ตอนที่ 3
ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงอีกทั้งยังเป็นกลางวันที่ร้อนระอุจนแทบสามารถทอดไข่ดาวบนพื้นได้ แต่น่าเสียดายที่อากาศอันโหดร้ายของประเทศไทยนั้นไม่สามารถทำร้ายเด็กนักเรียนโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้ได้ เพราะทั่วอาณาบริเวณนั้นถูกปกคลุมด้วยร่มใหญ่จากต้นไม้ใหญ่ ไหนจะแอร์คอนดิชั่นเย็นเฉียบเหมือนอาศัยอยู่ในอลาสก้าจนนักเรียนบางส่วนต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่ตอนที่อยู่ใต้อาคาร
หากแต่มิสเตอร์ต้นก็ไม่ใช่หนึ่งในนักเรียนพวกนั้น จึงได้แต่ทนหนาวนั่งหั่นสเต็กฟรีจากสวัสดิการฟันกระทบกันกึกๆ และสาปส่งผอ. ในใจถึงแอร์ที่เย็นเกินเบอร์ไปมาก
"ร้อนชะมัดมากเลย! ปรับแอร์ลงอีกหน่อยสิ เสื้อกันหนาวที่ฉันซื้อมาจะได้ทำหน้าที่ของมันบ้าง"
หรือสิ่งที่เขาต้องทำจริงๆ คือหักคอให้นักเรียนรวยเวอร์พวกนี้ก่อนดี
ต้นกลอกตาหน่ายๆ เหลือบมองกลุ่มนักเรียนที่ไปรุมกันตรงรีโมตแอร์ด้วยหางตา เด็กม. ต้นพวกนั้นมีคนนึงที่พ่อแม่เป็นผู้สนับสนุนหลักของโรงเรียน ภารโรงผู้ควบคุมรีโมตแอร์โรงอาหารเลยไม่กล้าทำอะไรมากนอกจากยื่นรีโมตให้เด็กพวกนั้นอย่างว่าง่ายถ้าเด็กพวกนั้นต้องการ
ช่วยไม่ได้โรงเรียนนี้มันปกครองด้วยอำนาจเงินอยู่แล้ว ใครมีมากก็ยิ่งมีสิทธิ์มากในโรงเรียนนี้ ไอ้คนที่เป็นเด็กทุนเรียนฟรีกินฟรีอย่างเขาก็ได้แต่นั่งเงียบๆ รับสภาพตัวเองอย่างจำยอม
"..หนาวว่ะ"
ต้นขมวดคิ้วมุ่นหงุดหงิดแผ่ออร่าสีดำไม่เป็นมิตรรอบๆ จนไอ้ตัวต้นเหตุสะดุ้งแล้วหันมามองมิสเตอร์ต้นด้วยสายตาเหยียดหยาม เอาเข้าจริงการเร่งแอร์นี้ก็เป็นความจงใจเหมือนกัน
"นี่ปรับแล้วเหรอ ฉันยังร้อนอยู่เลย" คราวนี้จงใจพูดเสียงดังราวกับต้องการให้คนทีนั่งหนาวตัวสั่นกึกๆ ได้ยินชัดๆ
คิ้วของมิสเตอร์ต้นกระตุกและขบกรามอย่างฉุนเฉียว กำหมัดแน่นพยายามข่มอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้
เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกกลั่นแกล้งจากพวกเด็กรวยพวกนี้ ไม่รู้ว่ามันเห็นเขาเป็นตัวอะไรเหมือนกันถึงได้ทำตัวสวะๆ แบบนี้ใส่เขาอยู่ได้ ถึงมันจะไม่ได้เจ็บแสบอะไรแต่มันสามารถกระตุ้นอารมณ์โกรธได้มากเลยทีเดียว แล้วเชื่อเถอะถ้าเขาเผลอลงมือไปจริงๆ เด็กพวกนี้คงจะให้พ่อแม่มาเอาเรื่องเขาจนถึงที่สุดแน่
"เฮ้ ลดอีกหน่อยสิ ฉันจะละลายแล้ว"
อุณหภูมิในโรงอาหารดูจะเย็นเฉียบลงเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครใส่ใจเท่าไหร่นักเพราะคุ้นชินกับอากาศที่เย็นสบายอยู่แล้ว มีบางส่วนที่มองมาทางมิสเตอร์ต้นกับกลุ่มเด็กอย่างใคร่รู้และสนอกสนใจ ไม่มีอะไรเพลิดเพลินไปกว่าการดูคนเล่นสงครามประสาทกันตอนเที่ยงอีกแล้ว
เคราะห์ดีของมิสเตอร์ต้นที่วันนี้เป็นชุดพละเป็นกางเกงขายาวจึงไม่หนาวขาเท่าไหร่นักแต่ช่วงบนนี้แทบถูกแช่แข็ง เย็นไปทั้งร่างเพราะไปนั่งตรงที่ที่แอร์ตกพอดี
"..เด็กเวรเอ้ย" ต้นคำรามในลำคอแล้วถลึงตาใส่เด็กประสาทที่นั่งกินเบอร์เกอร์อย่างสบายอกสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอได้สักพักเจ้าเด็กประสาทนั้นหันมาเจอเขาก็หน้าซีดเผือด
เพราะสายตาของต้นนั้นราวจะฆ่าอีกฝ่ายทั้งเป็น!
ตอนนี้ต้นอยู่ในอารมณ์ที่หงุดหงิดเอามากๆ สิ่งที่ต้นเกลียดที่สุดในชีวิตก็คืออากาศหนาวเนี่ยแหละ ถึงแม้ร่างกายจะออกกำลังกายเป็นประจำจนแข็งแรงก็เถอะ แต่เกลียดก็คือเกลียด เขาชอบอากาศเย็นปกติแบบหลังฝนตกมากกกว่า
"เฮ้ เดม่อน เป็นอะไรน่ะ" เพื่อนสนิทของตัวต้นเหตุถามด้วยน้ำเสียงงงๆ เพราะเมื่อกี้เจ้าตัวเพิ่งจะหัวเราะอยู่เลย ตอนนี้กลับทำหน้าซีดเผือดแถมยังตัวสั่นน้อยๆ ด้วย "นายหนาวเหรอ? เมื่อกี้ยังบ่นร้อนอยู่เลย"
"ปะ เปล่า" เดม่อนลูบอกตัวเองที่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาและรีบหันหลังกลับมานั่งกินดีๆ ไม่กล้าหันไปมองนักเรียนทุนอีก
นักเรียนทุกวันนี้น่ากลัวเป็นบ้า! ปกติเวลาที่โดนกลั่นแกล้งสีหน้านิ่งๆ นั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนสักนิดแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงทำท่าจะมาฆ่าเขาซะอย่างงั้น ซึ่งมันก็น่ากลัวมากๆๆ เหมือนฆาตกรโรคจิตที่เขาดูในซี่รีย์เมื่อคืนเลยทีเดียว ไม่แน่นะ นักเรียนคนนั้นอาจจะเคยฆ่าคนมาแล้วก็ได้!
คิดถึงเรื่องนี้หน้าเดม่อนก็ซีดลงไปอีก
"เดม่อน เอ่อ นายอยากไปห้องพยาบาลไหม" เพื่อนสนิทคนเดิมถามอย่างตกใจ
"ไม่ต้อง รีบกินกันเถอะ ฉันอยากจะไปเข้าห้องชมรมสักหน่อย" เดม่อนส่ายหัวแล้วรีบยัดเบอร์เกอร์เข้าปาก เชื่อไหม ตอนนี้เขายังรู้สึกถึงสายตาของนักเรียนทุนจนๆ นั่นอยู่เลย นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว
“หนาวโว้ย!” ต้นบ่นอย่างหงุดหงิด สเต็กเขาเหลืออีกตั้งสองชิ้น เขาต้องนั่งกินทั้งๆ ที่หนาวจนแทบจะกลายเป็นน้ำแข็งอย่างนี้เรอะ
ระหว่างที่มิสเตอร์ต้นกำลังกินอยู่นั้นทอมที่เพิ่งเลิกคลาสก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาอย่างรีบร้อน เมื่อเห็นมิสเตอร์ต้นอยู่ในครรลองสายตาก็หยุดกึกแล้วยิ้มดีใจ
ตึก ตึก
เสียงย่ำเท้าเป็นจังหวะเบาๆ ของทอมคล้ายกับเป็นสัญญาณเริ่มของอะไรบางอย่าง
♪
"เหี้ยอะไรวะเนี่ย" ต้นสบถหยาบคายเมื่ออยู่ดีๆ โรงอาหารก็มีเสียงไวโอลินหวานๆ ออกมาขัดกับเสียงจอแจในโรงอาหารแต่พอหันไปมาก็ชะงักกับภาพตรงหน้า
ภาพที่ทอมกำลังสีไวโอลินพร้อมกับเดินมาทางเขาด้วยท่าทางสง่างาม เสียงหวานคล้อยแว่วเข้ากับชุดสูทดำที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวดีนี่ไปยืมมาจากไหน ทอมค่อยๆ สีอย่างตั้งใจเดินวนรอบโต๊ะเขาราวกับกำลังร่ายรำ
"..."
นี่มันบ้าอะไรวะ
ต้นพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าทอมสีเพราะและน่ารั-- แค่ก ไม่ใช่ ดูดีในระดับหนึ่ง ทุกการขยับตัวเหมือนถูกขบคิดมาอย่างหนักเพื่อให้ได้ท่าที่สวยงามจนละสายตาไม่ได้ ปลายสูทสีดำที่เลยสะโพกแกว่งไปมาตามจังหวะการลงเท้าของร่างทอม ดูไปดูมาก็คล้ายกับการตีปีกของผีเสื้อที่ทั้งละมุนละไมและงดงาม ยิ่งรวมเข้ากับเสียงดนตรีที่เอื้อนเอ่ยจากไวโอลีนนั้นยิ่งทำให้ผีเสื้อตัวนี้บินอย่างอิสระเสรีท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
"..พระเจ้า"
สติของมิสเตอร์ต้นถูกทำลายโดยสมบูณรณ์แบบ จ้องทอมตาค้าง นี่มันการแสดงระดับโปรเฟสชั่นนอลชัดๆ
ทางด้านทอมนั้นพยายามตีหน้ายิ้มน้อยๆ ตลอดการแสดงที่ตั้งชื่อชุดเองว่า 'ผีเสื้อร่ายรำ' ทั้งๆ ที่ในใจนี้ดีใจมากๆๆ ที่มิสเตอร์ต้นประทับใจจนมองเขาตาลอย แค่คิดก็อยากถ่ายหน้ามิสเตอร์ต้นตอนนี้ไปอวดพ่อจะเป็นบ้าแล้ว! แต่ถึงแม้ในใจจะระริกระรี้เกินงามขนาดไหน ท่วงท่าของทอมก็ยังสมบูรณ์แบบจนกระทั่งเพลงจบลงและทอมโค้งตัวให้มิสเตอร์ต้น
แปะๆๆๆ
เสียงปรบมือจากนักเรียนในโรงอาหารดังเกรียวกราว บางคนถึงกับเป่าปากวี้ดวิ้วเพราะทอมในลุคสูทดำกับไวโอลีนนั้นดูไม่จืดจริงๆ ทอมโค้งตัวขอบคุณให้ทุกคนอย่างนอบน้อมตามแบบฉบับที่มิสเตอร์แฮร์รี่สอนมา เขาต้องทำตัวแบบผู้ดีอังกฤษที่สุดเพื่อที่มิสเตอร์ต้นจะได้ประทับใจมากๆ ที่มีเขาเป็นเพื่อน!
"กู๊ดอาฟเตอร์นูน มิสเตอร์ต้น ผมหวังว่าคุณจะชอบการแสดงของผม" ทอมยิ้มน้อยๆ และยังยืนอยู่ข้างโต๊ะมิสเตอร์ต้น สายตาหลุบมองสเต็กสองชิ้นในจานแล้วทำหน้ายุ่งยาก "ดูเหมือนว่าคุณจะยังทานไม่หมด งั้นผมจะเล่นเพลงให้คุณฟังอีกเพลงแล้วกัน มิสเตอร์ต้น จากผลจากวิจัยของมิสเตอร์ทอม การฟังเพลงระหว่างที่แฮฟลั้นช์ทำให้อาหารอร่อยขึ้นหนึ่งพันเท่า"
"พอ!"
ต้นรีบยกมือห้ามและดึงไหล่ให้ทอมมานั่งข้างๆ ตัวเอง ไม่รู้เมื่อไหร่เด็กนี่จะเลิกทำตัวโดดเด่นเหมือนถูกสปอรต์ไลท์สาดสักที
"...เอ๋?"
ทอมหน้าเหวอเมื่อถูกขึ้นเสียงใส่ก่อนที่สีหน้าจะค่อยๆ เปลี่ยนอย่างช้าๆ
ผีเสื้อที่โบยบินอย่างร่าเริงตอนนี้ค่อยๆ บินช้าลง
"เดี๋ยว" ต้นสะดุ้ง "เป็นอะไร ทอม"
และในที่สุดมันก็ไปนอนแผละอยู่บนพื้นราวกับเศษใบไม้กรอบไร้ค่าใบหนึ่ง
"...คุณไม่ชอบมันเหรอ"
สีหน้าของทอมตอนนี้แทบจะร้องไห้เพราะการแสดงเมื่อกี้เขามั่นใจแบบมั่นใจมากๆ ว่ามันเพอร์เฟค มันเป็นการแสดงที่ครูสอนของเขาต้องร้องว้าวๆ ไม่หยุดเลยนะ พ่อเขาก็ชมด้วยว่าเขาทำได้ดีมากๆ ไหนจะเพื่อนๆ ญาติๆ มิสเตอร์แฮร์รี่ มิสซิสแม่รี่ บอดี้การ์ด คนขับรถ แม่บ้าน ทุกคนบอกกับเขาว่ามันเพอร์เฟคมากจนหาที่ติไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่ามิสเตอร์ต้นไม่ชอบมัน..
"ฉันว่าแถวนี้มีคนเข้าใจผิด"
ต้นกุมขมับ ไอ้เด็กทอมนี่จิตใจมันบอบบางมาก นี่ถ้าเขาต่อยมันไม่ร้องไห้บ้านแตกเลยเหรอ
"..ผมไม่เป็นไร มิสเตอร์ต้น" ทอมฝืนยิ้มทั้งๆ ที่ในใจแตกร้าว หัวใจแตกเป็นเสี่ยง อย่างว่าล่ะนะ เหมือนอย่างที่มิสซิสแมรี่บอก ทุกคนมีเทสต์ที่ไม่เหมือนกัน มิสเตอร์ต้นอาจจะชอบแบบอื่นก็ได้ "เดี๋ยวผมจะไปฝึกดนตรีไทย ผมพอจะเป่า อืมม คุ้ย ได้อยู่ คุณอาจจะชอบมันมากกว่าไวโอลีน"
"ขลุ่ย" ต้นแก้ให้และถอนหายใจหน่ายๆ "นายเล่นดีแล้ว ทอม แล้วก็หยุดทำหน้าเหมือนหมาจะถูกเจ้าของดุซะ ฉันไม่ได้จะฆ่านายสักหน่อย จะกลัวอะไรนักหนา"
"ผมไม่ได้กลัว" ทอมสูดน้ำมูกน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมา "แต่.. แต่มิสเตอร์ต้นไม่ชอบการแสดงของผม มันทำให้ผมแซดมากๆ โอ้ ก็อด ผมกำลังผิดหวัง หัวใจของผมมันกำลังจะพัง เหมือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผมดูดอรี่เลย ฮึก ดอรี่รู้สึกอย่างนี้เองสินะ ผมเข้าใจแล้วว่ามันเจ็บปวดมากขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ นะมิสเตอร์ต้นที่ทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของดอรี่"
"ชักจะไปกันใหญ่แล้ว" ต้นพยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองให้ดูนุ่มนวลที่สุด ไอ้เด็กหัวใจดอรี่จะได้เลิกงอแงสักที "นายเล่นเพราะมาก พอใจยัง?"
"มิสเตอร์ต้นประชด" ทอมหน้ายู่ "ผมรู้นะว่าคุณไม่ชอบมัน แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมมีการแสดงอื่นที่คุณต้องประทับใจมากแน่ๆ"
"..."
แม้แต่ถอนหายใจต้นยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะเกรงว่าเด็กนี่จะร้องไห้อีกเลยได้แต่ทำใจและปลงตกกับชีวิตตัวเองที่นอกจากจะต้องมานั่งทนหนาวแล้วยังต้องมันทนคุยกับดอรี่อีก
แต่จะว่าไป..
"ทอม" มิสเตอร์ต้นยิ้มนุ่มพยายามหลอกล่อดอรี่หลงฝูงกลับมา "อยากทำให้ฉันรู้สึกชอบนายมากๆ ไหม"
"อยากสิ! ผมอยากให้มิสเตอร์ต้นชอบที่มีผมเป็นเพื่อน"
และมันก็สำเร็จ ทอมลืมเศร้าแล้วกลับมาดี้ด้าเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นายไปปิดแอร์ซะ ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว"
ทอมกำลังจะรับคำแข่งขันแต่เมื่อฟังตามที่มิสเตอร์ต้นพูดดีๆ ก็ทำหน้าเศร้าระคนกังวล
"มิสเตอร์ต้น ผมขี้ร้อนน่ะ"
"แต่-ฉัน-หนาว!"
ต้นตอกคำแน่นๆ อย่างอดไม่ได้ ใช้มือข้างที่ว่างบีบนวดมือตัวเองที่ชาจนจะแข็งไปแล้ว
"...ฮือ มิสเตอร์ต้นน่าสงสารจัง" ทอมทำหน้าเศร้ามากๆ เศร้ายิ่งกว่าตอนที่บ็อบบี้หมาตัวแรกตายซะอีก ไม่ต้องใช้สมองกลั่นกรองมาก ทอมก็ถอดเสื้อสูทตัวเองให้มิสเตอร์ต้นทันทีจนตัวเองเหลือแค่เสื้อเชิตสีขาวบางๆ ติดตัว "ใช้นี่ซะ มิสเตอร์ต้น! ทำไมผมเป็นคนที่แบดขนาดนี้นะ! ผมลืมไปเลยว่ามิสเตอร์ต้นไม่ได้เข้าร่วมโครงการ วันโค้ทวันแคนทีน (เสื้อกันหนาวหนึ่งตัวกับโรงอาหารหนึ่งโรง) ที่ทางสภานักเรียนรณรงค์ให้ทำ ไม่เป็นไรนะ มิสเตอร์ต้น ผมจะให้คนของผมไปซื้อชุดกันหนาวให้คุณเอง"
"งั้นนายปรับแอร์ลงมาเป็นอุณภูมิปกติก็พอ 25 องศา คงไม่ได้ทำให้นายร้อนมาก" ต้นรับเสื้อของทอมมาอย่างไม่เต็มใจนัก ไม่รู้ว่าเด็กนี่มันคิดไหมว่ามันตัวเล็กกว่าเขาฉะนั้นเสื้อคลุมนี่พอเขาใส่มันก็คงไม่ต่างอะไรไปกับเสื้อกั๊กเลยสักนิด ต้นจึงทำเพียงพาดมันไว้บนไหล่
"โอเค เพื่อมิสเตอร์ต้นแล้วต่อให้ผมต้องเปลือยทั้งร่าง! ผมก็ยอม" ทอมรับคำอย่างมุ่งมั่นแล้วเดินแถดๆ ไปหารีโมตแอร์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะของกลุ่มนักเรียนม. ต้นเมื่อกี้ซึ่งตอนนี้เด็กพวกนั้นก็ทำการหลบหนีไปห้องชมรมกันหมดแล้ว
"บ้าเอ้ย ทอม ไอ้เด็กประสาท" เจ้าของฉายาเจ้าชายน้ำแข็งกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทำลายสมองอย่างช้าๆ ทุกครั้งที่คุยกับทอมเขารู้สึกเหมือนกำลังจะกลายเป็นบ้า ไม่รู้ว่าเขากับทอมคุยภาษาเดียวกันรึเปล่า เด็กนี่ที่ได้คิดฟุ้งซ่านเป็นตุเป็นตะไปทั่ว ทั้งๆ ที่เขาพูดไปแค่ประโยคเดียว
ต้นเท้าคางมองทอมที่ดูจะร่าเริงล้านแปดมากกับแค่การปรับแอร์ลงมาที่อุณหภูมิประหยัดไฟช่วยโลก แต่ดูเหมือนมันจะไม่หมดแค่นั้น... เมื่อแก๊งค์ของทอมเดินมากันครบองค์ประชุมและกรูกันไปหาทอมที่คล้ายกลับเป็นหัวหน้ากลุ่มอยู่กลายๆ (เพราะรวยที่สุดในกลุ่ม)
"เฮ้ ทอม นายรีบมาที่นี่ทำไมน่ะ" แซม เพื่อนร่วมห้องของทอมที่รู้จักกันตั้งแต่เกรด1 ถามอย่างงุนงง ยิ่งเห็นเพื่อนรักตัวเองในชุดสูทยิ่งงงเข้าไปใหญ่เพราะเมื่อกี้ตอนออกจากห้องยังเห็นทอมอยู่ในชุดพละอยู่เลย
"นั่นสิ วันนี้ไม่ได้มีงานอะไรต้องเชิญนายแสดงนี่นา" สาวสวยสะพรั่งเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มบ่นอุบ เธออยู่ในชุดพละก็จริงแต่รองเท้าและกระเป๋าของเธอนั้นเป็นของแบรนด์เนมที่เพิ่งออกคอลเลคชั่นใหม่เมื่อต้นเดือน ทำเอาสาวๆ คนอื่นที่นั่งกินข้าวกันอยู่ในโรงอาหารจ้องกันตาเป็นมัน เธอมองทอมแล้วยิ้มหวาน "แต่นายในชุดสูทนี่ดูกี่ทีก็ดูดีจริงๆ นะ" ถึงจะเหลือเพียงแค่เสื้อเชิ้ตขาวด้านในก็เถอะแต่ทอมก็ยังดูดีอยู่ดี
"ขอบคุณนะ เจนนี่" ทอมยิ้มเมื่อปรับแอร์เสร็จก็แล้วผายมือไปทางมิสเตอร์ต้น "ผมรีบมาหาเพื่อนใหม่ล่ะ! เป็นคนสามัญชนที่นิสัยดีที่สุดที่ผมเคยเจอเลยล่ะ!!"
"…"
ต้นไม่รู้ว่าตัวเองควรจะกุมขมับอีกกี่รอบดีหรือว่าตัวเองควรจะยัดสเต็กทั้งสองอันนี่ใส่ปากแล้วเดินออกจากโรงอาหารดี
ถึงทอมจะยอมรับเขาแต่ก็ใช่ว่าคนอื่นจะยอมรับ ดูจากสีหน้ารังเกียจและไม่เป็นมิตรนั่นก็พอจะรู้แล้ว กลุ่มของทอมก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กเมื่อกี้นั่นแหละ เพียงแต่ว่าไอ้ตัวหน้ากลุ่มมันเอ๋อที่สุดก็เท่านั้น
แต่คิดอะไรไปก็มากความ ต้นจึงนั่งหั่นสเต็กแล้วกินต่อ พยายามเคี้ยวให้พอละเอียดแล้วกลืนไวๆ เพื่อที่จะได้ออกไปจากสถานการณ์น่าอึดอัดที่กำลังจะเกิดขึ้น
"นาย..เป็นเพื่อนกับเด็กทุนนั่น?" เสียงถามเหมือนไม่แน่ใจเป็นของหนุ่มแว่นลูกครึ่งเกาหลีร่างใหญ่ซึ่งมีพ่อรวยติดเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย วินดันแว่นที่ตกลงมาขึ้นแล้วถามย้ำอีกครั้ง "เป็นเรื่องจริงเหรอ ทอม ที่ว่านายไปกินข้าวเช้ากับเขาเมื่อเช้า" นัยน์ตาสีดำคมกริบเบื้องหลังแว่นมองทอมอย่างคาดคั้น
ทอมยืดอกพยักหน้าหงึกๆ ยิ้มภูมิใจที่มีเพื่อนฉลาดขนาดนี้ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่วินช่วยติวสอบปลายภาคทุกเทอม "ใช่ ยูตาแหลมมากวิน! ตาของนายน่ะ เหมือนพวกอีเกิ้ลหรือนกพิราบเลยล่ะ!"
"..นกอินทรีย์" วินตอบเสียงเรียบๆ เหลือบมองทอม "นายเล่นอะไรอยู่รึเปล่า?"
ทอมกระพริบตาปริบ "ก็เปล่า.. ฉันก็แค่มาปรับแอร์คอนดิชั่นให้มิสเตอร์ต้นเฉยๆ" รู้สึกงุนงงและเสียใจเล็กๆ ที่ไม่มีใครดูจะดีใจกับเขาเลยที่ได้เพื่อนที่นิสัยดีมากๆๆ ขนาดนี้ "แล้วสมิทล่ะ?"
"อยู่กับแฟนที่สนามฟุตบอล รู้สึกว่าจะไปกินลั้นช์กันแบบสองต่อสองน่ะ" เจนนี่ตอบ "แล้วนี่นายกินอะไรรึยัง? ช่วงบ่ายมีประชุมกันเรื่องวันฮาโลวีนนะ เผลอๆ นายอาจจะได้ซ้อมแสดงด้วย คงจะหาทางปลีกตัวไปกินขนมยาก"
"แย่จัง" ทอมบ่นอุบหน้าตูม การไม่ได้กินขนมช่วงบ่ายนี่ถือว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายมากสำหรับทอม "ฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย กะว่าจะมาแฮฟลั้นช์กับมิสเตอร์ต้นน่ะ!"
"น่าเสียดายที่มิสเตอร์ต้นกินเสร็จแล้วล่ะ ทอม" แซมพยักเพยิดไปทางร่างสูงที่ตอนนี้เดินออกจากโรงอาหารไปแล้วโดยทิ้งเสื้อสูทที่ทอมให้ทั้งความรักและความจริงจังไว้บนโต๊ะ
"...อือ"
ทอมไหล่ลู่ลงอย่างผิดหวัง ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจจะชวนมิสเตอร์ต้นมาร่วมโต๊ะกับเขาแท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในกลุ่มจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ แปลกนะ ที่ทุกคนไม่ชอบมิสเตอร์ต้นแต่เขากลับรู้สึกชอบและดีใจมากๆ ที่ได้เป็นเพื่อนด้วย
"เอาล่ะ งั้นก็นั่งกันสักที ฉันหิวจนจะตายอยู่แล้ว" วินหาวหวอดแล้วไปนั่งที่โต๊ะประจำกลุ่มซึ่งเป็นโต๊ะจากไม้สักแท้และมีผ้าปูโต๊ะสีสะอาดปูเอาไว้ แน่นอนว่านอกจากกลุ่มของทอมแล้วก็ไม่มีใครมากล้ามาแย่งนั่ง
ทอมลากขาหนักๆ มานั่งที่โต๊ะ วางไวโอลีนไว้ข้างกายและฟุบลงด้วยหัวใจอันรวดร้าว
เขามันแย่ แย่มากๆๆ สุภาพบุรุษที่ไม่สามารถรักษาคำพูดของตัวเองไม่ได้อย่างเขามันสมควรตาย! ทั้งๆ ที่รับปากไว้แล้วว่าจะให้มิสเตอร์ต้นมานั่งด้วยแต่กลับทำไม่ได้
ทอมเงยหน้ายกมือกุมอก รู้สึกเจ็บและชา
"ไอฟีลฮาร์ตเบรก" ทอมครวญครางอย่างเจ็บช้ำแล้วหันไปหาแจนนี่ที่เพิ่งไปหยิบจานสเต็กปลาดอลลี่ซอสมะนาว เมนูพิเศษสำหรับวันนี้ "แจนนี่ ถ้าผมตาย ฝากบอกมิสเตอร์ต้นด้วยว่าผมดีใจที่ได้เขาเป็นเพื่อน"
"...นายจะไม่ตายเพราะความผิดหวังหรอก มิสเตอร์ต้น" หญิงสาวหัวเราะร่วนแล้ววางจานตรงหน้าทอม "เอ้า! ปลาดอรี่ของโปรดของนาย รีบๆ กินจะได้ไปกินของหวาน คุณชาย"
"ดอลลี่ต่างหาก! ฉันไม่ใช่คนใจร้ายกินดอรี่ลงหรอกนะ" ทอมหน้ายู่แล้วหั่นกินอย่างว่าง่าย อย่างไรก็ตามการแสดงผีเสื้อร่ายรำนี่กินแรงมากจริงๆ "แจน คุณก็ไม่ชอบมิสเตอร์ต้นเหมือนกันเหรอ" ทอมถามเสียงหงอยๆ ขณะเดียวกันสายตาก็แช่อยู่ที่วินที่กำลังตักสลัดอยู่ที่สลัดบาร์ ใบหน้านิ่งงันที่ซุกซ่อนความเฉลียวฉลาดเอาไว้มากดูจะอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่ ถ้าให้เดาก็คงเป็นเรื่องมิสเตอร์ต้น
"ทอม ถ้านายยังไม่ลืม กลุ่มของเราเกิดขึ้นตอนที่เราขึ้นม. ต้น"
"ใช่ๆ ตอนนั้นฉันชอบใส่เสื้อฮู้ดดี้กระต่ายสีดำมากเลย โซคิวท์สุดๆ ถ้าแด๊ดไม่บอกว่ามันปัญญาอ่อน ฉันก็คงไม่เลิกใส่หรอก ทำไมกัน ทำไมแด๊ด ถึงไม่เห็นความคิวท์ของกระต่าย มันน่ารักมากๆ เลยนะ"
"นั่น ไม่ใช่ประเด็นเว้ย ทอม" แจนกดเสียงเข้ม เธอก็จริงจังเรื่องนี้เหมือนกัน "เพราะเราเป็นท็อปไฟว์ที่รวยที่สุดในโรงเรียนต่างหาก ครูใหญ่ประกาศชื่อพวกเราแล้วยกโต๊ะนี้ให้เราไง! นั่นแหละจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของเรา แล้วนายคิดยังไงจะเอานักเรียนทุนคนนั้นมานั่งกลุ่มเรา รู้ไหมพวกชมรมหนังสือพิมพ์นั้นไปสืบมาแล้วว่าต้นน่ะ จนมาก ไม่เคยจ่ายค่าเทอมหรือค่าอะไรสักอย่างของโรงเรียนเราเลย!"
ทอมทำหน้าช็อคและนั่นก็คือสิ่งที่แจนนี่ต้องการ แจนนี่กำลังจะยิ้มและเกลี้ยกล่อมทอมให้เลิกยุ่งกับต้นซะก็ต้องสะดุ้งหน้าซีดเผือด
"ฮึก.. โซแซด โอ้ ก้อดดดด ฮือออ"
"ทอม นายร้องไห้ทำไม หยุดร้องสิ" หญิงสาวผวาเฮือกรีบปลอบอันดับหนึ่งของโรงเรียนนี้ ไม่เช่นนั้นถ้ามีใครไปฟ้องแด๊ดของเจ้าตัว ชีวิตของหล่อนนี่คงไม่สนุกเท่าไหร่แน่
วินที่กำลังตักสลัดบาร์รีบยกสลัดกับมาที่โต๊ะด้วยความเร็วแสง
"เฮ้ ทอมร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรนาย!" ถึงแม้วินจะมีท่าทีค่อนข้างเย็นชากับคนอื่นแต่ลึกๆ แล้วเป็นห่วงทอมไม่น้อย ออกจะเอ็นดูเหมือนลูกมากกว่า ถ้าใครสนิทกับทอมจะรู้ดีว่าเจ้าตัวนั้นมองโลกในแง่ประหลาดมากจนน่าปวดหัว ถ้าทอมชอบใครก็จะเข้าไปตีสนิทด้วยแต่ถ้าไม่ชอบใครก็จะไม่คุยด้วยเลยเหมือนไม่เห็นอีกฝ่ายบนโลกใบนี้ เรียกได้ว่าย้อนแย้งแบบสุดๆ จนเจ้าพวกชมรมหนังสือพิมพ์ใส่ฉายาเล่นๆ ว่าจอมหยิ่งในฉบับนึง
"ฮึก ผมกำลังรู้สึกแย่มากๆ ถ้าขืนผมยังนั่งมีความสุขแบบนี้ต่อ ผมคงต้องรู้สึกแย่ไปจนตายแน่ๆ" ทอมฟูมฟาย "ผมจะช่วยมิสเตอร์ต้นเอง! ต่อให้ทุกคนจะเกลียดผม ผมก็ช่วยมิสเตอร์ต้น!"
ทอมผลุดลุกขึ้นยืนหยิบไวโอลีนกับจานตัวเองวิ่งแถ่ดๆ ออกจากโรงอาหารไป
"…"
"เอาไง?" แซมที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยถามเสียงกวนๆ "บอกเลยนะว่าฉันยังไงก็ได้แล้วแต่ทอม พวกนายก็รู้ว่าหมอนั่นเวลาถูกใจใครแล้วเปย์ขนาดไหน อีกอย่างฉันก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไรถ้ามิสเตอร์ต้นอะไรนั่น มานั่งกินข้าวด้วย"
หญิงสาวเริ่มหน้าบึ้ง"แต่นายก็รู้นี่ว่ากลุ่มเรามีคอนเซ็ปต์ตลอดกาลว่าอะไร"
"รวยไม่เลิกอะไรนั่นน่ะนะ ไร้สาระสิ้นดี ทอมบอกให้เปลี่ยนเป็นรวยแล้วรักดอรี่ไม่ใช่เหรอ" แซมตอบเบื่อๆ
วินกระแอมเสียงแข็งดันกรอบแว่นขึ้นอย่างหงุดหงิด "แต่ยังไงฉันก็ไม่โอเคว่ะ" มือที่กำส้อมกำแน่นจนข้อมือปูดเห็นเส้นเลือด
"ใครจะไปรู้ มิสเตอร์ต้นนั่นอาจจะตั้งใจจะหลอกเอาเงินทอมก็ได้! พวกนายไม่เห็นภาพในไลน์รุ่นรึไง มิสเตอร์ต้นบ้าอะไรนั่น จ้อง
ทอมเหมือนคิดอะไรไม่ซื่อเลย อีกอย่างนะ ฉันเคยได้ยินว่าถ้าคนเราเข้าตาจนจริงๆ อาจจะทำเรื่องบ้าๆ ก็ได้!"
ปัง!
มือหนาทุบโต๊ะเสียงดังลั่น
"และฉันในฐานะพ่อของทอม ฉันจะไม่ให้ไอ้มิสเตอร์ต้นบ้านั่นทำอะไรทอมเด็ดขาด!!"
ฮัดชิ้ว!
ทอมจามเสียงดังแล้วสะบัดหัวเล็กๆ ไปมา
"ต้องเป็นมิสเตอร์ต้นแน่ๆ เลย ที่คิดถึงผม!"
พูดเองเออเองก่อนที่จะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหามิสเตอร์ต้นที่นั่งหลับตาอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้
กึก
ทอมวางจานกับไวโอลีนแล้วนั่งตรงข้ามมิสเตอร์ต้น
"มิสเตอร์ต้น!"
ทอมยิ้มกว้าง "ผมมาหาคุณแล้ว! คุณจะไม่รู้สึกแดดเดียวอีกแล้ว!"
"…"
ร่างหนาค่อยๆ ลืมตาตัวเองขึ้นอย่างช้าๆ เอาเข้าจริงไม่ต้องลืมก็รู้ว่าใครนั่ง พอเห็นสีหน้าระริกระรี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวแล้วหลับตาต่อ
"..เฮ้ออออ"
"ถอนหายใจมากไม่ดีนะมิสเตอร์ต้น! มันทำให้อายุสั้น ตายไวเหมือนแมงหวี่เลยล่ะ"
ว่าแต่เมื่อไหร่เขาจะสลัดหมาน้อยตัวนี้หลุดสักที!
-----------
มาแล้ววว รอบนี้ไม่ดองยาว
น้องทอมน่ารักน่าหยิกมาก
อยากบี้ๆๆ น้องมากเลย 555