กล(รัก)เกียร์ ตอนที่ 37 : เพราะรัก..คือยาวิเศษ
ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามีใครมาทำอะไรกับเท้าของผม ผมพยุงตัวขึ้นมานั่งก็พบว่าเป็นพี่ดินที่กำลังเอายาสมุนไพรนวดเท้าให้ผม ในขณะที่คนอื่นๆกำลังง่วนกับการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ากันอยู่
"เป็นไง หายปวดบ้างมั๊ย" พี่ดินเงยหน้ามาถามผมแล้วก็ก้มหน้าลงไปนวดเท้าให้ผมอย่างตั้งใจ
"พี่ดินครับ"
"อือ ว่าไง พูดมา.."
"ผมหายปวดแล้ว หายแล้วจริงๆ" ผมบอกพี่ดินด้วยน้ำเสียงดีใจระคนแปลกใจ เพราะว่าตอนนี้อาการปวดหายไปเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่พี่ดินเอายาสมุนไพรมานวดให้ตั้งแต่เมื่อคืน
"เอาจริงๆ มึงหายปวดจริงป่าวไอ้ฟ้า อย่าโกหกกูนะ" พี่ดินเงยหน้ามาถามผมด้วยสายตาจริงจัง
ผมไม่ตอบพี่ดินแต่ลุกขึ้นแล้วก็ยืนลงน้ำหนักเต็มสองเท้าให้แกดู ผมลองเดินไปรอบๆห้อง ก็รู้สึกว่าไม่มีอาการปวดแล้ว
"เฮ้ย...หายปวดแล้ว กูหายแล้ว ไอ้หิน กูหายปวดแล้ว" ผมเดินไปเดินมาแล้วก็พูดออกมาอย่างดีใจ
"เออ พวกกูก็หายปวดหายระบมจริงๆว่ะ ยาของพี่ดินแม่งดีจริงๆ" ไอ้ทิวหันมาบอกผม
"กูว่ามึงได้หมอดีด้วยแหล่ะไอ้ฟ้า" ไอ้หินบอกผมก่อนที่มันจะเอี้ยวตัวหลบหมอนที่พี่ดินเขวี้ยงมาใส่มัน
"กวนตีนกูแต่เช้านะมึง เดี๋ยวกลับไปถึงมหาลัยก่อนกูจะคิดบัญชี" พี่ดินเดินมาบอกไอ้หิน ทำเอาไอ้หินตัวดีถึงกับสงบปากสงบคำไป
"อยู่ดีไม่ว่าดีนะมึง หาเรื่อง" ผมว่าไอ้หินมันก็ยิ้มแห้งๆให้ผม
"ให้เร็วเลยพวกมึงอ่ะ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะรอกินข้าว" พี่อาทิตย์บอกพวกผมแล้วก็เดินตามพี่ดินออกไปพร้อมกับพี่โอม
พวกผมรีบเก็บกระเป๋าแล้วก็พากันเดินไปที่โรงอาหาร มื้อเช้านี้เป็นมื้อสุดท้ายของพวกเราแล้วที่จะได้นั่งกินข้าวด้วยกันบนค่าย แล้วเดี๋ยวต้องเดินไปในหมู่บ้านเพื่อร่ำลาชาวบ้านที่มีอยู่ยี่สิบกว่าหลังคาเรือน ทีมงานครัวก็เลยจัดอาหารแบบง่ายๆเอาไว้ให้พวกเรากินในมื้อเช้านี้ เป็นข้าวเหนียวนึ่งกับหมูแดดเดียวทอด
"น้องฟ้าหายดีแล้วหรอ เดินปร๋อเลยนะคะ" พี่ขวัญเข้ามาถามผม
"ครับพี่ เมื่อคืนพี่ดินเอายาสมุนไพรของพ่อหลวงมานวดให้ หายปวดเลยครับ"
"แหม่ เป็นห่วงกันจริงนะ โอเค ไงก็เดินระวังๆหน่อยก็แล้วกันนะคะ" พี่ขวัญบอกผมแล้วก็เดินออกไป
ผมนั่งลงใต้ต้นไม้ตรงข้างสนามกีฬาแล้วก็แกะห่อข้าวเหนียวออกมากิน ไอ้ทิว ไอ้เทียน ไอ้คิมก็เดินตามมานั่งกับผม
"ไอ้หินกับไอ้ป้องไปไหนวะ" ผมถามไอ้ทิว
"โน่น" ไอ้ทิวพูดแล้วบุ้ยปากไปอีกฝั่งของสนามกีฬา
"แหม่ะ ไอ้สองคนนี้ ชักจะยังไงๆ" ผมพูดออกมา ไอ้ทิวก็เงยหน้ามามองผม แล้วก็มองตรงไปที่ไอ้หินกับไอ้ป้องที่นั่งกินข้าวเหนียวกันอยู่สองคนฝั่งตรงข้าม
"เออ กูก็รู้สึกแปลกๆว่ะ มัวแต่สนใจเรื่องมึงกับพี่ดิน เลยไม่ได้สังเกตุว่าไอ้หินกับไอ้ป้องก็ดูสนิทกัน" ไอ้ทิวบอกผม
"พวกมึงก็อย่าคิดมาก มันสองคนจะสนิทกันก็ไม่แปลก ก็แม่งทำงานด้วยกันทุกวัน เจอกันทุกวัน จะไม่สนิทกันเชียวหรอวะ" ไอ้คิมพูดขึ้น
"เออ ก็จริง รีบๆกินเดี๋ยวพี่เค้าก็จะเรียกรวมตัวแล้ว" ไอ้ทิวบอกพวกผม
หลังจากกินเสร็จ ลูกค่ายทุกคนก็เอากระเป๋าออกมาวางรวมกันแล้วก็ไปรวมตัวกันที่สนามกีฬาเพื่อถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ผมเดินไปตรงกลุ่มปีหนึ่งที่ยืนรวมกันอยู่ แต่ก็มีแขนยาวของใครคนนึงมาคล้องตัวผมไปกอดคอ
"ส้ม ถ่ายรูปให้เราหน่อย" เสียงพี่ดินบอกพี่ส้มที่ถือกล้องเดินผ่านมาพอดี แขนยาวๆของแกรัดคอผมอยู่ แต่ผมสิ คิ้วขมวดเข้าหากันเพราะความไม่สบอารมณ์ที่อยู่ๆก็โดนพี่ดินทำแบบนี้
"โหยยย ดิน น้องฟ้า เซอร์วิสแฟนๆแต่เช้าเลยนะ" พี่ส้มหันมาแซวผมกับพี่ดินแล้วก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปให้ผมกับพี่ดิน
"ไหน ขอดูรูปหน่อย" พี่ดินบอกพี่ส้มแต่ก็ยังไม่ปล่อยแขนที่รัดตัวผม ผมเอาสองมือขึ้นมาพยายามแกะแขนของพี่ดิน
"อยู่นิ่งๆดิวะ มึงจะยุกยิกทำไมเนี่ย" พี่ดินก้มหน้ามาดุผม แล้วก็ชะโงกหน้าดูรูปที่พี่ส้มกำลังเปิดให้ดู
"ถ่ายรูปกับกูจะยิ้มไม่ได้เลยใช่มะ" พี่ดินว่าผม เมื่อเห็นรูปที่ผมทำหน้าบึ้งคิ้วขมวด เพราะแขนของพี่ดินที่กอดรัดผมอยู่
"ก็พี่รัดผมแน่นขนาดนั้นใครจะยิ้มได้หล่ะครับ ปล่อยเลย" ผมว่าพี่ดินแล้วก็แกะแขนของแกออกไป ทำเอาพี่ส้มที่ยืนดูเหตุการณ์ระหว่างผมกับพี่ดินอยู่ถึงกับยิ้มออกมา
"พอๆ อย่าทำให้เราอิจฉาแต่เช้านะดิน" พี่ส้มว่าพี่ดิน
พี่ดินยอมปล่อยแขนออกจากตัวผม ผมก็รีบเดินไปหาพวกไอ้หินไอ้ทิวที่กำลังจัดระเบียบการยืนถ่ายรูปกันอยู่
หลังจากนั้นพี่ส้มก็ตั้งขาตั้งกล้องแล้วพวกเราลูกค่ายทุกคนก็ถ่ายรูปร่วมกันครับ ในระหว่างนั้นก็มีเด็กๆเดินเข้ามาในโรงเรียน คงจะรู้ว่าวันนี้พวกเราจะกลับกันแล้วก็คงจะมาส่งลูกค่ายหล่ะครับ
พวกไอ้หินออกไปพาเด็กๆเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับลูกค่ายทุกคนเป็นอันสนุกสนานไปเลย บรรยากาศในตอนนี้สนุกมากครับ มีแต่เสียงหัวเราะ แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกใจหายเหมือนกันที่จะต้องจากที่นี่ไปแล้ว
"เป็นไงฟ้า ขาหายเจ็บแล้วดิเนี่ย เดินเองได้ละ" พี่เทมส์เดินเข้ามาถามผม
"ครับพี่เทมส์" ผมตอบพี่เทมส์
"ไอ้เทียนๆ มาถ่ายรูปสายรหัสกัน" ผมกวักมือเรียกไอ้เทียน มันก็รีบวิ่งมาหาผมกับพี่เทมส์
ผมหยิบโทรศัพน์ขึ้นมา มองหาเพื่อนกะว่าจะวานให้ช่วยถ่ายรูปให้
"มากูถ่ายให้" พี่ดินเดินมาหยิบโทรศัพย์ไปจากมือของผมแล้วก็ถ่ายรูปสายรหัสให้ผม ถ่ายเสร็จแกก็คืนโทรศัพย์ให้ผมแล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น
ผมกับไอ้เทียนโดนเพื่อนๆมาดึงตัวไปถ่ายรูปกันต่อ ช่วงเวลานี้ทุกคนต่างก็อยากเก็บภาพความทรงจำนี้ไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
พอถ่ายรูปเสร็จ พี่ดิน พี่โอม พี่อาทิตย์ซึ่งเป็นทีมเซนเตอร์ของค่ายแล้วก็เป็นว่าที่ทีมประธานค่ายในปีหน้า ก็พาลูกค่ายบ้านปกาเกอะญอและอาข่า เดินแยกกันออกไปเป็นสองกลุ่มเพื่อไปร่ำลาชาวบ้านถึงที่บ้าน ผมเดินออกมากับบ้านปกาเกอะญอโดยการนำของพี่ดินกับพี่โอม เด็กๆก็เดินตามพวกผมมา โดยเฉพาะเจ้าอัศวิน ที่ไม่ยอมห่างผมไปไหน จับมือผมซ๊ะแน่นเชียว
"อ้ายฟ้า จะกลับแล้วหรอ"
"ใช่ครับ พี่จะกลับแล้วนะ อัศวินจะคิดถึงพี่มั๊ย"
"คิดถึงครับ" อัศวินตอบผม เสียงเริ่มสะอื้น
"เชี่ย ไอ้ฟ้า มึงทำเด็กร้องไห้" เพื่อนที่เดินข้างๆบอกผม เพราะตอนนี้เจ้าอัศวินน้ำตาไหลออกมาแล้ว ผมก็เลยอุ้มเจ้าอัศวินขึ้นมา พร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาให้
"ไม่ร้องสิครับอัศวินคนเก่ง"
"ไม่อยากให้กลับ ฮือ...........ฮือ" เจ้าอัศวินบอกผมแล้วก็ซบหน้าลงกับซอกคอของผมพร้อมกับร้องไห้โฮออกมา
"ร้องจนได้" ผมพูดออกมาเบาๆ แล้วก็เอามือลูบหลังปลอบใจเจ้าอัศวิน ทำเอาผมรู้สึกจุกๆในอก อยากจะร้องไห้ออกมาบ้าง
พวกเราเดินไปหยุดที่หน้าบ้านของชาวบ้านแล้วก็ยกมือไหว้สวัสดี ชาวบ้านก็อวยพรพวกเราให้เดินทางปลอดภัย บางบ้านก็มีสิ่งของใส่ถุงมาให้พวกเรา
"อ่าว เกิดไรขึ้น มึงแกล้งน้องหรอไอ้ฟ้า" พี่ดินเข้ามาว่าผม หลังจากที่เห็นผมอุ้มเจ้าอัศวินที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่
"ป่าวครับ อัศวินไม่อยากให้ผมกลับเลยร้องไห้"
"แง๊.....อ้ายดิน อย่าไป อ้ายดิน ฮือ....T_T อย่าไป" เจ้าอัศวินปล่อยโฮออกมาอีกแล้วก็โผเข้าหาพี่ดิน พี่ดินก็รับตัวไปอุ้มไว้
"โอ๋...ไม่ร้องนะคนเก่ง ไม่ร้องสิครับ" พี่ดินพูดปลอบใจเจ้าอัศวินตัวน้อยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดงอแงแต่อย่างใด
ภาพตรงหน้าทำเอาผมต้องเบือนหน้าหนี เพราะผมก็รู้สึกเศร้าใจเหมือนกันที่ต้องไปจากที่นี่ เด็กๆพวกนี้มาคลุกคลีอยู่กับพวกเราตลอดระยะเวลาในการทำค่าย ช่วยพวกเราทำงานทุกวัน ไม่แปลกที่จะรู้สึกผูกพันและเสียใจเมื่อยามที่จะต้องจากกันแบบนี้
"อย่าร้องนะเว้ยไอ้ฟ้า อายเด็กมัน" ไอ้ทิวเข้ามาปลอบใจผม
พอร่ำลาชาวบ้านเสร็จ พวกเราก็กลับมาที่โรงเรียนเพื่อรอรถของทหารที่จะมารับพวกเราลงไปส่งที่สถานีรถไฟ
"ลูกค่ายทุกคนครับ เดี๋ยวรถจากค่ายทหารจะขึ้นมารับพวกเราเหมือนเดิมนะครับ แล้วก็จะพาพวกเราไปไหว้พระนางจามเทวีกันก่อน หลังจากนั้นก็จะไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน อันนี้เป็นน้ำใจจากพี่ปีสามและปีสี่นะครับที่จะเลี้ยงข้าวน้องๆ หลังจากนั้นก็จะไปรอขึ้นรถไฟในเวลาบ่ายสามและเราจะถึงกรุงเทพฯกันในตอนเช้านะครับ" พี่ปลื้มประธานค่ายบอกกับลูกค่ายทุกคน
พวกผมก็ขอบคุณพี่ปีสามและปีสี่ที่จะเลี้ยงข้าวกลางวันพวกเรา
ในขณะที่นั่งรอรถจากค่ายทหารมารับ พวกผมก็นั่งคุยนั่งเล่นกับเด็กๆที่มารอส่งพวกผม เจ้าอัศวินก็ยังคงอยู่กับพี่ดิน ไกรสร ศุภโชค แก๊งค์เทเลทับบี้ก็เข้ามาอยู่ใกล้ๆพวกผม ลูกค่ายคนไหนมีขนมที่เหลือจากที่เตรียมมาก็เอามาให้เด็กๆ มันเป็นภาพที่ประทับใจมากครับ เวลาเกือบยี่สิบวันที่ได้มาค่าย ทำให้ผมได้อะไรกลับไปมากมาย โดยเฉพาะความรู้สึกที่ดีๆจากที่นี่
เมื่อถึงเวลา รถของพี่ๆทหารก็ขับเข้ามาจอดในลานดินกลางโรงเรียน พวกผมก็แบ่งกลุ่มช่วยกันขนของขึ้นรถ แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถ ผมนั่งข้างๆไอ้หิน เด็กๆก็ตามมาส่งพวกผม พอรถเคลื่อนตัวออกไปเท่านั้น เด็กๆก็ร้องไห้แล้วก็วิ่งตามรถของพวกผม เป็นภาพที่ทำเอาผมข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่จนต้องก้มหน้าเพื่อจะได้ไม่เห็นภาพเหล่านั้นอีก ไอ้หินที่ตาเริ่มแดงๆเอาแขนมาโอบตัวผมให้ซบหน้าไปกับไหล่ของมัน มันคงจะรู้ว่าผมกำลังรู้สึกเศร้าไม่ต่างจากมัน ทุกคนบนรถที่เห็นภาพเด็กๆร้องไห้วิ่งตามรถก็รู้สึกอะไรไม่ต่างจากผม
"ไง หายเศร้ายังมึง" ไอ้หินถามผม แล้วมันก็คงจะลืมตัวว่ามือของมันจับมือผมอยู่ จนสายตาของเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองมาเท่านั้นแหล่ะ ผมกับไอ้หินถึงรู้สึกตัวแล้วก็เอามือออกจากกัน
"โห่...เอามือออกทำไมหินฟ้า พวกเรากำลังฟินเลย"
"อย่ามาฟินเราเลย ไปฟินไอ้ฟ้ากับพี่ดินนู่น"
"ห๊ะ..ฟ้ากับพี่ดินหรอ อะไรยังไงเนี่ย"
"ก็...ไอ้ฟ้ากับพี่..อุ๊ป...!!!!" ผมรีบเอามือขึ้นไปปิดปากไอ้หินก่อนที่มันจะพูดอะไรออกมา
"ไม่มีไรหรอก ไอ้หินมันเพ้อเจ้อ" ผมหันไปบอกเพื่อน แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าวๆ
"อืมมม.. ฟ้ากับพี่ดินก็โอเคนะ พี่ดินชอบแกล้งฟ้า น่ารักดี"
"ไอ้หิน" ผมเรียกไอ้ตี๋ที่อยู่ข้างๆมันก็หันมามองผม
"มีไรวะ"
"มึงกับไอ้ป้องนี่ยังไงกันเนี่ย ตัวติดกันเชียวนะมึง"
"เอาอีกละ พวกมึงนี่คิดกันไปเองอีกละ ไม่มีไรหรอก"
"ป่าว กูก็แค่ถามเฉยๆ เพราะเห็นหลังๆมานี่มึงสองคนสนิทกัน"
"เออ ก็สนิทแหล่ะ ไอ้ป้องมันก็โอเค ที่สำคัญมันมีแฟนแล้วมึงไม่ต้องมาจับจิ้นกูกับมันเลย"
"อ่าวหรอ แฟนผู้หญิงหรือผู้ชายวะ"
"แฟนผู้หญิงสิวะ มึงนี่ก็ถามแปลกๆ เลิกคิดมากได้ละ คิดเรื่องของมึงเหอะ กับพี่ดินอ่ะ" ไอ้หินบอกผม แต่มันพูดซ๊ะเสียงดัง จนเพื่อนๆหันมาให้ความสนใจ ทำเอาผมต้องสงบปากสงบคำ ไม่พูดอะไรออกมาอีก
ชั่วโมงกว่าๆ รถก็พาพวกเรามาถึงอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ให้ลูกค่ายทุกคนได้กราบไหว้ ขอพร ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
"ไอ้ฟ้า ไปไหว้พระกัน" พี่ดินชวนผมเข้าไปไหว้พระในโบสถ์
"ครับพี่" ผมบอกพี่ดินแล้วก็เดินตามพี่แกเข้าไปในโบสถ์ แล้วก็นั่งคุกเข่าต่อหน้าพระประธาน ก่อนที่จะยกมือไหว้แล้วก็หลับตาอธิษฐานพร้อมกัน
ผมลืมตาขึ้นมาก็พบว่าพี่ดินนั่งจ้องหน้าผมอยู่ พอแกเห็นว่าผมลืมตา แกก็ยิ้มให้ผม
"อธิษฐานนานขนาดนี้แสดงว่าขอเยอะใช่มั๊ย" พี่ดินถามผม
"ไม่ได้ขออะไรหรอกครับ แล้วพี่หล่ะ"
"กูก็ไม่ได้ขออะไร เพราะสิ่งที่กูอยากได้กูได้แล้ว" พี่ดินพูดแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมององค์พระประธาน
"พี่ดินครับ เราออกไปข้างนอกกันเถอะ" ผมชวนพี่ดินออกไปข้างนอก
พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นั่นกันซักพัก เพราะบริเวณตรงนั้นมีวัดแล้วก็ร้านค้าที่ชาวบ้านมาขายสินค้าที่ระลึก พวกผมก็เดินดูของกันไปเรื่อยเปื่อย ผมหยุดอยู่ตรงร้านที่ขายแม่เหล็กติดตู้เย็น เพราะผมสะสมของพวกนี้อยู่ครับ เวลาไปเที่ยวที่ไหนผมก็ชอบซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็นกลับมาเป็นที่ระลึก
"มึงจะซื้ออะไร" พี่ดินถามผม
"แม่เหล็กติดตู้เย็นครับพี่ ผมสะสมอ่ะ"
"อ๋อ มา กูเลือกให้"
"ครับ" ผมบอกพี่ดินแล้วก็หันไปยิ้มให้
"อย่ายิ้มแบบนี้ เดี๋ยวกูทนไม่ไหวมึงจะเดือดร้อน" พี่ดินก้มหน้าลงมากระซิบข้างๆหูของผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวๆขึ้นมาในทันที
"แหม่ะ คู่นี้ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ" พี่ส้มถือกล้องมาขอถ่ายรูปผมกับพี่ดิน
"อ่ะๆ ถ่ายให้เห็นป้ายชื่อร้านด้วย เดี๋ยวใครมาเที่ยวจะได้มาซื้อของร้านนี้" พี่ดินบอกพี่ส้ม ทำเอาเจ้าของร้านถึงกับยิ้มหน้าบาน แถมลดราคาของให้อีกด้วย
หลังจากซื้อของเสร็จ ผมกับพี่ดินก็เดินดูของร้านอื่นไปเรื่อยๆ
"พี่ดินครับขอบคุณนะครับ"
"อะไรของมึง ขอบคุณอะไรกู"
"ก็ที่พี่ซื้อของพวกนี้ให้อ่ะ แล้วก็ยาของพี่ที่ทำให้ผมหายปวดขาจนเดินเองได้"
"เออ ทำให้แฟนแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้วะ" พี่ดินบอกผม ผมรู้สึกว่าคนที่พูดก็กำลังเขินเหมือนกัน
"คนไร พูดเองเขินเอง" ผมบ่นออกมาเบาๆ
หลังจากนั้นลูกค่ายทุกคนก็กลับขึ้นรถ แล้วก็ไปยังร้านอาหารที่พี่ปีสามปีสี่ได้จัดไว้สำหรับทานข้าวกลางวันกันครับ เป็นร้านอาหารพื้นเมือง มีข้าวเหนียว ไก่ย่าง แกงอ่อม ลาบคั่วแบบเหนือ น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ไส้อั่ว ประมาณนี้ พวกเรากินกันจนอิ่มแปล้เลยครับ
เสร็จจากกินข้าว รถก็พาเรามาส่งที่สถานีรถไฟลำพูนครับ ขบวนที่พวกเราจะเดินทางกลับเป็นรถด่วนเที่ยวบ่ายสามครับ จะไปถึงสถานีรถไฟกรุงเทพฯประมาณหกโมงเช้า
"ไอ้ป้อง มึงกลับไงเนี่ย" ผมถามไอ้ป้องเพราะเห็นว่ามันก็ตามมาที่สถานีรถไฟด้วยเหมือนกัน
"กลับรถไฟนี่แหล่ะ ไม่กี่สถานีก็ถึงเชียงใหม่แล้ว"
"แล้วรถไฟมากี่โมงอ่ะ"
"มาก่อนขบวนที่จะไปกรุงเทพฯอ่ะ"
"อ่อ เออ ว่างๆลงไปเที่ยวกรุงเทพฯบ้างนะ" ผมบอกไอ้ป้องมันก็พยักหน้าแล้วก็ยิ้มให้ผม
"กูว่าพวกเราหกคนมาถ่ายรูปกันดีกว่าว่ะ" ไอ้ทิวเดินเข้ามาบอกพวกผม
"เออ ก็ดี พวกมึงสัญญานะเว้ยว่าปีหน้าจะมาค่ายด้วยกันอีก" ไอ้หินพูดขึ้นมา
"เออ กูสัญญา"
"กูก็สัญญา"
"กูด้วย"
"กูมาอยู่แล้ว"
"ไอ้ฟ้ามึงต้องมาอยู่แล้ว"
ไอ้หินวานให้เพื่อนถ่ายรูปให้พวกผมหกคนตรงหน้าป้ายสถานีรถไฟลำพูน หลังจากนั้นไอ้หินก็แยกตัวไปคุยกับไอ้ป้องสองคน ทำเอาไอ้ทิวกับไอ้เทียน เกิดความสงสัยขึ้นมาอีก
"ไอ้ฟ้ามึงไปสืบมายังว่าไอ้หินกับไอ้ป้องมันอะไรยังไงกัน" ไอ้ทิวถามผม
"ไอ้หินบอกว่าไอ้ป้องมีแฟนแล้ว แฟนผู้หญิงด้วย แล้วมันสองคนก็ไม่ได้คิดอะไรกัน"
"หรอวะ แต่..ก็เนี่ย เห็นๆกันอยู่ว่าแม่งชอบแยกไปอยู่กันสองคน"
"มันคงมีเรื่องคุยกันมั้ง มึงก็อย่าคิดมาก" ผมบอกไอ้ทิว
ซักพัก รถไฟขบวนที่ไอ้ป้องจะกลับเชียงใหม่ก็กำลังจะเข้าเทียบชานชาลา ไอ้ป้องเดินกลับเข้าไปสวัสดีลาพี่ปลื้มแล้วก็พวกพี่ดิน แล้วก็เดินออกมารอขึ้นรถไฟโดยมีพวกผมยืนรอส่งอยู่
"ไว้เจอกันใหม่ว่ะป้อง ว่างๆเดี๋ยวไปเที่ยวบ้านกูที่เชียงรายกัน" ผมบอกไอ้ป้อง
"เชี่ยป้อง ลงไปเที่ยวกรุงเทพฯบ้างนะมึง" ไอ้เทียนบอกไอ้ป้อง
"เออๆ แล้วเจอกัน ขอบใจพวกมึงมากที่ดูแลกูอย่างดี" ไอ้ป้องบอกพวกผมแล้วมันก็เดินกอดทุกคน จนมาถึงผมเป็นคนสุดท้ายมันก็กอดผม
"กูไปก่อนนะ ยินดีที่ได้รู้จัก เดี๋ยวว่างๆกูลงไปเที่ยวหา" ไอ้ป้องบอกผมแล้วก็ดันตัวผมออก
"เออ แล้วเจอกัน" ผมบอกไอ้ป้องมันก็ยิ้มให้ผม
ไอ้ป้องขึ้นรถไฟไปแล้ว พวกผมยืนมองขบวนรถไฟที่พาไอ้ป้องกลับเชียงใหม่เคลื่อนขบวนออกไปจนลับตา แล้วไอ้พวกนั้นก็กลับเข้าไปในสถานีรถไฟ แต่ผมยังยืนอยู่ตรงนั้น ยืนมองรางรถไฟ ยืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว
"ไง ซึมเลยมึง ไม่อยากกลับหรอ" พี่ดินเดินเข้ามายืนข้างๆแล้วก็ถามผม
"ก็นิดหน่อยครับพี่ คิดถึงบรรยากาศบนค่าย คิดถึงเด็กๆ ตอนนี้พวกเราคงกำลังช่วยกันทำงานอยู่"
"อะไรที่มันผ่านมาแล้วมึงก็อย่าไปคิดถึงมันดิวะ" พี่ดินบอกผม แล้วก็เอาแขนมากอดคอผม
"แต่ถ้าสิ่งที่ผ่านมาเป็นความทรงจำที่ดี มันก็น่าคิดถึงนี่ครับ" ผมบอกพี่ดิน
"เออ..ก็จริง แล้วมึงคิดถึงกูมั๊ย"
"อยู่ใกล้กันขนาดนี้จะคิดถึงทำไมหล่ะครับ"
"มึงนี่นะ จะตอบหวานๆให้ชื่นใจกูซักครั้งไม่ได้เลย"
"พี่ชอบหวานๆหรอครับ ผมไม่หวานหรอกนะ"
"เออ กูก็แค่แซวเล่น มึงไม่หวานเดี๋ยวกูหวานเองก็ได้" พี่ดินบอกผม สายตาก็มองตรงไปข้างหน้า
"มึงหายเจ็บก็ดีละ หายห่วง"
"ก็ผมมียาดีนี่ครับ"
"เออ ยาพ่อหลวงดีจริง นี่กูเอาติดมาด้วยนะเผื่อมึงปวดขึ้นมาอีก"
"ป่าวครับ ผมหมายถึงพี่อ่ะ คือยาดีของผม" พอผมพูดจบ ร่างสูงข้างๆก็ก้มหน้าลงต่ำหันมามองผม
"กูโคตรรักมึงสุดหัวใจเลย..ไอ้ฟ้า""ขอบคุณนะครับ ที่พี่รักผม"
"พอๆ มึงเลิกพูดได้ละ ยิ่งพูดกูก็ยิ่งรักมึง"
"พี่ดินครับ ผมเมื่อยแล้ว"
"เออ โง่ยืนคุยกันอยู่ได้ตั้งนาน ทำไมไม่นั่งวะ ฮ่าๆ" พี่ดินพูดแล้วก็หัวเราะออกมา
ผมกับพี่ดินพากันนั่งลงตรงเก้าอี้ที่อยู่ริมทางรถไฟ ตอนนี้ลมพัดเย็นๆ แดดร่มๆ อากาศกำลังสบายๆ เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆ ที่รถไฟจะมา ผมกับพี่ดินนั่งกันอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่ได้คุยอะไรกันอีก มีแต่ความเงียบ ผมนั่งนึกทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่เดินทางไปถึงค่ายวันแรก จนวันสุดท้าย พี่ดินเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของผมตลอด ไม่มีวันไหนที่พี่ดินจะหลุดออกไปจากพื้นที่ของผม แม้กระทั่งตอนนี้ คนที่นั่งอยู่ข้างๆผมก็ยังเป็นพี่ดิน
"ไอ้ฟ้า"
"ครับพี่"
"มึงไม่มีแฟนใช่มะ"
"มีครับ"
"ใครวะ" พี่ดินถามเสียงเข้ม
"อ่าว ก็พี่ไง แฟนผม"
"เอ่อ...เปล่า กูหมายถึงมึง..มึงเคยมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า"
"อ๋อ...ไม่เคยครับ"
"กูเป็นแฟนคนแรกของมึงว่างั้น" คนข้างๆหันมาถามผม"พี่เป็นแฟนคนสุดท้ายของผมครับ""แย่งคำพูดกูนะมึง" พี่ดินว่าผมแล้วก็เอามือมาขยี้ผมบนหัวผมเล่น
เสียงนายสถานีประกาศว่าอีกซักพักรถไฟจะเข้าเทียบชานชาลา ผมกับพี่ดินก็เดินกลับไปที่สถานี หยิบกระเป๋าเตรียมขึ้นรถ
รถไฟเข้ามาจอดเทียบชานชาลาแล้ว ลูกค่ายก็ช่วยกันขนของแล้วทยอยกันขึ้นไปหาที่นั่ง พวกผมไปนั่งที่ตู้สุดท้ายเหมือนเดิม ผมนั่งกับไอ้ทิว ไอ้เทียน ไอ้คิม ส่วนไอ้หินไปนั่งกับพี่ดิน พี่โอม พี่อาทิตย์ ที่ฝั่งตรงข้าม
รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีลำพูน ผมกับไอ้เทียนชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
"บ๊าย บาย ลำพูน"
ผมตะโกนออกมาแข่งกับเสียงหวูดรถไฟ พร้อมกับโบกมือบ๊ายบาย มองป้ายสถานีที่ค่อยๆไกลออกไปจนลับตา
จบแล้วค่ายอาสา นึกย้อนกลับไปวันที่ผมนั่งรถไฟมาที่นี่ จนวันนี้เป็นวันที่เดินทางกลับ ผมได้อะไรจากลำพูนกลับไปมากมาย โดยเฉพาะคนคนนึงที่เข้ามาในชีวิตของผม เข้ามาเติมเต็มในความรู้สึกของผม....พี่ดิน ยาวิเศษของผม----------------------------------