ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook
ติดตามผลงานอื่นๆ ได้ที่...
(https://uppic.cc/d/K2KH) (https://uppic.cc/v/K2KH)
twitter : https://twitter.com/foggytimenaja
FB : https://www.facebook.com/FoggyTime/
#มิสเตอร์ต้นโซคูล
[/size]
ตอนที่ 11 : คอร์สติวภาษาไทยกับมิสเตอร์ต้น
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเพราะเพียงแค่ชั่วพริบตาก็เป็นวันศุกร์ซะแล้ว หนำซ้ำทอมยังมาถึงบ้านมิสเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
“นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสินะ ที่ผมได้มาบ้านมิสเตอร์ต้น!”
ทอมเคยตื่นเต้นยังไงตอนนี้ก็ยังตื่นเต้นยังงั้น ดีใจสุดๆ ที่ได้มาเยี่ยมเยียนบ้านมิสเตอร์ต้นอีกแม้ว่าจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้จะคือการติววิชาที่ทอมเกลียดที่สุดก็ตาม
และแน่นอนว่าการมาครั้งนี้ทอมมาด้วยสถานะที่เปลี่ยนไป
จากเบสเฟรนด์เป็นบอยเฟรนด์…
ทำให้มิสเตอร์ต้นได้ตระเตรียมอะไรบางอย่างไว้ให้ทอมด้วย
“โด่ง!! บ้านมิสเตอร์ต้นมีโด่งแล้ว!!” ทอมตาโตพูดออกมาด้วยความดีอกดีใจ “ผมจะได้แช่โด่งแล้ว!”
“โอ่ง ทอม อีกอย่างเขาไม่ได้ให้แช่ เขาให้ตักอาบ”
ต้นแก้ให้ทอมยิ้มๆ รู้สึกหายเหนื่อยที่อุตส่าห์ไปขอมาจากลุงข้างบ้านที่รู้จัก ซึ่งมันก็หนักมากแต่ก็ช่วยไม่ได้ อยากเอาใจเด็กอนุบาลก็เลยยอมทนเหนื่อยดู ดีหน่อยที่โอ่งอันนี้ไม่ใหญ่มาก
“งั้นอันนี้ก็คือคันใช่ไหมมิสเตอร์ต้น!”
ทอมหยิบขันสีฟ้าขุ่นๆ ขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ขัน” ต้นพยายามแก้ให้แต่ทอมก็ไม่สนใจอยู่ดี ถ่ายรูปโอ่งไปอวดพ่อไม่หยุดราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าในพิพิธภัณฑ์ ทั้งๆ ที่มันเป็นแค่โอ่งที่เคยใช้เลี้ยงปลาหางนกยูงเท่านั้น
“มิสเตอร์ต้น ผมดีใจมากๆ เลยที่มิสเตอร์ต้นใจดีกับผมขนาดนี้”
ทอมน้ำตารื้นถลาวิ่งเข้ากอดมิสเตอร์ต้น รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตัวเองได้รู้จักกับมิสเตอร์ต้น ไม่อย่างนั้นโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสามัญชนทั่วไป เขาคงจะหาจากที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ !
“อย่าเวอร์น่า ไปเปลี่ยนชุดไป เดี๋ยวพาไปกินขนม”
ต้นหัวเราะแล้วแย่งกระเป๋านักเรียนทอมมาถือ และลากเด็กอนุบาลไปปล่อยไว้ในห้องน้ำให้เปลี่ยนชุด ส่วนตัวเองก็มาเปลี่ยนข้างนอกโดยหยิบเสื้อสีดำที่ตากๆ ไว้มาใส่
รออยู่สักพัก ทอมก็เปลี่ยนเสื้อเสร็จ เป็นชุดเสื้อกางเกงขาสั้นที่แค่เห็น ต้นก็เผลอกลืนน้ำลายเอือก
เด็กอนุบาลนี่แต่งตัวเก่งเป็นบ้า
“ไปกันเถอะ มิสเตอร์ต้น! ผมพร้อมจะผจญภัยแล้ว!”
ทอมตอนนี้แทบอยู่ไม่สุข ตื่นเต้นขั้นสุดที่จะได้ไปเที่ยวกับมิสเตอร์ต้น ถึงจะไม่รู้ว่าที่ไหนก็เถอะ แต่เขาก็สัมผัสได้ว่ามันต้องสนุกและน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ
“ทอม”
“อะไรเหรอ มิสเตอร์ต้น” ทอมเอียงคอเดินไปหามิสเตอร์ต้นงงๆ ก่อนที่จะหน้าแดงเถือก ตอนที่มิสเตอร์ต้นก้มลงมาหาตัวเอง และ ‘กินปาก’ อีกแล้ว!
“อื้อ”
ทอมหลับตาหยีไม่กล้าลืมตามองมิสเตอร์ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มิสเตอร์ต้นทำ และมันก็ทำให้เขารู้สึกแปลกมากๆ ด้วย
“..มิสเตอร์ต้น”
ทอมที่โดนมิสเตอร์ต้นกินปากจนแข้งขาอ่อน พึมพำเรียกมิสเตอร์ต้นเสียงแผ่ว
“ว่า”
ต้นตอบ ทั้งๆ ที่ยังคลอเคลียอยู่ซอกคอทอม ยังคงติดใจสัมผัสนุ่มนิ่มของเด็กอนุบาลที่โคตรจะเชิญชวนให้เขาลองชิมทอมทั้งตัว แต่ติดที่ว่าเขากลัวจะทำเด็กอนุบาลร้องไห้ตอนช่วงหลังนอนโป๊เนี่ยแหละ
เพราะเขาโคตรจะมั่นใจเลยว่าทอมมันต้องตกใจมากแน่ๆ
“คราวหลังถ้ามิสเตอร์ต้นจะคิสผม มิสเตอร์ต้นต้องขออนุญาตผมก่อนนะ”
ทอมก้มหน้างุดหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบตากับมิสเตอร์ต้นด้วยความขวยเขิน
ทั้งๆ ที่เคยคิดว่าการกินปากนั้นจะน่ากลัวมาก แต่ความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด หนำซ้ำมันยังทำให้หัวใจเขาเต้นแรงมากๆ ด้วย
“ทำไม?”
ต้นถามด้วยความงุนงง เพราะปกติทอมก็ยอมง่ายๆ ทุกครั้ง ถึงจะขัดขืนนิดๆ ก็เถอะ แต่นั่นก็ไม่นับว่าเป็นการขัดขืนหรอก ในเมื่อสุดท้ายทอมก็ดูจะแฮปปี้กับมันอยู่ดี
“มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ”
“ปกติน่า นายก็แค่เขิน”
“แต่ แต่ผมรู้สึกแปลกมากเลยนะ มิสเตอร์ต้น” ทอมพยายามอธิบายอาการแปลกๆ ของตัวเองให้มิสเตอร์ต้นฟังด้วยความจริงจัง ราวกับว่ามิสเตอร์ต้นนั้นเป็นแพทย์สักคนที่สามารถวินิจฉัยอาการของตัวเองได้ “ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย! มันหวิวๆ แปลกๆ เหมือนกับตอนที่ผมเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์เลย แล้วหัวใจผมก็เต้นแรงมากๆ ด้วย ผม ผมไม่สบายรึเปล่า มิสเตอร์ต้น”
หลังจากพูดจบทอมก็พยายามเค้นข้อมูลทุกอย่างในหัวออกมา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด เพราะในหัวทอมช่วงนี้ก็มีแต่เรื่องมิสเตอร์ต้นกับภาษาไทยของมิสซิสสมศรีเท่านั้น ทอมจึงคิดอะไรไม่ออก แล้วคิดเองเออเองว่าตัวเองอาจจะไม่สบาย แล้วที่สำคัญคือตรงนั้นของเขาก็รู้สึกแปลกๆ ด้วย!
แน่นอนว่าทอมไม่ได้บอกอาการทั้งหมดของตัวเองออกไป เพราะยังรู้สึกเขินมิสเตอร์ต้นอยู่ ถึงจะได้เป็นบอยเฟรนด์กันแล้วก็เถอะ แต่เขาก็ไม่กล้าบอกทุกเรื่องกับมิสเตอร์ต้นหรอก
“..ฉันว่าฉันรู้นะ”
ต้นกระพริบตาปริบงุนงงอยู่สักพักก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ของทอมอย่างรวดเร็ว ว่าทอมนั้นเป็นอะไรกันแน่ และมันก็ยังเป็นอาการเดียวกับเขาซะด้วย
“จริงเหรอ มิสเตอร์ต้น! ผมเป็นอะไรเหรอ”
“…เดี๋ยวฉันบอกตอนดึกๆ แล้วกัน”
เห็นหน้าซื่อๆ ของทอม ต้นก็พูดอะไรไม่ออก ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่โคตรธรรมชาติเลย แล้วเขากับทอมยิ่งเป็นวัยกลัดมันด้วย นิดๆ หน่อยก็ขึ้นแล้ว แต่ทอมมันเด็กอนุบาลไง จะให้เขาพูดตรงๆ ก็กระดากปาก
ให้รู้ทีเดียวตอนดึกเลยดีกว่า
“แต่ผมอยากรู้เลยนี่นา”
ทอมบ่นอุบ
“ถ้าบอกตอนนี้ ไม่พาไปกินขนมนะ”
แน่นอนว่าพอมาคบกันได้สักพัก ต้นก็เริ่มจับทางทอมได้ว่าทอมชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ซึ่งของหวานก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทอมที่จะขาดไปไม่ได้เลย จนเขาแอบกลัวว่าทอมอาจจะได้ตัดขาก่อนเรียนจบม.ปลาย เพราะกินหวานมากเกินไป
“มิสเตอร์ต้นขี้โกง!”
ทอมโวยวายหน้ายู่
“เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้เองน่า ทอม เชื่อฉันเถอะว่านายยังไม่อยากรู้ตอนนี้หรอก”
ต้นพยายามตะล่อมทอมให้ออกไปกินข้าวกินขนมก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้าคืนนี้เกิดอะไรขึ้นจริงๆ แล้วทอมร้องไห้ เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดเกินไปนัก
“ยิ่งพูดอย่างนี้ ผมก็ยิ่งอยากรู้สิ”
ทอมบ่นกระปอดกระแปด แต่ก็ยอมเดินแถ่ดๆ ตามหลังมิสเตอร์ต้นไปซ้อนบนเศษเหล็กวิ่งได้ที่ทอมตื่นเต้นจนเลิกตื่นเต้นแล้ว เพราะมันเป็นเศษเหล็กที่สามารถปั่นได้จริงๆ
“มิสเตอร์ต้นๆ ”
“อะไร”
“ผมซื้อจักรยานให้ใหม่เอาไหม”
“มันยังปั่นได้น่า” ต้นขมวดคิ้วมุ่น อย่างไรก็ตามถึงแม้ไอ้จักรยานนี่จะกรังไปหน่อย แต่มันก็เป็นจักรยานคู่บุญเขามาได้สองสามปีแล้ว ก็ต้องผูกพันก็เป็นธรรมดา
“แต่มันใกล้จะเป็นเศษเหล็กแล้วนะ มิสเตอร์ต้น” ทอมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะจักรยานของมิสเตอร์ต้นนั้นส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดน่าขนลุกไม่หยุดเลย แม้แต่ตอนนี้ก็ยังส่งเสียงน่ากลัวอยู่ “ผมยังไม่อยากให้มิสเตอร์ต้นได้รับเอ่อ.. อุบาสิกา? ใช่ อุบาสิกา!”
ทอมพูดเสียงดังลั่นด้วยความมั่นใจ เพราะคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินแม่ตัวเองพูดมาก่อน
ต้นที่ปั่นๆ อยู่แทบจะชนกับต้นไม้ข้างทาง
“อุบัติเหตุก็พอ ทอม ตอนนี้ฉันจะได้ตายเพราะนายแทนเนี่ยแหละ” ต้นหลุดขำพรืดใหญ่ออกมา เพราะรอบนี้คำผิดของทอมคือไปไกลมาก แล้วเป็นคำผิดที่อาจจะทำให้เขาไม่ได้ขึ้นสวรรค์ซะด้วย
“มิสเตอร์ต้น! ไม่ตลกเลยนะ ผมพูดเพราะเป็นห่วงมิสเตอร์ต้นนะ”
คนโดนขำหน้าเสียและน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ
“โอเคๆ เดี๋ยวเงินเดือนออกรอบหน้า ฉันไปซื้อใหม่ก็ได้ พอใจนายไหม ทอม”
“ให้ผมซื้อให้ใหม่ให้ก็ได้ ผมอยากซื้อทุกๆ อย่างให้มิสเตอร์ต้นเลย ทั้งจักรยาน ทั้งชุดนักเรียน ถ้ามิสเตอร์ต้นอยากได้อะไร มิสเตอร์ต้นบอกผมได้นะ”
แน่นอนว่าทอมไม่เข้าใจความลำบาก เพราะไม่เคยสัมผัสความลำบากมาก่อน ตลอดชีวิตอยู่แต่ในสังคมที่ร่ำรวย พ่อแม่เลี้ยงดูด้วยความพรั่งพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะสามารถปรนเปรอให้กับทอมได้ หนำซ้ำยังเป็นลูกคนเล็กอีก ทอมจึงโดนโอ๋สุดๆ เมื่อเทียบกับพี่ชายคนโตที่ถูกเลี้ยงอย่างเคี่ยวเข็ญเพื่อที่จะประธานบริษัทต่อจากพ่อในอนาคต
การที่ได้มารู้จักมิสเตอร์ต้นสำหรับทอมก็เหมือนกับการเรียนรู้โลกใบใหม่อีกใบ ที่ทอมคงไม่มีวันได้โอกาสลงมาสัมผัสมันง่ายๆ
ทอมจึงพยายามอย่างที่สุดเท่าที่ตัวเองจะคิดออก ใจจริงแล้วเขาอยากให้แบ่งเงินค่าขนมของตัวเองให้มิสเตอร์ต้นด้วยซ้ำ มิสเตอร์ต้นจะได้ไม่ต้องมาทำงานเหนื่อยๆ ทุกวัน
“ขอบใจนะ ทอม” ต้นเว้นจังหวะไปสักพักเพื่อควบคุมอารมณ์และพูดประโยคต่อไป “แต่ไม่เป็นไร”
“ทำไมล่ะ มิสเตอร์ต้น มิสเตอร์ต้นไม่ต้องเกรงใจนะ เพราะผมเต็มใจให้ ผมมีเงินเก็บเยอะแยะเลยที่ไม่ได้ใช้ ผมสามารถแบ่งมันให้กับมิสเตอร์ต้นได้นะ! ถ้ามิสเตอร์ต้นต้องการ”
“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง ทอม”
ต้นพยายามอย่างยิ่งที่ในการตอบทอมด้วยน้ำเสียงปกติ ซึ่งก็โชคดีที่ถึงร้านนมปั่นหน้าปากซอยพอดี ต้นจึงพา ทอมมานั่งโต๊ะว่างที่เหลืออยู่โต๊ะนึงพอดีโดยไม่ลืมที่จะสั่งเมนูหวานๆ ที่ทอมน่าจะชอบสักสองสามเมนูกับป้าเจ้าของร้าน
“ทำไมถึงไม่เป็นไรล่ะ มิสเตอร์ต้น”
ทอมเท้าคางบนโต๊ะพับสีแดงสดขณะเดียวกันก็มองทิชชู่สีชมพูที่อยู่บนโต๊ะอย่างสนใจ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนและอดใจไม่ได้ที่จะหยิบมาเล่น
“ฉันไม่ใช่ขอทาน”
“ผมก็ไม่ได้มองว่ามิสเตอร์ต้นเป็นขอทานซะหน่อย” ทอมละสายตาจากกระดาษมามองมิสเตอร์ต้นทันที ก่อนที่จะพบว่ามิสเตอร์โซคูลของตัวเองนั้นมีสีหน้าไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัด
มิสเตอร์ต้นกำลังโกรธ..
ทอมกระพริบตาปริบไม่เข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่
“แต่ที่นายกำลังทำอยู่คือทำเหมือนกับฉันเป็นขอทาน”
ต้นรู้ว่าตัวเองกำลังพาลใส่ทอม แต่เขาก็อดไม่ได้จริงๆ เพราะเรื่องนี้ก็เหมือนแผลในใจมาตลอด ไม่ว่าใครมาสะกิดมันก็ทำให้เขาโกรธทั้งนั้น ต่างกันแค่โกรธมากโกรธน้อยก็เท่านั้น
“ผม ผมขอโทษ มิสเตอร์ต้น ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ทอมลนลานพูดก้มหน้างุด เผลอขยำทิชชู่สีชมพูในมือจนยับยู่ยี่โดยไม่รู้ตัว
“ร้องไห้ทำไม เดี๋ยวพ่อนายก็ส่งคนมาฆ่าฉันหรอก”
“..ฮึก ก็ผมทำมิสเตอร์ต้นโกรธ”
ทั้งๆ ที่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดแล้วทอมก็กลั้นไม่ได้อยู่ดี เมื่อมิสเตอร์ต้นแย่งทิชชู่ในมือมาซับน้ำตาให้กับตัวเอง
“ผมขอโทษนะที่ทำให้มิสเตอร์ต้นคิดแบบนั้น แต่ผมหวังดีกับมิสเตอร์ต้นจริงๆ นะ”
ทอมฟูมฟาย เพราะเขาก็แค่อยากให้มิสเตอร์ต้นมีเหมือนที่ตัวเองมีก็เท่านั้นเอง ไม่ได้อยากอวดรวยหรือเห็นมิสเตอร์ต้นเป็นอะไรทั้งนั้น
“ฉันรู้น่า ทอม เด็กอนุบาลหัวใจดอรี่อย่างนาย คิดร้ายกับใครไม่เป็นหรอก”
ต้นลูบหัวทอม และถอนหายใจเหนื่อยๆ ก่อนที่จะหันไปรับนมชมพูสีหวานจ๋อยที่เดาเอาเองว่าทอมน่าจะไม่เคยกินมายัดปากทอม
“กินซะ สั่งมาให้”
“ฮื้อ อร่อยจัง มันคืออะไรเหรอ มิสเตอร์ต้น”
ทอมที่เป็นคอของหวานถึงกับลืมไปสักพักว่าตัวเองเพิ่งร้องไห้ไปเมื่อกี้ เมื่อค้นพบว่าตัวเองได้เจอของหวานชนิดใหม่ที่อร่อยมากๆ แล้ว
“นมเย็นไง”
ต้นบอกยิ้มๆ ไม่แปลกใจนักที่ทอมไม่รู้จัก ขนาดหมูปิ้งห้าบาทข้างทางทอมยังไม่รู้จักเลย นับประสาอะไรกับเครื่องดื่มสีหวานแบบนี้
“ทอม”
“อะไรเหรอ มิสเตอร์ต้น”
ทอมถามด้วยน้ำเสียงหวานจ๋อย เพราะนมชมพูหวานมาก
“นายอยากรู้เรื่องครอบครัวฉันรึเปล่า”
“ถ้ามิสเตอร์ต้นไม่สบายใจที่จะเล่า ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ ผมเข้าใจ”
นัยน์ตาสีฟ้าสดใสของทอมหม่นลงนิดๆ
“ผมไม่อยากทำให้มิสเตอร์ต้นโกรธอีก”
“ใครจะไปโกรธเด็กอย่างนายลงวะ ทอม” ต้นหยิบนมปั่นตัวเองมาดูดบ้าง และตัดสินใจเล่าเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้ใครมาฟังมาก่อนให้กับทอมฟัง
เอย่างน้อยๆ เขากับทอมก็เป็นแฟนกัน และเขาก็อยากให้ทอมรู้จักตัวเองมากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่รู้แค่ว่าบ้านเขาจนที่สุดในโรงเรียนไฮโซนี่
“จริงๆ บ้านฉันก็ไม่ได้จนมาตั้งแต่แรกหรอกนะ ทอม”
ทอมตาโตด้วยความตื่นตระหนก
“แต่ชมรมข้าวสารเขียนว่าบ้านมิสเตอร์ต้นจนมาเป็นร้อยปีแล้วนะ!”
“แล้วนายก็ไปเชื่อไอ้ชมรมบ้านั่นเนี่ยนะ ไอ้เรื่องล่าสุดที่เขียนว่าฉันเป็นเจ้าชายขี้เหงาเอาแต่ใจแม่งก็โคตรไม่จริงเลย!”
ต้นขบกรามกรอดๆ ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่ทอมไปเชื่อไอ้ชมรมบ้าๆ ที่ชอบทำตัวเป็นปาปารัซซีนี่
“ตอนแรกผมก็นึกว่ามิสเตอร์ต้นโดนคำสาปความจนซะอีก”
ทอมพูดงึมงำคนเดียว แต่ต้นก็ไม่วายแอบได้ยินอยู่ดี ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้บ่นอะไรทอมต่อ เพราะรู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ ที่จะไปเอาอะไรกับเด็ก ม.5 ที่ยังร้องไห้จะเป็นจะตายตอนดอรี่หลงทาง
“เอาเป็นว่าไอ้เรื่องเกี่ยวกับฉันที่นายเคยได้ยินมา ก็โยนๆ มันทิ้งไปก่อนแล้วกัน”
ต้นรู้ดีว่าในโรงเรียนชอบมีข่าวลือแปลกๆ เกี่ยวกับเขา จึงดักทางทอมไว้ก่อน พอเห็นทอมพยักหน้าด้วยความเชื่อฟังจึงพูดต่อ “เมื่อก่อนบ้านฉันก็พอมีเงินบ้างแหละทอม ฉันก็พอได้เรียนโรงเรียนดีๆ บ้าง จนสองสามปีที่แล้วพ่อฉันเผลอไปค้ำประกันเพื่อนแล้วเขาหนีไม่ยอมจ่าย หนี้พวกนั้นก็ตกลงมาที่พ่อฉันแทน”
ถึงแม้จะเล่าถึงเรื่องที่น่าคับแค้นใจจนน่าร้องไห้ แต่ต้นก็สามารถเล่าด้วยสีหน้าปกติจนต้นก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ตัวเองสามารถใจเย็นได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ปกติจะหงุดหงิดแทบตายเมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้
“เรื่องหลังจากนี้นายก็คงจะพอเดาได้”
ต้นหัวเราะเสียงแผ่ว
“เจ้าหนี้พวกนั้นมายึดทรัพย์สินบ้านฉันหมดเลย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพ่อสนิทกับไอ้เพื่อนบ้านั่นขนาดไหน แต่มันไล่ยึดจนฉันแทบจะไม่มีบ้านอยู่ด้วยซ้ำ จนพ่อกับฉันต้องแบกหน้าไปขอยืมเงินคนอื่นมาโปะ แล้วบางคนนอกจากจะไม่ให้ยืมเงินแล้วยังด่าฉันว่าขอทานอีก”
“..มิสเตอร์ต้น”
“ฉันโอเค ทอม มันผ่านมาสักพักแล้ว”
ต้นยิ้มจางๆ ให้ทอมที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซ้ำอีกรอบ
“ตอนนี้ไอ้หนี้พวกนั้นก็หมดแล้วล่ะ แต่พ่อฉันไม่เหลืออะไรแล้ว พวกบ้านที่ซื้อไว้ให้เช่าก็โดนยึดไปหมดแล้ว เหลือแต่บ้านหลังนี้แหละที่ยังพอเหลือให้ฉันซุกหัวนอนบ้าง”
“แล้วตอนนี้แด๊ดของมิสเตอร์ต้นอยู่ไหนเหรอ ผมไม่เคยเจอเลย”
“ไม่รู้สิ คงจะหางานทำอยู่มั้ง” ต้นใช้หลอดคนนมปั่นในแก้วเล่น เมื่อทอมพูดถึงคนที่หายหน้าหายตาไปเลยตั้งแต่ที่ใช้หนี้หมด “แต่ก็ยังส่งเงินมาให้ฉันใช้เรื่อยๆ ”
เอาเข้าจริง แค่พ่อของเขายังไม่เป็นบ้าเพราะเรื่องนี้ไปซะก่อน เขาก็พอใจมากๆ แล้ว เพราะคนที่สูญเสียและเจ็บปวดกับเรื่องบ้านี่ที่สุดก็คือพ่อ
จากที่เคยมีทุกอย่างกลายเป็นสูญเสียทุกอย่างในระยะเวลาไม่กี่ปี มันก็นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรงจริงๆ ไหนจะพิษเศรษฐกิจที่กำลังดาวน์ในช่วงห้าปีนี้อีก ทำให้การใช้จ่ายทุกอย่างนั้นต้องคิดแล้วคิดอีก
แต่อย่างไรข้อตามข้อดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือทำให้เด็กม.ปลาย อย่างเขาต้องโตขึ้นภายในชั่วพริบตา ไม่มีเวลามาเรียนๆ เล่นๆ ในแต่ละวันอีกต่อไป
วันเวลาในแต่ละวันเขาจึงพยายามใช้ให้คุ้มค่าที่สุดไปกับการทำงานพิเศษ เพื่อเก็บเงินไว้เป็นทุนในการเรียนในอนาคต และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเขา ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายยิบย่อยที่เขาไม่รู้ว่าคืออะไร
“มิสเตอร์ต้น ผมพูดจริงๆ นะ”
ทอมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ว่าปากตัวเองจะเลอะสังขยาที่มิสเตอร์ต้นป้อนให้กินเมื่อกี้
“ถ้ามิสเตอร์ต้นมีปัญหาเรื่องเงินให้บอกผม ผมพร้อมที่จะช่วยจริงๆ นะ”
“รู้แล้วน่า ไอ้เด็กบ้านรวย” ต้นหัวเราะและหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้ทอมอย่างเอ็นดู “แค่ที่นายทำให้ฉันตอนนี้ มันก็มากพอแล้วจริงๆ ”
สารภาพตามตรงว่าที่ผ่านมาเขาแทบลืมวิธีการยิ้มด้วยซ้ำ เพราะเรื่องทุกอย่างประดังประเดมาหาเขาเต็มไปหมด จนเขาไม่มีเวลาว่างพอที่จะไปทำอะไรทั้งนั้น นอกจากตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดจากเรื่องบ้าๆ พวกนั้นให้ได้
ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งของเขาก็อาจจะได้มาช่วงนั้น แต่แย่หน่อยที่เจ้าชายอย่างเขาปล่อยน้ำแข็งแบบเอลซ่าอย่างที่ทอมหวังไว้ไม่ได้
หลังจากที่น้ำตาแตกไปหลายรอบ พอได้รับคำชมบ้างทอมก็ยิ้มกว้าง ซึ่งต้นก็คล้ายกับเห็นหูกับหางน้อยๆ ของทอมที่กระดิกไม่หยุด และยิ่งไปกว่านั้นคือทอมกำลังทำหน้าเหมือนลูกหมาที่ชอบทำหน้าทำนองว่า ‘ชมผมอีกสิ เจ้านาย ชมผมอีก!’
“ผมเป็นบอยเฟรนด์ที่ดีใช่ไหมล่ะ มิสเตอร์ต้น!”
“ดีที่สุดในโลกเลย ทอม ฉันมั่นใจว่ามีการจัดอันดับนายต้องได้ที่หนึ่งแน่”
ต้นยอทอมโดยพยายามที่จะไม่หลุดขำ และแน่นอนเด็กวิจารณญาณน้อยอย่างทอม ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจจนแทบจะร้องไห้อีกรอบ
“มิสเตอร์ต้น ผมอยากพามิสเตอร์ต้นไปรู้จักกับแด๊ดผมจัง”
ทอมหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับหางตาตัวเอง
“แน่ใจเหรอว่า ฉันจะไม่ตาย”
ต้นถามหวั่นๆ เพราะหลังจากคบกับทอม ก็ไปสืบๆ มาบ้าง และพบว่าไอ้คนที่มาเจ๊าะแจ๊ะกับทอมมากๆ มักจะถูก ‘เชิญ’ ไปดินเนอร์ที่คฤหาสน์ราคาร้อยล้านนั่น
แน่นอนถึงจะกลับครบสามสอง แต่สภาพจิตใจคือคาดการณ์ไม่ได้ พวกนั้นคือเลิกคุยกับทอมไปเลยแถมยังเข็ดขยาด ถึงขนาดขั้นที่ว่าย้ายโรงเรียนหนีเลยทีเดียว
“ไม่ตายหรอก มิสเตอร์ต้น แด๊ดใจดีจะตาย!” ทอมประท้วง
“ฉันไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมโรงเรียนอื่นหรอกนะ”
“มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก รอบนี้ผมจะเป็นคนปกป้องมิสเตอร์ต้นเอง! ” ทอมยืดตัวและแตะอกตัวเองด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจราวกับว่ามาตราการที่ตัวเองจะเอามาช่วยมิสเตอร์ต้นนั้นสามารถไปช่วยกลุ่มแอดเวนเจอร์กู้โลกได้ “ถ้าแด๊ดกล้าว่าอะไรมิสเตอร์ต้น ผมก็จะงอนแด๊ด!”
“…”
ต้นขมวดคิ้ว เพราะการช่วยของทอม มันดูเหมือนจะช่วยอะไรเขาไม่ได้สักนิด หนำซ้ำยังทำให้แอบรู้สึกไว้อาลัยตัวเองด้วย
ถ้าพ่อทอมรู้เรื่องที่เขาจะทำ ‘จุดจุดจุด’ กับทอม เขาไม่โดนบอดี้การ์ดพวกนั้นจับไปถ่วงน้ำเลยเรอะ จะจับไปเรียกค่าไถ่ พ่อเขาก็คงจะจ่ายได้โทรมาอ้อนวอนให้ไว้ชีวิตเขาอีก
ทำไมชีวิตถึงได้เศร้าแบบนี้วะ
ร่างสูงคิดอย่างหดหู่แล้วเรียกให้ป้ามาเก็บเงิน เนื่องจากบนโต๊ะไม่เหลืออะไรให้กินแล้ว
“ผมจ่ายเอง มิสเตอร์ต้น”
ทอมปัดมือที่ต้นพยายามจะจ่ายเงิน และยื่นเงินตัวเองให้ป้าไป ซึ่งต้นก็ยอมเพราะเห็นแก่ทอมที่ดูอยากจะเปย์เขาเหลือเกิน จนอดคิดไม่ได้ว่าทอมนั้นโคตรเหมือนพวกเด็กแก่แดดที่พยายามเลี้ยงผู้ชายไว้เลย
ซึ่งผู้ชายที่ว่าก็คือเขานะ
ต้นคิดเรื่อยเปื่อย และขึ้นขี่จักรยานที่คงได้ฤกษ์เปลี่ยนเร็วๆ นี้
“รีบกลับกันเถอะ มิสเตอร์ต้น ผมอยากรู้จะแย่แล้ว!”
ทอมไปซ้อนท้ายจักรยานของมิสเตอร์ต้นอย่างรู้งาน และกอดเอวมิสเตอร์ต้นหมับ
“นายมาให้ฉันติวภาษาไทยไม่ใช่เหรอ ทอม”
ต้นพยายามชวนคุย เพราะมือเล็กๆ ของทอมนั้นวางในตำแหน่งที่ซุกซนซะเหลือเกิน หนำซ้ำยังวนกลับไปคุยเรื่องนั้นอีก ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าทอมนั้นลืมไปแล้ว
“ยังไงผมก็เกรดหนึ่งอยู่แล้ว มิสเตอร์ต้น ไม่ต้องติวหรอก”
ทอมที่นั่งซ้อนหลังมิสเตอร์ต้นอยู่นั้นหน้าแดงก่ำ
“ที่ผมมาวันนี้ก็จะมาจุดจุดจุดกับมิสเตอร์ต้นนั่นแหละ!”