*...-+-...-+-เพื่อนพ่อ (อินทัช+คายัค)-+-...-+-...*-ตอนพิเศษ-ยอมรับ 1-10-18 ||P.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *...-+-...-+-เพื่อนพ่อ (อินทัช+คายัค)-+-...-+-...*-ตอนพิเศษ-ยอมรับ 1-10-18 ||P.8  (อ่าน 45083 ครั้ง)

ออฟไลน์ Minari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เค้าจะดีกันแล้วววววววว ดีใจ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ค่อย​ๆปรับความเข้าใจ​กันไปนะ​ ทรมานกันมาทั้วคู่แล้ว​ ให้เป็นบทเรียน​ อาจะป่วนซ้ำมั้ยคะรอบนี้​ แต่ไม่เป็นไรมีคายัค​ดูแล​แล้วคงจะหายไวไม่ป่วยอีก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คายัคจะใจอ่อนไหมน้อ?

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 14 ง้อ(2)











     ได้ยินเพียงดังนั้น คายัคไม่ตอบ แต่ยื่นมือที่เป็นอิสระประคองใบหน้าอาทัช โน้มตัวไปประทับจูบที่ริมฝีปาก



     แม้จะเป็นการจูบแบบแตะริมฝีปากกัน แต่ระยะเวลาที่ได้สัมผัสนั้น ยาวนานจนรับรู้ได้ว่า ทั้งสองได้ส่งความรักผ่านถึงกันเป็นที่เรียบร้อย



"ขึ้นไปห้องผมก่อน" ผละและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใบหน้าหล่อเหลาแต้มยิ้มมุมปาก พร้อมยื่นมือไปให้อาทัชจับเพื่อเดินขึ้นไปห้องด้วยกัน




       ถึงหน้าห้องคายัคแล้ว ก่อนเปิดประตูเจ้าของห้องหันไปบอก



"ห้องผมเล็กหน่อยนะครับ"



      อินทัชพยักหน้า พอเดินเข้าห้องยังไม่ก้าวไปไหน อินทัชคว้ามือคายัคให้หยุด



"ตัวอาเปียก" มองคนตัวเปียกโชกก็นึกขำที่ดันมาห่วงอะไรกับเรื่องขี้ปะติ๋ว


"โถ่...ไม่เป็นไรหรอกครับ พื้นเปียกผมก็ถูได้ อาทัชรีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะไข้ขึ้น"


 
      ยิ้มน้อยๆพลางผงกศรีษะ ก่อนจะรับผ้าเช็ดตัวพร้อมชุดใส่นอนจากคายัคแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยสภาพน้ำหยดเป็นทาง



      ใช้เวลาไม่นาน คนอายุมากกว่าเดินออกมาก็พบว่าพื้นห้องแห้งสะอาดแล้ว เขายืนเก้ๆ กังๆ เพราะกลับมาดีกัน ก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อนดี



       มองคายัคนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือข้างเตียงก็ไม่กล้าไปนั่งด้วยจึงทิ้งตัวลงนั่งนิ่งอยู่ที่ปลายเตียง แต่ไม่ถึงนาที ข้างกาย อินทัชสัมผัสได้ถึงความยวบของเตียงจากน้ำหนักของตัวคน หันไปก็เห็นคายัคขยับมานั่งใกล้ๆพร้อมยื่นยาและขวดน้ำที่ถือในมือมาให้


"กินยาดักไว้ก่อนครับ กันป่วย!"


"ขอบคุณนะ คายัค"




     นี่เขาฝันไปหรือเปล่า? รอยยิ้มละมุนมาพร้อมสายตาที่จ้องมองมาอย่างใจจดใจจ่อ จนอินทัชเองต้องรีบเบี่ยงหน้าหนี และเอายาสองเม็ดเข้าปากพลางกระดกน้ำตาม หลังจากเสร็จแล้ว คายัคลุกขึ้นยืน กระตุกมืออาทัชให้เปลี่ยนไปนั่งข้างเตียงอีกฝั่ง


     อินทัชขมวดคิ้วแต่ก็เดินตามไป


"เดี๋ยวผมเป่าผมให้นะ"


      ไม่คิดว่าคายัคจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้ ดีใจแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความประหม่าอยู่เล็กน้อย

 
       คายัคจับให้อาทัชนั่งขัดสมาธิ หันหน้าเข้าหากัน เด็กหนุ่มคว้าไดร์เป่าผมมาเปิดสวิตช์


       ความใกล้ชิด ทำให้อินทัชเห็นใบหน้าอีกฝ่ายที่แสดงออกถึงความตั้งใจ ไร้เสแสร้ง ได้ชัดเจน ไหนจะความนุ่มนวลที่อีกฝ่ายบรรจงทำ มือเรียวสอดเข้ากลางกลุ่มผม ค่อยๆเป่าไล่ผมให้แห้งทีละนิด
     

      อินทัชยิ้มและนั่งนิ่งราวกับเป็นตุ๊กตาให้คายัคเล่นผมได้ตามชอบใจ



      กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่คายัคจัดการผมอีกฝ่ายจนแห้งสนิท จนกระทั่ง เสียงของไดร์เป่าผมเงียบลง คายัควางไดร์ไว้ข้างตัว แล้วหันไปหาอาทัช



"ผมแห้..." ยังพูดไม่จบ อินทัชซุกซบใบหน้าลงลาดไหล่พลางโอบเอวคายัคแน่น


    อีกฝ่ายนั่งตัวแข็งทื่อ ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบนบ่า คายัคโอบกอดกลับกระชับวงแขนแน่น



     เมื่อโยนความเครียดทิ้งไป เหลือไว้ซึ่งความสบายใจ คายัคก็ไม่มีความจำเป็นต้องวางฟอร์มอะไรอีก เพราะอาทัชได้พิสูจน์ความรัก ความจริงใจให้เห็นได้อย่างชัดแจ้ง


"อาทัชร้องไห้ทำไมครับ? คิดมากหรอ? อย่าคิดมากสิ นอนได้แล้วครับ ถ้าป่วยขึ้นมา ผมคงรู้สึกผิด"
บอกเสียงนุ่มพลางเลื่อนมือไปลูบผมอาทัช ก่อนจะกดจูบข้างขมับ


"ที่ผ่านมา คายัคคบใครหรือเปล่า?"


"เปล่าครับ"
คำที่บอก อินทัชเชื่อสนิทใจ


    เพียงได้ยินดังนั้น อัตราการเต้นของหัวใจแรงและเร็วขึ้น อินทัชยิ้ม ผละจากอ้อมกอด มองหน้าเด็กหนุ่ม


"เป็นแฟนกับอานะ"


     มองดวงตาคู่สวยที่แดงและบวมช้ำจากการร้องไห้ คายัคแต้มยิ้มบางเบา ก่อนใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยหยาดน้ำตาอย่างเบามือ


"ผมขอเวลาเล่นตัวก่อนได้ปะ?" ตอบยิ้มๆพลางเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างยียวน


     ฟากอินทัชยิ้มกรุ้มกริ่มกับความกวนของเด็กหนุ่ม ไม่ตอบ แต่โน้มตัวไปขบเม้มริมฝีปากล่างหนักๆ แล้วผละออกมาหอมแก้มคายัคทั้งสองข้าง ปิดท้ายด้วยการใช้ปลายลิ้นลากไล้ไล่ลามเลียติ่งหูสลับกับดึงดูดเบาๆ


"จะเล่นตัวจริงๆเหรอ?"



     คายัคกลั้วหัวเราะ จากนั้น ไม่มีคำตอบใดๆ นอกจากความรู้สึกลึกๆของหัวใจที่ส่งเสียงเรียกร้องออกมาพร้อมแววตาที่ต่างฝ่ายต่างรู้ในผลลัพธ์ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น



      อินทัชเป็นฝ่ายจูบก่อน ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดรัดเรียวลิ้นอีกฝ่ายอย่างรุกไล่ต้อนจนทำให้การจูบกันครั้งนี้มีชีวิตชีวาและตื่นเต้นกว่าครั้งไหนๆ


      ความหอมหวานจากรสจูบอันดูดดื่ม ที่ทั้งสองห่างหายมาแสนนาน พอได้กลับมารับรสคุ้นเคยอีกครั้ง ยิ่งกระตุกอารมณ์ปรารถนาให้กระเตื้องจนอยากร่วมรักมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น
     

      ฟากเด็กหนุ่มดันไหล่อินทัชให้นอนราบลงกับเตียง


     เสื้อผ้าของทั้งสองที่สวมใส่ก่อนหน้า ถูกปลดเปลื้องอย่างไว ภายในเวลาไม่กี่นาที


     ยามนี้ มีเพียงเรือนร่างเปล่าเปลือยที่นอนนาบกายกัน


จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ...


      ตอนนี้ เด็กหนุ่มเคลื่อนตัวลงต่ำมาเล้าโลม ไล้ ไล่พรมจูบแผ่วเบาตั้งแต่ข้อเท้า ปลีน่อง จนถึงขาอ่อนด้วยความนุ่มนวล ก่อนจะพรมจูบทั่วบริเวณหน้าท้องอย่างอ้อยอิ่ง ลากลิ้นเลียวนจนกระตุกความใคร่ในตัวของทั้งสองให้พวยพุ่งจนแทบระเบิด

     คายัคยังใจเย็น แม้ลึกๆแทบอยากกลืนกินร่างกายนี้เข้าไปไวๆ เด็กหนุ่มไล่ริมฝีปากลงมายังส่วนปลายสีสดของแก่นกายคลอเคลียเล่นอย่างหยอกเย้า ก่อนจะอ้าปากเพื่อครอบครองแท่งร้อนของอาทัชอย่างกระหาย


      อินทัชตกใจ ดันไหล่คายัคให้หยุด แต่แค่เห็นเด็กหนุ่มช้อนตามอง อมยิ้ม พลางเลิกคิ้วเข้มยียวน มันยิ่งกระตุ้นอารมณ์ทางเพศและวาบหวามหัวใจไม่น้อย


      คายัคถอนริมฝีปาก เคลื่อนกายขึ้นมาคร่อมตัวอาทัช และจูบปากกันอย่างต่อเนื่อง โดยที่มือของเด็กหนุ่มก็ปรนนิบัติรูดรั้งให้คนอายุมากกว่าอย่างรู้งาน



       และไม่นานเลยที่อินทัชเป็นฝ่ายสุขสมอารมณ์หมายก่อน เด็กหนุ่มยิ้มพอใจ เมื่อได้เห็นหลักฐานของการปลดปล่อยความหรรษาของคนตรงหน้า แหละถึงตาที่คายัคจะมีความสุขบ้าง เขาพลิกตัวอาทัชให้หันหลัง ดันสะโพกให้ยกขึ้นสูง ก่อนจะชะโลมครีมจนทั่วประตูรัก และสอดปลายนิ้วเข้ามาขยับขยายช่องทางเป็นจังหวะจนคนที่โดนกระทำแหงนหน้าขึ้น ไม่นานนักที่เด็กหนุ่มเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าสู่ภายใน กดซ้ำๆ ควานจนทั่วเพื่อเร้าอารมณ์ปรารถนา


        รอจังหวะจนได้ที่ ก็ดึงนิ้วออกมาแทนที่ด้วยการดันแก่นกายพรวดเข้าไปในความร้อนจัดที่ตอดรัดจนคายัคแทบบ้า กระทั่งดันเข้าไปจนสุด คายัคโน้มตัวลงต่ำ จนเนื้อแนบเนื้อ แขนแข็งแกร่งโอบกอดอินทัชมาจากด้านหลัง ทั้งยังซบหน้าลงบนแผ่นหลังชื้นเหงื่อ ขณะที่สะโพกยังคงขยับช้าๆและค่อยๆเร่งจังหวะเป็นแรงขึ้น แรงขึ้น ช่างเร้าอารมณ์เสียจนอินทัชเผลอครางเสียงต่ำและจับพนักเตียงแน่น


       เพราะรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นฝ่ายรับทุกความต้องการของคายัค



      ในตอนแรก อินทัชนึกว่าการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหนนี้ คายัคอาจระบายความเจ็บปวดในอดีตที่ผ่านมา ด้วยการตั้งใจร่วมรัก อย่างซาดิสม์และรุนแรง กลับกัน คายัคถนอมอินทัชมากกว่าที่คิดไว้


      ถึงแม้ว่า อินทัชจะยังไม่ได้อธิบายเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีต แต่การที่เราสองกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอยู่ ณ ตอนนี้ ก็ พอพิสูจน์ได้แล้วว่า เราทั้งสองคนกลับมารักกันเหมือนเดิมเป็นที่เรียบร้อย









.............




    ยามสายของวันต่อมา คนอายุมากกว่าตื่นก่อน พลิกตัวนอนตะแคงมองหน้าคายัคที่หลับตาพริ้ม


     ตัดสินใจถูกที่แจ้งลูกค้าล่วงหน้าไว้ว่าจะปิดให้บริการเป็นเวลาสามวัน


    ดีเหมือนกัน เขาจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง เพราะตั้งแต่ที่อินทัชเปิดร้านกาแฟ เขาแทบไม่ได้พักหรือไปเที่ยวไหน


    ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจรวมถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดกัน ไม่เจอกันตั้งนาน พอกลับมา คายัคโตขึ้นมาก ทั้งความสูงที่เทียบเท่าอินทัช ไหนจะสัดส่วนร่างกายที่ดูแข็งแรง ทะมัดทะแมงกว่าแต่ก่อน รวมถึงใบหน้าหล่อเหลาชวนมอง ก็ขาวผ่องใส เนียนละเอียดจนแทบมองไม่เห็นรูขุมขน


     เพราะไม่ได้เจอกันนาน จึงพินิจพิจารณาคนตรงหน้าอย่างละเอียด อินทัชยื่นมือไปลูบไล้แก้มเด็กหนุ่ม แล้วจู่ๆความเห็นแก่ตัวก็เข้าครอบงำ เมื่ออินทัชอยากครอบครองคายัคแต่เพียงผู้เดียว เขาไม่อยากให้ใครคนไหนได้เห็น ได้แตะต้องคนตรงหน้าสักนิด


      คิดไปเรื่อยๆ จนคายัคปรือตาขึ้นมามองพร้อมรอยยิ้มแรกของวันใหม่ที่สดใสกว่าทุกวัน


     เด็กหนุ่มยื่นมือมาเล่นริมฝีปากล่างของอินทัช


"ตื่นนานแล้วหรอครับ?"


"ครับ"
จับมือคายัคที่เล่นริมฝีปากเขาอยู่


"แล้วนอนมองผมนานรึยัง?"


"ก็นานนะ กลัวตื่นมาแล้วคายัคหนีไปอีก"


    เด็กหนุ่มยิ้มขำ กระเถิบตัวและใช้ปลายจมูกคลอเคลียคางอีกฝ่ายไล้ลงมายังซอกคออุ่นๆ แล้วบอก


"นี่ห้องผม จะหายไปไหนได้ล่ะครับ ฮึ?"



    ก็ลืมนึกไป หลุดยิ้มเก้อเขินอย่างอายๆ ก่อนจะเข้าเรื่องสำคัญ


"คายัค"



"ครับ?"


"ขอบคุณนะที่หายโกรธอา"



"ผมก็เหนื่อยแล้วด้วย แต่ขอความจริงอีกที อาทัชเลิกกับคุณภูมิแล้วใช่ไหมครับ?"


"ครับ ความจริงอาเห็นแก่ตัวเกินไป อาไม่เคยรักภูมิเลยด้วยซ้ำ คือ เรื่องมันยาว จุดเริ่มต้นมันมาจากเรื่องของครอบครัวอาที่เขาต่อต้านความรักแบบนี้ อาเลยจะทำให้เขาเห็น แต่สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์"



"ถ้างั้นก็แสดงว่า ครอบครัวอาทัชก็ต้องไม่ชอบผมด้วยสิครับ"



"อย่าใช้คำว่าไม่ชอบคายัคเลย ไม่ชอบความรักแบบผู้ชายรักกันมากกว่า เอาไว้ว่างๆ อาจะอธิบายอย่างละเอียดให้ฟังอีกที และอาจะพาคายัคไปบ้านของอาด้วย แต่คายัคไม่ต้องกลัวนะ อาจะปกป้องคายัครวมถึงความรักของเรา อาจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคายัคได้อีก"


"ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครทำร้ายผม นอกจากอาทัชนะครับ"



กึก!


    เจ็บจนพูดไม่ออก จะเถียงก็ทำได้ยาก ก้มหน้ารับผิดแล้วเอ่ย


"อาขอ...โท..."



    คายัครีบจูบปิดปากเพื่อตัดบท


"ผมแค่พูดความจริง ตอนนี้ ผมไม่ติดใจอะไรแล้วจริงๆครับ"


"จริงๆนะ"


"ครับ"


"แล้วคายัคจะย้ายกลับมาบ้านเราเมื่อไหร่?"


"คงสักพัก อยู่ที่นี่จนชินแล้วอะครับ ขอผมไปๆ-กลับๆก่อนได้ไหม?"


"ก็ได้ ถางั้น หลังจากนี้ อาจ่ายค่าห้องให้ทุกเดือนแล้วกันนะ"


"ไม่ต้องหรอกครับ ผมมีเงินจากการทำงานแล้ว"



    อินทัชยิ้มกว้าง ก่อนจุ๊บปลายจมูกอีกฝ่าบ


"โตขึ้นนะเรา"


"ก็นิดนึง"
ยกยิ้มมุมปากพลางยักคิ้วข้างเดียวอย่างกวนๆ



"คายัค....เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ"


"ในฐานะอะไรครับ?"  ทำเป็นไขสือ อันที่จริงก็แค่อยากได้ยินจากปากอาทัชอีกครั้ง


"แฟนไงครับ"


"พูดอีกทีซิครับ"
มองคนยิ้มเจ้าเล่ห์ จนอินทัชต้องหยิกแก้มเด็กหนุ่มแก้เก้อ


"กวนละ อาไปอาบน้ำดีกว่า"



     ทิ้งท้ายด้วยการจุมพิตบนหน้าผากของคายัค ก่อนจะเด้งตัว ลุกขึ้นจากเตียง เดินไปไม่กี่ก้าว คนอายุมากกว่าก็หมุนตัวกลับมาหา


"คายัค"


     คนที่ท้าวศรีษะ นอนตะแคงข้างอยู่บนเตียง เหลียวมองตามเสียงเรียก


"ครับ?"


"อาบน้ำด้วยกันไหม?"




     คายัคเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนถาม


"นี่อาทัชกำลังยั่วผม?"


    อินทัชเม้มปากอย่างยิ้มๆ และถามอีกครั้ง


"แล้วคิดว่าไง? ได้ผลไหม?"



     ระเบิดหัวเราะเสียงดังพลางส่ายหน้าน้อยๆ หลังจากที่คนอายุมากกว่าถามแต่ผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำโดยทิ้งรอยยิ้มยั่วยวนให้ดูต่างหน้า



     เมื่อคืน คายัคก็แทบหมดแรง เพราะใช้กำลังอย่างหนักจากการสร้างกิจกรรมเข้าจังหวะไปถึงสองรอบอย่างต่อเนื่องกัน แต่ถ้าจะในห้องน้ำด้วยอีกรอบนั้น ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่เลว หลังจากที่ได้โคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง...



............................................


1. ตลอดเวลาที่ผ่านมา ต้องขอบคุณพี่ๆคนอ่าน ที่ช่วยให้กำลังใจน้องคายัคกันนะคะ น้องได้ไปต่อแล้วค่ะ แหะๆ

2.หลังจากที่ชีวิตของทั้งคู่...อเมริกาโน่...มานาน ตอนนี้ เข้าสู่ช่วง...คาปูชิโน่...แล้วค่ะ แต่ยังไม่ถึง...ชานมไข่มุก...นะ กลัวเลี่ยนอะ เอ้? หรือนี่ชานมไข่มุกแล้วอะ งงตัวเอง 555+
  :m20: :z1: :กอด1: :กอด1:


ขอบคุณที่เข้ามาคอมเมนท์กันนะคะ และขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ก็ดีใจกับทั้งสองคนด้วย

ว่าแต่...คุณคนแต่งจะเสริฟมาม่าเพิ่มไหมน้อ? ต้องคอยดูกันต่อไป

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คืนดีกันแล้ว  :mc4:
เอาเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นบทเรียน ให้ทั้งสองคนเติบโตขึ้น
เวลาเจอปัญหาอย่าปล่อยมือกันอีกนะ

 :pig4:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3

นั่งอ่านตั้งแต่แรก น้ำตาไหลจนตาบวม
ขอบคุณที่เราได้อ่านมาจนตอนนี้
ตอนที่เค้าดีกัน
ตอนที่เค้ากำลังจะจับมือสู้ไปด้วยกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น้องได้ไปต่อแล้วนะคะทุกท่าน หลังจากเข็นเรือพังๆมานาน  :m15:  ชุ่มชื่นหัวใจที่สุด

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนต่อไม่คงไม่มีมาม่านะ :hao4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 15  ช่วงเวลาของความสุข










"นี่ไปเจาะหูตั้งแต่เมื่อไหร่?"



     หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำด้วยกัน และแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย อินทัชนั่งปลายเตียงมองคายัคที่ง่วนอยู่ตรงหน้ากระจกอยู่นาน จึงลุกขึ้นมายืนกอดอกพิงตู้เสื้อผ้า มองคายัคที่กำลังใส่ต่างหูสีดำขนาดจิ๋ว


     ยอมรับว่า คายัคลุคส์นี้ ดูดีทีเดียว ทั้งเท่และแปลกตาไปจากเดิม จนทำให้ความรู้สึกข้างในลึกๆของอินทัชกลับนึกหวงอย่างบอกไม่ถูก


"จำไม่ได้ ก็หลายเดือนแล้วครับ"

"เกเรใหญ่แล้วนะ"



     คายัคชำเลืองมอง


"เจาะหูมันเกี่ยวอะไรกับเกเรครับ?"

"เกี่ยว...ไม่รู้แหละ...อาว่า..."



      ใส่ตุ้มหูเสร็จเรียบร้อย รีบหันไปรั้งคอมาประกบจูบ เนื่องจากไม่อยากฟังคำบ่น


"ยิ่งบ่น ยิ่งแก่นะครับอาทัช"

"เดี๋ยวเถอะ คายัค"


      ยิ้มปนขำพลางลูบแก้มอาทัช ก่อนจะโน้มตัวไปจุมพิตลงตรงกลางหน้าผากอย่างกลัวอาทัชน้อยใจ แล้วหันตัวกลับมาดึงเก๊ะลิ้นชัก เพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์และของสำคัญอื่นๆ แต่จังหวะนั้น อินทัชเหลือบเห็นซองบุหรี่ที่คายัคกำลังคว้ามันติดมือออกมาด้วย


      ชายหนุ่มสวมกอดคายัคจากด้านหลังแล้วเกยคางลงบนบ่า


"คายัค" เอื้อนเอ่ยเสียงเบาหวิว


"ครับ?"



"อาขออะไรอย่างสิ"


"อะไรครับ?"



"เลิกสูบบุหรี่ได้ไหม?"


"......"


    ใบหน้าที่ซบลงบนบ่า เอียงหน้ามองเด็กหนุ่มที่ยืนเงียบกริบ จึงถามต่อ


"คายัคติดบุหรี่แล้วเหรอ?"


"ผมก็ไม่แน่ใจ แต่เวลาที่ผมเครียด ต้องหยิบขึ้นมาสูบ"


"แต่ตอนนี้ไม่เครียดแล้วนี่...ใช่ไหม? ถ้างั้นเลิกเถอะนะ อาขอ ก่อนที่นานไปแล้วจะยิ่งเลิกยากไปกว่านี้"


"ก็ได้ครับ ผมจะลองดูนะ"



   อินทัชยิ้มดีใจ กดจมูกลงตรงต้นคอ พร้อมประทับจูบที่เดิมซ้ำๆ ก่อนเอ่ยประโยคต่อมา


"คายัคเก่งจะตายทำได้อยู่แล้วล่ะ อาเป็นห่วงสุขภาพคายัคนะ ต่อไปถ้ารู้สึกอยากสูบบุหรี่ รีบบอกอา อาจะแก้ด้วยจูบ เผื่อช่วยได้"


    หลุดหัวเราะ ก่อนจะเหลียวมอง


"เดี๋ยวนี้อาทัชยั่วเก่งนะครับ"  มองคนที่หันทั้งตัวมาหา แล้วว่าอย่างยิ้มๆ


"หือ? ไม่เจอกันนาน ทำไมปากคอเลาะร้ายอย่างนี้"

"ก็ผมพูดความจริงนี่นา อาทัชรับไม่ได้หรอ?"

"หึ!"
มองคนดึงมือออกจากอ้อมกอดแล้วจะเดินกลับไปนั่งที่เตียง คายัครั้งแขน


"โอ๋ๆ อย่างอนสิครับ ถ้างอน ผมจะออกไปสูบบุ...อื้อ"


    คายัคแค่จะแกล้ง แต่ไม่คิดว่า อาทัชจะจริงจัง ถึงกับรีบมาประกบจูบกัน ทั้งๆที่คายัคยังพูดไม่จบ


    หลังจากที่ผละจากกัน


"ผมยังอยากสูบบุหรี่อยู่เลยอะครับ"
คายัคยิ้มเจ้าเล่ห์

"นี่มันไม่ใช่ละ..."
มองคนบอกเสียงเข้มอย่างรู้แกวก็กลั้วหัวเราะออกมา

"ฮ่าๆ...."


     รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าหล่อเข้ม มือเรียวลูบหน้าพลางเกลี่ยผมที่ปรกหน้าอาทัชอย่างละมุน ละไม


"ผมน่าจะเลิกได้นะ ไม่รู้สิ เวลาที่ผมได้อยู่กับอาทัช ผมไม่นึกอยากสูบบุหรี่"

"จริงเหรอ?"

"ครับ"


"ถ้างั้น เราจะอยู่ด้วยกัน ไม่พรากจากกันไปไหนอีก"

"จะเป็นไปได้ไงล่ะครับ คนเราเกิดมาก็ต้องตาย"

"ก็แค่เท่าที่มีลมหายใจ เราจะไม่ห่างจากกันไปไหนอีกแล้วไงครับ"

"พูดซึ้งจนอยากร้องไห้"

"ทำไมชอบกวนประสาท?"

"ฮ่าๆ ไม่กวนก็ได้ แล้วที่อาทัชบอกว่าจะออกไปข้างนอก นี่จะไปไหนหรอครับ?"

"บ้านอาครับ อาจะพาไปหาแม่"

"ห้ะ? วันนี้เลยหรอครับ?

"ใช่ครับ อาไม่อยากรอ"

 


     พอต่างฝ่ายต่างตกลงกันเสร็จเรียบร้อย จังหวะที่เตรียมเดินออกจากห้อง คายัคมองอาทัชที่ดูเด็กกว่าเดิม อาจด้วยเพราะการแต่งตัวที่อาทัชต้องใส่เสื้อผ้าของคายัค เนื่องจากเมื่อวานเสื้อผ้าอาทัชที่เปียกนั่นยังไม่ได้ซัก


     สังเกตเห็น ก็เลยแซว


"อาทัชแต่งตัวแบบนี้ ก็ดูเด็กดีนะครับ"


"จริงเหรอ? อาว่ามันแปลกๆ ดูน่าเกลียดไหม?"
อินทัชว่าแล้วก้มลงมองสภาพตัวเองอย่างไม่มั่นใจ


"ก็ไม่นะ ผมว่าน่ารักดีออก"


"น่ารักเหรอ? ไม่ค่อยอยากได้ยินคำนี้เลย"


"เอ้า...ไหงงั้น? คำว่า...น่ารักของผม ก็คือ ไม่น่าเกลียด มันไม่ได้หมายความว่า น่ารักแบบผู้หญิงสักหน่อย"


"จริงนะ?"


"จริงสิครับ อย่าคิดมาก จะแต่งตัวยังไง? ผมก็รักที่อาทัชเป็นอาทัชอยู่ดีครับ"


     โอบเอวอาทัชไว้หลวมๆแล้วโน้มตัวลงไปซุกไซ้ซอกคอ แต่แล้วจู่ๆ คายัคก็นึกอะไรขึ้นได้


     โชคดีที่ยังไม่ออกจากห้อง เด็กหนุ่มผละจากกอด เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ค้นหาอะไรบางอย่าง ปล่อยให้อินทัชยืนงุนงงอยู่กลางห้อง


      สักพัก คายัคเดินมายื่นถุงให้อาทัช



"สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังครับ"


      อินทัชขมวดคิ้ว ก่อนจะรับถุงนั้นมา


"ย้อนหลังนานไปหน่อย คงไม่ว่ากันนะครับ ตอนแรกกะว่า ถ้าทำใจได้แล้ว ค่อยเอากลับไปให้อาทัชที่บ้าน"


"คะ...คายัค"


"เปิดดูสิครับ"


     อินทัชใจเต้นรุนแรง ไม่คิดว่าคายัคจะซื้อของขวัญให้ เนื่องจากวันเกิดทุกปีจะมีแค่การ์ดกับขนมเค้กหนึ่งชิ้น นับว่าเซอร์ไพรส์และสร้างความประหลาดใจให้อินทัชเป็นอย่างมาก


      เพียงเปิดกล่องแล้วพบนาฬิกาแบรนด์ดัง ที่มีหน้าปัดและตัวเรือนสีดำขลับตัดกับตัวเลขอารบิกสีขาว สัมผัสได้ถึงความเข้มขรึม เรียบ เท่ แค่เห็นแวบแรก อินทัชยังชอบ


      ตาโต ตะลึง ยกมือปิดปากเพราะพูดไม่ออก แม้จะไม่ใช่นาฬิการุ่นที่อินทัชอยากได้ แต่บอกเลยว่า สิ่งที่คายัคเลือกให้ ถูกใจอินทัชมากๆ ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะตาถึงขนาดนี้


      อินทัชได้แต่บอกตัวเองว่าควรเลิกขี้แย เขาจะร้องไห้พร่ำเพรื่อแบบนี้ไม่ได้


      แต่แล้วมันจะผิดไหม? หากน้ำใสๆที่ไหลออกมา มันคือ น้ำตาแห่งความตื้นตันใจ เขาไม่คิดว่า คายัคจะจดจำและใส่ใจเรื่องราวของอินทัชได้ด้วย


"ผมเคยได้ยินอาทัชบอกว่าอยากได้นาฬิกาของลูมิน๊อก" บอกแล้วใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาอาทัช


      อาทัชไม่มีนาฬิกาใส่มานานแล้ว ทั้งๆที่คายัคเคยได้ยินอาทัชบ่นตลอดว่าอยากได้ตั้งแต่ช่วงที่คายัคขึ้นมอสี่


    คายัครู้ถึงสาเหตุที่อาทัชชอบแต่ไม่ยอมซื้อ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะอาทัชต้องเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ เพื่อเอามาเป็นค่าเล่าเรียนให้คายัค การจะซื้อนาฬิกาข้อมือจึงคิดว่ามันไม่สำคัญหรือจำเป็นน้อยกว่าเรื่องการศึกษาของเด็กหนุ่ม


    คายัครู้ดีว่า ลึกๆแล้วอาทัชยังคงต้องการสิ่งนั้นเสมอ คายัคถึงยอมควักเงินจ่าย



     น่าเสียดาย ที่คายัคจำไม่ได้ว่าอาทัชชอบรุ่นอะไร? ครั้นจะโทรหาก็ทะเลาะกันอยู่ คายัคจึงต้องพยายาม เลือกคัดสรรนาฬิกาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์อาทัชมากที่สุด


"ตอนผมดู มีรุ่นที่เป็นสายหนังสีดำ ผมเห็นว่ามันเหมาะกับอาทัชดี แต่พอเห็นราคาแล้วสู้ไม่ไหวอะ มันแพงไป ตั้งสามหมื่นกว่า ผมเลยซื้อรุ่นนี้มาให้ ดูเท่ดี และผมว่ามันเหมาะกับอาทัชด้วยนะครับ"
 

     อินทัชดีใจจนเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ เขารู้ว่านาฬิกาแบรนด์นี้ มีราคาต่างกัน แม้จะไม่แพงหูฉี่ แต่ก็ใช่ว่าจะถูกเสียเมื่อไหร่กัน


"เรือนนี้เท่าไหร่ครับ?"

"เอ่อะ...ผ...ผมจำไม่ได้อะ ซื้อมานานแล้ว"
คายัคเลี่ยงอย่างไม่อยากบอกเรื่องราคาได้แต่หลุบตาลงต่ำ

"คายัค บอกอามานะ"

"โถ่...อาทัชครับ ช่างมันเถอะน่า"

"จะบอก ไม่บอก"

"อาทัชอะ ทำไมต้องบังคับผมด้วยเนี่ย กะ...ก็ประมาณหมื่นสาม...ครับ"
คายัคโกหกราคา กันโดนด่า


"หา? หมื่นสาม? คายัค? จะบ้าหรือเปล่า? เราจะใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ไม่ได้นะ"


      ดีแล้วที่ไม่บอกราคาจริง
 

"แต่มันคือของชิ้นเดียวที่อาทัชอยากได้มาตลอดไม่ใช่หรอครับ?"


กึก!


     อินทัชสะอึกถึงกับพูดไม่ออก มันก็จริงที่เขาอยากได้ แต่คายัคก็ไม่ควรทำให้เขารู้สึกผิดแบบนี้ อินทัชเม้มปากเงียบ



"......"


"ถ้ามันทำให้อาทัชมีความสุข เงินเท่าไหร่ก็ช่างมันเถอะครับ อาทัชเลี้ยงผมมา ผมยังไม่เคยตอบแทนอะไรเลย เงินแค่นี้เล็กน้อยครับ อีกอย่าง เงินนี้ก็เป็นเงินที่ผมได้มาจากการเก็บสะสมตอนทำงาน แต่มันมีงานถ่ายแบบสินค้าด้วยเลยได้เงินเยอะกว่าเป็นเด็กเสิร์ฟ ผมถึงซื้อได้ อาทัชไม่ต้อง...ห่....ว..."


      อินทัชสวมกอดคายัคแน่น เขาดีใจมากจริงๆ แค่ได้ฟังตอนที่คายัคเล่าตอนเลือกนาฬิการวมถึงยอมควักเงินจ่ายเป็นหมื่น อินทัชก็ซาบซึ้งใจจนไม่รู้จะหาคำใดๆมาพูดได้นอกจาก...


"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับคายัค อาชอบนาฬิกาเรือนนี้มากๆ อาจะใส่ทุกวันไม่ถอดเลย...คิดแล้วก็อายที่ไม่มีของขวัญวันเกิดย้อนหลังให้คายัคบ้าง"



"ไม่เป็นไรหรอกครับ สิบกว่าปีที่อาทัชดูแลผมมา นั่นก็เป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดแล้วครับ"


      อินทัชยิ้มกว้างในอ้อมกอดของเด็กหนุ่ม ช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่อินทัชจะไม่มีวันลืมเลือนไปจากใจเลย


      ดีใจและมีความสุขมากจนต้องถ่ายเทความรัก ความผูกพันให้กันและกันด้วยการจูบแบบลึกซึ้ง


      จูบร้อนแรงแต่แฝงด้วยความหวานละมุนลิ้น ที่ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครคิดจะผละออกก่อน เพราะมันเป็นจูบที่หอมหวลและหลอมรวมความรู้สึกของทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งคู่ยังจูบเหมือนคนตระกละตระกราม เพราะยังจูบดูดดื่มแบบไม่มีหยุดพัก


     เป็นเวลานานพอสมควร กว่าที่ทั้งสองจะผละจากกัน คายัคยิ้มเหลือบมองอาทัชที่แก้มแดงราวกับลูกมะเขือเทศ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำหวานใสที่ไหลเลอะตรงขอบปาก ก่อนจะตัดสินใจบอกอาทัชให้รีบเดินออกจากห้อง


      เพราะถ้าขืนอยู่ต่อ คงไม่พ้นที่ทั้งสองต้องจบลงบนเตียงเหมือนทุกที



      ในระหว่างที่คายัคปิดประตู สายตาพลันเหลือบเห็นกระดาษขนาดเอสี่แปะตรงหน้าห้อง


      ขมวดคิ้วและดึงกระดาษมาอ่าน เด็กหนุ่มถึงกับเขิน ก่อนจะยื่นไปให้อาทัชดู



"เหอะๆ...สงสัยผมคงต้องย้ายห้องแล้วล่ะครับ"



     เป็นข้อความที่อินทัชอ่านจบแล้วหน้าแดงจัด จับมือคายัคแล้วรีบลากให้เดินลงบันไดอย่างไว หวังจะออกจากพื้นที่นี้ไปให้เร็วที่สุด


    ตัวอักษรที่ถูกเขียนด้วยลายมือระบุไว้ว่า


'ขอเตือนหน่อยค่ะ ดึกๆดื่นๆ ถ้าคิดจะทำอะไรกันก็ช่วยลดเสียงลงบ้าง ช่วยเห็นใจคนโสดที่นอนอยู่ห้องข้างๆด้วยค่ะ มันดังมากจริงๆ'






****1.1****



1. ข้างห้องน้องคายัค นี่คนเขียนเองค่ะ อะจึ้ย! 555+

2. โอ้ย..คายัค ใครสั่งใครสอนให้หนูน่ารักขนาดนี้ล่ะลูก?...งื้ออออออ ในส่วนของความเซอร์ไพร์ส ความพระเอกน่ายัก น่าหยิก

3. คู่นี้พอรักกัน ก็น่ารักดีนะคะ...^~^ ว่าไหมเอ่ย? แหะๆๆ...

4. ขอบคุณที่ยังอยู่เป็นเพื่อนกัน ไม่ทิ้งกันไปไหน
ขอบคุณความเห็นที่คอยช่วยเตือน คอยเอาใ่จช่วยคายัคและอาทัช  :mew1: :mew1: :mew1:

ถามว่าจากนี้ ดราม่ามั้ย? ขอไม่บอก ไม่สปอยล์โนะ มารอลุ้นกันไปเรื่อยๆดีกว่านะคะ ^~^  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
rinyriny
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2018 20:28:51 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
พอเขาเข้าใจกันแล้วมันดีจริงๆ
แต่ก็รู้สึกหวานไม่สุด กลัวดราม่า  :hao5:
ไปเจอแม่อาทัช ถ้าโดนแผลงฤทธิ์ใส่ คายัค หนูต้องใจเย็นๆนะ
ดราม่าอีกเรื่องน่าจะเกิดจากความหึงหวงของอาทัช...

 :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ห้องดันไม่เก็บเสียงซะนี่  อิอิ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
คุณ​แม่อาทัชจะจัดหนักอะไรให้น้องคายัค​ของเรามั้ย​ กลับไปอยู่บ้านอาทัชดีมั้ยคะส่วนตัวดีสะดวกด้วย​ เสียงจะได้ไม่กวนคนอื่น

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ดูยังมีช่องว่างกันอยู่  เหมือนเคยเป็นแผลแล้วต่อกันไม่ค่อยสนิท


บางทีอาจจะเป็นบาดแผลในใจของผู้อ่าน
กลับมาคบกันครั้งนี้ ดูอาทัชจะรักแรงหึงแรงกว่าหลานคายัค เหมือนมีช่องว่างเกิดขึ้นในระหว่างที่แยกกันอยู่ (หรือผู้อ่านคิดไปแรง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2018 21:26:17 โดย kanj1005 »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
555 ย้ายห้องก็พอมั้งคายัค

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ดีใจที้กลับมารักกันเหมือนเดิม
แต่สงสัยต้องกลับไปอยุ่บ้านถาวรแล้วแหละคายัค
 :m20:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
นักเขียนพูดแบบนี้ ต้องมีดราม่าอีกแน่ๆเลยค่ะ นี่ก็คิดว่ามันยังมีอีก /ตั้งโล่  อาทัชนี่แบบยั่วเก่งงงง บดเก่งงงง  :z1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เขิล ตอนนี้
ตอนหน้าดราม่าบ้านอาทัชแน่

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 15  ช่วงเวลาของความสุข (2)






       ยามนี้ รถของอินทัชถูกจอดไว้นอกบ้านของตัวเอง เพราะตั้งใจจะมาคุยกับมารดาไม่นาน อินทัชเดินจับมือเด็กหนุ่มเพื่อเข้าบ้าน ผ่านประตูรั้ว คายัคมองรอบบ้านอาทัชอย่างตื่นเต้นพลันเหลือบมองโรงจอดรถที่เต็มไปด้วยรถยนต์หลากสัญชาติจอดไว้ถึงสี่คัน  คายัคเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าครอบครัวของอาทัชก็รวยใช่ย่อย


      ในขณะเดียวกัน คนอายุมากกว่าขมวดคิ้ว เมื่อเห็นพี่นพเดินออกมาจากบ้าน อินทัชรีบปรี่ไปหา


"พี่นพ แม่อยู่ไหมครับ?"


     ยังไม่ตอบ แต่กลับกดสายตาลงต่ำมองมือน้องชายตัวเองที่กุมมือเด็กคนนั้นไม่ปล่อย



"อยู่ สรุปแล้วเด็กนี่ยังไง?" คายัคยกมือไหว้สวัสดี เมื่อคุณลุงส่งสายตามองมาอย่างสงสัย


"ผมคบกับคายัคแล้วครับ แล้วตั้งใจจะมาบอกแม่ให้รู้"



      คนกลางอย่างอรรนพทำหน้าละเหี่ยใจ ไม่รู้จะต้องเข้าข้างใคร ในเมื่อทั้งสองล้วนแต่เอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้ง


"เฮ้อ! ในที่สุดก็ยอมรับออกมาได้แล้วสินะ ตอนนี้ยังไม่เหมาะ รีบกลับไปซะ"

"ทำไมครับ?"

"แม่กับพ่อทะเลาะกันหนักมาก ฉันห้ามไม่อยู่เลยเดินออกมาก่อน"

"แต่..."


"คิดจะมาบอกเรื่องนี้กับคนโมโหจัด แล้วเขาจะฟังไหม? รับรองเรื่องใหญ่กว่าเดิมแน่"




      คายัคยืนเงียบจนตัดสินใจกระตุกมืออาทัช



"ผมอยากกลับบ้านแล้วอะครับ อาทัช"


     มองเด็กหนุ่มที่คงอึดอัดใจ จึงพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหันไปบอกพี่ชายตัวเอง



"ถ้างั้นผมกลับก่อนก็ได้ครับ"


     อรรนพมองและบอกทิ้งท้าย


"อืม ไว้เดี๋ยวฉันจะโทรหาทีหลัง"


"ครับ"




      ตอนนี้ คายัคและอินทัชอยู่ในรถเป็นที่เรียบร้อย อีกฝ่ายเห็นคนนั่งหน้าบึ้งจึงถามอย่างเป็นห่วง



"อาทัชเครียดที่พ่อกับแม่ของอาทัชทะเลาะกันหรอครับ?"


    มองเด็กหนุ่มที่ถามซื่อๆก็อมยิ้ม อินทัชโน้มตัวไปหอมแก้มคายัค


"เครียดที่ไม่เป็นไปตามแผนมากกว่า ตั้งใจจะพาคายัคมาเปิดตัว สุดท้ายก็ไม่ได้บอก"


"ไม่เอาน่า อย่าคิดมากสิครับ เรามาคราวหลังก็ได้ ทำอย่างกับว่าพรุ่งนี้ เราจะเลิกกันแล้วยังไงยังงั้นน่ะ"


"นั่นสินะ"




     แม้ว่าจะผิดแผนจนทำให้อินทัชเสียอารมณ์ แต่เพราะอินทัชอยากใช้ช่วงเวลาในวันหยุดนี้ให้คุ้มค่าที่สุด จึงหาทางเลือกอื่น และแล้วก็นึกขึ้นได้


"คายัคไปเที่ยวกัน"


"ไปไหนครับ?"


"อื้ม...ที่พอขับรถไปได้ก็....วังน้ำเขียวไหม?"


"ไปๆๆครับ เอ้...แต่พรุ่งนี้ผมมีเรียน"


"โดดได้หรือเปล่า?"


"ฮ่าๆๆ อาทัช นอกจากจะไม่ว่าผมแล้วยังเห็นด้วยอีก ฮ่าๆๆ โอ้ย...อาทัชของผมเปลี่ยนไป"



      มองคนหัวเราะเสียงดัง ก็แอบเกาจมูกแก้เก้อ พลางหลุบตาลงต่ำ


"อานี่เป็นผู้ปกครองไม่ดีเลย" บอกอย่างรู้สึกผิด ไม่รู้ทำไม เดี๋ยวนี้ อินทัชถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปซะได้


"แต่อาทัชพยายามเป็นแฟนที่ดีอยู่...ผมรู้..."
รีบตอบกลับพร้อมยิ้มหวาน เอื้อมมือไปกุมมืออาทัช


"และจะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆด้วยครับ"


"ถ้างั้นไปครับ แค่หยุดวันเดียวคงไม่เป็นอะไร แล้วหลังจากนั้น ผมจะขยันให้หนักเป็นสองเท่าเพื่อตามเพื่อนให้ทัน"


"ขอบคุณนะครับ ระหว่างนี้ คายัคช่วยเซิร์ชหาห้องพักในเว็บให้หน่อยนะ"


"ได้ครับ"


    แม้จะปุปปับทัวร์ไปหน่อย แต่การไปเปลี่ยนบรรยากาศจากเดิมที่เป็นอยู่ก็น่าสนใจไม่น้อย


     หลังจากดูแผนที่จากกูเกิ้ล แม็ปเสร็จ อินทัชเลือกไปเส้นทางนครนายก เพื่อผ่านปราจีนบุรี และมุ่งหน้าไปยังวังน้ำเขียว แต่ระหว่างเดินทาง อินทัชแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมันให้เต็มถังเสียก่อน


    เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อินทัชจึงฝากคนรักให้ลงไปซื้อเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟด้วย


    หลังจาก เติมน้ำมันเสร็จแล้ว อินทัชขับรถไปหาที่จอดใกล้ร้านกาแฟ ก่อนลงจากรถ สายตาเหลือบเห็นผู้หญิงสองคนเพิ่งเดินแยกไปจากเด็กหนุ่ม แล้วจู่ๆหัวใจกลับสั่นไหว วูบ โหวงอย่างไม่มีเหตุผล



"เมื้อกี้ มีอะไรกันเหรอ?"

"เอ่ออ....อ้อ!.. เขาถามทางไปห้องน้ำครับ"


    หรี่ตามองอย่างจับผิด ก่อนถามอีกครั้ง


"แน่ใจ? ห้องน้ำอยู่แค่นี้เองนะ?"
ถามพลางชี้นิ้วไปทางขวาให้ดูหลักฐาน เด็กหนุ่มหน้าซีด ยิ้มแห้ง ก่อนบอกความจริงด้วยน้ำเสียงเบาหวิว


"เขามาขอเบอร์ผมครับ"



    จนได้...

    และแล้ว สิ่งที่อินทัชกลัวตลอดก็มาถึง

    คนอายุมากกว่าถอนหายใจแรงและว่ากลับ


"อะไรกัน ในปั๊มน้ำมันก็ไม่เว้น ขอเบอร์กันง่ายๆแบบนี้เลย?"


     สบตาคนดุก็รีบอธิบายให้อาทัชเข้าใจ


"ผะ...ผมไม่รู้ครับ ผมเห็นผู้หญิงมองมาและส่งยิ้มให้ ผมก็แค่ยิ้มกลับไป แต่ใครจะคิดล่ะครับว่า เขาจะกล้าเดินเข้ามาขอเบอร์"


"แล้วคายัคยิ้มให้เขาทำไมครับ?"


"เอ้า! อาทัช เขายิ้มมาก็ต้องยิ้มให้สิครับ จะให้ผมทำตัวหยิ่งกลับไปหรอ?"


     
       คายัคเถียงกลับเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง เนื่องจากคายัคไม่ได้ชอบผู้หญิงสองคนนั้นเลยสักนิด ที่สำคัญ คายัคไม่ได้ต้องการเช็คเรตติ้งหรือโปรยเสน่ห์เรี่ยราดใส่ใครอยู่แล้ว


      มองคนหน้าบึ้งก็ได้แต่งงและไม่เข้าใจว่าทำไมเราสองคนต้องมาทะเลาะกันเรื่องนี้ด้วย

 
      เด็กหนุ่มไม่อยากให้อาทัชไม่สบายใจ เอื้อมมือไปจับมืออาทัชอย่างไม่แคร์สายตาคนอื่นว่าเขาจะคิดเห็นอย่างไรกับผู้ชายสองคนยืนจับมือกันในที่สาธารณะ




"คือ ผมสั่งกาแฟไว้แล้วไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาเจอผู้หญิงสองคนนั้น และก็เป็นอย่างที่อาทัชเห็น แต่อาทัชสบายใจได้ครับ ผมไม่ได้ให้ เพราะผมบอกว่า ผม..มี...แ" พยายามอธิบายแต่ไม่เป็นผล เพราะอาทัชไม่ฟัง กลับเดินหนีเข้าร้านกาแฟ ปล่อยให้คายัคยืนขมวดคิ้วมุ่นพลางลอบถอนหายใจยาว


      ยามนี้ ด้านในร้านกาแฟ มีคนยืนหงุดหงิด งุ่นง่านไม่หยุด อินทัชไม่ชอบนิสัยตัวเองตอนนี้เลย นิสัยที่หึงหวงคายัคมากเกินไป แต่มันอดไม่ได้จริงๆ เพียงแค่เห็นผู้หญิงพวกนั้นส่งยิ้มหวานให้คนรักของตัวเองก็เกิดอารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆ


      รู้ดีมาตลอดว่า เมื่อคายัคโตจะยิ่งเสน่ห์แรง และวันข้างหน้า คายัคจะมีคนวิ่งเข้ามาหามากกว่านี้


      รับเครื่องดื่มมาทั้งๆที่อารมณ์ยังไม่หายหงุดหงิด จนกระทั่ง ทั้งคู่เดินกลับมาที่รถ สอดตัวเข้ามาในห้องโดยสาร และเคลื่อนรถออกจากปั๊มน้ำมัน ขับรถไปได้ไม่ถึงสิบกิโลเมตร คายัคก็บอกให้จอด


      คนขับตัดสินใจจอดข้างทาง แล้วหันมาถาม


"คายัคมีอะไร? ให้อาจอดรถทำไม?"

 
      ตั้งแต่ออกมาจากปั๊มน้ำมัน อาทัชก็ไม่พูดไม่จา คายัครู้สึกอึดอัดและไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้มันจะพาลให้การไปเที่ยวไม่สนุก


      พลิกตัวตะแคงข้างแล้วถามคนอายุมากกว่า
 

"ผมอยากคุยให้รู้เรื่อง อาทัชเป็นอะไร? หึงผมหรอครับ?"


      อินทัชหันไปมองคายัค ก่อนจะตัดสินใจบอกความรู้สึกจริงๆข้างใน


"อืม ใช่"


      จากความเครียดขึงค่อยๆคลายและแทนที่ด้วยรอยยิ้มจางๆ เด็กหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าอาทัชแล้วใช้ปลายนิ้วลูบไล้แก้มช้าๆ


"ผมดีใจนะที่อาทัชพูดออกมาตรงๆ ไม่ต้องให้ผมมานั่งเดาใจ แต่การที่อาทัชหึง เพราะอาทัชไม่ไว้ใจผมหรอครับ?"



      อินทัชเงียบอยู่นาน ก่อนตอบ
 


"ไม่รู้ รู้แค่ว่าอากลัว"


"กลัวอะไร? ไหนลองบอกผมซิ?"
เด็กหนุ่มถามเสียงนุ่ม



"คายัคจำได้ไหม? ที่อาเคยบอกว่า คายัคมีโอกาสเจอคนอีกมากและมีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่มีสีสันและสนุกกว่านี้ นี่ไงครับความจริงก็มาถึง ขนาดตอนนี้ คายัคเพิ่งอายุสิบเจ็ด ก็มีคนเข้าหา มีคนมาชอบมากมาย แล้วถ้าในอนาคต คายัคเข้าเรียนมหาฯลัย ได้เจอสังคมใหม่ๆ คายัคจะไม่ยิ่งมีคนชอบเยอะกว่านี้อีกเหรอ? พอถึงเวลานั้น อาจะแน่ใจในตัวคายัคได้ยังไง? ว่าจะไม่หวั่นไหวและทำใจตัดโลกแห่งความสนุกในชีวิตของตัวเองเพื่อมาลงหลักปักฐานและใช้ชีวิตคู่กับอาได้
       คายัค อาอายุสามสิบกว่าแล้วนะ อาไม่ได้คบเล่นๆ อาเลยกลัวและไม่มั่นใจว่าคายัคจะรักอาจนจริงจังมากพอ..."
   บอกความต้องการของตัวเองให้คายัครับรู้ ว่าวัยของอินทัชไม่ใช่การใช้ชีวิตแบกรับความเสี่ยงเรื่องรักแบบลุ่มๆดอนๆอีกแล้ว



        มองคนพูดเสียยืดยาวจนประหลาดใจ เพราะโดยปกติ อาทัชไม่ค่อยระบายความรู้สึกหรือเล่าหมดเปลือกขนาดนี้ เด็กหนุ่มดึงมืออาทัชมากุมไว้แน่น



"เฮ้อ! เท่าที่ฟังมา ดูเหมือนอาทัชไม่เชื่อใจผมเลยอะ ทำไมล่ะครับ? ผมแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ มันก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่าผมจริงจังกับความรักแค่ไหน? อาทัชยังไม่มั่นใจในตัวผมอีกหรอ?"


"....."


"อาทัชคิดว่าผมเป็นคนเจ้าชู้หรอ? ถามหน่อยเถอะ ตอนที่ผมชอบอา อาทัชเห็นผมจีบใครไปทั่วหรือเปล่า? เออ...ถ้าที่ผ่านมา ผมทำตัวเล่นๆ ไม่จริงจังหรือไม่มั่นคงต่อความรักของเรา ผมจะไม่แปลกใจเลยที่อาทัชจะกลัวและไม่ไว้ใจ แต่นี่ผมไม่เคยสนหรือมองใครเลยนะ ทำไมอาทัชถึงไม่เชื่อใจผมบ้าง?"


     คายัคพูดความรู้สึกออกไปให้มากที่สุดเพื่อพยายามปรับความเข้าใจกันจะได้ไม่ต้องมีปัญหาภายหลัง และพยายามแสดงเจตนารมณ์อันหนักแน่นและมั่นคงว่า หากคายัคมีแฟนแล้ว เขาไม่เคยคิดยุ่งกับใครคนไหนอีก

   

     ฟากอินทัชยังเงียบเพราะไม่แน่ใจว่าความเป็นเจ้าข้าว เจ้าของได้ผุดโผล่ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่? รู้แค่ว่าพอเห็นใครก็ตามเข้าใกล้คนรักของตัวเอง ก็นึกกลัวว่าจะถูกแย่งหรือพรากของรักของหวงที่เป็นชิ้นสำคัญที่สุดไป แล้วจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกอยากประกาศศักดาขึ้นมาให้คนอื่นได้รู้ว่าใครคือ เจ้าของที่แท้จริง



     และเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เมื่อใครเข้าหาคายัค ความต้องการที่จะครอบครองคายัคแต่เพียงผู้เดียวก็แผลงฤทธิ์ขึ้น ถ้าถามตัวอินทัชเอง ก็คงได้คำตอบว่า เขาอยากได้ความรักอันมั่นคงมาจากคนที่เขารักก็เท่านั้น



      หรือไม่ บางที การที่ความรู้สึกเลวร้ายได้ก่อตัวขึ้นดั่งพายุที่ถาโถมเข้ามาปั่นป่วนในหัวใจอยู่ตอนนี้ อาจเกิดจากการที่อินทัชระแวงมากจนคิดไปเอง


"อาผิดเองที่งี่เง่า อากลัวว่า คายัคจะทิ้งอาไปหาคนอื่น"


"คนที่ควรต้องกลัว คือ ผมหรือเปล่า? ที่ผ่านมา อาทัชก็มีคนอื่นก่อน ไม่ใช่ผม แถมทำร้ายความรู้สึกผมจนเจ็บหนัก ผมยังไม่กลัวที่จะกลับมาคบกันเลย แค่ได้ยินอาทัชพูดว่าเลิกกับคุณภูมิ ผมก็เชื่อหมดใจ แล้วทำไมพอเป็นผม แสดงออกว่ารักชัดเจนขนาดนี้ อาทัชกลับไม่ไว้ใจ ถ้าผมไม่จริงจังกับอาทัช ผมคงไม่คาดหวังรอกลับมาคบกันหรอก"
คายัคยังคงระบายความรู้สึกของตัวเองแต่ไม่ใช่อารมณ์



 
     แม้เด็กหนุ่มจะพูดจาตรงไปตรงมาอย่างไม่มีถนอมน้ำใจ แต่อินทัชไม่นึกโกรธเพราะมันคือเรื่องจริง อย่างน้อยก็ยังดีกว่าต่างฝ่ายต่างเก็บปัญหาไว้แล้วไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน


    เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ถึงวันหนึ่ง ปัญหาอาจบานปลายจนยากจะแก้ไขแล้วก็ได้


    อินทัชถอนหายใจ ก่อนต้องการให้ความคลางแคลง สงสัยในหัวหายไปจึงบอกตัวเองว่าขอถามคำถามสุดท้าย




"แล้วถ้ามีคนที่เพอร์เฟกท์ เพียบพร้อมทุกอย่างเข้ามาตอนเราคบกันล่ะครับ?"

"ถ้าเราสองคนยังรักกันดี ไม่ได้มีปัญหา และอาทัชไม่ได้ทำอะไรผิด ผมจะหาเรื่องใส่ตัวทำไม? ผมไม่เอาครับ..."



"......"


      คายัคไม่รู้หรอกว่า เกิดอะไรขึ้นกับอาทัช ที่อยู่ดีๆ อาทัชก็เกิดไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของเราสองคนขึ้นมา เด็กหนุ่มรั้งแขนอาทัชให้เข้ามาใกล้แล้วโน้มตัวไปจุมพิตบนหน้าผากให้อีกฝ่ายคลายความตึงเครียดลงบ้าง พร้อมย้ำคำเดิมๆเพื่อให้อินทัชเข้าใจว่าคายัคไม่ได้พูดเล่น


"อาทัช ถ้าผมตัดสินใจคบใครแล้ว ผมไม่เคยคิดนอกใจ ผมรู้ว่าสิ่งที่ช่วยให้ความสัมพันธ์ไปกันรอดได้ คือ การยับยั้งชั่งใจ และผมจะรักษาจิตใจให้หนักแน่น มั่นคงพอ เพื่อจะได้ไม่หวั่นไหวไปหาคนอื่นง่ายๆ เชื่อผมนะ"


"......"



      ค่อยๆเห็นรอยยิ้มสดใสโผล่ขึ้นมาทีละนิดจากคนอายุมากกว่าก็โล่งใจ คายัคต้องการเคลียร์เรื่องนี้ให้จบจะได้ไม่ต้องลากยาวจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง


      คายัคเลือกใช้การสัมผัส ช่วยคลี่คลายปัญหา โน้มตัวไปประกบจูบปาก มือเรียวสอดเข้ากลางกลุ่มผมพลางนวดคลึงเบาๆ ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็ลูบไล้แขนอีกฝ่ายไล่ไปจนถึงช่วงกลางลำตัว



     เพราะยังอยู่กันข้างทาง เด็กหนุ่มเลยไม่อยากจูบนานเกินไป คายัคถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ แล้วใช้ข้อนิ้วไล้กรอบหน้าอีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า ก่อนบอกด้วยเสียงละมุน



"อย่าเป็นอย่างนี้สิครับ ผมรักอาทัชจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว ยังกลัวว่าผมจะหนีไปมีคนอื่นอีกหรอ?"



     
      ฟังคายัคพูดจบก็รู้สึกตัวเองบ้าบอที่หึงหวงคายัคได้อย่างไร้สาระ อินทัชก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นเอามากถึงเพียงนี้


      รู้ตัวแล้วว่าผิดที่ปล่อยให้ความหึงหวงบังตา จนลืมไปว่า คายัครักเขามากแค่ไหน?


       หลังจากสะสางปัญหากันเป็นที่เรียบร้อย อินทัชยอมรับว่ารู้สึกดี และเพิ่งสังเกตว่าความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงเกิด-ดับได้ตลอดเวลาจริงๆ ทั้งๆที่ตอนเช้ายังตื่นเต้น ดีใจที่คายัคให้ของขวัญอยู่เลย พอมาตอนนี้ กลับเครียด กังวล ไม่พอใจที่มีคนเข้ามาสนใจคนรักของตน


      ตระหนักได้ คนอายุมากกว่าก้มหน้าอย่างอายๆ พอคบกัน คนที่งี่เง่า ไร้สาระก่อน กลับเป็นอินทัชเองเสียอย่างนั้น


"ขอโทษ" 


"ไม่ต้องขอโทษครับ ขอแค่จากนี้ อาทัชไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวผมก็พอ"






..................................


1. เป็นแฟนกันไม่ทันไร ความหึงหวงมาเต็ม

2. และแล้วปัญหาชีวิตคู่ก็มา 555+

 (*ขอขยายความของมุมมองทั้งสองตัวละครค่ะ*)

2.1 มุมน้องคายัค คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนเจ้าชู้ น้องเป็นคนรักใครรักจริง น้องมันเลยเซ็งแบบอะไรวะ? ทำให้เห็นขนาดนี้ ยังไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจกันอีก :m15: :m15: :m15:

.
2.2 มุมอาทัชก็แบบ ตรูสามสิบกว่าแล้วนะ จริงจังกับความรักครั้งนี้มาก จนบอกตัวเองแล้วว่า คายัคนี่คนสุดท้ายแล้วนะ หยุดแล้ว ไม่วิ่งหาแล้ว พออออออ!...

แต่พอเจอแบบนี้เข้าก็เกิดระแวงในความสัมพันธ์ของเด็กที่ผ่านโลกมาแค่สิบเจ็ดปี นึกกลัวว่าอยู่ดีๆ หากคายัคยังอยากสนุกกับแสงสีในโลกกว้าง จนวันหนึ่ง อีน้องหนีไปคบคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ทีงี้ ทำไงล่ะ?? และเริ่มกังวลตรงที่แฟนตัวเองมีคนเข้ามาชอบเยอะเกิน จนกลัวว่าน้องจะหวั่นไหวไปกับเขาบ้างเหมือนกันค่ะ... :mew6: :mew6: :mew6:
.

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

rinyriny


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไม่แปลกสำหรับอินทิช  ชายหนุ่มอายุรุ่นพ่อกับประสบการณ์ที่ผิดหวังในความรักมาโดยตลอด  ที่จะเกิดความคิดเยี่ยงนั้น

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หมดเรื่องค้างคากันที

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อาทัชไม่ต้องหวั่นใจอะไรหรอกค่ะ จุดยืนของคายัคชัดเจนเสมอ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 16 ช้ำ











       บอกในขณะที่ปลายนิ้วยังคงลูบเล่นริมฝีปากอีกฝ่าย



"โอ๋ๆ เลิกงอนนะครับ ผมเข้าใจ คนหน้าตาดีอย่างผมก็ต้องมีหึงหวงกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา"
    ไม่อยากให้เครียดไปกันใหญ่จึงแซวเล่นให้อาทัชยิ้มอย่างสบายใจ

"เฮ้ออออ!"


      เห็นฝ่ายอีกฝ่ายลากเสียงยาว พลางกลอกตาไป-มาแถมส่ายหน้าระอาถึงกับระเบิดหัวเราะเสียงดัง


"ฮ่าๆๆ ผมพูดความจริงถึงกับรับไม่ได้เลยหรอครับ?."


"รับได้สิครับ ก็คายัคหล่อที่สุดในปฐพีอยู่แล้วนี่"


"โธ่!...อาทัชอะ มันต้องชื่นชม ไม่ใช่ประชดแฟนแบบนี้สิ"


     มองคนหน้ามุ่ยก็แต้มยิ้มบางเบาก่อนจะยื่นมือไปดึงแก้มเนียนเด็กหนุ่มจนยืดอย่างกับขนมมาร์ชเมลโล


"ถ้าไม่มีอะไร อาไปต่อแล้วนะ"


     คายัคพยักหน้า หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เดินทางกันต่อ ขับรถไปไม่ไกลเท่าไหร่ อินทัชตกใจเมื่อมือเย็นเฉียบ เลื่อนมาสอดปลายนิ้วประสานกันไว้หลวมๆ วางบนตักของอินทัช


      พอเห็นการกระทำดังนั้น อินทัชละสายตาจากท้องถนนหันไปมองเห็นคายัคจุดรอยยิ้มละมุนพร้อมส่งสายตาหวานก็ออกอาการเขินเล็กน้อย เพราะตั้งแต่ที่ทะเลาะกันไปเมื่อครู่ ดูเหมือนคายัคพยายามใส่ใจอินทัชมากขึ้น



     ไม่ต้องมีคำบอกรักหวานหูออกมาจากปาก แต่ก็รับรู้ได้จากการกระทำที่ส่งความสุขแผ่ซ่านไปทั่วห้องโดยสาร


      ปล่อยให้คายัคจับมืออยู่อย่างนั้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การสัมผัสกันและกันทำให้อินทัชอุ่นใจ ราวกับว่าต่อจากนี้ อินทัชจะไม่ขาดความอบอุ่น เพราะได้ความรักมาเติมเต็มจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ



     อินทัชขับไปแบบเรื่อยๆ  ชิลล์ๆไม่เร่งรีบ บางช่วงของสองข้างทางมีต้นไม้สูงใหญ่โอบล้อมราวกับอ้อมกอดที่ช่วยเพิ่มพลังและสร้างความอบอุ่นให้กับนักเดินทางที่ผ่านเส้นทางนี้ แค่ได้เห็นก็สบายตา อินทัชผุดรอยยิ้มมุมปากพลันเหลือบมองเด็กหนุ่มที่แม้ว่าจะหันหน้าออกไปมองนอกรถ แต่มือเรียวของคายัคยังกุมมือกันไว้แน่น



     นานหลายชั่วโมงกว่าจะถึงที่พักก็เย็นย่ำ ขณะที่เช็คอินเรียบร้อย  อินทัชตั้งใจชวนคายัคไปผาเก็บตะวันที่เห็นจากป้ายบอกทางว่าอยู่ไม่ไกลนัก


      ออกจากที่พัก มุ่งหน้าไปผาเก็บตะวัน ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึง พาคายัคเดินไปยังจุดชมวิว ซึ่งมีกลุ่มคนราวสี่ห้าคนยืนอยู่ก่อน ทั้งสองโชคดีมากที่มาทันดูพระอาทิตย์ตก ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นรวมถึงภาพวิวธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาลที่มีภูเขาและต้นไม้น้อย-ใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา ช่วยเยียวยาร่างกายและหัวใจที่ได้มองวิวธรรมชาติแบบนี้ รู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อย


     
      ในขณะที่สองคนยืนมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยรอยยิ้มอันประทับใจ คายัคดึงมืออินทัชไปกุมไว้และเลื่อนมาวางตรงช่วงแผงอก จังหวะที่อินทัชหันไป ก็ปะทะเข้ากับริมฝีปากได้รูปของเด็กหนุ่มที่ตั้งใจฉวยโอกาสจูบอินทัชทั้งๆที่มีคนอยู่ตรงนี้



      รีบผละทั้งๆที่หน้าแดงก่ำ และลากคายัคให้เดินออกไปอย่างไวที่สุด


"ทำไมคายัคทำแบบนี้ คนก็มี ไม่ใช่ไม่มี" ทำหน้าดุแล้วบอกเสียงลอดไรฟัน

"ไม่มีใครเขาสนใจหรอกครับ อีกอย่างที่ผมทำก็เพื่อพิสูจน์ว่าผมมีแค่อาทัช และไม่เคยคิดมองใคร อาทัชจะได้เลิกกลัวว่าผมจะไปหาคนอื่น"


       มันก็น่าดีใจอยู่หรอก ที่คายัคต้องการให้อินทัชสบายใจด้วยการแสดงออกทางการกระทำที่ชัดเจน แต่เรื่องแบบนี้ทำประเจิดประเจ้อกลางที่สาธารณะก็ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก


"อารู้แล้วครับ ทีหลัง ห้ามทำตอนอยู่ข้างนอกอีกนะ เข้าใจไหม?"

   
    มองเด็กหนุ่มลอยหน้าลอยตา ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก็ได้แต่ส่ายหน้าระอา ก่อนจะเดินห่างออกไปในบริเวณใกล้เคียงเพื่อถ่ายรูปคู่ โดยมีพื้นหลังเป็นวิวธรรมชาติสุดแสนสบายตา


    เหตุผลที่มา แค่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจึงไม่คิดมากหากไม่ได้เที่ยวแบบอิ่มหนำ อยู่บนผาเก็บตะวันไม่ถึงสิบห้านาที ก็ขับกลับที่พัก


     จังหวะที่ต้องเดินกลับห้องนั้น คายัคเหลือบเห็นสระว่ายน้ำที่ไร้ผู้คน จึงจูงมืออาทัชไปพอถึง  ทั้งสองวางของสำคัญไว้บนเตียงริมสระ เด็กวัยสิบเจ็ดเล่นทีเผลอกระตุกแขนอาทัชและเหวี่ยงร่างจนทั้งสองร่วงหล่นลงสระว่ายน้ำ


"คายัคเล่นอะไร? เรามีเสื้อผ้าชุดเดียวนะ อีกอย่าง ใส่ชุดนี้เล่น มันผิดกฏของสถานที่ด้วย" บ่นแต่ไม่โกรธ


"โอ้ย! อาทัช จะจริงจังไปไหน? ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ส่วนเสื้อผ้าก็ซักแล้ว ใช้ไดร์เป่าเอา เดี๋ยวก็แห้งครับ"


     ขณะที่อินทัชใช้มือลูบน้ำออกจากใบหน้า เขาสะดุ้งตอนเด็กหนุ่มกระชากตัวเข้าไปใกล้จนช่วงล่างแนบชิดสนิทกัน วงแขนก็โอบเอวไว้หลวมๆ


     รอยยิ้มมุมปากปรากฎขึ้นเมื่อใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้าไปใกล้จนปลายจมูกทั้งสองชนกัน ริมฝีปากสีแดงสดกำลังขยับช้าๆ


"จูบผมหน่อย"


      แม้ดวงตาคู่นั้นจะฉายชัดถึงความต้องการและอินทัชเองก็เห็นดีเห็นงามกับความรู้สึกอีกฝ่าย แต่เพราะใจไม่กล้าพอทำกลางสระว่ายน้ำ


"ไม่เอา เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"

"ผมชอบ ตื่นเต้นดีออก"

"เดี๋ยวเถอะ แค่เรื่องข้างห้องคายัค อาก็อายพอแล้วนะ"
บอกแล้วรีบหลุบตาลงทั้งๆที่ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว


"เสียงที่ดังทะลุออกไปไม่ใช่เสียงของผมสักหน่อย เสียงของอาทัชทั้งนั้น โอ้ยอาทัชครับ เบามือหน่อย ผมเจ็บ"  บ่นคนรักที่ฟาดแรงๆเข้าที่แขนจนขึ้นเป็นรอยแดง


"ไปทำที่ห้องก็ได้"

"มันไม่เหมือนกันนี่นา"


"คายัค อาไม่เล่นด้วยแล้ว"
มองคนเขินจัดรีบปีนขึ้นสระว่ายน้ำก็อมยิ้ม คายัคชอบแกล้งอาทัช เพราะเวลาอาทัชเขินจนประหม่า ช่างดูน่ารัก น่ามอง


     และแล้ว ความหวังที่คายัคอยากได้ฉากโรแมนติกจูบกลางสระน้ำก็อันตรธานหายไป เมื่อคนอายุมากกว่าไม่ยอมเล่นด้วย


     เดินตามอาทัชเข้ามาในห้องพัก ก็ขออาบน้ำด้วย หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย  ทั้งสองปีนขึ้นเตียงด้วยร่างกายเปล่าเปลือย เนื่องจากเสื้อผ้ามีเพียงชุดเดียวและตอนนี้ก็ถูกตากไว้ข้างนอก


    ยามนี้ จึงไม่ต่างกับฉากอีโรติก ที่ร่างมนุษย์ทั้งสองต้องนอนเปลือยเปล่าภายใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน


     การไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้ายิ่งทำให้การโดนเนื้อของกันและกัน กระตุ้นและเร้าอารมณ์ได้โดยง่าย



     ผิวกายที่เสียดสีและสัมผัสกันในบางจังหวะ ทำคายัคลอบกลืนน้ำลายลงคอ เพราะนาทีนี้ ความต้องการทางเพศพุ่งสูงจนแทบทะลุขีดจำกัด แต่คายัคก็ข่มใจ แกล้งหลับเพื่อดูปฏิกิริยาอีกฝ่ายว่าจะสนใจกันหรือไม่


    ไม่ถึงห้านาที คายัคสัมผัสได้ว่ามีคนยุกยิกๆ ก่อนจะซบหน้าลงบนแผงอก พอเด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาก็เห็นอาทัชช้อนตามอง


"หนาว"


    คายัคยิ้มขำ ลูบแก้มอีกฝ่าย ก่อนจะดันร่างอาทัชให้มาชิดใกล้มากกว่าเดิม ทั้งสองนอนตระกองกอดกันเพื่อส่งต่อความอบอุ่น จากนั้น คายัคก็หลับตา แต่สักพักใหญ่ๆคายัคเผลอซี้ดปาก เมื่อคนที่ซุกในอ้อมกอดช่างร้ายกาจใช้มือหนารวบแท่งร้อนทั้งสองท่อนเอาไว้ แล้วขยับรูดไปพร้อมกันจนคายัคลืมตามามอง



"อารู้ว่าเวลานี้ คายัคยังไม่นอนหรอก"


"โอ้ย!...ทำไมถึงชอบยั่วผม"


"หรือไม่อยาก?"


"ฮ่าๆ...ร้ายนะครับ"




    คายัคหยุดขำแล้วเป็นฝ่ายตะโบมจูบหนักหน่วง และเริ่มเร่าร้อนมากขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างกวาดต้อนความหวานด้วยปลายลิ้นอุ่นสัมผัสตวัด ไล่ รุกกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ สักพัก คายัคผละ ก่อนที่จะขยับตัวลงต่ำ ก้มลงไปใช้ริมฝีปากไต่ตามร่างกาย พรมจูบหนักๆ ทั่วแผงอกและแผ่นท้อง จนได้ยินเสียงหอบหายใจสั่นสะท้าน


จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ





    หลังจากนั้น ไม่มีแม้คำพูด มีเพียงเสียงครางกระเส่า และการกระทำอันซื่อตรงต่อหัวใจและความรู้สึก เมื่อทั้งสองกำลังร่วมรักกันเพื่อลดความอึดอัดข้างในแทนที่ด้วยความสุขกาย สบายใจในเวลาต่อมา


     นับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายและคุ้มค่า เมื่อทั้งสองกำลังกอบโกยความสุขกันอย่างเต็มที่....

   






..............







"ของฝาก"


    หลังจากที่คายัคกลับมาจากการไปเติมความหวานให้ชีวิต ยามนี้ คายัคนัดบอลและแคนมาตรงลานโต๊ะม้าหินนำของที่คายัคแวะร้านจำหน่ายช็อคโกแลตอยู่ตรงเขาใหญ่ตอนขากลับบ้านเพื่อเอามาให้เพื่อนๆ


     คายัคซื้อมาทั้งหมดสามกล่อง กล่องใหญ่ให้พวกติ๊ก โมทย์ เก่ง ได้กิน ส่วนกล่องเล็ก เขาตั้งใจซื้อมาขอโทษแคนและบอลเป็นพิเศษ


     ฟากบอลเหลือบมองเพื่อนที่วางถุงลงบนโต๊ะ




"กูขอโทษ" เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่คายัคพูดดีและไม่อารมณ์ร้อนเหมือนทุกที

"กูได้ยินถูกใช่ไหมวะ?" บอลเลิกคิ้วขึ้นสูง

"เออ...กูขอโทษทุกอย่างรวมถึงเรื่องที่กูจะต่อยมึงด้วย"

"กูก็ไม่ได้โกรธมึง"


      ได้ยินดังนั้น คายัคยิ้มกว้าง


"จริงนะ กูขอบใจที่มึงไม่เคืองกู"


     แคนยืนยิ้มตื้นตันใจที่เห็นเพื่อนทั้งสองคนรักกันอย่างสนิทใจดังเดิม


"อืม"

"เราขอบใจแคนด้วยนะ อ้อ!... เราจะบอกข่าวดีให้รู้ด้วย เราคบกับอาทัชแล้ว"


     บอลกับแคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง ก่อนจะหันไปหาคายัคด้วยดวงตาเบิกโพลง

"ห้ะ? จริงหรอครับ?"


"อื้มจริง ก็ที่เมื่อวานไม่มาโรงเรียนก็เพิ่งไปเที่ยวกันมา"


"ไม่อยากจะเชื่อเลย แคนดีใจด้วยนะ อย่างนี้ต้องฉลอง"



"ได้สิ เราเต็มใจ เพื่อเป็นการขอบคุณ อยากกินอะไรบอก เราเลี้ยงเอง จะฉลองที่บ้านอาทัช หรือจะไปกินที่ห้างก็ได้นะ"


"ไปกินที่บ้านอาทัชดีกว่า แคนอยากเจออาทัช"



"กูขอพิซซ่าคนละถาด" บอลเอ่ย


"ได้ ไม่มีปัญหา"


      บอลตาโตเพราะช็อค ที่คายัครอบนี้ ว่านอนสอนง่ายและใจป้ำสุดๆ


"อย่าบอกพวกติ๊กนะ เดี๋ยวมันงอน ถ้างั้นก็ไปวันนี้เลยไหม?"


"จัดไป"



     และแล้ว คายัคก็กลับมาเป็นคนเดิม เพิ่มเติม คือ มีใบหน้าที่สดใสและสัมผัสได้ว่ามีความสุขจากภายในหัวใจจนล้นออกมาสู่ภายนอก สงสัยความรักจะช่วยชุบชีวิตให้มีชีวา เพราะตอนที่คายัคมาที่โรงเรียน ใครเห็นเป็นต้องทักว่า ดูดีและร่าเริงขึ้น     


     วันนี้ คาบเรียนทุกวิชา คายัคไม่เล่น ไม่คุยกับใคร เขาตั้งใจเรียนตามคำสัญญา จนกระทั่ง ได้เวลาเลิกเรียน คายัครายงานอาทัชก่อนกลับบ้าน ว่าแคนและบอลจะเข้าไปกินพิซซ่าด้วย โดยระหว่างนี้ คายัคขอแวบไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าสักหน่อย



     เมื่อได้เที่ยวจนเพลินใจ คายัคจึงพาเพื่อนๆไปหาอาทัช ไม่นานนัก ทั้งสามถึงที่หมายในช่วงเวลาใกล้ปิดร้าน คายัควิ่งนำเพื่อนไม่รอ เพื่อเข้าไปหาคนที่อยู่ด้านในเคาน์เตอร์ อินทัชยังไม่ทันเอ่ยปากก็โดนเด็กหนุ่มประกบจูบ จนบอลและแคนต่างยืนเหวอ มือที่กำลังพนมมือจะไหว้อาทัช ชะงักค้างกลางอากาศ


     ก็คาดไม่ถึงว่าพอดีกัน ทั้งสองจะรักกันจนหวานออกสื่อขนาดนี้


"สรุปแล้ว คายัคอยากให้พวกเรามาไหมอะบอล?" แคนหันไปถามพลางกระพริบตาปริบๆ


"นั่นดิ เรากลับกันไหมแคน?"


       จะว่าไปก็ต้องขอบคุณคายัคเหมือนกัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้แคนประทับใจในตัวบอลที่ดูแลและรักเพื่อนมากขนาดนี้ จึงตัดสินใจแอบคบบอลเงียบๆ โดยไม่บอกให้เพื่อนรู้


      และขณะที่ทั้งสองจะพูดแทรกเพื่อลา คายัคและอาทัชก็ผละออกจากกันพอดี



     ฟากอินทัชดุใส่คนรัก


"คายัค ทำตัวประเจิดประเจ้ออีกแล้วนะ"


"โธ่...อาทัชครับ คนกันเองทั้งนั้น"




"ไม่ได้ อาก็อายเป็นนะ"



"เฮ้ย! เมื่อกี้มีใครเห็นอะไรหรือเปล่า?"
คายัคหันไปตะโกนถามเพื่อน ซึ่งบอลและแคนต่างส่ายหน้ารัว


"เห็นไหมครับ? อย่าบ่นเลย ผมว่าได้เวลาสั่งพิซช่าแล้ว"


      บอลและแคนต่างพยักหน้ารัวอย่างต้องการรีบกิน รีบกลับเพราะไม่อยากรบกวนเวลาหวานชื่นของคู่นี้อีก


      ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างคนมีความสุขสุดๆ เพราะรอบกายของคายัคมีแต่คนที่รักคายัคจากใจมารวมตัวกันในเวลานี้












................






    และแล้วเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก


    หนึ่งเดือนครึ่ง ที่คายัคและอินทัชคบหากันเป็นแฟน ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ทั้งสองไม่ค่อยมีปากเสียง เพราะพยายามปรับความเข้าใจกันทีละนิดละหน่อย เพื่อป้องกันการทะเลาะภายหลัง


    ยามนี้ เป็นเวลาห้าทุ่มของวันศุกร์ที่คายัคและอินทัชเพิ่งเสร็จสิ้นจากกิจกรรมแห่งรัก


    ร่างของทั้งสองไร้เสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย มีเพียงผ้านวมผืนใหญ่ที่ปิดช่วงท่อนล่าง แขนแข็งแกร่งพาดลงบนเอวคนอายุมากกว่าที่นอนตะแคงข้างซบแขนอีกข้างของคายัค


    อินทัชหายใจหอบถี่ เพราะเหนื่อยจากการร่วมรักเมื่อสักครู่ เขามองหน้าคายัคชื้นเหงื่อแล้วแต้มยิ้มบางเบา มันก็ดีอยู่หรอกที่พอคบกัน เราสองคนต่างเติมความรักให้กันไม่ขาด ด้วยการเอาอก เอาใจทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่ง เรื่องเซ็กซ์


     ยอมรับว่า ในตอนแรก ก็เป็นอินทัชเองที่เอ่ยปากชวนคายัคก่อน แต่พอหลังๆมานี้ เวลาที่คายัคชวนร่วมรัก อินทัชก็เริ่มมีปฏิเสธไปบ้าง


      มันจะไม่แปลกเลย หากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันวันละครั้ง แต่บางวัน มีการร่วมรักมากสุดถึงสี่ครั้ง อินทัชว่ามันมากไปจนทำให้ร่างกายเขาแทบแย่เหมือนกัน


     เขาแพ้ทางเด็กหนุ่มด้านนี้จริงๆ พอครั้นจะขอให้คายัคยอมลงเป็นฝ่ายรับบ้าง ก็มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่คายัคยอมให้ แถมร้องจะเป็น จะตาย ว่าจากนี้ ไม่เอาอีกแล้ว จนอินทัชต้องเป็นฝ่ายยอมมาตลอด



"อาทัชครับ ผมมีอะไรจะบอก"

"ว่าไงครับ?"

"ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเซ็กซ์จัด"
คายัคพูดตรงๆ เพราะเป็นกังวลเรื่องความสัมพันธ์ชีวิตคู่กับเรื่องบนเตียง

"หือ?"

"แค่ผมเห็นหน้าอาทัชตอนนี้ ผมก็มีอารมณ์แล้วครับ"

"......"

"อาทัช ผมเครียด ผมควรทำไงดีครับ? ผมว่าเซ็กซ์มันเป็นปัญหาใหญ่ของเราสองคนนะ ถ้าความต้องการเราสวนทางกัน ผมกลัวว่า จะมีปัญหาภายหลัง ทุกครั้งที่อาทัชมีอะไรกับผม อาทัชต้องการมันจริงๆหรือเปล่า?"



"ต้องการครับ มีแค่บางครั้งที่คายัคต้องการมันมากไปหน่อย อาก็เหนื่อยเหมือนกัน"


"จริงหรอครับ? ทำไงดีอะ ผมสงสารอาทัช"

"แล้วก่อนหน้าที่เราห่างกัน คายัคมีความต้องการแบบนี้หรือเปล่า?"


"ไม่มีครับ"
 
"ก็อยู่ได้ โดยไม่มีปัญหาที่ต้องการจะมีเซ็กซ์กับใคร งั้นเหรอ?"

"ใช่ครับ ผมเป็นกับอาทัชคนเดียว ถ้าถามตอนนี้ ผมก็มีอีกได้นะ"


     รู้สึกร่างกายร้อนวูบวาบทันที อินทัชหน้าแดงจัด พอเป็นแฟนกัน การได้ยินอย่างนี้มันก็รู้สึกดี เพราะนั่นแสดงว่าตัวอินทัชก็มีเสน่ห์เย้ายวนอีกฝ่ายให้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือได้เหมือนกัน



     แต่....



"หา? แต่เราเพิ่งจะจบกันไปเมื่อกี้เองนะ"
 
"ก็ใช่น่ะสิครับ และผมก็รู้ว่าอาทัชไม่น่าจะไหว เพราะผมเห็นหน้าอาทัชดูเพลียมาก เฮ้อ! เป็นเพราะผมหมกมุ่นในกามมากไปหรอ? อย่างนี้ ผมต้องไปหาหมอไหม?"


"เอ่อ...ใจเย็นก่อนนะคายัค อาว่าอาจจะเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาคายัคอาจไม่ได้ระบายออกไป ลองดูอีกสักเดือนก่อน ถ้าคายัคยังมีความต้องการทางเพศสูงขนาดนี้ อาว่า เราไปหาหมอกันนะ"


"ได้ครับ ขอบคุณนะครับอาทัชที่เข้าใจผม"


"อามีแฟนคนเดียวก็ต้องดูแลและทำทุกอย่างให้ดีที่สุดสิ"



    บอกแล้วจูบที่ปลายจมูกเด็กหนุ่ม



จุ๊บ



"น่ารักที่สุด ถ้างั้น วันนี้ผมพอแล้วก็ได้ ฝันดีนะครับ อาทัช"




    เห็นสีหน้าเด็กหนุ่ม ก็นึกสงสาร แม้ว่าตัวเองจะอ่อนล้าและเหนื่อยสักเพียงใด สุดท้ายอินทัชก็ต้องตามใจ อย่างกลัวเด็กหนุ่มคิดมาก เขาจึงโน้มตัวไปจูบคายัคและเริ่มร่วมรักกันใหม่อีกครั้ง


    ในขณะเดียวกัน พอเห็นอาทัชยอมทำเพื่อคายัคก็อดดีใจไม่ได้ และถ้าต้องเลือกระหว่างทรัพย์สินเงินทองมากองไว้ตรงหน้ากับอาทัช


    คายัคตอบได้ไม่คิดว่า เลือกอาทัชแน่นอน เพราะเงินหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การได้ใช้เวลาอยู่กับคนรักที่คายัคเรียกได้เต็มปากว่าเขาคือคนในครอบครัว มันช่างล้ำค่าที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้







.............






   เช้าวันต่อมา


    ครืด ครืด


   ในขณะที่ทั้งสองยังไม่มีใครตื่น เนื่องจากเพลียจัดจากการร่วมรักเมื่อคืน แต่แล้ว คนที่กำลังฝันหวานก็เริ่มหงุดหงิด เมื่อเสียงดังครืดๆจากการสั่นสะเทือนของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง


    มือเรียวควานสะเปะสะปะเพื่อหาเครื่องมือสื่อสาร เมื่อเจอต้นตอของความน่ารำคาญ คายัคกดรับ



"ฮัลโหล"



[พี่ทัชยังไม่ตื่นหรอคะ? ตื่นได้แล้วค่ะ วาวมีเรื่องสำคัญต้องคุย ถ้าเป็นไปได้มาหาวาวด่วนเลยนะคะ...วาวต้องคุยเรื่องงานแต่งกับพี่ค่ะ!....]





****1.1****




.
1. ชอบชีวิตรักคู่นี้จัง เปิดเผยธาตุแท้ดี อุตส่าห์กำลังปรับตัวเข้าหากันและรักกันหวานจนมดขึ้นแล้วแท้ๆ   :man1: :man1: :man1: :man1:
.
.
2. มาลุ้นและช่วยเป็นกำลังใจให้น้องคายัคกันด้วยนะคะ งื้อออออ :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

.



ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

rinyriny   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2018 00:37:12 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
อย่าเข้าใจผิดนะคายัค
ต้องค่อยๆคุยกันน้า
 :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด