[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 199192 ครั้ง)

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
น้องมีนของพี่ เอ็นดู เดี๋ยวฟ้าจะสดใสนะลูกนะ

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
สงสารน้องมีนา
รอตอนต่อไปค่ะ รอน้องซันเผด็จศึกพี่ภัทร555

ออฟไลน์ Tuffina

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารน้องมีน

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องมีนของแม่ ต้องทุกข์อีกนานเท่าไรหนอ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
“เลิกคลาสได้ครับ”




หลังจากสั่งรายงานกลุ่ม อาจารย์ประจำวิชาก็ปล่อยนักศึกษาให้เป็นอิสระ มีนาแทบจะพุ่งตัวออกมาจากบรรยากาศอึดอัดในห้องสี่เหลี่ยมนั้น ในหัวไม่มีแม้แต่ความกังวลว่าตนจะทำอย่างไรกับการจับกลุ่มทำรายงานที่ได้รับมอบหมายเมื่อครู่
เขาแค่อยากไปให้พ้นจากคนพวกนี้ อยากออกไปจากตรงนี้ เขาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น



"มีน รอก่อน"




เจ้าของชื่อสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่เขาไม่รู้จักเรียกตัวเองไว้ มีนากอดกระเป๋าของตัวเองแน่น หันซ้ายขวามองหาต้นเสียงอย่างงุนงง




ในที่สุดเขาก็เห็นเพื่อนร่วมคณะสองคนที่เดินตรงมาหาเขา หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งผมสีบลอนด์ทรายที่ร่างเล็กจำได้ว่าเป็นเดือนของคณะแพทยศาสตร์ที่เขาเห็นบ่อยๆเวลาติดสอยห้อยตามพายุไปหลังเวที ส่วนอีกคนเป็นเด็กหนุ่มร่างเล็กที่สูงกว่ามีนาเพียงไม่กี่เซนติเมตร สวมแว่นหนาเตอะและไว้ผมทรงกะลาครอบดูแปลกตา




"เอ่อ...มีน รายงานมีกลุ่มรึยัง” คนตัวเล็กที่เขาจำได้อย่างเลือนรางว่าชื่อแว่นถาม มีนามองคนทั้งสองด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ กอดกระเป๋าเรียนของตนไว้แน่น แต่ก็ยังคงส่ายหน้าช้าๆ




"งั้นอยู่กลุ่มเดียวกันป่ะ พวกเราขาดคนนึงพอดี”



เดือนคณะที่มีนาเพิ่งนึกออกว่าชื่อแทนไทยถามแทรกเสียงดัง แม้จะรู้ว่าเป็นบุคลิกของอีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่มีนาก็อดสะดุ้งอย่างตกใจอีกครั้งไม่ได้




"...ว่าไง สนใจมั้ย?" แว่นถามด้วยน้ำเสียงที่มีนารู้สึกว่าคนปกติใช้พูดกับลูกนกที่บาดเจ็บ แต่นั่นก็ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย




เด็กหนุ่มพยักหน้าช้าๆ



"ดีเลย งั้นเดี๋ยวไปกินข้าวกันจะได้รีบแบ่งงาน"




ไม่พูดพร่ำทำเพลง แทนไทยกอดไหล่เพื่อนร่วมกลุ่มคนใหม่พร้อมรอยยิ้ม มีนาสะดุ้งเฮือกอีกครั้งอย่างตกใจ นอกจากเพื่อนสนิทต่างคณะทั้งสองแล้วแล้ว ไม่มีใครเคยแตะต้องเขาด้วยท่าทีสนิทสนมแบบนี้มาก่อน แต่ร่างเล็กก็ยังคงยอมปล่อยใหอีกฝ่ายกอดคอพาไปทางโรงอาหารแต่โดยดีด้วยไม่อยากให้เพื่อนร่วมกลุ่มรู้สึกว่าตนเป็นคนประหลาด







"มีนเป็นคนที่ไหนเหรอ?" แทนไทยพยายามชวนคนที่นั่งทานข้าวเงียบๆอยู่คุย เจ้าของชื่อตอบเสียงแผ่ว



“เราเป็นคนที่นี่..”



เขาเกิดที่นี่ โตที่นี่ ถึงแม้ว่าสภาพความเป็นอยู่จะอัตคัดขัดสนแค่ไหน แต่ครอบครัวของเขาก็ไม่มีที่ใดให้หนีไปตายเอาดาหน้าแล้ว



"เหรอ เหมือนกันเลย นี่ เคยไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่คลองข้างวัด..."




มีนาพยักหน้ารับฟังคำพูดของแทนไทยตามมารยาท ท่าทีเป็นมิตรของอีกฝ่ายทำให้เขาคิดถึงทินกร ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าเพื่อนใหม่ของเขาดูร่าเริงกว่าพอสมควรก็ตาม




"แว่น ทำไรวะ?" แทนไทยหันมาถามเพื่อนที่ฟังบทสนทนาไปตัดกระดาษไปบ้างอย่างสงสัย มีนาหันกลับไปมองที่มือของแว่น...




…และค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาเบิกตากว้าง



"ตัดคูปองแลกน้ำยาปรับผ้านุ่ม" แว่นตอบ "จะหมดเขตอยู่แล้วเหลืออีกตั้งใบนึง เสียดายว่ะ"



"ไอ้นี่ ทำตัวเป็นแม่บ้านดีเด่นอะไรเบอร์นั้น" ร่างสูงหัวเราะ



มีนาก้มลงมองกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนตักของตนอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจหยิบยื่นมิตรภาพของตนให้กับคนทั้งสองที่ยอมเดินเข้ามาชวนเขาทำงานก่อนทั้งที่ไม่จำเป็น



"เอ่อ..." เสียงหวานเรียกเพื่อนร่วมคณะทั้งคู่เบาๆ "เรามีเกินใบนึง..."



เสียงหัวเราะของแทนไทยหยุดลงกลางอากาศ เช่นเดียวกับแว่นที่เงยหน้าขึ้นจากใบเสร็จที่ตัดอยู่




"คะ...คือเราสะสมครบแล้วมันเกินมาใบนึงพอดี จะเอาไปก็ได้นะ" ร่างเล็กเปิดกระเป๋าเป้กลางเก่ากลางใหม่ของตนแล้วหยิบซองพลาสติกใสที่ใส่คูปองซึ่งตัดไว้อย่างเป็นระเบียบ แถมยังเขียนติดซองไว้ว่าเป็นคูปองของร้านใดบ้างออกมา




ดูจากสีหน้าของแว่นตอนที่รับคูปองของเขาไป มีนาคงได้รับมิตรภาพของอีกฝ่ายตอบกลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



"มีอะไรเหรอ อารมณ์ดีจัง"



ร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มปรากฏตัวด้านหลังเพื่อนใหม่ของเขา โอบแขนรอบคอแว่นอย่างถือวิสาสะพร้อมเกยคางบนไหล่โดยไม่สนว่าจะมีคนนอกอย่างมีนาอยู่ และจากสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจของแว่น นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายทำแบบนี้



จะว่าไป...ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นหน้ารุ่นพี่คนนี้แบบนี้นะ



"พี่กล้าสวัสดีครับ" แทนไทยยกมือไหว้คนอายุมากกว่า มีนายกมือไหว้ตามเพื่อนตัวสูง ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อได้ยินชื่อของคนตรงหน้า



พี่กล้า..พี่กวินภพ พี่รหัสปีสามของทินกรที่เขาเคยเห็นผ่านตาสองสามครั้งแต่ไม่เคยพูดคุยกัน



"กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ?" ร่างสูงถามคนที่ตนกำลังคลอเคลียอยู่



"ครับ หลังจากนี้ก็ว่าจะไปทำรายงานกันที่ห้องสมุด" แว่นตอบเสียงเรียบ ดูไม่ยินดียินร้ายกับรุ่นพี่ต่างคณะจนมีนาอดนึกสงสัยกับภาพตรงหน้าไม่ได้



สองคนนี้เป็นอะไรกันรึเปล่านะ?






เด็กทั้งสามมานั่งทำรายงานในชั้นของห้องสมุดที่มีไว้เพื่อการทำงานกลุ่ม เป็นโต๊ะญี่ปุ่นกระจัดกระจายไว้ให้นักศึกษาได้ใช้งาน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่กำลังจับจองที่นั่งอยู่ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เสียงพูดคุยปรึกษากันดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ



ยกเว้นเด็กปีสามคณะบริหารธุรกิจที่นอนตากแอร์โดยมีตักของแว่นเป็นหมอนในตอนนี้



"พี่กล้า ถ้าง่วงก็ไปนอนคอนโดสิครับ" เด็กหนุ่มบ่น แต่มีนาสังเกตว่ากวินภพไม่คิดจะขยับไปจากตักของคนตัวเล็ก สักพัก เด็กหนุ่มแว่นกลมก็สะดุ้งเล็กน้อย แม้จะไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นใต้โต๊ะ แต่มีนาก็พอจะเดาออกว่าท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อครู่ต้องเกี่ยวกับคนที่นอนหนุนตักเด็กหนุ่มอยู่




"แว่น เป็นไรป่าววะ?”แทนไทยทักอย่างเห็นห่วง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้า คนขี้ห่วงจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ



"จะถึงเวลาเข้าห้องเชียร์แล้ว ไปกันเลยมั้ย" แทนไทยชวน แว่นพยักหน้าแล้วเริ่มเก็บของ ผิดกับมีนาที่นั่งนิ่ง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างลำบากใจ




เขาไม่เคยเข้าห้องเชียร์ นั่นเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ธีรเชษฐ์จัดอยู่ในหมวดหมู่ของคำว่า’ไร้สาระ’ ซึ่งวันนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น



"เราต้องกลับ..."



"เฮ้ย แต่วันนี้วันให้รุ่นนะ พี่เขาเช็คชื่อ"



แทนไทยเตือนด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แม้จะไม่ใช่การรับน้องระบบโซตัส แต่คณะแพทยศาสตร์ก็ถือเป็นคณะที่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องเข้มข้นที่สุดคณะหนึ่ง เพราะอาจารย์ของพวกเขาไม่ได้มีแค่อาจารย์และคนไข้ แต่ยังมีรุ่นพี่ที่ช่วยสั่งสอนประสบการณ์ให้ หากโดนรุ่นพี่เกลียด เท่ากับปิดประตูให้อนาคตของตัวเองไปแล้วเกือบครึ่ง



“เอ่อ...” มีนาลังเล แม้จะกลัว แต่การที่เขาจะได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือไม่นั้นไม่ใช่การตัดสิยใจของเขา



"น่า ไปเถอะ แค่ไปเช็คชื่อก็ยังดี" แทนไทยทำตาวิ้งๆใส่เขา ด้วยดีกรีเดือนคณะและนิสัยขี้อ้อนอย่างเป็นธรรมชาติ การจะปฏิเสธคนตรงหน้ายิ่งเป็นเรื่องที่มีนาลำบากใจ




"เอ่อ..เรา...ขอโทรศัพท์ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวตามไป”




มีนาตัดสินใจลุกออกไปจากตรงนั้น เด็กหนุ่มหาซอกมุมมืดที่ไม่มีใครเดินผ่าน หยิบโทรศัพท์ของตนออกมาอย่างลำบากใจ นิ้วเรียวแตะที่ปุ่มไอคอนรายชื่ออยู่หลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะตัดสินใจกดโทรออกในที่สุด



“ว่าไง?”




มีนารู้สึกถึงลมหายใจที่ขาดห้วงของตนเมื่อได้ยินเสียงทุ้มจากปลายสาย ความกล้าที่สามารถรวบรวมได้เพียงเล็กน้อยเพียงเล็กน้อยแตกสลายหายไปในพริบตา เด็กหนุ่มกำลังชั่งใจว่าจะวางสายดีหรือไม่เมื่อธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล



“มีนา เป็นอะไรรึเปล่า?”



“ปะ…เปล่าครับ” อาจเป็นเพราะความเป็นห่วงที่เจืออยู่ในน้ำเสียงของธีรเชษฐ์ ที่ทำให้มีนากล้าที่จะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “วันนี้...ผมขออยู่ร่วมกิจกรรมคณะได้มั้ยครับ?”




ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปลายสาย มีนากัดริมฝีปากอย่างกังวลใจด้วยกลัวว่าคำขอของเขาจะได้กระตุ้นต่อมโมโหของธีรเชษฐ์ แต่หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งนาที ร่างสูงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย




“เสร็จแล้วโทรมาแล้วกัน”




มีนากระพริบตาปริบๆอย่างประหลาดใจ แม้หลังจากธีรเชษฐ์วางสายไปแล้ว เขาก็ยังยืนนิ่งอึ้งอย่างไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดไปหรือไม่









“มึงว่าพี่เขาจะมีเซอร์ไพร์สอะไรป่ะวะ”



มีนานั่งลงข้างเพื่อนใหม่ในคณะทั้งสองทันได้ยินคำพูดของแทนไทยที่กระซิบกับเพื่อนสนิทในห้องประชุม แว่นส่ายหน้า ส่วนมีนามองไปรอบๆอย่างไม่มั่นใจว่าตนควรจะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่คาดฝันอะไรหรือไม่



ไม่ทันขาดคำ ทันทีที่เด็กคนสุดท้ายนั่งประจำที่ แสงไฟในห้องก็ดับลง



"เปลวเทียนน้อยๆ ในค่ำคืนไม่มีแสง..."



เสียงร้องเพลงของรุ่นพี่ดังขึ้นก้องหอประชุม รุ่นพี่ในคณะของพวกเขาค่อยๆเดินเรียงแถวเข้ามาพร้อมกับเทียนส่องแสงสว่างริบหรี่ในมือ



ไม่ใช่แค่พี่ปีสอง พี่ปีสาม ปีสี่ ปีห้า หรือแม้แต่พี่เอ็กเทิร์นบางคนก็มาร่วมร้องเพลงด้วย ภาพแสงนวลตาที่หลวมรวมเป็นดวงไฟตรงหน้าของเด็กปีหนึ่งทำให้มีนารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ถึงแม้ว่าตนจะไม่เคยเข้าร่วมห้องเชียร์เลยก็ตาม



 "ลำดับต่อไปขอเชิญพี่ๆผูกสายสิญจ์ให้น้องด้วยนะครับ"



พิธีกรพูดออกไมค์หลังจากเสร็จสิ้นการร้องเพลง เหล่าพี่ๆปีสูงเดินตามหาน้องในสายของตัวเองกันให้ควั่ก ส่วนมีนานั้นไม่ได้หวังอะไรนักด้วยรู้ว่าพี่รหัสก็ไม่ได้สนิทอะไรกับตนเช่นกัน



แต่ในตอนนั้นเอง คนคนหนึ่งที่เขาควรจะรู้ว่าจะต้องได้เจอแต่พยายามไม่ใส่ใจกำลังเดินตรงมาทางเขาด้วยรอยยิ้มมุมปากเป็นเอกลักษณ์ที่แต่งแต้มใบหน้าสวยหวานราวอิสตรีให้ดูเหมือนนางฟ้ามาจุติ แต่กลับทำให้ขนอ่อนที่หลังคอของมีนาลุกชันอย่างห้ามไม่อยู่



"มา แว่น พี่ผูกข้อมือให้" ธารธาราหยิบสายสิญจ์เส้นหนึ่งออกมาแล้วเริ่มถูมันไปมาเบาๆบนข้อมือเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ยืนห่างจากมีนาไปไม่ไกล มีนาอาศัยจังหวะนั้นขยับหลบด้านหลังแทนไทย มองซ้ายแลขวาหาทางหนีที่ไล่ที่ไม่มีอยู่จริง "ขอให้เก็ทเอทุกตัวนะ มีอะไรปรึกษาพี่ๆได้นะ"



"ขอบคุณครับ" แว่นยกมือไหว้เมื่ออีกฝ่ายผูกข้อมือเสร็จ มีนาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นเพื่อนร่วมคณะอีกกลุ่มเข้ามาขอให้ร่างโปร่งที่เปรียบเสมือนนางฟ้าของปีสี่ผูกข้อมือให้ ดูจากสีหน้าของคนทั้งกลุ่มสิ่งที่อยากได้จากรุ่นพี่คนสวยคงไม่ใช่แค่ศีลพร



"พี่อุ่น ผมอ่ะ" มีนาสะดุ้งเมื่อคนตัวโตที่เป็นเกราะกำบังให้เขาเริ่มงอแง ร่างเล็กไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนใหม่ของเขารู้จักกับธารธาราด้วยซ้ำ



"ใจเย็นดิวะไอ้แทน ของแบบนี้มันต้องตามคิว" อาร์ม รองเดือนคณะยักคิ้วให้เด็กหนุ่มอย่างอ้อนบาทา



“น้องอาร์มพูดถูกนะ" ธารธารายิ้มหวานให้เด็กหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ "อีกอย่าง ถ้าอยากได้อะไรผูกข้อมือ เดี๋ยวคืนนี้พี่หาอะไรดีๆผูกให้แทนสายสิญจ์ ดีมั้ย?"



มีนารู้สึกว่าเลือดในกายเย็นเฉียบเมื่อได้ยินประโยคนั้น



แทน...กับคุณธาร...



"เอ่อ..จริงสิ พี่อุ่นผูกให้มีนหน่อยสิครับ" ร่างสูงที่แดงไปทั้งหน้าทั้งคอคว้าตัวเพื่อนที่ยืนหลบอยู่หลังตัวเองอย่างแนบเนียนมานานสองนานให้คนรักผูกข้อมือให้แก้เขิน แต่ทว่าเมื่อเห็นร่างเล็ก รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากของร่างโปร่งตรงหน้า
กลับอันตรธานหายไป เหลือเพียงแววตาเกลียดชัง และสีหน้าที่มองเขาเหมือนมดปลวกเหลือบไรที่ตนอยากขยี้ให้ตายคามือ
มีนาหน้าซีดเผือด ตัวสั่นระริกไปทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้ ในหัวมีเพียงความคิดที่ว่าธารธาราจะบอกความลับของเขาให้ทุก
คนในที่นี้รู้ และนี่จะเป็นจุดจบของเขาในคณะนี้




มือเรียวของธารธาราแบออก ปล่อยสายสิญจ์ให้ร่วงกระจัดกระจายอยู่บนพื้นแทบเท้าของตน ท่าทีที่หากเป็นคนอื่นคงดูออกไม่ยากว่าจงใจ แต่กับนางฟ้าคนนี้ คนรอบข้างพร้อมจะปิดตาทำเป็นไม่เห็นได้ทุกเมื่อ



"ขอโทษนะครับ ผมนี่ซุ่มซ่ามจัง" ร่างโปร่งก้มลงเก็บสายสิญจ์ รอยยิ้มหวานกลับมาประดับบนใบหน้าอีกครั้ง เอียงคอถามด้วยเสียงเนิบนาบแต่กลับน่าขนลุกในความรู้สึกของมีนา "ยังอยากได้อยู่มั้ย?"



มีนก้มหน้านิ่ง



"เอ่อ...พี่อุ่นรีบผูกเถอะครับ จะได้ผูกคนอื่นต่อ" แม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แทนไทยก็พยายามแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดอย่างสุดความสามารถ



ธารธาราถูสายสิญจ์กับข้อมือเล็กเบาๆ ก้มลงมาใกล้คนที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจากพื้น ก่อนจะกระซิบถ้อยคำที่ทำให้ใบหน้าขาวชาวาบ



“จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด...อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย”



ธารธาราผละออกมาพร้อมรอยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีนายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อมแม้เสียงหวานจะสั่นเครือจากบทสวดแผ่เมตตาเมื่อครู่



"ขอบ...ขอบคุณครับพี่..."



"อะไรนะครับ?" น้ำอุ่นถามด้วยน้ำเสียงสงสัย แต่แววตากลับเย็นเยียบจนคนมองสะดุ้ง มีนากัดริมฝีปากก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว



"ขะ...ขอบคุณครับคุณธาร"



"ยินดีเสมอครับ" รุ่นพี่ปีสี่ยิ้มบางอย่างพึงพอใจแล้วเดินไปหาคนอื่นเพื่อผูกสายสิญจ์ต่อโดยไม่สนใจมีนาอีก



"อะไรของพี่อุ่นน่ะ" แทนไทยมีสีหน้างุนงงปนโมโห "ไม่ต้องห่วงนะมีน เราจะไปคุยกับพี่อุ่นให้รู้เรื่อง"



"อย่านะแทน" มีนารีบเอ่ยห้าม เขาไม่อยากให้ธารธาราต้องทะเลาะกับคนรักเพราะเขา “เรา...เราแค่ตกใจน่ะ"



“เรื่องอะไรเหรอ?” แว่นอดถามขึ้นมาไม่ได้



“คือ…พี่เขาชวนเราสวดมนต์น่ะ เราไม่ทันตั้งตัวเลยหลอนๆ ไม่มีอะไรหรอก แหะๆ” มีนายิ้มเจื่อน ไม่ได้โกหกเพื่อนใหม่ของตนเสียทีเดียว “ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ”



คนฟังมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ



เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเป้ของมีนาดังขึ้น เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ออกมารับอย่างรีบร้อนด้วยรู้หนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของเขาคือใคร ผงกหัวให้เพื่อนๆเป็นเชิงลาแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทันทีด้วยกลัวว่าจะสายจากเวลานัดที่ตนโทรไปบอกอีกฝ่ายไว้







“ขอโทษครับที่มาสาย”



นั่นเป็นประโยคแรกที่หลุดออกมาหลังจากมีนาก้าวขึ้นมาในรถคันหรูที่จอดรออยู่



“อืม…สนุกมั้ย?”



คำถามแปลกๆนั้นทำให้มีนาชะงักไปอีกครั้ง



จะให้พูดว่ายังไงดีล่ะ...



“ใครผูกให้?” ยังไม่ทันจะได้ตอบคำถามแรก ดวงตาสีควันบุหรี่ก็เหลือบไปเห็นเชือกสีขาวเส้นเล็กรอบข้อมมือคนอายุน้อยกว่า ดูจากดวงตาคมที่่หรี่ลงก็รู้ว่าไม่พอใจ



“คุณ…ธารครับ”



มีนากลั้นใจตอบ เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่กำลังจะแย่ลงในเวลาอันใกล้ ทว่าธีรเชษฐ์กลับมีสีหน้าผ่อนคลายลง ร่างสูงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก



“คุณเชษฐ์กับคุณธาร...มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ?”



มีนาอยากจะกัดลิ้นตัวเองทันทีที่พูดออกไป ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงได้ถามอะไรแบบนั้นออกไปนะ
ธีรเชษฐ์นิ่งไปราวกับไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกจากปากร่างเล็ก มีนากำลังจะเอ่ยปากขอโทษที่ละลาบละล้วง เมื่อชายหนุ่มข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ





“ฉันเป็็นคนทำลายครอบครัวของเขา”


------------

คิดถึงคนอ่านนนน :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สงสารน้องมีน โดนตลอดเลย    :m15:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ธารนิสัยโคตรแย่อ่ะ สงสารมีนมาก
คือตัวเองโกรธพ่อก็โกรธไปดิ่ เกี่ยวไรกะมีนอ่ะ
ทำตัวไม่สมเป็นคนเรียนหมอเลย ตลก ทำไมมีนต้องมาเจอลูกที่แย่ๆของคุณเชษฐ์ด้วย

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
น้องมีนๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
น้องมีนเหมือนต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ธาร เมื่อไหร่นิสัยจะดีขึ้นนะ  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สงสารมีนา

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
น้องงงงงงงงงง ฮรื่อออออ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
น้องมีนผู้น่าสงสาร อ่านไปน้ำตาไหลเลย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สงสารมีนนนน

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รอนะคะ ^^

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
กลับมาอ่านอีกรอบ
น้ำอุ่นนิสัยแย่มากๆจริง ไม่แยกแยะ เรียนหมอสะเปล่า

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เมื่อไรน้องมีนของแม่จะมีความสุข

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เมื่อไรมีนจะมีความสุขกับเขาซักที

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โหย....มีความหลังกันแบบนี้นี่เอง
รอติเตามตอนต่อไปอยู่นะ  o13

ออฟไลน์ kawaiineko

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ้ย.....สงสารน้องมีน  :serius2: :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ amizchi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z10: :katai5: แงรอไรท์มาอัพนะคะㅠㅠ

ออฟไลน์ Itachishang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Itachishang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไรท์กลับมนา เถอะทึกคนให้อภัยแล้ววววววว

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 23: คนในอดีต




หลังจากที่มีนาก้าวเข้ามาในบริษัทของธีรเชษฐ์ในวันนั้น ประธานบริษัทหนุ่มมักจะรับเขามาจากมหาวิทยาลัยแล้วทิ้งให้เขาอ่านหนังสือรอในห้องทำงานหลังเลิกเรียนทุกวันหากตนยังทำงานไม่เสร็จ เป็นหนึ่งในบทลงโทษที่มีนาคิดว่าทำได้ไม่ยากนัก



…แต่ทว่าในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดถึงใครคนหนึ่งที่รวมอยู่ในบทลงโทษนี้ด้วย



วันนี้เป็นวันแรกที่เขาเดินทางมาจากมหาวิทยาลัยคนเดียวเพราะธีรเชษฐ์ไม่สามารถปลีกตัวออกมาจากห้องประชุมได้ ความอึดอัดกับการถูกสายตานับร้อยคู่จ้องมอง ตั้งแต่ยามหน้าบริษัทยันพนักงานระดับสูง ไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่เขากำลังรู้สึกเพียงแค่เลขาคนสนิทของธีรเชษฐ์ช้อนตาขึ้นจากคอมพิวเตอร์โดยไม่พูดอะไร



“สวัสดีครับคุณมธุวัน เอ่อ...คุณเชษฐ์อยู่มั้ยครับ?”




เด็กหนุ่มพนมมือไหว้ทักทายตามมารยาท ถามด้วยเสียงเบาหวิวอันเป็นเอกลักษณ์ มธุวันเหลือบมองนาฬิกาบนผนังก่อนจะตอบ



“ท่านประธานคุยธุระอยู่ข้างในครับ เชิญนั่งรอก่อนนะครับ”




มีนาพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงบนพื้นข้างๆโต๊ะทำงานของเลขาหนุ่ม มธุวันผุดลุกขึ้นมารั้งเขาไว้แทบจะในทันที คิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นของเลขาหนุ่มทำให้มีนารู้สึกเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งทำความผิดไป



“ขวางทางใช่มั้ยครับ? ขอโทษนะครับ”



เด็กหนุ่มก้มศีรษะขอโทษขอโพยอย่างสำนักผิด มธุวันมีสีหน้าเหมือนพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง



“...เชิญที่ห้องรับรองครับ”



 ร่างโปร่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่คล้ายคลึงกับความอ่อนอกอ่อนใจ นำทางแขกของเจ้านายไปยังห้องรับรองแขกซึ่งมรผนังเป็นกระจกใสสี่ด้านเช่นเดียวกับห้องอื่นๆในชั้น มีนานั่งลงบนโซฟาตัวยาวด้วยท่าทีแข็งเกร็ง กอดกระเป๋าไว้แนบอกราวกับโล่ป้องกันตัว มธุวันนำของว่างกับโกโก้ร้อนมาวางลงตรงหน้าของเด็กหนุ่มที่พึมพำขอบคุณเขาเสียงเบา แล้วหมุนตัวเดินกลับออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรกับเขาอีก มีนากอดกระเป๋าเป้ของตนไว้แน่น ก้มมองพื้นกระเบื้องมันเงาใต้เท้าของตนอย่างประหม่า นึกโกรธตัวเองที่เพียงแค่ได้เห็นคนที่ธีรเชษฐ์ให้ความสำคัญ ก็รู้สึกงุ่นง่านใจจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้



ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์แท้ๆ...




“ขออนุญาตครับ”




เสียงที่ไม่คุ้นเคยเรรียกให้มีนาเงยหน้าขึ้นจากพื้น ตรงหน้าของเขามีเด็กหนุ่ม...ไม่สิ คงต้องบอกว่าเป็นชายหนุ่มร่างเล็กที่มีหน้าตาโกงอายุอย่างน่ากลัวในชุดทำงานยืนอยู่พร้อมรอยยิ้มประหม่า



“ครับ?”



“ผมชื่อขวัญข้าว คุณมธุวันขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนคุณมีนาน่ะครับ”



เอ๊ะ?



“มะ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเกรงใจ รบกวนเวลางานเปล่าๆ” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ แต่คนแก้มป่องตรงหน้าไม่ยอมขยับไปไหน




“แค่คุณมธุวันสั่ง ก็ถือว่าเป็นงานแล้วล่ะครับ” ขวัญข้าวยิ้ม รอยยิ้มจริงใจนั้นทำให้เด็กหนุ่มเดาไม่ออกว่าคำพูดของอีกฝ่ายมา
จากใจจริงหรือเป็นเพียงคำประชดประชัน




ถึงขั้นชี้นิ้วสั่งพนักงานคนอื่นได้แบบนี้...เป็นเลขาจริงๆงั้นหรือ



แถมยังสั่งเรื่องไม่เป็นเรื่องเบียดเบียนเวลางานของคนอื่นอีก




มีนารู้สึกตกใจกับความคิดเมื่อครู่ของตัวเอง เขาไม่เคยคิดกับคนอื่นในแง่ลบมากขนาดนี้ โดยเฉพาะกับคนที่เคยพูดคุยกันแค่ไม่กี่ครั้งอย่างมธุวัน




นี่เขา...กลายเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?




“คุณมธุวันคงกลัวว่าคุณมีนาจะเหงาน่ะครับเลยให้ผมมาอยู่ด้วย” มีนาไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป ขวัญข้าวจึงเอ่ยปกป้องมธุวันออกมาแบบนี้ “เห็นแบบนั้น จริงๆคุณมธุวันเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้างมากๆเลยนะครับ”
ท่าทีปกป้องของขวัญข้าวทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกประหลาดใจมาก มีนาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเก็บสีหน้าไม่เชื่อของตนไว้ในส่วนลึกของจิตใจแล้วเอ่ยถามสิ่งที่ตนอยากรู้



“คุณมธุวันเป็นคนยังไงเหรอครับ?”



คนถูกถามนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบ



“คุณมธุวัน...เป็นperfectionistครับ เป็นคนที่ไม่มีคำว่าผิดพลาดในพจนานุกรมของตัวเอง ร่วมงานกันแต่ละครั้งเล่นเอาพวกผมปาดเหงื่อเลยล่ะ”




นั่นไง...ผิดจากที่เขาคิดเสียเมื่อไหร่



“แต่ว่า...” ราวกับล่วงรู้ความคิดของเขา ขวัญข้าวอธิบายต่อพร้อมรอยยิ้มจาง “จริงๆแล้วคุณมธุวันเป็นคนขี้ใจอ่อนนะครับ ถ้ารู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจทำผิด เขาจะสอนงานทุกอย่างใหม่ให้ด้วยตัวเอง สอนซ้ำไปซ้ำมา ไม่เคยดุเลยถ้าเราไม่เข้าใจ แต่ถ้าหลังจากนั้นยังพลาดอยู่ก็มีโกรธบ้างเป็นเรื่องธรรมดา คุณมธุวันเป็นคนทำงานเก่งมากครับ ไม่ว่าปัญหาเฉพาะหน้าจะสุดวิสัยแค่ไหนก็สามารถแก้ไขได้เสมอ ผมนับถือเขามากๆเลยล่ะ”



“คนที่ดีพร้อมขนาดนั้น...มีคนที่คบอยู่รึเปล่าครับ?” มีนาพยายามที่จะไม่ให้น้ำเสียงของตนอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป แต่ดูเหมือนขวัญข้าวจะไม่ได้สงสัยอะไรอยู่แล้ว เพราะร่างเล็กส่ายหน้าพรืดแทบจะในทันที ตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ



“ไม่มีหรอกครับ ถ้ามีคงเป็นเรื่องเม้าท์กันไปทั้งบริษัทแล้ว”



“แล้ว...กับคุณเชษฐ์...” คำถามนั้นหลุดออกมาจากปากก่อนที่เขาจะห้ามตัวเองได้ทัน ขวัญข้าวอมยิ้ม แววตารู้ทันของชายหนุ่มรุ่นพี่ทำให้มีนาเสตาหลบอย่างอับอาย



“คนในบริษัทก็เดาไปต่างๆนานา ไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ” ขวัญข้าวตอบ “ผมรู้แค่ว่าคุณมธุวันไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว”




“ถ้าอย่างนั้น มีใครมาจีบคุณมธุวันบ้างมั้ยครับ” มีนาไม่รู้ว่าความสงสัยของตนมาจากไหนมากมาย แต่เขาสงสัยจริงๆว่าคนเย็นชาแบบนั้นมีชีวิตส่วนตัวกับใครเขาบ้างหรือไม่



เขาสังเกตว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของขวัญข้าวเจื่อนลง



“มีครับ...” แววตาของพนักงานหนุ่มหม่นลงเล็กน้อย “แต่ถูกหักอกไปแล้วล่ะครับ”



เมื่อเห็นท่าทีอึดอัดของอีกฝ่าย มีนาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา



“คุณขวัญข้าวทำงานอะไรเหรอครับ?”



“ผมเป็นเลขาของคุณจอมทัพน่ะครับ เขาเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของที่นี่”



ขวัญข้าวพยักเพยิดไปด้านหลังของตัวเอง ตอนนั้นเองที่มีนาสังเกตว่า ณ ห้องทำงานห้องหนึ่ง มีสิ่งมีชีวิตหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสั่งตัดกำลังแนบหน้าติดกระจกผนักห้องจนหน้าบู้บี้ และโบกมืออย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นขวัญข้าวหันกลับไปหาตน



“บอกให้เขาเข้ามาดีกว่ามั้ยครับ?” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ ดูเหมือนว่าคุณจอมทัพคนนั้นจะมีเรื่องอยากพูดกับขวัญข้าวพอตัว




“ผมว่า...ท่านประธานน่าจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่มั้งครับ” ขวัญข้าวอมยิ้ม



ทั้งสองสะดุ้งเมื่อจู่ๆเสียงเคาะกระจกห้องของพวกเขาก็ดังขึ้น มีนาหันไปพบธีรเชษฐ์ยืนรออยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จึงรีบคว้ากระเป๋าเดินออกไปหาร่างสูงที่ยืนรออยู่



“คุณเชษฐ์...”




“คืนนี้ฉันจะไม่กลับห้อง เดี๋ยวจะไปส่งหน้าคอนโด”



ธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นทันทีที่ร่างบางก้าวออกมาพ้นประตู มีนาหุบปากฉับ สีหน้าของธีรเชษฐ์ในตอนนี้ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น



“ครับ”




ชั่วขณะหนึ่งเขาคิดว่าธีรเชษฐ์อาจจะมีนัดกับเด็กในสังกัดของตน แต่สีหน้าของร่างสูงนั้นเคร่งเครียดอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งมือที่กำโทรศัพท์ไว้แน่นตลอดระยะเวลาบนรถยิ่งทำให้มีนารู้สึกตะหงิดในใจอย่างบอกไม่ถูก




เสียงโทรศัพท์ของธีรเชษฐืดังขึ้นเพียงแค่วินาทีเดียวก่อนร่างสูงจะรีบกดรับทั้งที่มืออีกข้างยังคงประคองพวงมาลัยไว้ บทสนทนาของชายหนุ่มกับปลายสายเป็นภาษาที่มีนาไม่รู้จัก แต่ยิ่งฟัง เขายิ่งรู้สึกว่ามือที่จับพวงมาลัยอยู่ของธีรเชษฐ์กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ




และภาษาไทยคำเดียวที่หลุดออกมาจากปากของธีรเชษฐ์นั้น เป็นคำที่มีนาไม่คิดว่าจะได้ยิน



“เกศรา...”



ชื่อของภรรยาล่วงลับไปของธีรเชษฐ์ทำให้คนฟังขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ รถยนต์คันหรูวนมาจอดที่หน้าคอนโดของร่างสูง มีนาเปิดประตู แต่ข้อมือเรียวอีกข้างถูกรั้งไว้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้ก้าวออกไป



“คุณเชษฐ์...อือ...”



ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนริมฝีปากรูปกระจับอย่างแผ่วเบา มีนาหลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนโยนเนิบช้าตามสัญชาตญาณแม้จะรู้สึกประหลาดใจอยู่ลึกๆ มือใหญ่ประคองใบหน้าของเขาให้รับจุมพิตหวานล้ำ กระจายความอบอุ่นไปทั่วร่างเล็กด้วยสัมผัสนั้น



“ฝันดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วชิดริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ความใกล้ชิดนั้นทำให้มีนารู้สึกว่าก้อนเนื้อที่เต้นอย่างบ้าคลั่งกำลังจะ
หลุดออกมานอกอก




“ราตรีสวัสดิ์ครับคุณเชษฐ์”เสียงหวานสั่นเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มมุมปากที่เขาไม่ได้เห็นมาพักใหญ่จากร่างสูง




“อือ…”




ขณะที่มองตามรถของร่างสูงที่ขับออกไปจนลับสายตา มีนารู้สึกโหวงๆในอกอย่างประหลาด จะเรียกว่าลางสังหรณ์คงไม่ผิดนัก




เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือที่ธีรเชษฐ์ซื้อให้ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พิมพ์ชื่อที่ติดอยู่ในหัวของตนตั้งแต่ในรถพร้อมหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวตึก





‘เกศรา ทรัพย์ดำรง’



---------

ไรท์ยังไม่ตายยยยยย
จริงจริ๊งงงงงงงง
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
รักทุกคนเลย ขอบคุณที่ยังติดตาม ยังอดทนกับไรท์นะคะ สัญญาว่าจะพยายามเข็นออกมา ไม่หายไปไหนไกลมากมาย :z10: :z10:

ออฟไลน์ Hoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอ...... ยังไง ก็ รอ.......  :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องมีน TT

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
มีเรื่องอะไรอีกเนี่ย

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จะกินมาม่าอีกหรอ น้องมีนไม่น่าไหวแล้วนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กว่าจะจบเรื่อง หนูมีนย้ายไปอยู่โรงบาลแทนอยู่คอนโดแน่นอน น้องซึมเศร้ามากวักมือเรียกแล้ว  :hao5:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
จะทำร้ายน้องมีนอีกนานมั้ยอะไรท์
เกินไปแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด