัดใจแล้วยื่นให้มัน และพยายามทำตัวปกติตอนที่เห็นมันกดปลายมีดที่ต้นแขนซึ่งมีตราประทับของผมจนเลือดไหลออกมา หน้ามันซีดลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะเลือดไม่ได้หยดลงพื้นแต่กลับถูกกลืนหายไปกับมีดแทน

“...”

มันพยายามทำสีหน้าปกติแต่มันกัดฟันแน่นไม่ให้หลุดเสียงร้องออกมา ตอนที่พลังจากในมีดนั้นรุกล้ำเข้าไปในแผลของมันและทำลายความเป็นมนุษย์ของมันที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกาย

“..อึก”

ผมมองมันที่ไม่รู้ตัวว่ากัดปากตัวเองจนเลือดซึมออกมาแล้วด้วยความรู้สึกเหมือนจะร้องไห้

คือผมก็รู้แหละว่าถ้าไม่ให้มันเป็นแวมไพร์เต็มตัวอายุขัยของมันก็จะสั้นกว่าผม แต่ผมก็ทำใจเห็นมันเจ็บแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันอ่ะ แต่ถามว่าถ้ามันตายแล้วผมจะทำใจได้ไหม ก็ไม่ได้อีก ฉะนั้นไม่ว่าทางไหนสำหรับผมก็แย่ทางนั้นอ่ะ

ผมน้ำตาคลอตอนที่มันกระอักเลือดออกมา

ถ้าไม่ติดว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องผมคงร้องไห้ไปแล้ว ถ้าเกิดดิออนตายใครจะเอาใจผมอ่ะ ถึงผมจะโตแล้วแต่ผมก็ยังต้องการความรักอยู่

ผ่านไปสักพักใหญ่กว่าที่มีดจะหยุดแกล้งดิออน มันนิ่งสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่ดิออนจะยื่นมันคืนให้ผม

“ไหวเหรอ”

ผมกระซิบถามมันเสียงเบาเพราะขั้นตอนต่อไปหนักกว่าเจ้ามีดนี่อีก

“อืม”

มันยิ้มบางให้ผมด้วยสีหน้าซีดเซียว

หวังผมจะไม่เป็นหม้ายตั้งแต่ตอนนี้นะ

ผมถอนหายใจแล้วรับขวดเลือดที่บรรจุเลือดของแวมไพร์บรรพบุรุษจากผู้อาวุโสมาหยดใส่เลือดของตัวเอง ซึ่งจากสีดำที่เข้มอยู่แล้วตอนนี้ก็ยิ่งเข้มกว่าเดิม ผมคืนขวดให้ผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้แล้วเขย่าแก้วไวน์ที่บรรจุเลือดในมือเบาๆ ให้มันเข้ากัน

“ดื่มมันซะ มนุษย์”

ผู้อาวุโสบอกกับดิออนตอนที่ผมยื่นแก้วให้มัน

“...”

มันไม่ได้ตอบแต่รับแก้วจากมือผมไปถือและสบตากับผม

นัยน์ตาสีเทาของมันตอนนี้เข้มจนแทบจะไม่เหลือสีเทาแล้ว ถ้ามันดื่มเลือดแก้วนี้เข้าไปก็เท่ากับว่ามันจะกลายเป็นแวมไพร์โดยสมบูรณ์และมันจะไม่สามารถกลับไปเป็นมนุษย์ได้อีก

“ทอดทิ้งความเป็นมนุษย์ซะ ดิออน จงหันหลังกับพระเจ้าและเพลิดเพลินไปกับชีวิตนิจนิรันดร์กับเรา”

ผู้อาวุโสพูดด้วยน้ำเสียงก้องกังวานจนทำให้ผมขนลุก เพราะนี่น่าจะเป็นประโยคที่บรรพุบุรุษแวมไพร์ของผมใช้ในการชักชวนเหล่ามนุษย์กลุ่มแรกให้มาเป็นพรรคพวกของตัวเอง ซึ่งถึงแม้จะผ่านมาหลายร้อยหลายพันปีแล้วประโยคนี้ก็ยังคงดำรงอยู่และเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังไม่เสื่อมคลาย

มันยิ้มบางให้ผมก่อนที่จะดื่มเข้าไปอย่างไม่ลังเล

ผมมองตามมันด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเพราะมันดื่มรวดเดียวหมดเลย คือตามพิธีกรรมมันต้องค่อยๆ จิบอ่ะ มันกินเป็นเป๊ปXเลยอ่ะ ให้ตายเหอะ ผมยังอยากมีผัวนะ ผมยังไม่พร้อมอยู่คนเดียว มันใจกล้ามาจากไหนเนี่ย

“..แค่ก”

มันกระอักเลือดของมาคำโตแล้วคำรามในลำคอไม่หยุด ร่างกายของมันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแวมไพร์อีกครั้งซึ่งครั้งนี้ร่างกายมันก็เปลี่ยนแปลงมากกว่าเดิมจนมันยืนไม่ไหวและต้องจับโต๊ะช่วยในการพยุงร่างกายตัวเอง

ผมมองนัยน์ตาของมันที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ตัวของมันสูงขึ้นพร้อมกับปีกที่งอกออกจากแผ่นหลังมันใหญ่กว่าเดิม ก่อนที่ร่างของมันจะถูกหมอกสีดำซึ่งเกิดจากพลังของปีศาจปกคลุมร่างจนมองไม่เห็นอะไรอีก
มีเพียงเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดของมันเท่านั้นที่เล็ดรอดออกมา

“...”

คิดกี่ทีผมก็คิดว่าตัวเองโชคดีชะมัดที่เป็นแวมไพร์ตั้งแต่เกิด เพราะถ้าผมต้องมาเจอพิธีกรรมแบบดิออนคือร้องไห้ตั้งแต่ตอนโดนกัดแล้วมั้ง ผมคงยอมเป็นมนุษย์ไปจนตายอ่ะ

“!!”
   
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อหมอกจางลงดิออนกลับหายไปแล้ว ผมเกือบจะหันไปโวยวายกับพ่อถ้าหากว่าไม่เห็นก้อนอะไรสักอย่างที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นซะก่อน
   
“...ดิออน?”
   
ผมก้มลงไปประคองค้างคาวตัวใหญ่ขึ้นมาดูซึ่งมันก็ยังสลบอยู่และหนักมาก
   
“พิธีกรรมสำเร็จแล้ว ยินดีกับคู่ของเจ้าด้วย ครูซ”
   
ผู้อาวุโสยิ้มให้ผมอย่างใจดีรวมถึงคนอื่นๆ ในห้องด้วย
   
“ขอบคุณสำหรับความเมตตาของพวกท่านเช่นกันครับ”
   
ผมตอบด้วยความซาบซึ้ง แต่ก็แอบเขย่าตัวดิออนไปด้วย ตายไหมเนี่ย ไม่เอา ห้ายตาย ไม่งั้นผมจะร้องไห้ทุกวันนะ ซึ่งก็ไม่ได้ผลดิออนยังสลบอยู่ ผมเลยต้องเปลี่ยนมาอุ้มแทนเพราะถือไม่ไหวหนักมาก นี่ถ้าดิออนมาเกาะไหล่ผม ผมคงไหล่หัก
   
“ลูกพาดิออนไปพักเถอะ”
   
“ครับ”
   
ผมหันไปขอบคุณทุกคนที่มาช่วยพิธีกรรมวันนี้อีกครั้งอย่างเป็นทางการ จริงๆ อยากเข้าไปอ้อนแม่ด้วย แต่ติดดิออนเลยต้องพากลับห้องก่อน
   
“นายไม่เท่เลยอ่ะ”
   
ระหว่างที่ผมเดินกลับห้องผมก็หลุดขำออกไม่ได้เพราะส่วนใหญ่ถ้าพิธีกรรมจบแล้วก็จะอยู่ในร่างแวมไพร์เต็มขั้น แต่ไม่รู้ดิออนทำไมถึงกลายเป็นค้างคาวซะงั้น แต่ก็ดีแหละ การที่มันอยู่ในร่างค้างคาวได้ก็แปลว่ามันเป็นแวมไพร์จริงๆ
   
“..ดิออน”
   
ผมกระซิบเรียกมันอีกครั้งเพราะอยากคุยกับมันแล้วอ่ะ ซึ่งเอาเข้าจริงผมก็เสียใจนิดหน่อยที่กอดมันครั้งต่อไปก็จะไม่อุ่นเหมือนเดิมแล้ว
   
“...”
   
ผมกระพริบตาปริบเมื่อสัมผัสได้ว่าค้างคาวในอ้อมกอดผมดิ้นเบาๆ และมันก็สบตากับผม
   
“ดิออน!”
   
ผมเปลี่ยนใจหลบเข้าไปในห้องสมุดทันทีเพราะกลับห้องตอนนี้ก็คงโดนลูกกวน ผมพามันหลบเข้าไปในมุมประจำที่ผมชอบมาแอบหลับแล้วนั่งคุยกับมันอย่างตื่นเต้น
   
ให้ตายเหอะ เหมือนผมได้ของเล่นใหม่เลยอ่ะ
   
“นายเป็นค้างคาวได้แล้ว ดีใจไหม”
   
ผมกระซิบคุยกับมัน
   
“...”
   
ดิออนมันจ้องผมนิ่งแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร มันดูงงๆ กับร่างค้างคาวของมัน พยายามขยับปีกและเดินไปมา ซึ่งที่แน่ๆ เลยคือมันเป็นค้างคาวที่หน้าโหดมาก ไม่น่ารักเลยสักนิด
   
ผมหัวเราะคิกคักตอนที่มันล้มใส่ผมแต่ผมก็รับมันได้พอดี
   
“คุยกับผมหน่อยสิ”
   
ผมหน้ามุ่ยมองมันที่จนถึงตอนนี้ก็ไม่ยอมพูดอะไรสักที
   
“...”
   
หูมันลู่ลงอย่างเห็นได้ชัด สีหน้ามันทะมึนมากกว่าเดิม
   
“ทำไมไม่ยอมคุยอ่ะ หรือนายพูดภาษาค้างคาวไม่ได้”
   
“...”
   
ผมขมวดคิ้วเพราะมันก็ยังเงียบอยู่ หรือว่ามันเจ็บคอ? แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะมันก็ดูปกติดี
   
“ดิออน ถ้ายังไม่พูดผมจะงอนแล้วนะ”
   
ผมกอดอกบ่นฮึ่มๆ ใส่มัน พอกำลังจะตัดพ้ออีกมันก็ดันพูดขึ้นมาก่อน
   
กี้ๆ  (อย่างอน)
   
มันพูดเสร็จก็ทำหน้าเซ็งแล้วพยายามคืนร่างมนุษย์ ซึ่งก็ทำไม่สำเร็จเพราะพลังมันยังไม่เสถียรเลยต้องยังอยู่ในร่างค้างคาวให้ผมแกล้งเหมือนเดิม
   
“...”
   
ผมนิ่งไปสักพักแล้วหลุดหัวเราะออกมา เพราะมันไม่ได้พูดไม่ได้หรือฟังไม่ออก แต่มันแค่ไม่อยากพูดในร่างค้างคาว
   
คือผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันที่ได้ยินดิออนร้องกี้ๆ แบบผมอ่ะ
   
หน้าดิออนจากที่เซ็งอยู่แล้วตอนนี้เซ็งกว่าเดิมมาก เอาจริง ถ้าไม่นับผมในสมาคมก็ไม่ค่อยมีใครชอบอยู่ในร่างค้างคาวกันหรอกเพราะมันเป็นร่างที่ทำอะไรไม่ค่อยได้นอกจากน่ารักไปวันๆ
   
“นายนอนที่นี่ได้ไหม ผมแอบเอาหมอนมาซ่อนไว้อยู่”
   
ดิออนมันพยักหน้าเบาๆ แล้วหาวให้ผมดูก่อนที่มันจะกระโดดขึ้นมานอนบนตักผมอีกแล้ว แน่นอนว่าผมไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเพราะวันนี้ผมจะนอนด้วย!
   
ผมขยับไปหยิบหมอนที่ซ่อนไว้หลังตู้หนังสือออกมาวางและทรุดตัวลงนอนโดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบดิออนขึ้นมากอด
   
“ถ้านายตื่นก่อนก็กลับก่อนก็ได้นะ เมื่อวานผมไม่ได้นอนเลย”
   
ผมบ่นกับมันง่วงๆ ก่อนจะผล็อยหลับไป
   
ซึ่งในระหว่างที่ผมกำลังฝัน ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นความฝันรึเปล่า เพราะผมรู้สึกเหมือนถูกดิออนจูบหน้าผาก ผมหัวเราะคิกตอนที่ผมอุ้มผมขึ้นและขยับตัวเข้าหาความเย็นเฉียบที่โอบอุ้มผมอย่างทะนุถนอม
   
จะฝันหรือความจริงก็ช่างเถอะ
   
ดิออนของผมก็ยังน่ารักเหมือนเดิมแหละนะ

---------------------

สงสารดิออน 5555555555555

#ห้ามปิ้งค้างคาว   

   
   
   

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
«ตอบ #227 เมื่อ06-05-2020 07:38:04 »

ดิออนเป็นแวมไพร์เต็มตัวแล้ว~

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
«ตอบ #228 เมื่อ06-05-2020 12:34:17 »

เอ็นดูครอบครัวนี้  :hao7:

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
«ตอบ #229 เมื่อ06-05-2020 19:22:50 »

น่ารักมากๆเลย ทั้งครูซทั้งดิออนที่เป็นค้างคาว ต่อไปจะคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
« ตอบ #229 เมื่อ: 06-05-2020 19:22:50 »





ออฟไลน์ GDNEE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
«ตอบ #230 เมื่อ06-05-2020 22:27:56 »

น้อนดิออน กลายเป็นค้างคาวได้แน้ววว

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 21 5/5/20 p.8
«ตอบ #231 เมื่อ12-05-2020 19:50:59 »

เอ็นดูครอบครัวนี้

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 22 29/5/20 p.8
«ตอบ #232 เมื่อ29-05-2020 01:17:41 »

ตอนที่ 22

   
“แม่ รอนี้ก่อนนะ”
   
ผมหน้าบูดทันทีเพราะเดินเข้าห้างกับการ์วินได้ไม่ถึงห้านาทีก็โดนไล่ให้มานั่งรอ คือผมก็เข้าใจแหละว่าถึงผมจะหน้าเด็กแต่ความโบราณของผมสูงมาก เวลาในสมาคมเดินช้ามากถ้าเทียบกับโลกภายนอกที่ผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว เทคโนโลยีของมนุษย์ก็เจริญไปหมด ถึงจะเป็นประเทศแถวนี้ก็เถอะแต่มันก็เจริญตามประเทศรอบๆ อยู่ดี
   
ขนาดโทรศัพท์มือถือที่ผมเคยใช้เป็นตอนนี้หน้าตามันเปลี่ยนไปเยอะจนผมใช้ไม่เป็นแล้วอ่ะ แล้วช่วงหลังผมก็เลี้ยงแต่ลูกด้วย ไม่มีเวลาออกมาปรับตัวและจะให้ผมไปสะกดมนุษย์ให้ช่วยสอนตัวเองเป็นอาทิตย์เหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้อีก ดิออนคงโกรธผมตาย
   
“ไม่ แม่จะไปด้วย”
   
ผมกอดแขนลูกที่สูงกว่าไว้เลย ถึงลูกจะขอมากับดิออนก็เถอะแต่ผมก็อยากทำหน้าที่แม่บ้าง ทำไมอ่ะ ผมไม่ดีตรงไหน ลูกอยากได้อะไรผมก็ซื้อให้!
   
“ผมจะไปซื้อชุดเฉยๆ ไม่อยากให้แม่รอนาน”
   
ลูกก้มมองผมแล้วพูดนิ่งๆ
   
ให้ตายเถอะ นี่ลูกหรือดิออนเนี่ย ผมชักจะไม่แน่ใจแล้ว
   
“ไปด้วย”
   
ผมหน้ามุ่ยไม่ยอมไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ร้านจัดเอาไว้ให้คนนั่งรอ
   
“..ครับ”
   
ลูกผมยิ้มนิดๆ แล้วเดินนำผมเข้าไปในร้านขายสูทที่เหมือนจะมีบริการตัดชุดให้ทันทีด้วย ซึ่งผมก็พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ตื่นเต้นเพราะมันเว่อร์มาก อะไรกันเนี่ย ผ่านไปไม่กี่ร้อยปีโลกมนุษย์มันขนาดนี้เลยเรอะ
   
ให้ตายเถอะ วันหลังถ้าออกมาทำภารกิจผมต้องไปเล่นหน่อยแล้ว แต่อีกใจก็กลัวโดนจับได้ว่าผมตามโลกข้างนอกไม่ทัน ขนาดจะขึ้นรถประจำทางผมยังใช้ไม่เป็นเลยอ่ะต้องให้การ์วินทำให้ทุกอย่าง
   
“ลูกจะเอาชุดไปทำอะไรนะ”
   
ผมมองลูกที่ยืนเลือกชุดบนหน้าจอสัมผัสแล้วกระพริบตาปริบ
   
“เดือนหน้าผมจะไปเรียนโรงเรียนมนุษย์แล้ว แม่จำไม่ได้เหรอ”
   
“..แล้วจะไปจริงๆ เหรอ”
   
ผมถามหงอยๆ คือลูกจะไปอยู่หอกับพวกมนุษย์เลยอ่ะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรทำแหละเพราะสมาคมก็ต้องการเด็กรุ่นใหม่ที่เข้าใจความเป็นไปของโลกมนุษย์ เมื่อก่อนผมก็ได้เป็นคนไปเรียนเหมือนกันแต่ก็นานจนผมจำไม่ได้แล้ว แต่ที่แน่ๆ คือผมนอนที่สมาคม
   
“แต่พ่ออนุญาตแล้วนะครับ”
   
“ก็ไม่อยากให้ไปอ่ะ กลับเดือนละครั้งเอง”
   
ผมงอแง เริ่มเข้าใจว่าทำไมพ่อผมถึงให้คนมาตามผมเป็นประจำ แค่คิดว่าจะไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทุกเย็น ผมก็ใจหายแล้วอ่ะ การ์วินเป็นลูกคนแรกที่ผมเลี้ยงมากับมือเลยนะ! แถมผมยังเลี้ยงโตด้วย!
   
“ถ้าลูกไม่อยู่แล้วใครจะแอบซื้อขนมให้แม่อ่ะ”
   
ผมหงอยกว่าเดิม เริ่มคิดว่าผมควรจะหนีสมาคมไปเรียนกับลูกด้วยดีไหม
   
“แม่ขอพ่อดีๆ พ่อก็ไม่ว่าหรอก ..แม่ว่าผมใส่สีดำหรือสีเทาดี”
   
การ์วินหัวเราะแล้วดึงแขนให้ผมไปยืนใกล้ๆ เพื่อช่วยเลือกชุด แต่ลูกผมมันได้หน้าจากดิออน จะใส่ชุดไหนก็หล่ออ่ะ
   
“สีเทา สีดำให้พ่อใส่คนเดียวก็พอ”
   
“งั้นผมใส่ซื้อสีเทานะครับ”
   
“แล้วจะไว้ใส่ไปไหนอ่ะ งานโรงเรียนเหรอ”
   
ผมหงอยอีกรอบนึกถึงตัวเองสมัยเรียน ตอนนั้นก็มีพวกงานพรอมงานอะไรเหมือนกัน และแน่นอนสิ่งที่ผมชอบที่สุดในโรงเรียนคือการได้เรียนวิชาลีลาศเพราะเป็นวิชาเดียวที่ผมได้คะแนนดีมาก
   
“ครับ โรงเรียนให้ซื้อไว้เป็นชุดทางการเผื่อได้เข้าร่วมพิธีสำคัญกับพวกรัฐบาลครับ”
   
“…เหรอ”
   
ผมพยักหน้ารับซึมๆ
   
ให้ตายเถอะ จริงๆ ผมก็ภูมิใจแหละที่ลูกผมหัวดีจนเข้าโรงเรียนระดับท็อปของพวกมนุษย์ได้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างส่งผลดีต่อสมาคมเพราะในโรงเรียนพวกนั้นจะมีพวกลูกหลานคนในรัฐบาลและวาติกันเรียนอยู่ ฉะนั้นถ้าพวกมนุษย์คิดจะทำอะไรพวกแวมไพร์อย่างผม พวกผมก็จะไหวตัวทันและเผ่าพันธุ์แวมไพร์จะได้ไม่ล่มสลาย
   
ถึงแวมไพร์อย่างพวกผมจะรักสงบและค่อนข้างทรงอำนาจในตอนนี้ก็เถอะ แต่ใครจะไปรู้ว่าสักวันพวกวาติกันอาจจะเอาชนะพวกผมได้ก็ได้ สาเหตุที่ทำให้เกิดสมาคมขึ้นมาได้ก็เพราะความแข็งแกร่งของพวกวาติกันนั่นแหละ
   
“..ผมอยากกินคุกกี้ แม่ซื้อให้ผมได้ไหมครับ”
   
“ได้สิ! เดี๋ยวแม่ไปซื้อให้!!”
   
ผมตาวาวทันทีเพราะตอนเดินมาร้านนี้ มีร้านขายคุกกี้ร้านนึงที่น่ากินมากๆๆ แต่คือวันนี้พาลูกมาซื้อชุดไง ผมจะซื้อขนมของตัวเองก่อนก็ยังไงอยู่ เลยต้องอดทนทำเป็นไม่สนใจ แต่ถ้าลูกอยากกินมันก็ช่วยไม่ได้แหละนะ
   
“ซื้อเสร็จแล้วก็รอที่ร้านนะ ห้ามไปไหน”
   
ผมกำชับลูกด้วยสีหน้าจริงจัง ถึงผมจะไม่เคยมีประสบการณ์ทำการ์วินหายก็เถอะ
   
“ครับ”
   
การ์วินพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง
   
ทำไมผมถึงเลี้ยงลูกได้ดีขนาดนะ!
   
ผมยิ้มจนตาหยีให้ลูกแล้วถึงเดินย้อนกลับไปร้านขายคุกกี้ที่ผมไม่เคยกินมาก่อน น่าจะเป็นร้านใหม่ที่เพิ่งมีไม่ถึงร้อยปีเพราะผมเป็นแฟนตัวยงกับขนมของพวกมนุษย์มาก งานฮาโลวีนปีนี้ผมก็ว่าจะไปเล่นอยู่ และแน่นอนว่าปีนี้ผมต้องไม่โดนล้อว่าเป็นแวมไพร์ปลอมหรือใส่เขี้ยวปลอมอีก ไม่อย่างนั้นคงอายลูกสองคนที่พาไปด้วยตายเลย
   
ก็รอบที่แล้วพาไปมีแต่ดิออนอ่ะที่เด็กๆ กลัว ส่วนผมเหรอนอกจากจะไม่กลัวแล้วยังโดนแย่งขนมอีก หรือว่าจริงๆ แล้วผมควรจะแต่งเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่แวมไพร์ แต่เป็นมนุษย์หมาป่าอะไรแบบนี้
   
ซึ่งระหว่างที่ผมเดินและคิดเรื่อยเปื่อยโลกก็ใจร้ายกับผมอีกแล้ว
   
ผลั่ก!
   
“โอ๊ย”
   
ผมร้องออกมาเบาๆ ตอนที่อยู่ๆ มีมนุษย์ตัวโตที่ไหนไม่รู้เดินชนผมจนเซ แต่พอผมจะเงยหน้าขึ้นไปโวยวายก็พบว่าไอ้มนุษย์บ้านั่นมันหายไปแล้ว
   
“อะไรเนี่ย”
   
ผมบ่นอุบลูบแขนตัวเองที่ยังชาอยู่เซ็งๆ
   
ออกมานอกสมาคมที่ไรผมซวยทุกทีเลยอ่ะ แล้วดิออนก็ไม่อยู่ด้วย งอแงไปก็ไม่มีใครโอ๋อ่ะ ผมเลยได้แต่ฮึบเอาไว้แล้วเดินไปซื้อคุกกี้เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง
   
ผมอายุใกล้พันแล้ว ห้ามร้อง!
   
ผมคิดอย่างมุ่งมั่นแล้วก็ลืมเรื่องเจ็บไปเลยพอมาเจอร้านคุกกี้ที่ผมเล็งเอาไว้ ผมมองคุกกี้ที่หลังตู้กระจกตาวาว ดีหน่อยที่พวกขนมทั่วไปก็ยังมีมนุษย์ขายเหมือนเดิม ผมเลยไม่ต้องคิดมากตอนสั่งว่าจะสั่งยังไง
   
และแน่นอนว่าผมสั่งรสที่ตัวเองชอบแล้วก็ของอลิสกับการ์วินอย่างละสี่ ส่วนดิออนก็ให้กินผมแหละ ปกติมันก็กินแค่คำสองคำเพราะไม่อยากแย่งผมกินแล้วมันก็ไม่ได้ชอบของหวานขนาดนั้นด้วย
   
“ขอบคุณครับ”
   
ผมยิ้มให้กับพนักงานแล้วรับถุงคุกกี้มากอดอย่างหวงแหน ก่อนจะเดินกลับไปหาการ์วินด้วยอารมณ์ที่ดีมาก และดีขึ้นไปอีกตอนที่ผมหยิบขึ้นมากินแล้วมันอร่อยกว่าที่ผมคิดอีก
   
ผมเลยรีบสาวเท้ากลับไปหาลูกเพราะอยากแบ่งขนมให้ลูกกิน แต่ความอารมณ์ดีของผมก็หายไปทันทีตอนที่เดินมาถึงร้านแล้วพบว่าการ์วินหายไปแล้ว
   
ไม่สิ ร้านก็หายเหมือนกัน!!!
 
;w;
   
ผมยัดคุกกี้ที่เหลือเข้าปากแล้วกลืนเลย ไม่กล้าชื่นชมรสชาติต่อเพราะตอนนี้สถานการณ์ของผมวิกฤตมาก ผมกำลังหลงทางในห้างของมนุษย์ซึ่งมันก็มีหลายชั้นและใหญ่มาก แน่นอนว่าผมต้องรีบหาลูกให้เจอก่อนที่ลูกจะให้พวกมนุษย์ประกาศตามหาผม
   
ให้ตายเถอะ ถ้าดิออนรู้ว่าผมจำได้แต่ทางไปซื้อขนมคงโดนมันดุแน่ๆ
   
ผมหน้ามุ่ยก่อนที่จะเปิดประสาทสัมผัสตัวเองเพื่อใช้ในการตามหาการ์วินที่น่าจะหลับรอผมแล้ว
   
“...?”
   
ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมเพราะพอเปิดแล้วผมก็ยังสัมผัสไม่ได้ถึงตัวตนของลูก ทั้งๆ ที่ปกติแล้วจะเจอทันที
   
“..พวกวาติกันเหรอ”
   
มันเริ่มไม่ปกติแล้วอ่ะ
   
ผมเดินเข้ามุมอับของห้างที่ไม่มีใครสนใจแล้วใช้พลังแวมไพร์ในการค้นหาแบบเต็มที่ และแน่นอนว่ามันทำให้ผมปกปิดตัวตนตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
   
“วาติกัน!”
   
ผมสบถออกมาอย่างอดไม่ได้เพราะตัวตนของลูกผมน่าจะถูกพวกวาติกันใช้พลังอะไรสักอย่างของพวกมันอำพรางไว้ แล้วตอนนี้มันก็คงจะรู้แล้วด้วยว่ามีแวมไพร์ในอาณาเขตมัน แต่ตอนนี้ผมไม่สนอะไรอีกแล้ว
   
ตอนนี้ผมโกรธ โกรธมากพอที่จะฆ่าพวกวาติกันด้วยซ้ำ!
   
ผมคำรามในลำคออย่างขุ่นเคืองแล้ววิ่งไปทิศทางที่ผมสัมผัสถึงลูกได้ ดีที่มันไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่แต่มันก็ยังเป็นบริเวณลับตาของห้างอยู่ดี ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าพวกวาติกันมันมีหุ้นส่วนกับห้างหรือยังไงทำไมถึงสร้างพื้นที่ตรงนี้ได้
   
“การ์วิน!!”
   
ผมเปิดประตูเข้าไปและตะโกนเรียกลูกทันทีตอนที่เห็นลูกอยู่ในร่างแวมไพร์และกำลังตีกับวาติกันอยู่
   
“แม่”
   
การ์วินเรียกผมด้วยสีหน้าซีดลงนิดๆ ชุดสูทสีเทาที่เพิ่งตัดมาใหม่นั้นชุ่มด้วยเลือดจนผมโกรธมากกว่าเดิม ก่อนที่ผมจะคืนร่างแวมไพร์ในพริบตาและพุ่งเข้าไปจัดการมัน
   
“อย่าหาเรื่องใส่ตัว วาติกัน!!”
   
ผมตะคอกใส่มันพร้อมกับฟาดดาบที่ผมสร้างขึ้นมาใส่แขนมันอย่างไม่ลังเล
   
มันทำร้ายการ์วิน!
   
“..แวมไพร์อย่างพวกแกต่างหากที่อย่าหาเรื่องใส่ตัว”
   
วาติกันยกดาบของมันขึ้นมากันดาบของผมก่อนที่มันจะโต้กลับผมอย่างดุดัน ซึ่งพอผมมองหน้ากับตัวมันชัดๆ ถึงรู้ว่ามันน่าจะเป็นไอ้มนุษย์บ้าที่ชนผมเมื่อกี้แถมยังหน้าตาเหมือนน้องชายดิออนอีก
   
ให้ตายเถอะ น้องเซนอะไรนั่นก็ตายไปตั้งนานแล้ว ทำไมผมยังต้องมาเจอลูกๆ หลานๆ อีกเนี่ย
   
“หาเรื่องใส่ตัวตรงไหน ก็แค่มาเดินห้างเฉยๆ ไหมอ่ะ”
   
ผมบ่นเซ็งๆ แต่ที่เซ็งกว่าคือไอ้วาติกันนี้มันเก่งมาก คือถ้าผมต้องสู้กับดิออนที่เป็นวาติกันก็คงจะประมาณนี้อ่ะ ผมแทบจะหาจังหวะทำร้ายมันไม่ได้เลย
   
เอาเข้าจริงผมสารภาพตามตรงว่าถ้าจะฆ่าวาติกัน ผมสามารถทำได้ง่ายๆ เลย แต่ผมยังไม่อยากให้เกิดสงครามระหว่างแวมไพร์กับวาติกันไง เลยต้องพยายามเลี่ยงจุดตายมันไปด้วย
   
ช่วงนี้สถานการณ์ก็สงบสุขดีอยู่แล้ว ผมไม่อยากเป็นคนจุดชนวนอะไรขึ้นมาหรอกนะ
   
“ครูซ บราวน์ รู้ไหมว่าแกทำอะไรลงไป”
   
“ทำอะไรล่ะ”
   
ผมหน้ามุ่ยเพราะผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมผมต้องเป็นคนผิดตลอดเลยเนี่ย ไอ้น้องเซนมันต้องแค้นดิออนกับผมมากแน่ๆ เลยอ่ะ ถึงได้ส่งต่อความแค้นกันมาได้ขนาดนี้
   
ทำไมถึงไม่มีใครมองว่าผมน่ารักบ้างเลย
   
“แกทำให้พวกเราต้องอับอาย!! แถมยังสร้างบาปมหันต์ให้กับเรา! ถ้าไม่ใช่เพราะแก ท่านดิออนก็คงไม่หลงผิดและหันหลังให้กับพระเจ้า! แถมยังต้องแบกรับบาปจากการเป็นพวกวิปริตผิดเพศอีก!”
   
“...”
   
ผมขมวดคิ้วค่อยๆ คิดตามที่มันว่าและต้องขมวดคิ้วมากกว่าเดิมเพราะเริ่มจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ที่แน่ๆ ที่ผมมั่นใจคือผมไม่ได้เป็นคนล่อลวงมันสักหน่อย!! พอรู้ว่ามันเป็นวาติกันผมก็หัวใจแทบวาย
   
“คนที่เป็นฝ่ายล่อลวงคือดิออนต่างหาก! ผมไม่ได้เป็นคนอ่อยสักหน่อย!”
   
ผมโวยวายเสียงดังลั่นเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง ก่อนที่พวกวาติกันจะเข้าใจผมผิดไปมากกว่านี้ ให้ตายเหอะ ภาพลักษณ์ผมในสายตาพวกวาติกันคงเป็นปีศาจตัวร้ายที่หลอกดิออนอ่ะ ซึ่งมันก็ผิดกับความจริงมากเพราะไอ้คนที่ดูเหมือนจะน่าสงสารก็เป็นคนเดียวกับที่ทำผมท้องในเวลาติดกันในเวลาไม่กี่ปีเนี่ยแหละ
   
“แล้วอีกอย่างนะ ถ้าจะเรียกว่าผมผิดเพศเพราะมีลูกไม่ได้ คนที่นายแทงอ่ะผมท้องเองตั้งหลายเดือน!!”
   
“...”
   
ไอ้วาติกันที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้มันก็ยืนช็อคไปเลย
   
ส่วนผมที่ขี้เกียจจะสนใจวาติกันไร้สาระนี้แล้วก็พุ่งไปหาลูกทันที
   
“เจ็บไหม”
   
ผมมองเสื้อสูทลูกที่ชุ่มเลือดทั้งน้ำตา ถึงจะไม่รู้ก็เหอะว่าทำไมเลือดถึงออกทั้งๆ ที่ไม่มีแผลก็เถอะ แต่ผมก็ร้องแล้วอ่ะ ลูกไม่ยอมร้อง ผมร้องให้เอง
   
“ไม่เจ็บ”
   
“แล้วทำไมไม่เจ็บอ่ะ”
   
ผมถามงงๆ คือก็ไม่ได้อยากให้ลูกเจ็บหรอก แต่ผมก็งงไง
   
“น้ำแดง”
   
ลูกผมตอบด้วยสีหน้าเหมือนเดิมแล้วยื่นแก้วน้ำแดงที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วให้ผม
   
“ผมซื้อให้แม่”
   
“...”
   
ผมร้องไห้เสียเที่ยวอีกแล้วเหรอเนี่ย
   
“ผมซื้อเสร็จแล้ว กลับบ้านเลยไหมครับ” ลูกผมหยิบถุงคุกกี้จากมือผมไปถือเอง แล้วเหลือบมองวาติกันที่เหมือนจะได้สติแล้วและกำลังจะมาตีกับผมอีกรอบ
   
“ยังไงซะ ปีศาจอย่างแกก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ พระเจ้าจะไม่ให้อภัยสวะอย่างแกแน่ๆ ครูซ!”
   
แน่นอนว่าคำด่าของเจ้าวาติกันนี่ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเจ็บสักนิด ผมเลยกะจะพูดตัดบทมันไปแล้วพาลูกกลับบ้าน แต่การ์วินกลับพุ่งเข้าไปตีกับวาติกันนี่อีกรอบซะงั้น
   
“การ์วิน!!”
   
ตอนอยู่สมาคมผมก็เห็นลูกไม่เห็นลูกใจร้อนไปตีใครแบบนี้นะ ปกติก็เห็นนิ่งๆ เย็นๆ เหมือนดิออนอ่ะ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่นอกจากเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันสองสามคน
   
“ถอนคำพูดซะ!! มนุษย์!!!”
   
“...”
   
สารภาพตามตรงว่าผมไม่เคยเห็นการ์วินโกรธขนาดนี้มาก่อน และลางสังหรณ์ของผมก็เดาว่าคนที่ตีกับวาติกันก่อนก็น่าจะเป็นการ์วินอีก
   
“มีอะไรต้องถอนวะ ปีศาจอย่างพวกแกมันก็ชั่วเหมือนๆ กันนั่นแหละ”
   
เจ้าวาติกันนั่นก็ยังคงปากดีไม่เลิก แต่ให้ตายเถอะ ชุดวาติกันที่มันใส่ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ดิออนใส่เลยอ่ะ เอาจริงๆ ผมก็ไม่อยากเปรียบเทียบกับชุดแวมไพร์หรอก แต่ตอนมันใส่ชุดวาติกันแล้วหล่อมาก
   
คิดไปคิดมาก็คิดถึงดิออนอ่ะ ไม่รู้เหงาไหมอยู่สมาคมคนเดียว ลูกก็ไปโรงเรียน มันก็คงนอนเศร้าคิดถึงผมอยู่ที่สมาคม ถึงผมจะเพิ่งออกมาจากสมาคมได้ไม่ถึงครึ่งวันก็เถอะนะ
   
“ขอโทษเดี๋ยวนี้ มนุษย์”
   
ผมตาโตอีกรอบตอนที่เจ้าวาติกันที่หน้าเหมือนน้องดิออนมากองแทบเท้าผมด้วยฝีมือการ์วิน ซึ่งสภาพของมันก็สะบักสะบอมมาก แย่กว่าผมตอนโดนประตูหนีบในร่างค้างคาวอีก
   
“..ไม่เป็นไรหรอก การ์วิน”
   
ผมพูดเสียงเบาเพราะลูกดูโกรธมากที่ผมโดนวาติกันดูถูกอ่ะ
   
การ์วินสบตากับผมซึ่งผมก็ใจชื้นนึกว่าลูกจะยอมปล่อยมนุษย์นี้แล้วกลับบ้าน แต่ลูกก็ยังรังแกเจ้าวาติกันที่น่าสงสารนี้เหมือนเดิม
   
“ขอโทษเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน”
   
ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอก็รู้อ่ะว่าลูกดิออน โหดเหลือเกิน ไม่บอกนึกว่าตอนผมเจอกับดิออนครั้งแรกอ่ะ กลั่นแกล้งผมที่เป็นแวมไพร์ที่รักสันติที่สุดในโลกไม่หยุด ส่วนเจ้าวาติกันนี้ก็ดูจะอายุไม่เท่าไหร่เอง ไม่น่าจะถึงยี่สิบด้วยซ้ำ โลกทั้งใบที่รู้จักก็คงมีแต่วาติกัน จะโดนล้างสมองแล้วเชื่อจนสนิทใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก คนที่แปลกก็คือดิออนต่างหากที่ไม่ยอมกลายเป็นพวกคลั่งศาสนาไปด้วย
   
แต่ให้ตายเหอะ ผมอายุจะพันปีแล้วยังตัวเล็กกว่ามนุษย์อายุไม่ถึงยี่สิบเหรอ!!!
   
โลกนี้มันชักจะใจร้ายกับผมเกินไปแล้วนะ!
   
“แม่เป็นอะไร”
   
การ์วินสะดุ้งทันทีที่อยู่ๆ ผมก็น้ำตาคลอเบ้า
   
“ทำไมลูกสูงแต่แม่ไม่สูงอ่ะ ไม่ยุติธรรมเลย!”
   
ผมงอแงเพราะไม่สูงสักที ที่อยากสูงก็ไม่ใช่อะไร ผมขี้เกียจเขย่งตอนจูบดิออนอ่ะ ไม่รู้ว่าเป็นแวมไพร์หรือเป็นเปรตกันแน่ สูงเหลือเกิน
   
“...”
   
ลูกเหมือนทำหน้าไม่ถูกไปสักพักก่อนจะกลับมาขึงขังอีกรอบตอนที่วาติกันพยายามจะขืนตัวหนี
   
“ขอโทษก่อนสิ แล้วผมจะปล่อย”
   
เจ้าวาติกันหน้าบูดกว่าเดิมแต่สุดท้ายก็ยอมขอโทษเพราะโดนลูกผมใช้เข่ากดตัวแรงจนร้องโอดโอยไม่หยุด
   
“โอ๊ย พอแล้วๆ ขอโทษ ขอโทษก็ได้ ปล่อยสักที”
   
การ์วินสบตากับผมอีกครั้งเหมือนจะถามว่าพอใจรึยัง แต่ผมก็ไม่ได้โกรธตั้งแต่แรกไง
   
“กลับบ้านเถอะ การ์วิน พ่อคิดถึงแย่แล้ว”
   
ผมพยักหน้าแกนๆ เชิงรับรู้ ลูกผมถึงยอมปล่อยเจ้าวาติกันนั่นแล้วเดินกลับมาหาผม นัยน์ตาสีฟ้าแบบเดียวกับผมยังดูขุ่นเคืองไม่หายที่ผมโดนดูถูก
   
แง ผมไม่ชอบให้ลูกต้องเป็นห่วงผมแบบนี้เลยอ่ะ
   
ผมที่คิดไม่ออกว่าจะเปลี่ยนเรื่องคุยยังไงดีเลยกินน้ำแดงที่ลูกให้มาสองสามอึกแล้วยิ้มจนตาหยี
   
“ขอบคุณที่ซื้อให้แม่นะ แต่ร้านนี้หวานมากเลยอ่ะ ถ้ากินหมดแก้วแม่คงต้องตัดขาอ่ะ”
   
ลูกผมหัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มบางให้ผม
   
“กลับบ้านกันเนอะ”
   
ผมจับมือลูกกึ่งบังคับให้กลับเพราะอยู่นานกว่านี้เกรงว่าเจ้าวาติกันนี่จะเรียกพวกมายำผมเพิ่ม
   
“ครับ”
   
การ์วินรับคำเนือยๆ ดูไม่เต็มใจเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรรีบพาลูกกลับบ้านเพื่อที่จะได้กลับไปอ้อนดิออนสักที ผมต้องการคนโอ๋จะแย่อยู่แล้ว ซึ่งระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านผมก็ไม่ลืมจะเตี๊ยมกับลูกไว้กับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
   
“ห้ามบอกพ่อนะว่าแม่หลงทางอ่ะ”
   
“..เดี๋ยวนะ แม่หลงทางเหรอ”
   
ลูกผมที่นั่งสัปหงกอยู่ถึงกับตื่นขึ้นมาคุยกับผม
   
“ก็หลงอ่ะ ห้างใหญ่ขนาดนั้นใครจะไปจำได้”
   
ผมก้มหน้างุดเพราะไม่อยากให้ลูกจับได้ว่าผมจำได้แต่ทางไปซื้อขนม
   
“แต่ร้านเสื้อผมกับร้านคุกกี้มันห่างกันนิดเดียวเองนะ แม่ แค่เดินตรงๆ ก็เจอแล้ว”
   
“...คราวหน้าเอาพ่อมาด้วยก็ได้”
   
ไม่แค่คราวหน้าอ่ะ ทุกครั้งเลย
   
ผมจะไม่มาห้างกับลูกสองคนอีกแล้ว!

------------
 :katai4:

ออฟไลน์ GDNEE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 22 29/5/20 p.8
«ตอบ #233 เมื่อ01-06-2020 00:57:21 »

55555555 น่ารักแท้ 2คนนี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 22 29/5/20 p.8
«ตอบ #234 เมื่อ01-06-2020 09:26:50 »

ความครูซนี้.....เป็นเอ็นดู  :hao7:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 22 29/5/20 p.8
«ตอบ #235 เมื่อ02-06-2020 08:26:57 »

เอ็นดูครูซ

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 22 29/5/20 p.8
«ตอบ #236 เมื่อ02-06-2020 18:25:37 »

ลองสองแล้วยังน่ารักเหมือนเด็กสิบขวบอยู่เลยหนูครูซ. เป็นเอ็นดู 55555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 22 29/5/20 p.8
«ตอบ #237 เมื่อ02-06-2020 19:51:31 »

คุณแม่ครูซน่ารัก

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 23 12/6/20 p.8
«ตอบ #238 เมื่อ12-06-2020 01:06:20 »

ตอนที่ 23

   
ช่วงนี้ชีวิตผมสงบมากแต่ในความสงบก็มีความเหงาซ่อนอยู่ เพราะทุกคนยุ่งมาก ดิออนหลังจากเป็นแวมไพร์เต็มตัวก็ได้รับมอบหมายให้เป็นครูสอนประวัติศาสตร์ทั้งของมนุษย์และวาติกัน ช่วงนี้วันๆ มันก็ยุ่งกับการเตรียมการสอบที่จะถึงนี้เลยไม่ค่อยมีเวลามาเอาใจผมสักเท่าไหร่
   
เอาเข้าจริงในสมาคมแวมไพร์ก็คงมีแต่ผมอ่ะที่ว่างได้ตลอด จริงๆ ก็ยุ่งแหละ แต่พองานเยอะเกินไปผมก็จะโวยวายน้องและผลลัพธ์ที่ได้คือช่วงเดือนนี้ผมว่างยาวเลย ไม่มีอะไรต้องทำนอกจากเลี้ยงลูก
   
แต่ให้ตายเหอะ ตอนนี้ขนาดผมจะเลี้ยงลูกผมยังไม่ได้เลี้ยงเลย!!!
   
การ์วินไปโรงเรียนพวกมนุษย์แล้ว อลิสช่วงนี้ก็ไปทัศนศึกษาที่ประเทศอื่น ส่วนครูซนอกจากกินขนมก็ไม่ทำอะไรเลย นี่ผมอายุจะหนึ่งพันจริงไหมหรือเป็นแค่ข่าวปลอม (รอยตีนกาผมขึ้นแล้ว แต่ผมจะไม่พูดถึงมัน)
   
“ถ้าพี่ว่างมาก พี่ก็มาช่วยผมทำเอกสารก็ได้นะ”
   
เซนที่เห็นผมนั่งหงอยคนเดียวในสวนดอกไม้เดินมาทักผม
   
“ไม่”
   
ผมส่ายหัวแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
   
เบื่อจัง จะไปเล่นข้างนอกก็ไม่อยากไปคนเดียว จะให้ไปฟังดิออนสอนก็ไม่ได้ใหญ่ ผมหลับตั้งแต่วินาทีแรกที่มันพูดแน่ๆ แล้วผมก็ไม่อยากเป็นเด็กโข่งในห้องด้วย
   
“แต่พี่นั่งตรงนี้มาครึ่งวันแล้วนะ”
   
“พี่จะนั่งหลับตรงไหนก็ได้ไหมอ่ะ”
   
ผมหน้ามุ่ยทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องไม่เห็น
   
“แฟนพี่บอกให้ผมมาดูพี่เนี่ย เห็นบอกว่าช่วงนี้ซึมๆ ”
   
“เปล่าสักหน่อย”
   
ผมปฏิเสธแต่ก็ซึมจริง เมื่อเช้าผมก็เพิ่งทะเลาะกับดิออนไปเองเพราะผมงี่เง่าไม่อยากให้มันไปสอน คือช่วงนี้งานมันยุ่งจริงอ่ะแทบไม่ได้คุยกับผมเลย กลับมาก็หลับแล้ว ไม่รู้ว่าสมาคมจะใช้งานแฟนผมอะไรนักหนา!
   
วันๆ ผมก็คุยอยู่แค่ไม่กี่คนเอง เพื่อนผมก็อยู่บ้างไม่อยู่บ้าง
   
“ไปนั่งเล่นในห้องผมก็ได้นะ ถ้าพี่เหงา ไม่ต้องทำงานก็ได้”
   
น้องผมก็ยังห่วงผมเกินเหตุ แต่น้องเหมือนลืมว่ากำลังคุยกับแวมไพร์ที่กำลังจะอายุพันปีและมีลูกสองคนแล้ว
   
“ไม่ต้องห่วงพี่หรอก ไปทำงานเถอะ”
   
ผมโบกมือไล่น้องชิ่วๆ แล้วฟุบต่อ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าจะอยู่ตรงนี้ไปอีกนานแค่ไหน ดีหน่อยที่วันนี้ไม่ค่อยมีแดด ไม่งั้นผมคงจะกลายเป็นค้างคาวแดดเดียวไปตั้งนานแล้ว
   
“แน่ใจนะ”
   
“อือ”
   
ผมตอบส่งๆ แล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย และค้นพบว่าผมกับดิออนคบกันมานานมาก แต่ผมกับมันก็แทบจะไม่ทะเลาะกันเลยเพราะที่ผ่านมามันจะยอมผมตลอด ซึ่งวันนี้มันก็ยอมผมเหมือนเดิมแหละ แต่บรรยากาศมันก็ไม่ได้เหมือนเดิมอยู่ดี
   
ผมงี่เง่าเองและผมก็ไม่รู้ว่ามันจะรำคาญผมที่เป็นแบบนี้ไหม
   
มันคงไม่หาเมียใหม่หรอก แต่มันจะเบื่อผมไหมเนี่ยแหละ ประเด็น
   
แค่คิดว่ามันเบื่อผม ผมก็จะร้องไห้แล้ว แงงงง สมมุติว่าถ้ามันเลิกกับผมแล้วไปควงแวมไพร์สักคนในสมาคมแทน ผมคงร้องไห้จนแห้งตายอ่ะ
   
แต่ก็นะมันก็คงเกิดขึ้นจริงไม่ได้หรอกเพราะพ่อผมก็คงไม่ยอมอ่ะ แต่ถ้ามันหมดรักผมจริงๆ ล่ะ ผมต้องอยู่คนเดียวไปอีกหลายพันปีเลยเหรอ นี่มันชักจะโหดร้ายเกินไปแล้วนะ ใจผมก็แค่นี้เอง!!!
   
ถ้ามันเลิกกับผมจริงๆ ผมคงจะหนีจากสมาคมไปเป็นพวกโกสต์อ่ะ หนีไปอยู่โลกใต้ดินแล้วไม่ต้องสนใจอะไรอีก แล้วผมก็จะกินขนมกับนอนทั้งวันเลย!
   
“..ฮึก”
   
ทำไมน้ำตาผมถึงไหลอ่ะ เดี๋ยวก่อน ผมแค่เศร้านิดหน่อยเอง แต่น้ำตาแตกแล้วอ่ะ นี่มันไวพอๆ กับตอนที่ผมนั่งร้องไห้เป็นเพื่อนอลิสตอนลูกหกล้มครั้งแรกอ่ะ ผลที่ได้คือลูกงงแล้วนั่งปลอบผมแทน
   
ให้ตายเหอะ ผมว่าผมคงเป็นแวมไพร์ที่ขี้แยที่สุดในสมาคมแล้วมั้งเนี่ย ถ้ามีตำแหน่งขี้แยประจำปีคงติดผมทุกปีอ่ะ ไม่มีใครแย่งเพราะคงไม่มีใครมานั่งงอแงทั้งวันเหมือนผม
   
ถ้าเกิดดิออนมีเมียใหม่แล้วเอามาแนะนำให้ผมอ่ะ ผมจะต้องทำหน้ายังไง ยิ้มเหรอหรือร้องไห้ใส่ดี ไม่สิ มันยังไม่เกิดขึ้นสักหน่อย ผมจะคิดรอทำไมเนี่ย
   
แต่แค่คิดว่าจะโดนเมียใหม่ดิออนเชิดใส่ผมก็จะอกแตกตายแล้ว ถึงผมจะเป็นแบบนี้แต่ผมว่าผมก็มีข้อดีบ้างแหละ ไม่งั้นดิออนมันจะเอาผมเป็นเมียตั้งแต่แรกทำไม
   
แต่มันจะหาเมียใหม่จริงๆ เหรอ ก็มีผมทั้งคนอ่ะ มันจะใจร้ายกับผมเกินไปแล้วนะ!
   
“ครูซ”
   
ผมที่มัวแต่งอแงอยู่คนเดียวสะดุ้งเฮือกตอนที่ได้ยินเสียงคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่ข้างหลัง ผมรีบเอาหลังมือเช็ดๆ น้ำตาออกเพราะไม่อยากให้มันรู้ว่าผมร้องไห้
   
“ไม่ทำงานเหรอ”
   
ผมถามมันแต่ไม่ได้มองหน้ามัน ก้มมองต้นหญ้าบนพื้นที่อยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามันสวยมาก
   
“อืม ปล่อยให้ทบทวนกันเอง”
   
ผมขมวดคิ้วเพราะไอ้ต้นหญ้าที่ผมมองอยู่โดนดิออนเหยียบจนแบนแต๊ดแต๋ไปแล้ว
   
“ครูซ”
   
“ว่า”
   
ผมคุยกับมันทั้งๆ ที่ไม่สบตากับมัน คือผมรู้ไงว่าถ้ามองหน้ามัน ผมร้องไห้แน่ๆ เพราะไอ้เรื่องดิออนจะมีเมียใหม่ยังอยู่ในหัวผมอยู่เลย แน่นอนว่าผมไม่อยากให้รู้ว่ามันคิดอะไรไร้สาระอยู่ ทุกวันนี้ผมก็ไร้สาระเกินพอละ
   
“ร้องไห้เหรอ”
   
“ไม่ได้ร้องสักหน่อย ผมแสบตาเฉยๆ ตรงนี้แดดแรงมาก”
   
อะไรกัน ผมว่าผมก็เนียนอยู่นะ
   
“ร้องทำไม”
   
“ไม่ได้ร้อง”
   
“ไม่ได้ร้องก็มองหน้าฉัน”
   
“ฮื่อ!”
   
ผมหน้าบูดแต่ก็เงยหน้ามองมันเพราะยังไงก็คงปิดมันไม่ได้อยู่ดี
   
ก็อยู่กันมาจนถึงขนาดนี้แล้วอ่ะ
   
“ร้องไห้ทำไม”
   
ดิออนมันขมวดคิ้วมองผม 
   
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง นายไม่ต้องสงสัยหรอก กลับไปทำงานได้แล้ว”
   
ผมพยายามไล่มันไปก่อนที่จะเผลอหลุดปากออกไป
   
“ถ้าไม่มีอะไรก็หยุดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้สักที” ดิออนถอนหายใจแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ผม “มีอะไรก็พูดเถอะ วันนี้ฉันไม่กลับไปสอนแล้ว”
   
“…”
   
โอ๊ย นี่ผมต้องพูดจริงๆ เหรอ นี่มันจะน่าอายเกินไปแล้ว
   
คือตอนคิดเรื่องนี้มันไม่ได้นั่งข้างๆ แบบนี้ไง
   
“ครูซ”
   
“เออ ผมกลัวนายเบื่อผมแล้วไปมีเมียใหม่ มันก็แค่นั้นแหละ”
   
ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้หึงมันเท่าไหร่ เพราะหลังจากผ่านมาหลายร้อยปี ผมก็ยังไม่เห็นมันสนิทกับใครในสมาคมเป็นพิเศษเลยนอกจากน้องชายผมที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่มันคุยเยอะที่สุดแล้วรองจากผม
   
เออแต่จะว่าไป ผมก็ไม่ค่อยเห็นมันหึงผมเลย
   
ใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ!!
   
“…”
   
ดิออนมันนิ่งไปเหมือนยังอึ้งก็คำตอบอยู่ ส่วนผมน้ำตาแตกแล้ว ถ้าพ่อมาเห็นตอนนี้ได้วิ่งมาปาดคอดิออนแน่ ถึงผมจะอายุขนาดนี้แล้วก็เหอะ ในสายตาพ่อผมคงอายุร้อยกว่าๆ เองมั้ง
   
“นายจะมีเมียใหม่จริงๆ เหรอ ดิออน!! นี่มันจะเกินไปแล้วนะ”
   
ผมโวยวายอย่างลืมตัว ดีหน่อยที่สวนตรงนี้ไม่ค่อยมีคนมาเท่าไหร่เพราะอยู่ไกลจากคฤหาสน์มากแถมเวลาปกติแดดยังแรงอีก ตอนนี้ผมเลยร้องไห้ได้เต็มที่
   
“นายไม่รักผมแล้วใช่ไหม”
   
ผมสะอื้น
   
“ฮึก ผมมันน่ารำคาญใช่ไหมล่ะ แต่จะให้เปลี่ยนตอนนี้มันก็ไม่ได้แล้วไหมอ่ะ แถมตอนนี้รอยตีนกาผมก็ขึ้นแล้วด้วย แงงงง ผมไม่อยากเลี้ยงลูกคนเดียวนะ”
   
คือถ้าไม่ติดว่าผมเป็นแวมไพร์ ผมคงจะโวยวายด้วยแล้วว่าไม่กล้านอนคนเดียวเพราะกลัวผีในห้อง
   
“ใจเย็นๆ ”
   
ดิออนมันเหมือนจะยังงงอยู่แต่มันก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามันมาเช็ดน้ำตาให้ผม
   
“ฮึก นายอยากจะมีเมียใหม่สวยๆ ใช่ไหมล่ะ บอกผมมาตอนนี้เลยก็ได้ ผมจะได้ทำใจรอ”
   
ผมสะอื้นมองมันทั้งน้ำตา
   
นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมกับมันได้คุยกันในฐานะคนรักก็ได้!
   
ผมรอคำตอบมันอย่างใจเย็นและเตรียมร้องไห้อีกรอบ ถ้าคำตอบมันใจร้ายกับผมเกินไป
   
ดิออนมองหน้าผมแล้วคิดอยู่สักพัก ก่อนที่สีหน้ามันจะกลับมาจริงจังมากจนผมแทบจะร้องไห้
   
ถ้ามันทิ้งผมผมจะไปอยู่กับพวกโกสต์จริงๆ ด้วย!!
   
“นายท้องเหรอ”
   
“...”
   
รอบนี้เป็นผมที่อึ้งบ้าง ผมงงไปเลยส่วนดิออนก็มีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัด มันเอามือแนบกับท้องผมทันทีเหมือนจะพยายามหาว่าในท้องผมมีอะไรซ่อนอีกไหมนอกจากขนม
   
“ท้องอะไรล่ะ ผมไม่ได้ท้องสักหน่อย!”
   
ผมหน้าแดงแล้วพยายามดึงมือมันออกแต่ก็ไม่สำเร็จ แต่ยังไงผมก็ไม่ท้องแน่ๆ อ่ะ ท้องมาสองรอบแล้ว ผมก็พอรู้อาการแล้วอ่ะว่ามันเป็นแบบไหน
   
“แล้วร้องไห้ทำไม”
   
มันขมวดคิ้วมองผมแต่มือมันก็ยังลูบท้องผมอยู่
   
“ก็ช่วงนี้นายไม่สนใจผมอ่ะ”
   
“นายก็เลยคิดว่าฉันอยากมีเมียใหม่สวยๆ ?”
   
“อือ”
   
ผมพยักหน้าหงอยๆ
   
“แล้วนายไม่สวยเหรอ”
   
“...”
   
ผมขมวดคิ้วเพราะไม่แน่ใจว่ามันชมหรือด่าผมกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือดิออนมันก็ยังหล่อเหมือนเดิมอ่ะ ส่วนผมที่เริ่มแก่แล้วก็ตามสภาพ แถมช่วงนี้ผมก็ปวดหลังบ่อยมากด้วย
   
ผมกำลังจะงอแงใส่มันอีกก่อนจะร้องเสียงหลงตอนที่มันย้ายมือจากท้องผมไปที่สะโพกแล้วอุ้มผมเข้าไปในป่าข้างหลังสวน ให้ตายเหอะ นี่มันสถานการณ์อะไรกันเนี่ย!
   
“นายจะเอาผมไปทิ้งในป่าเหรอ!!! นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!!!”
   
ผมที่เริ่มเบื่อบทโศกโวยวายเสียงดังลั่น
   
ทิ้งที่ผมหมายถึง มันไม่ใช่ทิ้งแบบนี้ไหมอ่ะ!
   
“ผมจะฟ้องพ่อ! ฟ้องทุกคนเลย! ว่านายใจร้ายกับผมขนาดนี้!!!”
   
ทำไมต้องใจร้ายกับครูซด้วย!      
   
“…”
   
แต่ถึงผมจะโวยวายเท่าไหร่ ดิออนมันก็ไม่สนใจแล้วมันก็พาผมเข้าหลังพุ่มไม้ ผมพยายามจะดิ้นออกแต่แรงของมันก็เยอะมากจนผมทำอะไรไม่ได้
   
“อย่าร้อง”
   
มันบอกผมหลังจากที่นั่งลงบนพื้นหญ้าแล้วมันก็ให้ผมนั่งบนตักมันอีกที
   
“แล้วพาผมมาตรงนี้ทำไม”
   
ผมหน้าบูดแต่เพราะมันกอดเอวผมหลวมๆ อยู่ ผมก็เลยอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย
   
“ทิ้ง”
   
ดิออนตอบง่ายๆ ด้วยสีหน้าปกติ
   
“ดิออน! ผมจะงอนจริงๆ แล้วนะ”
   
มันหัวเราะแล้วรวบตัวผมไปกอดก่อนที่มันจะฝังหน้ากับไหล่ผม
   
“น่ารักขนาดนี้ทิ้งไม่ลงหรอก”
   
“...”
   
ให้ตายเหอะ ผมคิดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ
   
ดิออนที่เหมือนจะแค่กอดผมจะไม่หนำใจ มันก็หอมแก้มแล้วก็ฟัดผมอีกจนผมเริ่มรู้ละว่ามันพาผมมันหลบในนี้ทำไม
   
“ส่วนเรื่องเมียใหม่ก็เลิกคิดสักที ฉันมีนายเป็นเมียคนเดียวก็พอแล้ว”
   
ผมหัวเราะคิกคักเพราะมันยังไม่หยุดฟัดผมอ่ะ คือถ้าตัวผมทำจากคุกกี้ก็คงหักไปทั้งตัวแล้ว
   
“..ก็ช่วงนี้นายไม่ค่อยสนใจผมอ่ะ ผมอุตส่าห์หาเวลาว่างมาอยู่ด้วย”
   
“ขอโทษ”
   
มันหยุดฟัดผมแล้วมองผมด้วยสีหน้าอ่อนลง
   
“ผมไม่อภัยหรอก”
   
ผมก็รู้แหละว่าดิออนเป็นคนที่จริงจังกับงานอ่ะ แล้วงานสอนหนังสือนี่มันก็ได้รับมอบหมายจากพวกผู้อาวุโสด้วย แต่ผมก็น้อยใจอ่ะ มันบ้างานมาเกือบอาทิตย์แล้ว และผมก็แค่อยากคุยกันเล่นกับมันก่อนนอนบ้างเท่านั้นเอง
   
“แล้วต้องทำยังไงถึงจะให้อภัย”
   
มันดึงมือผมไปจูบ คือถ้าตอนนี้อยู่ในห้องมันคงจูบเท้าผมไปแล้ว
   
“เลิกงานก็สนใจผมบ้าง ถึงผมจะโตแล้วแต่ผมก็ยังต้องการความรักนะ”
   
ผมหน้าบึ้งตอนที่นึกออกว่าทำไมผมถึงได้งอนมันขนาดนี้
   
“เมื่อวานก่อนนอนนายก็ลืมจูบผมด้วย!”
   
“...จูบชดเชยได้ไหม”
   
ผมยังไม่ทันตอบมันก็ก้มลงมาจูบผมแล้ว ผมหลับตาและเปิดปากให้มันสอดลิ้นเข้ามาอย่างพึงพอใจ เพราะมันรู้ว่าผมชอบจูบแบบไหน
   
“..ดิออน”
   
ผมเรียกมันเสียงสั่นตอนที่มันเริ่มถอดเสื้อผมออก
   
“น้องผมยังอยู่แถวนี้นะ”
   
ถึงจะเข้ามาหลบในนี้แล้วก็เถอะแต่ผมก็กลัวน้องมาเจออยู่ดี
   
“น้องนายไม่รู้หรอก”
   
ผมหน้าแดงกว่าเดิมเพราะตอนนี้มันง่วนอยู่กับหัวนมผมแล้ว ซึ่งผมก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้ผมมีอารมณ์มากกว่าเดิมอีก
   
ผมพยายามกลั้นเสียงครางและขยำเสื้อมันแน่น บรรยากาศรอบข้างเงียบจนผมได้ยินแค่เสียงหอบของตัวเองกับเสียงลามกที่ดิออนทำกับผม
   
“อาจจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำ”
   
มันยิ้มบางแล้วดึงมือผมไปจับท่อนลำที่แข็งจัดของมัน
   
“ที่สมาชิกของสมาคมจะเพิ่มขึ้นอีก”

--------------
 :z13:   

   



   
   
   
   
   
   



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { เรื่องสั้น } VAMPIRE PROBLEM ;w; ### 23 12/6/20 p.8
«ตอบ #239 เมื่อ12-06-2020 21:48:36 »

ครูซ...ซซซซซซซซซซซซซซ   o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด