กล(รัก)เกียร์ ตอนที่ 32 : ตัวแทนของกันและกัน
##โดนแซวแต่เช้า##"แฟนพี่ดิน..แฟนพี่ดิน ตื่นได้แล้วครับ"
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะไอ้หินเขย่าตัวปลุกผม แถมยังเรียกผมว่า
แฟนพี่ดิน ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที แต่ก็ต้องปั้นหน้ามุ่ยใส่มันเพื่อให้รู้ว่าผมไม่สบอารมณ์กับคำนี้ ทั้งๆที่มันก็คงไม่เห็นหรอกว่าผมหน้ามุ่ย
"เชี่ยหิน ปากดีแต่เช้านะมึง" ผมว่าไอ้หินแล้วก็พยายามปรับสายตาให้ชินกับความมืด ไอ้หินก็หัวเราะที่เห็นผมโมโหใส่แต่เช้า
ตอนนี้เพิ่งจะตีสี่ครึ่ง และวันนี้ก็เป็นเวรของบ้านปกาเกอะญอที่ต้องไปทำอาหารเช้า ผม ไอ้หิน ไอ้ป้อง พากันจากห้องแล้วเดินไปที่ครัวพร้อมกัน
"ไอ้ฟ้า พี่ดินเค้าขอมึงเป็นแฟนจริงๆหรอว๊ะ" ไอ้ป้องถามผม
"เออ"
"เชี่ย จริงป๊ะเนี่ยไอ้ฟ้า" ไอ้ป้องถามผมขึ้นมาอีก มันคงคิดว่าเรื่องที่พี่ดินพูดเมื่อวานเป็นเรื่องล้อเล่น
"ไม่รู้เว๊ย ไม่ตอบแล้ว ไปถามพี่ดินเองดิ"
"หึ..กูไม่กล้าไปถามหรอก" ไอ้ป้องบอกผม
ผมสามคนมาถึงโรงครัว ก็เห็นพี่ดินนั่งคุยกับพี่ๆอยู่ก่อนแล้ว นี่พี่แกตื่นเช้ากว่าผมซ๊ะอีกนะเนี่ย
"อ้าว สามหนุ่ม มากินโอวัลตินอุ่นๆกันก่อนเร็ว" พี่อิ่มเรียกพวกผมไปรับแก้วโอวัลตินที่พี่เค้าตักไว้ให้
ผมเดินผ่านพี่ดิน ความรู้สึกก็ยังคงเขินผู้ชายคนนี้อยู่ดี ไม่อยากเห็น ไม่อยากอยู่ใกล้ซักนิด ทำไมผมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า...สถานะที่เปลี่ยนไป
"ไอ้ฟ้า" เสียงพี่ดินเรียกผม ผมหันไปมองก็เจอสายตานิ่งๆของแกกำลังมองผมอยู่
"ข่ะ....ครับพี่" ผมยืนนิ่งมือถือแก้วโอวัลติน รอฟังว่าพี่ดินแกจะพูดอะไรต่อไป
"แค่กูเรียกทำไมต้องหน้าแดงด้วยว๊ะ ฮึ๊..." พี่ดินบอกผมพร้อมกับหัวเราะเสียงทุ้มอยู่ในลำคอ
"เชี่ย..ไอ้พี่ดิน ทำไมต้องมาแซวกันเองด้วยว๊ะ" ผมบ่นออกมาในใจพลางเหลือบตามองคนตรงหน้า สายตานิ่งๆ ปากที่ยิ้มเยาะๆของแกทำให้ผมโคตรหมันไส้ อยากจะสาดโอวัลตินในมือใส่ซ๊ะจริงๆ
"แหม่ะ แซวกันแต่เช้าเลยนะครับคู่นี้ โอ๊ะ..!! ลืมไป ว่าข้าวใหม่ปลามัน" ไอ้หินพูดแซวผมกับพี่ดินแล้วมันก็เดินไปนั่งข้างๆพี่รหัสของมัน
"ดีมาก ไอ้น้องรหัส ช่วยกันชงแบบนี้ดิว๊ะ โอวัลตินมันถึงจะอร่อย" พี่ดินหันไปบอกไอ้หิน ไอ้หินก็หัวเราะที่แกล้งผมได้
แม่ง...ทั้งพี่ทั้งน้องเลยที่รุมเล่นงานผมอยู่ในตอนนี้
"เดี๋ยวนะ เมื่อกี้น้องหินว่าอะไรนะคะ ใครข้าวใหม่ปลามัน" พี่ปีสามถามไอ้หิน
"ก็พี่ดินกับ..ไอ้...อุ๊บบบ!!" ก่อนที่ไอ้หินจะพูดชื่อผมออกไป ปากของมันก็โดนมือของพี่ดินปิดเอาไว้ซ๊ะก่อน
"พอละ ดูเพื่อนมึงนั่น ยืนหน้าแดงละ" พี่ดินพูดแล้วก็มองมาที่ผมพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ
"ไอ้ฟ้า มานั่งกินกับกูนี่ ยืนอยู่ได้ไม่เมื่อยหรอว๊ะ" เสียงไอ้ป้องเรียกผม ผมก็เลยเดินไปหามัน หัวใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดแต่เช้าเลย ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้สองพี่น้องสายรหัสนรก พอเข้ากันได้ดีก็เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย..แม่งงงง
สำหรับกับข้าวในมื้อเช้าวันนี้ เป็นข้าวต้มกินกับหัวไชโป๊วผัดไข่ แล้วก็ไข่เค็มคนละซีกครับ หลังจากทำกับข้าวเสร็จ พวกผมก็ออกไปยืนรอกันที่ลานดินเพื่อทำกายบริหาร โดยการนำของทีมพี่โอปอเหมือนเดิม หลังจากออกกำลังกายเสร็จ พี่ปลื้มก็ออกมายืนหน้าแถว แล้วก็พูดกับลูกค่ายทุกคน
"ลูกค่ายครับ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านั้น ทำให้การทำงานของเรามีอุปสรรคและล่าช้า ในวันนี้เราจะมีการทำโอทีกันถึงสามทุ่มนะครับ เราจะเทปูนสนามกีฬาด้วยกัน" หลังจากพี่ปลื้มพูดจบ ก็มีเสียงฮือฮาจากลูกค่ายที่ยืนเข้าแถวกันอยู่
"เชี่ย โอทีถึงสามทุ่ม ตายๆๆ"
"อ่า..ทุกคนเงียบก่อนครับ ฟังผมก่อน" พี่ดินออกไปยืนพูดหน้าแถว ด้วยความเป็นพี่ดิน สายตาทุกคู่ต่างก็มองไปที่แก คงมีแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ไม่อยากมอง
"สำหรับในช่วงเช้าและช่วงบ่าย เราก็จะทำงานกันตามปกตินะครับ และตอนหนึ่งทุ่มหลังจากที่ลูกค่ายทุกคนกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว พวกเราจะมาช่วยกันเทปูนสนามกีฬาด้วยกันนะครับ"
"ทุกคนรับทราบนะครับ" พี่ดินถามลูกค่าย
"รับทราบครับ/รับทราบค่ะ"
หลังจากนั้นพี่ดินก็ประกาศรายชื่อลูกค่ายที่ได้ไปอยู่หน่วยงานต่างๆแล้วก็ปล่อยให้ลูกค่ายไปเตรียมกินข้าวเช้า และผมก็ได้กลับไปอยู่หน่วยงานพยาบาลเหมือนเดิม..เฮ้อออ
"น้องฟ้า บั๊ดดี้ฝากมาให้ค่ะ" พี่ขวัญเอานมเย็นที่ใส่อยู่ในแก้วที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่มาวางตรงหน้าผม
"ขอบคุณครับพี่ขวัญ" ผมขอบคุณพี่ขวัญ พี่ขวัญยิ้มให้ผมแล้วก็เดินกลับไป
"เชี่ย ใครว๊ะมีนมเย็นส่งมาให้มึงทุกวัน" ไอ้หินพูดขึ้นมา
"แต่กูว่าวันนี้พิเศษกว่าวันอื่นหว่ะ" ไอ้ทิวพูดแล้วก็หยิบแก้วนมเย็นขึ้นไปพินิจพิจารณา
"พิเศษตรงไหนว๊ะ" ไอ้เทียนถามไอ้ทิว พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามามองแก้วนมเย็นในมือไอ้ทิว
"นี่ไง มึงเห็นป๊ะ ที่แก้วสลักชื่อไอ้ฟ้าไว้ด้วย" ไอ้ทิวชี้ให้พวกผมดูคำว่า "ฟ้า" ที่ปรากฏอยู่บนผิวไม้ไผ่ที่ถูกแกะสลักเป็นชื่อผม
"เออ หว่ะ มึงนี่ตาดีนะไอ้ทิว" ไอ้หินบอกไอ้ทิว
"บัดดี้มึงนี่โคตรดีเลยไอ้ฟ้า กูชักอยากรู้หว่ะว่าเป็นใคร" ไอ้ทิวพูดแล้วก็ส่งแก้วนมเย็นคืนให้ผม
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็ไปล้างจานกับเพื่อนๆ โดยที่ไม่ลืมเอาแก้วไม้ไผ่ใบนั้นไปล้างด้วย ผมจะเก็บมันไว้ รอวันเฉลยว่าใครกันที่จับได้ผมเป็นบั๊ดดี้
##แผลปริศนา##หลังจากล้างจานเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งไปที่เต๊นท์พยาบาล เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพี่ดิน เต๊นท์พยาบาลนี่แหล่ะปลอดภัยที่สุดสำหรับผมแล้วครับที่จะไม่ต้องเจอหน้าแก เพราะร้อยวันพันปีพี่ดินแกไม่เคยย่างกรายมาที่นี่เลยครับ แต่..ผมก็ต้องชะงัก เพราะตอนนี้ภาพตรงหน้าผม พี่ดินกำลังนั่งให้พี่ขวัญทำแผลอยู่ในเต๊นท์
"อ่าว น้องฟ้ามาพอดีเลย มาทำแผลให้ไอ้ดินแทนพี่หน่อย พอดีมีน้องผู้หญิงขอยาแก้ปวดประจำเดือนพี่ไว้ เดี๋ยวพี่เอายาไปให้น้องเค้าก่อนนะคะ" พี่ขวัญบอกผมแล้วก็ลุกจากตรงนั้น แล้วก็เดินออกไปจากเต๊นท์พยาบาล ทิ้งผมเอาไว้กับคนมือเจ็บตรงหน้า
ผมเข้าไปนั่งตรงหน้าพี่ดิน แล้วก็จับมือแกขึ้นมาดูแผล แต่..มือผมแม่งเสือกสั่นขึ้นมา
"มึงมือสั่น" พี่ดินพูดออกมาเบาๆ
ผมก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองแก หัวใจเต้น ตุ่บ...ตุ่บ..ตุ่บ..!!
"พี่ดินไปทำอะไรมาครับถึงได้โดนมีดบาด" ผมถามออกไปเพื่อคลายความตื่นเต้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อได้คำตอบจากคนตรงหน้า
"รีบทำแผลเหอะน่า มึงได้คำตอบแล้วแผลกูจะหายหรอ"
เชี่ย แม่ง..กวนตีนชิบ ผมคิดในใจ แล้วก็จัดการทำแผลให้แฟนผม
"โอ๊ยยย..เจ็บนะเว๊ย เบาๆมือหน่อยดิว๊ะ" เสียงไอ้พี่ดินร้องออกมา แหม่..แผลก็นิดเดียว ร้องยังกะโดนเชือด
"ดิน น้องฟ้า หันมาถ่ายรูปหน่อยเร็ว เอ๊ย...ไม่ต้องหันมาละ เอารูปแบบไม่มองกล้องแบบนี้ดีกว่าดูเรียล เป็นธรรมชาติดี" พี่ส้มตากล้องประจำค่ายบอกผมกับพี่ดินแล้วก็รัวชัตเตอร์ถ่ายรูปผมกับพี่ดิน
ผมทำแผลให้พี่ดินเสร็จ แกก็ออกไปจากเต๊นท์พยาบาล แต่ก็ไม่ได้บอกผมว่าจะไปไหน ผมเองก็ปากหนักไม่ได้ถามก่อนที่แกจะออกไป
"โห...ฟ้า รูปนี่โคตรพีค มีความแฟนอ่ะ อิอิ" เพื่อนผู้หญิงยื่นโทรศัพย์ที่เปิดหน้าเพจ UST So Cute ให้ผมดู เป็นรูปที่ผมนั่งทำแผลให้พี่ดินเมื่อกี้
เพจ UST So Cute รักษาแผล..(ใจ)ดิน วิศวกรรมศาสตร์ปี2 & ฟ้า อุตสาหกรรมเกษตร ปี1 พิกัด : ค่ายอาสา2560 จ.ลำพูน"ฟ้าดิน ดีต่อใจ"
"เค้าจะรักกันมั๊ย เค้าจะได้กันมั๊ย"
"อยากเป็นแผลจังเลย"
"ได้ข่าวว่าคู่นี่ เป็นแฟนกันแล้วครับ"
"เอร๊ยยยย ฟ้าดิน กรี๊ดๆ"
"ถ้าหัวใจอ่อนแอ ก็มาให้เด็กแปรรักษา"
"FC ฟ้าดิน น่าร๊ากกกกกก"
ผมเห็นรูปก็โคตรจะรู้สึกเขิน พี่ส้มถ่ายได้จังหว่ะพอดีจริงๆ ในรูปผมกำลังก้มหน้าทำแผลให้พี่ดินอยู่ แต่พี่ดินกลับจ้องมองมาที่ผมแล้วก็อมยิ้ม มันเป็นภาพที่น่ารักมาก ผมส่งโทรศัพย์คืนให้เพื่อน แล้วก็เอาโทรศัพย์ของตัวเองขึ้นมาเปิดดูบ้าง แต่ก็ไม่กล้ากดLike ได้แค่ดูแล้วก็นั่งอมยิ้มอยู่อย่างนั้น
"อ่าว คิดถึงอ้ายฟ้าก็อยู่กับอ้ายฟ้าที่นี่เลยนะ" พี่ดินแบกเจ้าอัศวินขี่คอมาวางตรงหน้าเต๊นท์พยาบาล เจ้าอัศวินเห็นผมก็วิ่งเข้ามาหา
"อ้ายฟ้า"
"ว่าไงอัศวิน แล้วเพื่อนหายไปไหนหมดเนี่ย ไกรสร ศุภโชค สุดา สุภาพรหายไปไหนหมดหล่ะครับ"
"อยู่ตรงโน้นครับ" อัศวินบอกผมแล้วก็ชี้ไปที่ตรงสนามกีฬา
"อัศวินมันบอกว่าคิดถึงอ้ายฟ้า อยากมาหา กูเลยพามาให้ ดูแลน้องด้วยนะมึงอ่ะ" พี่ดินบอกผมแล้วก็หันหลังเดินออกไป
"พี่ดินครับ" ผมเรียกพี่ดินไว้ ร่างสูงในชุดกีฬาสีขาวก็หยุดเดินแล้วหันมามองผม
"พี่แน่ใจนะว่าอัศวินคิดถึงผมอ่ะ"
"ก็...เออดิ ทำไมว๊ะ" คนตอบตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์แต่ท่าทางมีพิรุธชอบกล ผมเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
"หัวเราะไรว๊ะ ดูน้องด้วยกูไปละ"
"ใส่ชุดขาวทำงาน เดี๋ยวก็เปื้อนหรอกครับ ผมไม่ซักให้นะพี่" ผมตะโกนบอกพี่ดิน
"ฟ้ากับพี่ดินคุยกันตลกดีเนอะ พี่ดินก็ชอบแกล้งฟ้า ขนาดอยู่คนละคณะนะเนี่ย" เพื่อนที่อยู่งานพยาบาลกับผมพูดกับผม
"ก็สนิทกันแหล่ะครับ เพราะพี่ดินเป็นพี่รหัสไอ้หินเพื่อนเราเอง แล้วก็อยู่หอเดียวกันด้วยเลยค่อนข้างสนิทกันอ่ะครับ" ผมบอกเพื่อน เพื่อนก็พยักหน้าเข้าใจ
ตอนพักเที่ยง ทุกคนก็มากินข้าวกลางวันร่วมกัน มื้อเที่ยงนี้เป็นข้าวผัดกุนเชียงกับต้มจืดผักกาดขาวใส่ไข่ครับ ผมเห็นพี่ดินเปลี่ยนชุดเป็นชุดบอลสีดำ ไม่รู้ว่าแกตั้งใจเปลี่ยนหรือว่าเปลี่ยนเพราะผมขู่ว่าจะไม่ซักให้ถ้าชุดสีขาวนั้นเปื้อน
"กูเปลี่ยนชุดละนะ" พี่ดินเข้ามากระซิบบอกผมตอนที่ผมกำลังเช็ดโต๊ะอยู่
"เห็นแล้วครับ"
"เออ"
"แหม่ะ สองคนนี้จีบกันอีกละ" พี่ปีสามเดินมาแซวผมกับพี่ดิน
"ระดับผมไม่ต้องจีบแล้วครับพี่ แค่สะกิดนิดก็ติดละครับ ใช่มั๊ยว๊ะไอ้ฟ้า" พี่ดินตอบพี่คนนั้น แล้วก็หันมาถามผม แถมยังเอาไหล่ของแกมากระแทกตัวผมเบาๆ
"เล่นไรเนี่ยพี่ คนทำงานอยู่" ผมว่าพี่ดิน ทำเอาคนโดนว่าถึงกับเงียบไป
"แฟนผมดุครับพี่ พันธุ์นี้ดุ แต่เลี้ยงง่าย" ไอ้พี่ดินก็ยังคงกวนตีนผมไม่เลิก
"เออ มึงนะไอ้ดิน ทำเป็นพูดไป เดี๋ยวก็ได้เป็นแฟนกันจริงหรอก" พี่ปีสามบอกพี่ดินแล้วก็เดินออกไป
"มันเป็นเรื่องจริงไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับพี่" พี่ดินพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหย่อนก้นนั่งตรงโต๊ะที่ผมกำลังเช็ดอยู่ แล้วก็นั่งมองผม ผมเองก็รู้สึกประหม่าที่มีคนมานั่งจ้องมองซึ่งๆหน้าแบบนี้
"แล้วนี่พี่ไม่ไปทำการทำงานหรอครับ" ผมเอ่ยปากถามพี่ดิน แกจะได้ไปๆจากผมซักที
"อยากอยู่ใกล้ๆแฟน ไม่อยากไปไหน" ไอ้พี่ดินตอบผมหน้าตาเฉย ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวๆอีกแล้ว แม่ง ทำผมเขินได้ทั้งวันเลยอ่ะ
"งั้น ผมไปเองก็ได้" ผมบอกพี่ดินแล้วก็เดินหนีออกมา เพราะเช็ดโต๊ะเสร็จพอดี
"รอด้วยดิ กูมารอให้มึงทำแผลให้เนี่ย" พี่ดินบอกผมแล้วก็รีบเดินตามผมมาที่เต๊นท์พยาบาล
ผมนั่งทำแผลให้พี่ดิน รู้เลยว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองอยู่
"คู่นี้อะไรยังไงเนี่ย ตัวติดกันเป็นตังเม เห็นดินต้องเห็นฟ้า"
"คิดเหมือนกันป๊ะว่าน้องดินกำลังจีบน้องฟ้า"
"เออ เหมาะสมๆ ฟ้ากับดิน"##ตัวแทนของกันและกัน##"พี่ดินครับ ทำแผลเสร็จแล้วครับ" ผมแปะพลาสเตอร์ให้พี่ดินเสร็จก็เงยหน้าไปบอกคนตรงหน้า
"อืม ขอบใจ" พี่ดินบอกผมแล้วก็ลุกขึ้นยืนเตรียมตัวไปทำงาน
"ตรงนั้นมีอะไรให้ผมไปช่วยป่าวครับพี่" ผมถามพี่ดิน เผื่อว่าตรงที่จะสร้างลานกีฬามีงานให้ผมช่วย
"กูบอกให้มึงอยู่ที่นี่ ก็อยู่ไป"
"โห่ พี่ อยู่ที่นี่ก็ได้แต่นั่งเฉยๆอ่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย"
"โว๊ะ มึงนี่ดื้อจริงๆหว่ะ เหมือนที่ไอ้ภูบอกเลย" พี่ดินคงรู้ตัวว่าเผลอพลั้งปากพูดถึงพี่ภู ทำให้ผมเกิดสงสัยขึ้นมา เพราะพวกพี่เค้าเพิ่งจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว ไม่น่าจะสนิทถึงขั้นไปคุยกันต่อ
"นี่..พี่คุยกับไอ้ภูด้วยหรอครับ" ผมถามพี่ดิน คนถูกถามก็มีท่าทีนิ่งไป
แต่คงเพราะโดนผมจ้อง เพื่อรอคำตอบ แกก็เลยหลุดปากออกมา
"เออ ก็คุยกันแหล่ะ ไงก็ต้องรู้จักกันไว้ป่าวว๊ะ เดี๋ยวมันก็มาหามึงบ่อยๆไม่ใช่หรอ"
"ครับพี่ แล้วพี่คุยอะไรกับมันบ้างอ่ะ"
"หลายเรื่อง มึงไม่ต้องรู้หรอก กูไปละ" พี่ดินบอกผมแล้วก็เดินออกไป ผมก็มองตามร่างสูงที่เดินออกไป จนลับตา
"แหม่ ไอ้ดินมันมีอะไรน๊อ น้องฟ้าถึงได้ยืนมองจนลับตา" เสียงพี่ขวัญพูดแซวผม ผมก็สะดุ้งสิครับ
"โห่...พี่ขวัญ แซวผมน๊า"
"เห่ย ขวัญแกยังไม่รู้อะไร นี่แหล่ะเด็กไอ้ดินเค้า" อยู่ๆพี่โอมก็เดินเข้ามาสมทบอีกคน ทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็นเลย
"เฮ้ย จริงดิโอม อะไรยังไงเนี่ย ขวัญตกข่าวใช่มะ"
"ไว้เดี๋ยวไอ้ดินมันพร้อมก็คงจะบอกพวกเราเองแหล่ะ" พี่โอมบอกพี่ขวัญแล้วก็ทรุดตัวลงนั่ง ผมก็ลงนั่งข้างๆพี่โอม
"พี่โอม แซวผมน๊า" ผมว่าพี่โอม แกก็หันมายิ้มให้ผม
"เอาเถอะ เพื่อนพี่อ่ะแม่งโคตรดี ฟ้าไม่ต้องห่วง"
"ผม เอ่อ...ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงเลยครับพี่"
"ก็ทำตัวปกติสิ ไม่เห็นจะต้องเปลี่ยนไปเลยนี่นา" พี่โอมบอกผมแล้วก็เอามือมาขยี้ผมบนหัวของผมเบาๆ ทำเอาหน้าผมสั่นคลอนไปตามแรงขยี้ของแก
"ครับพี่โอม"
ตอนเย็นหลังจากทุกคนกินข้าวกันเสร็จ พี่ดินก็มีเวลาให้พักผ่อนแป๊บนึง ก่อนที่ทุกคนจะออกมารวมกันที่ลานดินที่จะทำสนามกีฬา เพื่อช่วยกันเทพื้นปูน
"ไอ้ฟ้า อ่ะถุงมือ" ไอ้เทียนเดินเอาถุงมือมาให้ผม
"มึงจะทำอะไร" พี่ดินเดินเข้ามาถามผม
"ก็ช่วยเทปูนครับ"
"มึงไปอยู่ตรงกองทรายนู่น ไปตักทราย" พี่ดินสั่งผม
"ทำไมอ่ะครับพี่ ผมช่วยเพื่อนเทปูนไม่ได้หรอ"
"ทำไมต้องมีคำถามว๊ะ กูบอกให้ไปก็ไปดิ"
"แล้ว..ทำไมต้องดุด้วยว๊ะ" ผมพูดออกมา เพราะรู้สึกว่าโดนบีบบังคับมากเกินไป พอได้ยินผมพูดคำว่า ว๊ะ พี่ดินแกก็จ้องหน้าผม
"กูบอกให้ไปตักทราย" พี่ดินบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
"ไอ้ฟ้าไปเถอะ กูก็ไปตักทราย ไปทำกับกู" ไอ้เทียนบอกผมแล้วก็ลากแขนผมออกมาจากตรงนั้น
"ไอ้ดิน มึงก็พูดกับน้องมันดีๆไม่ได้หรือไงว๊ะ" พี่อาทิตย์เข้ามาว่าเพื่อน
"ก็แม่ง เดี๋ยวก็โดนปูนกัด กูเลยให้ไปตักทราย""มึงก็อธิบายไปดิ ทำตรงนี้เดี๋ยวโดนปูนกัด แค่นี้มึงพูดไม่ได้หรอว๊ะ ป่ะ..ไปเตรียมโม่ปูนได้แล้ว" พี่อาทิตย์พูดแล้วก็ตบไหล่เพื่อนเบาๆ
"แถวหิน แถวทรายพร้อมนะครับ เดี๋ยวเราจะโม่ปูนเตาแรกแล้วนะครับ" พี่ดินตะโกนถามลูกค่าย
เมื่อทุกคนพร้อม ผมกับเพื่อนๆที่อยู่ตรงกองทรายก็ช่วยกันตักทรายใส่ถัง แล้วก็ต่อแถวช่วยกันส่งต่อๆไปจนถึงโม่ปูนที่มีไอ้หิน ไอ้ทิว ไอ้คิม พี่ดิน พี่อาทิตย์ ยืนคุมอยู่ หลังจากโม่ผสมปูนเตาแรกเสร็จ ก็เทลงมาใส่กระบะ ให้แถวปูนตักใส่ถังส่งต่อไปยังคนที่ทำหน้าที่เทปูนซึ่งก็คือพี่ปีสามพี่สี่ พี่โอม พี่อาทิตย์ พี่ดินก็ลงมาช่วยเทปู พร้อมกับปาดให้เรียบ ในขณะเดียวกันกลุ่มที่ทำงานครัวก็มีการเตรียมทำอาหารว่างสำหรับเลี้ยงลูกค่ายที่ทำโอทีคืนนี้
"ฟ้าๆ ถ่ายรูปกัน" เพื่อนผู้หญิงเข้ามาขอเซลฟี่กับผม
เป็นการทำโอทีที่สนุกสนานมาก พอว่างงานพวกเราก็แอ๊คท่าถ่ายรูปกันตรงกองทราย แลกไลน์ แอดเฟซบุ๊คกัน ตามประสาของคนที่อยู่ค่ายด้วยกันมาสิบกว่าวันก็ต้องรู้จักแล้วก็เริ่มสนิทกันเป็นธรรมดาครับ แม้ว่าทุกคนจะมาจากต่างคณะ ต่างสาขาวิชา แต่ก็คุยกันได้สนุก พอปูนเตาแรกใกล้หมด พี่ดินก็สั่งแถวหินแถวทรายตักส่งๆต่อกันไปอีกรอบ เพื่อผสมปูนอีกครั้ง ไม่นานพวกเราก็ช่วยกันเทพื้นสนามกีฬาจนเสร็จ ซึ่งมันเป็นผลงานชิ้นหลักของค่ายอาสาในครั้งนี้
หลังจากทำโอทีเสร็จ พวกผมก็ยืนดูสนามกีฬาใหม่ที่เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่าง พอเห็นแบบนี้หัวใจก็พองโตครับ ใกล้จะสำเร็จแล้ว เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน
"ยืนมองอยู่ได้ อ่ะ กินมาม่าก่อนดิ" พี่ดินเดินมาหาผมแล้วก็ยื่นถ้วยมาม่าในมือมาให้ผม
"แล้วพี่ไม่กินหรอครับ"
"กินดิ กินกับมึงนี่แหล่ะ"
ผมกับพี่ดินพากันนั่งลงริมสนามกีฬานั่งกินมาม่าถ้วยเดียวกัน พี่ดินหยิบกิ่งไม้เล็กๆ ขึ้นมา
"มึงเกิดวันจันทร์" พี่ดินพูดก่อนที่จะเอากิ่งไม้นั้นวาดรูปพระจันทร์เสี้ยวลงไป
"กูเกิดวันอาทิตย์" พี่ดินพูดอีกแล้วก็วาดรูปดวงอาทิตย์ไว้ข้างๆพระจันทร์เสี้ยว พร้อมกับเขียนเลข2560เอาไว้ด้วย
วาดเสร็จแกก็เงยหน้ามาพูดกับผม
"พระจันทร์คือมึง พระอาทิตย์คือกู" ผมได้ยินที่แกบอกก็ยิ้มออกมา ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าแกไปรู้มาได้ยังไงว่าผมเกิดวันจันทร์
"มึงอย่ายิ้มแบบนี้ดิว๊ะ เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหวจะเดือดร้อน"
"พี่จะทำอะไรผม"
"บางทีการแหกกฏค่ายก็เป็นเรื่องที่น่าทำนะ"
"เห่ย..พี่ ความคิดน่ากลัวหว่ะ"
"มึงนี่นะ กูพูดเล่น มึงไม่กินแล้วใช่มั๊ย งั้นกูกินหมดเลยนะ" พี่ดินถามผม ผมก็พยักหน้าให้ แกก็หยิบถ้วยมาม่าจากมือผมไปนั่งกิน
ผมนั่งมองคนข้างๆที่นั่งกินมาม่าอยู่แล้วก็เผลอยิ้มออกมา
"พระจันทร์คือมึง พระอาทิตย์คือกู" ผมนึกถึงคำพูดของพี่ดินเมื่อกี้นี้
"ครับพี่ เราจะอยู่บนฟ้าด้วยกัน" ผมพูดออกมาในใจ
------------------------------
หู้ววววว มันอาจจะไม่ค่อยหวาน แต่ก็ไม่จืดชืดแน่นอนครับ อิอิ
ขอพักความหวาน หนีไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ซักสามสี่วันนะครับ
วันอังคารหน้ากลับมาเจอกันอีกสำหรับตอนใหม่ ^^