#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 224301 ครั้ง)

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ขอซื้อความมาดท่าเยอะของคุณพ่อต่อได้ไหมคะ 5555 คีพคูลตลอดๆๆ รู้เลยว่าพิธานเหมือนใคร

ออฟไลน์ Blackbone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กรี๊ดดด คุณพ่ออออ  :hao7:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ กราบขออภัยตรงหน้าตักคนอ่านนะคะ  :call: หายไปร่วมเดือนเลย อย่างที่เคยแจ้งว่างานยุ่งและมากไปกว่านั้นคือกำลังจะเปลี่ยนงานใหม่ค่ะ เริ่มต้นเดือนหน้าแล้ว ตอนนี้เลยยุ่งแบบสุดชีวิตทั้งการจัดการกับทางเก่าและกำลังจะเริ่มกับงานใหม่ โยกย้ายทั้งการงานและที่อยู่ เรียกว่าเริ่มนับหนึ่งใหม่เลยล่ะค่ะ ฉะนั้นยุ่งอย่างที่สุดจริงๆค่ะ แต่จะลงจนจบตามสัญญาไม่ทิ้งหายไปแน่นอน นานหน่อยแต่ไม่ลืมค่ะ โปรดอย่าเพิ่งทิ้งกันไปก่อนนะคะ อยู่เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ถ้าหากตอนนี้มีข้อผิดพลาดใดๆก็ขออภัยไว้ด้วยนะคะ มีอะไรก็บอกกันได้ค่ะ ยินดีรับฟังเสมอ ถ้าอยากพูดคุยก็มีเพจนะคะ เข้าไปทักทายได้เสมอค่ะ รัก ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ  :กอด1:



++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 57 Some signals.

Because it’s not that simple
เพราะว่ามันไม่ง่ายเลย

Type of misery
ความทรมานเหล่านี้

All these mixed up signals
เหมือนเป็นสัญญาณต่างๆที่ผสมรวมกัน


        แม้พระพายตั้งมั่นว่าจะทำตามแผนการให้สำเร็จลุล่วงให้ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจหวัง เมื่อมหกรรมงานพากันถล่มพระพายเพราะเนื่องจากใกล้จะถึงสิ้นปีแล้ว งานไหลเป็นน้ำหลาก ตั้งแต่ที่พูดกับตัวเองในวันนั้นหลังจากกลับมาจากบ้านพิธาน ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์พระพายก็ยังคงทำงาน ซึ่งพิธานเองก็ไม่ต่างกัน มิหนำซ้ำออกจะยุ่งมาก มากเสียจนพระพายรู้สึกว่าไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันสองคนเท่าไหร่มากหนัก พิธานกลับดึกแทบทุกวัน พูดคุยกันก็น้อยลงเนื่องด้วยเวลาที่พิธานกลับมา พระพายก็จะหลับไปก่อนเสมอจากความเหนื่อยในการโหมงานให้ทันวันหยุดปีใหม่นั่นเอง ตื่นเช้าบางครั้งพิธานก็ออกไปก่อน ช่วงหลังๆพิธานไม่ได้ไปส่งพระพายที่ทำงานมากเท่าไหร่นัก

“เหนื่อยโว้ย!” พระพายร้องโอดครวญพลางทิ้งตัวลงบนโซฟา เวลานี้พิธานยังไม่กลับมาอย่างเช่นวันก่อนๆ แม้จะรู้สึกเหงาๆไปบ้างในช่วงนี้แต่พระพายก็พยายามจะบอกตัวเองว่าพิธานงานยุ่งจริงๆ

        บ่นพอได้ระบายความรู้สึกแม้จะไม่มีใครรับฟังก็ตาม พระพายนอนนิ่งๆอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายของการทำงานในปีนี้ก่อนจะได้หยุดปีใหม่สี่วัน พระพายได้แต่วาดฝันว่าสี่วันที่จะได้หยุดนั้นจะทำอะไรดีแต่ก็ไม่แน่ใจว่าพิธานจะว่างเหมือนอย่างที่ตนว่างหรือไม่

        หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพลางกดพิมพ์ข้อความหาเก้า ซึ่งรายนั้นบอกว่างานยุ่งเช่นกันและเหนื่อยสายตัวแทบขาดไม่ต่างจากพระพายเท่าไหร่นัก วันนี้พระพายไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้นอยากนอนนิ่งๆและไม่อยากขยับตัวเลยเสียด้วยซ้ำ

        จู่ๆโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมีคนโทรเข้ามาราวกับรู้ว่านี่คือเวลาเลิกงานของพระพายแล้ว และไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นพัชชานั่นเอง

“ครับคุณแม่” พระพายรับสาย

“พระพาย เป็นไงบ้าง” พัชชาถามไถ่

“เหนื่อยมากเลยครับ งานเยอะมาก”

“พิธานยังไม่กลับใช่ไหม?”

“ยังเลยครับ คุณแม่มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”

“ไม่หรอก แม่แค่อยากจะเล่าอะไรให้ฟัง” พระพายที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที

“เรื่องอะไรครับ?”

“ก็เมื่อวันก่อนคุณพ่อไปที่โรงแรม ไปดูงานตามปกติและเจอพิธานเข้า”

“ยังไงต่อครับ”

“พิธานไม่ค่อยหมางเมินคุณพ่อมากเท่าไหร่แล้วล่ะ มีพูดคุยด้วยแต่ก็ประหยัดคำ” พัชชาว่า

“คุณพ่อบอกเหรอครับ?”

“คนสนิทของคุณพ่อบอก พนักงานที่ทำงานกันตรงนั้นดีใจมากเลยที่เห็นพิธานเปลี่ยนไป” พัชชาว่า

“ไม่อยากจะเชื่อเลย พวกเราทำสำเร็จไปอีกขั้นแล้วใช่ไหมครับ?” พระพายดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ยินเช่นนั้น

“แม่ว่าอีกนิดเดียวเท่านั้น...พิธานน่าจะยอมรับพ่อเขาได้มากขึ้น” พัชชาพูดอย่างมีความหวัง

“ผมเองก็ยุ่งมากจนไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยครับ แต่เดี๋ยวจะวันหยุดปีใหม่แล้ว ผมน่าจะคิดอะไรได้มากขึ้น”

“ไม่ต้องคิดจนเครียดนะ ค่อยๆคิดก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ”

“ครับ ถ้าปีใหม่ไม่ติดอะไร เดี๋ยวผมจะไปหาที่บ้านนะครับ”

“ได้สิ แม่จะรอนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะพระพาย” พัชชาว่าก่อนที่จะวางสาย

        พระพายนอนลงบนโซฟาอีกครั้ง นึกทวนคำพูดของพัชชาถึงท่าทีของพิธานที่ดีขึ้นต่อธนิตผู้เป็นพ่อ หรือเพราะธนิตที่เหมือนจะเปิดใจรับพระพายขึ้นมาเล็กน้อยทำให้พิธานเองก็เริ่มเปิดใจให้ธนิตขึ้นตามลำดับ แต่อีกนัยหนึ่งก็คิดไม่ออกว่าตอนนี้พิธานกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

        นอนเล่นนั่งเล่นอยู่อย่างนั้นจู่ๆก็มีเสียงข้อความดังขึ้น เป็นพิธานที่ส่งมาว่ากำลังจะกลับห้อง ต้องการกินอะไรบ้างหรือไม่ เมื่อเห็นข้อความนั้นถึงกับยิ้มกว้าง วันนี้พิธานกลับมาเร็วมากจนเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ พระพายจึงพิมพ์ส่งไปด้วยความรวดเร็วก่อนที่พิธานจะอ่านและตอบตกลงว่าจะซื้อมาให้ เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วพระพายจึงลุกไปอาบน้ำเพื่อรออาหารที่กำลังจะมา อย่างน้อยอาบน้ำให้สดชื่นกว่านี้เพราะเพลียกับความเครียดมาทั้งวันแล้ว

        ผ่านไปกว่าชั่วโมงพระพายก็นั่งรออยู่หน้าทีวี รอพิธานที่น่าจะใกล้ถึงแล้วและเป็นอย่างที่คิดไว้เพียงไม่ถึงสิบนาทีพิธานก็มาถึงพร้อมหิ้วถุงอาหารที่พระพายสั่งไว้

“เป็นไงบ้าง” พระพายเอ่ยถามพลางดึงถุงเหล่านั้นออกจากมือพิธาน

“เป็นไงถามฉัน หรือถามของกิน?” พิธานว่า

“ถามคุณสิ” พระพายยิ้มกว้างและนำถุงทั้งหมดไปวางบบนโต๊ะ

“ขอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย รอไหวไหม?” พิธานถาม

“รอได้ ว่าแต่จะให้อุ่นอีกรึเปล่า?”

“ไม่ต้องหรอก ยังร้อนอยู่” พิธานพูดจบก็ไปเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างนั้นพระพายจึงเทอาหารใส่จานโดยทันที

        ทั้งสองนั่งกินข้าวด้วยกัน พระพายนั่งเล่าเรื่องงานไปด้วยกินไปด้วย บอกเล่าพิธานว่างานตัวเองเยอะจนไม่อยากจะทำอะไร บ่นๆโดยที่พิธานพยักหน้าฟังอย่างเข้าใจแม้จะไม่พูดอะไรออกมาก็ตาม

“ผมพูดจนน้ำลายเต็มจานข้าวแล้ว ว่าแต่คุณเถอะ เป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้กลับบ้านดึกทุกวันเลย” บ่นเรื่องตัวเองจนหนำใจแล้วพระพายก็ถามเรื่องของพิธานบ้าง

“ยุ่งมากจริงๆ” พิธานบอกเท่านั้น

“แล้วคุณพ่อไปช่วยดูแลบ้างไหม?”

“วันนี้ไป”

“ท่านว่ายังไงบ้าง?” พระพายถามด้วยความอยากรู้ว่าพิธานจะเล่าว่าอย่างไร

“ก็ไม่ว่าอะไร พูดมากน่ารำคาญเหมือนเดิม”

“ฟังท่านอย่างเดียวหรือโต้กลับล่ะ?” พระพายไม่ได้เอ่ยว่าทั้งสองพูดคุยกันแต่ใช้คำที่ว่าเถียงกลับหรือโต้กลับเพื่อไม่ให้พิธานรู้สึกว่าการพูดคุยกันกับธนิตนั้นคือสิ่งปกติ

“ก็อย่างเคย...เคยยอมเสียที่ไหน” พิธานว่า คนฟังถึงกับหลุดหัวเราะ ดูเหมือนพิธานมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างน่าตกใจในช่วงหลังๆมานี้

“คุณนี่มุกเฉียบเหมือนกันนะ” พูดพลางหัวเราะ

“วันหยุดปีใหม่นายอยากจะไปไหน?” พิธานถาม

“ไม่อยากไปไหนเลย คนเยอะไม่อยากเดินทาง”

“อยู่นี่ก็ดีเหมือนกัน วันนั้นถนนคงโล่งมาก”

“ถ้าอย่างนั้นไปหาคุณแม่ไหม ไปฉลองปีใหม่กัน ชวนพี่เพลงไปด้วย” พระพายเสนอความคิดเห็น

“ชอบบ้านฉันเหรอ?” พิธานถามพลางเหล่มอง

“ชอบ...ตรงๆไม่อ้อมค้อมเลย” พระพายยิ้มให้เป็นคำตอบ

“เดี๋ยวจะลองถามพี่เพลงว่ามีนัดอะไรรึเปล่า เดี๋ยวจะบอก” พิธานว่า

        ทั้งสองนั่งกินข้าวกันก่อนที่จะจัดการอาบน้ำและเข้านอนเพราะต่างฝ่ายต่างเหนื่อยเพลียกันมาทั้งวัน ทั้งพระพายที่โหมงานก่อนวันหยุดสิ้นปีและพิธานที่งานเข้ามาอย่างล้นหลาม สุดท้ายก็ต้องนอนพักผ่อนเก็บแรงเพื่อจะทำงานกันต่อไป

        และแล้ววันหยุดสิ้นปีก็มาถึง วันนี้เป็นวันศุกร์ พระพายปั่นงานในช่วงเช้าและเสร็จทันในเวลาฉิวเฉียด เพื่อจะได้ใช้เวลาในวันหยุดได้โดยไม่พะว้าพะวง ซึ่งบริษัทของพระพายได้หยุดเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ยาวไปถึงสี่วัน เมื่อวันที่สองของเดือนมกราคมมาถึงก็คือวันทำงาน

             หลังช่วงพักเที่ยงจะเป็นปาร์ตี้ของกินเล็กๆน้อยๆฉลองล่วงหน้ากันภายในบริษัท มีการหยิบฉลากของขวัญกันแบบง่ายๆในงบประมาณห้าร้อยบาท แต่ละแผนกก็ต่างจัดการกันเองรวมถึงแผนกของพระพายด้วยเช่นกัน

        สนุกสนานทั้งการหัวเราะเยาะของขวัญของคนอื่นและน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นว่าตัวเองได้ของขวัญสุดเห่ยแค่ไหนและมีรางวัลพิเศษจากหัวหน้าแผนกเป็นทองคำหนึ่งสลึงสองรางวัลเพื่อให้ลุ้นกันตัวโก่งอีกด้วย

“เย้!!”

              เสียงร้องจากพี่กล้วยทั้งที่คนที่หยิบทองคำสลึงแรกได้คือพี่ปีแท้ๆ พี่ปียิ้มกว้างไม่ใช่เพราะว่าทองคำมันแพงแต่บ่งบอกว่าดวงดีดวงเฮงแค่ไหนถึงหยิบได้ คนอื่นในแผนกตาลุกวาวและเริ่มแกะกระดาษในมือของตัวเอง

“เฮ้ย!!” พระพายร้องขึ้นเสียงดัง ทองคำสลึงสุดท้ายอยู่ในมือของเขาแล้ว

“โหย ไอ้พาย” ทุกคนร้องโอดครวญเมื่อรู้ว่าพระพายได้มันไป

“โชคดีแค่ไหนถามใจเธอดู” พระพายร้องเป็นเพลงพลางกระโดดเหยงๆด้วยความดีใจ

“มึงนี่ จะลัคกี้อินเกม ลัคกี้อินเลิฟพร้อมกันไม่ได้นะโว้ย” เสียงพี่ในแผนกร้องบ่นออกมา

“นี่ใคร พระพายคนมากับดวงนะ” พระพายยืดอกอย่างภูมิใจ

“เอาเถอะๆ ถือว่ามันเฮงจริงๆ” พี่กล้วยตัดบท ก่อนที่จะเริ่มสังสรรค์กันต่อไป

        จนในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ทุกคนต่างพากันอวยพรปีใหม่ล่วงหน้าและแยกย้ายกลับบ้านเพื่อไปใช้วันหยุดยาวให้คุ้มที่สุด พักผ่อน อยู่กับครอบครัว หรือออกท่องเที่ยว ทุกคนต่างมีเป้าหมายนั้นอยู่แล้วซึ่งเป้าหมายของพระพายคือการไปบ้านของพิธานเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่เริ่มดีขึ้นในความคิดของพระพาย

        วันนี้อารมณ์ดีขั้นสุดถึงที่สุด มั่นใจว่าปีหน้าที่ใกล้จะมาถึงนี้พระพายจะเป็นผู้ชายที่โชคดีอย่างแน่นอน หยิบรางวัลได้ทองคำอีกทั้งชีวิตรู้สึกมีความสุขไปเสียทุกอย่าง ฮึกเหิมว่าจะต้องราบรื่นทุกอย่างอย่างแน่นอน

        กลับมาถึงห้องก็พบว่าว่างเปล่า พิธานยังไม่กลับมา พระพายได้แต่ส่งข้อความถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ พิธานบอกว่าวันนี้กลับเร็วและจะมากินข้าวด้วยกัน เมื่อเห็นข้อความแบบนั้นแล้วพระพายจึงตั้งใจจะออกไปซื้ออะไรมากินด้วยตัวเอง ระหว่างรอพิธานกลับมา กำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ดันมีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสียก่อน ไม่ใช่ใครที่โทรมาแต่เป็นเก้านั้นเอง

“มึง เป็นไงบ้าง?” พระพายรับสายและพูดอย่างรวดเร็วก่อนที่เก้าจะเอ่ยถามเสียอีก

“ดีมาก ดีใจจนจะร้องไห้ที่ได้วันหยุดยาว” เก้าหัวเราะร่วน

“จะไปไหนรึเปล่า?”

“ไม่ คนเยอะจะตาย ขี้เกียจพาตัวเองไปทรมาน”

“และคุณไคล่ะ ชวนไปไหนรึเปล่า?”

“มันยุ่ง ช่วงนี้เลยไม่ได้คุยเยอะ แต่มันบอกว่าจะบอกอีกที”

“อย่างนั้นเหรอ?”

“มึงล่ะ ไปไหน?”

“ว่าจะไปบ้านคุณพิธาน จัดปาร์ตี้กันสักหน่อย”

“เป็นลูกสะใภ้เต็มตัวแล้วเหรอมึง” เก้าหัวเราะเยาะเย้ย

“บ้านมึงสิ” พระพายด่ากลับอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวยังไงจะบอกอีกที แต่กูอยากไปเคาท์ดาวน์กับมึงนะ”

“กูก็ด้วย แต่จะลองถามคุณพิธานดู ถ้าไม่อย่างนั้นปาร์ตี้ค่อยเป็นวันที่หนึ่งแทน” พระพายว่า

“ตามนั้น เออ แค่นี้ก่อน กูถึงห้องแล้วเดี๋ยวไว้คุยกัน”

        เก้าวางสายไปแล้ว พระพายจึงเดินออกจากห้องเพื่อไปซื้อของกินมารอพิธาน ระหว่างที่นั่งแท็กซี่ก็นึกขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง ว่าตั้งแต่คบกันมากับพิธาน พระพายไม่เคยได้ให้ของขวัญอะไรเลยสักครั้ง วันเกิดของพิธานก็ยังอีกนาน ซึ่งเมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้วพระพายจึงอยากจะให้ของขวัญแก่พิธานเนื่องในวันปีใหม่

        นั่งคิดพลางพิจารณาว่าของขวัญแบบไหนที่พิธานน่าจะชอบและขอยกเว้นของเล่นเร้าใจที่พิธานชอบ เพราะเนื่องในเป็นวันปีใหม่อยากให้ของที่ดูแล้วจะอวยพรให้พิธานเจอแต่สิ่งดีๆในวันปีใหม่

        นั่งคิดไปเรื่อยว่าของสิ่งไหนที่จะเหมาะกับพิธานดี พระพายเองก็ไม่ได้มั่นใจในรสนิยมของพิธานเท่าไหร่นัก จะบอกว่าติดหรูก็ไม่ค่อยเหมือนแต่แค่เลือกของที่ดูมีคุณภาพเสียมากกว่า นอกจากของเล่นพวกนั้นพระพายไม่เห็นว่าพิธานจะชอบอะไร นั่นไม่นับแผ่นหนังเก่าๆซึ่งไม่ใช่ของที่จะหาได้โดยทั่วไป สุดท้ายพระพายเลือกที่มาที่ห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดเพื่อจะหาของขวัญให้พิธาน

        เดินอย่างไร้จุดมุ่งหมายในหลายๆแผนกเพราะความคิดว่างเปล่ามากจริงๆ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะหาอะไรให้พิธานดี คิดไม่ตกว่าอะไรจะน่าสนใจที่จะซื้อให้พิธาน ในที่สุดก็ต้องเดินออกมาด้วยมือเปล่าไม่มีของอะไรติดมือมาสักชิ้น

        พระพายเดินออกมายืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า มองซ้ายขวาว่าจะทำอย่างไรดีในที่สุดก็เลือกที่จะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังตลาดนัดกลางคืนใกล้ๆที่เปิดทุกวัน ตั้งใจจะหาของกินและเผื่อจะเจออะไรที่เข้าตาเพื่อเป็นของขวัญให้พิธานบ้าง

        เพียงไม่นานนักพระพายก็มาถึงตลาดนัดยามเย็นเกือบค่ำ ผู้คนมากมายต่างพากันเลือกซื้อของ ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น อาหารและทุกอย่างที่มีในตลาดนัดแห่งนี้ พระพายเดินเตร่ไปเรื่อยๆ ข้าวของร้านค้าเยอะแยะเสียจนชักเริ่มตาลาย

        ทันใดนั้นพระพายก็สะดุดเข้ากับร้านต้นไม้ร้านหนึ่ง เป็นร้านต้นไม้ร้านขนาดกลางซึ่งมีต้นกระบองเพชรต้นเล็กๆไปจนถึงต้นขนาดกลาง ราคาที่ป้ายนั้นเริ่มต้นเพียงต้นละสามสิบบาทเท่านั้น มันช่างดูล่อตาล่อใจจนพระพายถึงกับต้องหยุดดู

“ชอบต้นไหนถามได้นะคะ” เสียงแม่ค้าทักทายอย่างเป็นมิตร พระพายจ้องมองไปยังต้นไม้เล็กๆพวกนั้นอย่างคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันเลยสักนิด

“ต้นนี้อะไรครับ?” พระพายชี้ไปยังต้นไม้เล็กๆที่เหมือนมีน้ำใสๆอยู่ข้างใน

“อ๋อ เรียกว่าฮาโวเทียหยดน้ำค่ะ”

“เลี้ยงยากไหมครับ?” พระพายถาม

“นิดหน่อยเพราะต้นนี้ไม่ชอบแดดแรงๆ ให้โดนแดดตอนเช้าสักสองสามชั่วโมง ถ้าให้ดีก็เอาอะไรมาบังแสงหน่อยไม่ให้โดนแสงแรงๆ”

“แล้วรดน้ำล่ะครับ?”

“อาทิตย์ละครั้งก็พอค่ะ รดเยอะเดี๋ยวรากเน่า”

“สำคัญที่แดดสินะครับ”

“ใช่ค่ะ จะลองเอาไปเลี้ยงหน่อยไหมคะ?”

“ผมจะซื้อเป็นของขวัญให้แฟนครับ”

“เหรอคะ สาวๆมักชอบอะไรน่ารักๆแบบนี้ค่ะ” เธอว่าพลางยิ้ม พระพายได้แต่ยิ้มให้พลางคิดในใจถึงสาวที่ว่านั้นช่างไม่ชอบอะไรกุ๊กกิ๊กแบบนี้เลย

“มีต้นที่เลี้ยงง่ายกว่านี้ไหมครับ?” พระพายว่า ดูท่าเจ้าต้นหยดน้ำนั้นจะตึงมือไปสักหน่อย

“ต้นนี้เลยค่ะ เรียกว่าแมม ต้นนี้เป็นแมมหนามทอง ชอบแดดแรงๆ รดน้ำสามสี่วันครั้งค่ะ” ต้นแมมหนามทองที่ว่านั้นดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว พระพายจดจ้องมองอย่างสนใจก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาดู

“ถ้าอย่างนั้นเอาต้นนี้ครับ”พระพายว่าก่อนที่จะจ่ายเงินและถามวิธีการเลี้ยงเพิ่มเติมอีกนิด จากนั้นก็เดินดูของอีกพักใหญ่และเลือกที่จะกลับห้อง

        ข้าวของในมือถือว่าเยอะ ทั้งต้นกระบองเพชร ของกินอีกหลายอย่าง ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วแต่พิธานก็ยังไม่กลับมา น่าจะใกล้มาถึงแล้วหรือคงกำลังขับรถออกมาอย่างแน่นอน พระพายจึงใช้โอกาสนี้ในการนำต้นกระบองเพชรไปวางที่ระเบียง จัดวางมันให้เข้าที่ นี่คือของขวัญที่พระพายตั้งใจว่าจะให้พิธานในวันปีใหม่และจะช่วยกันเลี้ยงมันให้มีดอกออกมาให้ได้อย่างที่คนขายบอกไว้ จัดวางในมุมที่คิดว่าดีแล้ว พระพายจึงกลับมานั่งยังห้องและนำอาหารที่ซื้อมาแกะใส่จานใส่ถ้วยรอพิธานกลับมา

        ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีพระพายก็ดันหลับรอที่โซฟาไปโดยไม่ตั้งใจ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เที่ยงคืนแล้วและพบว่าในห้องก็ไม่มีวี่แววของพิธานจะกลับมา พระพายนั่งนิ่งพลางปรับสติก่อนที่จะลุกขึ้นไปมองอาหารที่ยังคงวางอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม ทั้งที่พิธานบอกว่าจะกลับมากินข้าวด้วยกันแท้ๆแต่ก็ไม่เห็นจะกลับมา เมื่อคิดว่าเวลาเที่ยงคืนไม่ใช่เวลาจะมากินข้าวแล้ว พระพายจึงยกไปแช่เก็บในตู้เย็นทั้งหมดจากนั้นก็กดโทรหาพิธานทันที

“เลิกงานรึยัง?” พระพายถามทันทีที่พิธานรับสาย

“โทษที พอดีเพื่อนชวนมาดื่มนิดหน่อย เดี๋ยวก็กลับแล้ว” พิธานว่า

“อ๋อ ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นผมเข้านอนก่อนละนะ”

              พระพายว่าจากนั้นก็วางสาย พิธานคงลืมไปแล้วจริงๆว่านัดกินข้าวด้วยกันไว้ แม้จะรู้สึกหน่วงนิดๆและผิดหวังหน่อยๆว่าทำไมไม่บอกกันก่อนสักคำ ปล่อยให้รอเก้ออยู่นานซึ่งนี่ไม่ใช่นิสัยของพิธานเท่าไหร่นักแต่ก็พอจะเข้าใจว่าพิธานเองก็ต้องการเวลาส่วนตัวเช่นกัน เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้วพระพายจึงไปอาบน้ำแบบลวกๆและทิ้งตัวลงนอนทันที แต่กว่าจะหลับได้ก็คิดวนเรื่องก่อนหน้านั้นอยู่พักใหญ่เหมือนกันและไม่อาจจะรู้ได้ว่าพิธานจะกลับมาเมื่อไหร่ในคืนนี้...

Lyrics: Not that simple by Mike Posner.




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2019 13:15:41 โดย kimjuy_o »

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
อ่าว กลับมาพร้อมความหน่วงเล็กๆ (?) ที่จะกลายเป็นหน่วงใหญ่ๆ ไหม ....ไม่น่ะ ต้องไม่สิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เมียงอนแล้ว ทำไงดี  :hao3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……

ตะแหง่วตะแหง่วแล้ว.  ลืมนัดเมียได้ยังไง

ปล่อยให้น้องพายรออ่ะ ข้าวก้อไม่ได้กิน จะดราม่าเหรอ. โฮ้…………

 :a5:  :a5:  :a5:  :a5:  :a5:   :a5:  :a5:  :a5:


………

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
พิธานมีความลับอะไรหรือเปล่า  :hao4:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ้าวววนัดไม่เป็นนัดยังไม่โทรบอกอีกยังไงกัน

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เอาละ ปัญหาระหองระแหงเริ่มมาเบื้องต้นละ
พิธานน่าตีมาก อย่าทำให้พระพายคิดมากเซ่ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พิธานทำอะไร๊ๆๆๆๆๆๆ พระพายเสียใจแล้วเนี้ยะะ

ออฟไลน์ minicabbage

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พิธานรีบมาง้อพระพายเร็วๆนะ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เอ้าาาา  อะไร!ยังไง!
ปล่อยให้น้องรอเหรอ?  เดี๋ยวโทรฟ้องคุณแม่นะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กลับมาพร้อมสัญญาณบางอย่าง

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ไม่อยากคิดไปในทางที่ไม่ดีเลย

ออฟไลน์ Sutharat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นัดแล้วลืมกันเลยเกิดอะไรขึ้น :sad4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
แงงง จบด้วยความหน่วง ขอคิดในแง่ดีไว้ก่อน ที่พิธานกลับดึกเพราะมัวแต่หาของขวัญให้น้องรึเปล่านะ

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ มาลงตอนต่อไปแล้วค่ะ อย่างที่บอกช่วงนี้จะหายไปนานหน่อยนะคะ เพราะเนื่องจากเปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ ปรับตัวเยอะมากและเครียดมากจนดราม่าหลายยก ซึ่งไม่ต่างจากนิยายตอนนี้เลย ฮ่าๆ ถ้าหากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ตรงนี้นะคะ อยู่เป็นกำลังใจกันก่อนนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกัน ไว้เจอกันค่ะ รัก ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ  :mew1:


+++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 58 Part of the end.



The world slows down, but my heart beats fast right now
โลกเริ่มหมุนช้าลงๆ แต่ใจของฉันเต้นแรงขึ้นในตอนนี้
I know this is the part, where the end starts
ฉันรู้ว่านี่คือ ฉากที่เป็นจุดจบได้เริ่มขึ้น


          ตื่นมาอีกทีก็พบว่าพิธานนอนอยู่ข้างๆแล้วด้วยสภาพชุดนอนแต่กลิ่นเหล้าหึ่งจนแทบไม่ต้องไปดมใกล้ๆ พระพายหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่า เป็นวันใหม่ไปเสียแล้ว พระพายเองก็หลับอย่างยาวนานและวันนี้เป็นวันหยุดยาววันแรกเสียด้วย ด้านพิธานยังคงหลับอยู่อย่างนั้นไม่ขยับตัวใดๆเลยสักนิด

          พระพายจ้องมองพิธานที่กำลังหลับลึกด้วยความรู้สึกบางอย่าง อาจจะเพราะเมื่อคืนรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นักที่พิธานผิดนัดแต่คิดดูอีกทีมันก็ต้องมีบางทีที่พิธานอาจจะทำเช่นนี้ เมื่อคิดอย่างนั้นแล้วก็รีบลุกขึ้นมาเพราะนี่เป็นวันหยุดวันแรก อันดับแรกจึงมองไปยังกองเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซัก รวมถึงข้าวของที่วางไม่ค่อยเป็นระเบียบมากนัก พระพายจึงเริ่มที่จะเก็บเสื้อผ้าของตัวเองและพิธานไปส่งซัก ก่อนที่จะกลับมาเก็บของให้เรียบร้อย รวมถึงทำความสะอาดนั่นนี่ไปเรื่อยๆอย่างเบามือเพราะไม่อยากกวนพิธานที่กำลังหลับอยู่

          ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ พระพายจัดการทำความสะอาดเสร็จหมดแล้ว ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและห้องแต่งตัว จะเหลือแค่ที่เดียวคือห้องนอนซึ่งพระพายไม่ได้ทำมันเนื่องจากอาจจะทำพิธานตื่นเอาได้ จังหวะนี้จึงไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะหาอะไรกินและมานั่งคิดแผนว่าจะทำอะไรในวันหยุดนี้

         เวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายแก่ๆ พระพายตั้งใจจะโทรสั่งอาหารจากไลน์แมนมาแต่ลืมไปเสียสนิทว่ายังมีอาหารที่ซื้อมาเมื่อคืนที่ไม่ได้กินและแช่เก็บไว้ในตู้เย็นอยู่ พระพายจึงหยุดที่จะโทรสั่งและนำอาหารเหล่านั้นมาอุ่นแทน ระหว่างนั้นเอามีเสียงกุกกักจากห้องนอน เป็นการบอกว่าพิธานน่าจะตื่นแล้ว

   เมื่อคืนนั้นพิธานไปดื่มกับเพื่อนๆมา พระพายเองก็เข้าใจว่าพิธานต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ออกจากความคิดไม่ได้คือทำไมถึงเอาแต่รู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าทำไมหมู่นี้แค่ในระยะเวลาไม่นานนั้นเหมือนเขาและพิธานจะห่างเหินกันนิดๆ หรือเพราะว่าที่ผ่านมาเอาแต่ตัวติดกันตลอด หรือนี่จะเรียกว่าหมดโปรโมชั่นของความรักอันหอมหวานกันแล้ว

   พระพายที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนยังไม่อาจจะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงเรื่องนี้ แต่เรื่องการหมดโปรโมชั่นนั้นมักจะได้ยินจากเพื่อนๆบ่อย ฝั่งที่จะบ่นก็ไม่ใช่ใครคือเหล่าเพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น บ่นว่าแฟนเปลี่ยนไปบ้าง ไม่เอาใจเหมือนตอนคบกันใหม่ๆ ไม่ดูแลไม่ใส่ใจหรืออะไรก็แล้วแต่ที่คิดว่ามันไม่เหมือนแต่ก่อน พระพายคิดเสมอในตอนนั้นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะต่างคนต้องมีเรื่องที่ต้องทำและเข้าใจถึงชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แค่เรียนหนังสือทำงานส่งอาจารย์ก็กินเวลาในแต่ละวันไปมากพออยู่แล้ว

   แต่มาวันนี้พระพายเริ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเหล่านั้นมากขึ้น การที่ต้องมานั่งดูคนที่เรามีความผูกพันค่อยๆเปลี่ยนไปนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเอาเสียเลย จากที่เคยได้รับสิ่งๆหนึ่งมาเสมอแต่จู่ๆก็กลับไม่ได้รับมันเหมือนดั่งวันก่อน มันช่างหน่วงอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ

“ทำไมตื่นไว?” พิธานที่ผ่านการล้างหน้าแปรงฟันมาแล้วเดินเข้ามาในครัว ในขณะที่พระพายกำลังยืนอยู่หน้าเตาไมโครเวฟ

“ตื่นตอนเที่ยงแล้ว ไวตรงไหน?” พระพายพูดเพียงเท่านั้นก่อนที่จะจ้องมองเตาไมโครเวฟต่อ

“เป็นอะไร?” พิธานถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เป็นอะไร? เปล่านี่”

“ท่าทางแปลกๆ”

“คิดมาก” พระพายว่าก่อนที่เสียงเตือนร้องขึ้นว่าอาหารอุ่นเสร็จแล้ว จากนั้นก็อุ่นอาหารจานสุดท้ายที่เหลือ

   พิธานไม่พูดอะไรอีกและเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าว พระพายยกอาหารทั้งหมดลงบนโต๊ะ ตักข้าวให้ตัวเองและพิธาน นั่งกินเงียบๆเพราะพระพายไม่อยากพูดอะไรออกมาในตอนนี้ ราวกับกำลังสับสนว่าตอนนี้ต้องรู้สึกอย่างไร โกรธที่ผิดนัดเมื่อคืนหรือจะต้องน้อยใจดีแต่สุดท้ายก็คิดว่าความเงียบน่าจะดีที่สุด

   ความเงียบในครั้งนี้ผิดแผกแปลกไปจากทุกครั้ง ราวกับมีเรื่องอะไรขบคิดในใจอยู่ ทั้งสองใช้เวลาไม่นานนักในการนั่งกินข้าวด้วยกัน

“วันนี้จะไปไหนรึเปล่า?” พิธานเอ่ยถามขึ้น

“ผมเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน คุณล่ะ?”

“ฉันต้องเข้าไปจัดการเรื่องานต่อ เรื่องที่จะไปที่บ้านฉันบอกพี่เพลงแล้ว วันที่หนึ่งจะมีจัดปาร์ตี้กันในบ้าน” พิธานตอบ

“วันที่หนึ่งเหรอ ก็ดีเหมือนกันหลังเคาท์ดาวน์น่าจะดีกว่า”

“คงจะเย็นๆเกือบค่ำและคุณแม่อยากให้นอนค้าง” พิธานบอกพลางจ้องมองพระพายที่กำลังเก็บจาน

“ได้สิ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถ” พระพายเองก็เห็นด้วย อีกอย่างการนอนค้างจะได้กระชับความสัมพันธ์กับธนิตให้มากขึ้นด้วย

“ฉันคงต้องทำงานยาวจนถึงวันที่สามสิบเอ็ด” พิธานว่าพลางช่วยพระพายที่ยกจานไปล้าง

“เหนื่อยไหม?” พระพายถามพลางหันไปสบตาพิธานที่มองอยู่

“เหนื่อยสิ”

“เดี๋ยววันที่หนึ่งก็ได้พักแล้ว ทนหน่อยนะ” พระพายว่า รู้ดีว่าพิธานเองก็ทำงานหนักในแบบของตัวเอง

“ฉันไปอาบน้ำก่อน ต้องรีบไปแล้ว” พิธานไม่ได้ช่วยล้างต่อ

“รีบไปเถอะ” พระพายไม่ว่าอะไรและหันหลังล้างจานต่อไป แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงแรงกอดจากด้านหลัง พิธานที่บอกว่ารีบไปอาบน้ำกลับยืนกอดอยู่ข้างหลัง

“ไหนบอกว่ารีบ”

“ฉันไม่รู้ว่านายเป็นอะไรและหวังว่าจะบอกฉันตรงๆ” พิธานบอกเช่นนั้น

“คุณคิดมากอะไรล่ะนี่ ไปอาบน้ำได้แล้ว” พระพายว่าพลางหัวเราะนิดๆ พิธานจึงผละออกและเดินกลับไปยังห้องนอน

   พิธานใช้เวลาไม่นานนักในการอาบน้ำแต่งตัวและรีบออกจากห้องโดยที่พระพายมาโบกไม้โบกมือให้ก่อนออกไป

   กลับมาสู่ความเงียบเหงาอีกครั้ง ทั้งที่ปกติแล้วพิธานจะรู้เสมอว่าเขาคิดอย่างไร อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าเมื่อวานผิดนัดกัน ทำไมถึงไม่รู้ตัวในเรื่องนี้และทำไมครั้งนี้ถึงเลือกจะถามกันเช่นนี้

วันนี้พิธานทำงานแต่พระพายดันหยุดงานแล้ว คิดไม่ออกจริงๆว่าจะทำอะไรดีในช่วงวันหยุดอย่างนี้เพราะเป็นวันเสาร์อีกทั้งคนบางส่วนเลือกที่จะไม่ออกไปต่างจังหวัดก็คงต้องมีบ้างอย่างแน่นอน

   สรุปกับตัวเองว่าคงต้องไปหาเก้า แน่นอนว่ารายนั้นก็พร้อมที่จะออกไปเที่ยวกับพระพายอยู่แล้ว พระพายออกจากคอนโดไปหาเก้าที่ห้อง ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงห้องของเก้า

“เข้ามาๆ” เก้าเปิดประตูให้พระพายเข้าไป

“อาบน้ำยัง?” พระพายถาม

“แต่งตัวเพิ่งเสร็จ” เก้าว่า

“เราจะไปไหนก็กันดีวะ?” พระพายถามพลางนั่งลงบนเตียงของเก้า

“กูก็ไม่รู้ นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าคนเยอะอยู่รึเปล่า”

“รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่นะ คงจะมีคนออกจากที่นี่ไปพอสมควรแล้วล่ะ”

“สรุปคืนสิ้นปีจะเคาท์ดาวน์กับกูใช่ไหม?” เก้าถามยืนยันอีกครั้ง

“ไปที่ห้องคุณพิธาน เคาท์ดาวน์กันที่นั่น ชวนคุณไคด้วย”

“กูก็คิดว่าจะไปกับกูสองคนซะอีก”

“ไม่ดีกว่า คิดว่าคุณไคเองก็อยากอยู่กับมึงเหมือนกัน ก็เลยอยู่กันให้ครบนั่นแหละ”

“คิดแทนกูไปอีก” เก้าส่ายหน้านิดๆ

“เอาน่า อยู่ด้วยกันเยอะๆน่าจะสนุกกว่า”

“ทั้งที่ตั้งใจชวนมึงไปคอนเสิร์ตแท้ๆ...ช่างมันเถอะ ว่าแต่วันที่หนึ่งมึงจะไปบ้านแฟนมึงใช่ไหม?”

“ใช่ วันที่หนึ่งไปบ้านคุณพิธาน”

“ปาร์ตี้ของที่บ้านมันเหรอ?”

“ใช่ ปาร์ตี้ครอบครัว” พระพายบอกพร้อมสีหน้านิ่งเฉย เก้าจับสังเกตได้ในทันที

“ทำไมทำหน้าหมาป่วยขนาดนั้น?”

“หมาป่วยนี่หน้ามันเป็นยังไงเหรอ?”

“ก็หน้าเซื่องๆซึมๆที่มึงคิดว่ามันคือหน้านิ่งของมึงนี่แหละ”

“กูเปล่าซะหน่อย” พระพายปฏิเสธทันที

“พาย  กูเพื่อนมึงมานานแล้วนะ คิดว่ากูไม่รู้จักมึงเหรอ?”

“เออ รู้ว่ามึงรู้จักกูดี”

“ไหน มีอะไรก็เล่ามา” เก้าดึงพระพายให้มันมาประจันหน้า พระพายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ย

“กูว่ากูหมดโปรโมชั่นแล้วล่ะ” พระพายเอ่ยขึ้น

“โปรโมชั่นอะไรของมึง?”

“ก็โปรโมชั่นคู่รักหวานชื่นไง”

“จู่ๆทำไมมึงถึงคิดอะไรแบบนั้นได้ล่ะ?” เก้าขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจมากนัก

“ก็..คุณพิธานเหมือนจะเปลี่ยนไป ห่างกันมากขึ้น ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน ก็รู้หรอกว่างานยุ่ง แต่กูรู้สึกแปลกๆ”

“เปลี่ยนยังไง แบบไม่สนใจมึงเหรอ?”

“อธิบายยากว่ะ เวลาเราไม่ตรงกันเลยและเขาก็ลืมที่นัดกันไว้ว่าจะกลับมากินข้าวด้วยกัน ถ้าลืมเพราะทำงานก็พอเข้าใจแต่นี่ลืมแล้วไปกินเหล้ากับเพื่อนนี่สิ” เก้าจ้องพระพายที่กำลังมองไปยังที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่หน้าเขา

“พาย...มึงรู้ใช่ไหมว่านี่เป็นการคิดเล็กคิดน้อยมาก”

“ก็เพราะรู้ไง กูไม่อยากเป็นแบบนี้เลย กูกลายเป็นคนงี่เง่าแบบไม่มีที่มาที่ไป ปกติมีอะไรก็พูดกันแต่ครั้งนี้ก็กลับไม่อยากบอกเขา อยากให้เขาคิดได้เองว่าเขาทำอะไรผิดไว้กับกู”

“มึงอาการหนักมากพาย” เก้าได้แต่ส่ายหน้า

“เก้า กูต้องทำไงวะ กูเหมือนแฟนสาวในละครทีวีที่มานั่งน้อยใจแฟนมาก” พระพายถอนหายใจออกมา

“มึงลองย้อนนึกสักหน่อย คิดในมุมกลับ ถ้ามึงเป็นพิธานและพิธานเป็นมึง มันจะเป็นแบบไหน?” พระพายนึกภาพตามที่เก้าบอก

“กูจะรู้สึกว่าไม่เข้าท่า แค่เรื่องแค่นี้เอง” พระพายว่า

“ถูกแต่ไม่ทั้งหมด ถูกตรงที่เรื่องที่มึงคิดมันไร้สาระไปสักหน่อยแต่ผิดตรงที่พิธานเองก็ไม่สมควรที่จะลืมนัดมึงแบบนั้นและไม่ขอโทษอะไรเลย นั่นแหละทำให้มึงคิดมากอยู่แบบนี้”

“อยากถามว่าเมื่อคืนลืมเหรอ แต่ถ้าถามออกไปกูก็เหมือนฟื้นฝอยหาตะเข็บเพราะเรื่องมันผ่านไปแล้ว”

“และมึงรู้สึกยังไงที่มันดูเปลี่ยนไป แค่หมดโปรโมชั่นหรือมึงคิดมากกว่านั้น” พระพายเงียบไปอีกครั้ง

“คิดหลายเรื่องเลยมึง เบื่อกูแล้ว หรือไปเจออะไรที่น่าสนใจกว่า แต่กูก็ยังเชื่อใจเขาข้อหลังเลยไม่มีน้ำหนักให้คิดมากพอ แต่เรื่องเบื่อนี่ก็คิดๆอยู่”

“ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากันเลยสิท่า?” เก้าหรี่ตามองอย่างจ้องจะเอาคำตอบ

“เออ ไม่ได้ทำเลย”

“มึงอึดอัดตัวด้วยรึเปล่า มันเลยทำให้มึงคิดมาก” เก้าหัวเราะนิดๆ

“ไม่ขนาดนั้นหรอกมึง” พระพายส่ายหน้า

“นอกจากนั้นล่ะ?”

“อย่างอื่นเหรอ ดูเหมือนเครียดๆ คิดเรื่องอะไรสักอย่างไม่รู้เรื่องงานหรือเรื่องอะไร”

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อย่าเพิ่งคิดมาก รอดูตอนไปบ้านมันอีกทีว่าท่าทียังไง ตอนนี้มึงกับกูไปเที่ยวกันดีกว่า”

“เออ ค่อยว่ากัน แล้วมึงอยากจะไปไหน?”

“ไปห้าง ไปโอเชี่ยนเวิลด์ ไปดูปลา หาอะไรกินกัน”

“เอาอย่างนั้นเลย?”

“เออสิ!”

“ก็ได้ ไปกัน”

   เมื่อตกลงได้อย่างนั้นแล้วทั้งสองคนก็ออกจากห้องไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองซึ่งมีครบทุกอย่างที่เก้าอยากไป พระพายเองก็อยากหาอะไรทำจะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้ฟุ้งซ่านเกินกว่าเหตุแล้ว

   ใช้เวลากันในนั้นทั้งวันอย่างที่เก้าบอก ตั้งแต่เดินดูข้างของหลลากหลายอย่าง โผล่เข้าไปในโรงหนังดูหนังไปหนึ่งเรื่อง จากนั้นก็หาอะไรกินกันอย่างอร่อยปากจากนั้นก็ไปยังโอเชี่ยนเวิลด์เพื่อดูสัตว์ทะเลและโชว์เล็กๆน้อยๆในนั้น เรียกได้ว่าไม่มีเวลาไม่คิดเรื่องอะไรเลยเพราะเก้าลากไปปลากมาจนต้องจดจ่อแต่เก้าเท่านั้น

“ค่ำแล้วเหรอวะ?” เก้าที่หิ้วถุงหนังสืออกจากร้านหนังสือและพระพายเองก็มีหนังสือการ์ตูนติดมือมาเช่นกัน

“เออสิ เหนื่อยจนไม่รู้จะเหนื่อยยังไงแล้ว” พระพายบ่น

“ไปกินอะไรกันก่อนกลับไหม?”

“ก็ต้องอย่างนั้นแหละ เพราะคุณพิธานไปกินข้าวกับผู้ใหญ่” พระพายว่า เมื่อชั่วโมงที่แล้วพิธานส่งข้อความหาพระพายว่าไม่ต้องรอกินข้าวเพราะต้องไปกินข้าวผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนอะไรสักอย่างซึ่ก็ไม่ค่อยเข้าใจมากเท่าไหร่นัก

“ไปเถอะมึง กูอยากกินอาหารเกาหลี”

“แต่กูไม่อยาก ไม่ถูกปากว่ะ”

“กินอะไรดีวะ?”

“อาหารญี่ปุ่น”

“มันก็คือๆกันรึเปล่าวะ?”

   ทั้งสองคนจึงไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งเป็นร้านอาหารแบบชุดราคาไม่แพงเท่ากับร้านดังที่อยู่ใกล้ๆกัน โต๊ะว่างคือโต๊ะซึ่งติดกับกำแพงกระจกฝั่งหน้าร้าน มองเห็นคนเดินผ่านอยู่ตลอดเวลา ทั้งสองเองก็ไม่อยากเสียเวลารอโต๊ะจึงเลือกที่จะนั่งโต๊ะดังกล่าว

“คนก็ยังเยอะอยู่นะมึง” เก้าว่า

“เออ สงสัยจะมีคนคิดแบบพวกเราที่ไม่อยากเดินทาง”

   พูดคุยกันนิดหน่อยระหว่างรออาหารที่สั่งไว้มา พูดคุยไปเรื่อยพลางมองไปยังโดยรอบและทันใดนั้นเองพระพายก็สะดุดตากับคนๆหนึ่งซึ่งเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน คือพิธานนั่นเอง

“คุณพิธาน” พระพายเอ่ยขึ้น เก้าจึงรีบหันมองตามทันที

“อ้าว มันมาทำอะไรแถวนี้” เก้าพูดออกมาทันที

“นั่นสิ” พระพายว่าและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความหาพิธานทันที

   เมื่อส่งไปก็ดูปฏิกิริยาของพิธานว่าเป็นอย่างไร พิธานหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง มองหน้าจอประมาณไมม่กี่วินาทีและก็เก็บโทรศัพท์มือถือนั้นไว้โดยไม่ยอมตอบข้อความของพระพาย ในมือถือของพระพายเองก็ยังไม่ขึ้นว่าข้อความนั้นถูกอ่านแล้ว แปลว่าพิธานคงอ่านแค่จากการแจ้งเตือนเท่านั้น

   พิธานที่ยืนนิ่งๆเหมือนรออะไรสักอย่างและพระพายกับเก้าก็ได้เห็นว่าพิธานกำลังรออะไรอยู่ เป็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเดินมาหาพิธานที่ยืนอยู่ ร่างสูงโปร่งแต่ไม่สูงเท่าพิธาน ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้านรวมไปถึงการแต่งตัวที่ดูเข้ากันกับความสูงนั้น พระพายพยายามเพ่งมองแต่ไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าอาจจะเป็นเลขาปอแต่ก็ไม่ใช่

   ทั้งสองพูดคุยกันเล็กน้อย ใครคนนั้นยิ้มให้พิธานไม่อาจจะเห็นสีหน้าได้ชัดเจนเพราะระยะห่างนั้นเยอะพอสมควร มือนั้นแตะตรงแขนของพิธานก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้นพร้อมกัน ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่ง โลกไม่หมุนโคจรต่อสิ่งใดๆอีกแล้ว พระพายรู้สึกหน้าชานิดๆ...จริงๆไม่นิดอย่างที่คิดไว้ หน้าชามากมากจนรู้สึกว่าภาพเมื่อครู่นี้นั้นมันคืออะไรกัน และความรู้สึกชาตรงปลายมือปลายเท้านี่มันคืออะไร

“พาย พาย ตั้งสติก่อน” เก้าลุกขึ้นเขย่าไหล่พระพายที่นั่งตัวแข็งทื่อไปแล้ว

“เก้า กูตาลายรึเปล่า?” พระพายถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจมากนัก

“กูก็เห็น มึงไม่ได้ตาลายหรอก” เก้ายืนยันให้อีกเสียง

“นี่มันเรื่องอะไรวะ?” พระพายจ้องหน้าเก้า

“กูก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆกูถ่ายรูปไว้แล้ว” เก้าว่าพลางยื่นโทรศัพท์มือถือให้พระพายดู ในจอคือภาพของพิธานกับคนที่พระพายไม่รู้ว่าเป็นใคร ถ่ายแบบขยายกล้อง ภาพชัดจนเหมือนตอกย้ำว่าไม่ได้ตาลายอย่างที่คิดไป

“มึงถ่ายตอนไหน กูไม่เห็นรู้เลย” ทั้งที่สติมึนงงแต่ที่งงกว่าคือเก้าเร็วมากจนไม่อาจเห็นได้ว่าถ่ายรูปไว้ตอนไหน

“ก็ตอนที่มึงนั่งจ้องแฟนมึงจนแทบจะสิงกระจกนั่นแหละ” เก้าว่า

“กู....กูต้องทำยังไงวะ?” นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าไม่ดีมากจริงๆ มันมากกว่าครั้งที่เห็นพิธานอยู่กับเลขาปอในวันนั้นอีก

“นิ่งก่อน กูอยากรู้ว่ามันเป็นใคร” เก้าว่าก่อนที่จะกดส่งข้อความหาไคทันทีและเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีไคก็โทรกลับมา

“เร็วจริงนะมึงไอ้ไค” เก้ารับสายไค พระพายไม่อาจจะได้ยินว่าไคพูดอะไรในสาย

“เป็นใคร บอกกูหน่อย....มึงไม่ต้องทำเงียบเลยไค ถ้ามึงไม่บอกกู มึงก็รู้ใช่ไหมว่ามึงจะเจออะไร?” เก้าขู่อะไรสักอย่าง

“อย่างนั้นเหรอ เออ ขอบใจที่ยอมบอกและอีกอย่าง ถ้ามึงเอารูปที่กูส่งไปแล้วส่งต่อให้เพื่อนมึง หรือมึงเอาเรื่องนี้ไปถามเพื่อนมึง มึงรู้ใช่ไหมว่ากูจะทำยังไง?”

“มึงไม่ต้องมาทำเสียงแบบนี้เลยไค พายก็เพื่อนกูและถ้าเรื่องนี้เพื่อนมึงผิดมึงก็จะโดนไปด้วยกูบอกไว้เลย แค่นี้แหละ” เก้าวางสายด้วยความรวดเร็ว

“คุณไคว่าไง?” พระพายถามด้วยความรวดเร็วเช่นกัน

“แฟนเก่าสมัยเรียน” เก้าตอบ พระพายรู้สึกหน้าชาไปอีกขั้นหนึ่ง

“หรือจะเป็นคนที่คุณพิธานเล่าให้ฟัง....เขามีแฟนมาแค่คนเดียว”

“จริงเหรอ กูไม่อยากจะเชื่อเลย”

“ถ้าเขาไม่ได้โกหกกูอะนะ” พระพายว่า

“แล้วมึงจะเอายังไง กูว่าถามตรงๆเลยดีกว่า”

“ถามแน่ แต่เดี๋ยวก่อน กูจะไปถามตอนไปบ้านวันที่หนึ่ง”

“ทำไมต้องรอถึงวันนั้นวะ?”

“ถามตอนนี้กูก็จะมีอารมณ์มาปนด้วย ขอตั้งสติให้ใจเย็นกว่านี้ เดี๋ยวกูก็จะถาม”

“มึงก็เก่งนะ เป็นกูนี่วิ่งตามไปแฉ่งแล้วเมื่อกี้น่ะ”

“กูไม่อยากทำ แค่ที่กูนั่งฟุ้งซ่านเรื่องเมื่อวานก็พอแล้ว กูไม่อยากให้เขามาว่ากูงี่เง่าน่ารำคาญ” พระพายตัดสินใจไปแบบนั้น

“ยกนิ้วให้เลย มีสติมากกว่าที่กูคิดเสียอีก”

“เอาเถอะมึง กินข้าวกันดีกว่า” อาหารมาถึงพอดิบพอดี

“เออ ว่าแต่มึงจะเอารูปนี้ไหม?”

“ส่งมาเลย” พระพายบอกเท่านั้น จากนั้นทั้งสองก็กินอาหารที่สั่งมา พระพายเองแม้จะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้นิ่งสงบไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือความคิดก็ตาม

   พระพายแยกกับเก้าและเดินทางกลับมายังห้อง ระหว่างอยู่บนแท็กซี่ก็เอาแต่คิดว่าจะจัดการความคิดตัวเองอย่างไรดี คิดอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งกลับถึงห้อง อาบน้ำนอนล้มตัวลงนอน ในมือถือหนังสือการ์ตูนที่เพิ่งซื้อมาแต่ไม่คิดจะเปิดอ่านเพราะความรู้สึกตีวุ่นไปหมด

   สรุปพระพายก็เลือกที่จะส่งข้อความหาเก้า นัดกันว่าพรุ่งนี้ให้เก้ามาที่ห้องเพราะไม่อยากเที่ยวเล่นเท่าไหร่นักเนื่องจากวันสิ้นปีก็คิดจะปาร์ตี้เคาท์ดาวน์กันอยู่แล้วจึงอยากพักผ่อนก่อน เก้าก็ตอบตกลงตามนั้น เมื่อคุยกับเก้าเสร็จพระพายจึงปิดไฟและหลับตาลง พยายามจะข่มตานอนแม้จะยากไปสักหน่อยแต่พระพายไม่อยากทำให้ตัวเองเครียดจนไม่ดีต่อร่างกาย แต่จะอย่างไรก็หลับไม่ลงอยู่ดี สุดท้ายพระพายจึงเลือกที่จะกินยาแก้แพ้ประเภทที่ทำให้ง่วงซึมเข้าไป เพื่อที่จะได้หลับได้อย่างง่ายดายและหลับสนิทโดยไม่ต้องมีอะไรมารบกวน...

Lyrics: I hate this part by Pussycat dolls.






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2019 20:31:20 โดย kimjuy_o »

ออฟไลน์ minicabbage

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พิธานรีบกลับมาเคลียร์กับพระพายด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เอาแล้วววว พระพายจะได้คำตอบแบบไหนกลับมากันนะ

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
แง่ คลุมเครือซะงั้น
ยังไงนะๆ คือก็หวั่นๆ
แต่ก็มั่นใจว่าคงไม่มีอะไร

คนเขียนจะหายไปสักพักด้วยใช่ไหม
เราต้องค้างนานพอตัวสิน้า(>//<)
แต่ไม่เป็นไรจ้า
เอาธุระคนเขียนก่อนเน้อ
อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

เป็นกำลังใจและยังรอเสมอจ้า ^^

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
พิธานกำลังทำอะไรอยู่มีเหตุผลไหมที่ทำแบบนั้นแต่ถ้าเพราะว่าความรู้สึกที่มีให้พระพายมันลดลง :mew6: ก็ปล่อยพระพายไปเถอะนะ
แต่เราต้องรออีกนานใช่ไหมกว่าจะรู้ว่ามันเพราะอะไร  :katai1:    ฮึบไว้ ฮึบไว้  :hao6:     

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เชื่อใจพิธานจ้า ต้องมีคำอธิบายได้ ใจเย็นๆ นะพระพาย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ถ่านไฟเก่าจะคุหรือยังไง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พิธานดูออกว่าพระพายแปลก ๆ ไป แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองแหล่ะที่ทำให้พระพายรู้สึกอย่างนั้น  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Sutharat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดจะกลับไปหาคนเก่ารึไงตอนอยากได้ก็ตามติดจะเอาให้ได้ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด