เพื่อนพ่อ ตอนพิเศษ ยอมรับ
"อ้ะ อ้า อาทัชครับ เจ็บ ลึกไป" ยามนี้ใบหน้าแดงจัดของคนหล่อชื้นเหงื่อเนื่องจากคนรักกำลังกระแทกกระทั้นแก่นกายแข็งจัดเข้ามาจนสุดโคน สาเหตุที่คายัค ต้อง
ยอม 'รับ' อยู่ตอนนี้ มันมาจากความ 'หึงหวง' ของคนอายุมากกว่า
"อาชอบครับ ทำให้ไม่ได้เหรอ? ซี้ดอ่า" ย้อนกลับไปยังต้นเหตุของการมาร่วมรักกันภายใต้ห้องนอนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
.
.
.
"มีอะไรหรือเปล่า ตุ๊กตา?" บัดนี้ คายัคเรียนอยู่มหาฯลัยแล้ว เขาเป็นนักศึกษาระดับชั้นปีที่สอง
ชายหนุ่มกำลังถามเพื่อนร่วมห้องที่นัดมาเจอ ณ บ่ายแก่ๆของวันสุดท้ายในการสอบปลายภาคของมหาวิทยาลัย
"เราชอบคายัค" เธอก้มหน้า ห่อไหล่บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปอย่างไม่มั่นใจ เพราะกลัวในคำตอบ
"เราขอโทษนะตุ๊กตา เรามีแฟนแล้ว"
"คายัคมีแฟนแล้วหรอ?" นิสิตสาวเงยหน้ามองเพื่อนด้วยแววตาแดงก่ำ ปากสั่นระริก เธอผิดหวังเพราะไม่คิดว่า คายัคจะมีแฟนแล้ว เนื่องจากคายัคไม่เคยแพร่งพรายเรื่องส่วนตัวให้ใครได้รู้ ทุกวันที่คายัคมาเรียน เขาเล่น คุยเฮฮากับเพื่อนก็จริงๆแต่ก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้
"ใช่ เราคบมานานแล้วล่ะ และไม่เคยคิดนอกใจด้วย"
ได้ยินดังนั้น เธอยิ่งเสียใจหนักกว่าเดิม ดูเหมือนว่าคายัคจะรักแฟนมากจนเธอชักอิจฉา นึกอยากเป็นคนนั้น คนที่คายัคได้ดูแลและเอาอก เอาใจ
ฟากคายัคมองเพื่อนในกลุ่มก็รู้สึกสงสาร แม้คายัคอยากหาคำพูดมาถนอมน้ำใจ เพราะกลัวเธอร้องไห้ แต่คายัคก็มาตระหนักได้ว่า การพูดความจริง คือ สิ่งที่ดีที่สุด
ตั้งแต่ที่คายัคและอินทัชปรับความเข้าใจกันได้ ทั้งสองก็มีแต่เพิ่มเติมความรักไม่มีขาด และไม่เคยมีเรื่องราวให้กวนใจจนทะเลาะกันใหญ่โต ส่วนใหญ่ที่ทะเลาะมักเป็นเรื่องเล็กๆหยุมหยิมให้ปะทะฝีปากกันบ้างบางคราว อย่างเช่น คายัคตื่นแล้วไม่ชอบพับผ้าห่ม, ร่วมรักกันถี่เกินไป หรือไม่ก็ มีคนแอบมองคายัคบ้าง อินทัชบ้าง ก็แอบบ่น แอบงอนเล็กน้อย นับว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไร ก็ถือเป็นสีสันในชีวิตให้ไม่จืดชืดเกินไป
ส่วนเรื่องมารดาของอินทัชก็ดูจะคาดหวังในตัวลูกชายน้อยลง ไม่มีพูดถึงการอยากได้หลาน หรืออีกนัยหนึ่ง มารดาของอินทัชชอบอก ชอบใจในตัวคายัคจนหลงพอสมควร หลังจากที่อินทัชพาไปหาที่บ้านบ่อยๆ คายัคเริ่มรู้จักการป้อนคำหวานใส่คุณย่าแถมทำตัวน่าเอ็นดู จึงไม่แปลกที่คนแก่จะได้ปลื้มกับเด็กที่ออดอ้อนเอาใจและมีสัมมาคารวะ ถึงแม้ว่า ตอนนี้ คายัคและอินทัชยังคงต้องปกปิดความสัมพันธ์ที่แท้จริง แต่เพียงเห็นแม่มีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมันก็เป็นสัญญาณที่ดี
หลังจากย้อนคิดเรื่องความรักของเขาสองคน คายัคก็หลุดยิ้มออกมาจนตุ๊กตาสังเกตเห็นแอบสบตามองด้วยแววตาเศร้า
เมื่อเห็นเพื่อนในกลุ่มยืนร้องไห้ที่ไม่สมหวังกับความสัมพันธ์ คายัคจึงดึงตุ๊กตามาใกล้เพื่อปลอบใจ
ชายหนุ่มค่อยๆลูบเรือนผมหญิงสาวช้าๆ แล้วกดตาลงต่ำมองคนตัวสั่นระริก เอียงหัวมาซบหน้าลงที่อก
"ขอโทษนะที่เราทำให้ตุ๊กตาไม่สมหวัง"
"ฮืกกฮืออ...เราเข้าใจคายัค เราเข้าใจ น่าอายจัง เราไม่น่าพูดมันออกมาเลย"
"น่าอายตรงไหน? ดีซะอีกที่ตุ๊กตาพูดออกมา อย่างน้อยก็ถือซะว่า ได้ทำในสิ่งที่ใจสั่งให้ทำไง อย่าคิดมากนะ" ตุ๊กตารู้สึกเสียดายที่เธอมาช้าไป คายัคทั้งหล่อ น่ารัก นิสัยดี มีอารมณ์ขันและยังเห็นอกเห็นใจผู้อื่น นี่แหละคือ คุณสมบัติที่ตุ๊กตาหลง จนเผลอแอบรัก เพื่อนตัวเอง...
หญิงสาวช้อนตามองเพื่อนในอ้อมกอดอันอบอุ่น เธออยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆจัง
"คายัคจะไม่เลิกเป็นเพื่อนกับเราใช่ไหม?"
"ทำไมต้องเลิกเป็นเพื่อนล่ะ ตุ๊กตาก็แค่มีความรู้สึกเกินเลยที่เผลอชอบเรามากกว่าเพื่อน แต่ตุ๊กตาไม่ได้เป็นโจรไปฆ่าใครสักหน่อย อย่าคิดมากน่า" ยิ่งคายัคพูดแบบนี้ ตุ๊กตาก็ยิ่งจะทวีความรักไปอีก คายัคน่ารักในสายตาตุ๊กตาเสมอ...
แม้ว่าคายัคจะมีแฟน แต่ถ้าหลังจากนี้ ตุ๊กตาจะขอแอบรักข้างเดียวอย่างนี้ไปเรื่อยๆจะได้ไหม?
ขณะที่หญิงสาวยืนคิดในใจ เธอชะงักและใจเต้นแรงเมื่อชายหนุ่มก้มหน้าลงมาด้วยรอยยิ้มพร้อมใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาให้เธอ
คายัคอ่อนโยนกับเธอจริงๆ...จังหวะที่หญิงสาวก้มหน้างุดเพราะใจสั่นกับสิ่งที่คายัคทำ
ทันใดนั้น เธอได้ยินเสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาจากระยะไกล...
"คายัคครับ"
คายัครีบหันขวับไป เขาสะดุ้งเฮือก ตกใจที่เห็นคนรักจ้องเขม็ง
"ฉิบหายย!!!!" สบถในลำคอ อาทัชรู้ได้ไงวะ? ว่ากูอยู่ใต้ตึกนี้...
คนที่กำลังปลอบใจเพื่อนที่ผิดหวังจากการแอบรักเพื่อน ยืนหน้าซีดเผือก
นี่กูกลายเป็นคนกลัวแฟนไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?...
"อะเอ่อ ตุ๊กตา อย่าเครียดนะ เรากลับก่อน ไปล่ะ"
ไม่ต้องรอให้ตุ๊กตาตอบรับ ชายหนุ่มก็วิ่งไปหาอาทัชที่ยืนกอดอกรออยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกล...พอเห็นคายัคเดินไป อาทัชก็นำไปที่รถโดยไม่พูดไม่จา จนกระทั่งทั้งสองสอดตัวเข้ามาในรถยนต์ได้แล้ว คายัคถึงหาเรื่องชวนคุยด้วย
"อาทัชมาเมื่อไหร่ ไม่เห็นบอกผมเลยครับ"
"หวานดีเนอะ" กลืนน้ำลายเอื้อกๆที่เห็นใบหน้าแต้มยิ้ม แต่ทว่า แววตาที่มองมาช่างแสดงออกอย่างตรงกันข้าม
"โธ่อาทัชอย่าประชดสิครับ พอดีเพื่อนมีปัญหาครอบครัว ผมเลยรับฟังและปลอบใจไป"
"งั้นเหรอ? แล้วคายัคอยากมีปัญหาครอบครัวเหมือนเขาไหม?"
เจอประโยคนี้เข้าไป เหมือนมีเวทมนตร์เสกคาถาให้วิญญาณจะหลุดออกจากร่างยังไงไม่รู้
"อ่า รักกัน รักกันนะ ที่รักของผม" คายัคบอกอย่างเอาใจแล้วโถมตัวไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ ยื่นหน้าไปใกล้และงับดึงริมฝีปากล่างอาทัชช้าๆ หยอกเย้าเพลิดเพลิน ก่อนจะใช้ปลายลิ้นเล็มเลียทั่วกลีบปากสีสด มือเรียวก็ล้วงเข้าไปยังกางเกงในควานหาส่วนกลางลำตัวอันอุ่นร้อนที่เริ่มตอบสนองด้วยการแข็งขืน
"อย่า ไม่มีอารมณ์"
"อาทัชครับ ของแบบนี้ มันโกหกไม่ได้หรอกนะ แข็งขนาดนี้"
"คายัคปล่อยครับ อาจะขับรถ ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ"
ได้ยินน้ำเสียงเข้มไม่มีหยอกล้อ คายัคจึงปล่อยมือ แล้วขยับตัวมานั่งดีๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยง้อต่อตอนถึงบ้านก็ได้
.
.
.
.
"ต้องทำยังไง ถึงจะหายโกรธกันครับ? ฮึ บอกผมซิ"
ยามนี้คนที่เดินขึ้นมาบนห้องกำลังง้อคนอายุมากกว่าสุดฤทธิ์ คายัคสวมกอดอาทัชจากด้านหลัง ทั้งยังขบเม้มใบหูพร้อมกระซิบเสียงแผ่ว
"ยอม 'รับ'.."
"ยอมรับอะไรครับ? ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย"
"ยอมเป็นฝ่าย...รับ..." ไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่เพราะรักถึงยอม
และจุดนั่นเอง จึงเป็นที่มาของเสียงครางที่กล่าวไปก่อนหน้า
กลับมายังปัจจุบัน ที่ชายสองคนเปลือยกายร่วมรักกันอย่างสุขสันต์
กึกๆๆ
ยามนี้ ขาเตียงกระทบกับพื้นห้องจนก่อเกิดเสียงกึกกักดังพร้อมกับแรงสั่นจากการเด้งสะโพก โยกรัวเร็วไม่มียั้ง เพราะอินทัชกำลัง...
พรวด..
ของเหลวสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกมาจนเลอะหน้าท้องของคายัค ร่างกายอินทัชกระตุกเกร็ง ก่อนที่เจ้าตัวจะโถมตัวลงไปนอนทาบทับคนใต้ร่างเพื่อประกบริมฝีปากเข้ากับปากสีสด ดูดเม้มอย่างรุนแรง ตามมาด้วยปลายลิ้นที่สอดลึกเข้าไปด้านใน เกี่ยวกระหวัดจนแทบจะหยุดหายใจ จากนั้นอินทัชก็ผละ...
ยกยิ้มชอบใจที่คนรักยอมตามใจ มองใบหน้าหล่อเหลาที่โตเป็นหนุ่มและอะไรหลายๆอย่างของคายัคก็โตตามวัยจนคนที่มีโอกาสได้สัมผัสคายัคตั้งแต่เด็กจนโตก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นทุกการเปลี่ยนแปลง
"เพราะรักถึงยอมรู้ไหม? อาทัชอย่าโกรธผมอีกเลยนะ"
"ไม่แล้วครับ ไม่โกรธแล้ว อารักคายัคมากที่สุด"
"ดีครับ ผมไม่ยอมแล้วนะ เจ็บ..." มองชายหนุ่มบ่น อินทัชจึงก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนถามต่อ
"เจ็บอย่างเดียว ไม่เสียวเลยเหรอ?" คายัคไม่ตอบแต่จุดรอยยิ้มมุมปากและส่งสายตาไปยังส่วนกลางลำตัว อินทัชเห็นดังนั้น ก็ส่ายหน้าน้อยๆพลางอมยิ้ม ก่อนจะเคลื่อนตัวลงไปยังปลายเตียง ใช้ปลายลิ้นแตะส่วนปลายสีสด วนไล้ช้าๆแล้วช้อนตามองคายัค ...
ยกยิ้ม ก่อนถามคนรักอีกครั้ง...
"เสียวบ้างหรือยัง?"
"อ้าปากแล้วกินของผมก่อนสิครับ ผมถึงจะบอก" ก็ไม่คิดหรอกนะว่าพอคบกันไป คายัคจะกล้าพูด กล้าขออะไรมากกว่าเมื่อก่อน... แต่ไม่ว่า คายัคจะขออะไร อินทัชก็ไม่เคยปฏิเสธอยู่ดี ยามนี้ คายัคถึงกัดปาก หลับตาพริ้ม เมื่ออาทัชอ้าปากรับแก่นกายที่ขยายขนาดและแข็งจัดกลืนกินมันเข้าไปทีละนิด ทีละนิดจนสุดโคน...
จากจุดนั้นเอง ฉากเลิฟซีนสุดสยิวก็เริ่มขึ้น....และดูเหมือนว่าจะเป็นฉากที่คู่รักต้องใช้เวลาเล่นบทรักนี้กันนานหลายชั่วโมงเสียด้วย
............................................
แต่งตอนพิเศษเพราะรู้สึก
คิดถึงจึงมาหา.. ง่าาาา
คิดถึงคายัคและอาทัชมาก น้องโตแล้วววววว...
..อย่างที่รู้ๆกันอะเนอะ ...อาทัชไม่เน้นรับ ทั้งหมดทั้งมวลที่ร่วมรักกันก่อนหน้า เพราะใจรักคายัคล้วนๆเลยค่า...
ถ้าคิดถึงอีกก็จะแต่งอีก
ขอบคุณทุกความเห็นและขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ.
