◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 301950 ครั้ง)

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
:m20: หลอก ให้ "ลุง" ดี ใจ ที่ ได้ เป็น ผ.
ต่อ ไป พี่ ปูน ค่อย มอบ ตำ แหน่ง เมีย ให้ สิ นะ หึ หึ  :z1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

พี่ปูน เข้าใจเล่นนะ เสร็จลุง ไปสองยก  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เดี๋ยว ๆ ๆ

นี่ลุงได้เมียเร๊อะ!

สภาพร่างกายไม่ได้บ่งชี้ถึงกิจกรรมในแนวนอนสินะ....

หรือจะมีอะไรพลิกโผ? แบบพี่มันอำลุง

จบก็ได้
รอเฉลย

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เรารู้ๆลุงคือนายเอกแน่ๆ ชัวร์ๆ บ้าบอมาก 555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ลุงตลกกก แต่แบบตกใจ... ไปกดพี่เขาเหรอ นึกว่าจะโดนซะอีก 55555

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พี่มันอำป่ะวะ ดูจากท่าทางอ่ะ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เอาจริงๆ นะ
ทำไมลุงไม่ขยับต่ออ่ะ โถ่ พี่ปูนกำลังฟินเลยเชียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ทำไมพี่ปูนทำงี้
แกล้งน้องงงงงงงงงง 5555555 เอิ้กๆๆๆ
 :laugh:  :mew4: :pigha2:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
จะลุงปูนหรือปูนลุงน้าาาา

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ตอนแรกเห็นชืีอเรื่องก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ พอเห็นชื่อคนแต่งกดเข้ามาอ่านทีนทีเลยจ้าาาา :katai2-1:



ว่าแต่  พี่ปูนคะ. มะ ไม่จริงใช่มั้ยคะ? :katai3:

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ดีใจหน่อยเร็ววว ได้เสียบพี่ปูน :laugh:

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :z3: :z3: :z3: โอยยยกำลังสนุกกกมากกำลังติดตามและกำลังจะขาดใจตายค่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ นมชมพู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนะคะ เรื่องน่าติดตามมาก :m20: :laugh:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ลุงมันกวนจริงๆ เราว่าพี่ปูนแกล้ง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อิพี่ปูนแกล้งแน่นิสัยไม่ดี ทำคนอื่นว้าวุ่นใจนี่เป็นบาปนะคะ ฮึ่ยย เดี๋ยวให้ลุงจับกดจริงๆซะเลยนี่  :impress2:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเนี่ยลุง

นี่ก็แกล้งน้อง



ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 3 _สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ



เดาว่าพ่อแม่บ้านอื่นคงจะพยายามสรรหาชื่อจริงเพราะๆ ให้ลูก และคิดชื่อเล่นน่ารักๆ ที่จะไว้ใช้เรียกกันติดปากไปจนแก่ แต่นั่นไม่ใช่กับพ่อแม่ของพวกผม พวกท่าน...ไม่สิ...แค่แม่คนเดียวต่างหาก เพราะพ่อก็คงจะออเออตามใจแม่เหมือนที่ทำมาตลอด

คุณดาหลามักจะมีอารมณ์ขันมากมายเสมอ ชื่อของพวกผมสองพี่น้องก็เป็นหนึ่งในนั้น แม่อาจจะใช้หลักการเดียวกับบ้านอื่นๆ คือตั้งชื่อเล่นแล้วจบด้วยชื่อจริง ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ๆ ก็อาจจะมีชื่อว่า น้องเฟียส น้องเบลล่า น้องพอตเตอร์ ชื่อเล่นที่ดูไฮโซโก้เก๋ทั้งหลาย ถ้าเป็นเด็กรุ่นก่อนๆ ก็อาจจะเป็น น้องฟ้า น้องน้ำ น้องดิน น้องต้นไม้ ชื่อเล่นไทยๆ แต่ดูน่ารัก แต่มันเชยเกินกว่าที่แม่ผมจะเอาเยี่ยงอย่าง

พี่สาวผมชื่อ ‘ป้า’ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่สำหรับน้องเล็กที่ตามตูดออกมาจะมีชื่อว่า ‘ลุง’

และแม่เห็นว่ามีการตั้งชื่อตามเมืองดังๆ ในต่างประเทศมาเยอะแล้ว อย่างน้องโรม น้องมิลาน น้องเวนิส น้องเอเธนส์ แลดูอินเตอร์มิใช่น้อย แต่มันไม่ถึงใจคุณแม่ท่าน อย่ากระนั้นเลยเราก็เอาชื่อจังหวัดของไทยสิ!...ผมนี่ชูป้ายไฟให้สุดแขนทีเดียว แม่ผมพยายามสรรหาชื่อจริงที่ดูเข้ากันจนมาจบที่ชื่อจังหวัดในประเทศที่ผมกับพี่ไม่เคยได้มีโอกาสไปเหยียบเลยสักครั้ง

‘พัทลุง’ กับ ‘ปราจีน’

ผมจำได้ว่าเคยเห็นพี่สาวโวยวายอยากจะเปลี่ยนทั้งชื่อเล่นชื่อจริง นางเคยบังคับให้ผมเรียกว่าพอลล่าอยู่หลายวัน แต่มันไม่สำเร็จเพราะชื่อกับหน้าตามันไม่ได้ไปทางเดียวกัน จนแม่อดรนทนไม่ไหวยื่นคำขาดว่า ‘อยากจะเปลี่ยนก็รอให้ฉันตายก่อนเถอะย่ะ’

พ่อตายไปนานแล้ว แต่หมอดูทักแม่ว่าจะอายุยืนไปถึงร้อยปี

พี่กับผมเลยต้องก้มหน้าก้มตาใช้ชื่อแสนโมเดิร์นนี้ไปตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ผมแค่อยากจะสาธยายให้ฟังเท่านั้นเองว่าชื่อผมนั้นก็มีที่มาที่ไปไม่ใช่ไก่กากะโหลกกะลาปาจิงโกะ และชื่อผมมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้หรอกครับ จะเรียกว่าการกระทำของผมในตอนนี้เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ไม่สิ -- ต้องบอกว่าผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีวันนี้เหมือนกัน -- วันที่ต้องแอบมองผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อของตัวเอง

ตอนนี้เป็นเวลา 11 นาฬิกา 23 นาที พี่ปูนกำลังเดินไปเดินมาขณะคุยโทรศัพท์ไปด้วย แม้ผมจะมองผ่านกระจกบานใหญ่ติดสติ๊กเกอร์ฝ้าเป็นเส้นเป็นชั้นเข้าไป แต่ก็พอจะรู้ได้ว่าพี่เขาเอื้อมมือไปเกาหลังเป็นครั้งที่ห้าแล้วเดาว่าขี้กลากน่าจะขึ้น บางทีผมอาจจะซื้อคาเนสเทนแล้วมายื่นให้พี่ปูนเพื่อเป็นข้ออ้างในการสนทนานะ อาจจะถามว่าพี่เป็นเกลื้อนหรือกลากกันครับ? หรืออาจจะมีไมตรีอาสาช่วยทายาให้แล้วตามด้วยสิ่งที่ผมต้องการจะพูดแต่ยังหาจังหวะเหมาะไม่ได้

ร่างสูงใหญ่ของคนในห้องลงนั่งเก้าอี้พลางเอนตัวเอนไปตามองศา ท่าทางกึ่งจะเคร่งเครียดกึ่งจะผ่อนคลาย คือเอาจริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกอย่างไรเพราะมองหน้ามันแทบไม่เห็น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็พยายามชะเง้อชะโงกเพื่อมองอากับกิริยาต่อไปอย่างไม่คิดสนใจงานที่ค้างอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“เพื่อนครับ? เพื่อนกูครับ...”

“อะไร”   ผมส่งเสียงห้วนสั้นตอบโต้คนข้างๆ พลางไหวไหล่หนีนิ้วไอ้โป้ยที่ส่งมาสะกิด

“มึงมองเชี่ยไรวะลุง มีเรื่องอยากคุยกับลูกพี่กูเหรอ”

“สาระแน”

“โหย!! ไอ้ลุง”   ไอ้โป้ยโอดครวญเสียงดัง และมันก็พยายามเรียกร้องความสนใจผมได้สำเร็จ   “กูสงสัยเฉยๆก็เลยถาม ไม่ได้คิดอยากเสือกเลยสักนิด อย่างงี้มึงมิด่าความอยากรู้ของคนทั่วประเทศว่าเป็นการสาระแนเหรอ ร้ายกาจนะมึง”

เอิ่ม...กูด่าแค่มึงเท่านั้นเองนะไอ้เพื่อนเวร นี่เล่นเอาคนทั้งประเทศมาข่มขวัญกูซะงั้น

“เยอะนะมึง”   ผมว่ามัน แล้วตัดสินใจว่าต้องล้มเลิกการแอบมองแต่เพียงเท่านี้   “งานไม่มีทำรึไง งานน้อยไปใช่มั้ยปากถึงได้ว่างน่ะ”

“กูทำงานด้วยมือเว่ย แต่มึงอ่ะทำอะไร”   ผมรู้ได้ทันทีว่าสวิชต์ช่างสงสัยมันเปิดแล้ว ก็เลยแกล้งทำเป็นหูทวนลมหันหน้ากลับเข้าจอทำทีเป็นจะเริ่มทำงานต่ออีกครั้ง   “อย่าๆ การเมินของมึงไม่ได้ผลกับกูมานานแล้ว”

ไอ้โป้ยคว้าไหล่ผมหมับเพื่อเป็นหลักยึดให้มันเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ชนิดที่ว่าหายใจรดต้นคอ นี่ถ้าผมเผลอหันหน้าไปป๊ะมันล่ะก็ริมฝีปากของเราสองคงได้ประทับกันเป็นแน่ แค่คิดผมก็ฝืนคอแข็งเอาไว้ด้วยความเสียวไส้ แม้ว่าเราจะเคยเห็นตูดกันและกันเมื่อเข้าค่ายสมัยประถมยันมัธยมมาแล้ว แต่ตอนนี้แค่พี่ปูนคนเดียวผมก็เครียดจะแย่แล้วไม่ต้องมีมันมาร่วมวงอีกหรอก

“เอาหน้าไปห่างๆ ได้ป่ะวะ”   อย่าเรียกว่าดันหน้าเลย ผมนี่ไสหัวมันออกไปให้พ้นรัศมีอันตราย และในเมื่อรู้สันดานเพื่อนตัวเองดีผมก็ยอมหันไปเผชิญหน้าให้ความเสือกมันทิ่มแทงอย่างจำนน   “เอาล่ะวีรภาพ...มึงดูปากลุงนะครับ เรื่อง-ของ-กู”

“ก็ใช่ไง! ตั้งแต่กูเริ่มสงสัยมันก็กลายเป็นเรื่อง-ของ-กูไปเรียบร้อยแล้ว”

ไอ้ห่า! หน้าด้านโคตร

“และจิตสัมผัสของกูบอกว่ามันเกี่ยวโยงกับคืนที่มึงเมาเป็นหมาแล้วถูกพี่ปูนหิ้วกลับบ้านแน่ๆ”

แม่นสัด!!

“เดามั่วแล้วมึง”  ผมเฉไฉทันที 

“งั้นก็เฉลยสิครับ”   ไอ้โป้ยยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกครั้ง สีหน้ามันยิ้มยั่วอย่างที่ผมรู้ว่ามันมั่นใจในจิตสัมผัสมาก    “เพราะปกติมึงแทบจะไม่มองหน้าพี่เขาด้วยซ้ำ แต่นี่มึงจ้องเอาๆ จนกระจกจะทะลุอยู่แล้ว”

“ไม่มีอะไรน่ามึง”   ผมรีบปฏิเสธ แต่ก็ต้องรีบเพิ่มเติมเหตุผลโดยด่วนเมื่อเจอคิ้วเข้มๆ ของเพื่อนเลิกขึ้นอย่างจับผิด   “คือกูแค่สงสัยไง ที่มึงพูดเมื่อวันก่อนอ่ะ ว่าพี่ปูนแม่งหล่อลากไส้ลากไตลากตับ กูก็แค่พยายามหามุมนั้นไง”

“จริงเร๊อ~”   น้ำเสียงมันไม่ได้มีความเชื่อถือผมเลยสักนิด ไอ้ลูกเจ้าของร้านทองมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มน่าขนลุกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะตัดสินใจว่าจะยอมปล่อยลูกหมาตัวน้อยๆ อย่างผมไป   “เอาเถ๊อะ~ ถ้ามึงไม่อยากจะพูด กูจะไปง้างปากก็ใช่ที่”

แล้วไอ้โป้ยก็ดันเก้าอี้กลับเข้าที่ตัวเองแล้วเริ่มทำงานของมันต่อเป็นการสื่อว่าความอยากรู้อยากเห็นได้สิ้นสุดลงแล้ว ผมนั่งนิ่งๆ ซึมซับอิสระอยู่ซักราวๆ สองสามนาที ก่อนจะกลับมาเริ่มงานของตัวเองอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นหางตาของผมก็คอยแต่จะจ้องไปทางห้องนั้นทั้งที่มันมองไม่ค่อยจะเห็นอะไร

ผมพยายามสลัดความคิดเกี่ยวกับเรื่องผัวๆ เมียๆ ออกไปจากสมองเป็นรอบที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเอ็ด แต่ให้ตายเหอะ! มันยากลำบากกว่าที่ผมคิดไว้มาก จะด้วยเพราะเหตุผลกลใดก็ไม่อาจทราบ แต่ผมไม่สามารถหยุดความคิดที่ว่าพี่ปูนเป็นเมียผมแล้วไปได้ อาจเพราะพี่ปูแมนมาก แถมยังเป็นผู้ชายคนแรกของผม แล้วคงเป็นเพราะสัมพันธภาพของเราสองคนไม่ค่อยจะกลมเกลียวกันสักเท่าไหร่ เพราะพี่ปูนเป็นเจ้านาย เพราะผมไม่คิดว่าจะต้องไปเข้าข้างหลังใคร นั่นแหละ! มันมีหลายเหตุขนาดนี้แน่เลยทำให้ผมหยุดคิดถึงมันไม่ได้สักที

สมนึกเบเกอรี่ควรจะเป็นสิ่งแรกที่ผมต้องให้ความสนใจที่สุดในตอนนี้สิ! ผมควรจะรีบส่งไฟล์งานไปให้พี่กรได้แล้ว เพื่อที่เจ้าของร้านขนมชื่อพิกลนี้จะได้เริ่มทำมาหากิน ทั้งที่ผมไม่มั่นใจว่าชื่อร้านพี่แกจะเรียกลูกค้าได้ก็ตาม แต่จากขนมเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้าของร้านฝากผ่านพี่กรมาให้ก็ต้องนับว่าอร่อยไม่แคร์ชื่อเหมือนกัน

ผมตรวจสอบความเรียบร้อยอีกเป็นครั้งสุดท้าย ตำแหน่งข้อความและการสะกดนั้นจะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าหลุดรอดไปถึงกระบวนการพิมพ์นั่นหมายความถึงการขาดทุนหากลูกค้าตีกลับ จะไปหวังอะไรจากโรงพิมพ์ที่เป็นด่านสุดท้ายไม่ได้หรอก แค่พิมพ์ไม่ให้สีเพี้ยนกับส่งงานกลับมาให้ทันก็นับว่าบุญหัวแล้ว บางงานนี่ถึงขนาดต้องรับมาแบบดิบๆ แล้วนั่งช่วยกันพับเองด้วยซ้ำ เสียเวลาทำงานจนอยากจะร้องไห้ แต่พี่กรก็ให้เหตุผลที่ไม่อาจละทิ้งโรงพิมพ์แห่งนี้ได้เพราะการเสนอราคางานจากที่นี่นั้นถูกกว่าที่อื่นแบบเห็นกำไรนอนมาเต็มๆ แต่ก็ส่งให้ได้แต่งานพื้นๆ ที่ไม่ต้องใส่รายละเอียดมากเท่านั้น เพราะถ้าเป็นงานหินจากบริษัทดังๆ พี่กรกับพี่ปูนก็จะเลือกโรงพิมพ์ของเพื่อนที่คุณภาพดีกว่ามากมายเป็นตัวเลือกอันดับแรก

คงไม่ต้องบอกสินะว่าสมนึกจะถูกส่งไปที่ไหน   

“ลุง”

เสียงของบางคนทำให้ผมหูผึ่งถึงกับเงยหน้าจากหน้าจอประหนึ่งติดสปริง พี่ปูนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาทำให้ผมใจเต้นตุบตับด้วยความตื่นเต้น จากหางตาผมเห็นไอ้โป้ยหันมามองผมแล้วส่งเสียง ‘เห๊อะ’ ใส่เบาๆ

“งานของสมนึกเสร็จรึยัง?”

“เสร็จแล้วพี่ กำลังจะส่งไฟล์ไปให้พี่กรครับ”

“อืม เสร็จแล้วเก็บของนะ มีงานด่วนเข้ามา”   

“ได้ครับพี่ อีกสิบนาทีครับ”

“ไปเจอพี่ที่รถนะ”

เป็นการนัดหมายสั้นๆ ที่ผมรู้ดีว่า ‘การเก็บของ’ นั้นหมายความว่าลูกค้าที่รักต้องการใช้บริการฟรีที่บริษัทนำเสนอโดยไม่ต้องลงมือทำเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะต้องไปถ่ายรูปสถานที่หรือผลิตภัณฑ์เสียทุกงานหรอกครับ ถ้าเป็นงานจากเจ้าใหญ่ๆ ที่ชำนาญการทางนั้นจะมีพร้อมทุกอย่างเพื่อให้เราเริ่มออกแบบได้ทันที แต่ก็จะโทษบริการเสริมของบริษัทไม่ได้ที่จะมีท่านเจ้าของงานขี้เกียจจะจับภาพสินค้าหรือสถานที่ด้วยตัวเอง

มันเป็นการแข่งขันทางการค้าน่ะนะ ราคาสมเหตุสมผลกับการบริการที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

“คราวนี้ก็นั่งมองซะให้พอนะมึง”   ไอ้โป้ยเห่า เอ้ย ส่งเสียงแซวขึ้นมาทั้งที่ตามันยังจับจ้องอยู่ที่งานบนหน้าจอ

“เสือกอีกแล้วนะครับ”   ไอ้เพื่อนเวรหัวเราะหึๆ ผมรีบส่งไฟล์งานไปให้พี่กรอย่างไว เซฟงานอีกครั้งแล้วปิดเครื่อง เมื่อปิดสวิตช์เรียบร้อยก็รีบคว้ากล้องจากตู้เก็บขึ้นมาขึ้นสะพายบ่า ตามด้วยกระเป๋าเงินเหี่ยวๆ กับโทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน แล้วรีบออกไปยังสถานที่นัดพบ ณ. ลานจอดรถหน้าบริษัท

บุคคลที่สองตาผมมองเห็นได้ทันทีที่เปิดประตูออกมากำลังยืนสะท้านแสงแดดประหนึ่งพรีเซนเตอร์ครีมแก้ฝ้า พี่ปูนเหมือนจะวางสายโทรศัพท์ทันทีเมื่อเห็นผมเดินก้าวเข้าไปหา ใบหน้าพี่แกคล้ายจะหงุดหงิดจากสายที่เพิ่งจบการสนทนาไป ผมรีรอว่าควรจะเดินเข้าไปเลยดีหรือไม่ แต่จากสายตาที่มองสบมาก็จำต้องลากเท้าเดินต่อไป และเมื่อยืนเผชิญหน้ากันผมก็เกิดอาการใบ้รับประทานไปชั่วครู่ พี่ปูนทำเพียงแค่เร่งผมให้เข้าไปในรถโดยปราศจากร่องรอยความอึดอัดใจ

ทันทีที่ก้าวเข้ามานั่งในรถยนต์ราคาแพงที่ผมไม่มีปัญญาจะดาวน์ ผมก็กระชับกระเป๋ากล้องเข้าอ้อมกอดทันทีอย่างกับมันจะช่วยให้ผมผ่านพ้นความประดักประเดิดไปได้ และเมื่อพี่ปูนเริ่มขับเคลื่อนรถออกจากลานจอด...เดดแอร์ก็เริ่มขึ้น

ผมเดาว่ามันเป็นบรรยากาศปกติระหว่างผมกับพี่ปูนที่ไม่เคยคุยกันดีดีเกินสิบประโยค แต่วันนี้สมองส่วนรับรู้ของผมมันเห็นต่างออกไป มันเหมือนกับว่าความเหม็นขี้หน้าที่ทำเอาผมตั้งป้อมกับพี่ปูนมาตั้งนมนานกลายเป็นธาตุอากาศไปซะอย่างนั้น ค...แค่เพราะผมได้...เอ่อ...นั่นแหละ! มันเป็นสิ่งที่ผมเถียงกับตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่ว่ายังไงการสั่งสอนของพ่อผมถึงการเป็นสุภาพบุรุษที่ดีมันฝังรากลึกเกินกว่าที่ผมจะใช้จอบกรุยออกไปจากจิตสำนึกได้

ผมต้องรับผิดชอบพี่ปูน 

แต่พี่ปูนนั้นคงไม่ได้มานั่งคิดมากเหมือนผมแน่ เพราะเห็นพี่แกสบายๆ ถ้าดูจากการเคาะนิ้วเป็นจังหวะเพลงลงกับพวงมาลัยรถ ริมฝีปากบางที่มักพ่นถ้อยคำเจ็บลึกใส่ผมก็กำลังพึมพำเนื้อเพลงภาษาอังกฤษแบบไม่มีสะดุดติดขัด  -- โอเค...ตอนนี้ผมได้เวลาในการแอบมองพี่ปูนแบบไม่มีตัวสอดได้เต็มที่อย่างที่ไอ้โป้ยบอกแล้ว

นอกจากกล้ามเนื้อที่ดูว่าคงสร้างมาจากฟิตเนตแล้วนั้น พี่ปูนแม่งโคตรสมบูรณ์แบบ! ส่วนสูงที่ทำเอาผมต้องตกเป็นรองทันทีเมื่อยืนเทียบกัน ไหล่กว้างผึ่งผาย แผ่นหลังตึงแน่นอย่างที่ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงใส่สูทได้ออกมาดูดีขนาดนั้น รูปหน้าคมเข้ม แนวคางเป็นสันแข็งแกร่ง ถ้าจะมีจุดตำหนิใดบนร่างกายนี้ก็คงจะเป็นไฝสีดำเม็ดเล็กๆ ที่จะเรียกแบบสามัญชนหน่อยก็คือขี้แมลงวันที่เห็นได้ประปรายตามผิวเนื้อ แม้แต่ใบหน้าหล่อขั้นเทพยังอุตส่าห์มีจุดสยบสองเม็ดเรียงกันที่แนวคางด้านซ้ายกับอีกหนึ่งเม็ดริมใบหูด้านเดียวกัน ผมคิดว่าเมื่อเปลื้องผ้าออกคงหาเจอได้อีกหลายสิบเม็ด เดาว่าพวกผู้หญิงคงดี๊ด๊าที่จะได้นับจำนวนไปทั่วร่างแน่


เสียดายที่เช้าเมื่อวานผมได้แต่ช็อค ไม่อย่างนั้นคงได้รู้แจ้งแล้วว่าเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า


“หน้าพี่มีอะไรติดรึไง?”  เสียงเรียบๆ ที่แฝงไปด้วยความสงสัยดังขึ้น ฉุดสติผมให้กลับเข้าสมอง

“เอ่อ...ผมแค่มองตามคำบอกของโป้ยน่ะพี่”   ผมพยายามปัดเรื่องให้พ้นตัวมากที่สุด จะไปบอกได้ยังไงว่ากำลังสงสัยเรื่องไฝในร่มผ้าของพี่

“คำบอกอะไร?”   พี่ปูนหันมามองผมเกือบสองวิ ก่อนจะกลับไปมองถนนเบื้องหน้าตามเดิม

“มันบอกว่าพวกผู้หญิงอยากได้พี่ไปเป็นพ่อของลูกกันทั้งนั้น”   สิ้นคำผม พี่ปูนถึงกับพ่นหัวเราะพรืดอย่างเห็นเป็นเรื่องไร้สาระมากมาย   “มันคิดว่าผมตาถั่วที่มองไม่เห็นความหล่อของพี่”

“หึหึ แล้วในสายตาลุงคิดว่าคนหล่อต้องเป็นแบบไหนล่ะ?”   พี่ปูนอมยิ้มพร้อมกับยิงคำถามเดียวกับไอ้โป้ย

“พี่เปี๊ยกอะพี่”

“พี่เปี๊ยกเนี่ยนะ! แฮ่ม! ก็ไม่ใช่ว่าอะไรหรอก แต่ก็โอเคถ้านั่นคือบรรทัดฐานของลุง”   พี่ปูนพยายามแถแก้ตัวที่เผลอหลุดปากเสียงดังออกมา เพราะหูผมมันประมวลคำใหม่ได้ประมาณว่า ‘หน้าอย่างพี่เปี๊ยกเนี่ยนะ!’    “แต่พี่อยากรู้ว่าลุงตัดสินจากอะไรวะ”

คำถามจากคนหน้าตาดีทำให้ผมต้องลอบถอนหายใจออกมา ผมเดาว่าพวกคนที่หน้าตาเหนือมนุษย์ธรรมดา มักไม่เข้าใจในมุมมองที่นอกเหนือไปจากความสวยหล่อเท่าไหร่ และมันทำให้ผมรู้สึกสลดทุกครั้งที่รู้ว่าแท้จริงแล้วโลกเรามันก็ไม่พ้นกับการตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ทำไมคนเราต้องจำกัดความสวยหล่อไว้แค่ที่ใบหน้าเท่านั้นล่ะ ในเมื่อมันมีส่วนประกอบอื่นที่สำคัญกว่านั้นมาก

แต่มันก็แค่ความคิดที่พยายามจรรโลงโลกเท่านั้น เพราะเอาจริงๆ แล้วไม่ว่าจะน้อยหรือมาก เราก็ตัดสินบางสิ่งบางอย่างแค่ภายนอกกันอยู่ดี แม้แต่คนโลกสวยอย่างผมก็ไม่มีข้อยกเว้น…

“ว่าไง?”   พี่ปูนรบเร้าหาคำตอบ ผมเลยต้องยกประโยคที่ร่ายให้ไอ้โป้ยฟังกลับมาทวนซ้ำอีกครั้ง

“ก็เพราะว่าพี่เปี๊ยกไม่เคยนินทาเมียให้พวกผมได้ยิน ไม่เคยทำหน้าป่วยใส่โทรศัพท์สักครั้งเวลาเมียโทรมาสั่งนั่นนี่ พี่เปี๊ยกพูดเพราะกับลูกเมียแม้แต่เวลาลับหลัง แล้วก็ไม่เคยเกี่ยงงานและการขอความช่วยเหลือใดใดจากเพื่อนร่วมงาน ให้คำปรึกษาโดยไม่มีการเหน็บแนม ผมก็รู้นะว่าพี่เปี๊ยกไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไรแต่ทั้งหลายแหล่ที่ผมเห็นทั้งต่อหน้าและได้ยินมา มันสรุปได้ว่าพี่เปี๊ยกแม่งหล่อโคตรๆ อะพี่ หล่อแบบได้จิตได้ใจผมไปเลย”


พูดแล้วก็ของขึ้น! ผมต้องหาขนมมาตอบแทนความหล่อของพี่เปี๊ยกที่มันท่วมท้นอยู่ในอกผมซะหน่อยแล้ว


“หึหึ...”

เสียงขบขันขึ้นจมูกจากเจ้าของรถ เรียกสติที่กำลังเตลิดของผมอีกครั้ง มันราวกับเป็นเสียงสบประมาทต่อความคิดที่แสนบริสุทธิ์ของผมที่มีให้คนๆหนึ่ง แต่ในจังหวะที่ผมหันหน้าไปด้านข้างเพื่อที่จะปะทะด้วยถ้อยคำอย่างทุกที ก็มีบางสิ่งที่ส่องออร่าโชติช่วงหยุดผมเอาไว้ได้ทัน

“เด็กดี...”   

ผมควรจะโมโหกับคำครหาทั้งที่อายุเราก็ต่างกันไม่กี่ปี ผมไม่ใช่เด็กตัวเล็กที่จะต้องดีใจกับคำชมของคนอื่น แต่รอยยิ้มของพี่ปูนทำให้ผมโย้แย้งไม่ออก มันก้ำกึ่งระหว่างความเอ็นดูกับอารมณ์ประหลาดใจ แต่นั่นยังไม่ทำให้ผมอึ้งมากพอเท่ากับฝ่ามือใหญ่ๆ ที่เอื้อมมาโยกหัวผมไปมา ผมอยากจะปัดมือนั้นทิ้งแล้วตวาดไปด้วยเสียงแมนๆ ว่าผมไม่ใช่เด็ก

แต่...

หัวใจผมมันพองฟูอย่างประหลาดกับคำชมที่ไม่ควรมอบให้กับผู้ใหญ่วัย 25 ปี แต่ผมห้ามมันไม่ได้จริงๆ ที่จะรู้สึกย้อนวัยให้หัวใจอิ่มเอิบ ไม่เคยมีใครชมผมด้วยคำนี้อีกเลยนับตั้งแต่ผมรวมหัวกับไอ้โป้ยขโมยวิกผมของครูสอนเลขสมัยประถมแล้วถูกจับได้ พ่อเรียกผมว่าไอ้แสบและแม่ให้รางวัลผมด้วยไม้เรียวจนก้นขึ้นแนว


‘เด็กดี’  ผมชอบคำนี้ยังไงก็ไม่รู้


แต่ด้วยภาพพจน์พระเอกทำให้ผมไม่สามารถรับถ้อยคำนั้นได้อย่างเต็มใจ  “ผมไม่ใช่เด็กแล้วน่า”

“คำชมหรอกน่า อย่าคิดมาก”  พี่ปูนโยกหัวผมอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงละมือออกไปวางบนพวงมาลัยตามเดิม  “พี่ไม่คิดว่าลุงจะตอบแบบนั้น แต่ก็นะ...สมเป็นลุงดี”

“ได้ข่าวว่าที่ผ่านมาผมกับพี่ไม่กินเส้นกันนะ รู้ได้ยังไงว่าอันไหนถึงจะสมกับเป็นผม”  ปากของผมผลิตคำพูดเร็วกว่าสมองเสมอ แต่พี่ปูนก็แค่หันมาสบตาเร็วๆ ด้วยรอยยิ้มที่ยังไม่จางหาย 


“ถ้าไม่มองอยู่ตลอด พี่จะกล้าพูดได้ยังไง”

.
.
.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
.
.
.

เกิดช่องว่างระหว่างการสนทนาครั้งมโหฬาร อะไรคือสิ่งที่ทำให้พี่พูดด้วยความมั่นใจขนาดนั้น มองอยู่ตลอดงั้นเหรอ? มองใครวะ? ไอ้โป้ย? พี่เปี๊ยก? หรือว่า...ผม? -- สายตาแบบไหนที่พี่ใช้มองผมกัน ทุกครั้งก็เห็นแต่สายตาเย่อหยิ่งจ้องจะงับหัวกันเท่านั้น แล้วมองในความหมายแบบไหนกัน ประเมินงานว่าควรจะไล่ออกดีหรือไม่งั้นเหรอ? หรือดูความประพฤติว่าสมควรเพิ่มเงินเดือนหรือไม่ใช่มั้ย?


แต่ให้ตายเหอะ!!


ก่อนจะมานั่งคิดเรื่องมองหรือไม่อย่างไร ผมควรจะประหลาดใจกับการสนทนาที่ไม่มีการกวนตีนใส่กันในครั้งนี้มากกว่า แถมยังมีการแจกยิ้มอันแสนหายากให้ผมอีกต่างหาก รอยยิ้มก็ช่างจะอ่อนโยนเหลือเกินจนน่าขนลุก! นี่มันวันอะไรกันเนี่ย -- ไม่สิ! ต้องเป็นผลพวงมาจากเมื่อวานแน่ๆ แค่โดนผมจิ้มไปทีสองทีทำให้พี่เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้เลยรึ พระเจ้า! แสดงว่าพี่ปูนเป็นฝ่ายรับน่ะสิ พี่ชอบโดนยิ้มโดยหนอนน้อยน่ารักงั้นสิใช่มั้ย!!

ไม่ว่าจะทำยังไงผมก็นึกเรื่องเมื่อคืนวานไม่ออก เรียกว่าไม่มีหลงเหลืออยู่ในความทรงจำเลยจะดีกว่า ผมไปปลุกปล้ำพี่ปูนอีท่าไหน กระชากขาพี่ปูนอ้า หรือว่าพลิกร่างล่ำให้โก้งโค้ง แล้วผมใส่ถุงยางได้ยังไง... ฉิบหาย!! ถุงยาง -- ผมไม่เห็นของที่ว่าตกหล่นที่ไหนเลยด้วยซ้ำแม้แต่ในถังขยะ นี่ผมเล่นของสดกับพี่ปูนเลยรึเนี่ย บ้าจริงๆ พี่ปูนคงไม่ท้องหรอกนะ...ฮ่าๆๆ มึงบ้าแล้วไอ้ลุง

“ลุง!”

เสียงพี่ปูนเจาะลูกโป่งในหัวของผมแตกอีกครั้ง แต่คราวนี้ด้วยเสียงที่ห้วนเข้มกว่าเดิม ผมยืนตัวตรงแหน่วมองรอบตัวที่บรรยากาศเปลี่ยนไป เบื้องหน้าคือผู้หญิงสองคนที่กำลังมองมาด้วยความสงสัย กับหนึ่งหนุ่มร่างใหญ่ที่จ้องจะแดกหัวผมอยู่ในตอนนี้

 ซวยแล้วไง ผมมัวแต่เพ้อจนมาถึงนี่ได้ไงวะ

 “เดี๋ยวตามคุณหนิงไปถ่ายรูปนะ พี่จะอยู่คุยรายละเอียดกับคุณฝนที่นี่”

ผมพยักหน้าอย่างมึนๆ แต่ก็รับคำจากเจ้านายแล้วเดินตามพี่ผู้หญิงที่แลดูสุภาพเรียบร้อยไปตามทาง ผมมองไปรอบตัวที่ดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่สวนกลาง ก็ดูเหมาะกับร้านนวดแผนไทยที่กำลังจะเปิดคอร์สบำรุงความงามด้วยธรรมชาติน่ะนะ เนื้อที่ขนาดพอเหมาะ โล่งโปร่งสบาย น่ามาลองใช้บริการดูสักครั้งแต่ติดที่ว่าราคานั้นคงเหมาะสมกับผู้มีอันจะกินมากกว่า

คุณหนิงแนะนำสถานที่สำคัญที่ต้องการให้เป็นจุดสนใจของแผ่นพับที่ใช้โปรโมทครั้งนี้ อีกทั้งยังมีป้ายแวนิลและป้ายตั้งโฆษณา ผมกระชับกล้องดิจิตอลดีเอสแอลอาร์คู่ใจที่ทุบกระปุกหมูซื้อมาไว้มั่น ก่อนจะถ่ายกราดไปยังจุดที่น่าสนใจไม่ยั้ง ผมหามุมที่ดึงดูดที่สุด วัดแสงให้พอเหมาะก่อนจะรัวชัตเตอร์ เปลี่ยนเป็นเลนส์ไวด์เพื่อถ่ายบรรยากาศได้กว้างขึ้นบ้างในบางมุม ต้องขอบคุณคุณหนิงเหลือเกินที่ไม่จ้ำจี้จ้ำไชเหมือนลูกค้าบางเจ้า เธอปล่อยให้ผมเลือกมุม เลือกสัดส่วนได้ตามต้องการ โดยเพียงแค่แนะนำว่าต้องการนำเสนอในส่วนไหนเท่านั้น

“คุณพัทลุงเป็นช่างภาพประจำบริษัทหรือคะ?”  ผมจะเหมาเอาว่าเป็นคำชมแล้วกันเมื่อเลื่อนภาพในจอให้คุณหนิงดูไปเรื่อยๆ มีสามสี่รูปที่ออกปากว่าชอบมากเป็นพิเศษ

“ผมเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ครับ แต่เล่นกล้องเป็นบ้างก็เลยรับจ๊อบพิเศษบางครั้ง”   เมื่อครบหมดทุกรูป คุณหนิงก็แสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา เป็นอันว่าการถ่ายรูปสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้   “ถ้ามีตรงไหนที่ต้องการนำเสนออีกก็บอกนะครับ แล้วทางเราจะส่งไฟล์รูปภาพให้ เผื่อทางร้านจะอัพขึ้นเว็บไซต์”

“ขอบคุณนะคะ ถ่ายออกมาได้สวยมากเลยค่ะ ที่จริงหนิงก็ลองถ่ายไว้บ้างแต่ออกมามันก็ดูไม่ดีพอ”

“มันอยู่ที่แสงแล้วก็องค์ประกอบด้วยครับ แต่ถ้าเป็นผมก็จะคำนวณไปถึงขั้นตอนออกแบบเลย บางครั้งเราก็ต้องใช้หลายรูปเพื่อมารวมกันให้เป็นรูปเดียวที่โดดเด่น”

“ถ้างั้นคุณฝนก็เลือกถูกบริษัทแล้วสินะคะ”   คุณหนิงเผยยิ้มน่ามอง

“ร้านการะบุหนิงจะไม่ผิดหวังแน่ครับ”   ผมให้คำมั่นพร้อมรอยยิ้มตอบ แล้วคุณหนิงก็ขอตัวเพื่อไปทำงานต่อปล่อยให้ผมยืนเช็คภาพอีกครั้งตามลำพัง

“ที่นี่ร่มรื่นนะครับ”   เสียงคุ้นหูดังแว่วมา ทำเอาผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาน้อยน่ารักที่หูกระดิกเมื่อได้ยินเสียงเจ้านาย สองตาผมพุ่งตรงไปยังผู้ชายตัวสูงที่เดิมชมสถานที่พร้อมกับเจ้าของงาน

ผมไม่ได้เห็นมาดนี้ของพี่ปูนบ่อยๆ จะเรียกว่ามาดฉอเลาะก็คงได้ เพราะรอยยิ้มที่ผู้หญิงทั่วประเทศคงยกคะแนนให้เต็มร้อยนั้นดูหว่านเสน่ห์แบบเสแสร้งมากมายในสายตาผม แถมช่วงเวลาอยู่กับลูกค้าแบบนี้แหละที่พี่ปูนจะพูดจาดีจนน่าดึงลิ้นออกมาผ่า แต่ก็นั่นแหละ! ใช่ว่าคนอื่นจะมองพี่ปูนแบบที่ผมมอง



แชะ!



เพียงภาพเดียวที่ผมยกกล้องขึ้นถ่ายอย่างเผลอไผล ผมเบนสายตามาดูภาพที่ปรากฏที่จอ ผู้ชายคนนี้น่ะเหรอ? ผู้ชายคนนี้จริงๆใช่มั้ยที่ผมล่วงเกินไปด้วยความขาดสติ ทั้งรูปร่าง หน้าตาและฐานะ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่คนอย่างผมจะเอื้อมถึงได้เลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะต้องถึงกับใช้คำว่าอาจเอื้อมหรอก เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ผมตัดสินใจ...ผมเพียงอยากเสนอความรับผิดชอบ และการตัดสินใจว่าจะโน้มยอดสูงลงเกลี่ยดินอย่างผมหรือเปล่านั้นอยู่ที่พี่ปูนต่างหาก



“หิวข้าวรึเปล่า?”

“อะไรนะครับ?”   ผมหันหน้าจากหน้าต่างข้างเพื่อหันมามองคนที่ตั้งคำถามกับผมมากเกินกว่าปกติ พี่ปูนเหลือบมองผมเป็นระยะด้วยสีหน้าผ่อนคลาย

“พี่ถามว่าหิวข้าวรึเปล่า เห็นคิ้วขมวดเป็นปมเลย”   พี่ปูนถามซ้ำอีกครั้ง พร้อมกับใช้นิ้วจิ้มหว่างคิ้วตัวเองเพื่อเน้นย้ำไปด้วย   “แวะกินอะไรก่อนมั้ย?”

“...ผม”   

“กินอะไรล่ะ ข้างทางได้มั้ย?”   

“หนังหน้าผมเหมือนคุณชายที่ต้องกินของขึ้นห้างเหรอครับ”   ผมแทบจะตบปากตัวเองที่หลุดวาจายอกย้อนให้อีกฝ่ายตวัดสายตาฉับกลับมา   “เอ่อ...ผมหมายความว่าอะไรก็ได้ครับพี่”

“แกนี่มันจริงๆเลยนะ”   พี่ปูนส่ายหัวไปมาเหมือนไม่อยากจะถือโทษอะไร   “งั้นกินข้าวแกงแล้วกันนะ ถึงจะเป็นข้างทางแต่รสชาติเด็ดมาก”

การแนะนำของพี่ปูนทำให้ผมเผลอมองด้วยสายตาเคลือบแคลง และมันก็ดันไปผสานเข้ากับดวงตาคมของพี่ปูนเสียอย่างนั้น   “ทำไม? พี่ชอบกินร้านข้างทางนะบอกเลย”

“ก็ไม่ได้พูดอะไรซะหน่อย แค่คิดว่าพี่น่าจะชอบกินอะไรที่มันหรูหราไฮโซ”

“หน้าพี่เหมือนคุณชายที่ต้องกินแต่ของขึ้นห้างรึไง”

น่าน! โดนย้อนเข้าให้แล้วไงไอ้ลุง 

“อะครับ -- จะพาผมไปร้านไหนก็ตามสบายพี่เลย”   ผมยกมือยอมแพ้ จากหางตาผมเห็นพี่ปูนเหยียดยิ้มเล็กน้อย

แล้วเราก็มาจบลงที่ร้านข้าวแกงริมทางอย่างที่ว่า มีรถหลายคันหลายสภาพจอดเป็นแถวปิดหน้าร้านจนหาช่องเดินแทรกแทบไม่ได้ ด้านหน้าร้านมีป้ายข้อความที่โปรโมทร้านด้วยลายมือไก่เขี่ย สีที่ใช้นั้นนั้นซีดจางไปตามสภาพแผ่นไม้


‘ของดีริมทาง อร่อยสุดในสยามประเทศ ไม่ลองแล้วจะเสียใจไปสามชาติ’


ช่างเป็นการโอ้อวดสรรพคุณได้ทะลุทะลวงตับไตอย่างมาก ซึ่งดูจากสภาพร้านที่เป็นเพิงไม้โครง กับป้าที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของร้านในรูปลักษณ์ชาวบ้านสุดๆ ที่มีจุดเด่นที่ริมฝีปากแดงแปร๊ด ผมไม่เข้าใจเลยว่าอิเจ๊นี่ไปเอาความมั่นใจขนาดนั้นมาจากไหน

ผมเดินตามพี่ปูนไปยังด้านหน้าโต๊ะยาวที่มีถาดอาหารกับหม้อแกงมากมายนับสิบ มีการเวียนเอาไปอุ่นเป็นระยะเพื่อให้ไม่เย็นชืด ดูจากปริมาณลูกค้าที่ยืนด้านหน้าแล้วคงพอบอกได้ว่าอิเจ๊ไม่ได้อวดอ้างเกินจริงไปสักเท่าไหร่ พี่ปูนชะโงกมองจนทั่วก่อนจะหันมาสั่งความกับผมที่ยังดูงงๆ

“พี่เอาพะแนงหมู กุนเชียงแล้วก็ไข่ดาวด้วยนะ เอ้านี่ พี่เลี้ยง”   พี่ปูนพูดจบก็ส่งเงินให้ผมหนึ่งร้อยบาท แล้วไอ้คุณชายก็เดินจากไปเพื่อหาที่นั่ง ทิ้งให้ผมผจญชะตากรรมคนเดียว

“คนต่อไป! เอ้า! ไอ้หนุ่มเอาอะไรอย่าชักช้า ป้าขายดีมากเห็นมั้ย”

ผมอยากจะส่งค้อนประหลับประเหลือกให้อิเจ๊มาก แต่จากคนที่ยืนรอกับทัพพีในมือเจ๊ทำให้ผมรีบสั่งออกไป เมื่อชำระเงินเสร็จผมก็เดินกลับไปหาพี่ปูนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ เมื่อเห็นผมวางจานข้าวลงตรงหน้าพี่แกก็วางมือถือลงและเริ่มกินทันที ผมสอดส่ายสายตาไปรอบๆ เพื่อหาน้ำดื่มแล้วก็พบว่ามันอยู่ในคูลเลอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกับแก้วน้ำพลาสติกสีสดใสจำนวนมากที่วางอยู่ด้านข้าง   

“น้ำครับพี่”   ผมยื่นแก้วน้ำวางให้ด้านหน้าพี่ปูนที่ผงกหัวรับรู้ พร้อมกับส่งเงินทอนและกระดาษเช็ดปากให้   “ทิชชู่ครับพี่”

“ขอบใจ”

แล้วเราก็เริ่มกินกัน และนั่นก็ทำให้ผมรู้ว่าอิเจ๊ไม่ได้โฆษณาเกินจริงแต่อย่างใด มันอร่อยจนผมนึกเสียดายจริงๆ ถ้าพลาดไป ผมไม่เคยเห็นข้าวแกงร้านไหนทำพะแนงได้สมกับที่เป็นพะแนงมานานแล้ว มันทั้งเข้มข้นและน้ำก็ขลุกขลิกกำลังดี กุนเชียงก็ไม่แห้งแข็ง ไข่ดาวก็เป็นน้ำตาลในนิดๆ ขนาดพริกน้ำปลายังรสชาติดีไม่จืดจางด้วย

“คือมันเด็ดมากอ่ะพี่ปูน!”   ทั้งที่ข้าวยังเต็มปากแต่ผมก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ ผมเชื่อแล้วครับเจ๊ว่าของเจ๊อร่อยสุดในสยามประเทศ   “พี่รู้จักร้านนี้ได้ไงอ่ะ”

“หลงทางผ่านมา”   พี่ปูนพูดง่ายๆ ข้าวยังเคี้ยวไม่หมดปากเหมือนผมนั่นแหละ แต่แลดูไม่อุบาทเหมือนกันเท่านั้น   “เห็นคนเยอะเลยลองแวะกิน”

“อร่อยมากอ่ะพี่ ราคาก็ไม่แพงด้วย”

พี่ปูนกินหมดก่อนตามด้วยการกระดกน้ำลงคอรวดเดียวหมดแก้ว ผมที่เห็นท่าว่าพี่แกคงจะกระหายน้ำพอดูจึงขอแก้วเปล่าจากพี่ปูนเพื่อลุกไปกดน้ำมาให้อีกครั้ง ผมส่งแก้วคืนพี่แกด้วยรอยยิ้มผิดกับพี่ปูนที่มองผมด้วยสีหน้าปั้นยาก

“เป็นอะไรของแกวะลุง?”

“เอ่อ...ก็ผมอยากบริการพี่บ้าง”   ผมอ้อมแอ้มตอบ และคิดถึงโอกาสที่ต้องการมาทั้งวัน ถ้าผมไม่พูดตอนนี้จะได้มีโอกาสอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้   “เอ่อ...แล้วตอนนี้...เอ่อ...ร่างกายพี่เป็นไงบ้างหลังจากที่ผม...เอ่อ....”

พี่ปูนตีหน้างงไปสักแป๊บก่อนที่จะลากเสียงยาวอย่างเข้าใจคำถามในที่สุด   “ก็ปกติดีแล้ว แกทำพี่ปวดสะโพกน่าดู”

“ผมทำพี่แรงขนาดนั้นเลยเหรอ”   ผมนี่อยากจะทิ้งช้อนแล้วซุกหน้าลงกับฝ่ามือเพื่อปกปิดความอาย ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะรุนแรงในเรื่องเซ็กส์ได้ขนาดนี้ ทั้งที่กับแฟนคนก่อนๆ ยังบอกราวกับนัดกันมาว่าผมออกจะอ่อนโยน ทะนุถนอมพวกเธอแค่ไหน

“สองรอบเลยนะคิดว่ามันขนาดไหนล่ะ พี่ไม่เตะคืนก็บุญแล้ว”

แม้พี่ปูนดูจะโมโหนิดๆ แต่มันกลับทำให้ผมอายหนักยิ่งกว่าเดิม ส...สองรอบเสียด้วย แสดงว่าผมคงติดใจร่างกายพี่ปูนอย่างหนักแน่ๆ ต่อไปนี้ผมคงต้องระวังตัวในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มากกว่าเดิมแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกก็ได้ ผมวางช้อนส้อมในมือลง ความหิวหายไปจนเกลี้ยงทั้งที่ยังกินได้ไม่หมดจาน ผมยกมือไหว้พี่ปูนอย่างขออภัยจากใจจริง

“เฮ้ย! ไม่ต้องไหว้ พี่ไม่ถือสาหรอกเรื่องแค่นี้เอง อีกอย่างแกก็ไม่รู้ตัวดัวย”

คำพูดที่เหมือนอยากให้เรื่องมันผ่านเลยไปทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา พี่ปูนช่างใจกว้างเหลือเกิน มันทำให้ผมรู้สึกแย่ที่เคยคิดหมั่นไส้พี่เขาอยู่หลายปี แต่ในเมื่อผมเป็นลูกผู้ชาย พ่อสอนให้ผมกล้าทำกล้ารับ ถึงแม้จะบอกว่าผมไม่มีสติก็เถอะ แต่ผมก็ทำการปลุกปล้ำพี่ปูนไปแล้ว

“พี่ปูนครับ”   ผมแทบจะลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อเอื้อมมือไปฉุดรั้งมือพี่ปูนมากุมไว้   “ผมจะรับผิดชอบพี่เองครับ!!

ผมก็ไม่ได้หวังว่าพี่ปูนจะทำหน้าเอียงอายแล้วก็พยักหน้ายอมรับหรอกนะ แต่การชักมือกลับแล้วบรรจงฟาดลงมาเต็มกบาลผมนั้นก็ไม่ได้อยู่ในความคิดด้วยเหมือนกัน พี่ปูนโกรธจนแทบจะกินหัวผมได้อยู่แล้วตอนที่ผุดลุกขึ้นออกจากร้านไป มันเหมือนว่าทุกอย่างรอบตัวผมเงียบสงัด และเมื่อหันไปมองรอบร้านก็พบกับสายตาหลายคู่ที่จ้องตอบกลับมา เวรของกรรม!  ผมทำได้แค่หัวเราะแหะๆ แล้วรีบเก็บของวิ่งออกจากร้านตามพี่ปูนไปติดๆ

ผมยืนทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยอยู่หน้ารถพี่ปูน แต่ก็ตัดสินใจโกออนต่อไปโดยการเปิดประตูรถเข้าไปนั่งอย่างกล้าหาญ พี่ปูนเงียบจนน่ากลัว ผมนี่ใจหดเหลือเท่าเมล็ดถั่วเมื่อพี่ปูนหันมาพร้อมแดกผมด้วยเสียงอันดังลั่นห้องโดยสาร

แกคิดว่าทำอะไรอยู่วะ รับผิดชอบบ้าบออะไร!!”       

ก็ผมปล้ำพี่ พี่เป็นเมียผมแล้วผมก็ต้องรับผิดชอบ!!”   ผมก็สวนออกไปด้วยเสียงดังดุจเดียวกัน

ความเงียบเข้าครอบงำ พี่ปูนอ้าปากค้าง หน้าเหวอจนหมดภาพลักษณ์เซ็กซี่กายในใจผมไปจนเกลี้ยง ดวงตาคมกระพริบปริบๆ คล้ายกับพยายามประมวลข้อความที่ผมได้โพล่งออกไป ผมจ้องนัยน์ตาดำขลับตรงหน้าแน่วแน่ มันสื่อออกหลากหลายอารมณ์จนผมไม่แน่ใจว่าพี่ปูนรู้สึกอะไรอยู่กันแน่ แต่เมื่อแววตาไหวระริกครั้งสุดท้ายพร้อมกับรอยยิ้มเหยียดน้อยๆ ที่แสนจะดูดีเผยออกมา พี่ปูนก็ดูสงบลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

“เอาจริงเหรอวะพัทลุง”

“จริงสิพี่! ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมทำอะไรไปผมรับผิดชอบ”   พี่ปูนดูคล้ายจะขบขันกับการยืดอกรับผิดชอบของผม   “พี่ขำทำไมอ่ะ? ไม่เชื่อใจผมเหรอ”

“เปล่าๆ”   คำปฏิเสธของพี่ปูนช่างขัดกับร่อยรอยที่มุมปากอย่างเห็นได้ชัด และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกไปอีก ฝ่ามือใหญ่ก็ตบลงบนบ่าผมป้าบๆ ด้วยเรี่ยวแรงที่เกินมนุษย์มนา ทำเอาผมไหล่ลู่ตกอย่างช่วยไม่ได้

“ต่อไปนี้ก็ดูแลพี่อย่างดีนะน้องลุง”

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายอ้าปากค้างบ้าง ใจมันเต้นตึกตักกับการปลดปล่อยความรู้สึกหนักอึ้งที่มีมาสองวัน ในที่สุดผมก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกับการล่วงเกินพี่ปูนอีกต่อไป มันทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่สุดที่ไม่ถูกปฏิเสธอีกครั้ง ผมยิ้มให้พี่ปูน เป็นรอยยิ้มที่กว้างอย่างที่ไม่เคยยิ้มให้มาก่อน

“หึหึ ...เด็กดี”

พี่ปูนยิ้มบ้างพร้อมกับโยกหัวผมไปมา ผมว่าผมชอบจริงๆ นะ เหมือนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กที่กำลังถูกพี่ชายเอ็นดู มันจั๊กจี้ที่หัวใจยังไงก็บอกไม่ถูก...แต่ผมชอบจัง

พี่ปูนถอยรถออกจากที่จอดเพื่อมุ่งหน้ากลับบริษัท รอยยิ้มผมกับพี่ปูนยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก แม้รอยยิ้มของพี่แกจะดูเจ้าเล่ห์จนน่าหวาดระแวงก็เถอะ แต่สำหรับยิ้มของผมในตอนนี้นั้นหาใช่ยิ้มปิติยินดีเหมือนเมื่อห้านาทีที่แล้วแต่อย่างใด แต่มันเป็นยิ้มกลบเกลื่อนความเจ็บต่างหาก

ผมแอบลูบไหล่ข้างที่โดนตบเบาๆ มันยังเจ็บยิบๆ เหมือนมีมดนับพันตัวผลัดกันกัดผมอยู่ข้างใน พี่ปูนแม่งมือหนักเกินกว่าที่คาดไว้มาก แต่ถ้าจะวิเคราะห์จากกล้ามเนื้อของมันก็นับว่าสมเหตุสมผล แล้วงี้ถ้าเกิดเหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นมา มันมิตบผมกระเด็นติดกำแพงเลยรึไง

แค่คิดผมก็ห่อตัวด้วยความหนาวจับขั้วหัวใจ...เห็นทีว่าผมคงต้องเริ่มออกกำลังกายเพื่อเตรียมพร้อมรับมือรับตีนพี่ปูนไว้บ้างแล้ว

 
TBC.

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ยังไงล่ะยังไง.ช่างซับซ้อนยิ่งนัก :katai1:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สรุปว่า จะเปลี่ยนรุกรับใช่ป่ะ 555ล้อเล่นน
พี่ปูนแอบชอบเขาก็บอกกก

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai1: รอตอนต่อไปอย่างตื่นเต้นค่ัะ

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อาจจะสันนิษฐานได้อีกอย่างว่าอิลุงมันเข้าใจผิด ไม่น่าเกี่ยวกับเสียตัวแต่อาจเป็นการถีบพี่ปูนตกเตียงก็ได้ แต่ก็ยังงงเรื่องแก้ผ้าคืออิลุงแก้น่ะอาจคิดได้ว่าอ้วกใส่ แต่อิพี่ปูนนี่สิแก้ด้วยทำไมฟร่า? แต่ก็หวังว่าอิพี่จะไม่แกล้งอะไรปูนนะเล่นกับความรุ้สึกคนอื่นมันไม่ดีนะพี่ปูน

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ลุงช่างจินตนาการ = ลุงคิดไปเองว่าได้เสียบพี่ปูนสองรอบ

พี่ปูนน่าระแวงมาก

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โถ เด็กดี ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมพี่ปูนหรอก ใสซื่อซะจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด