[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 181163 ครั้ง)

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องมีนน่ารักมาก คุณเชษฐ์ถนอมน้องมีนหน่อยนะ

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :3123: เป็นกำลังใจให้หนูมีนนะลูก

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หวงก็พูดมาเถอะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูมีน รักษาเนื้อ รักษาตัวให้ดี ๆ นะลูก  :กอด1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อื้อหืออ มีนาแน่มากค่ะ ทำประธานบริษัทใหญ่มานั่งเฝ้าได้

คุณเชษฐ์อย่าขรึมมากสิ แค่นี้น้องก็หลอนจะแย่แล้ว
ถึงจะห่วงมากด้วยก็เหอะ

น่ารักเนาะคนแก่หวงแฟนเด็ก  :mew3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คนแก่ปากหนักไม่ยอมขอโทษเด็ก
แต่ให้อภัยเพราะมีฉากให้ฟิน อิอิ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ใครๆก็รักน้องมีนเนอะ :กอด1:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
คู่คุณเชษฐ์กับน้องมีนเป็นคนปากหนักกันทั้งคู่ ไม่ยอมพูดคุยกันตรงๆซักที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 8: Perfect dream



ภรัณยูลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงของทินกร



ร่างโปร่งลุกพรวดขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อสมองจดจำห้องที่ตนนอนอยู่ได้ ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือเด็กหนุ่มเจ้าของห้องขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าหากลืมตาขึ้นมาจะจูบ แค่คิดถึงใบหน้าของคนอายุมากกว่าก็ร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่ได้



“อ้าว พี่ภัทร ตื่นแล้วเหรอครับ?”




เสียงของเจ้าของห้องดังขึ้น ภรัณยูหันไปเจอคนที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำโดยที่ไม่มีแม้แต่ผ้าขนหนูสักผืนอำพรางร่างกาย ผ้าขนหนูผืนเดียวที่อีกฝ่ายมีกำลังถูกใช้เช็ดผมสีดำสนิทที่เปียกลู่ติดศีรษะ




“เฮ้ย!”




ภรัณยูรีบเบือนหน้าหนีอย่างตกใจ ไม่เกี่ยวกับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรอก ต่อให้ใครมายืนแก้ผ้าเดินโทงๆแบบนี้เขาก็ตกใจทั้งนั้น




“อะไรกันครับพี่ภัทร ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้”




ชีเปลือยตรงหน้าเขาเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะอย่างน่าไม่อาย เด็กหนุ่มเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วดึงเอากางเกงบ็อกเซอร์ลายการ์ตูนที่ไม่ควรจะดูดีได้ขนาดนี้ออกมาใส่ ก่อนจะหยิบเสื้อยืดและกางเกงขายาวออกมาสวมตามแล้วหยิบไดร์เป่าผมออกมาเป่าพอเป็นพิธี ภรัณยูเพิ่งจะกล้าหันหน้ากลับมาเมื่ออีกฝ่ายทิ้งตัวลงบนเตียงของตัวเองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาคนที่นั่งอยู่บนเตียงตัวเด้งตามแรงสั่น




“กี่โมงแล้วเนี่ย” ร่างโปร่งถาม สมองยังไม่ตื่นดีจากการเผลอหลับไปอย่างไม่ได้คาดคิด




“เจ็ดโมงเช้าครับ” ทินกรยิ้มแฉ่ง แต่คำตอบนั้นทำเอาภรัณยูกระโดดแผล็วออกจากเตียงอย่างที่คนอืดอาดอย่างเข้าไม่เคยคิดฝันว่าจะทำได้แทบจะในทันที




“สายแล้วๆๆๆ” ชายหนุ่มพึมพำอย่างลุกลี้ลุกลนขณะมองหาโทรศัพท์และกุญแจรถของตัวเอง



“พี่ภัทร…” เสียงกลั้วหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับเจ้าเด็กยักษ์ที่สวมกอดเขาจากด้านหลัง รวบแขนของคนที่ปัดนู่นยกนี่ไว้ไม่ให้ซุกซนไปมากกว่านี้ “วันนี้วันเสาร์ครับ”




คนลืมวันลืมคืนชะงัก ก่อนจะแถด้วยน้ำเสียงอับอาย




“ระ…รู้แล้วน่า วันนี้พี่มีธุระ…”




“ม่ายมีซ้ากหน่อย~” คนรู้ดีเอ่ยเสียงยานคาง “วีคที่แล้วพี่ภัทรบอกผมเองว่าเสาร์นี้พี่ภัทรว่างทั้งวัน”
ภรัณยูนึกย้อนไปถึงสัปดาห์ก่อนที่เจ้าเด็กจอมตื๊อโทรมาราตรีสวัสดิ์แล้วถือโอกาสตอนที่เขากำลังสะลึมสะลือง่วงนอนถามตารางชีวิตของเขา




‘เสาร์หน้าพี่ภัทรว่างมั้ยครับ?’




“อือ ก็ว่างแหละ ทำไมเหรอ?” คนที่กำลังง่วงเหงาหาวนอนถาม




“พอดีผมมีเรื่องอยากวานให้พี่ภัทรช่วยหน่อย พี่ภัทรว่างทั้งวันเลยรึเปล่าครับ?”




“อือ…ก็ว่างทั้งวันแหละ เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”




คนที่เปลือกตาจะปิดอยู่รอมร่อตัดบท ปล่อยให้คนที่โทรมาได้บอกราตรีสวัสดิ์ให้เสร็จสรรพก่อนตัดสายด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าหากตัดสายก่อนทินกรก็จะโทรมารังควาญเขาอยู่ดี




ที่จริงภรัณยูก็มีส่วนผิด ทั้งที่ปกติเขาจะปิดโทรศัพท์ก่อนนอนทุกครั้ง แต่หลังจากคืนที่ทินกรโทรมาเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์คืนแรก ร่างโปร่งก็มักจะ‘เผลอ’เปิดโทรศัพท์ไว้เสมอ




“ก็…นั่นแหละ ธุระของซันไง พี่จะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัว” ร่างโปร่งแถต่อ




“ถ้าเป็นธุระของผม พี่ภัทรไม่ต้องกลับไปที่คอนโดหรอกครับ” ทินกรฉีกยิ้ม “ผมมีชุดให้ยืม”











“ซัน ให้เป็นแบบวาดรูปให้พี่ก็เข้าใจนะ แต่ทำไมพี่ต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วยล่ะ”




ภรัณยูถามอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้เขาอยู่ในเสื้อยืดตัวหลวมและกางเกงบอลที่อีกฝ่ายให้ยืมใส่ นั่งขัดสมาธอกอดหมอนรูปพระอาทิตย์ขนาดใหญ่บนเตียงของเด็กหนุ่มที่ลงทุนแบกเอาอุปกรณ์วาดภาพและขาตั้งเข้ามาในห้องนอนของตัวเองทั้งหมด ทินกรยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง




“อย่าเพิ่งขยับครับพี่ภัทร มุมกำลังได้เลย”




เมื่ออีกฝ่ายพูดแบบนั้นคนเป็นแบบจึงไม่กล้าซักถามอะไรต่อ ทินกรเลือกวิชาวาดภาพเหมือนเป็นวิชาเลือกเสรี และทุกสองสัปดาห์อาจารย์จะสั่งหัวข้อให้นักศึกษาไปวาดเพื่อเป็นคะแนนเก็บ แต่ร่างโปร่งไม่รู้ว่าหัวข้อในครั้งนี้คือหัวข้ออะไร ทินกรถึงได้ต้องจำเพาะเจาะจงให้เขาเป็นแบบให้อย่างนี้




“เรียบร้อย! ขอบคุณมากเลยครับพี่ภัทร”




ทินกรเอ่ยหลังจากนายแบบจำเป็นต้องนั่งค้างท่าไว้เกือบชั่วโมง ถึงแม้จะเป็นท่าที่สบาย แต่นั่งขัดสมาธิไปนานๆเขาก็แอบชาขาเหมือนกัน ภรัณยูเหยียดขาออกอย่างเมื่อยขบ รอให้อีกฝ่ายเก็บรายละเอียดรูปของตนแล้วหมุนขาตั้งให้เขาได้เห็นภาพ




ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะมีพรสวรรค์ด้านการวาดรูปถึงขนาดนี้ รูปของเขาดูราวกับภาพถ่ายขาวดำของตัวเองที่นั่งอยู่บนเตียง ทินกรเก็บรายละเอียดได้จนถึงแววตาง่วงงุนและรอยยับของเสื้อผ้าของเขา รวมไปถึงข้าวของที่ฉากหลังซึ่งหากเก็บรายละเอียดอีกนิดคงจะได้คะแนนเต็มจากอาจารย์เป็นแน่




“โห สวยจัง” ร่างโปร่งชมอย่างจริงใจ เรียกสีเลือดฝาดบนใบหน้าเด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียได้เป็นอย่างดี “ตกลงเขาให้วาดหัวข้ออะไรส่งเหรอ?”




“Perfect dream” ทินกรตอบพร้อมรอยยิ้ม




ความฝันที่สมบูรณ์แบบ…




คราวนี้ถึงตาภรัณยูได้หน้าขึ้นสีบ้าง ส่วนคนที่เพิ่งสารภาพกลายๆถึงภาพความฝันที่สมบูรณ์แบบของตัวเองอมยิ้มกับท่าทีขัดเขินที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อของคนตรงหน้า




“ฝันแค่นี้ มักน้อยดีนะ” ร่างโปร่งพึมพำอย่างไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร




“ฝันแค่นี้ผมยังไม่รู้เลยครับว่าจะเป็นจริงได้มั้ย”




ชั่วขณะหนึ่งภรัณยูเห็นแววเศร้าหมองในดวงตาทินกร ก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยต่อเสียงใส




“พี่ภัทรหิวรึยังครับ? ลงไปดูกันดีกว่าว่าป้าแต้วทำอะไรกินเช้านี้”




ภรัณยูพยักหน้า เดินตามคนที่ทำเป็นยิ้มร่าเริงกลบเกลื่อนลงไปยังห้องอาหารชั้นล่างด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ




เด็กโง่… ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีกรึไง







“ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอ?”




ภรัณยูถามแล้วตักข้าวต้มหมูเข้าปาก นอกจากป้าแต้ว หัวหน้าแม่บ้านของที่นี่เป็นหญิงชราร่างท้วมที่เลี้ยงดูคุณหนูทั้งสามของบ้านทรัพย์ดำรงมาตั้งแต่เกิดที่เพิ่งกลับเรือนเล็กของตัวเองไปแล้ว ในบ้านใหญ่ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากทินกรและเขาเท่านั้น




“ครับ ปกติก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว”




ทินกรตอบอย่างไม่ใส่ใจ ภรัณยูมองไปรอบบ้านหลังใหญ่ที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์แต่ไม่มีบรรยากาศที่เหมาะจะให้เรียกว่าบ้านสักนิดแล้วหันกลับมาหาคุณหนูเล็กของบ้านที่ดูไม่ประหลาดใจกับสภาพแบบนี้




“ก่อนที่จะไปอเมริกาก็อยู่คนเดียวแบบนี้ตลอดเหรอ?”




“เปล่าครับ แต่ก่อนผมค้างที่โรงพยาบาลกับแม่” รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนริมฝีปากของอีกฝ่ายวูบหนึ่งเมื่อพูดถึงมารดา “ผมติดแม่น่ะครับ”




ภรัณยูนึกย้อนไปถึงที่พนักงานในบริษัทเคยพูดกันว่าชีวิตวัยเด็กของทินกรหมดไปกับการนั่งเฝ้าข้างเตียงมารดา ทำให้ไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน




“นี่ ไว้ว่างๆเราหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมั้ย?”




“เอ๊ะ…ได้เหรอครับ?” เจ้าตูบยักษ์หูหางกระดิกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินดังนั้น ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างจับผิดเมื่อฉุกคิดขึ้นได้ “ทำไมจู่ๆพี่ภัทรถึงได้ชวนผมล่ะครับ?”




“ก็…เห็นพี่แจนพูดว่าแต่ก่อนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน…” ภรัณยูตอบอ้อมแอ้ม ทั้งที่เป็นความจริงแท้ๆ ไม่รู้เขาจะลุกลี้ลุกลนทำไม “เขาวานพี่มานานแล้ว เพิ่งนึกได้”




“อ๋อ…” สีหน้าคนที่ดี๊ด๊าอยู่เมื่อครู่สลดลงทันตา ก่อนจะยิ้มให้เขาอีกครั้ง “ไม่เป็นไร แค่พี่ภัทรอยากไปกับผมผมก็ดีใจแล้ว”



“…ไม่ได้อยากไปซักหน่อย”




ทั้งที่รู้ว่าคำพูดนั้นจะทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่รู้ตัวอีกทีก็เผลอแก้ตัวไปเสียแล้ว ภรัณยูเหลือบมองคนที่หงอยลงไปอีกครั้ง แต่เลือกที่จะหุบปากเงียบแล้วทานอาหารเช้าต่อ




เขาบอกแล้วไง…การที่ต้องใส่ใจว่าคนอื่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา มันไม่ใช่ทางของเขาสักนิด




“แต่…ถ้าอยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา จะไปกินกาแฟแถวคอนโดพี่ก็ได้นะ เดี๋ยวไปนั่งเป็นเพื่อน”




แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเสนอออกไป ภรัณยูต้องยอมรับว่าตนรู้สึกอุ่นวาบในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าคมหล่อเหลาของเด็กหนุ่ม




“นั่งเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอครับ?”




“ได้คืบจะเอาศอกนะเรา พอเลย”




ภรัณยูดันใบหน้าที่ยื่นมาใกล้ตนอย่างทะลึ่งทะเล้นไปให้ห่าง แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจสำนวนที่ตนใช้ แต่ใบหน้างุนงงของทินกรก็ดูน่ารักไปอีกแบบสำหรับเขา




“ผมไม่อยากเอาศอกซะหน่อย ผมอยากเอา…โอ๊ย!” คนอายุน้อยกว่าโอดครวญเมื่อโดนมะเหงกจากผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ “…เอาใจใส่พี่ภัทร แค่นั้นเอง ทำไมต้องเขกหัวผมด้วยอ่า”




“พี่หมั่นไส้”




ภรัณยูตอบง่ายๆเบือนหน้าหนีรอยยิ้มรู้ทันของทินกรแล้วก้มลงทานอาหารต่อโดยไม่สนใจอีกฝ่ายอีก











“เหม่ออะไรของมึงนักหนาวะ? นี่กูเรียกมาช่วยไม่ได้เรียกมาเพ้อหาเมีย”



พายุบ่นเพื่อนตัวโตพอกันที่นั่งกอดกระเป๋าเป้ตัวเองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เป็นสาวน้อยแรกรุ่น วันนี้เป็นวันถ่ายรูปติดโปสเตอร์ของเหล่าเฟรชชี่เดือนคณะเพื่อโปรโมทการประกวดเดือนมหาวิทยาลัย อันที่จริงคนที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดในคณะคือทินกร แต่เนื่องจากเจ้าตัวไม่อยู่ในวันที่ทำการโหวต เด็กหนุ่มจึงถูกตัดสิทธิ์ไปโดยปริยาย ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดีสำหรับร่างสูง เพราะสิ่งที่ทินกรเกลียดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือการตกเป็นจุดสนใจ เคราะห์กรรมนั้นจึงไปตกกับเพื่อนที่ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับสองอย่างพายุแทน ซึ่งถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้ไม่พอใจอะไร แต่เด็กหนุ่มยังคงไม่ยอมให้ทินกรลืมบุญคุณที่ตนขึ้นมารับตำแหน่งแทนสักครั้ง




“กูแต่งหน้าไม่เป็น ให้มีนแต่งสิ” ทินกรโบ้ยไปยังเพื่อนต่างคณะตัวเล็กที่โดนเด็กคณะจอมเอาแต่ใจลากมาหลังทานอาหารกลางวันเสร็จอีกราย




ร่างเล็กสะดุ้งแล้วส่ายหน้าพรืด



“ระ…เราก็ทำไม่เป็น…”




“แค่ลงรองพื้นกับแป้งเองค่ะน้อง เดี๋ยวที่เหลือพี่ไปทำต่อ ช่วยพี่หน่อยนะลูก แค่แต่งหน้าดาวพี่ก็จะไม่ทันแล้วเนี่ย”




รุ่นพี่ที่แต่งหน้าให้ดาวคณะมือเป็นระวิงหันมาขอร้องอีกแรง คนขี้เกรงใจอย่างมีนาจึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจำยอมแล้วลุกไปหยิบขวดรองพื้นกับแปรงแต่โดยดี



“เอ่อ…ซัน…”




ร่างเล็กหันมาขอความช่วยเหลือจากทินกรทางสายตา เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียลุกมาช่วยเพื่อนพิจารณาวิธีใช้ ก่อนจะไหวไหล่




“คงเหมือนทาสีบ้านแหละมั้ง ให้มันเป็นสีเดียวกันก็พอ“



มีนาพยักหน้าอย่างเคลือบแคลงใจ แต่ก็บีบครีมรองพื้นเฉดสีผิวของพายุแล้วใช้นิ้วแต้มไปตามใบหน้าของเพื่อนตัวโตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แต่งหน้า ถึงแม้อีกฝ่ายจะนั่งอยู่ แต่ช่วงขายาวๆที่ขวางอยู่ทำให้มีนาต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อแต้มครีมสีเนื้อเข้มลงบนใบหน้าร่างสูง พายุเดาะลิ้นอย่างขัดใจ แยกขาออกแล้วดึงให้เพื่อนตัวเล็กเข้ามาใกล้จนแทบจะนั่งอยู่บนตักของตนเพื่อให้สะดวกต่อการแต่งหน้า




“โฮ่ เดี๋ยวนี้ช่างแต่งหน้าเขาเซอร์วิสกันถึงที่แบบนี้เลยเหรอ?”



เสียงของรุ่นพี่หัวทองดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา ทินกรและเพื่อนทั้งสองหันกลับไปไหว้พี่ปีสามของคณะบริหารทั้งสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลุงรหัสของทินกรและเป็นเดือนมหาวิทยาลัยเมื่อสองปีก่อน ส่วนอีกคนที่ย้อมผมสีทองและมีรอยยิ้มกวนๆเป็นเอกลักษณ์ประดับอยู่บนใบหน้านั้นชื่อเหนือฟ้า เป็นลุงรหัสของพายุ



“พี่กล้า พี่เหนือ สวัสดีครับ”




กวินภพ หรือต้นกล้า อดีตเดือนมหาวิทยาลัยพูดน้อยต่อยหนักยกมือรับไหว้น้องๆ แต่ดวงตาสีรัตติกาลกลับมองเลยข้ามหัวพวกเขาไปเสียอย่างนั้น ด้วยความสงสัย ทินกรจึงหันไปมองตามสายตาของลุงรหัส ที่อีกฟากของห้อง ในโซนของคณะแพทยศาสตร์ เดือนคณะลูกครึ่งหัวทองตาฟ้าพิมพ์นิยมของคนชอบฝรั่งนามว่าแทนไทยกำลังนั่งคุยกับเด็กหนุ่มร่างเล็กอีกคนซึ่งสวมแว่นหนาเตอะปิดบังใบหน้าไปเสียครึ่ง แถมทรงผมกาละครอบที่เขาไม่เห็นใครทำหลังจากเขามหาวิทยาลัยยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูจืดชืดเมื่อยืนอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้งาม



โฮ่ สเป็กพี่กล้าเป็นเด็กลูกครึ่งเหรอเนี่ย?




ทินกรเอียงคออย่างประหลาดใจ ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคนอย่างแทนไทยไม่น่าใช่สเป็กของลุงรหัสของเขากันนะ




“อย่ามอง”




เสียงเข้มของกวินภพที่มักจะพยายามพูดจาดีๆกับเขาเสมอเอ่ยห้วนๆ ทำเอาทินกรที่ยืนเหม่ออยู่สะดุ้งแล้วรีบหันกลับมาทันที
แค่มองก็หวง…พี่เราน่ากลัวไปไหนเนี่ย




“เอ้าๆ ไอ้กล้า น้องหัวหดหมดแล้วเนี่ย” เหนือฟ้าเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “งี้แหละไอ้พวกหมาหวงก้าง ระวังเถอะแมวจะคาบไปแดกซักวัน”




ทินกรแอบชำเลืองมองไปทางแทนไทยอีกครั้ง ร่างสูงนั่งหลับตาให้ช่างแต่งหน้าลงเครื่องสำอางค์ แต่เด็กหนุ่มร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างกันกำลังมองตรงมาทางกวินภพที่หันกลับไปคุยกับเหนือฟ้า เมื่อดวงตาภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะสบกับทินกร เด็กคนนั้นรีบเบือนหน้าหนีสายตาใคร่รู้ของเขาอย่างมีพิรุธ



หืม…น่าสนใจ




ทินกรเลิกคิ้ว ก่อนจะรีบหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเหนือฟ้าเรียกชื่อตัวเอง



“ซัน ไอ้ยุ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกพี่พาไปเลี้ยงชาบูหน้ามอนะ ห้ามเบี้ยวนะเว้ย”



คนที่ชอบเบี้ยวนัดเลี้ยงสายจนรุ่นพี่เอือมระอายิ้มเจื่อนพร้อมพยักหน้า ยังไงเสียพรุ่งนี้เขาก็ไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว



“งั้นพวกพี่ไปละ แค่มาให้กำลังใจไอ้คุณเดือนคณะ”



เหนือฟ้ายีผมที่ยังไม่จัดทรงของพายุอย่างหมั่นไส้ สายรหัสนี้สนิทสนมกลมเกลียวกันเสียจนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา




ไม่สิ ถ้าจะเปรียบแบบนั้น คงไม่สามารถใช้วลีนั้นกับคนในบ้านของเขาได้…




“สวัสดีครับพี่”




เด็กหนุ่มทั้งสองรวมถึงมีนายกมือไหว้รุ่นพี่ ก่อนที่ร่างเล็กที่เพิ่งเกลี่ยรองพื้นได้เนียนจนเป็นที่พอใจของตัวเองจะลงแป้งฝุ่นให้เพื่อนอย่างขะมักเขม้นแล้วผละออกจากคนที่ใช้แขนรั้งเอวบางไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้หงายตกลงจากตักของตนพร้อมเอ่ยขอตัว




“งั้นเราไปก่อนนะ พอดีมีนัดต่อ…”




“โห่ เหม็นความรักว่ะ”




พายุล้อ คนโดนแซวสะดุ้ง ปฎิเสธด้วยใบหน้าแดงก่ำ



“กะ…ก็บอกว่าไม่ใช่ไง…”




“งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย ว่าจะออกไปซื้อน้ำพอดี”



ทินกรเอ่ย ก้มลงซ้ายขวาตบขากางเกงเพื่อหากระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของตน จากหางตา เขาสังเกตว่ามีนาพยักหน้าอย่างเกร็งๆ ดูไม่เต็มใจที่จะให้เขาเห็น‘คนที่ไม่ใช่แฟน’ที่ว่านี้เท่าไหร่







“ซัน…”




มีนาเอ่ยเรียกร่างที่เดินอยู่ข้างตัวเองอย่างกล้าๆกลัวๆ เขายังไม่มั่นใจว่าทินกรเป็นเพื่อนของตน หรือเพียงแค่ยอมให้มีนาติดไปไหนมาไหนด้วยเพราะเห็นแก่พายุ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้สนิทกับร่างเล็กขนาดนั้น



“หืม? ว่าไงเหรอ?”




ทินกรหันมาหาคนตัวเล็กข้างๆ ถึงแม้ความแตกต่างระหว่างความสูงของคนทั้งคู่จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าของธีรเชษฐ์กับมีนา แต่ร่างสูงก็ยังคงต้องก้มหน้าคุยกับอีกฝ่ายอยู่ดี




“ซันเป็นลูกครึ่งอะไรเหรอ?”




ด้วยโครงหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับธีรเชษฐ์จนน่าตกใจ มีนาคิดว่าอย่างน้อยที่สุดคนทั้งคู่อาจจะมีเชื้อสายเดียวกัน ถึงแม้ใบหน้าของทินกรจะอ่อนโยนกว่าคนอายุมากกว่าอยู่มาก แต่มีบางมุมที่ไม่ว่าจะมองอย่างไรมีนาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดูคล้ายกับธีรเชษฐ์อย่างบอกไม่ถูก




“ลูกเสี้ยว” ทินกรครุ่นคิดก่อนตอบ “เสี้ยวรัสเซียกับเสี้ยวจีน แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนทักว่าหน้าฝรั่งอ่ะนะ”



“อ๋อ…”



มีนาพยักหน้าเข้าใจ อาจเป็นไปได้ว่าธีรเชษฐ์ก็มีเชื้อสายของหลายชาติเช่นกัน ทำให้คนทั้งคู่หน้าตาคล้ายกัน




“นี่ มีน…” ทินกรขมวดคิ้วเมื่อคนที่ถูกเรียกชื่อสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตื่นๆ “ไม่ต้องเกร็งเวลาอยู่ใกล้เราขนาดนั้นก็ได้นะ เราไม่กัดหรอก”



ข้อเสียอีกอย่างของความคล้ายคลึงของคนทั้งสองทำให้บางครั้งมีนาก็รู้สึกเกร็งเมื่ออยู่ใกล้ทินกร ยิ่งสีหน้าไม่สบอารมณ์ของร่างสูงในครั้งแรกที่เจอกับเขายิ่งไม่ช่วยให้มีนาสบายใจเมื่ออยู่กับอีกฝ่ายสักนิด



“ขะ…ขอโทษ…”




“ฉันสิต้องขอโทษ คงทำให้มีนกลัวตั้งแต่วันแรกเลย” ทินกรโอบไหล่ร่างบางเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มกว้าง “ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวแล้วเนอะ เพื่อนกันๆ”




มีนาพยักหน้าอย่างขัดเขินกับท่าทีสนิทสนมของเพื่อนตัวโต แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า หากธีรเชษฐ์ยิ้ม ทุกสิ่งรอบตัวร่างสูงจะดูสดใสเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับทินกรในตอนนี้หรือไม่




Rrrrrr



“อ๋า พี่ภัทรโทรมา”




เด็กหนุ่มตัวโตผละออกจากมีนาทันทีที่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น โบกมือลามีนาแล้วเดินแยกเข้าไปในโรงอาหาร หากโลกดูสดใสเมื่อทินกรยิ้มก่อนหน้านี้ แสงสว่างจากรอยยิ้มของร่างสูงในตอนนี้คงสามารถแผดเผาคนมองจนไหม้เป็นจุณได้




ปริ๊น!




เสียงบีบแตรสั้นๆจากรถสปอร์ตคันหรูที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัยเรียกความสนใจจากมีนาไปจากแผ่นหลังของร่างสูง เด็กหนุ่มรีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างในทันทีด้วยกลัวว่าคนที่ผ่านไปมารวมถึงทินกรจะสังเกตเห็น



“ช้า”




เจ้าของรถเอ่ยสั้นๆ เสียงเข้มฟังดูหงุดหงิดใจอย่างไม่ปิดบัง แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าที่ทำงานของอีกฝ่ายคงมีอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจร่างสูงตามเคย มีนาพึมพำเอ่ยคำขอโทษแม้จะรู้ดีว่าเมื่อครู่ไม่ใช่ความผิดของตน รถยนต์คันหรูแล่นออกจากมหาวิทยาลัยเช่นทุกวัน มีนาคุ้นชินกับอารมณ์แปรปรวนของชายหนุ่มพอสมควรแล้วจึงไม่รู้สึกตกใจอะไรกับสีหน้าบึ้งตึงของอีกฝ่ายนัก




“กินอะไรมารึยัง?”




“…ทานแล้วครับ” เขาไม่ได้โกหก เขาทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนไปแล้วจริงๆ




มีนาไม่เคยมีความคิดที่จะอดอาหาร ที่เขาไม่ทานเป็นเพราะเขาไม่มีอะไรให้ทาน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาได้มา มีนาทุ่มไปกับค่ารักษาพยาบาลและค่าอาหารของยายและมารดา หากหญิงทั้งสองยังไม่อิ่ม มีนาก็จะไม่ยอมทาน
คนเราอดอาหารได้เจ็ดวันโดยไม่ตาย




ร่างเล็กถือข้อมูลนั้นในการดำรงชีวิตมาโดยตลอด ถึงแม้ในตอนนี้ทั้งแม่และยายของเขาจะมีมากเกินกว่าพวกเขาจะนึกฝันด้วยความเมตตาของธีรเชษฐ์ แต่มีนาก็ยังเลือกที่เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่สามารถเจียดได้ ทั้งที่ได้รับเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจากร่างสูง เงินที่ขายพวงมาลัยได้ในตลาด และเงินที่เขาได้จากลูกค้าในตลาดที่เคยรู้จักกับมารดาแล้วอยากช่วยเหลือ ไว้ในบัญชีที่แม้ในตอนนี้จะมีอยู่เพียงน้อยนิด แต่เขาได้แต่หวังว่าก่อนเขาจะตายเขาจะมีเงินมากพอที่จะสามารถปลดหนี้และทดแทนบุญคุณที่อีกฝ่ายมีต่อเขาและครอบครัวได้




“วันนี้ฉันต้องกลับไปบริษัท นอนไปเลยก็ได้ ไม่ต้องรอ”




มีนาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ธีรเชษฐ์เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดของตัวเอง มีนาพนมมือไหว้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อม แต่ก่อนที่จะเปิดประตูรถออกไป ร่างเล็กไม่รู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ถึงได้เอื้อมมือไปแตะที่หลังมือของร่างสูงเบาๆ “ไปดีมาดีนะครับ”




ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว ก่อนจะพลิกหงายฝ่ามือแล้วดึงข้อมือเล็กให้คนตัวเล็กเซมาหาตน มีนาหลับตาลงเมื่อริมฝีปากได้รูปบดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นรูปกระจับของตัวเอง ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะดึงเขามากอดหรือกดจูบลงบนซอกคอขาวอยู่บ่อยครั้ง แต่นอกจากคืนแรกของพวกเขาแล้ว มีนาคิดว่าอีกฝ่ายไม่เคยจูบเขาแบบนี้อีก




ซึ่งร่างเล็กถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถทนความรู้สึกวาบหวามในช่องท้องขณะที่ลิ้นสากหยอกล้อกับลิ้นของเขาอย่างชำนาญได้อีกกี่ครั้ง




“ไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่ไปประชุม”




ธีรเชษฐ์กระซิบเสียงพร่า แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่หยอกให้เขาตกใจเล่น แต่มีนาก็ยังคงรีบเปิดประตูลงจากรถเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ร่างเล็กกอดกระเป๋าเป้กลางเก่ากลางใหม่ของตนมองตามรถสปอร์ตคันหรูที่วิ่งออกไปด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นไม่เป็นส่ำ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในคอนโดราคาหลายล้านที่เขาไม่เคยนึกฝันว่าจะได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิต

--------

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 ภัทรตกหลุมเด็กน้อยซะแล้ว
ซันน่ารักนะ และปกติที่สุดในบ้านละ

มีนน่าสงสาร ตราบใดที่คุณเชษฐ์ยังทำเข้มแบบนี้
น้องก็ไม่มั่นใจสักทีแหละ

พายุคือตัวป่วนและกวนประสาทตลอดเวลา



ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ฟินจ้าาา การกินเด็กมันทำให้เราฟินอะไรอย่างนี้

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ภรัณยูปากไม่ตรงกับใจมากเหมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ทำเป็นเข้มไปคุณเชษฐ์

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่ภัทรบอกเอาใจใส่ใครไม่เป็น แต่กับน้องซันอดเอ็นดูเด็กไม่ได้ใช่มะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนนี้พวกกินเด็กนี่ สุขสุดๆเลยนะ  :hao3:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ลุ้นคู่หนูมีนกับตาลุง :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1:จ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ถถถถถถถ น้องมีนลูกกกก อยากกอดหนูจัง

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
งื้ออออออ
ขอบคุณที่มาต่อจ้า
รอตอนต่อไปเด้อ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อีตาแก่ อารมณ์แปรปวน  :z3:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ  :L2:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คุณเชษฐ์นี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 9: เอาแต่ใจ

หลังจากถูกเรียกประชุมด่วนตั้งแต่ช่วงบ่ายลากยาวไปจนถึงสามทุ่ม ภรัณยูที่ยังไม่ได้ทานแม้แต่อาหารเที่ยงแทบจะต้องคลานออกมาจากห้องประชุม โชคยังดีที่เขารู้เรื่องก่อนทำให้ภรัณยูโทรไปยกเลิกนัดสอนพิเศษกับทินกรได้ทัน แต่น้ำเสียงผิดหวังที่ส่งผ่านมาจากปลายสายอย่างชัดเจนทั้งที่พูดว่า ‘ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ’ ทำเอาภรัณยูอดรู้สึกผิดไม่ได้




”ภัทร กินข้าวมารึยัง ไปกินข้าวกินมั้ย?”




สอง เพื่อนจากแผนกบุคคลที่ลงลิฟต์มาด้วยกันชวน ภรัณยูส่ายหน้า เขาอยากจะกลับห้องไปสลบบนเตียงมากกว่า แต่แผนการของร่างโปร่งเป็นอันต้องถูกพับเก็บไปทันทีที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ เพราะลูกชายคนเล็กของเจ้าของบริษัทกำลังโบกมือให้เขาอย่างร่าเริงจากโต๊ะรับรองที่มีขนมนมเนยที่คาดว่ามาจากพนักงานต้อนรับวางอยู่เต็มไปหมด พนักงานสาวๆรุมล้อมหน้าหลังเด็กหนุ่มราวกับเห็นดาราดัง และนั่นทำให้อารมณ์ที่หงุดหงิดอยู่แล้วของคนอายุมากกว่าขุ่นมัวขึ้นอีกระดับ
อย่างไม่ทราบสาเหตุ




“ซัน…มาได้ไงเนี่ย?”





ภรัณยูถาม สองที่เดินตามออกมาเลิกคิ้วเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่แม้จะเข้าบริษัทมาเรียนรู้งานกับบิดาและกลุ่มผู้บริหารอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับพนักงานอย่างพวกเขานอกเหนือไปจากการทักทายตามมารยาทมีท่าทีสนิทสนมกับเพื่อนของตนอย่างเห็นได้ชัด




“ผมคิดถึงพี่ภัทรครับ”




ทินกรยิ้มแฉ่งตอบราวกับว่านั่นเป็นเหตุผลเพียงพอให้ตัวเองมานั่งรออีกฝ่าย แม้จะอยากคุยกับเด็กหนุ่มให้รู้เรื่องเสียตั้งแต่ตรงนี้ แต่สายตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนร่วมงานทำให้ภรัณยูต้องดึงอีกฝ่ายให้เดินตามมาพร้อมกระซิบ




“ไปคุยกันที่รถ”





ทินกรพยักหน้าหงึกหงักด้วยสีหน้างุนงง เดินตามคนอายุมากว่าที่ดึงเสื้อลากตัวเองไปที่รถแต่โดยดี ภรัณยูลากเด็กหนุ่มไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ในลานจอดรถพนักงาน ทินกรเปิดประตูผลุบเข้าไปนั่งในที่ข้างคนขับทันทีที่ภรัณยูกดปลดล็อครถ





“ทำอะไรของเราเนี่ย? พี่บอกแล้วไงว่าอย่าทำตัวแบบนี้ที่บริษัท”




ภรัณยูดุทันทีที่กระแทกประตูรถปิด เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นว่าคนอายุมากกว่ามีสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ภรัณยูขับออกไปด้วยความเคยชินโดยมีจุดหมายปลายทางคือคฤหาสน์ทรัพย์ดำรง




“พี่ภัทร…โกรธเหรอครับ?”




“ก็น่าจะรู้ตัวนี่ ไหนว่าไม่ใช่เด็กๆแล้วไง?”





ภรัณยูตอบอย่างหงุดหงิด เขาไว้ใจทินกรมากเกินไป ปล่อยให้อีกฝ่ายล้ำเส้นที่ขีดไว้จนเคยตัว จนเผลอลืมคิดไปว่าเด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ




“ที่ผมชอบพี่ภัทรนี่มันผิดมากเลยรึไงครับ?” ทินกรถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด




“มันไม่เหมาะสม”




ภรัณยูให้เหตุผลด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่คุยกับเด็กดื้อเอาแต่ใจ แต่สิ่งที่ทินกรถามสวนกลับมากลับทำให้คนอายุมากกว่าสะอึก




“แล้วในเวลาอีกไม่ถึงสามสิบวันที่จะถึงวันเกิดผม มันจะทำให้การที่ผมชอบพี่เหมาะสมขึ้นมาเหรอครับ?”




“ถ้าเรื่องแค่นี้ซันยังทำให้พี่ไม่ได้ เราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วล่ะ”




ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากเงียบไปหลายอึดใจ เขารู้ว่าคำถามของอีกฝ่ายมีเหตุผล แต่เขาไม่ได้เรียกร้องขอให้ทินกรวิ่งไล่ตามเขา




ประสบการณ์สอนให้ภรัณยูรู้ว่าคนเราไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความรักความชอบพอเพียงอย่างเดียว ความเหมาะสมในสายตาของคนรอบข้างก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น ใครที่บอกว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคนนั้นโกหก
ทั้งเพ และถึงแม้เขาจะเผลอใจปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรไปแล้ว แต่เขาจะไม่ยอมให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้




และหากทินกรไม่เป็นผู้ใญ่พอที่จะเคารพการตัดสินใจของเขา ภรัณยูก็ยินดีที่จะปล่อยอีกฝ่ายไปเจอคนที่เหมาะสมกว่า
อย่างไรเสีย ปลายทางของความสัมพันธ์ในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นจุดจบแบบนั้นอยู่แล้ว




“ขอโทษครับ...”





ทว่าสิ่งที่อีกฝ่ายตอบมามีเพียงคำขอโทษที่กลับทำให้หัวใจของคนฟังหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่ภายในรถจะถูกปกคลุมอยู่ด้วยความเงียบไปตลอดทาง












ติ๊ด!





เสียงแตะคียการ์ดลงบนเครื่องอ่านที่หน้าประตูทำให้มีนาที่นั่งอ่านชีททบทวนบทเรียนรอธีรเชษฐ์ตั้งแต่หัวค่ำรีบเก็บเอกสารกลับลงไปในกระเป๋าเป้กลางเก่ากลางใหม่ของตนแล้วซุกตัวลงใต้ผ้าห่มด้วยกลัวว่าหากอีกฝ่ายพบว่าตนฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมนอน  ร่างเล็กจะโดนเจ้าชีวิตลงโทษด้วยบทลงโทษที่ทำให้ใจของเขาเต้นแรงจนเจ็บไปทั้งอก





เสียงประตูห้องนอนที่เปิดออกอย่างช้าๆและฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้มีนารีบหลับตาปี๋ ร่างเล็กนอนตัวแข็งทื่อผิดธรรมชาติเมื่อรู้สึกถึงที่นอนข้างกายที่ยวบลงตามน้ำหนักตัวของเจ้าของห้อง พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่รินรดข้างแก้มเมื่อธีรเชษฐ์โน้มหน้าเข้ามาใกล้เสียจนขนอ่อนที่หลังคอของเด็กหนุ่มลุกชัน




“ไม่เนียนเลยซักนิด”




มีนายังคงไม่ยอมขยับ ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองกำลังใช้วิธีการแกล้งหลับหรือกำลังแกล้งตายเพื่อหนีความผิดกันแน่ ร่างเล็กผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าใบหน้าของอีกฝ่ายกำลังถอยห่างออกไป




“อ๊ะ!”




เสียงหวานอุทานเมื่อมือใหญ่สอดเข้ามาใต้เสื้อนอนตัวบาง มือที่เย็นเยียบจากการอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำมาตลอดหลายชั่วโมงไล้ไปตามแนวกระดูกสันหลังของแผ่นหลังขาวเนียน ทำเอาคนขี้หนาวรีบขยับลุกหนีสัมผัสของอีกฝ่ายทันที




“หึ จะหลอกฉันมันยังเร็วไปยี่สิบปี มีนา”




ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก แต่คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คนตัวเล็กคิดย้อนไปถึงเรื่องที่ตนยังคงสงสัยไม่หาย




ยี่สิบปี...ถ้าอย่างนั้นคุณเชษฐ์อายุสามสิบปลายๆรึเปล่านะ




มีนาโทษเชื้อตะวันตกและการดูแลตัวเองของอีกฝ่ายที่ให้การกะอายุยากขึ้นไปอีก หากให้เขาเดาจากใบหน้าคม ยังไงเขาก็เชื่อว่าธีรเชษฐ์อายุไม่เกินสามสิบห้า




“เหม่ออะไร หืม?”




“ผมแค่...คิดว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลยน่ะครับ” เด็กหนุ่มยอมรับ ถึงแม้จะไม่ได้พูดความคิดของตนทั้งหมดออกไป มีนาไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องของธีรเชษฐ์มากน้อยเพียงใด และไม่อยากให้อีกฝ่ายนึกรำคาญใจความเซ้าซี้ของตน




แต่นอกจากร่างสูงจะไม่โกรธแล้ว ชายหนุ่มยังมีรอยยิ้มพึงพอใจที่ทำให้มีนารู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องติดที่มุมปากอีกด้วย




“ถ้าคิดเรื่องของฉันอยู่ก็แล้วไป...”




“เอ๊ะ?…อื้อ...”




ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงระเรื่อถูกครอบครองอย่างเอาแต่ใจ แต่ถึงกระนั้นมีนายังคงรับรู้ถึงความอ่อนโยนที่ถ่ายทอดจากริมฝีปากที่ตนถูกบังคับให้คุ้นเคยโดยไม่ได้ร้องขอ แม้เด็กหนุ่มจะไม่ได้รู้สึกรังเกียจมันก็ตาม




“…แต่ถ้าขัดคำสั่งฉันอีก บทลงโทษจะไม่เบาแบบนี้แล้วนะ”




ร่างสูงกระซิบชิดริมฝีปากของมีนา สัมผัสของริมฝีปากที่ขยับแนบชิดกับริมฝีปากของเด็กหนุ่มทำให้ร่างเล็กรู้สึกมึนเมาราวกับถูกอีกฝ่ายมอมด้วยรสจูบที่แสนช่ำชอง รู้ตัวอีกที เขาก็นอนอยู่บนเตียงโดยมีธีรเชษฐ์เกลี่ยผมที่ปรกอยู่บนหน้าผากออกจากดวงตากลมโต




“ครับ...”




“หลับตาซะเด็กดี”




มีนาหลับตาลงอย่างว่าง่าย ข้อดีของเขาน่าจะมีเพียงอย่างเดียวคือการเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ทำให้ผู้ใหญ่ทุกคนที่พบเห็นมักจะเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ




ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่เขาได้ยินคำชมนี้จากหลายคนในชีวิต แม่ ยาย อาจารย์ หรือแม้แต่นายจ้างในงานพิเศษหลายงานที่เขารับทำเพิ่มควบคู่ไปกับการเรียน แต่เมื่อธีรเชษฐ์เป็นคนชมเขาแบบนั้น มีนากลับรู้สึกเหมือนมันเป็นคำพูดหยาบโลนที่ปลุกเร้าอารมณ์ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน





มีนาจมสู่ห้วงนิทราอย่างช้าๆ รู้สึกถึงร่างสูงข้างกายที่ขยับลุกจากเตียงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลออกไป เมื่อห่างจากสัมผัสของร่างกายและกลิ่นโคโลญจ์อ่อนจางชวนให้มัวเมาของอีกฝ่าย สมองที่เต็มไปด้วยความงุนงงก็สามารถกลับมาคิดได้แจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง




วันนี้...เขาก็ยังคงไม่รู้เรื่องของธีรเชษฐ์มากไปกว่าที่เขาเคยรู้แม้แต่นิดเดียว


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถ้ามีนรู้ว่ามีอะไรกับพ่อของเพื่อนตัวเอง จะเป็นยังไงนะ  :hao4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
แหม อ่อนโยนกับเด็กก็เป็นนะคะ 

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
มีนจะเป็นแม่เลี้ยงที่อายุน้อยที่สุด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด