◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 301661 ครั้ง)

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook




===============================================================

 ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0


ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


============================================================



อะแฮ่ม อะแฮ่ม! กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน...

เดี๋ยวนะ! ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?
แต่ช่างเถอะ -- เอาเป็นว่าเรื่องนี้มันคือประวัติชีวิตของผมฉบับรวบยอด เป็นเรื่องราวของชายหนุ่ม(หล่อมาก)คนหนึ่งที่หลงเดินทางเข้าไปในโพรงกระต่าย เข้าไปสู่โลกอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ของดินแดนอันลึกลับซับซ้อนซ่อนเงี่ยน

แต่จะว่าไปมันก็ไม่ต่างจากอีกเรื่องราวของชายหนุ่มหน้าตาดี(มาก)ที่ต้องทนทุกกับแม่และพี่สาวใจร้าย ต้องทำงานบ้านหลังขดหลังแข็งเพื่อรอวันจะได้พบกับเจ้าหญิงแสนงามที่เก็บรองเท้าแตะซ้างดาวของเขาได้  แต่ดันกลายเป็นว่าได้พบกับอสูรร้ายซาดิสท์วิปริตขั้นสุดไปเสียนี่

ผมจะรอดพ้นคมเขี้ยวของมันได้อย่างไร หรือว่าในที่สุดผมต้องตกเป็นอาหารอันโอชะของมัน
เดี๋ยวนะ! นี่ผมยังสติดีอยู่รึเปล่าวะเนี่ย?

อะไรนะ?? เอาสั้นๆ ง่ายๆ

โอเชเลย!!

เรื่องนี้คือการเดินทางของผู้ชาย(หน้าตาดีมาก)คนหนึ่ง ที่ดันไป xxx กับผู้ชาย(หน้าตางั้นๆ)คนหนึ่งแล้วดันรู้สึกว่าฟินมาก จนไม่สามารถถอนตัวถอนใจได้

.

สั้นพอมั้ย?

.

ไม่มีปมซ่อนเงื่อน ไม่มีการหักเหลี่ยมเฉือนคม ไม่มีเล่ห์กลให้ลุ้นระทึก โอเคนะ

งงมั้ย? ตามผมทันรึเปล่า?

ถ้าไม่เข้าใจ - ผมยินดีกับคุณด้วย แสดงว่าคุณปกติมาก ผมแนะนำให้หันหลังกลับแล้วรีบโกยไปให้ไว

แต่ถ้าคุณเข้าใจผม - เชิญรับยาที่ช่องสอง แล้วนั่งรอเลยจ้ะ




================================================================


สารบั


ตอนที่ 1  ::  คนดีที่ไม่มีใครเอา
ตอนที่ 2  ::  เมาแล้วหลับ ตื่นปั๊บได้...?
ตอนที่ 3  ::  สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ
ตอนที่ 4  ::  โลกสวยด้วยมือเรา
ตอนที่ 5  ::  คนซื่อย่อมตกเป็นเหยื่อของคนวิตถาร
ตอนที่ 6  ::  ทูนหัวของไก่
ตอนที่ 7  ::  การอภัย คือการให้ที่ใครก็คู่ควร
ตอนที่ 8  ::  กว่าจะเป็นสมภาร [ปุริม]
ตอนที่ 9  ::  กาบหอยแครง(ที่รัก) [ปุริม]
ตอนที่ 10  ::  โลกทั้งใบ ของใครสักคน
ตอนที่ 11   ::  ไก่อ่อนสอนขัน
ตอนที่ 12  ::  ทำไมถึงทำกับฉันได้ [วีรภาพ]
ตอนที่ 13   ::  ห้ามแหย่เสือหลับ
ตอนที่ 14  ::  ความลับไม่มีในโลก
ตอนที่ 15  ::  ในความรักและความจริง มีความโรคจิตซ่อนอยู่
ตอนที่ 16  ::  ฟ้าหลังฝนของคนมีรัก[วีรภาพ]
ตอนที่ 17  ::  บทเรียนสอนไก่ [ปุริม]
ตอนที่ 18  ::  ไก่ตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดไม่มิด?
ตอนที่ 19  ::  เหรียญย่อมมีสองด้าน [ปุริม]
ตอนที่ 20  ::  ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้
ตอนที่ 21  ::  ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม[วีรภาพ]
ตอนที่ 22  ::  เขาใหญ่บันเทิง
ตอนที่ 23  ::  จะรักกันทั้งที ต้องมีสักขีพยาน
ตอนที่ 24  ::  เส้นผมบังภูเขา [ปุริม]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2020 00:09:54 โดย L@DYMELLOW »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ไม่อยากจะเชื่อเลย เรื่องใหม่ด้วยยยยย :hao5:
ตาไม่ฝาดใช่ไหม

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
หืมม เปิดเรื่องใหม่แบบนี้จะรออะไรละคะ นั่งรอรับยาเลยค่ะ ฮาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มารอเพราะชื่อนะเนี่ย ทั้งชื่อเรื่อง กับชื่อคนแต่งเลย  :mew1:

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มารอครับบบบ :hao7:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ปูเสื่อรอเลย

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 1 ...คนดีที่ไม่มีใครเอา


ในโลกที่พัฒนาความสวย ความหล่อไปอย่างก้าวกระโดด แต่บนจุดเล็กๆ บนโลกที่เรียกว่า ‘สะพานควาย’ ก็ยังมีผู้ชายหน้าตาธรรมดาคนนี้เหลือรอดอยู่ ผมรักโลก รักสัตว์ รักเด็กและสตรี เป็นมิตรกับบุรุษ แถมยังเข้ากับผู้สูงวัยได้ไม่ขัดเขิน แม้จะเป็นสโลแกนที่บรรดาเพื่อนฝูงทุกคนอ้วกแตกใส่หน้าทุกครั้งที่ได้ยิน แต่การจะเป็นพระเอกที่ดีได้นั้น ย่อมต้องมีตัวอิจฉาเป็นมารผจญอยู่แล้ว

พัทลุงคือชื่ออย่างเป็นทางการของพระเอกมากความสามารถคนนี้ อายุอานามก็ 25 หยกๆ 26 หย่อนๆ กำลังเคี้ยวเพลินไม่เหนียวเกินไป ส่วนสูงแม้จะไม่มาก ท่ายากอาจจะไม่มี แต่ความเป็นสุภาพบุรุษผมบอกได้เลยว่ามีเต็มเปี่ยมอย่างที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีจากหม่อมพ่อผู้ล่วงลับ นอกจากสโลแกนประจำตัวที่ได้เอ่ยถึงไปแล้วนั้น สิ่งนี้คือข้อเด่นชัดที่สุดที่คิดว่าจะทำให้ผู้หญิงหันมามอง แต่จากระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด...ผมสรุปได้ว่ามันยังไม่ใช่สิ่งที่สาวๆ ต้องการ

 “เลิกกันเถอะนะ”

บรรยากาศภายในร้านกาแฟดูให้ครึกครื้นมาก แต่น้ำตาผมตกข้างในดังเปาะๆ ณ.เวลานี้แม้ลุลาจะมาร้องเพลงอยู่ข้างหูก็คงกอบกู้เศษซากความเศร้าของผมไม่ได้ ทำไมกัน?...วันนี้เป็นวันครบรอบ100วันแท้ๆ มันควรจะเป็นวันที่เราเดินเกี่ยวก้อยหลั่นล้ากรีดกรายไปตามย่านร้านค้า แล้วลงท้ายด้วยการกินมาม่าท่ามกลางแสงเทียนต่างหาก

“ทำไม?...”   ผมถามออกไป เป็นคำถามที่คุ้นชินพอดูถ้าต้องนับว่าแพรไม่ใช่คนแรกที่ผมถาม

“ลุงดีเกินไป”   

“...........”

“แพรขอโทษนะลุง”

ทำไมผู้หญิงถึงคิดว่าการบอกเลิกด้วยคำพูดแบบนี้คือสิ่งที่ผู้ชายรับได้นะ มันเหมือนการตอบข้อสอบผิดแล้วไม่ได้รับการเฉลย เพราะงั้นต่อให้อยากปล่อยผ่านแค่ไหน แต่ความไม่รู้ก็ยังคงฝังอยู่ในสมองไม่คลี่คลายเสียที ทั้งที่ตัวเราเองก็รู้ว่าไม่ได้สั่งสมความดีมากมายอะไรนัก แต่แพรคือคนที่ 7 แล้วในชีวิตลูกผู้ชาย ที่ผ่านเข้ามาและจากไปอย่างรวดเร็ว แต่อย่างน้อยแพรก็ทำสถิติได้ยาวนานกว่าทุกคน

แพรแทบจะไม่กล้ามองหน้าผม อาจจะเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันมาเกือบสามปี และผมก็เป็นฝ่ายเล่นตัวในตอนแรกที่แพรมาขอคบ ผมบอกมันแล้วว่าให้เป็นเพื่อนกันไปแบบนั้นจะดีที่สุด แต่มันก็ไม่ยอมดึงดันจะเอาผมทำผัวให้ได้ แล้วไงล่ะ! สุดท้ายก็เสียเพื่อน แถมแม้แต่ผัวผมก็ยังไม่ทันได้เป็น

“ผู้หญิงชอบคนเหี้ยๆ เหรอ”  มันเป็นคำถามที่ข้องใจผมมานานแล้ว เป็นคำถามที่ผมไม่กล้าถามผู้หญิงเจ็ดคนก่อนหน้านี้ แต่ในเมื่อแพรมันเคยเป็นเพื่อนผมมาก่อนก็จะขอเปิดใจเลยแล้วกัน  “เราสงสัยว่ะ? ต้องเหี้ยแค่ไหนเหรอถึงจะคบกันยืด”

“เอ่อ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะลุง แพรแค่...”  แพรเริ่มอึกอักด้วยความงุนงง มันคงไม่คิดว่าผมจะกล้าถามมันตรงๆ แบบนี้
 
“ก็แพรบอกว่าเราดีเกินไป เราก็เลยอยากรู้ว่าต้องเพิ่มความเหี้ยเข้าไปอีกมากมั้ย?”

“มันไม่เกี่ยวกันหรอกลุง”

“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะในเมื่อเราโดนแพรบอกเลิกด้วยเรื่องนี้ ก็บอกเรามาสิว่าต้องการแค่ไหน ถ้าเหี้ยกว่านี้ได้เราก็จะทำ”  ผมยังต้อนแพรไม่เลิก จนมันทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

แต่แล้วผมก็จำต้องยอมสงบปาก เมื่อสติทำให้คิดได้ว่ามันไม่แฟร์กับแพร แพรก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นก่อนหน้านี้ที่มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่ดีที่สุด แล้วผมก็ไม่เคยถูกสอนให้เมินเฉยต่อน้ำตาผู้หญิง... เพราะแค่เห็นน้ำตาที่เริ่มปริ่มๆ ของมันก็ทำใจผมอ่อนยวบยาบเหมือนฟองน้ำโดนเหยียบ ดังที่หม่อมพ่อบนสวรรค์ได้บอกไว้ว่าน้ำตาของลูกผู้หญิงมีอิทธิฤทธิ์มากเหลือเกินกับสุภาพบุรุษ 

“ช่างมันเถอะแพร...เราเข้าใจแล้ว”

“ลุง...”

“มันไม่ใช่เพราะเราดีเกินไปหรอกใช่มั้ย? แค่เพราะเราไม่ใช่ ต่อให้ดีหรือเหี้ยแค่ไหนมันก็ไม่ใช่อยู่ดี”  ผมพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก ก้มหน้าประมาณ 30 องศาก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมาช้าๆ แหม่~ พระเอกจนตัวเองยังตกใจ

“แพรขอโทษนะ แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ใช่มั้ย”

“ก็อาจจะอะนะ แต่เพื่อนแพรก็เยอะแยะแล้ว ขาดเราไปสักคนคงไม่เป็นไรหรอก”

“ลุง...”  แพรเม้มปากแน่น อย่างน้อยมันก็คงรู้สึกผิดกับผมจริงๆ  “ขอให้ลุงเจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ”

แพรเดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้ทิ้งเงินค่าสมูทตี้ของตัวเองไว้ด้วย หมายความว่าผมต้องเลี้ยงสินะ... ไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ ผมก็มองว่ามันเป็นสิ่งสุดท้ายที่แพรเหลือทิ้งไว้ให้ ผมมองน้ำสีชมพูบ้องแบ๊วตรงหน้าราวกับเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ต่อให้ผมถูกทิ้งแต่ผมก็ยังมีน้ำแก้วนี้เป็นเพื่อน มันยังคงวางอยู่ตรงนั้นและหันลูกเชอรี่มาสบตาผมเงียบๆ ผมเดาว่ามันคงจะอมเปรี้ยวอมหวาน มันน่าจะอร่อยหรืออย่างน้อยก็คงพอถูกปากบ้าง

 ซู้ดดด! ผมคว้าแก้วตรงหน้าขึ้นมาดูดด้วยความคาดหวังว่ารสชาติมันจะเป็นอย่างที่ใจคิด แต่พอลิ้นได้สัมผัสรับรู้รสแล้วก็พบว่า...อืม...มันอร่อยเหมือนกัน แต่มันไม่ถูกปากเรา ต่อให้เกิดเสียดายฝืนกินต่อจนหมดแต่ท้ายที่สุดมันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการอยู่ดี

ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าตัวเองก็ไม่ได้พิเศษไปกว่าความจริงนั้นจะเอื้อมถึงเลย


ผมคิดว่าบางคนก็ยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองคาดหวังไว้จนเกินจะไปเปิดใจให้ยอมรับสิ่งอื่น ไม่อย่างนั้นผมคงไม่โดนทิ้งบ่อยอย่างนี้หรอก ไอ้พวกเพื่อนๆ มันบอกว่าผมเหมือน ‘ปลาร้า’ ที่ถ้าใครไม่ชอบก็ทนไม่ได้แม้แต่กลิ่น แต่ถ้าใครชอบล่ะก็จะขาดไม่ได้อีกเลย ผมเองก็ตามหาคนประเภทหลังมาตลอดแต่ก็ไม่เจอสักที เพราะปลาร้ากลิ่นแรงไปเหรอ? หรือว่ากลัวจะไม่ถูกสุขอนามัย หรือว่าไฮโซเกินกว่าจะกินของดาดๆ แบบนี้ ผมแค่อยากจะเจอใครสักคนที่จะนั่งจกปลาร้าถ้วยนี้แล้วบอกอย่างตรงไปตรงมาว่ารสชาติมันเป็นยังไงกันแน่

“จะนั่งหงอยไปทำไมวะ เจ็ดครั้งแล้วนา ชินสักทีเหอะ”

วาจากกระทบกระเทียบข้างตัวทำให้ผมต้องหมุนเก้าอี้ที่นั่งอยู่เพื่อไปเผชิญหน้ากับมัน ไอ้โป้ยเพื่อนยากกำลังนั่งกระดิกตีนมองดูผมด้วยความหยามเหยียด ใช่สิ! มึงหล่อ มึงรวย แถมยังเหี้ยด้วย เลยมีสาวมาขอเป็นตัวเลือกไม่ขาดมือ ส่วนผมน่ะกว่าจะได้มาแต่ละคนแทบจะต้องบนบานศาลกล่าวกัน แล้วสุดท้ายเป็นไง...พวกมันก็ไม่เลือกกูกันสักคน

“เออ!”   ผมกระแทกเสียงใส่มันอย่างยอมจำนน ก็ไม่รู้จะปิดบังรักษาหน้าตากับมันไปทำไม ในเมื่อมันเป็นเพื่อนที่คอยอยู่สมน้ำหน้าผมมาตั้งแต่โดนทิ้งครั้งแรกสมัยยังนุ่งกางเกงขาสั้น   “กูดีเกินไป ถามจริงเหอะว่าแพรมันไม่รู้สันดานกูเลยเหรอ หรือว่ามันขอคบกูที่หน้าตาวะ”

“กูไม่คิดว่ามึงจะมั่นหน้าตัวเองได้ขนาดนี้นะ”

“เชี่ย!”   ผมสาดคำขอบคุณใส่มันแล้วตัดสินใจกลับมานั่งทำงานต่อ ไม่อยากจะใส่ใจมันให้มากนัก คนที่มักเป็นฝ่ายทิ้งอย่างมันจะมาเข้าใจหัวอกคนมีบาดแผลอย่างผมได้ยังไง

“มึงอ่ะเป็นคนทุ่มเทเพราะงั้นก็เลยไม่ชอบขัดใจแฟน แต่ผู้หญิงนะเว่ย ยังไงก็ต้องการช้างเท้าหน้าอยู่แล้ว”   ไอ้โป้ยเริ่มยกประเด็นที่ผมเห็นว่าโคตรธรรมดาขึ้นมา

มันผิดตรงไหนเหรอที่จะตามใจแฟน มันผิดด้วยเหรอที่จะไว้ใจจนไม่ตามไปหึงไปหวงให้รบกวนสมอง แค่อยากไปไหนก็บอกมา จะไปด้วยกันหรือจะไปกับใครผมก็ไม่เคยมีปัญหาอยู่แล้ว เพราะคนเป็นแฟนกันก็ควรจะต้องเชื่อใจกันไม่ใช่หรือไง แล้วอีกอย่าง--ผู้หญิงส่วนมากก็ชอบที่ถูกตามใจทั้งนั้นนี่นา

“แล้วมันไม่ดีตรงไหนวะ”   ผมเริ่มหันมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้วยความสนใจเต็มที่ โดยละทิ้งหน้าที่การออกแบบโบรชัวร์ของสมนึกเบเกอรี่ไว้ชั่วคราว   “กูก็แค่ให้เกียรติที่อุตส่าห์มาคว้ากูไปเป็นแฟน”

“มึงเยอะไปไง”   ไอ้โป้ยเล่นมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า   “ผู้หญิงเขาต้องการความพอดีนะครับ”

“ไม่จริงอ่ะ!”   ผมเถียงเสียงเข้มพร้อมกับเบ้หน้าประกอบ   “กูว่าผู้หญิงแม่งหาความพอดีไม่ได้ที่สุดในจักรวาลแล้ว เรื่องเงิน เรื่องกิน เรื่องสารรูป ยิ่งพอมาวกเข้าหาเรื่องความรักนะ กูไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแม่งรู้จักคำว่าพอดีเลยสักคน”

“เด็กกูแต่ละคนไม่ยักกะมีปัญหาเรื่องนั้นนะ กูชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ตลอด”

“มึงได้หน้าตากับเงินในกระเป๋าไงโป้ย ถ้ามึงเอาเงินล้านมาโบกตรงหน้ากูตอนนี้นะ กูก็ยอมเห็นขี้เป็นขนมถ้วยฟูเหมือนกัน”

“สบประมาทกูมากไอ้ลุง หน้าตากับเงินมันสำคัญมากนะกูจะบอก”

“แล้วจิตใจล่ะวะ! มันไม่สำคัญงั้นสิ”   แม่ง~ พูดแล้วสะเทือนกรวยไต

“เอางี้นะ มึงว่าในออฟฟิศเราใครป๊อบที่สุด”

ผมส่งสายตาไปให้เพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าบ้าง   “มึงคงไม่ได้อยากจะให้กูตอบว่ามึงใช่มั้ย?”

“ส้นเถอะ เอาที่มึงคิดว่าหญิงเยอะที่สุด หล่อที่สุดจนมึงไม่อาจทาบหนังหน้าได้ติดอ่ะ”

อืม...ผู้ชายคนไหนเหรอที่ผมคิดว่าหล่อ จะเป็นพี่กรหุ้นส่วนใหญ่ก็ใช่ รายนั้นเป็นดาราเล่นหนังเล่นละครด้วยนี่นา หรือว่าจะเป็นพี่ริช HRสารพัดประโยชน์ แต่เฮ้ย! เจ๊แกเป็นตุ๊ดนี่หว่า ผมได้แต่มองไปรอบออฟฟิศจนทั่ว บริษัทรับออกแบบเล็กๆ มันจะมีคนอยู่สักกี่คนวะ เจ้านายควบตำแหน่งเออีสอง ฝ่ายบุคคลหนึ่ง กราฟิกดีไซเนอร์สาม มือปืนรับจ้างอีกสอง ป้าแม่บ้านอีกหนึ่ง ออฟฟิศสองชั้นที่แออัดเท่ารังแมวดิ้นอย่างนี้จะให้ผมไปหาผู้ชายดูดีจากที่ไหนกัน แต่ถ้าผู้ชายที่ผมอยากจะเป็นล่ะก็...

“พี่เปี๊ยกไงมึง”   ผมหรี่เสียงตัวเองให้เบาลง พร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปยังกราฟิกดีไซเนอร์ประจำคนสุดท้ายที่กำลังออกแบบยิกๆ อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม   “มึงก็รู้ว่าคนทำงานแบบนี้ส่วนใหญ่แม่งหลงตัวเองแทบทั้งนั้น แต่พี่เปี๊ยกแม่งไม่มีเลยเว้ย ยินดีรับคำติโดยไม่บ่น งานเยอะก็ไม่บ่น ลูกค้าจะแก้งานเรื่องมากแค่ไหนก็ก้มหน้าก้มตาทำ กูจะขอคำแนะนำอะไรก็ยินดีตลอด กูเคยได้ยินเมียพี่แกโทรมาด่าๆ สั่งๆ แม่งยังไม่มีบ่นเลยนะมึง กูว่าพี่เปี๊ยกนี่ยอดสุดละ เดอะเบสต์ออฟเดอะแมน ในใจกูเลย”

จบการสรรเสริญของผม ไอ้โป้ยถึงกะหันไปมองพี่เปี๊ยกแบบสำรวจอีกครั้ง   “ตรงไหนของพี่เปี๊ยกที่มึงว่าหล่อวะ”

“ใจไงมึง ใจพี่เปี๊ยกแม่งหล่อมาก”   ผมเอามือทุบอกเบาๆ แล้วยื่นออกไปให้พี่เปี๊ยกที่เงยหน้าขึ้นมามองทางนี้พอดี พร้อมกับกระดกนิ้วโป้งยกย่องสื่อความนัย ผมปลื้มพี่ตรงไม่เคยนินทาเมียให้พวกผมได้ยินเนี่ยแหละ

“เฮ้อ~ กูผิดเองที่ถามคนแปลกๆ อย่างมึง”  โป้ยส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ  “เอางี้นะมึง กูยกตัวอย่างเองเลยแล้วกัน ตัดกูซึ่งมึงรู้ว่าหล่อกับพี่กรที่เป็นดาราออกไป ที่เหลือก็จะได้เป็น”   ผมมองไอ้โป้ยที่กำลังชี้นิ้ววนไปมาลุ้นประหนึ่งคุณปัญญาในเกมส์ตอบคำถาม และเมื่อผมเองก็โง่เกินกว่าจะตอบได้ มันเลยชิงเฉลยซะเองพร้อมทำสีหน้าก่นด่าเซลล์สมองผมในใจ   “พี่ปูนไงมึง”

นั่นเป็นชื่อที่ทำให้ผมต้องเบ้หน้าออกมาอย่างที่ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้เลย   “ไบโพล่าอย่างนั้นน่ะนะ หรือว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงชอบแบบอารมณ์แปรปรวน”

 “พี่เขาแปรปรวนกับมึงคนเดียวน่ะสิ”  ไอ้โป้ยแย้ง  “สมมุติว่ามึงเป็นผู้หญิงมึงจะไม่หลงพี่เขารึไง หล่อ รวย ปากเก่งสมองเปรื่อง เวลาคุยกับลูกค้าก็เนี๊ยบ เวลาอยู่กับลูกน้องก็สบายๆ ขนาดกูเป็นผู้ชายดูดีกูยังยอมรับเลยว่าพี่ปูนแม่งเข้มสัด กูสังเกตผู้หญิงหลายคนแล้ว ร้อยละ 90 มองพี่ปูนแบบว่าอยากได้ทำผัวมาก”

“เหอะ ถ้ากูเป็นผู้หญิงคงไม่เอาผู้ชายอย่างนั้นทำผัวเด็ดขาด อารมณ์ขึ้นๆลงๆจนกูปีนกระไดตามไม่ทัน ล่าสุดคุยกับกูเรื่องงานก็ยังดีดีอยู่ ห้านาทีต่อมาด่ากูซะงั้น”   ผมส่ายหน้าพรืดขอปฏิเสธเสียงแข็ง แค่นึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนก็ยังแหยงไม่หาย ตอนบรีฟงานก็ยังสุ้มเสียงนุ่มหูอยู่แท้ๆ แต่พอหลังจากคำถามที่ว่า ‘เสร็จทันวันจันทร์ได้รึเปล่า?’ ผมก็แค่ตอบไปว่า ‘โหยอีกตั้งวันกว่าครับพี่ ผมแม่งเป็นเทวดากระดิกนิ้วแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว พี่ไม่ถามผมไปเลยล่ะครับว่าอีกชั่วโมงนึงเสร็จมั้ย?’ หลังจากนั้นหูผมก็ชาไปทั้งวัน แถมยังกวนตีนผมโดยการโทรมาถามทุกชั่วโมงเลยว่างานเสร็จรึยัง

“ก็มึงชอบไปกวนตีนพี่เขา อย่างน้อยก็สำเหนียกบ้างว่าเขาเป็นเจ้าของบริษัทครึ่งหนึ่ง ความเคารพก็เป็นส่วนหนึ่งของสมบัติผู้ดีนะครับมึง พี่สาวไม่เคยสอนเหรอ”

เหมือนโดนเพื่อนเอาฝ่าตีนแนบหน้า มันทั้งชาทั้งอุ่นจนอยากจะนึกขอบคุณที่มันอบรมสั่งสอน แต่การกล่าวอ้างถึงพี่สาวที่เคารพอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ผมยอมไม่ได้เด็ดขาด   “มึงคิดว่าป้าแกรู้จักสมบัติผู้ดีด้วยเหรอวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“ปากมึงเนี่ยนะ เวลาอยู่ต่อหน้าก็เก่งให้ได้อย่างปากแล้วกัน”   ไอ้โป้ยทำมาพ่นลมเย้ยหยันผม  “แล้วมึงมองในทางกลับกันนะ ต่อให้พี่ปูนหล่อขนาดนั้น แต่จนฉิบหายวายป่วง กูยืนยันได้เลยว่าไม่มีสาวไหนเอาหรอกเว่ย! ยุคนี้มันหมดสมัยกัดก้อนเกลือกินแล้ว สันดานกับหน้าตาน่ะมันอุดได้ด้วยเงินหมดแล้วว่ะเพื่อน แต่ถ้ามึงทั้งหล่อและรวยล่ะก็แค่กระดิกนิ้วเรียก ผู้หญิงก็เดินตามเป็นพรวนแล้ว”

“หรือกูต้องคบกับผู้หญิงสวยและรวยมาก”  ผมคิดว่าน่าจะเป็นการดีนะ ผู้หญิงประเภทนี้ชอบให้คนเอาอกเอาใจ แล้วด้วยนิสัยผมแล้วน่าจะทำได้ง่ายมากๆ แต่...จริงเหรอวะที่โลกเรามันก้าวไปไกลจนความเข้ากันได้ทางจิตใจไม่ใช่เรื่องสำคัญ ให้ตายผมก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าในท้ายที่สุดแล้ว เงินจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนสองคนไปกันรอด

“ใครที่ไหนจะโง่อย่างนั้นวะ”  ไอ้โป้ยรีบขัดความคิดของผม แต่จู่ๆ สายตาเพื่อนก็พราววาววับขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มันโน้มตัวเข้ามาใกล้ ยักคิ้วเข้มให้หนึ่งข้างอย่างดูดี

“แต่ถ้าเป็นผู้ชายหล่อรวยแถมกรวยใหญ่ก็ไม่แน่นะมึง”

แล้วเพื่อนโป้ยก็ส่งเสียงหัวเราะพลางหันหน้ากลับไปทำงานต่ออย่างอารมณ์ดี โดยทิ้งให้ผมต้องเผชิญหน้ากับอาการขนลุกไปทั่วทั้งร่าง ผมก็คันปากยิบได้แต่เถียงมันในใจไปเหมือนกัน ว่าใครที่ไหนจะโง่อย่างนั้นวะ! ถึงครอบครัวผมจะไม่ต่อต้านการคบหาในเพศเดียวกัน แต่ตลอดมาผมก็ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนรสนิยมไปกินกล้วยแต่อย่างใด

ผมสะบัดหัวไล่เรื่องไร้สาระออกไปจากหัว แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินตามเดิม

อันที่จริงแล้วบริษัทนี้ก็ไม่ได้เข้มงวดว่ากราฟิกดีไซเนอร์จะต้องเข้าทำงานทุกวันหรอกครับ ก็เหมือนกับบริษัทส่วนมากที่แค่ต้องมีงานส่งให้ทันกำหนด จะเข้าเช้าสายบ่ายแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าพนักงานประจำอย่างพวกผมก็มีปัญหาหลายอย่างที่ทำให้ต้องมาใช้คอมฯของบริษัทเพื่อดำรงชีวิต อย่างไอ้โป้ยมันค่อนข้างเป็นสัตว์สังคม เวลาอยู่ตัวคนเดียวเงียบๆ แล้วแถบความรื่นเริงมันจะลดลงเร็วมาก ส่วนพี่เปี๊ยกก็คงไม่อยากอยู่รบกวนลูกเมียตามสไตล์พ่อบ้านแสนดี แต่สำหรับผมนั้นก็แค่อยากจะอยู่ให้ไกลสองนางพญาประจำบ้านให้มากที่สุด

ถ้าผมต้องเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับเทพนิยายสักเรื่อง ผมคงเลือกที่จะเป็นนายพรานแสนดีที่ช่วยชีวิตสโนวไวท์ ให้รอดพ้นจากนางแม่เลี้ยงใจร้าย แต่บังเอิญให้ว่าชีวิตผมไม่ได้แลดูแมนทั้งแท่งแบบนั้น จุดที่ทำให้ชีวิตต้องหักเหครั้งใหญ่ มันคงเริ่มตั้งแต่พ่อผมด่วนจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร หลังจากวันนั้นชีวิตผมก็มีเพียงแต่หมอกจางๆ และควัน ที่ไม่ได้เย็นสบายอะไรเลยซ้ำยังแสบตาอีกต่างหาก ไม่ต่างจากซินเดอเรลล่า ณ. บ้านทรายทอง เฮ้อ~ แค่คิดถึงน้ำตาก็เอ่อจนปวดใจแล้ว

“งานของสมนึกเบเกอรี่ไปถึงไหนแล้วลุง”   เสียงนุ่มๆ ของนักแสดงหนุ่มหล่อเจ้าของบริษัทดังขึ้นเบื้องหน้า ทำให้ผมต้องละสายตาจากการปรับโทนสีตัวอักษรเพื่อเงยหน้ารับรัศมีความหล่อของดารารูปงาม

พี่พันกรของสาวใหญ่สาวน้อยหลายๆ คนคือเจ้าชายที่มีชีวิตสำหรับผม เพราะไม่ว่าเจ้านายคนนี้จะทำอะไรก็ดูนุ่มนวล สุภาพเสมอแม้กับผู้ชายด้วยกัน แม้จะไม่ได้เล่นเป็นพระเอกเฉิดฉาย แต่บทพระรองก็ยังตกเป็นของแกอยู่สม่ำเสมอ ผมกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่า ต่อให้อนาคตพี่กรรับบทเป็นคนบ้า ก็คงจะเป็นคนบ้าที่ออร่าจับสุดๆ

“กำลังทำอาร์ตเวิร์คครับพี่ ถ้าผมไม่ขี้เกียจพรุ่งนี้ก็น่าจะได้ส่งงานให้ลูกค้าดูเลย และถ้าคุณสมนึกแกไม่เรื่องมากมะรืนอาจจะได้ส่งทำพรู๊ฟกับโรงพิมพ์เลยก็ได้ครับ”

“ปากเรานี่มันเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ นะ”   พี่กรได้แต่ส่ายหัวไปมาด้วยริมฝีปากที่อมยิ้มนิดๆ พอให้ละลายใจป้าแม่บ้านที่เดินผ่านมา   “แต่เสร็จก่อนกำหนดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พี่มีงานอยากให้เราไปถ่ายรูปด้วย”

“ที่ไหนครับพี่”   ถึงจะเสียเวลาทำงานไปบ้างแต่อย่างน้อยผมก็ได้ค่าจ้างพิเศษเพิ่ม ผมก็ไม่ใช่คนถ่ายรูปเก่งพอจะเรียกตัวเองว่าโปรได้หรอก แต่เพราะทำได้และราคาเงินค่าจ้างพิเศษที่เพิ่มให้มันยังน้อยกว่าการไปจ้างช่างมืออาชีพเท่าตัว ดังนั้นงานถ่ายรูปเพื่อใช้ในการพิมพ์โปรโมทจึงเป็นของผมไป
 
“เป็นรีสอร์ทเปิดใหม่ที่เพชรบูรณ์น่ะ บังเอิญไปเจอกับเจ้าของที่งานถ่ายโฆษณาตัวล่าสุดที่เขาเป็นเจ้าของแบรนด์ด้วย พอลองยื่นเสนอราคาไปเขาก็ว่าจะลองใช้บริการดู”

“พี่นี่หางานเก่งนะครับ”   ผมชื่นชมด้วยใจจริงเลย

“นี่เอ็งแดกดันเจ้านายเหรอวะ”   แต่ไอ้โป้ยที่นั่งข้างๆ กลับชักใบให้เรือเสียซะนี่

“กูชมเหอะ”   ผมต้องรีบหันไปแก้ความเข้าใจผิดของมันอย่างไว ก่อนจะหันมาตีหน้าหมองกับพี่กรที่ยืนยิ้มอย่างไม่ถือสา   “ผมชื่นชมจริงๆ นะพี่ คือแบบว่าพี่โคตรมีวาทศิลป์ในการพูดเพราะงั้นลูกค้าเลยหลง เอ้ย!! ”

“เอาเถอะๆ เอาเป็นพี่คิดว่าลูกค้าอยากจะลองของเรานั่นแหละนะ ถึงให้เราไปถ่ายรูปด้วยตัวเองคงอยากจะรู้ว่าเราจะดึงภาพแบบไหนเพื่อมาเป็นหน้าเป็นตาในใบโฆษณา และถ้าทำได้ถูกใจนะ บริษัทเราคงได้ลูกค้ารายใหญ่เพิ่มอีกแน่ เพราะเท่าที่พี่ฟัง คงจะมีสินค้าอื่นๆ อีกเยอะล่ะ”

“กดดันว่ะพี่ งานนี้จ้างช่างนอกไม่ดีกว่าเหรอ”   

“พี่ปรึกษากับปุริมแล้ว พี่เขาเชื่อมือลุงนะ”

ทันทีที่พี่กรเสนอชื่อใครอีกคนเพิ่มเข้ามานั่นแหละ ไอ้โป้ยที่หูผึ่งแอบฟังอยู่อยู่ถึงกับหัวเราะในลำคอเบาๆ ปลุกความรู้สึกหลากหลายในอกผมให้พวยพุ่งออกมาจนกล้ามเนื้อใบหน้าไม่อาจแสดงมันได้ในคราวเดียว แม้ว่าจะเป็นเจ้านายก็ตามทีแต่ผมไม่ถูกโฉลกกับพี่ปูนเท่าไรนัก เรียกว่าผมเขม่นเขาอยู่ฝ่ายเดียวก็ได้

ถ้าสืบสาวต้นเหตุอาจนั้นสรุปด้วยสำนวนสั้นๆ ว่า ‘หมาคาบไปแดก’

เรื่องมันเริ่มจากน้องกิ๊บ... กิ๊บเป็นเด็กฝึกงานในช่วงที่ผมเพิ่งเข้ามาทำที่นี่ใหม่ๆ น้องน่ารักตามสไตล์เด็กมหาลัยวัยขบเผาะ ไอ้ผมก็ก้อร่อก้อติกน้องอยู่เป็นเดือนจนคิดว่ายังไงก็ได้ชัวร์ แต่พอน้องมันได้เห็นพี่ปูนเท่านั้นแหละ โลกแห่งความสุขของพัทลุงก็พังทลาย มันเป็นอะไรที่โคตรจะฝังหัวมากที่ได้เห็นสาวน้อยที่เราอ่อยมานานดันไปอ่อยผู้ชายคนอื่น เพราะงั้นตั้งแต่พี่ปูนมาทำงานที่บริษัทเต็มตัว ผมถึงเอาแต่เขม่นเจ้านายคนนี้อยู่เนืองๆ เดาว่าพี่แกคงรู้อยู่บ้างเพราะเล่นกวนตีนผมกลับอยู่บ่อยๆ ...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ พอคิดว่าฝีมือตัวเองถูกยอมรับมันก็เล่นเอาหัวใจพองดีเหมือนกัน

“ก็ได้ครับพี่ ถ้าพี่ปูนจะชื่นชมฝีมือผมมากขนาดนั้นล่ะก็”

“พี่พูดอย่างนั้นเมื่อไหร่?”   เสียงนี้ดังขึ้นในเสี้ยววินาทีที่ผมพูดจบประโยค ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านประหนึ่งจอมมารก้าวเท้ามายังพื้นโลก ผมก็ไม่ได้เปรียบเทียบอลังการไปหรอกเพราะในความรู้สึกผมแล้วพี่ปูนแม่งเป็นตัวยักษ์ตัวมารจริงๆ ยิ่งพอมาหยุดยืนตีเสมอพี่กรด้วยแล้ว หึ! นรกกะสวรรค์ชัดๆ

“หวัดดีฮะพี่ปูน”   สุ้มเสียงผมก็แลดูเป็นลูกน้องที่น่ารักอยู่หรอกถ้าไม่นับปากจู๋ๆที่ผมพยายามยื่นให้มากที่สุดหวังกวนตีนเจ้าของชื่อ ซึ่งผลลัพธ์ทีได้น่ะหรือคือสายตาเฉียบคมที่คนมองคงอยากจะเปลี่ยนให้มันเป็นเข็มแล้วเย็บปากผมได้

“สวัสดีครับพี่”   ไอ้โป้ยยกมือยกไม้สวัสดีด้วยรอยยิ้ม เหมือนหมากระดิกหางเวลาเจอเจ้าของอย่างไรอย่างนั้น ก็แน่ล่ะสิพี่ปูนแม่งเป็นลูกพี่ในดวงใจมันนี่ เหล้ายาปลาปิ้งลิงข้างบ่างชะนีก็ควงกันไปลิ้มลองอยู่เรื่อย   “ออลีอัล ว่าไงบ้างครับพี่”

(ไอ้)พี่ปูนเบือนสายตาจากหน้าผมหันไปสบกับน้องรักแทน   “เขาขอแก้มาสองสามจุด โดยรวมแล้วเขาพอใจมากนะ บอกว่าเรียบง่ายแต่ดูแพงดี สมกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์มาก เดี๋ยวเข้าไปหาพี่ที่ห้องแล้วกันจะบรีฟงานให้ฟัง”

“ครับพี่” 
 
“พี่ก็ว่างานนี้ทำออกมาสวยจริงๆนะ ทั้งสีและองค์ประกอบดูแมตซ์กันมาก”

กว้างอีกสิมึง ยิ้มอีกสิ...เอาให้ปากฉีกถึงกกหูไปเลย เจอลูกพี่ชมไปไม่พอยังเจอพี่กรชมดับเบิ้ลเข้าไปอีก กูต้องหาโซ่มาล่ามมึงมั้ยโป้ยจะได้ไม่ตัวลอยติดเพดาน

ถึงผมจะเป็นเพื่อนกับมันมานานแต่ก็มีช่วงที่อิจฉามันเหมือนกัน อิจฉาที่มันหล่อ รวย ฉลาด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะง่ายดายและประสบความสำเร็จไปทุกอย่าง แต่ผมก็เข้าใจอีกว่าต้นทุนชีวิตของแต่ละคนมันมีไม่เท่ากัน และผมก็ไม่ได้เกลียดหรือโทษฟ้าดินในสิ่งที่ผมมี เพราะฉะนั้นมันก็เป็นแค่ความอิจฉาเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่มีวันจะแปรเป็นริษยาได้ แต่ทว่าก็มีบางคนที่เอาจุดนี้มากระแทกกระทั้นจิตใจผมให้บอบช้ำระกำทรวง

“โป้ยเก่ง พี่เปี๊ยกก็เก่ง...ผิดกับบางคน...”   (ไอ้)พี่ปูนว่าขึ้นลอยๆ โดยไม่ได้หันสายตามามองผม อย่างที่ผมรู้ดีว่าเป็นข้อความกระทบกระเทียบถึงผมแน่ๆ แต่สายตาผมเนี่ยจ้องมันจนแทบจะกะซวกไส้มันออกมาอยู่แล้ว

“มึงก็ไปว่าน้อง”   เจ้าชายถองศอกเข้าสีข้างของไอ้ยักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับหันมายิ้มอ่อนโปรยเสน่ห์ดาราใส่ผม   “งานลุงครีเอทมากนะ ลูกค้าหลายคนชอบความแปลกใหม่แบบนี้แหละ”

“แต่ถ้ามันไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้าจะไปมีประโยชน์อะไร”

พี่ปูนสวนขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ ไม่มีการใส่อารมณ์ในน้ำเสียงเลยสักนิด เหมือนเป็นแค่ประโยคบอกเล่าที่จริงจนผมหน้าชา... แม้ลูกค้าส่วนมากจะเป็นฝ่ายมากเรื่องเองแต่ก็มีบางส่วนเหมือนกันที่ให้กลับมาแก้เพราะไม่ตรงกับที่บรีฟไว้ ใช่ที่ว่ามันดูดี มันมีลูกเล่นเพิ่มเติมเข้าไปโดนใจผม แต่ก็เหมือนที่พี่ปูนพูด...มันไม่โดนใจลูกค้า

“จริงที่ว่าเราเป็นผู้สร้างงาน แต่ถ้าไม่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามันก็แค่ขยะดีดีนี่เอง การกลับมาแก้งานใหม่หลายครั้ง มันเสียทั้งเงิน ทั้งเวลาและความรู้สึก คุณทำงานเพื่อแลกเงินและชื่อเสียงของบริษัทนะ ไม่ใช่เพื่อสนองความพอใจส่วนบุคคล”
มันเป็นความจริงจนผมเถียงไม่ออกเพราะกราฟิกดีไซน์เนอร์บางส่วนเป็นแบบนั้น คิดว่างานข้าดี งานข้าเจ๋ง และคิดว่าลูกค้าที่ไม่ประทับใจคือพวกหัวเก่าไม่พัฒนา อีโก้สูงปรี๊ดจนทะเลาะกับเออีบ่อยๆ ผมเองก็เป็นหนึ่งในพวกนั้นแต่เออีที่นี่ร้ายถึงขั้นปราบเซียน ผมเลยได้แต่เก็บมาด่าลับหลัง แต่ไม่ใช่ครั้งนี้…

“ไหนมึงว่ามีนัดคุยกับลูกค้าอีกรายไง”

หลังจากที่ทุกคนอยู่ท่ามกลางความเงียบมาพักใหญ่ พี่กรจึงเริ่มพูดขึ้นเพื่อตัดบรรยากาศ แม้ว่าเสียงพี่กรจะดูเข้มแปลกๆ แต่ในตอนนี้พี่เหมือนเจ้าชายของผมจริงๆ ผมมองเจ้านายทั้งสองคนที่ส่งสายตาสื่อสารกันผ่านกระแสจิต และเป็นพี่ปูนที่ปรายสายตามามองผมแล้วเป็นฝ่ายปลีกตัวไปคนแรก

“ลุงมีฝีมือนะและปูนยอมรับในข้อนี้ ที่ทำงานกันมาได้ตั้งหลายปีก็พอพิสูจน์ได้แล้วล่ะ”

พี่กรตบบ่าผมหนักๆ พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจก่อนจะเดินตามพี่ปูนเข้าไปในห้องทำงาน ทุกคนรู้ดีว่าพี่ปูนมีสิทธิ์ขาดในการจะรับหรือว่าจะให้พนักงานสักคนออก พวกผมสามคนคือพนักงานรุ่นแรกๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยรับกราฟิกใหม่ๆเข้ามาเพียงแต่ว่าไม่มีใครอยู่ทนพอ อันที่จริงต้องพูดว่าพี่ปูนไม่พอใจใครมากกว่า นั่นอีโก้สูงไป นู่นโง่ไป นี่ความคิดสร้างสรรค์ไม่พอ แต่ละคนเลยไม่ผ่านโปรโดนเด้งกันไปเป็นแถว ผมคงมีดีอยู่บ้างถึงทำให้พี่ปูนยังเก็บเอาไว้หรืออย่างร้ายที่สุดก็เพราะสงสารพี่เปี๊ยกกับโป้ยที่ถ้าผมเด้งไปคงมีงานหนักขึ้น จะยังไงก็แล้วแต่…ผมเถียงพี่ปูนไม่ออกซ้ำยังรู้สึกย่ำแย่สุดๆ


ไหนจะโดนทิ้ง เจ้านายยังด่ากระทบต่อหน้าคนทั้งออฟฟิศ


“มึง…อย่าคิดมาก…”   ไอ้โป้ยตบไหล่ผมบ้าง สีหน้ามันเครียดจนผมสงสาร    “ไปแดกเหล้ากัน กูเลี้ยงเอง”

“ไม่ต้องหรอกมึงมีงาน”   ผมบอกปัดด้วยมารยาทที่พอมีอยู่บ้าง

“เฮ้ย! อย่าเกรงใจ มึงเครียดมากกูรู้ กูเลี้ยงเองชวนไอ้อ่ำกะไอ้เป๋ไปด้วย”

“โป้ย…มึงแม่งเพื่อนรักกูจริงๆ”

ผมแทบจะคว้าตัวมันมากอดให้ชื่นใจ แค่รู้ว่ามันจะเลี้ยงความเครียดผมก็หายไปกึ่งหนึ่งแล้ว

.
.
.


ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
.(ต่อ)
.
.

ผมเตะความเครียดทิ้งไปทันทีเมื่อเจอแสงสีและสิ่งมีชีวิตที่พร้อมจะอวดหน้าอกหน้าใจบี้ไถหลังคุณไปมาขณะเต้น ผมออกสเต็ปไม่คิดชีวิตเหมือนเป็นวันสุดท้ายที่จะได้โยก มุมไหนสาวชุกผมก็พยายามแถเข้าไปหา เมื่อเห็นเขามากับผัวผมก็แถออกมา ผมเต้นแบบไม่สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะและเจ้าภาพที่นั่งดื่มกันเงียบๆ ไอ้โป้ยคงจะบอกเล่าเก้าสิบถึงความรันทดชีวิตของผมให้เพื่อนอีกสองคนฟังแล้ว พวกมันถึงได้ไม่ถามหรือพูดเรื่องอะไรให้ผมระคายใจ มันทำเพียงแค่ปล่อยผมออกไปสู่แสงสีเสียงและยกขวดเบียร์ให้เมื่อผมหมดแรงกลับมา

“เหนื่อย~”   ผมบ่นได้คำเดียวก่อนจะกระดกเบียร์รวดเดียวค่อนขวด ความขมปนหวานแผ่ซ่านในลำคอจนต้องกระดกซ้ำหลังจากพักหายใจ   “พวกมึงไม่ออกไปเต้นกันวะ หญิงแจ่มๆทั้งนั้น”

“ที่เข้าตากูล้วนมากับผัวทั้งสิ้น”   ไอ้อ่ำรำพึง สเปคของคุณชายอ่ำล้วนเลเวลสูงและส่วนมากนางในระดับนั้นมักไม่ค่อยรอดมาถึงมืออ่ำสักเท่าไหร่

“ที่จริงกูอยากย้ายโต๊ะมาก ใครมองมาแม่งรู้เลยว่ากูเป็นเพื่อนมึง”   เป๋หันมองรอบตัวทั้งที่เหตุการณ์ก็ปกติดี  “เต้นท่าเหี้ยอะไรของมึงมากมาย กูเห็นละอายแทน”

“มันเป็นฟิลลิ่งเว่ย เพลงมันขนาดนี้จะให้กูเต้นลีลาศเหรอไง”   ผมแย้งพลางหยิบเบียร์ขวดใหม่ขึ้นมาเปิด แล้วเทเข้าปากเป็นขวดที่หก

“มึงจะไปเอาไรกับมันนักวะเป๋”   ผมรีบพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนโป้ยที่ออกตัวสนับสนุน ก่อนที่ประโยคต่อไปทำให้อยากจะตบหัวมันให้ทิ่ม   “มันหน้าด้านมึงก็รู้”

“ปล่อยกูสักวันเหอะวะ ช่วงนี้กูต้องดวงตกแน่ๆ”   ผมเถียงให้ตัวเอง

“อย่าเข้าข้างตัวเอง มึงโดนทิ้งอย่างนี้ตลอดอยู่แล้ว”   ผมหันขวับไปมองเพื่อนอ่ำที่กล่าววาจาทำร้ายจิตใจกันได้อย่างเลือดเย็น.  “อีกอย่างนะ มึงกับเจ้านายก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานแล้วไม่ใช่รึไง”

“แต่มันโดนหนักว่ะคราวนี้ เอ้า! แดกๆเข้าไป ไม่เมาไม่กลับ”

“เย้!”   มีผมคนเดียวที่ตอบรับความใจป้ำของเพื่อนโป้ย เพราะนอกนั้นได้แต่ส่ายหน้าไปมาแบบไม่เห็นด้วยเต็มที่ เพราะเป๋ต้องกลายสภาพเป็นพนักงานออฟฟิศในเช้าวันรุ่งขึ้น ส่วนอ่ำก็ต้องไปเฝ้าร้านวัสดุก่อสร้างให้เตี่ยมันแต่เช้าเหมือนกัน มีแค่ผมที่รื่นเริงเหมือนพวกไม่มีงานทำ

ผมดื่มไปเยอะจนนับขวดไม่ทัน แอลกอฮอล์มันเข้าไปอยู่ในร่างกายมากจนผมควบคุมสติไม่ได้อีกต่อไป เพราะงั้นเพียงแค่เสียงของใครสักคนที่บอกว่าเห็นพี่ปูนกำลังอ้อล้อกับสาวในมุมหนึ่งของผับก็ทำเอาผมสติพัง ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความรันทดชีวิต มันประดังประเดออกมาเหมือนเขื่อนแตก

“มันแม่งเชี่ย”   เสียงผมอ้อแอ้จนจับใจความแทบไม่ได้   “ชอบว่ากู อึก! แม่งหล่อ อึก! แม่งรวย อึก! แล้วไงวะ เอิ๊ก! ถึงพี่ไม่รวยแต่ก็มีหนี้สินนะน้อง!!”   

“ไอ้เหี้ยนี่! ตะโกนหาป้ามึงเรอะไง”   เหมือนจะเป็นเสียงไอ้เป๋หน้าบาง แล้วเค็มๆที่อุดปากกูอยู่เนี่ยก็มือมึงใช่มั้ย?

“ปล่อยกู อึก! แม่งทิ้งกู~ เชี่ยแพร อิแพท อิแนน เชี่ยหมิง เชี่ย...ใครอีกวะแม่งกูลืม! เอิ๊ก! กูเป็นคนดีตรงไหนวะ กูมันไม่ดี ฮึก! เจ้านายยังด่ากูอยู่เลย ถ้าอยากได้เหี้ยๆ ทำไมไม่บอกกันวะ แม่ง~ ไอ้ปูน! มึงมันตัวมารอะ  กล้ามอกมึงแน่นมาก อึก! กูเห็นแล้วยังสยิวแทนเลย เอิ๊ก!!”

“กูว่าเอาแม่งกลับเหอะ ไอ้สัดนี่เอามาปนกันมั่วไปหมดแล้ว”   เสียงของใครสักคนดังขึ้น ผมได้แต่อ้อแอ้ปฏิเสธแต่ไม่นานก็รู้สึกว่าตัวเองถูกหิ้วปีกสองข้างจนตัวแทบลอย

“ไอ้สูง!! เห็นใจกูบ้าง เอิ๊ก! กูเตี้ย”   ผมสะบัดตัวไปมา   “ปล่อยกู! กูจะไปเยี่ยว!”

“มึงเมาตายห่าแล้วไอ้ลุง”

“เออกูเมา เอิ๊ก! แต่กูปวดเยี่ยว”   

“ไอ้โป้ยมึงไปสตาร์ทรถรอเลย กูจะลากมันไปห้องน้ำเอง”   เหมือนจะเป็นเสียงไอ้อ่ำ แต่ผมยังไม่ทันจะตกลงอะไรมันก็ฉุดลากผมไปแล้ว

“บ๊ายบายนะพวกมึง”   ผมหันไปโบกมือลาไอ้สองตัวที่ยังยืนมองอยู่

“บายหาป้ามึงเรอะ!!”   เลยเจอไอ้อ่ำโบกหัวไปหนึ่งที

มันลากผมผ่านคนมากมายมาได้ จนผมปรือตาเห็นได้ว่าข้างหน้าคือห้องน้ำ   “มึงรอนี่ โอเค๊”

“ไปเองได้นะมึง กูรออยู่เนี่ยแหละ”

“โอเคครับพ้ม!”   ผมตบไหล่มันเปาะแปะ แล้วเดินไถกำแพงผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ ในหัวมันวิ้งๆ จนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ แต่ผมก็พาตัวเองไปจนถึงโถฉี่ได้สำเร็จ กว่าจะงัด กว่าจะตั้งวิถีการยิง น้ำมันก็ปริ่มจนหกกระเซ็นแล้ว ผมว่าโลกแม่งหมุนเร็วจนผมเอียงไปมา ฉี่กระฉอกไร้ทิศทางควบคุมลำบากจนผมต้องแอ่นตัวติดโถ ตาผมจะปิดอยู่รอมร่อขณะเก็บลูกชายเข้าคอก ผมเดินโซเซออกมาชนคนนั้นคนนี้ไปตามทาง จนกระทั่งไปชนกับเสาต้นเบ้อเริ่มถึงกับทรุดตัวลงไปกองพื้น ผมพยายามหรี่ตามองไอ้เสาเวรตะไลที่มาตั้งไม่รู้ทิศรู้ทาง

“พัทลุง?”

“เอิ๊ก! ครายอ่ะ”

“ทำไมเมาอย่างนี้ แล้วมีเพื่อนมาด้วยรึเปล่า”

เสียงแม่งคุ้นหูโคตรๆ ฟังแล้วเท้ามันกระตุกยิกๆ   “เพื่อนที่ไหน? ไม่มี้!! มาคนเดียว เมาคนเดียว เอิ๊ก!!”

“เห้ย ลุกขึ้นยืนดีๆ”

“ไม่ลุก!! ง่วงแล้ว อึก! จะนอน”

“พัทลุง!”

“รำคาญโว้ย!!”   และนั่นเป็นคำสุดท้ายที่ผมจำได้ในหัวสมอง

ภาพทุกอย่างตัดฉับเหมือนใครมาปิดทีวี และหลังจากความมืดเข้าครอบคลุมจนมิดสมองผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย



TBC.

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
วลีบอกเลิกก็มา ดีเกินไปปป.
จะเป็นไงต่อน้าา

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
เรื่องใหม่ก็มา  :pig4: :กอด1: :L2:

ปล.คิดถึงแท่งเทียนกับเมียและผองเพื่อนมากๆ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ลุงลืมเพื่อนพ้องเลยนะ แล้วจะเสียใจเมื่อตื่น 555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เรื่องใหม่  :katai2-1:

ติดตามๆ อย่าหายไปนานอีกนะคนอ่านใจหาย  :m17: :m17:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คู่กัดได้กันมักลูกดกนะ พี่ปูนน้องลุง 555

เรื่องใหม่มา แล้วพี่ปานกับน้องเทียนจะมาต่อด้วยไหมอ่าาาา~~~

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ คุณจัตวา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :z1:เสร็จแล้ว  พัทลุง เสร็จแล้วใช่ไหท

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอาละสิ ยังไงกันต่อหนอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ปูนแน่ๆ
ว่าแค่จะเสร็จ หรือไม่เสร็จ  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
สงสารลุงโดนว่าแบบนี้เป็นใครก็จุกอะ เรื่องแบบนี้มันควรเรียกไปคุยส่วนตัวไหมอะว่าประจานกันแบบนี้เป็นใครก็แย่ มันรู้สึกเสียหน้านะเพื่อนร่วมงานนั่งกันเยอะแยะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2017 15:45:51 โดย FONSINGHA »

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รอดูสมภารจะกินไก่วัด 55555

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่2 _เมาแล้วหลับ ตื่นปั๊ปได้...?


อากาศเย็นๆ ที่ปะทะผิวทำให้รู้สึกสะท้านไปทั้งร่างแต่ดวงตาผมกลับลืมไม่ขึ้น แม้จะลุกขึ้นมาเพื่อควานหาสิ่งห่อหุ้มยังดูยากเหลือเกินในยามนี้ ถึงอย่างนั้นสมองผมก็เริ่มทำงานทีละน้อยโดยพยายามนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนคร่าวๆ ผมไปผับ เต้นเมามัน  ดื่มหนักมากกว่าปกติ และหลังจากนั้นเป็นยังไงต่อล่ะ? ผมกลับบ้านมาได้ยังไง ไอ้โป้ยมาส่งเหรอ หรือว่าผมเก่งกล้านั่งแท็กซี่กลับมาคนเดียว

“อืม…”

เสียงในลำคอของใครสักคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ มันทำให้ผมหยุดนิ่งละทิ้งทุกความคิดเพื่อพุ่งเป้าไปยังเสียงๆ นั้น ผมเก็บใครมาบ้านด้วยวะ? หรือว่าที่นี่จะเป็นม่านรูด นี่ผมพัฒนาไปไกลถึงขนาดตกผู้หญิงมาจุ๊กกรู้ได้แล้วเหรอเนี่ย มันยอดเยี่ยมที่สุด! มันจะต้องเป็นข่าวใหญ่ในหมู่เพื่อนฝูงแน่ถ้าผมบอกออกสื่อ ผมจะไม่ใช่ ‘ลุงไร่แห้ว’ อีกต่อไป ไอ้พวกหน้าหล่อทั้งหลายจะได้เลิกเกทับผมซะทีเรื่องผู้หญิง

หึหึ ชีวิตมันก็ไม่ได้ซวยเสมอไปหรอกนะ

“อืม…”   ผมแสร้งทำเสียงออกไปบ้างเผื่อหวังว่าสาวเจ้าจะรู้สึกตัว แต่เมื่อยังคงมีความเงียบเท่านั้นที่ส่งมาให้ ผมจึงเริ่มขั้นต่อไปคือการขยับตัวไปมา ผมพลิกตัวหันไปอีกด้านแล้วก็พบว่าคู่นอนผมนั้นออกจะคล้ำไปสักนิด ไหล่กว้างไปหน่อย แม้ไม่ตรงสเปคเท่าไหร่นักแต่ก็ผิวเนียนใช้ได้ แถมยัง…เอ่อ มีกล้ามเนื้อแน่นมาก แต่ไม่เป็นไรผมเข้าใจว่าผู้หญิงเดี๋ยวนี้ชอบเล่นกีฬาและรักษาสุขภาพ แต่…เอิ่ม…ไอ้ขนที่แพรมออกมาตรงจั๊กกูแร้นี่คือเทรนใหม่ที่เขาร่ำรือกันสินะ ช่างเป็นผู้หญิงที่ใจกล้าและทันสมัยมาก ผมซอยสั้นสีเข้มไถข้างเล็กน้อยแลดูห้าวหาญ เธออาจจะดูแมนกว่าผมก็ได้ถ้ายืนเทียบกัน แต่เมื่อพบประสบกันในแนวราบมันย่อมไม่ใช่ปัญหา

เมื่อสาวเจ้ายังคงนิ่งเฉยผมเลยแกล้งขยับตัวเข้าไปใกล้กว่าเดิมพร้อมกับวาดวงแขวนก่ายกอดเสมือนเผลอไผลไม่รู้ตัว สัมผัสที่ได้นั้นช่างแปลกประหลาดต่างจากที่เคยพบเจอกับสาวคนไหน มันมีความแน่นตึงจากผิวสัมผัสแต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้หยาบกระด้างจนไร้ความนุ่ม  ผมว่าหน้าอกเธอเล็กนะถ้าเทียบกับความกว้างของช่วงบน อืม? ลูกองุ่นก็เล็กพิกล ด้วยความสงสัยผมจึงไต่นิ้วมือลงเรื่อยลงต่ำ ไหนๆ ก็ได้เสียกันแล้วนี่นะ คิดซะว่าผมหื่นยามเช้าแล้วกัน

“อืม~”   เสียงครางเสียงเดิมดังขึ้นเมื่อผมไล้นิ้วเล่นเซิร์ฟไปตามลอนคลื่นเนียนแน่น ผมแม่งไม่อยากลืมตาขึ้นมาแล้วในตอนนี้ ผู้หญิงอะไรจะมีซิกส์แพคแน่นขนาดนี้วะ นี่ผมเมาถึงขนาดชวนสาวนักกล้ามขึ้นเตียงเชียวหรือ?

โอ้ไม่นะ... 

“อื้ม~”   ถ้าฟังจากเสียงที่ทุ้มต่ำนี้กับขนาดตัวที่ผมโอบแทบไม่มิด ผมควรจะรีบชิ่งเสียตั้งแต่เจ้าหล่อนไม่ตื่นรึเปล่า? ถ้าทำแบบนั้นผมจะเลวไปมั้ย? แต่ร่างกายมโหฬารกับกล้ามแน่นๆก็ทำเอาผมหวาดกลัวไม่น้อย ถ้าผมรอให้เธอตื่นแล้วเธอเกิดติดใจในรสรักของผมหวังจะให้ผมเป็นแฟนเธอล่ะ?

“อื้อ~”   เสียงเธอเริ่มเคลิ้มกับปลายนิ้วของผมที่ยังไต่สำรวจร่างกายเธอไม่หยุด ร่างกายเธอขยุกขยิกไปมาเมื่อปลายนิ้วผมคลืบคลานผ่านเข้าสู่ป่าดงพงไพรของเธอ ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่กับความกล้าหาญชาญชัยที่ดูจะค้านกับเสียงในหัว ผมรวบรวมลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะตะปบลงไปยังเป้าหมายที่มัน --

มัน...???

“ทำอะไรน่ะ?”

ผมลืมตาให้โตที่สุดเท่าที่ตาตี่ๆ อันเป็นมรดกจากบิดาจะอำนวย เจ้าของเสียงพลิกตัวมามองจ้องผมเขม็ง ตามองตา ผมอ้าปากค้าง มือยังคงจับสิ่งนั้นเอาไว้ราวกับว่ามันเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายก่อนที่สติผมจะค่อยๆ หลุดออกจากแก่น ผมมองเจ้าของร่างกายในอุ้งมือเหมือนมองเห็นสัตว์ประหลาด พยายามลูบๆ คลำๆ ของกลางหวังให้มันราบเรียบ แต่ไม่เลย -- แม่งขยายใหญ่กว่าเดิมอีก!!

“พ...พี่ปูน...”

“เออ!”

“พี่มาทำอะไรที่นี่?”   ผมสับสนจนหัวหมุนติ้ว ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังคลึงเคล้นสัตว์ประหลาดในอุ้งมือแก้กระดากอาย

“นี่ห้องพี่”   พี่ปูนตอบเสียงนิ่ง แต่หน้าพี่แกดูเหยเกแปลกๆ

“แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง”     

“พี่เก็บแกได้ที่ผับ เมาเหมือนหมา เหม็นเหมือนส้วม”

“ข...ขอบคุณครับพี่”  บรรยากาศมันน่าอึดอัดโคตรๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าได้ขยำมือแก้เครียดป่านนี้ผมต้องคว้าผ้าห่มมากัดแก้เก้อแล้ว!

“อื้อ!...ล...ลุง”

“ครับพี่ปูน”   พี่ปูนแกมองผมตาเยิ้ม ตัวกระสับกระส่ายคล้ายไม่สบายตัวเท่าไหร่   “พี่ปูนไม่สบายรึเปล่า?”

“จะจับจนแตกเลยใช่มั้ย ถ้าใช่ก็ขยับมือให้มันไวไวหน่อย”

ผมนิ่งไปกับคำพูดแกที่ปนกับลมหายใจแรงเป็นห้วงๆ และเมื่อสติเริ่มเข้าตัวผมก็แทบจะสะบัดมือออกจากขีปนาวุธที่อเมริกาตามหาอย่างกับโดนของร้อนลวก ความอับอายแม่งแผ่ซ่านขึ้นหน้าจนไม่รู้จะเอาหัวไปซุกไว้ที่ไหน ผมรีบก้มหน้าเมื่อเจ้านายคู่กัดลุกขึ้นนั่งด้วยหน้าตาที่ยังคงหลงเหลือความร้อนที่ผมเป็นผู้ก่อ ก็ไม่ได้อยากจะเหลือบมองหรอกนะแต่มันก็ช่างตั้งตระหง่านเตะตาจนผมเกินจะทน

“เอ่อ...ห่มสักนิดนะครับพี่เดี๋ยวน้องเป็นหวัด”   ผมรีบทำตัวเป็นน้องที่ดี ดึงผ้าห่มคลุมลูกชายพี่ปูนจนมิดแต่กระนั้นก็ยังตั้งเด่เป็นเสากระโดงเรือให้ผมรู้สึกโทษโลกอันไร้ความยุติธรรม   “ผมกับพี่มานอนเตียงเดียวกันได้ไงล่ะครับ”

สิ้นคำถาม พี่ปูนจ้องหน้าผมนิ่งคล้ายกับมีกระแสโกรธเคืองแล่นผ่านจากสายตาพี่เขาออกมา และพี่ปูนก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะทำนั่นคือการเบี่ยงหน้าหลุบสายตาลงที่นอน มือใหญ่ที่กำหน้าผมมิดได้เพียงข้างเดียวรวบผ้าห่มขึ้นมาสูงจนปิดเม็ดองุ่นสีช็อกโกแลต ผมงี้ใจเต้นระรัวด้วยความกลัว ผมดูละครมาเยอะถ้าเทียบกับสารคดีมีสาระ นางเอกทุกคนหลังได้เสียกับพระเอกมักมีอาการแบบนี้ ใบหน้าทุกข์ระทมชอกช้ำหลังจากถูกพระเอกข่มแหงร่างกายและจิตใจ!

“ลุงจำไม่ได้เลยสินะว่าทำอะไรกับพี่ไปบ้าง”

ไอ้การเอามือปิดปากแล้วหลับตาแน่นนั่นคืออะไร แล้วทำไมต้องทำตัวสั่นขนาดนั้น ภาพลักษณ์เยี่ยงพญามารของพี่ไปซุกอยู่ที่ไหน ทำไมตอนนี้ผมเห็นแต่ลูกควายตัวน้อยๆ ที่ร่ำไห้เพราะโดนมนุษย์กระทำชำเรา มันไม่จริงใช่มั้ย? ผมไม่ได้มีอะไรกับผู้ชาย ผมไม่ได้จิ้มเจ้านายตัวเอง ผมไมได้เบิกเนตรเข้าสู่หนทางสายอื่นใดที่ไม่เคยเดิน โอ้ไม่นะ!! ทำไมแอลกอฮอล์ทำกับผมอย่างนี้ ผมจะไปเรียกร้องความยุติธรรมกับบริษัทไหนดีในเมื่อผมแดกปนกันมั่วไปหมด

“พี่ล้อผมเล่นใช่ป่ะ?”   ผมพยายามโยนหินถามทางเผื่อว่ามันเป็นการเข้าใจผิด เผื่อว่าพี่ปูนจะแกล้งผมเล่น

“ลุงทำพี่เจ็บขนาดนี้เชียวนะ”   พี่ปูนปรายตามองผม   “เอาเถอะ...พี่เข้าใจ ลุงไม่ต้องคิดมากหรอก”

ผมควรจะดีใจ แต่กลับรู้สึกผิดโคตรๆ

“ผมทำอย่างงั้นกับพี่จริงๆเหรอ ผม...ผมไม่รู้ตัวเลย”   

“หึ แกเมานี่นะ จะจำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก”   ผมนั่งนิ่งยอมให้พี่ปูนฟาดคำพูดใส่หน้า ทั้งสายตา ทั้งสีหน้า และทักษะการสะบัดตัวหนี ทำเอาผมนิ่งงันเหมือนถูกชกใต้เข็มขัด ในหัวผมมึนงงไปหมดจะว่าทำอะไรไม่ถูกก็ไม่ใช่ จะบอกว่าไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อก็ไม่เชิง

“พี่ปูน...”   ผมครางเสียงแห้ง มองดูเจ้านายที่กำลังลุกออกจากที่นอนด้วยเนื้อตัวล่อนจ้อน และในนาทีที่เท้าเหยียบพื้น เสียงร้องอูยก็ดังขึ้นจากปากบิดเบี้ยวของพี่ปูน มือใหญ่จับสะโพกตัวเองราวกับว่ามันปวดร้าวเสียเต็มประดา   “พี่ปูนเป็นไงบ้าง?”

“ไม่ๆ มันก็แค่”   พี่ปูนทำเสียงซี๊ดซ๊าดพลางโบกมือปฏิเสธ   “แกทำพี่แรงมากน่ะ ตั้งสองรอบเลยนะ” 

แม่เจ้า!!!

ผมนั่งอ้าปากค้างขณะที่พี่ปูนเดินบ่นกระปอดกระแปดเข้าห้องน้ำไปทั้งเนื้อตัวเปลือยเปล่า ทั้งคำพูดและท่าทาง ทั้งหลายทั้งแหล่นั่นมันกลายเป็นความจริงโยนใส่หน้าผมจนอยากจะร้องออกมาให้ดังๆ พ่อบนสวรรค์คงน้ำตาตกดังเผาะที่เห็นลูกชายกลายเป็นชายเหนือชายได้สำเร็จ มันไม่ใช่ความรู้สึกที่อยากร้องว่า ‘เย้ กูทำได้แล้ว!’ แต่มันอยากจะร้องว่า ‘เหี้ย กูทำไปแล้ว!!’

กูทำไปแล้วจริงๆ...ใช่มั้ย...?

ผมนั่งซึมเศร้ากับตัวเอง คิดทบทวนถึงเรื่องราวต่อจากนี้ ผมมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันซ้ำยังเป็นเจ้านายที่ไม่ค่อยจะกินเส้นกันอีก แล้วผมจะถูกไล่ออกมั้ย? ไม่หรอกน่า พี่ปูนคงไม่พาลพาโลขนาดนั้น แต่จะว่าไปแล้วพี่ปูนไม่เห็นจะตกใจเหมือนผมเลยนะ หรือว่า…

“ไปอาบน้ำไป”

ผมสะดุ้งโหยงกับวาจาห้วนๆที่ดังขึ้น ผมเงยหน้ามองผู้ชายตัวสูงที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อและซิกส์แพค มีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวหมิ่นเหม่อวดวีไลน์และขนสะดือสุดเซ็กซี่ที่ลากเลื้อยหายลับไปในขอบผ้า ผมเข้าใจแล้วที่ไอ้โป้ยพยามจะสื่อเพราะตอนนี้ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงจะรีบโผเข้าไปกรุยขนสะดือแกแน่ๆ

“ลุง?”

ผมกระพริบตาปริบๆ เรียกสติให้เข้าสมองแต่ปากผมมันไวกว่าความคิด  “พี่เป็นเกย์เหรอ”

พี่ปูนแม่งนิ่งอึ้งมองผมเหมือนจะถามผ่านสายตาว่ามารยาทอยู่หนใด แต่เมื่อการด่าทอผ่านอากาศผ่านพ้นไปจึงเหลือไว้เพียงรอยยิ้มที่ผมคิดว่าโคตรเจ้าเล่ห์ หนุ่มน่าซบที่สุดในบริษัทเอียงหน้าเล็กน้อยพลางกอดอกหลวมๆ คิ้วเข้มเลิกขึ้นคล้ายไม่ยี่หระกับคำถาม

“พี่เป็นไบเซ็กส์ช่วลต่างหาก”   ผมเดาว่าตัวเองคงอ้าปากค้างมากไปหน่อยเพราะรู้สึกได้ถึงกรามที่ค้างเกินปกติ   “ไปอาบน้ำได้แล้ว”

“แต่พี่ปูน…เรื่องเมื่อคืนผม--” 

“แกจำไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรให้รื้อฟื้น แค่นี้พี่ก็เจ็บพอแล้ว”

ผมว่ากรามผมคงอักเสบไปแล้วจากการอ้าค้างบ่อยๆ และยิ่งจะค้างมากขึ้นเมื่อพี่ปูนเดินไปยังตู้เสื้อผ้าและเริ่มปลดผ้าเช็ดตัว ผมเขินอายอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่หล่นไปกองกับพื้น ในระยะเวลาโคตรสั้นผมรู้แน่ชัดแล้วว่าพี่ปูนแม่งหน้าด้านไร้ยางอายมาก วัดจากที่มันโป๊เปลือยต่อหน้าผมที่ไม่ได้สนิทสนมกันมาสองรอบติดๆ

ซึ่งถามว่าผมมองมันมั้ย?  ก็ตอบเลยว่ามาก หุ่นพี่แกน่ามองชนิดวัวตายควายล้ม พี่ปูนน่าจะชอบเล่นกีฬาหรือไม่ก็เข้าฟิตเนสบ่อยๆ ช่างเป็นหุ่นที่น่าแซ่บจนผมละสายตาได้ลำบากจริงๆ ผมไม่รู้ตัวว่ามองพี่แกนานแค่ไหนแต่เมื่อได้ยินเสียงเร่งด้วยประโยคเดิมๆ อีกครั้งผมก็รีบผลุบหายเข้าห้องน้ำไปด้วยใจระทึก

ผมยืนสังเวชใจหน้ากระจกห้องน้ำบานใหญ่เงียบๆ มองรูปร่างตัวเองแล้วก็ปลงชีวิตขึ้นมา ส่วนสูงของผมก็ตามมาตรฐานชายไทยทั่วไป สูงกว่าผู้หญิงส่วนมากแต่ก็เตี้ยกว่าผู้ชายส่วนมากเช่นกัน มีกล้ามเนื้อไม่มาก พุงไม่ห้อย ท้องแขนไม่ย้อย ไอ้หนูน้อยก็ขนาดกำลังดี เพราะงั้นผมเลยไม่คิดโทษตัวเองสักนิดที่เกิดมาเตี้ยและขี้เกียจฟิตกล้าม ไม่โทษพ่อที่แบ่งเศษเสี้ยวความเป็นชายให้ผมแค่พอมีพอกิน เดาว่าพ่อคงกลัวเวลาไปเกิดใหม่แล้วจะไม่โอฬารเท่าเดิม ...จะว่าไปผมก็นับว่าเป็นคนพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีพอควรล่ะนะ
แต่นั่นมันก่อนที่จะเห็นเต็มตาว่ารูปร่างของผู้ชายคนอื่นในวัยฉกรรจ์เป็นยังไง

ภาพในกระจกสะท้อนผู้ชายรูปร่างสันทัดกำลังยืนบิดตัวไปมาด้วยท่วงท่าโชว์กล้ามที่แขน แม้มันพอจะมีส่วนนูนของก้อนเนื้อให้ได้ชื่นใจบ้างก็เถอะ แต่สุดท้ายผมก็ต้องถอดใจเมื่อนึกถึงรูปร่างของผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างนอก จนถึงตอนนี้ เดอะ เบสต์ ออฟ เดอะ แมน ในใจผมยังคงเป็นพี่เปี๊ยกอยู่ แต่ตำแหน่ง เซ็กซี่กาย ผมยกให้พี่ปูนขึ้นครองตำแหน่งล่วงหน้าสิบปีซ้อนไปแล้ว ขนาดเป็นผู้ชายด้วยกันเห็นยังรู้สึกหน้าแดงขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงผมคงไม่รอรีขอให้พี่ปูนเป็นพ่อของลูกแน่นอน

แต่จริงหรือที่ผู้ชายมาดแมนคนนั้น...เสร็จผมไปแล้ว

แม้ว่าผมจะดีใจไม่น้อยที่ก้นตัวเองไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร นั่นหมายความว่ามีแค่ผมที่รุกพี่ปูนฝ่ายเดียวงั้นสินะ แต่ด้วยรูปร่างที่อย่างกะไม้ซี่งัดไม้ซุงอย่างนั้น ถ้าพี่เขาไม่ชอบก็คงจะเตะผมคว่ำไปแล้ว แต่นี่ถึงกับยอมให้ผมเสียบเข้าไปแสดงว่าพี่เขาเป็นฝ่ายรับงั้นสิ -- ตายห่า!! -- คนเรามันดูแค่รูปร่างไม่ได้จริงๆ แล้วงี้ผมต้องรับผิดชอบพี่เขามั้ย? หรือจะปล่อยเลยตามเลยดีวะ? แต่ถ้าเกิดผมเป็นคนแรกทางด้านหลังของเขาล่ะ? แล้วถ้าเกิดความจริงที่พี่เขายอมผมเพราะเขาแอบชอบผมอยู่ล่ะ?... นึกแล้วก็อยากจะเขกหัวตัวเองกับความคิดไม่เข้าท่าอันสุดท้าย ถ้าแม่งชอบผมจริงนะมันคงปกปิดเก่งม๊ากก เพราะตลอดเวลาหลายปีที่ทำงานร่วมกัน ผมไม่เห็นถึงความรู้สึกในด้านนั้นจากมันสักนิด

หลังจากการครุ่นคิดหน้ากระจกยุติลงผมก็เริ่มการชำระร่างกายด้วยความรวดเร็ว ไม่กี่นาทีต่อมาผมก็กลับมายืนเครียดหน้าประตูอีกครั้งเพราะไร้สิ่งห่อหุ้มร่างกายที่จะพาตัวเองออกไป ผมยืนลังเลอยู่สักครู่เดียวก่อนจะตัดสินใจแง้มประตูออกช้าๆ เพื่อส่งเสียงขอความช่วยเหลือ

“พี่ปูน?...เอ่อ...พี่ปูนครับผมยืมผ้าเช็ดตัวหน่อยพี่”   แต่สิ่งที่ได้รับกลับมีเพียงความเงียบ ผมจึงกลั้นใจเปิดประตูออกให้กว้างขึ้นเพื่อมุดหัวออกไป ภายในห้องเงียบสนิทไร้สิ่งมีชีวิตอื่นใด ผมรีบเดินออกไปยังเตียงนอนที่เห็นวอบแว๊บว่ามีเสื้อผ้าวางพาดอยู่ ผมรีบใช้ผ้าเช็ดตัวผืนสะอาดที่พับไว้พันรอบเอวด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะมองเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของตัวเอง มันเป็นเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนและข้างๆ กันยังมีโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าเงินของผมวางไว้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน ซึ่งเป็นของเพื่อนแทบทั้งสิ้นและหนึ่งในนั้นมาจากพี่ปูน

[พี่ให้ยืมเสื้อผ้า ของลุงส่งไปซักอยู่ พี่ต้องไปธุระ กลับบ้านได้เลยไม่ต้องรอ]

ผมยืนอ่านข้อความทวนซ้ำสองรอบเพื่อมองหาสัญญาณแฝงหรือเยื่อใยบางๆ จากการซั่มกันเมื่อคืน แต่ผมไม่เห็นวี่แววสิ่งเหล่านั้นจากข้อความง่ายๆ นี้เลย ผมควรจะถอนหายใจอย่างดล่งอกสินะที่พี่เขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากผม มันก็แค่เซ็กส์นี่นะ พี่ปูนอาจจะชินกับคู่นอนชั่วคืนก็ได้

[เรื่องเมือคืน...ผมขอโทษครับพี่]

ผมพิมพ์ตอบกลับไป ยืนจ้องข้อความตัวเองที่เด้งขึ้นไปยังหน้าจอ ไม่นานนักมันก็ถูกอ่านจากอีกฝ่าย

[ช่างเถอะ ลืมๆมันไปซะ]

พี่ปูนตอบกลับมาสั้นๆ แต่โคตรจิกหัวใจ ผมจะลืมมันไปได้ยังไงในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันยังเหมือนเมฆหมอกบางๆ แบบนี้ พี่ปูนแม่งเป็นผู้ชายคนแรกของผมแน่ละ แต่ผมก็อาจจะเป็นคนที่เข้าด้านหลังพี่เป็นครั้งแรกก็ได้ เพราะงั้นถึงผมจะไม่ได้อยากเป็นแฟนพี่ปูน แต่ผมก็ควรจะรับผิดชอบอะไรบ้างรึเปล่า

ไม่ๆๆๆ

ในเมื่อพี่เขาเป็นคนบอกให้ผมลืมๆไปซะ ก็ไม่มีเหตุผมอันใดให้ต้องเก็บมาคิดมากอีก ผมจะถือซะว่ามันเป็นการล้างแค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้วกัน

.
.
.

ผมเดินขึ้นมายังชั้นสองของออฟฟิศด้วยใจตุ้มๆต่อมๆท่ามกลางสายตาจับจ้องของไอ้โป้ยยอดรัก มันมองผมเหมือนอาจารย์มองนักเรียนมาสาย ผมก็รีบเดินมานั่งที่ประจำพลางกวาดสายตาไปรอบๆ กดปุ่มเพื่อเปิดคอมพิวเตอร์เร็วๆ และหันหน้ามาประจันกับไอ้โป้ยทันที

“มึงทิ้งกู”

“เดี๋ยวกูตบคว่ำ”   มันตอกกลับด้วยความรุนแรงไม่ต่างกัน ผมหรี่ตามองไอ้เพื่อนใจร้ายที่ปล่อยปละละเลยผมจนได้เมียมีงวงแล้วยังไม่ยอมรับผิด   “อย่ามาทำหน้าอย่างนี้ มึงรู้มั้ยว่าพวกกูตามหามึงกันแทบพลิกผับ โทรศัพท์ก็ไม่รับ เกือบจะไปแจ้งความอยู่แล้วถ้าพี่ปูนไม่โทรมาซะก่อน”

“แล้วทำไมมึงไม่ไปรับกูอ่ะ”   ผมอ้าปากค้าง มันไม่คิดเลยสินะว่าผมจะต้องเจอกับอะไร   

“ก็พี่เขาบอกว่าไม่เป็นไรถ้าจะให้มึงค้างด้วย เเละมันก็ดึกแล้วกูไม่อยากขับรถไปๆ มาๆ นี่หว่า”

“นั่นไง! มึงทิ้งกู”

“แล้วไอ้หมาตัวไหนที่บอกไปเข้าห้องน้ำแล้วหายไปเลย ไอ้เสี่ยโทรมาหากูเสียงสั่นเลยว่ามึงหายไปจากห้องน้ำ แล้วพวกกูก็วิ่งหากันไปสิ สติน่ะมึงหัดคบกับมันไว้บ้างนะ คิดว่ากี่ครั้งแล้วที่เป็นอย่างนี้ กูจะไม่แปลกใจเลยถ้าวันหนึ่งมึงจะบอกว่าเมาแล้วเสียตัว”

ผมสะอึก มันจุกแน่นในอก จะมีคำใดที่ทำผมเสียศูนย์ในตอนนี้มากเท่าคำสุดท้ายของมันไม่มีอีกแล้ว ผมควรจะปรึกษาไอ้โป้ยดีมั้ย การที่มันผ่านการเป็นผัวมามากอาจจะพอแนะนำอะไรผมได้บ้าง เรื่องนี้มันยากตรงที่พี่ปูนเป็นเจ้านาย จะทำเฉยๆ ไปเลยผมก็ว่าไม่ควร แต่อีกใจก็อยากทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนที่พี่ปูนว่า แต่เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้วนี่หว่าจะทำเป็นว่ามันไม่เคยมีได้ไง

“ไม่ใช่ว่ามึงไปกวนตีนพี่เขาอีกแล้วนะ เขาอุตส่าห์หิ้วมึงกลับบ้านด้วย”

“เปล่าเหอะ…แต่ว่า”

“อะไรวะ? หน้ามึงเครียดๆ อ่ะ”   โป้ยเริ่มจับความผิดปกติได้ เอาไงดีวะ ผมควรจะปรึกษามันเลยดีมั้ย? แล้วมันจะมองผมแปลกๆ รึเปล่า? หรือผมควรจะคุยกับพี่ปูนอีกครั้งก่อนดี เพราะพี่เขาเป็นเจ้านายเกิดผมพูดไปเดี๋ยวจะเสียหายซะเปล่าๆ

 “…ไม่มีอะไรหรอก กูปวดขี้น่ะ”

“ไอ้เวร! กูก็นึกว่ามึงทะเลาะกับพี่ปูนซะอีก”

“เปล่าๆ กูไปขี้ล่ะนะ”   ผมรีบปลีกตัวออกมาจากโต๊ะทั้งที่เพิ่งหย่อนตูดนั่งลง ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ผมก็รู้ดีว่าไอ้โป้ยมันฉลาดกว่าที่เห็นกันภายนอก ต่อมการรับรู้เรื่องชาวบ้านของมันมักจะดีเป็นพิเศษ ระบบการประมวลข่าวสารและกลั่นกรองนั้นยิ่งดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นแค่ผมทำกระอักกระอวลให้เห็นมันก็คงรู้สึกได้แล้วว่ามีเรื่องแปลกเกิดขึ้น

ระหว่างทางผมพยามสอดส่ายสายตาไปตามห้องของท่านหุ้นส่วนบริษัททั้งสอง พี่กรคงไปถ่ายละครตามปกติที่เคลียร์ไว้ประจำวันจันทร์ พุธ ศุกร์ แต่ระหว่างนั้นผมก็สุดจะเดาว่าพี่ท่านไปติดต่อกับลูกค้ารายใหม่ๆได้อย่างไร บางงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผมคาดว่าเขาคงมีขาประจำกับบริษัทที่มีชื่อกว่านี้ แต่พี่กรก็ยังอุตส่าห์ไปสอยงานเขามาได้บ้างบางโปรเจค แต่หากพิจารณาคุณดาราขายได้คนนี้ให้ดีแล้วล่ะก็...ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่พี่กรทำไม่ได้แน่

ส่วนห้องอีกห้องที่ว่างเปล่าเป็นปกตินั้น วันนี้กลับไม่ปกติสำหรับผม  ในหัวมันรู้สึกขัดแย้งกันจนสับสนไปหมด ทั้งที่รู้สึกโล่งอกเมื่อไม่ต้องเจอหน้าแต่กลับเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าผู้ชายคนอื่นเป็นอย่างนี้หรือเปล่าแต่ผมไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ผมอาจจะเที่ยวแต่ก็ไม่เคย one night stand กับใคร ทุกคนที่ผมมีสัมพันธ์ด้วยล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ผมหวังว่าจะคบกันยั่งยืน ผมไม่ชอบกินไปทั่วอย่างไอ้โป้ยผมจึงทำใจให้เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ

เพราะมายฟาเธอร์ได้สอนเอาไว้ว่าสุภาพบุรุษที่ดีเขาไม่ฟันใครแล้วทิ้ง

เมื่อคิดได้ดังนั้นพระเอกอย่างผมก็ไม่รอช้าที่จะติดต่อกับว่าที่ภรรเมียที่ได้เสียกันโดยไม่ตั้งใจ แต่จะให้โทรไปหาก็ดูจะกล้าไปนิด เพราะงั้นการส่งข้อความนำร่องไปก่อนจึงเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเข้าท่าที่สุด ผมยังเกรงการเผชิญหน้ากันเล็กน้อยเพราะไม่รู้จะปั้นหน้ายังไงที่อุตริปล้ำเจ้านายทำเมีย แถมยังเป็นคนที่ผมออกตัวเขม่นเสียอีก แต่ผมต้องลืมเรื่องบาดหมาง(ฝ่ายเดียว)ไปซะ เพราะตอนนี้พี่ปูนกำลังจะก้าวมาอีกขั้นด้วยการเป็นเมียของผม

[พี่ปูนครับ…ผมคุยกับพี่ได้มั้ยครับ]

ผมเกร็งนิ้วพิมพ์ข้อความลงไปบนหน้าจอสัมผัสในโปรแกรมรับส่งข้อความยอดฮิต และนั่งรอขณะที่ก้นกำลังปะทะขอบโถส้วมเย็นฉ่ำ อันที่จริงผมก็ไม่ได้คิดจะมาขี้ตามที่บอกไอ้โป้ยไว้หรอกเเต่พอเข้ามาปุ๊บเหมือนโดนพลังด้านลบอัดเข้าที่ท้องแม่งก็อยากขี้ปั๊บทันที ผมเลยใช้เวลานี้รอการตอบรับไปเรื่อยๆ และไม่นานเกินกว่ากระบวนการผลิตจะสิ้นสุด หน้าจอก็ขึ้นคำกำกับว่าพี่ปูนได้เห็นข้อความของผมแล้ว ผมรีบเบ่งให้สุดแล้วล้างตูดให้ไวเพื่อมายืนดมกลิ่นจางๆ ที่ผ่านการหมักมาอย่างดีของสุราและอาหารแกล้ม

[ผมอยากคุยกับพี่เรื่องเมื่อคืนจริงๆ]

ข้อความว่าอ่านแล้วขึ้นกำกับทันทีอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะรอเท่าไหร่ก็ไม่มีการโต้ตอบใดๆกลับมา มันทั้งวุ่นวายใจและน่าหงุดหงิดไปพร้อมกัน ผมงอนง้อปานนี้แล้วยังจะเล่นองค์ทรงเครื่องเพื่อ? ถึงผมจะจน หน้าตาไม่ค่อยหล่อ หนี้สินพอประมาณ แต่ผมก็มีใจใฝ่ดีพอจะรับดูแลพี่ให้สบายนะ

[พี่ปูน]   หน้าจอยังไร้การตอบโต้แม้ว่ามันจะบอกให้รู้ว่าพี่เขาได้เห็นข้อความผมแล้วก็ตาม 

ทำไมมันไม่ง่ายเหมือนตอนได้กันวะ!

[พี่ปูนครับ]   

ทุกอย่างยังเงียบ

[พี่ปุริมครับ]

อ่าน -- แต่เงียบ

[พี่ปูน]   

[พี่]

[ปุ]

[ริม]

ยอมรับว่าเริ่มกวนมันแล้ว ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเงียบแบบนี้ หรือว่ามันจะไม่อยากให้ผมรับผิดชอบจริงๆ เอ๊ะ!? หรือว่าลีลาผมจะไม่เด็ดพอ แต่ถึงผมจะได้จากพ่อมาไม่เท่าไหร่แต่ผมก็มั่นใจว่าขยันซอยพอตัว เอ๊ะ!? หรือว่าพี่ปูนแกมีแฟนอยู่แล้ว! เวรกรรมจริงกู -- ผมไม่อยากเป็นมือที่สามของใครซะด้วย ในบรรดาศีลข้อห้านั้นศีลกาเมฯคือข้อที่ผมปฏิญาณว่าจะไม่แหกเด็ดขาด พอเดาอยู่หรอกว่าตายไปคงได้ลงไปทัวร์นรกแน่ แต่ผมไม่อยากปีนต้นงิ้วนี่หว่าเพราะความสูงมันไม่ค่อยถูกโรคกับผมสักเท่าไหร่ ...เอาไงดีวะไอ้ลุง

ฟ่อออ!!

เสียงข้อความเข้าทำเอาผมสะดุ้งจากความคิดจนเกือบทำโทรศัพท์หลุดมือ ท่ามกลางกลิ่นตุๆ ที่เริ่มจางผมยกมือถือขึ้นมาดูใกล้ๆ เป็นข้อความจากใครคนนั้นที่ผมส่งไปก่อนตั้งมากมาย พี่ปูนตอบกลับมาสั้นๆ แต่เป็นคำตอบที่ทำให้ผมเข้าใจและวางมือได้ง่ายๆ

[พี่อยู่กับลูกค้า]

แต่มันไม่ได้หมดแค่นั้น

[ลุง...]

[ครับพี่]   ผมรีบผมตอบมือไม้สั่นไปหมด




[อย่ากวนตีน]




[จบนะ]

...
...

แม่ง...จบก็จบครับ



__________________________________________________________________________ TBC.

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
555 พี่ปูนแม่งปล่อยระบิดคาใจลุงลูกใหญ่เลย จงใจสินะพี่ปูน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด