#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 223769 ครั้ง)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
แบบนี้มันต้องมีเรื่องแน่ๆ พอทราบเรื่องแล้วค่อยจะวางแผนกันต่อใช่ไหม สุมหัวๆ 55555 รอฟังและรอการเอาคืน ลึกซึ้งเห็นแจ้งเลยใช่ไหมพระพาย ดีแล้วทำตามที่หลวงตาบอก จะได้โล่งๆ ถ้ามันใช่ของเราก็คือของเรา  //รอตอนต่อไป ขอบคุณนะคะที่มาต่อ  :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยังไงต่อ?

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ ตอนที่ 63 มาแล้ว มาพร้อมกับคนที่คุณก็เรียกร้อง เขากลับมาแล้วค่ะในตอนนี้  :o8: ยังไงก็ไปอ่านกันเลยนะคะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจและความเห็นมากๆค่ะ ดีใจที่ยังติดตามกันแต่แม้ว่าทางนี้จะอัพช้าไปหลายต่อหลายครั้ง ยังไงก็อยู่ด้วยกันก่อนนะคะ สำหรับตอนนี้หากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ ตอนนี้พายุฟ้าฝนเทลงมากระหน่ำเลย ยังไงก็รักษาสุขภาพและระมัดระวังกันด้วยนะคะ รัก  :กอด1: ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
+++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 63 Freedom.

Everybody knows
ทุก ๆคนต่างก็รู้

How the story goes
ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร

But fairy tales have been lying to me
แต่เทพนิยายนั้นลวงหลอกฉันไว้

Every time I try
ทุกครั้งที่ฉันพยายาม

You just run and hide
เธอเองเอาแต่วิ่งหนีและหลบซ่อน

Now I’m finally feeling free
ในที่สุด ตอนนี้ฉันก็เป็นอิสระเสียที



        อัทธ์และเลขาปอเดินนำเพลงขวัญกับพระพายมาถึงห้อง เพลงขวัญนั่งลงบนโซฟาอย่างรู้งาน ในขณะที่เลขาปอไปหยิบน้ำดื่มมาให้พลางใช้สายตาเหลือบมองไปยังอัทธ์ราวกับกำลังด่าใจในเพราะดูก็รู้ว่าที่เพลงขวัญมานั่งอยู่ตรงนี้เป็นฝีมือของใคร

“สบายดีไหมอัทธ์” เพลงขวัญถาม พลางจิบน้ำ

“สบายดี ว่าแต่เธอเถอะ ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้”

“เรื่องน้องชายงี่เง่าของฉันทั้งคน ไม่ใช่ฉันแล้วใครจะจัดการ”

“เอ่อ คือ..” เลขาปอเอ่ยพลางมองหน้าพระพายที่ตอนนี้ก้มหน้าต่ำลงจนน่าสงสาร คงจะกลัวเพลงขวัญอยู่ไม่น้อย

“นี่แฟนนายสินะ” เพลงขวัญหันมามองเลขาปอ

“ใช่ ก็เลขาน้องชายเธอนั่นแหละ”

“ขอโทษด้วยนะที่มารบกวนแบบนี้ และจำนายไม่ได้จริง ๆ ก็ฉันไม่ค่อยไปที่นั่นเท่าไหร่”

            เพลงขวัญคงจะหมายถึงโรงแรมของที่บ้าน เรื่องนั้นเลขาปอไม่ได้ถือสาเพราะเขาก็เป็นแค่พนักงานคนหนึ่ง แต่กลับกันเป็นทางเลขาปอที่ต้องรู้จักเพลงขวัญอยู่แล้วถึงแม้จะเห็นตัวจริงไม่กี่ครั้งเพราะเป็นถึงลูกสาวคนโตของเจ้าของโรงแรม

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ” เลขาปอว่าพลางลุกขึ้น

“ไปด้วยสิ” อัทธ์ว่าและลุกขึ้นตาม เลขาปอมองค้อนอัทธ์แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าอะไร

“ขอใช้ห้องนั่งเล่นหน่อยละกัน”

“ตามสบายเลย” อัทธ์ว่า พลางเดินตามเลขาปอเข้าห้องไป

        ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่เพลงขวัญและพระพายที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น พระพายรู้สึกว่าเพลงขวัญกำลังจ้องมองอยู่ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเลยสักนิด ทั้งที่เจอกันล่าสุดพระพายก็ออกจะสนิทมากขึ้นแล้วแท้ ๆ แต่เมื่อมาเจอกันในตอนนี้ ตอนที่พระพายเองก็ไม่รู้จะบอกอย่างไรถึงสาเหตุที่มานั่งอยู่ตรงนี้

“พระพาย เล่ามา เกิดอะไรขึ้น” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็เอ่ยถามเรื่องได้อย่างตรงประเด็น

“เอ่อ....” พระพายไม่รู้จะเรียบเรียงออกมาได้อย่างไรเพราะนึกไม่ออกว่าจะบอกมันโดยปกติเหมือนเรื่องดินฟ้าอากาศได้หรือไม่

“เงยหน้าแล้วเล่ามา” เพลงขวัญยังคงย้ำคำพูดอย่างชัดเจน จนพระพายต้องยอมแพ้

“คุณอัทธ์...บอกพี่เพลงว่าอะไรครับ” พระพายถาม

“อัทธ์บอกว่าพระพายอยู่ที่นี่ ทะเลาะกับพิธาน สภาพไม่ดีเท่าไหร่” เพลงขวัญบอก พระพายเงียบไปก่อนจะยอมเอ่ยออกมา

“ครับ...พวกเราทะเลาะกัน”

“ทะเลาะกันจนถึงขั้นออกจากห้องโดยไม่หยิบอะไรติดตัวมานี่ไม่ปกติแล้วนะ เรื่องมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ” เพลงขวัญนั่งซักถามเป็นเรื่องเป็นราว อัทธ์บอกกับเธอว่าพระพายมานั่งอยู่ที่คอนโดในสภาพที่มีแต่ตัวจริง ๆ

“คุณพิธาน...ขอให้ผมห่างกับเขา...สักพัก” พระพายบอก เพลงขวัญถึงกับถลึงตา

“อะไรนะ...ห่างกันสักพัก นี่กำลังคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกเอ็มวีค่ายกามิกาเซ่อยู่รึไง” เพลงขวัญที่ได้ยินถึงกับของขึ้น สีหน้านั้นดูโมโหไม่น้อย

“น้องชายฉันนี่น่าขายหน้าจริง ๆ ใช้คำพูดเสียเชยสะบัด” ยังคงบ่นต่อเนื่องโดยไม่ได้ดูท่าทีของพระพายเลย

“พิธานพูดอะไรมากว่านั้นไหม เหตุผลล่ะ” เพลงขวัญกลับเข้าสู่บทสนทนาหลังจากที่บ่นอยู่ครู่หนึ่ง

“เขาบอกว่าผมหักหลังเขา”

“หักหลัง...เรื่องอะไร ไปแอบมีกิ๊กเหรอ” เพลงขวัญหรี่ตาถาม

“ไม่ครับ ไม่เคยมี” พระพายส่ายหน้าทันที

“ก็นั่นสิ ถ้ามีกิ๊กจริง ๆ ไม่ใช่แบบนี้หรอก ป่านนี้กิ๊กของพระพายได้โดนอัดน่วมอยู่ตรงใต้สะพานลอยไปแล้ว และตัวพระพายเองก็คงโดนล่ามโซ่ไว้ในห้อง ไม่ทันได้หนีไปไหนหรอก”

            เพลงขวัญว่า พระพายถึงกับกลืนน้ำลาย...สมกับเป็นพี่สาวที่รู้จักน้องชายดีและแน่นอนว่ามันน่ากลัวมากหากจะเป็นอย่างนั้นจริง การล่ามโซ่แบบกักขังคงไม่ได้เร้าใจเหมือนตอนทำเรื่องอย่างว่าหรอก

“ตัดเรื่องชู้สาวออกไปได้เลย ไม่น่าใช่ และมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไหม” เพลงขวัญถามต่อ

“ไม่มีนะครับ.....เอาจริง ๆ ก็...มีนิดหน่อย” พูดไปก็นึกขึ้นมา ก่อนหน้านั้นบรรยากาศของเขากับพิธานมีเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร

“ยังไงล่ะ”

“คุณพิธานกลับบ้านดึก น่าจะเรื่องงาน จากนั้นเขาลืมนัดทานข้าวกับผมและผมเห็นเขาเดินอยู่กับแฟนเก่าด้วย” พระพายจึงยอมเปิดปากเล่าทั้งหมด เพราะยากที่จะปิดคนอย่างเพลงขวัญได้

“แฟนเก่า โอน่ะเหรอ....”

“คงจะใช่ครับ น่าจะชื่อโอ”

“ถ้าเรื่องถ่านไฟเก่าจะคุกับโอนี่ตัดไปได้เลย เพราะรายนั้นเขามีแฟนฝรั่งแล้วและกำลังจะบินไปแต่งงานที่ประเทศของแฟนด้วย” เพลงขวัญว่า พระพายเลิกตาขึ้นอย่างงุนงง

“เหรอ..ครับ” พระพายหน้าเจื่อนลงทันควัน นี่เขาเข้าใจผิดเรื่องนี้ไปอย่างนั้นหรือ

“ใช่ เพราะรู้จักกันกับทางผู้ใหญ่เลยรู้เรื่องนี้” สมกับเป็นเพลงขวัญที่ไม่เคยมีอะไรลอดผ่านเธอไปได้เลย

“ฉะนั้นเรื่องนี้นายไม่ต้องไปคิดอะไรแล้ว แต่พิธานนี่สิคิดอะไรถึงพูดว่าขอห่างแบบนั้น...นั่นมันบอกเลิกกันทางอ้อมชัด ๆ”

             เพลงขวัญขมวดคิ้วเป็นปมเพราะยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายตัวเอง ไม่ใช่พระพายคนเดียวที่คิดแบบนั้น เพลงขวัญก็คิดเช่นเดียวกันกับเขา พูดแบบนั้นออกมาเท่ากับกำลังบอกเลิกจริง ๆ

“และนี่หนีออกมาอยู่กับอัทธ์ได้ยังไง”

“บังเอิญมากกว่าครับ ผมเดินออกมาเรื่อย ๆ จนมาโผล่ที่นี่”

“โชคดีแค่ไหนที่เจอคนรู้จัก ไม่อย่างนั้นคงอันตราย”

“ขอโทษครับ” พระพายพูดได้เท่านี้ในตอนนี้ เขาทำคนรอบข้างลำบากมากเลยทีเดียว

“ฉันสิต้องขอโทษ น้องชายฉันทำเรื่องแบบนั้น นี่คงจะเสียใจมากแน่ ๆ แค่ดูหน้าซึม ๆเซื่อง ๆ แบบนี้ก็รู้แล้ว” เพลงขวัญมองหน้าพระพาย

“ร้องไห้ไปเยอะขนาดไหนแล้วล่ะ” เพลงขวัญลูบหัวพระพายเบา ๆ ความใจดีของเพลงขวัญทำเอาพระพายรู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง อาการจุกแน่นตีขึ้นในอกนี่มาบ่อยจนห้ามไม่ค่อยอยู่

“จะเอายังไงต่อ ถ้าอยากเลิกก็เลิกได้เลยนะ ฉันไม่คิดเข้าข้างน้องชายหรอกถ้าทำนิสัยแบบนั้น”

“เขาเป็นคนขอเอง..ผมก็คงต้องทำอย่างที่เขาขอ”

“แต่คิดดูอีกที ฉันว่ามันอาจจะมีอะไรที่เข้าใจผิดกันได้”

“ผมไม่รู้หรอกครับแต่เขาไม่ยอมอธิบายอะไรผมเลย ผมถามเขาก็ไม่ยอมตอบ”

“ถ้าอย่างนั้นนิ่งเอาไว้ก่อน รอคุยกันให้ชัดเจน เชื่อว่าตอนนั้นจะตัดสินใจได้เองว่าจะทำยังไงต่อ แต่บอกไว้ก่อนนะ แม้ว่ายืนยันจะเลิกกับพิธาน ฉันก็เห็นพระพายเป็นน้องชายอยู่ดี ฉันถูกใจมากจนไม่อยากปล่อยไปไหนเลย” เพลงขวัญยิ้มให้ เห็นแล้วเหมือนพิธานตอนที่เจอเขาใหม่ ๆ ไม่มีผิด.....คงจะถูกชะตาในแง่ของคนน่ารังแกอย่างแน่นอน

“ขอบคุณครับพี่เพลง”

“อยู่ที่นี่ไปก่อนนะ คืนนี้ที่บ้านจะมีปาร์ตี้ก็รู้กันอยู่ ฉันจะไปดูเสียหน่อยว่าพิธานจะเป็นยังไง อยู่ทางนี้เดี๋ยวฉันจะติดต่อผ่านอัทธ์เอง”

“ฝากขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะครับ แล้วผมจะไปขอโทษด้วยตัวเองอีกที”

“จริง ๆเลย ทั้ง ๆที่ปาร์ตี้นี้จัดขึ้นเพราะพระพายแท้ ๆ แต่ดันไม่อยู่แบบนั้น คุณแม่คงโกรธน่าดู ” 

“ขอโทษครับ” พระพายได้แต่พูดขอโทษไปอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็จะได้รู้กันว่าน้องชายฉันคิดอะไรอยู่” เพลงขวัญลุกขึ้นยืน

“เอาล่ะ ฉันต้องกลับแล้ว ดูแลตัวเองดีๆนะ เดี๋ยวฉันจะบอกมาอีกทีว่าจะเอาไง”

“ครับพี่เพลง”

“ฉันกลับละนะอัทธ์ ขอบใจมาก” เพลงขวัญส่งเสียงบอกอัทธ์เสียงดังพอควร อัทธ์กับเลขาปอจึงออกมาจากห้อง

“กลับแล้วเหรอครับ” เลขาปอถาม

“จ้ะ ขอบใจมาก เดี๋ยวจะติดต่อกลับมา ฝากพระพายด้วยนะ” เพลงขวัญฝากฝังไว้

“ไม่ต้องห่วง” อัทธ์รับคำ

“ไม่ต้องเศร้าแล้วนะ ฉันจะจัดการน้องชายตัวดีเอง” เพลงขวัญลูบหัวพระพายอีกครั้งก่อนที่จะออกจากห้องไป

“ขับรถดีๆนะครับ” พระพายเดินไปส่งหน้าประตู เพลงขวัญยิ้มให้และเดินก้าวสับขาเร็วๆไปยังลิฟต์

“พระพาย....ผมขอโทษ” เลขาปอเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิดทันทีที่พระพายหันหลังมา

“ขอโทษทำไม”

“ความแตกซะได้ ว่าคุณอยู่ที่นี่” เลขาปอว่า

“จริงๆผมเองเป็นคนบอก ไม่ใช่ปอหรอก” อัทธ์รีบบอกทันที

“ไม่เป็นหรอกครับ จริงๆมันก็ดีเหมือนกัน เรื่องมันจะได้จบเร็วขึ้น” พระพายว่าและนั่งลงบนโซฟา

“ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณเพลงขวัญรู้จักกับอัทธ์” เลขาปอนั่งลงข้างๆในขณะที่พระพายเอ่ยถามถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

“ก็รู้จักกัน เจอกันในงานปาร์ตี้ของเพื่อนอีกที พอรู้ว่าเป็นลูกสาวของเพื่อนซี้คุณพ่อ เลยเป็นเพื่อนกัน”

“อย่าว่าแต่คุณเลย ผมเป็นแฟนมาตั้งกี่ปีก็ยังไม่รู้เรื่องนี้” น้ำเสียงประชดประชันออกมาจากเลขาปอ

“หึงเหรอ” อัทธ์ยิ้มเจ้าเล่ห์

“เปล่าเลย แค่ไม่คิดว่าจะรู้จักกับพี่สาวของเจ้านายเป็นการส่วนตัว” เลขาปอตอบทันที

“หึงก็บอกสิ” อัทธ์แหย่อย่างชอบใจ

“พอได้แล้ว” เลขาปอปราม

“พระพายก็นั่งดูทีวีไปก่อนนะ ผมขอไปทำงานต่ออีกนิดหน่อย เดี๋ยวออกมาหา” อัทธ์ว่า

“ผมก็ด้วย เดี๋ยวออกมานะ” เลขาปอบอก

             พระพายพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่จะเดินไปที่โซฟานั่งอ่านหนังสือเล่มอื่นของเลขาปอต่อ อย่างน้อยการนั่งอ่านหนังสือในครั้งนี้ก็ทำให้จิตใจของพระพายตกตะกอนได้เยอะขึ้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ต้องยอมรับผลของมันและเดินหน้าต่อไป รู้สึกว่าหลังจากที่เจอกับหลวงตาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็คิดอะไรได้เยอะจากคำสั่งสอนนั้น แม้จะยังเสียใจและรู้สึกถึงความผิดหวังเต็มอยู่ในอก แต่พระพายไม่ได้ฟูมฟายเหมือนเมื่อวานแล้ว เท่านี้ก็แปลว่าพระพายเข้มแข็งขึ้นมาได้อีกนิดหนึ่งแล้ว

.

        เวลาเย็นจนพลบค่ำ บ้านหลังโตแถวชานเมืองอย่างบ้านธนิตกำลังมีปาร์ตี้เล็กๆกันตรงข้างบ้าน คนในบ้านช่วยกันจัดเตรียมอาหารรวมถึงเครื่องดื่มแบบง่ายๆจัดวางบนโต๊ะ โดยมีพัชชาจัดแจงชี้บอกออกคำสั่ง

“นี่พระพายไม่รับสายเลย แต่คงจะรู้นั่นแหละว่าต้องมาตอนนี้” พัชชาที่นั่งลงหลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยบ่นกับธนิตที่นั่งดื่มวิสกี้

“เดี๋ยวก็มา จะอะไรนักหนา”

             ธนิตว่าแต่มือนั้นพลิกข้อมือดูนาฬิกาบ่อยพอสมควร พัชชาแอบอมยิ้มกับความปากแข็งนั้น แต่ก็ไม่อยากจะทักให้เจ้าตัวรู้สึกอายและคนแรกที่มาคือเพลงขวัญ ที่หิ้วถุงผ้าใบโตมาด้วย พัชชาลุกขึ้นไปหาด้วยความรวดเร็ว

“เพลง มาแล้วเหรอ” พัชชาทักทาย

“สวัสดีค่ะคุณแม่ สวัสดีค่ะคุณพ่อ” เพลงขวัญทักทาย

“หิ้วอะไรมาเยอะแยะ” ธนิตถามราวกับตำหนิกลาย ๆ

“ก็เอามาให้ทุกคนเนื่องในวันปีใหม่ไงคะ”

             เพลงขวัญพยายามไม่ให้บรรยากาศแย่เพราะที่ผ่านมาธนิตนั้นยังคงเป็นธนิตเหมือนที่ผ่านมาในความรู้สึกเธอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากครั้งที่แล้วคือบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น เพลงขวัญนั่งลงข้างพัชชาและจากนั้นไม่นานพิธานก็มา...มาคนเดียว

“พิธาน...มาแล้วเหรอ ล่ะนั่นหน้าไปโดนอะไรมา”

             พัชชาที่ดีใจไม่กี่วินาทีก็ต้องตกใจไม่น้อยเมื่อสังเกตเห็นรอยแดงเถือกจนเกือบช้ำบนใบหน้า พิธานเงียบไม่พูดอะไรออกมา ได้แต่นั่งลงบนเก้าอี้ที่ห่างจากธนิตไปหนึ่งที่นั่ง

“พิธาน เกิดอะไรขึ้น แล้วไหนพระพายล่ะ” พัชชาเริ่มเห็นท่าทีของพิธานที่ดูแปลกไป สีหน้าที่ดูไม่ปกติ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่เธอเลี้ยงพิธานมา

“เขา...ไม่มาครับ” พิธานตอบเสียงเบา เพลงขวัญจ้องมองพิธานที่ตอนนี้ดูก็รู้ว่ามีเรื่องขั้นรุนแรงและไม่สามารถทำอะไรได้จึงดูสิ้นหวังขนาดนี้

“เกิดอะไรขึ้น พระพายเป็นอะไร” พัชชาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง พิธานไม่พูดอะไรแต่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งขึ้นมาและวางบนโต๊ะ

“อะไร มือถือใคร” พัชชาถาม

“ของ...พระพายครับ” พิธานตอบ

“พิธาน บอกแม่มา นี่มันเรื่องอะไรกัน” พัชชาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ของพิธานเลยสักนิด ดูหดหู่ ดูเศร้าหมองและดูสับสนในตัวเอง ธนิตมองหน้าพิธานก่อนที่จะยกแก้ววิสกี้ดื่ม

“อมพะนำอยู่ได้ ปากไม่มีเหรอ” ธนิตเอ่ยลอยๆขึ้นมา พิธานไม่มีอารมณ์แม้แต่จะหันไปโมโหหรือหาคำพูดเจ็บแสบได้เลยในตอนนี้

“สรุปแฟนแกไปไหน” คราวนี้เป็นธนิตเองที่เอ่ยถามแทนพัชชา เพลงขวัญแปลกใจไม่น้อยที่เห็นธนิตเอ่ยถามถึงพระพายเช่นนี้ พิธานยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น

“แกเป็นอะไร ทะเลาะกันมารึไง” ธนิตพูดออกมาจี้ใจดำพิธานไม่น้อย

“ไม่ใช่เรื่องของคุณพ่อครับ” พิธานพูดออกมาด้วยความรวดเร็ว

“แล้วมันเป็นเรื่องของใครล่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องของแกเองทำไมถึงจัดการอะไรไม่ได้” ธนิตยังคงดูสบาย ๆกับแก้ววิสกี้ที่ยังคงยกดื่มอยู่

“หยุด!” พิธานพูดผ่านฟันที่ขบอยู่

“พิธาน อย่าพูดกับคุณพ่อแบบนั้นสิ” พัชชาเองก็พยายามปรามพิธานไว้ ดูท่าว่าเพลงขวัญคงต้องออกโรงแล้ว

“บอกเลิกกันแล้วเหรอ” เพลงขวัญถามด้วยสีหน้านิ่งๆ พิธานหันมองเพลงขวัญทันที

“ไม่ใช่ ไม่ได้.....” พิธานพูดเสียงเบาลง

“แล้วอะไรล่ะ ไม่เลิกกันแล้วมันยังไง ทะเลาะอะไรกัน” เพลงขวัญถามต่อ พิธานเงียบไป แววตาดูเจ็บปวดขึ้นมามากกว่าเดิม

“ผม...” ถึงคราวพิธานพูดไม่ออก

“พูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเขาไปรึเปล่าล่ะ” เพลงขวัญจี้จุดเข้าไปอีก คราวนี้พิธานถึงกับเงียบ พูดอะไรไม่ออก

“รู้ไหม บางครั้งการที่หลุดปากพูดอะไรออกไป สิ่งที่ตามมามันมากกว่าที่คิดนะ ปกติน้องเป็นคนที่คิดก่อนพูดเสมอนี่ แล้วครั้งนี้ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้”

“พี่พูดเหมือนรู้เรื่อง” พิธานหันมามองเพลงขวัญอย่างสงสัย

“ฉันไม่รู้อะไรกับพวกนายหรอก แต่ปกติคนรักกันมันก็ที่ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง แล้วแกทำอย่างนั้นรึเปล่า” พิธานเงียบไปอีกครั้ง

“แล้วนี่รู้อะไรบ้าง ทะเลาะเรื่องอะไรกัน”

“บอกไม่ถูก...อาจจะเพราะเป็นผมเอง”

“เพราะแก ยังไงล่ะ เพราะแกไม่ไม่ยอมพูดอะไรอยู่แบบนี้ใช่ไหม ที่ผ่านมาเคยคุยเปิดอกกันบ้างไหม” เพลงขวัญถามต่อ พัชชาและธนิตนั่งเงียบปล่อยให้ทั้งสองคุยกัน

“แรก ๆ ก็...มี”

             ใช่ แรก ๆ ก็ทำอย่างนั้น แต่พอมาช่วงหลังดูเหมือนเป็นเขาเองที่ละเลยเรื่องพวกนี้ไปเพียงเพราะบางครั้งก็อยากให้พระพายเอ่ยปากบอกด้วยตัวเอง ไม่ใช่การถามไถ่หรือจับผิดจากเขาเสมอ

“แปลว่าตอนนี้ไม่มี” เพลงขวัญสรุปอย่างนั้น

“เพราะเขา...ไม่ยอมบอกอะไรผมเลย” พิธานหรุบตาต่ำมองพื้น เหมือนกันกำลังน้อยใจอะไรบางอย่าง

“เขาปิดเรื่องอะไรล่ะ”

             ล้วงเอาคำตอบกันต่อหน้าพ่อแม่เลยทีเดียว พัชชานั่งนิ่งฟังบทสนทนาของสองพี่น้องอย่างใจจดใจจ่อ ธนิตนั้นแม้จะท่าทีเฉยเมย แต่แท้จริงแล้วก็กำลังตั้งใจฟังอยู่มากเลยทีเดียว พิธานที่เริ่มจะรู้ตัวว่าตอนนี้ทุกคนกำลังกดดันเขา พิธานจึงเงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมา เพราะไม่อยากให้พ่อที่ตนเองไม่ชอบใจเท่าไหร่ได้ยินมันด้วย

“พิธาน ไม่ต้องสนใจคุณพ่อได้ไหม บอกแม่มาว่าเรื่องอะไร” พัชชาเริ่มหน้าม้าน เพราะรู้ดีว่าไม่อยากให้ธนิตรู้เรื่องส่วนตัวอีกทั้งความเงียบของพิธานนั้นน่าหงุดหงิดไม่น้อยเลยทีเดียว

“คุณแม่รู้ดีไม่ใช่เหรอครับ ว่าเรื่องอะไร” พิธานเงยหน้ามองพัชชาด้วยสายตาผิดหวัง

“เรื่องอะไร พูดเรื่องอะไรพิธาน” พัชชายังไม่เข้าใจอยู่ดี

“ไม่ใช่คุณแม่หรอกเหรอครับที่ร่วมมือกับพระพายเพื่อที่จะให้ผมกับคุณพ่อคืนดีกัน”

             พิธานเสียงแข็งจนแทบจะเหมือนคำตำหนิกลาย ๆ ธนิตเลิกตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น พัชชารู้สึกหน้าชาวาบขึ้นเมื่อเรื่องนี้ถูกพูดต่อหน้าของสามีและลูกชาย คนที่ไม่อยากให้รู้เรื่องนี้มากที่สุด เพลงขวัญพยักหน้ากับตัวเองอย่างพอจะเข้าใจแล้วว่าสาเหตุเรื่องนี้เกิดจากอะไร

“แม่....แม่ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดพิธานนะ” พัชชาพยายามอธิบาย

“ไม่ปิด แต่ไม่คิดบอก ทำทุกอย่างลับหลังผม....ทั้งที่คุณแม่ก็รู้ ว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา” พิธานเกร็งหน้าเพราะพยายามข่มความโมโหเอาไว้

“กับฉันมันยังไง” ธนิตหันมาถามพิธานทันที พิธานหน้าตึงราวกับไม่อยากตอบธนิต

“ฉันเป็นพ่อแกนะ อย่าลืมเรื่องนี้สิ”

“แต่เป็นพ่อที่ทำพวกเราเสียใจ” พิธานเปิดปากออกมา นานแค่ไหนกันที่เขาไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา คงตั้งแต่ตอนออกจากบ้านหลังนี้ไป

“ฉันยอมรับว่าฉันเคยทำพลาดและทำเรื่องไม่ดีกับครอบครัว ฉันผิดเอง” สีหน้าที่ดูเจ็บปวดของธนิตนั้นทำเองเพลงขวัญชะงัก มุมนี้ไม่เคยได้เห็นมาก่อน

“มาแก้ตัวอะไรเอาป่านนี้ หลังจากที่ทำเรื่องแบบนั้นไปแล้ว คุณพ่อมาสำนึกผิดทำไม ทำไมไม่คิดก่อนจะทำ” พิธานระเบิดความรู้สึกออกมา

“แกเองก็เคยทำเรื่องผิดมาก่อน แล้วทำไมแกคิดว่าคนอื่นเขาก็ทำผิดพลาดได้เหมือนกัน” ธนิตเองก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง พิธานที่ได้ยินอย่างนั้นถึงกับนิ่ง....ธนิตพูดถูก

“แกไม่เคยมองเห็นถึงความรู้สึกของคนอื่นเลย แกมองเห็นแค่ตัวเอง” พิธานฉุนกึกทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

“คุณพ่อไม่มีสิทธิ์มาว่าผมแบบนั้น” พิธานโกรธไม่น้อยกับคำพูดนั้น รู้สึกเหมือนโดนตำหนิว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว จากปากคนที่พิธานคิดมาเสมอว่าเห็นแก่ตัวมากคนหนึ่ง

“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อแกเป็นลูกชายของฉัน แกสองคนคือลูกของฉัน ต่อให้พวกแกไม่เคยนับว่าฉันเป็นพ่อ แต่พวกแกก็คือลูกฉันเสมอ แม้ว่าพวกแกจะใช้คำพูดถากถางว่าฉัน เมินเฉยกับฉันเหมือนคนไม่มีตัวตน...แต่ฉันก็ไม่เคยเกลียดพวกแกอย่างที่พวกแกเข้าใจ ฉันไม่เคยหมดรักในตัวพวกแกเลยสักนิด”

            เสียงนั้นดังลั่นจนคนงานในบ้านยังได้ยิน ธนิตหน้าแดงก่ำ ตัวสั่นนิดๆเมื่อได้พูดความรู้สึกที่ปกปิดมาตลอด....นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยิน พัชชาน้ำตาไหลออกมาอย่างเศร้าใจ เธอรู้ดีเสมอว่าธนิตนั้นเป็นคนอย่างไร คงจะมาถึงขีดสูงสุดของตัวเองแล้ว ความรู้สึกนี้ได้เป็นอิสระจากการเก็บกดมานานเสียที

             เพลงขวัญเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อได้ยินสิ่งที่อยู่ในใจของคนเป็นพ่อ ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เจ็บปวดใจกว่าพวกเขาคือคนเป็นพ่อ คิดมาเสมอว่าพวกเขาโดนกระทำ แต่เปล่าเลย ธนิตเองก็ถูกกระทำจากพวกเขาเช่นกัน

             พิธานเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น รู้สึกทุกอย่างกำลังจะเปิดเผยออกมาจากธนิตที่ปกปิดมาเนิ่นนาน วันนี้ทุกอย่างจะจบลงแล้ว วันนี้ที่ต้องสะสางความบาดหมางของคนในบ้านเสียที...

Lyrics: Nothing to stopping me by Vicetone ft. Kat Nestel. 

 



ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :katai1: ทำไมตอนนี้มันสั้นจังรออ่านอยู่นะคะ :pig4:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
นั่นไงเรื่องนี้จริงๆ
น้อนพายยยยยย
เป็นตัวโดนตล๊อดดดด

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ว่าแล้วต้องเป็นเรื่องที่นุ้งพายช่วยให้พ่อลูกเขาคืนดีกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ว่าแล้ว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้อยใจกับเรื่องพ่อหรอ พิธาน คนซวยเป็นพระพายซะงั้น เด็กน้อยจริง ๆ พิธาน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Sutharat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แยกแยะไม่ได้เลยพิธานแค่เรื่องที่จะทำให้คืนดีกับพ่อถึงขนาดต้องขอห่างกันคิดได้ไงไม่รักกันรึไงเป็นคนไปบีบบังคับเค๊ามาเป็นแฟนเองด้วยเป็นถึงผู้บริหารแต่จัดการความคิดตัวเองไม่ได้ :z3:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :katai1: :katai1: :katai1: สมน้ำหน้าพิธานปล่อยให้แห้งเหี่ยวตาโบ๋ไปซะมันสำคัญมากสินะความรู้สึกของตัวเองน่ะด้วยเรื่องที่พระพายทำเราขอใช้คำว่าเรื่องแค่นี้ ถึงกับใช้คำว่าหักหลังใหนจะการที่ขอแยกกันอยู่หึทำไมไม่ขอเลิกไปเลยแล้วตัวเองก็จะได้มีความสุขอยู่ในสภาพแบบนี้ใงล่ะ  :m16: ไม่ได้มองถึงความหวังดีหรือถามหาเหตุผลอะไรเลยว่าทำไมพระพายถึงทำแบบนั้นสนแต่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้นนี่ถ้าไม่สงสารพระพายจะภาวนาให้เลิกกันเด็ดขาดไปเลย  :katai1:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……

เปิดอกคุยกันไป เคลียร์กันพ่อแม่ลูก แล้วใช้ความรักเป็นที่ตั้ง

ให้อภัย เพื่อไม่ให้ติดค้างในใจกันอีก


 :katai4:   :katai4: :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4:


……

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ว่าละว่าต้องเป็นเรื่องนี้  เด็กน้อยไปอีกพิธาน

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอย..อยากอ่านอีกๆ

รอติดตามอยู่นะ  o22 o13

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ว่าละว่าต้องเรื่องพ่อ แต่นะไม่น่าทำกับพระพายขนาดนี้ ถ้าขอคืนดีไม่สำเร็จจะสมน้ำหน้าให้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พอได้อ่านตอนนี้แล้วคิดว่าพิธานเด็กมากเลยอ่ะ
เหมือนดูเด็กเถียงกับพ่อ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ minicabbage

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดราม่ายังไม่จบ :katai1: รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ถ้าครอบครัวเค้าเคลียร์กันได้แล้ว....พระพาย..งอนให้หนัก...อย่ายอมคืนดีง่ายๆนะ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น้องอุตส่าห์จะช่วยให้เข้าใจกับพ่อแล้วนายทำอะไรลงไปพิธานพระพายอย่าใจอ่อนง่ายๆนะลูกให้ง้อนานๆเลย

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ  ตอนที่ 64 มาแล้วนะคะ ตอนที่แล้วคงค้างกันใช่ไหมคะ มาต่อให้แล้วนะคะ ไปดูพิธานกันค่ะว่าจะเป็นยังไงต่อ อย่าเพิ่งซ้ำเติมเขาเลยนะคะ ออกจะน่าสงสาร  :o8: หากตอนนี้มีคำผิดหรือข้อผิดพลาดใดๆ ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจและคอมเมนต์ ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ คิดถึงเสมอ เจอกันตอนหน้าค่ะ  :กอด1:
++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 64 My mistakes.


Yeah, I know I made mistakes cause my pride was in the way
ใช่ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดพลาดไป เพราะศักดิ์ศรีค้ำคอไว้

You slipped right through my hands
และแล้วเธอก็หลุดมือของฉันไป

But if you were here right now long enough to hear me out
แต่ถ้าหากเธออยู่กับฉันตรงนี้ นานพอที่จะรับฟังฉันสักหน่อย

I can make you understand
ฉันสามารถทำให้เธอเข้าใจฉันได้แน่



        ปาร์ตี้ปีใหม่นั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศตรงกันข้ามกับคำว่าเฉลิมฉลองอย่างสิ้นเชิง ธนิตใบหน้าแดงก่ำยืนท่ามกลางทุกคนที่นั่งเงียบไม่ปริปากใด ๆ ออกมา พัชชานั่งด้วยความเศร้าพร้อมน้ำตาที่เริ่มหยุดแล้ว เพลงขวัญบีบมือเม้มปากอย่างอดกลั้น ด้านพิธานยังคงตกใจในสิ่งที่ได้ยิน

“คุณคะ” พัชชาเอ่ยขึ้นพลางจับมือของธนิตให้นั่งลงเสียก่อน เพลงขวัญขยับตัวไปลูบไหล่ของพัชชาทันทีที่ธนิตยอมนั่นลงตามคำขอ

        ความเงียบเริ่มโรยตัวคนทั้งหมด ต่างคนต่างจมในความคิดและความรู้สึกของตัวเอง ธนิตนั้นรู้สึกโล่งไปพอสมควรที่ได้พูดเรื่องเหล่านี้ออกไป ไม่ได้คาดหวังว่าลูกๆจะเปลี่ยนไป แต่อย่างน้อยการที่ได้รับรู้สิ่งนี้มันก็ดีกับตัวเขาเองเช่นกัน

“คุณพ่อ...” เพลงขวัญเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบนั้น

“เพลงขอโทษค่ะ”

             เพลงขวัญเอ่ยออกมาเบา ๆ เธอรู้สึกผิดไม่น้อยเมื่อได้รู้ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ ถึงแม้เธอจะไม่ได้ใช้คำพูดและท่าทีที่รุนแรงเท่าพิธาน แต่เธอก็เมินเฉยใส่มากพอสมควรอีกทั้งไม่เคยเชื่อถืออะไรในตัวธนิต ความเป็นพ่อที่เธอไม่เคยยอมรับเลยตั้งแต่เกิดเรื่องในครั้งนั้น ธนิตที่ได้ยินอย่างนั้นจึงหันมองเพลงขวัญ ลูกสาวคนโตที่ดูรู้สึกผิดมากอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ต้องขอโทษหรอก มันเป็นความผิดฉันเองที่ทำให้พวกแกคิดแบบนั้น”

“แต่เพลง...” เพลงขวัญทำท่าจะเอ่ย

“ฉันไม่เคยเห็นร้านอาหารแกเป็นเรื่องไร้สาระ ดีใจเสียอีกที่แกเก่งเรื่องบริหารได้ขนาดนั้น” ธนิตว่า เมื่อได้ยินอย่างนั้นเพลงขวัญก็นิ่งไปเพราะเธอคิดเสมอว่าสิ่งที่เธอทำนั้นธนิตตั้งแง่ดูถูกไว้

“ส่วนแก พิธาน....ฉันไม่เคยไม่ภูมิใจในตัวแก เรื่องงานแกทำได้ดีไม่ขาดตกบกพร่อง เรื่องส่วนตัวของแกฉันก็พยายามยอมรับเท่าที่ฉันจะทำได้” ธนิตพูดออกมา

            พิธานเงียบไป ความนิ่งเริ่มเข้ามาอีกครั้ง ดูเหมือนครั้งนี้จะสงบลงได้กว่าเมื่อก่อนหน้านี้ แต่จะยอมรับหรือเปิดใจหรือไม่ก็ไม่อาจจะคาดเดาได้

“พระพาย..กับเด็กคนนี้ฉันก็ไม่รู้อะไรมากเท่าไหร่ ไม่ใช่ฉันไม่รู้ว่าคุณพัชชากับเด็กนั่นคิดเรื่องอะไรกันอยู่ ฉันก็ไม่ชอบใจนักหรอกที่วางแผนกันขนาดนั้น”

“ขอโทษนะคะคุณธนิต ที่ทำลงไปโดยไม่ทันคิดว่าคุณจะรู้สึกยังไง” พัชชาเอ่ยขอโทษธนิตเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ช่างมันเถอะคุณพัชชา อีกอย่างก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทำได้สักแค่ไหนกันเชียว” ธนิตแตะไหล่พัชชา

“ก็ต้องยอมรับละนะว่าเด็กคนนี้เก่งพอตัว ทำให้ฉันยอมรับได้มากกว่าที่คิดไว้เสียอีก”

“ฉันก็พอเข้าใจแกหรอกว่ารู้สึกยังไง ถ้ามีคนทำแบบนั้นโดยไม่ถามความรู้สึกของแกก่อน” ธนิตหันไปพูดกับพิธานที่ยังคงนิ่งอยู่

“พิธาน...แม่เองก็ต้องขอโทษลูกด้วย เป็นเพราะแม่เองที่ขอร้องพระพาย คงเพราะเกรงใจแม่พระพายเลยยอมทำเรื่องพวกนี้” พิธานก้มหน้าต่ำลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น เสียงถอนหายใจดังออกมา

“พิธาน สรุปที่ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เหรอ” เพลงขวัญถามขึ้น พิธานพยักหน้ารับ

“และพระพายเป็นยังไงบ้าง” พัชชาถามบ้าง

“เขาออกไปจากห้อง เขาหายตัวไป”

             มาถึงตรงนี้พิธานหน้านิ่วขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงใบหน้าที่เจ็บปวดของพระพาย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมา แววตาที่เสียใจขนาดนั้น มันทำเอาปวดหนึบไปทั้งใจ พัชชาที่ได้ยินเช่นนั้นยิ่งรู้สึกผิดมากถึงมากที่สุดที่เรื่องราวมันวุ่นวายได้ขนาดนี้

“พระพายไปอยู่ที่ไหน มือถือไม่เอาไป ป่านนี้จะเป็นยังไง” พัชชาเริ่มร้อนใจ

“พูดอะไรออกไปบ้าง” เพลงขวัญที่รู้ดีว่าพระพายอยู่ไหน จึงไม่ยอมดึงเข้าหัวข้อนี้ แต่ยังอยากรู้ว่าพิธานทำอะไรลงไปบ้าง

“พูด...บอกว่าจะออกจากห้องเพื่อขอห่างกับเขา” พิธานยอมเปิดปากในที่สุด ถึงจุดแตกหักที่เกิดขึ้น มือนั้นรู้สึกชาไปหมด เมื่อย้อนนึกคำพูดและสิ่งที่ตัวเองทำออกไปโดยไม่นึกถึงพระพายเลย

“พิธาน...นี่ลูกทำอะไรลงไป” พัชชาถึงหันมองพิธานด้วยสายตาผิดหวังไม่น้อย

“รอยบนหน้าแกล่ะ ฝีมือใคร” ธนิตเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง ตอนนี้เรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจแล้ว แต่เป็นเรื่องของพระพายกับพิธานต่างหาก

“เพื่อนเขา” พิธานตอบสั้นๆ

“สมควรโดนแล้ว” ธนิตว่า พัชชาแทบจะอยากหยิกธนิตที่พูดออกมาโดยไม่ดูอารมณ์ของพิธานในตอนนี้

"ใช่ สมควรแล้ว” โกรธไม่ได้สักนิดเพราะที่ธนิตพูดคือเรื่องจริง

“ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าแกมันยังไม่โต” ธนิตพูดขึ้น

“ถ้าแกโกรธแฟนแกเพียงเพราะพยายามช่วยให้แกกับฉันคืนดีกัน นั่นแปลว่าแกยังไม่โตพอ ทั้งที่หลงคิดว่าจะโตแล้วหลังจากที่เห็นแกทำตัวดีขึ้นตอนคบกันกับเด็กนั่น...แต่เปล่าเลย แกมันยังเด็กอยู่วันยังค่ำ” คำตำหนินี้จี้ใจดำพิธานได้ชะงัก พิธานบีบมือตัวเองเสียแน่น

“ฉันเคยคิดว่าเด็กนั่นไม่เหมาะกับแก แต่ดันเป็นแกเองที่ไม่เหมาะกับเขาต่างหาก ไม่ใช่พระพายที่ไม่เหมาะกับแก...” ธนิตตอกคำพูดใส่จนพิธานหน้าชา...ทำไมถึงรู้สึกแย่เช่นนี้

“แกไม่เคยเลยที่จะให้โอกาสคนอื่น แกไม่เคยมองความผิดของตัวเอง ไม่เคยเห็นถึงความหวังดีของคนอื่น ทำไมแกไม่คิดบ้างว่าเพราะเขารักแกถึงทำเช่นนั้น...คนอย่างแกมันโง่” ธนิตยังคงพูดจาเช่นนั้น ราวกับตอกย้ำซ้ำเติมให้พิธานกระอักเลือดตายไปข้างหนึ่ง

“คุณคะ...พอแล้ว” พัชชาถึงกับเอ่ยห้าม เมื่อรู้สึกได้ว่าพิธานกำลังเสียใจมากและเจ็บจนต้องเผยสีหน้าดูเจ็บปวดรวดร้าวขนาดนั้นออกมา

“ฉันไม่รู้ว่าแกคิดยังไง แต่ฉันขอพูดในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่าแก มองเห็นโลกมานานกว่าแก”

“การจะเจอคนที่รักกันจริง ๆไม่ใช่จะเจอกันได้ง่าย ๆ แกอย่าเป็นเหมือนฉันที่รู้ตัวเอาตอนที่เกือบสาย เกือบเสียแม่ของแกไปแล้ว” ธนิตนึกย้อนถึงตัวเองที่เคยทำเรื่องผิดพลาดและเกือบจะเสียพัชชาไปในครั้งนั้น

“และถ้าแกรักเขามากพอ แกจะรู้ได้เองโดยไม่ต้องมีใครมานั่งพร่ำสอนแกอยู่แบบนี้”

“อย่าให้คำสบประมาทของฉันเป็นจริง คำที่บอกว่าพวกแกจะไปกันไม่รอด กลับเอาไปคิดเสียล่ะว่าต้องทำยังไง”

             ธนิตเลือกที่จะลุกขึ้นออกจากตรงนั้นและกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งลูกและภรรยาให้นั่งอยู่ตรงนั้น เพราะต่อจากนี้ไปเชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีว่าจะต้องทำอะไรต่อไป

             พิธานมองธนิตที่เดินเข้าไปในบ้าน แผ่นหลังนั้นทำให้เห็นว่าธนิตนั้นแก่ลงมากเพียงใดแล้ว หลังจากที่เขาออกไปจากบ้านเขาไม่เคยคิดจะสนใจหรือมองธนิตเต็มตาเลยสักนิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น ธนิตอายุมากขึ้นและเหมือนจะไม่ใช่คนหัวดื้อทิฐิสูงเหมือนอย่างแต่ก่อน แผ่นหลังนั้นทำให้เขาเห็นว่าเวลาจากตอนนั้นมันผ่านมาเนิ่นนานแล้วเหมือนกัน แต่เขาก็ยังเป็นคนเขา พิธานที่ไม่เคยมองรอบข้างเลยว่าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

“พิธาน แล้วตอนนี้รู้ไหมว่าพระพายไปอยู่ที่ไหน” พัชชาถามขึ้น ดึงความคิดของตัวเองกลับเข้าสู่ความจริงในตอนนี้และเริ่มคิดไม่ตกอีกครั้ง

“ไม่รู้เลยครับ ผมหาเขาไม่เจอ”

            พิธานบอกเช่นนั้น หลังจากที่เก้าวิ่งออกไปตามหา เขาก็ทำเช่นนั้น จะอย่างไรก็ไม่เจอ เมื่อคืนทั้งคืนพิธานขับรถตามหา รวมทั้งไคและเก้าที่ช่วยหาเช่นกัน เครียดที่หาตัวพระพายไม่เจอและไหนจะตอนโทรหาไคเพื่อถามเป็นระยะ ๆ ก็จะได้ยินเสียงเก้าด่ามาตามสายเสมอ รู้สึกผิดและรู้สึกแย่จนไม่รู้จะทำอย่างไรดี ที่มาปาร์ตี้ของที่บ้านก็เพื่อที่จะบอกเพลงขวัญให้ช่วยตามหา พี่สาวของเขาหูตากว้างไกลกว่าเขามาก ไม่นับเมื่อก่อนที่เขาตามตัวพระพายเจอเสมอนั่นเพราะการติดตั้งจีพีเอสไว้ในมือถือตั้งแต่คืนแรกที่เจอและการสืบเสาะเล็กน้อยเนื่องด้วยพระพายไม่เคยออกนอกเส้นทางที่ตัวเองไปเป็นประจำ เดินทางทำงานกลับที่พักซ้ำ ๆ จนสามารถรู้ถึงความเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย แค่ครั้งนี้ไม่ใช่ การตามหาพระพายครั้งนี้มันยากเกินกว่าเขาจะทำได้ 

             เพลงขวัญนั่งมองพิธานที่เหมือนกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอีกครั้ง เจ้าตัวคงคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร อีกทั้งได้เห็นความเครียดและความกังวลที่ออกมาจากสีหน้าได้อย่างชัดเจน ยากที่จะได้เห็นพิธานในมุมนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกสะใจพิลึกเพราะน้องชายเธอหัวปั่นเพียงเพราะเรื่องของหัวใจ แปลว่าน้องชายของเธอก็ไม่ได้ไร้หัวใจอย่างที่คิดไว้เสียหน่อย

“เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว” เพลงขวัญเอ่ยขึ้น พิธานมองหน้าเพลงขวัญ

“จะให้ผมทำยังไง” พิธานถามอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร สภาพอ่อนแอขี้แพ้เช่นนี้ไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด

“ก็ตามหาสิ”

“คิดว่าไม่ทำเหรอ” พิธานหัวเสียใส่เพลงขวัญ

“เป็นพิธานที่กระจอกน่าดู ไม่ใช่พิธานที่พี่รู้จักเลยนะแบบนี้” กระตุ้นด้วยถ้อยคำแบบนี้ แน่นอนว่าพิธานตาขวางทันทีที่ได้ยินคำว่ากระจอก

“มือถือไม่เอาไป จีพีเอสจะตามได้ยังไง” น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้น

“ออกไปแบบนั้น เงินก็คงไม่มีติดตัว คิดว่าจะนั่งรถไปไหนได้ บ้านเพื่อนนอกจากเพื่อนสนิทมีที่ไหนอีกล่ะ คิดว่าพระพายจะรู้จักใครอีกไหม ทำไมไม่นึก” เพลงขวัญว่า เพียงเท่านั้นพิธานก็นึกออกว่านอกจากเก้าก็ต้องเป็นรุ่นพี่ที่ออฟฟิศที่พระพายชอบไปกินปิ้งย่างบ่อย ๆ

“รู้แล้ว” พิธานลุกขึ้น

“จะไปไหนพิธาน” พัชชาที่นั่งฟังเงียบ ๆ ก็เผลอสะดุ้งที่จู่ ๆพิธานก็ลุกขึ้นพรวดพราด

“จะไปบ้านพี่กล้วย” พิธานว่า

“แต่นี่วันหยุดปีใหม่ เขาอาจจะไม่อยู่บ้านก็ได้” พัชชาพูดขึ้น

“ผมขอลองไปดูหน่อย เดี๋ยวจะกลับมาครับ” พิธานบอกเช่นนั้นและรีบออกไป

“เพลง....พวกเราจะทำยังไงดี” พัชชาเห็นพิธานวิ่งออกไปแบบนั้นก็รู้สึกสงสารในความร้อนรนนั้นไม่น้อย

“เรียนผูกต้องเรียนแก้ ทำอะไรก็ต้องรับผลที่จะตามมาค่ะ”

“แม่เป็นห่วงพระพายจัง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” พัชชากังวลอีกครั้งเมื่อนึกถึงพระพาย

“พระพายเหรอคะ...ก็ทำบุญด้วยจิตใจแจ่มใสต้อนรับปีใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ” เพลงขวัญบอกพร้อมรอยยิ้ม พัชชาพยักหน้านิด ๆอย่างเข้าใจ สักครู่ถึงจะชะงักเพราะคำพูดของเพลงขวัญนั้นฟังแล้วแปลก ๆ

“เดี๋ยวนะ...เพลงว่ายังไงนะ” พัชชาทวนถามอีกครั้ง

“ก็ว่าตามนั้นแหละค่ะ พระพายสบายดี ปลอดภัยค่ะ”

“รู้ได้ยังไง ไปเจอพระพายที่ไหน” ทั้งประหลาดใจและงงใจไปพร้อม ๆ กัน

“พระพายอยู่กับเลขาของน้องนั่นแหละ ไปบังเอิญเจอกัน เมื่อเช้าเพลงก็ไปหาพระพายมาแล้ว”

“แล้วทำไมถึงไม่บอกน้องไป ทำไมปล่อยให้น้องไปหาแบบนั้น” พัชชาเสียงสูงถามอย่างไม่เข้าใจในตัวลูกสาวคนโตของเธอ

“ก็เพลงบอกแล้ว เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ ให้พิธานดิ้นรนด้วยตัวเองเสียบ้าง จะได้รู้ว่าที่ตัวเองทำลงไปไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ”

“เรานี่ร้ายเกินไปแล้ว ไม่สงสารน้องเหรอ”

“ไม่หรอกค่ะคุณแม่ เพลงว่าถึงเวลาที่พิธานต้องเรียนรู้แล้วว่าการจะรักใครสักคนมันไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์ทางกาย แต่มันรวมไปถึงความเข้าใจในกันและกันด้วย”

“นี่กลายเป็นคนรู้เรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พัชชาเหล่มอง

“ก็เพราะเคยผ่านมาเพลงเลยรู้..ความรักมันไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ได้ยากขนาดนั้นไงละคะ”

“สำบัดสำนวน” พัชชาว่า

“คุณแม่ไปเรียกคุณพ่อมานั่งกินกันดีกว่า เดี๋ยวสักพักพิธานก็จะกลับมาพร้อมความผิดหวัง หน้าตาคงจะเศร้าและเจ็บปวดกว่าเมื่อกี้อีกเยอะเลยล่ะค่ะ” รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฎออกมา

“นิสัยไม่ดีเลยเพลง” พัชชาว่าพลางส่ายหน้า เพลงขวัญหัวเราะถูกใจก่อนที่จะเทไวน์ใส่แก้วและดื่มอย่างสบายใจ

        พิธานที่ขับรถเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปยังบ้านของพี่กล้วย ซึ่งเคยมารับพระพายครั้งหนึ่ง เมื่อมาถึงก็พบว่าหน้าบ้านเปิดไฟอยู่ จึงรีบกดออดด้วยความรวดเร็วพลางมองเข้าไปข้างในอย่างลุ้นระทึกว่าจะพระพายจะอยู่ข้างในหรือเปล่า

“ใครครับ” เจ้าของบ้านออกมาพร้อมถาม

“อ้าว....ผัวน้องพายนี่หว่า” พี่กล้วยยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าพิธาน

“ขอเข้าไปข้างในได้ไหม” พิธานเอ่ยแบบสั้น ๆ คิดว่านี่คงจะสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เข้ามา ๆ แล้วไหนน้องพายล่ะ” พี่กล้วยถามขึ้น พิธานจึงชะงัก

“พระพายไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ” พิธานถามทันที

“จะมาอยู่นี่ได้ไง วันหยุดปีใหม่ ต่างคนต่างไปสิ ถามแปลก ๆ”

“คือ....ไม่ได้อยู่นี่ที่จริง ๆ ใช่ไหม” พิธานถามย้ำ

“มีอะไรกัน” พี่ปีที่เดินออกมาตามหาพี่กล้วยพอดี

“อ้าว พิธาน ไปไงมาไงเนี่ย” พี่ปีทักทายด้วยรอยยิ้ม

“มาหาพระพาย” พิธานว่า

“พระพายไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก” พี่ปีว่า

“ไม่ได้โกหกใช่ไหม” พิธานเองก็ไม่ยอมแพ้

“อะไรของมึงเนี่ย” พี่กล้วยเริ่มหงุดหงิดในท่าทีของพิธาน

“กล้วยเข้าไปก่อน เดี๋ยวทางนี้จัดการเอง” พี่ปีพูดและผลักให้พี่กล้วยเข้าไปในบ้านด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะออกมา ไม่ให้โอกาสได้พูดอะไรออกมาอีก

“มีอะไรกันรึเปล่า” พี่ปีถาม มาถึงขั้นนี้แล้วพิธานคงต้องพูดความจริงออกมา

“พระพายหายตัวไป” บอกสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความ

“หายไปเหรอ...ได้ยังไงกัน”

“ก็เลยมาหาที่นี่ เผื่อเขาจะมาที่นี่”

“ไม่อยู่หรอก...ไม่ได้โกหกด้วย” พี่ปีบอกและรีบสำทับทันทีเพราะสีหน้าของพิธานเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อในคำพูดของเขา

“ไปอยู่ที่ไหนกัน” พิธานเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ กับตัวเอง

“ถ้าหมดจากที่นี่ พระพายมีเพื่อนหรือรู้จักคนอื่นอีกไหม”

“คิดว่าไม่มีแล้ว”

“ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไงก็เอาใจช่วยละกัน” พิธานพยักหน้าก่อนที่จะเดินกลับขึ้นรถไป

        เมื่อที่นี่ไม่มี พิธานก็เริ่มมืดแปดด้านอีกครั้ง ขับรถไปเรื่อย ๆ กลับไปยังบ้านอีกครั้ง เพราะตอนนี้ไม่พร้อมที่จะกลับไปยังคอนโด ห้องที่มีแต่ข้าวของของพระพายและอีกทั้งภาพที่ทะเลาะกันจะฉายขึ้นมาในหัวได้อย่างชัดเจนจนรู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง

        ขับไปเรื่อย ๆอย่างคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี จะไปตามหาที่ไหนได้ ที่ไหนที่พระพายจะไปหลบอยู่ กลายเป็นเขาเองก็แทบจะนึกไม่ออกเลยสักนิด หรือเขาเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพระพายเลยสักนิด ขับรถไปด้วยความรู้สึกท้อใจ กลับไปที่บ้านไปหาเพลงขวัญอีกรอบ เผื่อจะช่วยคิดอะไรให้เขาได้ในตอนนี้ เพราะในเวลานี้พิธานกลายเป็นคนตามืดบอดเพราะความเสียใจไปเสียแล้ว

        เป็นความผิดของเขาเองอย่างที่ธนิตกล่าวไว้ เป็นเขาเองที่ทำเรื่องทุกอย่างให้แย่ลงอย่างนี้ ความเห็นแก่ตัวที่เขาคิดว่าถูกกระทำแต่ไม่เคยนึกถึงเหตุผลของคนอื่น เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่นึกถึงความรู้สึกของคนที่อยู่ข้างกาย อีกทั้งไม่ยอมพูดกันให้ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่พระพายขอให้เขาพูดแล้ว จะอย่างไรเป็นตัวพิธานเองที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงอย่างนี้ ถ้าเขาจะต้องเสียพระพายไปจะทำอย่างไร หากพระพายหายไปจากชีวิตเขาจะอยู่อย่างไร ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกชาไปทั้งตัว เขาต้องตามหาพระพายให้เจอ เพื่อขอโอกาสอีกครั้ง เพื่อจะบอกสิ่งที่เขาเองก็อยากให้พระพายรับรู้ จะไม่ปกปิดความรู้สึกอีกแล้ว ขอโอกาสแค่อีกสักครั้งก่อนทุกอย่างจะสายเกินไปอย่างที่ธนิตว่าไว้...

Lyrics: If These Walls Could Talk by Fifth Harmony.









ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อยากให้พิธานตามหาน้องพายต่อไปอีกนิดค่ะ อย่าเพิ่งให้เจอกันเลย หึ!!  o18

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รู้สึก​สมน้ำหน้า

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ทำไมรู้สึกสะใจ คึคึ
#ทีมพี่เพลง

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
รอบตัวมีแต่คนคอยซ้ำนะ ก่อนมาต้องเป็นคนแบบไหนน่ะพิธาน 555

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โธ่พ่อคุณ.... ไม่มีใครสงสารเลย55555 บทเรียนของการเรียนรู้​ของแท้เลย อยากเอาใจช่วยนะ แต่รักน้องมากกว่า5555 ขอให้ซึมไปนานกว่านี้อีกนิดนึงเนอะ ขอให้น้องสดใสจนพิธานใจเสียไปเล้ยยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด