ตอนที่ 17 เพื่อนพ่อ (ตอนจบ) 3 หนึ่งเดือนต่อมา ณ Intouch Cafe'
ยามบ่ายแก่ๆของวันเสาร์
ดวงตาคู่คมมองร้านกาแฟที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน มือเรียวผลักประตูกระจกใส ยิ้มกว้างไปกับทุกก้าวเดิน
เด็กหนุ่มที่เคยน่าเอ็นดู บัดนี้อายุสิบแปดปีบริบูรณ์ คายัคทั้งหล่อเหลา สูง รูปร่างดีมากกว่าเก่า แค่เดินเข้ามาในร้านกาแฟก็มีผู้หญิงแอบมองกันหลายคน
คายัคยังมีชีวิต...ใช่...คายัคยังไม่ตาย...
ย้อนกลับไปจากวันที่คิดสั้น ในขณะที่เตรียมตัวตาย จู่ๆก็มีคำพูดในอดีตพร้อมใบหน้าของอาทัชลอยเข้าหัว
'การเกิดมาของคายัคเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับอามากเลยนะ'
ชะงัก เมื่อเริ่มฉุกคิดว่า การได้เกิดมาเป็นคน มีค่ากว่าสิ่งอื่นใด เขาควรขอบคุณด้วยซ้ำที่ได้เกิดมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแบบนี้
ในขณะที่ยืนชั่งใจอยู่บนขอบปูน ช่วงเวลาเดียวกัน มีพลเมืองดีและพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็น วิ่งกรูกันเข้ามาช่วย ทั้งฉุด ทั้งจับเด็กหนุ่มลากร่างลงมาที่พื้น
จากจุดต่ำสุดของชีวิต เป็นจุดเปลี่ยนให้คายัคลองหาทางออกทางอื่นที่จะช่วยรักษาจิตใจให้ดีขึ้นได้...
การบวชเณร
คายัคตัดสินใจใช้ช่วงเวลาปิดเทอมเล็กเข้าบรรพชาสามเณรที่วัดป่า โดยคายัครบกวนอาสาให้พาไปเนื่องจากต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองด้วย แต่คายัคกำชับอาสาว่าห้ามบอกอาทัชเด็ดขาด
เมื่อต้องอยู่แต่ในวัด จึงไม่ง่ายนักที่จะจับคนดื้อรั้นให้อยู่ในโอวาท และกฏระเบียบของทางวัด โดยเฉพาะการทำกิจของสงฆ์ เป็นอยู่บ่อยๆที่คายัครู้สึกผ้าเหลืองร้อน คิดหนีออกจากวัดหลายครั้ง หลายครา มันร้อนรุ่มทางกายและใจอย่างบอกไม่ถูก จนพระพี่เลี้ยงย้ำว่าให้อดทน ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้แล้วจะดี
และแล้ว การบวชเณรก็ครบเวลาตามกำหนด จากคนที่ร้อนรนอยากหนีออกจากวัด พอได้ฤกษ์ลาสิกขา กลับไม่อยากกลับบ้าน วันที่สึกออกมา คายัครู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป เหมือนใจได้ขัดเกลากิเลส ชำระล้างสิ่งร้ายๆออกไป ทำให้คายัครู้จักคิดไตร่ตรอง ใจเย็นและรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองมากขึ้น
เมื่อนึกย้อนเรื่องราวที่ผ่านมา คายัครู้ว่าตัวเองมีข้อเสียมากมาย แถมยังคิดไม่เป็นในหลายๆเรื่อง อย่าง เรื่องการเห็นแก่ตัว การเรียกร้องเอาแต่ความต้องการของตนเองจนลืมสนใจคนรอบข้างว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร มิหนำซ้ำ ยังจมจ่อม หมกมุ่นอยู่กับอารมณ์ร้ายๆของตัวเอง เช่น อารมณ์ร้อน โมโหง่ายมากเกินไป พอรู้จุดอ่อนแล้ว คายัคจึงพยายามแก้ไขและฝึกตนเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น
สำหรับ การบวช เพื่อนๆที่โรงเรียนและอาสารู้เรื่องทั้งหมด เว้นแต่เรื่องการฆ่าตัวตาย คายัคเก็บเงียบไว้ไม่บอกใคร เพราะคายัคอยากเริ่มต้นใหม่กับชีวิตอีกครั้ง
แหละการกลับมาหาอาทัช คายัคตั้งใจมาขออาทัชให้ให้อภัยแก่เขา เพราะคายัคได้ให้อภัยตัวเองกับเรื่องราวที่ผิดพลาดในอดีตแล้ว
สองเท้าชะงัก ตรงหน้าเคาน์เตอร์ โคลงศรีษะมองผู้หญิงที่ดูน่าจะแก่กว่าคายัคไม่มากยืนยิ้มหวานอยู่ด้านในเคาน์เตอร์
อาทัชจ้างคนมาทำงานแล้วหรอ? จากความสงสัยใบหน้าหล่อค่อยๆผุดรอยยิ้มหวาน
"สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ?"
ยังไม่สั่งรายการเครื่องดื่ม กวาดตามองอาทัชทั่วร้าน จนกระทั่งสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงที่เพิ่งเดินลงบันไดแล้วเข้ามาด้านในเคาน์เตอร์
เมื่อทั้งสองสบตากัน ฟากอาทัชดูตระหนกตกใจ ผิดกับอีกคนที่พอเห็นอีกฝ่ายแล้วยิ้มกว้าง
"ผมอยากได้ความรัก ที่นี่มีขายไหมครับ?" คนพูดเอาแต่จดจ้องมองอาทัชไม่วางตา
ทางฝั่งหญิงสาวยืนยิ้มเขินอายบิดตัวไปมาอย่างไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เด็กหนุ่มพูดถึงนั้น ไม่ใช่เธอแต่เป็นเจ้าของร้านที่ยืนอยู่ข้างหลัง
"ผมล้อเล่น เอาช็อคโกแลตเย็นแก้วนึงครับ"
คายัคยิ้มมองหญิงสาวที่ก้มหน้ารับเงินและดูประหม่าเล็กน้อย
"เก้าสิบบาทค่ะ"
คายัคยื่นแบงค์พันให้
"ไม่ต้องทอนครับ" หญิงสาวพยักหน้าทั้งๆที่ยิ้มไม่หุบ
จังหวะที่คายัคหมุนตัวจะไปหาที่นั่ง ขายาวกลับหยุดชะงักแล้วหันหลังกลับมาใหม่ เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ คายัคโน้มตัวไปใกล้พลางท้าวแขนถามพนักงานสาว แต่ไม่วายส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนที่ยังยืนตัวแข็งอยู่
"เอ่อ!...ขอโทษนะครับพี่ ผมขอถามอะไรหน่อย ผู้ชายที่ยืนอยู่ในเคาน์เตอร์น่ะ ไม่ทราบว่า มีแฟนรึยังครับ?" ทำเป็นถามพนักงาน แต่เสียงดังขนาดนั้น ใครๆก็ได้ยิน
หญิงสาวหน้าหดเหลือสองนิ้ว หุบยิ้มแทบไม่ทันที่เด็กหนุ่มหน้าหล่อกลับแสดงความสนใจพี่ทัชจนออกนอกหน้า ฟากอินทัชยืนเงียบ แค่เห็นรอยยิ้มทะเล้น อินทัชก็อยากร้องไห้ ไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นเจ้าของรอยยิ้มนี้เร็วกว่าที่คิดไว้
"มะ...ไม่มีค่ะ พี่ทัชยังไม่มีแฟนค่ะ" หญิงสาวตอบหน้าเจื่อน และแล้วคายัคก็ยิ้มกว้าง
"ถ้างั้นนนนนน........" ลากเสียงยาว ก่อนส่งสายตาพราวเสน่ห์และรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อาทัช
"ผมจีบนะ"
ไม่รอคำตอบ คายัคเดินอมยิ้ม หมุนตัวไปหาที่นั่งที่ว่าง ใกล้กันนั้น มีโต๊ะหญิงสาวหลายโต๊ะที่มองมาพยายามจะส่งยิ้ม แต่คายัคไม่สนใจ
เพราะเวลานี้ คนที่เขาสนใจ คือ อาทัชคนเดียว
ไม่นานที่เจ้าของร้านนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ขณะที่คนอายุมากกว่าทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นทักทายยังไง หวังจะเดินกลับไปตั้งหลัก ทว่า คายัคคว้าข้อมือไว้ก่อน
"บอกชัดขนาดนั้นว่าจะ 'จีบ' ยังไม่คิดให้โอกาสผมได้นั่งคุยซักหน่อยหรอครับ? คุณเจ้าของร้าน"
ได้ยินคนปล่อยมุกทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อินทัชชะงัก และตัดสินใจทิ้งตัวลงนั่งทั้งๆที่น้ำตาคลอ เขานั่งเงียบเพราะยังตื้นตันใจไม่หายที่คายัคกลับมาหากัน
คนเด็กกว่าแต้มยิ้มหวานละมุน พร้อมดึงมืออาทัชมาวางไว้บนตักของตัวเอง
"ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะครับ?...หรือว่าลืม 'ตัวน้อย' คนนี้ไปแล้ว เฮ้อ! เสียใจจังเลย"
แกล้งเล่นละคร ทำหน้าเศร้าสลด ส่วนอินทัชใจสั่น หวั่นไหว บีบกระชับมือคายัคที่จับเขาอยู่
"มะ...ไม่ลืม"
"แล้วเงียบทำไมครับ? อ้อ! อาทัชเขินลูกค้าหรอ? ปะ...ถ้างั้นเราขึ้นห้องกัน" ยิ้มพร้อมมัดมือชกด้วยการจูงมือให้อาทัชลุกขึ้นยืน จนลูกค้ารายอื่นที่สนใจในตอนแรกต่างทำหน้าเสียดาย
พออาทัชยืน คนที่จับมือก่อนหน้าก็เปลี่ยนไปโอบเอวคนอายุมากกว่า เดินไปหาพนักงานสาว
"พี่คนสวยครับ ผมฝากร้านหน่อยนะ"
หญิงสาวมัวแต่ยืนเขินอายม้วนต้วนที่ได้ยินคำชม จนไม่รู้ตัวเลยว่าสองคนนั้นเดินลับตาขึ้นห้องด้วยกันไปแล้ว
ปิดประตูห้องนอนไม่ทันไร คายัคดันร่างอาทัชจนแผ่นหลังติดบานประตูแล้วประกบจูบ ขบกัดริมฝีปาก ล่างด้วยความมันเขี้ยว ก่อนที่จะดูดเม้มริมฝีปากบน-ล่างอย่างละมุน แล้วผละออกมาลูบแก้มคนอายุมากกว่า
"เป็นอะไรครับ? โกรธผมหรอ? ผมขอโทษ ผมผิดเอง ที่ตอนนั้น ผมไม่พยายามเข้าใจอาทัชเลย"
ไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่มันพูดไม่ออกมากกว่าและสิ่งที่ไม่อยากให้มันออกมา กลับเป็นน้ำตาที่ไหล
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ ผมกลับมาแล้ว ผมขอโทษ ดีกันนะครับ อาทัช" คายัคใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
"คายัคจะทิ้งอาไปอีกไหม?"
"ไม่แล้วครับ"
"ก่อนหน้านี้ ผมเอาแต่ใช้อารมณ์จนตัดสินใจอะไรวู่วามไปหน่อย ผมขอโทษนะที่แต่ก่อน นึกถึงแต่ความต้องการของตัวเอง จากนี้ ผมจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว"
"ครับ"
อินทัชที่กำลังจะอ้าปากพูดต่อกลับชะงักค้าง เมื่อเด็กหนุ่มที่ยืนแนบชิดร่าง กลับย่อตัวลงอย่างรวดเร็ว หยิบพวงมาลัยกลีบกุหลาบอันสวยสดงดงามออกมาจากกระเป๋าคาดอก พร้อมก้มกราบแทบเท้าคนที่คายัคยังจงรักและภักดีเสมอ
"ผมขอโทษกับเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา อาทัชยกโทษให้ผมได้ไหมครับ?"
นึกไม่ถึงว่าคายัคจะทำแบบนี้ อินทัชตัวชาวูบวาบ ใจเต้นตึกตัก ตึกตัก รู้สึกเซอร์ไพรส์และกระอักกระอ่วนในเวลาเดียวกัน เพราะลึกๆแล้ว เขาเองก็มีส่วนผิดที่ทำร้ายหัวใจคายัคเหมือนกัน
อินทัชรีบย่อตัวลงตามพลางกุมมือคายัคที่ถือพวงมาลัยไว้
"คายัค อาไม่เคยมองว่าคายัคผิด คายัคจะขอโทษอาทำไม? อาเองที่ผิด ผิดมาตลอด"
"ผมว่าเราก็ต่างผิดด้วยกันทั้งคู่ ผิดที่ไม่เคยฟังและเข้าใจอะไรให้ดีจริงๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับมันผ่านมาแล้ว แต่ตอนนี้ อาทัชยกโทษให้ผมได้ไหม?"
"ครับ ครับ แล้วคายัคล่ะ?"
"ผมยกโทษให้ครับ ผมคิดถึงอาทัชมากนะ"
"เหมือนกัน อย่าไปไหนอีกนะ"
"ครับ ผมสัญญา"
"คายัค"
"ครับ?"
"ไม่ต้องจีบหรอก เป็นแฟนกันเลยก็ได้"
ขำคนที่เพิ่งจะรับมุกคายัคที่แซวไปตั้งแต่สั่งเครื่องดื่ม
"ฮ่าๆๆ ถ้างั้น ผมกลับมานอนที่นี่ถาวรแล้วนะ "
"มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะคายัคมีแฟนอยู่บ้านหลังนี้นี่ "
"ฮ่าๆๆ อาทัชครับ ระวังคำพูดบ้าง เดี๋ยวผมจะอดใจไม่ไหวเอานะ"
"ก็ไม่ต้องอดสิ เดี๋ยวก็อึดอัดแย่หรอก"
ระเบิดหัวเราะเสียงดัง ทำไมอาทัชถึงเป็นคนยั่วได้เสมอต้นเสมอปลายแบบนี้ แล้วมีหรือที่คายัคจะปฏิเสธก็ต้องทำตามอย่างห้ามไม่ได้
.......................
หลังจากที่เมื่อคืนทั้งคู่ได้สานความรัก ความผูกพันให้แนบแน่นหลังจากที่ห่างหายกันไป ยามสายของวันถัดมา อินทัชรีบบึ่งไปโรงพยาบาลทันทีทราบเรื่องจากพี่ชายว่า แม่เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน เนื่องจากท้องเสียมีอาการถ่ายเหลวรุนแรง และมีไข้ขึ้นร่วมด้วย
ถึงโรงพยาบาล อินทัชและคายัคมุ่งตรงไปห้องพิเศษ คายัคตื่นเต้น มือชื้นเหงื่อ เขาพยายามใจดีสู้เสือ เพราะไม่รู้ว่าถ้าแม่อาทัชเห็นเขาจะทำหน้าอย่างไร
อรรพนพที่นั่งเฝ้าแม่อยู่ก่อน พอเห็นทั้งสองเดินเข้ามาในห้อง ก็ทักทายนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกไปเพื่อให้ความเป็นส่วนตัว
เพียงเห็นคุณย่ามีใบหน้าซีดเซียว นอนซมบนเตียงคนไข้ ที่แขนมีเข็มปักอยู่พร้อมสายน้ำเกลือระโยง
ระยางและอุปกรณ์อื่นๆข้างเตียงก็นึกสงสาร คายัครู้ดีว่า ถ้าไม่ป่วยไข้ ก็คงไม่มีใครอยากเข้า-ออกโรงพยาบาลมากนักหรอก
พออาทัชทัก คุณย่าก็ลืมตาขึ้นมามอง คายัคยกมือไหว้สวัสดีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสุดฤทธิ์
"แม่ครับ นี่คายัคครับ เป็นแฟ../ สวัสดีครับ คุณย่า ผมเป็นหลานของอาทัชครับ"
คายัคพูดกลบทับทันทีและยังคงไว้ด้วยรอยยิ้มหวาน ฟากอินทัชขมวดคิ้วมองหน้าคายัค ก่อนจะละสายตาหันไปหาแม่ของเขา
"แม่เป็นไงบ้างครับ ผมเพิ่งรู้เมื่อเช้าเลยรีบมา"
"ดีขึ้น"
เธอตอบลูกชายด้วยเสียงเบาหวิวอย่างคนไร้เรี่ยวแรง และดูเหมือนเธอพยายามจะขยับตัวหยิบแก้วน้ำที่โต๊ะข้างเตียง คายัคเห็นรีบถลาตัวไปแล้วเอ่ย
"เดี๋ยวผมหยิบให้นะครับ"
คายัคประคองร่างมารดาคนรักให้กึ่งนั่ง กึ่งนอน ถือแก้วน้ำมาจ่อตรงปากค่อยๆยกขึ้นทีละนิด
มารดาของอินทัชแตะข้อมือคายัคส่งสัญญาณว่าพอ จากนั้น คายัควางแก้วแล้วประคองเธอให้นอนลงตามเดิม
"คุณย่าอยากได้อะไรบอกนะครับ ผมหยิบให้"
เธอพยักหน้ารับ ก่อนถาม
"จำไม่ได้ หลานใคร?"
"พ่อของผมเป็นเพื่อนสนิทอาทัชครับ พอพ่อผมตาย อาทัชก็รับเลี้ยงต่อครับ"
มารดาของอินทัชรับฟังอย่างไม่หือ ไม่อืออะไร เธอส่งสายตามองข้ามไหล่คายัคไปหาอินทัชที่ยืนประกบอยู่ข้างหลัง
อินทัชแอบยิ้มที่คายัคพยายามใส่ใจและดูแลแม่ของเขาเป็นพิเศษ พอเห็นแม่มองมา อินทัชจึงถามเพิ่ม
"เห็นพี่นพบอกว่าต้องรอดูอาการ ช่วงนี้ ผมมานอนเฝ้าแม่ได้นะครับ"
"อืม"
คนอายุมากกว่าขมวดคิ้วด้วยความฉงน คราวก่อน ที่แม่เคยพูดถึงคายัคทำนองเหมือนรู้ความสัมพันธ์ของคายัคและอาทัชว่าเป็นอะไรกัน สรุปแล้วแม่รู้อะไรมากกว่านั้นจริงๆหรือเปล่า?
เพราะตั้งแต่ที่ทั้งสองเข้ามาในห้อง มารดานิ่งเฉย ไม่มีผลักไสหรือไล่ให้คายัคและอินทัชกลับไป แต่ครั้นจะส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก็ไม่มีวี่แววเช่นเดียวกัน
"ผมว่าไม่เกินสองวัน คุณย่าก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแน่ๆ แต่คุณย่าต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ ผมเป็นห่วง"
เห็นทุกคนเงียบ คายัคจึงโพล่งอย่างไม่อยากให้อึดอัด เด็กหนุ่มบอกพร้อมยิ้มสู้ อย่างน้อยรอยยิ้มที่ให้ไปก็ต้องทำให้คุณย่าใจอ่อนบ้างล่ะน่า...
เสี้ยววินาทีนั้น อินทัชเห็นแม่น้ำตาคลอ
"มานี่หน่อย" เธอเรียกเด็กหนุ่มให้เข้าไปใกล้ คายัคชะงัก ก่อนจะโน้มตัวไปหาคุณย่าที่นอนอยู่ จู่ๆ มารดาของอินทัชยกมือลูบแก้มคายัคโดยไม่พูดอะไร
อยู่ในห้องนี้ สิ่งเดียวที่ช่วยได้ คือ รอยยิ้ม ตั้งแต่มา คายัคยังยิ้มไม่หุบเพื่อข่มความกลัวข้างใน
คนที่ดูเหมือนเป็นส่วนเกินอย่างอินทัชเอียงคอมองมารดาที่ใบหน้าไร้ความรู้สึก อ่านไม่ออก แต่มือของเธอก็ยังจับแก้มคายัคอยู่อย่างนั้น
ทางฝั่งคายัคเองยิ้มพร้อมพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
"อาทัชบอกผมว่า อีกไม่กี่วันก็ถึงวันเกิดคุณย่าแล้ว ถ้าถึงวันนั้น ผมชวนคุณย่าไปทำบุญที่วัดได้ไหมครับ?"
เธอพยักหน้า ก่อนจะลดมือลงไว้ข้างตัวและบอกไล่อินทัชและคายัคให้ออกไปจากห้อง อย่ารบกวน เพราะเธอจะนอนต่อแล้ว
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมมาเฝ้าแม่คืนนี้แทนพี่นพนะครับ"
ไม่ได้ต้องการคำตอบ แค่บอกให้มารดารู้ก็เท่านั้น
อินทัชเดาใจไม่ถูกว่า สรุปแล้ว แม่เขารู้สึกยังไงกันแน่...แต่จากที่เห็น ก็พอเดาสถานการณ์ได้ว่า ก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด...
อินทัชขอให้พี่ชายเฝ้าแม่ต่อ ก่อนจะขอตัวไปหาอะไรรองท้อง เพราะยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า
ตอนนี้ ทั้งคู่สอดตัวเข้ามาในห้องโดยสารเรียบร้อย กระทั่ง รถยนต์เคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล
"ทำไมถึงไม่ให้อาแนะนำว่าเป็นอะไรกันครับ?"
"คุณย่าไม่สบายอยู่ ถ้าเผลอพูดอะไรกระทบจิตใจก็แย่ลงกว่าเดิม อีกอย่าง ผมว่าเรื่องของเรา ถ้าคุณย่ายังรับไม่ได้ก็เก็บไว้เป็นความลับก่อนก็ได้ครับ"
"ขอบคุณที่เข้าใจอานะ"
"ด้วยความยินดีครับ อ้อ...อาทัชครับ ถ้าเรากินข้าวเสร็จแล้ว แวะห้างได้ไหม? ผมอยากลองไปเดินดูของขวัญให้คุณย่าน่ะ"
"น่ารักนะเรา"
"อยากได้ลูกเขา ต้องเอาใจหน่อย"
"ก็ได้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"ฮ่าๆๆ โอ้ย...ก็อาทัชเป็นซะอย่างนี้"
อินทัชก็เริ่มอายเหมือนกันที่พูดอะไรออกไปให้เด็กมันได้แซว ฟากคายัคหยุดหัวเราะพลางจับมืออาทัชที่ว่างยกขึ้นมาจุมพิตที่หลังมืออย่างแผ่วเบา
ทั้งสองต่างสบตาและยิ้มให้กันเมื่อรู้ว่าสัมผัสนั้น เต็มไปด้วยความรัก ความจริงใจที่มีให้กันไม่เปลี่ยนแปลง
มองคนขับรถที่อมยิ้มก็ยิ้มตาม คายัคไม่รู้หรอกว่า การได้พบเจออาทัช มันเป็นเรื่องของความบังเอิญหรือโชคชะตาที่ลิขิตไว้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด คายัคก็ขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เหวี่ยงอาทัชให้มาเจอและรักกันกับเขา
และเรื่องที่เกิดขึ้น คายัคได้ข้อคิดว่า อดีตที่ผ่านมา คือ บทเรียน จากนี้ต่อไป คายัคจะนำข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาปรับปรุงและแก้ไขตัวเอง เขาจะต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อและไม่ปล่อยมืออาทัชไปอีก เพราะคายัครู้ใจตัวเองดีแล้วว่า
คนที่คายัคจะใช้ชีวิตคู่ด้วยทั้งในปัจจุบันและอนาคตมันต้องเป็น...คนนี้ คนเดียวเท่านั้น...
...เพื่อนพ่อ...
อินทัช ตันตระกาลกูล
.
.
THE END
.......................................................
จบลงด้วยดี...ใจหาย...คงคิดถึงคายัคกับอาทัชแน่ๆเลยเรา...
.
จากใจ
ขอบคุณนักอ่านขาจร ขาประจำ หรือใครก็ตามที่ยังอยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ
ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน คอยช่วยให้กำลังใจคายัคในระหว่างทางแห่งการเติบโต ได้มีตักเตือน เตือนสติตัวละคร และช่วยเสนอมุมมองความเห็นต่างๆ-นานา มันมีค่ามากจริงๆค่ะ อ่านไปก็ยิ้มไป คล้ายคนบ้าอะนะ .^^.
.
จากนี้ หวังใจว่า เราคงได้เห็นนักอ่านไปแวะเวียนนิยายเรื่องใหม่ของ rinyriny กันนะคะ ถ้าอัพเรื่องใหม่แล้ว ไปทักทายกันบ้างนะคะ..
..
ขอบคุณค่ะ..
..
.
.
นิยายเก่าของ rinyriny
1. นิยาย ..*ขอผมได้รัก*.. https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57256.02. นิยาย ||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*||
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0
3. นิยาย +..▪..+"แสง.สุด.ท้าย"+..▪..+ https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61787.0
4. นิยาย ▪▪▪อมยิ้มสื่อรัก▪▪▪ https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66461.30**และเรื่องใหม่ค่ะ**
นิยาย ||*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*|| https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68271.0