[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 180822 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 6: หึง

ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกอีกฝ่ายขยับหนีราวกับรังเกียจเขาเสียเต็มประดา แต่ธีรเชษฐ์ต้องยอมรับว่าเขาได้ความบันเทิงเล็กๆจากการเห็นสีหน้าแตกตื่นของคนข้างๆเมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในห้องอาหารขนาดใหญ่ของโรงแรมห้าดาวที่ธีรเชษฐ์ให้เลขาจองไว้ให้ก่อนหน้านี้




“เป็นอะไร?” ชายหนุ่มแสร้งถามคนที่ตัวลีบติดกับเขาทุกฝีก้าวทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร




“คือ…”




มีนาอึกอัก เขาไม่อยากทำให้ร่างสูงรู้สึกรำคาญใจ แต่เขาไม่เคยชินกับร้านอาหารหรูหราราคาแพงที่แม้แต่บริกรยังแต่งตัวดีกว่าเขาแบบนี้




ไม่สิ คงต้องบอกว่านอกจากร้านอาหารในมหาวิทยาลัย มีนาไม่เคยเข้ามานั่งทานอาหารในร้านเลยสักที่





“เชิญครับคุณธีรเชษฐ์”




บริกรหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีเดินนำพวกเขาไปยังห้องวีไอพีขนาดกลางที่มีประตูปิดกั้นพวกเขาจากโลกภายนอก ดูท่าร่างสูงจะมาใช้บริการที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ดูจากท่าทีสนิทสนมของบริกรหนุ่มกับลูกค้าระดับวีไอพีที่มีหลุดออกมาบ้างถึงแม้การบริการจะคงไว้เป็นมืออาชีพอยู่ตลอด





แต่ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็นสายตาดูถูกที่บริกรคนนั้นมียามเหลือบมองมาที่ร่างเล็ก





มีนาทำได้เพียงก้มหน้างุด ปล่อยให้ธีรเชษฐ์โอบเอวพาตนไปยังโต๊ะอาหารโดยไม่กล้าแม้แต่จะสบตาบริกรคนนั้น





“มานี่”




ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้นั่งลงบนเก้าอี้ แขนแกร่งที่โอบรอบเอวของเขาอยู่นั้นก็ดึงรั้งให้ร่างเล็กเซถลาลงไปนั่งบนตักแข็งของอีกฝ่ายอย่างพอดิบพอดี




”คุณเชษฐ์ครับ คือ…”




มีนาขยับตัวอย่างอึดอัด ก้มหน้ามองมือของตัวเองบนตักอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เขาได้ยินเสียงเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะเชยคางมนขึ้นให้ดวงตากลมโตสบนัยน์ตาคมสีควันบุหรี่ของตน




“อะไร?”





“คือ…แบบนี้…คนอื่นจะ…”




“ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัว ไม่มีใครเห็นเธอในสภาพนี้หรอกน่า”




ร่างสูงเอ่ยเสียงห้วน แต่เด็กหนุ่มยังคงไม่สบายใจกับคำตอบนั้น มีนายุกยิกไปมาบนตักของร่างสูงจนคนตบะไม่ได้แก่กล้าต้องยึดสะโพกมนไว้ให้อยู่นิ่ง




“แต่…คุณบริกร…”





“ทำไม? เห็นมองมันตาไม่กระพริบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว…” มีนาย่นคอหนีใบหน้าคมเข้มที่ยื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าของตนอย่างกระทันหัน แต่นั่นยิ่งไปกระตุกต่อมโมโหของคนอารมณ์ร้อนมากขึ้นไปอีก “หึ จะบอกให้นะ เด็กนั่นไม่ได้เด็ดอย่างที่เธอคิดหรอก ถึงจะลีลาดีกว่าก็เถอะ”





มีนากัดริมฝีปาก เบือนหน้าหนีคนที่พูดเรื่องแบบนั้นได้อย่างไม่อายด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเพียงแค่คำพูดที่สื่อเป็นนัยว่าธีรเชษฐ์เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอย่างน้อยก็ทางร่างกายกับบริกรคนนั้น ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นมาเสียอย่างนั้น




“ผม…ไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้น…”





“ดี” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆ “ฉันไม่ชอบแบ่งของกับใคร เข้าใจใช่มั้ย?”





“ครับ”




ร่างเล็กพนักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตากลมโตที่หม่นลงทำให้จิตใจของธีรเชษฐ์รู้สึกไม่สงบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่บริกรที่เดินเข้ามาพร้อมอาหารเรียกน้ำย่อยขัดจังหวะคนที่กำลังจะถามหาสาเหตุของดวงตาเศร้าสลดนั้น





บริกรหนุ่มชะงักเมื่อเห็นมีนาอยู่บนตักของธีรเชษฐ์ สายตาไม่พอใจที่ถูกส่งตรงมาทำให้มีนาก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัว แต่บริกรหนุ่มยังคงรักษาความเป็นมืออาชีพไว้ วางถ้วยใส่ซุปครีมข้นสีขาวที่มีเห็ฝานบางและผงเครื่องเทศโรยประดับอย่าง
สวยงามสองถ้วยลงบนโต๊ะ




“ออเดิรฟของวันนี้เป็นซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิล…”




แต่ธีรเชษฐ์ไม่ได้สนใจเสียงของคนที่กำลังแนะนำเมนูอยู่ ชายหนุ่มใช้ช้อนตักซุปร้อนๆที่ส่งกลิ่นหอมและมีควันลอยออกมาขึ้นมาเป่าให้หายร้อน ก่อนจะนำมาจ่อที่ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูที่เผยอเล็กน้อยด้วยความงุนงง




“ชิมสิ”




ริมฝีปากของมีนาอ้าออกโดยอัตโนมัตเมื่อช้อนโลหะแตะที่ริมฝีปากของตน รับเอาซุปหวานหอมกลมกล่อมกลืนลงลำคอไปอย่างว่าง่าย ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายเมื่อรับรู้ได้ถึงรสชาติที่ยังคงหลงเลืออยู่ในปาก มีนาไม่เคยคิดว่าตนเคยรับประทานอะไรที่มีรสชาติแบบนี้มาก่อนในชีวิต





“ชอบมั้ย?”




 คนป้อนถามพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจกับปฎิกิริยาที่ได้รับ มีนาพยักห้นาหงึกหงัก ท่าทีใสซื่อของเด็กหนุ่มยิ่งทำให้ธีเรชษฐ์นึกอยากจับเด็กน้อยขึ้นนั่งบนโต๊ะทานข้าวแล้วสวาปามกระต่ายตัวน้อยให้ไม่เหลือแม้แต่เนื้อติดกระดูก




“เด็กดี…”




คำชมหวานหูที่อยู่ห่างจากใบหน้าของมีนาเพียงลมหายใจคั่นทำเอาร่างเล็กหน้าขึ้นสี มีนาสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อลิ้นร้อนของอีกฝ่ายตวัดเลียเอาซุปสีขาวข้นที่เลอะอยู่ตรงมุมปากของตน ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะประทับตามลงมาอย่างอ่อนโยน




“อืม…อร่อยดี”




“คะ…คุณเชษฐ์…”




ที่ปลายหางตา มีนาเห็นบริกรหนุ่มหมุนตัวออกไปจากห้องด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่หยุดแค่นั้น มือใหญ่ประคองใบหน้ารูปไข่ให้เชิดขึ้นรับริมฝีปากที่บดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง ร่างเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บ ร่างสูงใช้โอกาสนั้นสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากนุ่มหยอกเย้าลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสาจนมีนาหัวหมุนกับความรู้สึกวาบหวามที่ได้รับ




“อึ่ก!”





เด็กหนุ่มหลุดครางออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อรับรู้ถึงความเจ็บแปลบบริเวณริมฝีปากล่างที่ถูกฟันคมกัด แต่ธีรเชษฐ์ดูราวกับมัวเมากับรสชาติของขนมหวานขนาดพกพาบนตักไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของมีนา ลากลิ้นเลียลงมาตามลำคอขาว ฝากรอยเขียวคมฝังไว้แสดงความเป็นเจ้าของจนร่างเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บ





“โอ๊ย! คุณเชษฐ์ครับ ผมเจ็บ…”





เสียงของมีนาทำให้ร่างสูงหยุดการกระทำของตนทันทีราวกับถูกกระชากออกจากห้วงภวังค์ ธีรเชษฐ์สบถในลำคอแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เล่นเอาคนบนตักแทบร่วงลงไปกองกับพื้น





“สำหรับเมนคอร์สในวันนี้เรามี…” บริกรหนุ่มที่เดินเข้ามาวางจานบนโต๊ะยังไม่ได้ทันจะได้พูดเมนูจบก็ถูกธีรเชษฐ์กระชากแขน
ให้เดินตามออกไป มีนายืนอึ้งอย่างตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะรีบเดินตามร่างทั้งสองที่หายไปจากทางเดินแล้วหลังจากที่ได้สติ




“อะ…คุณเชษฐ์…รีบจัง อื้อ…”





เสียงของบริกรคนนั้นดังลอดออกมาจากห้องอาหารข้างๆ มีนารู้สึกบิดมวนในช่องท้องอย่างไม่ทราบสาเหตุขณะที่ผลักประตูห้องอาหารเปิด





“อ๊ะ…อะ…”





เสียงครางแว่วหวานอย่างมีจริตจกร้านดังลอดออกมาจากริมฝีปากของคนที่ถูกธีรเชษฐ์ไซร้ซอกคออยู่บนโต๊ะอาหาร บริกรหนุ่มเหลือบเห็นมีนาที่ยืนอึ้งอยู่หน้าประตู ริมฝีปากของชายหนุ่มเหยียดยิ้ม ยกมือขึ้นแทรกนิ้วผ่านเส้นผมของธีรเชษฐ์แล้วครางออกมาอย่างสุขสม




“ขะ…ขอโทษครับ”




มีนาสามารถตะกุกตะกักออกมาได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบปิดประตู ก้าวหนีออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาสั้นๆของตนจะอำนวย




ผลั่ก!




เด็กหนุ่มชนเข้าอย่างจังกับร่างในชุดสูทที่เดินเลี้ยวมาจากมุมทางเดิน มีนาเซหงายไปด้านหลัง และคงล้มกระแทกพื้นไปแล้วหากไม่มีวงแขนแกร่งดึงตนเข้าไปในอ้อมกอดอย่างทันท่วงที




“เป็นอะไร…อ้าว มีน? มาทำอะไรที่นี่เนี่ย?”




เสียงของเพื่อนจากคณะบริหารทำให้มีนาที่หลับตาปี๋เตรียมรับแรงกระแทกเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างงุนงง




“พายุ?”



“นี่เจอกันแต่ละครั้งมึงจะไม่เจ็บตัวซักครั้งได้มั้ยเนี่ย?”




พายุส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันในวันรายงานตัวมีนาก็โดนฝูงชนเบียดจนเซมาชนเขา เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่ใครชนก็ปลิว





“ขะ…ขอโทษ…”




ร่างเล็กก้มหน้าเอ่ยเสียงสั่น เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อน พายุจึงปรับเสียงให้นุ่มนวลลงด้วยกลัวว่าบุคลิกโผงผางของตนจะทำให้คนตรงหน้าขวัญเสียมากไปกว่าเดิม




“เป็นไรไป? ใครทำอะไรมึง?”




“มีนา!”




ร่างของมีนาถูกกระชากออกจากอ้อมแขนของพายุอย่างแรงจนเซไปปะทะกับอกของธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด ฝ่ายพายุเมื่อเห็นเพื่อนโดนกระชากแบบนั้นก็มองคนอายุมากกว่าตาขวางทันที




“ทำอะไรวะ?!”




“เรื่องของผัวเมีย อย่ามายุ่งจะดีกว่า” ธีรเชษฐ์ตอบเสียงห้วน ดึงข้อมือของร่างเล็กจนแทบปลิวติดมือตามมา พายุตั้งท่าจะเข้ามาช่วยแต่มีนาหันไปส่ายหน้าให้พร้อมกับขมุบขมิบปากไร้เสียง




‘เราไม่เป็นไร’




แต่ท่าทีนั้นยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก มีนานิ่วหน้ากับความเจ็บปวดที่ข้อมือขณะที่ถูกลากกลับไปที่รถแล้วเปิดประตู ดึงมีนาให้เข้าไปนั่งประจำที่นั่งคนขับแล้วปิดประตูเสียงดังปังจนมีนาสะดุ้งเฮือก ร่างเล็กได้แต่ก้มหน้างุดเมื่อเจ้าชีวิตของตนก้าวเข้ามาในรถแล้วกระแทกประตูปิดด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน





มีนารวบรวมความกล้าทั้งหมดเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อลอบมองสีหน้าร่างสูงเมื่อรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโด อารมณ์คุกรุ่นที่ฉายชัดบนใบหน้าทำให้เด็กหนุ่มรีบก้มหน้ากลับลงไปอีกคราด้วยกลัวจะเหยียบกับระเบิดที่เตรียมปะทุได้ทุกเมื่อลูกนี้เข้า




ธีรเชษฐ์คว้าข้อมือที่เจ็บระบมของมีนาให้ลงมาจากรถ ร่างเล็กปล่อยให้อีกฝ่ายลากไปโดยไม่ขัดขืนเพื่อลดอาการบาดเจ็บของตนให้น้อยที่สุด แต่ก็ยังเผลอร้องออกมาเบาๆเมื่อถูกธีรเชษฐ์ผลักลงบนเตียงโดยมีร่างของอีกฝ่ายตรึงข้อมือของเขาทั้ง
สองข้างไว้เหนือศีรษะประหนึ่งกรงขัง




“ทีฉันจับทำเป็นสำออย ทีกับไอ้เด็กนั่นยอมให้มันกอดหน้าตาเฉย นี่ฉันดูเธอผิดไปรึเปล่า มีนา?”




ร่างสูงเอ่ยเสียงเย็น มีนาส่ายหน้าพรืดอย่างหวาดกลัว น้ำตาที่ที่ไม่รู้ว่าเอ่อคลอหน่วยตาขึ้นมาเมื่อไหร่ไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่




“ปะ…เปล่านะครับ เขาแค่ช่วยผมไว้…”…ตอนที่ผมวิ่งออกมาจากห้องนั้น




มีนาเม้มริมฝีปากแน่น ไม่อยากที่จะต้องอธิบายความรู้สึกที่ตนก็ยังไม่เข้าใจว่าคืออะไรในตอนนั้นให้คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดฟัง




“หึ พอเห็นคนที่จะเกาะได้ก็โผเข้าใส่” นิ้วเรียวยาวไล้ตามกรอบหน้ารูปไข่ของคนที่นอนตัวสั่นอย่างไร้ทางสู้ แต่แววตาของอีกฝ่ายนั้นไร้ซึ่งความอ่อนโยนตามการกระทำของตน “แต่ก็นะ ฉันจะหวังความซื่อสัตย์อะไรกับเด็กขายอย่างเธอได้”




แม้จะรู้ว่าสถานะของตนในตอนนี้ไม่ต่างจากขายร่างกายของตัวเองให้กับธีรเชษฐ์ล่วงหน้า แต่การได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาแบบนี้หลังจากที่ปฎิบัติกับเขาอย่างอ่อนโยนมาตลอดหลายวันทำให้ร่างเล็กสะอึกพูดไม่ออก




ดูเหมือนธีรเชษฐ์จะถือเอาความเงียบของเขาเป็นการยอมรับไปในตัว ร่างสูงผละจากร่างที่นอนนิ่งน้ำตาไหลอาบแก้มอยู่บนเตียง แม้ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกซึ่งยังไม่ได้รับการระบายจะทำให้เขาอยากแสดงให้คนตรงหน้าได้รับรู้ว่าตัวเองเป็นของใคร แต่เขาสัญญากับเพื่อนสนิทไว้แล้วว่าลูกศิษย์ตัวน้อยจะปลอดภัยอย่างน้อยก็ถึงวันเกิดอายุครบรอบสิบแปดปีของเด็กหนุ่ม





“ฉันจะกลับไปนอนที่บ้าน” ร่างสูงเอ่ยโดยไม่มองหน้ามีนา “จะทำอะไรก็ทำ แต่คงรู้นะ ว่ามูลค่าของเธอจะตกต่ำตามพฤติกรรมของเธอ มีนา”




ร่างเล็กชันตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเจ้าชีวิตที่กระแทกประตูห้องปิดตามหลังตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด มีนาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจ็บที่ถูกอีกฝ่ายดูถูกด้วยคำพูดว่าร้ายที่ไม่เป็นจริง หรือเจ็บที่เห็นธีรเชษฐ์เดินจากไปในตอนนี้มากกว่ากัน









ฝ่ายธีรเชษฐ์ ชายหนุ่มทุบพวงมาลัยอย่างเจ็บใจกับอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ของตัวเอง ตอนที่มีนานั่งอยู่ตักของเขา ร่างสูงรู้สึกมึนเมาไปกับริมฝีปากนุ่มที่อ้ารับช้อนซุปที่เขาป้อนอย่างว่าง่าย รสชาติของร่างเล็กที่ติดมากับซุปที่เลอะอยู่ตรงมุมปาก และใบหน้าเขินอายกับกลิ่นน้ำอบอ่อนๆที่แตะจมูกของเขายามซุกไซร้ซอกคอขาว เขาไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงครางแว่วหวานที่ปราศจากการเสแสร้งเช่นคู่นอนคนอื่น ก่อนที่เสียงร้องด้วยความเจ็บและความหวาดกลัวที่ตัดผ่านห้วงราคะที่ปกคลุมจิตใจจะทำให้เขาผละออกมาจากร่างเล็กทันทีด้วยกลัวว่าตนจะเผลอทำให้มีนาเจ็บตัว





เด็กคนนี้ไม่ใช่คู่นอนตามปกติที่ยอมอ้าขาให้เพียงแค่ธีรเชษฐ์ชายตามอง ร่างสูงเตือนตัวเอง





อารมณ์ที่คั่งค้างมาหลายวันทำให้ชายหนุ่มดึงตัวบริกรร่างโปร่งที่เคยเป็นคู่ขาชั่วคืนเมื่อนานมาแล้วของตนไปที่ห้องข้างๆเพื่อระบาย ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมเอียงคอให้เขาฝากรอยอย่างรู้หน้าที่ด้วยรู้ว่าวันรุ่งขึ้นธีรเชษฐ์จะตบรางวัลให้มากกว่าที่ตนจะสามารถหาได้ในหนึ่งเดือนเสียอีก




“ขะ…ขอโทษ…”





แต่เป็นอีกครั้งเสียงที่สั่นเครือของมีนาที่สามารถหาทางวาดผ่านอารมณ์ที่พุ่งพล่านของธีรเชษฐ์อย่างที่ไม่มีใครที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ทำได้เข้าสู่โสตประสาทของร่างสูง แต่เมื่อเขาผละออกมาจากบริกรหนุ่ม ร่างเล็กของกระต่ายน้อยของเขาก็หายไปเสียแล้ว




“คุณเชษฐ์…อย่าไปสนใจเด็กแบบนั้นเลยครับ…”ร่างโปร่งคว้าแขนของเขาไว้เมื่อธีรเชษฐ์ตั้งท่าจะตามเด็กหนุ่มไป มืออีกข้างเกี่ยวหัวเข็มขัดของชายหนุ่มให้ขยับเข้ามาหาแล้วทรุดตัวลงคุกเข่าบนพื้นอย่างชำนาญ “ให้ผมบริการดีกว่า”




หากเป็นยามปกติ ธีรเชษฐ์คงจะยอมให้อีกฝ่ายบริการอย่างไม่อิดออด แต่ร่างสูงที่กระวนกระวายใจกับการหายตัวไปของมีนาเพียงแต่ปัดมือของบริกรหนุ่มออกอย่างไม่ใยดีแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันที




การได้เห็นอีกฝ่ายในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันที่มองมีนาด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยจนออกนอกหน้าทำให้โทสะของร่างสูงพุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ธีรเชษฐ์ไม่เคยรู้สึกไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่แม้แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าตนไม่สามารถแข่งกับเวลาได้ การที่มีนาจะเผลอไผลไปกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่อายุน้อยกว่าเขาในภายภาคหน้าย่อมไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้





แต่แค่คิดเขาก็อยากจะล่ามโซ่มีนาไว้ในห้องจนกว่าอีกฝ่ายจะอายุสิบแปด แล้วตีตราประทับไม่ให้ร่างเล็กสามารถอยู่อ้อมกอดของใครนอกจากเขาได้ไปตลอดชีวิต




ธีรเชษฐ์รู้ว่านั่นเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว




แต่เขาก็รู้เช่นกัน ว่าตัวเองไม่ใช่คนดีอะไร


----------

มีนเชษฐ์ก็เป็นคู่หลักน้า ก็จะมีความมีพล็อตกับชาวบ้านเขา อย่าได้ตกใจ55555
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:


ออฟไลน์ Phuengwu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คนแก่ขี้หึง

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เนี่ยยย ก็คุณเชษฐ์ชอบรุนแรงกับน้องตลอดอ่ะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สงสารน้องมีน ทำตัวไม่ถูกเลย

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :katai4: :katai4: คุณเชษฐ์ต้องให้คุณเลขามาปราบ ส่งคุณหมอกไป!

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ต่างฝ่ายต่างก็หวงกันนะเนี่ย แต่ไม่ยอมพูดออกมาให้ชัดเจน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 คุณเชษฐ์นี้ไม่เหมาะที่จะมีครอบครัวหรือคนรักเลยจริงๆเพราะเป็นคนที่มีความเห็นแก่ตัวสูงมาก
อะไรมันจะต้องการความไคร่มากขนาดนั้นกันถ้าต้องการมากขนาดนั้นก็ไม่ควรมีความรักตั้งแต่แม่ของลูกแล้วคนดีเค้าทนกันได้แต่คนแบบ คุณเชษฐ์ก็มีข้องอ้างไปเรื่อย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ท่านประธานกรุณาอย่าทำให้มีนเครียดมากนัก มีนรับศึก 2 ด้านไม่ไหวนะ ไหนจะท่านประธาน ไหนจะหมออุ่นลูกท่านประธานอีกคน   :katai1:

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
ขุ่นพ่อหึงโหดไปแล้วนะคะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พูดทำร้ายจิตใจกันทำไม จะห้าม หึง หวง ก็บอกกันตรงๆ อย่าพูดแบบนี้ มีนาเสียใจ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชอบคู่คุณพ่อ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อออ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น้องมีนต้องไปเรียนรู้จากหมอกนะ จะได้กล้าแกร่ง
เด็กน้อยน่าสงสาร ความสดใสต้องมามัวหมองเพราะสถานะ

แต่ก็ยังพอโชคดีที่เจอคุณเชษฐ์
แล้วแถมหลงมีนหนักมากด้วย
เข้าใจน้องด้วยนะคะ เค้าเป็นเด็กดี
จะทำอะไรก็มีสะดุ้งบ้าง ตกใจบ้างสิ

มีนมาเอง คงได้เจอโมเมนท์น้ำอุ่นจังๆ แล้วค่ะ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 7: เด็กเล่นขายของ

“มีน? มึงเป็นไงบ้าง? ที่กูเห็นวันนั้นคือแฟนมึงเหรอ?”




ทินกรไม่ได้ฟังพายุที่รัวคำถามใส่มีนาอย่างผิดวิสัยทันทีที่ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมข้าวราดแกงในจาน เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียนั่งเท้าคางกับโต๊ะหินอ่อนเพ้อไปถึงชายหนุ่มรุ่นพี่เจ้าของตำแหน่งรองหัวหน้าฝ่ายการตลาดในบริษัทของบิดาที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มเปิดใจให้เขาทีละนิด และตั้งหน้าตั้งตารอบทเรียนวิชาภาษาไทยในวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ




“เฮ้ย ไอ้ซัน! ช่วยกูหน่อยสิวะ!”




เสียงแหกปากของพายุและมือใหญ่ที่ตบหลังเขาดังป้าบเล่นเอาทินกรแทบหัวทิ่มไปกับโต๊ะ




“อะไร?” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อโดนขัดจังหวะฝันกลางวัน




“บอกมันดิ๊ว่ามีแฟนอายุมากกว่าเป็นสิบปีเนี่ยมันอันตราย เกิดโดนเขาหลอกไปขายขึ้นมาจะทำยังไง?” พายุขอกำลังเสริม




“ไม่ใช่แฟนซะหน่อย แค่…คนรู้จัก”มีนาแย้งเสียงเบาหวิว




อนิจจา เด็กหนุ่มผิวคล้ำเลือกคนที่จะช่วยตนผิดไปมาก




“พี่ภัทรก็อายุมากกว่ากูสิบห้าปี ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”





ทินกรไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เพื่อนทั้งสองของเขาชะงัก โดยเฉพาะพายุที่ทนเก็บสุนัขไว้ในปากไม่ได้นานนัก




“พี่เขาจะเอามึงเหรอวะ? แน่ใจนะว่าไม่ได้โมเมเอง?”




“กินข้าวไม่อิ่มเหรอถึงมาขอกำปั้นแถวนี้?”




คนโดนว่าถามสวน เดือดร้อนถึงมีนาที่ต้องเขามาห้ามทัพเพื่อนทั้งสองไม่ให้ตีกัน ทินกรสำนึกในบุญคุณและสายตาที่เฉียบคมของภรัณยูอยู่เสมอที่ทำให้เขาได้รู้จักกับมีนา ถึงแม้เพื่อนต่างคณะคนนี้จะไม่ได้เรียนทุกวิชาร่วมกับเขา แต่ตอนที่อยู่ด้วยกัน มีนาก็ช่วยทั้งเรื่องภาษาไทยของเขาและติวเนื้อหาให้พายุได้พอสมควร แถมยังเป็นกรรมการห้ามมวยตัวจิ๋วระหว่างเพื่อนทั้งสองอยู่บ่อยครั้ง




“ว่าแต่…แฟนมีนนี่เป็นคนยังไงเหรอ?” ทินกรถามด้วยน้ำเสียงใคร่รู้




“กะ…ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนไง” มีนางึมงำเถียง




“ฝรั่งตัวอย่างใหญ่ จะว่าไปก็แอบคล้ายๆมึงอยู่นะ แต่แม่งดูโฉดกว่าเยอะ” พายุสังเกต มีนาพินิจพิจารณาใบหน้าของเพื่อนตามที่อีกฝ่ายว่า แอบเห็นด้วยกับข้อสังเกตของเพื่อน




“ฝรั่งก็หน้าเหมือนกันหมด มีคนทักกูผิดกับอาจารย์ฝรั่งตลอด” ทินกรว่า “แต่พายุก็มีเหตุผลนะมีน ซื่อบื้อแบบมีนจับคนอื่นไม่ได้ว่ายไม่ทันหรอก”




“ฮ่าๆๆๆๆ”




หนุ่มไทยแท้ปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากกับคำพูดของเพื่อน ส่วนมีนาที่โดนด่าโดยที่คนด่าไม่รู้ตัวนั่งหน้าเสียจนทินกรต้องรีบขอโทษขอโพยแม้จะไม่รู้ว่าตนพูดอะไรผิดไปก็ตาม



Rrrrr




เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นพร้อมกับชื่อของคนที่ตนกำลังรออยู่ ทินกรรีบกดรับสายด้วยน้ำเสียงสดใส




“อยู่ตรงม้าหินอ่อนโรงกลางครับพี่ภัทร”




“เดินออกมาเลย เดี๋ยวพี่วนไปรับ”




เสียงปลายสายฟังดูเนือยๆถึงแม้ว่าตามปกติเสียงของร่างโปร่งจะติดยานคางหน่อยๆเหมือนง่วงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วก็ตาม แต่ทินกรไม่ได้ซักถามอะไรต่อเพราะเห็นว่าถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็กำลังจะมารับตนอยู่แล้ว




“สวัสดีครับพี่ภัทร”




ทินกรยกมือไหว้อีกฝ่ายเมื่อเข้ามาในรถเป็นที่เรียบร้อย ภรัณยูพยักหน้าให้ร่างสูงอย่างเชื่องช้า ขอบตาแดงๆและท่าทีเซื่องซึมผิดปกติของคนขับทำให้ทินกรถามอย่างเอะใจ




“เมื่อคืนพี่ภัทรนอนไปกี่ชั่วโมงครับ?”




“พี่โตแล้ว ไม่ต้องให้ซันมาเช็คเป็นเด็กๆหรอก” ภรัณยูตอบปัด และนั่นยิ่งตอบข้อสันนิษฐานของคนถามได้เป็นอย่างดี




“ถ้าพี่ภัทรโตแล้วก็ตอบคำถามผมตรงๆแบบผู้ใหญ่สิครับ”




ทินกรยังคงดื้อดึงจะเอาคำตอบ จากที่เขาเคยคุยกับมธุวัน เลขาของบิดาซึ่งรู้จักภรัณยูอยู่บ้าง และเป็นคนที่แอบกระซิบที่อยู่ของร่างโปร่งให้เขา ทินกรค้นพบว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ปฏิเสธใครไม่เป็น ทำให้ถึงแม้จะมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าฝ่าย แต่งานที่เจนจิราซึ่งเป็นหัวหน้ากระจายลงมานั้นส่วนใหญ่ภรัณยูก็มักจะถูกลูกน้องในฝ่ายรบเร้าให้ช่วยทำให้อยู่เรื่อย ถึงแม้มธุวันจะเคยตักเตือนทั้งตัวภรัณยูและลูกน้องไปแล้ว แต่พฤติกรรมแบบนี้เลิกได้ไม่นานก็กลับมาใหม่จนเลขาหนุ่มเหนื่อยใจที่จะพูด ทินกรจึงพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายคงโต้รุ่งทำงานของคนอื่นอีกตามเคย




 ภรัณยูมีสีหน้าลังเล ก่อนจะตัดสินใจตอบไปตามความจริง




“สาม…”




“สามชั่วโมง? สามสิบนาที?!” ร่างสูงเดาอีกครั้งเมื่อหางคิ้วของคนขับกระตุกเล็กน้อยอย่างมีพิรุธกับการเดาครั้งแรก “สามสิบนาที? พี่ภัทรจอดรถเดี๋ยวนี้เลยครับ!”




อารามตกใจกับเสียงของร่างสูง ภรัณยูตีไฟชิดเข้าจอดข้างทางโดยไม่มีคำโต้แย้งใดๆ ทินกรเปิดประตูออกมาจากรถแล้ว
เปิดประตูฝั่งของภรัณยูออก




“ลงมาครับ ผมขับเอง”




“ได้ยังไง ใบขับขี่ก็ไม่มี” ภรัณยูเถียงด้วยดวงตาปรือปรอย




“ผมว่าถ้าเทียบความเสี่ยงตอนนี้พี่น่าจะมีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าผมนะครับ” เมื่อใช้เหตุผลไม่สำเร็จ เด็กหนุ่มจึงต้องใช้กำลังเข้าขู่บังคับ “ถ้าพี่ภัทรไม่ให้ผมขับผมจะปล้ำพี่ตรงนี้แหละ”




“ซัน อย่างอแงได้…เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย?!” ภรัณยูร้องอย่างตกใจเมื่อมือใหญ่ดึงเอาเนคไทค์ของตนออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนอย่างคล่องแคล่ว “รู้แล้วๆ ยอมแล้วๆ ไปก็ได้”




คนที่ง่วงๆอยู่ถึงกับตื่นเต็มตา รีบกระโดดลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปนั่งที่นั่งข้างคนขับแต่โดยดี




“นอนไปเลยครับ เดี๋ยวถึงแล้วผมปลุก”




เด็กหนุ่มที่จี้รถของเขากลางทางเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งสั่ง ใส่เกียร์เดินรถแล้วหักพวงมาลัยกลับเข้าสู่ท้องถนน




“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวช่วยดูทาง”คนที่ไม่ได้ฝากชีวิตไว้กับมือคนอื่นหลังพวงมาลัยมานานเอ่ยอย่างไม่ไว้ใจ




“พี่ลืมตาผมจูบ” ทินกรขู่ ทำเอาคนที่เกือบโดนจับถอดเสื้อในรถตัวเองบนถนนรีบหลับตาปี๋อย่างว่าง่าย




ทินกรอมยิ้ม ขับรถของภรัณยูมุ่งหน้าไปยังบ้านของตัวเองโดยมีเจ้าของรถที่นอนหลับสนิทหลังจากปิดเปลือกตาได้ไม่นานนอนหายใจดังฟี้เบาๆไปตลอดทาง










ธีรเชษฐ์เดินลงบันไดบ้านมาด้วยจิตใจขุ่นมัวจากเรื่องของกระต่ายน้อยที่เขาทิ้งไว้ที่คอนโด ถึงแม้เขาจะรู้สึกตัวเมื่อใจเย็นลงว่าอาจจะทำเกินไป แต่ทิฐิในใจก็ยังสามารถเอาชนะความรู้สึกผิดของชายหนุ่มได้จนกระทั่งวันนี้





ธีรเชษฐ์ก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองอย่างหงุดหงิด




ผ่านมาสัปดาห์กว่าๆแล้ว เด็กนั่นไม่คิดจะโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบเขาสักนิดเลยรึไงกัน?





ไม่สิ ดีไม่ดีอีกฝ่ายจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้อิสระเป็นของตัวเองมาตลอดสัปดาห์





เมื่อลงมาถึงห้องโถง ร่างสูงเห็นลูกชายคนเล็กนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้องนั่งเล่น โดยมีพนักงานของบริษัทเขาที่ควรจะทำหน้าที่เป็นครูสอนพิเศษให้เด็กหนุ่มนอนหลับสนิทอยู่บนตัก




“พี่ภัทร…ขึ้นไปนอนที่ห้องผมก่อนมั้ยครับ? ตรงนี้มันร้อนนะครับ”




ทินกรกระซิบถามคนที่หลับอยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลออกจากใบหน้าของชายหนุ่มอายุมากกว่าอย่างแผ่วเบาราวกับว่าอีกฝ่ายทำจากแก้วแสนเปราะบาง ร่างโปร่งส่งเสียงครางในลำคอแต่ไม่ตอบสนองต่อคำถามนั้น




“ซัน…”




ธีรเชษฐ์ที่กำลังจะเอ่ยถามลูกชายถูกเด็กหนุ่มยกนิ้วขึ้นแต่ริมฝีปากด้วยสายตาดุๆราวกับว่าตนเป็นลูกเสียเอง ทินกรคว้ามองอิงสี่เหลี่ยมมาแล้วยกศีรษะของครูสอนพิเศษของตนขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสับเปลี่ยนกับตักของตัวเองแล้วลุกขึ้นมาจากโซฟา พยักเพยิดให้อีกฝ่ายออกไปคุยไกลๆเพื่อไม่ให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่น




“ไวไฟเหมือนกันนะแก” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วถามเมื่อพ้นรัศมีการได้ยินของภรัณยู



“ก็ลูกพ่อนี่ครับ”




ทินกรยิ้มแฉ่งตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ธีรเชษฐ์นึกดีใจที่ตนตัดสินใจส่งลูกชายคนเล็กไปอยู่กับญาติฝ่ายแม่ที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่อเมริกา อย่างน้อยทินกรก็ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นกับคนที่รักและเอ็นดูเด็กหนุ่มหลังจากเกศราเสียไป เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่พ่อดีเด่น แต่ธีรเชษฐ์ก็เหมือนพ่อทั่วไปที่อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุดที่ตนจะสามารถหาให้ได้




“แล้วนี่เขาตกลงปลงใจกับแกแล้วรึไงถึงไปทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาขนาดนั้น? ยิ่งเป็นพวกตามใครไม่ทันอยู่”




ถึงแม้พฤติกรรมของตัวเองจะเหลวแหลกแค่ไหน ธีรชเษฐ์ก็ยังคงพยายามสั่งสอนลูกชายคนเล็กที่ดูจะเป็นคนเดียวที่ยังมีความเคารพเชื่อฟังในตัวเขาอยู่บ้างให้เติบโตมาเป็นคนดี เขาเชื่อว่าภรรยาที่เสียไปคงจะอยากให้เขาทำอย่างนั้น




 อีกอย่าง นอกจากเรื่องงาน ภรัณยูนั้นเป็นพวกที่มีปฎิกิริยาตอบสนองเชื่องช้าจนน่าเป็นห่วงไปเสียทุกเรื่อง มีหรือจะตามลูกชายตัวแสบของเขาทัน




“ไม่ยอมผมก็ไม่ปล่อยเขาไปไหนหรอกครับ”




ทินกรตอบพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าควรจะโทษตัวเองหรือไม่ที่ความคิดความอ่านของลูกชายกลายเป็นแบบนี้ไปได้




“แสดงว่าคนนี้เอาจริง?” ชายหนุ่มถามลูกชาย “แน่ใจแล้วเหรอ? อายุแกแค่สิบเจ็ดสิบแปด จะมาเอาอะไรกับผู้ชายสามสิบกว่า คบกับเด็กรุ่นเดียวกันไม่ง่ายกว่ารึไง?”




“ถ้าไม่ใช่พี่ภัทร จะใครผมก็ไม่เอา”



เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงดื้อดึงราวกับเด็กน้อยอยากได้ของเล่น ทั้งที่ปกติทินกรไม่เคยแม้แต่จะใช้อภิสิทธิ์ความเป็นลูกชายคนเล็กเพื่อขออะไรจากคนในบ้าน




รักเร็ว รักแรง รักมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อความรักของตัวเอง




ธีรเชษฐ์จำได้ว่าตอนเด็กๆ สมัยที่เขายังอยู่กับบิดาที่รัสเซีย ผู้ชายคนนั้นเคยบอกเขาว่านี่เป็นคำสาปของผู้ชายในตระกูลของเขา แต่กับเด็กทั้งสามที่แทบไม่เคยเจอปู่ของตัวเองเลยในช่วงชีวิต การได้เห็นลูกชายคนเล็กประกาศกร้าวถึงเจตจำนงของตัวเองอย่างมั่นใจแบบนี้ทำให้ร่างสูงอดนึกถึงคำสาปที่ว่านั่นไม่ได้




รักมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อความรักของตัวเอง…




ชายหนุ่มสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยกับลูกชายด้วยน้ำเสียงเพลียจิต




“จะทำอะไรก็ทำ อย่าให้เสียการเรียนแล้วก็อย่าให้เขาเสียการเสียงานก็พอ”




ถึงอย่างไร วันนี้เขาก็ไม่คิดจะอยู่คุมความประพฤติลูกชายที่บ้านอยู่แล้ว




“ครับ” ทินกรรับคำเสียงใส ก่อนจะรีบเรียกบิดาไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ออกไปจากบ้าน “พ่อครับ?”




“หือ?” ธีรเชษฐ์ขานรับโดยไม่หันกลับมา




“วันนี้ให้พี่ภัทรค้างที่นี่ได้มั้ยครับ?”



------------

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
โผล่มาสักทีคู่พี่ภัทร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ครอบครัวนี้ผู้ชายเรียกว่ามีคำสาปเลยรึเนี่ย 5555

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
รักเมียหลงเมีย คริๆ

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
รักเร็วเราเข้าใจ แต่รักแรงนี่คิดดีไม่ได้เลย #ทำไมอิฉันเป็นคนแบบนี้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ซัน-ภัทร ฉลุยแล้วพ่อเปิดทางให้ คู่พ่อนี่ซิ คงโดนลูกชายคนรองเล่นงานอ่วมแน่ ๆ หนูมีนเอย  :z3:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
         :heaven :heaven :heaven
โอ๊ยอิจฉาในความสมัยใหม่ของคนบ้านนี้จริงๆค่ะลูกบ้านนี้โชคดีนะค่ะที่ไม่มีใครมาตีกรอบของชีวิตให้เดินอยากรักใครก็ได้รักไม่ลำใย :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ความต่างของอายุ ไม่เป็นอุปสรรคกับคนบ้านนี้เลยงั้นสินะ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

ผ่านมาสัปดาห์กว่าแล้วธีรเชษฐ์ยังคงไม่กลับมาที่ห้อง



มีนาเหลือบมองโทรศัพท์ของตนด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เขาไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะโทรหาอีกฝ่ายหรือไม่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธีรเชษฐ์อยากจะเห็นหน้าเขาอีกรึเปล่า




“เป็นอะไรลูก หน้าตาไม่แจ่มใสเลย”




เมษา มารดาของเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น หลังจากสองวันที่ธีรเชษฐ์ไม่กลับห้อง มีนาตัดสินใจมานั่งช่วยยายร้อยมาลัยในห้องพักคนไข้ของมารดาหลังเรียนหนังสือเสร็จเพื่อทำให้จิตใจหายฟุ้งซ่าน แล้วกลับไปนั่งรอชายหนุ่มที่ห้องหลังจากหมดเวลาเยี่ยมผู้ป่วย




“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแม่ หนูแค่เครียดเรื่องเรียนน่ะจ้ะ”




มีนาฝืนยิ้มให้มารดาคลายกังวล เขาไม่อยากให้แม่ต้องมีเรื่องเครียดไปมากกว่านี้




“อย่าหักโหมมากนะลูก หนูน่ะชอบฝืนตัวเองอยู่เรื่อย”




เมษาเอ่ยอย่างหนักใจกับนิสัยไม่คิดถึงตัวเองของลูกชาย มีนาพยักหน้าให้มารดาพร้อมรอยยิ้ม ก้มร้อยมาลัยข้างยายของตนที่หูตาฝ้าฟางเสียจนต้องก้มหน้าชิดเข็มเพื่อให้ตัวเองมองเห็น









มีนาขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นว่าไฟในห้องนอนเปิดอยู่เมื่อตนแตะคีย์การ์ดกลับเข้ามาในห้อง ร่างเล็กวางกล่องใส่มาลัยขนาดยักษ์ที่ทำให้ตนจำเป็นต้องขึ้นรถแท็กซี่มาลงบนโต๊ะทานข้าวแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไปด้วยคิดว่าตนลืมปิดไฟก่อนออกจากห้อง แต่ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างสูงที่ตนนั่งรอจนหลับไปไม่รู้กี่วันต่อกี่วันนั่งกอดอกรอเขาอยู่ปลายเตียงด้วยสีหน้าหงุดหงิด




“ไปไหนมา?”




“ผะ…ผม…ไปเยี่ยมแม่มาครับ…ไปร้อยมาลัยกับยาย…”




 มีนาตอบเสียงเบา ยังคงสับสนกับการที่อีกฝ่ายกลับมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ธีรเชษฐ์กระดิกนิ้ว เรียกให้เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาตน มีนาก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่มั่นใจว่าจะถูกคนตรงหน้าอารมณ์เสียใส่อีกหรือไม่




เอวบางถูกแขนของอีกฝ่ายรั้งเข้ามาใกล้ จมูกโด่งฝังลงบนซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมของน้ำอบและกลิ่นดอกไม้ที่เด็กหนุ่มใช้ร้อยมาลัยและจัดเป็นมัดไว้สำหรับนำไปขายที่ตลาดในวันรุ่งขึ้นเข้าไปจนเต็มปอด




“อือ…เชื่อก็ได้…” ร่างสูงพึมพำข้างหูของมีนา ซุกหน้าลงบนไหล่บาง คนที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืนตัวแข็งอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไร




“เอ่อ…คุณเชษฐ์ทานอะไรมารึยังครับ? ให้ผมทำอะไรให้ทานมั้ย?”




ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ถามออกไปด้วยน้ำเสียงเกรงๆ ธีรเชษฐ์ผละออกมาเล็กน้อย ดวงตาสีควันบุหรี่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลกลมโตราวกับจะล้วงลึกไปถึงก้นบึ้งของจิตใจของร่างเล็ก มีนารู้สึกว่าหน้าของตัวร้อนผ่าว เบือนหน้าหนีสายตาสำรวจของอีกฝ่ายอย่างอึดอัด




“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” ร่างสูงเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจของมีนากลับมา




“ครับ?”




“ตราบใดที่หนี้ของเธอยังไม่หมด ร่างกาย หัวใจ ชีวิตของเธอเป็นของฉัน…” ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วไปตามแนวกระดูกสันหลังของร่างเล็กเหนือชุดนักศึกษา “เข้าใจมั้ย?”




“…ครับ”




เด็กหนุ่มตัวน้อยงึมงำตอบพร้อมกับก้มหน้างุด เขาไม่เคยคิดที่จะนอกลู่นอกทางไปหาใครอย่างที่ธีรเชษฐ์ระแวงอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีอีกฝ่ายเข้ามาในชีวิต มีนาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีเวลาพอสำหรับเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว




“เวลาพูดกับฉัน มองหน้าฉัน มันเสียบุคลิก”





นิ้วเรียวยาวแตะแก้มนิ่มดันให้หันกลับมาหาตัวเอง มีนาพยักหน้า พยายามฝืนตัวเองไม่ให้หลบสายตาอีกฝ่ายตามความเคยชิน




“พรุ่งนี้อยากไปไหน? เดี๋ยวฉันพาไป”




แม้ธีรเชษฐ์จะไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆ แต่มีนาก็พอจะเดาออกว่านี่คือคำขอโทษของร่างสูงกับพฤติกรรมที่ทำลงไปครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เด็กหนุ่มอมยิ้มเล็กๆอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ แต่จำเป็นต้องปฎิเสธข้อเสนอของอีกฝ่าย




“พรุ่งนี้วันพระ ผมต้องไปขายดอกไม้ที่ตลาดน่ะครับ”




“ทำไม? เงินไม่พอใช้?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน มีนารีบส่ายหน้า




“เปล่าครับ! ผมแค่…อยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง…” …ไว้ใช้หนี้ที่กองจนท่วมหัวผมมิดนี่




ธีรเชษฐ์หรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ ดูท่าความคิดที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยออกไปของเด็กหนุ่มจะถูกอีกฝ่ายอ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่ง




“ฉันไปด้วย”




ผิดคาด นอกจากธีรเชษฐ์จะไม่ว่าอะไรแล้ว ร่างสูงยังเสนอตัวขอไปที่ตลาดกับเขาอีกด้วย




“เอ๊ะ? แต่ที่ตลาดมันร้อนนะครับคุณเชษฐ์ ไม่มีเก้าอี้นั่งด้วย จะเมื่อยเอานะครับ”




“ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้น” ร่างสูงแย้งหน้ามุ่ย “ทำไม? มีอะไรที่ไม่อยากให้ฉันเห็นรึไง?”




“เปล่าซักหน่อยครับ!” มีนารีบปฏิเสธ “ก็ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าหน่อยนะครับ”








มีนาบอกว่าเช้า แต่ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าเวลาเช้าที่อีกฝ่ายว่าจะเป็นยามเช้ามืดที่คนปกติยังนอนหลับอุตุอยู่ในผ้าห่มแบบนี้




“นี่เธอจะมาขายของให้คนหรือขายให้ผีเขาไปไหว้พระ?” ชายหนุ่มถามขณะวางถังใส่พวงมาลัยลงบนพื้นของแผงขายดอกไม้เล็กๆที่อยู่ซอกมุมของตลาด เรียกได้ว่าหากไม่รู้จักร้านอยู่แล้วไม่มีทางมีลูกค้าหลงมาซื้อแน่นอน “ทำเลอะไรเนี่ย? แบบนี้จะขายของได้เหรอ?”




“แค่นี้ผมก็ติดค่าแผงเขามาเป็นปีแล้วครับ”




มีนาถอนหายใจ คุกเข่าลงกับพื้นคอนกรีตโดยไม่สนว่าเข่าของตนจะด้านแล้วยกพวงมาลัยขึ้นวางเรียงบนใบตองที่ปูไว้อย่างทะนุถนอม




“สวยดี” ร่างสูงเอ่ยชม มีนายิ้มรับ รอยยิ้มหวานจริงใจทำหัวใจคนมองกระตุกอย่างไม่ทันตั้งตัว




“ยายผมเป็นคนสอนร้อยครับ แต่เดี๋ยวนี้ตายายไม่ค่อยจะดีแล้ว ผมเลยเป็นคนทำเป็นส่วนใหญ่”




ร่างสูงช่วยหยิบธูปเทียนและชุดหมากมาเรียงในแผง ไม่กล้าแตะดอกไม้ด้วยกลัวจะทำกลีบช้ำ มีนาอมยิ้มกับท่าทีเก้ๆกังๆของคนมือหนัก จับมือใหญ่ดึงมาใกล้แล้ววางพวงมาลัยลงไปอย่างเบามือ




“ของพวกนี้ถึงจะดูบอบบาง แต่ถ้าเรามีสติเวลาจับ ดอกไม้ก็ไม่ช้ำง่ายๆหรอกครับ”




รอยช้ำรอบข้อมือขาวทั้งสองข้างของคนพูดที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวสร้างความรู้สึกผิดในในของคนทำ แต่คนปากแข็งแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ก้มลงวางพวงมาลัยลงบนแผงอย่างเบามือ




“ยายเธอ…ตาเป็นอะไรเ?” ชายหนุ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนา




“ต้อกระจกน่ะครับ” มีนาตอบ หันกลับไปจัดดอกไม้ลงแผงขายต่อ




“ทำไมไม่ไปลอก?” ร่างสูงถามอย่างงุนงง เด็กหนุ่มส่ายหน้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง




“ผมสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหวหรอกครับ ลำพังแค่ค่ารักษาพยาบาลของแม่ก็เต็มกลืนแล้ว ที่ให้จองคิวรอที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็รออีกเป็นปี อีกอย่าง ยายกลัวว่าถ้าต้องพักฟื้นผมจะต้องดูแลทั้งแม่ทั้งยาย เลยไม่ยอมทำไปกันใหญ่”




“เงินแค่นั้นฉันจัดการให้ได้ จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลยายเธออีกคน…”




“ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องขายวิญญาณให้คุณเชษฐ์ด้วยแล้วล่ะครับ”




มีนาเอ่ยติดตลก แต่เขารู้ว่านั่นอาจจะไม่พอชดใช้หนี้ที่เขาติดค้างอีกฝ่ายไว้ด้วยซ้ำ




“แล้วมันเป็นเรื่องแย่นักเหรอ?”



ธีรเชษฐ์ถาม คราวนี้เด็กหนุ่มไม่มีคำตอบให้อีกฝ่าย มีนาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามนั้นแล้วก้มจัดของต่อ นึกขอบคุณที่อีกฝ่ายไม่ถามคำถามนั้นซ้ำอีกครั้ง เพราะคำถามที่ควรจะมีคำตอบชัดเจนนั้น เขากลับไม่รู้ว่าคำตอบของตัวเองคืออะไร





“ตายแล้วน้องมีน ทำไมตัวเล็กอย่างนี้ล่ะลูก ได้กินข้าวบ้างมั้ยเนี่ย เอ้า เอาข้าวแกงป้าไปซักถุง”




“น้องมีน แม่เป็นไงบ้างลูก เอาพวงมาลัยซักสามพวงนะ ไม่ต้องทอนนะลูก”




“น้องมีน ป้าซื้อผลไม้มาฝาก ดูซิ หน้าซีดเซียวเชียว กินอะไรเปรี้ยวๆหน่อยจะได้มีสีเลือดฝาดลูก”




“ขอบคุณมากเลยจ้ะป้า ช่อนี้หนูแถมให้จ้ะ สวัสดีวันพระนะจ๊ะ”




เด็กหนุ่มไหว้รับของฝากจากเหล่าแม่บ้านที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดยามเช้า กลายเป็นว่าแผงขายดอกไม้ของมีนามีถุงกับข้าวกับปลาวางเรียงราย แม้จะขายดอกไม้ไม่ได้มากแต่เงินในกระป๋องกลับมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ธีรเชษฐ์ที่นั่งขัดสมาธิภายในร่มคันใหญ่ที่กางเหนือแผงเลิกคิ้ว นี่ตกลงกระต่ายน้อยของเขามาขายของหรือมารับบริจาคกับข้าวกันแน่




“ปกติได้ของกินมาเยอะแยะแบบนี้เลยเหรอ?”




“ครับ ป้าๆที่ตลาดใจดีกันทั้งนั้นเลย” มีนาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ปอกส้มเขียวหวานที่เพิ่งได้มาแล้วยื่นให้ชายหนุ่มที่นั่งนิ่งสังเกตการณ์เขามาตั้งแต่เช้ามืดไม่ยอมไปไหน “รองท้องหน่อยมั้ยครับ?”




“แล้วเธอล่ะ?”ธีรเชษฐ์ถาม ไม่ยอมรับผลส้มที่ปอกแล้วจากมือของเด็กหนุ่ม




“ผมไม่ทานข้าวเช้าอยู่แล้วน่ะครับ ชินแล้ว”




มีนาตอบตามความจริง แม้จะไม่ได้บอกอีกฝ่ายต่อว่า บางครั้ง แม้แต่ข้าวกลางวันกับข้าวเย็นตนก็ไม่ได้ทานก็ตาม




ร่างสูงรับส้มผลนั้นมาบิกลีบออกมากลีบหนึ่ง แต่แทนที่จะส่งเข้าปากของตนธีรเชษฐ์กลับยื่นมันไปจ่อที่ริมฝีปากของคนที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดธนบัตรให้เป็นระเบียบ มีนาหันไปมองเขาด้วยสายตางุนงง แต่ก็อ้าปากรับส้มกลีบนั้นแต่โดยดี




ธีรเชษฐ์ทยอยป้อนคนที่ง่วนกับการขายของโดยไม่สนใจจะพักทานอะไร ไม่นานนัก ทั้งส้มและขนมต่างๆที่สามารถยัดเข้าปากเด็กหนุ่มได้ก็ค่อยๆพร่องลงในปริมาณที่เป็นที่น่าพอใจของร่างสูง ดูเหมือนมีนาจะขะมักเขม้นกับการขายของมากเสียจนไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าถูกหลอกป้อนไปไม่รู้กี่คำต่อกี่คำแล้ว




“อุ๊ย ตายแล้ว แฟนเหรอจ๊ะน้องมีน?”




แม่ค้าที่ขายข้าวแกงอยู่ร้านข้างๆถามอย่างสนใจเมื่อเห็นท่าทีเอาใจใส่ของชายหนุ่มที่นั่งอยู่กับมีนา ร่างเล็กรีบส่ายหน้าพรืดอย่างตกใจ




“มะ…ไม่ใช่นะครับ!”




“แหม ไม่ต้องปิดหรอกจ้ะ นี่มันสมัยไหนแล้ว ลูกป้าก็เป็น เนี่ย ถ้าไม่ติดว่ารายนั้นเขาวี้ดว้ายแต่หนุ่มหล่อๆกล้ามล่ำๆ ป้าจะแนะนำน้องมีนให้แล้วเนี่ย จะว่าไปแฟนเรานี่ก็เสป็กลูกป้าเลยนะ”




“ไปกันใหญ่แล้วครับป้า…”




“ลูกพี่นี่รสนิยมดีนะครับ แต่ผมคงต้องขอผ่าน”




ธีรเชษฐ์เอ่ยขัดคำปฎิเสธของมีนาขึ้นมากลางปล้อง มิหนำซ้ำยังยกมือขึ้นโอบไหล่เด็กหนุ่มเป็นเชิงยอมรับข้อกล่าวหาของหญิงสาวอีก เล่นเอาเด็กหนุ่มไปไม่เป็นเลยทีเดียว




ไหนว่าห้ามบอกใครไง?



“โอ๊ย เรียกน้าก็ได้จ้ะ นี่น้าห้าสิบกว่าแล้ว พ่อหนุ่มนี่จะถึงสามสิบห้ารึยังเนี่ย?”




แม่ค้าสาวหัวเราะ มีนาไม่มั่นใจเรื่องอายุจริงของธีรเชษฐ์เท่าไหร่ แต่จากรูปลักษณ์ภายนอก ชายหนุ่มเป็นคนประเภทที่คนอื่นไม่สามารถเดาอายุได้ บางครั้งธีรเชษฐ์ก็ดูเหมือนเพียงยี่สิบปลายๆ แต่บางทีมีนาก็คิดว่าอีกฝ่ายเหมือนจะอายุสามสิบกลางๆ แต่จากที่เขาเคยได้ยินธีรเชษฐ์คุยกับลูกชายที่อยู่ในวัยทำงาน ชายหนุ่มจะต้องมีอายุมากกว่านั้นแน่




ธีรเชษฐ์ยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มการค้า ไม่ได้ตอบอะไรหญิงสาว ซึ่งทำให้ความสงสัยของมีนาเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว



-------------

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Christa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ฮืออออ
รอหนูมีนทุกวันเลยน้าาา  ไม่ค่อยได้มาคอมเม้นเท่าไหร่
แต่เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
น้องมีนลู้กกก น่าเอ็นดูว

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คุณเชษฐ์ผู้ปากหนัก เขาก็มุมมุ้งมิ้งของเขาเนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด